You are on page 1of 39

กฎหมายลักษณะหนี้

อ.จักรภพ ศิริภากรกาญจน์
หนี้
Obligation
• นิติสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสองฝ่ าย ฝ่ ายหนึ่งเรียกว่าเจ้าหนี้ ชอบที่จะได้
รับชำระหนี้ มีวัตถุแห่งหนี้เป็นการกระทำ หรืองดเว้นการกระทำ หรือ
ส่งมอบทรัพย์สินจากบุคคลอีกฝ่ ายหนึ่งเรียกว่าลูกหนี้

• วัตถุแห่งหนี้?
• การกระทำ, งดเว้นการกระทำ, ส่งมอบทรัพย์สิน
• ปพพ. มาตรา 194
• “ด้วยอำนาจแห่งมูลหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิจะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้
อนึ่งการชำระหนี้ด้ วยงดเว้นการอันใดอันหนึ่งก็ย่อมมีได้”
มูลแห่งหนี้
• 1. สัญญา
• 2. ละเมิด
• 3. จัดการงานนอกสั่ง
• 4. ลาภมิควรได้
• 5. กฎหมาย
กำหนดเวลาชำระหนี้
• 1. หนี้ไม่มีกำหนดเวลาชำระตามปฏิทิน
• ปพพ. มาตรา 203
• “ถ้าเวลาอันจะพึงชำระหนี้นั้นไม่ได้กำหนดลงไว้ เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกให้
ชำระหนี้ได้โดยพลัน และฝ่ ายลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ของตนได้โดย
พลันดุจกัน”
• เจ้าหนี้ได้ให้คำเตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ ลูกหนี้ก็ผิดนัด

• การเตือนของเจ้าหนี้อาจทำเป็นหนังสือหรือวาจาก็ได้ และต้องให้เวลา
อันสมควรที่จะให้ลูกหนี้ชำระหนี้ด้ วย จึงจะเป็นการเตือนโดยชอบ
• 2. หนี้มีกำหนดเวลาชำระตามปฏิทิน

• เจ้าหนี้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ก่อนถึงกำหนดเวลานั้นไม่ได้
• ปพพ. มาตรา 204
• “ถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันเวลาแห่งปฏิทิน และลูกหนี้มิได้
ชำระหนี้ตามกำหนดไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้อง
เตือนเลย”
• 3. กรณีละเมิด
• ปพพ. มาตรา 206
• “ในกรณีหนี้อันเกิดแต่มูลละเมิด ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดมาแต่เวลาที่ทำ
ละเมิด”
การบังคับชำระหนี้
• ปพพ. มาตรา 214
• “เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะให้ชำระหนี้ของตนจากทรัพย์สินของลูกหนี้จนสิ้นเชิง
รวมทั้งเงินและทรัพย์สินอื่น ๆ ซึ่งบุคคลภายนอกค้างชำระแก่ลูกหนี้
ด้วย”
• ปพพ. มาตรา 213
• “ถ้าลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ของตน เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับ
ชำระหนี้ก็ได้”
การเรียกค่าเสียหาย
• ปพพ. มาตรา 215
• “เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ให้ต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้
ไซร้ เจ้าหนี้จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่
การนั้นก็ได้”

