Professional Documents
Culture Documents
1
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
คานา
จากสถานการณ์ปัญหาการเกิดโรคที่มีมากในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่แนวโน้ม
สู งขึ้ น เรื่ อยๆ ในการแก้ ไขปั ญหาสุ ข ภาพและการเกิ ดโรคภั ยไข้ เจ็บ ให้ ล ดลงนั้น จาเป็น อย่ างยิ่ งในการ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ให้ประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง โดยการส่งเสริมและพัฒนาปัจจัยที่
เกี่ยวข้อง ได้แก่ ปัจจัยภายในตัวบุคคล (ปัจจัยนา) เช่น ความรู้ การรับรู้ ความเข้าใจ และปัจจัยแวดล้อม
(ปั จ จั ย เอื้อ ปั จ จั ย เสริ ม ) อย่ างเหมาะสม ในการพัฒ นาปัจจัยภายในจะต้องปลู กฝั งให้ ประชาชนเกิ ด
“Health Literacy”หรือ”ความรอบรู้ด้านสุขภาพ” ซึ่งหมายถึง ความสามารถและทักษะในการเข้าถึง
ข้อมูลด้านสุขภาพ ความรู้ ความเข้าใจเพื่อวิเคราะห์ ประเมินและจัดการตนเอง รวมทั้งสามารถชี้แนะเรื่อง
สุขภาพแก่บุคคล ครอบครัว และชุมชนได้ การพัฒนา Health Literacy จึงเป็นการสร้างและพัฒนาขีด
ความสามารถในระดับบุคคลและเป็นการธารงรักษาสุขภาพตนเองอย่างยั่งยืน
หนั ง สื อ การเสริ ม สร้ า งและประเมิ น ความรอบรู้ ด้ า นสุ ข ภาพและพฤติ ก รรมสุ ข ภาพ
กลุ่ ม เด็ ก และเยาวชน (อายุ 7-14 ปี) กลุ่ม ประชาชนที่มี อ ายุ 15 ปี ขึ้ น ไป ฉบั บปรั บ ปรุ ง ปี 2561
เป็นแนวทางสาหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเครือข่ายสุขภาพทุกระดับ ใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้
เพื่อพัฒนายกระดับให้ประชาชนกลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี) และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้น
ไปมีความรอบรู้ด้านสุขภาพที่ดีและพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง ซึ่งมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับความรอบรู้ด้าน
สุขภาพ การเสริมสร้างและพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพครอบคลุมตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ
และ 3อ.2ส. และเครื่องมือการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพทั้ง 2 กลุ่ม ซึ่งสามารถ
ใช้เป็นแนวทางและประยุกต์ใช้ในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพได้
กองสุ ข ศึ ก ษา หวั ง อย่ า งยิ่ ง ว่ า หนั ง สื อ เล่ ม นี้ จ ะเป็ น ประโยชน์ ส าหรั บ เจ้ า หน้ า ที่ ส าธารณสุ ข
และเครือข่ายสุขภาพ ใช้ในการดาเนินงานพัฒนายกระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพ รวมทั้งมีการปรับเปลี่ยน
พฤติกรรมสุขภาพของประชาชนกลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี) และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
จนสามารถดูแลสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชน ได้อย่างยั่งยืน
กองสุขศึกษา
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
มกราคม 2561
2
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
สารบัญ
หน้า
ส่วนที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 4
ความรู้เกี่ยวกับความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) 6
ความหมายความรอบรู้ด้านสุขภาพ 6
องค์ประกอบของความรอบรู้ด้านสุขภาพ 6
ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพ 8
ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพส่งผลต่อสุขภาพของคนไทยอย่างไร 9
กรอบการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของคนไทย 10
การนาข้อมูลผลการประเมินไปใช้ในการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและ 74
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
ภาคผนวก 77
ผนวก ก: เครื่องมือประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติ 78
แห่งชาติกลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี)
ผนวก ข: เครื่องมือประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพตาม 3อ.2ส. 83
ของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
3
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ส่วนที่ 1
ความรู้เกี่ยวกับความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข ได้วางเป้าหมายการพัฒนาสุขภาพประชาชนให้เหมาะสมตามกลุ่ม
วัย จาแนกออกเป็น 5 กลุ่มวัย คือ 1) กลุ่มสตรีและเด็กปฐมวัย 2) กลุ่มวัยเรียน 3) กลุ่มวัยรุ่น 4) กลุ่มวัย
ทางาน 5) กลุม่ ผู้สูงอายุและผู้พิการ ดังนั้นการดาเนินงานสุขศึกษา ควรมุ่งเน้น “การสร้างเสริมความรอบรู้
ด้านสุขภาพ และส่งเสริมการปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพให้ถูกต้องและเหมาะสมตามกลุ่มวัย ”
โดยใช้กลยุทธ์การพัฒนาความสามารถในการดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ด้านสุขภาพ ควบคู่กับการจัดปัจจัยแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรม
สุขภาพ ซึ่งในการดาเนินงานเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพให้กับประชาชน
ในชุมชนนั้น ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนและทุกระดับ รวมทั้งต้องเชื่อมโยงและบูรณาการกับ
การพัฒนาตาบลจัดการสุขภาพ ซึ่งเป็นเป้าหมายในการพัฒนาสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข ในการ
ขับเคลื่อน ส่งเสริมและสนับสนุนการดาเนิน งานหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคฯ และโรงเรียนสุข
บัญญัติ ซึ่งเป็นกระบวนการพัฒนาสุขภาพโดยชุมชน/โรงเรียน เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเด็กวัยเรียนและกลุ่มวัย
ทางานมีความรอบรู้ด้านสุขภาพและมีพฤติกรรมสุ ขภาพที่ถูกต้องตามเกณฑ์ เพื่อให้ ประชาชนมีทักษะ
สุขภาพที่ดี สามารถพึ่งตนเองด้านสุขภาพได้ รวมทั้งชุมขน/ท้องถิ่น /โรงเรียนมีความเข้มแข็ง สามารถ
จัดการปัญหาสุขภาพได้ด้วยตนเอง จนนาไปสู่สุขภาวะ
กองสุขศึกษา เป็นหน่วยงานหลักของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขที่มี
เป้าประสงค์ให้คนไทยทุกคนมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง จึงได้นาแนวคิดของความรอบรู้ด้านสุขภาพ มาใช้
4
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
เป็นตัวชี้วัดระดับความสาเร็จในการทางานสุขศึกษาและส่งเสริมสุขภาพ เนื่องจากความรอบรู้ด้านสุขภาพ
เป็ นเสมือนกุญแจสู่ผ ลลั พธ์ของงานสุขศึกษา( Rootman,2002) หรือกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
สุขภาพ ซึ่ง ดอน นัทบีม (Nutbeam D.,2000) ได้ชี้ให้เห็นความสาคัญว่า ควรมีการพัฒนาความรอบรู้ด้าน
สุขภาพ ให้เป็นดัชนีที่สามารถสะท้อนและใช้อธิบายความเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์ (Outcome) ทางสุขภาพ
ที่เกิดขึ้นจากการดาเนินงานสุขศึกษา (health education) และกิจกรรมการสื่อสาร (communication
activities) ทั้งนี้ เนื่องจากการดาเนินงานสุขศึกษาทาให้เกิดการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยตรง
ในปีงบประมาณ 2558 กองสุขศึกษา ได้ประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ในประชากร ๒ กลุ่มวัยคือ 1) กลุ่มเด็กวัยเรียน (อายุ 7-14 ปี) ประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรม
สุขภาพตามสุขบัญญัติแห่งชาติ จานวนกลุ่มตัวอย่าง 2,500 คน จากโรงเรียนสุขบัญญัติ ในตาบลจัดการ
สุขภาพและ 2) กลุ่มวัยทางาน (อายุ 15-59 ปี) ประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ3อ.2ส.
