Professional Documents
Culture Documents
เคมี 9วิชาสามัญ 61
เคมี 9วิชาสามัญ 61
กําหนดให้
1) มวลอะตอม
H=1 C = 12 N = 14 O = 16
F = 19 S = 32 K = 39 Ca = 40
Br = 80
2. พิจารณาตําแหน่งของธาตุ 4 ชนิดในตารางธาตุต่อไปนี้
A
X
M Z
ข้อใดแสดงอะตอมที่มีอเิ ล็กตรอนเดี่ยวน้อยที่สุดและมากที่สุดได้ถูกต้อง
อะตอมที่มีอเิ ล็กตรอนเดี่ยว
น้อยที่สุด มากที่สุด
1. A X
2. X M
3. M Z
4 Z M
5. Z A
4. โมเลกุลคู่ใดมีมุมระหว่างพันธะใกล้เคียงกัน
1. SO2 และ CO2
2. BeCl2 และ O3
3. NCl3 และ CCl4
4. BF3 และ CO2
5. XeF4 และ CH4
Na+(g) + I(g) + e-
∆H3
∆H4
Na(g) + I(g)
Na+(g) + I-(g)
∆H2
1
Na(g) + I2(s)
2
∆H5
∆H1
1
Na(s) + I(s)
2
∆Hf NaI(s)
ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. ∆H2 คือพลังงานที่ใช้ในการสลายพันธะของไอโอดีน 1 mol
2. ∆H1 เป็นพลังงานที่ใช้เพื่อระเหิดโซเดียม ทําให้เกิดอะตอม 1 mol
3. กระบวนการ I(g) + e- → I-(g) มีการคายพลังงาน 298 kJ/mol
4. ∆H3 เป็นพลังงานที่ใช้เพื่อดึงอิเล็กตรอนออกจากอะตอมโซเดียม 1 mol
1
5. ∆Hf เป็นพลังงานที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยา Na(s) + I2(s) → NaI(s)
2
8. ครู นาํ บีกเกอร์ท่มี ีสารละลายไม่มสี ี เข้มข้น 0.1 mol/dm3 ปริมาตร 100 cm3 มา 3 บีกเกอร์ โดยติดฉลาก 1, 2 และ 3
แล้วให้นักเรียนแบ่งสารละลายมาทดสอบ ได้ผลดังตาราง
พิจารณาข้อความต่อไปนี้
10. ไอโซโทปกัมมันตรังสี TI-206 สลายตัวให้ Pb-206 โดยมีคา่ ครึ่งชี วิต 4.20 นาที ถ้าเริ่มต้นมี TI-206
จํานวน 5.0×1022 อะตอม เมื่อเวลาผ่านไป 21.0 นาที จะเกิด Pb-206 กี่อะตอม
1. 1.56 × 1021
2. 3.13 × 1021
3. 4.69 × 1022
4. 4.84 × 1022
5. 4.92 × 1022
(กําหนดให้ มวลสูตรของ As2S3 = 246, FeS2 = 120 และ มวลโมเลกุลของ SO2 = 64, H2S = 34)
1. 6.25
2. 50
3. 100
4. 200
5. 400
1. C5H8NO4
2. C8H8N2O10
3. C9H14N308
4. C10H16N2O8
5. C10H20N406
1. 1.8
2. 10
3. 20
4. 30
5. 40
ของเหลวชนิดใดมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลสูงที่สุด
1. HF
2. CH3CI
3. CH3F
4. HCI
5. HBr
19.
ความดันไอ (atm)
2.5 B D
A C
2.0
1.5
1.0
0.5
อุ ณหภูมิ (°C)
0 20 40 60 80 100 120
1. 40 °C
2. 60 °C
3. 70 °C
4. 75 °C
5. 80 °C
100 K
200 K
300 K
100 K
1. P 2.
300 K
200 K
P
1/V 1/V
300 K
3. 4.
100 K
200 K
300 K
200 K
100 K
1/V V
300 K
5.
