Professional Documents
Culture Documents
โครงงานคุณธรรม
เรื่อง 1 คน 1 ความดี กตเวทีต่อสังคม
จัดทำโดย
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
ครูที่ปรึกษา
นายคมไผ่ พรรณา
นางสาวรัศมี คำกอง
โรงเรียนสร้างนกทาวิทยาคม
ตำบลสร้างนกทา อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ
ก
สารบัญ
หน้า
บทคัดย่อ ก
สารบัญ ข
บทที่ 1 บทนำ 1
บทที่ 2 หลักการและหลักธรรมที่เกี่ยวข้อง 3
บทที่ 3 วิธีการดำเนินการโครงงาน 10
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน 11
บทที่ 5 สรุป อภิปราย และข้อเสนอแนะ 13
บรรณานุกรม 15
ภาพประกอบการดำเนินโครงงาน 16
1
บทที่ 1
บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
สภาพของสังคมปัจจุบันที่มีความก้าวหน้าทางด้านวิวัฒนาการและด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ
รวมทั้งวัฒนธรรมตะวันตกที่เข้ามามีบทบาทในการดำรงชีวิตของมนุษย์สภาพสังคมปัจจุบั น คนต้อง
ดิ้นรนต่อสู้ช่วยเหลือตนเอง และเพื่อความอยู่รอดโดยเน้นประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก สังคมปัจจุบั นจึง
เกิดความเห็นแก่ตัว ทุจริตคดโกง เอารัดเอาเปรียบ ให้ความชื่นชมและยกย่องทางด้านวัตถุนิยม และ
ขาดความสามัคคีโดยละเลยความเจริญทางด้านจิตใจ ซึ่งสิ่งเหล่านีเ้ ป็นหนทางแห่งความเสื่อมทางด้าน
จิตใจ จึงควรอย่างยิ่งที่เราควรร่วมมือกันแก้ไขเพื่อให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป การที่จะทำให้ปัญหาเหล่านี้
บรรเทาลงได้ต้องอาศัยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่ง
เป็นคำสอนหลักที่สามารถนำมาประยุกต์ได้เป็นอย่างดี
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ทุกคนเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้รวมกลุ่มกันเพื่อบำเพ็ญ
ประโยชน์ต่อสังคม โดยการทำความสะอาดหมู่บ้าน วัด และโรงเรียน ซึ่งยึดคุณธรรมนำความรู้สร้าง
ความตระหนักสำนึกในคุณค่าตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความสมานฉันท์ สันติ วิธี วิถี
ประชาธิปไตย พัฒนาคนโดยใช้คุณธรรมเป็นพื้นฐานของกระบวนการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงความร่วมมือ
ของสถาบันครอบครัว ชุมชน สถาบัน ศาสนา และสถาบันการศึกษา โดยมีจุดเน้นเพื่อพัฒนาตนเองให้
เป็นคนดี มีความรู้ และอยู่ดีมีสุข ดังนั้น เพื่อให้การขับเคลื่อนดังกล่าวมีความชัดเจน เกิดประสิทธิภาพ
สูงสุด และสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ
ที่ต้องการส่งเสริมให้เยาวชนเป็นคนดีคนเก่ง และมีความสุข ร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานของใน
หลวงด้านจิตอาสาในโครงการ “จิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ”
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเป็นการฝึกให้นักเรียนมีจิตอาสาในการพัฒนาหมู่บ้าน วัด และโรงเรียน