จานวนกลุ่มตัวอย่าง 2,500 คน จากหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคฯ ในตาบลจัดการสุขภาพเป้าหมาย
ปี 2558 ครอบคลุม 12 เขตสุขภาพ เขตละ 2 จังหวัด จังหวัดละ 4 โรงเรียน/ 4 หมู่บ้าน ผลการประเมิน
พบว่า กลุ่มเด็กวัยเรียน (อายุ 7-14 ปี )ส่วนใหญ่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพในระดับพอใช้ (ร้อยละ59.94) และ
ระดับดีมาก (ร้อยละ 36.97) มีเพียงส่วนน้อยที่อยู่ในระดับไม่ดี (ร้อยละ 3.09) ส่วนพฤติกรรมสุขภาพตามสุข
บัญญัติแห่งชาติ พบว่า ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมสุขภาพในระดับดีมาก (ร้อยละ 45.08) รองลงมา คือระดับพอใช้
( ร้อยละ 36.72) มีเพียงส่วนน้อยที่มีพฤติกรรมสุขภาพในระดับไม่ดี (ร้อยละ 18.20) สาหรับกลุ่มวัยทางาน
ส่วนใหญ่มีระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพอยู่ในระดับพอใช้ (ร้อยละ 47.1) รองลงมาระดับไม่ดี(ร้อยละ 39.7)
สาหรับระดับพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มวัยทางาน พบว่า ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมสุขภาพอยู่ในระดับไม่ดี (ร้อย
ละ47.9) รองลงมาระดับพอใช้ (ร้อยละ27.5) ส่วนระดับดีมาก น้อยที่สุด (ร้อยละ24.6)
ซึ่งจากผลประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนส่วนใหญ่มีความ
รอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ อยู่ในระดับพอใช้ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ยั่งยืน
และนาไปสู่การมีสุขภาวะต่อไป ซึ่งหากประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมีระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพต่า
ย่อมจะส่งผลต่อสภาวะสุขภาพในภาพรวม กล่าวคือ ประชาชนขาดความสามารถในการดูแลสุขภาพของ
ตนเอง จานวนผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังจะเพิ่มขึ้น ทาให้ค่าใช้จ่ ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มสูงขึ้น จึงต้องมุ่ง
พัฒนาให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพในระดับดีมากเพิ่มขึ้น เพื่อการป้องกัน
การเกิดโรคไม่ตดิ ต่อเรื้อรังได้อย่างถาวรยั่งยืน
5
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
องค์ประกอบของความรอบรู้ด้านสุขภาพ
คุ ณ ลั ก ษณะส าคั ญ ที่ จ าเป็ น ต้ อ งพั ฒ นาเพื่ อ เพิ่ ม ความรอบรู้ ด้ า นสุ ข ภาพ ประกอบด้ ว ย
6 องค์ประกอบหลัก ดังนี้
1. การเข้าถึงข้อมูลสุขภาพและบริการสุขภาพ (Access skill) หมายถึง การใช้ความสามารถใน
เลือกแหล่งข้อมูล รู้วิธีการในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตน และตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่ง
จนข้อมูลมีความน่าเชื่อถือ
6
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
องค์ประกอบ คุณลักษณะสาคัญ
1. การเข้าถึงข้อมูล 1. เลือกแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพ และบริการสุขภาพ รู้วิธีการค้นหาและการใช้
สุขภาพและ อุปกรณ์ในการค้นหา
บริการสุขภาพ 2. ค้นหาข้อมูลสุขภาพและบริการสุขภาพที่ถูกต้อง
3. สามารถตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่งได้ เพื่อยืนยันความเข้าใจของตนเอง
และได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ สาหรับนาไปใช้ในการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง
2. ความรู้ ความเข้าใจ 1. มีความรู้และจาในเนื้อหาสาระสาคัญด้านสุขภาพ
2. สามารถอธิบายถึงความเข้าใจในประเด็นเนื้อหาสาระด้านสุขภาพในการที่จะ
นาไปปฏิบัติ
3. สามารถวิเคราะห์ เปรียบเทียบเนื้อหา/แนวทางการปฏิบัติด้านสุขภาพได้อย่างมี
เหตุผล
3. ทักษะการสื่อสาร 1. สามารถสื่อสารข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพด้วยวิธีการพูด อ่าน เขียนให้บุคคลอื่น
เข้าใจ
2. สามารถโน้มน้าวให้บุคคลอื่นยอมรับข้อมูลด้านสุขภาพ
4. ทักษะการจัดการ 1. สามารถกาหนดเป้าหมายและวางแผนการปฏิบัติ
ตนเอง 2. สามารถปฏิบัติตามแผนที่กาหนดได้
3. มีการทบทวนและปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติตนเพื่อให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง
7
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
องค์ประกอบ คุณลักษณะสาคัญ
5. ทักษะการ 1. กาหนดทางเลือกและปฏิเสธ/หลีกเลี่ยงหรือเลือกวิธีการปฏิบัติเพื่อให้มีสุขภาพดี
ตัดสินใจ 2. ใช้เหตุผลหรือวิเคราะห์ผลดี-ผลเสียเพื่อการปฏิเสธ/หลีกเลี่ยง/เลือกวิธีการปฏิบัติ
3. สามารถแสดงทางเลือกที่เกิดผลกระทบน้อยต่อตนเองและผู้อื่น
ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพ
ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพส่งผลต่อสุขภาพของคนไทยอย่างไร
9
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ประโยชน์ต่อบุคคล ประโยชน์ต่อชุมชน/สังคม
1) ได้พัฒนาความรู้เพื่อป้องกันความเสี่ยง 1) เพิ่มการมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของประชากร
2) มีมาตรฐานต่อการดูแลตนเอง 2) พัฒนาปัจจัยเพื่อปรับปรุงบรรทัดฐานทางสังคม
3) ได้เพิ่มความสามารถในการปฏิบัติตน และการสื่อสารทางสังคม
ภายใต้ความรู้ 3) เข้าถึงปัจจัยทางสุขภาพที่นาไปสู่การพัฒนาสังคม
4) สร้างแรงจูง ใจให้เกิดความมั่นใจในตนเอง และเศรษฐกิจ
5) เพิ่มความทนทานต่อการเผชิญปัญหา 4) เพิ่มขีดความสามารถชุมชน
กรอบการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของคนไทย
พัฒนาองค์ความรู้สุขภาพ กระบวนการเสริมสร้าง
ความรอบรู้ด้านสุขภาพ การเข้าถึงข้อมูลและบริการสุขภาพ
1.จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ความรู้ความเข้าใจ
2.สื่อสารและรณรงค์ด้านสุขภาพ
พัฒนาศักยภาพ 3.จัดปัจจัยเอื้อต่อการปรับเปลี่ยน ทักษะการสื่อสาร
เครือข่ายสุขภาพ พฤติกรรมสุขภาพ
ทักษะการตัดสินใจ
4.กาหนดมาตรการทางสังคมและ
ข้อตกลงร่วม เพื่อปฏิบัติร่วมกัน
พัฒนาเครื่องมือวัด/ประเมิน ทักษะการจัดการตนเอง
5.เฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ
ความรอบรู้ด้านสุขภาพ 6.เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การรู้เท่าทันสื่อ
และพฤติกรรมสุขภาพ
มีพฤติกรรมสุขภาพ
ที่ถูกต้อง
10
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ส่วนที่ 2
แนวทางการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ตามแนวทางสุขบัญญัติแห่งชาติ กลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี)
เด็กและเยาวชนที่อยู่ในช่วงที่กาลังเจริญเติบโตและมีการเรียนรู้ การดูแลและส่งเสริมสุขภาพให้มี
ความสมบู ร ณ์ จะท าให้ มี ส มรรถภาพในการเรี ย น มี ค วามสามารถเรี ย นรู้ ไ ด้ อ ย่ า งเต็ ม ที่ และร่ า งกาย
เจริญเติบโตและมีการพัฒนาได้อย่างสมวัย ซึ่งจะทาให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพในการทาหน้าที่การงาน ซึ่งใน
ทางตรงข้าม หากไม่ดูแลสุขภาพหรือทากิจกรรมที่มีความเสี่ยงที่จะทาให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ จะทาให้เกิด
การเจ็บป่วย อาจเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ ไม่สามารถเรียนได้เท่าที่ควรซึ่งอาจทาให้ สูญเสียโอกาสหลายๆ
อย่าง ทาให้เสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา และอาจเป็นผลเสียต่อไปในอนาคต
การเจ็ บ ป่ ว ยและการเกิดปั ญหาสุ ขภาพจะน้อยลง หากทุกคนมีพฤติกรรมสุ ขภาพที่ถูกต้องตาม
สุขบัญญัติ 10 ประการ ซึ่งต้องเริ่มต้นปลูกฝังที่เด็ก เยาวชนให้มีการปฏิ บัติตัวในการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง
และปฏิบัติเป็นประจา เพื่อให้เป็นสุขนิสัยเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
การดาเนินงานดูแลสุขภาพของเด็กวัยเรียนจาเป็นต้องมีการดาเนินงานควบคู่ทั้งในด้านการแก้ปัญหา
สุขภาพเฉพาะประเด็นและการส่งเสริมสุขภาพองค์รวม โดยใช้กลยุทธ์การพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพและ
พฤติกรรมสุขภาพตามแนวทางสุขบัญญัติแห่งชาติ เน้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การฝึกทักษะและจัดปัจจัย
แวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ด้านสุขภาพ เสริมการเรียนในวิชาสุขศึกษาเพื่อให้เด็กมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ
และมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสม
11
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
เป้าหมาย/กรอบการดาเนินงาน
12
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
เรียนรู้
4. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านสุขภาพตามสุขบัญญัติ
แห่งชาติตามแผนอย่างสม่าเสมอ โดยการจัดกิจกรรมและใช้ 2 เครืองมือ 1. แบบประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ตามสุขบัญญัตแิ ห่งชาติ
1. เจ้าหน้าทีรพสต.ร่วมกับครู/อาจารย์ในสถานศึกษา
สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพือพัฒนาความรอบรู้ด้าน
3 รวบรวมข้อมูล
การเก็บ สัมภาษณ์หรือให้กลุ่มตัวอย่างตอบข้อมูลตามแบบประเมิน
สุขภาพ (Health Literacy) และพฤติกรรมสุขภาพ 2. เก็บก่อนด่าเนินการ (ถ้ามี) และหลังด่าเนินการ
ทีถูกต้อง
1. วิเคราะห์โดยเจ้าหน้าที
4 วิเคราะห์ผล
ประมวล/ 2. สถิติทีใช้ จ่านวน ร้อยละและค่าเฉลีย
3. ใช้โปรแกรมการวิเคราะห์ (Microsoft Excel)
5. จัดสภาพแวดล้อมของโรงเรียน 4. แปลผลจากตารางเกณฑ์ให้คะแนนในคู่มือการปะเมิน
6. ประเมินผลและปรับปรุงการด่าเนินงาน 1. สรุปโดยเจ้าหน้าที
2. คืนข้อมูลให้กับหมู่บ้าน และชี้ให้เห็นถึงประเด็น
7. ขยายสู่ครอบครัวและชุมชน
5 สรุปผล ทียังปฏิบัติไม่ถูกต้อง
3. น่าข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนางาน
4.แปลผล จากตารางเกณฑ์ให้คะแนนในคู่มือการปะเมิน
แนวทางในการจัดกิจกรรมสร้างเสริมความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ตามแนวทางสุขบัญญัติแห่งชาติในสถานศึกษา
16
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
17
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
กิจกรรม
Health Literacy
-
การประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเด็กและเยาวชน
การประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เป็นการ
ประเมินผลลัพธ์ของการดาเนินงาน รวมทั้งการพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดาเนินงาน ซึ่งจะ
สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิผลของการดาเนินงาน จากเกณฑ์การประเมินหมู่บ้านจัดการสุขภาพในระดับ
ดีเยี่ยม ได้กาหนดให้มีประเมินผลลัพธ์ ของการดาเนินงานที่เกิดขึ้นกับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ทั้ง 2 กลุ่ม
วัย คือ กลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี) ในหมู่บ้าน/ชุมชนของการดาเนินงานที่เกิดกับประชาชน คือ
18
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
1. เกณฑ์การประเมินผลลัพธ์ ประกอบด้วย
2. แนวทางการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเด็กและเยาวชน
(อายุ 7-14 ปี)
19
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ประเด็น คาอธิบาย
ระดับพอใช้ขึ้นไป หมายถึง กลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี) มีค่าคะแนนความรอบรู้ด้านสุขภาพ
และพฤติกรรมสุขภาพ เท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 60 ขึ้นไปจากคะแนนเต็มตาม
เกณฑ์ให้คะแนนที่กาหนด โดยแบ่งเกณฑ์การประเมินออกเป็น 4 ระดับ คือ
ระดับดีมาก คะแนนเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 80 ( ≥80 % ของคะแนน
เต็ม)
1) ระดับดี คะแนนเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 70-79 (≥70 – < 80%
2) ของคะแนนเต็ม)
3) ระดับพอใช้ คะแนนเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 60-69 (≥60 – < 70%
4) ของคะแนนเต็ม)
ระดับไม่ดี คะแนนน้อยกว่าร้อยละ 60 (<60% ของคะแนนเต็ม)
ร้อยละ 70 ของ หมายถึง ผลการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพตามแนวทาง
ประชาชน สุขบั ญญัติแห่งชาติของกลุ่ ม เป้าหมาย (ตามวิธีการกาหนดขนาดตัว อย่างและสุ่ ม
กลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างข้อ 2.2) ที่มีคะแนนอยู่ในระดับพอใช้ขึ้นไปเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 70
ของกลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี) จึงจะถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน
สูตรการคานวณ :
จานวนกลุ่มตัวอย่างที่มีผลการประเมินในระดับพอใช้ขึ้นไป X 100
จานวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดที่ได้รับการประเมิน
2.2. เครื่องมือการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติแห่งชาติ
กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกับสถาบันพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ได้สร้างและพัฒนาเครื่องมือวัดระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรม
สุขภาพตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกับครู/อาจารย์ในสถานศึกษาใช้ในการ
ประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติแห่งชาติของประชาชนกลุ่มเด็กและ
เยาวชน (อายุ 7-14 ปี) รวมทั้งได้จัดทาแนวทางการประเมิน เพื่อใช้ในการดาเนินการประเมินได้อย่างเป็น
ระบบถูกต้องตามหลักวิชาการ
20
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
2.2.1 ขอบเขตเครื่องมือการประเมิน
ตารางที่ 4 อธิบายของเขตเครื่องมือการประเมินแบบสอบถามความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ตามแนวทางสุขบัญญัติแห่งชาติ กลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี)
ขอบเขต รายละเอียด
21
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ขอบเขต รายละเอียด
2.2.2 การกาหนดกลุ่มประชากร/กลุ่มตัวอย่าง
1. ประชากร
จากข้อมูลเมื่อปี พ.ศ. 2558 ประเทศไทยมีหมู่บ้าน 74,965 หมู่บ้าน และจากข้อมูล
สามะโนประชากรแต่ละหมู่บ้านมีประชากรโดยเฉลี่ย 144 ครัวเรือน หรือ 868 คน และสัดส่วนประชากร
เด็กไทยอายุ 7-14 ปีหรือวัยเรียนคิดเป็นร้อยละ 9.84 เมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด ดังนั้น ประชากรเด็ก
นักเรียนอายุ 7-14 ปี โดยเฉลี่ยเท่ากับ 85 คน (โดยเทียบจากข้อมูลโครงสร้างประชากรประเทศไทยร้อยละ
9.84 ของประชากร 65 ล้านคน หารด้วย 74,956 หมู่บ้าน)
2. กลุ่มตัวอย่าง
คือ เด็กและเยาวชน ที่มีอายุ 7-14 ปี ที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนในชุมชนหรือใกล้เคียงหมู่บ้าน
จัดการสุขภาพ โดยกาหนดขนาดตัวอย่างขั้นต่า จานวนตัวอย่างที่เป็นตัวแทนประชากรเด็กและเยาวชน
อายุ 7-14 ปีใน 1 โรงเรียนเท่ากับ 40 คน เก็บจากนักเรียนชั้น ป.6 (หากไม่พอให้เก็บจากนักเรียนชั้น ป.5)
22
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
2.2.3 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
ผู้ทาหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลคือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือ ครู/อาจารย์ ที่ได้รับคาชี้แจงและ
คาอธิบายจากบุคลากรสาธารณสุขถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูล และวิธีการตอบแบบประเมินเพื่อให้ครบ
ทุกข้อและให้รู้วิธีลงรหัสข้อมูลในตาราง excel ร่วมด้วย
ถ้าผู้ตอบรู้หนังสืออ่านออกเขียนได้ ให้สามารถทาแบบประเมินได้ด้วยตนเอง หรือผู้เก็บรวบ
รวบข้อมูลต้องเป็นผู้อ่านหรือสัมภาษณ์ และให้ผู้ตอบระบุคาตอบให้
2.2.4 วิธีการประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิเคราะห์ ควรเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสาธารณสุขตาบล (รพ.สต.)
