Professional Documents
Culture Documents
ReportExecutiveSumTH รถไฟไทยจีน เร็วสุง สอง หนองคาย PDF
ReportExecutiveSumTH รถไฟไทยจีน เร็วสุง สอง หนองคาย PDF
หน้า
บทที่ 1 บทนา (Introduction) 1-1
1.1 เหตุผล ความจาเป็น และประโยชน์ของโครงการ 1-1
1.2 องค์ประกอบและรูปแบบของโครงการ 1-3
1.3 รูปแบบของรายงานฉบับสรุปสาหรับผู้บริหาร 1-8
บทที่ 2 ความสอดคล้องของโครงการ 2-1
2.1 กรอบนโยบาย 2-1
2.2 สภาพเศรษฐกิจและสังคม (Socio-economic conditions) 2-3
2.3 โครงการที่เกี่ยวข้อง (Relating Projects) 2-4
บทที 3 ความเหมาะสมของโครงการ (Project Feasibility) 3-1
3.1 งานศึกษาแนวเส้นทาง (Project Alignment) 3-1
3.1.1 แนวเส้นทางเลือกของโครงการ 3-1
3.2 งานศึกษาตาแหน่งสถานี (Designation of Station Location) 3-12
3.3 ขั้นตอนและระยะเวลาดาเนินโครงการ (Implementation Plan) 3-15
3.4 ความเหมาะสมด้านเทคนิค (Technical Feasibility) 3-17
3.4.1 การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารและสินค้า (Demand Forecast) 3-17
3.4.2 การศึกษาการเดินรถ (System Operations Study) 3-23
3.5 ความเหมาะสมด้านวิศวกรรม (Engineering Feasibility) 3-32
3.5.1 ระบบรถไฟฟ้า (Railway System) 3-32
3.5.2 ตัวรถ (Rolling Stock) 3-40
3.5.3 การออกแบบแนวเส้นทาง (Route Alignment Design) 3-42
3.5.4 การออกแบบทางวิ่งระดับดิน (Design of At-Grade Railway Structure) 3-48
3.5.5 การออกแบบทางวิ่งยกระดับ (Viaduct Structure) 3-51
3.5.6 การออกแบบโครงสร้างสะพานรถไฟ (Railway Bridge Structure Design) 3-52
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
3.5.7 การติดตั้งกาแพงกันเสียง (Noise Barrier Installation) 3-53
3.5.8 การออกแบบด้านสถาปัตยกรรม (Architectural Works) 3-54
3.5.9 การจัดจราจรและการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) 3-66
3.5.10 การออกแบบโครงสร้างอาคาร (Building Structural Design) 3-71
3.5.11 การออกแบบระบบประกอบอาคาร (Building Services Works) 3-72
3.5.12 การออกแบบการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ (Railway Crossing) 3-74
3.5.13 การออกแบบระบบระบายน้า (Drainage Design) 3-75
3.5.14 การรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค (Utility Relocation) 3-78
3.5.15 การประมาณราคาค่าก่อสร้าง (Construction Cost Estimation) 3-80
3.5.16 การจัดทาเอกสารประกวดราคา (Tender Document Management) 3-83
3.5.17 การจัดทาแบบแปลนและข้อมูลสาหรับงานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเบื้องต้นของโครงการ 3-86
บทที่ 4 การศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ (Economic Feasibility Study) 4-1
4.1 แนวคิดการวิเคราะห์ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจของโครงการ 4-1
4.2 ค่าใช้จ่ายในการลงทุน 4-2
4.3 ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของโครงการ 4-4
4.4 ผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจของโครงการ 4-7
บทที่ 5 การศึกษาความเหมาะสมด้านการเงิน (Financial Feasibility Study) 5-1
5.1 การวิเคราะห์ความเหมาะสมด้านการเงิน 5-1
5.1.1 สมมติฐานในการวิเคราะห์ทางการเงิน 5-1
5.1.2 การประมาณการรายรับของโครงการ 5-2
5.1.3 การประมาณค่าลงทุนและค่าใช้จ่ายในการดาเนินโครงการ 5-3
5.1.4 การวิเคราะห์ทางการเงิน 5-5
5.2 สรุปผลการศึกษาความเหมาะสมทางการเงิน 5-9
บทที่ 6 การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน 6-1
6.1 การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม 6-1
6.2 การมีส่วนร่วมของประชาชนและการประชาสัมพันธ์โครงการ 6-13
สารบัญรูป
หน้า
รูปที่ 1.1 แผนที่แสดงที่ตั้งโครงการ 1-2
รูปที่ 2.1 โครงข่ายทางรถไฟทางคู่ขนาดทางมาตรฐาน (Standard Gauge) ตาม MOU ไทย-จีน 2-2
รูปที่ 3.1 ทางเลือกจุดเวนคืนปรับโค้ง 3-1
รูปที่ 3.2 แนวทางเลือกที่สาคัญ 6 ช่วง 3-2
รูปที่ 3.3 ตาแหน่งแนวทางเลือกทางดิ่ง ช่วงนครราชสีมา – บัวใหญ่ 3-11
รูปที่ 3.4 ตาแหน่งแนวทางเลือกทางดิ่ง ช่วงเมืองพล – เขาสวนกวาง 3-11
รูปที่ 3.5 ตาแหน่งแนวทางเลือกทางดิ่ง ช่วงอุดรธานี – หนองคาย 3-12
รูปที่ 3.6 ตาแหน่งสถานีรถไฟความเร็วสูง/รถไฟขนาดทางมาตรฐานฯ ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย 3-13
รูปที่ 3.7 แนวทางการพัฒนากิจกรรมที่เกี่ยวกับระบบรางบริเวณพื้นที่สถานีนาทา 3-14
รูปที่ 3.8 การแบ่งงานทั้ง 8 สัญญา 3-15
รูปที่ 3.9 แผนดาเนินงานโครงการเบื้องต้น 3-16
รูปที่ 3.10 รูปแผนภูมิแสดงแนวคิดในการจัดให้ขบวนรถหยุดสาหรับกรณีที่ 1 (การเดินรถร่วมกัน) 3-23
รูปที่ 3.11 แผนภูมิแสดงแนวคิดจุดจอดขบวนรถสาหรับกรณีที่ 2 (รถไฟความเร็วสูงเท่านั้น) 3-24
รูปที่ 3.12 กรณีที่ 1 เดินรถร่วมกัน ผังทางวิ่งทั่วไป (General track layout) 3-26
รูปที่ 3.13 กรณีที่ 2 การเดินรถไฟความเร็วสูง, ผังทางวิ่งทั่วไป (General track layout) 3-30
รูปที่ 3.14 ตาแหน่งศูนย์ซ่อมบารุงสาหรับขบวนรถสินค้าและขบวนรถโดยสารที่นาทา (กรณีที่ 1 Mixed Traffic) 3-33
รูปที่ 3.15 ตาแหน่งศูนย์ซ่อมบารุงสาหรับขบวนรถโดยสารที่นาทา (กรณีที่ 2 HSR Only) 3-33
รูปที่ 3.16 แสดงตาแหน่งการปรับโค้งราบของแนวเส้นทางที่ใช้พื้นที่นอกเขตทาง 3-43
รูปที่ 3.17 รูปตัดทั่วไปของโครงการ 3-44
รูปที่ 3.18 รูปตัดบริเวณสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ 3-45
รูปที่ 3.19 รูปตัดกรณีเป็นเขตทางใหม่ 3-45
รูปที่ 3.20 แนวเส้นทางดิ่งของโครงการ 3-46
รูปที่ 3.21 แนวเส้นทางดิ่งของโครงการ (ต่อ) 3-47
รูปที่ 3.22 รูปตัดทั่วไปของคันทางรถไฟ 3-49
รูปที่ 3.23 แผนที่แสดงตาแหน่งสถานีรถไฟของโครงการฯ 3-55
รูปที่ 3.24 การเข้าถึงสถานีบัวใหญ่ 3-56
สารบัญรูป (ต่อ)
หน้า
รูปที่ 3.25 ผังบริเวณสถานีบัวใหญ่ 3-56
รูปที่ 3.26 ทัศนียภาพสถานีบัวใหญ่ 3-57
รูปที่ 3.27 สัญลักษณ์สถานีบัวใหญ่ 3-57
รูปที่ 3.28 การเข้าถึงของสถานีบ้านไผ่ 3-58
รูปที่ 3.29 ผังบริเวณสถานีบ้านไผ่ 3-58
รูปที่ 3.30 ทัศนียภาพสถานีบ้านไผ่ 3-59
รูปที่ 3.31 สัญลักษณ์สถานีบ้านไผ่ 3-59
รูปที่ 3.32 การเข้าถึงสถานีขอนแก่น 3-60
รูปที่ 3.33 ผังบริเวณสถานีขอนแก่น 3-60
รูปที่ 3.34 ทัศนียภาพสถานีขอนแก่น 3-61
รูปที่ 3.35 สัญลักษณ์สถานีขอนแก่น 3-61
รูปที่ 3.36 การเข้าถึงสถานีอุดรธานี 3-62
รูปที่ 3.37 ผังบริเวณสถานีอุดรธานี 3-62
รูปที่ 3.38 ทัศนียภาพสถานีอุดรธานี 3-63
รูปที่ 3.39 สัญลักษณ์สถานีอุดรธานี 3-63
รูปที่ 3.40 การเข้าถึงสถานีหนองคาย 3-64
รูปที่ 3.41 ผังบริเวณสถานีหนองคาย 3-64
รูปที่ 3.42 ทัศนียภาพสถานีหนองคาย 3-65
รูปที่ 3.43 สัญลักษณ์สถานีหนองคาย 3-65
รูปที่ 3.44 โครงข่ายถนนเชื่อมโยงสถานีบัวใหญ่ 3-66
รูปที่ 3.45 โครงข่ายถนนเชื่อมโยงสถานีบ้านไผ่และขอนแก่น 3-67
รูปที่ 3.46 โครงข่ายถนนเชื่อมโยงสถานีอุดรธานีและหนองคาย 3-68
รูปที่ 3.47 ผังแนวคิดการพัฒนาโดยรอบสถานีขอนแก่น 3-69
รูปที่ 3.48 ผังแนวคิดการพัฒนาโดยรอบสถานีอุดรธานี 3-70
รูปที่ 3.49 ตัวอย่างทัศนียภาพแสดงรูปแบบการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนน 3-74
รูปที่ 3.50 ค่าระดับน้าสูงสุดเพื่อใช้ประกอบในการออกแบบระดับพื้นอาคาร 3-76
รูปที่ 4.1 ค่าใช้ในการดาเนินงานและซ่อมบารุงโครงการ 4-3
สารบัญตาราง
หน้า
ตารางที่ 1.1 สรุปโครงสร้างพื้นฐานที่สาคัญของทั้งสองกรณี 1-3
ตารางที่ 1.2 ข้อมูลการให้บริการเดินรถที่สาคัญ 1-4
ตารางที่ 1.3 สรุปมูลค่าลงทุนโครงการ 1-5
ตารางที่ 1.4 สรุปผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของโครงการ 1-5
ตารางที่ 1.5 สรุปผลตอบแทนทางการเงินของโครงการ 1-5
ตารางที่ 1.6 สรุปงานออกแบบด้านวิศวกรรม 1-6
ตารางที่ 2.1 จานวนประชากร (คน) 2-3
ตารางที่ 2.2 มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม ณ ราคาประจาปี (ล้านบาท) 2-3
ตารางที่ 3.1 ผลการเปรียบเทียบแนวทางเลือกที่ บ้านดงพลอง 3-4
ตารางที่ 3.2 ผลการเปรียบเทียบแนวทางเลือกที่ ศาลาดิน 3-5
ตารางที่ 3.3 ผลการเปรียบเทียบแนวทางเลือกที่ ขอนแก่น 3-6
ตารางที่ 3.4 ผลการเปรียบเทียบแนวทางเลือกที่ ห้วยเสียว 3-7
ตารางที่ 3.5 ผลการเปรียบเทียบแนวทางเลือกที่ ห้วยสามพาด 3-8
ตารางที่ 3.6 ผลการเปรียบเทียบแนวทางเลือกที่ อุดรธานี 3-9
ตารางที่ 3.7 ผลการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร กรณีรถไฟความเร็วปานกลาง 3-18