• ใช้บังคับแก่หนี้ที่เกิดจากมูลสัญญาเท่านั้น ไม่ใช้แก่หนี้ที่เกิดจากมูล
ละเมิดที่มีมาตรา 438-447 บัญญัติไว้โดยเฉพาะ
ความเสียหายปกติ
• ปพพ. มาตรา 222 วรรคหนึ่ง
• “การเรียกเอาค่าเสียหายนั้น ได้แก่เรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสีย
หายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น
ความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ
• ปพพ. มาตรา 222 วรรคสอง
• “เจ้าหนี้จะเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ แม้กระทั่งเพื่อความเสียหายอัน
เกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ หากว่าคู่กรณีที่เกี่ยวข้องได้คาดเห็นหรือควรจะ
ได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้ว
ผู้เสียหายมีส่วนผิดด้วย
• ปพพ. มาตรา 223
• “ถ้าฝ่ ายผู้เสียหายได้มีส่วนทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งก่อให้เกิด
ความเสียหายด้วยไซร้ ท่านว่าหนี้อันจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ฝ่ าย
ผู้เสียหายมากน้อยเพียงใดนั้น ต้องอาศัยพฤติการณ์เป็นประมาณ ข้อ
สำคัญก็คือว่าความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นเพราะฝ่ ายไหนเป็นผู้ก่อยิ่ง
หย่อนกว่ากันเพียงไร”
ดอกเบี้ยในหนี้เงิน
• ปพพ. มาตรา 224
• “หนี้เงินนั้น ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละเจ็ดครึ่งต่อ
ปี ถ้าเจ้าหนี้อาจจะเรียกดอกเบี้ยได้สูงกว่านั้น โดยอาศัยเหตุอย่างอื่นอัน
ชอบด้วยกฎหมาย ก็ให้คงส่งดอกเบี้ยต่อไปตามนั้น”
การชำระหนี้พ้นวิสัย
• วัตถุประสงค์เป็นการพ้นวิสัย?

• การชำระหนี้เป็นพ้นวิสัย หมายความว่าไม่สามารถทำการชำระหนี้ให้
สำเร็จตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ได้เป็นการถาวร
• กรณีใดจะถือว่าการชำระหนี้เป็นพ้นวิสัยต้องพิเคราะห์ตามวัตถุแห่งหนี้
ซึ่งมีอยู่ 3 ประการ คือ กระทำการ งดเว้นกระทำการ และโอนทรัพย์สิน
เหตุที่ทำให้การชำระหนี้เป็นพ้นวิสัย

• 1. การกระทำของธรรมชาติ เช่น ฝนตก น้ำท่วม แผ่นดินไหว ฟ้ าผ่า


• 2. การกระทำของมนุษย์ ซึ่งอาจเป็นการกระทำของลูกหนี้ การกระทำ
ของเจ้าหนี้ หรือการกระทำของบุคคลภายนอก
• 3. มีกฎหมายห้าม
การชำระหนี้พ้นวิสัยก่อนลูกหนี้ผิดนัด
1.1 พฤติการณ์ที่ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบ

• ปพพ. มาตรา 219


• “ถ้าการชำระหนี้กลายเป็ นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งเกิดขึ้น
ภายหลังที่ได้ก่อหนี้ และซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบนั้นไซร้ ท่านว่าลูกหนี้
เป็ นอันหลุดพ้นจากการชำระหนี้”