สถิติที่ใช้ จานวน ร้อยละ และค่าเฉลี่ย
การใช้โปรแกรมการวิเคราะห์คือ Microsoft Excel หรือ คานวณด้วยสูตรสมการ
การแปลผล พิจารณาจากตารางเกณฑ์ให้คะแนนจาแนกความรอบรู้ด้านสุขภาพและ
พฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติแห่งชาติ
2.3 คู่มือรหัสบันทึกข้อมูล
แบบประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุ ขภาพตามแนวทางสุขบัญญัติแห่งชาติของกลุ่มเด็กและ
เยาวชน (อายุ 7-14 ปี) ฉบับปรับปรุง ปี 2561
24
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
25
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ความถี่ในการปฏิบัติ
ข้อความ ทุกครั้ง/ นานๆ ไม่
ประจา ครั้ง เคย
3. นักเรียนมีการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับสุขบัญญัติแห่งชาติจากหลายแหล่งเพื่อ
3 2 1
ยืนยันความถูกต้อง
การสื่อสารสุขภาพตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ (1) (2) (3)
4. นักเรียนอ่านเองหรือฟังคาแนะนาเรื่องสุขบัญญัติแห่งชาติแล้ว ไม่ค่อยเข้าใจ
5. นักเรียนได้เล่าเรื่องหรือเขียนบอกเรื่องราวเกี่ยวกับการปฏิบัติตามสุขบัญญัติ
3 2 1
แห่งชาติให้กับคนในครอบครัวหรือเพื่อนๆ ได้
6. นักเรียนมีการสอบถาม พูดคุยกับผู้อื่นถึงการปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติ
3 2 1
แห่งชาติเพื่อทาความเข้าใจให้ถูกต้องยิ่งขึ้น
การจัดการตนเองตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ
3 2 1
7. นักเรียนมีการประเมินคุณค่าทางโภชนาการของอาหารที่กินแต่ละมื้อ
8. นักเรียนเล่นกีฬาหรือออกกาลังกายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 3 2 1
9. นักเรียนเตือนตนเองให้ดูแลสุขอนามัยทุกวัน เช่น แปรงฟันเช้า-ก่อนนอน สวมใส่
3 2 1
เสื้อผ้าที่ซักสะอาด ล้างมือด้วยน้าและสบู่ หมั่นเปลี่ยนผ้าปูนอน เป็นต้น
10.นักเรียนเชื่อฟังพ่อแม่ คุณครูที่คอยเตือนให้มีสติ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ สุรา
3 2 1
ยาเสพติด และการพนัน
11.เมื่อไม่สบายใจ นักเรียนมีวิธลี ดความไม่สบายใจที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ออกกาลัง
3 2 1
กาย เล่นดนตรี นั่งสมาธิ มีอารมณ์ขัน เล่นกีฬา เป็นต้น
12.นักเรียนมีส่วนร่วมปรับสภาพแวดล้อมในบ้าน หรือรอบบ้าน หรือในชุมชน เพื่อ
3 2 1
ป้องกันโรคภัยต่างๆ
การรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ
13.เมื่อสนใจสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพที่โฆษณาทางโทรทัศน์ นักเรียนจะหาข้อมูล 3 2 1
เพิ่มเติมที่ถูกต้องจากหลายแหล่ง ก่อนตัดสินใจซื้อ
14.เมื่อสนใจสินค้าที่โฆษณาจากป้ายโฆษณาหรือจากเว็บไซต์ นักเรียนจะหาข้อมูล
3 2 1
เพิ่มเติมเพื่อประเมินความน่าเชื่อถือ ก่อนตัดสินใจซื้อ
15.เมื่อเห็นโฆษณาสินค้าในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร นักเรียนจะหาข้อมูลเพิ่มเติม
3 2 1
เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือ ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า
26
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
27
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
4. นักเรียนดื่มน้าอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีรสหวาน
(1) (2) (3) (4) (5)
5. นักเรียนวิ่งเล่นหรือออกกาลังกายได้อย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน
5 4 3 2 1
6. นักเรียนดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่ หรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่กาลังสูบ
บุหรี่ (1) (2) (3) (4) (5)
7. นักเรียนทาจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส
5 4 3 2 1
8. นักเรียนทากิจกรรมพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันใน
ครอบครัว อย่างใกล้ชิด เช่นทางานบ้าน กินข้าว ไปเที่ยว เล่นเกม
5 4 3 2 1
เป็นต้น
28
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ตารางที่ 5 สรุปคะแนนรวมแต่ละองค์ประกอบของความรอบรู้ด้านสุขภาพตามสุขบัญญัติแห่งชาติ
องค์ประกอบการวัด ช่วงคะแนน ระดับ แปลผล
1.ความรู้ความ 0 - 5 คะแนน หรือ ไม่ถูกต้อง รู้และเข้าใจในสุขบัญญัติแห่งชาติน้อยมาก
เข้าใจทางสุขภาพ <60% ของคะแนนเต็ม ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติตนเพื่อสุขภาพที่ดี
(10 ข้อๆละ 6 คะแนน หรือ ถูกต้องบ้าง รู้และเข้าใจในสุขบัญญัติแห่งชาติถูกต้องเป็นส่วน
1 คะแนน ≥60 – <70% น้อย ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติตนเพื่อสุขภาพที่ดี
ของคะแนนเต็ม
เต็ม 10 คะแนน) 7 คะแนน หรือ ถูกต้อง รู้ และเข้ าใจในสุ ขบั ญญั ติ แห่ งชาติ ถู กต้ องเป็ น
≥70 – <80% ส่วนมาก เพียงพอต่อการปฏิบัติตนเพื่อสุขภาพที่ดี
ของคะแนนเต็ม
8 - 10 คะแนน หรือ ถูกต้องที่สุด รู้และเข้ าใจในสุ ขบั ญญั ติ แห่ งชาติ อย่ างถู กต้ อง
≥80% ของคะแนนเต็ม เพี ยงพอต่ อการปฏิ บั ติ ตนเพื่ อสุ ขภาพที่ ดี อย่ าง
ยั่งยืน
0 - 5.39 คะแนน หรือ ไม่ดี ยังมีปัญหาในการแสวงหาข้อมูลและบริการสุขภาพ
2.การเข้าถึงข้อมูล
<60% ของคะแนนเต็ม จากหลายแหล่ ง ที่ น่ า เชื่ อ ถื อ เพี ย งพอต่ อ การ
สุขภาพ
ตัดสินใจ
(3 ข้อๆละ
5.40 – 6.29 คะแนน พอใช้ สามารถแสวงหาข้อมูลและบริการสุขภาพได้ บ้าง
3 คะแนน
หรือ ≥60 – <70% แต่ยังไม่สามารถนามาใช้ตัดสินใจให้ถูกต้องแม่นยา
เต็ม 9 คะแนน)
ของคะแนนเต็ม ได้
6.30 – 7.19 คะแนน ดี สามารถแสวงหาข้อมูลและบริการสุขภาพจากหลาย
หรือ ≥70 – <80% แหล่งที่น่าเชื่อถือได้ และนามาใช้ตัดสินใจได้
ของคะแนนเต็ม
7.20 – 9 คะแนน ดีมาก สามารถแสวงหาข้อมูลและบริการสุขภาพจากหลาย
หรือ ≥ 80% แหล่ งที่ น่ าเชื่ อถื อได้ มากพอต่ อการตั ดสิ นใจที่
ของคะแนนเต็ม ถูกต้องแม่นยาได้
0 - 5.39 คะแนน หรือ ไม่ดี ยังมีปัญหาในด้านทักษะการฟัง การอ่าน การเขียน
3.การสื่อสาร
<60% ของคะแนนเต็ม และการเล่าเรื่อง/โน้มน้าวผู้อื่นให้เข้าใจในการปฏิบัติ
สุขภาพ
ตนเพื่อสุขภาพตนเองได้
(3 ข้อๆละ
5.40 – 6.29 คะแนน พอใช้ สามารถที่จะฟัง พูด อ่านเขียนเพื่อสื่อสารให้ตนเอง
3 คะแนน
หรือ ≥60 – <70% และผู้อื่นเข้าใจและยอมรับการปฏิบัติได้บ้างแต่ยังไม่
เต็ม 9 คะแนน)
ของคะแนนเต็ม เชี่ยวชาญพอ
6.30 – 7.19 คะแนน ดี สามารถที่จะฟัง พูด อ่านเขียนเพื่อสื่อสารให้ตนเอง
29
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
30
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
31
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
2.5 วิธีการบันทึกข้อมูลและการแปลผล
จากแบบประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพ และพฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติแห่งชาติของกลุ่มเด็กและ
เยาวชน (อายุ 7-14 ปี) (Download ได้ที่ www.hed.go.th)
คาชี้แจง
