You are on page 1of 7

1

รายงาน สมรรถนะในการประกอบอาชีพ
เสนอ
ผศ.ดร.ดาวรุ่ งรตา วงษ์ไกร
โดย
นางสาว ฐิรญา ประทุมวงศ์
รหัสนิสิต 6505010158

รายงานฉบับนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของรายวิชา


สมรรถนะในการประกอบอาชีพ
ประจำปี การศึกษา 1/2565
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
วิทยาเขต วัชรพล
คำนำ
2

รายงานฉบับนี้เป็ นส่ วนหนึ่งของวิชาสมรรถนะในการประกอบอาชีพ ของนิสิต


ชั้นปี 1 คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาเขตวัชรพล โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาความรู้ที่
ได้จากการค้นคว้าเพิ่มเติมและศึกษาจากในชั้นเรี ยน ทั้งนี้ในรายงานนี้ มีเนื้อหา
ประกอบด้วยความรู้เกี่ยวกับสมรรถนะ การประกอบอาชีพในอนาคต รวมถึงแบบแผน
การคิดวิเคราะห์ในวิชาชีพพยาบาล ผูจ้ ดั ทำต้องขอขอบคุณผศ.ดร.ดาวรุ่ งรตา วงษ์ไกร
ผูใ้ ห้ความรู้และแนวทางการศึกษา หากมีขอ้ เสนอแนะประการใดในรายงานนี้ ผูจ้ ดั ทำ
ยินดีนอ้ มรับและจะนำไปปรุ งและพัฒนาให้ดียิง่ ขึ้นไป

นางสาวฐิรญา ประทุมวงศ์
ผูจ้ ดั ทำ

1.นิสิตจงอธิบายการเจริญเติบโตของร่ างกายและพัฒนาการทางอารมณ์ มี
ความเชื่อมโยงอย่ างไรกับสมรรถนะในการประกอบอาชีพสาขาวิชาที่นิสิต
ศึกษาอยู่?
พัฒนาการ (Development) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ทั้งในด้าน
โครงร่ าง (Structure) และแบบแผน (Pattern) ของร่ างกายทุกส่ วนอย่างมีข้นั ตอนและ
เป็ นระเบียบแบบแผน นับแต่เริ่ มปฏิสนธิจนกระทัง่ เสี ยชีวิต ซึ่งเป็ นการเปลี่ยนแปลงใน
เชิง คุณภาพ (Quality) เพื่อให้บุคคลนั้นพร้อมจะแสดงความสามารถในการกระทำ
กิจกรรมใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับวัย ในการที่พฒั นาการของคนจะสมบูรณ์ได้น้ ัน จำเป็ น
ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของบุคคล ได้แก่
1. การเจริญเติบโต (Growth)
การเจริ ญเติบโต หมายถึง การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางร่ างกายที่มีความเกี่ยวข้องกับ
3

ขนาด น้ำหนัก ส่ วนสูง กระดูก กล้ามเนื้ อ รู ปร่ าง ซึ่งเป็ นการเปลี่ยนแปลงในเชิงของ


ปริ มาณ เช่น ส่ วนสูงที่เพิม่ ขึ้น การปรากฏสัดส่ วนวัยสาวของเด็กหญิง เป็ นต้น
2. วุฒิภาวะ (Maturation)
วุฒิภาวะ หมายถึง การเจริ ญเติบโตของโครงสร้างทางร่ างกายอย่างเป็ นลำดับขั้นตาม
ธรรมชาติจนถึงจุดสูงสุ ด มีผลให้เกิดความพร้อมที่จะประกอบกิจกรรมได้เหมาะสม
กับวัย เป็ นสภาวะที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่ใช่การเรี ยนรู้หรื อประสบการณ์
สรุ ปได้วา่ วุฒิภาวะ หมายถึงการบรรลุถึงขั้นของความเจริ ญเติบโตเต็มที่ในระยะใด
ระยะหนึ่ง และพร้อมที่จะประกอบกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งได้พอเหมาะสมกับวัย
เช่น เด็กสามารถเดินได้ในเวลาที่ควรจะเดินได้ เราเรี ยกว่าเด็กมีวฒ
ุ ิภาวะพร้อมที่เดิน
วุฒิภาวะในการตัดสิ นใจปัญหาตรงหน้าและสามารถจัดลำดับการแก้ไขได้ เป็ นต้น

