หลักสูตรกลุม

่ สาระการเรียนรูส
ู ่ขศึกษาและ
พลศึกษา
โรงเรียนกระแชงวิทยา พ่ทธศักราช 2553
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน ้ พื้นฐาน
พ่ทธศักราช 2551

โรงเรียนกระแชงวิทยา
อำาเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
 2

สังกัดสำานั กงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4

สำานั กงานคณะกรรมการการศึกษาขัน ้ พื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
สารบัญ

หนู า
คำำนำ ำ………………………………………………..
………………………………… ….. 1
วิสัย
ทัศน์………………………………………………………………
…………………… 3
ภำรกิจ………………………………………………………………
……………….…..… 3
เป้ ำ
หมำย………………………………………………………………
……………………. 3
สมรรถนะสำำคัญของผ้้
เรียน……………………………………………………………..….
3
คุณลักษณะอันพึง
ประสงค์……………………………………………………………..
…... 4
ทำำไมต้องเรียนสุขศึกษำและพลศึกษำ…………….
………………………………………..... 5
เรียนร้้อะไรในสุขศึกษำและพลศึกษำ……………….
…………………………………………. 5
สำระและมำตรฐำนกำรเรียน
ร้………………………………………………………………
้ .6
 3

คุณภำพผ้้
เรียน………………………………………………………………
………….….... 7
ตัวชีว้ ัดและสำระกำรเรียนร้้แกน
กลำง………………………………………………………. 9
สำระที่
1……………………………………………………………………
……… 9
สำระที่
2……………………………………………………………………
……… 14
สำระที่
3……………………………………………………………………
….…… 21
โครงสร้ำงหลักส้ตรกลุุมสำระกำรเรียนร้้
ศิลปะ…………………………….…………….… 27
คำำอธิบำย
รำยวิชำ………………………………………………………………
…………… 29
สื่อกำรเรียน
ร้……………………………………………………………………
้
…………… 47
กำรวัดและประเมินผลกำรเรียน
ร้……………………………………………………………
้ . 48
อภิธำนศัพท์......................
……………………………………………………………….…..
53
 4

คณะผ้้จัด
ทำำ…………………………………………………………………
…………….…. 59

วิสัยทัศน์
สุขศึกษำและพลศึกษำเป็ นกำรศึกษำด้ำนสุขภำพทีม ่ เี ป้ ำหมำย เพื่อ
กำรดำำรงสุขภำพ กำรสร้ำงเสริมสุขภำพและกำรพัฒนำคุณภำพ
ชีวิตของบุคคล ครอบครัว และชุมชนให้ยัง่ ยืน
สุขศึกษำและพลศึกษำจึงมุุงเน้ นให้ผ้เรียนเกิดควำมสำมำรถใน
กำรพัฒนำพฤติกรรมสุขภำพจนมีวิถีชีวิตที่มีสุขภำพดี โดยให้มีทัง้ ควำมร้้
ควำมเข้ำใจ ทักษะหรือกระบวนกำร คุณธรรม จริยธรรม และคุำนิ ยม
ตำมแนวกำรจัดกำรศึกษำในพระรำชบัญญัติกำรศึกษำแหุงชำติ พ.ศ.
2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และตำมจุดหมำย
ของหลักส้ตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ผล
รวมสุดท้ำย คือ ผ้้เรียนเกิดกำรพัฒนำที่เป็ นองค์รวมของควำมเป็ น
มนุษย์ ที่สมบ้รณ์ (holistic)

วิสัยทัศน์โรงเรียน
โรงเรียนกระแชงวิทยำ มุุงพัฒนำผ้้เรียนทุกคนให้เป็ นมนุษย์ท่ี
สมบ้รณ์ มีควำมสมดุลทัง้ ทำงด้ำนรุำงกำย ควำมร้้ คุณธรรม มี
จิตสำำนึ กในกำรเป็ นพลเมืองไทย และเป็ นพลเมืองโลกยึดมัน ่ ในกำร
ปกครองตำมระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษั ตริย์เป็ นประมุข ภำค
ภ้มิใจในควำมเป็ นไทย รักท้องถิ่น มีควำมร้้และทักษะพื้นฐำนกำรใช้
 5

ภำษำในกำรสื่อสำรทัง้ ภำษำไทย ภำษำอังกฤษ มีทักษะกำรคิด กำร

แก้ไขปั ญหำ กำรใช้ส่ ือเทคโนโลยี และมีชีวิตอยุ้อยุำงพอเพียงดำำรงชีวิต
อยุ้ในสังคมได้อยุำงปกติสุข
สมรรถนะสำาคัญของผููเรียน
หลักส้ตรโรงเรียนกระแชงวิทยำ พุทธศักรำช 2553 ตำมหลักส้ตร
แกนกลำงกำรศึกษำ ้ พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 มุุงให้ผ้
ขัน
เรียนเกิดสมรรถนะสำำคัญ 5 ประกำร ดังนี้
1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็ นควำมสำมำรถในกำรรับและ
สุงสำร มีวัฒนธรรมในกำรใช้ภำษำถุำยทอดควำมคิด ควำมร้ค ้ วำมเข้ำใจ
ควำมร้้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อม้ลขุำวสำรและ
ประสบกำรณ์อันจะเป็ นประโยชน์ตุอกำรพัฒนำตนเองและสังคม รวมทัง้
กำรเจรจำตุอรองเพื่อขจัดและลดปั ญหำควำมขัดแย้งตุำงๆ กำรเลือกรับ
หรือไมุรับข้อม้ลขุำวสำรด้วยหลักเหตุผลและควำมถ้กต้อง ตลอดจนกำร
เลือกใช้วิธีกำรสื่อสำร ที่มีประสิทธิภำพโดยคำำนึ งถึงผลกระทบที่มีตุอ
ตนเองและสังคม
2. ความสามารถในการคิด เป็ นควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์
กำรคิดสังเครำะห์ กำรคิด อยุำงสร้ำงสรรค์ กำรคิดอยุำงมีวจิ ำรณญำณ
และกำรคิดเป็ นระบบ เพื่อนำ ำไปสุก ้ ำรสร้ำงองค์ควำมร้้หรือสำรสนเทศ
เพื่อกำรตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อยุำงเหมำะสม
3. ความสามารถในการแกูปัญหา เป็ นควำมสำมำรถในกำรแก้
ปั ญหำและอุปสรรคตุำง ๆ ที่เผชิญได้อยุำงถ้กต้องเหมำะสมบน
พื้นฐำนของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อม้ลสำรสนเทศ เข้ำใจควำม
สัมพันธ์และกำรเปลี่ยนแปลงของเหตุกำรณ์ตุำง ๆ ในสังคม แสวงหำ
ควำมร้้ ประยุกต์ควำมร้้มำใช้ในกำรป้ องกันและแก้ไขปั ญหำ และมีกำร
ตัดสินใจที่มีประสิทธิภำพโดยคำำนึ งถึงผลกระทบ ที่เกิดขึ้นตุอตนเอง
สังคมและสิ่งแวดล้อม
4. ความสามารถในการใชูทก ั ษะชีวติ เป็ นควำมสำมำรถในกำรนำ ำ
กระบวนกำรตุำง ๆ ไปใช้ในกำรดำำเนิ นชีวิตประจำำวัน กำรเรียนร้้ด้วย
ตนเอง กำรเรียนร้้อยุำงตุอเนื่ อง กำรทำำงำน และกำรอยุ้รุวมกันในสังคม
ด้วยกำรสร้ำงเสริมควำมสัมพันธ์อน ั ดีระหวุำงบุคคล กำรจัดกำรปั ญหำและ
ควำมขัดแย้งตุำง ๆ อยุำงเหมำะสม กำรปรับตัวให้ทันกับกำร
เปลี่ยนแปลงของสังคมและสภำพแวดล้อม และกำรร้้จักหลีกเลี่ยง
พฤติกรรมไมุพึงประสงค์ทส ่ี งุ ผลกระทบตุอตนเองและผ้อ้ น ่ื
 6

5. ความสามารถในการใชูเทคโนโลยี เป็ นควำมสำมำรถในกำรเลือก

และใช้ เทคโนโลยีดำ้ นตุำง ๆ และมีทก
ั ษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี เพื่อ
กำรพัฒนำตนเองและสังคม ในด้ำนกำรเรียนร้้ กำรสื่อสำรกำรทำำงำน
กำรแก้ปัญหำอยุำงสร้ำงสรรค์ ถ้กต้อง เหมำะสม และมีคณ
ุ ธรรม

ค่ณลักษณะอันพึงประสงค์
หลักส้ตรโรงเรียนกระแชงวิทยำ พุทธศักรำช 2553 ตำมหลักส้ตร
แกนกลำงกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน มุุงพัฒนำผ้้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ เพื่อให้สำมำรถอยุ้รุวมกับผ้้อ่ ืนในสังคมได้อยุำงมีควำมสุข ใน
ฐำนะเป็ นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้

1. รักชำติ ศำสน์ กษั ตริย์

2. ซื่อสัตย์สจุ ริต
3. มีวินัย
4. ใฝุ เรียนร้้
5. อยุ้อยุำงพอเพียง
6. มุุงมัน
่ ในกำรทำำงำน
7. รักควำมเป็ นไทย
8. มีจิตสำธำรณะ
9. พึ่งตนเอง
10. กตัญญ้
11. มีสัมมำคำรวะ
12. มีควำมรับผิดชอบ

กลุม
่ สาระการเรียนรููส่ขศึกษาและพลศึกษา
 7

ทำาไมตูองเรียนส่ขศึกษาและพลศึกษา
สุขภำพ หรือ สุขภำวะ หมำยถึง ภำวะของมนุษย์ท่ีสมบ้รณ์ทัง้
ทำงกำย ทำงจิต ทำงสังคม และทำงปั ญญำหรือจิตวิญญำณ สุขภำพ
หรือสุขภำวะจึงเป็ นเรื่องสำำคัญ เพรำะเกี่ยวโยงกับทุกมิติของชีวิต ซึ่งทุก
คนควรจะได้เรียนร้้เรื่องสุขภำพ เพื่อจะได้มีควำมร้้ ควำมเข้ำใจที่ถ้กต้อง
มีเจตคติ คุณธรรมและคุำนิ ยมที่เหมำะสม รวมทัง้ มีทักษะปฏิบัติด้ำน
สุขภำพจนเป็ นกิจนิ สัย อันจะสุงผลให้สังคมโดยรวมมีคุณภำพ

เรียนรููอะไรในส่ขศึกษาและพลศึกษา
สุขศึกษำและพลศึกษำเป็ นกำรศึกษำด้ำนสุขภำพที่มีเป้ ำหมำย
เพื่อกำรดำำรงสุขภำพ กำรสร้ำงเสริมสุขภำพและกำรพัฒนำคุณภำพชีวิต
ของบุคคล ครอบครัว และชุมชนให้ยัง่ ยืน
ส่ขศึกษา มุุงเน้ นให้ผ้เรียนพัฒนำพฤติกรรมด้ำนควำมร้้ เจตคติ
คุณธรรม คุำนิ ยม และ กำรปฏิบัติเกี่ยวกับสุขภำพควบคุ้ไปด้วย
กัน
พลศึกษา มุุงเน้ นให้ผ้เรียนใช้กิจกรรมกำรเคลื่อนไหว กำรออก
กำำลังกำย กำรเลุนเกมและกีฬำ เป็ นเครื่องมือในกำรพัฒนำโดยรวมทัง้
ด้ำนรุำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม สติปัญญำ รวมทัง้ สมรรถภำพเพื่อ
สุขภำพและกีฬำ
สำระทีเ่ ป็ นกรอบเนื้อหำหรือขอบขุำยองค์ควำมร้ข้ องกลุม
ุ สำระกำร
เรียนร้ส
้ ขุ ศึกษำและพลศึกษำประกอบด้วย
• การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมน่ษย์ ผ้้เรียนจะได้เรียนร้้
เรื่องธรรมชำติของกำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำรของมนุษย์ ปั จจัยที่มี
ผลตุอกำรเจริญเติบโต ควำมสัมพันธ์เชื่อมโยงในกำรทำำงำนของระบบ
ตุำงๆของรุำงกำย รวมถึงวิธีปฏิบัติตนเพื่อให้เจริญเติบโตและมีพัฒนำกำร
ที่สมวัย
• ชีวิตและครอบครัว ผ้้เรียนจะได้เรียนร้้เรื่องคุณคุำของตนเอง
และครอบครัว กำรปรับตัวตุอกำรเปลี่ยนแปลงทำงรุำงกำย จิตใจ
อำรมณ์ควำมร้้สึกทำงเพศ กำรสร้ำงและรักษำสัมพันธภำพกับผ้้อ่ ืน สุข
ปฏิบัติทำงเพศ และทักษะในกำรดำำเนิ นชีวิต
• การเคลื่อนไหว การออกกำาลังกาย การเลุนเกม กีฬาไทย และ
กีฬาสากล ผ้้เรียนได้เรียนร้้เรื่องกำรเคลื่อนไหวในร้ปแบบตุำง ๆ กำร
เข้ำรุวมกิจกรรมทำงกำยและกีฬำ ทัง้ ประเภทบุคคล และประเภททีม
อยุำงหลำกหลำยทัง้ ไทยและสำกล กำรปฏิบัติตำมกฎ กติกำ ระเบียบ
 8

และข้อตกลงในกำรเข้ำรุวมกิจกรรมทำงกำย และกีฬำ และควำมมี

นำ ้ ำใจนั กกีฬำ

• การสรูางเสริมส่ขภาพ สมรรถภาพ และการปู องกันโรค ผ้้เรียน

จะได้เรียนร้้เกี่ยวกับหลักและวิธีกำรเลือกบริโภคอำหำร ผลิตภัณฑ์และ
บริกำรสุขภำพ กำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพเพื่อสุขภำพ และกำรป้ องกัน
โรคทัง้ โรคติดตุอและโรคไมุติดตุอ
• ความปลอดภั ย ในชี วิ ต ผ้้เรียนจะได้เรียนร้้เรื่องกำรป้ องกัน
ตนเองจำกพฤติ ก รรมเสี่ ย งตุ ำ งๆ ทั ้ง ควำมเสี่ ย งตุ อ สุ ข ภำพ
อุ บั ติ เหตุ ควำมรุ น แรง อั น ตรำยจำกกำรใช้ ย ำและสำรเสพติ ด รวมถึ ง
แนวทำงในกำรสร้ำงเสริมควำมปลอดภัยในชีวิต

สาระและมาตรฐานการเรียนรูู
สาระที่ ๑ การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมน่ษย์
มำตรฐำน พ ๑.๑ เข้ำใจธรรมชำติของกำรเจริญเติบโตและ
พัฒนำกำรของมนุษย์
สาระที่ ๒ ชีวิตและครอบครัว
มำตรฐำน พ ๒.๑ เข้ำใจและเห็นคุณคุำตนเอง ครอบครัว เพศ
ศึกษำ และมีทักษะในกำรดำำเนิ นชีวิต
สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหว การออกกำาลังกาย การเลุนเกม กีฬาไทย
และกีฬาสากล
มำตรฐำน พ ๓.๑ เข้ำใจ มีทก
ั ษะในกำรเคลื่อนไหว กิจกรรมทำง
กำย กำรเลุนเกม และกีฬำ
มำตรฐำน พ ๓.๒ รักกำรออกกำำลังกำย กำรเลุนเกม และกำรเลุน
กีฬำ ปฏิบัติเป็ นประจำำอยุำงสมำ่ำเสมอ มีวินัย เคำรพสิทธิ
กฎ กติกำ มีนำ้ำใจนั กกีฬำ มีจิตวิญญำณในกำรแขุงขัน และ
ชื่นชมในสุนทรียภำพของกำรกีฬำ
สาระที่ ๔ การสรูางเสริมส่ขภาพ สมรรถภาพและการปู องกันโรค
มำตรฐำน พ ๔.๑ เห็นคุณคุำและมีทักษะในกำรสร้ำงเสริมสุขภำพ กำร
ดำำรงสุขภำพ กำรป้ องกันโรคและกำรสร้ำงเสริม
สมรรถภำพเพื่อสุขภำพ
 9

สาระที่ ๕ ความปลอดภัยในชีวิต
มำตรฐำน พ ๕.๑ ป้ องกันและหลีกเลี่ยงปั จจัยเสี่ยง พฤติกรรม
เสี่ยงตุอสุขภำพ อุบัติเหตุ กำรใช้ยำ สำรเสพติด และ
ควำมรุนแรง

ค่ณภาพผููเรียน

จบชัน
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี ๓
• เข้ำใจและเห็นควำมสำำคัญของปั จจัยที่สุงผลกระทบตุอกำรเจริญ
เติบโตและพัฒนำกำรที่มีตุอสุขภำพและชีวิตในชุวงวัยตุำง ๆ
• เข้ำใจ ยอมรับ และสำมำรถปรับตัวตุอกำรเปลี่ยนแปลงทำง
รุำงกำย จิตใจ อำรมณ์ ควำมร้้สึกทำงเพศ ควำมเสมอภำคทำงเพศ
สร้ำงและรักษำสัมพันธภำพกับผ้้อ่ ืน และตัดสินใจแก้ปัญหำชีวิตด้วยวิธี
กำรที่เหมำะสม
• เลือกกินอำหำรที่เหมำะสม ได้สัดสุวน สุงผลดีตุอกำรเจริญ
เติบโตและพัฒนำกำรตำมวัย
• มีทักษะในกำรประเมินอิทธิพลของเพศ เพื่อน ครอบครัว
ชุมชนและวัฒนธรรมที่มีตุอเจตคติ คุำนิ ยมเกี่ยวกับสุขภำพและชีวิต
และสำมำรถจัดกำรได้อยุำงเหมำะสม
• ป้ องกันและหลีกเลี่ยงปั จจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตุอสุขภำพ
และกำรเกิดโรค อุบัติเหตุ กำรใช้ยำ สำรเสพติด และควำมรุนแรง ร้้จก ั
สร้ำงเสริมควำมปลอดภัยให้แกุตนเอง ครอบครัว และชุมชน
• เข้ำรุวมกิจกรรมทำงกำย กิจกรรมกีฬำ กิจกรรมนั นทนำกำร
กิจกรรมสร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำยเพื่อสุขภำพ โดยนำ ำหลักกำรของ
ทักษะกลไกมำใช้ได้อยุำงปลอดภัย สนุกสนำน และปฏิบัติเป็ นประจำำ
สมำ่ำเสมอตำมควำมถนั ดและควำมสนใจ
 10

• แสดงควำมตระหนั กในควำมสัมพันธ์ระหวุำงพฤติกรรมสุขภำพ
กำรป้ องกันโรค กำรดำำรงสุขภำพ กำรจัดกำรกับอำรมณ์และควำมเครียด
กำรออกกำำลังกำยและกำรเลุนกีฬำกับกำรมีวิถีชีวิตที่มีสุขภำพดี
• สำำนึ กในคุณคุำ ศักยภำพและควำมเป็ นตัวของตัวเอง
• ปฏิบัติตำมกฎ กติกำ หน้ ำที่ควำมรับผิดชอบ เคำรพสิทธิของ
ตนเองและผ้้อ่ ืน ให้ควำมรุวมมือในกำรแขุงขันกีฬำและกำรทำำงำนเป็ น
ทีมอยุำงเป็ นระบบ ด้วยควำมมุุงมัน
่ และมีนำ้ำใจนั กกีฬำ จนประสบควำม
สำำเร็จตำมเป้ ำหมำยด้วยควำมชื่นชม และสนุกสนำน

จบชัน
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี ๖
• สำมำรถด้แลสุขภำพ สร้ำงเสริมสุขภำพ ป้ องกันโรค หลีกเลี่ยง
ปั จจัยเสี่ยง และพฤติกรรมเสี่ยงตุอสุขภำพ อุบัติเหตุ กำรใช้ยำ สำรเสพ
ติด และควำมรุนแรงได้อยุำงมีประสิทธิภำพด้วยกำรวำงแผนอยุำงเป็ น
ระบบ
• แสดงออกถึงควำมรัก ควำมเอื้ออำทร ควำมเข้ำใจในอิทธิพล
ของครอบครัว เพื่อน สังคม และวัฒนธรรมที่มีตุอพฤติกรรมทำงเพศ
กำรดำำเนิ นชีวิต และวิถีชีวิตที่มีสุขภำพดี
• ออกกำำลังกำย เลุนกีฬำ เข้ำรุวมกิจกรรมนั นทนำกำร
กิจกรรมสร้ำงเสริมสมรรถภำพ เพื่อสุขภำพโดยนำ ำหลักกำรของ
ทักษะกลไกมำใช้ได้อยุำงถ้กต้อง สมำ่ำเสมอด้วยควำมชื่นชมและ
สนุกสนำน
• แสดงควำมรับผิดชอบ ให้ควำมรุวมมือและปฏิบัติตำมกฎ
กติกำ สิทธิ หลักควำมปลอดภัยในกำรเข้ำรุวมกิจกรรมทำงกำย และ
เลุนกีฬำจนประสบควำมสำำเร็จตำมเป้ ำหมำยของตนเองและทีม
• แสดงออกถึงกำรมีมำรยำทในกำรด้ กำรเลุน และกำรแขุงขัน
ด้วยควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำและนำ ำไปปฏิบัติในทุกโอกำสจนเป็ นบุคลิกภำพ
ที่ดี
• วิเครำะห์และประเมินสุขภำพสุวนบุคคลเพื่อกำำหนดกลวิธีลด
ควำมเสี่ยง สร้ำงเสริมสุขภำพ ดำำรงสุขภำพ กำรป้ องกันโรค และกำร
จัดกำรกับอำรมณ์และควำมเครียดได้ถ้กต้องและเหมำะสม
• ใช้กระบวนกำรทำงประชำสังคม สร้ำงเสริมให้ชุมชนเข้มแข็ง
ปลอดภัย และมีวิถีชีวิตที่ดี

ตัวชีว้ ัดและสาระการเรียนรููแกนกลาง
สาระที่ ๑ การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมน่ษย์
 11

มาตรฐาน พ ๑.๑ เข้ำใจธรรมชำติของกำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำร

ของมนุษย์
ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
ม.๑ 1. อธิบำยควำมสำำคัญของ  ควำมสำำคัญของระบบ
ระบบประสำท และระบบ ประสำท และระบบตุอมไร้ทุอที่
ตุอมไร้ทุอที่มีผลตุอ มีผลตุอสุขภำพ กำรเจริญเติบโต
สุขภำพ กำรเจริญเติบโต และพัฒนำกำรของวัยรุุน
และพัฒนำกำรของวัยรุุน
2. อธิบำยวิธีด้แลรักษำ  วิธีด้แลรักษำระบบประสำท
ระบบประสำท และระบบ และระบบตุอมไร้ทุอ ให้ทำำงำน
ตุอมไร้ทุอให้ทำำงำนตำม ตำมปกติ
ปกติ
๓. วิเครำะห์ภำวะกำร  กำรวิเครำะห์ภำวะกำรเจริญ
เจริญเติบโตทำงรุำงกำย เติบโต
ของตนเองกับเกณฑ์ ตำมเกณฑ์มำตรฐำนและปั จจัยที่
มำตรฐำน เกี่ยวข้อง
๔. แสวงหำแนวทำงใน  แนวทำงในกำรพัฒนำตนเอง
กำรพัฒนำตนเองให้เจริญ ให้เจริญเติบโตสมวัย
เติบโตสมวัย

ม. ๒ 1. อธิบำยกำร  กำรเปลี่ยนแปลงด้ำนรุำงกำย
เปลี่ยนแปลงด้ำนรุำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม และสติ
จิตใจ อำรมณ์ สังคม และ ปั ญญำในวัยรุุน
สติปัญญำในวัยรุุน
2. ระบุปัจจัยที่มีผลกระ  ปั จจัยที่มีผลกระทบตุอกำร
ทบตุอกำรเจริญเติบโต และ เจริญเติบโตและพัฒนำกำรด้ำน
พัฒนำกำรด้ำนรุำงกำย รุำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม
จิตใจ อำรมณ์ สังคม และ และสติปัญญำ
สติปัญญำ ในวัยรุุน - พันธุกรรม
- สิ่งแวดล้อม
- กำรอบรมเลีย ้ งด้
 12

