Professional Documents
Culture Documents
ละเมิด
ละเมิด
การรับผิดในการกระทําของผู้รับจ้ าง
ข้อยกเว้ น
เว้นแต่ผวู ้ ่าจ้างจะเป็ นผูผ้ ิดในส่ วนการงานทีสังให้ทาํ หรื อในคําสังทีตน
ให้ไว้ หรื อในการเลือกหาผูร้ ับจ้าง"
1
สไลด ์ 2
AD4 เพราะผ็ร ับจ ้างเป็ นผ็กระทําให ้เกิดความเสียหาย มิใช่ผูว้ ่าจ ้างเป็ นผ็กระทํา
Ampassacha Disatha-Amnarj, 20/06/2563
24/07/63
๑.รับผิดเพราะการงานทีสังให้ ทาํ
2
สไลด ์ 3
๑.รับผิดเพราะการงานทีสังให้ ทาํ
จ้างให้ฝังเสาเข็มโดยไม่ได้กาํ หนดวิธีการฝังเสาเข็มไว้ เมือผูร้ ับจ้างตอก
เสาเข็มก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิงปลูกสร้างข้างเคียง ผูว้ า่ จ้างไม่ตอ้ งรับผิด
• ฎ.๔๕๗/๒๕๑๔ "คําสังของจําเลยผูว้ า่ จ้างทีสัง ส. ผูร้ ับจ้างว่าให้ทาํ การก่อสร้าง
อาคารไปตามแบบแปลนี จําเลยได้ยนไว้ ื ต่อเทศบาล และเทศบาลได้อนุ ญาตแล้ว
เป็ นคําสังกําชับให้ปฏิบตั ิตามสัญญาจ้างเหมาระหว่างจําเลยผูว้ า่ จ้างกับ ส. ผูร้ ับจ้าง
ไม่เป็ นคําสังเกียวกับการทําการก่อสร้างอาคารของ ส. ผูร้ ับจ้าง ข้อเท็จจริ งไม่
ปรากฏว่าจําเลยเป็ นผูส้ งให้
ั ส. ตอกเสาเข็มด้วยเครื องจักรอันก่อให้เกิดความ
เสียหายแก่โจทก์ การตอกเสาเข็มจึงเป็ นการกระทําของ ส. ผูร้ ับจ้างเอง จําเลยจึง
ไม่ตอ้ งรับผิดใช้ค่าเสี ยหายแก่โจทก์"
๑.รับผิดเพราะการงานทีสังให้ ทาํ
แต่ถา้ ผูว้ า่ จ้างเลือกจ้างให้ผรู้ ับจ้างฝังเสาเข็มโดยวิธีการตอก เพราะเห็นว่า
เสียค่าใช้จ่ายน้อย ถ้าการตอกเสาเข็มเป็ นเหตุให้เกิดความเสี ยหายแก่ทีดินข้างเคียง
ผูว้ า่ จ้างต้องรับผิดในส่ วนการงานทีสังให้ทาํ
• ฎ.๙๘๔/๒๕๓๑ "จําเลยจ้าง น.ตอกเสาเข็มเพือสร้างอาคารชุดโดยจําเลยเลือกจ้างให้ผรู้ ับจ้างฝังเสาเข็มโดยวิธี
ตอกเพราะเห็นว่าเสี ยค่าใช้จ่ายน้อยกว่าวิธีเจาะทัง ๆ ทีตระหนักดีวา่ การตอกเสาเข็มจะทําให้ทีดินข้างเคียงถูก
กระทบกระเทือนอย่างรุ นแรง อันเป็ นเหตุให้อาคารโจทก์และผูอ้ ืนในบริ เวณใกล้เคียงเสี ยหาย แต่จาํ เลยก็ไม่สนใจ ถือ
ได้วา่ จําเลยผูว้ า่ จ้างเป็ นผูผ้ ิดในส่วนการงานทีสังให้ทาํ จึงต้องรับผิดในความเสียหายดังกล่าวต่อโจทก์จาํ เลยจ้าง น.
ตอกเสาเข็มเพือสร้างอาคารชุดโดยจําเลยเลือกจ้างให้ผรู ้ ับจ้างฝังเสาเข็มโดยวิธีตอกเพราะเห็นว่าเสี ยค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
วิธีเจาะทัง ๆ ทีตระหนักดีวา่ การตอกเสาเข็มจะทําให้ทีดินข้างเคียงถูกกระทบกระเทือนอย่างรุ นแรง อันเป็ นเหตุให้
อาคารโจทก์และผูอ้ ืนในบริ เวณใกล้เคียงเสี ยหาย แต่จาํ เลยก็ไม่สนใจ ถือได้วา่ จําเลยผูว้ า่ จ้างเป็ นผูผ้ ิดในส่ วนการงาน
ทีสังให้ทาํ จึงต้องรับผิดในความเสียหายดังกล่าวต่อโจทก์"
3
24/07/63
4
24/07/63
๓.รับผิดเพราะการเลือกหาผู้รับจ้ าง
• เช่น การจ้างคนไม่ดี หรื อไม่มีความสามารถ จ้างเขาสร้างอาคารสู งๆ ทังๆ
ทีผูร้ ับจ้างก่อสร้างได้เฉพาะห้องแถวธรรมดาเพียงชันสองชัน แต่ไปจ้าง
ให้เขาสร้างคอนโดมิเนียมสูง ๒๐-๓๐ ชัน ถือว่าผูว้ ่าจ้างมีส่วนผิดในการ
เลือกหาผูร้ ับจ้าง
สิทธิไล่เบีย
• ความรับผิดของผูว้ า่ จ้างตามมาตรานี ไม่ใช่ความรับผิดเพือการละเมิดของ
บุคคลอืนดังลูกจ้างกับตัวแทน
• แต่ตามมาตรานี เป็ นเรื องทีผูว้ ่าจ้างต้องรับผิดเพราะเป็ นผูล้ ะเมิดเสี ยเอง
• ส่ วนผูร้ ับจ้างจะต้องรับผิดด้วยหรื อไม่กอ็ ยูท่ ีว่าการกระทําของผูร้ ับจ้าง
เป็ นละเมิดหรื อไม่
• หากเป็ นละเมิดก็อาจต้องร่ วมรับผิดหรื อต่างคนต่างรับผิด
5
24/07/63
สิทธิไล่เบีย
• หากต้องร่ วมรับผิดแล้วก็อาจมีการไล่เบียได้ตามมาตรา ๒๒๙, ๒๙๖,
๔๓๒
• จ้างทําโครงสร้างป้ ายโฆษณา แต่เลือกผูร้ ับจ้างไม่ดี ผูร้ ับจ้างสร้างโดย
ประมาทเลินเล่อโครงสร้างทีกําลังก่อสร้างพังลงมา ทําความเสี ยหายแก่
บุคคลอืน ผูว้ า่ จ้างต้องรับผิดต่อผูเ้ สี ยหาย ? ไล่เบียได้?