ในแวดวงการบริ หารทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource) แทบทุกคนคงจะเคย


เห็นคำว่า Competency ที่แปลว่า “สมรรถนะ” กันอยูบ่ ่อยๆ แต่หลายคนมักไม่เข้าใจคำ
นี้อย่างแท้จริ ง หรื อตีความสับสนกับคำที่มีลกั ษะคล้ายกันอย่าง Potential ที่แปลว่า
“ศักยภาพ” หรื อ Performance ที่แปลว่า “ความสามารถ” อยูบ่ ่อยครั้ง อันที่จริ งแล้วคำนี้
มีความสำคัญต่อการบริ หารงานบุคคลค่อนข้างมาก และเป็ นสิ่ งที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์
ควรทำความเข้าใจให้ถูกต้องอีกด้วย
สมรรถนะ (Competency) หมายถึง บุคลิกลักษณะที่ซ่อนอยูภ่ ายในปัจเจกบุคคล ซึ่ง
สามารถผลักดันให้ปัจเจกบุคคลนั้นสร้างผลการปฏิบตั ิงานที่ดีหรื อตามเกณฑ์ที่ก ำหนด
ในงานที่ตนรับผิดชอบ
สมรรถนะ เป็ นคุณลักษณะที่อยูภ่ ายในบุคคล ทำให้ผลงานมีประสิ ทธิภาพ เป็ น
คุณลักษณะที่ผสม ผสานกันของแรงขับ ทัศนคติความเชื่อค่านิยม ความ รู้สติปัญญา
และทักษะ ที่จะแยกระหว่างคนเก่งและคนที่มีผลงานธรรมดา สมรรถนะของการเป็ น
ผูป้ ระกอบการที่ดีและประสบความสำเร็ จ มีดงั นี้
4

1) มีความพยายามที่จะบรรลุผลสำเร็ จ(Drive) คือ มีแรงจูงใจในการทำงานให้ประสบ


ผลสำเร็ จ ประกอบด้วย รับรู้หรื อตระหนักถึงโอกาส มีความรับ ผิดชอบ มีความว ่องไว
มีความตั้งใจที่จะลงมือทำ ไม่ทอ้ ถอย และมีความทะเยอทะยาน
2) มีความสามารถในการคิดเป็ น (Thinking ability) คือ มีความเฉลียวฉลาด คิดริ เริ่ ม
สร้างสรรค์แก้ปัญหาเฉพาะหน้าและมีความสามารถ ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล
3) มีมนุษยสัมพันธ์(Humanrelationability) ประกอบด้วย มีอารมณ์มนั่ คง มีความเป็ น
มิตรเข้ากับ คนได้มีความรอบคอบ ใส่ ใจในความรู้สึกของผูอ้ ื่น มีความร่ าเริ ง
4) มีความสามารถในการติดต่อสื่ อสาร สื่ อ ข้อความในการประกอบธุรกิจ
(Communication ability) การติดต่อระหว่างบุคคลจะเกิดขึ้นอยูต่ ลอด เวลา ทั้งวาจา
และลายลักษณ์อกั ษร เมื่อจำเป็ นต้องมี การสัง่ งาน ต้องมีความชัดเจนและเข้าใจตรงกัน
เพื่อ ช่วยให้การทำงานมีประสิ ทธิภาพและบรรลุเป้ าหมาย เดียวกัน
5) มีความสามารถทางการบริ หารและทาง เทคนิค (Business and technical ability)
ผูป้ ระกอบการจะต้องมีการลงทุนจึงต้องมีความเข้าใจ ในเรื่ องธุรกิจที่ประกอบการ
ลงทุนเป็ นอย่างดี
ซึ่งการเจริ ญเติบโตและการมีพฒั นาการของร่ างกายเรามีความเกี่ยวข้องทั้งในด้านการมี
วุฒิภาวะในการตัดสิ นใจ การแก้ปัญหา และสามารถประเมิณสมรรถนะของนิสิต
พยาบาลได้ดว้ ย ดังนี้
1) มีทกั ษะในการปฏิสมั พันธ์กบั บุคคล (Soft skills) คือ มีความคิดสร้างสรรค์ มี
ทัศนคติเชิงบวก ขยัน อดทน มีภาวะผูน้ ำ มีวิสยั ทัศน์และทักษะในการแก้ปัญหา
2) มีทกั ษะในการปฏิบตั ิงาน (Hard skills) คือ มีความรู้และทักษะการบริ หารธุรกิจ
ยอมรับ ความเสี่ ยง และสามารถใช้เทคโนโลย
สมรรถนะพยาบาลมีท้งั หมด 9 ด้ าน
1. สมรรถนะด้านการใช้กระบวนการพยาบาล
2. สมรรถนะด้านทักษะการปฏิบตั ิการพยาบาล
3. สมรถนะด้านการให้การพยาบาลผูป้ ่ วยที่มีอาการซึ่งอาจนำไปสู่ ภาวะวิกฤติ
4. สมรรถนะด้านการให้ความรู้ ให้ค ำปรึ กษา
5

