Professional Documents
Culture Documents
วิวัฒนาการ (evolution)
วิวัฒนาการ(Evolution)
หลักฐานและข้อมูลทีใ่ ช้ในการศึกษาวิวฒั นาการของสิ่งมีชีวติ
แนวคิดเกีย่ วกับวิวัฒนาการของสิง่ มีชีวติ
พันธุศาสตร์ประชากร
ปัจจัยที่ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถีข่ องแอลลีล
การกาเนิดสปีชีส์
วิวฒ
ั นาการ คือ
การเปลี่ยนแปลงของพันธุกรรม
ทีเ่ กิดขึน้ ในสิ่งมีชีวติ
มีผลทาให้ลักษณะของสิ่งมีชีวิต
เปลีย่ นแปลงไป จากรุ่นบรรพบุรุษ
และสามารถถ่ายทอดลักษณะ
ทีเ่ ปลี่ยนแปลงนั้น
ไปยังรุ่นลูกหลานได้
โดยได้รับการคัดเลือกให้มีชีวิตอยู่
รอดได้ ในสภาพแวดล้อมทีต่ า่ งกัน
เป็ นระยะเวลาทีย่ าวนาน
KruAung : BEN
วิวัฒนาการ (Evolution)
เป็นการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมในประชากรสิ่งมีชีวิตไปตามเวลาที่ผ่านไป
จนทาให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมีลักษณะต่าง ๆ แตกต่างไปจากเดิม
ซากดึกดาบรรพ์ของอาร์คีออพเทอริกซ์ (Archaeopteryx)
- มีร่องรอยที่ชัดเจนของการมีขนแบบขนนก(feather)ที่บริเวณปีกและหาง
ซึง่ คล้ายกับสัตว์ปกี ในปัจจุบนั
- มีรอ่ งรอยของกระดูกหางยาว ฟันขนาดเล็ก ขามีเกล็ดซึง่ คล้ายกับ
สัตว์เลือ้ ยคลานในปัจจุบนั
ตั ว์เลื้อยคลานและนกมีบรรพบุรุ ร่วมกัน เนื่องจากอาร์คีออพเทอริกซ์
มีลัก ณะบางอย่างคล้ายนก เช่น การมีขนแบบขนนกที่บริเวณปีกและ าง
ในขณะเดียวกันก็มีลัก ณะบางอย่างคล้าย ัตว์เลื้อยคลาน เช่น ขามีเกล็ด ฟัน
ขนาดเล็ก กระดูก างยาว แต่ทั้งคู่ต่างมีวิวัฒนาการของตนเอง จนกระทั่งปัจจุบัน
มีลัก ณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ฟอสซิลของนกบางชนิด
(มีฟันเหมือนพวก Reptile)
นักวิทยาศาสตรเชื
์ อ่ วา่ Archaeopteryx
ไมได่ เป็
้ นบรรพบุรุษของนกในปัจจุบน ั แตเป็่ นนกชนิดแรก
ทีพ
่ บเป็ นซากฟอสซิล มีชว ี ต
ิ อยูเมื
่ อ ่ ประมาณ 150 ลานปี ้
มาแลว ้ และเป็ นซากดึกดาบรรพที ์ เ่ ป็ นตัวเชือ
่ มทีแ
่ สดงวา่
นกและสั ตวเลื์ อ
้ ยคลานวิวฒั นาการมาจากบรรพบุรุษรวมกั ่ น
ลักฐานและข้อมูลที่ใช้ในการ ึก า ิ ัฒนาการของ ิ่งมีชี ิต
ซากดึกดาบรรพ์ (fossil)
เมื่อพืชละ ัต ์ตายลงจะถูกย่อย ลายโดยไม่มีซาก มบูรณ์ที่เ ลืออยู่โดยเฉพาะ
ิ่งมีชี ิตอายุนับล้านปี แต่บางครั้ง ิ่งมีชี ิตยังเ ลืออยูใ่ นรูปซากดึกดาบรรพ์ (fossil)
พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินโคราช ซากดึกดาบรรพ์ของยางไม้
ซากดึกดาบรรพ์ คือ ซาก รือร่องรอยของ ิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วอาจ
จมอยู่ในน้าและมีโคลน รือตะกอนทับถมอย่างรวดเร็ว ทาใ ้แร่ธาตุในน้า
ซึมเข้า ู่กระดูกและฟัน รือเนื้อเยื่อ และเกิดการตกผลึกภายในเนื้อเยื่อ
เมื่อผ่านไปเป็นเวลานาน
