Professional Documents
Culture Documents
ภาพที่ 1 การจําแนกสิ่งมีชีวิต
(ที่มาภาพ : http://danmarkltd.tripod.com/sitebuildercontent/sitebuilderpictures/animal_tree.jpeg)
2. หลักฐานทางกายวิภาคศาสตรเปรียบเทียบ เปนการศึกษาเปรียบเทียบโครงสรางของสิ่งมีชีวิตเพื่อนํามา
โยงความสัมพันธดานการสืบเชื้อสายเชน การเปรียบเทียบโครงสรางที่เหมือนกันแตอาจทําหนาที่ตางกัน
(Homologous organ) และโครงสรางที่แตกตางกันแตทําหนาที่เหมือนกัน (Analogous organ)
3. หลักฐานทางวิทยาเอมบริโอเปรียบเทียบ เปนการศึกษาการเจริญของตัวออนวามีรูปแบบการเจริญที่
เหมือนกันหรือแตกตางกันอยางไร เนื่องจากมีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่เมื่อเจริญเปนตัวเต็มวัยแลวมีความ
แตกตางกันอยางมากแตเมื่อพิจารณาลักษณะเมื่อเปนตัวออนจะสามารถพบความคลายคลึงกันเชน ใน
กรณีของเพรียงหัวหอมที่ถูกจัดวาเปนกลุมของ Protochordate ถาดูลักษณะของตัวเต็มวัยแลวจะพบวา
ไมมีลักษณะที่บงบอกวาจะมีความใกลเคียงกับคอรเดทเชน หนู แตถาไดศึกษาถึงวิทยาเอมบริโอของ
เพรียงหัวหอมแลวจะพบวาในชวงที่เปนตัวออน เพรียงหัวหอมจะมีโนโตคอรดที่เปนลักษณะรวมของพวก
คอรเดทเชนเดียวกับที่ตัวออนของหนูมี
ภาพที่ 6 เปรียบเทียบตัวออนของหนูกับตัวออนของเพรียงหัวหอม
(ที่มาภาพ : http://evolution.berkeley.edu/evosite/history/images/notochords.jpg)
ภาพที่ 7 ความสัมพันธของสิ่งมีชีวิตเมื่อพิจารณาจากโปรตีนบางชนิด
(ที่มาภาพ : http://cache.eb.com/eb/image?id=80451&rendTypeId=4)
โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ (องคการมหาชน) 6 สาขาวิชาชีววิทยา
เอกสารประกอบการเรียนวิชา ว40242 ความหลากหลายทางชีวภาพ อาณาจักรสัตว
-------------------------------------------------------------------------------------
5. หลักฐานทางซากดึกดําบรรพ เปนการศึกษาซากหรือรองรอยของสิ่งมีชีวิตที่ถูกทับถมอยูในชั้นหินยุคตาง
ๆ ซากดึกดําบรรพที่พบอาจไมครบถวนสมบูรณ อาจจะเปนบางชิ้นสวนของโครงกระดูก เนื่องจากเปนสวน
ที่มีความแข็งแรง ทนทานตอการเนาเปอยผุพัง แตนักวิทยาศาสตรจะตองนําความรูทางธรณีวิทยาเขามา
ชวยเพื่อใหทราบขอมูลของอายุของสิ่งมีชีวิตนั้น ซากดึกดําบรรพที่ปรากฏในชั้นหินระดับตาง ๆ จะชี้ใหเห็น
ถึงกระบวนการวิวัฒนาการวามีความใกลเคียงกับสิ่งมีชีวิตใด มีการสูญพันธเกิดขึ้นเพราะอะไร
ภาพที่ 9 อายุของฟอสซิลมีความสัมพันธกับชั้นหิน
(ที่มาภาพ : http://www.mnh.si.edu/earth/text/images/3_0_0_0/3_1_2_3_relative.jpg
http://www.calstatela.edu/faculty/acolvil/geotime/fossil_assemblage.jpg)
โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ (องคการมหาชน) 7 สาขาวิชาชีววิทยา
เอกสารประกอบการเรียนวิชา ว40242 ความหลากหลายทางชีวภาพ อาณาจักรสัตว
-------------------------------------------------------------------------------------
Animal evolution theory
นักวิทยาศาสตรสวนใหญเชื่อวา โปรโตซัว (Protozoa) เปนสิ่งมีชีวิตเซลลเดียวที่คลายสัตว กลุมแรก
ของโลก โครงสรางและหนาที่การทํางานของโปรโตซัว เทียบไดกับการทํางานแตละเซลลของสัตวหลายเซลล
(Parazoa Metazoa และ Eumetazoa) ในปจจุบันโปรโตซัวถูกศึกษาจําแนกไวไมต่ํากวา 60,000 ชนิด และ
คงเหลืออยูในปจจุบันไมต่ํากวา 30,000 ชนิด นักสัตววิทยาไดเสนอทฤษฎีที่เกี่ยวของกับ กําเนิดของสัตวหลาย
เซลลไว 2 ทฤษฎีคือ
1. ทฤษฎีหลายนิวเคลียส (Syncytial theory) มีแนวคิดวาสิ่งมีชีวิตเซลลเดียวพวกที่มีขนสั้น (Ciliate)
หลายนิวเคลียสเปนบรรพบุรุษของสัตวหลายเซลล โดยเกิดมีเยื่อหุมเซลลมาหอหุมนิวเคลียสแตละอัน จน
ไดเซลลหลายเซลล สัตวหลายเซลลที่เกิดขึ้นนี้จะมีรูปรางเหมือนหนอนตัวแบน มีชองเปด Cytostome
คลายกัน จากแนวคิดนี้จะเห็นวาสัตวที่มีสมมาตรครึ่งซีกเปนบรรพบุรุษของสมมาตรแบบรัศมีซึ่งขัดแยง
กับลําดับวิวัฒนาการ เนื่องจากไนดาเรีย (สมมาตรรัศมี) ซึ่งมีวิวัฒนาการต่ํากวาหนอนตัวแบน (สมมาตร
ครึ่งซีก) นั้น กลับมีสมมาตรที่วิวัฒนาการดีกวา ทฤษฎีนี้จึงไมคอยเปนที่ยอมรับมากนัก
ภาพที่ 14 เซลลสัตว
(ที่มาภาพ : http://www.harlem-school.com/10TH/sci_pdf/graphics/animal_cell.gif)
ภาพที่ 15 เนื้อเยื่อของสัตว
(ที่มาภาพ : http://users.rcn.com/jkimball.ma.ultranet/BiologyPages/A/AnimalTissues.gif)
ภาพที่ 16 เนื้อเยื่อของสัตว
(ที่มาภาพ : http://biology.kenyon.edu/courses/biol112/Biol112WebPage/Syllabus/
Topics/Week%207/Resources/diptrip.GIF)
โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ (องคการมหาชน) 12 สาขาวิชาชีววิทยา
เอกสารประกอบการเรียนวิชา ว40242 ความหลากหลายทางชีวภาพ อาณาจักรสัตว
-------------------------------------------------------------------------------------
2. สมมาตร (Symmetry) คือลักษณะการแบงรางกายออกเปนซีก ๆ ตามความยาวของซีกเทา ๆ กัน มีอยู 3
ลักษณะ ไดแก
2.1 ไมมีสมมาตร (Asymmetry) มีรูปรางไมแนนอน ไมสามารถแบงซีกซายและซีกขวาได เทา ๆ กัน
ไดแก พวกฟองน้ํา
2.2 สมมาตรแบบรัศมี (Radial symmetry) รางกายของสัตวจะมีรูปรางคลายทรงกระบอก หรือลอรถ
ถาตัดผานจุดศูนยกลางแลวจะตัดอยางไรก็ได 2 สวนที่เทากันเสมอ หรือเรียกวา มีสมมาตรทีผ่ าซีกได