• หากผูว้ า่ จ้างกับผูร้ ับจ้างร่ วมกันทําละเมิด ผูว้ า่ จ้างก็ไล่เบียจากผูร้ ับจ้างได้
ตามมาตรา ๔๓๒, ๒๙๖
ฎ ๗๐๘๖/๒๕๕๒
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจําเลยกับผูร้ บั เหมาร่วมกันทําละเมิด แต่ก ารเป็ นผูร้ บั เหมา
อาจเป็ นผูร้ บั จ้างทําของหรือเป็ นลูกจ้างจําเลยทีจําเลยจ้างแรงงานก็ได้ โจทก์มิได้บรรยาย
ฟ้องว่าจําเลยเป็ นผูว้ ่าจ้างให้ผรู้ บั เหมาทําการตอกเสาเข็มอันเป็ นลักษณะของการจ้างทํา
ของและตามคํา ให้ก ารของจํา เลยก็ มิ ไ ด้ใ ห้ก ารว่ า จํา เลยเป็ นผู้ว่ า จ้า งทํา ของแต่ เ ป็ น
คําให้การยอมรับว่าจําเลยเป็ นผูต้ อกเสาเข็ม ตามคําฟ้องและคําให้การประเด็นแห่งคดีจึงมี
เพียงว่าจําเลยเป็ นผูก้ ระทําละเมิดหรือไม่เท่านัน ไม่มีประเด็นว่าจําเลยเป็ นผูว้ ่าจ้างทําของ
ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๔๒๘ ทีศาลชันต้นวินิจฉัยว่าจําเลยเป็ นผูว้ ่าจ้างทําของไม่ตอ้ งรับผิด
ตามมาตรา ๔๒๘ เป็ นการวินิจฉัยนอกประเด็นแห่งคดีจึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา ๘๗,
๑๔๒, ๑๗๗ วรรคสอง
6
24/07/63
ฎ ๒๘๓๕/๒๕๕๒
จําเลยที ๑ เป็ นผูว้ า่ จ้าง ท. ให้รบั เหมาก่อสร้างบ้านโดยจําเลยที ๒ เป็ นคนมาติดต่อรับเงินค่าจ้าง
จากจําเลยที ๑ จําเลยที ๑ และที ๒ มีสิทธิทีจะบอกกล่าวให้ ท. ทํางานตรงไหนก็ได้ตามทีต้องการ จําเลย
ที ๒ เป็ นผูส้ งให้
ั ท. เปลียนแปลงขนาดเสาเข็มทีมีขนาดใหญ่ขึน ราคาแพงกล่าวเดิม และเป็ นคนเอาเงิน
ให้ ท. ไปซือ จึงฟั ง ได้ว่า จํา เลยที ๒ เป็ น ตัวแทนของจําเลยที ๑ ซึงจํา เลยที ๑ ต้องรับ ผิด ชอบในการ
กระทําของตัวแทน ดังนัน แม้ ท. จะเป็ นผูด้ าํ เนินการตอกเสาเข็ม แต่จาํ เลยที ๑ ก็มีส่วนผิดในส่วนการ
งานทีสังให้ทาํ และการที ท. ไม่ได้เรียนวิชาช่างมาโดยตรง เพิงรับเหมางานก่อสร้างให้จาํ เลยที ๑ เป็ นงาน
แรก ก็ เ กิ ด เหตุ ท ํา ให้ บ ้า นของโจทก์ทั งสองเกิ ด รอยร้า ว เสี ย หาย แสดงว่ า ท. เป็ นผู้ข าดความรู ้
ความสามารถ การทีจําเลยที ๑ ว่าจ้างให้ ท. เป็ นผูร้ บั เหมาก่อสร้างถือว่าเป็ นความผิดของจําเลยที ๑ ใน
การเลือกหาผู้รบั จ้างมาก่ อสร้างด้วย ทังเมื อจําเลยที ๑ ถูกฟ้องเป็ นคดี อาญา จําเลยที ๑ ก็ ให้ก ารรับ
สารภาพ ถือได้ว่าจําเลยที ๑ กระทําละเมิดต่อโจทก์ทงสอง ั และแม้โจทก์ทงสองจะมิ
ั ได้ฟ้อง ท. ก็ไม่เป็ น
เหตุให้จาํ เลยที ๑ พ้นความรับผิด
ฎ ๓๙๐/๒๕๕๐
จําเลยซึงเป็ นผูว้ ่าจ้างเป็ นผูก้ าํ หนดวิธีการให้ผรู้ บั จ้างตัดต้นไม้และให้
คนควบคุมดูแลการตัดต้นไม้ตลอดเวลา แต่ในวันทีมีการตัดต้นไม้และทําให้
ไม้ลม้ พาดสายไฟฟ้าแรงสูงในทีดินของโจทก์ขาดก่อให้เกิดความเสียหายกลับ
ไม่มีผใู้ ดควบคุม การทีผูร้ บั จ้างไม่มีความรู ค้ วามชํานาญในการตัดต้นไม้ทีจะ
ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สงก่ ิ อสร้างข้างเคียงหรือไม่ยอมทําตามวิธีการที
ถูกต้อง ถือได้ว่าจําเลยเป็ นผูผ้ ิดในส่วนการงานทีสังให้ทาํ หรือในคําสังทีให้ไว้
หรือในการเลือกหาผูร้ บั จ้าง จําเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๘
7
24/07/63
ฎ ๒๐๗๗/๒๕๔๒
จําเลยที ๑ เป็ นผูว้ ่าจ้างให้จาํ เลยที ๒ และที ๓ ก่อสร้างตึก ซึงอยู่ติดกับอาคารพิพาท
ของโจทก์และตาม สัญญารับจ้างเหมางานการก่อสร้างระหว่างจําเลยที ๑ กับจําเลยที ๒ และ
สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างระหว่างจําเลยที ๑ กับจําเลยที ๓ ได้ระบุไว้ชัดแจ้งว่าการก่อสร้าง
ของจํา เลยที ๒ และที ๓ จะต้องกระทํา ตามคําสังของจํา เลยที ๑ ตามข้อบังคับในสัญญา
ดังกล่าว หากจําเลยที ๒ และที ๓ ไม่ปฏิบัติตาม จําเลยที ๑ มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ เมือ
ปรากฏข้อ เท็ จ จริง ว่ า ในระหว่ า งการก่ อสร้า งจํา เลยที ๑ ได้ไ ปควบคุม ดูแ ลการก่ อ สร้า ง
ตลอดเวลาและมี ขอ้ สัญญาให้จาํ เลยที ๑ บอกเลิก สัญญาได้ห ากจํา เลยที ๒ และที ๓ ไม่
ปฏิบตั ิตามคําสังของจําเลยที ๑เช่นนีย่อมถือได้ว่า จําเลยที ๑ เป็ นผูผ้ ิดในส่วนการงานทีสังให้
ทํา หรือคําสังทีตนให้ไว้ หรือในการเลือกหาผูร้ บั จ้างตามทีบัญญัติไว้ในมาตรา ๔๒๘ ตาม ป.