ปลาซีลาแคนธ์ แมงดาทะเล
แปะก๊วย หวายทะนอย
Living fossil
หญ้าถอดปล้อง
หอยงวงช้าง
ซากดึกดาบรรพ์ที่มีอายุมากกว่าจะอยู่ใน ินชั้นล่างที่มีอายุมากกว่า และซาก
ดึกดาบรรพ์ที่มีอายุน้อยกว่าจะพบอยู่ใน ินชั้นบนที่มีอายุน้อยกว่า ซากดึกดาบรรพ์ที่
มีอายุน้อยกว่าจะมีโครง ร้างที่ซับซ้อนและมีลัก ณะใกล้เคียงกับ ิ่งมีชีวิตในปัจจุบัน
มากกว่าซากดึกดาบรรพ์ที่มีอายุมาก
จากการศึกษาซากดึกดาบรรพ์ของสิ่งมีชีวติ ในหินตะกอนชั้นต่างๆ
จะสามารถบ่งบอกลาดับการเกิดของสิง่ มีชีวติ บนโลก
ม้าใน มัยอีโอซีน
ยังคงมีนิ้วเท้า ลายนิ้ว
ม้าใน มัยพลิโอซีนมีนิ้วเท้า
ลดจานวนลงเ ลือเพียงนิ้วกลาง
ที่มีขนาดโตขึ้น และปลายนิ้วพัฒนา
เป็นกีบ มีขายาวขึ้น และ ูง
มากกว่าม้าใน มัยไมโอซีน
นอกจากนี้ยังมีฟันกรามใ ญ่
และรอย ยักเพิ่มขึ้นด้วย
วิวัฒนาการของม้า
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ใช้ระยะเวลา ประมาณ .................ล้านปี
เมื่อพิจารณาจาก ลักฐานพบว่าม้าในอดีตนั้นมีขนาดตัวเล็ก มีฟันที่เ มาะ
า รับการกินใบไม้ตามพุ่มไม้ และมีลัก ณะนิ้วเท้าที่มี ลายนิ้วซึ่งเ มาะ า รับการ
เดินบนพื้นดินที่อ่อนนุ่มในป่า
ขณะที่ม้าในปัจจุบันมีขนาดตัวใ ญ่ มีฟันที่เ มาะกับการกิน ญ้าที่เ นียวกว่า
ใบไม้ และมีลัก ณะนิ้วเท้า
เพียงกีบเดียว
ซึ่งเ มาะแก่การวิ่ง
ได้อย่างรวดเร็วในทุ่ง ญ้า
หลักฐานจากกายวิภาคเปรียบเทียบ
การแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตทางภูมิศาสตร์
แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ ิ่งมีชีวิต
• แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามาร์ก
อาจเป็นไปได้ว่าบรรพบุรุ ของนกฟินช์
ใน มู่เกาะกาลาปากอ เป็นนกฟินช์ที่อพยพ
มาจากทวีปอเมริกาใต้และได้แพร่กระจาย
ดารงชีวิตอยู่บนเกาะต่างๆ จนกระทั่ง
มีวิวัฒนาการเป็นนกฟินช์ ลาก ลาย ปีชี ์
ดังเช่นที่พบในปัจจุบัน
นกฟินช์ที่อพยพมาจากแผ่นดินใ ญ่ไปอา ัยอยู่ตามเกาะต่าง ๆ
ซึ่งมี ภาพแ ดล้อมแตกต่างกันทั้งภายในเกาะเดีย กันและระ ่างเกาะ
จึงมีการกินอา ารที่แตกต่างกันไปตาม ภาพแ ดล้อม ทาใ ้นกฟินช์ที่มีจะงอยปาก
เ มาะ มกับอา ารใน ภาพแ ดล้อมนั้นมีโอกา อยู่รอดได้ดีก ่า
และมีโอกา ถ่ายทอดลัก ณะดังกล่า ไปยังรุ่นต่อ ๆ ไป
ในขณะที่แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของดาร์วิน กล่าวคือลัก ณะของ ิ่งมีชีวิต
มีความแตกต่างที่เรียกว่าความแปรผันของลัก ณะ ซึ่ง ิ่งมีชีวิตที่มีลัก ณะที่เ มาะ ม
กับ ภาพแวดล้อมที่ดารงชีวิตอยู่ จะมีโอกา อยู่รอดและ ืบพันธุ์ต่อไปได้
วิวัฒนาการของลามาร์กและดาร์วิน
9
ดังนั้น ความถี่ของจีโนไทป์ aa คือ q2 = √1000
= 0.0009
q = 0.0009
= 0.03
แ ดงว่าในประชากรนี้ มีความถีแ่ อลลีลที่ทาให้เกิดโรคโล ิตจางชนิดซิกเคิลเซลล์เท่ากับ
