You are on page 1of 41

มุมมกล้

มกลององ (camera
( angle
l shots)
h t)
y ภาพระดับสายตา (eye level shot)
y ภาพระดบมุ
ภาพระดับมมสง
มสูง (high level shot)
y ภาพระดับมุมต่ํา (low level shot)
ภาพระดับสายตา (eye level shot)
y ภาพระดับสายตา (eye level shot)
y เปนการตงกลองระดบปกตทวไป
เป็นการตัง้ กล้องระดับปกติทั่วไป โดยตั
โดยตงกลองสู
้งกล้องสงแนวระดั
งแนวระดบตาผู
บตาผ้แสดง
มักจะไม่ระบุไว้ในบทโทรทัศน์ เพราะถือว่าเป็นที่เข้าใจกันอยู่แล้ว
ภาพระดับมมสง
ภาพระดบมุ มสูง (high level shot)
y ภาพระดับมุุมสูงู (high level shot)
เป็นการตัง้ กล้องมุมสูง เพื่อต้องการให้เห็นความลึกหรือระยะทางไกล ใน
กรณีนี้ต้องระบไว้
กรณนตองระบุ ไวใน
ใน บทโทรทศนวา
บทโทรทัศน์ว่า กล้
กลองมุ
องมมสง
มสูง แต่แตถาตองการถายมุ
ถ้าต้องการถ่ายมมที
มทสู่สง
มากลงมา จะเรียกกันว่า มุม bird’s eyes view ซึง่ ในการใช้มมุ กล้อง
ลักษณ นี้เพื่อหวังผลทางจิตวิทยา หมายถง
ลกษณะนเพอหวงผลทางจตวทยา หมายถึง สงทถู
สิ่งทีถ่ กกถ่ถายทาจะถู
ายทําจ ถกลด
กลด
ความสําคัญ เน้นความรู้สึกอ่อนแอ ไม่มีพลัง ถูกครอบงําด้วย
สภาพแวดล้อมรอบๆตัว
ภาพระดับมมต่
ภาพระดบมุ มตาํา (low level shot)
ุ ํา ((low level shot))
y ภาพระดับมมต่
เป็นการตัง้ กล้องมุมต่าํ มักจะใช้เป็นภาพแทนสายตาผู้แสดง หรือ ต้องการ
ให้เห็นภาพในมมม แปลก ในกรณนตองระบุ
ใหเหนภาพในมุ ในกรณีนี้ต้องระบในบทโทรทั
ในบทโทรทศนวา
ศน์ว่า กล้
กลองมุ
องมมต่
มตาํา
ซึง่ ในการใช้มมุ กล้องลักษณะนี้เพื่อหวังผล ทางจิตวิทยา หมายถึง สิ่งที่ถ่าย
ทํําจะมีีพลััง เข้้มแข็็ง มีีอิทธิิพลสามารถควบคุมสภาพแวดล้้อมได้ ไ้
ซ็อ็ ทพืนื้ ฐาน (basic shots)
y เพื่อแสดงให้เห็นลักษณะของภาพ ขนาดของภาพที่จะถ่าย
1. ภาพระยะไกลมาก Extreme Long shot (ELS)
2. ภาพระยะไกล Long shot (LS)
3. ภาพระยะไกลปานกลาง Medium Long shot (MLS)
4. ภาพระยะปานกลางMedium shot (MS)
5. ภาพระยะปานกลางใกล้ Medium Close Up shot (MCU)
6 ภาพระยะใกล
6. ภาพระยะใกล้ Close
Cl Up U (CU)
7. ภาพระยะใกล้มาก Extreme Close Up (ECU)
Et
Extreme L shot
Long h t (ELS)
y 1. ภาพระยะไกลมาก Extreme
Long shot (ELS)
หมายถึง การถ่ายภาพภาพใน
ระยะทีอ่ ยู่ไกลมาก เพื่อให้เห็นถึง
บรรยากาศโดยรอบของสถานที่
บรรยากาศโดยรอบของสถานท
หรือ สภาพแวดล้อมไม่มีการเน้น
สงใดสงหนง
สิ่งใดสิ่งหนึ่ง
Long shot
h ((LS)
S)
y 2. ภาพระยะไกล Long shot
(LS)
หมายถึง การถ่ายภาพวัตถุใน
ระยะไกล
ไ เพอแสดงทตงหรอ
ื่ ส ี่ ั้ ื
ส่วนประกอบในฉาก หรือแสดง
สัดส่วน ของขนาดวัตถุ
เปรียบเทียบกับส่วนประกอบอื่นๆ
ในฉาก เช่น ภาพเต็มตัว
M di LLong shot
Medium h t (MLS)
y 3. ภาพระยะไกลปานกลาง
Medium Long shot (MLS)