เทา ๆ กันหลาย ๆ ครั้งในแนวรัศมี ไดแก สัตวพวกไฮดรา แมงกะพรุน ดาวทะเล เมนทะเล
2.3 สมมาตรแบบครึ่งซีก (Bilateral symmetry) หรือมีสามาตรที่ผาซีกไดเทา ๆ กัน เพียง 1 ครั้ง
สมมาตรแบบนี้สามารถผาหรือตัดแบงครึ่งรางกายตามความยาวของลําตัวแลวทําให 2 ขางเทากัน
ไดเพียงครั้งเดียวเทานั้น ไดแก พวกหนอนตัวกลม แมลง สัตวมีกระดูกสันหลัง
ภาพที่ 17 สมมาตรของสัตวแบบตาง ๆ
(ที่มาภาพ : http://www.biologie.uni-hamburg.de/b-online/library/onlinebio
/BioBookDiversity_7.html)
ภาพที่ 18 สัตวที่ไมมีชองวางในตัว
(ที่มาภาพ : http://www.biologie.uni-hamburg.de/b-online/library/onlinebio
/BioBookDiversity_7.html)
โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ (องคการมหาชน) 13 สาขาวิชาชีววิทยา
เอกสารประกอบการเรียนวิชา ว40242 ความหลากหลายทางชีวภาพ อาณาจักรสัตว
-------------------------------------------------------------------------------------
3.2 มีชองตัวเทียม (Pseudocoelom) เปนชองตัวที่เจริญอยูระหวาง mesoderm ของผนังลําตัว และ
endoderm ซึ่งเปนทางเดินอาหาร ชองตัวนี้ไมมีเยื่อบุชองทองกั้นเปนขอบเขต ไดแก พวกหนอนตัว
กลม โรติเฟอร (Rotifer)
ภาพที่ 19 สัตวที่มีชองวางในตัวแบบชองตัวเทียม
(ที่มาภาพ : http://www.biologie.uni-hamburg.de/b-online/library/onlinebio
/BioBookDiversity_7.html)
ภาพที่ 20 สัตวที่มีชองวางในตัวแบบชองตัวแทจริง
(ที่มาภาพ : http://www.biologie.uni-hamburg.de/b-online/library/onlinebio
/BioBookDiversity_7.html)
ภาพที่ 22 ทางเดินอาหารของสัตว
(ที่มาภาพ : http://www.utm.edu/departments/cens/biology/rirwin/compincompdigtract.GIF)
Practice :
ใหนักเรียนวาด Cladogram ของสิ่งมีชีวิต 12 phyla ที่มีผูสนใจศึกษามากที่สุด โดยใชขอมูลจากการแบงชั้น
สิ่งมีชีวิตที่กําหนดใหขางบน ลงในกรอบที่กําหนดใหขางลางนี้
ฟองน้ําจัดเปนสัตวโบราณที่มีกําเนิดมาตั้งแตยุคแคมเบรียน หรืออาจจะยอนไปถึงยุคพรีแคมเบรียน
ก็เปนได พบซากฟอสซิลรวมกันอยูจํานวนมาก ฟองน้ําจะแตกตางจากโปรโตซัว ตรงที่เปนสัตวหลายเซลลที่
เรียกวา เมตาซัว (Metazoa) แตอยางไรก็ตามก็ยังจัดวาเปนกลุมของเมตาซัวที่มีรูปรางไมสลับซับซอน
โครงสรางการทํางานของรางกายอยูในระดับเซลล เนื่องจากไมมีเนื้อเยื่อที่แทจริง
ภาพที่ 23 การรวมกลุมของเซลลฟองน้ํา
(ที่มาภาพ : http://www.biologie.uni-hamburg.de/b-online/library/onlinebio/
BioBookDiversity_7.html)
คําวา Porifera มาจากภาษาละติน คือ porus หมายถึงรูพรุน และคําวา ferre หมายถึง การถือ