๒. เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง รู้จักการสร้างความสามัค คีใ ห้
เกิดขึ้นในหมู่คณะ
๓. เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และรู้จักร่วมมือกันดูแลสาธารณสมบัติของ
ส่วนรวม รู้จักการเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
เป้าหมายของการแก้ปญ ั หา
1. เป้าหมายเชิงปริมาณ : นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 22 คน
2. เป้าหมายเชิงคุณภาพ :
- เป้าหมายระยะสั้น : ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 6/1 จำนวน 10 คน เข้าร่วมกิจกรรม 1 คน 1 ความดี กตเวทีต่อสังคม
- เป้าหมายระยะยาว : ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 6/1 จำนวน 22 คน เข้าร่วมกิจกรรม 1 คน 1 ความดี กตเวทีต่อสังคม
2
หลักธรรมที่นำมาใช้
อิทธิบาท 4 ธรรมะทีใ่ ช้ในการทำงาน ประกอบด้วย
1. ฉันทะ คือ ความรักงาน พอใจกับงานที่ทำอยู่
2. วิริยะ คือ ขยันหมั่นเพียรกับงาน
3. จิตตะ คือ ความเอาใจใส่รับผิดชอบงาน
4. วิมังสา คือ การพินิจพิเคราะห์ หรือ ความเข้าใจทำ
บทที่ 2
หลักการ และหลักธรรมที่เกี่ยวข้อง
อิทธิบาท 4
หมายถึง หลักธรรม 4 ประการ สำหรับการทำงานหรือทำสิ่งใด ๆ เพือ่ ให้งานประสบ
ความสำเร็จตามที่มุ่งหวังไว้ ซึ่งประกอบด้วย
1. ฉันทะ (ความรัก และความพอใจ)
2. วิริยะ (ความเพียร)
3. จิตตะ (ความเอาใจจดจ่อ ความเอาใจใส่)
4. วิมังสา (การใช้ปัญญาไตร่ตรอง ตรวจสอบ)
1. ฉันทะ หมายถึง ความรัก และความพอใจในสิ่งนั้น ๆ คือ เมื่อทำสิ่งใดก็ทำด้วยความพอใจ
ด้วยความรักในสิ่งนั้น ทำสิ่งนั้นด้วยความเต็มใจ ไม่เบื่อหน่ายในกิจที่ทำ (การเต็มใจ)
2. วิริยะ หมายถึง ความเพียรในการกระทำสิ่งนั้น ๆ คือ เมื่อทำสิ่งใดก็ทำด้วยความขยันหมั่นเพียร
ด้วยความพยายาม และมีมานะอุตสาหะ ไม่ทอดทิ้งกิจที่ทำนั้น (การแข็งใจ)
3. จิตตะ หมายถึง ความเอาใจใส่ ความเอาใจจดจ่อในสิ่งที่ทำ ไม่วางธุระในสิ่งนั้น ๆ คือ เมื่อ
ทำสิ่งใดก็ทำด้วยความรู้จักไตร่ตรอง ทำด้วยปัญญา รู้จักพิจารณาใคร่ครวญ รู้จักพินิจพิเคราะห์
ทดลอง ทดสอบ ตรวจหาสาเหตุด้วยความรอบคอบ (การเข้าถึง)
4. วิมังสา หมายถึง การใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรอง ตรวจสอบในสิ่งนั้นๆ คือ เมื่อทำสิ่งใดก็
ทำด้วยความรู้จักไตร่ตรอง ทำด้วยปัญญา รู้จักพิจารณาใคร่ครวญ รู้จักพินิจพิเคราะห์ ทดลอง ทดสอบ
ตรวจตราหาสาเหตุด้วยความรอบคอบ (การเข้าใจ)
“อิทธิบาท” มาจากคำว่า อิทธิ หมายถึง ความสำเร็จ บาท หมายถึง วิถีทางที่จะนำไปสู่
ดังนั้น คำว่า “อิทธิบาท” หากแปลตามคำจึงหมายความว่า วิถีทางหรือหลักการ ที่จะนำไปสู่จุดหมาย
ปลายทางหรือไปสู่ความสำเร็จได้ ซึ่งมี 4 ประการ หรือเรียกว่า อิทธิบาท 4
อิทธิบาท ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่จะทำให้ประสบความสำเร็จตามความประสงค์ 4 อย่าง ซึ่ง
เป็นหลักใกล้เคียงกับหลักการพึ่งตนเอง แต่แสดงให้เห็นว่าพึ่งตนเองอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ ซึ่ง