หมายถึง การถ่ายภาพวัตถุใน
ไ ทแสดงใหเหนถง
ระยะไกล ี่ ส ใ ้ ็ ึ
รายละเอียดของวัตถุ
Medium shot (MS)
y 4. ภาพระยะปานกลาง Medium
shot (MS)
หมายถึง การถ่ายภาพวัตถุใน

ระยะปานกลางเพอ ื่ ตดฉากหลง
ั ั
และรายละเอียดอื่นๆที่ไม่จาํ เป็น
ออกไป อีกทั้งยังเป็นการถ่ายภาพ
วัตถุุให้เห็นภาพที่ใหญ่กว่าเดิม
เน้นส่วนละเอียดมากขึ้น เช่นภาพ
ครงตว
ครึ่งตัว
Medium
di Close
Cl Up shot
h (MCU)
( C )
y 5. ภาพระยะปานกลางใกล้
Medium Close Up shot
(MCU)
หมายถึง ภาพถ่ายวัตถุในระยะ
ที่ถ่ายเน้นรายละเอียด
ปานกลาง ทถายเนนรายละเอยด
ของวัตถุให้เข้าใกล้มาอีก
Cl UUp (CU)
Close
y 6. ภาพระยะใกล้ Close Up (CU)
หมายถึง ภาพถ่ายระยะใกล้วัตถุุ
เพื่อเน้นวัตถุ หรือบางส่วนของ
วัตถขจั
วตถุ ขจดสงอนๆทไมตองการแสดง
ดสิ่งอื่นๆที่ไม่ต้องการแสดง
ออกไป ขยายให้เห็นรายละเอียด
เฉพาะของวัตถให้
เฉพาะของวตถุ ใหชดเจนมากขน
ชัดเจนมากขึ้น
เช่นภาพครึ่งหน้าอก
Extreme Close Up (ECU)
y 7. ภาพระยะใกล้มาก Extreme
Close Up (ECU)
หมายถึง ภาพถ่ายที่เน้นให้เห็น
ส่ ใ ส่
สวนใดสวนหนงของวตถุ
ึ่ ั อยาง

ชัดเจน เช่นนัยน์ตา เพื่อแสดง
อารมณ์ของผู้ท่ีอยู่ในภาพ
ลกษณะของภาพที
ั ถี่ ่าย
y เพื่อบอกเนื้อหา หรือเรื่องราวของภาพและลักษณะภาพหรือธรรมชาติของ
ภาพที่ถ่าย
1. ภาพที่ถ่ายจากมุมสููง (aerial shot / bird’s eyes view)
2. ภาพที่ถ่ายในระยะใกล้มาก (Big Close Up Shot)
3. ภาพครงอก
ภาพครึ่งอก (Bust Shot)
4. ภาพเอียง (Canted Shot)
5 ภาพถายขามไหล
5. ภาพถ่ายข้ามไหล่ (Cross
(C Sh Shot)t)
ภาพทีถี่ ่ายจากมุมสูง (aerial shot / bird’s eyes view)
y 1. ภาพที่ถ่ายจากมุมสูง (aerial
shot / bird’s eyes view)
หมายถึง ภาพถ่ายในลักษณะถ่าย
จากมุมสูง เช่น จากเครื่องบิน
เสมือนภาพแทนสายตานก ในบท
เสมอนภาพแทนสายตานก
โทรทัศน์นอกจากบอกว่า ตั้งกล้อง
มุมมสงแล้ วจะต้องระบด้ดววยวาถาย
มสูงแลวจะตองระบุ ยว่าถ่าย
จากเครื่องบิน
ภาพทีถ่ ่ายในระยะใกล้มาก (Big Close Up Shot)
y 2. ภาพที่ถ่ายในระยะใกล้มาก
( g Close Upp Shot))
(Big
หมายถึง ภาพถ่ายในลักษณะใกล้
มขนาดใหญ
มีขนาดใหญ่ เช่ เชนน ภาพคนเต็
ภาพคนเตมหนา
มหน้า
หรือภาพบางส่วนของใบหน้าที่
ต้อ้ งการเน้้นเฉพาะ เช่่น นััยน์ต์ า
ปาก จมูก หรือบางส่วนของวัตถุ
ภาพครึง่ อก (Bust Shot)
y 3. ภาพครึ่งอก (Bust Shot)
หมายถึง ภาพถ่ายศีรษะกับหัวไหล่ทั้งสองของผู้แสดง
ภาพเอียง (Canted Shot)
ภาพเอยง
y 4. ภาพเอียง ((Canted Shot))
หมายถึง ภาพที่อยู่นอกเส้นดิ่งของภาพ ในบทโทรทัศน์มักจะบอก
รายละเอียดเพิ่มเติม เช่
รายละเอยดเพมเตม เชนน ภาพเอี
ภาพเอยงยง หรื
หรอภาพเฉยง
อภาพเฉียง ลัลกษณะใด
กษณะใด
ภาพถ่ายข้ามไหล่ (Cross
ภาพถายขามไหล (C Shot)
Sh t)
y 5.