กําเนิด ฟองน้ํามีประมาณ 9,000 ชนิด มากกวา 5,000 species พบอาศัยอยูในทะเลแตอีกประมาณ 150
species พบอาศัยอยูในน้ําจืด พวกที่อยูใกลชายฝงทะเลจะมีลําตัวที่มีเปลือกหนา พวกที่อยูในทะเลลึกจะมี
ลําตัวออนนุมกวา เปนแทงยาว ฟองน้ําที่อยูบริเวณที่มีการขึ้นลงของกระแสน้ําจะมีรูปรางขนาดใหญ มีสมมาตร
ชัดเจน ลําตัวของฟองน้ํามีสีสรรมากมายคือ มวง น้ําเงิน เหลืองแดงเขม และจะเปลี่ยนสีซีดลงอยางรวดเร็วถา
นําขึ้นมาจากน้ํา ดํารงชีวิตแบบการพึ่งพาอาศัย (Symbiosis) โดยจะอยูรวมกับแบคทีเรียหรือสาหรายเซลล
เดียวหลายชนิด ตามปกติฟองน้ําตัวเต็มวัยไมเคลื่อนที่ แตพบการเคลื่อนที่ไดในตัวออน ลําตัวประกอบดวยรู
พรุนและมีทางเชื่อมติดตอกันเหมือนคลอง การทํางานของเซลลขึ้นอยูกับการไหลเวียนของน้ํา เนื่องจากน้ําจะนํา
ออกซิเจนและอาหารผานเขาไปในรางกายและนําของเสียออกนอกรางกายดวย โครงสรางของรางกายจะ
ประกอบดวย กลุมเซลลอยูรวมกับสารที่มีลักษณะคลายวุน และมีโครงรางแข็งที่เรียกวา "ขวาก" (spicule) ซึ่ง
เปนสารอาหารประเภทแคลเซียมหรือซิลิคาแทรกอยู ในฟองน้ําบางชนิดจะมีเสนใยที่ออนนุมเรียก "สปองจิน"
(spongin) แทรกอยู เซลลฟองน้ํามีการจัดเรียงตัวกันอยางหลวม ๆ ในรูปของเจลาติน เรียกวา มีโซฮิล
(Mesohyll) (บางครั้งอาจเรียกวา มีโซเกลีย (Mesoglea) หรือมีเชนไคม (Mesenchyme)) คําวา Mesohyll
จะเปรียบเสมือนเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของฟองน้ํา นอกจากนี้ยังพบเซลลที่มีรูปรางคลายอมีบา (Amoeboid cell)
เสนใย และโครงค้ําจุนดวย ชนิดของเซลลที่พบไดแก
โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ (องคการมหาชน) 18 สาขาวิชาชีววิทยา
เอกสารประกอบการเรียนวิชา ว40242 ความหลากหลายทางชีวภาพ อาณาจักรสัตว
-------------------------------------------------------------------------------------
พินาโคไซท (Pinacocytes) เปนเซลลที่เกือบจะทําหนาที่เปนเนื้อเยื่อที่แทจริงแลว มีการจัดเรียงตัว
ของเซลลเปนเยื่อยุผิวดานนอก เซลลแบนบาง บางชนิดมีรูปรางเปนตัว T และเซลลนี้จะจัดเรียงตัว
ลอมรอบรูพรุนทําหนาที่ควบคุมอัตราการไหลเขาของน้ํา
พอโรไซท (Porocytes) เปนเซลที่มีรูปรางเปนทอ เจาะเขาไปในผนังของฟองน้ําเปนชองทางใหน้ําเขา
สูโพรงภายใน
โคแอนโนไซท Choanocytes) เปนเซลลที่มีรูปรางเปนปลอกคอ มีแฟลเจลลาเปนองคประกอบ
ดานหนึ่งของเซลลจะฝงตัวอยูในชั้น mesohyll อีกดานหนึ่งจะเปดออกเปนที่ตั้งของแฟลเจลลา เซลล
โคแอนโนไซทแตละเซลลจะเชื่อมตอกันดวยเสนใย เกิดเปนโครงรางที่คงรูปได แซลลนี้จะทําหนาที่