และมีโครงข่ายเชื่อมต่อไปยังประเทศจีน (คนต่อวัน)
ตารางที่ 3.8 ผลการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร กรณีรถไฟความเร็วปานกลาง 3-19
โดยไม่มีโครงข่ายเชื่อมต่อไปยังประเทศจีน (คนต่อวัน)
ตารางที่ 3.9 ผลการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร กรณีรถไฟความเร็วสูง 3-20
และมีโครงข่ายเชื่อมต่อไปยังประเทศจีน (คนต่อวัน)
ตารางที่ 3.10 ผลการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร กรณีรถไฟความเร็วสูง โดยไม่มีโครงข่ายเชื่อมต่อ 3-21
ไปยังประเทศจีน (คนต่อวัน)
ตารางที่ 3.11 ผลการคาดการณ์ปริมาณการขนส่งสินค้าที่จะใช้เส้นทางโครงการ 3-22
ตารางที่ 3.12 กรณีที่ 1 การเดินรถร่วมกัน – ระยะเวลาในการเดินทางเชิงพาณิชย์ของขบวนรถไฟโดยสาร 3-27
ตารางที่ 3.13 กรณีที่ 1 การเดินรถร่วมกัน – ระยะเวลาเดินทางเชิงพาณิชย์ของขบวนสินค้า 3-27
ตารางที่ 3.14 Alternative 1, Fleet size estimation 3-28
สารบัญตาราง (ต่อ)
หน้า
ตารางที่ 3.15 กรณีที่ 1 การเดินรถร่วมกัน, แผนการจัดซื้อขบวนรถ 3-29
ตารางที่ 3.16 กรณีที่ 1 การเดินรถร่วมกัน, จานวนรถจักรสาหรับขบวนรถสินค้า 3-29
ตารางที่ 3.16A กรณีที่ 1 การเดินรถร่วมกัน, แผนการจัดซื้อขบวนรถสินค้า 3-29
ตารางที่ 3.17 กรณีที่ 2 การเดินรถไฟความเร็วสูง – ระยะเวลาเดินทางเชิงพาณิชย์ 3-31
ตารางที่ 3.18 กรณีที่ 2 การเดินรถไฟความเร็วสูง, จานวนขบวนรถไฟที่ต้องใช้ทั้งหมด 3-31
ตารางที่ 3.19 กรณีที่ 2 การเดินรถไฟความเร็วสูง, แผนการจัดซื้อขบวนรถ 3-32
ตารางที่ 3.20 การใช้พลังงานสาหรับกรณีรถไฟความเร็วสูงเท่านั้น 3-37
ตารางที่ 3.21 การใช้พลังงานสาหรับกรณีรถไฟโดยสารธรรมดาวิ่งร่วมกับขบวนรถสินค้า 3-37
ตารางที่ 3.22 สรุปข้อกาหนดทางเทคนิค (Technical requirements for rolling stock) 3-41
ตารางที่ 3.23 ตาแหน่งการปรับรัศมีโค้งราบที่ใช้พื้นที่นอกเขตทาง 3-42
ตารางที่ 3.24 ลักษณะและคุณภาพวัสดุชั้นต่างๆที่ใช้ในคันทางรถไฟ 3-49
ตารางที่ 3.25 ความหนาออกแบบของชั้นวัสดุในคันทางรถไฟ (Unit: millimeter, mm) 3-50
ตารางที่ 3.26 สัดส่วนพื้นที่ใช้สอยสาหรับการพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีขอนแก่น 3-69
ตารางที่ 3.27 สัดส่วนพื้นที่ใช้สอยสาหรับการพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีอุดรธานี 3-70
ตารางที่ 3.28 สรุปรูปแบบการแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนน โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟ 3-74
ความเร็วสูง สายนครราชสีมา-หนองคาย
ตารางที่ 3.29 ผลการวิเคราะห์ค่าระดับน้าสูงสุด 3-75
ตารางที่ 3.30 สรุปผลกระทบต่อสาธารณูปโภค 3-79
ตารางที่ 3.31 ตารางสรุปราคาค่าจัดกรรมสิทธิ์เบื้องต้นทั้งโครงการ (กรณีที่ 1) 3-87
ตารางที่ 3.32 ตารางสรุปราคาค่าจัดกรรมสิทธิ์เบื้องต้นทั้งโครงการ (กรณีที่ 2) 3-87
ตารางที่ 4.1 มูลค่าลงทุนโครงการ 4-2
ตารางที่ 4.2 ผลประโยชน์ทางตรงทางเศรษฐกิจของโครงการ 4-5
ตารางที่ 4.3 ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในเชิงกว้างจากการพัฒนาโครงการ (ล้านบาทต่อปี) 4-6
ตารางที่ 4.4 ผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ 4-7
ตารางที่ 5.1 ประมาณการรายได้จากการโดยสารและการขนส่งสินค้า 5-2
ตารางที่ 5.2 รายได้จากการพาณิชย์ (หน่วย : ล้านบาทต่อปี) 5-2
สารบัญตาราง (ต่อ)
หน้า
ตารางที่ 5.3 ค่าใช้จ่ายในการลงทุนโครงการ (หน่วย: ล้านบาท) 5-3
ตารางที่ 5.4 การกระจายรายได้การลงทุน 5-3
ตารางที่ 5.5 ค่าใช้จ่ายในการเดินรถและการบารุงรักษาโครงการ 5-4
ตารางที่ 5.6 กระแสเงินสดของโครงการ 5-5
ตารางที่ 5.7 การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางการเงินกรณีฐาน 5-6
ตารางที่ 5.8 รูปแบบการลงทุนโครงการรถไฟไทย – จีน 5-7
ตารางที่ 5.9 ผลตอบแทนทางการเงินของโครงการ ตามรูปแบบการลงทุน 5-8
ตารางที่ 5.10 ความอ่อนไหวโครงการ กรณีรูปแบบการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนทางการเงินสูงสุด 5-9
ตารางที่ 6.1 สรุปผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่สาคัญ มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม 6-2
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ตารางที่ 6.2 สรุปผลการดาเนินการด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน และการประชาสัมพันธ์โครงการ 6-13
1.2 องค์ประกอบและรูปแบบของโครงการ
1. สรุปผลการศึกษาโครงการ
จากความเป็นมาของโครงการ ในการศึกษาครั้งนี้จึงได้พิจารณาทั้งรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่
ขนาดทางมาตรฐาน 1.435 เมตร เพื่อ รองรับรถไฟความเร็ว สูงในอนาคตร่ วมด้วย เพื่อให้ง่ายต่ อ
ความเข้าใจ จึงสรุปเป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 1 การเดินรถร่วมกัน ระหว่างรถไฟโดยสารกับขบวนรถสินค้า (Mixed Traffic) หมายถึง
การศึ กษาและออกแบบให้ รองรั บรถไฟความเร็วสูง สุด 200 กม.ต่อ ชม. และขบวนรถสินค้ า
ความเร็วสูงสุด 120 กม.ต่อ ชม.
กรณีที่ 2 การเดินรถไฟความเร็วสูงเท่านั้น (HSR Only) หมายถึง การศึกษาและออกแบบให้
รองรับรถไฟความเร็วสูงสุด 300 กม.ต่อ ชม. โดยไม่มีขบวนรถสินค้าวิ่งร่วมด้วย
ในการออกแบบจะพิจารณาข้อจากัดต่างๆ ในกรณีเลวร้ายที่สุด (Worst Case) เพื่อนามากาหนด
เกณฑ์ในการออกแบบแนวเส้นทางให้สามารถรองรับได้ทั้ง 2 กรณี ได้แก่ รัศมีโค้งราบ ความลาดชัน
เป็ นต้ น อย่ างไรก็ต าม ได้มี การกาหนดโครงสร้างพื้ นฐานที่ส าคั ญบางส่ว นแตกต่างกั นตามความ
เหมาะสม โดยสามารถสรุปเป็นตารางได้ดังนี้
2. สถานีรถไฟ
มีสถานียกระดับ 5 สถานี ได้ แก่ สถานี บัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุ ดรธานีและ
สถานีหนองคาย
3. แผนการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูง
โครงการนี้เ ป็น โครงการขนาดใหญ่ ซึ่ งมี ขั้ นตอนการดาเนิน การหลายขั้น ตอน ได้ แก่ ขั้ น ตอนการ
ออกแบบ การขออนุมัติรายงาน EIA, การขออนุมัติจาก ครม., การประกวดราคา และสุดท้ายคือ
ขั้น ตอนการก่ อ สร้ าง ซึ่ง ต้ อ งใช้ เ วลาประมาณ 4 ปี 9 เดื อ น โดยคาดว่ า โครงการจะสามารถเปิ ด
ให้บริการต่อสาธารณะได้ ในปี พ.ศ. 2565
4. การให้บริการเดินรถและอัตราค่าโดยสารและระวางสินค้า
ข้อมูลการให้บริการเดินรถที่สาคัญ สรุปไว้ในตารางที่ 1.2
1 ความยาวขบวนรถสูงสุด 400 เมตร 750 เมตร 400 เมตร CVR / HSR 2 Units (8 ตู/้ Unit)
ขบวนรถสินค้ามี 2 หัวรถจักร 35 รถ
2 ความจุสูงสุดทีใ่ ช้คานวณ 1,000 คน/ขบวน 105 TEU/ขบวน 800 คน/ขบวน
พ่วง
3 ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. 120 กม./ชม. 300 กม./ชม. ความเร็วสูงสุดที่ออกแบบไว้
ความถี่ในการเดินรถ
ความถี่ในการเดินรถ และชุด
ปี พ.ศ. 2565 30S/60S 30S
ขบวนรถที่ออกแบบไว้ตัวอย่าง
4 ปี พ.ศ. 2575 30D/30S/60S 60 นาที 15S/30S
30D = 30 นาที Double Unit
ปี พ.ศ. 2585 30D/30S/60S 15D/15S/30S
15S = 15 นาที Single Unit
ปี พ.ศ. 2595 30D/30S 15D/15S/30S
ระยะเวลาจอดรับส่ง กรณีรถสินค้าเป็นระยะเวลา
5 3 นาที 10-15 นาที 3 นาที
ผู้โดยสารที่สถานี จอดที่ทางหลีก
ระยะเวลากลับรถ ระยะเวลากลับรถน้อยที่สุด 30 นาที
6 30+5 = 35 นาที 30+4 = 34 นาที
ที่บางซื่อหรือหนองคาย ส่วนที่เหลือเป็นระยะเวลาที่อาจเพิ่มขึ้น
ระยะเวลากลับรถ ระยะเวลากลับรถน้อยที่สุด 20 นาที
7 20+8 = 28 นาที 20+2 = 22 นาที
ที่นครราชสีมา ส่วนที่เหลือเป็นระยะเวลาที่อาจเพิ่มขึ้น
กรณี Mixed Traffic ใช้เวลาซ่อมบารุง
8 ช่วงเวลาให้บริการ 06:00 – 02:00 06:00-24:00 4 ชม.
กรณี HSR ใช้เวลาซ่อมบารุง 6 ชม.
ระยะเวลาเดินทาง:
9 4 ชม. 10 นาที 3 ชม. 11 นาที จากผลการศึกษาระยะที่ 1
บางซื่อ – หนองคาย
ความเร็วเฉลี่ย:
10 145 กม./ชม. 190 กม./ชม. จากผลการศึกษาระยะที่ 1
บางซื่อ – หนองคาย
ระยะเวลาเดินทาง:
11 2 ชม. 23 นาที 4 ชม. 7 นาที 1 ชม. 51 นาที รวมระยะเวลาจอดที่สถานีและทางหลีก
นครราชสีมา – หนองคาย
ความเร็วเฉลี่ย:
12 152 กม./ชม. 86 กม./ชม. 193 กม./ชม.
นครราชสีมา – หนองคาย
อัตราค่าโดยสารและระวางสินค้า เป็นดังนี้
กรณี ที่ 1 การเดิ น รถร่ ว มกั น – ค่ าโดยสารของรถโดยสาร (CVR) ที่ ใ ช้ ใ นงานศึ กษาฯ นี้ คื อ
70 บาท +1.80 บาท/กม. ส่วนค่าระวางสินค้า 25 บาท/TEU-กม.
กรณีที่ 2 การเดินรถไฟความเร็วสูงเท่านั้น – ค่าโดยสารของรถโดยสาร (HSR) ที่ใช้ในงานศึกษาฯ นี้
คือ 80 บาท + 2 บาท/กม.