คำว่า อิทธิ นอกจากจะแปลว่า สำเร็จแล้ว ยังแปลว่า ฤทธิ์ของมนุษ ย์ ที ่ แสดงได้ จะโดยวิธีท าง
วิทยาศาสตร์หรือจิตศาสตร์ก็ตาม ซึ่งต้องอาศัยหลักอิทธิบาท 4
พุทธทาสภิกขุ อธิบายว่า การทำงานแบบใดๆ โดยไม่รู้สึกตัว มีระดับมากน้อยแตกต่างกัน คน
ที่ทำงานด้วยความพอใจ ขยันขันแข็ง เอาใจใส่ใคร่ครวญอยู่เสมอนั้น เรียกว่า มีอิทธิบาท 4 ประการ
มีการปฏิบัติโดยไม่ได้ตั้งตัว ซึ่งอิ ทธิบาททั้ง 4 ประการนี้ ถ้าปฏิบัติได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น
เด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม ย่อมที่จะประสบความสำเร็จดังประสงค์
อิทธิบาท 4
1. ฉันทะ (aspiration)
ฉันทะ แห่งอิทธิบาท 4 คือ ความพอใจ รักใคร่ เต็มใจ และฝักใฝ่ในงานอยู่เสมอ ทุ่มเท
ความสามารถ และปรารถนาเพื่อ ที่จะทำงานนั้นให้ดีที่สุด ด้วยการรักในงานของตน ชอบในงานของ
4
- การรู้จักคิด วิเคราะห์ในบทเรียน
- การรู้จักคิด วิเคราะห์กอ่ นที่จะพูดหรือทำในสิ่งใด ๆ
ฯลฯ
วิมังสา คือ การรู้จักคิด วิเคราะห์ ที่มักคู่กับคำว่า ปัญญา คือ ความรู้ หรือ ความรู้แจ้ง เป็น
ความรู้ ความเข้าใจ ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งในเหตุ และผล รวมถึงองค์ประกอบ และพื้นฐานของสิ่ง ๆ นั้น
สามารถตัดสิน และบ่งชี้สิ่งนั้นได้เป็นมาอย่างไร มีลักษณะอย่างไร รวมถึงรู้แยกแยะสิ่งต่างๆว่าถูกผิด
ดีชั่ว ดังนั้นแล้ว การมีปัญญาจึงเป็นการรอบรู้ในทุก ๆ ด้าน และพึงใช้ปัญญาก่อนที่จะทำเพื่ อให้เกิด
ความเข้าใจ และลึกซึ้งก่อน เพื่อให้การนั้นๆดำเนินไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และไม่เกิดปัญหาอุปสรรค
พร้อมยังประสิทธิภาพในสิ่งนั้นให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์
ประโยชน์ของอิทธิบาท 4
1. ประโยชน์ของฉันทะ คือ ทำให้เป็นผู้มีความพอใจ และมีใจรักต่องาน ทำให้เกิดความรู้สึก
เต็มใจในการทำงาน เกิดการทำงานด้วยความสุข ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายง่าย ไม่เกิดอาการท้อแท้ ช่วยให้
งานดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง และเกิดการสร้างสรรค์ในงาน
2. ประโยชน์ของวิริยะ คือ ทำให้เป็นคนมั่นเพียร และขยันในการทำงาน ไม่มีความเกียจ
คร้าน มุ่งมั่นที่จะทำงานให้เสร็จ ผู้ที่ขาดความขยัน ย่อมทำงานขาดๆเกินๆหรือมักทำงานนั้นไม่สำเร็จ
หรือหากสำเร็จก็สำเร็จล่าช้า และไม่มีประสิทธิภาพ
3. ประโยชน์ของจิตตะ คือ ทำให้เป็นคนมีความมุ่งมั่น และจดจ่อกับงานที่ทำ จิตมีความแน่ว
แน่ และมั่นคงต่อปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ช่วยให้งานดำเนินต่ อไปอย่างต่อเนื่องตามกระบวนการ ทราบ
ความเป็นไปของงานอยู่เสมอ
4. ประโยชน์ของวิมังสา คือ ทำให้เป็นผู้ที่รู้จักคิด วิเคราะห์ในงาน ช่วยทำให้ทราบ และ
เข้าใจในกระบวนการของงาน และหากเกิดปัญหาก็ย่อมเกิดแนวทางในการแก้ปัญหานั้นได้อย่าง
