Professional Documents
Culture Documents
เรือ
่ ง ยุคสมัยของดนตรี
จ ัดทำโดย
นางสาว จินตนา เพชรแก้ว ชนั้ ม.6
โรงเรียนน้ำรอบวิทยา
ยุคสม ัยของดนตรีไทย
ดนตรีไทย เป็นศล ิ ปะแขนงหนึง่ ของไทย ได้
ร ับอิทธิพลมา จากประเทศ
ต่างๆ เชน ่ อินเดีย, จีน, อินโดนีเซยี และอืน ่ ๆ เครือ
่ ง
ดนตรีม ี 4 ประเภท ดีด ส ี ตี เป่า ดนตรีไทย ถือว่า
เป็นมรดกทางว ัฒนธรรมอ ันล้ำค่าของชนชาติไทย
มาตงแต่
ั้ ครงโบราณซ
ั้ งึ่ ดนตรีไทยได้มก ี ารพ ัฒนา
มาเรือ ่ ยๆ ตงแต่
ั้ อดีตจนถึงปัจจุบ ัน ซงึ่ จะขอแบ่งยุค
ของดนตรีไทย เพือ ่ ให้สะดวกต่อการศก ึ ษา ด ังนี้
สม ัยก่อนกรุงสุโขท ัยเป็นราชธานี
ดนตรีไทยสมัยก่อนกรุงสุโขทัยเป็ นราชธานี
มีประวัตค ิ วามเป็ นมาควบคูก ่ บ
ั ชนชาติไทย ก่อนทีจ่ ะอพยพ
มาสูถ ่ น
ิ่ แหลมทองในปั จจุบน ั เครือ ิ้ แรกทีค
่ งดนตรีชน ่ ้นพบ
คือ กลองและแคน ต่อมาได ้พัฒนาจากแคนเป็ นปี่ ซอและ
ขลุย่ ซงึ่ เป็ นเครือ
่ งดนตรีประเภทเป่ า เพราะทำได ้ง่ายเพียง
แต่เจาะรูแล ้วทำเครือ ่ งบังคับลมก็สามารถเป่ าเป็ นเสย ี ง
ดนตรีได ้แล ้ว
สม ัยกรุงสุโขท ัยเป็นราชธานี
เครือ
่ งดนตรีไทยในสมัยสุโขทัยเป็ นราชธานีนัน ้
เครือ่ งดนตรีมค ี รบ ทัง้ 4 ประเภท อย่างเชน ่ สมัยปั จจุบน ั
คือ เครือ่ งดีด ได ้แก่ พิณ เป็ นต ้น เครือ
่ งเป่ า ได ้แก่ ปี่ ขลุย ่
เป็ นต ้น เครือ
่ งตี ได ้แก่ ระนาด ฆ ้อง กลอง เป็ นต ้นเครือ ่ งส ี
ได ้แก่ ซอ เป็ นต ้น
สม ัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
ดนตรีไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็ นราชธานี ได ้
พัฒนาอย่างต่อเนือ ่ งจากสมัยสุโขทัยเป็ นราชธานี และมี
การคิดค ้นเครือ
่ งดนตรีเพิม
่ เติมประชาชนนิยมเล่นดนตรี
ไทย กันอย่างกว ้างขวาง แม ้แต่ในเขตพระราชฐาน จนต ้อง
มีการออกกฎมณเฑียรบาลเกีย ่ วกับการห ้ามเล่นดนตรีไทย
ในเขตพระราชฐาน
สม ัยกรุงธนบุร ี
การพัฒนาเปลีย ่ นแปลง
ของดนตรีไทยในสมัยนีก ้ ็คอื
ได ้มีการนำเอา วงปี่ พาทย์มา
บรรเลง ประกอบการขับเสภา
เป็ นครัง้ แรก นอกจากนี้ ยังมี
กลองชนิดหนึง่ เกิดขึน ้ โดย
ดัดแปลงจาก "เปิ งมาง" ของ
มอญ ต่อมาเรียกกลองชนิดนี้
ว่า "สองหน ้า" ใชตี้ กำกับ
จังหวะแทนเสย ี งตะโพนในวง
ปี่ พาทย์ ประกอบการขับเสภา
เนือ่ งจากเห็นว่าตะโพนดัง
เกินไป จนกระทัง่ กลบเสย ี ง
สม ัยร ัชกาลที ่ 3
ได ้มีการปรับปรุงวงปี่
พาทย์ขน ึ้ ใหม่ชนิดหนึง่ ซงึ่
ต่อมาเรียกว่า "วงปี่ พาทย์
ดึกดำบรรพ์" โดยสมเด็จ
กรมพระยานริศรานุวด ั ติวงศ ์
สำหรับใชบรรเลงประกอบ
้
การแสดง "ละคร
ดึกดำบรรพ์" ซงึ่ เป็ น ละคร
ทีเ่ พิง่ ปรับปรุงขึน ้ ในสมัย
รัชกาลนีเ้ ชน ่ กัน หลักการ
ปรับปรุงของท่านก็โดยการ
ตัดเครือ ่ งดนตรีชนิดเสย ี ง
สม ัยร ัชกาลที ่ 6
ได ้มีการปรับปรุงวงปี่
พาทย์ขน ึ้ มาอีกชนิดหนึง่
โดยนำวงดนตรีของมอญมา
ผสมกับ วงปี่ พาทย์ของไทย
ต่อมาเรียกวงดนตรีผสมนีว้ า่
"วงปี่ พาทย์มอญโดยหลวง
ประดิษฐไพเราะ นอกจากนี้
ยังได ้มี การนำเครือ่ งดนตรี
ของต่างชาติ เข ้ามาบรรเลง
ผสมกับ วงดนตรีไทย บาง
ชนิดก็นำมาดัดแปลงเป็ น
เครือ
่ งดนตรีของไทย ทำให ้
สม ัยร ัชกาลที่ 7
เนือ
่ งจากวิถชี วี ต
ิ และสงั คม
ไทยเปลีย ่ นแปลงไปจากเดิม
วัฒนธรรมทางดนตรีของต่าง
ชาติ ได ้เข ้ามามีบทบาทใน
ชวี ต
ิ ประจำวันของคนไทยเป็ น
อันมาก ดนตรีทเี่ ราได ้ยินได ้
ฟั ง และได ้เห็นกันทางวิทยุ
โทรทัศน์ หรือทีบ ่ รรเลงตาม
งานต่าง ๆ โดยมากก็เป็ น
ดนตรีของต่างชาติ หาใช ่
"เสย ี งพาทย์ เสย ี งพิณ" ดังแต่
ก่อนไม่
สม ัยร ัชกาลที่ 8
พระองค์เสด็จสวรรคตด ้วย
ทรงต ้องพระแสงปื นเมือ ่ วัน
ที ่ 9 มิถน
ุ ายน พ.ศ.
2489 ณ ห ้องพระ
บรรทม พระทีน ่ ั่งบรม
พิมาน ภายในพระบรม
มหาราชวัง
สม ัยร ัชกาลที่ 9