5. งานศึกษาค่าลงทุนการก่อสร้างและผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจและการเงิน
มูลค่าลงทุนของโครงการประกอบด้วย งานต่างๆ โดยแยกเป็น 2 กรณี ดังนี้
6. งานออกแบบด้านวิศวกรรม
งานออกแบบด้านวิศวกรรม สรุปแสดงไว้ในตารางที่ 1.6
1.3 รูปแบบของรายงานฉบับสรุปสาหรับผู้บริหาร
รายงานฉบับสรุปสาหรับผู้บริหาร จะแบ่งเป็น 2 เล่ม คือ ฉบับภาษาไทย และฉบับภาษาอังกฤษ มี
วัตถุ ประสงค์ เพื่อ สรุป ใจความสาคั ญของผลการศึกษาด้ านต่ างๆ ของโครงการศึ กษาและออกแบบ
รถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ – หนองคาย ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย
สารบัญ
2 ความสอดคล้องของโครงการ 2-1
2.1 กรอบนโยบาย 2-1
2.2 สภาพเศรษฐกิจและสังคม (Socio-economic conditions) 2-3
2.3 โครงการที่เกี่ยวข้อง (Relating Projects) 2-4
สารบัญรูป
รูปที่ 2.1 โครงข่ายทางรถไฟทางคู่ขนาดทางมาตรฐาน (Standard Gauge) ตาม MOU ไทย-จีน 2-2
สารบัญตาราง
ตารางที่ 2.1 จ้านวนประชากร (คน) 2-3
ตารางที่ 2.2 มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม ณ ราคาประจ้าปี (ล้านบาท) 2-3
1 6
2
4 5
3
3.1.1.1 สรุปผลการคัดเลือกแนวเส้นทางที่เหมาะสม
จากการพิจารณาการเปรียบเทียบการให้คะแนนทั้ง 3 ด้าน อันประกอบไปด้วย ด้านวิศวกรรม ด้านเศรษฐกิจ
และการลงทุน และด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสําหรับแนวเส้นทางเลือก ดังแสดงในตารางที่ 3.1 ถึง
ตารางที่ 3.6 สามารถสรุปได้ โดยแบ่งแยกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่พื้นที่อยู่นอกตัวเมือง ประกอบด้วย
พื้นที่บริเวณบ้านดงพลอง ศาลาดิน ห้วยเสียวและห้วยสามพาด และกลุ่มที่พื้นที่อยู่ในตัวเมือง ประกอบด้วย
พื้นที่บริเวณตัวเมืองจังหวัดขอนแก่นและอุดรธานี
กลุ่มที่พื้นที่อยู่นอกตัวเมือง ได้แก่ บ้านดงพลอง ศาลาดิน ห้วยเสียวและห้วยสามพาด
เมื่อพิจารณาครบทั้ง 3 ด้านแล้ว สรุปได้ว่า แนวเส้นทางเลือกที่ 2 (รัศมีโค้งกว้าง) ของทั้งบ้านดงพลอง
ศาลาดิน ห้วยเสียวและห้วยสามพาด ได้ค ะแนนรวมมากที่สุด เท่ากับ 94.88, 93.75, 87.50 และ 86.44
คะแนนตามลําดับ เนื่องจาก มีแนวเส้นทางสั้นกว่า มีลักษณะทางแนวทางราบที่ดีกว่า ค่าก่อสร้างต่ํากว่า
มีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่นในการพัฒนาเป็นรถไฟความเร็วสูงในอนาคตได้ดีกว่า แม้ว่าจะมีการ
เวนคืนมากแต่ก็เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ทําให้ผลกระทบน้อย แนวเส้นทางเลือกที่ 2 จึงมีความเหมาะสมทั้ง
ทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
กลุ่มที่พื้นที่อยู่ในตัวเมือง ได้แก่ ขอนแก่นและอุดรธานี
เมื่อพิจารณาครบทั้ง 3 ด้านแล้ว สรุปได้ว่า แนวเส้นทางเลือกที่ 2 (รัศมีโค้งแคบ) ของทั้งขอนแก่นและ
อุดรธานี ได้คะแนนรวมมากที่สุด เท่ากับ 76.89 และ 82.05 คะแนน ตามลําดับ เนื่องจากเป็นแนวที่มี
ผลกระทบต่อชุมชนเมืองน้อยกว่ามาก ประกอบกับอยู่ใกล้สถานีที่จะต้องจอดรับส่งผู้โดยสาร ทําให้ความ
จําเป็นในการใช้ความเร็วลดลง แนวทางเลือกที่ 2 นี้จึงมีความเหมาะสมทั้งทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ
และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
3.1.1.2 การศึกษาแนวเส้นทางดิ่ง
ในการออกแบบแนวเส้นทางรถไฟ จําเป็นต้องพิจารณาศึกษาแนวเส้นทางดิ่ง หรือระดับของทางรถไฟด้วย
เนื่องจากการกําหนดแนวเส้นทางดิ่งหรือระดับสันรางจะส่งผลต่อรูปแบบโครงสร้างทางรถไฟว่าจะเป็ น
ทางรถไฟระดั บดิน (At-grade Track) หรือทางรถไฟยกระดับ (Elevated Track) หรือทางรถไฟใต้ ดิน
(Underground Track) ซึ่งรูปแบบโครงสร้างทางนี้จะส่งผลต่อราคาก่อสร้างทางรถไฟของโครงสร้างอย่าง
มีนัยสําคัญ
โดยทั่วไปแล้ว ทางรถไฟระดับดินซึ่งมีราคาค่าก่อสร้างน้อยที่สุด จะได้รับการพิจารณาเลือกเป็นลําดับแรก
เนื่องจากลักษณะทางดิ่งของแนวเส้นทางจะดีกว่า มูลค่าลงทุนน้อยกว่า ผลกระทบด้านทัศนียภาพน้อยกว่า
อย่างไรก็ตาม บทเรียนที่ได้จากการศึกษาและออกแบบโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงหลาย
โครงการที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการรับฟังความคิ ดเห็นของประชาชนอย่างกว้างขวาง และทําให้เป็นที่ยอมรับ
โดยทั่วไป ดังนี้
ทางรถไฟระดั บดิ น จะใช้กับพื้น ที่ น อกเขตเมื อง เนื่ อ งจากให้ ความสํ าคั ญ กับการประหยั ดค่าก่ อสร้ าง
ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของโครงการ สําหรับการแก้ไขปัญหาจุดตัด จะออกแบบให้มีสะพานข้ามทางรถไฟหรือ
ทางลอดใต้ทางรถไฟ รวมทั้งสะพานลอยหรือท่อลอดสําหรับคนและรถขนาดเล็ก เพื่อลดปัญหาผลกระทบ
ต่อวิถีชีวิตของประชาชนที่ต้องเดินทางตัดผ่านทางรถไฟ
ทางรถไฟยกระดับ จะใช้กับพื้นที่ในเขตเมือง เนื่องจากให้ความสําคัญกับการแก้ไขปัญหาจราจรในเขต
เมือง ปัญหาจุดตัดถนนและทางสัญจรอื่นๆ การแบ่งแยกชุมชนเมือง ผลกระทบจากการเวนคืนที่ดิน และ
ความปลอดภั ยในการเดิน รถ ซึ่งทางรถไฟยกระดั บจะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ดั งกล่ าวได้เป็ นอย่ างดี
กล่าวคือ จุดตัดกับถนนและทางสัญจรจะเป็นจุดตัดต่างระดับ ไม่ต้องเวนคืนเพื่อก่อสร้างสะพานข้ามทาง
รถไฟ และปลอดภัย จากการสิ่ง มีชี วิต ที่ จ ะตั ดผ่ านทางรถไฟ สํ าหรับผลกระทบด้ านทัศนีย ภาพ จะลด
ผลกระทบโดยออกแบบให้มีความยาวช่วงสะพานที่เหมาะสม
ทางรถไฟใต้ดิน จะใช้กับพื้นที่ที่มีข้อจํากัดพิเศษ ได้แก่ มีกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับเป็นกรณีพิเศษ
มีโบราณสถานที่สําคัญอยู่ในบริเวณใกล้เคี ยง มีสภาพภูมิ ประเทศเป็น ภูเขาสูง และมีความจํ าเป็ นทาง
เทคนิคที่จะต้องก่อสร้างเป็นอุโมงค์รถไฟเป็นช่วงๆ เป็นต้น ซึ่งรูปแบบนี้ไม่มีอยู่ในโครงการนี้
ดังนั้นในการออกแบบแนวคิดเบื้องต้ น ที่ปรึ กษาจึง เสนอให้กําหนดแนวเส้นทางดิ่ง โดยใช้แนวคิดที่ว่ า
โดยทั่ ว ไป ทางรถไฟอยู่ บนระดั บดิ น และจะเปลี่ ย นรู ปแบบเป็ น ทางรถไฟยกระดั บเมื่อ เข้ าสู่ พื้ น ที่ ใ น
เขตเมือง และลดระดับลงสู่ระดับดิน เมื่อออกจากพื้นที่ในเขตเมือง ดังแสดงในรูปที่ 3.3 ถึง รูปที่ 3.5
ส่วนบริเวณสถานีนาทาพัฒนาเป็น
1. ด่านศุลกากร (Customs yard)
2. ศูนย์ซ่อมบํารุงรถไฟขนสินค้า (Freight depot for China/Lao locos and Thai locos)
3. ย่านจอดรถไฟ (Stabling yard)
4. ศูนย์ซ่อมบํารุงรถไฟโดยสารและรถไฟความเร็วสูง (Conventional passengers (CVR) and HS trains
depot)
สําหรับส่ ว นนอกพื้น ที่ โ ครงการ ควรจะพื้น ที่ ร องรั บสิน ค้ า บริ เ วณใกล้ กรุ ง เทพมหนาครและปริม ณฑล
บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือมาบตาพุด
โครงการก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงโดยมากเป็นโครงการขนาดใหม่และมีเม็ดเงินลงทุนสูง ประกอบ
กับลักษณะงานมีความหลากหลาย อันได้แก่ งานโยธาโครงสร้างทางวิ่งและสถานี งานระบบราง และงาน
ระบบรถไฟรางมาตรฐาน เป็นต้น ทําให้ไม่มีบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่จะสามารถดําเนินงานโครงการได้เพียง
ลําพัง จึงได้มีการกําหนดสัญญาของโครงการออกเป็น 8 สัญญา อันประกอบด้วย
1. สัญญาที่ 1 งานระบบเดินรถ
2. สัญญาที่ 2 งานระบบราง
3. สัญญาที่ 3 งานโยธาและโครงสร้างทางวิ่งและสถานี ช่วง นครราชสีมา - บัวใหญ่
4. สัญญาที่ 4 งานโยธาและโครงสร้างทางวิ่งและสถานี ช่วง บัวใหญ่ - บ้านไผ่
5. สัญญาที่ 5 งานโยธาและโครงสร้างทางวิ่งและสถานี ช่วง บ้านไผ่ - ขอนแก่น
6. สัญญาที่ 6 งานโยธาและโครงสร้างทางวิ่งและสถานี ช่วง ขอนแก่น – อุดรธานี
7. สัญญาที่ 7 งานโยธาและโครงสร้างทางวิ่งและสถานี ช่วง อุดรธานี – หนองคาย
8. สัญญาที่ 8 งานศูนย์ซ่อมบํารุง
C1
C2
C3 C4 C5 C6 C7
C8
ซึ่งทุ กสั ญญาได้ รับการกํ าหนดรู ปแบบเป็น ลักษณะ Design & Build โดยในการศึ กษานี้จั ดทํ าเพีย ง
Definitive Design ดังนั้นผู้รับจ้างทุกสัญญาจะต้องดําเนินการออกแบบรายละเอียดของงานแต่ละสัญญา
และในช่วงการออกแบบจําต้องมีการประสานงานการออกแบบระหว่างสัญญาจึงมีความจําเป็น โดยเฉพาะ
สัญญาที่ 1 และ 2 งานระบบรางจะต้องศึกษาและทบทวนงาน Alignment ของรางรถไฟความเร็วสูงก่อน
เพื่อที่สัญญาอื่นๆ ที่เหลือสามารถนําข้อมูลที่ผ่านการรับรองไปใช้ดําเนินต่อไป และด้วยเหตุข้างต้นทําให้
ระยะเวลาก่อสร้างที่ถูกกําหนดไว้เดิม 57 เดือน ต้องเพิ่มระยะเวลาการออกแบบอีก 15 เดือน
3. กลุ่มงานระบบทางรถไฟ กลุ่มงานนี้มีบริษัทภายในประเทศหลายบริษัทที่สามารถดําเนินงานได้ใน
ระดับมาตรฐานสากล แต่มีอุปกรณ์บางอย่างที่ต้องนําเข้าจากต่างประเทศ และงานในกลุ่มนี้จะถูก
กําหนดให้เริ่มงานได้ก็ต่อเมื่อกลุ่มงานสัญญาที่ 3 – 8 แล้วเสร็จ และต้องส่งมอบงานต่อให้กลุ่มงาน
สัญญาที่ 1 ดั งนั้ นควรมีการกําหนดตารางการเชื่ อมประสานการก่อ สร้ างระหว่างสั ญญา เพื่ อลด
ข้อขัดแย้งในการเข้าพื้นที่ทํางานของแต่ละสัญญา
4. กลุ่ ม งานโยธาโครงสร้ า งทางวิ่ ง พร้ อ มสถานี แ ละย่ า นสิ น ค้ า กลุ่ ม งานนี้ ส ามารถมี ผู้ รั บ จ้ า ง
ภายในประเทศที่มีความสามารถและประสบการณ์สูงจํานวนมาก และกลุ่มงานนี้เป็นกลุ่มแรกที่เริ่ม
งานในพื้นที่ก่อสร้างโครงการ และต้องทํางานหลักให้แล้วเสร็จก่อน เพื่อกลุ่มงานระบบรางและระบบ
เดินรถเข้ามาดําเนินงานถัดมา
5. กลุ่มงานโยธาโครงสร้างศูนย์ซ่อมบํารุง กลุ่มนี้มีลักษณะการดําเนินงานคล้ายๆกับกลุ่มงานโยธา
โครงสร้างทางวิ่งพร้อมสถานีและย่านสินค้า ซึ่งต้องดําเนินงานหลักให้แล้วเสร็จก่อน เพื่อกลุ่มงาน
ระบบงานและระบบเดินรถเข้ามาดําเนินงานต่อ แต่มีข้อดีที่พื้นที่ที่กลุ่มงานก่อสร้างจะเป็นพื้นที่ปิด
ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากภายนอกน้อยกว่ากลุ่มงานโยธาโครงสร้างทางวิ่งพร้อมสถานีและย่านสินค้า
จากข้างต้น สามารถจัดทําแผนดําเนินงานโครงการเบื้องต้น ดังแสดงรูปที่ 3.9
IMPLEMENTATION PLAN
HIGH SPEED RAIL PROJECT : NAKHON RATCHASIMA - NONG KHAI
1 2 3 4 5 6
Description
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
1
2
3
4
5
6
7
8
9
Signelling &Telecom Preliminary Design, Detail Design Manufactory Installation & Integration Test & Commissioning Trial Run
Track work
No.2
Piling Piling
Elevated Structure
Contract
Detailed Design
No.3-7
Mobilize Mobilize
Piling Piling
Viaduct Viaduct
Other Other
Main Workshop
No.8
Stabling Stabling
Depot Control Center Depot Control Center
Other Building Other Building
3.4.1.1 บทบาทของโครงการ
จากการวิเคราะห์โดยพิจารณาจากปัจจัยและบริบทต่างๆ ได้แก่ โครงข่ายรถไฟปัจจุบันของไทยและการ
พัฒนาโครงข่ายรถไฟของไทย การพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟที่เชื่อมต่อจากจีนและลาว ความต้องการ
ในการเดินทางและขนส่งสินค้า และแนวทางการพัฒนาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ว่าโครงการรถไฟทางคู่ขนาด
ทางมาตรฐานฯ จะมีบทบาทหลัก ดังนี้
1. รองรับการเดินทางของผู้โดยสารระหว่างเมืองในประเทศตามแนวเส้นทางโครงการ
2. รองรับสินค้าระหว่างประเทศไทย-จีน และไทย-ลาว โดยที่พื้นที่เป้ าหมายในจีนจะอยู่ใน 4 มณฑล
ตะวั นตกของจี น ได้ แก่ ยูน นาน เสฉวน กุ้ ยโจว และมหานครฉงชิ่ง พื้ นที่เ ป้าหมายในลาว ได้แ ก่
แขวงทางตอนเหนือของประเทศลาวที่อยู่ใกล้แนวเส้นทางโครงการฯ ได้แก่ แขวงเวียงจันทน์ แขวง
อุดมไซ แขวงหลวงพระบาง แขวงหลวงน้ําทา และแขวงบ่อแก้ว
3. รองรับการเดินทางของผู้โดยสารระหว่างประเทศไทย-จีน และไทย-ลาว
4. รองรับสินค้าระหว่างจีน/ลาว กับ ประเทศทางฝั่ งทะเลอันดามัน (ยุ โรป ตะวัน ออกกลาง แอฟริกา
เอเชียใต้) และสินค้าระหว่างจีน/ลาว กับ ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ บางส่วน
5. สนั บสนุน ท่าเรือ แหลมฉบัง ให้ เป็ นท่ าเรื อหลักของภู มิ ภาค (Regional Hub) และส่ง เสริ มการค้ า
การลงทุน การย้ายฐานการผลิต และแรงงานในภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ กรณีพัฒนาเป็นรถไฟความเร็วสูงจะไม่สามารถรองรับบทบาทด้านการขนส่งสินค้าได้
3.4.1.2 การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร
การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในส่วนของผู้โดยสารในประเทศใช้แบบจําลองระดับประเทศ (National
Model, NAM) เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ โดยมีการปรับปรุงข้อมูล พารามิเตอร์ และสมมติฐานจากข้อมูล
ที่ รวบรวมและสํ ารวจ ส่ วนผู้ โดยสารระหว่ างประเทศวิ เ คราะห์ จ ากแนวโน้ มการขยายตั วของผู้ โดยสาร
ตามแนวเส้นทางโครงการจากข้อมูลสถิติ ผลการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร แสดงดัง ตารางที่ 3.7 ถึง
ตารางที่ 3.10 สําหรับกรณีวิเคราะห์ 4 กรณี ดังนี้
1. กรณี ร ถไฟความเร็ วปานกลางเดิน รถร่ว มกั บรถสิ น ค้า และมี โ ครงข่ ายเชื่ อ มต่ อ ไปยัง สาธารณรั ฐ
ประชาชนจีน
2. กรณีรถไฟความเร็วปานกลางเดินรถร่วมกั บรถสินค้า แต่ ไม่มีโครงข่ายเชื่อมต่อไปยั ง สาธารณรั ฐ
ประชาชนจีน
3. กรณีรถไฟความเร็วสูง และมีโครงข่ายเชื่อมต่อไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน
4. กรณีรถไฟความเร็วสูง แต่ไม่มีโครงข่ายเชื่อมต่อไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยมีโครงสร้างค่าโดยสาร ดังนี้
กรณีรถไฟความเร็วปานกลาง: ค่าเข้าระบบ 70 บาท บวก 1.80 บาทต่อ กม.