200 K
P
100 K
∆[N2 ]
2. อัตราการเกิดปฏิกิริยา = −
∆t
1 ∆[O2 ]
3. อัตราการเกิดปฏิกิริยา =
3 ∆t
1 ∆[O2 ]
4. อัตราการเกิดปฏิกิริยา = −
3 ∆t
1 ∆[NH3 ]
5. อัตราการเกิดปฏิกิริยา =
4 ∆t
22. อุ ณหภูมิ 400 K สังกะสีทาํ ปฏิกิริยากับกรดไฮโดรคลอริก เกิดเป็นแก๊สไฮโดรเจนและซิ งค์ (II) คลอไรด์ ดังสมการ
Zn(s) + 2HCl(aq) → H2(g) + ZnCl2(aq)
เมื่อใส่ผงสังกะสีลงในกรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น 0.1 mol/dm3 ปริมาตร 1 dm3 และวัดปริมาณสังกะสีขณะเกิดปฏิกิริยา
ได้ผลดังตาราง
1. 2 x 10-5 mol/dm3.s
2. 4 x 10-5 mol/dm3.s
3. 6 x 10-5 mol/dm3.s
4. 1 x 10-4 mol/dm3.s
5. 2 x 10-2 mol/dm3.s
24. กราฟการเปลี่ยนแปลงพลังงานของปฏิกิริยาหนึ่งเป็นดังนี้
พลังงาน
E
D
B
C
A
การดําเนินไปของปฏิกิริยา
ข้อใดถูกต้อง
25. สารละลายอิ่มตัวของ Mg(OH)2 ที่อุณหภูมิ 25 °C มี pH เท่ากับของสารละลาย NaOH เข้มข้น 3.2 x 10-4 mol/dm3
ค่าคงที่สมดุลของการละลายดังสมการ
อุ ณหภูมิ (K) K1 K2
684 1.25 1.44
719 1.20 1.40
824 0.88 1.32
ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. trans-2-butene เป็นไอโซเมอร์ท่มี ีพลังงานตํ่าที่สุด
2. สมดุลที่อุณหภูมิ 824 K ไอโซเมอร์ 1-butene มีอยู ม่ ากที่สุด
3. ที่อุณหภูมิ 684 K อัตราส่วน [trans-2-butene]/[1-butene] = 1.8
4. ปฏิกิริยา trans-2-butene ⇌ 1-butene เป็นปฏิกิริยาดูดความร้อน
5. สมดุลที่อุณหภูมิต่ าจะมี
ํ trans-2-butene > cis-2-butene > 1-butene
27. เมื่อแก๊สไนโตรซิ ลคลอไรด์ (NOCI) 0.10 mol สลายตัวในภาชนะปิ ดขนาด 50 dm3 ดังสมการ
2NOCI(g) ⇌ 2NO(g) + Cl2(g)
ที่สมดุล NOCI สลายตัวไปครึ่งหนึ่ง ค่าคงที่สมดุลของปฏิกิริยามีค่าเท่าใด
1. 5.0 x 10-4
2. 1.0 x 10-3
3. 2.0 x 10-3
4. 2.5 x 10-2
5. 5.0 x 10-2
28. เริ่มต้นบรรจุ แก๊ส NH3 2.0 mol ในภาชนะปิ ดปริมาตรคงที่ 1.0 dm3 อุ ณหภูมิ 800 K
เมื่อปฏิกิริยาเข้าสู่สมดุลที่อุณหภูมิและปริมาตรคงที่ดงั สมการ
กรด คู่เบส
1. HIO3 IO3-
2. H3O+ H2O
3. HSO4- SO42-
4. HPO42- H2PO4-
5. CH3NH3+ CH3NH2
14
12
10
pH 8
6 HA HB HC HD
4
2
0
5 10 15 20
ปริมาตรสารละลาย NaOH (cm3)
ข้อใดถูกต้อง
1. ค่าคงที่การแตกตัวของกรดอ่อน HA > HB > HC > HD
2. กรดอ่อน HA แตกตัวเป็นไอออนได้มากกว่ากรดอ่อน HD
3. ก่อนเติมสารละลาย NaOH พบว่า ความเข้มข้นของกรดที่ไม่แตกตัว [HA] > [HB]
4. ร้อยละการแตกตัวของกรดอ่อน HC น้อยกว่าร้อยละการแตกตัวของกรดอ่อน HB
5. ก่อนไทเทรต ความเข้มข้นของ H3O+ ในสารละลายกรดอ่อน HA > HB > HC> HD
31. นําสารละลาย NH4CI เข้มข้น 0.2 mol/dm3 ใส่หลอดทดลอง 4 หลอด แต่ละหลอดหยดอินดิเคเตอร์ 1 ชนิด
ข้อมู ลของอินดิเคเตอร์ท่ใี ช้แสดงดังตาราง
สีของสารละลายแต่ละหลอดเป็นดังข้อใด
(กําหนดให้ Kb ของ NH3 = 2 x 10-5)
32. เมื่อเติมสารละลาย NaOH เข้มข้น 0.10 mol/dm3 ปริมาตร 15.00 cm3 ลงในสารละลายกรดฟอสฟอริก (H3PO4)
เข้มข้น 0.10 mol/dm3 ปริมาตร 10.00 cm3 ข้อใดถูกต้อง
a b c d e f
1. 1 1 14 1 2 7
2. 3 1 8 3 2 7
3. 3 1 8 3 2 8
4. 3 1 14 3 2 8
5. 1 1 14 3 2 8
1. การผลิตสารฟอกขาวจากเกลือแกง
2. การผลิตแก้วโซดาไลม์จากทรายแก้ว
3. การเตรียมกรดซัลฟิ วริกจากกํามะถัน
4. การถลุงทองแดงจากแร่คาลโคไพไรต์
5. การเตรียมแก๊สแอมโมเนียจากอากาศ
1. H2CH3 H2CH3
H H H H2CH3
2.
