You are on page 1of 5958

martial god asura

บทที่ 424 – ร่ างกายศักดิ์สิทธิ์

“โอ้วสวรรค์! นี่เจ้า…เจ้าคือชูเฟิ ง ?!”

หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าของชูเฟิ งจากอาการที่โกรธ ๆ อยูก่ ก็ ลายเป็ น


ใบหน้าที่ซีดขาวในทันทีเพราะว่าชูเฟิ งในตอนนี้น้ นั ได้เปิ ดใช้พลัง
สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ท้ งั สองและยกระดับพลังวิญญาณของเขาขึ้นมาเป็ น
ระดับที่ 8 แดนแก่นแท้วญ ิ ญาณ

และด้วยระดับพลังวิญญาณของชูเฟิ งในตอนนี้น้ นั เขาสามารถต่อกรกับ


ผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ที่อยูใ่ นระดับ 2 ได้อย่างสบายฉะนั้นจะ
นับประสาอะไรกับผูอ้ าวุโสที่อยูเ่ พียงแค่ระดับ 1 แดนสวรรค์ ทันทีชู
เฟิ งได้ยนื มือออกไปและบีบกะโหลกของผูอ้ าวุโสพร้อมกับดูดซับพลัง
ชีวติ ให้กบั ต้าน ต้าน ในทันที
“อ่า ~~~~~~~~~~” ท้ายที่สุดแล้วผูอ้ าวุโสก็ได้ร้อง
โหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวดและดิ้นอย่างทุลนทุลายกับการโดน
ดูดพลังชีวติ โดยชูเฟิ งและในท้ายที่สุดเมื่อพลังชีวติ หมดลงเขาก็ล่วงลง
มาที่พ้นื และตายในทันที

“สํานักเทพอัคคีพวกเจ้ากล้าที่จะสร้างใบประการจับข้าอย่างนั้น
ใช่หรื อไม่? เหอะงั้นก็ดีวนั นี้พวกเจ้าทุกคนจะต้องตายที่นี่!”ด้วยการที่
เขาได้ใช้พลังอํานาจของสายฟ้าชูเฟิ งได้คาํ รามเสี ยงของเขาขึ้นไปบน
ท้องฟ้าภายในรัศมีหลายกิโลเมตรไม่วา่ จะเป็ นนกหรื อสัตว์หรื อแม้แต่
สัตว์ยกั ษ์บางตัวต่างก็ตกใจกลัวต่อเสี ยงนั้นพวกมันต่างหนีกนั หัวซุกหัว
ซุนออกไปคนละทิศละทาง

“ชูเฟิ ง! มันเป็ นชูเฟิ ง! เร็ ว! ไปจับมันเร็ วเข้า!” ในทันทีคนจาก


สํานักเทพอัคคีได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ วผูเ้ ชี่ยวชาญต่าง ๆ ต่างก็ได้วง่ิ
เข้าไปรายล้อมชูเฟิ งส่ วนเหล่าผูเ้ ชื่อมต่อแดนแก่นแท้วญ ิ ญาณก็ได้เริ่ มต้น
วางอํานาจการก่อตัวของอํานาจวิญญาณเอาไว้เพื่อหวังที่จะจับตัวชูเฟิ ง
“เหอะพวกขยะไร้ค่าเช่นพวกเจ้าต้องการที่จะจับข้า?” ทันทีชู
เฟิ งได้กวาดฝ่ ามือของเขาออกไปและสร้างละลอกคลื่นของพลังอย่างไม่
มีที่สิ้นสุ ดระเบิดเหล่าผูเ้ ชื่อมต่อแดนแก่นแท้ถึงสามคนพวกเขาตายไป
ทั้ง ๆ ที่ยงั ไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่นิดเดียวโดยฝี มือของชู
เฟิ ง

“พวกท่านเรารี บรวมตัวกันแล้วออกไปสัง่ สอนเจ้าเด็กเวรนี่กนั


เถอะ” พอเห็นเช่นนั้นเขาก็ได้ปล่อยกลิ่นอายระดับ 3 แดนสวรรค์
ออกมาและกวาดอํานาจสวรรค์ท้ งั หมดเข้าไปทางชูเฟิ ง

“เหอะ แม้แต่ตาเฒ่าร้อยหน้าก็ยงั ไม่อาจเอาชนะข้าได้ แล้วพวก


เจ้าคิดว่าจะสามารถต่อสู ก้ บั ข้าได้อย่างนั้นหรื อ”

ชูเฟิ งกล่าวออกมาอย่างเย็นชาและใช้ทกั ษะมังกรเดินทางผ่านเก้าสวรรค์


กลายเป็ นภาพเบลอแล้วหายไปเขาได้หลบการโจมตีทุกรู ปแบบของ
เหล่าผูอ้ าวุโส และในเวลาเดียวกันเขาก็ได้เคลื่อนย้ายไปอยูด่ า้ นหลังของ
ผูอ้ าวุโสแล้วชัก ขวานอสู รฟ้า ขึ้นมาและสับลงไปที่หลังของผูอ้ าวุโส
อย่างไม่ลงั เล

“เจ้าพลาดแล้วชูเฟิ ง ข้าไม่เคยบอกว่าจะฆ่าเจ้าข้าเพียงแค่
ต้องการจะจับเจ้าเท่านั้น” เพียงในขณะที่ขวานของชูเฟิ งกําลังจะสับลงผู ้
อาวุโสกลับแสดงรอยยิม้ ออกมาราวกับว่าเขาได้ประสบความสําเร็ จต่อ
แผนการของเขาแล้ว เขายกรอยยิม้ ขึ้นมาบนมุมปากและปรากฏเป็ น
กระจก8ทิศ อยูใ่ นมือของเขามันทั้งมีรูปทรงที่แปลกและกลิ่นอายที่
พิเศษ

*** ฟื บ *** หลังจากที่กระจก8ทิศ ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ ามือของเขามัน


ก็ได้ขยายใหญ่ข้ ึนอย่างรวดเร็ วและปกคลุมร่ างของชูเฟิ งจนล่วงลงสู่
พื้นดิน
“เร็ ว! รี บไปแจ้งเจ้าสํานักเร็ วเข้า! บอกไปว่าตอนนี้ชูเฟิ งได้ถูก
จับแล้วโดยข้าในขณะที่ขา้ กําลังใช้กระจก8ทิศ อยูน่ ้ นั ข้าจําเป็ นที่จะต้อง
ใช้อาํ นาจสวรรค์เป็ นอย่างมากฉะนั้นข้าอาจจับกุมเขาได้ไม่นานนัก เจ้า
จงรี บไปแจ้งท่านเจ้าสํานักโดยเร็ วและให้นาํ กําลังเสริ มมาที่นี่!”

หลังจากที่ใช้สิ่งที่เรี ยกว่ากระจก8ทิศ ขั้นสู งเพื่อปกคลุมชูเฟิ งมันทําให้


ใบหน้าของเขานั้นอยูใ่ นสภาพที่ดูไม่ได้เลยทีเดียว แม้วา่ อํานาจของ
กระจก8ทิศ ขั้นสู งนั้นจะแข็งแกร่ งมากแต่มนั ก็จาํ เป็ นจะต้องใช้อาํ นาจ
สวรรค์เป็ นตัวขับเคลื่อนไม่นอ้ ยเลยทีเดียว

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยงั คงมีความสุ ขที่สามารถจับชูเฟิ งได้ เพราะเป็ นที่แน่


ชัดว่าเขาจะได้รับความดีความชอบและรางวัลชิ้นใหญ่จากเจ้าสํานัก
อย่างแน่นอน

“ผูอ้ าวุโส เชา ข้าจะอยูข่ า้ งหลังท่านและคอยช่วยเติมอํานาจ


สวรรค์ให้กบั กระจก8ทิศ ขั้นสู งแทนท่านเอง”ผูอ้ าวุโสอีกคนพูด
“ไม่จาํ เป็ น ข้ายังไหวอยู่ แต่เจ้าจงรี บกลับไปที่สาํ นักและแจ้ง
ท่านเจ้าสํานักให้เร็ วไวก่อนที่อะไร ๆ มันจะสายเกินไป.”ผูอ้ าวุโสไม่
ยอมให้ช่วย

หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดเหล่านั้นผูอ้ าวุโสที่อยูเ่ พียงแค่ระดับ 1 แดน


สวรรค์จึงทําได้แค่กดั ฟันของเขาและกระโดดขึ้นไปในอากาศแล้วมุ่ง
หน้าไปยังสํานักเทพอัคคีโดยที่ไม่มีความลังเลอีกต่อไป

“ท่านผูอ้ าวุโสและพวกเราล่ะ…”

ในทันทีผเู ้ ชื่อมต่ออีกสิ บเจ็ดคนที่ยนื อยูต่ รงนั้นพวกเขาทําได้แต่ยนื นิ่ง


และไม่รู้วา่ เขาควรทําสิ่ งใดต่อไป
มันเป็ นเพราะว่าถึงแม้พวกเขาจะอยูใ่ นแดนแก่นแท้วญ ิ ญาณแต่เมื่ออยู่
ต่อหน้าของชูเฟิ งแล้วนั้นมันคือความจริ งที่พวกเขานั้นอ่อนแอเกินไปชู
เฟิ งนั้นคือของจริ งเขามีความแข็งแกร่ งดังกับตํานานที่มีชีวติ แม้แต่ผู ้
เชียวชาญที่อยูใ่ นระดับที่ 3 ของแดนสวรรค์ยงั จะเป็ นที่จะต้องทุ่มพลัง
สุ ดตัวเพื่อที่จะปราบปรามเขา

“พวกเจ้าทั้งหมดคอยระวังหลังให้ขา้ เพราะข้าจําเป็ นต้องใช้


พลังงานทั้งหมดเพื่อที่จะเสริ มสร้างอํานาจของกระจก8ทิศ ขั้นสู ง
ถึงแม้วา่ กระจก8ทิศนี้มนั จะเป็ นสมบัติที่พิเศษมาก แต่มนั ก็ยงั
จําเป็ นต้องใช้อาํ นาจสวรรค์จาํ นวนมากเช่นกันหากเราประมาทแม้แต่นิด
เดียวชูเฟิ งก็อาจใช้ยทุ ธภัณฑ์ช้ นั ยอดของมันทําลายกระจก8ทิศ และหนี
ออกมาได้.”ผูอ้ าวุโสกล่าวอย่างจริ งจัง

“ได้ครับ” เมื่อเห็นเช่นนั้นเหล่าผูเ้ ชื่อมต่อทั้งสิ บเจ็ดคนจึงไม่


กล้าที่จะลังเลอีกต่อไปเขาจึงได้รีบสร้างการก่อตัวของอํานาจวิญญาณ
และจัดตั้งโดยให้ท่านผูอ้ าวุโสเป็ นจุดศูนย์กลางของการก่อตัว
หลังจากที่สถานที่แห่งนี้เป็ นที่ชุมนุมของเหล่าสัตว์ยกั ษ์แม้วา่ มันจะ
ไม่ได้แข็งแกร่ งเท่าหุบเขาพันปี ศาจและไม่มีสตั ว์ยกั ษ์ตวั ไหนที่อยูใ่ น
ระดับแดนสวรรค์ สัตว์ยกั ษ์ที่แข็งแกร่ งที่สุดในหมู่พวกมันก็อยูเ่ พียงแค่
ระดับจุดสู งสุ ดของแดนแก่นแท้เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้วา่ พวก
มันจะไม่ได้อยูใ่ นระดับแดนสวรรค์แต่มนั ก็ยงั คงสร้างความหนักใจ
ให้แก่พวกเขาไม่นอ้ ย

เขายังไม่อาจที่จะใช้อาํ นาจสวรรค์ในการเสริ มสร้างกระจก8ทิศ ขั้นสู ง


ได้ชาํ นาญมากนักเขาจึงจําเป็ นต้องมีผเู ้ ชื่อมต่อที่อยูใ่ นจุดสู งสุ ดของแดน
แก่นแท้วญิ ญาณถึงเจ็ดคนมาคอยสร้างการก่อตัวให้เขาอีกชั้นหนึ่ง

จนเมื่อเวลาได้ผา่ นไปจากกลางวันสู่ กลางคืนแต่เพียงแค่ในเวลานั้นจู่ ๆ


ชูเฟิ งก็ได้พดู ออกมา “ยังไม่คิดที่จะออกมาอีกอย่างนั้นหรื อ? หากเจ้ายัง
ไม่คิดที่จะออกมาข้าคงจะเบื่อตายในกระจก8ทิศ กะโหลกกะลานี้แล้ว
นะ”
ในตอนแรกที่เขาได้ยนิ คําพูดที่เห่าหอนของชูเฟิ งมันทําให้ผคู ้ นจาก
สํานักเทพอัคคีน้ นั ตกอยูใ่ นความประหลาดใจเป็ นอย่างมาก พวกเขาไม่
อาจเข้าใจความหมายที่อยูใ่ นเบื่องหลังคําพูดของชูเฟิ งได้

“น่ารําคาญจริ ง ๆ.” แต่เพียงในขณะนั้นก็ได้มีร่างของสาวสวย


รู ปงามปรากฏออกมาจากบริ เวณป่ าใกล้เคียงเพียงแค่การเคลื่อนไหวที่
เรี ยบง่ายเธอได้ปล่อยอํานาจพัฒนาจิตวิญญาณออกมาและฆ่าเหล่าผู ้
เชื่อมต่อที่อยูใ่ นจุดสู งสุ ดของแดนแก่นแท้ท้ งั สิ บเจ็ดคนในทันทีโดยที่
เธอยังไม่แสดงสี หน้าหรื ออาการใด ๆ ออกมาพวกเขาทั้งหมดได้ถูก
หลอกโดยชูเฟิ ง นี่เป็ นกับดักที่ชูเฟิ งได้วางไว้ต้ งั แต่แรกอยูแ่ ล้ว

“นี่เจ้า! คือแม่นาง จือ หลิง ใช่หรื อไม่?” เขาได้ตรวจสอบแล้ว


ว่าแม่นางที่อยูใ่ นด้านหน้าของเขาผูน้ ้ ีน้ นั คือแม่นางจือหลิงที่เดินออกไป
จากนครอันทรงเกียรติในวันนั้นแต่เขาก็คิดไม่ถึงเลยว่า จือหลิงที่มีพลัง
วิญญาณเพียงแค่ระดับ 9 แดนแก่นแท้วญ ิ ญาณเท่านั้นแต่กบั แข็งแกร่ ง
ได้มากถึงขนาดนี้ และความจริ งคือนางได้ต้ งั ใจฆ่าเหล่าผูเ้ ชื่อมต่อของ
สํานักเทพอัคคีของเขาจริ ง
สิ บเจ็ดผูเ้ ชื่อมต่อนี้อาจกล่าวได้วา่ เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อที่ดีที่สุดในสํานักเทพ
อัคคีพวกเขาทั้งหมดได้รับการบ่มเพาะและปลูกฝังมาเป็ นเวลาหลายสิ บ
ปี ประสบการณ์ในการต่อสู ข้ องพวกเขานั้นก็นบั ว่ายอดเยีย่ มโดยเฉพาะ
ความสามารถในด้านการพัฒนาจิตวิญญาณของพวกเขา แต่เพียงแค่ใน
เวลานี้พวกเขาไม่อาจตอบโต้การโจมตีของ จือหลิง ได้เลยแม้แต่
กระบวนท่าเดียว

“ใช่แล้ว ข้าคือ จือหลิง แต่อนั ที่จริ งแล้วข้ายังสามารถบอก


ความลับบางอย่างให้เจ้าได้อีกอย่างหนึ่ง” จือหลิงกล่าวเบา ๆ พร้อมก้าว
ออกไปข้างหน้าและขณะที่เธอได้กา้ วเดินออกไปเธอก็แสดงร้อยยิม้
หวานบนใบหน้าของเธอ

“ความลับ? เจ้าหมายถึงอะไร?” แม้วา่ จือหลิง จะเป็ นเพียงผู ้


เชียวชาญระดับ 9 แดนแก่นแท้แต่ดว้ ยเหตุผลบางอย่างมันทําให้เขา
รู ้สึกถึงกลิ่นอายที่อนั ตรายและความน่ากลัวจากร่ างกายของเธอ
“อันที่จริ งข้าคือผูท้ ี่มีอาํ นาจร่ างกายศักดิ์สิทธิ์” ทันใดนั้น
ร่ างกายของ จือหลิง ก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงและร่ างกายของเขานั้นก็
ได้กลายเป็ นสี ม่วงในทันที

และในเวลาเดียวกัน, ชั้นของเปลวไฟสี ม่วงก็ได้พรั่งพรู ออกมาจาก


ร่ างกายของ จือหลิง มันเป็ นบรรยากาศที่น่ากลัวที่ส่งมาจากท้องฟ้า กลิ่น
อายของเธอนั้นกล่าวได้วา่ แข็งแกร่ งมากแม้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญแดนสวรรค์
ระดับ 3 ก็ยงั ไม่อาจที่จะสามารถต่อกรกับมันได้

“ไอ้บา้ เอ้ย.” ในทันทีผอู ้ าวุโสได้ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ


อย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด และเขายังได้คน้ พบอีกว่า จือหลิง นั้นนอกจากเป็ น
สาวน้อยที่งดงามแล้วนางยังเป็ นสัตว์ประหลาดที่แจนจะน่ากลัวอีกด้วย

ร่ างกายศักดิ์สิทธิ์น้ นั มันเปรี ยบเสมือนกับการดํารงอยูข่ องสิ่ งมีชีวติ ใน


ตํานาน พวกเขานั้นมีร่างกายที่ถูกมอบให้โดยเทพเจ้าที่อยูบ่ นชั้นฟ้า
ทั้งหลายพวกเขาเหล่านั้นต่างได้รับอํานาจจากสวรรค์ พลังอํานาจของ
พวกเขานั้นไม่ใช่สิ่งที่ผคู ้ นธรรมดาจะสามารถต่อกรได้

เมื่อคิดถึงจุดนี้ผอู ้ าวุโสยังมีความต้องการที่จะจัดการกับชูเฟิ งอยูอ่ ีกอย่าง


นั้นรึ ไม่? เขาได้เร่ งรี บอย่างรวดเร็ วในการควบคุมกระจก8ทิศ และ
โยนใส่ จือหลิง ในทันที
ReadMGA.blogspot.com

#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B4 : เห้อจงไปสู่ สุขติเถอะนะเหล่าผูเ้ ชื่อมต่อทั้งหลายมันคงเป็ นความ


ซวยของพวกเจ้าจริ ง ๆ ที่ได้มาเจอกับนางมารร้ายเช่นนางการที่จะเป็ น
นางเอกได้น้ นั ต้องมีจิตใจที่บริ สุทธิ์และไม่ฆ่าผูอ้ ื่นอย่างพลํ่าเพื่อ
B1 : เห้อพูดซะเอานางเอกกูเป็ นตัวร้ายไปเลย….นี่หลวงพี่นี่มนั
นิยาย โหด ฆ่าฟัน และดิบเถื่อนน่ะครับผมมม ไม่ใช่นิยายเจ้าหญิงกับทุ่ง
ราเวนเดอร์นะเว้ยจะได้มาจิตใจบริ สุทธ์อะไรขนาดนั้น…ถ้าพี่จะมาผิด
เรื่ องขนาดนี้ล่ะก็เชิญกลับไปเรื่ องเกาที่พี่สงั กัตอยูไ่ ด้เลยครับ

B2 : ใจเย็นน่า B1 ให้เกียรติเขาหน่อยคนเราต่างคนต่างนิสยั ความ


คิดเห็นของคนเราย่อมไม่หมือนกันอยูแ่ ล้วล่ะน่าและก็อีกอย่างพี่เขาเป็ น
ฝ่ ายเดียวกับเรานะ ธรรมม่ะ น่ะ ธรรมม่ะ

B1 : ธรรมม่ะอย่างนั้นหรอ เหอะเดี้ยวกูจะเปลี่ยนเป็ นอธรรมก็วนั นี้


แหละรู ้สึกไม่ชอบมันเลย

B4 : เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร!!

B1 : เวรพ่องมึงอะกูเกียจมึงไอ้ B4 โลกสวย

B2 : ใจเย็นน่า B1

B1 : ไม่เย็นเว้ยว่าแต่แล้วอีกนานไหมเนี่ยกว่า ท่านผูแ้ ปลจะกลับมา

B2 : ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกลับมาตอนไหนเห็นเหมือนว่าช่วงนี้จะไป
อ่าน MGA ตอนล่าสุ ดอยูน่ ะเห็นว่ากําลังมัน

B1 : อะไรนะ!! ไปอ่าน MGA ตอนล่าสุ ดอะไรมันจะชิวอะไรได้


ขนาดนั้นว่ะ!! แล้วไอ้ B3 ล่ะ??

B2 : ……มันก็….ไปอ่านพร้อมกันกับท่านผูแ้ ปลน่ะ

B1 : ห่ะแม้แต่มนั ก็ดว้ ย….โอ้วว…. WTF รู ้ง้ ีกนู ่าจะใส่ ร้าย


ตัวเองแทนจริ ง ๆ จะได้หยุดไป 10 บทและไปอ่าน MGA ล่าสุ ดกับ
เขามัง่ ไม่ใช่มาอยูก่ บั ไอ้หลวงพี่เวรนี่

B2 : เอาน่าอยูก่ นั ไปเดี้ยวก็ชิน

B4 : จงเป็ นสุ ขเถอะนะเหล่าผูเ้ ชื่อมต่อ


ทั้งหลาย….&#^!%#&@

B1 : …..[- -*]

#################################
#################################
###############################
…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้
ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 425 – ภาคทะเลตะวันออก

"ไร้ประโยชน์."

อย่างไรก็ตาม จือหลิง ไม่ได้เคลื่อนย้ายเลยแม้แต่นิดเดียว เปลวไฟสี ม่วง


ที่เป็ นเหมือนราวกับสัตว์ดุร้ายที่โพล่มาจากนรกมันได้ใช้ความแข็งแกร่ ง
ของมันเข้าทําลายกระจก 8 ทิศในทันที

*** เพล้ง *** ทันทีที่เห็นแบบนั้นใบหน้าของผูอ้ าวุโสถึงกลับ


เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเขาได้ตกอยูใ่ นความหวาดกลัวอย่างสมบูรณ์
และไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับ จือหลิง อีกต่อไป เขาได้พยายามที่จะ
กระโดดหนีออกไปอย่างรวดเร็ ว
*** หวืบ *** แต่อย่างไรก็ตาม จือหลิง ไม่ได้เป็ นคนใจดีที่จะให้
โอกาสเขาเช่นนั้น เปลวไฟสี ม่วงของนางได้กลายเป็ นปากขนาดใหญ่
และพุง่ เข้างับผูอ้ าวุโสในทันที

"อ้า ~~~~~~~~~~~" "

หลังจากที่เปลวไฟได้ครอบคลุมร่ างกายของเขาและมันได้เผาพานเขา
อย่างรวดเร็ วอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดหัวใจของเขาถูกชีกขาดด้วยความ
เจ็บปวดและตะโกนออกมาด้วยเสี ยงร้องที่น่าอนาถและมันก็ค่อย ๆ
กลายเป็ นเบาลง เบาลง และในท้ายที่สุดเสี ยงมันก็เงียบหายไปอย่าง
สมบูรณ์

ในทันทีดวงตาสี ม่วงของ จือหลิง ก็ค่อย ๆ กลับสู่ ดวงตาปกติของนาง


และรวมไปถึงไฟสี ม่วงก็ได้กลับเข้าไปในร่ างกายของนาง แต่เมื่อมอง
กลับไปที่ตาํ แหน่งของผูอ้ าวุโสก่อนหน้านี้เขาได้ถูกเผาพานออกไปจน
หมดสิ้ นไม่เหลือแม้แต่กระดูกสักชิ้นเดียว เขาได้ถูกทําลายอย่างสมบูรณ์
ด้วยเปลวไฟสี ม่วงของ จือหลิง

และเมื่อมองกลับไปที่ จือหลิง อีกครั้งเขาก็ได้พบกับถุงจักรวาลในมือ


ของนาง ซึ่งชูเฟิ งสามารถตรวจสอบได้วา่ ถุงจักรวาลที่อยูใ่ นมือของ จื
อหลิง นั้นคือของผูอ้ าวุโสก่อนหน้านี้

“ฮึม แม่สาวน้อยเจ้าชัง่ น่ากลัวมากจริ ง ๆ ทั้ง ๆ ที่เจ้าอยูเ่ พียงแค่


ระดับ 9 ของแดนแก่นแท้วญ ิ ญาณแต่กบั สามารถต่อสู ก้ บั ผูเ้ ชียวชาญ
แดนสวรรค์ระดับ 3 ได้อย่างง่ายดายนี่ชง่ั น่ากลัวจริ ง ๆ.” ชูเฟิ งกล่าว
ออกมาพร้อมถอนหายใจ

“เหอะ!!” หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดนั้นของชูเฟิ ง จือหลิง ได้จอ้ ง


สายตาอย่างรุ นแรงไปที่เขาและในสายตาของนางยังเต็มไปด้วยความ
เหยียดหยันพร้อมกล่าวออกไปอย่างรวดเร็ ว “เจ้าคิดว่ามีเพียงแค่เจ้าหรื อ
อย่างไรที่มีอาํ นาจพิเศษ? ไม่วา่ เจ้าต้องการจะพูดอะไรก็ตามแต่ขา้ นั้น
คือผูท้ ี่ใช้อาํ นาจร่ างกายศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าอํานาจศักดิ์สิทธิ์ของข้าเจ้าคิด
ว่าคนธรรมดาจะสามารถต่อกรได้อย่างนั้นหรื อไม่?”

“อย่าว่าแต่ผเู ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ระดับ 3 เลยแม้ต่อให้เป็ นผู ้


เชียวชาญแดนสวรรค์ระดับ 4 ข้าก็ไม่กลัวถ้าข้าสามารถบุกฝ่ าเข้าไปใน
แดนสวรรค์ได้ล่ะก็ต่อให้เป็ นผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ระดับ 6 ข้าก็ยงั
สามารถที่จะต่อกรกับพวกมันได้” จือหลิง กล่าวออกมาด้วยความ
เชื่อมัน่ มันอาจเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอนั้นได้มน่ั ใจในอํานาจพิเศษของ
เธอเป็ นอย่างมาก

“มันเป็ นร่ างยากอย่างนั้นหรื อที่จะบุกฝ่ าเข้าไปในแดนสวรรค์?


ก่อนหน้านี้เจ้าได้พยายามปิ ดตัวเองในนครอันทรงเกียรติเพื่อที่จะบุกฝ่ า
เข้าสู่ แดนสวรรค์ใช่หรื อไม่?” ชูเฟิ งถามด้วยความอยากรู ้อยากเห็น

“แน่นอนว่ามันเป็ นเรื่ องยาก นี่เจ้าคิดว่าแดนสวรรค์มนั ง่ายต่อ


การบุกฝ่ าเข้าไปหรื อยังใง?”
“ตอนแรกที่ขา้ ได้ปิดตัวเองในนครอันทรงเกียรติน้ นั คือครั้งแรก
ที่ขา้ ได้พยายามบุกฝ่ าเข้าไปในแดนสวรรค์แต่มนั ก็ลม้ เหลว และ
หลังจากที่เจ้าได้ออกไปจากนครอันทรงเกียรติแล้วปู่ ของข้าก็ได้พยายาม
ที่จะช่วยให้ขา้ บุกฝ่ าเข้าไปในแดนสวรรค์อีกถึงสองครั้ง”

“แต่ท้ งั สองครั้งนั้นต่างก็ลม้ เหลวข้าต้องบอกก่อนเลยว่าอํานาจ


สวรรค์น้ นั ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็สามารถที่จะเข้าใจมันได้อย่างง่ายดายหรอก
นะ แม้วา่ ข้าจะเป็ นถึงผูใ้ ช้อาํ นาจร่ างกายศักดิ์สิทธิ์กต็ าม” จือหลิง เบะ
ปากเล็ก ๆ ของนางแล้วกล่าวออกมาในลักษณะที่ไม่พอใจเพราะ
หลังจากที่นางได้พยายามบุกฝ่ าไปถึงสามครั้งแต่กลับล้มเหลวทั้งหมด

“โอ้วแม่สาวน้อยทุกคนที่เขาประสบความสําเร็ จในการบุกฝ่ าเข้า


ไปในแดนสวรรค์ต่างก็มีอายุ 20 ขึ้นไปกันทั้งนั้น แต่เจ้ากลับต้องการ
ที่จะบุกฝ่ าเข้าไปแดนสวรรค์ท้ งั ๆ ที่อายุยงั อยูเ่ พียงแค่ 15 เองเนี่ยนะ
แม้วา่ เจ้าจะมีร่างกายศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกมอบให้โดยเทพเจ้าที่อยูช่ ้ นั ฟ้าสวรรค์
และมีความสามารถที่มนุษย์ปกติไม่มีแต่มนั ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้า
จะต้องแข็งแกร่ งไปถึงชั้นฟ้าสวรรค์หรอกใช้ไหม.”ชูเฟิ งยิม้ กล่าว

‘ชิ เจ้าจะไปรู ้อะไร? เดิมร่ างกายศักดิ์สิทธิ์น้ นั ควรที่จะแข็งแกร่ ง


ไปถึงชั้นฟ้าสวรรค์เสี ยด้วยซํ้าถึงแม้วา่ พวกเขาจะไม่สามารถนําไป
เปรี ยบเทียบกับเหล่าทวยเทพได้กต็ าม

“ท่านปู่ ข้านั้นเคยบอกไว้วา่ ทวีป 9 อาณาจักรนั้นเป็ นเพียงแค่


ดินแดนเล็ก ๆ ในโลกที่กว้างใหญ่ และคนส่ วนใหญ่มกั ขาดทรัพยากรใน
การบ่มเพราะพลังวิญญาณและทักษะการต่อสู น้ ้ นั จึงเป็ นเหตุผลว่าทําใม
ทั้ง ๆ ที่ทวีป 9 อาณาจักรนี้ได้มีประชากรมากมายนับหลายพันล้านคน
แต่กลับมีผเู ้ ชียวชาญแดนสวรรค์เพียงแค่หยิบมือ”

“โลกนี้มนั กว้างใหญ่มากนักยังมีท้ งั ผูเ้ ชียวชาญทักษะยุทธ์


ระดับสู งอีกมากมายที่พวกเราไม่เคยเห็น และยังรวมไปถึงเหล่าอัจฉริ ยะ
ที่มีความสามารถเกินสามัญสํานึกของกฎเกณฑ์พลังวิญญาณอีก
มากมาย” (3B : กฎพลังวิญญาณที่หมายถึงนี่คือแบบต่อสู เ้ กินหรื อ
ข้ามระดับแบบชูเฟิ งและ จือหลิง นี่คือความหมายของคําว่าเกินสามัญ
สํานึกหรื อกฏของพลังวิญญาณ)

“โดยพื้นฐานแล้วของผูท้ ี่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะพลัง
วิญญาณในทวีป 9 อาณาจักรนั้นล้วนนับว่าเป็ นถังขยะที่ไร้ค่าทั้งสิ้ น
แม้วา่ พวกเขาจะเป็ นผูม้ ีพรสวรรค์ในหมู่คนหลายพันล้านคนที่เข้าสู่ แดน
สวรรค์ได้เมื่อหลังจากที่ผา่ นอายุ 20 ปี ขึ้นไปแล้ว”

“ถึงแม้วา่ จะมีคนจํานวนมากที่กา้ วเข้าสู แ้ ดนสวรรค์ได้หลังจาก


อายุ 20 ไปแล้วพวกมันก็ยงั ไม่ได้ถูกนับรวมว่าเป็ นอัจฉริ ยะที่แท้จริ ง
พวกมันเหล่านั้นเป็ นได้แค่อจั ฉริ ยะปลายแถวเท่านั้น อัจฉริ ยะที่แท้จริ ง
คือผูท้ ี่สามารถก้าวสู แ้ ดนสวรรค์วญ ิ ญาณได้ก่อนอายุ 20 ปี นั้น
ต่างหากคือผูท้ ี่สามารถเรี ยกได้วา่ เป็ นอัจฉริ ยะที่แท้จริ ง อัจฉริ ยะในหมู่
อัจฉริ ยะ”

“เพราะฉะนั้นแล้วการที่ขา้ มีร่างกายศักดิ์สิทธิ์แต่กบั ไม่สามารถ


ก้าวสู แ้ ดนสวรรค์ได้น้ นั คือความอัปยศของผูใ้ ช้อาํ นาจร่ างกายศักดิ์สิทธิ์
อย่างแท้จริ งและมันยิง่ ทําให้ขา้ ไม่คู่ควรสําหรับมัน” จือหลิง กล่าว
ออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดือรั้น

“ดินแดนอื่น? อะไรคือดินแดนอื่น?” ชูเฟิ งอย่างแท้จริ งเขา


อยากรู ้เกี่ยวกับข้อมูลของดินแดนอื่นมากยิง่ ขึ้น หลังจากที่เขาได้ยนิ จือห
ลิง พูดเกี่ยวกับการบ่มเพาะพลังวิญญาณที่มีอยูใ่ นระดับที่สูงมากขึ้นกว่า
ในทวีป 9 อาณาจักร

“นั้นก็…” คําถามของชูเฟิ งนั้นมันทําให้ จือหลิง รู ้สึกลังเล


เล็กน้อย แต่หลังจากคิดอย่างละเอียดแล้วเธอก็ตดั สิ นใจบอกชูเฟิ ง

“นอกเหนือจากทวีป 9 อาณาจักรแล้วนั้นมันก็ยงั คงมีดินแดนอื่น


ๆ อยูอ่ ีกมากมายซึ่งในดินแดนนั้น ๆ ก็ไม่ได้แตกต่างจากทวีป 9
อาณาจักรมากนัก พวกเขามีประชากรจํานวนมากในแต่ล่ะดินแดนของ
พวกเขา แต่ที่แต่ต่างคือแม้วา่ ประชากรที่เรี ยกได้วา่ เป็ นคนปกติแต่กย็ งั มี
ระดับพลังวิญญาณที่น่ากลัว และแต่ล่ะดินแดนพวกเขาก็จะมีผปู ้ กครอง
เป็ นเหมือนกับราชวงศ์เจียง”

“แต่ในความเป็ นจริ งแล้วดินแดนของพวกเขาก็ยงั ไม่ได้นบั ว่าเป็ น


ที่สุดของโลกใบนี้ ดินแดนของพวกเขานั้นนับว่าเป็ นได้แค่เกาะ ๆ หนึ่ง
ที่ต้ งั อยูเ่ หนือนํ้าทะเลเท่านั้นท่านปู่ ได้กล่าวเอาไว้วา่ ในภาคทะเล
ตะวันออกนั้นได้มีพ้นื ทีเป็ นนํ้าทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุ ดและไร้พรมแดน”

“ในภาคทะเลตะวันออกนั้นต่างมีขมุ พลังอํานาจที่แข็งแกร่ งมาก


ศิษย์ของพวกเขาทุกคนนั้นต่างมีความสามารถที่น่ากลัวและมี
ประสิ ทธิภาพ แม้วา่ พวกเขาจะเป็ นเพียงแค่ศิษย์ธรรมดาสามัญแต่ถา้ พวก
เขาได้ยา่ งกายเข้ามาในทวีป 9 อาณาจักรแล้วล่ะก็พวกเขาจะได้ถูก
นับว่าเป็ นอัจฉริ ยะในทันที.”

“มันไม่ได้หมายความว่าพวกเขามีความสามารถที่ยอดเยีย่ มแต่
ผูค้ นของทวีป 9 อาณาจักรต่างหากที่อ่อนแอมากจนเกินไป”
“และข้ายังเคยได้ยนิ มาอีกว่าในทะเลตะวันออกนั้นมีพ้นื ที่ที่ใหญ่
มาก และมีน้ าํ ทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุ ดแม้แต่ใต้ผวิ นํ้าก็ยงั มีกระทัง่ เหล่าสัตว์
ทะเลที่มีประสิ ทธิภาพและน่ากลัว นี่ยงั ไม่รวมกับสมบัตินบั ไม่ถว้ นอีก
นะ.”

“และในสถานที่ที่เรี ยกว่าทะเลตะวันออกนั้นคือสถานที่ที่ท่านปู่
และข้าได้จากมา และไม่ชา้ ก็เร็ วข้าและท่านปู่ จะกลับไปที่ทะเล
ตะวันออก”

“เพราะไม่วา่ จะเป็ นท่านพ่อ ท่านแม่ หรื อตระกูลของข้าทั้งหมด


ต่างได้ถูกทําลายจนหมดสิ้ นในทะเลภาคตะวันออก ฉะนั้นข้าจึงต้องการ
ที่จะกลับไปแก้แค้นให้กบั พวกเขาไม่ชา้ ก็เร็ วข้าจะต้องกลับไปแก้แค้น
ให้กบั ท่านพ่อและท่านแม่ของข้า” เมื่อกล่าวมาถึงจุดนี้ จือหลิง ก็ได้
แสดงอารมณ์ดราม่าของนางออกมาอย่างชัดเจน
ทันทีชูเฟิ งก็ได้เข้าใจในที่สุดว่าทําใมถึงยังไม่มีใครได้รู้วา่ จือหลิง เป็ น
ผูใ้ ช้อาํ นาจร่ างกายศักดิ์สิทธิ์ มันเป็ นเพราะ จือหลิง ไม่ได้เกิดในทวีป 9
อาณาจักรนี่เอง แท้จริ งบ้านเกิดของเธอคือทะเลตะวันออก

นอกจากนี้ชูเฟิ งยังได้รู้เหตุผลอีกว่าทําใม จือหลิง และ ปู่ ของเธอที่มีพลัง


ถึงขนาดนี้แต่กย็ งั หลบซ่อนเหมือนเต่าในทวีป 9 อาณาจักร มันเป็ น
เพราะว่าศัตรู ของพวกเขานั้นมีความแข็งแกร่ งมากเกินไป ถึงขนาดที่
สามารถฆ่าล้างตระกูลของนางได้แบบนี้พวกเขาจะต้องมีความแข็งแกร่ ง
ที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนแต่ถึงอย่างนั้นก็ยงั นับว่าโชคดีอยูท่ ี่เธอและปู่
ของเธอยังสามารถหนีรอดมายังทวีป 9 อาณาจักรได้

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ จือหลิง พยายามที่ไขว้คว้าและค้นหาความ


แข็งแกร่ ง มันเป็ นเพราะว่าเธอนั้นต้องการที่จะแก้แค้ เมื่อพูดถึงอารมณ์
และความรู ้สึกของการอยากแก้แค้นแล้วมันจึงทําให้ชูเฟิ งนั้นสามารถ
เข้าใจถึงความรู ้สึกของ จือหลิง ได้ในทันที
“จือหลิง ศัตรู ของเจ้ามันเป็ นใครบอกข้ามาว่าพวกมันเป็ นใคร ข้า
ขอสัญญาเลยว่าในอนาคตข้าจะฆ่าพวกมันให้เจ้าเอง” ชูเฟิ ง คว้ามือของ
จือหลิง เอาไว้และพูดอย่างระเอียดอ่อน

ความรู ้สึกอบอุ่นจากมือของชูเฟิ งมันทําให้หวั ใจของ จือหลิง นั้นสัน่


ระรัวเธอได้หลุดพ้นออกมาจากความรู ้สึกเกลียดชังของเธอและมองไปที่
ชูเฟิ งในด้านหน้าของเธอพร้อมกล่าวออกมาด้วยรอยยิม้ ”

“ข้าเองก็ยงั ไม่ทราบเช่นกันว่าพวกมันเป็ นใครเพราะท่านปู่ ของ


ข้านั้นได้บอกกับข้าเอาไว้วา่ ข้านั้นยังอ่อนแอเกินไปที่จะรู ้ชื่อศัตรู ของ
ข้า”

#################################
#################################
###############################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B4 : อ่าชีวติ นางชัง่ น่าสงสารยิง่ นักอามิตาพุธ……

B2 : ก็นะอย่างที่ท่านบอกเลย B4 ชีวติ ของนางนั้นชัง่ น่าสงสารจริ ง


B1 : T^T นํ้าตาจะไหล ชะตากรรมเดียวกันกับชูเฟิ งรึ เนี่ย

B2 : ว่าแต่หน้าจือหลิงก็เห็นแล้วในกลุ่ม แต่หน้าชูเฟิ งข้ายังไม่เคย


เห็นเลย

B1 : นั้นซิจะว่าไปแล้วก็อยากเห็นหน้าบักเฟิ งชัด ๆ เหมือนกันนะ


อยากเห็นแบบจะ ๆ จัง ๆ ซักที

B2 : ชายยยยยย ว่าแต่ได้ขา่ วมานะว่าอีกไม่กี่ 10 บทข้างหน้าอา


หยาน หยางเทียน จะกลับมามีบทอีกครัง

B1 : จริ งดิ ไอ้แก่น้ นั จะกลับมามีบทอีกครั้ง??


B2 : แน่นอน!!

B4 : เอิ่ม….คุณ B2 ครับคือผมสงสัยน่ะว่าครอบครัว จือหลิง ตาย


จริ ง ๆ น่ะหรอครับ??

B2 : ทํามึงถามแบบนั้นล่ะครับ เอ้ย ทําใมคุณ B4 ถึงถามแบบนั้น


ล่ะครับ

B4 : ก็แค่สงสัยน่ะครับเพราะถ้าเป็ นจริ งผมจะได้กรวดนํ้าไปให้เขา


สักหน่อย

B2 : ………….

B1 : หุบปากไปป่ ะ B4 ถ้าอยากกรวดมากนักก็ไปกรวดให้ตระกูล
คุณมึงนูน้

B4 : ผมถามท่าน B2 ครั้บท่าน B1 อย่าเสื อกซิ ^^

B1 : ……………

B4 : ครอบครัว จือหลิง ตายจริ งหรอ?????

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 426 - กลับสํานักเทพอัคคี

"ชูเฟิ ง ปู่ ของข้าได้พดู ไว้วา่ ชายแดนภูมิภาคทะเลตะวันออก


ไม่ใช่จุดสิ้ นสุ ดของโลกนี้ เหตุผลที่มนั ถูกเรี ยกว่า ภูมิภาคทะเล
ตะวันออกก็เพราะ ยังมี ภูมิภาคทะเลเหนือ ใต้ และตะวันตก อยูอ่ ีก "

"และในใจกลาง ของภูมิภาคทั้ง4นั้น มีดินแดนลึกลับที่ถูก


เรี ยกว่า เป็ นสวรรค์ของผูฝ้ ึ กตน อัจฉริ ยะทุกคนล้วนต้องการเข้าไปอยูใ่ น
สถานที่แห่งนั้น "

"ในดินแดนลึกลับนั้นปู่ ข้าได้บอกไว้วา่ กายศักดิ์สิทธิ์น้ นั ไม่ได้


หายากเลยเพราะดินแดนนั้นมีอจั ฉริ ยะทัว่ ทั้งโลกรวมตัวกัน และที่แห่ง
นั้นเป็ นประเภทแบบว่า ผูช้ นะคือถูกผูแ้ พ้คือผิด เป็ นสถานที่ที่ผู ้
แข็งแกร่ งเท่านั้นที่จะอยูร่ อดได้ "

"ข้อมูลของสถานที่ที่เรี ยกว่าดินแดนลึกลับนั้น แม้แต่ปู่ของข้าก็ยงั


ไม่สามารถบอกได้ เพราะท่านไม่เคยก้าวเข้าไปในที่แห่งนั้น "

"สถานที่น้ นั เป็ นเหมือนตํานาน เพราะที่แห่งนั้นไม่สามารถเข้าไป


ได้ตามต้องการ แต่ปู่ของข้าบอกไว้วา่ มีแต่ผเู ้ ชี่ยวชาญในระดับสู งมาก
เท่านั้นที่สามารถเข้าไปยังที่แห่งนั้นได้ "

"ชูเฟิ ง โลกนี้น้ นั ใหญ่มาก ใหญ่เกินกว่าที่เราจะคิด นอกจากนี้


ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสู ง ก็มีมากมาย "

"ในทวีปเก้าอาณาจักรที่เราอยูต่ อนนี้กเ็ หมือนกับ หมู่บา้ นบนภูเขา


รกร้าง คนภายนอกจึงไม่อยากที่จะเข้ามา แต่คนที่นี่น้ นั เหมือนกับเป็ น
คนที่พึงพอใจในอะไรๆได้ง่ายมาก พวกเขาพอใจที่จะอยูใ่ นดินแดน
เล็กๆแห่งนี้ "

"ดังนั้นเราไม่สามารถเดินอย่างสง่าผ่าเผยและบอกด้วยความ
ภาคภูมิใจว่าเป็ นคนจากทวีปนี้ได้ "

"อย่างพวกเราที่มีร่างกายที่แสนพิเศษแบบนี้กเ็ หมือนกับว่าเป็ น
ขยะที่มีพรสวรรค์เล็กน้อยเท่านั้น ไม่วา่ จะทําอย่างไรก็ไม่มีใครมายกย่อง
เราหรื อเกรงกลัวเราเลยนอกจากคนในทวีปแห่งนี้ที่เดิมแล้วพวกเขานั้น
ไม่สามารถก้าวเข้าไปสู่ ในระดับที่จะสู ก้ บั โลกภายนอก "

"เจ้าและข้ามีชะตาที่ตอ้ งออกจากโลกแห่งนี้ และไม่เพียงก้าวเข้า


ไปยัง ภูมิภาคทะเลตะวันออกเท่านั้น พวกเรายังต้องเข้าไปสู่ ดินแดน
ลึกลับที่เป็ นเหมือนตํานานด้วย "
"เราไม่ควรถูกเรี ยกว่าอัจฉริ ยะในที่แห่งนี้ เพราะเห็นว่าพวกเรา
นั้นเป็ นความหวังของทวีป ด้วยความสามารถกระจอกๆของพวกเขา
พวกเราไม่ควรถูกเรี ยกว่าอัจฉริ ยะ แต่เราควรถูกเรี ยกว่าพระเจ้า "

"สิ่ งที่เราต้องทําคือไม่เพียงเป็ นอัจฉริ ยะในสายตาพวกเขา แต่


พวกเราต้องเป็ นอัจฉริ ยะใน ภูมิภาคทะเลตะวันออก แม้วา่ ที่นน่ั จะเป็ น
ศูนย์รวมของอัจฉริ ยะหลายทวีปในภูมิภาคทะเลตะวันออก แต่พวกเราก็
ไม่ได้ดอ้ ยกว่าเขา หลังจากที่เราเข้าไปที่นนั่ แล้วเราจะพบคนที่มีความ
แข็งแกร่ งในทุกๆที่ " จื่อ หลิงพูด

ในตอนนั้น อารมณ์ชูเฟิ งซับซ้อนมาก เลือดในร่ างกายของเขาเหมือนถูก


ต้มและเขารู ้สึกว่าเหมือนกําลังโดนปิ้ งอยูบ่ นเตาถ่าน

แม้วา่ ต้านต้าน จะเคยเตือนเขาแล้วว่าที่นี่น้ นั เป็ นแค่พ้นื ที่เล็กในโลก


และภายนอกนั้นยังมีโลกที่กว้างใหญ่และมีบุคคลที่เกินกว่าชูเฟิ งจะคิด
ถึงอย่างนั้นสายตาของเขาก็ยงั คงมองอยูภ่ ายในแค่ ทวีปเก้าอาณาจักรนี้
แต่หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดของ จื่อ หลิง ชูเฟิ งจึงคิดได้และตระหนักได้วา่
โลกนี้ยงั มีสิ่งที่เขาไม่รู้อีกมาก

ในทวีปของเขา เขาถูกมองว่าเป็ นอัจฉริ ยะที่มีพลังท้าทายสวรรค์ แต่


สายตาจากคนภายนอกเขาอาจจะเป็ นขยะ

ในตอนนั้นชูเฟิ งเหมือนได้รับการจุดประกาย ในที่สุดเขาก็รู้วา่ เขาควรจะ


มุ่งหน้าไปทางไหน เขายังคงต้องการกลายเป็ นคนที่แข็งแกร่ งยิง่ ขึ้น
เพราะในทวีปเก้าอาณาจักรนี้มนั คงไม่พอสําหรับเขา

เป้าหมายในตอนนี้ของเขานั้นไม่เพียงแค่ภูมิภาคทะเลตะวันออกที่มี่
ผูเ้ ชี่ยวชาญอยูท่ ุกที่ แต่มนั เป็ นศูนย์กลางของโลกที่มี อัจฉริ ยะอยูเ่ พียบ
เป็ นดินแดนลึกลับที่มีแต่อจั ฉริ ยะเท่านั้นที่สามารถยืนอยูไ่ ด้
"ถ้า จื่อ หลิงมาจาก ภูมิภาคทะเลตะวันออก แล้วตัวข้าล่ะข้ามา
จากไหน"

"พ่อแม่ของข้า ครอบครัวของข้า พวกท่านอยู๋ที่ไหนกัน พวก


ท่านยังมีชีวติ อยูใ่ ช่หรื อไม่ " ชูเฟิ งมองขึ้นไปบนฟ้า และในใจของเขา
นั้นอยากออกจากทวีปนี้แล้วมุ่งสู่ ดินแดนใหม่เต็มทีแล้ว

"โอเค ชูเฟิ งได้เวลาแล้ว พวกเราไปสํานักเทพอัคคีกนั หลังจากที่


ไปล่อเจ้าสํานักออกมา พวกเราจะเข้าไปปล้นทุกอย่างจากสํานักนั้น และ
ให้บทเรี ยน ต่อการกระทําที่แสนโหดร้ายของพวกมัน " ในตอนนั้น จื่อ
หลิง พูด และยิม้

"อืม มันถึงเวลาที่จะให้พวกเขาได้ชดใช้แล้ว "เมื่อได้ยนิ คําพูด


ของจื่อ หลิง ชูเฟิ งจึงยิม้ แล้วพูดออกมา
หลังจากนั้น จื่อ หลิง ก็ใช้ยอดยุทธภัณฑ์ของเธอ วิง่ กลับไปยังสํานักเทพ
อัคคีกบั ชูเฟิ งอย่างรวดเร็ ว

เมื่อชูเฟิ ง และจื่อ หลิง กลับไปยังสํานักเทพอัคคี ผูอ้ าวุโสที่กลับมาแจ้ง


ข่าวก็ยงั มาไม่ถึง พวกเขาทั้ง2 ต้องรอเป็ นเวลา2 วันก่อนที่ ผูอ้ าวุโสคน
นั้นจะกลับมาถึง สํานักเทพอัคคี

เมื่อชูเฟิ ง และจื่อ หลิง รู ้วา่ ผูอ้ าวุโสกับมาแจ้งข่าวให้เจ้าสํานักเทพอัคคี


แล้วเจ้าสํานักเทพอัคคีจึงรี บเคลื่อนไหวทันที

จากนั้นเจ้าสํานัก เทพอัคคีกบ็ ินออกไป และด้านหลังเขามีผเู ้ ชี่ยวชาญ


ระดับอาณาจักรสวรรค์ 11 คนตามออกไปด้วยและผูอ้ าวุโสที่มาแจ้ง
ข่าวก็อยูใ่ นกลุ่มนั้นเหมือนกัน
หลังจากพวกเขาออกไป เพือ่ หลีกเลี่ยงเหตุการณ์ณฺที่ไม่คาคดิดพวกชูเฟิ ง
จึงรออีกครึ่ งและหลังจากครึ่ งวันนั้น เมื่อเห็นว่าเจ้าสํานักเทพอัคคียงั ไม่
กลับมาพวกเขาจึงแอบลอบเข้าไปยังสุ สานเป็ นอันดับแรก

สุ สานของสํานักเทพอัคคีน้ นั กว้างใหญ่มาก โดยปกติแล้วหลุมศพนั้นจะ


อยูใ่ ต้ดิน แต่ที่นี่ครึ่ งหนึ่งอยุบ่ นดินส่ วนอีกครึ่ งถูกฝังอยูใ่ ต้ดิน

หลุมศพที่อยูเ่ หนือพื้นดินนั้นเหมือนตําหนักขนาดใหญ่ภายนอกตําหนัก
นั้นมีกาํ แพงสู งล้อมอยู่ ภาพรวมของสถานที่แห่งนี้เหมือนเมืองร้าง และ
ตรงประตูเมืองมีขอ้ ความอยู่ ข้อความนั้นเขียนว่า: " สุ สานบรรพชน เทพ
อัคคี"

ในตอนหน้าของประตูน้ นั มีศิษย์หลัก2 คนยืนอยู่ ศิษย์หลัก 2 คนนั้น


อยูใ่ นระดับแก่นแท้วญ
ิ ญาณ พวกเขายืนตรงแด่วเหมือนหอกถูกตั้งไว้
และไม่ขยับเขยื้อนเลย
ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง ไม่เพียงรู ้วา่ พวกเขาเป็ นผูเ้ ฝ้าหลุมศพเท่านั้น แต่นน่ั
บอกได้วา่ หลุมฝังศพนี้มีค่ามากแค่ไหนสําหรับสํานักแห่งนี้ เพราะพวก
เขานั้น ใช้ศิษย์หลักกว่า พันคน ในการป้องกันสถานที่แห่งนี้

ศิษย์หลักที่เฝ้าอยูใ่ นที่แห่งนี้ เกือบทั้งหมดมีพลังในระดับแก่นแท้


วิญญาณ และที่เหลือนั้นอยู๋ในระดับสู งสุ ดของเขากําเนิดวิญญาณ

นอกจากนี้ ยังมีผอู ้ าวุโสอีกประมาณร้อยคน การบ่มเพาะของพวกเขานั้น


สู งมาก พวกเขานั้นแทบจะอยู๋ในจุดสู งสุ ดของระดับแก่นแท้วญ
ิ ญาณ
ส่ วนใหญ๋ พวกเขาอยูใ่ น ระดับ 7 และมีบางคนอยูใ่ นระดับ 9

นอกเหนือจากคนเฝ้าหลุมพวกนี้แล้ว ในหลุมศพเทพอัคคีน้ นั ยังมีกลไก


แทบทุกรู ปแบบอยูข่ า้ งในนั้น
มีแม้กระทัง่ ระฆังที่สาํ หรับแจ้งเตือนถึงผูบ้ ุกรุ ก ไม่วา่ ผูบ้ ุกรุ กจะเข้าไป
ในสถานที่น้ ียงั ไงถ้าพวกเขาถูกพบพวกเขาจะทําให้ระฆังนั้นทํางาน
ทันที และนัน่ ทําให้คนจากสํานักเทพอัคคีจะเข้ามาช่วยพวกเขา

ดังนั้นเพื่อให้แนบเนียนที่สุด ภารกิจชูเฟิ ง และ จื่อหลิง นั้นไม่


จําเป็ นต้องฆ่าทุกคนในที่แห่งนี้พวกเขาต้องฆ่าเพียงแค่คนที่จะส่ ง
สัญญาณแจ้งเตือนเท่านั้น เพื่อไม่ให้เขาสัน่ ระฆังเรี ยกกําลังเสริ มได้

///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////

แปลโดยท่าน#ฮาย

A : นายว่าภายในสุ สานบรรพชนสํานักเทพอัคคีมีอะไรอยูบ่ า้ ง

B : ก้อนหิ น พื้นดิน และเพดาน

A : ไปคุยกะขี้ไป!!!
B : นี้กตู อบผิดหรื อไง!!!

A : ไม่ผดิ หรอก แต่มึงกวนตีน!!!


บทที่ 427 - เปิ ดสุ สาน

*ฟึ่ บ*

ในตอนนั้นชูเฟิ งเคลื่อนไหวราวกับภูตผีพริ บตาเดียวก็มาปรากฏตัวหน้า


ผูเ้ ฝ้าประตูท้ งั 2 ยังไม่ทนั ได้รู้สึกอะไรทั้ง 2 คนก็ถูกตัดหัวทันที

พริ บตาเดียวชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง ก็ฆ่าทั้ง2อย่างรวดเร็ ว บรรดา ศิษย์ และ


ผูอ้ าวุโส นั้นไม่ทนั ได้ส่งเสี ยงอะไรพวกเขาก็ถูกฆ่าอย่างรวดเร็ ว

ต่อจากนั้นไม่นาน ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิงก็ฆ่าผูเ้ ฝ้าหลุมศพไปทั้งหมด


1058คน
และด้วยอํานาจวิญญาณระดับชุดฟ้าของจื่อ หลิง นั้น เธอก็เปิ ดประตู
และจัดการกับกลไกทั้งหมดนัน่ อย่างง่ายดายและพวกเขาก็ตรงไปยังใจ
กลางที่แห่งนั้นและพบว่า หลุมศพนั้นจริ งๆแล้วอยูใ่ ต้ดินที่แห่งนี้

"พวกเขาช่างรวยจริ งๆ แม้แต่หลุมศพก็ยงั หรู หราขนาดนี้


โครงสร้างของมันช่างฟุ่ มเฟื อยเสี ยจริ ง "

หลังจากที่เดินเข้ามาในพื้นที่ส่วนหลักของหลุมศพเทพอัคคี และเห็น
โครงสร้างที่เปล่งประกายไปด้วยทองและหยกเหมือนกับเครื่ องประดับ
ชูเฟิ งจึงได้แต่ถอนหายใจแล้วพูด

นอกจากนี้หลุมศพเทพอัคคีน้ ี มีเป็ นประติมากรรมขนาดใหญ่วางอยูบ่ น


หลุมศพ ประติมากรรมพวกนี้ได้สลักถึงตัวตนของพวกเขาก่อนตายและ
บนหลุมนั้นได้บนั ทึกเกี่ยวเกี่ยวกับระดับพลังของพวกเขา ตําแหน่ง และ
ผลงานของพวกเขาที่เกี่ยวกับสํานักเทพอัคคี
"เมื่อมีอาํ นาจมาก ก็มีคนเคารพมาก นัน่ ปกติอยูแ่ ล้ว "จื่อ หลิง
พูด

แม้วา่ สาวน้อยคนนี้จะอายุเพียง15ปี แต่ความคิดของเธอนั้นโตกว่าวัย


มาก เพราะเธอนั้นเผชิญอะไรมามากมายไม่นอ้ ยกว่าชูเฟิ ง

"ว้าว เจ้านี่อร่ อยจริ งๆ และกําลังสดๆด้วย ดูเหมือนพวกเขาจะนํา


ของพวกนี้มาถวายทุกวันเลยสิ นะ "

เพราะคนที่ตายไปนั้นไม่ได้แข็งแกร่ งเท่าไหร่ ชูเฟิ งจึงไม่สนใจพวกเขา


ซักเท่าไหร่ และอาหารที่อยูด่ า้ นหน้าหลุมศพนั้นดึงดูดชูเฟิ งมาก เขา
เอื้อมมือเขาไปและหยิบมา ในขณะที่เขาเดินเขาก็กินของใหม่และโยน
ของเก่าไปเรื่ อยๆ
"หยุดกินได้แล้ว. เราจะเริ่ มทํางานกันแล้ว " ในตอนนั้น จื่อ หลิง
ก็พดู ขึ้นมา

ในตอนนั้นชูเฟิ งพบว่าด้านหน้าของเขามีประตูขนาดใหญ่อยู่ บนประตู


นั้นมีรูปแบบวิญญาณที่ไม่ควรดูถูก ถูกวางไว้อยู่

รู ปแบบอํานาจวิญญาณนั้นทรงพลังมากเห็นได้ชดั ว่าถูกวางไว้โดย
ผูเ้ ชี่ยวชาญแม้เป็ นเช่นนั้น จื่อ หลิงก็ตอ้ งการที่จะเปิ ดมัน

"ภรรยาข้าไม่ตอ้ งกลัว เรามีหินรู ปแบบวิญญาณ " ชูเฟิ ง พูดและ


มีหินรู ปแบบวิญญาณปรากฏบนมือเขา

และด้วยความสามารถของจื่อ หลิง รวมกับหิ นรู ปแบบวิญญาณจากชูเฟิ ง


นั้นทําให้เปิ ดประตูได้อย่างรวดเร็ ว

"หื ม ~~" และหลังจากที่ประตูเปิ ดขึ้น ชูเฟิ งก็กวาดสายตามอง


ทันทีและพบว่าหลังประตูน้ นั มี หลุมศพทั้งหมด 21 หลุม

รอบๆ หลุมศพทั้ง 21 นั้นมีลูกแก้ว แก่นแท้ กําเนิด และจิตวิญญาณ


กระจายอยูท่ วั่

จากจํานวนทั้งหมดนี้อย่างน้อยน่าจะมีลูกแก้วแก่นแท้ ประมาน 4-5


เม็ดและ ลูกแก้วกําเนิดวิญญาณ หลายล้านเม็ดส่ วนและลูกแก้วจิต
วิญญาณ อย่างน้อยร้อยล้านเม็ด

ลูกแก้วดังกล่าวนี้กระจายไปหมดทัว่ พื้นดินรอบๆ 21 สุ สานนั้น


"นี่มนั คุม้ เหลือเกิน ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าสํานักเทพอัคคีจะใช้
ทรัพยากรมากมายขนาดนี้ในการเซ่นไว้ผเู ้ สี ยชีวติ " ชูเฟิ งพูด

"ผูค้ นเหล่านี้ลว้ นเป็ นเจ้าสํานักรุ่ นก่อนๆของสํานักของเขาที่ทาํ


ผลงานให้กบั สํานักเทพอัคคี "

"ทรัพยากรเหล่านี้กแ็ ค่เป็ นเครื่ องหมายบ่งบอกว่าพวกเขานั้นมีพลังแค่


ไหน เพราะมันหมายถึงว่าไม่วา่ จะใช้วธิ ีการแบบไหนก็ยงั ต้องใช้ลูกแก้ว
พวกนี้ในการก้าวขึ้นไปในแต่ละขั้นอยูด่ ี "จื่อ หลิง พูด

"จื่อ่ หลิงเจ้าคิดว่า เจ้าสํานักเทพอัคคี นั้นจะมีลูกแก้วแก่นแท้ไป


ทั้งหมดกี่เม็ดกัน" ชูเฟิ ง ถาม

เพราะในตอนแรกเขาเห็นผูน้ าํ ของมหาอํานาจใช้เวลานานในการออกไป
หาลูกแก้วแก่นแท้นบั แสนเม็ด ด้วยการดังกล่าวทําให้ชูเฟิ ง คิดว่าลูกแก้ว
แสนเม็ดนั้นเป็ นจํานวนมากที่พวกเขาไม่สามารถจ่ายได้ แต่หลังจากที่
เห็นในวันนี้เขาจึงพบว่านัน่ ไม่ใช่ความจริ ง

"จากที่ขา้ รู ้ ทรัพย์ท้ งั หมดของนครอันทรงเกียรติน้ นั คํานวณ


คร่ าวๆแล้ว น่าจะมีลูกแก้วแก่นแท้ประมาณ 5-6 ล้านเม็ด "

"สําหรับ เจ้าสํานักเทพอัคคีน้ นั สํานักนี้มีประวัติยาวนานกว่า


นครอันทรงเกียรติ และพวกเขามีชื่อเสี ยงในอาณาจักร ซ่ง มานานแล้ว
ดังงนั้นข้าคิดว่ามันน่าจะมีมากกว่า 6ล้านเม็ด “ จื่อ หลิง พูด

"นัน่ มันมากขนาดนั้นเชียว ตอนแรกข้าก็โง่คิดว่าแค่แสนเม็ด


นั้นก็ทาํ ให้พวกนั้นเลือดตาแทบกระเด็นแล้ว "

"นัน่ เป็ นแค่เศษเสี้ ยวของพวกเขาสิ นะ คนเหล่านี้ตระหนี่และ


เห็นแก่ตวั มากแม้กระทัง่ แกล้งทําหน้าเจ็บปวดแบบนั้นเพื่อหลอกลวงข้า
บัดซบ " เมื่อ่มองกลับไปตอนที่ตกลงเรื่ องขวานอสู รฟ้าแล้ว ชูเฟิ งรู ้สึก
เจ็บใจมาก

"ทรัพยากรพวกนี้ใช้เวลานับพันปี ในการรวบรวมมา เจ้าคิดว่าพวกเขาจะ


เอาออกไปใช้ได้ตามต้องการหรื อ แน่นอนว่าจํานวนแสนเม็ดนั้นไม่ได้
น้อยเลยสําหรับพวกเขา "

"นอกจากนี้พวกเขาต้องหาทางที่ทาํ ให้สาํ นักของเขายิง่ ใหญ่


แม้วา่ พวกเขาจะมีทรัพยากรอย่างมากมายแต่พวกเขาก็ไม่ได้ใช่มนั แบบ
ฟุ่ มเฟื อย เพราะว่าพวกเขานั้นต้องใช้ทรัพยากรในการฝึ กศิษย์กว่า10
ล้านคนและในการพัฒนาศิษย์ที่โดดเด่นของพวกเขา พวกเขาสามารถใช้
ประสบการณ์ที่มีนบั หลายปี นั้นยืนอยูบ่ นจุดสู งสุ ดและไม่ตกลงมาและ
ยังต้องงการรักษาตําแหน่งของตนไว้ตลอด "
"ดังนั้นพวกเขาต้องการที่จะเพิ่มทรัพยากรของตนให้มากขึ้นเรื่ อ่ยๆ นี่จะ
ทําให้พวกเขาจะยินดีที่จะนํามันออกมาใช้ฟุ่มเฟื อยหรื อ "

///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//

แปลโดยท่าน#ฮาย

บทที่ 428 - สายเลือดสื บทอด

“ ความกระหายในทรัพยากรกรของเจ้ามันช่างสาหัสยิง่ นัก ก่อน


หน้าที่เจ้าจะหนีออกจากนครอันทรงเกียรติ เจ้าได้ลูกแก้ววิญญาณมาเป็ น
จํานวนมหาศาล “

“ไม่กี่วนั หลังจากที่เจ้าได้ลูกแก้วแก่นแท้ วิญญาน ไปเป็ นจํานวน


มาก แต่พลังวิญญาณของเจ้ากับเพิม่ ขึ้นในระดับที่ไม่สมเหตุสมผล”
“ หากข้าเดาไม่ผดิ การบ่มเพาะพลังของเจ้า จําเป็ นต้องใช้
ทรัพยากรเป็ นจํานวนมาก ถึงแม้วา่ เจ้า จะไม่ได้มีกายศักสิ ทธิ์และพลัง
ศักดิ์สิทธิ์ งั้นก็เหลือแค่อย่างเดียว คือ เจ้ามีสายเลือดที่แข็งแกร่ งมาก
ไหลเวียนอยู.่ ” จื่อหลิงกล่าว

“สายเลือด?” หลังจากที่ ชูเฟิ งได้ยนิ คําพูดเหล่านั้น เขา


ประหลาดใจอย่างมากเพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าสายฟ้าศักสิ ทธิ์ ใน
ร่ างกายของเขาจะเป็ นประเภทของสายเลือดสื บทอด มิใช่ กายศักสิ ทธิ์

มันเป็ นสิ่ งที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ตอนที่เขาอายุ 10 ขวบ ดังนั้นเขา


มักจะคิดเสมอว่าเขาคือกายศักดิ์สิทธิ์ [ T/N ชูเฟิ งไม่รู้วา่ เขามีสายเลือด
นี้อยูแ่ ต่กาํ เนิด เขานึกว่ามันเกิดขึ้นตอนที่ถูกฟ้าผ่า”

“ใช่แล้ว ในโลกนี้นอกเหนือจาก อํานาจพลังพิเศษ ของ


กายศักสิ ทธิ์ ก็ยงั มีคนที่ ครอบครองสายเลือดที่แข็งแกร่ งอยูแ่ ละพวกเขา
ก็มีอาํ นาจพลังพิเศษด้วยเหมือนกัน”
“ตัวอย่างเช่น ราชวงศ์ เจียง สิ่ งที่พวกเขามีคือ สายเลือดที่สืบทอด
ต่อๆกันมาในตระกูล และในยามที่พวกเขาบ่มเพาะพลังวิญญาณ พวก
เขาจะต้องใช้ทรัพยากรเป็ นจํานวนมาก”

“แต่เจ้านั้นแตกต่างจากพวกเขา” จือหลิงยังคงกล่าว

“ข้าต่างจากพวกเขายังไง ?” ชูเฟิ งถาม

“ หากจําไม่ผดิ เจ้าน่าจะมีลูกแก้วแก่นแท้วญ
ิ ญาณมากกว่าล้าน
เม็ด ตอนแรกเจ้ามีพลังวิญญาณอยูใ่ นระดับ 3 แก้นแท้ แต่ตอนนี้เจ้าเข้า
สู่ ระดับ 6 แก่นแท้ หากเจ้าใช้ลูกแก้ววิญญาณจํานวนมากขนาดนั้นหมด
นั้นหมายความว่าจํานวนทรัพยากรที่เจ้าต้องการเป็ นสิ่ งที่น่ากลัว นี้คือสิ่ ง
ที่ต่าง หากจะเทียบกับคนราชวงศ์เจียง”
“สิ่ งที่เป็ นเหตุผลที่ทาํ ให้เจ้าเป็ นแบบนี้ มีอยู่ 2 ประการ “

“ประการแรก คือเจ้าต้องการใช้ทรัพยากรจํานวนมาก ประการที่


สอง จะสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างไร้ขีดจํากัด ตราบใดที่ทรัพยากร
มากพอเจ้าก็จะสามารถทะลวงอาณาจักรพลังวิญญาณ”

“ข้าพูดถูกไม๊ล่ะ” จือหลิงกล่าว

“นี่ . . . .เจ้ารู ้ได้ยงั ไง ?” ชูเฟิ งขมวดคิ้วแน่น เขาไม่เคยคิดว่า สาว


น้อย อย่างจื่อหลิงจะมองเขาทะลุปรุ โปร่ ง ทั้งยังเข้าใจวิธีการพัฒนาพลัง
วิญญาณและกฏในการตัดผ่านของเขา

“มันเป็ นเรื่ องจริ ง อย่างที่ขา้ พูดใช่ไม๊ ?” จื่อหลิง ยิม้ พร้อมกับ


ถามกลับ
“นี้เจ้ากําลังหลอกถามข้าสิ นะ!!! “ เมื่อชูเฟิ งเห็นท่าทางของจื่อห
ลิง เขาก็อดไม่ได้ที่จะโมโหนิดหน่อย

“ ที่จริ งแล้ว ข้าลองเดาดู เพราะในตอนแรกข้าเคยประมือกับเจ้า


ในหุบเขาพยัคฆ์ขาว หลังจากที่ขา้ กลับไปข้าก็ถามปู่ ว่านอกจากกาย
ศักดิ์สิทธิ์แล้วมีอะไรที่ทาํ ให้คนนั้นแข็งแกร่ งเป็ นพิเศษ “

“ ผูท้ ี่ฝึกฝนทักษะลับต้องห้ามจะเหมือนกับผูท้ ี่มีกายศักดิ์สิทธิ์


พวกเขาสามารถได้รับพลังพิเศษเหมือนกับกายศักดิ์สิทธิ์และการฝึ กฝน
ทักษะลับต้องห้ามเท่านั้นที่ไม่ตอ้ งใช้ทรัพยากรในการเพาะปลูกจํานวน
มาก “

“ อย่างไรก็ตาม สําหรับการฝึ กฝนทักษะลับต้องห้ามนั้นอันรับ


อันตรายอย่างมาก ในช่วงเวลาที่ฝึกฝนมันก็จะได้รับความทุกข์ทรมาน
อย่างแสนสาหัสกล่าวได้วา่ เป็ นการลงทัณฑ์ของสวรรค์ “

“ สวรรค์ยงั คงลงโทษยังคงเกิดขึ้นซํ้าแล้วซํ้าเล่า หากพวกเขา


สามารถแบกรับมันได้โดยที่ฝึกสําเร็ จ พวกเขาก็จะไม่ตาย แต่เจ้าดูไม่
เหมือนกับคนที่เคยฝึ กฝนมัน “

“ ดังนั้น เจ้าน่าจะเป็ นคนที่สืบทอดสายเลือด แต่เจ้าดูแตกต่างจาก


คนของราชวงศ์เจียงไปอย่างสิ้ นเชิง ดังนั้นยิง่ เป็ นไปไม่ได้วา่ เจ้าเป็ น
ส่ วนหนึ่งของราชวงศ์เจียง ปู่ ของข้ายังกล่าวอีกว่า . . . .“

“ ปู่ เจ้ากล่าวว่า ? “ ชูเฟิ งถามใกล้ๆอย่างรี บร้อน

“ ท่านปู่ ของข้ายังบอกอีกว่า สายเลือดนั้นต่างจากกายศักดิ์สิทธิ์


กายศักดิ์สิทธิ์เป็ นพลังจากสวรรค์ประทาน ส่ วนสายเลือดคือผูส้ ื บเชื้อ
สายโดยตรงจากสวรรค์ . . . . . . ส่ วนพลังการต่อส้ของพวกเขามาจาก
พลังวิญญาณ ส่ วนพลังวิญญาณเกิดจากการมานะของพวกเขาเอง”

“ สายเลือดยังสามารถพัฒนา ถ่ายทอดสู่ รุ่น ลูก หลาน และ


เหลนไปเรื่ อยๆ ยังสามารถได้รับพลังอํานาจพิเศษที่คล้ายๆกัน ดังนั้น
สายเลือดมันจึงมีระดับที่แตกต่างกันออกไป”

“ ระดับ แล้วมันระดับไหนบ้าง “ ชูเฟิ งยังคงรี บร้อนถามอย่าง


ใกล้ชิด เพราะเขาได้รู้ในสิ่ งที่เขาไม่เคยรู ้มาก่อน นอกจากนี้สิ่งที่นาง
กําลังพูดมามันตรงกับเขาทุกๆอย่าง

“ ท่านปู่ ของข้าไม่รู้ระดับของมัน เห็นเขาบอกว่าเขาเคยเห็นมา


ในหนังสื อโบราณ ไม่วา่ จริ งหรื อเท็จ เขาก็ไม่อาจจะยืนยันได้ “

“ แต่ปู่ข้าบอกว่า ระดับตํ่าสุ ดของสายเลือดสื บทอด คือ สายเลือด


แห่งราชวงศ์ “
“ ดังเช่น คนในตระกูลเจียงที่ต่างได้รับสายเลือดแห่งราชวงศ์
นั้นคือเหตุผลที่พวกเขา เรี ยกตัวเองว่า ราชวงศ์เจียง “

“ ท่านปู่ ยังบอกข้าว่ามีการรับสมัครเข้าพรรคพวกผูท้ ี่มีสายเลือด


สื บทอดในภาคทะเลตะวันออก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถตั้งตัวเป็ นใหญ่
ในดินแดนนั้นได้ พวกเขาจึงกล่าวได้วา่ เป็ นตระกูลที่อยูอ่ าศัยที่น้ นั มา
ยาวนาน “

“ นี้เป็ นเหตุผลว่าทําไมราชวงศ์ เจียง ถึงมาสถานที่แห่งนี้ เช่น


ทวีปเล็กๆ ของอาณาจักรทั้งเก้า และแต่งตั้งตัวเองขึ้นเป็ นประมุข เพราะ
ในภาคทะเลตะวันออก เป็ นดินแดนที่มีคนระดับนั้น ไม่เหมือนกับที่นี่ ที่
พวกเขาสามารถตั้งตนเป็ นประมุขปกครองและเพื่อรักษารากฐานในการ
พัฒนา “
“ จริ งๆแล้วตระกูลที่แข็งแกร่ งเหมือนราชวงศ์เจียง มีค่อนข้าง
น้อย แต่พวกเขาส่ วนหนึ่งก็ลว้ นมีเป็ นตระกูลที่มีสายเลือดแห่งราชวงศ์
เพราะสายเลือดในร่ างกายที่แข็งแกร่ งนั้น แม้จะทําให้พวกเขาแข็งแกร่ ง
แต่มนั ก็ยงั ไมเพียงพอที่จะได้ครอบครองพื้นที่ของดินแดนภาคทะเล
ตะวันออก “

“ ยังไงก็ตามอย่างน้อยที่สุดในทะเลภาคตะวันออก ท่านปู่ ของข้า


ก็ไม่เคยเห็นตระกูลไหนที่มีสายเลือดมากกว่าระดับราชวงศ์ ซึ่ ง
หมายความว่าในทะเลภาคตะวันออก สายเลือดที่แข็งแกร่ งกว่าระดับ
ราชวงศ์ ยังไม่เคยปรากฏมาก่อน “

“ แต่น้ นั ไม่ใช่จุดสําคัญ ส่ วนสําคัญของมันจริ งๆก็คือระดับของ


สายเลือดของเจ้ามันต่างจากราชวงศ์เจียง ท่านปู่ เคยบอกว่าระดับ
สายเลือดที่แข็งแกร่ งมากน้อยให้สงั เกตุจากแหล่งพลังวิญญาณ ในการ
ใช้ทรัพยากรที่หนักหนา “

" เพราะผูท้ ี่มีสายเลือดที่ทรงพลังมักจะต้องเผชิญกับความยาก


ในระดับที่สูงขึ้น ดังนั้น ทรัพยากรของผูท้ ี่มีสายเลือดอันแข็งแกร่ งจึงใช้
เป็ นจํานวนมากมายมหาศาล "

“ นี่คือราคาของสิ่ งที่เรี ยกว่า สายเลือด ไม่เหมือนกับ กาย


ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้พลังจากสวรรค์ประทาน “

“ สําหรับผูท้ ี่มีสายเลือดสื บทอด หากพวกเขาต้องการที่จะได้รับ


พลังอํานาจพวกเขาก็ตอ้ งแลกด้วยการจ่ายราคาที่มากกว่า และพวกเขายัง
ต้องพึ่งพาอาศัยตัวเอง “

“ ยิง่ สายเลือดระดับสู งมากเท่าไหร่ ข้อจํากัดของพวกมันก็จะ


มากเท่านั้น นัน่ หมายความว่า ตราบใดที่มีทรัพยากรที่เพียงพอพวกเขา
จะตัดผ่านระดับพลังวิญญาณขึ้นไปได้ “

“ นั้นคือข้อสังเกตุคนที่มีสายเลือดระดับสู ง สัญลักษณ์ที่ชดั เจน


ที่สุดในสังเกตุอีกอย่างคือ การที่พวกเขาสามาระตัดผ่านระดับได้อย่าง
รวดเร็ วโดยไม่ตอ้ งเข้าใจกฏ นั้นเป็ นเพราะพลังของสายเลือดพวกเขาที่
แข็งแกร่ ง ทําให้ตดั ขาดจากพันธะเหล่านั้น “

“ อย่างเช่น หากเป็ นคนปกติ อยากจะก้าวขึ้นสู่ อีกระดับ 1


หลังจากที่สะสมพลังวิญญาณมากพอพวกเขายังต้องทําความเข้าใจกับ
มัน ใหม่ท้ งั หมด แต่ผทู ้ ี่มีสายเลือดระดับสู งนั้นไม่จาํ เป็ นต้องทําความ
เข้าใจอะไรใดๆ “

“ มันเป็ นเพราะความสามารถที่สูงของพวกเขาแบบนั้น ทําให้


พวกเขามีความแข็งแกร่ ง พวกเขาที่ไม่ตอ้ งทําความเข้าใจเกี่ยวกับกฏ
พวกเขาจึงสามารถทะลวงพลังวิญญาณได้ทุกอาณาจักร “

“ แน่นอนว่าความสามารถแบบนั้นจะต้องถูกจํากัด ตัวอย่างเช่น
คนอยูอ่ าณาจักรสวรรค์ ที่มีสายเลือดระดับสู ง หลังจากที่ไปถึงขั้นนั้น
พวกเขาจะต้องทําความเข้าใจซะก่อน แล้วความยากของมันจะค่อยๆ
เพิ่มขึ้นไป ในระดับอาณาจักรที่สูงขึ้น “ จื่อหลิงพูด

///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////
บทที่ 429 - เข้าใจ

“ไม่วา่ เจ้าจะพูดยังไงก็ตาม แต่คนที่มีพลังทางสายเลือดนั้น


แข็งแกร่ งมาก แม้แต่การทะลวงขั้นพลัง เมื่อเทียบกับข้า มันก็เป็ นเรื่ อง
ง่ายๆ สําหรับพวกเขา เพราะด้วยพละงของสายเลือด พวกเขาจึงเป็ น
อัจฉริ ยะตั้งแต่กาํ เนิด”

“ท่านปู่ เคยเล่าเกี่ยวกับผูท้ ี่มีพลังทางสายเลือด ท่านบอกว่าหากพลัง


ทางสายเลือดเพิ่มขึ้นถึงระดับหนึ่ง พวกเขาจะมีความสามารถที่มากกว่า
กายศักดิ์สิทธิ์มากนัก”

“เพราะถึงแม้กายศักดิ์สิทธิ์จะได้รับพรสวรรค์บางอย่าง แต่ในการ
ทะลวงขั้นพลังยังคงเป็ นเรื่ องยาก แต่สาํ หรับผูม้ ีพลังทางสายเลือดนั้น
มันไม่ใช่เรื่ องยาก” จื่อ หลิง กล่าวอธิบายอย่างจริ งจัง เรื่ องกายศักดิ์สิทธิ์
และพลังทางสายเลือด

“ฮ่าๆ ไร้สาระ…..พลังทางสายเลือดแต่กาํ เนิดเช่นนั้นรึ เห็นได้


ชัดว่าแสงพวกนี้พงุ่ เข้าใส่ ร่างกายของเจ้า มันอาจเป็ นไปได้วา่ เจ้าเป็ นผูม้ ี
พลังทางสายเลือดแต่กาํ เนิด” ในเวลานั้น ต้านต้าน ก็กล่าวอย่างเย้ยหยัน
ออกมา

“ถูกต้อง !! ต้านต้าน เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง แม้วา่ ตามคํากล่าวของ จือ


หลิง จะตรงกับสถานการณ์ในตอนนี้ของข้า แต่มีอย่างหนึ่งที่แตกต่าง
ออกไป นางกล่าวว่า ผูม้ ีพลังทางสายเลือดนั้น จะมีมาแต่กาํ เนิด และ
พวกเขาจะเป็ นอัจฉริ ยะตั้งแต่แรก”

“แต่สาํ หรับข้ามันไม่ใช่ ก่อนที่ขา้ จะอายุสิบปี ข้าก็ยงั เป็ นเพียงคน


ธรรมดา และเมื่อข้าได้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์มา ข้าถึงได้เปลี่ยนแปลงไป” ชู
เฟิ ง พึมพํากับตัวเอง เขายังไม่สามารถเข้าใจถึงสถานการณ์ตอนนี้ของ
เขาได้

“ชูเฟิ ง เจ้าบอกข้าได้หรื อไม่ ว่าพลังทางสายเลือดของเจ้าคืออะไร”

ในขณะนั้น จื่อ หลิง ก็กล่าวถามออกมา แววตาของนางเต็มไปด้วย


ความโหยหาในคําตอบ

“…………ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน และข้าก็ยงั ไม่สามารถทํา


ความเข้าใจถึงมันได้” ชูเฟิ ง กล่าวตอบอย่างจนปั ญญา

“ข้าเชื่อที่เจ้าพูด” จื่อ หลิง กล่าวพลางยิม้ บาง นางไม่ได้ถามอะไร


อีก นางกระโดดลงจากโรงศพ และหันมองไปรอบๆ พร้อมกล่าวกับ ชู
เฟิ ง ว่า “ทรัพยากรการบ่มเพาะพละงทั้งหมดจะเป็ นของเจ้า แต่แหล่ง
อํานาจพละงวิญญาณจะเป็ นของข้า”
“นี่…………” เมื่อได้ยนิ คํากล่าวนั้ ชูเฟิ ง ก็ตกอยูภ่ ายใต้ความ
สับสน เพราะ ต้านต้าน ยังคงต้องการเพิ่มระดับพลังของนาง และแหล่ง
อํานาจพลังวิญญาณเหล่านี้กจ็ าํ เป็ นสําหรับนาง

ที่ดา้ นหน้าของเขา มันคือแหล่งอํานาจพลังวิญญาณที่สมบูรณ์ของ


เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญ ไม่รู้วา่ วันข้างหน้าพวกเขาจะโชคดีได้พบกับมันอีก
หรื อเปล่า

อย่างไรก็ตาม จื่อ หลิง ได้ยกทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังให้แก่


เขา หากเขายังไม่แย่งแหล่งอํานาจพลังวิญญาณจากนาง เขาย่อมรู ้สึกไม่
ดี แต่หากว่าเขาไม่เอาแหล่งอํานาจพละงวิญญาณเหล่านั้น ก็จะรู ้สึกผิด
ต่อ ต้านต้าน ในตอนนี้ ชูเฟิ ง ตกอยูส่ ถานการณ์ที่ยากลําบาก “หนึ่งก็เมีย
น้อย อีกหนึ่งก็วา่ ที่เมียหลวง เฮ้อ……!! โลกนี้ไม่ยตุ ิธรรมเลยจริ งๆ “
“ข้าตกลง !!”

ทันใดนั้น ชูเฟิ ง ก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้น โดยการที่เขาจะเอา


ทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังครึ่ งหนึ่ง เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง และ
แหล่งอํานาจพละงวิญญาณครึ่ งหนึ่ง เพื่อผลประโยชน์ของ ต้านต้าน

“เจ้าบ้า !! อย่าได้คิดเช่นนั้นอีก ให้แหล่งอํานาจพละงวิญญาณแก่


นางไปทั้งหมดนัน่ แหละ ข้าไม่ตอ้ งการแหล่งเพียงน้อยนอดเหล่านี้ สิ่ ง
สําคัญตอนนี้ คือการบ่มเพาะพละงวิญญาณของเจ้า เจ้าไม่อยากช่วย ซูรู่
และ ซูเหม่ย แล้วเช่นนั้นรึ ” ในสถานการณ์ที่ ชูเฟิ ง กําลังลําบากใจอยู่
นั้น เสี ยงของ ต้านต้าน ก็ดงั ขึ้นมา

“ต้านต้าน……ข้า” ในเวลานั้น ชูเฟิ ง สัมผัสได้ถึงความอดอุ่น


ภายในจิตใจของเขา เพราะเขาสามารถเข้าใจความคิดของ ต้านต้าน ได้
อย่างดี
ความจริ งนั้น ไม่ใช่วา่ นางๆม่ตอ้ งการแหล่งอํานานพลังวิญญาณ
แต่ที่นางกล่าวเช่นนั้นออกมา เพราะว่านางต้องการเสี ยสละตนเอง เพื่อ
ไม่ให้ ชูเฟิ ง ลําบากใจ จึงแกล้งทําเป็ นไม่สนใจต่อแหล่งอํานานพลัง
วิญญาณเหล่านี้

“เอาหล่ะ อย่ามัวพูดมาก หากเจ้าแข็งแกร่ งขึ้น เจ้าค่อยหาแหล่งอํา


นานพละงวิญญาณมาให้ขา้ ตอนนี้เจ้ารี บไปรวบรวมทรัพยากรเหล่านั้น
ได้แล้ว” แม้วา่ คําพูดของนางจะดูป่าเถื่อน แต่ความจริ งแล้วนั้น นางเป็ น
คนที่น่ารัก และน่าเอ็นดูอย่างมาก

“อืมม..” ชูเฟิ ง พยักหน้ารับพร้อมกับก้าวเดินออกไป เขานําถุง


จักรวาลของเขาออกมา และเริ่ มเก็บทรัพยากรการบ่มเพาะพลังที่อยูบ่ น
พื้นจํานวนมากนัน่ อย่างรวดเร็ ว

ทรัพยากรเหล่านั้นมีจาํ นวนมากมายมหาศาล โดยเฉพาะอน่างยิง่


ลูกแก้ววิญญาณ ชูเฟิ ง เก็บรวบรวมพวกมันทั้งหมด โดยเน้นไปที่ลูกแก้ว
แก่นวิญญาณ

“เรี ยบร้อย !!” เมื่อเขาเก็บลูกแก้วแก่นวิญญาณลูกสุ ดท้ายลงถุง


จักรวาล เขาก็พบว่า จื่อ หลิง นัง่ อยูบ่ นป้ายหลุมศพ นางกําลังแกว่งขา
ขาวราวหิมะ พร้อมกับมองมาที่เขา

ในตอนนั้น แววตาของ ชูเฟิ ง เป็ นประกาย รอยยิม้ ปรากฏบน


ใบหน้าของเขา ขณะที่เขากล่าวออกมาว่า “สี ชมพู…”

“อะไรสี ชมพู !!” หลังจากที่ได้ยนิ คํากล่าวนั้น จื่อ หลิง ไม่สามารถ


เข้าใจได้ แต่เมื่อนางเห็นรอยยิม้ อย่างหื่ นกระหายของ ชูเฟิ ง นางก็เข้าใจ
ในทันที

นางรี บรวบขาของนาง พร้อมกับกระโดดลงจากป้ายหลถมศพอย่าง


รวดเร็ ว และตะโกนอแกมาว่า “ไอ้ลามก !!”
“ข้า…..ข้าไม่เห็นอะไรนะ” เมื่อเห็นว่าถูกจับได้ ชูเฟิ ง รี บเอามือ
ขึ้นมาปิ ดตาของเขาอย่างรวดเร็ ว

“เจ้า !!........” ทันทีน้ นั จื่อ หลิง โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ นางผายมือ
ของนางออก หมายที่จะตบ ชูเฟิ ง แต่จู่ๆ นางก็ลดมือของนางลง และ
กล่าวออกมาว่า “แหล่งอํานาจพลังวิญญาณทั้ง 21 ดวงนี้ อยูใ่ นขั้นแดน
สวรรค์ ข้าได้ดูดกลืนไปสิ บเอ็ดดวง อีกสิ บดวงเป็ นของเจ้า”

“จื่อ หลิง เจ้า……….” หลังจากได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง กตกตะลึง


อย่างมาก เขาไม่สามารถกล่าวอะไรออกมาได้

“อย่าได้กล่าวอะไรออกมาอีก เพราะทั้งหมดนี่กเ็ ป็ นของเจ้าและ


ของข้า รี บๆ ไปดูดซับแหล่งอํานานพลังวิญญาณเหล่านั้นซะ ข้ารู ้วา่ อสู ร
วิญญาณของเจ้ายังต้องการอํานานพละงวิญญาณอีกมาก ไม่เช่นนั้นเจ้า
คงไม่ดูดซับพลังวิญญาณทุกๆ ครั้ง หลังจากที่เจ้าสังหารคนหรอก” จื่อ
หลิง กล่าว

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก หัวใจของเขา


อัดแน่นไปด้วยความอบอุ่น เขารี บก้าวตรงไปที่โรงศพ ที่ถูกเปิ ดไว้โดย
จื่อ หลิง และรี บช่วย ต้านต้าน ดูดซับแหล่งอํานาจพลังวิญญาณอย่าง
รวดเร็ ว

“โอ้วววว ชูเฟิ ง ต้องบอกเลยว่า ภรรยาในอนาคตของเจ้า ช่างเข้าใจ


เจ้าเป็ นอย่างดี”

“ไม่เลวเลยจริ งๆ ข้าค่อนข้างชอบนาง” หลังจากดูดซับแหล่ง


อํานาจพละงวิญญาณทั้งสิ บดวฝเสร็ จ พลังวิญญาณของ ต้านต้าน ก็กา้ ว
เข้าสู่ รัดบั เจ็ด ขั้นแก่นวิญญาณ นางมีพลังห่างจาก ชูเฟิ ง หนึ่งระดับ นัน่
ทําให้นางพึงพอใจอย่างมาก
“แม่นาง….เจ้าช่างคิดเหมือนข้าจริ งๆ เห็นทีวา่ ข้าจะต้องพิจารณา
รับเจ้าเป็ นภรรยาของข้าในอนาคตแล้วซิ ” ชูเฟิ ง กล่าวพลางหัวเราะ
ออกมา

“เจ้ากล้ารึ !! หากดจ้ากล้ามีความคิดเช่นนั้นกับข้าอีก มาดูกนั ว่าข้า


จะจัดการกับเจ้ายังไง” ต้านต้าน กล่าวเย้ยหยัน

“ชูเฟิ ง พวกเราจะทําเช่นไรต่อ เราจะปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ หรื อว่าจะ


ทําเช่นไร” จื่อ หลิง กล่าวถาม

“เราจะจัดระเบียบนิดหน่อย เราจะทําลายซากศพเหล่านี้ และโยน


พวกเขาออกไป” ชูเฟิ ง กล่าวอย่างเย็นชา และเริ่ มทําตามที่เขากล่าว

ชูเฟิ ง ทําลายศพของบรรพบุรุษของสํานักเทพอัคคี และโยนโลงศพ


ของพวกเขาออกมาอย่างาวดเร็ ว

ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง เริ่ มทําลายสุ สานบรรพชนอย่างเมามันส์ จาก


สภาพที่ดูเป็ นระเบียบก่อนหน้านี้ ในตอนนี้น้ นั พวกมันถูกทําลายตนไม่
อาจจําสภาพเดิมได้แม้แต่นอ้ ย

ReadMGA.blogspot.com #Abhisit
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////

บทที่ 430 - เจ้าสํานักเทพอัคคีรุ่ นก่อน

“แย่แล้ว !! มีคนโจมตีสุสานบรรพชนของสํานีกเทพอัคคี !!”

“บัดซบ !! ใครมันกล้าอวดดี มาโจมตีสุสานบรรพชนสํานักเทพ


อัคคีของเรา !!”

การโจมตีของ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง ดึงดูดเหล่าลูกศิษย์ และผูอ้ าวุโส


ของสํานักเทพอัคคีได้อย่างดั พวกเขาต่างมุ่งหน้าไปที่สุสานบรรพชนอย่
สงเร่ งรี บ ตามเสี ยงระฆังเตือนที่ดงั กังวาลออกมา

“คนที่โจมตีสุสานบรรพชนคือ ชูเฟิ ง !!” ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ได้


ทะยานออกมา พร้อมกับโบกสะบัดขวานอสู รฟ้าในมือของเขาอย่างนวด
เร็ ว อีกทั้งยัวได้สงั หารเหล่าลูกศิษย์และผูอ้ าวุโสของสํานักเทพอัคคีที่อยู่
บนพื้นดินอย่างต่อเนื่อง

“ซวยแล้ว !! ชูเฟิ ง !! ทุกคนหนีเร็ ว !!” เมื่อต้อวเผชิญหน้ากับ ชูเฟิ ง


เหล่างูกศิษย์ และผูอ้ าวุโสของสํานีกเทพอัคคีไม่สามารถหยุดการโจมตี
ของเขาได้ พวกเขาได้ละทิ้งศักดิ์ศรี ของพวกเขา และเริ่ มวิง่ หนีกนั
จ้าละหวัน่
ทางด้าน จื่อ หลิง นั้น นางเรี ยกใช้ราชรถของนาง อีกทั้งยังเรี ยก
อสู รวิญญาณออกมา วิธสะงหารของนางไม่ได้ดอ้ ยกว่า ชูเฟิ ง แม้แต่นอ้ ย
และดูเหมือนว่าจะเหนือกว่า ชูเฟิ ง เล็กน้อย

สิ่ งที่ทาํ ให้เหล่าลูกศิษย์ และผูอ้ าวุโสของสํานักเทพอัคคีหวาดกลัว


นั้น เพราะในขณะนี้ท้ งั เพราะเจ้าสํานัก และผูอ้ าวุโสที่แข็งแกร่ งของ
สํานักไม่ได้อยูภ่ ายในสํานักเทพอัคคี จึงทําให้ในตอนนี้ไม่มีผใู ้ ดที่
สามารถต้านทานการโจมตีของ ชูเฟิ ง กับ จื่อ หลิง ได้ ในตอนนี้ สํานัก
เทพอัคคีกาํ ลังจะถูกทําลายด้วสนํ้ามือของพวกเขา

“บองที่ต้ งั ของคลังเก็บทรัพยากรการบ่มเพาะมาซะ” ชูเฟิ ง คว้าคอ


ของผูอ้ าวุโสหลักของสํานักเทพอัคคีข้ ึน และกล่าวถาม

“ขะ…ข้าไม่รู้ !! ข้าไม่รู้ !! มีแต่ท่านเจ้าสํานักเท่านั้นที่รู้ !!”


ขณะที่ผอู ้ าวุโสคนนั้นกล่าว กางเกงของเขาก็เริ่ มจะชถ่มไปด้วยปัสสาวะ
ของเขา เห็นได้ชดั ว่าเขากําลังหวาดกลัวอย่างสุ ดขีด
“ถ้าไม่รู้กต็ ายซะ !!” ชูเฟิ ง สู ดหายใจด้วยความเย็นชา เขาสะบัดฝ่ า
มือของเขาอย่างรวดเร็ ว พลันผูอ้ าวุโสคนนั้นก็กลายเป็ นทะเลเลือดอย่าง
รวดเร็ ว

“เร็ วเข้า !! รี บเปิ ดใช้งานรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณเร็ วเข้า !! ถ้า


ปล่อยให้พวกเขาเข้ามาในสํานักเทพอัคคีของพวกเรามากกว่านี้ เหล่าลูก
ศิษย์ แบะผูอ้ าวุโสจะต้องตายอีกมาก !! ตอนนี้รีบให้ผอู ้ าวุโสเปิ ดใบ้งาน
รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่ถูกวางไว้ก่อนหน้านี้เร็ วเข้า !!”

ทันใดนั้น รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ฟ้า ก็พงุ่ ทะยานขึ้นสู่


ท้องฟ้า และเข้าปกคลุมสํานักเทพอัคคีอย่างรวดเร็ ว เหตึการณ์เช่นนี้ ทํา
ให้ทุกๆ คนต่างหยุดดูดว้ ยความตื่นเต้น

“หื ม……คิดว่ารู ปแบบอํานานพลังวิญญาณเหล่านี้จะหยุดข้าได้


เช่นนั้นรึ ” จื่อ หลิง สู ดหายใยด้วยความเย็นชา นางใช้ราชรถของนางพุง่
ทะยานขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า พลันปรากฏสายรุ ้งที่งดงามออกมาเข้าปะทะกับ
รู ปแบบอํานานพลังวิญญาณสี ฟ้าอย่างรุ นแรง

***** ตูมมมมมมม *****

“ตายแน่ !! วิง่ เร็ ว !! รี บหนีออกจากสํานักเทพอัคคีเร็ วเข้า !! ไม่ง้ นั


พวกเราทุกคนได้ตายแน่ๆ !!”

เมื่อเห็นว่ารู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ฟ้า ไม่สามารถต้านทาน ชู


เฟิ ง และ จื่อ หลิง ได้น้ นั เหล่าผูอ้ าวุโสรี บสัง่ การไปที่หวั หน้าของลูก
ศิษย์ให้ทาํ การอพยพจากสํานักเทพอัคคีอย่างรวดเร็ ว

เพราะเหล่าสาวกทั้งหมด คืออนาคตของสํานักเทพอัคคี หากเกิด


อะไรขึ้นกับพวกเขา อนาคตของสํานักเทพอัคคีจะต้องจบลงอย่าง
แน่นอน

ในช่วงเวลานั้น มีอินทรี ศรี ษะขาวบินออกจากสํานักเทพอัคคีกนั


อย่างโกลาหล และผูท้ ี่อยูบ่ นหลังอินทรี ศรี ษะขาวเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่
เป็ นเหล่าสาวกฟลักของสํานักเทพอัคคี

“พวกเจ้าคิดว่าจะหนีไปได้รึ !!” ชูเฟิ ง ที่กาํ ลังไล่ฆ่าเหล่าลูกศิษย์


ของสํานักเทพอัคคีอย่างบ้าคลัง่ เห็นว่าศิษย์หลักของสํานักกําลังจะหนี
เขาจึงไม่คิดที่นะปล่อยออกไปง่ายๆ

“ใครมันกล้ามาโจมตีสาํ นักเทพอัคคีของข้า !!!!!!!!!”

ในขณะนั้น มีเสี ยงตะโกนที่ดงั สนัน่ ดังขึ้นมาจากด้านหลังของ


สํานักเทพอัคคี
มันเป็ นเสี ยงดังกังวาลอย่างมาก แม้แต่ ชูเฟิ ง ยังหูอ้ือ เมื่อมองไปที่
นื่อ หลิง ที่มีกายศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าที่สวยงามของนางก็มีการ
เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเช่นกัน

***** ตูมมมมม *****

ทันใดนั้น เสี ยงระเบิดดังขึ้นที่หุบเขาด้านหละงสํานักเทพอัคคี


ภายในกลุ่มควันรู ปกุหลาบที่พ่ งึ สู งขึ้นมาในอากาศ มีผเู ้ ชี่ยวชาญที่
แข็งแกร่ งทะยานตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ ว

ในขณะที่เขาทะยานตัวอยูใ่ นอากาศนั้น ความเร็ วของเขาเหนือกว่า


ทักษะมังกรทะยานเก้าสวรรค์อยูม่ าก บรรยากาศรอบตัวของเขาบิน
เบือนอย่างเห็นได้ชดั
“อึ้ก…..นัน่ มันเจ้าสํานักคนก่อนของสํานักเทพอัคคี !! ปิ ศาจ
เช่นนั้นยังมีชีวติ อยูอ่ ีกเหรอเนี่ย…………ออร่ าพลัง
เช่นนี้………หรื อว่าเขาจะเข้าสู่ ระดับหก ขั้นแดนสวรรค์แล้ว !!”

“ชูเฟิ ง รี บหนีเร็ ว !! ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้ !!” ด้วยอํานาจ


พลังวิญญาณที่แข็งแกร่ งของ จื่อ หลิง นางจึงสามาาถสัมผัสถึงตัวตน
ของคนที่กาํ ลังพุง่ เข้ามาได้ นางรี บใช้ราชรถและดึงตัวของ ชูเฟิ ง เข้ามา
เพื่อเตรี ยมหลบหนี

ในขณะนั้น ผูน้ าํ สํานักเทพอัคคีคนเก่าได้ปรากฏตัวต่อสายตาของ


เหล่าลูกศิษย์ ในเวลานี้เขาได้มาถึงสํานักเทพอัคคีแลเว และในสายตา
ของเขาก็เห็น จื่อ หลิง และ ชูเฟิ ง ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น เขาจึงพุง่ ทะยาน
มาที่ราชรถอย่างรวดเร็ ว

เมื่อเขาเห็น ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง กําลังจะหลบหนีเช่นนี้ เขามัน่ ใจ


ในทันทีวา่ พวกเขาจะต้องเป็ นคนที่ทาํ ลายสํานักเทพอัคคีของเขาอย่าง
แน่นอน เขาจึงกล่าวเสี ยงดังออกมาว่า “เจ้าสารเลวสองคนมาจากที่ใด
เหตุใดถึงได้มาโจมตีสาํ นักเทพอัคคีของข้า !!”

เขากล่าวพลางสะบัดฝ่ ามือของเขาอย่างรวดเร็ ว พลันพลังขั้นแดน


สวรรค์กป็ ะทุออกมาอย่างมหาศาล พลังทั้งหมดที่ถูกปลดปล่อยออกมา
นั้นพุง่ เป้าไปที่ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง อย่างรวดเร็ ว

“ท่านอดีตเจ้าสํานัก แทนที่ท่านจะมาถามข้า ท่านไปถามเอากับผู ้


สื บทอดของท่านเอาเถอะ !! การกระทําในวันนี้ ข้า ชูเฟิ ง ถูกบังคับ”

หลังจากเสี ยงระเบิดดังขึ้น ราชรถก็กลายเป็ นประกายสสายรุ ้ง และ


พุง่ ทะยานหายไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยความรวดเร็ ว

“ชูเฟิ ง เด็กหนุ่มคนนั้นชื่อว่า ชูเฟิ ง” หลังจากได้ยนิ เช่นนั้น เขา


ขมวดคิ้วของเขาแน่น และหันหน้าไปทางสํานักเทพอัคคีพร้อมกับ
ตะโกนออกมาว่า

“คง เฉินกวง !!”

“คง เฉินกวง !!”

“นี่มนั เกิดอะไรขึ้น ออกมาอธิบายให้ขา้ ฟังซะ !!”

อดีตเจ้าสํานักนั้นแข็งแกร่ งอย่างมาก เพียงเขาตะโกนออกมา ป่ า


โดยนอบถูกคลื่นพลังกวาดออกไปกระตัดกระจาย ภูเขาพังทลายลง พื้น
ด้านล่างเกิดรอยแตกทัว่ บริ เวณ

เหล่าลูกศิษย์บางคนไม่สามารถต้านทานพลังนี้ได้ พวกเขาได้รับ
บาดเจ็บ และกระอักเลือดออกมา

สําหรับชื่อ คง เฉินกวง ที่เขาตะโกนออกมานั้น เหล่าลูกศิษย์


จํานวนมากไม่รู้วา่ คือผูใ้ ด มีเพียงศิษย์หลักไม่กี่คนเท่านั้น ที่รู้วา่ นัน่ คือ
ชื่อของ เจ้าสํานักคนปัจจุบนั

อดีตเจ้าสํานักเทพอัคคีได้แยกตัวออกไปฝึ กเพื่อบ่มเพาะพลัง แต่เขา


กลับถูกรบกวนด้วยเสี ยงเตือนภัยของสํานัก และเมื่อเขาออกมาเขาก็
พบว่าสํานีกเทพอัคคีถูกทําลายโดยเด็กเพียงสองคน หากเขาไม่ออกมา
ในตอนนี้ เป็ นไปได้วา่ ประวัติศาสตร์กว่าพันปี ของสํานักเทพอัคคี
จะต้องถูกทําลายลงอย่างย่อยยับ

คง เฉินกวง และเหล่าผูอ้ าวุโสไม่ได้อยูภ่ ายในสํานัก นัน่ เท่ากับว่า


คง เฉินกวง ไม่ได้ทาํ ตามคําแนะนําของเขา คือให้คอยปกป้องสํานัก เพื่อ
รอเขากลับมา นัน่ จึงทําให้เขาโกรธอย่างมาก
แต่มนั ก็ไม่เท่ากับความโกรธ เมื่อเขาเห็นพื้นที่บางส่ วนของสํานัก
ถูกทําลาย และเหล่าลูกศิษย์ของสํานักถูกสังหารโดย ชูเฟิ ง ความโกรธ
ของเขาก็ทวีความรุ นแรงขึ้นอย่างฉี ยบพลัน

ดังนั้น เมื่อ คง เฉินกวง และเหล่าผูอ้ าวุโสกลับมา พวกเขาจึงไม่อาจ


รอดตากการถูกลงโทษได้อย่างแน่นอน [
ReadMGA.blogspot.com ]

///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////

#Abhisit
บทที่ 431 – เรื่ องที่น่าตกตะลึงภายในเก้าอาณาจักร

เจ้าสํานักเทพอัคคี คง เฉินกวง ได้ถูกปลดออกจากตําแหน่งเจ้า


สํานัก หลังจากที่โดนทําโทษอย่างรุ นแรง เขายังขังตัวเองอยูภ่ ายใน
สํานัก และอดีตเจ้าสํานักคนก่อนก็ได้กลับมาควบคุมสํานักเทพอัคคีอีก
ครั้ง
เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะเขาไม่มีหน้าที่จะไปเผชิญต่อผูค้ นอีก
หลังจากที่ ชูเฟิ ง บุกมาโจมตีสาํ นักเทพอัคคี ความโกรธแค้นก็อดั แน่น
อยูภ่ ายในหัวใจของเขา

ข่าวที่ ชูเฟิ ง ได้บุกโจมตีสาํ นักเทพอัคคี และได้ฆ่าเหล่าลูกศิษย์ของ


สํานักไปอีกมาก อีกทั้งยังสามารถบีบให้เจ้าสํานักคนก่อน ที่เก็บตัวเพื่อ
บ่มเพาะพลังอยูอ่ อกมา ได้แพร่ กระจายออกไปอย่างรวดเร็ ว

หลังจากข่าวแพร่ กระจายออกไปนั้น ผูค้ นทัว่ ทั้งเก้าอาณาจักรต่าง


พากันตกตะลึง

เพราะการกระทําของ ชูเฟิ ง นั้นเกินกว่าสิ่ งที่ทุกคนจะสามารถ


จินตนาการได้ เขาสามารถบุกโจมตีสาํ นักเทพอัคคี ทําลายสุ สานบรรพ
ชน ฆ่าลูกศิษย์ของสํานัก ทําลายตําหนักต่างๆ และแม้แต่การป้องกัน
ของสํานักเทพอัคคีกไ็ ร้ประโยชน์เมื่ออยูต่ ่อหน้าเขา

ถ้าอดีตเจ้าสํานักเทพอัคคีไม่ได้ปรากฏตัวออกมานั้น รับรองได้เลย
ว่าสํานักเทพอัคคีคงจะหายไปจากพื้นทวีปเป็ นแน่

และไม่ใช่เพียง ชูเฟิ ง เท่านั้น ที่มีชื่อเสี ยงโด่งดังขึ้น แต่มีอีกบุคคล


หนึ่ง นัน่ คือ จื่อ หลิง

เมื่อกล่าวถึงหญิงสาวที่สวมเสื้ อผ้าสี ม่วง มีระดับพลังอยูใ่ นระดับ


เก้า ขั้นแก่นวิญญาณ และความสามารถที่เกินจากสามัญสํานึก ทุกคน
ต่างรู ้วา่ นัน่ คือ สาวงามที่ประกาศว่าจะขอติดตาม ชูเฟิ ง ภายในงาน
ชุมนุมแต่งงาน ที่นครอันทรงเกียรติ

ชายหนุ่มอายุสิบหกปี กับหญิงสาวอายุสิบห้าปี สามารถบุกโจมตี


ขุมอํานาจที่มีมากว่าพันปี จน้กือบย่อยยับ ไม่ได้หมายความว่า สํานักเทพ
อัคคีอ่อนแอแต่อย่างใด แต่หมายความว่าบุคคลทั้งคู่น้ นั แข็งแกร่ งอย่าง
มาก

ชูเฟิ ง กลายเป็ นบุคคลที่ทรงอํานาจอย่างมาก มันเป็ นเรื่ องที่ทุกคน


ในเก้าอาณาจักรต่างให้การยอมรับ

ด้วยความที่ ชูเฟิ ง มีความสามารถเกินกว่าสามัญสํานึกคนทัว่ ไป


อีกทั้งด้วยความบ้าคลัง่ หากเมื่อมีใครทําให้เขาโกรธแค้น เขาจะตอบโต้
คืนด้วยความบ้าเลือดอย่างถึงที่สุด

ชายหนุ่มอายุเพียงสิ บหกปี ชูเฟิ ง ชื่อของเขาได้กลายเป็ นตัวแทน


ของความชัว่ ร้ายอย่างรวดเร็ ว

เพราะเมื่อมีเด็กเล็กๆ ในตระกูลต่างๆ ไม่เชื่อฟังคําสัง่ สอน พวกเขา


จะกล่าวว่า “หากไม่เชื่อฟัง ชูเฟิ ง จะมาจับเจ้า !!” และเมื่อกล่าวเช่นนั้น
เด็กๆ ก็จะว่านอนสอนง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม ก็มีผคู ้ นจํานวนมากที่คิดว่า ชูเฟิ ง นั้นกล้าหาญ และ


เด็ดเดี่ยวอย่างแท้จริ ง เพราะขุมอํานาจต่างๆ ในเก้าอาณาจักรต้องการให้
เขาตาย แต่เขากลับไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่นอ้ ย

เขาสามารถรอดพ้นเงื้อมมือของเหล่ามหาอํานาจ และยังสามารถ
ตอบโต้กลับ จนเกือบจะทําให้พวกเขาถูกลบหายไปจากพื้นทวีปอีกด้วย

อาจกล่าวได้วา่ ชูเฟิ ง กลายเป็ นต้นแบบของคนรุ่ นหลุ่มสาว และมี


อีกหลายคนที่ศึกษาชีวะประวัติของเขาเพื่อเป็ นแบบอย่าง

ที่พวกเขาทําเช่นนั้น เพราะพวกเขาชื่อว่า ชูเฟิ ง เป็ นบุคคลที่


สามารถทําให้โลกสัน่ สะเทือนได้ อีกทั้งความสามารถของเขา ยังเหนือ
ลํ้ากว่าผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า เขาจึงกลายเป็ นตํานานอีกบทหนึ่งของเก้า
อาณาจักรไป

สาวงามมากมายต่างต้องการเป็ นคนรักของ ชูเฟิ ง พวกนางยอมที่


จะติดตามเขาไปทุกหนแห่ง เพียงเพื่อให้เขายอมรับพวกนาง

สําหรับเหล่าชายหนุ่ม มีบางคนที่ตอ้ งการจะเป็ นมิตรสหายของเขา


หรื อแม้กระทัง่ เป็ นพี่นอ้ งร่ วมสาบาน ที่ร่วมต่อสู เ้ คียงบ่าเคียงไหล่กบั
เหล่ามหาอํานาจ ไปพร้อมกับ ชูเฟิ ง

เรื่ องราวทั้งหมดนี้คือสถานการณ์ในปั จตุบนั ของทั้งเก้าอาณาจักร


เรื่ องที่ทุกๆ คนให้ความสนใจมากที่สุดคือ เรื่ องของ ชูเฟิ ง และหก
มหาอํานาจ

เมื่อข่าวได้แพร่ กระจายจนทัว่ ทั้งทวีป เรื่ องสํานักเทพอัคคีถูกบุก


โจมตีจนเกือบจะพังพินาศนั้น ผูท้ ี่ตกอยูใ่ นความตะลึงมากที่สุดคือ
สํานักหยวนกัง , หบเขาไร้ใจ , หุบเขากระบี่ , นิกายไป๋ และ ตระกูล
เจี่ย

แต่นี่ไม่ใช่เรื่ องที่ตระกูลเจี่ยจะวิตกกังมากนัก เพราะนอกจาก เจี่ย


ชิงเผิง ที่คอยควบคุมดูแลตระกูลแล้วนั้น พวกเขายังมีผอู ้ าวุโสที่เป็ น
อัจฉริ ยะในรอบร้อยปี อยูอ่ ีกด้วย

อีกทั้งตระกูลเจี่ยยังมีผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ ที่ได้วางรู ปแบบ


อํานาจพลังวิญญาณป้องกันอาณาเขตของตระกูลเจี่ยไว้แล้ว ดังนั้นพวก
เขาจึงไม่กงั เรื่ องของ ชูเฟิ ง นัก หาก ชูเฟิ ง เข้ามาสร้างความวุน่ วายให้กบั
พวกเขา นัน่ เท่ากับว่า ชูเฟิ ง ส่ งตัวเองเข้าสู่ ความตายอย่างแน่นอน

แต่สาํ หรับ สํานักหยวนกัง , หุบเขาไร้ใจ , นิกายไป๋ และหุบเขา


กระบี่ พวกเขาต่างกังวลเรื่ องของ ชูเฟิ ง อยูไ่ ม่นอ้ ย เพราะพวกเขาไม่ได้
แข็งแกร่ งอย่างตระกูลเจี่ย และพวกเขาก็หวาดกละวที่จะได้รับความ
เสี ยหายเช่นเดียวกับสํานักเทพอัคคี
ดังนั้น ทั้งสี่ มหาอํานาจจึงขอร้องไปทางผูอ้ าวุโสของพวกเขา ที่
แยกตัวออกไปเพือ่ บ่มเพาะพลัง เพื่อให้พวกเขาช่วยดูแลสถานการณ์ใน
ปัจจุบนั ของพวกเขา

เมื่อบรรพบุรุษทั้งห้าออกมาจากการฝึ กฝน พวกเขาได้รับรู ้เรื่ องราว


ต่างๆ และรู ้สึกว่าผูส้ ื บทอดของพวกเขาได้ทาํ อย่างถูกแล้ว พวกเขาจึงมี
คําสัง่ ให้สามารถฆ่า ชูเฟิ ง ได้

เมื่อบรรพบุรุษทั้งห้าร่ วมมือกัน จึงรายงานเรื่ องต่อราชวงศ์เจียง


เพื่อขอกําลังสนับสนุนในการจัดการกับ ชูเฟิ ง

ในความเป็ นจริ งนั้น ราชวงศ์เจียงเป็ นผูร้ ับผมประโยชน์เท่านั้น


แม้วา่ พวกเขาจะเป็ นนายเหนือหัวของทั้งเก้าอาณาจักร นอกเหนื่อจาก
อาณาจักรฮัน่ ที่พวกเขาครอบครองนั้น ในทุกปี ราชวงศ์เจียงจะเก็บภาษี
จากอาณาจักรอื่นๆ โดยที่พวกเขาไม่เคยลงมือจัดการเรื่ องราวอะไรเอง
เลยแม้แต่นอ้ ย

ด้วยความที่ สํานักหยวนกัง , หุบเขาไร้ใจ , นิกายไป๋ , หุบเขา


กระบี่ และสํานักหยวนกัง เป็ นขุมอํานาจในหลายอาณาจักร

เมื่อเหล่าบรรพบุรุษของพวกเขาร่ วมมือกันร้องเรี ยนมายังราชวงศ์


เจียง เพื่อไม่ให้เป็ นการเสี ยการปกครอง ราชวงศ์เจียงจึงต้องลงมือเอง

ดังนั้น ราชวงศ์เจียงจึงมีคาํ สัง่ ให้องค์หญิง ที่เป็ นหนึ่งในอัจฉริ ยะ


รุ่ นใหม่ของราชวงศ์เจียง ที่ชื่อว่า “เจี่ย ยีห่ นี่” พร้อมด้วยผูเ้ ชี่ยวชาญขั้น
แดนสวรรค์หนึ่งร้อยคนออกตามหา ชูเฟิ ง และยังให้กล่าวคําสัตย์วา่ จะ
จัดการ ชูเฟิ ง ภายใต้กฏระเบียบของทั้งเก้าอาณาจักร

เมื่อข่าวของราชวงศ์เจียง ที่ได้ส่งผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์หนึ่ง


ร้อยคนออกมาจัดการได้แพร่ กระจายออกไป ทุกๆ คนต่างตกตะลึงใน
ความแข็งแกร่ งของราชวงศ์เจียง

หากมามองผิวเผินนั้น การกระทําของราชวงศ์เจียง คือการรักษา


ความปลอดภัยของหกมหาอํานาจ และความมัน่ คงของทั้งเก้าอาณาจักร

แต่ในความเป็ นจริ งนั้น ราชวงศ์เจียงต้องการแสดงความแข็งแกร่ ง


ออกมา เพื่อให้ทุกๆ คนรู ้วา่ ราชวงศ์เจียงนั้นยิง่ ใหญ่เพียงใด

หากพวกเขาต้องการจะทําสิ่ งใดมันย่อมสามารถทําสําเร็ จได้


โดยง่าย พวกเขาแสดงให้เห็นว่า ความมัน่ คงของราชวงศ์เจียงจะไม่
สัน่ คลอนแม้แต่นอ้ ย ถึงแม้วา่ ทั้งเก้าอาณาจักรจะร่ วมมือกัน ก็ไม่อาจ
ต้านทานราชวงศ์เจียงได้

ไม่วา่ จะเป็ นขุมอํานาจใด พวกเขาก็เป็ นได้เพียงเนินดินเล็กๆ เมื่อ


อยูต่ ่อหน้าราชวงศ์เจียง เพราะพวกเขาสามารถเปรี ยบได้กบั ภูผาที่สูงชัน
ไม่อาจสัน่ ไหวหรื อพังทลายได้

เรื่ องราวการกระทําของราชวงศ์เจียงได้แพร่ สะพัดออกมาอย่าง


รวดเร็ ว จนกลบเรื่ องของ ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว

ในความเป็ นจริ งนั้น หลังจากที่ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง ได้ก่อความ


วุน่ วายในสําเทพอัคคี พวกเขาก็ได้ออกจากอาณาจักรฉิ น และมายัง
อาณาจักรหยวน ที่อยูต่ ิดกับอาณาจักรมังกรฟ้า

อาณาจักรหยวนเป็ นสถานที่ต้ งั ของนิกายไป๋ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง


ต้องการที่จะทําเช่นเดียวกับที่สาํ นักเทพอัคคี นัน่ คือเข้าไปเอาแหล่ง
อํานาจพลังวิญญาณภายในสุ สานบรรพชน ที่ซ่อนอยูใ่ นนิกายไป๋

แต่ข่าวของสํานักเทพอัคคีน้ นั แพร่ กระจายออกมาเร็ วเกินไป หลัง


จาดที่ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง มาถึงนิกายไป๋ นั้น พวกเขาก็พบว่า บรรพชน
ของนิกายไป๋ ได้ออกมาจากการเก็บตัว อีกทั้งนิกายไป๋ ยังได้เรี ยกตัวเหล่า
ศิษย์ และผูอ้ าวุโสที่ออกไปด้านนอกกละบมา เพื่อเตรี ยมรับมือกับการ
มาของ ชูเฟิ ง เป็ นที่เรี ยบร้อยแล้ว

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง จึงมีเวลาพอที่พวกเขา


จะทําการบ่มเพาะพลังของพวกเขาในที่ที่ห่างไกลออกมา

จื่อ หลิง ยังคงพยายามทะลวงเข้าสู่ ระดับแดนสววรค์ ในขณะที่ ชู


เฟิ ง ใช้เวลาของเขาทั้งหมดในการปรับแต่งลูกแก้ววิญญาณกว่าล้านเม็ด
ที่เขารวบรวมมาได้

///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
#Abhisit
ReadMGA.blogspot.com
บทที่ 432 – บอกตรงๆ
“โอ้……ล้มเหลวอีกแล้วรึ ” หลังจากที่ ชูเฟิ ง ดูดซับลูกแก้ว
วิญญาณลูกสุ ดท้ายเสร็ จ เขาก็เดินออกมาจากถํ้า และพบว่า จื่อ หลิง อยูท่ ี่
ด้านหน้าปากทางเข้า ด้วยใบหน้าที่ทอ้ ใจ

“เงียบไปเลยนะ !!” จื่อ หลิง ถลึงตาใส่ ชูเฟิ ง และกล่าวต่ออกมา


อย่างรวดเร็ วว่า “ชูเฟิ ง ในตอนนี้ ราชวงศ์เจียงได้ส่งคนออกมาตามล่าเจ้า
แล้ว และคนที่มาคือ เจียง ยีห่ นี่ ข้าเคยได้ยนิ เรื่ องของนางมาจากปู่ ของข้า
อยูบ่ า้ ง”

“ในตอนนั้นท่านปู่ ของข้าได้เข้าไปในสถานที่อนั ตราย และได้พบ


กับนาง ท่านปู่ บอกว่านางคืออัจฉริ ยะอันดับหนึ่งในรุ่ นเยาว์ของราชวงศ์
เจียง ตอนนั้นนางมีระดับพลังอยูท่ ี่ระดับห้า ขั้นแดนสวรรค์ ข้าคิดว่า
ในตอนนี้นางน่าจะก้าวถึงระดับหกแล้วหล่ะ”

“วิธีการสื บเสาะของราชวงศ์เจียงยอดเยีย่ มมาก หากว่าพวกเจาเจอ


พวกเรา ข้า…….คิดว่าพวกเราอาจจะไม่รอด ในตอนนี้วธิ ีที่ดีที่สุดคือ
การหลบไปยัง แถบทะเลตะวันออก”

“แถบทะเลตะวันออก !? ไกลไหม !?” ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“ไกล !! ไกลมาก พวกเราจะต้องเดินทางผ้านอีกหลายทวีป ในบาง


พื้นที่กจ็ ะมีผคู ้ นอาศัยอยู่ บางพื้นที่กจ็ ะเป็ นทะเลทราย และต้องข้ามแถบ
ทะเลตอนใต้ไป จึงจะถึงแถบทะเลตะวันออก ด้วยความเร็ วราชรถของ
ข้า คงใช่เวลาประมาณครึ่ งปี ในการเดินทาง” จื่อ หลิง กล่าว

“ครึ่ งปี !!” หลังจากได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง แทบจะตกใจสุ ดขีด เพราะ


หากเดินทางเพียงขาเดียวต้องใช้เวลาครึ่ งปี แล้วไปกลับคงต้องใบ้เวลา
ถึงหนึ่งปี เขาไม่อาจเสี ยเวลามากถึงขนาดนั้นได้

“มีอะไรหรื อเปล่า !?” เมื่อเห็นว่า ชูเฟิ ง เริ่ มมีความวิตกกังวล จื่อ


หลิง จึงกล่าวถามออกมา
“จื่อ หลิง ……….บอกตามตรง ข้ายังไม่อยากออกจากทวีปเก้า
อาณาจักรนี้” ชูเฟิ ง กล่าว

“ทําไม !!....เจ้ามีอะไรที่ตอ้ งทํา หรื อคิดว่าการบ่มเพาะพลังของเจ้า


จะยังไม่เพียงพอ” จื่อ หลิง กล่าวถาม

หลังจากเห็นท่าทีของ จื่อ หลิง นั้น ชูเฟิ ง จึงไม่อาจปิ ดบังเรื่ องราว


ทั้งหมดได้ เขาได้บอกทุกๆ อย่างออกไป รวมถึงบอกเรื่ องของ ซูรู่ และ
ซูเหม่ย แก่นาง

หลังจากได้ฟังเรื่ องราวทั้งหมด จื่อ หลิง จมไปกับความเงียบงัน


แววตาของนางัน่ ไหวเล็กน้อย ไม่อาจรู ้ได้วา่ นางกําลังคิดสิ่ ใดอยู่
“จื่อ หลิง ข้าไม่ควรปิ ดบังเรื่ องนี้กบั เจ้า…….ข้าขอโทษที่ปิดบัง
เรื่ องของนางทั้งสองคนเอาไว้”

“เจ้าบ้า !! การที่ชายแต่งงานกับหญิงสาวสี่ คนไม่ใช่เรื่ องแปลก


อะไร ข้าจะไม่โทษเจ้า”

“ข้า จื่อ หลิง เคยกล่าวไปแล้วว่า จะร่ วมทุกข์ร่วมสุ ขกับเจ้า


ถึงแม้วา่ เจ้าจะมีใครอีกก็ตาม หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือ ข้าจะเป็ น
คนรับใช้ให้เจ้า หากเจ้าต้องการสังหารผูใ้ ด ข้าจะเป็ นฆาตกรไปพร้อม
กับเจ้า”

“นอกจากนี้ ข้ายังจะได้มีนอ้ งสาว และพีส่ าวอีกด้วย มันย่อมดีกว่า


การที่หนั ไปที่ใดก็มีเพียงแค่เจ้าคนเดียวเท่านั้น” เมื่อ จื่อ หลิง กล่าว
มาถึงตรงนี้ ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความโหยหาอย่างยิง่
เมื่อเห็นการแสดงออกเช่นนี้ของ จื่อ หลิง หัวใจของ ชูเฟิ ง ที่เคย
ตรึ งเครี ยดก็ผอ่ นคลายลง หลังจากที่ ชูเฟิ ง ได้ใช้ชีวติ ร่ วมกับ จื่อ หลิง
มาหลายวัน เขาก็พบว่านางเป็ นคนที่กล้าทําตามความรัก และความ
เกลียดชังของตัวเอง นางกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความเสี่ ยงที่ไม่อาจ
คาดคิดได้อยูเ่ สมอ

ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงชอบนางมากขึ้น และมากขึ้นไปอีก เขาหวังว่าจะได้


นางมาเป็ นภรรยาของเขา เพราะเขาอยากใช้ชีวติ ร่ วมกับผูห้ ญิงเช่นนาง

“แล้วเจ้าว่าเช่นไร……” ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“เรื่ องนั้นเหรอ………มันค่อนข้างยาก ข้ายังไม่สามารถทะลวง


เข้าสู่ ข้นั สวรรค์ได้ ดังนั้น ข้าจึงยังไม่อาจให้คาํ ตอบแก่เจ้าได้” จื่อ หลิง
กล่าวพลางยิม้ บาง
“เชอะ !! ยังจะมาล้อเล่นอยูอ่ ีก ผูห้ ญิงก็เป็ นแบบนี้แหละนะ มักจะ
ขี้เหนียวไม่เข้าเรื่ อง ต้องแบบผูช้ ายเช่นข้านี่…….ใจกว้างยิง่ กว่า
มหาสมุทร มาๆ !! ข้าจะบอกความลับแก่เจ้า” ชูเฟิ ง กล่าว

“ความลับอะไร !?” จื่อ หลิง ถามด้วยความสงสัย

“อันที่จริ ง……ตราบใดที่พวกเรานอนด้วยกัน และทําเรื่ อง


ระหว่างชายหญิง พลังวิญญาณของข้า จะสามารถช่ววเจ้าได้มากเลย” ชู
เฟิ ง กล่าวออกมาอย่างหน้าด้านๆ แต่ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความ
จริ งจัง

“เจ้า !! ไปตายซะ !!” จื่อ หลิง ตะโกนออกมา พร้อมกับตบไปที่


ใบหน้าของ ชูเฟิ ง ฉาดใหญ่
จากประสบการณ์ในหลายวันที่ผา่ นมา ชูเฟิ ง รู ้ได้ทนั ทีวา่ จื่อ หลิง
จะตบเขา เขาจึงเบี่ยงตัวหลบออกไป และกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่
จริ งจังกว่าเดิมว่า “ที่ขา้ พูดเป็ นเรื่ องจริ งนะ”

“สิ่ งที่ขา้ พูดก็เป็ นเรื่ องจริ งเช่นกัน ไปตายซะ !!” จื่อ หลิง เดินเข้า
ไปที่ ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ วด้วยความโกรธ

ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ไม่สามารถตั้งตัวได้ทนั ใบหูของเขาถูกจับโดย


จื่อ หลิง จากนั้นนางก็บิดหูของเขา และลากเข้าไปภายในถํ้า เสี ยงกรี ด
ร้องด้วยความเจ็บปวดของ ชูเฟิ ง ก็ดงั ขึ้น “อ๊าาาาาาาา……ช่วยข้าด้วย
!! ว่าที่ภรรยาของข้า กําลังจะฆ่าว่าที่สามมีของนางงงงงงงงงง !!”

หลังจากถูกทรมานเป็ นเวลานาน ในเช้าวันรุ่ งขึ้น จื่อ หลิง นัง่ อยูบ่ น


ต้นไม้พร้อมกับแกว่งขาที่ขาวราวหิ มะของนาง อีกทั้งนางยังคงเม้มริ ม
ฝี ปากเล็กน้อย ดูเหมือนว่านางยังคงไม่หายโกรธ ชูเฟิ ง
“เมียจ๋ าาาาา !! ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว……วันนี้มี จระเข้ยา่ ง
หมูป่าคัว่ ห่านย่าง เจ้าจะกินอะไรดี” ชูเฟิ ง ตะโกนขึ้นมาจากใต้ตน้ ไม้

“ข้าไม่อยากกินเนื้อสัตว์ป่า !! ข้าจะกินอาหารอร่ อยๆ ที่มีกลิ่นหอม


รสชาติดีเยีย่ ม” จื่อ หลิง กล่าวตอบ

“อาหารอร่ อยๆ………ข้าทําไม่เป็ น” ชูเฟิ ง ทําหน้าย่น พร้อม


กับกระโดดขึ้นมาบนต้นไม้ และนัง่ ลงข้างๆ จื่อ หลิง

“ภรรยาข้า……วันนี้ขา้ จะพาเจ้าไปกินอาหารอร่ อยๆ” ชูเฟิ ง


กล่าวพลางยิม้ บาง

“ไชโย !! ไชโย !! ไปกินอะไร” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น จื่อ หลิง ตะโกน


ออกมาด้วยความดีใจ นางเบื่อกับรสชาติเนื้อของสัตว์ป่าเต็มที
“เราจะไปกินสิ่ งที่เจ้าอยากกิน ภรรยาข้าขึ้นมาบนหลังมังกรซิ ” ชู
เฟิ ง กล่าวออกมา พร้อมกับยืนขึ้น พลันมังกรสี ฟ้าก็ปรากฏที่ใต้ฝ่าเท้า
ของเขา และบินวนรอบต้นไม้นนั่ อย่างรวดเร็ ว

“ไม่จาํ เป็ น !! นัน่ มันช้าเกินไป ไปด้วยราชรถของข้าดีกว่า” จื่อ


หลิง กล่าวพลางส่ ายศรี ษะของนาง

“โถ่…ภรรยาข้า เจ้าไม่เข้าใจเลย !! แบบนี้เขาเรี ยกว่าโรแมนติก”


ชูเฟิ ง กล่าวออกมาอย่างมัน่ ใจ

“ก็ได้ !!” จื่อ หลิง ลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะก้าวไปที่หลังของมังกร


ในขณะนั้น นางผายมือของนางออก แงะกอดไปที่เอวของ ชูเฟิ ง
โดยที่ ชูเฟิ ง ไม่ได้ร้องขอ อีกทั้งนางยังแนบใบหน้าที่งดงามของนางไป
กับแผ่นหลังของ ชูเฟิ ง

การกระทําของ จื่อ หลิง ทําให้ ชูเฟิ ง มีความสุ ขอย่างมาก รอยยิม้


ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา จากนั้นด้วยความคิดของเขา มังกรฟ้าก็
ทะยานขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า ทะลุข้ ึนไปยังชั้นของเมฆที่ลอยอยู่

“ภรรยาข้า เจ้าอยากกินอะไร”

“ข้าอยากกิน ซี่โครงหมูต๋ ุนนํ้าแดง ผัดเผ็ดเนื้อปลากวงแห้ง ไก่


ตุ๋น……….”

“ภรรยาข้า ไหนเจ้าบอกว่าไม่กินเนื้อสัตว์”
“ข้าไม่เคยบอกว่าข้าไม่กินเนื้อสัตว์”

“เจ้ารู ้ไหม ร่ างกายของข้ามีส่ิ งหนึ่งที่อร่ อยมากเลยนะ”

“ไปตายซะ !!”

“อ๊าาาาา….ข้ายังไม่ได้วา่ อะไรเลยนะ”

///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////
#Abhisit ReadMGA.blogspot.com

A: จื่อหลิง เข้าใจอะไรง่ายดีนะ

B : ช่ายๆ บรรดาผูห้ ญิงทั้งหมด ข้าชอบ จื่อหลิง ที่สุด ไม่วา่ จะหน้าตา


หน้าขา หน้าอก

A : ถูกต้อง ข้าเองก็ชอบจื่อหลิง ทั้งเก่ง ทั้งสวย ทั้งเด็ด !!!

B : เดี๋ยวๆ อะไรเด็ด!!!

A : เด็ดเดี่ยว เข้มแข็ง!!!

B : แล้วปาย สาดดดดดดดด . . . . .
บทที่ 433 – นี่เรี ยกว่าลูกแก้วห้วงวิญญาณ

ชูเฟิ งได้ใช้ทกั ษะการต่อสู แ้ ล้วขี่มงั กรขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับหญิง


งาม เขาได้เดินทางผ่านกลุ่มเมฆสี ขาวและสายลมเย็น

มันอาจกล่าวได้วา่ ชัง่ เป็ นบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกอย่างแท้จริ ง

ดังนั้นชูเฟิ งจึงอดไม่ได้ที่จะวิง่ วนไปรอบ ๆ บนท้องฟ้าถึง 3 รอบ


เพราะว่าการที่ภรรยาในอนาคตอย่าง จือหลิง ได้กอดหลังเขาไว้น้ นั มัน
ชัง่ ทําให้ชูเฟิ งมีความรู ้สึกที่ดีแท้ฉะนั้นแล้วเขาจึงไม่อยากที่จะปล่อย
โอกาสดีดีแบบนี้ไป

“ถ้าเจ้ายังไม่คิดที่จะพาข้าไปหาของกินอีกล่ะก็ขา้ มัน่ ใจได้เลย


ว่าข้าจะต้องอดตายแน่ ๆ! ” เพียงขณะนั้น จือหลิง จ้องเขม่นมาที่ชูเฟิ ง
แล้วตะโกนเสี ยงดังทันทีที่ได้ยนิ ชูเฟิ งจึงรี บเร่ งความเร็ วและมุ่งหน้าไป
ยังเมื่อที่มีผคู ้ นอาศัยอยูใ่ นทันที

“บัดซบไอ้เหม็นชูเฟิ ง นี่เจ้ากล้าล้อข้าเล่นอย่างนั้นหรอ เจ้าบอก


ว่าจะพาข้าไปหาของกินอร่ อย ๆ แต่นี่กลับพาข้ามาบินเล่นเนี่ยนะ นี่
อาทิตก็เกือบจะตกดินอยูแ่ ล้วแต่เจ้ากับยังไม่พบเมืองเลยซักเมือง ตาย
ตาย อย่างนี้ขา้ ต้องอดตายแน่ ๆ!”

' นี่คือ จือหลิงงั้นหรื อ? เธอคือผูห้ ญิงที่สวยงามและสง่าแต่กลับมี


ข้อบกพร่ องเล็ก ๆ คือความหิ ว? นี่หรื อผูห้ ญิง? อารมณ์ชงั่ ดูยากยิง่ นัก
'
ในทันทีมือสี ขาวบริ สุทธิ์เรี ยวงามของ จือหลิง ก็ตรงเข้ามากอดชูเฟิ งและ
ใช้มนั เหมือนราวกับเป็ นคีมเธอได้กอดรัดร่ างกายของชูเฟิ งอย่างบ้าคลัง่
เพื่อระบายความโกรธของเธอ

"อ้า ~~~~~ ภรรยาข้าโปรดยกโทษให้ขา้ ด้วยเถอะ!!"

“ข้าก็แค่เห็นว่าบรรยากาศมันเป็ นใจและวิวมันสวยดีขา้ ก็เลย


อยากจะ…”

“ยังคิดที่จะแก้ตวั ?”

"อ้า ~~~~"
“นั้น! ดูมีหมู่บา้ นอยูข่ า้ งหน้า! บางทีมนั อาจเป็ นร้านอาหาร?”

“ชิ จะยังใงก็ได้ของแค่ให้มีอาหารที่ขา้ สามารถกินได้กพ็ อเพราะ


ตอนนี้ขา้ ไม่ตอ้ งการที่จะทนหิ วอีกต่อไปแล้ว”

จือหลิง ไม่อาจทนความทรมานจากความหิ วได้อีกต่อไปชูเฟิ งจึงช่วย


ไม่ได้ที่จะต้องหาร้านอาหารให้นางอย่างโดยเร็ ว

ในเวลานี้เขาได้เจอหมู่บา้ นแห่งหนึ่งตั้งอยูเ่ บื่องล่าง ถึงแม้วา่ มันจะไม่ได้


เจริ ญรุ่ งเรื องมากนักแต่กน็ บั ว่าใช้ได้อยูอ่ ย่างน้อยก็ยงั มี เป็ ด ไก่ และ
ห่าน

ดังนั้นชูเฟิ งจึงได้ล่อนลงในเขตพื้นที่นอกหมู่บา้ น หลังจากนั้นก็ใส่


หน้ากากมายาเพื่อปลอมแปลงใบหน้าของเขาและนํา จือหลิง เข้าไปใน
หมู่บา้ นแห่งนั้น

" วู ~~~ วู ~~~~"

แต่ในขณะที่พวกเขาเข้าไปที่หมู่บา้ นเขาก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลก ๆ
เพราะบนท้องถนนของหมู่บา้ นแห่งนี้น้ นั มันดูออกจะเงียบสงบมาก
จนเกินไปและพวกเขายังเห็นเพียงแค่กลุ่มเด็กเล็ก ๆ เท่านั้น

และแม้วา่ พวกเขาจะเดินลึกเข้าไปก็เจอแค่คนเฒ่าคนแก่เพียงไม่กี่คน
เท่านั้นและส่ วนใหญ่พวกเขานั้นก็มกั แสดงอาการที่เซื่ องซึ มออกมา และ
ที่สาํ คัญด้วยอํานาจวิญญาณตรวจจับที่แหลมคนของชูเฟิ งนั้นมันทําให้
เขาได้ยนิ เสี ยงสะอึกสะอื้นบางอย่างมาจากบ้านหลาย ๆ หลัง แต่เหล่า
เสี ยงสะอื้นพวกนั้นกับไม่ได้เป็ นของพวกคนเฒ่าคนแก่แต่มนั กับเป็ น
เสี ยงของผูห้ ญิงและในนํ้าเสี ยงของพวกเขานั้นได้บ่งบอกถึงความทุกข์
เป็ นอย่างมาก
“ชูเฟิ งมันต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับที่นี่อย่างแน่นอน” ทันใดนั้น จื
อหลิง ก็ได้กล่าวขึ้นมาในทันทีซ่ ึ งมันเห็นได้ชดั ว่าแม้แต่เธอก็ยงั รับรู ้ได้
ถึงความผิดปกติของหมู่บา้ นในตอนนี้

“ว๊าว, พี่สาว, ท่านชัง่ งดงามยิง่ นัก!” เพียงแต่ในเวลานั้นก็ได้มี


กลุ่มเด็กกลุ่มหนึ่งได้เห็นชูเฟิ งและจือหลิงพวกเขาได้รีบวิง่ เขามา
ล้อมรอบอย่างรวดเร็ ว

จือหลิง นั้นคือสาวน้อยที่สวยอย่างแท้จริ ง ใบหน้าของเธอนั้นอาจกล่าว


ได้วา่ ไม่ควรที่จะมาอยูใ่ นโลกของมนุษย์แต่ควรที่จะไปอยูบ่ นสวรรค์ช้ นั
ฟ้าซะมากกว่า ไม่วา่ ใครก็ตามที่ได้เห็นใบหน้าของเธอนั้นต่างก็จะได้รับ
การดึงดูดทั้งสิ้ น แม้แต่กลุ่มเด็กตาดํา ๆ ก็ยงั ไม่อาจต้านทานความงดงาม
ของเธอได้

“เฮ้ไอ้เด็กเปื้ อนขี้มูกอย่าแตะต้องเธอ!”
ทันทีที่ชุเฟิ งเห็นเด็กสาวที่มีใบหน้าเปื้ อนขี้มูกและมือก็ยงั เต็มไปด้วยขี้
มูกแม้แต่ปากก็ยงั เต็มไปด้วยนํ้ามูกกําลังยืน่ มือของเธอออกไปเพื่อที่จะ
จับกระโปรงสี ม่วงของ จือหลิง

มันจึงทําให้ชุเฟิ งรู ้สึกโกรธ เพราะแม้แต่เขาก็ยงั ไม่กล้าที่จะสัมผัส จือห


ลิง เลยแม้แต่นอ้ ยแต่กบั เด็กสกปรกนี่จริ งกล้าที่จะสัมผัสเธอ เมื่อเห็นกับ
ตาตัวเองมีหรื อที่ชูเฟิ งจะสามารถอดทนได้

“ฮา! น่ากลัว!” อย่างไรก็ตามเสี ยงของชูเฟิ งนั้นอาจกล่าวได้วา่


ดังจนเกินไปมันจึงทําให้กลุ่มเด็ก ๆ ทั้งหมดตกอยูใ่ นความหวาดกลัว

“มันไม่เป็ นไรชูเฟิ ง มันก็แค่ทาํ ให้เสื้ อผ้าเหล่านี้สกปรกเท่านั้น


จะล้างออกเมื่อไหร่ กไ็ ด้นิจริ งไหม? เพราะฉะนั้นอย่าทําให้เด็กกลุ่มนี้
ต้องตกใจกลัวซิ” จือหลิง ยิม้ หวานแล้วกอดไปที่เด็กสาวที่มีใบหน้า
เปื้ อนขี้มูกและถามว่า “น้องสาวตัวน้อยเจ้าชื่อว่าอะไรจ๊ะ?”

“ข้าเรี ยกว่า เอ้อหยา.” หลังจากที่เด็กสาวได้เช็ดนํ้ามูกบน


ใบหน้าของเธอออกไปเธอก็กล่าวออกมาด้วยรอยยิม้ และใบหน้าที่
เปลี่ยมความสุ ข

“พี่สาวข้ามีชื่อว่า โก๋ วเชิง.”เพียงแต่ในเวลานั้นก็ได้มีเด็กชายคน


หนึ่งที่ดูสกปรกยิง่ กว่าสาวเปื้ อนนํ้ามูกกล่าวออกมาและวิง่ ออกไปที่ออ้ ม
แขนของ จือหลิง เพื่อหวังว่าจะให้ จือหลิง กอดเขา

“นางยังไม่ได้ถามชื่อเจ้าเลยนิแล้วทําใมเจ้าถึงได้บอกชื่อนาง?”
เด็กอ้วนได้ยงิ่ คําถามไปที่เด็กชายสกปรกในทันทีและมันอาจเห็นได้ชดั
ว่าไม่วา่ พวกเขาจะเป็ นเพื่อนกันแต่กไ็ ม่อาจทนเห็นการกระทําที่ไร้
ยางอายของเด็กชายสกปรกได้
“ไม่วา่ นางจะถามข้าหรื อไม่ขา้ ก็ยงั คงเรี ยกว่า โก๋ วเชิง อยูด่ ี
เพราะฉะนั้นพี่สาวโปรดกอดข้าด้วย!” เด็กชายสกปรกตอกหน้าชาย
อ้วนกลับไปด้วยคําพูดอย่างรุ นแรงและเขาก็ได้กระโจนเข้าสู่ ออ้ มกอด
ของ จือหลิง ในทันที.”

“เก็บปากเหม็น ๆ ของเจ้ากลับไปพูดกับแม่ที่บา้ นนูน้ ไป!” ชู


เฟิ งได้เหวีย่ งเท้าของเขาเตะไปที่กน้ ของเด็กชายสกปรกจนปลิวกระเด็ก
ออกไปหลายเมตร เธอสวยและงดงามถึงขนาดที่เด็กยังมีความต้องการที่
จะได้สมั ผัสกับร่ างกายของเธอ แต่มนั ก็น่าเสี ยดายที่เด็กชายสกปรกผูน้ ้ นั
ได้มาบังอาจทําต่อหน้าต่อตาของชูเฟิ งมีหรื อที่เขาจะทนได้

“ชูเฟิ งเด็กพวกนี้ชงั่ น่ารักมากจริ ง ๆ!” จือหลิงนั้นชอบเด็ก


น้อยพวกนี้เป็ นอย่างมาก พวกเขานั้นล้วนมีอายุเพียงแค่ 5 ขวบ หรื อ 6
ขวบเพียงเท่านั้น เธอรู ้สึกมีความสุ ขมาก ๆ ที่ได้เล่นกับเหล่าเด็ก ๆ
สกปรกพวกนี้ เมื่อมองไปยังภาพในตอนนี้มนั ทําให้เธอได้ลืมไปแล้วว่า
เธอนั้นกําลังหิ วอยู่
“เจ้าชอบเด็กอย่างนั้นหรอ? งั้นก็ดีเลย!” ชูเฟิ งแสดงรอยยิม้
แห่งความเงี่ยนออกมาและบอกกับจือหลิงว่า “ภรรยาข้า เจ้าไม่คิดว่าเรา
ควรจะมีเด็กเอาไว้ดูเล่นสักคนหนึ่งหรอ?”

“ได้สิ! หากเจ้าต้องการที่จะตายก็ขอให้ลองทําดูได้เลย?” แสง


ประกายสี ม่วงได้แพร่ ออกมาจากร่ างกายของ จือหลิง อย่างชัดเจนและ
มันทําให้ชูเฟิ งต้องถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวจากความหวาดกลัวในทันที
แล้วทําได้เพียงกล่าวออกมาด้วยรอยยิม้ “ใจเย็นก่อนภรรยาข้าข้าเพียงแค่
ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นข้ารู ้อยูแ่ ล้วว่าตอนนี้พวกเรายังเด็กนักรอไว้ให้เราโตกัน
มากกว่านี้ก่อนแล้วค่อยมีลูกกันที่หลังก็ยงั ไม่สายหรอกเนอะ”

“หึ ” จือหลิง เบะปากของเธอและถอนลมหายใจออกมาอย่าง


เย็นชา เพราะในวันนี้เธอรู ้สึกได้วา่ เจอกับความไร้ยางอายของชูเฟิ งมา
มากมายจริ งๆ

“เออหยา, โก๋ วเชิง ลองมองดูนี่สิวา่ นี่คืออะไร?” ทันใดนั้นชู


เฟิ งก็ได้มีความคิดที่ชานฉลาดพุดขึ้นมา เขาได้ลูกแก้วห้วงวิญญาณ
ออกมาจากถุงจักรวาลของเขา

เขาจริ งมีมนั จํานวนนับไม่ถว้ นเขาได้มนั มาจากสุ สานบรรพชนของ


สํานักเทพอัคคี แม้วา่ เขาจะมีมนั เป็ นจํานวนมากแต่มนั ก็ไร้ประโยชน์
สําหรับเขามันมีพลังวิญญาณตํ่าเกินไปที่เขาจะสามารถกลัน่ มันได้
ฉะนั้นมันจึงไม่มีประโยชน์สาํ หรับเขา

แต่ถึงแม้วา่ มันจะไม่ได้มีประโยชน์ในการบ่มเพาะพลังวิญญาณของเขา
มากนักแต่มนั ก็นบั ว่าเป็ นสกุลเงินที่ไม่นอ้ ยเลยที่เดียวและยังใช้กนั
แพร่ หลายอีกด้วยสําหรับคนธรรมดาสามัญแล้วนั้นด้วยจํานวนขนาดนี้
มันสามารถทําให้พวกเขาอยูส่ ุ ขสบายได้หลายชัว่ อายุคนเลยทีเดียวโดยที่
ไม่ตอ้ งมากังวลเรื่ องที่อยูอ่ าศัยเครื่ องแต่งกายและอาหาร

นั้นจึงเป็ นเหตุผลว่าทําใมเขาถึงได้ต้ งั ใจรวบรวมมันเอาไว้เพื่อที่เขาจะได้


หลีกเลี่ยงในการขาดแคลนทรัพยากรเมื่อเขาได้ออกไปกินอาหารข้าง
นอก

หลังจากที่ชูเฟิ งได้ทาํ สิ่ งที่น่าอายออกไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ชูเฟิ งยัง


สามารถที่จะหยิบเอาลูกแก้วกําเนิดหรื อลูกแก้วแก่นแท้ออกมาก็ได้แต่ชู
เฟิ งกลับคิดว่าบางทีแล้วพวกเขาอาจไม่รู้จกั ลูกแก้วพวกนี้ ฉะนั้นแล้วเขา
จึงคิดว่าลูกแก้วห้วงวิญญาณอาจเป็ นตัวเลือกที่ดีที่สุด

“ว๊าว พี่ใหญ่หินอ่อนพวกนี้ชงั่ สวยมากจริ ง ๆ! พีใ่ หญ่สามารถให้


มันกับ เอ้อหยา ได้ไหม?”

“พี่ใหญ่ขา้ เองก็อยากได้เช่นกัน! พี่ใหญ่สามารถให้มนั แก่ขา้ ได้


หรื อไม่! หรื อจะให้ขา้ เอาหิ นอ่อนของข้าแลกเปลี่ยนกับหิ นอ่อนพวกนี้
ของท่านก็ได้นะ!"

พอเห็นลูกแก้วห้วงวิญญาณที่เต็มไปด้วยความกระจ่างใส ก็ได้ปรากฏ
ดวงดาวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในดวงตาของเหล่าเด็ก ๆ ในทันทีพวกเขาคิดจริ ง
ๆ ว่าลูกแก้วห้วงวิญญาณพวกนี้คือหิ นอ่อนที่สวยงามและแน่นอนว่าของ
เหล่านี้จะต้องกลายเป็ นของเล่นใหม่ของพวกเขาอย่างแน่นอนหากได้
มันไป

แต่คนที่ไร้ยางอายที่สุดในหมู่เด็ก ๆ พวกนี้กค็ งจะเป็ นเด็กที่ชื่อ โก๋ วเชิง


เพราะเขาจริ งได้เอาหิ นอ่อนที่ดูสกปรกและหักบิ่นออกมาจากกระเป๋ า
ของเขาเขาจริ งต้องการที่จะใช้หินอ่อนที่สกปรกและน่าเกลียดพวกนี้
แลกเปลี่ยนกับลูกแก้วห้วงวิญญาณของชูเฟิ ง

“ฮ่า ๆ พวกเจ้าทั้งหมดยังขาดประสบการณ์ง้ นั ข้าจะบอกพวก


เจ้าให้วา่ ลูกแก้วเหล่านี้น้ นั มันไม่ใช้หินอ่อนหรื อของเล่นของพวกเจ้า
แต่ของพวกนี้มนั เป็ นสมบัติที่มีค่ามันจะคุม้ ค่ามากหากพวกเจ้าได้เก็บมัน
เอาไว้” ชูเฟิ งอธิบาย

ReadMGA.blogspot.com
#################################
#################################
###############################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

ท่านผูแ้ ปล : เอิ่ม…..B4 บทหน้าเจ้าไม่ตอ้ งมาแล้วนะ คือจะว่าใงดี


ล่ะมันค่อนข้างมีปัญหานิดหน่อย

B4 : ครับผมเข้าใจแล้วครับ

ท่านผูแ้ ปล : …..ไม่คิดจะถามอะไรหน่อยเลย??

B4 : ไม่ครับ…..

ท่านผูแ้ ปล : คือจริ ง ๆ แล้วช่วงนี้หวั ค่อนข้างอื้อนะแล้วก็คิดบทพูดไม่


ค่อยจะออกด้วยเพราะงั้นก็…..นะตามนั้น

B4 : ……คือผมไม่ได้ถามครับท่านจะเล่ามาทําใม??

ท่านผูแ้ ปล : เอิ่ม….ก็ตามนั้นแหละไว้โอกาศหน้าจะเชิญใหม่มาแล้ว
กัน

B4 : ครับตามนั้น

B1 : ฮ่าไปเลยไปไกล ๆ ตีนเลยในที่สุดโลกนี้กเ็ ป็ นของข้ามีแค่ ข้า


กับ B2 เท่านั้นก็เกินพอแล้ว 555555

ท่านผูแ้ ปล : เดี้ยวอีก 2 บท ข้าจะให้ B3 กลับมาล่ะเนื่องจากข้ากลัว


พวกเจ้าจะเหงา Ok ตามนี้ขา้ ไปล่ะ

B1 : เดี้ยวท่านไม่ตอ้ งเอาไอ้ B3 มันมาก็ได้ให้มนั ออกไปแล้วก็ไล่


มันออกไปเลยไม่ได้หรื อ ท่าน!! ท่าน!!!!

B2 : ตามนั้นแหละ B1 ท่านผูแ้ ปลเขาไปแล้วอีก 2 บท B3 ก็


กลับมาก็ถือว่าไม่เลวนะอย่างน้อยก็ยงั มีเวลาเหลืออยูอ่ ีกตั้ง 2 บท

B1 : ….[- -] อ่าตามนั้น!!

#################################
#################################
###############################
…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้
ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

B4 : อัตมาจะไปถือศีลกินเจในป่ าล่ะ อย่ามาตามอัตมาอีกล่ะ !!!


ก่อนอัตมาจะไปตะกรุ ดหน่อยไม๊ ??? ปลุกเสกจากวัดเส้าหลิน !!!

A : มืงรี บๆไปเลย!!! ไม่ง้ นั กูจะดูสิวา่ ตะกรุ ดมืงจะช่วยกันกระสุ น กู


ได้ไม๊ ???

B4 : . . . . . . . .

@ : โธ่ไอ B4 นึกว่าแม่งจะขลัง โชคร้ายเป็ นบ้าโดนกระสุ นส่ งท้าย


บทที่ 434 – พี่สาวเทพธิดา

“พี่ใหญ่ เอ้อหยา ขอสมบัติเหล่านี้ได้หรื อไม่! เอ้อหยา ชอบมัน!”


สาวเปื้ อนนํ้ามูกที่อยูใ่ นอ้อมแขนของ จือหลิง ได้ขยายมือของเธอออกมา
เพื่อที่จะคว้ามัน

“พี่ใหญ่โปรดให้ขา้ ชิ้นหนึ่ง! หรื อหิ นอ่อนของข้ามันไม่พอที่จะ


แลกเปลี่ยนกับหิ นอ่อนของพี่ใหญ่อย่างนั้นหรื อ?” เด็กสกปรกได้ยนื่
หิ นอ่อนในกางเกงของเขามาให้ชูเฟิ ง

“ถ้าเจ้าต้องการจริ ง ๆ ล่ะก็จะต้องมีขอ้ แม้อย่างหนึ่ง คือพี่ใหญ่


และพี่สาวของเจ้าเนี่ยยังไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันเลย ฉะนั้นพี่ใหญ่จึง
อยากรู ้วา่ พ่อและแม่ของเจ้าเนี่ยทําอาหารอร่ อยไหม? ถ้าหากพี่ใหญ่
และพี่สาวได้กินอหารที่แสนอร่ อยล่ะก็พี่ใหญ่จะยกลูกแก้วทั้งหมดนี้ให้
เจ้า” ชูเฟิ งกล่าว

เมื่อได้ยนิ คําพูดของชูเฟิ งเด็ก ๆ ทั้งหมดต่างก็ตกอยูใ่ นความเงียบ และ


จ้องมองไปที่เด็กสาวเปื้ อนนํ้ามูกด้วยความอิจฉา

“ฮ่า ๆ สุ ดยอด! ในที่สุดหิ นอ่อนลูกแก้วห้วงวิญญาณพวกนี้ก็


เป็ นของข้า” เอ้อหยา นั้นรู ้สึกตื่นเต้นเป็ นอย่างมากเมื่อได้ยนิ คําพูดนั้น
เธอได้กระโดดลงจากอ้อมแขนของ จือหลิง และในขณะที่เธอได้
กระโดดลงเธอก็ได้ตะโกนออกไป “ท่านแม่โปรดทําอาหารที่อร่ อยที่สุด
ให้ขา้ ที! โชว์ฝีมือการทําอาหารที่อร่ อยที่สุดในหมู่บา้ นของเราให้พี่ใหญ่
และพี่สาวอึ้งไปเลยนะท่านแม่!”

“พี่ใหญ่พสี่ าวพวกท่านรี บเข้ามาที่บา้ นของ เอ้อหยา เร็ ว! ข้าจะ


รี บไปบอกให้ท่านแม่ทาํ อาหารที่อร่ อยที่สุดให้พวกท่านได้ทานเอง!”
ขณะที่ เอ้อหยา กําลังพูดเธอก็ได้เดินไปที่บา้ นของเธอ เมื่อเห็นเช่นนั้น ชู
เฟิ ง และ จือหลิง จึงได้เดินตามไป

สภาพแวดล้อมของครอบครัว เอ้อหยา นั้นไม่ได้เลวร้ายมากนัก อย่าง


น้อยในแง่ของการอยูใ่ นหมู่บา้ นเล็ก ๆ ก็นบั ว่าเป็ นครอบครัวที่มีความ
เจริ ญรุ่ งเรื องในระดับปานกลาง แม่ของ เอ้อหยา นั้นใจดีมาก หลังจากที่
ได้รู้วา่ ชูเฟิ งและจือหลิงยังไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันเธอก็รีบเริ่ มต้นในการ
ทําอาหารอร่ อย ๆ ให้ชุเฟิ งและจือหลิงในทันที

ถึงแม้วา่ อาหารทั้งหมดนั้นจะเป็ นเพียงแค่อาหารท้องถิ่นแต่กต็ อ้ งยอมรับ


เลยว่าฝี มือในการทําอาหารของแม่ เอ้อหยา นั้นค่อนข้างดี อย่างน้อย ๆ
มันก็ยงั ดีกว่ารวมมิตรสารพัดสัตว์ควั่ ที่ชูเฟิ งทําให้ จือหลิง กิน

จือหลิง และ ชูเฟิ งนั้นต่างกินด้วยความตระกะตระกาม โดยเฉพาะอย่าง


ยิง่ จือหลิง เธอกินข้าวคํานํ้าคําซึ่ งมันได้บ่งบอกออกมาอย่างชัดเจนเลยว่า
ผูห้ ญิงคนนี้ได้รับการอดอยากมาเป็ นเวลานาน

ในขณะนี้ชูเฟิ งถึงกับเป็ นตะลึงเพราะเมื่อเทียบกับความงดงามราวกับ


เทพธิดาของ จือหลิง แล้วนั้นการกินของเธอมันชัง่ อุบาทเสี ยนี่กระไร

“พี่สาวท่านชัง่ งดงามยิง่ นักราวกับเป็ นเทพธิดาเลย!” หลังจากที่


สาวเปื้ อนนํ้ามูก เอ้อหยา ได้กลับมาบ้านแม่ของเธอก็ได้ทาํ การอาบนํ้า
และเปลี่ยนชุดให้เธอ เมื่อคราบนํ้ามูกได้จางหายไปจากใบหน้าของเธอ
มันอาจกล่าวได้วา่ เธอเป็ นเด็กที่มีลกั ษณะค่อนข้างน่ารักแม้แต่ชูเฟิ งก็ยงั
ปรับทัศนคติดีข้ ึนหลังจากที่ได้เห็นใบหน้าที่ขาวใสและสะอาดของเธอ
“หื ม เอ้อหยา เจ้าคิดว่าบนโลกใบนี้จะมีเทพธิดาด้วยอย่างนั้น
หรื อ?” ชูเฟิ งกล่าวออกมาโดยที่ไม่ได้มีลกั ษณะเกรงกลัวใด ๆ เพราะ
ในโลกนี้น้ นั มีเพียงแค่ผเู ้ ชียวชาญทักษะยุทธ์เท่านั้นหาได้มีเทพเจ้าไม่?
จริ งแล้วนั้นพวกเขาก็เป็ นเพียงแค่ผเู ้ ชียวชาญทักษะยุทธ์เท่านั้นที่มีพลัง
วิญญาณเท่านั้นแต่พวกเขาจริ งกลับถูกเข้าใจผิดโดยผูค้ นเบื่องล่าง

(3B : คนเบื่องล่างที่พดู นี้หมายถึง ไพร่ คนชั้นตํ่า หรื อจะให้พดู ง่ายๆ


ก็คือคนบ้านนอกคอกนา อ่ะ คือเป็ นคนที่อยูต่ าํ กว่าในหมู่คนธรรมดาลง
ไปอีกดูจากที่ใช้คาํ ว่าหมู่บา้ นก็คงน่าจะรู ้นะว่าขัดสน)

ผูค้ นธรรมดาที่ไม่ได้บ่มเพาะพลังวิญญาณนั้นพวกเขาจะไม่ได้รู้สึกถึง
ความสามารถและความหมายของผูเ้ ชียวชาญทักษะยุทธ์อย่างแท้จริ ง
ฉะนั้นแล้วเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาได้เห็นผูเ้ ชียวชาญทักษะยุทธ์เขาผูน้ ้ นั
จะเปรี ยบเสมือนกับเป็ นเทพเจ้าในสายตาของพวกเขาทันที

ยกตัวอย่างเช่น ชูเฟิ ง และ จือหลิง หากพวกเขาทั้งสองคนได้แสดง


อํานาจที่แท้จริ งออกมาก็จะเป็ นไปได้อย่างแน่นอนว่า เอ้อหยา จะมอง
พวกเขาเป็ นเทพเจ้า
“มีนะ! หากพวกเขาสามารถบินได้พวกเขาก็เป็ นเทพเจ้า!” เอ้
อหยา กระพริ บตารั่ว ๆ ซึ่งขาดความชัว่ ร้ายใด ๆ และ เถียงกับชูเฟิ งอย่าง
ขาดใจ

“เอาล่ะถ้าเจ้าพูดถึงขนาดนี้แล้วล่ะก็พี่สาวคนนี้ของเจ้าอาจเป็ น
เทพธิดาก็ได้” หลังจากที่ชูเฟิ งหันกลับไปมองที่ จือหลิง มันช่วยไม่ได้ที่
จะทําให้เขาต้องหัวเราะออกมาเพราะ จือหลิง นั้นบินได้! ถ้าว่ากันด้วย
ถ้อยคําของ เอ้อหยา จือหลิง ก็คงจะเป็ นเทพธิดาจริ ง ๆ ใช่หรื อไม่?

“อันที่จริ งแล้วครอบครัวของข้ายังมีพี่สาวเทพธิดาด้วยนะ!
พี่สาวของข้าก็มีความสวยงามเช่นกัน เพียงแต่เธอยังห่างชั้นเกินไปที่จะ
มาเทียบความสวยงามของพีส่ าวได้!” ในขณะที่เธอพูดเธอก็ได้หนั
กลับไปมองที่แม่ของเธอและกล่าว “แม่เมื่อไหร่ พี่สาวจะกลับมา? ข้า
คิดถึงพี่สาวของข้า….”
“พี่สาวของเจ้าพึ่งเดินทางไกลไปเมื่อไม่กี่วนั นี้เองนะคิดว่าคง
ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่พี่สาวของเจ้าจะกลับมา” แม่ของ เอ้อหยา
กล่าวออกมาด้วยรอยยิม้ และลูบหัวของ เอ้อหยา พร้อมกับหันหน้าไป
ทางชูเฟิ งและกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ ว “ยังมีอาหารอยูจ่ ากหนึ่งที่ป้ายัง
ทําไม่เสร็ จ ฉะนั้นแล้วเดี้ยวป้าขอไปดูมนั ก่อนนะ.” หลังจากพูดเสร็ จแม้
ของ เอ้อหยา ก็ได้เดินเข้าครัวไป

แม้วา่ เด็กที่ไร้เดียงสาอย่าง เอ้อหยา จะไม่รู้สึกถึงสิ่ งผิดปกติใด ๆ แต่


สําหรับ ชูเฟิ ง และ จือหลิง นั้นเขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนถึงการ
เปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของแม่ เอ้อหยา มันเป็ นนํ้าเสี ยงและอารมณ์
ของความโศกเศร้าในใจ

เป็ นที่แน่นอนเลยว่าพี่สาวของ เอ้อหยา นั้นจะต้องไม่ใช่การเดินทางไกล


อย่างแน่นอนมันจะต้องมีบางสิ่ งบางอย่างเกิดขึ้นกับหมู่บา้ นแห่งนี้มนั
ต้องมีเหตุผลที่วา่ ทําใมถึงได้มีคนเฒ่าคนแก่มากมายถึงขนาดนี้และไหน
จะยังมีผหู ้ ญิงที่แอบร้องไห้อย่างเงียบ ๆ อีก
ฉะนั้นแล้วชูเฟิ งจึงได้ส่งสัญญาณไปที่ จือหลิง และตามแม่ของ เอ้อหยา
เข้าไปในครัวทันทีแต่ก่อนที่ชูเฟิ งจะได้เข้าไปถึงข้างในครัวเขาก็ได้ยนิ
เสี ยงสะอึกสะอื้นระเบิดออกมาจากแม่ของ เอ้อหยา ซะก่อน

“ป้าที่นี่มนั เกิดอะไรขึ้น? พีส่ าวของ เอ้อหยา ไปที่ไหน?” ชู


เฟิ งถามขึ้นมาในทันที

“นี่พอ่ หนุ่ม…” ชูเฟิ งได้โพล่เข้ามาอย่างฉับพลันมันจึงทําให้


แม่ของ เอ้อหยา นั้นตกอยูใ่ นความหวาดกลัวและในสายตาของเธอที่
มองไปยังชูเฟิ งนั้นยังเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“อย่าได้กงั วลข้าเป็ นผูเ้ ชียวชาญทักษะยุทธ์ หากป้ามีปัญหาใด


โปรดบอกข้ามา บางทีขา้ อาจสามารถช่วยท่านได้.” ชูเฟิ งอธิบาย
“จริ ง? พ่อหนุ่มเป็ นผูเ้ ชียวชาญทักษะยุทธ์?” แม่ เอ้อหยา
ในตอนนี้น้ นั เชื่อครึ่ งไม่เชื่อครึ่ ง เพราะลักษณะของชูเฟิ งนั้นเขายังเป็ น
เพียงแค่ชายหนุ่มรู ปหล่อ และถึงแม้วา่ เขาจะเป็ นผูเ้ ชียวชาญทักษะยุทธ์
จริ งมันก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะแข็งแกร่ ง

ดังนั้นเธอจึงส่ ายหัวของเธอและกล่าวว่า “นี่มนั เป็ นเรื่ องของผูใ้ หญ่เด็ก


อย่างเจ้าไม่ควรที่จะรู ้ฉะนั้นแล้วข้าจึงไม่ตอ้ งการที่จะนําเจ้ามาเกี่ยวข้อง
ด้วย”

*** หวืบ *** เพียงแต่ในเวลานั้นชูเฟิ งได้ยกแขนขนาดใหญ่ของเขาขึ้น


และสร้างอํานาจวิญญาณขึ้นมาห่อหุม้ ร่ างกายแม่ของ เอ้อหยา เอาไว้และ
เขาได้ใช้อาํ นาจวิญญาณและใช้ทกั ษะท่องนภาบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
อย่างรวดเร็ วเพียงแค่พริ บตาเดียวแม้ของ เอ้อหยา ก็ได้ทะลุกอ้ นเมฆไป
หลายชั้นแล้ว

“อ่า ~~~~~~~” ความเร็ วของชูเฟิ งนั้นมันเป็ นอะไรที่เร็ ว


เกินไป กว่าที่แม่ของ เอ้อหยา จะรู ้สึกตัวเธอก็ได้ห่างไกลออกมาจาก
พื้นดินไปแล้วกว่า 10,000 เมตร (10 กม.) เธอมองลงไปที่
หมู่บา้ นเล็ก ๆ ภายใต้เมฆสี ขาวและตะโกนร้องออกมาทันทีดว้ ยความ
ตกใจ

“ป้าตอนนี้ท่านสามารถบอกข้าได้รึยงั ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับที่นี่?
บางที่ขา้ อาจสามารถช่วยป้าได้” ชูเฟิ งถามอีกครั้ง

ทันทีในที่สุดแม่ของ เอ้อหยา ก็ได้รู้สึกตัว ว่าชูเฟิ งนั้นสามารถเดินบน


อากาศได้และตอนนี้ชูเฟิ งก็ได้พาเธอเดินอยูบ่ นอากาศ

ในขณะนี้แม่ของ เอ้อหยา ได้มองไปที่ชูเฟิ งด้วยสายตาที่แตกต่างกัน


ออกไปและในสายตาของเธอนั้นยังเต็มไปด้วยความชื่นชมที่มีต่อชูเฟิ ง

ในฐานะที่เธอเป็ นคนธรรมดาสามัญเธอไม่เข้าใจโลกของการบ่มเพาะ
พลังวิญญาณ แต่ในดวงตาของเธอ,สําหรับผูเ้ ชี่ยวชาญที่สามารถเดินบน
อากาศและมุดลงไปในดินได้น้ นั มันเปรี ยบเสมือนกับเป็ นการดํารงอยู่
ของเทพเจ้า

ทันใดนั้นแม่ของ เอ้อหยา ก็ได้คุกเข้าลงทั้งๆที่อยูบ่ นอากาศในทันที


พร้อมกับประสานมือของเธอไว้ที่น่าอกและกราบลงทันทีในด้านหน้า
ของชูเฟิ ง “ท่านเทพเจ้าได้โปรดช่วยลูกสาวของข้าน้อยและผูค้ นใน
หมู่บา้ นนี้ดว้ ยเถอะ.”

“ป้าโปรดยืนขึ้นและเล่าทุกอย่างมาก็พอ ข้าบอกท่านแล้วไม่ใช่
หรอว่าข้าจะช่วยท่านเพราะฉะนั้นป้าโปรดบอกมาว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่
หมู่บา้ นแห่งนี้? ป้าสามารถบอกรายละเอียดทุกอย่างกับข้าได้ไหม?”
เมื่อเห็นเช่นนั้นชูเฟิ งจึงรี บไปพยุงป้าให้ลุกขึ้นมาในทันที

หลังจากนั้นแม่ของ เอ้อหยา ก็ได้เล่ารายละเอียดทุกอย่างให้ชูเฟิ งฟัง


ทั้งหมด
ห่างออกไปประมาณ 300 กม. จากหมูบา้ นจะมีเทือกเขาอยูล่ ูกหนึ่ง
บนเทือกเขานั้นได้มีคนกลุ่มหนึ่งต้องการที่จะสร้างสํานักขึ้นที่น้ นั

พวกเขาได้ข้ ึนไปที่เทือกเขาและต้องการสร้างสํานักที่น้ นั แต่มนั เป็ น


เพราะพวกเขาขาดคนงานในการก่อสร้างสํานัก

พวกเขาจึงได้เขาจึงได้มาที่หมู่บา้ นแห่งนี้และเกณฑ์ผชู ้ ายที่แข็งแกร่ ง


ออกไปจากหมู่บา้ นนี้ท้ งั หมดเหลือไว้เพียงแค่คนเฒ่าคนแก่และเด็ก
เท่านั้น และมันเป็ นเพราะพีส่ าวของ เอ้อหยา นั้นเป็ นบุคคลที่โดดเด่น
เธอจึงได้ถูกนําตัวออกไปด้วยพร้อมกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง

และภายในกลุ่มนั้นยังได้มีแม้แต่ผเู ้ ฒ่าที่สามารถยืนบนอากาศได้และยัง
สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ตามที่เขาต้องการอีกด้วย ดังนั้น
ผูค้ นในหมู่บา้ นนี้จึงได้คิดว่าเขานั้นคือเทพเจ้าก็เลยไม่มีใครที่คิดกล้าจะ
ต่อต้านพวกเขาเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาทําได้เพียงแค่เชื่อฟังเท่านั้นจึง
ได้ทยอยกันออกไปและไม่กล้าที่จะบ่นออกมาเลยแม้แต่คาํ เดียว

#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : อัยย๊ะพี่เฟิ งเรากลายเป็ นเทพเจ้าไปซะแล้ว 55555 นี่ถา้ มีสาว


ๆ น่ารัก ๆ หน่อยในหมู่บา้ นนะพี่เฟิ งเราคงจับล่อแน่ ๆ ฮ่า

B2 : ฮ่า ๆ ใช้ความเชื่อผิด ๆ ของคนในหมู่บา้ นให้เป็ นประโยชน์

B1 : 555555 ถ้าจริ งนี่พวกเราเข้าสู่ ดา้ นมืดไปแล้วรึ ป่าวนะทําใม


พวกเราถึงได้มีความคิดชัว่ ๆ กันถึงขนาดนี้
B2 : 555555 ไม่รู้ดิ B1 อาจติดมาจากไอ้ B3 ก็ได้ม้ งั

B1 : หืม หย่าไปพลาดพิงถึงมันซิ ปล่อยมันแก่ตายไปเถอะไอ้ 3 น่ะ


เอ้อว่าแต่จะว่าไปแล้ว กลุ่มคนพวกนี้มนั เป็ นใครกันว่ะ

B2 : นั้นสิ มนั เป็ นใคร

B1 : งั้นเรามาเสี ยงทายกันดีกว่าว่าเขาผูน้ ้ ีจะเป็ นใคร

B2 : ติดตามกันต่อได้ในบทที่ 435 รับรองเดะรู ้เลย

B1,B2 : แล้วเจอกันไหม่ในอีกหลายๆบทหน้าน่ะฮ่ะ

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 435 - หยาน หยางเทียน

หลังจากได้รู้ความจริ งชูเฟิ งก็ไม่รอช้ารี บพาแม่ของเอ้อหยากลับไปที่


ห้องครัวและเล่าเรื่ องราวให้จื่อ หลิงฟัง

หลังจากจื่อ หลิง รู ้เธอก็โกรธมาก เธอก็ได้บ่นบางอย่างอยูซ่ กั พัก เรื่ องจึง


จบโดยที่ยงั ไม่ได้ทานอาหารและชูเฟิ งก็ตอ้ งออกไปพร้อมกับจื่อ หลิง

อย่างไรก็ตาม จื่อ หลิง กับชูเฟิ ง บินขึ้นไปบนท้องห้าและมุ่งหน้าไปยัง


ทิศทางที่แม่ของเอ้อหยาได้บอกไว้ ภายในเมฆสี ขาวที่หนึ่งที่อยูเ่ หนือ
หมู่บา้ น มีเงา3เงาปรากฏขึ้นบนเมฆนั้น

ใน 3 คนนั้น มีชายวัยกลางคน 2 คนและมี 1 คนที่เป็ นชายชรา พวก


เขากําลังลอยอยูบ่ นอากาศ และไม่มีออร่ าใดๆกระจายออกมาจากพวก
เขาเลย มันเหมือนกับว่าพวกเขานั้นไม่อยูท่ ี่นน่ั

พวกเขาสวมเสื้ อคลุมสี ทองยาวยันขา เสื้ อผ้าแบบพิเศษนี้เป็ นของ


ราชวงศ์เจียงอย่างไม่ตอ้ งสงสัย
"ไปรายงานองค์หญิงบอกว่าพบชูเฟิ งกับจื่อหลิง " ชายชราผมสี
ขาวพูดกับผูช้ ายคนหนึ่งวัยกลาง

"รับทราบ." ได้ยนิ คําพูด ชายคนนึงก็หยิบกระดาษแล้วก็พกู่ นั


ออกมาเขียนจดหมายแล้วหยิบกรงนกออกมาจากกระเป๋ าเขา และทํา
เครื่ องหมายพิเศษกับนกส่ งสารนัน่ แล้วปล่อยให้นกนัน่ บินไป

"ติดต่อกับพวกอื่นๆด้วยว่า ก่อนที่องค์หญิงจะมาที่นี่จะต้องจะ
เป็ นทั้ง 2 เท่านั้น " ชายชราผมขาวพูดกับชายวัยกลางคน

"ใช่ครับ." ในการตอบสนองที่ชายวัยกลางคนไม่ได้ลอ้ เล่น เขา


เอาออกอุปกรณ์พิเศษและปล่อยออกมาระลอกคลื่นพลังงานที่มองไม่
เห็นและตรวจสอบไม่พบ
หลังจากเห็นชายวัยกลางคนทําตามคําสัง่ ชายชราก็สะบัดแขนตนเอง
และก่อให้เกิดพลังบางอย่างระเบิดออกมาทําให้ผมเขาค่อยๆเลือน
หายไป

ห่างออกไป300 ไมล์จากครอบครัวของเอ้อหยา มีเทือกเขาขนาดใหญ่


แต่กไ็ ม่แน่ใจ เทือกเขานั้นเป็ นบริ เวณชายแดนอาณาจักรหยวน มีสาํ นัก
น้อยมากที่ต้ งั อยูท่ ี่นน่ั และเป็ นสํานักเล็กๆเท่านั้น ผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ ง
ที่สุดอยูเ่ พียงระดับแก่นแท้วญ ิ ญาณเท่านั้น

อาณาจักรที่แข็งแกร่ งอย่างอาณาจักรหยวน ผูเ้ ชี่ยวชาญที่ยงั ไม่ถึงระดับ


อาณาจักรสวรรค์จะถูกเรี ยกว่าเป็ นบุคคลระดับ3

แม้วา่ จะมีผเู ้ ชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์แต่เขาก็ถูกจัดให้อยูเ่ พียงระดับ2


เท่านั้น ส่ วนคนที่อยูใ่ นระดับ 1 คือผูเ้ ชี่ยวชาญที่อยูใ่ นระดับอาณาจักร
สวรรค์และมีความสามารถที่เกิดสามัญสํานึกทัว่ ไป
ในตอนนี้อาณาจักรหยวนนั้นมีเพียงคนเดียวที่อยูใ่ นระดับ 1 และเขาคือ
คนของนิกายไป๋

นิกายไป๋ ก็คล้ายกับ สํานักหลิง หยุน เพื่อที่จะรักษาจุดยืนที่เป็ นผู ้


แข็งแกร่ งที่สุดของอาณาจักร พวกเขาจึงได้ทาํ การจัดการกับสํานักอื่นๆ
เพื่อไม่ให้พฒั นาขึ้นมาเทียบเท่าสํานักตน

แต่วา่ เนื่อจากการปรากฏตัวขึ้นของชายชราคนหนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน
หน้านี้ทาํ ให้ชายแดนรกร้างที่มีทรัพยากรบ่มเพาะและผูฝ้ ึ กบ่มเพาะตน
เพียงน้อยนิดเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน

สํานักขนาดเล็กๆรอบๆนั้นถูกจัดการโดยชายชราผูน้ ้ นั ใครที่ไม่คล้อย
ตามจะถูกฆ่าตาย มีแต่ผทู ้ ี่ยอมคล้อยตามเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้มี
ชีวติ อยู่
เป็ นเวลาหลายเดือนนั้นเขาได้ใช้วธิ ีโหดร้ายเพื่อผลักดันตนให้กลายเป็ น
ผูป้ กครองสถานที่แห่งนี้เขาได้คดั เลือกบุคคลที่มีความแข็งแกร่ งพอมา
อยูภ่ ายใต้การบังคับบัญชาของเขา

เมื่อไม่นอนมานี้เขาได้สร้างนิกายของตนที่ภูเขาที่อยู๋ห่างจากบ้านของเอ้
อหยาเป็ นระยะทาง 300 ไมล์

บนภูเขานี้ อาคารขนาดใหญ่ได้ถูกสร้างขึ้นมันเป็ นอาคารที่มีโครงสร้าง


ใหญ่มาก จึงไม่ใช่เรื่ องง่ายที่จะสร้างนิกายอย่างเร็ ว

แม่วา่ ผูฝ้ ึ กตนจะมีความสามารถเกินกว่าคนทัว่ ไป ที่จะสามารถทําลาย


หิ นทุบภูเขาอย่างง่ายๆแต่กไ็ ม่น่าเป็ นเรื่ องที่น่าภูมิใจเมื่อเขาต้องมาทํา
เรื่ องเช่นนี้
และสุ ดท้ายการสร้างตําหนักขนาดใหญ่ตามคําสัง่ ของผูบ้ งั คับบัญชาก็
เป็ นหน้าที่ของพวกไพร่ ดังนั้นในการสร้างนิกายครั้งนี้ชายชราลึกลับ
ไม่ได้ลงแรงอะไรเลย

คนงานทั้งหมดของเขานั้นคัดกรองมาจากคนที่อาศัยอยูแ่ ถวๆนี้ พวกเขา


ต้องทํางานทุกๆวันและเกือบทุกวันที่มีคนทํางานไปจนตาย

"พี่ชาย หยาน ข้าขอแสดงความยินดีดว้ ย ด้วยความเร็ วเช่นนี้


นิกายของท่านจะสร้างเสร็ จในไม่กี่เดือน "

"อ่าข้าจะเรี ยกพี่ชายหยานไม่ได้แล้วสิ นะต้องเรี ยกว่าผูน้ าํ นิกายห


ยาน"
"ฮ่าๆๆๆ ถูกแล้ว ถูกแล้ว ผูน้ าํ นิกาย หยาน ฮ่าๆๆๆ... . "

ภายในตําหนักที่เสร็ จสมบูรณ์แล้ว มีผฝู ้ ึ กตนบางส่ วนยกถ้วยขึ้นและดื่ม


อย่างบ้าคลัง่ ด้านข้างของเขามานารี หลายคนที่ไม่ได้มีการบ่มเพาะอะไร
เลย แต่พวกก็ถูกจัดให้เป็ นสาวงาม

พวกเธอกลัวมาก แม้ร่างกายของพวกเธอจะสัน่ เทาด้วยความกลัวแต่พวก


เธอก็ไม่สามารถร้องไห้และตะโกนได้ พวกเขาบังคับให้พวกเธอแสดง
รอยยิม้ ในขณะที่ เทชาและเทไวน์ให้กบั พวกเขา ภายในหญิงเหล่านั้นมี
สาวงามนางหนึ่งที่หน้าตาคล้ายกับเอ้อหยาอยูด่ ว้ ย
[T/N ReadMGA]

ที่สาํ คัญที่สุดคือ ชายชราลึกลับคนนี้มีระดับอยูท่ ี่ 1 อาณาจักรสวรรค์


เขาเป็ นคนที่แข็งแกร่ งที่สุดในกลุ่มของเขา และใบหน้าของเขานั้นช่าง
คุน้ หน้าคุน้ ตายิง่ นัก เขาคือ อดีต ผูน้ าํ สํานักหลิง หยุน หยาน หยางเทียน
นัน่ เอง
แต่ในตอนนี้หยาน หยางเทียนได้ปลอมแปลงชื่อของเขาหลังจากที่เข้ามา
ในอาณาจักรหยวนแล้ว ตอนนื้ชื่อของเขาคือ หยาน เทียนหยาง

"น้องชายไม่ตอ้ งถ่มตนไป ในวันที่พระอาทิตย์ส่องแสงมายัง


นิกายข้า ในวันที่นิกายของข้าได้ถูกตั้งขึ้นแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดจะได้เป็ น
ผูอ้ าวุโสของข้า และจะถูกบันทึกชื่อไว้ในนิกาย แสงส่ องตะวัน ของข้า
(ทุ่งแสงตะวัน)( T/Nท่าน Abhisit เขาขอมา) " หยาน หยางเทียน
พูด ( T/N บ่นเล็กๆน้อยๆจากผูแ้ ปล ตอนแรกเสนอชื่อไปในที่ประชุม
ดันไม่ผา่ น เห้อ นิกายอรุ ณเบิกฟ้า ของผม)

"ฮ่า ๆ ที่เรามีวนั นี้คือทั้งหมดเป็ นเพราะท่าน ผูน้ าํ นิกาย


หยาน!"

"ถูกตัอง. ถ้าไม่มีผนู ้ าํ หยาน พวกเราอาจจะตายไปแล้วก็เป็ นได้


พวกเราคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้กลายเป็ นผูอ้ าวุโสของนิกายแสงส่ องตะวัน
ของท่าน และ ต่อจากนี้ขา้ นั้นจะขอติดตามท่านไปตลอด"
คําพูดของ หยาน หยางเทียนทําให้พรรคพวกของขารู ้สึกดีข้ ึนมา ทําให้
ฝูงชนที่อยูข่ า้ งกายเขาพูดคุยกันอย่างมีความสุ ขและหัวข้อที่เขายกมาคุย
กันคือเรื่ องดังในตอนนี้ ชูเฟิ ง และมหาอํานาจทั้ง 6

"ทุกคนเคยได้ยนิ หรื อไม่ ข้าเคยได้ยนิ ว่าชูเฟิ งนั้นได้บุกเข้ามา


อาณาจักรหยวนแล้ว! "

"นัน่ มันไม่ดีแล้ว เจ้าปี ศาจนั้นได้มาถึงอาณาจักรหยวน จะ


เป็ นไปได้วา่ อาณาจักรหยวนนี้จะถูกพลิกโดยเขา "

"มันจะดีมาก ถ้าชูเฟิ ง ได้ไปทําลายนิกายไป๋ และมหาอํานาจ


อื่นๆของอาณาจักรหยวน บางทีพวกเราอาจจะมีโอกาสได้กลายเป็ น
นิกายของอันดับ 1 ของอาณาจักรหยวนนี้ ฮ่า ฮ่า "
"ที่พวกเจ้าพูดนั้นไร้สาระอย่างยิง่ ชูเฟิ งได้หายตัวไปเป็ น
เวลานานแล้ว และในตอนนี้ไม่มีข่าวใดๆเกี่ยวกับเขาเลย มันเป็ นไปได้
หรื อที่เขาจะมเข้าาในอาณาจักรหยวนนี้ "

"ข้ารู ้สึกว่ามันเป็ นไปไม่ได้เลยที่ชูเฟิ งมายังอาณาจักรหยวน แต่


ข้าหวังว่าเขาจะมาและทําอย่างที่ พี่ชาย จ้าวบอก ให้ชูเฟิ งถล่มนิกายไป๋
และ มหาอํานาจอื่นๆทิ้งมันจะทําให้นิกายของเรามีโอกาศโงหัวขึ้นมาก
"

ข่าวลือของชูเฟิ งนั้น ถูกลือไปต่างๆนานา หลายคนบอกว่าเขานั้นกําลัง


ทําอย่างนุน้ อย่างนี้ จนปัจจุบนั นี้ ข่าวลือของชูเฟิ งนั้นเขานั้นจะอยูแ่ ทบ
ทุกที่

นัน่ มันช่วยไม่ได้ เพราะบางคนนั้นมีงานอดิเรกชอบกระจายข่าวลือ หาก


ไม่ได้กระจายพวกเขานั้นอาจจะนอนไม่หลับ
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////
แปลโดย#ท่านฮาย

บทที่ 436 - เทพสังหารมาเยือน

" เพร้ง!!! " ในตอนนั้นชายวังกลางคนเขวี้ยงถ้วยสุ ราภายในมือ


จากนันก็ลุกขึ้นตะโกนเสี ยงดัง " ชูเฟิ งมันเป็ นแค่เด็กหนุ่ม เขาจะมี
ปัญญาทําเรื่ องต่างๆน่ากลัวแบบนั้นได้ยงั ไง ไหนเจ้าลองบอกมาสิ วา่ เขา
ทําได้ยงั ไง มันบ้าชัดๆหากเขาจะไปบุกนิกายขาว ช่างเป็ นอะไรเพ้อฝัน "

" จากที่ขา้ ได้ยนิ มา เกี่ยวกับข่าวลือของชูเฟิ ง มันเป็ นเรื่ องไร้สาระ


ชัดๆ ข้านี่ล่ะที่ไม่เชื่อคําพูดพวกนั้น"
" เด็กหนุ่มอายุ 16 ปี กับ หญิงสาว อายุ 15 ปี สามารถเข้า
สํานักเทพอัคคีได้ง่ายแบบนั้นเลยหรอ และยังปล้นสุ สานบรรพชนของ
สํานักเทพอัคคีจนหมดเกรี้ ยง ? นี้ท้ งั หมดนี้มนั เรื่ องไร้สาระสิ้ นดี " ชาย
วัยกลางคนที่ดูเมามาย ทําให้เขาพูดออกมาอย่างโผงผาง

" ถูกต้อง เอ๋ อนิ๋ว ท่านพูดถูก เจ้าชูเฟิ งมันก็แค่เด็กเหลือขอ จะมา


เทียบความสามารถเท่ากับ เอ๋ อนิ๋วของเราได้ง้ นั หรอ มาเชิญดื่ม เชิญดื่ม "

เมื่อเผชิยญหน้ากับสถานการณ์น้ นั ทุกคนก็ยงั ดื่มเหล้าและหัวเราะกัน


อย่างสนุกสนาน แต่เดิมพวกเขาเป็ นกลุ่มคนเล็กๆแม้วา่ พวกเขาจะพอมี
พลังวิญญาณที่ไม่เลว พวกเขาก็มีนิสยั ทีน่ารังเกียจ แล้วแต่ละคนจัดว่า
เลวแบบไร้ที่ติ
พวกเขาไม่สนใจคุณธรรมหรื อใดๆ พวกเขาสนใจแค่ความสุ ขตัวเอง
เท่านั้น พวกเขามักจะทําทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ ดังนั้นเป็ นธรรมดาที่
พวกเขาจะไม่โต้เถียงเรื่ อง ชูเฟิ ง จึงได้แต่เห็นด้วยกับ เอ๋ อนิ๋ว พร้อมกับ
เริ่ มดูถูก ชูเฟิ ง

" ถูกต้อง หากชูเฟิ งมันกล้ามาปรากฏต่อหน้าข้า เด๋ วข้าจัดการ


มันเอง ข้าจะอัดมันให้หนัก จนจําพ่อตัวเองไม่ได้เลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ!!!! "

" ให้ตายเถอะ!! เป็ นแค่เด็กแท้ๆจะมีความแข็งแกร่ งที่ทา้ ทาย


สวรรค์ได้ยงั ไง ? " ผูค้ นก็เห็นด้วยกับผูช้ ายที่ชื่อ เอ๋ อนิ๋ว เขามีความ
มัน่ ใจอย่างมากขณะที่ยนื อยูบ่ นโต๊ะพร้อมกับส่ งเสี ยงโอ้อวด

" มีใครเคยเห็น ชูเฟิ งมาก่อนบ้าง!!! " ในตอนนั้น หยาน หยาง


เทียน ที่นงั่ อยูบ่ นหัวโต๊ะที่เงียบมานานก็พดู ขึ้นมา
" เอ๊ ไม่เคยสักครั้ง " ฝูงชน ได้แต่ส่ายหัวพร้อมๆกัน

" ประมุขพรรคหยาน ท่านคงไม่เคยพบเขามาก่อนหรอกนะ? "

" ใช่! ! ! ! ! ! ประมุขหยาน ข้าได้ยนิ ว่าท่านมาจาก อาณาจักร


มังกรฟ้าหนิ ? อาจเป็ นไปได้ที่ท่านจะเคยพบ ชูเฟิ ง ? " พวกเขา
ซอกแซกถาม

" แน่นอน ว่าข้าเคยพบเขามาก่อน ครั้งแรกที่ขา้ พบตอนนั้น ชู


เฟิ ง ยังอยูใ่ นอาณาจักรกําเนิดวิญญาณ แต่เวลานั้นเขากับสังหารคนที่อยู่
จุดสู งสุ ดของอาณาจักรแก่นแท้ได้ "

" ดังนั้น ข้าจึงไม่พดู เรื่ องนี้กบั พวกเจ้าหรื อดูถูก ชูเฟิ ง เพราะเขา


นั้นมีความสามารถที่เหนือสามัญสํานึกดัง่ ในข่าวลือ "
" ไอ้เจ้านั้นมันโหดร้ายอย่างมาก เขากล้าทําทุกอย่างให้ศตั รู
ได้รับความทรมาน และผูค้ นที่ทาํ ให้เขาโกรธล้วนแต่มีจุดจบที่ไม่ดี
ตัวอย่างคําพูดพวกเจ้า หากเขาได้ยนิ มัน ต่อให้พวกเจ้ามีกี่ชีวติ ก็ไม่พอ "

หยาน หยางเทียน กล่าวอย่างจริ งจัง ขณะที่สายตาสัน่ ระลัว บอกได้เลย


ขณะที่เขาพูดก็แสดงความกลัวออกมาให้เห็น

ทันใดนั้น ผูค้ นที่ได้ยนิ ก็ตกใจอย่างมาก ทุกคนต่างเกิดความหวาดกลัว


แม้แต่ เอ๋ อนิ๋ว ที่ยนื อยูบ่ นโต๊ะก็ถึงกับนิ่งไปโดยไม่กล้าจะขยับ

เพราะทุกคนที่อยูใ่ นนั้น หยาน หยางเทียน อาจกล่าวได้วา่ เป็ นคนที่น่า


เกรงขามมากที่สุด อีกทั้งเขายังมากจากอาณาจักรมังกรฟ้า ดังนั้นคําพูด
ของเขาทุกคนจึงเชื่อถือ หากเขาบอกว่า ชูเฟิ ง แข็งแกร่ ง ทุกคนก็เชื่อว่า ชู
เฟิ ง แข็งแกร่ ง
" ฮ่าๆๆ ล้อเล่น ข้าจะเคยพบชูเฟิ งได้ยงั ไง ? แม้วา่ อาณาจักร
มังกรฟ้าจะไม่กว้างใหญ่นกั แต่กไ็ ม่ใช่อาณาจักรเล็กๆ เมื่อตอนที่ขา้ อยู่
ในอาณาจักรมังกรฟ้า ข้านั้นเก็บตัวฝึ กฝนทั้งวัน และข้าก็ไม่ได้มีชื่อเสี ยง
ข้าจึงไม่เคยพบกับ ชูเฟิ ง มาก่อน " เห็นว่าบรรยากาศเริ่ มอึมครึ ม หยาน
หยางเทียน ก็หวั เราะเสี ยงดัง

" ฮ่า ฮ่า ประมุขพรรคหยาน มุขของท่านทําพวกเรา ขี้หด ตด


หายเลยทีเดียว!!! "

" พี่นอ้ งทุกท่าน มา มา ดื่มต่อกันเถอะ วันนี้ ไม่เมา ไม่เลิก!!! " ฝูง


ชนก็พากันระเบิดเสี ยงหัวเราะ พร้อมกับชนแก้ว

ขณะที่พวกเขาดื่มสารุ จนเมาได้ที่ความคิดจังไรก็แล่นเข้ามาในหัว บาง


คนเริ่ มหยุดการควบคนตนเองและปล่อยตัวไปตามสัญชาตญาณสัตว์ป่า
ออกมาภายในตําหนัก บางคนก็เริ่ มขยายมืออันชัว่ ร้ายไปที่ หญิงสาว
ชาวบ้าน

หญิงสาวบางคนที่รู้วา่ คนเหล่านั้นมีประสิ ทธิภาพ บางคนจึงยอมเต็ม


ใจปรนิบตั ิตามความต้องการของพวกเขา เพราะว่ามันอาจช่วยให้ชีวติ
พวกนางดีข้ ึนในวันข้างหน้า และได้เพลิดเพลินความมัง่ คั้งอันยิง่ ใหญ่
แต่หญิงบางคนที่ไม่ตอ้ งการจะสู ญเสี ยความบริ สุทธิ์พวกนางจึงทําทุก
อย่างเพื่อขัดขืน แต่พวกนางก็ไม่อาจเอาชนะกําลังคนพวกนั้นได้ ดังนั้น
ฉากภายในตําหนัก เป็ นเต็มไปด้วยความรุ นแรงและป่ าเถื่อน

เอ๋ อนิ๋ว เป็ นคนที่เหล่าสตรี ไม่อยากจะเข้าใกล้มากที่สุด เพราะเขามักจะ


ใช้กาํ ลัง บางคนก็ทุกเขาทุบตีจนตาย แต่น้ นั ก็ยงั ไม่สามารถตอบสนอง
ความอยากของเขาได้ ในที่สุดเขาก็ทิ้งสายตาไปที่หญิงสาวชาวบ้าน ที่น่า
ตาล้ายกับ เออหย๋ า

" ฮ่าๆ ที่รักมาหา ท่าน เอ๋ อนิ๋วเร็ ว ข้าจะแสดงความลูกผูช้ ายที่


แท้จริ งให้เห็น " เอ๋ อนิ๋ว กระโจนเข้าใส่ หญิงสาวที่น่าตาคล้ายคลึงกับ เอ
อหย๋ า

" ไม่นะ!!!! ข้าร้องล่ะ ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ " หญิงสาว


ร้องไห้ออ้ นวอน ใบหน้าของนางขณะนั้นเต็มไปด้วยนํ้าตา

" บัดซบ!!! กล่าขัดขืนข้างั้นหรอ!!!! " เอ๋ อนิ๋ว ถลึงตาใส่ ดว้ ย


ความโกรธ จากนั้นก็เหวีย่ งแขนออกไป หักแขนสองข้างของหญิงสาวผู ้
นั้น

" อ่า ~~~~~ " นางร้องออกมาด้วยความทุกข์ทรมาน


ใบหน้าของนางกลายเป็ นสี ดาํ ขาวจนนางแทบจะหมดสติ
" ฮ่าๆๆ งดงาม มานี่ที่รักของข้า " ยังไรก็ตาม เสี ยงร้องของหญิง
สาวมันกับทําให้ เอ๋ อนิ๋ว คึกครึ้ นเข้าไปใหญ่ จากนั้นเข้าก็เริ่ มลงมือฉี ก
เสื้ อผ้าของหญิงสาว

เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนั้น หยาน หยางเทียน ได้แต่นง่ั ทําเป็ นไม่สนใจ


เขาทําอย่างนั้นเพราะรู ้วา่ บอกคนไร้ศีลธรรมแบบนั้นก็เปล่าประโยชน์
ไม่มีใครในที่นี่เป็ นคนดีสกั คน แล้วเหตุผลที่เขาก่อตั้งพรรคขึ้นมา ก็เพื่อ
ครอบครองพื้นที่บริ เวณนี้ท้ งั หมด เพื่อได้เสพสุ ขต่อไป

* ตูมมมมม * ทันใดนั้นหลังคาก็แตกลงมาจากด้านบน ทําให้พ้นื ใน


ตําหนักเต็มไปด้วยเศษหิ นที่แตกกระจัดกระจาย จนพวกเขาตกใจลุกขึ้น
ดู หญิงสาวบ้านขณะนั้นได้แต่วงิ่ หนีพร้อมกับกรี ดร้อง

" มันเกิดอะไรขึ้น ? " เพดานตําหนักที่เพิ่งสร้างขึ้น กับแตก


กระจายจนเป็ นหลุมขนาดใหญ่ นั้นทําให้ ประมุขพรรค แสงส่ องนภา
โกรธอย่างมาก

ตอนนั้น ชายหนุ่มและหญิงสาว ก็ค่อยๆลอยลงมาตรงหลุมขนาดใหญ่ที่


เป็ นช่องโหว่ ที่สุดเขาก็เข้ามาถึงภายในตําหนัก 2 คนนั้น ไม่ใช่ใคร เขา
ก็คือ ชูเฟิ ง และ จื่อหลิง

หลังจากที่ผคู ้ นเห็น ชูเฟิ ง และ จื่อหลิง ทุกคนตกใจอย่างมาก

พวกนั้นตกใจมากจนอ้าปากค้าง แต่ตอนนั้นชูเฟิ งได้เปลี่ยนรู ปลักษร์


ภายนอก จึงไม่มีใครสามารถจํา ชูเฟิ ง ได้

เหตุผลที่พวกเขาตกใจนั้น เป็ นธรรมดา เพราะความงามของ จื่อหลิง ที่


งดงามราวกับเทพธิดา จนสะกดสายตาของเหล่าบุรุษเอาไว้
" โว้ว ให้ตายสิ นี่เป็ นสิ่ งที่งดงามที่สุดในโลกเลย ข้าไม่ได้ฝันอยู่
ใช่ไม๊ ? " หลังจากเห็นจื่อหลิง สายตาของ เอ๋ อนิ๋ว ก็เป็ นประกาย
ขณะที่กาํ ลังฉีกเสื้ อผ้าของหญิงสาว นํ้าจํานวนมากไหลทะลักออกมาจาก
ภายในปากเขา ขณะนั้นเขาลุกขึ้นยืน และขยายมือที่ชว่ั ร้ายมาที่จื่อหลิง

" บ้าเอ้ย!!! เราเกือบมาไม่ทนั การณ์ "

ในตอนนั้น สายตาของชูเฟิ ง เฉี ยบคมอย่างมาก เขามองออกทันทีวา่ หญิง


สาวข้างๆ เอ๋ อนิ๋ว นางมีน่าตาคล้ายกับ เออหย๋ า

ปัจจุบนั หญิงสาวผูน้ ้ นั ใบหน้าเต็มไปด้วยนํ้าตาและเสื้ อผ้าของนาง


ทั้งหมดถูกฉีกกระจุย แม้แต่แขนทั้งสองข้างของนางก็ยงั ถูกหัก นางใน
ตอนนั้นได้แต่ร้องไห้อย่างเจ็บปวด แต่โชคยังดีที่พรหมจรรย์ของนาง
ยังคงอยู่ ทั้งหมดนี้ล่วนเป็ นฝี มือของ เอ๋ อนิ๋ว

ซึ่งการกระทําของ เอ๋ อนิ๋ว ทําให้ประกายโทสะของชูเฟิ ง ถูกจุดขึ้น

* โพล๊ะ* .

ชูเฟิ งไม่พดู พลํ่าทําเพลง เขาในตอนนั้น วิง่ ไปที่ เอ๋ อนิ๋ว พร้อมกับใช้เท้า


เตะอัดเข้าไปที่หว่างขาของ เอ๋ อหนิ๋ว

พลังของเท้าชูเฟิ งอัดแน่นไปด้วยพลังอํานาจ จนทําให้ขาที่สามของ


เอ๋ อนิ๋ว แตกกออกเป็ นชิ้นๆ

" อ้าาาา ~~~~~ " ความเจ็บปวดที่ไข่หาํ ทําให้ เอ๋ อนิ๋ว


ร้องไห้ออกมาอย่างทรมาน พร้อมกับเริ่ มดิ้นทุรนทุรายกับพื้น เลือดสี
แดงฉานไหลเต็มพื้นไปทัว่ จนทําให้คนที่เห็นแบบนั้นเกิดความกลัวจน
สุ ดจะพรรณนา
ReadMGA.blogspot.com

///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////

A : เป็ นไงมึง ไข่หาํ แตกเลยล่ะสิ ซ่าดีนกั !!!!

B : สมควรแล้ว สมควรแล้ว สารเลวแบบนั้น น่าจะโดนยิง่ กว่านี้เลย


ด้วยซํ้า

A : เป็ นนายจะทรมานมันยังไง

B : ใช้อาํ นาจพลังถ่างตา มันไว้ แล้วใช้ธนูร้อยแปลง สร้างเข็มยาวๆ


เล่มหนึ่ง แล้วค่อยๆจิ้มเข้าไปที่ลูกตามันฝังเอาไว้ ส่ วนไอจู๋มนั ให้
ปลอกเปลิอกออกให้หมดใช้ยนั ต์โจมตี แปะไว้ จากนั้นก็ทาํ ให้มนั ระเบิด
ใช้อาํ นาจพลังวิญญาณยิอ้ ชีวติ มันไว้ จากนั้นถอนเล็บมันออกทีละนิ้ว
แล้วใช้ตะปู ตอกลงไปกับพื้นทีละนิ้ว ทีละนิ้วกันมันดิ้น แล้วเอาศพที่
ผูห้ ญิงที่มนั ฆ่า ทุบมันจนตาย
A : นี้มนั นิยายจีน ไม่ใช่นิยายฆาตกรโรคจิต!!! สําหรับกูแค่หาํ แตก ก็
เหมือนตายอยูแ่ ล้วยังจะทรมานอีก มืงแม่งโหดดดด!!!

บทที่ 437 - เริิ่ มการสังหารหมู่

" เจ้าเป็ นใคร ??? พรรคแสงส่ องนภาและเจ้าไม่เคยมี


ความแค้นอะไรต่อกัน ทําไมเจ้าถึงบุกเข้ามาและยังทําร้ายคนของข้า "
ในตอนนั้น หยาน หยางเทียนพูดในฐานะที่เขาเป๋ นประมุขพรรค ดังนั้น
เขาจึงต้องออกหน้าในเวลาแบบนี้

ทันในนั้น คนทั้งตําหนักก็วงิ่ ไปล้อมชูเฟิ งและจื่อหลิง ถึงแม้วา่ ชูเฟิ งจะ


แข็งแกร่ งอย่างมาก แต่ภายนอกพลังวิญญาณของเขาก็อยูแ่ ค่ระดับ 6
แก่นแท้วญ ิ ญาณ แต่ไม่วา่ ยังไงพวกนั้นก็ยงั คงไม่คิดจะประมาท โดยเห็น
ว่าเขาเป็ นแค่เด็กหนุ่ม โดยเฉพาะ หยาน หยางเทียน ที่อยูใ่ นอาณาจักร
สวรรค์ระดับ 1 เพื่อรักษาหน้าและจุดยืนเขาจึงไม่คิดที่จะกลัว ชูเฟิ ง

แต่ภายในหัวใจของพวกเขาไปจดจ่ออยูท่ ี่ จื่อหลิง เพราะความงามนั้น


ได้มาอยูต่ ่อหน้า เพื่อไม่ให้ ชูเฟิ ง และ จื่อหลิง ออกไปจากที่นี่ พวกเขา
จึงคิดจะต้อนนางให้จนมุม

" เสี ยงนี้มนั !!! " ในเวลาเดียวกันที่เขาได้ยนิ เสี ยง หยาน หยาง


เทียน ชูเฟิ งก็ดึงหน้าขมวดคิ้ว อย่างรวดเร็ ว จากนั้นเขาก็ยงิ สายตาไปที่
หยาน หยางเทียน จากนั้นดวงตาของเขาก็ลุกวาว และดูมีความสุ ขภายใน
จิตใจ ความแค้นที่เขาเก็บไว้มานานตอนนี้มนั ได้พวยพุง่ ออกมาอีกครั้ง

เป็ นเพราะ ชูเฟิ ง รู ้ได้ทนั ที ว่า หยาน หยางเทียน ผูน้ ้ ี คือเจ้าสํานัก หลิง
หยุน ที่ทาํ ลายสํานักมังกรฟ้าจนพินาศ และเกือบจะฆ่าเขา

" หยาน หยางเทียน เจ้าจําข้าได้ม้ ยั ? " ชูเฟิ งตะโกนใส่ เสี ยงดัง

" อ้า . . . . .แล้วเจ้าเป็ นใคร ? " หลังจากได้ยนิ เสี ยงของ ชูเฟิ ง สี


หน้าของ หยาน หยางเทียน ก็ได้แต่เปลี่ยนไปเดิมใบหน้าที่สงบเยือกเย็น
ตอนนี้กบั เต็มไปด้วยความตกใจ

จากนั้นเขาก็เริ่ มมอง ชูเฟิ งอีกครั้ง หลังจากที่ได้ยนิ เสี ยงของชูเฟิ ง เพราะ


เขารู ้สึกว่ามันคุน้ ๆมาก คับคล้ายคับคลากับคนที่เขาเคยรู ้จกั มาก่อน และ
คนๆนั้นยังเป็ นคนที่เขาหวาดกลัวที่สุด และยังเป็ นคนทีเขาไม่อยากเจอ
มากที่สุด

" อะไร ? เจ้าจําข้าไม่ได้ง้ นั หรอ หรื ออยากให้ขา้ เตือนความจํา


เจ้า " ชูเฟิ งถาม และขณะที่เขาพูดเขาก็แสยะยิม้ ให้กบั หยาน หยางเทียน

" นี่เจ้า!!! เรื่ องแบบนี้เป็ นไปได้ยงั ไง ? เจ้าสามารถเปลี่ยน


รู ปลักษณ์ได้ง้ นั หรอ!! " ในที่สุด หยาน หยางเทียน ก็ยนื ยันได้ จาก
สัญชาตญาณ เขาบอกได้เลยว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าเขา
คือ ชูเฟิ ง

ตอนนั้น ความกลัวภายในจิตใจของเขาก็เริ่ มก่อตัวขึ้น ขาของเขาอ่อน


ปวกเปี ยกแทบจะล้มลงกับพื้น ในไม่ชา้ เขาก็รีบพุง่ ขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า และ
ต้องการจะหนีผา่ นช่องโหว่ที่ ชูเฟิ ง และ จื่อหลิง สร้างไว้

" เจ้าคิดว่าจะหนีไปได้ง้ นั หรอ ? " เห็นแบบนั้น ออร่ าของชู


เฟิ งเพิ่มขึ้นเป็ นระดับ 8 แก่นแท้วญ ิ ญาณอย่างรวดเร็ ว จากนั้นเขาก็
สร้างรู ปแบบอํานาจฯผนึกรอบๆจนครอบคลุมทั้งตําหนัก

*** ตูมม **** หยาน หยางเทียน ที่ไม่สามารถพบการวางรู ปแบบฯ


ของชูเฟิ ง เขาตอนนั้นจึงทุ่มพลังทั้งหมดไปในการหลบหนี โดยไม่คิดว่า
เขาจะพบกับอุปสรรค์ ตอนนั้นเขาเอาหัวชนกับรู ปแบบอํานาจฯอย่างจัง
จนสมองแทบจะไหลทะลัก ตอนนั้นเขาล่วงลงกับพื้นขณะที่ได้รับ
บาดเจ็บสาหัส

" วิง่ !!!!! ทุกคนวิง่ หนีเร็ ว!!!! " หลังจากที่ลม้ ลงบนพื้น หยาน
หยางเทียน รู ้วา่ วันนี้หายนะคงมาถึงแล้ว อีกทั้งชูเฟิ งก็ยงั เป็ นเหมือนดัง่
ในข่าวลือ ดังนั้นเขาจะได้แต่ทาํ ท่าทางพร้อมกับตะโกนบอกคนที่อยู่
ภายในตําหนัก

" ประมุขหยาน มันเกิดอะไรขึ้น ? " ผูค้ นที่ไม่รู้เรื่ องรู ้ราว


สงสัยว่าทําไม หยาน หยางเทียนถึงได้กลัวแบบนั้น

" ประมุขหยาน ไม่มีอะไรที่เราต้องกลัว พวกเขาก็แค่สวะสองตัว


ท่านไม่ตอ้ งทําอะไรเลย แค่พวกเราก็สามารถจับมันได้ "

" ถูกต้อง ไอ้เด็กบ้านี่มนั ช่างโอหังยิง่ นัก บังอาจทําให้ เอ๋ อนิ๋ว


บาดเจ็บและยังทําลายไอ้จ๋ ูของเขา!!! เราจะทําให้มนั ทรมานยิง่ กว่าตาย "

" ส่ วนแม่นางคนนั้น . . . . เหตุใดเราต้องฆ่า เสี ยดายความงดงาม


ของนางเปล่าๆ เราต้องให้นางมีชีวติ อยูพ่ ร้อมกับค่อยๆสนุกกับเรื อนราง
ตอนนี้นางยังเด็ก แล้วหากวันหน้านางโตขึ้น นางจะยิง่ น่ากินกว่านี้!!! "
กลุ่มของเดรัจฉานยังไม่รู้ตวั ว่าวันสุ ดท้ายมาถึง พวกเขายังคิดว่าจะ
สามารถฆ่า ชูเฟิ งแล้วเล่นสนุกกับจื่อหลิง

" ไอ้พวกโง่ยอมเชื่อที่ขา้ บอกแล้วไปซะ ตอนนี้ยงั ไม่รู้อีกว่า


ความตายมาถึงแล้ว เจ้ารู ้จกั มันไม๊ มันนั้นแหละ ชูเฟิ ง !!! " หยาน หยาง
เทียน ตะโกนออกมา

" อะไรนะ ? ชูเฟิ ง ? "

" ฮ่าๆ ประมุขหยานท่านที่ชอบพูดอะไรตลกๆอยูเ่ รื อย หน้าตา


เขาเหมือนกับ ชูเฟิ ง ที่ไหน ?? "

" ฮ่าๆๆๆ!!!! มุขนี้ของท่านมันเก่าแล้ว หามุขใหม่ดีกว่านะท่าน "


ผูค้ นต่างพากันหัวเราะเสี ยงดัง เพราะพวกเขาคิดว่า หยาน หยางเทียน
กําลังล้อเล่น พวกเขาทั้งหมดเคยเห็นภาพในประกาศจับ และดูยงั ไงเขาก็
ไม่เหมือน ชูเฟิ ง

" ฮ่าาาๆๆ!!! ประมุขหยาน มุขของท่านมันตลกจริ งๆ ดูยงั ไงข้า


ถึงได้ไปเหมือน ชูเฟิ ง ? ทุกคนดูสิ ข้า เหมือน ชูเฟิ ง ที่ไหน? "ชูเฟิ ง
หัวเราะอย่างบ้าคลั้งร่ วมกับผูค้ น แต่เสี ยงหัวเราะเขานั้นดูไม่ปกติ

ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยน จากนั้นไม่นานมันก็


กลับไปเป็ นใบหน้าเดิมของเขา ที่เหมือนกับภาพประกาศจับ ไม่มี
ผิดเพี้ยน

" สวรรค์!! จะ . . . .เจ้า . . . . . เจ้า "

หลังจากที่เห็นหน้าปัจจุบนั ของ ชูเฟิ ง ผูค้ นที่หวั เราะอย่างบ้าคลัง่ ตอนนี้


กับสงบปากสงบคําโดยที่สีหน้าเปลี่ยนไปเรื่ อยๆ จาก ขาว เป็ นสี ดาํ จาก
ดํากลายเป็ นม่วง จากม่วงกลายเป็ นเขียว จากเขียวกลายเป็ นฟ้า ทั้งหมด
ล้วนแต่ทาํ สี หน้าแปลกๆ เห็นได้ชดั เจนว่าพวกเขาไม่อยากจะยอมรับว่า
ชายหนุ่มตรงหน้าเขาคือ ชูเฟิ ง

* ฮือออ ฮือออ * ในตอนนั้น จื่อหลิงเกิดความสงสารอย่างมาก เมื่อเห็น


พี่สาวของเอ่อหย๋ าและผูห้ ญิงมากมายที่ตอ้ งมลทินบางคนก็ทุกทุบตีจน
ตาย ขณะที่ภายในตําหนักเต็มไปด้วยเสี ยงร้องไห้ระงม จื่อหลิงที่เป็ น
สตรี เหมือนกันจึงไม่อาจระงับความโกรธเอาไว้ได้

* * * บูม * * *

จื่อหลิงที่แสนจะแข็งแกร่ งและทรงพลัง นางได้ฆ่ากลุ่มคนที่อยูใ่ นระดับ


4 แก่นแท้วญ ิ ญาณ ได้อย่างง่ายดายยิง่ กว่าบี้มด
พลังที่เพิม่ ขึ้นเรื่ อยๆ ทําให้ฝงู ชนกลายเป็ นเนื้อบด คนเหล่านั้นยังไม่ทนั
ได้แม้แต่จะอ้าปาก พวกเขาก็ตอ้ งกลายเป็ นแอ่งเลือด

*** พรึ บบบ *** ในเวลาเดียวกัน ชูเฟิ ง ก็เข้าโจมตี ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้


แรงดันวิญญาณในการฆ่า แต่เขาใช้ทกั ษะในการเข่นฆ่าศัตรู

จากนั้นเขาก็กา้ วมาถึง เอ๋ อนิ๋ว พร้อมกับกระทึบหัวของเขา *** โผ๊ละ


***

*** พรึ บบบ *** ต่อจากนั้น ชูเฟิ ง ก็พงุ่ เข้าไปที่ชายฉกรรย์คนอื่นๆ


แขนของเขาคมกริ บดัง่ กระบี่ ทิ้มแทงไปที่หน้าออกของผูช้ ายคนหนึ่ ง
แล้วก็หยุดชะงักชัว่ คราวจากนั้นเขาก็งา้ งแขนออกฉี กร่ างของชายผูน้ ้ นั
กลายเป็ น สอง ท่อน
คนที่ถูก ชูเฟิ ง ฆ่ามีพลังวิญญาณอยูใ่ นระดับ 8 แก่นแท้วญ ิ ญาณ แต่ต่อ
หน้าชูเฟิ งแม้แต่หมัดเดียวเขายังทําไม่ได้ อีกทั้งยังถูกชูเฟิ งแยกออกเป็ น
สองส่ วน

" อัยหย่า!!! เขาคือ ชูเฟิ งจริ งๆ เขาต้องเป็ น ชูเฟิ ง แน่ๆ ไม่เช่นนั้น


เขาคงไม่น่ากลัวถึงขนาดนี้ หนีเร็ ว ไม่ง้ นั เราทั้งหมดจะต้องตายที่น้ ี !!! "
ในตอนนั้นพวกเขาเชื่ออย่างสนิทใจเลยว่า ชายหนุมที่ปรากฏอยูต่ รงหน้า
พวกเขาคือ ชูเฟิ ง และหญิงสาวชุดม่วงก็คือ จื่อหลิง

ตราบที่พวกเขาเคยได้ยนิ ทุกประเภทเกี่ยวกับข่าวลือของ ชูเฟิ ง ว่าการ


กระทําของเขาราวกับเป็ นปาฏิหาริ ย ์ ความกลัวก็พวยพุง่ เข้ามาภายใน
จิตใจของเขาและเริ่ มแพร่ กระจายไปทัว่ ร่ าง จนพวกเขาไมสามารถแม้แต่
จะเดิน

ตอนนั้น คนน้อยคนที่จะกล้าหาญพอลุกขึ้นยืนได่ แต่คนหลายคนขา


อ่อนละทวยเพราะความกลัว พวกเขาได้แต่นง่ั แผละลงกับพื้น และ
สู ญเสี ยการควบคุมในการเคลื่อนไหว
ผูค้ นที่กล้าหาญเหล่านั้นเริ่ มวิง่ ไปยังประตูทางออกเพื่อต้องการที่จะหนี
ไป แต่รูปแบบอํานาจที่ครอบคลุมนั้นถูกวางโดยรอบบริ เวณจากชูเฟิ ง
พวกเขาที่ไร้อาํ นาจพลังวิญญาณคงไม่มีปัญญาเปิ ดผนึกรู ปแบบอํานาจฯ
ออกไปได้ วิธีเดียวที่พอจะทําได้คือพังมันออกไป แล้ววิธีน้ นั ก็ยง่ิ เป็ นไป
ไม่ได้

ทุกคนที่ติดอยูใ่ นนี้ ทําอะไรไม่ได้เลย พวกเขาทําได้แค่รอจื่อหลิงหรื อชู


เฟิ งสังหารอย่างโหดร้ายเท่านั้น มันจึงทําให้ภายในใจพวกเขาเกิดความ
หวาดกลัวจนวิญญาณของพวกเขาสัน่ สะท้าน

แต่การแสดงออกที่ซบั ซ้อนมากที่สุดในกลุ่มจะเป็ นใครไปไม่ได้นอกซะ


จาก หยาน หยางเทียน เขานัง่ เหี่ ยวเฉาลงบนพื้น เลือดสดๆยังคงไหลจาก
ศีรษะของเขาขณะที่จอ้ งมอง ชูเฟิ ง สังหารลูกน้องของเขาด้วยวิธีที่
โหดร้ายต่างๆนาๆ มีความคิดนับพันนับหมื่นหลัง่ ไหลเข้ามาภายในใจ
ของเขา
มันเป็ นเพราะเขาเคยนึกไว้แล้วว่าชูเฟิ งจะกลับมา แน่นอนว่าเขาคง
พัฒนาขึ้นจนทําให้เขากลายเป็ นคนที่น่ากลัวอย่างหาใดเปรี ยบ จนเขาเอง
ไม่สามารถต่อกรได้

แต่เขาไม่นึกเลยว่าวันนั้นจะมาถึงเร็ วขนาดนี้ ชูเฟิ งนั้นพัฒนาขึ้นอย่าง


รวดเร็ ว นําซํ้ายังมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาก่อนที่เขาจะได้ใช้ชีวติ ให้คุม้

///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////

A : ลาก่อน ไอ้หยาน หยางเทียน ก่อนจะตายลื้อมีอะไรจะสัง่ เสี ย

หยาน : ก๋ วยเตี๋ยวนํ้าตก ไม่เนื้อ ไม่ชิ้น . . . . .

หยาน : ไม่หมู ไม่ผกั ไม่เลือด ไม่น้ าํ ไม่เส้น ไม่เอา . . . . .ไม่แดก


A : ถ้าจะกวนตีนแบบนี้!!!

หยาน : เปลี่ยนเป็ นส้มตําได้ไม๊ ไม่ใส่ มะเขือเทศ ไม่เอาปลาร้า ไม่ใส่ ปู


นา ไม่เอาชูรส . . . . .

A : มึงจะไม่แดกอีกแล้วใช่ไม๊ เรื่ องมาก นี้!!! เอาตีนกูไปแดรกกกก!!!

B : A กูช่วยมืงเอาตีนยัดปากมัน!!! นี้แน๊ะ ไอสาดด กวนตีนนัก!!!!

B4 : เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

A - B : หรื อมึงจะแดรกกับมัน!!!!

B4 : อัตมากลับเส้าหลินล่ะ เชิญพวกโยมตามสบาย
บทที่ 438 – ไม่อาจแยกแยะดีและชัว่

“ข้าขอร้องได้โปรดอย่าฆ่าข้าอย่าฆ่าข้า!”

“หนุ่มน้อย! อ้า ~~~~~~~~~”


เมื่อหันหน้าไปทางสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาไม่มีทางที่จะหนีได้ หลาย
ๆ คนเริ่ มที่จะร้องไห้ข้ ีมูกโปร่ งพวกเขาได้คุกเข่าลงไปที่พ้ืนและโครก
หัวของตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งต่อหน้าชูเฟิ งและจือหลิง แต่สิ่งที่พวกเขา
ได้กลับมานั้นคือการฆ่าล้างอย่างโหดเหี้ ยม

เมื่อกลับไปมองการอ้อนวอนของพวกเขานั้นชูเฟิ งและจือหลิงกับไม่ได้
มีความสงสารเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะชูเฟิ งและจือหลิงนั้นรู ้วา่ สันดาร
ของพวกเขา แม้วา่ พวกมันจะขอร้องอ้อนวอนมากแค่ไหนหากพวกเขา
สามารถที่รอดออกไปได้ในตอนนี้แน่นอนว่าในภายภาคหน้าพวกเขาก็
ต้องทําเรื่ องแบบนี้ข้ ึนมาอีก ผูค้ นบริ สุทธิ์จะต้องถูกฆ่าตายเพราะพวก
เขา

ชูเฟิ งและจือหลิงได้แสดงวิธีการฆ่าที่รวดเร็ วราวกับฟ้าผ่า เพียงแค่


พริ บตาเดียวคนชัว่ ช้าทั้งหมดในพระราชวังถูกฆ่าตาย
มีเพียงแต่ หยาน หยางเทียน เท่านั้นที่ชูเฟิ งได้ละเว้นเอาไว้ หลังจากที่เขา
ได้ฆ่าผูใ้ ต้บงั คับบัญชาของ หยาน หยางเทียน ที่อยูใ่ นพระราชวังทั้งหมด
ชูเฟิ งได้กา้ วเข้าไปหา หยาน หยางเทียนแล้วถาม

“ในวันแรกที่เจ้าได้คิดที่จะฆ่าข้าเคยมีวนั ไหนไหมที่เจ้าได้คิดว่า
เรื่ องแบบนี้ในวันนี้มนั จะเกิดขึ้น?”

“โอ้วฮ่าฮ่าฮ่า…”เพียงแต่ในเวลานั้น หยาน หยางเทียนไม่ได้


ตอบคําถามของชูเฟิ งแต่กลับหัวเราะออกมาเสี ยงดัง

เสี ยงหัวเราะของเขานั้นได้บอกกับชูเฟิ งว่าเขาไม่กลัวที่จะตาย นอกจากนี้


เขายังไม่กลัวว่าชูเฟิ งจะทําร้ายเขาเพราะในตอนนี้มนั บ่งบอกว่าชูเฟิ ง
สามารถทําได้ทุกอย่างที่เขาอยากทํา

ดังนั้นเขาจึงได้ปล่อยวางทั้งหมดแม้แต่ความหวาดกลัวในดวงตาของเขา
นั้นก็ได้ลดลงไม่นอ้ ย เขาพยายามที่จะทําให้ตวั เองดูเหมือนเป็ นกษัตริ ยผ์ ู ้
ยิง่ ใหญ่และกล่าวกับชูเฟิ ง

“ข้าคือ หยาน หยางเทียน ผูท้ ี่อยูบ่ นจุดสู งสุ ดของอาณาจักร


มังกรฟ้ามานานหลายสิ บปี ตั้งแต่เริ่ มแรกแน่นอนว่าข้าไม่ได้คิดว่ามันจะ
มีวนั นี้”

“และยิง่ ไปกว่านั้นข้าไม่เคยคิดเลยว่าข้าจะพ่ายแพ้ดว้ ยมือของ


ชายหนุ่มเช่นเจ้า”

“แต่ไม่วา่ ยังใงก็ตามผูช้ นะคือกษัตริ ยแ์ ละผูแ้ พ้คือกบฏ ข้าไม่มี


ข้อแก้ตวั ”

“ชูเฟิ งเจ้ามีความแข็งแรงกว่าข้าและโหดเหี้ ยมกว่าข้า ข้า หยาน


หยางเทียน ขอยอมรับความพ่ายแพ้”
“แต่ขอบอกเลยว่าข้านั้นไม่ได้รู้สึกละอายใจเลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะแม้แต่บุคคลที่มีชื่อเสี ยงมากมายและขุมพลังอํานาจที่ยงิ่ ใหญ่ต่าง
ๆ ใน 9 อาณาจักรที่อยูม่ านานนับหลายสิ บปี แต่กบั ยังไม่สามารถทํา
อะไรเจ้าได้ แล้วคนอย่างข้ามันจะไปทําอะไรได้?.”

