Professional Documents
Culture Documents
จัดทาโดย
กลุ่มที่ 2
Q: What were the appropriate hurdle rates for the two segment ?
การหา Hurdle rate ของแต่ละ Segment
(billions) Corporate Telecommunications Products and
Services systems
BV Net Asset 16 11.4 4.6
Price to Book 3 3 3
Mkt. Equity 48 34.2 13.8
Mkt. Asset 61.70 46.27 15.42
Mkt Debt 13.70 12.07 1.62
D/E 28.53% 35.30% 11.77%
D/A 22.20% 26.09% 10.53%
เราสามารถหา สัดส่วนหนี้สินและทุนของแต่ละ Segment โดย
1. Market Valueของบริษัท จาก Price to Book ratio โดยการนา Price to book ratio คูณกับ Book
value ของ Net Asset คือ 3x16 จะได้ Market Value(Equity) เท่ากับ 48 ทาเช่นเดียวกับกับแต่ละ
Segment
2. หา Market Value(Asset) ของบริษัทจากสัดส่วนทุนของบริษัท 77.8% จะได้ Market Value(Asset)
เท่ากับ 61.70 ล้านบาท และนามาเทียบสัดส่วนโดย Telecommunication สัดส่วนเท่ากับ 75% และ
Product and Systems สัดส่วนเท่ากับ 25% เพื่อหา Market Value ของแต่ละ Segment
หลังจากนั้นจะได้ Market Value ของ Debt และสัดส่วน D/E ratio และ D/A ratio นาสัดส่วน D/E
ratio มาใช้หา beta โดยเลือกบริษัทเปรียบเทียบจาก Bond rating และรายได้เทียบกับแต่ละ Segment
และใช้สูตรฮามาดะเพื่อหา Equity beta ของ Telecommunications Services และ Product and
Systems
เมื่อได้ Hurdle rate ของ Telecommunication services segment และ Products and systems
segment หลังจากนั้นจะนาอัตราที่ได้ทั้งสองมาพิจารณาเลือกว่าจะใช้ Single rate ของแต่ละ segment หรือจะ
ใช้อัตรารวมของทั้งกิจการ(Multiple rate) ซึ่งหลักการพิจารณาคือความเหมาะสมของการใช้อัตราที่คานวณ แยก
พิจารณาได้ 2 กรณีคือ กรณีทกี่ ิจการใช้ Single rate และกรณีทใี่ ช้ Multiple rate
หากกิจการใช้ Single rate คือแยกใช้ Hurdle rate ของแต่ละ Segment ก็จะทาให้เห็นถึงต้นทุนทาง
การเงินของแต่ละ Segment อย่างชัดเจน ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วจะเห็น ได้ว่า Products and systems segment
มีต้นทุนที่สูงกว่า จึงแสดงให้เห็นว่าใน Segment นี้มีความเสี่ยงมากกว่า และอาจเป็นเหตุผลที่ทาให้กิจการเลือกที่
จะไม่ลงทุนต่อให้ Products and systems segment เมื่อเทียบกับ Telecommunication services segment
ที่มี Hurdle rate ที่ต่ากว่า แต่หากกิจการใช้ Multiple rate คือใช้ Hurdle rate ของทั้งสอง Segment เฉลี่ยถ่วง
น้าหนักเป็นอัตราต้นทุนทางการเงินเดียวกันทั้งกิจการ ก็จะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของกิจการไม่สะท้อนถึง
ความเสี่ยงที่แท้จริงของแต่ละ segment ได้ และค่า NPV ที่ได้ก็อาจจะเกิดความคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง
ได้มากกว่าการใช้ Single rate ดังนั้นกลุ่มของผู้จัดทาจึงเลือกใช้ Single rate เพื่อให้ค่า NPV ที่ได้จากการคานวณ
สะท้อนถึงปัจจัยความเสี่ยงของแต่ละ segment ได้อย่างแท้จริง
Q: Was the product systems segment underperforming? And How would Teletech respond
to Victor Yossarian ?
หากพิจารณาจากต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของเงินทุนหรือ WACC ของ Product systems จะอยู่ที่
11.40% ซึ่งมากกว่าอัตราส่วนผลตอบแทนต่อเงินทุนหรือ ROC ซึ่งอยู่ที่ 11% จึงสามารถบอกได้ว่า Product
systems segment นั้นมีประสิทธิภาพในการดาเนินงานที่ต่าและลดมูลค่าของบริษัท
กรณีที่ 5 : 1,900:100
เมื่อเเบ่งเงินลงทุนเป็น 1,900:100 ล้านเหรียญ จะพบว่า การลงทุนในโทรคมนาคมให้ NPV= -1,885.43
ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าไม่ควรลงทุน ในขณะที่การลงทุนอุปกรณ์สื่อสารให้ NPV= 27,285.63 ล้านเหรียญ โดยNPV
รวมของทั้งสองโครงการเท่ากับ 25,400.20 ล้านเหรียญ ซึ่งก็มีเเนวโน้มเช่นเดียวกับสัดส่วนการลงทุนที่ผ่านมาคือ
เมื่อเพิ่มเงินลงทุนในอุปกรณ์สื่อสาร 1,000ล้านเหรียญ เเต่NPVรวมของทั้งสองโครงการก็ยังเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
กรณีที่ 6 : 2,000:0