กรณีรถไฟความเร็วสูง: ค่าเข้าระบบ 80 บาท บวก 2.00 บาทต่อ กม.
3.4.1.3 การคาดการณ์ปริมาณการขนส่งสินค้า
ปริมาณการขนส่งที่จะใช้โครงการฯ วิเคราะห์จากข้อมูลการขนส่งปัจจุบัน และแนวโน้มการขยายตัวจาก
ข้อมูลสถิติ โดยจะพิจารณาความต้องการในการขนส่งในคู่ต้นทาง-ปลายทางที่มีศักยภาพ และใช้สัดส่วน
การเลือกรูปแบบ/เส้นทางการขนส่งจากผลการสํารวจเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับการผลิตและ
ขนส่งสินค้าในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน
ผลการคาดการณ์ปริมาณการขนส่ง สิน ค้าบนเส้ นทางโครงการสรุ ปได้ดัง ตารางที่ 3.11 ทั้ งนี้ ในกรณี
การพัฒนาโครงการเป็นระบบรถไฟความเร็วสูงจะไม่มีการขนส่งสินค้า
กรณี นี้ สอดคล้ อ งกับวั ต ถุประสงค์ เ ดิม ของการศึกษาและสอดคล้ องกั บการศึ กษาโครงการรถไฟ
ความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ – หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา.
4. ขั้นตอนศุลกากรที่หนองคาย
1) ขั้นตอนศุลกากรที่หนองคายสําหรับรถโดยสารในกรณีเดินรถร่วมกันและกรณีเดินรถไฟ
ความเร็วสูงอย่างเดียว
จากประมาณการผู้โดยสารและสินค้า ที่ปรึกษาได้วิเคราะห์ Scenario ที่มีการให้บริการระหว่าง
ประเทศ สํ าหรั บการให้ บริ การจากประเทศไทยไป สปป. ลาว/จี น ขั้ น ตอนด้ า นศุ ล กากร
จะกระทําที่ สถานี หนองคาย ชายแดนของประเทศไทย สําหรั บการให้บริ การอี กทิศทางหนึ่ ง
ขั้นตอนด้านศุลกากรจะกระทําที่ สปป. ลาว
หนึ่งในสี่ของชานชาลาที่สถานีหนองคายจะถูกจัดไว้สําหรับการให้บริการระหว่างประเทศและ
การศุลกากร
2) ขั้นตอนศุลกากรที่หนองคายสําหรับขบวนรถสินค้าสําหรับกรณีเดินรถร่วมกันเท่านั้น
การค้าระหว่างประเทศไทย, สปป.ลาว และจีน ส่วนหนึ่งจะครอบคลุมโดยการให้บริการขนส่ง
สินค้าในเส้นทางนี้ ขั้นตอนด้านศุลกากรจะต้องมีการตรวจสอบสินค้านําเข้าและส่งออกระหว่าง
ประเทศไทยกับ สปป.ลาว/จีน ดังนั้น การให้บริการด้านสินค้าจากประเทศไทยไป สปป.ลาว/จีน
ขั้นตอนด้านศุลกากรจะกระทําที่ศูนย์ซ่อมบํารุงนาทา (Natha Depot) ที่ชายแดนไทย ส่วนใน
ทิศทางตรงกันข้าม ขั้นตอนศุลกากรจะกระทําที่ สปป.ลาว
2) แผนการจัดซื้อขบวนรถ
เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงระยะการก่อสร้าง (Phasing) ที่ปรึกษาจึงประมาณจํานวนขบวนรถที่
ต้ อ งใช้ ข องตลอดเส้ น ทาง และหาจํ านวนล้ อ เลื่ อ นที่ ต้ อ งเพิ่ ม เมื่ อ เปิ ดให้ บริ ก ารในระยะที่ 2
(นครราชสีมา-หนองคาย)
การเปิดให้บริการในระยะที่ 2 จะเกิดขึ้นหลังจากเริ่มการเดินรถในระยะที่ 1 ดังนั้น จึงสามารถลด
จํานวนรถไฟลงได้จากที่วางแผนไว้สําหรับระยะที่ 1 ซึ่งได้ประมาณไว้ที่ EMUs จํานวน 5 ขบวน
(คํานวณจากแผนการเดินรถในรายงานความเหมาะสมของโครงการการศึกษาในระยะที่ 1)
ซึ่งที่ปรึกษาพิจารณาว่า หัวรถจักรจะถูกซื้อในปีเปิดของเฟส 2
3. จํานวนขบวนรถไฟที่ต้องใช้ทั้งหมด
1) จํานวนขบวนรถที่ต้องใช้
ตารางที่ 3.18 แสดงจํานวนขบวนรถที่ต้องใช้ทั้งหมดใน Alt.2-HSR ในแต่ละช่วงระยะเวลา
กรณีทางหลีกหรือทางแยกสําหรับจอดรถในสถานี ระยะห่างระหว่างแนวศูนย์กลางทางหลักและ
ทางหลีกจะต้องไม่น้อยกว่า 7.50 ม. เพื่อให้มั่นใจว่าขนาดทางเหมาะสมที่จะใช้ทางหลีก และมี
ทางเดินระหว่างทางหลักและทางหลีก
5) ลาดชันแนวดิ่งสูงสุด (Maximum vertical gradient)
สําหรับทั้งสองกรณี ลาดชันสูงสุดที่ตําแหน่งใดๆ จะเท่ากับ 35 มม./ม. อย่างไรก็ตาม ลาดชัน
เฉลี่ยสูงสุดสําหรับความยาวใดๆ ที่เกิน 350 ม. ต้องไม่เกิน 100 มม./ม.
สําหรับพื้นที่อื่นๆ เช่น ทางหลีก สถานี ย่านสถานี ลาดชันสูงสุด คือ 1 มม./ม.
2. เขตโครงสร้างทางรถไฟ (Structural gauge)
เขตโครงสร้างทางรถไฟ คํานวณได้จากเขตการเคลื่อนที่ของรถไฟ (Dynamic Gauge) ที่กําหนดไว้ใน
การศึกษาความเหมาะสมของตัวรถ ขนาดทางรถไฟได้นําความกว้างของขบวนรถโดยสาร 3.40 ม.
และขบวนรถสินค้าที่เข้ากันได้กับทางรถไฟมาตรฐาน UIC-GC มาพิจารณา
Peak hour (MWh) 18.29 19.70 19.71 21.28 17.08 17.89 22.93 136.88
Total per day (MWh) 192.04 206.90 206.93 223.44 179.35 187.82 240.72 1 437
Peak hour (MWh) 8.97 9.23 8.80 9.34 9.20 9.04 9.75 64.32
Total per day (MWh) 128.25 135.35 130.09 140.51 136.33 132.46 139.99 943
3.5.3.1 แนวเส้นทางราบ
แนวเส้นทางของโครงการ ประกอบด้วยสถานีทั้งสิ้น 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานี
ขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย แนวเส้นทางส่วนใหญ่จะอาศัยแนวเขตทางรถไฟปัจจุบัน
เป็นหลัก โดยมีการปรับรัศมีโค้งให้รถไฟสามารถทําความเร็วได้ตามต้องการ ซึ่งจะต้องการมี เวนคืนที่ดิน
ในบริเวณดังกล่าว โดยอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา 4 แห่ง จังหวัดขอนแก่น 7 แห่ง จังหวัดอุดรธานี
4 แห่ง และจังหวัดหนองคาย 3 แห่ง ดังแสดงในตารางที่ 3.23 และ รูปที่ 3.16
3.5.3.2 รูปตัดทั่วไปของแนวเส้นทาง
การกําหนดตําแหน่งคันทางรถไฟของโครงการ จะพิจารณาจากหลักการ ดังต่อไปนี้
1. แนวเส้น ทางรถไฟของโครงการควรจะเป็ น แนวเส้น ตรงให้ ม ากที่ สุ ด เพื่ อ ให้ส ามารถเดิ นรถด้ ว ย
ความเร็วที่ต้องการได้
2. สามารถใช้ ประโยชน์ ข องเขตทางรถไฟได้ มากที่สุ ด เพื่ อรองรั บการพั ฒ นาโครงการต่ างๆ ต่อ ไป
ในอนาคต
3. ตําแหน่งเสาของสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ เพื่อให้มีเสาสะพานรถยนต์อยู่ในเขตทางให้น้อยที่สุด
จึงพิจารณากําหนดความยาวช่วงสะพาน 28 เมตร เพื่อให้มีเสาอยู่เพียง 2 ต้นในเขตทาง (80 เมตร)
4. การพัฒนาโครงข่ายทางคู่ขนาดทาง 1 เมตร เพื่อแนวเส้นทางของโครงการเป็นเส้นตรงได้ เมื่อต้อง
ใช้เขตทางร่วมกันกับโครงข่ายทางคู่ขนาดทาง 1 เมตรและย่านสถานีรายทาง
ผลจากการพิจาณาตามหลักการข้างต้น ที่ปรึกษาจึงกําหนดให้ คันทางของโครงการห่างจากทางประธาน
ของ รฟท. 22 เมตร ซึ่งระยะนี้จะเพียงพอสําหรับการก่อสร้างทางคู่ขนาดทาง 1 เมตร ทั้งกรณีสร้างฝั่ง
ซ้ายหรือขวาของทางประธานและย่านสถานีรายทาง โดยรูปตัดทั่วไปของโครงการแสดงในรูปที่ 3.17
รวมทั้งสอดคล้องกับตําแหน่งเสาสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ (ความยาวช่วงสะพาน 28 เมตร เมื่อวัดตั้ง
ฉากกับเขตทาง) ดังแสดงในรูปที่ 3.18
กรณีที่แนวเส้นทางรถไฟของโครงการจําเป็นต้องเบี่ยงแนวออกจากเขตทางรถไฟปัจจุบัน จะพิจารณา
กําหนดเขตทางรถไฟใหม่ เป็นกรณีต่างๆ ดังแสดงตัวอย่างในรูปที่ 3.19
3.5.3.3 แนวเส้นทางดิ่ง
รูปแบบทางรถไฟของโครงการ โดยทั่วไปจะเป็นทางวิ่งระดับดิน ส่วนในพื้นที่ที่มีข้อจํากัดด้านกายภาพ
เช่น เป็นพื้นที่น้ําหลาก หรือเป็นพื้นที่ในเขตเมืองหรือชุมชนหนาแน่น จะเปลี่ยนรูปแบบทางรถไฟเป็น
ทางวิ่งยกระดับ เพื่อลดปัญหาการจราจรและการแบ่งแยกชุมชนในเขตเมืองที่มีปริมาณการสัญจรไปมา
ระหว่างสองข้างทางรถไฟสูงมาก โดยสถานีในโครงการจะเป็นสถานียกระดับทั้งหมด
โดยในโครงการจะมี พื้ น ที่ ส่ ว นที่ อ อกแบบเป็ น ทางรถไฟยกระดั บ เป็ น ช่ ว งๆ ได้ แ ก่ บริ เ วณตั ว เมื อ ง
นครราชสีมา อําเภอบัวใหญ่ อําเภอบ้านไผ่ ตัวเมืองขอนแก่น อําเภอน้ําพอง ตัวเมืองอุดรธานี ตัวเมือง
หนองคาย และจุดตัดทางหลวงสายหลักต่างๆ ที่สําคัญ รวมระยะทางประมาณ 120 กม. ส่วนที่เหลือจะ
เป็นทางรถไฟระดับดิน
แนวเส้นทางดิ่งของโครงการแสดงไว้ในรูปที่ 3.20
3.5.4.1 ลักษณะและคุณภาพวัสดุชั้นต่างๆที่ใช้ในคันทางรถไฟ
ดินที่ได้จากการทดสอบถูกจําแนกเป็นดินชนิด QS1 ตามหลักการจําแนกของ UIC 719R ที่ปรึกษาได้
สรุ ปลั กษณะและคุ ณภาพวัส ดุชั้ นต่ างๆที่ ใช้ ในคัน ทางรถไฟ ดัง แสดงในตารางที่ 3.24 และความหนา
ออกแบบของชั้นวัสดุในคันทางรถไฟ ดังแสดงในตารางที่ 3.25
อาคาร ส่วนบริเวณระหว่างช่องลมจะเป็นผนังกระจกเพื่อรับแสงธรรมชาติประกอบกับหลังคาอาคาร
จะเปิดตรงกลางตลอดแนวอาคาร เพื่อการระบายอากาศและการรับแสงธรรมชาติเข้าสู่อาคารอีกทั้ง
รูปทรงของหลัง คาสามารถติ ดตั้ งแผงโซล่าเซลล์ เพื่อผลิตพลัง งานไฟฟ้ าจากธรรมชาติ ส่วนพื้น ที่
ภายในอาคารทั่ว ไปจะมี การใช้พ ลั ง งานไฟฟ้ าเฉพาะพื้ น ที่ จํ าเป็น เช่ น บริ เ วณพื้ น ที่ จํ าหน่ ายตั๋ ว
โดยสารและสํานักงานส่วนพื้นที่บริเวณทางเดินการออกแบบจะมีลักษณะโปร่ง และโล่ง มีการถ่ายเท
อากาศจากธรรมชาติ ด้ว ยการหมุ น เวีย นของลมเป็ น หลั กมุ่ ง เน้ น การประหยัดพลั ง งานส่ ว นพื้ น ที่
ภายนอกอาคารสถานีได้ออกแบบเป็นพื้นที่สีเขียว (Green Design) ในรูปแบบลักษณะที่แตกต่างกัน
ประกอบกับการใช้วัสดุและอุปกรณ์ได้เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คํานึงถึงสภาพแวดล้อม
การอนุรักษ์พลังงานเพื่อสร้างความสมดุล ทั้งในด้านเศรษฐกิจสั งคมความสะดวกสบายของมนุษ ย์
และผู้มาใช้บริการโดยรวม
4. การจัดวางผังสถานีรถไฟ
การกําหนดการจัดวางตําแหน่งที่ตั้งของสถานีพิจารณาจากสถานีรถไฟเดิมที่มีอยู่ตามแนวสายทาง