“และถ้าเจ้าคิดจะถามข้าว่าข้าเสี ยใจในการกระทําของข้า
หรื อไม่ ข้าสามารถบอกเจ้าได้เลยว่าข้าเสี ยใจ ข้าเสี ยใจจริ ง ๆ ข้าเสี ยใจที่
ได้ข่นุ เคืองเจ้า…”

“ถ้าข้าสามารถกลับไปเลือกได้อีกครั้งแน่นอนว่าข้าจะดึงตัว
เจ้าให้มาอยูก่ บั ข้า ข้าจะประจบและยกยอเจ้า”

“แต่ไม่วา่ ยังใงก็ตามเรื่ องมันก็ได้เกิดขึ้นแล้วมีอะไรที่ขา้


จะต้องเสี ยใจอีก? ข้าในตอนนี้ทาํ ได้เพียงแค่อิจฉาเท่านั้น อิจฉาอย่างซํ้า
ๆ กับเจ้าสํานักมังกรฟ้าที่เขามีสายตาที่ดีกว่าข้าและเขายังฉลาดกว่าข้า
เพราะเขาสามารถมองเห็นความสามรถของเจ้า”

“และในที่สุดตอนนี้เจ้าก็ได้มาอยูใ่ นด้านหน้าของข้า แม้วา่


ระดับพลังวิญญาณของข้านั้นจะเหนือกว่าเจ้าแต่ความแข็งแรงของข้านั้น
แน่นอนว่าอ่อนแอกว่าเจ้า”

“ไม่วา่ เจ้าต้องการที่จะฆ่าข้าหรื อจับข้าไปทรมานยังใงก็


แล้วแต่เจ้าข้าจะไม่พดู หรื อกล่าวคําว่าจะล้างแค้นใด ๆ ออกมาอย่าง
เด็ดขาด เอาเลย! วันนี้ขา้ หยาน หยางเทียน หากสามารถเลือกได้ล่ะก็ใน
ชีวติ หน้าข้าขอไปเกิดเป็ นลูกของเจ้า”

เมื่อเห็น หยาน หยางเทียน กลายเป็ นเช่นนี้ชูเฟิ งก็ได้ปิดตาของเขาและ


นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอยูภ่ ายในใจของเขาและหลังจากที่เขาได้ลืมตา
เขาก็ได้ยมิ้ ราวกับว่าเขาได้บรรลุแล้ว จากนั้นเขาก็ได้หนั ไปกล่าวกับ
หยาน หยางเทียน
“เหมือนว่าเจ้าจะเห็นชะตากรรมของตัวเองอย่างชัดเจนแล้วซิ
นะ แต่ไม่ตอ้ งกังวลไปเพราะข้าจะไม่ฆ่าเจ้าหรื อจับเจ้าไปทรมาน แต่ขา้
จะขอเอาความแข็งแกร่ งของเจ้าไปแทนเจ้าจะได้ไม่สามารถเป็ น
อันตรายกับผูอ้ ื่นได้หรื อรังแกผูอ้ ่อนแอได้อีกต่อไป” ชูเฟิ งยิม้ และกล่าว
ออกมาอย่างใจเย็นในมือของเขาได้ปรากฏมีดออกมาและมันก็ได้แทง
เข้าไปในดันเถียนของ หยาน หยางเทียน

“อ้า ~~~~~~” เลือดได้ไหลออกมาจากดันเถียนของเขา


มันจึงทําให้เขาอดไม่ได้ที่จะต้องร้องไห้ออกมาดัง ๆ และล้มลงไปที่พ้ืน
อย่างรวดเร็ ว ใบหน้าของเขานั้นได้กลายเป็ นซี ดขาวราวกับคนตาย
ร่ างกายของเขานั้นได้ชกั กระตุกอย่างไม่หยุดยั้ง

การที่ชูเฟิ งไม่ได้ฆ่า หยาน หยางเทียน นั้นไม่ได้แปลว่าเขาใจอ่อนหรื อ


เป็ นเพราะเขาต้องการที่จะให้โอกาสการเริ่ มต้นใหม่ มันเป็ นเพียงแค่เขา
รู ้สึกว่าเหมือนไม่ได้ฆ่าเขา
หาก หยาน หยางเทียน มีความแข็งแรงเหนือชูเฟิ งหรื อถ้าเขายังสามารถ
กลายเป็ นภัยคุกคามกับชูเฟิ งได้อยู่ ชูเฟิ งจะฆ่าเขาอย่างไม่ลงั เลแน่นอน
เพื่อกําจัดเชื้อโรคที่ขยายใหญ่ในวันข้างหน้า

แต่เมื่อหันหน้าไปทางคนที่ไม่สามารถเป็ นภัยคุกคามกับเขาได้แล้วนั้น
มันทําให้ชูเฟิ งรู ้สึกว่าไม่มีความหมายใด ๆที่จะฆ่าเขา

นอกจากนี้เจ้าสํานัก หลิงหยุน ที่ไล่ตามเขาไปทุกที่และใช้ทุกอย่างที่มี


เพื่อฆ่าเขาแต่กย็ งั พ่ายแพ้ และในตอนนี้เขาก็ไม่สามารถเป็ นภัยคุมคาม
ได้อีกต่อไป

บางทีการดํารงอยูข่ องเขาอาจเป็ นเครื่ องมือที่คอยเตือนชูเฟิ งให้รับรู ้


เอาไว้วา่ เขาได้ผา่ นประสบการณ์ที่ยากลําบากมามากมายและเขาก็ยงั คง
รอดอยูไ่ ด้จนมาถึงทุกวันนี้
เพราะการที่เขาต้องสู ญเสี ยสิ่ งสําคัญไปมากมายมันจึงทําให้เขาต้อง
พัฒนาตัวเองไปอย่างรวดเร็ ว เขาได้กา้ วข้ามผูท้ ี่จะเอาชีวติ ของเขาไปแล้ว
มากมายหลายคนและเขาสาบานว่าจะไม่ลดละการพัฒนาของตัวเอง
อย่างเด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้นแล้วชีวติ ของเขาจะต้องจบลงอย่าง
แน่นอน

หลังจากที่ ชูเฟิ งและจือหลิง ได้สิ้นสุ ดการสังหารหมู่ พวกเขาก็ได้นง่ั


ราชรถแล้วพาคนงานทั้งหมดแยกย้ายออกไป

หลังจากที่สอบถามหญิงสาวผูท้ ี่ได้พบกับชะตากรรมที่โหดร้ายในที่สุดก็
รู ้วา่ เธอนั้นเป็ นพี่สาวของ เอ้อหยา

ดังนั้นด้วยทักษะการก่อวิญญาณของชูเฟิ งและจือหลิงพวกเขาได้ช่วย
ฟื้ นฟูแขนที่หกั ไปของเธอและได้ให้เม็ดยาที่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บ
และพวกเขายังได้รักษาจิตวิญญาณที่ได้รับบาดเจ็บของเธออย่างรวดเร็ ว
เขาได้กาํ จัดความมืดมนในใจของเธอและทําให้เธอกลับมามีสุขภาพที่ดี
อีกครั้ง

หลังจากนั้นชูเฟิ งและจือหลิงก็ได้นาํ เธอกลับไปยังหมู่บา้ นและส่ งเธอให้


ครอบครัวของเธอ

“ถ้าไม่มีพลังวิญญาณแล้วจะมีชีวติ อยูต่ ่อไปได้ยงั ใง?”

อย่างไรก็ตามชูเฟิ งได้ฆ่าเหล่าผูใ้ ต้บงั คับบัญชาของเขาและเหลือเขาไว้


เพียงคนเดียว แถมยังขโมยพลังวิญญาณของเขาและนําเขามาทิ้งเอาไว้
บนจุดสู งสุ ดของยอดเขาอีก

ใบหน้าของเขาไม่ได้มีความภาคภูมิใจเหมือนในอดีตอีกแล้ว รู ปร่ าง
หน้าตาของเขาไม่ได้มีเค้าโครงของบุคคลที่เป็ นเจ้าสํานักผูย้ งิ่ ใหญ่อีก
แล้ว เขาไม่ได้มองตัวเองว่าเป็ นกษัตริ ยผ์ ปู ้ กครองพื้นที่แถบนี้อีกต่อไป
แล้ว เขาในตอนนี้เป็ นเพียงแค่คนชราที่ผา่ นประสบการณ์ชีวติ มาอย่าง
มากมายแล้วเท่านั้น

*** หวืบ *** ท้ายที่สุดเท้าของเขาได้กา้ วเดินตรงไปที่อากาศทันทีที่


ก้าวออกไปเขาก็ตกลงสู่ พ้นื ในทันที

เขาที่ไม่ได้มีพลังวิญญาณและอํานาจสวรรค์ร่างกายของเขานั้นเป็ น
เหมือนกับคนธรรมดาสามัญและอ่อนแอ

เขาได้ตกลงและกระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างจังด้วยความสู งนับร้อยเมตร
จากยอดเขา เขาได้ถูกบดเละจนกลายเป็ นเศษเนื้อในทันที เจ้าสํานักหลิง
หยุน ผูท้ ี่แข็งแกร่ งและเกรี ยงไกรที่สุดในอาณาจักรมังกรฟ้า เขาได้จบ
ชีวติ ลงและ **ได้กลายเป็ นโกโก้ครั้นให้กบั พื้นหญ้า ณ สถานที่แห่งนี้
เป็ นที่เรี ยบร้อย**

“ชูเฟิ งมันอาจพูดได้วา่ สิ่ งที่เราทําไปในวันนี้มนั ไม่ใช่สิ่งที่ดี


ใช่ไหม?”

“ทุกอย่างในโลกนี้มนั ไม่มีอะไรเป็ นสิ่ งที่ดีและไม่ดีหรอก


ตราบใดที่เจ้าเชื่อมัน่ ว่านั้นคือสิ่ งที่ถูกนั้นแหละคือสิ่ งที่ดี”

ด้านบนท้องฟ้าภายใต้เมฆสี ขาวชูเฟิ งได้ควบคุมมังกรเดินทางผ่านเก้า


สวรรค์เดินทางในอากาศและมุ่งหน้าไปยังสถานที่พกั ของพวกเขา

“ชิ” หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดของชูเฟิ ง จือหลิง ก็ได้เบะปากของนางแล้ว


หันหลังกลับไปยิม้ เล็กน้อยพร้อมกล่าวว่า “คําพูดของเจ้ามันไม่ได้ช่วย
ให้ขา้ รู ้สึกดีเลย ทุกสิ่ งล้วนมีสองด้านเสมอ เพื่อช่วยชีวติ ผูอ้ ื่นเราก็
จําเป็ นต้องฆ่าผูอ้ ื่น แม้วา่ คนที่เราฆ่าไปนั้นมันจะเป็ นคนไม่ดีและผูค้ นที่
ถูกเราช่วยเอาไว้จะมองว่าเราเป็ นคนดี”

“แต่ในความเป็ นจริ งแล้วเรานั้นก็ไม่ได้เป็ นคนดีเพราะ


ครอบครัวของคนเลวนั้นอาจไม่ได้เป็ นคนเลวซะทุกคนและการที่เราไป
ฆ่าคนในครอบครัวของเขานั้นเราก็จะถูกมองกลับมาว่าเป็ นคนเลว”

“งั้นสรุ ปแล้วภรรยาข้าวันนี้เจ้ามีอารมณ์แบบไหน? มี
ความสุ ข?” ชูเฟิ งยิม้ ถาม

“ใช่ขา้ มีความสุ ขที่ได้เห็นคนในครอบครัว เอ้อหยา มีความสุ ข


ที่ได้อยูพ่ ร้อมหน้าพร้อมตากันข้ามีความสุ ขจริ ง ๆ และบางทีชีวติ ที่เรี ยบ
ง่ายของคนธรรมดาสามัญอาจเป็ นความสุ ขที่ได้หายากยิง่ สําหรับคน
อย่างพวกเรา” จือหลิงยิม้ และกล่าว

“มันเป็ นสิ่ งที่ดีถา้ เจ้ากําลังมีความสุ ข” ชูเฟิ งยังยิม้ อย่างใจเย็น

นี่มนั ไม่ได้เป็ นครั้งแรกที่ชูเฟิ งได้ช่วยผูอ้ ื่นอย่างพี่สาวของ เอ้อหยา ชูเฟิ ง


ไม่สามารถที่จะทนเห็นคนสามัญถูกกดขี่จากคนที่แข็งแกร่ งได้ ฉะนั้น
แล้วไม่วา่ เมื่อใดก็ตามที่เขาได้พบเห็นเขาจะเข้าต่อสู แ้ ละช่วยเหลือเพื่อ
ความยุติธรรม

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยงั เป็ นคนที่เคยรับการกดขี่โดยสํานักหลิงหยุน แล้ว


ในตอนนี้เขาก็ได้ถูกกดขี่และบีบบังคับโดยหกอํานาจขุมพลังขนาดใหญ่
แม้แต่ราชวงศ์เจียงก็ยงั ส่ งคนมาเพื่อข่มเหงเขา

เมือหันหน้าไปทางการถูกกดขี่ข่มเหงเช่นนี้ชูเฟิ งก็จะต่อกรด้วยทุกอย่าง
ที่เขามี เขาเป็ นคนหนึ่งที่ได้ถูกกดขี่ข่มเหงและกายเป็ นคนชัว่ ช้าหรื อ
ปี ศาจต่อสายตาของผูค้ นและกลุ่มสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ในตอนนี้ที่
กําลังข่มเหงเขานั้นได้กลายเป็ นด้านที่ชอบธรรมของผูค้ น

ReadMGA.blogspot.com
#################################
#################################
###############################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เห้อชีวติ ประเองช่างน่าสงสารเสี ยนี่กระไร

B2 : น่าสงสารน่าสงสาร

B1 : บทที่ 438 ย่อหน้าที่ 22 บรรทัดที่ 1 (บท ชูเฟิ ง : เหอะ


หยาน หยางเทียน เจ้าไม่ตอ้ งวิตกกังวลไปเพราะข้าจะไม่ฆ่าเจ้า)

B2 : (บท หยาน หยางเทียน : เพราะอะไรทําใมเจ้าไม่ฆ่าข้า)

B1 : (บท ชูเฟิ ง : เพราะกูไม่ได้อยากได้มึงเป็ นลูกใงเล่า ชึบ แทง


ดันเถียนแม้ง!!!!)

B2 : 555555555 กูไม่อยากได้มึงเป็ นลูกใงเล่า!!!!

B1 : นี่คือเหตุผลที่แท้จริ งของชูเฟิ งที่ไม่ฆ่า หยาน หยางเทียน


โดยตรง
B2 : ว่าแต่สุดท้าย หยาน หยางเทียนมันก็ตายไม่ใช่หรอแล้วอย่างนี้
มันจะไม่ได้เกิดเป็ นลูกชูเฟิ งใง

B1 : ไม่มีทางหลอกน่าอย่าได้ดูถูกผูเ้ ชื่อมต่อวิญญาณดิพวกนี้มนั
สามารถควบคุมวิญญาณคนตายได้นะเว้ย ถ้ามันจะมาเป็ นลูกพี่เฟิ งจริ งพี่
เฟิ งกูจะต้องรู ้ตวั ก่อนอยูแ่ ล้ว

B2 : อ่อเป็ นงั้นไป!! แต่ขา้ ว่าเป็ นผูม้ ีพลังวิญญาณนี่กด็ ีเหมือนกัน


นะ!

B1 : ดียงั ใงว่ะ B2 ??

B2 : ก็ดีตรงที่แตกในและไม่ทอ้ งใง!!! ดูอย่างซูรู่ ดิ ณ เทือกเขาวิหค


เพลิง ลองไปถามนางได้เลยว่าโดนแตกในไปกี่น้ าํ นี่ผา่ นมา 200 บท
แล้วนางยังไม่ทอ้ งเลย

B1 : เช็ดโด้อย่าบอกนะว่านางปลูกฝังทักษะลับรังไข่แข็งดัง่ เหล็ก

B2 : อันนั้นก็เกินไป B1

B1 : หรื อชูเฟิ งจะ…..อสุ จิไม่แข็งแรงโด้แล้วไม่ทอ้ ง???


B2 : ม่ายยยช่ายยย

B1 : แล้วมันยังใงว่ะ B2

B2 : >>>เข้าสู่ โหมดวิชาการ<<<ก็หมายความว่าผูม้ ีพลังวิญญาณ


หรื อผูเ้ ชียวชาญทักษะยุทธ์เนี่ยบางทีอาจสามารถบังคับให้ตวั เองท้องก็
ได้ไม่ทอ้ งก็ได้ใงเออถ้าคนเรามีความสามารถแบบนี้นะรับรองเลยว่า
ปัญหาเรื่ องHIVหรื อโรคอะไรต่าง ๆที่ติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์นี่ลืม
ไปได้เลย ถ้าคนเรามีความสามารถแบบนี้แม้งคงสบายจริ ง ๆ แตกในได้
แบบไม่ตอ้ งกลัวท้องและไม่ตอ้ งเปลื่อตังค่าถุงยาง

B1 : อ่อสรุ ปแล้ว B2 นายจะสื่ อว่าอยากแตกในแบบไม่ให้ทอ้ ง และ


ก็ไม่ตอ้ งไปเปลืองตังซื้อยาคุมหรื อถุงยางใช่ไหม??

B2 : ……….B3 ตอนหน้าจะมาแล้วนะ!!\

B1 : WTF *0*

#################################
#################################
###############################
…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้
ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 439 – เจียง ยีห่ นี่

เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ชูเฟิ งทําเพียงแค่ยมิ้ อย่างไม่แยแส


เท่านั้น เพราะในโลกนี้มนั ล้วนมีสิ่งที่ไม่มีความเป็ นธรรมมากเกินไป มี
เพียงแค่คนไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ความจริ งของเรื่ องทั้งหมด และบุคคลที่
หลอกลวงผูอ้ ื่นว่าตัวเองนั้นเป็ นความยุติธรรม มีหลายคนที่รู้ความจริ ง
แต่พวกเขาเลือกที่จะปิ ดตาของตัวเอง?

ดังนั้นส่ วนใหญ่เขาจึงเลือกที่จะไม่ใส่ ใจกับความเห็นของคนทั้งโลก


เพราะคนส่ วนใหญ่น้ นั มันโง่ พวกเขาไม่สามารถที่จะมองเห็นว่าอันไหน
จริ ง และ เท็จ

ดังนั้นถ้าชูเฟิ งใส่ ใจกับความคิดเห็นของพวกเขาชูเฟิ งก็คงจะตายไปแล้ว


ดังนั้นคนที่ชูเฟิ งจะใส่ ใจมีเพียงแค่ตวั ของเขาและคนที่ใกล้ชิดเขา
เท่านั้น
ดังนั้นแม้วา่ ทุกคนทั้งโลกจะตายมันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา เขาจะทํา
ในสิ่ งที่เขาคิดว่าถูกต้องเท่านั้น และทําในสิ่ งที่เขาอยากจะทํา

ถ้าคนทั้งโลกมองว่าการกระทําของเขานั้นเป็ นสิ่ งที่ไม่ดีและมองว่าเขา


นั้นเป็ นคนชัว่ ร้ายเขาก็จะยอมรับมันว่าตัวเขาเองนั้นเป็ นคนชัว่ ร้ายและ
จะสนุกไปกับมัน

*** ชูว ฟุบ ฟุบ ฟุบ ~~~~ ***

ทันใดนั้นท้องฟ้าอันเงียบสงบโดยรอบก็ได้มีแสงสี ฟ้าปรากฏขึ้น และ


ิ ญาณก็ได้โผล่ออกมาสู่ อากาศและเข้า
นับไม่ถว้ นของการก่อตัวโซ่วญ
ล้อมรอบจากทุกทิศทาง เพียงแค่พริ บตาเดียวมันก็ได้ขงั ชูเฟิ งและจือหลิง
เอาไว้ภายใน
มันเป็ นรู ปแบบการสร้างจิตวิญญาณขนาดใหญ่ที่แข็งแร่ งมากและที่
สําคัญมันจําเป็ นต้องใช้พลังงานของผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดฟ้าจํานวนหลาย ๆ
คนรวมกันจึงจะทําได้

หลังจากที่พฒั นาการจิตวิญญาณได้ถูกวางเอาไว้สาํ เร็ จแล้วก็ได้ปรากฏ


หลายสิ บรู ปร่ างขึ้นในสายตาของชูเฟิ งและจือหลิง

คนเหล่านั้นทุกคนล้วนอยูใ่ นแดนสวรรค์และมีแม้กระทัง่ หลายคนของ


พวกเขาที่อยูใ่ นระดับ 4 แดนสวรรค์พวกเขาทุกคนล้วนสวมเสื้ อผ้าของ
ราชวงศ์เจียง

“อ๊ะ.” ในทันทีชูเฟิ งเริ่ มที่จะรู ้สึกไม่ดีเพิ่มมากขึ้นเพราะสิ่ ง


เหล่านี้น้ นั มันเกิดขึ้นเร็ วมากเกินไปและเกือบในเวลาเดียวกันที่เขา
รู ้สึกตัวว่ากําลังถูกจับเส้นทางหลบหนีของเขามันก็ได้ถูกปิ ดผนึกไป
แล้ว
มันเห็นได้ชดั ว่าพวกเขานั้นได้เตรี ยมการกันมาเป็ นอย่างดีและแม้แต่การ
ตรวจจับระดับสู งก็ยงั ไม่อาจที่จะระบุตวั ตนและตําแหน่งของพวกเขา
ได้

“ชูเฟิ ง จือหลิง พวกเจ้าทั้งสองรู ้ไหมว่าทําใมพวกเราถึงต้องมา


จับเจ้า?” เพียงแค่ในเวลานั้นก็ได้มีผเู ้ ฒ่าคนหนึ่งเดินออกมา ผมของเขา
นั้นเป็ นสี ขาวราวกับหิ มะดวงตาของเขานั้นเป็ นเหมือนดัง่ กับนกอินทรี
และกลิ่นอายของเขาที่ปล่อยออกมานั้นจะเป็ นเช่นเดียวกันกับเหล่าเจ้า
สํานักของขุมพลังอํานาจขนาดใหญ่หลายสํานักหรื อจะให้กล่าวก็คือเขา
อยูใ่ นระดับที่ 5 ของแดนสวรรค์วญ ิ ญาณ

หนึ่งคนอยูใ่ นระดับที่ 5 แดนสวรรค์และอีกหลายคนที่อยูใ่ นระดับ 4


แดนสวรรค์และก็อีกหลายสิ บของผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ แถมรู ปแบบ
การก่อตัวนี้กแ็ ข็งแรงเกินไปแล้วยิง่ หันหน้าไปทางระดับพลังวิญญาณ
ของพวกเขาอีกมันทําให้ชูเฟิ งหมดหนทางที่จะหลบหนีรอดอย่าง
แท้จริ ง

“ปล่อยพวกเราซะไม่ง้ นั พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตายที่นี่”
อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ จือหลิง กลับไม่รู้สึกกลัว
เลยแม้แต่นอ้ ย กลิ่นอายสี ม่วงเริ่ มปรากฏออกมารอบ ๆ ตัวของเธอและ
ควันสี ม่วงก็ค่อย ๆ แพร่ ออกมาและล้อมลอบร่ างกายของเธอ เธอเริ่ มที่
จะปล่อยพลังงานของร่ างกายศักดิ์สิทธิ์ออกมา

ในขณะที่เธอได้ใช้อาํ นาจร่ างกายศักดิ์สิทธิ์บรรยากาศรอบ ๆ ตัวเธอนั้น


ก็ได้แตกต่างออกไปอย่างสิ้ นเชิง

แม้วา่ การระดับพลังวิญญาณของเธอนั้นจะอยูเ่ พียงแค่ระดับ 9 แดน


แก่นแท้แต่บรรยากาศที่มนั ได้เล็ดลอดออกมาจากตัวเธอนั้นมันราว
เหมือนกับเธอเป็ นกษัตริ ยท์ ี่ปกครองพื้นที่น้ นั อยูอ่ ย่างใงอย่างงั้น แม้แต่ผู ้
เชียวชาญแดนสวรรค์ของราชวงศ์เจียงที่อยูด่ า้ นนอกก็ยงั เป็ นรองเธออยู่
หลายคน
“ชัง่ เป็ นความสามารถที่แข็งแกร่ งจริ ง ๆ พลังงานเหล่านี้
แน่นอนว่าแตกต่างจากคนอื่น ๆ ยิง่ นัก….ดูเหมือนว่าเจ้าจะปลูกฝัง
ทักษะลึกลับต้องห้ามซินะและดูเหมือนว่าจะได้รับการปลูกฝังเป็ นอย่าง
ดีดว้ ย.”

“อ่าเจ้าชัง่ มีความสามารถที่ดีแม้วา่ เจ้าจะบ่มเพาะพลังวิญญาณ


ตามปกติเจ้าก็ยงั มีอนาคตที่ดีได้ แต่มนั ก็ชง่ั น่าเสี ยดายที่เจ้าดันใช้เส้นทาง
ลังในการบ่มเพาะพลังวิญญาณ เห้อชัง่ เป็ นความอัปยศอย่างแท้จริ ง”

ผูเ้ ฒ่าผมขาวกล่าวออกมาด้วยรอยยิม้ และจ้องไปที่ จือหลิง แม้วา่ เขาจะ


รู ้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการเปลี่ยนแปลงของ จือหลิง แต่เขาก็
ไม่ได้ตกใจมากนัก เขาเพียงแต่ยกรอยยิม้ ขึ้นมาบนมุมปากของเขาราว
เหมือนกับว่าเขาได้วางแผนการอะไรเอาไว้ในใจ และในขณะเดียวกัน
เขาส่ ายหัวของเขาออกมาด้วยความสงสาร
“ถ้าเจ้ายังไม่คิดที่จะถอยไปเท่ากับว่าเจ้ากําลังมองหาที่ตาย”
เพียงแต่ในตอนนี้ จือหลิง ยังคงยืนยันคําพูดเดิมของเธอ เพียงแค่
ความคิดกลุ่มควันสี ม่วงก็ได้กลายเป็ นสัตว์ที่โหดร้ายและรุ นแรง ด้วย
การระเบิดเสี ยงร้องออกมามันได้บินตรงไปยังการก่อตัวโซ่วญ ิ ญาณเพื่อ
หวังที่จะทําลายพัฒนาการจิตวิญญาณออกไป

“เหอะเพียงแค่ระดับ 9 แดนแก่นแท้วญ ิ ญาณกับกล้าที่จะลองดี


เจ้าจริ งกําลังประเมินค่าตัวเองสู งเกินไป!”

แต่เมื่อหันหน้าไปทางการโจมตีของ จือหลิง ผูค้ นจากราชวงศ์เจียงกลับ


ไม่แสดงความกลัวเลยแม้แต่นอ้ ย พวกเขาได้ถอยออกไปในเวลาเดียวกัน
ก็ได้มีการก่อตัวพิเศษควบแน่นอํานาจสวรรค์อย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดจน
กลายเป็ นผนังลมขึ้นมาและเข้าล้อมรอบชูเฟิ งและจือหลิง

“หยุด!” อย่างไรก็ตามทันทีที่ท้ งั สองฝ่ ายต่างกําลังที่จะเข้าหํ้า


หัน่ กันก็ได้มีเสี ยงของผูห้ ญิงดังออกมาจากฟากฟ้า
และหลังจากได้ยนิ เสี ยงนั้นเหล่าผูเ้ ชียวชาญจากราชวงศ์เจียงก็ได้รีบหยุด
การกระทําของพวกเขาและสลายการก่อตัวรู ปแบบลมที่อยูก่ ลางอากาศ
ก่อนหน้านี้ในทันที

เมื่อเห็นเช่นนั้นคิ้วของ จือหลิง ถึงกับยกสู งขึ้นเล็กน้อยและดวงตาสี ม่วง


ที่เป็ นประกายงดงามของเธอได้กลับเข้ามาสู่ สภาพเดิม และในเวลา
เดียวกันกลุ่มควันของเธอก็ได้เอ้อระเหยและกลับเข้าสู่ ร่างกายของเธอ

ในทันทีชูเฟิ งได้เดินออกมาและยืนอยูใ่ นด้านหน้าของ จือหลิง เขาได้ให้


สาวงามที่มีอารมณ์รุนแรงอยูข่ า้ งหลังเขาเอาไว้

การที่เขาทําอย่างนี้น้ นั เพราะเขารู ้วา่ ผูเ้ ฒ่าผมขาวนั้นไม่ได้แข็งแกร่ งมาก


ไปกว่าเสี ยงที่ตะโกนออกมาอย่างรุ่ นแรงของผูห้ ญิงก่อนหน้านี้และเธอก็
หน้าจะเป็ นบุคคลที่จดั การยากมากที่สุดในตอนนี้
อันที่จริ งหลังจากที่เสี ยงได้ตะโกนดังออกมาไม่นานนักพวกเขาก็ได้
เปิ ดทางเป็ นช่องว่างไปทางการก่อตัวโซ่วญ ิ ญาณในทันที

และหลังจากที่ได้มีการเปิ ดทางก็ได้มีหญิงสาวที่สวมใส่ เสื้ อผ้าสี ทอง


และมีสีม่วงเล็กน้อยปรากฏตัวขึ้นแล้วเดินเข้ามายังด้านในเขาได้มีส่วน
เว้าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

อายุของเธอนั้นก็ดูเหมือนราวกับว่าแค่ยสี่ ิ บปี เศษ ๆ เท่านั้นและแม้แต่


รู ปร่ างหน้าตาของเธอนั้นก็ยงั กล่าวได้วา่ สวยงามมากและก็ดูเหมือน
ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อได้มายืนอยูใ่ นด้านหน้าของ จือหลิง แล้วนั้นความ


งามเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอที่ดูเป็ นพิเศษก่อนหน้านี้กไ็ ม่ได้ต่างอะไรไป
กับหญิงสาวบ้าน ๆ สามัญธรรมดาในทันที
แต่รูปร่ างของเธอนั้นยังกล่าวได้วา่ ใช้ได้อยู่ นอกจากนี้ออร่ าจากร่ างกาย
ของเธอนั้นยังดูแตกต่างจากฝูงชนคนอื่นยิง่ นัก เสน่ห์ที่เป็ นเอกลักษณ์
ของเธอนั้นมันทําให้ผทู ้ ี่มองไปยังเธอเกิดความสะดวกสบายเป็ นอย่าง
มาก

“องค์หญิง!”

ในขณะนี้ผชู ้ นขนาดใหญ่ของราชวงศ์เจียงก็ได้ตะโกนร้องออกมาอย่าง
เสี ยงดัง

เมื่อเหล่าผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ได้เห็นการปรากฏตัวของหญิงสาวพวก
เขาทั้งหมดต่างช่วยไม่ได้ที่จะต้องคุกเข่าลงไปที่พ้นื เพื่อทําความเคารพ
ต่อเธอ ความอ่อนน้อมถ่อมตนได้โพล่ข้ ึนมาบนใบหน้าของพวกเขาทุก
คนไม่เว้นแม้แต่กระทัง่ ผูท้ ี่มีพลังวิญญาณอยูท่ ี่ระดับ 5 แดนสวรรค์
อย่างผูเ้ ฒ่าผมขาวก็ยงั ไม่มีขอ้ ยกเว้น
ในขณะนี่สถานะของผูห้ ญิงคนนี้น้ นั ได้รับการยืนยันอย่างแน่ชดั แล้วว่า
เธอนั้นจะต้องเป็ นอัจฉริ ยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์เจียง เจียง ยีห่ นี่

ระดับพลังวิญญาณของเธอนั้นอยูใ่ นระดับที่ 6 แดนสวรรค์เทียบเท่ากับ


อดีตเจ้าสํานักรุ่ นก่อนของสํานักเทพอัคคีได้เลย แต่อดีตเจ้าสํานักรุ่ น
ก่อนของสํานักเทพอัคคีน้ นั ได้ใช้เวลาหลายสิ บปี กว่าจะสามารถเข้ามาถึง
ระดับ 6 ของแดนสวรรค์ได้

แต่หญิงสาวผูน้ ้ ีน้ นั กลับอายุเพียงแค่ยสี่ ิ บปี เศษแต่กบั ประสบความสําเร็ จ


ในระดับนี้น้ นั มันอาจกล่าวได้วา่ ความสามารถของเธอนั้นเป็ นที่โดด
เด่นอย่างแท้จริ ง ในด้านหน้าของเธอ เจี่ย ฉิ งหมิง หรื อ ซู ซงหยู่ นั้นไม่
อาจเรี ยกตัวเองว่าเป็ นอัจฉริ ยะได้เลย

“ผูอ้ าวุโสกรุ ณาถอยไปก่อน ข้ามีบางสิ่ งบางอย่างที่จะต้อง


พูดคุยกับชูเฟิ งเป็ นการส่ วนตัว” เจียง ยีห่ นี่ โบกมือของเธอ

“ตามคําบัญชา!”

พวกเขาตอบสนองอย่างรวดเร็ วและไม่มีผเู ้ ชียวชาญใดของราชวงศ์เจียง


กล้าที่จะขัดคําสัง่ เธอ พวกเขารี บถอนการก่อตัวโซ่วญ
ิ ญาณออกในทันที
อย่างเป็ นระเบียบร้อยและออกไปยืนอยูใ่ นทีขอบฟ้าไกล

ในทันทีชูเฟิ งขมวดคิ้วของเขาเล็กน้อย แม้วา่ จะไม่มีการก่อตัวที่


แข็งแกร่ งอย่างโซ่วญิ ญาณแล้วและหลายสิ บผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ได้
ถอยห่างออกไปและเหลือเพียงผูห้ ญิงเพียงคนเดียวที่ยนื อยูใ่ นด้านหน้า
ของเขาแต่ชูเฟิ งกลับรู สึกว่าผูห้ ญิงที่ชื่อ เจียง ยีห่ นี่ ที่ยนื อยูด่ า้ นหน้าของ
เขานั้นเป็ นบุคคลที่เป็ นอันตรายมากกว่าการก่อตัวโซวิญญาณและผูเ้ ชียว
ชาญแดนสวรรค์นบั สิ บเสี ยอีก
“ชูเฟิ งเจ้ารู ้หรื อไม่วา่ ในเวลาช่วงนี้ขา้ ได้ใช้เวลาในการค้นหา
ตัวเจ้า” เจียง ยีห่ นี่ ถาม

“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นข้าทําด้วยตัวของข้าเอง หากเจ้าต้องการที่
ฆ่าก็โปรดให้ทาํ ที่ขา้ แต่อย่าทําอะไร จือหลิง เพราะเรื่ องนี้มนั ไม่
เกี่ยวข้องกับเธอ” ชูเฟิ งพูด

“ชูเฟิ งนี่เจ้า…” หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดนั้นของชูเฟิ งใบหน้า


เล็ก ๆ ของ จือหลิง ถึงกับเปลี่ยนแปลงในทันทีและเธอไม่สามารถที่จะ
ระงับความวิตกกังวลของเธอได้ เธอเดินออกมาและอยากที่จะพูดอะไร
บาง แต่ในทันทีที่เธอกําลังจะพูดมือของเธอก็ได้ถูกคว้าแน่นเอาไว้โดยชู
เฟิ งและเธอก็ถูกดึงกลับออกมายืนเบื่องหลังของเขา

ทันทีดว้ ยเหตุผลบางอย่างมันทําให้ จือหลิง เก็บคําพูดของเธอเอาไว้โดย


สัญชาตญาณของเธอนั้นเธอเป็ นคนที่แข็งแกร่ งและไม่เกรงกลัวผูใ้ ดแต่
ในขณะนี้เมื่อเธอได้อยูเ่ คียงข้างชูเฟิ งมันทําให้เธอรู ้สึกว่าตัวเองนั้นเป็ น
เพียงแค่สาวน้อยตัวเล็ก ๆ ที่คอยเชื่อฟังเขาเพียงเท่านั้น
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เช็ดผูช้ ายที่คอยปกป้องผูห้ ญิงในเวลาเจอตีนแบบนี้อ่ามีบา้ งไหม


ห่ะ มีบางไหม!!!

B2 : ช่ายยยยยทุกทีที่เห็นตีนเมื่อไหร่ กว็ งิ่ หนีทนั ทีเลยนิ แรกๆก็จบั มือ


นะ แต่พอตีนมาเท่านั้นและเหวีย่ งแขนแถบหัก โด่วววว นั้นแฟนมึงนะ
โวยหัดดูแลดีดีเหมือนพี่เฟิ งมัง่ ดิครับ

B1 : ช่ายทําให้เมียรักเมียหลงเยอะ ๆ แบบพีเ่ ฟิ งดิครับเวลามีเมียคนที่


2 คนแรกจะได้ไม่วา่ บางทีอาจอยูร่ ่ วมกันได้กเ็ ป็ นได้ ชาย 1 หญิง 2
นี่มนั นะ

B2 : บางทีกอ็ าจกลายเป็ น 3 แบบบักเฟิ ง

B3 : เห้อ พวกมึงก็มวั่ แต่มกมุ่นเรื่ องแบบนี้แหลนะ!!

B1 : อ้าว B3 กลับมาแล้วหรอ เรื่ องราว 2510+ เป็ นใงหม่างงงง


ว้าาาาาาาา

B3 : หื้มมมมมมบอกมึงไปกูกโ็ ง่อ่ะดิควาย คิดจะหลอกให้กสู ปอย


และโดนพัก 10 อีกอะดิกไู ม่โง่หลอกนะไอ้ B1 แต่กใู ห้กไ็ ด้วา่
มันสัสอ่า 555555 กูนี่นึกว่าพระเจ้า

B1 : สัสและบอกไปสปอย!!

B3 : กูสปอยตรงไหน?? กูแค่บอกว่าแม้งอย่ากับเทพเจ้า!!!!!!!! แต่


ก็โดนแมวเมี๊ยวเก้าชีวติ กูตบเกียวอยูด่ ี ฮ่าๆ

B1 : แมวเมี๊ยว??

B3 : จุ๊จุ๊เคยได้ยนิ ไหม ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม 5555555


B2 : B3 หยาน หยางเทียน ตายแล้วนะรู ้ยงั

B3 : ชัง่ มันมันโงเองความแท้ ๆ กากแล้วยังไม่เจียมตัว เนอะ!!! B1

B2 : ช่ายยยย เนอะ!!! B1

B1 : กูไม่รู้กอู ยากพักงาน!!!!!!

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 440 - วิธีหาเส้นชีพจร

“โอ้ชูเฟิ งนี่เจ้าไม่รู้ถึงเหตุผลอย่างนั้นหรื อว่าทําใมข้าถึงได้ตาม


หาตัวเจ้า หรื อว่าเจ้าคิดว่าการที่ขา้ หาตัวเจ้านั้นก็เพื่อที่จบั เจ้าในข้อหา
กบฏอย่างนั้นหรื อ?” ทันที เจียง ยีห่ นี่ อดไม่ได้ที่ตอ้ งเอามือของเธอมา
ปิ ดปากเพื่อกั้นเสี ยงหัวเราะเอาไว้
“หมายความว่าไม่ใช่?” ชูเฟิ งขมวดคิ้วเบา ๆ และดวงตาของเขา
กลายเป็ นรุ นแรง จับจ้องไปที่รูปร่ างหน้าตาของเธอที่ดูเหมือนจะไม่มี
เป้าหมายอื่นใดแอบแฝง

“แน่นอนว่าไม่ใช่ เจ้าคิดว่าแค่เพียงขุมพลังอํานาจเล็ก ๆ มัน


จําเป็ นที่จะต้องทําให้ขา้ ต้องรวบรวมผูเ้ ชียวชาญมามากมายขนาดนี้เลย
อย่างนั้นหรื อ?”

“จริ ง ๆ เหตุผลที่ขา้ ได้ตามหาตัวเจ้าในครั้งนี้น้ นั ก็เพื่อที่จะมา


ขอบคุณเจ้า.” เจียง ยีห่ นี่ กล่าว

“ขอบคุณ ข้า?” ชูเฟิ งรู ้สึกสับสนอย่างรุ นแรงกลับคําพูดของเธอ


เขาเป็ นคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับราชวงศ์เจียงเลยแม้แต่นิดแล้วเหตุ
ใดทําใมพวกเขาถึงต้องการที่จะมาขอบคุณ? นอกจากนี้จริ งต้อง
รวบรวมคนมามากมายขนาดนี้กเ็ พื่อที่จะขอบคุณเขา?
“วันนั้นที่หุบเขาพันปี ศาจ, เจ้าได้ช่วยเหลือน้องชายของข้าเอาไว้
เขาคือ เจียง หวูฉ่ าง ถ้าไม่ได้สาํ หรับเจ้าที่ได้ช่วยเขาไว้แน่นอนว่า
ราชวงศ์เจียงจะต้องได้พบกับการสู ญเสี ยครั้งใหญ่อย่างแน่นอนเพราะ
ผ่านมานับพันปี เขานั้นคืออัจฉริ ยะที่มีสายเลือดเข้มข้นมากที่สุดใน
ราชวงศ์เจียง.”

“น้องชายของข้า เจียง หวูฉ่ าง เป็ นความหวังเดียวของราชวงศ์


เจียงของข้า นอกจากนี้เขายังเป็ นความภาคภูมิใจของข้าอีกด้วยและการที่
มันมีอนั ตรายใดเกิดขึ้นกับเขาแล้วได้มีคนอื่นมาช่วยเขาเอาไว้มนั ก็
เหมือนกับเขาได้ช่วยข้าด้วยเพราะฉะนั้นแล้วข้า เจียง ยีห่ นี่ ขอขอบคุณ
เจ้าอย่างแท้จริ ง”

“แล้วข้าก็ตอ้ งขอโทษเจ้าด้วยที่ตอ้ งใช้วธิ ีการรุ นแรงแบบนี้เพื่อ


จะได้พดู คุยกับเจ้า เพราะด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าและ
ตระกูล เจี่ย รวมถึงขุมพลังอํานาจอื่น ๆ และด้วยความสัมพันธ์ของราง
วงศ์เจียงของข้าและตระกูลเจี่ยรวมถึงขุมพลังอํานาจอื่น ๆ ข้าจึงไม่
สามารถประกาศออกไปให้โลกรับรู ้ได้วา่ เจ้าคือผูท้ ี่มีพระคุณต่อราชวงศ์
เจียงของข้าฉะนั้นแล้วนี่จึงเป็ นทางเดียวที่ขา้ จะสามารถค้นหาตัวเจ้า
ได้”

“แต่กไ็ ม่ตอ้ งกังวลไปแม้วา่ ราชวงศ์เจียงของข้าได้สญ


ั ญากับ
ตระกูลเจี่ยและขุมพลังอํานาจอื่น ๆ เอาไว้วา่ จะฆ่าเจ้าแต่จงไว้วางใจพวก
เราจะไม่ทาํ แบบนั้นกับเจ้าอย่างแน่นอน”

“แล้วสิ่ งนี้คือแทนคําขอบคุณของข้า โปรดรับมันเอาไว้.”


ขณะที่เธอพูด เธอก็ได้โยนถุงจักรวาลออกไปให้ชูเฟิ ง

หลังจากนั้น เจียง ยีห่ นี่ ได้หนั ไปรอบ ๆ แล้วออกไปอย่างรวดเร็ ว แต่


หลังจากที่เธอเหาะไปได้ไม่กี่เมตรเธอก็ได้หนั หลังกลับมาพร้อมกับ
รอยยิม้ แล้วกล่าวกับ ชูเฟิ งและจือหลิง. “แม่นาง จือหลิง นั้นคือของจริ ง
สิ่ งที่งดงามในแง่ของความงามแล้วนั้นยากที่จะหาผูใ้ ดเปรี ยบ อาจพูดได้
ว่าเธอนั้นผูห้ ญิงที่งดงามที่สุดใน 9 อาณาจักรและในอนาคตอย่าง
แน่นอนว่าเธอนั้นจะหาที่เปรี ยบมิได้และจะการเป็ นที่หมายปองของทุก
คน”

“น้องชายชูเฟิ งเจ้าจงอย่าลืมดูแลห่วงใยหญิงงามเช่นนั้นเอาไว้
ข้างกายเจ้าล่ะ”

“ช้าก่อน จริ งหรื อไม่ที่ราชวงศ์เจียงของเจ้าจะไม่เข้ามายุง่ กับ


เรื่ องนี้? หลังจากที่เหล่าขุมอํานาจเป็ นผูใ้ ต้บงั คับบัญชาของราชวงศ์
เจียงของเจ้าดังนั้นถ้าหากข้าได้ขา้ เหล่าศิษย์ของพวกมันมันก็เท่ากับฆ่า
คนของเจ้าหรื อไม่?”ทันทีชูเฟิ งได้ถามอย่างเจาะจง

หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดของชูเฟิ งเธอก็ได้แสดงรอยยิม้ ออกมาและ


กลายเป็ นสง่ามากขึ้นพร้อมกล่าวออกไป “นั้นเป็ นเพียงแค่สิ่งที่เจ้าคิด
ความจริ งในสายตาของราชวงศ์เจียงนั้นมีเพียงแค่ตระกูลของเราเท่านั้น
ที่เป็ นพรรคพวกของเรา ส่ วนคนอื่น ๆ นั้นคือบุคคลภายนอกไม่มีวนั
เปลี่ยนแปลง”
หลังจากที่ได้พดู คําเหล่านั้นออกมา เจียง ยีห่ นี่ ก็ได้กระโดดออกไป
พร้อมกับกระโปรงยาวสี ทองของเธอที่โผบินไปในของฟ้า

และในทันทีชูเฟิ งก็ได้เห็นเหล่าผูเ้ ชียวชาญราชวงศ์เจียงที่ยนื อยูใ่ นที่


ห่างไกลได้ไล่ตาม เจียง ยีห่ นี่ ออกไปพวกเขาทั้งหมดในตอนนี้ได้
ออกไปแล้วอย่างแท้จริ ง

“พวกเขาส่ งคนออกมาเป็ นจํานวมมากอย่างกับกองทัพและตาม


ค้นหาเราแทบจะพริ กแผ่นดินเพื่อมาขอบคุณเนี่ยนะ?” จือหลิง มองไป
ที่ชูเฟิ งด้วยความรู ้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง แต่ในท้ายที่สุด
แล้วเธอก็ได้ยอมรับว่าการที่พวกเขาได้ช่วย เจียง หวูฉ่ าง เอาไว้น้ นั ชัง่
เป็ นสิ่ งที่ดีและมัน่ เหมาะต่อสถานการณ์แบบนี้อย่างแท้จริ ง

“ถ้าเป็ นเจ้าที่กาํ ลังพบกับอันตรายแล้วมีคนมาช่วยเจ้าเอาไว้ขา้


มัน่ ใจอย่างแน่นอนว่าเจ้าจะต้องชอบเขาและคิดหาวิธีที่จะค้นหาเขาและ
ขอบคุณเขาอย่างแน่นอน”

ชูเฟิ งยิม้ แล้วก็ได้เปิ ดถุงจักรวาลออกมา หลังจากที่เปิ ดมันออกมาชูเฟิ ง


อดไม่ได้ที่จะต้องตะลึง ตาและปากของเขานั้นได้รับการเปิ ดกว้างและ
ประหลาดใจ อาจกล่าวได้วา่ ถึงขั้นตกอยูใ่ นอาการช็อค . “นี่มนั ?”

พอเห็นการแสดงออกของชูเฟิ งที่อยูใ่ นอาการตกใจ จือหลิงจึงได้รีบเดิน


เข้ามาและจ้องมองไปที่ถุงจักรวาลและเมื่อเธอได้เห็นในสิ่ งที่ชูเฟิ งเห็น
ก่อนหน้านี้มนั ทําให้เธอรู ้วา่ นี่คือดอกไม้สีขาวราวกับหิ มะและมีลกั ษณะ
เป็ นวงกลมและมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งนิ้วแม้แต่ จือหลิง ก็ยงั
ปลื้มปิ ติและตกอยูใ่ นอาการตื่นเต้น

“เป็ นไปได้วา่ นี่คือยาสวรรค์! ยาสวรรค์ที่มีคุณภาพสู ง! นี่เป็ น


สิ่ งที่มีค่าและหายากมาก! จากสิ่ งที่ขา้ เคยได้ยนิ มาในทวีปเก้าอาณาจักรมี
เพียงแค่ราชวงศ์เจียงเท่านั้นที่จะสามารถเพาะปลูกยาสวรรค์และมี
คุณภาพเช่นนี้ได้ อํานาจและคุณภาพของยาสวรรค์น้ นั เปรี ยบได้กบั
ลูกแก้วแก่นแท้วญ
ิ ญาณนับพันเม็ด!”

“เจ้าพูดจริ ง? ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าการที่ขา้ ได้ช่วยชีวติ


ของ เจียง หวูฉ่ าง เอาไว้มนั ทําให้ขา้ ได้รับลูกแก้วแก่นแท้วญ
ิ ญาณถึง
ล้านเม็ดเลยอย่างนั้นหรื อ?” หลังจากที่เขาได้ยนิ คําของ จือหลิง มันทํา
ให้เขามีความสุ ขอย่างแท้จริ งเพราะภายในถุงจักรวาลนั้น มันมียาสวรรค์
คุณภาพสูงถึงหนึ่งพันเม็ด

“ดูเหมือนว่ามันจะเป็ นอย่างนั้น” แม้วา่ ตัวของ จือหลิง เองนั้น


จะยังไม่อยากที่จะเชื่อกับสิ่ งที่เกิดขึ้นในตอนนี้แต่เธอก็ทาํ ได้เพียงแค่
ยอมรับมันเท่านั้น

หลังจากนั้นชุเฟิ งและจือหลิงก็ได้กลับไปยังหุบเขาที่พวกเขาได้อาศัยอยู่
ก่อนหน้านี้ หลังจากที่พวกของราชวงศ์เจียงได้ออกไปแล้วแน่นอนว่า
พวกเขานั้นก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกเลย
ชูเฟิ งได้กลัน่ ยาทั้งหมดเข้าไปในดันเถียนของเขาเป็ นจํานวนมาก แต่มนั
ก็ยงั คงมีระยะทางที่มากเกินไปที่จะบุกฝ่ า

หันหน้าไปทางผลลัพธ์ดง่ั กล่าวชูเฟิ งทําได้เพียงแค่สบถออกมาเท่านั้น


เพราะนี่กเ็ กือบปาไปสองล้านเม็ดแก่นแท้วญ ิ ญาณแล้วที่เขาได้รับการ
กลัน่ เข้าไปในดันเถียนของเขา แต่มนั ก็ยงั คงมีระยะห่างที่มากเกินไปใน
การบุกฝ่ าเข้าไปยังระดับ 7 แดนแก่นแท้วญ ิ ญาณ ตามประมาณการณ์ที่
เขาได้คาดเอาไว้อย่างน้อย ๆ ก็ตอ้ งใช้อีกถึงสามล้านลูกแก้วแก่นแท้เพื่อ
บ่มเพาะพลังวิญญาณของเขา

บัดซบนี่มนั จะไร้สาระเกินไปแล้วที่จะต้องใช้ถึงห้าล้านลูกแก้วแก่นแท้!
นี่อาจกล่าวว่าเป็ นทรัพย์สินที่เทียบเท่าได้กบั ยอดสํานักในทวีปเก้า
อาณาจักรที่สะสมมานับพันธ์ปีได้เลย!

มันสามารถพัฒนาเหล่าผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ออกมาได้มากมายนับไม่
ถ้วน แต่ดว้ ยจํานวนที่มากมายขนาดนี้มนั กลับไม่สามารถที่จะทําให้ชู
เฟิ งบุกฝ่ าเข้าไปสู่ ระดับที่ 7 ของแดนแก่นแท้ได้ และเพียงแค่การ
คํานวณถึงจํานวนที่เขาจะต้องใช้ในการก้าวไปสู่ แดนสวรรค์น้ นั มันแถบ
ที่จะทําให้เขาถึงกับบ้าตาย

มันเป็ นไปได้วา่ แม้แต่ราชวงศ์เจียงก็ยงั ไม่มีทรัพยากรที่มากพอที่จะทํา


ให้เขาบุกฝ่ าไปแดนสวรรค์ได้เพราะจํานวนลูกแก้วแก่นแท้ที่จาํ เป็ นต้อง
ใช้น้ นั เป็ นจํานวนที่น่ากลัวมาก เพียงแค่คิดมันก็ถึงกับทําให้ชูเฟิ งปวด
หัวได้เลย

เมื่อเห็นชูเฟิ งเป็ นเช่นนั้นจาก จือหลิง ที่เป็ นคนที่กา้ วร้าวก็กลายเป็ น


น่ารักและอ่อนโยนขึ้นในทันที เธอพูดกับชูเฟิ งว่า “ปู่ ของข้าน่ะเคยกล่าว
เอาไว้วา่ สําหลับพลังทางสายเลือดนั้นจําเป็ นต้องใช้ทรัพยากรเป็ น
จํานวนมากถึงจะเสริ มสร้างและบ่มเพาะพลังวิญญาณของพวกเขาให้
แข็งแกร่ งขึ้นมาได้ ในอนาคตผูค้ นเหล่านี้จะต้องประสบความสําเร็ จที่
ยิง่ ใหญ่อย่างแน่นอนเพราะฉะนั้นแล้วเจ้าควรที่จะมีความสุ ขกับมัน
เพราะมันเป็ นที่แน่ชดั แล้วว่าสายเลือดของเจ้าที่ได้รับสื บทอดมานั้นมัน
คงจะเป็ นอะไรที่สูงส่ งมากไม่เช่นนั้นแล้วมันคงไม่ใช้ทรัพยากรมากมาย
ขนาดนี้ และบางทีในอนาคตของเจ้าอาจจะยิง่ ใหญ่กว่าข้าก็เป็ นได้!”
หันหน้าไปทางคําพูดของ จือหลิง แล้วนั้นชูเฟิ งรู ้วา่ เธอกําลังปลอบใจ
เขาแม้วา่ ปู่ ของเธอนั้นจะถือครองตําราโบราณและทําให้เขารับรู ้ขอ้ มูล
บางอย่างแต่มนั ก็ไม่ได้บอกว่ามันจะเป็ นอย่างในตําราถึงร้อยเปอร์เซ็น
เพราะมันยังไม่ได้รับการพิสูจน์ใดในข้อเท็จจริ งนั้น ๆ

นอกจากนี้ถึงแม้วา่ สิ่ งที่บนั ทึกอยูใ่ นตํารานั้นจะกล่าวออกมาเป็ นความ


จริ งเขาก็ยงั คงไม่มีความสามารถพอที่จะเก็บรวบรวมทรัพยากรจํานวน
มหาศาลขนาดนั้นได้เขาคิดว่าการบ่มเพาะพลังวิญญาณของเขานั้นคง
จะต้องหยุดยอยูด่ ินแดนไหนสักอย่างแน่ ๆ และเมื่อถึงตอนนั้นความ
แข็งแกร่ งที่เขามีมนั จะมากสักแค่ไหนกัน?

ในช่วงเวลาเช่นนี้ ต้าน ต้าน รับรู ้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในหัวใจของชู


เฟิ งเสมอเธอได้โพล่ออกมาในเวลาเช่นนี้และตะโกนออกไปว่า “ไอ้เด็ก
่ โลกใบนี้น้ นั มันมีขนาดใหญ่
โง่เอ้ยนี่เจ้ากําลังเป็ นกังวลถึงอะไรอยู?
มากนักและยังมีทรัพยากรอีกตั้งมากมายในทุก ๆที! และนอกจากนี้เจ้า
เป็ นอะไรห่ะ! เจ้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯไม่ใช่หรื อยังใง!”

“นอกจากนี้เจ้ายังเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯที่สามารถทําสัญญากับข้าได้


เชียวนะ! สําหรับผูเ้ ชื่อมต่อแล้วทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังวิญญาณ
นั้นมันหาได้เป็ นอุปสรรค์ที่ยงิ่ ใหญ่ไม่? ผูเ้ ชื่อมต่อฯนั้นสามารถหา
ทรัพยากรได้เองอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด”

ตราบใดที่เจ้าสามารถบุกฝ่ าไปยังระดับ 7 แดนแก่นแท้และกลายเป็ นผู ้


เชื่อมต่อฯชุดฟ้าได้ล่ะก็แน่นอนเลยว่าข้าจะสอนเจ้าถึงทักษะหาเส้นชีพ
จรสมบัติเพื่อค้นหาวัตถุทางธรรมชาติที่สามารถบ่มเพาะพลังวิญญาณ
ให้กบั เจ้าได้วตั ถุเหล่านี้น้ นั มันได้ถูกซ่อนเอาไว้อย่างมากมายในซอกห
ลืบของโลกฉะนั้นแล้วข้ารับประกันได้เลยว่าเจ้าจะไม่พบปั ญหาเรื่ อง
การขาดทรัพยากรอย่างแน่นอน”

“แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะถึงวันนั้นข้าเป็ นห่วงว่าเจ้าจะเบื่อ
ตายเอาเสี ยก่อนซะมากกว่า เพราะตอนนี้ระดับพลังวิญญาณของเจ้านั้น
ยังไม่ได้เป็ นที่น่าพอใจนักฉะนั้นแล้วข้าจึงรู ้สึกเสี ยดายที่จะสอนเจ้า
ในตอนนี้ฉะนั้นแล้วเจ้าจะต้องมีระดับพลังวิญญาณที่น่าพึ่งพอใจ
เสี ยก่อนไม่เช่นนั้นข้าจะไม่สอนมันให้แก่เจ้า.”

#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เอาว่ะเกมพลิก ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

B2 : ฮ่า เอาซะตกใจเลยนึกว่านางจะมาจับพี่เฟิ งทําผัวซะแล้ว

B3 : แต่มนั เป็ นอะไรที่กรู ู ้สึกเสี ยใจมากเลยนะการที่มนั พลิกล็อกแบบ


นี้คือแบบอยากเห็นมันโดนอัดบ้างไรบ้างเงี้ย

B2 : ฝันไปก่อนล่ะกันนะ B3
B3 : เหอะรอไปก่อนแล้วกันวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ มึงจุ๊งกันแน่

B1 : เออพวกมึงจะพูดไรก็ชง่ั เถอะนะแต่รู้สึกว่าข้ามีขอ้ สงสัยว่ะ ตอน


แรก็ไม่คิดหรอกนะแต่พอมาอ่านตอนนี้แล้วคิดเลยว่าผูห้ ญิงในเรื่ องนี้มนั
ใส่ กระโปรงกันทุกคนเลย

B2 : อ่าวทําใมคิดงั้นล่ะ ผูห้ ญิงใส่ กระโปรงมันผิดตรงไหน

B1 : มันก็ไม่ผดิ หรอก B2 แต่นายลองคิดนะเวลาตอนบินหรื อเหาะ


กระโปรงมันไม่เปิ ดหรอและในยุคนั้นกางเกงในเริ่ มมีลายรึ ยงั ?? คือ
แบบลายคิดตี้เงี้ยคงจะหวานแหววหน้าดู

B2 : เอิ่ม….เหมือนพักนี้นายดูมกหมุ่นไปหน่อยนะ

B3 : กูคิดว่าไม่หน่อยแล้วมั้ง B2 กูรู้กสู มั ผัสถึงกลิ่นคาว ๆ แถวนี้


ได้

B2 : กลิ่นคาว??

B1 : หุบปากไป B3 รู ้สึกมาได้แค่ 2 บทและจะพูดมากจังนะ!!

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 441 - ปัญหาที่ซ่อนอยูข่ อง จื่อหลิง

มันอาจกล่าวได้วา่ ในมุมมองของชุเฟิ งคําพูดของ ต้าน ต้าน นั้นเป็ นสิ่ งที่


น่าเชื่อถือมากที่สุด แม้วา่ ต้าน ต้าน จะเป็ นอสู รโลกวิญญาณแต่เธอก็มี
ความรู ้ที่มากเกี่ยวกับผูเ้ ชื่อมต่อฯอย่างแท้จริ ง แม้วา่ เธอนั้นจะอาศัยอยูใ่ น
ภพของพวกอสู รโลกวิญญาณแต่เธอกับสามารถมีความเข้าใจทุกสิ่ งใน
โลกใบนี้และยังมีทกั ษะลับพิเศษเฉพาะของผูเ้ ชื่อมต่อฯที่แม้แต่เหล่าผู ้
เชื่อมต่อฯที่ผา่ นประสบการณ์ชีวติ มามากมายก็ยงั ไม่รู้เกี่ยวกับทักษะ
พิเศษที่เธอกล่าวมา

ฉะนั้นแล้วชูเฟิ งจึงได้สงบสติอารมณ์ของตังเองลงแล้วเริ่ มที่จะเดินทาง


ไปทัว่ ทวีปเก้าอาณาจักรเขาหลีกเหลี่ยงการฆ่าเหล่าศิษย์ของขุมพลัง
อํานาจทั้งหกและพยายามหาทรัพยากรอย่างสงบเขาค้นหาสุ สานของผู ้
เชียวชาญนิรนามเรื่ อยมาตลอดการเดินทางของเขาเพื่อที่ดูดซับแหล่ง
พลังงาน

เพียงแค่พริ บตาเวลาก็ได้ล่วงเลยไปนับหลายเดือน ออร่ าของเด็กน้อยใส


ซื่อได้จากหายไปจากใบหน้าของ ชูเฟิ งและจือหลิง

จือหลิงเธอดูเป็ นผูใ้ หญ่ข้ ึนและกลายเป็ นสวยงามมากยิง่ ขึ้น ชูเฟิ ง


กลายเป็ นผูช้ ายมากขึ้นและมากขึ้นอย่างกับเปลี่ยนไปเป็ นคนละคน และ
ในปี นี้ชูเฟิ งก็ได้อายุ 17 ปี ส่ วนจือหลิงนั้น 16 ปี

ในช่วงเวลานี้ชูเฟิ งและจือหลิงนั้นไม่ได้ต้ งั หลักปั กฐานที่ไหนพวกเขา


ได้เดินทางไปทัว่ ทั้งเก้าอาณาจักรและความจริ งพวกเขายังได้คน้ พบซาก
โบราณสถานมากมายของเหล่าผูเ้ ชียวชาญที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ต้าน ต้าน
และ อสู รโลกวิญญาณของ จือหลิง นั้นได้รับผลประโยชน์จากการ
เดินทางครั้งนี้ไปเต็ม ๆ

(3B : อสู รโลกวิญญาณที่หมายถึงนี้ไม่ได้แปลว่าเป็ นเผ่าอสู รนะ แต่


แค่ใช้เรี ยกแทนเฉย ๆ ก็เหมือนกับว่าพวกเขาเป็ นคนของโลกวิญญาณ
แต่ถา้ จะให้เรี ยกว่า*มนุษย์โลกวิญญาณ*มันก็ดูแปลกๆ เพราะฉะนั้นเลย
เรี ยกว่าอสู รโลกวิญญาณ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็ นเผ่าอสู รโลก
วิญญาณนะ)

อสู รโลกวิญญาณของ จือหลิง นั้นได้บุกฝ่ าไปในแดนสวรรค์ระดับที่ 3


ได้สาํ เร็ จแต่ในขณะเดียวกัน ต้าน ต้าน ก็ได้บุกฝ่ าเข้าในดินแดนแก่นแท้
ระดับที่ 9 ซึ่งระดับพลังวิญญาณของเธอในตอนนี้น้ นั ก็ได้นาํ ชูเฟิ งเป็ น
ที่เรี ยบร้อย

และในความเป็ นจริ งตลอดระยะเวลาการเดินทางมานี้ชูเฟิ งได้รับ


ทรัพยากรมานั้นไม่ได้เป็ นจํานวนน้อย อาจกล่าวได้วา่ เป็ นจํานวนที่
มหาศาลมากสําหรับคนอื่น ๆ แต่สาํ หรับเขามันเล็กน้อยมากเพราะด้วย
ดันเถียนของเขาที่ตอ้ งใช้ทรัพยากรอย่างบ้าคลัง่ และมหาศาลมันจึงทําให้
เขายังคงติดอยูท่ ี่ระดับ 6 ของแดนแก่นแท้วญิ ญาณเขาทําได้เพียงแค่กดั
ฟันของเขาและอดทนต่อไปเท่านั้น
ขีดจํากัดสองปี ในการช่วยเหลือ ซูรู่และซูเหม่ย เริ่ มที่จะลดลงเรื่ อย ๆ
และเวลาของเขาที่เหลืออยูใ่ นตอนนี้น้ นั มันชัง่ น้อยนิดเหลือเกินมันจึงทํา
ให้เขารู ้สึกเป็ นกังวลอย่างมาก

และในตอนนี้หลังจากที่ จือหลิง พยายามที่จะบุกฝ่ าและล้มเหลวมานับ


ครั้งไม่ถว้ นแต่เพียงแค่ในเวลานี้เธอได้ประสบความสําเร็ จเธอในตอนนี้
นั้นสามารถบุกฝ่ าเข้าไปยังแดนสวรรค์วญ ิ ญาณได้เป็ นที่เรี ยบร้อยและใน
ขณะที่เธอสามารถบุฝ่าเข้าไปยังแดนสวรรค์ได้สาํ เร็ จก็ได้เกิดปรากฏการ
ท้องฟ้าแจ่มใสและแสงแดนที่ถ่ายถอดลงมานั้นเป็ นสี ม่วงอ่อน ๆ และ
ปรากฏระฆังสี ม่วงขึ้นบนท้องฟ้ามันได้สลายเมฆที่อยูโ่ ดยรอบไป
ทั้งหมดและส่ งแสงออร่ าสี ม่วงมาที่ จือหลิง

แต่ยงั นับว่าโชคดีนกั ที่ปรากฏการนี้เป็ นขนาดเล็ก และนอกเหนือไปจาก


นี้ชูเฟิ งและจือหลิงก็ยงั ได้ซ่อนตัวอยูท่ ี่หุบเขาร้างแห่งนึ่งจึงไม่
จําเป็ นต้องกลัวใด ๆ ว่าจะมีผอู ้ ื่นมาเห็น
หลังจากที่ประสบความสําเร็ จ จือหลิง ก็ได้หนั กลับไปจ้องมองที่ชูเฟิ ง
และพูดกับเขาในสิ่ งที่เธอได้คิดเอาไว้อยูใ่ นใจมาเป็ นเวลานาน

“ชูเฟิ งข้าจะออกไปจากถํ้านี้ แล้วลองกลับไปที่สาํ นักเทพอัคคี


หลังจากที่เข้าสู่ แดนสวรรค์ได้แล้วมันทําให้พลังอํานาจของข้านั้นก้าว
กระโดดอย่างรวดเร็ ว ข้าเชื่อว่าข้าในตอนนี้น้ นั สามารถที่จะรับมือกับ
อดีตเจ้าสํานักรุ่ นก่อนของสํานักเทพอัคคี ที่อยูใ่ นระดับ 6 แดนสวรรค์
ได้อย่างแน่นอน.”

“ข้าอยากจะไปที่สาํ นักเทพอัคคีและไปปล้นสมบัติของมันที่
สะสมมานานนับพันปี มาทั้งหมด และข้ามันใจได้เลยว่าของเหล่านั้น
ทั้งหมดจะสามารถทําให้เจ้าบุกฝ่ าไปยังระดับ 7 แดนแก่แท้ได้อย่าง
แน่นอน” จือหลิง กล่าวออกมาอย่างจริ งจัง

“ไม่.” แต่ชูเฟิ งกับปฏิเสธในทันที


เพราะเขารู ้วา่ แม้ความแข็งแกร่ งของ จือหลิง จะเพิ่มขึ้นเป็ นอย่างมาก
และเธอยังเป็ นผูใ้ ช้อาํ นาจร่ างกายศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับพรมาจากสวรรค์แต่
อย่างไรก็ตามเมื่อหันหน้าไปยังผูท้ ี่อยูร่ ะดับ 6 แดนสวรรค์มนั ทําให้เธอ
ไม่มีความมัน่ ใจมากนักและแน่นอนว่ามันมีความเสี่ ยงมากเกินไป

และหลังจากที่ได้อยูด่ ว้ ยกันมาเป็ นเวลานานชูเฟิ งสามารถยืนยัน


ความรู ้สึกของเขาที่มีต่อ จือหลิง ได้อย่างชัดเจนว่าเขานั้นรักเธอจริ งๆ
เขารักเธอสุ ดหัวใจแล้วพร้อมที่จะเดิมพันชีวติ ตัวเองทั้งหมดเพื่อปกป้อง
นาง แม้วา่ ตัวเองนั้นจะได้รับบาทเจ็บสาหัสเจียนตายเขาก็ยอม…

ถึงแม้วา่ ภายนอกของ จือหลิง จะดูเย็นชาและปกคลุ่มไปด้วยนํ้าแข็งที่ปิด


กั้นความรู ้สึกของเธอ และเพื่อผลประโยชน์เธอยินดีที่จะใช้วธิ ีการที่
โหดเหี้ ยมและไร้ความปราณี

แต่ถา้ ทําเพื่อชูเฟิ งแล้วล่ะก็เธอก็พร้อมที่จะพุง่ ชนกับทุกอย่าง ไม่วา่


ผลประโยชน์ของการต่อสู ท้ ้ งั หมดจะตกเป็ นของชูเฟิ งก็ตามเธอก็จะไม่
สนอะไรทั้งนั้นแม้แต่ความปลอดภัยของตัวเธอเองเธอจะทําทุกวิถีทาง
เพื่อชิงสมบัติมาให้ชูเฟิ ง

เมื่อหันไปมองผูห้ ญิงที่สามารถทําเพื่อเขาได้ถึงขนาดนี้ชูเฟิ งจึงไม่อาจที่


จะปล่อยเธอไปเสี่ ยงอันตรายเพื่อเขาได้อีก เพราะเขานั้นรัก จือหลิง
อย่างแท้จริ งและเขาก็อยากจะใช้ชีวติ ที่เหลือของเขาทั้งหมดเพื่อที่จะได้
อยูก่ บั เธอ

“ชูเฟิ งโปรดเชื่อข้า ข้าสามารถกลับออกมาอย่างปลอดภัย


พร้อมกับสมบัติท้ งั หมด” จือหลิง กล่าวออกมาอย่างมัน่ ใจและใบหน้า
ของเธอนั้นยังเต็มไปด้วยความเชื่อมัน่

“ถ้าอย่างนั้น ให้ขา้ ไปกับเจ้าด้วย” ชูเฟิ งกล่าว

“ไม่” แต่หลังจากได้ยนิ คําพูดนั้น จือหลิง ปฏิเสธในทันที


“ทําใม? หากเจ้ามีความมัน่ ใจจริ งเหตุใดถึงไม่ให้ขา้ ไปด้วย?
มันเป็ นเพราะว่าเจ้ากลัวที่จะพ่ายแพ้ให้กบั อดีตเจ้าสํานักรุ่ นก่อนของ
สํานักเทพอัคคีใช่หรื อไม่.”

“ถ้าเป็ นเช่นนั้นจริ งล่ะก็อย่างน้อยถ้าเจ้าจะตายข้าก็ตอ้ งตายไป


กับเจ้าด้วย.” ชูเฟิ งตอบสวนกลับ

“ข้า…” ทันที จือหลิง อยากที่จะเถียงกลับ แต่เธอก็ไม่


สามารถทําได้ ท้ายที่สุดเธอก็ได้กม้ หน้าลงและไม่เอ่ยคําพูดใดอีก

“จือหลิง ถ้าหากเจ้ารักข้าจริ ง ๆ ของขอหลับนอนกับเจ้าสัก


ครั้งได้หรื อไม่”
“ข้าเคยบอกว่าเจ้านั้นเป็ นผูใ้ ช้ร่างกายศักดิ์สิทธิ์และถ้าหากเจ้า
ได้หลับนอนกับข้าบางทีมนั อาจสามารถปุกพลังบางอย่างในตัวของข้า
ให้ตื่นขึ้นมาและมันช่วยให้ขา้ บุกฝ่ าเข้าไปในระดับ 7 แดนแก่นแท้เลย
ก็เป็ นได้” ชูเฟิ งพูดอีกครั้ง

ที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชูเฟิ งพูดแบบนี้กบั จือหลิง ในช่วงแรก ๆ เขาทําเป็ น


เพียงแค่พดู ล้อเลียนนางเท่านั้น แต่ในช่วงหลัง ๆ มานี้เขาเริ่ มที่จะจริ งจัง
มากขึ้น ตลอดเวลาที่เขาไปร่ วมเดินทางกับจือหลิงมานั้นเขายังไม่อาจ
สัมผัสร่ างกายที่งดงามของเธอได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว มันเป็ นความรู ้สึกที่
เจ็บปวดที่สุดในโลกสําหรับเขาในตอนนี้

ท้ายที่สุดชูเฟิ งก็ได้บอกถึงความหมายที่แท้จริ งของเขาออกไป ตราบใด


ที่เขาได้หลับนอนกับ จือหลิง บางทีมนั อาจมีโอกาศที่จะปลุกพลังอํานาจ
สายฟ้าศักดิ์สิทธ์ในร่ างกายของเขาให้ตื่นขึ้นมาและด้วยเหตุผลนั้นมัน
อาจช่วยเพิ่มระดับพลังวิญญาณของเขาเป็ นอย่างมากและบางทีเขาอาจ
เข้าใจพลังงานในรู ปแบบใหม่ท้ งั หมด แม้วา่ เขาจะไม่มนั่ ใจกับมันมาก
นักแต่อย่างน้อยมันก็ยงั มีโอกาสที่จะลองเสี่ ยงดู
แต่หลังจากที่ จือหลิง รู ้ความจริ งเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธออกไปอย่างใจร้าย
แม้วา่ จือหลิง จะเสี ยสละให้ชูเฟิ งได้ทุกอย่างแต่มีเพียงแค่เรื่ องนี้อย่าง
เดียวเท่านั้นที่นางไม่สามารถทําเพื่อชูเฟิ งได้

“ชูเฟิ งการที่เจ้าเข้ามาหาตัวข้านั้นมันเป็ นเพราะว่าเจ้าชอบข้า


จริ ง ๆ หรื อเพียงแค่ตอ้ งการพลังอํานาจจากร่ างกายของข้ากันแน่?”
ทันใดนั้นสายตาของ จือหลิง ก็กลายเป็ นเคร่ งขรึ มในทันที

“ข้า...” ทันทีชูเฟิ งรู ้สึกลังเลเล็กน้อย ถ้ามันเป็ นก่อนหน้านี้ล่ะ


ก็แน่นอนว่าเขาจะพูดออกไปอย่างไม่ลงั เล. “แน่นอนว่าข้านั้นชอบ
เจ้า!”

แต่มนั แตกต่างกันแล้วในเวลานี้ เพราะเขานั้นรัก จือหลิง อย่างแท้จริ งจน


ไม่สามารถห้ามใจของตัวเองได้อีกแล้วและเขาก็ยนิ ดีที่จะเสี ยสละตัวเอง
เพื่อเธอ ดังนั้นเมื่อหันหน้าไปทางผูห้ ญิงที่เขารักชูเฟิ งทนไม่ได้จริ ง ๆ ที่
จะต้องหลอกลวงเธอ

ดังนั้นชูเฟิ งจึงได้ทนกัดฟันของเขาและพูดออกไปกับ จือหลิง ว่า “ข้าขอ


ยอกมรับว่าตอนแรกข้านั้น…”

“พอได้แล้ว” แต่ก่อนที่ชูเฟิ งจะพูดจบ จือหลิง ก็ได้ใช้มือของ


เธอปิ ดปากของชูเฟิ งเอาไว้จากนั้นก็แสดงรอยยิม้ หวานออกมาพร้อมกับ
กล่าวว่า

“ที่ผา่ นมามันไม่สาํ คัญอีกต่อไปแล้ว ข้ารู ้เพียงแค่วา่ ข้าในตอนนี้


นั้นรักเจ้ามากแค่ไหนและข้าก็หวังว่าเจ้าจะรู ้สึกเช่นนั้นเหมือนข้าข้าหวัง
ว่าเจ้าจะรักข้าเหมือนอย่างที่ขา้ รักเจ้า ข้าสามารถให้เจ้าได้ทุกอย่างยกเว้น
เรื่ องนี้ ข้ายังมีปัญหาบางอย่างที่ซ่อนอยูฉ่ ะนั้นข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถ
เข้าใจข้า”
ขณะที่เธอพูดคําเหล่านั้นออกมา จือหลิง ยังคงมีรอยยิม้ หวานที่งดงาม
บนมุมปากของเธอ แต่ในดวงตาของเธอนั้นกลับเต็มไปด้วยนํ้าตาที่
สะท้อนแสงและโปร่ งใส จากนั้นมันก็ได้ไหลลงมาอย่างรวดเร็ วราวกับ
สายนํ้าในลําทานลงมาบนแก้มของเธอ

“จือหลิง ข้าขอโทษ มันเป็ นความผิดของข้า ข้าไม่ทราบว่าเจ้ามี


ปัญหาบางอย่างที่ซ่อนอยู’่

“ข้าขอสัญญาว่าข้าจะไม่พดู เรื่ องนี้อีก ข้าจะไม่ทาํ ให้เจ้าอยูใ่ น


สถานการณ์ที่ยากลําบากแบบนี้อีก” เมื่อเห็นเช่นนั้นชูเฟิ งจึงได้รีบเช็ด
นํ้าตาของนางในทันที มันเป็ นครั้งแรกที่เขาได้เห็น จือหลิง ร้องไห้

ในทันทีจากที่ชูเฟิ งนั้นมักเป็ นคนที่สงบเสงี่ยมอยูเ่ สมอเขาก็ได้ตื่น


ตระหนกย่างแท้จริ ง เขาตกอยูใ่ นความหวาดกลัวอย่างมาก เพราะเขา
รู ้สึกว่า จือหลิง ในตอนนี้น้ นั ได้ตกอยูใ่ นสถานการณ์ที่น่าลําบากจริ ง เขา
สามารถรับรู ้ได้วา่ จือหลิง ในตอนนี้น้ นั ได้ตกอยูใ่ นสถานการณ์ที่
เจ็บปวดรวดร้าวและใจแตกสลาย

ถ้าเขาสามารถหยุดนํ้าตาของ จือหลิง ได้ต่อให้ทาํ อะไรเขาก็ยอม แม้วา่ จื


อหลิง จะเอามีดมาแท่งเขาเป็ นร้อยครั้งเขาก็ยอม

เขาได้สาบานกับตัวเองไว้แล้วว่าเขาจะไม่พดู ถึงเรื่ องหลับนอนกับ จือห


ลิง อีกแม้วา่ จือหลิง จะไม่ยอมให้เขาทั้งชีวติ ทั้งหมดของเธอเขาก็จะไม่
พูดถึงมันอีกทั้งชีวติ เพราะว่าเขาในตอนนี้น้ นั ได้รัก จือหลิง มากกว่าที่จะ
ดูดซับพลังอํานาจของเธอ

#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ
B1 : นั้นแหละครับท่านผูช้ ม มันช่างเป็ นเรื่ องที่น่าเศร้ายิง่

B2 : เห้ออยูด่ ว้ ยกันเป็ นผัวเป็ นเมียแต่เยสกันไม่ได้นี่แลดูทรมานดีนะ

B1 : นั้นดิสงสารชูเฟิ ง

B2 : ช่ายยยยย น่าสงสาร

B3 : ซูรู่ ซูเหม่ย ก็มีมึงจะไปส่ งสารมันทําใม

B1 : ก็พวกนางยังโดนขังอยูใ่ ง และก็อีกอย่างชูเฟิ งอยูอ่ ย่างใกล้ชิด


กับจือหลิงมานานหลายเดือนมึงรองคิดดูนะทุก ๆ วันที่อยูใ่ กล้กบั หญิง
สวยขนาดนั้นมันจะไม่เงี่ยนกันบ้างหรอนี่ขนาดแตะตองยังอะไรไม่ได้
มากเลย เห้อสงสารอสุ จิที่ถูกกังขังเป็ นเวลานาน บางทีพวกมันก็อยากจะ
ออกมาดูโลกภายนอกบางก็ได้

B3 : นี่มึงสงสารชูเฟิ งหรื ออสุ จิมนั กันแน่วะ่ เอาให้ชวั

B2 : แหม่ B1 นายก็คิดมากไปบางทีบกั เฟิ งเรามันอาจแอบไป


เหนี่ยวมาก็ได้
B3 : เออและอีกอย่างไม่กี่ 10 บทข้างหน้าก็มีตวั ละครใหม่โพล่มา
และแถมเด็ดซะด้วยขนาดชูเฟิ งยังต้องก้มหัว

B1 : ใครว่ะ???

B3 : อยากรู ้อ่ะดิกต็ ามดูเอาเองดิครับ

B1 : หื้มมึงเอามายัว่ แบบนี้เลยงั้นหรอ!!!!!!!

B3 : เออมีปัญหาไรป่ ะ?!

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

ข้าจะไม่ธรรมให้เจ้าอยูใ่ นสถานการณ์ที่ยากลําบากแบบนี้อีก

เกือบได้ฮากันแล้วไม๊ล่ะ . . . . .
บทที่ 442 - ความโกรธปุทุข้ ึน
ในตอนนั้นร่ างกายอันแสนทรงเสน่ห์ของจื่อ หลิง ก็พงุ่ เข้าสู๋ ออ้ มกอด
ของชูเฟิ งด้วยเธอเอง แขนเล็กๆของเธอล๊อกชูเฟิ งไว้แน่ราวกับจะไม่ยอม
ให้เขาไปไหน

มันเป็ นเรื่ องที่น่าเหลือเชื่อ ที่หญิงสาวที่อายุ 15 ปี ผูแ้ บกรับพลังที่


ยิง่ ใหญ่ ผูท้ ี่ได้รับพรจากพระเจ้า จะมีดา้ นที่อ่อนแอเช่นนี้

ชูเฟิ งกอด สาวงามเล็กๆในอ้อมกอดของเขา เวลานี้ชูเฟิ งนั้นไม่ได้สมั ผัส


อย่างพลุกพล่าน เขาเพียงลูบผมจื่อ หลิงเบาๆ เพื่อที่จะทําให้อารมณ์เธอ
เย็นลง

"ชูเฟิ ง ข้าอยากกลับยังทวีปเก้าอาณาจักร และกลับไปอาณาจักร


มังกรฟ้า ข้าอยากพบกับพี่นอ้ งของข้าทั้ง 2 " จื่อ หลิงยกใบหน้าเล็กๆ
ของเธอขึ้นมามองชูเฟิ ง แล้วพูด
"อืม." เมื่อเห็นเช่นนั้นชูเฟิ งก็พยักหน้า เพราะเขาได้เดินทางออกมา
นานแล้วนอกจากนี้ เขายังเคยคิดถึง ซู รู่ ซู เหม่ย และครอบครัวของเขา
เช่นกัน

ดังนั้น จื่อ หลิง และชูเฟิ ง จึงนัง่ ราชรถที่งดงาม มุ่งหน้ากลับไปยังทวีป


เก้าอาณาจักร

การเดินทางกลับนั้นไม่ได้ยาวนานเกินไปและก็ไม่ได้ส้ นั เกินไป พวกเขา


ต้องผ่านทวีปเก้าอาณาจักร อาณาจักร หยวน ภัง ถึงจะถึงอาณาจักรมังกร
ฟ้า พวกเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่ งเดือน

อย่างไรก็ตาม เมื่อ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง เข้ามาในนอาณาจักรถังแล้วทั้ง 2


ก็ได้ยนิ ข่าวบางอย่างที่กาํ ลังระเบิดในตอนนี้
อย่างแรกคือ ข่าวการตาย ของมู่ หรงยู่ ที่ถูกฆ่าโดย ชาง เทียนยี่ และ ดาบ
ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ของ หุบเขาเทพกระบี่กถ็ ูก นําไปโดย ชาง เทียนยี่

เนื่องจากข่าวของชูเฟิ งนั้นได้หายไปจากทวีปเก้าอาณาจักรแล้ว จึงทําให้


ทวีปนั้นค่อนข้างเงียบ แต่การกระทําของ ชาง เทียนยี่ ได้ก่อให้เกิดข่าว
ดังอีกครั้ง และชาง เทียนยี่ ก็เป็ นคนที่มาจาก อาณาจักร มังกรฟ้า
เช่นเดียวกับชูเฟิ ง

ด้วยเรื่ องดังกล่าวนั้นทุกคนนั้นได้แต่ถอนหายใจ เพราะอาณาจักรมังกร


ฟ้านั้นแข็งแกร่ งขึ้นอย่างมาก เพราะมี สัตว์ประหลาด 2 ตัวปรากฏตัว
ขึ้น

แต่ข่าวที่ 2 ที่เกิดขึ้นนั้น ทําให้ชูเฟิ งโกรธมาก


แพราะว่า ผูน้ าํ หุบเขาเทพกระบี่น้ นั ได้นาํ ทัพของตน ตามหาร่ องรอย
ของ ชาง เทียนยี่ ทัว่ ทวีปเก้าอาณาจักร

เมื่อเขาไม่สามารถหาตัว ชาง เทียนยีไ่ ด้พบ เขานํากองทัพของเขา มุ่ง เข้า


ไปยังอาณาจักรมังกรฟ้า และถล่มสํานักมังกรฟ้า

หลังจาก หาตัว ชาง เทียนยีไ่ ม่เจอ เขาก็ได้เผา เทือกเขามังกรฟ้า รวมถึง


ฆ่าประชาชุนทุกคนที่อยูร่ อบเขามังกรฟ้า การสังหารหมู่ครั้งนี้น้ นั ไร้
มนุษยธรรมมากที่สุดที่เคยมีมา

หลังจากฆ่าผูค้ นเหล่านั้น ผูน้ าํ สํานักเทพกระบี่กบ็ อกว่า ทั้งหมดเป็ น


เพราะชูเฟิ ง และ ชางเทียน ยี่ หากมีใครจะโทษ ก็ โทษที่ตนอยูใ่ นอาณา
เขตหุบเขาที่ต้ งั สํานักมังกรฟ้า

ข่าวนั้น ทําให้ทวีปเก้าอาณาจักรฮือฮาอย่างมาก หลายคนคิดว่าเพราะเขา


เศร้าที่ตอ้ งเสี ยลูกชายไป และ ก็ยงั ถูกขโมยสมบัติประจํานิกายไป จึง
คลัง่ ขึ้นมา

เพราะการฆ่าทุกคนที่อยูใ่ นอาณาเขตสํานักมังกรฟ้าแม้ไม่เกี่ยวข้องกับ
ทั้ง 2 นั้นมันเป็ นการกระทําที่บา้ บิ่นเกินไป

หลายคนรุ ้สึกเศร้าใจเพราะการกระทําที่โหดเหี้ ยมของหุบเขาเทพกระบี่


ที่กระทําลงไป แต่ราชวงศ์เจียงเลือกที่จะทําเป็ นไม่เห็นมันและไม่สนใจ

และรวมไปถึง ผูน้ าํ ของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน พวกเขาเพียงยืนดูในสิ่ ง


ที่เกิดขึ้นและไม่ได้ออกมาเพื่อหยุดยั้น หุบเขาเทพกระบี่ ทําให้คนใน
ทวีปเก้าอาณาจักรนั้น เริ่ มที่จะดูถูก คฤหาสน์องค์ชายกิเลน นั้นเป็ นขยะ
เพราะไม่ยอมยืน่ มือออกมาช่วยประชาชนทั้งๆ ที่เป็ นผูน้ าํ ของอาณาจักร
มังกรฟ้า
ชูเฟิ งนั้นยังพยายามทนอยู่ แต่เขาก็ไม่สามารถทนได้เมื่อได้ยนิ ข่าวนี้

หลังจากจากเกิดการสังหารหมู่ข้ ึน ผูน้ าํ หุบเขาเทพกระบี่ ก็ไปขุดศพของ


ผูอ้ าวุโสจากสํานักมังกรฟ้าทั้งหมดมายํา่ ยี

หลังจากนั้นพวกเขาก็มาที่ต้ งั เดิมของตระกูลชู และขุดศพครอบครัว


ตระกูลชูน้ นั ขึ้นมาและทําการสาปแช่งพวกเขาและกระทําเช่นเดียวกัน
กับศพจากสํานักมังกรฟ้า

และในตอนท้ายนั้น ผูน้ าํ สํานักเทพกระบี่ นําศพทั้งหมดออกไป และ


นําไปที่หุบเขาเทพกระบี่ และประกาศกร้าวว่า

หากชูเฟิ ง และ ชาง เทียนยี่ อยากจะให้พวกเขากลับไปที่พวกเขาอยู่ ให้


ไปรับที่หุบเขาเทพกระบี่ เขาจะรอที่หุบเขาเทพกระบี่ หากไม่มาภายใน
1 เดือน เขาจะโยนศพเหล่านี้ ลงในบ่อ ขี้แล้วทําการสาปแช่ง
หลังจากที่ได้ยนิ เรื่ องผูน้ ้ นั ชูเฟิ งก็โกรธมาก เขาสาบานว่าจะถล่มหุบเขา
เทพกระบี่ และให้พวกมันชดใช้อย่างสาสม

เพราะการลบหลู่ครอบครัวของเขา โดยไม่ได้รับอนุญาต และการกระทํา


เช่นนี้ มีหรื อชูเฟิ งจะไม่โกรธ

การกระทําของหุบเขาเทพกระบี่ครั้งนี้ราวกับ กระตุกหนวกเสื อ และ


เหยียบหางมังกร

ถ้าเป็ นก่อนหน้านี้ ชูเฟิ งนั้นยังอ่อนแออยู่ เขาจึงไม่สามารถที่จะแก้แค้น


ได้
แต่ในตอนนี้ชูเฟิ งนั้นแข็งแกร่ งมาก เมื่อมีคนมาเหยียบหางเขา เขา
จะต้องแก้แค้นอย่างสาสม

หลังจากนั้นครึ่ งเดือน ชูเฟิ งก็กลับมาถึงอาณาจักรมังกรฟ้า ที่ที่เขาไปที่


แรกคือหุบเขาที่ต้ งั ตระกูลชู

"หุบเขาเทพกระบี่ เจ้าได้กระทําสิ่ งที่น่าบัดซบมาก รับรองได้วา่


ข้าจะให้เจ้าได้ชดใช้อย่างสาสม!! "

ในตอนชูเฟิ ง และ จื่อ หลิงกําลังลอยอยูบ่ นอาการ เขาเห็นภูเขาที่เต็มไป


ด้วยขี้เถ้า และหลุมฝังศพที่ถูกขุดขึ้น

หลุมฝังศพเหล่านั้นคือคนตระกูลชู ตอนนี้ในนั้นไม่มีอะไรอยู่ มีเพียง


สารบางอย่างที่ถูกทิ้งไว้ " ชูเฟิ ง ไอ้ขยะ ถ้าเจ้าแน่จริ งก็มาที่หุบเขาเทพ
กระบี่ซะ! "
เมื่อมองเห็นคําเหล่านั้นชูเฟิ งก็โกรธจัด เขากําหมัดแน่น ร่ างของเขานั้น
สัน่ เทาด้วยความโกรธ

เพราะว่าข่าวลือนั้นเป็ นจริ ง เรื่ องที่ผอู ้ าวุโสสํานักมังกรฟ้า และ


ครอบครัวของเขา ถูกขุดสุ สานขึ้นไป

* ตูม้ *

แต่ในเวลานั้นมีเสี ยงระเบิดดังก้องจากท้องฟ้าไกลๆ ในตอนนั้นมีออร่ า


บางอย่างที่รุนแรงมากกําลังพุง่ มาหาพวกเขา

ในตอนนั้นชูเฟิ ง และ จื่อ หลิงตกใจมาก พวกเขาคิดว่า คนจากหุบเขา


เทพกระบี่ซุ่มโจมตีเขา

เมื่องมองไปทางนั้น พวกเขาก็ได้แต่ตกใจเพราะ คนที่มานั้นไม่ใช่คน


จากหุบเขาเทพกระบี่ แต่เป็ นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา และเต็มไปด้วย
เสน่ห์

ความแข็งแกร่ งของเขานั้นไม่ได้อ่อนแอเลย แม้วา่ เขาจะอายุประมาณ


20 แต่เขาก็ไม่ได้แพ้ เจียง ชิงหมิง กับ สู จงหยูเลย และการบ่มเพาะ
ของเขา ยังเหนือกว่า จื่อ หลิง ด้วย

และในตอนนั้น ชายหนุ่ม พุง่ มาทางจื่อ หลิง และชูเฟิ ง ด้วยความเร็ วดัง่


สายฟ้า ที่หน้าตื่นตระหนก

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
แปลโดยท่าน#ฮายย

A : ใครหน้อ ???

B : พวกคนใหม่ของพี่เฟิ ง ???

A : แล้วมันมาโจมตีทาํ ไมล่ะ

B : มาทดสอบฝี มือมั้ง!!! หรื อไม่กแ็ ค่อยากรู ้วา่ ชูเฟิ ง จะเจ๋ งเหมือนใน


ข่าวลือหรื อเปล่า ???

อยากรู ้วา่ เขาคือใครโปรดติดตามในส่ วนของวัน


พรุ่ งนี้ . . . . .
บทที่ 443 - จาง เทียนยี่

ความเร็ วของชายหนุ่มคนนี้เร็ วมาก ในเวลาอันสั้นเขาก็มาอยูใ่ นสายตา


ของทั้ง 2 แล้ว
เขายืนอยูบ่ นอากาศโดยไขว้มือไว้ที่หลังของเขา เขามองไปที่ชูเฟิ ง และ
จื่อ หลิง แล้วพูดว่า

"ข้ารอพวกเจ้าทั้ง 2 มาตั้งนาน."

"เจ้าเป็ นใคร" ชูเฟิ งตะโกนถาม

"ข้าเชื่อว่าเจ้าเคยได้ยนิ ชื่อข้ามาบ้างแล้ว ข้าคือศิษย์สาํ นักมังกรฟ้า


จาง เทียนยี.่ " จาง เทียนยี่ พูด

"จาง เทียนยี่ ศิษย์พี่ จาง งั้นหรื อ" หลังจากที่ได้ยนิ ชูเฟิ งก็รู้สึกดีใจ


ไม่นอ้ ย เพราะเขาเป็ นศิษย์จากสํานักเดียวกันแสดงว่าเขาอยูฝ่ ่ ายเดียวกับ
ชูเฟิ ง
"ศิษย์พี่จาง เจ้าคิดว่าเจ้าควรเรี ยกข้าด้วยชื่อนั้นหรื อ " จาง เทียน
ขมวดคิ้วแน่น และเผยจิตสังหารออกมา

"ศิษย์พี่จาง ข้าไปทําอะไรให้ท่านโกรธเคืองเช่นนั้นหรื อ" ชูเฟิ ง


ถามด้วยความสับสนเพราะนี่เป็ นครั้งแรกที่เขาพบกับจาง เทียนยี่ ดังนั้น
เขาไม่น่าจะมีความบาดหมางอะไร

"ฮึ่ม เจ้าไปยัว่ สํานัก หลิง หยุน และทําให้ สํานักมังกรฟ้าของข้า


ต้องพินาศ ประวัติของสํานักกว่าพันปี ต้องถูกทําลายเพราะเจ้า เจ้ายังมี
หน้าพูดว่าเจ้าเป็ นศิษย์สาํ นักมังกรฟ้าอีกหรื อ เจ้ารู ้สึกละอายบ้างหรื อไม่
ที่เรี ยกข้าว่าศิษย์พี่ "

"ข้า จาง เทียนยี่ จะกําจัดขยะให้กบั สํานักมังกรฟ้า และจะ ลบ


ศิษย์ที่ลม้ เหลวเช่นเจ้า "
ในขณะที่พดู ในตาเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร มือซ้ายของเขาสะบัดและ
เกิดคันธนูในมือเขา เขาใช้มืออีกข้างทําท่าดึงธนูและเกิดลูกศพในมือเขา
และเขายิงมันออกมา และเล็งไปที่ชูเฟิ ง ทักษะ ที่จาง เทียนยีใ่ ช้เป็ น
ทักษะจากสํานักมังกรฟ้า ธนูร้อยแปลง

ธนูร้อยแปลงนั้นไม่ได้เป็ นทักษะ ที่แข็งแกร่ งอะไร แต่เมื่อ จาง เทียนยี่


ใช้มนั อํานาจการทําลายของมันก็เยอะมาก

ลูกศรบินอยูบ่ น อากาศรอบตัวพวกเขา และเกิดเส้นสี ดาํ บนอากาศที่พวก


มันบินผ่าน ทําให้พลังนั้นไม่สามารถดูถูกได้เลย

'ทําไมพลังของเขาถึงแข็งแกร่ งแบบนี้'

ในตอนนั้นตาชูเฟิ ง นั้นเกิดประกายขึ้นและขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพบว่า


พลังของ จาง เทียนยี่ นั้นน่ากลัวมาก แม้วา่ จะเป็ นทักษะอย่าง ธนูร้อย
แปลงแต่เมื่อเขาใช้ มันกลับน่ากลัวมาก

ถ้ามีคนบอกว่า ผูเ้ ฒ่าร้อยหน้าที่อยูใ่ นระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์น้ นั


นับเป็ นผูแ้ ข็งแกร่ งแล้ว แต่ จาง เทียนยีใ่ นตอนนี้ที่พลังระดับเดียวกัน แต่
ว่าเขานั้นเหนือกว่า ผูเ้ ฒ่าร้อยหน้าเสี ยอีก

"กําจัดขยะหรื อ เจ้าดูมนั่ ใั จเสี ยจริ งนะ จากประสบการณ์ของข้า


แสดงว่าเจ้ามีดีบางอย่างถึงกล้าพูดออกมา "

ในตอนนั้น จื่อ หลิงได้เคลื่อนไหว อํานาจวิญญาณสี ฟ้าของเธอ ไหล


ออกมาเหมือนนํ้า และ บางส่ วนถูกควบแน่นเป็ นกําแพงบนอากาศ

กําแพงวิญญาณโปร่ งใส่ มีสีฟ้าเล็กน้อย เมื่อถูกแสงแดด ก็เกิดประกายเงา


ดัง่ ผลึก ทําให้มนั สวยงามมาก และที่สาํ คัญที่สุดคือมันแข็งแกร่ งมาก
เช่นกัน

* ปัง ปัง ปัง *

แต่ลูกศรของ จาง เทียนยี่ นั้นบินมาอย่างรวดเร็ ว พุง่ ใส่ กาํ แพงวิญญาณ


ของจื่อ หลิง อย่างต่อเนื่อทําให้กาํ แพงนั้นถูกทําลายลง

"เป็ นไปได้อย่างไร เขาสามารถทําลายอํานาจวิญญาณของเราได้


ยังไง "

ไม่ตอ้ งพูดถึงชูเฟิ ง แม้แต่จื่อ หลิง ในตอนนี้ ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไป


ด้วยความตกใจเช่นกัน
จื่อ หลิง นางคือคนที่มีกายศักดิ์สิทธิ์ และโดยเฉพาะเมื่อนางได้กา้ วเข้าสู๋
อาณาจักรสวรรค์ มันคนละเรื่ องกับนางตอนอยูใ่ นระดับ 9 แก่นแท้
วิญญาณ

ตามการคํานวณของเธอ เธอนั้นสามารถเอาชนะ ผูท้ ี่ อยูร่ ะดับ 4 อาณา


จักสวรรค์ได้ ถ้าเธอเอาจริ งก็สามารถเอาชนะ ผูท้ ี่อยูร่ ะดับ 5 ได้ แม้แต่
ระดับ 6 ก้ไม่ใช่ผทู ้ ี่จะโค่นเธอลงได้ง่ายๆ นัน่ คือความแข็งแกร่ งของ
เธอในตอนนี้ พลังการต่อสู ข้ องเธอนั้นไม่ได้นอ้ ยกว่าชูเฟิ งเลย

แต่สิ่งที่เกิดขึ่นในสายตาเขา จาง เทียนยี่ ที่อยูใ่ นระดับ 3 อาณาจักร


สวรรค์ กลับทําลายเกราะของจื่อ หลิง ได้นี่หมายความว่า ความสามารถ
ของ จาง เทียนยีก่ น็ ่ากลัวเช่นกัน มันรุ นแรงกว่า ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ 4
อาจจะเทียบเท่ากับระดับ 5 ด้วยซํ้าไป

"เจ้าน่าจะทําได้มากกว่านี้นะ." จาง เทียนยีพ่ ดู ขึ้นมา ทําให้ จื่อ


หลิงไม่มีทางเลือก เธอพลิกฝ่ ามือของเธอ และเรี ยกราชรถที่งดงาม
ออกมา จากนั้นก็โยนขึ้นไปบนอากาศ ทําให้มนั ขยายตัวขึ้นด้านหน้า
ของ ทั้ง 2

อาจพูดได้วา่ การโจมตี ของจาง เทียนยีน่ ้ นั แข็งแกร่ งมาก ถึงแม้จะมีราช


รถที่งดงามมาขวางเอาไว้ แต่มนั ก็ทาํ ให้เกิดเสี ยงดังเหมือนตีเหล็กและทํา
ให้ ราชรถนั้น ถอยกลับมาได้

"ไป ~~~~~~"

จื่อ หลิง ตะโกนออกมา และจู่ๆ ราชรถ ก็พงุ่ เข้าหา จาง เทียนยี่

"โอ้ว ช่างเป็ นพาหนะที่ดูดียง่ิ นัก ข้ากําลังขาดพาหนะอยูพ่ อดีเลย


งั้นข้าจะเอามันไปล่ะรวมไว้กบั ยอดยุทธภัณฑ์ของข้า ช่างเอาออกมาได้
ถูกเวลายิง่ นัก "
เมื่อเขาเห็นราชรถ เขาก็หวั เราะขึ้นมา จากนั้นก็สะบัดมือ จากนั้นมือของ
เขาก็กลายเป็ นกรงเล็บอินทรี และขยายใหญ่ข้ ึน พลังระดับอาณาจักร
สวรรค์ไหลออกมาไม่มีสิ้นสุ ดและไปรวมอยูท่ ี่มือของเขา และรับ ราช
รถที่งดงามนัน่ เอาไว้

ในตอนนั้น จื่อ หลิง ก็บ่นในใจเล็กน้อย เพราะเธอพบเรื่ องที่น่าตกใจว่า


พลังของจาง เทียนยี่ มันเยอะกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก

ในตอนนั้น จาง เทียนยี่ กําลังสู ก้ บั ราชรถที่งดงาม และต้องการที่จะ


ควบคุมมันให้เป็ นของตนเอง

"อสู รวิญญาณ ไป ~~~~" ในตอนนั้น จื่อ หลิง เรี ยกอสู ร


วิญญาณของเธอออกมา พิภพนางฟ้าวิญญาณปรากฏตัวขึ้นจากประตู
โลกวิญญาณที่จื่อ หลิงสร้างไว้
หลังจากการดูดซับของ พลังงานที่ผา่ นมา ในตอนนี้อสู รวิญญาณของ
เธอนั้นมีพลังเพิ่มขึ้นมาและมีพลังอยูท่ ี่ ระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์

นอกจากนี้ พลังของอสู รวิญญาณนั้นพิเศษกว่าปกติมาก มันแข็งแกร่ ง


กว่าผูบ้ ่มเพาะปกติ พลังของมันนั้นเทียบได้กบั คนที่มี ระดับ 4
อาณาจักรสวรรค์เลยทีเดียว มันบินออกมาพร้อมถือ ดาบยาวสี ทอง และ
โจมตีเพื่อฆ่า จาง เทียนยี่

"นี่คืออสูรวิญญาณงั้นหรื อ เป็ นสิ่ งที่น่าสนใจจริ งๆ นี่เป็ น


โอกาสที่ดี ที่ขา้ จะได้สมั ผัสกับสิ่ งมีชีวติ นตํานาน ที่เรี ยกว่า อสู รวิญญาณ
"

ทางอสู รวิญญาณที่กาํ ลังโจมตี จาง เทียนยี่ แต่ จาง เทียนยี่ ก็ไม่กลัว


แม้แต่นอ้ ย มือของเขา ยังคงเรี ยกพลังระดับอาณาจักรสวรรค์ และ
พยายามควบคุมราชรถที่งดงาม ที่อยูก่ ลางอากาศ ส่ วนมืออีกข้างกําแน่น
และใช้ธนูร้อยแปลงรวมตัวกัน ไปรับการโจมตีจากดาบยาวสี ทองนัน่

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////

A : บักจาง จะกวนตีนก็ให้มนั มีขอบเขตหน่อยยยย

B : ไปว่าพี่จางกวนตีน ได้ไง๊เขาออกจากเก่งกาจปานฉะนั้น

A : เก่งก็จริ ง เด๋ วถ้า ชูเฟิ ง เอาต้านต้าน ออกมาบูล้ ่ะ สนุกเลยนะ

B : ก็จริ ง!!! ฝ่ ายไหนบาดเจ็บรังแต่มีผลเสี ย ศัตรู ไม่ใช่พวกเดียวกัน แต่


ควรจะเป็ น หุบเขาเทพกระบี่มากกว่า

A : ใช่!!! มันขู่วา่ จะนํากระดูกบรรพชนตระกูลชูและบรรพชนอาวุโส


สํานักมังกรฟ้า ไปโยนลงบ่อขี้ดว้ ยล่ะ

B : นั้นสิ นะ ยิง่ เป็ นคนจีนก็ยง่ิ ให้ความสําคัญกับบรรพชนซะด้วย นั้น


ถือเป็ นการเหยียดหยามอย่างมากเลยล่ะ แล้วหากลูกหลานปล่อยให้
บรรพชนเจอเรื่ องแบบนั้นโดยไม่ทาํ อะไร นั้นเท่ากับเป็ นการอกตัญ�ูต่อ
บรรพชนที่ตาย
บทที่ 444 - กายศักดิ์สิทธิ์ ???

* วูบ วูบ *

อสู รวิญญาณนั้นแข็งแกร่ งมาก มันมีออร่ าหมุนวนอยูร่ อบๆและดูคล้าย


นักดาบศักดิ์สิทธิ์ เพราะแสงจากดาบสี ทอง นั้นสามารถโจมตีได้อีกทั้ง
ยังดูงดงาม

แต่มนั ก็ไม่มีประโยชน์ จาง เทียนยี่ นั้นมีทกั ษะดาบที่พิเศษมาก ดาบสี


ทองที่เกิดจากการควบคุมวิชาธนูร้อยแปลงที่อยูใ่ นมือเขา และเขาใช้
เพียงมือเดียวนในการรับการโจมตีของ อสู รวิญญาณ

เขาสามารถโต้กลับได้อย่างรวดเร็ ว จากนั้นเขาหมุนดาบของเขาและมัน
ทําให้เขาเปลี่ยนจากการตั้งรับเป็ นสวนกลับ วิชาดาบของเขานั้นเป็ น
เอกลักษณ์และดุดนั มาก มันสามารถโจมตีอสู รวิญญาณและทําให้มนั
รู ้สึกถึงอันตรายได้อย่างรวดเร็ ว

"ต้านต้าน ขอยืมพลังเจ้าหน่อย"

ชูเฟิ งยืมพลังต้านต้านทันที พลังของชูเฟิ งจึงกลายเป็ นระดับ 9 แก่นแท้


วิญญาณ

หลังจากได้รับพลังของต้านๆ ชูเฟิ งก็เรี ยกใช้ พลังจากสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ สี


ทอง มันทําให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นจนเกือบถึงระดับ อาณาจักรสวรรค์

หลังจากนั้นเขาก็เรี ยกใช้สายฟ้าศํกดิ์สิทธิ์สีฟ้า เมื่อสายฟ้าสี ฟ้าปรากฏขึ้น


มันก็รวมกับสายฟ้าสี ทอง และในตอนนั้นมันทําให้ชูเฟิ งได้ทะลวงเข้า
ไปสู่ อาณาจักสวรรค์ได้
โดยปกติแล้วพลังระดับ 9 แก่นแท้วญ ิ ญาณ ของต้านต้าน นั้นมันควรจะ
ทําให้เขาทะลวงไปที่ ระดับ 2 อาณาจักสวรรค์ แต่ดว้ ยเหตุบางอย่าง
นั้นมันทําให้เขาได้กา้ วไปแค่ ระดับ 1อาณาจักรสวรรค์เท่านั้น

ทางชูเฟิ ง และ ต้านต้านนั้น ได้ใช้พลังทั้งหมดที่สะสมมานาน พวกเขา


คิดว่าเป็ นเพราะอาณาจักรสวรรค์น้ นั ยิง่ ใหญ่มาก และ เพาะมันไม่ใช่กา
ระบ่มเพาะด้วยตนเอง เลยทําให้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ โดนบัน่ ทอน
ความสามารถไป

หากชูเฟิ ง นั้นอยู๋ในระดับ 9 แก่นแท้วญิ ญาณ อาจทําให้เขาสามารถ


ก้าวเข้าสู่ ระดับ 2 อาณาจักรสวรรค์เมื่อใช้งานสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ก็
เป็ นได้

แต่นน่ั ก็แค่เรื่ องคาดเดา แม้วา่ ชูเฟิ ง จะอยูใ่ นระดับ 1 อาณาจักรสวรรค์


แต่ความสามารถของเขาก็เหนือกว่าแต่ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อรวม
กับ พลังของขวานอสู รฟ้าแล้ว มันทําให้เขามีพลังใกล้เคียงกับ ระดับ 4
อาณาจักรสวรรค์เลยทีเดียว

หลังจากชูเฟิ ง ใช้ระเบิดพลังของเขาออกมา เขาก็เรี ยกขวานอสู รฟ้า


พร้อมกับทักษะมังกรทะยานผ่านเก้าสวรรค์ และ โจมตีไปยัง จาง เทียน
ยี่

จู่ ๆ เขาก็สะบัดขวานและก่อให้เกิดคมขวานสี ดาํ ขึ้นมาใส่ จาง เทียนยี่


แต่มือข้างหนึ่งของ จาง เทียนยีน่ ้ นั กําลังจับ ราชรถที่งดงามอยู่ เขาจึงใช้
มืออีกข้างที่ถือดาบทองเพือ่ หยุด คมขวานสี ดาํ ของชูเฟิ ง

*** ปัง *** อย่างไรก็ตาม จาง เทียนยี่ ประเมินพลังของชูเฟิ ง ตํ่าไป


ในทันทีที่คมขวานนั้นกระทบกับดาบทองที่อยูใ่ นมือของจาง เทียนยี่ ก็
พังทลายในทันที มันไม่สามารถหยุดพลังของคมขวานของชูเฟิ งได้และ
เนื่องจากพลังไม่มากพอมันจึงหายไป
แต่ จาง เทียนที่ ก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เขากระโดด ไปด้านข้างและหลบ
คมขวานของชูเฟิ งได้ทนั เฉียดฉิ ว

"ฮ่า ๆ ยอดยุทธภัณฑ์ ของเจ้านั้นร้ายกาจยิง่ แต่ขา้ ก็มีเช่นกัน “


หลังจากที่หลบการโจมตี จาง เทียนยี่ ก็หวั เราะและรี บพุง่ ไปทางชูเฟิ ง

เมื่อจาง เทียนยี่ พุง่ เข้ามาหาชูเฟิ ง ก็มีดาบไม้ปรากฏขึ้นในมือเขาพลัง


ของดาบไม้นน่ั แข็งแกร่ งมาก แม้วา่ มันจะด้อยกว่าขวานอสู รฟ้า แต่มนั ก็
เป็ นยอดยุทธภัณฑ์เช่นกัน มันคือดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์

จาง เทียนยี่ ใช้เพียงแค่ดาบทองคําเขาก็สามารถปราบอสู รวิญญญาณลง


ได้ แต่ในตอนนี้เขากําลังถือยอดยุทธภัณฑ์จึงทําให้พลังของเขาเพิ่มมาก
ยิง่ ขึ้น
"ศิษย์พี่ จาง ข้าและท่านมาจากสํานักเดียวกัน ตอนนี้เราควรรวม
พลังกันแล้วจัดกับศัตรู แต่เหตุใดท่านจึงหันดาบโจมตีขา้ เช่นนี้ " ใน
ความเป็ นจริ งแล้วชูเฟิ งนั้นยังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ เพราะเขาไม่อยากให้
จาง เทียนยีต่ าย

"ชูเฟิ ง เสื อสองตัวไม่ควรอยูใ่ นถํ้าเดียวกัน เจ้าเข้าใจหรื อไม่"

"ตอนนี้ในทวีปเก้าอาณาจักรนั้น มีเจ้า กับ ข้าที่ถูกคนกล่าวขาน


มากที่สุด "

"แต่ขา้ จะบอกอะไรให้ ว่าอัจฉริ ยะที่แข็งแกร่ งที่สุดในทวีปเก้า


อาณาจักรคือ ข้า จาง เทียนยีผ่ นู ้ ้ ี "

"และวิธีเดียวที่จะทําให้พวกเขารู ้วา่ ข้าแข็งแกร่ งกว่าเจ้าคือการ


ฆ่าเจ้าซะ" จาง เทียนยี่ พูด

หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดนั้นชูเฟิ งก็พดู อย่างเย็นชาว่า "ถ้าเป็ นเช่นนั้นศิษย์พี่


จาง ก็อย่าได้ตาํ หนิขา้ ได้หากข้าล่วงเกินท่าน "

หลังจากพูดจบก็เกิดเกราะสี เขียวขึ้นรอบๆเขาและหมอกสี ขาวรอบตัว


เขา และมันกระจายไปล้อมจาง เทียนยีท่ นั ที

"นี่คืออะไร ภาพลวงตางั้นหรื อ"

จาง เทียนยีแ่ ม้วา่ จะไม่ได้เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ แต่ประสาทสัมผัส


ของเขานั้นคมมาก
เขารู ้ทนั ทีหลักจากที่เห็นว่านี่คือภาพลวงตาและไม่ได้ถูกหลอกโดยมัน
ดาบไม้ศกํ ดิ์สิทธิ์ในมือเขาปล่อยแสงออกมาทุกทางและระเบิดออกมาใส่
ชูเฟิ ง

"บ้าเอ้ย! เขาสามารถทําลายภาพลวงตาของข้าได้หรื อนี่ "

ตอนนั้นชูเฟิ งขมวดคิ้วแน่น การโจมตีของจาง เทียนยีน่ ้ นั รุ นแรงมาก เขา


ไม่สามารถที่จะรับไว้ได้เขาทําได้เพียงใช้ทกั ษะมังกรยานผ่านเก้าสวรรค์
เพื่อ หลบออกมา

"จะหลบหนีง้ นั หรื อ ขวานอสู รฟ้านัน่ ต้องเป็ นของข้า !!! "

ต่อจากนั้นก็มีเปลวไฟสี ฟ้าปรากฏขึ้นใต้เท้า จาง เทียนยี่ และนัน่ ทําให้


ความเร็ วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากเขาบินไม่นานก็ตามชูเฟิ งได้ทนั และ
แม้กระทัง่ มังกรทะยานผ่านเก้าสวรรค์กไ็ ม่สามารถหนีพน้
เขาได้เห็นการจู่โจมของจาง เทียนยีม่ ามากมายเขาจึงไม่สามารถทําไรได้
ทําได้แต่ตกใจและรู ้สึกถึงภัยคุกคามถึงชีวติ

ไม่เพียงแต่พลังของจาง เทียนยีท่ ี่แข็งแกร่ งแม้แต่การโจมตีน้ นั ก็ไม่ได้


อ่อนแอไปกว่าเขา เขาบอกได้วา่ จาง เทียนยีน่ ้ นั เป็ นคนรุ่ นเยาว์ที่
แข็งแกร่ งที่สุดที่เขาเคยพบมา

"ชูเฟิ งหลบ!!! "

ในช่วงเวลาที่ชูเฟิ งอยู๋ระหว่างชีวติ และความตาย จื่อ หลิง ปรากฏขึ้น


ด้านหน้าของชูเฟิ ง ในตอนนี้มีออร่ าสี ม่วงปรากฏขึ้นรอบตัวเธอแม้วา่ ตัว
เธอนั้นจะอยุใ่ นระดับ 1 อาณาจักรสวรรค์แต่พลังของมันสู งกว่าก่อน
หน้านี้
ออร่ าสี ม่วงที่ถูกปล่อยออกมาจากตัวเธอนั้น แน่นอนว่ามันเป็ นพลังที่
ได้มาจากายศักดิ์สิทธิ์ พลังนัน่ ได้สร้างแรงกดดันใส่ ชาง เทียนยี่

"แน่นอนว่าเจ้านั้นมีพลังที่แข็งแกร่ งมาก แต่วา่ ก็ไม่สามารถต้าน


ข้าไว้ได้ "

หันไปทาง จาง เทียนยี่ เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เขาหัวเราะขึ้นมาและเกิด


ออร่ าสี ฟ้ารอบๆตัวเขา ออร่ าสี ฟ้านั้นล้อมรอบเขาและมันเหมือนกับเป็ น
เกราะป้องกันเขา

ออร่ าสี ฟ้านั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ วและกลายเป็ นเปลวไฟสี ฟ้า

พวกมันเป็ นเปลวฟ้าสี ฟ้าที่เหมือนจะเผาผลาญทุกสิ่ งได้ และพวกมันก็


ไหลพล่านไปทัว่ ร่ างของ จาง เทียนยี่

เปลวไฟสี ฟ้านี้มนั จะไม่ทาํ ร้ายเขาเพราะมันคือไฟที่เกิดมาจากเขา ที่


สําคัญที่สุดคือเพราะเปลวไฟนี้มนั ให้พลังของ จาง เทียนยีเ่ พิ่มขึ้นอีกครั้ง
พลังนี้น้ นั ถูกปล่อยออกมาและตรงเข้าไปกดดันจื่อ หลิง

"พลังนี้ช่างน่ากลัวยิง่ นัก นี่อย่าบอกนะว่าเขาก็มีกายศักดิ์สิทธิ์ "


ในตอนนั้น ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิงต้องประหลาดใจมาก เพราะพลังของ
เปลวไฟสี ฟ้านี้ มันมีออร่ ารุ นแรงคล้ายๆกันกับออาร่ าสี ม่วงของ จื่อ
หลิง

จาง เทียนยี่ และจื่อ หลิง มีพลังคล้ายๆกัน ในทํานองเดียวกัน พวกเขาก็มี


พลังในการต่อสู เ้ หมือนกัน และพวกเขายังมีทกั ษะที่ใช้ต่อสู ม้ าก
เหมือนกัน และเขาก็มีพลังที่คล้ายกับกายศักดิ์สิทธิ์เหมือนเธอ

Readmga.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : อุวะ่ จาง เทียนยี่ มีกายศักดิ์สิทธิ์ดว้ ย!!

B : ศักดิ์สิทธิ์ป้ามืงดิ พี่จางฝึ กวิชาลับต้องห้ามต่างหาก แต่พลังมันก็


คล้ายๆกับกายศักดิ์สิทธิ์ อาวุโสราชวงศ์เจียงเลยสับสนไง นึกว่าจื่อหลิงมี
ทักษะลับต้องห้าม แต่ตรงกันข้ามกันเลย

A : อ่อเป็ นเช่นนี้เอง!!!

B : แล้วฝ่ ายไหนจะเป็ นฝ่ ายชนะนั้น เราต้องมารอติดตามดูกนั !!!


บทที่ 445 - ทักษะลับต้องห้าม

“ไม่ !! มันไม่ใช่กายศักดิ์สิทธิ์ !! มันคือทักษะลับต้องห้าม” ต้าน


ต้าน กล่าว
“ทักษะลับต้องห้าม !!” ชูเฟิ ง กล่าว

“มันเป็ นทักษะลับต้องห้ามแน่นอน และดูเหมือนว่าจะฝึ กฝนมา


นานแล้ว ถึงได้ใช้มนั ออกมาได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถดึง
ประสิ ทธิภาพของมันออกมาได้อย่างยอดเยีย่ ม เขาน่าจะฝึ กฝนมา
มากกว่า หยาน รู่ วหยู ถึงได้ทาํ ได้ขนาดนี้”

“ทักษะลับต้องห้าม มีความแตกต่างกันที่แก่นพลังงาน ที่แตกต่าง


จากกายศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก ดังนั้น ความแข็งแกร่ งของเขาในตอนนี้ จึง
เป็ นพลังจากทักษะลับต้องห้าม ไม่ใช่กายศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน” ต้าน
ต้าน กล่าวอธิบาย

“ดูเหมือนว่าข้าจะพูดถูก เจ้ามีทกั ษะลับต้องห้ามจริ งๆ แต่น่า


เสี ยดาย ที่การบ่มเพาะพลังของเจ้าอ่อนแอเกินไป หากเจ้ามีพลังระดับ
สาม ขั้นแดนสวรรค์เหมือนข้า ไม่ใช่เพียงแค่ระดับหนึ่ง ขั้นแดนสวรรค์
ข้าก็คงไม่อาจเอาชนะเจ้าได้” จาง เทียนยี่ กล่าวด้วยความมัน่ ใจ
“หึ …..มาดูกนั ว่าใครจะแข็งแกร่ งกว่า” จื่อ หลิง สู ดหายใจเข้า
อย่างรวดเร็ ว พลันออร่ าสี ม่วงก็แผ่ออกมารอบตัวของนาง นางพุง่ เข้าใส่
จาง เทียนยี่ อย่างรวดเร็ ว

อ่อร่ าพลังสี ม่วงที่ห่อหุม้ ร่ างกายของนางอยูน่ ้ นั มีพลังที่แข็งแกร่ ง


อย่างมาก มันไม่ใช่พลังจากทักษะการต่อสู ้ แต่มนั คือพลังของกาย
ศักดิ์สิทธิ์

“หึ หึ…..เจ้าประเมินค่าตัวเองสู งเกินไป” จาง เทียนยี่ กล่าวพลาง


ยิม้ อย่างเย็นชา พริ บตาเดียวเท่านั้น ปลวไฟสี ฟ้าก็ลุกทัว่ ตัวของเขา
ในตอนนี้ร่างกายของเขาราวกําภูเขาไฟที่กาํ ลังปะทุ

***** โฮกกกก *****


สุ ดท้าย เปลวไฟสี ฟ้าได้แปรสภาพเป็ นร่ างของสัตว์ยกั ษ์พงุ่ ทะยาน
ออกไป และกลืนกิน จื่อ หลิง ไปพร้อมกับออร่ าสี ม่วงอย่างรวดเร็ ว

“อ๊าาาาา !!” ในขณะนั้น ใบหน้าของ จื่อ หลิง เปลี่ยนเป็ นสี ขาวซี ด


ราวกับว่านางได้รับบาดเจ็บหนัก และกําลังจะร่ วงลงมาจากท้องฟ้า ชู
เฟิ ง จ้องมองไปที่ จื่อ หลิง และพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือ

เมื่อเขาเห็น จื่อ หลิง ได้รับบาดเจ็บ ชูเฟิ ง รู ้สึกโกรธอย่างมาก


ขณะที่เขาคํารามไปที่ จาง เทียนยี่ ว่า “ข้าจะฆ่าท่าน” เส้นเลือดของเขา
ปูดโปนออกมาอย่างเด่นชัด

“ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง นี่เป็ นเพียงแค่เรื่ องขบขันเท่านั้น ไม่ใช่เรื่ องการ


ต่อสู จ้ ริ งๆ ที่หมายเอาชีวติ ใช่ไหม”
ตลอดชีวติ ของ ชูเฟิ ง นั้น เขาได้เข้าร่ วมการต่อสู แ้ ห่งความเป็ น
ความตายมานับครั้งไม่ถว้ น เขาจึงไม่อาจเข้าใจในคํากล่าวของ จาง
เทียนยี่ ที่กล่าวออกมาพร้อมกับยิม้ บางๆ ได้

ในขณะที่ จาง เทียนยี่ กล่าว สัตว์ยกั ษ์สีฟ้าก็เปิ ดปากของมันออก


และใบหน้าของ จื่อ หลิง ก็กลับมาเป็ นปกติอย่างรวดเร็ ว

หลังจากที่สตั ว์ยกั ษ์สีฟ้าคาย จื่อ หลิง ออกมาแล้วนั้น มันก็ได้


กระจายตัวออกไป และพุง่ กลับไปที่ร่างของ จาง เทียนยี่ ความจริ งนั้น
เขาหยุดการโจมตีเขา ก่อนที่จาํ ทําอันตรายใดๆ

หลังจากหยุดการโจมตีแล้วนั้น จาง เทียนยี่ ได้สะบัดดาบไม้


ศักดิ์สิทธิ์ของเขา และเก็บเข้าไปในฝักดาบที่ดา้ นหลังของเขา

เมื่อเห็น จาง เทียนยี่ ทําเช่นนั้น ชูเฟิ ง ขมวดคิ้วแน่นขณะที่จอ้ งมอง


ไปยัง จาง เทียนยี่ ด้วยแววตาครุ่ นคิด เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทําไม จาง
เทียนยี่ ถึงทําเช่นนั้น

เพราะว่า จาง เทียนยี่ มีการบ่มเพาะพลังอยูใ่ นระดับสาม ขั้นแดน


สวรรค์ หากตัวเขาเองมีพลังระดับเดียวกับ จาง เทียนยี่ เขาคงไม่กลัว จาง
เทียนยี่ แม้แต่นอ้ ย แต่ในขณะนี้ ด้วยการบ่มเพาะพลังของเขาในตอนนี้
ยังอ่อนแอเกินไป แม้วา่ เขาจะโกรธมากแค่ไหน แต่เขาก็ทาํ ได้เพียง
อดทนเท่านั้น

“ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง ที่ขา้ ทําไปทั้งหมด คือการทดสอบของเจ้า และแม่


นาง จื่อ หลิง และข้าต้องขอบอกว่า ข้าพอใจมาก”

“พวกเจ้าสองคนก็เป็ นดังเช่นที่ขา้ คาดหวังไว้ แม่นาง จื่อ หลิง เจ้ามี


ทักษะลับต้องห้ามที่ยอดเยีย่ ม ข้าคิดว่าเจ้าคงจะฝึ กฝนมันมานานกว่าข้า
และเจ้าก็ใกล้จะเข้าถึงแก่นแท้ของมันในอีกไม่ชา้ ”
“สําหรับเจ้า ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง เจ้าสามารถต่อสู ก้ บั ระดับหนึ่ง ขั้น
แดนสวรรค์ ด้วยระดับพลังเพียงแค่ระดับหก ขั้นแก่นวิญญาณ ข้าชื่นชม
ในความแข็งแกร่ งของเจ้ามาก”

“พวกเจ้าอายุยงั น้อยนัก ในอนาคตหากพวกเจ้าอายุเท่าข้า ข้าคิดว่า


พวกเจ้าจะสามารถก้าวข้ามความสามารถในปั จจุบนั ของข้าไปได้อย่าง
แน่นอน” จาง เทียนยี่ กล่าวขณะกุมมือของ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง

ในเวลานี้ ทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อ จาง เทียงยี่ ได้กลับตาลปั ดไป


แบบร้อยแปดสิ บองศา ชนิดที่เรี ยกได้วา่ สวรรค์กบั นรกก็ไม่ปาน

เพราะก่อนหน้านี้น้ นั จาง เทียนยี่ มีเจตนาฆ่าที่รุนแรงออกมาอย่าง


เด่นชัดต่อ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง แต่ในตอนนี้ ใบหน้าและแววตาของ จาง
เทียนยี่ เต็มเปี่ ยมไปด้วยความเมตตา และเอ็นดู ในขณะที่เขามองมาที่ ชู
เฟิ ง และ จื่อ หลิง ราวกับว่าเขากําลังมองดูญาติสนิทของเขา
“ถ้าเช่นนั้น ศิษย์พี่ จาง เทียนยี่ ที่ท่านมาดักรอ และทดสอบพวกเรา
เช่นนี้ ท่านมีธุระอะไรหรื อเปล่า” ชูเฟิ ง กล่าวถามด้วยความระมัดระวัง

ชูเฟิ ง ยังไม่อาจมัน่ ใจได้วา่ จาง เทียนยี่ เป็ นมิตรหรื อศัตรู เขาจึง


ต้องสังเกตุจากการคําพูด และการกระทํา เพื่อให้สามารถคาดเดาได้

“เหตุผลที่ขา้ มาดักรอพวกเจ้า เพราะว่าข้าต้องการร่ วมมือกับพวก


เจ้า” จาง เทียนยี่ กล่าวพลางยิม้ บาง และเขาก็ยงั กล่าวต่อว่า “มู่ หรงหยู
ได้ทา้ ทายข้าและบอกว่าหากเขาแพ้ เขาจะยกดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ให้แก่ขา้ ”

“ในตอนนั้นข้าไม่มีทางเลือก เขาได้พา่ ยแพ้ให้แก่ขา้ และพยายาม


หลบหนี ด้วยความโกรธของข้า ข้าจึงสังหารเขา และชิงดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์
มา”
“แต่ขา้ ไม่เคยคิดเลยว่า สํานักมังกรฟ้าจะได้รับผลกระทบ เหล่าผู ้
อาวุโสของสํานักที่ล่วงลับไปแล้ว ได้ถูด่าทออย่างรุ นแรง พวกท่านไม่
น่าจะ ต่องได้รับผลจากการกระทําของข้าเช่นนั้นเลย”

“ในตอนนี้ ถึงแม้วา่ สํานักมังกรฟ้าจะถูกทําลายไปแล้ว แต่ขา้ จาง


เทียนยี่ ยังคงเป็ นคนของอาณาจักรมังกรฟ้า และเป็ นศิษย์ของสํานัก
มังกรฟ้า ข้าเชื่อว่า ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง ก็คงคิดเช่นเดียวกับข้า”

“ข้าจึงอยากจะให้พวกเจ้าร่ วมมือกับข้า ในการบุกเข้าหุบเขากระบี่


เพื่อทวงคืนเกียรติยศของสํานักมังกรฟ้า และทําให้ผอู ้ ื่นได้รู้วา่ ยังคงมี
ศิษย์ของสํานักมังกรฟ้าอยูอ่ ีกสองคน และทําให้ชื่อเสี ยงของสํานักมังกร
ฟ้ากลับมาโด่งดังเช่นเดียวกับเมื่อพันปี ก่อน โดยการทําลายหุบเขา
กระบี่” จาง เทียนยี่ กล่าว

“ท่านแข็งแกร่ งมาก ข้าคิดว่าแม้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญระดับหก ขั้นแดน


สวรรค์กไ็ ม่อาจเอาชนะท่านได้ เหตุใดท่านจึงต้องการให้พวกเราร่ วมมือ
กับท่าน” เห็นได้ชดั ว่า จื่อ หลิง ยังไม่ไว้ใจ จาง เทียนยี่ สายตาของนาง
เต็มไปด้วสความโกรธ ในขณะที่จอ้ งไปที่ จาง เทียนยี่

“แม่นาง จื่อ หลิง ………. ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ …จะให้ถูกต้อง ข้า
ต้องเรี ยกเจ้าว่า น้องสะใภ้”

“น้องสะใภ้ ข้ารู ้วา่ เจ้าไม่พอใจในการกระทําของข้า แต่ในตอนนั้น


ข้าเพียงต้องการทดสอบเจ้าเท่านั้น มันเป็ นเพียงแค่เรื่ องล้อเล่นเท่านั้น
ดังนั้น โปรดยกโทษให้ขา้ ด้วย หากข้าทําให้เจ้าต้องน้อยใจ”

จาง เทียนยี่ มีไหวพริ บที่ดีมาก เขาสามารถรับรู ้ได้ทนั ทีวา่ จื่อ หลิง


ยังคงโกรธเขาอยู่ เขาจึงกล่าวขอโทษออกมาอย่างตรงไปตรงมา หลังจาก
นั้นจึงกล่าวกับ จื่อ หลิง และ ชูเฟิ ง ว่า
“ข้ารู ้จกั หุบเขากระบี่ดีกว่าพวกเจ้า ในตอนนี้ ที่หุบเขากระบี่มี
ผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์สิบห้าคน และผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแก่นวิญญาณอีก
นับไม่ถว้ น”

“แน่นอนว่า เมื่ออยูต่ ่อหน้าพวกเรา ผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแก่นแท้วญ


ิ ญาณ
ก็ไม่ต่างอะไรกับมดปลวก ถึงแม้พวกเขาจะมีจาํ นวนมาก แต่กไ็ ม่อาจ
สร้างแรงกดดันใดๆ ให้พวกเราได้”

“ส่ วนสําคัญคือผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์ ในนั้นมีสิบคนที่อยูใ่ น


ระดับหนึ่ง มีสองคนในระดับสอง และหนึ่งคนในระดับสาม”

“ที่เหลืออีกสองคน คือ พ่อของ มู่ หรงหยู ซึ่ งเป็ นผูน้ าํ คนปั จจุบนั
ของหุบเขากระบี่ อยูใ่ นระดับห้า ขั้นแดนสวรรค์”

“คนสุ ดท้ายคือ ผูน้ าํ รุ่ นก่อนของหุบเขากระบี่ มีพลังวิญญาณใน


ระดับหก ขั้นแดนสวรรค์ อาจกล่าวได้วา่ เขาแข็งแกร่ งที่สุดในหุบเขา
กระบี่” จาง เทียนยี่ กล่าว

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////
แปลโดยคุณ#Abhisit ReadMGA

A : เอาล่ะได้ยกพวกตี หุบเขาเทพกระบี่แล้ว!!!

B : สนุกล่ะสิ แต่ก่อนหน้านั้น พวกชูเฟิ งยังต้องไปพบกับ ผูก้ ่อตั้ง


สํานักมังกรฟ้าซะก่อน

A : หากไปพบแล้ว ได้ไม้เด็ดอะไรติดไม้ติดมือไปด้วยก็ดีนะ!!!

B : เรื่ องนั้นไม่รู้ รู ้แต่วา่ ตอนบุกหุบเขาเทพกระบี่ มันส์สุดๆไปเลย 3


คน ปะทะ คนหลักล้าน เห็นได้ชดั เลยว่าหุบเขาเทพกระบี่ไม่ใช่เล็กๆ สม
แล้วที่เขาเรี ยกตัวเองว่า มหาอํานาจ

A : ชักติ่นเต้นแล้วสิ !!!!
เรื่ องราวจะเป็ นยังไงโปรด
รอติดตาม. . . . . .

บทที่ 446 – พร้อมหน้าพร้อมตา

“บอกตามตรง หากข้าสู ก้ บั เขาหนึ่งต่อหนึ่ง ข้าไม่ได้หวาดกลัวเขา


เลยแม้แต่นอ้ ย แต่ขา้ มีความกังวลบางอย่าง เกี่ยวกับทักษะลับ ที่ผกู ้ ่อตั้ง
หุบเขากระบี่เป็ นผูค้ ิดค้น”

“มันเป็ นทักษะที่แข็งแกร่ งมาก หากผูใ้ ดภายใต้หุบเขากระบี่


สามารถฝึ กฝนมันได้ พวกเขาจะมีความแข็งแกร่ งเพิม่ มากขึ้นอย่าง
มหาศาล”

“ยังไงก็ตาม เรื่ องความแข็งแกร่ งของทักษะนี้ ถึงข้าจะไม่มนั่ ใจนัก


ว่า มันจะแข็งแกร่ งจริ งหรื อไม่ แต่ขา้ มัน่ ใจอย่างมากว่า มันจะต้องไม่
อ่อนแออย่างแน่นอน”
“บอกตามตรง ว่าข้าไม่มนั่ ใจเลย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทักษะของผู ้
ก่อตั้งหุบเขากระบี่ ข้าจึงต้องการร่ วมมือกับพวกเจ้าทั้งสองคน อีกทั้ง
ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง ยังได้รับประโยชน์จากเรื่ องนี้อีกด้วย”

“หื ม…..แล้วพวกเราจะเชื่อท่านได้เช่นไร ว่าท่านไม่ได้เข้า


ร่ วมกับหุบเขากระบี่” จื่อ หลิง กล่าวถาม เห็นได้ชดั ว่านางยังคงโกรธ
เขาอยู่

“โฮ่ๆ น้องสะใภ้ เจ้าก็เห็นถึงความแข็งแกร่ งของข้าแล้ว ด้วย


ความสามารถทางการต่อสู ้ และการบ่มเพาะพลังของเจ้าทั้งสองคนยัง
อ่อนแอเกินไปในตอนนี้ หากข้าต้องการจะจัดการกับพวกเจ้า ข้าก็ไม่
ต้องทําให้มนั ลําบากเช่นนั้นหรอก” จาง เทียนยี่ กล่าวพลางยิม้ บางๆ

“เข้ามาสิ !! ถ้าข้าเอาจริ ง ท่านก็ไม่อาจเอาชนะข้าได้ !!” ใบหน้า


ของ จื่อ หลิง ยังคงปรากฏร่ องรอยของความกราดเกรี้ ยวอยูเ่ ล็กน้อย

“ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง เจ้าควรดูแลน้องสะใภ้ให้ดีนะ” เมื่ออยูต่ ่อหน้า


ผูห้ ญิงที่ไร้เหตุผล จาง เทียนยี่ ก็ไม่รู้วา่ นะจัดการเช่นไร

“จื่อ หลิง……อย่าทําให้เรื่ องมันวุน่ วายอีกเลย ข้ามัน่ ใจว่าศิษย์พี่


ไม่ใช่คนไม่ดี” ชูเฟิ ง กล่าวพลางลูบไปที่หวั ไหล่ของนาง

“ศิษย์พี่จาง หากท่านไม่มาพบข้า ข้าก็ต้ งั ใจที่จะไปพบท่านอยูแ่ ล้ว


ข้าเองก็คิกเช่นเดียวกับท่าน ว่าพวกเราควรร่ วมมือกัน และทําให้หุบเขา
กระบี่รับรู ้วา่ ไม่ควรตอแยกับพวกเรา”

ตลอดเวลานั้น ชูเฟิ ง ได้ใช้อาํ นาจพลังวิญญาณของเขาจับพิรุท จาง


เทียนยี่ ตลอดเวลา มันจึงทําให้เขารู ้วา่ จาง เทียนยี่ นั้น ไม่ได้โกหกแม้แต่
น้อย
“ฮ่าๆ เป็ นอย่างที่ขา้ คิดจริ งๆ พี่นอ้ งสํานักมังกรฟ้า ย่อมคิดอะไร
เหมือนๆ กัน เมื่อเป็ นเช่นนี้ ข้าคิดว่าเราควรออกเดินทางกันตอนนี้เลย
เพราะดูจากเวลาแล้ว นี่กใ็ กล้ถึงขีดจํากัดของหุบเขากระบี่แล้ว”

“ข้าไม่ตอ้ งการให้ชื่อเสี ยงของสํานักมังกรฟ้า ต้องพังทลายเพราะ


ผลจากการกระทําของข้า” จาง เทียนยี่ กล่าวพลางเกาศรี ษะ ใบหน้าของ
เขาเต็มไปด้วยความเขิลอาย แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความ
มุ่งมัน่

“ศิษย์พี่จาง ราชรถที่งดงามของ จื่อ หลิง สามารถเดินทางได้


รวดเร็ วมาก ข้าคาดว่าเราย่อมไปทันกําหนดเวลาของหุบเขากระบี่”

“แต่ก่อนที่เราจะไปยังหุบเขากระบี่ ข้าจะพาท่านไปพบใครบางคน
ก่อน ข้าคิดว่าท่านคงจะดีใจไม่นอ้ ย”
หลังจากยืนยันแล้วว่า จาง เทียนยี่ ไม่ได้มีเจตนาร้าย ชูเฟิ ง จึงคิดที่
จะพา จาง เทียนยีไ่ ปยังสุ สานพันกระดูก เพื่อพบกับผูก้ ่อตั้งสํานักมังกร
ฟ้า หาก จาง เทียนยี่ มีเจตนาร้าย ชูเฟิ ง ก็ไม่หวาดกลัวแม้แต่นอ้ ย แต่
ยังไงเสี ย เขาก็คิดว่า จาง เทียนยี่ ไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด

“ผูใ้ ดรึ !?” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ใบหน้าของ จาง เทียนยี่ ก็เต็มไป


ด้วยความอยากรู ้อยากเห็นทันที

ชูเฟิ ง จึงเริ่ มเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กบั จาง เทียนยี่ ฟัง เช่น


เรื่ องที่สาํ นักถูกกวาดล้าง แต่กาํ ลังหลักของสํานักยังคงมีชีวติ อยู่ และ
ตอนนี้พวกเขาก็อยูภ่ ายในสุ สานพันกระดูก และสถานที่แห่งนั้น ยังมี
แหล่งพลังงานที่สามารถเพิ่มการบ่มเพาะพลังขึ้นได้

อีกทั้งยังบอกถึงเรื่ องที่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้ายังมีชีวติ อยูใ่ นรู ปของ


จิตวิญญาณ และกล่าวถึงเรื่ อง ซูรู่ และ ซูเหม่ย

เพราะผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า เป็ นบุคคลที่ทุกๆ คนต่างรู ้จกั และหา


กว่าพวกเขารู ้วา่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้ายังมีชีวติ อยู่ นัน่ จะทําให้ทุกคนตก
ตะลึงสักเพียงใด

ส่ วน ซูรู่ นั้น คือคนที่ก่อตั้งพันธมิตรปี กมังกรพร้อมกับเขา ดังนั้น


จาง เทียนยี่ จึงคุน้ เคยกับนาง

“ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง ที่เจ้าบอกว่าท่านผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้ายังมีชีวติ อยู่


เป็ นเรื่ องจริ งรึ ” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ใบหน้าของ จาง เทียนยี่ ก็เต็มไปด้วย
ความตื่นเต้นอย่างที่สุด

“เป็ นเรื่ องจริ ง ศิษย์พี่จาง หากท่านยินดี ท่านสามารถไปพร้อมกับ


พวกเรา เพื่อคาราวะท่านผูก้ ่อตั้งได้” ชูเฟิ ง กล่าวด้วยใบหน้าจริ งจัง
“ได้ซิ ข้าอยากพบท่านผูก้ ่อตั้ง ในตอนแรกเหตุผลที่ขา้ เข้าสํานัก
มังกรฟ้า เพราะว่าข้าชื่นชมในตัวของท่านผูก้ ่อตั้งสํานัก”

“รี บนําทางเลย ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง !!” จาง เทียนยี่ กล่าวด้วยความเร่ ง


รี บ เพราะเขาอยากพบบุคคลที่สามารถทําให้ท้ งั เก้าอาณาจักร
สัน่ สะเทือนได้

หลังจากนั้น ชูเฟิ ง ก็พา จาง เทียนยี่ กลับมาที่อาณาจักรมังกรฟ้า


อย่างรวดเร็ ว ในขณะนี้สาํ นักมังกรฟ้าถูกทําลายอย่างย่อยยับ ป่ าไม้
โดยรอบโดนเผาทําลายจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมแห่งความอุดมสมบูรณ์

ด้วยความทรงจํา ชูเฟิ ง นั้น เขาสามารถค้นหาทางเข้าสุ สานพัน


กระดูกได้อย่างรวดเร็ ว และหลังจากที่พวกเขาสามคนเข้าไปยังสุ สาน
นั้น ผูค้ นในสุ สานต่างตกตะลึงอย่างมาก

“ชูเฟิ ง , เทียนยี่ พวกเจ้าสองคนได้พบกันแล้วรึ !!” เมื่อเห็น


เช่นนั้น หลี่ จางฉิง และ จูเก่อ หลิวหยุน ก็กล่าวออกมาพร้อมกันด้วย
ความตื่นเต้น

เพราะ จาง เทียนยี่ และ ชูเฟิ ง คือลูกศิษย์ที่แข็งแกร่ งที่สุดของพวก


เขาอย่างแท้จริ ง

ในตอนนั้น ก่อนที่ จาง เทียนยี่ จะจากไป เขามีพลังเพียงขั้นแก่น


วิญญาณ แต่ในตอนนี้ เขากลับมีพลังถึงระดับสาม ขั้นแดนสวรรค์ การ
ปรากฏตัวของเขาในอาณาจักรมังกรฟ้าตอนนี้ เปรี ยบได้กบั การปรากฏ
ตัวของพระเจ้า

สําหรับ ชูเฟิ ง นั้น ก่อนที่เขาจะจากไป เขามีพลังเพียงขั้นกําเนิด


วิญญาณ แต่ในตอนนี้เขามีพลังถึงระดับหก ขั้นแก่นวิญญาณ อาจกล่าว
ได้วา่ การบ่มเพาะพลังของเขารวดเร็ วที่สุดก็วา่ ได้

หลังจากเห็น ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี่ นั้น พวกเขาทุกคนต่างมี


ความสุ ขอย่างมาก เพราะพวกเขาทั้งสองคนคือตํานานของอาณาจักร
มังกรฟ้า และเป็ นแบบอย่างสําหรับเหล่าลูกศิษย์ของสํานักมังกรฟ้า อีก
ทั้งยังเป็ นที่ชื่นชมของเหล่าผูอ้ าวุโสอีกด้วย

“แม่นางผูน้ ้ ีคือใครกัน !?” ในขณะนั้น ด้วยความงดงามของ จื่อ


หลิง นั้น จึงเป็ นที่ดึงดูดสายตาของทุกๆ คนอย่างรวดเร็ ว

“นางคือคู่หมั้นของข้า” ชูเฟิ ง แนะนํา จื่อ หลิง ให้กบั สมาชิกของ


สํานักมังการฟ้า และสมาชิกตระกูลชู ของเขา

ในขณะที่ ชูเฟิ ง แนะนําตัว จื่อ หลิง นั้น นางก็ยมิ้ ออกมาด้วยความ


อ่อนหวาน

“ฮ่าๆ ดีมากเจ้าหนู เจ้าได้พบกับภรรยาที่ดี” หลี่ จางฉิ ง , จูเก่อ


หลิวหยุน และทุกๆ คนต่างกล่าวต้อนรับออกมาด้วยความร่ าเริ ง

ไม่ใช่เพียงเพราะความงดงามของนาง ที่งดงามมาก แต่ในด้าน


ความแข็งแกร่ ง นางก็มีพลังอยูใ่ นระดับหนึ่ง ขั้นแดนสวรรค์ นี่จึงทําให้
นางเป็ นอัจฉริ ยะที่เพียบพร้อม

ในขณะเดียวกันนั้น เหล่าผูห้ ญิงที่หมายปองในตัวของ ชูเฟิ ง ก็ไม่


อาจมีความสุ ขได้ และเช่นเดียวกับเหล่าชายหนุ่มหลายคน ที่พวกเขาต่าง
อิจฉา ชูเฟิ ง ไปตามๆ กัน

เพราะด้วยความงามปานเทพธิดาของ จื่อ หลิง นั้น แม่แต่โอกาสที่


พวกเขาจะได้พบเจอ พวกเขาก็ยงั ไม่มีโอกาส พวกเขาทําได้เพียงชื่นชม
ชูเฟิ ง และแอบเพ้อฝันถึง จื่อ หลิง

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////
แปลโดยคุณ#Abhisit ReadMGA

บทที่ 447 – เผชิญหน้าหุบเขากระบี่

“ท่านบรรพบุรุษล่ะ !?” หลังจากที่พดู คุยกับทุกๆ คนนั้น ชูเฟิ ง


สังเกตเห็นว่า ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ไม่ได้อยูท่ ี่นี่ เขาจึงถามขึ้น

“อ่อ…..ท่านเพิง่ ปรับปรุ งรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณเมื่อเร็ วๆ นี้


และในตอนนี้ ท่านได้คอยเฝ้าดูอาการของ ซูรู่ และ ซูเหม่ย อยู”่ จูเก่อ
หลิวหยุน กล่าวด้วยใบหน้าที่จริ งจัง

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง จึงรี บพา จื่อ หลิง เข้าไปด้านใน โดยที่ทุกๆ


คนก็ติดตามเขาเข้าไปเช่นกัน

หลังจากเข้ามาถึงด้านในนั้น ชูเฟิ ง พบว่า ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า


กําลังปรับปรุ งรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณอยูด่ ว้ ยความยากลําบาก
ถึงแม้วา่ ในอดีตที่เขามีชีวติ อยูจ่ ะแข็งแกร่ งขนาดไหนก็ตาม แต่ในตอนนี้
ที่เขาเป็ นเพียงจิตวิญญาณ เขาก็ไม่อาจใช้พลังของเขาได้อย่างเต็มที่

“ท่านผูอ้ าวุโส ให้ขา้ ช่วยนะ” เมื่อเห็นเช่นนั้น จื่อ หลิง รี บเสนอตัว


ออกไป และใช้อาํ นาจพลังวิญญาณสี ฟ้าของนาง เสริ มเข้าไปในรู ปแบบ
อํานาจพลังวิญญาณของผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า

“หื มมมม ??” ทันที่เห็น จื่อ หลิง นั้น แววตาของผูก้ ่อตั้งสํานัก


มังกรฟ้าก็เปลี่ยนเป็ นตกตะลึงอย่างรวดเร็ ว

นัน่ เพราะว่า่ จื่อ หลิง ยังเด็กมาก แต่ดว้ ยอายุเพียงแค่น้ ี นางกลับ


เป็ นถึงผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ฟ้า ซึ่ งเหตุการณ์เช่นนี้ไม่
เคยเกิดขึ้นในยุคของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า

ดังนั้น นี่จึงทําให้ผกู ้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า รู ้สึกประหลาดใจอย่างมาก


เพราะเขาได้พบกับอัจฉริ ยะในรุ่ นนี้ ที่จะสามารถก้าวข้ามความสามารถ
ของเขาไปได้

“ท่านบรรพบุรุษ นี่คือ จื่อ หลิง นางคือคู่หมั้นของข้า” ในขณะนั้น


ชูเฟิ ง ก็เดินเข้ามา พร้อมกับหยิบเอาหิ นวิญญาณออกมาจากถุงจักรวาล
หิ นนี้สามารถเสริ มสร้างรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณให้แข็งแกร่ งขึ้นได้

“โอ้….นางคือคู่หมั้นของเจ้ารึ เจ้าหนุ่ม…เจ้าช่างโชคดีจริ งๆ นี่


เปรี ยบได้กบั การค้นพบสิ่ งที่ล้ าํ ค่าที่สุดเลยนะ”

ในขณะนั้น เมื่อผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้ารับรู ้วา่ นางคือใคร เขาก็ได้


พยักหน้ารับด้วยความยินดี และเมื่อเขามองไปที่ ชูเฟิ ง ใบหน้าของเขาก็
เต็มไปด้วยตกตะลึง และประหลาดใจ

“เพียงเวลาแค่หนึ่งปี เจ้าก็สามารถทะลวงเข้าสู่ ข้ นั แก่นวิญญาณ


ระดับหกแล้วหรื อนี่ ความสามารถในการบ่มเพาะพลังของเจ้าช่างยอด
เยีย่ มกว่าที่คาดคิดนัก”

“แหะๆ แค่โชคดีน่ะ” ชูเฟิ ง กล่าวตอบพลางเกาศรี ษะ

“เจ้าหนู…เจ้าถ่อมตัวเกินไปแล้ว แต่ขา้ ก็ชอบมันนะ นี่กแ็ สดงว่า


ข้ามองคนไม่ผดิ จริ งๆ” ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า กล่าวพร้อมกับยิม้ บางๆ
ด้วยความยินดี เพราะเมื่อเขาเห็นความสมารถของ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง
แล้วนั้น ความปราถนาที่เขาจะได้คืนชีพก็อยูอ่ ีกไม่ไกลเท่านั้น

หลังจากนั้น ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าก็ไม่กล่าวอะไรออกมาอีก


เช่นเดียวกับ จื่อ หลิง ที่กาํ ลังจดจ่ออยูก่ บั การเสริ มพลังของรู ปแบบ
อํานาจพลังวิญญาณ

ด้วยความที่ ชูเฟิ ง เป็ นเพียงผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี


เทา นัน่ จึงทําให้เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก เขาทําได้เพียงมองลอด
ผ่านรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณเข้าไป เพื่อมองดู ซูรู่ และ ซูเหม่ย ที่
กําลังทุกข์ทรมาน

ในตอนนี้น้ นั สถานการณ์ของ ซูรู่ และ ซูเหม่ย เลวร้ายมากกว่าใน


ปี ก่อนมากนัก ร่ างกายของถูกปกคลุมไปด้วยชั้นนํ้าแข็งเกาะกุมอยู่ และ
มีไอร้อนที่ราวกับจะระเบิดได้ทุกเวลาแผ่กระจายออกมาตามลําดับ
ใบหน้าของพวกนางแทบที่จะไม่ใช่ใบหน้าของมนุษย์อีกต่อไป

เมื่อเห็นสถานการณ์ของ ซูรู่ และ ซูเหม่ย ในปั จจุบนั ที่พวกนางไม่


หลงเหลือความงดงามเช่นในอดีต ชูเฟิ ง ก็รู้สึกเจ็บปวดใจ ราวกับมีมีดกํา
ลัดลงไปที่หวั ใจของเขาอย่างช้าๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา พวกนางก็คงไม่
ต้องแบกรับความทุกข์ทรมานอยูใ่ นตอนนี้

ในท้ายที่สุดการวางรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณก็เสร็ จสิ้ น ทุกๆ คน


จากสํานักมังกรฟ้า ตระกูลชู(chu)และตระกูลซู(Su) ที่ตอนนี้มี
เพียง พ่อ และพี่ชาย ของ ซูรู่ และ ซูเหม่ย ก็ได้อยูร่ ่ วมกันอย่างพร้อม
หน้าพร้อมตา

เมื่อ จาง เทียนยี่ พบกับ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า เขาก็ได้แสดงความ


ชื่นชมออกมาอย่างต่อเนื่องต่อผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า

และผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ก็ชื่นชมในตัวของ จาง เทียนยี่ อยูม่ าก


เพราะความสําเร็ จในอนาคตของ จาง เทียนยี่ ต่อจากนี้ จะสู งส่ งก้าวหน้า
กว่าตัวเขาเองมาก

แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่ จาง เทียนยี่ เท่านั้น แต่ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง


เองก็เช่นกัน ในระยะเวลาอันสั้นนั้น ทั้ง ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง และ ชาง เทียน
ยี่ จะสามารถก้าวเข้าสู่ ระดับความสามารถของทวีปอื่นๆ ได้

หลังจากที่ได้ยนิ การประเมินของผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าแล้วนั้น


ทุกๆ คนได้แต่อา้ ปากค้างด้วยความตกตะลึงกับผลการประเมินที่สูงลิบ

และหลังจากที่ จาง เทียนยี่ และผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าได้แยกตัวไป


คุยกันตามลําพังกลับมา พวกเขาทุกคนก็ได้ร่วมพูดคุยกันถึงเรื่ องที่
เกิดขึ้นภายในอาณาจักรมังกรฟ้า และความกล้าหาญของ จาง เทียนยี่ อีก
ทั้งยังพูดคุยถึงเรื่ องราวของ ชูเฟิ ง

ทุกๆ เรื่ องราว ต่างทําให้ทุกคนพากันร้องตะโกนออกมาด้วยความ


ตื่นเต้น บางคนถึงกลับกระโดดโหยงเหยงอย่างสนุกสนาน
ยิง่ ได้ฟังมากขึ้นเท่าไหร่ ทุกๆ คนต่างคิดว่าความแข็งแกร่ งของ ชู
เฟิ ง เป็ นสิ่ งที่แม้แต่ฝัน พวกเขาก็ไม่อาจทําได้

โดยเฉพาะอย่างยิง่ สมาชิกตระกูลชู พวกเขารู ้สึกภูมิใจในตัวของ ชู


เฟิ ง เป็ นอย่างมาก

ถ้านึกย้อนกลับไปนั้น พวกเขาต่างรังเกียจ ชูเฟิ ง แทบจะทุกคน


พวกเขาเอาแต่ด่าทอ กลัน่ แกล้ง ชูเฟิ ง อยูต่ ลอดเวลา

แต่ในตอนนี้ พวกเขากลับภูมิใจในตัวของ ชูเฟิ ง อย่างมาก เพราะ


ถ้าไม่มี ชูเฟิ ง พวกเขาก็ไม่สามารถพัฒนามาถึงจุดนี้ได้ พวกเขาจะทําได้
เพียงแค่จินตนาการเอาเท่านั้น

ในระยะเวลาหนึ่งปี นั้น พวกเขาทุกคนต่างสามารถพัฒนาขึ้นมาได้


อย่างมาก ด้วยความช่วยเหลือของสระแก่นวิญญาณ พวกเขาทุกๆ คนจึง
สามารถเสริ มความแข็งแกร่ งของตัวเองได้อย่างมาก

อาจกล่าวได้วา่ ทุกๆ คนพัฒนาได้อย่างรวดเร็ ว แม้แต่คนที่ไม่


เก่งกาจด้านการต่อสู ้ พวกเขาก็สามารถต่อสู ไ้ ด้ดีข้ ึนจนไม่อาจจําคนเก่า
ของตัวเองได้ ที่เป็ นเช่นนี้เพราะว่าพวกเขาถูกขัดเกลาด้วยสระแก่น
วิญญาณ

ในขณะที่ทุกๆ คนกําลังสนุกสนานกับการพูดคุยกันนั้น ชูเฟิ ง ไม่


อาจทําใจของเขาให้สนุกไปกับสถานการณ์รอบข้างได้ หลังจากที่เขา
เห็นสภาพของ ซูรู่ และ ซูเหม่ย แล้วนั้น หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความ
ทุกข์จนยากที่จะระบายออก

ดังนั้น เขาจึงแยกตัวออกมา และเดินลึกเข้าไปยังการก่อตัวของ


รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ และเฝ้ามอง ซูรู่ และ ซูเหม่ย อย่างเงียบๆ
“ไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ภายในหนึ่งปี ข้าจะช่วยพวกเจ้าให้ได้ หากข้า ชู
เฟิ ง ช่วยเหลือพวกเจ้าไม่ได้ ข้าจะขอตายตามพวกเจ้าไป”

เมื่อเห็นสาวงามอันเป็ นที่รักทั้งสองคนของเขา ที่อยูภ่ ายในรู ปแบบ


อํานาจพลังวิญญาณนั้น หัวใจที่เคยเข้มแข็งของเขาก็อ่อนไหว หากเขา
ไม่สามารถช่วยพวกนางได้ เขาก็ไม่อาจทนมีชีวติ อยูต่ ่อไปได้

“ข้าสามารถบอกได้เลยว่าพวกนางงดงามมาก ในก่อนหน้านี้”
ทันใดนั้น ได้มีเสี ยงที่อ่อนหวานดังขึ้นมา ชูเฟิ ง จึงหันหน้าไปมอง และ
พบว่า จื่อ หลิง ปรากฏตัวอยูท่ ี่ดา้ นหลังของเขา

จื่อ หลิง ก้าวเข้ามาพร้อมกับยิม้ บางๆ และนัง่ ลงที่ดา้ นข้างของ ชู


เฟิ ง

“ไม่ใช่เพียงแค่งดงาม แต่พวกนางยังคงอยูอ่ ย่างสุ ขสบาย ที่พวก


นางเป็ นเช่นนี้เพราะข้า” ชูเฟิ ง กล่าว

“ถ้านัน่ เป็ นข้า ข้าก็จะทําเช่นนั้นเหมือนกัน และถ้าเป็ นเจ้า พวกเรา


ก็จะทําเช่นนั้น” จื่อ หลิง กล่าวพลางยิม้ หวาน

เมื่อเห็นถึงความตั้งใจของ จื่อ หลิง นั้น ชูเฟิ ง ไม่ได้กล่าวอะไร


ออกมา เขาได้โอบกอด จื่อ หลิง ไว้ในอ้อมกอดของเขาอย่างแผ่วเบา ราว
กับการดูแลลูกนกตัวน้อยๆ

ในคืนนั้น ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง ได้เฝ้าดู ซูรู่ และ ซูเหม่ย ที่ดา้ นนอก
ของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ

ในขณะที่ จาง เทียนยี่ ยังคงพูดคุยกับทุกๆ คนอย่างสนุกสนานอยูท่ ี่


ด้านนอก
ในเช้าของสองวันถัดมา ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง และ จาง เทียนยี่ ได้ทาน
อาหารร่ วมกับทุกๆ คน ก่อนที่จะออกเดินทางไปที่อาณาจักรซุย ด้วยราช
รถที่งดงาม

เพราะที่นนั่ คือสถานที่ต้ งั ของ หุบเขากระบี่

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////
แปลโดยคุณ#Abhisit ReadMGA

A : ความสุ ขผ่านไปชัว่ ข้ามคืน ก็ตอ้ งเผชิญกับความลําบาก

B : ลําบากบ้านมืงสิ มันคือความมันส์ มันArtที่แท้จริ ง มันงดงาม มัน


คือจิตวิญญาณ!!!

A : มึงท่าจะหนัก ไปหาหมอบ้างก็ดี!!! มีใครบ้างวิง่ ไปหาศัตรู แล้ว


สนุก
B : มันคือศิลปะ!!!

A : ศิลปะ มันคือภาพที่สามารถมองด้วยตาไม่ใช่อ่อ!!!

B : หากคนที่อ่านแล้วเห็นภาพ แสดงว่าคนคนนั้นมีศิลปะในหัวใจ มัน


คือการจินตนาการ เข้าใจ!!!
บทที่ 448 – การมาของอัจฉริ ยะ

ข่าวของหุบเขากระบี่ ที่บุกเข้าขุดสุ สานบรรพชนของสํานักมังกร


ฟ้า และสุ สานของตระกูลชู เพื่อใช้ข่มขู่ ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี่ ได้
แพร่ กระจายออกไปอย่างรวดเร็ ว

หลังจากข่าวนี้แพร่ กระจายออกไป เหล่าขุมอํานาจต่างๆ ทัว่ ทั้ง


ทวีป ต่างจับตามองสองบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในรุ่ นหนุ่มสาว ว่าจะ
ปรากฏตัวออกมาที่หุบเขากระบี่หรื อไม่ และจะเกิดการต่อสู เ้ ช่นไร
ดังนั้น เหล่าขุมอํานาจต่างๆ จึงมุ่งหน้าเข้าสู่ หุบเขากระบี่ เพื่อเป็ น
สักขีพยานในการต่อสู ค้ รั้งนี้

ทางหุบเขากระบี่เองก็ให้การต้อนรับอย่างดีต่อการมาเยือนของ
พวกเขา ด้วยหมายจะให้พวกเขาเป็ นสักขีพยานในการตายของ ชูเฟิ ง
และ จาง เทียนยี่ ด้วยมือของหุบเขากระบี่

อย่างไรก็ตาม เวลาของกําหนดการก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่ท้ งั ชูเฟิ ง


และ จาง เทียนยี่ กลับยังไม่ปรากฏตัวออกมา จึงทําให้เกิดการคาดเดาไป
ต่างๆ นาๆ

หลายๆ คนรู ้สึกว่า ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี่ หวาดกลัวต่อหุบเขา


กระบี่ จึงไม่กล้าปรากฏตัวออกมา และประณามพวกเขาว่าเป็ นพวกขี้
ขลาด
แต่บางคนกลับคิดต่างออกไป ด้วยความสามารถของ ชูเฟิ ง และ
จาง เทียนยี่ นั้น โดดเด่นที่สุดในรุ่ นของคนหนุ่มสาว ถ้าพวกเขาปรากฏ
ตัวออกมา นัน่ เท่ากับว่าพวกเขาส่ งตัวเองมาสู่ความตาย มันจึงไม่คุม้ ที่จะ
เอาชีวติ ของพวกเขา มาแลกกับซากศพของคนที่ตายไปแล้ว

ไม่วา่ การคาดเดาจะเป็ นเช่นไร ในตอนนี้ผคู ้ นมากมายยังคง


หลัง่ ไหลเข้าสู่ หุบเขากระบี่ จนในท้ายที่สุด หุบเขากระบี่กเ็ ต็มไปด้วย
ผูค้ นอย่าล้นหลาม

เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญด้านนอกของหุบเขากระบี่ ต่างคาดหวังว่า ชูเฟิ ง


และ ชาง เทียนยี่ จะปรากฏตัวออกมาก่อนกําหนดเวลา เพราะพวกเขา
เดินทางมาไกล เพื่อต้องการรับชมการต่อสู ใ้ นครั้งนี้

ในที่สุด วันสุ ดท้ายของกําหนดการก็มาถึง


เหล่าผูอ้ าวุโส และลูกศิษย์ของหุบเขากระบี่ ได้เชิญทุกคนเข้าสู่ หุบ
เขากระบี่

“อ่า…….ข้าไม่คิดเลยว่า หุบเขากระบี่จะใช้ซากศพของบรรพ
ชนของสํานักมังกรฟ้ามาเป็ นตัวประกันเช่นนี้”

“ข้าคิดว่าหนึ่งในนั้น อาจเป็ นศพของผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า เขาคือ


อันดับหนึ่งของเก้าอาณาจักร ชายผูซ้ ่ ึ งสามารถกําราบเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญทัว่
ทั้งทวีปมาได้ ข้าไม่คิดเลยว่า หลังจากที่เขาจากไป เขาจะได้รับความ
อัปยศเช่นนี้” ในตอนนี้ ผูค้ นต่างมองไปยังศพที่ถูกสะกด และยังถูก
แขวนประจานอยูก่ ลางหุบเขากระบี่

อีกทั้ง ที่ดา้ นล่างของซากศพนั้น ยังมีบ่อขนาดใหญ่ที่ส่งกลิ่นเหม็น


รุ นแรงออกมา และยังมีแมลงวันบินอยูท่ วั่ บริ เวณ เพราะนัน่ คือบ่อของ
อุจจาระ
หุบเขากระบี่คิดที่จะประจานอย่างบ้าคลัง่ หาก ชูเฟิ ง และ จาง
เทียนยี่ ไม่ยอมออกมา พวกเขาจะโยนซากศพลงสู่ บ่ออุจจาระอย่าง
แน่นอน

เวลาได้ผา่ นไปอย่างช้าๆ ตั้งแต่ตน้ จนจบนั้น พวกเขาทุกๆ คนต่าง


ตกอยูภ่ ายใต้ความอดทน เมื่อดวงอาทิตย์เริ่ มคล้อยมาตรงกับกลางศรี ษะ
ในเวลานั้น แม้แต่ผนู ้ าํ ของหุบเขากระบี่กเ็ ริ่ มจะหมดความอดทนของเขา

เขาทะยานตัวขึ้นกลางอากาศ และกล่าวออกมาเสี ยงดังว่า “จาง


เทียนยี่ และ ชูเฟิ ง พวกเจ้ากล้าที่จะสังหารบุตรชาย และลูกศิษย์ของข้า
แต่พวกเจ้ากลับไม่กล้ามายังหุบเขากระบี่ เพื่อเผชิญหน้าอย่างเปิ ดเผย”

“พวกเจ้าสองคนมีดีกเ็ พียงแค่ลอบทําร้ายราวกับหมาลอบกัด ข้าจะ


ทําให้บรรพชนของพวกเจ้าต้องชดใช้ในสิ่ งที่พวกเจ้ากระทํา”
เสี ยงของผูน้ าํ หุบเขากระบี่ดงั ออกไปหลายร้อยไมล์ ผูค้ นโดยรอบ
สามารถได้ยนิ เสี ยงของเขาได้อย่างชัดเจน

ในขณะที่ผนู ้ าํ หุบเขากระบี่กาํ ลังกล่าวอยูน่ ้ นั มีชายชราผูห้ นึ่งผมสี


ขาว ใบหน้าเป็ นมัน นัง่ อยูบ่ นเวทีที่ดา้ นข้างของบ่ออุจจาระ เขากําลังนัง่
ดื่มชาอย่างเงียบสงบ

คนผูน้ ้ ีคือ อดีตผูน้ าํ หุบเขากระบี่ มีพลังระดับหก ขั้นแดนสวรรค์


และยังเป็ นพ่อของประมุขหุบเขากระบี่คนปั จจุบนั อีกทั้งยังเป็ นปู่ ของ มู่
หรง หยู

ในตอนแรก หลังจากที่เขาได้รับดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์มานั้น เขาได้


ปล่อยข่าวออกไปว่าตัวเขาตายไปแล้ว และได้ใช้ช่วงเวลานั้น ในการ
แยกตัวไปฝึ กฝนเพื่อบ่มเพาะพลังวิญญาณ
หลายเดือนต่อมา หุบเขากระบี่ได้ประกาศออกมาว่า เขายังคงมีชีวติ
อยู่ และเมื่อข่าวนี้แพร่ กระจายออกไปนั้น ผูค้ นมากมายต่างพากันตก
ตะลึงอย่างมาก

แต่ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าอดีตผูน้ าํ หุบเขากระบี่ เขาจะไม่ได้สนใจต่อ


ข่าวการแกล้งตายของตัวเองมากนัก ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่นง่ั ดื่มชาอย่าง
เงียบสงบเช่นนี้

เวลาได้ไหลผ่านไปอย่างต่อเนื่อง ดวงอาทิตย์เริ่ มคล้อยไปยังทิศ


ตะวันตก แสดงถึงช่วงเวลาที่เปลี่ยนไปจากเที่ยงวันเป็ นยามบ่าย แต่ผนู ้ าํ
หุบเขากระบี่ยงั คงตะโกนออกมากว่าสองชัว่ โมง ด้วยความกราดเกรี้ ยว
และคับแค้นใจ

“อ่า….ดูเหมือนว่า ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี่ จะไม่มาจริ งๆ”


“น่าเสี ยดาย……ที่ไม่ได้เห็นความสามารถของอัจฉริ ยะเช่นนั้น”

“อัจฉริ ยะอย่างนั้นรึ !! พวกเขาก็เป็ นพวกขี้ขลาดตาขาวเท่านั้น


พวกเขาไม่สนใจแม้กระทัง่ บรรพบุรุษของสํานัก และบรรพบุรุษของ
ตระกูล แม้วา่ พวกเขาจะมีความสามารถมากเพียงใด แต่พวกเขาก็เป็ นได้
เพียงพวกขี้ขลาดตาขาว ที่ตอ้ งทนอยูก่ บั การดูถูกจากคนทั้งโลก”

เวลาได้ไหลผ่านไปทีละนิดๆ เหล่าขุมอํานาจต่างๆ เริ่ มจะหมด


ความอดทนของพวกเขา พวกเขาไม่ได้เสี ยดายเวลาที่รอไปแต่อย่างใด
แต่พวกเขารู ้สึกผิดหวัง ที่พวกเขาไม่ได้เห็นความสามารถ และความกล้า
หาญของสองยอดอัจฉริ ยะ

หลากหลายผูค้ นต่างแสดงอารมณ์ของพวกเขาออกมาด้วยการถอน
หายใจ แต่บางคนก็เริ่ มด่าทอ ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี่ ว่าเป็ นเพียงพวกขี้
ขลาด าเสี ยดายที่เป็ นคนมีความสามารถ แต่กลับตาขาว
***** ครื นนนนนนน *****
ในขณะนั้น ได้มีเสี ยงดังกึกก้องปรากฏขึ้นมาจากปลายขอบฟ้าไกล

“อะ…….อะไรน่ะ !!”

“นะ…นัน่ มันถม้า !! ไม่…ไม่ใช่….มันคือ ราชรถ”

เมื่อพวกเขามองไปที่ตน้ เสี ยงนั้น พวกเขาก็พบว่ามีราชรถกําลังพุง่


ทะยานมาจากขอบฟ้าไกลอย่างรวดเร็ ว

“ราชรถ !!”
“ในตอนที่ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง ได้บุกโจมตีสาํ นักเทพอัคคีในตอน
นั้น พวกเขาได้หลบหนีไปโดยราชรถที่งดงาม”

ในทันทีน้ นั หลายๆ คนก็จาํ ได้ทนั ทีวา่ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง ได้ใช้
ราชรถแบบนี้ในการหลบหนี

“ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง มาจริ งๆ แล้ว จาง เทียนยี่ ล่ะ !!?” ในขณะ
นั้น ทุกๆ คนที่กาํ ลังจมไปกับความผิดหวัง เมื่อพวกเขาเห็นราชรถ
เท่านั้น พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

เพราะพวกเขารู ้ดีวา่ เรื่ องน่าตื่นเต้นกําลังจะเกิดขึ้นในไม่ชา้ ข่าวลือ


ต่างๆ เกี่ยวกับ ชูเฟิ ง ทั้งเรื่ องความแข็งแกร่ ง และความสามารถของเขา
กําลังจะปรากฏออกมาให้พวกเขาทุกคนได้ประจักษ์ แม้วา่ เหล่า
ผูเ้ ชี่ยวชาญจะรู ้ดีวา่ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง ไม่สามารถเอาชนะผูเ้ ชี่ยวชาญ
ของหุบเขากระบี่ได้ แต่พวกเขาก็ตอ้ งการที่จะรับชมการต่อสู ใ้ นครั้งนี้
***** ครื นนนนนนนน *****

เพียงเวลาไม่นานนั้น รางรถที่งดงามก็มาถึงด้านบนของหุบเขา
กระบี่ และเมื่อประตูของราชรถเปิ ดออก บุคคลทั้งสามก็ปรากฏตัว
ออกมา นัน่ คือ ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง และ จาง เทียนยี่

“นัน่ เขา !! เขาคือ ชูเฟิ ง !!” ในทันทีน้ นั ทุกๆ คนต่างรู ้จกั ชูเฟิ ง
เพราะพวกเขาได้รับประกาศจับของ ชูเฟิ ง จึงทําให้รู้วา่ ชูเฟิ ง มีลกั ษณะ
เช่นไร

“แล้วสาวงามที่ยนื อยูด่ า้ นข้าง ชูเฟิ ง นัน่ คงจะเป็ น แม่นาง จื่อ หลิง


แน่ๆ ข้าเคยได้ยนิ มาว่านางมีความงามที่สามารถทําลายเมือง หรื อ
อาณาจักรได้ ในวันนี้ ข้าได้ประจักษ์แก่สายตาแล้วว่านางงดงามเพียงใด
และคํากล่าวนั้นก็สมจริ งอย่างมาก”
“ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง มาแล้ว ดังนั้น อีกคนนัน่ น่าจะเป็ น จาง เทียน
ยี”่

“ใช่ จาง เทียนยี่ แน่นอน !! ดูที่ดา้ นหลังของเขาซิ นัน่ คือดาบไม้


ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็ นสมบัติของหุบเขากระบี่”

ในขณะที่พวกเขาเห็นราชรถที่งดงามนั้น พวกเขาต่างตื่นเต้นกัน
อย่างมาก แต่เมื่อ ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง และ จาง เทียนยี่ ปรากฏตัวออกมา
ความตื่นเต้นของพวกเขาก็พงุ่ ขึ้นจนถึงขีดสุ ด”

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////
แปลโดยคุณ#Abhisit ReadMGA
บทที่ 449 – เปิ ดฉากการต่อสู ท้ ี่ยง่ิ ใหญ่
“เขา…เขา…..เขามาจริ งๆ !!”

หลังจากที่ ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ ได้ปรากฏตัวออกมานั้น มีเพียง


บุคคลภายนอกเท่านั้นที่ตื่นเต้น แต่เหล่าผูอ้ าวุโสและลูกศิษย์ของหุบเขา
กระบี่ โดยเฉพาะอย่างยิง่ คนที่อ่อนแอ พวกเขาค่อนข้างหวาดกลัว ชูเฟิ ง
อยูม่ าก

ตลอดระยะเวลาที่มาช่วงนี้ ได้มีข่าวเกี่ยวกับ ชูเฟิ ง ออกมาอย่าง


ต่อเนื่อง ผูค้ นที่ถูกเขาสังหารก็มีอยูจ่ าํ นวนมาก ดังนั้น เหล่าผูอ้ าวุโสและ
ลูกศิษย์ของหุบเขากระบี่จึงเกิดความหวาดกลัว

“ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี่ พวกเจ้าทั้งสองคนช่างชัว่ ร้ายยิง่ นัก บาป


ของพวกเจ้าที่ได้ทาํ การสังหารผูค้ นไปจํานวนมากนั้น พวกเจ้าต้องได้รับ
โทษ”
ในขณะนั้น เสี ยงที่ดงั และทรงอํานาจก็ดงั ขึ้นมา มันเป็ นเสี ยงบองอ
ดีตผูน้ าํ ของหุบเขากระบี่

ในทันทีน้ นั เหล่าผูอ้ าวุโส และลูกศิษย์ที่รู้สึกหวาดกลัวก็พากัน


สงบลง เพราะด้วยความแข็งแกร่ งที่อดีตผูน้ าํ หุบเขาได้แสดงออกมานั้น
ทําให้เขามันใจขึ้นมาก

แต่สาํ หรับผูท้ ี่ตอ้ งการมารับชมการต่อสู ท้ ี่ยง่ิ ใหญ่ในครั้งนี้น้ นั พวก


เขาต่างขมวดคิ้วแน่น เพราะเมื่อผูน้ าํ หุบเขากระบี่แสดงความแข็งแกร่ ง
ออกมานั้น ดูเหมือนว่าความคาดหวังของพวกเขาจะห่างไกลออกไปยิง่
กว่าเดิม

“ท่านคงรู ้อยูแ่ ก่ใจ ว่าเหตุใด ข้า ชูเฟิ ง ถึงได้โจมตีหุบเขากระบี่ และ


คงรู ้เช่สกันว่าใครที่เป็ นผูก้ ระทําผิดกันแน่”
“วันนี้ ข้าไม่ได้มาเพื่อถกเถียงปั ญหาแต่อย่างใด ข้าขอแนะนําว่า
เหล่าผูอ้ าวุโส และลูกศิษย์ ควรออกจากหุบเขากระบี่ซะ เพราะข้าจะทํา
การสังหารหมู่ในวันนี้ แต่หากมีใครที่จะอยู่ ก็อย่าได้หาว่าไร้ความปราณี
ในภ่ายหลัง” ชูเฟิ ง กล่าว

“ฮ่าๆ คําพูดของเจ้ามันใหญ่โตนัก ไม่แปลกใจเลยว่า ทําไมข่าวลือ


ถึงได้บอกว่าเจ้าเป็ นคนหยิง่ ผยอง เพราะเมื่อข้าได้ยนิ คําพูดของเจ้า ข้าก็
ได้เข้าใจจริ งๆ เสี ยที”

“ไม่ตอ้ งเป็ นกังวลไป เจ้านะไม่มีโอกาสได้สงั หารหมู่ผใู ้ ดใน


สถานที่แห่งนี้ เพราะสถานที่แห่งนี้จะเป็ นหลุมฝังศพของเจ้า” อดีตผูน้ าํ
หุบเขากระบี่ กล่าวอย่างมัน่ ใจพลางยิม้ บางๆ และเมื่อเขามองไปที่ จื่อ
หลิง ที่ยนื อยูข่ า้ งๆ ชูเฟิ ง เขาก็กล่าวออกมาอีกว่า
“แม่นาง จื่อ หลิง เจ้า และหุบเขากระบี่ ไม่ได้มีความแค้นใดๆ ต่อ
กัน เจ้าควรออกไปจะดีกว่า หากว่าไม่แล้วนั้น ก็อย่าได้โทษที่ขา้ ไร้ความ
ปราณี ”

อดีตผูน้ าํ ของหุบเขากระบี่น้ นั แข็งแกร่ งอย่างมาก แต่เขาก็รู้ดีวา่ ปู่


ของ จื่อ หลิง นั้น ไม่ใช่บุคคลที่สามารถจีดการได้ง่ายๆ ดังนั้น เขาจึง
เกรงใจ จื่อ หลิง อยูบ่ า้ ง

และนัน่ ก็คือเหตุผลที่วา่ ทําไมตอนที่ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง โจมตี


สํานักเทพอัคคีน้ นั มีเพียงประกาศจับของ ชูเฟิ ง ออกมาคนเดียวเท่านั้น

“ข้าคือคู่หมั้นของ ชูเฟิ ง ศัตรู ของเขาก็คือศัตรู ของข้า ท่านได้ใช้


บรรพบุรุษของสํานัก และตระกูชู มาข่มขู่เช่นนี้ ท่านยังกล่าวออกมาอีก
เหรอว่า เราไม่ได้มีความคับแค้นต่อกัน”
“กล่าวกันตามตรง เหตุผลที่ขา้ จื่อ หลิง มาที่นี่ ก็เหมือนกับ ชูเฟิ ง
ข้าจะสังหารหมู่หุบเขากระบี่”

***** วูบบบบ *****

ในขณะที่นางกล่าวนั้น แววตาของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมัน่
และเพียวชัว่ พริ บตาเท่านั้น ราชรถที่งดงามซึ่ งอยูก่ ลางอากาศ ก็ได้ร่วงลง
มาอย่างรวดเร็ วในกละมของผูอ้ าวุโสและศิษย์ของหุบเขากระบี่

ด้วยความเร็ วเช่นนั้น จึงทําให้ผอู ้ าวุโส และลูกศิษย์ไม่สามารถ


ตอบสนองได้ทนั มีมากกว่าสิ บคนที่ถูกราชรถที่งดงามบดขยี้จนตาย

ในเวลาเดียวกันนั้น ออร่ าสี ทองก็แผ่กระจายออกมาจากราชรถที่


งดงาม และกวาดผ่าน้หล่าสมาชิกของหุบเขากระบี่กว่าพันคนอย่าง
รวดเร็ ว
ผูค้ นที่ถูกออร่ าสี ทองเหช่านั้นกวาดผ่าน ล้วนร้องออกมาด้วยความ
เจ็บปวดทรมาน และเวลาเพียงไม่นาน พวกเขาก็ตายลงอย่างรวดเร็ วโดย
คลื่นพลังของราชรถที่งดงาม

“ดูเหมือนว่า จื่อ ซวนหยวน จะเลี้ยงเจ้ามาไม่ดีพอ จึงทําให้เจ้าเป็ น


ปิ ศาจเช่นนี้”

“วันนี้ ข้าจะให้บทเรี ยนแก่ปิศาจเช่นเจ้า ถึงผลของการสร้างความ


วุน่ วาย และสังหารเหล่าผูบ้ ริ สุทธิ์”

หลังจากเห็นเหล่าลูกศิษย์กว่าพันคนถูกสังหารถภายในพริ บตา
ใบหน้าของอดีตผูน้ าํ หุบเขากระบี่กเ็ ปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ ว เขาทะยานตัว
ไปในอากาศและเริ่ มโจมตีใส่ ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง และ จาง เทียนยี่
เขาไม่ได้ทกั ษะการต่อสู แ้ ต่อย่างใด เขาใช้เพียงแรงกดดันของพลัง
วิญญาณระดับหก ขั้นแดนสวรรค์เท่านั้น แต่นน่ั ก็สามารถให้มวลอากาศ
รอบๆ ตัวของเขาบิดตัวอย่างรุ นแรง

เมื่อเห็นเช่นนั้น ทุกคนต่างแตกตื่นทันที คนที่ไม่ใช่สใาชืกของหุบ


เขากระบี่รีบหลบออกจากหุบเขาอย่างรวดเร็ ว เพราะในขณะที่อดีตผูน้ าํ
หุบเขากระบี่โจมตีน้ นั จื่อ หลิง ยังคงใช้ราชรถที่งดงามฆ่า เหล่าผูอ้ าวุโส
และลูกศิษย์ของหุบเขากระบี่อย่างต่อเนื่อง

“เจ้ามีพลังเพียงระดับหก ขั้นแดนสวรรค์ แต่กลับกล้าพูดจ้าโอหัง


เช่นนี้ วันนี้ขา้ จาง เทียนยี่ จะมอบบทเรี ยนแก่เจ้า”

ขณะที่ จาง เทียนยี่ กล่าวนั้น เขาได้ชกั ดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ออกมาจาก


กลางหลังของเขา และฟันไปที่ออร่ าพลังของอดีตผูน้ าํ หุบเขากระบี่อย่าง
รวดเร็ ว

หลังจากที่ จาง เทียนยี่ ฟันออกไปนั้น ประกายแสงจํานวนมากก็พงุ่


เข้าใส่ อดีตผูน้ าํ ของหุบเขากระบี่อย่างรวดเร็ ว

“หึ …..เจามีพลังเพียงระดับสาม ขั้นแดนสวรรค์เท่านั้น เจ้าคิดว่า


เจ้าจะไร้เทียมทานเช่นนั้นรึ วันนี้พวกเจ้าทั้งสามคนจะต้องตายที่นี่”
อดีตผูน้ าํ หุบเขากระบี่ กล่าวอย่างเย็นชา เขาสู ดหายใจเข้าเล็กน้อย ก่อนที่
ฝ่ ามือของเขานะปรากฏดาบสี เงินเล่มใหญ่ออกมา

ใบดาบนั้นกว้างกว่าสองฟุต และยาวกว่าสามเมตร ถึงแม้มนั จะ


ไม่ใช่ยอดยุทธภัณฑ์ แต่กถ็ ูกสร้างมาด้วยวัสดุที่พิเศษอย่างมาก อีกทั้งมัน
ยังเป็ นดาบไร้คมที่ไม่ค่อยพบเห็นมากนัก

ดาวใหญ่น้ นั มีน้ าํ หนักอย่างมาก แต่เมื่ออยูใ่ นมือของอดีตผูน้ าํ ของ


หุบเขากระบี่ มีนกลับดูราวไร้น้ าํ หนักไปอย่างนั้น เพราะเขาสามารถใช้
ดาบใหญ่ได้อย่างคล่องแคล่วด้วยความเร็ วที่ไม่ได้ดอ้ ยไปกว่า ชาง เทียน
ยี่ ที่ใช้ดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์แม้แต่นอ้ ย

“จาง เทียนยี่ เจ้าฆ่าลูกชายของข้า เจ้าจงมอบชีวติ ของเจ้ามาซะ !!”

ในขณะนั้น จู่ๆ ก็มีเสี ยงคํารามดังขึ้นจ่กพื้นดิน มันเป็ นเสี ยงของ


ผูน้ าํ ของหุบเขากระบี่ ที่พงุ่ จู่โจมมาด้วยความเกลียดชังต่อ จาง เทียนยี่
เข้ากระดูกดํา เพราะบุตรชายของเขาถูกสังหารโดย จาง เทียนยี่ แม้แต่
ยามหลับฝัน เขาก็ตอ้ งการที่จะฆ่า จาง เทียนยี่

ในตอนนี้ จาง เทียนยี่ ก็ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขา ดังนั้น เขาจึงไม่


สามารถสะกดความแต้นบองเขาเอาไว้ได้อีกต่อไป เขาระเบิดพลังระดับ
ห้า ขั้นแดนสวรรค์ออกมา และกําลังจะพุง่ เข้าไปในการต่อสู ข้ องบิดา
ของเขากับ จาง เทียนยี่

***** พรึ่ บ *****


ก่อนที่เขาจะได้เข้าไปใกล้ จาง เทียนยี่ นั้น ก็ได้มีสาวงามปรากฏตัว
ต่อหน้าของเขา นัน่ คือ จื่อ หลิง อย่างรวดเร็ ว

“พวกเขากําลังสู ก้ นั อยู่ !! เจ้าไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย” ในขณะนั้น


ร่ างกายของ จื่อ หลิง ถูกปลกคลุมไปด้วยออร่ าสี ม่วง มันคือพลังของกาย
ศักดิ์สิทธิ์ที่ปะทุออกมา แม้วา่ ใบหน้าของนางยังคงประดับไปด้วย
รอยยิม้ ที่อ่อนหวาน แต่แววตาของนางปรากฏจิตสังหารออกมาอย่าง
ชัดเจน

“อ๊ากกกกกกกก….!!” ในขณะที่ผนู ้ าํ หุบเขากระบี่กาํ ลังสับสน


อยูน่ ้ นั เสี ยงร้องด้วยความเจ็บปวด และทรมาน ก็ได้ดงั ขึ้นมาจากบริ เวณ
พื้นที่ส่วนกลางของหุบเขากระบี่

นัน่ คือฝี มือของ ชูเฟิ ง เขามุ่งหน้าเข้าไปยังซากบรรพชนของสํานัก


และตระกูลชูของเขา อยูใ่ นพื้นที่ส่วนกลางของหุบเขากระบี่

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ไม่ลงมาจากท้องฟ้าแม้แต่นอ้ ย ตลอดเวลาที่เขา


มุ่งหน้าไปสู่ พ้ืนที่ส่วนกลางของหุบเขากระบี่ ตลอดเส้นทางที่เขาผ่านไป
นั้น สมาชิกของหุบเขากระบี่ถูกสังหารอย่างหฤโหด โดยฝี มือของเขา

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////
แปลโดยคุณ#Abhisit Siriroop
บทที่ 450 - รู ปแบบฯเทพกระบี่

แม้วา่ ชูเฟิ ง จะอยูแ่ ค่ในอาณาจักรแก่นแท้ระดับ 6 แต่ ต้านต้านนางอยู่


ในอาณาจักรแก่นแท้ระดับ 9 ดังนั้นหากเขายืมพลังของต้านต้านและใช้
พลังอํานาจของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ออร่ าของเขาจะเข้าสู่ อาณาจักรสวรรค์
ระดับ 1
ความสามารถในการต่อสู ท้ ี่แข็งแกร่ งเป็ นทุนเดิม แล้วนอกเหนือจากนี้ยงั
มีขวานอสู รฟ้า จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ที่สามารถเลือกผูใ้ ช้ของมัน มันจึงทํา
ให้พลังต่อสู ข้ องเขาเหนือขีดความสามารถ แม้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญใน
อาณาจักรสวรรค์ระดับ 4 ยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้ในเวลานี้

" อ่า ~~~~~ "

ตามพื้นตามถนนไม่วา่ จะเป็ นสาวกหรื ออาวุโสหรื อแม้กระทั้ง


ผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ ก็ไม่สามารถหนีพน้ เงื่อมือของชูเฟิ งไปได้
บัดนี้เขาเป็ นดัง่ เทพสังหารลงมาจุติ ภายในหุบเขาเทพกระบี่เต็มไปด้วย
เลือดของผูค้ นที่เขาปลิดชีวติ

ในตอนนั้นความพิโรธของชูเฟิ งพุง่ ทะยานขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า โดยเฉพาะเมื่อ


ตอนที่เขาเห็นกระดูกของบรรพชนในครอบครัวของเขาถูกแขวนไว้บน
บ่อขี้ มันยิง่ ทําให้ไฟโกรธของเขาปะทุข้ ึน
แต่เป้าหมายที่ชดั เจนอยูแ่ ล้ว ตอนนั้นเขาจึงหยุดมือแล้ววิง่ ตรงไปยังใจ
กลางของหุบเขาเทพกระบี่ สิ่ งที่เขาคือต้องนํากระดูกบรรพชนลงมา ไม่
งั้นเขาจะสู แ้ บบมีห่วง

" บัดซบ. . . . ไอเจ้านี่มนั ไวเป็ นบ้าเลย!!! "

เมื่อเห็นชูเฟิ งไปถึงใจกลางของหุบเขาเทพกระบี่ได้ในชัว่ พริ บตา การ


แสดงออกของประมุขหุบเขาเทพกระบี่ที่สูก้ บั จื่อหลิง ก็มีท่าทีเปลี่ยนไป
เขารี บหันหน้าไปทางอื่นเพือ่ ต้องการไปหยุด ชูเฟิ ง เอาไว้

หลังจากที่ชูเฟิ งและอื่นๆทําเป้าหมายสําเร็ จ โดยที่ชูเฟิ งสามารถนํา


กระดูกบรรพชนกลับมา พวกเขาก็คงใช้ความเร็ วของราชรถในการ
หลบหนีไป และการสู ญเสี ยครั้งนี้มนั จะสาหัสยิง่ นัก
อีกอย่าง หากเขาไม่เข้าโจมตี ชูเฟิ ง มันก็จะเป็ นการเปิ ดโอกาสให้เขาทํา
สําเร็ จ เพราะภายในหุบเขาเทพกระบี่ แทบจะไม่มีใครสามารถเอาชนะ ชู
เฟิ งได้

" เจ้ากําลังสู ก้ บั ข้าอยูแ่ ล้วยังกล้าหันหน้าไปทางอื่นอีกหรอ


แสดงว่าเจ้าอยากตายมากสิ นะ!!! "

ในตอนนั้น จื่อหลิงที่ถูกปกคลุมไปด้วยออร่ าสี ม่วง ดัง่ สัตว์ร้ายกระหาย


เหยือ่ พุง่ ไปดักประมุขหุบเขาเทพกระบี่และเริ่ มเข้าจู่โจมอย่างทันควัน

" มันเป็ นไปได้ยงั ไง ? แม่นางคนนี้นางอยูแ่ ค่อาณาจักร


สวรรค์ระดับ 1 เหตุใดถึงมีพลังน่ากลัวถึงเพียงนี้ "

ตอนนั้น ประมุขหุบเขาเทพกระบี่ตกใจอย่างมาก ตาคู่น้ นั ของเขาสัน่


ระรัวจนแทบไม่อยากจะยอมรับ
มันเป็ นเพราะเขารู ้สึกว่าออร่ าสี ม่วงนั้นเต็มไปด้วยความคุกคามที่ร้ายแรง
จนเขาไม่สามารถต้านทานแรงดันออร่ าสี ม่วงนั้นได้ หากเป็ นแบบนี้ จื่
อหลิง คงจะต้องเอาชนะเขาได้แน่ๆ

" ท่านพ่อ!!! ช่วยข้าด้วย!!! "

ประมุขหุบเขาเทพกระบี่ ได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ งที่สุด


ภายในร่ างกายออกมาแล้ว อีกทั้งยังใช้ทกั ษะที่ร้ายกาจของเขาทุก
รู ปแบบ และเมื่อเขาจัดการกับจื่อหลิงไม่ได้ เขาจึงได้แต่ร้องตะโกนขอ
ความช่วยเหลือ

" เกิดอะไรขึ้นกับแม่นางน้อยคนนั้น เหตุใดนางถึงได้มีออร่ าสี


ม่วง ? "
เห็นได้ชดั ว่า ใบหน้าของประมุขรุ่ นก่อนของหุบเขาเทพกระบี่เปลี่ยนไป
อย่างมาก ก่อนที่เขาจะเข้าไปช่วยเหลือ เขาก็ตอ้ งตกใจ ยิง่ กว่าเดิม

เมื่อเขาหันหัวกลับมา เขาก็พบว่าร่ างของ จาง เทียนยี่ ปกคลุมไปด้วย


เปลวเพลิงสี ฟ้า นอกจากนี้ยงั ผิดกับกลิ่นอายของจาง เทียนยี่ ไปอย่างมาก
ซึ่งก่อนหน้านี้เขาสามารถสู ก้ นั ได้อย่างสู สี แต่ตอนนี้เขากับดูน่ากลัว
ยิง่ ขึ้นไปอีก

" เจ้าแก่ หากเจ้าไม่เปิ ดรู ปแบบฯหุบเขาเทพกระบี่ อย่าโทษข้า


หากจาง เทียนยีค่ นนี้ลงมือฆ่าเจ้า " จาง เทียนยี่ ระเบิดเสี ยงตะโกน
ออกมาพร้อมกับรอยยิม้ เขาถือดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ไว้ในมือแล้วเริ่ มโจมตี
ประมุขรุ่ นก่อนอย่างดุดนั

ในตอนนั้น จาง เทียนยี่ กลายเป็ นคนละคน เมื่อก่อนที่เขาแลกวรยุทธกับ


ประมุขหุบเขาเทพกระบี่รุ่นก่อน อย่างมากที่สุดเขาก็แค่สูสี แต่ในตอนนี้
เขาได้ครอบครองความได้เปรี ยบเอาไว้อย่างสมบูรณ์

" บัดซบ . . . . แกสามตัวร้ายนักนะ!!! พวกแกเป็ นมนุษย์จริ งๆ


หรอ หรื อว่าพวกแกเป็ นอสู รร้ายในร่ างมนุษย์ "

ประมุขรุ่ นก่อนได้แต่ขมวดคิ้วแน่น แต่เขาไม่กล้ามีร่องรอยแห่งความ


ประมาทแม้แต่นอ้ ย ก่อนหน้านี้เขาได้ยนิ มาเพียงว่า ชูเฟิ ง มันเป็ นปี ศาจที่
เหนือสามัญสํานึก แต่เขาไม่เคยนึกว่า จื่อหลิง และ จาง เทียนยีจ่ ะเป็ น
ปี ศาจด้วยเหมือนกัน พลังการต่อสู ข้ องพวกเขาเป็ นสิ่ งที่ทะลุตรรกะของ
มนุษย์ทวั่ ๆไป

" ดูน้ นั ! ! ! ท่านบรรพบุรษหุบเขาเทพกระบี่และประมุขตอนนี้


ถูกกดดันโดย จาง เทียนยี่ และ จื่อหลิง !!! "

" สวรรค์ ข้าไม่อยากจะเชื่อ! ! ! ผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์


ระดับ 6 กับถูกกดดันโดยชายหนุ่มที่อยูใ่ นอาณาจักรสวรรค์ระดับ 3 !
!!"

" นําซํ้าผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ระดับ 5 กับถูกกดดันโดย


ผูห้ ญิงที่อยูใ่ นอาณาจักรสวรรค์ระดับ 1 เหตุใด จื่อหลิง และ จาง เทียน
ยีถ่ ึงได้แข็งแกร่ งแบบนั้น "

" มันน่าประทับยิง่ นัก หากข้าไม่เห็นกับตาข้าคงไม่เชื่อ ว่าชูเฟิ ง จื่


อหลิง และ จาง เทียนยี่ ทั้งสามคนนี้คือปี ศาจขนานแท้ ไม่น่าแปลกใจ
เลยที่พวกเขาจะกล้าบุกมาที่นี่ "

ขณะนั้นทุกคนกําลังตกใจกับการต่อสู บ้ นอากาศของ จาง เทียนยี่ และ จื่


อหลิง ที่เป็ นฝ่ ายได้เปรี ยบ และกดดันสองผูย้ งิ่ ใหญ่ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ใคร
มันเกินขอบเขตของจินตนาการของผูค้ นทัว่ ๆไป ในเวลาเดียวกันพวก
เขาก็ตะโกนส่ งเสี ยงเชียร์กนั อย่างเมามันส์
เพราะพวกเขารู ้สึกว่าไม่เสี ยเที่ยวที่เดินทางไกลมายังที่แห่งนี้ ตามที่พวก
เขาได้เห็นการต่อสู ท้ ี่เกิดขึ้น ไม่วา่ จะเป็ นข่าวลือที่น่าเหลือเชื่อเกี่ยวกับ ชู
เฟิ ง หากพวกเขาไม่เห็นมันกับตา พวกเขาคงไม่มีวนั ได้สมั ผัสถึงความ
ตื่นเต้นแบบนี้ และคงจะไม่เชื่อ

ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจและยอมรับสักที เมื่อได้เห็นพลังอํานาจการต่อสู ้
ของ ชูเฟิ ง นอกจากนี้ได้มีแค่ชูเฟิ งคนเดียว ยังมี จื่อหลิง ที่มีฝีมือร้ายกาจ
ไม่ดอ้ ยไปกว่าเขา มันทําให้พวกเขาตื่นเต้นจนเนื้อตัวสัน่ สะท้าน และ
รู ้สึกว่ามันเป็ นการเดินทางไกลที่นบั ว่าคุม้ ค่ายิง่ นัก

**** บูม บูม บูม บูม บูม ****

" อ้าาาา ~~~~~~ "

" ท่านประมุขท่านบรรพบุรุษ ช่วยพวกเราด้วย!!! "


ขณะเดียวกับที่ทุกคนกําลังสนใจการต่อสู ใ้ นอากาศ เสี ยงรํ่าร้องแห่ง
ความเจ็บปวดและทรมารก็ดงั ระงมไปทัว่ ทั้งหุบเขาเทพกระบี่ พวกเขาที่
ถูกไล่ฆ่าได้แต่ร้องโวยวายเสี ยงดัง พร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือ

ในเวลาเดียวกัน ก็มีการระเบิดครั้งใหญ่อย่างไม่รู้จบบริ เวณใจกลางหุบ


เขาเทพกระบี่ กําลังพลที่วางคุม้ กันไว้ท้ งั หมดล้วนแต่สูญเปล่า ขณะนั้น
มันยังคงมีเสี ยงระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พวกคนที่มาดูการต่อสู ้ ก็ได้แต่ตอ้ งอ้าปากค้างอยูน่ าน เพราะเนื่องจากชู


เฟิ งในตอนนั้น สังหารผูค้ นจํานวนมากและสามารถเข้าไปยังศูนย์กลาง
หุบเขาเทพกระบี่ได้อย่างรวดเร็ ว เขาสามารถนํากระดูกของอาวุโสสํานัก
มังกรฟ้าและกระดูกครอบครัวของเขาทั้งหมดลงมาได้และจากนั้นเขาก็
นําทั้งหมดใส่ ไว้ในถุงจักรวาล
ในเวลาเดียวกัน ชูเฟิ งก็เริ่ มต้นการสังหารหมู่อย่างบ้าคลัง่ เมื่อประมุข
และบรรพบุรุษหุบเขาเทพกระบี่ถูกกดดันไว้ จึงไม่มีใครสามารถหยุด ชู
เฟิ ง

อาวุโสภายในหุบเขาเทพกระบี่ รวมไปจนถึงสาวกมีนบั สิ บล้านคน แต่


ชูเฟิ งกับสังหารพวกเขาเหมือนกับเทพสังหาร ที่คิดจะช่วงชิงชีวติ ใครก็
ได้ตามที่ที่เขาก้าวเข้าไป ชูเฟิ งตอนนั้นพุง่ ทะยานถลันเข้าไปในฝูงชน
จํานวนมากเสี้ ยววิที่เขาก้าวย่างเข้าไป คนรอบๆตัวเขาจะตายอย่างอนาภ
จนทําให้พ้ืนที่ขนาดใหญ่และตัวตําหนักพังถล่มลงมา ซึ่ งการโจมตีของ
เขารุ นแรงและแสนจะอํามหิ ต

" ข้าเคยได้ยนิ มาว่า ชูเฟิ ง โหดเหี้ ยมอํามหิ ต จนผูค้ นเรี ยกเขาว่า


ร่ างจุติของเทพสังหาร วันนี้ที่ขา้ ได้เห็น มันเป็ นเช่นนั้นจริ งๆ เขาสังหาร
ศัตรู ของเขาอย่างไร้ความปราณี บางที่พวกเราต่อให้ฝึกฝนอีกหลายสิ บปี
ก็ไม่วนั ทําได้ "
เห็น ชูเฟิ ง เริ่ มต้นสังหารหมู่ผคู ้ นมากมาย ใบหน้าของผูเ้ ชี่ยวชาญอาวุโส
รุ่ นก่อนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป พวกเขาไม่ใช่แค่กลัวฉากนองเลือดนั้น
เท่านั้น หากเป็ นผูใ้ หญ่เขาก็พอเข้าใจ แต่น้ ีคนลงมือกับเป็ นแค่เด็กหนุ่ม
ซึ่งเป็ นธรรมดาที่พวกเขาจะมองชูเฟิ งว่าเป็ นคนน่ากลัว

" เร็ ว!!! รี บเปิ ดรู ปแบบฯเทพกระบี่เร็ วเข้า!!! "

ในที่สุดประมุขรุ่ นก่อนของหุบเขาเทพกระบี่กพ็ ดู ในสถานการณ์แบบนี้


เขาไม่มีทางเลือก จึงได้แต่เปิ ดรู ปแบบฯเทพกระบี่ ที่เป็ นดัง่ ไพ่ตายของ
พวกเขา หากไม่ทาํ แบบนี้หุบเขาเทพกระบี่ท้ งั หมดจะถูกทําลายลงอย่าง
สิ้ นซากโดยสามหนุ่มสาวตรงหน้าเขาซึ่ งเป็ นคนที่ทรงพลังอํานาจเกิน
กว่าที่เขาจินตนาการไว้

* พรึ บบ *
ขณะที่ประมุขรุ่ นก่อนพูดจบภายในหุบเขาเทพกระบี่กส็ ว่างขึ้นด้วยแสง
ออร่ าที่ทรงอนุภาพอย่างยิง่ ดัง่ ผูเ้ ชี่ยวชาญที่ทรงพลานุภาพถูกปลุกขึ้น

" ความรู ้สึกนี้มนั . . . . . .ไม่ใช่การคลายรู ปแบบฯที่ก่อตัวขึ้นห


นิ ดูเหมือนว่ามันจะปล่อยอะไรบางอย่าง "

ตอนนั้น ชูเฟิ งที่อยูภ่ ายในหุบเขาเทพกระบี่ได้แต่ขมวดคิ้วแน่น จากนั้น


เขาก็หยุดการสังหารรี บกระโดดขึ้นบนฟ้าอย่างรวดเร็ ว พร้อมกับมุ่งหน้า
ไปหาจื่อหลิง

เพราะเขาที่เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯรู ้สึกว่าออร่ าติ่นขึ้นภายในหุบเขาเทพกระบี่


มันดูแตกต่างไปจากที่พวกเขาคาดหวังไว้

มันไม่ใช่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ งให้อาวุโสและสาวกหุบเขาเทพกระบี่
แต่มนั เป็ นการปลดปล่อยสิ่ งมีชีวติ บางอย่าง ถึงแม้วา่ เขาจะไม่แน่ใจว่า
มันคืออะไรแต่ ชูเฟิ ง รู ้สึกว่ามันคือสิ่ งมีชีวติ ที่ทรงพลังอํานาจ
https://ReadMGA.blogspot.com/
https://www.facebook.com/MartialGodAsu
ra/
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////
A : ชิบหายล่ะ!!! มันเป็ นตัวไรว่ะเนี่ย

B : เห็นว่าเป็ นจิตสํานึกของผูก้ ่อตั้งหุบเขาเทพกระบี่ !!!

A : งี้ จับแม่งดูดกลืนแห่งพลังวิญญาณก็สิ้นเรื่ อง!!!

B : ตามนั้น!!! แดกแม่งให้สิ้นซากกกกกกกก

เดากันไปเรื่ อยเปื่ อย!!!เรื่ องราวจริ งๆจะเป็ นยังไงให้


ติดตามในตอนต่อไปนะคับ
บทที่ 451 - ผูเ้ ชี่ยวชาญฟื้ นคืน

หุบเขาเทพกระบี่กว้างใหญ่ไพรศาลเป็ นที่อาศัยของเหล่าอาวุโสและ
เหล่าสาวกนับสิ บล้านคน อาคาร ตําหนัก ที่พกั อาศัย ถูกสร้างขึ้นนับไม่
ถ้วน

โดยรอบมีภูเขาสู งปกคลุม มีสายนํ้าไหลผ่าน ลงสู่ ทะเลสาบขนาดเล็ก ซึ่ง


สถานที่แห่งนี้เปรี ยบได้กบั นครขนาดใหญ่

แต่ในตอนนั้น มีแสงปกคลุมไปทัว่ ทั้งหุบเขาเทพกระบี่ พุง่ ทะยานสู่


ท้องฟ้า ราวกับสิ่ งที่ยง่ิ ใหญ่กาํ ลังจะปรากฏออกมา

" จื่อหลิง ศิษย์พี่จาง หนีเร็ ว " ชูเฟิ งบินแหวกผ่านอากาศ พร้อม


กับตะโกนเสี ยงดัง เขารู ้วา่ รู ปแบบฯเทพกระบี่น้ ีไม่ใช่ธรรมดาอย่าง
แน่นอน
" พลังนี้มนั น่ากลัวยิง่ กว่าในข่าวลือซะอีก ? "

ประกายแสงที่เจิดจ้ากว่าแสงตะวัน เป็ นธรรมดาที่จื่อหลิง และ จาง


เทียนยี่ ก็สงั เกตุได้ถึงการเปลี่ยนแปลง

ในตอนนั้น พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของพวกเขาอย่างเห็น
ได้ชดั มันเป็ นความหวาดกลัวและความอึดอัดที่ปรากฏออกมาไม่มากก็
น้อย พวกเขาจึงเปลี่ยนการเคลื่อนไหวเพื่อที่ตอ้ งการจะหลบหนี

* พรึ บบบ *
อย่างไรก็ตาม ความเร็ วของแสงนั้นมันย่อมเร็ วกว่า มันปิ ดโอกาสของ ชู
เฟิ ง และคนอื่นๆ ในการหลบหนี ตอนนั้นพวกเขาถูกห่อหุม้ ด้วยแสงที่
เข้าปกคลุมไปทัว่ ท้องฟ้า

" บัดซบ!!!. . . รู ปแบบฯเทพกระบี่น้ ีไม่เพียงแค่เพิ่มอํานาจ


ให้กบั คนของหุบเขาเทพกระบี่ มันยังปิ ดกั้นพลังวิญญาณของพวกเรา
ด้วย " จาง เทียนยี่ ขมวดคิว้ แน่น เนื่องจากพลังของเขากําลังถูกกดดัน

" ไม่!!! มันไม่ใช่แค่น้ นั แน่!!! " ในตอนนั้น ชูเฟิ ง และ จื่อหลิง


พุง่ ออกจากประมุขหุบเขาเทพกระบี่ มุ่งหน้าไปข้างๆ จาง เทียนยี่

" ชูเฟิ ง สมแล้วที่เจ้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯ ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู ้วา่ มันจะ


เกิดอะไรขึ้นสิ นะ " เห็นสี หน้าไม่สบายใจของ ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ
ประมุขรุ่ นก่อนของหุบเขาเทพกระบี่กแ็ สยะยิม้ ออกมาพร้อมกับหัวเราะ
เสี ยงดัง
" หื มม อย่ามาพูดให้เราไขว่เขว สุ ดท้ายมันก็แค่รูปแบบฯ ข้า จาง
เทียนยี่ มาที่น้ ีกเ็ พื่อฆ่าเจ้า ดังนั้นรู ปแบบฯเทพกระบี่น้ ีกอ็ ยูใ่ นความ
คาดหมายของข้าตั้งแต่แรก มันไม่พอที่จะสร้างความหวาดกลัวให้กบั ข้า
ได้หรอก " จาง เทียนยี่ ตะโกนออกมา พร้อมกับระเบิดเปลวเพลิงสี ฟ้า
บนร่ างกายในขณะที่ถือดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ พุง่ เข้าโจมตีใส่ ประมุขรุ่ นก่อน
อีกครั้ง

" ฮ่า ฮ่า ก่อนหน้านี้เจ้าอาจฆ่าข้าได้ แต่ตอนนี้เจ้าคงไม่มีปัญญา


แล้วล่ะ " ตอนนั้น ประมุขรุ่ นก่อนได้แต่หวั เราะออกมา ขณะที่ถูก จาง
เทียนยี่ ไล่จู่โจม

" ชูเฟิ ง จื่อหลิง ทิ้งชีวติ ของเจ้าไว้ที่นี่ซะ!!! " ในตอนนั้นประมุข


หุบเขาเทพกระบี่กพ็ งุ่ เข้าใส่ ชูเฟิ ง และ จื่อหลิง

" อย่าได้ผยองนักนะ แค่พลังของข้าคนเดียวก็สามารถรับมือกับ


เจ้าได้แล้ว " จื่อหลิงม้วนปากเล็กๆของนาง แล้วระเบิดออร่ าสี ม่วงออก
จากร่ างกายของนางขณะที่ปะทะกับประมุขหุบเขาเทพกระบี่

แต่พลังจากรู ปแบบฯเทพกระบี่น้ ี มันยับยั้งพลังกายศักดิ์สิทธิ์ของจื่อหลิง


ไว้ไม่นอ้ ย แต่เดิมนางไม่มีปัญหาที่จะกําราบประมุขหุบเขาเทพกระบี่ แต่
ตอนนี้เขาสามารถสู ก้ บั นางได้อย่างสู สี

" นี้คือผลลัพธ์จากแสงจากรู ปแบบฯเทพกระบี่ที่ปกคลุมภายใน


หุบเขาเทพกระบี่สินะ ? "

" สุ ดยอด แข็งแกร่ ง แข็งแกร่ งเกินไปแล้ว ข้าได้ยนิ มาว่ารู ปแบบ


ฯเทพกระบี่น้ ี ถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษรุ่ นแรกๆของตระกูล มู่หรง
ท่าน มู่หรง เฟิ ง "

" ข้าก็เคยได้ยนิ มาเหมือนกัน เขาว่า มู่หรง เฟิ ง นั้นเป็ นคนที่มี


พลังอํานาจมากที่สุดใน 9 อาณาจักร รองจากผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้า แต่ยงั ไรก็
ตามวีรกรรมของเขาค่อนข้างน้อย เขาจึงไม่อาจเทียบเท่ากับชื่อเสี ยงของ
ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าได้ "

" ใช่ๆ มีข่าวลือว่า มู่หรง เฟิ ง เคยขึ้นไปยังจุดสู งสุ ด ที่ไม่ดอ้ ยไป


กว่าผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ข้าได้ยนิ ว่าในปี นั้นเขาได้พยายามปกป้อง
ดูแลรักษาความสงบสุ ขของลูกหลานเขาอย่างเอาเป็ นเอาตาย ร่ างกายที่
เหนื่อยล้าทําให้ตดั สิ นใจใช้พลังทั้งหมดสร้างรู ปแบบฯเทพกระบี่น้ ี
ขึ้นมา ซุ่ ึงเป็ นรู ปแบบฯที่เป็ นเลิศหาใดเทียบเทียม "

" อ่า เมื่อรู ปแบบฯเทพกระบี่น้ ีวางสําเร็ จอาจกล่าวได้วา่ มันเป็ น


สาเหตุทาํ ให้หุบเขาเทพกระบี่เป็ นที่น่าหวาดกลัว เมื่อข้ามาเห็นแบบนี้
ต้องบอกเลยว่า สมแล้วกับข่าวลือ!!! "

" ถูกต้อง แม้แต่ตระกูลมหาอํานาจยังคิดแล้วคิดอีก มันก็จริ งที่


สามารถเข้ามาโจมตีหุบเขาเทพกระบี่ได้แต่การออกจากหุบเขาเทพกระบี่
นี้สิยาก ดังนั้นจึงไม่เคยมีกล้าเข้ามาโจมตีหุบเขาเทพกระบี่น้ นั เอง แล้ว
รู ปแบบฯเทพกระบี่ ก็ยงั ไม่มีใครสามารถทําลายมันได้ "

" ใช่หรอ ใช่หรอ หากคิดกลับกัน ประมุขรุ่ นก่อนหุบเขาเทพ


กระบี่ ก็แค่ออกมาต้อนรับศัตรู ที่มาถึงที่ ไม่ใช่จะไล่ตามศัตรู ไปทุกที่สกั
หน่อย ดีไม่ดีเขาอาจจะกลัวเสี ยหน้าก็ได้เลยงัดไพ่ตายออกมา "

" ตอนนั้นหากเขาไม่ได้ตกหน้าผา แล้วโชคดีที่ไปเจอดาบไม้


ศักดิ์สิทธิ์และประโยชน์อีกนานับประการ ปั จจุบนั เขามันก็แค่ไอแก่ ที่
อาจจะยังอยูใ่ นระดับ 1 อาณาจักรสวรรค์กไ็ ด้ "

" อ่า . . . . ตอนแรกก่อนที่เขาจะนําดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์กลับมา มีแต่


คนคิดว่าประมุขรุ่ นก่อนคงตายไปแล้วเนื่องจากบาดเจ็บซะขนาดนั้น
ขนาดตอนนั้นบรรดาลูกหลานยังจัดงานศพให้ซะยิง่ ใหญ่ ใครจะไปนึก
ว่าเขาจะรอดอยูบ่ นโลกนี้ "
" หากลองคิดทบทวนดีๆ หุบเขาเทพกระบี่น้ ีค่อนข้างจะพิเศษสัก
หน่อยในบรรดาขุมอํานาจทั้ง 9 อาณาจักร เมื่อพวกเขาทําตัวเงียบๆ
ผูค้ นเกือบลืมไปว่าเขานั้นก็เป็ น 1 ใน มหาอํานาจที่ยนื อยูจ่ ุดสู งสุ ด ที่
แม้แต่ขมุ พลังขนาดใหญ่อย่าง สํานักเทพอัคคี และ สํานัก หยวนกัง ยัง
ไม่กล้าแตะต้อง "

" จริ งๆมันอาจไม่ได้เป็ นแบบนั้น พวกขุมอํานาจที่ยนื อยูจ่ ุดสู งสุ ด


อย่างเช่น สํานักเทพอัคคี สํานักหยวนกัง นิกายไป๋ ที่ราบหุบเขาไร้
ใจ แม้พวกเขาจะไม่ได้ป่าวประกาศว่าบรรพบุรุษของพวกเขายังมีชีวติ
อยูแ่ ต่พวกเขาล้วนแต่หายไปหลายปี พวกเขาเล่นละครตบตาให้คน
ภายนอกคิดว่าพวกเขาล้วนตายไปแล้ว "

" แต่เมื่อถึงยามคับขันหรื ออันตรายมาเยือน พวกเขาทั้งหมดก็


ล้วนแต่แสดงตัวออกมา แม้จะออกตัวมาแบบไม่ค่อยอลังการหวือหวา
สักเท่าไหร่ แต่พวกเขาล้วนเก็บไพ่ตายที่คนอื่นไม่รู้ซ่อนไว้ และบรรพ
บุรุษของแต่ละมหาอํานาจต่างก็ลว้ นแต่ถือไพ่ตายที่ทรงประสิ ทธิภาพ
เอาไว้ท้ งั นั้น "

"วางหิ นไปที่แหล่งกําเนิดพันจุด!!! " หลังจากที่รูปแบบฯเทพ


กระบี่ถูกเปิ ด พวกเขาก็เริ่ มต้นนําเนินการกับสิ่ งที่หมุนอยูร่ อบๆหุบเขา
เทพกระบี่

" นี่! ! ! รู ปแบบฯเทพกระบี่น้ ีดูเหมือนจะมีจุดอ่อน! ! ! " ทันใดนั้น


ก็มีคนตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ

" มันเป็ นแบบนั้นจริ งๆ ข้าสามารถมองเห็นชูเฟิ งและคนอื่นๆที่


อยูบ่ นท้องฟ้าได้แล้ว มันเกิดอะไรขึ้น ? เป็ นไปได้วา่ รู ปแบบฯเทพ
กระบี่น้ ีมีไว้เพื่อทําให้คนอื่นหวาดกลัวเท่านั้น ไมงั้นทําไมพลังของมัน
ถึงได้ลดลงอย่างรวดเร็ ว " ในเวลาเดียวกันทุกคนก็ทอดสายไปไปยัง
ขอบฟ้า พร้อมกับความรู ้สึกประหลาดใจ
" ฮ่าๆๆๆ ไอ้สารเลว รู ปแบบฯเทพกระบี่น้ ีดูเหมือนจะไร้
ประโยชน์สินะ "

แน่นอนหลังจากที่แสงจากรู ปแบบฯเทพกระบี่ลดลง พลังที่ควบคุม จาง


เทียนและคนอื่นๆก็ถดถอยเช่นกัน ในเวลานั้น จาง เทียนยี่ ก็หวั เราะ
ออกมาอย่างบ้าคลัง่ เขาชี้ปลายดาบไปยังใบหน้าของประมุขรุ่ นก่อน
พร้อมกับพูดต่ออีกว่า " ไอ้เฒ่าระยํา ชอบแกล้งตายนักใช่ไม๊ วันนี้ขา้ จาง
เทียนยี จะช่วยให้เจ้าได้ตายจริ งๆในดาบเดียว "

" หื ม!! เจ้าคนโอหัง ภัยพิบตั ิมาเยือนแล้วยังกล้าพูดจาเหลวไหล


พอถึงเวลานั้นเจ้าจะหัวเราะไม่ออก " ถึงแม้วา่ พลังของจาง เทียนยีจ่ ะเริ่ ม
กลับมา แต่ประมุขรุ่ นก่อนของหุบเขาเทพกระบี่กบั ไม่มีท่าทีกลัวแม้แต่
น้อย อีกทั้งยังแสยะยิม้ ที่มุมปากพร้อมกับทําน่าตาน่ากลัว

ในเวลาเดียวกัน จื่อหลิง เองก็พลังฟื้ นคืน พร้อมกับเริ่ มโจมตีใส่ ประมุข


หุบเขาเทพกระบี่อย่างบ้าคลัง่ ประมุขที่สูสีกบั จื่อหลิงในตอนแรกตอนนี้
ก็ได้แต่หลบหนีไปทัว่ ทุกแห่งอีกครั้ง

แต่ยงั ไงก็ตาม แม้พลังต่อสู จ้ ะดีข้ ึนมากและรุ นแรงกว่าเดิม ชูเฟิ ง ก็ยงั คง


ยินอยูน่ ่ิงๆในอากาศ และใช้สายตายกวาดรอบๆ พร้อมกับควบคุม
อํานาจพลังวิญญาณตรวจสอบ การเปลี่ยนแปลงของรู ปแบบฯเทพกระบี่

ชูเฟิ งพบว่าแสงที่น่ากลัวพวกนั้นไม่ได้หายไปไหน แต่มนั เข้ามารวมตัว


อยูด่ ว้ ยกันอย่างแน่นหนา จนเป็ นร่ างอยูท่ ี่พ้นื

" จื่อหลิง ศิษย์พี่จาง อย่าเข้าไปปะทะ รี บถอยออกมา "

" รู ปแบบฯเทพกระบี่น้ ีไม่ใช่ยกระดับการเพาะปลูกผูค้ นในหุบ


เขาเทพกระบี่ หรื อยับยั้งพลังของเราแต่อย่างใด "
" มันใช้สาํ หรับฟื้ นฟูผเู ้ ชี่ยวชาญของพวกเขา ก่อนที่ผเู ้ ชี่ยวชาญ
จะฟื้ นขึ้นมา เราต้องรี บออกไปเดี๋ยวนี้!!! " ในที่สุด ชูเฟิ ง ก็สามารถ
เข้าใจทุกอย่างจากนั้นเขาก็ตะโกนบอกทั้ง2คน
ReadMGA.blogspot.com
https://www.facebook.com/MartialGodAsu
ra/
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////

A : กลัวไรล่ะ เรี ยกผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้า มาตบก็สิ้นเรื่ อง

B : หากผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้าฟื้ นคืนชีพแล้วก็วา่ ไปอย่าง ตอนนี้ยงั เฝ้าร่ าง ซู


รู่ ซูเหม่ย อยูเ่ ลย

A : นั้นสิ นะ พวกมันโกงชะมัดยาก เรี ยกบรรพบุรุษในอดีตออกมา


ช่วย!!!

B : กลัวไร หากพ่อชูเฟิ งมา ให้มนั ขุดมาทั้งโครตเง่าเต่าล้านปี ก็


ไม่ขณามือ อย่าว่าคนจํานวนแค่ 10 ล้าน ต่อให้ 1000 ล้าน พ่อชูเฟิ ง
ก็บ่อย้านนน
A : พ่อชูเฟิ งจะออกมาหรออ!!!

B : ไม่อ่ะ!!!

A : แล้วมึงจะพูดทําส้น . . . . . .เด๋ วอัดแม่ง


บทที่ 452 - เทพกระบี่ผยู ้ งิ่ ใหญ่

"อะไรนะ" จื่อ หลิง และ จาง เทียนยี่ ตกใจกับสิ่ งที่ชูเฟิ งพูด

"ชูเฟิ งเจ้าช่างน่าประทับใจจริ งๆ ที่เจ้ารู ้ความลับของรู ปแบบเทพ


กระบี่ แต่มนั สายเกินไปแล้ว " อดีตประมุขหุบเขาเทพกระบี่ พูดขึ้น

"ใครก็ตามที่มนั กล้าบุกรุ กหุบเขาเทพกระบี่ของข้ามันต้องตาย!!"