0.03 ดังนั้นจึง าความถี่ของแอลลีล A ได้จาก
P+q =1
P + 0.03 =1
p = 1- 0.03
= 0.97
จึง ามารถ าความถี่ของจีโนไทป์ Aa ได้จาก
2pq = 2(0.97) (0.03)
= 0.0582
ดังนั้น จึง ามารถคาดคะเนได้ว่าในประชากร 10,000 คน มีผู้ที่เป็นพา ะของโรค
โล ิตจางชนิดซิกเกิลเซลล์ (จีโนไทป์ Aa) จานวน 582 คน
ลองทาดู
มีแนวโน้มคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ในพื้นที่แ ่ง นึ่งมีประชากรจานวน 400 คน
ถ้าประชากรนี้มีความถี่ของแอลลีล A = 0.6 และแอลลีล a = 0.4
และอยู่ใน มดุลฮาร์ด-ี ไวน์เบิร์ก จง าจานวนคนที่มีจีโนไทป์แบบต่าง ๆ
1 2 3
ปัจจัยที่ทาใ ้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล
การเปลี่ยนแปลงที่ใช้ระยะเวลายาวนาน
ก่อใ ้เกิดการเปลี่ยนแปลงฟีโนไทป์ในประชากร
ซึ่งมากพอจะทาใ ้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ในระดับที่ทาใ ้เกิด ปีชี ์ใ ม่ รือเ นือระดับ ปีชี ์
เรียกว่า วิวัฒนาการม าภาค (macroevolution)
ปัจจัยที่ทาใ ้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแอลลีล
ทาใ ้ประชากรเกิดวิวัฒนาการได้ คือ
1. เจเนติกดริฟต์แบบ ุ่ม
2. การถ่ายเทยีน
3. การผ มพันธุ์แบบไม่ ุ่ม
4. มิวเทชัน
5. การคัดเลือกโดยธรรมชาติ
แอลลีลทีมีความถี่ต่าในประชากร อาจ ายไปจากยีนพลูของประชากร
การเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลแบบ ุ่มเกิดขึ้นในประชากรขนาดเล็กนี้
เรียกว่า เจเนติกดริฟต์แบบ ุ่ม
ถานการณ์ที่ทาใ ้เกิดเจเนติกดริฟต์แบบ ุ่มที่พบในธรรมชาติ 2 ถานการณ์คือ
ปรากฏการณ์คอขวด (bottleneck effect)
ปรากฏการณ์ผู้ก่อตั้ง (founder effect)
bottleneck effect
ผลกระทบจากผู้ก่อการ
(founder effect) ปรากฏการณ์คอขวด
(bottlenect effect)
เกิดจากการย้ายถิ่นของประชากรขนาดเล็ก ไม่กี่ตัว
รือแม้เพียงเพศเมียที่ผ่านการผ มพันธุ์แล้ว เกิดจากประชากรขนาดใ ญ่
เพียงตัวเดียว รือเมล็ดพืชเพียง 1 เมล็ดไปอยู่ใน ที่มีจานวนประชากรลดลงอย่างรวดเร็วอัน
แหล่ งที่อยู่ใหม่ ที่อุดมสมบูรณ์ และสามารถแพร่ พนั ธุ์ เนื่องมาจากภัยธรรมชาติ
กลายเป็ นประชากรกลุ่มใหม่ อย่ างรวดเร็ว เช่น แผ่นดินไ ว ภูเขาไฟระเบิด ไฟป่า
โดยประชากรกลุ่มใหม่ มคี วามถี่ของยีนแตกต่ างจาก ขาดแคลนอา าร รือโรคระบาด
ประชากรดั้งเดิมอย่ างชัดเจน
Gene flow: การเคลื่อนย้ายถ่ายเทยีน ซึ่งทาให้สัดส่วนแอลลีล
หรือความถี่ของยีนในยีนพูลของประชากรสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งเป็นผลจากการอพยพเข้าหรืออพยพออก
การถ่ายเทยีน
ประชากรมีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลทั้งทางฝั่งด้าน A และ
B โดยฝั่ง A ความถี่ของแอลลีล r มีแนวโน้มลดลง ในขณะที่ฝั่ง B ความถี่ของแอลลีล r มี