5 ภาพถายขามไหล
ภาพถ่ายข้ามไหล่ (Cross Shot)
หมายถึง ภาพที่ถ่ายข้ามไหล่ด้านหลังอีกคนหนึ่งเป็นฉากหน้า และเห็นหน้า
อีกี คนหนึึง่ ในบทโทรทั
ใ โ ศน์ใ์ ช้้คําว่า X- Shot หรือื ถ่ายข้้ามไหล่

ภาพเต็มตัว (Full
ภาพเตมตว (F ll Shot)
Sh t)
y 6. ภาพเต็มตัว (Full Shot)
หมายถึง ภาพผู้แสดงคน
เดียว
หรือหลายคนเต็มตัว
โ ฉี ากหลัังปประกอบ
โดยมี
ภาพระดับเข่าของร่างกาย (Knee
ภาพระดบเขาของรางกาย (K Sh Shot)
t)

y 7. ภาพระดับเข่าของร่างกาย (Knee Shot)


หมายถึง ภาพที่ถ่ายตั่งแต่ศีรษะลงไปจนถึงหัวเข่า
หรอการถายภาพตงแตหวเขาลงไปถงเทา
หรือการถ่ายภาพตั่งแต่หัวเข่าลงไปถึงเท้า
ซึง่ ในบทโทรทัศน์ควรระบุให้ชดั เจน
ภาพถ่ายจากกระจกเงา (Mirror Shot)
ภาพถายจากกระจกเงา
y 8.
8 ภาพถายจากกระจกเงา
ภาพถ่ายจากกระจกเงา (Mirror Shot)
หมายถึง ภาพที่ถ่ายผู้แสดงจากภาพในกระจกเงา ซึง่ ในบทโทรทัศน์ควร
ระบุให้ช้ ัดเจนว่าเป็็นภาพจากกระจกเงา
ภาพหม่ (Group shot)
ภาพหมู
y 9.
9 ภาพหมู
ภาพหม่ (Group shot)
หมายถึง ภาพในลักษณะรวมกันเป็นหมู่ หรือเป็นกลุ่มคน
ภาพบุุคคล 2 คนครึง่ ตัว
(Two Shot / Double Shot )
y 10. ภาพบุคคล 2 คนครึ่งตัว (Two Shot / Double Shot )
หมายถึ
หมายถงง ภาพบคคล
ภาพบุคคล 2 คนครึ
ง่ ตัวในกรอบภาพเดียวดัน หัหนหนาเขาหากน
คนครงตวในกรอบภาพเดยวดน นหน้าเข้าหากัน
หลัักการกําํ หนดภาพ
y 1. ภาพแบบออฟเจคตีฟ (Objective Shot)
หมายถึง การถ่ายภาพในลักษณะแทนสายตาของผู้ชม หรือผู้สังเกตการณ์
ตําแหน่งของกล้องจะอยูู่ทางด้านหน้าของนักแสดง
y 2. ภาพแบบซับเจคตีฟ (Subjective Shot)
หมายถึง การถายภาพในลกษณะกลองจะตงอยู
หมายถง การถ่ายภาพในลักษณะกล้องจะตัง้ อย่ในตาแหนงแทนสายตาของ
นตําแหน่งแทนสายตาของ
ผู้แสดง และกํากับมองดูการกระทํา เช่นเดียวกับที่ผู้แสดงมองเห็น ตัวอย่าง
ทีใี่ ช้ก้ ันบ่อ่ ยๆคืือ ตััง้ กล้้องในมุ