1. การบั น ทึ ก ข้อ มูล ตามแบบประเมิ นความรอบรู้ ด้ านสุ ข ภาพและพฤติก รรมสุ ข ภาพตามสุ ข บัญ ญั ติ
แห่ งชาติกลุ่ มเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี) เป็นการบันทึกผ่านโปรแกรมคอมพิว เตอร์ (Microsoft
Excel) ในไฟล์ชื่อ Program HL-HB anlysis สุขบัญญัติแห่งชาติ.xls
2. รายละเอียดรหัสการบันทึกข้อ แสดงตามคู่มือการลงรหัสบันทึกข้อมูล
3. ส่วนประกอบของ ไฟล์ข้อมูล Program HL-HB anlysis สุขบัญญัติแห่งชาติ.xls
3.1 sheet ที่ 1 (คาอธิบาย) อธิบายการใช้โปรแกรมประเมินผล (ตัวอย่างแสดงตามภาพที่ 1)
3.3 sheet ที่ 2 (บันทึกข้อมูล) สาหรับใช้บันทึกข้อมูลจากการสาหรับตามแบบประเมิน (สามารถ
บันทึก/แก้ไข/เปลี่ยนแปลง ข้อมูลได้) โดยกาหนดให้บันทึกได้สูงสุด 50,000 คน/แบบประเมิน (ตัวอย่าง
แสดงตามภาพที่ 2)
3.4 sheet ที่ 3 (ข้อมูลทั่วไป) สาหรับดูการแปลผลข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบประเมิน ประกอบด้วย
เพศ อายุ และ ผู้ที่ถ่ายทอดความรู้เรื่องสุขบัญญั ติแห่งชาติให้กับเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี) (ผู้บันทึก
ข้อมูลไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ เป็นการนาผลจาก sheet ที่ 2 (ตัวอย่างแสดงตามภาพที่ 3)
3.5 sheet ที่ 4 (ผลการประเมิน) สาหรับดูการแปลผลการประเมิน (ผู้บันทึกข้อมูลไม่สามารถแก้ไข
ข้อมูลได้ เป็นการนาผลจาก sheet ที่ 2 มาแปลผลคะแนนและแบ่งระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพและ
พฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติแห่งชาติ ทั้งรายด้านและภาพรวม) (ตัวอย่างแสดงตามภาพที่ 4)
3.6 sheet ที่ 5 (ข้อมูลผู้ตอบ) สาหรับดูการข้อมูลผู้ตอบแบบประเมิน (ผู้บันทึกข้อมูลไม่สามารถแก้ไข
ข้อมูลได้ เป็นการนาผลจาก sheet ที่ 2 มาแปลผล) (ตัวอย่างแสดงตามภาพที่ 5)
32
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
33
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
34
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ขั้นตอนการบันทึกข้อมูล
1. ตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ของการตอบแบบประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรม
สุขภาพตามสุขบัญญัติแห่งชาติของกลุ่มเป้าหมาย
2. ลงรหัสข้อมูลที่ได้จากการตอบแบบประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพตามสุข
บัญญัติแห่งชาติ (ตามรายละเอียดการลงรหัสข้อมูล ในคู่มือการลงรหัสบันทึกข้อมูล)
3. เปิดไฟล์จากโปรแกรม Microsoft Excel (Program HL-HB anlysis สุขบัญญัติแห่งชาติ.xls) ใน
sheet ที่ 2 (บันทึกข้อมูล) เพื่อทาการบันทึกข้อมูล ทั้งนี้ ในการเปิดใช้ไฟล์โปรแกรมครั้งแรกจะไม่ปรากฏ
ข้อมูลใดๆ ใน sheet ผู้บันทึกข้อมูลต้องคีย์/พิมพ์ ข้อมูลตามรหัสข้อมูลที่ได้ลงไว้แล้วตามขั้นตอนที่ 2 โดยแนว
คอลัมน์จะแสดงชื่อตัวแปร/ชื่อข้อคาถาม ส่วนในแนวแถวจะแสดงจานวนผู้ตอบแบบประเมิน (แสดงตามภาพที่
6)
35
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
แนวคอลัมน์ (Colum)
แนวแถว (Row)
ภาพที่ 6 แสดงหน้าต่างสาหรับการบันทึกข้อมูล
36
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
คี ย์ ข้ อ มู ล เรี ย งตามแนวคอลั ม น์
(จากซ้ายไปขวา) เรียงตามลาดับ
ตัวแปร/ข้อคาถาม
ภาพที่ 7 แสดงข้อมูลที่ได้จากการคีย์/พิมพ์
37
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
38
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ภาพที่ 10 แสดงการแปลผลการข้อมูลผู้ตอบแบบประเมิน
39
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ส่วนที่ ๓
แนวทางการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ตาม 3อ. 2ส. ของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
การด าเนิ น งานเสริ ม สร้ า งความรอบรู้ ด้ า นสุ ข ภาพและปรั บ เปลี่ ย นพฤติ ก รรมสุ ข ภาพของ
ประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชน ให้มีความรอบรู้ด้านสุขภาพและมีพฤติกรรม
สุขภาพตาม 3อ.2ส. โดยการใช้กระบวนการมีส่วนร่วมขององค์กรในหมู่บ้าน/ชุมชน และภาคประชาชน ใน
การขับเคลื่อนและดาเนินงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งหวัง พัฒนายกระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพและ
พฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส. ที่ถูกต้องตามเกณฑ์ คือ พฤติกรรมการกินผัก และผลไม้สด ลดอาหารหวาน มัน
เค็ม พฤติกรรรมการออกกาลั งกาย พฤติกรรมการจัดการความเครียด พฤติกรรมการสู บบุห รี่ และ
พฤติกรรมการดื่มสุรา อันจะส่งผลต่อการดูแลสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดความยั่งยืน
40
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
เป้าหมาย/กรอบการดาเนินงาน
จากเกณฑ์ ก ารประเมิ น หมู่ บ้ า นจั ด การสุ ข ภาพระดั บ ดี เ ยี่ ย ม ได้ ก าหนดเกณฑ์ ก ารประเมิ น
ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ในหมู่บ้าน/ชุมชน คือ ร้อย
ละ 70 ของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปมีความรอบรู้ด้านสุขภาพในระดับพอใช้ขึ้นไป และร้อยละ 70 ของ
ของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องในระดับพอใช้ขึ้นไป ซึ่งประชาชนที่มีอายุ 15
ปี ขึ้น ไปจะมีค วามรอบรู้ ด้ านสุ ขภาพและมีพฤติกรรมสุ ขภาพที่ ถูก ต้องเพื่อ ป้อ งกัน และลดโรคทั้งที่ เป็ น
โรคติดต่อและไม่ติดต่อได้นั้น จาเป็นต้องได้รับการพัฒนาและมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านสุขภาพ โดยการ
สร้างโอกาสการเรียนรู้ด้านสุขภาพและจัดปัจจัยแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ด้านสุขภาพที่หลากหลาย
เหมาะสมและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน เพื่อนาไปสู่การบรรลุเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งแนวทางการเสริมสร้าง
ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ ดังนี้
41
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กวัยเรียน และกลุ่มวัยทางาน
3 รวบรวมข้อมูล
การเก็บ
- ส่งเสริมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มในการแลกเปลี่ยน 2. เก็บก่อนดาเนินการ(ถ้ามี) และหลังดาเนินการ
เรียนรู้ด้านสุขภาพ 1. วิเคราะห์โดยเจ้าหน้าที่ รพ.สต.
- จัดโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ 2. สถิติที่ใช้ จานวน ร้อยละและค่าเฉลี่ย
- ส่งเสริมการเรียนรู้ประสบการณ์ของบุคคลต้นแบบที่ดีด้านสุขภาพ 3. ใช้โปรแกรมการวิเคราะห์ (Microsoft Excel)
4 วิเคราะห์ผล
ประมวล/
4.เฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพด้วยตนเองเพื่อจัดการพฤติกรรมเสีย่ ง 4.แปลผลจากตารางเกณฑ์ให้คะแนนในคู่มือการปะเมิน
จัดปัจจัยแวดล้อมทีเอือ้ ต่อการปรับพฤติกรรม 1. สรุปโดยเจ้าหน้าที่รพ.สต.
