You are on page 1of 36

Echinodermata มาจากคํากรีก

(echinos +derm = spiny skin)แปลว่า ผิวหนังทีมี


หนาม
จึงเรี ยกว่าสัตว์ผวิ หนาม เป็ นสัตว์ทะเลทังหมด พบประมาณ
7,000 สปี ชีส์ ดํารงชีพอย่างอิสระ ไม่เป็ นปรสิ ต ตัวอ่ อนมีสมมาตร
ด้ านข้ าง แต่ ตวั เต็มวัยมีสมมาตรตามแนวรัศมี ปากอยูต่ รงกลาง มี
รยางค์ยนออกไป
ื อาจมี 5 แฉก หรื อมากกว่า บางชนิดมีหนามแข็ง
ยาวขยับได้
ลักษณะสํ าคัญ
รู ปร่ างในวงชีวติ ของสัตว์กลุ่มนี มีรูปร่ าง 2 แบบ คือ มีสมมาตรครึ งซี ก ซึ งพบในระยะทีเป็ นตัว
อ่อน เมือตัวอ่อนเจริ ญเติบโตเป็ นตัวเต็มวัยแล้ว รู ปร่ างจึงค่อยเปลียนไปเป็ นแบบสมมาตรรัศมี ไม่
มีส่วนหัวและไม่มีปล้อง
ร่ างกายประกอบด้วยเนื อเยือ 3 ชัน ชันนอกเป็ นเอพิเดอร์ มิสชันเดียวบางๆ ปกคลุมโครงร่ าง
ภายใน (endoskeleton) ซึ งเป็ นแผ่นหิ นปูนทีเจริ ญมาจากชันมีโซเดอร์ ม
(mesoderm) เช่นเดียวกับระบบโครงกระดูกของสัตว์มีกระดูกสันหลัง แผ่นหิ นปูนบาง
แผ่นมีหนาม (calcareous spine) ติดอยูด่ ว้ ย
ลําตัวแบ่งออกเป็ น 5 ส่ วนในแนวรัศมีเท่าๆ กัน มีลกั ษณะเป็ น 5 แฉก (pentamerous) แต่
ละแฉกเรี ยกว่า แขนหรื ออัมบูลากา (arm หรื อ ambulaca) ด้านล่างมีเท้าท่อ (tube
feet) ซึ งช่วยในการเคลือนทีหรื อจับอาหาร
มีระบบท่อนํา (water vascular system) ภายในร่ างกายซึ งเจริ ญมาจากช่องตัวในระยะ
ตัวอ่อน ภายในท่อบรรจุดว้ ยนําเค็มจากภายนอก ลักษณะภายนอกของระบบนีทีพอเห็นได้ คือ
เท้าท่อ (tube feet) เมือทํางานร่ วมกันทําให้สามารถเคลือนไหว จับอาหาร หายใจ และรับ
ความรู ้สึกได้ ระบบนีถือว่าเป็ นระบบ ไฮดรอลิก (hydraulic system) ซึ งไม่มีในสัตว์
ไฟลัมอืน
การหายใจ อวัยวะทีใช้ ในการหายใจ คือ เหงือกทีผิวหนัง (skin gill or dermal
branchia) นอกจากนันยังหายใจด้ วยท่ อขา บางพวกหายใจด้ วยอวัยวะหายใจ ทีเรียกว่ า
respiratory tree ซึงมีลักษณะเป็ นท่ อแตกแขนงติดต่ อกับทวารหนัก หายใจโดยนํานําเข้ า
และออกจากท่ อนีผ่ านทางทวารหนัก เช่ น การหายใจของปลิงทะเล
ระบบหมุนเวียนโลหิต มีลกั ษณะลดลงไปอย่ างมาก บางชนิดไม่ มีเลย ส่ วนการขับถ่ ายไม่ มอี วัยวะ
ขับถ่ ายทีทําหน้ าทีโดยตรง
ทางเดินอาหารเป็ นแบบสมบูรณ์ ยกเว้ นสมาชิกใน Class Ophiuroidea ทางเดินอาหาร
จะไม่ มที วารหนัก เช่ น ดาวเปราะ
ระบบประสาทไม่ มสี ่ วนสมองทีแท้ จริง แต่ พบว่ ามีระบบประสาทวงแหวน (nerve ring)
ล้ อมรอบหลอดอาหารไว้ และมีเส้ นประสาทรัศมี (radial nerve) แยกออกจากประสาทวง
แหวนไปเลียงทีแขน อวัยวะรับความรู้ สึกเจริญน้ อยมาก
มีเพศแยกกัน (dioecious) มีอวัยวะสืบพันธุ์ และท่ อสืบพันธุ์แบบง่ ายๆ อยู่บริเวณโคนแขน
แต่ ละแขน มีการผสมนอกตัวซึงเกิดการปฏิสนธิในนําทะเล
สัตว์ในไฟลัมนีแบ่งออกเป็ น 5 Class ได้แก่
1. Class Asteroidea เช่น ดาวทะเล
. Class Ophiuroidea เช่น ดาวเปราะ
Class Echinoidea เช่น หอยเม่น อีแปะทะเล
Class Holothuroidea เช่น ปลิงทะเล
Class Crinoidea เช่น พลับพลึงทะเล
ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว
ปลาหมายถึงสัตว์มี
กระดูกสันหลังทีอยูใ่ นนํา
ซึงมี เหงือก และ ครี บ แต่
ว่าปลาดาวนันไม่มี
ลักษณะทีกล่าวมาเลยสัก
อย่างเดียว ดังนัน มันจึง
ควรจะเรี ยกว่า ดาวทะเล