ง่ายดาย งานไม่ผิดพลาด และทำงานตามกรอบที่วางไว้ให้ประสบความสำเร็จ ถ้าขาดวิมังสาจะทำให้
เป็นคนทำงานไม่มีหลักการ ทำงานไม่มีแนวทาง ไม่มีแบบแผน ซึ่งยากที่จะเกิดความสำเร็จได้โดยง่าย
ดังนั้น ฉันทะ และวิริยะ เป็นหลักปฏิบัติที่ช่วยให้บุคคลมีความมั่นใจในการที่จะเผชิญหน้ากับ
ปัญหา และอุปสรรคในการทำงาน และมีจิตตะ และวิมังสา เป็นหลักปฏิบัติที่ช่วยในการเอาชนะ
ปัญหา และอุปสรรคในการทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
คุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ
กระทรวงศึกษาธิการเห็นสมควรให้ปลูกฝังคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการแก่เยาวชนไทย อัน
ได้แก่ ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย สุภาพ สะอาด สามัคคี มีน้ำใจ โดยมีจุดเน้นเพื่อพัฒนาเยาวชนให้
เป็นคนดี มีความรู้ และอยู่ดีมีสุข ด้วยการใช้คุณธรรมเป็นพื้นฐานของกระบวนการเรียนรู้ที่เชื่อมโยง
กับความร่วมมือของสถาบันครอบครัว ชุมชน สถาบันศาสนา และสถาบัน การศึกษา การปลูกฝัง
คุณธรรมจึงหมายถึง การจัดสภาพการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนมองเห็นคุณค่าของการมีศีลธรรมและ
จริยธรรมในด้านต่างๆ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ค่านิยม ความเชื่อ และพฤติกรรมที่ดีงาม
การพัฒนามนุษย์ตามหลักพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงการฝึกฝนพัฒนามนุษย์ให้สมบูรณ์ตามหลัก
ไตรสิกขา อันประ กอบด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา หรืออีกนัยหนึ่งคือ พฤติกรรม จิตใจ และปัญญาไป
8
บทที่ 3
วิธีการดำเนินการโครงงาน
๑. วิธีการดำเนินงาน
การดำเนินงานโครงงานคุณธรรม เรื่อง “1 คน 1 ความดี กตเวทีต่อสังคม” ของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 6/1 เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 – 10 กุมภาพันธ์ 2566 มีขั้นตอน
วิธีการดำเนินงานดังนี้
1.1 การจัดตั้งและรวมกลุ่ม
มีการจัดตั้งและรวมกลุ่มที่มีทัศนคติ หรือมีความคิดอุดมการณ์ในแนวเดียวกันเพื่อจัดตั้งกลุ่ม
ในการดำเนินการทำโครงงาน โดยมีการอภิปราย คิด วิเคราะห์ ดูสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนซึ่งมี
ผลกระทบต่อคนในชุมชน
1.2 ตั้งชื่อโครงงาน
เมื่อได้รวบกลุ่มแล้วได้มีการประชุมสมาชิกภายในกลุ่ม เพื่อ กำหนดปัญหาและกำหนดชื่อ
โครงงาน โดยปัญหาที่สมาชิกในกลุ่มได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การมีจิตอาสาในการพัฒนาชุมชนยังไม่ มี
การดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม และจากการประชุมกันจึงได้ร่วมกันตั้งชื่อโครงงานว่า
“1 คน 1 ความดี กตเวทีต่อสังคม”
2.3 ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่จะพัฒนาชุมชน
๑) ตั้งหัวข้อกิจกรรมที่จะดำเนินการ
2) คัดเลือกหัวข้อกิจกรรมที่จะดำเนินงาน
๓) ศึกษาสถานที่ที่จะดำเนินงาน