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
ม. ๓ 1. เปรียบเทียบกำร  กำรเปลี่ยนแปลง ด้ำนรุำงกำย
เปลี่ยนแปลงทำงด้ำน จิตใจ อำรมณ์ สังคม และสติ
รุำงกำย จิตใจ อำรมณ์ ปั ญญำในแตุละวัย
สังคม และสติปัญญำ - วัยทำรก
แตุละชุวง ของชีวิต - วัยกุอนเรียน
- วัยเรียน
- วัยรุุน
- วัยผ้้ใหญุ
- วัยส้งอำยุ
2. วิเครำะห์อิทธิพลและ  อิทธิพลและควำมคำดหวังของ
ควำมคำดหวังของสังคมตุอ สังคมที่มีตุอกำรเปลี่ยนแปลง
กำรเปลี่ยนแปลงของวัยรุุน ของวัยรุุน

3. วิเครำะห์ สื่อ โฆษณำ  สื่อ โฆษณำ ที่มีอิทธิพลตุอ

ที่มีอิทธิพลตุอกำรเจริญ กำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำร
เติบโตและพัฒนำกำรของ ของวัยรุุน
วัยรุุน - โทรทัศน์ - วิทยุ
- สื่อสิ่งพิมพ์ -
อินเทอร์เน็ต
ม.๔– 1. อธิบำยกระบวนกำร  กระบวนกำรสร้ำงเสริมและ
ม.๖ สร้ำงเสริมและดำำรง ดำำรงประสิทธิภำพกำรทำำงำน
ประสิทธิภำพกำรทำำงำน ของระบบอวัยวะ
ของระบบอวัยวะตุำง ๆ ตุำง ๆ
- กำรทำำงำนของระบบอวัยวะ
ตุำงๆ
- กำรสร้ำงเสริมและดำำรง
ประสิทธิภำพของอวัยวะตุำงๆ
(อำหำร กำรออกกำำลังกำย
นั นทนำกำร กำรตรวจสุขภำพ
ฯลฯ)
2. วำงแผนด้แลสุขภำพ  กำรวำงแผนด้แลสุขภำพของ
ตำมภำวะกำรเจริญเติบโต ตนเองและบุคคลในครอบครัว
และพัฒนำกำรของตนเอง
และบุคคลในครอบครัว
 13

สาระที่ ๒ ชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน พ ๒.๑ เข้ำใจและเห็นคุณคุำตนเอง ครอบครัว เพศศึกษำ และ
มีทักษะในกำรดำำเนิ นชีวิต
ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
ม. ๑ 1. อธิบำยวิธีกำรปรับตัว  กำรเปลี่ยนแปลงทำงรุำงกำย
จิตใจ อำรมณ์ และพัฒนำกำร
ตุอกำรเปลี่ยนแปลงทำง
ทำงเพศ
รุำงกำยจิตใจ อำรมณ์ และ
พัฒนำกำรทำงเพศอยุำง - ลักษณะกำรเปลี่ยนแปลงทำง
เหมำะสม รุำงกำย จิตใจ อำรมณ์ และ
พัฒนำกำรทำงเพศ
- กำรยอมรับและกำรปรับตัวตุอ
กำรเปลี่ยนแปลงทำงรุำงกำย
จิตใจ อำรมณ์ และพัฒนำกำร
ทำงเพศ
- กำรเบี่ยงเบนทำงเพศ
2. แสดงทักษะกำรปฏิเสธ  ทักษะปฏิเสธเพื่อป้ องกันกำร
ถ้กลุวงละเมิดทำงเพศ
เพื่อป้ องกันตนเองจำกกำร
ถ้กลุวงละเมิดทำงเพศ
ม. ๒ 1. วิเครำะห์ปัจจัยที่มี  ปั จจัยที่มีอิทธิพลตุอเจตคติใน
อิทธิพลตุอ เจตคติในเรื่อง เรื่องเพศ
เพศ - ครอบครัว -
วัฒนธรรม
- เพื่อน - สื่อ
2. วิเครำะห์ปัญหำและ  ปั ญหำและผลกระทบที่เกิด
จำกกำรมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน
ผลกระทบที่เกิดจำกกำรมี
เพศสัมพันธ์ในวัยเรียน
3. อธิบำยวิธีป้องกัน  โรคติดตุอทำงเพศสัมพันธ์
ตนเองและหลีกเลี่ยงจำก  โรคเอดส์
โรคติดตุอทำงเพศสัมพันธ์  กำรตัง้ ครรภ์โดยไมุพึง
เอดส์ และกำรตัง้ ครรภ์ ประสงค์
โดยไมุพึงประสงค์
 14

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง

4. อธิบำยควำมสำำคัญของ  ควำมสำำคัญของควำมเสมอ
ควำมเสมอภำคทำงเพศ ภำคทำงเพศ
และวำงตัวได้อยุำงเหมำะ  กำรวำงตัวตุอเพศตรงข้ำม
สม  ปั ญหำทำงเพศ
 แนวทำงกำรแก้ไขปั ญหำ
ทำงเพศ

ม.๓ 1. อธิบำยอนำมัยแมุและ  องค์ประกอบของอนำมัยเจริญ

เด็ก กำรวำงแผน พันธ์ุ
ครอบครัว และวิธีกำร
ปฏิบัติตนที่เหมำะสม - อนำมัยแมุและเด็ก
- กำรวำงแผนครอบครัว
2. วิเครำะห์ปัจจัยที่มีผลก  ปั จจัยที่มีผลกระทบตุอกำรตัง้
ระทบตุอกำรตัง้ ครรภ์ ครรภ์
- แอลกอฮอล์
- สำรเสพติด
- บุหรี่
- สภำพแวดล้อม
- กำรติดเชื้อ
- โรคที่เกิดจำกภำวะกำรตัง้
ครรภ์
3. วิเครำะห์สำเหตุ และ  สำเหตุควำมขัดแย้งใน
เสนอแนวทำงป้ องกัน ครอบครัว
แก้ไขควำมขัดแย้งใน  แนวทำงป้ องกัน แก้ไข
ครอบครัว ควำมขั ดแย้งในครอบครัว
ม.๔– 1. วิเครำะห์อิทธิพลของ  อิทธิพลของครอบครัว เพื่อน
สังคม และวัฒนธรรมที่มีตุอ
ม.๖ ครอบครัว เพื่อน สังคม พฤติกรรมทำงเพศ และกำร
และวัฒนธรรมที่มีผลตุอ
พฤติกรรมทำงเพศและกำร ดำำเนิ นชีวิต
ดำำเนิ นชีวิต
2. วิเครำะห์คำุ นิ ยมใน  คุำนิ ยมในเรื่องเพศตำม
เรื่องเพศ ตำมวัฒนธรรม วัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรม
 15

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
ไทยและวัฒนธรรม อื่น ๆ อื่น ๆ
3. เลือกใช้ทักษะที่เหมำะ  แนวทำงในกำรเลือกใช้ทักษะ
สมในกำรป้ องกัน ลด ตุำง ๆ ในกำรป้ องกัน ลดควำม
ควำมขัดแย้งและแก้ปัญหำ ขัดแย้ง และแก้ปัญหำเรื่องเพศ
เรื่องเพศและครอบครัว และครอบครัว
- ทักษะกำรสื่อสำรและสร้ำง
สัมพันธภำพ
- ทักษะกำรตุอรอง
- ทักษะกำรปฏิเสธ
- ทักษะกำรคิดวิเครำะห์
- ทักษะกำรตัดสินใจ และแก้ไข
ปั ญหำ
ฯลฯ
4. วิเครำะห์สำเหตุและผล  ควำมขัดแย้งที่อำจเกิดขึ้น
ของควำมขัดแย้งที่อำจเกิด ระหวุ ำงนั กเรียนหรือเยำวชนใน
ขึ้นระหวุำงนั กเรียน หรือ ชุมชน
เยำวชนในชุมชน และ - สำเหตุของควำมขัดแย้ง
เสนอแนวทำงแก้ไขปั ญหำ
- ผลกระทบที่เกิดจำกควำมขัด
แย้งระหวุำงนั กเรียน หรือ
เยำวชนในชุมชน
- แนวทำงในกำรแก้ปัญหำที่
อำจเกิดจำกควำมขัดแย้งของ
นั กเรียนหรือเยำวชนในชุมชน

สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหว การออกกำาลังกาย การเลุนเกม กีฬาไทย
และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้ำใจ มีทักษะในกำรเคลื่อนไหว กิจกรรมทำงกำย
กำรเลุนเกม และกีฬำ
ชัน
้ ตัวชีว้ ัด
ม. ๑ 1. เพิ่มพ้นควำมสำมำรถ
ของตน ตำมหลักกำร
เคลื่อนไหวที่ใช้ทักษะ
กลไกและทักษะพื้นฐำนที่
นำ ำไปสุ้กำรพัฒนำทักษะ
กำรเลุนกีฬำ
2. เลุนกีฬำไทยและกีฬำ
สำกลประเภทบุคคลและ
ทีมโดยใช้ทักษะพื้นฐำน
ตำมชนิ ดกีฬำ อยุำงละ ๑
ชนิ ด
3. รุวมกิจกรรม
นั นทนำกำรอยุำงน้ อย ๑
กิจกรรมและนำ ำหลักควำม
ร้้ท่ีได้ไปเชื่อมโยงสัมพันธ์
กับวิชำอื่น
ม. ๒ 1. นำ ำผลกำรปฏิบัติตน
เกี่ยวกับทักษะกลไกและ
ทักษะกำรเคลื่อนไหวใน
กำรเลุนกีฬำจำกแหลุง
ข้อม้ลที่หลำกหลำยมำสรุป
เป็ นวิธีท่ีเหมำะสมใน
บริบทของตนเอง
2. เลุนกีฬำไทยและกีฬำ
สำกล ทัง้ ประเภท
บุคคลและทีมได้อยุำงละ
๑ ชนิ ด
16
สาระการเรียนรููแกนกลาง
 หลักกำรเพิม
่ พ้นควำม
สำมำรถในกำรเคลือ ่ นไหวทีใ่ ช้
ทักษะกลไกและทักษะพืน ้ ฐำนที่
นำ ำไปสุก
้ ำรพัฒนำทักษะกำรเลุน
กีฬำ
 กำรเลุนกีฬำไทย และกีฬำ
สำกลทีเ่ ลือก เชุน กรีฑำประเภทลุ้
และลำน บำสเกตบอล กระบี่
เทเบิลเทนนิส เทนนิส วุำยนำำ้
 กำรนำ ำควำมร้แ้ ละหลักกำร
ของกิจกรรมนันทนำกำรไปใช้เชือ ่ ม
โยงสัมพันธ์กบั วิชำอืน
่
 กำรนำ ำผลกำรปฏิบต ั ต
ิ นเกีย่ ว
กับทักษะกลไกและทักษะกำร
เคลือ
่ นไหวในกำรเลุนกีฬำจำก
แหลุงข้อม้ลทีห ่ ลำกหลำยมำสรุป
เป็นวิธท
ี เ่ี หมำะสมในบริบทของ
ตนเองในกำรเลุนกีฬำ
 กำรเลุนกีฬำไทย กีฬำสำกล
ตำมชนิดกีฬำทีเ่ ลือก เชุน กรีฑำ
ประเภทลุแ้ ละลำน บำสเกตบอล
กระบี่ เทนนิส ตระกร้อลอดบุวง
ฟุตซอล วุำยนำำ้ เทควันโด
 17

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง

3. เปรียบเทียบ  ประสิทธิภำพของร้ปแบบกำร
ประสิทธิภำพของร้ปแบบ เคลือ
่ นไหวทีส่ งุ ผลตุอกำรเลุนกีฬำ
กำรเคลื่อนไหวที่สุงผลตุอ และกิจกรรมในชีวต ิ ประจำำวัน
กำรเลุนกีฬำและกิจกรรม
ในชีวิตประจำำวัน
4. รุวมกิจกรรม  กำรนำ ำประสบกำรณ์จำกกำร
นั นทนำกำรอยุำงน้ อย ๑ รุวมกิจกรรมนันทนำกำรไปปรับใช้
กิจกรรม และนำ ำควำมร้้ ในชีวต
ิ ประจำำวัน
และหลักกำรที่ได้ไปปรับใช้
ในชีวิตประจำำวันอยุำงเป็ น
ระบบ
ม. ๓ ๑. เลุนกีฬำไทยและ  เทคนิคและวิธก
ี ำรเลุน กีฬำ
กีฬำสำกล ได้อยุำง ไทยและกีฬำสำกลทีเ่ ลือก เชุน
ละ ๑ ชนิ ดโดยใช้เทคนิ ค กรีฑำประเภทลุแ้ ละลำน
ที่เหมำะสมกับตนเองและ วอลเลย์บอล บำสเกตบอล ดำบส
ทีม องมือ เทนนิส ตะกร้อข้ำมตำขุำย
ฟุตบอล
๒. นำ ำหลักกำร ควำมร้้  กำรนำ ำหลักกำร ควำมร้้ ทักษะ
และทักษะ ในกำร ในกำรเคลือ ่ นไหว กิจกรรมทำง
เคลื่อนไหว กิจกรรมทำง กำย กำรเลุนเกม กำรเลุนกีฬำไป
กำย กำรเลุนกม และกำร ใช้เป็นระบบสร้ำงเสริมสุขภำพ
เลุนกีฬำไปใช้ สร้ำง อยุำงตุอเนื่อง
เสริมสุขภำพอยุำงตุอเนื่ อง
เป็ นระบบ
๓. รุวมกิจกรรม  กำรจัดกิจกรรมนันทนำกำร
นั นทนำกำรอยุำงน้ อย ๑ แกุผอ้ น
่ื
กิจกรรมและนำ ำหลักควำม
ร้้วิธีกำรไปขยำยผลกำร
เรียนร้้ให้กับผ้้อ่ ืน
ม.๔– 1. วิเครำะห์ควำมคิดรวบ  ควำมคิดรวบยอดเกี่ยวกับ
กำรเคลื่อนไหวร้ปแบบตุำง ๆ ใน
 18

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด
ม.๖ ยอดเกี่ยวกับกำร
เคลื่อนไหวร้ปแบบตุำงๆ
ในกำรเลุนกีฬำ
2. ใช้ควำมสำมำรถของ
ตน เพื่อเพิ่ม
ศักยภำพของทีม คำำนึ งถึง
ผล ที่เกิดตุอผ้้อ่ ืน
และสังคม
3. เลุนกีฬำไทย กีฬำ
สำกลประเภทบุคคล / คุ้
กีฬำประเภททีมได้อยุำง
น้ อย ๑ ชนิ ด
๔. แสดงกำรเคลื่อนไหว
ได้อยุำงสร้ำงสรรค์
๕. เข้ำรุวมกิจกรรม
นั นทนำกำรนอกโรงเรียน
และนำ ำหลักกำรแนวคิด
ไปปรับปรุงและพัฒนำ
คุณภำพชีวิตของตนและ
สังคม
สาระการเรียนรููแกนกลาง
กำรเลุนกีฬำ
 กำรวิเครำะห์ควำมคิดรวบ
ยอดเกี่ยวกับกำรเคลื่อนไหวร้ป
แบบตุำงๆ ในกำรเลุนกีฬำ
 กำรใช้ควำมสำมำรถของตน
ในกำรเลุนกีฬำ เพื่อเพิ่ม
ศักยภำพของทีม โดยคำำนึ งถึง
ผลที่เกิดตุอผ้้อ่ ืนและสังคม
 กีฬำประเภทบุคคล / คุ้
ประเภททีม เชุน ฟุตซอล
รักบีฟ
้ ุตบอล ยิมนำสติก ลีลำศ
ซอฟท์บอล เทนนิ ส เซปั ก
ตะกร้อ มวยไทย กระบี่กระบอง
พลอง ง้ำว
 กำรเคลื่อนไหวที่สร้ำงสรรค์
เชุน กิจกรรมเข้ำจังหวะ เชียร์
ลีดเดอร์
 กำรนำ ำหลักกำรและแนวคิด
ของกิจกรรมนั นทนำกำรไป
ปรับปรุงและพัฒนำคุณภำพชีวิต
ของตนและสังคม

สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหว การออกกำาลังกาย การเลุนเกม กีฬาไทย

และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓.๒ รักกำรออกกำำลังกำย กำรเลุนเกม และกำรเลุนกีฬำ
ปฏิบัติเป็ นประจำำอยุำงสมำ่ำเสมอ
มีวินัย เคำรพสิทธิ กฎ กติกำ มีนำ้ำใจนั กกีฬำ มีจิตวิญญำณ
ในกำรแขุงขัน และชื่นชม ในสุนทรียภำพของกำรกีฬำ
 19

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
ม. ๑ 1. อธิบำยควำมสำำคัญของ  ควำมสำำคัญของกำรออก
กำำลังกำยและเลุนกีฬำ จนเป็ น
กำรออกกำำลังกำยและเลุน
วิถีชีวิตที่มีสุขภำพดี
กีฬำ จนเป็ นวิถีชีวิตที่มี
สุขภำพดี  กำรออกกำำลังกำย เชุน กำย
บริหำร
แบบตุำงๆ เต้นแอโรบิค โยคะ
2. ออกกำำลังกำยและ รำำมวยจีน
เลือกเข้ำรุวมเลุนกีฬำตำม  กำรเลุนกีฬำไทย และกีฬำ
ควำมถนั ด ควำมสนใจ สำกล
อยุำงเต็มควำมสำมำรถ ทัง้ ประเภทบุคคลและทีม
พร้อมทัง้ มีกำรประเมินกำร  กำรประเมินกำรเลุนกีฬำ
เลุนของตนและผ้้อ่ ืน ของตนเองและผ้้อ่ ืน
3. ปฏิบัติตำมกฎ กติกำ  กฎ กติกำ กำรเลุนเกมและ
กำรแขุงขันกีฬำที่เลือกเลุน
และข้อตกลงตำมชนิ ดกีฬำ
ที่เลือกเลุน
4. วำงแผนกำรรุกและกำร  ร้ปแบบ วิธีกำรรุกและ
ป้ องกันในกำรเลุนกีฬำที่เลือก
ป้ องกันในกำรเลุนกีฬำที่
เลือกและนำ ำไปใช้ในกำร
เลุนอยุำงเป็ นระบบ
5. รุวมมือในกำรเลุนกีฬำ  กำรเลุน กำรแขุงขันกีฬำ
และกำรทำำงำนเป็ นทีม
และกำรทำำงำนเป็ นทีม
อยุำงสนุกสนำน
6. วิเครำะห์เปรียบเทียบ  กำรยอมรับควำมสำมำรถ
และควำมแตกตุำงระหวุำงบุคคล
และยอมรับควำมแตกตุำง
ในกำรเลุนกีฬำ
ระหวุำงวิธีกำรเลุนกีฬำ
ของตนเองกับผ้้อ่ ืน
ม. ๒ 1. อธิบำยสำเหตุกำร  สำเหตุกำรเปลี่ยนแปลงทำง
เปลี่ยนแปลงทำงกำย จิตใจ ด้ำนรุำงกำย จิตใจ อำรมณ์
อำรมณ์ สังคม และ สังคม และสติปัญญำ จำกกำร
สติปัญญำ ที่เกิดจำกกำร ออกกำำลังกำยและกำรเลุนกีฬำ
ออกกำำลังกำย และเลุน อยุำงสมำ่ำเสมอ จนเป็ นวิถี
กีฬำเป็ นประจำำจนเป็ นวิถี ชีวิต
ชีวิต  กำรสร้ำงวิถีชีวิตที่มีสุขภำพ
ดี โดยกำรออกกำำลังกำยและเลุน
 20

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
กีฬำเป็ นประจำำ
2. เลือกเข้ำรุวมกิจกรรม  กำรออกกำำลังกำยและกำร
กำรออกกำำลังกำย เลุน เลุนกีฬำไทย กีฬำสำกลทัง้
กีฬำตำม ควำมถนั ด ประเภทบุคคลและประเภททีม
และควำมสนใจพร้อมทัง้  กำรวิเครำะห์ควำมแตกตุำง
วิเครำะห์ควำมแตกตุำง ระหวุำงบุคคลเพื่อเป็ นแนวทำง
ม. ๒ ระหวุำงบุคคล เพื่อเป็ น ในกำรพัฒนำกำรรุวมกิจกรรม
แนวทำงในกำรพัฒนำ กำรออกกำำลังกำยและเลุนกีฬำ
ตนเอง
3. มีวินัย ปฏิบัติตำมกฎ  วินัยในกำรฝึ ก และกำรเลุน
กีฬำ ตำมกฎ กติกำและข้อ
กติกำ และข้อตกลงในกำร
ตกลง
เลุนกีฬำที่เลือก
4. วำงแผนกำรรุกและกำร  ร้ปแบบ กลวิธีกำรรุก กำร
ป้ องกันในกำรเลุนกีฬำที่ ป้ องกันในกำรเลุนกีฬำเป็ นทีม
เลือกและนำ ำไปใช้ ในกำร  ประโยชน์ของกำรเลุนและ
เลุนอยุำงเหมำะสมกับทีม กำรทำำงำน เป็ นทีม
 หลักกำรให้ควำมรุวมมือใน
กำรเลุน กำรแขุงขันกีฬำ
และกำรทำำงำนเป็ นทีม
5. นำ ำผลกำรปฏิบัติใน  กำรพัฒนำวิธีเลุนกีฬำที่
เหมำะสมกับตนเอง
กำรเลุนกีฬำมำสรุปเป็ นวิธี
ที่เหมำะสมกับตนเองด้วย - กำรเลือกวิธีเลุน
ควำมมุุงมัน
่ - กำรแก้ไขข้อบกพรุอง
- กำรเพิ่มทักษะ
 กำรสร้ำงแรงจ้งใจและกำร
สร้ำงควำมมุุงมัน
่ ในกำรเลุนและ
แขุงขันกีฬำ
ม. ๓ 1. มีมำรยำทในกำรเลุน  มำรยำทในกำรเลุนและกำร
ด้กีฬำด้วยควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำ
และด้กีฬำด้วยควำมมีนำ้ำใจ
นั กกีฬำ
2. ออกกำำลังกำยและเลุน  กำรออกำำลังกำยและกำรเลุน
กีฬำประเภทบุคคล และประเภท
กีฬำอยุำงสมำ่ำเสมอและนำ ำ
ทีม
แนวคิดหลักกำรจำกกำร
 กำรนำ ำประสบกำรณ์
 21

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
เลุนไปพัฒนำคุณภำพชีวิต แนวคิดจำกกำร ออกกำำลังกำย
ของตนด้วยควำมภำค และเลุนกีฬำไปประยุกต์ใช้ในกำร
ภ้มิใจ พัฒนำคุณภำพชีวต ิ
3. ปฏิบัติตนตำมกฎ  กฎ กติกำและข้อตกลงใน
กำรเลุนกีฬำที่เลือกเลุน
กติกำ และข้อตกลงในกำร
เลุนตำมชนิ ดกีฬำที่เลือก  กำรประยุกต์ประสบกำรณ์
และนำ ำแนวคิดที่ได้ไป กำรปฏิบัติตำมกฎ กติกำ ข้อ
พัฒนำคุณภำพชีวิต ของ ตกลงในกำรเลุนกีฬำไปใช้พัฒนำ
ตนในสังคม คุณภำพชีวิตของตนในสังคม