• ปพพ. มาตรา 372


• “ถ้าการชำระหนี้ตกเป็ นพ้นวิสัยเพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษฝ่ าย
หนึ่งฝ่ ายใดก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าลูกหนี้หามีสิทธิจะรับชำระหนี้ตอบแทนไม่”
1.2 พฤติการณ์ที่ลูกหนี้ต้องรับผิดชอบ
• ปพพ. มาตรา 218
• “ถ้าการชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยจะทำได้เพราะพฤติการณ์อันใดอัน
หนึ่งซึ่งลูกหนี้ต้ องรับผิดชอบไซร้ ท่านว่าลูกหนี้จะต้องใช้ค่าสินไหม
ทดแทนให้แก่เจ้าหนี้เพื่อค่าเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การไม่ชำระหนี้
นั้น”
การชำระหนี้พ้นวิสัยหลังลูกหนี้ผิดนัด
• ปพพ. มาตรา 217
• “ลูกหนี้จะต้องรับผิดชอบในความเสียหายบรรดาที่เกิดแต่ความประมาท
เลินเล่อในระหว่างที่ตนผิดนัด ทั้งจะต้องรับผิดชอบในการที่การชำระหนี้
กลายเป็นพ้นวิสัยเพราะอุบัติเหตุอันเกิดขึ้นในระหว่างที่ผิดนัดนั้นด้วย
เว้นแต่ความเสียหายนั้น ถึงแม้ว่าตนจะได้ชำระหนี้ทันเวลากำหนดก็
คงจะต้องเกิดมีอยู่นั่นเอง”
มาตรการควบคุมกองทรัพย์สินของลูกหนี้
• ปพพ. มาตรา 214
• “เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะให้ชำระหนี้ของตนจากทรัพย์สินของลูกหนี้จนสิ้นเชิง
รวมทั้งเงินและทรัพย์สินอื่น ๆ ซึ่งบุคคลภายนอกค้างชำระแก่ลูกหนี้
ด้วย”
1.การใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้
• ปพพ. มาตรา 233
• “ถ้าลูกหนี้ขัดขืนไม่ยอมใช้สิทธิเรียกร้องหรือเพิกเฉยเสียไม่ใช้สิทธิเรียก
ร้องเป็นเหตุให้เจ้าหนี้ต้ องเสียประโยชน์ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะใช้สิทธิ
เรียกร้องนั้นในนามของตนเองแทนลูกหนี้เพื่อป้ องกันสิทธิของตนในมูล
หนี้นั้นก็ได้”
• ปพพ. มาตรา 234
• “เจ้าหนี้ผู้ ใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้นั้นจะต้องขอหมายเรียกลูกหนี้มา
ในคดีนั้นด้วย”
หลักเกณฑ์การใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้
• 1) ต้องมีหนี้อยู่ 2 หนี้ หนี้ที่ 1 เป็นหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ หนี้ที่
2 เป็นหนี้ที่เจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ที่มีต่อบุคคลภายนอก
ไปบังคับเอาแก่บุคคลภายนอก
• 3) ลูกหนี้ขัดขืนหรือเพิกเฉยไม่ใช้สิทธิเรียกร้องตามที่ตนมีอยู่ในฐานะ
เป็นเจ้าหนี้ของหนี้ที่ 2
• 4) เจ้าหนี้ต้ องเสียประโยชน์
• 5) จะต้องดำเนินการทางศาล
ผลของการใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้
• เมื่อศาลพิพากษาให้เจ้าหนี้ชนะคดี บุคคลภายนอกซึ่งเป็นลูกหนี้ของลูก
หนี้ย่อมตกเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่จะต้องชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ผู้
เป็นโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
2. การเพิกถอนการฉ้อฉล
• ปพพ. มาตรา 237
• “เจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอให้ศาลเพิกถอนเสียได้ซึ่งนิติกรรมใด ๆ อันลูกหนี้
ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็ นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ แต่ความข้อนี้ท่านมิ
ให้ใช้บังคับ ถ้าปรากฏว่าในขณะที่ทำนิติกรรมนั้น บุคคลซึ่งเป็ นผู้ได้ลาภ
งอกแต่การนั้นมิได้รู้เท่าถึงข้อความจริงอันเป็ นทางให้เจ้าหนี้ต้ องเสีย
เปรียบนั้นด้วย แต่หากกรณีเป็ นการทำให้โดยเสน่หา ท่านว่าเพียงแต่ลูก
หนี้เป็ นผู้รู้ฝ่ ายเดียวเท่านั้นก็พอแล้วที่จะขอเพิกถอนได้”
ผลของการเพิกถอนการฉ้อฉล
• ทรัพย์สินที่โอนไปย่อมกลับมาสู่กองทรัพย์สินของลูกหนี้
การระงับแห่งหนี้
• 1. การชำระหนี้
• ปพพ. มาตรา 315
• “อันการชำระหนี้นั้น ต้องทำให้แก่ตัวเจ้าหนี้หรือแก่บุคคลผู้มีอำนาจรับ
ชำระหนี้แทนเจ้าหนี้ การชำระหนี้ให้แก่บุคคลผู้ไม่มีอำนาจรับชำระหนี้
นั้น ถ้าเจ้าหนี้ให้สัตยาบันก็นับว่าสมบูรณ์”
• 2. ปลดหนี้
• ปพพ. มาตรา 340
• “ถ้าเจ้าหนี้แสดงเจตนาต่อลูกหนี้ว่าจะปลดหนี้ให้ ท่านว่าหนี้นั้นก็เป็น
อันระงับสิ้นไป
• ถ้าหนี้มีหนังสือเป็นหลักฐาน การปลดหนี้ก็ต้องทำเป็นหนังสือด้วย หรือ
ต้องเวนคืนเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งหนี้ให้แก่ลูกหนี้ หรือขีดฆ่า
เอกสารนั้นเสีย”
• 3. หักกลบลบหนี้
• ปพพ. มาตรา 341
• “ถ้าบุคคลสองคนต่างมีความผูกพันซึ่งกันและกันโดยมูลหนี้อันมีวัตถุ
เป็นอย่างเดียวกัน และหนี้ทั้งสองรายนั้นถึงกำหนดจะชำระไซร้ ท่านว่า
ลูกหนี้ฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่งย่อมจะหลุดพ้นจากหนี้ของตนด้วยหักกลบลบกัน
ได้เพียงเท่าจำนวนที่ตรงกันในมูลหนี้ทั้งสองฝ่ ายนั้น เว้นแต่สภาพแห่ง
หนี้ฝ่ ายหนึ่งจะไม่เปิ ดช่องให้หักกลบลบกันได้”
• 4. การแปลงหนี้ใหม่
• ปพพ. มาตรา 349
• “เมื่อคู่กรณีที่เกี่ยวข้องได้ทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้
ไซร้ ท่านว่าหนี้นั้นเป็นอันระงับสิ้นไปด้วยแปลงหนี้ใหม่”
• 5. หนี้เกลื่อนกลืนกัน
• ปพพ. มาตรา 353
• “ถ้าสิทธิและความรับผิดในหนี้รายใดตกอยู่แก่บุคคลคนเดียวกัน ท่าน
ว่าหนี้รายนั้นเป็นอันระงับสิ้นไป”
อายุความ
• ปพพ. มาตรา 193/9
• “สิทธิเรียกร้องใด ๆ ถ้ามิได้ใช้บังคับภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
สิทธิเรียกร้องนั้นเป็นอันขาดอายุความ”