ในตอนนั้น เสี ยงชายชราก็ระเบิดดังออกมา และพลังของมันทําให้พ้ืนที่
แถวนั้นสัน่ สะเทือน
ในเวลาเดียวกัน ก็มีพลังที่น่าเกรงขามพุง่ ลงมาจากท้องฟ้า พลังนั้น
แข็งแกร่ งมาก มันราวกับว่าพลังนั้นหลับไหลมากว่าหลายร้อยปี และ
บัดนี้ได้ตื่นขึ้น

และที่สาํ คัญที่สุดพลังนั้นมีเป้าหมายที่ ตัวของพวกชูเฟิ ง และด้วยอํานาจ


ที่น่ากลัวของมัน มันทําให้ท้ งั 3 นั้นถูกผนึกไว้กลางอากาศและไม่
สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่ครึ่ งก้าว

*ตูม* ในที่สุดก็มีแสงบางอย่างปรากฏขึ้นตรงกลางระหว่างชูเฟิ ง จื่อ


หลิง และจาง เทียนยี่ แสงนั้นตอนแรกมีขนาดเท่ามือ และมันเริ่ มใหญ่ๆ
ขึ้นเรื่ อยๆ และในที่สุด มันก็กลายเป็ นร่ างของมนุษย์

มันเป็ นร่ างของชายชรา สู งประมาณ 2.3 เมตร และมีร่างกายที่ใหญโต


และ มีราศี
ผมของชายชรานั้นยาวปะบ่า และผมนัน่ สะบัดไปมาแม้กระทัง่ ไม่มีลม

และที่สาํ คัญที่สุดเขาแบกกระบี่ยาวมาด้วย กระบี่น้ นั เป็ นกระบี่ที่โคตร


จะธรรมดา ไม่มีกลิ่นอายหรื ออะไรปรากฏเลย มันคือดาบธรรมดาทัว่ ไป
นัน่ เอง
[ T/N แล้วจะอธิบายทําขี้เกลือ ]

อย่างไรก็ตาม กระบี่อนั นั้นมันเป็ นอันเดียวกับกระบี่ที่ถูก ปั้ นขึ้นมาเพื่อ


ไปอนุสรณ์สถานระลึกถึง ผูก้ ่อตั้งหุบเขาเทพกระบี่ ผูก้ ่อตั้งคนนั้นมีนาม
ว่า มู่ หรงเฟิ ง

“ท่าน คือ มู่หรง เฟิ งอย่างนั้นหรื อ” หลังจากได้เห็นหน้าของชาย


ชราคนนั้น จาง เทียนยี่ หน้าเปลี่ยนสี ทนั ที และถามเขาไปด้วยวาจาที่
สุ ภาพ

“ถูกต้อง ข้าเอง มู่หรง เฟิ ง.” ชายชรา คนนั้นมองมาที่ จาง เทียนยี่


แล้วตอบเขาไป

“อะไรนะ เขาคือมู่หรง เฟิ ง ประมุขหุบเขาเทพกระบี่คนแรก เทพ


กระบี่ มู่หรง เฟิ งอย่างนั้นหรื อ”

“เป็ นไปได้อย่างไร เขาน่าจะตายไปเมื่อพันปี ก่อน แล้วนี่ ทําไม


เขาถึงยังมีชีวติ อยูล่ ่ะ” เมื่อได้ยนิ ชื่อนั้น ผูค้ นต่างแตกตื่นทันที และพวก
เขานั้นต่างสนใจเรื่ องที่ทาํ ไมตํานานอย่าง มู่หรง เฟิ งยังมีชีวติ อยู่

“มู่หรง เฟิ ง ประมุขรุ่ นที่ 1 ท่านมู่หรง เฟิ ง หรื อ ท่านยังมีชีวติ อยู่


หรื อ” ไม่ใช่แค่คนนอก แม้แต่ศิษย์ในหุบเขาเทพกระบี่ นั้นก็ตกใจ
เช่นกัน

“เปล่า นัน่ ไม่ใช่ร่างโดยแท้จริ งของเขา มู่หรง เฟิ งนั้นตายมากว่า


พันปี แล้ว ดังนั้นมันเป็ นไปไม่ได้ที่เขาจะมีชีวติ อยู่ นัน่ คงเป็ นเพียง
จิตสํานึกของเขา.” ในตอนนั้น มีคนคนหนึ่ง พูดขึ้นมา

“จิตสํานึกหรื อ จิตสํานึกนั้นจะสามารถคงตัวอยูไ่ ด้โดยมีเวลา


จํากัดมิใช่หรื อ ทําไมจิตสํานึกของเขาถึงได้คงอยูม่ ากว่าพันปี ล่ะ”

แต่ยงั มีบางคนนั้นสงสัย เพราะว่าผูเ้ ชี่ยวชาญนั้น จะทิ้งจิตสํานึกไว้


หลังจากตายก็จริ ง และระดับพลังของมันก็จะเท่ากับตอนที่ยงั มีชีวติ อยู่

แต่วา่ การบ่มเพาะของจิตสํานึกนั้น มันควรจะอ่อนลงเมื่อเวลาผ่านไป


และถ้าอ่อนลงมากๆร่ างกายของคนผูน้ ้ นั ก็จะจางลงและหายไปในที่สุด
ส่ วนระยะเวลาที่จะคงจิตสํานึกไว้ได้น้ นั อยูท่ ี่ระดับการบ่มเพาะของคน
คนนั้น

แต่ มู่หรง เฟิ ง ที่อยูต่ รงหน้านี้น้ นั แตกต่างออกไป ออร่ าของเขาที่


กระจายออกมาจากตัวเขานั้นแข็งแกร่ งมาก แม้วา่ มันจะไม่ได้โดดเด่นถึง
ขนาดบอกได้วา่ ตํานานนั้นได้หวนคืนแล้ว แต่ผคู ้ นต่างก็รู้ดีวา่ เขานั้นน่า
เกรงขามเพียงใด

หลังจากผ่านไปกว่าพันปี เป็ นไปได้วา่ เขาจะมีวธื ีการเก็บรักษาจิตสํานึก


โดยไม่ให้พลังตกหล่นไปได้ ที่คิดอย่างนี้ได้กเ็ พาะว่า ต่อให้มู่หรง เฟิ ง
แข็งแกร่ งเพียงใด เขานั้นที่มีพลังอยูใ่ นจุดสู งสุ ดของระดับ อาณาจักร
สวรรค์ นั้น จิตสํานึกของเขาก็ไม่น่าจะอยูไ่ ด้นานเท่านี้

“ถ้าจิตสํานึกทัว่ ไปล่ะก็ ไม่สามารถอยูไ่ ด้นานเท่านี้หรอก แต่ถา้


มันถูกผนึกไว้ในบางอย่างที่พิเศษหน่อย มันก็พอเป็ นไปได้”

“อย่างไรก็ตาม รู ปแบบผนึกจิตสํานึกอันนี้ใช้ได้เพียงครั้งเดียว
เท่านั้น นัน่ หมายความว่าหากเมื่อ รู ปแบบเทพกระบี่น้ ีถูกใช้เมื่อใดมู่หรง
เฟิ งก็จะปรากฏออกมา และเมื่อจบการใช้รูปแบบนั้น มู่หรง เฟิ งก็จะ
หายไปในทันที.” คนจากฝูงชน พูดขึ้นมา
“มันน่าจะเป็ นเช่นนั้นล่ะ ข้าไม่เคยได้ยนิ ว่าจะมีรูปแบบอย่างนี้
ในโลกนี้ ข้าคิดว่า ไอสิ่ งที่เรี ยกว่ารู ปแบบเทพกระบี่น้ ีเขาคงจะใช้พลัง
ของเขาทั้งหมดสร้างขึ้นมา.” ในตอนนั้น ผูค้ นที่สงสัยอยูก่ เ็ ข้าใจถึง
รู ปแบบนี้ในทันที

“ไม่วา่ เจ้าจะพูดอย่างไร แต่สาํ หรับข้ามันเป็ นบุญตานัก ที่จะได้


เห็นตํานานอย่าง เทพกระบี่ มู่หรง เฟิ ง.”

“อ้า, มู่หรง เฟิ งนั้นเป็ นคนอย่างไรหรื อ มู่หรง เฟิ งคนนั้นมี


พลังใกล้เคียงกับ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าเลย แม้วา่ เขาจะไม่แข็งแกร่ งเท่า
ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า แต่เขานั้นก็ไม่ใช่ใครคนที่ ชูเฟิ ง หรื อคนอื่นๆ จะ
ต่อกรได้ ดูเหมือนว่าทั้ง 3 คนนั้นจะไม่มีโชคจริ งๆวันนี้.”

หลังจาก มู่หรง เฟิ ง ปรากฏตัวขึ้น ผูค้ นต่างตกตะลึงด้วยความเหลือเชื่อ


และคิดว่า ชูเฟิ ง และคนอื่นๆนั้นต้องโดดจัดการแน่นอนในวันนี้ เพราะ
พลังของมู่หรง เฟิ ง ที่เป็ นตํานานนั้นแข็งแกร่ งมาก
“ชูเฟิ ง จาง เทียนยี่ จิตสํานึกของมู่หรง เฟิ งนั้นไม่สามารถอยู่
ได้นานและมันจะหายไปอย่างรวดเร็ ว พวกเราต้องถ่วงเวลาไว้ถึงตอน
นั้น.”

“ในตอนที่มู่หรง เฟิ งยังมีชีวติ อยู่ เขานั้นเป็ นคนที่


ตรงไปตรงมามาก เขาไม่เคยทําอะไรที่ฝ่าฝื นใจตัวเองเลย ดังนั้นเราต้อง
ใช้ประโยชน์จากจุดนั้น ทําให้เขาลําบากและเขาจะหายไปเอง.”

จื่อ หลิงพูด โดยสื่ อสารทางจิต เธอนั้งมีความรู ้มากมายเกี่ยวกับรู ปแบบ


วิญญาณหรื ออะไรพวกนี้ เธอจึงรู ้ขอ้ ด้อยของรู ปแบบผนึกจิตสํานึกดี

“มู่หรง เฟิ ง ผูส้ ื บทอดของท่านช่างไร้ยางอายยิง่ พวกเขา


ต้องการขโมยสมบัติของข้า แต่พวกเขาไม่สามารถทําได้ พวกเขาจึงใส่
ร้ายข้า และจับมือกับผูอ้ ื่นเพื่อฆ่าข้า.”
“เมื่อพวกเขา ไม่สามารถฆ่าข้าได้ พวกเขาก็หนั ไปโจมตีสาํ นัก
ของข้า และขุดหลุมศพของบรรพบุรุษของข้า และ บอกว่าจะโยนลงบ่อ
ขี้ดว้ ย.”

“เรื่ องที่ ข้าพูดนั้นเป็ นเรื่ องจรื งทั้งหมด ถ้าท่านไม่เชื่อก็ลองถาม


คนที่อยูใ่ นเหตุการณ์ดูสิ.” ชูเฟิ ง พูดเสี ยดัง

“โอ้” เมื่อได้ยนิ ชูเฟิ งพูด มู่หรง เฟิ งก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย


หลังจากนั้น เขาก็กวาดตาไปหาคนซักคนที่อยูใ่ นกลุ่มคนที่ไม่ได้เป็ น
ศิษย์ของหุบเขาเทพกระบี่

“ท่านผูก้ ่อตั้ง อย่าไปฟังมัน เจ้า3คนนี้มนั เป็ นปี ศาจกระหาย


เลือก มันไม่เพียงฆ่าลูกหลานของท่าน มันยังขโมย กระบี่ไม้ศกํ ดิ์สิทธิ์
ไปจากเราด้วย และพวกมันจ้องจะทําลายหุบเขาเทพกระบี่อีกด้วย”
“ถ้าหุบเขาเทพกระบี่ไม่ตกอยูใ่ นอันตราย ข้าคงไม่ใช้รูปแบบ
เทพกระบี่ เรี ยกท่านออกมาหรอก อย่างไรก็ตามรู ปแบบนั้นใช้ได้แค่ครั้ง
เดียว หลังจากที่ขา้ ใช้มนั ท่านก็จะหายไป ข้า ...” หลังจากพูดเช่นนั้น ปู่
ของมู่หรง ยู่ ก็เงียบไป ท่าทีของเขานั้นดูอนาถมาก และมันทําให้ดูน่า
สงสาร

“พ่อข้าพูดถูกแล้ว เจ้า3คนนี้น้ นั ไร้สจั ธรรมและไร้หวั ใจ ถ้า


ท่านไม่ฆ่าพวกมัน ศิษย์ของหุบเขาเทพกระบี่จาํ นวน 10 ล้านคนต้อง
ตายไปแน่นอน!!” ประมุขหุบเขาเทพกระบี่พดู

“ข้าไม่เคยคิดว่า หุบเขาเทพกระบี่ของข้าจะมาได้ไกลขนาดนี้
ศิษย์ 10 ล้านคนงั้นหรื อ มันช่างมากมายเหลือเกิน มากมายกว่าตอนที่
ข้าก่อตั้งหุบเขาเทพกระบี่ข้ ึนมาเสี ยอีก!”
มู่หรง เฟิ งมองไปที่หุบเขาเทพกระบี่ของเขา และพยักหน้า และ
ต่อจากนั้นเขาก็หนั ไปทางพ่อของ มู่หรง ยู่ และพูดว่า

“เมื่อตอนที่ขา้ ได้สร้างรู ปแบบเทพกระบี่น้ นั มันทําได้เพียง


ปกป้องความสงบสุ ขให้หุบเขาเทพกระบี่ของข้า แต่ถา้ เจ้าต้องการให้ขา้
ฆ่าเด็ก 3 คนนั้น เกรงว่าข้าจะทําไม่ได้.”

“ข้าจะถ่ายพลังให้แก่เจ้า เจ้าจะสามารถจัดการพวกเขาได้
หรื อไม่ ก็ข้ ึนอยูก่ บั เจ้าเอง.”

หลังจากพูดจบ ร่ างกายของมู่หรง เฟิ งก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เขา


กลายเป็ นแสงและลอยเข้าไปในปู่ ของมู่หรง ยู่

“อ๊ากกก~~” ในตอนนั้น ปู่ ของมู่หรง ยู่ หรื อ ประมุขรุ่ นที่


แล้ว ก็ได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ในตอนนั้นตัวเขาก็ถูกปก
คลุมด้วยออร่ า และออร่ านั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่ อยๆ และระดับพลังของๆเขาก็
เพิ่มขึ้นเช่นกัน จากระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ เลื่อนเป็ น ระดับ 7
อาณาจักรสวรรค์

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////
แปลโดยท่าน#ฮายย

A : ท่าทางจะเป็ นคนมีเหตุผลอยูบ่ า้ ง สําหรับมู่หรง เฟิ ง

B : สําหรับลูกหลานของมัน หน้าด๊านน หน้าด้าน อยากจะเอาขี้ในบ่อ


เขวี้ยงใส่ หน้าพวกแม่งจริ งๆ

A : อย่าให้พี่เฟิ ง กูเหลืออด เด๋ วมืงจะเจอ ปิ ก้าจู ช็อตสายฟ้าแสนโว้ล

B : แต่วา่ พลังอํานาจของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์มนั ทําได้แค่เพิ่มระดับพลัง


วิญญาณจริ งๆหรอ หรื อว่ามันจะมีความลับที่มากกว่านั้น จะเป็ นยังไง
กัน ต้องรอดูตอนที่มนั เฉลย

A : มึงพูดแบบนี้ แสดงว่ามึงก็ไม่รู้เหมือนกันสิ นะ ???


B : ไม่เอาไม่พดู ♪ ไม่เอาไม่เอาไม่บอก ♪

A : แหม๋ อีดอก มาเป็ นเพลงเชียว

บทที่ 453 - ทรมาณ จื่อหลิง

“บัดซบ ข้าไม่คิดว่า จิตสํานักของมู่หรง เฟิ งจะถ่ายพลังให้คนอื่น


ได้ นี่เท่ากับช่วยยืดเวลาให้เขาออกไปอีก นี่ช่างแย่เสี ยจริ ง”

เมื่อเห็นมู่หรง เฟิ งนั้นได้หายเข้าไปในตัวของ ประมุขรุ่ นก่อน และพลัง


ของเขาถูกยกระดับขึ้น ในตอนนั้นใบหน้าของจื่อ หลิง เปลี่ยนสี ทนั ที
และดวงต่าของเธอนั้นปรากฏความกลัวขึ้น

“ทํามันเป็ นเยีง่ นี้ พลังของเขาเพียงแค่ระดับ 7 อาณาจักร


สวรรค์ แต่ทาํ ไมแรงกดดันของเขามันมากกว่ามุ่หรง เฟิ ง “ จาง เทียนยี่
พูดพร้อมขมวดคิ้วของเขา
จิตสํานึกของมู่หรง เฟิ ง ได้หายไปแล้ว แต่ในตอนนี้ แรงกดดันของ
ประมุขรุ่ นก่อนนั้น แข็งแกร่ งกว่า มู่หรง เฟิ งเสี ยอีกและด้วยพลังระดับ
7 อาณาจักรสวรรค์ของเขานั้นมันช่างแข็งแกร่ งเสี ยจริ งเพราะมันเป็ น
ระดับที่เข้าใกล้ระดับเจ้าสงครามแล้ว

ในตํานานได้บอกไว้วา่ ผูท้ ี่อยูใ่ นระดับเจ้าสงครามนั้น มีพลังที่จะทําลาย


ฟ้าดิน ระเบิดภูเขาและผ่ามหาสมุทรได้ นัน่ คือเหตุผลว่าทําไมระดับ
อาณาจักรสวรรค์ถึงแข็งแกร่ งกว่าระดับแก่นแท้วญ ิ ญาณหลายขุม

ดังนั้น ในการทะลวงระดับอาณาจักรสวรรค์ข้ ึนเป็ นระดับเจ้าสงคราม


นั้นก็เป็ นเรื่ องยากเช่นกัน

นัน่ หมายความว่า ในระดับพลังแต่ละส่ วนนั้น จะมีพลังต่างกันอย่างมาก


และด้วยเหตุผลนี้ มันจึงน่าเกรงขามมากและยากที่จะก้าวเข้าไปเช่นกัน (
T/N ระดับพลังในที่น้ ี หมายถึง ห้วงวิญญาณ กําเนิดวิญญาณ แก่นแท้
วิญญาณ อะไรพวกนี้นะครับ)

ดังนั้น เมื่อเข้าสู่ ระดับ 6อาณาจักรสวรรค์แล้ว การก้าวเข้าสู่ ระดับ 7 ก็


เป็ นเรื่ องเช่นกัน จึงมีผคู ้ นหลายคนที่อยูใ่ นระดับ 6 ไปชัว่ ชีวติ ไม่
สามารถทะลวงไปในระดับ 7 ได้

เช่นเดียวกับระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์ การทะลวงขึ้นไปในระดับ 9 ก็


ย่อมยากเช่นกัน และนี่เป็ นเหตุผลว่าทําไมทวีป 9 อาณาจักรนี้ยงั ไม่มี
ผูใ้ ดทะลวงเข้าไปในระดับ เจ้าแห่งสงครามได้เลย

ในการยกระดับแต่ล่ะระดับของอาณาจักรสวรรค์น้ นั ก็เป็ นเรื่ องยาก


เช่นกันไม่ใช่เพียงแค่การทะลวงเข้าไปในระดับเจ้าสงครามเท่านั้น

แต่กไ็ ม่มีใครสามารถก้าวเข้าไปสู่ ระดับเจ้าสงครามได้ เพราะการบ่ม


เพาะการต่อสู ไ้ ปในระดับนั้น เป็ นเรื่ องยากมาก
มีแต่ผทู ้ ี่แข็งแกร่ งเท่านั้นที่จะสามารถผ่านอุปสรรคแล้วขึ้นไปยังจุดที่
สู งขึ้นและสู งขึ้น ได้

ในวันนี้ ชูเฟิ ง จื่อ หลิง จาง เทียนยี่ ก็ได้เผชิญหน้ากับผูท้ ี่อยูใ่ นระดับ 7


อาณาจักรสวรรค์แล้ว มันเป็ นระดับพลังที่สูงเกินกว่าจะต่อกรด้วยได้
จริ งๆ

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ชูเฟิ ง จื่อ หลิง จาง เทียนยี่ พวกเจ้าทั้ง 3 ทําไมยังนิ่ง
อยูเ่ ล่า เจ้าบอกว่าจะฆ่าข้าไม่ใช่หรื อ เจ้าบอกว่าจะฆ่าลูกชายฆ่าไม่ใช่
หรื อ เจ้าบอกจะถล่ม ตระกูลมู่หรง ของข้าไม่ใช่หรื อ เจ้าบอกว่าจะถล่ม
หุบเขาเทพกระบี่ของข้าไม่ใช่หรื อ?”

“แล้วทําไมตอนนี้ถึงยังไม่ขยับตัวอีกล่ะ หรื อว่าจะมีที่ไหนที่


เจ้าต้องไปก่อนหรื อ” ประมุขรุ่ นก่อนของหุบเขาเทพกระบี่ พูดเย้ยหยัน
พร้อมหัวเราะ

“เจ้าแก่บดั ซบ ถ้าเจ้าอยากจะฆ่า ก็ฆ่าสิ อย่ามัวแต่พดู มาก.”

“เจ้าได้แต่อาศัยพลังของผูก้ ่อตั้งของเจ้าเท่านั้น หากเจ้าไม่มี


พลังนั้น เจ้าก็จะได้รู้วา่ เจ้าจะไปอยูใ่ นนรกขุมไหน”

“จากที่ขา้ เห็น มันน่าเสี ยดายจริ งๆที่เจ้ามีอายุถึงขนาดนี้ และน่า


เสี ยดายเวลาที่เจ้าใช้ในการฝึ กฝนไปเสี ยจริ ง เจ้ายังกล้าเรี ยกตัวเองว่า
อดีตประมุขของหุบเขาเทพกระบี่อีกหรื อ เจ้ามันก็แค่ขยะเก่าๆแค่น้ นั
แหละ.” จาง เทียนยี่ ไม่ได้หวาดกลัว เขาพูดออกไปด้วยนํ้าเสี ยงหนัก
แน่น

“เจ้าเด็กเหลือขอ ในตอนนี้เจ้าก็ได้เพียงแค่พดู แค่น้ นั ถ้าเจ้ากล้า


พูดมากกว่านี้ แน่นอน ข้าจะสนองให้.” อดีตประมุขของหุบเขาเทพ
กระบี่ พูดขึ้น และจากนั้นก็มี กระบี่ยาว 3 ฟุตปรากฏขึ้นบนมือเขา

หลังจากนั้นเขาก็สะบัดมัน และแสงจากกระบี่น้ นั ก็พงุ่ เข้ายัง หน้าของ


จาง เทียนยี่ “ ฉึก “ มันได้แทงผ่านหน้าอกของจาง เทียนยีเ่ ข้าไป

“ฮ่าๆ เจ้าแก่บดั ซบ นี่คือทั้งหมดที่เจ้าได้รับมาหรื อ มันไม่เห็น


น่าตื่นเต้นอะไรเท่าไรเลย “

“ข้าจะบอกอะไรให้นะ เจ้าควรรี บฆ่าข้าเสี ยดีกว่า มิเช่นนั้นเมื่อ


พลังของ มู่หรง เฟิ ง หมดไป เจ้าจะถูกข้าส่ งไปนรกแน่นอน.” จาง เทียน
ยี่ ที่ถูกแทงเข้าไปที่หน้าอกนั้น ไม่ได้ร้องออกมาเลย เขาได้แต่หวั เราะ
และพูดออกมา

ในตอนนั้นอดีตประมุขของหุบเขาเทพกระบี่กโ็ กรธจัด เขาเล็งและแทง


กระบี่เข้าไปที่ ตันเถียนของ จาง เทียนยี่ และพูดว่า “ เจ้าเด็กเหลือขอ ที่
เจ้าพูดเช่นนั้นเจ้าต้องการอะไร ถ้าอย่างนั้นข้าจะทําลายตันเถียนของเจ้า
ดูสิวา่ เจ้ายังจะพูดอะไรได้อีกหรื อไม่.”

“เจ้าหุบเขากระบี่บดั ซบ.” ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็ตะโกนขึ้นมา,


“เจ้าก็เป็ นได้แค่ตาแก่ไร้ยางอายเท่านั้น ในสายตาข้าเจ้าก็แค่สวม
วิญญาณลิงโลดเต้นเมื่อได้ของใหม่ และด้วยพลังของผูก้ ่อตั้งนั้น เจ้า
ถึงกับโอ้อวดถึงเพียงนี้เชียวหรื อ”

“เจ้าจําได้ไหมว่า เจ้าเคยหนีหวั ซุกหัวซุนไปทัว่ และต้องกลิ้ง


บนพื้นดิน เจ้ายังจําได้หรื อไม่ในตอนที่เจ้าต้องหนีจนไม่มีหนทางที่จะ
หนไปได้ปีนั้น”

“และ เพื่อหลบศัตรู ของตระกูลเจ้า เจ้านั้นทําได้เพียงแค่แกล้ง


ตาย เจ้าช่างไร้ยางอายเสี ยจริ ง!”
“อะไรนะ เจ้ากําลังพูดถึงความสามารถของเจ้าหรื อ ฮ่า หลังจาก
บ่มเพาะมานับ 10 ปี เจ้าก็กย็ งั ถูกศิษย์พี่จาง ของข้าเตะเยีย่ งหมา
เหมือนเดิมมิใช่หรื อ”

“ศิษย์พี่ จาง ท่านพูดถูกแล้ว เจ้านี่กเ็ ป็ นได้แค่ขยะเก่าๆ น่า


เสี ยดายเวลาที่เจ้าใช้ไปในการบ่มเพาะเสี ยจริ ง ใช้เวลาเสี ยนานแต่กแ็ พ้
ให้กบั คนหนุ่มสาวที่บ่มเพาะเพียงไม่กี่ปี หรื อว่าเจ้าใช้เวลาหลายปี นั้นใช้
ชีวติ เยีย่ งหมางั้นหรื อ”

ชูเฟิ ง กล่าวดูถูกพร้อมทําท่างทางเยาะเย้ยอย่างหนัก ทําให้อดีตประมุข


หุบเขาเทพกระบี่น้ นั โกรธจนหน้ามัว่ มือของเขากํากระบี่แน่นและเล็งมา
ที่ชูเฟิ ง แล้วพูดว่า, “ชูเฟิ ง ตอนแรกข้าคิดว่าค่อยมาจัดการกับเจ้าทีหลัง
แต่ขา้ รู ้แล้วว่าเจ้านั้นสมควรตายก่อน.”

“ดี ข้าก็รู้สึกคันๆแล้ว และไม่สามารถทนรอต่อไปได้แล้ว ถ้า


เจ้าคิดว่าเจ้าจะแตะต้องตัวข้าได้กล็ องดู แสดงให้ขา้ เห็นซิ วา่ เจ้าจะฆ่าข้า
ยังไง.” ชูเฟิ ง หัวเราะเสี ยงดังแล้วพูดออกมา

“เจ้า เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าอย่างนั้นหรื อ” เมื่อโดนเด็กดูถูก มันทํา


ให้อดีตประมุขของหุบเขาเทพกระบี่รู้สึกเจ็บปวดและโกรธจัด

“ท่านพ่อ อย่าไปสนใจคําพูดไร้สาระของมันเลย เร็ วเข้า ใน


ตอนที่พลังของผูก้ ่อตั้งยังเหลืออยู่ รี บฆ่าพวกมัน อย่าปล่อยให้พวกมัน
ลวงท่านให้เต้นไปตามแผนของพวกมันได้.” ประมุข ของหุบเขาเทพ
กระบี่พดู ขึ้นมา

“ถูกต้องแล้ว ฟังที่ลูกเจ้าพูด และรี บฆ่าพวกข้าซะ ไม่ตอ้ งมาก


พิธี หากพลังของผุก้ ่อตั้งหมดแล้ว ศิษย์พี่จาง แค่หลับตาก็ฆ่าเจ้าได้แล้ว.”
ชูเฟิ งพูดดูถูก

อดีตประมุขโกรธจัด เขาหันกลับมาแล้วตบหน้าลูกชายดังปั ง และ


จากนั้นเขาก็พดู ด้วยความโกรธว่า, “ หุบปาก ข้าไม่ได้ตอ้ งการให้เจ้ามา
สอนว่าข้าต้องทําอะไร ”

“ข้า…” ในตอนนั้นประมุขหุบเขาเทพกระบี่ ก็รู้สึกข้องใจ


แต่กไ็ ม่กล้าพูดอะไร เขาทําได้เพียงเดินถอยออกไปด้านข้าง

และในที่สุดอดีตประมุขหุบเขาเทพกระบี่กห็ นั มามองชูเฟิ ง อีกครั้ง เขา


ยิม้ ด้วยรอยยิม้ ที่น่ากลัวและพูดว่า

“ชูเฟิ ง อย่าคิดว่าข้าไม่รู้กลลวงของเจ้า ที่เจ้าจะทําให้กล้า


โกรธและทรมานเจ้า และเมื่อพลังของผูก้ ่อตั้งหมดลงเจ้าก็จะสวนกลับ
ข้าทันที?”

“หื ม. คิดว่านี้เป็ นกลลวงงั้นหรอ นั้นมันก็เรื่ องของเจ้า?”


“ข้ารู ้วา่ หนังเจ้าหนา และไม่กลัวการทรมาน แต่วา่ คนถัดไป
จากเจ้าล่ะ เจ้าคิดว่าแม่นางจื่อหลิง จะทนการทรมานไหวอย่างนั้นหรื อ”

หลังจากพูดจบ อดีตประมุขก็พงุ่ เข้าไปหาจื่อ หลิง และใช้มือของเขาจับ


ไปที่กรามของจื่อ หลิง และพูดว่า

“โอ้, แม่นางคนนี้ช่างงดงามเสี ยจริ ง ข้าอยูม่ านานหลายปี ไม่


เคยเจอสาวงามเช่นนี้มาก่อน ข้าอยากจะเห็นเมื่อหน้าที่งดงามนี้เต็มไป
ด้วยเลือดเสี ยจริ ง.”

“เจ้ากล้าหรื อ” เมื่อเห็นเช่นนั้น ท่าทีของชูเฟิ งเปลี่ยนไปอย่าง


มากตอนนี้ เขาไม่กลัวแม้กระทัง่ สวรรค์ ความโกรฑของเขานั้น ประทุ
ขึ้นมาอย่างรุ นแรง
เขาไม่เกรงกลัวเลยหาก อดีตประมุขหุบเขาเทพกระบี่จะทรมานเขา เขา
นั้นทนได้ไม่มีปัญหา แต่หากไปทรมานจื่อ หลิงแทนนั้นก็น้ นั ไม่
สามารถที่จะทนได้

“ฮ่าฮ่า เจ้าคิดว่าเข้าไม่กล้าหรื อ”

“ข้าจะแสดงให้ดูวา่ ข้ากล้าหรื อไม่” อดีตประมุขหัวเราะอย่าง


หนัก หลังจากนั้นเขาก็ได้สะบัดมือไปที่หน้าจื่อ หลิง ดังเพรี๊ ยะ ทําให้
เกิดรอยแดงบนใบหน้าของจื่อ หลิง

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : ไอ้บา้ นี้ อยูด่ ีไม่วา่ ดี หาเรื่ องตายซะงั้น


B : ผิดเป็ นครู แต่เห็นว่าครั้งหน้าคงจะไม่มีอีกแล้วล่ะ R.I.P หุบเขา
เทพกระบี่

A : เร็ วๆไปๆ . . . . .

B : หรอออออ
บทที่ 454 - ความพิโรธของชูเฟิ ง

“เจ้ากําลัง รนหาที่ตาย” เมื่อเห็นภาพนั้น ชูเฟิ งก็โกรธจัดจนใน


ตาเขาตอนนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า และใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวจนน่า
กลัว

แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์ เพราะไม่วา่ เขาจะดิ้นเท่าไหร่ เขาก็ไม่สามารถหลุด


จากแรงกดดันที่มดั รอบตัวเขาไว้ ทําให้เขาทําได้เพียงดู ผูห้ ญิงที่เขารัก
โดนตบ โดยไม่สามารถทําอะไรได้

และตอนนั้น ควันสี ดาํ นั้นเริ่ มแพร่ กระจายเข้าไปในตาชูเฟิ ง หนาขึ้น


หนาขึ้น มันเป็ นเจตนาฆ่าที่รุนแรงของเขา ชูเฟิ งนั้นไม่เคยแสดงเจตนา
ฆ่าที่น่ากลัวเพียงนี้มาก่อน

แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์เพราะอดีตประมุขหุบเขาเทพกระบี่ไม่ได้สนใจเขา
เลย เขายิม้ กว้างขณะที่เขาพูดและกระบี่แสงในมือของเขานั้นได้จ่อที่
หน้าของจื่อ หลิง

*ตูม*

แต่ในเวลาต่อมา กลิ่นอายความรุ นแรงได้ถูกระเบิดออกมาจากร่ างกายชู


เฟิ ง พลังนั้นแข็งแกร่ งมาก แม้แต่อดีตประมุขหุบเขาเทพกระบี่กร็ ้อง
ออกมาด้วยความเจ็บปวดและกระเด็นออกไปหลายร้อยเมตร

“เกิดอะไรขึ้น”
“นี่ นี่มนั เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเด็กเวรนัน่ ”

หลังที่แข็งแกร่ งที่ระเบิดออกมานั้นส่ งผลให้ อดีตประมุขควงสว่านใน


อากาศและลอยออกไปหลายร้อยเมตร เมื่อเขาหันกลับมามองที่ชูเฟิ ง
ใบหน้าเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจทันที เพราะในบัดนั้นเขาพบว่า
ดวงตาของชูเฟิ งนั้นได้ กลายเป็ นสี ดาํ แล้ว

ตาสี ดาํ นัน่ ช่างน่ากลัวยิง่ นัก มันไม่ใช่สายตาของมนุษย์แน่นอน มัน


เหมือนกับอสู รที่หิวกระหายในการฆ่า

และในเวลาเดียวกันกับที่ตาของชูเฟิ งได้เปลี่ยนแปลงนั้น มีสายฟ้า 2 สี


ขดกลมรอบๆร่ างของเขา
นัน่ คือสายสี ทอง และสี ฟ้า นัน่ เอง สายฟ้าทั้ง2สี น้ นั รวมกัน และ
ก่อให้เกิดเสี ยงฟ้าแลบอยูต่ ลอดเวลา เพราะสายฟ้าทั้ง 2 นี่มนั ไม่ใช่ภาพ
ลวงตา ทําให้มนั มีกลิ่นอายที่น่ากลัวมาก

มันเหมือนกับว่าสายฟ้าทั้ง 2 นั้นไม่ใช่เพียงแค่สายฟ้า แต่ความน่าเกรง


ขามของมันนั้นราวกับอสู รโบราณที่มีพลังพอที่จะสามารถทําลายโลก
ใบนี้ได้

*ตูม*

และในเวลานั้น มีเสี ยงระเบิดเกิดขึ้นบนท้องฟ้า และหลังจากนั้นก็เกิด


เมฆสี ดาํ ปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ ว

เมฆสี ดาํ พวกนั้นปรากฏอยูบ่ นท้องฟ้าราวกับเสกมา ในพริ บตาเดียวพวก


มันก็ลอ้ มรอบหุบเขาเทพกระบี่และขยายตัวขึ้นเรื่ อยๆ
“สวรรค์ นิมนั อะไร เกิดอะไรขึ้น”

ในเวลากลางวันของระยะทาง นับ10000 ไมล์น้ นั ราวกับพระ


อาทิตย์ได้ตกดินไปแล้ว เพราะเมฆสี ดาํ นั้นปรากฏขึ้นมาและทําให้พ้ืนที่
แถบนั้นตกอยูใ่ นความมืด มันมืดขนาดที่หากเขาเหยียดมือเข้าไป เขาก็
จะไม่เห็นมือของตนเอง

สิ่ งเดียวที่เห็นคือสายฟ้าทั้ง 2 ที่อยูบ่ นท้องฟ้า กําลังคํารามอย่างน่ากลัว


และด้วยพลังของมันแล้ว ทําให้ผคู ้ นคิดว่าชูเฟิ งนั้นเป็ นบุคคลที่น่าเกรง
ขามอย่างมาก

เขานั้นราวกับว่าไม่ใช่มนุษย์หรื อสัตว์ประหลาด แต่นน่ั ก็ไม่สามารถ


อธิบายได้เหมือนกันว่าเขาในตอนนี้น้ นั เป็ นตัวอะไร เพราะพลังของเขา
นั้นน่ากลัวอย่างมาก และนัน่ มันทําให้ผคู ้ นตกอยุ๋ในความกลัวอย่าง
รวดเร็ ว

“ทําไมเจ้าถึงแตะต้องเธอ ทําไมเจ้าถึงกล้าแตะต้องคนของ
ข้า”

ในที่สุด ชูเฟิ งก็พดู ออกมา นํ้าเสี ยงของเขารุ นแรงมาก ราวแสดงให้เห็น


ว่าเขานั้นอยากจะฆ่าคนมากแค่ไหน ไม่เพียงเท่านั้น นํ้าเสี ยงของเขานั้น
ไม่เหมือนกับเสี ยงมนุษย์พดู กันทัว่ ไป แต่มนั ราวกับเป็ นนํ้าเสี ยงของ
ปี ศาจ

นํ้าเสี ยงของเขาน่ากลัวมาก บรรดาผูค้ นที่ได้ยนิ มันต่างรู ้สึกกลัวจนตัว


สัน่ ไม่เว้นแม้แต่ อดีตประมุขหุบเขาเทพกระบี่ ที่อยูใ่ นทิศทางของเสี ยง

“เจ้า เจ้าเป็ นอะไร เจ้าเป็ นตัวอะไรกันแน่” อดีตประมุขหุบเขา


เทพกระบี่ ตะโกนออกมาด้วยเสี ยงสัน่ ๆ เขาพยายามใจเย็น อย่างไรก็ตาม
เขานั้นอยูใ่ นระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์ เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่า ชูเฟิ งที่อยูใ่ น
ระดับ 1 อาณาจักรสวรรค์น้ นั จะต่อกรกับเขาได้

แม้วา่ ท้องฟ้านั้นจะถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสี ดาํ และมันได้ขยายไปยัง


พื้นที่รอบข้าง และด้วยกลิ่นอายที่น่าเกรงขามจากชูเฟิ ง และมันรุ นแรง
ขึ้น รุ นแรงขึ้น ในตอนนี้เขาก็ไม่อาจทําใจเชื่อได้วา่ เขาจะแพ้ไปกับเด็ก
อย่างชูเฟิ ง เขาได้แต่ตะโกนออกมาและระเบิดกลิ่นอายระดับ 7
อาณาจักรสวรรค์ แล้วรวบรวมพลังทั้งหมดของเขาและใช้ทกั ษะระดับ
7 ออกมา

เมื่อเขาโจมตีออกมา แม้วา่ ลมนั้นจะพัดอย่างรุ นแรงแต่ทุกคนก็เห็น


กระบี่แสงที่เต็มไปด้วยพลังปรากฏขึ้นบนอากาศ

กระบี่ขนาดใหญ่น้ นั ยาวประมาณ 100 เมตร และใช้กว่าลานขนาด


เล็กๆลานนึง และที่สาํ คัญที่สุดมันถูกอัดแน่นไปด้วยพลังที่น่าเกรงขาม
พลังของกระบี่น้ นั หากถูกปล่อยออกมานั้นทําให้คนที่อยูแ่ ถวนั้นกลัวจน
หน้าซีด

“นี่คือทักษะประจําหุบเขาเทพกระบี่ กระบี่สวรรค์ แม้วา่ มันจะ


เป็ นทักษะระดับ 7 แต่พลังของมันก็ใกล้เคียงกับทักษะระดับ 8 ผูท้ ี่
ประดิษฐ์ทกั ษะนี้ข้ ึนมา คือมู่หรง เฟิ ง.”

“ในตอนนี้ มันถูกใช้โดยอดีตประมุขหุบเขาเทพกระบี่ดว้ ยพลัง


ระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์ พลังระดับนี้อาจจะทําให้โลกนั้นสะเทือน
เลยทีเดียว ทรงพลังมาก ทักษะนี้กช็ ่างทรงพลังซะเหลือเกิน แม้วา่ ตอนนี้
มันจะอยูบ่ นอากาศก็ตามหากมันร่ วงลงมากระทบพื้นดิน ข้าคิดว่าพวก
เราทั้งหมดจะต้องบ้านเจ็บอย่างแน่นอน และหุบเขาเทพกระบี่นอ้ าจจะ
ต้องถูกทําลาย ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์น้ นั ช่างน่าเกรงขาม
เสี ยจริ ง.”

เมื่อเห็นกระบี่แสงขนาดใหญ่บนท้องฟ้า ผูค้ นต่างก็คาดเดาก็ไปต่างๆ


นานา มีบางคนเริ่ มที่จะหลบหนีแล้ว เพราะเขากลัวพลังที่ออกมาจาก
กระบี่ยกั ษ์อนั นี้ หากมันถูกใช้ออกมา มันต้องทลายหุบเขาเทพกระบี่อนั
ยิง่ ใหญ่น้ ีได้อย่างแน่นอน

*ตูม* ในตอนนั้น ก็เกิดเสี ยงระเบิดดังขึ้นมาจากทางอื่นกระบี่แสงได้


เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ วและลอยไปยังชูเฟิ ง

ในตอนนั้น จาง เทียนยี่ และจื่อ หลิงสี หน้าเปลี่ยนไป เพราะว่าพลังของ


กระบี่แสงนั้นช่างรุ นแรงมากมันสามารถทําให้พวกเขาหายไปโดยไม่
เหลือซากได้เลย

*เปรี้ ยง ปร้าง ( เสี ยงสายฟ้ามันเสี ยดสี กนั เป็ นไงคิดไม่ออก) * อย่างไรก็


ตาม ในตอนที่กระบี่แสงนั้นอยูห่ ่างจากชูเฟิ งประมาณ 1 กิโลเมตร
สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ลอ้ มรอบตัวชูเฟิ งก็ระเบิดออกมาทันที

มันคือสายฟ้าสี ทอง มันลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างสวยงามราวกับมังกร


กําลังบิน แต่เบื้องหลังความงดงามนั้นเต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัว เพราะ
มันจะทําลายทุกที่ที่มนั บินผ่าน ไม่เว้นแม้แต่บนอากาศ

*ปัง* สุ ดท้ายยกระบี่แสงที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยพลังอันกล้าแกร่ ง ก็ถูก


สัมผัสและแตกเป็ นส่ วนๆและตกลงมาราวกับฝนในทันที แสงของมัน
นั้นเปล่งประกายบนท้องฟ้าราวกับหิ งห้อยจํานวนมาก

“อ๊า!” ในตอนนั้น อดีตประมุขหุบเขาเทพกระบี่กร็ ้องลัน่ ด้วยความ


เจ็บปวด หลังจากนั้นเขากระอักเลือดออกมา และมันสาดเต็มเสื้ อผ้าของ
เขา

นัน่ เพราะว่า ดาบยักษ์นนั่ เกิดจากพลังทั้งหมดของเขา เมื่อเขาโจมตี เขาก็


ย่อมได้รับความเจ็บปวดไปด้วย แต่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะมีผลกระทบ
หนักหนาถึงเพียงนี้
“นี่มนั เป็ นไปได้อย่างไร เขายังเป็ นมนุษย์อยูห่ รื อไม่” เมื่อเห็น
พ่อของเข้าบาดเจ็บสาหัส พลังลดลงเหลือระดับ 6 อาณาจักสวรรค์
ประมุขหุบเขาเทพกระบี่กพ็ ดู ขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว

เพราะในตอนนี้เขารุ ้สึกว่าเขาหมดหวังแล้ว ชูเฟิ งนั้นน่ากลัวเกินไป ใน


ชีวติ ของเขานั้นไม่เคยเจอบุคคลที่น่าเกรงกลัวเท่าชูเฟิ งมาก่อน ดังนั้นมัน
จึงทําให้เขารู ้สึกสิ้ นหวัง และไม่สามารถทําใจได้

ในตอนนั้น ผูค้ นที่อยูใ่ นเหตุการณ์น้ นั ต่างก็คิดสิ่ งนึงที่เหมือนๆกัน พวก


เขาคิดว่า ชูเฟิ งนั้นเป็ นมนุษย์จริ งๆหรื อ

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : รี บตามไปอ่านตอนต่อไปเลย . . . . . . . . .
บทที่ 455 - ระเบิดครั้งใหญ่ที่น่าตกใจ

“แม่จ๋า ฝนจะตกแล้ว รี บกลับไปเก็บเสื้ อกัน” ในพื้นที่อาณาจัก


สุ่ ย มีเด็กสาวที่อยูใ่ นลานหลังบ้านพูดขึ้นมา

“เจ้าพูดอะไรของเจ้าน่ะ เจ้าหลอกแม่อีกแล้วหรื อ ท้องฟ้ายัง


ปลอดโปร่ งนับ หมื่นไมล์ ฝนจะตกที่ไหนกันล่ะ” แม่ของเด็กสาวคน
นั้นออกมาจากบ้านแล้วมองท้องฟ้าแล้วยังเห็นท้องฟ้าปลอดโปร่ ง ก็หนั
ไปบ่นเด็กสาว

“ข้าเปล่านะ แม่จ๋า ดูนู่น ดูนู่น ฝันมันกําลังจกตกแล้ว นัน่ เมฆ


มาแล้วนู่น!” เด็กสาวกระโดด และชี้ให้แม้ดูทางเมฆสี ดาํ

เมื่อแม่ของเด็กสาวมองไปเธอก็ปรากฏสี หน้าเชื่อครึ่ งไม่เชื่อครึ่ ง เพราะ


ทิศทางนั้นมีหุบเขาเทพกระบี่ต้ งั อยู่ และในตอนนั้นแม่ของเด็กสาวก็
รู ้สึกว่าเมฆสี ดาํ มันแปลกประหลาดยิง่ นัก มันน่ากลัวมาก
เมฆสี ดาํ นั้นมืด ราวกับหมึกสี ดาํ ทมิฬ และกระจายไปตามพื้นที่ขนาด
ใหญ่มาก มันครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่และไม่ขยับไปไหนเลย.

มันเหมือนกับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่น่ากลัวมาก จนทําให้พวกเขา
รู ้สึกหนาวถึงกระดูกเลยทีเดียว

“อ๋ า~~~~~~~~” .ในตอนนั้น ข้างๆบ้านของเด็กสาวมี


เสี ยงหญิงสาวคนนึงร้องออกมา “นัน่ มันอะไรน่ะ มันช่างน่ากลัว
เหลือเกิน”

“ฮือ แม่จ๋า แม่จ๋า …” หลังจากนั้นก็มีเด็กร้องไห้ออกมาเสี ยง


ดัง
“อย่าไปมองเมฆนั้นนะ เร็ วเข้ารี บกลับบ้านไปเร็ ว.” เมื่อเห็นเมฆ
นั้น หญิงคนหนึ่งได้บอกให้ทุกคนกลับบ้าน เธอรู ้ดีวา่ คนที่ไม่ได้บ่ม
เพาะตนต่างกลัวเมฆนั้นเหมือนกัน

ดังนั้น เธอจึงรี บอุม้ เด็กสาว และรี บกลับเข้าบ้าน โดยไม่ได้เก็บเสื้ อเข้า


ไป จากนั้นเธอก็ปิดประตู หน้าต่าง และล๊อกบ้านทันที

ในตอนนั้น พื้นที่ 1000 ไมล์รอบหุบเขาเทพกระบี่ ต่างเห็นเมฆสี ดาํ


นี้เหมือนกันไม่ตอ้ งพูดถึงคนที่ไม่มีการบ่มเพาะ แม้แต่คนที่มีการบ่ม
เพาะในระดับสู ง ก็ขมวดคิ้วแน่นเหมือนกัน

“มันเกิดอะไรขึ้น เจ้าชูเฟิ งนี่มนั ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว กลิ่น


อายนี้ .... ข้าไม่สามารถรับมันได้นานหรอกนะ.”
ทันใดนั้น ก็มีบางคนเข่าอ่อนแล้วล้มลงไปบนพื้นดิน ด้วยกลิ่นอายของชู
เฟิ ง นั้นช่างแข็งแกร่ งมากและแทบจะกลืนกินพื้นที่รอบๆนี้ แม้วา่ มันจะ
ไม่สามารถทําให้ทุกคนล้มลงคุกเข่าได้ แต่มนั ก็ทาํ ให้ไม่มีใครกล้าต่อกร
เช่นกัน

หลังจากนั้น ก็มีคนจํานวนมากก็ลม้ ลงอย่างรวดเร็ ว มีบางคนถึงกับน๊อค


ไปเลย และพวกคนที่หมดสติไปนั้น พวกเขานอนราบไปกับดิน

“ชูเฟิ ง เกิดอะไรขึ้น เจ้าเป็ นไรหรื อเปล่า ชูเฟิ ง รี บต่อข้าเร็ วเข้า


เจ้าทําให้ขา้ กลัวอยูน่ ะ!”

ในตอนนั้น จื่อ หลิงตื่นตระหนกมาก เธอเข้าไปใกล้ชูเฟิ ง และในตอนนี้


เธอเป็ นคนที่รับกลิ่นอายของชูเฟิ งไปมากที่สุด

หากมีคนถามว่า พลังของชุเฟิ งนั้นน่ากลัวอย่างไร ก็บอกได้วา่ แม้แต่


กายศักดิ์สิทธิ์ของจื่อ หลิง นั้นก็ไม่สามารถทนรับได้ไหว ทําให้มนั
แปรปรวนอย่างมาก และนี่คือครั้งแรกที่จื่อ หลิง รู ้สึกถึงความผิดปกติ
ของพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอ

แต่เธอไม่ได้กงั วลเรื่ องนั้น เพราะเธอพบว่า ไม่ใช่เพียงแค่ดวงตาชูเฟิ ง


เท่านั้นที่เปลี่ยนไป แม้แต่ตวั ตนของชูเฟิ งนั้นก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เขา
ไม่ใช่ชูเฟิ งที่เธอรู ้จกั แล้ว ในตอนนี้เขาจ้องมองไปที่อดีตประมุขหุบเขา
เทพกระบี่อย่างบ้าคลัง่ และไม่มีท่าทีสนใจจื่อ หลิง แม้แต่นอ้ ย

ทันใดนั้น ชูเฟิ งได้เริ่ มเคลื่อนไหว เขาได้เดินเข้าไปหาอดีตประมุขหุบ


เขาเทพกระบี่อย่างช้าๆ และในขณะที่เขาเดิน เข้าได้พดู ออกมา เสี ยงของ
เขานั้นกระหึ่ มเหมือนกับเสี ยงฟ้าผ่าที่ผา่ ลงสู พ้ ้นื ดิน

“เมื่อวันที่ ท้องฟ้านั้นแปรปรวนเพราะข้า เมื่อวันที่ แผ่นดิน


แปรปรวนเพราะข้า เมื่อวันที่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เปลี่ยนแปลง
เพราะข้า.”
“เมื่อวันที่ ข้าต้องสู ญเสี ยสิ่ งที่ขา้ รักไปมาถึง ข้าจะทําให้คนใน
โลกนี้น้ นั ตายไปพร้อมกับเธอ!”

*ตูม*

ในขณะที่ชูเฟิ งพูด สายฟ้าที่อยูร่ อบๆตัวเขาเริ่ มขยายขึ้น และ เมฆสี ดาํ


บนท้องฟ้าเริ่ มแปรปรวน ด้วยแรงลมที่พดั ผ่านั้น ทําให้ผคู ้ นแถวนั้นไม่
สามารถลืมตาขึ้นได้ สําหรับคนที่บ่มเพาะในระดับสู งนั้น สามารถทน
ไหว แต่คนที่บ่มเพาะอยูใ่ นระดับไม่สูงนั้นปลิวไปตามลม ราวกับหุ่นไล่
กา ที่โดนพายุดูดเข้าไป

พลังของลมนั้นรุ นแรงมาก แม้กระทัง่ ตําหนักของหุบเขาเทพกระบี่ ที่ถูก


สร้างด้วยวัสดุพิเศษก็เริ่ มเกิดรอยร้าว และเริ่ มพังทลายลงแล้ว
“ชู เฟิ ง ชู เฟิ ง”

ในตอนนั้น จื่อ หลิง พยายามที่เข้าไปใกล้ชูเฟิ ง แต่เธอก็ไม่สามารถทําได้


เนื่องจากพลังลมของชูเฟิ งนั้นรุ นแรกมาก แม้วา่ เธอจะใช้กลิ่นอายสี ม่วง
และพลังของกายศักดิ์สิทธิ์น้ นั เธอก็ยงั ไม่สามารถเข้าใกล้ชูเฟิ งได้

“ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง เจ้าเป็ นไรไหม บัดซบ บัดซบ เจ้าลมเวรเอ๊ย”

ในเวลาเดียวกัน จาง เทียนยี่ นั้นไม่ได้ทราบว่า แท้จริ งแล้ว ลมนั้นมาจาก


ชูเฟิ ง เขาคิดว่าชูเฟิ งกําลังอยูใ่ นอันตราย และพยายามจะเข้าไปช่วย ชูเฟิ ง
แม้วา่ เขาจะพยายามเต็มที่ มันก็ไม่สามารถช่วยชูเฟิ งได้ในตอนนี้

ในตอนนั้นมี เสี ยงดังแสบแก้วหูดงั ขึ้นมา มันไม่ใช่เสี ยงของฟ้าผ่า


ทัว่ ๆไป มันเหมือนกับเป็ นเสี ยงคํารามของสัตว์ร้าย จาง เทียนยี่ และ จื่อ
หลิง ต่างก็ตกอยูใ่ นความกลัว และในตอนนั้นก็มีท่าทีเปลี่ยนไป

มันเป็ นเพราะพวกเธอเจอเรื่ องที่หน้าตกใจมาก เพราะ ที่ตวั ของชูเฟิ ง นั้น


มี แสงสี ฟ้า และ แสงสี ทองกําลังผสานกันอยู่ และมันกําลังขยายตัวขึ้น
อย่างรวดเร็ ว

ในตอนมั้น พวกมันก็ได้เปลี่ยนเป็ นร่ าง 2 ร่ าง และเป็ นร่ างของสัตว์


ขนาดใหญ่ พวก จื่อ หลิงนั้นไม่เคยเห็นสัตว์ยกั ษ์เช่นนี้มาก่อน จึงทําให้
ทั้ง 2 กลัวมาก

ในตอนนั้น ทั้ง2 นั้นราวกับถูกกลืนกินด้วยอสู รสายฟ้าขนาดใหญ่

“ ตูม “
หลังจากนั้น ก็มีเสี ยง ตูมดังขึ้นสนัน่ ไปทัว่ โลก ทําให้คนในทวีปเก้า
อาณาจักรทุกคน ได้ยนิ เสี ยงนัน่ และบางคนที่อยูต่ ่างทวีป ก็ได้ยนิ เสี ยง
นัน่ เช่นกัน

สิ่ งที่น่ากลัวที่สุดคือเสี ยงระเบิดและแสงที่แว่บออกไปนั้น ทําให้ทวีปเก้า


อาณาจักรตกอยูใ่ นความโกลาหล แม้วา่ มันจะเป็ นแสงที่แว่บออกมา แต่
ทุกคนนั้นต่างกลัว และส่ วนหนึ่งก็เป็ นเพราะ เสี ยงที่น่ากลัวนั้นมี
ผลกระทบทําให้แผ่นดินถึงกับสะเทือน จึงทําให้พวกเขาถึงกับตกใจ แต่
ผูค้ นส่ วนใหญ่ต่างก็คิดว่า มันคือแผ่นดินไหว

“เกิดอะไรขึ้น มีบางอย่างเกิดขึ้นในตอนนี้ง้ นั หรื อ” เกิดความ


สงสัยในใจของคนทุกคน เพราะหลักจากเสี ยงระเบิด และแผ่นดินไหว
นัน่ ผ่านไปราวกับแสง พวกเขานั้นไม่ทราบเลย ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้แต่
เพียงจินตนากร

ในอาณาจักร ฮัน่ ของ ทวีปเก้าอาณาจักร บนเมืองที่ถูกตั้งอยูบ่ นท้องฟ้า


เมืองนั้นราวกับถูกสร้างบนหอคอยสู งตัดผ่านเมฆทะลุข้ ึนไปบน
ท้องฟ้า

หอคอยสูง นั้น มีประกายสี ทองและดูคล้ายกับดูที่แทงขึ้นไปยังท้องฟ้า

ในตอนนั้น บนตึกนั้น มีร่างของชายชรา ผมสี ขาว และเทาที่อยูใ่ นชุด


ทองกําลังนัง่ อยู่ เขานั้นได้จอ้ งมองไปที่ อาณาจักรสุ่ ย

ในตอนนั้น คิ้วของชายชราคนนั้น ก็ขมวดแน่น และพูดว่า “ เกิดอะไร


ขึ้นกับอาณาจักรสุ่ ย กันนะ “

และในใจกลางของระเบิดนัน่ ที่หุบเขาเทพกระบี่ ทุกอย่างที่นนั่ ก็


เปลี่ยนไป ไม่มีสิ่งใดที่เหมือนเดิมเลยแม้แต่นอ้ ย
หุบเขาเทพกระบี่ นั้นได้กลายเป็ นหุบเหวลึก จากหุบเขาเทพกระบี่ ที่สูง
ใหญ่กลายเป็ นเหวที่ลึกมาก

ในตอนนั้น ก็มีเมฆสี ดาํ บางส่ วนที่ยงั ไม่หายไป พวกมันยังคงมีร่องรอย


อยูบ่ นท้องฟ้า และแสงจากพระอาทิตย์เริ่ มสอดส่ องมา ยังเหวลึกนี้ และ
ส่ งให้เห็นควันลอยขึ้นมา

แต่ในที่เหวนั้น ราวกับไม่มีสิ่งชีวติ อยูเ่ ลย เพราะบรรยากาศที่ทาํ ให้รู้สึก


ว่างเปล่าราวกับไม่มีอะไรเลย

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////
A : โอ้ววววววววว หนุุกเว้ยยยย

B : ตอนนี้ไม่มีใครอยากฟังพวกเราพล่ามหรอก !!! งั้นเชิญอ่านตอน


ถัดไป
บทที่ 456 - นี่คือภัยธรรมชาติ

ในอาณาจักรทั้ง 9 อาณาจักรซุ่ย นั้นอยูภ่ ายใต้การปกครองของหุบเขา


เทพกระบี่ ขณะนั้นมีเมฆสี ดาํ ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น จากนั้นไม่นานเมฆ
สี ดาํ ที่ปรากฏก็ระเบิดขึ้นอย่างน่ากลัว

ระเบิดนั้นทําให้คนทั้ง 9 อาณาจักรตกใจอย่างมาก แม้แต่คนที่อยูน่ อก


ทวีปก็ยงั ได้ยนิ เสี ยงระเบิดนั้น ส่ วนคนที่อยูใ่ นอาณาจักรซุ่ยต่างเห็นกับ
ตาตัวเองว่ามันเป็ นระเบิดที่เกิดขึ้นจาก สายฟ้าสี ทองและสายฟ้าสี ฟ้า ที่
แพร่ กระจายไปทัว่ ทุกทิศบริ เวณหุบเขาเทพกระบี่

หลังจากที่ประกายแสงเจิดจ้า หุบเขาเทพกระบี่กร็ าบเป็ นน่ากอง ถ้าจะ


ระบุให้ชดั เจน ต้องบอกว่าพื้นที่ที่ถูกปกคลุมด้วยเมฆดํากลายเป็ นหลุม
กว้างขนาดใหญ่และลึกมาก ซึ่ งในช่วงของหุบเขาที่เป็ นหลุมนั้นต่างไม่
เหลือสิ่ งมีชีวติ หรื ออาคารใดๆอยูเ่ ลย
แม้แต่ราชวงศ์เจียงยังส่ งผูเ้ ชี่ยวชาญสู งสุ ดไปยังอาณาจักรซุ่ย เพื่อ
ตรวจสอบความจริ งของเหตุการระเบิดที่น่าตกใจ ภายในหุบเขาเทพ
กระบี่

ในที่สุดราชวงศ์เจียงก็ได้บทสรุ ปว่า การระเบิดที่น่ากลัวนั้นคือภัยพิบตั ิ


จากธรรมชาติ มันคือหายนะจากธรรมชาติที่ปรากฏขึ้นอย่างกระทันหัน
ซึ่งคนของราชวงศ์เจียงไม่รู้วา่ ทําไมมันถึงเกิดขึ้นได้

และเมื่อเขาไปยังหุบเขาเทพกระบี่ แล้วพบกับสภาพของหุบเขาเทพ
กระบี่ ราชวงศ์เจียงก็ได้ยนื ยันข้อสรุ ป ว่าที่พวกเขาสันนิษฐานนั้น
ถูกต้อง

เพราะว่ามนุษย์คงไม่สามารถมีพลังทําลายล้างที่น่ากลัวถึงขนาดนี้ อย่าง
น้อยๆในทวีปเล็กๆอย่าง 9 อาณาจักรก็ไม่มีใครทําแบบนั้นได้
เวลา 2 เดือนผ่านไป ไวเหมือนพริ บตา นับตั้งแต่มีการระเบิดน่ากลัว
ครั้งใหญ่ แต่ผคู ้ นต่างยังคงพากันตื่นเต้นกับเหตุการณ์น้ นั ไม่ลืม ซึ่ งมัน
ได้กลายเป็ นหัวข้อสนทนาของทุกๆคนในยามที่เขาใช้เวลาพักผ่อน

ภายในเวลาสองเดือนก็มีการเปลี่ยนแปลงกับหลุมลึกขนาดใหญ่
เนื่องจากมันเป็ นหุบเขาที่ลึกเกินไป จึงเหมาะที่จะเป็ นแหล่งเก็บนํ้า อีก
ทั้งยังมีเส้นทางลําเลียงนํ้าไหลมาบรรจบกับหลุมลึกขนาดใหญ่

ดังนั้นหลังจากที่เวลาผ่านไปสองเดือน บวกกับนํ้าที่ไหลมาสะสม มันจึง


เกิดเป็ นทะเลสาบที่กว้างใหญ่ไพรศาล อีกทั้งยังมีคนตั้งชื่อให้มนั ว่า
ทะเลสาบหายนะฟ้าดิน

และชื่อเสี ยงของทะเลสาบหายนะฟ้าดินก็ได้ขยายตัวไปอย่างต่อเนื่อง
แต่เดิมที่เต็มไปด้วยที่อยูอ่ าศัยและผูค้ นของหุบเขาเทพกระบี่ที่มีประวัติ
ยืนยาวมากว่าพันปี บัดนี้ได้หายไปจากสายตาของผูคู ้ นอย่างชัว่ นิรันดร์
ณ อาณาจักรมังกรฟ้า ภายในสุ สานพันกระดูก ติดกับรู ปแบบอํานาจ
ของซูรู่ และซูเหม่ย ก็มีร่างของ ชูเฟิ ง นอนอยูข่ า้ งๆ ขณะที่ จื่อหลิง กําลัง
คอยเฝ้ามอง

" น้องสะไภ้ ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง เป็ นยังไงบ้าง ? " เสี ยงของจาง


เทียนยี่ ค่อยๆดังเข้ามา

" ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าได้มาดูอาการเขาแล้ว เขาบอกว่า


ร่ างกายของชูเฟิ งค่อนข้างดีเลยล่ะ และเขาก็บอกว่าหลังจากนี้ไม่กี่วนั ชู
เฟิ ง คงจะตื่นขึ้นมา " จื่อหลิงพูดพร้อมกับยิม้ เบาๆ ขณะที่สายตายังคง
จอดจ้องไปที่ร่างของ ชูเฟิ ง

" ยอดเลย!!! หากวันนั้นไม่ได้นอ้ งชูเฟิ งพวกเราคงตายอยูท่ ี่น้ นั


" จาง เทียนยี่ พูดพร้อมกับมองดู ชูเฟิ ง และเมื่อใดที่เค้าย้อนนึกไปถึง
ฉากน่ากลัวเมื่อสองเดือนก่อน ณ หุบเขาเทพกระบี่ ความรู ้สึกกลัวที่มีต่อ
ชูเฟิ งก็ปะทุข้ ึนมา
เพราะเขาที่เป็ นผูฝ้ ึ กฝนทักษะลับต้องห้าม ยังรู ้สึกถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรง
โดยเฉพาะในตอนหลังที่เกิดการระเบิดครั้งนั้น เมื่อเขานึกภาพเหตุการณ์
ในตอนนั้นแม้แต่ดวงวิญญาณภายยังสัน่ เทาไปด้วยความกลัวอย่าง
แท้จริ ง

ภายในรอบๆรัศมีพนั ไมล์ ควันหนากัดกลืนบดขยี้ไปทัว่ พื้นที่ เขาไม่


สามารถสัมผัสถึงร่ องรอยของชีวติ ได้เนื่องจากมันน่ากลัวเกินไป[ T/N
ประมาณว่าน่ากลัวจนวิญญาณจะหลุดออกจากร่ าง ] และเขาที่มกั เห็น
ตัวเองเป็ นคนพิเศษ จึงไม่เคยคาดคิดว่าจะมีคนที่สามารถสร้างพลัง
ทําลายที่น่ากลัวแบบนั้นได้ ต้องบอกว่าความแข็งแกร่ งของเขา เปรี ยบดัง่
พลังที่สามารถทําลายพิภพและสวรรค์

" ศิษย์พี่จาง ท่านยังไม่ได้บอกใครเรื่ องชูเฟิ ง ใช่ม้ ยั ? " จื่หลิ


งยิม้ เบาๆและถาม
" เปล่า ข้ารู ้วา่ ข้อมูลที่น่าเหลือเชื่อและสําคัญแบบนั้น หากมีคน
รู ้เข้ามันจะดึงดูดปัญหาเข้ามาหาศิษย์นอ้ งชูเฟิ งอย่างมาก เป็ นเรื่ อง
ธรรมดาที่ขา้ ยังไม่บอกใคร ตอนนี้ มีเพียงเจ้าและข้าที่รู้เรื่ องนี้ เกียวกับ
ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง นอกนั้นคนที่อยูภ่ ายในหุบเขาเทพกระบี่กต็ ายกัน
หมดแล้ว "

" จริ งๆแล้ว หากคิดอย่างรอบคอบ ต้องบอกว่ามันเป็ นปาฏิหาริ ย ์


สําหรับข้าที่สามารถเอาตัวรอดจากพลังทําลายล้างที่น่ากลัวแบบนั้น
ออกมาได้ " จาง เทียนยี่ ยิม้ และกล่าว

" ข้าว่าคงเป็ นฝี มือชูเฟิ งที่ทาํ นั้นแหละ หากเขาไม่ได้ทาํ เพือ่


ต้องการปกป้องพวกเรา พลังระดับนั้น เราจะรอดมามาได้ยงั ไง ? " จื่
อหลิงอมยิม้ และกล่าวออกมา

" ถูกต้อง " จาง เทียนยี่ พยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นก็กา้ วออกไป


ด้านนอก
ในตอนนั้นเมื่อยามที่พลังในร่ างกายของ ชูเฟิ ง พุง่ พล่านออกมา แม้แต่จื่
อหลิงและจาง เทียนยี่ ยังต้องอึ้ง เพราะพวกเขาเริ่ มตระหนักได้วา่ พลัง
ทําลายของ ชูเฟิ ง มีมากเกินไป

ซึ่งประเภทของพลังนั้นก็ไม่มีใครรู ้จกั เลยสักคน แต่อย่างหนึ่งที่รับรู ้ได้


อย่างชัดเจนคือ ชูเฟิ งนั้นมีโชคหรื อภัยพิบตั ิติดตัวมา

จื่อหลิงเคยได้ยนิ พูดบอกว่าในภาคทะเลตะวันออก นั้นมีพลังที่น่ากลัว


อยู่ พวกเขามักจะใช้วธิ ีดึงพลังผูอ้ ื่นออกมา และเพิ่มให้กบั ร่ างกายของ
พวกเขาเอง
แต่พลังนั้นนับเป็ นความชัว่ ร้าย แน่นอนว่าพลังทําลายของมันมหาศาล
พวกเขาเหล่านั้นคือผูป้ กครองของดินแดนโดยรอบ และไม่มีใครกล้าทํา
ให้พวกเขาโกรธ

ดังนั้น จื่อหลิงและจาง เทียนยี่ จึงตัดสิ นใจที่จะไม่บอกใครเกี่ยวกับ


ความลับที่อยูใ่ นร่ างกายของ ชูเฟิ ง ต่อให้เป็ นคนในครอบครัวหรื อผู ้
ก่อตั้งสํานักมังกรฟ้า พวกเขาก็ไม่อาจบอกให้รู้ได้

จริ งๆแล้ว โดยนิสยั ของจื่อหลิง นางคงย้อนกับไปฆ่า จาง เทียนยี่ เพื่อ


ความปลอดภัยของชูเฟิ ง นั้นจึงเหมาะสมที่สุด

แต่นางไม่สามารถทําอะไรแบบนันได้ เพราะ หนึ่งความแข็งแกร่ งของ


นางยังด้อยกว่า จาง เทียนยี่ และแม้นางจะสามารถฆ่าจาง เทียนยีไ่ ด้ โดย
ดุลยพินิจแล้ว นางเกรงว่า ชูเฟิ ง จะไม่ยกโทษให้ ดังนั้นนางจึงไม่
สามารถทําเรื่ องแบบนั้นได้
ยิง่ ไปกว่านั้น คือเขาได้นาํ พวกเขาทั้งสองทีร่างกายอ่อนแอ อีกทั้งชูเฟิ ง
ยังสลบ กลับมาที่นี่

จนถึงตอนนี้ ชูเฟิ งได้รับการรักษามานานกว่า 2 เดือนแล้ว แต่ ชูเฟิ ง ก็


ยังคงไม่ได้สติ

หลังจากนั้นไม่กี่วนั จื่อหลิง ก็ยงั คงเฝ้าดูแล ชูเฟิ ง อยูข่ ่างๆ แม้วา่ นางจะรู ้


ว่า ชูเฟิ ง นั้นค่อยยังชัว่ ขึ้นมาก ตราบใดที่ ชูเฟิ ง ยังไม่ได้สติ ใบหน้าของ
นางก็ยงั คงเต็มไปด้วยความกังวลไม่เปลี่ยน

" อืม ~~~~~~ " ในที่เปลือกตาของชูเฟิ งก็ค่อยๆเปิ ดขึ้น


เล็กน้อย ในเวลาเดียว ก็มีเสี ยงดังออกมาจากปากของเขา
" ชูเฟิ งฟื้ น ชูเฟิ งฟื้ นได้แล้ว!!! " เห็นแบบนั้นจื่อหลิงก็รีบเรี ยก
ชูเฟิ ง อยูต่ ลอดเวลา ลึกๆนางกลัวว่าเขาจะกลับไปหมดสติอีกครั้ง

แน่นอนว่าหลังจากได้ยนิ เสี ยงหวานๆของจื่อหลิง ดวงตาของชูเฟิ งก็


ค่อยๆลืมตาตื่น หลังจากที่เขาเห็นใบหน้าของจื่อหลิง รอยยิม้ ก็ปรากฏ
ขึ้นมาตรงมุมปากของเขา แต่เมื่อเขาสังเกตุสภาพแวดล้อมรอบๆ เขาก็รู้
ได้ในทันทีผา่ นดวงตา เขาจึงถามจื่อหลิง

" จื่อหลิง . . . . . ทําไมพวกเราถึงกลับมาที่สุสานพันกระดูกได้


ตอนนั้นเราอยูห่ ุบเขาเทพกระบี่ไม่ใช่หรอ ? "

" ชูเฟิ ง เจ้าจําไม่ได้หรอว่าเกิดอะไรขึ้น " เห็นความสับสนของ


ชูเฟิ ง จื่อหลิงก็ขมวดคิ้วลงเล็กน้อย เห็นได้ชดั ว่าความกังวลปรากฏขึ้น
บนใบหน้าของนาง
หลังจากทั้งหมด ตอนที่ชูเฟิ งระเบิดพลังที่น่ากลัวออกมา ร่ างกายองเขาก็
อ่อนแอลงอย่างมาก ตอนนั้นจื่อหลิงได้แต่ร้องไห้ครํ่าครวญหลายต่อ
หลายครั้ง เพราะร่ างกายของ ชูเฟิ ง นั้นอ่อนแรงลงอย่างมาก

หากอ่อนแรงแบบนั้น เขาจะตายเมื่อไหร่ กไ็ ม่แปลก แม้วา่ ปั จจุบนั ชูเฟิ ง


จะหายแล้ว นางก็ยงั เป็ นห่วงชูเฟิ งอยูด่ ี นางกลัวว่า ชูเฟิ งจะได้รับ
ผลกระทบที่เป็ นอันตราย เพราะสิ่ งที่เกิดขึ้นในวันนั้น

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////

A : โหดชะมัดเลยไอ้เฟิ ง !!!

B : โหดเหี้ ยๆเลยล่ะ เสี ยดายแหล่งพลังวิญญาณพวกนั้นเป็ นบ้า มัน


ทําลายจนไม่เหลือซากแล้วสุ สานบรรพชนของหุบเขาเทพกระบี่จะไป
เหลืออะไร
A : แหม๋ ๆ ชัว่ โมงนั้นมึงยังจะมาห่วงสมบัติ

B : ไม่ได้หรอก ไอ้เฟิ งมันใช้เปลือง เล็กๆน้อยๆก็สาํ คัญทั้งนั้น แล้ว


แบบนี้เมื่อไหร่ จะช่วยซูรู่ ซูเหม่ยได้สกั ที

A : เป้าหมายที่มึงรี บๆให้ซูรู่ และซูเหม่ยฟื้ น เพราะกลัวชูเฟิ งไม่มีที่ลง


สิ นะ

B : ป๊ าววววววววววววววว

A : เสี ยงสู งเชียวมึง . . . . . . .


บทที่ 457 - ไม่ยอมให้นางตกอยูใ่ นอันตราย

“ข้าจําได้แค่วา่ ผูก้ ่อตั้ง หุบเขาเทพกระบี่ ถ่ายทอดพลังให้กบั


อดีตประมุข หลังจากนั้นข้าก็จาํ อะไรไม่ได้เลย.”

ชูเฟิ งพยายามรื้ อฟื้ นความจําเขา แต่ความจําเขานั้น จําได้ถึงแค่หลังจาก


อดีตประมุข ยกระดับพลังขึ้นเป็ นระดับ 7 แล้วหลังจากนั้นก็จาํ อะไร
ไม่ได้อีกเลย
“ชูเฟิ ง ข้ารู ้สึกว่านัน่ มันเป็ นสิ่ งที่เจ้าต้องรู ้ และบางทีเจ้าอาจจะ
ต้องทําความเข้าใจกับพลังในตัวเจ้า.” จื่อ หลิง พูด

“นัน่ เป็ นไปไม่ได้ เจ้าบอกว่า ข้า... พลังของข้านั้น ได้ทาํ ลายหุบ


เขาเทพกระบี่ อย่างนั้นหรื อ” หลังจากฟังเรื่ องราวทั้งหมด ชูเฟิ งก็รู้สึก
ตกใจอย่างมาก

“ไม่ มันคือเรื่ องจริ ง มันเป็ นเจ้าที่ทาํ ลายทุกอย่ากที่อยูร่ อบๆรัศมี


1000 ไมล์จากหุบเขาเทพกระบี่.” จื่อ หลิง พูด

*อึก* ในตอนนั้นชูเฟิ งก็ตอ้ งกลืนนํ้าลายลงไป เพราะรัศมีพนั ไมล์น้ นั


ไม่ใช้พ้ืนที่นอ้ ยๆเลย ถ้าเขาใช้มงั กรทะยานผ่านเก้าสวรรค์ที่รวดเร็ วนั้น
บินไป มันก็ได้แค่บิน แต่มนั ไม่สามารถทําลายสิ่ งต่างๆได้
และถ้าเป็ นอย่างที่จื่อ หลิง บอก เขาได้ทาํ ลายมันด้วยการโจมตีเพียงครั้ง
เดียว ชูเฟิ งนั้นไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าพลังนั้นจะน่ากลัวเพียงใด

แต่ชูเฟิ งก็เชื่อเรื่ องที่จื่อ หลิง พูดเพราะเธอบอกว่า มีสายฟ้าสี ทองและสี


ฟ้านั้น ขดรอบๆตัวเขาอยูใ่ นตอนนั้นด้วย

และเหตุผลที่เขาตกใจนัน่ ก็เป็ นเพราะว่า สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในร่ างเขานั้น


ทรงพลังมาก เขารู ้วา่ พลังของมันนั้นน่าเหลือเชื่อแต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะ
ถึงขนาดนี้

“เอ้อ ชูเฟิ ง นอกจากนี้ ข้าคิดว่าเจ้าพวกนี้จะทําให้เจ้าทะลวง


พลังไปได้นะ” หลังจาก พูด จื่อ หลิงก็ยนื่ ถุงจักรวาลให้ชูเฟิ ง
“จื่อ หลิง นี่ ...” หลังจาก ชูเฟิ ง เปิ ดถุงจักรวาล เขาก็ตอ้ งตกใจ
มาก เพราะในนั้นมีลูกแก้วแก่นแท้ 5 ล้านเม็ด

“ในวันนั้น ที่เจ้าทําลายหุบเขาเทพกระบี่ เจ้าก็ได้เปิ ดที่เก็บ


สมบัติลบั ขึ้น โดยไม่ได้ต้ งั ใจ.”

“หลังจากนั้น ข้ากับพี่ชายจาง ก็เอาสมบัตนัน่ ไปขายบางส่ วน


เพื่อนําทรัพยากรบ่มเพาะมาให้เจ้าใช้บ่มเพาะ ลูกแก้วแก่นแท้พวกนี้ อาจ
พูดได้วา่ แทบจะเป็ นสมบัติท้ งั หมดของหุบเขาเทพกระบี่.” จื่อ หลิงพูด

“แล้วศิษย์พี่ จางเล่า ข้าไม่สามารถให้มนั คนเดียวทั้งหมดได้


หรอกนะ” ชูเฟิ ง พูด

“ศิษย์พี่จาง นั้นมี เทคนิคลับต้องห้ามอยู่ เขาเหมือนกับ ข้า ไม่


ต้องการใช้ทรัพยากรมากมายอะไร และถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าพวกเราอาจจะ
ต้องตายที่นนั่ เขาจึงยกทรัพยากรพวกนี้ให้เจ้าทั้งหมด เพื่อให้เจ้าทะลวง
เข้าไปในระดับแก่นแท้ระดับ 7 เพื่อช่วยซูรู่ กับ ซูเหม่ย.” จื่อ หลิง พูด

เมื่อมองไปที่ ซูรู่ และ ซูเหม่ย ที่ถูกผนึกไว้อยูข่ า้ งๆเขา ชูเฟิ งก็ไม่ลงั เล


หยิบถุงจักรวาลทันที เขาคิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาด้วยจํานวนขนาดนี้
เขาน่าจะทะลวงเข้าไปยัง ระดับ 7 แก่นแท้วญ ิ ญาณได้

หลังจากรับ ลูกแก้วแก่นแท้มา ชูเฟิ งก็ไม่ได้รีบบ่มเพาะมัน เขาไปหาคน


ในตระกูลของเขา และไปบอกให้พวกเขารู ้วา่ ชูเฟิ งนั้นสบายดี พวกเขา
จะได้ไม่ตอ้ งกังวล

หลังจากที่พวกเขาเห็นชูเฟิ งรุ ้สึกตัวแล้ว พวกเขาก็รู้สึกเบาใจลง และ


รู ้สึกยินดีมาก

หลังจากเห็นชูเฟิ ง รู ้สึกตัวแล้ว จาง เทียนยี่ ก็ออกไปจากสุ สานพัน


กระดูก และไปหาเสบียง หลังจากเอากลับมา พวก ชู เย่ว์ และคนอื่นๆ ก็
อาสาทําอาหารให้ และเมื่ออาหารพร้อมแล้ว ทุกคนก็มาร่ วมทานด้วยกัน
อย่างมีความสุ ข

หลังจากทานอาหารเสร็ จ จู่ๆ ความง่วงก็เพิ่มขึ้นมา ทําให้จื่อ หลิงนั้น


หลับไปโดยอยูใ่ นอ้อมกอดชูเฟิ ง

เมื่อมองไปที่จื่อ หลิงที่อยูใ่ นอ้อมกอด ในใจชูเฟิ งก็เกิดความรู ้สึก


บางอย่าง 2 เดือนที่ผา่ นมา เธอดูแลเขามาอย่างดี จื่อ หลิง นั้นแทบไม่ได้
รับไม่ได้นอน หากเธอไม่ได้มีกายศักดิ์สิทธิ์ เธอนั้นอาจจะไม่สามารถ
แบกรับมันไหว

“ชูเฟิ ง ในตอนนี้ เจ้าก็น่าจะรู ้แล้วว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในตัวเจ้า


นั้นทรงพลังแค่ไหน ในวันนั้น แม้แต่ขา้ ก็กลัวเจ้าเช่นกัน พลังขนาดนั้น
ไม่ควรถูกปล่อยออกมาด้วยพลังระดับเจ้า.”
ในตอนนั้น ต้านต้าน ที่เงียบมาตลอดก็พดู ขึ้น แม้แต่ช่วงที่ชูเฟิ งยังไม่
รู ้สึกตัว แต่ตา้ นต้านก็ยงั เห็นภาพทั้งหมดในช่วงนั้นตลอดเวลา

“ต้านต้าน เจ้ารู ้หรื อเปล่าว่าข้าสามารถพลังของสายฟ้าศํกดิ์สิทธิ์


มันปรากฏออกมาได้อย่างไร”

“มีทางใดบ้างที่จะทําให้ขา้ เข้าใจในพลังของมัน” ชูเฟิ ง หันไป


ถามต้านต้าน

“พูดตามตรง ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จากที่ขา้ เห็นตอนนั้น เจ้าแก่


นัน่ มันแตะต้องจื่อ หลิง ทําให้เจ้าโกรธและระเบิดเจตนาฆ่าฟันออกมา
และในเวลานั้นพลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์กถ็ ูกระเบิดออกมา.”

“ในเวลานั้น เจ้าได้พดู บางอย่าง แต่ขา้ ก็จาํ ได้วา่ เจ้าไม่รู้อะไร


เกี่ยวกับมันเลย ข้าจึงคาดเดาไว้ 2 อย่างที่น่าจะเป็ นไปได้.” ต้านต้าน
พูด

“มีอะไรบ้าง” ชูเฟิ ง รี บถามกลับ

“อย่างแรก แม่นางจื่อ หลิงนัน่ สําคัญกับเจ้ามาก และด้วย


ความสําคัญนั้นเจ้าจึงไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องเธอ มันเป็ นเพราะเจ้า
ต้องการจะปกป้องเธอมันจึงทํางานโดยไม่รู้ตวั ประการแรกเป็ นไปได้วา่
แม่นางจื่อหลิงคือตัวกระตุน้ ”

“และอีกอย่างคือ สายฟ้าศํกดิ์สิทธิ์น้ นั ควบคุมเจ้า การแสดงออก


ของเจ้านั้นมีผลกระทบต่อพลังของมัน หรื อไม่กเ็ จ้าได้แสดงเจตนาด้วย
ความทะเยอทะยานที่สูงมาก “ ต้านต้าน พูด

“แล้วข้าควรจะทําอย่างไร” ชูเฟิ ง ถาม


“หากเป็ นอย่างที่ 2 เจ้าก็ทาํ ได้แค่รอ สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์น้ นั มีความ
นึกคิดของมันเอง เหมือนกับทักษะเร้นลับ พลังของมันจะแสดงออกมา
ได้เมื่อเจ้าต้องการให้มนั แสดง.”

“หากเป็ นอย่างแรก มันก็ง่ายมาก แค่ให้แม่นางจื่อ หลิง ตกอยูใ่ น


อันตราย ถ้าเจ้าโกรธจัดมันก็แสดงออกมาเอง แต่ทีขา้ คิด เจ้านั้นรักนาง
มากจึงไม่ยอมให้เธอเสี ยงเพียงเพราะเรื่ องแค่น้ ีใช่หรื อไม่” ต้านต้าน พูด
และยิม้ เพราะเธอนั้นเข้าใจตัวตนของชูเฟิ งทั้งหมด

“แน่นอนว่าไม่ ข้าจะให้จื่อ หลิง ตกอยูใ่ นอันตรายเพราะข้า


ต้องการพลังได้อย่างไร” ชูเฟิ งปฎิเสธทันที

“อืม ไม่เลว นัน่ แหละชูเฟิ งที่ขา้ รู ้จกั ชายที่ไม่ยอมให้ผหู ้ ญิงที่ตน


รักต้องตกอยู๋ในอันตรายเพียงเพราะต้องการพลัง ถ้าเจ้ากล้าทําเยีย่ งนั้น
ล่ะก็ ข้าคงต้องประเมินเจ้าตํ่าลงไปอีก.”

“นอกจากนี้ ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็ นประการที่ 2 มากกว่าอย่าง


แรก เพราะดูเหมือนว่ามันจะตัดสิ นใจด้วยตัวมันเองว่าพลังแค่ไหนที่เจ้า
นั้นจะรับไหว.”

“แน่นอนว่าเจ้าสามารถทําความเข้าใจเกี่ยวกับพวกมันได้ แต่
ตอนนี้เจ้าคงทําได้เพียงแค่รู้วา่ มันคืออะไร หากเจ้าต้องการเข้าใจอย่าง
ลึกซึ้ง เกี่ยวกับพวกมันก็คงต้องให้มนั แสดงออกมาไม่กห็ าตัวช่วย.”

“กายศักดิ์สิทธิ์ของจื่อ หลิง นั้นเป็ นชอยส์ที่ดีที่สุด ถ้าเจ้าได้มี


อะไรกับเธอแล้ว ข้าคิดว่ามันต้องมีผลต่อสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์อย่าง
แน่นอน.”

“แต่มนั จะสําเร็ จหรื อไม่ขา้ ก็ไม่รู้เพราะมันเป็ นเพียงแค่การคาด


เดา มันไม่สามารถรุ ้ได้อย่างแน่นอน และถ้าเจ้าต้องการที่จะแข็งแกร่ ง
ขึ้น มันก็ข้ ึนอยูก่ บั ตัวเจ้าล่ะนะ.” ต้านต้าน อธิบายให้ชูเฟิ งฟัง

“ข้าจะต้องแข็งแกร่ งขึ้น แต่มนั ต้องไม่ทาํ ให้จื่อ หลิง ลําบาก และ


ข้าจะไม่ยอมให้นางตกอยูใ่ นอันตรายอย่างแน่นอน.” ชูเฟิ ง พูดด้วย
นํ้าเสี ยงหนักแน่น

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : จบภาคหุบเขาเทพกระบี่แหละ ต่อไปก็ใกล้จะมุ่งหน้าไปอาณาจักร
จิตวิญญาณ

B : ถูกต้อง ชูเฟิ งต้องไปที่นิกายโลกวิญญาณก่อน จากนั้นก็มุ่งหน้าไป


หอคอยอสู รฟ้า

A : ทั้งหมดนี้กเ็ พื่อไปหาพี่ลิงสิ นะ . . . .
B : แม่นแล้ว ไว้พรุ่ งนี้เรามาเริ่ มปฐมบท ภาค นิกายโลกวิญญาณ
พร้อมๆกัน

บทที่ 458 - เรี ยกข้าว่า ราชินี

“อืม ดีมาก ถ้าเข้าใจก็ดี.”

“ที่ขา้ จะบอกคือ สายฟ้าศํกดิ์สิทธิ์มนั แข็งแกร่ งมาก มันไม่ใช่


อะไรที่เจ้าจะเข้าใจได้ในตอนนี้.”

“มันเป็ นกฎ แม้วา่ เจ้าจะแข็งแกร่ งขึ้น แต่มนั ก็ยงั มีขอ้ จํากัดอยู่


ถ้าเจ้าใช้พลังที่แข็งแกร่ งเกินตัว มันจะมีผลกระทบต่อเจ้าไม่นอ้ ยเลย.”

“ยกตัวอย่างเช่น อํานาจวิญญาณของเจ้า เจ้าสามารถเชื่อมต่อ


กับรู ปแบบระดับสี ฟ้าได้ แต่เจ้านั้นไม่สามารถจะใช้มนั ได้ เพราะร่ างกาย
ของเจ้าในตอนนี้มนั ยังไม่สามารถรับไหว.”

“ตอนนี้ ทางที่ดีที่สุดคือ รี บใช้ลูกแก้วแก่นแท้นนั่ แม้วา่ เจ้าจะ


เชื่อมต่อกับรู ปแบบวิญญาณระดับสี ฟ้าไว้แล้ว แต่เพราะว่าเจ้าไม่ได้รับ
การฝึ กมาก่อน ถ้าเจ้าต้องการพลังนั้น มันก็คงไม่ค่อยดี.” ต้านต้าน พูด

“อืม ตอนนี้ขา้ ควรทะลวงพลังก่อนสิ นะ.”ชูเฟิ ง ผงกหัวแล้ว


พูด

หลังจากนั้น เขาก็พาจื่อ หลิงไปที่เตียง แล้วห่มผ้าให้เธอ แล้วก็เริ่ มการ


บ่มเพาะ ลูกแก้วแก่นแท้ ข้างๆเตียงเธอ

เพราะว่า ลุกแก้วแก่นแท้น้ นั มีมากหมายเหลือเกิน ต่อให้เป็ นชูเฟิ ง มันก็


กินเวลานานเช่นกัน และการเชื่อมต่ออําน่าจวิญญาณระดับสี ฟ้านั้นก็
ไม่ใช่เรื่ องง่ายเลย ดังนั้นชูเฟิ ง จึงใช้เวลาเป็ นเดือนถึงจะสําเร็ จ
1 เดือนผ่านไป ชูเฟิ งไม่ได้แค่ทะลวงไปยัง ระดับ 7 แก่นแท้วญ ิ ญาณ
ได้ เขายังสามารถยกระดับอํานาจวิญญาณของตนไปยังระดับสี ฟ้าได้อีก
ในตอนนี้น้ นั เขาเข้าใจอํานาจวิญญาณมากขึ้นอีก ยกตัวอย่างเช่น การเปิ ด
ประตูโลกวิญญาณ

*ฮึ่ม*

ในตอนนั้น ประตูโลกวิญญาณ ก็ปรากฏขึ้น ชูเฟิ งยืนอยูห่ น้าประตูน้ นั


เพื่อรอ ให้ตา้ นต้านปรากฏตัวขึ้น

ในเวลานั้น มีจื่อ หลิง ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า จูเก้อ หลิวหยุน หลี่ ชางฉิ ง


ชู กูหยู ชูเย่ว และคนอื่นๆ อยูร่ อบๆ ประตูโลกวิญญาณแล้วรอมัน
เช่นกัน
ทุกคนนั้นต่างสนใจเป็ นอย่างมาก ยกเว้นจื่อ หลิง และ ผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้า
นั้นไม่มีใครเคยเห็น อสู รวิญญาณมาก่อน พวกมันนั้นอาศัยอยูใ่ นคนละ
โลกจึงทําให้พวกเขาอยากรู ้

โดย เฉพาะ จูเก้อ หลิวหยุน ที่เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ และเป็ น


อาจารย์ของชูเฟิ ง เขานั้นตกใจอย่างมากและพูดว่า” นี่คือพลังของผู ้
เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมฟ้าหรื อนี่ พวกเขาสามารถทําให้อสู ร
วิญญาณมาช่วยสู ร้ ่ วมกับเขาได้ ช่างน่าประทับใจจริ งๆ”

“ข้าไม่คิดเคยมาก่อนเลยว่า จูเก้อ หลิวหยุน คนนี้จะมีลูกศิษย์ที่


โดดเด่นเช่นนี้ เขาสามารถเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดฟ้าได้โดยอายุ
แค่น้ ี…”

“ดูนน่ั มันมาแล้ว!” ทันใดนั้น ก็มีคนพูดขึ้นมาเสี ยงดังด้วย


นํ้าเสี ยงตื่นเต้น
ประตูโลกวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น หลังจากนั้นก็มีสาวงาม เดิน
ออกมาจากประตูโลกวิญญาณ

สาวงามคนนั้น มีดวงตากลมโต จมูกที่สมส่ วนกําลังดี ริ มฝี ปากสี ชมพู


และใบหน้าเล็กๆที่งดงามมาก

นอกจากนี้ ผิวของเธอขาวราวกับหิ มะ เธอใส่ ชุดกระโปรงสั้น สี ดาํ เผย


ให้เห็น ไล่ที่ขาวและขาที่เรี ยวเล็ก เมื่อผูค้ นเห็นก็ยากที่จะละสายตา

และหญิงสาวที่งดงามดุจราชินีนี่คือต้านต้าน และเป็ นคนเดียวกับที่ชูเฟิ ง


เห็นเมื่อพบเธอครั้งแรก เธอนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย
ในตอนนั้น ทุกคนต่างก็เงียบ เพราะว่า พวกเขานั้นกําลังตกตะลึงใน
ความงดงามของต้านต้าน

ในแง่ของรู ปร่ างหน้าตาต้านต้านนั้นเหนือกว่าจื่อ หลิง แต่ในแง่ของ


ภาพพจน์เธอไม่ได้มีออร่ าที่น่ารักแบบจื่อ หลิง แต่เธอมีออร่ าที่บ่งบอก
ถึง ความสมบูรณ์แบบของเธอ

และเมื่อเห็นร่ างที่สมบูรณ์แบบนั้น ผูค้ นต่างก็รู้สึกราวกับฝันอยู่ เพราะ


หญิงสาวที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้น้ นั ได้ปรากฏตัวในโลกแบบนี้จริ งหรื อ
ถูกต้อง ต้านต้านนั้น กําลังปรากฏตัวอยูต่ ่อหน้าพวกเขา

ไม่ตอ้ งพูดถึงคนอื่น แม้แต่ชูเฟิ ง ก็ตกตะลึงในความงดงามของต้านต้าน


เช่นกัน ความงามของต้านต้านนั้นมันเกินมนุษย์มนามากไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ก็รู้วา่ ต้านต้านนั้นไม่ได้มาจากโลกนี้ แต่เธอก็ดูแล


เขาอย่างดีราวกับเป็ นคนสนิทกันและคอยให้คาํ แนะนํากับเขาตลอด

“ อ้า ~~~~~~~รู ้สึกดีจริ งๆ”

หลังจากต้านต้านเดินออกมาเธอก็พดู ขึ้น จากนั้นเธอก็เดินไปอยูข่ า้ งๆชู


เฟิ ง แต่ไม่ได้พดู อะไรกับเขาแต่หนั ไปพูดกับจื่อหลิงแทน, “แม่นางน้อย
จื่อ หลิง เจ้าจําข้าได้หรื อไม่”

“ท่าน... กลิ่นอายนี้ ในวันนั้นในเมืองพยัคฆ์ขาว ท่านยืมร่ างกาย


ชูเฟิ งอย่างนั้นสิ นะ” หลังจากที่จื่อ หลิง สัมผัสได้ เธอก็ตกใจอย่างมาก

เพราะ ในตอนนั้น พลังความมืดของชูเฟิ งนั้นน่ากลัวมาก มันทําให้เกิด


ความกลัวในใจเธอและยากที่จะลืม
แม้วา่ หลังจากนั้นพลังสายฟ้าของชูเฟิ งนั้นได้แสดงออกมา แต่ในใจ
ของจื่อ หลิงก็ยงั จําพลังสี ดาํ นั้นได้อยูด่ ี เพราะพลังสี ดาํ นั้นแข็งแกร่ งและ
น่าเกรงขามมาก แม้วา่ เธอจะมีใช้พลังศักดิ์สิทธิ์กไ็ ม่อาจเอาชนะได้

และในตอนนี้ เธอก็ได้รู้แล้วว่าพลังความมืดของชูเฟิ งนั้นมาจากไหน


มันไม่ได้มาจากตัวชูเฟิ งเอง แต่มนั มาจากอสู รวิญญาณของชูเฟิ ง

“ปิ๊ งป่ อง ถูกแล้ว เป็ นข้าเอง แต่ในตอนนั้นข้าก็ไม่รู้วา่ เจ้าเด็กเวร


นี่จะชอบเจ้า จึงได้ลงมือหนักไปหน่อย แม่นางน้อยจื่อ หลิง ถ้าเจ้าจะ
โทษก็ไปโทษชูเฟิ งนู่น อย่าโทษข้า”

ต้านต้านพูดไปยิม้ ไป รอยยิม้ ของเธอนั้นทําให้คนหลงสเน่ห์นบั ไม่ถว้ น


มีคนจํานวนมากนั้นตกหลุมรักสเน่ห์จากรอยยิม้ ของต้านต้านแล้ว ไม่วา่
จะเป็ นชายหรื อหญิง
“ข้าไม่โทษท่านหรอก แน่นอน ชูเฟิ งด้วย ไม่วา่ เขาจะทําอะไร
ข้าก็ไม่โทษเขา.” จื่อ หลิงพูด และยิม้ ออกมา

“แม่นาง ข้าอยากรู ้วา่ เจ้ามาจากโลกวิญญาณไหนกัน” ในตอน


นั้น ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าก็พดู ขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าเกรงขาม
ลอยออกมาจากตัวต้านต้าน

“สามหาว”

“ใครอนุญาตให้เจ้าเรี ยกข้าว่าแม่นาง เจ้าต้องเรี ยกข้าว่า ท่าน


ราชินี เข้าใจหรื อไม่” เมื่อฟังคําพูดของผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ต้านต้านก็
หงุดหงิดทันที จึงพูดออกมา เสี ยงของเธอนั้นดังและใสมาก แม้แต่สุสาน
พันกระดูกยังได้รับผลกระทบ
ในสายตาของต้านต้านตอนนี้น้ นั รุ นแรงมากมันไม่ได้มาจากพลังของ
เธอแต่มนั มาจากเจตท่าทางของเธอ

ต้านต้าน ในตอนนี้ทาํ ให้ทุกคนต่างรู ้สึกกลัว ผูค้ นต่างรู ้สึกถึงความ


เปลี่ยนแปลงและเดินถอยออกไปก้าวนึง

ในตอนนี้ เธอเป็ นสาวงามที่ทาํ ให้คนรู ้สึกหลงใหลหรื อ ไม่ใช่ ตอนนี้เธอ


ได้เปลี่ยนเป็ นปี ศาจที่ทาํ ให้คนเกรงกลัวแล้ว

แม่แต่ผกู ้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ก็ขนลุกเล็กน้อย หลังจากคิดอยูส่ กั พัก เขาก็


ใจเย็นลง จึงยิม้ และพูดว่า “ ข้าไม่เคยเห็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความ
มืดแบบนี้มาก่อน ถ้าข้าเดาไม่ผดิ แม่นาง เจ้ามาจาก โลกอสู รฟ้าใน
ตํานานนัน่ ใช่หรื อไม่!”

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : ต้านต้านออกมาข้างนอกได้แล้ว ถึงเวลาที่ชูเฟิ งจะได้กินตับ!!!

B : แหม๋ สมอง!!! ถ้าจะเอาก็ตอ้ งรอต้านต้านหลับ หรื อพูดให้เข้าใจคือ


ลักหลับนั้นเอง!!!

A : กูกน็ ึกว่าจะด่า . . . . ก็จริ งอ่ะนะ เพราะชูเฟิ งตอนนี้ยงั สู ต้ า้ นต้าน


ไม่ได้ แต่หากลองขอ ต้านต้าน ดีๆจะได้ไม๊นะ

B : ก็ไม่แน่ ดูๆแล้วต้านต้านเองก็อาจมีใจให้ ชูเฟิ ง อีกทั้งอยูด่ ว้ ยกันมา


ก็นาน แต่อารมณ์ของนางอาจจะรักกับชูเฟิ งแบบพี่นอ้ ง แต่ไม่เป็ นไร คน
ละพ่อ คนละแม่

A : แหม๋ สมอง!!!

บทที่ 459 - ต้านต้าน

“นางคืออสู รวิญญาณ ที่มาจากโลกวิญญาณอสู รฟ้า” เมื่อได้ยนิ คํา


กล่าวของ จื่อ หลิง นั้น ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าขมวดคิว้ เล็กน้อย แววตา
ปรากฏแววครุ่ นคิดเล็กน้อย เพราะเขาคาดเดาไว้ก่อนแล้วว่า นางเป็ น
อสู รวิญญาณจาก โลกวิญญาณอสู รฟ้า

“โลกวิญญาณอสู รฟ้า ความแข็งแกร่ งโลกวิญญาณนี้เป็ นตํานาน


พวกเขามีพลังแห่งความมืดที่ไม่สิ้นสุ ด และมีชื่อเสี ยงมากที่สุดในเจ็ด
โลกวิญญาณ”

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ผูท้ ี่ตกตะลึงมากที่สุดคือ จูเก่อ หลิวหยุน ถึงแม้


อํานาจพลังวิญญาณของเขาจะน้อยกว่า ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง แต่ดว้ ยความ
ที่เขาเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณมานาน ความรู ้เรื่ องโลกวิญญาณของเขา
จึงค่อนข้างมาก

เมื่อเขาได้ยนิ ชื่อของโลกวิญญาณที่แข็งแกร่ ง ซึ่ งหนึ่งในนั้น เป็ น


สุ ดยอดในความสง่างาม และเกียรติยศ
แต่อีกหนึ่งไม่ได้สง่างาม และทรงเกียรติ แต่ในด้านความแข็งแกร่ ง
และความเหี้ ยมโหดนั้น ไม่มีโลกวิญญาณใดสามารถเทียบกับ โลก
วิญญาณอสู รฟ้าได้

โลกวิญญาณอสู รฟ้าคือโลกวิญญาณที่แข็งแกร่ งที่สุด ทันเป็ นความ


ใฝ่ ฝันของเหล่าผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณทุกคน หากพวกเขาได้รรับการ
ยอมรับจากโลกวิญญาณอสู รฟ้า นัน่ จะทําให้พวกเขากลายเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อ
โลกวิญญาณที่โดดเด่นที่สุด และแข็งแกร่ งที่สุด

ในตอนนี้ ชูเฟิ ง ได้รับการยอมรับจากโลกวิญญาณอสู รฟ้า นัน่


หมายความว่า ในอนาคต ชูเฟิ ง จะต้องกลายเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ
ที่แข็งแกร่ งอย่างแน่นอน

คนที่อยูใ่ นเหตุการณ์ตอนนี้ อย่าง จูเก่อ หลิวหยุน สามารถเข้าใจได้


ทันทีถึงความแข็งแกร่ ง เพราะเขารู ้เรื่ องราวของโลกวิญญาณอสู รฟ้าเป็ น
อย่างดี
ในทุกๆ การสนทนา เขาจะหันกลับไปมองที่ใบหน้าของ ชูเฟิ ง
ด้วยความตกตะลึง แววตาของเขาเปี่ ยมไปด้วยความประหลาดใจยากที่
จะอธิบายออกมาได้ เพราะว่าความสามารถของ ชูเฟิ ง ได้ไปไกลเกินกว่า
เขามาก

“ตาเฒ่า ข้าบอกเจ้าแล้วว่าไม่ให้เรี ยกข้าว่าแม่นาง เจ้าไม่เข้าใจรึ !!”


ในขณะนั้น ต้านต้าน คํารามใส่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ด้วยความไม่
พอใจ

“ต้านต้าน อย่าไร้มารยาท !! ท่านคือบรรพบุรุษของข้านะ !!” เมื่อ


ได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง จึงรี บกล่าวห้ามออกมา เพราะเวลาปกติน้ นั ต้านต้าน
ก็อยูน่ อกเหนือกว่าที่เขาจะควบคุมได้ เขาจึงเกรงว่านางจะทําอะไรลงไป

“หื มมม…” เมื่อได้ยนิ ชูเฟิ ง กล่าวออกมาเช่นนั้น ต้านต้าน ได้แต่


กัดริ มฝี ปากแน่น จากที่นางเหมือนจะกล่าวอะไรออกมา นางกลับกลืน
คําพูดเหล่านั้นลงไป หลังจากนั้น นางก็ถลึงตาใส่ ชูเฟิ ง และกล่าวว่า
“หึ …..ขยะที่อ่อนแอเช่นนี้กลับกล้าไร้มารยาทต่อข้า ข้ากลับล่ะ”

หลังจากที่กล่าวจบ ต้านต้าน กระโดดขึ้น กระโปรงขนสี ดาํ ของ


นางสะบัดเล็กน้อย ก่อนที่ร่างกายของนางจะเลือนลาง และกลายเป็ น
ประกายแสงหายไปในประตูโลกวิญญาณ

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เพราะเขาไม่


สามารถทําอะไรเกี่ยวกับนางได้ ต้านต้าน นั้นเป็ นคนพิเศษอย่างมาก ใน
สายตาของนาง ผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้า อาจไม่มีค่าพอที่นางจะมองเห็นก็เป็ นได้

สําหรับคนอื่นๆ ยิง่ ไม่มีใครกล้าที่จะกล่าวอะไรออกมาเช่นกัน แม้ผู ้


ก่อตั้งสํานักมังกรฟ้าจะทรงเกียรติสาํ หรับพวกเขาอย่างมาก
แต่พวกเขาก็รู้ดีวา่ ต้านต้าน กําลังโกรธ หากกล่าวอะไรออกไปนั้น
อาจทําให้นางระเบิดพลังที่รุนแรงออกมา ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้กล่าว
อะไรออกมา

“ฮ่าๆ โลกวิญญาณอสู รฟ้านี่ยอดเยีย่ มจริ งๆ โอ้…ชูเฟิ ง เจ้าได้


ปกป้องข้าเอาไว้ ข้าล่ะะชอบนางจริ งๆ” ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า หัวเราะ
ออกมาเสี ยงดัง ไม่เพียงแต่เขาไม่โกรธ แต่เขากลับมีความสุ ขอย่างมาก

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง จึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ไม่วา่


ต้านต้าน จะเห็นผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าป็ นเช่นไรในสายตานาง แต่เขาก็
ยังคงเป็ นบุคคลที่ ชูเฟิ ง ให้ความเคารพ และเขาก็หวังว่า ต้านต้าน จะไม่
โกรธเขา

อย่างไรก็ตาม แม้วา่ ชูเฟิ ง จะกลัวว่าผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าจะโกรธ


แต่เขากลับกังวัลว่า ต้านต้าน จะโกรธมากกว่า เขาจึงแอบตาม ต้านต้าน
ไป
“ต้านต้าน ที่เจ้าโกรธมันไม่ถูกต้องนะ !! ท่านบรรพบุรุษของข้า
เป็ นคนที่แข็งแกร่ งมาก ด้วยรู ปลักษณ์ของเจ้า จึงทําให้ท่านเรี ยกเจ้าว่า
แม่นางน้อย”

“เจ้าต้องการให้เขาเรี ยกเจ้าว่า ท่านเทพธิดา ต่อหน้าผูอ้ ื่นเช่นนั้น


มันเป็ นเรื่ องที่น่าลําบากใจต่อท่านนะ”

ในขณะนั้น ต้านต้าน ขดริ มฝี ปากที่น่ารักของนางเล็กน้อย และ


กล่าวว่า “ชูเฟิ ง เจ้ากังวลเกี่ยวกับข้ามากไป ข้าไม่ได้ใจแคบเช่นนั้น แต่
ข้าจะไม่ยอมออกไปง่ายๆ อีกแล้ว ข้าจะออกไปเมื่อเจ้าถูกศัตรู ทาํ ร้าย
เท่านั้น”

“เจ้าจะบอกว่าเจ้าไม่ได้โกรธ ทั้งๆที่เจ้าปิ ดกั้นการอัญเชิญของข้า


เช่นนี้ ข้ารู ้วา่ เจ้ากําลังโกรธ และทั้งหมดก็เพราะข้า” ชูเฟิ ง กล่าวอย่าง
จริ งจัง เพราะเขาแคร์ความรู ้สึกของ ต้านต้าน อย่างมาก
“เจ้าโง่….ข้าทําไปเพราะผลประโยชน์ของเจ้า ต่อแต่น้ ีต่อไป เจ้า
จะต้องใช้ชีวติ ร่ วมกับคู่หมั้นของเจ้า” ต้านต้าน กล่าวพลางยิม้ บาง
จากนั้นนางก็หนั กายกลับไป และแกล้งทําเป็ นนอนหลับ และไม่ใส่ ใจ
ต่อคํากล่าวของ ชูเฟิ ง อีก

“ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง !! ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง !!” ในขณะนั้นมีเสี ยงดังขึ้นมา


พร้อมๆ กับที่ จาง เทียนยี่ วิง่ เข้ามาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล

“ศิษย์พี่จาง มีอะไรเกิดขึ้นที่ดา้ นนอกเหรอ” ชูเฟิ ง รี บลุกขึ้น และ


กล่าวถามออกไป

ในหลายวันที่ผา่ นมานั้น ชูเฟิ ง ได้มอบหมายให้ จาง เทียนยี่


เดินทางไปที่อาณาจักรวิญญาณ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของนิกาย
โลกวิญญาณ และเขาจะติดตามไป
แต่เมื่อเขาเห็น จาง เทียนยี่ มีใบหน้าที่วติ กกังวลเช่นนี้ เขาจึง
คาดคิดว่าต้องมีเรื่ องอะไรเกิดขึ้นเป็ นแน่

“นี่ไม่ดีแน่ ในตอนนี้ตระกูลเจี่ยได้ประกาศออกมาว่า ข้า เจ้า และ


จื่อ หลิง ได้รับการคุม้ ครองอย่างลับๆ จากนิกายโลกวิญญาณ จึงทําให้
ผูค้ นจากทั้งเก้าอาณาจักรไม่สามารถติดตามหาพวกเราได้”

“ด้วยข้ออ้างนี้ ทําให้ตระกูลเจี่ย สามารถร่ วมมือกับ สํานักหยวนกัง


นิกายไป๋ หุบเขาไร้ใจ และสํานักเทพอัคคี ซึ่ งมีผเู ้ ชี่ยวชาญรวมกันกว่า
ล้านคนเข้าโจมตีนิกายโลกวิญญาณ”

“ในตอนนี้สงครามได้เปิ ดฉากขึ้นแล้ว เปลวไฟแห่งสงครามได้


ลุกลามไปทัว่ ทั้งอาณาจักรวิญญาณ นิกายโลกวิญญาณได้ถูกโจมตีอย่าง
หนัก พวกเขาได้ถอยร่ นไปจนถึงที่มนั สุ ดท้ายที่ยงั ได้รับการปกป้องอยู่
หากเป็ นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะต้องถูกทําลายคนย่อยยับ”

“จากสิ่ งที่ขา้ สัมผัสได้น้ นั แม้วา่ ฉากหน้า ตระกูลเจี่ยจะต้องการตัว


เจ้า แต่ในความเป็ นจริ งนั้น พวกเขาต้องกาากําจัดศัตรู ตวั ฉกาจของพวก
เขานิกายโลกวิญญาณ และต้องการจะยึดเอาหอคอยอสู รฟ้ามาเป็ นของ
ตน” จาง เทียนยี่ กล่าวอย่างจริ งจัง

“อดีตผูน้ าํ ของนิกายไป๋ หุบเขาไร้ใจ สํานักหยวนกัง และ สํานัก


เทพอัคคี ได้มาด้วยหรื อเปล่า” ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“พวกเขาได้มาด้วย และได้สาบานว่าจะทําลายนิกายโลกวิญญาณ
ลงให้ได้” จาง เทียนยี่ กล่าว

“พวกเขาได้เดิมพันทุกๆ อย่างในครั้งนี้ หากพวกเขาล้มเหลว พวก


เขาก็ตอ้ งพบกับความตาย มันมีเหตุผลที่มากกว่านี้เป็ นแน่” ชูเฟิ ง กล่าว
“ชูเฟิ ง ตอนนี้พวกเราควรทําเช่นไรดี หากนิกายโลกวิญญาณถูก
ทําลายก็ไม่เท่าไหร่ แต่หากหอคอยอสู รฟ้าตกอยูใ่ นมือของตระกูลเจี่ย
เช่นนี้ยอ่ มไม่ดีแน่” จาง เทียนยี่ กล่าว

ในขณะนั้น จื่อ หลิง ก็เดินเข้ามาด้วยความกังวล เพราะนางรู ้ดีวา่ ชู


เฟิ ง ต้องการช่วยเหลือ ซูรู่ และ ซูเหม่ย อย่างมาก และหอคอยอสู รฟ้า ก็
จําเป็ นสําหรับเรื่ องนี้อย่างมาก

ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ไม่ได้กงั วลมากนัก เขายิม้ และกล่าวออกมาอย่าง


ใจเย็นว่า “หากตระกูลเจี่ยต้องการทําลายนิกายโลกวิญญาณเพราะข้า ข้า
ก็จะเข้าร่ วมในการต่อสู ค้ รั้งนี้”

“เมื่อไหร่ ล่ะ !?” จื่อ หลิง กล่าวถาม เพราะนาฝเข้าใจความตั้งใจ


ของ ชูเฟิ ง
“ตอนนี้ !!” ชูเฟิ ง กล่าวพร้อมกับก้าวเดินไปที่ทางออกของสุ สาน
พันกระดูก ในขณะที่มี จื่อ หลิง ติดตามไปอย่างใกล้ชิด

“ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง รอข้าด้วย แม้วา่ ข้าจะไม่เกี่ยวข้อง ข้าก็จะไปด้วย”


ในขณะนั้น จาง เทียนยีก่ ต็ ิดตามออกไป

สามอัจฉริ ยะที่ได้รับการปกป้องโดยนิกายโลกวิญญาณในสายตา
ของคนทั้งเก้าอาณาจักร จึงได้ออกเดินทางไปยังอาณาจักรวิญญาณ เพื่อ
เข้าร่ วมการต่อสู ค้ รั้งยิง่ ใหญ่น้ ี

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
แปลโดยคุณ#Abhisit ReadMGA
B3 : อยากตายนักมึงก็ออกไปกันเลย ไอ้โง่!!!

ออกมาก็ปากดีเลย เด๋ วสอยแม่ง


บทที่ 460 - เผชิญอันตราย

นอกจากอาณาจักรฮัน่ แล้วนั้น อาณาจักรวิญญาณถือว่าเจริ ญมากที่สุดใน


เก้าอาณาจักร

ไม่ตอ้ งกล่าวถึงผูเ้ ชี่ยวชาญที่มีจาํ นวนมาก แม้แต่ประชาชนทัว่ ไปก็มีอยู่


มาก อีกทั้งมีความมัง่ คัง่ ทางเศรษฐกิจอย่างมาก

แต่ในตอนนี้ ทัว่ ทุกพื้นที่ของอาณาจักร ได้ถูกไฟแห่งสงครามลุกลามไป


ทั้งอาณาจักร

เพราะในตอนนี้น้ นั ตระกูลเจี่ย ได้จบั มือกับอีกสี่ ขมุ อํานาจคือ สํานัก


หยวนกัง นิกายไป๋ หุบเขาไร้ใจ และสํานักเทพอัคคี เข้าโจมตีนิกายโลก
วิญญาณอย่างรุ นแรง

สงครามครั้งยิง่ ใหญ่ได้แผ่ขยายออกไปทัว่ ทุกเก้าอาณาจักร จุดเริ่ มต้น


เป็ นเพียงเพราะความขัดแย้งระหว่างนิกายโลกวิญญาณ กับตระกูลเจี่ย
เท่านั้น

ไม่วา่ ใครจะเป็ นผูก้ าํ ชัยชนะ แต่ผทู ้ ี่เดือดร้อนมากที่สุดคือเหล่า


ประชาชนทั้งหมด ที่โดนลูกหลงจากการต่อสู ข้ องเหช่าผูเ้ ชี่ยวชาญ

แม้วา่ สองขั้วอํานาจที่มีผลโดยตรงต่อโครงสร้างของทวีปเก้าอาณาจักร
แต่ผนู ้ าํ ของทั้งเก้าอาณาจักร ราชวงศ์เจียง กลับไม่ได้สอดมือเข้ามายุง่
เกี่ยวแต่อย่างใด

พวกเขาเพียงเฝ้าดูอยูอ่ ย่างเงียบๆ ไม่มีแม้แต่การแสดงท่าทีใดๆ ออกมา


ราวกับว่าสงครามในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องพวกเขาแต่อย่างใด
ในตอนแรกนั้น แม้วา่ ตระกูลเจี่ยจะร่ วมมือกับอีกสี่ มหาอํานาจ พวกเขาก็
ยังไม่อาจกําราบนิกายโลกวิญญาณลงได้

แต่เมื่ออดีตผูน้ าํ ตระกูลเจี่ยปรากฏตัวออกมานั้น เขาผูซ้ ่ ึ งเป็ นอัจฉริ ยะใน


รอบร้อยปี ของเก้าอาณาจักร ด้วยพลังระดับเจ็ด ขั้นแดนสวรรค์ เขาได้
นํากองทัพกว่าล้านคนเข้ากวาดล้างนิกายโลกวิญญาณ

ในปัจจุบนั นิกายโลกวิญญาณได้สูญเสี ยพื้นที่ส่วนใหญ่ไป และถูกบีบ


บังคับให้ถอยร่ นเข้าสู่ พ้นื ที่หลักของนิกาย พวกเขาได้วางรู ปแบบอํานาจ
พลังวิญญาณที่แข็งแกร่ งไว้ป้องกันโดยรอบ และรอคอยเวลาที่จะโต้
กลับตระกูลเจี่ย

แต่เมื่ออยูต่ ่อหน้าอดีตผูน้ าํ ของตระกูลเจี่ย แม้วา่ รู ปแบบอํานาจพลัง


วิญญาณจะแข็งแกร่ งเพียงใด การจะเปิ ดมันออกได้น้ นั ก็ข้ ึนอยูก่ บั เพียง
เวลาเท่านั้น

ในช่วงเวลาแห่งความเป็ นความตายนั้น อดีตผูน้ าํ นิกายโลกวิญญาณก็ยงั


ไม่ปรากฏตัวออกมา และนี่กเ็ ป็ นอีกผลหนึ่ง ที่ทาํ ให้หลายๆ คนพากัน
กังวล

ขณะที่พวกเขาเผชิญหน้ากับอันตราย ที่พวกเขาไม่อาจรู ้ได้วา่ จะเป็ นหรื อ


ตายนั้น พวกเขาก็ยงั ได้ฝากความหวังไว้กบั คนรุ่ นใหม่ของนิกาย โดยให้
สมาชิกรุ่ นใหม่ของนิกายค่อยๆ หลบหนีออกไป

อย่างน้อยถ้าเหล่าสมาชิกรุ่ นใหม่รอดชีวติ ไปได้ นิกายโลกวิญญาณก็ยงั


สามารถพลิกสถานการณ์ได้ แต่หากพวกเขาตายไปทั้งหมด ก็เท่ากับว่า
นิกายโลกวิญญาณได้ถูกทําลายอย่างแท้จริ ง

อย่างไรก็ตาม มันก็เป็ นเพียงความพยายามที่ไร้ประโยชน์ แม้วา่ ตระกูล


เจี่ยจะมุ่งเน้นไปที่การเปิ ดรู ปแบบอํานาจพละงวิญญาณ แต่พวกเขาก็ได้
ส่ งผูเ้ ชี่ยวชาญจํานวนมาก คอยเฝ้าระวังตามจุดต่างๆ อย่างรอบคอบ

ดังนั้น หลังจากที่พวกเขาหลบหนีออกมาได้ไม่นานนั้น พวกเขาก็ได้พบ


กับกองทัพของตระกูลเจี่ย และถูกกดดันจนพวกเขาต้องเข้าตาจน

“ท่านผูน้ าํ สํานักหยวนกัง นิกายไป๋ หุบเขาไร้ใจ และสํานักเทพ


อัคคี พวกท่านไมาเคยมีเรื่ องบาดหมางกับนิกายโลกวิญญาณมาก่อน
เหตุใดพวกท่านถึงได้ทาํ เช่นนี้” ในขณะที่รองผูน้ าํ นิกายโลกวิญญาณ
กล่าวนั้น ใบหน้าของเขาก็ซีดขาว ร่ างกาย และเสื้ อผ้าของเขา เต็มไป
ด้วยบาดแผล และเลือด

ที่ดา้ นหลังของเขาคือ ซู ซ่งหยู , กู๋โบ่ และเหล่าอัจฉริ ยะรุ่ นใหม่ของ


นิกายโลกวิญญาณ ความหวังและอนาคตของนิกายโลกวิญญาณขึ้นอยู่
กับพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อาจเป็ นอันตรายได้
แม้วา่ รองผูน้ าํ นิกายโลกวิญญาณจะเป็ นถึง ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับ
ชุดคลุมสี ฟ้า แต่เมื่ออยูต่ ่อหน้าทั้งสี่ ผนู ้ าํ นั้น เขาก็ไม่อาจเอาชนะได้

“ฮ่าๆ ท่ารองเกา พวกเราจะไม่พดู อ้อมค้อม”

“พวกเรามาที่นี่เพื่อจับตัว ชูเฟิ ง และทําลายนิกายโลกวิญญาณ


เหตุผลเพราะว่าพวกเราเกลียดนิกายโลกวิญญาณ อีกทั้งหากพวกเราทํา
สําเร็ ง ตระกูลเจี่ยยังจ่ายค่าแรงอย่างมหาศาล พวกเราถึงได้มาที่นี่”
ในขณะนั้น ผูน้ าํ สํานักเทพอัคคีกล่าว และหัวเราะออกมาเสี ยงดัง

ในขณะเดียวกันนั้น อีกสามคนก็หวั เราะออกมา เพราะพวกเขาล้วน


เกลียดชังนิกายโลกวิญญาณ ในอดีตที่ผา่ นมานั้น พวกเขาได้แต่คล้อย
ตามด้วยความหวาดกลัว แต่ในตอนนี้ พวกเขากลับไม่ได้หวาดกลัว
นิกายโลกวิญญาณอีกต่อไป
" ท่านเจ้าสํานัก อย่าได้เสี ยเวลาเลย รี บไปนําศีรษะมันมาไวๆ
แล้วกลับไปรายงาน ผูน้ าํ ของข้า เขาจะต้องตอบแทนท่านอย่างงาม "

ในตอนนั้น ชายหนุ่มที่อยูใ่ นกลุ่มคนก็พดู ออกมา ชายผูน้ ้ นั จะเป็ นใคร


อื่นไม่ได้ นอกซะจาก ผูน้ าํ ตระกูลเจี่ยในอนาคต เจี่ย ฉิ งหมิง นั้นเอง

" เจี่ย ฉิงหมิง เจ้าก็มาสู ก้ บั ข้าตัวต่อตัวเอาไม๊!!! หรื อเจ้าทําได้


แค่ขอความช่วยเหลือจากคนภายนอก ? " ซู่ จงหยู ตะโกนอย่างเกรี้ ยว
กราด

" หื ม ซู่ จงหยู่ อย่าไร้เดียงสาไปหน่อนเลย เจ้าต้องการจะสู ก้ บั


ข้าตัวต่อตัว ? คิดว่าเจ้าจะเอาชนะข้าได้หรื อไง ? "

" ถึงเราสู ก้ นั มานานหลายปี และผลก็ออกมาเสมอเกือบจะทุก


ครั้ง แม้วา่ จะไม่สามารถตัดสิ นได้ แต่เจ้าและข้าก็ไม่มีใครเหนือไปกว่า
กัน "

" นี่มนั คือการสู ท้ ี่แท้จริ ง ตระกูลเจี่ยของข้านั้นต้องการเอาชนะ


อย่างเด็ดขาด ดังนั้นอย่าคิดเกี่ยวกับเรื่ องความถูกต้อง ตอนนี้สี่ผนู ้ าํ
สามารถฆ่าพวกเจ้าได้ท้ งั หมด โดยไม่ตอ้ งให้ขา้ เจี่ย ฉิ งหมิง สู ก้ บั เจ้าตัว
ต่อตัว " เจี่ย ฉิงหมิง ยิม้ อย่างเย็นชาขณะที่ใช้สายตาหันไปมอง สี่ ผนู ้ าํ
และกล่าว

" ท่านผูน้ าํ ทั้ง 4 ทําไมพวกท่านไม่ลงล่ะ มันคงจะดีถา้ พวก


ท่านไม่รอช้า หากไม่รีบละก็ บรรพบุรุษของข้าจะโกรธเอานะ แม้แต่ขา้
ก็จะถูกลงโทษ "

" นี่ . . . . . . . "


หลังจากได้ยนิ ชื่อของ บรรพบุรุษของตระกูลเจี่ย แม้แต่ 4 ผูน้ าํ ยังมีสี
หน้าที่เปลี่ยนไป ในช่วงหลายวันที่ผา่ นมา พวกเขาได้พบกับบรรพบุรุษ
รุ่ นก่อนมาแล้ว

พลังของบรรพบุรุษเขานั้นไม่ธรรมดา แม้พวกเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักร


สวรรค์ระดับ 6 แต่พวกเขาก็ยงั ห่างกับพลังวิญญาณของบรรพบุรุษเจี่ย
ที่อยูใ่ นอาณาจักรสวรรค์ระดับ 7 ถึงจะห่างกันแค่ 1 ระดับ แต่มนั ก็อยู่
ห่างไกลกันอย่างมากหากเทียบกับอาณาจักรสวรรค์ระดับ 6

" รองประมุขเกา อย่าได้โทษข้าหากจะโทษก็โทษ


ความสามารถของท่านและคนของท่าน ในตอนแรกท่านดูถูกทุกคน
ดังนั้นตอนนี้กอ็ ย่าได้ตาํ หนิเราว่าไร้หวั ใจ " ผูน้ าํ ทั้ง 4 ระเบิดเสี ยง
ตะโกน พร้อมกับเริ่ มโจมตี นิกายโลกวิญญาณ

" ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด " เห็นแบบนั้นรองประมุขเกาก็


ตะโกน พร้อมกับระเบิดพลังอาณาจักรสวรรค์ระดับ 5 เข้าต่อสู ก้ บั สี่
ผูน้ าํ

เมื่อผูน้ าํ สองฝ่ ายเข้าหํ่าหัน่ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนอื่นๆของสี่ มหาอํานาจที่อยู่


ภายใต้คาํ สัง่ ของ เจี่ย ฉิงหมิง ก็มุ่งหน้าตรงไปที่ ซู่ จงหยู่ กู๋ โบ่ และ รุ่ น
เยาว์คนอื่นๆ พร้อมกับเริ่ มโจมตี

ในสถานการณ์น้ นั คนที่สามารถเข้าต่อสู ก้ บั ฝ่ ายนั้นมีแค่ ซู่ จงหยู่ ขณะที่


เขาถือพัดที่เป็ นยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดพร้อมกับปล่อยออร่ าอาณาจักรสวรรค์
ระดับ 2 ออกมา และเขาก็สามารถทําหน้าที่ได้สมกับชื่อของอัจฉริ ยะ
แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์ เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับเจี่ย ฉิ งหมิง และ
ผูเ้ ชี่ยวชาญอาวุโสจากสี่ มหาอํานาจอีกทั้งยังมีอาวุโสของตระกูลเจี่ย
ดังนั้นเขาก็ตกอยูใ่ นสถานการณ์ที่อนั ตราย

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/
แปลโดยคุณ#Abhisit+ReadMGA
บทที่ 461 - การพัฒนาที่เหนือเหตุผล

*** ปั๊กก *** ทันใดนั้น เจี่ย ฉิ งหมิง ก็อดั ฝ่ ามือกระแทกใส่ หน้าอกของ


สู่ จงหยู๋

" อัก๊ กก!!! " พลังของฝ่ ามือนั้นรุ นแรงมาก จึงทําให้ สู่ จงหยู่
กระอักเลือดออกมาจากปากพ้มกับทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ ยวแรง
" อ๊ะ!! " ในเวลาเดียวกัน รองประมุขเกาที่ไม่สามารถต้านทาน
การโจมตีของสี่ ผนู ้ าํ ก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มือหนึ่งของเขาถูก
ทําลาย เลือดอาบไปทัว่ ร่ างกาย และในขณะนั้นก็มีคนได้รับบาดเจ็บอีก
จํานวนไม่ใช่นอ้ ย

" รองประมุขเกา ศิษย์พี่ สู่ จงหยู!่ !! " เห็นทั้งสองคนและพรรค


พวกได้รับบาดเจ็บสาหัส กู๋ โบ่ และคนอื่นๆตะโกนออกมาเสี ยงดังด้วย
ความตกใจ โดยเฉพาะสาวกหญิง ที่ดูเหมือนภายนอกจะสงบแต่น้ นั เป็ น
ความรู ้สึกตกใจจนทําอะไรไม่ถูก ได้แต่สะอื้นอยูภ่ ายในใจด้วย
ความช็อค

" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ร้องดังๆ ร้องให้ดงั อีก เพราะวันนี้จะเป็ นวันสุ ดท้าย
ของชีวติ เจ้า!!! " ทันใดนั้นออร่ าสี แดงก็กระจายออกมารอบๆตัวของ เจี่ย
ฉิงหมิง และในเวลาเดียวกันก็มีเสี ยงหัวเราะเยาะดังระงมใส่ พวก กู๋ โบ่
และคนอื่นๆ
" วันนี้ไม่ใช่วนั สุ ดท้ายของพวกเขา แต่เป็ นของพวกเจ้า!!! " ใน
ตอนนั้นก็มีเสี ยงระเบิดดังขึ้นกลางอากาศ

เมื่อเสี ยงนั้นดังขึ้นมา ผูค้ นจากนิกายโลกวิญญาณก็พลันชะงักด้วยความ


ตกใจ แล้วหลังจากนั้นพวกเขารี บทิ้งสายตาไปยังเสี ยงนั้น เมื่อพวกเขา
เห็นพบกับเจ้าของเสี ยงที่แสนคุน้ เคย ด้วยเหตุผลบางอย่างมันทําให้พวก
เขาก็ดีใจกันอย่างมาก

เพราะในตอนนั้นบนอากาศมี ราชรถอันงดงาม พร้อมกับกลิ่นอายที่น่า


พลึงพลันกระจายไปทัว่ ทั้งท้องฟ้า

ข้างๆราชรถมี ร่ างของคน 3 คน คนที่อยูต่ รงกลางคือ ชูเฟิ ง ซึ่ งเป็ นคน


ที่พวกเขาแสนจะคุน้ เคย ส่ วนทางด้านซ้ายและขวา จะเป็ นใครไม่ได้
นอกซะจาก จื่อหลิง และ จาง เทียนยี่
*** ฟรึ บบบ ***

ชูเฟิ ง จื่อหลิง และ จาง เทียนยี่ พุง่ ลงมาราวกับสายฟ้า และหยุดอยู่


ด้านหน้าของ กู๋ โบ่ และคนอื่นๆ ของนิกายโลกวิญญาณ

" ชูเฟิ ง ? ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะกล้าปรากฏตัวต่อหน้าเรา " เมื่อ


พวกเขาเห็น ชูเฟิ ง การแสดงออกของผูน้ าํ 4 มหาอํานาจก็เปลี่ยนไป
อย่างมาก พวกเขาขณะนั้นกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ โดยเฉพาะเจ้า
สํานักเทพอัคคี ในตอนนั้นเขากําหมัดแน่น ร่ างกายสัน่ สะท้าน จนแทบ
จะเสี ยการควบคุม

ในตอนนั้น ชูเฟิ ง ได้ใช้แผนล่อเสื อออกจากถํ้าให้คนของสํานักเทพอัคคี


ออกจากสํานักแล้วก็ฉวยโอกาสนั้นขุดสุ สานบรรพชนของสํานักเทพ
อัคคีจนหมดสิ้ น จนทําให้สาํ นักเทพอัคคีน้ นั เป็ นที่หวั เราะ ซึ่ งมันส่ งผล
ให้เขานั้นถูกทุบตีอย่างรุ นแรง โดยเจ้าสํานักรุ่ นก่อนของสํานักเทพอัคคี
ที่ปิดตัวจากโลกภายนอก

เมื่อเขาเห็นชูเฟิ งปรากฏตัวต่อหน้า เป็ นธรรมดาที่เขาจะโกรธมาก จน


แทบจะฉีกเขาออกเป็ นชิ้นๆแล้วซดเลือดของชูเฟิ งไม่ให้เหลือแม้แต่หยด
เดียว

นอกจากเจ้าสํานักเทพอัคคี ยังก็มีอีกคนที่โกรธไม่แพ้กนั ตอนนั้นเลือด


ภายในหัวใจเขาสู บฉีดอย่างรุ นแรง คนคนนั้นไม่ใช่สามผูน้ าํ มหาอํานาจ
แต่คือ เจี่ย ฉิงหมิง

เจี่ย ฉิงหมิง ไม่ถูกกับ ชูเฟิ ง มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ครั้งแรก ชูเฟิ ง ต้องทําให้


เขาขายหน้าต่อหน้าผูค้ นจํานวนมากในนครอันทรงเกียรติ และตอนนั้น
มันก็ทาํ ให้ใจเค้านั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อชูเฟิ ง แล้วยิง่ คนที่เขา
หลงรักอย่าง จื่อหลิง โดน ชูเฟิ งแย่งความรักไป มันยิง่ ทําให้ความเกลียด
ชังของเขาเพิ่มทวีคูณ
เมื่อคนที่เขาหลงรัก มาปรากฏตัวพร้อมกับศัตรู ที่เขาสุ ดจะเกลียดอย่าง ชู
เฟิ ง เป็ นธรรมดาที่เขาปรารถนาที่จะสังหาร ชูเฟิ ง ในตอนนั้นเขาและเจ้า
สํานักเทพอัคคีต่างแทบจะพุง่ เข้าใส่

แม้พวกเขาจะจ้องชูเฟิ งพร้อมกับปล่อยจิตที่กระหายเลือด แต่ชูเฟิ งกับ


ไม่ได้กลัวเลยแม้แต่นอ้ ย ในตอนนั้นเขาแสยะยิม่ เบาๆพร้อมกับถามอย่าง
สบายอกสบายใจ " คนที่ตามล่าข้าในนครอันทรงเกียรติมาอยูน่ ้ ีหมดแล้ว
ใช่ม้ ยั ? "

" เดี๋ยวๆ มันดูขาดๆไปหน่อยนะ รองผูน้ าํ ตระกูลเจี่ยกับผูน้ าํ ล่ะ


หายหัวไปไหน แต่ไม่เป็ นไร ไหนๆหัวหน้าตระกูลเจี่ย ในอนาคตก็อยูน่ ้ ี
แหละ งั้นก็ขอชีวติ มันแทนเลยล่ะกัน " ขณะที่เขาพูด ชูเฟิ งก็เหวีย่ ง
สายตาไปที่ เจี่ย ฉิงหมิง ด้วยความดูถูกเหมือนกับมองคนที่กาํ ลังจะตาย

" สารเลวชูเฟิ ง!!! บังอาจนักนะ!!! พลังวิญญาณแค่ระดับ 7


แก่นแท้ แต่ยงั จะกล้าปากดี เจ้าคิดจริ งๆหรอว่าจะเอาชีวติ ข้าได้ หรื อเจ้า
คิดว่าตัวเองเป็ นอัจฉริ ยะอันดับ 1 ของ 9 อาณาจักร ? "

เวลาหนึ่งปี เจี่ย ฉิงหมิง ได้พฒั นาจากระดับ 1 อาณาจักรสวรรค์ เข้าสู่


ระดับ 2 อาณาจักรสวรรค์ ดังนั้น เขาจึงมีความมัน่ ใจอย่างมากเรื่ อง
ความแข็งแกร่ งของตนเอง เมื่อเผชิญหน้ากับ ชูเฟิ ง ที่อยูร่ ะดับ 7 แก่น
แท้วญ
ิ ญาณ เขาจึงเชื่อว่าตัวเองสามารถเอาชนะ ชูเฟิ ง ได้อย่างแน่นอน

ต้องบอกว่าเจี่ย ฉิงหมิง จริ งๆนั้นก็แข็งแกร่ งไม่นอ้ ย โดยเฉพาะยามที่เขา


สวมเกราะหนาม บรรยาที่เขาปล่อยออกมาไม่อาจเทียบกับคนที่อยูใ่ น
ระดับ 2 อาณาจักรสวรรค์ทวั่ ๆไป แต่มนั สามารถเทียบได้กบั คนที่อยู่
ในระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์

แต่น่าเสี ยดายคนที่เขากําลังเผชิญหน้าอยูน่ ้ นั ไม่ใช่คนกากๆ แต่คือ ชูเฟิ ง


ที่ได้ครอบครองฉายาว่า พลังอยูเ่ หนือสามัญสํานึก
ก่อนที่ เจี่ย ฉิงหมิง จะเข้าโจมตี หลายคนก็ตอ้ งตกใจ แม้แต่ สู่ จงหยู ยัง
ต้องขมวดคิว้ แน่น

ในตอนนั้น ชูเฟิ ง ยิม้ เบาๆขณะที่ใช้ความคิด ออร่ าของเขาก็เพิ่มจาก


ระดับ 7 แก่นแท้วญ ิ ญาณ เป็ นระดับ 9 แก่นแท้วญ ิ ญาณ

เวลาเดียวกันมือขวาของเขาก็ปรากฏขวานอสู รฟ้าเล่มใหญ่ พริ บตาชูเฟิ ง


ก็มีท่าทีแตกต่างไปจากก่อนหน้าอย่างสิ้ นเชิง

" คุกเข่า!!! " หลังจากนั้น ชูเฟิ งก็เหวีย่ งแขนออกไปพร้อมกับ


ขวานอสูรฟ้าจนเกิดเป็ นเส้นแสงสี ดาํ ครึ่ งพระจันทร์ กดลงบนร่ างของ
เจี่ย ฉิงหมิง

พลังนั้นรุ นแรงอย่างมาก พริ บตามันก็สร้างหลุมลึก ปรากฏขึ้นมาบนพิน้


ผิวของพื้น
ชูเฟิ งยืนอยูท่ ่ามกลางหลุมลึก ขณะที่เจี่ย ฉิ งหมิงกําลังคุกเข่าอยูต่ รงหน้า
เขา แม้เขาจะถูกปกป้องด้วยเกราะหนาม แต่เขากับถูกกดดันด้วยขวาน
อสู รฟ้าในมือของ ชูเฟิ ง

" บ้าเอ้ยยย! ! ! ! " แม้จะได้พลังป้องกันจากเกราะหนาม แต่ที่มุม


ปากของเจี่ย ฉิงหมิงกับมีเลือด ถึงเขาจะไม่บาดเจ็บร้ายแรง แต่มือทั้ง
สองข้างของเขายังคงตั้งรับขณะที่ค่อยๆจมลงพื้นเหมือนกับว่าเขา
พยายามลุกขึ้นด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี

" เกราะหนามช่างเป็ นของป้องกันที่ยอดยิง่ นัก ช่างน่าเสี ยที่ขา้


ต้องทําลายมัน "

ชูเฟิ งยิม้ อย่างเย็นชา หลังจากนั้นเขาก็ยกขวานอสู รฟ้าในมือของเขาขึ้น


อีกครั้ง พร้อมกับฟาดลงใส่ ร่างของ เจี่ย ฉิ งหมิง ขณะที่กาํ ลังจะลุกขึ้นได้
แล้ว แต่เขาก็ตอ้ งกลับลงไปที่พ้นื อีกครั้งโดยชูเฟิ ง

" อ้าาา!!! " ในคราวนี้ เลือดก็ได้พงุ่ ทะลักออกมาจากปากของ


เจี่ย ฉิงหมิง และแม้แต่เกราะหนามที่หอ้ มล้อมไปด้วยออร่ าสี แดงยังถูก
ทําลาย ซึ่งรอยแตกร้าวนั้นปรากฏขึ้นรอบๆตรงเนื้อผิวของมันจนกับจะ
พังทะลาย

ผูค้ นที่เห็นฉากนั้น นอกจาก จื่อหลิง และ จาง เทียนยี่ ทั้งหมดล้วนแต่ตก


ตะลึง

เจี่ย ฉิงหมิง คือผูน้ าํ ของตระกูลเจี่ยในอนาคตอีกทั้งยังเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ


อาณาจักรสวรรค์ระดับ 2 และยังมียทุ ธภัณฑ์ช้ นั ยอด!!!

ทั้งๆที่เป็ นแบบนั้นเขากับไม่มีโอกาสแม้แต่จะแตะต้องโดน ชูเฟิ ง


ขณะที่ได้แต่คุกเข่าลงกับพื้นดัง่ สุ นขั ที่หมดท่า ผูค้ นที่เห็นแบบนั้นจึงไม่
อาจจะยอมรับได้

แม้วา่ จะมีข่าวลือกระจายไปทั้วทั้ง 9 อาณาจักร เรื่ องที่ชูเฟิ งมีอาํ นาจ


พลังเหนือเหตุผล และหาตัวจับได้ยาก สําหรับคนที่รู้จกั ชูเฟิ ง จริ งๆ ได้
เห็นก็ยากที่จะต่อต้าน แต่ยงั ไงพวกเขาก็ยงั ไม่อยากจะเชื่ออยูด่ ี

สิ่ งที่ทาํ ให้พวกเขาประหลาดใจ หนึ่งก็คือพลังการต่อสู ท้ ี่แข็งแกร่ งของ


ชูเฟิ ง ที่ทาํ ให้ชื่อเสี ยงเขาโด่งดัง แม้พวกเขาจะรู ้เรื่ องนั้นอยูแ่ ล้ว แต่กย็ งั
ไม่ค่อยชินเมื่อได้เห็นกับตา

อีกสิ่ ง ที่พวกเขารู ้สึกประหลาดใจเกียวกับ ชูเฟิ ง นั้นคือการพัฒนาของ


เขาทีรวดเร็ วเหนือคนทัว่ ๆไป ตอนนั้นเมื่อหนึ่งปี ก่อน ชูเฟิ งนั้นยังไม่
สามารถสู ก้ บั บุคคลที่อยูใ่ นอาณาจักรสวรรค์ได้

แต่หนึ่งปี ต่อมา แม้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ระดับ 2 ยังเป็ นแค่


สุ นขั เมื่ออยูต่ ่อหน้าเขา นั้นคือสิ่ งที่น่าทึ่งยิง่ นัก
ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////
A : เป็ นไงมืง!!! กล้ามาทําลายนิกายโลกวิญญาณ

B : ฮ่าๆ สมนํ้าหน้ามัน ต่อไปใครจะเป็ นรายต่อไป . . . . .

A : เอาจริ งๆ 4 ผูน้ าํ ก็คงไม่เท่าไหร่ หากพวกจาง เทียนยี่ ลงมือ

B : ใช่ๆ รี บๆอัดแม่งแล้วไปหาพีล่ ิง ดีกว่า ปลดผนึกให้พี่ลิงเสร็ จ ให้พี่


ลิง อัดแม่งอีกรอบ!!!

A : ความคิดดี!!! ฮ่าๆๆ
บทที่ 462 – บุคคลผูแ้ ข็งแกร่ งในรุ่ นหนุ่มสาว
เมื่อ ซู จงหยู่ เห็นสภาพของ เจี่ย ฉิ งหมิง เขาก็สามารถจินตนาการ
ได้ทนั ที หากเขาต้องต่อสู ก้ บั ชูเฟิ ง

ในหนึ่งปี ก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่ งของเขาอยูเ่ หนือกว่า ชูเฟิ ง


อย่างเห็นได้ชดั แต่เพียงเวลาแค่ปีเดียวผ่านไป เขากลับถูกทิ้งห่างไว้
ด้านหลังของ ชูเฟิ ง

อย่างไรก็ตาม แม้วา่ มันเป็ นความจริ งที่ยากจะยอมรับ แต่คนจาก


นิกายโลกวิญญาณก็ยงั คงมีความสุ ข กับการมีตวั ตนของ ชูเฟิ ง

เพราะไม่วา่ อย่างไร พวกเขาก็ยนิ ดีที่มียอดอัจฉริ ยะอย่าง ชูเฟิ ง


ปรากฏตัวขึ้นมาในนิกายโลกวิญญาณ
ในตอนนี้ ผูท้ ี่นึกเสี ยใจมากที่สุด คือ สี่ ผนู ้ าํ มหาอํานาจ เพราะพวก
เขามีความแค้นอย่างลึกซึ้งกับ ชูเฟิ ง และจากที่พวกเขาได้เห็นนั้น มีเพียง
แค่คาํ ว่า “ตายกับตาย” เท่านั้น ในหัวของพวกเขา เนื่องด้วย
ความสามารถของ ชูเฟิ ง ที่พฒั นาได้รวดเร็ วจนทําให้พวกหวาดวิตก

“อืม…..ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินความทนทานของเกราะหนาม
พลาด ข้าคงต้องเพิม่ แรงอีกหน่อยซิ นะ” หลังจากกล่าวจบ ชูเฟิ ง ได้
สะบัดแขนของเขาอีกครั้ง จามขวานอสู รฟ้าลงไปบนร่ างของ เจี่ย ฉิ ง
หมิง อีกครั้ง จนทําให้ เจี่ย ฉิ งหมิง กระอักเลือดออกมาอีก

“ชูเฟิ ง !! เจ้าสารเลว !! อย่าคิดแม้แต่จะแตะต้องนายน้อย เจี่ย ฉิ ง


หมิง”

ผูน้ าํ ของทั้งสี่ มหาอํานาจ ได้ตะโกนออกมาเมื่อพวกเขาเห็น ชูเฟิ ง


กําลังจะสังหาร เจี่ย ฉิงหมิง ไม่วา่ อย่างไรก็ตาม เจี่ย ฉิ งหมิง ได้มากับ
พวกเขา หากเกิดอะไรขึ้นกับ เจี่ย ฉิ งหมิง พวกเขาคงจะไม่สามารถรอด
พ้นจากการคาดโทษได้

***** ตูมมมมม *****

ในขณะนั้น คลื่นพลังที่รุนแรงได้ระเบิดขึ้นที่ดา้ นข้างของ ชูเฟิ ง


มันเป็ นออร่ าพลังเปลวไฟสี ฟ้าของ จาง เทียนยี่

ในเวลาเดียวกันนั้น จาง เทียนยี่ ก็ทะยานออกไปที่ สี่ ผนู ้ าํ อย่าง


รวดเร็ ว เขาโจมตีจนทําให้ท้ งั สี่ ผนู ้ าํ ลงไปกองกับพื้น และไม่อาจลุก
ขึ้นมาได้

“เวลาที่คนอื่นกําลังประมือกันอยู่ พวกเจ้าไม่ควรยืน่ มือเข้าไปสอด


พวกเจ้าเป็ นถึงผูน้ าํ แต่กลับไม่รู้จกั รมารยาทที่ดีในการต่อสู แ้ ม้แต่นอ้ ย”
จาง เทียนยี่ กล่าวอย่างเหยียดหยันไปที่สี่ผนู ้ าํ เพราะแม้แต่อดีตผูน้ าํ
ของหุบเขากระบี่กไ็ ม่อาจเอาชนะเค้าได้ จะนับประสาอะไรกับสี่ ผนู ้ าํ
เช่นนี้

“จาง เทียนยี่ …….จะ…….จะ….เจ้าฝึ กฝนทักษะลับ


ต้องห้าม !!”

ในขณะนั้น ทั้สี่ผนู ้ าํ ไม่ใช่ผทู ้ ี่อ่อนประสบการณ์ จากการโจมตีที่


รุ นแรงนั้น พวกเขาสามารถรับรู ้ได้ทนั ทีวา่ จาง เทียนยี่ จะต้องใช้พลัง
ของทักษะลับต้องห้ามอย่างแน่นอน

“ทักษะลับต้องห้าม !! นัน่ มันไม่ได้เป็ นเพียงแค่ตาํ นานรึ !! ไม่น่า


เชื่อว่ามันจะมีอยูบ่ นโลกใบนี้ดว้ ย !!” ในทันทีที่พวกรุ่ นใหม่ของนิกาย
โลกวิญญาณได้ยนิ เช่นนั้น พวกเขาก็พากกันตกใจอย่างยิง่
เพราะว่า ชูเฟิ ง นั้นก็น่ากลัวสําหรับพวกเขามากอยูแ่ ล้ว พวกเขาไม่
คาดคิดมาก่อนเลยว่า จาง เทียนยี่ จะแข็งแกร่ งกว่า ชูเฟิ ง จนสามารถทํา
ให้ท้ งั สี่ ผนู ้ าํ ลงไปกองกับพื้นได้

“ศิษย์พี่จาง อย่าได้มวั เสี ยเวลาคุยกับพวกเขาเลย มันเป็ นเพราะพวก


เขาที่ออกประกาศจับมาเช่นนั้น จนทําให้คนจํานวนมากออกไล่ล่า ชูเฟิ ง
วันนี้ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องชดใช้ในสิ่ งที่พวกเขาทําแล้ว”

ในขณะนั้น จื่อ หลิง ค่อยๆ เดินออกมา โดยที่ร่างกายของนางปก


คลุมไปด้วยออร่ าพลังสี ม่วง

***** ตูมมมมม *****

ด้วยความรวดเร็ วปานสายฟ้า ออร่ าพลังสี ม่วงของนางเปลี่ยนแปลง


เป็ นสัตว์ร้าย และเข้าขยํ้าที่ผนู ้ าํ ของสํานักหยวนกังอย่างรวดเร็ ว

“อ้ากกกกกกกก…..!!”

เสี ยงร้องด้วยความเจ็บปวดทุรนทุรายดังออกมาอย่าเด่นชัด เพีย


เวลาแค่ไม่นาน ออร่ าพลังสี ม่วงที่มีลกั ษณะคล้ายสัตว์ร้ายก็ได้จางหายไป
เหลือทิ้งไว้เพียงซากโครงกระดูก และคราบเลือดที่เปรอะไปทัว่ บริ เวณ
ไร้ซ่ ึงสัญญาณชีวติ ของผูน้ าํ สํานักหยวนกัง

“เจ้า !! เจ้า !! นังแม่มด !!” เมื่อเห็นสิ่ งที่เกิดขึ้นกับ ผูน้ าํ สํานัก


หยวนกัง อีกสามผูน้ าํ ก็พากันตะโกนสาปแช่งออกมาด้วยความ
หวาดกลัว

“น้องสาว ศัตรู ของ ชูเฟิ ง ก็คือศัตรู ของข้าเช่นกัน ปล่อยที่เหลือให้


ข้าจัดการเถอะ”
จาง เทียนยี่ กล่าวออกมาพร้อมกับยิม้ บาง เปลวไฟสี ฟ้าที่ลอ้ มรอบ
ร่ างกายของเขาก็ปะทุออกมาอย่างรุ นแรง และเข้าไปล้อมรอบกลุ่มของ
สามผูน้ าํ และผูเ้ ชี่ยวชาญที่ติดตามพวกเขามาอย่างรวดเร็ ว

เปลวไฟสี ฟ้าเหล่านั้นได้ลุกลามอย่างรวดเร็ ว ภายในเปลวไฟ


เหล่านั้นมีเสี ยกรี ดร้องอย่างโหยหวนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปลวไฟสี
ฟ้าหายไป ทุกอย่างก็กลับสู่ ความว่างเปล่า

“อึ้ก….” ในขณะนั้น เจี่ย ฉิ งหมิง ที่เห็นการตายของทุกคน พลัน


เกิดความกลัวขึ้นมาจับใจ ใบหน้าของเขาอาบไปด้วยเหงื่อที่เย็นเยียบ
เพราะแม้แต่สี่ผนู ้ าํ ยังไม่อาจรอดไปได้ แล้วเขาจะรอดไปได้อย่างไร

ในเวลาเดียวกันนั้น ชูเฟิ ง ก็ได้ยกขวานอสู รฟ้าขึ้นมาอีกครั้ง ออร่ า


พลังสี ดาํ ได้เข้าห่อหุม้ ขวานอสู รฟ้าไอย่างรวดเร็ ว และดูเหมือนว่าจะ
มากกว่าทุกๆ ครั้งที่ผา่ นมา

“เจี่ย ฉิงหมิง ถึงเวลาต้องปิ ดฉากแล้ว !!”

***** ฉวัวะ *****

เพียงแค่เสี้ ยวพริ บตานั้น ขวานอสู รฟ้าได้ฟันลงไปบนร่ างของ เจี่ย


ฉิงหมิง ผูซ้ ่ ึงถูกยกย่องให้เป็ นอันดับหนึ่งของคนรุ่ นใหม่ในเก้าอาณาจักร
ได้ตายลงภายใต้เงื้อมมือของ ชูเฟิ ง

“สวรรค์ !! นี่มนั ……….”

เมื่อเห็นเช่นนั้น สมาชิกรุ่ นใหม่ของนิกายโลกวิญญาณก็โพล่ง


ออกมาได้เพียงแค่คาํ เดียว พวกเขาพากันหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง เมื่อ
เห็นถึงวิธีการของ ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง และ จาง เทียนยี่ พวกเขาถึงได้เข้าใจ
ถึงความแข็งแกร่ งของ ผูท้ ี่เป็ นยอดในคนรุ่ นหนุ่มสาว

ในความเป็ นจริ งนั้น ผูท้ ี่แข็งแกร่ งจะไม่ยกยอตัวเอง แต่เมื่อพวกเขา


ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ ง พวกเขาจะเขาปะทะอย่าง
เยือกเย็น และจัดการได้อย่างเฉี ยบขาด

ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง และ จาง เทียนยี่ คือ ผูท้ ี่แข็งแกร่ งที่สุดในรุ่ นหนุ่ม
สาว

***** วืดดด *****

หลังจากสังหาร เจี่ย ฉิงหมิง ลงแล้วนั้น ชูเฟิ ง ได้ยนื่ มือของเขา


ออกไป พลันประกายแสงสองดวงก็พงุ่ เข้ามาในมือของเขา มันคือถุง
จักรวาล และเกราะหนาม

เกราะหนามนั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่มนั มีความงดงามอย่าง


เห็นได้ชดั

ถึงแม้บนพื้นผิวของเกราะจะมีร่องรอยของความเสี ยหายปรากฏอยู่
แต่มนั ก็กาํ ลังฟื้ นฟูสภาพของมันอย่างรวดเร็ ว สมกับที่เป็ นยอด
ยุทธภัณฑ์อย่างแท้จริ ง

ชูเฟิ ง เก็บถุงจักรวาล และเกราะหนามของ เจี่ย ฉิ งหมิง อย่าง


รวดเร็ ว และหน้าไปทาง รองผูน้ าํ เกา , ซู ซ่งหยู , กู๋โบ่ และคนอื่นๆ
พร้อมกับกล่าวว่า “สถานการณ์ในปั จจุบนั เป็ นเช่นไร เหตุใดพวกท่าน
ถึงมาอยูต่ รงนี้”

“อ่า…..มันก็ค่อนข้างที่จะอธิบายยาก” ใบหน้าของ รองผูน้ าํ เกา


เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ขณะที่เขาทุกๆ อย่างให้กบั ชูเฟิ ง ฟัง

“อ่า….อดีตผูน้ าํ ของตระกูลเจี่ย ออกมานี่เอง มิน่าล่ะ นิกายโลก


วิญญาณถึงได้ถูกบีบบจนต้องถอยร่ นมาอยูใ่ นสภาพเช่นนี้” หลังจากได้
ฟังเรื่ องราวทั้งหมด แม้แต่ ชูเฟิ ง ก็ขมวดคิ้วแน่น เขารับรู ้ได้ทนั ทีวา่
สถานการณ์ในตอนนี้ยากที่จะแก้ไข

***** ตูมมมม *****

ในขณะนั้น เสี ยงระเบิดก็ดงั ขึ้น มาจากจากทิศทางของที่มนั่ สุ ดท้าย


ของนิกายโลกวิญญาณ แม้แต่พ้นื ดินโดยรอบยังสัน่ สะเทือนจนสามารถ
รับรู ้ได้อย่างชัดเจน

“ไม่ดีแน่…..อดีตผูน้ าํ ของตระกูลเจี่ยแข็งแกร่ งมาก อีกไม่นาน


รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่นิกายวางไว้ ต่องถูกเขาทําลายลงได้อย่าง
แน่นอน” รองผูน้ าํ เกา กล่าวด้วยใบหน้าที่วติ กกังวลยิง่ กว่าเดิม

เหล่าสมาชิกรุ่ นใหม่ของนิกายโลกวิญญาณพากันหวาดวิตกไป
ตามๆ กัน เพราะคนที่กาํ ลังสู ร้ บอยูน่ ้ นั ล้วนแล้วแต่เป็ นญาติพี่นอ้ งของ
พวกเขาทั้งสิ้ น

***** ฉวัวะ *****

ในเวลาเดียวกันนั้น ชูเฟิ ง ได้สะบัดขวานอสู รฟ้าในมือของเขาตัด


ศรี ษะของ เจี่ย ฉิงหมิง ออกอย่างรวดเร็ ว พร้อมกับจับมันขึ้นมาด้วยมือ
ของเขาเอง

หลังจากนั้น เขาก็กล่าวกับ รองผูน้ าํ เกา แบะคนอื่นๆ ว่า “ท่านรอง


ผูน้ าํ เกา พาทุกๆ คนออกไปก่อน ทางด้านนิกายโลกวิญญาณ ข้าจะทําให้
ดีที่สุดเพื่อปกป้องเอาไว้”
***** ฟิ้ ว *****

หลังจากที่เขากล่าวจบ ชูเฟิ ง ก็ทะยานขึ้นไปในอากาศ โดยที่มี จื่อ


หลิง และ จาง เทียนยี่ ติดตามไปอย่างรวดเร็ ว พวกเขาพุง่ เข้าไปในราช
รถที่งดงาม และมุ่งหน้าตรงไปยังนิกายโลกวิญญาณอย่างรวดเร็ ว

เมื่อเห็น ชูเฟิ ง จากไปนั้น ใบหน้าของ รองผูน้ าํ เกา เต็มไปด้วย


ความสลับซับซ้อนยากจะอธิบาย เขาคิดที่จะกลับไปช่วยเหลือ เพราะใน
ตอนที่ ชูเฟิ ง ตกอยูใ่ นอันตรายนั้น นิกายโลกวิญญาณไม่สามารถ
ช่วยเหลือ ชูเฟิ ง ได้

แต่ในตอนนี้ เมื่อนิกายโลกวิญญาณตกอยูภ่ ายใต้สถานการณ์ที่


อันตราย ชูเฟิ ง กลับเข้ามาช่วยเหลือโดยที่ไม่ห่วงความปลอดภัยของ
ตัวเองแม้แต่นอ้ ย ในบางครั้ง นิกายโลกวิญญาณก็ไม่อาจเข้าใจถึงความ
รับผิดชอบ หรื อความนึกคิดของเขาได้

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////
แปลโดยคุณ#Abhisit ReadMGA
บทที่ 463 - บรรพบุรุษช่วยด้วย

นิกายโลกวิญญาณ แข็งแกร่ งและนับเป็ นมหาอํานาจที่แข็งแกร่ งมากที่


หนึ่งเพราะพวกเขามี รู ปแบบวิญญาณรู ปแบบป้องกันที่แข็งแกร่ ง
ส่ วนบนของรู ปแบบนั้นได้ผนึกท้องฟ้าไว้ ส่วนล่างของรู ปแบบนั้นได้
ผนึกดินไว้ มันทําให้พวกเขาราวกับถูกตัดขาดออกจากโลกนี้

นัน่ เป็ นเพราะความพยายามของผูเ้ ชี่ยวชาญในนิกายโลกวิญญาณมา


ตั้งแต่สมัยก่อน และ ในตอนนี้รูปแบบนั้นได้ถูกเปิ ดอีกครั้งโดย ผู ้
เชื่อมต่อโลกวิญญาณนับไม่ถว้ น รู ปแบบป้องกันที่แข็งแกร่ งที่ยากจะ
คาดเดา
อย่างไรก็ตาม ด้านนอกรู ปแบบวิญญาณนั้น มีรูปแบบอื่นลอยอยูบ่ น
ท้องฟ้า มันเป็ นรู ปแบบอํานาจวิญญาณที่มีพลังในการทําลายล้าง
รู ปแบบวิญญาณทําลายล้านั้นมีพ้นื ที่ใหญ่มาก มันลอยอยูบ่ นอากาศ และ
มันเป็ นเหมือนกับค้นยักษ์ ที่ใครบินวนอยุบ่ นท้องฟ้าและคอยฟาด
รู ปแบบป้องกันนี้อยู่

ทุกครั้งที่ ค้อนยักษ์ได้ทุบลงมา มันสร้างเสี ยงดันราวกับฟ้าผ่า แม้วา่


รู ปบบป้องกันจะถูกสร้างโดยผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณจํานวนนับไม่ถว้ น
แต่เมื่อสัมผัสกับความแรงแบบนี้บ่อยๆ มันเริ่ มเกิดรอยร้าวให้เห็นแล้ว

ถ้าเป็ นอย่างนี้ต่อไป รู ปแบบค้อนยักษ์น้ นั ต้องทําลาย รุ ปแบบป้องกัน


ของพวกเขาได้อย่างแน่นอน

ใกล้กบั ค้อนยักษ์นนั่ มีชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ เสื้ อสี ดาํ ของเขานั้นสะบัด


ไหวในขณะไม่มีลม ตาของเขาหลับอยู่ และในตอนนี้น้ นั เขาเชื่อมต่อกับ
รู ปแบบทําลายล้างอยู่

เขาเป็ นอัจฉริ ยะที่สร้างความตกตะลึงให้กบั ทวีป9อาณาจักร เมื่อร้อยปี


ก่อน จนตอนนี้เขาได้บ่มเพาะมากว่าร้อยปี ตอนนี้เขาได้ปรากฏตัวอีก
ครั้ง เขาคือบรรพบุรุษตระกูล เจี้ย เจี๋ย ฉื อ และในตอนนี้เขามีพลังระดับ
7 อาณาจักรสววรค์แล้ว

“นี่ไม่ดีแล้ว ท่านหประมุขถ้ามันเข้ามาได้ กว่าครึ่ งของสมาชิก


นิกายโลกวิญญาณต้องบาดเจ็บแต่ตายไปแน่นอน.” ภายในสมาคมโลก
วิญญาณ ผูอ้ าวุโสที่มีผมสี เทาและขาวพูดขึ้นมา

ประมุขนิกายโลกวิญญาณมองไปที่ รู ปแบบที่ถูกทําลายโดยเจี้ย ฉื อ ทีละ


นิดทีละนิด และผูเ้ ชี่ยวชาญที่โยงพลังกับรู ปแบบนั้นอยูไ่ ม่สามารถที่จะ
ต่อกรกับ เจี้ย ฉือได้ และด้วยพลังที่รุนแรงของ เจี่ย ฉื่ อจึงทําให้มีบางคน
ถึงกับกระอักเลือดออกมากระทั้งบางคนก็ถึงกับสิ้ นใจ
“ทุกคน ส่ งพลังต่อไป ท่านบรรพบุรุษ จะมาอีกใน 2 ชัว่ โมง!”
ประมุขนิกายโลกวิญญาณ พูด

“2 ชัว่ โมงถ้านานขนาดนั้น ข้าคิดว่าพวกเราจะไม่ไหวตั้งแต่


ชัว่ โมงแรกแล้ว.” ผูอ้ าวุโสพูดขึ้น

“ถ้าพวกเจ้าทําต่อไม่ไหว พวกเราก็ตาย ในตอนที่พวกเรานั้น


กําลังโยงพลังอยูน่ ิกายโลกวิญญาณของเรานั้นก็ปลอดภัย แต่ถา้ พวกมัน
ทะลวงเข้ามาได้ พวกเราต้องตายอย่างแน่นอน!” ประมุขนิกายโลก
วิญญาณ พูดขึ้นและเข้าร่ วมรู ปแบบนี้และสนับสนุนรู ปแบบนั้น

ผ้อาวุโสนั้นไม่สามารถทําอะไรได้มากในสถานการณ์น้ นั ดังนั้น ทุกคน


จึงรี บเข้ามาช่วยสนับสนุนรู ปแบบนี้ทนั ที
อย่างไรก็ตาม รู ปแบบค้อนยักษ์น้ ี แข็งแกร่ งมาก มันก็สามารถทําลาย
รู ปแบบนี้ได้ต่อไปแม้จะรวมพลังของประมุขนิกายเข้าไปด้วย

“ฮึ่ม นิกายโลกวิญญาณสมแล้วที่เป็ นคู่แข่งกับตระกูล เจีย ของ


ข้ามานาน แต่วนั นี้พวกเจ้าจะต้องจบลง.”

ในตอนนั้น แม่ทพั ของตระกูล เจีย เจีย ฉิ งเผิง นั้นยิม้ อยูแ่ ละมองภาพ


ตรงหน้า ในเวลานั้น บรรพบุรุษของ สํานักเทพอัคคี สํานัก หยวนกัง
นิกายไป๋ และ ที่ราบหุบเขาไร้ใจ ก็ยนื อยูแ่ ละยิม้ อยูเ่ ช่นกัน

พวกเขารู ้วา่ ยังไงนิกายโลกวิญญาณก็ไม่รอดจากมือ ตระกูล เจียได้


เพราะนิกายโลกวิญญาณกับตระกูล เจี่ยนั้นดัง่ นํ้ากับไฟ พวกเขาเป็ นอริ
กันมานาน และในตอนนี้พวกเขานั้นกําลังจะทําลายรู ปแบบวิญญาณที่
คนนับล้านสร้างขึ้นมา
*ตูม ตูม ตูม ตูม *

“อ๊ากก~”

“อ๊ากกก~”

และในตอนนั้นในกองทัพของ ตระกูลเจี๋ย และ มหาอํานาจอื่นๆ ก็มี


เสี ยงร้อยขึ้นมา และร้องด้วยความเจ็บปวด

มันทําให้พวกเขาต้องรี บหันกลับไปดู พวกเขาก็ตอ้ งประหลาดใจเมื่อ


พบว่า ราชรถนั้นกําลังขยี้กองทัพเขาอยู่ และ ร่ าง 3 ร่ างก็ค่อยๆปรากฏ
ขึ้น
2 คน ในนั้น คือชูเฟิ ง และจื่อ หลิง แต่อีก 1 คนนั้นมาพร้อมกับ กระบี่
ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ โดยที่พวกเขาไม่ตอ้ งคิด แน่นอนนว่าเขาคือ จาง เทียนยี่
นัน่ เอง

“สมาชิก นิกายโลกวิญญาณ ชูเฟิ ง มาเพื่อปกป้อง นิกาย ใครก็


ตามที่มาบุกนิกายของข้ามันต้องตาย!”

ชูเฟิ ง สะบัด ขวานอสู รฟ้า การเคลื่อนไหวของเขานั้นช่างน่าเกรงขามนัก


และการโจมตีของเขาสามารถคร่ าชีวติ ผูค้ นได้อย่างง่ายดาย

“เจ้าหนู เจ้ากล้าโผล่หวั มาต่อหน้าข้าหรื อ ข้าจะบดเจ้าและ เอา


ไปเซ่นให้กบั วิญญาณบรรพบุรุษของข้า”

หลังจากที่เห็นชูเฟิ ง เจ้าสํานักเทพอัคคี ก็ระเบิดออกมาทันที และไฟนัน่


พุง่ ขึ้นสู งถึงชั้นฟ้าและนัน่ แสดงให้เห็นว่าเขามีพลังในระดับ 6
อาณาจักรสวรรค์ จากนั้นเขาก็บินไปหาชูเฟิ ง

และในตอนนั้น เหล่าบรรพบุรุษ ของสํานักหยวนกัง นิกายไป๋ กับที่ราบ


หุบเขาไร้ใจ ก็พงุ่ ตามเขาไปเช่นกัน

“ใครกล้าแตะต้องน้องข้า มันต้องตายด้วยมือข้า จาง เทียนยี!่ !”

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ 4 ผูอ้ าวุโสจะปรากฏตัวขึ้น ข้างชูเฟิ ง จาง เทียนยี่


นั้น ชักดาบออกมาและระเบิดเปลวเพลิงสี ฟ้า หยุด 4 คนตรงหน้าไว้
และเริ่ มโจมตี

“บัดซบ เจ้าเด็กนี้ อยูแ่ ค่ระดับ3อาณาจักรสวรรค์ แต่ทาํ ไมมัน


ถึงมีพลังที่จะต้านทานพวกเราได้”
ในตอนนั้น ใบหน้าของบรรพบุรุษทั้ง 4 ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ ว เมื่อ
เผชิญกับพลังของ จาง เทียนยี่ เพราะในตอนนี้ นั้นพวกเขานั้นรู ้ตวั ว่า
พวกเขาอาจจะพลาดท่าให้กบั จาง เทียนยี่

“เห้ยไอ 4 แก่ ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าจะกล้าพูดคําหน้าอับอาย


เช่นนั้น ต้องการฆ่าชูเฟิ งหรื อ โทษของมันคือความตายของเจ้าเลยนะ.”

จาง เทียนยี่ พูดจบ ก็เริ่ มโจมตีทนั ที เขาสร้างกระบี่มวลอากาศขึ้น และ


กระบีน้ นั มีไฟลุกถ้วมอยู่ และพลังของมันนั้น ทําให้ 4 บรรพบุรุษ ก็
ยากที่จะต่อกร

“จาง เทียนยี่ พวกเราไม่มีอะไรต่อกัน ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ยงุ่


เกี่ยวกับเรื่ องในวันนั้น หรื อไม่ ถ้าจ้าต้องการเป็ นศัตรู กบั ตระกูลของข้า
ท่านบรรพบุรุษของ ข้านั้นจะได้ส่งเจ้าลงนรกซะ.” ในตอนนั้น เจี้ย ฉิ ง
เผิง ขู่ จางเทียนยี่
ในตอนนั้นแม้เขาอยู่ ระดับ 6อาณาจักรสวรรค์ แต่เขาก็แข็งแกร่ งกว่า 4
บรรพบุรุษที่เหลือ นัน่ เป็ นเพราะเขานั้นเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ
ระดับสี ฟ้าด้วย

แต่ต่อหน้า จาง เทียนยีน่ ้ นั เขาก็ตกอยูใ่ นความกลัว เพราะ พลังของเขา


นั้นไม่สามารถเทียบก็จาง เทียนยีไ่ ด้

“ข้าเคยบอกไปแล้ว ศํตรู ของชูเฟิ ง คือศัตรู ของข้าเช่นกัน ข้าจะ


ฆ่าทุกคนที่กล้าโจมตีนอ้ งชายข้า ถ้าเจ้าแน่จริ งก็ไปฟ้องให้บรรพบุรุษ
ของเจ้ามาช่วยเร็ ว ข้า จาง เทียนยี่ ต้องการเผชิญหน้ากับบุรุษที่สร้าง
ความตกใจให้กบั ทวีปเก้าอาณาจักร เมื่อ 100 ปี ก่อนเช่นกัน.” จาง
เทียนยี่ พูดขึ้น และแทงกระบี่เข้ามา

เมื่อเห็นอย่างนั้น เจี้ย ฉิงเผิง ก็หน้าซี ด เขารี บวางรู ปแบบ 10 รู ปแบบ


ตรงหน้า เพื่อนป้องกันการโจมตี ของ จาง เทียนยี่
*ปัง ปัง ปัง *

แต่วา่ พลังของกระบี่ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์น้ นั ไม่ใช่ไม้ไผ่ มันทําลายรู ปแบบทั้ง


10 นั้นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และกําลังพุง่ ตรงใส่ เจี้ย ฉิ งเผิง

“เป็ นไปได้อย่างไร ทําไมเขาถึงแข็งแกร่ งเช่นนี้” ในตอนนั้น


เจี้ย ฉิงเผิง ก็ตื่นตระหนกอย่างมาก เพราะ พลังของ จาง เทียนยีน่ ้ นั เกิน
กว่าที่เขาคิดไว้เยอะ จาง เทียนยี่ คนเดียวก็สามารถเอาชนะ เขา และ
บรรพบุรุษอีก 4คน ได้

ในตอนนี้ รองประมุขตระกูลเขา ก็ถูกจัดการโดยจื่อ หลิง ในตอนนี้


หายนะได้ปรากฏตัวขึ้นอยูต่ รงหน้าเขาแล้ว และ เขาต้องการการ
ช่วยเหลือ
แต่ในกองกําลังนับล้านของเขานั้น ยังอ่อนแอเกินไป ไม่มีใครสามารถ
จัดการกับชูเฟิ ง ที่แบกขวานอสู รฟ้า ยืนผิวปากอยูต่ รงนั้นได้

ถ้าเป็ น อย่างนี้ต่อไป กองกําลังของพวกเขาน่าจะถูกทําลายโดยชูเฟิ ง


ก่อนที่จะทําลายรุ ปแบบวิญญาณ เสร็ จเสี ยอีก

ในตอนนั้น เจี้ย ฉิงเผิง นั้นไม่มีทางเลือก เขาตัดสิ นใจ ใช้ท่าไม้ตาย


รวบรวมพลังทั้งหมดของเขา มาไว้ที่หน้าอกและเรี ยกใช้อาํ นาจวิญญาณ
ทั้งหมดของเขาจากนั้นเขาก็กระทําบางอย่าง

“ โดเรม่อนนนนนน ช่วย ฉันด้วยยยยย” ***ไม่ใช่หรอ

“ ท่านบรรพบุรุษ โปรดช่วยข้าด้วย!!”
ปล . ไอช่วง เบ่งพลังนี่ แต่งเองล้วนๆครับ ของจริ งแค่ ไม่มีทางเลือกจึง
ต้องตะโกนขอความช่วยเหลือแค่น้ นั แหละ
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : กากมาก ถึงกับร้องเรี ยกคนมาช่วย

B : แต่จะว่าก็วา่ เจี่ย ฉื่อ แข็งแกร่ งสุ ดๆเลยนะ

A : แกร่ งแล้วไล่จบั พี่เฟิ งของเราทันหรื อเปล่า ???

B : ฝันไปเถอะจะได้แอ้มพี่เฟิ ง แม่งไวยังกะลิง

A : เอ้าไม่รู้หรอ ชูเฟิ ง เป็ น น้องเล็กของ ปี ศาจราชันย์วานร จะไว


เหมือนลิงก็ไม่เห็นแปลก

B : แหม๋ สบโอกาสหน่อย สปอยเลยนะมึง!!!!

A : ไม่ได้หรอกกูคนั ปาก . . . . .
บทที่ 464 - รู ปแบบผนึกหมื่นหัตถ์เทวะ

เจีย ฉิงเผิง ร้องออกมาเสี ยงดังราวกับฟ้าผ่า แม้แต่คนที่อยูใ่ นรู ปแบบ


วิญญาณก็ได้ยนิ เสี ยง

เสี ยงร้องขอความช่วยเหลือทําให้ เจีย ฉื อ ลืมตาขึ้น และรี บมองหาเจีย


ฉิงเผิง

ในตอนนี้ ร่ างของจาง เทียนยีก่ เ็ กิดการสัน่ เพราะเขาไม่ได้รู้สึกเพียงแค่


สายตาของเจีย ฉือ แต่เขารู ้สึกราวกับดาบ 2 เล่มแทงมาที่ร่างของเขา
ในตอนนี้น้ นั บอกได้วา่ เขากําลังกลัว เจีย ฉื อ

“ชูเฟิ ง น้อยสะใภ้ วิง่ เร็ ว “ ในตอนนั้น จาง เทียนยี่ ก็สูญเสี ยความ


เยือเย็นและตะโกนออกมา
จื่อ หลิง นั้นไม่รอช้า เรี ยกราชรถออกมา และทั้ง 3 ก็รีบขึ้นราชรถไป
ทันที

หลังจากขึ้นราชรถแล้ว ทั้ง3 ก็ผสานพลังไปที่ราชรถในตอนนี้ความเร็ ว


ของราชรถนั้นเพิ่มขึ้นมาก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหนีได้ พวกเขาบินไป
ทาง กองกําลังนับล้านคนอีกครั้ง และด้วยพลังของราชรถนี้คนที่โดนชน
ก็ตายในทันที

“เจ้าเด็กพวกนั้นไปไหน ใครที่กล้าเป็ นศัตรู กบั ตระกูลเจีย มัน


ต้องตาย.”

เจีย ฉือ คํารามลัน่ หลังจากนั้นก็บินออกจากรู ปแบบค้อนนั้นไปและบิน


ไปทาง ราชรถที่งดงาม
“ตาแก่ เจ้าคิดว่าเจ้าเก่งแล้วหรื อที่อยูใ่ นระดับ 7 อาณาจักร
สวรรค์ ถ้าเจ้าแน่จริ งไล่มาไล่จบั ข้าให้ได้สิ.” ชูเฟิ ง พูดยัว่ เจี้ย ฉื อ ที่ไล่
ตามมา.

“ถ้าวันนี้ขา้ ฆ่าเจ้าไม่ได้ ข้าจะไม่ขอใช้ชื่อ เจี้ย ฉื อ อีกต่อไป.”


เมื่อ เจี้ย ฉือ ถูกเด็กเช่นชูเฟิ ง ยัว่ โมโห ตบะของเขาก็เลยแตกอย่าง
รวดเร็ ว เขาได้ชกเหวีย่ งหมัดไปกลางอากาศ เมื่อหมัดนั้นถูกโยนไป
พลังของมันรุ นแรงมาก มันเหมือนกับอุกกาบาตลูกเล็กกําลังตรงมาที่
เขา

แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์เพราะความเร็ วของราชรถที่งดงามนั้นเล็กมาก มัน


หักเลี้ยงและหลบหมัดนั้นได้อย่างรวดเร็ ว

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นรอบๆ นิกายโลกวิญญาณ พวกเขานั้นวิง่ ไล่จบั เป็ น


วงกลม
และในช่วงที่ เจี้ย ฉือ ไล่จบั พวกชูเฟิ ง รู ปแบบค้อนยักษ์น้ นั ก็หยุดลง
ชัว่ คราว เพราะมันไม่ได้ถูกใช้โดยผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสู งสุ ด และนัน่ ก็
หมายความว่ารู ปแบบของนิกายโลกวิญญาณนั้น รอดจากการถูกทําลาย
แล้ว มันทําให้คนในนิกายโลกวิญญาณต่างสงสัย

“เกิดอะไรขึ้น ทําไมเจี้ย ฉื อ ถึงหยุดล่ะ”

“ดูเหมือนว่า มีเสี ยงบางอย่างตะโกนด่าเขามาจากที่อื่น”

“เสี ยงนี้ ดูเหมือนจะเป็ นการด่า เจีย ฉื อนะ ใครกันที่กล้าด่าเขา”

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนั้นทําให้ผเู ้ ชี่ยวชาญจากนิกายโลก
วิญญาณต่างมึนงง แต่พวกเขาก็ดีใจ ที่พวกเขาดีใจเพราะอยูด่ ีดี เจีย ฉื อก็
หยุดโจมตี เสี ยอย่างนั้น
“เร็ วเข้าไปดูกนั ว่าเกิดอะไรขึ้น.” ใบหน้าประมุขนิกายก็
เปลี่ยนแปลงทันที เขาสัง่ ให้สมาชิกของเขาไปตรวจดู เพราะเขาก็ไม่
เข้าใจเหตุใด จิ้งจอกเฒ่า อย่างเจีย ฉื อ ถึงหยุดโจมตีเขา

และในเวลาต่อมาอย่างรวดเร็ ว ผูเ้ ชี่ยวชาญก็ได้บินออกจากรู ปแบบมาดู


ในที่เกิดเหตุ เมื่อเขาร็ เขาก็รีบกลับไปในตอนนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็
เต็มไปด้วยความสุ ข

1 ใน ผูอ้ าวุโสนัน่ ได้รายงานกับประมุขว่า “ ท่านประมุข เป็ นชูเฟิ ง ชู


เฟิ ง จื่อ หลิง และ จาง เทียน ยี่ พวกเขาขี่รราชรถและล่อ เจีย ฉื อ ออกไป
เพราะอย่างนั้น เจี้ย ฉือ จึงไม่ได้โจมตีรูปแบบของพวกเราอีก.”

“ชูเฟิ ง เป็ นเขาอย่างนั้นหรื อ” หลังได้ยนิ ใบหน้าของประมุข


นิกายก็เปลี่ยนทันที หลังจากนั้นอย่างรวดเร็ วก็เกิดรอยยิม้ บนใบหน้า
ของเขา

และเขายังพูดอีกว่า “ ข้าไม่เคยคิดว่าชีวติ และความตายของ นิกายโลก


วิญญาณของข้า จะถูกช่วยไว้โดยเด็กหนุ่มสาว ที่ยอมเสี่ ยงชีวติ ของตน
เพื่อช่วยพวกเรา การที่พวกเราเคยยืน่ มือไปช่วยเขาเอาไว้นี่นบั เป็ นเรื่ องดี
จริ งๆ.”

*ตูม ตูม ตูม *

ในตอนนั้น ด้านนอกของนิกายโลกวิญญาณ ไม่วา่ งจะเป็ นท้องฟ้าหรื อ


พื้นดิน ก็เกิดเสี ยงระเบิดขึ้น เสี ยงระเบิดนั้นน่ากลัวมากมันดังมาจากทุก
ที่.

ในเวลาเดียวกัน ชูเฟิ ง และ คนอื่นๆ ก็ตะโกน ด่า เจีย ฉื อ จนทําให้เกิด


เสี ยงระเบิดดังขึ้นเป็ นเวลา 2 ชัว่ โมง.
ในตอนนั้น เจีย ฉือ ก็โกรธแค้นอย่างมาก เพราะเขากําลังถูกปั่นหัวเล่น
โดย เด็กไม่กี่คน ดังนั้นมันจึงทําให้เขาเมิน นิกายโลกวิญญาณ และวิง่ ไล่
ตามพวกชูเฟิ ง.

ในตอนนั้น กองทัพของเขา ก็ไม่สามารถทําอะไรได้ เพราะแม้แต่ เจี้ย


ฉือ ยังไม่สามารถทําอะไรพวกชูเฟิ งได้เลย แล้วพวกเขาจะทําได้อย่างไร
พวกเขารวมพลังกันยังไม่พอที่จะเปิ ดใช้งานรู ปแบบ ค้อนยักษ์เสี ยด้วย
ซํ้าไป ทําให้พวกเขาทําได้แต่นิ่งและยืนดู

“ฮ่า ฮ่า เจ้าแก่ ขี้เปี ยก ไม่ไหวหรอกมั้ง ดูเหมือน ว่า 100 ปี ที่


ผ่านมา เจ้าได้แต่กินแล้วก็นอน ข้าคิดว่าที่เจ้าแข็งแกร่ งนี่ตอ้ งเป็ นเรื่ องโม้
แน่นอน!”

“ถูกแล้ว ถูกแล้ว ข้าเห็นด้วย ข้าว่าตอนที่เขามีชีวติ อยูก่ ไ็ ม่ต่าง


อะไรกับสุ นขั หรอก นี่หรื ออัจฉริ ยะที่สร้างความตื่นตระหนกให้ทวีปเก้า
อาณาจักร ฮ่า ฮ่า ถ้าข้าได้บ่มเพาะ ร้อยปี เหมือนกับ เขาคิดว่าแค่ลม
หายใจข้าก็ฆ่าเขาตายแล้ว.”

ชูเฟิ งและจาง เทียนยี่ พูดเยาเย้ยอย่างหนัก พวกเขาต้องการให้ เจี้ย ฉื อ


โกรธจัด เพื่อ ซื้ อเวลาให้นิกาย

พวกเขาไม่รู้วา่ บรรพบุรุษของนิกายนั้น จะโผล่มาเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อย


เขาก็ทาํ ให้ชีวติ กว่า 10 ล้านชีวติ นั้นสามารถรอดได้กพ็ อใจแล้ว

“เจ้าเด็กเวรทั้ง 3 ข้าไม่รู้วา่ เจ้าต้องการอะไร แต่เจ้ายังอ่อน


เกินไปที่จะมาสู ก้ บั ข้า” ในตอนนั้น เจีย ฉื อ ก็หยุดบนอากาศ และทํา
อะไรบางอย่าง

หลังจากนั้น ก็มีคลื่นพลังงานไหลออกมาจากร่ างเขา และเกิดรู ปแบบ


ขนาดใหญ่ ล้อมรอบฐานของนิกายโลกวิญญาณ ชูเฟิ ง และ คนอื่นๆไว้
ข้างใน

“เวรแล้ว ตาแก่นน่ั ได้วางรู ปแบบวิญญาณโดยเราไม่ทนั ตั้งตัว


ในตอนนี้ เขาได้ผนึกทางหนีของพวกเราไว้หมดแล้ว” เมื่อเห็นอย่างนั้น
แม้แต่จาง เทียนยี่ ก็ตกใจ เขาอ้าปากกว้าง และเกิดความกลัวบนหน้าเขา

นัง่ เพราะต่อห้พวกเขานั้นได้ใช้พลังท้งหมด ไปกับราชรถที่งดงาม มันก็


ไม่สามารถจัดการกับ เจี่ย ฉื อได้ เจี้ย ฉื อ ไม่เหมือนกับ อดีตประมุขหุบ
เขาเทพกระบี่ที่ยมื พลังมา เขาไม่เพียงอยูใ่ นระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์
อย่างแท้จริ งและพลังของเขานั้นแข็งแกร่ งกว่า ระดับ7 เพราะอย่างนั้น
เขาจึงถูกเรี ยกว่าอัจฉริ ยะ

“อย่าตกใจไป มันก็แค่รูปแบบผนึกวิญญาณ เรายังมีพ้นื ที่ที่จะ


หนีอยู่ ด้วยความเร็ วของราชรถที่งดงาม เขาไม่น่าจะจับพวกเราได้
หรอก” จื่อ หลิง พูด
*ปัง ปัง ปัง * ในเวลานั้น รู ปแบบวิญญาณก็ได้ปล่อยพลัง ออกมา
จํานวนนับไม่ถว้ น มันมีร่างเหมือนฝ่ ามือ และพุง่ ขึ้นไปเต็มท้องฟ้า

พลังนี้มาจากรู ปแบบวิญญาณ พวกดูเหมือนกับ ไม่มีพลังการทําลายล้าง


แต่ที่สาํ คัญที่สุดเจ้ามือนี้ นั้นอยูแ่ ทบทุกที่บนท้องฟ้า ในรู ปแบบนี้ ชูเฟิ ง
และคนอื่นๆ นั้นไม่เพียงแต่กา้ วไปข้างหน้าแม้แต่ถอยยังทําไม่ได้
ในตอนนี้พวกเขาก็ทาํ ได้เพียงผูกชีวติ ไว้กบั โชคชะตาแล้ว

ในตอนนั้น แม้จื่อ หลิง ที่ก่อนหน้านี้น้ นั ใจเย็นที่สุด ในตอนนี้ท่าทาง


ของเธอก็เปลี่ยนแปลงอย่างหนัก เธอพูดด้วยนํ้าเสี ยงที่ตกใจว่า “ นี่มนั
หรื อว่า มันคือ รู ปแบบผนึก หมื่นหัตถ์เทวะ ในตํานาน”

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////
แปลโดยท่าน#ฮาย
บทที่ 465 - กู๋ เทียนเซิ น

“รู ปแบบผนึก หมื่นหัตถ์เทวะอย่างนั้นหรื อ”

“รู ปแบบผนึก หมื่นหัตถ์เทวะ เป็ นรู ปแบบผนึกที่ทรงพลังมาก


ถ้าถูกพวกมันจับได้ ก็ไม่มีทางที่จะหนีรอดได้.”

“แต่ รู ปแบบนี้น้ นั ต้องการพลังสู งมาก ข้าคิดว่า มันน่าจะพลังถึง


ขั้นระดับชุดม่วง ถึงจะใช้ได้ ถ้าผูเ้ ชื่อมต่อระดับชุดฟ้าเป็ นคนใช้ นัน่
หมายความว่าพลังของเขานั้นสู งมากและใกล้ถึงระดับชุดม่วงแล้ว.” จื่อ
หลิง อธิบาย

“ทรงพลัง หรื อ นี่ไม่ได้ความว่าตอนนี้มนั เป็ นหายนาแล้วไม่ใช่


หรื อ” ในตอนนั้น ชูเฟิ งขมวดคิ้วแน่น แล้วพูดออกมา
หลังจากฟัง จื่อ หลิง เขาจึงรู ้วา่ เจีย ฉื อแข็งแกร่ งแค่ไหน เขานั้นมีพลัง
ใกล้ถึงขั้น ผูเ้ ชื่อมต่อระดับชุดม่วงแล้ว และด้วยพลังระดับ 7 อาณาจักร
สวรรค์น้ นั ไม่ใช่เรื่ องง่ายที่จะต่อกรด้วย

*ตูม*

.”อ๊าก!”

ในตอนนั้น เมื่อรู ปแบบผนึก หมื่นหัตถ์เทวะนั้นถูกเสร็ จสมบูรณ์แล้ว


มือนับไม่ถว้ นบนท้องฟ้าพุง่ ลงมาทุกทิศทางและพวกมันรุ มจับ ราชรถที่
งดงามของพวกชูเฟิ งไว้

รู ปแบบมือยักษ์น้ ี แข็งแกร่ งมาก แม้วา่ พวกเขาจะใช้พลังทั้งหมด ก็ไม่ทาํ


ให้ราชรถที่งดงามหลุดออกจากมือเขา และในตอนนั้น เจีย ฉื อ ก็ได้บิน
เข้ามา เขาได้ใช้ฝ่ามือของเขา สร้างพลังระดับอาณาจักรสวรรค์ข้ ึนมาจน
กลายเป็ นมือยักษ์และจับราชรถที่งดงามไว้

ในตอนนั้นพวกชูเฟิ งนั้นรู ้สึกถึงพลังนับไม่ถว้ นกําลังอัดราชรถที่งดงาม


อยู่ เจีย ฉือนั้น ต้องทําทําลายราชรถที่งดงามนี้ และลากคอพวกเขา
ออกมา

ในตอนนั้น พวกชูเฟิ งไม่สามารถหนีไปได้เลย พวกเขาทําได้แค่ส่งพลัง


ให้ราชรถที่งดงามเพื่อ ให้มนั ต้านทานพลังของ เจีย ฉื อไว้

เพราะการที่พวกเขาหลบในราชรถที่งดงามนัน คือโอกาสรอดของพวก
เขา แต่ถา้ พวกเขาออกมาจากราชรถที่งดงามนี้ ก็เท่ากับตาย

“เจ้าหนูท้ งั 3 อย่าคิดว่าข้าทําอะไรพวกเจ้าไม่ได้เพียงเพราะ
พวกเจ้าอยูใ่ นราชรถนี้หรอกนะ วันนี้พวกเจ้าต้องกายเป็ นผงพร้อมกับ
ราชรถคันนี้!”

เจีย ฉือ หัวเราะอย่างบ้าคลัง่ ต่อจากนั้นเขาก็สะบัดมือ และมือยักษ์ที่เกิด


จากพลังของเขานั้นพุง่ ลงมาจากท้องฟ้า และฟาดราชรถที่งดงาม ลงสู่
พื้นดิน

ต่อจากนั้น เขาก็ฟาดอย่างต่อเนื่องใส่ ราชรถที่งดงาม และต้องการทําลาย


มันด้วยพลังของเขา

ในตอนนั้น ใบหน้าของจื่อ หลิง นั้นเต็มไปด้วยความบ้าคลัง่ ตอนนั้นเขา


เต็มไปด้วยพลัง แม้แต่พวกชูเฟิ ง นั้นก็ไม่สามารถต้านทานได้ พวกเขา
ทําได้เพียงกลิ้งไปตามราชรถที่งดงามที่โดนแรงดันอย่างรุ นแรงนัน่

อย่างไรก็ตาม ยอดยุทธภัณฑ์กย็ งั เป็ นยอดยุทธภัณฑ์ ไม่วา่ เจีย ฉื อ จะ


แกร่ งแค่ไหน ก็ไม่สามารถทําลายราชรถที่ชูเฟิ งและคนอื่นๆส่ งพลังให้
ได้ง่ายๆ

ในตอนนั้น เจีย ฉือ ก็เริ่ มโกรธ เขาหันไปใช้รูปแบบค้อนยักษ์ และเล็ก


เป้าหมายมาที่ราชรถที่อยูบ่ นรู ปแบบ ของนิกายโลกวิญญาณ เขาต้องการ
ใช้คอ้ นยักษ์นี่บดราชรถที่งดงามไปพร้อมกับรู ปแบบของสมาคมโลก
วิญญาณ

“บัดซบ หลังของรู ปแบบค้อนนั้นแข็งแกร่ งมาก ถ้ามันฟาดลง


มา ราชรถที่งดงามของข้าไม่น่าจะทนไหว และมันต้องถูกพังทลาย
แน่นอน” จื่อ หลิง พูด

“จริ งหรื อ แต่นี่คือ ยอดยุทธภัณฑนะ มันไม่น่าจะอ่อนแอขนาด


นั้น” จาง เทียนยี่ พูดขึ้นด้วยนํ้าเสี ยงเหลือเชื่อ
“ไม่วา่ จะแข็งแกร่ งแค่ไหน ยอดยุทธภัณฑ์กย็ งั เป็ นยอด
ยุทธภัณฑ์ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลัง มันก็อาจจะป้องกันได้ แต่รูปแบบ
ของค้อนยักษ์ของเจีย ฉือ นั้นสามารถทําลายรู ปแบบที่เกิดจากพลังของ
คนนับไม่ถว้ นได้ แต่ราชรถนี้ มีพวกเราแค่3คน.”

จื่อ หลิง พูดอย่างใจเย็น แต่ใบหน้าของเธอนั้นเต็มด้วยความกังวล เพราะ


เธอรู ้ดีถึงพลังของรู ปแบบค้อนยักษ์

ถ้าผูเ้ ชี่ยวชาญอย่างปู่ ของเธอใส่ พลังให้กบั ราชรถที่งดงาม เขาก็อาจจะ


สามารถรับพลังของรู ปแบบค้อนยักษ์ไว้ได้ แต่ถา้ เป็ นพวกเขานี่อาจจะ
เป็ นหายนะ

“เจ้าเด็กเหลือขอ ตายยย” เจีย ฉื อ ยืนอยูใ่ นรู ปแบบและตอนนี้


เสื้ อคลุมและผมของเขาสะบัดไหว และตะโกนเสี ยงดัง รู ปแบบค้อน
ยักษ์น้ นั พุง่ ลงมาใส่ ราชรถที่งดงามที่พวกชูเฟิ งอยูข่ า้ งใน
ในเวลาต่อมา รู ปแบบของนิกายโลกวิญญาณก็เกิดรอยหยัก และ
กลายเป็ นคลื่น ดึงราชรถที่งดงามเข้ามาในรู ปแบบวิญญาณ

*ตูม*

ในตอนนั้น รู ปแบบค้อนยักษ์กฟ็ าดลงมา แต่มนั กลับเปลี่ยนเป็ นปะทะ


ของรู ปแบบวิญญาณของนิกายโลกวิญญาณแทน

“ฮ่า ฮ่า ในที่สุดมันก็พงั แล้ว!” เมื่อเห็นรู ปแบบวิญญาณที่


ป้องกันนิกายพังทลายลง กองกําลังพันธมิตรตระกูลเจียและ 4
มหาอํานาจ ก็รู้สึกดีใจกันถ้วนหน้า

“ในที่สุดเจ้าแก่นน่ั ก็ออกมาแล้ว.” เจีย ฉื อ ที่เชื่อมพลังกับ


รู ปแบบค้อนยักษ์ไว้กข็ มวดคิ้วแน่นเขารู ้ดีวา่ เขาไม่ได้ทาํ ลายรู ปแบบของ
นิกายโลกวิญญาณได้ แต่มีคนจงใจที่จะยกเลิกมัน

*ตูม* หลังจากรู ปแบบวิญญาณได้หายไป ก็มีกลิ่นอายระเบิดออกมาจาก


นิกายโลกวิญญาณ

กลิ่งอายนี้แข็งแกร่ งมากมันปกคลุมฟ้า ดิน นอกจาก เจีย ฉื อ แล้ว คน


อื่นๆในพันธมิตรต่างไม่สามารถทนกลิ่นอายนั้นไหว เพวกเขาได้แต่ถอย
หลังกลับไป

ต่อจากนั้นก็มีร่างของ ชายชราชุดขาวปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า

ชายชราคนนั้น คือบุคคลที่เป็ นคู่แข่งกับ เจีย ฉื อ เมื่อ 100 ปี ก่อน และ


ยังเป็ นอัจฉริ ยะเช่นเดียวกับ เจีย ฉื อ เขาคือบรรพบุรุษของนิกายโลก
วิญญาณ กู่ เทียนเซิน
กลิ่นอายของ กู่ เทียนเฉิน นั้นไม่ได้แพ้ เจีย ฉื อเลย เขานั้นอยุใ่ นระดับ 7
อาณาจักรสวรรค์ เช่นเดียวกัน เจีย ฉื อ

“กู่ เทียนเซิน ในที่สุดเจ้าก็ออกมา สงครามระหว่างข้ากับเจ้าที่


ยืดยาวมานาน มันต้องจบลมในวันนี้ “ เมื่อเห็น กู่ เทียนเฉิ น เจีย ฉื อนั้น
หัวเราะอย่างบ้าคลัง่ เขานั้นไม่ได้กงั วลเลย เพราะการปรากฏตัวของ กู่
เทียนเฉิน ทําให้เขามีความสุ ขมาก

กู่ เทียนเซิน ไม่ได้สนใจคําพูดเจีย ฉื อ เขาหันหลังกลับและกวาดสายตา


มองข้างหลังเขา

ในด้านหลังเขา มีราชรถที่งดงามลอยอยูบ่ นฟ้าในตอนนั้น ชูเฟิ ง จื่อ หลิง


และ จาง เทียนยี่ ก็เดินออกมาจากราชรถที่งดงาม
กู่ เทียนเซิน หันไปพูดกับพวกชูเฟิ งว่า “ สหายทั้ง 3 ของข้า ข้าขอโทษ
จริ งๆที่สร้างความลําบากให้กบั พวกเจ้า นิกายโลกวิญญาณของข้าจะจํา
เรื่ องในวันนี้แล้วจะตอบแทนให้พวกเจ้าในสักวัน.”

“แต่ตอนนี้ โปรดถอยไปก่อน ขอข้าฆ่ามันก่อน.”

หลังจาก กู เทียนเซิน พูดก็หนั หลังกลับ สายตาของเขานั้นราวกับดาบที่


แหลมคม และบนหัวเขามีเมฆสี ดาํ ลอยอยู่ สายฟ้านั้นช๊อตมาจากทุกที่
จากเมฆสี ดาํ นั้นมันจึงน่ากลัวมาก

ที่น่ากลัวที่สุดคือภายในเมฆสี ดาํ นั้นเต็มไปด้วยสายฟ้า และเกิดประตู


โลกวิญญาณขนาดใหญ่ข้ ึนมา และ 4อสู รวิญญาณที่มีหน้าตาน่ากลัว
และร่ างที่ใหญ่ยกั ษ์กา้ วออกมาจากประตูน้ นั

ReadMGA,blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : โอ้ววววว อสู รวิญญาณตั้ง 4 ตัว

B : จริ งๆ ของ ชูเฟิ ง มีแค่ 2 ก็โหดชิบหาย!!! แต่อีกตัวนี้โหดมากกกก


แต่ตา้ นต้านแจ่มกว่า

A : มันเป็ นตัวอะไรกันแน่ ???

B : จิ้งจก 9 หาง

A : จิ้งจอก 9 หางงหรื อเปล่า ???

B : เออ เหมือนกันนั้นแหละ

A : เหมือนเตี่ยมืงสิ !!!

มึงสองตัวอย่าซี้ ซ้ วั สปอย จิ้งจก


จิ้งจอก อะไร ไม่ใช่!!!
บทที่ 466 - ความตายของรุ่ นเยาว์

4 อสู รวิญญาณ ลอยอยูบ่ นอากาศ พวกมันล้วนสู งกว่า 10 เมตรและ


รู ปร่ างคล้ายกับมนุษย์ การปรากฏตัวของพวกมันน่ากลัวราวกับปี ศาจ
พวกมันมีอาวุธที่แปลกประหลาดแต่มีกลิ่นอายที่แข็งแกร่ งอยู่ ทั้ง 4 นั้น
มาจากโลกวิญญาณภูติพราย

หลังจากที่ 4 อสูรวิญญาณนั้นปรากฏขึ้น ไม่เพียงแค่คนจากตระกูล เจีย


เท่านั้น แม้แต่คนจากนิกายโลกวิญญาณต่างก็กลัวพวกมัน

พวกเขากลัวเพราะกลิ่นอายของ 4 อสู รวิญญาณที่แสดงออกมานั้น อยู่


ในระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ มีคนน้อยมากที่มีความแข็งแกร่ งในระดับ
นี้ พลังของมันนั้นอยูใ่ นระดับเดียวกันบรรพบุรุษของ 4 มหาอํานาจ
และ เจีย ฉิงเผิงเลยทีเดียว

นอกจากนี้อสู รวิญญาณนั้น มีความพิเศษเหนือกว่ามนุษย์ปกติ ในด้าน


กลิ่นอายของพวกมันนั้นรุ นแรงกว่า บรรพบุรุษทั้ง 4 ของมหาอํานาจ
มาก

และ กู่ เทียนเซิน สามารถเรี ยกพวกมันออกมาได้ พลังของพวกมันนั้น


ทําให้ผคู ้ นต่างตกใจในพลังของ ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ

“หากเป็ น ผูเ้ ชื่อมต่อระดับฟ้าปกติ สามารถทําพันธสัญญากับ


อสู รวิญญาณได้เพียว 3 ตนเท่านั้น แต่ กู่ เทียนเฉิ นกับทําได้ถึง 4 ตน
เขาแข็งแกร่ งจริ งๆ เช่นเดียวกับ เจีย ฉื อ ที่ใกล้จะกลายเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลก
วิญญาณชุดม่วงเต็มทีแล้ว.” จื่อ หลิง พูด

“4 อสู รวิญญาณ และ พวกมันทั้งหมดนั้นอยุใ่ นระดับ 6


อาณาจักรสวรรค์ ไม่ใช่วา่ มันแข็งแกร่ งไปอย่างนั้นหรื อ ที่เขาบอกว่าการ
เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้นคือเรื่ องที่น่าประทับใจในวันนี้น้ นั ข้าได้
เห็นแล้วว่ามันคือความจริ ง.”
ใบหน้าของจาน เทียนยีเ่ ต็มไปด้วย ความชื่นชม นี่เพราะนี่เป็ นครั้งแรกที่
เขาเห็นพลังของอสู รวิญญาณที่แข็งแกร่ ง และ เป็ นครั้งแรกที่เขาได้เห็น
พลังที่ผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณมี

“นี่กแ็ ค่เล็กน้อย มีข่าวลือบอกว่า ผูเ้ ชื่อมต่อนั้นสามารถสร้าง


กองทัพอสู รวิญญาณของตนขึ้นมาได้เลย.”

“แม้วา่ ปกติแล้วผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้น จะอยูอ่ ย่างโดดเดี่ยว


และแม้มหาอํานาจที่แข็งแกร่ งหรื อสํานักที่มีชื่อเสี ยงคนานับ ก็ไม่
สามารถต้าน ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณได้.” ชู เฟิ งพูด

เขาเคยฟังมันมาจากต้านต้าน อย่างไรก็ตามจํานวนของผูเ้ ชื่อมต่อโลก


วิญญาณที่มีอสู รวิญญาณที่แข็งแกร่ งนั้นสามารถนับได้เลย ในโลกนี้ ผู ้
เชื่อมต่อที่แข็งแกร่ งเท่านั้น ที่จะสามารถสร้างกองทัพของตนได้
เมื่อฟังที่ชูเฟิ งพูด จาง เทียนยี่ และจื่อ หลิงก็กลืนนํ้าลาย และเกิดความ
ขื่นชมบนใบหน้าของพวกเขา

1 ผูเ้ ชื่อมต่อ สามารถแบกรับ กองทัพอสู รวิญญษณได้อย่างนั้นหรื อ เขา


นั้นแข็งแกร่ งเพียงไหนกัน นี่คือวิธีที่เขาโหยหามานาน แต่เขาไม่
สามารถทําได้ถา้ เขาไม่มีอาํ นาจวิญญาณ และโชคชะตานั้นก็ไม่ได้ให้เขา
ได้ทาํ อย่างนั้น เขาจึงทําได้เพียงแค่ชื่นชม

ไม่เพียงแค่ จาง เทียนยี่ แต่ จื่อ หลิงก็รู้สึกแปลกใจมื่อฟังคําพูดของชูเฟิ ง

เพราะเมื่อเธอคิดถึงภาพนั้น ภาพที่ผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณลอยอยูบ่ นฟ้า


และสัง่ การอสู รวิญญาณของเขา

แต่จื่อ หลิง ก็รู้ดีวา่ กองทัพอสู รวิญญาณนั้น ก็มีความแตกต่างในตัวของ


มันเช่นกัน

เรื่ องความแตกต่าง พลังของอสู รวิญญาณจากโลกวิญญาณอื่นนั้น จะ


เทียบกับ อสู รวิญญาณจากโลกวิญญาณอสู รฟ้าได้

ดังนั้น เธอจึงคิดภาพที่ ด้านหลังของชูเฟิ ง นั้นเต็มไปด้วยกองทัพอสู รฟ้า


มันทําให้เธอได้แต่ชื่นชม

*ตูม้ *

ในตอนนั้น ทั้ง 3 ก็ตื่นขึ้นจากห้วงความคิด 4 อสู รวิญญาณ ของ กู่


เทียนเซิน เริ่ มเคลื่อนไหวแล้ว อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู ข้ องพวกมันนั้นไม่ใช่
มนุษย์ แต่เป็ น อสู รวิญญาณ.
ทั้ง4 นั้นมีรูปร่ างคล้ายกับ สัตว์ยกั ษ์ พวกมันมาจากโลกวิญญาณ สัตว์
อสู ร ความแข็งแกร่ งของพวกมันนั้นไม่แพ้ อสู รวิญญาณของ กู่ เทียน
เซินเลย พวกมันนั้นถูกเรี ยกออกมาโดย เจีย ฉื อ

ในตอนนั้น เจีย ฉือได้ลอยขึ้นไปบนฟ้า และยืนอยูบ่ นอากาศ เขามองกู่


เทียนเซิน ด้วยรอยยิม้ และพูดว่า “กู่ เทียนเซิ น เมื่อตอนที่เจ้าเปิ ดประตู
โลกวิญญาณนั้น เจ้าล้าหลังข้าไปหลายวัน นี่ไม่ได้หมายความว่า
พรสวรรค์ของเจ้านั้นด้อยกว่าข้าอย่างนั้นหรื อ ถ้าอย่างนั้นในวันนี้ เจ้าจะ
ข้าฆ่าได้อย่างไร”

“เจีย ฉือ เจ้ายังชอบดูถูกคนอื่นเหมือนเดิมเลยสิ นะ นิกายของข้า


และตระกูลของเจ้าก็เป็ นเพียงที่พ่ งึ เท่านั้น แต่ถา้ เจ้าต้องการตัดสิ นแพ้
ชนะ นัน่ หมายถึงความเป็ นและความตาย

“จนถึงตอนนี้ ผ่านไปร้อยปี เจ้าและข้านั้นได้อยูจ่ ุดที่แข็งแกร่ ง


ที่สุดแล้วไม่สามารถแกร่ งไปกว่านี้ได้แล้ว จากรุ่ นเยาว์เป็ นผูอ้ าวุโสยุค
ของพวกเรากําลังจะจบไปและมีความสุ ขได้เพียงไม่กี่ปีที่เหลือเท่านั้น.”

“แต่เจ้าก็ยงั โง่ โจมตีนิกายของข้า เจ้าก็เห็นแล้วนี่ ตอนที่ขา้ ยัง


ไม่ออกมาเจ้ายังไม่สามารถจัดการกับนิกายของข้าได้เลย.”

“เจ้านัน่ เป็ นภัยร้ายสําหรับนิกายของข้า เพื่อความสงบสุ ขของ


นิกายของข้า วันนี้ขา้ จะกําจัดเจ้าซะ.” กู่ เทียนเฉิ น ตะโกนเสี ยงดัง

“ฮ่าฮ่าฮ๋ า กู่ เทียนเซิ น เจ้าจะจัดการข้าหรื อ ด้วยพลังของเจ้าอย่าง


นั้นหรื อ เมื่อก่อนเจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้ยงั ไง บัดนี้เจ้าก็ไม่สามารถ
เอาชนะข้าได้อย่างนั้น แม้วา่ จะพยายามเท่าไหร่ คนชนะก็คือข้าผูน้ ้ ี.”

“นอกจากนี้ ก็จะบอกอะไรให้ เจ้านั้นมาช้าเกินไปเสี ยแล้ว.”


“ในตอนที่เจ้ากําลังฝึ กฝนอยูน่ ้ นั นิกายของเจ้าก็ได้ใช้รูปแบบ
วิญญาณส่ งคนรุ่ นเยาว์ของเจ้าออกไปจากนิกายเพราะต้องการให้พวกเขา
หนีไป.”

“แต่ในตอนนี้พวกเขาไม่รู้วา่ พวกนั้นได้ตกอยูใ่ นมือข้าแล้ว


ดังนั้น วันนี้คนที่โดดเด่นจากรุ่ นเยาว์ของนิกายเจ้าต้องตายทั้งหมด!”

“หากไม่มี รุ่ นเยาว์ของนิกาย นิกายของเจ้าก็อ่อนแอกว่าตระกูล


ของข้าอีกนับ สิ บปี ต่อให้ขา้ ไม่สามารถทําลายนิกายเจ้าได้วนั นี้ ยังไง
นิกายของเจ้าก็ตอ้ งแพ้ให้กบั ตระกูล เจียของข้าอยูด่ ี.” เจีย ฉื อ หัวเราะ
เสี ยงดัง

เมื่อได้ยนิ คําพูดนั้น ผูอ้ าวุโสและประมุขนิกายโลกวิญญาณก็หน้าเปลี่ยน


สี ทนั ที ตอนนี้หน้าของเขานั้นราวกับเต็มไปด้วยขี้เถ้า บางคนนั้นถึงกับ
เข่าอ่อนและหมดสติไปในทันที
แม้แต่ กู่ เทียนเฉินก็ขมวดคิ้วแน่น สายตาของเขานั้นเกิดประกาย
บางอย่าง

เพราะที่ เจีย ฉือ พูดคือ พลังของคนรุ่ นเยาวน์น้ นั สามารถกําหนดอนาคต


ของสมาคมได้ ถ้าเกิดเรื่ องอะไรขึ้นกับรุ่ นเยาว์ของเขานั้น ไม่เพียงมี
ผลกระทบต่อการพัฒนาในอนาคตของสมาคมของเขา แต่มนั ยังยากที่จะ
สามารถกูค้ ืนอีกด้วย

“เจีย ฉือ อย่าพูดอะไรพล่อยๆ รู ปแบบขนส่ งของนิกายโลก


วิญญษณของข้านั้นเกิดจากความพยายามของผูเ้ ชี่ยวชาญของรุ่ นก่อน เจ้า
สามารถคํานวนถึงจุดหมายนั้นได้หรื อ” ผูอ้ าวุโสของนิกายโลกวิญญาณ
นั้นไม่เชื่อคําพูดของเจีย ฉือ ก็พดู ขึ้นมา.

“ข้าพูดพล่อยๆ หรื อ แหกตาของเจ้า และดูให้ดี ทําไมเจ้าสํานัก


ทั้ง 4 นั้นไม่ได้อยุใ่ นกองทัพของเขา พวกเขาไปไหนกัน พวกเจ้าคิดไม่
ออกอย่างนั้นหรื อ”

“กู่ เทียนเฉิน ดูสิวา่ ข้าเจีย ฉื อ สามารถคํานวณถึงความสามารถ


ของรู ปแบบขนส่ งของนิกายของเจ้าได้หรื อไม่!” เจีย ฉื อ พูดแล้วก็
หัวเราะดังลัน่ ราวกับเขาได้กมุ ชัยชนะไว้แล้ว

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยคุณ#Haridsada Karakete

A : อ่อ คนของพวกเอ็งไปไหนงั้นหรอ ก็ไปโลกหน้าแล้วยังไง

B : พวกพี่เฟิ ง เราเก็บเรี ยบไปหมดแหละ ไม่รู้เรื่ องจริ งแท้ๆ เสื อกเอา


ไปป่ าวประกาศ เด๋ วได้หน้าแหก!!!

A : มารอดูสภาพหน้าของพวกมันกันดีกว่า ว่าพวกมันจะทําหน้ายังไง
เมื่อรู ้ความจริ ง
บทที่ 467 - กําลังใจที่เพิ่มพูน
ในตอนนั้น เจี่ย ฉื่อ จ้อง กู๋ เทียนเซิ น ขณะที่ยนื อยูบ่ นอากาศพร้อมกับ
ขมวดคิ้วแน่นโดยที่ไม่พดู ใดๆต่อ แต่ใช้อาํ นาจพลังวิญญาณตรวจดู เจี่ย
ฉื่อ ก็พอเข้าใจ เพราะเขาคํานวณไว้แล้วว่านิกายโลกวิญญาณจะต้องส่ ง
คนหนีไป

ในตอนนี้เขารู ้เลยว่า ขวัญกําลังใจของนิกายโลกวิญญาณนั้นได้ถูก


ทําลาย และพวกเขาจะเป็ นฝ่ ายเสี ยเปรี ยบกับสงครามครั้งใหญ่ที่กาํ ลังจะ
เริ่ มขึ้น

" เจ้าเฒ่า เจี่ย ฉื่อ พูดถูก เขานั้นรู ้ทางหนีทีไล่ของรองประมุข


เกา ศิษย์พี่ซู่ และคนอื่นๆ นอกจากนี้เขายังได้ส่ง เจี่ย ฉิ งหมิง และ ผูน้ าํ
คนปัจจุบนั ของ4มหาอํานาจกับผูเ้ ชี่ยวชาญอีกบางส่ วนเพือ่ หยุดพวกเขา
"ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็พดู ขึ้น

" ชูเฟิ ง เจ้าพูดเรื่ องจริ งงั้นหรอ!!! " หลังจากได้ยนิ ที่ชูเฟิ งพูด คน


ของนิกายโลกวิญญาณก็ตกใจอย่างมาก โดยเฉพาะประมุขนิกายโลก
วิญญาณ ตลอดจนถึงผูจ้ ดั การอาวุโส ร่ างกายของพวกเขานั้นสัน่ สะท้าน
ราวกับว่าเป็ นวันสุ ดท้าย

" ข้า ชูเฟิ งไม่เคยโกหก อย่างไรก็ตาม ในตอนที่พวกเขากําลัง


จะฆ่ารองประมุขเกาและคนอื่นๆ ข้า จื่อหลิง และศิษย์พี่จาง ได้ขดั ขวาง
พวกเขา "

" ในฐานะที่ขา้ เป็ นสมาชิกคนหนุ่ ึงของนิกายโลกวิญญาณ ศัตรู


ของนิกายก็คือศัตรู ของข้า ใครที่มนั กล้าคิดร้ายทําลายนิกายโลกวิญญาณ
เป็ นธรรมดาที่ขา้ ชูเฟิ งจะต้องลงมือทําอะไรสักอย่าง ตอนนั้นข้าได้ฆ่า
เจี่ย ฉิงหมิงรวมทั้งผูน้ าํ ทั้ง 4 " ชูเฟิ งยังคงพูด

" เจ้าโกหก ! ! "

หลังจากได้ยนิ คําพูดเหล่านั้น ใบหน้าของคนจาก ตระกูลเจี่ย และ 4


มหาอํานาจ ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาทั้งหมดเริ่ มส่ งเสี ยงดัง ด่าทอ ชู
เฟิ ง ต่างๆนาๆ

เพราะไม่วา่ จะเป็ น เจี่ย ฉิงหมิง หรื อ ผูน้ าํ ทั้ง 4 ล้วนแต่เป็ นกําลังสําคัญ


ของพวกเขา ซึ่งไม่อาจสู ญเสี ยได้ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาจริ งๆ
นั้นนับว่าเป็ นการสู ญเสี ยครั้งใหญ่

พวกเขาจึงไม่รู้สึกว่า ชูเฟิ ง จะพูดความจริ ง พวกเขาคิดว่า ชูเฟิ ง พูด


หลอกล่อพวกเขาให้ผคู ้ นฝ่ ายเขานั้นเสี ยขวัญกําลังใจ

" ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าไม่เชื่อข้างั้นเหรอ " ชูเฟิ ง หัวเราะสนัน่ กับ


คําพูดของพวกเขา จากนั้นเขาค่อยๆยืน่ มือหยิบถุงจักรวาลออกมา พร้อม
กับล้วงมือเข้าไปในถุงหยิบหัวของคนคนหนึ่งขึ้นมาในมือ จากนั้นเขาก็
ยกขึ้น พร้อมกับพูดเสี ยงดัง " ดูซะ ว่านี่ใคร ?!!! "
" ฉิงหมิง!!!! "

หลังจากได้เห็นหัวคน ทีอยูใ่ นมือของ ชูเฟิ ง การแสดงออกของผูน้ าํ คน


ปัจจุบนั ของตระกูล เจี่ย เจี่ย ฉิ งเผิง ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ปากของเขา
ขยับอย่างรุ นแรง ดวงตาเบิกกว่างขึ้นด้วยความโกรธที่ทะลักออกมา
พร้อมกับกรี ดร้องไปบนท้องฟ้า

เพราะเขาที่เป็ นผูเ่ ชื่อมต่อฯ สามารถตรวจสอบหัวที่อยูใ่ นมือของชูเฟิ ง


ได้ชดั เจนว่านั้นคือหัวจริ งๆ ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าคือหัวของ เจี่ย ฉิ งหมิง ที่
เป็ นผูส้ ื บทอดตําแหน่งผูน้ าํ ในอนาคต ที่พวกเขาตั้งความหวังไว้ บัดนี้ได้
ถูกฆ่าด้วยนํ้ามือของ ชูเฟิ ง

" ชู เฟิ ง ข้าจะฆ่าเจ้า ! "

ตอนนั้นทุกคนในตระกูลเจี่ย โกรธอย่างมาก เลือดภายในร่ างกายพวก


เขาเดือดพล่าน เพราะไม่วา่ ยังไงคนที่มีประสิ ทธิภาพอย่าง เจี่ย ฉื่ อ ก็มีขีด
กําจัดของอายุ แม้แต่ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถดูแลเรื่ องภายในตระกูลเจี่ย
ได้แล้ว ทุกคนจึงรู ้สึกว่า จื่อ ฉื่ อ บรรพบุรุษรุ่ นก่อนอาจจะอยูไ่ ด้อีกไม่กี่ปี

แต่เจี่ย ฉิงหมิงนั้นต่างกัน แม้วา่ ปั จจุบนั เจี่ย ฉิ งหมิงอาจจะยังแข็งแกร่ ง


ไม่เทียบเท่า แต่วนั ข้างหน้าเขาอาจจะเทียบกับ เจี่ย ฉิ งเผิง หรื อ เจี่ย ฉื่ อ
ได้ อาจกล่าวได้วา่ ปัจจุบนั เจี่ย ฉิ งหมิง นั้นไม่ได้ดอ้ ยไปกว่าตอนที่ เจี่ย
ฉื่อ ยังหนุ่ม ซึ่งเขาเปรี ยบดัง่ อนาคตของตระกูลเจี่ย ที่พวกเขาต่าง
คาดหวัง

แต่ปัจจุบนั ความหวังของเขาได้ถูกทําลายโดยฝี มือใครบางคน แล้วคน


ตระกูลเจี่ยเหตุใดจึงจะทนได้ พวกเขาในตอนนั้นกัดฟันแน่นด้วยความ
เกรี้ ยวโกรธ หวังจะสับ ชูเฟิ ง ให้เป็ นหมื่นๆชิ้น

" ชูเฟิ ง ไอ้สารเลว ข้าจะให้เจ้าชดใช้ในสิ่ งที่เจ้าได้ทาํ "


ไม่เพียงแต่คนตระกูลเจี่ย แม้แต่คนจากสํานักหยวนกัง, นิกายไป๋ , ที
ราบหุบเขาไร้ใจ และสํานักเทพอัคคี ที่เต็มไปด้วยความโกรธจนเลือด
ภายในร่ างสู บฉีดเพราะหากเจีย ฉิ งหมิง ถูกฆ่า พวกเขาก็รู้เลยว่าผูน้ าํ ทั้ง
4 ก็คงมีชะตาที่ไม่ต่างกัน

" ไอ้เลวชูเฟิ ง เจ้ากล้ามากนะ เด๋ วเจ้าจะได้ตายสมใจ!!! "

" ข้า เจี่ย ฉื่อ สาบานว่าข้าจะทําให้เจ้าอยากอยูก่ ไ็ ม่ได้อยู่ อยาก


ตายก็ไม่ได้ตาย ข้าจะทรมานเจ้าแม้แต่ตอนที่เจ้าตาย เจ้าจะต้องเสี ยใจไป
ตลอดกาล !!! "

ในความเป็ นจริ งแม้แต่ เจี่ย ฉื่อเองก็โกรธอย่างมาก เขาได้ออกมาโลก


ภายนอกได้หลายวัน ดังนั้นเขาจึงเข้าใจสถานการณ์ของตระกูลเจี่ยใน
ปัจจุบนั เป็ นอย่างดี นอกจากนี้เขาเองก็ชอบเจี่ย ฉิ งหมิงไม่นอ้ ยจนถึงกับ
เตรี ยมตัวที่จะพัฒนาเขา ซึ่งเขาไม่เคยคาดคิดว่า ฉิ งหมิง จะถูกฆ่าตาย
ในตอนนั้นเขาไม่รอช้า รี บนํากําลังพล นับล้าน ทําลายรู ปแบบฯของ
นิกายโลกวิญญาณที่แข็งแกร่ ง บัดนี้สงครามได้เข้าสู่ ภาวะตรึ งเครี ยด
อย่างสมบูรณ์แบบ

" ฮ่าๆๆ เจี่ย ฉื่อ ดูเหมือนร้อยปี มานี้ คนรุ่ นเยาว์ของนิกายโลก


วิญญาณจะเหนือกว่าคนรุ่ นเยาว์ของตระกูลเจี่ย ของเจ้านะ "

" วันนี้คนที่ถึงคราวตายคงไม่ใช่นิกายโลกวิญญาณ แต่เป็ น


ตระกูล เจี่ย!!! " ก่อนหน้านี้ กู๋ เทียนเซิ น ที่เต็มไปด้วยความกังวลก็เป
ลียนเป็ นสี หน้าที่เต็มไปด้วยความสุ ข

หลังจากมอง ชูเฟิ ง อย่างลึกซึ้ งด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม เขาก็


หัวเราะเสี ยงดังพร้อมกับโดดเข้าใส่ เจี่ย ฉื่ อ
*** บูม บูม บูม ***

ภายในพริ บตาที่สองผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ระดับ 7 เข้าปะทะกัน


พื้นที่รอบๆก็เต็มไปด้วยคลื่นที่รุนแรงอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด ในตอนนั้นไม่มี
ใครสามารถเข้าไปใกล้ได้ หากพลาดเข้าไปมีหวังการเป็ นเศษเนื้อเพราะ
พลังทําลายของพวกเขา ซึ่งหากไม่ใช่ผเู ้ ชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์คน
ธรรมดาคงไม่อาจทนได้

" สหาย ชูเฟิ ง นําใจของเจ้าไม่อาจตอบแทนด้วยแค่คาํ พูด ต่อ


จากนี้ ข้าและนิกายโลกวิญญาณขอสาบานว่าจะมีชีวติ อยูแ่ ละตายไป
พร้อมกับเจ้า ตราบใดที่นิกายโลกวิญญาณยังอยู่ เราจะปกป้องเจ้าด้วย
ชีวติ หากใครทําร้ายเจ้า นั้นกับพวกเขาทําร้ายนิกายโลกวิญญาณของเรา
"

ตอนนั้นประมุขคนปัจจุบนั ของนิกายโลกวิญญาณได้ส่งข้อความผ่านจิต
ให้กบั ชูเฟิ ง ด้วยความรู ้สึกที่ต้ืนตัน แม้วา่ เขาจะกําลังสู ก้ บั เจี่ย ฉิ งเผิง แต่
เขาก็ไม่ลืมที่จะแสดงความกตัญ�ูต่อ ชูเฟิ ง เพราะไม่เพียงแค่ ชูเฟิ ง จะ
ช่วยชีวติ ของผูค้ นจากนิกายโลกวิญญาณ ตอนนี้เขายังเป็ นความหวังที่
สําคัญเทียบเท่ากับนิกายโลกวิญญาณ

ในความเป็ นจริ งก็มีอาวุโสหลายๆท่านในนิกายโลกวิญญาณที่รู้สึก


ขอบคุณ ชูเฟิ ง บางคนส่ งข้อความทางจิต บางคนก็ตะโกนเสี ยงดัง เพื่อ
แสดงความขอบคุณแก่ ชูเฟิ ง

มันเป็ นเพราะการกระทําของ ชูเฟิ งนั้นได้ทาํ ให้ขวัญกําลังใจของสมาชิก


นิกายโลกวิญญาณเพิม่ ขึ้นอย่างล้นหลาม แม้วา่ พวกเขากําลังเผชิญหน้า
กับกองทัพนับล้าน ที่นาํ โดย ตระกูลเจี่ย และสี่ มหาอํานาจ พวกเขาก็ไม่
กลัวแม้แต่นอ้ ยอีกทั้งยังเผชิญหน้าอย่างหาญกล้า

ในเวลาเดียวกัน จาง เทียนยี่ ก็เริ่ มเข้าร่ วมการต่อสู ้ ในตอนนั้นเขาถือดาบ


ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์พร้อมกับปล่อยเปลวเพลิงสี ฟ้า แน่นอนว่าความแข็งแกร่ ง
ของเขานั้นสามารถกําราบรรพบุรุษเฒ่าของสี่ มหาอํานาจ ตอนนั้น นิกาย
โลกวิญญาณเป็ นผูค้ รอบครองความได้เปรี ยบของสงคราม

" ชูเฟิ ง ตอนนี่เราจะเอายังไง ? เราจะช่วยนิกายโลกวิญญาณสู ้


จนกว่าจะชนะ หรื อมุ่งหน้าเข้าหอคอยอสู รฟ้า ? " จื่อหลิง นางยังคงไม่
เคลื่อนไหว นางยืนอยูข่ า้ งๆโดยที่รอการตัดสิ นใจของ ชูเฟิ ง

ตอนนั้น ชูเฟิ งกวาดตามองสภาพโดยรวม และเห็นสนามรบที่กาํ ลังตก


อยูใ่ นความวุน่ วาย เขาจึงกล่าวว่า " ผลของสงครามครั้งนี้คงยึดเยื้อ ด้วย
พลังวิญญาณของเราตอนนี้กไ็ ม่อาจเปลี่ยนสถานการณ์ได้มากนัก การ
เข้าสู่ สนามรบโดยไม่รู้วา่ ผลจะออกมาเป็ นยังไง ทําไมเราไม่ลองหาทาง
อื่นให้เราได้ชยั ชนะอย่างเด็ดขาดล่ะ "

" จื่อหลิง มากับข้าในหอคอยอสู รฟ้า ข้าจะซํ่้ ากับเจ้าสองต่อ


สอง ตราบใดที่เราช่วยสัตว์มหึ มาตนนั้นออกมา ไม่วา่ เจี่ย ฉื อ มันจะแน่
สักแค่ไหนก็ตอ้ งตายในวันนี้ " ชูเฟิ ง พูดขณะที่พงุ่ ทะยานเป็ นเส้นแสง
ตรงไปยังทางหอคอยอสู รฟ้า จากนั้นจื่อหลิงก็รีบพุง่ ตามชูเฟิ งออกไป

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////////////////////////////////////////
A : พี่เฟิ งความคิดในหัวมืง ออกมาหมดเลยนะ!!!

B : กูวา่ ไม่ใช่ความคิดของชูเฟิ งหรอก ของไอ้คนที่แปลตั้งหาก!!!