๔) กำหนดวัน เวลา สถานที่และกิจกรรมที่จะดำเนินงาน
ตารางกำหนดวัน เวลา สถานที่และกิจกรรมที่จะดำเนินงาน
ที่ กิจกรรม สถานที่ หมายเหตุ
1 ทำความสะอาดภายในโรงเรียนสร้างนกทาวิทยาคม โรงเรียน
-เก็บขยะรอบบริเวณโรงเรียน สร้างนกทาวิทยาคม
-กวาดเศษขยะรอบบริเวณโรงเรียน
-จัดเก็บวัสดุอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพบริเวณภายในโรงเรียน
2 ทำความสะอาดวัดตามหมู่บ้านที่นักเรียนอาศัยอยู่ วัดในหมู่บ้าน
-กวาดขยะบริเวณวัด ของตนเอง
-ทำความสะอาดภายในศาลาการเปรียญ
-ล้างห้องน้ำ ล้างถ้วย จาน และทำความสะอาดโรงครัว
3 ทำความสะอาดหมู่บ้านที่นักเรียนอาศัยอยู่ หมู่บ้านของตนเอง
-กวาดถนน และเก็บเศษขยะรอบชุมชน
4 ดูแลผู้สูงอายุในหมู่บ้านที่นักเรียนอาศัยอยู่ ผู้สูงอายุในหมู่บ้าน
-นวด และดูแลสุขภาพ เช่น ตัดเล็บ สระผม เป็นต้น ของตนเอง
11
บทที่ 4
ผลการดำเนินการ
จากการทีก่ ลุ่มนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ได้เข้าร่วมกิจกรรมโครงงาน “1 คน 1 ความ
ดี กตเวทีต่อสังคม” มีผลจาการดำเนินงานดังนี้
ผลการดำเนินงาน ผลที่ได้รับ ผลกระทบ
1. นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อ นักเรียนมีพฤติกรรมที่ดี มีจิต โรงเรียน วัด ชุมชน มีความ
หน้าที่ทั้งส่วนตนและส่วนรวม อาสา และสามารถต่อยอด เข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีต่อ
2. นักเรียนมีความสามัคคี ร่วมมือ แบบอย่างที่ดี เป็นแกนนำและ กัน
กันทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย ชักชวนผู้อื่นให้ปฏิบัติตนเป็น
3. นักเรียนมีจิตสำนึกทีด่ ีต่อ ผู้มีจิตอาสา
สิ่งแวดลอ้ม บ้าน โรงเรียน ชุมชน
4. โรงเรียน วัด ชุมชน สะอาด ร่มรื่น
สวยงาม
หลักการและหลักธรรมที่นำมาใช้
ที่ หลักธรรม ความหมายของหลักธรรม ผลของการปฏิบัติ
1 อิทธิบาท 4 ฉันทะ : ความพอใจ นักเรียนชั้น ม.6/1 มีความพอใจในการ
รวมกลุ่มกันเพื่อดำเนินกิจกรรมตามโครงงาน
1 คน 1 ความดี กตเวทีต่อสังคม
วิริยะ : ความเพียร เมื่อได้มีการลงมือปฏิบัตงิ าน สมาชิกในกลุ่ม
ทุกคนมีความขยัน และลงมือปฏิบัติงานโดย
ไม่ย่อท้อต่องานที่ลงมือปฏิบัติ
จิตตะ : ความเอาใจใส เมื่อได้มีการลงมือปฏิบัตงิ าน สมาชิกในกลุ่ม
ทุกคนมีการดูแล และปฏิบัติงานด้วยความ
ตั้งใจและเอาใจใส่ในงานทุกครั้งที่ลงมือ
ปฏิบัตงิ าน
วิมังสา : การพิจารณา ในการดำเนินการทำโครงงาน สมาชิกในกลุ่ม
มีการสืบค้นหาข้อมูล กิจกรรมทีค่ วรทำที่เป็น
ประโยชน์ต่อชุมชนแล้ว จึงนำมาพิจารณา
ไตร่ตรองกิจกรรมที่ควรทำ
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง การวิเคราะห์ปัญหา
และสาเหตุและมีการแก้ไข เพื่อเป็นการสร้าง
จิตอาสาที่จะพัฒนาชุมชนให้มีสภาพแวดล้อม
ที่ดีขนึ้
12
บทที่ 5
สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเป็นการฝึกให้นักเรียนมีจิตอาสาในการพัฒนาหมู่บ้าน วัด และโรงเรียน
๒. เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง รู้จักการสร้างความสามัค คีใ ห้