ม. ๓ 4. จำำแนกกลวิธีกำรรุก
กำรป้ องกัน และใช้ในกำร
เลุนกีฬำที่เลือกและตัดสิน
ใจเลือกวิธีท่ีเหมำะสมกับ
ทีมไปใช้ได้ตำม
สถำนกำรณ์ของกำรเลุน
5. เสนอผลกำรพัฒนำ
สุขภำพของตนเองที่เกิด
จำกกำรออกกำำลังกำย และ
กำรเลุนกีฬำเป็ นประจำำ
ม. ๔– 1. ออกกำำลังกำยและเลุน
กีฬำ ที่เหมำะสม
ม.๖ กับตนเองอยุำงสมำ่ำเสมอ
และใช้ควำมสำมำรถของ
ตนเองเพิ่มศักยภำพของ
ทีม ลดควำมเป็ นตัวตน
คำำนึ งถึงผลที่เกิดตุอสังคม
 วิธีกำรประยุกต์ใช้กลวิธีกำร
รุกและกำรป้ องกันในกำรเลุน
กีฬำได้ตำมสถำนกำรณ์ของกำร
เลุน
 กำรพัฒนำสุขภำพตนเองที่
เกิดจำกกำรออกกำำลังกำยและ
กำรเลุนกีฬำเป็ นประจำำ
 กำรออกกำำลังกำยด้วยวิธีท่ี
ชอบ เชุน
ฝึ กกำยบริหำรแบบตุำงๆ ขี่
จักรยำน
กำรออกกำำลังกำยจำกกำรทำำงำน
ในชีวิตประจำำวัน กำรรำำกระบอง
รำำมวยจีน
 กำรเลุนกีฬำประเภทบุคคล
และประเภททีม
 กำรใช้ควำมสำมำรถของตน
ในกำรเพิ่มศักยภำพของทีมใน
 22

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
กำรเลุนกีฬำและกำรเลุนโดย
คำำนึ งถึงประโยชน์ตุอสังคม
 กำรวำงแผนกำำหนดกิจกรรม
กำรออกกำำลัง-กำยและเลุนกีฬำ
2. อธิบำยและปฏิบัติเกี่ยว  สิทธิ กฎ กติกำกำรเลุน
กีฬำ
กับสิทธิ กฎ กติกำ กลวิธี
ตุำงๆ ในระหวุำงกำรเลุน  กลวิธี หลักกำรรุก กำร
กำรแขุงขันกีฬำกับผ้้อ่ ืน ป้ องกันอยุำงสร้ำงสรรค์ในกำร
และนำ ำไปสรุปเป็ นแนว เลุนและแขุงขันกีฬำ
ปฏิบัติและใช้ในชีวิตประจำำ  กำรนำ ำประสบกำรณ์จำก
วันอยุำงตุอเนื่ อง กำรเลุนกีฬำไปใช้ในชีวิตประจำำ
วัน
3. แสดงออกถึงกำรมี  กำรปฏิบัติตนในเรื่อง
มำรยำทในกำรด้ กำรเลุน กำร
มำรยำทในกำรด้ กำรเลุน
แขุงขัน ควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำ
และกำรแขุงขันกีฬำ ด้วย
ควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำ และ  บุคลิกภำพที่ดี
นำ ำไปใช้ปฏิบัติทุกโอกำส
จนเป็ นบุคลิกภำพที่ดี
4. รุวมกิจกรรมทำงกำย  ควำมสุขที่ได้จำกกำรเข้ำรุวม
กิจกรรมทำงกำย และเลุนกีฬำ
และเลุนกีฬำอยุำงมีควำม
สุข ชื่นชมในคุณคุำและ  คุณคุำและควำมงำมของ
ควำมงำมของกำรกีฬำ กำรกีฬำ
สาระที่ ๔ การสรูางเสริมส่ขภาพ สมรรถภาพและการปู องกันโรค
มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณคุำและมีทักษะในกำรสร้ำงเสริมสุขภำพ กำร
ดำำรงสุขภำพ กำรป้ องกันโรค และกำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพ
เพื่อสุขภำพ
ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
ม. ๑ 1. เลือกกินอำหำรที่  หลักกำรเลือกอำหำรที่เหมำะ
สมกับวัย
เหมำะสมกับวัย
2. วิเครำะห์ปัญหำที่เกิด  ปั ญหำที่เกิดจำกภำวะ
โภชนำกำร
จำกกำรภำวะโภชนำกำรที่
มีผลกระทบตุอสุขภำพ - ภำวะกำรขำดสำรอำหำร
 23

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
- ภำวะโภชนำกำรเกิน
3. ควบคุมนำ ้ ำหนั กของ  เกณฑ์มำตรฐำนกำรเจริญ
เติบโตของเด็กไทย
ตนเองให้อยุ้ในเกณฑ์
มำตรฐำน  วิธีกำรควบคุมนำ ้ ำหนั กของ
ตนเองให้อยุ้ในเกณฑ์มำตรฐำน
4. กำรสร้ำงเสริมและ  วิธีทดสอบสมรรถภำพทำง
กำย
ปรับปรุงสมรรถภำพทำง
กำยตำมผลกำรทดสอบ  วิธีสร้ำงเสริมและปรับปรุง
สมรรถภำพ ทำงกำยตำมผล
กำรทดสอบ
ม. ๒ 1. เลือกใช้บริกำรทำง  กำรเลือกใช้บริกำรทำงสุขภำพ
สุขภำพอยุำงมีเหตุผล
2. วิเครำะห์ผลของกำรใช้  ผลกระทบของเทคโนโลยี ที่มี
ตุอสุขภำพ
เทคโนโลยีท่ีมีตุอสุขภำพ
3. วิเครำะห์ควำมเจริญ  ควำมเจริญก้ำวหน้ ำทำงกำร
แพทย์ท่ีมีผลตุอสุขภำพ
ก้ำวหน้ ำทำงกำรแพทย์ท่ีมี
ผลตุอสุขภำพ
4. วิเครำะห์ควำมสัมพันธ์  ควำมสมดุลระหวุำงสุขภำพ
กำยและสุขภำพจิต
ของภำวะสมดุลระหวุำง
สุขภำพกำยและสุขภำพจิต
5. อธิบำยลักษณะอำกำร  ควำมสมดุลระหวุำงสุขภำพ
กำยและสุขภำพจิต
เบื้องต้นของผ้้มีปัญหำ
สุขภำพจิต
6. เสนอแนะวิธีปฏิบัติตน  วิธีปฏิบัติตนเพื่อจัดกำรกับ
อำรมณ์และควำมเครียด
เพื่อจัดกำรกับอำรมณ์และ
ควำมเครียด
7. พัฒนำสมรรถภำพทำง  เกณฑ์สมรรถภำพทำงกำย
กำยตนเองให้เป็ นไปตำม  กำรพัฒนำสมรรถภำพทำง
เกณฑ์ท่ีกำำหนด กำย

ม. ๓ 1. กำำหนดรำยกำรอำหำร  กำรกำำหนดรำยกำรอำหำรที่
 24

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
ที่เหมำะสมกับวัยตุำง ๆ เหมำะสมกับวัย ตุำง ๆ
โดยคำำนึ งถึงควำมประหยัด  วัยทำรก วัยเด็ก (วัยกุอน
และคุณคุำทำงโภชนำกำร
เรียน วัยเรียน) วัยรุุน วัย
ผ้้ใหญุ วัยส้งอำยุ โดยคำำนึ งถึง
ควำมประหยัดและคุณคุำทำง
โภชนำกำร
2. เสนอแนวทำงป้ องกัน  โรคที่เป็ นสำเหตุสำำคัญของ
กำรเจ็บปุ วยและกำรตำยของคน
โรคที่เป็ นสำเหตุสำำคัญของ
ไทย
กำรเจ็บปุ วยและกำรตำย
โรคติดตุอ เชุน
ของคนไทย
- โรคที่เกิดจำกกำรมีเพศ
สัมพันธ์
- โรคเอดส์
- โรคไข้หวัดนก
ฯลฯ
โรคไมุติดตุอ เชุน
- โรคหัวใจ
- โรคควำมดันโลหิตส้ง
- เบำหวำน
- มะเร็ง
ฯลฯ
3. รวบรวมข้อม้ลและ  ปั ญหำสุขภำพในชุมชน
เสนอแนวทำง แก้ไขปั ญหำ  แนวทำงแก้ไขปัญหำสุขภำพใน
สุขภำพในชุมชน ชุมชน
4. วำงแผนและจัดเวลำใน  กำรวำงแผนและจัดเวลำใน
กำร ออกกำำลังกำย
กำรออกกำำลังกำย กำรพัก
กำรพักผุอน และกำรสร้ำงเสริม
ผุอนและกำรสร้ำงเสริม
สมรรถภำพทำงกำย
สมรรถภำพทำงกำย
5. ทดสอบสมรรถภำพ  กำรทดสอบสมรรถภำพทำง
ทำงกำย และพัฒนำได้ตำม กำยแบบตุำง ๆ และกำรพัฒนำ
ควำมแตกตุำงระหวุำงบุคคล สมรรถภำพเพื่อสุขภำพ
 25

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง

ม.๔– 1. วิเครำะห์บทบำทและ  บทบำทและควำมรับผิดชอบ

ควำมรับผิดชอบของบุคคลทีมี่
ของบุคคล ที่มีตุอกำรสร้ำง
ม.๖ ตุอกำรสร้ำงเสริมสุขภำพและเสริมสุขภำพและกำรป้ องกันโรค
กำรป้ องกันโรคในชุมชน ในชุมชน
2. วิเครำะห์ อิทธิพลของ  อิทธิพลของสื่อโฆษณำเกี่ยว
กับสุขภำพ
สื่อโฆษณำเกี่ยวกับสุขภำพ
เพื่อกำรเลือกบริโภค  แนวทำงกำรเลือกบริโภค
อยุำงฉลำดและปลอดภัย
3. ปฏิบัติตนตำมสิทธิของ  สิทธิพ้ืนฐำนของผ้้บริโภค
ผ้้บริโภค และกฎหมำยที่เกี่ยวข้องกับกำร
คุ้มครองผ้้บริโภค
4. วิเครำะห์สำเหตุและ  สำเหตุของกำรเจ็บปุวยและกำร
ตำยของคนไทย เชุน โรคจำกกำร
เสนอแนวทำงกำรป้ องกัน
ประกอบอำชีพ โรคทำง
กำรเจ็บปุ วยและกำรตำย
พันธุกรรม
ของคนไทย
 แนวทำงกำรป้ องกันกำรเจ็บ
ปุ วย
5. วำงแผนและปฏิบัติ  กำรวำงแผนกำรพัฒนำ
ตำมแผน กำรพัฒนำ สุขภำพของตนเอง ครอบครัว
สุขภำพของตนเองและ
ครอบครัว
6. มีสุวนรุวมในกำรสุง  กำรมีสุวนรุวมในกำรสุงเสริม
และพัฒนำสุขภำพของบุคคลใน
เสริมและพัฒนำสุขภำพ
ชุมชน
ของบุคคลในชุมชน
7. วำงแผนและปฏิบัติ  กำรวำงแผนพัฒนำ
ตำมแผน กำรพัฒนำ สมรรถภำพทำงกำยและ
สมรรถภำพกำยและ สมรรถภำพกลไก
สมรรถภำพกลไก
 26

สาระที่ ๕ ความปลอดภัยในชีวิต
มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้ องกันและหลีกเลี่ยงปั จจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตุอ
สุขภำพ อุบัติเหตุ กำรใช้ยำ สำรเสพติด และควำม
รุนแรง
ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
ม. ๑ 1. แสดงวิธีปฐมพยำบำล  กำรปฐมพยำบำลและเคลื่อน
และเคลื่อนย้ำยผ้้ปุวยอยุำง ย้ำยผ้ป
้ ุ วยอยุำงปลอดภัย
ปลอดภัย - เป็ นลม - บำดแผล
- ไฟไหม้ - กระด้ก
หัก
- นำ ้ ำร้อนลวก ฯลฯ
2. อธิบำยลักษณะอำกำร  ลักษณะของผ้้ติดสำรเสพ
ติด
ของผ้้ติดสำรเสพติดและ
กำรป้ องกันกำรติดสำรเสพ  อำกำรของผ้้ติดสำรเสพติด
ติด  กำรป้ องกันกำรติดสำรเสพ
ติด
3. อธิบำยควำมสัมพันธ์  ควำมสัมพันธ์ของกำรใช้สำร
ของกำรใช้สำรเสพติดกับ เสพติดกับกำรเกิดโรค และ
อุบัติเหตุ
กำรเกิดโรคและอุบัติเหตุ
4. แสดงวิธีกำรชักชวนผ้้  ทักษะที่ใช้ในกำรชักชวนผ้้
อื่นให้ลด ละ เลิกสำรเสพติด
 27

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
อื่นให้ลด ละ เลิกสำรเสพ - ทักษะกำรคิดวิเครำะห์
ติด โดยใช้ทักษะตุำง ๆ
- ทักษะกำรสื่อสำร
- ทักษะกำรตัดสินใจ
- ทักษะกำรแก้ปัญหำ ฯลฯ
ม. ๒ 1. ระบุวิธีกำร ปั จจัยและ  วิธีกำร ปั จจัยและแหลุงที่ชุวย
แหลุงที่ชุวยเหลือ ฟื้ นฟ้ผ้ เหลือ ฟื้ นฟ้
ติดสำรเสพติด ผ้้ติดสำรเสพติด
2. อธิบำยวิธีกำรหลีก  กำรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
และ
เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงและ
สถำนกำรณ์เสี่ยง สถำนกำรณ์เสี่ยง
- กำรมัว่ สุม
- กำรทะเลำะวิวำท
- กำรเข้ำไปในแหลุงอบำยมุข
- กำรแขุงจักรยำนยนต์บนท้อง
ถนน
ฯลฯ
3. ใช้ทักษะชีวิตในกำร  ทักษะชีวิตในกำรป้ องกัน
ป้ องกันตนเองและหลีก ตนเอง (ทักษะปฏิเสธ ทักษะ
เลี่ยงสถำนกำรณ์คับขันที่ กำรตุอรอง ฯลฯ) และหลีก
อำจนำ ำไปสุ้อันตรำย
เลี่ยงสถำนกำรณ์คับขันที่อำจนำ ำ
ไปสุ้อันตรำย
ม. ๓ 1. วิเครำะห์ปัจจัยเสี่ยง  ปั จจัยเสี่ยง และพฤติกรรม
เสี่ยงตุอสุขภำพ
และพฤติกรรมเสี่ยงที่มีผล
ตุอสุขภำพและแนวทำง  แนวทำงกำรป้ องกันควำม
ป้ องกัน เสี่ยงตุอสุขภำพ
2. หลีกเลี่ยงกำรใช้ควำม  ปั ญหำและผลกระทบจำก
กำรใช้ควำมรุนแรง
รุนแรงและชักชวนเพื่อน
ให้หลีกเลี่ยงกำรใช้ควำม  วิธีหลีกเลี่ยงกำรใช้ควำม
รุนแรงในกำรแก้ปัญหำ รุนแรง
3. วิเครำะห์อิทธิพลของ  อิทธิพลของสื่อตุอ
พฤติกรรมสุขภำพและควำม
สื่อตุอพฤติกรรมสุขภำพ
และควำมรุนแรง รุนแรง (คลิปวิดีโอ กำรทะเลำะ
 28

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
วิวำท อินเทอร์เน็ต เกม ฯลฯ)

4. วิเครำะห์ควำมสัมพันธ์  ควำมสัมพันธ์ของกำรดื่ม
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ตุอ
ของกำรดื่มเครื่องดื่มที่มี
สุขภำพและกำรเกิดอุบัติเหตุ
แอลกอฮอล์ตุอสุขภำพและ
กำรเกิดอุบัติเหตุ
5. แสดงวิธีกำรชุวยฟื้ น  วิธีกำรชุวยฟื้ นคืนชีพ
คืนชีพอยุำงถ้กวิธี

ม.๔– 1. มีสุวนรุวมในกำร  กำรจัดกิจกรรมป้ องกัน

ควำมเสี่ยงตุอกำรใช้ยำ สำรเสพ
ม.๖ ป้ องกันควำมเสี่ยงตุอกำร ติด และควำมรุนแรง
ใช้ยำ กำรใช้สำรเสพติด
และควำมรุนแรง เพื่อ
สุขภำพของตนเอง
ครอบครัว และสังคม
2. วิเครำะห์ผลกระทบที่  กำรวิเครำะห์ผลกระทบที่
เกิดจำกกำรครอบครอง กำรใช้
เกิดจำกกำรครอบครอง
และกำรจำำหนุ ำยสำรเสพติด
กำรใช้และกำรจำำหนุ ำยสำร
เสพติด (ตนเอง ครอบครัว เศรษฐกิจ
สังคม)
 โทษทำงกฎหมำยที่เกิดจำก
กำรครอบครอง กำรใช้และกำร
จำำหนุ ำยสำรเสพติด
3. วิเครำะห์ปัจจัยที่มีผล  ปั จจัยที่มีผลตุอสุขภำพของ
คนไทยและเสนอแนวทำง
ตุอสุขภำพ หรือควำม
ป้ องกัน
รุนแรงของคนไทยและ
เสนอแนวทำงป้ องกัน
4. วำงแผน กำำหนด  กำรวำงแผน กำำหนดแนวทำง
แนวทำงลดอุบัติเหตุ และ ลดอุบัติเหตุ และสร้ำงเสริมควำม
สร้ำงเสริมควำมปลอดภัย ปลอดภัยในชุมชน
ในชุมชน
 29

ชัน
้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรููแกนกลาง
ม.๔– 5. มีสุวนรุวมในกำรสร้ำง  กิจกรรมกำรสร้ำงเสริมควำม
ปลอดภัย ในชุมชน
ม.๖ เสริมควำมปลอดภัยใน
ชุมชน
6. ใช้ทักษะกำรตัดสินใจ  ทักษะกำรตัดสินใจแก้ปัญหำ
ในสถำนกำรณ์ท่ีเสี่ยงตุอสุขภำพ
แก้ปัญหำในสถำนกำรณ์ท่ี
เสี่ยงตุอสุขภำพและควำม
รุนแรง
7. แสดงวิธีกำรชุวยฟื้ น  วิธีกำรชุวยฟื้ นคืนชีพอยุำงถ้ก
วิธี
คืนชีพอยุำงถ้กวิธี
 30

โครงสร้างรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรููส่ขศึกษาและพลศึกษา
ระดับมัธยมศึกษาตอนตูน

รายวิชาพื้นฐาน
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๑
พ ๒๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๑ จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
พ ๒๑๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๒ จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๒
พ ๒๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๓ จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
พ ๒๒๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๔ จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๓
พ ๒๓๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๕ จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
 31

พ ๒๓๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๖ จำานวน ๔๐

ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต

รายวิชาเพิ่มเติม
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๑
พ ๒๑๒๐๑ พลศึกษา ( เทบิลเทนนิ ส ) จำานวน
๔๐ ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
พ ๒๑๒๐๒ พลศึกษา ( เซปั กตะกร้อ ) จำานวน
๔๐ ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๒
พ ๒๒๒๐๑ พลศึกษา ( กรีฑา ) จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
พ ๒๒๒๐๒ พลศึกษา ( บาสเกตบอล ) จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๓
พ ๒๓๒๐๑ พลศึกษา ( วอลเลย์บอล ) จำานวน
๔๐ ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
พ ๒๓๒๐๒ พลศึกษา ( แบดมินตัน ) จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
 32

โครงสร้างรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรููส่ขศึกษาและพลศึกษา
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

รายวิชาพื้นฐาน
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๔
พ ๓๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๑ จำานวน ๒๐
ชัว่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต
พ ๓๑๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๒ จำานวน ๒๐
ชัว่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๕
พ ๓๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๓ จำานวน ๒๐
ชัว่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต
พ ๓๒๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๔ จำานวน ๒๐
ชัว่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๖
พ ๓๓๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๕ จำานวน ๒๐
ชัว่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต
พ ๓๓๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๖ จำานวน ๒๐
ชัว่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต

รายวิชาเพิ่มเติม
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๔
พ ๓๑๒๐๑ พลศึกษา ( การละเล่นพื้ นบ้าน เกม กีฬาไทย )
จำานวน ๔๐ ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
 33

พ ๓๑๒๐๒ พลศึกษา ( ยูโด ) จำานวน ๔๐

ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๕
พ ๓๒๒๐๑ พลศึกษา ( ลีลาศ ) จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
พ ๓๒๒๐๒ พลศึกษา ( แฮนด์บอล ) จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๖
พ ๓๓๒๐๑ พลศึกษา ( ฟุตซอล ) จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
พ ๓๓๒๐๒ พลศึกษา ( เปตอง ) จำานวน ๔๐
ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต

โครงสรูางหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรููส่ขศึกษาและพลศึกษา
พ่ทธศักราช 2553 โรงเรียนกระแชงวิทยา
้ พื้นฐาน พ่ทธศักราช 2551
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน

ระดั ภำคเรียนที่ 1 ภำคเรียนที่ 2

บ
ชัน
้ รำยวิชำ นก./ รำยวิชำ นก./
ชม. ชม.
 34

ม.1 วิชาพื้นฐาน วิชาพื้นฐาน

พ 21101 สุขศึกษำและ พ 21102 สุขศึกษำ
1.0 1.0
พลศึกษำ 1 และพลศึกษำ 2
(40) (40)
วิชาเพิ่มเติม วิชาเพิ่มเติม
พ 21201 เทเบิลเทนนิ ส พ 21202 เซปั กตะกร้อ
1.0 1.0
(40) (40)
ม.2 วิชาพื้นฐาน วิชาพื้นฐาน
พ 22101 สุขศึกษำและ พ 22102 สุขศึกษำ
1.0 1.0
พลศึกษำ 3 และพลศึกษำ 4
(40) (40)
วิชาเพิ่มเติม วิชาเพิ่มเติม
พ 22201 กรีฑำ พ 22202 บำสเกตบอล
1.0 1.0
(40) (40)
ม.3 วิชาพื้นฐาน วิชาพื้นฐาน
พ 23101 สุขศึกษำและ พ 23102 สุขศึกษำและ
1.0 1.0
พลศึกษำ 5 พลศึกษำ 6
(40) (40)
วิชาเพิ่มเติม วิชาเพิ่มเติม
พ 23201 วอลเลย์บอล พ 23202 แบดมินตัน
1.0 1.0
(40) (40)
ม.4 วิชาพื้นฐาน วิชาพื้นฐาน
พ 31101 สุขศึกษำและ พ 31102 สุขศึกษำและ
0.5 0.5
พลศึกษำ 1 พลศึกษำ 2
(20) (20)
วิชาเพิ่มเติม วิชาเพิ่มเติม
พ 31201 กำรละเลุนพื้น พ 31202 ย้โด
เมือง เกม และกีฬำไทย 1.0 1.0
(40) (40)
 35

ม.5 วิชาพื้นฐาน วิชาพื้นฐาน

พ 32101 สุขศึกษำและ พ 32102 สุขศึกษำและ
0.5 0.5
พลศึกษำ 3 พลศึกษำ 4
(20) (20)
วิชาเพิ่มเติม วิชาเพิ่มเติม
พ 32201 ลีลำศ พ 32202 แฮนด์บอล
1.0 1.0
(40) (40)
ม.6 วิชาพื้นฐาน วิชาพื้นฐาน
พ 33101 สุขศึกษำและ พ 33102 สุขศึกษำและ
0.5 0.5
พลศึกษำ 5 พลศึกษำ 6
(20) (20)
วิชาเพิ่มเติม วิชาเพิ่มเติม
พ 33201 ฟุตซอล พ 33202 เปตอง
1.0 1.0
(40) (40)

คำาอธิบายรายวิชา
รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 1 รหัสวิชา พ 21101
เวลา 40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 1
ชัน ภาคเรียนที่ 1
1.0 หนุ วยกิต

วิเครำะห์และอธิบำย เพื่อให้มีควำมร้้ควำมเข้ำใจระบบประสำทและ
ระบบตุอมไร้ทุอ ที่มีผลกำรเจริญเติบโตพัฒนำกำรของวัยรุุน สำมำรถ
ด้แลรักษำ ระบบประสำทและระบบตุอมไร้ทุอให้ทำำงำนตำมปกติ
สำมำรถประเมินภำวะกำรเจริญเติบโตทำงรุำงกำยของตนเองกับเกณฑ์
มำตรฐำน แสวงหำแนวทำงในกำรพัฒนำตนเองให้เจริญเติบโตสมวัย
ร้้จก
ั ปรับตัวตุอกำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำนรุำงกำย จิตใจ อำรมณ์ และ
พัฒนำกำรทำงเพศ มีทก ั ษะกำรปฏิเสธเพื่อป้ องกันตนเองจำกกำรถ้ก
ลุวงละเมิดทำงเพศ รวมทัง้ ร้้จกั เลือกรับประทำนอำหำรที่เหมำะสมกับวัย
และวิเครำะห์ปัญหำของโภชนำกำรที่มีผลตุอสุขภำพ และสำมำรถ
 36