ใ มสูง ถ่่ายภาพข้้ามไหล่
ไ ่ผู้แสดงไปยั
ไ ังวััตถุที่
กําลังแสดงอยู่
การเคลือื่ นไหวกล้
ไ ้อง
(Camera Movement)
y การเคลื่อนไหวกล้องในระหว่างการถ่ายทําจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและ
แสดงเรื่องราว ความหมายได้ดีนอกเหนือจากตัววัตถุเคลื่อนไหวหรืออาจ
เคลื่อนไหวทั้ง 2 อย่าง พร้อมๆกั
ๆ น การเคลื่อนไหวของกล้องมีหลาแบบ
ดังนี้
การแพนกล้อง (Panning)
การแพนกลอง (P i )
y การแพนกลอง
้ (Panning)
(P i )
หมายถึง การเคลื่อนที่ของกล้องตาม
แนวนอนไปทางซาย ไป ้ (Pan(P lleft) ft) หรอไป
ื ไป
ทางขวา (Pan right) เพือ่ ให้เห็นวัตถุตาม
แนวกวาง ้ หรอเมอตองการนาผู
ื ื่ ้ ํ ช้ มไปยง
ไป ั
จุดน่าสนใจ หรือที่ต้องการ
- เพอใหเหนภาพทอยู
ื่ ใ ้ ็ ี่ น่ อกจดภาพใน ใ
ขณะนั้น
- เพอตองการตดตามการเคลอนไหววตถุ
ื่ ้ ิ ื่ ไ ั
- เพื่อให้เห็นปฏิกริยาตอบโต้กัน
- เพอตองการการเปลยนฉาก
ื่ ้ ร ร ป ี่
การทิ้ลท์ (Tilting)
การทลท (Tilti )
y 2. การทิล้ ท์์ (Tilting)
หมายถึง การเคลื่อนกล้องตามแนวดิ่ง
จากล่างขึน้ บน (Tilt Up) และจากบน
ลงล่าง (Tilt Down) เพือ่ ให้เห็นวัตถุ
ตามแนวตั้งเช่น ภาพอาคารสูง หรือื นํา
ผู้ชมไปยังจุดที่ต้องการ
- เพือื่ ให้
ใ เ้ ห็น็ ตําแหน่ง่ ทีต่ี ั้งของสิง่ ต่า่ งๆ
โดยสัมพันธ์กนั
- เพือื่ ให้
ใ เ้ ห็น็ วัตั ถุทีย่ าวหรือื สูงเกินรัศั มีี
- เพื่อต้องการปรับองค์ประกอบภาพ
การซูม (Zooming)
y 3. การซูม (Zooming)
หมายถงึ การเปลยนขนาดของวตถุ
ป ี่ ั ใ ห้
ใหญ่ขึ้น (Zoom In) หรือเปลี่ยนขนาด
ของวตถุั ใหเลกลง(Zoom
้ ็ (Z OOut)t)
- เพื่อต้องการเปลี่ยนขนาดของวัตถุ
่ ช้ ๆ
อยางชาๆ
- เมื่อต้องการให้ผู้ชมสนใจวัตถุนั้น
- เมอตองการใหเหนวตถุ
เมื่อต้องการให้เห็นวัตถอย่ อยางชดเจน
างชัดเจน
- เพื่อให้บังเกิดผลที่น่าตืน่ ใจ
การดอลลี่ (Dolling)
การดอลล
y 4.