พ.พ. เมือการก่อสร้างอาคารของจําเลยที ๒ และที ๓ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อาคารของ
โจทก์ จําเลยที ๑ จึงต้องร่วมรับผิดในความเสียหายทีเกิดขึน
8
24/07/63
ความรับผิดในการทําละเมิดของผู้ไร้
ความสามารถ
AD5
9
สไลด ์ 18
AD5 แยกเป็ นความรบั ผิดของบิดา มารดาและผู ้อนุ บาล มาตรา ๔๒๙ และความร ับผิด
ของผด้ ูแล คือ ครู นายจ ้าง และผูร้ ับดูแล ตามาตรา ๔๓๐
Ampassacha Disatha-Amnarj, 20/06/2563
24/07/63
ผู้ไร้ ความสามารถรับผิด
• มาตรานี ยืนยันว่าคนทีไร้ความสามารถไม่ว่าจะเป็ นผูเ้ ยาว์หรื อวิกลจริ ตก็
ต้องรับผิดในผลละเมิดทีตนได้ก่อให้เกิดขึน เรื องความสามารถของผูไ้ ร้
ความสามารถเพราะเป็ นผูเ้ ยาว์หรื อวิกลจริ ตตามกฎหมายมีเฉพาะเรื องการ
ทํานิ ติกรรม กล่าวคือ ผูไ้ ร้ความสามารถมีแต่ถูกจํากัดในการใช้สิทธิ โดย
ลําพัง จึงไม่อาจต้องรับผิดในการแสดงเจตนาทํานิติกรรม แต่ในทางละเมิด
เป็ นการกระทําทีไม่มีสิทธิ ผูไ้ ร้ความสามารถจึงต้องรับผิดในทางละเมิด
เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา
10
สไลด ์ 19
AD6 บุคคลทียังไม่บรรลุนิตภ
ิ าวะ ไม่ว่าโดยอายุหรือโดยการสมรส
Ampassacha Disatha-Amnarj, 20/06/2563
ผู้ไร้ ความสามารถรับผิด
• ผูเ้ ยาว์หรื อผูว้ ิกลจริ ตเป็ นผูท้ าํ ละเมิดก็ตอ้ งรับผิดชดใช้ค่าสิ นไหมทดแทน
ตามมาตรา ๔๒๐ ส่ วนบิดามารดาหรื อผูอ้ นุบาลต้องร่ วมรับผิดด้วยตาม
มาตรา ๔๒๙ นี
• ผูเ้ สี ยหายจะเลือกฟ้ องบิดามารดาหรื อผูอ้ นุบาลให้รับผิดโดยเฉพาะ โดยไม่
ต้องฟ้ องผูไ้ ร้ความสามารถซึ งเป็ นผูท้ าํ ละเมิดด้วย (ฎ.๙๓๔/๒๕๑๗) หรื อ
จะฟ้ องให้ร่วมรับผิดกับผูไ้ ร้ความสามารถด้วยก็ได้
บิดามารดารับผิด
• หน้าทีควบคุมดูแลและให้การศึกษาแก่บุตรผูเ้ ยาว์ตามมาตรา ๑๕๖๔
• อํานาจปกครองตามมาตรา ๑๕๖๖ ๑๕๖๗
• ฎ.๕๕๔๕/๒๕๔๖ บิดามารดาทีชอบโดยกฎหมายเท่านันทีจะต้องร่ วมรับ
ผิดในผลทีผูเ้ ยาว์ทาํ ละเมิด รวมถึงผูร้ ับบุตรบุญธรรมด้วย
11
24/07/63
เด็กทีเกิดโดยอาศัยเทคโนโลยี
• ตาม พรบ. คุม้ ครองเด็กทีเกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริ ญพันธุ ์ทาง
การแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๒๙ " เด็กทีเกิดจากอสุ จิ ไข่ หรื อตัวอ่อน
ของผูบ้ ริ จาค แล้วแต่กรณี โดยใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริ ญพันธุ์ทาง
การแพทย์
• ไม่วา่ จะกระทําโดยการให้ภริ ยาทีชอบโดยกฎหมายของสามีซึงประสงค์จะ
มีบุตรเป็ นผูต้ งครรภ์
ั หรื อให้มีการตังครรภ์แทนโดยหญิงอืน ให้เด็กนันเป็ น
บุตรชอบด้วยกฎหมายของสามีและภรรยาทีชอบโดยกฎหมาย:7j’ประสงค์
จะมีบุตร
ผู้อนุบาลรับผิด
• ผูอ้ นุ บาลตามมาตรานี หมายถึง บุคคลทีศาลสังตังให้เป็ นผูอ้ นุบาลของ
คยนไร้ความสามารถ
12
24/07/63
เหตุยกเว้ น
ตามมาตรา ๔๒๙ หน้าทีนําสื บว่าไม่ตอ้ งรับผิดอยูก่ บั บิดามารดา
หรื อผูอ้ นุบาล โจทก์นาํ สื บเพียงว่า ผูเ้ ยาว์หรื อคนไร้ความสามารถนัน
ทําละเมิดตามมาตรา ๔๒๐ หรื อมาตราอืนๆและผูเ้ ยาว์หรื อคนไร้
ความสามารถเป็ นบุตรหรื อเป็ นผูอ้ ยู่ในอนุ บาลของจําเลยซึ งเป็ นบิดา
มารดาหรื อเป็ นผูอ้ นุ บาลแค่นีก็พอ จําเลยต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตนได้ใช้
ความระมัดระวังดูแล หากไม่นาํ สื บก็ตอ้ งแพ้คดี
13
24/07/63
สิทธิไล่เบีย
• มาตรา ๔๓๑ "ในกรณี ทีกล่าวมาใน ๒ มาตราก่อนนัน ท่านให้นาํ
บทบัญญัติแห่งมาตรา ๔๒๖ มาใช้บงั คับโดยอนุโลม"
• เมือบิดามารดาหรื อผูอ้ นุบาลใช้ค่าสิ นไหมทดแทนให้แก่ผเู ้ สี ยหายเพราะ
การทําละเมิดของบุคคลผูไ้ ร้ความสามารถแล้ว ย่อมใช้สิทธิ ไล่เบียจาก
บุคคลผูไ้ ร้ความสามารถได้ตามมาตรา ๔๓๑ ทํานองเดียวกับมาตรา ๔๒๖
ฎ ๑๓๗๘๙/๒๕๕๕
ป.พ.พ. มาตรา ๔๒๙ บัญ ญัติให้บิดามารดาต้องร่ว มรับผิด ในผลที
ผู้เ ยาว์ก ระทํา ละเมิ ด ต่ อ บุ ค คลอื น เว้น แต่ จ ะพิ สูจ น์ไ ด้ว่ า ตนได้ใ ช้ค วาม
ระมัดระวังตามควรแก่หน้าทีดูแลซึงทําอยู่นนั ตามคําให้การ จําเลยที ๒ และ
ที ๓ หาได้ยกความข้อนีขึนต่อสูโ้ จทก์ทงสองให้
ั ชดั แจ้ง คงให้การเพียงว่าไม่มี
ส่วนรูเ้ ห็นหรือเกียวพันกับการกระทําผิดของจําเลยที ๑ ซึงไม่ใช่ความหมาย