ดาวทะเล หรื อ ปลาดาว เป็นสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง ทีอยูใ่ นชัน Asteroidea ลักษณะทัวไป มี


ลําตัวแยกเป็นห้าแฉกคล้ายรู ปดาวเรี ยกว่า แขน ส่ วนกลาง มีลกั ษณะเป็นจานกลม ด้านหลังมีตุ่มหิ นปูน
ขนาดเล็กกระจายอยูท่ วไป
ั มีปากอยูด่ า้ นล่างบริ เวณ จุดกึงกลางของ ลําตัว ใต้แขนแต่ละข้างมีหนวดสัน ๆ
เรี ยงตามส่วนยาว ของแขนเป็นคู่ ๆ มีลกั ษณะเป็นกล้ามเนือทีเหนี ยวและแข็งแรงเรี ยกว่า โปเดีย ใช้สาํ หรับ
ยึดเกาะกับเคลือนที
อาหารของดาวทะเล
กินหอยสองฝา โดยเฉพาะ หอยนางรม,
กุง้ , ปู หนอน และ สัตว์ไม่มีกระดูกสัน
หลังอืน ๆ เช่น ฟองนําหรื อปะการัง
เป็ นอาหาร

ชนิดและทีอยูข่ องดาวทะเล
ดาวทะเล ถึงปัจจุบนั นีพบอยูด่ ว้ ยประมาณ 1,800 ชนิด กระจายอยูใ่ นอันดับต่าง ๆ 7 อันดับ ซึงดาวทะเลขนาดเล็ก
อาจมีความกว้างเพียง 1 เซนติเมตร และขนาดใหญ่ทีสุ ดอาจยาวได้ถึง 1 เมตร และในบางชนิดอาจมีแขนได้
มากกว่า 5 แขนพบอยูต่ ามชายฝังทะเล โขดหิ น และบางส่วนอาจพบได้ถึงพืนทะเลลึกพบอยูใ่ นทะเลทัวโลก ทัง
มหาสมุทรแปซิฟิก, แอตแลนติก, มหาสมุทรอินเดีย รวมทังในเขตขัวโลกด้วยอย่าง มหาสมุทรอาร์ กติก และแอน
ตาร์กติกา
การสื บพันธุ์
สื บพันธุ์ได้ทงแบบอาศั
ั ยเพศและไม่อาศัยเพศ โดยมีทงเพศผู
ั แ้ ละเพศเมีย การปฏิสนธิ เกิดภายนอกตัว
ระยะแรกตัวอ่อนจะดํารงชีวิตแบบแพลงก์ตอนสัตว์ จากนันจะเริ มพัฒนาตัวแล้วจมตัวลงเพือหาทียึดเกาะ
แล้วเจริ ญเป็ นตัวเต็มวัย ส่วน