2. คืนข้อมูลให้กับหมู่บ้าน และชี้ให้เห็นถึงประเด็น
1. จัดปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง ที่ยังปฏิบัติไม่ถูกต้อง
2. จัดหาสื่อ/ช่องทางการสื่อสารสุขภาพที่ทันสมัยเข้าถึงได้ง่ายสะดวก
3. มีแหล่งเรียนรู้และสถานที่ในการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
3.เฝ้าระวังสื่อสาธารณะเพื่อให้สามารถรูเ้ ท่าทันสื่อ
5 สรุปผล 3. นาข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนางาน
4.แปลผล จากตารางเกณฑ์ให้คะแนนในคูม่ ือการปะเมิน
ประเมินยกระดับ
4.กาหนดมาตรการทางสังคมหรือข้อตกลงร่วมเพื่อถือปฏิบตั ิร่วมกัน ข้อมูล HL- HB
เจ้าหน้าทีรพ.สต.และทีมพัฒนาหมู่บ้านร่วมกัน หมู่บ้านจัดการ ต่าบลจัดการ
“ระดับดีเยียม” “ระดับดีมาก”
ปรับกิจกรรม ปรับกิจกรรมเพือแก้ปัญหาในประเด็นทีประชาชน
ยังปฏิบัติไม่ถูกต้อง ระดับไม่ดี ฐานข้อมูล HL - HB
42
จัดกิจกรรมอย่างต่อเนือง ฉบับปรับปรุง ปี 2561
ระดับพอใช้ ระดับต่าบล
ที่มา: กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, 2559 ระดับจังหวัด
ระดับดีมาก ระดับเขต
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
แนวทางการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
1. กระบวนการจัดกิจกรรมทางการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ในการดาเนินงานให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพที่ดีและพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องได้นั้น
ต้องมีการดาเนินงานทั้งการจัดกิจกรรมให้เกิดการเรียนรู้ ควบคู่กับการจัดปัจจัยแวดล้อมในครอบครัว และ
ชุมชนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ด้านสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
1.1. สร้างโอกาสการเรียนรู้ด้านสุขภาพที่หลากหลายรูปแบบและเหมาะสมกับประชาชน
กลุ่มวัยทางาน ซึ่งในการดาเนินให้ประชาชนวัยทางานเกิดการเรียนรู้ด้านสุขภาพอย่างถูกต้อง มีแนวทาง
การดาเนินงาน ดังนี้
1. ด าเนิ น การสื่ อสารความรู้ ด้ านสุ ข ภาพที่ ส อดคล้ อ งกั บข้ อมู ล ความต้ องการของประชาชน
กลุ่มวัยทางานผ่านช่องทางและสื่อท้องถิ่น ซึ่งมีการดาเนินการ ดังนี้
1) ประเมินและวิเคราะห์การรับรู้ ความต้องการข้อมูลข่าวสารของประชาชน/แหล่งข้อมูลใน
ชุมชนด้านสุขภาพ
2) ดาเนินการสื่อสารความรู้ด้านสุขภาพให้สอดคล้องกับข้อมูลความต้องการของประชาชน
กลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางต่างๆเช่น สื่ อบุคคล สื่อท้องถิ่น สื่อมวลชน ประสานและสร้างความร่วมมือ
เครือข่ายสื่อมวลชน สื่อท้องถิ่นในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารความรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้องให้กับประชาชน
3) รณรงค์สร้างกระแสการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้อง
2. ส่งเสริม พัฒนาทักษะการสื่อสารด้านสุขภาพให้กับประชาชน การเสริมทักษะการสื่อสาร
ด้านสุขภาพ เพื่อเพิ่มความรอบรู้ด้านสุขภาพให้กับประชาชน ด้วยการจัดให้มีกิจกรรมสื่อสารสองทางใน
ชุมชนโดยชุมชน เพื่อให้ได้รับข้อมูลด้านสุขภาพ ผ่านวิธีการที่หลากหลาย เช่น ชุมชนนักปฏิบัติ ฐานเรียนรู้
3. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านสุขภาพที่หลากหลายรูปแบบ เช่น
1) จั ดกิจ กรรมเสริมสร้ างความรู้ ความเข้าใจด้านสุ ขภาพในรูปแบบที่ห ลากหลาย เช่น
การบรรยาย การสาธิต การฝึกทักษะ เป็นต้น
2) ส่งเสริมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความรู้ ความเข้าใจ
ด้านสุขภาพอย่างสม่าเสมอ เช่น ชมรมสร้างสุขภาพ/กลุ่มต่างๆ
3) จัดโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนได้ฝึกปฏิบัติตนเองในการ
ดูแลสุขภาพของตนเอง เช่น โปรแกรมลดพุง งดบุหรี่ สุรา ลดหวาน มัน เค็ม เป็นต้น
๔) ส่งเสริมการเรียนรู้จากประสบการณ์ของบุคคลต้นแบบ หรือบุคคลที่เป็นแบบอย่างที่ดี
ด้านสุขภาพ เช่น เรื่องเล่าจากประสบการณ์ การจัดเวทีประชาคม
43
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
44
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
45
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
46
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
2.สามารถสื่อสารข้อมูลความรู้ - จัดเวทีประชาคมให้ประชาชนได้เข้ามีส่วน
47
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
51
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
แนวทางการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ของประชาชนทีมีอายุ 15 ปีขึ้นไป
1. เกณฑ์การประเมินผลลัพธ์ ประกอบด้วย
2. แนวทางการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้น
ไป
การประเมินความรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปเป็นการ
ประเมินเพื่อให้ทราบระดับ ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ ครอบคลุมประเด็น 3อ.2ส. โดย
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกับ อสม.และทีมสุขภาพ ทาการเก็บรวบรวมข้อมูลกับประชาชนกลุ่มตัวอย่าง
และประมวล วิเคราะห์ผลตามเกณฑ์ แล้วสรุปผลในภาพรวมของหมู่บ้าน/ชุมชนเพื่อนามาเทียบเกณฑ์การ
ประเมินที่กาหนด ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
2.1 คาอธิบายความหมายของเกณฑ์
52
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
จานวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดที่ได้รับการประเมิน
53
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
กองสุ ข ศึกษา กรมสนั บ สนุ น บริก ารสุ ขภาพ ร่ว มกับ สถาบัน พฤติก รรมศาสตร์ มหาวิ ทยาลั ย
ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ได้สร้างและพัฒนาเครื่องมือวัดระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรม
สุขภาพ 3อ.2ส. เพื่อให้เจ้าหน้าที่และทีมพัฒนาหมู่บ้านจัดการสุขภาพ ใช้ในการประเมินความรอบรู้ด้าน
สุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป รวมทั้งจัดทาคู่มือการประเมิน เพื่อเป็น
แนวทางในการด าเนิ น การประเมิ น การเก็ บ รวบรวมข้ อ มู ล การประมวลและการวิ เ คราะห์ ผ ล ให้ มี
ประสิทธิภาพ ถูกต้อง เชื่อถือได้
2.2.1. ขอบเขตเครื่องมือการประเมิน
ขอบเขต รายละเอียด
55
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
2.2.2. การกาหนดกลุ่มประชากร/กลุ่มตัวอย่างการประเมิน
1.ประชากร
ของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปในหมู่บ้านเป้าหมาย โดยเฉลี่ยประมาณ 570 คนต่อ 1
หมู่บ้าน (โดยเทียบจากข้อมูลโครงสร้างประชากรประเทศไทยร้อยละ 66.2 ของประชากร 65 ล้านคน หาร
ด้วย 74,956 หมู่บ้าน) แต่ทั้งนี้ประชากรในวัยทางานประมาณ 65 % ไปทางานและอาศัยอยู่ในเมืองหรือนอก
หมู่บ้านตนเอง จึงไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมสุขภาพในหมู่บ้านจัดการสุขภาพ จึงคิดเป็นประชากรวัยทางาน
ที่อาศัยในหมู่บ้านเท่ากับ 570 คูณด้วย 35% เท่ากับโดยประมาณ 200 คน
2.ขนาดกลุ่มตัวอย่าง
1. การกาหนดขนาดตัวอย่างของหมู่บ้านจัดการสุขภาพ (N= หมู่บ้าน)
ใช้ขนาดตัวอย่างขั้นต่าสุด หมู่บ้านละ 50 คน ในกรณีที่หมู่บ้านใดมีประชากรไม่ถึงให้เก็บ
ข้อมูลทุกคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย
2. การกาหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของตาบลจัดการสุขภาพ (N= ตาบล)
ใช้ขนาดกลุ่มตัวอย่างในภาพรวมของตาบล โดยสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Randomized
Simpling) โดยกาหนดให้กลุ่มคือ หมู่บ้านและกาหนดขนาดตัวอย่างที่ใส่เป็นตัวแทนระดับตาบลคิดเป็น 50%
ของจานวนหมู่บ้านทั้งหมดของตาบลนั้น โดยขนาดตัวอย่างขั้นต่าสุดหมู่บ้านละ 50 คน
2.2.3 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
ผู้ทาหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลคือ บุคลากรสาธารณสุข หรือ อสม. หรือประชาชนอาสาสมัคร ที่ได้
รับคาชี้แจงและคาอธิบายจากบุคลากรสาธารณสุขถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูล และวิธีการตอบแบบ
ประเมินเพื่อให้ครบทุกข้อและให้รู้วิธีลงรหัสข้อมูลในตาราง Microsoft excel ร่วมด้วย
ถ้าผู้ตอบรู้หนังสืออ่านออกเขียนได้ ให้สามารถทาแบบประเมิ นได้ด้วยตนเอง หรือผู้เก็บรวบรวม
ข้อมูลต้องเป็นผู้อ่านหรือสัมภาษณ์ และให้ผู้ตอบระบุคาตอบให้
2.2.4 วิธีการประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูล
1. ผู้วิเคราะห์ ควรเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล (รพ.สต.)