แนวโน้มเพิ่มขึ้น การถ่ายเทยีนระหว่าง 2 ประชากรหากเกิดขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ อาจทาให้
ความถี่ของแอลลีลในประชากรทั้ง 2 เท่ากัน
การถ่ายเทยีนของยุงราคาญชนิด นึ่งที่มียีนต้านทานต่อ ารฆ่าแมลง
มาชิกที่มีความต้านทานต่อ ารฆ่าแมลง เมื่อย้ายออกไป ู่ประชากรกลุ่มใ ม่
และผ มพันธุ์กับ มาชิกในประชากรกลุ่มใ ม่ จะทาใ ้มีการถ่ายเท
แอลลีลต้านทาน ารฆ่าแมลง ู่ประชากรกลุ่มใ ม่ที่อาศัยในภูมิประเทศอื่น ๆ
การอพยพเข้าของประชากรจะทาให้เกิดการเพิม่ พูนยีนบางส่วนหรือบางยีน
หรือนายีนใหม่เข้ามาในประชากร มีผลต่อความแปรผันทางพันธุกรรม
ของประชากรนั้น
การผสมพันธุ์แบบไม่สุ่ม (non-random mating)
การผ มพั น ธุ์ แ บบไม่ ุ่ ม อาจเกิ ด ได้ จ ากการผ มพั น ธุ์ แ บบเลื อ กลั ก ณะ
(assortative..mating) และการผ มพันธุ์ในเครือญาติ (inbreeding)
เช่น คนทั่วไป ่วนใ ญ่มักแต่งงานกับคนเชื้อชาติเดียวกัน
การผสมพันธุ์ แบบเลือกลักษณะ (positive assortive mating)
Natural selection:
การคัดเลือกทางธรรมชาติ
เป็นปัจจัยที่สาคัญที่ส่งผลให้สิ่งมีชีวิต
มีลักษณะเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
เนื่องจากตั๊กแตนใบไม้ มีลัก ณะรูปร่างและ ีที่กลมกลืนกับใบไม้ซึ่งเป็น
แ ล่งที่อยู่อา ัย จึงมีชี ิตรอดได้ดีใน ภาพแ ดล้อมนี้เนื่องจากไม่ถูกล่าเป็นอา าร
ดังนั้น ผู้ล่าจึงเป็นตั คัดเลือกที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ
ทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติ(theory of natural selection)
มีสาระสาคัญ ดังนี้
1. สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันย่อมแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย เรียกว่า variation
2. สิง่ มีชีวิตมีลูกหลานจานวนมากตามลาดับเรขาคณิต แต่สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดก็มีจานวนเกือบคงที่
เพราะมีจานวนหนึ่งตายไป
3.สิ่งมีชีวิตจาเป็นต้องมีการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด (struggle of existence)
โดยลักษณะที่แปรผันบางลักษณะ ที่เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม ย่อมดารงชีวิตอยู่ได้ และสืบพันธุ์ถ่ายทอด
ไปยังลูกหลาน
4.สิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้นที่อยู่รอด(survival the fittest ) และดารงเผ่าพันธุ์ของตนไว้
และทาให้เกิด การคัดเลือกตามธรรมชาติเกิดความแตกต่างไปจากสปีชีส์เดิมมากขึ้นจนเกิดสปีชีส์ใหม่
สิ่งมีชีวิตที่จะอยู่รอด ไม่จาเป็นต้องเป็น สิ่งมีชีวิต ที่แข็งแรงที่สุด แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมกับ
สภาพแวดล้อมมากที่สุด
กาเนิด ปีชี ์