เกิดขึ้นในหมู่คณะ
๓. เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และรู้จักร่วมมือกันดูแลสาธารณสมบัติของ
ส่วนรวม รู้จักการเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
เป้าหมายของการแก้ปญ ั หา
1. เป้าหมายเชิงปริมาณ : นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 22 คน
2. เป้าหมายเชิงคุณภาพ :
- เป้าหมายระยะสั้น : ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 6/1 จำนวน 10 คน เข้าร่วมกิจกรรม 1 คน 1 ความดี กตเวทีต่อสังคม
- เป้าหมายระยะยาว : ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 6/1 จำนวน 22 คน เข้าร่วมกิจกรรม 1 คน 1 ความดี กตเวทีต่อสังคม
หลักธรรมที่นำมาใช้
อิทธิบาท 4 ธรรมะทีใ่ ช้ในการทำงาน ประกอบด้วย
1. ฉันทะ คือ ความรักงาน พอใจกับงานที่ทำอยู่
2. วิริยะ คือ ขยันหมั่นเพียรกับงาน
3. จิตตะ คือ ความเอาใจใส่รับผิดชอบงาน
4. วิมังสา คือ การพินิจพิเคราะห์ หรือ ความเข้าใจทำ
คุณธรรมพื้นฐาน ๘ ประการ ประกอบด้วย
1. ขยัน คือ ความตั้งใจความอดทน การกระทำด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่น
2. ประหยัด คือ รูจ้ ักใช้อย่าง ประหยัดและรู้จกั พอเพียง
3. ซื่อสัตย์ คือ ความ เทีย่ งตรง
4. มีวินัย คือ การยึดมั่นในระเบียบแบบแผน
5. สุภาพ คือ การแสดงออก ด้วยความอ่อนโยน
6. สะอาด คือ ความสะอาด เป็นระเบียบ เรียบร้อย
7. สามัคคี คือ การร่วมมือ ร่วมใจกัน
8. มีน้ำใจ คือ การแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
คุณธรรมอัตลักษณ์
คุณธรรมเป้าหมาย : ความรับผิดชอบ ความมีจติ สาธารณะ
พฤติกรรมบ่งชี้เชิงบวก : นักเรียนสร้างความดีอย่างน้อย 1 กิจกรรม
14
สรุปผล
1. นักเรียน ชั้น ม.6/1 ทุกคนมีจิตอาสาในการพัฒนาหมู่บ้าน วัด และโรงเรียน
๒. นักเรียน ชั้น ม.6/1 ทุกคนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง รู้จักการสร้างความ
สามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ
๓. นักเรียน ชั้น ม.6/1 ทุกคนรู้จักร่วมมือกันดูแลสาธารณสมบัติของส่วนรวม รู้จักการ
เสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
อภิปรายผล
นักเรียน ชั้น ม.6/1 โรงเรียนสร้างนกทาวิทยาคม จำนวน 22 คน ที่ร่วมกันจัดตั้งโครงงาน 1
คน 1 ความดี กตเวทีต่อสังคม เพื่อช่วยกันทำความสะอาดสาธารณสมบัติของส่ว นรวม ได้ลงมือ
ดำเนินโครงงานตามแผนที่ได้วางไว้ โดยการไปทำความสะอาดภายในโรงเรียนสร้างนกทาวิทยาคม
เก็บขยะรอบบริเวณโรงเรียน กวาดเศษขยะรอบบริเวณโรงเรียน ทำความสะอาดบริเวณวัดของ
หมู่บ้านแต่ละคนอาศัยอยู่ ซึ่งสมาชิกทุกคนได้พร้อมใจกันไปดำเนินตามโครงการทุกวันเสาร์และวัน
อาทิตย์ ซึ่งผลการดำเนินโครงงานทำให้บริเวณโรงเรียน วัด และหมู่บ้าน สะอาดและน่าอยู่มากขึ้น
การที่ ท ำให้ง านประสบผลสำเร็จ ตามที ่ ไ ด้ ว างสมาชิ ก ภายในกลุ ่ ม ได้ น ้ อ มนำพระราชดำรั ส ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำหลักธรรมอิทธิบาท ๔ และคุณธรรมพื้ นฐาน ๘ ประการมาปรับ