เมื อ งหลั กที่สํ าคั ญ ๆ เพื่ อ ให้ บริ การขนส่ ง ผู้โ ดยสารไปยั ง จุ ดหมายปลายทางได้ อ ย่ างสะดวกและ
รวดเร็ว ด้ วยการกําหนดระยะห่ างระหว่างสถานีข องรถไฟความเร็ วสูง ให้ มีระยะห่างกัน ประมาณ
50 กิโลเมตรขึ้นไปเป็นอย่างน้อยเพื่อให้มีระยะทางที่สามารถเร่งความเร็วได้ ดังนั้นการกําหนดที่ตั้ง
สถานี ช่วงนครราชสีมา–หนองคายได้กําหนดไว้ 5 สถานีคือ สถานีบัว ใหญ่, สถานีบ้านไผ่, สถานี
ขอนแก่น, สถานีอุดรธานี, และสถานีหนองคาย
5. สถานีรถไฟบัวใหญ่
สถานี ร ถไฟบั ว ใหญ่ ตั้ ง อยู่ ต อนเหนื อ สุ ด ของเขตจั ง หวั ดนครราชสี ม า ใกล้ เ ขตจั ง หวั ดขอนแก่ น
การกําหนดตําแหน่ ง ที่ ตั้งสถานีจะถูกวางไว้ ทางด้านใต้ของสถานี การเข้ าถึ ง (Accessibility) ของ
สถานีรถไฟชุมทางบัวใหญ่ มีเส้นทางรถไฟผ่าน 2 สาย ได้แก่ สายตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพฯ
– หนองคาย) และสายชัย ภู มิ – บั ว ใหญ่ และมี โ ครงข่ ายทางถนนที่ เชื่ อ มโยงกั บพื้ น ที่ โ ดยรอบ
ทั้ง อํ าเภอ จั ง หวั ด และภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ ได้ ส ะดวก มี ท างหลวงแผ่ น ดิ น หมายเลข 202
ตัดผ่านสถานีฯ ด้านตะวันออก ด้านเหนือและด้านตะวันตก ทําให้การเข้าถึงสถานีฯ กับพื้นที่โดยรอบ
ในบริเวณย่านธุรกิจได้สะดวก
6. สถานีบ้านไผ่
สถานี รถไฟบ้านไผ่ตั้ งอยู่ต อนใต้ ของจั งหวัดขอนแก่ น ใกล้ เขตจั งหวัดนครราชสีม า การจั ดวางผั ง
อาคารสถานีรถไฟบ้านไผ่จะถูกวางไว้ทางด้านทิศตะวันตกของสถานีเดิมการเข้าถึง (Acessibility)
สถานีรถไฟบ้านไผ่ทางด้านตะวันออกหลังสถานีฯมีการเข้าถึงสะดวก มีถนนเชื่อมระหว่างสถานีฯ กับ
ถนนสายต่างๆ ในเขตชุ มชนตัดกั นเป็นตารางหมากรุก (Grid Pattern) เช่น ถนนแจ้งสนิท ถนน
เทศบาล 1 ถนนมนตรี ถนนเจ้าเงาะเป็นต้น ส่วนด้านตะวันตกหลังสถานีฯ สามารถเชื่อมโยงกับทาง
หลวงแผ่ นดินหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) แนวเหนือ – ใต้โดยผ่านถนนที่ขนานด้านหลั งสถานี ฯ
แล้วเลี้ยวกลับลงด้านใต้เข้าสู่ถนนแจ้งสนิท ประมาณ 2 กิโลเมตร
7. สถานีรถไฟขอนแก่น
สถานีรถไฟขอนแก่นตั้งอยู่ตอนกลางของจังหวัดขอนแก่นการจัดวางผังอาคารสถานีรถไฟจะถูกวาง
ไว้ทางด้านทิศตะวันตกของสถานีการเข้าถึง (Accessibility) สถานีรถไฟขอนแก่น มีความสะดวก
สามารถเชื่อมต่อไปยังจังหวัดและอําเภอรอบๆ ได้ทุกทิศทาง มีทางหลวงฯ หมายเลข 2 ตัดผ่านแนว
เหนือ – ใต้ และทางหลวงฯ หมายเลข 12 และ 209 ตัดผ่านเมืองด้านตะวันตกและด้านตะวันออก
ตามลําดับ และมีทางหลวงฯ หมายเลข 230 เป็นถนนวงแหวนรอบตัวเมือง ช่วยระบายการจราจร
ที่ติดขัดในตัวเมืองออกรอบนอก
8. สถานีไฟอุดรธานี
สถานีอุดรธานีตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครอุดรธานีจังหวัดอุดรธานี เป็นสถานีที่รองรับการพัฒนาเมือง
ในระดับเมืองหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือการจัดวางผังอาคารสถานีรถไฟอุดรธานีจะถูกวางไว้
ทางด้านทิศตะวัน ออกของสถานีเดิ มการเข้ าถึง (Accessibility) สถานี รถไฟอุดรธานี มี ทางหลวง
แผ่ น ดิน หมายเลข 2 (ถนนมิ ต รภาพ) ถนนสายหลั กภาคฯ ตั ดผ่ านแนวเหนือ – ใต้ ทางหลวงฯ
หมายเลข 22 เข้า-ออกเมืองฯ ด้านตะวันออก ส่วนด้านตะวันตก มีทางหลวงฯ หมายเลข 2263 เข้าสู่
ใจกลางเมืองฯ และมีถนนวงแหวนรอบเมือง (ทางหลวงฯ หมายเลข 201) เป็นโครงข่ายเชื่อมโยงและ
ระบายรถเข้า-ออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีถนนสายรองเชื่อมตัวเมืองกับพื้นที่รอบนอก
9. สถานีรถไฟจังหวัดหนองคาย
สถานีรถไฟหนองคายตั้ง อยู่ทางใต้ของเมือง เป็ นที่เหมาะสมในการพัฒนาเมือง ลดความแออัดใน
พื้นที่เมืองเก่าริมแม่น้ําการจัดวางผังอาคารสถานีรถไฟหนองคายจะถูกวางไว้ทางด้านทิศตะวันตก
ของสถานี เ ดิม การเข้ าถึ ง (Accesibility) สถานีร ถไฟหนองคาย มีท างหลวงแผ่ น ดิ นหมายเลข 2
(ถนนมิตรภาพ) ผ่านด้านตะวันออก และทางหลวงฯ หมายเลข 212 เข้า-ออกเมือง ด้านตะวันออก
เป็นถนนโครงข่ายเชื่อมต่อจังหวัดบึงกาฬ ส่วนด้านตะวันตกมีทางหลวงฯ หมายเลข 211 เชื่อมต่อ
อํ าเภอศรี เ ชี ย งใหม่ ท่ าบ่ อ และอํ าเภอสั ง คม จั ง หวั ด หนองคาย การเข้ า ถึ ง รอบๆ หลั ง สถานี ฯ
หนองคาย มีถนนหลักเส้นเดียวขนานทางรถไฟ เป็นถนนคู่ขนานมีเกาะกลาง การเข้าถึงถนนเส้นนี้
สะดวกแต่ต้องผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 ด้านเหนือ
3.5.9.1 การจัดจราจรรอบสถานีขนส่งมวลชน
1. เสนอแนะโครงข่ายถนนให้สอดคล้องกับผังเมืองรวมบริเวณแต่ละสถานี ดัง รูปที่ 3.44 ซึ่งเป็นถนน
เดิมขยายและถนนโครงการที่มีกฎหมายรองรับ
2. ออกแบบผังบริเวณให้อํานวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการรอบๆ สถานี และการไหลเวียนของผู้ใช้บริการ
ภายในอาคารสถานีให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
3. เตรียมสถานที่จอดรถแต่ละประเภทที่เหมาะสมและพอเพียงกับขนาดสถานีและจํานวนผู้โดยสารรถไฟ
4. นํามาตรการการบริหารด้านจราจรมาช่วยเสริมในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
โครงข่ายถนนเสนอแนะใช้บังคับตามผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่
ที่มา: กรมโยธาธิการและผังเมือง
ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย
โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ – หนองคาย
โครงข่ายถนนเสนอแนะใช้บังคับตามผังเมืองรวมเมืองบ้านไผ่ โครงข่ายถนนเสนอแนะใช้บังคับตามผังเมืองรวมเมืองขอนแก่น
ที่มา: กรมโยธาธิการและผังเมือง
รูปที่ 3.45 โครงข่ายถนนเชื่อมโยงสถานีบ้านไผ่และขอนแก่น
3-67
AEC/Egis Rail/UAE/PSK/WE
รายงานฉบับสรุปสาหรับผู้บริหาร
ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย
โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ – หนองคาย
โครงข่ายถนนเสนอแนะใช้บังคับตามผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี โครงข่ายถนนเสนอแนะใช้บังคับตามผังเมืองรวมเมืองหนองคาย
ที่มา: กรมโยธาธิการและผังเมือง
รูปที่ 3.46 โครงข่ายถนนเชื่อมโยงสถานีอุดรธานีและหนองคาย
3-68
AEC/Egis Rail/UAE/PSK/WE
รายงานฉบับสรุปสาหรับผู้บริหาร 3-69
2. สถานีอุดรธานี
สถานี อุ ด รธานี เ ป็ น ศู น ย์ ก ลางพาณิ ช ยกรรมแห่ ง ใหม่ ข องจั ง หวั ด ซึ่ ง มี ก ารใช้ พื้ น ที่ ใ ห้ ลั ก ษณะ
ผสมผสานทั้งพื้นที่พาณิชย์ และที่พักอาศัย บริเวณโดยรอบสถานีอุดรธานีควรเน้นการพัฒนาเป็น
พื้นที่พาณิชยกรรม และเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ โดยสถานีอุดรธานี มีพื้นที่
ในเขตทางรถไฟสําหรับการพัฒนารวม 25,826 ตร.ม. ซึ่งการพัฒนาจะเน้นพื้นที่พาณิชย์ รองลงมา
เป็นพื้นที่สํานักงาน และพื้นที่พักอาศัย รายละเอียดแสดงดังตารางที่ 3.27
3.5.10.1 สถานี
สถานีทั้งหมดเป็นสถานียกระดับ พื้นบนชานชาลาและพื้นชั้นโถงสถานีเป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีคาน
และเสาคอนกรี ต เสริ ม เหล็ กรองรั บ เฉพาะสถานี หนองคายจะมี คานคอนกรีต อั ดแรงและมี โ ครงสร้ าง
ประเภทโครงข้อแข็งชนิด Portal Frame วางบนสถานีระยะห่างระหว่าง Portal Frame แต่ละคู่เป็นระยะ
40 เมตร คานคอนกรีตอัดแรงและโครงสร้างทางรถไฟแบบทางยกระดับจะวางบน Portal Frame
3.5.10.2 งานทางโครงสร้างสําหรับอาคารซ่อมบํารุงและอาคารปฎิบัติการ
ระบบโครงสร้างของกลุ่มอาคารศูนย์ซ่อมบํารุงระบบขนส่งสินค้าเป็นระบบโครงสร้างเสา, คานคอนกรีต
เสริ มเหล็ กและพื้น คอนกรีต เสริม เหล็กหรื อพื้ นคอนกรีต เสริม เหล็กไร้ คานโครงสร้างหลัง คาเป็ นระบบ
โครงสร้างเหล็กรูปพรรณ ออกแบบโดยคํานึงถึงน้ําหนักบรรทุกจรตามวัตถุประสงค์การใช้งาน รวมทั้งช่อง
เปิดของพื้น ตามที่ ระบุไ ว้ ฐานรากใช้เสาเข็ม คอนกรีตอัดแรงสํ าเร็จ รูป โดยทําการตอกเข็ มถึงชั้ นทราย
เพื่อให้ได้กําลังรับน้ําหนักปลอดภัยตามที่ระบุ
ระบบโครงสร้างของกลุ่มอาคารศูนย์ซ่อมบํารุงระบบขนส่งผู้โดยสารประกอบด้วยฐานรากเป็นเสาเข็มตอก
โดยทําการตอกเข็มถึงชั้นทรายโดยให้ได้กําลังรับน้ําหนักปลอดภัยตามที่ระบุ ระบบพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก
ไร้คานหรือโครงสร้างเสา, คานคอนกรีตเสริมเหล็ก เสาเป็นโครงสร้างเหล็กรูปพรรณและโครงหลังคาเป็น
โครงถั กเพื่อ ให้มีน้ําหนักเบาและสามารถมีความยาวช่วงเสาที่ย าวได้ วัสดุมุ งหลัง คาเป็น แผ่นโลหะชุ บ
สังกะสี เสาเข็มคอนกรีตอัดแรงสําเร็จรูป
รูปแบบทางรถไฟข้ามถนนหรือสะพานรถไฟ รูปแบบสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ
รูปแบบสะพานรูปตัวยู รูปแบบทางลอดใต้ทางรถไฟ
5. บริษัท ทีโอที จํากัด ผลกระทบ 4 จังหวัด รวม 34 ชุมสาย ประอบด้วยแนวสายเคเบิลใยแก้ว มาตรฐาน ทีโอที
(มหาชน) นําแสง 55 เส้นทาง ตู้ชุมสาย 4 ตู้ บ่อร้อยสาย 4 จุด ท่อร้อยสายและ
Riser 54 แห่ง
ก่อสร้างใหม่บางส่วน ส่วนที่เหลือใช้ร่วมกับ กฟภ.