4 การดอลล
การดอลลี่ (Dolling)
หมายถึง การเคลื่อนกล้องติดตาม ความเคลื่อนไหวของสิง่ ที่ถ่าย หรือฉากที่มี
ระยะทางยาวในทิศทางตรง หรือทางอ้อมไปรอบๆ การเคลื่อนไหวกล้องเข้า
หาวัตถุ เรียกว่า Dolly in และการเคลื่อนไหวกล้องออกจากวัตถุ เรียกว่า
Dolly out ผลของการดอลลี่ (Dolly) จะคล้ายซูม (Zoom) คือขนาดของวัตถุ
จะเปลี
ป ยี่ นแปลงไปตาระยะของการดอลลี
ป ไป ่ี แต่จ่ ะแตกต่่างกันั ตรง ส่ว่ นประกอบ

ต่างๆในภาพเกี่ยวกับระยะทางระหว่างวัตถุกับฉากหน้าและฉากหลัง จะ
เปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวของกล้อง คนดจะสามารถร้
เปลยนแปลงไปตามการเคลอนไหวของกลอง คนดูจะสามารถรูถงมตของ
ึงมิติของ
ความลึกมากกว่าภาพที่เกิดจากการซูม
- เพื่อสร้างความตื่นเต้น
- เมื่อต้องการติดตามการเคลื่อนไหว
- เพื่อให้มีมุมมองภาพที่หลากหลายแบบ
- เมือื่ ต้อ้ งการปรั
ป บั เปลี
ป ย่ี นองค์ป์ ระกอบภาพ
การทรคั (Trucking
( ki / Tracking
ki )
y 5. การทรัค (Trucking / Tracking )
หมายถงึ การเลอนไหวกลองไป
ื่ ไ ้ ไป
ด้านซ้ายให้ขนานกับวัตถุไปทางซ้าย
ี ่ หรอไปทางขวา
เรยกวา ื ไป เรยกวา
ี ่ ซงผล
ซึ่
จะคล้ายกับการแพน แต่การทรัคจะ
ช่ ใ ้ ิ
ชวยใหเกดการเปลยนแปลงมตเรอง
ป ี่ ป ิ ิ ื่
ความลึกของ ภาพได้ดีกว่า คล้ายๆกับ
ความร้สกกของเราทมองออกไปนอก
ความรู ึ ของเราที่มองออกไปนอก
หน้าต่างรถขณะทีเ่ คลื่อนที่ไป
การอาร์ค์ (Arking)
y 6. การอาร์ค (Arking)
หมายถงึ การเคลอนไหวกลองในแนว
ื่ ไ ้ ใ
เฉียงเป็นรูปครึ่งวงกลม ไปทางซ้าย
(A k lleft)
(Ark ft) หรอื ไปทางขวา
ไป (A k right)
(Ark i ht)
เพื่อเปลีย่ นมุมกล้องไปทางด้านข้างของ

วตถุ
การบูม หรือื เครน (Booming / Craning)
y 7. การบูม หรือเครน (Booming / Craning)
หมายถงึ การถายภาพพรอมกบขาตงกลองใน
่ ้ ั ั้ ้ ใ
แนวตั้ง เรียกว่า ‘บูม’ ถ้าเคลื่อนขึ้น เรียกว่า
B
Boom Up
U สวนเลอนลง
ส่ ื่ เรยกวา
ี ่ Boom
B
Down และถ้าเคลื่อนกล้องขึ้นลงโดยใช้เครน
ี ่ Crane
เรยกวา C Up
U และCrane
C Down
D เมอื่
ต้องการเคลื่อนกล้องลงด้วยเครน วัตถุประสงค์
เพื่อต้องการคงมมกล้
เพอตองการคงมุ มกลองทตองการจากมุ
องที่ต้องการจากมมสง มสูง
และต่ําอย่างต่อ เนื่อง
สติลิ ช็็อต (Still Shot)
y 8. สติลช็อต (Still Shot)
หมายถงึ การถายภาพโดยไมเคลอน
่ โ ไ ่ ื่
กล้อง ใช้มากในการถ่ายทํารายการ
ั่ ไป โดยปกตกลองจะโฟกสอยู
ทวไป โ ป ิ ้ โฟ สั ่บน
วัตถุหรือบุคคลที่ต้องการออกอากาศ
มากทสุสี่ ด ในการถายแบบนจาเปนตอง
ใ ่ ี้ ํ ป็ ้
จัดองค์ประกอบภาพให้ดี
การเชื่อมต่อภาพ (Transition)
การเชอมตอภาพ
y เปนวธการลาดบเวลาและเหตุ การณ โดยการใชเทคนคพเศษ
เป็นวิธีการลําดับเวลาและเหตการณ์ โดยการใช้เทคนิคพิเศษ ดงนดังนี้
1. การตัดภาพ (Cut)
2 ภาพจาง (Fade)
2. (F d )
3. ภาพจางซ้อน (Dissolve)
4. ภาพซ้อน (Superimpose)