กรองอาหารจากน้ํา โดยการโบกพัดของแฟลเจลลา อนุภาคของอาหารที่มีขนาดใหญที่ไมสามารถเขาสู
เซลลได จะถูกยึดจับและสงมายังดานลางของเซลลเพื่อการกินโดยวิธี phagocytosis
อารคีโอไซท (Archeocytes) เปนเซลลรูปรางคลายอมีบาเคลื่อนที่ไปมาในชั้น mesohyll มีหนาที่
หลายชนิดเชน สเคอโรไซท (schlerocytes) ทําหนาที่สรางขวาก สปองโกไซท (spongocytes) ทํา
หนาที่สรางเสนใยสปองจิน คอลเลนไซท (collencytes) ทําหนาที่สรางเสนใย
ภาพที่ 24 ลักษณะของฟองน้ํา
(ที่มาภาพ : http://www.biologie.uni-hamburg.de/b-online/library/onlinebio/
BioBookDiversity_7.html)
Incurrent pore
Atrium
ภาพที่ 25 การไหลเวียนน้ําแบบแอสโคนอยด
(ที่มาภาพ : http://www-biol.paisley.ac.uk/biomedia/graphics/jpegs/asc.jpg)
Atrium
Incurrent pore
ภาพที่ 26 การไหลเวียนน้ําแบบไซโคนอยด
(ที่มาภาพ : http://www-biol.paisley.ac.uk/courses/tatner/biomedia/jpegs/sync.jpg
โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ (องคการมหาชน) 20 สาขาวิชาชีววิทยา
เอกสารประกอบการเรียนวิชา ว40242 ความหลากหลายทางชีวภาพ อาณาจักรสัตว
-------------------------------------------------------------------------------------
3. Leuconoid : เปนฟองน้ําที่อยูรวมกันเปนกลุมทําใหมีขนาดใหญขึ้น แตไมสามารถแยกออกจากกันได
เซลลโคแนโนไซทจะพับทบกันเกิดเปนโพรงรับน้ํา (Chamber) เมื่อน้ําถูกปลอยออกมาจะไปรวมกันที่
excurrent canal แลวจึงสงผานไปยัง osculum การที่มี chamber จํานวนมากนี้ ทําใหสปองโก
ซีลหายไป ตัวอยางของฟองน้ํานี้ไดแก Euspongia
Excurrent canal Osculum
Osculum
Dermal pore
Incurrnt canal
Flagellated chamber
ภาพที่ 27 การไหลเวียนน้ําแบบลิวโคนอยด
(ที่มาภาพ : http://www-biol.paisley.ac.uk/biomedia/graphics/jpegs/leuc.jpg
ภาพที่ 28 รูปรางของขวากในฟองน้ํา
(ที่มาภาพ : http://www.microscopy-uk.org.uk/mag/imgaug99/baspong1.jpg)
โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ (องคการมหาชน) 21 สาขาวิชาชีววิทยา
เอกสารประกอบการเรียนวิชา ว40242 ความหลากหลายทางชีวภาพ อาณาจักรสัตว
-------------------------------------------------------------------------------------
การจําแนกหมวดหมูส ามารถแบงออกเปน 4 class คือ
1. คลาส แคลคาเรีย (Class Calcarea หรือ Calcispongiae) เปนฟองน้ําที่มีขวากเปนหินปูน มีขนาดเล็กสูง
ไมเกิน 10 เซนติเมตร รูปรางแบบแจกัน หรือเปนทอระบบทอน้ําเปนไดทั้ง 3 แบบ สวนมากจะมีสีมืด แตก็มี
บางชนิดที่มีสีสันสดใส เชน เหลือง แดง เขียว ไดแก ฟองน้ํารูปแจกัน (Leucosolenia) หรือ Scypha