ควบคุมนำ ้ ำหนั กของตนเองให้อยุ้ในเกณฑ์มำตรฐำน และสร้ำงเสริมและ

ปรับปรุงให้เป็ นผ้้ท่ีมีสุขภำพที่ดี สำมำรถอยุ้ในสังคมได้อยุำงมีควำมสุข
มีควำมร้้ควำมสำมำรถของตนเองตำมหลักกำรเคลื่อนไหวที่ใช้
ทักษะกลไกและทักษะพื้นฐำนอันนำ ำไปสุก ้ ำรพัฒนำทักษะกำรเลุนกีฬำ
ไทยและกีฬำสำกลทัง้ ประเภททีมและประเภทบุคคล โดยใช้ทักษะพื้น
ฐำนตำมชนิ ดกีฬำอยุำงละ 1 ชนิ ด รวมทัง้ กำรเข้ำรุวมกิจกรรม
นั นทนำกำรอยุำงน้ อย 1 กิจกรรม และนำ ำควำมร้้ท่ไี ด้ไปเชื่อมโยงกับวิชำ
อื่น และสร้ำงเสริมปรับปรุงสมรรถภำพทำงกำย

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
พ 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4
พ 2.1 ม.1/1 ม.1/2
พ 4.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4
พ 3.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3

รวม 13 ตัวชีว้ ัด

คำาอธิบายรายวิชา
รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 2 รหัสวิชา พ 21102
เวลา 40 ชั่วโมง
 37

้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 1
ชัน ภาคเรียนที่ 2
1.0 หนุ วยกิต

อธิบำยและแสดงวิธีกำรปฐมพยำบำลและเคลื่อนย้ำยผ้้ปุวยได้อยุำง
ปลอดภัย หลีกเลี่ยงจำกสำรเสพติดให้โทษ สำมำรถแนะนำ ำและบอก
ลักษณะอำกำรของผ้้ท่ีติดสำรเสพติด แนวทำงป้ องกันกำรติดสำรเสพ
ติด ควำมสัมพันธ์ของกำรใช้สำรเสพติดกับกำรเกิดโรคและอุบัติภัย
ตลอดจนเสนอแนะวิธีกำรชักชวนผ้้อ่ ืนให้ลด ละ เลิก สำรเสพติดโดยใช้
ทักษะตุำง ๆ เพื่อสุงเสริมคุณภำพชีวิตที่ดี
อธิบำยและปฏิบัติของกำรออกกำำลังกำยและเลุนกีฬำตำมควำม
ถนั ด ควำมสนใจ เพื่อให้มีสุขภำพดีอยุำงเต็มควำมสำมำรถพร้อมทัง้ มี
กำรประเมินกำรเลุนของตนเองและผ้้อ่ ืน โดยปฏิบัติตำมกฎ กติกำ และ
ข้อตกลงตำมชนิ ดกีฬำที่เลือกเลุน สำมำรถวำงแผนกำรุกและกำร
ป้ องกันในกำรเลุนกีฬำที่เลือกแนะนำ ำไปใช้ในกำรเลุนอยุำงเป็ นระบบ
พร้อมทัง้ รุวมมือในกำรเลุนกีฬำและทำำงำนเป็ นทีมอยุำงสนุกสนำน
นอกจำกนี้ ยังสำมำรถ วิเครำะห์เปรียบเทียบ และยอมรับควำมแตกตุำง
ระหวุำงวิธีกำรเลุนกีฬำของตนเองกับผ้้อ่ ืน

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
พ 5.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4
พ 3.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6

รวม 10 ตัวชีว้ ัด
 38

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชาเทเบิลเทนนิ ส รหัสวิชา พ 21201 เวลา
40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 1
ชัน ภาคเรียนที่ 1
1.0 หนุ วยกิต

ฝึ กสมรรถภำพทำงกำย กำรออกกำำลังกำย เกม

นั นทนำกำรและกีฬำ ปฏิบัติทักษะกำรเคลื่อนไหวในกำรเลุนเทนนิ ส
นั นทนำกำร ร้ก
้ ฎ กติกำ นำ ำไปใช้ได้อยุำงถ้กต้อง สุงเสริมสมรรถภำพ
ของตนเอง เพื่อนรุวมทีม เป็ นผ้้มีนำ้ำใจเป็ นนั กกีฬำ มีหลักกำร
เหตุผล เคำรพ กฎระเบียบ ข้อบังคับ มีกำรวำงแผนกำรเลุน มี
ควำมรับผิดชอบตุอตนเองและสุวนรวม มีควำมยุติธรรม สำมำรถ
ควบคุมตนเอง เข้ำใจตนเองและผ้้อ่ ืน ร้้จกั เลือกกิจกรรมที่ช่ ืนชอบ มี
นิ สัย ชอบออกกำำลังกำย

ผลการเรียนรูู
1. เพื่อให้ทรำบประวัติควำมเป็ นมำของเทนนิ สและกำรแขุงขัน
เทนนิ สในระดับตุำงๆ
2. เพื่อให้ร้กฎ กติกำ มำรยำทในกำรเป็ นผ้้เลุน ผ้้ชมที่ดี
3. เพื่อให้มีทักษะในกำรจับไม้ตีล้กโฟว์แฮนด์แบ็คแฮนด์ได้
4. เพื่อเคลื่อนที่ในกำรเข้ำหำล้กและตีล้กชนิ ดตุำง ๆ ได้ถ้กต้อง
5. เพื่อฝึ กทักษะกำรเลุนล้กวอลเลุย์โฟว์-แบ็คแฮนด์ได้
6. เพื่อให้มีทักษะในกำรเสิร์ฟล้กได้และรับล้กเสิร์ฟได้

7. นั กเรียนเกิดทักษะในกำรเลุนประเภทเดี่ยว ประเภทคุ้ได้
 39

8. นั กเรียนสำมำรถเป็ นผ้้บันทึกและตัดสินได้ มีนำ้ำใจนั กกีฬำ เพื่อ

พัฒนำคุณธรรมจริยธรรมและคุำนิ ยมสำมำรถนำ ำไปใช้ในชีวิต
ประจำำวันได้

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชาเซปั กตะกรูอ รหัสวิชา พ 21202 เวลา
40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 1
ชัน ภาคเรียนที่ 1
1.0 หนุ วยกิต

สมรรถภำพทำงกำย กำรออกกำำลังกำย เกม

นั นทนำกำรและกีฬำ ปฏิบัติทักษะกำรเคลื่อนไหวกีฬำเซปั กตะกร้อ ร้้
กฎ กติกำ ระเบียบ ข้อบังคับนำ ำไปใช้ได้อยุำงถ้กต้องสุงเสริม
สมรรถภำพของตนเอง เพื่อนรุวมทีม เป็ นผ้้มีนำ้ำใจนั กกีฬำ มีหลักกำร
เหตุผลเคำรพกฎ กติกำ ระเบียบ ข้อบังคับ มีกำรวำงแผนกำรเลุน มี
ควำมรับผิดชอบตุอตนเองและสุวนรุวมมีควำมยุติธรรม สำมำรถควบคุม
ตนเองเข้ำใจตนเองและผ้้อ่ ืนร้้จักเลือกกิจกรรมที่ช่ ืนชอบมีนิสัยชอบออก
กำำลังกำย
 40

ผลการเรียนรูู
1. เพื่อให้ทรำบประวัติควำมเป็ นมำของเซปั กตะกร้อ และกำรแขุงขัน
เซปั กตะกร้อ ในระดับตุำงๆ
2. เพื่อให้ร้กฎ กติกำ มำรยำทในกำรเป็ นผ้้เลุน ผ้้ชมที่ดี
3. เพื่อให้มีทักษะในกำรเคลื่อนไหวกำรเลุนเซปั กตะกร้อ
4. เพื่อเคลื่อนที่ในกำรเข้ำหำล้กชนิ ดตุำง ๆ ได้ถ้กต้อง
5. เพื่อฝึ กทักษะกำรเลุนล้กข้ำงเท้ำด้ำนในได้
6. เพื่อฝึ กทักษะกำรเลุนล้กหลังเท้ำได้
7. เพื่อฝึ กทักษะกำรเลุนล้กด้วยเขุำได้
8. เพื่อฝึ กทักษะกำรเลุนล้กด้วยศีรษะได้
9. เพื่อให้มีทักษะในกำรเสิร์ฟล้กและรับล้กเสิร์ฟได้
10. เพื่อฝึ กทักษะกำรเลุนล้กหน้ ำตำขุำยได้
11. นั กเรียนเกิดทักษะในกำรเลุนประเภททีม

12. นั กเรียนสำมำรถเป็ นผ้้บันทึกและตัดสินได้ มีนำ้ำใจนั กกีฬำ

เพื่อพัฒนำคุณธรรมจริยธรรมและคุำนิ ยมสำมำรถนำ ำไปใช้ในชีวิต
ประจำำวันได้

คำาอธิบายรายวิชา
รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 3 รหัสวิชา พ 22101
เวลา 40 ชั่วโมง
 41

้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 2
ชัน ภาคเรียนที่ 1
1.0 หนุ วยกิต

ศึกษำและอธิบำยกำรเปลี่ยนแปลง ปั จจัยที่มีผลกระทบตุอกำร
เจริญเติบโต และพัฒนำกำรทำงด้ำนรุำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม สติ
ปั ญญำในวัยรุุน วิธีป้องกันตนเอง หลีกเลี่ยงจำกโรคติดตุอทำงเพศ
สัมพันธ์ เอดส์ กำรตัง้ ครรภ์โดยไมุพึงประสงค์ และควำมสำำคัญควำม
เสมอภำค กำรวำงตัวได้อยุำงเหมำะสมและวิเครำะห์ปัญหำปั จจัยที่มี
อิทธิพลตุอเจตคติ และผลกระทบตุอกำรมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน
มีควำมร้้และทักษะเกี่ยวกับกลไก และกำรเคลื่อนไหวในกำรเลุน
กีฬำไทยและกีฬำสำกลทัง้ ประเภทบุคคลและทีมอยุำงละ 1 ชนิ ด ที่
เหมำะสมกับตนเอง และสำมำรถเปรียบเทียบประสิทธิภำพกำร
เคลื่อนไหวที่มีผลตุอกำรเลุนกีฬำในชีวิตประจำำวัน และอธิบำยกำร
เปลี่ยนแปลงทำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม และสติปัญญำที่เกิดจำก
กำรออกกำำลังกำย เลุนกีฬำตำมถนั ดและสนใจ พร้อมทัง้ วิเครำะห์ควำม
แตกตุำงระหวุำงบุคคลเพื่อพัฒนำตนเอง

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
พ 1.1 ม.2/1 ม.2/2
พ 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
พ 3.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3
พ 3.2 ม.2/1 ม.2/2

รวม 11 ตัวชีว้ ัด
 42

คำาอธิบายรายวิชา
รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 4 รหัสวิชา พ 22102
เวลา 40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 2
ชัน ภาคเรียนที่ 2
1.0 หนุ วยกิต

ศึกษำอธิบำย และวิเครำะห์ กำรเลือกใช้บริกำรทำงสุขภำพ กำร

ใช้เทคโนโลยีตุอควำมเจริญก้ำวหน้ ำทำงกำรแพทย์ท่ีมีผลตุอสุขภำพและ
ควำมสัมพันธ์ภำวะสมดุลระหวุำงสุขภำพทำงกำยและสุขภำพทำงจิต
และบอกอำกำรผ้้ท่ีมีปัญหำสุขภำพจิตพร้อมทัง้ แนะวิธีปฏิบัติตนเพื่อ
จัดกำรกับอำรมณ์กับควำมเครียด รวมทัง้ พัฒนำสมรรถภำพทำงกำย
และหำแหลุงข้อม้ลเพื่อชุวยเหลือ ฟื้ นฟ้ผ้ท่ีติดสำรเสพติด และหลีกเลี่ยง
พฤติกรรมที่ป้องกันตนเองให้พ้นจำกสถำนกำรณ์ท่ีคับขันอำจนำ ำไปสุ้
อันตรำย
มีควำมร้้และทักษะกำรรุวมกิจกรรมนั นทนำกำรอยุำงน้ อย 1
กิจกรรม เพื่อไปใช้ในชีวิตประจำำวันและร้้จก
ั ระเบียบวินัย กฎ กติกำ
กำรวำงแผนกำรรุก กำรป้ องกัน ในกำรเลุนกีฬำเป็ นทีมได้อยุำงเหมำะ
สมกับตนเอง และนำ ำผลกำรเลุนกีฬำมำฝึ กฝนด้วยควำมมุุงมัน ่ และมี
กำรพัฒนำสมรรถภำพทำงกำยให้เป็ นไปตำมที่กำำหนด

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
พ 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7
พ 5.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3
พ 3.1 ม.2/4
 43

พ 3.2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5

รวม 14 ตัวชีว้ ัด

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชากรีฑา รหัสวิชา พ 22201 เวลา
40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 2
ชัน ภาคเรียนที่ 1
1.0 หนุ วยกิต

อธิบำยลักษณะและธรรมชำติของกีฬำกรีฑำ กติกำ
มำรยำท วิธีเลุน กำรเคลื่อนไหว กำรออกกำำลังกำยด้วยกำรเลุนกีฬำ
กรีฑำ ฝึ กปฏิบัติเกี่ยวกับกำรเคลื่อนไหวรุำงกำยในกำรออกกำำลังกำย
ทักษะกำรเลุนกีฬำกรีฑำ
เพื่อให้มีควำมร้้ ควำมเข้ำใจ และเห็นคุณคุำของ
สุขภำพ สมรรถภำพ ควำมปลอดภัยในกำรเลุนกีฬำกรีฑำของตนเอง
และของผ้้อ่ ืน สำมำรถออกกำำลังกำยและเลุนกีฬำกรีพำเพื่อนำ ำไปใช้ออก
กำำลังกำยในชีวิตประจำำวันและเผยแพรุควำมร้้ให้กับผ้้อ่ ืนได้
 44

ผลการเรียนรูู
1. นั กเรียนสำมำรถอธิบำยประวัติควำมเป็ นมำและวิวัฒนำกำรของ
กีฬำกรีฑำได้
2. นั กเรียนสำมำรถอธิบำยและปฏิบัติกำรอบอุุนรุำงกำยและทุำกำย

บริหำรกุอน-หลัง กำรเลุนกีฬำกรีฑำอยุำงถ้กต้อง
3. นั กเรียนสำมำรถปฏิบัติทักษะกำรทรงตัวและเคลื่อนไหวเบื้องต้น
ได้อยุำงถ้กต้อง
4. นั กเรียนสำมำรถปฏิบัติทักษะกำรเคลื่อนที่ในแบบตุำง ๆ ของกีฬำ
กรีฑำได้
5. นั กเรียนสำมำรถปฏิบัติทักษะกำรกีฬำกรีฑำในร้ปแบบตุำง ๆ ตำม
ทักษะของกีฬำกรีฑำ
ได้อยุำงถ้กต้อง
6. นั กเรียนสำมำรถกำำหนดและวำงแผนกำรฝึ กในกีฬำกรีฑำทัง ้
ประเภทลุ้และลำนได้
7. นั กเรียนสำมำรถเลุนกีฬำกรีฑำในร้ปแบบของกำรแขุงขันได้
8. นั กเรียนร้้และเข้ำใจ กฎ กติกำ มำรยำท สำมำรถปฏิบัติตำมกฎ
ระเบียบของกีฬำกรีฑำ ร้้แพ้ ร้้ชนะ ร้อ
้ ภัย ซึ่งนำ ำไปสุ้กำรใช้
ชีวิตประจำำวันได้

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชา บาสเกตบอล รหัสวิชา พ 22202 เวลา
40 ชั่วโมง
 45

้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 2
ชัน ภาคเรียนที่ 2
1.0 หนุ วยกิต

วิเครำะห์หลักกำรเคลื่อนไหวและร้ปแบบกำรเคลื่อนไหว ที่ใช้ใน
้ งบอล กำรับ-สุงบอล กำรยิงประต้ กำรเป็ น
บำสเกตบอล คือ กำรเลีย
ฝุ ำยรุก-ฝุ ำยรับ ได้สร้ำงสมรรถภำพทำงรุำงกำยเพื่อสุขภำพของตนเองได้
เห็นคุณคุำของกำรออกกำำลังกำยและกำรเข้ำรุวมกิจกรรมกีฬำชนิ ดตุำง ๆ
เคำรพสิทธิและปฏิบัติตำมกฎ กติกำกำรเลุนอยุำงเครุงครัดแสดงควำมมี
นำ ้ ำใจนั กกีฬำ และชื่นชมในสุนทรียภำพของกำรออกกำำลังกำยและกำร
เลุนกีฬำเห็นคุณคุำของกำรนำ ำประสบกำรณ์ท่ีได้รบ ั จำกกิจกรรมกำร
แขุงขันไปใช้ในชีวิตประจำำวัน

ผลการเรียนรูู
1. เพื่อให้ทรำบประวัติควำมเป็ นมำของบำสเกตบอล และกำรแขุงขัน
บำสเกตบอล ในระดับตุำงๆ
2. เพื่อให้ร้กฎ กติกำ มำรยำทในกำรเป็ นผ้้เลุน ผ้้ชมที่ดี
3. เพื่อให้มีทักษะในกำรเคลื่อนไหวกำรเลุนบำสเกตบอล

4. เพื่อเคลื่อนที่ในกำรเข้ำหำล้กชนิ ดตุำง ๆ ได้ถ้กต้อง

5. เพื่อฝึ กทักษะกำรสุงล้กสองมือระดับอกได้

6. เพื่อฝึ กทักษะกำรสกัดกัน ้ ได้

7. เพื่อฝึ กทักษะกำรเป็ นฝุ ำยรุกและฝุ ำยรับได้
8. เพื่อให้มีทักษะในกำรยิงประต้ได้

9. นั กเรียนเกิดทักษะในกำรเลุนประเภททีม
10. นั กเรียนสำมำรถเป็ นผ้้บันทึกและตัดสินได้ มีนำ้ำใจนั กกีฬำ
เพื่อพัฒนำคุณธรรมจริยธรรมและคุำนิ ยมสำมำรถนำ ำไปใช้ในชีวิต
ประจำำวันได้
 46

คำาอธิบายรายวิชา
รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 5 รหัสวิชา พ 23101
เวลา 40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 3
ชัน ภาคเรียนที่ 1
1.0 หนุ วยกิต

อธิบำยและเปรียบเทียบกำรเปลี่ยนแปลงพัฒนำกำรด้ำนรุำงกำย
จิตใจ อำรมณ์ สังคม และสติปัญญำของวัยตุำง ๆ วิเครำะห์อิทธิพลของ
สื่อโฆษณำและควำมคำดหวังของสังคมตุอกำรเปลี่ยนแปลงและ
พัฒนำกำรของวัยรุุน ศึกษำอธิบำยถึงองค์ประกอบของ อนำมัยแมุและ
เด็ก กำรวำงแผนครอบครัว วิเครำะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบตุอกำรตัง้
ครรภ์และสำเหตุท่ีทำำให้เกิดควำมขัดแย้งในครอบครัวพร้อมทัง้ เสนอ
แนวทำงกำรป้ องกันและแก้ไข
มีควำมร้้ ทักษะและปฏิบัติกำรเคลื่อนไหวในกำรเลุนกีฬำไทย
กีฬำสำกล และกำรเลุนเกม เพื่อเสริมสร้ำงสุขภำพที่เหมำะสมกับ
ตนเองและทีม เป็ นผ้้เลุนและผ้้ด้กีฬำที่ดี มีนำ้ำใจนั กกีฬำ ร้้กฎ
กติกำ วิธีกำรรุกกำรป้ องกันในกำรเลุนกีฬำที่เหมำะสมกับทีม เพื่อไป
พัฒนำคุณภำพชีวิตของตน ในสังคม

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
พ 1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3
พ 2.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3
พ 3.1 ม.3/1 ม.3/2
พ 3.2 ม.3/3 ม.3/4
 47

รวม 10 ตัวชีว้ ัด

คำาอธิบายรายวิชา
รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 6 รหัสวิชา พ 23102
เวลา 40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 3
ชัน ภาคเรียนที่ 2
1.0 หนุ วยกิต

อธิบำยกำรเรียนร้้โภชนำกำรที่เหมำะสมกับวันตุำง ๆ โดยคำำนึ งถึง

ควำมประหยัด สุขอนำมัยประโยชน์และคุณคุำทำงโภชนำกำร รวบรวม
ข้อม้ลและเสนอแนวทำงกำรป้ องกันโรคที่เป็ นสำเหตุของกำรเจ็บปุ วย
และเสียชีวิตของคนไทยพร้อมทัง้ กำรแก้ปัญหำสุขภำพของชุมชน โดยมี
กำรวำงแผนจัดเวลำในกำรออกกำำลังกำย กำรพักผุอน เพื่อเสริมสร้ำง
สมรรถภำพทำงกำย
วิเครำะห์และศึกษำปั จจัยและพฤติกรรมเสี่ยงที่มีผลเสียตุอสุขภำพ
ตลอดจนหำแนวทำงป้ องกันแก้ไข ศึกษำให้เข้ำใจถึงสำเหตุและผลที่เกิด
จำกควำมรุนแรงพร้อมทัง้ เสนอแนวทำงป้ องกันแก้ไข พฤติกรรมกำรใช้
สื่อที่มีผลตุอสุขภำพและควำมรุนแรง รวมถึงผลเสียหำยจำกอุบัติเหตุท่ีมี
 48

สำเหตุท่ีมีสำเหตุมำจำกกำรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เรียนร้้ฝึกฝน
วิธีก้ชีพแกุผ้ท่ีอยุ้ในสภำวะ คับขัน
มีควำมร้้ ทักษะและปฏิบัติกำรรุวมกิจกรรมนั นทนำกำรและนำ ำ
ควำมร้้ไปขยำยผลให้กับผ้้อ่ ืน สำมำรถนำ ำไปสุ้ในกำรออกกำำลังกำยและ
เลุนกีฬำอยุำงสมำ่ำเสมอเพื่อนำ ำไปพัฒนำคุณภำพชีวิตของตนเอง โดย
กำรออกกำำลังกำยและเลุนกีฬำอยุำงสมำ่ำเสมอ และเสนอผลกำรพัฒนำ
สุขภำพของตนเองโดยกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย เพื่อพัฒนำได้
ตำมควำมแตกตุำงระหวุำงบุคคล

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
พ 4.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5
พ 5.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5
พ 3.1 ม.3/3
พ 3.2 ม.3/2 ม.3/5

รวม 13 ตัวชีว้ ัด

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชาวอลเลย์บอล รหัสวิชา พ 23201 เวลา
40 ชั่วโมง
 49

้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 3
ชัน ภาคเรียนที่ 1
1.0 หนุ วยกิต

วิเครำะห์หลักกำรเคลื่อนไหวและร้ปแบบกำรเคลื่อนไหว ที่ใช้ใน
กีฬำวอลเลย์บอล คือ กำรเลุนล้กมือลุำง มือบน กำรสกัดกัน
้ กำรเสิร์ฟ
กำรเป็ นฝุ ำยรุก-ฝุ ำยรับ ได้สร้ำงสมรรถภำพทำงรุำงกำยเพื่อสุขภำพของ
ตนเองได้เห็นคุณคุำของกำรออกกำำลังกำยและกำรเข้ำรุวมกิจกรรมกีฬำ
ชนิ ดตุำง ๆ เคำรพสิทธิและปฏิบัติตำมกฎ กติกำกำรเลุนอยุำงเครุงครัด
แสดงควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำ และชื่นชมในสุนทรียภำพของกำรออกกำำลัง
กำยและกำรเลุนกีฬำเห็นคุณคุำของกำรนำ ำประสบกำรณ์ท่ีได้รับจำก
กิจกรรมกำรแขุงขันไปใช้ในชีวิตประจำำวัน