อย่างเดียวกันกับการใช้ความระมัดระวังตามควรแก่หน้าทีดูแลซึงทําอยู่นัน
คําให้การของจําเลยที ๒ และที ๓ จึงไม่ชัดแจ้ง ย่อมไม่มีประเด็นทีจะนําสืบ
พิสจู น์ให้พน้ ความรับผิดตามกฎหมาย
14
24/07/63
ฎ ๘๑๓๘/๒๕๕๕
ขณะเกิดเหตุจาํ เลยที ๑ มีอายุ ๑๙ ปี เศษ ใกล้บรรลุนิติภาวะ แม้จะยังเป็ นผูเ้ ยาว์และ
ต้องอยู่ในความปกครองดูแลของจําเลยที ๒ และที ๓ ซึงเป็ นบิดามารดาตามกฎหมายก็ตาม
แต่จาํ เลยที ๑ ก็ทาํ งานหาเลียงชีพด้วยตนเองไม่เป็ นภาระแก่บิดามารดา การทีจําเลยที ๒
และที ๓ อนุญาตให้จาํ เลยที ๑ ขับรถจักรยานยนต์ก็เนืองมาจากต้องใช้เป็ นพาหนะในการ
เดินทางไปทํางาน ทังจําเลยที ๑ ได้รบั ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ย่อมแสดงให้เห็นว่า
จําเลยที ๑ มีวุฒิ ภ าวะพอสมควรที จําเลยที ๒ และที ๓ จะไว้ว างใจจํา เลยที ๑ ในการ
ดํารงชีวิตในสังคมทีจะไม่ก่อความเดือดร้อนเสียหายแก่ผอู้ ืน นอกจากนีไม่ปรากฏว่าจําเลยที
๑ เคยขับรถจักรยานยนต์ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรําคาญแก่ผอู้ ืน หรือเกิดอุบตั ิเหตุเฉียวชน
อยู่เสมอ อันจะทําให้จาํ เลยที ๒ และที ๓ ควรต้องทักท้วงหรือห้ามปรามมิให้จาํ เลยที ๑ ขับ
รถจักรยานยนต์อีกจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ เช่นนีถือได้ว่า จําเลยที ๒ และที ๓ ได้ใช้ความ
ระมัดระวังดูแลจําเลยที ๑ ตามสมควรแก่หน้าทีดูแลซึงทําอยู่นนแล้ั ว จําเลยที ๒ และที ๓ จึง
ไม่ตอ้ งร่วมกับจําเลยที ๑ รับผิดต่อโจทก์
ฎ ๖๙๖๗/๒๕๔๑
จําเลยที ๑ ซึงเป็ นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของจําเลยที ๒ มีอายุ ๑๕ ปี เศษ และ
เป็ นนักเรียนชันมัธยมศึกษาปี ที ๔ ก่อนทีจําเลยที ๒ จะออก ไปกิจธุระนอกบ้าน จําเลยที ๒
ได้น ํา รถจั ก รยานยนต์ คั น เกิ ด เหตุ เ ข้ า ไปเก็ บ ไว้ใ นบ้า นพร้อ มกั บ ใส่ กุ ญ แจล๊ อ ก คอ
รถจักรยานยนต์เพือป้องกันมิให้จาํ เลยที ๑ นํารถจักรยานยนต์ออกไปใช้ และจําเลยที ๒
นําเอากุญ แจติดตัวไปด้วยการทีจําเลยที ๑ ได้นาํ กุญแจรถยนต์กระบะไปไขออก ได้โดย
บังเอิญแล้วนําไปให้เพือนรุ ่นพีต่อสายไฟตรงติดเครืองยนต์ให้ ทังไม่ปรากฏว่าจําเลยที ๑
เป็ นผูท้ มีี นิสยั หรือความประพฤติไม่ดีมาก่อน เห็นได้วา่ จําเลยที ๒ ได้ใช้ความระมัดระวังตาม
สมควรแก่หน้าทีดูแลซึงทําอยู่นนเหมาะสมกั
ั บอุปนิสยั และความประพฤติของจําเลยที ๑ผู้
เป็ นบุตรแล้วทุกประการ จําเลยที ๒ จึงไม่ตอ้ งร่วมรับผิดในเหตุละเมิดทีจําเลยที ๑ ก่อขึนต่อ
โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๙
15
24/07/63
ฎ ๖๙๖๗/๒๕๔๑
จําเลยที ๑ ซึงเป็ นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของจําเลยที ๒มีอายุ ๑๕ ปี เศษ และ
เป็ นนักเรียนชันมัธยมศึกษาปี ที ๔ ก่อนทีจําเลยที ๒ จะออกไปกิจธุระนอกบ้าน จําเลยที ๒
ได้น ํา รถจั ก รยานยนต์ คั น เกิ ด เหตุ เ ข้ า ไปเก็ บ ไว้ ใ นบ้ า นพร้อ มกั บ ใส่ กุ ญ แจล็ อ กคอ
รถจัก รยานยนต์เพือป้องกันมิให้จาํ เลยที ๑ นํารถจักรยานยนต์ออกไปใช้ และจําเลยที ๒
นําเอากุญแจติดตัวไปด้วย การทีจําเลยที ๑ ได้นาํ กุญแจรถยนต์ก ระบะไปไขออกได้โดย
บังเอิญแล้วนําไปให้เพือนรุ น่ พีต่อสายไฟตรงติดเครืองยนต์ให้ ทังไม่ปรากฏว่าจําเลยที ๑
เป็ นผูท้ ีมีนิสัยหรือความประพฤติไม่ดีมาก่อน เห็นได้ว่าจําเลยที ๒ ได้ใช้ความระมัดระวัง
ตามสมควรแก่หน้าทีดูแลซึงทําอยู่นนั เหมาะสมกับอุปนิสยั และความประพฤติของจําเลยที
๑ ผูเ้ ป็ นบุตรแล้วทุกประการ จําเลยที ๒ จึงไม่ตอ้ งร่วมรับผิดในเหตุละเมิดทีจําเลยที ๑ ก่อ
ขึนต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๔๒๙
16
24/07/63
ความรับผิดของผู้ดูแล
17
24/07/63
ความรับผิดของผู้ดูแล
• มาตรา ๔๓๐ "ครู บาอาจารย์ นายจ้าง หรื อบุคคลอืนซึ งรับดูแลบุคคลผูไ้ ร้
ความสามารถอยูเ่ ป็ นนิ ตย์กด็ ี ชัวครังชัวคราวก็ดี จําต้องรับผิดร่ วมกับผูไ้ ร้
ความสามารถในการละเมิดซึ งเขาได้กระทําลงในระหว่างทีอยูใ่ นความ
ดูแลของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้วา่ บุคคลนันๆ มิได้ใช้ความระมัดระวังตาม
สมควร"
ผู้ดูแล
