Professional Documents
Culture Documents
ซากดึกดำบรรพ์
ซากดึกดำบรรพ์ คือ ซากหรือร่ องรอยของสิ่ งมีชีวติ ทั้งพืชและสั ตว์ ทเี่ คยอาศัยอยู่ใน
บริเวณนั้น เมือ่ ตายซากจะถูกทับถมและฝังตัวอยู่ในชั้นหินตะกอน
ซากดึกดำบรรพ์สามารถพบได้ ตามชั้นหินตะกอนเป็ นส่ วนใหญ่ เพราะหินตะกอนเป็ น
หินทีส่ ามารถเก็บรักษาซากดึกดำบรรพ์ได้ ดกี ว่ าหินชนิดอืน่
นอกจากนั้นยังอาจพบซากดึกดำบรรพ์ในหินภูเขาไฟบางชนิด เกิดจากการทับถมของ
เถ้ าถ่ านภูเขาไฟ เพราะ เป็ นบริเวณทีม่ คี วามพรุนและมีซิลกิ า(SiO2)มาก ส่ วนหินอัคนีและ
หินแปรมักไม่ ค่อยพบซากดึกดำบรรพ์ เนื่องจากหินอัคนีเกิดจากแมกมาทีร่ ้ อนมาก และ
หินแปรเกิดจากการแปรสภาพเนื่องจากความร้ อนสู ง ทำให้ ซากดึกดำบรรพ์ทฝี่ ังตัวใน
หินอัคนีและหินแปรถูกทำลาย
ซากดึกดำบรรพ์ทพี่ บมากทีส่ ุ ด เป็ นซากดึกดำบรรพ์ของสั ตว์ ทะเลเพราะเมือ่ สั ตว์ ทะเล
ตายซากจะจมลงสู่ ก้นทะเล โคลนและตะกอนเม็ดละเอียดในน้ำทับถมและสะสมอยู่ตอนบน
ตะกอนละเอียดเหล่ านีจ้ ะทำให้ ซากของสั ตว์ ทะเลเสี ยหายน้ อยมาก
ซากดึกดำบรรพ์ดชั นี(index fossil)
ซากดึกดำบรรพ์ดชั นี คือ ซากดึกดำบรรพ์ที่ถูกใช้เป็ นตัว
กำหนดและระบุระยะเวลาทางธรณี วทิ ยา
เป็ นซากดึกดำบรรพ์ที่ บอกอายุได้แน่นอน
เนื่องจากมีววิ ฒั นาการทางโครงสร้างและ
รู ปร่ างอย่างรวดเร็ ว มีความแตกต่างในแต่ละช่วงอายุอย่างเห็น
เด่นชัด และปรากฏให้เห็นเพียงช่วงอายุหนึ่งแล้วก็สูญพันธุ์
ตัวอย่ างซากดึกดำบรรพ์ ดัชนี
แอมโมไนทต์
เป็ นสัตว์ทะเลจัดอยูใ่ นไฟลัมมอลลัสกา
(Mollusca) กลุ่มเดียวกับปลาหมึกปัจจุบนั
ไทรโลไบต์ เปลือกขดเป็ นวง ส่ วนใหญ่ลอยอยูบ่ น
เป็ นสิ่ งมีชีวติ ในยุคแคมเบรี ยม ผิวน้ำ ทำให้สามารถพบได้ท้ งั บริ เวณทะเล
และยุคออร์โดวิเชียน ตื้นและลึก พบมากในมหายุคมีโซโซอิก
มาสูญพันธุ์ในยุคเพอร์เมียน และสูญพันธ์เมื่อสิ้ นสุ ดยุคครี เทเซียส
การพบซากดึกดำบรรพ์
ไทโลไบต์ในหิ นทรายแดงที่
เกาะตะรุ เตา จังหวัดสตูล
แบรคิโอพอต จากแหล่งเขาถ่าน อ.สวี
จ.ชุมพร เป็ นสัตว์ทะเลมีลกั ษณะคล้าย
หอยกาบคู่ เช่น หอยแครง แต่ต่างกันที่
เปลือกทั้ง ๒ ฝา ที่มีขนาดไม่เท่ากัน แต่
ฝาเดียวกันจะมีลกั ษณะด้านซ้าย และ
ด้านขวาสมมาตรกัน พบแพร่ หลายมาก
ในมหายุคพาลีโอโซอิก