A:..........
บทที่ 468 – พบสัตว์ยกั ษ์อีกครั้ง

หอคอยอสู รฟ้านั้นมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากว่าหมื่นปี ตํานาน


กล่าวว่า ที่ดา้ นในนั้นมีสบมบัติอยูม่ ากมาย แต่จนถึงตอนนี้กย็ งั ไม่มีผใู ้ ด
เคยพบมาก่อน

รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่อยูภ่ ายในหอคอยอสู รฟ้านั้น นับได้


ว่าเป็ นสมบัติที่หาได้ยาก เพราะมันมีแรงกดดันมหาศาล ที่สามาาถเพิ่ม
อํานานพลังวิญญาณให้กบั บุคคลๆ หนึ่งได้
และเหตุผลที่นิกายโลกวิญญาณก่อตั้งขึ้นที่นี่ เพราะพวกเขา
ต้องการครอบครองหอคอยอสู รฟ้า ดังนั้น อาจกล่าวได้วา่ หอคอยอสู ร
ฟ้า คือสิ่ งสําคัญที่สุดของนิกายโลกวิญญาณ

แม้วา่ สถานการณ์ของสงครามในปั จจุบนั ทําให้ผเู ้ ชี่ยวชาญของ


นิกายโลกวิญญาณต้องคอยปกป้องตามจุดต่างๆ แต่เมื่อ ชูเฟิ ง ปรากฏตัว
มานั้น เขาได้ขอร้องให้นิกายโลกวิญญาณส่ งผูเ้ ชี่ยวชาญไปปกป้อง
หอคอยอสู รฟ้า พวกเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธคําขอนั้นแต่อย่างใด

เพราะเมื่อ ชูเฟิ ง ปรากฏตัวออกมานั้น เขาได้ให้ความช่วยเหลือ


เหล่าสมาชิกรุ่ นใหม่ของนิกายโลกวิญญาณ ทําให้นิกายโลกวิญญาณไม่
อาจปฏิเสธคําขอเพียงเล็กน้อยของเขาได้

ดังนั้น ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง จึงได้เข้าไปภายในหอคอยอสู รฟ้า ด้วย


ความสามารถของ จื่อ หลิง นั้น การขึ้นไปยังชั้นหกที่เป็ นตํานาน ไม่ใช่
เรื่ องยากสําหรับนาง และอาจกล่าวได้วา่ เป็ นเรื่ องง่ายสําหรับนางก็วา่ ได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง มาถึงที่ทางเข้าชั้นที่


เจ็ด จื่อ หลิง ก็พบว่านางไม่สามารถไปต่อได้ แต่อุปสรรค์สาํ หรับนาง
ไม่ได้เป็ นปัญหาแม้แต่นอ้ ยสําหรับ ชูเฟิ ง

“ชูเฟิ ง ข้าไม่อาจไปต่อได้ ข้าต้องแก้อกั ขระผนึกของผนึกนี่ เจ้า


ต้องไปคนเดียวแล้วหล่ะ ระวังตัวให้มากด้วยล่ะ”

จื่อ หลิง ที่อยูใ่ นชั้นที่หกนั้น กําลังมองแผ่นหลังของ ชูเฟิ ง ที่กาํ ลัง


ก้าวขึ้นสู่ ช้ นั ที่เจ็ด ด้วยใบหน้าที่ยมิ้ แย้ม แต่แววตาของนางกลับเต็มไป
ด้วยความกังวล

นางได้ยนิ ชูเฟิ ง เล่าให้ฟังว่า ที่ช้ นั เจ็ดนั้น มีสตั ว์ยกั ษ์ถูกขังอยู่


ภายในนั้น ในอดีตเมื่อร้อยปี ก่อน สัตว์ยกั ษ์ตนนี้ได้เคยเอาชนะอัจฉริ ยะ
ของนิกายโลกวิญญาณ กู๋ เทียนเซิ น และอัจฉริ ยะจากตระกูลเจี่ย เจี่ย ฉื อ
ลงได้ สัตว์ยกั ษ์น้ นั มีความสามารถของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุด
คลุมสี ม่วง และเป็ รไปได้วา่ ในร้อยปี ที่ผา่ นมานั้น มันจะแข็งแกร่ งมมก
กว่าเมื่อก่อน

นอกจากนี้ สัตว์ยกั ษ์ยงั ได้บอก ชูเฟิ ง อีกว่า เขาสามารถเพิม่ อํานาน


พลังวิญญาณได้ หากเขาไปที่หุบเขาพันปิ ศาจ แต่กลับไม่ได้บอกว่า
สถานที่แห่งนั้น ถูกปกครองโดยห้าราชันย์ และมีกบั ดักอีกมากมายถูก
ซ่อนอยู่ และนัน่ เกือบทําให้ ชูเฟิ ง ได้ไปเข้าเฝ้ายมบาล ดังนั้น จื่อ หลิง
จึงยังไม่อาจไว้ใจสัตว์ยกั ษ์ตนนี้ได้

“ไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ข้ามีแผน” ชูเฟิ ง กล่าวพลางยิม้ บาง และหันหน้า


มุ่งสู่ ช้ นั ที่เจ็ด

โดยปกติน้ นั ชูเฟิ ง จะไม่ยอมเชื่อถือสัตว์ยกั ษ์โดยเด็ดขาด และ


เหตุผลที่ทาํ ไมเขาถึงได้เข้ามาช่วยเหลือสัตว์ยกั ษ์น้ นั เพราะว่าเขาได้
เตรี ยมการทุกอย่างมาอย่างดี

เมื่อเขาเดินผ่านเส้นทางที่ถูกสร้างขึ้นโดยผลึกวิญญาณ ที่ปลาย
เส้นทางนั้น เขาก็ได้พบกับกรงขังขนาดใหญ่ ที่ภายในมีสตั ว์ยกี ษ์ที่
ดวงตามีสีแดง ฟันที่แหลมคม และใบหูที่เรี ยวแหลม

จากสภาพในตอนนี้ สัตว์ยกั ษ์ตนนี้ดูอ่อนแรงลงมาก ออร่ ารอบกาย


ของมันแผ่วบางลง ราวกับว่ามันกําลังจะสิ้ นลมหายใจ แต่ ชูเฟิ ง รู ้ดีวา่
สัตว์ยกั ษ์ที่เขากําลังจะช่วยเหลือนั้น เป็ นอันตรายอย่างมาก

“ฮ่าๆ !! เจ้าหนุ่ม !! ในที่สุดเจ้าก็กลับมาหาข้า !!”

“ฮ่าๆ !! น่าประทับใจจริ งๆ !! ด้วยเวลาเพียงสองปี เต้าก็สามารถ


เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ฟ้าแล้ว”
“เจ้าได้ไปเอาขวานอสูรฟ้ามาแล้วซิ นะ ลูกศิษย์ท้ งั ห้าของข้า และ
เหล่าสมาชิกของหุบเขาพันปิ ศาจเป็ นเช่นไรบ้าง” สัตว์ยกั ษ์ตนนี้ดูมี
ชีวติ ชีวาขึ้นมาก หลัฝจากที่มนั พบ ชูเฟิ ง อีกครั้ง มันก็รัวคําถามมากมาย
ออกมาใส่ เขา

“ถึงแม้วา่ ด้วยคําแนะนําของเจ้า จะทําให้ขา้ เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลก


วิญญาณระดับชุดคลุมสี ฟ้าได้ แต่โดยรวมแล้ว ข้าก็ยงั เป็ นได้เพราะ
พึ่งพาความสามารถของข้าเอง”

“ในตอนนั้น เจ้าบอกข้าว่า ข้าจะพบกับบางสิ่ งบางอย่าง ที่สามารถ


เพิ่มอํานาจพลังวิญญาณของข้าได้ แต่เจ้าไม่ได้บอกว่า หุบเขาพันปิ ศาจ
นั้นเป็ นสถานที่อนั ตราย ข้าเกือบจะตายเพราะความประมาท” ใบหน้า
ของ ชูเฟิ ง เต็มไปด้วนความเย็นชา ขณะที่เขากล่าวออกมา
“ฮี่ฮี่ !! ตอนนี้เจ้าก็ยงั คงปลอดภัยดี ถ้าในตอนนั้นข้าบอกเจ้าทุก
อย่าง มันจะมีประโยชน์อะไร ถึงอย่างไรตอนนี้เจ้าก็มาถึงจุดนี้แล้ว ก็
เท่ากับว่าข้าไม่กล่าวผิด”

“มา !! เร็ วเข้า !! ข้าจะสอนรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณแก่เจ้า ถ้าไม่


มีอะไรผิดพลาด ภายในสิ บวันข้าก็จะสามารถออกจากที่นี่ได้” สัตว์ยกั ษ
ยิม้ ออกมา ราวกับว่าการกระทําของมันไม่ผดิ แม้แต่นอ้ ย

“เจ้าจะให้ขา้ ปล่อยเจ้าออกมารึ เปล่า !! หากเจ้าต้องการเช่นนั้น เจ้า


ก็ตอ้ งเชื่อฟังข้า เพราะว่าข้ายังไม่ไว้ใจเจ้า” ชูเฟิ ง กล่าว

“โอ้ !! เจ้าหนุ่ม….เจ้าต้องการให้ขา้ เชื่อฟังเจ้าเช่นนั้นรึ !! ฮี่ฮี่ ได้


ซิ…….ตราบใดที่ขา้ สามารถออกจากที่นี่ได้ จะทําอะไร หรื อให้ขา้
เชื่อฟังอะไรข้าก็จะทํา” สัตว์ยกั ษ์ไม่ได้กล่าวปฏิเสธแต่อย่างใด แต่มนั
กลับถามต่อออกมาว่าต้องการให้มนั ทําอะไร
ชูเฟิ ง ไม่ได้กล่าวตอบ เขาวางฝ่ ามือของเขาลงบนพื้น พลันปรากฏ
ประตูออกมา จากนั้น ต้านต้าน ก็กา้ วออกมาจากประตูบานนั้น

“นี่มนั …….อสู รวิญญาณจากโลกวิญญาณอสู รฟ้า !!” เมื่อเห็น


ต้านต้าน ก้าวออกมานั้น ใบหน้าของสัตว์ยกั ษ์กเ็ ต็มไปด้วยความ
ประหลาดใจ มันกล่าวออกมาอีกว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้าได้ทาํ สัญญาณกับโลก
วิญญาณอสุ ราเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสามารถมาถึงสถานที่แห่งนี้ได้
ยอดเยีย่ มมากยอดเยีย่ มจริ งๆ”

“เฮ้ย !! เจ้าสัตว์ยกั ษ์ตวั น้อย เจ้าต้องการออกจากที่นี่เช่นนั้นรึ !! ถ้า


เจ้าต้องการก็ทาํ ตามทีขา้ บอก วางรู ปแบบเคลื่อนย้ายซะ” ในขณะที่ ต้าน
ต้าน กล่าว นางก็วาดนิ้วเป็ นรู ปแบบ พลันออร่ าพลังก็ปรากฏขึ้น

ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ก็ได้เริ่ มวางรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ


“ฮี่ฮี่ !! แม่นางน้อย เจ้าเข้าใจถึงรู ปแบบเคลื่อนย้ายอย่างแท้จริ ง
ตราบใดที่สีของรู ปแบบภายนอกและภายในตรงกัน กรงขังนี้กไ็ ม่อาจ
ปิ ดกั้นการเคลื่อนย้ายได้”

“แต่วตั ถุที่สามารถส่ งไปได้น้ นั มันค้องมีขนาดเล็กอย่างเช่นของ


กินเท่านั้น มันไม่อาจส่ งตัวข้าออกไปได้” สัตว์ยกั ษ์ ทําตามคําบอกของ
ต้านต้าน มันเริ่ มวางรู ปแบบเคลื่อนย้าย ขณะที่มนั ยิม้ อย่างเย้ยหยัน

“ใครบอกว่าข้าจะวางรู ปแบบเคลื่อนย้าย เพื่อส่ งตัวเจ้าออกมา ข้า


วางรู ปแบบนี้เพื่อส่ งบางอย่างไปให้เจ้ากิน”

ในขณะที่ ต้านต้าน กล่าวนั้น วัตถุสีดาํ ขนาดเท่าเล็บ ก็ปรากฏ


ออกมาบนฝ่ ามือของนาง วัตถุชิ้นนี้มีออร่ าพลังสี ดาํ แผ่ออกมา ดูราวกับ
วัตถุอนั ตราย
“แม่นางน้อย เจ้าไม่ได้ต้ งั ใจช่วยข้าจริ งๆ นี่ เจ้าจะให้ขา้ กินวัตถุที่มี
พิษเช่นนั้นรึ ” สัตว์ยกั ษ์กล่าวขณะที่มนั ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่บนใบหน้า
ของมันยังคงปรากฏรอยยิม้ อย่างไม่แยแส

“วัตถุชิ้นนี้ไม่ได้ทาํ อันตรายถึงชีวติ ของเข้า หากแต่เพียงมันเป็ น


วัตถุที่สามารถจํากัดความคิดของเจ้าได้ หากเจ้าคิดร้ายต่อ ชูเฟิ ง เจ้า
จะต้องได้รับความทรมาน แต่หากเจ้าไม่ได้คิดร้ายต่อเขา เจ้าก็จะไม่เป็ น
อะไร” ต้านต้าน กล่าว

“ฮี่ฮี่ เด็กน้อยทั้งสองคน ข้ารู ้วา่ พวกเจ้าไม่เชื่อใจข้า และข้าก็รู้วา่


เหตุใดพวกเจ้าต้องการให้ขา้ กินวัตถุชิ้นนั้น”

“แต่…..พวกเจ้ามีเหตุผลอะไรที่ขา้ จะต้องไว้ใจพวกเจ้า ในตอนนี้


ข้าก็สบายดี หากข้ากินวัตถุนนั่ เข้าไป ซึ่ งเจ้าบอกว่ามันไม่ป็นอันตรายถึง
ชีวติ ของข้า แต่จะจํากัดความคิดของข้า หากมันเป็ นวัตถุที่สามารถบังคับ
จิตใจของข้า ให้ขา้ ทําในสิ่ งที่ขา้ ไม่ตอ้ งการล่ะ !?” สัตว์ยกั ษ์ กล่าว
พลางขดริ มฝี ปาก

“เจ้าไม่มีทางเลือก หากเจ้าไม่วางรู ปแบบเคลื่อนย้าย เจ้าก็สามารถ


อยูใ่ นหอคอยอสู รฟ้านี้ได้ จนกว่าอายุขยั ของเจ้าจะสิ้ นสุ ดและตายลง”
ต้านต้าน กล่าวพลางหันหลังกลับ และกําลังจะจากไป เมื่อเห็นเช่นนั้น ชู
เฟิ ง ก็หยุดวางรู ปแบบเคลื่อนย้าย และกําลังจะจากไปเช่นกัน

“หยุดก่อน !! ข้ายอมแล้ว !!” ในขณะที่ ชูเฟิ ง และ ต้านต้าน กําลัง


จะจากไป เสี ยงของสัตว์ยกั ษ์กด็ งั ขึ้นมาจากด้านหลังของพวกเขา

เมื่อ ชูเฟิ ง หันหน้ากลับไปนั้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงอย่าง


รวดเร็ ว เพราะรู ปแบบเคลื่อนย้ายได้ถูกวางโดย ต้านต้าน อย่างรวดเร็ ว

รู ปแบบเคลื่อนย้าย เป็ นรู ปแบบที่ซบั ซ้อน และมีความยากในการ


วางอยูมาก แต่มนั กลับถูกวางออกมาอย่างง่ายดายโดยสัตว์ยกั ษ์
ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///
แปลโดยคุณ#Abhisit ReadMGA
บทที่ 469 – คําขอของ ชูเฟิ ง

“เจ้าหนุ่ม รี บวางรู ปแบบเคลื่อนย้าย และส่ งยาพิษนัน่ มาให้ขา้ ข้า


จะกินมัน” สัตว์ยกั ษ์ กล่าวพลางยิม้ บางๆ มันไม่ได้สนใจอีกแล้วว่า ยา
พิษนัน่ จะฆ่ามันหรื อเปล่า

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง จึงรี บวางรู ปแบบเคลื่อย้ายทันที ขณะที่เขา


กําลังง่วนอยูก่ บั การทํางานนั้น หัวใจของเขาก็สนั่ ระรัวด้วยความตื่นเต้น
เพราะรู ปแบบเคลื่อนย้ายนั้น ไม่ใช่รูปแบบที่ผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ
ระดับชุดคลุมสี ฟ้าจะทําได้

ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงเชื่ออย่างสนิทใจกับคํากล่าวของ ต้านต้าน ว่า สัตว์


ยักษ์น้ นั เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ม่วง

และผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ม่วงก็สามารถช่วยเหลือ


ซูรู่ และ ซูเหม่ย ได้ อีกทั้งยังอาจนะสามารถคือนขีพให้กบั ผูก้ ่อตั้งสํานัก
มังกรฟ้า นี่หมายความว่า การทํางานอย่างหนักของ ชูเฟิ ง จะไม่สูญเปล่า
อย่างแน่นอน

หลังจากเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชัว่ โมง ชูเฟิ ง ก็วางรู ปแบบเคลื่อนย้าย


เสร็ จสมบูรณ์ และส่ งยาพิษที่ ต้านต้าน เอาออกมาให้แก่สตั ว์ยกั ษ์
หลังจากนั้น ใบหน้าของ ชูเฟิ ง ก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ ว เพราะว่า เมื่อ
สัตว์ยกั ษ์กินยาพิษนัน่ เข้าไป มันกลับตะโกนออกมาว่า “อร่ อย !!” ด้วย
ใบหน้าที่ร่าเริ ง

“เอาล่ะ !! ข้าได้ทาํ ตามที่พวกเจ้าเรี ยกร้องแล้ว ดังนั้น พวกเจ้าก็ทาํ


ตามข้า เจ้าเปิ ดใช้งานรู ปแบบอํานานพลังวิญญาณ เพื่อประสานงาน
ร่ วมกับรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณของข้า หลังจากนี้สิบวัน ข้าก็จะ
สามาาถออกจากที่นี่ได้” สัตว์ยกั ษ์ กล่าวหลังจากกินยาพิษเข้าไป

“ผูอ้ าวุโส ข้ามีเรื่ องจะขอร้อง” ชูเฟิ ง กล่าว

“เจ้าหนุ่ม กล่าวความต้องการของเจ้าออกมา การที่เจ้าช่วยข้าให้


ได้รับอิสรภาพ เท่ากับว่าข้าเป็ นหนี้บุญคุณเจ้า หากเรื่ องที่เจ้าต้องการ ข้า
สามารถทํามันได้ ข้าก็จะทํามัน” สัตว์ยกั ษ์ กล่าวอย่างตรงไปตรงมา มัน
กล่าวออกมาพร้อมกับลูบไปที่หน้าอก และศรี ษะของมัน

หลังจากนั้น ชูเฟิ ง ก็กล่าวคําขอของเขาออกมา นัน่ คือการช่วยเหลือ


นิกายโลกวิญญาณให้ได้รับชัยชนะ และการช่วยเหลือ ซูรู่ และ ซูเหม่ย

ส่ วนเรื่ องช่วยเหลือ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า นั้น เนื่องจากเขา


ต้องการให้ ชูเฟิ ง ช่วยเหลือ ดังนั้น หากเขายังไม่ได้อนุญาต ชูเฟิ ง จึง
ไม่ได้กล่าวขอร้องออกไป
สัตว์ยกั ษ์ได้ตอบตกลง ชูเฟิ ง อย่างไม่ลงั เล นี่นทําให้ ชูเฟิ ง มี
ความรู ้สึกที่ดีต่อสัตว์ยกั ษ์มากขึ้น

หลังจากได้รับคํายืนยันแล้วนั้น ชูเฟิ ง จึงเปิ ดการทํางานรู ปแบบ


อํานาจพลังวิญญาณของเขา เพื่อประสานงานกับรู ปแบบอํานานพลัง
วิญญาณของสัตว์ยกั ษ์ มันยังคงต้องใบ้เวลาอย่างมมกในความสําเร็ จ
ระยะสั้น แต่มากสึ ดก็ไม่เกินสิ บวันเท่านั้น

ความจริ งนั้น เมื่อเทียบเวบาที่สตั ว์ยกั ษ์ถูกขังในนี้กว่าร้อยปี เวบา


แค่สิบวันนั้น ไม่ได้มากมายสําหรับมันแม้แต่นอ้ ย

แต่ในขณะนี้ ได้เกิดสงครามระหว่างสองมหาอํานาจ มันเป็ น


สงครามที่สามาาถทําให้ท้ ฝั โลกต้องสัน่ สะเทือน ผลแพ้ชนะ อาจจะ
ปรากฏได้ภายในชัว่ พริ บตาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม โชคยังดีที่ อัจฉริ ยะทั้งสองของสองมหาอํานาจ คือ
เจี่ย ฉือ และ กู๋ เทียนเซิน ไม่ได้ทุ่มพลังทั้งหมดลงไปในสงคราม พวก
เขายังคงเฝ้ามองเหล่าทายาทของพวกเขาเข้าหํ้าหัน่ กัน

ในทุกๆ ครั้งที่เหล่าทายาทของพวกเขาไม่อาจต้านรับได้ และต้อง


ล่าถอยเข้าสู่ อนั ตราย พวกเขาทั้งสองคนจะกระจายอํานาจพลังของพวก
เขาเข้าช่วยเหลือ และหยุดการต่อสู ้ เหตุน้ ีเองจึงทําให้ผทู ้ ี่ตายลงมีจาํ นวน
น้อยอย่างมาก

ในเวลาเดียวกันนั้น พวกเขาก็ทาํ ให้ผคู ้ นมากมายให้ความเคารพนับ


ถือมากขึ้น ไม่เพียงแต่คฝามแข็งแกร่ งของพวกเขา ที่สามารถบดขยี้ศตั รู
ได้อย่างราบคาบ แต่พวกเขายังสามารถปกป้องคนของตนเองได้อย่าง
ยอดเยีย่ ม ซึ่งนี่ไม่ใบ่สิ่งที่คนทัว่ ไปจะสามารถทําได้
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สงครามครั้งนี้ จึงไม่อาจเรี ยกว่าสงคราม
ได้เต็มปากนัก เนื่องด้วยจํานวนคนที่ลม้ ตาม และอาคารที่พงั ทลาย หรื อ
แม้แต่พ้ืนที่ของสงครามนั้นน้อยมาก

แต่สถานการณ์เช่นนี้กไ็ ม่อาจคงอยูไ่ ด้นานนัก เพราะด้วยประสม


การณ์ทางการสงครามของ กู๋ เทียนเซิ น นั้นน้อยกว่า จึงทําให้นิกายโลก
วิญญาณเริ่ มจะได้รับผลเสี ยเพิม่ มากขึ้น

***** ตูมมมมม *****

ในขณะนั้น ได้มีระเบิดเกิดขึ้นกลางท้องฟ้ายามราตรี มันสว่างจ้า


จนทําให้พ้ืนดินที่มืดมิดกลับมาสว่างอย่างชัดเจน

ในเวลาเดียวกันกับที่มีเสี ยฝระเบิดดังขั้นนั้น ได้มวั ตั ถุบางอย่างตก


ลงมาจากท้องฟ้า กระแทกเข้ากับพื้นแผ่นดินจนสัน่ สะเทือน กลุ่มควัน
พลันลอยคละคลุง้ ขึ้นมาในทันที

“ท่านบรรพบุรุษ !!”

ในขณะนั้น สมาบิกของกิลด์โลกวิญญาณรู ้ได้ทนั ทีวา่ ผูท้ ี่สามารถ


ทําให้เกิดการระเบิดครั้งยิง่ ใหญ่น้ ี ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสองยอด
อัจฉริ ยะ เจี่ย ฉือ และ กู๋ เทียนเซิ น และคนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าก็คือ กู๋
เทียนเซิน

“ไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ข้าไม่เป็ นไร !!”

กู๋ เทียนเซิน ลุกขึ้นยืน และกล่าวออกมาอย่าราบเรี ยบ จากนั้นเขาก็


กลายเป็ นลําแสง พุง่ ทะยานขึ้นไปในท้องฟ้า และหยุดอยูก่ ลางอากาศ
กู๋ เทียนเซิน ในขณะนั้น เสื้ อผ้าของเขายังคงขาวสะอาด ไม่มีแม้แต่
ไรฝุ่ นที่จบั ตามเสื้ อผ้า อีกทั้งไม่มีแม้แต่ร่องรอยของอาการบาดเจ็บ
ปรากฏออกมาแม้แต่นอ้ ย

เมื่อเห็น กู๋ เทียนเซิน ไม่มีอะไรผิดปกติ สมาขิกของนิกายโลก


วิญญาณก็พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะ กู๋ เทียนเซิ น คือ
กําลังหลักของพวกเขา ภายใต้สงครามในหลายวันที่ผา่ นมานั้น พวกเขา
รอดมาได้เพรา กู๋ เทียนเซิน หากเกิดอะไรขึ้นกับเขา แน่นอนว่าทุกคนที่
เป็ นสมาชิกของนิกายโลกวิญญาณจะต้องตายอย่างแน่นอน

เมื่อเทียบความผ่อนคลายในจิตใจของสมาชิกนิกายโลกวิญญาณ
แล้วนั้น ผูน้ าํ นิกายโลกวิญญาณคนปั จจุบนั และเหล่าผูอ้ าวุโสกลับมี
ความวิตกกังวลอยูภ่ ายในหัวใจของพวกเขา

เพราะพวกเขารู ้ดีวา่ ออร่ าของ กู๋ เทียนเซิ น นั้น อ่อนแรงลงไป มัน


บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า เขากําลังได้รับบาดเจ็บ และกําลังได้รับความ
ทรมานจากบาดแผลภายในร่ างกายของเขา ที่เขาต้องแสร้งทําเป็ นไม่มี
อะไรนั้น เพราะว่าเขาไม่ตอ้ งการให้เหล่าวสมาขิกของนิกายโลก
วิญญาณต้องเสี ยขวัญกําลังใจไป สุ ดท้าย ถ้าพวกเขาสามารถรับรู ้ได้ แล้ว
ทําไม เจี่ย ฉือ ถึงจะไม่สามารถรับรู ้ได้

“กู๋ เทียนเซิน เจ้าอ่อนแอลงไปนะ ในคืนนี้ นิกายโลกวิญญาณ


จะต้องถูกทําลาย แม้แต่เจ้าก็ไม่อาจรอดพ้นคืนนี้ไปได้” เจี่ย ฉื อ หัวเราะ
ออกมาเสี ยงดัง ด้วยความเย้ยหยัน

“เจี่ย ฉือ อย่าได้ลาํ พองมากไปนัก ตราบใดที่ขา้ กู๋ เทียนเซิ น ยังอยู่


ที่นี่ ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทําอะไรกับนิกายโลกวิญญาณของข้าอย่าง
เด็ดขาด”

กู๋ เทียนเซิน สู ดหายใจเข้าอย่างเยือกเย็น พร้อมกับปลดปล่อยพลัง


ขั้นแดนสวรรค์ออกมา พลันบรรยากาศรอบตัวของเขาก็บิดตัวอย่าง
รุ นแรง จนในที่สุดก็แตกออก จนเกิดเสี ยงระเบิดดังขึ้น
จากนั้นร่ างกายของ กู๋ เทียนเซิ น ก็กลายเป็ นประกายแสง และพุง
เข้าใส่ เจี่ย ฉือ ราวกับดาวตกสี แดง

“น่าเสี ยดาย ถึงแม้วา่ เจ้าจะทุ่มพละงทั้งหมดโจมตีขา้ แต่เจ้าก็ไม่


อาจอําชนะข้าได้” อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ กู๋ เทียนเซิ น พุง่ โจมตีใส่ เจี่ย
ฉือ อย่างรวดเร็ วนั้น เจี่ย ฉือ กลับไม่มีได้มีความหวาดกลัวแม้แต่นอ้ ย
บนใบหน้าของเขายังคงประดับไผด้วยรอยยิม้ เย้ยหยันอย่างเด่นชัด

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////
แปลโดยคุณ#Abhisit
บทที่ 470 - ข้าคือผูท้ ี่จะปลิดชีวติ เจ้า

ในตอนนั้น เจีย ฉือก็จดั เต็มกําลัง


เขายืนอยูบ่ นอากาศเหนือจุดเดิมที่เขาอยู่ จากนั้นลมรอบๆตัวเชาเริ่ มเกิด
การแปรปรวนอย่างหนัก พื้นดินแถวนั้นเรื่ มยุบและเกิดรอยแยก พลัง
สวรรค์ที่ไร้รูปร่ างของเขานั้นเริ่ มมีการแปรเปลี่ยนเป็ นพลังงานที่มี
รู ปร่ างและปรากฏรอบๆตัวเขา

ในตอนแรก พลังสวรรค์ของเขานั้นเหมือนกับนํ้าวนที่หมุนอยูร่ อบๆตัว


เขาด้วยพลังของลม หลังจากนั้นพลังสวรรค์น้ นั ก็เปลี่ยนรู ปร่ างเป็ น
มังกรแล้วพุง่ เข้าไปโจมตี กู่ เทียนเฉิ นทันที

*ตูม *

ทั้ง 2 ปะทะกันทําให้เกิดแรงระเบิดที่รุนแรงขึ้น แม้แต่เจีย ฉื อ ก็ยงั ไม่


สามารถที่จะต้านทานแรงระเบิดนี้ได้ เขาถูกกระแทกลอยไปหลายก้าว
หน้าของเขาเริ่ มซีดขาว และมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากเขาเล็กน้อย
ทางด้านกู่ เทียนเฉินนั้น เขากระอักเลือดออกมาคํานึง เสื้ อสี ขาวไร้ฝนุ่
ของเขาตอนนี้เลอะเลือดที่กระเด็นออกมาจากเขา กลิ่นอายของเขา
ในตอนนี้ อ่อนแอลงอย่างมากเหมือน เขาล้มลงบนพื้นดินดุจว่าวที่สาย
ขาดร่ วงหล่นลงจากท้องฟ้า ร่ างกายของเขานั้นบาดเจ็บสาหัส และ เขา
นั้นไม่สามารถสู ต้ ่อได้ไหว

“ท่านบรรพบุรุษ!” เมื่อเห็นภาพนั้น หน้าของประมุขและผู ้


อาวุโสจากนิกายโลกวิญญาณก็เปลี่ยนทันที พวกเขารี บบิน ไปยัง กู่
เทียนเฉิน

ในตอนนั้น เจีย ฉือ รี บเช็ดเลือดที่มุมปาก และ สะบัดแขนเสื้ อของเขา


และนัน่ ทําให้เกิดแรงระเบิดออกมา

*ปัง ปัง ปัง ปัง *


“อ๊าค~~~~~”

ผูอ้ าวุโสและประมุขของนิกายโลกวิญญาณ ที่อยู๋ใกล้ กู่ เทียนเฉิ น นั้นถูก


พลังของเจีย ฉือ ทําให้พวกเขากระอักเลือดและกระเด็นไป พวกเขา
บาดเจ็บสาหัสแต่ไม่มีใครถึงตาย

หลังจากนั้นเขาก็ พลิกฝ่ ามือของเขาและตอนนั้นก็เกิดพลังและดึงร่ าง


ของกู่ เทียนเฉิน เขามา

เมื่อกู่ เทียนเฉิน เข้ามาใกล้เขาแล้ว เจีย ฉื อก็ใช้มือของเขาจับตัว กู่ เทียน


เฉิน และยกขึ้น ท่ามกลางสายตาของผูค้ น

“ชูเฟิ ง!!”
“ห๊ะ ชูเฟิ ง ไหน ชูเฟิ ง!!”

“ชูเฟิ ง โผล่หวั ออกมาซะ มิเช่นนั้น ข้าจะฆ่า กู่ เทียนเฉิ นซะ!”

หลังจากพูด เจีย ฉือ ก็จบั แขน กู่ เทียนเฉิ น และดึงทําให้แขนของกู่ เทียน


เฉิน ขาดออกพร้อมกับเลือดที่สาดกระเด็น

“ไม่นะ” ในตอนนั้น คนของนิกายโลกวิญญาณต่างตกใจและ


ตะโกนออกมาเสี ยงดัง

“ฮ่าฮ่าฮ่า ชูเฟิ งเจ้าขี้ขลาด เจ้ากล้าออกมาหรื อไม่?”


“ถ้าอย่างนั้นจงจําไว้ ว่าวันนี้ ทุกคนตายก็เพราะเจ้า!”

เจีย ฉือ สร้างความสิ้ นหวังให้กบั สมาคมโลกวิญญาณ อีกครั้งด้วยการ


ดึงแขนอีกข้างของกู่ เทียนเฉินขาดออกมา

เจีย ฉือนั้นไร้ความปราณี หลังจากเรี ยกชูเฟิ ง เขาก็ดึงแขนของกู่ เทียน


เฉินออกมา และสุ ดท้ายเขาก็ดึง แขน ขา ของกู่ เทียนเฉิ น ขาดทั้งหมด

“ไม่ได้โปรด ปล่อยเขาไปเถิด”

“ท่าน เจีย ฉือ พวกเราขอล่ะ อย่างทํากับท่านบรรพบุรุษของเรา


เช่นนี้เลย”
ในตอนนั้น คนของนิกายโลกวิญญาณนั้นต่างสิ้ นหวัง พวกเขาร้องไห้
และ ตะโกนขอความเห็นใจ ไม่ใช่แค่ผหู ้ ญิงแม้แต่ ผูอ้ าวุโสตอนนี้กม็ ี
นํ้าตาเต็มใบหน้าเช่นกัน

พวกเขาไม่สามารถรับได้ พวกเขาไม่สามารถทนให้บรรพุบุรษของตน
ถูกทรมานเช่นนี้ได้ อายุของเขานั้นก็มากเต็มทีแล้ว เขาต้องทนรับ
บาดแผลจากการถูกฉีกร่ างออก และแม้เขาตาย ศพของเขานั้นก็ไม่
สามารถเรี ยกว่าสมบูรณ์ได้ ทําให้พวกไม่สามารถทนรับที่ผทู ้ ี่มีชื่อเสี ยง
ของฝ่ ายตนถูกกระทําเช่นนี้ได้

พวกเขาไม่สามารถทําอะไรได้ ไม่มีใครที่จะมีพลังพอที่จะหยุด เจีย ฉื อ

เจีย ฉือ นั้นยังไม่ฆ่าในทันที เขาจงใจให้คนจากนิกายโลกวิญญาณเห็น


ภาพเหล่านี้
ต้องการให้เห็น กู่ เทียนเฉินตายด้วยมือของเขา และสภาพที่น่าเวทนา
ของกู่ เทียนเฉิน ก่อนตาย

เพราะมันจะทําให้พวกเขาเจ็บปวดใจกันเป็ นอย่างมาก

“กู่ เทียนเฉิน เอ๊ย ไม่ใช่วา่ ข้า เจีย ฉื อนั้น ไร้หวั ใจหรอกนะ แต่
เพราะ คนรุ่ นเยาว์ของนิกายเจ้ามันใช้การไม่ได้ต่างหากล่ะ.”

“ถ้าชูเฟิ ง กล้าโผล่หวั ออกมา ในวันนี้เจ้าก็อาจจะไม่ตอ้ งตาย แต่


น่าเสี ยใจ เขาหนีไป และทิ้งเจ้าไว้.”

“เพราะอย่างนั้น เจ้าจะโทษข้าไม่ได้นะ ถ้าเจ้าต้องการจะโทษ


ใคร เจ้าต้องไปโทษชูเฟิ งนู่น.” เจีย ฉื อ จับหัวของ กู่ เทียนเฉิ นขึ้น มา
และต้องการจะปลิดชีวติ เขา
“เจีย ฉือ ถ้าเจ้าต้องการจะฆ่าข้า ก็รีบซะ อย่าหายใจทิ้งเสี ยเปล่า.”

“แม้เจ้า จะฆ่าข้าและทําลายนิกายโลกวิญญาณของข้า แต่รุ่นเยาว์


ของนิกายข้ายังคู่อยู่ ดังนั้นมันยังมีโอกาส ที่นายของข้าจะกลับมารุ่ งเรื อง
อีกครั้ง.”

“ข้าเชื่อว่าศิษย์ที่ โดดเด่นเช่นชูเฟิ งเป็ นผูก้ ่อตั้งล่ะก็ นิกายของข้า


นั้น จะกลับสู่ ความรุ่ งเรื่ องอีกครั้ง.”

“เขาจะก้าวข้ามข้า และผูอ้ าวุโสจากนิกายของข้า จากนั้นนิกาย


โลกวิญญาณของข้าจะไปสู่ จุดสู งสุ ดได้เพราะเขา เขาจะเป็ นคนที่ ทําลาย
ตระกูล เจีย ของเจ้า เขาคือคนที่จะฆ่าทุกคน ที่ขา้ มาบุกรุ กนิกายโลก
วิญญาณของข้า และเขาคือคนที่จะมาแก้แค้นให้กบั พวกข้า.”
“ถึงเวลานั้น ตระกูลเจียของเจ้าก็จะถึงจุดจบ และเจ้าเจีย ฉื อ
แม้แต่เจ้าเองก็ไม่มีพลังพอที่จะเปลี่ยนมันได้”

แม้ร่างกายของกู่ เทียนเฉินนั้น จะอิดโรยและไร้เรี่ ยวแรงแล้ว แต่เขานั้น


ก็ไม่ยอ่ ท้อแม้เผชิญกับความตาย การกระทําของเขาในตอนนี้น้ นั บ่ง
บอกให้รู้ถึงความสู งส่ งของเขา

“บัดซบ กู่ เทียนเฉิน ใกล้ตายอยูแ่ ล้วยังจะกล้าปากดีอีกนะ.”

“ไม่ตอ้ งกังวล ไม่วา่ จะเป็ นชูเฟิ ง หรื อเด็กจากนิกายเจ้า พวกเขา


ต้องตายด้วยมือข้า เจีย ฉือ แน่นอน.”

“ข้า เจีย ฉือ จะไม่ปล่อยให้ใครหนีรอดได้แม้แต่คนเดียว เจ้าก็


เตรี ยมไปพบเขาในนรกเสี ยเถิด.” หลังจากได้ยนิ กู่ เทียนเฉิ น พูดนั้น ใบ
หน้าเจีย ฉือ ก็เปลี่ยนทันที และพูดออกมาและเมื่อเขาพูดจบ เขาก็จะบีบ
หัวของกู่ เทียนเฉินทันที

*ตูม *

แต่ในเวลานั้น ก็มีเสี ยงระเบิดดังขึ้นมาจากทาง ที่ต้ งั ของนิกายโลก


วิญญาณ และในเวลาเดียวกัน ก็มีกลิ่นอายนับไม่ถว้ นถูกระเบิดออกมา
เช่นกัน และแพร่ กระจายไปทัว่ พื้นที่น้ นั ทันที

ในตอนนั้น ใบหน้าของผูค้ นเปลี่ยนแปลงอย่ารวดเร็ ว เพราะพวกเขา


ตกใจในสิ่ งที่เกิดขึ้นเพราะ มีพลังที่น่าเกรงขามอย่างมากมาสัมผัสตัว
พวกเขา ไม่ใช่แค่คนที่อยูใ่ นระดับแก่นแท้วญ ิ ญาณ หรื ออาณาจักร
สวรรค์ ทุกคนต่างตกอยูภ่ ายใต้กลิ่นอายนั้น และไม่สามารถขยับได้
แม้แต่นอ้ ย
ในความจริ งแล้ว แม้แต่ เจีย ฉื อ ก็ตกอยูภ่ ายใต้กลิ่นอายนั้นเช่นกัน มัน
แข็งแกร่ งมากแม้แต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

“ข้าไม่คิดว่าจะมีท่านผูเ้ ชี่ยวชาญอยูแ่ ถวนี้สินะ หากข้ารบกวน


ท่าน ขอโปรดอภัยด้วย.”

เจีย ฉือ พูดออกมา เพราะเขารู ้วา่ เจ้าของพลังนี้น้ นั แข็งแกร่ ง และ


แข็งแกร่ งกว่าเขามากและเมื่อเทียบกับเขานั้นผูเ้ ชี่ยวชาญ คนนั้นจะ
สามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย

“ข้าคือยมทูต ที่จะมาปลิดชีวติ เจ้า!!” ในเวลานั้นมีเสี ยงดัง


ออกมา และดังก้องกัวาลไปทัว่ และราวกับจะฆ่าคนได้ ดังออกมาจาก
ทางนิกายโลกวิญญาณ

หลังจากได้ยนิ เสี ยงนั้น ทุกคนต่างตกใจอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่ เจีย ฉื อ


และ กู่ เทียนเฉิน ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก

เพราะเสี ยงที่เขาได้ยนิ นั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็ นคนที่ เจีย ฉื อเรี ยกหาอยู่


ตลอด เขาคือ ชูเฟิ ง นัน่ เอง

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///
แปลโดยท่าน#ฮาย
บทที่ 471 - อสู รราชันย์วานรปรากฏตัว

บรรยากาศของพื้นที่รอบๆนิกายโลกวิญญาณเปลี่ยนแปลงในทันที และ
ต่อมาเกิดพายุหมุนขึ้นในพื้นที่น้ นั และกลางมีร่าง3ร่ างอยูบ่ นพายุนน่ั
และสุ ดท้ายร่ าง ทั้ง 3 นั้นก็ปรากฏขึ้นในสายตาของผูค้ น

ทั้ง 3 นั้นไม่ใช่ใครอื่น พวกเขาคือ จื่อ หลิง ชูเฟิ ง และ สัตว์มหึ มาที่ถูก


ผนึกไว้ใน หอคอยอสู รฟ้านับ 100 ปี
หลังจากช่วย สัตว์มหึ มาออกมาแล้ว ชูเฟิ งก็ได้พดู คุยกับเขาเกี่ยวกับ ตัว
เขาและหุบเขาพันปี ศาจ นอกจากนี้เขายังพูดถึง เรื่ องที่ ขวานอสู รฟ้า
ยอมรับเขาเป็ นนายอีกด้วย

หลังจากได้ยนิ สัตว์มหึ มาก็อ้ ึงไปชัว่ ขณะ แต่ไม่ได้พดู อะไร เพียงบอก


ให้ชูเฟิ งรักษาขวานอสู รฟ้าให้ดีเพราะมันอาจเกี่ยวข้ออะไรกับหอคอย
อสู รฟ้าก็เป็ นได้

แต่หน้าเศร้าหลังจากสัตว์มหึ มานั้นเป็ นอิสระแล้ว มันก็ไม่สามารถช่วย


ให้ชูเฟิ งเข้าไปในหอคอยอสู รฟ้าในที่ที่ลึกกว่านี้ได้ มันได้เพียงแต่บอกชู
เฟิ งว่า ถ้าชูเฟิ งนั้นยังไม่ถึงระดับเจ้าสงครามก็ยงั ไม่ควรเข้าไปลึกกว่านี้

เพราะว่ารู ปแบบคุกวิญญาณนั้น เป็ นเพียงด่านแรกของหอคอยอสู รฟ้า


เท่านั้น และหลังจากผ่านเข้าไปได้แล้วพวกเขาไม่รู้วา่ มันจะมีอะไรอีก
หรื อไม่ แต่คิดว่ามันคงไม่ง่ายแน่นอนที่จะเข้าไป

ชูเฟิ งที่ไม่มีความรู ้อะไรเลยเมื่อเขาได้รู้เกี่ยวกับพลังที่อยูข่ า้ งในนั้น เขา


จึงไม่เข้าไป แต่อย่างไรก็ตามชูเฟิ ง ก็ได้รู้บางอย่างเกี่ยวกับสัตว์มหึ มาตน
นี้เช่นกัน

สัตว์มหึ มาตัวนี้มีอายุกว่า 200 ปี แล้ว เขาเคยเป็ น สัตว์มหึ มารู ปร่ าง


เป็ นลิงปกติ ในหุบเขาพันปี ศาจ แต่วา่ เขาดันไปได้รับสมบัติบางอย่างที่
ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดทองทิ้งไว้ ในหุบเขาพันปี ศาจ

และจากนั้น เขาก็เริ่ มที่จะบ่มเพาะตัวเองให้แข็งแกร่ งขึ้น ด้วยเทคนิค


พิเศษ และมันก็ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นต่อตัวเขา และเพิ่มพลัง
ให้กบั เขา เขาจึงกลายเป็ นราชาสัตว์มหึ มาของหุบเขาพันปี ศาจ และผูค้ น
ต่างเรี ยกเขาว่า อสูรราชันย์วานร
เพราะจิตใจของอสู รราชันย์วานรนั้นไม่ได้ดาํ มืดและชัว่ ร้าย มันได้บ่ม
เพาะตนเองตั้งแต่เช้ายันคํ่าและพยายามอย่างหนัก มันจึงได้เป็ นสัตว์ที่ผู ้
เชื่อมต่อชุดทองลึกลับถูกใจ ดังนั้นผูเ้ ชื่อมต่อชุดทองจึงมอบสติปัญญา
ให้กบั มันและแนะแนวทางให้มนั ฝึ ก นอกจากนี้ยงั ถ่ายพลังวิญญาณให้
มันจนมันกลายเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณอีกด้วย

หลังจากได้รับการแนะนําของ ผูเ้ ชื่อมต่อชุดทอง เจ้าลิงก็ไปพบขวาน


อสู รฟ้าและกลายเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณที่แข็งแกร่ ง แต่น่าเศร้านักที่
ขวานสอสู รฟ้าไม่ยอมรับมันเป็ นเจ้านาย

ผูเ้ ชื่อมต่อชุดทองนั้นไม่ได้พดู อะไรเกี่ยวกับขวานอสู รฟ้า และไม่ได้


ถ่ายทอดอะไรให้กบั อสู รราชันย์วานรอีกเลย

ส่ วนเจ้า 5 ราชันย์ที่อยูใ่ นหุบเขาพันปี ศาจนัน่ คือศิษย์ของอสู รราชันย์


วานร พวกมันนั้นมีสายเลือดพิเศษและความแข็งแกร่ งของพวกมันนั้น
เกิดจากการชี้แนะและฝึ กฝนของอสู รราชันย์วานร
แต่มีอยู๋วนั หนึ่ง ผูเ้ ชื่อมต่อชุดทองก็ปรากฏตัวอีกครั้ง และบอกว่าเขานั้น
ได้ทิ้งจิตสํานึกไว้ที่หุบเขาพันปี ศาจแต่มนั อยูไ่ ด้ไม่นานนัก แต่กน็ าน
จนกว่าจะมีคนรับความต้องการสุ ดท้ายของเขาไป

อสู รราชันย์วานรนั้นฉลาดมาก เขาไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับความต้องการ


สุ ดท้ายที่เขาทิ้งไว้ในหุบเขาพันปี ศาจ ซึ่ งนัน่ มันทําให้ ผูเ้ ชื่อมต่อชุดทอง
พอใจมาก

ดังนั้นเขาจึงบอกกับอสู รราชันย์วานรว่า ในหอคอยอสู รฟ้านั้นมีสมบัติ


อยู่ แต่ก่อนที่จะอยุใ่ นระดับเจ้าสงคราม ห้ามเข้าไปเด็ดขาด

แต่อสู รราชันย์วานรก็ไม่ได้สนใจคําแนะนํานัน่ เขาเข้ามาในอาณาจักร


วิญญาณเพราะเขาคิดว่าเขาแข็งแกร่ งพอแล้ว และด้วยความแข็งแกร่ ง
ของเขาก็ได้จดั การกับ กู่ เทียนเซิ น และ เจีย ฉื อไป และในที่สุดมันก็ถูก
ผนึกไว้ในหอคอยอสู รฟ้าถ้าชูเฟิ งไม่มาพบเสี ยก่อนมันอาจถูกผนึกจน
ตาย

“เจีย ฉือ กู่ เทียนเซิน เจ้ากระจอกทั้ง 2 เจ้ายังจําข้าได้หรื อไม่”

ในตอนนั้นอสู รราชันย์วานร ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับชูเฟิ ง และ จื่อ


หลิง และมองไปที่ ชายชราทั้ง 2

“ทะทะทะ ท่าน หรื อว่าท่านเป็ นอาจารย์ของชูเฟิ งอย่างนั้นหรื อ” เจีย ฉื อ


จําได้อย่างแน่นอนเพราะอสูรราชันย์วานรตนนี้น้ นั เป็ นคนทีจดั การเขา
อย่างง่ายดาย ในตอนนั้นใบหน้าเขาเปลี่ยนแปลงอย่างหนักและเกิดความ
กลัวในดวงตาของเขา มาดของราชาผูแ้ ข็งแกร่ งก่อนหน้านี้หายไป
ทั้งหมด

เจีย ฉิงเผิง และคนอื่นๆ ตั้งสมมุติฐานว่าอสู รราชันย์วานรคืออาจารย์ที่


อยูเ่ บื้องหลัง ของชูเฟิ ง และ หลังจากที่ เจีย ฉื อรู ้เกี่ยวกับชูเฟิ ง จึงเป็ น
ธรรมดาที่เขารู ้สึกว่าชูเฟิ งนั้นจะได้รับอะไรบางอย่างมาจากผูเ้ ชี่ยวชาญ
ตนนี้

ในตอนนี้ เขาเห็นอสู รราชันย์วานรและเห็นได้ชดั ว่ามันเป็ นอาจารย์ของ


ชูเฟิ งแน่นอน อย่างไรก็ตามเขาในตอนนี้เขารู ้สึกเพียงว่า หายนะมาถึง
แล้ว

“โอ้ อาจารย์ หรื อ ฮ่า ฮ่า …” อสู รราชันย์วานรมองไปที่ชูเฟิ ง


และหัวเราะเสี ยงดังจากนั้นก็หนั ไปที่เจีย ฉื อ และบรรพบุรุษของ
มหาอํานาจทั้ง 4 และพูดว่า “ เจ้านี่มวั่ นิ่มจริ งๆ เขาไม่ใช่ลูกศิษย์ขา้ เขา
เป็ นน้องชายข้าต่างหากโว้ย.”

“ข้าได้ยนิ มาว่า ตอนที่ขา้ ไม่อยูเ่ จ้าบังอาจมารังแกน้องข้าหลาย


ครั้งหลายครา วันนี้ ข้าพี่ชายที่แสนดีคนนี้จะมาคิดบัญชีท้ งั หมดนัน่ กับ
เจ้า.”
เสี ยงของ อสู รราชันย์วานรนั้น น่าเกรงขามมาก และเต็มไปด้วยเจตนา
ฆ่าและเมื่อคนจากตระกูลเจีย และ 4 มหาอํานาจได้ยนิ เสี ยงนั้นก็ถึงกับ
เข่าอ่อนทันที

“พี่ชาย เจีย ฉือ เจ้าสัตว์มหึ มานี่เป็ นใครกัน ทําไมเจ้าต้องไป


สุ ภาพกับมันด้วย” ในตอนนั้นบรรบุรุษ สํานักเทพอัคคีถามขึ้น

แม้วา่ พวกเขาจะอยูใ่ กล้กนั แต่พวกเขาก็ไม่รู้วา่ ทําไมเจีย ฉื อ ถึงต้องเกร็ ง


ด้วย ทั้งๆที่พวกเขาคิดว่าร่ างกายของ เจีย ฉื อน่าจะเป็ นอิสระแล้ว และ
พลังของเจียฉือนั้น อยูใ่ นระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์ ด้วยพลังระดับนั้น
ในทวีปเก้าอาณาจักรนี้นอกจากตระกูลเจียงแล้ว ก็มีไม่กี่คนที่สามารถ
ต่อกรกับเขาได้สามารถกล่าวได้วา่ เขาคือผูย้ งิ่ ใหญ่ในทวีปนี้

“ฮ่า ฮ่า เจ้าไม่รู้อย่างนั้นหรื อว่าเขาคือใคร ข้า กู่ เทียนเซิ น จะ


แถลงไขให้พวกเจ้าฟัง แหกหูฟังให้ดีดี เขาคือคนที่เอาชนะข้า และ เจีย
ฉือ ได้พร้อมๆกัน และยังเป็ น ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วงที่แข็งแกร่ ง
และยังมีพลังอยูใ่ นระดับ 7 อาณาจักสวรรค์ นี่คือเรื่ องเมื่อ 100 ปี
ก่อน.” ในตอนนั้น กู่ เทียนเฉิ น ก็พดู ขึ้น

แม้วา่ ขาและแขนของเขาจะถูกฉี กออกไปแล้ว แต่ใบหน้าของเขาก็เต็ม


ด้วยรอยยิม้ เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าชูเฟิ ง นั้นจะมีความสัมพันธ์ที่
พิเศษกับ อสู รราชันย์วานร เขาจึงรู ้ทนั ทีวา่ วันนี้ นิกายโลกวิญญาณของ
เขารอดแล้ว

“อะไรนะ มันเป็ นคนจัดการ เจีย ฉื อ และ กู่ เทียนเซิ น พร้อมกัน


เมื่อ 100 ปี ก่อนหรื อ และยังเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ 7 อาณาจักร
สวรรค์เมื่อ 100 ปี ก่อน โอ้ พระเจ้า ผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับระดับสุ ดยอดคน
นั้นแท้จริ งแล้วเป็ นสัตว์มหึ มาหรื อนี่”

“สวรรค์ ผูเ้ ชื่อมต่อชุดม่วง นั้นยังไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนใน


ทวีปเก้าอาณาจักร มันต้องเป็ นตํานานแน่นอน และ ตํานานบทนี้ถูก
เขียนขึ้นโดย สัตว์มหึ มาอย่างนั้นหรื อ”
หลังจากรู ้เรื่ องเกี่ยวกับอสู รราชันย์วานร ใบหน้าของทุกคนนั้นก็
เปลี่ยนแปลง ใบหน้าของพวกเขาราวกับเต็มไปด้วยขี้เถ้า

พวกเขานั้น เต็มไปด้วยความผิดหวังและความเศร้า เพราะพวกเขารู ้ดีวา่


วันนี้ หายนะมาถึงแล้ว ชีวติ ของพวกเขานั้นจะได้พกั แล้ว

ReadMGA,blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////////
ท่าน#Haridsada

A : บอกแล้วเด๋ วพี่ลิงออกมาตบ!!!

B : ใช่ๆ เตรี ยมตัวได้พวกมืง

A : มีเรื่ องกับใครไม่มี ดันมามีกบั ชูเฟิ ง

B : แล้วเรื่ องราวจะเปนเช่นไร ต้องรอดูตอนต่อไป . . . . . .


บทที่ 472 - ไม่รอด
เมื่ออสู รราชันย์วานรปรากฏออกมาผูค้ นที่พบเห็นต่างหวาดกลัวอย่าง
เห็นได้ชดั ขณะนั้นมันมอง กู๋ เทียนเซิ น และกล่าว " อย่างน้อยเจ้าก็ยงั
ไม่ได้ความจําเสื่ อม จริ งๆแล้วเจ้าน่าจะแกร่ งกว่า เจี่ย ฉื อ ดังนั้นการที่
น้องชูเฟิ งบอกให้ขา้ ช่วยเจ้า อย่าทําให้มนั สู ญเปล่า "

อสู รราชันย์วานร ขยายมือออกไปพร้อมกับใช้นิ้ววาดบนอากาศ ใน


พริ บตานั้น ออร่ ารู ปแบบฯสี ม่วงก็ปรากฏบนท้องฟ้าเป็ นทรงกลม

รู ปแบบฯสี ม่วงนั้นงดงามอย่างมาก ภายในวงกลมมีสญ ั ลักษณ์ปรากฏ


นับไม่ถว้ น โดยเฉพาะเมื่อมันอยูภ่ ายใต้แสงจันทรา จึงทําให้มนั งดงาม
จับใจ

หลังจากที่วางสัญลักษณ์เรี ยบร้อยอสู รราชันย์วานรก็ยกร่ างของ กู๋ เทียน


เซิน ลอยขึ้น พร้อมกับ มือ2ข้าง ขา2ข้าง ที่เจี่ย ฉื่ อกระชากออกมา จาก
นั้นกู๋ เทียนเซินก็ลอยเข้าไปในรู ปแบบฯสี ม่วง
พูดให้เข้าใจง่าย มันคือรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณในการรักษา ถึงแม้
ตอนนี้เขาจะเป็ นคนพิการไม่มีแขนมีขา แต่แขนและขาที่ถูกตัดออกไป
นั้น ยังไม่ถูกทําลาย เขาจึงนําชิ้นส่ วนเหล่านั้นกลับคืนที่เดิม ด้วยพลัง
ของผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดม่วง บนร่ างกายของ กู๋ เทียนเซิ น จึงกลับมาสมบูรณ์
เหมือนก่อน โดยไม่มีแม้แต่ร่องรอยของบาดแผล

" โห ~ ~ ~ "

เห็นฉากนั้น แม้แต่คนของนิกายโลกวิญญาณ ทีส่วนใหญ่ลว้ นแต่มี


อํานาจพลังวิญญาณไม่ธรรมดา ก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก สี หน้าของพวก
เขาดูค่อนข้างจะตกตะลึง จนพวกเขาไม่สามารถปิ ดปากที่อา้ ค้างอยู่

มันเป็ นเพราะ กู๋ เทียนเซิน ถูกตัดแขนและขาออกไป แล้วการที่พวกเขา


จะทําให้มนั คืนสู่ สภาพเดิมมันแทบจะเป็ นไปไม่ได้ นั้นเป็ นครั้งแรกที่
พวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่ งของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง

" ขอบคุณท่านอาวุโส ที่ช่วยชีวติ ข้า " ปั จจุบนั อสู รราชันย์


วานรได้รักษา กู๋ เทียนเซิน นัน่ ก็เท่ากับว่าเขานั้นได้ช่วยทุกคนจากนิกาย
โลกวิญญาณ ดังนั้นเมื่อร่ างกายของเขากลับมาเหมือนเดิม เขาจึงรี บเดิน
ลงมาจากอากาศ พร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อแสดงความเคารพต่ออสู ร
ราชันย์วานร

" อ่าา ไม่ตอ้ งขอบคุณข้า หากไม่ใช่เพราะน้อง ชูเฟิ งขอร้อง ข้า


ไม่มีวนั ที่จะยอมช่วยชีวติ เจ้า " แต่ใครจะคิดว่าอสู รราชันย์วานรจะไม่
ยอมไว้หน้า กู๋ เทียนเซิน อีกทั้งยังโบกมืออย่างไม่สนใจ

" นี่ . . . . . . " ตอนนั้น กู๋ เทียนเซิ น อึ้งนิดหน่อย จากนั้นเขารี บ


โยนสายตาไปที่ ชูเฟิ ง ที่อยูด่ า้ นหลังของอสู รราชันย์วานร
" อาวุโส โปรดลุกขึ้นเถิด " เห็นแบบนั้น ชูเฟิ งรี บเดินไป
ด้านหน้าแล้วดึง กู๋ เทียนเซิ นลุกขึ้น ในความเป็ นจริ งชูเฟิ งเองก็จนปั ญญา
เหมือนกัน เพราะเขาไม่เคยคิดว่าเมื่ออยูต่ ่อหน้าจื่อหลิง อสู รราชันย์วานร
จะอวดเบ่งใส่ กู๋ เทียนเซิน

" ชูเฟิ ง นิกายโลกวิญญาณได้คนหนุ่มอย่างเจ้ามา นับเป็ นวาสนา


ของเรายิง่ นัก "

เห็น ชูเฟิ ง ที่ทาํ แบบนั้น หน้าของ กู๋ เทียนเซิ น ก็เปรี่ ยมไปด้วยความสุ ข


และความผ่อนคลาย ถึงแม้วา่ เขาจะพึ่งออกมาจากการเก็บตัว ดังนั้นเขา
จึงไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของนิกายโลกวิญญาณมากสัก
เท่าไหร่ แต่เขาก็รู้สึกว่า ชูเฟิ ง นั้นนับเป็ นความหวังของนิกายโลก
วิญญาณ

เผชิญกับสถานการณ์แบบนั้น ชูเฟิ งก็อดไม่ได้ที่จะยิม้ ออกมาบนใบหน้า


และเขาก็ไม่รู้วา่ ควรตอบกลับไปยังไง เพราะในใจ ชูเฟิ ง เขาไม่ได้คิดว่า
ตัวเองเป็ นส่ วนหนึ่งของนิกายโลกวิญญาณ แม้วา่ นิกายโลกวิญญาณ
เมตตาเขา แต่ยงั ไงเขาก็ไม่ได้เป็ นสมาชิกของนิกายโลกวิญญาณอย่าง
เป็ นทางการ

ภายในหัวใจเขานั้น คิดเสมอว่าเขาคือศิษย์ของสํานักมังกรฟ้า นั้นคือ


เหตุผลที่ทาํ ไมชูเฟิ งถึงเรี ยก กู๋ เทียนเซิ น ว่า "อาวุโส" แทนคําว่า "บรรพ
บุรุษ"

" ตระกูลเจี่ย, สํานักหยวนกัง, สํานักเทพอัคคี, นิกายไป๋ , และ


ที่ราบหุบเขาไร้ใจ พวกเจ้าบังอาจใช้ประโยชน์จากคนหมู่มาก รังแก
น้องชายของข้า อีกทั้งยังติดภาพประกาศจับเขาทัว่ อาณาจักรทั้ง 9 เพื่อ
ต้องการแย่งสมบัติของเขา "

" วันนี้ขา้ จะให้พวกเจ้าได้ชดใช้สาํ หรับการกระทําของเจ้า ! ! !


เจี่ย ฉือ เจ้าเศษสวะ สารเลว ก่อนหน้านี้เจ้้าเรี ยกหาเขาตลอดเวลา เจ้าคง
อยากจะฉีกร่ างของเขามากนักสิ นะ ? ดี งั้นข้าจะให้เจ้าได้สมั ผัสว่า
ร่ างกายเวลาที่ถูกฉี กนั้นเป็ นยังไง "

ทันใดนั้น หลังจากที่เขาพูด อสู รราชันย์วานรก็เรี ยกประตูโลกวิญญาณ


ขึ้นมา เมื่อประตูโลกวิญญาณเปิ ดออก ทันใดนั้นก็มี ร่ างของอสู รโลก
วิญญาณค่อยๆเดินออกมา

" หว้าาา ! "

หลังจากที่ประตูโลกวิญญาณเปิ ด อสู รวิญญาณทั้ง 4 และ เจี่ย ฉื่ อ ก็เริ่ ม


ร้องครวญครางด้วยความขลาด ท่าทีที่มนั แสดงออกนั้นเห็นได้ชดั ว่าสุ ด
แสนจะหวาดกลัว

ถึงแม้วา่ พวกมันจะเป็ นอสู รวิญญาณเหมือนกัน แต่อสู รวิญญาณของ


อสู รราชันย์วานรที่เรี ยกออกมานั้น ร้ายกาจกว่ามากไม่วา่ จะแง่ของ
รู ปร่ างหรื อพลังอํานาจล้วนแล้วแต่แตกต่างกันอย่างสิ้ นเชิง
มันคืออสูรวิญญาณที่มีพลังวิญญารในอาณาจักรสวรรค์ระดับ 7 ไม่
เพียงแค่ดา้ นพลังวิญญาณแต่ประสิ ทธิภาพจากพลังของมันยังดูน่ากลัว
อย่างมาก

" ไม่เลวหนิ!!! อสู รวานรตนนี้สามารถทําพันธะสัญญากับอสู ร


โลกวิญญาณได้ดว้ ย " หลังจากที่เห็นอสู รวิญญาณปรากฏ ต้านต้าน ก็พดู
กับ ชูเฟิ ง ขณะที่ยมิ้ ออกมาด้วยความคาดไม่ถึง

" ต้านต้าน อสู รวิญญาณพวกนั้นมีอะไรพิเศษงั้นหรอ ? " ชูเฟิ ง


ถาม

" นี้คืออสู รวิญญาณที่มีสายเลือดชั้นสู ง มันสามารถกล่าวได้วา่


เป็ นอสู รวิญญาณระดับสู งของพิภพอสู ร ดังนั้น มันจึงแข็งแกร่ งกว่าหาก
เทียบกับอสู ญวิญญาณพิภพภูตพราย ซึ่ งต่อให้ เจี่ย ฉื่ อ กับ กู๋ เทียนเซิ น
เริ่ มมือกัน พวกเขาก็ไม่อาจเอาชนะอสู รวิญญาณของอสู รวานรได้ " ต้าน
ต้ายอธิบาย

" มันร้ายกาจถึงขนาดนั้นเลยหรอ? " หลังจากที่ได้คาํ พูดของ


ต้านต้าน ชูเฟิ งก็ตกใจอย่างมาก ซึ่ งความแข็งแกร่ งของอสู รราชันย์วานร
ได้แข็งแกร่ งเกินกว่าที่เขาคาดหวังไว้

" หว้าาา " ในเวลานั้นอสู รวิญญาณของ ราชันย์วานร ก็คาํ ราม


ออกมาเป็ นครั้งแรก มันทะยานไปบนอากาศ หลังจากนั้นไม่นานมันก็
เข้าประชิด เจี่ย ฉื่อ พร้อมกับอ้าปากกัดลงบนส่ วนหนึ่งของ ร่ างกาย เจี่ย
ฉื่อ

" อ้าาา ~~~~~~~~ " ในทันทีที่ เลือดสาดกระเด็น เจี่ย ฉื่ อ


ก็กรี ดร้องออกมาเหมือนหมาที่เห่าหอนยามเห็นผี ต้องบอกว่าร่ างกาย
ครึ่ งหนึ่งของเขานั้นหายไป แม้แต่ ตันเถียนของเขาก็ถูกทําลาย ซึ่ งพลัง
วิญญาณที่สะสมมามากกว่าร้อยปี บัดนี้สูญสิ้ นไปหมดแล้ว ซึ่ งเป็ นเรื่ อง
ยากมากที่เขาจะทนได้

" อ้า~~~~~~ " หลังจากนั้นอสู รวิญญาณก็อา้ ปากอีกครั้ง มัน


ไม่ได้กินเจี่ย ฉื่อ เข้าไป แต่มนั กัดที่แขนข้างหนึ่งของ เจี่ย ฉื่ อ หลังจาก
นั้นมันก็เคี้ยวเข้าไปในปาก จนแขนข้างนั้นเละเป็ นโจ๊ก

* พรึ บ * ในสถานการณ์แบบนั้น ร่ างกายของ เจีย ฉื่ อ ก็ระเบิดออกมา


เป็ นร่ างแบบโปร่ งใสพุง่ หนีข้ ึนไปที่ทอ้ งฟ้า นั้นก็คือ จิตสํานักของ เจี่ย
ฉื่อ นั้นเอง

***** หว้าาา ***** ในเวลาเดียวกับบที่จิตสํานักลอยออกไป อสู ร


วิญญาณก็สะบัดสายตาตามไปพร้อมกับระเบิดคลื่นเสี ยงที่ทรงพลัง
แพร่ กระจายในอากาศ จนทําให้จิตสํานึกของ เจี่ย ฉื่ อ ดับสลาย

จากนั้นมันก็อา้ ปากอีกครั้งพร้อมกับกลืนกินร่ างกายส่ วนที่เหลือของ เจี่ย


ฉื่อ

" ใครอยากจะเป็ นรายต่อไป !!!" ทันใดนั้นอสู รราชันย์วานรก็เห


วียงสายตาไปที่ สี่ บรรพบุรุษรุ่ นก่อนของสํานักหยวนกัง นิกายไป๋ สํานัก
เทพอัคคี และที่ราบหุบเขาไร้ใจ

" ขอท่านโปรดเมตตา ขอท่านโปรดเมตตา ! ! ! ที่เราโกรธแค้นชู


เฟิ ง เพราะเรานั้นไม่มีตา ขอท่านโปรดอภัยและไว้ชีวติ ของพวกเราสัก
ครั้ง "

เห็นสายตาที่จอ้ งมองของ อสู รราชันย์วานร ขาของบรรพบุรุษรุ่ นก่อน


ของสํานัก หยวนกัง อ่อนลงทันทีเขาคุกเข่าลงพร้อมกับร้องไห้ออ้ นวอน
ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยนํ้าตา ในช่วงเวลาของชีวติ ที่อยูร่ ะหว่างความ
เป็ นและความตาย เป็ นธรรมดาที่เขาจะไม่สนใจตําแหน่งของตัวเอง
" อาวุโสโปรดเมตตาด้วย!!! ข้าไม่ทราบจริ งๆว่าชูเฟิ งคือ
น้องชายของท่าน!!! หากข้ารู ้แม้ขา้ จะมีร้อยหัวข้าก็คงไม่กล้าที่จะคิดร้าย
ต่อ ชูเฟิ ง !!! "

" ที่เขากล่าวว่า คนไม่รู้ยอ่ มไม่ผดิ อา◌ุ วโสข้าอยากทราบว่าท่าน


พอจะให้โอกาสพวกเราได้กลับตัวใหม่อีกครั้ง ในวันข้างหน้าหากท่าน
ต้องการให้ขา้ เป็ นวัวเป็ นม้า ข้าก็ยนิ ดีทีจะทํา "

บรรพบุรุษรุ่ นก่อนของนิกายไป๋ ก็เริ่ มที่จะขอร้องอย่างหวาดกลัว ในตอน


นั้นแม้แต่ลาํ ไส้ของเขาก็ยงั ปั่นป่ วนจากความเสี ยใจ หากเขารู ้วา่ ชูเฟิ งมี
คนที่คอยสนับสนุนที่แข็็งแกร่ งแบบนี้อยูเ่ บื้องหลังต่อให้เขามีร้อยชีวติ
เขาก็ไม่กล้าทําร้ายชูเฟิ ง แต่บนโลกนี้ไม่มียาแก้ความเสี ยใจและในเวลานี้
มันก็สายเกินไปสําหรับการที่เขาจะต้องมานัง่ เสี ยใจ

ในเวลานั้นคับขันดูเหมือนว่าบรรพบุรุุษรุ่ นก่อนของสํานักเทพอัคคี จะมี


ท่าทีแข็งกร้าว ตอนนั้นเขายืนจ้องหน้าอย่างเย็นชากล่าวเหมือนกับว่าไม่
กลัวสิ่ งใด " หากเจ้าตองการฆ่าก็เชิญลงมือ ต่อให้อีกสิ บแปดปี ข้าก็จะ
พูดว่าสิ่ งที่ขา้ ทํานั้นถูกต้อง "

" มันเป็ นแค่สตั ว์เดรัจฉานที่ชว่ั ช้า คุม้ ค่าแล้วหรอที่พวกเราจะ


คุกเข่าอ้อนวอนขอร้องมัน "ในตอนนั้น บรรพบุรุษรุ่ นก่อนของที่ราบหุบ
เขาไร้ใจก็ยนื ต่อต้านท้าความตายโดยที่ไม่เอ่ยคําอ้อนวอน

" ฮ่าๆ เจ้าทั้งสองช่างน่าสนใจมากยิง่ นัก " อสู รราชันย์วานร


หัวเราะเสี ยงดังแม้แต่ทอ้ งฟ้ายังสัน่ สะท้าน หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยน
ท่าทางการแสดงออกพร้อมกับเปิ ดประตูโลกวิญญาณอีก 7 บานขึ้นมา
ด้านหลัง ในเวลาเดียวกันอสู รวิญญาณที่ทรงพลังอํานาจ 7 ตนก็กา้ ว
ออกมาจากประตูโลกวิญญาณ

อสู รวิญญาณทั้ง 7 ตน นั้นมากจากพิภพอสู ร นอกจากนี้ พลังวิญญาณ


ของพวกเขาทั้งหมดยังอยูใ่ นอาณาจักรสวรรค์ระดับ 7 และออร่ าของ
เขาก็ไม่ได้ดอ้ ยไปกว่าตัวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่ งอสู รวิญญาณทั้งหมด
ล้วนแต่มีสายเลือดระดับสู ง

หลังจากที่อสู รวิญญาณออกมา 8 ตน อสู รราชันย์วานรก็ช้ ีลงมาที่คน


พวกนั้นและออกคําสัง่ ด้วยเสี ยงที่ดงั กังวาล " ผูท้ ี่มารุ กรานที่สถานที่แห่ง
นี้พวกเจ้าจงกลืนกินพวกมันให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!!! "

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////

A : ตอนนี้มนั ยาวจังว่ะ . . . . .

B : เอ่อออ ไม่ม้ งั 44 ย่อหน้า . . . . .

A : ของวันนี้หมดซะแหละ คนอ่านจะค้างกันไม๊นะ ???

B : เด๋ วเราค่อยตามไปดูในคอมเม้น แต่บอกไว้เลยตอนต่อๆไปนั้น


สนุกมาก
บทที่ 473 - องค์จกั รพรรดิ
* * * * * โฮ่กกก ~~~~~~ * * * * *

หลังจากที่อสู รราชันย์วานรพูดจบ อสู รวิญญาณชั้นสู งทั้ง 8 จากพิภพ


อสู ร ก็ได้คาํ รามออกมาจากนั้นพวกมันก็จอ้ งมองลงมาจากท้องฟ้าร้อม
กับก้าวเท้าลงมาอย่างรวดเร็ ว ในขณะนั้นพวกมันเปิ ดปากที่ใหญ่โตไล่
สังหารผูเ้ ชี่ยวชาญจากตระกูลเจี่ย และ สี่ มหาอํานาจ จนกําลังพลของ
พวกนั้นล้มตายจํานวนมาก

เมื่อผูค้ นจากตระกูลเจี่ยและสี่ มหาอํานาจเห็นฉากนองเลือด พวกเขารี บ


หลับตาลงด้วยความหวาดกลัวอย่างหาใดเปรี ยบ
ในทางกลับกัน คนของนิกายโลกวิญญาณนั้นมีใบหน้าที่สะใจ
เหมือนกับว่าพวกเขาได้ระบายความแค้น โดยไม่มีแม้แต่เศษเสี้ ยวแห่ง
ความเห็นอกเห็นใจอยูบ่ นใบหน้าของพวกเขา อีกทั้งยังแอบเอาใจช่วย
ส่ งเสริ ม 8 อสู รวิญญาณให้รีบๆทําลายศัตรู ที่ยงิ่ ใหญ่ของพวกเขาให้สิ้น
ซาก

แต่กไ็ ม่มีใครกล้าที่จะยืน่ มาออกมาร่ วมสู ร้ บ เพราะพวกเขากลัวอสู ร


วิญญาณทั้ง 8 ตนอย่างมาก พวกเขากลัวลึกลงไปในจิตใจว่าในสนามรบ
แห่งนี้หากพวกเขาโดนลูกหลงจากอสู รวิญญาณ คงไม่จบที่แค่บาดเจ็บ
หากคิดดีๆมันได้ไม่คุม้ เสี ย

" ทุกคนโปรดยั้งมือเดี๋ยวนี้!!! "

.
ในช่วงเวลาที่สาํ คัญก็มีเสี ยงดังออกมาจากฟากฟ้าไกลอีก ที่มาพร้อมกับ
พลังอํานาจอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด
* โฮ่กกกก *

หลังจากได้เสี ยงนั้นดังขึ้น อสู รวิญญาณทั้งแปดก็คาํ รามออกมาเบาๆ


พร้อมกับก้าวถอยหลังกลับไปหา อสู รราชันย์วานร ขณะที่สายตาของ
พวกมันเต็มไปด้วยความกลัว ในขอบฟ้า ณ เวลานั้น สายตาของทุกคน
เหวีย่ งไปด้านที่มาของเสี ยง

*** ปึ้ ง ปึ้ ง ปึ้ ง ปึ้ ง ***

ในตอนนั้นก็มีเสี ยงระเบิดดังสนั้นจากขอบฟ้าทิศใต้ ในตอนนั้นมีรถศึก


สี ทองหลายคันปรากฏขึ้นมาในยามคํ่าคืนยิง่ กว่านั้นมันยังมุ่งหน้ามายัง
ทิศทางนิกายโลกวิญญาณด้วยความรวดเร็ ว

รถศึกนั้นถูกลากโดยสัตว์มหึ มา อาณาจักรสวรรค์ พวกเขาดูน่าเกรงขาม


ยิง่ ในเวลาราตรี รถศึกสี ทองเหล่านั้น ดูพลัง่ พราวและเปล่งประกายอย่าง
มาก

ดานข้างรถศึกสี ทองเต็มไปด้วยกําลังพลมากกว่าพันคน

คนเหล่านั้นทั้งหมดสวมเกราะสี ทองและขี่อาชาสี่ ขาที่สามารถบินได้


ภายในกองทัพมีธงสัญลักษณ์ต้ งั อยูบ่ นนั้นมีอกั ษรสองคํา ตัวใหญ่ปักไว้
ว่า " ราชวงศ์เจียง "

" ในที่สุดราชวงศ์เจียงก็ออกมาสิ นะ ? " ชูเฟิ งพึมพํากับตัวเองเมื่อ


เขาได้เห็นกองทัพของราชวงศ์เจียง

" แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง " จื่อ หลิง ที่ยนื อยู่


ข้างๆกล่าว

" แต่จากสิ่ งที่ขา้ เห็น นั้นถือว่าพวกเขามาได้ถูกจังหวะ " อสู รราชันย์


วานร หัวเราะขณะที่มอง ชูเฟิ ง และ จื่อหลิง จากนั้นก็เหวีย่ งสายตาไปที่
กองทัพราชวงศ์เจียง

ในตอนนั้นกองทัพราชวงศ์เจียงถูกจ้องมองโดยสายตาของผูค้ นนับไม่
ถ้วน ขณะที่หยุดอยูก่ ลางอากาศ พวกเขาไม่ได้หยุดอยูเ่ หนือนิกายโลก
วิญญาณ แต่อยูน่ อกเขตของนิกาย
" ผูน้ าํ ของตระกูลเจี่ยและนิกายโลกวิญญาณออกมานี่!!! "

ทันใดนั้นหลังจากที่กองทัพขนาดใหญ่หยุดก็มีเสี ยงดังระเบิดออกมา
เสี ยงที่ออกมานั้นเต็มไปด้วยพลังที่แข็งแกร่ งอย่างมาก มันเข้าโอบล้อม
พื้นที่โดยรอบ นอกจากอสู รราชันย์วานร ผูค้ นจากตระกูลเจี่ย และสี่
มหาอํานาจต่างถูกพัดไปด้วยแรงกดดัน

" นั้นองค์จกั รพรรดิ!!! เขาคือจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เจี่ยง!!! " ใน


ตอนนั้นอาวุโสระดับสู งของนิกายโลกวิญญาณขมวดคิว้ แน่นหลังจากที่
ได้ยนิ เสี ยง พวกเขาสามารถบอกได้เลยว่าที่มาของพลังนั้นคือจักรพรรดิ
แห่งราชวงศ์เจียง

" นั้นองค์จกั รพรรดิจริ งๆด้วย นี้มนั ช่างน่ายินดียง่ิ นัก ฮ่า ๆ ๆ " ใน


ตอนนั้นเทียบกับใบหน้าของอาวุโสจากนิกายโลกวิญญาณ คนจาก
ตระกูลเจี่ย และ สี่ มหาอํานาจต่างมีรอยยิม้ ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า
****พรึ บ**** ในเวลาเดียวกัน เจี่ย ฉิ งเผิง ก็โดดลอยไปยังทิศทางรถศึก
ที่มีองค์จกั รพรรดิประทับอยู่ อย่างเริ งร่ า

ประมุขนิกายโลกวิญญาณเองก็เช่นกัน เขารี บโดดลอยเข้าไปในรถศึกใน


ชัว่ พริ บตา

" พี่ใหญ่ ตอนนี้เราควรทํายังไง ? " ในตอนนั้น ชูเฟิ งถาม

" ไม่ตอ้ งกังวล มันก็คือกลุ่มของพวกขยะ ข้าจะดูสิวา่ พวกมันจะมา


ไม้ไหน " ราชันย์วานรยืนอยูบ่ นอากาศ ขณะที่ไร้ซ่ ึ งท่าทีตื่นตระหนก
เหมือนกับว่าไม่เห็นราชวงศ์เจียงอยูใ่ นสายตา

ผ่านไปไม่นาน ประตูที่ปิดก็เปิ ดออก ในตอนนั้นมีชายวัยกลางคนที่ท่า


น่าเกรงขาม สวมมงกุฏสี ทองไว้บนหัว บนร่ างกายของเขาเองก็เป็ นชุดสี
ทอง ขณะก้าวออกมา จากนั้น เจี่ย ฉิ งเผิง และ ประมุขนิกายโลกวิญญาณ
ก็ตามหลังเขาออกมาเช่นกัน

ผูช้ ายคนนั้นแข็งแกร่ งอย่างมาก แม้แต่พลังวิญญาณของ ชูเฟิ ง ก็ยงั ไม่


อาจตรวจสอบความแข็งแกร่ งของชายผูน้ ้ นั ได้ ดูแล้วเหมือนว่า เจี่ย ฉิ ง
เผิง และ ประมุขนิกายโลกวิญญาณ จะเคารพผูช้ ายคนนั้นอย่างมาก

ไม่ตอ้ งบอกชูเฟิ งก็รู้วา่ เขาคือผูป้ กครองอาณาจักรทั้ง 9 ผูน้ าํ ของราชวงศ์


เจียงคนปัจจุบนั
" ข้าน้อยคือจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เจียง ขอคารวะราชันย์วานร
และกู๋ เทียนเซิน " หลังจากที่จกั รพรรดิกา้ วเข้ามาในอาณาเขตของนิกาย
โลกวิญญาณ เขาก็ยมิ้ ออกมา ขณะที่ประสานมือโค้งตัวเล็กน้อย ทําความ
เคารพอสูรราชันย์วานรและกู๋ เทียนเซิ น

" โอ้ เจ้าหนุ่ม เจ้ารู ้จกั ข้าด้วยหรอ " อสู รราชันย์วานร หลี่ ตาลงเบาๆ
พร้อมกับปรากฏความประหลาดใจ

" อาวุโส เมื่อร้อยปี ก่อน ท่านทําให้ท้ งั ทวีปต่างตกตะลึง ในเวลานั้น


ข้าได้ไล่ถามเรื่ องราวของท่านกับอาวุโสของราชวงศ์เจียง ข้าจึงทราบ
ชื่อเสี ยงเรี ยงนามของท่าน "

" อาวุโส ข้าน้อยสามารถกล่าวได้วา่ เติบโตมาพร้อมกับเรื่ องราว


ความสําเร็ จของท่าน ข้าไม่เคยนึกเลยว่าท่านยังมีชีวตี และจะได้มาเห็น
ท่านด้วยตาคู่น้ ี นับว่าเป็ นเกียรติของข้าจริ งๆ " จักรพรรดิไม่มีท่าทียโส
โอหังใดๆ อาจบอกได้วา่ เขาเป็ นคนที่ถ่อมตัวมากๆเลยซะด้วยซํ้า

" องคฺ จ์ กั รพรรดิ ท่านกล่าวเกินไปแล้ว ข้า กู๋ เทียนเซิ น ขอคารวะ


ท่านองค์จกั รพรรดิ " แม้วา่ ในแง่ของอายุ เขาอยูเ่ หนือจักรพรรดิ แต่ใน
เรื่ องสถานะตําแหน่ง รวมทั้งความแข็งแกร่ งในปั จจุบนั เขานั้นยัง
ห่างไกลกับจักรพรรดิ แต่เมื่อจักรพรรดิทกั ทายเขาก่อน เขาจึงไม่กล้าที่
จะหยาบคาย

" เจ้าหนุ่ม เจ้าน่าสนใจเลยทีเดียว อีกทั้งยังรู ้จกั ทักทายผูท้ ี่อาวุโส


กว่า แต่ท้ งั ๆที่เจ้าเป็ นผูป้ กครองทั้ง 9 อาณาจักร กับไม่สนใจเรื่ องราว
ของยุทธภพ แม้แต่ลูกน้องที่ชวั่ ช้าของเจ้ากระทําความผิด เจ้ายังละเลย
หน้าที่ เจ้ารู ้ความผิดของตัวเองไม๊ ? " อสู รราชันย์วานรม้วนปากพร้อม
กับกล่าวว่าจักรพรรดิต่อหน้าผูค้ น
" เจ้าปี ศาจ ช่างกล้าอวดดีต่อหน้าองค์จกั รพรรดิ!!! เจ้าคงอยากตาย
สิ นะ!!! " เห็นเช่นนั้น เจี่ย ฉิ งเผิง ก็ต่อว่าอสู รราชันย์วานร เพื่อเอาหน้า
จากองค์จกั รพรรดิ

" หุบปากก!!! " คงไม่มีใครคิดว่าจักรพรรดิจะโกรธ จนถลึงตาใส่


เจี่ย ฉิงเผิง

" ข้าน้อยผืดไปแล้ว ! "

ตอนนั้น เจี่ย ฉิงเผิงกลัวอย่างมาก จนร่ างกายของเขาสัน่ ระรัว หลังจาก


นั้นเขาก็ถอยไปหนึ่งก้าว พร้อมกับก้มหัว โดยไม่กล้าพูดใดๆต่อ

" อาวุโส คําพูดของท่านถูกต้อง เหตุผลที่อาณาจักรทั้ง 9 ปั่ นปวน


เช่นนี้ มันคือความผิดของข้าที่ปล่อยปะละเลย "

" แต่ขา้ มีเรื่ องบางอย่างที่ตอ้ งทํา จึงเดินทางออกจากทวีปไปเวลา 2


ปี เมื่อกลับเข้ามายังอาณาจักรฮัน่ ข้าก็ทราบข่าวเรื่ องของสงครามที่ไม่
ควรจะเกิดขึ้น ข้าจึงรี บมุ่งหน้ามายังที่นี่เพื่อหยุดมัน แต่ขา้ ไม่คิดว่าจะมา
ช้าเกินไปหนึ่งก้าว "

" ตอนนี้ สิ่ งที่เกิดขึ้นกับอาวุโส เจี่ย ฉื่ อ ที่ถูกท่านฆ่าตาย ไม่วา่ ใครจะ


ผิดหรื อถูก ทุกคนก็ต่างได้รับความสู ญเสี ย "

" จากที่ขา้ เห็น มันยังไม่ได้ลุกลามเป็ นเรื อง้ร้ายแรง ในตอนนี้มนั ยัง


พอมีหนทางแก้ไข และข้าก็อยากขออะไรสักอย่าง ข้าอยากข้อให้เรื่ อง
ของวันนี้ผา่ นแล้วผ่านไปอย่าได้เก็บมาเจ็บแค้น ทุกคนคิดว่ายังไง ? "
จักรพรรดิกวาดสายตามองผูเ้ ชี่ยวชาญทุกคนที่เกี่ยวข้อง
" องค์จกั รพรรดิกล่าวได้ถูกต้อง พวกเรายินดีปฏิบตั ิตามที่ท่านเสนอ
" ในตอนนั้นเกือบจะทุกคนก้มตัวลงเพื่อแสดงความเคารพ แม้แต่ กู๋
เทียนเซินก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ

แต่ใครจะคิดว่าราชันย์วานรจะไม่เต็มใจยอมรับเรื่ องที่เสนอ ตอนนั้นเขา


เบิกตากว้าง อ้าปากตะโกนกล่าว " ไม่ !!! "
ReadMGA.blogspot.com
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////
A : เอาแล้วๆ พี่ลิงจะซัดราชวงศ์เจียงแล้ว

B : จะบ้าหรอ เราพวกเดียวกัน!!!

A : พวกเดียวกันบ้าไร ดูนิสยั ของพี่ลิงแล้ว แม่งถอดแบบมาจากชูเฟิ งไม่


มีผดิ
B : ก็จริ งว่าด้วยนิสยั ของพี่ลิง อาจจะเป็ นคนไม่ยอมใคร แต่ใช้วา่ จะเป็ น
คนที่ไร้เหตุผล อีกทั้งจักรพรรดิเองก็ยงั ถ่อมตัว ไม่อวดดี พวกเขาคงจะ
ตกลงกันได้

A : เออ งั้นมารอดูกนั เลยว่าใครจะถูกหรื อผิด

บทที่ 474 – สิ่ งที่มีมูลค่ามหาศาล

หลังจากที่ได้ยนิ คํากล่างเช่นนั้นออกจากปากของราชาวานรนั้น
ใบหน้าขอทุกคนในเหตุการณ์ต่างเต็มไปด้วยความตกตตะลึง ยกเว้น
เพียง ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง ใบหน้าของพวกเขายังคงประดับไปด้วยรอยยิม้
และสายตายังคงมองไปที่สถานการณ์ตรงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“ผูอ้ าวุโสกล่าวว่าเขาจะทําลายทุกๆ อย่าง ถ้าในแง่ของความอาวุโส


นั้น เขายังคงเป็ นหน้าใหม่ในรุ่ นผูอ้ าวุโส มันจะไม่มากไปหน่อยรึ สิ่ งทํี่า
พวกเราทํามาทั้งหมดจะไร้ความหมาย เพราะในตอนนี้ ชูเฟิ ง ยังคงมีชีวติ
อยูอ่ ย่างดี”
“มองกลับไปที่ เจี่ย ฉือ และเหล่าขุมอํานาจต่างๆ นั้น ในตอนนี้
พวกเขาก็ได้จ่ายค่าตอบแทน ที่พวกเขาสมควรจ่ายเป็ นที่เรี ยบร้อยแล้ว
ดังนั้น เรื่ องในครั้งนี้กค็ วรถึงคราวยุติสกั ที” องค์จกั รพรรดิ์ กล่าวพลาง
ยิม้ บาง เขาไม่ได้โกรธเลยแม้แต่นอ้ ย

เมื่อเห็นเช่นนั้น เจี่ย ชิงเผิง ผูน้ าํ นิกายโลกวิญญาณ และเหล่าผูค้ นม


มกมาย ต่างพากันตกใจอย่างมาก พวกเขาเข้าใจว่า ศักดิ์ศรี ขององค์
จักรพรรดิ์สูงค่า และเขาคงจะยอมตายมากกว่าที่จะยอมถอย

ใครจะไปคาดคิดกันว่า ในตอนนี้ องค์จกั รพรรดิ์จะยอมลดศักดิ์ศรี


ของเขาลง นัน่ ทําให้ภาพลักษณ์ขององค์จกั รพรรดิ์ในหัวใจของทุกคน
พังทลายลง

อย่างไรก็ตาม ราชาวานรนั้นแข็งแกร่ งอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่


องค์จกั รพรรพิ์ที่ปกครองทั้งเก้าอาณาจักรจะยอมถอยเช่นนี้
“ความแค้นทั้งหมดจะจบลงตรงนี้ใช่หรื อไม่ ในอนาคตจะไม่มีการ
เกิดภัยพิบตั ิที่ไม่สิ้นสุ ดใช่หรื อไม่”

“ข้าไม่ได้สนใจในสวะเหล่านี้ หากในอนาคตทายาทของข้า ถือ


กําเนิดขึ้นมา พวกเขาจะไม่ถูกจับเป็ นตัวประกันเพื่อขู่ขา้ ใช่หรื อไม่”

“หากในอนาคตทายาทของข้า ต้องพบเจอกับภัยพิบตั ิที่ไม่สิ้นสุ ด


จนต้องสู ญพันธุ์ไป รับรองได้เลยว่า พวกเจ้าจะได้เข้าไปนอนในโลง
พร้อมกับความยุติธรรม” ราชาวานร กล่างตอบอย่างเกรี้ ยวกราด

หลังจากที่ราชาวานรกล่าวนั้น ทุกคนต่างพากันตกตะลึง เพราะทุก


คนรู ้ดีวา่ ตระกูลเจี่ย และอีกสี่ มหาอํานาจ จะไม่ยอมเลิกลา ในอนาคต
พวกเขาจะต้องหาทางแก้แค้นอย่างแน่นอน
แต่องค์จกั รพรรดิ์ไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อเขาต้องเผชิญความกดดัน
ของราชาวานร เขากลับไม่ได้ใส่ ใจในคํากล่าวเหล่านั้นมากนัก เขายิม้
บางๆ และกล่าวออกมาว่า “ผูอ้ าวุโส ไม่ตอ้ งกังวลในเรื่ องนั้น”

“ถึงแม้ขา้ จะไม่ได้อยูย่ นื ยงคําฟ้า แต่ราชวงศ์เจียงของข้านั้น ก่อตั้ง


ขึ้นมาในเก้าอาณาจักรกว่าพันปี และข้าเชื่อมัน่ ว่า มันจะต้องคงอยู่
ต่อไป”

ั ญาได้วา่ ในอนาคต ไม่วา่ จะเป็ นพวก


“ในวันนี้ ข้าสามารถให้สญ
เขา หรื อเหล่าทายาทของพวกเขา จะไม่สามารถทําอันตรายเหล่าทายาท
ของท่าน ชูเฟิ ง และนิกายโลกวิญญาณได้”

“หากพวกเขาพผิดคําสัญญานี้ ไม่จาํ เป็ นต้องให้ถึงมือผูใ้ ด ราชวงศ์


เจียงจะเป็ นคนจัดการสังหารพวกเขาเอง”
“คํากล่าวของเจ้าฟังดูดี แต่มนั ก็ชดั เจนอยูแ่ ล้วว่า เจ้าได้เข้ากับฝ่ าย
ใด หากข้าตายลง ราชวงศ์เจียงของเจ้าคงร่ วมมือกับเหล่าทายาทของพวก
นั้น และเข้าโจมตีเหล่าทายาทของข้า หากเป็ นเช่นนั้น ข้าไม่ขาดทุนรึ ”
ราชาวานร กล่าวพลางขดริ มฝี ปาก ใบหน้าเปลี่ยนแปลง โดยที่ไม่อาจ
ยอมรับกับคําสัญญานั้นได้

“ผูอ้ าวุโส ถ้าท่านกล่าวเช่นนี้ ท่านต้องการสิ่ งใด เพื่อที่จะละเว้น


ชีวติ ของพวกเขา” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น องค์จกั รพรรดิ์ ก็กล่าวถามออกมา
ตรงๆ แก่ราชาวานร เพราะเขาต้องการให้เรื่ องราวจบด้วยความประณี
ประนอม

“เจ้าหนู ข้ารู ้วา่ มันเป็ นเรื่ องยากสําหรับเจ้า หากข้าทําลายพวกเขา


ทั้งหมด ที่มีประวัตศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี มันจะส่ งผลอย่างมากต่อ
เก้าอาณาจักรของเจ้า แต่ถึงอย่างไร คนทําผิดก็ตอ้ งได้รับโทษ”

“ดังนั้น ข้าก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล ข้าจะให้โอกาสแก่พวกเจ้า”


“หากว่าพวกเจ้าทุกขุมอํานาจ มอบลูกแก้ววิญญาณขั้นแดนสวรรค์
มา หนึ่งหมื่นเม็ด ข้าจะละเว้นโทษสําหรับพวกเจ้า” ราชาวานร กล่าว

“อะไรนะ !! ลูกแก้วสวรรค์หมื่นเม็ด !!” หลังจากได้ยนิ เช่นนั้น


ตระกูเจี่ย และสี่ ขมุ อํานาจ ก็ตกตะลึงอย่างมาก

เพราะว่าลูกแก้วสวรรค์น้ นั คือสมบัติอย่างแท้จริ ง ด้านพลังวิญญาณ


นั้น ลูกแก้วแดนสวรรค์เพียงหนึ่งลูก มีค่าเท่ากับลูกแก้วแก่นแท้วญ ิ ญาณ
หมื่นลูก และลูกแก้วสวรรค์หมื่นลูก ก็มีค่าเท่ากับลูกแก้วแก่นวิญญาณ
หนึ่งร้อยล้านลูก

ด้วยมูลค่ามหาศาลขนนาดนี้ มันสามารถทําให้ผคู ้ นอาเจียรออกมา


เป็ นเลือดได้เลยทีเดียว ไม่ตอ้ งกล่าวถึงหมื่นลูก สี่ ขมุ อํานาจไม่มีแม้แต่
ลูกเดียวของลูกแก้วสวรรค์ ทั้งเก้าอาณาจักรนั้น มีเพียงราชวงศ์เจียง
เท่านั้นที่มี “ลูกแก้วสวรรค์”

แต่วา่ แม้แต่ในราชวงศ์เจียงเองนั้น ผูท้ ี่จะสามารถได้รับ ลูกแก้ว


แดนสวรรค์น้ นั จะต้องเป็ นผูท้ ี่มีความดีความชอบเท่านั้น ดังนั้น ข้อ
เรี ยกร้องของราชาวานรจึงเป็ นสิ่ งที่สูงค่าอย่างมาก มันเป็ นเหมือนกับ
การขุดหลุมฝังศพของพวกเขารอล่วงหน้า

“ผูอ้ าวุโส ไม่ตอ้ งพูดถึงสี่ ขมุ อํานาจเลย แม้แต่ราชวงศ์เจียงของข้า


ก็ไม่อาจมอบลูกแก้วแดนสวรรค์หมื่นเม็ดได้” องค์จกั รพรรดิ์ กล่าว
พลางปาดเหงื่อที่เย็นเยียบบนหน้าผากของเขา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ
ราชาวานรที่ป่าเถื่อนเช่นนี้

“แล้วถ้าเป็ นทุกขุมอํานาจน่าย สิ บล้านลูกแก้วแก่นวิญญาณล่ะ คง


จะไม่มีเป็ นใช่รึไม่” ราชาวานร กล่าว
“นี่………” องค์จกั รพรรดิ์มองไปที่ เจี่ย ชิงเผิง และอดีตผูน้ าํ
ของทั้งสี่ มหาอํานาจและกล่าวออกมาว่า “ผูอ้ าวุโส กล่าวตามตรง พวก
เขาไม่สามารถจ่ายสิ่ งที่มีมูลค่ามากเช่นนั้นได้ แม้วา่ พวกเขาจะจําหน่าย
สิ่ งของทั้งหมดของพวกเขาออกไป ก็ไม่สามารถที่จ่ายได้”

“มันคงจะง่ายกว่า หากท่านฆ่าพวกเขา แทนที่จะให้พวกเขามอบ


ลูกแก้วแก่นวิญญาณสิ บล้านลูก” องค์จกั รพรรดิ์กล่าวอย่างอับจนปั ญญา
พลางส่ ายศรี ษะช้าๆ

“ดี !! ข้าจะฆ่าพวกเขาซะ หากพวกเขาไม่สามารถจ่ายได้” ขณะที่


ราชาวานรกล่าวนั้น ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็ นสี แดงฉานราวกับสี เลือด
พลังวิญญาณที่ไร้ขีดจํากัดถูกปลดปล่อยมาจากร่ างกายของเขาทันที

แรงกดดันมหาศาลเข้าปกคลุมพื้นดิน และท้องนภา บดบัง


แม้กระทัง่ ดวงจันทร์ และเมฆหมอก แม้แต่กองทัพของราชวงศ์เจียงที่ยนื
อยูก่ ลางอากาศ ก็ไม่อาจต้านทานแรงกดดันที่ราวกับพายุเช่นนี้ได้ พวก
เขาต่างถูกแรงกดดันโหมกระหนํ่าจนแตกกระเจิง

“หยุดก่อน ผูอ้ าวุโส !!” เมื่อเห็นเช่นนั้น ใบหน้าขององค์จกั รพรรดิ์


ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว เขารี บตะโกนออกมา พร้อมกับ
ปลดปล่อยพลังวิญญาณที่ไร้ขีดจํากัดออกมา เพื่อต้านทานแรงกดดัน
ของราชาวานร

แรงกดดันมหาศาลของทั้งสองคนเข้าปะทะกันอย่างบ้าคลัง่ ท้องฟ้า
ยามราตรี ที่เคยเงียบสงบ พลันแปรปรวนอย่างนวดเร็ ว ด้วยเสี ยงคําราม
ของพายุ และสายฟ้าฟาด

ด้วยพลังแรงกดดันที่มหาศาลเช่นนั้น ทําให้หลายๆ คนกระอัก


เลือดออกมา โชคดีที่แรงกดดันมหาศาลนั้นกินเวลาเพียงไม่นาน แต่แม้
จะไม่นานนั้น ก็ทาํ ให้หลายคนบาดเจ็บ และบางคนตายลง
“เจ้าหนู เจ้าคิดจะสู ก้ บั ข้าเช่นนั้นรึ !!” ราชาวานร กล่าวถามพลาง
จ้องมองไปที่องค์จกั รพรรดิ์ดว้ ยความกราดเกรี้ ยว ท้องฟ้า และผืน
แผ่นดินสัน่ สะเทือนด้วยคํากล่าวของเขา นี่แสดงให้เห็นได้อย่างชึดเจน
ถึงความแข็งแกร่ งของเขา

“ผูอ้ าวุโส ข้าไม่คิดที่จะต่อสู ก้ บั ท่านทข้าเพียงแต่จะเปลี่ยนข้อเสนอ


ตระกูลเจี่ย นิกายไป๋ หุบเขาไร้ใจ สํานักหยวนกัง และสํานักเทพอัคคี
ทั้งหมดจะจ่ายท่านด้วยลูกแก้วแก่นวิญญาณห้าล้านลูก” องค์จกั รพรรดิ์
ยอมถอย และยืน่ ข้อเสนอใหม่ออกมา

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/
แปลโดยคุณ#Abhisit
บทที่ 475 – วีรบุรุษหนุ่ม ชูเฟิ ง

หลังจากที่ได้ยนิ คํากล่าวของ องค์จกั รพรรดิ์ ใบหน้าของอดีตผูน้ าํ


ของสี่ มหาอํานาจ ที่เคยเป็ นสี ขาวซี ด ก็ดีข้ ึนอย่างมาก
แม้วา่ จํานวนลูกแก้วแก่นวิญญาณ ห้าล้านลูกจะเป็ นจํานวน
ครึ่ งหนึ่งของ ลูกแก้วแก่นวิญญาณสิ บล้านลูก แต่นน่ั ก็เป็ นทรัพย์ของ
พวกเขาทั้งหมดที่รวบรวมมาโดยบรรพบุรุษของพวกเขากว่าพันปี

หากพวกเขาต้องสู ญเสี ยทรัพย์สมบัติกว่าพันปี ของพวกเขา การเดิน


งานต่างๆ ของสี่ มหาอํานาจจะต้องหยุดชะงักลงทันที และนัน่ ก็ทาํ ให้
พวกเขาสิ้ นเนื้อประดาตัวอย่างแท้จริ ง

แต่นี่ คือคํากล่าวขององค์จกั รพรรดิ์ ภายใต้สถาการณ์เช่นนี้ แม้วา่


พวกเขาจะเจ็บใจ ที่ถูกขูดเลือดขูดเนื้อ แต่กด็ ีกว่าการที่พวกเขาจะถูก
กวาดล้างอย่างแน่นอน

หลังจากคํากล่าวของ องค์จกั รพรรดิ์น้ นั ราชาวานรจึงได้รู้วา่ สี่


มหาอํานาจไม่ได้มงั่ คัง่ มากมายนัก เขาไม่ได้โกรธแต่อย่างใด เขายิม้
บางๆ พลางกล่าวออกมาว่า “หากเจ้ากล่าวเช่นนั้น ข้าจะไว้หน้าเจ้าสัก
ครั้ง”

“สํานักหยวนกัง , นิกายไป๋ , หุบเขาไร้ใจ และสํานักเทพอัคคี


พวกท่านจงนําลูกแก้วแก่นวิญญาณห้าล้านมา ส่ วนตระกูลเจี่ย จงนํา
ลูกแก้วแก่นวิญญาณมาสิ บล้านลูกมา”

“อะไรนะ !! สิ บล้านลูก !! ฆ่าข้ายังดีกว่า !!”

หลังจากได้ยนิ คํากล่าวเหล่านั้น เจ่ย ชิงเผิง แทบจะกระอัก


เลือดออกมาทันที ถึงแม้วา่ ตระกูลเจี่ยจะมีความมัง่ คัง่ มากกว่าสี่
มหาอํานาจ แต่ถา้ หากเขาต้องเสี ยลูกแก้วแก่นวิญญาณสิ บล้านเม็ด พวก
เขาก็จะไม่เหลืออะไรเลย

หากสู ญเสี ยทรัพยากรจํานวนมากเช่นนั้น ตระกูลเจี่ย ก็จะสู ญเสี ย


รากฐานสําหรับคนรุ่ นใหม่ของตระกูลไป และในอนาคตตระกูลเจี่ย
จะต้องสู ญเสี ยอํานาจไปอย่างสิ้ นเชิง โดยไม่อาจเทียบเคียงได้กบั นิกาย
โลกวิญญาณหรื อขุมอํานาจอื่นๆ

“เจี่ย ชิงเผิง เจ้าจะยอมเสี ยลูกแก้วแก่นวิญญาณสิ บล้านลูก เพื่อ


ปกป้องตระกูลของเจ้าหรื อไม่” องค์จกั รพรรดิ์ กล่าวถาม เจี่ย ชิงเผิง
เสี ยงดัง

“องค์จกั รพรรดิ์ ข้าต้องการปกป้องตระกูลของข้า” แม้วา่ เจี่ย ชิง


เผิง จะไม่เต็มใจนัก แต่สถานการณ์ในตอนนี้ เขาก็ไม่อาจควบคุมได้

เหตุผลนั้นง่ายมาก ถึงแม้วา่ ตระกูลเจี่ยจะสู ญเสี ยความมัง่ คัง่ ของ


ตระกูลไป และนัน่ อาจทําให้ตระกูลเจี่ยเข้าสู่ สภาวะถดถอยไปกว่าร้อยปี
แต่นน่ั ก็ยอ่ มดีกว่าการที่ตระกูลของเขาถูกกวาดล้าง ซึ่ งนัน่ จะทําให้
ตระกูลเจี่ย ไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้นเขาจึงไม่เหลือตัวเลือกมากนัก
หลังจากคํายืนยันของ เจี่ย ชิงเผิง นั้น ราชาวานรได้ต้ งั เงื่อนไข
ขึ้นมาหนึ่งข้อ นัน่ คือ ภายในสิ บวันเขาจะต้องได้เห็นลูกแก้วแก่น
วิญญาณสามสิ บล้านลูก

ตระกูลเจี่ย และสี่ มหาอํานาจ ได้ตกอยูภ่ ายใต้สถานการณ์ที่เลวร้าย


พวกเขาจะต้องสู ญเสี ยลูกแก้วแก่นวิญญาณรวมสามสิ บล้านลูก พวกเขา
จะต้องขายทรัพย์สมบัติของพวกเขาออกมา และการจะทําเช่นนั้นมันก็
ต้องใช้เวลามาก

นัน่ คือสถานการณ์ปกติ แต่ในตอนนี้ พวกเขาจะต้องนําลูกแก้ว


แก่นวิญญาณ มาให้กบั ราชาวานรภายในสิ บวัน ซึ่ งนัน่ เป็ นเรื่ องที่ยาก
มากสําหรับพวกเขา

ในสถานการณ์เช่นนี้ ราชวงศ์เจียงจึงเสนอตัว ในการจ่ายลูกแก้ว


แก่นวิญญาณทั้งสามสิ บล้านลูก แก่ราชาวานรให้ก่อน
ซึ่งนัน่ ก็หมายความว่า ในอนาคต ตระกูเจี่ย และสี่ มหาอํานาจ
จะต้องนําลูกแก้วแก่นวิญญาณทั้งสามสิ บล้านลูกมาคืนแก่ราชวงศ์เจียง

ทางด้านราชาวานรเองนั้น เขาไม่ได้มีความกังวลตั้งแต่แรก หากเขา


ได้รับลูกแก้วแก่นวิญญาณครบตามจํานวนอย่างถูกต้อง เขาก็ไม่มีปัญหา
ใดๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คดั ค้านแต่อย่างใด

ดังนั้นราชาวานร , ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง , จาง เทียนยี่ และ กู๋ เทียน


เซิน จึงได้รับเชิญจากราชวงศ์เจียง ให้ไปรับลูกแก้วแก่นวิญญาณทั้ง
สามสิ บล้านลูก

ถึงแม้ราชวงศ์เจียงจะเป็ นอํานาจที่ทุกคนต่างหวาดกลัว แต่ดว้ ย


ราชาวานรที่ทรงอํานาจ และอยูเ่ หนือทุกๆ กฏเกณฑ์น้ นั ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง
และคนอื่นๆ จึงเดินทางออกไปพร้อมกับราชวงศ์เจียงโดยไม่หวาดกลัว
แต่อย่างใด
หลังจากที่ ชูเฟิ และคนอื่นๆ จากไปนั้น ตระกูลเจี่ย และสี่
มหาอํานาจก็ได้สลายกองทัพของพวกเขาลง และกลับไปยังสถานที่ต้ งั
ของตนเอง

พวกเขาคาดหวังเอาไว้วา่ ด้วยกองทัพของพวกเขาที่บุกโจมตีนิกาย
โลกวิญญาณ จะสามารถเสริ มสร้างชื่อเสี ยงให้แก่พวกเขาได้

แต่พวกเขากลับไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า แผนการของพวกเขา
จะถูกทําลายโดย ชูเฟิ ง เช่นนี้ ไม่ใช่เพียงแค่พวกเขาพ่ายแพ้เท่านั้น แต่
พวกเขาเกือบจะถูกกวาดล้างอย่างย่อยยับ อีกทั้งสี่ มหาอํานาจยังสู ญเสี ย
ผูน้ าํ คนปั จจุบนั ของพวกเขาไป และตระกูลเจี่ยก็ได้สูญเสี ยอดีตผูน้ าํ ที่
แยกออกไปฝึ กว่าร้อยปี ไป

ถ้าเรื่ องนี้ถูกแพร่ กระจายออกไป พวกเขาจะกลายเป็ นตัวตลกใน


สายตาของคนทั้งทวีป ดังนั้น พวกเขาจึงพยายามปิ ดข่าวนี้อย่างรวดเร็ ว

แต่เนื่องจากมีคนที่เศร้า ย่อมมีคนที่มีความสุ ข ทางด้านนิกายโลก


วิญญาณได้กระจ่ายของศึกในครั้งนี้ออกไปอย่างรวดเร็ ว

ดังนั้น ข่าวความพ่ายแพ้ของห้ามหาอํานาจต่อนิกายโลกวิญญาณ
และข่าวของยอดอัจฉริ ยะอย่าง เจี่ย ฉื อ และผูน้ าํ ของสี่ มหาอํานาจตายลง
จึงได้แพร่ กระจายออกไปทัว่ ทั้งเก้าอาณาจักรอย่างรวดเร็ ว

และเพื่อแสดงถึงอํานาจของนิกายโลกวิญญาณ พวกเขาจึงได้
ประกาศการกระทําของ ชูเฟิ ง และราชาวานรออกไป

จึงทําให้ทุกๆ คนได้รู้วา่ ราชาวานร คือผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับ ที่สามารถ


เอาชนะ เจี่ย ฉือ และ กู๋ เทียนเซิ น ได้เมื่อร้อยปี ก่อน อีกทั้งเขายังเป็ น
ราชาที่แท้จริ งของหุบเขาพันปิ ศาจ และยังเป็ นพี่นอ้ งร่ วมสาบานกับ ชู
เฟิ ง

เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ซบั ซ้อนนั้น จึงทําให้ทุกคนได้รู้วา่ ชูเฟิ ง


คือตัวแปรสําคัญในชัยชนะของนิกายโลกวิญญาณที่มีต่อห้ามหาอํานาจ

ดังนั้น เมื่อความจริ งในเรื่ องของ ชูเฟิ ง ได้ถูกเปิ ดเผยออกมา จึงทํา


ให้ทุกคนเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเขาภายในหัวใจแบบหน้ามือเป็ นหลัง
มืออย่างรวดเร็ ว

เขาไม่ได้เป็ นปิ ศาจกระหายเลือด ที่สามารถฆ่าคนโดยไม่กระพริ บ


ตา แต่เขาได้กลายเป็ นวีรบุรุษหนุ่ม ที่กล้าหาญเข้าต่อสู ก้ บั ความชัว่ ร้าย
และกลายเป็ นตัวแทนแห่งความยุติธรรม

ในตอนแรกนั้น หากมีเด็กดือกําลังร้องไห้ พวกผูใ้ หญ่จะขู่วา่ “อย่า


ร้องนะ ไม่ง้ นั ปิ ศาจร้าย ชูเฟิ ง จะมาจับตัว” จากนั้นเด็กเหล่านั้นก็จะหยุด
ร้องไห้ทนั ที

แต่ในตอนนี้ เมื่อเด็กๆ ร้องไห้ พวกผูใ้ หญ่กจ็ ะกล่าวว่า “หยุด


ร้องไห้นะ ข้าจะเล่าเรื่ องราวเกี่ยวกับวีรบุรุษหนุ่ม ชูเฟิ ง ที่กล้าหาญต่อสู ้
กับความบัว่ ร้ายให้ฟัง”

เด็กๆ ก็จะหยุดร้องไห้ในทันที และพากันนัง่ ลง ฟังเรื่ องราวของ ชู


เฟิ ง อย่างตั้งอกตั้งใจทด้วยความตื่นเต้นสนุกสนาน

สําหรับบางคนที่เชิดชู ชูเฟิ ง นั้น เหล่าหนุ่มสาวกลุ่มนี้ต่างเดินทสง


มาที่อาณาจักรมังกรฟ้าอย่างรวดเร็ ว

เพราะมีข่าวลือว่า ชูเฟิ ง กําลังจะสร้างสํานักมังกรฟ้าขึ้นมาใหม่


ดังนั้นจึงเป็ นเรื่ องธรรมดา สําหรับคนที่เชิดชู ชูเฟิ ง จะอยากเข้าสู่ สาํ นักที่
เขาสร้างขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ชื่อเสี ยงของ ชูเฟิ ง ที่เคยเป็ นด้านลบ ก็
กลับเป็ นด้านสว่าง และเขาก็ได้กลายเป็ นตํานานที่ยง่ิ ใหญ่ของทั้งเก้า
อาณาจักร

ReadMga,blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยท่าน # abhisit

A : ฮ่าๆๆ สะใจเว้ย

B : ได้ลูกแก้วมาตั้ง 30 ล้าน มีหวังได้ทะลวงเข้าสู่ ระดับ 9 แก่นแท้


เลยมั้ง

A : ก็ไม่แน่ สายเลือดชูเฟิ งใช้ทรัพยากรบรมเยอะ

B : ก็จริ งว่าเยอะแต่อย่างน้อยลูกแก้ว 30 ล้านเม็ด ก็น่าจะพอ . . . . . .

B : ที่มืงเดาไว้เป็ นไง ก็บอกแล้วว่าเค้าพวกกัน . . . . . .


A : เออ!!!

บทที่ 476 - สายเลือดจักรพรรดิ

ราชวงศ์เจียง นั้น อาศัยอยุใ่ นอาณาจักร ฮัน่ ในพื้นที่ที่กว้างใหญ่และ


เจริ ญกว่า สถานที่ทุกที่นอกจากนี้ยงั มี กลิ่นอายโบราณอีกด้วย มันเป็ น
พลังที่มีอยูม่ ายาวนานที่สุดในทวีปเก้าอาณาจักรนี้ ซึ่ งมันก็อยูใ่ น
อาณาจักรนี้มาหลายพันปี แล้ว

หลายวันผ่านไป ตั้งแต่ ชูเฟิ ง จื่อ หลิง อสู รราชันย์วานร กู่ เทียนเฉิ น และ
คนอื่นๆ ได้เข้ามาในราชวงศ์เจียง

นับตั้งแต่เข้ามา ร่ องรอยของ อสู รราชันย์วานร และ กู่ เทียนเซิ นก็หายไป


เป็ นเพราะ องค์จกั รพรรดิบอกว่าต้องการคุยกับทั้ง 2

ในตอนแรกพวกชูเฟิ ง ก็กงั วล ว่าจะเกิดเรื่ องอะไรกับ อสู รราชันย์วานร


หรื อเปล่า แต่ ราชวงศืเจียงไม่ได้ทาํ อะไรพวกเขาและยังต้อนรับพวกเขา
อย่างดิบดีราวกับเป็ นแขกสําคัญ ไม่ใช่แค่ไวน์และอาหารชั้นเลิศ เท่านั้น
เขายังจัดโอสถสวรรค์ให้กบั พวกชูเฟิ งอีกด้วย

แต่ถา้ อสู รราชันย์วานร พบกับเรื่ องเลวร้ายนั้นก็เป็ นโชคร้ายของพวกเขา


เพราะว่าด้วยพลังของพวกเขานั้น เปรี ยบได้ดงั่ มด ในราชวงศ์น้ นั มีคน
จํานวนมากที่สามารถฆ่าพวกเขาได้

แต่ในปัจจุบนั พวกเขานั้นไม่ได้เพียงแค่ยงั สบายดี แต่ราชวงศ์เจียง พวก


เขายังได้รับของชั้นเลิศอีกด้วย มันหมายความว่าอสู รราชันย์วานรนั้นยัง
อยูด่ ี และ ราชวงศ์เจียง ไม่มีความคิดที่จะทําอะไรพวกเขา

“พี่ชาย ชูเฟิ ง แม่นาง จื่อ หลิง ไม่ได้พบ กันเสี ยนานเลยนะ”

ในวันนั้น พวกชูเฟิ งกําลังคุยกับอยูใ่ นสวนก็มีเสี ยงที่คุน้ เคยดังขึ้น พวก


เขาจึงหันไปมองที่เจ้าของเสี ยง จึงพบชายหนุ่มหน้าตา หล่อเหลาสวมชุด
ทองอยู่

ชายหนุ่มคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นเขาคือ เจ้าชายของราชวงศ์เจียง ผูท้ ี่มี


พรสวรรค์มากที่สุดในราชวงศ์เจียง เจียง หวูช่ าง

“น้องชาย หวูช่ าง เป็ นเจ้าเองหรื อ” เมื่อเห็น เจียง หวูช่ าง ชูเฟิ งก็มี


ความสุ ขมาก

อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้มีเรื่ องอะไรกับ เจียง หวูช่ าง และนอกจากนี้ เขา


ยังเคยช่วยชีวติ ของ เจียง หวู๋ชาง ไว้อีกด้วย จึงทําให้การกระทําของเขา
นั้นกลายเป็ นความดีความชอบต่อ เจียง หวูช่ างไป

ก่อนหน้านี้ ราชวงศ์ เจียง ได้นาํ กองกําลังเพื่อค้นหาชูเฟิ งอีกด้วย แต่


ราชวงศ์เจียงก็ไม่ได้ตามล่าตัวเขา และยังมอบของขวัญชิ้นงามให้กบั เขา
อีกด้วย และนัน่ เป็ นเพราะเจียง หวูช่ าง จึงทําให้เขาได้บ่มเพาะขึ้นอย่าง
รวดเร็ วโดยทางอ้อมอีกด้วย

ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงไม่ได้มีอคติกบั เจียง หวูช่ าง และในตอนนี้เขายังเรี ยกชู


เฟิ งว่า พีช่ ายอีกด้วย

หลังจาก เจียง หวูช่ าง ปรากฏตัวขึ้น เขาก็เรี ยกพวกชูเฟิ ง ขึ้นไปยัง


หอคอยสูงที่อยูใ่ นเมฆ และบนหอคอยสู งนั้น เจียง หวูช่ างได้จดั อาหาร
ต้นรับ ทั้ง3ไว้อีกด้วย

“พี่ชายชูเฟิ ง แม่นาง จื่อ หลิง พีใ่ หญ่ จาง เทียนยี่ ข้าขอโทษด้วย


จริ ง ก่อนหน้านี้ขา้ นั้นเอาแต่เก็บตัวบ่มเพาะ จึงไม่ได้ออกมาต้อนรับพวก
ท่าน อภัยให้ขา้ ด้วย.”

เจียง หวูช่ าง นั้นลบตัวตนที่สูงส่ งของเขาออกไปทั้งหมด และเขาไม่


เพียงทําตัวสุ ภาพกับชูเฟิ งและจื่อ หลิง เขายังทําตัวสุ ภาพกับ จาง เทียนยี่
และเรี ยกเขาว่าพี่ใหญ่อีกด้วย เขายังเทไวน์ และเขายังย่างเนื้อให้พวกเขา
อีกด้วย ในตอนนี้น้ นั เขาไม่ใช่เจ้าชายผูส้ ู งส่ งของราชวงศ์เจียง แต่เขาคือ
น้องชายของชูเฟิ งและคนอื่นๆ

“ น้องชาย หวูช่ าง เจ้าช่างสุ ภาพเสี ยจริ ง.”

“ อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ 1 ปี น้องชาย หวูช่ าง เอ๋ ย เจ้าสามารถ


ทะลวงจากระดับ 9 แก่นแท้วญ ิ ญาณไปยังระดับ 2 อาณาจักรสวรรค์
ได้ ด้วยความเร็ วเช่นนี้เจ้าทําให้ขา้ ลําบากใจจริ งๆ.” ชูเฟิ ง พูดแล้วก็ยม่ิ
ประมาณว่าช่วยไม่ได้นี่เนอะ

ในสายตาของคนนอก เขาเป็ นอัจฉริ ยะ แต่กย็ งั ด้อยกว่าจื่อ หลิง แต่


เจียงหวุช่ างนั้น ยิง่ กว่านั้น ในตอนนี้เขาอยูใ่ นระดับเดียวกับจื่อ หลิง เมื่อ
ปี ก่อน แต่ตอนนี้เขานั้นได้แซงหน้าจื่อหลิงไปด้วยซํ้า และนัน่ ทําให้ชู
เฟิ งตกใจมาก ทั้งๆที่จื่อ หลิง มีกายศักดิ์สิทธิ์คอยช่วย
" ฮี่ฮี่ อย่าพูดอย่างนั้นไปพี่ชายชูเฟิ ง ข้าเป็ นคนจากราชวงศ์เจียง
คนราชวงศ์น้ ีน้ นั ทุกคนจะมี พลังของสายเลือดอยูต่ ราบใดที่เรามี
ทรัพยากรเพียงพอ การบ่มเพาะก็ไม่ได้ยากอะไร.”

“ และข้าพูดอย่างไม่ได้อวยตัวเองเลยนะ พลังของสายเลือดข้าน่ะ
พูดได้วา่ ทรงพลังที่สุดในราชวงศ์เจียงแล้ว บรรพบุรุษข้าเคยบอกไว้วา่
สายเลือดของพวกเราน่ะใกล้เคียงกับสายเลือดจักรพรรดิ เชียวล่ะ.”

“ ในอนาคตถ้าข้าประสบความสําเร็ จ และได้รับพลังของ
สายเลือดจักรพรรดิมา ในตอนนั้นพลังข้าข้าก็จะเพิ่มขึ้นอีกเยอะ
แน่นอน.” เจียง หวูช่ างพูดในตอนนั้นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความ
มุ่งมัน่ และความภาคภูมิใจในสายเลือดพิเศษของเขา

“ สายเลือดจักรพพรดิ ถ้าเจ้าได้รับพลังจากกสายเลือดจักรพรรดิ
ในอนาคต เมื่อเข้าทะลวงมันได้เจ้าก็ตอ้ งใช้ทรัพยากรในการบ่มเพาะ
มากกว่านี้อีกใช่หรื อไม่” จื่อ หลิงถาม

“ แน่นอน สายเลือดจักรพรรดิน้ นั เป็ นสายเลือดสื บทอดระดับสู ง


ในตอนนั้น ถ้าราชวงศ์เจียงของข้ามอบทรัพยากรให้แก่ขา้ ทั้งหมด ก็ไม่
พอ.”

“ แต่นน่ั ไม่มีปัญหา ถ้าในตอนนั้นข้าสามารถก้าวเข้าสู่ ระดับเจ้า


สงครามได้ ข้าก็สามารถบ่มเพาะด้วยตนอเองได้.” เจียง หวูช่ างพูดด้วย
ความทะเยอทะยาน

“ ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพลังสายเลือดของเจ้าจะทรงพลัง
ขนาดนี้.” จาง เทียนยี่ พูดแล้วก็ผงกหัว แต่ในขณะที่พดู ก็หนั ไปสื่ อสาร
กับชูเฟิ งอย่างลับๆ

“ ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง ไม่ใช่วา่ พลังทีเจ้ามี มันจะเป็ นพลังของสายเลือด


อย่างนั้นหรื อ เจ้าต้องใช้ทรัพยากรจํานวนมากและมีพลังที่โดดเด่น มัน
คล้ายกับ สายเลือดจักรพรรดิที่ เจียง หวูช่ างเลย”

ในเวลานั้น จื่อ หลิง ก็มองไปที่ชูเฟิ ง เธอรู ้เกี่ยวกับพลังสายฟ้าในร่ างชู


เฟิ ง ถึงมันจะต่างกับพลังสายเลือด

แต่การบ่มเพาะของชูเฟิ งนั้น ต้องใช้ทรัพยากรจํานวนมากเช่นเดียวกับ


พลังของสายเลือด ดังนั้น เธอจึงรู ้สึกว่าชูเฟิ งนั้นมีสายเลือดจักรพรรดิที่
เจียง หวูช่ างกําลังฝันถึงอยู่

สายตาของพวกเขาต้องการคําตอบจากชุเฟิ ง แต่ชูเฟิ งก็ไม่สามารถตอบ


อะไรได้เพราะเขาก็ไม่รู้วา่ สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์น้ ีจะเป็ นพลังที่เรี ยกว่า
สายเลือดจักรพรรดิหรื อเปล่า เขาจึงได้แต่ส่ายหัว

“ น้องชาย หวูช่ าง เทียบกับ สายเลือดราชวงศ์ แตกต่างกับ


สายเลือดจักรพรรดิอย่างไร” เห็นเช่นนั้น จื่อ หลิงก็หนั ไปมอง เจียง หวู่
ชางอีกครั้ง เธอต้องการช่วยชูเฟิ ง เกี่ยวกับพลังที่เขามีโดยถามเจียง หวู่
ชาง

“ ข้าไม่รู้ เพราะในราชวงศ์เจียงของข้ายังไม่มีคนมีสายเลือด
จักรพรรดิเลย จากที่ขา้ ได้ยนิ สายเลือดจักรพรรดิน้ นั มีอยูใ่ นดินแดนใน
ตํานาน.” เจียง หวูช่ าง ยิม้ และพูด

“ ดินแดนในตํานาน” หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดนี้ ชูเฟิ งและคน


อื่นๆก็ตกใจมาก พวกเขารู ้วา่ ดินแดนนี้คือใจกลางของโลก คือสถานที่ที่
อัจฉริ ยะเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไป เป็ นดินแดนที่เต็มไปด้วยผูเ้ ชี่ยวชาญ
ที่แท้จริ ง

“ น้องชาย หวูช่ าง สายเลือดจักรพรรดิน้ ีแข็งแกร่ งที่สุดใน


บรรดาพลังสายเลือดแล้วใช่หรื อไม่” จื่อ หลิงถามต่อ
“ แม่นาง จื่อ หลิง ท่านสนใจในพลังของสายเลือดด้วยหรื อ”
อย่างไรก็ตาม หลังจาก จื่อ หลิง พูด ตาของเจียงหวูช่ าง ก็เกิดประกาย

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยท่าน#ฮาย
บทที่ 477 - สํานักสี่ คาบสมุทร

“แน่นอนข้าสนใจมาก พลังสายเลือดนี้เป็ นพลังพิเศษ คนทัว่ ไป


ไม่สามารถมีได้หรอก และมีคนที่มีพลังนี้อยูต่ ่อหน้าข้า เป็ นธรรมดาที่ขา้
จะสนใจ.” จื่อ หลิง พูด พร้อมปรากฏประกายตาชัว่ ร้ายวูบนึง

เห็นจื่อ หลิงเป็ นเช่นนั้น เจียง หวูช่ าง ขนลุกแว่บหนึ่ง แล้วพูดว่า “


พรสวรรค์ของคนที่มีสายเลือดราชวงศ์น้ นั เหนือกว่าคนทัว่ ไป และ
สามารถนับว่าเป็ นอัจฉริ ยะได้.”
“แต่ สายเลือดจักรพรรดิน้ นั น่าเกรงขามกว่าสายเลือดราชวงศ์
มาก ผูท้ ี่มีสายเลือดจักรพรรดิน้ นั คืออัจริ ยะเหนืออัจฉริ ยะ นี่เป็ นเหตุผล
ว่าทําไมพวกเขาถึงเป็ นตัวตนในตํานาน.”

“ถ้ามีสายเลือดที่แข็งแกร่ งกว่าสายเลือดจักรพรรดิล่ะ พวกเขาจะ


เป็ นยังไง และพลังของพวกเขาจะเป็ นยังไง และคนแบบไหนกันที่น่าจะ
มีพลังแบบนั้น”

“นี่…” ได้ยนิ เจียง หวูช่ าง พูดอย่างนั้น ชูเฟิ งกับคนอื่นๆก็ได้


แค่ตกอยูใ่ นห้วงความคิด พวกเขาได้เพียงแต่คิดย้อนกลับไปถึงเรื่ องที่
เกิดขึ้นในหุบเขาเทพกระบี่

ในตอนนั้น ชูเฟิ งได้ระเบิดพลังที่น่าเกรงขามออกมา แม้แต่ราชวงศ์เจียง


ก็ไม่คิดว่าพลังนั้นนมันเกิดมาจากคน
ดังนั้น พลังที่พวกเขาไม่รู้จกั อย่างนั้น จึงก่อให้พวกเขาสงสัยว่าพลังของ
ชูเฟิ งนั้นเป็ นพลังของสายเลือดระดับสู งหรื อไม่

หลังจากที่ชูเฟิ งและคนอื่นๆกําลังคิด เจียง หวูช่ างก็พดู ขึ้นมา ใบหน้า


ของเขานั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น“ ข้าจําได้วา่ ท่านบรรพบุรุษได้บอก
ว่า ยังมีพลังสายเลือดที่เหนือกว่าสายเลือดจักรพรรดิอยู.่ ”

“จริ งหรื อ” ในตอนนั้น ท่าทางของชูเฟิ งเปลี่ยนแปลงทันที

“ท่านบรรพบุรุษบอกว่า ขนาดสายเลือดจักรพรรดิยงั นับเป็ น


ตํานาน แล้วสายเลือดที่สูงกว่านั้นไม่ยง่ิ กว่าตํานานเลยหรื อ มันจะมีจริ ง
หรื อไม่ ก็ยงั ไม่แน่ ในอนาคตถ้าสามารถเข้าไปในดินแดนนั้นได้ เจ้าก็ได้
คําตอบเอง.”

เจียง หวูช่ างยิม้ และยังพูดอีกว่า “พีช่ าย ชูเฟิ ง พี่ชาย เทียนยี่ แม่นาง จื่อ
หลิง ข้ามัน่ ใจในความสามารถของพวกท่าน พวกท่านคงไม่คิดจะอยูใ่ น
9อาณาจักรนี้นานหรอกจริ งไหม”

“ข้าคิดว่าพวกเราควรไป สํานักสี่ คาบสมุทร”

“สํานักสี่ คาบสมุทรอย่างนั้นหรื อ” หลังจากได้ยนิ ชูเฟิ ง และ


จาง เทียนยี่ ก็ตอ้ งสงสัย

จื่อ หลิง นั้นรู ้อยูแ่ ล้วจึงพูดว่า, “สํานักสี่ คาบสมุทรนั้น คือ 1 ใน


สถานที่ที่แข็งแกร่ งที่สุดในภูมิภาคทะเลตะวันออก.”

“สํานักนี่ รับทุกคนจากโลกใบนี้ ไม่สนว่าเจ้าจะมาจากไหน และ


ไม่สนว่าเจ้าจะเป็ นสัตว์มหึ มาหรื อมนุษย์ ถ้าเจ้าผ่านการทดสอบของ
พวกเขาได้ ก็ได้เข้าร่ วมสํานัก.”
“และเพราะมีแต่ศิษย์ที่แข็งแกร่ งเท่านั้นและมาจากทัว่ ทุกที่ จึงถูก
เรี ยกว่า สํานักสี่ คาบสมุทร.”

อย่างไรก็ตาม สํานักสี่ คาบสมุทรนี้มีขนาดเล็กมา และการทดสอบยังยาก


มากอีกด้วย ดังนั้นคนที่สามารถเข้าไปได้ยอ่ มเป็ นอัจฉริ ยะ แม้แต่ผคู ้ น
จากภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้นก็ยงั ภูมิใจในศิษย์ของสํานักนี้ ไม่วา่ จะ
เป็ นคนจากที่ไหน.

“การบ่มเพาะจากสํานักนี้น้ นั พิเศษมาก พวกเขานั้นมอบประสบ


ที่พิเศษให้แก่ศิษย์ และยังพาไปบ่มเพาะในสถานที่ที่วเิ ศษ รวมถึง
ทรัพยากรมากมายอีกด้วย แค่ศิษย์ทุกคนนั้นจะสามารถอยูใ่ นสํานักและ
บ่มเพาะได้เพียง 4 ปี เท่านั้น.”

“หลังจาก 4 ปี สํานักจะจัดพิธีจบการศึกษาให้ และศิษย์ที่จบ


การศึกษาจะได้รับเข็มกลัดตามความสามารถและอันดับของพวกเขา.”
“ผูท้ ี่ได้รับเข็มกลัดนั้นจะสามารถนับได้วา่ เป็ นศิษย์ของสํานัก
หลังจากออกจากสํานักพวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือจากสํานักที่แต่ก
ต่างกันไป แน่นอน หากเกิดอะไรขึ้นกับสํานัก เหล่าศิษย์กต็ อ้ งกลับไป
ช่วยเช่นกัน.”

“แต่โดยทัว่ ไปแล้ว เข็มกลัดนั้น จะบ่งบอกถึงสถานะ และ


ตําแหน่งของพวกเขา ในอนาคตมันก็ยงั ช่วยให้พวกเขาได้รับการฝึ กฝน
และพัฒนาอีกด้วย.” จื่อ หลิงพูด

หลังจากฟัง จื่อ หลิง ชูเฟิ ง และจาง เทียนยี่ ก็มองหน้ากัน ทั้ง 2 หน้าเริ่ ม


สนใจในสํานักสี่ คาบสมุทรเข้าแล้ว

นัน่ เพราะว่าในทวีปเก้าอาณาจักร พวกเขานั้นเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ


สู งสุ ดแล้ว แต่พวกเขายังไม่เคยไปเผชิญกับอาณาจักรอื่นๆเลย พวกเขา
จึงไม่ค่อยรู ้เรื่ องภูมิภาคตะวันออกเท่าไหร่

และเมื่อได้ยนิ ว่า สํานักสี่ คาบสมุทรนั้น เป็ นแหล่งรวมอัจฉริ ยะจาก


อาณาจักรนับไม่ถว้ นพวกเขาก็อยากจะลองดูความสามารถของคนจาก
อาณาจักรอื่นสักหน่อย

“ถูกต้อง แม่นาง จื่อหลิง พูดถูกต้อง พี่สาวข้า เจียง ยีห่ นี แม้วา่


นางจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่ งที่สุดในรุ่ นเดียวกัน.”

“และที่นางต้องออกจากบ้านไปเพราะเหตุผลเล็กน้อย แต่นางก็
ยังโชคดีที่สามารถเข้าไปยังสํานักสี่ คาบสมุทร และในที่แห่งนั้นเธอก็
เหมือนกับถูกพลิกตัวตนใหม่.”

“เมื่อพี่สาวของข้าได้บ่มเพาะที่สาํ นักนั้น ถึง 4 ปี แล้ว เมื่อ


กลับมายังราชวงศ์ ความแข็งแกร่ งและระดับพลังของเธอนั้นก้าวข้าม
คนในรุ่ นเดียวกันไปแล้ว อาจบอกได้วา่ ในตอนนี้น้ นั เธอแข็งแกร่ งที่สุด
ในรุ่ นเยาว์ของราชวงศ์เจียง.”

“นับตั้งแต่น้ นั มา ราชวงศ์เจียงได้ส่งคนออกไปทุกปี และเข้า


ร่ วมกับสํานักสี่ คาบสมุทร และในแต่ละปี นั้น หลายทวีปก็จะส่ งคนเข้า
ร่ วมเช่นกันทําให้พวกเราได้เห็นพลังหลากหลายแบบที่ไม่เคยเห็นมา
ก่อน.”

“อย่างไรก็ตาม ในที่น้ นั ไม่ได้ช่วยแค่เรื่ องการบ่มเพาะเท่านั้น แต่


ยังช่วยชี้แนะเกี่ยวกับทักษะให้เช่นกัน.”

“ดังนั้น ข้าต้องการชวนพวกท่านทั้ง 3 ไปเข้าร่ วมพร้อมกับข้า


ที่แห่งนั้นแตกต่างกับทวีปนี้นกั ข้าบอกได้แค่นิดเดียวว่า ศิษย์ที่อยูใ่ นที่
แห่งนั้นหลายคนแข็งแกร่ งกว่าข้านัก.”
“ในที่แห่งนั้น ข้าไม่มีที่พ่ งึ เลย ในตระกูลข้ามีเพียงข้าเท่านั้นที่เจ้า
ไปรับการทดสอบ อย่างไรก็ตามถ้าพวกเราทั้ง 4 ไปด้วยกัน แม้วา่ ที่น้ นั
จะมีแข็งแกร่ งมามารวมกัน พวกเราก็จะสามารถช่วยเหลือกันได้.”

“ดังนั้นข้าจึงคิดว่าด้วยความสามารถของพวกเรา พวกเรา
ในตอนนี้เหมือนกับปลาที่อยูใ่ นนํ้าเมื่ออยูท่ ี่นน่ั จะมีสกั วันที่พวกเรานั้น
กลายเป็ นมังกรและโผลบินไปยัง ดินแดนแห่งตํานาน.”

ในเวลานั้น เจียง หวูช่ าง ตื่นแต้นมาก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วย


ความหวัง ดังนั้นสถานที่ที่เขาตั้งเป้าไว้ในตอนนี้ ก็เป็ นสถานที่เดียวกับ
พวกชูเฟิ ง มันไม่ใช่ทวีปเก้าอาณาจักร หรื อ ภูมิภาคทะเลตะวันออก แต่
มันเป็ นดินแดนในตํานาน

“แน่นอน ข้าจาง เทียนยี่ จะต้องไปเผชิญกับภูมิภาคทะเล


ตะวันออก ในอนาคตข้าจะไปกับเจ้าน้องชาย หวูช่ าง และเข้าร่ วมกับ
สํานักสี่ คาบสมุทร.” จาง เทียนยี่ พูดขึ้นมาอย่างหนักแน่น และเต็มไป
ด้วยความทะเยอทะยาน

ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็หนั ไปมอง จื่อ หลิง และเขาก็พบว่า จื่อ หลิง ก็มอง
เขาเช่นกัน ทั้งเจ้าตากัน และรู ้คาํ ตอบของฝ่ ายตรงข้ามดีจึงพยักหน้า และ
พูดว่า, “ตกลง พวกข้าเอาด้วย.”

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : เจียง หวูช่ าง บอกว่าที่น้ นั เต็มไปด้วยอัจฉริ ยะล่ะ

B : น่าสนใจ น่าสนใจ!!! แต่เห็นบอกว่าอัจฉริ ยะนั้นอัจฉริ ยะนี้ พอเจอ


กับชูเฟิ งจริ งๆก็เหมือนกับหมาหงอย

A : ก็จริ งอยูว่ า่ หลายครั้งมันเป็ นแบบนั้น แต่เหนือฟ้าก็ยงั มีฟ้า เหนือ


ฏอชะดา ยังมี ฎอปะตัก
B : แหม๋ สาํ ผัสสํานวน มึงก็รู้วา่ ชูเฟิ งมันมีสายเลือดที่เหนือกว่า
สายเลือดจักรพรรดิ อีกทั้งก่อนจะไปภาคทะเลตะวันออก ชูเฟิ งก็
แข็งแกร่ งขึ้นมาก มันคงไม่ไปทั้งๆที่อยูใ่ นอาณาจักรแก่นแท้วญ ิ ญาณ
หรอก

A : มึงจะหลอกสปอยว่า พี่เฟิ งใกล้เข้าสู่ อาณาจักรสวรรค์วา่ งั้นเถอะ!!!

B : ขนาดมึงยังทําได้ กูทาํ ไมจะทําไมได้ 55555+


บทที่ 478 – ราชาวานร

หลังจากที่ ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง , จาง เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง ได้
ตัดสิ นใจที่จะไปยังสํานักสี่ คาบสมุทรด้วยกัน พวกเขาได้พดู คุย
แลกเปลี่ยนความรู ้กนั อย่างสนิทสนม

ไม่กี่วนั ก่อนนั้น เจียง หวูช่ าง ได้มาพบกับ ชูเฟิ ง กับคนอื่นๆ และ


ได้พาพวกเขาไปเที่ยวชมยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงหอตําราทักษะของ
ราชวงศ์เจียง เจียง หวูช่ าง ได้ให้พวกเขาเลือกฝึ ดทักษะที่พวกเขาสนใย
ได้ตามที่พวกเขาต้องการ
แต่นน่ั ก็ไม่มีประโยชน์สาํ หรับ ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ เพราะพวกเขามี
ทักษะที่แข็งแกร่ งอยูแ่ ล้ว อีกทั้งยังมีทกั ษะเร้นลับ และทักษะลับต้องห้าม
ดังนั้น พวกเขาจึงเพียงแค่ดูทกั ษะต่างๆ แต่พวกเขาก็ยงั ไม่กบั ทักษะใดๆ
ที่พวกเขาถูกใจ

หลังจากที่พกั อยูภ่ ายในราชวงศ์เจียงเป็ นเวลากว่าหนึ่งเดือน ราชา


วานร และ กู๋ เทียนเซิน ก็ได้ปรากฏตัวออกมา ชูเฟิ ง ไม่สามารถทราบได้
ว่า พวกเขาไปที่ใด และคุยเรื่ องอะไรกัน

เมื่อ ราชาวานร และ ชูเฟิ ง ได้อยูต่ ามลําพังนั้น ราชาวานรได้เล่าทุก


อย่างให้ ชูเฟิ ง ฟัง

“ราชวงศ์เจียงเชิญท่าน กับผูอ้ าวุโส กู๋ เทียนเซิ น ให้เข้าร่ วมในการ


บุกสุ สานจักรพรรดิ์ที่อาณาจักรมังกรฟ้าเช่นนั้นรึ !?” ชูเฟิ ง ตกใจเพียง
เล็กน้อยเท่านั้น เพราะเขาได้คาดคิดเอาไว้อยูบ่ า้ งแล้ว
“เจ้าต้องรู ้จกั สุ สานจักรพรรดิ์อยูแ่ ล้ว เพราะทักษะเร้นลับของเจ้า
เจ้าก็ได้มาจากสุ สานจักรพรรดิ์ไม่ใช่รึ !?” ราชาวานร กล่าวพลาง
หัวเราะเบาๆ ราวกับว่าเขารู ้อยูแ่ ล้วว่า ชูเฟิ ง ได้ครอบครองทักษะเร้นลับ

“พีล่ ิง ข้าบอกตามตรง ข้ารู ้วา่ มีทางเข้าสุ สานจักรพรรดิ์สี่เส้นทาง


และมีหนึ่งทักษะเร้นลับที่ยงั คงเป็ นปริ ศนา” ชูเฟิ ง กล่าวอย่าง
ตรงไปตรงมา

“ถูกต้อง !! มีทกั ษะเร้นลับอีกหนึ่งทักษะ ที่ยงั ไม่ปรากฏออกมา


และเส้นทางเข้าก็ควรจะอยูท่ ี่หุบเขาวิหคเพลิง” ราชาวานร กล่าว

“พีล่ ิง ท่านรู ้อยูแ่ ล้วเช่นนั้นรึ !!” ชูเฟิ ง อุทานด้วยความประหลาด


ใจ เพราะเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า ราชาวานรจะมีความรู ้มากมายเช่นนี้
“เอ๋ …..เจ้าหนุ่ม แม้แต่เจ้ายังรู ้เรื่ องราวมากมายเช่นนี้ จะเป็ นไป
ไม่ได้เลยรึ ที่ขมุ อํานาจอย่างราชวงศ์เจียง ซึ่ งอยูม่ ากว่าพันปี จะไม่ทราบ
เรื่ องนี้ และพวกเขาอาจจะมีขอ้ มูลที่ละเอียดมากกว่าเจ้าอีก” ราชาวานร
กล่าวพลางยิม้ บางๆ

“ถ้าราชวงศ์เจียงรู ้อยูแ่ ล้ว ทําไมพวกเขาไม่บุกเข้าไปในสุ สาน


จักรพรรดิ์ แต่กลับปล่อยให้ขา้ ได้รับผลประโยชน์เช่นนี้” ชูเฟิ ง กล่าว
ถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน

“ฮี่ฮี่ ราชวงศ์เจียงได้บุกเข้าไปยังสุ สานจักรพรรดิ์แล้ว แต่พวกเขาก็


ไม่ได้รับอะไรกลับมา เพราะที่นนั่ เป็ นเรื่ องของโอกาส แม้วา่ พวกเขาจะ
สามารถบุกเข้าไปได้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับการยอมรับจากทักษะเร้น
ลับ”

“นอกจากนี้ ความแข็งแกร่ งของสุ สานจักรพรรดิ์กไ็ ม่อาจประเมิน


ได้ แม้แต่ราชวงศ์เจียงที่แข็งแกร่ ง ก็ไม่สามารถเปิ ดสุ สานจักรพรรดิ์ได้
อย่างสมบูรณ์ แม้วา่ พวกเขาจะทุ่มกําลังทั้งหมด พวกเขาก็ไม่อาจทํา
สําเร็ จ และจะต้องสู ญเสี ยมากกว่าผลตอบแทนที่จะได้รับแน่นอน”

“ดังนั้น พวกเขาจึงยังมีความกังวลที่จะบุกเข้าไปยังสุ สาน


จักรพรรดิ์ พวกเขาได้เฝ้ารอให้ผทู ้ ี่เป็ นอัจฉริ ยะแห่งการต่อสู เ้ กิดขึ้นมา
ภายในราชวงศ์ของพวกเขา พวกเขาได้เฝ้ารอมากว่าร้อยปี แต่พวกเขาก็
ไม่อาจทําสิ่ งใดได้ แม้วา่ พวกเขาจะขึ้นเป็ นจักรพรรดิ์ของเก้าทวีปแล้วก็
ตาม”

“แต่ในตอนนี้ พวกเขาได้เตรี ยมความพร้อมทุกอย่างเรี ยบร้อยแล้ว


เพราะสิ่ งที่พวกเขารอคอยได้เกิดขึ้นแล้ว และนัน่ ก็คือเจ้า” ราชาวานร
กล่าวพลางยิม้ บางๆ

“ข้า !!” ชูเฟิ ง กล่าวออกมาด้วยความตกใจ


“ถูกต้อง เพราะเจ้าได้ครอบครองทักษะเร้นลับสองทีกษะจาก
ทางเข้าสุ สานจักรพรรดิสองทาง ยิง่ กว่านั้น ในตอนที่เจ้าได้รับทักษะเร้น
ลับมานั้น เจ้ามีระดับพลังเพียงน้อยนิด แต่เจ้ากลับสามารถเข้าไปยัง
สุ สานจักรพรรดิ และได้รับการยอมรับจากทักษะเร้นลับ”

“เจ้าอาจจะมีชะตาบางอย่างที่เกี่ยวพันธ์กบั สุ สานจักรพรรดิ พวก


เขาก็อาจจถได้รับบาฝอย่างกลับมา หาเพินทางไปพร้อมกับเจ้า”

“และนัน่ ก็เป็ นเหตุผลหนึ่ง ที่ราชวงศ์เจียงรี บเดินทางไปยังนิกาย


โลกวิญญาณ และยุติสงคราม เพื่อที่พวกเขาจะได้พาตัวเจ้ากลับมา”
ราชาวานร กล่าว

“นัน่ เป็ นเหตุผลที่แท้จริ ง ที่พวกเขาช่วยเหลือข้ารึ !?” ชูเฟิ ง ไม่


คาดคิดมาก่อนเลยว่า ราชวงศ์เจียงจะสนใจในตัวเขาเช่นนี้ และเขาเองก็
ไม่รู้วา่ มันนะเป็ นโชคดีหรื อโชคร้ายของเขา
“ยังไงก็ตาม ในตอนนี้ราชวงศ์เจียงได้เตรี ยมกองทัพที่แข็งแกร่ งไว้
แล้ว พวกเขาพร้อมที่จะเปิ ดทางเข้าสุ สานที่อยูใ่ นหุบเขาวิหคเพลิงแล้ว”

“กู๋ เทียนเซิน และข้าเอง ก็จะเข้าร่ วมในการบุกสุ สานในครั้งนี้ดว้ ย


และเจ้า คือบุคคลที่ขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด” ราชาวานร กล่าว

“ความน่ากลัวของสุ สานจักรพรรดิน้ นั น่ากลัวมาก แม้แต่ราชวงศ์


เจียงยังไม่กล้าประมาท แล้วคนเช่นข้าจะไปทําอะไรได้” ชูเฟิ ง กล่าว

“ เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องทําอะไร เพียงเชื่อฟังข้า คนจากราชวงศ์เจียง จะ


ปกป้องเจ้าอย่างดี”

“นอกจากนี้ เจ้ายังได้เข้าไปยังสุ สานจักรพรรดิ เจ้าเองก็รู้วา่ ภายใน


สุ สานมีสมบัติอยูม่ ากมาย แม้วา่ เจ้าจะไม่แข็งแกร่ ง แต่เจ้าก็ยงั ได้รับส่ วน
แบ่งอยู”่

“เพียงแค่ใบ้โชคของเจ้า ที่สามารถได้รับการยอมรับจากทักษะเร้น
ลับทั้งสองทักษะนั้น เจ้าก็จะได้รับสิ่ งที่มีค่ากลับมาแน่นอน”

“ทั้งหมดนี้ลว้ นเป็ นสิ่ งดีท้ งั สิ้ น รอจนกว่าราชวงศ์เจียงจะเตรี ยมการ


ทุกอย่างเสร็ จ เจ้าเพียงเชื่อฟังข้า พวกเราจะไปด้วยกัน หากมีอะไร
เกิดขึ้น ข้าจะพาเจ้าหลบออกมา ด้วยความสามารถของผูเ้ ชื่อมต่อระดับ
ชุดคลุมสี ม่วงของข้า รับรองว่าเจ้านะไม่เป็ นอะไร”

ราชาวานรกล่าวออกมา แววตาสี แดงเลือดของเขาเต็มไปด้วยความ


กระหายอย่างแท้จริ ง อาจกล่าวได้วา่ สมบัติของสุ สานจักรพรรดิน้ นั
สามารถดึงดูดความสนใจของทุกๆ คนได้อย่างไม่มีขอ้ โต้แย้ง
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง ทําได้เพียงพยักหน้ารับเท่านั้น ภายใต้
สถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ความจริ งแล้วนั้น เขาเองก็
ต้องการได้รับประโยชน์จากสุ สานจักรพรรดิ และในตอนนี้ ราชวงศ์
เจียงกําลังจะบุกสุ สานจักรพรรดิ นัน่ จึงเป็ นโอกาสดีสาํ หรับเขาอย่างมาก

“ทางที่ดี ชูเฟิ ง เจ้าควรจะเก็บเรื่ องนี้ไว้เป็ นความลับ” ราชาวานร


กล่าวพร้อมกับส่ งถุงจักรวาลมาให้ ชูเฟิ ง

“นี่คือ…..!?” ชูเฟิ ง กล่าวถามด้วยความอยากรู ้ จากนั้นเขาก็


ตรวจสอบสิ่ งที่อยูภ่ ายในถุงจักรวาลอย่างรใดเร็ ว หลังจากตรวจสอบ
เสร็ จ ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ

“พีล่ ิง นี่มนั มีค่ามากเกินไปสําหรับข้า ข้าไม่อาจรับมันไว้


ได้……” ภายในถุงจักรวาลนั้น มียาระดับแดนสวรรค์อยูส่ ามหมื่น
ต้น มันมีราคาเทียบเท่ากับลูกแก้วแก่นวิญญาณสามสิ บล้านลูก และนัน่
คือสิ่ งที่ราชาวานรเรี ยกร้องจากห้ามหาอํานาจ
“ในตอนนี้ ข้าไม่สามารถพึ่งพาทรัพยากรเหล่านี้ได้ ในอนาคต
หากย้าสามารถทะลวงเข้าสู่ ข้นั เทพสงครามได้ การบ่มเพาะพลังของข้า
จะเป็ นเรื่ องยากมาก สิ่ งเหล่านี้ ข้าได้รับคําชี้แนะมาจากผูเ้ ชี่ยวชาญ
อาวุโสท่านหนึ่ง ท่านบอกข้าว่า หากข้าสามารถทะลวงเข้าสู่ ข้นั เทพ
สงครามได้ ท่านนะมาชี้แนะข้าอีกครั้ง”

“ทรัพยากรเหล่านี้เหมาะกับเจ้ามากที่สุด เพราะในตอนนี้ เจ้ากําลุง


จะสร้างสํานักมังกรฟ้าขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยทรัพยากรเหล่านี้ จะสามารถ
สร้างชื่อเสี ยงให้กบั สํานักมังกรฟ้าของเจ้าอีกมาก” ราชาวานร กล่าว
พลางยิม้ บางๆ

“พีล่ ิง ข้า……..” หลังจากได้เห็นการแสดงออกของราชาวานร


นั้น เมื่อคิดย้อนกลับไปในตอนแรก ที่ ชูเฟิ ง ไม่เชื่อใจเขา และบังคับให้
เขากินยาพิษเข้าไป ชูเฟิ ง จึงรู ้สึกละอายใจ

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////
แปลโดยคุณ#Abhisit
บทที่ 479 – การคาดเดาของบรรพบุรุษราชวงศ์เจียง

ในตอนนี้น้ นั ชูเฟิ ง ต้องการถอนพิษให้กบั ราชาวานร อย่างแท้จริ ง


แต่เขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้ เพราะว่ายาพิษนั้นเป็ นของ ต้านต้าน และ
นัค่ ือยาพิษที่มาจากโลกวิญยาณอสู รฟ้า

แน่นอนว่าที่โลกวิญญาณอสู รฟ้านั้นมียาพิษอย่างแน่นอน แต่ ต้าน


ต้าน ถูกผนึกจนไม่สามารถกลับไปยังโลกอสู รฟ้าได้ นัน่ จึงทําให้ไม่
สามารถรับยาแก้พิษได้

ตราบใดที่ ราชาวานร ยังไม่ถูกถอนพิษ เมื่อ ชูเฟิ ง คิดถึงจุดนี้ มันยิง่


ทําให้เขาละอายใจมายิง่ ขึ้น เพราะเขาได้ให้ยาพิษที่ไม่มียาแก้แก่ราชา
วานร
“อ่า เจ้าหนุ่ม อย่าได้คิดมากเช่นนั้น เจ้าคิดว่าที่ขา้ เรี ยกเจ้าว่า
‘น้องชาย’ มันเป็ นเพียงเรื่ องตลกเช่นนั้นรึ ข้าถูกชะตากับเจ้ามาก ดังนั้น
ข้าจึงอยากเป็ นพี่นอ้ งกับเจ้า”

“มันเป็ นเรื่ องธรรมดาที่เจ้าไม่เชื่อใจข้า และให้ขา้ กินยาพิษ เพราะ


ในตอนแรกนั้น เป็ นเพราะข้าเอง ที่ทาํ ให้เจ้าต้องตกอยูใ่ นอันตรายจน
เกือบจะเอาชีวติ ไม่รอด ถึงแม้วา่ นัน่ จะเป็ นการทดสอบของข้า แต่เจ้าก็
เกือบจะตายไปจริ งๆ”

“ยังไงก็ตาม เจ้าทําให้ขา้ ตกอยูใ่ นอันตราย และข้าก็เคยทําให้เจ้านก


อยูใ่ สอันตรายเช่นกัน ดังนั้น ตอนนี้เราคือ พี่นอ้ ง ไม่นาํ เป็ นต้องคิดมาก
เรื่ องในอดีต”

“ก่อนที่พวกเราจะไปด้วยกันนั้น การบุกสุ สานจักรพรรดิไม่ใช่


เรื่ องเล็กๆ ราชวงศ์เจียงต้องใชเวลาเตรี ยมการอยูพ่ อสมควร”
“ในตอนนี้ พวกเรารวรไปยังสํานักมังกรฟ้า และช่วยเหลือภรรยา
ทั้งสองคนของเจ้าก่อน จากนั้นค่อยว่ากันใหม่” ราชาวานร มองเห็นถึง
ความละอายใจของ ชูเฟิ ง เขาจึงกล่าวออกมาด้วยรอยยิม้ เพื่อคลายความ
ละอายใจของ ชูเฟิ ง

เมื่อเขากล่าวจบ เขาก็เปิ ดประตูออกไป และเรี ยก จื่อ หลิง กับ จาง


เทียนยี่ มารวมตัวกัน เพื่อออกจากสถานที่แห่งนี้ และมุ่งหน้าสู่ อาณาจักร
มังกรฟ้า

หลังจากเห็นกาาแสดงออกของ ราชาวานร นั้น หัวใจของ ชูเฟิ ง ก็


เต็มไปด้วยความอบอุ่น หลังจากที่ได้ผา่ นเหตุการณ์ต่างๆ มา เขาก็ได้
รับรู ้วา่ พีใ่ หญ่ของเขาเป็ นคนดีอย่างมาก ถึงแม้วา่ เขาจะไม่ใช่มนุษย์ แต่
ชูเฟิ ง ก็ชอบเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ

หลังจากรู ้วา่ ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ กําลังจะออกไปนั้น ทางราชวงศ์


เจียงจึงได้จดั งานเลี้ยงบนหอชมจันทร์ เพื่อสร้างความสําราญให้แก่ทุกๆ
คน

ภายในงานเลี้ยงนั้น ทุกๆ คนมีความสุ ขอย่างมาก แต่ไม่วา่ จะเป็ น ชู


เฟิ ง หรื อราชาวานร พวกเขาไม่ได้สงั เกตเลยว่า ในกลุ่มของเมฆหมอกที่
อยูน่ อกหอชมจันทร์น้ นั มีหอคอยหนึ่งตั้งอยู่ บนหอคอยนั้นมีชายชรายืน
อยู่ เขาสวมเสื้ อผมสี ขาวขริ บทอง และมีผมสี เทา

ชายชราผูน้ ้ นั แข็งแกร่ งอย่างมาก ออร่ าของเขาเข้มข้นอย่างมาก


ความแข็งแกร่ งของเขาอยูเ่ หนือกว่าราชาวานรอย่างเห็นได้ชดั และที่ไม่
มีใครสังก้ ตเห็นหอคอยนี้ เพราว่าหอคอยนี้ถูกปกคลุมไปด้วยรู ปแบบ
อํานาจพลังวิญญาณสี ม่วง และรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณเหล่านั้นก็
ออกมาจากฝ่ ามือของชายชราผูน้ ้ นั

ดวงตาของชายชราผูน้ ้ นั เต็มไปด้วยความมีชีวติ ชีวา ขณะที่เขามอง


ไปยังการสนทนาของ เจียง หวูช่ าง และ ชูเฟิ ง
“เจียง เฮิงหยวน ขอคาราวะ” ชายชราที่ยนื อยูบ่ นยอดหอคอยนั้น
พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็มีเงาร่ างของชายผูห้ นึ่งปรากฏตัวขึ้นมาที่
ด้านหลังของ คนๆ นั้นคือ ผูเ้ ชี่ยวชาญจากราชวงศ์เจียง ที่เฝ้าดูอาณาจักร
มัฝกรฟ้ามายาวนาน เจียง เฮิงหยวน

“โอ้ เฮิงหยวน เจ็ดปี แล้วซิ นะ ในที่สุดเจ้าก็มาพบคนแก่เช่นข้า”


บรรพบุรุษของราชวงศ์เจียง กล่าวออกมาพร้อมกับยิม้ บางๆ แต่แววตา
ของเขากลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“ท่านบรรพบุรุษ ข้าได้รับมอบหมายคําสัง่ ให้ไปยังอาณาจักรมังกร


ฟ้า เพื่อคนหากายศักดิ์สิทธิ์ แต่ขา้ ก็ไม่อาจทําสําเร็ จ เพราะว่าในตอนนั้น
มีทารกจํานวนมสก และข้าก็ไม่อาจพบเจอกับกายศักดิ์สิทธิ์ได้ ข้าละอาย
ยิง่ นักที่ยงั มีชีวติ อยู่ แต่กลับไม่สามารถพบกายศักดิ์สิทธิ์ได้” ขณะที่
เจียง เฮิงหยวน กล่าวนั้น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความละอายใจ
“แล้วทําไมเจ้าถึงกลับมาในวันนี้” บรรพบุรุษของราชวงศ์เจียง
กล่าวถาม

“ข้าได้ยนิ มาว่าท่านต้องการจะบุกสุ สานจักรพรรดิ สุ สาน


จักรพรรดิน้ นั ลึกลับอย่างมาก ข้าซึ่ งเป็ นส่ วนหนึ่งของราชวงศ์เจียง จึง
กลับมาร่ วมเป็ นกําลังของราชวงศ์เจียง” เจียง เฮิงหยวน กล่าวตอบ

“ฮ่าๆ เอาล่ะ เฮิงหยวน ลุกขึ้น” บรรพบุรุษกล่าวพร้อมกับเดินไป


ทาง เจียง เฮิงหยวน ที่กาํ ลังคุกเขาอยู่ และกล่าวต่อว่า “เจ้าได้รับรู ้สิ่ง
ใดบ้างในตลอดเวลาเจ็ดปี ที่เจ้าได้เฝ้ามองอาณาจักรมังกรฟ้า”

“ช่างน่าละอายยิง่ นัก ตลอดเจ็ดปี ที่ขา้ ได้เฝ้ามองอาณาจักรมังกรฟ้า


ข้าไม่ได้พบสิ่ งใดเลย ท่านบรรพบุรุษโปรดลงโทษข้าด้วย” ขณะที่ เจียง
เฮิงหยวน กล่าวนั้น เขาได้คุกเข่าลงไปอีกครั้ง
แต่ก่อนที่เขาจะคุกเข่าลงไปนั้น เขาได้ถูกหยุดไว้โดยบรรพบุรุษ
ของราชวงศ์เจียง เขากล่าวออกมาว่า “โอ้ เฮิงหยวน เจ้าอย่าได้ตาํ หนิ
ตัวเองเช่นนั้น หากจะตําหนิใคร ผูน้ ้ นั คงจะเป็ นข้า”

“ท่านบรรพบุรุษ เพราะเหตุใดเล่า !?” หลังจากได้ยนิ เช่นนั้น เจียง


เฮิงหยวน ก็กล่าวถามออกมาด้วยใบหน้าที่สบั สน

“เฮิงหยวน ในตอนนั้น ได้มีสายฟ้าเก้าสี ผา่ ลงมาเหนือดาวแม่น้ าํ เก้า


สวรรค์ จากการสังเกตของข้า มันตรงกับตามตํานานว่าได้มีผเู ้ ชี่ยวชาญที่
ยิง่ ใหญ่ถือกําเนิดบนโลกใบนี้”

“ยังไงก็ตาม หลังจากที่ผา่ นไปหลายปี แต่ยงั ไม่พบกายศักดิ์สิทธิ์


นั้น ข้าจึงได้ลองศึกษาตําราต่างๆ ของราชวงศ์ และได้พบกับความ
เป็ นไปได้อีกประการหนึ่ง” บรรพบุรุษของราชวงศ์เจียง กล่าว
“ความเป็ นไปได้อะไรหรื อขอรับ !?” เจียง เฮิงหยวน กล่าวถาม

“เหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็ นสัญญาณของผูเ้ ชี่ยวชาญที่ยงิ่ ใหญ่


แน่นอน แต่มนั ไม่ใช่กายศักดิ์สิทธิ์ แต่มนั คือพลุงที่ยง่ิ ใหญ่กว่ากาย
ศักดิ์สิทธิ์” บรรพบุรุษของราชวงศ์เจียง กล่าวตอบ

“พลังที่แข็งแกร่ งกว่ากายศักดิ์สิทธิ์ !!” เจียง เฮิงหยวน ตกใจอย่าง


มาก

“ถึงแม้วา่ จะไม่สามารถระบุได้วา่ มันคือสิ่ งใด แต่ขา้ สามารถบอก


ได้วา่ บุคคลในเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตอนนี้ได้อยูภ่ ายในราชวงศ์เจียง
ของข้า” ขณะที่เขากล่าว เขาได้เดินไปรอบๆ ยอดหอคอย และสายตา
ของเขาก็มาหยุดอยูท่ ี่ ชูเฟิ ง

“นัน่ มัน….ชูเฟิ ง” จากสายตาของบรรพบุรุษของราชวงศ์เจียงนั้น


เจียง เฮิงหยวน แทบจะไม่เชื่อสายตาของเขา ใบหน้าของเขา
เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว เขากล่าวออกมาว่า “เขาคือ ชูเฟิ ง
พรสวรรค์ของเขานั้นยอดเยีย่ มมาก แต่ตอนนี้เขาอายุสิบเจ็ดปี ซึ่ งมันไม่
ตรงกับอายุของคนในเหตุการณ์ในครั้งนั้น”

“โอ้ เฮิงหยวน เจ้ายังไม่ละทิ้งความเชื่อนี้ไว้ในอาณาจักรมังกรฟ้า


อีกรึ ตลอดเวลาเจ็ดปี เจ้ายัฝคงเชื่อมัน่ อย่างแท้จริ ง”

“เหตุการณ์ผดิ ปกติในครั้งนั้น มันเป็ นสัญญาณของผูเ้ ชี่ยวชาญที่


ยิง่ ใหญ่ แต่กไ็ ม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเป็ นเช่นนั้นตั้งแต่แรกเกิด”

“ตามบันทึกโบราณนั้น มันอาจหมายถึงได้หลายรู ปแบบ มัน


อาจจะเกิดขึ้นในตอนที่พวกเขาเป็ นหนุ่ม หากพลังของพวกเขาตื่นขึ้น
พวกเขาจะพลังที่สามารถทําลายได้แม้แต่ทอ้ งฟ้าและผืนดิน”
“แม้วา่ ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง และ จาง เทียนยี่ จะไม่ได้ยอมรับว่า พวก
เขาบุกไปยังหุบเขากระบี่ แต่สิ่งที่ขา้ รู ้มานั้น พวกเขาได้ใช้ราชรถที่
งดงามไปยังหุบเขากระบี่”

“และเหตุผลเดียวที่หุบเขากระบี่พบกับภัยพิบตั ิเช่นนั้น แน่นอนว่า


จะต้องเกี่ยวของกับ ชูเฟิ ง” บรรพบุรุษของราชวงศ์เจียงกล่าว

“จริ งรึ ท่านบรรพบุรุษ ที่หุบเขากระบี่ได้พบกับภัยพิบตั ิเช่นนั้น เป็ น


เพราะ ชูเฟิ ง มนุษย์ธรรมดาไม่น่ามีพลังที่น่ากลัวเช่นนั้นได้”

หลังจากได้ยนิ เช่นนั้น เจียง เฮิงหยวน ตกใจอย่างมาก เพราะเมื่อเขา


รู ้วา่ หุบเขากระบี่ได้เผชิญกับภัยพิบตั ิครั้งใหญ่ เขาได้ไปตรวจสอบใน
สถานที่น้ นั และเห็นถึงทุกสิ่ งทุกอย่างที่พินาศจนหมดสิ้ น เขาจึงคิดว่า
นัน่ น่าจะเกิดจากฝี มือของธรรมชาติ
“โอ้ เฮิงหยวน โลกใบนี้มนั กว้างใหญ่นกั ท้องฟ้าที่เรากําลังเห็นอยู่
นี้ เป็ นเพียฝท้องฟ้าที่พวกเรามองเห็นได้จากก้นบ่อนํ้าเท่านั้น ยังมีอีก
หลายสิ่ งหลายอย่างที่พวกเราไม่อาจนึกถึงได้”

“ตามบันทึกโบราณนั้น ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทะเลสาบขนาดเล็ก


นั้นมีพ้นื ที่มากกว่าทวีปเก้าอาณาจักรของพวกเรา แม้แต่ผนื ป่ าเดียวก็มี
ขนาดใหญ่มากกว่าทวีปเก้าอาณาจักรหลายเท่านัก”

“สิ่ งมีชีวติ ในดินแดนนั้น คือสัตว์ขนาดใหญ่ ที่มีร่างกายใหญ่กว่า


ภูเขา และนกยักษ์ที่ความยาวของปี กเพียงข้างเดียวก็ยาวหลายไมล์ แม้แต่
แมลงขนาดเล็กสุ ดยังมีความยาวมมกกว่าสิ บเมตร”

“มนุษย์ที่จะสามารถอาศัยอยูใ่ นสถานที่แห่งนั้นได้ จะต้องไม่ได้มี


พลังเพียงแค่ข้นั แดนสวรรค์เท่านั้น ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่อาจดํารงค์
ชีวติ อยูไ่ ด้” บรรพบุรุษกล่าวพลางยิม้ บางๆ แววตาของเขาลุกวาวขณะที่
เขามองไปยัง ชูเฟิ ง
เพราะเขารู ้สึกว่า พลังของ ชูเฟิ ง คือพลังที่มาจากดินแดนแห่งนั้น

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยคุณ#Abhisit ReadMGA
บทที่ 480 - ความน่ากลัวของมุกอัตคีและมุกนํ้าแข็ง

หลังจากที่จบงานเลี้ยงในราชวงศ์เจียง ชูเฟิ งและคนอื่นๆก็รุบมุ่งหน้า


กลับสํานักมังกรฟ้า

แต่ก่อนจะกลับ ราชันย์วานรได้ขอความร่ วมมือของราชวงศ์เจียง 2


อย่าง อย่างแรก คือ ชูเฟิ งต้องการกําลังคนจํานวนมาก และ ทรัพยากรใน
การสร้างสํานักมังกรฟ้า
อย่างที่สองคือการใช้นามของเขาตามหา ห้าราชันย์ปีศาจของหุบเขาพัน
ปี ศาจ โดยบอกให้เหล่า ห้าราชันย์ปีศาจ นํากองทัพสัตว์มหึ มาทั้งหมด
ในหุบเขาพันปี ศาจมายังที่เทือกเขามังกรฟ้าเพื่อเข้าร่ วมกับเขา และ
ประกาศให้ท้ งั โลกได้รู้

เป็ นธรรมดาที่ราชวงศ์เจียงเห็นด้วยกับคําขอ 2 ข้อของอสู รราชันย์


วานร

หลังจากที่ผา่ นไปได้ในระยะหนึ่ง ชูเฟิ งและคนอื่นๆก็กลับมาถึง


เทือกเขามังกรฟ้า แต่เพื่อกันความไม่พอใจของผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ชู
เฟิ งจึงได้ไม่บอกราชันย์วานรว่าผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้ายังมีชีวติ อยูบ่ นโลก

ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงเข้าไปในสุ สานพันกระดูกและบอกผูก้ ่อตั้งสํานักมังกร


ฟ้าว่าเขาได้พบกับผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดม่วงที่สามารถช่วยซูรู่และซูเหม่ยได้
แล้ว นอกจากนี้เขายังถามผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าว่าจะให้ผเู ้ ชื่อมต่อฯชุด
ม่วงฟื้ นคืนชีพของเขาด้วยเลยหรื อเปล่า

" โอ้ ชูเฟิ ง การฟื้ นฟูร่างกายใหม่ไม่ใช่เรื่ องเล็กๆ ข้าไม่อยาก


สร้างปัญหาให้กบั คนภายนอก "

" อีกอย่างขอรอคอยมานับพันปี รออีกหน่อยก็คงไม่หนักหนา


ดังนั้น ข้าจะรอจนกว่าวันที่เจ้าจะได้เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดม่วงแล้วจากนั้น
เจ้าค่อยมาช่วยข้า แบบนั้นจะดีกว่า"

" เรื่ องที่ขา้ ยังมีชีวติ อยูบ่ นโลก นอกจากมันไม่มีทางเลือก เจ้า


อย่าได้บอกใคร "

" ตอนนี้ขา้ จะถ่ายทอดการวางรู ปแบบฯให้แก่เจ้า เพราะข้าและ


ไข่มุกลึกลับต้องย้ายเข้าไปในส่ วนลึกสุ สานจักรพรรดิ "

" แต่ยงั ไงก็ตาม เจ้าควรรู ้ไว้วา่ หลังจากที่นาํ ไข่มุกลึกลับออกมา


มันจะทําให้มุกอัคคีและมุกนํ้าแข็งมีปฏิกิริยา จนทําให้ร่างกายของซูรู่
แลซูเหม่ยไม่มนั่ คง "

" ดังนั้นผูเ้ ชื่อมต่อชุดม่วงที่เจ้าเรี ยกมา เจ้าต้องแน่ใจก่อนว่าวีธี


การของเขา จะสามารถปกป้อง ซูรู่ และ ซูเหม่ย ให้มีชีวติ "

แน่นอนว่าเป็ นไปตามที่เขาคาดเดา ว่าผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าจะต้อง


ปฏิเสธการช่วยเหลือจากราชันย์วานร และเขาก็หวังว่าพวกเขาจะไม่รู้
เรื่ องที่ผกู ้ ่อตั้งยังมีชีวติ

" ข้าจะปฏิบตั ิตามคําสัง่ ของท่านบรรพบุรุษ " ชูเฟิ งคารวะ แล้ว


รี บลงมือช่วยผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้ายกเลิกรู ปแบบฯในปั จจุบนั เนื่องจาก
ต้องนําไข่◌ุมุกที่อยูใ่ นร่ างของผูก้ ่อตั้งย้ายไปไว้ที่อื่น เพือ่ เข้าสู่ ข้ นั ตอน
ในการช่วย ซูรู่ และ ซูเหม่ย

แต่เนื่องจากไม่มีพลังจากไข่มุกลุึกลับ มันจึงเป็ นเรื่ องยากที่จะกําราบมุก


อัคคีและมุกนํ้าแข็ง ที่อยูใ่ นร่ างกายของพวกนาง เพียงแค่แปปเดียว
หลังจากที่เปิ ดผนึก นํ้าแข็งและเปลวเพลิงก็ค่อยๆแผดเผาพวกนางจน
ต้องกรี ดร้อง ซึ่งนี้กค็ ือราคาในการที่พวกเขาจะต้องจ่ายในการพยายาม
ดึงไข่มุกทั้งสองออกจากร่ าง

ในสถานการณ์แบบนี้ ชูเฟิ งจึงไม่มีทางเลือกจึงต้องรี บตาม อสู รราชันย์


วานรที่เป้นผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดม่วง มาควบคุมสถานการณ์

ผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้านั้นรวดเร็ วอย่างมาก ก่อนที่ราชันย์วานรจะมาถึง เขาได้


ย้ายร่ างกายของเขาและไข่มุกลึกลับเข้าไปในส่ วนลึกของสุ สานพัน
กระดูก เพื่อป้องกันราชันย์วานรพบเจอกับร่ างกายของเขาและไข่มุก
ลึกลับ
" มุกทั้งสองนี้มีทรงพลังอย่างมาก ชูเฟิ งเจ้าไปเจอพวกมันจาก
ไหน " หลังจากที่ราชันย์วานรมาถึงสุ สานพันกระดูก เค้าก็ได้ประจักษ์
พลังของมุกอัคคีและมุกนํ้าแข็ง จนเขานั้นตกใจ

" ข้าพบมันใจส่ วนลึกของสุ สานพันกระดูก ว่าแต่พี่วานร


เป็ นไงบ้าง ท่านพอจะช่วยซูรู่และซูเหม่ยไหวไม๊ ? " เห็นราชันย์วานร
ตกใจ ชูเฟิ งก็ขมวดคิ้วลงด้วยความกังวล

" ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ไข่มุกทั้งสองนี้ทรงพลังอย่างมากมันมี


ประสิ ทธิภาพกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากตอนนี้ไข่มุกทั้งสองมันเกือบจะ
รวมเข้ากับร่ างของภรรยาทั้งสองของเจ้า ดังนั้นจึงเป็ นไปไม่ได้ที่จะดึง
พวกมันออกมาจากร่ างของพวกนาง แต่ขา้ สามารถใช้รูปแบบผนึกพิเศษ
ระงับมันไว้ได้ แต่ไม่วา่ มันจะสําเร็ จหรื อไม่น้ นั จะขึ้นอยูก่ บั ภรรยาทั้ง
สองของเจ้า ว่าร่ างกายพวกนางจะอดทนและมุ่งมัน่ มากแค่ไหน "
" หากทําได่สาํ เร็ จ ไข่มุกทั้งสองก็จะถูกกําราบ แต่หากล้มเหลว
ไข่มุกจะเข้าควบคุมร่ างกายพวกนางอย่างสมบูรณ์และพวกมันจะฟื้ น
ขึ้นมา "

" ในตอนนั้นไม่เพียงแต่พวกนางจะตาย มันยังลุกลามไปถึง


อาณาจักรทั้ง 9 แม้แต่ทวีปอื่นๆก็อาจจะพบกับภัยพิบตั ิ "

" เพราะไข่มุกเหล่านี้ทรงพลังอํานาจมากเกินไป ข้ารู ้สึกว่าพลัง


ที่แท้จริ งของพวกมันได้ถูกผนึกไว้ ซึ่ งเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความชัว่
ร้าย และความมืดดําที่อยูใ่ นส่ วนลึกของจิตใจ หากพวกมันฟื้ นขึ้นมา ทุก
สรรพสิ่ งจะเข้าสู่ ขมุ นรกอเวจี มันน่ากลัวมากจนข้าไม่กล้าแม่แต่จะคิด "

" แต่ถา้ หากข้าใช้ตราประทับอีกรู ปแบบฯกับร่ างกายพวกนาง


มันสามารถช่วยหยุดยั้งการคืนชีพของมัน แต่ราคาที่ตอ้ งจ่าย คือชีวติ ของ
ภรรยาเจ้า "
" ชูเฟิ ง เจ้าพร้อมที่จะเสี่ ยงหรื อไม่ แค่เจ้าพูดมันออกมา ข้าก็จะ
ทําตามสิ่ งที่เจ้าเลือก " ราชันย์วานรพูดด้วยสี หน้าจริ งจัง เป็ นครั้งแรกที่
ชูเฟิ ง ได้เห็นใบหน้าการแสดงออกเช่นนี้ของราชันย์วานร

" ชูเฟิ ง ข้าขอร้อง ช่วยลูกสาวของข้าอย่าปล่อยให้พวกนางตาย


เลย!!! "

" ชูเฟิ ง ได้โปรดช่วยน้องสาวของข้าด้วย!!! พวกนางรักเจ้ามาก


แล้วเจ้าจะทนปล่อยให้นางตายต่อหน้าต่อตางั้นหรอ " ได้ยนิ คําพูด
เหล่านั้น พ่อและพีช่ ายของซูรู่ ซูเหม่ย ก็คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับเอาหัว
โขกขอร้อง

" ชูเฟิ ง นี่ไม่ใช่เรื่ องเล็กๆ ข้าขอให้เจ้าคิดถึงคนส่ วนมาก "


" ใช่ ชูเฟิ ง การเดิมพันครั้งนี้มนั เสี่ ยงเกินไป ไม่ใช่แค่พวกเราจะ
ตาย แม้แต่ทวีปทั้งหมดก็อาจได้รับผลกระทบ!!! "

หลังจากที่รู้วา่ ไข่มุกทั้งสองน่ากลัวแค่ไหน ก็มีคนพูดขึ้นเพื่อกระตุน้ ชู


เฟิ ง ให้เขาเลือกที่จะปิ ดผนึกไข่มุกทั้งสองตลอดกาล โดยการเสี ยสละ
ของซูรู่ และซูเหม่ย

" ชูเฟิ งเจ้าเป็ นผูช้ าย ไม่ตอ้ งใส่ ใจเรื่ องเล็กๆอย่างชีวติ ไม่กี่ชีวติ


แต่สาํ หรับทุกสิ่ งนั้นมีค่ายิง่ กว่า เจ้าก็รู้วา่ มุกอัคคีและมุกนํ้าแข็งมันน่า
กลัวมากแค่ไหน " พวกเขาเริ่ มที่จะกระตุน้ ชูเฟิ งอีกแรง เพราะถ้าหาก
การปิ ดผนึกล้มเหลว ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าพวกเขาจะเป็ นคนแรกๆที่ตอ้ ง
สังเวย

" บัดซบ!!! ศิษย์นอ้ งชูเฟิ งมองพวกเจ้าเป็ นคนใกล้ชิดเขา แต่


ตอนนี้ พวกเจ้ากับบอกว่าให้เขาทําใจเห็นคนรักต้องตาย " ตอนนั้น จาง
เทียนยี่ โกรธอย่างมากเขาชี้ไปที่หน้าผูค้ นพร้อมกับตวาดใส่
" พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ซูรู่และซูเหม่ยเป็ นคนใกล้ชิดกับเขา แต่พวก
เราไม่ ? " สมาชิกในตระกูล ชู โต้

" ชู เฉิง ชู เซิ น ชู หมิงเซิ ง พวกเจ้าหุบปากให้หมด!!! " ชู


กู๋ย๋ ู ถลึงตามองใส่ สมาชิกในตระกูล แล้วพูดกับชูเฟิ งว่า " น้องชาย เจ้า
ควรช่วยซูรู่และซูเหม่ย ที่พวกเรารอดมาได้ถึงวันนี้เพราะเจ้า ดังนั้นเจ้าก็
ต้องช่วยนาง "

" ชูเฟิ ง เจ้าต้องช่วยแม่นางซูรู่ และแม่นางซูเหม่ย หากผิดพลาด


อย่างน้อยเราก็แค่ตายด้วยกัน ถึงยังไงชีวติ พวกเราก็เป็ นของเจ้า " ชูเยว่
พูดสนับสนุน

" ชู กู๋ย๋ ู ชู เยว่ เจ้าทั้งสองไม่ใช่คนตัดสิ นใจ ว่าพวกเราควรอยูห่ รื อ


ตาย ยิง่ ไปกว่านั้น เจ้าไม่มีสิทธิไปตัดสิ นชะตาของพันล้านชีวติ บนทวีป
นี้ "
" ชูเฟิ ง เจ้าต้องคิดให้รอบคอบ อาวุโสคนนั้นบอกแล้วว่าหากมุก
ทั้งสองฟื้ นคืนชีพ ทวีปอาณาจักรทั้ง 9 ก็จะพบกับหายนะ ในเวลานั้น
เจ้าจะกลายคนชัว่ ที่ถูกจดจําไปตลอดกาล " ผูค้ นจํานวนมากเริ่ มกรุ ะตุน้
ให้ ชูเฟิ ง เสี ยสละ ชีวติ ของคนรักทั้งสอง

" ทุกคนหุบปาก!!! เรื่ องนี้ชูเฟิ งเท่านั้นที่เป็ นคนตัดสิ นใจ ? "

" ข้าจะฆ่าใครก็ตามที่พดู ออกมา " ในตอนนั้น จื่อหลิงโกรธอย่าง


มาก ขณะที่ช้ ีหน้าผูค้ นและตะคอกใส่ เวลาเดียวกันระเบิดออร่ าสี ม่วงพุง่
ทะยานออกมาจากร่ างเหมือนดัง่ สัตว์ร้าย

เมื่อออร่ านั้นออกมา ผูค้ นในฉากนั้น ยกเว้น ชูเฟิ ง จาง เทียนยี่ และ


ราชันย์วานร ต่างถูกผลักกระเด็นอย่างต่อเนื่อง จนบางคนถึงกับได้รับ
บาดเจ็บสาหัส
ในตอนนั้นทุกคนที่อยูใ่ นฉากนั้นก็ปิดปากสนิท พวกเขารู ้สึกว่าจื่อหลิง
นั้นน่ากลัวอย่างมาก เพราะตอนนั้นเห็นได้ชดั เจนว่านางปล่อยจิตสังหาร
ออกมา โดยที่คิดจะฆ่าพวกเขาจริ งๆ

ดังนั้นทุกคนจึงเลือกที่จะอยูโ่ ดยเงียบๆ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะส่ งเสี ยง


ออกมา พวกเขาได้แต่โยนสายตาไปที่ ชูเฟิ ง เพื่อรอการตัดสิ นใจของเขา

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////

A : เย้ๆ ซูรู่ ซูเหม่ยจะฟื้ นแล้ว หรื อเปล่า ???

B : ตอนนี้ถา้ ฟื้ นขึ้นมา เมียพ่วงกันที่เดียว 3 คน น่าอิจฉาชิบหาย

A : แล้วถ้าตายอ่ะ ???
B : นั้นปากหรอ มึงอยากโดนเนรเทศอีกคนไง ???

A:...........
บทที่ 481 – การตัดสิ นใจของ ชูเฟิ ง

ในเวลานั้น ชูเฟิ ง หลังจาลง และเข้าไปยังโลกวิญญาณของเขา

เขายืนอยูท่ ี่ดา้ นหน้าของ ต้านต้าน และกล่าวถามว่า “ ต้านต้าน


ไข่มุกคิมหันต์ และเหมันต์ เป็ นอย่างที่พี่ลิงบอกหรื อเปล่า”

“ข้าไม่ได้เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ ดังนั้น ข้าจึงไม่อาจตรวจสอบ


พลังของไข่มุกได้ แต่ขา้ รู ้สึกว่าไข่มุกทั้งสองเม็ดนี้ยอ่ มไม่ใช่ของ
ธรรมดาแน่นอน”

“แต่เจ้าลิงน้อยนัน่ เป็ นถึงผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี


ม่วง อํานาจพลังวิญญาณของเจ้านัน่ ย่อมไม่ใช่ธรรมดา หากเจ้านัน่ บอก
เช่นนั้นก็คงจะจริ ง ถึงอย่างไรสุ สานจักรพรรดิกไ็ ม่สถานที่กระจอกอยู่
แล้ว มรดกที่เหลืออยูภ่ ายในนั้นย่อมไม่ใช่สิ่งของทัว่ ไป” ต้านต้าน กล่าว

“ข้าเข้าใจแล้ว” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง จึงลืมตาขึ้น เพื่อออกจาก


โลกวิญญาณของเขา และกล่าวกับทุกคนว่า “ทุกๆ คนที่อยูท่ ี่นี่ ช่วย
ออกไปด้านนอก และพยามยามอยูใ่ ห้ห่างจากตรงนี้ให้มมกที่สุด”

“เพราะสิ่ งที่ขา้ ชูเฟิ ง จะช่วยเหลือ ซูรู่ และ ซู่เหม่ย นั้น อาจเป็ น


ความเสี ยงที่ท้ งั ทวีปต้องเผชิญ หากว่าข้าทําผิดพลาด”

“นี่……..”

เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของ ชูเฟิ ง นั้น ทุกๆ คนต่างมองหน้ากันและกัน


ยิง่ คนที่เรี ยกร้องให้ ชูเฟิ ง ช่วยเหลือ ซูรู่ และ ซูเหม่ย นั้น พวกเขายิง่ มี
ใบหน้าที่ป้ ั นยาก จากตรงนี้ถึงจุดสุ ดท้ายนั้น ทุกๆ คนเลือกที่จะไม่
ออกไป ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะเคลื่อนย้าย และขยับไปไหน

“พี่ ชูเฟิ ง ข้า ชูเว่ย เคารพการตัดสิ นใจของท่าน ข้าเห็นท่านเป็ น


พี่ชายของข้า ไม่วา่ ผลออกมาจะสําเร็ จหรื อล้มเหลว ข้าก็จะขอเคียงข้าง
ท่าน” ชูเว่ย กล่าว

“ใช่แล้ว ชูเว่ย ถูกต้อง ชูเฟิ ง เจ้าไม่ตอ้ งกังวลไป ไม่วา่ ผลจะเป็ น


เช่นไร พวกเราจะสนับสนุนเจ้าเต็มที่”

“ใช่แล้ว ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง ที่พวกเรามีชีวติ รอดมาจนถึงตอนนี้ ก็


เพราะเจ้า เมื่อถึงเวลาคับขันเช่นนี้ จะให้พวกเราทอดทิ้งเจ้าได้เช่นไร”

“ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง ความแข็งแกร่ งของข้าอาจช่วยเหลืออะไรไม่ได้


แต่ขา้ ก็จะของเป็ นกําลังใจให้กบั เจ้า”
ในทันทีน้ นั ชูเฟิ ง รู ้สึกประหลาดใจอย่างมาก แม้แต่คนที่ไม่ได้
เรี ยกร้องให้เขาช่วยเหลือ ซูรู่ และ ซูเหม่ย หรื อแม้แต่คนที่ไม่เคย
เรี ยกร้องออะไรกับเขา ต่างยอมรับการตัดสิ นใจของเขา

เมื่อเห็นเช่นนั้น หัวใจของ ชูเฟิ ง ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาก เพราะพวก


เขาทุกคนไม่ได้มองว่า ชูเฟิ ง เป็ นคนนอก และต่างยอมรับนับถือเป็ น
ครอบครัวเดียวกันหมด

แม้วา่ บางคนจะเป็ นคนขี้ขลาด แต่พวกเขากลับมีหวั ใจที่ไม่มี


ความเห็นแก่ตวั ทุกคนในสถานที่แห่งนี้ จึงเป็ นกลุ่มคนที่ควรค่าแก่ความ
ไว้วางใจอย่างยิง่

***** ตูมมมมมม *****


แต่ในขณะนั้น ได้มีเสี ยงระเบิดดังขึ้น คลื่นความร้อน และความ
เย็นแผ่กระจายทะลุออกมาจากรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ และกวาด
ออกมาโดยรอบอย่างรุ นแรง

“ทุกคน !! ออกไปจากที่นี่เร็ ว !! ออกไปให้ไกลที่สุด !!”

เมื่อเป็ นเช่นนั้น ราชาวานร จึงตะโกนออกมาเสี ยงดัง ในเวลา


เดียวกันนั้น มือของเขาก็กาํ ลังวาดสัญลักษณ์บางอย่าง อย่างรวดเร็ ว
อํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงแผ่กระจายออกมาโดยรอบสกัดกันพลังของ
ความร้อน และความเย็นเอาไว้

“พีล่ ิง ข้าจะคอยสนับสนุนท่าน !!” ชูเฟิ ง กล่าว

“ข้าก็เช่นกัน !!” จื่อ หลิง กล่าว


“ไม่จาํ เป็ น ด้วยพลังของพวกเจ้ามันไม่สามารถช่วยเหลือข้าได้
และยิง่ พวกเจ้ามาอยูด่ ว้ ยเช่นนี้ ยิง่ ทําให้ขา้ ลําบากยิง่ ขึ้น ข้าไม่อาจใช้พลัง
ทั้งหมดเพื่อผนึกพลังเหล่านี้ไว้ได้” ในขณะที่กล่าวนั้น ใบหน้าของราชา
วานร เต็มไปด้วยเหงื่อทัว่ ใบหน้า ดวงตาสี แดงเลือดของเขาปรากฏแวว
ของความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชดั

“นี่…….” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น คนอื่นๆ ต่างทําอะไรไม่ถูก ทุกๆ


คนพากันจ้องมองไปที่ ชูเฟิ ง กันเป็ นตาเดียว

“พีล่ ิง ท่านสามารถช่วยเหลือพวกนางได้ไหม” ชูเฟิ ง ขมวดคิ้ว


แน่น เขาไม่เคยเห็นราชาวานรเป็ นเช่นนี้มาก่อน ในสายตาของเขานั้น
ราชาวานร คือคนที่กลัวแม้แต่ฟ้าดิน

แต่เขาก็สามาาถเข้าใจได้ในทันทีถึงสถานการณปั จจุบนั พลังของ


ไข่มุกนั้นเป็ นจริ งตามที่ราชาวานรกล่าว นัน่ คือพลังที่แท้จริ งของมัน
ยังคงถูกผนึกไว้อยู่

และถ้าไข่มุกสามารถปล่อยพลังอํานาจที่แท้จริ งของมันออกมาได้
นั้น อย่าว่าแต่ราชาวานรเลย อาณาจักรทั้งเก้าอาจจะถูกทําลายอย่างย่อย
ยับ

ดังนั้น ชูเๆง จึงเป็ นกังวลอย่างมาก เพราถ้าแม้แต่ราชาวานรยังไม่


สามารถช่วยเหลือ ซูรู่ และ ซูเหม่ย ได้น้ นั ก็ไม่มีใครสามารถช่วยได้อีก

“เจ้าหนู เจ้าไม่ตอ้ งกังวล ข้าพี่ลิงของเจ้า จะทําทุกวิถีทางเพือ่


ช่วยเหลือภรรยาทั้งสองของเจ้า หากเจ้ายังอยูท่ ี่นี่กร็ ังแต่จะรบกวนข้า เจ้า
ค่อยกลับมาใหม่จะดีกว่า” ราชาวานร กล่าวพร้อมกับหันมายิม้ อย่าง
มัน่ ใจ
“ข้าจะตั้งตารอท่าน”

“พวกเราทุกคนจะออกจากที่นี่ และออกจากหุบเขามังกรฟ้า” ชูเฟิ ง


ไม่ลงั เลทันที เขาหันหน้ากลับมาหาทักคน และโกนออกมา และวิง่ ออก
จากสุ สานพันกระดูกอย่างรวดเร็ ว

ในเวลาเดียวกันนั้น ทุกๆ คนก็พากันวิง่ ออกจากสุ สานพันกระดูก


เมื่อพวกเขาออกมาที่ดา้ นนอกนั้น พวกเขายังสามารถสัมผัสได้ถึงพลัง
ของความร้อน และความเย็น ที่สามาาถทําให้แผ่นดินสัน่ ไหวได้อย่าง
ชัดเจน

***** ตูมมมมมมม *****

***** วูว้ ววววว *****


ในเวลาเดียวกันนั้น เมื่อ ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ ออกจากสุ สานพัน
กระดูกนั้น ได้มีเสี ยงระเบิด และเสี ยงโหยหวนดังออกมาอย่างรุ นแรง

เสี ยงดังกล่าวมันราวกับเสี ยงของวิญญาณร้าย ไม่ใช่เสี ยงที่มนุษย์


สามาาถจะเปล่งออกมาได้อย่างแน่นอน แม้แต่คนที่อยูห่ ่างไกลออกไปก็
สามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังความร้อน และเย็นจนน่าขนลุก

คลื่นพลังเหล่านี้ทาํ ให้สุสานพันกระดูกสัน่ ไหวอย่างรุ นแรง มันยัง


ทําให้พวกเขาเกิดหวาดกลัวขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจของพวกเขา

“ชูเฟิ ง พวกเราควรทําอย่างไรดี ไข่มึกทั้งสองนัน่ จะไม่สามารถ


ออกมาได้จริ งๆ ใบ่ไหม” ในทันทีน้ นั ทุกๆ คนต่างทําอะไรไม่ถูก และ
ต่างจ้องมองมาที่ ชูเฟิ ง เพื่อรอการตัดสิ นใจของเขา
“ไม่ตอ้ งกังวลไป พี่ลิงสามารถจัดการพวกมันได้ ไปกันเถอะ” ชู
เฟิ ง กล่าวด้วยความมัน่ ใจ ก่อนจะก้าวนําทุกๆ คนออกห่างจากสุ สานพัน
กระดูก

ด้วยอํานาจพลังวิญญาณของเขานั้น เขาสามารถสัมผัสได้ชดั เจนว่า


ราชาวานรยังคงปลอดภัยดี แม้วา่ พลังของไข่มุกจะทวีความรุ นแรงมาก
ขึ้น แต่กย็ ฝั อยูภ่ ายใต้การควบคุมของราชาวานร

ชูเฟิ ง ได้พาทุกๆ คนออกห่างจากสุ สานพันกระดูกอย่างรวดเร็ ว


ด้วยวิธีการที่พิเศษนั้น พวกเขาได้มาถึงกลุ่มเมฆและเฝ้าดูสถานการณ์
ของสุ สานพันกระดูก

หลังจาก ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ มาถึงกลางอากาศนั้น เสี ยงดังสนัน่


หวัน่ ไหวก็ดงั ขึ้นมา
สังที่ดงั ขึ้นนั้น มันดังราวกับระฆังขนาดยักษ์ที่แขวนอยูก่ ลาง
อากาศ ในเวลาเดียวกันนั้น หุบเขามังกรฟ้าพลันสัน่ ไหวอย่างรุ นแรง
รอยแยกเกิดขึ้นอย่างบ้าคลัง่ ทัว่ หุบเขา หิ นขนาดเล็กและใหญ่ต่างถล่มลง
มาอย่างรุ นแรง

กลุ่มควันจํานวนมากพวยพุง่ ขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า ในขณะนั้น ชูเฟิ ง , จื่อ


หลิง , จาง เทียนยี่ ต่างมีเหงื่อเย็นไหลออกมาอาบร่ างกายของพวกเขา
ไม่ตอ้ งกล่าวถึงคนอื่นๆ ที่กาํ ลังหวาดกลัว

บางคนถึงกับสัน่ สะท้านไปทั้งร่ างกาย บางคนถึงกับยืนไม่ไหวจน


ล้มลง เพราะในขณะที่เสี ยงระเบิดดังขึ้นนั้น ออร่ าพลังมหาศาลได้แพ่
กระจายออกมาอย่างรุ นแรง

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง สามารถวางรู ปแบบอํานาจพลัง


วิญญาณป้องกันพวกเขาไว้ได้ทนั ไม่เช่นนั้นอาจมีหลายคนที่ตายลง
ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//
แปลโดยคุณ#abhisit
บทที่ 482 - ผลที่ออกมา

" พลังระดับนี้มนั !!!! " เห็นภูเขาสัน่ สะเทือนและค่อยๆพัง ยุบ


ลงไป กลายเป็ นฝุ่ นควันลอยฝุ้งไปทัว่ ทุกสารทิศ แม้แต่ภายนอกของ
เทือกเขายังได้รับผลกระทบจากพลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุ ด ชูเฟิ ง จึงตกใจ
อย่างมาก

เขาได้แต่ถอนหายใจอยูภ่ ายในจิตใจ โชคดีที่พ้ืนที่โดยรอบเทือกเขา


มังกรฟ้านั้นถูกทําลายด้วยนํ้ามือของหุบเขาเทพกระบี่จึงไม่มีใครอาศัย
อยูอ่ ยูเ่ ขตของเทือกเขามังกรฟ้า ไม่ง้ นั คนจํานวนมากคงล้มตายอีกไม่ใช่
น้อย

" พลังแค่น้ ีเทียบกับตอนที่อยูห่ ุบเขาเทพกระบี่ไม่ได้เลยสัก


นิด!!! " ในตอนนั้น เสี ยงก็ดงั เข้ามาภายในหูของ ชูเฟิ ง เมื่อเขาเปิ ดตา
ดวงก็พบว่า จาง เทียนยี่ กําลังพูดกับตัวเอง

ตอนนั้นเฉพาะ ชูเฟิ ง เท่านั้นที่สามารถยิม้ ได้ เพราะในวันนั้นเมื่อพลัง


ของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ตื่นขึ้น ชูเฟิ ง นั้นสู ญเสี ยสติสมั ปชัญญะ ดังนั้นเขา
จึงไม่รู้ถึงพลังทําลายล้างของตัวเองในวันนั้น

ในความเป็ นจริ ง จนถึงตอนนี้ เขาก็ยงั ไม่ได้กลับไปดูสภาพของหุบเขา


เทพกระบี่ เขาจึงไม่เคยเห็นพลังทําลายของตัวเอง มีแค่สิ่งที่ได้ยนิ จาก
ปาก จื่อหลิง จาง เทียนยี่ และ ต้านต้าน เท่านั้น

* ตูมมมม * ทันในนั้นก็มีเสี ยงระเบิดดังอึกทึกทัว่ เทือกเขามังกรฟ้า


หลังจากควันหนาได้กระจายออก ชูเฟิ งและคนอื่นๆก็ พบว่าพื้นที่ของ
สุ สานพันกระดูกถล่มลงมา จนกลายเป็ นภูเขาขนาดเล็ก
ตอนนั้น เขาได้ขมวดคิ้ว แม้วา่ สุ สานพันกระดูกจะตั้งอยูใ่ ต้ดิน ดังนั้น
เป็ นไปได้ยากที่มนั จะถล่มเข้าไปถึงส่ วนลึก แต่สุสานพันกระดูกคง
ไม่ได้มีสภาพเช่นเดิม ณ ตอนนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ
เทือกเขามังกรฟ้า นั้นแสดงว่า ราชันย์วานรกําลังต่อสู ก้ บั ไข่มุกทั้งสอง
และอาจกล่าวได้วา่ เป็ นการต่อสู ท้ ี่รุนแรง จนทําให้เทือกเขามังกรฟ้า
ได้รับผลกระทบ ไม่เพียงแค่น้ นั แม้แต่บริ เวณใกล้เคียงเองก็เช่นเดียวกัน

การต่อสู ท้ ี่ดุเดือด ดําเนินมาเป็ นเวลา 1 วัน 1 คืน ในที่สุด เที่ยงของวัน


ถัดมาเสี ยงการต่อสู ก้ ค็ ่อยๆสงบลง ดังในอดีต แต่เทือกเขามังกรฟ้ามี
สภาพไม่เดิมกับเมื่อก่อน

ก่อนหน้านี้ที่ถูกพวกหุบเขาเทพกระบี่บุกทําลาย และตอนนี้กย็ งั ได้รับ


ผลกระทบจากการต่อสู ร้ ะหว่างราชันย์วานรและมุกทั้ง 2 แม้ปัจจุบนั
เทือกเขามังกรฟ้าจะกว่างใหญ่ แต่มนั ก็ไม่ได้ลาดชันเหมือนเมื่อก่อน

จํานวนยอดเขานั้นลดลง ภายในไม่กี่ล้ ี ได้มีที่ราบปรากฏ แม้วา่ เทิอกเขา


มังกรฟ้าจะดูไม่แข็งแรง แต่ในความเป็ นจริ งมันเหมาะอย่างมากสําหรับ
ใช้เป็ นที่อยูอ่ าศัยของมนุษย์ และยังเหมาะสําหรับการสร้างสํานักขึ่น
ใหม่ เพราะมีพ้ืนที่ราบจากที่ภูเขาถล่ม

แต่ ชูเฟิ งและคนอื่นๆไม่ได้มีกระจิตกระใจที่จะมานัง่ ชื่นชมภูเขาหัวโล้น


พวกเขากังวลเกียวกับความปลอดภัยของ ราชันย์วานร ซูเหม่ย และซูรู่
มากยิง่ กว่า ซึ่งพวกเขาไม่รู้วา่ มุกอัคคีและมุกนํ้าแข็งจะถูกผนึกสมบูรณ์
แล้วหรื อยัง

ยังไงก็ตาม ไม่มีใครกล้าที่จะลงไป เพราะพวกเขาไม่รู้วา่ ภายในสุ สาน


พันกระดูกจะมีอนั ตรายรออยูห่ รอไม่

" ทําไมมันเงียบไปล่ะ พวกเขาจะเป็ นปลอดภัยหรื อเปล่า งั้น


เดี่ยวข้าจะลงไปดู " ในที่สุด ชูเฟิ ง ก็พงุ่ ลงไป กลายเป็ นเส้นแสงผ่าก้อน
เมฆ ไปยังทางสุ สานพันกระดูก
" ชูเฟิ ง รอข้าด้วย !! " จื่อหลิงรี บพุง่ ตามชูเฟิ งไป

" ศิษย์พี่จาง พาเราลงไปด้วย เราพร้อมจะร่ วมเป็ นร่ วมตามกับ


ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง . " ในเวลาเดียวกัน , สาวกของสํานักมังกรฟ้าและคน
อื่นๆโยนสายตาจ้องมองพวกชูเฟิ ง พร้อมกับขอร้อง จาง เทียนยี่ .

" ท่านเจ้าสํานักนี้ . . . . . . !!! " ตอนนั้น จาง เทียนยี่ อยูใ่ น


สถานการณ์ที่ยากจะตัดสิ นใจ ในที่สุดเขาก็โยนสายตาฉิ้งไปหา เจ้า
สํานักมังกรสี ฟ้า หลี่ จางฉิง

" เห้อ เทียนยี่ , พาพวกเราทั้งหมดไปเถอะ , บรรพบุรุษรุ่ นแรก


ก็ยงั อยู่ เราไม่สามารถทนอยูเ่ ฉยๆเพื่อปลอดภัยของเราเองได้หรอก " หลี
จางฉิง กล่าว
" ตามใจท่านพวกท่าน!!! " จาง เทียนยี่ ไม่ลงั เลอีกต่อไป เขา
นําคนของสํานักมังกรสี ฟ้าโรงและตระกูลชูท้ งั หมดลงมาด้านล่าง

แม้วา่ การเพาะปลูกในปัจจุบนั ของเขาจะเหนือกว่า หลี่ จางฉิ ง จนที่วา่


ต่างกันราวกับฟ้ากับเหวหากจะเปรี ยบเทียบ แต่ไม่วา่ ยังไง หลี่ จางฉิ ง ก็
ยังเป็ นเจ้าสํานัก เมื่อก่อนเขาก็ยงั เคยช่วย จาง เทียนยีไ่ ว้ไม่นอ้ ย ดังนั้น
จาง เทียนยี่ และ ชูเฟิ ง ต่างก็นบั ถือ หลี่ จางฉิ ง จึงยอมเชื่อฟังคําสัง่ เขา

ในขณะที่ฝงู ชนลงมา ชูเฟิ งก็เปิ ดทางเข้าเข้าสุ สานพันกระดูก ในขณะที่


เต็มไปด้วยความรู ้สึกกดดัน แต่ยงั ไงพวกเขาก็ยงั คงเดินเข้าไปในสุ สาน
พันกระดูก

" สวรรค์ นี้มนั น่ากลัวเกินไปแล้ว "


ทันทีที่เข้ามาภายในสุ สานพันกระดูกเกือบจะแทบทุกคนต่างมีสีหน้าเต็ม
ไปด้วยความตกใจ แม้แต่ ชูเฟิ ง จื่อ หลิง และ จาง เทียนยี่ ที่เคยประสบ
กับเหตุการณ์ต่างๆมากมายมา ยังถึงกับขมวดคิ้วแน่นและยังรู ้สึกไม่ค่อย
สบายใจตลอดเวลา

มันเป็ นเพราะภายในสุ สานพันกระดูกทางที่จะเข้าไปยังสุ สานจักรพรรดิ


มันเป็ นสถานที่ที่ผกู ้ ่อตั้งมังกรฟ้าที่อยูจ่ ุดสู งสุ ดสร้างรู ปแบบฯเอาไว้ ใน
ระดับที่จดั ว่าสุ ดแสนจะประทับใจ แม้แต่เป็ น ชูเฟิ ง จือหลิง หรื อ จาง
เทียนยี่ พวกเขาก็ไม่สามารถทําลายได้

แต่บนนั้น กับมีรอยร้าวปรากฏขึ้นบริ เวณผนังทางเข้าสุ สาน หิ นกลิ้งระ


เกรื่ อนระกร่ านอยูท่ ี่พ้นื นับไม่ถว้ น จนเต็มพื้น ภายในที่พวกเคยใช้อยู่
อาศัย เปลี่ยนแปลงไปจนแทบจะจําสภาพเดิมไม่ได้
แต่ ชูเฟิ ง ตอนนั้นไม่ได้สนใจเรื่ องพวกนี้ เขารี บเดินลึกเข้าไปในสุ สาน
ด้วยความรู ้สึกที่ตรึ งเครี ยด

ในที่สุด ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ ก็กา้ วมาถึงที่ราชันย์วานร ซูรู่ และ ซูเหม่ย


ประทับ

ผนังและพื้นตอนนั้นถูกทําลาย สิ่ งรอบๆตัวของพื้นที่โดยรอบ เต็มไป


ด้วยรอยเผาไหม้ อีกทั้งพื้นที่อีกส่ วนก็ยงั เต็มไปด้วยก้อนนํ้าแข็ง

ในปัจจุบนั ราชันย์วานรล้มลงอยูใ่ จกลางของระหว่างพื้นที่ท้ งั สอง เสื้ อผ้า


พิเศษของเขาเกือบจะทั้งหมดขาดกระจุยกระจาย แม้แต่ขนยังมีรอยถูก
ไฟลวก และคราบนํ้าแข็งที่เกาะจับ ใบหน้าของเขาซี ดเป็ นกระดาษ หาก
มองดีๆจะเห็นเลือดไหลออกที่มุมปาก เห็นได้ชดั ว่าเขาได้รับบาดสาหัส

แต่โชคยังดีที่ราชันย์วานรยังมีชีวติ อยู่ ข้างหลังเขาก็มีรูปแบบอํานาจสี


ม่วงวางอยูส่ องอัน ภายในนั้นคือ ซูรู่ และ ซูเหม่ย นอกจากนี้ ทั้งคู่ยงั มี
ชีวติ อยู่

" พี่ลิง เป็ นอะไรไม๊ ? " ตอนนั้น ชูเฟิ งวิง่ เข้าไปดูอาการอย่าง


รวดเร็ ว ภายในหัวใจของเขาทั้งเจ็บปวด และก็ขอบคุณ

เพราะฉากตรงหน้าเขา ได้บอก ชูเฟิ งทุกอย่าง หลังจากการต่อสู ท้ ี่ดุเดือด


นั้นจบลง ราชันย์วานรเป็ นฝ่ ายที่ได้รับชัยชนะ เขานั้นได้ทาํ สําเร็ จในการ
ผนึกมุกอัคคีและมุกนํ้าแข็งภายในร่ างของซูรู่ และ ซูเหม่ย อีกทั้งสองคน
ก็ยงั ปลอดภัย
แต่เนื่องจาก ราชันย์วานรต้องแลกด้วยราคาที่สาหัส ดังนั้นมันจึงทําให้ ชู
เฟิ ง เจ็บปวดใจ อีกทั้งยังรู ้สึกอับอาย

" ไอ้หนู อย่ามองข้าด้วยหน้าตาเหมือนกับกินแตงขม ข้ายังไม่ได้


ตายสักหน่อย "

" แต่ยงั ไงก็ตาม พลังของมุกทั้งสองนี้ได้ถูกผนึกอย่างสมบูรณ์


หรื อไม่ก็ ต้องบอกว่าพลังของมันแม้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญอาณาจักร จ้าวแห่ง
ทักษะ ก็ไม่สามารถเอาชนะมุกทั้งสองชนิดนี้ได้ "

"
" ไปดูภรรยา 2 คนของคุณ ในไม่กี่วนั เขาจะตื่นขึ้นอีกครั้ง . บางที
พวกเขาอาจจะได้รับผลประโยชน์บางอย่างจากสองไข่มุก " ยังคงมี
รอยยิม้ ที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับปี ศาจ ราชาลิง หน้า แต่หลังจากคําพูดนั้นพูด
มันเงียบ ดวงตาของมัน ร่ างของมันล้มลง และเข้าสู่ ภาวะหมดสติ

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////
A : จะฟื้ นแล้ว ไม่ตอ้ งว่าวแล้วววว พี่เฟิ งงงงง

B : ได้ซ่ าํ ไม่พอ เมียมันยังเก่งจนเป็ นบอดี้กาดได้ดว้ ย รู ้ป่ะว่าตอน ซูรู่


ซูเหม่ยฟื้ น นางมีพลังวิญญาณในระดับไหน

A : หึ ไม่รู้
ขณะนั้น A ได้ส่ายหน้า

B : งั้นรออ่านเอา . . . .
ขณะนั้น B ได้ยกั คิ้วใส่ A ที่กาํ ลังทําหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย

และแล้ว A ก็ทนความกวนตีนของ B ไม่ไหว จึงตะโกนออกไปว่า


A : พ่อมึงตายยยยยยยยยยยยยย
บทที่ 483 - สร้างสํานักมังกรฟ้า

“พีล่ ิง !!” เมื่อเห็น ราชาวานร หมดสติไปนั้น ชูเฟิ ง ตกใจอย่างมาก


ทุกๆ คนพากันมายืนล้อมรอบเขาเอาไฝ้ และจ้องมองไปที่ราชาวานร
ด้วยความกังวล

ความจริ งนั้น นอกจาก ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง และ จาง เทียนยี่ ก็ไม่มีใคร
คุน้ เคยกับราชาวานรมากนัก พวกเขาทุกคนรู ้เพียงแค่วา่ ราชาวานรคือ
ผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ งสุ ดๆ เพราะเขาสามารถสะกดพลังของไข่มุกทั้ง
สอง และช่วยเหลือ ซูรู่ และ ซูเหม่ย อันเป็ นคนรักของ ชูเฟิ ง เอาไว้ได้

ซึ่งแม้แต่ผกู ้ ่อตั้งสํานีกมังกรฟ้าก็ไม่อาจทําได้ ดังนั้น พวกเขาจึง


เคารพ และนับถือราชาวานรจากก้นบึ้งของหัวใจของพวกเขา

ในขณะที่ ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง กําลังตรวจสอบอาการของราชา


วานรนั้น ทุกๆ คนหม่อาจทําใจให้สงบได้ ด้วยอาการขอฝราขาวานรนั้น
อ่อนแอลงมสก นัน่ อาจเป็ นอันตรายถึงชีวติ ของเขา
เหตุที่เป็ นเช่นนี้ เพราะเขาใช้พลังขั้นแดนสวรรค์มากเกินไป จนทํา
ให้ร่างกายของเขาอ่อนล้า ถ้าเขาได้พกั รักษาตัวก็จะหายเป็ นปกติ

หลังจากดูอาการของราชาวานรแล้วนั้น ชูเฟิ ง และ จื่อ หลิง จึงหัน


หน้ามาที่รูปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วง

รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงนั้นสวยงาม และแข็งแกร่ งมาก


รอบๆ รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงนั้น มีอกั ขระกว่าหมื่นตัวที่ส่อง
แสงเป็ นประกายระยิบระยับหมุนอยูร่ อบๆ ราวกับดวงดาวที่อยูก่ ลาง
ท้องฟ้ายามคํ่าคืน

ด้วยช่องว่าเพียงเล็กน้อยของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณนั้น ชูเฟิ ง


สามารถมองเห็น ซูรู่ และ ซูเหม่ย ที่กาํ ลังนอนอย่างสงบนิ่ง และ
ในตอนนี้ เปลวเพลิง กับนํ้าแข็งที่ห่อหุมพวกนางไว้ได้หายไปแล้ว พวก
นางได้กลับมามีใบหน้าที่น่ารักและงดงามเช่นเดิม
แม้วา่ ใบหน้าของพวกนางจะยังคงเป็ นสี ขาวซี ด แต่กน็ บั ได้วา่ พวก
นางกลับมาเป็ นปกติ พลังของไข่มุกทั้งสองได้ถูกปิ ดผนึกและหลอม
รวมเข้ากับพวกนาง

“ขอบคุณมากพี่ลิง” ชูเฟิ ง กล่าวขณะที่เขามองไปยังราชาวานร ที่


กําลังพักผ่อนอยูท่ ี่ดา้ นหลังของเขา ด้วยใบหน้าแห่งความกตัญ�ู

หลังจากที่พลังของไข่มุกทั้งสองได้ถูกปิ ดผนึกในร่ างกายของ ซูรู่


และ ซู่เหม่ย ได้ไม่กี่วนั นั้น ราชาวรก็สามารถฟื้ นฟูร่างกายของเขาจน
กลับมาเป็ นปกติ ในเวลานั้น กองทัพของราชวงศ์เจียง แบะคนจาก
คฤหาสน์องค์ชายกิเลนได้มายังหุบเขามังกรฟ้า

พวกเขามาที่นี่เพื่อฟื้ นฟูสาํ นักมังกรฟ้า ราชวงศ์เจียงได้ส่งช่างฝี มือ


ระดับสู ง และคนจากกองทัพของพวกเขากว่สหมื่นคนมาช่วยเหลือ
ทางด้านคฤหาสน์องค์ชายกิเลนเองก็เช่นกัน พวกเขาได้ส่งคนมา
เกือบหมื่นคน และได้จดั หาช่างฝี มือ ที่ดีที่สุดในอาณาจักรมังกรฟ้ามา
เพื่อช่วยสร้างสํานักมังกรฟ้าของ ชูเฟิ ง

“เจ้าได้ยนิ เรื่ งที่ ชูเฟิ ง กําลังจะฟื้ นฟูสาํ นักมังกรฟ้าหรื อไม่”

“ข้าได้ยนิ มาว่าราชวงศ์เจียงได้จดั หาช่างฝี มือที่ยอดเยีย่ มจากทั้งเก้า


อาณาจักรเพื่อมาช่วยเหลือ ในการฟื้ นฟูสาํ นักมังกรฟ้าของ ชูเฟิ ง”

“ไม่เพียงแค่น้ นั ราชวงศ์เจียงยังได้ส่งผูเ้ ชี่ยวชาญกว่าหมื่นคนมา


ด้วย และทั้งหมื่นคนนั้นเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแก่นวิญญาณทั้งสิ้ น พวกเจ้า
จินตนาการออกไหมว่า กองทัพของผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแก่นวิญญาณหมื่นคน
จะแข็งแกร่ งขนาดไหน”
“สวรรค์…..จริ งรึ ที่เจ้ากล่าว !! มันจะไม่เกินไปหน่อยรึ ที่ ชูเฟิ ง
สามารถทําให้ราชวงศ์เจียฝออกตัวช่วยเหลือได้ถึงเพียงนี้”

ภายในเก้าอาณาจักรนั้น ข่าวลือได้แพร่ กระจายออกมาอย่างรวดเร็ ว


บางข่าวเป็ นเรื่ องจริ ง บางข่าวก็เป็ นเรื่ องที่ถูกแต่งเติมขึ้น แต่ไม่วา่
อย่างไร ข่าวพวกนี้กไ็ ด้แพร่ กระจายออกไปแล้ว

หลังจากที่ข่าวแพร่ กระจายออกไปนั้น เหล่าคนรุ่ นหนุ่มสาวต่างมุ่ง


หน้ามายังอาณาจักรมังกรฟ้า โดยไม่สนใจว่าข่าวนั้นจะเป็ นเรื่ องจริ ง
หรื อเรื่ องไม่จริ ง พวกเขาต่างเตรี ยมตัวเพื่อที่จะเข้าสู่ สาํ นักของต้นแบบที่
พวกเขานับถือ

และแน่นอนว่ามีอีกหลายคนที่เดินทางมายังอาณาจักรมังกรฟ้า เพื่อ
พิสูจน์ข่าวลือที่แพร่ กระจายออกมานั้น ว่าเป็ นเรื่ องจริ งหรื อเท็จ
เมื่อพวกเขามาถึงหุบเขามังกรฟ้านั้น พวกเขาก็ตอ้ งพบกับความ
ตะลึง

เพราะในตอนนี้ ที่หุบเขามังกรฟ้า ไม่ได้มีเพียงแค่คนของ ราชวงศ์


เจียง และคนของคฤหาสน์กิเลนที่กาํ ลังทํางานเท่านั้น แม้แต่คนของ
นิกายโลกวิญญาณก็มายังที่นี่

ไม่เพียงแต่นิกายโลกวิญญาณจะส่ งผูเ้ ชี่ยวชาญจํานวนมากมาเท่านั้น


พวกเขายังส่ งผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ฟ้ามาอีกด้วย สํานัก
มังกรฟ้าของ ชูเฟิ ง นั้น ในทักๆ ตําหนักจะถูกปกคลุมไปด้วยรู ปแบบ
อํานาจพลังวิญญาณสี ฟ้าอย่างมัน่ คง

นัน่ หมายความว่า สํานักมังกรฟ้าของ ชูเฟิ ง จะไม่เพีงแต่งดงาม แต่


ยังแข็งแรงยากที่จะทําลายได้
“อะไรกัน !? แม้แต่นิกายโลกวิญญาณก็มาช่วยเหลือ ชูเฟิ ง นี่เขา
จะมีอาํ นาจมากถึงเพียงใดกัน”

“เจ้าไม่รู้อะไร ชูเฟิ ง เป็ นสมาชิกของนิกายโลกวิญญาณ และใน


ก่อนหน้านี้ ชูเฟิ ง ได้ช่วยเหลือนิกายโลกวิญญาณเอาไว้ จึงไม่แปลกที่
พวกเขาจะมาช่วยเหลือ ชูเฟิ ง ในการสร้างสํานักมังกรฟ้า”

“เจ้ายังกล่าวไม่หมด ไม่เพียงแต่ ชูเฟิ ง ช่วยเหลือนิกายโลกวิญญาณ


เอาไว้ได้ เขายังช่วยเหลือสมาชิกรุ่ นใหม่ของนิกายเอาไว้ แม้แต่ผู ้
เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ฟ้าก็ถูกเขาช่วยเหลือไว้ นี่มนั ช่าง
ยอดเยีย่ มยิง่ นัก” ภายในโรงเตี๊ยมหรู น้ นั มีคนกําลังสนทนากันเกี่ยวกับ
ข่าวของการสร้างสํานักมังกรฟ้าของ ชูเฟิ ง

“หึ หึ…ไม่ใช่เพียงแค่น้ นั แม้แต่ กู๋ เทียนเซิ น ก็ถูก ชูเฟิ ง ช่วยเหลือ


เอาไว้ดว้ ย ไม่ตอ้ งพูดถึงเหล่าผูอ้ าวุโสเลย” ชายร่ างยักษ์กล่าวเสี ยงดัง
เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของชายร่ างยักษ์น้ นั ทุกๆ คนภายในโรงเตี๊ยมตก
ตะลึงอย่างมาก

“หึ หึ แม้แต่ กู๋ เทียนเซิน ก็ถูก ชูเฟิ ง ช่วยเหลือ ดังนั้นเขาจึงมา


ช่วยเหลือ ชูเฟิ ง นี่มนั จะไม่แปลไปหน่อยรึ ” ในเวลานั้น มีชายสวมชุดสี
ขาวกล่าวเย้ยหยันออกมา

“โอ้ พี่ชาย !! เหมือนท่านจะรู ้ข่าวที่แท้จริ ง เช่นนั้นรึ ” เมื่อเห็นว่ามี


คนกล่าวขัดคอ ชายร่ างยักษ์จึงกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

“ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็ลองบอกเรื่ องที่เป็ นเรื่ องจริ งมา” ผูค้ นรอบข้างพา


กันไม่พอใจ และวาดดาบที่โค้งงอเข้าใส่ ชายชุดขาวอย่างรวดเร็ ว
เมื่อชายชุดขาวเผชิญหน้ากับการกระทําของผูค้ นรอบข้างนั้น เขา
ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่นอ้ ย เขามองไปที่ชายชราชุดขาวที่ดา้ นข้างของเขา
และกล่าวว่า

“ผูน้ าํ สํานักของข้าได้กลับมาจากอาณาจักรมังกรฟ้า และได้ผา่ นไป


ยังหุบเขามังกรฟ้า เผอิญได้เห็นบางอย่างเข้า…….”

“นี่มนั …..ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับหนึ่ง ขั้นแดนสวรรค์ ผูน้ าํ สํานักหุบ


เขาขาว ผูอ้ าวุโสขาว” ด้วยการสังเกตของชายร่ างยักษ์น้ นั เขากล่าว
ออกมาด้วยความตกใจ พลันทุกๆ คนต่างแสดงความหวาดกลัวออกมา

“ที่ถูกต้องคือ ข้า ไป๋ เซียงฉี !!” ชายชรายิม้ อย่างเย็นชา ขณะที่เขา


กล่าว เขาก็สะบัดแขนของเขาอย่างรวดเร็ ว พลังขั้นแดนสวรรค์กระจาย
ออกมาอย่างรุ นแรง โรงเตี๊ยมพลันสัน่ สะเทือน นอกจากชายชุดขาวข้างๆ
เขานั้น ทึกๆ คนต่างกระเด็นออกไป

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////
แปลโดยคุณ#Abhisit

A : เมื่อวานนี้มีแต่ ช่วย ซูรู่ ซูเหม่ย

B : วันนี้แหละ สร้างสํานักมังกรฟ้าจริ งๆจังสักที

A : พรุ่ งนี้ วันหยุดละ เห็นทีมงานกําลังลังเลกันอยู่ ว่าจะเอายังไง

B : เคืนนี้ไม่ตอ้ งนอน ทํางานเสร็ จแล้วรี บลง แล้วจะไปไหนก็เรื่ อง


ของมัน ไม่เสร็ จอย่าหวังจะได้หยุด
บทที่ 484 - แสดงถึงความรุ่ งโรจน์

“ผูอ้ าวุโสไป๋ โปรดเมตตาด้วย”

“พวกเรา นั้นมีตาหามีแววไม่ ที่จาํ ท่านผูอ้ าวุโสผูย้ งิ่ ใหญ่ไม่ได้


โปรดอภัยให้พวกเราด้วย พวกเราขอโอกาสอีกครั้ง” ชายชราที่มีพลังถึง
ระดับอาณาจักรสวรรค์น้ นั ทําให้ผคู ้ นต่างกลัว
“พวกเจ้านั้นยังกระจอกเกินไปที่ขา้ จะฆ่าทิ้ง ลุกขึ้นซะ.” ชาย
ชราพูดขึ้น จากนั้นเขาก็สะบัดแขนทําให้เกิดพลังระดับอาณาจักรสวรรค์
ออกมาจากตัวเขา และเขาก็เดินกลับไปที่โต๊ะ และทานอาหารต่อ

ในตอนนั้น พวกเขาก็ลุกขึ้นและมองคนอื่นๆ ด้วยท่าทางหวาดเกรง แต่


ไม่มีใครที่เดินจากไป พวกเขายืนมองชายชราชุดขาวด้วยความกลัว และ
ความอยากรู ้อยากเห็น พวกเขาอยากรู ้เรื่ องที่ ไป๋ เซี ยนฉี เห็นที่หุบเขา
มังกรฟ้า

เมื่อได้ยนิ ชื่อของสํานักมังกรฟ้านั้นทําให้ผคู ้ นต่างตกตะลึง เพราะพวก


เขาไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นกับที่นน่ั

“ท่านผูอ้ าวุโสไป๋ ข้าอยากทราบเรื่ องที่ท่านได้เห็นที่ อาณาจักร


มังกรฟ้า โปรดบอกได้หรื อไม่” ในที่สุดก็มีคนทนไม่ไหวจึงถาม
ออกไป

เมื่อได้ยนิ ชายชราชุดขาวก็ไม่ได้โกรธ และวางตะเกียบลง และมองไปที่


กลุ่มคนเหล่านั้นแล้วพูดว่า, “เดี๋ยวเรื่ องนี้กเ็ ป็ นที่รู้เรื่ องอยูแ่ ล้วอีกไม่
นาน ถ้าอย่างนั้นข้าจะบอกพวกเจ้าละกัน.”

“ในตอนนี้ ที่หุบเขามังกรฟ้า ไม่เพียงแต่คฤหาสน์องค์ชายกิเลน


ยังมี นิกายโลกวิญญาณและราชวงศ์เจียง มาช่วยชูเฟิ งสร้างสํานักมังกร
ฟ้าด้วย.”

“และในคนที่มาทํางานนั้น นอกจาก ช่างฝี มือ และ ผูเ้ ชื่อมต่อ


โลกวิญญาณ ยังมีสตั ว์ยกั ษ์อยูด่ ว้ ย.”