CHO
3.
4.
5.
CH2OH
H2CH3 O HOCH2
HO H
H OH H2CH3
H OH
CH2OH
1. โพรเพน
2. เฮปเทน
3. ไอโซออกเทน
4. เฮกซะเดกเคน
5. ไซโคลเพนเทน
1. สารมีโครงสร้างที่เป็นไปได้ 3 โครงสร้าง
2. สารไม่รวมตัวกับนํ้าโดยลอยอยู ช่ ั้นบน
3. สารทําปฏิกิริยากับโซเดียมได้ฟองแก๊ส
4. สารเผาได้เปลวไฟที่มเี ขม่า
5. สารฟอกจางสีโบรมีนในที่มืด
1. 20
2. 25
3. 32
4. 68
5. 80
CH2CH2
n n
พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต พอลิคาร์บอเนต
-[NH-(CH2)6-NH-CO-(CH2)4-CO-]n -[CH2-NH-CO-NH-CH2]n-
พอลิเอไมด์ (ไนลอน-6,6) พอลิยูเรียฟอร์มาลดีไฮด์
120 120
ประสิทธิภาพของเอนไซม์ (%)
ประสิทธิภาพของเอนไซม์ (%)
100 100
80 80
60 60
40 40
20 20
0 0
0 20 40 60 80 100 2 4 6 8 10 12
อุ ณหภูมิ (°C) pH
ผลการทดสอบ ข้อใดไม่ถูกต้อง
สารละลายไอโอดีน สารละลายเบเนดิกต์
1. การทดลองที่ 1 สารละลายสีน้าํ เงิน ไม่เกิดตะกอน
2. การทดลองที่ 2 สารละลายสีน้าํ ตาลปนม่วง เกิดตะกอนแดงเล็กน้อย
3. การทดลองที่ 3 สารละลายสีน้าํ ตาล เกิดตะกอนแดง
4. การทดลองที่ 4 สารละลายสีน้าํ ตาล ไม่เกิดตะกอน
5. การทดลองที่ 5 สารละลายสีน้าํ เงิน ไม่เกิดตะกอน
“ ถ้ เปิ ดใจ”
จํานวนพันธะเพปไทในโครงสร้าง 2 มิติของไซโคลสปอรินเป็นเท่าใด
1. 9
2. 10
3. 11
4. 12
5. 13
50. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับไขมันและกรดไขมัน
1. เมื่อต้มไขมันกับสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์จะได้สบู ่
2. การเหม็นหืนของไขมันไม่อ่มิ ตัวป้องกันได้โดยการเติมสาร BHA
3. กรดไขมันอิ่มตัวสายยาวมีจุดหลอมเหลวสูงกว่ากรดไขมันอิ่มตัวสายสัน้
4. กรดไขมันอิ่มตัวมีจุดหลอมเหลวสูงกว่ากรดไขมันไม่อ่มิ ตัวที่มีจํานวนคาร์บอนเท่ากัน
5. กรดไขมันไม่อ่มิ ตัวที่มีพนั ธะคูส่ องตําแหน่งมีจุดหลอมเหลวสูงกว่ากรดไขมันไม่อ่มิ ตัวที่มีจํานวนคาร์บอนเท่ากันแต่มี
พันธะคู่ตําแหน่งเดียว