สื บพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ ในบางชนิดเมือแขนถูกตัดขาดลง จะพัฒนาตรงส่ วนนันกลายเป็นดาวทะเลตัวใหม่


เกิดขึน และตัวทีขาดก็จะงอกชินใหม่ขึนมาได้จนสมบูรณ์ แต่กระบวนการเหล่านีต้องใช้เวลาเป็ นปี
ลักษณะทัวไป (General characteristics)

ลัก ษณะของสั ต ว์ ใ นคลาสนี จะมี แ ขนยาวเรี ยว 5 แขน และแยกออกจาก


แผ่นกลางลําตัวอย่างเด่นชัด
แขนเคลือนไหวคล้ายงู จึ งเรี ยกว่า serpent star และแขนเปราะหักง่าย ในพวก
ดาวตะกร้า (basket star) แขนมีการแตกแขนงมากจนคล้ายตะกร้า
แขนทีใช้ในการเคลือนทีมีลกั ษณะเป็ นข้อ
แผ่น กลางลํา ตัว เป็ นรู ป ห้า เหลี ยม ด้า นปากมี เ ขี ยว 5 อัน หัน ปลายแหลมเข้า หาปาก
ไม่มีทวารหนัก
มี เ บอร์ ซ าทํา หน้า ที ในการแลกเปลี ยนแก๊ ส ในช่ อ งว่า งของแต่ ล ะเบอร์ ซ ามี อ วัย วะ
สื บ พัน ธุ์ ที จะปล่ อ ยเซลล์ สื บพัน ธุ์ เ ข้า มาในเบอร์ ซ า และผ่ า นออกภายนอกทาง
ช่องเบอร์ซา หรื อช่องสื บพันธุ์ เพือไปปฏิสนธิในทะเล
มักมีเพศแยกเป็ นเพศผูเ้ พศเมีย
ลักษณะทัวไป (General characteristics)
ร่ างกายล้อมรอบด้วยเปลือกทีเป็ นโครงร่ างแข็งภายใน ประกอบด้วยออสซิ เคิล เป็ นแผ่นแ
มาเชือมต่อกันเป็ นแถบ 10 แถบ
มีสมมาตรแบบรัศมี 5 แฉก โดยมีแถบแอมบูลาครา 5 แถบ ซึ งโฮโมโลกัสกับแขนทังห้าข
ดาวทะเล สลับกับแถบอินเตอร์ แอมบูลาครา 5 แถบ
ฐานของหนามแต่ละอันมีกล้ามเนือเล็กๆช่วยทําให้หนามเคลือนไหวได้
มีเพดิเซลลาเรี ยหลายแบบ ส่ วนใหญ่มีเขียว (jaw) 2-3 อัน และติดกับผนังลําตัวด้วยก้านยาวๆ
เพดิ เซลลาเรี ยใช้ในการทําความสะอาดร่ างกาย และจับสิ งมี ชีวิตเล็กๆ เป็ นอาหาร บางชน
ตุ่มสารพิษซึ งจะปล่อยออกไปทําร้ายเหยือ
กินอาหารพวกสาหร่ าย ไบรโอซัว ปะการัง และซากสัตว์ทีตายแล้ว
การกินอาหารโดยอาศัยเท้าท่อรอบปาก และโครงสร้างทีช่วยในการฉี กอาหาร เรี ยกว่า
Aristotle’s lantern ซึ งประกอบด้ว ยออสซิ เ คิ ลจํา นวนมาก ปลายออสซิ เ คิ ลมี ฟั น
ยืนออกมา 5 ซี ใช้ตดั อาหารเป็ นชินเล็กๆ
เหงือกมีขนาดเล็ก เป็ นเยือบางๆ อยูร่ อบปาก ยืนออกจากผนังลําตัวและบุดว้ ยเยือบุผิวที
มีซิเลีย
การแลกเปลียนแก๊ส เกิดการแพร่ ผา่ นเยือบุผิว และผ่านเท้าท่อ
การสื บพันธุ์: เอไคนอยด์มีเพศแยก (dioecious)
อวัยวะสื บพันธุ์อยูใ่ นผนังลําตัวของแถบอินเตอร์ แอมบูลาครา
ไข่และอสุ จิถกู ปล่อยออกมาผสมนอกตัว
ตัวอ่อนระยะพลูเทียส เรี ยกว่า เอไคโนพลูเทียส (echinopluteus) ซึ งใช้เวลา
ล่องลอยอยูใ่ นทะเลหลายเดือน จึงเกิดเมตามอร์โฟซิ สเป็ นตัวเต็มวัย
Class holothuroidea
Sea Cucumber
ตัวยาวทรงกระบอก วางตัวในแนวราบและอ่อนนุม่
ปลายทังสองข้ างเป็ นช่องเปิ ดของปากและทวาร
รอบปากมี tentacle ใช้ จบั อาหาร
โครงร่างเป็ นชินหินปูนขนาดเล็กและฝั งในผนังตัวทีมีกล้ ามเนือหนา
ระบบสืบพันธุ์แบบแยกเพศ มีการจับคูผ่ สมพันธุ์ โดยตัวผู้และตัวเมียจะ
ปล่อยเซลล์สืบพันธุ์มาผสมกันในนําทะเล