ผลการเรียนรูู
1. เพื่อให้ทรำบประวัติควำมเป็ นมำของวอลเลย์บอล และกำรแขุงขัน
วอลเลย์บอล ในระดับตุำงๆ
2. เพื่อให้ร้กฎ กติกำ มำรยำทในกำรเป็ นผ้้เลุน ผ้้ชมที่ดี
3. เพื่อให้มีทักษะในกำรเคลื่อนไหวกำรเลุนวอลเลย์บอล
4. เพื่อเคลื่อนที่ในกำรเข้ำหำล้กชนิ ดตุำง ๆ ได้ถ้กต้อง
5. เพื่อฝึ กทักษะกำรเลุนล้กสองมือลุำงได้
6. เพื่อฝึ กทักษะกำรเลุนล้กสองมือบนได้
7. เพื่อฝึ กทักษะกำรสกัดกัน
้ ได้
8. เพื่อฝึ กทักษะกำรเสิร์ฟและกำรรับล้กเสิร์ฟได้
9. เพื่อให้มีทักษะในกำรเลุนล้กหน้ ำตำขุำยได้
10. นั กเรียนเกิดทักษะในกำรเลุนประเภททีม
11. นั กเรียนสำมำรถเป็ นผ้้บันทึกและตัดสินได้ มีนำ้ำใจนั กกีฬำ
เพื่อพัฒนำคุณธรรมจริยธรรมและคุำนิ ยมสำมำรถนำ ำไปใช้ในชีวิต
ประจำำวันได้
 50

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชา แบดมินตัน รหัสวิชา พ 23202 เวลา
40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 3
ชัน ภาคเรียนที่ 2
1.0 หนุ วยกิต

วิเครำะห์หลักกำรเคลื่อนไหวและร้ปแบบกำรเคลื่อนไหว ที่ใช้ใน
แบดมินตัน คือกำรตีล้กหน้ ำมือ-หลังมือ กำรสุงล้ก กำรเลุนล้กตบ
กำรเลุนล้กดำด กำรเลุนล้กหยอด กำรจับไม้ ได้สร้ำงสมรรถภำพทำง
รุำงกำยเพื่อสุขภำพของตนเองได้เห็นคุณคุำของกำรออกกำำลังกำยและ
กำรเข้ำรุวมกิจกรรมกีฬำชนิ ดตุำง ๆ เคำรพสิทธิและปฏิบัติตำมกฎ กติกำ
กำรเลุนอยุำงเครุงครัดแสดงควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำ และชื่นชมใน
สุนทรียภำพของกำรออกกำำลังกำยและกำรเลุนกีฬำเห็นคุณคุำของ
กำรนำ ำประสบกำรณ์ท่ีได้รบ
ั จำกกิจกรรมกำรแขุงขันไปใช้ในชีวิตประจำำ
วัน

ผลการเรียนรูู
1. วิเครำะห์ร้ปแบบกำรเคลื่อนไหวและนำ ำไปใช้ในแบดมินตันได้
2. สร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำยเพื่อสุขภำพของตนเองได้
3. เห็นคุณคุำของกำรออกกำำลังกำยและกำรเข้ำรุวมกิจกรรมกีฬำ
ชนิ ดตุำง ๆ
4. เพื่อให้ทรำบประวัติควำมเป็ นมำของวอลเลย์บอล และกำรแขุงขัน
วอลเลย์บอล ในระดับตุำงๆ
5. เพื่อให้ร้กฎ กติกำ มำรยำทในกำรเป็ นผ้้เลุน ผ้้ชมที่ดี
 51

6. เพื่อฝึ กทักษะกำรเลุนล้กหน้ ำมือได้

7. เพื่อฝึ กทักษะกำรเลุนล้กหลังมือได้
8. เพื่อฝึ กทักษะกำรเสิร์ฟและกำรรับล้กเสิร์ฟได้
9. เพื่อให้มีทักษะในกำรเลุนล้กหน้ ำตำขุำยได้
10. นั กเรียนเกิดทักษะในกำรเลุนประเภทเดี่ยวและคุ้
11. แสดงควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำ และชื่นชมในสุนทรียภำพของ
กำรออกกำำลังกำยและกำรเลุนกีฬำ
12. นั กเรียนสำมำรถเป็ นผ้้บันทึกและตัดสินได้ มีนำ้ำใจนั กกีฬำ
เพื่อพัฒนำคุณธรรมจริยธรรมและคุำนิ ยมสำมำรถนำ ำไปใช้ในชีวิต
ประจำำวันได้

คำาอธิบายรายวิชา
รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 1 รหัสวิชา พ 31101
เวลา 20 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 4
ชัน ภาคเรียนที่ 1
0.5 หนุ วยกิต

ศึกษำวิเครำะห์และอธิบำยกระบวนกำรสร้ำงเสริมดำำรง
ประสิทธิภำพกำรทำำงำนของระบบผิวหนั ง โครงสร้ำงรุำงกำย และระบบ
กล้ำมเนื้ อ วำงแผนปฏิบัติด้แลสุขภำพตำมภำวกำรณ์เจริญเติบโตและ
พัฒนำกำรของตนเอง กำรแก้ปัญหำควำมขัดแย้งเรื่องเพศภำยใน
ครอบครัว และมีบทบำทกำรสร้ำงเสริมสุขภำพและกำรป้ องกันโรคใน
ชุมชน รวมถึงอิทธิพลของสื่อโฆษณำเกี่ยวกับสุขภำพเพื่อกำรเลือก
บริโภค และปฏิบัติตนตำมสิทธิของผ้้บริโภค มีสุวนรุวมในกำรป้ องกัน
 52

ควำมเสี่ยงและผลกระทบที่เกิดจำกกำรใช้ยำ สำรเสพติด ควำมรุนแรง

เพื่อสุขภำพของตนเอง ครอบครัวและสังคมรวมถึงแสดงวิธีกำรชุวยฟื้ น
คืนชีพอยุำงถ้กวิธี

มาตรฐานการเรียนรูู/ตัวชีว้ ัด
พ 1.1 ม.4/1 ม.4/2
พ 2.1 ม.4/3
พ 4.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3
พ 5.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/7

รวม 9 ตัวชีว้ ัด

คำาอธิบายรายวิชา
 53

รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 2 รหัสวิชา พ 31102

เวลา 20 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 4
ชัน ภาคเรียนที่ 2
0.5 หนุ วยกิต

มีควำมร้้ ทักษะในกำรเคลื่อนไหว กิจกรรมทำงกำย กำรเลุนเกม

และกีฬำ ใช้ควำมสำมำรถของตนในกำรเพิ่มศักยภำพของทีม ตุอผ้้อ่ ืน
และสังคม เลุนกีฬำสำกลประเภทบุคคล/คุ้ 1 ชนิ ด แสดงกำร
เคลื่อนไหวได้อยุำงสร้ำงสรรค์ เข้ำรุวมกิจกรรมนั นทนำกำรนอก
โรงเรียนเพื่อพัฒนำคุณภำพชีวิตของตนและสังคม รักกำรออกกำำลังกำย
กำรเลุนเกม กำรเลุนกีฬำ เป็ นประจำำอยุำงสมำ่ำเสมอ มีวินัย เคำรพ
สิทธิ กฎ กติกำ มีนำ้ำใจนั กกีฬำมีจิตวิญญำณในกำรแขุงขัน และชื่นชม
ในสุนทรีภำพของกำรกีฬำและวำงแผนปฏิบัติตำมแผนกำรพัฒนำ
สมรรถภำพทำงกำย

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
พ 3.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5
พ 3.2 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4
พ 4.1 ม.4/7

รวม 10 ตัวชีว้ ัด
 54

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชาการละเลุนพื้นเมืองและกีฬาไทย รหัสวิชา พ 31201
เวลา 40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 4
ชัน ภาคเรียนที่ 1
1.0 หนุ วยกิต

วิเครำะห์หลักกำรเคลื่อนไหวและร้ปแบบกำรเคลื่อนไหว ที่ใช้ใน
กำรละเลุนพื้นเมืองและกีฬำไทย คือกำรละเลุนพื้นเมืองไทย มวยไทย
(เกมและเกมนำ ำ กิจกรรมนั นทนำกำร) ได้ สร้ำงเสริมสมรรถภำพทำง
กำยเพื่อสุขภำพของตนเองได้เห็นคุณคุำของกำรออกกำำลังกำยและกำร
เข้ำรุวมกิจกรรมกีฬำชนิ ดตุำง ๆ เคำรพสิทธิและปฏิบัติตำมกติกำกำรเลุน
อยุำงเครุงครัดแสดงควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำ และชื่นชมในสุนทรียภำพของ
กำรออกกำำลังกำยและกำรเลุนกีฬำเห็นคุณคุำของกำรนำ ำประสบกำรณ์ท่ี
ได้รับจำกกิจกรรมกำรแขุงขันกีฬำไปใช้ในชีวิตประจำำวัน

ผลการเรียนรูู
1. วิเครำะห์ร้ปแบบกำรเคลื่อนไหวและนำ ำไปใช้ในกำรละเลุน
พื้นเมืองและกีฬำไทย เกมและเกมนำ ำได้
2. สร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำยเพื่อสุขภำพของตนเองได้
3. เห็นคุณคุำของกำรออกกำำลังกำยและกำรเข้ำรุวมกิจกรรม
กีฬำชนิ ดตุำง ๆ
 55

4. เคำรพสิทธิแ์ ละปฏิบัติตำมกฎ กติกำกำรเลุนอยุำงเครุงครัด

5. แสดงควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำ และชื่นชมในสุนทรียภำพของ
กำรออกกำำลังกำยและกำรเลุน
กีฬำ
6. เห็นคุณคุำของกำรนำ ำประสบกำรณ์ท่ีได้รับจำกกิจกรรมกำร
แขุงขันกีฬำไปใช้ใน
ชีวิตประจำำวัน

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชา ยูโด รหัสวิชา พ 31202 เวลา
40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 4
ชัน ภาคเรียนที่ 2
1.0 หนุ วยกิต

สมรรถภำพทำงกำย กำรออกกำำลังกำย เกม

นั นทนำกำร และกีฬำปฏิบัติทักษะ กำรเคลื่อนไหวในกำรเลุน
ย้โด ร้ก
้ ฎ กติกำ นำ ำไปใช้ได้อยุำงถ้กต้องสุงเสริมสมรรถภำพของตนเอง
 56

เพื่อนรุวมทีม เป็ นผ้้มีนำ้ำใจนั กกีฬำ มีหลักกำรเหตุผลเคำรพกฎ กติกำ

ระเบียบ ข้อบังคับ มีกำรวำงแผนกำรเลุน มีควำมรับผิดชอบตุอตนเอง
และสุวนรุวมมีควำมยุติธรรม สำมำรถควบคุมตนเองเข้ำใจตนเองและผ้้
อื่นร้้จก
ั เลือกกิจกรรมที่ช่ ืนชอบมีนิสัยชอบออกกำำลังกำย

ผลการเรียนรูู
1. ร้้ถึงประวัติควำมเป็ นมำและกำรวิวัฒนำกำรของย้โดได้
2. ร้้และเข้ำใจปฏิบัติกำรเก็บด้แลรักษำอุปกรณ์ได้
3. บอกประโยชน์ของกำรเลุนกีฬำย้โดและปฏิบัติตนเป็ นผ้้มี
มำรยำทในกำรเลุนและผ้้ด้ท่ีดีได้
4. ปฏิบัติกำรอบอุุนรุำงกำยกุอนและหลังกำรเลุนย้โดได้
5. ปฏิบัติทักษะเบื้องต้นกำรล้ม กำรทำำให้คุ้เสียกำรทรงตัวและ
กำรเคลื่อนที่ของย้โด ได้อยุำงถ้กต้อง
6. ปฏิบัติทักษะกำรทุุมด้วยเทคนิ คกำรใช้ขำได้อยุำงถ้กต้อง
7. ปฏิบัติทักษะกำรทุุมด้วยเทคนิ คกำรใช้สะโพกได้อยุำงถ้กต้อง
8. ปฏิบัติทักษะกำรทุุมด้วยเทคนิ คกำรใช้แขนและหัวไหลุได้
อยุำงถ้กต้อง
9. ปฏิบัติทักษะกำรทุุมด้วยเทคนิ คกำรนอนหงำยและนอน
ตะแคงทุุมได้อยุำงถ้กต้อง
10. ปฏิบัติทักษะด้วยเทคนิ คกำรจับยึดและกำรทำำให้ยอมจำำนนได้
อยุำงถ้กต้อง
11. เคำรพสิทธิแ์ ละปฏิบัติตำมกฎ กติกำกำรเลุนอยุำงเครุงครัด
12. นั กเรียนสำมำรถเป็ นผ้้บันทึกและตัดสินได้ มีนำ้ำใจนั กกีฬำ
เพื่อพัฒนำคุณธรรมจริยธรรมและคุำนิ ยมสำมำรถนำ ำไปใช้ในชีวิตประจำำ
วันได้
 57

คำาอธิบายรายวิชา
รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 3 รหัสวิชา พ 32101
เวลา 20 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 5
ชัน ภาคเรียนที่ 1
0.5 หนุ วยกิต

ศึกษำ วิเครำะห์กระบวนกำรสร้ำงเสริมและดำำรงประสิทธิภำพของ
กำรทำำงำนของระบบไหลเวียนโลหิต ระบบไหลเวียนนำ ้ ำเหลือ ระบบ
หำยใจ ระบบยุอยอำหำร และระบบขับถุำย รวมถึงอิทธิพลของ
ครอบครัว เพื่อน สังคม วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมอื่น ๆ ที่มีผลตุอ
พฤติกรรมทำงเพศและกำรดำำเนิ นชีวิต หำ สำเหตุและกำรป้ องกันกำร
เจ็บปุ วยและกำรตำยของคนไทย และปั จจัยที่มีผลตุอสุขภำพหรือควำม
รุนแรงของคนไทย กำรเกิดอุบัติเหตุและควำมปลอดภัยในชุมชน เพื่อ
ตระหนั กถึงควำมสำำคัญสำมำรถวำงแผน ด้แลพัฒนำสุขภำพ และหำ
แนวทำงป้ องกัน เพื่อให้มีสุขภำพที่ดี สำมำรถนำ ำไปใช้ในชีวิตประจำำวัน
ได้

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
พ 1.1 ม.4/1
พ 2.1 ม.4/1 ม.4/2
พ 4.1 ม.4/4 ม.4/5
พ 5.1 ม.4/3 ม.4/4

รวม 7 ตัวชีว้ ัด
 58

คำาอธิบายรายวิชา
รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 4 รหัสวิชา พ 32102
เวลา 20 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 5
ชัน ภาคเรียนที่ 2
0.5 หนุ วยกิต

มีควำมร้้ ทักษะในกำรเคลื่อนไหว กิจกรรมทำงกำย กำรเลุนเกม

และกีฬำ ใช้ควำมสำมำรถของตนในกำรเพิ่มศักยภำพของทีม ตุอผ้้อ่ ืน
และสังคม เลุนกีฬำสำกลประเภทบุคคล/คุ้ 1 ชนิ ด แสดงกำร
เคลื่อนไหวได้อยุำงสร้ำงสรรค์ เข้ำรุวมกิจกรรมนั นทนำกำรนอก
โรงเรียนเพื่อพัฒนำคุณภำพชีวิตของตนและสังคม รักกำรออกกำำลังกำย
กำรเลุนเกม และกำรเลุนกีฬำ เป็ นประจำำอยุำงสมำ่ำเสมอ มีวินัย เคำรพ
สิทธิ กฎ กติกำ มีนำ้ำใจนั กกีฬำมีจิตวิญญำณในกำรแขุงขันและชื่นชม
ในสุนทรีภำพของกำรกีฬำและวำงแผนปฏิบัติตำมแผนกำรพัฒนำ
สมรรถภำพทำงกำย

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
พ 3.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5
 59

พ 3.2 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4

พ 4.1 ม.4/7

รวม 10 ตัวชีว้ ัด

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชา ลีลาศ รหัสวิชา พ 32201 เวลา
40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 5
ชัน ภาคเรียนที่ 2
1.0 หนุ วยกิต
 60

วิเครำะห์หลักกำรเคลื่อนไหวและร้ปแบบกำรเคลื่อนไหว ที่ใช้ใน
กำรลีลำศ คือกำรยืน กำรก้ำว กำรเต้นรำำจังหวะตุำงๆ เชุน จังหวะบีกิน
ชะชะชุำ วอลล์ ควิกสเตป แทงโก้ รุมบ้ำ แซมบ้ำ ได้สร้ำงสมรรถภำพ
ทำงรุำงกำยเพื่อสุขภำพของตนเองได้เห็นคุณคุำของกำรออกกำำลังกำย
และกำรเข้ำรุวมกิจกรรมกีฬำชนิ ดตุำง ๆ เคำรพสิทธิและปฏิบัติตำมกฎ
กติกำกำรเลุนอยุำงเครุงครัดแสดงควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำ และชื่นชมใน
สุนทรียภำพของกำรออกกำำลังกำยและกำรเลุนกีฬำเห็นคุณคุำของ
กำรนำ ำประสบกำรณ์ท่ีได้รบ
ั จำกกิจกรรมกำรแขุงขันไปใช้ในชีวิตประจำำ
วัน

ผลการเรียนรูู
1. วิเครำะห์ร้ปแบบกำรเคลื่อนไหวและนำ ำไปใช้ในกำรลีลำศได้
2. สร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำยเพื่อสุขภำพของตนเองได้
3. เห็นคุณคุำของกำรออกกำำลังกำยและกำรเข้ำรุวมกิจกรรมกีฬำ
ลีลำศ
4. สำมำรถปฏิบัติทักษะกำรเต้นรำำจังหวะบีกินได้อยุำงถ้กต้อง
5. สำมำรถปฏิบัติทักษะกำรเต้นรำำจังหวะวอลล์ได้อยุำงถ้กต้อง

6. สำมำรถปฏิบัติทักษะกำรเต้นรำำจังหวะชะชะชุำได้อยุำงถ้กต้อง
7. สำมำรถปฏิบัติทักษะกำรเต้นรำำจังหวะแทงโก้ได้อยุำงถ้กต้อง
8. สำมำรถปฏิบัติทักษะกำรเต้นรำำจังหวะควิกสเตปได้อยุำงถ้กต้อง
9. เคำรพสิทธิและปฏิบัติตำมกฎ กติกำกำรเลุนอยุำงเครุงครัด
10. แสดงควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำ และชื่นชมในสุนทรียภำพของ
กำรออกกำำลังกำยและกำรเลุนกีฬำ
11. เห็นคุณคุำของกำรนำ ำประสบกำรณ์ท่ีได้รับจำกกิจกรรมกำร
แขุงขันกีฬำไปใช้ในชีวิตประจำำวัน
 61

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชา แฮนด์บอล รหัสวิชา พ 32202 เวลา
40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 5
ชัน ภาคเรียนที่ 1
1.0 หนุ วยกิต

ศึกษำลักษณะและธรรมชำติของกีฬำแฮนด์บอล
กติกำ มำรยำท วิธีเลุน กำรเคลื่อนไหว กำรออกกำำลังกำยด้วยกำรเลุน
กีฬำแฮนด์บอล ฝึ กปฏิบัติเกี่ยวกับกำรเคลื่อนไหวรุำงกำยในกำรออก
กำำลังกำย ทักษะกำรเลุนกีฬำประเภททีม
เพื่อให้มีควำมร้้ ควำมเข้ำใจ และเห็นคุณคุำของ
สุขภำพ สมรรถภำพ ควำมปลอดภัยในกำรเลุนกีฬำแฮนด์บอลของ
ตนเอง และของผ้้อ่ ืน สำมำรถออกกำำลังกำยและเลุนกีฬำแฮนด์บอล
เพื่อนำ ำไปใช้ออกกำำลังกำยในชีวิตประจำำวันและเผยแพรุควำมร้้ให้กับผ้้
อื่นได้

ผลการเรียนรูู
1. นั กเรียนสำมำรถอธิบำยประวัติควำมเป็ นมำและวิวัฒนำกำรของ
กีฬำแฮนด์บอลได้
2. นั กเรียนสำมำรถอธิบำยและปฏิบัติกำรอบอุุนรุำงกำยและทุำกำย

บริหำรกุอน-หลัง กำรเลุนกีฬำแฮนด์บอลอยุำงถ้กต้อง
3. นั กเรียนสำมำรถปฏิบัติทักษะกำรทรงตัวและเคลื่อนไหวเบื้องต้น
ได้อยุำงถ้กต้อง
4. นั กเรียนสำมำรถปฏิบัติทักษะกำรสุงล้ก-รับล้กในแบบตุำง ๆ ของ
กีฬำแฮนด์บอลได้
5. นั กเรียนสำมำรถปฏิบัติทักษะกำรยิงประต้ในร้ปแบบตุำง ๆ ตำม
ทักษะของกีฬำแฮนด์บอล
ได้อยุำงถ้กต้อง
 62

6. นั กเรียนสำมำรถกำำหนดและวำงแผนกำรรุกในกีฬำแฮนด์บอลกับ
เพื่อนรุวมทีมได้
7. นั กเรียนสำมำรถกำำหนดและวำงแผนกำรรับในกีฬำแฮนด์บอลกับ
เพื่อนรุวมทีมได้
8. นั กเรียนสำมำรถเลุนกีฬำแฮนด์บอลในร้ปแบบของกำรแขุงขัน
กำรเลุนแบบประเภททีมได้
9. นั กเรียนร้้และเข้ำใจ กฎ กติกำ มำรยำท สำมำรถปฏิบัติตำมกฎ
ระเบียบของกีฬำแฮนด์บอล ร้แ
้ พ้ ร้้ชนะ ร้้อภัย ซึ่งนำ ำไปสุ้กำร
ใช้ชีวิตประจำำวันได้

คำาอธิบายรายวิชา
รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 5 รหัสวิชา พ 33101
เวลา 20 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 6
ชัน ภาคเรียนที่ 1
0.5 หนุ วยกิต

มีควำมร้้และควำมเข้ำใจในกำรเสริมสร้ำงกำรทำำงำนของระบบ
ประสำท สืบพันธ์ และตุอมไร้ทุอและสำมำรถวิเครำะห์หำเหตุผล
แนวทำงแก้ไขปั ญหำที่เกิดขึ้นระหวุำงนั กเรียน หรือเยำวชนในชุมชน
สุงเสริมและพัฒนำสุขภำพในชุมชน วำงแผนปฏิบัติกำรพัฒนำสุขภำพ
และสมรรถภำพทำงกำย มีสุวนรุวมในกำรสร้ำงเสริมควำมปลอดภัย
ตลอดจนใช้ทักษะตัดสินใจแก้ปัญหำในสถำนกำรณ์ท่ีเสี่ยงตุอสุขภำพ
และควำมรุนแรง
 63

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
พ 1.1 ม.4/1
พ 2.1 ม.4/4
พ 4.1 ม.4/6 ม.4/7
พ 5.1 ม.4/5 ม.4/6

รวม 6 ตัวชีว้ ัด

คำาอธิบายรายวิชา
 64

รายวิชาส่ขศึกษาและพลศึกษา 6 รหัสวิชา พ 33102

เวลา 20 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 6
ชัน ภาคเรียนที่ 2
0.5 หนุ วยกิต

มีควำมร้้ ทักษะในกำรเคลื่อนไหว กิจกรรมทำงกำย กำรเลุนเกม

และกีฬำ ใช้ควำมสำมำรถของตนในกำรเพิ่มศักยภำพ
ของทีม ตุอผ้้อ่ ืนและสังคม เลุนกีฬำสำกลประเภทบุคคล/คุ้ 1 ชนิ ด
แสดงกำรเคลื่อนไหวได้อยุำงสร้ำงสรรค์ เข้ำรุวมกิจกรรมนั นทนำกำร
นอกโรงเรียนเพื่อพัฒนำคุณภำพชีวิตของตนและสังคม รักกำรออก
กำำลังกำย กำรเลุนเกม และกำรเลุนกีฬำ เป็ นประจำำอยุำงสมำ่ำเสมอ มี
วินัย เคำรพสิทธิ กฎ กติกำ มีนำ้ำใจนั กกีฬำมีจิตวิญญำณในกำรแขุงขัน
และชื่นชมในสุนทรีภำพของกำรกีฬำและวำงแผนปฏิบัติตำมแผนกำร
พัฒนำสมรรถภำพทำงกำย

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
พ 3.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5
พ 3.2 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4
พ 4.1 ม.4/7