ประยุกต์ เช่น ได้เรียนรู้ว่าการที่งานจะประสบผลสำเร็จได้ต้องมีความสามัคคี ความขยัน การรู้จักมี
ความรับผิดชอบต่อหน้าที่นอกจากนี้กลุ่มของข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่า การเป็นผู้ให้ทั้งทางด้านแรงกายและ
แรงใจโดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นการสร้างเกราะป้องกันไม่ให้จิ ตใจเสื่อมไปตามสภาพสังคมปัจจุบัน
และเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คนในชุมชนอยู่ได้อย่างปกติสุข
ข้อเสนอแนะ
1. ควรมีการขยายผลการดำเนินการไปสู่นักเรียนทุกคนในโรงเรียนสร้างนกทาวิทยาคม
2. ควรมีการจัดทำโครงงานเกี่ยวกับการส่งเสริมหรือการสร้างอาชีพในชุมชน
15
บรรณานุกรม
กัลยาวา นิชย์บัญชา. การวิเคราะห์สถิติสำหรับการบริหารและวิจัย.พิมพ์ครั้งที่ 6.
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,2546. เกษตรและสหกรณ์,
กระทรวง. เศรษฐกิจพอเพียง. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก www.moac.go.th.
1 ธันวาคม2549.
ชยสาโรภิกขุ. (2546). พ่อแม่ ผู้แสดงโลก. กรุงเทพฯ : โรงเรียนทอสี.
ทรงพล ภูมิพัฒน์. จิตวิทยาทั่วไป. พิมพ์ครั้งที่2. กรุงเทพมหานคร : ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา
มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2540.
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). (2546). พัฒนาการแบบองค์รวมของเด็กไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 3).
กรุงเทพมหานคร: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2548). สุขภาวะองค์รวมแนวพุทธ. กรุงเทพฯ : ธรรมสภา.
เทพนม เมืองแมน และ สวิง สุวรรณ. พฤติกรรมองค์กร. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร :
สํานักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิชจํากัด, 2540.
เธียรชัย เอี่ยมวรเมธ. พจนานุกรมไทย-อังกฤษฉบับใหม่. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร :
บริษัทรวมสาสน์ (1997) จํากัด, 2538.
นวลศิริ เปาโรหิตย์. จิตวิทยาทั่วไป. ภาควิชาจิตวิทยา. คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยรามคําแหง,
2532.
บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 แก้ไขเพิ่มเติม. กรุงเทพมหานคร :
สุวีริยาสาสน์, 2535.
อดิศร จันทรสุข. (2548). รายงานการวิจัยการปลูกฝังคุณธรรมในเด็กปฐมวัยผ่านกระบวนสร้างสรรค์
ของแกนนำโรงเรียนวิถีพุทธ. โครงการวิจัยภายใต้ทุนสนับสนุนจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนา
พลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
(องค์การมหาชน).
ศึกษาธิการ, กระทรวง. ปฏิรูปการศึกษา 8 คุณธรรมพื้นฐาน แหล่งที่มา http://www.moe.go.th
16
ภาพประกอบการดำเนินโครงงาน
“1 คน 1 ความดี กตเวทีต่อสังคม”