ได้แก่ ปลิงทะเล
สมมาตรรัศมี (radial symmetry)

ร่างก่าย หัว หนวด ปาก


ท้ าย ทวารหนัก

เท้ าเทียม หนาม เรี ยกว่า papillae


(Pseudopod) ด้ านท้ อง เรี ยกว่า pedicel
ปลิงทะเล จะมีปากอยูต่ อนปลายสุ ดด้านทีมีหนวด ทําหน้าทีในการหาอาหาร
โดยใช้หนวดขุดโคลนตมหน้าดินเข้าปากผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร และกากที
เหลือจะถ่ายออกทางช่องทวาร ทวารของปลิงทะเลเป็ นช่องเล็ก ๆ ทําหน้าทีในการ
ขับถ่ายของเสี ย หายใจ เป็ นทางออกของเชืออสุ จิ ปลิงมีสารพิษ โฮโลทูลิน ซึ งปล่อย
ออกทางผิวหนัง ใช้ในการป้ องกันอันตราย
Holothuria atra

Holothuria scabra
Class crinoidea
Feather star and Sea lily

โบราณทีสุ ดในไฟลัม ส่ วนใหญ่สูญพันธุ์ไปเกือบหมด


มีรัศมี5แฉก และอาจแตกไปอีกได้ถึง200แฉก
หายใจผ่านผิวหนัง
สื บพันธุ์แบบแยกเพศ ปฏิสนธิ ภายนอก
มักว่ายหรื อลอยตามนํา มีความแปรผันของสี ทาํ ให้
ยากต่อการจําแนกชนิด พบในแนวปะการัง
ไม่มีเพดดิเซลลาเรี ย (เกาะบริ เวณผิวหนังนอกสุ ด
ใช้ป้องกันตัวและทําความสะอาด)
สี สันสวยงาม
มีประมาณ630สายพันธุ์

ได้แก่ พลับพลึงทะเล ดาวขนนก


Description
พลับพลึงทะเล (Sea lily)

สายพันธุ์ทีมีก้านยาว เรี ยกว่า พลับพลึงทะเล


อีกสายพันธุ์ก้านจะหายไปเมือโตเต็มวัย
สามารถว่ายและลอยนํา เรี ยกว่า ดาวขนนก
Feather star