5. ภาพกวาด (Wipe) p
6. ภาพเลือนเข้าหากัน (Morphink)
การเปลี่ยนจากภาพหนึ่งไปส่อกภาพหนงอยางตอเนอง
การเปลยนจากภาพหนงไปสู ีกภาพหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ดวยการ
ด้วยการ
ละลายเข้าหากันจนเป็นภาพใหม่ ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เรือ่ งคนเหล็ก
และเรอง
ื่ โรโบคอบ
โโ
Cut
y 1. การตัดภาพ (Cut)
หมายถึง การเปลี่ยนภาพอย่างแบพลัน โดยการเปลี่ยนจากภาพหนึ่ง
มาอีกภาพหนึ่ง โดยไม่มี อะไรมาคั่น ใช้ช็อทที่มีความสัมพันธ์กันอย่าง
ใกล้ชิด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การตัดต่อตาปกติ มักใช้การ
ตัดภาพแบบนี้
ตดภาพแบบน
Fade
y 2. ภาพจาง (Fade)
หมายถงง การตอเชอมภาพเรมจากภาพมอสนทไมมภาพ
หมายถึ การต่อเชื่อมภาพเริม่ จากภาพมือสนิทไม่มีภาพ แล้
แลวคอยๆ
วค่อยๆ
ปรากฏเป็นภาพเลือนลางจนเป็นภาพที่มองเห็นชัดเจน เรียกว่า Fade In
มกใชในตอนเรมเรอง
ั ใ ้ใ ิ่ ื่ หรอเรมตนใหม
ื ิ่ ้ ใ ่ เหมอนการเปด
ื ปิ ฉาก ส่สวนภาพ
Fade Out เป็นการเริ่มต้นจากภาพที่ปรากฏชัดเจนอยู่แล้ว ค่อยๆ
เลือนลางและหายไปกลาย เป็นภาพมือสนิท มักใช้ตอนจบเรื่อง การใช้การ
จางภาพสามารถใช้คั่นเชื่อมโยงระหว่างฉากแรกกับฉากหลัง ซึง่ เป็นเวลาที่
ล่วง มานาน หรือสถานที่นั้นอยู่ห่างกันไกลมาก
Dissolve
y 3. ภาพจางซ้อน (Dissolve)
หมายถึง การเชื่อมต่อภาพ โดยการใช้ช็อทแรกค่อยๆจางออกไป
ในขณะเดียวกับฉากหลังจะ ค่อยๆจางซ้อนเข้ามา จนกระทั่งช็อทแรกจาง
หายออกไปเหลือแต่ช็อทหลังเท่านั้น ใช้สําหรับคั่นเชื่อมโยงระหว่างฉาก
แรกกับฉากหลัง หรื
แรกกบฉากหลง หรอระหวางหลายฉาก
อระหว่างหลายฉาก ซึซงเปนเวลาทลวงเลยมาไมนานนก
่งเป็นเวลาที่ล่วงเลยมาไม่นานนัก
และในภาพของฉากแรกกับฉากหลังไม่มีอะไรให้สังเกตเห็นได้ว่ามีความ
ต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน
ตอเนองเชอมโยงกน
Superimpose
y 4. ภาพซ้อน (Superimpose)
หมายถึง การซ้อนฉาก 2 ฉากเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อแสดงถึงเหตุการณ์
ต่างสถานที่ในเวลา เดียวกัน แสดงภาพการคิดคํานึงของบุคคลต่อสิ่งใดสิ่ง
หนึ่ง โดยการถ่ายภาพใบหน้าและภาพเหตุการณ์ไป พร้อมๆกัน นอกจากนี้
ยังใช้ในการสร้างภาพพิเศษ เชนภาพผ
ยงใชในการสรางภาพพเศษ เช่นภาพผี
Wipe
i
y 5.
5 ภาพกวาด (Wipe)
หมายถึง การใช้ภาพต่อเนื่องโดยให้ภาพใหม่เข้ามากวาดภาพเก่าออก
จากจอทีลี ะน้้อยจนภาพเก่าหมดจากจอ หรือื ภาพใหม่
ใ เข้้ามาแทนที่ี เช่น
กวาดจากซ้ายไปขวา หรือบนจอลงล่างจอ เป็นต้น
Morphink
y 6. ภาพเลือนเข้าหากัน (Morphink)
การเปลี่ยนจากภาพหนึ่งไปส่อู ีกภาพหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ด้วยการ
ละลายเข้าหากันจนเป็นภาพใหม่ ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เรือ่ งคนเหล็ก
และเรื่อง โรโบคอบ
และเรอง

You might also like