รวม 10 ตัวชีว้ ัด
 65

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชา ฟ่ตซอล รหัสวิชา พ 33201
เวลา 40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 4
ชัน ภาคเรียนที่ 1
1.0 หนุ วยกิต

สมรรถภำพทำงกำย กำรออกกำำลังกำย เกม

นั นทนำกำร และกีฬำปฏิบัติทักษะ กำรเคลื่อนไหวในกำรเลุน
ฟุตซอล นั นทนำกำร ร้ก
้ ฎ กติกำ นำ ำไปใช้ได้อยุำงถ้กต้องสุงเสริม
สมรรถภำพของตนเอง เพื่อนรุวมทีม เป็ นผ้้มีนำ้ำใจนั กกีฬำ มีหลักกำร
เหตุผลเคำรพกฎ กติกำ ระเบียบ ข้อบังคับ มีกำรวำงแผนกำรเลุน มี
ควำมรับผิดชอบตุอตนเองและสุวนรุวมมีควำมยุติธรรม สำมำรถควบคุม
ตนเองเข้ำใจตนเองและผ้้อ่ ืนร้้จักเลือกกิจกรรมที่ช่ ืนชอบมีนิสัยชอบออก
กำำลังกำย

ผลการเรียนรูู
1. ร้้ถึงประวัติควำมเป็ นมำและกำรวิวัฒนำกำรของฟุตซอลได้
2. ร้้และเข้ำใจปฏิบัติกำรเก็บด้แลรักษำอุปกรณ์ได้
3. บอกประโยชน์ของกำรเลุนฟุตซอลและปฏิบัติตนเป็ นผ้้มี
มำรยำทในกำรเลุนและผ้้ด้ท่ีดีได้
4. ปฏิบัติกำรอบอุุนรุำงกำยกุอนและหลังกำรเลุนฟุตซอลได้
 66

5. ปฏิบัติกำรแตะบอลแบบตุำง ๆ ได้อยุำงถ้กต้อง
6. ปฏิบัติกำรหยุดล้กฟุตซอลแบบตุำง ๆ ได้อยุำงถ้กวิธี
7. ปฏิบัติกำรเลุนทีมด้วยควำมปลอดภัย
8. นั กเรียนสำมำรถกำำหนดและวำงแผนกำรรุกและกำรรับในกีฬำ
ฟุตซอลกับเพื่อนรุวมทีมได้
9. นั กเรียนสำมำรถเลุนกีฬำฟุตซอลในร้ปแบบของกำรแขุงขัน กำร
เลุนแบบประเภททีมได้
10. นั กเรียนร้้และเข้ำใจ กฎ กติกำ มำรยำท สำมำรถปฏิบัติตำมกฎ
ระเบียบของกีฬำฟุตซอล ร้แ ้ พ้ ร้้ชนะ ร้้อภัย ซึ่งนำ ำไปสุ้กำรใช้ชีวิต
ประจำำวันได้

คำาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชา เปตอง รหัสวิชา พ 33202 เวลา
40 ชั่วโมง
้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 4
ชัน ภาคเรียนที่ 1
1.0 หนุ วยกิต

สมรรถภำพทำงกำย กำรออกกำำลังกำย เกม

นั นทนำกำร และกีฬำปฏิบัติทักษะ กำรเคลื่อนไหวในกำรเลุน
 67

เปตอง นั นทนำกำร ร้ก

้ ฎ กติกำ นำ ำไปใช้ได้อยุำงถ้กต้องสุงเสริม
สมรรถภำพของตนเอง เพื่อนรุวมทีม เป็ นผ้้มีนำ้ำใจนั กกีฬำ มีหลักกำร
เหตุผลเคำรพกฎ กติกำ ระเบียบ ข้อบังคับ มีกำรวำงแผนกำรเลุน มี
ควำมรับผิดชอบตุอตนเองและสุวนรุวมมีควำมยุติธรรม สำมำรถควบคุม
ตนเองเข้ำใจตนเองและผ้้อ่ ืนร้้จักเลือกกิจกรรมที่ช่ ืนชอบมีนิสัยชอบออก
กำำลังกำย

ผลการเรียนรูู
1. ร้้ถึงประวัติควำมเป็ นมำและกำรวิวัฒนำกำรของเปตองได้
2. ร้้และเข้ำใจปฏิบัติกำรเก็บด้แลรักษำอุปกรณ์ได้
3. บอกประโยชน์ของกำรเลุนเปตองและปฏิบัติตนเป็ นผ้้มี
มำรยำทในกำรเลุนและผ้้ด้ท่ีดีได้
4. ปฏิบัติกำรอบอุุนรุำงกำยกุอนและหลังกำรเลุนเปตองได้
5. ปฏิบัติกำรยืน กำรทรงตัวแบบตุำง ๆ ได้อยุำงถ้กวิธี
6. ปฏิบัติกำรกำรจับล้กเปตองแบบตุำง ๆ ได้อยุำงถ้กต้อง
7. ปฏิบัติกำรวำงล้กเปตองแบบตุำง ๆ ได้อยุำงถ้กวิธี
8. ปฏิบัติกำรตีล้กเปตองแบบตุำง ๆ ได้อยุำงถ้กวิธี
8. ปฏิบัติกำรเลุนทีมด้วยควำมปลอดภัย
8. นั กเรียนสำมำรถกำำหนดและวำงแผนกำรรุกและกำรรับในกีฬำ
ตองกับเพื่อนรุวมทีมได้
9. นั กเรียนสำมำรถเลุนกีฬำเปตองในร้ปแบบของกำรแขุงขัน กำร
เลุนแบบประเภททีมได้
10. นั กเรียนร้้และเข้ำใจ กฎ กติกำ มำรยำท สำมำรถปฏิบัติตำมกฎ
ระเบียบของกีฬำเปตอง ร้แ ้ พ้ ร้้ชนะ ร้้อภัย ซึ่งนำ ำไปสุ้กำรใช้ชีวิต
ประจำำวันได้
 68

สื่อการเรียนรูู
สื่อกำรเรียนร้้เป็ นเครื่องมือสุงเสริมสนั บสนุนกำรจัดกำร
กระบวนกำรเรียนร้้ ให้ผ้เรียนเข้ำถึงควำมร้้ ทักษะกระบวนกำร และ
คุณลักษณะตำมมำตรฐำนของหลักส้ตรได้อยุำงมีประสิทธิภำพ สื่อกำร
เรียนร้้มีหลำกหลำยประเภท ทัง้ สื่อธรรมชำติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี
และเครือขุำยกำรเรียนร้้ตุำงๆ ที่มีในท้องถิ่น กำรเลือกใช้ส่ ือควรเลือกให้
มีควำมเหมำะสมกับระดับพัฒนำกำร และลีลำกำรเรียนร้้ท่ีหลำกหลำย
ของผ้้เรียน
กำรจัดหำสื่อกำรเรียนร้้ ผ้้เรียนและผ้้สอนสำมำรถจัดทำำและพัฒนำ
ขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อยุำงมีคุณภำพจำกสื่อตุำงๆ ที่มีอยุ้รอบตัว
เพื่อนำ ำมำใช้ประกอบในกำรจัดกำรเรียนร้้ท่ีสำมำรถสุงเสริมและสื่อสำร
ให้ผ้เรียนเกิดกำรเรียนร้้ โดยสถำนศึกษำควรจัดให้มีอยุำงพอเพียง เพื่อ
พัฒนำให้ผ้เรียนเกิดกำรเรียนร้้อยุำงแท้จริง สถำนศึกษำ เขตพื้นที่กำร
ศึกษำ หนุ วยงำนที่เกี่ยวข้องและผ้้มีหน้ ำที่จัดกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน ควร
ดำำเนิ นกำรดังนี้
1. จัดให้มีแหลุงกำรเรียนร้้ ศ้นย์ส่ ือกำรเรียนร้้ ระบบสำรสนเทศ
กำรเรียนร้้ และเครือขุำย
กำรเรียนร้้ท่ีมีประสิทธิภำพทัง้ ในสถำนศึกษำและในชุมชน เพื่อกำร
ศึกษำค้นคว้ำและกำรแลกเปลี่ยนประสบกำรณ์กำรเรียนร้้ ระหวุำงสถำน
ศึกษำ ท้องถิ่น ชุมชน สังคมโลก
2. จัดทำำและจัดหำสื่อกำรเรียนร้ส ้ ำำหรับกำรศึกษำค้นคว้ำของผ้้
เรียน เสริมควำมร้้ให้ผ้สอน รวมทัง้ จัดหำสิ่งที่มีอยุ้ในท้องถิ่นมำ
ประยุกต์ใช้เป็ นสื่อกำรเรียนร้้
3. เลือกและใช้ส่ ือกำรเรียนร้้ท่ีมีคุณภำพ มีควำมเหมำะสม มี
ควำมหลำกหลำย สอดคล้อง กับวิธีกำรเรียนร้้ ธรรมชำติของสำระ
กำรเรียนร้้ และควำมแตกตุำงระหวุำงบุคคลของผ้้เรียน
4. ประเมินคุณภำพของสื่อกำรเรียนร้้ท่ีเลือกใช้อยุำงเป็ นระบบ
5. ศึกษำค้นคว้ำ วิจย ั เพื่อพัฒนำสื่อกำรเรียนร้้ให้สอดคล้องกับ
กระบวนกำรเรียนร้้ของผ้้เรียน
 69

6. จัดให้มีกำรกำำกับ ติดตำม ประเมินคุณภำพและประสิทธิภำพ

เกี่ยวกับสื่อและกำรใช้ส่ ือ
กำรเรียนร้้เป็ นระยะๆ และสมำ่ำเสมอ
ในกำรจัดทำำ กำรเลือกใช้ และกำรประเมินคุณภำพสื่อกำรเรียนร้้ท่ี
ใช้ในสถำนศึกษำ ควรคำำนึ งถึงหลักกำรสำำคัญของสื่อกำร
เรียนร้้ เชุน ควำมสอดคล้องกับหลักส้ตร วัตถุประสงค์กำรเรียนร้้ กำร
ออกแบบกิจกรรมกำรเรียนร้้ กำรจัดประสบกำรณ์ให้ผ้เรียน เนื้ อหำมี
ควำมถ้กต้องและทันสมัยไมุกระทบควำมมัน ่ คงของชำติ ไมุขัดตุอศีล
ธรรม มีกำรใช้ภำษำที่ถ้กต้อง ร้ปแบบกำรนำ ำเสนอที่เข้ำใจงุำย และนุ ำ
สนใจ

การวัดและประเมินผลการเรียนรูู
กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนร้้ของผ้้เรียนต้องอยุ้บนหลักกำร
พื้นฐำนสองประกำรคือ
กำรประเมินเพื่อพัฒนำผ้้เรียนและเพื่อตัดสินผลกำรเรียน ในกำรพัฒนำ
คุณภำพกำรเรียนร้้ของผ้้เรียนให้ประสบผลสำำเร็จนั ้น ผ้้เรียนจะต้องได้
รับกำรพัฒนำและประเมินตำมตัวชีว้ ัดเพื่อให้บรรลุตำมมำตรฐำนกำร
เรียนร้้ สะท้อนสมรรถนะสำำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผ้้
เรียนซึ่งเป็ นเป้ ำหมำยหลักในกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนร้้ในทุก
ระดับไมุวุำจะเป็ นระดับชัน
้ เรียน ระดับสถำนศึกษำ ระดับเขตพื้นที่กำร
ศึกษำ และระดับชำติ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนร้้
เป็ นกระบวนกำรพัฒนำคุณภำพผ้้เรียนโดยใช้ผลกำรประเมินเป็ นข้อม้ล
และสำรสนเทศที่แสดงพัฒนำกำร ควำมก้ำวหน้ ำ และควำมสำำเร็จ
ทำงกำรเรียนของผ้้เรียน ตลอดจนข้อม้ลที่เป็ นประโยชน์ตุอกำรสุงเสริม
ให้ผ้เรียนเกิดกำรพัฒนำและเรียนร้้อยุำงเต็มตำมศักยภำพ
กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนร้้ แบุงออกเป็ น 4 ระดับ ได้แกุ
ระดับชัน ้ เรียน ระดับสถำนศึกษำ ระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำ และระดับ
ชำติ มีรำยละเอียด ดังนี้
 70

1. การประเมินระดับชัน ้ เรียน เป็ นกำรวัดและประเมินผลที่อยุ้

ในกระบวนกำรจัดกำรเรียนร้้ ผ้้สอนดำำเนิ นกำรเป็ นปกติและสมำ่ำเสมอ
ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ใช้เทคนิ คกำรประเมินอยุำงหลำกหลำย เชุน
กำรซักถำม กำรสังเกต กำรตรวจกำรบ้ำน กำรประเมินโครงงำน กำร
ประเมินชิน
้ งำน/ ภำระงำน แฟ้ มสะสมงำน กำรใช้แบบทดสอบ ฯลฯ
โดยผ้้สอนเป็ นผ้้ประเมินเองหรือเปิ ดโอกำสให้ผ้เรียนประเมินตนเอง
เพื่อนประเมินเพื่อน ผ้้ปกครองรุวมประเมิน ในกรณี ท่ีไมุผุำนตัวชีว้ ด
ั ให้มี
กำรสอนซุอมเสริม
กำรประเมินระดับชัน ้ เรียนเป็ นกำรตรวจสอบวุำ ผ้้เรียนมี
พัฒนำกำรควำมก้ำวหน้ ำใน
กำรเรียนร้้ อันเป็ นผลมำจำกกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนหรือไมุ
และมำกน้ อยเพียงใด มีส่ิงที่จะต้องได้รับกำรพัฒนำปรับปรุงและสุงเสริม
ในด้ำนใด นอกจำกนี้ยังเป็ นข้อม้ลให้ผ้สอนใช้ปรับปรุงกำรเรียนกำรสอน
ของตนด้วย ทัง้ นี้โดยสอดคล้องกับมำตรฐำนกำรเรียนร้้และตัวชีว้ ัด
2. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็ นกำรประเมินที่สถำน
ศึกษำดำำเนิ นกำรเพื่อตัดสินผล กำรเรียนของผ้้เรียนเป็ นรำยปี /รำย
ภำค ผลกำรประเมินกำรอุำน คิดวิเครำะห์และเขียน คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนำผ้้เรียน นอกจำกนี้เพื่อให้ได้ข้อม้ล
เกี่ยวกับกำรจัดกำรศึกษำ ของสถำนศึกษำ วุำสุงผลตุอกำรเรียน
ร้้ของผ้้เรียนตำมเป้ ำหมำยหรือไมุ ผ้้เรียนมีจุดพัฒนำในด้ำนใด รวมทัง้
สำมำรถนำ ำผลกำรเรียนของผ้้เรียนในสถำนศึกษำเปรียบเทียบกับเกณฑ์
ระดับชำติ ผลกำรประเมินระดับสถำนศึกษำจะเป็ นข้อม้ลและสำรสนเทศ
เพื่อกำรปรับปรุงนโยบำย หลักส้ตร โครงกำร หรือวิธีกำรจัดกำรเรียนกำร
สอน ตลอดจนเพื่อกำรจัดทำำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของสถำน
ศึกษำตำมแนวทำงกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำและกำรรำยงำนผล
กำรจัดกำรศึกษำตุอคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ สำำนั กงำนเขตพื้นที่กำร
ศึกษำ สำำนั กงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน ผ้ป้ กครองและ
ชุมชน
3. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็ นกำรประเมิน
คุณภำพผ้้เรียนในระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำตำมมำตรฐำนกำรเรียนร้้ตำม
หลักส้ตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน เพื่อใช้เป็ นข้อม้ลพื้นฐำนใน
กำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของเขตพื้นที่กำรศึกษำ ตำมภำระควำมรับ
ผิดชอบ สำมำรถดำำเนิ นกำรโดยประเมินคุณภำพผลสัมฤทธิข์ องผ้้เรียน
ด้วยข้อสอบมำตรฐำนที่จด ั ทำำและดำำเนิ นกำรโดยเขตพื้นที่กำรศึกษำ หรือ
ด้วยควำมรุวมมือกับหนุ วยงำนต้นสังกัด ในกำรดำำเนิ นกำรจัดสอบ
 71

นอกจำกนี้ยังได้จำกกำรตรวจสอบทบทวนข้อม้ลจำกกำรประเมินระดับ
สถำนศึกษำในเขตพื้นที่กำรศึกษำ
4. การประเมินระดับชาติ เป็ นกำรประเมินคุณภำพผ้้เรียนใน
ระดับชำติตำมมำตรฐำน
กำรเรียนร้้ตำมหลักส้ตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน สถำนศึกษำ
ต้องจัดให้ผ้เรียนทุกคนที่เรียน ้ มัธยมศึกษำปี ท่ี 3 และชัน
ในชัน ้
มัธยมศึกษำปี ท่ี 6 เข้ำรับกำรประเมิน ผลจำกกำรประเมินใช้เป็ นข้อม้ล
ในกำรเทียบเคียงคุณภำพกำรศึกษำในระดับตุำง ๆ เพื่อนำ ำไปใช้ในกำร
วำงแผนยกระดับคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ ตลอดจนเป็ นข้อม้ล
สนั บสนุนกำรตัดสินใจในระดับนโยบำยของประเทศ
ข้อม้ลกำรประเมินในระดับตุำง ๆ ข้ำงต้น เป็ นประโยชน์ตุอสถำน
ศึกษำในกำรตรวจสอบทบทวนพัฒนำคุณภำพผ้้เรียน ถือเป็ นภำระควำม
รับผิดชอบของสถำนศึกษำที่จะต้องจัดระบบด้แลชุวยเหลือ ปรับปรุง
แก้ไข สุงเสริมสนั บสนุนเพื่อให้ผ้เรียนได้พัฒนำเต็มตำมศักยภำพบนพื้น
ฐำน ควำมแตกตุำงระหวุำงบุคคลที่จำำแนกตำมสภำพปั ญหำ
และควำมต้องกำร ได้แกุ กลุุมผ้้เรียนทัว่ ไป กลุุมผ้้เรียนที่มีควำมสำมำรถ
พิเศษ กลุุมผ้้เรียนที่มีผลสัมฤทธิท ์ ำงกำรเรียนตำ่ำ กลุุมผ้้เรียนที่มี
ปั ญหำด้ำนวินัยและพฤติกรรม กลุุมผ้้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุุมผ้้
เรียนที่มีปัญหำทำงเศรษฐกิจและสังคม กลุุมพิกำรทำงรุำงกำยและสติ
ปั ญญำ เป็ นต้น ข้อม้ลจำกกำรประเมินจึงเป็ นหัวใจของสถำนศึกษำใน
กำรดำำเนิ นกำรชุวยเหลือผ้้เรียนได้ทันทุวงที ปิดโอกำสให้ผ้เรียนได้รับ
กำรพัฒนำและประสบควำมสำำเร็จในกำรเรียน
สถำนศึกษำในฐำนะผ้้รบ ั ผิดชอบจัดกำรศึกษำ จะต้องจัดทำำ
ระเบียบวุำด้วยกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนของสถำนศึกษำให้
สอดคล้องและเป็ นไปตำมหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ีเป็ นข้อกำำหนด
ของหลักส้ตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน เพื่อให้บุคลำกรที่เกี่ยวข้อง
ทุกฝุ ำยถือปฏิบัติรุวมกัน
เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียน
1. การตัดสิน การใหูระดับและการรายงานผลการเรียน
1.1 การตัดสินผลการเรียน
ในกำรตัดสินผลกำรเรียนของกลุุมสำระกำรเรียนร้้ กำร
อุำน คิดวิเครำะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรม
พัฒนำผ้้เรียนนั ้น ผ้้สอนต้องคำำนึ งถึงกำรพัฒนำผ้้เรียน แตุละคน
เป็ นหลัก และต้องเก็บข้อม้ลของผ้เ้ รียนทุกด้ำนอยุำงสมำำ่ เสมอและตุอ
 72

เนื่องในแตุละภำคเรียน รวมทัง้ สอนซุอมเสริมผ้เ้ รียนให้พัฒนำจนเต็มตำม

ศักยภำพ

ระดับมัธยมศึกษา
(1) ตัดสินผลกำรเรียนเป็ นรำยวิชำ ผ้้เรียนต้องมีเวลำเรียน
ตลอดภำคเรียน
ไมุน้อยกวุำร้อยละ 80 ของเวลำเรียนทัง้ หมดในรำยวิชำนั ้น ๆ
(2) ผ้้เรียนต้องได้รับกำรประเมินทุกตัวชีว้ ัด และผุำน
ตำมเกณฑ์ท่ีสถำนศึกษำ
กำำหนด
(3) ผ้้เรียนต้องได้รับกำรตัดสินผลกำรเรียนทุก
รำยวิชำ
(4) ผ้้เรียนต้องได้รับกำรประเมิน และมีผลกำรประเมิน
ผุำนตำมเกณฑ์ท่ี
สถำนศึกษำกำำหนด ในกำรอุำน คิดวิเครำะห์และเขียน คุณลักษณะอัน
พึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนำผ้้เรียน
กำรพิจำรณำเลื่อนชัน ้ ระดับมัธยมศึกษำ ถ้ำผ้้เรียนมีข้อบกพรุอง
เพียงเล็กน้ อย และสถำนศึกษำพิจำรณำเห็นวุำสำมำรถพัฒนำและสอน
ซุอมเสริมได้ ให้อยุ้ในดุลพินิจของสถำนศึกษำ ที่จะผุอนผันให้เลื่อนชัน ้
ได้ แตุหำกผ้้เรียนไมุผุำนรำยวิชำจำำนวนมำก และมีแนวโน้ มวุำจะเป็ น
ปั ญหำตุอกำรเรียนในระดับชัน ้ ที่ส้งขึ้น สถำนศึกษำอำจตัง้ คณะกรรมกำร
พิจำรณำให้เรียนซำำ้ ชัน
้ ได้ ทัง้ นี้ให้คำำนึ งถึงวุฒิภำวะและควำมร้้ควำม
สำมำรถของผ้้เรียนเป็ นสำำคัญ
1.2 การใหูระดับผลการเรียน

ระดับมัธยมศึกษา ในกำรตัดสินเพื่อให้ระดับผลกำรเรียน
รำยวิชำ ให้ใช้ตัวเลขแสดง
ระดับผลกำรเรียนเป็ น 8 ระดับ
กำรประเมินกำรอุำน คิดวิเครำะห์และเขียน และคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผลกำรประเมินเป็ น ดีเยี่ยม ดี และผุำน
กำรประเมินกิจกรรมพัฒนำผ้้เรียน จะต้องพิจำรณำทัง้ เวลำกำร
เข้ำรุวมกิจกรรม กำรปฏิบัติกิจกรรมและผลงำนของผ้้เรียน ตำมเกณฑ์ท่ี
สถำนศึกษำกำำหนด และให้ผลกำรเข้ำรุวมกิจกรรมเป็ นผุำน และไมุผำุ น
1.3 การรายงานผลการเรียน
 73

กำรรำยงำนผลกำรเรียนเป็ นกำรสื่อสำรให้ผ้ปกครองและผ้้
เรียนทรำบควำมก้ำวหน้ ำ ในกำรเรียนร้้ของผ้้เรียน ซึ่งสถำน
ศึกษำต้องสรุปผลกำรประเมินและจัดทำำเอกสำรรำยงำนให้ผ้ปกครอง
ทรำบเป็ นระยะ ๆ หรืออยุำงน้ อยภำคเรียนละ 1 ครัง้
กำรรำยงำนผลกำรเรียนสำมำรถรำยงำนเป็ นระดับคุณภำพกำร
ปฏิบัติของผ้้เรียนที่สะท้อนมำตรฐำนกำรเรียนร้ก้ ลุุมสำระกำรเรียนร้้