“เสี ยงคํารามของพวกมันนั้นดังไปทัว่ พื้นที่ และแข็งแกร่ งยิง่ นัก


ตัวเล็กที่สุดของพวกมันก็สูงหลายเมตร และตัวที่สูงที่สุดก็มากกว่า10
เมตรไปแล้ว พวกมันนั้นมาช่วยเรื่ องแรงงานด้วย พวกมันไม่ได้เหมือน
ถูกบังคับมา แต่พวกมันทํางานเหล่านั้นด้วยความสุ ขและไม่มีท่าทีจะ
เหนื่อยอีกด้วย.”

“สัตว์ประหลาดสู งกว่า 10 หรื อว่าพวกมันคือ สัตว์มหึ มา พวก


สัตว์มหึ มาที่แข็งแกร่ งพวกนี้มาจากไหน” ในตอนนั้นพวกเขาก็ตอ้ งมี
ท่าทางตกใจเมื่อได้ยนิ

“ถูกต้องพวกมัน คือสัตว์มหึ มานัน่ และยังมีมากเสี ยด้วย ที่ขา้ นับ


ได้คร่ าวๆก็ร่วมหมื่นแล้ว.” ชายชราชุดขาวพูด

“สัตว์มหึ มานับหมื่นเชียวหรื อ พวกมันมาจากไหนกัน” หลังจาก


ที่ได้ยนิ ทุกคนก็ตอ้ งตกใจยิง่ ขึ้น

“ข้ารู ้แล้ว มันต้องเป็ นราชันย์ลิง ที่ฆ่า กู่ เทียนเซิ น และ เจีย ฉื อ


เมื่อร้อยปี ก่อนแน่นอน แท้จริ งแล้วราชันย์ลิงนั้นคือราชาที่แท้จริ งของ
หุบเขาพันปี ศาจ!”

“จริ งด้วย มันสามารถเรี ยกพรรคพวกของมันมาช่วยชูเฟิ งสร้าง


สํานักมังกรฟ้าได้สินะ และมอกจากนี้ เจ้าราชันย์ลิงมันยังเคยประกาศตัว
ว่าเป็ น พีช่ ายของชูเฟิ งอีกด้วย.” ในที่สุด ก็มีคนไขปริ ศนาเรื่ องสัตว์
มหึ มาพวกนี้ให้ทุกคนฟัง

เมื่อได้ยนิ เรื่ องเช่นนั้น ชายชราชุดขาวก็ยมิ้ เบาๆ และลูบเคราของเขาและ


พูดว่า “ ถูกต้อง เขาพูดถูกแล้ว พวกสัตว์มหึ มานั้นแข็งแกร่ งมาก และ
กว่าแข็งแกร่ งแบบนั้น มีเพียง หุบเขาพันปี ศาจเท่านั้นที่จะรวมพวกมัน
ไว้ได้ “

“แต่นง่ั ยังไม่พอ แม้แต่ขา้ เมื่อได้ยนิ ข่าวนี้กถ็ ึงกับตะลึงเช่นกัน


และข้าคิดว่า พวกเจ้าก็คงเป็ นเหมือนกับข้า มันคือ ราชันย์ลิงได้ประกาศ
ว่า ตนจะเข้าเป็ นแขกอาวุโส ของสํานักมังกรฟ้า.”
“และ สัตว์มหึ มาจาก หุบเขาพันปี ศาจก็จะย้าย มาอยูท่ ี่หุบเขา
มังกรฟ้า เพื่อรับใช้สาํ นักมังกรฟ้า และด้วยความแข็งแกร่ งของพวกมัน
พวกมันทั้งหมดจะเป็ นผูพ้ ิทกั ษ์ให้กบั สํานักมังกรฟ้า และมีชีวติ อยูแ่ ละ
ตายเพื่อสํานักมังกรฟ้า.”

“อะไรนะ มีเรื่ องอย่างนี้จริ งๆหรื อ สัตว์มหึ มา จากหุบเขาพัน


ปี ศาจนั้นน่าเกรงขามมาก จากที่ขา้ ได้ยนิ 5 ราชันย์น้ นั ล้วนอยูใ่ น ระดับ
5 อาณาจักรสวรรค์ แม้แต่นครอันทรงเกียรติกย็ งั ไม่กล้าที่จะเข้าไปบุก
รุ ก อย่างจริ งจัง.”

“และตอนนี้ ราชันย์ลิงได้ปรากฏตัวอีกครั้ง และสร้างความ


หวาดกลัวด้วยพลังของมัน เพราะมันได้ยนื่ มือเข้าไปแทรกในสงคราม
ระหว่าง 5 มหาอํานาจ และ นิกายโลกวิญญาณ.”

“แม้แต่ เจีย ฉือ ก็ถูกฆ่าโดยมัน ข้ายังได้ยนิ มาอีกว่า จักรพรรดิ


ราชวงศ์เจียงก็ยงั เกรงใจตัวมันเช่นกัน หุบเขาพันปี ศาจอาจกล่าวได้วา่
เป็ นที่ที่น่ากลัวที่สุดที่หนึ่ง และในตอนนี้ พวกมันได้เข้าร่ วมกับสํานัก
มังกรฟ้า นี่ ... นี่มนั เป็ นเรื่ องที่ยากเกินคาดได้จริ งๆ.”

“แข็งแกร่ ง แข็งแกร่ งจริ งๆ ถ้าสํานักมังกรฟ้าสร้างเสร็ จแล้ว นี่


ไม่ได้หมายความว่า สํานักมังกรฟ้าจะกลายเป็ นอันดับ 1 ของอาณาจักร
ทั้ง 9 เลยหรื อด้วยพลังขนาดนี้ นอกจากราชวงศ์เจียง แล้ว ใครจะกล้า
หื อ กับมัน ”

เมื่อได้ยนิ ข่าว ทุกคนก็ตอ้ งตกใจอย่างมาก เพราะข่าวนี้มนั น่าเหลือเชื่อ


จริ งๆ

และในความจริ งแล้ว เรื่ องที่ ชายชราชุดขาวคนนี้พดู ย่อมเชื่อถือ ได้ ข่าว


เช่นนี้อาจบอกได้วา่ อาณาจักรมังกรฟ้านั้นจะกลายเป็ นศูนย์กลาง ของ
ทวีปเก้าอาณาจักร และเมื่อข่าวนี้กระจายออกไปให้ผคู ้ นได้รับรู ้แล้ว
เรื่ องนี้จะสัน่ สะเทือนทวีปเก้าอาณาจักรอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สํานักมังกรฟ้ายังสร้างไม่เสร็ จ มันยังมีผเู ้ ชี่ยวชาญที่
แข็งแกร่ งมากมาย สัตว์มหึ มาจากหุบเขาพันอสู รก็เข้าร่ วมกับสํานักมังกร
ฟ้าด้วย นอกจากนี้ยงั ได้รับการปกป้องจากราชวงศ์เจียงอีก ใครกันล่ะที่
จะสามารถสยบพวกเขาได้

ไม่ตอ้ งพูดถึง ตระกูล เจีย สํานักหยวนกัง สํานักเทพอัคคี ที่ราบหุบเขาไร้


ใจ และนิกายไป๋ ที่ตกตํ่าลงไปแล้ว แม้แต่นครอันทรงเกียรติกบั นิกาย
โลกวิญญาณ ที่อยูใ่ นจุดสู งสุ ดตอนนี้กย็ งั ห่างไกลกับสํานักมังกรฟ้า

อาณาจักมังกรฟ้า นั้นโดดเดี่ยว มานับร้อยปี และในที่สุดก็กา้ วขึ้นไปสู๋


จุดสู งสุ ดของเก้าอาณาจักรแล้ว และสํานักมังกรฟ้าที่ตกตํ่ามากว่า 100
ปี ก็กา้ วขึ้นไปยังจุดสู งสุ ดของทวีปเก้าอาณาจักรอีกครั้ง

และทั้งหมดนัน่ เพราะ ชายหนุ่มที่ชื่อว่า ชูเฟิ ง


มันอาจบอกได้วา่ ชูเฟิ งนั้น กลายเป็ นที่สนใจของผูค้ นอีกครั้ง เมื่อเขา
คิดถึงสิ่ งที่ชูเฟิ งทําพวกเขาก็ตระหนักได้วา่ การกระทําของชูเฟิ งนั้นน่า
เหลือเชื่อยิง่ นัก จนตอนนี้ ชูเฟิ งนั้นถูกนับเป็ นตํานานของทวีปเก้า
อาณาจักรไปแล้ว

และสุ ดท้ายพวกเขาก็สรุ ปว่า ชูเฟิ งนั้นเป็ นคนที่แข็งแกร่ งที่สุดในทวีป


เก้าอาณาจักร เขาแข็งแกร่ งกว่าตํานานทั้งหมดรวมถึงผูก้ ่อตั้งสํานักมังกร
ฟ้า เพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้สร้างเรื่ องสะเทือนทวีปก่อนอายุ 20
เช่นเขา และพวกเขานั้นโด่งดังหลังจากอายุ20 ไปแล้ว

แต่ชูเฟิ งนั้นแตกต่าง เขาอายุเพียง 17 ปี ก็สามารถทิ้งห่างตํานานคน


อื่นๆ และยังมีชื่อเสี ยงมากที่สุดในทวีปเก้าอาณาจักร แม้แต่ราชวงศ์เจียง
ยังไว้หน้าเขาและ แม้แต่ราชันย์ลิงที่โคตรเมพยังประกาศเป็ นพี่ชายเขา
อีก
ดังนั้น ผูค้ นจึงรู ้สึกว่าชูเฟิ งนั้น เป็ นบุคคลที่น่าเกรงขามที่สดในทวีปเก้า
อาณาจักร ชูเฟิ งนั้นมีความสามารถที่คนอื่นๆไม่มี และในอนาคตของเขา
นั้นเขายังแข็งแกร่ งขึ้นได้เรื่ อยๆ จนยากที่จะคาดเดาได้

ผูค้ นจึงรู ้สึกภูมิใจมาก ที่ได้เห็นการเกิดตํานานที่ยง่ิ ใหญ่ในตนนี้ และ


ถนนที่ชูเฟิ งได้เดินนักถ้าไม่ใช่เขาก็ไม่มีทางทําได้แน่นอน

จากศิษย์นอกที่ไม่มีใครรู ้จกั ในสํานักมังกรฟ้า ค่อยๆโตขึ้น จนกลายเป็ น


ศิษย์อนั ดับ 1 ของสํานักมังกรฟ้า และยังสร้างชื่อเสี ยง สะเทือน
อาณาจักรมังกรฟ้า และสุ ดท้าย ได้กลายเป็ นตํานานของทวีปเก้า
อาณาจักรที่ทุกคนต้องรู ้จกั

ความเร็ วในการเติบโตของชูเฟิ งนั้นน่าตกใจมาก แม้ในปั จจุบนั เขาอาจ


ไม่ได้ถูกกล่าวว่าเป็ น อันดับ 1 ของอาณาจักรมังกรฟ้า แต่ในรุ่ นเยาว์
แล้วก็ไม่มีใครเทียบเขาได้อย่างแน่นอน ทุกคนรู ้วา่ ชูเฟิ งนั้นมี
ความสามารถที่จะก้าวขึ้นไปยังจุดสู งสุ ด ในอนาคตชูเฟิ งจะก้าวข้ามทุก
คน และไม่มีใครที่จะทัดเทียมกับเขาได้

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : และแล้ว ชายหนุ่มที่มีนามว่า ชูเฟิ ง ก็ได้เปิ ดตํานานบทใหม่ให้


สํานักมังกรฟ้า

A : เรื่ องราวต่อๆไปยิง่ จะเข้มข้นมากกว่านี้ เมื่อชูเฟิ ง ไล่คืนหนี้กบั ผูท้ ี่


เคยช่วยเหลือเขา อย่าง สํานักไร้ตวั ตน

A : B มึงไม่มาทํางานเลยนะ . . . .

B : แปป กูไล่ตามโทสับก่อน เล่นโปเกม่อนโกอยูด่ ีๆ มีมอไซโฉบติด


มือมันไปเฉย!!!

A : ไม่ตอ้ งตามหรอก มืงไปแจ้งความเลยดีกว่า ไปที่สาํ นักงานปะปา


นะ แล้วเอาใบเสร็ จนี้ไปหน้าเคาท์เตอร์บอกพี่อย่าเพิ่งตัดมิเตอร์ผมนะ
B : นี้มืงคิดว่า กุโง่หรอ!!!
บทที่ 485 - ปัญหาของสํานักไร้ตวั ตน

ในปัจจุบนั สํานักมังกรฟ้า ภายใต้นามของชูเฟิ ง นั้นได้ปรากฏขึ้นมาอีก


ครั้ง

แม้สาํ นักมังกรฟ้านั้นยังสร้างไม่เสร็ จ แต่อจั ฉริ ยะรุ่ นเยาว์จากทัว่ ทั้ง 9


อาณาจักรนั้น เริ่ มมาที่หุบเขามังกรฟ้าและต้องเขาที่จะเข้าร่ วมสํานัก
มังกรฟ้าแล้ว

และในตอนนั้น สํานักมังกรฟ้าได้แต่ทดสอบล่วงหน้าเท่านั้น แม้สาํ นัก


ยังสร้างไม่เสร็ จแต่เขาก็เริ่ มที่จะรับศิษย์แล้ว เพราะว่านี่เป็ นสํานักของ
มนุษย์ ดังนั้นเขาจึงไม่ยากพึ่งสัตว์มหึ มา จากหุบเขาพันอสู ร จึงต้องรับ
ศิษย์เข้ามา
นอกจากนี้ ผูท้ ี่ตอ้ งการเข้าเป็ นศิษย์สาํ นักมังกรฟ้านั้นมีคนที่มีพรสวรรค์
ที่ดีเลิศอยูม่ ากมาย พวกเขานั้นโดดเด่นกว่าศิษย์ของสํานักมังกรฟ้าก่อน
หน้านี้นกั และมีชายหนุ่มจํานวนมากที่อยูใ่ นระดับ แก่นแท้วญ ิ ญาณ
ด้วยความแข็งแกร่ งนัน่ ทําให้ หลี่ ชางฉิ ง ต้องรี บเคลื่อนไหว และไม่
สามารถเมินได้

สํานักมังกรฟ้านั้น ต้องกรรับศิษย์จาํ นวนมาก เพราะ ศิษย์และผูอ้ าวุโสที่


ออกไป ช่วงที่ คฤหาสน์องค์ชายกิเลนประกาศลบสํานักมังกรฟ้า และชู
เฟิ ง นั้นเป็ นจํานวนมาก และพวกเขาก็แบกหน้ากลับมาและขอเข้าร่ วม
สํานักมังกรฟ้าอีกครั้ง

แต่พวกเขาก็ได้ปฏิเสธอย่างเลือดเย็น เพราะสํานักมังกรฟ้านั้นไม่รับคน
ที่เห็นแก่ตวั ที่หนีไปตอนที่สาํ นักกําลังลําบาก

นอกเหนือจากศิษย์และผูอ้ าวุโสที่อยูแ่ ละตายเพื่อสํานักมังกรฟ้า ที่ได้เข้า


ไปสุ สานพันกระดูก นั้นไม่มีผอุ ้ าวุโสและศิษย์จากสํานักมังกรฟ้าคน
ไหนจะถูกเลือกเข้ามาอีกครั้ง และ เริ่ มที่จะเลือกผูท้ ี่โดดเด่นเป็ นอย่าง
แรก

สําหรับการพัฒนาสํานักนั้น ชูเฟิ งได้มอบ ลูกแก้วแก่นแท้จาํ นวน 10


ล้านให้กบั สํานัก และด้วยจํานวนนั้น ทําให้ หลี่ ชางฉิ ง ราวกับฝันไป

ในตอนแรก เขาไม่ตอ้ งการรับมันไว้ แต่สุดท้ายชูเฟิ งยัดเยียดให้เขาจน


ได้ (T/N รับของโจร!!!!)

หลังจากรับลูกแก้วแก่นแท้จาํ นวน 10 ล้านเม็ดมา หลี่ ชางฉิ งต้องการ


มอบตําแหน่งเจ้าสํานักให้กบั ชูเฟิ ง เขารู ้วา่ มีคนจํานวนมากต้องการเข้า
สํานักนั้นไม่ใช่เพราะเขา หลี่ ชางฉิ ง แต่มนั เป็ นเพราะชูเฟิ ง เขาจึงคิดว่า
ตัวเองไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็ นเจ้าสํานักมังกรฟ้า และคนที่มี
คุณสมบัติน้ นั ควรจะเป็ นคนที่สร้างความเชื่อมัน่ ให้กบั เหล่าศิษย์ได้
แต่ชูเฟิ ง ก็ได้พดู ว่า ตอนนี้ผกู ้ ่อตั้งอยูท่ ี่นี่แล้ว ในอนาคตเมื่อเขาฟื นขึ้นมา
ในเวลานั้น ควรจะเป็ นเขาที่ได้รับตําแห่นงนี้ไป เขาต้องการเป็ นแค่ศิษย์
ธรรมดา ดังนั้นจึงให้ หลี่ ชางฉิ งเป็ นประมุขไปจึงดีที่สุด

ในด้าน หลี่ ชางฉิง ไม่รู้สึกเช่นนั้น แต่กไ็ ม่ได้พดู อะไร ในใจเขาตอนนี้


รู ้สึกขอบคุณชูเฟิ ง มาก เพราะเขานั้นไม่ได้เลือกพลาดที่อยูข่ า้ งเด็กหนุ่ม
คนนี้ คนที่ถูกเกลียดด้วยคนมากมายในตอนแรก แล้วก็เป็ นคนที่พลิก
ชะตาของสํานักมังกรฟ้า

และทําให้สาํ นักมังกรฟ้ากลายเป็ นสํานักอันดับ 1 และเจริ ญรุ่ งเรื องอีก


ครั้ง

แต่ในขณะที่ สํานักอื่นๆที่มีชื่อเสี ยงเมื่อพันปี ในอาณาจักรมังกรฟ้า ยังคง


เป็ นเหมือนเคย ยกตัวอย่างเช่น สํานักไร้ตวั ตน ในหุบเขาไร้ตวั ตน
“เฮ้อ~~~” ในห้องโถงของสํานักนั้นมีเสี ยงถอนหายใจดัง
ออกมา

เจ้าของเสี ยงคือ ประมุขสํานักไร้ตวั ตน ที่อยูใ่ นห้องโถง เขากวาดสายตา


มอง ผูอ้ าวุโสคนอื่นๆในห้องนั้นและ พูดว่า “ สํานักมังกรฟ้านั้นได้โด่ง
ดังขึ้นอีกครั้งแล้ว แต่ สํานักไร้ตวั ตนของข้า ยังไม่เป็ นที่รู้จกั เช่นเคย
หนําซํ้าตอนนี้เราอาจจะถูกบีบให้ออกจากหุบเขาไร้ตวั ตนด้วยซํ้าไป
เพราะ สํานักดอกบัวนัน่ ที่สร้างขึ้นมาไม่กี่ 10 ปี ก่อน ข้าคงไม่มีหน้า
ไปพบผูก้ ่อตั้งแล้วล่ะ”

“ท่านประมุข ท่านไม่ทราบหรื อ ว่าชูเฟิ งนั้น คือ ชายยชุดเทา ที่


ข้าอยากบอกก็คือสํานักของเรามีความสัมพันธ์บางอย่างกับชายชุดเทา
นัน่ หากชูเฟิ งเป็ นชายชุดเทาจริ งๆ เราควรจะขอความช่วยเหลือจาก
สํานักมังกรฟ้า.”

“ถ้าสํานักมังกรฟ้าให้ความช่วยเหลือ มีหรื อสํานักดอกบัวจะบีบ


ให้เราออกจากหุบเขาไร้ตวั ตนนี้ได้” ผูอ้ าวุโสพูดขึ้น

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แม้วา่ ชูเฟิ งจะเป็ นชายชุดเทาจริ งๆ แต่เขา


เคยตอบแทนให้เราแล้ว มันจะมีเรื่ องอะไรที่เราจะไปขอให้เขาช่วยเหลือ
ได้”

ประมุขสํานักยิม่ และส่ ายหัว เขาคิดว่ามันไม่น่าจะเป็ นไปได้ถา้ จะลอง


เสี่ ยงโชคขอความช่วยเหลือจากชูเฟิ งดู

เมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อสํานักมังกรฟ้าอยูใ่ นอันตราย สํานักของเขาก็


ไม่ได้ทาํ อะไรเลย และในตอนนี้เขานั้นเฟื่ องฟูอีกครั้ง เขาก็คิดว่ามันไม่
ถูฏนักถ้าจะไปขอความช่วยเหลือ มันดูไร้ยางอายเกินไป

“ท่านประมุข แต่ตอนนี้สาํ นักไร้ตวั ตนของเรากําลังเผชิญหน้า


กับการล่มสลาย ถ้าสํานักดอกบัวปล่อยให้เราอยูท่ ี่หุบเขาไร้ตวั ตนต่อไป
มันก็ดี”

“แต่ถา้ พวกเขาไม่ยอม มันก็ยากมากที่เราจะต่อต้านได้ ข้าเกรง


กว่าสํานักของพวกเรานั้นจะถูกลดไปอยูร่ ะดับ 3 และนัน่ ก็อาจจะทําให้
สํานักของเราถูกถอนรากถอนโคนเลย.” ผูอ้ าวุโสพูดขึ้น

“นี่มนั ช่วยไม่ได้จริ งๆ ใครบอกให้พวกเราไปเปิ ดศึกชิงพื้นที่


กับสํานักดอกบัวล่ะ ถ้าพวกเราไม่โลภขนาดนั้น พวกเราอาจจะไม่ตอ้ ง
เสี ยที่ของเราไป.” ประมุขของสํานักนัง่ หน้าเศร้า

เมื่อย้อนกลับไป ในเขตของสํานักไร้ตวั ตน ได้คน้ พบแร่ โลหิ ต ซึ่ งแร่


โรหิ ตนี้มีราคาสู งมาก และถ้าพวกเขาขุดมันขึ้นมาพวกเขาก็จะนําไปแลก
กับทรัพยากรบ่มเพาะได้มาก และมันจะทําให้สาํ นักของเขาแข็งแกร่ ง
ขึน
แต่เพื่อนบ้านของเขา สํานักดอกบัว ก็ขดุ พบเหมือนกัน ทั้ง2 จึงเกิดการ
แย่งชิงกัน และทําให้เกิดการรบระหว่างสํานักระดับ 2 เกิดขึ้น

สํานักดอกบัวนั้นถูกสร้างขึ้นมาหลาย10ปี แล้ว และเนื่องด้วยเหตุผล


บางอย่างผูก้ ่อตั้งสํานักก็ได้หายตัวไปกว่า10ปี แล้ว และหากเขาไม่
หายไป เขาอาจจะแก่ตายตามอายุกเ็ ป็ นได้

ความแข็งแกร่ งของสํานักดอกบัวนั้นความแข็งแกร่ งของประมุขของเขา


ยังห่างกับประมุขสํานักไร้ตวั ตนอยูน่ กั และเช่นเดียวกับผูอ้ าวุโสเขา
ดังนั้นจึงบอกได้วา่ พวกเขานั้นอาจด้อยที่สุดในสํานักระดับ 2

ดังนั้นจึงเกิดศึกแตกหากขึ้น สํานักไร้ตวั ตนเปิ ดศึกกับสํานักดอกบัว และ


ในตอนที่สาํ นักไร้ตวั ตนได้รุกเข้าไปในสํานักดอกบัวนั้น ผูก้ ่อตั้งสํานัก
ดอกบัวก็ปรากฏตัวขึ้นมา
เขาไม่ควรมีมีชีวติ อยุแ่ ล้วเนื่องจากอายุของเขาได้ผา่ นไปกว่า 100 ปี
แล้ว และ การบ่มเพาะของเขายังอยูใ่ นระดับ 8 แก่นแท้วญ ิ ญาณ มันดู
เหมือนว่าเขาจะได้รับสมบัติบางอย่างจากผูเ้ ชี่ยวชาญเมื่อหลาย 10 ปี ที่
ผ่านมา และได้กินยาพิเศษบางอย่างที่ทาํ ให้เขามีอายุยนื ยาว จึงทําให้ที่
ผ่านมาเขาเก็บตัวและนัง่ บ่มเพาะอยูเ่ งียบๆ

และหลังจาก เขาปรากฏตัว ก็ได้ทาํ สิ่ งที่ทาํ ให้สาํ นักไร้ตวั ตนต้องลําบาก


ใจ เขาไม่มีเพียงแต่ไม่โจมตีสาํ นักไร้ตวั ตน แต่ยงั ปล่อยให้เขากลับไป

และด้วยนํ้าใจของชายชราผูน้ ้ นั ทําให้ประมุขสํานักไร้ตวั ตนรู ้สึกอับอาย


และในขณะเดียวกันเขาก็เตรี ยมจะยกสายแร่ โลหิ ตให้สาํ นักดอกบัว
พร้อมกับส่ งของขวัญให้กบั สํานักดอกบัว แต่ใครจะคิดว่ามันจะเกิดเรื่ อง
ที่เขาไม่คาดคิดขึ้น

ผูก้ ่อตั้งสํานักดอกบัวนั้น หลังจากที่ปล่อยให้กองทัพของสํานักไร้ตวั ตน


กลับไป เขายังบีบให้สาํ นักไร้ตวั ตนออกจากหุบเขาไร้ตวั ตนภายใน 1
เดือน และยังบังคับให้ยกหุบเขาไร้ตวั ตนให้กบั สํานักดอกบัว หรื อจะ
แลกกับการตายหมู่

และในวันนี้เป็ นวันครบกําหนดแล้วที่สาํ นักไร้ตวั ตนจะต้องออกไป

“สํานักดอกบัวของเขายังเป็ นเพียงสํานักเล็กๆ แต่กเ็ ป็ นสํานัก


ระดับ 2 ถ้ามันไม่ได้โชคดีได้รับสมบัติของผูเ้ ชี่ยวชาญ ผูก้ ่อตั้งของมัน
ก็ไม่มีอายุขนาดนี้และการบ่มเพาะก็ไม่สูงขนาดนี้หรอก แล้วมีหรื อมัน
จะสามารถเอาชนะสํานักของพวกเราได้” ผูอ้ าวุโสพูดขึ้น

“อย่างไรก็ตาม เราก็ไปว่าเขาไม่ได้หรอก พวกนั้นใจดีแค่ไหน


แล้วที่ไม่โจมตีพวกเรา แต่เพียงแค่เอาหุบเขาไร้ตวั ตนไป หากเราจะโทษ
ใครก็โทษความสามารถตนเองเถิดที่ไปสู พ้ วกเขาไม่ได้”

“รับคําสัง่ ไป ให้ผอู ้ าวุโสและศิษย์ท้ งั หมด ไปกับข้า เราจะ


ออกไปจากหุบเขาไร้ตวั ตน หากสํานักไร้ตวั ตนของเราคงอยู่ พวกเราก็
ยังสามารถทวงคืนได้.”ประมุขสํานักไร้ตวั ตนพูด.

หลังจากนั้นศิษย์นบั แสนคนของสํานักไร้ตวั ตน ด้วยการนําของประมุข


ของเขาและผูอ้ าวุโส ก็เตรี ยมความพร้อมเพื่อออกจากหุบเขาไร้ตวั ตน
ไป

แต่ในขณะที่พวกเขาเดินทางมาถึงทางเข้า ในที่แห่งนั้นก็มีกลุ่มคนและ
ม้าปรากฏขึ้น

Readmga.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////
แปลโดยท่าน#ฮาย
บทที่ 486 - พระเจ้าทรงมาเยือน
เสื้ อคลุมของพวกเขามีตราสัญลักษณ์ดอกบัวอยู่ และผูค้ นส่ วนใหญ่ใน
กลุ่มนั้นเป็ นรองเพียงประมุขสํานักไร้ตวั ตนแต่สูงกว่า ผูอ้ าวุโส

อย่างไรก็ตาม ชายชราตรงหน้า ที่มีผมอยูไ่ ม่กี่เส้นและใบหน้าเต็มไป


ด้วยริ้ วรอย ร่ างกายของเขายังผอมแห้งราวกับศพนั้นมีพลังระดับ 8
แก่นแท้วญ ิ ญาณ

ในอาณาจักรอื่นๆ บ่มเพาะระดับนี้ไม่สูงมากนัก แต่ในอาณาจักรมังกร


ฟ้า การบ่มเพาะระดับนี้นบั ได้วา่ สู งยิง่ นัก เขาประมุขของสํานักดอกบัว
ผูเ้ ฒ่าดอกบัว

“ท่านผูอ้ าวุโสดอกบัว ตามพวกเรามาต้องการอะไรหรื อ ข้ากําลัง


ทําตามคําขอของท่านและออกจากหุบเขาไร้ตวั ตน ดังนั้นข้าหวังว่าท่าน
จะรักษาสัจจะและปล่อยให้พวกเราไป.” ประมุขสํานักไร้ตวั ตน พูดขึ้น
ด้วยความรู ้สึกกลัวคนตรงหน้าจริ งๆ
“คุคุ, ไม่ตอ้ งกังวล ข้ารักษาคําพูดแต่ขา้ ได้ยนิ ว่าสํานักของเจ้ามี
เมล็ดพันธ์ช้ นั ดี ตอนนี้ประมุขอย่างเจ้าก็แค่หมาไร้บา้ น เจ้าจะรับผิดชอบ
ศิษย์ของเจ้าไหวหรื อ” ผูอ้ าวุโส ดอกบัวพูด

“ผูอ้ าวุโส ดอกบัว ท่านหมายถึงอะไร” ประมุขสํานักไร้ตวั ตน


ถามขึ้นเขารู ้สึกว่าไม่ใช่เรื่ องดีแล้ว

“ฮ่าฮ่า ข้าไม่ได้หมายถึงอะไรทั้งนั้น ข้าก็แค่หวังว่าเมล็ดพันธุ์ช้ นั ดี


พวกนี้จะได้โตตามที่ควรเท่านั้น.” ริ มฝี ปากของผูเ้ ฒ่าดอกบัวก็ยกขึ้นเขา
เบี่ยงสายตาไปยังเบื้อหลังประมุขสํานักไร้ตวั ตนและพูดว่า “ ทุกๆคน
จากวันนี้จะไม่มีหุบเขาไร้ตวั ตนอีกแล้ว จะมีแต่หุบเขาดอกบัว และ
สํานักไร้ตวั ตนนี่ตอ้ งเปลี่ยนเป็ นสํานักดอกบัว ข้าผูเ้ ฒ่าดอกบัว เห็นว่า
พวกเจ้ามีความสามารถจึงไม่อยากให้พวกเจ้าต้องเสี ยไปอย่างไร้
ประโยชน์.”

“ดังนั้น ข้าจึงเปิ ดประตูของสํานักเพื่อพวกเจ้า พวกเจ้าสามารถเข้า


สํานักดอกบัวได้เลยไม่ตอ้ งหลบซ่อนใดๆ สํานักดอกบัวของข้าถูก
รองรับโดย คฤหาสน์องค์ชายกิเลนให้เป็ นสํานักระดับ 1 แล้ว หากพวก
เจ้าเข้าร่ วมกับเราพวกเจ้าจะกลายเป็ นศิษย์และผูอ้ าวุโสจากสํานักระดับ
1.”

“ฮู่~~~~~~~”

หลังจาก ผูเ้ ฒ่าดอกบัวพูด ก็เกิดความโกลาหลในฝูงชนทันที ศิษย์และผู ้


อาวุโสหลายคนมองหน้ากัน พลันยิม้ มีความสุ ข

“ผูอ้ าวุโสดอกบัว ทําไมท่านถึงทําเยีย่ งนี้.” ในตอนนั้น ใบหน้า


ของประมุขสํานักไร้ตวั ตนก็ดาํ เหมือนขี้เถ้า แต่เขาไม่กล้าบุกเข้าไป แม้
ตัวเขาเองจะไม่สนใจชีวติ ของเขา แต่เขาไม่ตอ้ งการให้เกิดผลกระทบกับ
คนจํานวนมากจากสํานักเขา
“เฮ้ ข้าคิดถึงอนาคตพวกเรานะ มันผิดหรื อ ข้าก็แค่ให้ทางเลือกกับ
พวกเขา ข้าไม่ได้บงั คับพวกเขาสักหน่อย.”

“ถ้าไม่ตอ้ งพูดมาก คนที่ทาํ ให้เกิดเรื่ องแบบนี้คือเจ้าใช่หรื อไม่ เจ้า


มันไร้ค่าเสี ยงจริ ง ตอนนี้เจ้ายังมีค่าพอจะนําคนจํานวนมากอีกหรื อ หาก
มีคนที่มีพรสวรรค์ดีเยีย่ ม นัน่ ไม่ใช่หมายความว่าเจ้าปิ ดกั้นพวกเขา
หรอกหรื อ” ผูเ้ ฒ่าดอกบัวยิม้ และพูด

“เจ้า!!!” ประมุขสํานักไร้ตวั ตนกัดฟันด้วยความโกรธ ในท้ายที่สุด


เขาก็ได้แต่ทนมัน จากนั้นเขาก็ตะโกนไปยังคนข้างหลังของเขาว่า,
“ใครที่ตอ้ งการจะติดตามข้า ออกมาจากสํานักไร้ตวั ตนและตามข้าลงเขา
ซะ”

หลังจากประมุขสํานักไร้ตวั ตนพูด ก็มีผอู ้ าวุโสที่เป็ นผูจ้ ดั การเรื่ องต่างๆ


เดินออกมาและยืนอยูข่ า้ งหลังเขา ในเวลาเดียวกันก็มีศิษย์และผูอ้ าวุโส
จํานวนมากเดินออกมาและเลือกจะตามเขา
อย่างไรก็ตามในตอนนั้น ก็มีคนเลือกที่จะไม่ติดตามประมุขสํานักไร้
ตัวตนเป็ นจํานวนมากนับแสนคน

จนในที่สุดก็มีผอู ้ าวุโสและศิษย์นบั แสนคนเลือกที่จะยืนอยูท่ ี่เดิมเมื่อการ


ปะทะระหว่างสํานัก ผูค้ นก็สนใจในคําตอบที่ประมุขจะได้รับ

“พวกเจ้า บัดซบ ท่านประมุขนั้นให้อะไรกับเจ้ามากมายแต่เจ้ายัง


เนรคุณทํากับเขาได้อย่างนี้ พวกเจ้านั้นเป็ นได้แค่สุนขั ” เมื่อเห็นแบบนั้น
ผูอ้ าวุโสที่เลือกติดตามและศิษย์กเ็ ริ่ มต่อว่าพวกเขา

ทางผูอ้ าวุโสที่โดนต่อว่าและศิษย์หลายคนก็กม้ หน้าไม่ได้พดู อะไร


อย่างไรก็ตามมีบางคนหัวเราและพูดว่า “ ท่านผูอ้ าวุโสมนุษย์น้ นั ย่อม
แสวงหาทางที่ดีกว่า พวกเราผิดตรงไหนหรื อ”
“ถูกต้อง ชื่อเสี ยงของสํานักไร้ตวั ตนได้หมดสิ้ นแล้ว หากติดตาม
ต่อไป ก็ได้เพียงแค่อ่อนลง และ ก็อ่อนลง และได้รับเพียงแต่การดูถูก
เท่านั้น.”

“ผูอ้ าวุโสดอกบัว นั้นแข็งแกร่ ง เขาย่อมพาพวกเราไปสู๋ ทางที่ดี


พวกเราจึงเลือกที่จะเป็ นศิษย์ของสํานักดอกบัวและเลือกที่จะตายเพื่อ
สํานักดอกบัว!”

“สํานักดอกบัว สํานักดอกบัว สํานักดอกบัว”

“บัดซบ พวกเจ้าช่างน่ารังเกียจยิง่ นัก ข้าจะให้พวกเจ้าได้รับรู ้ถึง


ความตาย” ในตอนนั้นผูอ้ าวุโสที่ติดตามประมุขสํานักไร้ตวั ตน ก็โกรธ
และพวกเขาก็เริ่ มโจมตี
“ข้าเห็นว่ามีบางคนนั้นกล้าแตะต้องศิษย์ของข้า!” ในตอนนั้นผู ้
เฒ่าดอกบัวก็แค่นเสี ยง และปล่อยพลังแก่นแท้ออกมาโจมตีผอู ้ าวุโสที่
กําลังเคลื่อนไหว

“อ๊าก!”

และด้วยความต่างของพลังที่ใหญ่นกั เพียงการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากผู ้
เฒ่าดอกบัว ก็ส่งผูอ้ าวุโสหลายคนกระเด็นไปหลายเมตร และนัน่ ทําให้
พวกเขาบาดเจ็บสาหัส

“ข้าจะฆ่าเจ้า!”

เมื่อเห็นผูอ้ าวุโสถูกโจมตีคนหลายคนที่เลือกติดตามสํานักไร้ตวั ตนก็


โกรธมาก เขาต้องการสู แ้ ลกตายกับผูเ้ ฒ่าดอกบัว
“ช้าก่อน!!!” เมื่อเห็นเช่นนั้นประมุขสํานักไร้ตวั ตนก็ตะโกน
ออกมา หลังจากพวกเขาหยุด เขาก็มองไปทีศิษย์และผูอ้ าวุโสที่เลือกเข้า
ร่ วมกับสํานักดอกบัว, “ ทุกคนล้วนมีเป้าหมายของตัวเอง หากเจ้า
ต้องการเปลี่ยนข้าง ข้าก็ไม่บงั คับ.”

หลังจากพูด เขาก็เดินออกไปจากสถานที่น้ นั เป็ นคนแรก ในเวลานั้นศิษย์


และผูอ้ าวุโสจํานวนหลายพันคนก็เดินตามอย่างรวดเร็ ว

ในตอนนั้นไม่วา่ พวกเขาจะโกรธหรื อไม่ พวกเขาก็ต่างน่าสงสารยิง่ นัก.

แต่ผชู ้ นะคือราชา ผูแ้ พ้คือกบฏ นีคือกฎสามัญของโลกใบนี้ ทําให้ไม่มี


ใครเห็นใจพวกเขาและมีแต่คนเยาะเย้ย
“ถูกต้อง เจ้าหมาไร้บา้ น ลองไปดูวา่ ในทวีปเก้าอาณาจักรนี้จะมี
บ้านให้เจ้าอยูห่ รื อไม่!”

“กล้ามาเป็ นศัตรู กบั สํานักดอกบัวของข้า นี่คือจุดจบของพวกเจ้า


ฮ่าฮ่าฮ่า …”

ผุเ้ ฒ่าดอกบัวหัวเราะเสี ยงดังอย่างเย็นชา ความต้องการของเขานั้นชัดเจน


มากเขาต้องการให้สาํ นักไร้ตวั ตนไม่มีที่ยนื และไม่สามารถยืนได้ดว้ ยขา
ของตัวเอง และหายไปจากสายตาของผูค้ นในที่สุด

“ในทวีปเก้าอาณาจักรมีสถานที่สาํ หรับสํานักไร้ตวั ตนที่เขา


สามารถอยูไ่ ด้อยู่ ในทางกับกัน พวกเจ้าสํานักดอกบัวมีค่าพอที่จะมาแย่ง
หุบเขาไร้ตวั ตนของพวกเราหรื อ?”

แต่ในเวลานั้นก็มีเสี ยงดังมาจากท้องฟ้า เสี ยงนั้นดังราวกับฟ้าผ่าและทรง


พลังอย่างมาก และเมื่อได้ยนิ เสี ยงนั้นไม่เพียงแค่ศิษย์ แม้แต่ผเู ้ ฒ่าดอกบัว
ก็ยนื ไม่ไหว และต้องล้มลงไป

เมื่อเสี ยงที่น่าเกรงขามดังขึ้น ทุกคนก็ตอ้ งหันไปมองตามทางนั้น และ


เมื่อทุกคนมองขึ้นไปก็เห็นคนคนหนึ่งและในตอนนั้นทุกคนก็ตอ้ งตกใจ
อย่างมาก

เพราะบนท้องฟ้านั้น มีร่างของมนุษย์ยนื อยูบ่ นท้องฟ้าและมองลงมา ทุก


คนต่างถูกกดดันด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลังนัน่

พวกเขายืนอยูบ่ นท้องฟ้า ราวกับพระเจ้าอาจบอกได้วา่ พวกเขานั้น


แข็งแกร่ งมาก แต่สาํ หรับสํานักไร้ตวั ตนและสํานักดอกบัวแล้ว พวกเขา
คือพระเจ้า

อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ทุกคนต้องตกใจเพราะในกลุ่มนั้นมีร่างของชาย
หนุ่มยืนอยูช่ ายหนุ่มที่ถูกกล่าวขานในทัว่ ทวีปเก้าอาณาจักร ทุกคนต่าง
รู ้จกั เขา เขาคือคนที่สร้างชื่อเสี ยงที่น่าตกใจในทวีปเก้า อาณาจักร ชาย
คนนั้น คือชูเฟิ ง

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : โฮ กําลังเข้าตอนมันส์ๆเลย

A : ให้@ ประกาศลาหยุดเลยเป็ นไง ???

B : จะทําไรเรื่ องของมืงเลย อย่าลากกุไปเกี่ยววว . . . .


บทที่ 487- พันธมิตร

“ชู ... ชูเฟิ ง “ เมื่อเห็นร่ างของชูเฟิ งอยูบ่ นท้องฟ้า ทุกคนก็ตอ้ ง


ตกใจอย่างหนัก

คนจากสํานักดอกบัวต้องขมวดคิว้ แน่ เพราะพวกเขาไม่รู้วา่ ทําไมชูเฟิ งที่


เป็ นดัง่ ตัวตนในตํานาน ถึงมาที่น้ ี
แต่พวกเขาเห็นชูเฟิ ง เขาก็ไม่ทราบว่าชูเฟิ งแข็งดังคําลํ่าลือหรื อไม่ แต่เขา
รู ้วา่ คนที่อยูข่ า้ งๆชูเฟิ งนั้น มีพลังที่ไม่ธรรมดาเสี ยจริ ง ทุกคนนั้นมีพลัง
พอที่จะฆ่าพวกเขา

ในตอนนั้น แม้วา่ จะละเลยของเขา แต่ตวั ตนของพวกเขานั้นก็ไม่


สามารถละเลยได้ พวกเขานั้นเป็ นคนจากสมาคมโลกวิญญาณ และยังมี
ประมุขคฤหาสน์องค์ชายกิเลน และหนําซํ้ายังมี คนจากราชวงศ์เจียง

“นายท่าน ข้าจ้าว เหลียนฮัว ขอคารวะนายท่าน” ในตอนนั้น ผู ้


เฒ่าดอกบัวก็ตอ้ งขุกเข่าลง เขารี บคุกเข่าเคารพพวกชูเฟิ งอย่างรวดเร็ ว [
T/N 蓮花Liánhuā ดอกบัว ]

“ขอคารวะ นายท่าน” ในตอนนั้นทุกคนก็รีบคุกเข่าลง และ


ตะโกนพร้อมกัน เสี ยงของพวกเขานั้นเหมือนนระฆังดังไปทัว่ พื้นที่
ชูเฟิ ง ไม่ได้สนใจการทําความเคารพของผูค้ นเขากระโดด ไปหาประมุข
สํานักไร้ตวั ตน และพูดว่า “ ผูอ้ าวุโส ข้าชูเฟิ ง ขอโทษที่มาช้า.”

“ทะ ทะ ทะ ท่านชูเฟิ ง” ในตอนนั้นประมุขสํานักไร้ตวั ตนก็ตอ้ ง


ตกใจ เขาพูดด้วยนํ้าเสี ยงที่มีความสุ ขว่า, “มันเป็ นเรื่ องจริ งหรื อ ท่านคือ
ชายชุดเทาอย่างนั้นหรื อ”

หลังจากประมุขสํานักพูดออกไป ใบหน้าของทุกคนเกิดการ
เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผูเ้ ฒ่าดอกบัวที่ตอนนี้ทาํ หน้าปั้ นยากอยู่ เขาไม่
สบายใจอย่างมาก จนสัน่ เทาไปด้วยความกลัวเพราะไม่รู้วา่ ประมุข
สํานักไร้ตวั ตนจะมีความสัมพันธ์กบั ชูเฟิ งด้วย

ผูอ้ าวุโสของสํานักไร้ตวั ตนและกลุ่มศิษย์หลัก ก็คุกเข่าและตื่นเต้นอย่าง


มาก พวกเขารอคําตอบของชูเฟิ ง เพราะคําของชูเฟิ งนั้นสามารถกําหนด
ชะตาของเขาได้
“ถูกต้อง ข้าเอง ชายชุดเทา คนที่บอกท่านว่าจะช่วยเหลือท่าน
และ คนที่อยูใ่ นสํานักของท่านหลายวัน.”ชูเฟิ ง ยิม้ และพูดออกมา เขา
กวาดสายตาไปยังผูอ้ าวุโส และศิษย์นบั พัน ที่อยูข่ า้ งหลังประมุขสํานัก
ไร้ตวั ตนและพูดว่า “ คนจากสํานักไร้ตวั ตนไม่ตอ้ งสุ ภาพกับข้าหรอก
หรอก ลุกขึ้นเถิด.”

“ขอบพระคุณอย่างยิง่ ท่านชูเฟิ ง!” เมื่อได้ยนิ อย่างนั้น พวกเขาก็


รี บกล่าวขอบคุณและลุกขึ้น

และในเวลานั้นใบหน้าของศิษย์หลักและผูอ้ าวุโสนั้นดีข้ ึนมากพวกเรารู ้


ว่า สํานักไร้ตวั ตนของเขาถูกช่วยไว้แล้ว ด้วยพลังของชูเฟิ งนั้น ถ้าเขายืน่
มือมาช่วยเหลือสํานักไร้ตวั ตน ตําแหน่งของเขาในอาณาจักรมังกรฟ้าก็
จะสู งยิง่ ขึ้นอย่างแน่นอน
“ใครบอกให้เจ้าลุกขึ้น รี บคุกเข่าเดี๋ยวนี้” ในตอนนั้น ใบหน้าชู
เฟิ งก็เปลี่ยนแปลง เขาหันไปยังศิษย์นบั แสนที่เลือกออกจากสํานักไร้
ตัวตนและกําลังจะยืนขึ้นและตะโกนดังลัน่

เสี ยงของเขาดังร่ าวกับฟ้าผ่า มันทําให้พ้ืนดินแทบสัน่ สะเทือน และ


ต้นไม้น้ นั ถึงกับแยกออก สัตว์และ นกในป่ านั้นรี บหนีกนั แตกตื่นทันที

ศิษย์นบั แสนนั้นตกอยูใ่ นความกลัวทันที และพวกเขาทั้งหมดรี บคุกเข่า


อย่างรวดเร็ ว และอยูใ่ นท่าก้มหัวเคารพ ไม่มีใครที่กล้ายกหัวขึ้นมอง

“ฮึ่ม ข้าบอกให้คนจากสํานักไร้ตวั ตนลุกขึ้น พวกเจ้าสํานัก


ดอกบัวคุกเข่าไปดีแล้ว ถ้าใครกล้ายืนขึ้นมา ข้าจะตัดหัวทิ้งซะ.” ชูเฟิ ง
พูดขึ้นอย่างเย็นชา

หลังจาก สิ้ นคําพูดของชูเฟิ ง ทุกคนจากสํานักดอกบัวก็ตอ้ งเป็ นนกังวล


เพราะพวกเขารู ้แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างชูเฟิ งและสํานักไร้ตวั ตน
นั้นนไม่ใช่ธรรมดา พวกเขานั้นได้บีบสํานักไร้ตวั ตนให้ออกจากที่แห่งนี้
พวกเขารู ้สึกทันที่วา่ ในวันนี้โชคชะตาของพวกเรานั้นโหดร้ายยิง่ นัก

“ท่านผูอ้ าวุโส ที่ขา้ มาที่นี่ในวันนี้ ข้ามีบางอย่างจะคุยกับท่าน”


หลังจากนั้นชูเฟิ งก็หนั ไปพูดกับสํานัก ไร้ตวั ตน

“ท่านชูเฟิ ง มีอะไรจะพูดอย่างนั้นหรื อ หากเราช่วยได้เราจะช่วย


ท่านทุกอย่าง” ประมุขสํานักไร้ตวั ตนรี บพูดอย่างรวดเร็ ว

“ข้าต้องการที่จะให้สาํ นักมังกรฟ้าและสํานักไร้ตวั ตนเข้าร่ วมเป็ น


พันธมิตรกัน อาวุโสท่านเต็มใจหรื อไม่” ชูเฟิ งยิม้ และพูดขึ้น

“อะไรนะ!!! ร่ วมพันธมิตรกับสํานักมังกรฟ้าอย่างนั้นหรื อ”
หลังจากชูเฟิ ง พูด มันก็เหมือนเกิดฟ้าผ่าตอนท้องฟ้าแจ่มใส มันทําให้
ผูค้ นต่างตกใจในสิ่ งที่เกิดขึ้น

สํานักมังกรฟ้ามีพลังแค่ไหนหรื อ มันคือสํานักอันดับ 1 ของทวีปเก้า


อาณาจักร และมีข่าวลือว่า มีสาํ นักนับไม่ถว้ นในทวีปเก้าอาณาจักร
ต้องการเป็ นพันธมิตรกับสํานักมังกรฟ้า แต่พวกเขาทั้งหมด ล้วนถูก
ปฏิเสธ

แม้แต่มหาอํานาจของอาณาจักร ฉิ น อย่าง นครอันทรงเกียรติยงั ถูกปฎิ


เสธ ในตอนนี้มีเพียงแค่ 2 มหาอํานาจเท่านั้นที่เป็ นพันธมิตรกับ
อาณาจักรมังกรฟ้า 1 คือ นิกายโลกวิญญาณ และอีก1 คือ คฤหาสน์
องค์ชายกิเลน

ไม่ตอ้ งพูดถึงนิกายโลกวิญญาณ พวกเขาคือ 1 ในมหาอํานาจที่


แข็งแกร่ งที่สุดในทวีปเก้าอาณาจักร และยังมี คฤหาสน์องค์ชายกิเลน ถึง
ความแข็งแกร่ งของพวกเขาจะห่างกับนิกายโลกวิญญาณ แต่กเ็ ป็ นถึง
ผูน้ าํ ของอาณาจักรมังกรฟ้า
แต่ สํานักไร้ตวั ตนของเขาเป็ นแค่สาํ นักอันดับ 2 ในอาณาจักรมังกรฟ้า
เป็ นเพียงแค่มดตัวเล็กๆตัวนึง แต่ตอนนี้กลับมีโอกาสได้เป็ นพันธมิตร
กับมหาอํานาจอย่างสํานักมังกรฟ้า มีหรื อพวกเขาจะไม่รู้สึกตกใจ

“แน่นอน ข้าตกลง ข้าตกลง” ประมุขสํานักไร้ตวั ตนรี บผงกหัว


อย่างรวดเร็ ว หัวของเขานั้นเคลื่อนขึ้นลงๆอย่างต่อเนื่อง ไม่ตอ้ งบอกก็รู้
ว่าเขามีความสุ ขขนาดไหน

“เยีย่ ม งั้นข้าจะยืน่ เรื่ องไปที่คฤหาสน์องค์ชายกิเลนเลื่อนระดับ


ให้สาํ นักไร้ตวั ตนเป็ นสํานักระดับ 1 และข้าคิดว่าคฤหาสน์องค์ชาย
กิเลนจะตอบรับ” หลังจากชูเฟิ งพูดขึ้น เขาก็หนั ไปมองที่ ประมุขของ
คฤหาสน์องค์ชายกิเลน ฉี เฟิ งหยาง

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ทุกคนจากสํานักไร้ตวั ตนก็หนั ไปมองที่ฉี เฟิ งหยาง


ด้วยสายตาที่ลุน้ กับคําตอบจากเขา
ฉีเฟิ งหยาง ยิม้ อ่อนๆ และพูดว่า “ ถูกต้อง แม้ตอนนี้สาํ นักไร้ตวั ตนจะ
แข็งแกร่ งไม่พอเป็ นสํานักระดับ 1 แต่ขา้ เชื่อว่าในอนาคตพวกเขาต้อง
เป็ นสํานักที่ดีเยีย่ ม ในอาณาจักรมังกรฟ้าแน่นอน.”

“ขอบคุณอย่างยิง่ ท่านชูเฟิ ง ขอบคุณอย่างยิง่ ท่านประมุข


คฤหาสน์!” ในตอนนั้นผูค้ นจากสํานักไร้ตวั ตนคุกเข่าอีกครั้ง พวกเขา
รู ้สึกขอบคุณมาจากใจจริ งจากความช่วยเหลือของชูเฟิ ง

“อ๋ า ไม่ตอ้ งสุ ภาพหรอก รี บลุกขึ้นเร็ ว.” ชูเฟิ งสะบัดขาเขา


เล็กน้อยและเกินลมหนุนทําให้คนจากสํานักไร้ตวั ตนลุกขึ้นและพูดว่า “
ในเมื่อเราเป็ นพันธมิตรกันแล้ว ข้ามีเรื่ องบางอย่างต้องหาหรื อกับพวก
ท่านในตอนนี้ สํานักมังกรฟ้าของข้านั้นเริ่ มรับศิษย์แล้ว แต่อย่างไรก็
ตามบางคนนั้นไม่ผา่ นเกณฑ์ของสํานักมังกรฟ้า แต่กไ็ ม่ได้แย่ไปสัก
ทีเดียวและด้วยพรสวรรค์ของพวกเขาทําให้สาํ นักของข้านั้นไม่อยากเสี ย
พวกเขาไปเช่นกัน.”
“ดังนั้น จากวันนี้ ผูท้ ี่หวังจะเข้าร่ วมสํานักมังกรฟ้า แต่ไม่
สามารถเข้ารวมได้ ข้าจะแนะนําให้พวกเขามาเข้าร่ วมกับสํานักไร้ตวั ตน
และถ้าพวกเขามาก็ขอให้สาํ นักไร้ตวั ตนทดสอบพวกเขาด้วย ท่านจะ
ยอมรับหรื อไม่”

“ข้าตกลง ข้าตกลง แน่นอน ข้าตกลง” ผูน้ าํ สํานักไร้ตวั ตนรี บ


พยักหน้าและตอบอย่างรวดเร็ ว เพราะเขารู ้วา่ นี่คือโอกาสที่หายากมาก

ในตอนนี้ คนที่ตอ้ งการเข้าสํานักมังกรฟ้าล้วนเป็ นอัจฉริ ยะที่โดดเด่น


จากต่างสถานที่ในทวีปเก้าอาณาจักร แม้คนเหล่านั้นจะมีคามสามารไม่
พอเป็ นศฺษย์ของสํานักมังกรฟ้า และเพื่อความแข็งแกร่ งของอาณาจักร
มังกรฟ้า พวกเขาก็ตอ้ งการอัจฉริ ยะ

ถ้าอัจฉริ ยะเหล่านั้น ได้เข้าร่ วมกับสํานักไร้ตวั ตน สํานักของพวกเขาก็จะ


แข็งแกร่ งขึ้นอย่างรวดเร็ วและชื่อเสี ยงก็จะเพิ่มขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ แม้วา่
มันจะไม่ถึงขั้นเคียงบ่าเคียงไหล่กบั สํานักมังกรฟ้า แต่กไ็ ม่แพ้สาํ นักใดๆ
ในอาณาจักรมังกรฟ้า ตําแหแน่งในอาณาจักรมังกรฟ้าของเขานั้นก็จะ
สู งขึ้นอย่างรวดเร็ ว

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
แปลโดยท่าน Haridsada

A : กําลังมันส์กนั อ่ะดิ แต่เรามีข่าวร้ายจะมาแจ้ง

B:.............

A : ทีมงาน ได้คุยกันแล้วบางคน มีแค่ 1 เสี ยง ที่เห็นต่าง

B:...............

B:...............

A : มีเสี ยง ที่เห็นว่า พรุ่ ง นี้ ควรจะแจ้งหยุด

B:...............
A : เป็ นส่ วนน้อย สรุ ปลงตามปกติ แต่อาจจะปรับเวลาให้เร็ วหน่อย
เพราะทุกคนจะได้มีเวลาอยูร่ ่ วมกับ ครอบครัว

B : นั้นเป็ นข่าวร้ายจริ งๆ!!! สําหรับพวกทีมแปล . . . . .

( อยากว่างเต็มวันให้ส่งงานกันคืนนี้นะคับ !!!! )
บทที่ 488 – ชื่นชม

“ผูอ้ าวุโส ข้าจะเป็ นตัวแทนของสํานักมังกรฟ้าของข้า ลงนามใน


สัญญาพันธมิตร พวกเราจะแบ่งปั นความสุ ข และความทุกข์ร่วมกันกับ
สํานักไร้ตวั ตนของท่าน” ขณะที่ ชูเฟิ ง กล่าวนั้น เขาได้หยิบกระดาษ
ออกมาแผ่นหนึ่ง

มันคือข้อตกลงของสัญญาพันธมิตรระหว่างสํานักมังกรฟ้า และ
สํานักไร้ตวั ตน เมื่อเจ้าสํานักไร้ตวั ตนเห็นเช่นนั้น เขาไม่ได้อ่านข้อตกลง
แม้แต่นอ้ ย เขาเขียนคําว่า “ไร้ตวั ตน” ลงไป และประทับฝ่ ามืออย่าง
รวดเร็ ว
ในตอนนี้ สมาชิกของสํานักไร้ตวั ตนตื่นเต้นอย่างมาก เพราะใน
อนาคตจะไม่มีใครกล้าทําอันตรายใดๆ ต่อสํานักไร้ตวั ตนของพวกเขา
เพราะสํานักมังกรฟ้าคือขุมกําลังที่ไม่อาจมองข้ามได้ ไม่ใช่เพียงแค่ใน
อาณาจักรมังกรฟ้าเท่านั้น แม้แต่ท้ งั เก้าอาณาจักรก็เช่นกัน

ในขณะที่สมาชิกของสํานักไร้ตวั ตนกําลังชื่นชมยินดีอยูน่ ้ นั ยังคน


อีกกลุ่มหนึ่งที่กาํ ลังเสี ยใจ นัน่ คือกลุ่มคนที่เข้าร่ วมสํานักดอกบัว

ท้องไส้ของพวกเขากําลังปั่นป่ วนด้วยความเสี ยใจ ที่พวกเลือกที่หกั


หลังสํานักไร้ตวั ตน เพียงเพราะการล่อลวงของเจ้าสํานักดอกบัว

มันเป็ นเพราะพวกเขาพลาดโอกาสที่จะประสบความก้าวหน้าใน
ชีวติ ของพวกเขา และพลาดโอกาสครั้งใหญ่ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ
อีกด้วย
แต่ในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกเขาควรจะมาจมไปกับความเสี ยใจ
พวกเขาจะต้องรับผลของการตัดสิ นใจของพวกเขา

“ท่านคือเจ้าสํานักดอกบัวใช่ไหม” หลังจากที่ ชูเฟิ ง ลงนามใน


สัญญาพันธมิตรเสร็ จ เขาก็หนั หน้ามายังเจ้าสํานักดอกบัวและกล่าวถาม
ออกมา

“ข้าคือเจ้าสํานักดอกบัว จ้าว เลียนฮัว” เจ้าสํานักดอกบัว กล่าว


ตอบด้วยความหวาดกลัว

“ยืนขึ้นก่อน แล้วค่อยพูด” ชูเฟิ ง กล่าวด้วยเสี ยงที่อ่อนโยน

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น เจ้าสํานักดอกบัวรี บยืนขึ้น และคาราวะ ชูเฟิ ง


พร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ขอบคุณนายท่าน ชูเฟิ ง !! ขอบคุณนายท่าน ชู
เฟิ ง ที่เมตตา !!”

“เจ้าโอหังยิง่ นัก !! เจ้ากล้าที่จะบุกไปยังสํานักไร้ตวั ตน อีกทั้งยัง


ล่อลวงเหล่าผูอ้ าวุโส และลูกศิษย์ของสํานักไร้ตวั ตน” อยูๆ่ ใบหน้าของ
ชูเฟิ ง ก็เปลี่ยนเป็ นเย็นชา เขาชี้นิ้วไปที่เจ้าสํานักดอกบัว และกล่าวตําหนิ
อย่างรุ นแรงต่อหน้าคนนับพัน “เจ้าต้องการคนที่ยอมหักหลังแม้กระทัง่
ผูม้ ีพระคุณเช่นนี้รึ !!”

“ดี !! วันนี้เจ้าพาพวกเขาออกไป พวกเขาจะเป็ นคนของสํานัก


ดอกบัวของเจ้า แต่วนั นี้เป็ นต้นไป ชีวติ และการกระทําของพวกเขาจะ
ขึ้นอยูก่ บั สํานักดอกบัวของเจ้า !!”

“แต่จงจําเอาไว้ให้ดี พวกเขาจะต้องอยูภ่ ายใต้เงาของสํานักดอกบัว


เท่านั้น หากพวกเขากล้าก้าวออกมาด้านนอก แม้เพียงแค่ครึ่ งก้าว ข้าจะ
ฆ่าพวกเขาโดยไม่มีการอธิบายใดๆ ทั้งสิ้ น”
“ขอบคุณท่าน ชูเฟิ ง ที่เมตตา !! ข้ารู ้วา่ ความผิดของข้า โทษคือ
ความตาย !!”

“แต่นายท่าน ชูเฟิ ง ข้าอยากขอให้ท่านละเว้นสํานักดอกบัวของข้า


หากข้ารู ้วา่ ท่านคุน้ เคยกําสํานักไร้ตวั ตน ข้าก็คงไม่ทาํ เช่นนั้น” เจ้าสํานัก
ดอกบัว คุกเข่าลงกับพื้น และกล่าวอ้อนวอนต่อ ชูเฟิ ง

“ข้าจะละเว้นสฃนักดอกบัวของเจ้าสักครั้ง ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าในตอนนี้
!!”

เสี ยงของ ชูเฟิ ง ดังราวกับฟ้าผ่าลงกลางใจของทุกคน ใน


ขณะเดียวกัน จิตสังหารของเขาก็พวยพุง่ ออกมาจากร่ างกายอย่างรุ นแรง
จนน่าขนลุก
“ตามที่ท่านต้องการ ข้าจะพาพวกเขาออกจากที่นี่” เจ้านักดอกบัว
กล่าวพร้อมกับลุกขึ้น และเตรี ยมที่จะพาทุกคนออกจากที่นี่ หากเขาไม่
ทําเช่นนี้ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

“หยุด !!” ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ตะโกนออกมาเสี ยงดัง พร้อมกับชี้นิ้ว


ไปที่พวกเขา แบะกล่าวว่า “ข้าไม่ได้บอกให้พวกเจ้าเดินไป ข้าเพียงบอก
ให้พวกเจ้าออกไป ดังนั้น พวกเจ้าจงกลิ้งลงจากหุบเขาซะ”

“ชูเฟิ ง !! เจ้าจะไม่ทาํ เกินไปหน่อยรึ เจ้ามันก็เป็ นแค่เด็กสารเลว


เท่านั้น กล้าดียงั ไงมาสัง่ พวกข้าเช่นนี้” ในขณะนั้น ผูจ้ ดั การของสํานัก
ดอกบัว ชี้นิ้วมาที่ ชูเฟิ ง และด่าทอออกมา

***** บูมมมม *****

เพียงพริ บตาเดียวเท่านั้น ร่ างของผูจ้ ดั การคนนั้นก็หายไป เหลือ


เพียงแต่ละอองเลือดฟุ้งอยูใ่ นอากาศ มันเกิดขึ้นเร็ วมากจนไม่สามารถ
มองเห็นได้ทนั ว่าผูใ้ ดเป็ นคนโจมตี ฉากนี้ทาํ ให้คนของสํานักดอกบัว
หวาดกลัวจับใจ

“นายท่าน พวกเราจะกลิ้งลงไปเดี๋ยวนี้” เมื่อเห็นเช่นนั้ จึงไม่มีใคร


ลังเลอีก พวกเขาเริ่ มกลิ้งลงไปอย่างรวดเร็ ว

“พวกเจ้ามองสิ่ งใดอยู่ !! ทําไมไม่ไปซะ !!” ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ชี้นิ้ว


ไปที่คนที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้นกว่าพันคน คนเหล่านี้คือคนที่หกั หลังสํานักไร้
ตัวตน

“ท่านเจ้าสํานักโปรดเมตตา !! ท่านเจ้าสํานักโปรดเมตตา !!”

“ท่านเจ้าสํานัก พวกเรารู ้วา่ พวกเราผิดไปแล้ว แต่ได้โปรดให้


โอกาสพวกเราด้วย”
“ท่านเจ้าสํานัก ท่านเห็นพวกเราเติบโตมาโดยตลอด ท่านก็เปรี ยบ
ได้กบั พ่อของพวกเรา พวกเราผิดพลาดไปแล้ว แต่ได้โปรดให้โอกาส
พวกเราได้เริ่ มต้นใหม่อีกครั้ง”

เมื่อเป็ นเช่นนี้ พวกเขาจึงเริ่ มอ้อนวอนต่อเจ้าสํานักไร้ตวั ตน

เพราะจากคํากล่าวของ ชูเฟิ ง นั้น เขาไม่ได้มอบเส้นทางชีวติ ให้แก่


พวกเขา แต่มนั เป็ นเส้นทางแห่งความตายสําหรับพวกเขา

ในอนาคต หากเรื่ องที่สาํ นักดอกบัวมีเรื่ องบาดหมางกับสํานัก


มังกรฟ้าแพร่ ออกไปนั้น แม้สาํ นักมังกรฟ้าจะไม่ได้ทาํ อะไรก็ตาม แต่
เหล่าขุมอํานาจที่ตอ้ งการจะสร้างความสัมพัธ์กบั สํานักมังกรฟ้า อาจ
อาสาไปกวาดล้างสํานักดอกบัวก็เป็ นได้
ถ้าหากว่าพวกเขาเลือกที่จะติดตามเจ้าสํานักดอกบัวกลับไปนั้น
แน่นอนว่าสิ่ งที่รอพวกเขาอยูก่ ม็ ีเพียงความตายเท่านั้น

“นี่……” เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการอ้อนวอนของเหล่าผูอ้ าวุโส


แงะศิษย์ของเขานั้น เจ้าสํานักไร้ตวั ตนจึงทําอะไรไม่ถูก เขาให้หน้าไป
ทาง ชูเฟิ ง ด้วยใบหน้าสับสน

***** ตูม ตูม ตูมมมมมม *****

ในเวลานั้น ชูเฟิ ง สะบัดแขนของเขาอย่างรวดเร็ ว คลื่นหมัดของเขา


กระจายไปในกลุ่มของฝูงชนที่คุกเขาอยูอ่ ย่างรุ นแรง

คนที่โดนคลื่นหมัดของ ชูเฟิ ง กลายเป็ นละอองเลือดกระจายใน


อากาศอย่างรวดเร็ ว แม้คนที่ไม่โดนคลื่นหมัดของเขา ก็ได้รับบาดเจ็บ
อย่างรุ นแรง เพียงพริ บตาเดียวนั้น คนหลายพันคนก็ตายลงไปกว่าครึ่ ง

เมื่อเห็นเช่นนั้น สมาชิกของสํานักไร้ตวั ตนต่างหวาดกลัวอย่างยิง่


พวกเขาจึงได้รู้วา่ ความแข็งแกร่ งของ ชูเฟิ ง นั้นเป็ นจริ งตามข่าวลือ ที่วา่
เขาสามารถจัดการผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย

“นายท่านโปรดเมตตา !! นายท่านโปรดเมตตา !!”

เพียงเวลานั้น เมื่อสิ้ นเสี ยงอ้อนวอน ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะอ้อน


วอนต่อ พวกเขารี บลุกขึ้นและวิง่ ออกมาจากสถานที่น้ นั และเริ่ มกลิ้งลง
จากหุบเขาไร้ตวั ตนอย่างรวดเร็ ว

ภายใต้สายตาของทุกคนนั้น ได้มีเหตุการณ์แปลประหลาดเกิดขึ้น
โดยที่มีคนจํานวนมากกลิ้งตัวลงมาจากหุบเขาไร้ตวั ตน
หลังจากลูกศิษย์คนสุ ดท้ายกลิ้งตัวลงขากหุบเขาไป ชูเฟิ ง ได้ลูบไป
ที่ไหล่ของเจ้าสํานักไร้ตวั ตนพร้อมกับกล่าวว่า “ผูอ้ าวุโส หากในวันนี้
พวกเขากล้าทรยศท่าน ในวันหน้าพวกเขาก็คงทําเช่นเดิม ถ้าท่านยังคง
เห็นใจคนเหล่านี้ ในวันข้างหน้า ท่านจะกลายเป็ นเหยือ่ ของผูอ้ ื่น”

เมื่อได้ยนิ คําพูดของ ชูเฟิ ง นั้น เจ้าสํานักไร้ตวั ตนพลันสัน่ ไหว


ความเคารพและชื่นชมในตัว ชูเฟิ ง เกิดขึ้นจากก้นบึ้งบองหัวใจของเขา

ความจริ งนั้น เขาสามาาถเข้าใจความหมายในคํากล่าวของ ชูเฟิ ง ได้


อย่างชัดเจน แต่เขาไม่สามารถที่จะทํามันได้

แต่ ชูเฟิ ง ชายหนุ่มอายุเพียงสิ บเจ็ดปี แต่กลับสามารถทําได้อย่าง


ง่ายดาย นัน่ จึงทําให้เขาชื่นชมอย่างมาก
Readmga.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยคุณ#Abhisit

A : โหดชิบหายเลยไอ้เฟิ ง ให้คนกลิ้งลงจากเขา

B : ตรงไหน!!! คนนะเว้ย ไม่ใช่หมีแพนด้า จะได้กลิ้งลงเขา ไม่มี


ความคิดดีๆกว่านี้แล้วไง อย่างเดินจงกลมลงเขา

A : จงกลมลงเขา เออก็โหดดี กว่าจะถึงสํานักแม่งคงใช้เวลาเป็ นปี แต่


ข้อเสนอนี้มืงไปบอก B4 เหอะ

B:...........

บทที่ 489 – การเดินทางที่คุม้ ค่า

หลังจากที่เจ้าสํานักดอกบัวจากไปนั้น เจ้าสํานักไร้ตวั ตนได้จดั งาน


เลี้ยงต้อนรับ ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ
เจ้าสํานักไร้ตวั ตนได้จดั งานเลี้ยงต้อนรับ ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ อย่าง
อบอุ่น หลังจากงานเลี้ยงจบลง และคนอื่นๆ พากันแยกย้ายไปพักผ่อน
นั้น ชูเฟิ ง ได้ไปยังหอคอยไร้ตวั ตนของสํานักไร้ตวั ตน

ขณะที่เข้าก้าวเจ้าสู่ หอคอยไร้ตวั ตนนั้น จิตวิญญาณที่แข็งแกร่ ง ได้


ปรากฏออกมาที่ดา้ นหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา

จิตวิญญาณดวงนี้เป็ นของผูก้ ่อตั้งสํานักไร้ตวั ตน ผูท้ ี่สามารถประ


มือกับผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าได้เมื่อพันปี ก่อน ไร้ตวั ตน เซิ นเหริ น

แต่ในตอนนี้ จิตวิญญาณของเขาดูอ่อนกําลังลงมาก หลังจากครั้ง


แรกที่ ชูเฟิ ง ได้พบกับเขา มันดูราวกับว่าจิตวิญญาณของเขากําลังจะจาง
หายไป และอาจจะอยูไ่ ด้เพียงอีกแค่ไม่กี่วนั เท่านั้น
“ผูอ้ าวุโส ไร้ตวั ตน เซินเหริ น ข้าน้อยขอคาราวะ” แม้วา่ เซิ นเหริ น
จะตายไปแล้วกว่าพันปี แต่ ชูเฟิ ง ก็ให้ความเคารพต่อเขามาก

“เจ้าหนุ่ม เจ้าช่างน่าประทับใจมาก เพียงเวลาแค่สองปี


ความสามารถขอฝเจ้าก็พฒั นาจนเกินกว่าข้า และผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า
เมื่อครั้งอดีตไปมาก”

“เหตุผลที่เจ้ามาที่นี่ เพื่อต้องการแหล่งอํานาจพลังวิญญาณจากข้าซิ
นะ” จิตวิญญาณของเจ้าสํานักไร้ตวั ตนลอยอยูก่ ลางอากาศ เขายิม้
บางขณะกล่าวกับ ชูเฟิ ง แต่น้ าํ เสี ยงบองเขาสามารถบอกได้เลยว่า เขาจะ
สลายไปในอีกไม่กี่วนั ข้างหน้านี้เอง

“ผูอ้ าวุโส ข้า……” เมื่อเผชิญหน้ากับคําถามอย่างตรงไปตรงมา


ของผูก้ ่อตั้งสํานักไร้ตวั ตนนั้น ชูเฟิ ง กลับไม่สามารถกล่าวออกมาได้
เพราะมันเป็ นอย่างที่ผกู ้ ่อตั้งกล่าว เขาต้องการแหล่งอํานายพลังวิญญาณ
ของผูก้ ่อตั้งสํานักไร้ตวั ตน
เพราะว่าผูก้ ่อตั้งสํานักไร้ตวั ตนเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ งในอดีต
การบ่มเพาะพลังของเขาอยูใ่ นจุดสู งสุ ดของขั้นแดนสวรรค์ หากได้
แหล่งอํานาจพลังวิญญาณของเขามานั้น จะสามารถทําให้ระดับพลังของ
ต้านต้าน พัฒนาได้มากยิง่ ขึ้น เขาจึงไม่อาจพลาดโอกาสเช่นนี้ได้ และ
ต้านต้าน เองก็เช่นกัน

“เจ้าหนุ่ม ไม่ตอ้ งกังวลไป นี่เป็ นเรื่ องธรรมดา” ผูก้ ่อตั้งสํานักไร้


ตัวตนกล่าว พลางยิม้ อย่างไม่แยแส และเขาก็กล่าวออกมาอีกว่า “หาก
เป็ นเมื่อก่อน ข้าคงไม่ยอมให้ผใู ้ ดดูดซับแหล่งอํานาจพลังวิญญาณของ
ข้า เพราะมันจะทําให้ขา้ จากไปอย่างแท้จริ ง”

“แม้วนั นี้ขา้ ก็ยงั คงคิดเช่นนั้น หากถูกดูดซับแหล่งพลังงานไป


เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญจะหายไปอย่างแท้จริ ง พวกเขาจะเหลือทิ้งไว้เพียงโครง
กระดูกที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น”
“แต่ตอนนี้ขา้ ก็คิดว่ามันคงถึงเวลาแล้ว ข้ายินดีที่จะให้เจ้าดูดซับ
แหล่งอํานาจพลังวิญญาณของข้า ข้ามีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น เพราะเจ้า
ได้ช่วยเหลือสํานักไร้ตวั ตนของข้าเอาไว้”

“ไม่วา่ เจ้าจะทําลงไปด้วยเหตุผลใด อย่างน้อย สํานักไร้ตวั ตนของ


ข้าก็รอดพ้นจากวิกฤติมาได้”

“ตามข้ามา ข้าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ข้าจะขอฝากทุกอย่างไว้กบั


เจ้า และข้าก็หวังว่าเจ้าจะคอยสนับสนุนสํานักไร้ตวั ตนที่อ่อนแอของข้า
ไม่ให้หายไปเร็ วเกินไปนัก”

หลังจากที่เขากล่าว เขาได้พา ชูเฟิ ง ไปยังชั้นสู งสุ ดของหอคอยไร้


ตัวตน เมื่อไปถึงนั้น เขาได้ใช้ฝ่ามือขอฝเขาสัมผัสไปยังจิตกรรมบนฝา
ผนัง จากนั้นผนักนั้นก็มีการเคลื่อนไหว มันเป็ นกลไกบางอย่าง ที่แม้แต่
ชูเฟิ ง ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้
เมื่อผูก้ ่อตั้งสํานักไร้ตวั ตนเปิ ดใช้งานกลไกแล้วนั้น เขากลับลงมา
ด้านล่างของหอคอย ในขณะนี้ช้ นั ล่างของหอคอยได้ปรากฏอุโมงค์หนึ่ง
ขึ้น และเมื่อ ชูเฟิ ง ติดตามเขาเข้าไป ชูเฟิ ง ก็พบว่าภายในอุโมงค์น้ นั มี
ห้องลับอยู่

ห้องลับนี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่นกั มันเป็ นทรงสี่ เหลี่ยม แต่ให้


ความรู ้สึกน่าเกรงขามยิง่ นัก ที่กลางห้องนั้นมีโลงศพตั้งอยูโ่ ดยที่ไม่มีสิ่ง
ใดปกป้องเอาไว้ แต่ ชูเฟิ ง กลับรู ้สึกเย็นเยียบภายในหัวใจของเขา

“เข้าไป ทั้งหมดนัน่ เป็ นของเจ้า จงจําเอาไว้วา่ จงคอยสนับสนุน


สํานักไร้ตวั ตนของข้า” ผูก้ ่อตั้งสํานักไร้ตวั ตน กล่าวพลางยิม้ บางๆ ใน
ขณะเดียวกันนั้น จิตวิญญาณของเขาก็ค่อยจางไป และแตกตัวออกจน
หายไปราวกับควัน

“เขาสลายรู ปจิตวิญญาณของเขาแล้ว ก่อนที่เขาจะตายไปจริ งๆ รี บ


ให้ขา้ ออกไป ข้าจะปรับแต่งและดูดซับแหล่งอํานาจพลังวิญญาณของ
เขา” ต้านต้าน กล่าวอย่างตื่นเต้น

โดยไม่รอช้า ชูเฟิ ง รี บเปิ ดประตูโลกวิญญาณของเขาออก จากนั้น


ร่ างอันงดงามของ ต้านต้าน ก็ปรากฏออกมายืนอยูบ่ นโลงศพอย่าง
รวดเร็ ว

“ว้าววว !! ชูเฟิ ง ชายคนนี้ไม่ได้โกหกเจ้าแม้แต่นอ้ ย ที่นี่มีสมบัติอยู่


มากมายเลย”

ในขณะนั้น ใบหน้าอันงดงามของนางก็เต็มไปด้วยความสุ ข นาง


ไม่รอช้ารี บอ้าปากเล็กๆ ของนาง และดูดซับแหล่งอํานาจพลังวิญญาณ
ของ เซิ นเหริ น อย่างรวดเร็ ว

ในทันทีน้ นั ชูเฟิ ง สามารถสัมผัสได้วา่ จิตวิญญาณของ เซินเหริ น


ค่อยๆ จางหายไป โลกศพก็เปล่งแสงขึ้น และส่ งไอเย็นออกมาอย่าง
ชัดเจน

เมื่อ ชูเฟิ ง ก้าวเข้าไปใกล้น้ นั เขาก็พบว่าภายในโลงศพนั้น มีศพ


แห้งๆ อยูภ่ ายในนั้น และศพก็ถูกปกคลุมไปด้วยชั้นหิ นสี ฟ้าอย่างงดงาม
อีกทั้งหิ นสี ฟ้าเหล่านั้นยังให้ความเย็นที่มากกว่านํ้าแข็งออกมา

สิ่ งสําคัญคือชั้นหิ นเหล่านั้น มีพลังอํานาจของขั้นแดนสวรรค์สถิตย์


อยู่ มันเป็ นพลังงานขั้นแดนสวรรค์ที่เข้มข้นมาก นี่สามารถบอกได้อย่าง
ชัดเจนเลยว่า ชั้นหิ นเหล่านี้คือของศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน

“ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณของผูก้ ่อตั้งสํานักไร้ตวั ตน สามารถคงอยู่


ได้เพราะชั้นหิ นเหล่านี้ซินะ” ชูเฟิ ง กล่าว

“ไม่ใช่เพียงแค่ช้ นั หิ นเหล่านี้เท่านั้น แต่หอคอยแห่งนี้ยงั สร้างจาก


วัสดุพิเศษบางอย่าง ด้วยพลังของทั้งสองสิ่ งนี้ จึงทําให้จิตวิญญาณของ
เขาคงอยูม่ าได้อย่างยาวนาน แต่กค็ งอยูไ่ ด้เพียงแค่ในหอคอยนี้เท่านั้น
หากเขาออกไปจากที่นี่ จิตวิญญาณของเขาก็จะสลายไปในทันที”

“ชั้นหิ นเหล่านี้ไม่ใช่ของธรรมดา คนทัว่ ๆ ไปไม่สามารถดูดซับ


พลังงานของมันได้ แต่เจ้า ชูเฟิ ง เจ้าสามารถดูดซับพลังงานของมันได้
มันอาจจะทําใฟ้เจ้าสามารถก้าวเข้าสู่ รัดบั แปด ขั้นแก่นวิญญาณก็
เป็ นได้” ต้านต้าน กล่าว

“ต้านต้าน เจ้า…….ทะลวงเข้าสู่ รัดบั สอง ขั้นแดนสวรรค์แล้วรึ


!!” เมื่อเห็น ต้านต้าน อย่างชัดเจนนั้น ชูเฟิ ง รู ้สึกตกตะลึงอย่างมาก
เพราะก่อนหน้านี้น้ นั ต้านต้าน มีพลังเพียงระดับเก้า ขั้นแก่นวิญญาณ แต่
หลังจากที่นางดูดซับแหล่งอํานาจพลังวิญญาณของ เซินเหริ น เข้าไปนั้น
นางกลับสามารถทะลวงเข้าสู่ ระดับสอง ขั้นแดนสวรรค์ได้อย่างรวดเร็ ว

หลังจากตะลึงไปพักใหญ่ ชูเฟิ ง จึงได้ทาํ ความเข้าใจกับพลังของ


ต้านต้าน ในตอนนี้น้ นั นางแข็งแกร่ งยิง่ กว่า ชูเฟิ ง ที่ใช้ยอดยุทธภัณฑ์
เสี ยอีก

แต่ ต้านต้าน ยังคงต้องการแหล่งอํานาจพลังวิญญาณมากขึ้น


เพื่อให้เทียบได้กบั อสู รวิญญาณของ จื่อ หลิง นางจึงต้องการแหล่ง
พลังงานมากกว่านี้

ในตอนนี้ ต้านต้าน สามารถทะลวงเข้าสู่ ระดับสอง ขั้นแดนสวรรค์


ได้ จากระดับเก้า ขั้นแก่นวิญญาณ นี่หมายความว่า จิตวิญญาณของ เซิ น
เหริ น แข็งแกร่ งมาก และในตอนที่เขามีชีวติ อยูน่ ้ นั เขาจะต้องแข็งแกร่ ง
สุ ดๆ อย่างแน่นอน

“ฮี่ฮี่ ตาแก่นี่ไม่เลยเลย เขามีพลังถึงระดับแปด ขั้นแดนสวรรค์ และ


ด้วยชั้นหิ นเหล่านี้ พลังของจิตวิญญาณของเขาจึงไม่ลดลงเลยแม้แต่นอ้ ย
แต่กลับเพิ่มมากขึ้นด้วย” ต้านต้าน กล่าวอย่างร่ าเริ่ ง เพราะในตอนนี้
พลังของนางพัฒนาขึ้นมาก นางจึงมีความสุ ขอย่างมากเช่นกัน
“ดูเหมือนว่าการเดินทางในครั้งนี้จะคุม้ ค่าจริ งๆ” ชูเฟิ ง กล่าว
พลางมองลงไปยังชั้นหิ นสี ฟ้าที่อดั แน่นไปด้วยพลังขั้นแดนสวรรค์ มัน
ทําให้เขาคิดว่า เขาสามารถก้าวเข้าสู่ รัดบั แปด ขั้นแก่นวิญญาณได้อย่าง
ไม่ยากเย็น

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//
A: เก่งขึ้นเร็ ว จนน่าหมัน่ ไส้!!!

B : แค่น้ ียงั ไม่พอที่จะไป ภาคทะเลตะวันออกหรอก

A : ได้ข่าวว่า ชูเฟิ ง จะเจออาจารย์คนใหม่เร็ วๆนี้

B : อ่อ เห็นว่าเป็ นประมุขคนปั จจุบนั ของ พรรคมารทะลายราตรี ดว้ ย


ล่ะ พรรคนั้นเป็ นขุมอํานาจอันดับ 1 ของ ทะเลตะวันออก . . . . .

A : มีเรื่ องดีแล้ว ก็ตอ้ งมีเรื่ องไม่ดีเข้ามา แต่จะเป็ นเรื่ องอะไรต้องรอ


ติดตาม

B : เห้อ . . . พ่อแม่ จื่อหลิง จะมารับตัวกลับสิ นะ พอเมียเก่าฟื้ น เมีย


ใหม่กไ็ ป เมื่อไหร่ จะรวมตัวกันครบทีมซะที

A : เออออออ!!! สปอยให้หมดเลยไอเชี้ย
บทที่ 490 - เปลวไฟปลุกคลุมทัว่ ท้องฟ้า

สะเก็ดหิ น สี ฟ้านี่วเิ ศษมาก แม้จะมีไม่มากแต่มนั ก็ช่วยพวกเขาได้


ยกระดับพลังขึ้นแน่นอน เขาจึงเริ่ มที่จะกลัน่ มัน

ชูเฟิ งลองคิดดูแล้วถ้าเป็ นคนปกติ อาจจะไม่สามารถกลัน่ สะเก็ดหิ นนี่ได้


อย่างไรก็ตามสําหรับเขาแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่ องยากเย็นอะไร

ด้วยเวลาแค่ 2 ชัว่ โมง ชูเฟิ งนั้นสามารถกลัน่ หิ นได้สาํ เร็ จ ที่แปลกที่สุด


คือไม่วา่ จะเป็ นพลังที่บา้ คลัง่ หรื อพลังสวรรค์จากหิ น ทั้งหมดล้วนแต่ถูก
ดูดซับไว้โดย สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อยุ๋ในตันเถียนเขา

มันแปลกมากเพราะไม่ไช่วธิ ีกลัน่ แบบปกติ สําหรับชูเฟิ งแล้วการบ่ม


เพาะนั้นมันแปลกประหลาดมาก นี่เป็ นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึง
ศักยภาพของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในร่ างกายเขา

แต่หลังจากกลัน่ พลังจากสะเก็ดหิ นแล้ว ชูเฟิ ง ก็ทะลวงเข้าไปยังระดับ 8


แก่นแท้วญ
ิ ญาณ และในตอนนั้นชูเฟิ งยังไม่ได้กลัน่ ลูกแก้วแก่นแท้เลย

ราชันย์วานร ได้ให้ลูกแก้วแก่นแท้กบั ชูเฟิ งมา 30 ล้านเม็ด แต่ชูเฟิ งก็รู้


ว่า30ล้านเม็ดนั้นไม่ใช่จาํ นวนที่พอสําหรับเขา เขาจึงต้องหามันเพิ่มขึ้น
ถ้าหากเขาต้องการบ่มเพาะ

ดังนั้น เขาจึงให้ หลี่ จางฉิงไป 10 ล้านเม็ด เพื่อพัฒนาสํานักมังกรฟ้า


เพราะหลังจากนี้เขาอาจจะต้องทวีปนี้และเดินทางไปยังภูมิภาคทะเล
ตะวันออก

เขาจึงยังไม่ได้บ่มเพาะ 20 ล้านเม็ดที่เหลือ แต่เก็บไว้ที่ตวั ก่อน


สะเก็ดหิ นฟ้านั้น ได้ยกระดับพลังของชูเฟิ งขึ้นไปที่ 8 แก่นแท้วญ
ิ ญาณ
โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆต่อเขา นอกจากนี้หลังจากทะลวงขึ้นไปแล้ว ยัง
มีพลังบางส่ วนสะสมอยูใ่ นตันเถียนเขา นัน่ หมายความว่า เจ้าสะเก็ดหิ น
สี ฟ้านี้ไม่ธรรมดาแน่นอน

“ขอบคุณมาก ท่านผูอ้ าวุโส.”

“ตราบใดที่ขา้ ชูเฟิ งยังมีลมหายใจ ข้าจะช่วยให้สาํ นักไร้ตวั ตนมี


ความเป็ นอยูท่ ี่ดีข้ ึน และเจริ ญรุ่ งเรื องตามที่ท่านคาดหวัง”

หลังจาก ยกระดับการบ่มเพาะของเขา เขาจึงใช้รูปแบบวิญญาณ


ครอบคลุมโรงศพไว้ และเขาก็ได้จารึ กคําบางอย่างไว้บนโรงศพนัน่ เขา
เขียนมันว่า ค้งชู เซินเหริ น เพื่อเป็ นเกียรติให้กบั เขา
หลังจากเสร็ จสิ้ นเรื่ องนั้น ชูเฟิ งก็ออกจากห้องลับ และหลังจากปิ ดประตู
เขาก็เดินออกจากหอคอยไร้ตวั ตนทันที

หลังจาก ชูเฟิ งเดินออกจากหอคอยไร้ตวั ตน สํานักไร้ตวั ตนก็จดั งานเลี้ยง


เสร็ จพอดี ดังนั้นชูเฟิ งและคนอื่นๆ จึงมองหาที่นงั่ ของพวกเขา

เพราะตัวตน ของชูเฟิ ง จึงไม่มีใครกล้าถามชูเฟิ งว่า เขาไปทําอะไรที่


หอคอยไร้ตวั ตน แต่ทางจื่อ หลิงเธอรู ้เรื่ องชูเฟิ ง จึงกระซิ บถามที่หูเขา “
เป็ นไงบ้าง สําเร็ จแล้วหรื อ “

“ลองตรวจดูสิ.” ชูเฟิ งยิม้ และจับมือจื่อ หลิง และได้ปล่อยกลิ่น


อายออกมาเบาๆใส่ มือของจื่อ หลิง
“เจ้า ทะลวงผ่านแล้วหรื อ” เมื่อรับรู ้ถึง กลิ่นอายระดับ 8 แก่นแท้
วิญญาณได้ จื่อ หลิงนั้นก็ตอ้ งตกใจในทันที

ถ้าชูเฟิ ง อยูใ่ นระดับ 8 แก่นแท้วญ ิ ญาณเมื่อปี ที่แล้ว เธออาจจะไม่ตกใจ


ถึงเพียงนี้ แต่เป็ นเพราะเธอรู ้เรื่ องราวเกี่ยวกับชูเฟิ งหลายอย่าง และ
หลังจากรู ้วธิ ีการบ่มเพาะของชูเฟิ งนั้น มันทําให้เธอตกใจมาก

เมื่อคิดกลับไปในตอนแรก ในการทะลวงจากระดับไปยังระดับ 7 ของ


ชูเฟิ งนั้น แน่นอนต้องแลกมาด้วยทรัพยากรจํานวนมาก ดังนั้น จื่อ หลิง
จึงเข้าใจว่า ถ้าชูเฟิ งต้องการทะลวงอีกครั้ง มันก็ตอ้ งจ่ายเพิ่มขึ้น และ
ตอนนี้เขาได้ทะลวงไปแล้ว นัน่ หมายความว่า ชูเฟิ งต้องได้อะไรดีดี
บางอย่างมา

“ค้งชู เซินเหริ น คงอยูท่ ี่นน่ั เขาไม่ได้ออกจากหอคอยไร้ตวั ตนเลย


เขานั้นเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับสํานัก เค้าได้เห็นข้าปกป้องสํานักของ
เขา เขาจึงได้ตอบแทนกลับมา และเพราะข้าความกังวลนับพันปี ของเขา
จึงสลายไป.”

“สิ่ งเหล่านั้น ถ้าให้กบั คนทัว่ ๆไปพวกเขาคงไม่สามารถบ่มเพาะได้


โดยตรง แต่ขา้ แตกต่างจากคนทัว่ ๆไปเนื่องจากข้าสามารถบ่มเพาะพลัง
จากมันได้ทนั ที.” ชูเฟิ ง กระซิ บตอบจื่อ หลิง

หลังจากที่ได้ยนิ จื่อ หลิงก็มีความสุ ขมาก ใบหน้าเล็กๆของเธอนั้นเต็มไป


ด้วยรอยยิม้ ตั้งแต่ตน้ จนจบ เธอนั้นยิม้ ตลอด เธอรู ้สึกมีความสุ ขไปกับชู
เฟิ งมาก

หลังจากอาหารมาเสริ ฟ งานเลี้ยงก็เริ่ มขึ้น มันคืองานเลี้ยงที่จดั ขึ้น


ขอบคุณชูเฟิ งและคนอื่นๆ มันอาจบอกได้วา่ สํานัก# 2 อย่างสํานักไร้
ตัวตนนั้น ตอบแทนที่พวกเขาอย่างสุ ดความสามารถ

อาหารแต่ละจานนั้นไม่ใช่อาหารทัว่ ไป พวกมันทําด้วยทรัพยากรแบบ
พิเศษ เช่น ยาห้วงวิญญาณ ยากําเนิด และมีแม้แต่ ยาแก่นแท้วญ ิ ญาณ ที่
เป็ นส่ วนผสม พวกมันจึงช่วยในเรื่ องการบ่มเพาะเป็ นอย่างมาก

แม้วา่ อาหารเหล่านี้จะไม่ค่อยส่ งผลต่อพวกชูเฟิ ง แต่มนั ก็แสดงให้เห็น


ถึงความจริ งใจของ สํานักไร้ตวั ตน

และนัน่ เป็ นเพราะตัวตนของแต่ละคนนั้นเป็ นผูย้ ง่ิ ใหญ่ท้ งั สิ้ น คนที่อยู่


บนโต๊ะของชูเฟิ งในตอนนี้มี ชูเฟิ ง จื่อ หลิง จาง เทียนยี่ ฉี เฟิ งหยาง รอง
ประมุขนิกายโลกวิญญาณ และแม้กระทัง่ เจียง เฮิงหยวนที่อยูใ่ นหุบเขา
ร้อยโค้งก็มา

ในตอนนั้นชูเฟิ ง กับคนอื่นๆ ก็รับรู ้แล้วว่า เจียง เฮิงหยวนคือแม่ทพั จาก


ราชวงศ์เจียง ระดับการบ่มเพาะของเขาอยูท่ ี่ระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์
และราชวงศ์เจียง ยังช่วยชูเฟิ งฟื้ นฟูสาํ นักมังกรฟ้าอีกด้วย
เมื่ออยูต่ ่อหน้าผูย้ งิ่ ใหญ่กลุ่มนี้ คนจากสํานักไร้ตวั ตนสงบเสงี่ยมมาก
เพราะพวกเขากลัวพูดอะไรไม่เข้าหู พวกชูเฟิ ง พวกเขานั้นยังไม่อยาก
รู ้จกั กับความตายเลยไม่กล้าพูดใดๆ

ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็เลยถือโอกาสทําตัวเป็ นสะพานเชื่อมต่อในการพูดคุย


กับผูค้ น และผลที่ได้น้ นั ดีมาก พวกเขาเริ่ มกล้าคุยกับชูเฟิ ง และคุยกันจน
กระทั้งพระอาทิตย์ตกดิน

แต่เมื่อเวลาดําเนินมาถึงช่วงดึกแล้วบนท้องฟ้านั้นก็เต็มไปด้วยดาว แล้ว
อยูด่ ีดีทอ้ งฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวนั้นก็เปลี่ยนเป็ นท้องฟ้าที่ราวกับตะวันตก
ดิน

“พวกท่านรี บดูนี่เร็ ว บนท้องฟ้ามีแสงบางอย่างอยู”่ 1 ใน ผู ้


อาวุโสสํานักไร้ตวั ตนเห็นภาพนี้และพูดด้วยเสี ยงตกใจ
“นี่มนั !!!”

เมื่อชูเฟิ งและคนอื่นๆ มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ตาของพวกเขาก็ตอ้ งเบิก


กว้างทันที

พวกเขาตกใจมากเมื่อพบว่า ท้องฟ้านั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง มันเป็ น


ท้องฟ้าเหมือนกับตะวันกําลังตกดิน สักพักเขาก็สงั เกตุได้ถึงความแปลก
ประหลาดบางอย่าง เพราะว่าแสงพวกนั้นมันเคลื่อนที่ได้ และกําลังมุ่ง
หน้ามาหาพวกเขา

ในที่สุด ชูเฟิ งและคนอื่นๆก็เห็นได้ชดั ว่า มันคือลูกไฟขนาดใหญ่ ที่ปก


คลุมไปทัว่ ท้องฟ้า มันทําให้ทอ้ งฟ้ามีสีแดงราวกับถูกเผาและสว่างถึง
พื้นดิน

“สวรรค์ มันคืออะไรกัน” ในตอนนั้น ใบหน้าของทุกคนก็ตอ้ ง


เปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนจากสํานักไร้ตวั ตนนั้น เริ่ มกรี ดร้องด้วยความ
กลัวแล้ว

มันเป็ นเพราะภาพที่เห็นบนท้องฟ้านั้นน่ากลัวมาก และพวกเขายังไม่รู้วา่


มันคืออะไรพวกเขาจึงกลัวมันมาก

“นี่มนั ไม่ดีแล้ว มันกําลังมุ่งหน้ามาทางเรา!” ทันใดนั้นก็มีเสี ยง


คนพูดขึ้นมา และนัน่ ทําให้สาํ นักไร้ตวั ตนนั้นตกอยูใ่ นความโกลาหล

มันเป็ นเพราะ เปลวไฟที่ปกคลุมท้องฟ้านัน่ กําลังพุง่ ตรงมายังสํานักไร้


ตัวตน ก่อนที่มนั จะเข้ามาใกล้น้ นั หุบเขาไร้ตวั ตนก็สว่างราวกับเป็ น
ตอนกลางวัน ซึ่งทุกๆคนต่างก็รู้สึกถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้น

“ทุกคนอย่างวิตก หยุดนิ่งๆอย่าได้เคลื่อนไหว ” ในตอนนั้น เจียง


เฮิงหยวนที่มีระดับพลังมากที่สุดก็พดู ขึ้น เสี ยงของเขานั้นดังกังวานไป
ทัว่ ด้านหน้าและในสํานักไร้ตวั ตน ทําให้ผอู ้ าวุโสและศิษย์ที่กาํ ลังตื่น
ตระหนกอยูล่ ม้ ลงไป

อย่างไรก็ตามแม้วา่ เขาจะทําให้ผคู ้ นนั้นสงบลงแล้ว แต่ตวั เขาเองก็ตอ้ ง


ขมวดคิ้วแน่น ในดวงตาของเขาเกิดประกายบางอย่างที่บ่งบอกว่าเรื่ องนี้
นั้นไม่ใช่เรื่ องดีแล้ว แม้แต่เขาก็รู้สึกกลัวเปลวไฟที่กาํ ลังเข้ามาเหมือนกับ
คนอื่นๆ

ReadMGA.blogspor.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยท่าน#ฮายย

A : มืงไม่ตอ้ งตอบแทนมันหรอก มันเอาวิญญาณบรรพบุรุษมืงไป


เรี ยบร้อยและ

B : นั้นมันเป็ นความสมัครใจของบรรพบุรุษสํานักไร้ตวั ตนเอง ยังไง


วิญญาณมันก็จะดับสลายอยูแ่ ล้ว สู ม้ าเป็ นพลังให้กบั ชูเฟิ งแล้วให้ชูเฟิ ง
คอยดูแลสํานักให้จะดีกว่า
A : เออว่ะ!!! ก็จริ ง อย่างที่วา่ กําขี้ ดีกว่ากําตด

B : แต่กขู อกําตด ดีกว่าให้กกู าํ ขี้!!!


บทที่ 491 – นัน่ มันอะไร

***** ครื นนนนนนนนนนนนนน *****

เสี ยงดังสนัน่ หวัน่ ไหวดังขึ้น พร้อมกับเปลวไฟราวกับอุกกาบาตที่


พุง่ มาจากขอบฟ้า จุดหมายของมันคือหุบเขาไร้ตวั ตน

ในขณะที่เปลวไฟนั้นใกล้เข้ามา หุบเขาไร้ตวั ตนก็เริ่ มสัน่ ไหวอย่าง


รุ นแรง มันราวกับว่าในตอนนี้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น

“แย่แล้ว ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง , ท่านรองเกา รี บตามข้ามาเร็ ว !!” เมื่อ


เปลวไฟใกล้เข้ามาเรื่ อยๆ นั้น เจียง เฮิงหยวน ตะโกนขึ้น พร้อมกับ
ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ ไม่รอช้า พวกเขารี บก้าว
ออกมาด้านนอกอย่างรวดเร็ ว

เมื่อ เจียง เฮิงหยวน ออกมาด้านนอก และหยุดอยูท่ ี่อาณาเขตของ


สํานักไร้ตวั ตน เขารี บวางรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณอย่างรวดเร็ ว

ในตอนนั้น ทุกคนก็สามารถเข้าใจได้ทนั ที เมื่อพวกเขาเห็นเปลว


ไฟนั้นใกล้เข้ามา หากเปลวไฟเข้าปะทะกับหุบเขาไร้ตวั ตนนั้น แน่นอน
เลยว่าระรอกพลังจะต้องส่ งผลมายังสํานักไร้ตวั ตนอย่างแน่นอน

ดังนั้น พวกเขาจึงรี บวางรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณอย่างรวดเร็ ว


ไม่เช่นนั้นแล้ ว สํานักไร้ตวั ตนที่อยูม่ ากว่าพันปี จะต้องถูกทําลายลงอย่าง
แน่นอน
แต่สาํ นักไร้ตวั ตนนั้นมีขนาดใหญ่มาก ดังนั้นการวางรู ปแบบ
อํานาจพลังวิญญาณจึงต้องใช้เวลาอย่างมาก มันดูเหมือนกับภารกิจที่ไม่
อาจทําให้สาํ เร็ จได้

แต่ดว้ ยผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ฟ้าร่ วมพลังกัน พวก


เขาจึงสามารถวางรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ฟ้าขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้าได้

“โอ้ววว !! ยอดเยีย่ มมาก สมแล้วที่เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญของเก้า


อาณาจักร”

เมื่อเห็นรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ฟ้าเริ่ มก่อตัวขึ้นไปนั้น


สมาชิกของสํานักไร้ตวั ตนก็พากันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
โดยเฉพาะอย่างยิง่ เจ้าสํานักไร้ตวั ตนที่เขารู ้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
ไม่เพียงแค่ความแข็งแกร่ งของ เจียง เฮิงหยวน เท่านั้น แต่รวมถึง
ความแข็งแกร่ งของผูเ้ ชี่ยวชาญจากนิกายโลกวิญญาณ ก็ทาํ ให้พวกเขา
รู ้สึกชื่นชมออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจของพวกเขาอย่างแท้จริ ง

แต่บุคคลที่พวกเขาชื่นชมมากที่สุดก็คือ ชูเฟิ ง เมื่อสองปี ก่อนนั้น ชู


เฟิ ง เป็ นเพียงผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี เทา ในตอนนั้นเขาก็
แข็งแกร่ งอย่างมากแล้ว

แต่ในปัจจุบนั นั้น หลังจากเวลาเพียงแค่สองปี ชูเฟิ ง ก็สามารถก้าว


เข้าสู่ ผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ฟ้าได้ ความแข็งแกร่ งของ
เขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก พวกเขาจึงพากันชื่นชมออกมาจากใจจริ งของ
พวกเขา

***** ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม *****


เมื่อเปลวไฟเหล่านั้นเข้าปะทะกับรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณนั้น
มันทําให้สาํ นักไร้ตวั ตนสัน่ สะเทือนอย่างรุ นแรง เหล่าผูอ้ าวุโส และ
เหล่าลูกศิษย์ต่างได้รับผผมกระทบจนไม่อาจทรงตัวอยูไ่ ด้ แม้แต่ตาํ หนัก
ที่ได้รับการคุม้ ครองจากรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณยังได้รับแรฝกระแท
กจนเกิดรอยร้าวขึ้น

เมื่อเปลวไฟดังกล่าวตกลงมานั้น ได้สร้างคลื่นพลังที่รุนแรงแผ่
กระจายออกมาเป็ นวงกว้าง

ทุกๆ ที่ที่เปลวไฟนั้นพาดผ่าน ไม่มีสิ่งมีชีวติ ใดรอดชีวติ ออกมาได้


ทุกอย่างถูกทําลายอย่างสิ้ นเชิง

“เร็ วเข้า !! มีสมาธิกบั การเสริ มรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ


ไม่เช่นนั้น สําไร้ตวั ตนจะต้องถูกทําลาย !!” เมื่อเห็นคลื่นพลังแผ่
กระจายออกมานั้น เจียง เฮิงหยวน รี บตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ ว
ในเวลานั้น ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ ต่างตั้งมัน่ อย่างแท้จริ ง พวกเขารี บ
เสริ มสร้างความแข็งแกร่ งของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณอย่างสุ ดกําลัง

สุ ดท้ายนี้น ด้วยความร่ วมมือกันของทุกคนรู ปแบบอํานาจพลัง


วิญญาณก็สามารถต้านรับคลื่นพลังนั้นได้

อาจกล่าวได้วา่ พลังทําลายของเปลวไฟนั้นรุ นแรงมาก แม้แต่ ชูเๆง


กับทุกๆ คนร่ วมมือกัน พวกเขายังได้รับแรงกดดันอย่างหนัก

เพราะแม้ไม่ได้รับพลังของเปลวไฟนั้นโดยตรง เพียงแค่คลื่นพลังที่
แผ่กระจายออกมายังรุ นแรงมากขนาดนี้

เมื่อสถานการณ์เริ่ มคลี่คลายนั้น ทุกๆ คนต่างมองไปยังสภาพ


โดยรอบ พร้อมกับขมวดคิ้วขึ้น แววตาของทุกคนต่างเต็มไปด้วยความ
ตกตะลึง

มันเป็ นเพราะป่ าโดยรอบที่เคยเขียวชอุ่มก่อนหน้านี้ ปั จจุบนั ได้


กลายทะเลเพลิง แม้แต่อากาศด้านบนยังบิดเบี้ยวด้วยความร้อน

“นี่มนั อะไรกัน !!” ในขณะนั้น จาง เทียนยี่ พุง่ ทะยานออกไป เขา


กล่าวด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง

“พลังขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่ผเู ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ ง มันคงจะเป็ นสมบัติ


บางอย่างที่ทรงพลังอย่างมากแน่ มีใครจะออกไปตรวจสอบกับข้า
หรื อไม่” เจียง เฮิงหยวน กล่าวพร้อมกับกวาดสายตาไปที่เหล่าผูค้ นรอบ
ข้าง

“ท่านเจียง ทะเลเพลิงนี้รุนแรงมาก ข้าว่ามันยังไม่เหมาะที่จะ


ออกไปตรวจสอบในขณะนี้” รองเกา กล่าวออกมาด้วยความกังวล

“ข้าจะไป” ชูเฟิ ง กล่าวพลางพยักหน้า

“ข้าก็จะไปด้วย !!” จาง เทียนยี่ กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น เขา


ไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่นอ้ ย

“ไม่วา่ ยังไงก็ตาม หากมันพุง่ เป้ามาที่เรา พวกเราก็ไม่อาจหลีกหนี


อันตรายนี้ได้ แต่หากมันไม่ได้พงุ่ เป้ามาที่เรา และเป็ นดังที่คาดการณ์ ว่า
มันคือสมบัติที่ทรงพลัง พวกเราก็ไม่ควรพลาดโอกาสเช่นนี้”

ฉี เฟิ งหยาง กล่าวออกมา ต่อหน้าเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญทุกคน พวกเขา


ต้องการที่จะออกไปสํารวจ แม้วา่ ทะเลเพลิฝนั้นจะรุ นแรงอย่างมาก แต่
พวกเขาก็ไม่อยากพลาดโอกาสเช่นกัน
หลังจากตกลงกันเป็ นที่เรี ยบร้อยแล้วนั้น เจียง เฮิงหยวน ก็นาํ ทุก
คนออกไป เขากลายเป็ นลําแสงพุง่ ตรงไปยังทะเลเพลิง

พวกเขาไม่สามารถเข้าไปในทะเลเพลิงได้ มันมีบางอย่างที่ปิดกั้น
พวกเขาเอาไว้ มันไม่ใช่รูปแบบอํานาจพลังวิญญาณ แต่เป็ นบางอย่างที่
พวกเขาไม่สามารถทะลวงเข้าไปได้ ทางเดียวที่พวกเขาจะเข้าไปได้น้ นั
คือการเดินผ่านทะเลเพลิงเข้าไป

แต่โชคยังดีที่พลังของเปลวเพลิงไม่ได้รุนแรงจนเกินไป พวกเขา
ทุกคนสามารถก้าวเข้าไปยังทะเลเพลิงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก พอดข้า
ไม่ได้ระยะหนึ่ง ฉี เฟิ งหยาง และคนอื่นๆ ที่มีพลังเพียงระดับหนึ่ง ขั้น
แดนสวรรค์กไ็ ม่สามารถก้าวต่อไปได้ พวกเขาจําต้องถอยออกมา

สุ ดท้าย จึงเหลือเพียง ชูเฟิ ง , จื่อ หลิง , เจียง เฮิงหยวน , จาง


เทียนยี่ และรองเกาแห่งนิกายโลกวิญญาณ ที่สามารถไปต่อได้
แม้แต่ จื่อ หลิง ยังต้องปลดปล่อยพลังของกายศักดิ์สิทธิ์ และ
อํานาจพลังวิญญาณของนางออกมา เพื่อต้านทานพลังของเปลวเพลิง

สําหรับรองเกานั้น เขาได้ใช้อาํ นาจพลังวิญญาณในการต้านทาน


พลังเปลวเพลิง แต่เขาก็ยงั ได้รับแรงกดดันอย่างมาก

ในขณะนั้น มีเพียง เจียง เฮิงหยวน เท่านั้น ที่ไม่ตอ้ งใช้ทกั ษะพิเศษ


ใดๆ ในการเข้าไป เพราะเขามีพลังระดับเจ็ด ขั้นแดนสวรรค์

“โธ่……..เปลวเพลิงนี่มนั รุ นแรงจริ งๆ สิ่ งใดกันที่อยูภ่ ายในใจ


กลางของเปลวเพลิงนี้” ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ได้ใช้พลังของสายฟ้าทั้งสอง
สาย จนพลังของเขาพุง่ ขึ้นสู่ ระดับหนึ่ง ขั้นแดนสวรรค์ แต่เขาก็ยงั คง
ได้รับแรงกดดันอย่างมหาศาล
เปลวเพลิงเหล่านี้แข็งแกร่ งมาก หากเขาไม่มีทกั ษะเร้นลับเกราะเต่า
ทมิฬ เขาก็ไม่สามารถเข้ามาถึงตรงนี้ได้

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยคุณ#Abhisit
A : เจ้าของพลังนี้ มีพลังในระดับ จ้าวแห่งทักษะ หากชูเฟิ งได้ดูด
แหล่งพลังวิญญาณมาละก็จะเทพขึ้นอีกแค่ไหน

B : ชูเฟิ งจะได้เจอกับอาจารย์ตอนนั้นล่ะ แล้วเรื่ องจื่อหลิง ก็เป็ นชนวน


สงคราม ทําให้ภาคทะเลตะวันออก ตั้งปั้ นป่ วน ถ้าจะให้พดู ตรงๆ หากชู
เฟิ งเจอพ่อแท้ๆ อย่าว่าแต่ ภาคทะเลตะวันออกเลย แม้แต่ ดินแดน
สงครามศักดิ์สิทธิ์ ยังสัน่ สะท้าน

A : มันใกล้เข้าตอนที่จื่อหลิง จะต้องไปกลับครอบครัว พวกเราทําใจ


ลําบากเหมือนกันแหะ เลยมาบอกให้รีดเดอร์เตรี ยมใจ เพราะว่า คนแต่ง
มันวางโครงเรื่ องไว้ดีแล้ว แล้วเหตุผลที่ทาํ ไม ชูเฟิ ง เอากับ จื่อหลิงไม่ได้
ก็จะเฉลยเร็ วๆนี้ แต่บอกเลยว่าจื่อหลิงไปกลับที่บา้ น ก็ดีไปอีกอย่าง
B : ชูเฟิ งจะได้ซดั กับ ซูรู่ กับ ซูเหม่ยได้เต็มที่!!! แม่นบ่อ

A : แม่นแล้ว ไม่ใช่แค่น้ นั ยังมีทีเด็ดกว่านั้นอีก แต่ไม่ตอ้ งห่วงเรื่ องจื่


อหลิง ปลอดภัยไร้มนทิล เก็บซิ งไว้ให้พี่เฟิ งแน่นอน

B : ได้ยนิ แค่น้ นั กูกส็ บายใจ!!!

บทที่ 492 – ชายชราชุดคลุมสี ดาํ

“บ้าเอ๊ย !!........ ข้าต้องหยุดอยูท่ ี่นี่แล้ว”

ชูเฟิ ง ไม่สามารถต้านทานความร้อนของเปลวเพลิงได้อีก เขาไม่


อยากพลาดโอกาสที่จะได้สาํ รวจภายในเปลวเพลิงนั้น

***** พรึ่ บ *****


ในเวลานั้น ได้มีออร่ าพลังสี ม่วงเข้ามาล้อมรอบร่ างกายของ ชูเฟิ ง
เอาไว้ เพือ่ ต้านทานความร้อนของเปลวเพลิง

พลังออร่ าเหล่านั้นเป็ นของ จื่อ หลิง นัน่ เอง โดยที่ ชูเฟิ ง ยังไม่ได้
เอ่ยปากร้องขอใดๆ จื่อ หลิง ได้ส่งพลังของนางมาช่วยเหลือเขาเอาไว้
อย่างรวดเร็ ว

เมื่อ จื่อ หลิง แบ่งพลังของนางมาให้ ชูเฟิ ง นั้น แน่นอนว่าพลังของ


นางย่อมลดลง ในเวลานั้น ใบหน้าของนางก็เริ่ มขาวซีด และเต็มไปด้วย
เม็ดเหงื่อ

“จื่อ หลิง หยุดเถอะ !! ในสถานการณ์แบบนี้ เจ้าต้องปกป้องตัวเอง


ไม่ใช่ช่วยเหลือข้าเช่นนี้” ชูเฟิ ง รี บกล่าวเตือน จื่อ หลิง ให้หยุดการ
กระทําของนาง
“แม่นาง จื่อ หลิง ชูเฟิ ง กล่าวได้ถูกต้องแล้ว เส้นทางข้างหน้าอีก
ยาวไกลนัก เจ้าต้องประหยัดพลังของเจ้าเอาไว้ หาก ชูเฟิ ง ไม่สามาาถไป
ต่อได้ เขาก็ควรจะกลับออกไป เส้นทางข้างหน้าแรงกดดันของเปลว
เพลิงจะยิง่ รุ นแรงขึ้นอีก เมื่อเป็ นเช่นนั้นมันจะอันตรายอย่างมาก”

เจียง เฮิงหยวน กล่าว ด้วยความรุ นแรงของเปลวเพลิงขณะนี้น้ นั


ย่อมไม่มีปัญหาสําหรับเขา และเขายังสามารถแบ่งพลังของเขาเพื่อ
ช่วยเหลือคนอื่นได้

แต่เหตุผลที่เขาไม่ทาํ เช่นนั้น เพราะเขารู ้สึกว่าพลังของเปลวเพลิงนี้


แปลกมาก หากเข้าไปลึกมากกว่านี้เขาก็ไม่รู้วา่ จะสามารถต้านทานแรง
กดดันของเปลวเพลิงได้อีกหรื อไม่ เขาจึงเลือกที่จะสงวนพลังของเขา
เอาไว้ให้มากที่สุด

“ฮี่ฮี่ ชูเฟิ ง ให้ขา้ ออกไป ข้าจะปกป้องเจ้าเข้าไปยังส่ วนลึกของทะเล


เพลิงนี่เอง” ต้านต้าน กล่าวพลางยิม้ บางๆ
ชูเฟิ ง ไม่รอช้า เขารี บเรี ยกใช้ประตูโลกวิญญาณในทันที จากนั้นออ
ร่ าพลังสี ดาํ ก็พวยพุง่ ออกมาจากประตู และเข้ามาห่อหุม้ ร่ างกายของ ชู
เฟิ ง เอาไว้อย่างรวดเร็ ว

เมื่อออร่ าพลังสี ดาํ เข้ามาปกคลุมร่ างกายของ ชูเฟิ ง นั้น ออร่ าพลังสี


ม่วงของ จื่อ หลิง ก็หายไป อีกทั้ง ชูเฟิ ง ยังไม่รู้สึกถึงความร้อนของเปลว
เพลิงอีก

“ฮี่ฮี่ ขอโทษที !! ตราบใดที่ขา้ อยูท่ ี่นี่ รับรองเลยว่า ชูเฟิ ง จะไม่


เป็ นไร”

ในเวลานั้น ต้านต้าน ที่สวมกระโปรงขนสี ดาํ ได้ทะยานออกไป


ด้านหน้าของ เจียง เฮิงหยวน ตรงเข้าไปยังส่ วนลึกของทะเลเพลิง เมื่อ
นางก้าวออกไปนั้น พลังของทะเลเพลิงต่างถอยหนีห่างออกจากนาง ราว
กับว่าพวกมันหวาดกลัวนาง
“อสูรวิญญาณจากโลกวิญญาณอสู รฟ้า !!” เมื่อเห็นเช่นนั้น เจียง
เฮิงหยวน แววตาป็ นประกายด้วยความตื่นเต้น เขาหันกลับไปมองที่ ชู
เฟิ ง และกล่าวว่า “ ชูเฟิ ง เจ้าช่างยอดเยีย่ มมาก ที่สามารถทําสัญญากับ
โลกวิญญาณอสู รฟ้าได้”

“ผูอ้ าวุโส ท่านขมเกินไปแล้ว” ชูเฟิ ง กล่าวตอบพร้อมกับก้าวไป


ข้างหน้าอย่างรวดเร็ ว

เปลวเพลิงเหล่านี้แปลกประหลาดมาก เมื่อพวกเขาก้าวลึกเข้าไป
เรื่ อยๆ นั้น ความรุ นแรงของเปลวเพลิงก็ยง่ิ ทวีความรุ นแรงมากขึ้น อีก
ทั้งยังพุง่ โจมตีใส่ พวกเขาอย่างบ้าคลัง่

ภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ รองเกาได้ถูกบีบจนต้องล่าถอย
กลับไป ต่อมาก็เป็ น จื่อ หลิง ที่ไม่สามารถทนต่อความร้องเปลวได้อีก
นางจึงกลับออกไป และตามมาด้วย จาง เทียนยี่ ที่สามารถมาได้ไกลจาก
จุดที่แยกกับ จื่อ หลิง ได้เพียงเล็กน้อย

ในสถานการณ์เช่นนี้ ชูเฟิ ง ที่ได้รับการปกป้องโดย ต้านต้าน


สามารถกล่าวได้เลยว่าเขาไม่ได้รับแรฝกดดันใดๆ และยังคงรู ้สบายๆ
มากกว่า เจียง เฮิงหยวน

เจียง เฮิงหยวน มองดู ชูเฟิ ง ด้วยความชื่นชม พลังของ ต้านต้าน


นั้นแข็งแกร่ งมาก แม้วา่ นางจะมีพลังเพียงระดับสอง ขั้นแดนสวรรค์ แต่
เขารู ้สึกว่านางมีพลังบางอย่างที่น่ากลัวแฝงอยูใ่ นร่ างของนาง

แม้วา่ ต้านต้าน จะแข็งแกร่ ฝเพียงใด แต่นางยังคงเชื่อฟังคําของ ชู


เฟิ ง ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงเป็ นผูท้ ี่แข็งแกร่ งตัวจริ ง

“อ่า…..!!”
“แค่กๆ แค่กๆ !!”

เมื่อพวกเขาเข้ามายังส่ วนลึกสุ ดของทะเลเพลิงนั้น เจียง เฮิฝหยวน


ก็กระอักเลือด และไออกมาอย่างเจ็บปวด

“ผูอ้ าวุโส !! ท่านเป็ นยังไงบ้าง !!” เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง ตกตะลึง


อย่างมาก เพราะในขณะนี้น้ นั ใบหน้าของ เจียง เฮิงหยวน เปลี่ยนแปลง
ไปอย่างมาก อีกทั้งออร่ าพลังของเขายังคงอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชดั

“ชูเฟิ ง ข้าไม่สามารถไปต่อได้อีกแล้ว เปลวไฟเหล่านี้แปลกมาก


มันแทรกซึ้ มเข้ามาภายในร่ างกายยองข้า โดยที่ขา้ ไม่สามารถสัมผัสถ
พวกมันได้ หากเป็ นเช่นนี้ต่อไป ข้าจะต้องถูกพวกมันเผาไหม้จากภายใน
เป็ นแน่”
“ในตอนนี้ คนที่จะสามารถไปต่อได้มีเพียงเจ้าเท่านั้น แต่จงจําไว้
ว่า หากเจ้าไม่สามารถต้านทานพลังเหล่านี้ได้ อย่าได้ฝืนตัวเองจน
เด็ดขาด เจ้าจงรี วกลับออกมาให้เร็ วที่สุด”

เจียง เฮิงหยวน กล่าวออกมาอย่างกังวล ขณะที่เขาวางฝ่ ามือบน


ไหล่ของ ชูเฟิ ง เบาๆ จากนั้นเขาก็หนั หลังกลับไปทางเดิม และกลับ
ออกไปอย่างรวดเร็ ว โดยที่ไม่ได้กล่าวอะไรกับ ต้านต้าน ที่ยนื อยู่
ด้านข้างของ ชูเฟิ ง

“เชอะ !! พลังของเขานอดเยีย่ มมาก แต่ร่างกายของเขาอ่อนแอ


เกินไป” ต้านต้าน กล่าวถลางขดริ มฝี ปากด้วยความเหยียดหยัน ขณะที่
นางมองไปยังเส้นทางที่ เจียง เฮิงหยวน จากไป จากนั้นนางก็กา้ วต่อไป
ข้างหน้าอย่างรวดเร็ ว

เมื่อมองไปที่นาง ผูท้ ี่ซุกซน และ ซึ นเดเระ นั้น ชูเฟิ ง ได้แต่ส่าย


ศรี ษะอย่างหมดหนทาง เพราะนางแข็งแกร่ งอย่างมาก ซึ่ งเขาไม่รู้จะ
จัดการกับนางได้เช่นไร

แม้วา่ นางจะมีพลังเพียฝระดับสอง ขั้นแดนสวรรค์น้ นั แต่มี


แนวโน้มว่า เจียง เฮิงหยวน ที่มีพลังระดับเจ็ด ขั้นแดนสวรรค์ ก็ไม่อาจ
รับมือกับนางได้

ต้านต้าน นั้นแข็งแกร่ งมาก ในครั้ฝแรกที่นางควบคุมร่ างกายของ ชู


เฟิ ง เพื่อกําราบ จื่อ หลิง นั้น เขาก็สามาาถรับรู ้ถึงความแข็งแกร่ งของนาง
ได้ในทันที

ด้วยพลังบอง ต้านต้าน นั้น ในที่สุด ชูเฟิ ง ก็สามารถมาถึงส่ วนลึก


ของทะเลเพลิงได้อย่างรวดเร็ ว

ในขณะนั้น เปลวเพลิงรอบๆ ตัวของ ชูเฟิ ง ได้พวยพุง่ ขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า


เกิดเสี ยฝคํารามอย่างน่าหวัน่ เกรง พวกมันเริ่ มโจมตีใส่ ชูเฟิ ง อย่าง
รวดเร็ ว พวกมันสามารถปิ ดกั้นอํานายพลังวิญญาณของเขาจนหมดสิ้ น

ในขณะนั้น เปลวเพลิงได้เข้ามาล้อมรอบ ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว และ


เมื่อเขาสู ญเสี ยอํานาจพลังวิญญาณไปนั้น เขาก็เปรี ยบได้กบั คนตายอด ที่
ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้

***** TA TA TA TA *****

แต่ในเวลานั้น หูของ ชูเฟิ ง กระตุกอย่างรวดเร็ ว เขามองออกไปใน


ทะเลเพลิงนั้น เพราะเขาได้ยนิ เสี ยงฝี เท้ากําลังก้าวอยูใ่ นทะเลเพลิฝนั้น
อย่างชัดเจน

***** วูว้ ววววว *****


เมื่อมองไปยังเสี ยงของฝรเท้านั้น ทะเลเพลิงได้เปิ ดทางออกเป็ น
เส้นทางขึ้น ที่ปลายเส้นทางนั้นมี ชายชราสวมชุดสี ดาํ ยืนอยู่

ชายชราคนนั้น มีผมยาวสี ดาํ มันยาวตั้งแต่ศรี ษะลงมาถึงเอวของเขา


เส้นผมของเขาปลิวไสวอย่างเชื่องช้า ทั้งๆ ที่รอบตัวของเขาไม่มีกระแส
ลมแม้แต่นอ้ ย

สิ่ งที่พิเศษที่สุดนั้น คือดวงตาของเขา แม้วา่ มันเป็ นดวงตาของชาย


ชรา แต่มนั กลับให้ความรู ้สึกราวกับแววตาของคนที่ตายไปแล้ว

เขามองมายัง ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว แต่ ชูเฟิ ง กลับก้าวถอยหลัง


ออกมาหลายก้าว หัวใจของเขาพลันบีบรัด เต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว
เขาสัมผัสได้ถึงความอันตรายถึงชีวติ จากสายตาคู่น้ นั
เพราแฝงไว้ดว้ ยจิตสังหารที่รุนแรง มันไม่ใช่จิตสังหารที่มีมาแต่
กําเนิด แต่เป็ นจิตสังหารที่ได้มาจากการสังหารสิ่ งมีชีวติ มานับไม่ถว้ น

ถ้าความแข็งแกร่ งของจิตสังหารสามารถบอกได้ดว้ ยจํานวนของ


คนที่สงั หาร ชายชราผูน้ ้ ีคงสังหารผูค้ นไปมากกว่าสิ บล้านคนอย่าง
แน่นอน

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/
แปลโดยคุณ#Abhisit

A : ตะลึงกับความงามของต้านต้านเลยล่ะสิ แต่โทดที คนนี้พี่เฟิ ง


จอง!!!

B : ใครน่าตาดีหน่อย กูเหนมันเอาไปกินหมด ไม่ตกมาถึงกูสกั คน

A : อาจจะมีแบ่งให้ จาง เทียนยี่ กับ เจียง หวูช่ าง แต่เมียหลักทั้ง 4 ยก


ให้ไม่ได้. . . .
B : ก็ยงั ถือว่ายังมีน้ าํ ใจ . . . . . .แต่ชายชราชุดดําคนนี้บอกเลย เก่ง
โครตตตต

A : ลองถายว่าเค้าคือใคร ????

B : . . . . @!#@%!%$@!#

A : คันปากอ่ะดิมืง
บทที่ 493 - นกยักษ์ที่น่ากลัว

“น่าสนใจจริ งๆ ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนที่เชื่อมต่อกับอสู ร
วิญญาณจากโลกวิญญาณอสู รฟ้าได้ ในที่แบบนี้ และหนําซํ้ายังเป็ นเด็ก
เหลือขอที่ อยูใ่ นระดับ 8 แก่นแท้วญ
ิ ญาณซะด้วย “ ชายชราชุดดํา พูด
ขึ้น

ในตอนนั้น ชูเฟิ งตกใจมาก เขาได้ใช้สายฟ้าทั้ง 2 เพิม่ ระดับพลังเป็ น


ระดับ 1 อาณาจักรสวรรค์ แต่ชายชราคนนี้กลับมองออกว่ามันเป็ น
ระดับพลังหลอกๆ และรู ้ถึงระดับพลังที่แท้จริ งของเขา
นอกจากนี้ชูเฟิ ง รู ้สึกเหมือนถูกคุกคามอย่างที่ไม่เคยรู ้สึกมาก่อนจากชาย
ชราคนนี้ เขาคิดว่าชายชราคนนี้น่าจะเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสู ง และ
อาจจะเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับเจ้าแห่งสงครามด้วยซํ้า

“ลองโชว์ให้ขา้ ดูซิ ว่าเด็กเหลือขออย่างเจ้ามีอะไรดี.” ในตอนนั้น


ชายชราก็หนั มาทางชูเฟิ งและพูดขึ้น

“เจ้าแก่บดั ซบ รี บไปซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน.” เมื่อ


เห็นเช่นนั้น ต้านต้าน จึงตะโกนออกมา พร้อมระเบิดควันสี ดาํ ออกมา
จากร่ างกายเธอ เมื่อควันเหล่านั้นออกมามันก็มีเสี ยงร้องเหมือนกับหมา
ป่ าและภูตผี เสี ยงร้องของมันนั้นน่ากลัวมาก

แต่แม้ควันนั้นจะน่ากลัวเพียงใด ชายชราชุดก็ยงั นิ่งเหมือนเดิม หลังจาก


นั้นเขายิม้ แล้วก็พดู ว่า “ ไม่เลว พลังระดับนี้เป็ นพลังของอสู รฟ้า
สายเลือดบริ สุทธิ์จริ งๆ มันเป็ นสิ่ งที่หายากยิง่ นัก.”
และเมื่อเขาพูดจบ ก็มีแสงสี ทองกระจายออกมาจากตัวเขา มันไม่
เพียงแต่หยุดเปลวไฟสี ดาํ ของต้านต้าน แต่มนั ยังดันกลับไปได้อีก แสงสี
ทองนัน่ ได้กลายเป็ นแหขนาดใหญ่และบีบเปลวไฟของต้านต้านให้
ย้อนกลับไปในร่ างของเธอ

“นี่มนั รู ปแบบอํานาจวิญญาณสี ทอง ท่านเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลก


วิญญาณชุดทองหรื อ” ชูเฟิ งตกใจอย่างมากเขารู ้วา่ แสงสี ทองนัน่ ต้อง
เป็ นรู ปแบบวิญญาณระดับชุดทอง ของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดทอง
อย่างแน่นอน

สําหรับผูเ้ ชื่อมต่อชุดม่วงนั้น ถือว่าเป็ นตํานานแล้ว ในทวีปเก้าอาณาจักร


นี้ ส่ วนผูเ้ ชื่อมต่อวิญญาณชุดทองนั้น เป็ นตํานานยิง่ กว่าตํานาน ส่ วน
ใหญ่แล้วผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดทองนั้นจะไม่ใช่คนของทวีปเก้า
อาณาจักร และเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสู ง
“ไม่เลว ดูเหมือนว่าเจ้าจะตาดีนี่.” ทันใดนั้น เสี ยงชายชราก็ดงั มา
จากหลังชูเฟิ ง ในตอนนั้นชูเฟิ งก็ตกใจมากและเขาก็พบว่าชายชราได้
หายไปแล้ว

เมื่อชูเฟิ งหันไปรอบๆเขาก็เห็นมือขนาดใหญ่ประทับที่หน้าอกของเขา

“อ๊าก~~~~”

ความเร็ วของชายชรานั้นสู งมาก เมื่อชูเฟิ งเห็นมือของเขา ฝ่ ามือของเขาก็


ได้อยูบ่ นอกเขาแล้ว และในเวลาเดียวกันก็มีพลังประหลาดไหลเข้ามาใน
ตัวเขาและเริ่ มไหลไปทัว่ ทุกที่ในร่ างกายของเขาดูเหมือนกับหาอะไร
บางอย่าง

เขานั้นได้ใช้พลังตรวจสอบร่ างกายของชูเฟิ ง เพื่อตรวจสอบว่าชูเฟิ งนั้น


มีอะไรพิเศษบ้าง

“หื ม” อย่างไรก็ตาม เมื่อพลังประหลาดนัน่ ได้เข้ามาในตันเถีย


นของชูเฟิ ง ใบหน้าของชายชราชุดดําก็เปลี่ยนทันที และหลังจากนั้นเขา
รี บเอามือออกจากตัวชูเฟิ งอย่างรวดเร็ ว

ในตอนนั้น เขาก็จอ้ งไปที่ชูเฟิ ง แล้วก็พึมพํากับตัวเองว่า “ ไม่เลว ไม่เลว


สถานที่แบบนี้ มีเด็กที่ไม่ธรรมดาอยูห่ รื อเนี่ย”

“อย่างไรก็ตาม มันเป็ นเรื่ องยากจริ งๆที่เด็กเหลือขออย่างเจ้าจะ


ปรากฏในที่แบบนี้ ดังนั้นวันนี้ ข้าจะไว้ชีวติ เจ้า.”

หลังจากพูดชายชรา ก็สะบัดแขนของเขาและนัน่ ทําให้ไฟเริ่ มดับลง และ


ในพริ บตาทะเลเพลิงที่กว้างใหญ่กห็ ายไปอย่างสมบูรณ์ และกลายเป็ น
ควันแทน เช่นเดียวกับชายชราชุดดําที่หายตัวไป
“นี่คือ พลังของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดทองอย่างนั้นหรื อ” ชู
เฟิ งมองพื้นที่ดาํ เมี่ยม และพูดขึ้นเขารู ้สึกตกใจอย่างมาก

“ชูเฟิ ง ดูนนั่ สิ !” แต่ในตอนนั้น ต้านต้านก็ได้พดู ขึ้นด้วยนํ้าเสี ยง


ประหลาดใจ

ชูเฟิ งเงยหน้าขึ้นดู ก็ตอ้ งประหลาดใจเมื่อพบ ร่ างของสิ่ งมีชีวติ ขนาด


ยักษ์ปรากฏขึ้น และสิ่ งมีชีวติ นัน่ คือนกยักษ์

นกตัวนั้นมีขนาดใหญ่มาก ร่ างกายของมันใหญ่เท่าภูเขาขนาดย่อมๆ
และตัวของมันนั้นเต็มไปด้วยขนสี ทอง เปล่งประกายวิง้ วับ แสบตา
อย่างไรก็ตาม นกที่งดงามตัวนี้น้ นั ชิ้นส่ วนจากร่ างกายของมันล้วนเป็ น
อาวุธที่อนั ตรายมาก ปากขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยฟัน ขนทุกเส้นที่คม
เหมือนดาบ

แต่ที่น่าเศร้าอีกอย่างคือ นกที่น่ากลัวนี้ไม่ได้มีกลิ่นอายของสิ่ งมีชีวติ แต่


ตัวของมันนั้นเต็มไปด้วยเปลวเพลิงที่น่ากลัวทุกที่บนตัวมัน

ไฟนั้นเหมือนไฟที่เป็ นทะเลเพลิงก่อนหน้านี้ซ่ ึ งหมายความว่าไฟ


เหล่านั้นไม่ได้เกิดจากชายชราชุดดํา แต่มนั เกิดจากนกยักษ์ที่น่ากลัวตัว
นี้

“ฮ่าๆ น่าประทับใจจริ งๆ เจ้าสัตว์ยกั ษ์ตวั นี้น้ นั มีสายเลือดที่


พิเศษยิง่ นัก มันเป็ นสัตว์ยกั ษ์ที่แข็งแกร่ งจริ งๆ โชคชะตาของมันนั้นราว
กับส่ งมาเป็ นราชันย์สตั ว์ยกั ษ์เมื่อมันเกิดมา”
“แม้กระทัง่ ราชันย์ท้ งั 5 และพี่ลิงตูดหมึกของเจ้านั้น เมื่อเทียบ
กับเจ้าสัตว์ยกั ษ์ตวั นี้กด็ ูอ่อนหัดไปเลย.”ในตอนนั้น ต้านต้าน พูดขึ้นด้วย
ความสนใจ เธอวิง่ ไปหานกยักษ์นน่ั อย่างรวดเร็ ว

เมื่อเห็นอย่างนั้นชูเฟิ งก็รีบตามไป เพราะเขากลัวว่าต้านต้านจะได้รับ


อันตราย

แต่หลังจากชูเฟิ งเข้ามาใกล้นกยักษ์ตวั นี้ แม้แต่เขาก็ตอ้ งตกอยู๋ใน


ความรู ้สึกวาเขานั้นเป็ นแค่มดตัวเล็กๆ ที่เทียบไม่ได้กบั ภูเขาขนาดย่อมๆ
ข้างหน้าเลย

“บัดซบ บัดซบ แหล่งพลังวิญญาณของมันถูกดูดไปแล้ว และถูก


ดูดไปเกลี้ยงเลย พลังของมันนี่จะช่วยยกระดับข้าขึ้นหลายขั้นเลย บ้าจริ ง
บัดซบที่สุด ” ต้านต้าน หงุดหงิดมาก จึงบ่นออกมาเสี ยงดัง
ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็พบว่าพลังของเจ้านกนี่น้ นั ได้ถูกดูดไปจนเกลี้ยงแล้ว
และ ไม่เหลือร่ องรอยอะไรทิ้งไว้เลย

แต่ชูเฟิ งก็รู้ทนั ทีวา่ ใครเป็ นคนทํา มันต้องเป็ นชายชราชุดดํานัน่ อย่าง


แน่นอน

เขานั้นเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดทอง ดันนั้นเขาต้องมีอสู รวิญญาณ


ที่แข็งแกร่ งจํานวนมากแน่นอน มันน่าจะถูกฆ่าและดูดซับไปโดยเขา

“สวรรค์!!! ในโลกนี้มีนกที่ใหญ่ขนาดนี้ดว้ ยหรื อนี่”

ในตอนนั้น จาง เทียนยี่ เจียง เฮิงหยวน ฉี เฟิ งหยาง เกา ฉี จือ จื่อ หลิง
และคนอื่นๆที่หลุดออกจากทะเลเพลิงก็ตามมาสมทบและเมื่อเห็นนก
ยักษ์ตวั นี้พวกเขานั้นก็ตกใจอย่างมาก เพราะนี่เป็ นครั้งแรกที่เพราะเขา
ได้เห็นสัตว์ยกั ษ์ที่ใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้
“ชูเฟิ ง เกิดอะไรขึ้นที่นี่ เจ้าเป็ นคนหยุดทะเลเพลิงนี่อย่างนั้น
หรื อ” เจียง เฮิงหยวนถามชูเฟิ ง ด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ

ชูเฟิ งจึงคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าเขาไม่บอกความจริ งไป เพราะมันอาจจะช่วย


ลดความเสี่ ยงของพวกเขา เขาจึงส่ ายหน้าแล้วพูดว่า “ ไม่ใช่ขา้ หรอก
เหมือนว่าตอนที่นกยักษ์นี่ยงั มีชีวติ อยูน่ ้ นั ก็ได้แพร่ เปลวเพลิงขนาดยักษ์
ไปทัว่ และเมื่อมันตาย ทะเลเพลิงนัน่ ก็น่าจะมอดลง.”

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////////////////////////////////////////
A : ว้ายยยย ไม่ใช่ขอทาน 5555+ พลาดเลยล่ะสิ

B : อย่ากวนตีน ถึงไม่ใช่ขอทานก็เป็ นคนรู ้จกั อยูด่ ี ฝี มือพวกเขาล้วน


แต่สูสี ดู๋ดี๋ คู่คี่

A : ว่าแต่เสี ยดาย แหล่งพลังวิญญาณของนักยักษน์น้ ีชะมัดเลย!!!


B : ไม่ตอ้ งเสี ยดาย ร่ างกายของมันไม่นบั ว่าสู ญเปล่า เด๋ วกูจะไปเลาะ
เนื้อมันเอาไปทําผัดกระเพรา ต้มยํานกยักษน์น้ าํ ข้น พูดขึ้นแล้วเปรี้ ยว
ปากเลย เด๋ วขอตัวไปเอามีดก่อน

A : กูไปด้วย!!!
บทที่ 494 - ความลับ

“อืม มันน่าจะเป็ นเช่นนั้นแหละ ” หลังจากได้ยนิ คําตอบของชู


เฟิ ง เจียง เฮิงหยวนก็มองไปที่นกยักษ์ แล้วเขาก็พบว่า ไฟบนตัวมันนั้น
ได้กลับเข้าไปในตัวมัน ดังนั้นที่ชูเฟิ งพูดมาเขาจึงเชื่อมันทั้งหมด และ
ไม่ได้สงสัยอะไรชูเฟิ ง

หลังจากนั้น เจียง เฮิงหยวนและคนอื่นๆ ก็ตรวจสอบเจ้านกยักษ์ตวั นี้วา่


จะมีสมบัติในตัวมันหรื อไม่

และในที่สุดเขาก็ไม่พบสมบัติอะไรเลยจากนกยักษ์ ดังนั้น เจียง เฮิง


หยวน จึงใช้รูปแบบวิญญาณเพื่อซ่อนนกยักษ์ตวั นี้ นอกจากนี้ เจียง เฮิง
หยวนก็นอนหลับอยูข่ า้ งๆเจ้านกยักษ์ตวั นี้เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้ใครเข้า
ใกล้

แม้วา่ นกนั้นจะไม่มีสมบัติใดๆเลย แต่ตวั มันนั้นราวกับเป็ นสมบัติวเิ ศษ


เพราะขน เขี้ยว กระดูก นั้นสามารถนําไปสร้างอาวุธที่แข็งแกร่ งได้ และ
หลังจากผ่านการตรวจสอบของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณแล้วก็บอกได้วา่
ทั้งตัวมันนั้นสามารถนําไปสร้างยอดยุทธภัณฑ์ ระดับ 2ได้

และเนื้อของมันนั้น สามารถนําไปทานและมันจะช่วยให้สุขภาพร่ างกาย


แข็งแรงขึ้น มันมีสรรพคุณเหมือนยา และเป็ นทรัพยากรบ่มเพาะด้วย

อย่างไรก็ตาม เจ้านกนี่แข็งแกร่ งนัก แม้วา่ วันจะตายแล้วแต่พลังของมัน


ก็ยงั ไม่หายไปหมด และร่ างกายของมันนั้นแข็งแกร่ งมาก การที่จะ
ทํางานชิ้นยักษ์ดว้ ยตัวคนเดียวนี่เป็ นเรื่ องยาก ดังนั้น เจียง เฮิงหยวน จึง
ติดต่อกลับไปที่ราชวงศ์เจียงและเรี ยกผูเ้ ชี่ยวชาญมา
หลังจากนั้น ไม่กี่วนั ราชันย์ลิง และ ผูเ้ ชี่ยวชาญจากราชวงศ์เจียง ที่อยูท่ ี่
สํานักมังกรฟ้าก็มี จึงได้ทราบว่าเรื่ องทะเลเพลิงนี่เป็ นข่าวยักษ์ ของ
อาณาจักรมังกรฟ้า

แต่นอกจาก ราชันย์ลิง และคนอิ่นๆจากราชวงศ์เจียงแล้วยังมีผเู ้ ชี่ยวชาญ


อื่นๆมาด้วย ผูเ้ ชี่ยวชาญคนนั้นคือ จื่อ ซวนหยวนนัน่ เอง

“นี่คือ วิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ มันเป็ นสัตว์มหึ มาอย่างแน่นอน มัน


เป็ นสัตว์สายเลือดพิเศษที่มีตน้ กําเนิดจาก ภูมิภาคทะเลตะวันออก .”

“แต่เจ้านี่น้ นั อาจบอกได้วา่ ใกล้เคียงกับราชันย์วหิ ค มันจึงไม่ตาย


อย่างง่ายๆแน่นอน

จื่อ ซวนหยวน นั้นเป็ นคนจากภูมิภาคทะเลตะวันออก เขาจึงรู ้ที่มาของ


นกยักษ์ นี่ดิ และในตอนนั้น ตาของ จื่อ ซวนหยวนก็มีความกลัวปรากฏ
อยู่

“มันมีร่องรอยบาดเจ็บเล็กน้อยบนตัวมัน ตอนมันมีชีวติ มันต้อง


สู ก้ บั ใครบางคน แต่มนั ก็ไม่มีร่องรอยที่บาดเจ็บสาหัส ข้าคิดว่ามันน่าจะ
บาดเจ็บสาหัสจากภายในตัวมัน.” ในตอนนั้น เจียง เฮิงหยวนก็พดู ขึ้น
เขาได้ตรวจสอบนกยักษ์ตวั นี้มาบ้างแล้ว

“ผูอ้ าวุโส จื่อ จากที่ท่านเห็น ในตอนที่วหิ คเพลิงศักดิ์สิทธิ์ มีชีวติ


อยู่ ท่านคิดว่าระดับการบ่มเพาะมันอยูท่ ี่ระดับอะไร มันถึงเจ้าแห่ง
สงครามหรื อไม่” หลังจากนั้น เจียง เฮิงหยวน ก็ถามอีกครั้ง

จื่อ ซวนหยวนนั้นไม่เพียงแก่กว่าเขา แต่กแ็ ข็งแกร่ งกว่าเขาด้วย ดังนั้น


ในที่น้ ีคนที่จะสู ก้ บั จื่อ ซวนหยวนได้ จึงมีแค่ราชันย์ลิง คนเดียวดังนั้น
เจียง เฮิงหยวน จึงสุ ภาพต่อ จื่อ ซวนหยวน
“เจ้าแห่งสงครามอย่างนั้น หรื อ เจ้ายังไม่เข้าใจมันดีพอ เจ้าวิหค
เพลิงศักดิ์สิทธิ์ นี่เป็ นสัตว์มหึ มาสายเลือดบริ สุทธิ์ มันมีชีวติ มาตั้งแต่สมัย
โบราณและอยูใ่ นโลกนี้มากว่าแสนปี .”

“สัตว์มหึ มาชนิดนี้ ไม่ได้พฒั นาตัวเองจนมีรูปแบบคล้ายมนุษย์


แต่มนั ยังคงร่ างของตัวเองเอาไว้ และมีชีวติ ต่อมา.”

“ดังนั้น ความแข็งแกร่ งของเจ้านกนี่น้ นั สามารถบอกได้จาก


ขนาดตัวมัน อาจบอกได้วา่ เจ้าตัวนี้ นั้นอาจอยูใ่ นระดับราชันย์วหิ คก็วา่
ได้.”

“และในจํานวนของวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ที่อยูใ่ นระดับราชันย์วหิ ค


ไม่น่าจะมีเกิน 3 ดังนั้นเจ้าวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ นี่ไม่ได้อยูใ่ นระดับเจ้า
สงครามแน่นอน แต่มนั น่าจะอยูใ่ นระดับ ราชันย์แห่งสงคราม.” จื่อ
ซวนหยวน พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่จริ งจัง
“อะไรนะ ราชันย์แห่งสงครามหรื อ” เมื่อได้ยนื นั้นทุกคนก็ตอ้ ง
ตกใจ เพราะในทวีปเก้าอาณาจักรนี้ไม่มีใครที่สามารถเหยียบระดับเจ้า
แห่งสงครามได้เลย ดังนั้นระดับราชันย์แห่งสงครามนั้นจะน่ากลัวขนาด
ไหน และคนที่ขา้ เจ้านกยักษ์นี่จะน่ากลัวขนาดไหน

แต่ในขณะที่คนอิ่นๆกําลังตกใจนั้น ชูเฟิ งได้แต่ขมวดคิ้ว และรู ้สึก


บางอย่างดังนั้นเขาจึงคิดเกี่ยวกับชายชุดดํานัน่ ทันที

หากบอกว่าวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ อยูใ่ นระดับราชันย์แห่งสงคราม และคน


ที่ฆ่ามันอย่างชายชราชุดดํานัน่ ก็ตอ้ งเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับราชาแห่ง
สงครามอย่างนั้นสิ นะ

ในตอนนี้ ในทวีปเก้าอาณาจักร ได้มีผเู ้ ชี่ยวชาญระดับราชาแห่งสงคราม


เข้ามา และมันบังเอิญเป็ นตอนที่ ราชวงศ์เจียงจะเปิ ดสุ สานจักรพรรดิ
พอดี
ถ้าข่าวเรื่ องการเปิ ดสุ สานนี่หลุดรอดไป ชายชราชุดดํานัน่ ต้องมาอย่าง
แน่นอน และด้วยพลังระดับผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดทองนั้นเขาต้อง
สนใจมันมาก

และถ้าเขาสนใจมัน ชูเฟิ งก็ไม่รู้วา่ มันเป็ นโชคชะตาหรื อว่าหายนะ


เพราะว่าพลังของชายคนนั้นแข็งแกร่ งมาก ชูเฟิ งนั้นไม่รู้วา่ เขาจะฆ่าคน
จากราชวงศ์เจียงเพื่อนแย่งสมบัติหรื อเปล่า

ดังนั้น ชูเฟิ งจึงลังเลว่าจะบอกราชวงศ์เจียงดีหรื อไม่ อย่างไรก็ตามชาย


ชราคนนี้แข็งแกร่ งมาก ชูเฟิ งจึงไม่รู้วา่ ชายชรานั้น ยังอยูห่ รื อไม่

หากชายชรานั้นยังไม่ได้ไปไหนและชูเฟิ งได้บอกพวกเขา ชูเฟิ งก็ไม่ชวั ร์


ว่าชายชรานั้นจะไม่โกรธ และตอนนั้น เขาอาจจะรักษาชัวติ ไว้ไม่ได้
ถ้าเขาตายนั้น ชายชราต้องฆ่าทุกคนที่อยูท่ ี่นี่อย่างแน่นอน และนัน่ เป็ น
ปัญหาใหญ่มาก

และสุ ดท้ายชูเฟิ งก็ไม่ได้พดู อะไร เขาได้แต่ภาวนาให้ชายชรานั้นจากไป


แล้ว และภาวนาให้เขาคิดว่า สถานที่แบบนี้น้ นั ไม่ดีพอสําหรับคน
แข็งแกร่ งเช่นเขา

“ชูเฟิ งตามข้ามา ข้ามีบางอยากจะบอกเจ้าเป็ นการส่ วนตัว.” ใน


ตอนนั้น จื่อ ซวนหยวน ก็เข้ามากอดไหล่ชูเฟิ ง

“ท่านปู่ มีอะไรหรื อ บอกข้าได้หรื อไม่” เห็นอย่างนั้น จื่อ หลิง


จึงเดินมาและยิม้
“สาวน้อย เจ้ากลัวว่าข้าจําทําร้ายชูเฟิ งอย่างนั้นหรื อ “ จื่อ ซวน
หยวนพูดขึ้น

“จื่อ หลิง ไม่ตอ้ งกังวล เดี๋ยวข้าจะรี บกลับมา.” ชูเฟิ งพูดและยิม้

“ก็ได้!!” จื่อ หลิงพูด และพยักหน้า

“อ๊าก ข้าเลี้ยงเจ้ามาตั้งหลายปี แต่เจ้ามาอยูก่ บั ชูเฟิ งแค่ปีเดียวก็เป็ น


แบบนี้แล้วหรื อ เจ้าหลานสาวตัวดี”

เมื่อเห็นหลานสาวตัวดื้อของเขาเชื่อฟังชูเฟิ ง เขาจึงรู ้สึกน้อยใจเล็กน้อย


แต่นน่ั ก็ทาํ ให้เขายิม้ เหมือนกัน
หลังจากนั้น จื่อ ซวนหยวน ก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ และชูเฟิ งก็ตามไป มี
แค่2คนเท่านั้น ที่บินออกจากหุบเขาไร้ตวั ตนและพุง่ เข้าเมฆขนาดใหญ่
จื่อ ซวนหยวนสะบัดมือของเขา แล้ว ก็วางรู ปแบบวิญญาณปิ ดกั้นเสี ยง
ขึ้น

ในตอนนั้นชูเฟิ งรู ้สึกตกใจมาก เขาไม่คิดมาก่อนว่า จื่อ ซวนหยวน จะ


เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ และอยูใ่ นระดับชุดม่วงด้วย

แต่หลังจากนั้นเขาได้คิดอะไรอีกนิดหน่อยก็ใจเย็นลง เพราะว่าเขายังไม่
ลึกมากนัก ถ้าในภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้นมีผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุด
ทอง ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่จะมีผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วงอยู่

“ชูเฟิ ง วันนี้ ข้ามีความลับบางอย่างจะบอกเจ้า แม้แต่จื่อ หลิงก็ยงั


ไม่รู้เรื่ องนี้.” ในที่สุด จื่อ ซวนหยวน ก็พดู ออกมา

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยท่าน#ฮายย

A: อย่าบอกนะ จื่อ ซวนหยวนชอบชูเฟิ ง

B : เลวมาก ไอหยวน แย่งกระทั้งผัวของหลาน

A : ไง๊มาวันนี้มึงเข้ากะกูเปนปี่ เปนขลุ่ย ปกติเห็นขัดกูจงั

B : แค่อยากสร้างบรรยากาศร่ วม
บทที่ 495 - ความจริ งที่น่าตกใจ

“ท่านผู ้ อาวุโสมีความลับอะไรอย่างนั้นหรื อ” ชูเฟิ งถามกลับ

“ข้าสงสัยว่าจื่อ หลิง ได้บอกเจ้าเกี่ยวกับตระกูลของนางและ


เหตุผลที่ขา้ พานางมาที่นี่แล้วหรื อยัง” จื่อ ซวนหยวน พูดขึ้น
“ผูอ้ าวุโส ข้ารู ้แล้ว ดังนั้นข้าจึงพยายามบ่มเพาะ ข้าจะต้อง
แข็งแกร่ ง ในอนาคตต่อจากนี้ ข้าจะต้องกําจัดศัตรู ของนางให้หมด.”

“ดังนั้น ท่านผูอ้ าวุโส ท่านจะบอกข้าได้หรื อไม่วา่ ใครเป็ นคน


ฆ่าครอบครัวของนาง” ชูเฟิ ง ถาม

“เฮ้อ” เมื่อเห็นชูเฟิ งพูดเช่นนั้น จื่อ ซวนนหยวนก็ถอนหายใจ


และพูดว่า “ ความจริ งแล้ว ครอบครัวของจื่อ หลิงนั้นยังไม่ตายและยังมี
ชีวติ อยูท่ ุกคน “

“อะไรนะ ครอบครัวของ จื่อ หลิงยังไม่ตายอย่างนั้นหรื อ” เมื่อ


ได้ยนิ อย่างนั้น ชูเฟิ งก็ตอ้ งตกใจ ตอนนี้ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

“ข้าเป๋ นคนสร้างเรื่ องขึ้นหลอกลวง จื่อ หลิง.” จื่อ ซวนหยวน


พูดขึ้น
“ท่านผูอ้ าวุโส เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรื อ” ชูเฟิ ง ถาม

“เรื่ องมันยาว มันคงจะดีกว่าถ้าข้า จะเล่าตั้งแต่แรก.”

“ในภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้น ตระกูล จื่อ ของข้านั้นไม่ได้เป็ น


มหาอํานาจอะไร แต่กย็ งั นับได้วา่ เป็ นตระกูลที่มีชื่อเสี ยงไม่นอ้ ย พวกเรา
นั้นอยูก่ นั แบบง่ายๆ และ อยูโ่ ดยปรองดองกับคนอื่นๆ พวกเรานั้นอยู่
แบบสงบแลสันติสุข และในภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้น ตระกูลของข้า
ได้ถูกตั้งมาหลายร้อยปี แล้ว.”

“อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเปลี่ยนไปตั้งแต่ จื่อ หลิงเกิด จื่อ หลิงนั้น


มีกายศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเพื่อนางเกิดขึ้นมา จะมีปรากฏการบางอย่างเกิดขึ้น
และนัน่ สร้างความตื่นตระหนกให้กบั ภูมิภาคทะเลตะวันออก.”
“พูดง่ายๆ ว่า นัน่ เป็ นโชคดีเพราะว่า กายศํกดิ์สิทธิ์น้ นั เหมือน
เป็ นพรจากสวรรค์ เมื่อเกิดมาแล้วพวกเขาจะมีชะตาที่กลายเป็ นอัจฉริ ยะ
ในอนาคต.”

“เหล่ามหาอํานาจ ต่างมาร่ วมแสดงความยินดี แม้แต่คนที่มีความ


ขัดแย้งกับตระกูลจื่อ ก็อยากจะสลายความแค้นนั้น.”

“แม้แต่มหาอํานาจที่ยงิ่ ใหญ่ของภูมิภาคทะเลตะวันออกอย่าง หมู่


เกาะประหาร ก็มาที่ตระกูลของข้าและต้องการให้จดั งานแต่งงานของจื่อ
หลิง และ นายน้อยของพวกเขา.”

“สําหรับตระกูลข้านั้นถือว่า เป็ นเรื่ องที่ดีมาก เป็ นเพราะจื่อ หลิง


ได้เกิดมา และมีกายศํกดิ์สิทธิ์.”
“และเพราะหมู่เกาะประการนั้นแข็งเกินเกินไป ในภูมิภาคทะเล
ตะวันออกนั้น ไม่มีใครสามารถต่อกรกับพวกเขาได้ สําหรับจื่อ หลิงแล้ว
การแต่งงานกับนายน้อยของหมู่เกาะประหารนั้นเป็ นเรื่ องที่ตอ้ งเกิดขึ้น
ในอนาคต และเธอจะกลายเป็ นผูห้ ญิง ของหมู่เกาะประหารไป.”

“พวกเขานั้นทําสัญญา และระบุวนั แต่งงานของจื่อ หลิงไว้จดั เจน


และยังบอกอีกว่าจะให้คนของตระกูลจื่อ นั้น กลายเป็ นสมาชิกของหมู่
เกาะของพวกเขา.”

“นอกจากนี้ จื่อ หลิงอาจจะมีชีวติ ที่ดี เพราะ หมู่เกาะประหารนั้น


จะให้ทรัพยากรชั้นดีกบั จื่อ หลิง และหลังจากนั้น เขาก็ได้กาํ หนดวันมา
ว่าเมื่อ จื่อ หลิงอายุครบ 20 ปี พวกเขาจะมาพาจื่อ หลิงไปแต่งงาน.”

“เห้อ~~~” เมื่อพูดเสร็ จ จื่อ ซวนหยวนนั้น ก็ถอนหายใจ


“เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น” ชูเฟิ งรี บถาม

“สําหรับเรื่ องนั้น เพราะว่าข้านั้นเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ และ


ชอบหาความรู ้ต่างๆที่พวกคนไม่รู้ จึงได้รุ้วา่ สิ่ งที่หมู่เกาะประหารให้จื่อ
หลิงมันไม่ใช่ยาชั้นเลิศ เพื่อพัฒนานาง แต่วา่ มันเป็ นยาพิษ.” จื่อ ซวน
หยวนพูด

“ยาพิษอย่างนั้นหรื อ” ชูเฟิ งตกใจมาก

“ถูกต้องและยังเป็ นพิษที่รุนแรงมากอีกด้วย และพิษนัน่ นั้นมีมา


ตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว และมันจะส่ งผลอย่างยอดเยีย่ มกับผูท้ ี่มีกาย
ศักดิ์สิทธิ์ หรื อสายเลือดพิเศษ และยาพิษนัน่ มีชื่อว่า ยาพิษผนึกสวรรค์.”

“หลังจากได้รับพิษเข้าไป นั้นจะมากหรื อน้อยก็ข้ ึนอยูก่ บั ผูท้ ี่กิน


เข้าไป ในความเป็ นจริ งแล้วมันได้ดูดซี บพลังของคนที่กินยานี้ไว้ และ
เมื่ออายุถึง 20 ปี นั้นจะเป็ นเวลาที่พิษนัน่ มีพลังสู งสุ ด.”

“ในตอนอายุ 20 ปี นั้น หากได้มีอะไรกันนั้น พลังของผูท้ ี่ได้รับ


พิษนั้นจะถูกถ่ายไปให้ผทู ้ ี่มีอะไรด้วยทั้งหมด ไม่เว้นแต่ระดับพลังที่บ่ม
เพาะมา.”

“และหากมีอะไรกับใครก็ตามก่อนอายุ 20 แล้ว คนที่มีอะไรกับ


นางและผูท้ ี่ได้รับพิษก็จะตายทั้งคู่ เพราะสู ญเสี ยพลังทั้งหมดไป.” จื่อ
ซวนหยวน พูดขึ้น

“นัน่ มันพิษ บ้าอะไรกัน เจ้าหมู่เกาะเวรนั้น มันสมควรตาย!!!.”


ในตอนนั้น ชุเฟิ ง ก็เข้าใจว่าทําไมจื่อ หลิงถึงไม่ยอมมีอะไร แม้วา่ ชูเฟิ ง
นั้นจะจูบเธอหลายครั้ง แต่เธอก็กลัวอย่างมาก เป็ นเพราะเธอได้รับพิษ
อย่างนี้ไว้นี่เอง
เมื่อเขาได้รู้เรื่ องที่เกิดขึ้นกับคนที่เขารักแล้ว มันทําให้ชูเฟิ งในตอนนี้น้ นั
โกรธมาก ราบกับมีไฟลุกโชดช่วงในใจเขา

“ในตอนแรก ข้าก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็ นยาพิษผนึกสวรรค์ แต่


เมื่อหมุ่เกาะประหารได้กาํ หนดเวลามาอย่างแน่นอนว่า จะแต่งงานเมื่อ
จื่อ หลิงอายุ 20ปี และบอกให้จื่อ หลิงให้อยูห่ ่างจากเพศตรงข้าม นั้น
มันทําให้ขา้ มัน่ ใจว่าสิ่ งที่ขา้ คิดเป็ นเรื่ องจริ ง.”

“ดังนั้น ข้าจึงบอก พ่อ แม่ ของจื่อ หลิง และผูน้ าํ ตระกูลจื่อ.”

“แต่ไม่มีใครเชื่อข้าเลย พวกเขานั้นเชื่อเพียงว่า หมู่เกาะประหาร


นั้น จะทําให้พวกเขาไปสู่ แสงสว่าง.”

“และเพื่อความปลอดภัยของจื่อ หลิง ข้าจึงไม่มีทางเลือก จึงต้อง


พาจื่อ หลิงหนีออกมาอย่างลับๆ และฆ่าคนที่เห็นเหตุการณ์ท้ งั หมด ไม่
ว่าจะเป็ นเด็กหรื อคนแก่.”

“หลังจากนั้น ข้าก็ได้หนีและ มาที่รกร้างแบบนี้ เปลี่ยนชื่อ และ


สร้างเรื่ องโกหก จื่อ หลิง และอยากจะช่วยให้เธอนั้นแข็งแกร่ งขึ้น
ก่อนนที่จะกับไปภูมิภาคทะเลตะวันออก และไปเอายาแก้พิษจากหมู่
เกาะประหารนัน่ .” จื่อ ซวนหยวนพูด

“ท่านผูอ้ าวุโส ทําไมท่านถึงมาบอกข้า หรื อมีอะไรเกิดขึ้นหรื อ”


ชูเฟิ ง รู ้สึกว่าเรื่ องนี้น้ นั ไม่ง่ายเสี ยแล้ว

“พูดตามตรง เรื่ องที่ขา้ ปิ ดบังไว้น้ นั พวกเขารู ้แล้วและเป็ น


ระยะเวลาหลายปี ตระกูลจื่อ นั้นได้ ตามหาตัวข้า และ จื่อ หลิง
ในตอนนี้ ผูน้ าํ ตระกูลข้า และ ครอบครัวของจื่อหลิง ได้มาที่ทวีป
อาณาจักรแล้วพวกเขา ก้พบตัวข้า.” จื่อ ซวนหยวน พูดขึ้น
“อะไรนะ พวกเขามาที่นี่แล้วหรื อ พวกเขาจะทําอะไร เป็ นไปได้
หรื อไม่วา่ จะมาพาตัวจื่อ หลิง กลับไปแต่งงานกับนายน้อยของหมู่เกาะ
บัดซบนัน่ ” ในตอนนั้นใบหน้าของชูเฟิ งก็ได้เปลี่ยนเป็ นเย็นชาอย่างมาก
เพราะเขาไม่อาจจะทนไหว

“เห้อ ข้าพลาดเอง ข้าประเมินพวกเขาตํ่าไป.”

“หลังจากข้า และ จื่อ หลิง หนีออกมา พวกหมู่เกาะนั้นไม่ได้ทาํ


อะไรกับ ตระกูลจื่อ เลย แต่พวกเขายังให้สินสอดเป็ น ทักษะ ทรัพยากร
บ่มเพาะ และรวมไปถึงทักษะลับกับตระกูลข้า.”

“นัน่ ทําให้ ตระกูลจื่อ ของข้า เชื่อพวกเขาและคิดว่าพวกเขาจะไม่


มีวนั หักหลัง และทําให้พวกเขานั้นจะหาตัว จื่อ หลิง ไปแต่งงานกับนาย
น้อยของหมู่เกาะประหารให้ได้.”
“ในตอนนี้ พวกตระกูลจื่อพบข้าแล้ว และพวกเขาจะมาที่
อาณาจักรมังกรฟ้า จื่อ หลิง และข้าอาจจะต้องตามพวกเขากลับไป
หรื อไม่กพ็ วกเขาจะฆ่าเจ้า และฆ่าทุกคนที่อยูใ่ นทวีปเก้าอาณาจักรนี้.”

“เหตุผลที่พวกเขาจะทําอย่างนั้นก็เพราะว่า ข้าและจื่อหลิงได้เข้า
มาหลบในทวีปเก้าอาณาจักรนี้ 16 ปี เต็ม.”

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : บัดซบที่สุด ไอ้พวกหมู่เกาะประหาร มืงอยากตายทั้งโครตสิ นะ!!!

B : อย่าได้กงั วัน

A : กังวล!!! เวลาแบบนี้ยงั จะมาตลก

B : เออนั้นแหละ เด๋ วจื่อหลิงก็ได้คนรักษา


A : ใครกันว่ะ จะรักษาพิษโบราณดึกดําบรรพ์แบบนี้ได้

B : คุณหมอ พรทิพย์

A : ไอสาดดดดด!!!

B : ไม่รู้ชื่อไร แต่รักษาได้แล้วกัน ส่ วนหมู่เกาะประหารคงมีจุดจบไม่


สวยเท่าไหร่ แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นเราสนุกไปกับตอนต่อๆไปดีกว่า ต่อ
จากนี้แหละเรื่ องลาวจะยิง่ สนุก

A : เรื่ องราว!!!
บทที่ 496 - การปฏิเสธ

" อาวุโส แล้วท่านพา จื่อหลิง ออกเดินทางเมื่อไหร่ " หลังจาก


ทราบทุกอย่าง ชูเฟิ ง เงียบไปพักหนึ่ง แล้วพูดถามขึ้นอีกครั้ง

" ข้าจะพาจื่อหลิงไปวันนี้ " จื่อ ซวนหยวน ตอบ


" แล้วท่านจะบอกทุกอย่างกับจื่อหลิงหรื อเปล่า " ชูเฟิ งถาม

" เมื่อทุกอย่างมาถึงขั้นนี้ ข้าก็คงต้องบอกความจริ งกับนาง แต่ขา้


กลัวอยูอ่ ย่างเดียว ข้ากลัวว่าจื่อหลิงจะอาละวาท และไม่ยอมตามกลับไป
นางคงเลือกที่จะอยูก่ บั เจ้า ไม่วา่ เป็ นหรื อตาย เวลานั้นการกระทําของ
นางจะส่ งผลไปยังเจ้าและทุกคนใน 9 อาณาจักรตกอยูใ่ นอันตราย "

" ดังนั้น ชูเฟิ ง มันจะดีที่สุดหากเจ้ารี บไปซ่อนตัว และจะดีมาก


หากเจ้าไปซะเดี๋ยวนี้ ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ " จื่อ ซวนหยวน
กล่าว

" โอ้ว . . . . . . " แต่หลังจากได้ยนิ คําพูดของจื่อ ซวนหยวน ชูเฟิ ง


ได้แค่ยมิ้ จากนั้นกล่าวขึ้นว่า " อาวุโสข้าจะไม่หา้ มจื่อหลิง หากนาง
ต้องการไป แต่ขา้ ไม่ใช่คนขี้ขลาดที่จะหนีเอาตัวรอด เรากลับกันเถอะ "
" อ่าา เจ้าเองก็ด้ือรั้นเหมือนจื่อหลิงไม่มีผดิ "ตอบสนองของชูเฟิ ง
จื่อ ซวนหยวน นั้นไม่ค่อยแปลกใจนัก เป็ นเพราะเค้าคิดคําตอบเอาไว้
แล้ว ดังนั้น เขาจึงไม่บงั คับให้ ชูเฟิ ง เลือก ตอนนั้นเขาสลายรู ปแบบฯสี
ม่วงและมุ่งหน้ากลับหุบเขาไร้ตวั ตน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขากลับมาที่ซากนรกวิหคสวรรค์ จื่อหลิงก็ไม่อยู่


แล้ว นอกจากนั้นทุกคนที่อยูท่ ี่น้ นั ยังมองซ้ายมองขวาด้วยสี หน้าตกใจ
และดูท่าทางร้อนรน

" ชูเฟิ ง แย่แล้ว!!! จื่อหลิง ถูกใครไม่รู้จบั ตัวไป " จาง เทียนยี่ เห็น
ชูเฟิ ง เขาก็รีบทะยานขึ้นสู่ อากาศพร้อมกับพูดด้วยความประหม่า

" พวกเขาเป็ นใคร ? " ชู เฟิ งถาม


" ในกลุ่มนั้นมีชายชรา1คน ผูช้ ายหนึ่งและผูห้ ญิงหนึ่ง พวกเขา
บอกว่าเป็ นพ่อแม่ของจื่อหลิง แต่จื่อหลิงไม่เคยรู ้จกั กับพวกเขา "

" แต่คนพวกนั้นแข็งแกร่ งมากเกินไป พวกเราสู ไ้ ม่ได้เลย จึงได้แต่


ดูพวกนั้นเอาตัวจื่อหลิงไป " จาง เทียนยี่ อธิบาย

" แล้วท่านรู ้ม้ ยั ว่าเขาไปไหน " ชูเฟิ งขมวดคิว้ แน่น เพราะเขารู ้อยู่
แล้วว่าใครเป็ นคนเอาตัวจื่อหลิงไป

" ไม่รู้เลย พวกนั้นเอาตัวไปโดยไม่บอกอะไร " จาง เทียนยีส่ ่ าย


หน้า
" จื่อ หยวนซาน พา ชูเฟิ ง มาที่สาํ นักไร้ตวั ตน เราจะรอเจ้าทั้งสอง
ที่หอคอยไร้ตวั ตน " ในตอนนั้นก็มีเสี ยงของชายชราดังขึ้นมาจากทิศทาง
ของสํานักไร้ตวั ตน

" มัน . . . . . .พวกมันนี้แหละ ยังไม่ไปอีกงั้นเหรอ ? " ได้ยนิ


เสี ยงนั้น จาง เทียนยี่ และคนอื่นๆตกใจกันอย่างมาก เห็นได้ชดั ว่าความ
กลัวปรากฏอยูบ่ นใบหน้าพวกเขาไม่มากก็นอ้ ย

" อาวุโส " ตอนนั้น ชูเฟิ ง เหวีย่ งสายตาไปที่ จื่อ ซวนหยวน ที่ยนื
อยูข่ า้ งๆเขา

" ใช่แล้ว จื่อ หยวนซาน คือชื่อแท้จริ งของข้า ชูเฟิ งตามข้ามา ดู


เหมือนว่ามันจะเริ่ มขึ้นแล้ว พวกเขาไม่ได้ต้ งั ใจที่จะพาจื่อหลิงไปเพียง
อย่างเดียว เขาต้องการตัวข้าด้วย " จื่อ ซวนหยวน กล่าว
" ชูเฟิ ง มันเกิดอะไรขึ้น ? " จาง เทียนยี่ รี บถาม

" เรื่ องนี้มนั ยาว ข้าจะบอกท่านทีหลัง ตอนนี้มนั จะดีที่สุดหาก


พวกท่านรี บกลับไปยังสํานักมังกรฟ้า รอจนกว่าข้าจะจัดการเรื่ องนี้เสร็ จ
แล้วข้าจะกลับไปหาท่าน " ชูเฟิ งเกรงว่าคนอื่นๆจะได้รับผลกระทบ
ดังนั้นจึงบอกให้พวกเขากลับไปก่อน

คนอื่นๆนั้นฉลาดไม่นอ้ ย พวกเขาต่างก็เข้าใจความหมายของ ชูเฟิ ง อีก


อย่างพวกเขารู ้สึกว่าสามคนที่มามีเจตนาไม่ดี จึงไม่มีใครถามอะไรต่อ
แต่ยงั ไงก็ตาม พวกเขาต่างก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจเนื่องจากรู ้ความ
แข็งแกร่ งของคนพวกนั้น

" เจ้าหนู, พวกเขาทั้งสามล้วนแต่เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวแห่งทักษะ


พวกเขาคงไม่ใช่คนของ 9 อาณาจักร ดังนั้น อย่าได้ววู่ าม "
ในเวลานั้น ราชันย์วานรพูด เมื่อก่อนจะเห็นว่าราชันย์วานรไม่เคยเกรง
กลัวพิภพหรื อสวรรค์ แต่บดั นี้เห็นได้ชดั ว่าเค้านั้นแสนจะกังวลออกมา

มองกลับมาที่ เจียง เฮิงหยวน และคนอื่นๆก็เช่นเดียวกัน มันบอกได้เลย


ว่าพวกเขานั้นรู ้สึกกลัว เพราะผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวแห่งทักษะนั้น ไม่ใช่คนที่
พวกเขาจะต่อกรได้

" ทุกคนไม่ตอ้ งเป็ นห่วง มันเป็ นโชคชะตา หากอะไรจะเกิดมันก็


ต้องเกิด เราไม่สามารถหลีกหนีชะตากรรมไปได้ " ชูเฟิ ง ยิม้ พร้อมกับ
มองไปที่ จื่อ ซวนหยวนและกล่าว " อาวุโส เราไปกันเถอะ "

" อ่า . . " จื่อ ซวนหยวน พยักหน้าพร้อมกับคว้าไหล่ ชูเฟิ ง ลอยขึ้น


ท้องฟ้า ขณะนั้นลมกระโชกพัดผ่านอย่างรวดเร็ ว พริ บตาเดียวพวกเขาก็
มายืนอยูเ่ หนือสํานักไร้ตวั ตน
ตอนนั้น ชูเฟิ ง หยุดยืนอยูท่ อ้ งฟ้าที่สูงลิ้ว เขาสามารถมองเห็นหอคอยไร้
ตัวตนอย่างชัดเจน บนนั้นจื่อหลิงนัง่ อยูบ่ นโต๊ะนํ้าชา ข้างๆนางมีผชู ้ าย
ผูห้ ญิง รวมถึงคนแก่นง่ั ร่ วมโต๊ะอยูด่ ว้ ย

ผูช้ ายและผูห้ ญิงนั้นทั้งหล่อเหลาและงดงาม หากดูอย่างละเอียดแล้ว


พวกเขาก็มีส่วนคล้ายกับจื่อหลิงอยูบ่ า้ ง ในตอนนั้นพวกเขามองจื่อหลิง
และเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างกับนาง

สําหรับชายชรา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิม้ เขานั้นไม่พดู อะไร


ใดๆ เอาแต่ยมิ้ มองหน้าจื่อหลิง ขณะที่สาํ รวจพร้อมกับพยักหน้า

แต่เมื่อเทียบกับ ใบหน้าในปัจจุบนั ของจื่อหลิงนางนั้นดูตรงกันข้าม นาง


พยายามกวาดสายตาไปยังท้องฟ้ารอบๆ เหมือนกําลังค้นหาอะไรสัก
อย่าง
เมื่อนางพบ ชูเฟิ ง กับ จื่อ ซวนหยวน นางรี บลุกขึ้นและพุง่ ขึ้นมาหา ชู
เฟิ งกับจื่อ ซวนหยวน แล้วถาม " ท่านปู่ ที่พวกเขาพูดมาทั้งหมด เป็ น
เรื่ องจริ งงั้นหรอ ? พวกเขาคือพ่อแม่ของข้าใช่ไม๊ ตระกูลจื่อ ยังมีชีวติ
อยู่ แล้วทําไมท่านถึงหลอกข้า "

" เอ่อ . . . . . . " จื่อ ซวนหยวน ไม่รู้จะตอบนางยังไง ในตอน


นั้นหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู ้สึกผิด แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธปิ ดบัง
คําถามของจื่อหลิงแต่อย่างใด จึงได้แต่พยักหน้าเบาๆ

" ท่านปู่ ทําไมท่านถึงต้องหลอกข้า ทําไมท่านต้องพรากข้าไป


จากพ่อแม่ของข้า ทําไมท่านต้องพรากข้าออกจากครอบครัว ท่านยัง
โกหกข้าอีกว่าพวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าตายแล้ว และอยากให้ขา้ ล้างแค้น
ให้กบั พวกเขา " จื่อหลิงยังคงรัวคําถามใส่ ดว้ ยใบหน้าที่สบั สน สายตา
ของนางเต็มไปด้วยความโกรธ
" จื่อหลิง เจ้าเชื่ออาวุโสจื่อเถอะ เขามีปัญหาที่อยากจะอธิบาย
แต่ทุกอย่างที่ทาํ ก็เพื่อเจ้าทั้งนั้น " ชูเฟิ งกล่าว

หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดของ ชูเฟิ ง เพียงสั้นๆ จื่อหลิง ก็สงบลงทันที

" จื่อ หยวนซาน นํา ยู๋เอ๋ อ กับ ชูเฟิ ง ลงมานัง่ คุยที่นี่ " ในตอนนั้น
ครอบครัวของจื่อหลิง ก็พดู ขึ้นมา

" ยู๋เอ๋ อ ? " ได้ยนิ คําเรี ยกของพวกเขา ชูเฟิ งถึงกับอึ้งทันที แต่


พริ บตาเขาก็เข้าใจได้ในทันทีวา่ คงเป็ นชื่อเดิมของจื่อหลิง

" ชูเฟิ ง จื่อหลิง ทําตามที่เขาบอก " จื่อ ซวนหยวน ลงไปยืนหยุดที่


หอคอย
หลังจากนั้น ชูเฟิ ง และ จื่อหลิง ก็ลงมาด้วยกัน ด้วยการเชิญจากพ่อแม่
ของจื่อหลิง พวกเขานัง่ อยูห่ น้าโต๊ะนํ้าชา บนเก้าอี้ที่วา่ ง

ในวินานีแรกที่พบกันพ่อแม่ของจื่อหลิง ก็เริ่ มตรวจสอบ ชูเฟิ งในทันที


แม่ของนางมองเขาด้วยความอ่อนโยน และบางทีกเ็ ห็นถึงความชื่นชม
แต่สายของพ่อจื่อหลิงนั้นเต็มไปด้วยความอาฆาต เห็นได้ชดั เลยว่าเขา
นั้นไม่ชอบขี้หน้า ชูเฟิ ง
[ T/N ให้มึงไม่ชอบตลอดก็แล้วกัน อย่าเสื อกอยากได้เป็ นลูกเขยที่
หลังเหมือน ซูเฮิน ล่ะ ]

สําหรับชายชราคนที่มีพลังวิญญาณลึกลับ แม้วา่ เขาอมยิม้ ขณะที่มอง ชู


เฟิ ง แต่มนั ดูไม่เหมือนเป็ นเช่นนั้นเลย สายตาของเขานั้นไม่อาจบอก
ความรู ้สึกที่แท้จริ งของเขาได้ อาจกล่าวได้วา่ ความคิดของเขาไม่อาจ
คาดเดาได้
หลังจากที่ท้ งั 5 นัง่ ล้อมโต๊ะนํ้าชา พวกเขาก็พดู คุยกันเป็ นเวลานาน
พวกเขาบอกจื่อหลิงถึงสิ่ งต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด และยังกล่าวถึง
การแต่งงานระหว่างหลิงจื่อและหมู่เกาะประหารไร้พรหมแดน ตลอด
จนถึงเป้าหมายที่พวกเขามาเพื่อนําตัวจื่อหลิงกลับไป

หลังจากที่ทราบเรื่ องทุกอย่าง จื่อหลิงหลับตาลงอยูใ่ นความคิดอยูน่ าน


จากนั้นนางค่อยๆลุกขึ้น วินาทีแรกนางมองหน้าของชูเฟิ งพร้อมกับยิม้
เบาๆ จากนั้นก็มองไปที่ จื่อ ซวนหยวน ในที่สุดนางก็ทิ้งสายตามาที่พอ่
แม่ของนางและผูน้ าํ ตระกูล พร้อมกับกล่าว " ขอบคุณสําหรับความ
พยายามของพวกท่าน แต่ขา้ นั้นพอใจกับชีวติ ในปั จจุบนั นอกจากนี้ขา้ ก็
ยังมีคนที่ขา้ รักอยูแ่ ล้ว ดังนั้นข้าจะไม่ตามพวกท่านกลับไป "

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/
A : รักตายเลย!!! แม่นางจื่อหลิง

B : สมแล้วที่เปนนางเอกอันดับ 1 ในใจเรา เก่ง รวย สวย ฉลาด อะไร


จะเพอเฟคปานนั้น
A : ไว้รอจื่อหลิงถอนพิษออกจากร่ างได้ก่อน แล้วพี่เฟิ งจะตะล่อมใหม่

B : ก่อนไอ้เฟิ งจะได้ เด๋ วพี่Bนี้แหละจะลากจื่อหลิงไปโกดัง . . . . .

A : เลวได้อีก!!!

B : ลากไปเก็บไว้ไม่ให้เป็ นของใคร

A : หรอ!!! พ่อคนดี ศรี สยาม

บทที่ 497 - ข้าจะตามท่านกลับไป

" ยูเ้ อ๋ อ เจ้าพูดอะไร ? "

" หมู่เกาะประหารไร้พรหมแดนเมตตาตระกูลจื่อเราอย่างมาก
หากเจ้าไม่กลับไปกับเรา ตระกูลจื่อเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ? "
หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดของจื่อหลิง สี หน้าของพ่อนางก็เปลี่ยนไปอย่าง
มาก เขายืนพร้อมกับชี้หน้าจื่อหลิงขณะที่ตาํ หนิ
" ใครคือ ยูเ้ อ๋ อ ? ข้าไม่เคยจําได้วา่ ข้ามีชื่อว่า จื่อ ยูเ้ อ๋ อ ข้าชื่อ จื่อ
หลิง "

" และข้าก็ไม่เคยรู ้เรื่ องการหมั้นหมายกับหมู่เกาะประหารฯอะไร


นั้น ดังนั้นมันจึงไม่เกี่ยวข้องกับข้า หากท่านอยากแต่งท่านก็แต่งเอง
สิ !!!" จื่อหลิงลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับพ่อของนาง

" เจ้า !!! " ได้ยนิ จื่อหลิงพูดแบบนั้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วย


ความโกรธ แต่สุดท้ายก็ทาํ อะไรไม่ได้ ทันใดนั้นสายตาของเขาก็พงุ่ เป้า
มาที่ ชูเฟิ ง

เพราะเขารู ้วา่ การที่จื่อหลิงไม่ยอมไปกับพวกเขาเป็ นเพราะ ชูเฟิ ง คนที่


นางอยากอยูด่ ว้ ยก็คือ ชูเฟิ ง ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็ นเพราะ ชูเฟิ ง
" จื่อ เซียง เจ้าจะทําอะไร ? ไม่ตอ้ งห่วง ยูเ้ อ๋ อ " เห็นแบบนั้นแม่
ของจื่อหลิงรี บดึงชายเสื้ อของจื่อหลิงและพ่อนางกลับลงมานัง่ ที่เก้าอี้

แต่พอ่ ของจื่อหลิงยังคงไม่เลิกลา เขาชี้หน้าชูเฟิ งและกล่าว " คนอ่อนแอ


อย่างมัน มีค่าพอที่จะคู่ควรกับเจ้างั้นหรอ แค่ลมหายใจของข้าก็สามารถ
ทําให้ร่างมันปลิวไปได้แล้ว "

" หุบปาก!!! ข้าไม่ตอ้ งการให้ท่านยอกว่าข้าว่าเขาดีหรื อไม่ดี


สําหรับข้าจื่อหลิง เขาเป็ นคนที่ดีที่สุด คนที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด ข้าจะ
ไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้นนอกจากเขา " จื่อหลิงโกรธอย่างมาก พร้อมกับ
ตวาดใส่ พอ่ ของนาง

" จื่อ หยวนซาน ดูสิ่งที่เจ้าทําลงไปสิ เหตุผลที่ ยูเ้ อ๋ อเป็ นแบบนี้


ก็เป็ นเพราะเจ้า " ในตอนนั้น ผูน้ าํ ของตระกูลจื่อ สี หน้าเต็มไปด้วยความ
เย็นชา เขาชี้ไปที่ จื่อ ซวนหยวน พร้อมกับตําหนิ
ขณะที่ผนู ้ าํ ตระกูลจื่อตําหนิ จื่อ ซวนหยวน ก็ได้แต่กม้ หน้าโดยไม่พดู
อะไรใดๆ หากเป็ นเมื่อก่อนบางทีเขาอาจจะไฝว้กบั ผูน้ าํ ตระกูล แต่
ปัจจุบนั ผูน้ าํ นั้นได้ความช่วยเหลือจากหมู่เกาะประหารไร้พรหมแดน จึง
ทําให้พลังวิญญาณของผูน้ าํ ตระกูล เพิม่ สู งขึ้นอย่างมาก แม้แต่พอ่ แม่
ของจื่อหลิงเองยังเข้าสู่ อาณาจักร จ้าวแห่งทักษะ

" หุบปากซะ!!! เจ้าเป็ นอะไรกับข้า เจ้าเลี้ยงดูขา้ มางั้นหรอถึงได้


คิดว่าตัวเองมีสิทธิตาํ หนิปู่ของข้า "จื่อหลิงไม่สามารถทนเห็นปู่ นางถูก
ต่อว่าได้ นางจึงชี้หน้าของผูน้ าํ ตระกูลจื่อพร้อมกับต่อว่าเสี ยงดัง

ในวินาทีน้ นั ใบหน้าของผูน้ าํ ตระกูลจื่อก็เปลี่ยนไปน่าดูชม แต่เขาก็


ไม่ได้แสดงความโกรธออกมา เนื่องจากอยูใ่ นสถานะที่ตอ้ งอดทนเอาไว้
และท้ายที่สุดเขาก็ตอ้ งฝื นยิม้ ออกมาราวกับเรื่ องปาฏิหารย์ จากนั้นเขาก็
พูดกับจื่อหลิงด้วยนํ้าเสี ยงที่อ่อนโยน " ยูเ้ อ๋ อ สักวันเจ้าจะต้องเข้าใจว่า
พวกเราเป็ นคนที่ห่วงใยเจ้าที่สุด โดยคิดถึงตัวเจ้ามากที่สุด และหวังให้
เจ้านั้นมีชีวติ ความเป็ นอยูท่ ี่ดีมากกว่าใครๆ "
หลังจากนั้นเขาก็หล่อสายตามายังพ่อแม่ของจื่อหลิงและกล่าว " จื่อ เซี ยง
, ซินเยว่ นี้เป็ นปัญหาของครอบครัวเจ้า ดังนั้นพวกเจ้าควรพูดเอง แต่ไม่
ว่ายังไงจื่อหลิงก็ตอ้ งกลับไปกับเรา " หลังจากพูดจบ เขาก็หายแว้บไป
เหมือนกับผี

เมื่อผูน้ าํ ตระกูลจื่อออกไปโดยพูดเช่นนั้น จื่อหลิงรวมทั้งพ่อแม่ของจื่อห


ลิงเองก็จมอยูใ่ นความเงียบ ส่ วนด้าน จื่อ ซวนหยวนเองก็เริ่ มไม่สบายใจ
เพราะเขารู ้ความหมายของคําพูดผูน้ าํ ตะกูลจื่อ ไม่วา่ ยังไงจื่อหลิงก็ตอ้ ง
กลับไปโดยไม่สนว่าจะต้องใช้วธิ ีอะไร ไม่เพียงแต่ ชูเฟงและเขาที่จะ
ได้รับผลกระทบ แม้แต่คนที่เกี่ยวข้องกับจื่อหลิงก็ตอ้ งเดือดร้อนไปด้วย

และในที่สุด จื่อหลิงก็หลีกเลี่ยงโชคชะตาที่ตอ้ งกลับไปกับพวกเขาไม่ได้


เพราะพวกเขาบังคับนางให้ไม่มีทางเลือกใดๆ ต่อให้ใช้วธิ ีการลักพาตัว
พวกเขาก็ตอ้ งนําจื่อหลิงกลับไปให้ได้
ดังนั้น เขาจึงหันหน้ามาที่จื่อหลิง และส่ งข้อความผ่านจิตพูดบางอย่าง
กับนาง

หลังจากที่ จื่อ ซวนหยวน พูดบางอย่างกับจื่อหลิง จื่อหลิงก็มีสีหน้า


เคร่ งเครี ยดขึ้นขรู่ หนึ่งแต่นางก็ตอ้ งรี บเปลี่ยนสี หน้าไป ทันใดนั้นนาง
ปล่อยมันไปเหมือนกับลูกบอลที่ลอยไปในอากาศ

ชูเฟิ ง สังเกตุเห็นท่าทีของจื่อหลิงที่เปลี่ยนไป และยังรู ้วา่ จื่อ ซวนหยวน


อาจส่ งข้อความผ่านจิตบอกนาง เกี่ยวกับเรื่ องบางอย่าง จากนั้นเขาก็คว้า
มือของจื่อหลิงพร้อมกับยิม้ แล้วพูดว่า " ข้ารู ้วา่ เจ้าไม่อยากไป แต่เจ้า
อย่าได้กงั วลเลย "

เมื่อนางสัมผัสถึงไออุ่นจากมือชูเฟิ ง นางก็ยมิ้ ออกมาพร้อมกับโยนตัวเอง


สู่ ออ้ มกอดของชูเฟิ ง มือข้างหนึ่งนางโอบชูเฟิ งไว้ โดยขณะที่เอาหน้า
แนบหน้าอกของชูเฟิ งพร้อมกับมืออีกข้าง
" นี่ . . . . . . . "

เห็นฉากนั้น สี หน้าของพ่อจื่อหลิงก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และดูเหมือนเขา


อยากจะพูดอะไรบางอย่าง

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้พดู แม่ของจือหลิงก็ดึงแขนของเขาพร้อม
กับส่ ายหน้า

ในที่สุด พ่อจื่อหลิงก็ตอ้ งเก็บความโกรธเอาไว้ในใจ เขายืนขึ้นพร้อมกับ


เดินไปอีกด้านของคอหอยโดยที่มองออกไปอีกด้าน เพราะเขาไม่พอใจที่
เห็นฉากเลิฟซีนขั้นแรกระหว่าง ชูเฟิ ง และ จือหลิง

เขาทั้งสองโอบกอดกันเป็ นเวลานาน หลังจากผ่านไป1ชัว่ ยามเต็ม จื่อห


ลิงก็ยกหน้าขึ้นและปล่อยมือของนางออก
ในตอนนั้นนางหลับตา แต่ใบหน้าของนางในตอนนั้นเต็มไปด้วยรอยยิม้
ที่อ่อนหวาน นางมองไปที่แม่ของนางและกล่าว " ข้ายินดีจะตามท่าน
กลับไป "

" จริ งๆเหรอ ? ยูเ้ อ๋ อ ที่เจ้าพูดเป็ นเรื่ องจริ งใช่ไม๊ " ได้ยนิ คําพูด
พวกนั้น พ่อของจื่อหลิงรี บหันกลับมา ก่อนหน้านี้ที่เต็มไปด้วยใบหน้าที่
ไม่พอใจ ตอนนี้ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความปิ ติยนิ ดี

ส่ วนชูเฟิ งที่ยนื อยูข่ า้ งๆเขาไม่ได้พดู ใดๆออกมา เพราะก่อนหน้านี้ จื่อห


ลิงเขียนคําบางอย่างไว้บนหน้าอกของเขาหมดแล้ว

มันเต็มไปด้วยคําพูดของจื่อหลิงที่บอกถึงความรักที่นางมีต่อชูเฟิ ง ตลอด
จนถึงความมุ่งมัน่ ของนางที่มีต่อความรัก คําสุ ดท้ายที่นางบอก นางบอก
ว่านางจะรอเขาในภาคทะเลตะวันออก หลังจาก 4 ปี ให้เขาไปขอนาง
แต่งงาน
ถ้าตอนนั้นชูเฟิ งไม่ปรากฏตัวขึ้น และภาพที่ปรากฏคือผูค้ นของหมู่เกาะ
ประหารไร้พรหมแดน นางจะฆ่าตัวตาย ต่อให้นางตาย นางก็จะไม่ยอม
แต่งงานกับใครอื่น นอกจาก ชูเฟิ ง

ได้รู้วา่ จื่อหลิงบอกมาแบบนั้น หัวใจของชูเฟิ งนั้นแสนเจ็บปวด ยังไงก็


ตาม เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

แต่เขาสาบานว่า 4 ปี ต่อมา เขาจะต้องไปขอจื่อหลิงแต่งงานกับตระกูล


จื่อ ให้จะทําให้ทุกคนตกตะลึง หรื อไม่กฆ็ ่าตัวตายไปพร้อมกับจื่อหลิง
เพราะไม่วา่ ยังไงเขาก็ไม่ยอมให้จื่อหลิงตายไปเพียงลําพัง

" แต่ขา้ มีเงื่อนไขหลายข้อ " จื่อหลิงพูด


" เงื่อนไขอะไร ยูเ้ อ่อ ขอแค่เจ้าบอกมา พ่อเจ้าคนนี้จะยอมทํา
ตามคําขอของเจ้า ตราบใดที่เจ้ายินดีตามเรากลับไป ข้าจะเห็นด้วยกับเจ้า
ทั้งหมด " พ่อจื่อหลิงตอบ

" อย้างแรก ข้านั้นมีชื่อว่า จื่อหลิง ดังนั้นอย่าได้เรี ยกข้า ยูเ้ อ๋ อ


ให้เรี ยกข้าว่า จื่อหลิง ต่อจากนี้ไป"

" สอง หลังจากที่ขา้ กลับไปตระกูลจื่อ ข้าไม่อยากให้ใครทําเรื่ อง


ยากให้ปู่ข้าลําบากใจ "

" สาม หลังจากที่ออกจากที่นี่ ข้าหวังว่า9อาณาจักรจะไม่ได้รับ


อันตรายใดๆ ในวันหน้าข้าจะกลับมาที่แห่งนี้ หากข้ารู ้วา่ มีใครเดือดร้อน
เพราะข้า ข้าจะทําให้ท่านเห็นว่า ข้านั้นกล้าที่จะฆ่าตัวตาย "
" สุ ดท้ายข้าต้องการ ลูกแก้วสวรรค์ 10 ล้านเม็ด ให้ได้มา
เมื่อไหร่ ข้าก็จะตามพวกท่านออกไปตอนนั้น " จื่อหลิงพูดเสี ยงดัง
ชัดเจน

" อะไรนะ ? ลูกแก้วสวรรค์ 10 ล้าน ? ยูเ้ อ๋ อ. . . ไม่ ไม่ หลิง


เอ๋ อ เจ้ากําลังทําสิ่ งยากให้กบั ข้า "

" ข้าตกลงกับ3เงื่อนไขที่เจ้าว่ามา แต่อย่างที่ 4 มันช่าง . . . . . .


"

" เงื่อนไขที่สี่ไม่ตอ้ ง " ในตอนนั้น ชูเฟิ งพูดขึ้นมา เขาเข้าใจดี


ว่าจื่อหลิงนั้นต้องการลูกแก้วสวรรค์ 10 ล้านเม็ด เพื่อนํามันมาให้กบั
เขา

แต่เขานั้นไม่ได้ตอ้ งการมัน เขาไม่ตอ้ งการความช่วยเหลือของคนใน


ครอบครัว จื่อหลิง เพราะเขารู ้วา่ ครอบครัวของนาง นั้นดูถูกเขา พวกเขา
ดูถูกพลังวิญญาณของเขา และยิง่ ไปกว่านั้นยังดูถูกกําผืชของเขา
ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////////
A : จะดูถูกอะไรก็ให้มนั น้อยๆหน่อย ยอมรับว่าไอ้เฟิ งยังอ่อน แต่พอ่ ชู
เฟิ ง ต่อให้มาทั้งภาคทะเลตะวันออกเลย ขนาดขอทานว่าเก่งนักเก่งหนา
ยังกลัวจนขี้แตกขี้แตน

B : เออๆ ให้มนั น้อยๆหน่อยเหอะ ไม่ตอ้ งถึงพ่อมันหรอก แค่อาจารย์


ของ ชูเฟิ ง มันก็กลัวกันจนหง๋ อและ

C : จูเกอ หลิวหยุน สิ นะ

A - B : มืงมาทางไหน กลับไปทางนั้นเลย

A : จะพูดก็พดู เหอะ มีอีกคนที่เป็ น 1 ใน 10 สุ ดยอดอาจารย์ ของ


สํานัก4คาบสมุทร ที่ไม่เคยรับศิษย์มาก่อน ยังอยากจะได้ ชูเฟิ งเป็ นลูก
ศิษย์จนตัวสัน่

B : เด๋ วสักวันตระกูลจื่อ มันจะได้เสี ยใจเหมือนกับ ซูเฮิน ไม่คงไม่ขอ


ไรทั้งนั้น พาหนีไปอยูด่ ว้ ยกันแม่งเลย
A : ดีดีดี!!!

B : เด๋ วพรุ่ งนี้ลุยสุ สานจักรพรรดิ ไล่เก็บโปเกม่อนเทพให้ครบ

บทที่ 498 - พรรคมารทลายราตรี

ถ้าพื้นเพของ ชูเฟิ ง ดีกว่านายน้อยแห่งหมู่เกาะประหาร และการ


บ่มเพาะพลังของเขาแข็งแกร่ งกว่านั้น เหตุการณ์ในวันนี้คงจะไม่เกิดขึ้น
ผลมันจะต้องออกมาตรงกันข้ามอย่างแน่นอน

ดังนั้น ชูเฟิ ง จะเห็นได้ชดั เจนผ่านทางพ่อแม่ของ จื่อ หลิง ว่า


ตระกูลจื่อนั้น เป็ นคนประเภทยึดติดในอํานาจมากขนาดไหน

เพื่ออํานาจแล้วนั้น พวกเขายอมทําได้ทุกอย่าง แม้แต่ยอมสละ


ความสุ ขของ จื่อ หลิง เพื่ออํานาจ หากพ่อแม่และตระกูลของนางรักนาง
จริ งๆ นั้น พวกเขาคงจะไม่บงั คับให้นางเลิกกับคนที่นางรัก และให้ไป
แต่งกับคนที่นางไม่ชอบอย่างแน่นอน

ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงไม่ตอ้ งการความช่วยเหลือใดๆ จากพ่อแม่และ


ตระกูลของ จื่อ หลิง เขาต้องการที่จะแข็งแกร่ งขึ้นด้วยตัวของเขาเอง เขา
จะทําให้พอ่ แม่ และครอบครัวของ จื่อ หลิง มองเขาใหม่ และทําให้พวก
เขาได้รู้วา่ การตัดสิ นใจของพวกเขาในวันนี้มนั ผิดพลาด

ชูเฟิ ง คือคนที่ จื่อ หลิง รัก เขาคือคนที่เหมาะสมกับนางมากที่สุด


นอกจากเขาแล้วนั้น ก็ไม่มีผใู ้ ดอีกที่จะเหมาะสมกับนาง

“ชูเฟิ ง เจ้า……” เมื่อเห็น ชูเฟิ ง ผลักออกมา ใบหน้าของ จื่อ


หลิง ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เหมือนนางกําลังจะกล่าวอะไรออกมา
แต่นางก็ไม่ได้กล่าวออกมาแต่อย่างใด
***** พรึ่ บ *****

ก่อนที่นางจะกล่าวจบนั้น ชูเฟิ ง ผายมือของเขาออกไป และคว้าร่ าง


อันงดงามของ จื่อ หลิง มาไว้ในอ้อมกอดของเขา จากนั้นเขาก็เปิ ดริ ม
ฝี ป่กของเขา และบรรจงจูบไปที่ริมฝี ปากสี ชมพูระเรื่ อของนางอย่าง
ดูดดื่ม

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ชูเฟิ ง จูบ จื่อ หลิง แต่นี่เป็ นครั้งแรกที่นางไม่ได้


ปฏิเสธเขา นางกอดไปคอของ ชูเฟิ ง แน่น จูบตอบกลับอย่างดูดดื่ม นาง
ต้องการที่จะมอบทุกอย่างของนางให้แก่ ชูเฟิ ง จากใจจริ งของนาง

“สารเลว !!” เมื่อเห็นเช่นนี้ พ่อของ จื่อ หลิง ระเบิดโทสะออกมา


เขาสะบัดมืออย่างรวดเร็ ว หมายที่จะโจมตี ชูเฟิ ง
ในตอนแรกนั้น ด้วยคําสัง่ ของผูอ้ าวุโสของหมู่เกาะประหารนั้น
เขาได้หา้ มไม่ให้ จื่อ หลิง มีสมั พันธ์ใดๆ กับเพศตรงข้าม แต่การกระทํา
ของ ชูเฟิ ง นั้น ได้ละเมิดซึ่งคําสัง่ ดังกล่าว หากพวกเขารู ้เรื่ องเข้า ชูเฟิ ง
จะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน

“จื่อ เซียง !!” แม่ของ จื่อ หลิง กล่าวออกมา เพื่อหยุดการกระทํา


ของพ่อ จื่อ หลิง นางกล่าวต่ออย่างแผ่วเบาว่า “ปล่อยให้ ยูเ้ อ๋ อ ได้อยูใ่ น
อ้อมกอดของคนที่นางรักเถอะ”

หลังจากได้นินคํากล่าวเหล่านั้น ใบหน้าของพ่อ จื่อ หลิง ก็


เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว เขาลดมือของเขาลง และไม่ใส่ ใจต่อ
เหตุการณ์ตรงหน้าของเขาอีก

หลังจากจูบอย่างดูดดื่มแล้วนั้น ชูเฟิ ง ไม่ผละออกจากนางในทันที


เขาก้มลงไปที่ขา้ งหูของนาง และกล่าวอย่างแผ่วเบา “รอข้า…”
จากนั้นเขาก็ปล่อย จื่อ หลิง ออกจากอ้อมกอดของเขา
เมื่อเห็นเช่นนั้น แม่ของ จื่อ หลิง ก็เดินเข้ามา และคว้าไปที่ขอ้ มือ
ของนาง จากนันพวกเขาก็พงุ่ ทะยานหายลับไปในอากาศ

“พ่อจะไม่ตาํ หนิเจ้า เพราะถึงอย่างไร เจ้าก็ทาํ เพื่อประโยชน์ของ


ตระกูลเรา ยูเ้ อ๋ อ !!” [ T/N เห็นแก่ตวั ชิบหาย!!! ]

“แต่เมื่อเจ้ากลับไปยังตระกูลจื่อ ในตอนนั้น เจ้าอย่าได้ทาํ ผิดพลาด


อีก เพราะหมู่เกาะประหารคือครอบครัวของเรา พวกเขาดูแลตระกูลจื่อ
ของเราเป็ นอย่างดี” พ่อ จื่อ หลิง กล่าว

จื่อ ซวนหยวน ไม่ได้ใส่ ใจการกระทําของพวกเขา เขาก้าวไปที่ ชู


เฟิ ง และวางฝ่ ามือบนบ่าของ ชูเฟิ ง พร้อมกับกล่าวว่า “ต่อจากนี้ไป ทุก
อย่างขึ้นอยูก่ บั เจ้า ข้าเชื่อว่าเจ้าจะสามารถทําได้สาํ เร็ จในอนาคต”
หลังจากกล่าวจบ จื่อ ซวนหยวน ก็จากไปยังเส้นทางเดียวกับพ่อ
ของ จื่อ หลิง เพียบพริ บตาเดียวเขาก็หายไป โดยไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย
พลังของเขา

เมื่อพ่อแม่ของ จื่อ หลิง และ จื่อ ซวนหยวน ออกมาได้สกั ระยะนั้น


พวกเขาก็ได้ใช้ราชรถที่งดงามในการเดินทางกลับสู่ ทะเลตะวันออก เพื่อ
พบกับผูน้ าํ ของหมู่เกาะประหาร

ราชรถที่งดงามนั้นรวดเร็ วมาก เพราะมันคือยอดยุทธภัณฑ์ จากการ


ต่อสู่ ในหลายๆ ครั้ง ทําให้มนั สามารถเพิ่มความเร็ วขึ้นได้ ในตอนนี้น้ นั
ความรวดเร็ วของมันราวกับความเร็ วของแสง ความเร็ วระดับนี้แม้แต่
ผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์กไ็ ม่อาจตามทัน

แต่ในขณะนั้น ราชรถที่งดงามก็หยุดอยูก่ ลางอากาศ เพราะที่


ด้านหน้านั้นมี ชายชราสวมชุดคลุมสี ดาํ ยืนขวางเส้นทางอยู่
“เจ้าเป็ นใคร !?” การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ วนี้ ทําให้พอ่ แม่ของ
จื่อ หลิง ตกใจอย่างมาก พวกเขารี บก้าวลงมาจากราชรถที่งดงามอย่าง
รวดเร็ ว

ในเวลาเดียวกันนั้น จื่อ หลิง และ จื่อ ซวนหยวน ก็ได้กา้ วตามลงมา


เช่นกัน

“หึ หึ…..เจ้าจะต้องเสี ยใจ” ชายชราสวมชุดคลุมสี ดาํ ไม่กล่าว


ตอบคําถาม เขากลับยิม้ แปลกๆ ออกมาแทน

“เสี ยใจอะไร !!” ผูน้ าํ ของตระกับจื่อ ขมวดคิ้วแน่น เพราะเขาไม่


สามารถตรวจสอบพลังของชายชราชุดคลุมสี ดาํ นี้ได้ นัน่ หมายความเขา
จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
“เสี ยใจที่เจ้าพานางไป เพราะในตอนจบมันจะไม่สวยนัก” ชาย
ชรายิม้ อย่างเย็นชา และกล่าวกับ จื่อ หลิง ว่า “โอ้ แม่นาง เจ้าควรจะ
ปฏิเสธที่จะไปพร้อมกับสวะเหล่านี้ เพราะหมู่เกาะประหารคือสวะที่
รังเกียจ พวกมันปิ ดบังความทุเรศของพวกมันเอาไว้ ดังนั้นการที่สวะทั้ง
สามคนนี้ให้เจ้าแต่งงานกับพวกเขา มันเป็ นการทําร้ายเจ้า”

“ไอ้บา้ นี่เป็ นใครกัน ถึงได้กล้าพูดจาใหญ่โตเช่นนี้ !! ข้าจะฉี กปาก


มันออกซะ !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น พ่อของ จื่อ หลิง โกรธมาก เยาสะบัด
แขนของเขาอย่างรวดเร็ ว พลันบรรยากาศรอบตัวของเขาก็บิดเบี้ยว
พลังงานมหาศาลแผ่กระจายออกมาจากร่ างกายของเขา

ในขณะนั้นท้องฟ้าพลันแปรปรวน เสี ยงคํารามของท้องฟ้าดังขึ้น


อย่างรุ นแรง เมื่อผูเ้ ชี่ยวชาญเริ่ มปลดปล่อยพลังของพวกเขานั้น มันราว
กับการลงทัณฑ์ของสวรรค์

อย่างไรก็ตาม ชายชราชุดคลุมสี ดาํ ยิม้ อย่างเย็นชา และกล่าว


ออกมาว่า “มดปลวกเช่นเจ้า กล้าต่อกรกับข้างั้นรึ ”

ในเวลานั้น เมื่อชายชรากล่าว แววตาของเขาก็เปลี่ยนไป จิตสังหาร


ที่รุนแรงก็พวยพุง่ ออกมามหาศาล ท้องฟ้าที่แปรปรวนอยูน่ ้ นั ยิง่ บ้าคลัง่
ขึ้นไปอย่างเห็นได้ชดั

โลกในสายตาของพ่อของ จื่อ หลิง เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว


บนพื้นดินมีแต่ซากศพ มหาสมุทรกลายเป็ นทะเลเลือด ดวงอาทิตย์ดบั
แสง พระจันทร์เปลี่ยนเป็ นสี แดงฉาน

“อ๊าาาา….” เมื่อเห็นเช่นนั้น พ่อของ จื่อ หลิง กระอักเลือดออก


มาอย่างแรง พลังอํานาจของเขาสู ญสลาย เขาลมล้งอย่างรวดเร็ ว

“จื่อ เซียง !!” แม่ของ จื่อ หลิง รี บเข้ามาประคองเขาไว้ไม่ให้ลม้ ลง


“ภาพลวงตา !!” เมื่อผูน้ าํ ตระกูลจื่อ พบว่ามันคือภาพลวงตา เขาก็
ประสานมือพร้อมกับกดลงมา และตะโกนออกมาว่า “สลาย !!”

“อืม…” เมื่อเห็นวิธีการของผูน้ าํ ตระกูลจื่อใช้น้ นั ชายชราชุดคลุม


สี ดาํ ก็ยมิ้ ออกมาอย่างเย็นชา เพียงไม่นาน ผูน้ าํ ตระกูลจื่อก็กระอัก
เลือดออกมาอีกคน

“ท่านผูน้ าํ !!” แม่ของ จื่อ หลิง รี บเข้าดูอาการอย่างรวดเร็ ว มือซ้าย


ของนางประคองพ่อของ จื่อ หลิง มือขวาประคองผูน้ าํ ตระกูล

หลังจากนั้น เมื่อต้องเผชิญกับชายชราชุดคลุมสี ดาํ นั้น ผูน้ าํ ตระกูล


จื่อ เช็ดเลือดออกจากมุมปากของเขา และกล่าวถามด้วยใบหน้าที่
หวาดกลัวว่า “ผูอ้ าวุโส……ท่านเป็ นใคร !?”
“เจ้าอยากรู ้อย่างนั้นรึ ว่าข้าคือใคร !! ข้าจะให้พวกเจ้าได้รู้”

ทันใดนั้น ชายชราก็หวั เราะอย่างบ้าคลัง่ ท้องฟ้าพันสัน่ ไหว แผน


ดินสัน่ สะเทือน ราวกับว่าภัยพิบตั ิกาํ ลังจะเกิดขึ้น

จากนั้น ท้องฟ้าก็แยกออกจากกันและมีคาํ สี่ คาํ ลอยลงมา

ทั้งสี่ คาํ เป็ นสี แดงฉาน ราวกับถูกฉโลมไปด้วยเลือดของสิ่ งมีชีวติ


กว่าหมื่นชีวติ ทั้งสี่ คาํ อ่านได้วา่

พรรคมารทลายราตรี ………

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/
A : เปนไงมึง. . . . กลัวขี้คาดากเลยอ่ะดิ นี้แค่เบาะๆนะ

C : แล้วถ้า เบาะเบาะเบาะ อ่ะจะขนาดไหน

B : ห่ะ!!!

A : มึงไปขี้ไป!!! ไอC

B : เล่นไม่ดูบรรยากาศ เค้ากําลังสะใจแม่งขัดอารมณ์ชิบหาย

B : สงสัยตอนคลอด พยาบาลทําแม่งหล่น

A : นั้นดิ สมองแม่งคงไม่ปกติ คิดได้ไง เบาะเบาะเบาะ

บทที่ 499 – โอกาสในปัจจุบนั

“พรรคมารทลายราตรี !!”
เมื่อเห็นคําทั้งสี คาํ ที่แดงฉานราวกับสี เลือดนั้น ใบหน้าของผูน้ าํ
ตระกูลจื่อ พ่อแม่ของ จื่อ หลิง หรื อแม้แต่ จื่อ ซวนหยวน ก็เต็มไปด้วย
ความหวาดกลัว

เพราะทุกคนรู ้ดีวา่ พรรคมารทลายราตรี คือตัวแทนของความ


แข็งแกร่ งในทะเลตะวันออก ในหลายปี ก่อนนั้น ไม่มีใครที่สามารถ
เอาชนะพวกเขาได้ แม้แต่ในปั จจุบนั นั้น หมู่เกาะประหารเองก็ไม่
สามารถเอาชนะพวกเขาได้เช่นกัน

พรรคมารทลายราตรี เปรี ยบได้กบั ดวงตะวันยามเที่ยงที่พร้อมจะเผา


ไหม้ทุกสรรพสิ่ ง ไม่ตอ้ งกล่าวถึงความแข็งแกร่ งของประมุขพรรค เพียง
แค่สีปราการของพรรค พวกเขาก็พลังเทียบได้กบั เหล่าผูน้ าํ ของขุม
อํานาจอื่นๆ

พรรคมารทลายราตรี คือขุมพลังอันดับหนึ่งของทะเลตะวันออก
และไม่มีขมุ พลังใดที่จะกล้าท้าทายพวกเขา
จนกระทัง่ วันหนึ่ง ประมุขพรรคพรรคมารทลายราตรี ได้เสี ยชีวติ ลง
สี่ ปราการได้ต่อสู ก้ นั เองเพื่อแย่งชิงตําแหน่งประมุขพรรค จนทําให้
พรรคมารทลายราตรี ได้แยกตัวออกเป็ นหลายส่ วน จนในที่สุดพรรคมาร
ที่ต้ งั อยูก่ ว่าพันปี ก็จางหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์

อย่างไรก็ตาม แม้วา่ พรรคมารทลายราตรี จะหายไปจากหน้า


ประวัติศาสตร์ แต่ทุกๆ คนก็ยงั คงรู ้ดีวา่ พรรคมารทลายราตรี คือ ขุม
พลังที่น่ากลัวที่สุดของทะเลตะวันออก

ภายในเขตทะเลตะวันออกนั้น ไม่มีขมุ อกนาจใดกล้าติดตามทําลาย


ล้างพรรคมารทลายราตรี เพราะพวกเขาหวาดกลัวต่อการกลับมาล้าง
แค้น

แม้แต่ในปัจจุบนั นั้น ก็ไม่มีใครกล้าที่จะทําให้พรรคมารทลายราตรี


ต้องโกรธแค้น แม้แต่ขมุ กําลังที่แข็งแกร่ งเองก็เช่นกัน แม้วา่ สี่ ปราการ
ของนิกายจะขัดแย้งกันเอง แต่หากพวกเขาร่ วมมือกันนั้น ก็ไม่มีขมุ พลัง
ใดสามารถต้านทานพวกเขาได้

และเมื่อชายชราชุดคลุมสี ดาํ ผูน้ ้ ี ได้แสดงพลังที่แข็งแกร่ งออกมา


เช่นนี้น้ นั ย่อมหมายความว่า เขาไม่ใช่สมาชิกทัว่ ๆ ไปของพรรคมาร
ทลายราตรี อย่างแน่นอน

***** ฝุ่ บบบบ *****

ผูต้ ระกูลจื่อ คุกเข่าลงกัยพื้นอากาศต่อหน้าชายชราชุดคลุมสี ดาํ


พร้อมกับประสานมือขึ้นคาราวะ และกล่าวออกมาว่า “ข้ามีตาหามีแวว
ไม่ ผูอ้ าวุโส ข้าไม่ทราบว่าท่านคือคนของพรรคมารทลายราตรี ผูอ้ าวุโส
ได้โปรดอภัยให้กบั ตระกูลของข้าด้วย”

“ผูอ้ าวุโสโปรดเมตตา !! ผูอ้ าวุโสโปรดเมตตา !!”


ในเวลานั้น พ่อแม่ของ จื่อ หลิง ก็คุกเข่าลงกับอากาศ และกล่าวขอ
อภัยจากชายชราชุดคลุมสี ดาํ

เมื่อเห็นพ่อแม่ และผูน้ าํ ตระกูลของตัวเองทําเช่นนั้น จื่อ หลิง


ขมวดคิ้วแน่น แววตาของนางเต็มไปด้วยความรังเกียจ

นางไม่เคยคิดเลยว่า เมื่ออยูต่ ่อหน้าผูท้ ี่แข็งแกร่ งนั้น คนจากตระกูล


ของนางจะทําเช่นนี้ เพราะเมื่อพวกเขาอยูต่ ่อหน้าผูท้ ี่อ่อนแอกว่า พวก
เขาจะแสดงออกถึงพลังอํานาจที่ยงิ่ ใหญ่ และเผด็จการ แต่เมื่ออยูภ่ ายใต้
สถานการณ์เช่นนี้ แม้วา่ ความแข็งแกร่ งของพวกเขาที่มีอยู่ พวกเขาก็ไม่
แสดงมันออกมา

อาจกล่าวได้วา่ ในตอนนี้ จื่อ หลิง ไม่ได้มีความรู ้สึกที่ดีต่อตระกูล


ของนาง แต่มนั เป็ นความรู ้สึกรังเกียจอย่างชัดเจน
“หื ม…..ขยะก็ยงั คงเป็ นขยะ จงใช้ชีวติ ของพวกเจ้าเยีย่ งขยะ
ต่อไป”

“ไม่ตอ้ งกลัวไป ข้าจะไม่ฆ่าพวกเจ้า เพราะพวกเจ้าไม่มีค่าพอ ที่จะ


ตายด้วยมือของข้า”

“เมื่อเห็นสุ นขั ที่จงรักภักดีต่อหมู่เกาะประหารเช่นนี้ ข้าจะบอก


พวกเจ้าไว้สกั อย่าง อย่าได้คิดว่าหมู่เกาะปะหารจะแข็งแกร่ งไปได้ตลอด
เพราะภายในเขตทะเลตะวันออกนั้น มีขมุ พลังอํานาจอีกมากที่สามารถ
จัดการพวกมันได้”

“ไปซะ พูดกับสวะอย่างพวกเจ้า มันทําให้ขา้ เสื่ อมเสี ยเกียรติของ


ข้า”
ชายชราสวมชุดคลุมสี ดาํ กล่าวอย่างเย็นชา พลันสภาพโดยรอบก็
กลับไปเป็ นอย่างเดิม พร้อมๆ กับที่ชายชราคนนั้นหายตัวไป

“ท่านผูน้ าํ ผูเ้ ฒ่าคนนั้นได้จากไปแล้ว ความแข็งแกร่ งของเขาน่า


กลัวมาก เป็ นไปได้วา่ วิหคเพลิงศิกดิ์สิทธิ์จะถูกสังหารโดยเขา หรื อบาง
ทีเขาอาจจะเป็ น…….” พ่อของ จื่อ หลิง กล่าวออกมาด้วยความ
หวาดกลัว

หลังจากนั้น ผูน้ าํ ตระกูลจื่อก็ยนื ขึ้น เขาไม่ได้กล่าวตอบแต่อย่างใด


หลังจากปาดเหงื่อบนหน้าผากออกนั้น เขาหันไปกล่าวกับแม่ของ จื่อ
หลิง ว่า “รี บออกจากที่นี่ และกลับไปยังเขตทะเลตะวันออกให้เร็ วที่สุด”

ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ไม่ได้รับรู ้ถึงสนาการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ตระกูลของ


จื่อ หลิง ในเวลานั้นเขายืนอยูบ่ นหอคอยไร้ตวั ตน ด้วยหัวใจที่เต็มไป
ด้วยความสับสน
ชูเฟิ ง ไม่สามารถเข้าใจได้ถึงพลังของหมู่เกาะประหาร จากที่เขา
ได้รับฟังมานั้น หมู่เกาะประหารคือขุมพลังที่แข็งแกร่ งที่สุดของทะเล
ตะวันออก แม้แต่ตระกูลจื่อ ที่แข็งแกร่ งยังให้ความเคารพแก่พวกเขา
ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงไม่สามารถจินตนาการถึงความแข็งแกร่ งของหมู่เกาะ
ประหารได้

เวลาสี่ ปีมันสั้นเกินไป หากเขาต้องเผชิญหน้ากับขุมพลังที่


แข็งแกร่ งเช่นนั้น ในอนาคตแม้วา่ เขาจะแกร่ งขึ้น แต่โอกาสที่เขาจะชนะ
ก็ยงั คงห่างไกลอีกมาก เขาจะทําทุกๆ อย่างเพื่อแข็งแกร่ งขึ้น ไม่วา่
ความหวังจะน้อยนิดเพียงใด เขาก็จะคว้าโอกาสนั้นมา

“ชูเฟิ ง เจ้าเป็ นอะไรไหม !?” จู่ๆ เสี ยงของ จาง เทียนยี่ ก็ดงั ขึ้นมา
จากด้านหลังของเขา
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมานั้น เขาก็พบกับ ฉี เฟิ งหยาง , เจียง เฮิงหยวน
, ราชาวานร และคนอื่นๆ กําลังขึ้นมาบนหอคอยไร้ตวั ตน พวกเขากล่าว
ถาม ชูเฟิ ง ด้วยความกังวล

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคําถามของทุกๆ คนนั้น ชูเฟิ ง ก็กล่าวตอบ


ออกไปอย่างไม่ปิดบัง

เมื่อพวกเขารู ้เรื่ องราวของ ชูเฟิ ง นั้น พวกเขาต่างบอกให้ ชูเฟิ ง ลืม


เรื่ องของ จื่อ หลิง ไป เพราะการที่จะต้อฝเผชิญหน้ากับขุมพลังที่
แข็งแกร่ งเช่นนั้น แทบจะไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่นอ้ ย และการลืม
เรื่ องราวบอง จื่อ หลิง จะทําให้ ชูเฟิ ง นั้นเจ็บปวดเพียงเวลาสั้นๆ ไม่ตอ้ ง
จมไปกับความทรมานที่แสนยาวนาน

ชูเฟิ ง เพียงยิม้ ตอบบางๆ เท่านั้น เขารู ้ดีวา่ ทุกๆ คนต่างหวังดีกบั เขา


แต่เขาได้ตดั สิ นใจไปแล้ว และจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างเด็ดขาด
แต่เขาก็รู้ดีวา่ จื่อ หลิง เป็ นคนเช่นไร นางนั้นจะทําตามที่นางกล่าว
อย่างแน่นอน ดังนั้น อีกสี่ ปีข้างหน้า ไม่วา่ เขาจะอ่อนแอขนาดไหน เขาก็
ยังต้องไปที่นนั่ ไม่วา่ จะเป็ นการส่ งตัวเองไปตายก็ตาม เพราะเขาจะไม่
ยอมให้ จื่อ หลิง ต้องตายเพื่อเขา

ถึงแม้วา่ อนาคตจะยังไม่แน่นอนนั้น ชูเฟิ ง ยังคงมีความหวังอยู่


ไม่ใช่เพราะสิ่ งอื่นใด แต่เป็ นเพราะ สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในร่ างกายของเขา

ถึงแม้วา่ ความต้องการของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์จะมีมาก และนัน่ ทําให้


ชูเฟิ ง ต้องปวดหัวอยูบ่ า้ ง แต่ตราบใดที่เขามีทรัพยากรเพียงพอ ด้วยพลัง
ของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์น้ นั ก็สามารถทําให้เขาเพิ่มการบ่มเพาะพลังขึ้นได้
อย่างรวดเร็ ว

และในตอนนี้ สุ สานจักรพรรดิ์คือความหวังอย่างแท้จริ ง ด้วยพลัง


ของไข่มุกทั้งสองที่ ชูเฟิ ฝ ประสบมานั้น ชูเฟิ ง ก็คาดหวังว่าภายใน
สุ สานจะมีสมบัติที่ทรงพลังอื่นๆ อีก
หลังจากนั้นไม่กี่วนั จักรพรรดิ์ราชวงศ์เจียได้มายังอาณาจักรมังกร
ฟ้า และมาที่สาํ นักไร้ตวั ตน พร้อมกับกองทัพของราชศ์เจียงที่แข็งแกร่ ง

พวกเขาล้วนมีพลังเช่นเดียวกับ เจียง เฮิงหยวน คือมีพลังระดับเจ็ด


ขั้นแดนสวรรค์ ซึ่งมีอยูเ่ ก้าคน ที่มีพลังทัดเทียมกับอัจฉริ ยะ ที่มีชื่อเสี ยง
โด่งดังไปทัว่ ทั้ฝเก้าอาณาจักร กู๋ เทียนเซิ น

ดังนั้น จะเห็นได้วา่ ความแข็งแกร่ งของราชวงศ์เจียงนั้นยอดเยีย่ ม


มาก ภายในเก้าอาณาจักรนั้น ราชวงศ์เจียงคือขุมพลังที่แข็งแกร่ งที่สุด

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////////
A : ใครมันจะเก่งเกินหน้าเกินตาคนที่เกี่ยวข้องกับบักเฟิ ง

B : แต่พี่เฟิ งเรายังไม่รู้เรื่ องเลย คิดว่าหมู่เกาะประหารเก่งสุ ดซะงั้น!!!


C : โทรไปบอกพี่เฟิ งสิ

A - B : มืงเอาเบอร์มนั มาดิ!!!

C:...........