ความสํ าคัญของผู้รับผิดตามมาตรานีอยู่ทีการเป็ นผู้รับดูแลบุคคลไร้
ความสามารถ ไม่ ว่าจะรับดูแลอยู่เป็ นประจําหรือชัวครังชัวคราว โดยไม่
คํานึงถึงว่าการรับดูนันมีสินจ้ างหรือไม่
การรับดูแลตามมาตรานีมี ๓ ลักษณะ คือ
๑. รับดูแลโดยกฎหมายบังคับ
๒. รับดูแลโดยสัญญา
๓. รับดูแลโดยข้อเท็จจริ ง
18
24/07/63
คําพิพากษาศาลฎีกาที ๑๒๙๗๙/๒๕๕๘
เจ้าพนักงานตํารวจนําตัวผูเ้ ยาว์ส่งสถานพินิจฯ เป็ นหน้าทีตามประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากําหนดไว้ไม่มีเจตนารับดูแลผูเ้ ยาว์ เมือผูเ้ ยาว์
หลบหนี ไปทําละเมิ ด เจ้าพนักงานตํารวจไม่ตอ้ งรับผิดเพราะไม่อยู่ในบังคับ
ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๔๓๐ ส่วนสํานักงานตํารวจแห่ งชาติ ไม่ตอ้ งรับผิดเพราะ
เป็ นเพียงความบกพร่ องในการปฏิบตั ิหน้าทีของเจ้าพนักงานตํารวจไม่ได้ทาํ
ละเมิดโดยตรงทีหน่ วยงานของรัฐจะต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทาง
ละเมิดของเจ้าหน้าที พ.ศ.๒๕๓๙ มาตรา ๕ วรรคหนึง
คําพิพากษาศาลฎีกาที ๑๒๐๖/๒๕๓๕
จําเลยที ๒ เป็ นเพียงเจ้าของหอพักทีจําเลยที ๑ ซึงเป็ นผูเ้ ยาว์เช่าอยู่ และ
เป็ นผูใ้ ช้ให้จาํ เลยที ๑ ขับรถยนต์คนั เกิดเหตุไปเพือกิจธุระของตนเท่านันถือ
ไม่ได้ว่าจําเลยที ๒ เป็ นบุคคลผูร้ ับดูแลจําเลยที ๑ ไว้ และจะต้องร่ วมรับผิดกับ
จําเลยที ๑ ในการละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิ ชย์ มาตรา ๔๓๐
เพราะเจ้าของหอพักมีหน้าทีเพียงดําเนินกิจการหอพักและควบคุมการเข้าพัก
ในหอพักเท่านัน
19
24/07/63
๑. รับดูแลโดยกฎหมายบังคับ
เช่น สถานพินิจและคุม้ ครองเด็กและเยาวชน ซึ งเยาวชนถูกจับ
กล่าวหาว่าไปกระทําผิดแล้วนําตัวไปควบคุมดูแลหรื อพนักงาน
สอบสวนควบคุมผูเ้ ยาว์ซึงถูกกล่าวหาว่ากระทําผิด
หรื อกรณี ทีผูป้ กครองทีศาลมีคาํ สังตังให้เป็ นตามบรรพ ๕ กรณี นี
กฎหมายให้อาํ นาจควบคุมดูแลคนไร้ความสามารถ
๒. รับดูแลโดยสั ญญา
• พีเลียง สถานรับเลียงเด็ก
• ครู อาจารย์
• ผูร้ ับดูแลโดยสัญญาจ้าง
20
24/07/63
๓. รับดูแลโดยข้ อเท็จจริง
• บิดาทีมิชอบด้วยกฎหมายให้การอุปการะเลียงดูบุตรทีเกิดนอกสมรสตามหน้าที
ทางศีลธรรม
• ความผูกพันทางสายเลือด ปู่ ย่าตายาย ลุงป้ าน้าอาทีรับเลียงผูเ้ ยาว์
• รับเด็กหลงทางมาเลียงดูให้มาอาศัยเพือตามหาพ่อแม่
• การรับดูแลโดยข้อเท็จจริ งนี หมายถึง ดูแลในความเป็ นอยู่ ข้อสําคัญการทํา
ละเมิดต้องเกิดขึนในขณะอยูใ่ นความดูแลของบุคคลนัน
ประเภทผู้ดูแล ๑. ครูบาอาจารย์
๒. นายจ้าง
๓. ผู้รับดูแล
21
24/07/63
๑. ครูบาอาจารย์
• บุคคลทีให้การศึกษาอย่างใดอย่างหนึง จะมีสินจ้างหรื อไม่กไ็ ด้
• จะต้องมีหน้าทีควบคุมดูแลด้วยและเหตุละเมิดเกิดในระหว่างการรับดูแล
• หากมีนกั เรี ยนทําละเมิด คนทีจะรับผิดเฉพาะในขณะทําละเมิดต้องมีหน้าทีรับดูแลด้วย ซึง
อาจเป็ นผูอ้ าํ นวยการ ผูจ้ ดั การ อาจารย์ใหญ่ ครู ผปู ้ กครอง ครู ประจําชัน
• ความรับผิดมากหรื อน้อยนันขึนอยูก่ บั อํานาจหน้าทีดูแลขณะเกิดเหตุวา่ มากน้อยเพียงใด
• เหตุละเมิดไม่จาํ เป็ นต้องเกิดขึนระหว่างสอนหรื อในห้องเรี ยน
• อาจารย์ในมหาวิทยาลัยไม่ได้อยูใ่ นบังคับมาตรานี มีแต่หน้าทีให้การศึกษา
• ฉะนันเพียงแต่สืบได้วา่ ไม่บกพร่ องในการควบคุมดูแล ก็พน้ ความรับผิดแล้ว แม้จะอบรบ
สังสอนไม่ดีกไ็ ม่ตอ้ งรับผิด
๒. นายจ้ าง
• ผูม้ ีความสัมพันธ์กบั ผูไ้ ร้ความสามารถตามสัญญาจ้างแรงงาน
• นายจ้างมีหน้าทีอบรบสังสอนฝึ กฝนลูกจ้างให้ฝึกวิชาชีพประเภททีเรี ยกว่า
ลูกมือฝึ กหัด
• นายจ้างต้องรับผิดในเหตุละเมิดทีผูไ้ ร้ความสามารถทําระหว่างทีอยูใ่ น
ความควบคุมดูแลของนายจ้าง
• ถ้าละเมิดได้กระทําในทางการทีจ้างด้วยและนายจ้างไม่ดูแลให้ดี นายจ้าง
ต้องร่ วมรับผิดตามมาตรา ๔๒๘ ทีลูกจ้างได้ทาํ ละเมิดในทางการทีจ้าง กับ
ร่ วมรับผิดตามมาตรา ๔๓๐ ในฐานะทีดูไม่แลให้ดี
22
24/07/63
23
24/07/63
ฎ ๑๒๙๗๙/๒๕๕๘
เจ้า พนั ก งานตํา รวจนํา ตัว ผู้เ ยาว์ส่ ง สถานพิ นิ จ ฯ เป็ นหน้า ที ตาม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากําหนดไว้ไม่มีเจตนารับดูแลผูเ้ ยาว์