• ปพพ. มาตรา 193/10


• “สิทธิเรียกร้องที่ขาดอายุความ ลูกหนี้มีสิทธิที่จะปฏิเสธการชำระหนี้
ตามสิทธิเรียกร้องนั้นได้”
• ปพพ. มาตรา 193/14
• อายุความย่อมสะดุดหยุดลงในกรณีดังต่อไปนี้
• (1) ลูกหนี้รับสภาพหนี้ต่อเจ้าหนี้ตามสิทธิเรียกร้องโดยทำเป็นหนังสือ
รับสภาพหนี้ให้ ชำระหนี้บางส่วนให้ ชำระดอกเบี้ย ให้ประกันหรือ
กระทำการใด ๆ อันปราศจากข้อสงสัยแสดงให้เห็นเป็นปริยายว่ายอม
รับสภาพหนี้ตามสิทธิเรียกร้อง
• (2) เจ้าหนี้ได้ฟ้ องคดีเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้องหรือเพื่อให้ชำระหนี้
• ปพพ.มาตรา 193/15
• “เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงแล้ว ระยะเวลาที่ล่วงไปก่อนนั้นไม่นับเข้า
ในอายุความ”
• ปพพ. มาตรา 193/30
• “อายุความนั้น ถ้าประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นมิได้บัญญัติไว้
โดยเฉพาะ ให้มีกำหนดสิบปี ”

• ปพพ. มาตรา 193/29


• “เมื่อไม่ได้ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลจะอ้างเอาอายุความมาเป็น
เหตุยกฟ้ องไม่ได้”

You might also like