บทที่ 500 – มุ่งหน้าสู่ สุสานจักรพรรดิ

หากก่อนหน้านี้ชูเฟิ งได้เห็นผูค้ นจากราชวงศ์เจียงแน่นอนว่าเขาจะต้อง


ตกใจในความแข็งแกร่ งของพวกเขา

แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาได้เห็นความแข็งแกร่ งของครอบครัว จือห


ลิง มันทําให้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ในคํากล่าวของ จือหลิง ที่วา่

ผูค้ นในทวีป 9 อาณาจักรนั้นมีความอ่อนแอมากเกินไปนั้นจึงเป็ น


เหตุผลว่าทําใมทวีป 9 อาณาจักรนั้นถึงไม่ได้อยูใ่ นสายตาของพวกเขา

ฉะนั้นแล้วมันจึงเป็ นสิ ทธิของพวกเขาที่จะเปิ ดเผยตัวตนและได้รับการ


ยกย่องจากผูค้ นในทวีป 9 อาณาจักรก็ได้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่ทาํ
เช่นนั้นเพราะการทําเช่นนั้นมันจะทําให้เขาไม่สามารถทําอะไรได้
สะดวกมากมายนัก

และนอกจากนี้ ยังมีผเู ้ ชียวชาญเพียงแค่คนเท่านั้นที่มีความแข็งแกร่ ง


เช่นเดียวกับ เจียง เฮิงหยวน และยังมีอีกหนึ่งผูเ้ ฒ่าที่แข็งแกร่ งที่สุดใน
หมู่พวกเขา

การปรากฏตัวของท่านผูเ้ ฒ่านั้นชัง่ ดูน่าเกลียดยิง่ นัก ใบหน้าของนั้นเต็ม


ริ้ วรอยมากมายราวกับหน้าของขนมปั งนึ่งโดยสิ้ นเชิง! เมื่อมองดูจาก
ระยะไกลศีรษะของเขานั้นดูเหมือนจะล้านแต่จริ ง ๆ แล้วนั้นเขามีเส้น
ผมแต่เพียงแค่เหลือไม่กี่เส้นเท่านั้นและเมื่อเข้าไปใกล้ ๆ ปากของเขาก็
จะส่ งกลิ่นเหม็นออกมาแถมยิง่ ไปกว่านั้นแม้แต่ฟันของเขาก็ยงั ไม่มี
เหลือ

แต่อย่างไรก็ตามแม้ลกั ษณะของเขานั้นจะดูน่าเกลียดแต่ระดับพลัง
วิญญาณของเขานั้นนับได้วา่ เป็ นของจริ ง ความแข็งแกร่ งของเขานั้น
ไม่ได้ด่อยไปกว่าจักรพรรดิของราชวงศ์เจียงและยังเห็นได้ชดั ว่าเขายัง
อยูใ่ นระดับเดียวกันกับราชาลิงยักษ์เขามีระดับพลังวิญญาณอยูท่ ี่ระดับ
8 ของแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณ

นอกจากนี้การปรากฏตัวของท่านผูเ้ ฒ่านั้นมันทําให้ผคู ้ นจากราชวงศ์


เจียงต้องทําความเคารพต่อท่านผูเ้ ฒ่าและด้วยคําพูดของพวกเขามันทํา
ให้ชูเฟิ งได้รู้วา่ ท่านผูเ้ ฒ่าผูน้ ้ ีน้ นั เป็ นถึงลุงของจักรพรรดิเจียงองค์
ปัจจุบนั แม้วา่ ตําแหน่งของเขาในตระกูลนั้นจะเป็ นรองบรรพชนเก่าแก่
ของราชวงศ์เจียงอยูแ่ ต่กต็ อ้ งบอกว่าในสมัยราชวงศ์เจียงนั้นเขาได้มีชีวติ
อยูม่ ายาวนานที่สุด และนอกจากนี้ยงั ได้ยนิ มาอีกว่าเขานั้นได้มีชีวติ อยู่
มานับ 150 ปี แล้ว

โดยปกติแล้วนั้นผูเ้ ชียวชาญทักษะยุทธ์ส่วนใหญ่จะมีชีวติ อยูไ่ ม่ถึงร้อยปี


นี่จึงอาจนับได้วา่ เป็ นสิ่ งที่มหัศจรรย์เป็ นอย่างมากสําหรับท่านผูเ้ ฒ่าผูน้ ้ ีที่
มีอายุยาวนานถึง 150 ปี

แต่อย่างไรก็ตามในขณะนี้สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของชูเฟิ งมากที่สุดหา
ใช่ท่านผูเ้ ฒ่าที่มีอายุมานาน 150 ปี ไม่ แต่เป็ นท่านผูเ้ ฒ่าผมขาวที่สวม
เสื้ อสี ทองและใบหน้าของเขานั้นยังเต็มไปด้วยความเมตตากรุ ณา
ต่างหาก กลิ่นอายของท่านผูเ้ ฒ่าผูน้ ้ ีน้ นั เป็ นจริ งกล้าแกร่ งกว่าราชาลิง
ยักษ์และจักรพรรดิราชวงศ์เจียง

ตามที่ชูเฟิ งได้คาดเอาไว้ท่านผูเ้ ฒ่าผูน้ ้ ีน้ นั จะต้องเป็ นผูป้ กครองที่แท้จริ ง


ของราชวงศ์เจียงอย่างแน่นอน เขาน่าจะเป็ นอดีตจักรพรรดิของราชวงศ์
เจียง และแน่นอนว่าในตอนนี้เขายังได้เป็ นถึงบรรพชนเก่าแก่ของ
ราชวงศ์เจียงระดับพลังวิญญาณของเขานั้นอยูใ่ นระดับที่ 9 แดนสวรรค์
และอีกเพียงแค่กา้ วเดียวเท่านั้นเขาก็จะสามารถก้าวข้ามไปยังดินแดน
เทพสงคราม

นอกจากนี้บรรพชนเก่าแก่จากนิกายโลกวิญญาณ กู่ เทียนเซิ น


เช่นเดียวกับ ประมุขนิกายโลกวิญญาณก็ได้มาถึงและรวมตัวกับราชวงศ์
เจียง

ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ไปตรวจสอบซากศพของวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่
ตายแล้วแต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่ได้พบอะไรเป็ นพิเศษ นอกจากนี้
บรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงก็ได้กล่าวคําหนึ่งออกมาซึ่ งมันเป็ นคํา
กล่าวที่ชูเฟิ งรู ้สึกเปรมปรี ด์ ิ นั้นก็คือพวกเขาได้เตรี ยมพร้อมเสร็ จ
เรี ยบร้อยแล้วและกําลังจะเปิ ดเข้าไปในสุ สานจักรพรรดิในเร็ ว ๆ นี้
หลังจากที่พวกเขาได้รวมกลุ่มหลายผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์กนั เรี ยบร้อย
แล้วพวกเขาก็ได้ออกเดินทางทันทีและในเวลาไม่นานนักพวกเขาก็ได้
เดินทางมาถึงเทือกเขาวิหคเพลิง และนอกเหนือไปจากนี้พวกเขายัง
ได้รับรู ้อีกว่าบรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงนั้นยังเป็ นถึงผูเ้ ชื่อมต่อฯ
ชุดคลุ่มสี ม่วง

ด้วยความสามารถของบรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงและอสู รราชันย์
วานร พวกเขาสามารถค้นพบตําแหน่งของประตูทางเข้าสุ สานจักรพรรดิ
ได้อย่างง่ายดาย และในที่สุดพวกเขาก็ได้กา้ วเข้าสู่ สุสานจักรพรรดิ

“ชูเฟิ งข้าได้ยนิ ข่าวเรื่ องระหว่างเจ้าและจือหลิงเรี ยบร้อยแล้ว”


“เชื่อข้า พวกเขาจะต้องเสี ยใจ ที่พรากนางไปจากเจ้า”

“ฉะนั้นจงอย่าได้ทอ้ แท้ ตราบใดที่เจ้ายังมีความมุมานะในการ


พัฒนาตนเองต่อไปเลื่อยๆอยูล่ ่ะก็, ข้าสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าใน
อนาคตของเจ้านั้นจะต้องประสบความสําเร็ จนับไม่ถว้ นอย่างแน่นอน”

ในขณะที่ผคู ้ นได้กา้ วเดินเข้าไปข้างหน้าทันใดนั้นชูเฟิ งก็ได้รับข้อความ


ทางจิต เขาได้เอียงสายตาของเขาเพื่อควานหาต้นตอของเสี ยงและใน
ที่สุดเขาก็ได้พบว่ามันคือบรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงที่กาํ ลังหันมา
ที่เขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิม้

เมื่อหันหน้าไปยังการให้กาํ ลังใจของบรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียง
มันทําให้ชูเฟิ งต้องยิม้ กลับไปเพื่อเป็ นการแสดงมารยาทของตน และใน
ขณะนั้นมันทําให้ชูเฟิ งมีมุมมองที่ดีมากต่อเขา

แต่ดว้ ยเหตุผลบางอย่างมันทําให้ชูเฟิ งรู ้สึกไม่ค่อยสบายใจมากเท่าไรนัก

เพราะชูเฟิ งไม่ทราบว่าเหตุใดบุคคลที่แข็งแกร่ งที่สุดในราชวงศ์เจียงถึง


ได้เอาใจใส่ เขามากขนาดนั้น และยังปล่อยให้อสู รราชันย์วานร มายืนอยู่
เคียงข้างเขาเพื่อคอยปกป้องและดูแลความปลอดภัยให้แก่เขาตั้งแต่เข้า
มายังในสุ สานจักรพรรดิ

และในกลุ่มของพวกเขานั้นยังไม่มีผเู ้ ชียวชาญคนไหนที่มีระดับพลัง
วิญญาณอ่อนแอกว่าชูเฟิ งทั้งสิ้ น พวกเขาทุกคนล้วนอยูใ่ นระดับที่ 5
ของเขตแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณ
ฉะนั้นความเร็ วของพวกเขานั้นจึงเป็ นไปได้อย่างรวดเร็ วมาก เพียงแค่ใน
พริ บตาพวกเขาก็ได้เดินผ่านชั้นของสัญลักษณ์ตราปี ศาจ และใน
ท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้หยุดลงในด้านหน้าของพื้นที่ทะเลสาบและมอง
กลับไปยังชูเฟิ ง

“เจ้าวิญญาณชัว่ ร้ายจงมองมาที่ขา้ ” ในทันทีผเู ้ ชียวชาญของ


ราชวงศ์เจียงที่อยูใ่ นระดับที่ 6 ของเขตแดนสวรรค์กไ็ ด้กระโดดสู งขึ้น
และบินไปบนอากาศอยูเ่ หนือนํ้าทะสาบ

*** ฟู่ มมม *** ในเวลาเดียวกันที่ได้มีผเู ้ ชียวชาญขึ้นไปยืนอยูบ่ นเหนือ


นํ้าของทะเลสาบ, ก็ได้มีจุดแสงสี เขียวที่เป็ นเหมือนราวกับลูกศรพุง่
ขึ้นมาเหนือนํ้าของทะเลสาบแล้วมุ่งหน้าไปสู่ผเู ้ ชียวชาญ
“หยุด!”

แต่ในขณะนั้นผูเ้ ชียวชาญก็ได้เหวีย่ งแขนของเขา และปล่อยอํานาจ


สวรรค์ที่ไม่มีที่สิ้นสุ ดกดลงไปที่แสงลูกศรสี เขียวและทําลายมัน

*** ฟู่ มมม *** หลังจากนั้นก็ได้มีเสี ยงคํารามโกรธดังออกมาจาก


ทะเลสาบ และพื้นผิวนํ้าก็ได้เกิดการระเบิดขนาดใหญ่และกลายเป็ น
ละอองนํ้าพุง่ สู งขึ้นไปยังอากาศและในขณะเดียวกันนั้นก็ได้มีตายักษ์คู่
หนึ่งพร้อมกับแสงสี เขียวปรากฏผ่านชั้นของละอองนํ้าออกมา มันคือ
สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่ซ่อนตัวอยูใ่ นทะเลสาบมันได้ทาํ การจู่โจม
ไปยังผูเ้ ชียวชาญของราชวงศ์เจียงผ่านชั้นละอองนํ้า

“เหอะ” แต่ถึงแม้วา่ วิญญาณที่ชวั่ ร้ายจะทําการจู่โจมต่อผูเ้ ชียว


ชาญของราชวงศ์เจียงเขาก็ไม่ได้แสดงความกลัวออกมาเลยแม้แต่นอ้ ย
เขาได้กาํ หมัดข้างขวาของเขาเอาไว้แน่นและควบแน่นเต็มไปด้วยอํานาจ
ของสวรรค์ และเหวีย่ งมันออกไป กําปั้ นของเขาได้กลายเป็ นกําปั้ นพิเศษ
ที่มนั ส่ องสว่างราวกับแสงอาทิตและพุง่ ออกไปหลายทิศทาง

“ย่า!” เขาได้ตะโกนเสี ยงดังและระเบิดหมัดของเขาออกไป


อย่างรวดเร็ ว

*** บูมมม *** ระเบิดดังก้อง พลังอํานาจของมันนั้นได้ฉีกอากาศและ


ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์โดยรอบทะเลสาบ

*** ว้าาาา *** ทันใดนั้นก็ได้มีเสี ยงร้องโหยหวนอันน่าอนาถใจดัง


ออกมาพร้อมกับความรู ้สึกที่ดูเป็ นอันตรายในทะเลสาบก็ได้หายไป
ภายในพริ บตา
มันได้สูญสลายไปต่อหน้าผูเ้ ชียวชาญของราชวงศ์เจียงทั้ง ๆที่สาํ หรับชู
เฟิ งแล้วนั้นมันเป็ นวิญญาณชัว่ ร้ายที่มีประสิ ทธิภาพและแข็งแกร่ งแต่มนั
กับถูกทําให้ระเบิดได้ภายในหนึ่งฝ่ ามือ

ฉาก ๆ นี้ได้อยูใ่ นความคาดหวังของผูเ้ ชียวชาญทุกคนอยูแ่ ล้วเพราะใน


สถานที่แห่งนี้พวกเขาทุกคนล้วนเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯทั้งสิ้ น พวกเขาสามารถ
ตรวจจับความแข็งแรงของวิญญาณชัว่ ร้ายได้วา่ วิญญาณชัว่ ร้ายนั้นเป็ น
ิ ญาณเท่านั้น มันจึงได้จบั อยูใ่ นสายตา
เพียงแค่ระดับ 1 แดนสวรรค์วญ
ของพวกเขา

แต่ดว้ ยเหตุน้ ีชูเฟิ งจึงได้ถอนหายใจด้วยอารมที่โล่งอก เพราะวิญญาณชัว่


รายตนนี้มนั เป็ นเพียงแค่ระดับ 1 แดนสวรรค์เท่านั้นจึงเป็ นความจริ งที่
พวกเขาสามารถฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย แต่ชูเฟิ งนั้นยังไม่มีวนั ลืม
วิญญาณชัว่ ร้ายที่น่ากลัวที่ปรากฏในด้านหน้าของเขาในวันนั้น มันเป็ น
เพียงแค่สองคู่ดวงตาสี ดาํ และสี เขียวกลิ่นอายของมันนั้นทําให้ชูเฟิ งตก
อยูใ่ นความหวาดกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดในช่วงเวลานั้น

“โฮโฮโฮโฮ นี่ยอ่ มเป็ นสุ สานจักรพรรดิเป็ นแน่! ข้าไม่เคยคิดเลย


ว่าในสถานที่ทุรกันดารแบบนี้จะมีสุสานจักรพรรดิอยูด่ ว้ ย! ชัง่ หน้า
แปลกใจยิง่ นักไม่นึกเลยว่าสวรรค์จะประทานพรให้กบั ข้าเช่นนี้! ฮ่า ๆ ๆ
ๆ…” แต่ทนั ใดนั้นก็ได้มีเสี ยงเก่าแก่ดงั ขึ้นมาในหูของชูเฟิ ง

ทันทีที่ได้ยนิ เช่นนั้นชูเฟิ งรู ้สึกตกใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด เขาได้รีบกวาด


สายตาของเขาไปยังสภาพแวดล้อมโดยรอบเพราะเขาสามารถบอกได้วา่
ใครเป็ นเจ้าของเสี ยงนี้ มันจะต้องเป็ นเสี ยงของชายชราชุดดําที่ปรากฏตัว
อยูใ่ นทะเลเพลิงเป็ นแน่และในตอนนี้เขาได้กลับมาแล้ว

“มีอะไรผิดปกติอย่างนั้นรึ ชูเฟิ ง?” พอเห็นการแสดงออกที่


ตื่นตกใจกลัวของชูเฟิ งบรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงถึงกับต้องขมวด
คิว้ เบา ๆ และถามกลับไปอย่างหงุดหงิด

“ชูเฟิ งเจ้าค้นพบอะไรอย่างนั้นรึ ?” ในขณะเดียวกันทุกคนได้


จับจ้องสายตาของพวกเขาไปที่ชูเฟิ งและถามอย่างหงุดหงิด

การสํารวจสุ สานจักรพรรดิในครั้งนี้น้ นั พวกเขาทุกคนต่างรู ้วา่ ชูเฟิ งนั้น


คือกุญแจสําคัญในการสํารวจสุ สานจักรพรรดิเพราะว่า ชูเฟิ งนั้นได้รับ
มรดกของสุ สานจักรพรรดิไปแล้วถึงสองทักษะเร้นลับจึงอาจกล่าวได้วา่
ชูเฟิ งจะต้องมีชะตากรรมร่ วมกันบางอย่างกับสุ สานจักรพรรดิ ดังนั้น
ด้วยเหตุน้ ีการที่ชูเฟิ งยิง่ เดินเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ สาํ หรับพวกเขาก็จะยิง่
มีการเก็บเกี่ยวที่ดีมากขึ้นเท่านั้น

ฉะนั้นแล้วการที่ชูเฟิ งมีปฏิกิริยาที่ผดิ ปกติมนั ก็ยง่ิ ทําให้พวกเขารู ้สึก


กังวลมากเท่านั้น และพวกเขายังคิดอีกว่าชูเฟิ งอาจได้คน้ พบกับอะไร
บางอย่าง

“มันไม่มีอะไร” เมื่อเห็นปฏิกิริยาของทุกคนชูเฟิ งจึงส่ ายหัว


และยิม้ เล็กน้อยกลับไปพร้อมกับคิดในใจว่า “ข้าคงจะคิดไปเอง”

เพราะชูเฟิ งมันใจอย่างชัดเจนว่าเขาได้ยนิ เสี ยงของชายชราชุดดําในหัว


ของเขาแต่เมื่อหันไปรอบ ๆ เขากับไม่เห็นผูใ้ ดและต้นต่อของเสี ยง
ดังนั้นเขาจึงมันใจว่าเขาอาจคิดไปเอง

“เจ้าเด็กน้อยจงกลับออกไปซะสุ สานจักรพรรดิมนั ไม่ใช่ที่


สําหรับเด็กเจ้าจะเข้ามาวิง่ เล่น ถ้าเจ้ายังดึงดันที่จะเข้ามามันก็หมายความ
ว่าเจ้ากําลังจะนําพาตัวเองไปสู่ ความตาย”
“จงกลับออกไปและรอ หลังจากที่ขา้ เข้าไปยังส่ วนลึกของ
สุ สานจักรพรรดิแล้วนั้นข้าจะให้ผลประโยชน์แก่เจ้าบางส่ วนเป็ นรางวัล
สําหรับการที่เจ้านําพาข้ามายังสุ สานจักรพรรดิ”

แต่ทนั ใดนั้นเสี ยงของผูเ้ ฒ่าชุดดําก็ได้ดงั ก้องขึ้นมาในหูของชูเฟิ งอีกครั้ง


และในครั้งนี้ชูเฟิ งก็ได้รู้ตวั เองแล้วว่ามันไม่ใช่วา่ เขานั้นคิดไปเองแต่มนั
คือการส่ งข้อความทางจิต มันเป็ นข้อความทางจิตที่ผเู ้ ฒ่าชุดดําส่ งมายัง
เขา
ReadMGA.blogspot.com
#################################
#################################
###############################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : นั้นและครับท่านผูช้ มทํามาแทบตายแต่กลับจะโดนหุบสมบัติ
B2 : ยังใง ๆ เนี่ยมันกล้าทํากับพระเอกเราเช่นนี้ 5555 เดี้ยวสวย ๆ

B1 : หื้มได้ข่าวว่าพี่คนนี้เขาเก่งนะเห็นว่าอยูใ่ นระดับที่กา้ วข้ามแดน


สวรรค์วญ
ิ ญาณไปแล้ว

B2 : เห้ยเก่งแค่ไหนก็แพ้ขอทานอยูด่ ีอะบอกเลย ขอทานอ่ะระดับ


เหนือชั้น

B3 : ขนาดนั้นเลยหรอว่ะ!!!

B1 : ใช่มนั ขนาดนั้นเลยหรอ B2

B2 : ง่าเดี้ยวคอยดูเอากันเองล่ะกันนะ

#################################
#################################
###############################
…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้
ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 501 – ทักษะหงส์สาคืนชีพ

“บัดซบ นี่หรื อว่าตาเฒ่าที่แสนน่ากลัวนั้นได้เข้ามายังสถานที่


แห่งนี้!”

“ด้วยความแข็งแกร่ งของเขามันเป็ นที่แน่นอนว่าเขาจะได้รับ


ผลประโยชน์อย่างมากในสุ สานจักรพรรดิ แล้วถ้าขืนเขายังเดินลึกเข้าไป
แบบนี้มนั ไม่ได้หมายความว่าเราจะสู ญเสี ยโอกาlในการเก็บเกี่ยวของเรา
ที่นี่อย่างนั้นหรอกหรื อ?”
ทันทีชูเฟิ งได้สบถคําสาปแช่งออกมาเพราะเขาไม่เชื่อว่าชายชราที่สวม
ใส่ ชุดสี ดาํ นั้นจะแบ่งสมบัติบางอย่างในสุ สานจักรพรรดิให้เขาจริ ง และ
ถึงแม้วา่ ตาเฒ่านั้นจะแบ่งให้เขาจริ งมันก็ตอ้ งเป็ นสมบัติที่ไม่ได้เป็ นสิ่ งมี
ค่าอะไรอย่างแน่นอน

หลังจากที่พวกเขาทั้งสองไม่ได้เป็ นคนที่เกี่ยวข้องใด ๆ ต่อกันและการที่


พวกเขาคนใดคนหนึ่งได้คน้ พบสมบัติโดยบังเอิญ มันก็ไม่มีความจําเป็ น
ใด ๆ ที่จะต้องแบ่งสมบัติให้กบั อีกคนหนึ่ง

แต่ดว้ ยเหตุน้ ีชูเฟิ งจึงไม่สามารถพูดคําใด ๆ ออกมาได้ เขาแสร้งทําเป็ น


ไม่รู้ไม่ช้ ีและยังคงก้าวเดินลึกเข้าไปในสุ สานจักรพรรดิกบั ราชวงศ์เจียง

ในช่วงต้นยังคงโชคดีและสถานการณ์โดยรอบยังคงอยูใ่ นความปกติ
พวกเขาได้พบวิญญาณชัว่ ร้ายเพียงแค่ไม่กี่ตนเท่านั้น และพวกมันก็ได้
ถูกฆ่าตายโดยพวกเขา ขณะที่เดินเข้าไปลึกมากขึ้นเลื่อย ๆ ก็ได้มีหนึ่งดัง
ขึ้นในหมู่พวกเขา

“ช้าก่อน” อสู รราชันย์วานรวานรได้กล่าวและเดินขึ้นมาอยูเ่ บื่อง


หน้าของกลุ่มพร้อมพูดว่า “มันมีอะไรบางอย่างผิดปกติ”

“มันมีอะไรอย่างนั้นรึ ?” เมื่อได้ยนิ คําพูดเช่นนั้นมันทําให้ผคู ้ น


ตกอยูใ่ นความวิตกกังวลและถามอย่างระแวง

“ความจริ งแล้วนั้นมันควรที่จะมีผปู ้ กครองและอุปสรรคใน


สุ สานจักรพรรดิมากกว่านี้ซิ แต่ในเส้นทางที่พวกเราได้ผา่ นพ้นมานั้น
กับค้นพบเพียงแค่เหล่าบริ วารเท่านั้น และนอกจากเหล่าบริ วารพวกนั้น
แล้วพวกเราก็ไม่ได้คน้ พบอุปสรรคใด ๆ เลยในการเดินทาง” อสู ร
ราชันย์วานรวานร กล่าว
“ท่านอาวุโสมันอาจเป็ นไปได้วา่ ได้มีใครบางคนเข้ามายัง
สถานที่แห่งนี้ก่อนหน้าพวกเราอย่างนั้นหรื อไม่? ถึงได้ไม่มีอุปสรรค
ใด ๆ มาขวางกั้นพวกเราในการเดินลึกเข้าไปในสุ สาน?” องค์
จักรพรรดิถามกล่าว

“มันมีความเป็ นไปได้มากกับสถานการณ์ที่เป็ นอยูใ่ นตอนนี้”


อสู รราชันย์วานรวานรกล่าว

“ท่านต้องล้อข้าเล่นแน่ ๆ มันจะเป็ นแบบนั้นไปได้เช่นไร ถ้ามัน


เป็ นมาอย่างที่ท่านกล่าวว่าจริ งอย่างน้อยมันย่อมต้องมีหลักฐานและ
ร่ องรอยบางอย่างหรื อไม่กส็ ิ่ งก่อสร้างถูกทําลายทิ้งเอาไว้เบื่องหลังบ้างซิ
แต่นี่มนั กลับไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่พวกเราสามารถตรวจสอบได้เลย
แม้แต่สิ่งก่อสร้างก็ยงั อยูด่ ีไม่มีร่องรอยไหนถูกทําลายเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
รวมไปถึงสภาพแวดล้อมทุกอย่างก็ยงั คงปกติดี” องค์จกั รพรรดิถามด้วย
ความรู ้สึกสงสัย

“และถ้าหากว่าคนผูน้ ้ นั มีความสามารถที่แข็งแกร่ งและยังเป็ นผู ้


เชื่อมต่อฯที่มีทกั ษะจิตวิญญาณที่กล้าแกร่ งบางทีเขาอาจจะหลีกเหลี่ยง
จากผูเ้ ฝ้าประตูสุสานและยังไม่ทิ้งร่ องรอยใด ๆ ในการทําลายประตู
ทางเข้าไว้เบื่องหลังได้ล่ะ.”

“จงคิดดูให้ดีดี สิ่ งที่คอยเฝ้าสถานที่แห่งนี้เอาไว้น้ นั ก็คือเหล่า


วิญญาณที่ชวั่ ร้าย และพวกมันก็มีนิสยั ดุร้ายมาตั้งแต่กาํ เนิดมิหนําซํ้าพวก
มันยังเปลี่ยนสายพันธุ์ของตัวเองได้ดว้ ยการฆ่าและกัดกินกันเอง”

“แต่ในทางกลับกันวิญญาณชัวร้ายที่พวกเราได้พบเจอก่อนหน้า
นี้น้ นั มีท้ งั แข็งแกร่ งและอ่อนแอ ซึ่ งพวกมันล้วนอยูใ่ นความสงบทั้ง ๆ ที่
ตามความเป็ นจริ งแล้วพวกมันควรที่จะต่อสู ก้ นั เองเพื่อกัดกินอีกฝ่ าย”

“มันจึงมีเพียงแค่เหตุผลเดียวเท่านั้น นั้นก็คือได้มีใครบางคนแยก
พวกมันออกจากกันและบังคับให้พวกมันคอยไปเฝ้าระวังในจุดต่าง ๆ
ของประตูอย่างเป็ นระเบียบและสงบ แล้วยิง่ ไปกว่านั้นในตอนนี้ประตู
ทุกบานในสถานที่ที่น้ ียงั ถูกทําลายไปจนหมดสิ้ นโดยที่พวกมันยังไม่ทนั
ได้รู้ตวั ฉะนั้นแล้วพวกมันจึงทําได้แต่ยนื เฝ้าประตูอยูแ่ บบนั้นอย่างเป็ น
ระเบียบและสงบเพื่อรอคอยเพียงแค่คาํ สัง่ ต่อไปเท่านั้น” อสู รราชันย์
วานรอธิบาย

“นี่…”

ในทันทีในกลุ่มของพวกเขาบางคนเริ่ มที่จะแสดงอาการที่ไม่สบายใจ
มากขึ้นเพราะคําพูดของ อสู รราชันย์วานร นั้นดูสมเหตุสมผลกับ
สถานการณ์ในตอนนี้เพราะว่าธรรมชาติของวิญญาณชัว่ ร้ายนั้นมัน
ไม่ได้มีนิสยั ที่เป็ นระเบียบและสงบ พวกมันไม่ควรที่จะถูกแยกออกจาก
กันและเป็ นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่พวกมันจะเฝ้าระวังอยูใ่ นพื้นที่ของ
พวกมันอย่างเป็ นระเบียบและสงบ ฉะนั้นแล้วไม่วา่ ใครก็ตามที่สามารถ
ควบคุมมันได้เช่นนี้พวกเขาจะต้องมีความสามารถที่พริ กฟ้าทําลาย
สวรรค์ได้อย่างแน่นอน

“ท่านผูอ้ าวุโสท่านคิดมากเกินไป ความแข็งแกร่ งของเจ้าของ


สุ สานจักรพรรดิน้ ีน้ นั ได้อยูเ่ กินความคาดหมายของพวกเรา มันเป็ นไป
ไม่ได้ที่เราจะมีความเข้าใจในกลไกลของเขา”

“บางทีเขาอาจได้วางกลไกลบางอย่างเอาไว้สาํ หรับการแยก
วิญญาณชัว่ ร้ายให้ออกห่างจากกันก็เป็ นได้ และอีกอย่างพวกมันก็เป็ น
เพียงแค่วญ
ิ ญาณชัว่ ร้ายเท่านั้นมันคงจะไม่หนีพน้ จากการตรวจจับของ
พวกเราไปได้หรอกอย่างนั้นใช่หรื อไม่?”
หลังจากที่องค์จกั รพรรดิได้กล่าวทุกคนก็ลว้ นพยักหน้าของพวกเขาตาม
ด้วยความรู ้สึกที่ผอ่ นคลายมากขึ้น เพราะหลังจากพวกเขาได้รับรู ้วา่ ใน
เวลาหนึ่งหมื่นปี ได้มีข่าวลือมากมายนับไม่ถว้ นว่าเจ้าของสุ สาน
จักรพรรดิน้ นั เป็ นผูใ้ ช้อาํ นาจร่ างกายศักดิ์สิทธิ์และการดํารงอยูข่ องเขา
นั้นเป็ นสิ่ งลึกลับและพวกเขาไม่อาจที่จะทําความเข้าใจกับความลึกลับนี้
ได้

“ข้าก็หวังว่ามันจะเป็ นดัง่ เช่นที่ท่านกล่าว.” อสู รราชันย์วานร


เริ่ มรําคาญที่จะต้องเถียงกับผูค้ น เขาจึงได้เบะปากของเขาและไม่พดู มาก
อีกต่อไปพร้อมกับเดินไปข้างหน้า

“อย่าได้ชะล่าใจไปคําพูดของราชันย์วานรนั้นฟังดูมีเหตุผล พวก
เจ้าควรที่จะระมัดระวังกันมากขึ้นกว่านี้อย่าได้หลงเชื่อเพียงแค่ข่าลือ
หมื่นปี ที่ยงั พิสูจน์ไม่ได้ พวกเจ้าต้องระมัดระวังให้มากขึ้นในตอนนี้”
เพียงแค่ในเวลานั้นบรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงก็ได้เอยคําพูดขึ้น

หลังจากที่พวกเขาได้ยนิ คําพูดเหล่านั้นพวกเขาทุกคนต่างก็พยักหน้า
เพราะพวกเขาต่างก็รู้ดีวา่ ไม่วา่ จะความแข็งแกร่ งหรื อแม้แต่ตาํ แหน่งของ
เขา เขาก็ได้อยูใ่ นระดับที่สูงกว่าทุกคนในที่น้ ีแม้แต่อสู รราชันย์วานรก็
ยังด่อยกว่าเขา นั้นจึงเป็ นเหตุที่วา่ ไม่มีใครในที่น้ ีกล้าที่จะไม่เชื่อฟัง
คําพูดของเขา

แต่ทนั ทีในขณะนี้มีเพียงแค่ชูเฟิ งเท่านั้นที่เชื่อในคําพูดของอสู รราชันย์


วานร เพราะสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในตอนนี้น้ นั ล้วนเป็ นฝี มือของ
ชายชราชุดดําที่เข้ามายังสุ สานจักรพรรดิก่อนหน้าพวกเขา

ชูเฟิ งคิดได้วา่ มีเพียงแค่สองเหตุผลเท่านั้นที่วา่ ทําใดชายชราชุดดําถึง


ทําลายประตูทางเข้าแต่กลับไม่ฆ่าผูเ้ ฝ้าประตู

อย่างแรก นั้นเป็ นเพียงเพราะว่าเขาไม่ตอ้ งการให้ใครรู ้วา่ เขาได้เข้ามายัง


สถานที่แห่งนี้มนั จึงเป็ นเหตุผลที่วา่ ทําใมเขาถึงได้ส่งข้อความทางจิตไป
ยังชูเฟิ งแทนที่จะเปิ ดเผยตัวตนอย่างอลังการ

อย่างที่สอง มันเป็ นเพราะเขาจงใจที่จะปล่อยเหล่าผูเ้ ฝ้าประตูพวกนั้น


เอาไว้เพือ่ หยุดยั้งชูเฟิ งและคนอื่นๆ และเตือนให้พวกเขาได้รับรู ้ถึง
อันตรายที่กาํ ลังรอพวกเขาอยูใ่ นทางข้างหน้าและควรที่จะล่าถอย
ออกไป

แต่ไม่วา่ อย่างไรก็ตามชูเฟิ งไม่กล้าที่จะบอกพวกเขาถึงตัวตนของชาย


ชราชุดดําเพราะถ้าชูเฟิ งได้กล่าวออกไปนั้นแน่นอนว่าพวกเขาจะต้องล่า
ถอยออกไปอย่างไม่มีทางเลือกเมื่อรู ้ถึงขีดจํากัดของตนเอง
แต่ยงั ใงก็ตามชูเฟิ งไม่ตอ้ งการให้เรื่ องแบบนั้นเกิดขึ้นในตอนนี้เพราะไม่
ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาได้นึกถึง จือหลิง และครอบครัวของนางรวมไปถึง
สัญญาที่ได้ให้ไว้กบั นาง มันทําให้เขาไม่อยากที่จะพลาดโอกาสในการ
เก็บเกี่ยวในสุ สานจักรพรรดิในครั้งนี้

ฉะนั้นแล้วชูเฟิ งจึงไม่ได้เอยคําพูดใด ๆ ออกมาและก้าวเดินต่อไปอย่าง


ไม่รู้ไม่ช้ ีกบั สถานการณ์โดยรอบ แต่หลังจากที่เดินลึกเข้าไปเลื่อย ๆ แล้ว
นั้นนอกจากได้พบเจอเหล่าผูเ้ ฝ้าประตูที่แข็งแกร่ งแล้วนั้นพวกเขาก็
ไม่ได้พบเจอสมบัติใด ๆ เลยแม้แต่ชิ้นเดียว

จนกระทัง่ เมื่อพวกเขาเดินลึกเข้าไปเรื่ อยๆ ในสุ สานจักรพรรดิพวกเขาก็


ได้เจอสถานที่ที่หนึ่งมันจึงทําให้พวกเขาก้าวเดินกันอย่างระมัดระวังมาก
ขึ้น
ในด้านหน้าของชูเฟิ งและคนอื่น ๆ นั้นพวกเขาได้คน้ พบพระราชวัง
พระราชวังหนึ่ง มันชัง่ งดงามและดูมีบารมีแต่บนยอดของพระราชวังนั้น
ได้มีรูปปั้นแปลกประหลาดมันเป็ นรู ปปั้ นของนกขนาดใหญ่ ลักษณะ
ของมันนั้นชัง่ เหมือนกับนกยูง แต่มนั ดูสวยกว่านกยูงมากนักเป็ นร้อย
เท่าพันเท่า และยิง่ ไปกว่านั้นมันชัง่ ดูองอาจเป็ นไหน ๆ

และในทางข้าวของพระราชวังนั้นก็ได้มีแผ่นหิ นเขียนจาลึกเอาไว้วา่ “
ทักษะเร้นลับหงส์สาคืนชีพ ขึ้นอยูก่ บั โชคของเจ้าเท่านั้นที่จะได้รับมัน”

“ทักษะเร้นลับ! มันคือทักษะเร้นลับ!” ในทันทีที่ได้รู้พวกเขาก็


ได้รู้สึกประหลาดใจยิง่ นักเพราะหลังจากที่พวกเขาทุกคนได้รู้วา่ ทักษะ
เร้นลับนั้นคือสิ่ งที่กล่าวขานกันว่าเป็ นทักษะในตํานาน มันเป็ นยิง่ กว่า
สมบัติล้ าํ ค่าเป็ นไหน ๆ และการที่พวกเขาได้มาค้นพบมันโดยบังเอิญ
เช่นนี้นบั ว่าเป็ นบุญหล่นทับหัวของพวกเขาโดยแท้

แต่ถึงแม้วา่ ทุกคนจะรู ้สึกตื่นเต้นมากอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดที่ได้เห็นคําจาลึก


เขียนเอาไว้วา่ เป็ นทักษะเร้นลับแต่กไ็ ม่มีใครกล้าแม้แต่คนเดียวที่จะเข้า
ไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะพวกเขาต่างได้รับรู ้วา่ บุคคลที่จะได้รับ
ทักษะเร้นลับนี้มีเพียงแค่ชูเฟิ งเท่านั้นและทุกอย่างมันก็ได้ข้ ึนอยูก่ บั
บรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงจะตัดสิ นใจ

มันเป็ นเพราะว่าพวกเขาทุกคนต่างรู ้วา้ ถ้าหากทักษะเร้นลับจะเลือกหนึ่ง


ในพวกเขาละก็ความเป็ นไปได้มากที่สุดมันก็ตอ้ งเป็ นชูเฟิ ง หลังจากที่ชู
เฟิ งได้มีอยูแ่ ล้ว 2 ทักษะเร้นลับในตํานาน

นอกจากนี้ในคําจาลึกหน้าพระราชวังนี้ มันยังได้ระบุขอ้ ความไว้อีกว่า


“ขึ้นอยูก่ บั โชคของเจ้าเท่านั้นที่จะได้รับมัน.” มันยิง่ เป็ นที่ชดั เจนเข้าไป
ใหญ่วา่ มันจะต้องเป็ นชูเฟิ งอย่างแน่นอน เพรามันคงเป็ นไปไม่ได้ที่การ
ที่บุคคลที่ได้ทกั ษะเร้นลับในตํานานมาแล้วถึง 2 ทักษะจะเป็ นคนที่อบั
โชค

“พวกเจ้าทั้งหมดรออยูท่ ี่นี่ ข้าและชูเฟิ งจะเข้าไปด้วยกัน” บรรพ


ชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงพูด

“ไม่ขา้ จะไปพร้อมกับน้อยชายของข้าด้วย” อย่างไรก็ตามอสู ร


ราชันย์วานรได้กล่าวปฏิเสธในทันที

“อสู รราชันย์วานรเราสองคนนั้นเป็ นถึงผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดม่วงและ


ยังมีเพียงกันแค่ 2 คนเท่านั้น หนึ่งในพวกเราจะต้องอยูใ่ นที่แห่งนี้เพื่อ
คอยเฝ้าระวังหลังให้กบั คนอื่น ๆ.”
“หากมันมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมาล่ะก็อย่างน้อยก็ยงั มีคนใดคน
หนึ่งที่คอยระวังหลังให้พวกเราสามารถที่จะนําผูค้ นอื่น ๆ กลับไปได้
อย่างปลอดภัย

“และในแง่ของระดับพลังวิญญาณแล้วนั้นข้ายังแข็งแรงกว่าเจ้า
และถ้าหากมีภยั อันตรายใด ๆ เกิดขึ้นแน่นอนว่าข้านั้นสามารถปกป้อง
เขาได้ดีกว่าเจ้าฉะนั้นแล้วเจ้าควรที่จะอยูค่ อยปกป้องคนอื่น ๆ ด้านนอก
เอาไว้น้ นั แหละดีแล้ว” บรรพชนเก่าแก่รู้สึกเหมือนจะรู ้ถึงความตั้งใจ
ของ อสู รราชันย์วานรดังนั้นเขาจึงได้พยายามอธิบายด้วยหลักการและ
เหตุผล
ReadMGA.blogspot.com
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : นั้นแหละสุ สานโดนปล้น คนอื่นฉวยโอกาส พี่เฟิ งแดกแห้ว

B2 : แถมพี่ลิงยังโดนกักกันแบบนี้ถามจริ งจะโดนดักตีหวั ไหมพี่เฟิ งก็

B1 : ตาเฒ่าชุดดํานั้นมันจะแน่สกั แค่ไหนวะเจอขอทานไปก็หง้ออ่ะ
บอกเลย

B2 : 5555555 อย่าเอาเรื่ องจริ งมาพูดสิ B1 จะเอาตาเฒ่านี่มา


เทียบกับ ขอทานเรานี่นะโธ่ได้แค่ฝัน ๆ ไปนอนขี้ในโถส้วมไป

B3 : ได้ที่กเ็ อาใหญ่พดู อะไรได้กพ็ ดู กันไปเถอะนะตอนหน้าก็รู้ ๆ กัน


อยูว่ า่ สถานการณ์ของพี่ลิงจะเป็ นเช่นไร และไอ้เฟิ งมันจะโดนตีหวั ไหม
เดี้ยวก็ได้รู้กนั ในตอนหน้า

B1 : พูดงี้กส็ วยดิครับใครบังอาจมากล้าตีพี่เฟิ งเดะขอทานเก็บเอง ต่อ


ให้ราชวงศ์เจียงเลยเอา หรื อจะยกมาทั้งภูมิภาคทะเลตะวันออกเลยก็ได้
นะ ขอทานนี้บอกคําเดียวว่าไม่มีคาํ ว่าเกรงกลัวใด ๆ ทั้งนั้น
B2 : 555555 ใช่เลย B1

B1 : ถูกไหมล่ะ B2

B3 : พูดได้กพ็ ดู ไปทําเก่งได้แค่ไม่กี่ตอนเท่านั้นแหละเดี้ยวก็ไม่มีบท
เช่นเดิน

B1,B2 : หุบปากมึงไปเลย !!!!

B3 : แหม่พอกูพดู เรื่ องจริ งก็รับไม่ได้ไอ้พวกเวร

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 502 – รอยยิม้ ที่แปลกประหลาด
“เหอะ เจ้าพูดได้ดี แต่ขา้ หวังว่าเจ้าคงจะไม่ได้แอบลอบโจมตี
น้องชายของข้าเพื่อชิงทักษะเร้นลับหรอกอย่างนั้นใช่หรื อไม่?” อสู ร
ราชันย์วานรกล่าวด้วยท่าทางที่ไม่เชื่อ

“เหอะหยุดพูดได้แล้วในเมื่อเจ้าได้มีความคิดเช่นนี้ขา้ ก็ไม่
จําเป็ นต้องเสี ยเวลาคุยกับเจ้าอีกต่อไป ในเมื่อเจ้าไม่ได้มีความไว้วางใจ
ในตัวข้าข้าก็จะปล่อยให้เจ้าไปกับชูเฟิ ง ส่ วนข้านั้นจะปกป้องผูค้ นอยู่
ทางฝั่งด้านนอกนี้เอง” บรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงกล่าวออกมา
พร้อมกับส่ ายหัวของเขาพร้อมกับรอยยิม้ เล็กน้อย

“พี่ลิง ข้ามีความเชื่อใจต่อท่านผูอ้ าวุโสเจียงว่าเขาจะไม่เป็ น


อันตรายต่อข้า ฉะนั้นท่านไม่มีความจําเป็ นต้องกังวลใด ๆ .”

เพียงแค่ในเวลานั้นชูเฟิ งเอยคําพูดขึ้นมา เพราะว่าเขาได้เป็ นห่วงถึง


ความสัมพันธ์ในการร่ วมมือกันระหว่าง อสู รราชันย์วานรกับราชวงศ์
เจียง ถ้าหากพวกเขาได้มาเกิดอารมณ์ผดิ ใจกันในตอนนี้มนั อาจจะส่ งผล
กระทับที่ไม่ดีอย่างแน่นอนในภายภาคหน้าถ้าเกิดว่าเขาต้องการความ
ช่วยเหลือจากราชวงศ์เจียงในอนาคต

เมื่อเห็นเช่นนั้น อสู รราชันย์วานร จึงไม่ได้รู้สึกดีมากนักและก็ไม่ได้พดู


มากอีกต่อไป ฉะนั้นแล้วเขาจึงทําได้เพียงแต่พยักหน้าให้กบั ความตั้งใจ
ของชูเฟิ งพร้อมกล่าวออกไปว่า “ในเมื่อน้อยชายของข้าบอกว่าเชื่อใจเจ้า
ในฐานะพี่ชายข้าก็ไม่มีความจําเป็ นใดที่จะต้องโต้แย้งอีก”

“น้องห้าให้ขา้ ไปกับพวกเจ้าทั้งสองด้วยจะได้หรื อไม่ หากมี


อันตรายอะไรเกิดขึ้นแน่นอนว่าพวกเราจะสามารถก้าวข้ามผ่านมันไป
ได้อย่างแน่นอน” เพียงแต่ในเวลานั้นบรรพชนที่มีอายุยนื ยาวมากที่สุด
ในราชวงศ์เจียงก็ได้เอยคําพูดขึ้นมา

แม้วา่ ตําแหน่งของเขานั้นจะเป็ นรองบรรพชนเก่าแก่แต่เขาอายุของเขา


นั้นนับได้วา่ มากที่สุดในราชวงศ์เจียงและเขาก็ยงั เป็ นถึงพี่ชายคนโต
ที่สุดในเหล่าบรรพชน
“อื้มได้แน่นอน” บรรพชนเก่าแก่ได้กล่าวตกลงเนื่องจากว่า
พี่ชายของเขานั้นได้มีชีวติ อยูม่ านานนับหลายสิ บปี โดยที่ไม่ตอ้ งพูดถึง
ความแข็งแกร่ งของเขาเลยเพราะเพียงแค่ประสบการณ์ในการต่อสู ข้ อง
เขานั้นก็นบั ได้วา่ สมบูรณ์แบบมากแล้ว ฉะนั้นแล้วการที่พี่ชายของเขา
ได้มากับเขาด้วยเช่นนี้ไม่วา่ พวกเขาจะได้พบกับปั ญหาใด ๆ มันก็เป็ น
แน่นอนว่ามันจะถูกคลี่คลายได้โดยง่ายอย่างแน่นอน

หลังจากนั้นชูเฟิ งบรรพชนเก่าแก่และบรรพชนผูอ้ าวุโสของราชวงศ์เจียง


พวกเขาได้เดินเข้าไปในพระราชวังรู ปทรงแปลกประหลาดและงดงาม
อย่างรวดเร็ ว

พระราชวังที่ถูกสร้างด้วยวัตถุที่พิเศษนี้มนั ไม่ได้ดูแปลกแต่ภายนอก
เท่านั้นแต่ภายในของมันนั้นก็นบั ว่าแปลกมากพอ ๆ กัน แต่หลังจากที่
พวกเขาได้เข้ามายังภายในของพระราชวังได้ไม่นานนักในที่สุดก็ได้มี
ห้องโถงใหญ่ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา
พร้อมกับรู ปภาพต่าง ๆ ที่ทาํ ขึ้นด้วยวัสดุที่พิเศษเต็มรอบฝาผนังของ
พระราชวัง และรู ปภาพเหล่านั้นก็ลว้ นแล้วแต่เป็ นรู ปภาพของวิหค ที่ถูก
วาดเอาไว้ดว้ ยลักษณะท่าทางที่แตกต่างกันหลายรู ป ไม่ตอ้ งบอกเลยว่า
รู ปภาพของวิหคเหล่านี้น้ นั เป็ นวิหคเผ่าพันธุ์ใดเพราะว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่
ตาเห็นก็รู้ได้ในทันทีวา่ วิหคที่สวยสดงดงามเช่นนี้น้ นั มันได้ถูกเรี ยกว่า
หงษ์สา

และเนื้อหาในรู ปภาพของหงส์สาเหล่านั้น นั้นก็เต็มไปด้วยการต่อสู ท้ ี่


แตกต่างกันมากมายและในท้ายที่สุดรู ปภาพเหล่านั้นก็จะจบลงด้วยชัย
ชนะของหงษ์สา และเมื่อนํารู ปภาพเหล่านั้นมารวมกันแล้วมันก็จะทําให้
ผูท้ ี่เห็นภาพเข้าใจถึงความแข็งแกร่ งของหงษ์สา ว่าหงส์สานั้นคือ
สิ่ งมีชีวติ ที่แข็งแกร่ งและไร้เทียมทาน

และในส่ วนหลักของพระราชวังก็ได้มีรูปปั้ นสู งตั้งอยูน่ บั สิ บ มันเป็ นรู ป


ปั้นของหงษ์สาและลักษณะของมันนั้นยังดูเสมือนจริ งเป็ นอย่างมาก
นอกจากนี้ยงั มีช้ นั ของอํานาจจิตวิญญาณครอบคลุมรู ปปั้ นอีกด้วย พวก
มันเหล่านี้น้ นั ได้ถูกห้อมล้อมไปด้วยชั้นของเปลวไฟซึ่งมันทําให้รูปปั้ น
เหล่านี้น้ นั ดูเหมือนเป็ นราวกับองค์ทวยเทพที่สถิตลงมา ณ โลกเบื่องร่ าง
มันให้ความรู ้สึกที่เหมือนกับไม่ใช่แค่รูปปั้ นธรรมดาแต่มนั ให้ความรู ้สึก
ที่เหมือนกับ หงส์สา จริ ง ๆ

“ชูเฟิ งข้าเชื่อว่าทักษะเร้นลับหงส์สาคืนชีพจะต้องถูกซ่อนอยู่
ในรู ปปั้ นเหล่านี้เป็ นแน่ หลังจากที่ขา้ ทําลายตราประทับจิตวิญญาณนี้
แล้วนั้นทั้งหมดมันก็จะขึ้นอยูก่ บั เจ้าแล้วล่ะนะ” บรรพชนเก่าแก่ของ
ราชวงศ์เจียงอมยิม้ และกล่าวกับชูเฟิ ง

“ไม่ตอ้ งห่วงท่านอาวุโสเจียง ข้าจะทําเต็มที่และดีที่สุดเท่าที่ขา้


จะได้.”

ก่อนที่พวกเขาจะมายังสถานที่แห่งนี้พวกเขาได้รับการว่างแผนเอาไว้
แล้วเป็ นอย่างดี อย่างแรกเขาจะต้องค้นหาทักษะเร้นลับและให้ชูเฟิ งเป็ น
ผูค้ รอบครองและปราบมัน

แต่ก่อนที่ชูเฟิ งจะได้ครอบครองทักษะเร้นลับพวกเขาต้องการที่จะดึง
ข้อมูลบางอย่างของสุ สานจักรพรรดิมาจากทักษะเร้นลับซะก่อนเพื่อที่
พวกเขาจะได้สามารถลงไปชั้นที่ลึกได้มากกว่านี้

“อื้ม” เมื่อเห็นเช่นนั้นบรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงก็ยมิ้
ตอบกลับและเริ่ มกระทําการโดยไม่ลงั เลอีกต่อไป เขาได้เดินออกไปและ
เริ่ มที่จะจัดชั้นวางการก่อวิญญาณเปิ ดผนึก หลังจากช่วงเวลาที่เขาได้เริ่ ม
จัดไปพักหนึ่งแล้วนั้นก็ได้มีช้ นั ของอํานาจวิญญาณสี ม่วงเข้มข้น
หลัง่ ไหลออกมาจากร่ างกายของเขา

“จงเปิ ด!” หลังจากเสร็ จสิ้ นการก่อเปิ ดผนึกจิตวิญญาณบรรพ


ชนเก่าแก่กไ็ ด้ร้องตะโกนออกมา ตูม! ชั้นของการก่อวิญญาณสี ม่วงที่
กว้างใหญ่กไ็ ด้ระเบิดออกไปราวกับภูเขาทั้งลูกกําลังจะพังทลายและล่วง
หล่นลงมา ชั้นของออร่ าสี ม่วงได้ไปเข้าผสมผสานกลับชั้นออร่ าสี แดง
ของรู ปปั้ นและกลืนกินมันอย่างรวดเร็ ว

“โอ่วชัง่ วิเศษจริ ง ๆ นี่หรื อความสามารถของผูเ้ ชื่อมต่อฯชุด


ม่วงชัง่ น่าประทับใจยิง่ นัก” เมื่อเห็นกระบวนการการก่อของจิตวิญญาณ
รู ปปั้ นค่อย ๆ พังลง ชูเฟิ งค่อย ๆ ถอนหายใจของเขาซึ่ งเต็มไปด้วย
ความรู ้สึกที่ชื่นชมและประทับใจต่อความแข็งแกร่ งของผูเ้ ชื่อมต่อฯชุด
ม่วง ถ้าหากเป็ นเขาที่กาํ ลังพยายามทําลายรู ปปั้ นเหล่านี้ล่ะก็มนั เป็ นไป
ไม่ได้อย่างแน่นอนที่เขาจะสามารถทําลายมัน

แต่เมื่อในขณะที่บรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงได้ทาํ ลายมันจริ งเป็ น


เพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้นความสามารถในการก่อวิญญาณ
ระหว่างผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดฟ้าและผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดม่วงนี่ชง่ั ห่างไกลกันยิง่ นัก

*** ชูววว ***


ในที่สุดการก่อวิญญาณที่ได้หอ้ มล้อมรู ปปั้ นหิ นเอาไว้กไ็ ด้ถูกทําลายจน
หมดสิ้ น แต่ในทันทีที่การก่อถูกทําลายก็ได้มีเสี ยงร้องอันโหยหวนดัง
ขึ้นมาในทันทีพร้อมกลับกลิ่นอายที่น่ากลัวได้แพร่ กระจายไปทัว่
พระราชวัง

"ชักไม่ดีแล้ว!!!"

ในทันทีบรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงถึงกับต้องอุทานออกมา
เพราะว่าเขานั้นได้รู้สึกถึงกลิ่นอายที่ชว่ั ร้ายและที่สาํ คัญความแข็งแกร่ ง
ของกลิ่นอายนั้นไม่ได้ด่อยไปกว่าเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เจตนาฆ่าที่น่า
กลัวได้ระเบิดออกมาแล้วพุง่ กระโจนใส่ เขาอย่างรวดเร็ ว

*** บูมมม *** เสี ยงระเบิดดังก้องและรู ปปั้ นหิ นก็ได้กระจายออกใน


เวลาเดียวกัน, พร้อมกับมีอสู รขนาดใหญ่ปรากฏตัวออกมาในช่วงกลาง
หลักของพระราชวัง
ลักษณะของอสู รตัวนี้น้ นั ชัง่ น่ากลัวมาก ฟันของมันนั้นดูแหลมคม ตา
ของมันเป็ นสี แดงกํ่าพร้อมกับร่ างกายของมันได้ปกคลุมไปด้วยชั้นของ
ออร่ าสี เขียวกลิ่นอายของมันนั้นอยูใ่ นระดับที่ 9 ของแดนสวรรค์

*** โฮกกก *** ทันทีที่อสู รได้ปรากฏตัวมันก็ได้คึกคํารามพร้อมโยน


กรงเล็บขนาดใหญ่ที่ดูทรงพลังและน่ากลัวของมันไปที่บรรพชนเก่าแก่
ในทันที

“ฮ่าา!” เมื่อเห็นเช่นนั้นบรรพชนเก่าแก่กไ็ ม่รอช้าเขาได้ตะโดนออกไป


ด้วยความโกรธพร้อมกับระเบิดพลังของอํานาจสวรรค์ออกมาในทันที,
และในเวลาเดียวกันร่ างกายของเขาก็ได้เปล่งแสงพราวกระจ่างใสเป็ น
แสงสี ทองพร้อมกับได้มีตวั อักษรสี ทองปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขา
ว่า “กษัตริ ย.์ ”

ในทันทีที่บรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงได้แสดงพลังอํานาจของเขา
ออกมาบรรยากาศของเขานั้นก็ได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนราวกับไม่ใช่
มนุษย์แต่เป็ นทวยเทพ

และความแข็งแกร่ งของเขานั้นก็ได้เพิ่มขึ้นมาเป็ นหลายเท่าตัวจริ งอาจ


พูดได้วา่ เขาความแข็งแกร่ งของเขานั้นไม่ได้อ่อนแอกว่าอสู รสี เขียวเข้ม
ที่ยนื อยูใ่ นด้านหน้าของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว พวกเขาทั้งสองได้ใส่ ความ
แข็งแรงลงไปอย่างเต็มที่ในการโจมตีของพวกเขาเพื่อที่จะได้โครนล้ม
อีกฝ่ ายหนึ่ง

“นี่มนั ไม่ถูกต้อง อสู รตัวนี้มนั ไม่ได้เป็ นทักษะเร้นลับแต่มนั


เป็ นวิญญาณที่ชวั่ ร้าย”

ชูเฟิ งได้ขมวดคิ้วของเขาแน่น เขาไม่รู้วา่ อสู รตนนี้น้ นั ปรากฏตัวขึ้นมา


ได้ยงั ใงแต่เขาสามารถบอกได้วา่ กลิ่นอายของอสู รตนนี้น้ นั ไม่ได้เป็ น
ทักษะเร้นลับแต่มนั เป็ นวิญญาณที่ชวั่ ร้าย
“ชูเฟิ งวิง่ ! ออกไปจากที่นี่เร็ ว! ที่นี่มนั ไม่มีทกั ษะเร้นลับ! มัน
เป็ นกับดัก!” ทันใดนั้นบรรพชนเก่าแก่กไ็ ด้ตะโกนออกมาเสี ยงดัง

เมื่อเห็นบรรพชนเก่าแก่กาํ ลังต่อสู อ้ ยูแ่ ละไม่ได้อยูใ่ นสถานการณ์ที่


ได้เปรี ยบมากนักชูเฟิ งจึงทําได้แค่กดั ฟันของตนและกระโดดพุง่ ออกไป
เท่านั้นเขาต้องการที่จะวิง่ ออกไปจากพระราชวังนี้ให้เร็ วที่สุดเพื่อที่จะ
ได้ไปขอความช่วยเหลือจาก อสู รราชันย์วานรและคนอื่น ๆ

*** ฟื บ *** แต่เพียงในเวลานั้นที่ชูเฟิ งกําลังจะออกไปตรงประตู


ทางออกของพระราชวังก็ได้มีช้ นั ของการก่ออํานาจวิญญาณสี ป้าปิ ดกั้น
อยู่ นอกจากนี้ยงั ได้มีรูปร่ าง ๆ หนึ่งปรากฏขึ้นในด้านหน้าของชูเฟิ งและ
ขัดขวางทางเดินของเขา

ซึ่งนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นเขาคือบรรพชนเก่าแก่ที่มีอายุมากที่สุดในราชวงศ์
เจียง และไม่เพียงแค่น้ นั การคงอยูข่ องเขานั้นยังอยูท่ ี่ในระดับ 8 ของ
แดนสวรรค์แต่เขากลับไม่ได้ไปช่วยบรรพชนเก่าแก่แต่กลับมายืนปิ ดกัน
อยูห่ น้าทางออกของพระราชวัง

“ท่านอาวุโสนี่ท่านคิดจะทําอะไร?” อยูด่ ีดีร่างกายของบรรพ


ชนผูอ้ าวุโสก็ได้มีกลิ่นอายที่เป็ นอันตรายออกมา ฉะนั้นแล้วชูเฟิ งจึงได้
ถอยห่างและถามออกไปอย่างเสี ยงดัง

“ท่านพี่นี่ท่านกําลังทําอะไรอยู?
่ เร็ วเข้ารี บเปิ ดทางแล้วให้ชู
เฟิ งได้ออกไปเดี้ยวนี้!.” ในทันที่ที่บรรพชนเก่าแก่ได้เห็นการกระทํา
ของบรรพชนผูอ้ าวุโสเขาก็ได้มีอาการเปลี่ยนแปลงในทันทีพร้อมกับ
ตะโกนถามออกไปอย่างเสี ยงดัง

แต่บรรพชนผูอ้ าวุโสกลับไม่ได้พดู คําใด ๆ ออกมาเขาเพียงแค่หลี่ดวงตา


ของเขาลงแล้วปรากฏรอยยิม้ แปลกในมุมปากของเขาเพื่อเป็ นการแสดง
คําใบ้บางอย่าง

ReadMGA.blogspot.com
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : นั้นใงพี่เฟิ งกูโดนดักตีหวั จริ ง ๆ ด้วย

B2 : แล้วทักษะเร้นลับหายไปไหน??

B1 : เออใช่ ทําใมเป็ นแบนั้นทักษะหายไปไหน ??

B3 : ถามกันควาย ๆ อีกและคือจริ ง ๆ ไม่น่าจะเดายากนะว่ามัน


หายไปไหนดูแค่น้ ีกร็ ู ้ ๆ กันอยูว่ า่ ก่อนหน้านี้ใครเข้ามาก่อนชูเฟิ ง

B1 : ไอ้สามมม นี่มึงจะบอกว่าตาเฒ่าชุดดํานั้นเป็ นคนเอาไปงั้นอ่อ

B3 : ดูไปเลื่อย ๆ เดี้ยวก็รู้เอง คําตอบมันก็อยูต่ รงหน้าพวกมึงอยูแ่ ล้ว

B2 : เออเรื่ องทักษะอ่ะชัง่ มันก่อนเถอะกูอยากรู ้ชะตากรรมของพี่เฟิ ง


มากกว่าว่ามันจะเป็ นเช่นไร จะโดนไอ้แก่หงําเหงือกนี่ตบไหม
B1 : นั้นน่ะซิชกั ยังใง ๆ อยู่

B3 : จะเหลือหรอโดนดักกันแบบนี้ตอนหน้า กูสปอยให้เลยนะว่าบท
ที่ 503 เนื้อเรื่ องมีอยูว่ า่ พระเอกโดนตีหวั จนตายนิยายจบ

B1,B2 : ไปคุยกับขี้ไป!! ไอ้เย็ดเข้!!

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 503 – พี่นอ้ งฆ่ากันเอง

“เจ้าวิญญาณชัว่ ร้ายเจ้าสนใจที่จะให้ความร่ วมมือกับข้าได้


หรื อไม่!” ทันใดนั้นบรรพชนผูอ้ าวุโสก็ได้หนั หน้าไปมองที่วญ ิ ญาณชัว่
ร้ายพร้อมว่ากล่าว
“ให้ความร่ วมมือ? เพื่ออะไรเหตุใดข้าถึงต้องร่ วมมือเจ้า?” เมื่อ
ได้ยนิ คําพูดเหล่านั้นเสี ยงอันน่าขนลุกก็หลุดออกมาจากปากของ
วิญญาณชัว่ ร้าย

“มันจะเป็ นเรื่ องที่ยากมากสําหรับเจ้าที่จะเอาชนะเขาด้วยการ


ต่อสู แ้ บบหนึ่งต่อหนึ่ง ข้าจะช่วยเจ้าฆ่าเขา แต่เจ้าต้องรับปากข้าว่าเจ้าจะ
ปล่อยข้าออกไปจากสถานที่แห่งนี้ นี่คือข้อตกลงในการร่ วมมือ” บรรพ
ชนผูอ้ าวุโสกล่าวพร้อมกับรอยยิม้ ที่เย็นชา

“ฮ่า ๆ เป็ นข้อตกลงที่ดี! ตราบใดที่เจ้าช่วยข้าฆ่าผูช้ ายคนนี้ได้ล่ะ


ก็แน่นอนว่าข้าจะปล่อยเจ้าไป เจ้าเชื่อข้าได้อย่างแน่นอนเพราะว่าข้านั้น
คือบุคคลที่ซื่อสัตย์ที่สุดในหมู่วญ
ิ ญาณชัว่ ร้ายแล้ว ก๊ากก๊าก~~”
ใบหน้าของวิญญาณชัว่ ร้ายนั้นเต็มไปด้วยรอยยิม้ และเสี ยงหัวเราะชอบ
ใจ และมันก็ยง่ิ โจมตีไปที่บรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงรุ่ นแรงมาก
ขึ้นและมากขึ้น
“ท่านพี่นี่ท่านกําลังพูดอะไรน่ะ? ไม่เพียงแต่ท่านไม่คิดที่จะ
ช่วยข้าแล้วท่านกลับจะไปร่ วมมือกับวิญญาณชัว่ ร้ายเพือ่ ที่จะมาฆ่าข้าอีก
อย่างนั้นรึ ?” ในทันทีบรรพชนเก่าแก่กไ็ ด้พดู ออกมาด้วยลักษณะ
ท่าทางที่ตกใจ

“เหอะ นี่เจ้ายังจําได้วา่ ข้านั้นเป็ นพี่เจ้าอยูอ่ ีกอย่างนั้นรึ ทั้ง ๆ ที่ขา้


นั้นมีอายุมากกว่าเจ้าตั้งหลายสิ บปี แถมความสามารถของข้านั้นก็ยงั
ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเจ้าเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทาํ ใม! ทําใมท่านพ่อถึงได้
เลือกเจ้าไม่เพียงแต่ท่านได้ช่วยยกระดับพลังวิญญาณให้เจ้าแต่เขายัง
ตําแหน่งจักรพรรดิให้แก่เจ้า”

“และในตอนนี้เจ้าก็ยงั ได้เป็ นถึงบรรพชนเก่าแก่ในราชวงศ์ของ


เราทั้ง ๆ ที่ขา้ นั้นมีอายุมากกว่าเจ้าแท้ ๆ เฮอะ!”

“ข้านั้นเกลียด~ เกลียดเจ้าที่สุด เกลียดไปถึงกระดูกดํา และ


ตลอดมาข้ารู ้สึกขยะแขยงทุกครั้งที่เจ้าได้เรี ยกข้าว่า “ท่านพี่” เหอะไอ้
จอมเสแสร้งเจ้ามันแย่งทุกอย่างไปจากข้า!! ~~”

“และในที่สุดวันนี้วนั ที่ขา้ รอคอยมานานแสนนานก็ได้มาถึง


สวรรค์ได้เห็นเป็ นใจให้แก่ขา้ และประทานพรให้ขา้ ได้มีโอกาสข้าเจ้าใน
วันนี้เสี ยที” ทันทีบรรพชนผูอ้ าวุโสก็ได้พดู ครําครวญออกมาอย่างบ้า
คลัง่ ราวกับเป็ นคนเสี ยสติ ใบหน้าของเขานั้นดูน่ากลัวและเปิ ดเผยเจตนา
ฆ่าออกมาอย่างชัดเจน

และในเวลาเดียวกันบนหน้าผากของเขานั้นก็ได้เปล่งแสงสี ทองแพรว
พราวออกมาพร้อมกับตัวอักษรที่เขียนว่า “ราชวงศ์” ซึ่ งมันอาจเห็นได้
อย่างชัดเจนว่าความสามารถนี้น้ นั มันมีได้แค่เฉพาะคนที่มีพลังพิเศษสื บ
ทอดมาทางสายเลือดของราชวงศ์เจียงเท่านั้นและเมื่อใดก็ตามที่ตวั อักษร
นี้ได้ปรากฏขึ้นกลิ่นอายของพวกเขานั้นก็จะได้รับการเพิ่มขึ้นมาอย่าง
รวดเร็ วนับหลายเท่าตัวเลยที่เดียว

นอกจากนี้ในฝ่ ามือของเขายังได้มียทุ ธภัณฑ์ช้ นั ยอด ซึ่ งมันทําให้กลิ่น


อายของบรรพชนผูอ้ าวุโสนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากหลายเท่าตัว จนมีความ
ใกล้เคียงกับกลิ่นอายของผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ระดับ 9 เลยทีเดียว

*** บูมมม *** ทันใดนั้นเสี ยงระเบิดก็ได้ดงั ขึ้น บรรพชนผูอ้ าวุโสและ


วิญญาณชัว่ ร้ายได้ร่วมมือกันเพื่อโค้นล้มบรรพชนเก่าแก่แต่ถึงอย่างนั้นก็
ตามมันก็ไม่ใช่เรื่ องง่ายที่จะจัดการเขาได้ เพราะบรรพชนเก่าแก่น้ นั จริ ง
คือแข็งแกร่ งมากแม้วา่ เขาจะต่อสู ใ้ นแบบสองต่อหนึ่งแต่เขานั้นก็ไม่ได้
ด่อยกว่าเลยแม้แต่นิดเดียว นับว่าวิธีการต่อสู ข้ องเขานั้นเป็ นสิ่ งที่กล้า
หาญมาก

“เฮอะ!! มันชัง่ ไร้ประโยชน์สิ้นดีไม่วา่ เจ้าจะใช้วธิ ีการใดก็ตาม


เพื่อเพิม่ ระดับพลังวิญญาณแต่เจ้ามันก็อยูเ่ พียงแค่ระดับ 8 แดนสวรรค์
วิญญาณเท่านั้น แล้วด้วยระดับพลังวิญญาณเพียงเท่านี้ยงั คิดที่จะฆ่าข้า
อยูอ่ ีกอย่างนั้นรึ เหอะมันเป็ นข้าต่างหากที่จะฆ่าเจ้าในวันนี้!.” บรรพชน
เก่าแก่กล่าวอย่างเย็นชา ความจริ งคือไม่วา่ จะเป็ นวิธีการต่อสู ห้ รื อความ
แข็งแกร่ งของเขานั้นก็อาจกล่าวได้วา่ เป็ นดีและเหนือชั้นกว่าทั้งบรรพ
ชนผูอ้ าวุโสและวิญญาณชั้วร้ายมากนัก
“ชัง่ แข็งแกร่ งจริ ง ๆ ทั้งความแตกต่างในด้านการใช้พลังสื บ
ทอดทางสายเลือดมันเห็นได้ชดั เลยว่าบรรพชนเก่าแก่น้ นั ดีวา่ พี่ชายของ
เขาเป็ นอย่างมากจึงไม่น่าแปลกใจว่าทําใมพ่อของพวกเขาถึงได้เลือก
บรรพชนเก่าแก่เป็ นผูส้ ื บทอดองค์จกั รพรรดิเพราะว่าสายเลือดของเขา
นั้นเข้มข้นกว่าพี่ชายของเขานี่เอง”

(3B : สายเลือดเข้มข้น หมายถึง ยิง่ สายเลือดคนนั้นเข้มข้นมาก


เท่าไหร่ การใช้พลังสื บทอดทางสายเลือดนั้นก็จะยิง่ แข็งแกร่ งมากขึ้น
เท่านั้น)

ในตอนนี้ชูเฟิ งได้อยูแ่ ล้วหน้าประตูทางออกของพระราชวัง แม้วา่ เขา


กําลังจะยุง่ อยูก่ บั การแก้พฒั นาการปิ ดผนึกของอํานาจวิญญาณสี ฟ้าอยูแ่ ต่
เขาก็ได้ให้ความสนใจในการต่อสู ข้ องบรรพชนเก่าแก่และบรรพชนผู ้
อาวุโส, วิญญาณชัว่ ร้ายอยูไ่ ม่นอ้ ย และเขาสามารถวิเคราะห์ออกมาได้
ว่าความแข็งแกร่ งของบรรพชนเก่าแก่น้ นั ได้เกินพี่ชายเขาไปมาก
แต่อย่างไรก็ตามแม้วา่ ชูเฟิ งจะเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดฟ้า แต่ความแข็งแกร่ ง
ของอํานาจการก่อวิญญาณนั้นก็ยงั มีความเกี่ยวข้องกับระดับพลัง
วิญญาณอยูบ่ างฉะนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่ องง่ายที่ชูเฟิ งจะสามารถทําลาย
ชั้นการก่อตัวปิ ดผนึกได้ภายในระยะเวลาอันสั้น

เพื่อความปลอดภัยของตัวเองชูเฟิ งจึงไม่ได้สนใจในการต่อสู ข้ องพวก


เขาอีกต่อไป ชูเฟิ งได้มุ่งมัน่ ไปที่การทําลายชั้นการก่อปิ ดผนึกอย่างแน่ว
แน่จนในที่สุดมันก็ได้เกิดรอยแตกเล็ก ๆ ขึ้นบนผนังก่อ ชูเฟิ งได้พยายาม
ส่ งเสี ยงของเขาออกไปเพื่อเรี ยก อสู รราชันย์วานรให้มาช่วยเขา

*** วืมมม *** เพียงแต่ในเวลานั้น ณ พื้นที่หลักของพระราชวังก็ได้มี


แสงสว่างพวยพุง่ ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ลักษณะของมันนั้นคล้ายดอกบัว
บานผิวของมันนั้นชัง่ กระจ่างใสและแสงของมันก็ได้ส่องสว่างไปทัว่ ทิศ
ของพระราชวัง ที่สาํ คัญมันยังอยูใ่ นฝ่ ามือของบรรพชนผูอ้ าวุโส

ออร่ าของดอกบัวนั้นชัง่ ดูน่ากลัวยิง่ นักและที่สาํ คัญมันอาจกล่าวได้วา่ น่า


กลัวยิง่ กว่ายุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดเป็ นหลายเท่านัก และลักษณะของมันนั้นยัง
ดูไม่เหมือนกับยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดอีกด้วยแต่มนั ดูเหมือนเป็ นสมบัติวเิ ศษ
หรื อวัตถุวเิ ศษที่ใช้ได้แค่เพียงครั้งเดียวเสี ยมากกว่า

“ดอกบัวอําพัน! นี่หรื อว่าเจ้าคิดจะใช้มนั เพื่อโจมตีขา้ จริ ง ๆ อย่าง


นั้นรึ ?!”

เมื่อเห็นดอกบัวอําพันสี หน้าของบรรพชนเก่าแก่กไ็ ด้เปลี่ยนไปในทันที


เขารี บหยุดการโจมตีของเขาแล้วล่าถอยอย่างรวดเร็ ว และในเวลา
เดียวกันก็ได้เกิดแสงสว่างขึ้นในฝ่ ามือของเขาพร้อมกับปรากฏดาบสี
แดงเข้มดัง่ โลหิ ตขึ้นมาในฝ่ ามือของเขา ซึ่ งมันก็คือยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอด
นั้นเองและในทํานองเดียวกันเมื่อนําไปเปรี ยบเทียบกับ สมบัติวเิ ศษ
อย่างดอกบัวอําพันแล้วนั้นนับว่าไม่ได้ด่อยค่าไปกว่ากันเลยแม้แต่นิด
เดียว

“ฮ่า ๆ ๆ นี่คือดอกบัวอําพันสมบัติวเิ ศษที่มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น


ในราชวงศ์ของเราและความสามารถของมันนั้นยังกล่าวได้วา่ ชัง่ น่ากลัว
ยิง่ นักมันสามารถฆ่าบุคคลใดก็ได้ที่มีระดับพลังวิญญาณตํ่ากว่าขอบเขต
แดนจ้าวแห่งสงคราม ในวันนั้นที่เจ้าได้สืบทอดบัลลังก์ท่านพ่อได้รู้สึก
เสี ยใจต่อข้าเขาจึงได้มอบสมบัติวเิ ศษ ดอกบัวอําพัน ชิ้นนี้ให้แก่ขา้ เพื่อ
เอาไว้สาํ หรับปกป้องตัวเอง”

“แต่ขา้ ว่าเขาคงคิดไม่ถึงหรอกว่าข้าจะใช้สมบัติที่เขามอบให้ขา้
เอาไว้เพือ่ ปกป้องตัวเองแต่กลับเอามันมาฆ่าลูกชายสุ ดที่รักของเขาแบบ
นี้!”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”

ทันใดนั้นบรรพชนผูอ้ าวุโสก็ได้หวั เราะออกมาอย่างเสี ยงดังราวกับคน


บ้าและมันก็ยง่ิ ดูน่ากลัวมากขึ้น แต่ในขณะที่เสี ยงหัวเราะได้ดงั่ ลัน่ อยูน่ ้ นั
ก็ได้มีสายตาสายตาหนึ่งจับจ้องไปที่บรรพชนผูอ้ าวุโสซึ่ งเจ้าของสายตา
นั้นก็คือวิญญาณชัว่ ร้ายในสายตาของมันนั้นเต็มไปด้วยความรู ้สึกที่
รังเกียจมันได้กล่าวกับตนเองไว้วา่ “เจ้ามนุษย์ชวั่ ช้าที่กล้าได้แม้กระทั้ง
หักพวกเดียวกันเอง เหอะไม่วา่ ผมมันจะออกมาเป็ นยังใงก็ตามพวกเจ้า
สองคนจะต้องตายด้วยมือของข้า ข้าจะไม่ยอมให้คนใดคนหนึ่งของพวก
เจ้าหลุดรอดออกไปได้อย่างแน่นอน”

“ตายซะเถอะ!” ในที่สุดบรรพชนผูอ้ าวุโสก็ได้เริ่ มโจมตี


ดอกบัวอําพัน ได้ผสานเข้าไปในฝ่ ามือของเขาและถูกเหวีย่ งออกไป
อย่างกะทันหันดอกบัวอําพันนั้นได้กลายเป็ นลูกศรฝ่ ามืออันทรงพลังนับ
ไม่ถว้ นพุง่ ต่อไปที่บรรพชนเก่าแก่

*** หวืบ ***

“โล่มงั กรแดงสวรรค์ปกคลุมผืนฟ้า!”

ในทันทีดาบสี แดงในมือของบรรพชนเก่าแก่กไ็ ด้มีมงั กรสี แดงขนาด


ใหญ่โพยพุง่ ออกมา ร่ างกายของมังกรแดงนั้นได้ปกคลุ่มในพื้นที่
ด้านหน้าของเขาและเปลี่ยนแปลงเป็ นรู ปแบบของโล่สีแดงเข้มราวกับ
โลหิ ตปิ ดกั้นการโจมตีของ ดอกบังอําพัน

พลังอํานาจของดอกบัวอําพันนั้นแข็งแกร่ งมากแม้แต่โล่มงั กรแดงก็ยงั


ปรากฏรอยแตกเล็ก ๆ ออกมาจากการปะทะกัน แต่ในท้ายที่สุดแล้วมันก็
ยังไม่สามารถทําลายผ่านโล่มงั กรแดงไปได้

“เฮอะไร้ประโยชน์น่า เจ้าประเมินข้าตํ่าเกินไป แม้วา่ ดอกบัว


อําพันของเจ้านั้นจะทรงอนุภาพและน่ากลัวมากแค่ไหน แต่ท่านพ่อก็ได้
ส่ อนวิธีที่จะปราบปรามมันให้แก่ขา้ ด้วยดาบมังกรแดงนี้ที่สามารถ
เปลี่ยนเป็ นได้ท้ งั รู ปแบบโจมตีและป้องกันด้วยความสามารถของโล่
มังกรแดงสวรรค์ปกคลุมผืนฟ้ามันสามารถป้องกันดอกบัวอําพันของเจ้า
ได้อย่างแน่นอน” บรรพชนเก่าแก่พดู ออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วย
ความภาคภูมิใจ
“ฮ่า ๆ แน่นอนข้ารู ้วา่ โล่มงั กรแดงสวรรค์ปกคลุมผืนฟ้าของเจ้า
นั้นสามารถป้องกันการโจมตีของดอกบัวอําพันข้าได้ ฉะนั้นแล้วด้วย
เหตุผลข้าถึงได้ไม่ทาํ อะไรกับเจ้ามาจนถึงทุกวันนี้ยงั ใงล่ะแต่อย่างไรก็
ตามในวันนี้มนั ได้เปลี่ยนไปแล้ว แม้วา่ โล่มงั กรแดงสวรรค์ปกคลุมผืน
ฟ้าของเจ้านั้นจะแข็งแกร่ งมากแต่วา่ มันก็จาํ เป็ นที่จะต้องใช้พลังงานที่
มากเช่นกัน ซึ่งอาจพูดง่ายว่าข้อเสี ยของมันนั้นเป็ นอะไรที่ใหญ่หลวง
มากบางที่มนั อาจเป็ นอันตรายต่อผูท้ ี่ใช้มนั เองด้วยซํ้า”

“และโดยเฉพาะในตอนนี้ร่างกายของเจ้านั้นได้รับบาดเจ็บภายใน
เป็ นอย่างมากและความแข็งแรงของเจ้านั้นในตอนนี้กไ็ ด้ลดลงมา
มากกว่าครึ่ งเสี ยแล้วด้วยซํ้าแล้วที่น้ ีเจ้ายังคิดว่าเจ้าจะสามารถใช้โล่ของ
เจ้าป้องกันการโจมตีของข้าได้อีกซักกี่น้ าํ กัน.” บรรพชนผูอ้ าวุโสกล่าว
พูดด้วยร้อยยิม้ ที่สะใจ

“นี่เจ้า!” เมื่อได้ยนิ คําพูดเช่นนั้นใบหน้าของบรรพชนผูอ้ าวุโสก็


ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็ นอย่างมาก ใบหน้าเดิมของเขาได้เปลี่ยน
กลายเป็ นใบหน้าที่ซีดขาวไร้เลือดในทันทีแทบจะทันทีปากของเขาก็ได้
เปิ ดกว้างและกระอักเลือดออกมาคําหนึ่งและตกลงสู่ พ้นื เบื่องล่าง
ในทันทีกลิ่นอายของเขานั้นได้กลายเป็ นอ่อนแอมาก

่ แหล่งพลังงานชิ้นโตนั้น
“วิญญาณชัว่ ร้ายเจ้ากําลังรอสิ่ งใดอยู?
เป็ นของเจ้าแล้ว.” บรรพชนผูอ้ าวุโสได้กล่าวกับวิญญาณชัว่ ร้าย

“ก๊ากก่าก่าก่า ข้าขอบใจเจ้ายิง่ นักที่ยกแหล่งพลังงานชั้นเยีย่ ม


ให้แก่ขา้ ” วิญญาณชัว่ ร้ายหัวเราะอย่างบ้าคลัง่ มันได้พงุ่ กระโจนเข้าใส่
บรรพชนเก่าแก่ในทันทีมนั ได้เปิ ดปากของมันและกลืนกินเขาเข้าไป
ทั้งตัวภายในคําเดียว

“ดาบมังกรแดงทลายสวรรค์!”

แต่ในขณะที่บรรพชนเก่าแก่ได้เข้าไปอยูใ่ นปากของวิญญาณชัว่ ร้ายแล้ว


นั้น เพียงแค่ในเวลานั้นจากกลิ่นอายที่อ่อนแอก็ได้ปรับตัวขึ้นจนถึง
จุดสู งสุ ดในทันทีพร้อมกับดาบมังกรแดงที่อยูใ่ นมือของเขาได้กลายเป็ น
มังกรแดงเคลือบทองยาวนับหลายฟุตพร้อมกับระเบิดเสี ยงคํารามของ
มังกรพุง่ ทะยานอยูใ่ นร่ างกายของวิญญาณชัว่ ร้ายในทันที

ReadMGA
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เห้อตอนแรกกูกน็ ึกว่าชูเฟิ งจะโดนดักดีที่ไหนได้บรรพชนกู


นี่เองที่โดนดักตี

B2 : หืมนี่อาจจะเรี ยกได้วา่ คดีพลิกเลยนะตอนแรกก็นึงว่าบรรพชน


เก่าแก่จะเป็ นตัวร้ายที่ไหนได้ไอ้บรรพชนอาวุโสนี่เองที่เป็ นตัวร้ายแถม
ยังมาฆ่ากันเองเพราะความอิจฉาอีก เห้อชัง่ หน้านักใจยิง่ นัก

B1 : แล้วสรุ ปบรรพชนเก่าแก่จะตายไหม ??

B2 : นั้นซิจะตายรึ ป่าวนะ
B3 : อยากรู ้อ่อว่าจะตายไหม กูบอกเลยล่ะกันว่าตอนศึกของราชวงศ์
เจียงไม่มีมนั อยู่

B1 : บ้าพูดเป็ นเล่นบุคคลล่ะดับนี้จะมาถูกดัดจบได้ยงั ใงว่ะ

B3 : แต่ไอ้บุคคลล่ะดับนี้ของมึงนี่มนั เป็ นแค่ตวั ประกอบนะเว้ย

B1,B2 : เห้ยยยย พูดเป็ นเล่น!!!

B3 : เล่นหน้ามึงอ่ะคอยดูบทต่อไปเอาเองและกัน

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 504 – ความเห็นแก่ตวั ของคนคนหนึ่ง


*** โฮก~~~ *** ดาบมังกรแดงได้กลายเป็ นมังกรขนาดใหญ่พงุ่
ทะยานอยูใ่ นร่ างกายของวิญญาณชัว่ ร้ายและทะลุออกมาจากทางก้นของ
มัน ร่ างกายของวิญญาณชัว่ ร้ายนั้นได้ถูกเจาะจนเป็ นพรุ นด้วยมังกรมัน
ได้ครํ่าครวญออกมาด้วยความเจ็บปวดและทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด

“เหอะเจ้าวิญญาณชัว่ ร้ายโง่! เจ้าคิดจริ ง ๆ หรื อว่าเราสองพี่


น้องจะฆ่ากันเอง? เราเพียงแค่หลอกให้เจ้าตายใจและลดการป้องกัน
ของเจ้าลงก็เท่านั้นเพื่อที่ขา้ จะได้โจมตีเจ้าอย่างรุ นแรง”

“สมบัติวเิ ศษดอกบัวอําพันนี้มนั ก็เป็ นเพียงแค่ของปลอม


เท่านั้นที่ขดุ ขึ้นมาเพื่อใช้หลอกเจ้า ถึงแม้วา่ พวกเรานั้นจะมีของจริ งอยู่
แล้วก็ตามแต่พวกเราก็คงไม่โง่พอที่จะนํามันมาใช้เพื่อฆ่ากันเองหรอก
มั้ง” บรรพชนเก่าแก่ราชวงศ์เจียงกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิม้ ที่เย็นชา

“วิญญาณชัว่ ร้ายถึงแม้วา่ เจ้านั้นจะแข็งแกร่ ง แต่แท้จริ งแล้วเจ้า


มันก็ไร้สมอง ฮ่า ๆ ๆ…” ในขณะเดียวกันบรรพชนผูอ้ าวุโสก็กล่าว
ออกมาพร้อมกับเสี ยงหัวเราะที่เย้ยหยัน

“ไอ้พวกมนุษย์น่ารังเกียจ! ข้าจะฆ่าพวกเจ้า!” วิญญาณชัว่ ร้าย


ได้ระเบิดเสี ยงตะโกนแห่งความโกรธแค้นของตัวเองออกมา เพราะเดิม
ที่เขาคิดที่จะฆ่าบรรพชนเหล่านี้ท้ งั สองอยูแ่ ล้ว แต่เขาก็ไม่นึกเลยว่าเขา
เองต่างหากที่เป็ นคนหลงกลและตกอยูใ่ นหลุมพรางของพวกเขามา
ตั้งแต่ตน้

ฉะนั้นแล้วเขาจึงได้ใช้ร่างกายที่สะบักสะบอมของเขาปล่อยอํานาจ
สวรรค์ออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดเพื่อที่จะระเบิดตัวเองตายไปพร้อมกับ
บรรพชนเก่าแก่

“เฮอะ เจ้าคิดว่าสภาพของเจ้าในตอนนี้น้ นั จะสามารถสู ข้ า้ ได้


อย่างนั้นรึ ”
ิ ญาณชัวร้ายจะได้มีโอกาสทําสําเร็ จ บรรพชนเก่าแก่ก็
แต่ยงั ไม่ทนั ที่วญ
ได้ใช้ดาบมังกรแดงที่อยูใ่ นฝ่ ามือของเขาฟาดฟันเป็ นมังกรสี แดงเข้ม
ออกไปมันได้ทะยานพุง่ ชนเข้ากับวิญญาณชัว่ ร้าย ด้วยการโจมตีน้ ี
อย่าได้พดู ถึงความพ่ายแพ้ของวิญญาณชัวร้ายเลยเพราะแม้แต่เศษซาก
หรื อกลิ่นอายของวิญญาณชัว่ ร้ายนั้นก็ได้ถูกทําลายไปจนหมดสิ้ นโดยที่
ไม่มีสิ่งใดเหลือไว้เบื่องหลัง

“ท่านพี่ สมบัติวเิ ศษดอกบัวอําพันที่ท่านได้ประดิษฐ์มนั ขึ้นมา


เองนั้นชัง่ วิเศษยิง่ นัก มันชัง่ จะดูคล้ายราวกับเป็ นสมบัติดอกบัวอําพัน
ของจริ งอย่างไม่มีผดิ เพี้ยนแม้แต่ตอนที่ท่านใช้มนั ข้ายังคิดว่ามันเป็ นของ
จริ งเลยฉะนั้นแล้วนั้นจึงเป็ นเหตุผลว่าทําใมข้าถึงได้ใช้ดาบมังกรแดง
รู ปแบบโล่ โล่มงั กรแดงสวรรค์ปกคลุมผืนฟ้า เพื่อป้องกันมัน”หลังจาก
ที่ได้ฆ่าวิญญาณชัว่ ร้ายแล้วนั้นบรรพชนเก่าแก่กไ็ ด้กล่าวออกมาพร้อม
กับรอยยิม้

“อืม แน่นอนว่าท่านพ่อได้ให้สมบัติวเิ ศษดอกบัวอําพันให้แก่ขา้


และอํานาจของมันนั้นชัง่ กล่าวได้วา่ ดูน่ากลัวยิง่ นัก แม้แต่ตวั ข้าเองก็ยงั
ไม่อยากที่จะใช้มนั สักเท่าไหร่ ”
“แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ได้วเิ คราะห์มนั อย่างละเอียดและสร้างของ
เลียนแบบสมบัติวเิ ศษดอกบัวอําพันขึ้นมา ถึงแม้วา่ อนุภาพของมันนั้น
จะเป็ นด่อยกว่ามากแต่มนั ก็สามารถทําให้ผคู ้ นตกใจได้ไม่นอ้ ยเลย
ทีเดียว” ในขณะที่บรรพชนผุอ้ าวุโสพูดกล่าวก็ได้มีดอกบัวอําพัน
ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ ามือของเขา

“ถึงแม้วา่ มันจะเป็ นของที่ทาํ เลียนแบบขึ้นมาแต่อนุภาพของมัน


นั้นก็ไม่ได้เรี ยกว่าน้อยเลยที่เดียว แล้วเหตุทาํ ใมเจ้าถึงไม่ลองใช้การ
สร้างจิตวิญญาณเพือ่ ทดสอบอนุภาพของสมบัติวเิ ศษที่ถูกสร้าง
เลียนแบบขึ้นมาชิ้นนี้ดูเล่า?” บรรพชนผูอ้ าวุโสกล่าวด้วยรอยยิม้

“นั้นมัน…ก็.” ในทันทีใบหน้าของบรรพชนเก่าแก่ถึงกับมี
อาการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและเหมือนกับว่าเขานั้นต้องการที่จะพูด
อะไรบางอย่างออกมา
“รับมือ!” แต่ในทันทีบรรพชนผูอ้ าวุโสก็ได้สะบัดดอกบัว
อําพันในฝ่ ามือของเขา มันได้กระจากออกไปและกลายเป็ นลูกศรแสงสี
ทองพุง่ เข้าใส่ ต่อบรรพชนเก่าแก่

เมื่อเห็นเช่นนั้นบรรพชนเก่าแก่กย็ งั ไม่ได้แสดงอาการตกใจใด ๆ ออกมา


แม้แต่ดาบมังกรแดงของเขา เขาก็ยงั ไม่นาํ มันขึ้นมาเพื่อปั ดป้องมีเพียงแต่
คําพูดเท่านั้นที่เขาได้กล่าวออกไปว่า “ท่านพี่ดอกบัวอําพันของท่านนั้น
ชัง่ ดูเหมือนกับของจริ งยิง่ นัก มันสามารถทําให้ผคู ้ นตกใจได้ไม่นอ้ ยเลย
ทีเดียวและมีเพียงผูเ้ ชียวชาญเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทําได้ถึง
เพียงนี้ ในเมื่อท่านพี่ตอ้ งการแบบนี้ล่ะก็แน่นอนว่าข้าจะทดสอบมัน
ให้แก่ท่านเอง”

ในขณะที่บรรพชนเก่าแก่ได้พดู จบเขาก็ได้โบกมือของเขา และชั้นการ


ก่อของอํานาจวิญญาณที่อ่อนแอก็ได้ปรากฏขึ้นมาในด้านหน้าของเขา
เขาต้องการที่จะใช้อาํ นาจของการก่อวิญญาณที่อ่อนแอนี้เป็ นเครื่ อง
ทดสอบของเลียนแบบดอกบัวอําพันของพี่ชายเขา
*** ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ***

แต่อย่างไรก็ตามในทันทีที่ลูกศรสี ทองได้เข้าปะทะกับชั้นของการก่อ
อํานาจวิญญาณ การก่อตัวนั้นก็ได้ถูกทําลายลงในทันทีและลูกศรสี ทอง
นับสิ บที่แสนน่ากลัวก็ได้พงุ่ เข้าชนกับบรรพชนเก่าแก่ในทันที

“อึก” ในขณะที่ช้ นั ของการก่อวิญญาณวิญญาณถูกทําลายใบหน้าอัน


สงบนิ่งของบรรพชนเก่าแก่กไ็ ด้เปลี่ยนไปในทันทีเพราะเขาในตอนนี้
นั้นได้คน้ พบแล้วว่า ดอกบัวอําพัน ที่พี่ชายเขาได้ใช้มนั โจมตีเขานั้นมัน
ไม่ใช้ของเลียนแบบแต่วา่ มันคือ ดอกบัวอําพัน ของจริ ง

แต่กว่าที่เขาจะรู ้ตวั นั้นมันก็สายเกินไปแล้ว เขาในตอนนี้น้ นั ไม่สามารถ


ที่จะหลบเหลี่ยงหรื อทําการป้องกันใด ๆ ได้อีก
ฉะนั้นแล้วเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากระเบิดชั้นการก่อวิญญาณสี
ม่วงออกมาจากร่ างกายของเขาเพื่อป้องกันลูกศรสี ทอง

*** ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ***

แต่อย่างไรก็ตามชั้นก่ออํานาจวิญญาณสี ม่วงในด้านหน้าของบรรพชน
เก่าแก่น้ นั ก็ได้ถูกทําลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี แล้วจนท้ายที่สุดลูกศรสี ทอง
นับไม่ถว้ นก็ได้พงุ่ เข้าใส่ กบั ร่ างกายของบรรพชนเก่าแก่

*** ชวูบ~~~ ***

แต่ในทันทีที่ลูกศรสี ทองได้สมั ผัสกับเสื้ อคลุมสี ทองของบรรพชนเก่าแก่


มันก็ได้เกิดแสงสี ทองแพรวพราวและผสมผสานเข้าด้วยกันกับลูกศรสี
ทอง
“ยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดเสื้ อคลุมมังกร หึ ขา้ รู ้อยูแ่ ล้วว่าท่านพ่อ
จะต้องให้ยทุ ธภัณฑ์ช้ นั ยอดชิ้นนี้ให้แก่เจ้า”

“เพราะต้องการให้เจ้ามีเครื่ องป้องกันดอกบัวอําพันของข้า แต่


ยังใงก็ตามถึงแม้วา่ ข้านั้นจะสามารถใช้ดอกบัวอําพันได้แค่ครั้งเดียวแต่
ถ้าแค่ได้เร่ งอนุภาพสู งสุ ดของมันล่ะก็ ต่อให้เป็ นเสื้ อคลุมมังกรของเจ้า
มันก็ไม่สามารถที่จะป้องกันดอกบัวอําพันของข้าได้”

ทันใดนั้นบรรพชนผูอ้ าวุโสก็ได้ระเบิดจํานวนลูกศรสี ทองออกมาอย่าง


ไม่มีที่สิ้นสุ ดพุง่ เข้าใส่ ร่างกายบรรพชนเก่าแก่ในทันที

“ไอ้บา้ เอ้ย! ทําใมบรรพชนผูอ้ าวุโสถึงได้โจมตีบรรพชนเก่าแก่!


นี่มนั เกิดบ้าอะไรขึ้น?”
ในทันทีชูเฟิ งได้เกิดอาการตกใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด แต่เดิมเขาได้คิดว่าภัย
อันตรายนั้นมันได้เลือนหายไปแล้ว แต่ในตอนนี้เขาคิดไม่ถึงเลยว่าทําใม
บรรพชนผูอ้ าวุโสจู่ ๆ ถึงได้โจมดีบรรพชนเก่าแก่อีกครั้ง และในการ
โจมตีครั้งนี้น้ นั ยังกล่าวได้วา่ ชัง่ เป็ นอันตรายยิง่ นักและอนุภาพของมัน
นั้นก็ได้แตกต่างจากการจู่โจมของเขาก่อนหน้านี้อย่างลิบลับ ถึงแม้วา่
บรรพชนเก่าแก่จะมียทุ ธภัณฑ์ช้ นั ยอดไว้คอยปกป้องร่ างกายของเขาอยู่
แล้วแต่เมื่อหันหน้าให้กบั การจู่โจมที่น่ากลัวเช่นนี้น้ นั ร่ างกายของเขา
ย่อมได้รับความเสี ยหายอย่างหนักแน่นอน

“บัดซบ! จงแหลกไปซะ!”

แม้วา่ ชูเฟิ งในตอนนี้น้ นั จะยังไม่รู้ถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่ องระหว่าง


บรรพชนเก่าแก่และบรรพชนผูอ้ าวุโส แต่ชูเฟิ งก็รู้ดีวา่ สถานการณ์
ตรงหน้าของเขาในตอนนี้มนั ไม้ใช่เรื่ องที่ดีเลยแม้แต่นิดเดียว ฉะนั้นแล้ว
เขาจึงได้เร่ งอํานาจวิญญาณสี ฟ้าของเขามาจนถึงขีดสุ ดและเริ่ ม
ขบวนการก่อ
ชูเฟิ งได้ประทับฝ่ ามือของเขาลงไปในการก่อวิญญาณอย่างรวดเร็ ว แต่
เพียงแค่กระพริ บตาในเวลานั้นก็ได้เกิดแสงสว่างขึ้นที่ฝ่ามือของเขาและ
ปรากฏรอยแตกเล็ก ๆ ขึ้นที่ผนังการก่อ

ฉะนั้นแล้วชูเฟิ งจึงได้ใช้ฝ่ามือของเขาประทับลงไปที่รอยแตกเล็ก ๆ นั้น


อีกครั้ง “เพล้ง” ในที่สุดการก่อปิ ดผนึกของอํานาจวิญญาณสี ฟ้าก็ได้
แตกลงและสลายหายไป ชูเฟิ งได้ดึงฝ่ ามือของเขากลับมาและเร่ งพลัง
อํานาจแก่นแท้อย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดและการเป็ นภาพเบลอของเส้นแสงบิน
ออกไปจากพระราชวัง

“อ่า!” แต่ในขณะนั้นระลอกคลื่นของลูกศรแสงสี ทองก็ได้หยุดลง และ


ปรากฏร่ างกายของบรรพชนเก่าแก่ข้ ึนในสายตาของชูเฟิ งอีกครั้ง

บนร่ างกายของบรรพชนเก่าแก่ในตอนนี้น้ นั นอกจากพื้นที่ที่ถูกปกคลุม


ด้วยเสื้ อคลุมมังกรมันก็ได้ถูกเจาะจนพรุ นและแหลกเหลวจนดูน่ากลัว มี
แม้กระทัง่ ในบางส่ วนในร่ างกายของเขาถึงได้รับความเสี ยหายจนไป
ถึงกับเห็นกระดูกสี ขาวของเขา แม้แต่ใบหน้าของเขาเองนั้นก็ยงั ไม่มี
ข้อยกเว้น อาจบอกได้วา่ สภาพโดยรวมของเขาในตอนนี้น้ นั ดูน่ากลัว
เป็ นอย่างมาก

ถึงแม้วา่ เสื้ อคลุมมังกรของเขานั้นจะสามารถป้องกันสมบัติวเิ ศษดอกบัว


อําพันได้แต่มนั ก็ไม่ได้ปกคลุมทุกส่ วนในร่ างกายของเขาฉะนั้นแล้วมัน
จึงเป็ นเหตุผลว่าทําใมเขาถึงได้รับบาทเจ็บอย่างสาหัสและในตอนนี้กลิ่น
อายของเขานั้นยังกล่าวได้วา่ ดูอ่อนแอลงเป็ นอย่างมาก ไม่ตอ้ งพูดการ
เริ่ มต่อสู ใ้ นยกต่อไปเลยเพราะถึงแม้วา่ จะปล่อยเขาไว้แบบนั้นเขาก็จะ
ตายไปเองในไม่ชา้

“เหตุใด? เหตุใดถึงได้ทาํ กับข้าเช่นนี้? ตอบข้ามาอย่างน้อย


ก่อนที่ขา้ จะตายก็ขอให้ได้รับรู ้ถึงเหตุผลนั้น” บรรพชนเก่าแก่กล่าว
“โอ้นอ้ งข้าอย่าได้ถือโทษข้าเลยนะ ข้าน่ะไม่ได้แครงใจใน
ตําแหน่งจักรพรรดิของเจ้าหรอกนะ แล้วข้าก็ไม่ได้สนใจในความรักของ
ท่านพ่อที่มีให้แก่เจ้าด้วย แล้วยิง่ ไปกว่านั้นข้าก็ไม่ได้สนใจในชื่อเสี ยง
และความมัง่ คัง่ ของเจ้าอีกด้วย”

“สิ่ งที่ขา้ สนใจจริ ง ๆ นั้นก็มีเพียงแค่ขา้ จะอยูห่ รื อจะตายก็


เท่านั้น แต่วา่ อีกไม่นานนี้มนั ก็จะถึงจุดสิ้ นสุ ดของอายุขยั ของข้าแล้ว
เพียงแต่วา่ ข้านั้นยังไม่ได้มีความต้องการที่จะตายในตอนนี้!”

“ในหลายปี มานี้ขา้ ได้พยายามค้นคว้าหาวิธีเพื่อที่จะได้เอาไว้ยดื


อายุขยั ของตัวเอง ข้าได้พยายามค้นหาหญ้าอมตะต่าง ๆ และโอสถ
สวรรค์ แต่ทา้ ยที่สุดแล้วนั้นผลลัพธ์ของมันก็มีนอ้ ยมากเกินไป แล้วสิ่ งที่
ให้ผลลัพธ์ได้ดีที่สุดก็คือหญ้าอมตะที่อยูม่ านับหลายปี ”

“เจ้าก็น่าจะรู ้นะว่าสิ่ งเหล่านั้นมันมีค่ามากแค่ไหนสําหรับข้า


แต่เจ้าก็กลับไม่เต็มใจที่จะซื้อมันให้แก่ขา้ ฉะนั้นแล้วข้าจึงไม่ได้หวัง
อะไรกับเจ้าอีก”

“แต่ถึงอย่างนั้นราชวงศ์จีราชวงศ์จา้ วและราชวงศ์หลิว ก็ได้


ร่ วมมือกันเพื่อมอบหญ้าอมตะที่สามารถยืดอายุได้ถึงสิ บปี แก่ขา้ แต่มีขอ้
แลกเปลี่ยนว่านั้นก็คือมันจะต้องแลกด้วยชีวติ ของเจ้า” บรรพชนผู ้
อาวุโสกล่าวออกมาด้วยรอยยิม้

“ไอ้พี่เฮงซวย! เจ้านี่มนั ชัง่ โง่เขลาอย่างแท้จริ ง!”

*** ไอ ไอ ไอ *** เมื่อได้ยนิ คําพูดเหล่านั้นมันทําให้บรรพชนเก่าแก่


ถึงกับตกอยูใ่ นความโกรธอย่างแท้จริ ง หลังจากที่เขาได้ไอไปไม่กี่ครั้ง
เขาก็ได้พดู ต่ออีกว่า “นับตั้งแต่หลายปี ที่ผา่ นมาราชวงศ์จีราชวงศ์จา้ ว
และราชวงศ์หลิว พวกมันทั้งสามราชวงศ์ได้พยายามรุ กรานราชวงศ์เจียง
ของเรามานับหลายปี ”
“และในตอนนี้ราชวงศ์เจียงของพวกเรามีเพียงแค่ขา้ คนเดียว
เท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับพวกมันได้ และการที่เจ้าไปช่วยพวกมัน
เช่นนี้มนั ไม่ได้เป็ นเรื่ องง่าย ๆ แค่การฆ่าข้าเพียงคนเดียว แต่มนั เป็ นการ
ฆ่าคนของราชวงศ์เจียงของพวกเราทั้งหมด!”

“หุบปากของเจ้าได้แล้วหากการที่เจ้าบอกว่าสามารถต่อกรกับ
พวกมันได้ละก็เจ้าก็คงไม่เสี่ ยงชีวติ ตัวเองเพื่อเข้ามายังสุ สานจักรพรรดิ
แห่งนี้หรอก.” บรรพชนผูอ้ าวุโสกล่าวออกมาด้วยรอยยิม้ เย็นชา และ
หลังจากนั้นเขายังได้พดู ออกไปอีกว่า “และนอกจากนี้การมีอยูข่ อง
ราชวงศ์เจียงมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชีวติ ของข้านิจริ งไหม ข้าบอก
เจ้าแล้วนี่นาว่าข้านั้นเป็ นห่วงแค่ความเป็ นความตายของข้าเพียงคนเดียว
เท่านั้น”

ReadMGA
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ
B1 : ตามชื่อตอนเลยครับสัสเอ้ยเห็นแก่ตวั เหี้ ย ๆ ที่สาํ คัญเนื้อเรื่ อง
แม้งยังพริ กไปพริ กมาอีก เดี้ยวทรยศเดี้ยวคืนดีเดียวทรยศแหม่สสั พากูโง่
ไปพอ ๆ กับวิญญาณชัว่ ร้ายเลย

B2 : เออใช่ผมนี่นึกว่า game of thrones เลยครับจะพริ ก


คดีเยอะไปไหน

B1 : แล้วที่น้ ีราชวงศ์เจียงจะมีชะตากรรมเป็ นเช่นไร

B2 : นั้นน่ะสิ

B3 : ติดตามได้ในสงครามราชวงศ์เจียง แค่น้ ีแหละการพูดคุยของ


พวกเรานี่ตดั จบแค่น้ ีได้ไหม?? กูรู้สึกขี้เกียจพิมมากเลย

B1 : เดี้ยว ๆ B3 ข้าได้ข่าวมาว่าได้มีวรี บุรุษนักอ่านท่านหนึ่งได้อ่าน


ไปถึงตอนที่ 2533 แล้วนะเว้ย

B2 : เห้ยพูดเป็ นเล่นน่า นี่อย่าบอกนะว่ากําลังมีนกั อ่านที่กาํ ลังดํานํ้า


อ่านในเว็ป lnmtl โอ้ววพระเจ้าเพื่อผูร้ ่ วมอุดมการณ์เดียวกัน

B3 : อุดมการณ์อะไรของมึงว่ะ B2
B2 : ก็อุดมการณ์ดาํ นํ้าแห่งนักอ่านประเทศไทยใง!!

B3 : มึงเล่นเหี้ ยอะไรของมึงเนี่ย ถ้าคิดจะเล่นมุขแบบนี้นะมึงไปเล่น


กับ B1 ป่ ะ

B1 : แหม่บอกให้มนั มาเล่นกับกูแล้วมึงจะไปรับมุขมันทําควยไรล่ะ
ไอ้ควาย!! แย่งคําพูดกูไปแล้วยังมาโยนขี้ให้กอู ีกบักหําน้อยเอ้ย

B3 : เห้ย! มันขนาดนั้นเลยหรอว่ะ!! อูว้ หูว้ วววเช็ดเข้~~~

B2 : เอิ่ม….กูวา่ ตัดจบเถอะ!!

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 505 – แก่นแท้อาํ นาจพลังวิญญาณ

“ในปี ที่ผา่ นมาข้าได้ช่วยดําเนินการต่อชีวติ ให้เจ้าไปโดยใช้


ทรัพยากรของตนไปไม่นอ้ ยนั้นมันคืออะไร?”

“การที่ขา้ ทําเพื่อเจ้าถึงขนาดนี้ แต่เจ้ากลับตอบแทนข้าเช่นนี้มนั


คืออะไร? เจ้าไม่สนใจความอยูร่ อดของราชวงศ์และพี่นอ้ งร่ วมญาตินี่
เจ้ายังเรี ยกตัวเองว่าเป็ นมนุษย์ได้อีกหรื อไม่? เจ้ามันเป็ นเพียงแค่สตั ว์!
สิ่ งมีชีวติ อันหน้าโสโครก!”

*** ไอไอไอไอไอ ~~~ *** บรรพชนเก่าแก่ได้ไอออกมาอย่าง


ต่อเนื่องด้วยความโกรธ เลือดได้ทะลักออกมานับหลายอึกจากปากของ
เขา มือทั้งสองข้างของเขาได้ค้ าํ จุนกับพื้นดินเอาไว้แล้วร่ างทั้งร่ างของ
เขานั้นก็ตกอยูใ่ นอาการสัน่ เทาอย่างรุ นแรง

ชีวติ ของบรรพชนเก่าแก่ในตอนนี้น้ นั ใกล้จะจบสิ้ นเต็มทีแล้ว เขา


ในตอนนี้น้ นั ได้ตกอยูแ่ ล้วในปากเหวแห่งความตาย
“โอ้วน้องรักเจ้าเคยได้ยนิ คํานี้ไหม {หากคนเราไม่โหดเหี้ ยมก็จะ
ไม่สามารถมีชีวติ รอด} เพื่อความอยูร่ อดของตัวเองแล้วนั้นข้าสามารถ
ทําได้ทุกอย่างแม้แต่ต่อให้ราชวงศ์เจียงต้องล่มสลายและผูค้ นทั้งหมดใน
ทวีป 9 อาณาจักรต้องตายข้าก็ไม่สน!”

เมื่อเห็นสภาพของบรรพชนเก่าแก่บรรพชนผูอ้ าวุโสก็ได้เปิ ดเผยเจตนา


ฆ่าออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด ชัดเจนมากว่าเขานั้นไม่ได้รู้สึกผิดหรื อเสี ย
ใงใด ๆ เมื่อหันหน้าไปหาน้องชายของเขา เขาจริ งตั้งใจที่จะฆ่าพี่นอ้ งใน
สายเลือดแท้ ๆ ของเขาเองด้วยมือของตนเอง

“ไอ้สิ่งมีชีวติ ชั้นตํ่าการคงอยูข่ องเจ้ามันจะต้องดับสิ้ นในวันนี้!”

เพียงแต่ในเวลานั้นชูเฟิ งได้ใช้อาํ นาจสายฟ้าของเขาเพื่อเพิ่มระดับพลัง


วิญญาณขึ้นเป็ นระดับที่ 1 ของแดนสวรรค์ เขาได้เหวีย่ งมือของเขา
ออกไปพร้อมกับ ขวานอสูรฟ้า ใบมีดสี ดาํ {เท็ตสึ กะเท็นโช}พุง่ ตรงไป
ยังบรรพชนผูอ้ าวุโส

แม้วา่ ตัวชูเฟิ งเองนั้นจะอยูห่ ่างไกลจากจุดที่บรรพชนเก่าแก่น้ นั ได้นอน


ซมอยูแ่ ต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะยืนดูเฉย ๆ และปล่อยให้เขาโดนฆ่าตายไป
ทั้ง ๆ แบบนั้น ฉะนั้นแล้วถึงแม้วา่ ตัวเขาเองนั้นจะไม่สามารถเอาชนะคู่
ต่อสู ข้ องเขาได้ในครั้งนี้แต่อย่างน้อยเขาก็ขอแค่ได้ถ่วงเวลาไว้ได้แม้จะ
น้อยนิดแต่มนั ก็ยงั ดีกว่าไม่ทาํ อะไร

“เฮอะ แม้แต่เหลือบไรเช่นเจ้าก็ยงั ริ อาจกล้าที่จะโจมตีขา้ อย่างนั้น


รึ ? เจ้ากําลังมองหาที่ตายโดยแท้!” เมื่อเห็นเช่นนั้นบรรพชนผูอ้ าวุโส
ได้กล่าวออกมาอย่างเย็นชาพร้อมกับขยายมือและปล่อยอํานาจสวรรค์
ออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดทําลายใบมีดสี ดาํ ในทันทีแต่มนั ยังไม่จบเพียง
แค่น้ นั อํานาจสวรรค์ยงั คงคืบคลานและมุ่งตรงไปยังชูเฟิ ง

“บัดซบ! ผูเ้ ชียวชาญระดับ 8 แดนสวรรค์นี่ชงั่ น่ากลัวจริ ง ๆ ต่อ


หน้าพลังอํานาจของมันแล้วนั้นข้าไม่อาจทําสิ่ งใดได้เลยแม้แต่สวนกลับ
การโจมตีของมันข้าก็ยงั ทําไม่ได้.”

ในทันทีชูเฟิ งได้ขมวดคิ้วของตัวเองแน่นและใบหน้าของเขาก็ยงั ได้เกิด


การเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเพราะเขาในตอนนี้น้ นั ได้คน้ พบแล้วว่าเมื่อ
อยูต่ ่อหน้าอํานาจสวรรค์ของบรรพชนผูอ้ าวุโส มันทําให้ร่างกายของเขา
นั้นขยับไม่ได้เขาทําได้เพียงรอคอยการโจมตีน้ นั มาถึงตัวเขาเท่านั้นโดย
ที่เขาไม่สามารถที่จะหลบมันได้

และถ้าหากว่าชูเฟิ งได้ปะทะเข้ากับอํานาจสวรรค์ที่แข็งแกร่ งถึงเพียงนี้


ล่ะก็ร่างกายของเขาจะต้องระเบิดจนกลายเป็ นกองเลือดอย่างแน่นอน

*** บูมมม ***

แต่ในช่วงเวลานั้นเมื่อชีวติ ได้ถูกแขวนอยูบ่ นเส้นด้าย ก็ได้มีการระเบิด


เกิดขึ้นของชั้นบรรยากาศมาจากด้านหลังของชูเฟิ ง และในขณะเดียวกัน
ก็ได้มีรูปร่ างหนึ่งมายืนอยูใ่ นด้านหน้าของชูเฟิ งราวกับเป็ นปรากฏตัว
ของผี เขาได้ยนื่ ฝ่ ามือของเขาออกไปและอํานาจสวรรค์ที่กาํ ลังพุง่ ตรงเข้า
มาหาชูเฟิ งนั้นก็ได้ถูกทําลายลงในทันที

และคนคนนั้นจะเป็ นใครไปไม่ได้นอกจากอสู รราชันย์วานร เมื่ออสู ร


ราชันย์วานรได้รับสัญญาณการขอความช่วยเหลือจากชูเฟิ งเขาก็ได้รีบ
เข้ามาในพระราชวังในทันที

“นี่มนั เกิดเรื่ องบ้าอะไรขึ้น?” ในทันทีที่องค์จกั รพรรดิมาถึง


พร้อมกับผูเ้ ชียวชาญคนอื่น ๆ และ เจียง เฮิงหยวน เมื่อพวกเขาได้เห็น
ฉากในพระราชวังมันถึงกับทําให้พวกเขาทั้งหมดนั้นทําอะไรไม่ถูก

“พี่ลิงรี บไปปกป้องบรรพชนเก่าแก่โดยเร็ ว บรรพชนผูอ้ าวุโส


กําลังจะฆ่าเขา!” ชูเฟิ งบอกกล่าว
“ในเมื่อข้าได้รู้วา่ ไอ้เฒ่านี่มนั ไม่ใช่คนดีแล้วล่ะก็ขา้ ก็ขอไม่
เกรงใจล่ะนะข้าขอจัดแบบงาม ๆ สักทีหนึ่งเถอะ!” ในขณะนี้อสู ร
ราชันย์วานรไม่เสี ยคําพูดใด ๆ อีกต่อไป ดวงตาของเขากลายเป็ นสี แดง
กํ่าและได้กลายเป็ นภาพเบลอของเส้นแสงมุ่งตรงไปยังบรรพชนผู ้
อาวุโส

“เหอะ แม้วา่ เจ้าจะยังไม่ตายในตอนนี้แต่สภาพร่ างกายของเจ้า


นั้นจะยังไม่ฟ้ื นตัวไปอีกนานอย่างแน่นอน.”

“ข้าขอแนะนําเลยนะว่าให้พวกเจ้าได้พาเด็กและเยาวชนรุ่ นใหม่
ของราชวงศ์เจียงออกไปจากทวีป 9 อาณาจักรซะหรื อไม่กร็ อคอยให้
พวกมันได้ตายไปพร้อมกับราชวงศ์เจียงซะ! ฮ่า ๆ ๆ ๆ !”

แต่ในทันทีบรรพชนผูอ้ าวุโสกลับไม่ตอ้ งการที่จะปรับมือกับอสู รราชันย์


วานร เขาได้เล่นวิง่ ไล่จบั กับอสู รราชันย์วานรเป็ นวงกลมพร้อมกับ
ระเบิดเสี ยงหัวเราะแล้วเขาก็หลบหนีหายไปราวสายลม
เมื่อเห็นเช่นนั้นอสู รราชันย์วานรก็ไม่ได้คิดที่จะไล่ตามบรรพชนผู ้
อาวุโสอีกต่อไปเพราะคนที่เขาเป็ นกังวลใจและเป็ นห่วงมากที่สุดก็คือชู
เฟิ ง และถ้าเกิดว่าเขานั้นได้ออกไล่ตามไปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับชูเฟิ ง
ในช่วงนั้นล่ะก็มนั จะต้องเป็ นการสู ญเสี ยที่ใหญ่หลวงสําหรับเขาเป็ นแน่

“ท่านพ่อ, ท่านพ่อ, ท่านยังอยูด่ ีหรื อไม่?”

“ท่านบรรพชน! สวรรค์!!! นี่มนั เกิดบ้าอะไรขึ้น? ชูเฟิ งมันได้


เกิดเรื่ องบ้าอะไรขึ้นในที่แห่งนี้?”

หลังจากที่บรรพชนผูอ้ าวุโสได้หลบหนีออกไปผูค้ นจากราชวงศ์เจียงก็


ได้ลุมกรู กนั เข้าไปหาบรรพชนเก่าแก่ ในขณะนี้พวกเขานั้นไม่รู้อะไรเลย
ถึงต้นสายปลายเหตุในอาการบาดเจ็บของบรรพชนเก่าแก่ ฉะนั้นแล้ว
พวกเขาจึงได้ถามชูเฟิ งถึงเหตุการณ์ท้ งั หมดที่มนั ได้เกิดขึ้นที่นี่
และหลังจากที่ได้ทราบเรื่ องราวทั้งหมดใบหน้าของผูค้ นจากราชวงศ์
เจียงก็ได้เปลี่ยนไปในทันทีใบหน้าของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความ
กังวลราวกับว่าชีวติ อันยาวนานของพวกเขานั้นได้มาถึงจุดจบแล้ว
ฉะนั้นแล้วเมื่อหลังจากที่พวกเขาได้บรรเทาอาการบาดเจ็บของบรรพชน
เก่าแก่สาํ เร็ จด้วยความเป็ นผูน้ าํ องค์จกั รพรรดิกไ็ ด้สงั่ ให้ผคู ้ นของ
ราชวงศ์เจียงล่าถอยออกไปจากสุ สานจักรพรรดิในทันที

ส่ วน กู่ เทียนเซิน และคนอื่น ๆ จากนิกายโลกวิญญาณนั้นก็ได้ล่าถอย


ออกไปด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขานั้นไม่ตอ้ งการที่จะมาเสี่ ยงอันตรายใน
สุ สานจักรพรรดิ

แล้วในที่สุดก็เหลือเพียงแค่ชูเฟิ งและอสู รราชันย์วานรเท่านั้นที่ยงั คงอยู่


ในสุ สานจักรพรรดิ ชูเฟิ งและอสู รราชันย์วานรนั้นพวกเขายังคงไม่เต็ม
ใจที่จะออกไปจากสุ สานจักรพรรดิสกั เท่าไรนัก
ฉะนั้นแล้วพวกเขาทั้งสองจึงได้ตดั สิ นใจเดินทางต่อลึกลงไปในสุ สาน
จักรพรรดิ แต่ในขณะที่พวกเขาได้เดินลึกลงไปไปไม่ไกลนักใบหน้า
ของอสู รราชันย์วานรก็ได้เปลี่ยนแปลงในทันทีและกล่าวว่า “มันเป็ นดัง่
ที่ขา้ ได้คาดการณ์เอาไว้จริ ง ๆ มันได้มีส่ิ งผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นใน
สถานที่แห่งนี้ นอกจากนี้ที่นี่ยงั มีรูปแบบการก่ออํานาจวิญญาณที่มีความ
แข็งแกร่ งเป็ นอย่างมาก”

“แล้วมันยังใงหรื อ พี่ลิง?” ชูเฟิ งได้ถามโดยพลัน

“ชูเฟิ งดูนี่” ทันใดนั้นอสู รราชันย์วานรก็ได้กา้ วเดินออกไป


เพียงแค่พริ บตาเดียวเขาก็ได้ไปปรากฏอยูใ่ นด้านหน้าของชูเฟิ งที่อยูห่ ่าง
ออกไปนับร้อยเมตร

เมื่อเห็นเป็ นเช่นนั้นชูเฟิ งจึงได้รีบตามออกไป เมื่อไปถึงที่น้ นั เขาไม่ได้


ค้นพบแต่อสู รราชันย์วานรเท่านั้นแต่เขายังได้คน้ พบกับแอ่งนํ้าบางอย่าง
ที่อยูใ่ ต้เท้าของเขาอีกด้วย
ถ้าจะพูดให้ถูกแอ่งนํ้านี้น้ นั ไม่ใช่แอ่งนํ้าธรรมดาเพราะว่าสี ผวิ ของนํ้านั้น
มันดูกระจ่างใสมากเกินไป นอกจากนี้เขายังรู ้สึกได้ถึงพลังงานอะไร
บางอย่างที่มีความหนาแน่นเป็ นอย่างมากจากแอ่งนํ้าเล็ก ๆ นี้ มันให้
ความรู ้สึกที่เหมือนราวกับเป็ นพลังงานห้วงวิญญาณ พลังงานกําเนิด
วิญญาณ พลังงานแก่นแท้และพลังงานสวรรค์ ผสมผสานกัน

“พี่ลิง นี่มนั คืออะไร?” ชูเฟิ งได้รู้สึกตื่นตกใจอย่างไม่รู้จบ


เพราะเขาไม่สามารถรับรู ้ได้วา่ พลังงานชนิดนี้น้ นั มันคือพลังงานอะไร
แต่เขาสามารถรับรู ้ได้วา่ พลังงานนี้น้ นั มันจะสามารถเพิ่มระดับพลังงาน
วิญญาณให้แก่เขาเป็ นอย่างมากเลยที่เดียวและมันอาจกล่าวได้วา่ สิ่ งนี้น้ นั
มันจะต้องเป็ นสมบัติที่มีค่าต่อการเพิม่ พลังวิญญาณของเขาเป็ นแน่

“มันคือแก่นแท้อาํ นาจพลังวิญญาณ” อสู รราชันย์วานรกล่าว


“แก่นแท้อาํ นาจพลังวิญญาณ?” ชูเฟิ งถามความรู ้สึกอยากรู ้
อยากเห็น

“มันคือการก่อตัวของอํานาจวิญญาณที่มีความแข็งแกร่ งมาก
อาจกล่าวได้วา่ มันสามารถป้องกันการโจมตีจากมนุษย์ได้ทุกรู ปแบบ ไม่
มีสิ่งใดที่สามารถผ่านชั้นของการป้องกันไปได้นอกจากพลังงาน
ธรรมชาติลม นํ้า และอากาศเท่านั้น

“และนอกจากนี้พลังงานที่เจ้ากําลังสัมผัสได้อยูน่ ้ ีน้ นั มันมีชื่อ


เรี ยกว่าพลังงานธรรมชาติซ่ ึงพลังงานธรรมชาติน้ นั มันจะรวบรวมทุก
พลังอํานาจเอาไว้ให้อยูก่ บั ตัวมันอย่างเช่น พลังงานห้วงวิญญาณ
พลังงานแดนกําเนิดวิญญาณ พลังงานแก่นแท้วญ ิ ญาณ พลังงานสวรรค์
วิญญาณ หรื อแม้กระทัง่ พลังงานของจ้าวแห่งสงคราม พลังงานต่าง ๆ ที่
ได้กล่าวมานี้น้ นั หากพวกมันได้เข้าผสมผสานกันเมื่อไหร่ มนั ก็จะเรี ยกว่า
พลังงานธรรมชาติ”
“แต่อย่างไรก็ตามเมื่อได้มีชนิดของการก่ออํานาจวิญญาณที่มี
ความแข็งแกร่ งถึงขนาดที่สามารถป้องกันจากพลังงานธรรมชาติได้ใน
ระดับหนึ่ง ถ้ามันได้มีอายุการใช้งานมาแล้วนับหลายปี มันก็จะถูกเปลี่ยน
ให้กลายเป็ นพลังงานธรรมชาติที่สามารถป้องกันการโจมตีทางกายภาพ
ได้ทุกชนิด หรื อจะเรี ยกง่าย ๆ ว่ามันได้ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็ น แก่น
แท้อาํ นาจพลังวิญญาณ”

“และด้วยการที่มีเศษของแก่นแท้อาํ นาจพลังวิญญาณอยูใ่ น
สถานที่แห่งนี้ มันก็หมายความว่าแต่เดิมมันควรที่จะมีการก่ออํานาจพลัง
วิญญาณอยูใ่ นสถานที่แห่งนี้ แต่ในตอนนี้มนั ได้ถูกทําลายลงไปแล้วโดย
ฝี มือใครบางคนที่สาํ คัญใครบางคนผูน้ ้ นั ยังไม่ได้ทิ้งร่ องรอยใด ๆ ไว้
เบื่องหลังอีกด้วย” ในขณะนั้นอสู รราชันย์วานรได้พดู อย่างระมัดระวัง
และมอบดูไปรอบ ๆ พร้อมกับต้องการแนะแนวความรู ้ในเรื่ องของ
อํานาจพลังวิญญาณให้กบั ชูเฟิ ง

“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าแก่นแท้อาํ นาจพลังวิญญาณนี้กเ็ ปรี ยบ


ได้ดงั่ กับสมบัติน่ะสิ !” แต่เมื่อเทียบกับความกังวลของอสู รราชันย์วานร
ชูเฟิ งทําเป็ นไม่สนใจเพราะเขาในตอนนี้น้ นั ได้สมใจและจดจ่ออยูแ่ ต่กบั
แก่นแท้ของอํานาจพลังวิญญาณ

ในขณะนั้นชูเฟิ งได้ยบิ ขวดหยกที่บรรจุใส่ เม็ดยาเอาไว้ออกมาจากถุง


จักรวาลของเขา เขาได้เปิ ดจุกขวดแล้วเทยาที่อยูข่ า้ งในทิ้งลงไปที่พ้นื
พร้อมกับเริ่ มนําเก็บชิ้นส่ วนของแก่นแท้อาํ นาจพลังวิญญาณเข้าไปใน
ขวด

“ชูเฟิ งนี่เจ้ากําลังจะทําอะไร?! แก่นแท้อาํ นาจจิตวิญญาณนั้น


เป็ นสิ่ งที่รุนแรงมากเพราะฉะนั้นอย่าได้สมั ผัสมัน!”

“ครั้งหนึ่งเคยมีผเู ้ ชื่อมต่อที่มีพลังอํานาจวิญญาณที่กล้าแกร่ งมากผู ้


หนึ่ง เขาพยายามที่จะดึงพลังงานธรรมชาติจากแก่นแท้อาํ นาจพลัง
วิญญาณออกมาใช้ เขาได้ออกตามล่าและรวบรวมแก่นแท้อาํ นาจพลัง
วิญญาณมาเป็ นจํานวนมากแล้วก็ได้รับการกลัน่ พวกมันเข้าไปใน
ร่ างกายของเขาอย่างบ้าคลัง่ ราวกับว่ามันเป็ นยาสวรรค์
“แต่ในท้ายที่สุดแล้วนั้นผูเ้ ชื่อมต่อผูน้ ้ นั ก็ไม่สามารถกลัน่
พลังงานจากแก่นแท้อาํ นาจจิตวิญญาณออกมาใช้ได้แล้วเขาก็ตายใน
ที่สุดเพราะว่าพลังงานธรรมชาติของมันนั้นมีพลังมากเกินไปจนคน
ธรรมดาสามัญไม่อาจที่จะกลัน่ พวกมันออกมาเป็ นพลังงานเพื่อเพิม่
ระดับพลังวิญญาณของพวกเขาได้ ฉะนั้นแล้วพวกเขาจึงได้จดั หมวดหมู่
ให้แก่นแท้อาํ นาจพลังวิญญาณเป็ นวัตถุอนั ตราย เมื่อใครก็ตามที่ได้เห็น
พวกมันก็ควรที่หลีกเหลี่ยงเข้าไว้” เมื่อเห็นการกระทําของชูเฟิ งอสู ร
ราชันย์วานรก็ได้ออกคําเตือนอย่างรวดเร็ วเพื่อที่จะหยุดเขา

ReadMGA
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B3 : ฟัคเอ้ยไอ้ลิงเวรมึงจะเข้ามาห้ามทําใมหว้าเฟิ งมันจะโดนบรรพ
ชนผูอ้ าวุโสฆ่าตายอยูแ่ ล้วโธ่ ๆ ๆ นิยายมันกําลังจะตัดจบแล้วเนี่ย
B1 : ตัดจบหน้ามึงอ่ะขอร้องไปละเมอไกล ๆ ๆ

B3 : ไม่ไปมีไรป่ าววววววววว

B1 : - -*

B2 : มาพบกับผมนาย B2 ในช่วงสาระมีอยูจ่ ริ งครับ ในตอนนี้ก็


บอกถึงเหตุผลได้แล้วว่าทําใมบรรพชนเก่าแก่ถึงได้มีรอยยิม้ แปลกและ
หงุดหงิดบ่อย ๆ เวลาที่ชูเฟิ งมีปฏิกิริยาและยังรวมไปถึงการเล่เหลี่ยมการ
ห้ามอสู รราชันย์วานรที่ไม่ให้ตามชูเฟิ งเข้าไปในพระราชวังรู ปทรง
แปลก

B3 : แล้วมันทามมายว้าาาาาาามันมีอะไยหย๋ อ

B2 : (- -*) ก็คือโดยรวมแล้วบรรพชนเก่าแก่น้ นั ต้องการที่จะให้


ทักษะเร้นลับกับชูเฟิ งจริ งแต่สิ่งที่เขาต้องการนั้นก็คือสมบัติที่ช่วยในการ
เพิ่มพลังวิญญาณและรวมไปถึงยุทธภัณฑ์ต่าง ๆ เพราะว่าเขานั้นต้องการ
ที่จะไปเปิ ดศึกกับ 3 ราชวงศ์ใงและถ้าเกิดเขาให้อสู รราชันย์วานรเข้า
ไปกับชูเฟิ งด้วยเขาก็ตอ้ งย่อมไม่ได้สมบัติดีดีเป็ นแน่จริ งไหม ฉะนั้นแล้ว
เขาจึงได้วา่ งกลอุบายให้ลิงอยูข่ า้ งนอกใง

B3 : แล้วยังใงอ่ะสุ ดท้ายก็เห็นมันโดนดักตีหวั อยูข่ า้ งในนิ


B1,B2 : ก็เขาหมายถึงว่ามันไม่ได้มีเจตนาร้ายกับชูเฟิ งใง ที่เล่ามา
เนี่ยก็เพื่อที่จะให้คนอ่านได้ปรับทัศนคติกบั ราชวงศ์เจียงยังใงเหล่าไอ้
ฟายเอ๋ ย

B3 : อ่ะหย๋ อไม่บอกไม่ยเู ้ ยยยะเยีย นึวา่ ราชวงศ์เจียงเป็ นผูร้ ้ายซะอีก

B1 : ทําใมวันนี้มนั กวนตีนจังว่ะ B2

B2 : ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน B1 ตอนนี้ขา้ เองก็เริ่ มลําคาญมันเต็มทน


แล้วเหมือนกัน

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 506 – คืนชีพบรรพชน

“พี่ลิง ท่านไม่จาํ เป็ นต้องกังวลใด ๆ เพราะว่าข้านั้นไม่ได้คิดที่จะ


กลัน่ มันอย่างแน่นอน เพียงแต่วา่ มันเป็ นสิ่ งที่มีค่าและแปลกตาข้ายิง่ นัก
ข้าจึงต้องการเก็บมันไว้เป็ นที่ระลึก

ชูเฟิ งยิม้ เบา ๆ หลังจากนั้นเขาก็ได้สะบัดขวดหยกขนาดเล็กบนมือของ


เขาพร้อมกลับปล่อยอํานาจแสงบางอย่างแพร่ กระจายออกมาจากปาก
ขวด

แสงที่กระจ่างใสนั้นได้เข้าปกคลุมแก่นแท้อาํ นาจจิตวิญญาณและดูดซึ ม
หลังไหลเข้าไปในขวดหยก แล้วเพียงพายในพริ บตาชูเฟิ งก็ได้เก็บแก่น
แท้อาํ นาจจิตวิญญาณในบริ เวณนั้นทั้งหมดเข้าไปในขวดหยกและยัดมัน
ใส่ ในถุงจักรวาล

“น้องชายถ้าเจ้ายังห่วงชีวติ ของตัวเองอยูร่ ะก็อย่าได้แม้แต่จะคิดที่


จะกลัน่ มันไม่เช่นนั้นอย่ามาหาว่าข้านั้นไม่เตือนเจ้า” อสู รราชันย์วานร
ได้กล่าวเตือนชูเฟิ งอีกครั้งเพราะเขานั้นได้รู้ถึงความต้องการของชูเฟิ ง
เมื่อกล่าวเสร็ จเขาก็ได้เริ่ มเดินลึกลงไปอีกครั้ง
“ฮ่า ๆ ๆ.” ชูเฟิ งได้ยกมือขึ้นมาเกาหัวของเขาและเดินตามอสู ร
ราชันย์วานรไป

*** ตึบ *** แต่ก่อนที่จะเดินไปได้ไกลมากกว่านี้ อสู รราชันย์วานร ก็


หยุดเดินอย่างกะทันหันและเหวีย่ งแขนขนาดใหญ่ของเขาคว้าตัวชูเฟิ ง
เอาไว้และรี บวิง่ ออกไปจากทิศทางที่พวกเขาได้เดินมาอย่างรวดเร็ ว

“พี่ลิงในทางข้างหน้ามันมีอะไร? ท่านเห็นอะไรอย่างนั้นรึ ?”
การกระทําที่ฉบั พลันของ อสู รราชันย์วานรนั้นมันทําให้ชูเฟิ งได้เข้าใจ
อย่างชัดเจนว่าในทางข้างหน้าของพวกเขานั้นจะต้องมีส่ิ งที่เป็ นอันตราย
ต่อพวกเขาเป็ นแน่ ไม่เช่นนั้นแล้วโดยธรรมชาติของอสู รราชันย์วานร
เขาคงจะไม่คิดที่จะหลบหนีเช่นนี้

“ข้าเพียงแค่รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของวิญญาณชัว่ ร้ายที่อยูใ่ นระดับ


9 แดนสวรรค์ถึงสองตนน่ะ นี่โชคดีนะที่พวกมันไม่ได้มีอาํ นาจพลัง
วิญญาณในการตรวจจับมิเช่นนั้นล่ะก็พวกมันจะต้องค้นพบเราเป็ นแน่
ยังดีที่ขา้ นั้นได้คน้ พบพวกมันก่อน”

“เพราะว่าถ้าหากพวกมันได้คน้ พบเราก่อนล่ะก็ดว้ ยระดับพลัง


วิญญาณของข้านั้นมันคงไม่สามารถหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกมันได้
เป็ นแน่ ยิง่ เดินลึกเข้าไปในสุ สานจักรพรรดิมากเท่าไหร่ มนั ก็เริ่ มที่จะมี
วิญญาณชัว่ ร้ายมากขึ้นเท่านั้นแล้วด้วยและอีกไม่นานพวกมันสองตัวนั้น
ก็จะได้พบกันและก็คงจะเกิดการต่อสู ท้ ี่รุนแรงมากขึ้นด้วยระดับพลัง
วิญญาณของเราในตอนนี้น้ นั พวกเราไม่สามารถที่จะต้านทานพวกมันได้
เลย พวกเราในตอนนี้น้ นั ยังไม่ควรที่จะเข้าสุ สานจักรพรรดิไปลึก
มากกว่านี้ คงต้องรอให้ระดับพลังวิญญาณของพวกเรานั้นมีมากกว่านี้
ก่อนและจึงค่อยเข้ามายังสถานที่น้ ีอีกครั้ง” อสู รราชันย์วานร อธิบาย

เมื่อได้ยนิ คําพูดเหล่านั้นมันทําให้ชูเฟิ งรู ้สึกไม่เต็มใจที่อยากจะออกไป


สักเท่าใดนักแต่มนั ก็ไม่มีทางเลือกมากมายสําหรับเขา เพราะว่าแม้แต่ผู ้
เชียวชาญระดับอย่าง อสู รราชันย์วานร ยังหนีหวั ซุกหัวซุนแล้วคนที่มี
ระดับพลังวิญญาณแค่ระดับ 1 แดนสวรรค์อนั น้อยนิดเช่นเขาจะไป
สามารถทําอะไรได้
นอกจากนี้ในเส้นทางที่พวกเขาได้กา้ วผ่านมายังไม่มีสมบัติใดเลยแม้แต่
ชิ้นเดี้ยว แม้แต่สถานที่ของทักษะเร้นลับก็ยงั เป็ นกลลวง ชูเฟิ งรู ้สึกว่ามัน
จะต้องเป็ นฝี มือของตาเฒ่าชุดดําผูน้ ้ นั เป็ นแน่ ต่อให้ชูเฟิ งยังคงคิดที่จะ
ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าในสถานที่ที่ลึกกว่านี้ในสุ สานจักรพรรดิเขาก็ตอ้ ง
ไม่ได้สมบัติใดติดไม้ติดมือออกมาเป็ นแน่

มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผลประโยชน์ในการสํารวจสุ สานจักรพรรดิใน
ครั้งนี้ได้ตกไปอยูใ่ นมือของตาเฒ่าชุดดํา ฉะนั้นแล้วชูเฟิ งจึงไม่มีทางเขา
ทําได้เพียงแต่หนั หลังให้สุสานจักรพรรดิและกลับไปยังสํานักมังกรฟ้า

หลังจากที่ในตอนนี้ทุกคนของราชวงศ์เจียงกําลังเกิดภัยพิบตั ิที่ใหญ่
หลวงที่กาํ ลังมุ่งหน้ามายังพวกเขา และมันอาจจะทําให้ทวั่ ทั้งทวีป 9
อาณาจักรถึงกลับต้องสัน่ คลอน
ฉะนั้นแล้วในตอนนี้ชูเฟิ งและอสู รราชันย์วานรจึงต้องรี บกลับไปยัง
สํานักมังกรฟ้าเพื่อควบคุมสถานการณ์โดยรวมที่น้ นั เพราะในตอนนี้น้ นั
สํานักมังกรฟ้ายังสร้างไม่เสร็ จดีนกั ฉะนั้นแล้วหากเกิดอะไรขึ้นมา
สํานักของพวกเขาจะต้องถูกทําลายอีกรอบหนึ่งเป็ นแน่

ภายในเทือกเขาของสํานักมังกรฟ้า ณ ตอนนี้น้ นั ได้ประสบความสําเร็ จ


และได้มีความคืบหน้าในการสร้างอาคารหลักไปได้หลายหลังแล้ว แถม
บรรยากาศโดยรวมของมันนั้นยังอาจกล่าวว่าดีกว่าแต่ก่อนหลายเท่าตัว
นักมันชัง่ ดูงดงามและน่าเกรงขาม ไม่วา่ จะเป็ นด้วยขนาดหรื อคุณภาพ
ของมันก็นบั ว่าดีเยีย่ มไปหมด มันอาจกล่าวได้วา่ สํานักมังกรฟ้า
ในตอนนี้น้ นั ได้กลับมาสู่ ช่วงเฟื่ องฟูอีกครั้งแล้วในตอนนี้

แล้วนอกจากนี้ในจํานวนอาคารเหล่านั้นก็ยงั เต็มไปด้วยเหล่าศิษย์และผู ้
อาวุโสมากมายอยูเ่ ป็ นจํานวนมาก มีทงั บางคนที่เริ่ มทําการบ่มเพาะพลัง
วิญญาณและบางคนก็กาํ ลังพูดคุยกันด้วยใบหน้าที่มีความสุ ข แต่พวก
ผูค้ นเหล่านั้นล้วนเป็ นผูม้ ีคุณสมบัติพิเศษทั้งนั้น
ใบหน้าของพวกเขาในตอนนี้น้ นั ยังคงแลดูมีความสุ ขกันอยูแ่ ละดู
เหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ทราบถึงภัยพิบตั ิที่กาํ ลังย่างกายเข้ามายังใน
ทวีป 9 อาณาจักรในตอนนี้ หากราชวงศ์เจียงผูท้ ี่เป็ นผูป้ กครองพื้นดิน
ทั้งทวีป 9 อาณาจักรมานานนับหลายปี ถูกโค้นล้มลงและถูกแทนทีดว้ ย
ขุมพลังอํานาจอื่น ทัว่ ทั้งทวีป 9 อาณาจักรจะต้องตกลงอยูใ่ นความ
สับสนวุน่ วายอย่างแน่นอน

หลังจากที่ชูเฟิ งกลับมาถึงที่สาํ นักมังกรฟ้าเขาก็ไม่ได้ไปหา หลี่ จางฉิ ง


เป็ นคนแรกแต่เขาตรงไปยังศูนย์กลางหลักของสํานักมังกรฟ้ามันเป็ น
ห้องโถงที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในสํานักมังกรฟ้า

ในสถานที่แห่งนี้น้ นั มีจาํ นวนผูอ้ าวุโสที่แข็งแกร่ งเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่


ประจําการอยูท่ ี่นี่เพราะว่าสถานที่แห่งนี้น้ นั มันเป็ นสถานที่ตอ้ งห้ามของ
สํานักมังกรฟ้าและเมื่อพวกเขาได้เห็นรู ปร่ างหนึ่งกําลังร่ อนลงมาจาก
ท้องฟ้า พวกเขาก็ได้ต้ งั การ์ดที่พร้อมจะต่อสู ร้ าวกับว่าพวกเขาได้คน้ พบ
กับศัตรู ที่ยงิ่ ใหญ่
แต่หลังจากที่พวกเขาได้รับรู ้วา่ บุคคลที่กาํ ลังร่ อนลงมานั้นคือบุคคลใด
พวกเขาก็รีบหลีกทางให้ในทันทีอย่างรวดเร็ วแล้วต่างทําความเคารพต่อ
เขา เพราะว่าคน ๆ นั้นไม่ใช้ใครอื่นนอกจากผูท้ ี่เป็ นบูรณะสํานักมังกร
ฟ้าขึ้นมาใหม่ เขาคนนั้นคือ ชูเฟิ ง

หลังจากที่ชูเฟิ งได้เข้าไปยังห้องโถงหลักเขายังได้เดินเข้าไปในห้องโถง
ใต้ดิน ภายในห้องใต้ดินนั้นเขาได้วางรู ปแบบอํานาจวิญญาณอย่าง
รวดเร็ วแล้วมันก็ปรากฏทางเข้าสุ สานพันกระดูกขึ้นมา แต่เหนือของ
ประตูทางเข้าได้มีบางอย่างได้ปกคลุมมันเอาไว้และมันก็ได้บ่งบอก
ออกมาอย่างชัดเจนว่าสถานที่แห่งนี้น้ นั เป็ นสถานที่ตอ้ งห้าม

หลังจากที่เดินทางเข้าไปยังในสุ สานพันกระดูก, ชูเฟิ งก็ได้เล่าเรื่ องราว


ทุกอย่างให้กบั ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า เกี่ยวกับการเปิ ดสุ สานจักรพรรดิ
เช่นเดียวกับภัยพิบตั ิที่กาํ ลังจะมาเยือนราชวงศ์เจียง
“ชูเฟิ งข้านั้นไม่อาจที่จะทําอะไรได้แต่กไ็ ม่ใช่วา่ จะไม่สนใจใน
เรื่ องนี้” หลังจากที่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าได้ทราบข่าวทุกอย่าง เขาก็
ขมวดคิว้ ของตัวเองเล็กน้อยและกล่าวออกไปอย่างเคร่ งขรึ ม

“ท่านบรรพชนข้านั้นต้องการที่จะช่วยเหลือผูค้ นของราชวงศ์เจียง
เพราะหลังจากที่ผคู ้ นได้รับรู ้วา่ กองกําลังส่ วนใหญ่ที่ได้มาช่วยบูรณะ
สํานักมังกรฟ้าของเราขึ้นมาใหม่น้ นั ก็คือคนของราชวงศ์เจียง ทุกคนใน
ทวีป 9 อาณาจักรนั้นต่างรู ้ดีวา่ ความสัมพันธ์ระหว่างสํานักมังกรฟ้าของ
เราและราชวงศ์เจียงนั้นแน่นแฟ้นมากแค่ไหน”

“ฉะนั้นแล้วถ้าทั้งสามราชวงศ์คิดจะจํากัดราชวงศ์เจียงจริ ง ๆ ล่ะก็
สํานักมังกรฟ้าของเราก็ตอ้ งโดนผลกระทบจนต้องถูกทําลายไปด้วย
อย่างแน่นอน ฉะนั้นแล้วข้าจึงอยากที่จะช่วยพวกเขาแต่ถึงอย่างนั้นด้วย
ระดับพลังวิญญาณของข้านั้นมันน้อยเกินไปยิง่ นักเกรงจะไม่สามารถ
ช่วยอะไรพวกเขาได้เลย” ชูเฟิ งส่ ายหัว
“ชูเฟิ งผูเ้ ชียวชาญที่เจ้าบอกว่าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อชุดม่วงที่สาบานว่าเขา
จะอยูท่ ี่นี่น้ นั จริ งใช่หรื อไม่?” หลังจากที่ได้คิดสักครู่ หนึ่งผูก้ ่อตั้งสํานัก
มังกรฟ้าก็ได้กล่าวถาม

“นี่ท่านกําลังพูดถึงพี่ลิงอย่างนั้นรึ ? ใช่แล้วเขาและเหล่าสัตว์
ยักษ์ในหุบเขาพันปี ศาจได้ปฏิญาณตนว่าจะมีชีวติ อยูท่ ี่นี่และตายไป
พร้อมกับสํานักมังกรฟ้า” ชูเฟิ งตอบ

“อ่า ข้าไม่คิดเลยว่าไอ้เจ้าลิงบาบูนคูณสุ ขนั้นและเหล่าสัตว์ยกั ษ์


ของมันจะมีจิตใจที่ดีและเมตตาเช่นนี้ท้ งั ๆ ที่มนั มีความแข็งแกร่ งถึง
เพียงนั้น แต่ไม่วา่ ยังใงก็ตามในเวลานี้เราไม่มีตวั เลือกมากนัก
เพราะฉะนั้นแล้วเจ้าจงไปพาเจ้าลิงมาที่นี่ซะและบอกกับมันว่าข้านั้น
ต้องการให้มนั ช่วยเหลือบางอย่าง” ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าว่ากล่าว

“ท่านบรรพชนนี่เป็ นไปได้วา่ ท่านกําลังหมายถึง” ชูเฟิ งอดไม่ได้


ที่จะต้องแสดงอาการยินดีออกมาเบื่องหลังคําพูดของเขา
“เจ้าเด็กน้อยเจ้าน่าจะรู ้คาํ ตอบของคําถามนี้อยูแ่ ล้วไม่ใช่หรื อ
อย่างไร” ผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้าส่ ายหัวกล่าวด้วยรอยยิม้ พร้อมกับพูดอีกว่า
“ในเมื่อตอนนี้ราชวงศ์เจียงได้แสดงให้ขา้ เห็นแล้วว่าพวกเขานั้นได้มี
นํ้าใจต่อสํานักมังกรฟ้าของข้าเช่นไรฉะนั้นแล้วจะให้ขา้ ยืนดูอยูเ่ ฉย ๆ
และให้พวกเขาตายจากไปข้าคงทําไม่ได้เป็ นแน่ แล้วที่สาํ คัญถ้าหากว่า
ได้มีราชวงศ์อื่นมาปกครองทวีป 9 อาณาจักรแทนราชวงศ์เจียงก็ยงั ไม่
อาจรู ้ได้เลยว่าพวกเขานั้นจะปกครองคลุมอํานาจและประชาชนต่าง ๆ
ในทวีป 9 อาณาจักรเช่นไร”

“ฉะนั้นแล้วข้าในตอนนี้น้ นั จึงได้ตอ้ งการความช่วยเหลือจาก


เจ้าลิงจ๋ อนั้นเพื่อที่ขา้ จะได้ฟืนกลับมาแล้วไปช่วยเหลือราชวงศ์เจียงใน
การต่อสู ค้ รั้งนี้.”

“อื้มข้าเข้าใจแล้วท่านบรรพชน” แม้วา่ ชูเฟิ งนั้นจะได้คาดการณ์


เอาไว้แล้วว่าผูก้ ่อตั้งของสํานักมังกรฟ้าจะพูดเช่นนี้แต่วา่ ตัวเขาเองนั้นก็
ยังคงรู ้สึกตื่นเต้นอยูด่ ี
หลังจากนั้นชูเฟิ งจึงได้ไปบอกกับอสู รราชันย์วานรถึงเรื่ องราวของผู ้
ก่อตั้งสํานักมังกรฟ้าทั้งหมด หลังจากที่ได้ทราบว่าผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า
นั้นได้มีชีวติ อยูใ่ นโลกนี้มานับพันปี มันทําให้ อสู รราชันย์วานรนั้นตกใจ
มากเพราะโดยปกติแล้วนั้นการที่จะมีชีวติ อยูม่ ายาวนานได้ขนาดนี้อย่าง
น้อยจิตสํานึกของเขานั้นก็ตอ้ งโดยทําลายจนหมดสิ้ นไปแล้วแต่นี่กลับ
ไม่

แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้วา่ อสูรราชันย์วานรนั้นจะตื่นตกใจมาก แต่เขานั้น


ก็ไม่ได้พดู กล่าวอะไรมากและตอบตกลงคําขอของชูเฟิ งในทันที ที่จะ
ช่วยชูเฟิ งในการฟื้ นคืนชีพผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า

เมื่อเป็ นเช่นนั้นชูเฟิ งก็ได้นาํ อสู รราชันย์วานรเข้ามายังในสุ สานพัน


กระดูกเพื่อมาพบกับผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า
และเมื่อได้เห็นจิตสํานึกที่แข็งแกร่ งถึงขนาดนั้นและศพที่ยงั คงมีกายเนื้อ
ที่สมบูรณ์เช่นเดียวกับไข่มุกลึกลับมันทําให้อสู รราชันย์วานรนั้นตกใจ
อย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด

แต่เมื่อหันหน้าไปยังผูเ้ ชียวชาญสู งสุ ดของเขตแดนสวรรค์เช่นเดียวกับ


ไข่มุกลึกลับที่มีอาํ นาจพิเศษ อสู รราชันย์วานร ก็ไม่ได้คิดที่จะปล้นใด ๆ
เลยแม้แต่นิดเดียว

แต่กม็ ีการปรับเปลี่ยนทัศนคติของตนเองออกไปไม่นอ้ ยเลยที่เดียวพร้อม


กับกล่าวคําพูดกับผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าว่า . “ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าใน
แง่ดา้ นของเรื่ องอายุแล้วนั้นท่านเป็ นผูอ้ าวุโสของข้า แล้วในแง่ของ
สถานะท่านก็ได้เป็ นบรรพชนของน้องชายข้า ถ้าหากท่านต้องการให้ขา้
ช่วยฟื้ นคืนชีพแก่ท่าน โปรดท่านบอกข้ามาได้เลยว่าข้านั้นต้องควรทํา
เช่นไร?!”

ReadMGA
#################################
#################################
###############################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : อัยย๊ะบรรพชนคืนชีพ

B2 : ตื่นเต้นจุงเบย!!

B3 : ตาย ๆ ไปอ่ะดีแล้วฟื้ นขึ้นมาก็มีบทแค่ไม่กี่ตอน ไอ้เราก็นึกว่าจะ


เหนือเมฆแต่กโ็ ดน ขอทาน ดับรัศมีอยูด่ ี 55555

B1 : บัดซบ!! นี่มึงสปอยอีกแล้วหรอ

B3 : ป๊ าววววว อาร๊ ายยยยย กูไม่รู๊เรื๊ อง!!!!!

B1 : โครตแหล!!!

B2 : ที่สุด!!!
B3 : เป็ นธรรมชาติ!!

B1,B2 : ให้กเู รื่ องท่านผูแ้ ปลไหม?

B3 : กูขอโทษได้ป่ะล่ะ??

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 507 – สารเรี ยกราชวงศ์

ในขณะนี้อสู รราชันย์วานรได้กาํ ลังช่วยคืนชีพให้กบั ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกร


ฟ้าอยูน่ ้ นั มันก็ทาํ ให้ตวั เขาเองนั้นรู ้สึกเบื่อและเซ็งมากเพราะว่าการที่จะ
สําเร็ จพิธีน้ นั มันจําเป็ นต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานมากอย่างน้อย ๆ ก็
หนึ่งเดือน

ซึ่งเกี่ยวกับความลําบากนี้น้ นั ชูเฟิ งก็ทาํ ได้แค่เพียงต้องทําความเข้าใจกับ


มันเพราะด้วยทักษะจิตวิญญาณของชูเฟิ งนั้นมันไม่สามารถที่จะช่วย
อะไรพวกเขาได้เลย

ในขณะที่อสู รราชันย์วานรกําลังยุง่ อยูก่ บั วิธีการคืนชีพของผูก้ ่อตั้งมังกร


ฟ้าอยูน่ ้ นั ชูเฟิ งก็ได้เดินมายังเบื่องหน้าของการก่อจิตวิญญาณปิ ดผนึก ซู่รู่
และ ซู่เหม่ย

“พวกเจ้าทั้งสอง…ในช่วงเวลาสองปี ที่พวกเจ้าได้หลับไปนั้น
พวกเจ้ารู ้ไหมว่าข้านั้นคิดถึงพวกเจ้ามากแค่ไหน? ทั้งรอยยิม้ และ
นํ้าเสี ยงของพวกเจ้านั้นข้าชัง่ คิดถึงมันเหลือเกิน.”

ชูเฟิ งนัง่ อยูใ่ นด้านหน้าของการก่อจิตวิญญาณปิ ดผนึก เขานัง่ แล้วมอง


ไปยังความงามทั้งสองที่ถูกผนึกเอาไว้ในการก่อตัวจิตวิญญาณและใน
มุมปากของเขานั้นก็อดไม่ได้ที่จะต้องแสดงรอยยิม้ อันเงียบสงบออกมา
เป็ นเวลานานมากแล้วที่ต้ งั แต่ อสู รราชันย์วานรได้ช่วย ซู่รู่ และ ซู่เหม่ย
เอาไว้ดว้ ยการผสมผสานไข่มุกไฟและนํ้าแข็งเข้าไปในร่ างกายของพวก
เขาทั้งสอง แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาทั้งสองก็ยงั ไม่มีวแี่ ววว่าจะฟื้ นขึ้นมา
เลยแม้แต่นิดเดียว

ในตอนแรกชูเฟิ งนั้นรู ้สึกค่อนข้างที่จะเป็ นห่วงและเป็ นกังวล, แต่


ภายในระยะเวลาไม่นานนักความกังวลต่าง ๆ นา ๆ ของเขาก็ได้หายไป
จนหมดสิ้ นพร้อมกับถูกแทนที่ดว้ ยความสุ ขที่หาเปรี ยบมิได้จนน่าแปลก
ใจ

มันเป็ นเพราะว่า ซู่รู่ และ ซู่เหม่ย นั้นไม่ได้เพียงแค่หลับลึกอย่างเดียว


เท่านั้น แต่สภาพร่ างกายของพวกเธอนั้นยังค่อย ๆ ได้รับการฝื นตัวมาก
ขึ้นอีกด้วยจากเดิมที่ใบหน้าดูขาวซี ดแต่ในตอนนี้กเ็ ริ่ มที่จะแดงขึ้นและ
แดงขึ้นจนอาจกล่าวได้วา่ ชัง่ แตกต่างจากแต่ก่อนยิง่ นัก แน่นอนว่ามัน
ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติอย่างแน่นอนแต่วา่ การที่มนั ได้เกิด
เหตุการณ์แบบนี้ข้ ึนนั้นมันจะต้องเป็ นผลของไข่มุกที่ได้ผสานเข้าไปใน
ร่ างกายของพวกเธออย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่ทาํ ให้ชูเฟิ งมีความสุ ขมากยิง่ ไปกว่านั้นก็คือพวกเธอไม่ได้เป็ น
เพียงแค่นอนหลับลึกเท่านั้น แต่ระดับพลังวิญญาณของพวกเขาก็ยงั ได้
ยกจนเพิ่มสู งขึ้นอีกด้วยซึ่งในตอนนี้ ซู่รู่ ได้อยูใ่ นระดับที่ 6 แดนแก่น
แท้ส่วน ซู่เหม่ย นั้นอยูใ่ นระดับที่ 5 ของแดนแก่นแท้

ในตอนนี้พวกเขาทั้งสองนั้นได้มีวธิ ีการเพิ่มพลังวิญญาณของตัวเอง
อย่างรวดเร็ วแล้วอยูไ่ ม่ห่างไกลจากชูเฟิ งมากนัก โดยที่พวกเธอทั้งสอง
นั้นยังไม่รู้ตวั ต้องรู ้เหตุผลก่อนว่าการที่ชุเฟิ งได้มีพลังวิญญาณมาถึง
ระดับนี้ได้น้ นั คือเขาต้องผ่านอะไรมามากมายหลายอย่างและยังต้องใช้
ทรัพยากรอีกเป็ นจํานวนมากกว่าจะมาได้ถึงขนาดนี้ มันอาจกล่าวได้วา่
เขานั้นได้สูญเสี ยทรัพยากรไปมากจริ ง ๆ

เพียงแต่สองสาวนั้นกับพบความโชคดีในหมู่ความโชคร้าย เขาทั้งสอง
ได้หลับลึกไปสองปี และพลังระดับพลังวิญญาณก็ยงั เพิม่ ขึ้นอย่างรวดเร็ ว
และนอกจากนี้มนั ยังเห็นได้ชดั ว่าระดับพลังของพวกเธอนั้นยังคง
เพิ่มขึ้นได้อีกโดยไม่มีขีดจํากัด และมันอาจเป็ นไปได้วา่ ในตอนที่พวก
เธอทั้งสองได้ฟ้ื นขึ้นอาจอยูใ่ นแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณก็เป็ นได้

พูดตรง ๆ เมื่อหันหน้าไปทางสถานการณ์เช่นนี้ชูเฟิ งยังคงมีความรู ้สึก


เสี ยใจอยูบ่ า้ งแต่วา่ เขานั้นกับมีความชื่นชมและมีความสุ ขเสี ยมากกว่า
เพราะหลังจากที่ ซู่รู่ และ ซู่เหม่ย นั้นเป็ นคนรักของเขาการที่พวกเธอได้
มีความแข็งแกร่ งเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ เธอก็ยง่ิ มีความปลอดภัยมากขึ้น
เท่านั้นและยังสามารถปกป้องตัวเองได้ เมื่อเป็ นเช่นนี้มีหรื อที่ชูเฟิ ง
จะต้องมานัง่ เสี ยใจ

“ถ้าราชวงศ์เจียงสามารถรอดพ้นจากภัยพิบตั ิน้ ีไปได้ล่ะก็ในเวลา


ที่พวกเจ้าได้ลืมตาตื่นขึ้นข้าสัญญาว่าข้านั้นจะพาพวกเจ้าไปยังทะเล
ตะวันออกกับข้าด้วย และหลังจากที่พวกเจ้าทั้งสองได้มีไข่มุกผสานอยู่
ในร่ างกายมันก็สมควรที่พวกเจ้าจะได้เรี ยนรู ้วธิ ีที่จะใช้พวกมันจากที่
นั้น”

ชูเฟิ งได้วางแผนเอาไว้แล้วอย่างเรี ยบร้อยว่าหลังจากที่ ซู่รู่ และ ซู่เหม่ย


ได้ตื่นขึ้นมานั้นเขาจะพาพวกเธอทั้งสองไปยังทะเลภาคตะวันออกและ
นําพวกเธอเข้าไปในสํานักสี่ คาบสมุทรพร้อมกับ เจียง หวูฉ่ าง และ จาง
เทียนยี

และถ้าหากพวกเขาทั้งสองได้เข้าร่ วมกับสํานักสี่ คาบสมุทรมันย่อมเป็ น


ที่แน่นอนว่าพวกเขาจะมีการพัฒนาในด้านของความแข็งแกร่ งเพิ่มมาก
ขึ้นและยังมีที่ให้คอยพักพิงรวมไปถึงความปลอดภัยของพวกเขา

แต่สาํ หรับชูเฟิ งเองนั้นเขาต้องการเพียงแค่จะเข้าไปยังสํานักสี่ สมุทร


เพียงชัว่ คราวเท่านั้นเพราะว่าเขานั้นยังมีความต้องการที่จะต้องเพิ่ม
ระดับพลังวิญญาณของตัวเองอย่างรวดเร็ วและการที่เขาจะทําแบบนั้น
ได้น้ นั เขาจําเป็ นที่จะต้องใช้ทรัพยากรเป็ นจํานวนมาก

และเมื่อการเดินทางเพื่อค้นหาทรัพยากรอันมีค่ามาเพิ่มพลังวิญญาณของ
เขานั้นได้เริ่ มขึ้นมันก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงในการสร้างศัตรู ฉะนั้นแล้วเมื่อ
เขาได้เริ่ มผจญภัยในทะเลตะวันออกเมื่อไหร่ เขาก็จะให้ใครรู ้ไม่ได้วา่ เขา
นั้นได้มีมิตรสหายอยู่ ฉะนั้นแล้วเมื่อไหร่ กต็ ามที่เขานั้นต้องการที่จะมา
หา จาง เทียนยี เจียง หวูฉ่ าง และคนอื่น ๆ เขาก็ตอ้ งแอบมาหากันอย่าง
ลับ ๆ ในมุมมืดเพราะว่าเขานั้นไม่ตอ้ งการให้ศตั รู ของเขาได้รับรู ้และมา
รุ กรานพวกเขาในอนาคตเพื่อชําระหนี้แค้น

“ข้าล่ะอยากรู ้จริ ง ๆ ว่าสิ่ งนี้มนั จะส่ งผลเช่นไร”

ทันใดนั้นชูเฟิ งจึงได้หยิบขวดหยกที่บรรจุแก่นแท้อาํ นาจจิตวิญญาณ


เอาไว้ออกมา แม้วา่ เขาจะรู ้อยูแ่ ล้วว่าสิ่ งสิ่ งนี้น้ นั มันได้ถูกตราหน้าว่าเป็ น
วัตถุอนั ตรายไม่สามารถกลัน่ ออกมาเป็ นพลังงานได้ แต่วา่ สายฟ้า
ศักดิ์สิทธิ์ในร่ างกายของชูเฟิ งนั้นมันสามารถแดกได้ทุกอย่างไม่วา่ จะ
เป็ นพลังงานใด ๆ ก็ตาม ตราบใดที่มนั ยังเป็ นพลังงานของโลกใบนี้มนั ก็
สามารถที่จะดูดซับได้หมด

ดังนั้นชูเฟิ งจึงได้เปิ ดจุกขวดหยกออกแล้วเทแก่นแท้อาํ นาจจิตวิญญาณ


ลงมาบนมือของเขาและเลียมัน และในทันทีที่ปลายลิ้นของเขาได้สมั ผัส
มันก็ให้ความรู ้สึกราวกับมีบางสิ่ งบางอย่างได้เกิดการระเบิดขึ้นในปาก
ของเขา

“อึ!”

ในทันทีที่ชูเฟิ งได้รู้สึกมันราวกับว่าเหมือนมีกลุ่มควันบางอย่างอยูใ่ น
ปากของเขา เขาได้ปิดปากของตัวเองแน่นแล้วกลืนมันลงไป

ในขณะที่มนั ได้ถูกกลืนลงไปในรําคอของชูเฟิ งมันก็ได้เกิดการต่อต้านที่


รุ นแรงมันพยายามที่จะทําลายร่ างกายของชูเฟิ งจากภายใน แต่ไม่วา่ ยังใง
ก็ตามในทันทีที่มนั กําลังจะมีปฏิกิริยามันก็ได้ถูกดูดกลืนโดย ดันเถียน
ของชูเฟิ งเสี ยก่อน กลุ่มควันที่บา้ คลัง่ เหล่านั้นได้ถูกดูดกลืนไปจนหมด
สิ้ นโดย ดันเถียน ของชูเฟิ ง

และในขณะเดียวก็กไ็ ด้มีเสี ยงเคี้ยวขนมดังมาจากใน ดันเถียน ของเขา


ในขณะนั้นชูเฟิ งได้รู้สึกดีใจออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดถึงแม้วา่ เขาจะได้
คาดหวังเอาไว้แล้วก็ตามว่าดันเถียนของเขานั้นสามารถที่จะดูดซับแก่น
แท้ของอํานาจพลังวิญญาณได้ แต่ถึงอย่างนั้นชูเฟิ งก็ยงั รู ้สึกดีใจอยูด่ ี
พลังสายงานฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในดันเถียนของเขานั้นได้ดูดซับมันไปจนหมด
และก็ยงั ไม่เกิดผลกระทบใด ๆ ตามมาทั้งนั้นแถมชูเฟิ งยังรู ้สึกได้ถึงกลิ่น
อายของเขาที่มีความแข็งแกร่ งเพิม่ มากขึ้นอย่างรวดเร็ ว

เพียงแค่เศษส่ วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแก่นแท้อาํ นาจพลังวิญญาณที่ชูเฟิ ง


ได้กลืนมันเข้าไปนั้นถึงกับทําให้ระดับพลังวิญญาณของเขานั้นก้าวข้าม
ไปสู่ ระดับที่ 9 ของแดนแก่นแท้วญ ิ ญาณ

“คิดไว้ไม่มีผดิ ว่าแก่นแท้ของอํานาจพลังวิญญาณนั้นมันจะต้อง
เป็ นสมบัติอนั ลํ้าค่า นี่ขนาดมีเพียงแค่นอ้ ยนิดเท่านั้นยังสามารถเพิ่ม
ระดับพลังวิญญาณขึ้นมาได้ถึงหนึ่งระดับ ถ้าหากว่าข้ามีมนั มากกว่านี้ล่ะ
ก็มนั จะต้องช่วยทําให้ขา้ มีความหวังในการตัดผ่านไปยังเขตแดนสวรรค์
เป็ นแน่” ชูเฟิ งรู ้สึกตื่นเต้นเป็ นอย่างมาก

เขานั้นไม่ได้ดีใจเพียงแค่เขาสามารถดูดซับพลังงานของแก่นแท้อาํ นาจ
พลังวิญญาณได้เท่านั้น แต่ที่เขารู ้สึกดีใจและมีความสุ ขกับมันจริ ง ๆ นั้น
ก็คือพลังสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในดันเถียนของเขา เพราะว่านี่มนั ได้กลายเป็ น
เครื่ องพิสูจน์แล้วว่าไม่วา่ จะเป็ นพลังงานแบบไหนก็ตามที่เป็ นอันตราย
ต่อผูค้ นแต่มนั ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็ นอันตรายต่อเขา ฉะนั้นแล้ว
สําหรับชูเฟิ งของเหล่านี้น้ นั มันก็เปรี ยบได้ดง่ั กับสมบัติและทรัพยากรที่มี
ค่าเพราะว่าเขานั้นสามารถที่จะดูดซับมันได้ท้ งั หมด

“ฮ่า ๆ ชูเฟิ งข้าบอกเจ้าแล้วว่าเจ้านั้นไม่จาํ เป็ นต้องเป็ นกังวล


เพราะเรื่ องทรัพยากรบนโลกนี้น่ะมันยังทรัพยากรอีกมากมายที่สามารถ
ทําให้เจ้าดูดซับได้อย่างไม่รู้จบ”

“ตอนนี้เจ้าเชื่อข้าแล้วหรื อไม่? ยังมีพลังงานแบบเดียวกันเช่น


แก่นแท้ของอํานาจพลังวิญญาณอยูอ่ ีกมากมายบนโลกใบนี้ เมื่อเทียบกับ
มุมมองคนปกติแล้วนั้นมันจะดูไร้ประโยชน์และไม่วา่ ใครก็ตามก็ไม่
กล่าที่จะเข้าใกล้พวกมัน แต่สาํ หรับเจ้าแล้วมันหาใช่ของที่ไร้ประโยชน์
ไม่มนั จะเป็ นทรัพยากรที่สามารถเพิม่ ระดับการบ่มเพาะพลังวิญญาณ
ของเจ้าได้อย่างมหาศาลจนหาที่เปรี ยบไม่ได้”

“และที่สาํ คัญในทวีป 9 อาณาจักรนั้นมันเป็ นดินแดนที่เล็ก


มากเกินไปมันจึงมีวตั ถุที่มีพลังงานแปลกประหลาดเช่นนี้อยูน่ อ้ ยแต่วา่
ถ้าหากเจ้าได้เดินทางไปยังทะเลภาคตะวันออกเมื่อไหร่ เจ้าจะได้พบกับ
พลังงานแบบนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด และด้วยเหตุน้ นั เจ้าอาจไม่จาํ เป็ นที่
จะต้องรอโอกาสให้ถึง 4ปี เสี ยด้วยซํ้า” เพียงแค่ในเวลานั้น ต้าน ต้าน ก็
ได้พดู ขึ้นมาแต่ความจริ งแล้วนั้นในตอนที่ชูเฟิ งได้ตดั สิ นในที่จะดูดซับ
มัน ต้านต้าน ก็ได้ปรากฏเหงื่อเย็นขึ้นมาบนใบหน้าเช่นกัน แต่หลังที่ชู
เฟิ งประสบความสําเร็ จมันก็ทาํ ให้เธอพลอยดีใจไปด้วย

“อ่าใช่แล้ว ข้าเริ่ มที่จะมีความหวังขึ้นมาบางแล้วล่ะในการที่จะ


ได้ไปเหยียบในดินแดนใหม่” หลังจากที่ได้ยนิ คําของ ต้านต้าน มันก็ทาํ
ให้ชูเฟิ งเริ่ มที่จะมีความหวังขึ้นมาและเขาในตอนนี้น้ นั ก็อาจกล่าวได้วา่
อยากไปในทะเลภาคตะวันออกจนเนื้อสัน่
หลังจากที่ชูเฟิ งได้ยากจนผ่านไปยังระดับต่อไปของพลังวิญญาณจน
เสร็ จสิ้ นเขาก็ไม่ตอ้ งการที่จะไปกวน อสู รราชันย์วานร และ ผูก้ ่อตั้ง
สํานักมังกรฟ้า เขาเลือกที่จะออกจากสุ สานพันกระดูก แต่เพียงในเวลา
นั้นที่เขาได้กลับขึ้นไปในห้องโถงใหญ่เขาก็คน้ พบว่า หลี่ จางฉิ ง นั้น
กําลังยืน่ อยูใ่ นเบื่องหน้าของเขาด้วยใบหน้าที่ดูไม่สบายใจ

หลังจากที่ หลี่ จางฉิง เห็นชูเฟิ งเขาก็รีบวิง่ เข้าไปหาในทันทีและบอก


กล่าวกับชูเฟิ งด้วยลักษณะท่าทางที่ตกใจ. “ชูเฟิ งในตอนนี้ได้มีเรื่ องไม่
ชอบมาพากลได้เกิดขึ้นแล้ว.’

“ท่านเจ้าสํานักมีเรื่ องอันใดเกิดขึ้น?” ชูเฟิ งถามด้วยความ


แปลกใจ

“ดูนี่” หลี่ จางฉิง ได้ยนื่ คราสารสี ทองให้กบั ชูเฟิ ง


ตราสารนี้น้ นั ได้ถูกส่ งมาจากราชวงศ์เจียงและมีตวั อักษรสามคําใหญ่โต
ได้เขียนเอาไว้หน้าตราสารว่า

มันคือ – สารเรี ยกราชวงศ์!

ReadMGA
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : ถามไรหน่อยดิพวกมึงเคนเห็นศิษย์คนไหนที่เจ้าสํานักเห็นยังทํา
ความเคารพบ้างไหม??
B2 : ก็บกั เฟิ งใงจะใครล่ะ

B1 : 55555 จริ งไหม ๆ ๆ

B2 : แน่นอนที่สุดอ่ะ มีสถานะเป็ นแค่ศิษย์ แต่อ่อร่ านี่ยงิ่ ใหญ่กว่าเจ้า


สํานัก 55555

B1 : เดะสักพักก็จะยิง่ ใหญ่กว่าราชวงศ์เจียงคอยดู!!! 5555555

B2 : ศึกกําลังจะมาพี่จะรอดูนะพร้อมกับแว่น 3D กูจะนัง่ ชมแบบ


ให้เข้าไปอยูใ่ นเหตุการณ์ดว้ ยเลย

B3 : สาธุขอให้พวกมึงโดนลูกหลงจากไอ้เฟิ งจนตายด้วยเถอะ!!

B1,B2 : เสื อกว่ะ!! ไมชอบยุงเรื่ องของชาวบ้านจังว่ะ!!

B3 : เอิ่ม….มึงoloไรป่ ะล่ะ!!!

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 508 – กําลังเสริ ม

“เห้อ ไม่นึกเลยว่าราชวงศ์เจียงจะถูกต้อนให้จนมุมถึงขนาดต้องใช้
วิธีน้ ีเลยรึ เนี่ย” หลังจากที่ได้เห็นตัวอักษรเหล่านี้ชูเฟิ งถึงกับต้องถอน
หายใจออกมา

คําว่าสารเรี ยกราชวงศ์น้ นั มันได้มีเอาไว้กเ็ พื่อเรี ยกเหล่าผูเ้ ชียวชาญที่อยู่


บนจุดสู งสุ ดของเหล่าขุมอํานาจต่าง ๆ ในทวีป 9 อาณาจักรไปรวมตัว
กันที่ราชวงศ์เจียงเพื่อเข้าร่ วมการต่อสู ก้ บั ศัตรู อนั ยิง่ ใหญ่ที่จะมาถึงใน
เร็ ว ๆ นี้

ลองคิดถึงความแข็งแกร่ งของราชวงศ์เจียงดูวา่ พวกเขานั้นแข็งแกร่ งมาก


แค่ไหนพวกเขาได้ปกครองทัว่ ทั้งทวีป 9 อาณาจักรมานานนับหลายปี
และไม่เคยมีขมุ พลังอํานาจใดที่คิดกล้าจะรุ กรานเขาแต่ในตอนนี้จริ ง
ราชวงศ์เจียงกําลังขอความช่วยเหลือจากขุมพลังอํานาจต่าง ๆ ในทวีป 9
อาณาจักรซึ่งมันอาจเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในตอนนี้น้ นั ราชวงศ์เจียงได้
ตกอยูใ่ นชะตากรรมที่แสนจะยากลําบากอย่างแท้จริ ง

“ชูเฟิ งมันเป็ นไปได้ไหมว่าเจ้าจะรู ้ถึงสิ่ งที่เกิดขึ้น?” เมื่อเห็น


ปฏิกิริยาของชูเฟิ งไม่ได้มีความแปลกใจและค่อนข้างเหมือนกับอยูใ่ น
ความคาดหวังของเขาฉะนั้นแล้ว หลี่ จางฉิ ง จึงได้คิดว่าชูเฟิ งนั้นจะต้อง
ร่ วงรู ้อะไรบางอย่างเป็ นแน่

“ใช่แล้ว ท่านเจ้าสํานักในตอนนี้ราชวงศ์เจียงกําลังพบเจอกับ
ชะตากรรมอันโหดร้าย ไม่สิมนั อาจกล่าวได้วา่ ทัว่ ทั้งทวีป 9 อาณาจักร
เลยก็เป็ นได้ที่กาํ ลังพบเจอกับชะตากรรมที่โหดร้าย เพราะว่าในตอนนี้
นั้นได้ได้มีสามราชวงศ์ที่กาํ ลังปกครองทวีปอื่นอยูน่ ้ นั ได้ร่วมมือกัน
เพื่อที่จะโค่นล้มราชวงศ์เจียง”

“ซึ่งจริ ง ๆ แล้วนั้นถ้าหากเป็ นราชวงศ์เจียงก่อนหน้านี้ล่ะก็


แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่เกรงกลัวต่อทั้งสามราชวงศ์วงนี้เลย แต่วา่
ในตอนนี้สถานการณ์มนั ได้เปลี่ยนไปแล้วบรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์
เจียงนั้นได้รับบาทเจ็บสาหัสมันจึงทําให้พวกเขานั้นสู ญเสี ยอํานาจการสู ้
รบไปเป็ นอย่างมาก ฉะนั้นแล้วราชวงศ์เจียงในตอนนี้น้ นั ก็กล่าวได้วา่ อยู่
ในสถานการณ์ที่เป็ นอันตรายอย่างมาก”

“แล้วถ้าเกิดราชวงศ์เจียงได้ถูกทําลายลงล่ะก็ขา้ เกรงว่าสํานัก
มังกรฟ้าของพวกเราก็คงได้โดนถูกทําลายลงไปด้วยเป็ นแน่” ชูเฟิ ง
กล่าวออกมาตามความจริ ง

“โอ้ว…ข้าไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมีเรื่ องใหญ่เช่นนี้เกิดขึ้น”
หลังจากที่ได้ทราบความจริ งอันน่าเศร้าเช่นนี้ใบหน้าของ หลี่ จากฉิ ง
นั้นก็ได้กลายเป็ นเคร่ งขรึ มขึ้น

“ในตอนนี้เราไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว เรามีเพียงแค่ตอ้ งต่อสู ้


ด้วยทุกอย่างที่เรามีและคงหวังได้เพียงแค่วา่ ขอให้ท้ งั สามราชวงศ์ไม่ได้
มาถึงที่นี่ดว้ ยระยะอันสั้นด้วยเถอะ” ชูเฟิ งรู ้วา่ ถ้าหากผูก้ ่อตั้งสํานักมังกร
ฟ้าได้ฟ้ื นคืนชีพกลับมาล่ะก็มนั เป็ นที่แน่นอนว่าเขานั้นจะต้องช่วย
ราชวงศ์เจียงและกําจัดคนของทั้งสามราชวงศ์ได้เป็ นแน่

แต่วา่ การคืนชีพให้กบั ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้านั้นมันจําเป็ นที่จะต้องใช้


ระยะเวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนและถ้าแย่ที่สุดก็อาจจะหลายเดือน ฉะนั้น
แล้วชูเฟิ งจึงหวังได้แต่เพียงว่าผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าจะได้รับการฟื้ นคืน
ชีพมาได้อย่างโดยเร็ วและจัดการทั้งสามราชวงศ์เพื่อช่วยเหลือราชวงศ์
เจียง

และด้วยเหตุน้ ีในตอนนี้สาํ นักมังกรฟ้าจึงได้รวบรวมผูเ้ ชียวชาญแดน


สวรรค์วญ
ิ ญาณทั้งหมดเข้าด้วยกันและแจ้งข่าวให้พวกเขาได้รู้ถึงปั ญหา
ของราชวงศ์เจียงในตอนนี้วา่ พวกเขากําลังเผชิญหน้ากับอะไรอยูแ่ ละ
พวกเขาต้องเตรี ยมตัวที่จะสนับสนุนราชวงศ์เจียง

แต่วา่ มันอาจจะมีคนจํานวนมากที่จะต้องสู ญเสี ยชีวติ ในศึกการต่อสู ค้ รั้ง


นี้ฉะนั้นแล้วชูเฟิ งจึงได้บงั คับใครให้เข้าร่ วมหากผูท้ ี่รักชีวติ ของตนและ
ไม่ตอ้ งการที่จะเข้าร่ วมชูเฟิ งก็ไม่ตอ้ งการที่จะรั้งพวกเขาเอาไว้ แม้วา่
พวกเขาจะกลัวทั้งสามราชวงศ์จนต้องออกจากสํานักมังกรฟ้าก็ตาม

แต่วา่ สิ่ งที่ชูเฟิ งไม่ได้คาดคิดมันก็ได้เกิดขึ้นเพราะว่าในตอนนี้ไม่มีใครที่


คิดจะออกจากสํานักมังกรฟ้าเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาทุกคนล้วน
ตัดสิ นใจที่จะเดินตามชูเฟิ งเพื่อไปสนับสนุนและช่วยเหลือผูค้ นจาก
ราชวงศ์เจียง

โดยเฉพาะอย่างยิง่ พวกสัตว์ยกั ษ์ในหุ บเขาพันปี ศาจ พวกมันทุกตัวล้วน


อยูก่ นั ครบและไม่มีพวกมันเลยแม้แต่ตวั เดียวที่คิดจะหลบหนีออกไป

แม้วา่ เหล่าสัตว์ยกั ษ์ทุกตัวในที่น้ ีน้ นั จะไม่ได้เป็ นแบบเดียวกันกับ อสู ร


ราชันย์วานร แต่มนั ก็อาจกล่าวได้วา่ ด้วยการกระทําของพวกมัน
ในตอนนี้มนั ทําให้ชูเฟิ งมีมุมมองที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างมาก
ฉะนั้นแล้วด้วยคําสัง่ ของผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าเขาจึงได้มอบหมายให้
จาง เทียนยี และ ราชันย์อสู รทั้งห้า เช่นเดียวกับเหล่าผูเ้ ชียวชาญแดน
สวรรค์คนอื่น ๆ ไปสนับสนุนกองกําลังของราชวงศ์เจียงและช่วยพวก
เขาในการสู ร้ บกับสามราชวงศ์

หลายวันต่อมา ...

ปัจจุบนั ราชวงศ์เจียงในตอนนี้น้ นั ได้มีการรักษาการอย่างเคร่ งครัด พวก


เขาทุกคนล้วนรู ้วา่ ทั้งสามราชวงศ์กาํ ลังจะทําศึกสงครามกับพวกเขา
ฉะนั้นแล้วพวกเขาในตอนนี้จึงต้องเตรี ยมพร้อมที่จะรับมือกับทุก
สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

ด้านนอกของเมืองกว้างใหญ่ได้มีการสร้างจิตวิญญาณปิ ดผนึกที่มี
ประสิ ทธิภาพแข็งแกร่ งเอาไว้แล้ว เพื่อป้องกันการบุกโจมตีของเหล่าผู ้
เชียวชาญจากทั้งสามราชวงศ์
และในตอนนี้องค์จกั รพรรดิของราชวงศ์เจียงเช่นเดียวกับ เจียง เฮิง
หยวน ได้ยนื อยูบ่ นกําแพงเมืองและมองไกลออกไปในมุมสู งด้วยสายตา
ที่ซบั ซ้อน เพราะเขาในตอนนี้น้ นั ไม่ทราบว่าสถานการณ์ที่สงบสุ ขเช่นนี้
มันจะดําเนินการต่อไปได้อีกนานซักแค่ไหน

*** ฟึ บบ ***

ทันใดนั้นก็ได้มีคนของราชวงศ์เจียงบินล่อนลงมาจากท้องฟ้าและหยุด
อยูต่ รงที่กาํ แพงเมืองพร้อมกับทําความเคารพองค์จกั รพรรดิเช่นเดียวกับ
คนอื่น ๆ พร้อมกับปรากฏใบหน้าที่ไม่สบายใจและร้อนลนออกมาและ
กล่าว “ท่านองค์จกั รพรรดิมีข่าวมารายงานขอรับ ในตอนนี้กองทัพของ
ทั้งสามราชวงศ์ได้เดินทางมาถึงเขตแดนของทวีป 9 อาณาจักรแล้ว
ขอรับและที่สาํ คัญพวกมันกําลังมุ่งหน้ามาที่ราชวงศ์เจียงของพวกเรา”

“เจ้าว่าใงนะ? ทําใมถึงได้เร็ วเช่นนี้? พวกมันมีจาํ นวน


เท่าไหร่ ? และระดับพลังวิญญาณของพวกมัน ?!” เมื่อได้ยนิ คําพุด
เหล่านั้นใบหน้าของผูเ้ ชียวชาญหลายคนถึงกับมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง
มากและแปลกใจพร้อมกับอาการหวาดกลัวปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของ
พวกเขา

“พวกมันกําลังเดินทางมาทางอากาศ แล้วจํานวนของพวกมันนั้น
ก็เยอะมากจนไม่อาจประมาณการได้และที่แน่ระดับพลังวิญญาณของ
พวกมันนั้นไม่ต่าํ กว่าผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์อย่างแน่นอนและ
นอกจากนี้ยงั ไม่ได้มีเพียงแค่เหล่ามนุษย์เท่านั้นแต่ยงั มีพวกเหล่าสัตว์
ยักษ์อีกด้วย” ผูอ้ าวุโสตอบ

“แล้วกองกําลังขุมอํานาจอื่น ๆ ในทวีป 9 อาณาจักรล่ะพวกเขา


อยูท่ ี่ไหน? พวกเขาควรที่จะได้รับสารเรี ยกจากพวกเราแล้วใช่
หรื อไม่? แล้วเหตุใดทําใมพวกเขาถึงได้ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ?”
หนึ่งในผูเ้ ชียวชาญถาม
“ตระกูล เจี่ย, สํานักหยวนกัง, สํานักเทพอัคคี, และขุมพลัง
อํานาจอื่น ๆ เหตุใดทําใมพวกเขาถึงยังมาไม่ถึงภายในเขตแดน
อาณาจักรของพวกเรา”

“ตามที่ผสู ้ ่ งสารลับของเราได้แจ้งมานั้นในตอนนี้พวกเขาได้
กําลังเตรี ยมกองกําลังของตนและจัดเก็บสมบัติพร้อมที่จะออกจากทวีป
9 อาณาจักรแล้วในตอนนี้ ข้าเกรงว่าพวกมันคงจะไม่ได้มาสนับสนุน
พวกเราเป็ นแน่.” ผูอ้ าวุโสตอบ

“เรื่ องจริ ง? ไอ้พวกเลี้ยงเสี ยข้าวสุ ข ทั้ง ๆที่องค์จกั รพรรดิได้


ช่วยชีวติ พวกมันเอาไว้แท้ ๆ ให้รอดจากเงื้อมมือเจ้าลิงนั้นแต่พวกมัน
กลับตอบแทนพระคุณ เรามาเช่นนี้มนั ชัง่ น่าเจ็บใจยิง่ นัก.” หลังจากที่ได้
ทราบข่าวผูเ้ ชียวชาญจากราชวงศ์เจียงทุกคนได้ระเบิดความโกรธแค้น
ออกมาในทันทีอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด

“ตามความเป็ นจริ งเราไม่ควรที่จะพึ่งพวกเขาและขอความ


ช่วยเหลือในเรื่ องนี้ นอกจากนี้แม้วา่ พวกเขาจะมาแต่พวกเขาจะทําอะไร
ได้ พวกเขาสามารถหยุดผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ระดับ 9 ของทั้งสาม
ราชวงศ์ได้อย่างนั้นหรื อ?”

“ในสถานการณ์เช่นนี้สิ่งที่พวกเราสามารถพึ่งได้กม็ ีเพียงแค่
อํานาจสื บทอดทางสายเลือดราชวงศ์ ที่ได้ถูกทิ้งเอาไว้เบื่องหลังโดย
บรรพชนรุ่ นก่อน ๆ.” เพียงแค่ในเวลานั้นองค์จกั รพรรดิกไ็ ด้พดู

“ในราชวงศ์เจียงของพวกเรานั้น หวูฉ่ าง คือความหวังสุ ดท้าย


เพราะการปรากฏตัวสายเลือดของเขานั้นเป็ นสิ่ งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก
หากมันเกิดอะไรขึ้นกับเขาขึ้นมาล่ะก็ พวกเราจะทําเช่นไร?” เจียง เฮิง
หยวน กล่าวด้วยใบหน้าที่เป็ นกังวล

“ใช่แล้วท่านองค์จกั รพรรดิท่านอาวุโสเจียงได้กล่าวมาถูกต้อง
แล้ว ในตอนนี้ราชวงศ์เจียงของพวกเรานั้นควรคิดหาวิธีที่จะปกป้อง หวู่
ฉาง และส่ งเขาออกไปนอกทวีป 9 อาณาจักรอย่างโดยเร็ วที่สุด หรื อว่า
ท่านต้องการให้เขาเข้าไปยืมพลังจาก อํานาจสื บทอดทางสายเลือด
ราชวงศ์ และไปต่อสู ก้ บั ศัตรู ? มันเสี่ ยงมากเกินไปนะท่าน.” ผูเ้ ชียว
ชาญคนอื่น ๆ ก็ช่วยพูด

“ถ้าราชวงศ์ของเราถูกทําลายแล้วเจ้าคิดว่าเรายังคงมีความหวังที่
จะได้ใช้มนั อยูอ่ ีกอย่างนั้นหรื อไม่? นอกจากนี้การที่จะยืมพลังจาก
อํานาจสื บทอดทางสายเลือดราชวงศ์ นี้แล้วไปสู ก้ บั ศัตรู หรื อไม่น้ นั มัน
ขึ้นอยูก่ บั การตัดสิ นใจของ หวูฉ่ าง มันไม่เกี่ยวกับข้าไม่วา่ เขาจะ
ตัดสิ นใจอย่างไรก็ตามข้าก็ภูมิใจที่มีลูกชายเช่นเขา” บนใบหน้าขององค์
จักรพรรดิน้ นั ได้มีรอยยิม้ ขึ้นมาบนมุมปากของเขาเป็ นลักษณะที่เต็มไป
ด้วยความภาคภูมิใจ

และหลังจากที่ได้ยนิ คําพูดเหล่านั้นผูเ้ ชียวชาญทุกคนต่างก็กม้ หน้าของ


พวกเขาลงและไม่ได้เริ่ มพูดอะไรอีกต่อไป เพราะพวกเขานั้นไม่ทราบที่
จะแนะนําวิธีที่ดีไปกว่านี้ให้กบั องค์จกั รพรรดิอีกแล้ว
“องค์จกั รพรรดิแย่แล้วขอรับ” แต่ในเวลานั้นก็ได้มีผเู ้ ชียวชาญ
จากราชวงศ์เจียงผูห้ นึ่งทะยานผ่านอากาศเข้ามา และทําความเคารพ
พร้อมกับเปิ ดเผยใบหน้าที่ตกอยูใ่ นอาการหวาดกลัวของเขา

“มีเรื่ องอันใด?” เมื่อเห็นการแสดงท่าทางของเขามันถึงกับทํา


ให้เหล่าผูเ้ ชียวชาญได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทันทีและถามออกไปใน
เวลาเดียวกัน

“ได้มีกองกําลังหนึ่งเข้ามายังเขตแดนราชวงศ์เจียงของเราและ
กําลังมาอย่างรวดเร็ วอีกด้วยพวกมันได้มุ่งหน้ามายังราชวงศ์เจียงของเรา
ระดับพลังวิญญาณของพวกมันนั้นได้อยูแ่ ดนสวรรค์วญ ิ ญาณเกิบ
ทั้งหมด” ผูเ้ ชียวชาญตอบ

“นี่มนั เป็ นไปได้ยงั ใงกันทําใมพวกมันถึงได้มาถึงเร็ วแบบนี้?”


หลังจากที่ได้ยนิ คําเหล่านั้นพวกเขาก็เกิดริ้ วรอยย่นบนใบหน้าของพวก
เขาในทันทีและจับจองสายตาของพวกเขามองไปยังพื้นที่ที่ห่างไกล
นอกจากนี้คาํ สัง่ ก็ยงั ได้ถูกถ่ายทอดลงไปยังกองกําลังของราชวงศ์เจียง
ทั้งหมดว่าให้พร้อมต่อสู แ้ ละเผชิญหน้ากับศัตรู

แต่ในขณะที่ราชวงศ์เจียงได้เตรี ยมพร้อมที่จะเข้าปะทะกับสิ่ งที่กาํ ลังเข้า


มาอย่างเต็มกําลัง เขาก็ได้เพ่งเร่ งสายตาของเขาออกไปสู่ ขอบฟ้าไกลแล้ว
พวกเขาก็ได้เห็นกลุ่มคนหลายรู ปร่ างปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา
และเมื่อคนของราชวงศ์เจียงได้เห็นกลุ่มคนพวกนั้นอย่างชัดเจน จากการ
แสดงกองกําลังที่ขึงขังของพวกเขานั้นก็ได้ลดลงและเปลี่ยนกลายเป็ นมี
ความสุ ขในทันที

เพราะกลุ่มกองกําลังนั้นไม่ใช้กองกําลังของทั้งสามราชวงศ์ แต่มนั เป็ น


กองกําลังที่นาํ มาโดยชายหนุ่มผูห้ นึ่งและเขาคนนั้นก็จะเป็ นใครไปไม่ได้
เขาคนนั้นก็คือชูเฟิ ง ที่นาํ กองกําลังที่แข็งแกร่ งที่สุดมาจากสํานักมังกร
ฟ้าเพื่อมาสนับสนุนคนของราชวงศ์เจียง

ReadMGA
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เป็ นใงล่ะอึง อึงเลยดิ ฮ่า ๆ 55555

B2 : ไอ้เวรนั้นที่มาแจ้งแม้งก็ไม่ยอมดูให้ดี ๆ นี่มึงเป็ นผูเ้ ชียวชาญ


แดนสวรรค์นะเว้ย ตาของพวกมึงมองไกลออกไปได้เป็ น 100 กม.
หัดมองให้ดี ๆ ก่อนแล้วค่อยมาแจ้ง ฟายยย นี่ถา้ องค์จกั รพรรดิและเหล่า
ผูอ้ าวุโสไม่เพ่งตามองและสัง่ โจมตีนี่ กองกําลังชูเฟิ งนี้ถึงกับล่วงเลย
นะน่ะ

B1 : มันกากใง ตัวประกอบเอาไรมาก

B2 : เออแม้ข้ ึนมายังเขตแดนสวรรค์ได้ใงว่ะเนี่ย กูแนะนําให้ไปตัด


แว่นนะ

B3 : ไอ้พวกโง่เขาเรี ยกว่าการจัดฉากให้มนั ดูอลังการใงมึงเข้าใจคําว่า


อลังการกันไหม
B1 : กูไม่เข้าใจ เพราะกูอวยบักเฟิ ง!!

B2 : เออทําใมว่ะ B3 พวกกูอวย บักเฟิ ง เว้ยมีไรป่ าว จําไว้พระเอก


ทําไรย่อมไม่ผดิ

B3 : กูยงั ไม่ได้พดู สักคําเลยว่ามันผิด

B1,B2 : มึงบอกจัดฉาก!!

B3 : มันเกี่ยวoloอะไรกันเนี่ย!!?

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 509 – สายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ


ในขณะนี้ไม่วา่ จะเป็ นองค์จกั รพรรดิหรื อเหล่าผูเ้ ชียวชาญจากราชวงศ์
เจียงพวกเขาทุกคนล้วนต่างแสดงความดีใจออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด

เพราะพวกเขานั้นคาดไม่ถึงเลยว่ากองกําลังเสริ มที่เข้ามาช่วยสนับสนุน
เขาในศึกครั้งนี้จะถูกนํามาโดยชูเฟิ ง เพราะทั้งๆที่กองกําลังที่อยูใ่ ต้อาณัติ
ของเขาที่ดูแลมานานนับหลายปี ยังเลือกที่จะถอดทิ้งเขาแล้วออกจาก
ทวีป 9 อาณาจักรไป

มันเป็ นดัง่ คําสุ ภาษิตที่ได้กล่าวเอาไว้วา่ {มิตรแท้จะรู ้ได้กต็ ่อเมื่อในยาม


ที่เราทุกยากเท่านั้น} ถึงแม้วา่ กองกําลังเสริ มที่ชูเฟิ งได้นาํ มานั้นมันจะ
ไม่สามารถต่อกรกับทั้งสามราชวงศ์ได้ แต่มนั ก็ได้ให้กาํ ลังใจและปลุก
ความฮึกเหิ มให้คนของราชวงศ์เจียงได้เป็ นอย่างดี

“ข้าไม่เคยนึกเลยว่าในช่วงเวลาที่ราชวงศ์เจียงของข้าได้ตกอยูใ่ น
สถานการณ์ที่อยูใ่ นความเป็ นและความตาย, จะเป็ นเด็กหนุ่มคนนี้ที่ได้
ยืน่ มือเข้ามาช่วยเหลือเราโดยที่ไม่คิดคํานึงถึงชีวติ ของเขา”
“ไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใด ยีห่ นี่ และ หวูฉ่ าง แม้กระทัง่ ท่านพ่อ
เองยังมีทศั นคติที่ดีต่อเด็กชายผูน้ ้ ี ดูเหมือนว่ามันจะเป็ นความจริ งที่วา่ เขา
นั้นเป็ นคนที่ใส่ ใจกับความปลอดภัยของมิตรสหาย”

เมื่อเห็นชูเฟิ งและคนอื่น ๆ มันทําให้ใบหน้าขององค์จกั รพรรดิน้ นั ดูเป็ น


สบายใจมากขึ้น และมุมมองของเขาที่มองชูเฟิ งว่าเป็ นดีอยูแ่ ล้วในตอนี้ก็
ยิง่ เป็ นดีมากขึ้นไปอีก

ในขณะที่พวกเขาได้รับรู ้วา่ กองกําลังที่กาํ ลังเข้ามานั้นเป็ นกําลังเสริ มจาก


ชูเฟิ ง คนของราชวงศ์เจียงก็ได้หยุดการก่อวิญญาณของเขาที่สูงเสี ยดฟ้า
และเปิ ดประตูเมืองและต้อนรับชูเฟิ งและคนอื่น ๆ เข้ามาข้างใน

“ชูเฟิ งเพื่อนตัวน้อย เจ้านั้นชัง่ หนักแน่นและเต็มไปด้วย


ความชอบธรรมจริ ง ๆ ในช่วงเวลาหน้าสิ่ วหน้าขวานเช่นนี้มีเพียงแค่
สํานักมังกรฟ้าของเจ้าเท่านั้นที่กล้ามาช่วยเหลือและสนับสนุนราชวงศ์
เจียงของเรา” เจียง เฮิงหยวน มองไปที่ชูเฟิ งพร้อมกับกล่าวออกมาด้วย
รอยยิม้

“อ่าพี่ เฮิงหยวน ท่านกล่าวเช่นนั้นได้เยีย่ งไรนี่ท่านไม่เห็นข้า ฉี


เฟิ งหยาง และตัวแทนจาก คฤหาสน์องค์ชายกิเลน มาด้วยอย่างนั้นหรอก
รึ ?” เพียงแต่ในเวลานั้นก็ได้มีผเู ้ ฒ่าผูห้ นึ่งเดินออกมาจากฝูงชน ซึ่ งมันก็
เป็ นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก ฉี เฟิ งหยาง

“ฮ่า ๆ น้องชาย เฟิ งหยาง ข้ารู ้วา่ เจ้าต้องมา” เมื่อเห็น ฉี เฟิ งหยาง
ใบหน้าของ เจียง เฮิงหยวน นั้นก็ปรากฏรายยิม้ ขึ้นมาในทันทีแม้วา่ ตัว
ของเขาเองนั้นจะมีระดับพลังวิญญาณที่ห่างไกลจาก ฉี เฟิ งหยาง ไปมาก
แต่เขาก็ยงั คงแสดงทัศนคติที่ดีต่อ ฉี เฟิ งหยาง เพราะว่าความสัมพันธ์
ของพวกเขาทั้งสองนั้นไม่ได้แตกต่างจากพี่นอ้ งเลย

“ฮ่าๆ พี่รองของข้ากล่าวถูกต้องแล้ว ข้าเชื่อว่าด้วยความเมตตา


ของราชวงศ์เจียงที่คอยปกป้องดินแดนทวีป 9 อาณาจักรมาเนินนาน
จะต้องมีกองกําลังเสริ มที่กาํ ลังต้องการมาช่วยท่านอยูไ่ ม่นอ้ ยเป็ นแน่
และที่สาํ คัญอีกไม่นานนี้ผคู ้ นจากนิกายโลกวิญญาณก็จะมาร่ วมสมทบ
กับพวกท่านด้วย” ชูเฟิ งอมยิม้ กล่าว

พี่รองที่ชูเฟิ งพูดถึงนั้นก็คือ ฉี เฟิ งหยาง นั้นเองตั้งแต่ตอนแรกที่ชูเฟิ ง


และ ฉี เฟิ งหยาง ได้ร่วมสาบานเป็ นพี่นอ้ งกัน ฉี เฟิ งหยาง ก็ได้กลายมา
เป็ นพี่ใหญ่ของชูเฟิ งมาโดยตลอด แต่วา่ หลังจากที่ อสู รราชันย์วานรได้
ปรากฏตัวออกมาความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสามคนก็ได้มีการ
เปลี่ยนแปลงเล็กด้วยความที่ อสู รราชันย์วานร นั้นมีอายุมากที่สุดในหมู่
พวกเขา ฉะนั้นแล้วในตอนนี้ อสู รราชันย์วานร จึงได้เป็ นพี่ใหญ่ของชู
เฟิ ง ส่ วน ฉี เฟิ งหยาง นั้นก็เป็ นพี่รองและชูเฟิ งก็กลายเป็ นน้อยชายของ
พวกเขาเพราะว่าชูเฟิ งนั้นมีอายุนอ้ ยที่สุด

ขณะที่พวกเขาได้พดู คุยกันก็ได้มีผเู ้ ชียวชาญราชวงศ์เจียงบินมาจากน่าน


ฟ้าและร่ อนลงตรงหน้าองค์จกั รพรรดิพร้อมกับทําความเคารพและ
รายงาน “ท่านองค์จกั รพรรดิข่ามีเรื่ องมาแจ้งให้ท่านทราบ ตอนนี้ผเู ้ ชียว
ชาญแดนสวรรค์ท้ งั หมดจากนิกายโลกวิญญาณได้ถูกนํามาโดย กู่ เทียน
เฉิน ในตอนนี้ได้มาถึงเขตแดนของอาณาจักรของเราแล้วขอรับและ
ในตอนนี้พวกเขาก็ได้กาํ ลังมุ่งหน้ามายังราชวงศ์เจียงของพวกเรา”

“ฮ่า ๆ มันเป็ นจริ งอย่างที่เจ้าพูดไม่มีผดิ ชูเฟิ ง ข้ารู ้วา่ นิกายโลก


วิญญาณนั้นจะต้องไม่เหมือนกับตระกูลเจี่ยอย่างแน่นอน เมื่อราชวงศ์
เจียงของข้าพบกับภัยพิบตั ิขา้ รู ้วา่ พวกเขานั้นจะต้องเต็มใจมาช่วยเหลือ
อย่างแน่นอน คุม้ แล้วจริ ง ๆ ที่ราชวงศ์เจียงของข้านั้นได้ร่วมมือกับเขา
มานานเป็ นเวลาหลายสิ บปี นับว่าไร้ประโยชน์เลยจริ ง ๆ”

หลังจากที่พวกเขานั้นได้รู้วา่ ผูค้ นมาใหม่น้ นั คือใครมันก็ทาํ ให้พวกเขา


นั้นแสดงอาการมีความสุ ขออกมาอย่างไม่รู้จบ เพราะการมาถึงของกําลัง
เสริ มในตอนนี้น้ นั แม้วา่ จะไม่ได้มรอํานาจพอที่จะนําไปต่อกรกับทั้ง
สามราชวงศ์มากนักแต่กท็ าํ ให้พวกเขามีกาํ ลังใจที่จะต่อสู ข้ ้ ึนมาไม่นอ้ ย
เลยทีเดียว

“ท่านองค์จกั รพรรดิ!” ทันใดนั้นก็ได้มีเสี ยงตะโกนดังขึ้น ใน


คราวนี้มนั เป็ นเสี ยงของคนเฒ่าและก็เหล่าผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ พวก
เขาได้ตะโกนเรี ยกร้องหาจักรพรรดิและบินมาด้วยความเร็ วที่เร็ วมาก

“เกิดอะไรขึ้นมันเป็ นไปได้วา่ มีกองกําลังอื่นได้เขามาช่วยเหลือ


ราชวงศ์เจียงของเราอีกอย่างนั้นหรื อไม่?” เมื่อเห็นผูค้ นที่กระโจนเข้า
มาหาองค์จกั รพรรดิดว้ ยความเร็ วเช่นนั้นใบหน้าของผูเ้ ชียวชาญเบื่องร่ าง
ก็เต็มไปด้วยร้อยยิม้ และคิดไปเองว่ามันจะต้องเป็ นข่าวที่ดีเป็ นแน่

“ไม่ใช่. แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าของเหล่าผูอ้ าวุโสในใจของพวก


เขานั้นก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและบนใบหน้าของพวกเขานั้นไม่ได้
แสดงถึงอาการที่มีความสุ ขเลยแม้แต่นิดแต่มนั กับเต็มไปด้วยความ
หวาดกลัว

“มีอะไร? มันเกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเห็นเช่นนั้นองค์จกั รพรรดิจึง


ได้เร่ งรี บถาม
“องค์ชายเขา….เขาไม่สามารถทนสายเลือดราชวงศ์ผสาน
อํานาจได้ขอรับ และตอนนี้เขาก็ได้หมดสติไปแล้ว! ท่านองค์จกั รพรรดิ
โปรดไปดูเขาเร็ วเข้าเถอะขอรับ” ผูอ้ าวุโสกล่าว

“ท่านว่ายังใงนะ?!”

หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดเหล่านั้นการแสดงออกของผูค้ นจากราชวงศ์เจียง


ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิง่ องค์จกั รพรรดิ ใบหน้าที่
มีความสุ ขของเขาทันทีกลายเป็ นซี ดขาว เขากระโดดบินไปยังทางฝ่ าย
หลักของราชวงศ์ในทันที

ในเวลาเดียวกัน, ผูเ้ ชียวชาญคนอื่น ๆ จากราชวงศ์เจียงก็ได้กระโดดบิน


ตามไปในทันทีแม้แต่ชูเฟิ งที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ตอ้ งบินตามไปเช่นกัน

และเนื่องด้วยปัจจุบนั ชูเฟิ งและคนอื่น ๆ ที่มีความสัมพันธ์ต่อราชวงศ์


เจียงเขามาที่นี่กเ็ พื่อช่วยเหลือราชวงศ์เจียง และในเมื่อเกิดเหตุการณ์
เช่นนี้ข้ ึนมันก็เป็ นเรื่ องปกติที่พวกเขาจะต้องตามไปเพื่อทราบเรื่ องราวที่
เกิดขึ้นทั้งหมดด้วย

บนเส้นทางที่เขาได้เดินผ่านนั้นชัง่ เต็มไปด้วยสิ่ งกีดขวางและอุปสรรค


แต่ในท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็มาถึงและเข้าไปยังพระราชวังใต้ดินที่
หรู หรา แต่ถา้ จะพูดให้ถูกมันไม่ได้เป็ นแค่พระราชวังใต้ดินธรรมดา แต่
มันเป็ นการก่อตัวที่กลายเป็ นพระราชวังใต้ดินที่มีขนาดใหญ่มาก

เพราะว่าภายในของพื้นที่ท้ งั หมดของพระราชวังนั้นมันได้ถูกสลักเต็ม
ไปด้วยสัญลักษณ์และรู ปแบบ และมันยังเห็นได้ชดั อีกว่าเป็ นรู ปแบบที่
เสร็ จสมบูรณ์แล้ว

และในขณะเดียวกันก็ได้มีคนกลุ่มใหญ่กาํ ลังรายล้อมชายคนหนึ่งอยู่ ซึ่ ง


โดยในกลุ่มนั้นก็ได้มีบุคคลที่ชูเฟิ งรู ้สึกคุน้ เคยอยูน่ ้ นั ก็คือ เจียง ยีห่ นี่
ในตอนนี้ใบหน้าของ เจียง ยีห่ นี่ นั้นมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
ในขณะที่เธอก็ได้มองตรงไปในยังใจกลางของกลุ่ม

“ท่านองค์จกั รพรรดิมาแล้ว!” หลังจากที่ได้มีคนตะโกนดังขึ้นมา


ราวกับฟ้าฝ่ าฝูงชนที่กาํ ลังไทยมุงอยูน่ ้ นั ก็ได้กระจายตัวออกในทันที และ
ในขณะเดียวกันชูเฟิ งก็ได้คน้ พบว่าบุคคลที่อยูใ่ นใจกลางของกลุ่มนั้นก็
คือ เจียง หวูฉ่ าง

ในตอนนี้ เจียง หวูฉ่ าง ได้นอนแน่นิ่งอยูบ่ นพื้นดิน ใบหน้าของเขานั้น


ได้เหมือนกับคนตายที่มีลกั ษณะซี ดขาวและมีเลือดไหลออกจากทาง ตา
หู จมูก ปาก และดูเหมือนว่าเขาในตอนนี้น้ นั จะอยูใ่ นอาการโคม่า และ
ข้าง ๆ เขานั้นก็ได้มีผอู ้ าวุโสผูห้ นึ่งที่มีพลังวิญญาณระดับที่ 7 แดน
สวรรค์วญ ิ ญาณกําลังพยายามรักษาเขาอยู่

“หวูฉ่ าง!” เมื่อเขาได้เห็นสภาพของลูกชายตัวเองในขณะนั้น


องค์จกั รพรรดิกไ็ ด้ยงิ่ มีความไม่สบายใจเพิม่ มากขึ้น และเพียงแค่พริ บตา
เขาก็ได้ไปอยูใ่ กล้ร่างกายลูกชายของเขาและได้ตรวจสอบอาการบาดเจ็บ
ของ เจียง หวูฉ่ าง ในทันที

และหลังเสร็ จสิ้ นจากการตรวจสอบอาการบาดเจ็บของ เจียง หวูฉ่ าง


ใบหน้าอันตึงเครี ยดของจักรพรรดิก่อนหน้านี้กไ็ ด้ผอ่ นคลายลงในที่สุด
หลังจากนั้นเขาก็ได้ทาํ ความสะอาดคราบเลือดบนใบหน้าของ เจียง หวู่
ฉาง ออกพร้อมกับยืนขึ้นแล้วกล่าวว่า “พาเขากลับไปพักผ่อนที่หอ้ งของ
เขาซะ.”

“ท่านพ่อ น้องชายของข้าเป็ นเช่นไรบ้าง เขาปลอดภัยใช่


หรื อไม่?” เมื่อเห็นเช่นนั้น เจียง ยีห่ นี่ ก็ได้เดินเข้าไปแล้วรี บถามอย่าง
ใกล้ชิด

“สบายใจได้ น้องของเจ้านั้นไม่ได้เป็ นอะไรมากนัก เขาเพียงแค่


ได้รับเล็กน้อยเท่านั้น” องค์จกั รพรรดิตอบ
“อ่าเด็กคนนี้เขาดื้อรั้นมากเกินไป ก่อนหน้านี้ที่เขาได้เข้าไป
เพื่อที่จะครอบครองสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ

แต่ขา้ นั้นกับได้รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างที่ได้เกิดขึ้นกับเขาและข้า
พยายามเรี ยกให้เขากลับออกมาแต่เขาก็ไม่ยอมฟัง โชคดีที่ท่านผูอ้ าวุโส
ได้วา่ รู ปแบบอํานาจวิญญาณไว้ที่ร่างกายของเขาและเมื่อเห็นว่าเขาไม่
สามารถทนได้อีกต่อไปท่านผูอ้ าวุโสก็ได้ดึงเขาออกมา หากไม่ได้ท่านผู ้
อาวุโสแล้วล่ะก็….เฮ้อ ~~~.” เมื่อได้กล่าวคําพูดเช่นนี้ออกมา
ใบหน้าของ เจียง ยีห่ นี่ ก็เต็มไปด้วยความรู ้สึกที่ไร้พลังและหวาดกลัว

“ท่านองค์หญิงท่านอย่าได้กล่าวโทษตัวเองเช่นนั้นเลยใน
ราชวงศ์เจียงของพวกเราแล้วนั้นนอกจากเขาก็ไม่มีใครที่สามารถจะ
ครอบครองสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ และช่วยราชวงศ์เจียงของ
พวกเราได้อีกแล้ว”ผูอ้ าวุโสที่อยูใ่ นระดับ 7 แดนสวรรค์พดู

“แล้วเราควรจะทําเช่นไร? ถ้าหากแม้แต่ความเข้มข้นของ
สายเลือดองค์ชาย หวูฉ่ าง ยังไม่สามารถที่จะทนแรงดันของสายเลือด
ราชวงศ์ผสานอํานาจได้น้ นั ก็หมายความว่าในตอนนี้ราชวงศ์เจียงของ
พวกเราก็ไม่มีใครที่สามารถครอบครองสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ
ได้เลยน่ะซิแล้วเช่นนี้มนั หมายความว่าพวกเราทั้งหมดจะต้องตายใช่
หรื อไม่?”ผูเ้ ชียวชาญราชวงศ์เจียงกล่าว

“เมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วพวกเราก็ไม่สามารถที่จะถอยได้อีก ท่าน
องค์จกั รพรรดิขา้ ขอร้องท่านโปรดส่ งองค์หญิงและองค์ชายออกไปจาก
ราชวงศ์เจียงในตอนนี้ดว้ ยเถิดพร้อมกับส่ งผูเ้ ชียวชาญระดับสู งไป
ปกป้องพวกเขาในขณะที่พวกเขาได้เดินทางออกไปจากทวีป 9
อาณาจักร ก่อนที่ราชวงศ์เจียงของพวกเราจะถูกกําจัดจนสิ้ นซาก.”ทันใด
นั้นเจียง เฮิงหยวน ก็ได้คุกเข่าลงไปที่พ้ืนและอ้อนวอนต่อหน้าอง
จักรพรรดิ

“ท่านองค์จกั รพรรดิพวกข้าก็รอร้อง!”ทันใดนั้นทุกคนจาก
ราชวงศ์เจียงก็ได้คุกเข่าลง
“นี่พวกเจ้า…” เมื่อเห็นเช่นนี้องค์จกั รพรรดิกถ็ ึงกับทําอะไรไม่
ถูกและมันก็ยง่ิ ทําให้เขาลําบากใจยิง่ นักในขณะนี้

“เอิ่ม…ช้าก่อน” ในเวลานั้นชูเฟิ งที่ได้ยนื มองอยูก่ ไ็ ด้เปล่ง


เสี ยงถามออกมาว่า “สายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจที่พวกท่านกําลังพูด
ถึงอยูเ่ นี่ยพวกท่าพอที่จะบอกข้าหน่อยได้หรื อไม๊วา่ มันคืออะไร?”

ReadMGA
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : อือหื อได้กลิ่นดาวโจนมาไกลๆ
B2 : เหมือนจะมีการขโมยแบบซึ่ ง ๆ หน้า

B1 : ดูจากทรงเหมือนจะใช่

B3 : มันใช่เลยแหละ

B1 : โห่พระเอกเรานี่ชวั่ จริ ง

B2 : จับใจ

B3 : เออพวกมึงก็รู้นิวา่ มันชัว่ ยันเหง้าแล้วพวกมึงยังจะไปอวยมันอีก

B1,B2 : ก็พวกกูชอบใง!! มีปัญหาป่ ะล่ะ!!

B3 : เออเรื่ องของพวกมึงเถอะ

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 510 – ก้าวเข้าสู่ ช้ นั ก่อตัว
“ชูเฟิ งอํานาจสายเลือดจักรพรรดิน้ นั เป็ นสิ่ งที่ถูกทิ้งเอาไว้เบื่อง
หลังโดยบรรพชนรุ่ นก่อน ๆ ในราชวงศ์เจียงของพวกเรา”

“เมื่อพวกเขาได้มาถึงจุดสิ้ นสุ ดของชีวติ พวกเขาก็จะปิ ดผนึก


กําลังอํานาจสายเลือดของตนเข้าไปในตราก่อวิญญาณที่นี่เพื่อทําให้
สายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ นั้นแข็งแกร่ งมากขึ้น”

“และตราบใดที่คนของราชวงศ์เจียงสามารถเข้าไปยังข้างใน
แล้วนําสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ ที่เหล่าบรรพชนรุ นก่อน ๆ ผนึก
ไว้และผสานเข้ากับร่ างกายของพวกเขาได้ล่ะก็มนั จะทําในระดับพลัง
วิญญาณของพวกเขานั้นเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ วภายในระยะเวลาอันสั้น”

“ฉะนั้นแล้วสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ นั้นคือความหวังเดียว
ที่จะช่วยเหลือพวกเราเหล่าราชวงศ์เจียงให้พน้ กับภัยพิบตั ิครั้งนี้ไปได้
แต่วา่ ในตอนนี้มนั ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วเพราะว่าภายในสถานที่ที่
กักเก็บสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ นั้นมันได้มีแรงดันบางอย่างที่
แข็งแกร่ งมากถ้าหากไม่ใช่ผคู ้ นที่มีสายเลือดราชวงศ์ที่เข้มข้นล่ะก็พวก
เขาก็จะไม่สามารถยืนอยูภ่ ายในได้นานนัก”

“และในตอนนี้ราชวงศ์เจียงของเราผูท้ ี่มีสายเลือดเข้มข้นมาก
ที่สุดก็คือ หวูฉ่ าง พวกเรามีความหวังว่าเขานั้นจะสามารถเข้าไปยังที่กกั
เก็บภายข้างในของสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ ได้ แต่วา่ ในตอนนี้มนั
กับไม่ได้เป็ นไปอย่างที่หวังแม้แต่เขาจะทนก็ยงั ไม่สามารถที่จะทน
แรงดันของสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจได้” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้
จักรพรรดิจึงทําได้เพียงแค่ถอนหายใจกับอารมณ์ทางใบหน้าที่ในตอนนี้
เขาไม่รู้วา่ ควรจะทําเช่นไรดี

“ในเมื่อมันเป็ นมาอย่างที่ท่านองค์จกั รพรรดิกล่าวว่าจริ งทําไม


ไม่ให้ขา้ ลองเข้าไปในที่กกั เก็บสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ ดูล่ะ?”ชู
เฟิ งกล่าว
“เจ้าว่าใงนะ? นี่เจ้าจะบอกข้าว่าเจ้าต้องการที่จะเข้าไปยังที่กกั
เก็บภายในของสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ อย่างนั้นรึ ?” เมื่อได้ยนิ
คําพูดเหล่านั้นการแสดงออกขององค์จกั รพรรดิและเหล่าคนของ
ราชวงศ์เจียงถึงกับเปลี่ยนแปลงในทันทีและอดไม่ได้ที่จะต้องจับตามอง
ไปที่ชูเฟิ งด้วยสายตาที่ซบั ซ้อน

“ชูเฟิ งเจ้าไม่สามารถทําเช่นนั้นได้เพือ่ ป้องกันจากบุคลภายนอก


เหล่าบรรพชนของข้านั้นจึงได้วา่ งรู ปแบบเอาไว้ในสถานที่กกั เก็บ
ภายในของสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ หากว่าได้มีผใู ้ ดที่ไม่ใช่บุคคล
ของราชวงศ์เจียงหรื อมีสายเลือดของราชวงศ์เจียงฝ่ าฝื นเข้าไป มันก็จะ
ทําให้พวกเขานั้นได้รับแรงกดดันเป็ นทวีคูณจากแรงกดดันปกติที่เหล่า
เราราชวงศ์เจียงได้รับ” เจียง เฮิงหยวน กล่าวเตือน

“แรงดันทวีคูณ…แล้วถ้าหากหลังจากที่ทนไอ้แรงดันอะไรนั้น
ได้แล้วเนี่ยมันจะทําให้เราได้รับสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ มาได้ใช่
หรื อไม่” ชูเฟิ งยิม้ ถามราวกับว่าเขานั้นไม่ได้ให้ความสนใจอะไรให้กบั
แรงดันเหล่านี้ในสายตาของเขา
“นั้นมัน…” หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดเหล่านั้นมันถึงกับทําให้
เจียง เฮิงหยวน พูดไม่ออกเลยที่เดียวเพราะว่าตัวเขาเองนั้นก็ไม่ทราบ
เช่นกันว่าบุคคลภายนอกที่สามารถทดแรงกดดันได้แล้วนั้น พวกเขาจะ
ได้รับพลังที่เทียบเท่าสายเลือดจักรพรรดิหรื อไม่

“ชูเฟิ งแน่นอนว่าถ้าเจ้าสามารถทนแรงกดดันได้มนั ก็ไม่มี


ปัญหาใดที่เจ้าจะได้ครอบครองสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ ได้ แต่วา่
ด้วยเนื่องจากที่เจ้าไม่ใช่คนของราชวงศ์วงมันจะทําให้พลังอํานาจของ
มันนั้นลดลงอย่างมากและนอกจากนี้มนั จะคงอยูใ่ นสภาพที่ไม่สมบูรณ์
อีกด้วย” เพียงแค่ในเวลานั้นองค์จกั รพรรดิอธิบาย

“ท่านองค์จกั รพรรดิถา้ มันเป็ นจริ งอย่างที่ท่านกล่าวมาเช่นนั้น


ก็โปรดให้ขา้ ได้ลอง” ชูเฟิ งอ้อนวอน

“ชูเฟิ งข้าขอรับความตั้งใจของเจ้าเอาไว้ แต่วา่ การเข้าไปยังที่


กักเก็บสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ นั้นมันเสี่ ยงเกินไป เจ้ายังไม่ทราบ
ถึงแรงกดดันที่แสนน่ากลัวของสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจดีพอ”

“หากคนที่เข้ามาในที่กกั เก็บสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ ใน
วันนี้ไม่ใช่ หวูฉ่ าง พวกเขาทุกคนก็ตอ้ งล้วนบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน
และเกรงว่าแม้แต่ตวั ของข้าเองก็ไม่มีขอ้ ยกเว้นด้วยเช่นกัน”

“ฉะนั้นแล้วถ้าหากแรงกดดันชนิดนี้ได้รับการทวีคูณขึ้นไป
หลายเท่าล่ะก็มนั อาจทําให้เจ้าถึงตาย เพียงแค่กา้ วเดียวที่เจ้าได้ยา่ งกาย
เข้าไปมันอาจทําให้เจ้านอนจมกองเลือดได้ ฉะนั้นมันจะเป็ นการดีกว่า
ถ้าจะไม่ลอง” องค์จกั รพรรดิได้ให้คาํ แนะนําแก่เขา

“ท่านองค์จกั รพรรดิขา้ นั้นได้ยนิ คนในราชวงศ์ของท่านกล่าวมา


ว่ากองทัพของทั้งสามารถราชวงศ์น้ นั ได้เข้ามายังเขตแดนทวีป 9
อาณาจักรแล้ว และด้วยความเร็ วของพวกเขาคงจะมาถึงที่นี่ในไม่ชา้ นี้”
“ฉะนั้นแล้วในเวลานี้ท่านได้มีวธิ ีการป้องกันการรุ กรานของ
พวกมันแล้วหรื อไม่?” ชูเฟิ งถามด้วยรอยยิม้

“นั้นมัน…” หลังจากที่ได้ยนิ คําของชูเฟิ งองค์จกั รพรรดิกไ็ ด้


ตกลงสู่ ความเงียบในทันที หลังจากนั้นเขาก็กล่าวออกมาอย่างหดหู่และ
รอยยิม้ เล็ก ๆ ของเขา “ที่จริ งพวกเราในตอนนี้ทาํ ได้เพียงแค่รอคอย
ความตายที่กาํ ลังคืบคลานเข้ามาหาพวกเราเท่านั้นเองมันจริ งอย่างที่เจ้า
ว่าในตอนนี้พวกเราไม่มีวธิ ีใดที่จะสามารถป้องกันการรุ กรานของพวก
มันได้เลย”

“แต่ถึงแม้วา่ ผลมันจะออกมาเป็ นยังใงก็ตามบรรพชนของพวก


เราได้สอนเอาไว้วา่ ถึงแม้พวกเราจะต้องตายพวกเราก็จะต้องปกป้อง
ดินแดนทวีป 9 อาณาจักรแห่งนี้เอาไว้ให้ได้และพวกเราราชวงศ์เจียงจะ
ละเลยคําสอนของบรรพชนเป็ นอันขาด ฉะนั้นแล้วพวกเราเหล่าราชวงศ์
เจียงจะไม่ไปไหนทั้งนั้นพวกเรายินดีที่จะตายที่นี่
“แต่ชูเฟิ งสําหรับเจ้าแล้วนั้นเจ้าไม่ได้เป็ นส่ วนหนึ่งของราชวงศ์
เจียงของพวกเรา ฉะนั้นแล้วเจ้าไม่มีความจําเป็ นใด ๆ ที่จะต้องมาอยูใ่ น
สถานที่แห่งนี้ขา้ ขอให้พวกเจ้าหันหลังให้พวกเราแล้วออกไปจากทวีป
9 อาณาจักรเสี ยพวกเราไม่ตอ้ งการให้พวกของเจ้ามาตายโดยสู ญป่ าว
ข้าขอบคุณพวกเจ้าจริ ง ๆ ที่คิดมาช่วยเหลือราชวงศ์ของเราในตอนนี้
ขอบคุณมากพวกเราเหล่าราชวงศ์จะจําเอาไว้ให้ข้ ึนใจถึงการช่วยเหลือ
กันในครั้งนี้ ฉะนั้นแล้วพวกเจ้าได้โปรดออกไปด้วยเถอะ”

“โว้ว ๆ ๆ….ท่านองค์จกั รพรรดินบั ตั้งแต่ที่พวกเราได้วางแผน


มายังสถานที่แห่งนี้ในวันนี้พวกเราก็ไม่คิดที่จะถอยกลับหรื อหนีไปไหน
ทั้งนั้น ในวันนี้พวกเราจะขอต่อสู ไ้ ปจนตายและไม่คิดจะถอยหนีพวกเรา
จะอยูแ่ ละตายไปพร้อมกับราชวงศ์เจียง”

“ฉะนั้นแล้วในเมื่อตอนนี่เนืองจากพวกท่านไม่มีวธิ ีการป้องกัน
ตัวเองใด ๆ และมีสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ เป็ นทางเลือกเดียวที่จะ
สามารถช่วยพวกท่านได้มนั เป็ นโอกาศเดียวของพวกเราทั้งหมด ตั้งแต่
เวลานี้ที่พวกเราได้อยูด่ ว้ ยกันไม่วา่ จะเป็ นด้านหน้าหรื อด้านหลังพวกเรา
ก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยความตายแล้วในตอนนี้ใช่หรื อไม่”
“แม้วา่ ระดับพลังวิญญาณของข้านั้นจะไม่สูงมากนักแต่ขา้ ก็ยงั
ได้เข้าใจทักษะพิเศษบางอย่างที่สามารถทนแรงกดดันจากสายเลือด
ราชวงศ์ผสานอํานาจ ได้อย่างแน่นอน และถึงแม้วา่ มันจะเกิดการ
ผิดพลาดขึ้นมาอย่างมากมันก็แค่ตาย” ชูเฟิ งกล่าวคําพูดออกมาพร้อมกับ
รอยยิม้ เล็ก ๆ

“ชูเฟิ งนี่เจ้า…” เมื่อเห็นว่าชูเฟิ งยังคงคิดที่จะยืนอยูเ่ คียงข้าง


ราชวงศ์เจียงและไม่สนความเป็ นและความตายของตัวเขาเองมันถึงกับ
ทําให้องจักรพรรดิพดู อะไรไม่ออกในขณะนี้

“ท่านองค์จกั รพรรดิต้ งั แต่ที่ชูเฟิ งยืนยันว่าจะทําเช่นนั้นทําไมไม่


ปล่อยให้เขาลอง”

“ใช่ท่านองค์จกั รพรรดิ หลังจากที่เราติดตั้งรู ปแบบการก่อ


ย้อนกลับไว้บนร่ างกายของเขา ถ้าเกิดมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรอว่าเขา
ไม่อาจทนแรงกดดันของสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ ได้ข้ ึนมาเราก็
เพียงแค่ดึงเขากลับมาทันที ในเวลานั้นข้าบอกได้เลยว่าเขาจะต้องไม่ตาย
อย่างแน่นอน” ในทันทีคนจํานวนมากของราชวงศ์เจียงก็เริ่ มที่จะพูดคุย
และอ้อนวอนต่อองค์จกั รพรรดิ

หลังจากที่พวกเขาไม่ตอ้ งการให้ราชวงศ์เจียงถูกทําลายเช่นเดียวกับ
ความกล้าหาญของชูเฟิ งที่มีมากมายถึงเพียงนี้แน่นอนว่าตัวเขาเองนั้น
จะต้องมีความเชื่อมัน่ บางอย่างแน่นอน นอกจากนี้พวกเขายังได้รู้ถึง
ความสามารถพิเศษของชูเฟิ งเป็ นอย่างดี หลังจากที่ชูเฟิ งได้ครอบครอง
ถึงสองทักษะเร้นลับในตํานานจากสุ สานจักรพรรดิ

ฉะนั้นแล้วในช่วงเวลาเช่นนี้มนั เหมือนกับพวกเขาได้รับแสงสว่างใน
สถานที่ที่มืดมิด แม้วา่ แสงสว่างนั้นมันชัง่ ลิบรี่ และมีนอ้ ยซะเหลือเกินแต่
ว่าพวกเขานั้นก็ยงั คงหวังกับแสงอันน้อยนิดนั้นว่ามันจะเจิดจ้าขึ้นมาได้
พวกเขาทุกคนไม่มีใครต้องการที่จะตายในตอนนี้พวกเขาทุกคนล้วน
ต้องการที่จะอยูร่ อดด้วยกันทั้งนั้น
‘ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้นจริ ง ๆ ข้าก็จะไม่พดู มากอีกต่อไป”

“ในวันนี้พวกเราทุกคนเหล่าราชวงศ์เจียงจะจดจําชื่อของเจ้า
และการกระทําของเจ้าเอาไว้ที่ทาํ เพื่อพวกเราเหล่าราชวงศ์เจียง’

ในที่สุดองค์จกั รพรรดิกไ็ ด้ยนิ ยอมและไม่พดู อะไรเขาได้เดินไปที่ขา้ ง


หลังของชูเฟิ งและวางตรารู ปแบบไว้บนร่ างกายของชุเฟิ ง มันเป็ นการก่อ
ตัวระยะสั้นที่จะคงอยูไ่ ด้ไม่นานนัก

รู ปแบบการก่อตัวนี้มนั เรี ยกว่ารู ปแบบย้อนกลับแม้วา่ มันจะไม่มี


ประโยชน์อะไรมากนักแต่มนั ก็นบั ว่าใช้ได้ดีในที่กกั เก็บสายเลือด
ราชวงศ์ผสานอํานาจ
“ชูเฟิ งหากเจ้าก้าวย่างเข้าสู่ ที่กกั เก็บสายเลือดราชวงศ์ผสาน
อํานาจ แล้วมีสิ่งใดที่ผดิ ปกติเกิดขึ้นอย่าลืมที่จะส่ งเสี ยงร้องตะโกน
ออกมาเพือ่ ขอความช่วยเหลือในทันทีไม่เช่นนั้นแล้วข้าอาจดึงเจ้า
กลับมาไม่ทนั และเจ้าอาจบาดเจ็บหนักได้” องค์จกั รพรรดิช้ ีไปที่
ศูนย์กลางของพระราชวังมันได้มีแท่นหิ นทรงกลมอยูค่ วามสู งของมัน
นั้นเป็ นเพียงแค่หนึ่งเมตร

“อืม”ชูเฟิ งพยักหน้าด้วยรอยยิม้ หลังจากนั้นก็มีประกายสายฟ้า


ขึ้นมาในดวงตาของเขาอย่างรวดเร็ วพร้อมกับกลิ่นอายของเขาที่เพิ่มขึ้น
ไปถึงระดับ 2 แดนสวรรค์วญ ิ ญาณอย่างรวดเร็ วภายนพริ บตา

พร้อมกับใช้ทกั ษะเกราะเต่าทมิฬและเริ่ มเดินเข้าไปยังในพื้นที่กกั เก็บ


สายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ

ในทันทีที่ทุกคนได้เห็นเขารู ้สึกถึงความจุกอยูใ่ นอกของพวกเขาและเริ่ ม


เป็ นกังวลอย่างมาก ภายในพระราชวังอันใหญ่โตเสี ยมันชัง่ ราวดูเงียบ
อย่างกับเป่ าสาก สิ่ งเดียวที่พวกเขาเพียงได้ยนิ ก็มีเพียงเสี ยงฝี เท้าของชู
เฟิ งเท่านั้น

*** ตึบ ตึบ ตึบ ***

หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว สิ บก้าว ห้าสิ บก้าว ในที่สุดชูเฟิ งก็เดินครบ


ห้าสิ บเก้าและขึ้นไปยืนยูบ่ นแท่นศิลาอย่างเรี ยบง่ายและประสบ
ความสําเร็ จอย่างง่ายดาย

ReadMGA
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B3 : แค่เนี้ยคือ??
B2 : ก็ตามนั้นและครับ

B1 : โดนลาสไปเต็มๆองค์จกั รพรรดิกู

B2 : สะสมมานานนับหลายสิ บปี

B1 : กับโดนแย่งเอาไปอย่างดือ ๆ

B2 : ชัง่ น่าสงสารเสี ยเหลือเกิน

B3 : ว่าแต่ทาํ ใมมันเดินมาถึงเร็ วจังว่ะ นี่พดู แบบอันตรายอย่างนูอ้ ย่าง


นี้มาตั้งหายย่อหน้าเจอชูเฟิ งเดินไป ห้าสิ บก้าวภายในย่อหน้าเดียวนี่มนั
หมายความว่ายังใงว่ะ??