ฟิ วซูลินิด อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ อายุ
ประมาณ 290 ล้านปี เป็ นสัตว์ทะเลเซลล์เดียว มี
ลักษณะรู ปร่ างยาว หัวท้ายแหลม รู ปร่ างและ
ขนาดคล้ายเม็ดข้าวสารทำให้คนทัว่ ไปคิดว่าเป็ น
ข้าวสารหิ น จึงนิยมเรี ยกว่า คตข้าวสาร พบมาก
ในยุคคาร์บอนิเฟอรัสและเพอร์เมียน และได้สูญ
พันธุ์ไปตั้งแต่ปลายยุคเพอร์เมียน
แกรปโตไลต์ ไครนอยด์
เป็ นสัตว์ทะเลที่ลอยอยูบ่ นผิวน้ำ พบในหิ น แอนดีไซต์ ซึ่งเป็ นหิ น
ซากดึกดำบรรพ์ ที่พบส่ วนใหญ่มี ภูเขาไฟที่เขาชนโถ จ.เพชรบูรณ์
ลักษณะคล้ายรอยพิมพ์บางๆ อยูบ่ น อายุประมาณ 250 ล้านปี
หิ นดินดานสี ด ำหรื อมีรูปร่ างคล้ายกิ่งไม้ ไครนอยด์เป็ นสัตว์ทะเล มีรูปร่ าง
แกรปโตไลต์เป็ นซากดึกดำบรรพ์ดชั นี คล้ายต้นไม้บางครั้งจึงมีผเู ้ รี ยกว่า
เนื่องจากพบมากในมหายุคพาลีโอโซอิก พลับพลึงทะเลแพร่ หลายใน
ตอนต้น ยุคออร์โดวิเชียนถึงดีโวเนียน มหายุคพาลีโอโซอิก
พบที่แหล่งบ้านป่ าเสม็ด อ.ละงู จ.สตูล
สโตรมาโตไลต์
เป็ นเนินตะกอนทีเ่ กิดจากการสะสมตัวพอกขึน้
มาเป็ นชิ้นๆ โดยแบคทีเรียจำพวกไซยาโน
แบคทีเรีย ซึ่งเป็ นสิ่ งมีชีวติ ทีเ่ ก่ าแก่ ทสี่ ุ ดในโลก
สโตรมาโตรไลต์ พบเป็ นซากดึกดำบรรพ์มา
ตั้งแต่ 3,500 ล้ านปี ก่ อน โดยพบในทวีป
แอฟริกา และออสเตรเลีย
กระบวนการเกิดซากดึกดำบรรพ์
ปัจจัยสำคัญ 2 ประการทีช่ ่ วยให้ ซากสิ่ งมีชีวติ เกิดเป็ นซากดึกดำบรรพ์ คือ
1. โครงร่ างส่ วนทีเ่ ป็ นของแข็งของสิ่ งมีชีวติ พืชและสั ตว์ เมือ่ ตายไป
แล้ วจะผุพงั เน่ าเปื่ อยเร็วมาก แต่ เปลือกแข็งของพืชและสั ตว์ เหล่ านี้
เช่ น ฟัน เปลือกนอก และเนือ้ ไม้ จะคงสภาพอยู่ได้ และกลายเป็ น
ซากดึกดำบรรพ์ ไปในทีส่ ุ ด
2. กระบวนการเก็บรักษาซากดึกดำบรรพ์ กระบวนการเก็บรักษา
ซากดึกดำบรรพ์ ทแี่ ตกต่ างกัน จะทำให้ ซากดึกดำบรรพ์ มสี ภาพและ
ความสมบูรณ์ ของซากแตกต่ างกัน
กระบวนการกลายเป็ นหิน (petrifaction)
• ซากดึกดำบรรพ์ส่วนใหญ่เกิดโดยกระบวนการนี้
• มักเกิดกับส่ วนที่แข็ง เช่น กระดูก เปลือกหอย ไม้ ฯลฯ
• เป็ นกระบวนที่เกิดจากสารละลายในน้ำใต้ดินที่มีแร่ ธาตุ
ซิ ลิกา แคลเซี ยมคาร์บอเนต ออกไซด์ของเหล็ก ซัลไฟด์ของเหล็ก
ฯลฯ แทรกซึ มเข้าไปตกผลึกในช่องว่างภายในเซลล์แทนที่เนื้ อเยือ่