5. สมรรถนะด้านทักษะการสื่ อสาร
6. สมรรถนะด้านการพัฒนาตนเองและหน่วยงาน
7. สมรรถนะด้านกฎหมายและจริ ยธรรม
8. สมรรถนะด้านทัศนคติต่อวิชาชีพการพยาบาล
9. สมรรถนะด้านการบริ หารทีมการพยาบาล
2.การพัฒนาการคิดวิเคราะห์ โดยกระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร์ มีความสำคัญต่อ
การระกอบวิชาชีพของนิสิตอย่ างไร?นิสิตสามารถนำกระบวนการคิดแบบ
วิทยาศาสตร์ ไปใช้ อย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุดในการประกอบวิชาชีพ?
กระบวนการพยาบาลเป็ นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่มีระบบ แบบแผนและ
มีข้นั ตอนที่ใช้เพื่อวางแผนในการดูแลผูป้ ่ วยอย่างครอบคลุมสามารถนำไปใช้ได้จริ ง
เป็ นสิ่ งสำคัญ สำหรับพยาบาลและเป็ นสมรรถนะหลักของการเป็ น พยาบาลที่ดีที่
พยาบาลต้องใช้ในการ วิเคราะห์ปัญหา ตัดสิ นใจเรี ยงลำดับความสำคัญของปัญหา และ
คัดเลือกวิธีการปฏิบตั ิการพยาบาลที่ดีที่สุดในการ ช่วยชีวิตผูป้ ่ วย ปัจจุบนั พบว่าระบบ
บริ การด้าน สาธารณสุ ขมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นมากกว่าในอดีต และเครื่ องมือทางการ
แพทย์ตอ้ งใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น พยาบาลจึงจำเป็ นต้องใช้การตัดสิ นใจในสถานการณ์ ที่
มีความซับซ้อนเหล่านี้เพื่อเป็ นแนวทางในการปฏิบตั ิ ที่มุ่งเน้นความมีประสิ ทธิภาพใน
การดูแลและความ ปลอดภัยของผูป้ ่ วย เป็ นกระบวนการที่สำคัญที่พยาบาลต้องนำไป
ใช้ในการปฏิบตั ิเพื่อเพิม่ คุณภาพในการบริ การพยาบาล เพราะเป็ นกระบวนการที่
ประกอบด้วยการประเมินสภาพผูร้ ับบริ การ โดยการซักประวัติ การตรวจร่ างกาย และ
การเก็บข้อมูลจากผลการตรวจทางห้องปฏิบตั ิการ รวมทั้งผลการตรวจพิเศษต่างๆ เมื่อ
ได้ขอ้ มูลมาแล้วก็น ำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อให้ทราบถึงปัญหาทางการพยาบาลที่เกิดขึ้น
กับผูป้ ่ วย แล้วจึงนำมาวางแผนการพยาบาล กำหนดวิธีการให้การพยาบาลเพื่อแก้
ปัญหาที่เกิดขึ้น และกำหนดเกณฑ์การประเมินผล
ขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ที่น ำมาปรับใช้กบั วิชาชีพทำให้สามารถช่วยให้ดูแลผู้
ป่ วยได้ครอบคลุม ผูป้ ่ วยได้รับการดูแลที่มีประสิ ทธิภาพ และช่วยให้ผปู้ ่ วยหายเร็ วขึ้น
– ช่วยให้การพยาบาลมีระบบระเบียบ การทำงานมีข้ นั ตอน เป็ นเหตุผลและมีหลักการ
ทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถอธิบายได้
– มีแนวทางในการดูแลผูป้ ่ วย ช่วยให้ผปู้ ่ วยปลอดภัยมากขึ้น มีความมัน่ ใจในการดูแลผู้
ป่ วยไม่ตอ้ งกลัวความผิดพลาด
6