Sea Lily
1.Class ใดไม่อยูใ่ น Phylum Echinodermata
ก.Class Crinoidea ข. Class Ophiuroidea
ค. Class Amphibia ง Class Holothuroidea
จ.Class Asteroidea
2.ข้อใดผิดเกียวกับ Phylum Echinodermata
ก.ส่ วนใหญ่ดาํ รงชีวิตอยูใ่ นทะเล
ข.ส่ วนใหญ่ลาํ ตัวเป็ นแฉก
ค.ระยะตัวอ่อนมีสมมาตรด้านข้าง
ง.จัดอยูใ่ นกลุ่มทีมีสมมาตรด้านข้าง
จ.ลักษณะสมมาตรรัศมีเป็ นผลมาจากการวิวฒั นาการ
เพือให้มีวิถีชีวิตทีเกาะติดอยูก่ บั ที
3.สัตว์ในข้อใดมีทางเดินอาหารแตกต่างจากข้ออืน
ก.เม่นทะเล ข.ดาวทะเล
ค.ปลิงทะเล ง.ดาวเปราะ
จ.อีแปะทะเล
4.สาเหตุทีทําให้จาํ นวนปะการังในบริ เวณอ่าวไทยและ
ทะเลอันดามันมีปริ มาณลดลงเกิดจากสัตว์ชนิดใดต่อไปนี
ก.ดาวเปราะ ข.ดาวมงกุฎหนาม
ค.ปลิงทะเล ง.เม่นทะเล
จ.ดาวแสงอาทิตย์
5. Echinodermata มาจากภาษากรี กทีแปลว่าอะไร
ก.สัตว์ทีมีหนามยืนออกมาจากผิวหนัง ข.สัตว์ลาํ ตัวอ่อนนุ่ม
ค.สิ งมีชีวิตทีมีเซลล์พิษ ง.สิ งมีชีวิตทีมีรูพรุ น
จ.สิ งมีชีวิตทีอาศัยอยูใ่ นทะเล
6. ข้อใดไม่จดั อยูใ่ น Class Echinoidea
ก.เม่นทะเล ข.อีแปะทะเล
ค.เม่นหัวใจ ง.เหรี ยญทะเล
จ.ปลิงทะเล
7. ดาวทะเลเป็ นสัตว์ทีจะอยูใ่ น Class ใด
ก.Class Opiuroidea
ข. Class Asteroidea
ค. Class Holoturoidea
ง. Class Echinoidea
จ. Class Merostomata
8. ข้อใดกล่าวถึงลักษณะของ Phylum Echinodermata ไม่ถกู ต้อง
ก.มีหนามแหลมปกคลุมทัวตัว
ข.โครงร่ างภายในประกอบด้วยซิลิกา
ค.ช่องว่างลําตัวเกิดจากการขยายออกของทางเดินอาหาร
ง.ตัวเต็มวัยมีสมมาตรรัศมี
จ.มีระบบท่อนําอยูใ่ นช่องว่างลําตัว
9. ข้อใดกล่าวถึงลักษณะของดาวทะเลได้ถูกต้อง
ก.มีปากอยูท่ างด้านล่างของแขน
ข.มีเพดิเซลลาเรี ยใช้จบั อาหาร
ค.มีเดอร์มนั แบรงเคีย ทําหน้าทีย่อยอาหาร
ง.มีร่องทอดไปตามแขนทุกแขนเรี ยกว่า ร่ องแอมบูลา
จ.ประกอบด้วยแผ่นกลางลําตัวมีแขนยืนออกมา 4 แขน
10. ข้อใดอยูใ่ น Phylum Echinodermata ทังหมด
ก.ฟองนํา แมงกะพรุ น ปลิงทะเล
ข.ไฮดรา หนอนตัวแบน ไส้เดือนดิน
ค.หอยนางลม หอยแครง หอยเชอรี
ง.ปลิงทะเล ดาวตะกร้า แมงกะพรุ น
จ.ปลิงทะเล ดาวตะกร้า เม่นทะเล
จัดทําโดย
นางสาวอังศุมาลิน ดีขนุ 68-04
นางสาวพีรยา ไวยสุขศรี 68-11
นางสาวอรวรรณ เรื องคํา 68-12
นางสาววริ ศรา มากพงศ์ 68-13

You might also like