สร้างท่อลอดสายในส่วนที่ตัดกับเส้นทางระดับดิน การเปลี่ยนหรือย้ายแนว
ในส่วนอื่นที่ขนานหรือในพื้นที่ หรือใช้วัสดุป้องกัน
TOTAL AMOUNT IN
NO. DESCRIPTION
(Million BAHT)
TOTAL 1 - 8 218,933.71
TOTAL AMOUNT IN
NO. DESCRIPTION
(Million BAHT)
TOTAL 1 - 8 214,358.62
รายการการแบ่งสัญญา
โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย ได้พิจารณาการ
จัดแบ่งสัญญาออกเป็น 8 สัญญา ด้งนี้
1) Contract 1 : Railway Systems
2) Contract 2 : Trackwork
3) Contract 3 : Main Line Infrastructure (Section : Nakhon Ratchasima-Bua Yai)
4) Contract 4 : Main Line Infrastructure (Section : Bua Yai-Ban Phai)
5) Contract 5 : Main Line Infrastructure (Section : Ban Phai-Khon Kaen)
6) Contract 6 : Main Line Infrastructure (Section : Khon Kaen-Udon Thani)
7) Contract 7 : Main Line Infrastructure (Section : Udon Thani-Nong Khai)
8) Contract 8 : Depot (in Nong Khai)
ขอบข่ายของงานและองค์ประกอบหลักในแต่ละสัญญา มีดงั ต่อไปนี้
1) Contract 1 Railway Systems
เป็นงานจ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้าง (Design & Build) ระบบรถไฟฟ้าและระบบล้อเลื่อน ขอบเขต
ของงานประกอบด้ว ย การออกแบบรายละเอี ยดและก่ อสร้ าง และติดตั้ งระบบรถไฟฟ้าและระบบ
ล้อเลื่อน สําหรับระบบรถไฟฟ้า (Railway Systems) หรือระบบเดินรถของรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะ
ประกอบด้วยระบบย่อยหลายระบบ ได้แก่ ข้อกําหนดงานระบบล้อเลื่อน (Provision of Rolling Stock)
ระบบอาณัติสัญญาณ (Signaling & Train Control), ระบบสื่อสารโทรคมนาคม (Communication
Systems) ซึ่งแยกออกเป็น Rail Communication Systems และ Train borne Communication
Systems ระบบไฟฟ้าเพื่อการเดินรถ (Power Supply and Distribution) ระบบควบคุม และจัดเก็บ
ข้อ มู ล (SCADA System) โดยเฉพาะในส่ วนที่ เ กี่ย วกั บระบบไฟฟ้ า (Power SCADA) ระบบ
ห้องควบคุมการเดินรถ(Control Room Facilities) ระบบตั๋วโดยสาร (Ticketing System) อุปกรณ์
ระบบซ่อมบํารุง (Depot & Workshop Facilities) ซึ่งรวมถึงพาหนะซ่อมบํารุงต่างๆ (Maintenance
Vehicles) และยังครอบคลุมรวมถึงระบบบริหารอาคาร (Building Management System) และระบบ
บริหารงานซ่อมบํารุงรักษา (Maintenance Management System)
2) Contract 2 Trackwork
เป็นงานจ้างออกแบบควบคู่ก่อสร้าง (Design & Build) ขอบเขตของงานประกอบด้วย การออกแบบ
รายละเอี ย ดและก่ อสร้ าง งานทางรถไฟ และอุปกรณ์ ท างรถไฟตลอดแนวสายทางทั้ง โครงการฯ
รวมทั้งงานทางรถไฟบริเวณศูนย์ซ่อมบํารุงรถไฟ (Depot & Workshop) และหน่วยซ่อมบํารุงทาง
(Maintenance Base) ทุกแห่ง
3.5.17 การจัดทําแบบแปลนและข้อมูลสําหรับงานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเบื้องต้นของโครงการ
ในการดําเนินงานการสํารวจแนวเส้นทางโครงการในพื้นที่เวนคืนเบื้องต้นนั้น จะสามารถดําเนินการได้
เมื่ อ ที่ ป รึ ก ษาสามารถสรุ ป แนวเส้ น ทางที่ เ หมาะสม ซึ่ ง เป็ น ผลจากการคั ด เลื อ กแนวเส้ น ทางตาม
ผลการศึกษาความเหมาะสม และผ่ านความเห็น ชอบจากคณะกรรมการกํ ากับงานศึ กษาฯ ของ สนข.
จากนั้ น ที่ ปรึ ก ษาจะได้ ดําเนิ น การสํ า รวจอสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ตามข้ อ มู ล การกํ าหนดแนวเขตทางใหม่
(Proposed Right of Way) ที่กําหนดไว้ โดยนําจดหมายที่ได้รับความอนุเคราะห์จาก สนข. ในการจัดส่ง
ไปยั ง หน่ ว ยงานต่ า งๆ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง เพื่ อ ให้ ที ม งานของที่ ป รึ ก ษาเข้ า สํ า รวจพื้ น ที่ ที่ ถู ก เวนคื น
ทุกพื้นที่ตามแนวสายทางและเขตทางใหม่ที่ได้ออกแบบไว้ เพื่อจัดทําข้อมูลเพื่อการเวนคืนที่ดิน
3.5.17.4 สรุปราคาค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์เบื้องต้นทั้งโครงการฯ
ที่ปรึกษาได้ดําเนินการสํารวจข้อมูลและดําเนินการตามขั้นตอนและวิธีการที่กล่าวมาแล้วข้างต้น สรุปพื้นที่
ที่ใช้ในการก่อสร้างโครงการ ตลอดจนราคาค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์เบื้องต้น เป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 1 การเดินรถร่วมกัน ระหว่างรถไฟโดยสารกับขบวนรถสินค้า (Mixed Traffic) ดังแสดงใน
ตารางที่ 3.31
กรณีที่ 2 การเดินรถไฟความเร็วสูงเท่านั้น (HSR Only) ดังแสดงในตารางที่ 3.32
3.5.17.6 งานจัดทําสรุปบัญชีอาคารผู้บุกรุก
เนื่อ งด้ว ยในปัจจุ บันมี ผู้บุกรุกทางรถไฟอยู่เ ป็นจํ านวนมาก ซึ่ งจะต้องสูญเสียทรัพย์ สินในการโยกย้าย
สิ่งปลูกสร้างออกจากบริเวณเขตทางรถไฟเดิม โดยไม่ได้รับค่าทดแทนใดๆ ตามกฎหมาย และอาจได้รับ
ผลกระทบต่อชีวิต ความเป็นอยู่ และอาชีพ ได้ ดังนั้น เพื่อการดําเนินโครงการฯ ให้เป็นไปอย่างราบรื่ น
และลดผลของความขั ด แย้ ง รวมทั้ ง เพื่ อ ให้ เ กิ ด ความเป็ น ธรรมแก่ ผู้ ไ ด้ รั บ ผลกระทบ ที่ ป รึ ก ษา
ได้ดําเนินการสํารวจจัดทําทะเบี ยนอาคารที่เช่าสิทธิ และผู้บุกรุ กตามลักษณะของอาคารชนิดวัส ดุ ของ
สิ่งปลูกสร้าง เป็น ตัวกําหนดราคาต่ อตารางเมตร จากการสํารวจตลอดแนวทั้งโครงการ อาคารที่บุกรุ ก
และหมดสัญญาแล้ว มีจํานวนทั้งสิ้น 4,474 หลัง คิดเป็นเงินค่ารื้อย้ายทั้งสิ้นเบื้องต้น 310,915,223 บาท
(ยอดเงิ น นี้ คิ ดจาก 10% ของราคาประเมิ น ค่ า ก่ อ สร้ างอาคารของสมาคมผู้ ประเมิ น ค่ า ทรั พ ย์ สิ น
แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558)
สารบัญ
3 ความเหมาะสมของโครงการ (Project Feasibility)
3-1
สารบัญรูป
รูปที่ 3.1 ทางเลือกจุดเวนคืนปรับโค้ง 3-1
รูปที่ 3.2 แนวทางเลือกที่สําคัญ 6 ช่วง 3-2
รูปที่ 3.3 ตําแหน่งแนวทางเลือกทางดิ่ง ช่วงนครราชสีมา – บัวใหญ่ 3-11
รูปที่ 3.4 ตําแหน่งแนวทางเลือกทางดิ่ง ช่วงเมืองพล – เขาสวนกวาง 3-11
รูปที่ 3.5 ตําแหน่งแนวทางเลือกทางดิ่ง ช่วงอุดรธานี – หนองคาย 3-12
รูปที่ 3.6 ตําแหน่งสถานีรถไฟความเร็วสูง/รถไฟขนาดทางมาตรฐานฯ ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย 3-13
รูปที่ 3.7 แนวทางการพัฒนากิจกรรมที่เกี่ยวกับระบบรางบริเวณพื้นที่สถานีนาทา 3-14
รูปที่ 3.8 การแบ่งงานทั้ง 8 สัญญา 3-15
รูปที่ 3.9 แผนดําเนินงานโครงการเบื้องต้น 3-16
รูปที่ 3.10 รูปแผนภูมิแสดงแนวคิดในการจัดให้ขบวนรถหยุดสําหรับกรณีที่ 1 (การเดินรถร่วมกัน) 3-23
รูปที่ 3.11 แผนภูมิแสดงแนวคิดจุดจอดขบวนรถสําหรับกรณีที่ 2 (รถไฟความเร็วสูงเท่านั้น) 3-24
รูปที่ 3.12 กรณีที่ 1 เดินรถร่วมกัน ผังทางวิ่งทั่วไป (General track layout) 3-26
รูปที่ 3.13 กรณีที่ 2 การเดินรถไฟความเร็วสูง, ผังทางวิ่งทั่วไป (General track layout) 3-30
รูปที่ 3.14 ตําแหน่งศูนย์ซ่อมบํารุงสําหรับขบวนรถสินค้าและขบวนรถโดยสารที่นาทา (กรณีที่ 1 Mixed Traffic)3-33
รูปที่ 3.15 ตําแหน่งศูนย์ซ่อมบํารุงสําหรับขบวนรถโดยสารที่นาทา (กรณีที่ 2 HSR Only) 3-33
รูปที่ 3.16 แสดงตําแหน่งการปรับโค้งราบของแนวเส้นทางที่ใช้พื้นที่นอกเขตทาง 3-43
รูปที่ 3.17 รูปตัดทั่วไปของโครงการ 3-44
รูปที่ 3.18 รูปตัดบริเวณสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ 3-45
รูปที่ 3.19 รูปตัดกรณีเป็นเขตทางใหม่ 3-45
รูปที่ 3.20 แนวเส้นทางดิ่งของโครงการ 3-46
รูปที่ 3.21 แนวเส้นทางดิ่งของโครงการ (ต่อ) 3-47
รูปที่ 3.22 รูปตัดทั่วไปของคันทางรถไฟ 3-49
รูปที่ 3.23 แผนที่แสดงตําแหน่งสถานีรถไฟของโครงการฯ 3-55
รูปที่ 3.24 การเข้าถึงสถานีบัวใหญ่ 3-56
รูปที่ 3.26 ทัศนียภาพสถานีบัวใหญ่ 3-57
รูปที่ 3.27 สัญลักษณ์สถานีบัวใหญ่ 3-57
สารบัญตาราง
ตารางที่ 3.1 ผลการเปรียบเทียบแนวทางเลือกที่ บ้านดงพลอง 3-4
ตารางที่ 3.2 ผลการเปรียบเทียบแนวทางเลือกที่ ศาลาดิน 3-5
ตารางที่ 3.3 ผลการเปรียบเทียบแนวทางเลือกที่ ขอนแก่น 3-6
ตารางที่ 3.4 ผลการเปรียบเทียบแนวทางเลือกที่ ห้วยเสียว 3-7
4.2 ค่าใช้จ่ายในการลงทุน
ค่าใช้จ่ายในการลงทุนและค่าดาเนินงาน แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่
1. เงินลงทุนโครงการ ได้แก่
ค่าใช้จ่ายในการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและชดเชยทรัพย์สิน
ค่าก่อสร้าง และค่าลงทุนขบวนรถเริ่มต้น
ค่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อควบคุมงานก่อสร้างโครงการ
ค่าใช้จ่ายตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม
2. ค่าใช้จ่ายการดาเนินงานโครงการ ได้แก่
ค่าใช้จ่ายในการดาเนินการและบารุงรักษา
ค่าลงทุนขบวนรถเพิ่มเติม
ค่าใช้จ่ายตามมาตรการลดและติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อมขณะดาเนินการ
ในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ จะมีการแปลงมูลค่าทางการเงินของต้นทุนให้เป็นราคาทางเศรษฐกิจ โดย
กรณี ดาเนิ น การเป็ น รถไฟความเร็ ว ปานกลาง (CVR) จะมี มู ล ค่ าการลงทุ น ทางเศรษฐกิ จ ประมาณ
206,540 ล้านบาท ส่วนในกรณีของการดาเนินการเป็นรูปแบบรถไฟความเร็วสูง (HSR) จะมีมูลค่าการ
ลงทุนทางเศรษฐกิจประมาณ 199,970 ล้านบาท รายละเอียดค่าลงทุนโครงการแสดงดังตารางที่ 4.1
ตารางที่ 4.1 มูลค่าลงทุนโครงการ
หน่วย:ล้านบาท
มูลค่าทางการเงิน มูลค่าทางเศรษฐกิจ
งาน
CVR HSR CVR HSR
Land Acquisition 5,801.47 3,682.98 5,950.53 3,780.19
Civil Work 123,599.54 123,033.85 111,562.25 111,127.51
Railway System 74,829.95 69,021.30 67,542.30 62,341.91
Rolling Stock (Initial) 14,645.31 16,472.84 13,219.02 14,878.72
Consultant Fee 8,756.94 8,308.97 8,263.38 7,846.02
Provisional Sum* 5,848.77 5,820.50
รวม 233,481.98 226,340.44 206,537.48 199,974.34
หมายเหตุ: * สาหรับมูลค่าทางเศรษฐกิจ ค่า Provisional Sum ถูกกระจายไปตามหมวดต่างๆ ตามสัดส่วนราคา
ค่าใช้ จ่ายในช่ วงการให้บริ การ ซึ่ง ประกอบด้วยค่าดาเนิน การและบารุ งรักษารายปี ค่าใช้จ่ ายในการซ่อ ม
บารุงขบวนรถครั้งใหญ่ (Refurbishment) และค่าจัดหาขบวนรถเพิ่มเติมแสดงดังรูปที่ 4.1