เมือผูเ้ ยาว์หลบหนีไปทําละเมิด เจ้าพนักงานตํารวจไม่ตอ้ งรับผิดเพราะไม่อยู่
ในบังคับตาม ป.พ.พ. มาตรา ๔๓๐ ส่วนสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ไม่ตอ้ งรับ
ผิดเพราะเป็ นเพียงความบกพร่องในการปฏิบตั ิหน้าทีของเจ้าพนักงานตํารวจ
ไม่ได้ทาํ ละเมิดโดยตรงทีหน่วยงานของรัฐจะต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.ความรับ
ผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที พ.ศ.๒๕๓๙ มาตรา ๕ วรรคหนึง
24
24/07/63
ฎ ๑๐๒๓๙/๒๕๔๖
ขณะเกิดเหตุคดีนี จําเลยที ๒ จดทะเบียนหย่ากับจําเลยที ๑ แล้ว โดยมีขอ้ ตกลงกันว่า
ให้จาํ เลยที ๓ ซึงเป็ นบุตรผูเ้ ยาว์อยู่ในอํานาจปกครองของจําเลยที ๑ แต่เพียงผูเ้ ดียว จําเลยที
๒ จึ งไม่มีอาํ นาจปกครองเพือจัด การดูแลบุตรผูเ้ ยาว์ตามที กฎหมายกําหนดต่อ ไป การที
จําเลยที ๓ ไปกระทําละเมิดต่อผูอ้ ืน จะนํา ป.พ.พ. มาตรา ๔๒๙ มาปรับใช้บงั คับในส่วนที
เกียวกับการทีจําเลยที ๒ จะต้องร่วมรับผิดด้วยหรือไม่ ไม่ได้
หลังจากจดทะเบียนหย่าแล้ว จําเลยที ๒ ไม่ได้พกั อาศัยอยู่กับจําเลยที ๑ และที ๓ แม้
จําเลยที ๒ ยังมีชือในทะเบียนบ้านร่วมกับจําเลยที ๑ และที ๓ และภายหลังเกิดเหตุ จําเลยที
๒ ได้ไปเจรจาค่าเสียหายกับโจทก์หรือไปดูแลจําเลยที ๓ เป็ นครังคราว พฤติการณ์เหล่านียัง
รับฟั งไม่ได้ว่าจําเลยที ๒ เป็ นผูร้ บั ดูแลจําเลยที ๓ ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๔๓๐ จําเลยที ๒ จึง
ไม่ตอ้ งร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดของจําเลยที ๓
ฎ ๑๒๐๖/๒๕๓๕
จําเลยที ๒ เป็ นเพียงเจ้าของหอพักทีจําเลยที ๑ ซึงเป็ นผูเ้ ยาว์เช่าอยู่ และเป็ น
ผูใ้ ช้ใ ห้จ าํ เลยที ๑ ขับรถยนต์คันเกิ ด เหตุไ ปเพื อกิจธุระของตนเท่านันถื อไม่ไ ด้ว่ า
จําเลยที ๒ เป็ นบุคคลผูร้ บั ดูแลจําเลยที ๑ ไว้ และจะต้องร่วมรับผิดกับจําเลยที ๑ ใน
การละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิ ชย์ มาตรา ๔๓๐ เพราะเจ้า ของ
หอพักมีหน้าทีเพียงดําเนินกิจการหอพักและควบคุมการเข้าพักในหอพักเท่านัน
25
24/07/63
ความรับผิดในการทําละเมิดของ
ผู้แทนนิติบุคคล
26
24/07/63
ความรับผิดในการทําละเมิดของผู้แทนนิติบคุ คล
27
24/07/63
ความรับผิดเพือละเมิดของผู้ร่วมกระทํา
28
24/07/63
ความรับผิดเพือละเมิดของผู้ร่วมกระทํา
• มาตรา ๔๓๒ "ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสี ยหายแก่บุคคลอืนโดยร่ วมกันทํา
ละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านันจะต้องร่ วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพือความ
เสียหายนัน ความข้อนีท่านให้ใช้ตลอดถึงกรณี ทีไม่สามารถสื บรู ้ตวั ได้แน่วา่ ใน
จําพวกทีทําละเมิดร่ วมกันนัน คนไหนเป็ นผู้ ก่อให้เกิดเสี ยหายนันด้วย
• อนึง บุคคลผูย้ ยุ งส่งเสริ มหรื อช่วยเหลือในการทําละเมิด ท่านก็ให้ถือว่าเป็ นผูก้ ระทํา
ละเมิดร่ วมกันด้วย
• ในระหว่างบุคคลทังหลายซึงต้องรับผิดร่ วมกันใช้ค่าสิ นไหมทดแทนนัน ท่านว่าต่าง
ต้องรับผิดเป็ นส่ วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดยพฤติการณ์ศาลจะวินิจฉัยเป็ นประการอืน"
ฎ.๗๓๐/๒๔๙๓
"เอาเรื อนและครัวไฟของผูอ้ ืนไปขายโดยไม่
ตัวอย่ างฎีกาเรือง มีอาํ นาจ ผูซ้ ื อก็ทราบแต่ยงั ขืนซือไว้ แล้วรื อครัวไฟ
นันไป ย่อมเป็ นการละเมิดสิ ทธิ ของเจ้าของ ผูท้ ีรู้
ร่ วมทําละเมิด เห็นการซื อขายรายนีมาแต่ตน้ เมือไปช่วยผูซ้ ื อรื อ
ด้วย ย่อมเป็ นการละเมิดสิ ทธิ ของเจ้าของด้วย ผูล้ ง
มือกระทําต้องรับผิดในค่าเสี ยหายร่ วมกัน"
29
24/07/63
คําพิพากษาศาลฎีกาที ๗๔๘/๒๕๕๒
เหตุละเมิดเกิดขึนก่อนที พ.ร.บ.ความทางละเมิดของเจ้าหน้าที พ.ศ.๒๕๓๙ มีผลใช้บงั คับ แม้โจทก์จะ
ฟ้ องคดีนีในวันที ๑๘ มกราคม ๒๕๔๔ ซึ งพระราชบัญญัตินีใช้บงั คับแล้ว แต่เมือ พ.ร.บ.ความรับผิดทาง
ละเมิดของเจ้าหน้าที พ.ศ.๒๕๓๙ มิได้มีบทบัญญัติให้ใช้บงั คับแก่คดีละเมิดทีเกิดขึนก่อนพระราชบัญญัติฉบับ
นีมีผลใช้บงั คับ ความรับผิดทางละเมิดของผูท้ าํ ละเมิดทีเกิดขึนก่อนพระราชบัญญัติฉบับนีใช้บงั คับจึงต้องอยู่
ภายในบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ.