การผสมพันธุ์ในสัตว์ ต้องมีอวัยวะที่พอเหมาะและเหมาะสมซึ่งกันและกันเป็นสาคัญ
โดยเฉพาะสัตว์ที่มีการผสมภายในตัว
สรีรวิทยาของเซลล์สบื พันธุท์ ต่ี ่างกัน(Gametic Isolation)
เซลล์สืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กัน มีสมบัติทางเคมีและชีวเคมีแตกต่างกัน
จนไม่สามารถเข้าปฏิสนธิกันได้ อาจเป็นเพราะอสุจิไม่สามารถอยู่ภายใน
ร่างกายเพศเมียได้ หรืออสุจิไม่สามารถสลายสารเคมีที่หุ้มเซลล์ไข่ของ
สิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์ได้
สรีรวิทยาของเซลล์สบื พันธุท์ ต่ี ่างกัน(Gametic Isolation)
การกีดกั้นการผสมพันธุ์โดยการเป็นหมันของลูกผสมและการขัดขวางของลูกผสม
(Hybrid sterility and hybrid breakdown)
ไซโกตพัฒนาไม่ดี ให้ผลดีในระดับหนึ่ง แข็งแรงและเติบโตดีมาก
การผสมระหว่างดอกทานตะวัน(Layia spp.) 2 สปีชสี พ์ บว่า
ลูกผสมที่เกิดขึ้นสามารถเจริญเติบโตและให้ลูกผสมในรุ่น F1 ได้
แต่ในรุน่ F2 เริม่ อ่อนแอและเป็นหมันประมาณร้อยละ 80
และจะปรากฎเช่นนีใ้ นรุน่ ต่อๆไป
กาเนิด ปีชี ์ใ ม่
ความ มายของ ปีชี ์ทางด้านชีววิทยาจะพิจารณาความ ามารถในการผ มพันธุ์
และใ ้กาเนิดลูก ลานที่ไม่เป็น มัน ิ่งมีชีวิตต่าง ปีชี ์กันจะมีกลไกในการป้องกัน
การผ มพันธุ์ต่าง ปีชี ์
ิ่งมีชีวิต ปีชี ์เดียวกันเมื่อไม่มีการถ่ายเทยีนระ ว่างประชากรในรุ่นบรรพบุรุ
จะทาใ ้ประชากรทั้ง องมีโครง ร้างทางพันธุกรรมทีแ่ ตกต่างกัน
และมีวิวัฒนาการเกิดเป็น ปีชี ์ใ ม่ขึ้นได้
1. กาเนิดแบบแอลโลพาทริก (allopatric..speciation)
เกิด ปีชี ์ใ ม่จากการแบ่งแยกทางภูมิศา ตร์ เป็นกระบวนการค่อยเป็นค่อยไป
อาจใช้เวลานานเป็นล้านๆชั่วรุ่น
2. กาเนิดสปีชีส์แบบซิมพาทริก (sympatric speciation)
เป็นการเกิด ปีชี ์ใ ม่ในพื้นที่เดียวกันกับบรรพบุรุ
โดยมีกลไกมาป้องกันไม่ใ ้ประชากรกลุ่มย่อยมาผ มพันธุ์กับประชากรเดิมได้
กาเนิดสปีชีส์แบบซิมพาทริก (sympatric speciation)
เป็นการเกิด ปีชี ์ใ ม่ในพื้นที่เดียวกันกับบรรพบุรุ
โดยมีกลไกมาป้องกันไม่ใ ้ประชากรกลุ่มย่อยมาผ มพันธุ์กับประชากรเดิมได้
พอลิพลอยดี (polyploidy)
เกิดจากความผิดปกติของกระบวนการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิ
ทาใ ้เซลล์ ืบพันธุ์มีจานวนโครโมโซม 2 ชุด (2n) เมื่อเซลล์ ืบพันธุ์เกิดการปฏิ นธิ
จะได้ไซโกตที่มีจานวนโครโมโซมมากกว่า 2 ชุด เช่น มีโครโมโซม 3 ชุด (3n)
รือมีโครโมโซม 4 ชุด (4n)
การเกิดพอลิพลอยดี อาจเกิดจาก ิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน รือต่าง ปีชี ์กัน
ตัวอย่าง การเกิดพอลิพลอยดีของสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กัน การทดลองของจอร์จิ คาร์ปิเชงโก
THE END
…….โชคดีในการสอบปลายภาคนะ……
เทอมหน้าเป็นพี่ ม.5 แล้วหนา ออเจ้า