การจัดซื้อขบวนรถสาหรับโครงการช่วงนครราชสีมา-หนองคาย นี้ คิดตามสัดส่วนระยะทางในการเดินรถ
รวม (Train-KM) ในช่ ว งโครงการฯ ต่ อระยะทางในการเดิ นรถรวม (Train-KM) ทั้ งเส้น ทางกรุ งเทพฯ-
หนองคาย (สาหรับรถโดยสาร) และกรุงเทพฯ-มาบตาพุด (สาหรับรถสินค้า) ส่วนแคร่บรรทุกสินค้าถือว่าจะ
เป็นส่วนที่จัดหาโดยผู้ประกอบการขนส่งสินค้าโดยไม่รวมในต้นทุนของโครงการ
4.3 ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของโครงการ
ผลประโยชน์ ทางเศรษฐกิ จของโครงการ พิจารณาจากความแตกต่างในด้านต่างๆ ตลอดอายุโครงการ
ระหว่างกรณีมีโครงการ (With Project) และ กรณีไม่มีโครงการ (Without Project) สาหรับโครงการนี้
ผลประโยชน์ที่ได้รับจาเป็นต้องอาศัยการพัฒนาโครงการช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมาด้วย ในการวิเคราะห์
จะถือว่าโครงการทั้งสองช่วงเกิดขึ้นพร้อมกัน โดยผลประโยชน์ที่เกิดจากการเดินทางที่ผ่านทั้งสองช่วง
เส้นทางจะคิดแบ่งตามสัดส่วนของระยะทางที่เดินทางในแต่ละช่วง
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ใช้ในการวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการ ประกอบด้วย
การประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้ยานพาหนะ (Vehicle Operating Costs : VOC)
การลดเวลาในการเดินทาง
การลดเวลาในการขนส่งสินค้า
การลดมูลค่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน (Accident Costs)
การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่ง
รายได้ค่าโดยสารจากผู้เดินทางต่างชาติ
รายได้การท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น
รายได้จากสินค้าที่ขนส่งผ่านประเทศไทย
ผลกระทบทางเศรษฐกิจของโครงการในเชิงกว้าง (Wider Economics Impacts)
ผลกระทบทางเศรษฐกิจของโครงการในเชิงกว้าง (Wider Economics Impacts) เป็นผลกระทบเชิงบวกที่
เกิดขึ้นจากการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ในลักษณะของการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity
Enhancing Effect) อันเนื่องมาจากการประหยัดจากการรวมกลุ่ม (Agglomeration Effects) ซึ่งกระตุ้นให้
มีการกระจุกตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การประเมินผลประโยชน์ส่วนนี้ ใช้สมมติฐานว่าการเจริญเติบโต
ทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนโครงการจะแปรผันตามความสามารถในการเข้าถึงพื้นที่ (Accessibility)
ที่ดีขึ้น ตามแนวทางของธนาคารโลก (The World Bank, 2014)1
ผลการวิเคราะห์ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของโครงการแสดงดังตารางที่ 4.2 และ ตารางที่ 4.3
1
The World Bank, (2014): “Regional Economic Impact Analysis of High Speed Rail in China: Step by Step Guide”, Report
No: ACS9734.
2565 284,565 234,831 120,267 49,637 284,668 284,687 234,955 120,313 49,658 19 124 46 22 211
2566 289,939 240,061 122,780 50,294 290,266 290,324 240,453 122,926 50,362 59 392 146 68 665
2567 295,414 245,407 125,344 50,960 296,104 296,225 246,232 125,655 51,104 121 825 310 144 1,400
2568 300,993 250,873 127,963 51,635 302,206 302,413 252,318 128,512 51,886 208 1,446 549 251 2,453
2569 306,676 256,460 130,636 52,319 308,594 308,915 258,739 131,509 52,713 321 2,279 873 393 3,867
2570 312,468 262,172 133,365 53,012 315,295 315,759 265,525 134,659 53,588 464 3,353 1,294 576 5,688
ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย
2571 318,368 268,011 136,151 53,714 322,335 322,973 272,708 137,977 54,518 639 4,697 1,826 803 7,965
2572 324,381 273,980 138,995 54,426 329,743 330,591 280,323 141,478 55,505 848 6,343 2,483 1,079 10,753
2573 330,506 280,082 141,899 55,147 337,552 338,647 288,408 145,178 56,556 1,096 8,326 3,279 1,409 14,110
2574 336,747 286,320 144,863 55,877 345,794 347,179 297,005 149,095 57,675 1,385 10,686 4,232 1,798 18,101
2575 343,107 292,697 147,889 56,618 352,324 353,735 303,620 152,210 58,439 1,411 10,924 4,321 1,822 18,477
2576 348,555 298,025 150,444 57,280 358,335 359,771 309,623 155,053 59,160 1,434 11,122 4,395 1,843 18,794
2577 354,089 303,450 153,042 57,950 364,347 365,806 315,625 157,896 59,881 1,456 11,325 4,471 1,865 19,117
รายงานฉบับสรุปสาหรับผู้บริหาร (Executive Summary Report)
2578 359,711 308,974 155,685 58,627 370,358 371,842 321,628 160,739 60,601 1,479 11,531 4,548 1,887 19,445
2579 365,423 314,599 158,374 59,313 376,370 377,877 327,630 163,582 61,322 1,503 11,741 4,627 1,909 19,779
2580 371,225 320,326 161,109 60,007 382,381 383,913 333,633 166,425 62,042 1,527 11,955 4,707 1,931 20,119
AEC/Egis Rail/UAE/PSK/WE
4-6
4.4 ผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจของโครงการ
ผลการวิ เ คราะห์ ดัช นี ชี้ วั ดทางเศรษฐกิ จ ของโครงการแต่ ล ะกรณี ส รุ ปได้ ดัง ตารางที่ 4.4 และผลการ
วิเคราะห์สาหรับการพัฒนาโครงการทั้งโครงข่ายตาม MOU ไทย-จีน แสดงดังตารางที่ 4.5
กรณีรวมเฉพาะผลประโยชน์ กรณีรวมผลประโยชน์จากการ
ทางตรง พัฒนาเศรษฐกิจเชิงกว้าง
รูปแบบโครงการ/สถานการณ์
NPV NPV
EIRR B/C EIRR B/C
(ล้านบาท) (ล้านบาท)
รถไฟความเร็วปานกลาง (CVR)
11.45% -7,759 0.95 13.47% 23,239 1.15
มีทางรถไฟจากจีนมาเชื่อมโยง
รถไฟความเร็วปานกลาง (CVR)
6.97% -60,461 0.58 9.92% -29,463 0.79
ไม่มีทางรถไฟจากจีนมาเชื่อมโยง
รถไฟความเร็วสูง (HSR)
8.49% -42,763 0.70 11.73% -4,015 0.97
มีทางรถไฟจากจีนมาเชื่อมโยง
รถไฟความเร็วสูง (HSR)
6.96% -58,609 0.59 10.60% -19,862 0.86
ไม่มีทางรถไฟจากจีนมาเชื่อมโยง
ผลการศึกษาสรุปได้ ดังนี้
1. ผลการวิเคราะห์เฉพาะช่วงโครงการ
การพัฒนาโครงการรูปแบบรถไฟความเร็วปานกลาง (CVR) ถือ ว่ามี ความเหมาะสมทาง
เศรษฐกิจที่จะเริ่มดาเนินโครงการเพื่อเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2565 หากคิดรวมผลประโยชน์
เชิงกว้างทางเศรษฐกิจ และในขณะที่การลงทุน รูปแบบรถไฟความเร็วสูง (HSR) ควรเลื่อน
การลงทุนไป 2 ปี เป็นเริ่มก่อสร้างปี 2562 และเปิดให้บริการปี 2567 จึงมีความเหมาะสมทาง
เศรษฐกิจ
หากพิจารณาเฉพาะผลประโยชน์ทางตรง กรณีพัฒนาเป็นรูปแบบรถไฟความเร็วปานกลาง
(CVR) จะต้องเลื่อนปีเปิดไปเป็น พ.ศ. 2567 หรือเลื่อนไป 2 ปี เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตาม
เกณฑ์ ส่ ว นกรณี พั ฒ นาเป็ น รู ป แบบรถไฟความเร็ ว สู ง (HSR) จะต้ อ งเลื่ อ นปี เ ปิ ด ไปเป็ น
พ.ศ. 2578 หรือเลื่อนไป 13 ปี
หากไม่ มีการเชื่อ มโยงโครงข่ ายทางรถไฟจากจี น การพั ฒนาในรูปแบบรถไฟความเร็ว สู ง
(HSR) มีความเหมาะสมทางเศรษฐกิจมากกว่าการพัฒนาในรูปแบบรถไฟความเร็วปานกลาง
(CVR) โดยจะมีความเหมาะสมที่จะเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2568 (คิดรวมผลประโยชน์ทาง
เศรษฐกิจเชิงกว้าง)
2. ผลการวิเคราะห์และข้อเสนอแนะสาหรับการพัฒนาโครงการตาม MOU ไทย-จีน
การพัฒนาโครงการทั้งโครงข่ายตาม MOU ไทย-จีน มีความเหมาะสมทางเศรษฐกิจทั้งกรณี
คิดเฉพาะผลประโยชน์ทางตรงและกรณีรวมผลประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงกว้าง
ประเด็นพิจารณาสาหรับการพัฒนาโครงการตาม MOU ไทย-จีน
(1) การบูรณาการโครงข่าย : เนื่องจากแนวเส้นทางโครงการตาม MOU ไทย-จีน มีความ
ซ้ าซ้ อ นกั บ แนวเส้ น ทางของโครงการอื่ น ๆ ได้ แ ก่ เส้ น ทางรถไฟความเร็ ว สู ง สาย
กรุ ง เทพฯ-เชี ย งใหม่ ในช่ ว งบางซื่ อ -บ้ า นภาชี และเส้ น ทางรถไฟความเร็ ว สู ง สาย
กรุงเทพฯ-ระยอง ในช่วงฉะเชิงเทรา-มาบตาพุด โดยโครงการทั้งสามล้วนมีมูลค่าลงทุน
มหาศาล ในการพัฒ นาโครงการทั้งหมดต้องบู รณาการในภาพรวมเพื่อไม่ให้เกิ ดความ
ซ้าซ้ อ น การสู ญ เสี ย ทรั พ ยากรทั้ งงบประมาณและพื้ น ที่ อ ย่ างไม่ มี ประสิ ท ธิ ภาพ และ
ปัญหาในการพัฒนาโครงข่ายในอนาคตที่จะตามมา
(2) ค่าลงทุนโครงการ : เนื่องจากการประมาณราคาของระบบตามผลการศึกษาของไทยทั้ง
สองโครงการ ทั้ ง โครงการศึ กษาและออกแบบรถไฟความเร็ ว สู ง สายกรุ ง เทพฯ –
หนองคาย ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย (สนข. 2559) และ การศึกษาโครงการ
ศึ กษาและออกแบบกรอบรายละเอี ย ด (Definitive Design) รถไฟทางคู่ ข นาดทาง
มาตรฐาน ช่วงนครราชสีมา-แหลมฉบัง-มาบตาพุด และช่วงแก่งคอย-บ้านภาชี-บางซื่อ
(สนข. 2559) นั้นเป็นราคาของงานระบบรถไฟฟ้าที่เปิดกว้างสาหรับผู้ผลิตทุกรายในโลก
ดังนั้น หากจะดาเนินโครงการในรูปแบบความร่วมมือระหว่างรัฐต่อรัฐ และระบุเทคโนโล
ยะบบรถไฟฟ้าที่ใช้แน่ชัดว่าป็นเทคโนโลยีของจีน มูลค่าโครงการโดยเฉพาะในส่วนของ
5.1.1 สมมติฐานในการวิเคราะห์ทางการเงิน
สมมติฐานทางการเงิน ได้กาหนดโดยปรับปรุง จากหลักเกณฑ์การร่ว มทุนของภาคเอกชนของโครงการ
ระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพและปริมณฑล (MRT Assessment Standardization) ดังนี้
5.1.2 การประมาณการรายรับของโครงการ
การประมาณการรายรับของโครงการ แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ รายได้จากการโดยสารและการขนส่งสินค้า
และรายได้อื่นๆ
1. รายได้ค่าโดยสารและการขนส่งสินค้า
การประมาณการรายได้จากค่าโดยสารและรายได้จากการขนส่งสินค้า ตามผลการศึกษาด้านความ
ต้องการในการเดินทางและขนส่งของโครงการ ดังนี้ (ตารางที่ 5.1)
2. รายได้อื่นๆ
รายได้อื่ นๆ จากการดาเนินงานโครงการ เช่น รายได้ที่มาจากกิจ การพาณิ ชย์ต่างๆ ภายในสถานี
รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี มาจาก 2 ส่วนคือ จากรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ และรายได้
การขายโฆษณาตลอดอายุโครงการสามารถสรุปได้ดังตารางที่ 5.2
ปี พ.ศ.