จําเลยที ๑ เป็ นผูค้ วบคุมงานจ้างก่อสร้างถนน จําเลยที ๒ ถึงที ๖ เป็ นคณะกรรมการตรวจการจ้าง แต่
ผูร้ ับจ้างก่อสร้างถนนไม่ถูกต้องตามแบบทําให้ถนนชํารุ ด การทีจําเลยที ๑ ไม่ทาํ หน้าทีควบคุมการก่อสร้าง
ถนน ส่วนจําเลยที ๒ ถึงที ๖ มิได้ไปตรวจรับงานจ้างพร้อมกันไม่ชอบด้วยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี วา่
ด้วยการพัสดุ พ.ศ.๒๕๓๕ ถือว่าจําเลยทังหกประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการปฏิบตั ิหน้าทีตามทีได้รับ
มอบหมายจากนายอําเภอสรรคบุรีเป็ นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสี ยหาย จําเลยทังหกจึงต้องร่ วมกันรับผิดใช้ค่า
สิ นไหมทดแทนเพือความเสี ยหายนันตาม ป.พ.พ. มาตรา ๔๓๒ วรรคแรก
30
24/07/63
• ในระหว่างผูร้ ่ วมทําละเมิดกันเองตามวรรคท้ายให้
แบ่งส่วนรับผิดเท่าๆกัน
• เมือใช้ค่าสิ นไหมทดแทนไปแล้ว ก็ฟ้องไล่เบียผูท้ าํ
ละเมิดคนอืน ๆ ได้ ตามมาตรา ๒๒๙(๒๓), ๒๒๖
สิทธิไล่ เบีย • เว้นแต่โดยพฤติการณ์ศาลจะวินิจฉัยให้เป็ นอย่างอืน
คนหนึ งใช้ค่าสิ นไหมทดแทนแก่ผเู้ สี ยหายแล้วย่อม
ได้รับช่วงสิ ทธิ ไล่เบียจากอีกคนหนึงตามส่วนทีต้อง
รับผิดได้ ตามมาตรา ๒๙๑, ๒๙๖, ๓๐๑
กรณีมิได้ ร่วมทําละเมิด
• ศาลมีอาํ นาจกําหนดความเสี ยหายตามสมควรแก่พฤติการณ์และความ
ร้ายแรงแห่งละเมิดตามมาตรา ๔๓๘ โดยอาจให้ร่วมรับผิดหรื อแบ่งส่ วนรับ
ผิดได้ตามพฤติการณ์
• กรณี แยกไม่ออกว่าใครเป็ นคนก่อความเสี ยหายต่อบุคคลอืน ศาลอาจจะ
พิพากษาให้ร่วมรับผิดในฐานะลูกหนีร่ วม แต่ไม่ใช่กรณี ตามมาตรา ๔๓๒
• กรณี เหตุทีก่อให้เกิดความเสี ยหายมีความสําคัญเท่าเทียมกัน ศาลให้ร่วมรับ
ผิดกันได้
31
24/07/63
32
24/07/63
33
24/07/63
๑. สัตว์
๒. ความเสี ยหายเกิดขึน
เพราะสัตว์
๓. ผูร้ ับผิด
๔. ผูเ้ สี ยหาย
๕. เหตุยกเว้นความรับผิด
๖. สิ ทธิ ไล่เบีย
34
24/07/63
คําพิพากษาศาลฎีกาที ๒๖๓๔/๒๕๔๒
จําเลยที ๒ และที ๓ เป็ นเจ้าของช้างพลายนวล จําเลยที ๔ และที ๕ เป็ นบุตร
จําเลยที ๓ และเป็ นผูร้ ับเลียงรับรักษาช้างพลายนวลไว้แทนเจ้าของ จําเลยที ๔ และที
๕ นําช้างพลายนวลเข้ามาแห่ในงานขบวนแห่นาคกับช้างอืน ๆ ซึงมีชา้ งของโจทก์
รวมอยูด่ ว้ ย ช้างพลายนวลชนช้างของโจทก์ได้รับบาดเจ็บและตายในเวลาต่อมา จําเลย
ที ๒ และที ๓ ไม่ได้ร่วมรู้เห็นในการทีจําเลยที ๕ นําช้างมาร่ วมในขบวนแห่นาค
เพราะอยูค่ นละหมู่บา้ นกัน แสดงให้เห็นว่า จําเลยที ๔ และที ๕ เป็ นผูร้ ับเลียงรับรักษา
ช้างพลายนวลโดยเด็ดขาด โดยจําเลยที ๒ และที ๓ มิได้รับประโยชน์และเกียวข้อง
ด้วย ความรับผิดย่อมตกแก่จาํ เลยที ๔ และที ๕ ผูร้ ับเลียงรับรักษาไว้แทนเจ้าของ ตาม
ป.พ.พ. มาตรา ๔๓๓ จําเลยที ๒ และที ๓ จึงไม่ตอ้ งร่ วมรับผิดด้วย
35
24/07/63
ความเสียหายเกิดขึนเพราะสั ตว์
เจ้าของหรื อผูร้ ับเลียงรับรักษาจะรับผิดต่อเมือสัตว์ได้ก่อให้เกิดความ
เสี ยหายขึน หากเป็ นการกระทําของสัตว์โดยตรง เช่น กัด ขวิด เตะ สุนขั หอน
ในเวลากลางคืนจนชาวบ้านนอนไม่หลับ สัตว์ทีนําเชือโรคมาแพร่ ไปยังสัตว์
ของผูอ้ ืน นําเสื อเดินผ่านฝูงวัว ทําให้ววั แตกตืนเกิดความเสี ยหายขึน ถือว่ามี
การกระทําของสัตว์แล้ว
เจ้าของขีม้าไปชนคนอืนบาดเจ็บ นอกจากเจ้าของจะต้องรับผิดตาม
มาตรานีแล้ว เจ้าของยังต้องรับผิดฐานละเมิดตามมาตรา ๔๒๐ ด้วย เพราะเป็ น
การกระทําโดยจงใจหรื อประมาทเลินเล่อ เว้นแต่เหตุทีชนนันเพราะบังคับม้า
ไม่อยู่ ก็รับผิดตามมาตรานีอย่างเดียว อย่างไรก็ตามการพิสูจน์ตามมาตรานีย่อม
ง่ายกว่ามาตรา ๔๒o ความรับผิดตามมาตรานีอยูท่ ีความเสียหายเกิดขึนเพราะ
สัตว์ มิใช่สตั ว์ได้กระทําผิด ปัญหาเรื องความผิดใช้เฉพาะคนเท่านัน
36
24/07/63
ผู้รับเลียงรับรักษา
ั ใ่ นขณะเกิดเหตุ อาจรับดูแลโดยสัญญา
• หมายถึง ผูซ้ ึ งดูแลรักษาสัตว์นนอยู
คือพวกรับจ้างเลียงสัตว์หรื อพวกสัตวแพทย์ สถานพยาบาลเกียวกับสัตว์
ช่วงทีเอาไปเลียงเอาไปรักษาตามสัญญาเกิดไปกัดใครเข้าคนทีรับเลียงรับ