2. สถิติที่ใช้ จานวน ร้อยละ และค่าเฉลี่ย
3. การใช้โปรแกรมการวิเคราะห์คือ Microsoft Excel หรือ คานวณด้วยสูตรสมการ
4. การแปลผล โดยพิจารณาจากตารางเกณฑ์ให้คะแนนจาแนกความรอบรู้ด้านสุขภาพและ
พฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส.
56
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
57
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
5. อนุปริญญา/ปวส. = 5
6. ปริญญาตรีขึ้นไป = 6
5. ลักษณะงานหลัก (อาชีพ) ที่ทาในชีวิตประจาวันเป็นแบบใด (job)
1. ใช้แรง เช่น ทาไร่ ทานา ทาสวน รับจ้างทั่วไป เป็นต้น = 1
2. ค้าขาย/ทาธุรกิจ = 2
3. รับราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ = 3
4. พนักงานโรงงาน/บริษัท/เอกชน = 4
5. นักเรียน/นักศึกษา = 5
6. อยู่บ้านไม่ได้มีอาชีพ/เป็นแม่บ้าน/ทางานบ้าน = 6
7. อื่นๆ ระบุ........................................
5. บุคคลในข้อใดที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากการสูบบุหรี่สูงที่สุด (know5)
ก. ด.ช.นิด กินข้าวพร้อมกับพ่อที่สูบบุหรี่เกือบทุกมื้อ ตอบถูกให้ = 1
ข. นายน้อย สูบบุหรี่ไปคุยไป ตอบผิดให้ = 0
ค. นางสาวแดง ลองหัดสูบบุหรี่ ตามคาชวนของเพื่อน ตอบผิดให้ = 0
ง. นายชด สูบบุหรี่ทุกครั้งเมื่อมีความเครียด ตอบผิดให้ = 0
6. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลกระทบต่อปัญหาใดมากที่สุด (know6)
ก. โรคตับแข็ง ความดันโลหิตสูง อุบัติเหตุ ตอบถูกให้ = 1
ข. โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ตอบผิดให้ = 0
ค. โรคอ้วน โรคกระเพาะ โรคปอด ตอบผิดให้ = 0
ง. โรคมะเร็ง โรคเครียด โรคไตวายเฉียบพลัน ตอบผิดให้ = 0
59
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ความถี่ในการปฏิบัติ
ข้อความ นานๆ ไม่ได้
ทุกครั้ง บ่อยครั้ง บางครั้ง
ครั้ง ปฏิบัติ
การจัดการตนเองตามหลัก 3อ. 2ส.
6.ท่านประเมินปริมาณและคุณค่าอาหารที่กินในแต่ละมื้อพร้อม
วางแผนออกกาลังของตนเองให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ บ่อยครั้ง 5 4 3 2 1
แค่ไหน
7. ท่านประเมินสภาวะอารมณ์ของตนเอง ถ้าพบว่าเครียด ท่าน
สามารถจัดการเพื่อลดความเครียดนั้นลงด้วยวิธีที่ดีต่อสุขภาพ 5 4 3 2 1
ของท่าน
8.ท่านมีการจัดสภาพแวดล้อมรอบตัวเองเพื่อให้ท่านปฏิบัติตนใน
การดูแลสุขภาพตนเองตาม 3อ.2ส. ให้ได้มากขึ้น บ่อยครั้งแค่ 5 4 3 2 1
ไหน
การรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศตามหลัก3อ.2ส.
9.เมื่อท่านสนใจในสินค้าที่โฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ท่านหาข้อมูลเพิ่ม
จากหลายแหล่งเพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ก่อนตัดสินใจซื้อ 5 4 3 2 1
บ่อยครั้งแค่ไหน
10.ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมหรือก่อนยอมรับข้อมูล/สินค้า ท่านได้
วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย เพื่อประเมินเนื้อหาโดยไม่เชื่อหรือปฏิบัตติ าม 5 4 3 2 1
ทันที บ่อยครั้งแค่ไหน
ง. หยุดออกกาลังกายไปพร้อมๆ กับเพื่อน = 1
3. หากท่านไปงานแต่งงาน แล้วเพื่อนชวนดื่มสุราหรือสูบบุหรี่ ท่านจะปฏิบัติตนอย่างไร (choice3)
ก. ตอบรับตามคาชวนของเพื่อนทันที เพื่อไม่ให้เสียความเป็นเพื่อนไป = 1
ข. ดื่มหรือสูบด้วยบ้างแต่พอเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เสียมารยาท = 2
ค. ปฏิเสธพร้อมให้เหตุผลถึงความไม่ปลอดภัยต่อตนเองและคนรอบข้าง = 4
ง. นั่งเป็นเพื่อนได้โดยไม่ดื่มหรือสูบตามคาชวน เพื่อคอยช่วยเพื่อนเมื่อจาเป็น = 3
2. ท่านกินผักและผลไม้สด สะอาดเสมอวันละอย่างน้อย
ครึ่งกิโลกรัม บ่อยแค่ไหน 5 4 3 2 1
3. ท่านออกกาลังกาย หรือเคลื่อนไหวต่อเนื่องจนรู้สึกเหนื่อย มี
เหงื่อออก บ่อยแค่ไหน 5 4 3 2 1
4. ท่านมีการจัดการความเครียดของตนเองด้วยการมองโลก ใน
แง่ดีเสมอ บ่อยแค่ไหน 5 4 3 2 1
61
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
62
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
63
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
64
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
คาชี้แจง
1. การบันทึกข้อมูลตาม แบบประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส. ของประชาชน
ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป เป็นการบันทึกผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Microsoft Excel) ในไฟล์ชื่อ Program
HL-HB anlysis 3อ.2ส.xls
2. รายละเอียดรหัสการบันทึกข้อ แสดงตามคู่มือการรหัสบันทึกข้อมูล
3. ส่วนประกอบของ ไฟล์ข้อมูล Program HL-HB anlysis 3อ.2ส.xls
3.1 sheet ที1่ (คาอธิบาย)อธิบายการใช้โปรแกรมประเมินผล(ตัวอย่างแสดงตามภาพที่ 11)
3.2 sheet ที่ 2 (ประเภทผู้ตอบ) สาหรับใช้บันทึกประเภทของผู้ตอบแบบประเมิน ข้อมูลจากการ
สาหรับตามแบบประเมินฯ (ตัวอย่างแสดงตามภาพที่ 12)
3.3 sheet ที่ 3 (บันทึกข้อมูล) สาหรับใช้บันทึกข้อมูลจากการสาหรับตามแบบประเมินฯ (สามารถ
บัน ทึก/แก้ไข/เปลี่ ยนแปลง ข้อมูล ได้) โดยกาหนดให้บันทึกได้สู งสุ ด 50,000 คน/แบบประเมิน
(ตัวอย่างแสดงตามภาพที่ 13)
3.4 sheet ที่ 4 (ข้อมูลทั่วไป) สาหรับดูการแปลผลข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบประเมิน ประกอบด้วย
เพศ ช่วงอายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา และ ลักษณะงานหลักที่ทาในชีวิตประจาวัน(ผู้บันทึกข้อมูล
ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ เป็นการนาผลจาก sheet ที่ 3 (ตัวอย่างแสดงตามภาพที่ 14)
3.5 sheet ที่ 5 (ผลการประเมิน) สาหรับดูการแปลผลการประเมินฯ (ผู้บันทึกข้อมูลไม่สามารถแก้ไข
ข้อมูลได้ เป็นการนาผลจาก sheet ที่ 3 มาแปลผลคะแนนและแบ่งระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพและ
พฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติแห่งชาติ ทั้งรายด้านและภาพรวม) (ตัวอย่างแสดงตามภาพที่ 15)
3.6 sheet ที่ 6 (ข้อมูลผู้ตอบ) สาหรับดูการข้อมูลผู้ตอบแบบประเมินฯ (ผู้บันทึกข้อมูลไม่สามารถ
แก้ไขข้อมูลได้ เป็นการนาผลจาก sheet ที่ 3 มาแปลผล) (ตัวอย่างแสดงตามภาพที่ 16)
65
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
66
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
67
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
68
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ขั้นตอนการบันทึกข้อมูล
1. ตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ของการตอบแบบประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและ
พฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส. ของกลุ่มเป้าหมาย
2. ลงรหัสข้อมูลที่ได้จากการตอบแบบประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส.