3.ในฐานะที่ศึกษาในหลักสู ตรที่มีจรรยาบรรณวิชาชีพกำกับ เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว


นิสิตตั้งใจที่จะปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพในสาขาวิชาชีพของตนอย่ างไรบ้ าง?
3.1 จะไม่เลือกปฏิบตั ิกบั คนไข้ มีความเสมอภาคและด้านสิ ทธิมนุษยชน ไม่วา่ จะเชื้อ
ชาติ ศาสนา หรื อสถานภาพของบุคคลใดๆ
3.2 จะนำความรู้ที่ได้รับตลอดการศึกษา ไปใช้รักษาคนไข้อย่างเต็มที่ในด้านการ
วินิจฉัยและแก้ปัญหาโรคต่างๆ
3.3 รักษาความลับของผูป้ ่ วย ไม่น ำไปเผยแพร่ ถา้ หากไม่ได้รับการอนุญาต
3.4 เคารพสิ ทธิและหน้าที่ของผูร้ ่ วมวิชาชีพ ไม่แบ่งแยกชนชั้น
3.5 ประกอบวิชาชีพอย่างถูกกฎหมาย ไม่กระทำการใดๆที่ท ำให้เสื่ อมเสี ย
3.6 ไม่ใช้อ ำนาจที่มีเพือ่ ผลประโยชน์ส่วนตน
3.7 คอยให้ค ำแนะนำและวิธีป้องกันโรคต่างๆกับคนไข้อยูเ่ สมอ
3.8 พูดจาด้วยความสุ ขภาพยิม้ แย้ม และบริ การด้วยความเต็มใจ
3.9 ไม่ส่งเสริ มเพือ่ นร่ วมงานที่กระทำผิดต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ เพื่อผลประโยชน์แห่ง
ตนหรื อบุคคลนั้นๆ
3.10 รักและคอยช่วยเหลือเพือ่ นร่ วมงานในโรงพยาบาลไม่ให้มีความบาดหมางกัน

4.ให้ นิสิตแสดงความคิดเห็นของตนเองว่ าการอยู่ร่วมกันในสั งคมบุคคลควรพึงยึดหลัก


ปฏิบัติต่อกันในเรื่องใดบ้ างเพือ่ ให้ สังคมเป็ นที่น่าอยู่
7

การอยู่ร่วมกันในสั งคม หมายถึง การที่มนุษย์มาอยูร่ ่ วมกันเป็ น สังคม สามารถ


ปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์การอยูร่ ่ วมกันในรู ปของกฎระเบียบ หรื อกฎหมาย และมีคุณธรรม
จริ ยธรรมในการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การมีส่วนร่ วมกิจกรรมต่าง ๆ ของสังคม เช่น การ
มีส่วนร่ วมในกิจกรรม การเมืองการปกครองเคารพซึ่งกันและกัน ไม่แสดงกิริยาและ
วาจาดูหมิ่นผูอ้ ื่นและการปฏิบตั ิตามคุณธรรมของการอยูร่ ่ วมกันตามหลัก ศาสนาที่
ตนเองนับถือ
ดังนั้นการที่จะอยูใ่ นสังคมร่ วมกันได้อย่างมีความสุขจึงจะต้องพึงยึดหลักการมีระเบียบ
การเอื้อเฟื อเผือ่ แผ่ การแบ่งปัน การเคารพสิ ทธิส่วนบุคคล ลดความเห็นแก่ตวั และเสี ย
สละแรงกายและใจเพื่อทําประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม ช่วยกันดูแลรักษาทรัพย์สินที่เป็ น
สาธารณสมบัติ เช่น ตูโ้ ทรศัพท์สาธารณะ ห้องสมุดประจําหมู่บา้ น สนามเด็กเล่น

You might also like