2. เกณฑ์การจบการศึกษา
หลักส้ตรสถำนศึกษำขัน้ พื้นฐำน โรงเรียนกระแชงวิทยำ
พุทธศักรำช 2551 กำำหนดเกณฑ์กลำงสำำหรับกำรจบกำรศึกษำเป็ น 2
ระดับ คือ ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น และระดับมัธยมศึกษำ ตอน
ปลำย
2.1 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนตูน
(1) ผ้้เรียนเรียนรำยวิชำพื้นฐำนและเพิ่มเติมไมุเกิน 81
หนุ วยกิต โดยเป็ นรำยวิชำพื้นฐำน 66 หนุ วยกิต และรำยวิชำเพิ่มเติมตำม
ที่สถำนศึกษำกำำหนด
(2) ผ้้เรียนต้องได้หนุ วยกิต ตลอดหลักส้ตรไมุน้อยกวุำ
77 หนุ วยกิต โดยเป็ นรำยวิชำพื้นฐำน 66 หนุ วยกิต และรำยวิชำเพิ่ม
เติมไมุน้อยกวุำ 11 หนุ วยกิต
(3) ผ้้เรียนมีผลกำรประเมิน กำรอุำน คิดวิเครำะห์และ
เขียน ในระดับผุำน เกณฑ์
กำรประเมินตำมที่สถำนศึกษำกำำหนด
(4) ผ้้เรียนมีผลกำรประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ในระดับผุำนเกณฑ์กำรประเมินตำมที่สถำนศึกษำกำำหนด
(5) ผ้้เรียนเข้ำรุวมกิจกรรมพัฒนำผ้้เรียนและมีผลกำร
ประเมินผุำนเกณฑ์กำรประเมินตำมที่สถำนศึกษำกำำหนด
2.2 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
 74

(1) ผ้้เรียนเรียนรำยวิชำพื้นฐำนและเพิ่มเติม ไมุน้อย

กวุำ 81 หนุ วยกิตโดยเป็ นรำยวิชำพื้นฐำน 41 หนุ วยกิต และรำยวิชำเพิ่ม
เติมตำมที่สถำนศึกษำกำำหนด
(2) ผ้้เรียนต้องได้หนุ วยกิตตลอดหลักส้ตรไมุน้อยกวุำ
77 หนุ วยกิตโดยเป็ นรำยวิชำพื้นฐำน 41 หนุ วยกิต และรำยวิชำเพิ่มเติม
ไมุน้อยวุำ 36 หนุ วยกิต
(3) ผ้้เรียนมีผลกำรประเมิน กำรอุำน คิดวิเครำะห์
และเขียน ในระดับผุำนเกณฑ์ กำรประเมินตำมที่สถำนศึกษำ
กำำหนด
(4) ผ้้เรียนมีผลกำรประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ในระดับผุำนเกณฑ์กำรประเมินตำมที่สถำนศึกษำกำำหนด
(5) ผ้้เรียนเข้ำรุวมกิจกรรมพัฒนำผ้้เรียนและมีผลกำร
ประเมินผุำนเกณฑ์กำรประเมินตำมที่สถำนศึกษำกำำหนด
สำำ หรั บ กำรจบกำรศึ ก ษำสำำ หรั บ กลุุ ม เป้ ำหมำยเฉพำะ เชุ น กำร
ศึกษำเฉพำะทำง กำรศึกษำสำำหรับผ้้มีควำมสำมำรถพิเศษกำรศึกษำทำง
เลื อ ก กำรศึ ก ษำสำำ หรับ ผ้้ ด้ อ ยโอกำส กำรศึ ก ษำตำมอั ธยำศั ย ให้ ค ณะ
กรรมกำรของสถำนศึกษำ เขตพื้นที่กำรศึกษำ และผ้้ท่ีเกี่ยวข้อง ดำำเนิ น
กำรวัดและประเมิ นผลกำรเรีย นร้้ ตำมหลั กเกณฑ์ใ นแนวปฏิ บัติกำรวัด
และประเมิ น ผลกำรเรี ย นร้้ ข องหลั ก ส้ ต รแกนกลำงกำรศึ ก ษำขั ้ น พื้ น
ฐำนสำำหรับกลุุ มเป้ ำหมำยเฉพำะ
อภิธานศัพท์

กลไกของรุางกายที่ใชูในการเคลื่อนไหว (Body Mechanism)

กระบวนกำรตำมธรรมชำติในกำรเคลื่อนไหวสุวนตุำง ๆ ของ
รุำงกำยตำมลักษณะโครงสร้ำง หน้ ำที่ และกำรทำำงำนรุวมกันของข้อตุอ
กล้ำมเนื้ อ กระด้กและระบบประสำทที่เกี่ยวข้องภำยใต้ขอบขุำย
เงื่อนไข หลักกำร และปั จจัยด้ำนชีวกลศำสตร์ท่ีมีผลตุอกำรเคลื่อนไหว
เชุน ่ คง (Stability) ระบบคำน (Leverage) กำร
ควำมมัน
เคลื่อน (Motion) และแรง (Force)
 75

การเคลื่อนไหวเฉพาะอยุาง (Specialized Movement)

กำรผสมผสำนกันระหวุำงทักษะยุอยของทักษะกำรเคลือ ่ นไหวพืน
้
ฐำนตุำง ๆ กำรออกกำำลังกำย กำรเลุนเกม และกำรเลุนกีฬำตุำง ๆ ซึ่งมี
ควำมจำำเป็ นสำำหรับกิจกรรมทำงกำย เชุน กำรขว้ำงล้กซอฟท์บอล ต้อง
อำศัยกำรผสมผสำนของทักษะกำรสไลด์ (กำรเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่)
กำรขว้ำง (กำรเคลื่อนไหวแบบประกอบอุปกรณ์) กำรบิดตัว (กำร
เคลื่อนไหวแบบไมุเคลื่อนที่) ทักษะที่ทำำบำงอยุำงยิ่งมีควำมซับซ้อน
และต้องใช้กำรผสมผสำนของทักษะกำรเคลื่อนไหวพื้นฐำนหลำย ๆ
ทักษะรวมกัน

การเคลื่อนไหวในชีวิตประจำาวัน (Daily Movement)

ร้ปแบบหรือทักษะกำรเคลื่อนไหวรุำงกำยในอิริยำบถตุำง ๆ ที่
บุคคลทัว่ ไปใช้ในกำร ดำำเนิ นชีวิต ไมุวุำเพื่อกำรประกอบกิจวัตร
ประจำำวัน กำรทำำงำน กำรเดินทำงหรือกิจกรรมอื่น ๆ เชุน กำรยืน
ก้ม นั่ ง เดิน วิ่ง โหนรถเมล์ ยกของหนั ก ปี นปุ ำย กระโดดลงจำกที่ส้ง
ฯลฯ

การเคลื่อนไหวพื้นฐาน (Fundamental Movements)

ทักษะกำรเคลื่อนไหวรุำงกำยที่จำำเป็ นสำำหรับชีวิตและกำรดำำเนิ น
ชีวิตของมนุษย์ ในกำรปฏิบัติกิจกรรมตุำง ๆ ได้อยุำงมีประสิทธิภำพ
เป็ นทักษะที่มีกำรพัฒนำในชุวงวัยเด็ก และจะเป็ นพื้นฐำนสำำหรับกำร
ประกอบกิจกรรมตุำง ๆ เมื่อเจริญวัยส้งขึ้น ตลอดจนเป็ นพื้นฐำนของ
กำร มีควำมสำมำรถในกำรเคลื่อนไหว โดยเฉพำะอยุำงยิ่งในกำรเลุน
กีฬำ กำรออกกำำลังกำย และกำรประกอบกิจกรรมนั นทนำกำร กำร
เคลื่อนไหวพื้นฐำน สำมำรถแบุงออกได้เป็ น ๓ ประเภท คือ
๑. กำรเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่ (Locomotor Movement)
หมำยถึง ทักษะกำรเคลื่อนไหว ที่ใช้ในกำรเคลื่อนรุำงกำยจำกที่หนึ่ งไป
ยังอีกที่หนึ่ ง ได้แกุ กำรเดิน กำรวิ่ง กำรกระโดด สลับเท้ำ กำรกระ
โจน กำรสไลด์ และกำรวิ่งควบม้ำ ฯลฯ หรือกำรเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง
เชุน กำรกระโดด ทักษะกำรเคลื่อนไหวเหลุำนี้เป็ นพื้นฐำนของกำร
ทำำงำนประสำนสัมพันธ์ทำงกลไกแบบไมุซับซ้อน และเป็ นกำร
เคลื่อนไหวรุำงกำยที่ใช้กล้ำมเนื้ อมัดใหญุ
 76

๒. กำรเคลื่อนไหวแบบอยุ้กับที่ (Nonlocomotor Movement)

หมำยถึง ทักษะกำรเคลื่อนไหวที่ปฏิบัติโดยรุำงกำยไมุมก
ี ำรเคลื่อนที่ของ
รุำงกำย ตัวอยุำงเชุน กำรก้ม กำรเหยียด กำรผลักและดัน กำรบิดตัว
กำรโยกตัว กำรไกวตัว และกำรทรงตัว เป็ นต้น
๓. กำรเคลื่อนไหวแบบประกอบอุปกรณ์ (Manipulative
Movement) เป็ นทักษะกำรเคลื่อนไหวที่มก ี ำรบังคับหรือควบคุมวัตถุ
ซึ่งสุวนใหญุจะเกี่ยวข้องกับกำรใช้มือและเท้ำ แตุสุวนอื่น ๆ ของรุำงกำย
ก็สำมำรถใช้ได้ เชุน กำรขว้ำง กำรตี กำรเตะ กำรรับ เป็ นต้น

การจัดการกับอารมณ์และความเครียด (Emotion and Stress

Management)
วิธีควบคุมอำรมณ์ควำมเครียดและควำมคับข้องใจ ที่ไมุเป็ น
อันตรำยตุอตนเองและผ้้อ่ ืน แล้วลงมือปฏิบัติอยุำงเหมำะสม เชุน
ทำำสมำธิ เลุนกีฬำ กำรรุวมกิจกรรม นั นทนำกำร กำรคลำยกล้ำมเนื้ อ
(muscle relaxation)

การชุวยฟื้ นคืนชีพ (Cardiopulmonary Resuscitation = CPR)

กำรชุวยชีวิตเบื้องต้นกุอนสุงตุอให้แพทย์ในกรณี ผ้ปุวยหัวใจหยุด
เต้น โดยกำรนวดหัวใจและผำยปอดไปพร้อม ๆ กัน

การดูแลเบื้องตูน (First Care)

กำรให้กำรด้แลสุขภำพผ้้ปุวยในระยะพักฟื้ นและ / หรือกำร
ปฐมพยำบำล

การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development)

กำรพัฒนำทีเ่ ป็ นองค์รวมของควำมเป็ นมนุษย์ตำมแนวทำงของพระ
ธรรมปิ ฏก (ประยุทธ์ ปยุตโต) เป็ นกำรพัฒนำที่เป็ นบ้รณำกำร คือ
ทำำให้เกิดเป็ นองค์รวมหมำยควำมวุำ องค์ประกอบทัง้ หลำย ที่
เกี่ยวข้อง จะต้องประสำนกันครบทัง้ รุำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม
และจิตวิญญำณ และมีดุลยภำพ สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของธรรมชำติ
 77

การละเลุนพื้นเมือง (Folk Plays)

กิจกรรมเลุนดัง้ เดิมของคนในชุมชนแตุละท้องถิ่น ซึ่งเป็ นสุวน
หนึ่ งของกำรดำำเนิ นชีวิตหรือวิถีชีวิต เพื่อเป็ นกำรผุอนคลำยอำรมณ์
ควำมเครียด และสร้ำงเสริมให้มีกำำลังกำยแข็งแรง สติปัญญำดี จิตใจ
เบิกบำนสนุกสนำน อันกุอให้เกิดควำมสัมพันธ์ท่ีดีตุอกัน และเป็ น
สุวนหนึ่ งของวัฒนธรรม เชุน กิจกรรมกำรเลุนของชุมชนท้องถิ่น
วิ่งเปี้ ยว ชักเยุอ ขี่ม้ำสุงเมือง ตีจับ มอญซุอนผ้ำ รีๆข้ำวสำร วิ่ง
กระสอบ สะบ้ำ กระบี่กระบอง มวยไทย ตะกร้อวง ตะกร้อลอดบุวง

กิจกรรมเขูาจังหวะ (Rhythmic Activities)

กำรแสดงออกของรุำงกำย โดยกำรเคลื่อนไหวสุวนตุำง ๆ ของ
รุำงกำยให้เข้ำกับอัตรำควำม ช้ำ – เร็วของตัวโน้ ต

กิจกรรมนั นทนาการ (Recreation Activities)

กิจกรรมที่บคุ คลได้เลือกทำำหรือเข้ำรุวมด้วยควำมสมัครใจในเวลำ
วุำง และผลที่ได้รับเป็ นควำมพึงพอใจ ไมุเป็ นภัยตุอสังคม

กิจกรรมรับนำ ้ าหนั กตนเอง (Weight Bearing Activities)

กิจกรรมกำรออกกำำลังกำยที่มีกำรเคลื่อนไหวบนพื้น เชุน กำร
เดิน กำรวิ่ง กำรกระโดดเชือก ยิมนำสติก กำรเต้นรำำหรือกำรเต้นแอ
โรบิก โดยกล้ำมเนื้ อสุวนที่รับนำ ้ ำหนั กต้องออกแรงกระทำำกับนำ ้ ำหนั ก
ของตนเองในขณะปฏิบัติกิจกรรม

กีฬาไทย (Thai Sports)

กีฬำที่มีพ้ืนฐำนเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของท้องถิ่นและ
สังคมไทย เชุน กระบี่กระบอง มวยไทย ตะกร้อ

กีฬาสากล (International Sports)

กีฬำที่เป็ นที่ยอมรับจำกมวลสมำชิกขององค์กรกีฬำระดับนำนำชำติ
ให้เป็ นชนิ ดกีฬำที่บรรจุอยุ้ในเกมกำรแขุงขัน เชุน ฟุตบอล
วอลเลย์บอล เทนนิ ส แบดมินตัน
 78

เกณฑ์สมรรถภาพทางกาย (Physical Fitness Reference)

คุำมำตรฐำนที่ได้กำำหนดขึ้น (จำกกำรศึกษำวิจัยและกระบวนกำร
สถิติ) เพื่อเป็ นดัชนี สำำหรับประเมินเปรียบเทียบวุำบุคคลที่ได้รบ
ั คะแนน
หรือคุำตัวเลข (เวลำ จำำนวน ครัง้ นำ ้ ำหนั ก ฯลฯ) จำกกำรทดสอบ
สมรรถภำพทำงกำยแตุละรำยกำรทดสอบนั ้น มีสมรรถภำพทำงกำย
ตำมองค์ประกอบดังกลุำวอยุ้ในระดับคุณภำพใด โดยทัว่ ไปแล้วนิ ยมจัด
ทำำเกณฑ์ใน ๒ ลักษณะ คือ
๑. เกณฑ์ปกติ (Norm Reference) เป็ นเกณฑ์ท่ีจัดทำำจำกกำร
ศึกษำกลุุมประชำกร ที่จำำแนกตำมกลุุมเพศและวัย เป็ นหลัก สุวนใหญุ
แล้วจะจัดทำำในลักษณะของเปอร์เซ็นไทล์

๒. เกณฑ์มำตรฐำน (Criterion Reference) เป็ นระดับ

คะแนนหรือคุำมำตรฐำนที่กำำหนดไว้ลุวงหน้ ำ สำำหรับแตุละรำย กำร
ทดสอบเพื่อเป็ นเกณฑ์กำรตัดสินวุำบุคคลที่รับกำรทดสอบ
มีสมรรถภำพหรือควำมสำมำรถผุำนตำมเกณฑ์ท่ีได้กำำหนดไว้หรือไมุ
มิได้เป็ นกำรเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น ๆ

ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว (Movement Concepts)

ควำมสัมพันธ์ระหวุำงขนำด จังหวะ เวลำ พื้นที่ และทิศทำงใน
กำรเคลื่อนไหวรุำงกำย
ควำมเข้ำใจถึงควำมเกี่ยวข้องเชื่อมโยง และควำมพอเหมำะพอดี
ระหวุำงขนำดของแรงที่ใช้ ในกำรเคลื่อนไหวรุำงกำยหรือวัตถุ ด้วยห้วง
เวลำ จังหวะและทิศทำงที่เหมำะสมภำยใต้ข้อจำำกัดของพื้นที่ท่ีมีอยุ้ และ
สำมำรถแปรควำมเข้ำใจดังกลุำวทัง้ หมดไปสุ้กำรปฏิบัติกำรเคลื่อนไหวใน
กำรเลุนหรือแขุงขันกีฬำ
 79

ความเสี่ยงตุอส่ขภาพ (Health Risk)

กำรประพฤติปฏิบัติท่ีอำจนำ ำไปสุ้กำรเกิดอันตรำยตุอชีวิตและ
สุขภำพของตนเองและผ้้อ่ ืน เชุน กำรขับรถเร็ว กำรกินอำหำรสุก ๆ
ดิบ ๆ ควำมสำำสุอนทำงเพศ กำรมีนำ้ำหนั กตัวเกิน กำรขำด
กำรออกกำำลังกำย กำรส้บบุหรี่ กำรดื่มสุรำ กำรใช้ยำและสำรเสพติด

คุานิ ยมทางสังคม (Health Value)

คุณสมบัติของสิ่งใดก็ตำม ซึ่งทำำให้ส่ิงนั ้นเป็ นประโยชน์นุำสนใจ
สิ่งที่บุคคลยึดถือในกำรตัดสินใจและกำำหนดกำรกระทำำของตนเองเกี่ยว
กับพฤติกรรมสุขภำพ

ค่ณภาพชีวิต (Quality of Life)

ควำมรับร้ห
้ รือเข้ำใจของปั จเจกบุคคลที่มีตุอสถำนภำพชีวิตของ
ตนเองภำยใต้บริบทของระบบวัฒนธรรมและคุำนิ ยมที่เขำใช้ชีวิตอยุ้
และมีควำมเชื่อมโยงกับจุดมุุงหมำย ควำมคำดหวัง มำตรฐำน รวมทัง้
ควำมกังวลสนใจที่เขำมีตุอสิ่งตุำง ๆ คุณภำพชีวิตเป็ นมโนคติท่ีมีขอบเขต
กว้ำงขวำง ครอบคลุมเรื่องตุำง ๆ ที่สลับซับซ้อน ได้แกุ สุขภำพทำง
กำย สภำวะทำงจิต ระดับควำมเป็ นตัวของตัวเอง ควำมสัมพันธ์ตุำง ๆ
ทำงสังคม ควำมเชื่อสุวนบุคคล และสัมพันธภำพที่ดีตุอสิ่งแวดล้อม

จิตวิญญาณในการแขุงขัน (Competitive Spiritual)

ควำมมุุงมัน
่ กำรทุุมเทกำำลังกำย กำำลังใจ ควำมร้้ ควำมสำมำรถ
ในกำรแขุงขัน และรุวมมืออยุำงสันติเต็มควำมสำมำรถ เพื่อให้ได้มำซึ่ง
ผลที่ตนเองต้องกำร

ทักษะชีวิต (Life Skills)

เป็ นคุณลักษณะหรือควำมสำมำรถเชิงสังคมจิตวิทยำ
(Psychosocial Competence) และเป็ นควำมสำมำรถทำงสติปัญญำ
ที่ทุกคนจำำเป็ นต้องใช้ในกำรเผชิญสถำนกำรณ์ตุำง ๆ ที่เกิดขึ้น
ในชีวิตประจำำวันได้อยุำงมีประสิทธิภำพ สำมำรถพัฒนำขึ้นได้ด้วยกำร
ฝึ กและกระทำำซำำ้ ๆ ให้เกิดควำมคลุองแคลุว เคยชิน จนเป็ นลักษณะ
นิ สัย ประกอบด้วยทักษะตุำง ๆ ดังนี้ คือ กำรร้จ้ ักตนเอง เข้ำใจตนเอง
และเห็นคุณคุำของตนเอง กำรร้จ้ ักคิดอยุำงมีวิจำรณญำณและคิด
 80

สร้ำงสรรค์ กำรร้้จักคิดตัดสินใจและแก้ปัญหำ กำรร้้จักแสวงหำและใช้

ข้อม้ลควำมร้้ กำรสื่อสำรและกำรสร้ำงสัมพันธภำพกับผ้้อ่ ืน กำรจัดกำร
กับอำรมณ์และควำมเครียด กำรปรับตัวทุำมกลำงกำรเปลี่ยนแปลง
กำรตัง้ เป้ ำหมำย กำรวำงแผนและดำำเนิ นกำรตำมแผน ควำมเห็นใจผ้้อ่ ืน
ควำมรับผิดชอบตุอสังคมและซำบซึ้งในสิ่งที่ดีงำมรอบตัว

ธงโภชนาการ (Nutrition Flag)

เป็ นเครื่องมือที่ชุวยอธิบำยและทำำควำมเข้ำใจโภชนบัญญัติ ๙
ประกำร เพื่อนำ ำไปสุ้กำรปฏิบัติ โดยกำำหนดเป็ นภำพ “ธงปลำยแหลม”
แสดงกลุุมอำหำรและสัดสุวนกำรกินอำหำรในแตุละกลุุม มำก
น้ อยตำมพื้นที่ สังเกตได้ชัดเจนวุำ ฐำนใหญุด้ำนบนเน้ นให้กินมำกและ
ปลำยธงข้ำงลุำงบอกให้กิน น้ อย ๆ เทุำที่จำำเป็ นโดยมีฐำนมำจำก
ข้อปฏิบตั ก
ิ ำรบริโภคอำหำรเพือ ่ สุขภำพทีด่ ขี องคนไทย หรือ โภชน
บัญญัติ ๙ ประกำร คือ
1. กินอำหำรครบ ๕ หมุ้ แตุละหมุ้ให้หลำกหลำยและ
หมัน
่ ด้แลนำ ้ ำหนั กตัว
2. กินข้ำวเป็ นอำหำรหลักสลับกับอำหำรประเภทแป้ งเป็ น
บำงมื้อ
3. กินพืชผักให้มำกและกินผลไม้เป็ นประจำำ
4. กินปลำ เนื้ อสัตว์ไมุติดมัน ไขุ และถัว่ เมล็ดแห้งเป็ น
ประจำำ
5. ดื่มนมให้เหมำะสมตำมวัย

6. กินอำหำรที่มไี ขมันแตุพอควร
7. หลีกเลี่ยงกำรกินอำหำรรสหวำนจัด และเค็มจัด
8. กินอำหำรที่สะอำด ปรำศจำกกำรปนเปื้ อน
9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

นำ ้ าใจนั กกีฬา (Spirit)

เป็ นคุณธรรมประจำำใจของกำรเลุนรุวมกัน อยุร้ ุวมกัน และมี
ชีวิตอยุ้รุวมกันในสังคม ได้อยุำงปกติสุขและมีประสิทธิภำพ
พฤติกรรมที่แสดงถึงควำมมีนำ้ำใจนั กกีฬำ เชุน กำรมีวินัย เคำรพกฎ
กติกำ ร้แ ้ พ้ ร้้ชนะ ร้้อภัย
 81

บริการส่ขภาพ (Health Service)

บริกำรทำงกำรแพทย์และสำธำรณสุขทัง้ ของรัฐและเอกชน

ประชาสังคม (Civil Society)

เครือขุำย กลุุม ชมรม สมำคม ม้ลนิ ธิ สถำบัน องค์กร หรือ
ชุมชนที่มีกิจกรรม กำรเคลื่อนไหวทำงสังคม เพื่อ
ประโยชน์รุวมกันของกลุุม

ผลิตภัณฑ์ส่ขภาพ (Health Products)

ยำ เครื่องสำำอำง อำหำรสำำเร็จร้ป เครื่องปรุงรสอำหำร อำหำร
เสริม วิตำมิน

พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ (Sex Abuse)

กำรประพฤติปฏิบัติใด ๆ ที่ไมุเป็ นไปตำมธรรมชำติทำงเพศตนเอง
เชุน มีจิตใจรักชอบในเพศเดียวกัน กำรแตุงตัวหรือแสดงกิริยำเป็ นเพศ
ตรงข้ำม

พฤติกรรมส่ขภาพ (Health Behaviour)

กำรปฏิบัติหรือกิจกรรมใด ๆ ในด้ำนกำรป้ องกัน กำรสร้ำงเสริม
กำรรักษำและกำรฟื้ นฟ้สุขภำพ อันมีผลตุอสภำวะทำงสุขภำพของบุคคล

พฤติกรรมเสี่ยง (Risk Behaviour)