(ตามรายละเอียดการลงรหัสข้อมูล ในคู่มือการลงรหัสบันทึกข้อมูล)
3. เปิดไฟล์จากโปรแกรม Microsoft Excel(ไฟล์ชื่อ Program HL-HB anlysis 3อ.2ส.xls)
ใน sheet ที่ 1 จะอธิบายการใช้โปรแกรมประเมินผลเพื่อให้ผู้ใช้โปรแกรมรับทราบ ใน sheet ที่ 2 ผู้บันทึก
ข้อมูลจะต้องเลือกประเภทของผู้ตอบแบบประเมินข้อมูลจากการสาหรับตามแบบประเมินฯ ได้เพียง 1
ประเภทเท่านั้นในการวิเคราะห์ข้อมูล (ตัวอย่างแสดงตามภาพที่ 17)
เลือกประเภทผู้ตอบ
ภาพที่ 17 แสดงหน้าต่างการเลือกประเภทของผู้ตอบแบบประเมิน
69
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
แนวคอลัมน์ (Colum)
แนวแถว (Row)
ภาพที่ 18 แสดงหน้าต่างสาหรับการบันทึกข้อมูล
คี ย์ ข้ อ มู ล เรี ย งตามแนวคอลั ม น์
(จากซ้ายไปขวา) เรียงตามลาดับ
ตัวแปร/ข้อคาถาม
ภาพที่ 19 แสดงข้อมูลที่ได้จากการคีย์/พิมพ์
71
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
72
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ภาพที่ 22 แสดงการแปลผลการข้อมูลผู้ตอบแบบประเมิน
73
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
การนาข้อมูลผลการประเมินไปใช้ในการเสริมสร้างความรอบรูด้ ้านสุขภาพและ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
จากการสรุปผลการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ จะทาให้
ทราบว่า สถานะความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของตนเองอยู่ในระดับใด ทั้ง 4 ระดับ ซึ่งใน
แต่ละระดับมีแนวทางการปฏิบัติเพื่อยกระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของตนเองให้อยู่
ระดับที่ดีขึ้นหรือมีการปฏิบัติที่ยั่งยืน
ตารางที่ 14 แสดงแนวทางการปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ผลการประเมิน แนวทางการปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ผลการประเมิน แนวทางการปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ระดับชุมชน
1. รณรงค์ ส ร้ า งกระแสให้ เ กิ ด ความตระหนั ก ต่ อ การเสริ ม สร้ า งความรอบรู้ ด้ า นสุ ข ภาพและ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
2. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านสุขภาพที่หลากหลายรูปแบบและเหมาะสมกับประชาชนกลุ่มวัย
ทางานอย่างต่อเนื่อง
3. จัดปัจจัยแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ด้านสุขภาพ เช่น จัดหาสื่อ/ ช่องทางการสื่อสารสุขภาพที่
ทันสมัย เข้าถึงได้ง่าย ตลอดเวลา มีแหล่งเรียนรู้และสถานที่ในการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
4. ประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของชุมชนและคืนข้อมูลให้กับชุมชน
ชี้ให้ เห็ น ถึงประเด็น ที่ยั ง ปฏิบั ติไ ม่ถูก ต้อง พร้ อมเสนอแนะแนวทางการพั ฒ นาและปรั บเปลี่ ย น
กิจกรรมการเรียนรู้ด้านสุขภาพเพื่อการแก้ปัญหา
ระดับพอใช้ กลุ่มประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับพอใช้ : เป็นผู้ที่มีระดับความรอบรู้ด้าน
สุขภาพที่เพียงพอ และอาจจะมีการปฏิบัติตนตาม 3อ.2ส. ได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่สม่าเสมอ
ซึ่งการปฏิบัติที่ไม่สม่าเสมอจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้
ดังนั้น เพื่อให้มีความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มากเพียงพอและมีพฤติกรรมการปฏิบัติตนในการ
ดูแลสุขภาพตนเองตาม 3อ.2ส. ได้อย่างถูกต้องสม่าเสมอและไม่ให้ป่วย จึงจาเป็นที่จะต้องพัฒนา
และปรับเปลี่ยน โดย
ระดับบุคคล
1. ต้องเพิ่มความพยายามในการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
สุขภาพตนเองให้ถูกต้องตาม 3อ.2ส. มากขึ้น และมีการปฏิบัติอย่างสม่าเสมอ
2. แสวงหาความรู้จากแหล่งที่น่าเชื่อถือเพิ่มเติมและนามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติตนด้านสุขภาพ
เช่น การเรียนรู้จากบุคคลต้นแบบ ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เป็นแนวปฏิบัติที่ดี
3. เฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงของตนเอง มีการวางแผนปฏิบัติตนเพื่อจัดการกับพฤติ กรรมเสี่ยงให้
ถูกต้องมากขึ้น
ระดับชุมชน
1. ส่งเสริมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านสุขภาพ เพื่อให้กลุ่มคน
ที่ส นใจพัฒ นาตนเองในประเด็นเดียวกันได้รวมกลุ่ มกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และจัดกิจกรรมสร้าง
ประสบการณ์โดยตรง
2. ส่งเสริม สนับสนุนการจัดปัจจัยเอื้อต่อการเสริมสร้างความรอบรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
อย่างต่อเนื่อง เช่น
- มีแหล่ งเรี ย นรู้ ห รื อ ฐานการเรียนรู้ด้านสุ ขภาพของชุมชน ซึ่งเป็นแหล่งจัดเก็บและการนา
องค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เป็นแนวปฏิบัติที่ดี
75
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ผลการประเมิน แนวทางการปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
(Best practice) ที่ประชาชนในชุมชนสามารถนาความรู้มาใช้ในการปฏิบัติได้
-กาหนดและบังคับใช้มาตรการทางสังคมหรือข้อตกลงร่วมเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
ระดับดี กลุ่มประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับดี : เป็นผู้ที่มีระดับความรอบรู้ด้าน
สุขภาพที่เพียงพอและสามารถดูแลสุขภาพตาม 3อ 2ส ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งต้องปฏิบัติตนอย่าง
สม่าเสมอเพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคเรื้อรัง
ระดับบุคคล
1. หาความรู้เพิ่มเติมและปฏิบัติตนในการดูแลสุขภาพอย่างสม่าเสมอ
2. แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่ดีกับบุคคลอื่น
3. เป็นตัวอย่างในการดูแลสุขภาพ
ระดับชุมชน
1. จัดกิจกรรมด้านสุขภาพและกิจกรรมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคคลอื่นในชุมชน
2. ส่งเสริมการมีกลุ่ม ชมรมด้านสุขภาพและสนับสนุนการจัด/มีกิจกรรม
3. จัดปัจจัยแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
ระดับดีมาก กลุ่มประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีมาก : เป็นผู้ที่มีระดับความรอบรู้
ด้านสุขภาพที่มากเพียงพอและมีพฤติกรรมการปฏิบัติตนในการดูแลสุขภาพตนเองตาม 3อ.2ส. ได้
อย่างถูกต้องสม่าเสมอ
ดังนั้น จะต้องมีการปฏิบัติตนให้ถูกต้องและสม่าเสมอต่อไป เพื่อการมีสุขภาพที่ดี และต้องไม่
กลายเป็นผู้ป่วยรายใหม่โดย
ระดับบุคคล
1. ปฏิบัติตนในการดูแลสุขภาพตนเองตาม 3อ.2ส. ให้ถูกต้องสม่าเสมอ จนกลายเป็นวิถีชีวิต
2. ปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีด้านพฤติกรรมสุขภาพของชุมชน
3. ถ่ายทอด แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ที่ดีแก่บุคคลอื่นในชุมชน
ระดับชุมชน
1. จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้จากประสบการณ์ของบุคคลต้นแบบหรือบุคคลที่เป็นแบบอย่างที่
ดีด้านพฤติกรรมสุขภาพ เช่น จัดตั้งโครงการคนต้นแบบ พร้อมกับให้คนที่มีความรู้ความสามารถใน
ด้านต่างๆของชุมชน สร้างแหล่งเรียนรู้ตามภูมิปัญญาที่มีอยู่
2. จัดปัจจัยแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
76
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ภาคผนวก
77
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ผนวก ก: เครื่องมือประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ตามสุขบัญญัติแห่งชาติ กลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี)
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
78
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
79
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
80
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
81
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
82
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ผนวก ข. : เครื่องมือประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ
ตาม 3อ. 2ส. ของประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ฉบับปรับปรุง ปี 2561
83
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
84
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
85
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
86
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
87
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ที่ปรึกษา
คณะผู้จัดทา
88
ฉบับปรับปรุง ปี 2561
การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
89
ฉบับปรับปรุง ปี 2561