รักษาก็ตอ้ งรับผิด หรื ออาจจะรับเลียงรับรักษาโดยข้อเท็จจริ งก็ได้
• การรับเลียงรับรักษานีจะต้องเป็ นการกระทําแทนเจ้าของ (ขาดจากเจ้าของ)
อาจทําแทนในฐานะตัวแทน หรื อแบบจัดการงานนอกสังก็ได้
• การรับเลียงรับรักษานี อาจได้ค่าตอบแทนหรื อไม่กไ็ ด้
37
24/07/63
ผู้รับเลียงรับรักษา
มาตรานีบัญญัติว่า ผูร้ ับผิดคือเจ้าของสัตว์หรื อบุคคลผูร้ ับเลียงรับรักษาไว้
แทนเจ้าของ โดยใช้คาํ ว่า "หรื อ" มิได้ใช้คาํ ว่า "และ" ผูร้ ับผิดตามมาตรานีจึงมี
เพียงผูเ้ ดียวคือเจ้าของหรื อผูร้ ับเลียงรับรักษา มิใช่ทงเจ้
ั าของและผูร้ ับเลียงรับ
รักษาจะต้องรับผิดทังคู่ หากมีผรู้ ับเลียงรับรักษา เจ้าของไม่ตอ้ งรับผิด ผูร้ ับเลียง
รับรักษารับผิดผูเ้ ดียว หากไม่มีผรู้ ับเลียงรับรักษาผูร้ ับผิดคือเจ้าของ จะเลือกฟ้ อง
คนใดคนหนึงหรื อทังสองคนไม่ได้
แต่หากเป็ นการทําการแทนเจ้าของ เจ้าของผิดตามมาตรา ๔๒๗, ๔๓๓
ฎ.๙๗๓/๒๔๗๙
"จําเลยที ๒ ได้รับมอบหมายให้เลียงช้างของจําเลยที ๑ ช้างของจําเลยที
๑ แทงช้างของโจทก์ตาย ข้อเท็จจริ งไม่ปรากฏว่าจําเลยที ๑ ที ๒ มี
ค่าแรงแก่กนั ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมือไม่ปรากฏว่าจําเลยที ๒ เป็ น
ตัวแทนหรื อลูกจ้างของจําเลยที ๑ ต้องอาศัยมาตรา ๔๓๓ ว่าเจ้าของ
หรื อผูร้ ับเลียงเป็ นผูผ้ ิด จําเลยที ๑ มอบให้จาํ เลยที ๒ ไปเลียง จําเลยที
๒ ต้องรับผิด"
38
24/07/63
คําพิพากษาศาลฎีกาที ๒๔๘๘/๒๕๒๓
สุ นขั ในบ้านจําเลยออกจากบ้านไปกัดโจทก์ ภริ ยาจําเลยรับว่าเป็ น
เจ้าของ เมือกรณี เป็ นทีสงสัย ต้องสันนิ ษฐานว่าสุ นขั เป็ นสิ นสมรสตาม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๔๗๔ จําเลยจึงเป็ นเจ้าของสุ นขั
ด้วย
สุ นขั หลบหนี ออกไปได้ขณะจําเลยเปิ ดประตู สุนขั จึงออกไปกัดโจทก์
ได้แสดงว่าจําเลยมิได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรในการเลียงดูสุนขั จําเลย
ต้องชดใช้ค่าเสี ยหายให้โจทก์รวมทังทดแทนความตกใจและทุกข์ทรมานด้วย
สัตว์อาจก่อความเสี ยหายโดยทําต่อตัวบุคคล
ถึงชีวิตหรื อร่ างกายหรื อก่อความรําคาญ เช่น สุ นขั
ผู้เสี ยหาย เห่าหอนในเวลากลางคืนจนนอนไม่หลับ ทําต่อ
สิ งของแตก เสี ยหายหรื อทําต่อสัตว์ของเขา
39
24/07/63
เหตุยกเว้นความรับผิด
ฎ. ๒๔๘๘/๒๕๒๓
"สุ นขั หลบหนี ออกไปได้ขณะจําเลยเปิ ดประตู สุ นขั จึงออกไป
กัดโจทก์ได้แสดงว่าจําเลยมิได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรในการ
เลียงดูสุนขั จําเลยต้องชดใช้ค่าเสี ยหายให้โจทก์ รวมทังทดแทนความ
ตกใจและทุกข์ทรมานด้วย"
40
24/07/63
41
24/07/63
ฎ.๕๙๑/๒๕๑๐
"การทีผูเ้ ลียงกระบือดุพากระบือเดินไปในทางทีไม่ใช่ทางสําหรับ
กระบือเดิน และเข้าไปใกล้บา้ นทีมีกระบืออืนผูกล่ามอยู่ ซึ งอาจเป็ น
ั งเข้าไปชนกระบือทีผูกล่ามอยูไ่ ด้ ดังนีเป็ นการ
เหตุให้กระบือดุนนวิ
ประทําโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังตามวิสัยของบุคคลที
เลียงสัตว์ดุ"
สิทธิไล่เบีย
มาตรา ๔๓๓ วรรคสอง "อนึ งบุคคลผู้ • "เร้ า" คือ กระตุ้นเตือน
ต้องรับผิดชอบดังกล่าวมาในวรรคต้นนัน จะ ปลุกใจ กระตุ้นสุ นัขให้
ใช้สิทธิไล่เบียเอาแก่บุคคลทีเร้าหรื อยัวสัตว์ กัด
นันโดยละเมิด หรื อเอาแก่เจ้าของสัตว์อืนอัน • "ยัว" คือ พูดหรื อทําให้
มาเร้าหรื อยัวสัตว์นนๆก็
ั ได้" กําเริบหรือโกรธ เอาไม้
แหย่ ลงิ ให้ โกรธ
42
24/07/63
การตีความคําว่ า "โดยละเมิด"
ความเห็นแรก
คนทีจะถูกไล่เบียได้จะต้องเร้าหรื อยัวสัตว์โดยละเมิดตามมาตรา ๔๒๐ คือ
จะต้องเป็ นการไปเร้าหรื อยัวสัตว์โดยจงใจหรื อประมาทเลินเล่อทําให้เขา
เสี ยหายโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ความเห็นทีสอง
ถ้าเป็ นการเร้าหรื อยัวสัตว์โดยมิชอบ แค่นีก็พอแล้ว คําว่า ละเมิดไม่ได้
แปลว่าต้องละเมิดตามมาตรา ๔๒๐ แค่ทาํ โดยไม่ชอบก็ถือว่าเป็ นการ
ละเมิดตามวรรคสองแล้ว
43