ร้ปแบบจำำเพำะของพฤติกรรม ซึ่งได้รับกำรพิส้จน์แล้ววุำ มีควำม
สัมพันธ์กับกำรเพิ่มโอกำส ที่จะปุ วยจำกโรคบำงชนิ ดหรือกำรเสื่อม
สุขภำพมำกขึ้น

พลังปั ญญา (Empowerment)

กระบวนกำรสร้ำงเสริมศักยภำพแกุบุคคลและชุมชนให้เป็ นผ้้สนใจ
ใฝุ ร้ และมีอำำนำจ ในกำรคิด กำรตัดสินใจ กำรแก้ปัญหำ
ด้วยชุมชนเองได้เป็ นสุวนใหญุ นอกจำกนั ้นบุคคลและชุมชน ยัง
 82

สำมำรถควบคุมสภำพแวดล้อมที่มีผลกระทบตุอปั ญหำสุขภำพให้อยุ้ใน
สภำพที่เอื้อตุอกำรสร้ำงเสริมและพัฒนำสุขภำพ

ภาวะท่พโภชนาการ (Malnutrition)
กำรขำดสำรอำหำรที่จำำเป็ นตุอกำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำรของ
เด็ก ทำำให้มีผลกระทบตุอสุขภำพ

ภาวะผููนำา (Leadership)
กำรมีคุณลักษณะในกำรเป็ นหัวหน้ ำ สำมำรถชักชวนและชีน ้ ำำ
สมำชิกในกลุุมรุวมมือรุวมใจกันปฏิบัติงำนให้สำำเร็จลุลุวงไปด้วยดี

ภูมิปัญญาไทย (Thai Wisdom)

สติปัญญำ องค์ควำมร้้และคุำนิ ยมที่นำำมำใช้ในกำรดำำเนิ นชีวิตได้
อยุำงเหมำะสม เป็ นมรดกทำงวัฒนธรรมที่เกิดจำกกำรสัง่ สม
ประสบกำรณ์ ควำมร้้แขนงตุำง ๆ ของบรรพชนไทยนั บแตุอดีต
สอดคล้องกับวิถีชีวิต ภ้มิปัญญำไทย จึงมีควำมสำำคัญตุอกำรพัฒนำ
ชีวิตควำมเป็ นอยุ้ของคนไทย ทัง้ ด้ำนเศรษฐกิจ สังคม
ลักษณะของภ้มิปัญญำไทย มีองค์ประกอบตุอไปนี้
๑. คติ ควำมเชื่อ ควำมคิด หลักกำรทีเ่ ป็ นพืน
้ ฐำนขององค์ควำมร้้
ทีเ่ กิดจำกสัง่ สมถุำยทอดกันมำ
๒. ศิลปะ วัฒนธรรม และขนบธรรมเนี ยมประเพณี
๓. กำรประกอบอำชีพในแตุละท้องถิ่นที่ได้รับกำรพัฒนำให้เหมำะ
สมกับสมัย
๔. แนวคิด หลักปฏิบัติ และเทคโนโลยีสมัยใหมุท่ีนำำมำใช้ใน
ชุมชน ซึ่งเป็ นอิทธิพลของควำมก้ำวหน้ ำทำงวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ตัวอยุำงภ้มิปัญญำไทยที่เกี่ยวข้องกับสุขภำพ เชุน กำรแพทย์
แผนไทย สมุนไพร อำหำรไทย ยำไทย ฯลฯ

แรงขับทางเพศ (Sex Drive)

แรงขับที่เกิดจำกสัญชำตญำณทำงเพศ
 83

ลุวงละเมิดทางเพศ (Sexual Abuse)

กำรใช้คำำพ้ด กำรจับ จ้บ ล้บ คลำำ และ / หรือรุวมเพศ โดยไมุได้
รับกำรยินยอมจำก ฝุ ำยตรงข้ำม โดยเฉพำะกับผ้้เยำว์

สติ (Conscious)
ควำมร้้สึกตัวอยุ้เสมอในกำรรับร้้ส่ิงตุำง ๆ กำรให้หลักกำรและ
เหตุผลในกำรป้ องกัน ยับยัง้ ชัง่ ใจ และควบคุมตนเองเพื่อไมุให้คิดผิด
ทำง ไมุหลงลืม ไมุเครียด ไมุผิดพลำด กุอให้เกิดพฤติกรรมที่ถ้กต้อง
ดีงำม

สมรรถภาพกลไก (Motor Fitness) หรือสมรรถภาพเชิงทักษะปฏิบต

ั ิ
(Skill - Related Physical Fitness)
ควำมสำมำรถของรุำงกำยที่ชุวยให้บุคคลสำมำรถประกอบกิจกรรม
ทำงกำย โดยเฉพำะอยุำงยิ่งกำรเลุนกีฬำได้ดี มีองค์ประกอบ ๖ ด้ำน
ดังนี้
๑. ควำมคลุอง (Agility) หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรเปลี่ยน
ทิศทำงกำรเคลื่อนที่ได้อยุำงรวดเร็วและสำมำรถควบคุมได้
๒. กำรทรงตัว (Balance) หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรรักษำ
ดุลของรุำงกำยเอำไว้ได้ ทัง้ ในขณะอยุ้กับที่และเคลื่อนที่
๓. กำรประสำนสัมพันธ์ (Co – ordination) หมำยถึง ควำม
สำมำรถในกำรเคลื่อนไหวได้อยุำงรำบรื่น กลมกลืน และมีประสิทธิภำพ
ซึง่ เป็ นกำรทำำงำนประสำนสอดคล้องกันระหวุำงตำ-มือ-เท้ำ
๔. พลังกล้ำมเนื้ อ (Power) หมำยถึง ควำมสำมำรถของกล้ำม
เนื้ อสุวนหนึ่ งสุวนใดหรือ หลำย ๆ สุวนของรุำงกำยในกำรหดตัว
เพื่อทำำงำนด้วยควำมเร็วส้ง แรงหรืองำนที่ได้เป็ นผลรวมของควำมแข็ง
แรงและควำมเร็วทีใ่ ช้ในชุวงระยะเวลำนัน
้ ๆ เชุน กำรยืนอยุก
้ บ
ั ที่ กระโดด
กำรทุม ุ นำ ้ำหนัก เป็ นต้น
 84

๕. เวลำปฏิกริ ิยำตอบสนอง (Reaction time) หมำยถึง ระยะ

เวลำที่รุำงกำยใช้ในกำรตอบสนองตุอสิ่งเร้ำตุำง ๆ เชุน แสง เสียง
สัมผัส
๖. ควำมเร็ว (Speed) หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรเคลื่อนที่
จำกที่หนึ่ งไปยังอีกหนึ่ งได้อยุำงรวดเร็ว

สมรรถภาพทางกาย (Physical Fitness)

ควำมสำมำรถของระบบตุำง ๆ ของรุำงกำย ในกำรทำำงำนอยุำงมี
ประสิทธิภำพและประสิทธิผล บุคคลที่มีสมรรถภำพทำงกำยดีนั้นจะ
สำมำรถประกอบกิจกรรมในชีวิตประจำำวันได้อยุำงกระฉั บกระเฉง โดย
ไมุเหนื่ อยล้ำจนเกินไปและยังมีพลังงำนสำำรองมำกพอ สำำหรับกิจกรรม
นั นทนำกำรหรือกรณี ฉุกเฉิ น ในปั จจุบันนั กวิชำชีพด้ำนสุขศึกษำและ
พลศึกษำได้เห็นพ้องต้องกันวุำ สมรรถภำพทำงกำยสำมำรถจัดกลุุมได้
เป็ นสมรรถภำพทำงกำยเพื่อสุขภำพ (Health – Related Physical
Fitness) และหรือสมรรถภำพกลไก (Motor Fitness) สมรรถภำพ
เชิงทักษะปฏิบัติ (Skill – Related Physical Fitness)

สมรรถภาพทางกายเพื่อส่ขภาพ (Health – Related Physical

Fitness)
ควำมสำมำรถของระบบตุำง ๆ ในรุำงกำยประกอบด้วย ควำม
สำมำรถเชิงสรีรวิทยำด้ำนตุำง ๆ ที่ชุวยป้ องกันบุคคลจำกโรคที่มีสำเหตุ
จำกภำวะกำรขำดกำรออกกำำลังกำย นั บเป็ นปั จจุบันหรือตัวบุงชีส้ ำำคัญ
ของกำรมีสขุ ภำพดี ควำมสำมำรถหรือสมรรถนะเหลุำนี้ สำมำรถปรับปรุง
พัฒนำและคงสภำพได้ โดยกำรออกกำำลังกำยอยุำงสมำ่ำเสมอ
สมรรถภำพทำงกำยเพื่อสุขภำพมีองค์ประกอบดังนี้

๑. องค์ประกอบของรุำงกำย (Body Composition) ตำมปกติ

แล้วในรุำงกำยมนุษย์ประกอบด้วย กล้ำมเนื้ อ กระด้ก ไขมัน และ
สุวนอื่น ๆ แตุในสุวนของสมรรถภำพทำงกำยนั ้น หมำยถึง สัดสุวน
ปริมำณไขมันในรุำงกำยกับมวลรุำงกำยที่ปรำศจำกไขมัน โดยกำรวัด
ออกมำเป็ นเปอร์เซ็นต์ไขมัน (% fat) ด้วยเครื่อง
 85

๒. ควำมทนทำนของระบบไหลเวียนโลหิต (Cardiorespiratory
Endurance) หมำยถึง สมรรถนะเชิงปฏิบัติของระบบไหลเวียนโลหิต
(หัวใจ หลอดเลือด) และระบบหำยใจในกำรลำำเลียงออกซิเจนไปยัง
เซลล์กล้ำมเนื้ อ ทำำให้รุำงกำยสำมำรถยืนหยัดที่จะทำำงำนหรือออกกำำลัง
กำยที่ใช้กล้ำมเนื้ อมัดใหญุเป็ นระยะเวลำยำวนำนได้
๓. ควำมอุอนตัวหรือควำมยืดหยุุน (Flexibility) หมำยถึง
พิสัยของกำรเคลื่อนไหวส้งสุดเทุำที่จะทำำได้ของข้อตุอหรือกลุุมข้อตุอ
๔. ควำมทนทำนหรือควำมอดทนของกล้ำมเนื้ อ (Muscular
Endurance) หมำยถึง ควำมสำมำรถของกล้ำมเนื้ อมัดใดมัดหนึ่ งหรือ
กลุุมกล้ำมเนื้ อ ในกำรหดตัวซำำ้ ๆ เพื่อต้ำนแรงหรือควำมสำมำรถในกำร
คงสภำพกำรหดตัวครัง้ เดียวได้เป็ นระยะเวลำยำวนำน
๕. ควำมแข็งแรงของกล้ำมเนื้ อ (Muscular Strength) หมำย
ถึง ปริมำณส้งสุดของแรง ที่กล้ำมเนื้ อมัดใดมัดหนึ่ งหรือกลุุม
กล้ำมเนื้ อสำมำรถออกแรงต้ำนทำนได้ ในชุวงกำรหดตัว ๑ ครัง้

ส่ขบัญญัติแหุงชาติ (National Health Disciplines)

ข้อกำำหนดที่เด็กและเยำวชน ตลอดจนประชำชนทัว่ ไป พึงปฏิบัติ
อยุำงสมำ่ำเสมอ จนเป็ นสุขนิ สัย เพื่อให้มีสุขภำพดีทัง้ รุำงกำย จิตใจ และ
สังคม ซึ่งกำำหนดไว้ ๑๐ ประกำร ดังนี้
1. ด้แลรักษำรุำงกำยและของใช้ให้สะอำด
2. รักษำฟั นให้แข็งแรงและแปรงฟั นทุกวันอยุำงถ้กต้อง
3. ล้ำงมือให้สะอำดกุอนกินอำหำรและหลังกำรขับถุำย
4. กินอำหำรสุก สะอำด ปรำศจำกสำรอันตรำย และหลีก
เลี่ยงอำหำรรสจัด สีฉ้ดฉำด
5. งดบุหรี่ สุรำ สำรเสพติด กำรพนั น และกำรสำำสุอนทำง
เพศ
6. สร้ำงควำมสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุุน
7. ป้ องกันอุบัติภัยด้วยกำรไมุประมำท
8. ออกกำำลังกำยสมำำ่ เสมอและตรวจสุขภำพประจำำปี
 86

9. ทำำจิตใจให้รุำเริงแจุมใสอยุ้เสมอ
10. มีสำำนึ กตุอสุวนรวม รุวมสร้ำงสรรค์สังคม

ส่ขภาพ (Health)
สุขภำวะ (Well – Being หรือ Wellness) ที่สมบ้รณ์และเชื่อม
โยงกันเป็ นองค์รวมอยุำงสมดุลทัง้ มิติทำงจิตวิญญำณ (มโนธรรม) ทำง
สังคม ทำงกำย และทำงจิต ซึ่งมิได้หมำยถึงเฉพำะควำม ไมุพิกำร
และควำมไมุมีโรคเทุำนั ้น

ส่นทรียภาพของการเคลื่อนไหว (Movement Aesthetic)

ศิลปะและควำมงดงำมของทุวงทุำในกำรเคลื่อนไหวรุำงกำยใน
อิริยำบถตุำง ๆ ซึ่งเป็ นผลมำจำกควำมคิดสร้ำงสรรค์ในกำรออกแบบ
ทุำทำงกำรเคลื่อนไหวและกำรฝึ กฝนจนเกิดควำมชำำนำญ สำมำรถ
แสดงออกมำเป็ นควำมกลมกลืนและตุอเนื่ อง

แอโรบิก (Aerobic)
กระบวนกำรสร้ำงพลังงำนแบบต้องใช้อำกำศ ซึ่งในที่นี้ หมำยถึง
ออกซิเจน (Aerobic -energe delivery) ในกำรสร้ำงพลังงำนของ
กล้ำมเนื้ อ เพื่อทำำงำนหรือเคลื่อนไหว นั ้น กล้ำมเนื้ อจะมีวิธีกำร ๓
แบบที่จะได้พลังงำนมำ
แบบที่ ๑ เป็ นกำรใช้พลังงำนที่มีสำำรองอยุ้ในกล้ำมเนื้ อซึ่งจะใช้ได้
ในเวลำไมุเกิน ๓ วินำที
แบบที่ ๒ กำรสังเครำะห์พลังงำนโดยไมุใช้ออกซิเจน (Anaerobic
energy delivery) ซึ่งใช้ได้ไมุเกิน ๑๐ วินำที
แบบที่ ๓ กำรสังเครำะห์สำรพลังงำน โดยใช้ออกซิเจน ซึ่งจะใช้
พลังงำนได้ระยะเวลำนำน
 87

คณะผููจัดทำา
คณะกรรมการที่ปรึกษา
1. นำยอุดม ดำำริห์ ผ้้อำำนวยกำร

2. นำยเอกธนั ช เหลำสิงห์ รองผ้้อำำนวยกำร

3. นำงพิศมัย แรุเพชร คร้ปฏิบัติหน้ ำที่รองผ้้อำำนวย

กำรฝุ ำยวิชำกำร
4. นำยสมชำติ ทะนั นชัย คร้ปฏิบัติหน้ ำที่รองผ้้
อำำนวยกำรฝุ ำยบริหำรงำนทัว่ ไป
5. นำยแหลมทอง สำำรำญสุข คร้ปฏิบัติหน้ ำที่รองผ้้
อำำนวยกำรฝุ ำยบุคลำกร
6. นำยกฤษฎ์ แก้วคำำรอด คร้ปฏิบัติหน้ ำที่รองผ้้อำำนวย
กำรฝุ ำยแผนงำนฯ
คณะทำางาน
1. นายเอกธนั ช เหลาสิงห์ ประธำนกรรมกำร
 88

2. นายวัชระพงษ์ พ่ม
ุ ทอง รองประธำนกรรมกำร
3. นำงพิศมัย แรุเพชร กรรมกำร

4. นางนภาภรณ์ พรคนึ ง กรรมกำร

5. นำยสวรำชย์ วงใหญุ กรรมกำร

6. นายวฤหัส ร่งุ เรือง กรรมกำรและเลขำนุกำร

7. นายนิ ธิโรจน์ ตรีรต

ั น์วิชชา กรรมกำรและผ้้ชุวย
เลขำนุกำร

คณะที่ปรึกษา
1. คุณหญิงกษมำ วรวรรณ เลขำธิกำรคณะกรรมกำรกำรศึกษำขัน
้ พื้น
ณ อยุธยำ ฐำน
2. นำยวินัย รอดจุำย รองเลขำธิกำรคณะกรรมกำรกำรศึกษำขัน ้
พื้นฐำน
 89

3. นำยสุชำติ วงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษำด้ำนพัฒนำกระบวนกำรเรียนร้้

4. นำงเบญจลักษณ์ นำ ้ ำฟ้ ำ ผ้้อำำนวยกำรสำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำร

ศึกษำ
5. นำงภำวนี ธำำรงเลิศฤทธิ ์ รองผ้้อำำนวยกำรสำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน
กำรศึกษำ

คณะทำางานยกรุาง
1. ผศ. เจริญ แสนภักดี ข้ำรำชกำรบำำนำญ ประธำน

2. ผศ. เกษม นครเขตต์ ข้ำรำชกำรบำำนำญ คณะ

ทำำงำน
3. นำงประไพ ตรีฤกษ์ ฤทธิ ์ ข้ำรำชกำรบำำนำญ คณะทำำงำน

4. แพทย์หญิงเพ็ญศรี กรมอนำมัย กระทรวงสำธำรณสุข คณะทำำงำน

กระหมุอมทอง
5. รองศำสตรำจำรย์จุฑำมำศ คณะพลศึกษำ มหำวิทยำลัย คณะทำำงำน
เทพชัยศรี ศรีนครินทรวิโรฒ
6. นำงสำวจรินทร์ โฮุสกุล สำำนักงำนเขตพืน
้ ทีกำรศึ
่ กษำ คณะทำำงำน
กรุงเทพมหำนคร เขต ๓
7. นำยมำโนช จันทร์แจุม สำำนั กงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ คณะทำำงำน
รำชบุรี เขต ๑
8. นำงภำวนำ อนนตะชัย โรงเรียนพญำไท กรุงเทพฯ คณะทำำงำน

9. นำงวรรณประภำ ภุ้พัฒน โรงเรียนเบญจมรำชำนุสรณ์ จ. คณะทำำงำน

กุล นนทบุรี
1 นำงสุรีย์ อรรถกร โรงเรียนสำยนำ ้ ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ คณะทำำงำน
0. กรุงเทพฯ

1 นำงดลนภำ บ้รณะธัญญ์ โรงเรียนสันติรำษฎร์วิทยำลัย คณะทำำงำน

1. กรุงเทพฯ

1 นำยชัยยุทธ กุลตังวัฒนำ โรงพยำบำลรำชวิถี กรุงเทพฯ คณะทำำงำน

 90

1 นำยชนะ รมณี ย์พิกุล โรงเรียนสีกัน (วัฒนำนั นท์ คณะทำำงำน

3. อุปถัมภ์) กรุงเทพฯ

1 นำยเกษม ศุภรำนนท์ โรงเรียนสุขำนำรี จ. นครรำชสีมำ คณะทำำงำน

4.

1 นำงนั ทมน วรรณศิริ โรงเรียนประถมศึกษำ คณะทำำงำน

5. ธรรมศำสตร์ ปทุมธำนี

1 นำยไพบ้ลย์ แจุมพงษ์ มหำวิทยำลัยรำชภัฏสวนสุนันทำ คณะทำำงำน

6.

1 นำงสุกัญญำ งำมบรรจง สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำร คณะทำำงำน

7. ศึกษำ

1 นำงสุขเกษม เทพสิทธิ ์ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำร คณะทำำงำน

8. ศึกษำ และ
เลขำนุกำร
1 นำยสุรำษฎร์ ทองเจริญ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำร คณะทำำงำน
9. ศึกษำ และผ้้ชุวย
เลขำนุกำร
2 นำยณั ฐพล ตัน สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำร คณะทำำงำน
0. เจริญทรัพย์ ศึกษำ และผ้้ชุวย
เลขำนุกำร

คณะบรรณาธิการ
1. รศ.เอมอัชฌำ วัฒนบุรำ คณะครุศำสตร์ จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย
นนท์
2. นำยมำโนช จันทร์แจุม สำำนั กงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำรำชบุรี เขต
๑
3. นำงประไพ ตรีฤกษ์ ฤทธิ ์ ข้ำรำชกำรบำำนำญ สำำนั กพัฒนำกำรกีฬำ

4. รศ.ประพันธ์ศิริ สุเสำรัจ
5. นำงวรรณประภำ ภุ้พัฒน
ก้ล
6. นำงสุรีย์ อรรถกร
7. นำงจินตนำ ตันตสุทธิกุล
8. นำยไพบ้ลย์ แจุมพงษ์
9. นำยมน้ สมบ้รณ์เหลือ
1 นำงดุจฤดี อรุณศักดิ ์
0.
1 นำงสุกัญญำ งำมบรรจง
1.
1 นำงภำวนี ธำำรงเลิศฤทธ์ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ
2.
1 นำงสำวรุุงนภำ นุตรำวงศ์
3.
1 นำงรัตนวิภำ ธรรมโชติ
4.
1 นำง ดรุณี จำำปำทอง
5.
1 นำงสำวพรนิ ภำ ศิลป์
6. ประคอง
1 นำงสำวกอบกุล สุกขะ
91
และนั นทนำกำร
คณะศึกษำศำสตร์ มหำวิทยำลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ
โรงเรียนเบญจมรำชำนุสรณ์ จ.นนทบุรี
โรงเรียนสำยนำ ้ ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์
กรุงเทพฯ
โรงเรียนสำยนำ ้ ำทิพย์ กรุงเทพฯ
คณะมนุษยศำสตร์ มหำวิทยำลัยรำชภัฏ
สวนสุนันทำ
สำำนั กงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำสุพรรณบุรี
เขต ๑
โรงเรียนนวมินทรำชิน้ทิศเตรียม
อุดมศึกษำน้ อมเกล้ำ กรุงเทพฯ
สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ
สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ
สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ
สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ
สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ
สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ
 92

1 นำงสุขเกษม เทพสิทธิ ์ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ

8.

1 นำยณั ฐพล ตัน สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ

9. เจริญทรัพย์

ฝุ ายเลขาน่การโครงการ
1 นำงสำวรุุงนภำ นุตรำวงศ์ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน หัวหน้ ำ
. กำรศึกษำ โครงกำร
2 นำงสำวจันทรำ ตันติ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน คณะทำำงำน
. พงศำนุรักษ์ กำรศึกษำ
3 นำงดรุณี จำำปำทอง สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน คณะทำำงำน
. กำรศึกษำ
4 นำงสำวพรนิ ภำ ศิลป์ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน คณะทำำงำน
. ประคอง กำรศึกษำ
5 นำงเสำวภำ ศักดำ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน คณะทำำงำน
. กำรศึกษำ
6 นำงสำวกอบกุล สุกขะ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน คณะทำำงำน
. กำรศึกษำ
7 นำงสุขเกษม เทพสิทธิ ์ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน คณะทำำงำน
. กำรศึกษำ
8 นำยวีระเดช เชื้อนำม สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน คณะทำำงำน
. กำรศึกษำ
9 วุำที่ ร.ต. สุรำษฏร์ ทอง สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน คณะทำำงำน
. เจริญ กำรศึกษำ
1 นำงสำวประภำพรรณ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน คณะทำำงำน
0 แม้นสมุทร กำรศึกษำ
.
1 นำยอนุจินต์ ลำภธนำภ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน คณะ
1 รณ์ กำรศึกษำ ทำำงำน
.

คณะผููรับผิดชอบกลุ่มสาระการเรียนรูู ส่ขศึกษาและพลศึกษา
 93

1. นำงสุกัญญำ งำมบรรจง สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน

กำรศึกษำ

2. นำงรัตนวิภำ ธรรมโชติ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน

กำรศึกษำ

3. นำงสุขเกษม เทพสิทธิ ์ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน

กำรศึกษำ

4. นำยณั ฐพล ตัน สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน

เจริญทรัพย์ กำรศึกษำ

5. นำยสุรำษฎร์ ทองเจริญ สำำนั กวิชำกำรและมำตรฐำน

กำรศึกษำ