5.1.3 การประมาณค่าลงทุนและค่าใช้จ่ายในการดาเนินโครงการ
ค่าลงทุ น ทางด้ านการเงิ น ของโครงการได้ม าจากการประมาณราคาจากรายการค่ าใช้ จ่ ายต่ างๆ ของ
โครงการ ซึ่งพิจารณาเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ ค่าลงทุน และค่าดาเนินการและบารุงรักษา
1. การประมาณเงินลงทุน
การประมาณเงินลงทุนของโครงการ แบ่งเป็น 2 กรณี คือ รูปแบบระบบรถไฟความเร็วปานกลาง (CVR)
และรูปแบบระบบรถไฟความเร็วสูง (HSR) โดยทั้ง 2 ระบบจะมีความแตกต่างกันดังตารางที่ 5.3
2. การกระจายการลงทุน
กรณีดาเนิ นการโครงการตามแผนการดาเนิ นงานปกติ กาหนดการเปิดดาเนิน การในเดื อนมี นาคม
พ.ศ. 2565 โดยแบ่งระยะเวลาดาเนินโครงการในการลงทุน 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 มีสัดส่ว น
การกระจายตัวของการลงทุนในงานต่างๆ แสดงดังตารางที่ 5.4
3. ประมาณการค่าใช้จ่ายในการดาเนินการและบารุงรักษา
ค่าใช้จ่ ายในการดาเนิน การและบารุง รักษาโครงการ คื อ ค่าใช้ จ่ายเพื่อ ดาเนิ นการบริ หาร เดิ นรถ
บารุงรักษาดังตารางที่ 5.5
5.1.4 การวิเคราะห์ทางการเงิน
การวิเคราะห์กระแสเงินสดของโครงการ โดยไม่นาค่าใช้จ่ายทางการเงินซึ่ง ได้แก่ ดอกเบี้ยและ
เงินต้นมาคิดในกระแสเงินสดของโครงการแสดงดังตารางที่ 5.6
กระแสเงินสดรับ 713,495.59
- รายได้ค่าโดยสาร 281,708.12
- รายได้ค่าขนส่ง 231,522.01
กรณีรถไฟความเร็วปานกลาง (CVR) มี - รายได้เชิงพาณิชย์ 115,092.19
1
การเชื่อมต่อจีน-ลาว กระแสเงินสดจ่าย 713,111.65
- O & M Cost 485,097.99
- สิ่งแวดล้อม 333.14
กระแสเงินสดสุทธิ 383.94
กระแสเงินสดรับ 465,087.84
- รายได้ค่าโดยสาร 264,822.39
- รายได้ค่าขนส่ง -
กรณีรถไฟความเร็วปานกลาง (CVR) ไม่ - รายได้เชิงพาณิชย์ 115,092.19
2
มีการเชื่อมโยงจากจีน-ลาว กระแสเงินสดจ่าย 560,896.42
- O & M Cost 332,882.76
- สิ่งแวดล้อม 333.14
กระแสเงินสดสุทธิ -95,808.57
กระแสเงินสดรับ 507,350.37
- รายได้ค่าโดยสาร 311,753.15
- รายได้ค่าขนส่ง -
กรณีรถไฟความเร็วสูง (HSR)
- รายได้เชิงพาณิชย์ 115,092.19
3 มีการเชื่อมโยงจากจีน-ลาว
กระแสเงินสดจ่าย 661,892.74
- O & M Cost 438,902.14
- สิ่งแวดล้อม 333.14
กระแสเงินสดสุทธิ -154,542.37
กระแสเงินสดรับ 488,551.25
- รายได้ค่าโดยสาร 292,954.03
- รายได้ค่าขนส่ง -
กรณีรถไฟความเร็วสูง (HSR) - รายได้เชิงพาณิชย์ 115,092.19
4
ไม่มีการเชื่อมโยงจากจีน-ลาว กระแสเงินสดจ่าย 642,701.40
- O & M Cost 419,710.80
- สิ่งแวดล้อม 333.14
กระแสเงินสดสุทธิ -154,150.15
หมายเหตุ : กระแสเงินสดรับมีการนามูลค่าเงินลงทุนและมูลค่าทรัพย์สินคงเหลือในปีสุดท้ายของโครงการมาคานวณ
กระแสเงินสดจ่ายรวมมูลค่าการลงทุน
การวิ เคราะห์ รูป แบบการลงทุน ที่ ปรึ กษาได้วิ เคราะห์ ผลตอบแทนของการลงทุน ภายใต้กรอบ
ความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 5 (25 มิ.ย. พ.ศ. 2558) โดยได้พิจารณารูปแบบการ
ลงทุนที่คาดว่าจะเป็นไปได้ 3 รูปแบบหลักคือ ตารางที่ 5.8
การวิเคราะห์ความอ่อนไหวทางการเงิน
การวิเ คราะห์ ความอ่ อนไหวทางการเงินของโครงการ ได้จัดท าการวิ เคราะห์จากการเปลี่ ยนแปลง
รายได้ และค่ า ใช้ จ่ ายที่ เ พิ่ ม ขึ้ น และลดลงร้ อ ยละ 10 และร้ อ ยละ 20 เพื่ อ ท าการค านวณหา
ผลตอบแทนทางการเงินของโครงการแต่ละกรณี โดยผลการวิเคราะห์แสดงเฉพาะรูปแบบการลงทุน
ที่ให้ผลตอบแทนทางการเงินสูงสุดคือการลงทุนในรูปแบบที่ รฟท.รับภาระการลงทุนงานโยธา ส่วนที่
เหลือเป็นภาระการลงทุนของนิติบุคคลที่ตั้งใหม่ (ไทย-จีน ร่วมทุน) โดยนิติบุคคลมีกาไรขณะที่ รฟท.
ไม่ได้รับผลตอบแทน ดังตารางที่ 5.10
ผลการวิเคราะห์ความอ่อนไหวทางการเงินพบว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านรายได้ของโครงการ
ที่สูงขึ้นหรือค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการเดินรถ (OPEX) ที่ลดต่าลงจะทาให้ผลตอบแทนทางการ
เงินเพิ่มสูงขึ้น
5.2 สรุปผลการศึกษาความเหมาะสมทางการเงิน
จากการวิเ คราะห์ทางการเงิน พบว่าทางเลือ กที่ มีความเหมาะสมมีความเป็ นไปได้ ทางการเงินคื อ การ
ดาเนิน การกรณีรถไฟความเร็ วปานกลาง (CVR) มีการเชื่ อมต่อจี น -ลาว ซึ่งรู ปแบบการลงทุน จะเป็ น
รฟท.รับภาระการลงทุนงานโยธา ส่วนที่เหลือเป็นภาระการลงทุนของนิติบุคคลที่ตั้งใหม่ (ไทย-จีน ร่วม
ทุน) ตามเงื่อนไขที่ให้บริษัทร่วมทุนเกิดกาไรส่วน รฟท. ไม่ได้รับผลตอบแทน
แต่ อย่างไรก็ ตามผลตอบแทนทางการเงินของโครงการ(FIRR) ยั งอยู่ ในระดับที่ ต่ากว่า อัตราคิ ดลดทาง
การเงิน (Discount rate) ที่ร้อยละ 5 ตามหลักเกณฑ์การร่วมทุนของภาคเอกชนของโครงการระบบขนส่ง
มวลชนทางรางในเขตกรุงเทพและปริมณฑล (MRT Assessment Standardization) ซึ่งถือได้ว่าความ
คุ้มค่าทางการเงินอยู่ในระดับต่า แต่หากพิจารณาร่วมกับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของโครงการที่อยู่ใน
ระดับที่เหมาะสมนั้น โครงการรถไฟความเร็วสูงนครราชสีมา-หนองคายสมควรได้รับการผลักดันในการ
ดาเนินการเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต
6.2 การมีส่วนร่วมของประชาชนและการประชาสัมพันธ์โครงการ
การดาเนินงานการมีส่วนร่วมของประชาชนและการประชาสัมพันธ์โครงการ เริ่มจากการระบุและจาแนก
กลุ่มเป้าหมายของการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนของโครงการออกเป็น 7 กลุ่มหลัก โดยพิจารณา
จากผู้มีส่วนได้เสียจากการดาเนินโครงการทั้งทางตรงและทางอ้อม ตามแนวทางการมีส่วนร่วมของ
ประชาชนและการประเมินผลกระทบทางสังคมของสานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม (สิงหาคม พ.ศ. 2549) ได้แก่ 1) ผู้รับผลกระทบ 2) หน่วยงานที่รับผิดชอบจัดทารายงานการ
วิ เ คราะห์ผ ลกระทบสิ่ ง แวดล้ อม 3) หน่ ว ยงานที่ทาหน้ าที่ พิจารณารายงานการวิเ คราะห์ผลกระทบ
สิ่งแวดล้อม 4) หน่วยงานราชการในระดับต่างๆ 5) องค์การเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม องค์กรพัฒนาเอกชน
องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ สถาบันการศึกษาภายในท้องถิ่น และในระดับอุดมศึกษา และ
นักวิชาการอิสระ 6) สื่อมวลชน 7) ประชาชนทั่วไป โดยระหว่างการดาเนินการในกิจกรรมการมีส่วนร่วม
ของประชาชนในขั้นตอนต่างๆ โครงการฯ ได้ดาเนินการด้านการประชาสัมพันธ์โครงการด้วยรูปแบบ
ของสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีความหลากหลาก เหมาะสมต่อการรับรู้ของกลุ่มเป้าหมาย สามารถสรุปผลการ
ดาเนินการตลอดระยะเวลาโครงการได้ดังตารางที่ 6.2