หรื อผนังเซลล์ของพืช สัตว์ ทำให้เซลล์ของซากอินทรี ยแ์ ข็งตัว 4. ซากดึกดำบรรพ์โผล่
ขึน้ สู่ ช้ันผิวโลก
รวมทั้งคงรู ปร่ างและโครงสร้างเดิมไว้ได้
• ซากพืช – สัตว์ที่ตกลงไปในยางสนที่
แข็งตัวเป็ นอำพัน (amber) ซากที่เกิด
ละอองเกสรของดอกกล้
โดยวิธีน้ ี จะรักษารายละเอียดได้ ดี วยไม้
มาก เช่น ซากของแมลงต่าง ๆดึกดำบรรพ์ติดอยูบ่ นหลังฟอสซิลผึ้ง
โบราณ ถือเป็ นบรรพบุรุษกล้วยไม้
อายุประมาณ 26-112 ล้านปี ก่อน
กระบวนการเกิดมัมมี่ (mummification)
• เป็ นการเกิดโดยธรรมชาติจากการ
แห้งของซากทีละน้อย พบได้ในที่
อุณหภูมิสูงและแห้ง แถบทะเล
ทรายหรื อบริ เวณอื่น ๆ ฟอสซิลฝูงวาฬ กลางทะเลทราย
อายุประมาณ 2 ล้านปี ก่อน ประเทศชิลี
Mummified baboon
ซากดึกดำบรรพ์ของหอยตะเกียง
(Brachiopod) สภาพแบบ ไทรโลไบต์จดั เป็ นซากดึกดำบรรพ์
Mold เป็ นซากดึกดำบรรพ์ดชั นีใน ดัชนีในยุคไซลูเรี ยน – ยุคดีโวเนียน
ยุคดีโวเนียน อายุ 416-359 ล้ านปี
3.รอยเท้ าและรอยลาก (tracks and trails) เป็ นร่ องรอยของรอยเท้ า รอยลาก รอยคืบ
คลาน หรือรอยของส่ วนร่ างกายสั ตว์ ทปี่ รากฏอยู่ในตะกอนหรือหินแข็ง เช่ น รอยเท้ า
ไดโนเสาร์ รอยของกระพรุนทะเล เป็ นต้ น
ซากฟอสซิลรอยเท้ าของเมกาเธอเรียม
สั ตว์ ในตระกูลช้ างชนิดหนึ่ง จากยุคน้ำ รอยเท้ าไดโนเสาร์
แข็ง พบทีเ่ มืองกัวมินิ เอาร์ เจนตินา ภูแฝก ต. ภูแล่ นช้ าง
สู ญพันธุ์ไปประมาณ 10,000 ปี ก่ อน กิง่ อำเภอนาคู จ. กาฬสิ นธุ์
4. คอโปรไลต์ (coprolites) เป็ นซากสิ่ งขับถ่ ายของสั ตว์ ในสมัยบรรพกาล เป็ น
ประโยชน์ ในการบอกนิสัยการกินของสั ตว์ รวมทั้งอาจทำให้ ทราบรู ปร่ างและขนาด
ของรู ทวารหนักของสั ตว์ ชนิดนั้น ๆ ได้
ฟอสซิลมูลของไดโนเสาร์ชนิดหนึ่ง
ฟอสซิลอุจจาระมนุษย์อยูใ่ นถ้ำ
เพสลียท์ ี่โอเรกอนทีแ่ สดงว่ า
มนุษย์ อาศัยอยู่ในทวีป ฟอสซิลอึหมาป่ าสี น ้ำตาลช็อกโกแลตม้วน
อเมริกาเหนือมากว่ า 14,000 ปี เป็ นก้อนกลมขุดขึ้นมาจากชายฝั่งทะเล
แล้ ว ก่ อนหน้ านีเ้ ข้ าใจกันว่ า เนเธอร์แลนด์ มีอายุยอ้ นไปถึงยุคไพลโตซีน
มนุษย์ อยู่ทนี่ ี่มาแค่ 13,000 ปี ตอนปลาย หรื อ 12,000-100,000 ปี มาแล้ว
เท่ านั้น
5. แกสโตรไลต์ (gastrolites) เป็ นก้อนกรวดก้อนหินทีม่ คี วามมัน เรียกว่ า หินกิซ
ซาร์ ด (Gizzard stone) มีอายุอยู่ในมหายุคมีโซโซอิก สั ตว์ เลือ้ ยคลานดังกล่ าวกิน