B1,B2 : ก็มนั โดนตัดจบใง!!

B3 : สรุ ปคือกูตอ้ งรอดูเอาบทหน้าใช่ไหมว่ามันจะเป็ นยังใง??

B1,B2 : ก็คงจะเป็ นอย่างนั้น

#################################
#################################
###############################
…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้
ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 511 – การมาถึงของกองทัพศัตรู

*** วิง๊ ***

และในทันทีจากพระราชวังที่เงียบเฉี ยบก็ได้มีแสงกระจ่างใสยิง่ ออกมา


สัญลักษณ์ที่อยูภ่ ายในก็ได้เป็ นประกายและสว่างขึ้น

และบนแท่นหิ นที่ชูเฟิ งได้กา้ วเดินขึ้นไปก็ได้มีลาํ แสงพุง่ ตรงขึ้นไปถึง


ท้องฟ้าพร้อมกับสภาพโดยรอบของเสาแสงนั้นก็ได้มีกลุ่มควันที่ฟ้งุ
กระจายออกมา

ในทันทีทุกคนที่อยูใ่ นเหตุการณ์กเ็ กือบแทบจะหยุดลมหายใจของเขา


ส่ วนบางคนก็ทาํ ใจยอมรับกับสิ่ งที่พวกเขากําลังจะได้เห็นไม่ได้จึงได้ปิด
ตาของพวกเขาเพราะพวกเขากลัวว่าชูเฟิ งนั้นจะไม่สามารถทนแรง
กดดันได้และถูกบีบเละจนกลายเป็ นกองเลือด

“นั้นดู! ชูเฟิ งเขายังอยูด่ ี! เขายังคงยืนอยูบ่ นแท่นศิลา!”

ทันใดนั้นก็ได้มีคนโห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นเพียงเพราะเขายังคง
เห็นชูเฟิ งยังคงยืนอยูบ่ นแท่นหิ น นอกจากนี้ชูเฟิ งยังคงเดินเข้าไปใกล้กบั
ใจกลางของแท่นด้วยสี หน้าที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นอ้ ยราวกับ
ว่าเขานั้นไร้ความรู ้สึก

“โอ้วสวรรค์! ชูเฟิ งจริ งสามารถทนแรงกดดันของสายเลือด


ราชวงศ์ผสานอํานาจได้ ?! ”

ในทันทีใบหน้าของพวกเขาทุกคนก็ได้ตกอยูใ่ นอาการช็อกและ
เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผูท้ ี่ยนื อยูร่ ่ วมเป็ นสักขีพยานให้กบั เจียง หวูฉ่ าง ที่


ประสบความล้มเหลวมันจึงทําให้พวกเขานั้นรู ้สึกตกใจอย่างไม่มีที่
สิ้ นสุ ดจนถึงกับล้มลงไปที่พ้นื

เพราะว่าในตอนนี้น้ นั มันอาจกล่าวได้วา่ จุดที่ชูเฟิ งได้กา้ วไปนั้นมันไกล


ว่าจุดที่ เจียง หวูฉ่ าง ได้ยนื อยูเ่ ป็ นอย่างมากความกดดันของแรงดันที่ชู
เฟิ งได้ยนื อยูน่ ้ นั มันอาจกล่าวได้วา่ ชัง่ น่ากลัวอย่างแท้จริ ง แต่สาํ หรับชู
เฟิ งแล้วนั้นมันราวเหมือนกําว่าแรงดันทั้งหมดมันไม่ได้เป็ นอะไรมาก
ไปกว่าสายลมเย็น ๆ สําหรับเขา มันจึงเป็ นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่ผคู ้ น
ราชวงศ์เจียงได้เห็นแล้วจะไม่ตกใจ

“นั้นดู บนร่ างกายของชูเฟิ งนั้นได้มีแสงของออร่ าบาง ๆ เล็ด


ลอดออกมา ลักษณะออร่ าแบบนั้น…หรื อว่าจะเป็ นหนึ่งในทักษะเร้น
ลับในตํานานที่ชูเฟิ งครอบครองทักษะเกราะเต่าทมิฬ ?!”
“มันเป็ นไปได้วา่ เขาใช้ทกั ษะเร้นลับเกราะเต่าทมิฬเพื่อป้องกัน
แรงดันจากสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจที่บรรพชนของพวกเราได้
สร้างขึ้นมาได้หรื อไม่”

“ใช่แล้ว! เหตุผลที่วา่ ทําใมเขาถึงไม่ได้รับผลกระทบจากแรง


กดดันของสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ มันเป็ นเพราะว่าเขาได้ใช้
ทักษะเร้นลับในตํานานเพื่อปกป้องร่ างกายของเขาเอาไว้นี่เอง”

เมื่อได้มีคนสังเกตเห็นออร่ าจางๆที่หลุดลอดออกมาจากร่ างกายของชู


เฟิ งพวกเขาก็รู้ได้ในทันทีเลยว่าออร่ าชนิดนี้น้ นั จะต้องเป็ นออร่ าของ
ทักษะเร้นลับเกราะเต่าทมิฬ

*** ชูววว *** แต่เพียงในเวลานั้นที่พวกเขาทุกคนได้คิดว่าชูเฟิ งนั้นได้


ใช้ทกั ษะเร้นลับในตํานานเพื่อปกป้องร่ างกายของตัวเอง, ชูเฟิ งก็ได้
แสดงความมัน่ หน้าของเขาออกมาและปลดทักษะเร้นลับเกราะเต่าทมิฬ
ที่ปกป้องร่ างกายของเขาอยูอ่ อกไป และใช้ร่างกายเพรี ยว ๆ ป่ าว ๆ ยืน
อยูบ่ นจุดศูนย์กลางของแท่นหิ น

“ดูน้ นั ! เขาออร่ ารอบตัวของเขาได้หายไป! ตอนนี้ชูเฟิ งจริ งได้


ยืนอยูบ่ นอํานาจของการก่อตัวและเขายังไม่ได้รับผลกระทบจากแรง
กดดันใด ๆ!” เมื่อหันหน้าไปยังฉากที่เกิดขึ้นในตอนนี้เหล่าดวงตาของ
ผูค้ นของราชวงศ์เจียงนั้นแถบจะถลนออกมาและลิ้นของพวกเขายัง
ได้รับการพันกันอยูใ่ นปากของเขา มันอาจพูดออกมาได้เต็มปากเลยว่า
พวกเขานั้นได้ตกอยูใ่ นความตลึงอย่างสมบูรณ์

แต่สิ่งที่ทาํ ให้พวกเขานั้นถึงกับพูดไม่ออกอย่างแท้จริ งนั้นก็คือในตอนนี้


ถึงแม้วา่ ชูเฟิ งจะไม่ได้มีการป้องกันจากทักษะเร้นลับแล้วนั้นแต่เขาก็
ยังคงเดินวนไปรอบ ๆ ได้พร้อมกับปรากฏรอยยิม้ บนใบหน้าของเขา
จากนั้นเขาก็ได้ยกมือซ้ายและมือขวาขึ้นเพื่อให้สญ ั ญาณมือกับราชวงศ์
เจียงนั้นว่าเขานั้นสบายดีและไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ

{3B//://พร้อมกับนํามือขวาไปทับกับมือซ้ายอยูใ่ นระดับเอวและร้อง
เพลงโอปัน กังนัมสไตล์ โอ โอ โอ โอปั น กังนัมสไตล์}
แรงกดดันที่ผคู ้ นของราชวงศ์เจียงเองนั้นยังไม่สามารถที่จะทนรับมันได้
แต่กบั ชูเฟิ งนั้น เขาสามารถเดินเล่นได้อย่างอิสละราวกับว่าเขานั้นได้อยู่
ในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ด้วยความเป็ นจริ งนี้มนั จึงทําให้ผคู ้ นของราชวงศ์
เจียงนั้นตกใจอย่างแท้จริ ง

“โอ้วชูเฟิ งนี่ชงั่ น่ามหัศจรรย์จริ ง ๆ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใด


เขาถึงได้มีความมัน่ ใจในตนเองได้ถึงขนาดนั้น มันเป็ นเพราะว่าเขานั้น
สามารถทนแรงกดดันของสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจได้นี่เอง”
ในทันทีเหล่าผูอ้ าวุโสของราชวงศ์เจียงก็ได้พดู ปะหาลือกันเกี่ยวกับสิ่ งที่
น่าเหลือเชื่อของชูเฟิ งที่ได้ทาํ ให้พวกเขาได้เห็น

“มันเป็ นดัง่ ที่บรรพชนเก่าแก่ได้กล่าวเอาไว้จริ ง ๆ ว่าชูเฟิ งนั้น


ไม่ใช่บุคคลที่เรี ยบง่าย บางทีเขาอาจเป็ นต้นเหตุของปรากฏการณ์อนั น่า
มหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 7 ปี ก่อนก็เป็ นได้ และภายในร่ างกายของเขา
อาจมีอาํ นาจบางอย่างที่แสนน่ากลัวอยูก่ เ็ ป็ นได้ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่
อาจที่จะสามารถทนกับแรงกดดันจากการก่อตัวขนาดนี้ได้อย่าง
แน่นอน” นํ้าเสี ยงของ เจียง เฮิงหยวน ที่พดู ออกมานั้นมันชัง่ เต็มไปด้วย
อารมณ์ที่ซบั ซ้อนและความคาดหวังในใจของเขาก็ได้ผดุ ขึ้นมาอีกครั้ง

และในเวลาเดียวกัน เจียง ยีห่ นี่ บุคคลที่แข็งแกร่ งที่สุดในหมู่เยาวชน


ของราชวงศ์เจียงและยังเป็ นถึงองค์หญิงของราชวงศ์เจียง ในขณะนี้
ดวงตาของเธอได้เบิกกว้างออกมาราวกับว่ามันจะถลนออกมายังใงยังงั้น
พร้อมกับพูดด้วยเสี ยงตํ่าว่า “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าชะตากรรมของราชวงศ์
เจียงที่ได้เป็ นอยูม่ ายาวนานนับพันปี จะไปตกอยูท่ ี่มือของบุคคลภายนอก
เช่นเขาแบบนี้”

แม้วา้ การก้าวเดินเข้าไปในแรงกดดันของการก่อสายเลือดราชวงศ์ผสาน
อํานาจของชูเฟิ งในครั้งนี้จะประสบความสําเร็ จและสร้างความแปลก
ประหลาดใจให้กบั ผูค้ นแต่มนั ก็ตอ้ งบอกว่ามันได้สร้างความหวังให้
พวกเขาด้วยเช่นกัน
แต่สายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจมันไม่ได้เป็ นสิ่ งที่เรี ยบง่ายอย่างที่พวก
เขาคิด แม้วา่ ความจริ งอํานาจของมันได้เข้ามาบรรจบกันและผสานเข้า
ไปในร่ างกายของชูเฟิ งแต่มนั อาจบอกได้วา่ ความเร็ วในการผสานเข้าไป
ในร่ างกายของชูเฟิ งนั้นมันแลดูชา้ เอามาก ๆ

จนในที่สุดเหล่ากองกําลังนิกายโลกวิญญาณและความเร็ วของสายเลือด
ราชวงศ์ผสานอํานาจที่ผสานเข้าไปในร่ างกายของชูเฟิ งนั้นก็นบั ว่าเร็ ว
เพิม่ ขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นไม่กี่วนั ที่ผา่ นมาสายลับของราชวงศ์เจียงก็ได้แจ้ง
ข่าวมาแล้วว่ากองทัพของทั้งสามราชวงศ์วงนั้นในตอนนี้ได้เดินทาง
มาถึงอาณาจักรฮัน่ แล้ว นอกจากนี้พวกมันจะมาถึงหน้าประตูเมืองในไม่
ช้า

สงครามที่ราชวงศ์เจียงไม่ตอ้ งการให้มนั ได้เกิดขึ้นนั้นในที่สุดมันก็ได้


มาถึง

*** ตึม ตึม ตึม ตึม ตึม ***


ภายนอกเขตของพระราชวังได้เกิดเสี ยงระเบิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด ทุก
คนที่อยูใ่ นขอบเขตหลายพันกิโลเมตรต่างได้ยนิ เสี ยงอันอึกทึกที่น่ากลัว
นี้ท้ งั นั้นมันอาจกล่าวได้วา่ เป็ นเสี ยงที่ดงั ยิง่ กว่าฟ้าร้อง

พร้อมกับการก่อจิตวิญญาณปิ ดผนึกของราชวงศ์เจียงที่สูงคํ้าฟ้า, ได้เกิด


เสี ยงระเบิดออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด พร้อมชั้นระลอกคลื่นของการ
ระเบิดที่ไม่มีที่สิ้นสุ ดพุง่ ตรงเข้าใส่ ช้ นั ก่อวิญญาณของราชวงศ์เจียง

ในท้องฟ้าได้มีรูปร่ างที่สวมชุดคลุมและเสื้ อผ้าแตกต่างกันถึงสามสี และ


ก็มีตวั อักษรสี ทองที่ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของพวกเขาทุกคนมันได้
สลักเอาไว้วา่ “ราชวงศ์” บนหน้าผากของพวกเขา พวกเขาทั้งสามกอง
กําลังได้รวมกันเหวีย่ งการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของพวกเขาพุง่ เข้าใส่ กบั
ชั้นก่อวิญญาณปิ ดผนึกของราชวงศ์เจียง

พวกเขาทั้งหมดเป็ นกองกําลังของราชวงศ์จา้ ว ราชวงศ์จี และ ราชวงศ์


หลิว

นอกจากนี้พวกเขายังมีผเู ้ ชียวชาญแดนสวรรค์วญ ิ ญาณอีกเป็ นจํานวน


มากที่เป็ นผูเ้ ชื่อต่อฯที่แข็งแกร่ งและยังรวมไปถึงหลายอสู รโลกวิญญาณ
ภพต่าง ๆ ที่แสนจะน่ากลัวและถูกเรี ยกโดยเหล่าผูเ้ ชื่อต่อฯ พร้อมกับ
เหล่าสัตว์ยกั ษ์ต่าง ๆ ที่อยูใ่ นอาณาจักรแดนสวรรค์พวกมันทุกตัวได้รวม
การโจมตีที่แรงที่สุดของพวกมันพุง่ เข้าใส่ ช้ นั ของการก่อตัวจิตวิญญาณ
ปิ ดผนึก

และยังมีราชรถที่มีพ้ืนที่ขนาดใหญ่พร้อมกับอาหารมากมายและไวน์
บนราชรถนั้นได้มีผเู ้ ฒ่าอยูส่ ามคนและชายวัยกลางคนอีกสามคนพวก
เขานัง่ รายล้อมอยูร่ อบโต๊ะในขณะที่กบั ดื่มไวน์และเริ่ มการพูดคุย
สนทนา

พวกเขาได้นงั่ กินกันอย่างสบายใจเฉิ บและหัวเราะคิกคักพร้อมกับนัง่ ดู


แสงและประกายไฟที่มาจากการบริ เวณพื้นที่สงครามมันอาจพูดได้วา่
เป็ นฉากที่สวยงามยิง่ นักในการมากินข้าวใต้แสงไฟแห่งสงครามเช่นนี้

และพวกเขานั้นจะเป็ นใครไปไม่ได้นอกจากจักรพรรดิองค์ปัจจุบนั และ


เหล่าบรรพชนของราชวงศ์จา้ ว, ราชวงศ์จี และราชวงศ์หลิว

“เหอะมันดูเหมือนกับว่าตาเฒ่าของราชวงศ์เจียงมันจะไม่มี
ปัญญามาสู ก้ บั พวกเราได้จริ ง ๆ แต่อย่างน้อยๆมันก็หน้าที่จะออกมา
เผชิญหน้าและมีใจที่จะต่อสู ก้ บั พวกเราซักหน่อยสิ จริ งไหม?” ในขณะ
ที่บรรพชนเก่าแก่ของตระกูลจ้าว มองดูผคู ้ นจากราชวงศ์เจียงกําลังตกอยู่
ในสถานการณ์ที่ยากลําบากและตื่นตระหนก มุมปากของเขาก็ได้ยก
สู งขึ้นพร้อมกับปรากฏร้อยยิม้ อันเย็นชาขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา

“มันชัง่ น่าสงสารยิง่ นักที่ถูกว่างแผนฆ่าโดนพี่ชายของตัวเอง แต่


พี่ชายของมันก็ชงั่ โง่เง่ายิง่ นักมันคิดจริ ง ๆ หรื อว่าพวกเราจะยกสมบัติ
อันลํ้าคาเช่นหญ้าอมตะที่สามารถยืดอายุได้ถึง 10 ปี ให้แก่มนั !.”
บรรพชนเก่าของราชวงหลิวก็กล่าวออกมาในทํานองเย้ยหยัน
เช่นเดียวกัน

“เหอะชัง่ เป็ นบุคคลที่โง่เขลายิง่ นักด้วยความโง่ของมันที่ไม่มี


ปัญญาจะยืดอายุของตนพวกเราจะทําให้มนั ได้คน้ พบกับความสิ้ นหวัง
แล้วฆ่ามันลงด้วยมือของพวกเราเอง” บรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์จี พูด
หัวเราะพร้อมกับส่ ายหัวของตน

“แต่วา่ ไอ้ตาเฒ่าของราชวงศ์เจียงนั้นมันมีไหวพริ บดีดว้ ยนี่ซิ


เพราะว่ามันนั้นเป็ นบุคคลที่แข็งแกร่ งที่สุดในเหล่าบรรพชนทั้งสี่ ของ
พวกเรา มันเป็ นไปได้วา่ ตัวมันเองนั้นจะแกล้งบาดเจ็บหรื อไม่?” บรรพ
ชนเก่าแก่ตระกูลจ้าว เริ่ มกล่าวออกมาด้วยความกังวลเล็กน้อย

“ไม่ตอ้ งเป็ นกังวลไปเพราะว่าในตอนนี้น้ นั ข้าได้เตรี ยมความ


พร้อมมาเป็ นอย่างดี นับตั้งแต่ที่พวกเราได้มาที่นี่ราชวงศ์เจียงมันจะต้อง
ถูกทําลายพวกมันจะต้องถูกล้างแค้นให้กบั เหล่าบรรพชนที่ร่วงรับไป
แล้วของพวกเรา” บรรพชนราชวงศ์จี กล่าวออกมาด้วยลักษณะที่เต็มไป
ด้วยความเชื่อมัน่

“หึ สิ่งที่เรี ยกว่าการเตรี ยมการเนี่ยมันหมายถึงอาวุธลับของท่าน


ที่ได้กล่าวถึงเอาไว้ใช่หรื อไม่ มันคืออะไรกันแน่นะอาวุธลับของท่านที่
ท่านถึงกับต้องสร้างจิตวิญญาณป้องกันการตรวจสอบเอาไว้เพราะว่า
แม้แต่พวกข้าเองก็ยงั ไม่สามารถตรวจสอบได้เลยว่าอาวุธลับของท่าน
นั้นมันคืออะไร”ในขณะที่บรรพชนหลิวพูดเขาก็ได้โยนสายตาของเขา
ไปยังห้องโถงที่อยูเ่ บื่องหลังของเขาที่อยูบ่ นราชรถ

‘ใช่สิ่งนี่ที่เรี ยกว่าอาวุธลับของท่านนั้นมันคืออะไร? อย่าทําให้


พวกเราต้องมาคอยลุน้ กันแบบนี้ซิ” ในเวลาเดียวกันอีกสามคนที่อยูบ่ น
ราชรถก็ได้เอยปากถามพร้อมกับจ้องมองไปยังห้องโถงนั้น

ในสถานที่หนึ่งบนราชรถขนาดใหญ่ มันได้มีหอ้ งโถงขนาดเล็กอยูห่ อ้ ง


หนึ่งและด้านนอกของห้องโถงเล็กนั้นก็ได้มีการสร้างจิตวิญญาณปิ ด
ผนึกเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครได้รู้วา่ ข้างในนั้นมีอะไรและไม่วา่ จะเป็ นผูเ้ ชียว
ชาญคนไหนก็ไม่สามารถที่จะตรวจสอบหรื อตรวจจับสิ่ งที่อยูภ่ ายในได้

ReadMGA
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : นั้นแหละครับท่านผูช้ มเนื้อเรื่ องกําลังมาความมันกําลังเกิด

B2 : อีกไม่นานขอทานก็มาเห็นเขาบอกกัน

B1 : จะมาในตอนที่ 520 นี่แววๆ

B2 : 55555 จะมาในรู ปแบบไหนนึกภาพออกไป

B3 : มันอาจแบบมาแบบบ้า ๆ และมาโพล่อยูก่ ลางดงสงครามก็ได้ม้ งั

B1 : มึงก็มโนไปคนเหี ยและจะไปเดินเล่นในดงตีนกลางสงคราม
B3 : เอ้ามันก็ไม่แน่นะมึงใครจะไปรู ้

B1 : อ่าว่าแต่น้ ีกใ็ กล้จะจบเล่มสองแล้วนิ

B2 : เออช่ายยยจะจบแล้วนี่มนั ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วป่ ะที่เริ่ มประฐ


มบทเล่มที่สอง

B3 : เดือนกว่าไอ้สสั อย่ามามัว่ เดือนเดียวควยไรนี่คนนะไม่ใช่เครื่ อง


จัก

B2 : แหม่กแ็ ค่พลาดนิดพลาดหน่อยเอง หยวนๆ หน่อยหน่า

B1 : แล้วเล่มสองนี่จบบทไหน

B3 : อื้ม……548 ครับผมวันลงก็น่าจะปลาย ๆ เดือนนี้ล่ะมั้ง


ลองนับวันกันดูนะเอ๊ะใช่ปลายเดือนรึ ป่าวว่ะ??

B1 :ว้ายโครตมัว่ เลยควายขอแบบกําหนดวันได้ไหม

B2 : จบวันที่ 23 ใง

B3 : เดือนหน้า??
B2 : เดือนนี้! ไอ้olo

B1,B2,B3 : เครนะครับสําหรับเล่มสองนี้จะจบแล้วในวันที่ 23
สิ งหานี้ วันที่24 ก็เริ่ มเล่มให้เนื้อเรื่ องใหม่แต่ขอบอกว่าจํานวนตอน
เล่ม 3 นี่เยอะมากเพราะฉะนั้นแล้วเดี้ยวเราจะปล่อยเนื้อเรื่ องกันย่อๆ
ของเล่ม 3 กันอีกทีในวันที่ 23 เนอะ ๆ เจอกันใหม่ในบทที่ 512
ครับผม

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 512 – ความทุกข์ทรมานใจ

“นี่มนั เป็ นอาวุธลับถ้าไม่จาํ เป็ นจริ ง ๆ ข้าก็ไม่ตอ้ งการที่จะใช้มนั


นักหรอก เพราะถ้าข้าใจมันล่ะก็ราชวงศ์เจียงจะต้องถูกทําลายจนพัง
พินาศย่อยยับไปกับตา”บรรพชนราชวงศ์จี กล่าวออกมาด้วยรอยยิม้
“ถ้ามันเป็ นมาอย่างที่มางกล่าวจริ งทําใมท่านถึงไม่ใช้มนั จัดการ
ราชวงศ์เจียงไปโดยตรงเลยล่ะ? เหตุใดพวกเราพวกเราถึงจําเป็ นต้องใช้
ทรัพยากรมากมายขนาดนี้?” บรรพชนราชวงศ์หลิวถามความสงสัย

“เหอะเหตุผลนั้นง่ายมากเพราะว่าอาวุธลับชิ้นนี้น้ นั มันทรงอนุ
ภาพมากและเป็ นอันตรายต่อทั้งพวกมันและพวกเรายังใงล่ะ”

“ฉะนั้นพวกเราทั้งสามราชวงศ์จะร่ วมมือกันและทําลายพวกมัน
ทําให้พวกราชวงศ์เจียงมันต้องจ่ายราคาในสิ่ งที่พวกมันได้ทาํ เอาไว้กบั
พวกเราในหลาย ๆ ปี ที่ผา่ นมา!”ทันใดนั้นบรรพชนราชวงศ์จีกไ็ ด้
กระโดดไปแล้วกลายเป็ นภาพเบลอของเส้นแสงมุ่งหน้าสู่ ช้ นั ก่อวิญญาณ
ปิ ดผนึก

*** บูม *** บรรพชนของราชวงศ์จี นั้นเป็ นถึงผูเ้ ชียวชาญระดับ 9


แดนสวรรค์ซ่ ึงอีกเพียงแค่ข้นั เดียวเท่านั้นที่จะก้าวข้ามไปยังเขตแดนเจ้า
สงคราม ฉะนั้นกําปั้ นที่เขาได้เหวีย่ งออกไปนั้นมันมีพลังอํานาจที่แทบ
จะทําลายฟ้าดินได้เลยที่เดียว ชั้นของการก่อวิญญาณปิ ดผนึกของ
ราชวงศ์เจียงยังได้รับการสัน่ สะเทือนอย่างรุ นแรง

“มาข้าจะช่วยเจ้าด้วยอีกแรงเช่นกัน!” ทันใดนั้นบรรพชนของ
ราชวงศ์เจ้าและราชวงศ์หลิวก็ได้มาช่วยโจมตีอย่างรวดเร็ ว

ด้วยการรวมกันของผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ระดับ 9 ถึงสามคนและผู ้


เชียวชาญแดนสวรรค์ที่อยูใ่ นระดับ 8 อีกสามคนมันทําให้ช้ นั ก่อ
วิญญาณของราชวงศ์เจียงในตอนนี้น้ นั กําลังอยูใ่ นขั้นที่วกิ ฤต

“นี่ไม่ดีแน่ ถ้ายังคงโดนการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ต่อไปล่ะก็ช้ นั
ก่อวิญญาณราชวงศ์เจียงของพวกเราจะต้องถูกทําลายลงเป็ นแน่!”

“ท่านองค์จกั รพรรดิเราควรจะทําเช่นไรดี? ผูเ้ ชียวชาญของ


พวกมันนั้นมีจาํ นวนมากเกินไป ไม่ตอ้ งพูดถึงสามบรรพชนที่อยูใ่ น
ระดับ 9 แดนสวรรค์เลยเพียงแค่จาํ นวนผูเ้ ชียวชาญของพวกมันก็ถึงกับ
ทําให้ราชวงศ์เจียงของเราก็ถึงคราวพินาศได้แล้วและถ้ายังคงเป็ นเช่นนี้
ต่อไปแล้วชั้นก่อวิญญาณได้ถูกทําลายลงไปเมื่อไหร่ ผคู ้ นของราชวงศ์
เจียงของเพวกราจะต้องตกอยูใ่ นความทุกข์ยากและถูกจับไปทรมานเป็ น
แน่.”ในสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาทุกคนได้จบั จ้องสายตาที่องค์
จักรพรรดิเพื่อรอคําสัง่ การว่าควรที่จะทําเช่นไรต่อไป

ณ ตอนนี้องค์จกั รพรรดิได้ขมวดคิว้ ของเขาแน่นเพราะว่าเขาในตอนนี้


เองนั้นก็ไม่ทราบว่าควรที่จะทําเช่นไรต่อไปดี ฉะนั้นแล้วเขาจึงได้
ตัดสิ นใจกระโดดออกไปและบินไปยังสถานที่ของกักเก็บสายเลือด
ราชวงศ์ผสานอํานาจ

หลังจากที่เขาได้มาถึงยังสถานที่กกั เก็บสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจ
เขาก็ได้ถามออกไปอย่างหงุดหงิดว่า “เป็ นเช่นไรบ้าง? ตอนนี้ชูเฟิ งได้
ดําเนินการไปถึงไหนแล้ว?”
“สายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจที่ได้เข้าผสานกับชูเฟิ งนั้นมัน
เป็ นอะไรที่ดาํ เนินการได้ชา้ อย่างมากและในตอนนี้เขามีระดับพลังอยู่
เพียงแค่ระดับ 7 แดนสวรรค์เท่านั้นเอง แต่ถา้ มองดูภาพลักษณ์ของเขา
ในตอนนี้แล้วนั้นอีกไม่นานก็คงจะสามารถก้าวข้ามไปยังระดับ 8 แดน
สวรรค์ได้” ทันใดนั้น จาก เทียนยี ที่เฝ้าดูสถานการณ์อยูก่ ไ็ ด้ตอบขึ้นมา

“ระดับ 8 แดนสวรรค์? นั้น…มันช้าเกินไป!”เมื่อได้ยนิ


คําพูดของ จาง เทียนยี และตรวจสอบกลิ่นอายของชูเฟิ งนั้นใบหน้าของ
องค์จกั รพรรดิได้กลายเป็ นซีดขาวในทันที ราวกับว่าแสงสุ ดท้ายในคืนที่
มืดมิดได้หายไปแล้ว

ถ้าว่าด้วยความจริ งแม้วา่ ชุเฟิ งจะมีระดับพลังวิญญาณอยูท่ ี่ระดับ 8 แดน


สวรรค์น้ นั ชูเฟิ งก็ยงั คงไม่สามารถที่จะเอาชนะเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่า
พวกนั้นได้

นอกจากนี้การตรวจสอบของเขานั้นยังพบอีกว่ากลิ่นอายของชุเฟิ งนั้นดู
ไม่เสถียรเป็ นอย่างมาก มันอาจกล่าวได้วา่ แถบจะดูวา่ งเปล่ามาก มันเป็ น
ที่แน่นอนแล้วว่าการก่อตัวของบรรพชนของเขานั้นมันเข้าไม่ได้กบั
ร่ างกายของชูเฟิ ง แม้วา่ ระดับพลังของชูเฟิ งนั้นจะเพิม่ ไปมากกว่านี้หรื อ
จะน้อยกว่านี้เขาก็จะได้รับพลังมาแค่เพียงส่ วนหนึ่งของมันเท่านั้น

ต่อให้แม้วา่ ชุเฟิ งจะมีกลิ่นอายของแดนสวรรค์วญ ิ ญาณระดับที่ 8 แต่


พลังการต่อสู จ้ ริ ง ๆ ของเขานั้นก็อยูเ่ พียงแค่ระดับ 6 แดนสวรรค์เท่านั้น
ไม่ตอ้ งพูดถึงเราสัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้นเลยแค่องค์จกั รพรรดิของ
พวกมันก็สามารถฆ่าชูเฟิ งได้อย่างง่ายดายแล้ว {B1,B2 //:// มึงจํา
คําพูดมึงไว้นะไอ้องค์จกั รพรรดิเดียวมึงคอยดูความเหลื่อมลํ้าของพี่เฟิ ง
กู!!}

“มีอะไรผิดปกติหรื อเปล่า? เป็ นไปได้ช้ นั การก่อวิญญาณปิ ด


ผนึกของราชวงศ์เจียงจะถูกทําลายลงในเร็ ว ๆ นี้.” เมื่อ จาง เทียนยี มอง
ไปที่องค์จกั รพรรดิแลดูเป็ นกังวลเขาถึงได้ถามขึ้น
“อ่าแน่นอนว่าชั้นการก่อวิญญาณปิ ดผนึกนั้นแข็งแกร่ งมากแต่
มันก็ไม่อาจทันการโจมตีจากผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ระดับ 9 ได้นาน
นักหรอกนะ! ข้าเกรงว่าอีกไม่นานชั้นการก่อวิญญาณจะต้องถูกทําลาย
และราชวงศ์เจียงของข้านั้นจะต้องถูกพินาศลงในวันนี้!”องค์จกั รพรรดิ
กล่าวออกมาพร้อมกับถอนหายใจแล้วพูดกับ จาง เทียนยี อีกครั้ง “เจ้า
และชูเฟิ งจงอยูท่ ี่นี่อย่าออกไป ข้าจะประทับตราลงสถานที่แห่งนี้เอาไว้
แล้วหวังว่ามันจะช่วยให้เจ้าปลอดภัยจากภัยพิบตั ิในครั้งนี้ได้”

“ท่านองค์จกั รพรรดิ, นี่ท่านกําลังหมายถึงอะไร?” เมื่อได้ยนิ


เช่นนั้น จาง เทียนยี่ ถามพร้อมกับขมวดคิ้วแน่นในทันที

“ราชวงศ์เจียงของข้านั้นมีความเป็ นปฏิปักษ์ที่ลึกซึ งมากกับ


ราชวงศ์เจ้า,ราชวงศ์จีและราชวงศ์หลิว หากว่าพวกนั้นต้องการที่จะลง
มายังสถานที่ก่อตัวแห้งนี้ล่ะก็ขา้ จะขัดขวางพวกมันเอาไว้แม้วา่ ตัวข้านั้น
จะต้องตายก็ตามเพราะฉะนั้นแล้วจงหนีรอดออกไปให้ได้อย่างน้อยก็ถือ
ว่านี่เป็ นการชดใช้บุญคุณของข้าและผูค้ นจากเหล่าราชวงศ์เจียง”
“ราชวงศ์เจียงของข้านั้นชัง่ โชคร้ายยิง่ นักที่จะต้องถูกทําลายลง
ในวันนี้ และพวกเราจะยอมรับชะตากรรมนั้นและยอมตายไปพร้อมกับ
ราชวงศ์”

“แต่วา่ เจ้าและชูเฟิ งนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งในราชวงศ์ของข้า พวก


เจ้าได้ทาํ เพื่อราชวงศ์ของข้ามามากเกินพอแล้วฉะนั้นในตอนนี้ขา้ จึงไม่
ต้องการที่จะลากพวกเจ้าให้มาตายไปพร้อมกับข้า” องค์จกั รพรรดิยมิ้
กล่าวเบา ๆ ฉะนั้นแล้วก่อนที่เขาจะออกไปเขาก็ได้ประทับตรากับ
สถานที่แห้งนี้เอาไว้เพราะเขานั้นไม่อยากให้คนของทั้งสามราชวงศ์มา
หา ชูเฟิ ง และจาง เทียนยี เขาไม่ตอ้ งการให้ท้ งั สองคนมาพบกับภัยพิบตั ิ
ไปพร้อมกับเขา

*** บูม กึก กึก กึก ~~~~~~~~~ ***

เพียงแต่ในเวลานั้นก็ได้เกิดระเบิดขนาดใหญ่ที่น่ากลัวดังขึ้น แม้แต่
พระราชวังใต้ดินก็ยงั สัน่ ไหวอย่างรุ นแรง
“อึ” ในทันทีการแสดงออกทางสี หน้าขององค์จกั รพรรดิกไ็ ด้
เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ภายในดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความ
หวาดกลัวเขาจึงรี บบินออกไปอย่างรวดเร็ วโดยที่ไม่ได้พดู อะไร

หลังจากที่เขาออกมาจากทางพระราชวังใต้ดินเขาก็ได้ปิดประตูทางเข้า
ในทันทีและวางรู ปแบบปกปิ ดวิญญาณเอาไว้ หลังจากนั้นเขาก็ไปยังอีก
สถานที่หนึ่งแล้ววางรู ปแบบสร้างทางเข้าของพระราชวังใต้ดินปลอม
เอาไว้

และในขณะเดียวกันเมื่อเขาบินออกมาจากพระราชวังใต้ดินเขาก็ได้เห็น
ว่าชั้นแนวป้องกันของเขาในตอนนี้น้ นั ได้ถูกทําลายลงแล้ว และในบาง
พื้นที่บนขอบฟ้าก็ได้มีรูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนชั้นก่อวิญญาณของเขา

ในทันทีที่แนวป้องกันของราชวงศ์เจียงถูกทําลายกองทัพขนาดใหญ่ของ
ทั้งสามราชวงศ์กไ็ ด้พวยพุง่ กันเข้ามาในเขตแดนของราชวงศ์เจียง
ในทันที

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ไอ้ขยะราชวงศ์เจียง! วันนี้จะเป็ นวันสุ ดท้ายของพวก


เจ้า!” ทันใดนั้นก็ได้มีเสี ยงตะโกนระเบิดออกมาจากทองฟ้า และเริ่ มใช้
ทักษะการต่อสู โ้ จมตีลงมายังเมืองและเหล่าผูค้ นจากราชวงศ์เจียงอย่าง
ไร้ความปราณี

"อ้า ~~~~~~~"

ไม่วา่ ผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ของราชวงศ์เจียงนั้นจะแข็งแกร่ งมากแค่


ไหนแต่พวกเขาก็มีจาํ นวนจํากัด และผูค้ นของราชวงศ์เจียงส่ วนใหญ่น้ นั
ก็อยูเ่ พียงแค่แดนแก่นแท้วญ
ิ ญาณ,แดนกําเนิดวิญญาณและแม้กระทั้ง
แดนห้วงจิตวิญญาณ
พวกเขาไม่อาจปกป้องการโจมตีของผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ที่อยูบ่ น
ท้องฟ้าของพวกเขาได้คลื่นพลังได้ถูกปล่อยออกมาเต็มท้องฟ้าและล่วง
ลงมายังเมื่อราวกับฝนดาวตก, สิ่ งก่อสร้างถูกทําลายและชีวติ ของผูค้ น
นับไม่ถว้ นต่างต้องจบลง

“ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด!” ในสถานการณ์เช่นนี้ผเู ้ ชียวชาญ


แดนสวรรค์ของราชวงศ์เจียงต่างเต็มไปด้วยอารมโกรธแค้น หลายคนใน
ดินแดนสวรรค์ได้บินขึ้นไปและโรงตะลุมบอลกับกองทัพของทั้งสาม
ราชวงศ์พวกเขาต่อสู ด้ ว้ ยทุกอย่างที่มีและเดิมพันด้วยชีวติ ของพวกเขา

แต่อย่างไรก็ตามความแข็งแรงของพวกเขานั้นมันอ่อนแอมากเกินไป ใน
ด้านหน้าของกองทัพสามราชวงศ์น้ นั ได้มีเหล่าบรรพชนของพวกเขายืน
อยูด่ ว้ ยถึงสามคนและสามองค์จกั รพรรดิพร้อมกับผูเ้ ชียวชาญแดน
สวรรค์ที่เลือดเย็นและกระหายการต่อสู ท้ ี่พวกจะฆ่าพวกเขาได้
ตลอดเวลาอยูอ่ ีก
ทันทีในพื้นที่อนั กว้างใหญ่ผคู ้ นจากราชวงศ์เจียงต่างร้องไห้ออกมาอย่าง
น่าอนาถและมีเสี ยงกรี ดร้องดังออกมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิง่
เสี ยงของเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ร้องไห้ออกมาเพราะความหวาดกลัว และมันยัง
แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของราชวงศ์เจียงในตอนนี้อีกด้วย

สภาพของราชวงศ์เจียงในตอนนี้น้ นั มันทําให้ผเู ้ ชียวชาญทั้งหมดของ


ราชวงศ์เจียงตกอยูใ่ นความสิ้ นหวังอย่างสมบูรณ์ และในตอนนี้พวกเขา
ทุกคนต่างเริ่ มยอมรับและรับรู ้แล้วว่าราชวงศ์เจียงของพวกเขาในวันนี้
จะต้องพังพินาศจนไม่เหลือชิ้นดี

ในสถานการณ์เช่นนี้องค์จกั รพรรดิและเหล่าผูเ้ ชียวชาญทุกคนยังคง


ไม่ได้เริ่ มการโจมตีอย่างผลีผลาม พวกเขาได้รวมตัวกันที่ฝ่ายหลักของ
พระราชวงศ์และถกเถียงกันบางสิ่ ง

“ฮ่า ๆ องค์จกั รพรรดิเจียง, ลูกสาวของเจ้านี่ช่างมีหุ่นที่ดียงิ่ นัก


แหม่…ข้าล่ะต้องการที่จะพานางมาเป็ นนางบําเรอของข้าซะเหลือเกิน
เจ้าคิดว่าเช่นไร” ทันใดนั้นก็ได้มีเสี ยงระเบิดดังขึ้นอยูบ่ นท้องฟ้า มัน
เป็ นองจักรพรรดิเจ้าและกลุ่มผูเ้ ชียวชาญที่ติดตามมาเบื่องหลังของเขา
เขาได้เข้ามาถึงยังฝ่ ายหลักและไม่เพียงแต่ได้คน้ พบองค์จกั รพรรดิแต่เขา
ยังได้คน้ พบเหล่าผูเ้ ชียวชาญทั้งหมดของราชวงศ์เจียงและรามไปถึงองค์
หญิงตัวน้อยลูกสาวขององค์จกั รพรรดิ เจียง ยีห่ นี่ อีกด้วย

#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : นั้นใงทุกครั้งเลยไอ้สสั พอเจอหญิงอ่อนแอหน่อยไม่ได้จะราก
ไปเยสกันอย่างเดียว

B2 : เออนั้นดิแม้งจะชัว่ ไปไหน
B1 : เอ้อแต่จะว่าไปช่วงนี้พวกเจ้าสงเกตุไหมว่าไม่คอ่ ยมีใครคอมเม้น
ถึงพวกเราเลยว่ะ

B2 : เออนั้นดิช่วงนี้เหมือนช่วงนี้เรามันตกยุคแล้วมั้ง

B3 : เห็นว่าช่วงนี้ A B C กําลังมาแรงนิ ไม่รู้วา่ จะทําซิ งเกิลผลิต


D มาด้วยรึ ป่าง??

B2 : งั้นเราไปติดต่อ B4 ให้มาร่ วมด้วยดีไหมจะได้เรี ยกเรทติ้งใง

B1 : หุบปากเลย B2 กูไม่เอา B4 คําพูดมันเยอะแค่พวกเราสาม


ตนก็แทบจะแดบแผ่นกระดาษ A4 ไปหน้านึ่งอยูแ่ ละ

B3 : มันขนาดนั้นเลยหรอว่ะ!

B1,B2 : เออ!!

B3 : เดี้ยว ๆ B1 นี่กอู าจเข้าใจแต่มึง B2 มึงจะเออทําใมว่ะ ??

B2 : ก็กพู อใจใงสาดดด

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 513 – เพียงหนึ่งฝ่ ามือ

“เฮ่…องค์จกั รพรรดิจา้ ว นั้นก็เป็ นเพียงแค่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ


เท่านั้นข้าหวังว่าท่านคงจะไม่ทาํ เรื่ องโหดร้ายกับนางหรอกใช่หรื อไม่ ดู
รู ปทรงองเอวของนางและระดับพลังวิญญาณของนางสิ ชงั่ นับว่าวิเศษยิง่
นัก มันไม่ได้มีเพียงท่านคนเดียวหรอกนะที่อยากเล่นกับนางข้าเองก็
อยากที่จะเล่นกับนางด้วยเช่นกัน” จู่ ๆ ก็ได้มีเสี ยงหัวเราะดังออกมาจาก
ด้านหลังขององค์จกั รพรรดิจา้ วนั้นก็คือเสี ยงขององค์จกั รพรรดิหลิวและ
ผูเ้ ชียวชาญที่ติดตามอยูเ่ บื่องหลังของเขา

“นั้นมันดูออกจะเรี ยบง่ายเกินไปหน่อยไหม? นางจะต้องรับมือ


กับพวกเราทั้งสามคนเป็ นประสบการณ์ครั้งแรกของนาง! แต่วา่ ข้านั้นจะ
ไม่เอานางมาเป็ นนางบําเรออย่างพวกท่านหรอกนะ ข้าได้วางแผนที่
ดีกว่านั้นเอาไว้เยอะ ข้าจะทําลายพลังวิญญาณของนางทิ้งซะและนํานาง
ไปเป็ นที่เชลยทาสเครื่ องเสพสุ ขทางเพศให้กบั เหล่ากองกําลังทหารของ
ข้าในระหว่างทางที่พวกเราได้กลับราชวงศ์ของพวกเรา ข้าจะให้พวกมัน
เสพสุ ขกับนางให้เต็มที่!” อยูก่ ไ็ ด้มีเสี ยงดังออกมาอีกเสี ยงหนึ่งนั้นก็คือ
เสี ยงของ องค์จกั รพรรดิราชวงศ์จี

“ไม่วา่ ใครก็ตามที่มนั ต้องการที่จะแตะต้องลูกสาวของข้ามัน


จะต้องข้ามศพข้าไปก่อน!” องค์จกั รพรรดิราชวงศ์เจียงได้มายืนอยูใ่ น
ด้านหน้าของ เจียง ยีห่ นี่ และใบหน้าของเขานั้นยังเต็มไปด้วยความ
โกรธเพราะเขารู ้วา่ จักรพรรดิท้ งั สามกําลังเยาะเย้ยและเหยียดหยาม
ราชวงศ์เจียงของเขาอยูใ่ นตอนนี้

ในขณะที่ เจียง ยีห่ นี่ ได้โดนเหยียดหยามอยูเ่ ช่นนั้นมันทําให้องค์


จักรพรรดิราชวงศ์เจียงไม่อาจทนความอัปยศเช่นนี้ได้อีกต่อไปเขาจึง
กระโดดแล้วยิง่ กลายเป็ นภาพเบลอของเส้นแสงพุง่ ตรงไปยังเหล่าองค์
จักรพรรดิท้ งั สามที่มีระดับพลังวิญญาณแดนสวรรค์ข้ นั 8
“ท่านพ่อ!!” ในทันทีการแสดงออกทางใบหน้าของ เจียง ยีห่ นี่
ก็เต็มไปด้วยความกังวล ขณะที่เธอได้พดู เธอก็พยายามที่จะบินตามขึ้น
ไปเพื่อสู เ้ คียงบ่าเคียงไหล่กบั ท่านพ่อของเธอ

เพราะไม่วา่ พ่อของเธอนั้นจะแข็งแกร่ งมากแค่ไหนแต่เมื่อต้องรับมือ


องค์จกั รพรรดิท้ งั สามคนที่มีระดับพลังวิญญาณที่เท่าเทียมกันนั้นมันเกิน
กําลังของเขามากเกินไป หากการต่อสู ย้ ดื เยื้อพ่อของเธอนั้นจะต้องพบ
กับความตายอย่างแน่นอน

“องค์หญิงอย่าไป!” แต่ในขณะที่ เจียง ยีห่ นี่ กําลังจะพุง่ ทะยาน


ออกไป เจียง เฮิงหยวน ก็ได้คว้ามือเธอเอาไว้และพูดว่า “ตามพวกเรามา
โดยเร็ วพวกเราได้เตรี ยมทางหลบหนีเอาไว้สาํ หรับท่านเรี ยบร้อยแล้ว
ตอนนี้เรามีหน้าที่ที่จะต้องปกป้ององค์หญิงองค์ชายและคนอื่น ๆ
ออกไปจากราชวงศ์เจียงในตอนนี้”

“ไม่! ข้าจะอยูก่ บั ท่านพ่อชีวติ ของข้านั้นจะมีอยูแ่ ละดับไป


พร้อมกับราชวงศ์เจียง!” เจียง ยีห่ นี่ ตอบปฏิเสธในทันที

“องค์หญิงนี่เป็ นคําสัง่ ขององค์จกั รพรรดิ ถ้าท่านไม่เชื่อโปรด


ดู” ในขณะที่ เจียง เฮิงหยวน พูดเขาก็ได้นาํ ป้ายคําสัง่ ออกมา

และหลังจากที่ได้เห็นป้ายนั้นใบหน้าของ เจียง ยีห่ นี่ ก็ได้แช่แข็งในทันที


เธอได้หนั กลับขึ้นไปมองการต่อสู ข้ องพ่อเธอที่ไม่รู้วา่ จะเป็ นตายร้ายดี
เช่นไรกับการรับมือทั้งสามราชวงศ์ ดวงตาของเธอนั้นได้กลายเป็ นแดง
กลํ่าแล้วปรากฏนํ้าตาของเธอที่ไหลออกมาราวกับห่าฝน

เพราะว่าป้ายที่เธอได้เห็นนั้นมันเป็ นป้านเดียวกันกับที่พอ่ ของเธอได้


สร้างขึ้นด้วยมือของเขาเอง เธอยังคงจําในสิ่ งที่ท่านพ่อของเธอได้บอก
กับเอเอาไว้ได้วา่ ในภายภาคหน้าไม่วา่ จะเป็ นใครก็ตามที่ได้ยกป้ายนี้ให้
เธอได้เห็นเธอจะต้องเชื่อฟังเขาเพราะว่ามันเปรี ยบได้กบั นั้นเป็ นคําสัง่
ขององค์จกั รพรรดิแล้วความปรารถนาดีจากพ่อของเธอ
นอกจากนี้พอ่ ของเธอนั้นยังไม่ได้พดู กล่าวกับเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
แต่เขายังได้กล่าวกับบุตรของเขาทุก ๆ คนไม่วา่ จะเป็ นหญิงหรื อชาย
ร่ วมไปถึงเหล่าเยาวชนรุ่ นใหม่ของราชวงศ์เจียงอีกด้วย

“องค์หญิงรี บตามพวกเรามาโดยเร็ ว ตอนนี้ท่านองค์จกั รพรรดิ


ได้ต่อสู เ้ พื่อพวกเราอยู่ ถึงแม้วา่ องค์จกั รพรรดิทุกคนจะต้องทําตามคํา
สอนของบรรพชนว่าให้อยูแ่ ล้วตายไปพร้อมกับราชวงศ์แต่วา่ ในตอนนี้
ท่านองค์จกั รพรรดิได้หวังเอาไว้วา่ บุตรชายและบุตรสาวของเขานั้นจะมี
ชีวติ รอดต่อไปได้เขาจึงได้ละเลยคําสอนของเหล่าบรรพชน และได้มอบ
ป้ายนี้ให้แก่พวกเราเพื่อปกป้องท่านและเหล่าเยาวชนรุ่ นใหม่ของ
ราชวงศ์เจียงออกไปจากสถานที่แห่งนี้โดยเร็ วที่สุด” เจียง เฮิงหยวน
กลัวว่า เจียง ยีห่ นี่ นั้นจะไม่เข้าใจเขาจึงได้อธิบายให้แก่นางได้ฟัง

"อ้า!"

*** ตูมมม ***


แต่ในเวลานั้นก็ได้มีรูปร่ างหนึ่งที่ดูเหมือนกับได้รับบาดเจ็บและล่วง
หล่นลงมาจากฝากฟ้า อย่างรวดเร็ วร่ างกายของเขาได้พงุ่ กระแทกเข้ากับ
พื้นดินอย่างรุ่ นแรง ด้วยความรุ่ นแรงนั้นมันได้ทาํ ให้พ้นื ดินโดยรอบเกิด
การทรุ ดตัวและยุบลงจนกลายเป็ นหลุมลึกขนาดใหญ่ปรากฏอยูบ่ น
พื้นดิน

“ท่านพ่อ!” ในขณะที่ เจียง ยีห่ นี่ ได้เห็นเช่นนั้นเธอก็ได้


กระโดดออกไปแล้วมุ่งหน้าไปที่หลุมลึกนั้นอย่างรวดเร็ ว

“อ่ะ.” ในขณะเดียวกันผูเ้ ชียวชาญหลายคนเช่นเดียวกับ เจียง


เฮิงหยวน ยังคงยืนนิ่งอยูบ่ นท้องฟ้าพวกเขาได้แต่หวังว่าบุคคลที่ล่วงตก
ลงมาจากฟากฟ้านั้นจะไม่ใช่องค์จกั รพรรดิของพวกเขา

“ยีห่ นี่ พ่อของเจ้านี่มนั ชัง่ ไร้ประโยชน์อย่างแท้จริ ง ข้าไม่


สามารถที่จะปกป้องประชาชนนับหมื่นของราชวงศ์เจียงเอาไว้ได้แม้แต่
ลูกสาวของตนเองก็ยงั ไม่อาจปกป้องเอาไว้ได้” ในทันทีใบหน้าขององค์
จักรพรรดิน้ นั เต็มไปความรู ้สึกอับจนหนทางและรับรู ้ถึงความพ่ายแพ้
ของตน เลือดนั้นได้ไหลออกมาเต็มใบหน้าของเขาตาม ตา หู จมูก ปาก
และ หน้าอกของเขายังมีบาดแผลที่เป็ นหลุมลึกผิวหนังโดยรอบของมัน
ไหนได้ไหม้เกรี ยมและค่อย ๆ มีเลือดไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

“ไม่ท่านพ่อ! ท่านยังคงเป็ นพ่อที่ดีที่สุดของข้าเสมอ” ใบหน้า


ของ เจียง ยีห่ นี่ ในตอนนี้น้ นั ได้เต็มไปด้วยคราบนํ้าตา

“ถุย! เจ้าคนอ่อนแอผ่านไปแค่ไม่กี่กระบวนท่าเองก็ตกไปอยูใ่ น
สภาพเช่นนี้ซะแล้ว” ทันใดนั้นก็ได้มีเสมหะก้อนใหญ่ล่วงลงมาจาก
ท้องฟ้าและตกลงไปยังใบหน้าขององค์จกั รพรรดิของราชวงศ์เจียง

ซึ่งเสมหะนั้นมันมาจากขององค์จกั รพรรดิราชวงศ์หลิว และในตอนนี้


เขาก็ได้ยนื อยูบ่ นท้องฟ้าและหรี่ ตาของเขาพร้อมกับกล่าวคําเย้ยหยันเมื่อ
เห็นอาการบาดเจ็บหนักขององค์จกั รพรรดิราชวงศ์เจียง

“นั้นน่ะสิ ! ข้าเคยได้ยนิ มาว่าพลังอํานาจพ่อของมันนั้นสามารถ


ต่อสู ก้ บั บรรพชนของพวกเราทั้งสามได้อย่างสู สีโดยที่ไม่พา่ ยแพ้และข้า
ยังได้คิดอีกว่าบางทีลูกชายของตาเฒ่านัน่ นั้นอาจจะแข็งแกร่ งแบบ
เดียวกันก็เป็ นได้ แต่ดูนี่สิขา้ ไม่นึกเลยว่ามันจะดูอ่อนแออะไรเช่นนี้”
องค์จกั รพรรดิราชวงศ์จา้ ว ได้กล่าวกําพูดเย็นชาและเย้ยหยันออกมา

“ฮ่า ๆ ช่าย ๆ ถ้าข้ารู ้วา่ เจ้านี่มนั จะอ่อนแอเช่นนี้บางทีขา้ อาจไม่


จําเป็ นที่จะต้องให้พวกท่านทั้งสองเข้าร่ วมการต่อสู น้ ้ ีเลย เพราะแค่ขา้ คน
เดียวนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะเอาชนะมัน” ไม่เพียงแค่น้ นั แม้แต่องค์
จักรพรรดิจีกย็ งั มีใบหน้าที่ดูเยาะเย้ยแล้วคําพูดของเขานั้นก็ยงั เต็มไปด้วย
ความภาคภูมิใจในตนเอง

“เลวทรามพวกเจ้าทั้งหมดควรที่จะต้องละอายใจทั้งๆที่ตวั เอง
นั้นเป็ นถึงองค์จกั รพรรดิแต่กลับร่ วมมือกันแล้วทําร้ายท่านพ่อของข้าที่มี
เพียงแค่คนเดียวเช่นนี้ แถมยังพูดเยาะเย้ยเขาเช่นนี้อีก พวกเจ้าทุกคนมัน
น่ารังเกียจน่าขยะแขยงอย่างแท้จริ งไอ้พวกเห็ดเชื้อราในซอกไข่!” เมื่อ
เห็นพ่อของเธอนั้นได้ถูกทําร้ายแถมยังถูกทําให้ความอับอายและโดน
เยาะเย้ยจากพวกเขาทั้งสามองค์จกั รพรรดิมนั ทําให้ใบหน้าของ เจียง ยี่
หนี่ นั้นเต็มไปด้วยความโกรธอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด

“ผูช้ นะคือกษัตริ ยแ์ ละผูแ้ พ้กค็ ือกบฏ ข้าจะมอบความอัปยศที่


พวกเจ้าได้เคยทําไว้กบั เหล่าบรรพชนของพวกข้าคือไปให้กบั พวกเจ้า
เป็ นร้อยเท่าพันเท่าแล้วมันจะต้องเลวร้ายยิง่ กว่า” องค์จกั รพรรดิราชวงศ์
หลิวตะโกนออกมาอย่างเย็นชา

“อ่าองค์จกั รพรรดิหลิวท่านมีความจําเป็ นอันใดที่จะต้องไป


เสี ยเวลาคุยกับพวกมันกัน? เพราะไม่วา่ ยังใงวันนี้พวกมันจะต้องชดใช้
ในสิ่ งที่พวกมันได้เคยทํากับบรรพชนของพวกเราเอาไว้ และในเมื่อนาง
เด็กผูห้ ญิงคนนี้กล้าที่จะพูดจาสามห้าวกับเราข้าจะเป็ นคนสัง่ สอนนาง
ให้เอง” จักรพรรดิของราชวงศ์จา้ วกล่าวไปพร้อมกับหัวเราะแล้วมุง
หน้าตรงไปยัง เจียง ยีห่ นี่
“เร็ วเข้าปกป้ององค์หญิง!” เมื่อเห็นเช่นนั้น เจียง เฮิงหยวน
และผูเ้ ชียวชาญคนอื่น ๆ ก็ได้บินขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วแสดงวิธีการ
ป้องกันด้วยชั้นของการก่อวิญญาณในทันที

“เหอะเจ้าพวกขยะไร้ค่า พวกเจ้ากล้าคิดที่จะปิ ดกั้นเส้นทาง


ของข้าอย่างนั้นรึ หึ ย! จงหลีกทางไปซะ!” อย่างไรก็ตามเพียงแค่องค์
จักรพรรดิของราชวงศ์จา้ ว ได้สะบัดมือของเขาและปล่อยพลังอาจ
ออกไปชั้นก่อวิญญาณของผูเ้ ชียวชาญคนอื่น ๆ เช่นเดียวกับ เจียง เฮิง
หยวน ได้สลายออกในทันทีพวกกับพวกเขาได้ปลิวกระเด็นออกไปคน
ล่ะทิศคนล่ะทาง พร้อมกับใบหน้าของพวกเขาที่ซีดขาวเหมือนราวกับ
คนตายและบางคนยังถึงกับได้รับบาทเจ็บอย่างนัก

“ฮ่า ๆ แม้สาวน้อยเจ้าจริ งนี่ชงั่ ไร้มารยาทยิง่ นักเห็นทีเช่นนี้ขา้


คงต้องสอนอะไรเจ้าบางอย่างซะหน่อยเสี ยแล้ว” องค์จกั รพรรดิราชวงศ์
จ้าวกล่าวออกมาอย่างเสี ยงดังพร้อมกับหัวเราะไปด้วย เมื่อเขาได้พดู ขึ้น
เขาก็ได้ขยายมือของเขาไปที่ เจียง ยีห่ นี่ พร้อมกับกลืนนํ้าลายลงคอและ
เล็งไปที่ภูเขาสองลูกที่ยนื่ ออกมาของ เจียง ยีห่ นี่

“เจ้าต้องการที่จะสัง่ สององค์หญิง ยีห่ นี่? เหอะมาดูกนั ว่าเจ้า


จะมีความสามารถนั้นหรื อไม่!”

*** ตูมมม ***

แต่ในเวลานั้นก็ได้เกิดเสี ยงตะโกนระเบิดดังออกมาจากพื้นที่หลักของ
ราชวงศ์ พร้อมกับกลุ่มควันและฝุ่ นฟุ้งไปในอาการพร้อมกับปรากฏกลุ่ม
เงาสองร่ างที่คอยๆขึ้นมาจากพื้นดิน

และหนึ่งในนั้นมีความเร็ วอย่างมากเพียงแค่พริ บตาเดียวก็ได้มาถึงใน


ด้านหน้าขององค์จกั รพรรดิราชวงศ์จา้ วแล้ว พร้อมกับขัดขวางการโจมตี
ขององค์จกั รพรรดิราชวงศ์จา้ ว
“บัดซบไอ้เวรนี่มนั มาจากไหนกันทําใมถึงได้กล้ามารบกวน
จังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มเช่นนี้? จงออกไปให้พน้ หน้าข้าซะ” ในตอนแรก
องค์จกั รพรรดิจา้ วยังไม่เห็นรู ปร่ างที่แน่ชดั แต่หลังจากที่เขาได้รู้วา่ เป็ น
ชายหนุ่ม เข้าจึงได้กล่าวคําเหยียดหยันออกไปอย่างเย็นชาและเหวีย่ งมือ
ของเขาตบไปที่หน้าของชายหนุ่ม

แต่ใครเล่าจะไปคิดกันล่ะว่าชายหนุ่มคนนี้น้ นั ชัง่ แข็งแกร่ งอะไรขนาด


นี้? เพียงในขณะที่ฝ่ามือขององค์จกั รพรรดิราชวงศ์จา้ วได้เหวีย่ ง
ออกไปชายหนุ่มผูน้ ้ นั ก็ได้โจมตีสวนเข้ามาในทันทีพร้อมกับเสี ยง
กระดูกที่หกั ลง แต่น้ นั หาใช่เสี ยงกระดูกหักของชายหนุ่มไม่แต่มนั จริ ง
เป็ นเสี ยงกระดูกหักขององค์จกั รพรรดิจา้ ว

หลังจากที่ได้สวนหมดกันแรงหมัดของชายหนุ่มก็ยงั ไม่ได้ลดน้อยลงแต่
มันยังกลับแข็งแรงขึ้น และโครมพุง่ เข้าชนกับใบหน้าขององค์จกั รพรรดิ
จ้าวในทันที ใบหน้าขององค์จกั รพรรดิน้ นั ได้ถูกทําลายและระเบิดออก
ในทันที หัวของเขานั้นได้แตกกระจายออกเป็ นชิ้น ๆ และตายลง
ในทันที

ReaDMGA
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : นั้นแหละครับท่านผูช้ มไม่ตอ้ งบอกว่าชายหนุ่มผูน้ ้ ีคือใครท่านก็


คงจะรู ้กนั อยูแ่ ล้ว

B3 : เจียง หวูช่ าง ป่ ะ

B1 : ชาง หน่ามึงอ่ะชูเฟิ งไอ้สสั

B3 : อ้าวมึงสปอยอ่อเดะโดนเก็บหรอก
B1 : สปอยหน้ามึงอ่ะเรื่ องนี้ใครๆ เขาก็รู้

B3 : เห้ยมันจริ งหรอว่ะ??

B2 : เออใคร ๆ เขาก็รู้กนั หมดทั้งนั้นแหละว่าชายหนุ่มผูน้ ้ ีคือใคร

B3 : มันขนาดนั้นเลยหรอว่ะ!!

B1,B2 : ไอ้สสั นี่กวนตีนซะแล้ว

B3 : ตอนหน้า 314 นี่เดียวรู ้เลยว่าความเหวอมันเป็ นยังใง!!

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

พวกตัวร้ายนี้ชอบเป็ นอะไรกับพวกผูห้ ญิงมากป่ ะ


แล้วผูห้ ญิงก็จะโง๊โง่ วิง่ เข้าไปหาดงตีน เด๋ วแม่งต้องเจอพี่เฟิ ง ตุย้ ท้อง จะ
ได้หายว้อนท์
บทที่ 514 – สถานการณ์สงครามสวนกลับ

เหตุการณ์น้ นั ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทุกคนที่ได้อยูใ่ นสถานที่ตรงนั้นจึง


ล้วนต่างตกอยูใ่ นความตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิง่ สององค์จกั รพรรดิที่
ยังคงยืนอยูบ่ นอากาศใบหน้าของพวกเขานั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
พร้อมกับตะโกนกล่าวถามออกไปอย่างเสี ยงดังว่า “เจ้าเป็ นใคร?”

“เป็ นใครอย่างนั้นรึ ? ก็คนที่กาํ ลังจะมาเอาชีวติ พวกท่านยังใง


ล่ะ” ชูเฟิ งกล่าวออกไปอย่างเย็นชาและยืน่ มือของเขาออกไปพร้อมกับ
ระเบิดพลังออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดขึ้นไปบนอากาศ

“อ่า!” ทั้งสององค์จกั รพรรดิที่อยูใ่ นระดับ 8 ของแดนสวรรค์


วิญญาณได้โดนระเบิดเข้าอย่างจังด้วยความแข็งแรงของพวกเขาจริ งไม่
สามารถที่จะหลบแรงระเบิดพลังของชูเฟิ งได้ พวกเขาได้ล่วงหล่นลงมา
และล้มลงอยูเ่ บื่องหน้าของชูเฟิ ง
หลังจากที่พวกเขาทั้งสองได้ล่วงหล่นลงมาจู่ ๆ ชูเฟิ งก็ได้ยนื่ มือของเขา
ออกไปและเจาะเข้าไปที่ ดันเถียน ของพวกเขาทั้งสอง

"อ้า ~~~~~" พวกเขาทั้งสององค์จกั รพรรดิท้ งั ราชวงศ์


หลิวและราชวงศ์จีได้โห่ร้องออกมาอย่างน่าอนาถ กองเลือดขนาดใหญ่
ได้ทะลักออกมาจาก ดันเถียน ของพวกเขา พวกเขาได้กมุ มือและปิ ด
ดันเถียน เอาไว้และนอนเกลือกกลิ้งอยูบ่ นพื้นดินไปมา

แม้วา่ ชูเฟิ งจะได้ใช้สองฝ่ ามือทําให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บแต่กย็ งั ไม่ได้


ทําลายพลังวิญญาณของพวกเขาทั้งสอง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะยังใช้
อํานาจพลังของพวกเขาได้อย่างไม่เต็มที่ไปสักระยะหนึ่ง ในตอนนี้พวก
เขาทั้งสองได้กลายเป็ นเพียงแค่คนไร้ค่าและไม่มีพลังอํานาจใด ๆ ที่
พอจะต่อกรพวกเขา
“ชูเฟิ งนี่เจ้า!” ในทันทีใบหน้าของพวกเขาทุกคนที่ได้เห็นฉาก
นั้นนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเพราะพวกเขานั้นสามารถตรวจสอบ
ได้วา่ กลิ่นอายของชูเฟิ งนั้นได้อยูใ่ นระดับที่ 8 ของแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณ
ถมยิง่ ไปกว่านั้นพลังอํานาจกลิ่นอายของเขานั้นยังดูไม่เสถียนอีกด้วย แต่
จริ งเขากลับสามารถฆ่าทั้งสององค์จกั รพรรดิได้อย่างง่ายได้ถา้ อยากจะ
ฆ่า

หากทราบถึงขั้นตอนและระยะห่างของแต่ละระดับขั้นของแดนสวรรค์
วิญญาณพวกเขานั้นจะรู ้ดีวา่ มันมีระดับชั้นที่ห่างไกลกันเป็ นอย่างมาก
แต่ชูเฟิ งจริ งสามารถพึ่งพาระดับพลังวิญญาณที่ไม่เสถียนจัดการกับผู ้
เชียวชาญแดนสวรรค์ระดับ 8 แท้จริ งได้ มันเป็ นเรื่ องที่ยากเกินไปที่
พวกเขาจะสามารถเชื่อได้จึงไม่ตอ้ งแปลกใจเลยว่าเหตุใดนั้นพวกเขาถึง
ได้ตกอยูใ่ นอาการตกใจกันถึงขนาดนั้น

ชูเฟิ งไม่ใส่ ใจกับสายตาที่ตะลึงของผูค้ น เขาได้ขยายฝ่ ามือของเขาทั้ง


สองข้างออกไปราวกับเป็ นกรงเล็บของนกอินทรี ดว้ ยฝ่ ามือของเขาเขา
ได้คว้าคอขององค์จกั รพรรดิท้ งั สองและบอกกับพวกเขาว่า “ตะโกนขอ
ความช่วยเหลือซะ”
“เจ้าว่ายังใงนะ?!” ทั้งสององค์จกั รพรรดิที่ตกอยูใ่ นความ
เจ็บปวดนั้นได้ผงะในทันทีหลังจากที่พวกเขาได้ยนิ คําที่ออกมาจากปาก
ของชูเฟิ งอย่างกะทันหัน

*** ปัก ปัก *** เมื่อเห็นเช่นนั้นชูเฟิ งไม่เสี ยเวลาพูดใด ๆ เขาได้ยก


แขนของเขาขึ้นและนําใบหน้าของทั้งสององค์จกั รพรรดิกระแทกเข้า
ด้วยกันอย่างแรงหลังจากนั้นก็กล่าวออกไปว่า “ข้าของให้พวกท่านทั้ง
สองตะโกนขอร้องความช่วยเหลือยังใง ถ้าหากว่าพวกท่านไม่ทาํ ข้าจะ
ฆ่าคนใดคนหนึ่งในพวกท่านซะ’

“นี่เจ้า…” เมื่อได้ยนิ คําพูดเหล่านั้นมันทําให้ใบหน้าของพวก


เขาทั้งสองนั้นโกรธขึ้นมาในทันที แต่ถึงแม้วา่ พวกเขานั้นจะโกรธแต่
พวกเขานั้นก็ไม่กล้าที่จะพูดโต้แย้งกลับไปใด ๆ และเริ่ มที่จะแหงนหน้า
ขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกันตะโกนร้องออกไปดัง ๆ ว่า “ช่วยด้วย!”
หลังจากที่คาํ เหล่านั้นได้ถูกพูดออกไปนั้นมันดูราวเหมือนกับเสี ยงของ
ฟ้าร้องมันได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในราชวงศ์เจียง โดยเฉพาะ
อย่างยิง่ คนของทั้งสามราชวงศ์ที่กาํ ลังบินโจมตีอยูบ่ นอากาศเหนือพื้นที่
หลักของราชวงศ์เจียง หรื อแม้แต่เหล่าสามบรรพชนที่ยงั ไม่ได้เริ่ มโจมตี
แล้วกําลังนัง่ ดูสงครามอย่างเพลิดเพลินก็ยงั ต้องสะดุง้

เมื่อเหล่าบรรพชนได้มองลงไปยังพื้นดินแล้วได้พบกับเหล่าลูกชายของ
พวกเขาที่ได้ตายไปแล้วหนึ่งแถมบาดเจ็บหนักอีกสองมันทําให้ใบหน้า
ของพวกเขานั้นถึงกลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

“ใคร…ใคร…ใครมันเป็ นคนฆ่าลูกชายของข้า ?! ข้าจะฆ่า


มัน!!” เมื่อเห็นลูกชายสุ ดที่รักของเขาที่อบรมดูแลอย่างพิถีพิถนั มานับ
หลายปี ได้ถูกฆ่าตาย มันจึงทําให้บรรพชนเฒ่าของราชวงศ์จา้ ว นั้นถึง
กลับโกรธแค้นอย่างเหลือใจ เขานั้นไม่สนใจใด ๆ ทั้งนั้นด้วยความโกรธ
แค้นที่ได้ครอบงําจิตใจของเขา เขาจึงได้เหวีย่ งฝ่ ามือของตัวเองออกไป
ยังสถานที่ตรงนั้น
พลังอํานาจที่พงุ่ ออกมาจากฝ่ ามือของเขานั้นชัง่ ดูแข็งแกร่ งเป็ นอย่างมาก
ทั้งๆที่ยงั พุง่ ไปไม่ถึงพื้นดินเบื่องล่างก็ยงั ทําให้พ้ืนดินนั้นเกิดรอยแยก
ขนาดใหญ่แล้วทรุ ดตัวลงอย่างรวดเร็ วแล้ว

ไม่ตอ้ งพูดถึงผูเ้ ชียวชาญที่อยูใ่ นแดนแก่นแท้เลยเพราะแม้แต่ผเู ้ ชียวชาญ


ที่อยูใ่ นแดนสวรรค์วญ ิ ญาณนั้นก็ยงั ไม่สามารถที่จะโต้กลับแรงดันอัน
มหาศาลที่น่ากลัวเช่นนั้นกลับไปได้ และในทันทีพวกเขาทุกคนได้ถูก
บังคับให้นอนลงไปกับพื้นด้วยแรงดันอันมหาศาลนั้นจนพวกเขาไม่อาจ
ที่จะลุกขึ้นมาได้

"จงหายไปซะ!"

แต่เพียงแค่ในเวลานั้นชูเฟิ งได้เหวียงฝ่ ามือของเขาออกไป “บูม” พลัง


อํานาจจากฝ่ ามือของบรรพชนราชวงศ์จา้ ว ก้ได้หายไปในทันที
“ท่านผูอ้ าวุโสเจียง เฮิงหยวน ข้าฝากดูท้ งั สองคนนี้ดว้ ย” ชูเฟิ ง
ได้โยนทั้งสององค์จกั รพรรดิออกไปให้กบั เจียง เฮิง หยวน อย่างรวดเร็ ว
พร้อมกับกล่าวออกไปอย่างเสี ยงดังขึ้นไปบนท้องฟ้า “บุตรชายของท่าน
นั้นถูกฆ่าลงโดยข้า! หากท่านข้องใจนักล่ะก็กเ็ ชิญเข้ามาได้เลย!”
ในขณะที่ชูเฟิ งได้พดู ออกไปนั้นเขาก็ได้ปรับตัวเองขึ้นไปอยูบ่ นอากาศ
และอยูใ่ นระดับเดียวกันกับบรรพชนราชวงศ์จา้ วและพร้อมที่จะเข้าต่อสู ้
กับเขา

“ไอ้สารเลวนี่มนั ชัง่ กล้ามองหาที่ตายอย่างแท้จริ ง!” เมื่อเห็น


เช่นนั้นบรรพชนของราชวงศ์หลิวได้กล่าวออกมาอย่างเย็นชาในทันที
แล้วเตรี ยมพร้อมที่จะจู่โจม

“ช้าก่อน” แต่ก่อนที่บรรพชนราชวงศ์หลิวกําลังที่จะ
เคลื่อนไหวเขาก็ได้ถูกหยุดเอาไว้ก่อนโดยบรรพชนราชวงศ์จีจาก
ด้านข้างของเขา หลังจากที่เขามองไปยังทั้งสององค์จกั รพรรดิที่อยูใ่ นมือ
ของเจียง เฮิง หยวน เขาก็ได้ส่งข้อความทางจิตไปยังบรรพชนของ
ราชวงศ์หลิวว่า “จงดูให้ดีดี ตอนนี้ลูกชายของเจ้าและลูกชายข้านั้นได้ตก
อยูใ่ นกํามือของพวกเขา ถ้าเราเกิดทําอะไรพลีพลามไปล่ะก็พวกเขานั้นก็
จะตกอยูใ่ นอันตรายในทันที”

"นี้…"

“แล้วเราจะทําเพียงแค่ยนื ดูตาเฒ่าแต่งตัวประหลาดสู ก้ บั เด็ก


เหลือขอเพียงคนเดียวอย่างนั้นหรื อ? ดูยงั ใงก็รู้วา่ เด็กเวรนั้นมันไม่ได้ดู
เหมือนคนที่เรี ยบง่าย!” บรรพชนราชวงศ์หลิวกล่าวออกมาเพราะเป็ น
ห่วงบรรพชนราชวงศ์จา้ ว

“ไม่ตอ้ งเป็ นกังวลไปแม้วา่ พลังอํานาจการต่อสู ข้ องเด็กเหลือขอ


นั้นมันจะดูแข็งแกร่ งแต่มนั ก็ได้มีออร่ าผิดปกติแพร่ ออกมาจากร่ างกาย
ของมัน ถ้าข้าคิดเอาไว้ไม่ผดิ ล่ะก็มนั จะต้องใช่เม็ดยาต้องห้ามเป็ นแน่
หรื อไม่กอ็ าจจะใช้รูปแบบพิเศษเพื่อยืมพลังอํานาจบางอย่างมาใช้ เพราะ
ถ้าหากมันเป็ นมาอย่างที่ขา้ ได้คาดเดาจริ งล่ะก็มนั เป็ นไปไม่ได้อย่าง
แน่นอนที่เด็กนั้นมันจะสามารถเอาชนะบรรพชนเฒ่าของราชวงศ์จา้ ว
ได้” บรรพชนราชวงศ์จี กล่าว

“นั้น…ท่านพูดจริ งอย่างนั้นรึ ! ฮ่า! การตรวจจับของท่านนี่ชง่ั


คมชัดอะไรเช่นนี้” ในทันที่เขาได้ยนิ คําพูดเช่นนั้นบรรพชนราชวงศ์
หลิวก็ได้ทาํ การตรวจสอบอย่างระมัดระวังและในที่สุดเขาก็ได้คน้ พบว่า
กลิ่นอายของชูเฟิ งนั้นดูเป็ นไม่เสถียนเอามาก ๆ ฉะนั้นและจากท่าทีที่
ร้อนลนเขาก็ได้สงบลง

“บรรพชนราชวงศ์หลิว,บรรพชนราชวงศ์จี! บอกให้สมาชิก
ตระกูลของพวกท่านหยุดโจมตีราชวงศ์เจียงซะ ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะฆ่า
บุตรชายของพวกท่าน!” เจียง เฮิงหยวน นั้นเป็ นคนฉลาดเขานั้น
สามารถเข้าใจความคิดของชุเฟิ งได้ในทันทีที่ชูเฟิ งได้โยนทั้งสององค์
จักรพรรดิให้กบั เขา ฉะนั้นแล้วเขาจึงไม่ลงั เลที่จะใช้อาํ นาจสวรรค์ของ
เขาตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้าและข่มขู่เหล่าบรรพชน
หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดพวกนั้นเหล่าผูเ้ ชียวชาญของทั้งสองราชวงศ์หลิว
และราชวงศ์จีพวกเขาได้มองขึ้นไปยังบรรพชนของพวกเขาทั้งสองที่ยนื
อยูบ่ นท้องฟ้า

แต่ถึงแม้วา่ ทั้งสองบรรพชนจะไม่ได้พดู คําใด ๆ ออกมาแต่เขาก็ได้ยก


สัญญาณมือขึ้น ซึ่งนั้นหลังจากที่ผเู ้ ชียวชาญของทั้งสองราชวงศ์ได้เห็น
พวกเขาก็หยุดการโจมตีราชวงศ์เจียงลงในทันที

เท่ากับว่าในสถานการณ์ที่เป็ นอยูใ่ นตอนนี้น้ นั มีเพียงแค่ราชวงศ์จา้ ว


ราชวงศ์เดียวเท่านั้นที่กาํ ลังโจมตีราชวงศ์เจียงอยู่

และด้วยการที่องค์จกั รพรรดิของพวกเขานั้นได้ตายไปแล้วและบรรพ
ชนเก่าแก่ของพวกเขาก็ยงั ยุง่ อยูก่ บั การต่อสู ม้ นั จึงเป็ นที่ชดั เจนว่า
ในตอนนี้พวกเขานั้นกําลังเสี ยบเปรี ยบราชวงศ์เจียงอยูอ่ ย่างเห็นได้ชดั
ด้วยความช่วยเหลือของเหล่าสัตว์ยกั ษ์และเหล่าผูเ้ ชียวชาญจากนิกาย
โลกวิญญาณมันทําให้สถานการณ์ที่เลวร้ายของราชวงศ์เจียงอยูก่ ่อนหน้า
นี้กลายเป็ นดีข้ ึนมาในทันทีและในตอนนี้พวกเขาก็ได้กาํ ลังฆ่าคนและ
สวนกลับราชวงศ์จา้ วอยู่

“ราชวงศ์หลิว,ราชวงศ์จีพวกเจ้ากําลังทําอะไรกันอยู? ่ ทําใม
ถึงไม่ช่วยราชวงศ์ขา้ ฆ่าไอ้สารเลวพวกนี้ ?!” เมื่อบรรพชนเก่าของ
ราชวงศ์จา้ วได้สงั เกตว่าพันธมิตรของเขานั้นไม่ได้รับการยืน่ มือเข้ามา
ช่วยเหลือผูค้ นจากราชวงศ์ของเขานั้นมันทําให้เขารู ้สึกโมโหเป็ นอย่าง
มาก

“อย่าพูดเป็ นเล่นน่าฝ่ ายตรงข้ามของท่านนั้นเป็ นเพียงแค่เด็กที่


มีระดับพลังวิญญาณแค่ระดับ 8 แดนสวรรค์เองไม่ใช่รึถา้ หากพวกเรา
ได้ร่วมมือกับท่านและจัดการเขามันจะไม่ดูน่าอายเกินไปหน่อยรึ แล้วยิง่
ถ้าหากข่าวนี้ได้แพร่ กระจายออกไปแล้วราชวงศ์ของพวกเราจะไม่ถูก
มองว่าเป็ นตัวตลกต่อสายตาของผูค้ นหรื ออย่างไร ฉะนั้นแล้วการท่านสู ้
อยูค่ นเดียวนั้นแหละเป็ นดีแล้ว.” บรรพชนของราชวงศ์จีได้กล่าว
ออกมาพร้อมกับรอยยิม้ เล็ก ๆ
“ใช่แล้วท่านพี่จา้ ว, ไอ้เด็กสารเลวนั้นมันเป็ นเพียงแค่พ่ งึ
อํานาจพิเศษบางอย่างเท่านั้นนั้นไม่ได้เป็ นระดับพลังวิญญาณที่แท้จริ ง
ของมัน เพราะฉะนั้นแล้วข้ามัน่ ใจว่าท่านนั้นจะต้องสามารถจัดการมัน
ได้อย่างแน่นอน” บรรพชนเก่าของราชวงศ์หลิวยังยิม้ กล่าว

“เหอะคําพูดของพวกเจ้าทั้งสองมันไม่น่าเชื่อถือเลยซะจริ งๆ!”
เมื่อเห็นสมาชิกของตระกูลตัวเองต้องถูกฆ่าตายไปอย่างต่อหน้าต่อตา
มันจึงทําให้บรรพชนราชวงศ์จา้ วนั้นกัดฟันของเขาแน่นไปด้วยความ
โกรธ

“ฮ่า ๆ ไอ้ตาเฒ่า! ดูซิพนั ธมิตรของท่านนั้นมันดูชง่ั ไม่


น่าเชื่อถือซะจริ งๆพวกมันขายท่านได้อย่างรวดเร็ วและอีกไม่นาน
สมาชิกตระกูลของท่านจะต้องตาย ฮ่า ๆ ๆ!” ในขณะที่บรรพชนเก่าของ
ราชวงศ์จา้ วกําลังต่อสู อ้ ยูก่ บั ชูเฟิ ง ชูเฟิ งก็ได้ส่งข้อความทางจิตกล่าว
คําพูดเย้ยหยันของเขาออกไปให้ตาเฒ่าของราชวงศ์จา้ วได้ฟัง
ReadMGA
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เป็ นใงล่ะมึงเจอสกิลปากหมาพรเองกูเข้าไปหน่อย

B2 : ถถถถถ จัดจัดจ้านไปไหนพระเอกเรา

B1 : เห้อ ๆ มาดูกนั ว่าไอ้แก่นี่มนั จะตายยังใง

B2 : ขอตายแบบอนาถ ๆ หน้าจิ่มขี้ตายยังงี้ได้ไหม 5555

B1 : ก็น่าสนนะ

B3 : แต่จะว่าไปแล้วพวกมึงก็คงมองกันแต่ดา้ นชนะกันซิ นะ แต่กุ


อยากลองมองแบบมุมกลับกันว่ะ

B2 : มุมกลับกันยังใงว่ะ ??

B3 : ก็มุมแบบนี้ใง ชุเฟิ งโดดขังออกมาไม่ได้ขาดอากาศหายใจตายอยู่


ในพระราชวังใต้ดิน ราชวงศ์เจียงถูกทําลาย เจียง ยีห่ นี่ ถูกนําตัวไปลุ่ม
โทรมและเปลี่ยนให้กลายเป็ นทาสsex กูวา่ มันคงจะ NTR น่าดู
แบบ….กูขอตัดช่วงนี้ไปทําโดจินขายได้ไหม กูวา่ ยอดอ่านคงพุง่ กระ
ชูดอ่ะแบบชื่อโดจินก็ เชลยทาสเจียง ยีห่ นี่ ไรงี้!!

B1 : คือแบบจังไรจริ ง!!....แต่กกู เ็ อาด้วยนะกูชอบ

B2 : B1 มึงก็เอาด้วย??

B1 : ก็กชู อบ NTR อ่ะ

B3 : ง่ะเด็ดจริ งนะเว้ยบอกเลย…..ขอเสี ยงคนชอบแนว NTR


หน่อยซิ……{ 0/ }= เท่ากับท่าคนยกมือ

B1 : { 0/ }

B2 : olo
#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 515 – รอยยิม้ ที่น่าหวาดกลัว

“เฮอะ ไอ้เด็กสารเลวอย่าได้จองหองให้มนั มากนัก แม้วา่ เจ้าสอง


คนนั้นจะไม่ได้ช่วยข้าแต่ขา้ นั้นก็สามารถที่จะฆ่าเจ้าได้อย่างง่ายดายข้า
จะต้องแก้แค้นให้กบั ลูกชายของข้าให้จงได้.”

บรรพชนเก่าของราชวงศ์จา้ วได้พลิกฝ่ ามือของเขา พร้อมกับปรากฏหอก


สี เงินขึ้นมาภายในมือของเขา

หอกเล่มนี้น้ นั มันได้ถูกปกคลุมไปด้วยตราสัญลักษณ์ ตราสัญลักษณ์น้ นั


มันก็ได้เกิดการกระจ่างใสและหมุนวนพลังอํานาจของมันออกมาออร่ า
รอบๆหอกนั้นมันได้แสดงให้เห็นถึงว่าหอกเล่มนี้น้ นั เป็ นยุทธภัณฑ์ช้ นั
ยอด

อย่างรวกเร็ วหลังจากที่บรรพชนราชวงศ์จา้ วได้งดั หอกเล่มนี้ออกมาเขาก็


ได้เหวีย่ งหอกของเขาออกไปในอากาศพร้อมกับปรากฏคมหอกออกมา
นับหมื่นจิงออกไป พวกมันนั้นเป็ นเหมือนดัง่ ราวกับลมพายุของคมหอก
ที่พงุ่ เข้าใส่ ชูเฟิ ง

อนึ่งต้องรู ้ก่อนว่าทักษะคมหอกที่ได้ถูกใช้โดยยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดนั้น


นับว่าแข็งแกร่ งมากแล้วแต่ในตอนนี้ยทุ ธภัณฑ์ช้ นั ยอดเล่มนี้น้ นั ได้ถูก
ใช้โดยบรรพชนของราชวงศ์จา้ วผูท้ ี่อยูใ่ นระดับที่ 9 ของแดนสวรรค์
วิญญาณฉะนั้นแล้วเรื่ องอํานาจของมันนั้นต้องบอกเลยว่าเป็ นแข็งแกร่ ง
ที่สุดจนเหนือคําบรรยาย

ตั้งแต่ทกั ษะหมื่นคมหอกได้ปรากฏขึ้นมานั้นมันทําให้ทอ้ งฟ้าและ


แผ่นดินถึงกับสัน่ สะเทือนสภาพลมฟ้าอากาศก็ยงั เปลี่ยนแปลงไปมาก
จนน่ากลัว
ในทันทีทุกคนจากราชวงศ์เจียงที่ได้เห็นฉากนี้น้ นั พวกเขาทุกคนก็ลว้ น
ได้ปรากฏเหงื่อเย็นขึ้นมาบนใบหน้าของพวกเขา เพราะว่าพวกเขานั้น
กลัวว่าชูเฟิ งนั้นจะไม่สามารถต้านทานพลังอํานาจที่แสนหน้ากลัวของ
บรรพชนเก่าของราชวงศ์จา้ วนี่ได้

แต่ทว่าชูเฟิ งนั้นกลับไม่ได้คิดที่จะหลบเลี่ยงเลยแม้แต่นิดเดียว เขาได้กาํ


ฝ่ ามือของเขาแน่นพร้อมกับปรากฏขวานอสู รฟ้าขึ้นมาบนมือของเขา
หลังจากนั้นเขาก็ได้เหวีย่ งแขนของเขาออกไปพร้อมกับยิง่ ใบมีดสี ดาํ
ออกไปจํานวนนับไม่ถว้ น

เมื่อกลุ่มพายุใบมีดสี ดาํ ปะทะเข้ากลับคมหอกนับหมื่นมันจึงได้เกิดการ


ระเบิดดังออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดระลอกคลื่นของพลังอํานาจได้
แพร่ กระจายออกไปทัว่ ทุกทีมีหลายคนที่โดนลูกหลงจากเศษเสี้ ยวพลัง
ของพวกเขาและผูค้ นที่ได้โดนมันนั้นมันถึงกลับทําให้พวกเขาถึงแก่
ความตายในทันที
*** บูม *** จู่ ๆ ภายในคลื่นระเบิดนั้นก็ได้มีกลุ่มฝูงคมหอกฝูงหนึ่ง
บินตรงมายังชูเฟิ ง ซึ่งนั้นก็หมายความว่าทักษะการโจมตีของบรรพชน
ราชวงศ์จา้ วนั้นจริ งสามารถทะลวงใบมีดสี ดาํ ของชุเฟิ งออกมาได้

*** หวืบ *** ในสถานการณ์เช่นนี้แม้แต่ตวั ชูเฟิ งเองนั้นก็ยงั ขมวดคิ้ว


ของเขาเบา ๆ แล้วรี บใช้มงั กรเดินทางผ่านเก้าสวรรค์แล้วกลายเป็ นภาพ
เบลอของเส้นแสงเพื่อหลบหลีกการโจมตีของคมหอก

“ฮืม..พลังอํานาจการต่อสู ข้ องเจ้าเด็กเวรนี่น้ นั เป็ นของจริ งและ


ทักษะการต่อสู ข้ องมันนั้นก็ดูเป็ นประโยชน์เอาอย่างมากแต่ไม่วา่
อย่างไรก็ตามอํานาจพลังวิญญาณของมันนั้นไม่เสถียนมากเกินไปแถม
ระดับพลังวิญญาณก็ยงั น้อยกว่าถึงหนึ่งขั้น ผลสรุ ปมันได้ออกมาอย่าง
ชัดเจนแล้วว่าอีกไม่นานนี้ตาเฒ่าชุดประหลาดจากราชวงศ์จา้ วจะต้อง
เป็ นฝ่ ายชนะอย่างแน่นอน” เมื่อเห็นฉากการต่อสู น้ ้ ีมุมปากของบรรพ
ชนราชวงศ์หลิวก็ได้ปรากฏรอยยิม้ ขึ้นมาในทันทีและความกังวลใจของ
เขาก็ได้ถูกบรรเทาลง
แม้วา่ เขานั้นจะไม่ได้เข้าไปยุง่ ในการต่อสู แ้ ต่เขาก็ได้หวังเอาไว้วา่ บรรพ
ชนของราชวงศ์จา้ วนั้นจะเป็ นฝ่ ายชนะ เพราะว่าเขาราชวงศ์ของเขาและ
ราชวงศ์จีในตอนนี้น้ นั ได้ตกอยูใ่ นภัยคุกครามของราชวงศ์เจียงจึงไม่อาจ
ช่วยเหลือราชวงศ์จา้ วได้ และในตอนนี้กม็ ีเพียงแค่ราชวงศ์จา้ วเท่านั้นที่
กําลังต่อสู อ้ ยูก่ บั ราชวงศ์เจียง

แต่ถา้ หากว่าบรรพชนเก่าของราชวงศ์จา้ วนั้นสามารถเอาชนะชูเฟิ งของ


ราชวงศ์เจียงลงได้กจ็ ะไม่มีใครที่สามารถกดขี่ขมเหงราชวงศ์จา้ วได้อีก
ต่อไป เมื่อถึงตอนนั้นต่อให้ท้ งั สองราชวงศ์ไม่ตอ้ งเข้าไปช่วย ราชวงศ์
เจ้าก็ยงั สามารถเอาชนะราชวงศ์เจียงด้วยตนเองได้อย่างง่ายดาย

“หนอยเจ้าเด็กเหลือขออย่าให้มนั ได้ใจมากเกินไปนักไหนลอง
มาแสดงให้ขา้ ดูหน่อยซิวา่ เจ้าจะสามารถหนีออกไปจากเงื้อมมือของข้า
ได้เช่นไร!” เมื่อเห็นว่าการโจมตีของเขานั้นกําลังไล่ตอ้ นชูเฟิ งอยู่
ในตอนนี้เขาก็ยง่ิ กลายเป็ นได้ใจมากยิง่ ขึ้น เขาได้จบั หอกสี เงินที่อยูใ่ น
มือของเขาเหวีย่ งออกไปทางชูเฟิ งอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด
แต่ไม่วา่ เขานั้นจะปาไปสักกี่ครั้งมันก็ไม่โดนชุเฟิ งเลยสักครั้งเพราะว่า
ความเร็ วมังกรเดินทางผ่านเก้าสวรรค์ของชูเฟิ งนั้นเป็ นอะไรจริ งที่
รวดเร็ วมาก มันเร็ วมากกว่าแต่ก่อนถึงหลายเท่าความสามารถของมันนั้น
ได้เพิ่มขึ้นตามระดับพลังวิญญาณของชูเฟิ ง เพราะฉะนั้นแล้วใน
สถานการณ์เช่นนี้น้ นั ไม่วา่ บรรพชนเก่าของราชวงศ์จา้ วนั้นจะโจมตีชู
เฟิ งด้วยคมหอกสักเท่าไหร่ มนั ก็ไม่อาจที่จะทําอันตรายใด ๆ กับชูเฟิ งได้
เลยแม้แต่นอ้ ย

“ไอ้สารเลวเอ๋ ยนี่เจ้าเป็ นลิงกลับมาเกิดรึ ยงั ใง เจ้าคิดว่าเจ้าจะ


สามารถหลบมันไปได้ซะทุกครั้งอย่างนั้นหรื อไม่?” หลังจากที่การ
โจมตีของบรรพชนเก่าของราชวงศ์จา้ วนั้นได้พลาดเป้ามาแล้วหลายครั้ง
มันก็แทบจะทําให้เขาในตอนนี้น้ นั พ่นไฟออกมาจากปากของเขาเองได้
เลยทีเดียวเขาในตอนนี้น้ นั ทําได้แต่กดั ฟันของเขาแน่นด้วยความโกรธ

“ฮ่า ๆ ตาเฒ่าท่านมีความสามารถแค่น้ ีเองอย่างนั้นหรอนี่หรอ


วิธีการจัดการคนอื่นของท่าน? ฮ่า ๆ เจ้าได้สูญเสี ยเวลาไปนับหลายสิ บ
ปี แต่กลับมีความสามารถแค่น้ ีนบั ว่าชัง่ ไร้ค่ายิง่ นักเจ้ามันไม่มีดีอะไร
เลย”

“ข้านั้นก็เป็ นเพียงแค่เด็กหนุ่มที่มีดีความรวดเร็ วเท่านั้น แต่ท่าน


มีความสามารถแต่กลับทําอะไรข้าไม่ได้ ถ้าหากท่านยังคงจัว่ ลมอยูแ่ บบ
นี้ต่อไป ก็จงยอมรับความพ่ายแพ้ซะเถอะเพราะว่าข้านั้นสามารถวิง่ อย่าง
นี้อีกไปได้อีกนานและมันก็นานพอที่จะพอที่จะพาท่านไปถึงวันตาย
ของท่านได้เลยล่ะ!” ชูเฟิ งไม่รู้สึกถึงความอับอายในการหลบหนีไปมา
ของเขา เขาได้เอาแต่เยาะเย้ยบรรพชนของราชวงศ์จา้ วที่มีความเร็ วเป็ น
รองเขา

“ไอ้เจ้าเด็กเวรอย่าให้มนั ได้ใจมากนัก! เจ้าคิดว่าความเร็ วของ


เจ้านั้นมันดีมากนักใช่ไหมงั้นเดี้ยวมาดูกนั ว่าทักษะการต่อสู ท้ างกายภาพ
ของเจ้านั้นมันจะดีสกั แค่ไหน?” บรรพชนเก่าของราชวงศ์จา้ วได้
ตะโกนกล่าวออกมาอย่างเย็นชาพร้อมกับก้าวขึ้นไปบนอากาศและถือ
หอกเงินของเขาแล้วกลายเป็ นภาพเบลอของเส้นแสงมุ่งตรงไปยังชูเฟิ ง
ด้วยความเร็ วสู ง มันอาจกล่าวได้เลยว่าความเร็ วของเขานั้นเป็ นเร็ วกว่า
ทักษะมังกรเดินทางผ่านเก้าสวรรค์เป็ นอย่างมาก

“นี่ไม่ดี! เขานั้นเป็ นถึงผูเ้ ชียวชาญระดับ 9 แดนสวรรค์แท้จริ ง


และเป็ นบุคคลที่มีพลังเป็ นอนันต์อีกเพียงแค่ข้ ึนตอนเดียวพวกเขาก็จะ
ไปถึงเขตแดนของเทพสงคราม

“ด้วยระดับพลังวิญญาณที่ไม่เสถียรของชูเฟิ งที่อยูเ่ พียงแค่ระดับ


8 ของแดนสวรรค์วญ ิ ญาณข้าเกรงว่าเขาอาจไม่สามารถเอาชนะบรรพ
ชนเก่านั้นได้.” เมื่อพวกเขาได้เห็นว่าบรรพชนเก่าของราชวงศ์จา้ วกําลัง
ไล่ตามชูเฟิ งด้วยความเร็ วสูงสุ ดและระยะห่างของพวกเขานั้นก็เริ่ มใกล้
กันทีละนิด มันทําให้ เจียง ยีห่ นี่ และคนอื่น ๆ นั้นเป็ นกังวลมากขึ้นพวก
เขาได้ยน่ คิว้ ของพวกเขาและปรากฏเหงื่อเย็นบนใบหน้าเมื่อได้มองขึ้น
ไปยังชูเฟิ ง

“พวกท่านทั้งหมดนั้นไม่เข้าใจน้องชายของข้า” แต่ทนั ใดนั้น


จาง เทียนยี่ ก็ได้ปรากฏขึ้นพร้อมกับรอยยิม้ แล้วมองไปยังชูเฟิ ง
“เจ้าหมายความว่าเช่นไร?” หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดของ จาง
เทียนยี พวกเขากลายเป็ นงงงวยกันในทันที

“แค่มองดูกร็ ู ้แล้ว ถึงแม้วา่ บุคคลผูน้ ้ นั จะมีความแข็งแกร่ งและ


แข็งแรงมากแต่เมื่ออยูต่ ่อหน้าน้องชายชูเฟิ งของข้าแล้วล่ะก็เขานั้น
จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน” ในมุมปากของ จาง เทียนยี กลายเป็ น
รอยยิม้ กว้างพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยนํ้าเสี ยงที่เต็มไปด้วยความเชื่อมัน่

หลังจากที่พวกเขาได้ยนิ คําพูดของ จาง เทียนยี แม้วา่ เจียง ยีห่ นี่ และคน


อื่น ๆ นั้นจะยังมีความสงสัยอยูบ่ า้ งแต่วา่ ความตรึ งเครี ยดในหัวใจของ
พวกเขานั้นก็นบั ว่าสงบลงไม่นอ้ ย หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้พดู อะไรแล้ว
จับจ้องสายตาของพวกเขาขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วคอยดูสถานการณ์ต่อไป

เพียงในขณะที่ช่วงเวลานั้นบรรพชนเก่าของราชวงศ์จา้ วก็ได้อยูห่ ่างจาก


ชุเฟิ งเพียงไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตร เขาก็ได้นาํ หอกของเขาออกมาอีกครั้ง
พร้อมกับปรากฏลมหมุนขึ้นรอบๆหอกของเขาและมันก็พร้อมที่จะยิง่
ออกมาได้ทุกเมื่อ

‘อึก’ เมื่อเห็นเช่นนั้นใบหน้าของชูเฟิ งก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมากเพราะว่า


ด้วยระยะทางแค่น้ ีน้ นั เขาไม่สามารถที่จะหลบการโจมตีของบรรพชน
เก่าราชวงศ์จา้ วได้พน้ เป็ นแน่

“ข้าจะฆ่าเจ้า!” ในสถานการณ์เช่นนี้ชูเฟิ งได้คึกคํารามออกไป


อย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดและในมือของเขายังปรากฏขวานอสู รฟ้าออกมา และ
ดับเครื่ องชนไปยังบรรพชนเก่าในทันทีราวกับว่าเขานั้นต้องการที่จะตาย
ไปพร้อมกับบรรพชนเก่า

“ฮ่า ๆ ไอ้เจ้าโง่ นี่เจ้าไม่รู้รีอย่างไรว่าถ้าเจ้านั้นต้องการที่จะเดิม


พันด้วยชีวติ ทั้งหมดของเจ้าเจ้าก็จะต้องมีความแข็งแรงที่มากพอถึงจามา
รถทําเช่นนั้นได้” แต่เมื่อเห็นใบมีดสี ของขวานอสู รฟ้านั้นใบหน้าของ
บรรพชนเก่าราชวงศ์จา้ วก็ปรากฏรอยยิม้ ขึ้นมาในทันทีเพราะว่าด้วย
อํานาจของหอกเขานั้นมีหรื อที่ใบมีดสี ดาํ นัน่ จะสามารถต้านทานได้
ฉะนั้นแล้วการกระทําของชูเฟิ งในตอนนี้น้ นั มันเท่ากับการฆ่าตัวตายชัด

เขานั้นไม่ได้สงั เกตเห็นเลยว่าใบหน้าของชูเฟิ งที่แสดงออกถึงอาการตื่น


ตระหนกอยูน่ ้ นั ในตอนนี้กไ็ ด้ปรากฏร้อยยิม้ เย็นขึ้นบนมุมปากของเขา
มันเป็ นรอยยิม้ ที่เต็มไปด้วยความเชื่อมัน่

ในขณะเดียวกันที่เคล็ดลับทักษะหอกนั้นกําลังจะทลายผ่านใบมีดสี ดาํ
ของชูเฟิ งเข้ามา ทันใดนั้นชูเฟิ งก็ได้ปล่อยขวานอสู รฟ้าที่อยูใ่ นมือของ
เขาออกไปและยืน่ ฝ่ ามือของเขาออกไปข้างหน้าของบรรพชนเก่า
ราชวงศ์จา้ วแทนพร้อมกับพูดว่า

"ทักษะพยัคฆ์ขาวสังหาร"
* * * * * * * * โฮกกก ~~~~~~~~~~~~

เสี ยงร้องของพยัคฆ์ได้ดงั ก้องพร้อมกับควันสี ขาวได้ระเบิดออกมาจาก


ฝ่ ามือของชูเฟิ ง ซึ่งควันสี ขาวนั้นได้เปลี่ยนแปลงกลายเป็ นกรงเล็บลาย
เสื อสี ขาวพากดํา ซึ่งมันเป็ นที่แน่นอนว่านี่คือทักษะเร้นลับในตํานาน
ของชูเฟิ งทักษะพยัคฆ์ขาวสังหาร

ทักษะพยัคฆ์ขาวสังหารนั้นเป็ นพลังอํานาจที่หาเปรี ยบไม่ได้พลังอํานาจ


ของมันนั้นจะยิง่ น่ากลัวเพิ่มมากขึ้นตามระดับพลังวิญญาณของผูใ้ ช่และ
ในตอนนี้ชูเฟิ งนั้นก็มีระดับพลังวิญญาณที่สูงมาก ฉะนั้นแล้วทักษะคม
หอกของยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดที่อยูใ่ นด้านหน้าของมันนั้นนับว่าอ่อนแอ
มาก อํานาจที่น่ากลัวของทักษะพยัคฆ์ขาวสังหารนั้นได้แยกมันออกเป็ น
ชิ้น ๆ

“อ่ะ…นี่หรื อว่าจะเป็ นทักษะเร้นลับในตํานาน?!” ในทันที


ใบหน้าของบรรพชนเก่าราชวงศ์จา้ วก็ได้เปลี่ยนไปในทันที การแสดงที่
สงบเสงี่ยมของเขาก่อนหน้านี้ได้หายไปภายในทันทีเขาได้หนั หลัง
ออกไป และพยายามที่จะหลบหนี

เพราะว่าความรู ้สึกที่เขาได้จากทักษะเร้นลับพยัคฆ์ขาวสังหารนั้นชัง่ ดูน่า


กลัวอย่างแท้จริ ง และเขากลัวว่าจะไม่สามารถป้องกันทักษะการต่อสู น้ ้ ี
ได้

แต่ไม่วา่ ยังใงในตอนนี้มนั ก็ได้สายเกินไปแล้ว เพราะว่าระยะห่างของ


เขาและชุเฟิ งนั้นจริ งเป็ นเพียงแค่ไม่กี่สิบเมตร และด้วยรู ปร่ างของทักษะ
พยัคฆ์ขาวสังหารมันเป็ นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหลบมันพ้น

*** ตูม ***

แต่แล้วในขณะที่บรรพชนเก่าของราชวงศ์จา้ วนั้นกําลังหันหลังอยู่ เข้าก็


ได้โดนทักษะพยัคฆ์ขาวสังหารกระแทกเข้าที่กลางหลังเต็ม ๆ อย่าง
รุ นแรง

"อ้า!"

*** ฟูมมม ***

ในทันทีบรรพชนเก่าของราชวงศ์จา้ วได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เขาเปิ ดปากของเขาและเลือดสด ๆ ได้กระจายออกมาจากปากของเขา
ในทันที

และในขณะเดียวกันก็ได้มีเสี ยงประทุออกมาจากร่ างกายของเขา มันเป็ น


เสี ยงของกระดูกและอวัยวะภายในร่ างกายของเขาทั้งหมดกําลังถูก
ทําลายและในที่สุดทักษะพยัคฆ์ขาวสังหารก็ได้พงุ่ ทะลุร่างกายของเขา
ออกมาจากด้านหลังของเขา
ReadMGA
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : นั้นแหละครับจุดจบของตัวโกง

B2 : เห้อไปสู่ สุคติเถอะนะตาเฒ่า

B3 : เห้อเออกูหมดคําพูดแล้วว่ะตัวร้ายแม้งตายห่าหมด โครตเจ๋ ง

B1 : ก็พรเอกมันเก่งใง

B2 : เออใช่พี่เฟิ งกูเหนือลํ้าสุ ด

B3 : เนิ๊บ ๆ มันลงมาหน่อยได้ไหมให้มนั กาก ๆ หน่อย


B1,B2 : กาก ๆ ก็ไม่มนั อ่ะดิ

B3 : พวกมึงหัดสงสารตัวร้ายมัง่ ก็ได้ไอ้สสั

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 516 - เปลี่ยนมุมมอง

" เอาการโจมตีขา้ ไปกินอีกดอก!!! "

*** โฮ่กกกก~~~~~~~~ ***


ฝ่ ามือที่ชูเฟิ งเหวีย่ งออกไปอย่างรุ นแรง ทําให้วชิ าพยัคฆ์ขาวสังหารครั้ง
นี้ทวีคูณพลังทําลายขึ้นหลายเท่า

บรรพบุรุษรุ่ นก่อนของราชวงศ์จา้ วได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากไม่


สามารถป้องกันพลังทําลายของชูเฟิ งได้ จากนั้นเขาก็ร้องตะโกนขึ้น "
รี บมาช่วยข้าเร็ ว!!! "

แต่มนั ก็สายไปแล้ว ขณะที่เสี ยงของเขายังพูดไม่จบประโยค วิชาพยัคฆ์


ขาวสังหารของชูเฟิ งก็เข้ามาปะทะร่ างของเขาเข้าเต็มๆ

**** ปุ้งงงงง **** .ในครั้งนี้เขาไม่สามารถส่ งเสี ยงร้องที่เจ็บปวด


ออกมาได้ เนื่องจากถูกเสี ยงระเบิดกลบจนหมดสิ้ น ขณะนั้นเขาได้
กลายเป็ นกองเนื้อที่กระเด็นไปทัว่ ทิศทาง ล่วงลงมาจากท้องฟ้า

ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ 9 อาณาจักรสวรรค์ บรรพบุรุษรุ่ นก่อนของราชวงศ์


จ้าว ถูกฆ่าด้วยนํ้ามือของ ชูเฟิ ง ด้วยการตายที่น่าอนาถ

" สวรรค์!!! เขาทําได้จริ งๆงั้นเหรอ ด้วยพลังระดับ 8


อาณาจักรสวรรค์ที่ไม่คงที่ เขากับสามารถฆ่าบรรพบุรุษรุ่ นก่อนของ
ราชวงศ์จา้ วที่อยูใ่ นระดับ 9 อาณาจักรสวรรค์ "

คนที่เห็นฉากนั้นโดยเฉพาะกองกําลังของราชวงศ์เจียงทั้งหมดเบิกตา
กว้าง อ้าปากค้าง ด้วยสี หน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ

เพราะเรื่ องที่เกิดขึ้นพวกเขารู ้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็ นไปได้ แต่ตอนนี้ชูเฟิ ง


ได้แสดงให้พวกเขาได้ประจักษ์กบั ตาตัวเองแล้ว

" หื มมม ข้าบอกท่านแล้วว่าอย่าได้ประมาทศิษย์นอ้ งชูเฟิ งมาก


เกินไป ด้วยความสามารถของเขาถึงแม้วา่ พลังวิญญาณมันจะไม่คงตัว
ต่อให้ใครก็ตามที่อยูใ่ นอาณาจักรสวรรค์ระดับ 8 หรื อ ระดับ 9 ล้วน
แต่ไม่เป็ นปัญหาสําหรับเขา "

" เขาเล่นละครทําเป็ นว่าตัวเองอ่อนแอ เพราะต้องการให้บรรพ


บุรุษรุ่ นก่อนราชวงศ์จา้ วมาติดกับ เมื่อเขาเกิดความประมาท เขาก็ตอ้ ง
เจอการผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงตามมา "

" การต่อสู น้ ้ ีอาจพูดได้เลยว่า บรรพบุรุษรุ่ นก่อนของราชวงศ์จา้ ว


ไม่เพียงแค่แพ้เขาในแง่ของพลังวิญญาณ เขายังแพ้ในเรื่ องกลยุทธ์อีก
ด้วย ความรู ้ ความรอบคอบ สติปัญญา ไหวพริ บก็นบั ว่าเป็ นส่ วนสําคัญ
ในการต่อสู เ้ ช่นกัน " จาง เทียนยี่ ยิม้ เบาๆและกล่าว ขณะที่พดู ขนที่
ใบหน้าของเขายังลุกซู่ ว่าหากเขาอยูใ่ นตําแหน่งบรรพบุรุษราชวงศ์จา้ ว
เขาเองก็คงแพ้เหมือนกัน

" ดูเหมือนว่าเราประมาทชูเฟิ งจริ งๆนั้นแหละ " หลังจากได้ยนิ


คําพูดของจาง เทียนยี่ ทุกคนก็ตอ้ งมองชูเฟิ งใหม่อีกครั้ง พวกเขาไม่คิด
ว่าเด็กหนุ่มอายุเพียง 17 ปี จริ งๆแล้วกับเต็มไปด้วยความสามารถอ
และประสบการณ์ในการต่อสู ้ อีกทั้งยังมีการวางกลยุทธ์จนสามารถปลิด
ชีวติ บรรพบุรุษรุ่ นก่อนที่มีอายุมากกว่าร้อยปี ได้อย่างรวดเร็ ว

" บรรพบุรุษ ! "

" แก แกฆ่าจักรพรรดิตระกูลข้า นําซํ้ายังฆ่าบรรพบุรุษรุ่ นก่อน


ของตระกูลข้า ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!!! "

" ข้าจะฆ่าเจ้าาา "

ตอนนั้น คนของราชวงศ์จา้ วโกรธแค้นอย่างมาก ไม่เพียงแต่จกั รพรรดิที่


ถูกฆ่า แม้แต่บรรพบุรษรุ่ นก่อนของเขาก็ยงั ถูกฆ่าตาย มันจึงทําให้พวก
เขานั้นบ้าคลัง่

ดังนั้น ผูเ้ ชี่ยวชาญทั้งหมดของราชวงศ์จา้ ว ก็กรู กนั เข้าโอบล้อม ชูเฟิ ง


ขณะที่ร้องตะโกนพร้อมจิตสังหารที่หนาแน่น พวกเขาตอนนี้มีเป้าหมาย
เพียงเดียวนั้นก็คือ การฆ่า ชูเฟิ ง

" เข้ามาเลย!!! " ขณะที่โดนสมาชิกราชวงศ์จา้ วโอบล้อม พร้อม


กับเข้าโจมตี ชูเฟิ งตอนนั้นไม่มีท่าทีวติ กใดๆเขานั้นแสยะยิม้ พร้อมกับ
ยืน่ มือข้างหนึ่งเรี ยกจ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ อย่างขวานอสู รฟ้าออกมา
จากนั้นเขาก็สบัดขวานในมือจนเกิดเป็ นเส้นแสงสี ดาํ

เมื่อเส้นสี ดาํ พัดผ่าน อากาศรอบๆก็กระจายออก คนที่สมั ผัสถูกมันไม่ได้


กลายเป็ นละอองเลือดแต่อย่างใด แต่พวกเขาถูกทําให้ร่างขาดเป็ นชิ้นๆ

แม้แต่จกั รพรรดิยงั ถูก ชูเฟิ งฆ่า ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว หรื อแม้แต่


บรรพบุรุษรุ่ นก่อนก็ยงั ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ ดังนั้นยิง่ ไม่ตอ้ งพูดถึง
ผูเ้ ชี่ยวชาญของราชวงศ์จา้ ว จึงบอกได้วา่ สําหรับผูเ้ ชี่ยวชาญเหล่านั้น
ล้วนแต่ไม่อยูใ่ นสายตาของชูเฟิ ง

เพียงพริ บตาเดียว คนจํานวนกว่าครึ่ งของราชวงศ์จา้ วถูกผ่าออกเป็ น


ท่่อนๆ มันจึงทําให้คนที่เหลือเกิดความหวาดกลัวในจิตใจ พวกเขาตอง
การที่จะหนีเพื่อรักษาชีวติ เอาไว้

" เจ้าเด็กบ้านั้น ร้ายกาจชะมัด ไม่เพียงแต่พลังวิญญาณที่


มหาศาล ความคิดของเขาก็ยงั เหนือกว่าผูท้ ี่มีอายุไล่เลี่ยกัน ในอนาคตเขา
จะต้องประสบความสําเร็ จที่ยงิ่ ใหญ่อย่างแน่นอน "

" ข้าไม่เคยนึกเลยว่าจะมีคนแบบนี้ปรากฏขึ้นในราชวงศ์เจียง "


เมือ่เห็นชูเฟิ งสังหารคนมากมาย บรรพบุรุษรุ่ นก่อนของราชวงศ์จี ก็เริ่ ม
ไม่สบายใจ เพราะการที่ได้พบคนที่มากฝี มือหากเป็ นไปได้เขาก็อยากผูก
มิตรเอาไว้ แล้วถ้าหากคนๆนั้นเป็ นศัตรู ในอนาคตคงมีปัญหาตามมานับ
ไม่ถว้ น แต่ไม่วา่ ยังไง ความสัมพันธ์ของเขาและชูเฟิ งก็เห็นได้ชดั เจนอยู่
แล้วว่าเป็ นแบบไหน

" เจ้าหนู เจ้ามีชื่อว่าอะไร ? " ในเวลาเดียวกัน บรรพบุรุษของ


ราชวงศ์หลิวเองก็ตอ้ งใจกับการกระทําของชูเฟิ งเช่นกัน เขาจึงสอบถาม
ชื่อของ ชูเฟิ ง ด้วยความอยากรู ้

" ชูเฟิ ง!!! " ชูเฟิ ง ตะโกนตอบ

" ชูเฟิ ง เจ้าเป็ นส่ วนหนึ่งของราชวงศ์เจียงงั้นหรื อ ? " บรรพ


บุรุษรุ่ นก่อนของราชวงศ์หลิวถามขึ้นด้วยความตกใจ

" จริ งๆแล้วข้าไม่ได้เป็ นส่ วนหนึ่งของ ราชวงศ์เจียง แต่ขา้ เป็ น


ส่ วนหนึ่งของ 9 อาณาจักร " ชูเฟิ งตอบพร้อมกับรอยยิม้ ที่อ่อนโยน
ได้ยนิ การตอบของ ชูเฟิ ง ใบหน้าของบรรพบุรุษของราชวงศ์จีกเ็ ปี่ ยมไป
ด้วยความสุ ข เขาจึงรี บพูดออกไปว่า " สหายชูเฟิ ง วันนี้พวกเรามาจบ
ความแค้นในอดีตกับราชวงศ์เจียง นั้นถือว่าเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่
แรก "

" เอาอย่างนี้ ตราบใดที่เจ้าไม่ยนื่ มือมายุง่ เรื่ องในวันนี้ ราชวงศ์จี


ของข้ากับราชวงศ์หลิวให้สญ ั ญาว่าจะไม่ทาํ อะไรเจ้า อีกทั้งยังจะมอบ
ลูกแก้วสวรรค์ 200,000 เม็ด ให้แก่เจ้า "

" อะไรนะ? ลูกแก้วสวรรค์ 200,000 เม็ด ? " ได้ยนิ


คําพูดพวกนั้น ผูค้ นจากราชวงศ์เจียง ถึงกับตกใจอ้าปากค้าง ในเดียวกัน
ใบหน้าของพวกเขาก็ยงั เต็มไปด้วยความกังวล

ลูกแก้วสวรรค์ 200,000 เม็ด นั้นนับว่าเป็ นจํานวนที่มหาศาล หาก


จะถามว่ามากแค่ไหน ก็ตอ้ งบอกเลยว่าต่อให้ราชวงศ์เจียงขายทรัพย์
สมบัติที่มี พวกเขาก็รวบรวมมาได้แค่ 100,000 เม็ด

แล้วในตอนนี้ สองราชวงศ์ได้เอาลูกแก้วสวรรค์ 200,000 เม็ดมา


ล่อหลอก มีหรื อพวกเขาจะไม่รู้สึกกังวล

เพราะในปัจจุบนั ชูเฟิ งนั้นคือความหวังเดียวของพวกเขาในการช่วย ราช


วงส์เจียง ให้รอดพ้นจากภัยพิบตั ิ ถ้าหากชูเฟิ งตกลงรับปากไม่วา่ จะยุง่
เรื่ องวันนี้ ราชวงศ์เจียงของพวกเขาคงต้องถูกทําลาย

" ลูกแก้วสวรรค์ 200,000 เม็ด ? ท่านนั้นช่างใจกว้างยิง่


นัก แต่ท่านอย่าได้ดูถูกข้า ข้าชูเฟิ งไม่ใช่คนขายเพื่อนเพราะเห็นแก่
สมบัติ " ในตอนนั้นผูค้ นของราชวงศ์เจียงก็ต่างพากันโล่งใจ เพราะว่า ชู
เฟิ ง ได้ปฏิเสธคนพวกนั้น
ต้องบอกว่า ชูเฟิ ง นั้นทําให้พวกเขาประทับใจอย่างมาก บอกเลยว่ากอง
กําลังนับหมื่นของราชวงศ์เจียง ต่างพากันแสดงออกถึงความชื่นชมนับ
ถือ

" สหายชูเฟิ ง เจ้าหมายความว่าจะยืน่ มือมายุง่ เรื่ องในวันนี้ ไม่


ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามสิ นะ " ในตอนนั้นคิว้ ของบรรพบุรุษรุ่ นก่อนของ
ราชวงศ์จีขมวดเข้าหากัน เห็นได้ชดั ว่าภายในดวงตาของเขาเต็มไปด้วย
เจตนาฆ่า

" อ้า อย่าพูดเช่นนั้น ที่จริ งแล้วข้าชูเฟิ ง เพียงต้องการอยากปะ


ลองฝี มือกับท่าน ไม่ทราบว่าบรรพบุรุษรุ่ นก่อนของราชวงศ์จี จะช่วย
สงเคราะห์ขา้ ได้หรื อไม่ ? " ชูเฟิ งประนมมือคารวะให้แก่บรรพบุรุษ
รุ่ นก่อนของราชวงศ์จี

" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ~~~~~~~ " หลังจากได้ยนิ คําพูดนั้น


บรรพบุรุษรุ่ นก่อนของราชวงศ์จี ก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับระเบิดเสี ยง
หัวเราะ จากนั้นก็พดู กับชูเฟิ งว่า " ไอ้เด็กบ้า เจ้าคงมีแผนการอะไรอีก
สิ นะ "

" เจ้าเอาลูกชายของเรามาขู่ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถทําอะไรเจ้า


ได้ แต่น้ ีเจ้ากับมาท้าเราสู ก้ นั ตัวต่อตัว "

" อย่าคิดว่าเรารู ้ไม่ทนั เจ้าคงกําลังคิดว่าหากฆ่าข้าได้ แล้ว


หลังจากนั้นก็ค่อยฆ่าลูกชายของเราเช่นเดียวกับที่ฆ่าเรา ต่อจากนั้นก็คง
เป็ นทุกคนจากสองตระกูลสิ นะ "

ชูเฟิ งไม่ได้ตอบ บรรพบุรษรุ่ นก่อนของราชวงศ์จีแต่อย่างใด เขานั้นได้


แต่อมยิม้ ขณะที่หนั ไปทางบรรพบุรุษราชวงศ์หลิวและกล่าว " บรรพ
บุรุษรุ่ นก่อนแห่งราชวงศ์หลิว อย่าได้กงั วล ตราบใดที่ท่านไม่เข้ามายุง่
ขณะที่ขา้ สู ก้ บั บรรพบุรุษรุ่ นก่อนของราชวงศ์จี ข้าสัญญาว่าหลังจากที่
การต่อสู เ้ สร็ จสิ้ น ข้าจะปล่อยลูกชายท่าน "

" นี่ . . . . . . . . " หลังจากได้ยนิ คําพูดของ ชูเฟิ ง สี หน้าของเขาก็


เปลี่ยนไปทันที หลังจากที่ลงั เลอยูข่ ณะเขาก็พดู ขึ้นว่า " เจ้าพูดจริ งๆใช่
ไม๊ "

ReadMGA.blogspot.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/

A : โอ้ววว พี่เฟิ งเราฉลาดไม่เบาเลย!!!

B : ฉลาดแกมโกง อ่ะดิ แต่กต็ อ้ งยอมรับอ่ะนะว่าเป็ นแผนการที่นบั ว่า


ไม่เลว

A : แล้วแกว่า มันจะยอมตกลงรับปากไม๊วะ่ ???


B : มันรักลูกชายของมันมาก!!! มีแนวโน้มว่าจะเกลี่ยกล่อมสําเร็ จ อีก
อย่างข้อตกลงก็ไม่หนักหนา แค่ให้เขายืนดูเฉยๆ ตอนที่ท้ งั สองคนตอสู ้
กัน เขาก็ได้ลูกชายกลับคืนมา

A : กลับมา แบบเป็ นหรื อตาย ?

B : ตอนนี้ขา้ งดสปอย จึงบอกไรมากไม่ได้ เป็ นแค่การคาดเดาเท่านั้น


หากอยากรู ้ตอ้ งตามไปอ่านตอนต่อไป . . . . .
บทที่ 517 - 10 วัน 10 คืน

" อย่าได้หลงกลมันนั้นเป็ นกับดัก ตอนนี้ท่านและข้าต้องร่ วมมือ


กับกําจัดมัน ไม่ง้ นั หากราชวงศ์จีของข้าถูกทําลาย ราชวงศ์หลิวเองก็คง
หนีไม่พน้ ความพินาศเหมือนกัน " เห็นชูเฟิ งยืน่ ข้อเสนอให้กบั บรรพ
บุรุษร่ ◌ุนก่อนราชวงศ์หลิวแบบนั้น บรรพบุรุษรุ่ นก่อนราชวงศ์จีกร็ ี บก้ม
หน้าก้มตาหาทางเกลี่ยกล่อม
" แต่เขาจะละเว้นชีวติ ของบุตรชายข้า " บรรพบุรุษรุ่ นก่อน
ราชวงศ์หลิวกล่าวกับบรรพบุรุษรุ่ นก่อนราชวงศ์จีดว้ ยใบหน้าที่เต็มไป
ด้วยความลังเล

" เจ้ามีบุตรอีกมากมาย สละไปคนเดียวจะเป็ นไร " บรรพบุรุษ


รุ่ นก่อนราชวงศ์จีตะโกน

" ข้าจะทําแบบนั้นได้ยงั ไง!!! เขาคือบุตรชายที่ขา้ คอยดูแลเอา


ใจใส่ มาหลายสิ บปี เขาคือลูกที่ยอดเยีย่ มที่สุดของข้า " บรรพบุรุษรุ่ น
ก่อนราชวงศ์หลิวตอบ

" เจ้า เจ้า เจ้า!!! " บรรพบุรุษรุ่ นก่อนราชวงศ์จีโกรธไม่ใช่นอ้ ย


แต่เขาก็พยายามระงับไว้ขณะที่เขาปรับอารมณ์ได้เขาก็กล่าวต่อไป " เจ้า
มันตาบอด จนมองไม่เห็นอะไร!!! "
" ชีวติ ของลูกเจ้าคนเดียวมีค่ากว่าหมื่นชีวติ ของราชวงศ์เจ้า?
เรื่ องที่สาํ คัญคือเป้าหมายในการล้างแค้นให้กบั บรรพชนของเจ้าตั้ง
หาก!!! "

" ข้า . . . . . " บรรพบุรุษรุ่ นก่อนราชวงศ์หลิวได้แต่อ้ าํ อึ้ง

" อย่าได้ลงั เลต่อไป องค์จกั รพรรดิตายยังมีคนใหม่ข้ ึนมาแทน


แต่หากราชวงศ์สูญสิ้ น มันก็จะไม่เหลืออะไรสักอย่าง เจ้าอยากถูกตรา
หน้าและถูกราชวงศ์หลิวสาปแช่งไปชัว่ อายุคนงั้นหรอ ? "

" ตอนนี้กเ็ ห็นแล้วว่าตาแก่ตระกูลจ้าวตายยังไง แม้แต่


ผูเ้ ชี่ยวชาญราชวงศ์เขาที่พามาก็ตายหมด หากเจ้าและข้าร่ วมมือกัน
ทําลายราชวงศ์เจียงสําเร็ จ ความมัง่ คัง่ ในทุกอาณาจักร ก็จะตกเป็ นของ
สองตระกูลเรา "
" เจ้าสละบุตรไปเพียงหนึ่ง ไม่เพียงแต่เจ้าสามารถปกป้อง
ราชวงศ์หลิว เจ้ายังจะกลายเป็ นคนที่ถูกสรรเสริ ญว่ายอมเสี ยสละเพือ่
ราชวงศ์หลิว ในวันหน้าเจ้าจะถูกมองเป็ นต้นแบบสมควรแก่การยกย่อง
ผูค้ นจะมองเจ้าว่าวีรบุรุษ " เห็นว่าบรรพบุรุษรุ่ นก่อนราชวงศ์หลิวจะ
คล้อยตาม บรรพบุรุษรุ่ นก่อนราชวงศ์จีกเ็ ร่ งรี บหาทางดึงตัวกลับมา

" ท่านพ่อ เชื่อเขา!!! ถ้าเพื่อตระกูลหลิวของข้า ข้ายอมเสี ยสละ


!!! " ในตอนนั้น จักรพรรดิ์แห่งราชวงศ์หลิวที่ถูกจับเป็ นตัวประกันโดย
เจียง เฮิงหยวน ตะโกนออกไปเสี ยงดัง

" บรรพบุรุษหลิว เชื่อที่พอ่ ข้าบอกเถอะ เจ้า ชูเฟิ งคนนี่เจ้าเล่ห์


เพทุบาย และหากท่านเลือกจะดูโดยไม่ทาํ อะไร ท่านคิดว่าเขาจะยอม
ปล่อยท่านไปงั้นหรอ " ในเวลาเดียวกันจักรพรรดิของราชวงศ์จีกต็ ะโกน
ร่ วมอีกแรง
" ก็ได้ เจ้าและข้าจะร่ วมมือกันฆ่าไอบ้านี่ . . . . " ในที่สุดบรรพ
บุรุษรุ่ นก่อนราชวงศ์หลิวก็กดั ฟันพูด หลังจากที่ตดั สิ นใจแล้ว เขาก็พงุ่
ทะยานเข้าใส่ ชูเฟิ ง

" ฮ่าๆ ถูกต้อง!!! " เห็นแบบนั้นบรรพบุรุษรุ่ นก่อนราชวงศ์จีกเ็ ต็ม


ไปด้วยความยินดี จากนั้นก็พงุ่ ตามเขาไปติดๆ

" ยังไงก็ตามวันนี้ ข้าจะเป็ นคู่มือให้กบั เจ้าทั้งสองเอง "

" ผูค้ นจากราชวงศ์หลิวและราชวงศ์จีจงฟัง ตอนนี้ขา้ จะสู ก้ บั


บรรพบุรุษรุ่ นก่อนของพวกเจ้า แต่ใครก็ตามที่สมั ผัสคนของราชวงศ์
เจียง ข้าจะตัดหัวจักรพรรดิของพวกเจ้า " ชูเฟิ งไม่กลัวแม้แต่นอ้ ย
หลังจากที่เขาตะโกนจบประโยค เขาก็จบั ขวานอสู รฟ้าพุง่ เข้าใส่ บรรพ
บุรุษรุ่ นก่อนทั้งสอง
เมื่อเห็นบรรพบุรุษรุ่ นก่อนทั้งสองลงมือ เจียง เฮิงหยวน ก็เตรี ยมตัวที่จะ
บัน่ คอของสองจักรพรรดิ

แต่หลังจากได้ยนิ คําพูดของ ชู เฟิ ง เขาก็เริ่ มลังเล และเมื่อผูเ้ ชี่ยวชาญจาก


สองราชวงศ์ได้ยนิ คําพูดนั้น พวกเขาก็ไม่มีใครกล้าจะโจมตี เมื่อ เจียง
เฮิงหยวนคิดอย่างถี่ถว้ น เขาก็ตอ้ งล้มเลิกการประหารสองจักรพรรดิ

" ชูเฟิ ง ช่างน่าประทับใจยิง่ นัก เรื่ องความคิดความอ่านของ


เขาก็ไร้ที่ติจริ งๆ "

ตอนนั้น เจียง เฮิงหยวน ชื่นชมชูเฟิ งอย่างไม่รู้จบ เนื่องจากสมองของชู


เฟิ งเฉียบแหลมเกินไป แม้วา่ เขาจะขู่บรรพบุรุษรุ่ นก่อนทังสองราชวงศ์
ไม่สาํ เร็ จ แต่เขาก็ยงั คงใช้ประโยชน์จากสองจักรพรรดิขม่ ขู่กองทัพทั้ง
สองยอมสยบ

และถ้าหากไม่ใช่ ชูเฟิ ง พูดมาแบบนั้น เจียง เฮงหยวน คงสังหารสอง


จักรพรรดิจนหัวขาด แล้วในขณะที่เขาต้องรับมือกับสองบรรพบุรุษ
กองทัพทั้งสองราชวงศ์กค็ งเข้าสู ก้ บั คนราชวงศ์เจียงอย่างบ้าคลัง่ ไปแล้ว

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบนั ของราชวงศ์เจียง พวกเขาจะได้เปรี ยบหากต้อง


สู ก้ บั กองทัพเพียงหนึ่งตระกูล แต่หากพวกเขาสู ก้ บั สองตระกูลพร้อมกัน
แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องเสี ยเปรี ยบ นอกจากนี้ทุกคนจากสองตระกูล
ล้วนแต่เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ ในขณะที่หลายคนในราชวงศ์เจียงมีฝีมือไม่ถึง
ขั้น หากเขาหํ่าหัน่ กันเมื่อใด คนจํานวนมากคงได้รับบาดเจ็บสาหัส

นั้นคือเหตุผลที่เขาชื่นชมชูเฟิ ง และก็อาจพูดได้วา่ เป็ นอีกครั้งที่ ชูเฟิ ง


ได้ช่วยชีวติ ผูค้ นจากราชวงศ์เจียง
สําหรับสองบรรพบุรุษ แม้วา่ พวกเขาจะเตรี ยมใจสําหรับเรื่ องการ
เสี ยสละบุตรชายของพวกเขา แต่อีกใจของพวกเขาก็ไม่ตอ้ งการที่จะ
เสี ยสละ ดังนั้นเขาจึงตกอยูใ่ นสถานการณ์ที่ " กลืนไม่เข้า คายไม่ออก "

[ T/N : การกระทําที่ตดั สิ นใจไม่ถูก ตัดสิ นใจได้ยากว่าจะเลือกทาง


ไหน เนื่องจากทั้งสองทาง ก็ส่งผลกระทบด้านลบทั้งสองทางเลือก
เปรี ยบเปรยถึง มีกา้ งปลาติดอยูใ่ นคอซึ่ งกลืนก็ไม่เข้าท้อง คายก็ไม่
สามารถทําได้ง่าย ]

แต่ตราบใดที่พวกเขาฆ่าชูเฟิ งได้แล้ว การทําลายราชวงศ์เจียง แล้วช่วย


บุตรของเขาก็คงไม่สายเกินไป ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สงั่ ให้คนในตระกูล
เข้าโจมตี

แต่พวกเขาก็ไม่สามารถดูถูกชูเฟิ งได้ แม้วา่ ความแข็งแกร่ งของพวกเขา


จะไม่ธรรมดา แต่พวกเขาก็เคยเห็นความร้ายกาจของทักษะเร้นลับ
มาแล้ว พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะประมาทชูเฟิ ง พวกเขาต้องปะทะกับชูเฟิ ง
ด้วยทุกอย่างที่มี และมุ่งเน้นทุกอย่างไปที่การต่อสู ไ้ ม่ง้ นั หากพวกเขา
พลาดท่าทุกอย่างก็ตอ้ งจบสิ้ น

" ฮ่าๆ ชูเฟิ ง เจ้านับว่ามีฝีมือไม่เลวทีเดียว ข้าละชื่นชมเจ้ามาก


จริ งๆ ที่เจ้าสามารถสู ก้ บั ไอแก่ท้ งั สองได้ขนาดนี้ ด้วยพลังที่ไม่คงที่ "
ต้านต้านที่อยูภ่ ายในร่ างของชูเฟิ ง ถอนหายใจออกมาด้วยความชื่นชม ที่
ชูเฟิ ง สามารถสู ก้ บั ทั้งสองได้ถึงขนาดนั้น ด้วยพลังวิญญาณอาณาจักร
สวรรค์ระดับ 8 ที่ไม่เสถียร

นอกจากนี้ พลังที่ได้รับจากสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจถึงจะไม่
เสถียร แต่ในบางมุมมอง มันก็ทาํ ให้พลังต่อสู ข้ องชูเฟิ งเพิม่ ขึ้นอย่างมาก

และหากเป็ นคนปกติทวั่ ไป ไม่ตอ้ งพูดถึงการต่อสู ใ้ นลักษณะดังกล่าว


ชีวติ ของพวกเขาก็อาจจะจบสิ้ นไปนานแล้ว
นั้นยังไม่ใช่เหตุผลที่ทาํ ให้ตา้ นต้านประหลาดใจ แต่เป็ นเพราะชูเฟิ ง
สามารถควบคุมพลังวิญญาณที่ไม่เสถียรได้ถึงขนาดนี้ นั้นแหละที่ทาํ ให้
นางประหลาดใจ

" อาวุโส เฮิงหยวน ท่านจับไอแก่สองตัวนั้นไว้ แล้วใช้โอกาส


นี้ยา้ ยคนรุ่ นใหม่ของราชวงศ์เจียงไปซะ " ใบหน้าของ เจียง เฮิงหยวน
เปลี่ยนไปทันที หลังจากได้ที่รับข้อความผ่านทางจิตจาก ชูเฟิ ง

หลังจากที่ได้รับข้อความผ่านจิต เจียง เฮิงหยวน ไม่รอช้า เขารี บ


ดําเนินการ เพื่อต้องการจะย้ายคนรุ่ นใหม่ที่โดดเด่นของราชวงส์ออกไป
อย่างลับๆ โดยไม่ให้ใครรู ้

ปัจจุบนั ภายในกลุ่มคนจากราชวงศ์จีและราชวงศ์หลิวมีคนคอยจับตาม
อง มันจึงเป็ นไปไม่ได้ที่จะไปอย่างเปิ ดเผย จึงต้องแอบพาคนออกไป
อย่างลับๆ แต่มนั จําเป็ นต้องใช้เวลาอยูพ่ อสมควร
ตอนนั้น เจียง เฮิงหยวน กังวลว่าเวลาจะไม่พอ แต่สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง
คือการที่ ชูเฟิ ง ต่อสู ก้ บั สองบรรพชนเป็ นเวลา 10 วัน 10 คืน

การต่อสู เ้ วลา 10 วัน 10 คืน มันช่างน่าอัศจรรย์จนทําให้ทุกคนตกใจ


เพราะว่าการโจมตีของสองบรรพชนแสนจะรุ นแรง และต้องบอกว่าการ
ต่อสู ข้ องพวกเขา ควรยกนิ้วให้

เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานถึง 10 วัน มันจึงทําให้สองบรรพบุรุษเกิด


ความเหนื่อยล้า แต่หากเทียบกับคนทั้งสอง ใบหน้าของ ชูเฟิ ง ดูแย่กว่า
มาก หน้าของเขาขาวซีด นําซํ้าออร่ าของเขาก็ยงั ลดลงเรื่ อยๆ
หากเป็ นสถานการณ์ปกติ ไม่ตอ้ งพูดถึงเวลา 10 วัน 10 คืน ต่อให้
เป็ นเวลา 1 วัน 1 คืน กับการต้องสู ก้ บั ทั้งสองคนนั้น จะมีสภาพแย่กค็ ง
ไม่แปลก

แต่ตอนนี้ ชูเฟิ งกับใช้พลังที่ยมื มา และอีกทั้งยังรักษาให้มนั คงสภาพ ใน


สถานการณ์แบบนี้เขายังสามารถทนได้เป็ น เวลา 10 วัน 10 คืน ต้อง
บอกว่า ปาฏิหาริ ย ์

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//
A : อ๊ากกกก พี่เฟิ งไม่นะ!!!

B : พี่ลิงมาช้าจังว่ะ น้องเล็กจะแย่อยูแ่ ล้วววว


A : ตอนแรกไอเราก็นึกว่า ชูเฟิ งจะทําสําเร็ จ โดนไม่ตอ้ งถึงมือ พี่ลิง
แต่ดูจากทรงแล้ว ไม่น่ารอด

B : จริ งๆ น่าจะส่ งคนไปตาม ตอนนี้ที่ตอ้ งทําคือถ่วงเวลาเอาไว้ นิกาย


โลกวิญญาณหากมีเวลามากกว่านี้คงวางรู ปแบบฯที่แข็งแกร่ ง ป้องกัน
ราชวงศ์เจียงไว้แล้วล่ะ แต่เวลามันกระชั้นชิด จึงต้องลําบากแบบนี้

A : คอยดูเหอะ ไอ้พวกไม่มาตามสารน์เรี ยกราชวงศ์!!!

B : ทําไม ตํารวจจะมาตามถึงบ้านเลย ???

A : บ้านป้ามืงสิ สารน์เรี ยกขอความช่วยเหลือยามศึกสงคราม ไม่ใช่


หมายเรี ยกจากศาลอาญา แสดงว่ามืงโดนเรี ยกบ่อยล่ะสิ !!!

B : ตั้งแต่ช้ นั ปฐมเลยล่ะ กูข้ ึนรถเมย์กลับบ้านคนเดียวประจํา วันนั้น


ขึ้นรถเมย์ตามปกติคนมันก็เยอะอยูแ่ ล้ว แต่วนั นั้นมียายคนหนึ่งเขาลุก
ขึ้น แกก็ถือของเต็มไม้เต็มมือเลยล่ะ แล้วยายก็หนั มาว่า ไอ้หนู มานัง่ สิ กู
ก็แบบโอ้โหขนาดคนแก่ยงั มีน้ าํ ใจเลย จากนั้นไอเราก็เลยบอกยาย ยาย
ผมช่วยถือของให้นะ ยายแกก็บอกไม่เปนไรไอ้หนู กูกเ็ ลยบอกว่า ยาย
เอามาให้ช่วยผมถือเถอะของมันเยอะมันหนัก แบบกูกลัวว่ายายเขาจะล้ม
ตอนนั้นกูเลยยื้อของแกไว้ สักพักยายแม่งเริ่ มสี หน้าไม่ดีแล้วเว้ย สักพัก
แกก็จอ้ งหน้ากูเขม็ง แล้วก็บอก ไอ้หนูปล่อยยายจะลง!!!
B : เอ้าชิบหายทํายายเลยป้าย!!!

A : แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหมายเรี ยกว่ะ

B : ไม่เกี่ยว อยากเล่าให้ฟังเฉยๆ

A:................ .........
บทที่ 518 - ข้าคือผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า

**** บูมมมมม บูมมม บูมม ****

ทันใดนั้น เกิดเสี ยงระเบิดดังขึ้นบนท้องฟ้า ในเวลาเดียว ก้มีคลื่นพลังที่


บ้าคลัง่ พัดกระจายออกไปเป็ นวงกว้าง จนทําให้เมฆนั้นสลายวับ

ภายในสิ บวัน การกระจายตัวของเมฆและเสี ยงระเบิด อาจจะพูดได้วา่


เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถว้ น แต่ครั้งนี้ สังเกตุได้ชดั เจนว่าหลังจากการระเบิด
ครั้งที่ผา่ นมา ร่ างกายของ ชูเฟิ งไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเหนื่อยล้าไป
ได้ ในเวลาต่อมาเขาก็ได้ถึงขีดจํากัด จึงทําให้เขาล่วงหล่นจากท้องฟ้า
"ชูเฟิ ง!!!" เห็นแบบนั้น เจียง เฮิงหยวน รี บโดดเข้าไปรับร่ างของ
ชูเฟิ งไว้ในอ้อมแขนของเขา

แต่ในทันทีที่เขารับตัวของชูเฟิ ง สี หน้าของเจียง เฮิงหยวนก้เปลี่ยนไป


เพราะเขารู ้สึกว่าร่ างกายของ ชูเฟิ ง อ่อนแอลงอย่างมาก ในปั จจุบนั บอก
ได้เลยว่าเขาแทบจะไม่มีแรง อีกทั้งพลังสายเลือดราชวงศ์ผสานอํานาจยัง
หายไปอย่างรวดเร็ ว ตอนนั้นออร่ าของเขาที่อยูใ่ นระดับ 8 สวรรค์
วิญญาณ ลดลงเกลือ ระดับ 2 สวรรค์วญ ิ ญาณ

หลังจากนั้นประกายสายฟ้าภายในตาของเขาก็เลือนหายไป มันจึงทําให้
ออร่ าของชูเฟิ งลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกลับมาถึงระดับพลังวิญญาณที่
แท้จริ งของเขา ก้คือ ระดับ 9 แก่นแท้วญิ ญาณ

" ชูเฟิ ง เป็ นไงบ้าง? " หลังจาก ชูเฟิ ง ลงถึงพื้นดิน ทุกคน


รอบๆตัวเขาก็วงิ่ เข้ามา มองเขาด้วยสายตาที่เป็ นห่วงเป็ นใย เจ็บปวด
และเปี่ ยมด้วยความกตัญ�ู

แม้วา่ ตอนนี้พวกเขาไม่อาจรอดพ้นจากความตาย แต่ระยะเวลา 10 วัน


มันเพียงพอที่จะทําให้พวกเขาจะแอบย้าย เจียง ยีห่ นี่ และรุ่ นใหม่ของ
ราชวงศ์เจียงไป และโอกาสนั้นล้วนแต่เป็ น ชูเฟิ ง ที่มอบให้กบั พวกเขา

" ไม่ตอ้ งห่วง ข้าไม่เป็ นไร " หลังจากที่พลังสายเลือดราชวงศ์


ผสานอํานาจหายไป สี หน้าของเขาก็ค่อยๆดีข้ ึน เนื่องจากเขาไม่ตอ้ ง
รับภาระหนัก โดยใช้การควบคุมพลังขั้นสู ง ซึ่ งมันต้องใช้พลังอํานาจ
เป็ นอย่างมาก

" ฮ่า ฮ่า ฮ่า เด็กนั้นมันมีพลังวิญญาณแค่ระดับ 9 อาณาจักรแก่น


แท้ มันคงจะมีทกั ษะบางอย่างที่ทาํ ให้ออร่ าพลังวิญญาณสู งขึ้น มันจึง
ปะทะกับเราทั้งสองได้ถึง 10 วัน 10 คืน"
"แต่ช่างน่าเสี ยดาย ที่เจ้ามันโง่ เจ้าคงไม่รู้สินะว่าเราตั้งใจถ่วง
เวลาเอาไว้ รอให้พลังวิญญาณของเจ้าหายไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า "จู่ๆ บรรพบุรุษ
ราชวงศ์จีกห็ วั เราะขึ้นมา

" งั้นหรอ ? พวกเจ้าคงคิดจริ งๆสิ นะว่าสามารถเอาชนะเราได้


ในวันนี้ ? "ชูเฟิ งยิม้ อย่างเย็นชา

" เด็กบ้า เจ้ายังคิดว่าตัวเองยังมีโอกาสเอาชนะอีกงั้นหรอ "


บรรพบุรุษราชวงศ์หลิวถามอย่างเย้ยหยัน

" ข้ารู ้แต่แรกว่าพวกเจ้าจงใจถ่วงเวลา แต่พวกเจ้าคงคาดไม่ถึง


สิ นะว่าข้าเองก้เช่นกัน" ชูเฟิ งกล่าวขณะที่ยมิ้ อย่างเย็นชา

" เจ้าก็ถ่วงเวลาเช่นกันงั้นหรอ ? เจ้ามีเหตุผลอะไรให้ตอ้ งถ่วง


เวลาพวกเรา ? "
" โอ้!! ข้ารู ้วา่ เจ้าถ่วงเวลาเพื่อแอบเคลื่อนย้ายคนราชวงศ์เจียงไป
ที่ปลอดภัย"

" ช่างไร้เดียงสานัก มันก้แค่กลุ่มคนรุ่ นใหม่ เจ้าคิดหรอว่าพวก


มันจะหนีพน้ เงื่อมมือข้า หากข้าต้องการกําจัดพวกมันจะไม่ใครรอดไป
จาก 9 อาณาจักรได้ " บรรพบุรุษราชวงศ์จีกวาดสายตาตรวจสอบ เขา
จึงพบร่ องรอยบางอย่าง

" ผิดแล้ว เหตุผลที่ขา้ ถ่วงเวลาไว้นานขนาดนี้เพราะว่าข้ารอ


กําลังเสริ มที่สามารถบดขยี้กองทัพของพวกเจ้า!!!" ชูเฟิ งยิม้ เบาๆที่มุม
ปาก

"กําลังเสริ ม!? นี่เจ้ากลัวจนบ้าไปแล่วหรอ ใน9อาณาจักร จะ


มีใครสามารถเอาชนะเราได้ " คําว่า 'กําลังเสริ ม' ทําให้บรรพบุรุษ
ราชวงศ์หลิวตกใจได้นิดหนึ่ง

เพราะหลังจากที่ผา่ นการสู ท้ ี่ยาวนานถึง 10 วัน 10 คืน เขามี


ประสบการณ์วา่ ชูเฟิ งร้ายกาจแค่ไหน แม้วา่ พวกเขาจงใจถ่วงเวลาชูเฟิ ง
แต่ต่อให้พวกเขาต้องการฆ่าก้ไม่สามารถได้

ตอนแรกเขาทั้งสองคนตั้งใจที่จะฆ่า ชูเฟิ งให้ไวที่สุด โดยรวมพลังของ


พวกเขาเพื่อคว้าชัยชนะ แต่พวกเขาก็ทาํ อะไรชูเฟิ งไม่ได้ เนื่องจากชูเฟิ ง
ร้ายกาจอย่างมาก ไม่เพียงแต่พลังต่อสู ท้ ี่ไม่ธรรมดา ปฏิกิริยาตอบโต้ยงั
รวดเร็ วสุดๆ ไม่หมดแค่น้ นั ชูเฟิ ง ยังมีอาํ นาจพลังวิญญาน ไหวพริ บเฉี ยบ
คม กลยุทธก้แยบยล 10 วันที่ผา่ นมาพวกเขาเอาจริ งโดยไม่กล้าที่จะ
ประมาท แต่มนั ก้ไม่เพียงพอที่จะปลิดชีวติ ชูเฟิ ง พวกเขาจึงเปลี่ยนแผน
มาถ่วงเวลา

ดังนั้นเมื่อชูเฟิ งบอกว่าเขาถ่วงเวลารอกําลังสนับสนุน มีหรื อพวกเขาจะ


ไม่ตกใจ ถึงแม้พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ แต่หากมีเด็กหนุ่มร้ายกาจแบบนี้
ใน 9 อาณาจักร บางทีคนที่ชูเฟิ งรอคอยอาจจะแกร่ งมากกว่าตัวเขาก็
เป็ นได้

" อย่าไปฟัง ไอเจ้านั้นมันพูดไร้สาระ หากราชวงศ์เจียงมีกาํ ลัง


เสริ ม พวกเขาคงจะปรากฏขึ้นมาก่อนที่พวกเราทําลายรู ปแบบฯไปนาน
แล้ว ?" บรรพบุรุษราชวงศ์จีกล่าว

" นั้นมันก็เรื่ องของเจ้าว่าจะเชื่อข้าหรื อไม่ ตอนนี้หายนะกําลัง


ย่างกายเข้ามาหา หากพวกเจ้าไม่รีบถอยไปตอนนี้ อย่าหาว่าข้าไม่
เตือน!!! " ชูเฟิ งไม่ได้อธิบายมากนัก เขายังคงยิม้ อย่างเย็นชา อีกทั้งยัง
เกริ่ นวกับพวกเขาว่าตระกูลทั้งสองของพวกเขาต้องพังพินาศ

" หายนะย่างกายมาหาเรา ? จากเท่าที่ขา้ เห็น หายนะมันกําลัง


ไปหาเจ้ามากกว่า เจ้าไร้ซ่ ึงพลังแล้วจะเอาอะไรมาสู ก้ บั พวกเรา รออยู่
ตรงนั้นเงียบๆให้เราไปบดขยี้เจ้าจะดีกว่า " บรรพบุรุษราชวงศ์จีโบก
แขนของเขาออกไป พร้อมกับเตรี ยมตัวโจมตี ชูเฟิ ง
" ใครข้าแตะ ชูเฟิ ง!!! " ในตอนนั้น ท้องฟ้าไกลมีเสี ยงตะโกนดัง
กังวาลเข้ามาพร้อมกับออร่ าที่มหาศาล

" อาณาจักรสวรรค์ระดับ 9 !!!? " ในตอนนั้น ใบหน้าของ


ทุกคนที่อยูบ่ ริ เวณนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเฉพาะบรรพบุรุษราชวงศ์
จีและบรรพบุรุษราชวงศ์หลิว พวกเขาแสนจะตื่นตระหนก

มันเป็ นเพราะพวกเขาทั้งสองสัมผัสได้ชดั เจนว่า ออร่ าอาณาจักรสวรรค์


ระดับ 9 กําลังพุง่ เข้ามาใกล้ทุกที

" สวรรค์ ที่ชูเฟิ งพูดเป็ นเรื่ องจริ งงั้นหรอ เขามีกาํ ลังเสริ มจริ ง
หรื อเนี่ย ? "
ตอนนั้น อย่าว่าแต่คนของราชวงศ์หลิวราชวงศ์จี แม้แต่ฝงู ชนของ
ราชวงศ์เจียงก็ยงั ไม่วายตกใจ

ตอนแรกพวกเขาคิดว่าคําพูดของชูเฟิ งเป็ นแค่คาํ ขู่ไว้หลอกสองตระกูล


แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าที่เขากล่าวนั้นเป็ นความ
จริ ง!!!

*** โฮ่กกก **** ในตอนนั้นมีเสี ยงร้องคํารามของมังกรดังออกมา จน


พัดพาคนจากราชวงศ์ท้ งั สองปลิวไปอย่างรวดเร็ ว จากนั้นก็มีแสงสี ฟ้า
ทะลุผา่ นลงมาจากเมฆ หยุดอยูด่ า้ นบนของ ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ

" สวรรค์ นี้คือ ? ! "

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้เห็นรู ปร่ างของแสงสี ฟ้า ทุกคนถึงกับอ้าปาก


ค้าง เพราะสิ่ งที่ปรากฏอยูบ่ นหัวของพวกเขาคือมังกรฟ้าขนาดใหญ่
มหึ มา

มังกรจะถูกโอบล้อมด้วยควันสี ฟ้า ไม่วา่ จะเป็ นเกล็ดมังกร กรงเล็บ


รู ปร่ างทั้งหมด ล้วนแต่ดูสดใสจนสมจริ ง ซึ่ งไม่ต่างกับมังกรตัวเป็ นๆเลย

บนหัวของมังกรฟ้า มีร่างสองร่ างยืนอยูบ่ นนั้น หนึ่งในนั้นมีหลายคนที่


ใน 9 อาณาจักรรู ้จกั เขาเป็ นอย่างดี นั้นคือ พีใ่ หญ่ของ ชูเฟิ ง ผูเ้ ชี่ยวชาญ
อาณาจักรสวรรค์ระดับ 8 วิญญาณ อสู รราชันย์วานร

และด้านหน้าของราชันย์วานร ก็มีชายชราผมขาวยืนอยู่ เสื้ อคลุมสี เทา


ของเขาปลิวไสว บนตัวก็มีกลิ่นอายที่น่าเกรงขามปกคลุมอยูร่ อบๆตัว

" เจ้าเป็ นใคร ? " เห็นคนคนนั้น บรรพบุรุษราชวงศ์จีได้แต่


ขมวดคิ้วแน่น ถึงแม้วา่ พวกเขาทั้งสองจะอยูใ่ นอาณาจักรสวรรค์ระดับ
9 เหมือนกัน แต่เขารู ้สึกได้ถึงกลิ่นอายความคุกคามจากตัวชายชรา การ
เพาะปลูกของคู่ต่อสู พ้ วกเขาแข็งแกร่ งอย่างมาก ไม่แน่เขาอาจจะใกล้เข้า
สู่ อาณาจักรจ้าวแห่งสงคราม

เมือ่เผชิญกับคําถามของพวกเขา ชายชราขี่มงั กรฟ้าสบัดมือของเขา


พร้อมกับค่อยๆยิม้ และกล่าว " ผูค้ นเรี ยกข้าว่า ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า!!!
"

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/
A : มาแล้วๆๆ!!!

B : อย่าพร่ ามเยอะ กูจะไปอ่านตอนต่อไปแล้ว!!!

C : จะรี บไปไหนๆ เรามีเรื่ องอะไรจะเล่าให้ฟัง

A - B : มึงไปเล่าให้ข้ ีฟังไป!!!
บทที่ 519 – อาวุธลับ
“ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า !!”

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น พลันเกิดความโกลาหลขึ้นในกลุ่มของฝูงชน


อย่างรวดเร็ ว ทุกคนต่างตรวจสอบไปที่เขาในทันที

แม้แต่คนของราชวงศ์ฉี และราชศ์หลิว ก็ขมวดคิ้วแน่น แววตาของ


พวกเขาต่างเต็มไปด้วยความสับสน

มันเป็ นเพราะชื่อของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า นั้นโด่งดังมาก เมื่อพัน


ปี ก่อนนั้น ชื่อเสี ยงของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า สามารถทําให้ท้ งั เก้า
อาณาจักรต้องสัน่ สะเทือนได้

โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผูท้ ี่มีฐานะสู งๆ พวกเขาต่างรู ้ดีวา่ ผูก้ ่อตั้งสํานัก


มังกรฟ้า คือตํานานเมื่อพันปี ก่อน และเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญที่เกือบจะทะลวง
เข้าสู่ ข้นั เทพสงครามได้

“ท่านบอกว่าท่านคือ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า เช่นนั้นรึ !?” บรรพ


บุรุษของราชวงศ์ฉี กล่าวพลางขมวดคิ้วแน่น ในขณะที่เขาจ้องมองไปยัง
ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า เพื่อตรวจสอบ

“ถูกต้อง ข้าคือ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า” เขาตอบออกมาเรี ยบๆ ไม่มี


ความเปลี่ยนแปลงอารมณ์บนใบหน้าของเขาแม้แต่นอ้ ย

“หึ …ตลกแล้ว ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า คือผูท้ ี่มีชีวติ อยูเ่ มื่อพันปี


ก่อน ถึงแม้ท่านนะมีพลังใกล้เคียงกับเขา แต่ท่านเพียงใช้ชื่อของเขาเพื่อ
ลวงพวกเราเท่านั้น หากท่านเป็ น ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า จริ ง เหตุใดท่าน
จึงมีชีวติ ที่ยนื ยาวมากว่สพันปี เช่นนี้ !?” บรรพบุรุษของราชศ์หลิว
กล่าวด้วยใบหน้าที่หวาดระแวง เพราะเขาเชื่อว่า ผูก้ ่อตั้งสํานักมัฝกรฟ้า
ได้ตายไปแล้วแน่นอน
“ฮ่าๆ ….ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ได้ยนื อยูต่ ่อหน้าเจ้าเช่นนี้ แต่เจ้า
กลับไม่เชื่อ”

“ไม่วา่ เจ้าจะเชื่อหรื อไม่ พวกเจ้าคงต้องตายในเร็ วๆ นี้ !!” เขากล่าว


ออกมา พร้อมกับที่เขาสะบัดมือของเขาอย่างรวดเร็ ว พลันพลังขั้นแดน
สวรรค์ที่รุนแรงก็พงุ่ ออกจากฝ่ ามือของเขา มุ่งตรงไปยังบรรพบุรุษของ
ราชวงศ์ฉี และราชวงศ์หลิว

“แข็งแกร่ งมาก !!”

เมื่อบรรพบุรุษทั้งสองเห็นพลังของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ที่


แข็งแกร่ งเช่นนี้ พวกเขาไม่กล้าที่จะรอช้า พวกเขารี บรี ดพลังขั้นแดน
สวรรค์ของตนเองออกมา เพื่อต้านรับพลังที่แข็งแกร่ งนัน่
“ตระกูลฉี ฝ่ ามือพลิกสวรรค์ !!”

“ตระกูลหลิว หมัดครองสวรรค์ !!”

หนึ่งฝ่ ามือ และหนึ่งหมัด ได้พงุ่ ทะยานออกไปอย่างรวดเร็ ว


บรรยากาศโดยรอบบิดเบี้ยวอย่างรุ นแรง มันเป็ นพลังของทักษะระดับ
เจ็ด

ทักษะระดับเจ็ด เป็ นทักษะที่ทรงพลังอย่างมาก และยิง่ ผูใ้ ช้มนั คือ


ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับเก้า ขั้นแดนสวรรค์น้ นั อานุภาพของมันจึงรุ นแรงยิง่ ขึ้น

***** ตูมมมมมม *****


เมื่อพลังทั้งสอง เข้าปะทะกับพลังของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมัฝกรฟ้า นั้น
เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุ นแรง พลังบรรพบุรุษทั้งสองถูกทําลายอย่าง
สิ้ นเชิง แต่พลังของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า กลับไม่ได้รับผลใดๆ ไม่
แม้แต่จะอ่อนกําลังลง มันยังคงพุง่ เข้าใส่ สองบรรพบุรุษอย่างชัดเจน

“นี่……” บรรพบุรุษทั้งสองตกใจในทันที พวกเขารี บเรี ยกใช้


ยอดยุทธภัณฑ์ข้ ึนมาในฝ่ ามือของพวกเขาอย่างรวดเร็ ว เมื่อผูใ้ ช้ และยอด
ยุทธภัณฑ์รวมเป็ นหนึ่ง มันก็สาํ แดงพลังออกมา

***** พรึ่ บ *****

สองบรรพบุรุษ ปลดปล่อยคลื่นพลังของสองยอดยุทธภัณฑ์ออกไป
อย่างรวดเร็ ว เพื่อต้านทานพลังของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า

***** ตูมมมมม *****


ในที่สุด คลื่นพลังของสองบรรพบุรุษที่ใช้ยอดยุทธภัณฑ์ ก็สามาาถ
ทําพลังของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ลงได้

แต่เมื่อมองไปยังใบหน้าของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า และใบหน้า


ของสองบรรพบุรุษนั้น มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้ นเชิง

ใบหน้าของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ยังคงเงียบสงบ และประดับไป


ด้วยรอยยิม้ บางๆ แต่ใบหน้าของสองบรรพบุรุษกลับเต็มไปด้วยหยาด
เหงื่อ ในขณะที่ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็ นสี ขาวซี ด แววตาเกิดความ
หวาดกลัว และความกังวลอย่างเห็นได้ชดั

ผูค้ นรอบข้างต่างยืนนิ่งอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เพราะพวก


เขาเห็นได้ชดั ว่า ผูก้ ่อตั้งสํานักมัฝกรฟ้า ยังไม่ได้เอาจริ งแม้แต่นอ้ ย
แต่ดว้ ยพลังของเพียฝแค่น้ ี กลับทําให้บรรพบุรุษทั้งสองต้องใช้พลัง
ของทักษะระดับเจ็ด และพลังของยอดยุทธภัณฑ์ถึงจะสามาาถสลายพลัง
ของเขาได้

แม้วา่ พวกเขาจะมีพลังระดับเก้า ขั้นแดนสวรรค์เท่ากัน แต่พวกเขา


กลับมีความแข็งแกร่ งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ผูค้ นที่อยูใ่ นเหตุการณ์
นั้น สามารถบอกได้ในทันทีวา่ ผูใ้ ดที่แข็งแกร่ ง และผูใ้ ดที่อ่อนแอกว่า
กันในสามคนนัน่

“เขาแข็งแกร่ งเกินไป ความแข็งแกร่ งระดับนี้เป็ นของผูเ้ ชี่ยวชาญที่


ใกล้จะทะลวงเข้าสู่ ข้นั เทพสงครามแล้ว และดูเหมือนว่าเขาจะอยูห่ ่าง
จากขั้นเทพสงครามเพียฝอีกไม่กี่กา้ วเท่านั้น” เจียง เฮิงหยวน และเหล่า
ผูเ้ ชี่ยวชาญของราชวงศ์เจียง กล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง

“เขาคือ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า !! เขาคือ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ที่


สามารถสัน่ สะเทือนทั้งเก้าอาณาจักรได้เมื่อพันปี ก่อน ความแข็งแกร่ ง
ของเขาแม้แต่บรรพบุรุษราชวงศ์เจียงก็ไม่อาจต้านทานได้” จักรพรรดิ์
ของราชวงศ์เจียง กล่าว เขาได้ออกมาจากการรักษาตัวกว่าสิ บวัน
หลังจากได้รับบาดเจ็บหนัก

“อะไรนะ !! องค์จกั รพรรดิ์ ท่านบอกว่าเขาคือ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกร


ฟ้า !! ผูก้ ่อต้องสํานักมังกรฟ้า น่าจะตายไปกว่าพันปี แล้วนี่ !!” ไม่ได้ยนิ
คํากล่าวขององค์จกั รพรรดิ์น้ นั คนของราชวงศ์เจียงก็ตกใจมากยิง่ ขึ้น

“มีความเป็ นไปได้….ลองสังเกตให้ดีๆ ที่ใต้ฝ่าเท้าของเขา มัน


ไม่ใช่ทกั ษะการต่อสู ้ แต่มนั คือทักษะลับ ที่เป็ นเอกลักษณ์เฉพาะของ ผู ้
ก่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ที่สามารถสร้างชื่อให้กบั เขาได้” องค์จกั รพรรดิ์
กล่าวอธิบาย

“ทุกท่านไม่ตอ้ งสงสัยอีกต่อไป ท่านนี้คือ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า


ตัวจริ ง บรรพบุรุษของสํานักมังกรฟ้าของข้ายังคงมีชีวติ อยู่ !!” ในเวลา
นั้น ชูเฟิ ง ได้กล่าวออกมาเสี ยงดัง

“สวรรค์….!!” เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของ ชูเฟิ ง นั้น ใบหน้าของ


ทุกๆ คนก็เปลี่ยนแปลงไปจนยากจะอธิบาย เพราะด้วย ชูเฟิ ง คือส่ วน
หนึ่งของสํานักมังกรฟ้า ดังนั้น คํากล่าวของเขาจึงสามารถเชื่อถือได้
อย่างแน่นอน

ผูท้ ี่แข็งแกร่ งที่สุดในเก้าอาณาจักรยังคงมีชีวติ อยู่ ข่าวนี้มนั เกินจาก


ความเข้าใจของทุกคนอย่างมาก มันไม่สามารถทําให้พวกเขายอมรับได้
อย่างแท้จริ ง

“ถอยเร็ ว !!” ในเวลานั้น บรรพบุรุษของราชวงศ์ฉี ตะโกนออกมา


เสี ยงดัง ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับ และหลบหนีออกไป

“บ้าเอ๊ย !!” เมื่อเห็นเช่นนั้น บรรพบุรุษของราชวงศ์หลิว ก็หนั หลัง


กลับ และหลบออกไปเช่นกัน

เมื่อเห็นเช่นนั้น สมาชิกของทั้งสองราชวงศ์ไม่กล้ารอช้า พวกเขา


รี บใช้ทกั ษะทั้งหมด เพื่อช่วยให้พวกเขาหลบหนีออกไปได้ เพราะพวก
เขาเกรงว่าอาจจะต้องตายด้วยนํ้ามือของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า

“โฮะ…..”

เมื่อเห็นผูค้ นกําลังหลบหนีน้ นั ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า เพียงยิม้


บางๆ เขาไม่ได้ไล่ล่าพวกเขาออกไปแต่อย่างใด แต่แววตาของเขากลับ
เต็มไปด้วยจิตสังหารอย่างรุ นแรง

ผูก้ ่อตั้งสํารักมังกรฟ้า ย่อมไม่ปล่อยให้พวกเขารอดชีวติ ออกไปได้


แต่เขาก็ไม่ได้รีบไล่ตามออกไป เพราะเมื่อเขาใช้ทกั ษะเฉพาะตัวของเขา
นั้น คนเหล่านั้นย่อมไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมมือของเขาไปได้
“เดี๋ยว !!” จู่ๆ ใบหน้าของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ก็เปลี่ยนไป เขา
พบว่าคนของทั้งสองราชวงศ์ไม่ได้กาํ ลังหลบหนี แต่พวกเขากําลังพุง่
กลับไปยังรถศึกขนาดใหญ่

รถศึกขนาดใหญ่น้ ีถูกลากโดยสัตว์ยกั ษ์ ที่ดา้ นในมีพระราชวัง


ขนาดเล็กตั้งอยู่ ซึ่งมันกําลังลอยอยูใ่ นอากาศ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า รี บ
ใช้อาํ นาจพลังวิญญาณของเขาตรวจสอบอย่างรวดเร็ ว เขาพบว่ารถศึก
นั้นถูกห่อหุม้ ด้วยรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ ง ทําให้ไม่
สามาาถตรวจสอบภายในได้

นอกจากนี้สตั ว์ยกั ษ์ที่กาํ ลังลากรถศึกอยูน่ ้ นั มีใบหน้าที่หน้ากลัว


อย่างมาก ร่ างกายของพวกมันบิดเบี้ยว แต่ภายในร่ างกายขอฝพวกมัน
ั ลักษณ์บางอย่าง ที่มีสีม่วงและเปล่งแสงออกมาระยิบระยับ
กลับมีสญ
นัน่ หมายความว่า พวกมันไม่อาจหนีไปไหนได้ เพราะพวกมันถูก
ตรึ งไว้ดว้ ยตราประทับของอํานาจพลังวิญญาณ

“ผูอ้ าวุโสมังกรฟ้า มีสิ่งใดผิดปกติเกี่ยวรถศึกเช่นนั้นรึ !?”


ในขณะเกียวกันนั้น ราชาวานร ก็พบความผิดปกติบางอย่างเช่นกัน

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ…….!!”

ในเวลานั้น เสี ยงหัวเราะอย่างบ้าคลัง่ ก็ดงั ขึ้นมาในอากาศ จาก


ทิศทางที่ไกลออกไป มันเป็ นเสี ยงหัวเราของบรรพบุรุษของราชวงศ์ฉี

หลังจากหัวเราะออกมาพักหนึ่ง เขาก็กล่าวออกมาว่า “ข้าไม่เคยคิด


เลยว่า ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าผูย้ งิ่ ใหญ่ จะยังมีชีวติ อยู่ นี่มนั ทําให้ขา้
ประหลาดใจยิง่ นัก”
“แต่น่าเสี ยดาย ด้วยอาวุธลับของข้า แม้วา่ ท่านจะมีพลังมากมาย
เท่าใด ก็ไม่สามารถรอดพ้นจากความตายไปได้ !!”

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/
แปลโดยคุณ#Abhisit

A : เอาล่ะมืงอาวุธลับ อาวุธเลิบ ไรมาโลดดด!!!

B : อย่าดูถูกมันเชียวนะมืง อาวุธลับมันร้ายกาจมาก!!!

A : ในตําหนักรถลากนั้น มันมีอะไรกันแน่วะ่ ???

B : พิตตี้!!!

A : กูรออ่านเองก็ได้ มืงแม่งไร้สาระ

บทที่ 520 - ชายวัยกลางคน


“ อาวุโสมังกรฟ้า? ไอ้แก่น้ นั กําลังดูเหมือนจะตาย ทําไมท่านไม่ให้
บทเรี ยนเขาหน่อยหล่ะ” ได้ยนิ เสี ยงหัวเราอันบ้าคลัง่ มาจากบรรพบุรุษ
ราชวงศ์จี ราชันย์วานรขนาดมหึ มาคือผูแ้ รกที่ไม่สามารถยอมรับมันได้
เขารู ้วา่ ถ้าผูก้ ่อตั้งมังกรครามต้องการจะสังหารบรรพบุรุษราชวงศ์จี เขา
สามารถทําได้เพียงสบัดนิ้วเท่านั้น(แค่สบัดนิ้วก็ฆ่าได้แล้ว) นัน่ คือ
เหตุผลว่าทําไมถึงได้ถามผูก้ ่อตั้งมังกรครามเพื่อให้เขาเคลื่อนไหว

“เดี๋ยว!! รถม้านัน่ ดูแปลกเกินไป” อย่างไรก็ตามผูก้ ่อตั้งมังกรครามก็


ไม่ได้ให้ความสนใจกับบรรพบุรุษราชวงศ์จีที่กาํ ลังหลบหนี เขาเพียงแต่
จ้องมองไปยังรถม้าเท่านั้น
หลังจากได้ยนิ คําพูดของเค้า ทุกคนสังเกตุเห็นรถม้าที่หยุดอยูก่ ลาง
อากาศ และช่วยไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังตําหนักเคลื่อนที่ขนาดเล็ก
ด้านบนรถม้าเช่นกัน

*แคร็ ก~~~*

ในที่สุดประตูตาํ หนักขนาดเล็กก็เปิ ดออก ในตอนนั้นเอง หัวใจของทุก


คนเต้นรัว และสายตาของพวกเขากลายเป็ นจริ งจังอย่างมาก
อย่างไรก็ตามสิ่ งที่พวกเขาไม่ได้คาดหวังคือหลังจากที่ประตูพระราชวัง
เปิ ดออก มีเพียงชายชราเดินออกมา

ดูเหมือนชายชราจะมีอายุมาก ถ้าไม่ 80 ก็ 90 ปี แต่การบ่มเพาะของ


เขาไม่ได้แข็งแก่งมากนัก เพียงแค่ระดับ 1 ขั้นแดนสวรรค์เท่านั้น

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ชายชราเดินออกมา ทุกคนพบว่าเขากําลังฉุด
กระชากคนๆนึงออกมาด้วยมือของเขา คนๆนั้นคือชายวัยกลางคน
ชายคนนั้นสวมเครื่ องแบบที่งดงามและเป็ นชายที่รูปร่ างสู ง ผมยาวตรง
ถึงส้นเท้าพริ้ วไหวไปกับสายลม เขาดูสง่างามและดูไม่ธรรมดา

นอกจากนี้ คิ้วที่หนาและดวงตาที่โตของเขาดูหล่อเหลาและกล้าหาญ
เป็ นอย่างมาก อย่างไรก็ตามชายวัยกลางคนผูน้ ้ นั แม้จะดูไม่ธรรมดา แต่
เขากับไร้ซ่ ึงพลังวิญญาณ

ไม่เพียงแต่เขาไม่มีการบ่มเพาะ แม้แต่สภาพจิตใจของเขาดูเหมือนว่าจะ
ยังคลุมเคลือ ในขณะนั้นแม้จะเดินออกมาด้านหน้าของรถม้าแล้ว เขาไม่
แม้แต่จะมองไปยังฝูงชน
ด้วยดวงตาที่หมองคลํ้าและใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิม้ ที่โง่เง่า เขาเคี้ยว
ไก่ยา่ งทั้งสองในมือของเค้าและกลืนมันลงไปราวกับหมาป่ ากลืนอาหาร
เขามีความสุ ขเป็ นอย่างมากเหมือนกับว่าเขาไม่ได้กินอะไรมาเป็ นร้อยปี

"นี่มนั ไม่ถูกต้อง? นี่มนั เรื่ องตลกอะไรกัน? แค่ชายชรากับคนบ้าเนี่ย


นะ..น่าขันนี่หรอที่พวกเขาเรี ยกว่าอาวุธลับ ?"

" ที่จริ ง มันก็แค่มีไว้ทาํ เพื่อให้ผคู ้ นที่หวาดกลัวกันไปเอง บรรพบุรุษ


ราชวงศ์จีคือเรื่ องที่น่าขบขันอย่างแท้จริ ง ฮ่าๆๆ..."
เมื่อพวกเขาตรวจสอบทั้งสองคนที่อยูด่ า้ นหน้ารถม้าอย่างรอบครอบ
หัวใจที่เคยตึงเครี ยดของพวกเขาก็พลันคลายไป พวกเขาเริ่ มที่จะส่ งเสี ยง
หัวเราะอย่างเย้ยหยัน

เนื่องจากพวกเขา มันอาจจะพูดได้วา่ พวกเขาไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามใดๆ


เลยแม้เพียงน้อยนิด ชายชราเป็ นเพียงผูเ้ ชี่ยวชาญแดนสวรรค์ระดับ 1
ผูค้ นมากมาย ณ ที่แห่งนั้นสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย

สําหรับชายวัยกลางคน แม้วา่ เขาจะดูไม่ธรรมดาและดูหล่อเหลา เห็นได้


ชัดว่าเขาเป็ นคนบ้า คนโง่เง่าที่ไม่มีการบ่มเพาะใดๆ คนส่ วนใหญ่ไม่เห็น
เค้าทั้ง 2 คนอยูใ่ นสายตา
"ชายคนนั้นดูคุน้ เคยเป็ นอย่างมาก" อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกคนผ่อน
คลาย ชูเฟิ งกลับไม่สบายใจมากขึ้น

เพราะว่าเมื่อทั้งสองคนปรากฏตัว ชูเฟิ งจดจ่ออยูก่ บั ชายวัยกลางคนอย่าง


เต็มที่ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู ้สึกว่าชายคนนั้นเป็ นคนคุน้ เคยเล็กน้อย

ในเวลาเดียวกัน ผูก้ ่อตั้งมังกรครามยังตรวจสอบชายวัยกลางคนอย่าง


ระมัดระวัง แม้วา่ เขาจะไม่ได้พบสิ่ งระแคะระคายใดๆเลย สายตายของ
เขายังเต็มไปด้วยการระมัดระวังเสมอว่าชายวัยวัยกลางคนนั้นไม่
ธรรมดา

ถันใดนั้นชายชราก็เคลื่อนไหว เขาไม่ได้โจมตีผคู ้ นจากราชวงศ์เจียง แต่


เขายืน่ มือของเขาไปยังชายวัยกลางคนที่อยูถ่ ดั จากเค้า และใช้มือของเค้า
ปัดผมที่ยาวบนหน้าผากไปด้านข้าง

"นี่ไม่ดีแล้ว บรรพบุรุษรี บหยุดชายชราไม่ให้แตะต้องหน้าผากของเค้า"


ทันใดนั้นใบหน้าของชูเฟิ งได้เปลี่ยนแปลงอย่างมากและเขาตะโกนด่า
เสี ยงดัง
เพราะเมื่อผมที่ยาวบนหน้าผากของชายวัยกลางคนถูกปั ดไปด้านข้าง ชู
เฟิ งก็เข้าใจทุกสิ่ ง

บนหน้าผากของชายคนนั้นเขาเห็นรอยแผลเป็ น รอยแผลเป็ นที่เป็ นที่


สดใสคล้ายมีชีวติ และเหมือนกับเปลวเพลิง ชูเฟิ งเคยเห็นแผลเป็ นนั้นมา
ก่อน เขาเห็นมันบนหน้าผากของขอทานคนนั้น

หลังจากตอนนั้นชูเฟิ งเกือบจะถูกฆ่าเพราะเขาสัมผัสกับรอยแผลเป็ นบน


หน้าผากของขอทาน
ในทันที สุ ดท้ายชูเฟิ งก็ได้รู้วา่ ทําไมชายคนนั้นถึงได้ดูคุน้ เคยนัก
เพราะว่าเขาเป็ นขอทานเมื่อตอนนั้น ชายคนที่มอบชูเฟิ งให้กบั ตระกูลชู
และสัง่ ชูหยวนว่าเขาต้องเลี้ยงดูชูเฟิ ง

ชูเฟิ งต้องการที่จะพบเขาอีกครั้ง เพราะแม้วา่ เขาจะรู ้วา่ ภายในใจของเขา


สับสน หลังจากทั้งหมด ชายคนนั้นเป็ นเพียงความหวังเดียวของเค้าใน
การที่จะรู ้วา่ เขามาจากไหน
แต่ตอนนี้ได้พบเขาอีกครั้ง ชูเฟิ งไม่ได้รู้สึกมีความสุ ขเลย เขามีความกลัว
ที่ไม่สิ้นสุด เพราะเขาได้รู้วธิ ีการที่น่ากลัวของชายหลังนั้นหลังจากที่เขา
โกรธ ถ้าอารมณ์โกรธของเค้าประทุ เป็ นไปได้วา่ ทั้งราชวงศ์เจียงอาจจะ
ราบเป็ นหน้ากอง

"หยุด!" แม้วา่ เขาจะไม่รู้วา่ ทําไมชูเฟิ งถึงได้กงั วล ผูก้ ่อตั้งมังกรคราม


ยังคงรู ้ถึงบางอย่างที่ผดิ ปกติ ดังนั้นเขาจึงระเบิดเสี ยงตะโกน และทันใด
นั้นพลังอันคุม้ คลัง่ ก็ได้หอ้ มล้อมออกมา ด้วยความเร็ วที่เหมือนกับแสง
มันกดไปที่ชายชราและชายวัยกลางคน

การโจมตีของผูก้ ่อตั้งมังกรครามไม่เพียงแค่หยุดการกระทําของชายชรา
มันได้ทาํ ลายชายชราและชายวัยกลางคนอย่างสมบูรณ์รวมถึงรถม้าด้วย
*บูม*

อาจจะกล่าวได้วา่ ความแข็งแกร่ งของผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้านั้นทรงพลังอย่าง


มาก เกือบจะอยูใ่ นช่วงเวลาที่ฝ่ามือของชายชรากําลังจะไปสัมผัส
แผลเป็ นที่หน้าผากของมนุษย์ การโจมตีของเขาก็มาถึง

หลังจากการระเบิดอันรุ นแรง พื้นที่บริ เวณรถม้ากลายเป็ นสับสนวุย่ วาย


ในทันที แต่ละพื้นที่ของระลอกผืนป่ าพุง่ พล่านอย่างต่อเนื่อง
ไม่เพียงแค่น้ นั มันยังทําให้เกิดรอยแยกมากมายในอากาศ แม้แต่
โครงสร้างบนพื้นดินยังถูกทําลายอย่างต่อเนื่องจากผลกระทบที่ได้รับ
การโจมตีของผูก้ ่อตั้งมังกรครามรุ นแรงเกินไป แม้แต่คนจากราชวงศ์
เจียงยังถูกลากโดยพลังนั้นและกําลังจะตายภายในนั้น

แต่มนั แสดงให้เห็นถึงความกังวลใจอย่างมากของผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้า เขา


รู ้สึกถึงอันตรายจากชายวัยกลางคน และยังตระหนักดีวา่ การกระทําของ
ชายชรานั้นอันตราย
ดังนั้น นัน่ คือเหตุผลว่าทําไมเขาถึงไม่ย้งั มือในการโจมตีและทําให้ผู ้
บริ สุทธิ์ได้รับอันตราย เพราะในตอนนั้นเขาแค่ตอ้ งการจะหยุดการ
กระทําของชายแก่และกําจัดปั ญหาทั้งสองที่ซ่อนอยู่ เขาไม่ได้พิจารณา
ความปลอดภัยของคนที่อยูภ่ ายใต้รถม้านัน่

*วู~~~~~~~~~*

ในขณะที่ช้ นั คลื่นกําลังแพร่ กระจาย ทันใดนั้นก็เกิดลมพายุกวาดไปทัว่


ลมพายุน้ นั รุ นแรงอย่างมาก มันล้อมรอบไปด้วยระลอกคลื่นที่น่า
หวาดหวัน่
และพายุยงั หายไปอย่างรวดเร็ ว แทบจะในทันที ท้องฟ้าที่ปรากฏรอย
แยกพลันกลับสู่ ความเงียบสงบอีกครั้ง พร้อมกันนั้น ปรากฏภาพบุคคล
เข้ามาในสายตาของฝูงชน

ดวงตาทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยเพลิงแห่งความพิโรธน่าสะพรึ งกลัวเป็ นอย่าง


มาก ความน่าสะพรึ งกลัวภายในส่ วนลึกของจิตใจแพร่ ออกมาจาก
ร่ างกายของเขาอย่างท่วมท้น
"เป็ นไปได้อย่างไร แม้วา่ การโจมตีของเขาจะสามารถฆ่าชายชราได้
สําเร็ จ และแม้กระทัง่ ไม่มีอะไรเหลือจากการฆ่าสัตว์มหึ มาหลายตัว
รวมถึงรถม้า มันยังทําให้ความโกรธของชายคนนี้เพิม่ ขึ้น" ทันใดนั้นชู
เฟิ งขมวดคิว้ แน่นเพราะเขาเคยเห็นวิธีการที่น่าสะพรึ งของชายคนนี้ใน
ยามที่เขาคลัง่ และเขายังเคยได้ยนิ จากชูหยวนถึงวิธีการที่น่าสะพรึ งที่
ชายคนนั้นใช้ลงโทษ

ในทันทีที่ความแข็งแกร่ งของเขาแสดงออกมาอย่างเต็มที่ ในสภาวะจิต


ของเขา พวกเขามีแนวโน้มที่จะเผชิญภัยพิบตั ิ

///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/
งานแปลจาก#Kunakorn Wong

ผลงานจากผู้แปลอีกท่ าน
บทที่ 521 – ราชันย์ของโลก

“ท่านบรรพบุรุษ ท่านสามารถเอาชนะคนผูไ้ ด้หรื อไม่ !?” เมื่อ ชู


เฟิ ง เห็นชายวัยกลางคนผูน้ ้ นั เขาได้หนั ไปที่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า และ
กล่าวถาม

ในขณะนั้น ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ก็จอ้ งมองไปยังชายคนนั้น


พลางขมวดคิว้ แน่น เพียงเวลาไม่นาน เขาก็กล่าวออกมาอย่างจนปั ญญา
ว่า “ชายคนาแข็งแกร่ งมาก ความแข็งแกร่ งของเขาเกินกว่าข้ามมก ข้าไม่
อาจเอาชนะชายผูน้ ้ ีได้”

“อะไรนะ !! แม้แต่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้


!!”

“ถ้าเขาแข็งแกร่ งกว่า ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า เขามีพลังขนาดไหน


กัน !?”
“อาจเป็ นไปได้วา่ ชายผูน้ ้ ี เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักรจ้าวแห่ง
สงคราม” เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ใบหน้าของทุก
คนในบริ เวณนั้น ต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

แม้วา่ ทุกคนต่างรู ้สึกว่าชายผูน้ ้ ีน่ากลัว แต่ดว้ ยทุกคนไม่สามารถ


สัมผัสได้ถึงอันตรายที่ปลดปล่อยมาจากตัวของเขา อีกทั้งพวกเขายังอยู่
กับ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า พวกเขาจึงไม่มีความวิตกกังวลแต่อย่างใด

แต่เมื่อพวกเขาได้ยนิ คํากล่าวของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ที่บอกว่า


ตัวเองไม่สามารถเอาชนะชายผูน้ ้ นั ได้ ความกลัวจึงเข้าครอบคลุมจิตใจ
ของทุกคน เพราะถ้าแม้แต่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ยังไม่อาจเอาชนะได้
นั้น ภัยพิบตั ิยอ่ มเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

***** ฮูว้ ววววววววว *****


ในขณะนั้น เสี ยงดังสะท้านหู ก็ดงั ขึ้นมาใยอากาศ มันไม่เสี ยง
คํารามแต่อย่างใด แต่มนั คือเสี ยงของกระแสลม

ในขณะนั้น ชายวัยกลางคนที่ยนื อยูบ่ นอากาศ ก็ปลดปล่อยพลังสี


ขาวออกมา จากนั้นพลังเหล่านั้นก็หมุนควงจนทําให้เกิดกระแสลมอย่าง
บ้าคลัง่

เมื่อกระแสลมเกิดขึ้นนั้น ทุกอย่าพลันเกิดความโกลาหล ท้องฟ้า


พลันมืดครึ้ ม ทุกอย่างถูกกลืนกลินภายใต้กระแสลมที่บา้ คลัง่

ในขณะนั้น เสื้ อผ้าของชายคนนั้นสะบัดไปมา ผมของเขาปลิวไสว


ไปตามสายลม ท้องฟ้าที่เคยสดใสพลันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว
ในที่สุดเขาก็กล่าวออกมา เสี ยงของเขาดังสนัน่ ราวกับเสี ยงของ
ฟ้าผ่า “ผูใ้ ดคล้อยตามข้า จักรุ่ งเรื อง !!”

“ผูใ้ ดต่อต้านข้า จักพินาศ !!”

“ฆ่าาาาาาา ~~~~~~~~~~~ !!”

เมื่อสิ้ นสุ ดคํากล่าวของชายผูน้ ้ นั แผ่นดินพลันสัน่ ไหว ท้องฟ้า


แปรปรวนราวกับจะพังทลายลง

ในเวลานั้น ท้องฟ้าพลันบิดเบี้ยว สิ่ งเดียวที่ยงั คงชัดเจนคือชายผูน้ ้ นั


กับจิตสังหารที่รุนแรงของเขา
“สวรรค์ !! บนโลกนี้มีคนที่แข็งแกร่ งขนาดนี้ดว้ ยรึ !!”

“คนผูน้ ้ ีแข็งแกร่ งเกินไป เขาเป็ นใครกันแน่ !!”

เมื่อทุกสิ่ งที่เกิดขึ้นรุ นแรงขึ้น ความกลัว และความวิตกกังวลของ


ทุกคนก็พงุ่ ทะยานสู่ จุดสู งสุ ด ทั้งแผ่นดิน และท้องฟ้าต่างสัน่ สะเทือน
พวกเขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน

สิ่ งที่เกิดขึ้นล้วนเกินจากความเข้าใจของทุกคน มันเป็ น


ความสามารถที่เกินขอบเขตของมนุษย์ มันราวกับเป็ นพลังของพระเจ้า

แม้วา่ ชายผูน้ ้ นั จะไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด แต่ความสิ้ นหวังกลับกัด


กินหัวใจของทุกคนอย่างรุ นแรง พวกเขาไม่มีแม้แต่หนทางที่จะหลีกหนี
ราวกับโลกทั้งใบกําลังจะพังทลาย และพวกเขาทําได้เพียงยืนรอความ
พินาศเท่านั้น
“ความแข็งแกร่ งของชายผูน้ ้ ีไม่ได้มีเพียงขั้นเทพสงครามธรรมดา
เท่านั้น เขาน่าจะมีพลังขั้นราชันย์เทพสงคราม”

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่า หลังจากที่ขา้ ฟื้ นขึ้นมา จะได้พบกับผูเ้ ชี่ยวชาญ


ผูน้ ้ ี ข้าไม่เสี ยใจเลยหากข้าต้องตาย” ในขณะนั้น ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า
ที่ขมวดคิ้วแน่น ก็คลายคิ้วของเขาออก ใบหน้าของเขากลับมานิ่งสงบ
มันเป็ นใบหน้าของผูท้ ี่ปล่อยวาง

เขารับรู ้ได้ถึงพลังของชายผูน้ ้ นั และด้วยพลังของเขาในตอนนี้ เมื่อ


ต้องเผชิญหน้ากับชายผูน้ ้ นั เขาก็เปรี ยบได้กบั มดปลวกที่อ่อนแอ แม้
เพียงแค่ลมหายใจของชายผูน้ ้ นั ก็สามารถทําให้เขาหายไปราวกับฝุ่ น
ควันได้อย่างง่ายดาย

ชายผูน้ ้ นั ที่ยนื อยูก่ ลางอากาศเปรี ยบได้ราวกับ ราชันย์ผคู ้ รองโลก


และชีวติ ของพวกเขาก็อยูภ่ ายในกํามือของชายผูน้ ้ นั

“ข้าจะไม่ตายที่นี่ จะไม่ตายด้วยมือของชายผูน้ ้ ี และข้าจะไม่ยอมให้


ทุกคนตายด้วยมือของเขา !!”

ในขณะนั้น ชูเฟิ ง รับรู ้ได้ถึงภัยคุกคามต่อชีวติ ของเขา เขาไม่คิดที่


ยอมตายง่ายๆ เขาจึงพุง่ ทะยานออกไปทางซ้ายของ ชายผูน้ ้ นั

“ชูเฟิ ง ทําอะไร !! กลับมาเร็ วเข้า !!”

ในขณะนั้น ด้วยความแปรปรวนของสภาพแวดล้อม หลายๆ คน


ปลดปล่อยอํานาจพลังวิญญาณออกมาตลอดเวลา ทําให้พวกเขารับรู ้ได้
ถึงการกระทําของ ชูเฟิ ง
การกระทําของ ชูเฟิ ง ทําให้ทุกคนโพล่งออกไปด้วยความวิตก
กังวล เพราะด้วยความแข็งแกร่ งของ ชายผูน้ ้ นั การกระทําของ ชูเฟิ ง
เท่ากับการเดินไปสู่ ความตาย

แต่เมื่อพวกเขาคิดย้อนกลับไปตามคํากล่าวของชายผูน้ ้ นั ซึ่ งไม่ชา้ ก็


เร็ วความตายก็จะมาเยือนพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้อง
กังวล

ในขณะนั้น ชูเฟิ ง พุง่ ทะยานตรงไปยังชายผูน้ ้ นั แต่เขากับถูก


กําแพงลมสะกัดกั้นเอาไว้จนไม่สามารถเข้าถึงตัวของชายผูน้ ้ นั ได้

ดังนั้น เขาจึงตะโกนออกมาอย่างบ้าคลัง่ “ข้าคือ ชูเฟิ ง ท่านนะฆ่า


ข้าเช่นนั้นรึ !!”
ชูเฟิ ง เดิมพันชีวติ ของเขาเอง เพราะเขาเชื่อว่าชายผูน้ น้ มีหน้าที่
ปกป้องเขา เมื่อในครั้งแรกที่เขาพบกับชายผูน้ ้ นั เขาก็คิดว่าชายผูน้ ้ นั จะ
ยังคงหลฝเหลือเศษเสี้ ยวของความทรงจําในภารกิจของตัวเอง และบางที
ชื่อของ ชูเฟิ ง อาจจะทําให้เขานึกออกได้

“ชูเฟิ ง !! ใครคือ ชูเฟิ ง !!”

“เจ้าเป็ นใคร !?” เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของ ชูเฟิ ง นั้น ใบหน้าของ


ชายผูน้ ้ นั ก็วา่ งเปล่า ในขณะที่เขาต้องมองไปยัง ชูเฟิ ง

“อะไรกัน !! เจ้าจําข้าไม่ได้รึ !! เจ้าลืมภาระหน้าที่ที่เจ้าต้องทํา


เช่นนั้นรึ !!” เมื่อเห็นว่าชายผูน้ ้ นั กําลังจมไปกับความคิดของตนเองนั้น
ชูเฟิ ง ก็กล่าวออกไปด้วยนํ้าเสี ยงคาดคั้น ราวกับว่าเขาเป็ นเจ้านายของ
ชายผูน้ ้ นั
“นี่มนั ……..ท่าน !!”

ชูเฟิ ง รู ้สึกโล่งอกอย่างมาก เพราะหลังจากที่ชายผูน้ ้ นั เห็นลักษณะ


ของเขา แววตาที่เต็วไปด้วยจิตสังหารของเขาก็หายไป

พลันบรรยากาศโดยรอบที่แปรปรวนก็สงบลงอย่าสิ้ นเชิง ทําให้ทุก


อย่างกลับสู่ สภาพเดิมอย่างรวดเร็ ว

“นี่…..มันเกิดอะไรขึ้น !?”

หลังจากทุกอย่างสงบลง พวกเขาทุกคนก็สามารถเห็นได้ชดั เจนว่า


ชูเฟิ ง กําลังเข้าไปใกล้กบั ชายผูน้ ้ นั ในขณะที่เขากังคุกเขาลวกับพื้น
อากาศ สองมือกุมศรี ษะของตัวเอง แงะพัมพําออกมาอย่างหวาดกลัว
“ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆ !! อย่าฆ่าข้า ไม่วา่ ท่านต้องการสิ่ งใด ข้าจะทํามัน
อย่าฆ่าข้า !!” ชายผูน้ ้ นั พึมพําออกมา ในขณะที่เขาพบกว่า ชูเฟิ ง กําลัง
ใกล้เข้ามาหาเขา เขาคุกเข่าลง และกล่าวอ้อนวอนออกมา

ในขณะนั้น ทุกคนตะลึงงันไปชัว่ ขณะ เพราะพวดเขากําลังเห็น


ผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ ง ที่สามารถทําทุกอย่างได้ภายในพริ บตานั้น กําลัง
ร้องขอชีวติ ต่อ ชูเฟิ ง

“เป็ นไปได้วา่ ชายผูน้ ้ นั จะรู ้จกั กับ ชูเฟิ ง”

ในขณะนั้น สายตาของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า , จักรพรรดิ์ของ


ราชวงศ์เจียง และคนอื่นๆ กําลังจ้องมอง ชูเฟิ ง พวกเขากําลังคิด
ย้อนกลับไปยังคํากล่าวของ ชูเฟิ ง จึงทําให้พวกสามารถได้ขอ้ สรุ ปอย่าง
หนึ่ง คือ
ผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ งผูน้ ้ ี รู ้จกั ชูเฟิ ง

ReaDMGA#Abhisit
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////
A : ขอทานเก่งขนาดนี้ทาํ ไมถึงได้กลัวชูเฟิ ง อย่างเอาเป็ นเอาตาย
???

B : มันไม่ได้กลัวชูเฟิ ง แต่กลัวคนที่หน้าตาเหมือน ชูเฟิ ง

C : ฝาแฝดอ่ะดิ!!!

B : เดินมาใกล้ๆดิ C

C : จะตบรางวัล ???

B : กูจะตบมืง ให้ควํ้า!!!
บทที่ 522 – ภัยพิบตั ิทางธรรมชาติ

ในขณะนั้น สมาบิกหลายหมื่นคนของราชวงศ์เจียง กําลังแหงน


หน้ามองไปยังท้องฟ้า เพื่อดูเหตุการณ์ที่สุดแสนจะแปลกประหลาด

ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง ลิ้นพวกเขาพากันจุก
ปากแน่น ในขณะที่พวกเขากําลังมองเหตุการณ์ในท้องฟ้า

ชูเฟิ ง เป็ นบุคคลที่น่ากลัวมาก เพราะในตอนนี้ มือเท้าของชายคน


นั้นกําลังสัน่ สะท้านด้วยความหวาดกลัว ในแววตาของเขาเต็มด้วยความ
ลึกลับ ไม่รู้วา่ ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กนั อย่างไรแน่

ในหัวใจของทุกคนต่างเต็มไปด้วยคําถาม ว่าทั้งสองคนรั้นมี
ความสัมพันธ์เช่นไรต่อกัน พวกเขาจึงจ่องมองไปยังท้องฟ้าอย่างใจจด
ใจจ่อ เพื่อค้นหาคําตอบของพวกเขา

“ยกโทษให้ขา้ ด้วย !! ข้ารู ้วา่ ข้าผิด !! ข้าไม่ควรล่วงลํ้าเข้ามายัง


อาณาเขตของท่าน และไม่ควรทําลายความสงบสุ ขของท่าน !!”
“ได้โปรดให้อภัยแก่ขา้ สักครั้ง !! ไม่วา่ ท่านต้องการสิ่ งใดข้าก็จะทํา
มันให้สาํ เร็ จ !!”

ชายคนนั้นกล่าวอ้อนวอนต่อ ชูเฟิ ง ด้วยความหวาดกลัว เขาจะแอบ


มองไปที่ใบหน้าของ ชูเฟิ ง เป็ นครั้งคราว เมื่อเขาเห็นใบหน้าของ ชูเฟิ ง
ร่ างกายของเขายิง่ สัน่ สะท้านด้วยความเสี ยวซ่าน ( ความกลัว )

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเๆง รู ้สึกตกใจอย่างมาก เขาไม่ได้เป็ นคนโง่ เขา


สามารถเชื่อมโยงเหตุการณ์ในตอนนี้ กับคํากล่าวของ ชูหยวน(พ่อบุญ
ธรรม ชูเฟิ ง) ได้อย่างดี เขาจึงคาดเดาบางอย่างได้

ผูช้ ายคนนี้ยอ่ มไม่ใช่สมาชิกตระกูลที่แท้จริ งของเขา แต่เขาน่าจะ


ทําอะไรผิดบางอย่าง จึงถูกคาดโทษเอาไว้
แต่ดว้ ยความแข็งแกร่ งของเขา และด้วยพลังวิญญาณของเขา การ
จะฆ่าเขาทิ้งไปนั้น ย่อมเป็ นเรื่ องน่าเสี ยดาย ดังนั้น เขาจึงได้รับภารกิจใน
การคอยปกป้อง ชูเๆง

และคนที่สามาาถจัดการทุกอย่างเช่นนี้ได้ ในหัวใจของ ชูเฟิ ง คาด


เดาเอาไว้วา่ น่าจะเป็ นพ่อที่แท้จริ งของเขาอย่างแน่นอน

เพราะเมื่อชายคนนี้เห็น ชูเฟิ ง แล้วเขาเกิดความหวาดกลัวนั้น


แท้จริ งแล้วเขาหวาดกลัวต่อบุคคลที่มีลกั ษณะคล้ายกับ ชูเฟิ ง และบุคคล
ที่มีลกั ษณะคล้ายกับ ชูเฟิ ง ก็จะต้องเป็ นพ่อของ ชูเฟิ ง

แต่ในตอนนี้ ชูเฟิ ง ไม่อาจคิดมากไปกว่านี้ เพราะสิ่ งสําคัญตอนนี้


คือเขาจะต้องใบ้ความหวาดกลัวของชายคนนี้ให้เป็ นประโยชน์ เขา
จะต้องควบคุมการกระทําของชายคนนี้
“เจ้าจําภารกิจที่ขา้ มอบให้เจ้าได้รึไม่ !!” ชูเฟิ ง กล่าวถามอย่าง
รวดเร็ ว

“ภารกิจ !!” เมื่อได้ยฝื ิ นดังนั้น ชายคนนั้ยก็ตกตะลึง และหลังนั้น


เพียงชัว่ อึดใจเขาก็กล่าวออกมาว่า “ท่านให้ขา้ ปกป้องเด็กคนหนึ่ง”

“เด็กคนนั้นชื่อว่าอะไร !?” ชูเฟิ ง ถามต่อ

“เขาชื่อ…..เขาชื่อ…..” ใบหน้าของเขาเต็มไปความรนลาน
แววตาครุ่ นคิด เพียงชัว่ ครู่ ราวกับเขา “ยกภูเขาออกจากอก” เขากล่าว
ออกมาอย่ามีความสุ ขว่า “เขาชื่อ ชูเฟิ ง ท่านให้ขา้ ปกป้องเด็กที่ชื่อว่า ชู
เฟิ ง และเขาไม่มีชื่ออื่น หรื อแซ่อื่นๆ”
“แล้วตั้งแต่น้ นั เจ้าได้ปกป้องเด็กคนนั้นหรื อไม่” ชูเฟิ ง ถามอย่าฝ
รวดเร็ ว

“ข้า..ข้า…..” ใบหน้าของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
อีกครั้ง เขาหันไปรอบๆ และหันดลับมามองที่ ชูเฟิ ง อีกครั้ง และกล่าว
อย่างกระวนกระวายว่า “โปรดเมนนา !! โปรดเมตตา !!”

“ฮึ่ม !! เจ้ากล้าที่จะผัดคําสัญญาและไม่ปฏิบตั ิตามภารกิจของพ่อข้า


เจ้าไม่กลัวว่สเขาจะโกรธ แล้วมาฆ่าเจ้าเช่นนั้นรึ ” ชูเฟิ ง กล่าวออกมา
อย่างเย็นชา ถ้าชายคนนี้หวาดกลัว แน่นอนว่าเขาจะต้องเป็ นคนรับใช้
ของ ชูเฟิ ง

“พ่อของท่าน…..เขาอยูไ่ หน !!” ชายคนนั้น กล่าวออกมาขณะที่


มองไปรอบๆ ด้วยใบหน้าตกตะลึง และหันกลับมามองที่ ชูเฟิ ง ด้วย
ความหวาดกลัว
“ข้า ชูเฟิ ง บุคคลที่เจ้าควรปกป้อง !!”

“แต่เจ้ามันบ้าเกินไป เจ้าไม่ได้คอยอยูเ่ คียงข้างข้า เพื่อคอยปกป้อง


ข้า แต่เจ้ากลับไปช่วยศัตรู ของข้าโจมตีขา้ อีก !!” ชูเฟิ ง ตะโกนออกมา
เสี ยงดัง

“ศัตรู !! มันอยูไ่ หน ข้าจะไปฆ่ามัน ฆ่ามัน !!” เมื่อเขาได้ยนิ คําว่า


‘ศัตรู ’ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป แววตาทั้งสองแข็งกร้าว จิตสังหารถูก
ปลดปล่อยออกมาอย่างรุ นแรง แต่ในครั้งนี้ มันไม่ได้มุ่งสู่ ชูเฟิ ง และคน
อื่นๆ

“ตามข้ามา !! ข้าจะพาเจ้าไปฆ่ามัน !!” ชูเฟิ ง กล่าวด้วยนํ้าเสี ยง


บังคับบัญชา
“ตามที่ท่านต้องการ” ชายคนนั้นไม่ได้ปฏิเสธคําสัง่ ของ ชูเฟิ ง เขา
ตอบรับและลุกขึ้นอย่างรวดเร็ ว

จากนั้น เขาปลดปล่อยพลังสี ทองจากหน้าผากของเขาออกมา พลัง


สี ทองดังกล่าวเข้าไปห่อหุม้ ร่ างกายของ ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว จากนั้นมันก็
กลายเป็ นเก้าอี้สีทอง

เก้าอี้สีทองนี้มีความละเอียดอ่อนอย่างมาก มันมีลวดลายของมังกร
และพญาหงษ์เพลิงสลักเป็ นลวดลายบนเก้าอี้น้ นั มันให้ความรู ้สึกที่น่า
ตื่นใจของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ

“ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมสี ทอง !!” ชูเฟิ ง ลอบถอนหายใจ


ด้วยความตกตะลึง เขารู ้วา่ ชายคนนี้แข็งแกร่ งมาก แต่เขาไม่คาดคิดมา
ก่อนว่า ชายคนนี้จะเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ อีกทั้งยังเป็ นถึงผู ้
เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ทอง
ความเชี่ยวชาญในรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณของเขานั้นแข็งแกร่ ง
มาก เพราะเขาสามารถบีบอัดรู ปแบบอํานานพลังวิญญาณ เพื่อสร้างเก้าอี้
ที่ละเอียดอ่อนมากขนาดนี้ออกมาได้

ด้วยความแข็งแกร่ งบองเขานั้น หากเขาไม่ได้เป็ นบ้า ชูเฟิ ง ไม่กล้า


ที่จะจินตนาการเลยใาเขาจะแข็งแกร่ งขนาดไหน

“ฟังคําสัง่ ของข้า หันไปทางทิศใต้” หลังจากที่ลอบถอนหายใจ


แล้วนั้น ชูเฟิ ง ยังคงแสดงออกถึงความเป็ นผูน้ าํ เขากล่าวพร้อมกับชี้ไป
ยัง บรรพบุรุษของราชวงศ์จื่อ และคนอื่นๆ

“ตามที่ท่านต้องการ !!” ชายคนนั้น กล่าฝพร้อมกับหันไปรับๆ


ก่อนที่เขาจะกลายเป็ นลําแสง และพุง่ ตรงไปยังทิศใต้
“เร็ วเข้า !!” ในขณะนั้น ชูเฟิ ง รู ้สึกว่าทิวทัศน์รอบข้างของเขา
กลายเป็ นภาพเบลอ ในขณะที่เขากําลังพุง่ ออกไปด้วสความเร็ ว เขาต้อง
เพ่งไปข้างหน้าอย่างหนัก เพื่อกําหนดทิศทางของการเดินทาง

ในขณะเดียวกันนั้น ทางทิศใต้ทหารของราชวงศ์จี และราชวงศ์


หลิว กําลังเดินทางบนอากาศอยู่

ในขณะที่พวกเขาเดินทางผ่านหลายที่ราบ และหลายหุบเขาไปนั้น

“เกือบดีแล้ว” บรรพบุรุษของราชวงศ์จี กล่าววิเคราะห์ ก่อนจะสัง่


การออกไป “หยุด !!”

ภายใต้คาํ สัง่ ของเขานั้น ทหารจากทั้งสองราชวงศ์ได้หยุดนิ่งอยู่


กลางอากาศอย่างรวดเร็ ว
“อาวุธลับนี่คืออะไร !! ทําไมพวกเราต้องออกมาไกลขนาดนี้ !?”
บรรพบุรุษราชวงศ์กล่าวถามด้วยความสงสัย เพราะเขาอยากรู ้ถึงสิ่ งที่
เรี ยกว่าอาวุธลับนี่

“อาวุธนี่ไม่ใช่สิ่งธรรมดา ท่านคงได้ยนิ เรื่ องที่เกิดขึ้นในตอนเช้า


เมื่อไม่นานนี้ของ ทวีปฮาน ใช่ไหม” บรรพบุรุษของราชวงศ์จี กล่าว
พลางยิม้ บาง

“ท่านหมายถึงลูกไฟที่ตกลงมาจากท้องฟ้า และเข้าปกคลุมภูเขาไป
หลายลูกเช่นนั้นรึ !!” บรรพบุรุษราชวงศ์หลิว กล่าวขณะที่ใบหน้าของ
เขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ ว

มันเป็ นเพราะเขารู ้เรื่ องนี้ดี เขารู ้วา่ ทวีปฮานที่ราชวงศ์จีปกครองนั้น


มีสามนิกายที่ทรงพลังครองครองพื้นที่ของหุบเขาอยู่
และในช่วงเช้าของวันหนึ่ง ได้มีลูกไฟตกลงมาจากท้องฟ้าเข้าสู่ หุบ
เขา จนทําให้สมาชิกของนิกายทั้งสามตายจนหมด

สิ่ งสําคัญที่สุดคือ เปลวไฟที่เกิดขึ้นนั้น ได้เผาทําลายพื้นที่ของป่ า


ไหม้ไปจนหมด มันดูเหมือนว่าพลังของเปลวไฟไม่ธรรมดา และมันยัง
เป็ นอันตรายต่อผูเ้ ชี่ยวชาญอีกด้วย

ไม่เพียงเปลวไฟเหล่านั้นจะกลืนกินพื้นที่ของหุบเขา แต่พ้นื ที่


เหล่านั้นกลับกลายเป็ นพื้นที่ตอ้ งห้ามไป เพราะแม้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญที่
แข็งแกร่ งก็ไม่สามารถก้าวเข้าไปยังเปลวเพลิงนั้นได้ หากพวกเขาเข้าไป
พวกเขาจะกลายเป็ นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็ ว

ด้วยความรุ นแรงของเปลวเพลิงนั้น มันจึงถูกจัดให้เป็ นภัยพิบตั ิทาง


ธรรมชาติ
เมื่อเห็นว่าบรรพบุรุษของราชวงศ์หลิวแสดงใบหน้าแปลกๆ
ออกมานั้น บรรพบุรุษของราชวงศ์จี ก็ยมิ้ บางและกล่าวว่า “อาวุธลับของ
ข้า คือเครื่ องมือในการสร้างภัยพิบตั ิทางธรรมชาติ”

ReadMGA#Abhisit
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////
A : ได้ใจกันไปก่อนเถอะพวกมืง เงาหัวไม่มียงั ไม่รู้ตวั

B : เสี ยดายเนาะ วันนี้เราต้องพักกันไว้เท่านี้ ^^

A : ได้ขอทานมาเป็ นคนรับใช้ ขี้โกงชะมัด!!!

C : เด๋ วมันก็ตาย!!!

A-B : มึงอ่ะจะตาย ชี้ช้ วั พูด เด๋ วจับแม่งขังลืม ปากเสี ยแช่งเบ๊พี่เฟิ ง


บทที่ 523 - นรกบนดิน

“ผูน้ าํ พาหายนะหรื อ เจ้าหมายความว่าอย่างไร” เมื่อได้ยนิ คําพูด


นั้น ทุกคนก็ต่างตกใจ
“โฮ่ ควาหมายมันก็ตรงตัวอยูแ่ ล้ว ว่าภัยพิบตั ิน้ นั ไม่ได้เกิดขึ้นโดย
บังเอิญ นอกจากนี้ ภัยพิบตั ิน้ นั จะถูกสร้างขึ้นที่ราชวงศ์เจียงในตอนนี้.”
บรรพชนราชวงศ์ จี พูด

“สร้างภัยพิบตั ิข้ ึน งั้นหรื อ”

“อะไรนะ ภัยพิบตั ินนั่ เกิดจากฝี มือคนอย่างนั้นเหรอ และผูส้ ร้าง


ภัยพิบตั ินนั่ อยูใ่ นราชรถด้วย” บรรพชนราชวงศ์หลิว พูดขึ้นมา

“ถูกต้อง เจ้าเดาแม่นจริ งๆ.” บรรพชนราชวงศ์ จี ยิม้ แล้วพูดขึ้น

“เป็ นไปได้อย่างไร ถ้านั้นเป็ นความจริ งมันต้องทรงพลังมาก


แน่นอน แล้วเขาต้องเป็ นคนที่อยูใ่ นระดับ เจ้าแห่งสงคราม แล้วคน
ระดับนั้น จะมาฟังคําสัง่ เจ้าได้อย่างไร” บรรพชนราชวงศ์หลิว เกิด
ความสงสัย

“ฮ่าฮ่า เรื่ องนั้นเจ้าไม่ตอ้ งกังวลไป เจ้ารู ้แค่วา่ เขาเป็ นผูย้ ง่ิ ใหญ่
ในโลกนี้ และ อยูใ่ ต้บงั คับบัญชาของข้าก็พอ ราชวงศ์เจียงนั้นคือที่แรกที่
จะใช้ทดสอบ และก็ไม่ใช่ที่สุดท้ายด้วย.”

“ตราบใดที่เขายังอยู่ ราชวงศ์ จีของข้าก็จะไร้เทียมทาน และ


มหาอํานาจอื่นๆก็จะถูกลบหายไป.”

“เริ่ มจากทวีปใกล้ๆ แล้วค่อยไปเริ่ มยึดหมื่นทวีป และสุ ดท้าย


ข้าก็จะบรรลุความต้องการของท่านผูก้ ่อตั้ง และยึดภูมิภาคทะเล
ตะวันออกนี้.”
“ในตอนนั้น ข้าก็จะไม่ได้ปกครองเพียงแค่ ทวีปรุ่ งอรุ ณ แต่จะ
กลายเป็ นผูท้ ี่ปกครองภูมิภาคทะเลตะวันออก ฮ่าฮ่าฮ๋ า” ในตอนนั้น
บรรพชนราชวงศ์จี ก็เงยหน้าขึ้นและหัวเราะสี ยงดัง

เมื่อบรรพชนราชวงศ์หลิงได้ยนิ เขาก็คิดอะไรบางอย่างแล้วพูดว่า “
เป้าหมายต่อไปของเจ้าคงไม่ใช่ราชวงศ์หลิวของข้าใช่หรื อไม่”

“ไม่ตอ้ งกังวล ข้ากับเจ้าเป็ นพันธมิตรกันมาตั้งแต่ รุ่ น พ่อ รุ่ น ปู่


แล้ว.”

“ดังนั้น ข้าจะไม่แตะต้องราชวงศ์หลิวของเจ้า อย่างไรก็ตาม


ราชวงศ์ของเจ้าต้องซื่อสัตย์กบั ข้า” เมื่อเห็นท่าทางของ บรรพชน
ราชวงศ์ หลิว บรรพชน ราชวงศ์ จีกไ็ ด้แต่ยมิ้ อย่างน่ากลัว

และตอนนั้น คิ้วของบรรพชนราชวงศ์หลิวก็กระตุก เขาเข้าใจที่อีก


ฝ่ ายสื้ อ เขาจะไมม่แตะต้องราชวงศ์หลิว แต่ราชวงศ์หลิวจะต้องทําตาม
คําสัง่ ของเขา

แต่ในตอนนั้น ก็มีเสี ยงประหลาดดังมาจากท้องฟ้า มันคล้ายกับเสี ยง


ฟ้าผ่า คล้ายกับเสี ยงคํารามของเสื อ คล้ายกับนํ้าที่ไหลแรง และคล้ายกับ
ขบวนหมื่นอสู รเคลื่อนผ่าน

ในตอนนั้น ทุกคนก็ตื่นตระหนกกับเสี ยงนั้น มันดังมาจากรอบๆคนจาก


ทั้ง 2 ฝ่ าย ทั้งพื้นดิน และท้องฟ้า เหมือนกับโลกนี้กาํ ลังจะล่มสลาย

“บัดซบ นี่มนั อะไรกัน”

ในขณะที่พวกเขาตื่นตระหนก อย่างแรกที่พวกเขาคิดคือหลบหนี แต่มนั


ก็ไร้ประโยชน์ ในขณะที่พวกเขาต้องการเคลื่อนที่ พวกเขาก็พบว่า
ร่ างกายของเขานั้นแข็งราวกับถูกแช่แข็ง นอกจากขยับปากพูดนั้น พวก
เขานั้นไม่สามารถขยับได้แม้แต่กระดิกนิ้ว

*ฮึ่ม*

ทันในนั้นก็มีแสงปรากฏขึ้นแว้บหนึ่งด้านหน้าพวกเขา และ เกิดลมพายุ


กรรโชกมันทําให้ผมของพวกปลิวและปากของพวกเขาบิดเบี้ยวไปตาม
ลม

และเมื่อ ทุกอย่างหยุดลง ใบหน้าของพวกเขานั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง


เพราะมีร่างร่ างหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหน้าเขา

มันเป็ นชายวัยกลางคน ผมสี ดาํ ยาวถึงเท้า เขายืน่ อยูบ่ นอากาศ และนัน่ ทํา
ให้เขาดูเหมือนเทพเจ้าแห่งความตาย
แต่ในตอนนั้น สิ่ งที่ทาํ ให้คนทุกคนกลัวนั้นไม่ใช่ชายคนนั้น แต่เป็ นแสง
สี ทองขนาดยักษ์ที่อยูบ่ นหัวเขา

ในแสงสี ทองนั้นมีเก้าอี้อยู่ และบนเก้าอี้มีชายหนุ่มนัง่ อยู่ ชายหนุ่มคน


นั้นยิม้ และมองลงมายังฝูงชน และหรี่ ตาลงเล็กน้อย ชายหนุ่มคนนั้นคือชู
เฟิ ง

“นัน่ เขา มันเป็ นเขาจริ งหรื อ!!!”

แต่เมื่อเทียบกับฝูงชนแล้ว บรรพชนราชวงศ์ จี นั้นตกใจกว่ามากเขารู ้วา่


บรรยากาศที่เกิดขึ้นจากชายผมดําคนนัน่ มันสามารถทําให้โลกนี้พินาศ
ลงเพราะแรงกดดันได้ แต่แรงกดดันนัน่ ไม่ได้มาจากชูเฟิ ง แต่มนั มาจาก
ชายวัยกลางคน
“เกิดอะไรขึ้น เจ้ารู ้จกั เขาอย่างนั้นหรื อ” บรรพชนราชวงศ์หลิว
เหมือนรู ้สึกอะไรบางอย่างจึงถามขึ้น

“ขะ ขะ เขา เขาคือผูน้ าํ พาหายนะ” บรรพชนราชวงศ์ จี พูดขึ้น


โดยนํ้าเสี ยงตะกุกตะกัก

“อะไรนะ ไหนเจ้าบอกว่าเขาเป็ นอาวุธลับของเจ้าไง” ในตอน


นั้นใบหน้าของบรรพชนราชวงศ์ หลิว ก็บิดเบี้ยวทันที เพราะตอนที่เขา
ไปยัง ทวีปรุ่ งอรุ ณนั้น เขาได้เห็นภูเขาลูกนึงที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง และ
แม้เขาจะได้ใช้พลังทั้งหมดก็ไม่สามารถทําให้มนั ดับได้ เขาจึงรู ้สึกว่ามัน
ต้องเป็ นเปลวเพลิงที่ทรงพลังอย่างมากแน่นอน

และในตอนนี้ ชายคนที่วา่ นั้นกําลังยืนอยูห่ น้าเขา ชายผูท้ ี่สร้างทะเลเพลิง


บนภูเขาลูกนั้น เขาจะไม่กลัวได้อย่างไร ยิง่ เมื่อเขามองขึ้นไปเหนือชาย
คนนั้น มีชูเฟิ งอยู่ มันเป็ นไปได้วา่ ชายคนนั้นมีความเกี่ยวข้องกับชูเฟิ ง
ในตอนนั้นผูค้ นต่างเดากันไม่มีสิ้นสุ ด ทุกคนต่างหวังให้ชายคนนั้นไม่
เกี่ยวข้องอะไรกับชูเฟิ งเลย และทันใดนั้น ชายคนนั้นก็ผขู ้ ้ ึนด้วยนํ้าเสี ยง
เคารพว่า “นายน้อย พวกเขาเป็ นศัตรู ของท่านใช่หรื อไม่”

“อะไรนะ นายนายอย่างนั้นหรื อ นี่ชูเฟิ งเป็ นนายน้อยของชาย


ที่น่าเกรงขามคนนี้อย่างนั้นหรื อ”

“นั้นหมายความว่าเขาเป็ นข้ารับใช้ของชูเฟิ งอย่างนั้นน่ะสิ ”

“สวรรค์ ชูเฟิ งมาจากไหนกันแน่นะ ทําไมเขามีขา้ รับใช้ที่น่า


เกรงขามเพียงนี้” เมื่อได้ยนิ อย่างนั้น ผูค้ นต่างคิดกันไปต่างๆนานา ดัง่
กับโดนไฟช๊อต และนัน่ เพราะพวกเขานั้นรู ้สึกว่าตัวเองกําลังเผชิญหน้า
กับฝันร้าย
“ดูสิที่เจ้าทําสิ เจ้าได้พาคนที่น่าเกรงขามอย่างเขามาที่นี่ และ
เจ้าได้พาเขามาที่นี่เพื่อฆ่าพวกเราอย่างนั้นหรื อ” บรรพชนราชวงศ์หลิว
ตะหวาดใส่ บรรพชนราชวงศ์ จี ที่ยนื อยูดา้ นข้างเขา

“เดี๋ยวก่อน จิตใจของเขานั้นไม่ค่อยชัดเจน และ โดยปกติแล้ว


เขานั้นมีปัญหาบางอย่าง ดังนั้นเป็ นเหตุผลที่ทาํ ไมข้าถึงควบคุมเขาได้.”

“และเจ้าชูเฟิ งนี่ เป็ นคนที่มีไหวพริ บเป็ นเลิศ เขาต้องใช้วธิ ี


บางอย่างที่ทาํ ให้ชายคนนั้นเชื่อฟังเขา.”

“แต่ไม่ตอ้ งกลัว ข้ามีวธิ ีที่จะควบคุมเขาอีกครั้ง.” จากนั้น


บรรพชนราชวงศ์ จีกไ็ ด้ส่งข้อความทางจิตไปหาชายวัยกลางคนที่น่า
เกรงขามนัน่ ว่า “บัดซบ อย่าไปฟังคําโกหกของเด็กบัดซบนัน่ ข้าคือ
เจ้านายของเจ้า เจ้าจะช่วยศัตรู ของข้าและโจมตีขา้ อย่างนั้นหรื อ”
ในตอนนั้น บรรพชน จี ก็ได้พดู โกหกในขณะที่เปิ ดตากว้าง เขาไม่รู้วา่
ทําไมเขาไม่สามารถควบคุมชายคนนั้นได้อย่างสมบูรณ์ และเขาก็ไม่เชื่อ
ว่าชายคนนั้นจะมีความเกี่ยวข้องใดๆกับชูเฟิ ง

และหลังจากได้ยนิ ชายคนนั้นเรี ยกชูเฟิ งแล้ว เขาจึงเดาสุ่ มว่าชูเฟิ งนั้นใช้


วิธีบางอย่างหลอกลวงเขาให้เขาคิดว่าชูเฟิ งเป็ นเจ้านายของเขา.