เข้ าไปเพือ่ ช่ วยในการย่ อยอาหารแล้วถ่ ายออกมา
6. ร่ องรอยอืน่ ๆ (feeding burrow) เช่ น รอยรู ทเี่ กิดจากตัวหนอน หอย หรือสั ตว์
อืน่ ๆ เจาะพืน้ ทีอ่ ยู่อาศัย รอยเขีย้ วหรือฟันแทะทีป่ รากฏอยู่บนชิ้นกระดูก เป็ นต้ น
ซากฟอสซิลทีม่ ีร่องรอยสิ่ งมีชีวติ คล้ าย
หนอนอยู่ในอุกกาบาจ บริเวณขั้วโลกใต้
ไซบีเรีย และอลาสก้ า โดยเขาเรียกร่ อง
ร่ องรอยของหนอน (worm) พบบน รอยสิ่ งมีชีวติ นีว้ ่ า “ฟอสซิลหนอนต่ าง
หิ นทรายที่ประเทศออสเตรเลีย คาดว่า ดาว” โดยโครงสร้ างคล้ ายคลึงเชื้อโรค
มีอายุเก่าแก่ที่สุดราว 1.2 พันล้านปี ซึ่ง แบคทีเรียตระกูล cyanobacteria
อยูใ่ นช่วงมหายุคพรี แคมเบรี ยน
ร่ องรอยรู หนอนชอนไช
ซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ ในประเทศไทย
ส่ วนมากอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในชั้นหินทราย หินทรายแป้ ง
พบในยุคไทรแอสสิ กตอนปลายถึงยุคครีเตเชียส
ตอนกลางอายุ 200 – 100 ล้ านปี ทีผ่ ่ านมา
ไดโนเสาร์ ชนิดแรกทีพ่ บคือ สยามโมซอรัส สุ ธีธรนี
ภูเวียงโกซอรัส สิ รินธรเน่
เป็ นไดโนเสาร์ซอโรพอดกินพืชขนาดใหญ่
เดิน 4 ขา คอยาว หางยาว อายุประมาณ 130
ล้านปี ความยาวประมาณ 15-20 เมตร พบ
ฟอสซิลครั้งแรกที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง
จังหวัดขอนแก่น โดยตั้งชื่อเพื่อถวายพระ
เกียรติแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุ ดดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิ ส
สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส : เป็ นไดโนเสาร์
เทอโรพอดที่เดินด้วย 2 ขาหลัง ส่ วน 2 ขาหน้า
มีขนาดเล็ก ในยุคครี เทเซียสตอนต้น ประมาณ
130 ล้านปี ความยาวประมาณ 6.5 เมตร นับว่าเป็ น
บรรพบุรุษของ ไทรันโนซอรัส เร็ กซ์
ที่พบในอเมริ กาเหนือ
กินรี มิมสั ขอนแก่นเอนซิ ส
เป็ นไดโนเสาร์กินทั้งพืชและสัตว์
เป็ นอาหารเดินและวิง่ ด้วย 2 ขา
หลัง มีรูปร่ างคล้ายนกกระจอกเทศ
และปราดเปรี ยว ขนาดลำตัวยาว
ประมาณ 1-2 เมตร คอเรี ยว เล็ก
ยาว ปากเป็ นจะงอย ไร้ฟัน ถูกค้น
พบในชั้นหิ นหมวดหิ นเสาขัว ที่
อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น อายุ
ประมาณ 130 ล้านปี
อีสานโนซอรัส อรรถวิภชั น์ชิ