นัน่ เป็ นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงพูดคํานั้นออกไป เพราะเขาต้องการทําสิ่ งที่


เรี ยกว่า “แมวตาบอดล่าหนู” โดยการลวงให้ชายคนนั้นหันกลับมาอยู่
ฝ่ ายเขา และสู เ้ พื่อเขา

หลังจากได้ยนิ ที่ บรรพชนราชวงศ์ จี พูดคนจากทั้ง2ฝั่งก็หนั ไปยิม้ ให้


กัน และเชื่อว่าเขาจะควบคุมชายคนนั้นได้ และนัน่ จะเป็ นโอกาศที่ทาํ ให้
พวกเขามีชีวติ รอด
อย่างไรก็ตาม สิ่ งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้น้ นั ทําให้พวกเขาตกตะลึงอย่างหนัก

“พวกนี้แหละ ฆ่าพวกมันให้หมด ” ชูเฟิ ง พูดขึ้น

“น้อมรับคําสัง่ ”

เมื่อได้ยนิ คําพูดของชูเฟิ ง ใบหน้าของชายคนนั้นก็เปลี่ยนเป็ นเย็นชา


และในดวงตาของเขาเกิดประกายไฟแว้บนึง แล้วก็ตูม ด้วยสิ่ งนั้น ทําให้
พื้นดินข้างล่างนั้นเต็มไปด้วยเปลวไฟ ดัง่ กับนรกบนดิน

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยท่าน#ฮาย
A : ว้าวววว ว้าววว!!!

B : อลังการงานสร้างใช่ไม๊ล่ะ!!!
A : ใกล้จบเรื่ องกับ 3 ราชวงศ์แล้ว เมื่อตระกูลใหญ่จากทวีปอื่นล่ม
สลาย สมบัติพวกนั้นก็ตอ้ งตกเป็ นของพี่เฟิ ง

B : NO NO มันไม่ง่ายแบบนั้น เมื่อมีสมบัติเข้ามาเกี่ยวต้องมีการ
ทําข้อตกลง ว่าใครจะเอาอะไรบ้าง บางคนเอา ยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอด บางคน
เอาโอสถวิญญาณ

บทที่ 524 - ศัตรู ที่ยง่ิ ใหญ่ได้ถูกกําจัดจนสิ้ นซาก

เปลวเพลิงเหล่านี้ดงั่ สัตว์ร้าย มันปกคลุมทั้งท้องฟ้าและพื้นดินในที่น้ นั


และเผาทุกสิ่ งอย่าง

ในตอนนั้น ผูค้ นจากทั้ง2 ราชวงศ์กถ็ ูกกลืนกินด้วยเปลวเพลิงนี้ พวก


เขาถูกเผาจนกลายเป็ นขี้เถ้าและไม่เหลืออะไรเหลือทิ้งไวเลย

“แข็งแกร่ งจริ งๆ ทะเลเพลิงนี่ถูกปล่อยออกมาโดยเขา” ชูเฟิ ง


พึมพํากับตนเอง
แม้วา่ เขาจะอยูใ่ นรู ปแบบวิญญาณระดับทอง และ ไม่ได้รับผลอะไรจาก
เพลิงนัน่ เลย แต่เมื่อเขาเห็นบรรยากาศนัน่ เขาก็รู้สึกถึงความน่ากลัวของ
เพลิงนัน่ ทันที และเพลิงนันน้ มันทําให้เขาคิดถึงทะเลเพลิง 2 ที่ใน
อาณาจักรมังกรฟ้า

1 คือในทะเลทรายที่อา้ งว้าง และอีกที่หนึ่งคือ สํานักดอกพลัม ทะเล


เพลิงทั้ง 2 ที่น้ นั รุ นแรงมาก และผูฝ้ ึ กตนไม่สามารถทําให้มนั ดับได้ ทั้ง
2 จึงกลายเป็ นพื้นที่ตอ้ งห้าม

ในตอนนี้ ชูเฟิ งได้รู้แล้วว่าเปลวเพลิงนั้นเกิดจากฝี มือคน และเป็ นไปได้


ว่าพวกมันจะเกิดจากชายตรงหน้าเขา

ย้อนกลับไปเขาได้แค่เดา แต่ตอนนี้เขาสามารถยืนยันได้วา่ มันคือความ


จริ ง
“ไอ้หยา ช่างน่าเสี ยดายเหลือเกิน พลังงานระดับอาณาจักร
สวรรค์จาํ นวนมากเชียวนะ และยังมี 2 คนที่อยูใ่ นระดับ 9 อาณาจักร
สวรรค์อีก อย่างน้อยก็น่าจะนําศพพวกเขาออกมาให้ขา้ ได้กลัน่ พลังงาน
ของพวกเขาสักหน่อย”

ในตอนนั้น ต้านต้าน ก็บ่นเสี ยงดันด้วยใบหน้าที่เศร้า ถึงแม้วา่ พลังระดับ


อาณาจักรสวรรค์จะไม่ช่วยให้เธอทะลวงผ่านได้ในตอนนี้ แต่พวกมันก็
ช่างล่อใจซะเหลือเกิน

ในตอนนั้น ชูเฟิ งยิม้ อย่างขมขื่น อย่างไรก็ตามเพราะนี่เป็ นคําสัง่ ของเขา


เขาจึงทําอะไรไม่ได้ และเพราะชูเฟิ งนั้นไม่สามารถควบคุมหลายๆอย่าง
ได้เช่น ความรุ นแรงจากพลัง ของชายคนนี้

แต่ ชูเฟิ งก็ไม่ได้กงั วลถึงการสู ญเสี ยเล็กๆนี้ เขารู ้สึกเพียงว่าตราบเท่าที่


เขาสามารถคุมคนคนนี้ต่อไปได้น้ นั ก็เพียงพอแล้ว

นัง่ เพราะ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าได้บอกไว้วา่ เขานั้นไม่เพียงระดับ เจ้า


แห่งสงคราม แต่เขานั้นอยูใ่ นระดับ ราชันย์แห่งสงคราม

ตราบเท่าที่ชูเฟิ งนั้นมี ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับราชันย์สงครามคอยรับใช้อยูข่ า้ ง


เขา นัน่ ทําให้ชูเฟิ งรู ้สึกปลอดภัยโดยที่ไม่เคยรู ้สึกมาก่อน

“เพลิงพวกนี้ช่างน่าเกรงขามจริ งๆ และ มันอาจจะรุ กรามไปยังผู ้


บริ สุทธิ์ เจ้าสามารถตรึ งพวกมันไว้ได้หรื อไม่” ชูเฟิ งถาม

“เปลวเพลิงเหล่านี้มาจากร่ างกายของข้า พวกมันจะเกิดและดับ


ตามความต้องการของข้า ถ้าข้าต้องการให้หายไป มันก็จะหายไป.”
ชายที่น่าเกรงขามนี้ จ้องไปที่เปลวไฟสักพักมันก็หายไป

แต่เมื่อจ้องไปที่ดินนั้น ทุกสิ่ งบนพื้นดินถูกเผาราบเป็ นหน้ากอง ราวกับ


โลกนี้เป็ นสี ดาํ และยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่ นัน่ ทําให้อากาศแถวนั้น
แปรปรวนเล็กน้อย

หลังจากนั้นชูเฟิ ง ก็ไม่ได้รีบกลับไปยังราชวงศ์เจียง นัน่ เพราะอันตราย


นั้นได้หายไปหมดแล้ว ทางราชันย์วานรและผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า และ
ราชวงศ์เจียงนั้น น่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว

นัน่ เพราะด้วยความที่จิตใจของชายคนนี้ไม่มนั่ คง ชูเฟิ งจึงต้องควบคุม


และทําความเข้าใจเกี่ยวกับเขา

และด้วยวิธีการบางอย่าง ชูเฟิ งจึงเริ่ มถามคําถาม เขาหวังว่าชายคนนี้จะรู ้


บางอย่างเกี่ยวกับตัวเขาบ้าง

แต่เขาก็ไม่รู้อะไรเลย ราวกับความทรงจําของเขาถูกผนึกเอาไว้ และเขา


ยังไม่รู้กระทัง่ ชื่อของตน เขามาจากที่ไหน แม้กระทัง่ เรื่ องของชูเฟิ ง เขา
ก็ไม่สามารถตอบได้เลย

เขาจําได้แค่วา่ เขานั้นต้องทําหน้าที่คอยปกป้องชูเฟิ ง ถ้าเกิดสิ่ งใดขึ้นกับ


ชูเฟิ ง หายนะจะมาถึงเขาแน่นอน

เมื่อชูเฟิ งถามลึกลงไป อาการของชายคนนั้นก็เริ่ มหลอน และเริ่ มที่จะ


สู ญเสี ยการควบคุมไปอีกครั้ง นอกจากนี้เขายังเสี ยง พลังของเขาและ
กลับกลายไปเป็ นคนบ้า และจําไม่ได้แม้กระทัง่ ชูเฟิ ง

ในตอนแรกชูเฟิ งก็เป็ นกังวลเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร


เพราะเขารู ้สึกว่าชายคนนั้นจะมีวธิ ีการบางอย่างที่จะฟื้ นพลังของตัวเอง
อยู่

ด้วยการทําอะไรบางอย่างกับแผลเป็ นของเขา เพราะนัน่ เป็ นจุดอ่อนของ


เขา เมื่อเขาจับไปที่มนั มันจะช่วยฟื้ นพลังของชายคนนั้นขึ้นมา

และนัน่ ก็เป็ นความจริ งเมื่อชูเฟิ งไปจับแผลเป็ นของเขาความแข็งแกร่ ง


ของเขาก็กลับคืนมา นอกจากนี้เขายังโกรธจัดและจําชูเฟิ งไม่ได้อีกด้วย

แต่โชคดี ชูเฟิ งนั้นจับจุดอ่อนของชายคนนั้นไว้แล้ว เขาทําให้ชายคนนั้น


ยอมศิโรราบต่อเขาอีกครั้ง แต่เมื่อชูเฟิ งถามอะไรที่เกี่ยวกับพ่อของเขา
ชายคนนั้นก็จะหวาดกลัวอีก ชูเฟิ งจึงเลิกถาม

เขารู ้วา่ เรื่ องชายคนนั้น เขาไม่ควรเร่ งมัน ถ้าเขาต้องการจะรู ้เขาควรจะ


ค่อยๆเป็ นค่อยๆไปและเขาจะค่อยๆรู ้เอง จากที่เขาเข้าใจนัน่ จะทําให้
ความทรงจําของชายคนนั้นค่อยๆคืนกลับมา
หลังจากนั้น เขาก็รู้สึกว่าเขาสามารถควบคุมชายคนนี้ได้แล้ว และทําให้
ชายคนนี้ไม่ไปฆ่าคนบริ สุทธิ์อีกด้วย ชูเฟิ งจึงพาคนนี้กลับไปยังราชวงศ์
เจียง

ปัจจุบนั คนของราชวงศ์เจียงนั้นยังจมอยูใ่ นความกลัว มันเป็ นเพราะว่า


สิ่ งที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนกับฝันร้ายของพวกเขา

มันทําให้พวกเขารู ้สึกว่าทุกสิ่ งนั้นไม่เป็ นความจริ ง และอย่างยิง่ เมื่อ มี


คนที่แข็งแกร่ งสุ ดๆ ปรากฏขึ้นในทวีปเก้าอาณาจักร และยอมทําตามชู
เฟิ ง เหมือนกับเป็ นข้ารับใช้ของเขา

ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้เขาก็ยงั คงทําใจเชื่อไม่ได้ และ นัน่ ก็ทาํ ให้เขาไม่


เชื่อว่าอันตรายเหล่านั้นได้หายไปหมดแล้วหรื อไม่
ดังนั้นในเวลานั้นเขาก็ได้แต่รอคอยคนคนหนึ่ง และ คนคนนั้นคือชูเฟิ ง
เพราะชูเฟิ งนั้นคนสําคัญที่จะชี้วา่ ราชวงศ์เจียงนั้นปลอดภัยหรื อยัง ชูเฟิ ง
จะเป็ นคนนําคําตอบมาให้พวกเขา

“ดูนน่ั ชูเฟิ งกลับมาแล้ว”

“จริ งด้วย ชูเฟิ งกลับมาแล้ว นายท่าน ชูเฟิ งกลับมาแล้ว” ทันใด


นั้น ก็มีเสี ยงคนคนหนึ่งตะโกนดังขึ้นมา

ในตอนนั้น คนที่อยูใ่ นระดับอาณาจักรสวรรค์กบ็ ินขึ้นไปยังท้องฟ้า และ


เมื่อเห็นว่าชูเฟิ ง ได้พาชายที่มีใบหน้าซี ดกลับมาด้วย พวกเขาจึงรู ้สึกดีใจ
เป็ นอย่างมาก
“ชูเฟิ ง เป็ นอย่างไรบ้าง”

“ชูเฟิ ง พวกราชวงศ์จี และ ราชวงศ์ หลิวหายไปไหน เจ้าจัดการ


พวกมันไปแล้วหรื อ “ จักรพรรดิ ราชวงศ์เจียงถามขึ้น เขามาพร้อมกับ
เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญ เช่น เจียง เฮิงหยวน

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง จึงได้แต่ยมิ้ และพูดว่า “ บรรพชนราชวงศ์จี และ


ราชวงศ์ หลิว ที่ได้รุกลํ้าเข้ามายังในทวีปเก้าอาณาจักรนั้น ได้หายไปจาก
โลกนี้ตลอดกาลแล้ว และศัตรู ของทวีปเก้าอาณาจักรนั้นจะถูกลบ
ออกไปหมดสิ้ น”

“ชูเฟิ ง เจ้าพูดจริ งหรื อ” ในตอนนั้น คนจากราชวงศ์เจียงก็พดู


ขึ้นด้วยความตกใจ พวกเขาไม่สามารถทําใจเชื่อได้

“ยิง่ กว่าจริ งเสี ยอีก.” ชูเฟิ งพูดยืนยันพร้อมพยักหน้า


“ยอดเยีย่ ม ยอดเยีย่ ม นี่มนั ช่างยอดเยีย่ มจริ งๆ”

ในตอนนั้นความรู ้สึกตื่นเต้น และดีใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ


จักรพรรดิ ราชวงศ์เจียง นอกจากนี้ เขายังพูดว่ายอดเยีย่ ม 3 ครั้งติด
เพราะว่าเขานั้นไม่สามารถควบคุมตัวเขาไม่ให้ตื่นเต้นได้เลย

และคนอื่นๆ นอกเหนือจากเขา ที่รู้เรื่ องนี้กร็ ู ้สึกเช่นเดียวกัน

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยท่าน#ฮาย
บทที่ 525 - ชิงความมัง่ คัง่

“ฮิ้วววว~~~~~~~~~เย้~~~~~~~~~~~”
ในตอนนั้นก็มีเสี ยงดันมาจากคนของราชวงศ์เจียง คนหนุ่มสาวจาก
ราชวงศ์เจียงและแม้แต่คนที่อยูใ่ นวัยกลางคนแล้วก็ส่งเสี ยงที่บ่งบอกว่าดี
ใจมากออกมาเช่นกัน.

โชคชะตาของพวกเขานั้นถูกเปลี่ยน ในตอนแรกพวกเขานั้นคิดว่าพวก
เขานั้นได้เผชิญหน้ากับความตายและพวกเขาคิดว่าพวกเขาต้องตายอย่าง
แน่นอน แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็พบว่าพวกเขารอดแล้ว นัน่ ทําให้พวก
เขารู ้สึกดีใจราวกับได้เกิดใหม่ มันเป็ นเรื่ องยากที่จะกักเก็บความรู ้สึกนี้
ไว้จริ งๆ ในตอนนั้นใบหน้าของพวกเขาบางคนเต็มไปด้วยนํ้าตาแห่ง
ความปิ ติยนิ ดี

ในตอนที่พวกเขาส่ งเสี ยงออกมา มีหลายคนไม่ลืมที่จะมองขึ้นไปบน


ท้องฟ้า มองไปที่จกั รพรรดิ และ เหล่าแม่ทพั เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญของพวก
เขา ที่กาํ ลังยิม้ คุยกับเด็กหนุ่มอยู่
อย่างไรก็ตามพวกเขานั้นไม่ได้พดู อะไรมาก ในใจพวกเขาได้จดจําเด็ก
หนุ่มคนนี้ไว้ในก้นบึงของหัวใจแล้ว ว่าเขาเป็ นชายหนุ่มที่ช่วยราชวงศ์
เจียงไว้

“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนที่จะมาช่วยราชวงศ์เจียงของข้า
ท้ายที่สุดแล้วจะเป็ นเขา.” เจียง ยีห่ นี มองไปที่ชูเฟิ งคนที่คุยกับท่านพ่อ
ของเธออยู่ บนท้องฟ้าดวงตาคู่งามของเธอเกิดความรู ้สึกบางอย่างที่ยาก
ที่จะบรรยายได้

และท่าทางของคนอื่นๆในรุ่ นเยาว์ของราชวงศ์ เจียง นอกจาก เจียง ยีห่ นี


ก็ชดั เจนมากช่นกัน พวกเขานั้นไม่เพียงรู ้สึกขอบคุณชูเฟิ ง แต่ยงั นับถือ
เขาอีกด้วย

แม้แต่หญิงสาวบางคนในราชวงศืเจียงนั้น ดวงตาคู่งามก็พวกเธอก็แสดง
ให้เห็นว่าหัวใจของพวกเธอกําลังหวัน่ ไหว ต่อชูเฟิ งแล้วนัน่ เป็ นเพราะว่า
ความสง่างามและโดดเด่นของเขา
แต่พวกเขาก็ได้ซ่อนความรู ้สึกอย่างหนึ่งไว้ในใจพวกเขานัน่ คือเรื่ อง
เกี่ยวกับพลังของชูเฟิ งที่พวกเขาเห็น แม้วา่ พวกเขานั้นจะได้เกิดใน
สายเลือดที่ไม่ปกติอย่างสายเลือด ราชวงศ์ แต่เด็กหนุ่มที่น่าตกใจ
ตรงหน้าพวกเขานั้น ทําให้พวกเขารู ้สึกว่าพวกเขานั้นยังไม่ดีพอที่จะ
เทียบกับเด็กหนุ่มนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ทาํ ใจยอมรับ และชื่นชมชู
เฟิ งเท่านั้น

“ชูเฟิ ง ข้าขอขอบคุณเจ้าแทนคนจากราชวงศ์ขา้ จริ งๆ.” ใน


ตอนนั้น จักรพรรดิราชวงศ์เจียงก็พดู ขึ้นมา

“ขอบคุณมากชูเฟิ ง ที่ช่วยราชวงศ์เจียงของพวกเราไว้”

ในตอนนั้น ผูเ้ ชี่ยวชาญที่อยูห่ ลังจักรพรรดิราชวงศ์เจียงก็โค้งประสาน


มือทําท่าคารวะชูเฟิ ง และด้านล่าง สมาชิกราชวงศ์เจียงหลายหมื่นคนก็
ล้วนคุกเข่าประสานมือคารวะ เพื่อขอบคุณชูเฟิ งเช่นกัน

ถ้าเป็ นเมื่อก่อน แม้ชูเฟิ งจะช่วยเหลือราชวงศ์เจียงของพวกเขาไว้ ด้วย


ความหยิง่ ในศักดิ์ศรี ของพวกเขาพวกเขาไม่มีวนั โค้งคํานับหรื อว่าคุกเข่า
ให้กบั ชูเฟิ งเด็ดขาด

แต่ตอนนี้น้ นั ต่างไป เพราะมีเรื่ องคววามสัมพันธ์ของชูเฟิ ง และ ชายที่น่า


เกรงขามนัน่ ที่พวกเขาได้ยนิ ได้เห็นและได้รับรู ้มา

เบื้องหลังของชูเฟิ งตอนนี้ไม่ธรรมดาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขามีโล่ที่


แข็งแกร่ งมากอยูเ่ บื้อหลังเขา พ่อของเขาต้องเป็ นคนที่แข็งแกร่ งมาก
อย่างแน่นอน ขนาดชายที่น่าเกรงขามที่เป็ นข้ารับใช้เขายังขนาดนี้แล้ว
พ่อของเขาล่ะจะขนาดไหน

ด้วยพลังของชายที่น่าเกรงขามนัน่ สามารถทําลายสวรรค์และโลกได้ นี่


คือความน่ากลัวของเขา และเมื่อเขาประกาศตนสนับสนุนชูเฟิ ง ทําให้
ราชวงศ์เจียงไม่กล้าหยาบคายกับเขาและชูเฟิ ง

“อ๊า พวกท่านอย่างทําแบบนี้เลย ผูอ้ าวุโสรี บลุกขึ้นเถิด “ เมื่อ


เห็นเช่นนั้นชูเฟิ งก็อายยเป็ นอย่างมาก เขารี บหยุดพวกเขาและพูดกับ
จักรพรรดิราชวงศ์เจียงต่อ “ ข้าชูเฟิ งเป็ นคนจากทวีปเก้าอาณาจักร และ
การช่วยไล่ศตั รู ออกจากทวีปเก้าอาณาจักรนั้นเป็ นหน้าที่อยู๋แล้ว”

“และอีกเรื่ องคือ ข้านั้นมีความสัมพันธ์ที่ดี กับลูกสาวและลูก


ชายท่าน ด้วยเหตุผลนั้นมันจึงจําเป็ นที่ขา้ ต้องทําเช่นนี้.”

เมื่อเห็นชูเฟิ งพูดอย่างนี้ จักรพรรดิราชวงศ์เจียงก็ไม่รอช้ารี บชวน ชูเฟิ ง


ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า และคนอื่นๆ เข้าไปในราชวงศ์เจียง เพื่อพักผ่อน
ทันที
อุปสรรคของราชวงศ์เจียงได้สลายหายไปแล้ว และชูเฟิ งก็ได้กลายเป็ นฮี
โร่ ที่มาช่วยราชวงศ์เจียงไว้

แต่เรื่ องก็ไม่ได้จบเพียงนั้น หลังจากนั้น ราชวงศ์เจียงก็ได้เรี ยก


ผูเ้ ชี่ยวชาญมาและประชุมฉุกเฉิ น

เขาเรี ยกประชุมไม่เพียงแต่ประชุมกับผูเ้ ชี่ยวชาญของราชวงศ์เจียงเท่านั้น


แต่รวมไปถึง ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ราชันย์ลิง ชูเฟิ ง และ แม้แต่ ชาย
ลึกลับก็มาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ชายลึกลับคนนั้นที่คาํ ว่าน่าเกรงขามไม่เพียงพอต่อเขา


ในตอนนี้เขานัง่ ข้างชูเฟิ ง และกัดไปที่ขาหมูคาํ ใหญ่และหิ นอย่างมูมมาม
เมื่อเห็นอย่างนั้นก็ดูไม่น่าเกรงขามเลย เขาในตอนนี้อาจบอกนิยามด้วย
คําว่า”บ้า” แล้วก็”นักกิน” มากกว่า
“ผูอ้ าวุโสมังกรฟ้า ชูเฟิ ง.”

“ราชวงศ์หลิว จ้าว และ จือ นั้น อาจพูดได้วา่ พวกเขาได้เคลื่อน


กองทัพแข็งแกร่ งที่สุดของพวกเขามาโจมตีราชวงศ์เจียงของข้า.”

“ดังนั้นในตอนนี้ อํานาจของพวกเขานั้นใกล้ล่มสลายแล้ว อาจ


พูดได้วา่ ราชวงศ์ท้ งั 3 นั้นคล้ายกับเมืองใกล้ร้างและอาจแตกเมื่อถูกบุก
เพียงครั้งเดียว”

“พูดตามตรง ข้าไม่ได้สนใจทวีปที่พวกเขาปกครองอยู่ แต่วา่


ราชวงศ์ท้ งั 3นั้นมายังด้านตะวันออกของโลกพร้อมๆกับพวกข้า และ
นัน่ เป็ นเวลาผ่านไปหลายพันปี มาแล้ว พวกเขานั้นต้องมีทรัพยากรและ
ทรัพย์สินอยูไ่ ม่นอ้ ยอย่างแน่นอน.”

“ถ้านําทรัพย์สินของพวกเขาทั้งหมดมาขาย น่าจะได้ไม่ต่อกว่า
3 แสนลูกแก้วสวรรค์อย่างแน่นอน ข้าเชื่อว่าพวกท่านทุกคนต้องสนใจ
ลูกแก้ว3แสนนัน่ สิ นะ.”

“ดังนั้นพวกเราจึงต้องใช้โอกาสนี้ แบ่งออกเป็ น 3 กลุ่มแล้ว


โจมตีท้ งั 3 ราชวงศ์และ ยึดมาให้หมด.”

“และที่ขา้ ต้องการพูดก็คือ ราชวงศ์เจียงของข้านั้นอยูร่ อดมาได้ก็


เพราะชูเฟิ ง ดังนั้นข้าจึงไม่ขอรับทรัพย์สินใดๆจากการโจมตีครั้งนี้เลย
ข้าขอยกให้ชูเฟิ ง และผูอ้ าวุโสมังกรฟ้าทั้งหมด.” จักรพรรดิราชวงศ์เจียง
ยิม้ แล้วพูดออกมา

“ท่าน นัน่ ไม่ถูกต้องหรอกนะ ในตอนนี้ราชวงศ์เจียงของท่าน


ได้รับความเสี ยหายมากที่สุด ดังนั้นท่านก็จาํ เป็ นจะต้องใช้ทรัพยากรเพื่อ
ทดแทนในสิ่ งที่เสี ยไปเช่นกัน “ ในตอนนั้นชูเฟิ งก็พดู ออกมา เพราะเขา
รู ้สึกไม่ดีถา้ เขารับมันไว้ท้ งั หมด
“ชูเฟิ งพูดถูกแล้ว ข้าขอเสนอเช่นนี้กแ็ ล้วกัน สํานักมังกรฟ้าของ
ข้าจะไปที่ ราชวงศ์จา้ ว ชูเฟิ ง ไปที่ราชวงศ์จี ราชวงศ์ เจียงของท่าน ไปที่
ราชวงศ์ หลิว และต่างฝ่ ายต่างก็เอาทรัพย์สินของราชวงศ์น้ นั ไปเลย.”

“ใครจะได้มากน้อยเท่าไหร่ อยูท่ ี่เจตนาของสวรรค์เท่านั้นเอง .”


ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ยิม้ แล้วพูดขึ้น

“ท่านผูก้ ่อตั้งพูดถูกแล้ว ข้ารู ้สึกว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุด.” ชูเฟิ ง ช่วย


เสริ ม

“ถ้าเป็ นอย่างนั้น ราชวงศ์เจียงของข้าก็ขอเอาตามทีผอู ้ าวุโส


มังกรฟ้า เสนอมาก็แล้วกัน” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น จักรพรรดิราชวงศ์เจียง ก็
พยักหน้า
หลังจากนั้น ราชวงศ์เจียงก็นาํ ทัพไปที่ ราชวงศ์หลิว

ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ก็ไปราชวงศ์ จ้าวด้วยตัวเขาเอง

และชูเฟิ ง เขาไปพร้อมกับชายลึกลับนัน่ และมุ่งหน้าไปยังราชวงศ์ จี

เป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้น้ นั ง่ายมาก พวกเขาไม่ตอ้ งฆ่าาล้าง


ราชวงศ์ท้ งั 3 แต่กไ็ ด้ทรัพย์สินมาทั้งหมด

โดยปราศจากผูเ้ ชี่ยวชาญชั้นสู ง ทรัพย์สิน และ ทรัพยากรคอยสนับสนุน


มันจึงเป็ นเรื่ องยากที่พวกเขาจะรุ่ งเรื องขึ้นมาอีกครั้ง ชูเฟิ งและ คนอื่นๆ
นั้นได้เปิ ดฉากโจมตีศตั รู ของพวกเขา
และทุกอย่างก็เหมือนที่จกั รพรรดิราชวงศ์เจียงคาดเอาไว้ ว่าพวกเขานั้น
ได้ส่งผูเ้ ชี่ยวชาญทั้งหมดออกไปหมดแล้ว ดังนั้นการโจมตีครั้งนี้ก็
เหมือนกับตีเมืองเปล่าๆ

อย่างอะไรก็ตามรู ปแบบป้องกันที่ทรงพลังของพวกเขา ที่ปราศจากการ


สนับสนุนจากผูเ้ ชี่ยวชาญที่ทรงพลัง นั้นก็ไร้ค่า และพลังทลายอย่าง
ง่ายดาย โดยทั้ง3ฝ่ ายของพวกชูเฟิ ง

และสมบัติของทั้ง 3 ราชวงศ์น้ นั เนื่องจากไม่มีใครสามารถป้องกัน


ไหว จึงถูกปล้นไปทั้งหมดอย่างง่ายดาย

มันอาจพูดได้วา่ ศึกครั้งนี้ ทวีปเก้าอาณาจักรนั้น เสี ยผูเ้ ชี่ยวชาญแค่ไม่กี่


คนแต่ผลตอบแทนที่เขาได้รับคืนมานั้นมันคุม้ ค่าเสี ยยิง่ กว่านั้นหลายเท่า

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
A: เป็ นไงล่ะบอกแล้วสมบัติเพียบ

B : ก็บอกแล้วว่าต้องทําข้อตกลง แต่นึกไม่ถึงว่าจะออกมารู ปแบบนี้


ช่างเหอะสมบัติใครจะได้กไ็ ม่เหนเปนไรเลย แค่รู้วา่ พระเอกเราใจกว้าง
แบบนี้กโ็ อเค

C : น่าจะเอาไปให้หมด

A - B : ใครขอความเห็นมืง!!!
บทที่ 526 - รู ปแบบ 18 มังกรทองแผงกาย

ในบรรดาทั้ง 3 กลุ่ม ชูเฟิ งกลับมาเร็ วที่สุด นัน่ เป็ นเพราะเขามีชาย


ลึกลับคอยติดตามและด้วยพลังและความเร็ วของเขา บอกได้เลยว่าหา
เทียบมิได้

และหลังจากนั้นไม่กี่วนั ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าก็กลับมา เพราะเขามี


ทักษะเร้นลับ มังกรฟ้าทะยาน และด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาถึงแม้
มันจะห่างกับชายลึกลับแต่วา่ มันก็นบั ว่าเร็ วมาก
ที่ชา้ ที่สุดคือ คนจากราชวงศ์เจียงที่มี จักรพรรดิคอยนําแล้วตามด้วย
ผูเ้ ชี่ยวชาญ ด้วยพลังและความเร็ วของเขานั้นเป็ นลองทั้ง 2 กลุ่มก่อน
หน้านี้ อยูม่ าก

ทั้ง3กลุ่มนั้นได้เก็บเกี่ยวทรัพสมบัติเหล่านั้นมามากมาย แต่น่าเสี ยดาย


เพราะทรัพสมบัติเหล่านั้นมันมีหลายชนิดเกินไป

ส่ วนที่เป็ นทรัพยากรบ่มเพาะ นั้นมีแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น ส่ วนใหญ่จะ


เป็ น ยอดยุทธภัณฑ์และสมบัติฟุ่มเฟื อยอะไรพวกนี้เสี ยมากกว่า

และชูเฟิ งนั้น ต้องการรี บเข้าไปสู่ ระดับอาณาจักรสวรรค์ จึงเอายอด


ยุทธภัณฑ์ และ สมบัติเหล่านี้ไปแลกกับทรัพยากรบ่มเพาะจาก ราชวงศ์
เจียง และผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า
สําหรับข้อเสนอนั้น ทั้ง2ตอบตกลงทันที แต่พวกเขาไม่ได้เอาอะไรจาก
ชูเฟิ งไปเลย พวกเขามอบทรัพยากรบ่มเพาะทั้งหมดให้กบั ชูเฟิ ง

ในตอนนั้น ชูเฟิ งไม่ได้พดู อะไร เขาได้แต่รู้สึกขอบคุณลึกๆในใจ และ


จดจําเรื่ องที่ท้ งั 2 ได้แสดงกับเขาไว้

ชูเฟิ ง นําทรัพยากรบ่มเพาะและไปซุ่มบ่มเพาะตนเองอย่างลับๆ ในตอน


นั้น ก็มีคนมาหาชูเฟิ ง พวกเขาคือ จาง เทียนยี่ เจียง หวูช่ าง และ เจียง ยี่
หนี

“พี่ชายชูเฟิ ง ข้าไม่ได้เห็นภาพกับตาในวันนั้น แต่ขา้ ได้ยนิ จาก


พี่สาวข้า.”

“ก่อนหน้านี้ ข้ารู ้วา่ ท่านแข็งแกร่ งมาก แต่ขา้ ไม่คิดว่าท่านจะ


แข็งแกร่ งกว่าข้า วันนี้ขา้ รู ้แล้วว่าท่านแข็งแกร่ งกว่าข้า.”
“ในชีวติ ข้าข้าไม่เคยยกย่องใครมาก่อน ท่านเป็ นคนแรกที่ขา้ ยก
ย่อง และข้าก็ตอ้ งขอบคุณท่านที่มาช่วย คนจากราชวงศ์ของข้าหลาย
หมื่นคนไว้ดว้ ย.”

อาการบาดเจ็บของเจียง หวูช่ าง ก็เริ่ มฟื้ นฟูแล้ว และสายตาของเขานั้น


จ้องไปยังชายลึกลับที่อยูด่ า้ นข้างชูเฟิ ง เพราะเขานั้นได้ยนิ เรื่ องเกี่ยวกับ
ชายวัยกลางคนคนนี้มามาก

“น้องชาย หวูช่ าง เจ้าไม่ตอ้ งจําเป็ นต้องสุ ภาพกับพวกเราหรอก “


ชูเฟิ ง ยิม้ แล้วพูด

“ชูเฟิ ง ข้าได้ยนิ มาว่าเจ้าต้องการจะบ่มเพาะเพื่อทะลวงไปยัง


ระดับอาณาจักรสวรรค์ ข้าอยากจะบอกว่าระดับอาณาจักรสวรรค์น้ นั
ไม่ใช่เรื่ องง่ายที่จะทะลวงได้ ในตอนแรกข้านั้นได้ทดลองตั้ง หลาย10
ครั้งกว่าจะทะลวงไปได้สาํ เร็ จ “ เจียง ยีห่ นี พูด

“ถูกต้อง ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง ระดับอาณาจักรสวรรค์น้ นั ทะลวงเข้าไป


ได้ยากมาก เพราะมันมีกาํ แพงขนาดใหญ่ขวางอยู่ กว่าข้าจะทะลวงเข้า
ไปได้ ข้าต้องลองทะลวงไปตั้ง 20 ครั้ง.” จาง เทียนยี่ พูดขึ้น

“พี่ชาย เทียนยี่ ท่านพยายามทะลวงแค่ 20 ครั้งเองหรื อ ข้านั้น


พยายามตั้ง 30 กว่าครั้งกว่าจะสําเร็ จ “ เจียง หวูช่ างพูดขึ้น หลังจากที่
ได้ยนิ จาง เทียนยีพ่ ดู และนัน่ ทําให้เขารู ้สึกตกใจมากเพราะ จาง เทียนยี่
พยายามทะลวงแค่ 20 ครั้ง

เมื่อได้ยนิ คําพูดพวกนั้น ชูเฟิ งก็ได้แค่ยมิ้ เมื่อตอนที่ จื่อ หลิง นั้นอยูข่ า้ ง


เธอ เขาได้เห็นเธอพยายามทะลวงเข้าไปในอาณาจักรสวรรค์

และนัน่ เป็ นเรื่ องที่ยากมาก ขั้นตอนแรกนั้นต้องเตรี ยมตัวให้ พร้อมไม่


เพียงร่ างกายที่อยูใ่ นสภาพสมบูรณ์ แม้แต่จิตใจก็ตอ้ งอยูใ่ นสภาพ
สมบูรณ์เช่นกัน หลังจากนั้น ก็เริ่ มการทะลวง การทะลวงแต่ล่ะครั้งนั้น
กินเวลานานมาก เวลาสั้นๆก็กินเวลาไปหลายวัน ถ้ากินเวลายาวก็เป็ น
เดือน

นอกจากนี้ ถ้าล้มเหลวครั้งหนึ่ง แล้วก็ตอ้ งเสี ย พลังแก่นแท้วญ


ิ ญาณไป
ส่ วนหนึ่ง และมันทําให้ร่างกายบาดเจ็บ และต้องพักให้ร่างกายพร้อม
ก่อนถึงจะเริ่ มดําเนินการทะลวงครั้งต่อไปได้.

การทะลวงไปยังระดับอาณาจักรสวรรค์น้ นั เป็ นเรื่ องยากมาก แม้แต่จื่อ


หลิง ที่มีกายศักดิ์สิทธิ์ เธอก็ตอ้ งพยายามทะลวงทั้งหมด 10 ครั้ง
ด้วยกัน ดังนั้นชูเฟิ งจึงรู ้วา่ สําหรับเขาแล้วสิ่ งกีดขวางนั้นจะใหญ่มากเป็ น
พิเศษ

เขาไม่สามารถพลาดได้เนื่อจาก ถ้าเขาเสี ยพลังไปส่ วนหนึ่งนัน่ เป็ นเรื่ อง


ใหญ่มากเพราะทรัพยากรแต่ละขั้นนั้นไม่ได้นอ้ ยๆเลย
ถ้า เจียงหวูช่ าง และ เจียง ยีห่ นี่ รู ้วา่ การทะลวงขึ้นไปยังระดับอาณาจักร
สวรรค์น้ นั ของเขานั้น ใช้ทรัพยากรมากกว่าที่ ราชวงศ์เจียงเก็บสะสมมา
นับพันปี ทั้ง2นั้นจะรู ้สึกอย่างไร

ชูเฟิ ง พูดคุยกับ เจียง ยีห่ นี เจียง หวูช่ าง และ จาง เทียนยี่ ไปเรื่ อยๆ
ในขณะที่ยา่ งเนื้อกินไปด้วย

ในการพูดคุยนัน่ ชูเฟิ งก็ได้ถามเรื่ องเกี่ยวกับการทะลวงของพวกเขาไป


ด้วย อย่างไรก็ตามชูเฟิ งไม่รู้วา่ ประสบการณ์ของพวกเขานั้นจะช่วยเขา
หรื อไม่ เพราะเขานั้นแตกต่างกับทั้ง 3 อย่างมาก

เขาใช้เวลาหลายวันในการเตรี ยมความพร้อม และฟื้ นฟูร่างกายให้


สมบูรณ์พร้อมที่สุด ชูเฟิ งสัง่ ให้ชายลึกลับไปอยูก่ บั ผูก้ ่อตั้งสํานักก่อน
และเริ่ มที่จะบ่มเพาะ ในพื้นที่พิเศษของราชวงศ์เจียง
ในพื้นที่น้ นั มีเพียงจักรพรรดิ เจ้าชาย เจ้าหญิง และบุคคลที่มีความสําคัญ
ต่อราชวงศ์เจียงเท่านั้นที่สามารถมาใช้ได้

และสถานที่น้ ีมีประวัติยาวนาน มันเป็ นสถานที่ที่วเิ ศษมาก และสถาน


ที่น้ ีถูกเรี ยกว่า รู ปแบบ 18 มังกรทอง

หลังจากชูเฟิ งเข้าไปแล้ว ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ราชันย์วานร จักรพรรดิ


ราชวงศ์เจียง บรรพชนอาวุโสจากราชวงศ์เจียง ที่ฟ้ื นขึ้นมาจาอาการ
บาดเจ็บสาหัสแล้ว ผูเ้ ชี่ยวชาญของราชวงศ์เจียง อย่าง เจียงเฮิงหยวน จาง
เทียนยี่ เจียง หวูช่ าง เจียงยี่ หนี และคนอื่นๆจากรุ่ นเยาว์ของราชวงศ์เจียง
รวมตัวกันที่จุดสู งสุ ดของหอคอย

เพราะพื้นที่น้ นั พวกเขาจะได้เห็น รู ปแบบ18มังกรทอง ที่ชูเฟิ งเข้าไป


บ่มเพาะอย่างชัดเจน
“ข้าเคยได้ยนิ เรื่ องรู ปแบบ 18 มังกรทองของราชวงศ์เจียงนั้นมา
ก่อน อย่างไรก็ตาม ข้าอยากจะรู ้เรื่ องเกี่ยวกันมัน ” ราชันย์วานะ พูดขึ้น
ด้วยความอยากรู ้อยากเห็น

“ผูอ้ าวุโสราชันย์วานร รู ปแบบ 18 มังกรทองของพวกข้านั้น


ถูกสร้างขึ้นโดยทักษะเร้นลับ และมันนั้นเชื่อมต่อกับสายเลือดราชวงศ์
เจียงในด้วข้า.”

“พื้นที่บ่มเพาะนั้นถูกสร้างขึ้นใต้ดิน แต่ถา้ การทะลวงผ่านสําเร็ จ


ก็จะเกิดอะไรบางอย่าบนพื้นผิวดิน โดยเฉพาะการทะลวงผ่านระดับ
อาณาจักรสวรรค์น้ นั จะเกิดเสาแห่งแสง พรุ่ งขึ้นไปบนท้องฟ้าจาก
วงกลมนัน่ ”

“และยิง่ มีเสาแห่งแสงมาก นัน่ หมายความว่าคนนั้น มีพรสวรรค์


และความสามารถมากเพียงใด” พูดถึงจุดนั้น บรรพชนราชวงศ์เจียง ก็
หันไปมองที่ผกู ้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าแล้วยิม้ พูดว่า “ ข้าเคยได้ยนิ มาว่า เมื่อ
ผูอ้ าวุโสมังกรฟ้าทะลวงไปยังระดับอาณาจักรสวรร์ เขาก็อยูใ่ นรู ปแบบ
18 มังกรทอง และมีเสาแห่งแสงปรากฏขึ้นถึง 7 ต้น.”

“แข็งแกร่ งอะไรเพียงนั้น” เมื่อได้ยนิ คําพูดเหล่านั้น สายตาพวก


เขาก็จบั จ้องไปที่ ผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้า เพราะในหมู่พวกเขานั้นมคนที่ได้เข้า
ไปใช้งานรู ปแบบ 18 มังกรทอง จึงรู ้วา่ เสาแห่งแสง 7 ต้นนี่
แข็งแกร่ งขนาดไหน

“โฮ่ มันน่าจะเป็ นแบบนั้นแหละ.” ต่อหน้าสายตาผูค้ น ผูก้ ่อตั้ง


มังกรฟ้าก็ได้แต่ลูบเคราของเขาและ พยักหน้าเบาๆ

“ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าช่างแข็งแกร่ งจริ งๆ แต่กย็ งั ไม่สามารถ


ทําลายสถิติของน้องชายข้าได้ เมื่อตอนที่เขาทะลวงได้ เขาเปิ ดเสาแห่ง
แสงได้ถึง 8 ต้น” เจียง ยีห่ นีพดู
“โอ้ว” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าก็หนั ไปมอง
เจียง หวูช่ าง อย่างช่วยไม่ได้ แต่ความสงสัยของเขาก็ได้กระจ่างในเวลา
ไม่นาน

เขาพบว่า เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา เด็กคนนี้แข็งแกร่ งกว่าเขาเมื่องตอนหนุ่ม


และคนจากรุ่ นเดียวกับเขาไม่มีใครเทียบได้ มีแค่จาง เทียนยีเ่ ท่านั้น ที่
สามารถเทียบเขาได้

“ถ้าอย่างนั้น ทําไมสถานที่ถึงถูกเรี ยกว่า รู ปแบบ 18 มังกร


ทองเล่า” ในตอนนั้น จาง เทียนยี่ ก็ถามด้วยความสงสัย

“โฮ่ นัน่ เป็ นเพราะในตํานานมีคนเคยเปิ ดได้ถึง 18 แสง และ


18 เสานัน่ เหมือนกับมังกรพุง่ ทะยานขึ้นบนท้องฟ้า พวกเขาจึงและ
แสดงพลังอํานาจ.”
“ในตอนนั้น ผลกระทบของมันไม่เพียงแค่น้ นั และพวกมันยัง
ทําให้คนในราชวงศ์เจียงของข้านั้น แข็งแกร่ งขึ้นอีก.”

“อย่างไรก็ตาม นี่เป็ นเพียงตํานานเท่านั้น.” เมื่อพูดถึงจุดนั้น


บรรพชนอาวุโสราชวงศ์เจียง ก็หนั ไปมองที่ เจียงหวูช่ าง พูดว่า “
ในตอนนี้ แค่ 8 เสาก็นบั ว่ามากที่สุดแล้ว ด้วยเหตุผลอย่างนั้น การเปิ ด
ได้18 เสานั้นจะยากเพียงไหน .”
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยท่านHARIDSADA

A : พี่เฟิ งจะเปิ ดเสาได้กี่ตน้

B : ไม่รู้ดิ!!! ตามหลักการก็น่าจะเปิ ดได้ท้ งั หมดล่ะนะ แต่กย็ งั ไม่แน่


แล้วถ้าชูเฟิ งทะลวงผ่านอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้ภายในครั้งเดียว รับรอง
เลยว่าแย่แน่ สมบัติที่มีอยูใ่ นเก้าอาณาจักรมันน้อยไปสําหรับ ชูเฟิ ง จริ งๆ

C : บอกแล้วพี่เฟิ งได้สมบัติท้ งั หมด


A : เออ!!! มึงถูก!!!

B : แต่ตอนนี้ขา้ มเรื่ องสมบัติมานานแล้วนะ มิงจะเอามาพูดทําหอกไร

C : ชิร์!!!
คิดในใจ[ ไอ้พวกเชี้ย กูพดู ไรก็ผดิ ไปหมด ]

บทที่ 527 - มังกรทองทะยานสู่ ฝากฟ้า

“ข้าอยากรู ้จริ งๆว่าชูเฟิ งจะสามารถเปิ ดเสาแห่งแสงได้กี่ตน้ กัน.”


เมื่อได้ยนิ จักรพรรดิราชวงศ์เจียง อธิบาย จาง เทียนยีก่ พ็ ดู ขึ้น

“ด้วยพรสวรรค์ของพี่ชายชูเฟิ ง ข้าคิดว่าเขาต้องก้าวผ่าน 8 เสา


ของข้าไปได้อย่างแน่นอน.” เจียง หวูช่ าง ยิม้ และพูด

“แน่นอนพรสวรรค์ของน้องชายข้า นั้นเหลือเชื่อยิง่ ข้าคิดว่าถ้า


เขาทะลวงผ่านได้ เขาต้องเปิ ดเสาอย่างน้อย 10 ต้นแน่นอน.” ราชันย์
วานร พูดขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิม้ สายตาของเขาจับ
จ้องไปที่ชูเฟิ งเห็นได้ชดั ว่าเขาภูมิใจในตัวชูเฟิ งมาก

“แม้พรสวรรค์ ชูเฟิ งจะไม่ธรรมดา พวกเราก็ไม่ควรที่จะคาด


เดากันเกินไป.”

“ต้องขอโทษด้วยที่ขา้ พูดตรงไป แต่วา่ ระดับอาณาจักรสวรรค์


นั้นไม่ใชเรื่ องง่ายเลยที่จะทะลวงไป และยิง่ นี่คือครั้งแรกของชูเฟิ งที่
พยายามทะลวงด้วย.”

“และโอกาสสําเร็ จในการทะเลวงครั้งแรก นั้นแทบจะเป็ น 0


และอีกอย่างข้ายังไม่เคยได้ยนิ ว่าจะมีใครสามารถทะลวงไปยังระดับ
อาณาจักรสวรรค์ในครั้งแรก.” ในตอนนั้น เจียง เฮิงหยวนก็พดู ขึ้น

หลังจากที่เจียง เฮิงหยวนพูดขึ้น คนที่มีความสัมพันธ์อนั ดีกบั ชูเฟิ งก็


ขมวดคิ้ว และ มองเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจ

อย่างไรก็ตามคําพูดที่เจียง เฮิงหยวนพูดมานั้น แม้จะไม่สุภาพเท่าไหร่


แต่มนั ก็สมเหตุสมผล

ระดับอาณาจักรสวรรค์น้ นั มีกาํ แพงขนาดใหญ่ก้ นั อยู่ ผูค้ นจึงได้พยายาม


หลายครั้งนับไม่ถว้ นในการทะลวงเข้าไปกวาจะสําเร็ จ คนที่สามารถ
ทะลวงเข้าไปได้ในไม่กี่ 10 ครั้งนั้นนับว่าสุ ดยอดมากแล้ว แม้แต่จื่อ
หลิง ที่มีกายศักดิ์สิทธิ์ช่วยก็ยงั ต้องพยายามทะลวงถึง 10 ครั้งกว่าจะ
ทะลวงเข้าไปได้

“เราจะไม่เห็นชูเฟิ งทะลวงเข้าไปยังระดับอาณาจักสวรรค์อย่าง
นั้นหรื อ ข้าเสี ยดายจริ งๆ ข้าต้องการดูเสี ยหน่อยว่าเขานั้นสามารถเปิ ด
เสาได้กี่ตน้ .”ผูเ้ ชี่ยวชาญจากราชวงศ์ เจียงพูดขึ้น
ในความจริ งแล้วคนที่รู้สึกเสี ยดายนั้น ไม่ใช่เพียงเขาแต่ทุกคนก็รู้สึก
เสี ยดายเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครเดินออกจากที่แห่งนนี้ซกั คน
พวกเขายังจับจ้องไปที่รูปแบบ 18 มังกรทองเช่นเดิม

และแล้วเวลาก็ผา่ นไปครึ่ งวัน ตอนที่ชูเฟิ งเข้าไปนั้นมันเป็ นเวลาช่วงบ่าย


แต่ตอนนี้น้ นั ดวงอาทิตย์แทบจะลับขอบฟ้าแล้ว มันบ่งบอกว่าใกล้เข้าสู่
ช่วงเวลากลางคืน

“มันเริ่ มมืดแล้ว ข้าว่าพวกเราทุกคนควรจะไปรับประทานอาหาร


แล้วพักผ่อนกันดีกว่า ถึงแม้วา่ จะเป็ นชูเฟิ ง ก็คงไม่สามารถทะลวงได้เร็ ว
ถึงเพียงนี้หรอก.” ในตอนนั้น จักรพรรดิราชวงศ์เจียง ก็พดู ขึ้น

เขานั้นก็เริ่ มจัดอาหารเพื่อรอต้อนรับผูค้ นแล้ว แต่ในตอนนี้น้ นั ไม่มีใคร


อยากพลาดช่วงที่ชูเฟิ งสามารถทะลวงผ่าน จากต้นจนจบ พวกเขานั้น
อยากจะยืนรอดูเสี ยก่อน
“การทะลวงเข้าไปในระดับอาณาจักรสวรรค์น้ นั ต้องใช้เวลา
ยาวนานมาก แม้ ชูเฟิ งจะสําเร็ จในครั้งแรก แต่ขา้ คิดว่ามันก็น่าจะกิน
เวลาหลายวันทีเดียว.”

“ข้าจะให้คนเฝ้าดูที่นี่ก่อน ถ้าชูเฟิ งทะลวงสําเร็ จแล้ว ข้าจะส่ ง


คนไปเรี ยกทุกคนก็แล้วกัน.” บรรพชนอาวุโส ของราชวงศ์เจียงก็พดู ขึ้น
พร้อมยิม้ เบาๆ

และเมื่อฟังเช่น้ นั แม้ทุกคนจะไม่อยากแต่พวกเขาก็ตอ้ งไปก่อน เพราะที่


จักรพรรดิและบรรพชนราชวงศ์เจียงพูดนั้นเป็ นเรื่ องจริ ง การทะลวงนั้น
ยากมาก ต่อให้เป็ นชูเฟิ งก็ไม่น่าจะสามารถทะลวงได้เร็ วเช่นนั้น ถ้าพวก
เขารอต่อไปอาจเสี ยเวลาเปล่า

*ฮึ่ม ฮึ่ม*
แต่ในตอนนั้นก็มีเสี ยงดังขึ้นมา และปรากฏเป็ นแสงด้านหลังผูค้ น.

พวกเขารี บหันไปดูทนั ที แล้วพวกเขาก็พบว่าต้นตอนั้นมาจากรู ปแบบ


18มังกรทอง มันเริ่ มปรากฏเสาสี ทองพุง่ ตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้ว
ผ่านเมฆขึ้นไป

“เขาทะลวงผ่านแล้วหรื อ” ในตอนนั้นใบหน้าของทุกคนก็ตอ้ ง
เปลี่ยนไปอย่างมากใบหน้าของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความตกใจ

เพราะเสาแห่งแสงนั้น คือสิ่ งที่พวกเขารอคอย มันคือการทะลวงผ่านไป


ยังระดับอาณาจักรสวรรค์ของชูเฟิ ง ที่ทาํ ให้พวกเขาตกใจนั้นเพราะ มัน
ไม่เพียงเป็ นครั้งแรกของเขา แต่มนั ยังกินเวลาไปไม่ถึงวันด้วย

*ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม …*


หลังจากเสาแห่งแสงที่หนาที่สุดพุง่ ขึ้นไปบนท้องฟ้า ก็มีเสาแห่งแสงนับ
10 ต้นปรากฏขึ้นในสายตาของทุกทุกคน

ในตอนนั้นทุกคนก็ตอ้ งตกตะลึงอย่างมาก เพราะในตอนนี้เสาแห่งแสง


นั้น ยังปรากฏขึ้นมาอีก หมายความว่า 10 ต้นก่อนหน้านี้น้ นั ยังไม่
สิ้ นสุ ด

11 > 13 > 15 > 18!!! ในสายตาของพวกเขาตอนนี้น้ นั มีเสา


แห่งแสงทั้ง18ต้นปรากฏขึ้น และพุง่ ไปยังท้องฟ้าในเวลาคํ่าคืน
ระหว่างสวรรค์แล้วก็พ้นื ดิน

“สวรรค์ 18 ต้น เสาแห่งแสง 18 ต้น ชูเฟิ งสามารถเปิ ดเสาได้


ถึง 18 ต้นอย่างนั้นหรื อนี่” พวกเขาต้องใจอย่างมาก โดยเฉพาะคนจาก
ราชวงศ์เจียง พวกเขามองดูเสาแห่งแสงทั้ง 18 ต้นพร้อมตบหน้าตัวเอง
เพื่อดูวา่ ตนฝันไปหรื อไม่

นัน่ เพราะว่าในตํานานของราชวงศ์เจียง มีคนเคยสามารถเปิ ดเสาได้ 18


ต้นและทําให้พลังของราชวงศ์เจียงของพวกเขานั้นเพิ่มสู งขึ้น

และในตอนนี้ ภาพที่ราวกับเป็ นตํานานนั้นก็ปรากฏอยูต่ รงหน้าพวกเขา


นัน่ ทําให้พวกเขารู ้สึกดีใจและทําอะไรไม่ถูก ในตอนนี้น้ นั พวกเขากําลัง
ตกอยุ๋ในภวังค์ท้ งั ๆที่ยงั ไม่ได้นอน

*โฮ่กกกกกกกกกกกกกกกกกก โฮ่กกกกกกก~~~~~~*

แต่ในตอนนั้น ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทาํ ให้ทุกคนช๊อคอีกครั้ง เพราะในเสาทั้ง


18 ต้นนั้นมีเสี ยงมังกรคํารามเกิดขึ้น
และเพราะเสี ยงมังกรคํารามนัน่ ก็ทาํ ให้พวกเขารู ้สึกตัว และพบว่าเสาร์
ทั้ง 18 ต้นนั้นก็เปลี่ยนไป ในตอนแรกนั้นมันพุง่ ตรงแทงขึ้นไปยัง
ท้องฟ้า ในตอนนี้น้ นั พวกมันก็เริ่ มหดตัวอย่างรวดเร็ ว

เมื่อเสาพวกนั้นหดตัวได้ขนาดหนึ่งมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลง และนัน่ ทํา


ให้รูปร่ างของพวกมันเปลี่ยนเป็ นมังกร เสาทั้ง 18 ต้นนั้นได้เปลี่ยนร่ าง
เป็ นมังกรทอง

*กรร โฮก กรร อะวู ้ วีดี วิว้ วว~~~~~~* [T/Nเอาสักเสี ยงเถอะ


พี่]

มังกรทั้ง18นั้น มีแสงสี ทองรุ นแรงอย่างมากราวกับสามารถเผาผลาญ


สิ่ งที่กระทบกับมันได้อย่างง่ายดาย และบรรยากาศรอบๆมันนั้นก็ลว้ น
ไม่ธรรมดาจริ งๆ พวกมันบินอยูบ่ นอากาศ และบินอยูร่ อบๆราชวงศ์เจียง
ในตอนนั้นเป็ นเวลามืดแล้ว และเพราะแสงสี ทองจากมังกรทองพวกนั้น
ก่อให้เกิดแสงสว่างเกิดขึ้นราวกับเป็ นกลางวัน

ในตอนนั้น คนจากราชวงศ์เจียงทุกคนก็ตอ้ งนิ่งเฉย และมองไปที่ 18


มังกรทองบนท้องฟ้า พวกเขารู ้สึกสนใจเป็ นอย่างมาก ในตอนนั้นมีบาง
คนเริ่ มที่คุกเข่าลงแล้ว

เพราะพวกเขารู ้เรื่ องตํานานของราชวงศ์เจียงดี เมื่อเกิด 18 มังกรทอง


บินโลดแล่นอยูบ่ นท้องฟ้า มันเป็ นสัญญาบ่งบอกว่าราชวงศ์เจียงนั้นเกิด
การเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ดีข้ ึน

*ปัง~~~~~~~~~~~*

ในตอนนั้นคนจากราชวงศ์เจียงไม่วา่ จะเป็ นคนที่ยนื อยูห่ รื อคนที่คุกเข่า


อยู่ พวกเขาก็รู้สึกมีความสุ ขราวกับฝันไป มังกรทองทั้ง 18 นั้นได้
คํารามขึ้น และระเบิดกลายเป็ นสะเก็ดละอองสี ทอง ตรงลงมาราวกับฝน
หลังจากเสี ยงระเบิดนัน่

“ทําไมมันถึงเป็ นอย่างนี้กนั ล่ะ” เมื่อเห็นสะเก็ดละออกสี ทองนั้น


รอยอยูเ่ ต็มท้องฟ้า ทุกคนก็ตอ้ งตกใจอย่างหนัก ความรู ้สึกยินดีของพวก
เขานั้นถูกแทนที่ดว้ ยความกลัว เพราะ 18 มังกรทองนั้น ระเบิด
กลายเป็ นผง นัน่ ไม่น่าจะเป็ นสัญญาณที่ดี

“เดี๋ยว รอก่อน!” แต่หลังจาก สะเก็ดละอองสี ทองนั้นลองลงมา


พวกมันก็ไม่ได้ลอยลงสู่ พ้นื แต่เริ่ มลอยเข้าไปในตัวของคนจากราชวงศ์
เจียง

ในตอนนั้น ใบหน้าของคนจากราชวงศ์เปลี่ยนอีกครั้ง มันกลายเป็ นว่า


เกิดความสุ ขและความตื่นเต้นสุ ดจบรรยายเต็มใบหน้าพวกเขา
และในตอนนั้น เลือดในตัวของพวกเขาก็เดือดขึ้นราวกับถูกเผา นัน่
หมายความว่าพลังสายเลือดของพวกเขาถูกเพิ่มพลังขึ้นแล้ว

ตํานานของราชวงศ์เจียงที่เล่าสื บต่อกันมานานนั้นเป็ นเรื่ องจริ ง

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////
A : ....................

B : ....................

C : ....................

B4 : .......................
บทที่ 528 - ความเมตตากรุ ณาอันยิง่ ใหญ่
เมื่อปรากฏการณ์ 18 มังกรทองได้เกิดขึ้น สําหรับราชวงศ์ เจียงแล้ว
มันเป็ นเหมือนดัง่ เช่นในตํานาน พลังของพวกเขาได้เพิ่มขึ้นจริ งๆ

นัน่ ทําให้สมาชิกราชวงศ์เจียงมีความสุ ขมาก เพราะว่าเรื่ องนั้นถือเป็ น


เรื่ องพิเศษสําหรับพวกเขา ไม่เพียงช่วยเรื่ องพลังของพวกเขา แต่รวมไป
ถึงราชวงศ์ เจียงของพวกเขานั้น ได้ถูกยกระดับพลังขึ้นไปอีกขั้นแล้ว

และคนจากราชวงศ์เจียง นั้นก็รู้สึกยินดีมากที่พลังสายเลือดของเขาถูก
เพิ่มพลังขึ้น ในตอนนั้น รู ปแบบ18มังกรทองก็เกิดเหตุการณ์บางอย่าง
ขึ้น

ภายใต้พ้นื ดินนั้น มีสายฟ้าสี ทอง สี ฟ้า และ สี ม่วง วิง่ แล่นไปทัว่ ใน


สถานที่น้ นั พวกมันวิง่ วนไปไม่รู้จบ และในตอนนั้น มันก็ได้กระจาย
กลิ่นอายที่น่าเกรงขามที่สามารถทําลายโลกและสวรรค์ได้
ต่อจากนั้น สายฟ้าทั้ง 3 ก็พงุ่ ไปยังใจกลางของสถานที่ใต้ดินนั้น
นอกจากนี้ มันยังรวมตัวกันเป็ น 1 อย่างรวดเร็ ว

และหลังจากสายฟ้าที่น่ากลัวนั้นหายไป ก็มีร่างร่ างหนึ่งปรากฏขึ้นในใจ


กลางของสถานที่แห่งนั้น เจ้าของร่ างนั้นก็คือชูเฟิ งนัน่ เอง

ในตอนนั้น ภายในตาของเขามีสายฟ้าสามสี ที่รวมตัวกันอยู่ และเมื่อมัน


สงบแล้ว บรรยากาศของชูเฟิ งก็แตกต่างจากเดิม

ระดับ 1 อาณาจักรสวรรค์ ชูเฟิ งประสบความสําเร็ จในการก้าวเข้าสู่


ระดับ 1 อาณาจักรสวรรค์ แต่ใบหน้าของเขานั้นไม่ได้ตื่นเต้นยินดี
อะไรเลย แต่มนั กลับเป็ นเหมือนเขาจะเสี ยใจเล็กน้อย

“นิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น.”
“ข้าคิดว่า ข้าต้องหาวิธีควบคุมพลังสายฟ้าให้ได้ และ ข้าก็รู้สึกถึง
มันแล้วว่ามันน่ากลัวเพียงใด ถ้าข้าสามารถใช้มนั ได้ ด้วยพลังของมันแค่
นั้น ก็ไม่มีใครในระดับอาณาจักรสวรรค์ที่จะทัดเทียมข้าได้แล้ว.” ชูเฟิ ง
พูด

“ปล่อยมันไปก่อน ชูเฟิ ง บางอย่างก็ไม่ควรเร่ งรี บที่จะไขว่คว้า


หรอก ถ้าฟ้าลิขิตว่าให้มนั เป็ นของเจ้ามันก็จะเป็ นของเจ้าแต่ถา้ ไม่ใช่ต่อ
ให้พยายามยังไงมันก็ไม่ใช่อยูด่ ี.”

“แต่สายฟ้าศักดิ์นี่เป็ นของเจ้าอย่างแน่นอน ดังนั้นข้าเชื่อในตัวเจ้า


ว่าในอนาคตเจ้าจะใช้พลังของมันได้อย่างแน่นอน.”

“ไม่ตอ้ งเศร้าไปหรอก ตอนนี้เจ้าได้ทะลวงสู่ ระดับอาณาจักร


สวรรค์แล้ว ด้วยการทะลวงเพียงครั้งเดียว มันแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์
และพลังในตัวเจ้าว่ามีมากเพียงใด เจ้าควรมีความสุ ขสิ ถึงจะถูก.” ต้าน
ต้าน ยิม้ หวานแล้วพูด

“อืม เจ้าพูดถูก พลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์นี่ดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้น


เมื่อข้าแข็งแกร่ งขึ้น แม้มนั จะไม่ยอมรับข้า แต่ขา้ เชื่อว่าถ้าข้าทําความ
เข้าใจเกี่ยวกับมัน จะต้องมีซกั วันที่ขา้ สามารถควบคุมมันได้.”

มันเห็นได้ชดั ว่าคําพูดของต้านต้านนั้น มีผลต่อชูเฟิ งไม่นอ้ ย ทําให้ชูเฟิ ง


ได้ความมัน่ ใจในตัวเองกลับมา

ก่อนหน้านี้ตอนที่ สายฟ้าทั้ง 3 ออกมาจากตันเถียนของเขาและวิง่ ไหล


เข้าสู่ ในกระแสเลือด มันเหมือนมันหลุดออกจากการควบคุมและไป
สํารวจในตัวเขาในเวลาเดียวกัน

ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็รู้สึกถึงพลังที่น่าเกรงขามของสายฟ้า ทั้ง 3 ว่ามันมี


พลังมากเพียงใด มันนั้นน่าเกรงขามกว่าผูเ้ ชี่ยวชาญในระดับ 9
อาณาจักรสวรรค์ที่ใช้ยอดยุทธภัณฑ์เสี ยอีกนี่

ดังนั้น จึงเป็ นเหตุให้ชูเฟิ ง ตั้งเป้าที่จะควบคุมเจ้าสายฟ้านี้ให้ได้ ด้วยพลัง


ของมัน แน่นอนว่าในอาณาจักรสวรร์น้ นั จะไม่มีใครเทียบเขาได้เลย

นอกจากนี้ แม้วา่ มันจะกลับไปยังร่ างกายของเขา เขาก็พบว่าตอนนี้เขา


รู ้สึกถึงมันชัดเจนยิง่ ขึ้น

ในที่สุด 1 วันจากกนั้น เขาก็เข้าใจเกี่ยวกับความลึกลับของพลังสายฟ้า


เพิ่มขึ้น และในตอนนั้น เขาก็เชื่อว่าเขาสามารถใช้พลังนั้นได้

ด้วยความสามารถปกติของชูเฟิ ง เขาสามารถสร้างทักษะได้แล้ว แต่เขา


ไม่สามารถทําให้มนั แข็งแกร่ งได้โดยความแข็งแกร่ งของเขา เขาจึง
พบว่าถนนของผูฝ้ ึ กตนนั้นมันกว้างใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุ ด
ดังนั้นเขาจึงเข้าใจว่าตนเองยังอ่อนหัดอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่สร้างทักษะ
ในตอนนี้

เพราะถ้าเขาสร้างทักษะขึ้นมา ต่อให้มนั เป็ นทักษะที่แข็งแกร่ งมาก มันก็


เป็ นทักษะที่แข็งแกร่ งมากในสายตาของคนทัว่ ไปเท่านั้น แต่ในสายตา
ของผูเ้ ชี่ยวชาญแล้วมันคงเป็ นขยะ

ดังนั้น ก่อนที่จะทําอย่างนั้น เขาต้องเรี ยนรู ้เรื่ องทักษะจากพวกผูอ้ าวุโส


และเก็บประสมการณ์เสี ยก่อน ในวันหนึ่งเขาจะได้สร้างทักษะที่เป็ น
ของเขาและมันจะไม่เป็ นแค่ทกั ษะ single

ทักษะ single ทั้งหมดนั้น สามารถสร้างความตกตะลึงถึงสวรรค์


สะเทือนแผ่นดินได้ พวกมันนั้นเป็ นสิ่ งมหัศจรรยฺสาํ หรับคนบนโลก
และ 1 ในนั้นอาจจะต้องเกี่ยวกับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในตัวเขาอย่าง
แน่นอน

*ครื น ครื น ครื น *

ในตอนที่ชูเฟิ งกําลังตกอยูใ่ นจินตนาการนั้น ทางเข้าสถานที่ใต้ดินนั้น ก็


ถูกเปิ ดขึ้น เมื่อมองไปเขาก็เห็นคนจํานวนมากกําลังเข้ามา

พวกเขานั้น มีท้ งั ชายและหญิง คนแก่ เด็ก ทุกคนนั้นเดินเข้ามาด้วย


รอยยิม้ ราวกับดอกไม้บาน (ราวกับพี้กญั ชาเข้าไป)นอกจากรอยยิม้ แล้ว
พวกเขาดันมีความสุ ขมากๆด้วย

พวกเขานั้นคือ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า พี่ลิง จางเทียนยี่ แล้วก็คนจาก


ราชวงศ์เจียง
“ชูเฟิ ง ข้ามองเจ้าไม่ผดิ จริ งๆ เจ้านั้นเหนือกว่าความคาดเดา
ของข้าเอาไว้มาก เจ้าสร้างความประหลาดใจให้ขา้ ใหญ่หลวงจริ งๆ!” ผู ้
ก่อตั้งสํานักมังกรฟ้าเดินออกมาเป็ นคนแรก เอามือจับบ่าชูเฟิ ง แล้วก็พดู
ด้วยสี หน้าที่มีความสุ ขอย่างมาก

“ฮ่าๆ ชูเฟิ ง เจ้าไม่ทาํ ให้ขา้ ผิดหวัง และ ทําให้ขา้ ได้หน้าอย่าง


มากจริ งๆ” หลังจากนั้น ราชันย์ลิง ก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วย
รอยยิม้ และยิม้ กว้างจนเห็นฟันเกือบทุกซี่ เขาพูดเสร็ จก็เดินมากอดคอชู
เฟิ ง

และหลังจาก 2 คนนั้น ผูค้ นจากราชวงศ์เจียง นําโดยบรรพชนอาวุโส ก็


เดินมาหาเขา

ทันใดนั้นบรรพชนราชวงศ์เจียง ก็คุกเข่าลง และคนจากราชวงศ์เจียงทุก


คนก็คุกเข่าลงกราบชูเฟิ งพร้อมกัน
หลังจากนั้นก็มีเสี ยงดังมาจากพวกเขาด้วยใจจริ งดันลัน่ ไปทัว่ สถานที่
แห่งนั้น “ พวกเราราชวงศ์เจียง ขอคารวะชูเฟิ งและขอแสดงความ
ขอบคุณต่อนํ้าใจและความเมตตาของเจ้า ด้วยความช่วยเหลือของเจ้านั้น
จะถูกสลักลงในใจราชวงศ์เจียงของพวกเราตลอดไป.”

“ผูอ้ าวุโส เจียง พวกท่านทําอะไรกัน”

“ทุกคน ลุกขึ้น รี บลุกขึ้นเถิด พวกท่านทําอะไรกัน”

ชูเฟิ งนั้นตกใจอย่างมากเมื่อเห็นเช่นนี้ เขาไม่รู้วา่ พวกเขานั้นทําไปเพื่อ


อะไร เขาจึงรี บไปพยุงตัวของบรรพชนอาวุโสราชวงศ์เจียงขึ้น

“พี่ชายชูเฟิ ง ในเวลานี้ ท่านได้ช่วยให้ราชวงศ์เจียงของข้า


แข็งแกร่ งขึ้น” เจียง หวูช่ าง เดินออกมาจากฝูงชน และพูดขึ้นในตอน
นั้นระหว่างคิว้ ของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มันมีอกั ษรสี ทองคําว่า
ราชวงศ์ ปรากฏขึ้นบนระหว่างคิ้วของเขา และในเวลาเดียวกัน ก็มีแสง
อ่อนๆ คลุมทั้งร่ างของเขา

“น้องชายหวูช่ าง พลังสายเลือดของเจ้าแข็งแกร่ งขึ้นอีกแล้ว ยินดี


ด้วย” ชูเฟิ งที่เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดฟ้า จึงรู ้ได้ทนั ทีวา่ พลัง
สายเลือดของเจียง หวูช่ างเพิม่ ขึ้น เขาไม่รู้วา่ มันเพิ่มขึ้นได้อย่างไร แต่เขา
ก็มีความสุ ขอย่างมาก

“พี่ชาย ชูเฟิ ง ทั้งหมดนี่เป็ นเพราะท่าน ท่านได้ทาํ ให้พลัง


สายเลือดของพวกข้านั้น แข็งแกร่ งขึ้น” เจียง หวูช่ าง ยิม้ แล้วพูดออกมา

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : ทําให้ราชวงศ์เจียงแกร่ งขึ้น ใช่วา่ จะเป็ นเรื่ องที่ไม่ดี


B : ถูกต้อง ราชวงศ์เจียงก็เหมือนกองทัพที่ไว้คอยปกป้องอาณาจักร
ทั้ง 9 หากมีกาํ ลังไม่พอ แล้วเกิดกรณี มีผบู ้ ุกรุ กฝี มือพอๆกับ3ราชวงศ์
แล้ว ชูเฟิ ง ไม่อยู่ มันจะแย่เอา

A : นอกจากนี้ยงั มีสาํ นักมังกรฟ้า มหาอํานาจอันดับ 1 นิกายโลก


วิญญาณ คฤหาสน์องค์ชายกิเลน

B : ทหารแนวหน้าพร้อมตาย ก็สาํ นักไร้้ตวั ตน ส่ วนสํานัก สตรี หยกชู


เฟิ งก็จบั ทําเป็ นสถานเริ งรมณ์!!!

A : พูดถึง สํานักสตรี หยก ก็นึกถึง หยวน รู่ ว เลยแหะ

B : ไม่ตอ้ งห่วงเด๋ วเจอกันที่ทะเลภาคตะวันออก เด๋ วชูเฟิ งจะเกบนางไว้


เปนหนึ่งในคอเลกชัน่
บทที่ 529 – ความเปลี่ยนแปลงในสุ สานจักรพรรดิ

“เกิดอะไรขึ้น บอกข้าได้ไหม” เมื่อ ชูเฟิ ง เห็นเช่นนั้น แววตาของ


เขาก็เบิกกว้าง อ้าปากค้าง เห็นได้ชดั ว่าเขากําลังตกตะลึงอย่างมาก
“ไม่ใช่เพียงแค่ขา้ แต่ทุกคนที่มีพลังทางสายเลือดของราชวงศ์เจียง
ในอนาคตพวกเขาจะแข็งแกร่ งขึ้นเพราะเจ้า” เจียง หวูช่ าง กล่าวพลาง
ยิม้ บางๆ

“ชูเฟิ ง , หวูช่ าง กล่าวได้ถูกต้องแล้ว ถึงแม้วา่ เจ้าจะไม่ได้ต้ งั ใจ แต่


มันก็ช่วยราชวงศ์เจียงของข้าได้อย่างมาก” บรรพบุรุษของราชวงศ์เจียง
กล่าวพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิม้ แววตาของเขาเต็มไปด้วย
ความซาบซึ้ ง

“นี่…..เกิดอะไร ใครอธิบายให้ขา้ ฟังทีซิ” ชูเฟิ ง กล่าวพร้อมกับ


กวาดสายตาไปยังฝูงชน เขาต้องการคําอธิบายอย่างแท้จริ ง

“ชูเฟิ ง ที่เป็ นเช่นนี้เพราะว่า………..” ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า


ยิม้ บาง เขากล่าวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พลางลูบเคราของเขาเองอย่าง
ช้าๆ
ในที่สุด ชูเฟิ ง ก็เข้าใจเหตุการณ์ท้ งั หมด เขาจึงเข้าใจได้วา่ เหตุใด
คนของสมาชิกราชวงศ์เจียงถึงได้ขอบคุณเขา

ดังนั้น การที่เข้าไปทะลวงพลังโดยใช้เสามังกรทองทั้งสิ บแปดต้น


นั้น จะส่ งผลให้สมาชิกของราชวงศ์เจียงแข็งแกร่ งขึ้น

หลังจากที่ ชูเฟิ ง ได้ทราบเรื่ องราวทั้งหมดนั้น เขามีความสุ ขอย่าง


มาก ไม่ใช่เพราะราชวงศ์เจียงแข็งแกร่ งขึ้น แต่เป็ นเพราะเขาสามารถเปิ ด
ใช้งานเสามังกรทั้งสิ บแปดต้นได้ นัน่ ทําให้เขามีความมัน่ ใจอย่างมาก
เมื่อเขาจะต้องเผชิญหน้ากับหมู่เกาะประหาร

ในคืนวันนั้น ราชวงศ์เจียงได้จดั งานเลี้ยงฉลองครั้งใหญ่ ให้กบั


เหล่าสมาชิกของราชวงศ์ มันเป็ นเพราะว่า ชูเฟิ ง ได้ทาํ ตามจารึ กโบราณ
จนทําให้ราชวงศ์เจียงแข็งแกร่ งขึ้น
สําหรับคนที่รู้สึกขอบคุณ ชูเฟิ ง นั้น พวกเขายิง่ รู ้สึกขอบคุณ และ
เชิดชู ชูเฟิ ง ขึ้นไปอีก และยิง่ คนที่ชื่นชอบ ชูเฟิ ง พวกเขายิง่ แสดงความ
ชัดเจนยิง่ ขึ้น

อาจกล่าวได้วา่ ชูเฟิ ง เป็ นบุคคลสําคัญของราชวงศ์เจียง และเป็ นผู ้


มีพระคุณสําหรับราชวงศ์เจียง ไม่เพียงแต่เขาได้ช่วยเหลือราชวงศ์เจียง
เอาไว้ แต่เขายังทําให้ราชวงศ์เจียงแข็งแกร่ งยิง่ ขึ้น

เหตุการณ์ในครั้งนี้น้ นั บรรพบุรุษของราชวงศ์เจียง ได้ลงจารึ กไว้


ในบันทึกของราชวงศ์ เพราะเขาต้องการให้คนรุ่ นหลัง ได้รับรู ้ถึงคูณ
ความดีที่ ชูเฟิ ง ได้ทาํ ให้กบั ราชวงศ์เจียง

หลังจากที่พกั ผ่อนอยูภ่ ายในราชวงศ์เจียงไม่นานนั้น ชูเฟิ ง และคน


อื่นๆ ก็ได้กลับสู่ สาํ นักมังกรฟ้า
เมื่อสมาชิกของสํานักมังกรฟ้ารู ้วา่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ยังไม่ตาย
นั้น เหล่าสมาชิกก็พากันตื่นเต้นดีใจกันอย่างบ้าคลัง่

เพราะว่า ชื่อของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า นั้น ทุกคนต่างรู ้จกั ดี เขา


คือตํานานของเก้าอาณาจักร ผูซ้ ่ ึ งสามารถกําราบผูเ้ ชี่ยวชาญทั้งทวีปลง
ได้

และในตอนนี้ ผูท้ ี่เป็ นตํานานความแข็งแกร่ งเมื่อพันปี ก่อน ได้


กลับคืนมาอีกครั้งนั้น จึงไม่แปลกที่สมาชิกของสํานักมังกรฟ้าจะตื่นเต้น

ไม่ใช่เพียงแต่ ชูเฟิ ง จะเป็ นอัจฉริ ยะที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยงั มี ผู ้


ก่อตั้งสํานักมังกรฟ้า คอยควบคุมสํานักมังกรฟ้านั้น จึงเป็ นที่แน่นอน
แล้วว่า สํานักมังกรฟ้าคือขุมกําลังที่แข็งแกร่ งของเก้าอาณาจักร ดังนั้น
สมาชิกของสํานักมังกรฟ้าจึงมีชื่อเสี ยงมากขึ้น
ข่าวของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ยังคงมีชีวติ อยู่ และ◌าํ ด้กลับมา
ดูแลสํานักมังกรฟ้า ได้แพร่ กระจายออกไปอย่างรวดเร็ ว มันเป็ นข่าวที่น่า
ตกใจอย่างมากในเก้าอาณาจักร

เกือบทุกคนรู ้ดีวา่ สํานักมังกรฟ้าจะแข็งแกร่ งมากขึ้น และบางที


อาจจะแกร่ งกว่าราชวงศ์เจียง เพราะเมื่อพันปี ก่อนนั้น ผูก้ ่อตั้งสํานัก
มังกรฟ้า แข็งแกร่ งอย่างมาก ดังนั้น เมื่อเวลาพันปี ให้หลัง เขาย่อมจะ
แข็งแกร่ งมากขึ้นอย่างแน่นอน

ในความเป็ นจริ งนั้น หลังจากเวลาผ่านไปพันปี ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกร


ฟ้าได้มีความเข้าในการทะลวงขั้นพลังมากขึ้น และเขารู ้สึกว่า เขามี
โอกาสที่จะทะลวงเข้าสู่ ข้ นั เทพสงครามได้

ดังนั้น สิ่ งแรกที่เขาจะทําหลังจากที่กลับมายังสํานักมังกรฟ้า คือ


ประกาศให้ทุกคนได้รับรู ้วา่ เขายังมีชีวติ อยู่ และจะกลับมาครองตําแหน่ง
เจ้าสํานักมังกรฟ้า
สิ่ งที่สอง คือ เขาจะเก็บตัวเพื่อบ่มเพาะพลังของเขา ให้ทะลวงเข้าสู่
ขั้นเทพสงคราม แม้มนั จะไม่ใช่ครั้งแรกของเขา และเขาเองก็จาํ ไม่ได้วา่
เขาพยายามมากี่ครั้งก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ เป็ นความพยายามที่เขามีความมัน่ ใจมาก


ที่สุดอาจกล่าวได้วา่ ข่าวของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ยังมีชีวติ อยูน่ ้ นั ได้
ส่ งแรงสัน่ สะเทือนอย่างรุ นแรงออกไปสู่ ท้ งั เก้าอาณาจักร เพราะมัน
สามารถทําให้เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญหลายๆ คนมาเข้าร่ วมกับสํานักมังกรฟ้า

และแม้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญที่เก็บตัวเพื่อบ่มเพาะพลังตามสถานที่ลึกลับ
ต่างๆ ยังออกมา และเดินทางเข้าสู่ สาํ นักมังกรฟ้า เพื่อหมายจะได้รับ
ตําแหน่งต่างๆ ภายในสํานักมังกรฟ้า

นอกจากนี่ ยังมีอีกข่าวหนึ่งแพร่ กระจายออกไปในเก้าอาณาจักร


นัน่ ก็คือ ข่าวที่ราชวงศ์เจียง ได้ถูกอีกสสามราชวงศ์ที่ปกครองสามทวีป
เข้าโจมตี

แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยชัยชนะของราชวงศ์เจียง ซึ่ งได้รับความ


ช่วยเหลือจาก สํานักมังกรฟ้า และนิกายโลกวิญญาณ อีกทั้งชัยชนะใน
ครั้งนี้ยงั เป็ นการประกาศให้โลกได้รับรู ้ถึงความแข็งแกร่ งของพวกเขา

เมื่อข่าวนี้แพร่ กระจายออกไปนั้น ตระกูลเจี่ย , สํานักหยวนกัง


และ สํานักเทพอัคคี ต่างหวาดกลัวอย่างมาก

เพราะในเวลาที่ราชวงศ์เจียง ต้องการความช่วย้หลือมากที่สุดนั้น
พวกเขากลับปฏิเสธในการให้ความช่วยเหลือ

และในปัจจุบนั ราชวงศ์เจียงยังคงปลอดภัยเป็ นอย่างดี ดังนั้นพวก


เขาจึงเป็ นศัตรู กบั ทั้งสามมหาอํานาจ
เมื่อเป็ นเช่นนั้น สามมหาอํานาจจึงรู ้ดีถึงสิ่ งที่พวกเขาต้องเผชิญ
พวกเขาจึงคิดที่จะออกจากเก้าอาณาจักรอย่างเร็ วที่สุด

แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ออกจากเก้าอาณาจักรนั้น กองทัพของ
ราชวงศ์เจียงได้มาถึงที่ต้ งั ของพวกเขาก่อน และได้ให้บทเรี ยนที่สมควร
แก่พวกเขาอย่างทันท่วงที

ราชวงศ์เจียงไม่ได้ทาํ ลายพวกเขาอย่างราบคาบ แต่เพียงแค่สงั หาร


ผูน้ าํ บางคนของพวกเขา และเข้าควบคุมขุมพลังเหล่านี้เอาไว้

หลังจากนั้น ตระกูลเจี่ย , สํานักหยวนกัง , สํานักเทพอัคคี , หุบ


เขาไร้ใจ และนิกายไป๋ ก็เหลือเพียงแค่ชื่อเท่านั้น พวกเขาได้กลายเป็ น
หุ่นเชิดของราชวงศ์เจียงไปอย่างสมบูรณ์
หลังจาก ราชวงศ์เจียงได้รอดพ้นจากอันตรายมาระยะหนึ่งนั้น ชู
เฟิ ง ได้มาสนทนากับ ราชาวานร

“อะไรนะ !! เจ้าต้องการกลับไปยังหุบเขาวิหคเพลิง และเข้าไปยัง


สุ สานจักรพรรดิอีกครั้งเช่นนั้นรึ !!” ขณะกล่าวออกมานั้น ใบหน้าของ
ราชาวานร ก็เต็มไปด้วยตกตะลึง

“มีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสุ สานจักรพรรดิ ตราผนึกปิ ศาจ


ได้หายไป ราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งที่หุบเขาพยัฆค์ขาว หุบ
เขาเต่าทมิฬ และแม้แต่หุบเขามังกรฟ้า ที่ผกู ้ ่อตั้งสํานักได้เคยหลบซ่อน
อยูก่ เ็ ช่นกัน”

“ในตอนนี้ มีเพียงทางเข้าที่หุบเขาวิหคเพลิงเท่านั้นที่ยงั เปิ ดอยู่ ถ้า


ข้าต้องการจะเข้าไปยังสุ สานจักรพรรดิน้ นั ข้าสามารถเข้าได้จากที่นนั่
เพียงทางเดียวเท่านั้น” หลังจากที่ ชูเฟิ ง ได้กลับมายังอาณาจักรมังกรฟ้า
นั้น เขาได้พาชายลึกลับไปสํารวจทางเข้าทั้งสามเส้นทาง
เพราะเขาคิดว่า เมื่อผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าได้คน้ พบไข่มุกทั้งสอง
นั้น ทางเข้าอื่นๆ อาจจะมีสมบัติถูกเก็บไว้อีกก็เป็ นได้

แม้วา่ ทางเข้าที่หุบเขาวิหคเพลิงนั้น จะถูกชายชุดดําเก็บสมบัติ


ออกไปจนหมด แต่ชายชุดดําน่าจะไม่รู้จกั ทางเข้าอีกสามเส้นทาง ชูเฟิ ง
จึงหมายตาที่จะได้รับผลประโยชน์จากทางเข้าอีกสามเส้นทางที่เหลือ

แต่ทางเข้าอีกสามเส้นทางนั้นได้ปิดลง และหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ราวกับว่าพวกมันไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้น ในตอนนี้จึงมีเพียงทางเจ้าที่หุบ
เขาวิหคเพลิงเท่านั้น ที่สามารถเข้าไปได้

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////
แปลโดยคุณ#Abhisit
A : พูดถึงไข่มุกทั้งสอง ก็นึกถึงซูรู่ ซูเหม่ย พวกนางจะฟื้ นเมื่อไหร่ กนั
???

B : เร็ วๆนี้แหละ!!!

A : งั้นก็หมายความว่า นางทั้งสองจะไปทะเลตะวันออกด้วยสิ นะ

B : ตื่นไม่ได้แปลว่า ชูเฟิ งจะให้ไปด้วย เนื่องจากทะเลตะวันออกเต็ม


ไปด้วยยอดฝี มือมากมาย หากพลังวิญญาณของนางยังไม่ถึงขั้น เอาไป
ด้วยก็อาจกลายเป็ นภาระของชูเฟิ ง

A : งั้น ชูเฟิ ง จะไประบายกะใคร

C : ไปหาเอาข้างหน้า!!!

A - B : เออวันนี้พดู เข้้าท่าแหะ

C : หาคนระบายนี้ ระบายสี ใช่ป่ะ

A : ...................................

B : ...................................
บทที่ 530 – ความแข็งแกร่ งของชายลึกลับ
“มันเป็ นเช่นนั้นรึ !!”

“อาจจะผูเ้ ชี่ยวชาญบางคนเข้าไปในสุ สาน และได้ไปสัมผัส


บางอย่างเข้า จนทําให้ทางเข้าอื่นๆ ปิ ดตัวอัติโนมัติกเ็ ป็ นได้” เมื่อได้ยนิ
คํากล่าวของ ชูเฟิ ง นั้น ราชาวานร ก็กล่าวคาดการณ์ออกมา

หลังจากครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ซึ่ งก็ยงั ไม่สามารถคาดเดาเหตุผล


ออกมาได้ แต่ใบหน้าของ ราชาวานร ก็มีแต่ความกังวงเต็มใบหน้าของ
เขา เขากล่าวออกมาว่า “ชูเฟิ ง เจ้าอย่าไปเลย”

“ถ้าหากมันเป็ นอย่างที่ขา้ บอก แม้วา่ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนนั้นจะจากไป


แล้ว แต่แน่นอนเลยว่า เขาจะต้องเอาสมบัติภายในสุ สานไปจนหมดแน่”

“หากเจ้าต้องการไปที่นนั่ ข้ารับรองเลยว่า เจ้าจะเข้าไปได้เพียงไม่กี่


ก้าวเท่านั้น ถึงอย่างไรความแข็งแกร่ งของสุ สานจักรพรรดิกไ็ ม่ใช่สิ่งที่
จะมองข้ามได้ หากเจ้าไป ก็เท่ากับว่าส่ งตัวเองไปตาย”

“พีล่ ิง ท่านไม่ตอ้ งกังวลไป ตราบใดที่ขา้ มีเขา สุ สานจักรพรรดิยอ่ ม


ไม่ใบ่ปัญหาสําหรับข้า” ชูเฟิ ง กล่าวพลางหันกลับไปมองที่ชายลึกลับที่
เดินตามมาที่ดา้ นหลังของเขา ขณะนั้นชายคนนั้นกําลังหาว และกิน
ขาไก่ไปด้วย

เมื่อมองไปยังชายลึกลับนั้น ดวงตาสี แดงฉานของ ราชาวานร สัน่


ไหวเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ทนั ทีวา่ ชายคนนี้แข็งแกร่ งกว่าราชวงศ์เจียง
และยังสัมผัสได้ถึงออร่ าของราชันย์ที่เล็ดลอดออกมา

ออร่ าแห่งราชันย์ของชายลึกลับ และบรรพบุรุษของราชวงศ์เจียง


ในสายตาของราชาวานรนั้น ไม่สามารถนํามาเปรี ยบเทียบกันได้ แต่ถึง
อย่างไรก็ตาม ราชาวานร กลับรู ้สึกหวาดกลัวต่อชายลึกลับผูน้ ้ ี
หลังจากผจญเรื่ องราวต่างๆ มากมายนั้น ราชาวานร ไม่เคย
หวาดกลัวต่อสิ่ งใดมาก่อน แต่เมื่อเขามองไปยังชายลึกลับผูน้ ้ ี เขากลับ
เกิดความกลัวขึ้นภายในจิตใจของเขา เขาประเมินพลังของชายลึกลับไว้
ว่า จะต้องแข็งแกร่ งกว่าขั้นจ้าวแห่งสงครามอย่างแน่นอน

แต่เมื่อเขาเห็นว่า ชูเฟิ ง ไม่ได้รับอันตรายจากชายลึกลับนัน่ และ


เรื่ องของ จื่อ หลิง ก็ทาํ ให้ ชูเฟิ ง ต้องการเสริ มความแข็งแกร่ งของตัวเขา
เองอย่างเร่ งด่วน ราชาวานร จึงกล่าวออกมาอย่างจนปั ญญาว่า “หากเจ้า
จะไป ข้าก็คงรั้งเจ้าไว้ไม่ได้”

“แต่เจ้าจงระมัดระวังให้มาก หากเกิดอะไรขึ้นในนั้น เจ้าจงหนี


ออกมาให้เร็ วที่สุด อย่าได้ฝืนมากเกินไป เพราะถึงอย่างไรสุ สาน
จักรพรรดิกม็ ีอนั ตรายอย่างมาก และแม้แต่ชายผูน้ ้ ีกไ็ ม่อาจปกป้องเจ้าได้
ตลอดเวลาภายในสุ สานนัน่ ”

“สําหรับสํานักมังกรฟ้า ข้าจะช่วยดูแลให้ ก่อนที่ท่านผูก้ ่อตั้งจะ


กลับออกมาจากการบ่มเพาะพลัง ข้ารับรองว่า ที่นี่จะปลอดภัย”

“ขอบคุณมากพี่ลิง ข้าจะระวังตัวให้มาก และกลับมาให้เร็ วที่สุด”


ชูเฟิ ง มีความสุ ขอย่างมาก ที่ราชาวานรอนุญาตให้เขาเข้าไปยังสุ สาน
จักรพรรดิ อีกทั้งจะช่วยดูแลสํานักของเขาให้อีก ดังนั้น เขาจึงสามารถ
สํารวจสุสานจักรพรรดิได้อย่างหมดกังวล

ด้วยความร้อนรุ่ มภายในจิตใจ ชูเฟิ ง จึงรี บออกเดินทางสู่ หุบเขา


วิหคเพลิงอย่างรวดเร็ ว เพื่อเข้าสู่ สุสานจักรพรรดิ

เมื่อเขาได้กลับเข้าไปยังสุ สานจักรพรรดิอีกครั้งนั้น มันทําให้เขา


รู ้สึกพิเศษบางอย่างภายในหัวใจของเขา

เมื่อกลับมายังสุ สานจักรพรรดิอีกครั้งนั้น ชูเฟิ ง ยังคงเชื่อมัน่ อย่าง


มาก ว่าเขาจะต้องได้รับสมบัติบางอย่าง ที่ถูกทิ้งไว้โดยจักรพรรดิสง
ความ แม้วา่ ในครั้งก่อนๆ ที่ผา่ นมานั้น เขาจะเข้ามาด้วยความกังวล

แต่ในครั้งนี้ เมื่อเขากลับมาอีกครั้งนั้น เขามาพร้อมกับความมัน่ ใจ


อย่างมาก เพราะเขามาพร้อมกับชายลึกลับที่แข็งแกร่ ง แม้วา่ เขาจะ
เผชิญหน้ากับชายชราที่สวมชุดคลุมสี ดาํ เขาก็หวาดกลัวแม้แต่นอ้ ย

เมื่อเขากลับมาและนึกถึงการกระทําของชายชราผูน้ ้ นั แววตาของ
เขาก็ลุกโชนด้วยไฟแห่งโทสะ ผมยาวด้านหลังเขาพริ้ วไสว

ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ก็ถูกปกคลุมไปด้วยรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ


สี ทองจากชายลึกลับ แม้วา่ ตอนนี้เขาจะปลอดภัย และเขายังมีพลังระดับ
หนึ่ง ขั้นแดนสวรรค์กต็ าม

“ฆ่าทุกอย่างที่พบ !!” ชูเฟิ ง ชี้ไปข้างหน้าพร้อมกับกล่าวบัญชา


ออกมา
“ตามที่ท่านต้องการ !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชายลึกลับ ไม่กล้ารอช้า
เขากลายเป็ นประกายแสงพุง่ ตรงไปข้างหน้าตามทางเดินในสุ สาน
จักรพรรดิ

ความเร็ วของเขานั้นรวดเร็ วกว่ามนุษย์ปกติมาก เพียงพริ บตาเดียว


เขาก็มาถึงจุดที่ ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ เคยมา ในก่อนหน้านี้ ตรงบริ เวณที่
เคยมีการปิ ดผนึกทักษะวิหคหวนคืนอยู่

“ตาย !!”

เมื่อเขาวิง่ มาถึงจุดที่ ชูเฟิ ง และ ราชาวานร เคยซ่อนตัวนั้น เขาก็


ตะโกนออกมาเสี ยงดัง
***** วูว้ วววว *****

หลังจากเสี ยงตะโกนดังขึ้นนั้น เสี ยงร้องวิญญาณแห่งความทรมาน


ก็ดงั ขึ้นมาจากด้านล่าง พลันฝุ่ นควันฟุ้งกระจายอย่างบ้าคลัง่ วิญญาณที่
ชัว่ ร้ายก็ลอยออกมาอย่างรวดเร็ ว

อย่างไรก็ตาม ร่ างกายขนาดใหญ่ของวิญญาณที่ชวั่ ร้ายได้กลายเป็ น


ประกายแสงลอยขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยของชีวติ

“แข็งแกร่ งมาก วิญญาณชัว่ ร้ายระดับเก้า ขั้นแดนสวรรค์ถูกสังหาร


ภายในพริ บตาเดียว !!” ชูเฟิ ง รู ้สึกตกใจอย่างมาก แม้วา่ เขาจะรู ้ดีวา่ ชาย
ลึกลับผูน้ ้ ีแข็งแกร่ งมาก แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่า ชายผูน้ ้ ีจะสังหาร
ผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์ได้เพียงพริ บตาเดียวเท่านั้น

ผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์ ที่เปรี ยบได้กบั พระเจ้าของเก้าอาณาจักร


กลับเทียบได้เพียงมดปลวกเมื่ออยูต่ ่อหน้าชายลึกลับผูน้ ้ ีเท่านั้น มันช่าง
เป็ ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชดั ของโลกใบใหญ่น้ ี

หลังจาก ชูเฟิ ง ได้ออกคําสัง่ ให้ฆ่าทุกอย่างนั้น สิ่ งมีชีวติ ทุกอย่าง ก็


ถูกสังหารโดยไร้ความปราณโดยชายลึกลับ

วิญญาณชัว่ ร้ายที่ปรากฏออกมานั้น แข็งแกร่ งขึ้นเรื่ อยๆ ไม่ใช่มี


เพียงแค่วญิ ญาณชัว่ ร้ายเท่านั้น แต่ยงั มีอินทรี ยข์ นาดใหญ่ และสิ่ งมีชีวติ ที่
เกิดจากรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณด้วย

ตลอดเส้นทางที่ผา่ นเข้าไปนั้น ชูเฟิ ง รู ้สึกประหลาดใจกับความ


แข็งแกร่ งของอันตราย ที่เพิ่มขึ้นเป็ นขั้นๆอย่างต่อเนื่อง และ ชูเฟิ ง ยัง
รู ้สึกทึ่งในความกว้างใหญ่ของสุ สานจักรพรรดิ ที่มนั มีขนาดใหญ่ราวกับ
เป็ นโลกใต้ดินก็วา่ ได้

ในเวลาเดียวกันนั้น ชูเฟิ ง ก็แอบดีใจ แม้วา่ เขาจะไม่พบสมบัติต่างๆ


ตามทางเดินนั้น แต่เขากลับพบว่าอุปสรรค์ หรื อรู ปแบบอํานาจพลัง
วิญญาณที่เคยขวางกั้นได้ถูกทําลายลงอย่างสิ้ นเชิง

“แปลกมาก เห็นได้ชดั ว่าอุปสรรคต่างๆ ได้ถูกทําลายลงไปแล้ว แต่


ทําไมวิญญาณชัว่ ร้ายยังคงคอยคุม้ ครองที่นี่อยู”่ ชูเฟิ ง เต็มไปด้วยความ
สับสน เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้

“ง่ายมาก มันคือความเกรงกลัว” เสี ยงของ ต้านต้าน ดังขึ้น

“ความเกรงกลัว หมายถึงอะไร !?” ชูเฟิ ง รู ้สึกสับสน

“เมื่อผูเ้ ชี่ยวชาญแข็งแกร่ งมากๆ พวกเขาไม่จาํ เป็ นต้องออกคําสัง่


ยํ้าๆ เพียงแค่ประโยคเดียว หรื อคําสัง่ เพียงครั้งเดียว ก็สามารถทําให้มี
ผูป้ ฏิตามคําสัง่ ของเขาไปจนชัว่ ชีวติ ได้”
“ไม่ตอ้ งคิดให้ไกล เพียงเจ้าดูคนที่ฟังคําสัง่ ของเจ้า เขาแข็งแกร่ ง
อย่างมาก แต่เหคุใดเขาจึงฟังคําสัง่ ของเจ้า เพราะอะไร !?” ต้านต้าน
กล่าว

“อ่อ มันเป็ นเช่นนี้เอง” ชูเฟิ ง สามารถเข้าใจได้ในทันที

เหตุผลที่ชายลึกลับฟังคําสัง่ ของเขา เพราะว่าพ่อของเขาได้ออก


คําสัง่ ไว้นนั่ เอง

และเหตุผลที่ทาํ ไมวิญญาณชัว่ ร้ายเหล่านี้ถึงยังคอยปกป้องสุ สาน


จักรพรรดิอยูน่ ้ นั เพราะว่าจักรพรรดิสงครามได้ออกคําสัง่ เอาไว้ มันเป็ น
เพราะคําสัง่ ของเขา ทําให้เหล่าวิญญาณชัว่ ร้ายต้องปฏิบตั ิตาม และไม่
กล้าที่ออกไปไหน แม้วา่ เขาจะได้จากไปกว่าหมื่นปี แล้วก็ตาม
หลังจากนั้น ชูเฟิ ง ยังคงก้าวเข้าไปในสุ สานจักรพรรดิอย่างต่อเนื่อง
และเขายิง่ พบกับผูด้ ูแลที่แกร่ งยิง่ ขึ้นเรื่ อยๆ

ทุกๆ ครั้งที่ผดู ้ ูแลเหล่านั้นปรากฏออกมา มันทําให้ ชูเฟิ ง แทบจะ


หัวใจวาย ด้วยความแข็งแกร่ งของพวกมันนั้น มันได้สร้างแรงกดดันส่ ง
มาถึงตัวเขาอย่างรุ นแรง

อย่างไรก็ตาม แม้วา่ พวกมันเหล่านั้นจะแข็งแกร่ งมากเพียงใดก็ตาม


แต่พวกมันกลับไม่สามารถหยุดยั้งการทะลวงของชายลึกลับไปได้ ความ
แข็งแกร่ งของเขาราวกับ เปลวเพลิงจากสวรรค์ ที่สามารถเผาไหม้ทุก
อย่างให้มลายหายไปได้ในพริ บตา

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////
A : จะได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้างน้อ ?

B : เป้าหมายคือ ทักษะเร้นลับ ที่มีความสามารถในการฟื้ นฟู วิหคคืน


ชีพ ส่ วนจะได้อะไรเป็ นความลับ ซึ่ งคนที่ยงั ไม่ได้เนียนไปอ่านก่อน จะ
คาดไม่ถึงอย่างแน่นอน เพราะ ชูเฟิ งพาชายลึกลับเข้าไปถึงด้านในสุ ด ซึ่ง
มีสมบัติที่คนมากมายต้องการแต่ไม่มีสามารถนําไปได้ อีกอย่างสมบัติ
ภายในนั้นมีอายุมานับหมื่นๆปี

A : ยิง่ อยากรู ้เข้าไปใหญ่!!!

B : รออ่านพร้อมกันสนุกกว่า

บทที่ 531 – ความลึกลับของสุ สานจักรพรรดิ

ชายลึกลับเปรี ยบได้กบั พระเจ้า ตลอดเส้นทางนั้น เขาได้สงั หาร


สิ่ งมีชีวติ จนไม่มีเหลือ มันดูราวกับสายลมแห่งความตาย ที่พดั ผ่านไปยัง
ที่ใดเปลวเทียนเทียนแห่งชีวติ ก็จะมอดดับลงเพียงพริ บตาเดียวเท่านั้น

ชูเฟิ ง รู ้สึกตกตะลึงอย่างมาก ในความแข็งแกร่ งของชายลึกลับ


เพราะความแข็งแกร่ งระดับนี้มนั เกินจากความคาดหมายของเขาไปมาก
แต่ในขณะเดียวกันนั้น ชูเฟิ ง ก็เกิดคําถามขึ้นมาภายในจิตใจของ
เขา

ถ้าชายลึกลับแข็งแกร่ งขนาดนี้ แล้ววิธีการใดที่พอ่ ของเขาใช้ เพื่อ


ควบคุมชายลึกลับได้เช่นนี้

ในตอนนี้ ชูเฟิ ง จึงเข้าใจได้วา่ ทําไมเขาถึงแข็งแกร่ งกว่าคนทัว่ ไป


เพราะเขามีพอ่ ที่แข็งแกร่ งสุ ดๆ ดังนั้น เขาจึงมีพลังบางอย่างที่อยูเ่ หนือ
จากคนทัว่ ๆ ไป

“ชูเฟิ ง ข้าคิดว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในร่ างกายของเจ้า มันเป็ นพลังที่


สื บทอดมากบรรพชนของเจ้า” ต้านต้าน กล่าวออกมา เห็นได้ชดั ว่านาง
สังเกตเห็นบางอย่าง ผ่านความแข็งแกร่ งของชายลึกลับ

“ทําไมคิดเช่นนั้นรึ ต้านต้าน !!” ชูเฟิ ง กล่าวถาม


“หึ ……มันก็เป็ นเพียงการคาดเดาของข้า แน่นอนว่าคนบ้าผูน้ ้ ี
เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญในขั้นราชันย์แห่งสงคราม ถึงแม้เขาจะไม่ได้อยูใ่ น
จุดสู งสุ ดของขั้น แต่ดว้ ยวัยเพียงเท่านี้ นับว่าเขาแข็งแกร่ งมาก”

“แต่พอ่ เจ้า ก็สามารถทําให้เขาหวาดกลัวได้ แม้วา่ เขาจะกลายเป็ น


บ้า แต่เขาก็ไม่อาจลืมคํากล่าวของพ่อเจ้าได้ เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ เพราะเหตุใด”

“เพราะอะไรรึ ??”

“เพราะเขาไม่กล้าที่จะลืม เขาไม่กล้าที่จะลืมคํากล่าวของผูท้ ี่
แข็งแกร่ งกว่าได้ และคนที่แข็งแกร่ งกว่าผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงคราม
เช่นนี้”
“เขาจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน เขาน่าจะพลังพิเศษ
บางอย่าง” ต้านต้าน กล่าวพลางถอนหายใจ นางขดริ มฝี ปากของนาง
เล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ผูท้ ี่สามารถผนึกข้าไว้ในโลกวิญญาณของ
เจ้าได้น้ นั เขาจะต้องเป็ นผูท้ ี่แข็งแกร่ งสุ ดๆ อย่างแน่นอน”

“ข้า…….”

ชูเฟิ ง สามารถเข้าใจความหมายของคํากล่าวจาก ต้านต้าน ได้เป็ น


อย่างดี นางกําลังจะบอกว่าพ่อของเขาแข็งแกร่ งอย่างมาก และพื้นเพของ
เขาย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

แต่ไม่วา่ ที่มาของเขาจะเป็ นเช่นไร แทนที่เขาจะมีคนปกป้องที่


แข็งแกร่ ง และกลายเป็ นบุคคลที่ทรงพลังในท้ายที่สุดนั้น
แต่ ชูเฟิ ง ไม่สามารถเข้าใจได้วา่ เหตุใดพ่อของเขาจะต้องทิ้งเขาไป
บางทีพอ่ ของเขาอาจะเผชิญกับศัตรู ที่แข็งแกร่ งอย่างมากก็เป็ นได้

ชูเฟิ ง คิดทบทวนถึงคําถามเหล่านี้มานับครั้งไม่ถว้ น แต่เขาก็ตอ้ ง


พบกับปมปัญหาเพิ่มมากจึ้น จนทําให้เขาไม่อาจหาข้อสรุ ปลงได้

“สุ สานจักรพรรดินี่ใหญ่จริ งๆ ด้วยความแข็งแกร่ ง และรวดเร็ วของ


ชายคนนั้น พวกเรากลับยังไม่พบจุดสิ้นสุ ดของสุ สาน แม้วา่ จะผ่านมา
เนิ่นนานแล้วก็ตาม”

“สุ สานจักรพรรดิจะต้องใหญ่กว่าพื้นที่ของอาณาจักรมังกรฟ้า
แน่นอน” ในขณะที่ ชูเฟิ ง กําลังก้าวลึกลงไปในสุ สานนั้น เขาก็เชื่อมัน่
อย่างมากว่าสุ สานจักรพรรดิแข็งแกร่ งจริ งๆ

“ที่นี่เป็ นสุ สานจักรพรรดิ แม้จะดูเหมือนว่าพวกเรากําลังมุ่งไป


ด้านหน้าในแนวระนาว แต่ความจริ งพวกเรากําลังลงไปสู่ ใต้ดิน ซึ่ งมันมี
ขนาดใหญ่มาก”

“แต่ไม่ตอ้ งกังวลไป แม้วา่ สุ สานจักรพรรดิจะกว้างใหญ่มาก แต่


เมื่อเทียบกับสุ สานวีรชนนั้น ที่นี่กเ็ ปรี ยบได้กบั สนามเด็กเล่นเท่านั้น”
ต้านต้าน กล่าวพลางยิม้ ออกมาอย่างขี้เล่น

“สุ สานวีรชน !? มันคืออะไรรึ !?” ชูเฟิ ง กล่าวถามอย่างอยากรู ้


อยากเห็น เพราะความแข็งแกร่ งของสุ สานจักรพรรดิยงั แข็งแกร่ งขนาด
นี้ แล้วสุสานจักรพรรดิจะแข็งแกร่ งขนาดไหน

“หึ ข้าเกรงว่าเจ้าจะหวาดกลัวในสิ่ งที่ขา้ บอก ในตอนนี้เจ้ายังเด็ก


มากนัก เรื่ องบางเรื่ องยังไม่จาํ เป็ นต้องรู ้” ต้านต้าน กล่าว พร้อมยิม้ บางๆ
โดยที่นางไม่ได้อธิบายสิ่ งใดออกมา
ภายใต้สถาการณ์เช่นนี้ มันทําให้ ชูเฟิ ง รู ้สึกหมดหนทางอย่าง
สิ้ นเชิง มันเป็ นเหมือนกับการเสพยาเสพติด แต่ในเมื่อ ต้านต้าน ไม่
อยากจะกล่าว เขาจึงจนปัญญาที่จะถามต่อ

แต่ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็เกิดความประหลาดใจขึ้นอีก เพราะ


ต้านต้าน นั้นรู ้แทบจะทุกเรื่ อง ชูเฟิ ง จึงอยากรู ้ความแข็งแกร่ งของนาง
ก่อนที่นางจะถูกผนึก

คําถามนี้คาใจของเขามานานมาก ไม่ใช่วา่ เขาไม่ได้ถามนางออกไป


แต่นางปฏิเสธทุกครั้งที่เขากล่าวถามออกไป แต่ดว้ ยความรอบรู ้ของนาง
นั้น ชูเฟิ ง มัน่ ใจว่านางแข็งแกร่ งมากแน่ๆ

อีกทั้ง ชูเฟิ ง ยังรู ้วา่ นางไม่เคยทําสัญญากับมนุษย์คนอื่นนอกจาก


เขา นัน่ หมายความว่านางไม่เคยมายังโลกแห่งนี้มาก่อน
ทุกๆ อย่างที่นางรู ้น้ นั น่าจะมาจากโลกวิญญาณของนาง แม้วา่ เขา
จะไม่ได้รู้คาํ ตอบจากนาง แต่ ชูเฟิ ง ก็เชื่อมัน่ ว่านางแข็งแกร่ งกว่าชาย
ลึกลับผูน้ ้ ี

ตลอดเส้นทางนั้น ชูเฟิ ง ไม่ได้มีความประหลาดใจอย่างอื่นอีก อาน


กล่าวได้วา่ การเข้ามายังสุ สานจักรพรรดิในหลายๆ ครั้งของเขานั้น ทํา
ให้เขาเติบโตขึ้น

แต่เมื่อมาถึงจุดๆ หนึ่ง ชูเฟิ ง ก็ตอ้ งตกใจอย่างมาก เพราะเขาพบกับ


ซากของสัตว์ยกั ษ์ดึกดําบรรพ์ขนาดใหญ่จาํ นวนมาก

ซากของมันสู งกว่าสิ บเมตร และมีความยาวมากกว่าร้อยเมตร มันมี


ขนาดใหญ่กว่าพระราชวัง และอาจเทียบได้กบั ภูเขาลูกย่อมๆ ก็วา่ ได้

สัตว์ยกั ษ์ดึกดําบรรพ์เช่นนี้ เมื่อแรกเกิดจะมีพลังขั้นกําเนิดสิ ญญาณ


ช่วงวัยรุ่ นจะม่พลังขั้นแดนสวรรค์ และเมื่อโตเต็มวัยจะมีพลังขั้นจ้าว
แห่งสงคราม

แต่สตั ว์ยกั ษ์ดึกดําบรรพ์เหล่านี้กลับถูกสังหารจนหมดสิ้ น เหลือไว้


เพียงแค่ซากแห้งๆ ที่ถูกดูดแหล่งอํานาจพลังวิญญาณไปจนหมด

“แข็งแกร่ งมาก สุ สานจักรพรรดิ์ยอดเยีย่ มจริ งๆ แม้แต่สตั ว์ยกั ษ์ดึก


ดําบรรพ์จาํ นวนมากเช่นนี้ ยังสามาาถอาศัยอยูท่ ี่นี่ได้” ชูเฟิ ง กล่าว
ออกมาด้วยความประหลาดใจ

ความแข็งแกร่ งของสัตว์ยกั ษ์ดึกดําบรรพ์น้ นั ยอดเยีย่ มมาก ชูเฟิ ง ไม่


สามารถจินตนาการถึงตอนที่พวกมันยังมีชีวติ ออกมาได้

“บ้าเอ๊ย !! พวกเรามาช้าเกินไป สัตว์ยกั ษ์ดึกดําบรรพ์พวกนี้มี


สายเลือดพิเศษ แหล่งอํานาจพลังวิญญาณของพวกมันถูกดูดไปจน
หมดแล้ว”

“อ๊าาาาาาาา !! ข้าโกรธมาก !! มันจะต้องเป็ นตาแก่นน่ั แน่ๆ !! มัน


กวาดเอาสมบัติที่มีค่าไปจนหมด!!”

“ชูเฟิ ง ถ้าเจ้าพบกับตาแกชุดดํานัน่ รี บสัง่ ให้เจ้าบ้าคนนี้ฆ่ามันทันที


เลย และข้าจะดูดซับแหล่งอํานาจพลังวิญญาณของมันซะ ความโกรธ
แค้นของข้าจะได้หายไป !!” ในขณะที่ ชูเฟิ ง กําลังชื่นชมในความ
แข็งแกร่ งของสุ สานจักรพรรดิอยูน่ ้ นั ต้านต้าน ก็สบทออกมาด้วยความ
กราดเกรี้ ยว เพราะพลาดโอกาสที่จะได้ดูดซับแหล่งอํานาจพลังวิญญาณ
เพราะโดนชายชุดคลุมสี ดาํ ชิงตัดหน้าไป

“ไม่ตอ้ งห่วง หากข้าพบกับตาเฒ่าชุดดํานัน่ ข้าจะเอาทุกอย่างมาก


จากเขาให้หมด” ชูเฟิ ง กล่าวพร้อมกับ เปลวเพลิงแห่งโทสะเกิดขึ้นใน
แววตาของเขา
บนเส้นทางช่วงหนึ่งนั้น มันถูกประดับไปด้วยทองคํา และหยก
ก่อนหน้านี้มนั น่าจะเป็ นสถานที่เก็บสมบัติ

แต่น่าเสี ยดาย แม้สมบัติเหล่านั้นจะไม่มีปีก แต่มนั กลับหายไปไม่มี


เหลือ ไม่ตอ้ งคิดให้มากความ มันจะต้องเป็ นฝี มือของ ชายชราชุดสี ดาํ
อย่แน่นอน

สมบัติจาํ นวนมากมายนั้น อาจนะเป็ นทรัพยากรในการบ่มเพาะ


พลัง หรื อเป็ นของวิเศษที่แข็งแกร่ งกว่ายอดยุทธภัณฑ์กเ็ ป็ นได้ ดังนั้น ชู
เฟิ ง จะไม่อยากพลาดโอกาสอีก ถ้าเขามีโอกาส เขาจะต้องชิงทุกอย่างมา
จากชายชราชุดสี ดาํ อย่างแน่นอน

“ชูเฟิ ง ดูนนั่ !!” ต้านต้าน กล่าว


หลังจากได้ยนิ คํากล่าวของ ต้านต้าน นั้น ชูเฟิ ง ก็หนั ไปอีกด้าน
จากนั้นใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง

เพราะภาพที่ปรากฏตรงหน้าเขานั้น ไม่ใช่โลกใต้ดินธรรมดา มันมี


เมฆขาวลอยอย่างช้า มีภูเขาที่สูงใหญ่ และมีน้ าํ ตกที่งดงาม ทั้งหมดนั้น
ปรากฏออกมาราวกับความฝัน

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////
A : ตาแก่ชุดดําแม่งกวาดซะราบคราบเลย ถ้าเทียบกับจานข้าว อาจพูด
ได้วา่ แม่งแดกข้าวไม่เหลือสักเม็ด เผลอๆเลีย

B : กูวา่ แดกจานเข้าไปเลยดีกว่าไม๊???

C : ก็ดีนะ อยูท่ อ้ งดี

A : เด๋ วกูไปเอาจานมาให้ แล้วมืงแดกนะ

C : เอามาสิ
B : แม่งใจถึง . . . . . . . .
บทที่ 532 – สี่ รูปแบบมายา

“นี่มนั อะไรกัน !! ข้าเดินออกมาจากสุ สานจักรพรรดิแล้วอย่างนั้นรึ


!?”

เมื่อเห็นเช่นนั้น ความคิดแรกของ ชูเฟิ ง คือ เขาสงสัยว่าตัวเขา


ออกมาจากสุ สานจักรพรรดิเป็ นที่เรี ยบร้อยแล้ว เพราะทิวทัศน์น้ นั งด
ฝามราวกับสรวงสวรรค์กไ็ ม่ปาน

“เดี๋ยวนะ !!” ชูเฟิ ง รี บปฏิเสธความคิดของเขาในทันที เพราะเขา


ไม่ได้เข้าไปยังส่ วนลึกของสุ สานจักรพรรดิ ดังนั้น จึงเป็ นไปไม่ได้ที่เขา
จะออกมาจากสุ สานจักรพรรดิ

นอกจากนี้ ด้วยประสบการณ์ที่ผา่ นมาของเขานั้น เขาเชื่อว่า


ทิวทัศน์ดา้ นหน้านี้ไม่มีจริ ง และนัน่ คือภาพลวงตา
“เดี๋ยวก่อน อย่าเข้าไปในสถานที่แห่งนั้น !!” เมื่อ ชูเฟิ ง รู ้สึกผิด
สังเกต เขารี บกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ ว

เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของ ชูเฟิ ง นั้น ชายลึกลับก็หยุดอยูก่ บั ที่ทนั ที เขา


เชื่อฟังคําสัง่ ของ ชูเฟิ ง อย่างเคร่ งครัด

ชูเฟิ ง พยายามสังเกตไปที่ทิศทัศน์ดา้ นหน้าอย่างระมัดระวัง แต่ดว้ ย


ความแข็งแกร่ งของเขาในตอนนี้ มันจึงไม่สามารถทําให้เขามัน่ ใจได้วา่
ทิวทัศน์น้ ีเป็ นภาพลวงตาหรื อไม่

ทิวทัศน์ดา้ นหน้านั้น ประกอบไปด้วยภูเขาสู ง ที่มีเมฆขาวรายล้อม


อยูร่ อบด้าน มีน้ าํ ตกไหลลงมาอย่างงดงาม อีกทั้งยังมีฝงู นกกระเรี ยนยืน
เรี ยงรายอยูเ่ ต็มไปหมด มันเป็ นภาพที่งดงามจนไม่อาจรู ้ได้วา่ เป็ นของ
จริ งหรื อไม่
“ลองสังเกตดูซิ ว่ามันเป็ นภาพลวงตาหรื อไม่” ในช่วงเวลานี้ ชูเฟิ ง
จึงหวังพึ่งพลังของชายลึกลับ

“ไม่วา่ มันจะเป็ นอะไร ข้าก็สามารถทําลายได้ท้ งั หมด” ชายลึกลับ


ไม่ได้ตอบคําถามของ ชูเฟิ ง เขาสู ดหายใจเข้าอย่างเย็นเยียบ พร้อมกับพุง่
ทะยานเข้าไปยังทิวทัศน์ดา้ นหน้าอย่างรวดเร็ ว

“หึ ….เขาบ้าไปอีกแล้ว เขาไม่ได้เข้าใจในคําพูดของข้าเลยแม้แต่


น้อย” ในขณะนั้น ใบหน้าของ ชูเฟิ ง ก็เต็มไปด้วยความกังวล เพราะ
ความจริ งแล้วนั้น เขาเพียงต้องการให้ชายลึกลับใช้อาํ นาจพลังวิญญาณ
ของเขาตรวจสอบ เพราะถึงอย่างไรชายลึกลับก็เป็ นถึงผูเ้ ชื่อมต่อโลก
วิญญาณชุดคลุมสี ทอง ด้วยความแข็งแกร่ งของพลังอํานาจวิญญาณของ
เขานั้น ย่อมจะตรวจสอบได้วา่ ม้นเป็ นภาพลวงตาหรื อไม่
“ไม่ตอ้ งกังวลไป หากมันเป็ นภาพลวงตา ก็ตอ้ งอยูใ่ นนั้นถึงจะ
สามารถทําลายมันได้ ด้วยวิธีของเจ้าบ้านี่ ย่อมไม่มีปัญหา”

“ทางด้านหน้ามีเพียงทางเดียวเท่านั้น หากเจ้าไม่ทาํ ลายมัน เจ้าก็ไม่


สามารถไปต่อได้” ต้านต้าน กล่าวเตือน

“อืม…ก็คงต้องเป็ นเช่นนั้น” ไม่ใช่วา่ ชูเฟิ ง ไม่เข้าใจใน


จุดมุ่งหมาย แต่หลังจากที่เขาได้รับรู ้ถึงอันตรายของสุ สานจักรพรรดิน้ นั
เขาก็ระวังตัวเป็ นอย่างมาก แต่ดว้ ยสถานการณ์ตรฝหน้านี้ เขาก็ไม่อาจ
ทําอะไรได้ ทําได้เพียงพึ่งพาพลังของชายลึกลับเท่านั้น

“เพลิงสวรรค์แห่งความพิโรธของข้า จะเผาผลาญทุกสิ่ ง !!”

ในเวลานั้น ชายลึกลับก็ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลัง่ ทันใดนั้น พื้น


แผ่นดินพลันสัน่ ไหวอย่างรุ นแรง ทัว่ ทั้งบริ เวณต่างถูกห้อมล้อมไปด้วย
เปลวเพลิงที่รุนแรง

ไม่วา่ นะเป็ นภูเขา สระนํ้า นํ้าตก ก้อนเมฆ หรื ออะไรอื่นๆ นั้น ถ้า
พวกมันไม่กาํ ลังลายอยู่ พวกมันก็ระเหยไปอย่างรวดเร็ ว ด้วยความร้อน
ของเปลวเพลิง

“เจ้าเป็ นใคร !? ถึงได้กล้ามาทําอวดดีในที่แห่งนี้ !!”

ในขณะนั้น ก็มีเสี ยงหนึ่งดังขึ้นมา เมื่อได้ยนิ เสี ยงนี้น้ นั ใบหน้าของ


ชูเฟิ ง ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะเขารู ้สึกคุน้ เคยกับเสี ยงนี้เป็ น
อย่างมาก

***** ตูมมมมมม *****


ในขณะนั้น มีเสี ยงระเบิดดังกึกก้องเกิดขึ้นที่ดา้ นหลังของชาย
ลึกลับ ชูเฟิ ง จึงรี บหันหน้าไปดู เขาก็พบว่ามีกรงเล็บพยัฆค์ขายกําลังพุง่
ตรงมาที่เขา มันมีลกั ษณะคล้ายกับทักษะเร้นลับพยัฆค์ขาวสังหารไม่มี
ผิด

กรงเล็บพยัฆค์ขาวเหล่านั้นเหมือนจริ ง และทรงพลังอย่างมาก

“ฮึ่ม !!” เมื่อหันไปเห็นเช่นนั้น เขาสู ดหายใจเข้าอย่างเย็นชา ชาย


ลึกลับรี บกระโดดหลบกรงเล็บพยัฆค์ที่พงุ่ ตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ ว

“สวรรค์……นัน่ มัน !!” ทันทีที่เขาหลบได้น้ นั ชูเฟิ ง สัมผัสได้


ถึงบางอย่างที่กาํ ลังพุง่ ลงมาจากท้องฟ้า

มันเป็ นกรงเล็บพยัฆค์ขาวจํานวนมาก อีกทั้งพลังของมันนั้นยัง


แข็งแกร่ งอย่างมาก ชูเฟิ ง สามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่เล็ดลอดออกมาจาก
กรงเล็บพยัฆค์ขาวเหล่านั้นได้ทนั ที พลังเหล่านั้นไม่ได้ดอ้ ยไปกว่าพลัง
ของชายลึกลับแม้แต่นอ้ ย

“พยัฆค์ขาว เจ้าไม่อาจเอาชนะเขาได้ดว้ ยตัวคนเดียว พวกเราต้อง


ร่ วมมือกัน !!”

เสี ยงหนึ่งขึ้น พร้อมๆ กับที่เปลวเพลิงที่หอ้ มล้อมสถานที่แห่งนั้น


มอบดับไป

หลังจากที่เปลวเพลิงเหล่านั้นมอดดับไป เต่ายักษ์สีดาํ ทมิฬอีกทั้งยัง


มีงูยกั ษ์ขดอยูบ่ นกระดองของมันก็ปรากฏตัวออกมา พร้อมกับสร้างโล่
โปร่ งใส่ ข้ ึนมาป้องกันอย่างรวดเร็ ว เห็นได้ชดั ว่ามีนคือ ทักษะเร้นลับ
เกราะเต่าทมิฬ
“ข้า ราชันย์มงั กร ก็มาด้วย” พลันในท้องฟ้าก็ปรากฏ มังกรฟ้า
ออกมา ทัว่ ร่ างกายของมันปกคลุมไปด้วยหมอกบางๆ และมีออร่ าแห่ง
ราชันย์ปกคลุมบางๆ

“เจ้ากล้าที่จะท้าทายรู ปแบบทั้งสี่ เช่นนี้ เจ้าจะต้องตาย” เสี ยงหนึ่ง


ดังขึ้น พร้อมๆ กับที่ วิหคเพลิง ปรากฏตัวบินคู่มากับ ราชันย์มงั กร

ถึงแม้วา่ ชูเฟิ ง จะไม่เคยเห็นรุ ปลักษณ์ของทั้งสองมาก่อน แต่เขาก็


มัน่ ใจว่า นัน่ คือ ทักษะเร้นลับมังกรฟ้าผยอง กับทักษะเร้นลับวิหคเพลิง
ฟื้ นคืน

“ทั้งสี่ รูปแบบนี้ เป็ นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น พวกมันไม่ได้มีตวั ตน


อยูจ่ ริ ง” ต้านต้าน กล่าวเตือน

“มันเป็ นภาพลวงตา แล้วข้าจะทําเช่นไรล่ะ !!” ชูเฟิ ง รับรู ้วา่ นี่เป็ น


เพียงภาพลวงตา แต่พลังที่ส่งออกมานั้นเป็ นยองจริ งอย่างแน่นอน และ
เขาก็ไม่มนั่ ใจว่า ชายลึกลับจะสามารถเอาชนะสัตว์ยกั ษ์ท้ งั สี่ ได้หรื อไม่

“เปลวเพลิงสวรรค์แห่งความกราดเกรี้ ยว จะเผาผลาญทุกสิ่ ง ไม่มี


ใครหยุดยั้งได้ !!”

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ ชูเฟิ ง กําลังกังวลอยูน่ ้ นั ชายลึกลับได้


ตะโกนออกมาเสี ยงดัง พลันแผลเป็ นกลางหน้าผากของเขาก็มีการ
เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ ว มันเริ่ มขยายตัวออก และลามไปตามส่ วน
ต่างๆ ของร่ างกาย

ส่ วนสําคัญนั้น สี ของแผลเป็ นไม่ใช่สีเนื้อแต่อย่างใด แต่มนั เป็ นสี


แดงฉาน ราวกับเหล็กที่ถูกไฟรน

ดังนั้น เมื่อแผลเป็ นลุกลามเข้าปกคลุมทั้งร่ างกายของเขานั้น มันดู


น่ากลัวอย่างมาก แต่เขากลับไม่ได้สูญเสี ยสิ่ งใดไป แต่กาํ ลังแกร่ งขึ้น

***** วูว้ ววววว *****

เมื่อเห็นร่ างกายของชายลึกลับเปลี่ยนแปลงไปนั้น สัตว์ยกั ษ์ท้ งั สี่ ก็


คํารามลัน่ ด้วยทักษะเฉพาะตัวของพวกมันนั้น พวกมันได้เข้าไปล้อม
ชายลึกลับเอาไว้

“ใครกล้าเข้ามาขวางข้า ตาย !!”

เมื่อเขาตกอยูภ่ ายใต้วงล้อมของสี่ สตั ว์ยกั ษ์น้ นั เขาไม่ได้หวาดกลัว


แต่อย่างใด เขากลับตะโกนออกมาดังสนัน่
เพียงเสี ยงตะโกนของเขานั้น พื้นแผ่นดินก็สนั่ ไหวอย่างรุ นแรง
เปลวเพลิงที่ร้อนแรงปะทุออกมานากร่ างกายของชายลึกลับอย่างรวดเร็ ว

เปลวเพลิงนี้ไม่ใช่เปลวเพลิงธรรมดาๆ มันแตกต่างจากเปลวเพลิง
ในครั้งก่อนๆ ที่เขาปลดปล่อยออกมาอย่างมาก มันไม่ได้มีเพียงแค่เสี ยง
คํารามเท่านั้น แต่มนั ยังมีรูปร่ างอีกด้วย

ถ้ากล่าวว่ารู ปร่ างของทักษะเร้นลับทั้งสี่ น้ นั ใหญ่เท่ากับภูเขาลูกเล็ก


รู ปลักษณ์ของอสู รเปลวเพลิงก็ใหญ่เท่ากับภูเขาที่มียอดสู งเสี ยดฟ้า ทาง
ด่านขนาดนั้น อสู รเปลวเพลิงสามารถชนะสี่ ทกั ษะเร้นลับได้อย่างขาด
ลอย

“โฮกกกกกกกกกกกกกกกก !!”

นอกจากนี้ ในด้านพลังนั้น อสู รเปลวเพลิงยังแข็งแกร่ งยิง่ กว่าสี่


ทักษะเร้นลับอยูม่ าก เพราะเพียงพริ บตาเดียวเท่านั้น อสู รเปลวเพลิงก็
กลืนกินสี่ ทกั ษะเร้นลับเข้าไป

ในเวลานั้น ชูเฟิ ง ก็ได้เห็นทักษะเร้นลับที่ทรงพลัง กําลังกรี ดร้อง


ออกมาด้วยความเจ็บปวด และทรมานอย่างสาหัส

ReadMGA#abhisit
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////
A : ของจริ งมันอยูใ่ นตัวพระเอกไม่ช่ายอ่ะ 2 ทักษะเร้นลับ ไง๊ไปโผล่
หัวด้านนอก

B : ของปลอมไง เป็ นแค่ภาพมายา เทียบเท่ากับพลังจริ งๆของมัน


ไม่ได้หรอก และเดียวทักษะเร่ นลับที 3 ก็ใกล้ตกมาอยูภ่ ายในกํามือของ
ชูเฟิ งแล้ว

A : ทักษะเร้นลับ มังกรฟ้า หรื อ ทักษะเร้นลับ วิหคเพลิง ???

B : ให้เดาคงเดาไม่ถูก แต่สุดท้ายทักษะเร้นลับทั้ง 4 ก็ตกมาอยูใ่ นกํา


มือชูเฟิ งอยูด่ ี
บทที่ 533 – จักรพรรดิปรากฏ

อสูรเพลิงค่อยๆ กลืนกินสี่ ทกั ษะเร้นลับอย่างช้าๆ เสี ยงร้องอย่าง


ทรมานของสี่ ทกั ษะค่อยๆ แผ่วเบาลงอย่างช้าๆ จนในที่สุดมันก็เงียบ
หายไป

ในสถานการณ์เช่นนั้น ชูเฟิ ง สามารถเห็นได้ชดั ว่า ภาพลวงตา


ค่อยๆ เปลี่ยนไป มันบิดเบี้ยว และค่อยๆ หมุนวนอย่างรวดเร็ ว สุ ดท้าย
ทิวทัศน์ที่งดงามก็สลายไป กลับสู่ สภาพเดิม

“แข็งแกร่ งมาก !!” ชูเฟิ ง ตกตะลึงอีกครั้ง เมื่อเขาได้เห็นความ


แข็งแกร่ งของ ชายลึกลับ เขามีความสามารถที่ยอดเยีย่ มอย่างมาก ที่
สามารถจัดการกับภาพลวงตาได้อย่างเด็ดขาดเช่นนี้

เมื่อสภาพแวดล้อมกลับสู่ สภาพปกติ และอสู รเพลิงได้กลับเข้าสู่


ร่ างกายของ ชายลึกลับ นั้น ชูเฟิ ง ก็สามารถเห็นสภาพโดยรอบได้อย่าง
ชัดเจน

เมื่อ ชูเฟิ ง มองออกไปด้านหน้านั้น เขาก็ตอ้ งตกตะลึงอย่างมาก

เพราะที่ดา้ นหน้าของเขานั้น มีประตูบานใหญ่ยกั ษ์ต้ งั อยู่ มีสูงกว่า


หมื่นฟุต และกว้างกว่าพันฟุต มันราวกับประตูที่เชื่อมสู่ แดนสวรรค์กไ็ ม่
ปาน

ประตูบานนี้มีสีทอง และเปล่งประกายระยิบระยับออกมา มัน


ไม่ได้ถูกสร้างมาจากทองเพียงอย่างเดียวแน่นอน เพราะมันให้ความรู ้สึก
ถึงความมัน่ คง และความศักดิ์สิทธิ์

ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ก็ถูกดึงดูดโดยประตูสีทองบานใหญ่อย่างช่วย


ไม่ได้ แม้วา่ เขาจะเห็นเพียงด้านนอกเท่านั้น แต่มนั เหมือนกับว่าเขา
สามาาถมองทะลุถึงภายในได้เลยทีเดียว

ภายในนั้นมันเป็ นโลกที่แตกต่างอย่างสิ้ นเชิง แตกต่างจากโลกที่ ชู


เฟิ ง เคยเห็นมาทั้งหมด สิ่ งมีชวั ติ ภายในนั้นกําลังวิวฒั นาการอย่างรวดเร็ ว

ความแรกของ ชูเฟิ ง เมื่อเขามองไปที่นนั่ ก็คือ เขาต้องการเปิ ด


ประตูบานใหญ่น้ ี และเข้าไปยังโลกแห่งนั้น

“เจ้าโง่ อย่ามองไปที่ประตูนนั่ ” ในขณะนั้น มีเสี ยงดังมาจาก


ด้านล่างของเขา ทําให้เขาหยุดความคิดของเขาอย่างรวดเร็ ว

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง ก็ผงะพร้อมกับก้มลงไปมองที่ดา้ นล่าง


ทันที เมื่อเขาเห็นต้นเสี ยงนั้น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุ ขอย่าง
รวดเร็ ว
เพราะที่พ้นื ด้านล่างนั้น เป็ นรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณคล้าย
กระจกขนาดใหญ่ ทั้งสี่ ดา้ นมีรูปสลักปรากฏอยูอ่ ย่างเด่นชัด

รู ปสลักเหล่านั้นคือ รู ปลักษณ์ของสี่ ทกั ษะเร้นลับ และในขณะนั้น


ทั้งสี่ ทกั ษะเร้นลับได้ปล่อยโซ่ที่สร้างจากรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ
ออกมา มันเป็ นพันธนาการที่แข็งแกร่ งอย่างมาก

ที่ตรงกลางของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณนั้น มีชายชราคนหนึ่ง


เขาสวมชุดสี ดาํ กําลังจ้องมาด้วยความกราดเกรี้ ยว คนผูน้ ้ นั ก็คือ ชายชรา
ชุดดํา นัน่ เอง

“ฮ่าๆ เป็ นเขานัน่ เอง เขาถูกขังไว้รูปแบบอํานาจพลังวิญญาณของสี่


ทักษะเร้นลับ”
“ในที่สุดข้าก็เข้าใจเสี ยที ว่าเหตุใดเจ้าบ้านัน่ ถึงได้เอาชนะสี่ ทกั ษะ
เร้นลับได้อย่างไม่อยากเย็น เพราะพลังของพวกมันส่ วนหนึ่งได้ถูกใช้ใน
การผนึกเจ้าแก่นี่เอง” ก่อนที่ ชูเฟิ ง จะได้กล่าวออกมานั้น ต้านต้าน ก็
กล่าวออกมาด้วยความเหยียดหยัน ในขณะที่ใบหน้าของนางก็เต็มไป
ด้วยความสุ ขอย่างมาก

“โฮะๆ ไม่ตอ้ งตามหาจนสุ ดขอบโลก หรื อใช้ความพยายามเลย


จริ งๆ” ชูเฟิ ง ก็มีความสุ ขอย่างมาก เพราะในตัวของชายชราชุดดํามี
สมบัติของสุ สานจักรพรรดิอยู่ อีกทั้งในตอนนี้เขายังถูกขังอยู่ ราวกับว่า
สวรรค์เป็ นใจให้กบั เขา

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ซ่อนความยินดีของเขาเอาไว้ และกล่าวถาม


ชายชราชุดดําด้วยความสับสนว่า “ผูอ้ าวุโส เหตุใดท่านจึงไม่ให้ขา้ มอง
ไปที่ประตูนนั่ ”

“หึ ….เด็กที่เติมโตในสถานที่รกร้างเช่นนี้ ถึงจะมีความสามารถ


มากเพียงใด เจ้าก็ยงั เป็ นได้เพียงเจ้าโง่เท่านั้น”

“ข้าจะบอกให้ ที่นี่คือสุ สานจักรพรรดิ และนี่กค็ ือ ประตู


จักรพรรดิ”

“ประตูจกั รพรรดิน้ นั ถูกสร้างขึ้นโดยผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักร


จักรพรรดิแห่งสงคราม ไม่ใช่เพียง ไม่สามารถทําลายได้ แต่มนั ยังมี
ความสามารถในการดึงดูด และแสดงความต้องการตามก้นบึ้งของหัวใจ
ของเจ้า”

“เมื่อเจ้ามองไปที่ประตูจกั รพรรดิเป็ นเวลานาน เจ้าจะถูกสะกดให้


อยูภ่ ายใต้ภาพลวงตา และในท้ายที่สุดเจ้าก็จะเข้าไปในประตูจกั รพรรดิ”

“เมื่อเจ้าเปิ ดประตูจกั รพรรดิน้ นั กลไกของประตูจะทํางานทันที


และเมื่อถึงเวลานั้น ก็เท่ากับว่าเจ้าฆ่าตัวตาย” ชายชราชุดดํากล่าวเตือน
“อ่า…!!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นเขา
จึงกล่าวถาม ต้านต้าน ว่า “ต้านต้าน สิ่ งที่ชายชราชุดดํากล่าวจริ งหรื อไม่
ประตูจกั รพรรดิแข็งแกร่ งขนาดนั้นเลยหรื อ”

“บอกตามตรง ข้าก็ยงั ไม่มนั่ ใจในเรื่ องนี้นกั ข้ารู ้เพียงแค่วา่ สุ สาน


จักรพรรดิอนั ตรายมาก ส่ วนรายระเอียดต่างๆ ข้าก็ไม่รู้แน่ชดั อีกทั้งข้าก็
เพิ่งมายังโลกแห่งนี้ ก็เท่ากับว่าข้ามียงั สุ สานจักรพรรดิเป็ นครั้งแรก”
ต้านต้าน กล่าวอย่างจนปัญญา พร้อมกับสายศรี ษะเบาๆ

“มันคงจะดีกว่า ถ้าพวกเราเชื่อคํากล่าวของเขา ถึงอย่างไรสมบัติที่


อยูก่ บั เขา ก็คุม้ ค่ากับการเดินทางในครั้งนี้แล้ว ไม่จาํ เป็ นต้องไปเสี่ ยง
อันตรายกับประตูจกั รพรรดิหรอก”

ชูเฟิ ง มองกลับไปที่ประตูที่ส่องแสงสี ทองระยิบระยับ เขาไม่รู้สึก


ถึงอันตรายใดๆ จากมัน และยังคงเห็นโลกที่งดงามภายในนั้น เขา
ต้องการที่จะเปิ ดประตูจกั รพรรดิอย่างมาก

แต่เมื่อเห็นเช่นนั้น เขายิง่ ยํ้าเตือนหัวใจของเขามากขึ้น เพราะจาก


คํากล่าวของ ชายชราชุดดํา นั้น ประตูจกั รพรรดิมีความสามารถในการ
ดึงดูด และสะกดจิตใจของผูค้ นอย่างมาก

“อย่ามองไปที่ประตูนนั่ มันอันตราย !!” ชูเฟิ ง รี บกล่าวเตือน ชาย


ลึกลับ เพราะเกรงว่าเขาจะถูกสะกดด้วยพลังของประตูจกั รพรรดิ

อย่างไรก็ตาม คําเตือนของ ชูเฟิ ง ก็สายไปเพียงพริ บตา เพราะใน


ขณะนั้น ชายลึกลับ ได้ทะยานออกไปที่ดา้ นหน้าของประตูจกั รพรรดิ
เสี ยแล้ว

“แย่แล้ว !! ไม่ดีแน่ !!” ชายลึกลับ ได้ตกอยูภ่ ายใต้การสะกดของ


ประตูจกั รพรรดิ และก้าวเข้าไปใกล้ราวกับคนหูหนวก ชูเฟิ ง ยิง่ เร่ งเร้า
ตะโกนออกไป

“หยุด !! หยุดเดี๋ยวนี้ !! ที่ดา้ นหน้าของเจ้ามันอันตรายเกินไป ถ้าเจ้า


เข้าไปใกล้ เจ้าจะตาย !!” เมื่อเห็น ชายลึกลับ ยิง่ เข้าไปใกล้ประตู
จักรพรรดิน้ นั ชูเฟิ ง ยิง่ ตะโกนออกมาเสี ยงดัง แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์
เพราะเขาไม่สามารถหยุด ชายลึกลับ ได้เสี ยแล้ว

***** พรึ่ บ *****

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ ชายลึกลับ อยูห่ ่างจากประตูจกั รพรรดิกว่า


พันเมตรนั้น ออร่ าพลังแปลกๆ ก็แผ่กระจายออกมาอย่างรวดเร็ ว

มันเป็ นพลังที่แปลกประหลาดอย่างมาก แต่กส็ ามารถรับรู ้ได้ถึง


ความแข็งแกร่ งอย่างชัดเจน มันเป็ นพลังที่ราวกับว่าสามารถทําให้สายนํ้า
ไหลย้อนกลับ สามาาถทําลายได้แม้แต่โลกมนุษย์ และสรวงสวรรค์ได้
อย่างง่ายดาย

“พลังจักรพรรดิ !! นัน่ อาจจะเป็ นพลังอํานาจจักรพรรดิ !!” ชูเฟิ ง


รู ้สึกได้ถึงอันตรายถึงชีวติ อย่างรวดเร็ ว เมื่อต้องอยูต่ ่อหน้าออร่ าพลัง
เหล่านี้ พวกเขาไม่สามาาถต้านทานได้แม้แต่นอ้ ย

***** พรึ่ บ *****

พลังออร่ าเหล่านั้นพุง่ ตรงมายัง ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว มันหยุดห่างจาก


เขาเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น พวกมันค่อยเปลี่ยนแปลงรู ปแบบของพวก
มัน

พลังออร่ าเหล่านั้นแผ่ขยายปกคลุมพื้นที่อย่างรวดเร็ ว พลันภูเขา ลํา


ธาร เมฆขาว ก็ปรากฏออกมา เพียงพริ บตาเดียวเท่านั้น ทิวทัศน์ที่งดงาม
ก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

ไม่เพียงแค่ออร่ าเหล่านั้น จะกลายสภาพเป็ นมิวทัศน์ที่งดงาม แต่


พวกมันยังหลอมรวมเป็ นออร่ าสี ทอง และบีบอัดแน่นจนในที่สุดก็
กลายเป็ นร่ างของมนุษย์

ศรี ษะของเขาจรดฟ้า เท้าของเขาจรดพื้นแผ่นดิน แม้วา่ ออร่ าสี ทอง


จะเปล่งประกายออกมาบดบังใบหน้า และร่ างกายของเขา จนไม่อาจ
มองได้อย่างชัดเจน แต่กไ็ ม่มีผใู ้ ดไม่รับรู ้ถึงความแข็งแกร่ งของเขา

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////

A : มันคือใครกัน ???

B : จะใครก็ช่าง แต่ชายชุดดําถูกผนึกไว้เรี ยบร้อย คราวนี้ถึงตาชูเฟิ งรู ด


ทรัพย์คืนบ้างแล้ว!!!
C : จะทําได้ง้ นั เหร๊ อ ?

A : ถ้าจะทํา ทําไมจะทําไม่ได้!!! มือ เท้า ถูก พันธนาการเอาไว้แบบ


นั้น จะเอาปัญญาที่ไหนขัดขืน

B : เออช่าย!!! ถ้าคิดจะเอาทําไมจะเอาไม่ได้!!!

บทที่ 534 - นี่คือจักรพรรดิแห่งยุทธภัณฑ์

ในตอนนั้นร่ างขนาดใหญ่ ที่สามารถแตะท้องฟ้าได้และขณะที่อยูพ่ ้นื ดิน


ปรากฏอยูด่ า้ นหน้า ในตอนนั้นไม่วา่ ใครก็ตอ้ งตกตะลึงด้วยบรรยากาศ
รอบๆมัน

ชูเฟิ งนั้นรู ้สึกถึงมัน อย่างชัดเจน ในตอนนั้น มันไม่ดีมีจิตสํานึกใดๆ


พลังงานจากร่ างกายคน พูดให้ชดั ก็คือมันเหมือนกับเป็ น พลังอํานาจ
จักรพรรดิ

และที่เรี ยกว่า อํานาจพลังจักรพรรดินนั่ มันมาจาก พลังของจักรพรรดิ


แห่งสงคราม

แม้จะเป็ นเพียงอํานาจพลัง แต่กเ็ ป็ นพลังที่ถูกที่ไว้โดย จักรพรรดิแห่ง


สงครามซึ่งมันแข็งแกร่ งที่สุดที่ชูเฟิ งเคยเห็น พลังของมันนั้นทรงพลัง
กว่าชายชุดดําอยูห่ ลายเท่าตัว อาจบอกได้วา่ ทั้ง 2 นั้นไม่ได้เสี้ ยวของมัน
เลย

“นี่คือ พลังของจักรพรรดิแห่งสงครามอย่างนั้นหรื อ มันเกิดจาก


อํานาจพลังวิญญาณ ดังนั้นมันสามารถเปลี่ยนรู ปร่ างได้ อีกทั้งยังไม่มีวนั
ดับสู ญและถูกยับยั้งได้อย่างนั้นสิ นะ” ชูเฟิ ง พูดขึ้นด้วยความตกใจ

มันเป็ นเพราะชูเฟิ งรู ้สึกว่าตนนั้นอ่อนด้อยแค่ไหน เขารู ้สึกว่าตัวเองนั้น


เป็ นแค่ไรฝุ่ น เมื่ออยูต่ ่อหน้าพลังอํานาจจักรพรรดิ

“ไม่ จิตสํานักจะตายไปแล้ว เหลือแต่อาํ นาจพลังจักรพรรดิ แต่


นัน่ ก็ทาํ ให้มนั สามารถอยูต่ ่อไปได้อีกนับหมื่นปี ภายในประตูจกั รพรรดิ์
นัน่ คือสมบัติ มันเป็ นสมบัติล้ าํ ค่าอย่างแท้จริ ง หากข้าคาดเดาไม่ผดิ
ภายใน ประตูน้ นั จะต้องมีจกั รพรรดิแห่งยุทธภัณฑ์อยู.่ ”

“ อํานาจพลังจักรพรรดิน้ นั อยูใ่ นประตูจกั รพรรดิ นัน่ เป็ นเหตุผล


ว่า ทําไมมันไม่หายไปเมื่อผ่านเวลานาน พูดง่ายๆคือ มันได้อาศัยซึ่ งกัน
และกัน นัน่ เป็ นเหตุผลว่าทําไมจักรพรรดิแห่งยุทธภัณฑ์ถึงได้แข็งแกร่ ง
เพราะมันไม่ได้เป็ นเพียงสิ่ งที่ถูกสร้างโดยผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักร
จักรพรรดิแห่งสงคราม แต่เพราะมันยังมีพลังจักรพรรดิแห่งสงครามอยู่
ในตัวอีกด้วย” ต้านต้าน อธิบาย

แม้วา่ มันจะเป็ นครั้งแรกที่ตา้ นต้านได้เห็นอํานาจพลังระดับจักรพรรดิ


และ ประตูจกั รพรรดิ แต่ดว้ ยประสมการณ์ของเธอที่มากกว่าชูเฟิ ง
หลายเท่าตัวนั้น เธอจึงรู ้จกั มันมากกว่าชูเฟิ งอย่างแน่นอน

แม้วา่ เธอจะไม่ได้มีอาํ นาจวิญญาณ แต่เธอก็สามารถวิเคราะห์มนั ได้ดว้ ย


ตาเปล่า

“จักรพรรดิแห่งยุทธภัณฑ์อย่างนั้นหรื อ” หลังจากต้านต้านพูด
จบ ชูเฟิ งก็พดู ออกมาด้วยความตกใจ

นับตั้งแต่ได้รับ ขวานอสู รฟ้า ชูเฟิ งก็เคยถามต้านต้านหลายครั้งเกี่ยวกับ


อาวุธที่มีพลังเหนือกว่ายอดยุทธภัณฑ์

และต้านต้าน ก็ได้บอกเขาไปเกี่ยวกับยุทธภัณฑ์พวกนี้วา่

ยุทธภัณฑ์ปกติ ถูกสร้างด้วยเหล็ก คนปกติสามารถสร้างมันได้

และดีข้ ึนมาหน่อยจะถูกสร้างด้วยวัสดุที่ดีกว่า แต่ไม่วา่ จะสร้างด้วยวัสดุ


ชนิดใดเมื่อผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสู งใช้แล้ว มันก็จะพังลงอย่างง่ายดาย

ดังนั้นเมื่อระดับการบ่มเพาะของผูบ้ ่มเพาะนั้นไปถึงในระดับนึง แล้ว


ยุทธภัณฑ์ที่ถูกสร้างด้วยวัสดุพิเศษนั้นก็ไม่มีประโยชน์เลยที่จะนํามาใช้
มีเพียงแต่ยทุ ธภัณฑ์ที่ถูกสร้างโดยผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสู งเท่านั้น ที่จะมี
ความสามารถที่เป็ นเอกลักษณ์

และยุทธภัณฑ์ที่ถูกสร้างโดยคนระดับเจ้าแห่งสงครามนั้น จะถูกเรี ยกว่า


ยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอด หรื อยอดยุทธภัณฑ์ และยุทธภัณฑ์ที่ถูกสร้างโดย
ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ ราชันย์แห่งสงครามจะถูกเรี ยกว่า ราชันย์แห่ง
ยุทธภัณฑ์ หรื อ ยุทธภัณฑ์ระดับราชันย์ และยุทธภัณฑ์ที่ถูกสร้างโดย
ผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักร จักรพรรดิแห่งสงคราม ก็จะถูกเรี ยกว่าจักรพรรดิ
แห่งยุทธภัณฑ์ หรื อ ยุทธภัณฑ์ระดับจักรพรรดิ

ในทวีปเก้าอาณาจักรนี้ ยอดยุทธภัณฑ์นบั ว่าเป็ นสมบัติล้ าํ ค่า เพราะมัน


ไม่มีราชันย์แห่งยุทธภัณฑ์ หรื อ จักรพรรดิแห่งยุทธภัณฑ์อยูเ่ ลย และ
แม้แต่ภูมิภาคทะเลตะวันออกเองก็ไม่มีคนครอบครองยุทธภัณฑ์ระดับนี้
เช่นกัน

แต่ต่อหน้าเขาในตอนนี้กบั มี จักรพรรดิแห่งยุทธภัณฑ์ ปรากฏอยู่ และ


ยังอยูใ่ นอาณาจักรมังกรฟ้าอีกด้วย ในตอนนั้นมันทําให้ชูเฟิ งตกตะลึง
อย่างมากและยากที่จะเชื่อในตาตัวเอง

แม้วา่ เขาจะรู ้วา่ มันอันตราย เขาก็ไม่สามารถละสายตาไปจากมันได้ เขา


จึงตรวจสอบมันด้วยสายตา

และเมื่อเขามองไปที่แสงสี ทองด้านหลังประตูจกั รพรรดิเขาก็พบว่ามัน


ทําให้เขารู ้สึกแปลกๆแต่มนั ก็ทรงพลังอย่างมาก

มันอาจพูดได้วา่ ถ้าประตูจกั รพรรดิ เป็ นยอดยุทธภัณฑ์ มันก็น่าจะมีพลัง


ที่จะสามารถฆ่าคนได้ที่อยูใ่ นรัศมีรอบๆได้
ดังนั้นชูเฟิ ง จึงเชื่อคําพูดของต้านต้าน และคิดว่าถ้าสุ สานจักรพรรดิน้ นั
ไม่ธรรมดาอย่างมากและยังมีสิ่งกีดขวางด้วย แต่นี่เป็ นจักรพรรดิ
ยุทธภัณฑ์ที่เป็ นตํานาน

และเมื่ออยู๋ต่อหน้าจักรพรรดิยทุ ธภัณฑ์ ชูเฟิ งก็ตอ้ งการที่จะครอบครอง


มันและนํามันมาใช้

แต่ในตอนนั้น เขาก็รู้ตวั เองดีกว่าเขายังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะ


ครอบครองมัน

“เพลิงสวรรค์แห่งความพิโรธของข้าสามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่ ง
ใครต้องการต่อต้านข้ามันต้องตายยย!!!!” ในตอนนั้น ชายลึกลับก็
ระเบิดเสี ยงดังออกมา
หลังจากนั้น แผลเป็ นสี แดงเพลิงบนตัวเขาก็เกิดแสงออกมาอีกครั้ง และ
เกิดเปลวเพลิงระเบิดออกมาจากร่ างเขา และเปลิวเพลิงนัน่ ก็กลายเป็ น
สัตว์ร้าย และโจมตีไปที่จกั รพรรดิยทุ ธภัณฑ์

“ไม่นะ!” เมื่อเห็นเช่นนั้นชูเฟิ งก็ตะโกนออกมา ในใจเขากลัว


ว่าชายลึกลับนั้นจะไปสร้างความโกรธให้กบั อํานาจพลังจักรพรรดิ

แต่เขาก็ไม่สามารถทําอะไรอะไรได้ ในตอนนั้นชายลึกลับก็ต้ งั เป้าไปที่


ประตูจกั รพรรดิ เขาไม่สนใจคําพูดของชูเฟิ ง และเรี ยกเพลิงออกมาเต็ม
กําลังเพื่อ โจมตีอาํ นาจจักรพรรดินนั่

อย่างไรก็ตามเมื่อ สัตว์เพลิงยักษ์เข้าไปใกล้อาํ นาจพลังจักรพรรดิ ก็มีมือ


ขนาดยักษ์สีทองปรากฏขึ้นจากท้องฟ้าและฟาดใส่ สตั ว์ยกั ษ์ดว้ ยฝ่ ามือ
ปัง หลังจากเสี ยงนั้น เพลิงกระเด็นไปทัว่ ทุกที่ และหลังจากนั้นมันก็
หายไป ชายลึกลับที่ปล่อยเพลิงเหล่านั้นที่สามารถเผาทุกสิ่ งได้ อย่างนั้น
ก็รีบทําให้เพลิงนั้นมอดลงทันที

“อ๋ าา!”

เมื่อสัตว์เพลิงเหล่านั้นถูกบด ใบหน้าของชายลึกลับก็เปลี่ยนทันที และมี


เลือดกระเด็นออกมาจากปากเขาเห็นได้ชดั ว่าเขาได้รับผลกระทบไป
เต็มๆ

และในตอนนั้น ชูเฟิ งก็ตกใจอย่างมากเมื่อพบว่ารู ปแบบวิญญาณ


รอบๆตัวเขานั้นสร้างลมขึ้นมาและหายไปในที่สุด

“แข็งแกร่ งยิง่ นัก.” ในตอนนั้นชูเฟิ งนั้นยอมรับจากใจจริ ง เขารู ้


ว่าพลังอํานาจจักรพรรดิน้ นั แข็งแกร่ ง แต่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะแข็งแกร่ ง
ถึงขนาดเพียงแค่โจมตีครั้งเดียวก็ทาํ ให้ชายลึกลับนัน่ บาดเจ็บสาหัส
ขนาดนี้

“ข้าจะฆ่ามัน!” ในตอนนั้นชายลึกลับนัน่ ไม่ยอมรับในสิ่ งที่


เกิดขึ้นล่าถอยแต่เขาจะโจมตีอาํ นาจพลังจักรพรรดิอีกครั้ง

“ชูเฟิ งรี บถอยเร็ วไม่ง้ นั เจ้าจะถูกลูกหลงจากเจ้าบ้านี้ดว้ ย!” ต้าน


ต้านรี บเตือน

“บัดซบ!!!.” ในตอนนั้นชูเฟิ งไม่ได้ทาํ อะไร เขาหันกลับและ


รี บกลับไปในทางที่เขามา

ชายลึกลับนัน่ เสี ยการควบคุมอย่างสมบูรณ์แล้ว และ พลังอํานาจ


จักรพรรดินนั่ ก็แข่งแกร่ งอย่างมาก ถ้าชายลึกลับนั้นสร้างความโกรธ
ให้กบั อํานาจพลังจักรพรรดิ ไม่เพียงเขาต้องตาย ชูเฟิ งอาจจะโดน
ลูกหลงไปด้วย

*ฮึ่ม*

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้พลังอํานาจจักรพรรดินนั่ ก็ไม่ได้ทน มันเริ่ ม


ปล่อยคลื่นไร้รูปร่ างออกมาจากตัวมัน

*ตูม*

เมื่อลมนัน่ ปะทะกับการโจมตีของชายลึกลับมันก็ระเบิดออกและทําให้
การโจมตีของชายคนนั้นหายไป
“พลังของเจ้ายังอ่อนแอเกินไป กลับไปซะกลับไปทางที่เจ้ามาเจ้า
ยังไม่คู่ควรที่จะครอบครองสิ่ งนี้” ทันใดนั้น ก็มีเสี ยงดังมาจากพลัง
อํานาจจักรพรรดิที่อยูข่ า้ งในประตูจกั รพรรดิ

เมื่อเสี ยงนั้นดันออกมา แม้สวรรค์และพื้นดินจะไม่สนั่ สะเทือน แต่มนั ก็


สามารถสะท้านใจคนไปถึงจิตวิญญาณ ชูเฟิ งรู ้สึกว่าเสี ยงนัน่ สามารถฆ่า
เขาและทําลายจิตสํานึกของเขา และทําให้เขาหายไปราวกับฝุ่ นควันได้
เลย

อย่างไรก็ตามนี่เป็ นแค่เสี ยงเตือนเท่านั้นและยังไม่มีจิตสังหารใดๆ


นอกจากนี้หลังจากเสี ยงนั้นดังออกมาก็มีภาพที่สวยงามและพลังอํานาจ
จักรพรรดิที่ราวกับเชื่อมสวรรค์และโลกอยู๋กค็ ่อยๆหดตัวและกลับเข้าไป
ในประตูจกั รพรรดิในที่สุด

และหลังจากนั้นก็ทาํ ให้พ้ืนที่น้ ีกลับสู่ ความสงบ

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////////
แปลโดยท่าน#ฮาย

A : จักรพรรดิแห่งยุทธภัณฑ์ง้ นั หรอ ได้มาก็เยีย่ มเลยดิ ต่อให้เป็ น


ผูเ้ ชี่ยวชาญ อาณาจักร ราชันย์แห่งสงคราม ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู อ้ ีกต่อไป . . . .

B : ชูเฟิ งยังไม่มีพลังพอที่จะใช้มนั ได้หรอก แต่แน่นอนว่าวันใดวัน


หนึ่งเค้าต้องได้มนั ไปครอบครอง

A : สมบัติภายในสุ สานจักรพรรดิเต็มไปด้วยของลํ้าค่าทั้งนั้น เชื่อได้


เลยว่ายังไงพี่เฟิ งก็คงไม่ได้ออกไปมือเปล่า

B : ถูกต้อง แต่เขาจะได้อะไรกลับไปบ้างต้องรอติดตาม.....
บทที่ 535 – ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้

“ฮูวว”

“เกือบไปแล้ว”
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ทุกอย่างได้กลับสู่ สภาวะปกติ ชูเฟิ งก็อดไม่ได้ที่
จะต้องถอนหายใจของเขาออกมา เพราะดูเหมือนว่าผูป้ กครองสุ สาน
จักรพรรดิน้ นั จะไม่ได้เป็ นบุคคลที่เลือดเย็นและกระหายเลือด เขาไม่ได้
ตัดสิ นใจที่จะฆ่าชูเฟิ งและคนอื่น ๆ แต่กลับเลือกที่จะมอบเส้นทางใน
การมีชีวติ อยูใ่ ห้แก่พวกเขาแทน

และเมื่อชูเฟิ งได้คิดถึงสถานการณ์ที่เขาสามารถรอดตายมาได้ นั้นมันทํา


ให้เขาได้รู้แจ้งว่าผูเ้ ชียวชาญอาณาจักร จักรพรรดิแห้งสงครามนั้นมี
ความน่ากลัวมากเพียงใด

ชูเฟิ งนั้นไม่อาจที่จะสามารถจินตนาการถึงความแข็งแกร่ งที่แสนจะน่า


กลัวของผูเ้ ชียวชาญ จักรพรรดิแห่งสงครามได้เลย บางที่พลังอํานาจของ
พวกเขานั้นอาจจะสามารถทําลายโลกได้ท้ งั ใบเลยก็เป็ นได้

และในขณะเดียวกันมันก็ทาํ ให้ชูเฟิ งได้รับรู ้วา่ สุ สานจักรพรรดิน้ นั มัน


อันตรายมากแค่ไหน แม้วา่ ตัวเขาเองจะมีชายลึกลับคอยเปิ ดเส้นทางให้
แต่ทา้ ยที่สุดแล้วตัวชายลึกลับเองนั้นก็ยงั ไม่สามารถบุกฝ่ าเข้าไปยังส่ วน
ลึกที่สุดของสุ สานจักรพรรดิได้ฉะนั้นแล้วไม่จาํ เป็ นได้ที่จะต้องพูดถึง
เขาเลย มันจึงอาจกล่าวได้วา่ สมบัติในสุ สานจักรพรรดิน้ นั จริ งไม่ใช่เรื่ อง
ที่จะรับมาได้โดยง่าย

"อ้า ~~~~~~~~~~~~~~~~~~"

แต่ในขณะเดียวกันที่ชูเฟิ งนั้นได้รู้สึกว่าภัยอันตรายนั้นได้หายไปแล้ว
ชายลึกลับก็ได้ยกมือทั้งสองข้างของเขาขึ้นมาและกุมหัวของเขาพร้อม
กับคํารามออกมาเสี ยงดังว่า “นี่ขา้ อยูท่ ี่ไหนข้ามาจากไหน? นี่ขา้ มาจาก
ไหน? ข้ามาจากไหน ?!”

เสี ยงที่ออกมาจากปากของเขานั้นดังมาก ประดุจเสี ยงคนตบมือพร้อมกัน


นับหมื่นราวกับฟ้าร้องและเสี ยงระเบิดที่ดงั ก้องในเวลาเดียวกัน, พร้อม
กับรอยบาลแผลที่เห็นได้ตามร่ างกายของเขาอย่างชัดเจน
แต่ทว่าเสี ยงที่เขาได้คาํ รามออกมานั้นมันกลับเต็มไปด้วยความ
หวาดกลัวราวกับว่าเขานั้นได้หวาดกลัวผูเ้ ชียวชาญ จักรพรรดิแห่ง
สงครามก่อนหน้านี้และบางที่มนั อาจเป็ นความหวาดกลัวที่ไปยังถึงจุดที่
เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้

"อ้า ~~~~~~~~"

“นี่ขา้ มาจากที่ไหน ? ข้ามาจากที่ไหน ?! ”

ชายลึกลับนั้นได้ครํ่าครวญออกมามากขึ้นและเสี ยงดังมากขึ้นและยังน่า
กลัวมากยิง่ ขึ้น เขาเริ่ มที่จะทุบหัวของตัวเขาเองและฉี กผมของเขาออก
ไม่วา่ ชูเฟิ งนั้นจะตะโกนเรี ยกเขาไปมากเท่าใดเขานั้นก็ไม่ได้ให้ความ
สนใจกับชูเฟิ งเลยแม้แต่นิดเดียว
“ไม่...นี่ไม่ดีแล้ว”

ท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันของชายลึกลับนั้นมันยิง่ ทําให้ชูเฟิ งไม่


สบายใจมากยิง่ ขึ้นเพราะรู ้วา่ ท่าทางที่ราวเหมือนกับคนบ้าของชายลึกลับ
นั้นจริ ง ๆ แล้วมันได้มีบางสิ่ งบางอย่างได้เข้าไปครอบงําจิตใจของเขาอยู่
ในตอนนี้และถ้าหากยังคงเป็ นเช่นนี้ต่อไปเขานั้นจะต้องตายลงอย่าง
แน่นอน

“เจ้ามาจากทะเลภาคตะวันออก ชื่อของเจ้าคือ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้


เป็ นบุตรคนที่ 42 สายเลือดบริ สุทธิ์ของวิหารเพลิงผลาญสวรรค์

แต่ในขณะที่ชุเฟิ งนั้นทําอะไรไม่ถูกจู่ ๆ ผูเ้ ฒ่าในชุดคลุมสี ดาํ ที่ถูก


พันธนาการอยูก่ บั รู ปแบบสัญลักษณ์ท้ งั 4 ก็ได้พดู ขึ้น

และหลังจากที่ได้ยนิ คําพูดของผูเ้ ฒ่าชุดดํา, การแสดงออกของชาย


ลึกลับก็ได้เปลี่ยนแปลงไปในทันทีพร้อมกับพึมพํากับตัวเองว่า “ทะเล
ภาคตะวันออก? ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ วิหารเพลิงผลาญสวรรค์บุตรสายเลือด
บริ สุทธิ์คนที่ 42 ?”

ในขณะนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ใบหน้าของชายลึกลับที่เปลี่ยนแปลงไปอย่าง
ฉับพลันเท่านั้นแม้แต่คาํ พูดที่เขาได้พมึ พําออกมานั้นก็ยงั จับใจความ
ไม่ได้วา่ เขากําลังพูดถึงอะไร

*** ฉวัดเฉวียน ***

ทันใดนั้นชายลึกลับก็ได้กระโดดบินออกไปในเส้นทางที่เขาได้เดินเข้า
มา แม้วา่ ชูเฟิ งจะยืนอยูใ่ นด้านหน้าของเขาเขาก็ไม่ได้มีท่าทางที่จะชะลอ
ความเร็ วของเขาลงเลยแม้แต่นอ้ ย

ความเร็ วของเขานั้นเป็ นจริ งเร็ วมากเกินไป ชูเฟิ งเพียงแค่รู้สึกได้ถึงการ


ระเบิดออกของสายลมเท่านั้นและในตอนนี้เขาก็ทาํ ได้เพียงแค่ยนื มอง
ชายลึกลับผูน้ ้ นั หายไปไกลต่อหน้าต่อตาของเขา

“ไอ้เวรเอ้ย ให้ตายเถอะ!” เมื่อเห็นเช่นนั้นชูเฟิ งก็อดไม่ได้ที่


จะต้องสบถคําออกมา เพราะว่าชายลึกลับผูน้ ้ นั ได้พงุ่ ทะยานออกไปโดย
ที่ทิ้งเขาไว้เพียงคนเดียวในสถานที่แห่งนี้

ถ้าหากว่าเขาสามารถออกไปยังสถานที่แห่งนี้ได้แล้วยังเจอชายลึกลับผู ้
นั้นอยูก่ น็ บั ว่าเป็ นข่าวดี แต่ถา้ หากว่าออกไปแล้วแต่ไม่เจอชายลึกลับผู ้
นั้นมันก็จะเท่ากับว่าเขานั้นได้สูญเสี ยผูต้ ิดตามที่เป็ นถึงผูเ้ ชียวชาญ
อาณาจักร ราชันย์แห่งสงครามไปเลยที่เดียว! แล้วนั้นก็หมายความเขาจะ
กลับไปโดยมือป่ าวแล้วเหลือแค่เขาเพียงคนเดียว

ความคิดของเขาที่จะไปยังทะเลภาคตะวันออกโดยมีผตู ้ ิดตามที่เป็ นถึงผู ้


เชียวชาญอาณาจักร ราชันย์แห่งสงครามนั้นก็จะมะลายหายไปกับตา
ในทันที
แต่ทว่าชูเฟิ งนั้นก็ไม่ได้แสดงอาหารที่หดหู่ออกมามากเกินไป แต่กบั พบ
คําใบ้ของความสุ ขประกายขึ้นมาในดวงตาของเขา เขาได้หนั หลัง
กลับไปแล้วบินไปยังผูเ้ ฒ่าชุดดําที่ถูกพันธนาการอยูก่ บั รู ปแบบ
สัญลักษณ์ท้ งั 4

เพียงเพราะว่าในตอนนี้น้ นั มีแค่ผเู ้ ฒ่าผูน้ ้ ีเท่านั้นที่รู้ชื่อจริ งและสถานที่


จากมาของชายลึกลับที่ได้อย่างชัดเจน

และเนื่องจากว่าผูเ้ ฒ่าชุดดํานั้นได้รู้จกั กับชายลึกลับผูน้ ้ ีมนั ก็มีความ


เป็ นไปได้วา่ ผูเ้ ฒ่าผูน้ ้ ีน้ นั จะรู ้จกั กับพ่อของเขาและอาจจะรู ้ถึงชาติกาํ เนิด
ของเขาก็เป็ นได้ แต่ถึงแม้วา่ มันจะเช่นนั้นจริ งชูเฟิ งก็ยงั ไม่ค่อยมัน่ ใจสัก
เท่าใดนักว่าผูเ้ ฒ่าผูน้ ้ ีจะทําให้เขาได้รับรู ้ถึงชาติกาํ เนิดของเขาจริ งหรื อไม่
แต่ไม่วา่ ยังใงนี่กเ็ ป็ นเพียงแค่โอกาสเดียวเท่านั้นของชูเฟิ งที่จะได้ถามไถ่

ในทันทีที่เขากําลังพยายามที่จะเข้าไปใกล้ เขาก็ได้คน้ พบว่าชั้นของ


รู ปแบบสัญลักษณ์ท้ งั 4 นั้นมีความแข็งแกร่ งเป็ นอย่างมากเพียงแค่ตวั
เขาเพียงลําพังนั้นไม่อาจที่จะเข้าไปใกล้มากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

ดังนั้นเขาจึงทําได้แค่ยนื อยูต่ รงนั้นแล้วเปล่งเสี ยงถามไปยังผูเ้ ฒ่าว่า


“ท่านผูอ้ าวุโสท่านรู ้จกั ชายผูน้ ้ นั ?!”

“แน่นอนว่าข้ารู ้จกั เขา เขานั้นเป็ นบุตรสายเลือดศักดิ์สิทธิ์เพียง


คนเดียวในประวัติศาสตร์ของวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ที่มีความสามารถ
ทะลุเกินประมุขคนก่อน ๆ ของวิหารเพลิงผลาญสวรรค์มาทั้งหมด
ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกให้รับตําแหน่งเป็ นประมุขคนต่อไป! ฮวางฟู่
ฮ่าวเยว้! มีหรื อที่ขา้ จะไม่รู้จกั ?”

“แต่อย่างไรก็ตามไอ้เด็กบัดซบ, เจ้ามีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับเขา


กันแน่? ถึงแม้วา่ จะมองลงไปที่รูปร่ างหน้าตาของเขาจะดูมึน ๆ และงง
ๆ ไปบ้างแต่มนั ก็ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เขาจะเชื่อฟังคําพูดของเจ้าอย่าง
สนิทใจ ความสัมพันธ์ของพวกเจ้าทั้งสองนั้นมันเป็ นเช่นไรกันแน่?” ผู ้
เฒ่าชุดดําถามออกมาพร้อมกับร้อยยิม้ ของเขา

แต่ในเวลาเดียวกันดวงตาของท่านผูเ้ ฒ่านั้นก็ได้จบั จ้องแน่นไปที่ชูเฟิ ง


ราวกับเป็ นสายตาของพญาเหยีย่ วเพราะว่าเขานั้นต้องการที่จะรู ้วา่ คําพูด
ที่ออกมาจากปากของชุเฟิ งนั้นมันจะเป็ นคําพูดที่โกหกหรื อไม่

แต่ทว่าชูเฟิ งนั้นก็ไม่ได้เป็ นคนที่ใกล้ชิดและสนิทสนมกับผูเ้ ฒ่าคนนี้มาก


ถึงขนาดนั้นโดยธรรมชาติแล้วเขาจึงไม่สามารถบอกถึงความจริ งใน
เรื่ องความสัมพันธ์ระหว่างเขาและชายลึกลับได้ ฉะนั้นแล้วเขาจึงแกล้ง
ทําเป็ นยิม้ อย่างขมขื่นแล้วพูดตอบไปว่า “เรี ยนท่านอย่างซื่ อตรง ข้านั้น
ได้พบเจอกับเขามาก่อนแต่วา่ ข้านั้นไม่ทราบว่าเขาจะมีความแข็งแกร่ ง
ถึงเพียงนี้ เพราะว่าในช่วงที่ขา้ ได้พบเจอเขานั้นเขาไม่ได้มีกลิ่นอายของ
พลังวิญญาณใด ๆเล็ดรอดออกมาจากตัวของเขา เขาดูราวกับว่าเป็ น
บุคคลธรรมดา”

“แล้วข้าได้สงั เกตเห็นว่าเขานั้นกําลังถูกคนบางคนทําร้ายอยูข่ า้ ง
ถนน สภาพของเขานั้นชัง่ ดูน่าสงสารยิง่ นัก ข้าจึงให้อาหารและเงิน
บางส่ วนแก่เขาไป แต่ใครจะคิดกันเล่าว่าเขานั้นได้เลือกที่จะกินอาหาร
แต่ไม่รับเงินของข้า ซํ้าเขายังได้ติดตามข้ากลับมา”

“เมื่อเห็นเช่นนั้นข้าก็กลัวว่าเขาจะโดนทําร้ายอีกข้าก็เลยให้เขามา
เป็ นผูต้ ิดตามของข้า และตั้งแต่น้ นั มาเขาก็ได้เป็ นผูต้ ิดตามของข้าตลอด
จนกระทัง่ วันหนึ่งข้าได้พบกับศัตรู ที่แข็งแกร่ งและเกือบที่จะสู ญเสี ยชีวติ
ของตน ในช่วงเวลาที่ความเป็ นความตายชีวติ ของข้านั้นได้แขวนอยูบ่ น
เส้นดายเขาก็ได้รอยขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับคํารามลั้นและฆ่าผูเ้ ป็ น
ศัตรู ของข้าทั้งหมด”

“อย่างไรก็ตามระดับพลังวิญญาณของเขาที่ได้แสดงให้ขา้ ได้
ประจักษ์น้ นั มันราวเหมือนกับว่าเขานั้นเป็ นคนละคนกันกับที่ขา้ ได้รู้จกั
อย่างลิบลับ ความห่างชั้นและความแข็งแกร่ งที่เขาได้แสดงออกมานั้น
มันเป็ นสิ่ งที่ขา้ ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน”
“เมื่อเห็นว่าเขามีความแข็งแกร่ งถึงเพียงนั้น ข้าจึงได้ขอยืมพลัง
ของเขาเพื่อเข้ามายังสุ สานจักรพรรดิ แต่ไม่วา่ อย่างไรก็ตามตัวข้าเองนั้น
ก็ยงั ไม่ได้รู้จกั ตัวตนของเขาว่าเขานั้นเป็ นใคร ฉะนั้นแล้วท่านผูอ้ าวุโส
ท่านพอที่จะบอกเรื่ องราวของเขาให้ฟังมากกว่านี้อีกสักนิดได้หรื อไม่”

“ฮ่า ๆ ไอ้เด็กบัดซบ, เจ้านี่ชง่ั โชคดีอะไรเช่นนี้ แต่มนั ก็หน้า


เสี ยดายที่แม้แต่ตวั เจ้าเองก็ยงั ไม่มีความสามารถมากพอที่จะผ่านประตู
จักรพรรดิไปได้เช่นกัน และนอกจากนี้ทรัพย์สมบัติที่เจ้าได้ใฝ่ หามาโดย
ตลอดบัดนี้มนั ก็ได้อยูใ่ นกระเป๋ าของข้าเป็ นที่เรี ยบร้อย ฮ่า ๆๆ บางทีคาํ
สุ ภาษิตที่วา่ “ตักนํ้าใส่ กะโหลก ชะโงกดูเงา” และ “จับปลาสองมือ” นี่
มันชัง่ มัน่ เหมาะแก่เจ้าเสี ยจริ ง.” ผูเ้ ฒ่าชุดดํานั้นไม่ได้ตอบคําถามของชู
เฟิ งแต่กลับพูดคําที่กระแทกกระทั้นกลับมาและล้อเลียนชูเฟิ ง

“ท่านผูอ้ าวุโสในเมื่อท่านไม่สะดวกและไม่ตอ้ งการที่จะเล่ามัน


ท่านก็ลืมมันไปเสี ยเถอะ ในภายภาคหน้าเมื่อข้าไปยังทะเลตะวันออกข้า
ก็จะได้รู้เรื่ องราวทั้งหมดนี้อยูด่ ี”
“เมื่อข้าได้เริ่ มการเดินทางของข้า ข้าก็ไม่มีความจําเป็ นใด ๆ ที่
จะต้องมายังสถานที่แห่งนี้อีก” เมื่อเห็นเช่นนั้นชุเฟิ งก็ไม่ได้ถามอะไร
มากมายอีกต่อไปเขาได้จอ้ งมองไปยังพื้นที่ดา้ นหน้าของการวางรู ปแบบ
สัญลักษณ์ท้ งั 4

ในสถานที่น้ นั ได้มีบ่อนํ้าอยู่ และในบ่อนํ้านั้นก็ได้มีประกายจาง ๆ


พร้อมกับกลิ่นอายที่แปลกและพิเศษ

ทันทีที่ชูเฟิ งได้เห็นบ่อนํ้าเขาก็ไม่ได้พดู พรํ่าทําเพลงใด ๆ และรี บ


กระโดดบินออกไปอย่างรวดเร็ ว เมื่อมาถึงในด้านหน้าของบ่อนํ้าเขาได้
เปิ ดปากของเขาและกําลังจะพยายามกลืนกินบ่อนํ้าอย่างบ้าคลัง่

“เดี้ยว!!! นั้นเจ้ากําลังจะทําอะไร? เจ้าเบื่อชีวติ ของเจ้าแล้วรึ ยงั ใง


?!”
“ในเมื่อข้าได้ถามเรื่ องราวของ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ ท่านกลับไม่บอก
ข้ามันก็ไม่มีความจําเป็ นใดที่พวกเราจะต้องมาเสวนากันอีก”

“อย่าดื่มมัน!!! กลับออกมานี่!!! เร็ วเข้า! ข้ายอมแล้วข้าจะบอกเจ้า


ตกลงไหม?”

เมื่อเห็นการกระทําของชูเฟิ งใบหน้าของผูเ้ ฒ่าชุดดํานั้นได้เปลี่ยนแปลง


ไปอย่างมากและแสดงถึงอาการหวาดกลัวออกมาไม่นอ้ ย เพราะว่านํ้าใน
บ่อนั้นมันไม่ใช่น้ าํ ธรรมดาแต่มนั เป็ นสะสารของแก่นแท้อาํ นาจพลัง
วิญญาณมันคือวัตถุตอ้ งห้ามที่แสนจะอันตราย

แก่นแท้อาํ นาจพลังวิญญาณนั้นมันเต็มไปด้วยพลังอํานาจที่บา้ คลัง่ หาก


ไปสัมผัสมันละก็มนั จะทําให้เกิดความเสี ยหายทางร่ างกายต่อผูท้ ี่ได้
สัมผัสมันและถ้ากลืนมันเข้าไปโดยตรงละก็มนั ก็เหมือนการฆ่าตัวตาย
ชัด ๆ
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : 5555 เป็ นใงล่ะเจอคนจริ งกระทิงแดงเข้าไปไม่กล้าเลยอ่ะดิ


ไอ้แก่ให้มนั รู ้ซะบ้างว่าคนจริ งเป็ นเช่นไร

B3 : 5555 หรอว่ะ มันจริ งมากขนาดนั้นเลยหรอว่ะแต่เท่าที่กรู ู ้มา


นี่ตอนนี้รู้สึกว่ามันจะโดนขอทานทิ้งจนกลายเป็ นคนหัวเน่าไปแล้วนะ
มาตั้งแต่ตอนที่ 520 หายไป 535 ถถถถถ ไม่รู้ดว้ ยว่าจะมาอีก
เมื่อไร

B1 : เงียบปากไปเลยไอ้ 3 เฟิ งกูมนั เก่งได้โดยไม่ตอ้ งมีขอทานเว้ย

B3 : หรอ 5555 เดะมาดูกนั

B1 : 5555 ได้ตอนหน้าเดะรู ้เลย


B2 : B1 ๆ ๆ ๆ แย่แล้ว B4 มันย้ายสังกัดเห็นว่าเมื่อไม่กี่บทก่อน
หน้านี้มนั ไปอยูก่ บั A B C มา

B1 : เอ้าแล้วมันยังใงว่ะปล่อยมันไปดิชงั่ มันกูไม่สนใจ

B3 : B4 นี่ใคร

B2 : จริ ง ๆ ก็อยากจะชัง่ มันอยูห่ รอกนะแต่เห็นว่าผูแ้ ปลเขาไม่ยอม


เนี่ยดิ เขาว่าจะดึง B4 กลับมา

B3 : อ่าวจะมา 4 ตัวเลยหรอยังงี้ไม่วนุ่ วายเอาหรอ

B1 : ใช่ๆ มันออกจะวุน่ วายไปหน่อยมั้ง

B2 : ไม่รู้ดิเห็นมาจะมาในบทหน้า!!

B1 : ตายแปปบอกผูแ้ ปลได้ไหมว่าขอลา 10 บท

B3 : โชคดีเพื่อนรัก!

#################################
#################################
###############################
…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้
ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 536 – ประวัติศาสตร์ทะเลภาคตะวันออก

แต่ทว่าในเวลานั้นชูเฟิ งหาฟังคําของผูเ้ ฒ่าชุดดําไม่ เขาได้ดื่มกินสะสาร


แก่นแท้อาํ นาจวิญญาณอย่างบ้าคลัง่ เข้าไปในกระเพาะของเขา ไม่เพียง
แค่น้ นั สี หน้าและท่าทางของเขาไม่ได้แสดงถึงอาการเจ็บปวดออกมาเลย
แม้แต่นิดเดียวแต่กลับแสดงอาการที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นออกมาทาง
สี หน้าของเขาแทน

อย่างกับว่าสะสารแก่นแท้อาํ นาจวิญญาณนั้นไม่ได้เป็ นวัตถุที่อนั ตรายใด


ๆ แต่กลับเป็ นอาหารที่อร่ อยที่สุดในโลกสําหรับเขา

และที่สาํ คัญที่สุดหลังจากที่ได้ดื่มแก่นแท้ของอํานาจวิญญาณไปแล้วนั้น
กลิ่นอายของเขาก็ไม่ได้เป็ นแค่ระดับ 1 แดนสวรรค์วญ ิ ญาณอีกต่อไป
พลังอํานาจกลิ่นอายของเขานั้นกําลังเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลัง่ และในที่สุดเขา
ก็ได้บุกฝ่ าเข้าไปยังระดับที่ 2 ของแดนสวรรค์วญ ิ ญาณ

แม้วา่ ชูเฟิ งจะยังไม่ได้ตดั ผ่านไปยังระดับต่อไปอีกครั้ง แต่วา่ สะสารแก่น


แท้ของอํานาจวิญญาณในตอนนี้กไ็ ม่มีเหลืออีกแล้วแม้แต่หยดเดียว
หลังจากที่เขาได้ดื่มกินมันไปจนหมด

“บ้าเอ้ย! ไอ้เด็กสารเลวนี่มนั เป็ นสัตว์ประหลาดหรื อยังใงกัน?”

ในขณะที่ผเู ้ ฒ่าชุดดํานั้นได้ร่วมกันเป็ นสักขีพยานในฉากที่หน้าตื่นตาตื่น


ใจในเบื่องหน้านี้น้ นั มันทําให้ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความรู ้สึกที่
ประหลาดใจอย่างแท้จริ ง

แม้วา่ เขานั้นจะได้ทาํ การตรวจสอบร่ างกายของชูเฟิ งและพบว่าเขามีพลัง


พิเศษบางอย่างอยูภ่ ายในสายเลือดของเขาร่ างกายของเขานั้นยังคงอยูใ่ น
สภาพที่พเิ ศษและเขายังรู ้อีกว่าความสามารถของชูเฟิ งนั้นจะต้องนับเป็ น
บุคคลที่มีความสามารถพิเศษรอบด้านและกลายเป็ นบุคคลที่มีชื่อเสี ยง
ในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามเขานั้นก็ไม่ได้คาดคิดเลย
ว่าชูเฟิ งนั้นจะมีร่างกายที่ผดิ ปกติจนสามารถดื่มสะสารแก่นแท้ของ
อํานาจวิญญาณได้มากมายและบ้าคลัง่ ได้เช่นนี้

ต้องบอกก่อนว่าสะสารแก่นแท้ของอํานาจวิญญาณนั้นเป็ นสิ่ งที่น่ากลัว


มาก! คนปกติแค่ดื่มมันไปเพียงหยดเดียวก็สามารถทําให้เขาผูน้ ้ นั ถึงแก่
ความตายได้แล้ว และถึงแม้วา่ คนผูน้ ้ นั จะเป็ นผูเ้ ชียวชาญที่มีระดับพลัง
วิญญาณสู งส่ งก็ยงั ได้รับบาดเจ็บหนักได้และอาจถึงขึ้นที่เขาไม่สามารถ
พัฒนาพลังวิญญาณของตนเองได้เลยในภายภาคหน้าก็เป็ นได้

แต่นี่ชูเฟิ งจริ งสามารถดื่มสะสารแก่นแท้ของอํานาจวิญญาณไปได้ท้ งั


บ่อ! มีหรื อที่ผเู ้ ฒ่าชุดดําผูท้ ี่มีประสบการกับเรื่ องแบบนี้มาอย่างโชกโชน
จะไม่ตกใจ?
ถ้าเกิดว่าเขานั้นไม่ได้เห็นกับตาตัวเองละก็เขาจะเชื่ออย่างแน่นอนว่ายังมี
บุคคลใดในโลกนี้ที่สามารถดื่มสะสารแก่นแท้ของอํานาจวิญญาณได้
และนอกจากนี้มนั ยังทําให้ระดับพลังวิญญาณของเขาเพิม่ ขึ้นมาอย่าง
ต่อเนื่องอีกด้วยซึ่งนั้นก็หมายความว่าชูเฟิ งสามารถที่จะดูดซับพลังงาน
ของสะสารแก่นแท้ของอํานาจวิญญาณได้ท้ งั ๆ ที่ยงั ไม่เคยมีผเู ้ ชียวชาญ
คนไหนสามารถดูดซับมันได้มาก่อน

เมื่อนึกถึงตอนแรกที่เขาได้เห็นระดับพลังวิญญาณของชูเฟิ งนั้นมันทําให้
เขาไม่อยากเต็มใจที่จะเชื่อสักเท่าใดนักว่าชูเฟิ งนั้นจะสามารถเพิ่มระดับ
พลังวิญญาณของเขามาได้มากถึงเพียงนี้โดยระยะเวลาอันสัน่

แต่เมื่อเขาได้เห็นฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจของชุเฟิ งก่อนหน้านี้มนั ก็ทาํ ให้


เขาได้รู้สึกตัวแล้วว่าชุเฟิ งนั้นได้มีศกั ยภาพและความสามารถที่น่ากลัว
กว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้เป็ นอย่างมาก

“เฮ้อชัง่ น่าเสี ยดายยิง่ นักทั้ง ๆ ที่คิดว่าหลังจากที่ดูดซับแก่นแท้


ของอํานาจวิญญาณพวกนี้ไปจนหมดแล้วมันจะสามารถทําให้ขา้ ตัดผ่าน
ไปยังระดับ 3 ของแดนสวรรค์วญ ิ ญาณได้ซะอีก” ชูเฟิ งได้เช็ดปากของ
เขาหลังจากที่ได้ดื่มสะสารแก่นแท้ของอํานาจวิญญาณไปจนหมดบ่อเขา
ก็กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิม้ และเสี ยงหัวเราะ

“เฮ่ไอ้หนูมานี่มาข้าเร็ วข้าต้องการที่จะพูดคุยบางอย่างกับเจ้า”
ทันใดนั้นท่านผูเ้ ฒ่าชุดดําก็ได้ตะโกนออกมาเสี ยงดังและเรี ยกชูเฟิ งไป
หาเขาพร้อมกับริ้ วรอยบนใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยอาการตื่นเต้น

“ท่านผูอ้ าวุโสมีสิ่งใดที่ตอ้ งการจะพูดคุยกับข้าอย่างนั้นรึ หรื อจะ


เป็ นไปได้วา่ ท่านต้องการที่จะบอกเรื่ องราวของชายผูน้ ้ นั ให้แก่ขา้ ?” ชู
เฟิ งกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิม้ และเดินออกไป แต่ถึงจะกล่าวว่าเขาได้
เดินเข้าไปหาผูเ้ ฒ่าชุดดําเขาก็ยงั คงอยูด่ า้ นนอกของการก่อตัวพัฒนาการ
ั ลักษณ์อยูด่ ี
สี่ สญ

“ฮ่าฮ่าแน่นอนว่ามันเป็ นเรื่ องที่เกี่ยวกับ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ หากเจ้า


ยังยืนยันว่าอยากจะรู ้เรื่ องของเขาแน่นอนว่าข้าสามารถบอกเจ้าได้”

“แต่ก่อนหน้านั้นข้ามีคาํ ถามที่อยากจะถามเจ้า เจ้าคิดว่าในขุมพลัง


อํานาจใดที่แข็งแกร่ งที่สุดในทะเลภาคตะวันออก?” ผูเ้ ฒ่าชุดดํายิม้
ถาม

“พูดตามตรงเลยว่าข้านั้นยังไม่เคยได้ไปที่ทะเลภาคตะวันออก
เลยแต่ครั้งเดียวแต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ยงั ได้ยนิ มาว่าหมู่เกาะประหารนั้นเป็ น
ขุมพลังอํานาจที่แข็งแกร่ งที่สุดในทะเลภาคตะวันออก”

“ถุย้ !! หมู่เกาะประหาร? เจ้าคิดว่าหมู่เกาะประหารเป็ นขุมพลัง


อํานาจที่แข็งแกร่ งที่สุดในทะเลภาคตะวันออกอย่างนั้นรึ ?” เพียงแต่ใน
เวลานั้นที่ชูเฟิ งได้พดู คําเหล่านี้ออกมาท่านผูเ้ ฒ่าชุดดําก็ได้ถ่มนํ้าลายที่
เต็มไปด้วยความรังเกียจออกมาในทันที
“ท่านผูอ้ าวุโสเป็ นไปได้วา่ หมู่เกาะประหารนั้นไม่ได้เป็ นขุมพลัง
อํานาจที่แข็งแกร่ งที่สุดในทะเลภาคตะวันออกอย่างนั้นใช่หรื อไม่ ?”
ทันทีชูเฟิ งได้ถามโต้กลับไปด้วยความอยากรู ้อยากเห็น

“ฮ่าฮ่า นับว่าเป็ นโชคชะตาอย่างแท้จริ งที่ทาํ ให้ขา้ และเจ้าได้มา


พบกัน มาข้ารู ้วา่ เจ้าจะต้องไปทะเลภาคตะวันออกไม่ชา้ ก็เร็ วนี้อย่าง
แน่นอนเพราะนั้นแล้วข้าจะบอกสิ่ งที่เจ้าควรจะรู ้เมื่อไปถึงทะเลภาค
ตะวันออกให้เจ้าได้ฟัง’

“ขุมพลังอํานาจที่แข็งแกร่ งที่สุดในทะเลภาคตะวันออกนั้น
แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่กลุ่มสุ นขั ไร้ค่าอย่างหมู่เกาะประหารอย่างแน่นอน
แต่เป็ นพรรคมารทลายราตรี ของข้าต่างหาก!” ท่านผูเ้ ฒ่าชุดดํากล่าว

“พรรคมารทลายราตรี ?!” หลังจากที่ได้ยนิ ผิวของชูเฟิ งนั้นก็ได้


เปลี่ยนไปในทันที เพราะว่ามันเป็ นครั้งแรกที่เขานั้นได้ยนิ ชื่อนี้
“ใช่แล้ว ภายใต้การสัง่ การของท่านประมุของค์ก่อนพรรคมาร
ทลายราตรี ของข้านั้นได้รับตําแหน่งเป็ นผูป้ กครองของทะเลภาค
ตะวันออก มานับหลายทศวรรษและไม่มีใครที่จะสามารถเอาชนะพวก
เราได้!”

“แต่ในท้ายที่สุดแล้วท่านประมุขพรรคของพวกข้านั้นก็ตอ้ ง
ล้มเหลวในการพัฒนาระดับพลังวิญญาณของตนจนทําให้ตวั เขาเองนั้น
ต้องสิ้ นชีพไป และด้วยเหตุน้ นั มันจึงทําให้พรรคมารทลายราตรี ของ
พวกข้านั้นเกิดปัญหาภายในขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและด้วยเหตุน้ นั มันจึง
ทําให้พรรคมารทลายราตรี ของข้านั้นต้องแยกตัวกันออกมาไปเป็ นฝ่ าย
ๆ.”

“แต่ถึงแม้วา่ พรรคมารทลายราตรี ของข้านั้นจะมีปัญหาภายใน


เกิดขึ้นและทําให้พวกเขานั้นต้องแยกตัวกันออกไปแต่กย็ งั สามารถกล่าว
ได้วา่ พรรคมารทลายราตรี ของข้านั้นยังคงเป็ นขุมพลังอํานาจที่แข็งแกร่ ง
ที่สุดในทะเลภาคตะวันออกอยูด่ ี และด้วยเหตุน้ นั ตราบใดที่พรรคมาร
ทลายราตรี ของข้าได้กลับเข้ามารวบกันเป็ นหนึ่งเดียวอีกครั้งพวกข้าก็จะ
กลายเป็ นผูป้ กครองทะเลภาคตะวันออกอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน”

“และนอกจากพรรคมารทลายราตรี ของข้าแล้วนั้นก็ยงั มีขมุ พลัง


อํานาจของวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ของ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ อยูเ่ ช่นกัน”

“แต่ทว่าข้อมูลของวิหารเพลิงผลาญสวรรค์น้ นั มีขอ้ มูลที่นอ้ ย


มาก แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็ยงั ได้รู้มาว่าพวกเขานั้นได้ใฝ่ ฝันเอาไว้วา่ จะ
ตั้งตนเป็ นใหญ่และเป็ นผูป้ กครองโลกให้จงได้ฉะนั้นแล้วด้วยความ
ทะเยอทะยานของพวกเขา พวกเขาจึงไม่ได้คิดที่จะหยุดอยูแ่ ค่ในทะเล
ภาคตะวันออกฉะนั้นแล้วพวกเขาจึงไม่ค่อยได้เริ่ มการต่อสู เ้ พื่อแย่งชิง
ชื่อเสี ยงมากเท่าไหร่ นกั และด้วยเหตุน้ นั พวกเขาจึงไม่ได้มีความเป็ น
ปรปักษ์เท่าไหร่ นกั ต่อพรรคมารทลายราตรี ของข้า’

“แต่ถึงอย่างนั้นความแข็งแรงของพวกวิหารเพลิงผลาญสวรรค์
นั้นก็มิอาจที่จะดูถูกได้ แม้วา่ จํานวนสมาชิกของพวกเขานั้นจะมีนอ้ ย
มากโดยเฉพาะศิษฝ่ ายในของพวกเขา”
“แล้วยิง่ ขั้นตอนในการรับเลือกศิษย์ของพวกเขานั้นก็ยงั เป็ นการ
คัดเลือกที่นบั ว่ายากลําบากยิง่ นักพวกเขาจะคัดเลือกคนเพียงแค่คน คน
เดียวภายในหนึ่งหมื่นคนเท่านั้นแล้วยิง่ ไปกว่านั้นคนหมื่นคนที่เข้าไป
ร่ วมในการคัดเลือกนั้นก็ลว้ นแล้วแต่เป็ นผูม้ ีความสามารถรอบด้านและ
เป็ นอัจฉริ ยะอย่างแท้จริ ง’

“ฉะนั้นแล้วศิษย์แต่ละคนของวิหารเพลิงเผาผลาญสวรรค์น้ นั จึง
เป็ นบุคคลที่มีความแข็งแกร่ งเป็ นพิเศษ”

“ดังนั้นวิหารเพลิงผลาญสวรรค์จึงเป็ นตํานานที่รวบรวมเหล่า
ผูค้ นอัจฉริ ยะเข้าไว้ดว้ ยกัน ยิง่ ไปกว่านั้นประวัติศาสตร์อนั ศักดิ์สิทธิ์ของ
พวกเขายังได้ให้กาํ เนิดบุตรชายและธิดาศักดิ์สิทธิ์ข้ ึนมา และพวกเขานั้น
นับว่าเป็ นเยาว์ชนรุ่ นใหม่ที่แข็งแกร่ งที่สุดในทะเลภาคตะวันออก”

“โดยเฉพาะอย่างยิง่ ไอ้สารเลว ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ นั้นเขากล่าวได้วา่


เป็ นอัจฉริ ยะที่ทาํ ให้ผคู ้ นในทะเลภาคตะวันออกต้องตกใจใน
ความสามารถของมันอย่างแท้จริ งความแข็งแรงของมันนั้นได้ทะลุล้ าํ
เกินประมุขของวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ไปอย่างมากและมันยังได้รับสื บ
ทอดตําแหน่งประมุขของวิหารเพลิงเผาผลาญสวรรค์รุ่นต่อไปอีกด้วย’

“นอกจากนี้ขา้ ยังได้ยนิ เรื่ องความลับบางอย่างที่เกี่ยวกับ ฮวางฟู่


อ่าวเยว้ มาอีกด้วย” ทันใดนั้นเสี ยงของท่านผูเ้ ฒ่าชดดําก็ได้ต่าํ ลง

“มันคือความลับอะไรอย่างนั้นรึ ?” ชูเฟิ งได้ถามกลับไปอย่าง


รวดเร็ ว

“วิหารเพลิงผลาญสวรรค์น้ นั มีความทะเยอทะยานที่สูงส่ งและ


ใฝ่ ฝันว่าจะเป็ นผูป้ กครองโลกนั้นและเหตุใดทําใมพวกเขาถึงกับไม่ได้
สร้างความเป็ นปรปักษ์ต่อพรรคมารทลายราตรี ของข้านั้นเจ้ารู ้รึไม่?
นั้นก็เป็ นเพราะว่าประมุขรุ่ นก่อนของวิหารเพลิงเผาผลาญสวรรค์น้ นั
เป็ นด้อยกว่าท่านประมุขของพรรคมารทลายราตรี ของข้ายังใงล่ะ”
“ถึงแม้วา่ ประมุขของวิหารเพลิงเผาผลาญสวรรค์ในวัยหนุ่มนั้น
จะแข็งแกร่ งกว่าท่านประมุขพรรคของข้าเพียงเล็กน้อยก็ตามแต่ในเวลา
ที่พวกเขาได้กลายเป็ นผูใ้ หญ่และได้รับตําแหน่งที่สาํ คัญท่านประมุข
พรรคของข้านั้นที่เป็ นรองเขามาตลอดก็ได้มีความแข็งแกร่ งและ
ความสามารถที่เหนือชั้นกว่าเขาแล้วมันยิง่ เริ่ มทิ้งห่างเขาไปเรื่ อย ๆ
ตั้งแต่น้ นั มา’

“แต่อย่างไรก็ตาม ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ นั้นนับว่าเป็ นบุคคลที่แปลก


ประหลาดอย่างแท้จริ ง ท่านประมุขพรรคได้บอกกับข้าว่า ฮวางฟู่ ฮ่าว
เยว้ นั้นทําให้เขานั้นตาสว่างอย่างแท้จริ งในการแลกกระบวนท่ากันใน
ครั้งนั้น”

“ท่านประมุขพรรคของข้านั้นได้เป็ นที่ยอมรับของทุกคนว่าเป็ น
ผูเ้ ชียวชาญที่แข็งแกร่ งที่สุดในทะเลภาคตะวันออกและแม้วา่ การพัฒนา
ของ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ นั้นจะรวดเร็ วมากแค่ไหนเขาก็ยงั เป็ นเพียงแค่เยาว์
ชนของคนรุ่ นใหม่เท่านั้นมีหรื อที่ท่านประมุขพรรคของข้านั้นจะเก็บเขา
ไว้ในสายตา ฉะนั้นแล้วท่านประมุขพรรคของข้านั้นจึงต้องการสอน
บทเรี ยนบางอย่างให้แก่เขา”

“แต่ถึงอย่างนั้นท่านประมุขพรรคของข้าก็ได้ต่อสู ก้ บั ฮวางฟู่
ฮ่าวเยว้ ไปเป็ นเวลาสามวันสามคืนเต็ม และในท้ายที่สุดพวกเขาทั้งสอง
คนก็ไม่อาจที่จะสามารถตัดสิ นผลแพ้ชนะได้และก็จบลงด้วยการ
เสมอ.”

“แล้วในช่วงเวลานั้นประมุขพรรคของข้านั้นก็ได้มีอายุปาเข้า
ไปเกือบร้อยปี แล้วและมันก็เป็ นช่วงที่ความแข็งแกร่ งของเขาได้มาถึง
จุดสิ้ นสุ ดของมันแล้ว”

“แต่ทว่า ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ ได้มีอายุเพียงแค่ 30 ปี เท่านั้น ฉะนั้น


แล้วท่านประมุขพรรคของข้านั้นจึงได้กล่าวกับข้าเอาไว้วา่ อีกเพียงไม่กี่ปี
ข้างหน้า ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ นั้นจะต้องแข็งแกร่ งเกินเขาอย่างแน่นอน” เมื่อ
พูดมาถึงจุดนี้ใบหน้าของผูเ้ ฒ่าชุดดําก็ได้ตกลงสู่ ในห่วงของความ
โศกเศร้าในทันที

แต่เมื่อฟังมาถึงจุดนี้ชุเฟิ งก็ได้เร่ งรี บถามกลับไปในทันทีวา่ “ท่านผู ้


อาวุโสจากสิ่ งที่ท่านได้กล่าวมานั้นมันไม่ได้หมายความว่า ฮวางฟู่ อ่าว
เยว้ นั้นเป็ นผูเ้ ชียวชาญที่แข็งแกร่ งที่สุดในทะเลภาคตะวันออกและไม่มี
ใครที่กล้าจะคุกคามเขาอย่างนั้นใช่หรื อไม่?”

#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : ……………

B2 : ……………

B3 : ……………
B4 : ……………

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 537 - ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์

“น่าจะเป็ นเช่นนั้น แม้แต่ประมุขพรรคของข้า ก็ไม่อาจเอาชนะเขา


ได้ ดังนั้น ใครกันที่สามารถข่มขู่เขาได้เช่นนั้น”

“แต่ ฮวางฟู่ ห่าวเยว้ ก็เป็ นสาเหตุที่ทาํ ให้ ประมุขพรรคของข้าต้อง


ทนทุกข์ทรมานจากความพ่ายแพ้ และทําให้ท่านรี บร้อนเพื่อจะได้ความ
แข็งแกร่ ง จึงเลือกเดินเส้นทางที่ผดิ สุ ดท้ายท่านก็จากไป” ชายชราชุดดํา
กล่าวพลางถอนหายใจ เห็ได้ชดั ว่าเขาเสี ยใจกับการจากไปของประมุข
พรรคของเขา
เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง ยิง่ มีความสงสัยมากยิง่ ขึ้นเกี่ยวกับพ่อของ
เขา เพราะด้วยความแข็งแกร่ งของ ฮวางฟู่ ห่าวเยว้ ที่แข็งแกร่ งมาก
ขนาดนี้ พ่อเขาจะเป็ นเช่นเช่นไร

พ่อของเขาอาจจะเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญที่ลึกลับของโลก และแม้แต่ชาย


ชราชุดดําก็ไม่รู้ถึงการมีตวั ตนอยูข่ องพ่อของเขา

“ผูอ้ าวุโส ทําไม ฮวางฟู่ ห่าวเยว้ ถึงมีสภาพเป็ นเช่นนี้ !?” ชูเฟิ ง


แกล้งถามด้วยความสับสน เพราะเขาอยากได้เบาะแสของพ่อของเขา
เพิ่มเติม

“โฮะๆ บอกตามตรง ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าทําไมเขาถึงมีสภาพเป็ น


เช่นนี้ ข้าเองก็แปลกใจ และไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับเขาอีกครั้ง” ชาย
ชราชุดดํากล่าว ขณะยิม้ บางๆ พร้อมกับส่ ายศรี ษะเล็กน้อย
“ผูอ้ าวุโส ทําไมรึ !?” ชูเฟิ ง กล่าวถามด้วยความงุนงง

“มันเป็ นเพราะ วิหารเพลิงผลาญสวรรค์ที่ถูกทิ้งร้างอยูภ่ ายในทะเล


ตะวันออก เมื่อเจ็ดปี ก่อน” ชายชราขุดดํา กล่าว

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น หัวใจของ ชูเฟิ ง ก็พองใหญ่ยง่ิ ขึ้น เขาคาดเดาว่า


ชายชายชุดดํา จะต้องรู ้บางอย่างแน่นอน เขาจึงกล่าวถามไปว่า “ผูอ้ าวุโส
ท่านรู ้เหรอ !?”

“ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์” ชายชราชุดดํากล่าว

“ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ คืออะไรรึ !?” ชูเฟิ ง ถามต่อด้วยความ


อยากรู ้อยากเห็น แต่ภายในหัวใจของเขาก็คาดเดาคําตอบเอาไว้บา้ งแล้ว
“ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ คือ แกนกลางของโลกนี้…….
อาจจะบอกได้วา่ มันเป็ นโลกที่แตกต่างโดยสิ้ นเชิงก็วา่ ได้”

“เพราะในสถานที่แห่งนั้น เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญทุกคนต่างมีพลังที่สูง


มาก และแข็งแกร่ งจนผูเ้ ชี่ยวชาญภายนอกเช่นพวกเราไม่อาจเทียบเคียง
ได้แม้แต่นอ้ ย”

“ไม่ใช่เพียงแค่เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญเท่านั้น แม้แต่เหล่าสัตว์ยกั ษ์ใน


สถานที่แห่งนั้น ก็ถูกยกระดับสู งขึ้นมากกว่าที่นี่อย่างมาก แต่ใน
ขณะเดียวกัน มันก็เต็มไปด้วยสมบัติมากมาย”

“ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์น้ นั อาจกล่าวได้วา่ เป็ นความใฝ่ ฝันของ


เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญก็วา่ ได้ แต่การที่พวกเขานะเข้าไปยังสถานที่แห่งนั้นได้
พวกเขาจะต้องผ่านการทดสอบสวรรค์เสี ยก่อน”
“การทดสอบนั้นเรี ยกว่า เส้นทางสวรรค์”

“เส้นทางสวรรค์ !?”

“เส้นทางสวรรค์ เป็ นคําเรี ยกที่เหมาะสมมาก เพราะผูเ้ ชี่ยวชาญใน


ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์น้ นั มีระดับการบ่มเพาะพลังของพวกเขา
เทียบเคียงได้กบั พลังของสวรรค์ มันจึงเหมาะสมที่สุด ในการเรี ยกการ
ทดสอบ เพื่อเข้าสู่ ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ ว่า เส้นทางสวรรค์”

“เส้นทางสวรรค์จะปรากฏขึ้นปี ละครั้ง ผูท้ ี่ตามล่าฝัน พวกเขา


สามารถเข้าไปได้ แต่โชคชะตาของพวกเขา เป็ นสิ่ งที่ไม่สามารถกําหนด
ได้”
“บางคนกล่าวว่า เส้นทางสวรรค์เป็ นการทดสอบ ผูท้ ี่มี
ความสามารถ ก็จะผ่านไปได้”

“บางคนกล่าวว่า เส้นทางสวรรค์ คือเส้นทางของการเกิดใหม่ ผูท้ ี่


ผ่านเส้นทางสวรรค์ไปได้ จะได้เกิดใหม่ในดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์
ด้วยความนําเดิมของพวกเขา”

“นอกจากนี้ยงั มีบางคนกล่าวว่า เส้นทางสวรรค์ เต็มไปด้วย


อันตราย ผูท้ ี่แข็งแกร่ งจะผ่านไปได้ แต่สาํ หรับผูท้ ี่อ่อนแอ จะมีเพียง
ความตายที่รอพวกเขาอยู”่

“แต่เรื่ องที่แน่นอนที่สุด คือ ผูท้ ี่กา้ วเข้าสู่ เส้นทางสวรรค์ จะไม่


สามารถกลับมาได้”
“ดังนั้น จึงมีคาํ เล่าขานมาสองเรื่ อง”

“หนึ่งคือ เส้นทางสวรรค์ยากที่จะพบ ผูท้ ี่เข้าไปได้จะไม่ได้


กลับมา”

“อีกหนึ่งคือ เส้นทางสวรรค์คือสุ สานบางอย่าง หากเข้าไปก็มีเพียง


ความตายที่รออยู”่

“ทั้งสองคํากล่าว ได้ถูกยืนยันโดยวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ ที่ตก


ทอดมาจากดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์”

“ผูค้ นมากมายต่างเชื่อมัน่ ว่า หากพวกเขาแข็งแกร่ งขึ้นพวกเขาก็


สามารถเข้าสู่ ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ได้ พวกเขาเชื่อมัน่ ว่าวิหารเพลิง
ผลาญสวรรค์คือเส้นทางสวรรค์ที่จะนําพาพวกเขาเข้าสู่ เส้นทางสวรรค์
และเข้าสู่ ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน”
“แน่นอนว่า จากการล่มสลายของวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ และการ
แยกตัวออกของพรรคมารทลายราตรี ของข้า ทําให้ในตอนนี้ ทะเล
ตะวันออก มีขมุ พลังที่แข็งแกร่ งที่สุดคือ หมู่เกาะประหาร”

“ยังไงก็ตาม ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น” ทันใดนั้น


ชายชราชุดดํา ก็กล่าวออกมาพร้อมกับยิม้ บางๆ

“ผูอ้ าวุโส ท่านหมายถึง ฮวางฟู่ ห่าวเยว้ รึ ” ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“ถูกต้อง ในตอนที่วหิ ารเพลิงผลาญสวรรค์ได้พงั ทลายลงนั้น ข้าได้


ไปเห็นมากับตาว่า ฮวางฟู่ ห่าวเยว้ และคนอื่นๆ ได้เข้าไปยังเส้นทาง
สวรรค์”
“และในตอนนี้ฮวางฟู่ ห่าวเยว้ ได้กลับมายังดินแดนแห่งนี้ และข้า
ก็หวังว่าเขาจะสามารถเรี ยกคืนความทรงจําของเขา เกี่ยวกับความลึกลับ
ของเส้นทางสวรรค์ และดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์กลับมาได้”

“ไม่วา่ ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์จะมีอยูจ่ ริ งหรื อไม่ แต่เส้นทาง


สวรรค์น้ นั แน่นอนว่ามันเป็ นของจริ ง ทุกๆ คนในทะเลตะวันออกต่างรู ้
ดี” ในขณะที่กล่าวนั้น แววตาของชายชราชุดดําก็ปรากฏแววครุ่ นคิด
เล็กน้อน ก่อนเขาจะกล่าวต่อว่า “หากเจ้าต้องการรู ้เรื่ องราวของ ฮวางฟู่
ห่าวเยว้ อีกล่ะก็ เจ้าสามาาถถามได้จากบุคคลผูห้ นึ่ง”

“ผูใ้ ด ??”

“ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน !!”


“ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน !?”

“ถูกต้อง ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน นางเป็ นสมาชิกของวิหารเพลิงผลาญ


สวรรค์ และเป็ นคู่หมั้นของ ฮวางฟู่ ห่าวเยว้ ”

“พวกเขาทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน แต่ในครั้งที่วหิ าร
เพลิงผลาญสวรรค์ได้พงั ทลายลงนั้น ข้าก็ไม่ได้พบกับนางอีกเลย”

“แต่จากการสื บหาเบาะแสของข้า ข้าก็รู้วา่ นางรอคนรักของนางใน


สถานที่แห่งหนึ่ง แต่ดว้ ยสถานะของนาง จึงทําให้ขา้ ไม่อาจเข้าใกล้นาง
ได้” ชายชราชุดดํากล่าว

“รอคนรัก !! ในทะเลตะวันออกรึ ??” ชูเฟิ ง กล่าวถาม เพราะเขา


จะต้องไปที่นนั่
หลังจากที่ ฮวงหยู ห่าวฝู ได้ฝากเขาไว้กบั ชูหยวน นัน่ ทําให้ ชูเฟิ ง
มัน่ ใจมากว่า จิตใจของ ฮวางฟู่ ห่าวเยว้ ยังคงชัดเจนอยูบ่ า้ ง

และไม่วา่ เขาจะได้ไปยังเส้นทางสวรรค์ หรื อดินแดนสงคราม


ศักดิ์สิทธิ์มาหรื อไม่ แต่ดว้ ยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของเขากับ ฉิ วซุ่ย ฟู่ ห
ยาน เขาควรจะไปเยีย่ มนางสักครั้ง

ถ้าเขาไปหานาง และบอกบางสิ่ งบางอย่างกับนาง แม้วา่ มันจะ


เป็ นไปแทบไม่ได้ แต่อย่างน้อย นัน่ ก็ยงั ทําให้มีความหวัง

มันแน่นอนแล้วว่า ตระกูลของ ชูเฟิ ง ไม่ได้ต้ งั อยูใ่ นทะเล


ตะวันออก หรื ออยูใ่ นเส้นทางสวรรค์ แต่ควรจะอยูใ่ นดินแดนสงคราม
ศักดิ์สิทธิ์ แต่ ชูเฟิ ง ก็ยงั คงไม่ปักใจเชื่อมากนัก
เพราะด้วยพลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้น เขาไม่มนั่ ใจว่ามัน
เป็ นพลังของกายศักดิ์สิทธิ์ หรื อเป็ นพลังทางสายเลือด แต่มนั เป็ นพลังที่
คนของดินแดนนี้ไม่อาจเข้าได้ และถ้าตระกูลของเขาตั้งอยูใ่ นดินแดน
สงครามศักดิ์สิทธิ์ นั้นย่อมทําให้เขารู ้สึกดีไม่นอ้ ย

และผูท้ ี่เป็ นกุญแจไขความลับทั้งหมดนี้กค็ ือ ฮวางฟู่ ห่าวเยว้

และนอกจาก ฮวางฟู่ ห่าวเยว้ ยังมี ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ที่มีความเป็ นไป


ได้ ว่านางอาจจะรู ้ความลับอะไรบางอย่างก็เป็ นได้

ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงไม่อยากที่จะพลาด ที่จะพบกับ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ซึ่ ง


อาจเป็ นเบาะแสเดียวเกี่ยวกับตระกูลของเขา

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////
A : เรื่ องราว พ่อ แม่ ของชูเฟิ งเป็ นอะไรที่ลึกลับซับซ้อนซะจริ ง

B : มีแค่เบาะแสเพียงเบาะแสเดียวที่เหลือ นั้นก็คือที่ทะเลตะวันออก
ใกล้ได้เวลาออกเดินทางแล้วซิ นะ

A : แต่ก่อนหน้าที่จะไป ชูเฟิ ง ก็ได้อาจารย์มาอีกคน คนๆนั้นจะเป็ น


ใคร??? ต้องรอลุน้

C : ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า!!!

A - B : ไม่บอก!!! แต่ผกู ้ ่อตั้งมังกรฟ้าได้ให้ตระกรุ ดกันกระสุ น ก่อน


ออกได้ทางติดตัวไปด้วย ปุกเสกมา 99 วัด รับรองว่าเหนียวอย่าง
แน่นอน

บทที่ 538 – ข้าสามารถช่วยเจ้าได้

“ฮี่ฮี่ เจ้าโง่ เจ้าชื่อ ชูเฟิ ง ใช่ไหม” หลังจากที่ได้คุยเกี่ยวกับ ฮวางฟู่


ฮ่าวเยว้ จู่ๆ ชายชราชุดดํา ก็กล่าวถามพลางยิม้ บางๆ

“ผูอ้ าวุโส ท่านรู ้ชื่อข้าได้อย่างไร” ชูเฟิ ง รู ้สึกประหลาดใจเล็กน้อย


แต่หลังจากนั้นเพียงชัว่ พริ บตา เขาก็ผอ่ นลมหายใจออกมาด้วยความ
ผ่อนคลาย เพราะว่า ชายชราชุดดํา รู ้เรื่ องของสุ สานจักรพรรดิ ดังนั้น เขา
ย่อมจะได้ยนิ ชูเฟิ ง สนทนากับคนอื่นๆ การรู ้ชื่อของเขาจึงไม่ใช่เรื่ อง
แปลกอะไร

“ข้าไม่ได้รู้เพียงแค่ชื่อของเจ้าเท่านั้น แต่ขา้ ยังรู ้อีกว่า คู่หมั้นของเจ้า


คือ จื่อ หลิง”

“คู่หมั้นของเจ้าไม่ใช่ธรรมดาเลย ไม่ใบ่เพียงแค่นางจะงดงามราว
กับนางฟ้า แต่นางยังมีกายศักดิ์สิทธิ์อีก ได้นางเป็ นคู่หมั้น นับว่าเจ้า
ทําบุญมาดีเลยทีเดียว”

“แต่น่าเศร้า ที่นางมีกลุ่มบรรพบุรุษที่มกั มาก เพื่อผลประโยชน์ของ


ตระกูล พวกเขาขายนางให้กบั หมู่เกาะประหาร”
“อีกสี่ ปี คู่หมั้นของเจ้า จะต้องแต่งงานกับ ไอ้ลูกหมา นายน้อยของ
หมู่เกาะประหาร” ชายชราชุดดํา กล่าวพลางหัวเราะเบาๆ

ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ขมวดคิ้วบางๆ พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างขม


ขื่น และกล่าวออกมาว่า “ข้าก็ไม่คิดว่าท่านจะรู ้เรื่ องนี้ อันที่จริ ง….อีก
สี่ ปี ข้าก็ไม่รู้วา่ ข้าจะแกร่ งพอไปช่วยนางจากการแต่งงานหรื อไม่”

“หึ ….เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าไม่ตอ้ งกังวลไป ข้าสามารถช่วยเจ้าได้”


ชายชราชุดดํา กล่าวด้วยใบหน้าที่จริ งจัง

“ผูอ้ าวุโส ท่านจะช่วยข้าได้เช่นไร” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง จ้อง


มองไปที่ชายชราชุดดําด้วยแววตาเป็ นประกาย เขามองดูชายชราชุดดํา
ด้วยความระมัดระวัง เพราะความช่วยเหลือของเขา อาจจะแลกมาด้วย
บางสิ่ งที่ยากสําหรับเขา
“อันที่จริ ง นอกจากผูน้ าํ กายของข้า ข้าก็มีอาํ นาจพอที่จะเรี ยกรวม
พลังของสี่ ปราการ ด้วยพลังของพวกข้า หมู่เกาะประหารก็ไม่อยูใ่ น
สายตาหรอก”

“แต่โลกนี้ยอ่ มไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ ข้าและเจ้า ได้มาพบกันโดย


บังเอิญ การที่ขา้ ช่วยเจ้าฟรี ๆ ย่อมเป็ นไปไม่ได้ ดังนั้น ข้าจึงมีเงื่อนไข
บางอย่าง” ชายชราชุดดํา กล่าวพลางหัวเราเบาๆ

“ผูอ้ าวุโส ท่านมีเงื่อนไขอะไร !?” ชูเฟิ ง สามารถเข้าใจได้ทนั ที


เพราะในอีกสี ปีข้างหน้า หากเขาต้องปะทะกับหมู่เกาะประหารเพียง
ลําพังนั้น มันเป็ นเรื่ องยากซะยิง่ กว่ายาก

ด้วยความแข็งแกร่ งของชายชราชุดดํานั้น หากเขาให้ความ


ช่วยเหลือ นัน่ ย่อมเป็ นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ แต่ ชูเฟิ ง ก็ยงั คง
ระมัดระวังอย่างมาก เพราะเขาไม่รู้วา่ ชายชราชุดดํา จะสามารถเชื่อใจ
ได้หรื อไม่
“เงื่อนไขของข้าง่ายมาก ข้าฝึ กฝนมานานหลายปี แต่ขา้ ก็ยงั ไม่มีลูก
ศิษย์แต่อย่างใด ข้าเห็นว่าเจ้ามีความสามารถที่ค่อนข้างดี ดังนั้น ทําไมเจ้า
ไม่มาเป็ นลูกศิษย์ของข้า ตราบใดที่เจ้าเข้าสู่ นิกาย และกลายเป็ นลูกศิษย์
ของข้า ข้าก็สามารถเรี ยกกําลังของสมาชิกในนิกายมาช่วยเหลือเจ้าได้”
ชายชราชุดดํา กล่าว

เมื่อได้ฟังมาถึงตรงนี้ ชูเฟิ ง ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เพราะเขา


ไม่คิดเลยว่า ชายชราชุดดํา ต้องการให้เขาเป็ นศิษย์ ภายใต้สถาการณ์
เช่นนี้เป็ นเรื่ องยากลําบากของ ชูเฟิ งมาก เพราะเขาเองก็มีอาจารย์อยูแ่ ล้ว
นัน่ คือ จูเก่อ หลิวหยุน แม้วา่ ในตอนนี้ พลังยองเขาจะสู งกว่าอาจารย์ของ
เขาก็ตาม

ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงกล่าวออกมาว่า “ผูอ้ าวุโส ข้าขอบคุณท่านมาก แต่


ข้ามีอาจารย์อยูแ่ ล้ว และเขาก็ปฏิบตั ิต่อข้าอย่างดี ข้าจึงคิดว่า ข้าไม่อาจ
เป็ นศิษย์ของท่านได้”
“อ่า…ดูเหมือนเจ้าจะฉลาดอยูบ่ า้ ง แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
เจ้ากลับโง่เขลาเบาปัญญายิง่ นัก ใครบอกเจ้าว่าข้าไม่สามารถเป็ นอาจารย์
ของเจ้าได้ เพราะเจ้ามีอาจารย์อยูแ่ ล้วเช่นนั้นรึ ”

“ใครบอกเจ้า ว่าเจ้าสามารถมีอาจารย์ได้เพียงคนเดียว หากเจ้า


ต้องการมีอาจารย์เพิ่ม เจ้าต้องทรยศต่ออาจารย์อีกคนเช่นนั้นรึ ” ชายชรา
ชุดดํา กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

“นี่….” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง ไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมา เพราะ


ภายในเก้าอาณาจักรนั้น การมีอาจารย์หลายคนเป็ นสิ่ งที่ไม่ดีนกั แต่จาก
มุมมองของ ชายชราชุดดํา นั้น เขาไม่ได้เข้าใจตรงจุดนี้ และมองว่าเขา
ไม่อยาทรยศอาจารย์ของเขา

ชูเฟิ ง กล่าวถามออกมาว่า “ผูอ้ าวุโส ข้ามีอาจารย์อยูแ่ ล้ว ท่านยินดี


ที่จะมีศิษย์ร่วมกับผูอ้ ื่นเช่นนั้นรึ ”
“ไร้สาระ สําหรับผูท้ ี่มีความสามารถ ข้าย่อมยินดีรับเขาเป็ นศิษย์”

“เข้าจะส่ งผ่านความสามารถของเขาให้เจ้า ข้าก็จะส่ งผ่าน


ความสามารถของข้าให้แก่เจ้า เขาและข้า จะไม่ได้ยงุ่ เกี่ยวกัน”

“หากเจ้าเป็ นศิษย์ของข้า เจ้าจะไม่ได้รับประโยชน์เพียงแค่


ช่วยเหลือคู่หมั้นของเจ้า”

“ข้ายังมีสมบัติที่ได้รับมาจากสุ สานจักรพรรดิ อีกทั้งยังมีทรัพยากร


ในการบ่มเพาะพลังอีก และข้ายังมีทกั ษะเร้นลับ วิหคเพลิงฟื้ นคืน อีก”
ชายชราชุดดํา กล่าวพลางชี้ไปที่รูปแบบของ วิหคเพลิง

เมื่อ ชูเฟิ ง ได้ยนิ เช่นนั้น เขาลอบถอนหายใจออกมา และกล่าวว่า


“ทักษะเร้นลับวิหคเพลิงฟิ้ นคืนต้องได้รับการยอมรับจากเขา อีกทั้งกับ
ดักเหล่านี้กย็ งั เป็ นฝี มือของเขาเช่นกัน”

“ข้ารู ้วา่ เจ้าเคยเข้ามายังสุ สานจักรพรรดิ และได้รับทักษะเร้นลับไป


แล้วสองทักษะ ข้าจึงเก็บมันไว้และไม่ได้ใช้มนั เหตุผลที่ขา้ เก็บไว้ เพื่อ
เป็ นของขวัญสําหรับเจ้า ในการมาเป็ นลูกศิษย์ของข้า”

“แต่มนั ก็เป็ นความผิดพลาดของข้า ผิดที่ขา้ ละโมบเกิน ข้าไม่หยุด


ในจุดที่ขา้ สมควรจะหยุด จึงทําให้ขา้ ตกอยูใ่ นสภาพเช่นนี้ ดังนั้น แม้วา่
ข้าอยากจะมอบมันให้เจ้า ข้าก็ไม่สามารถทําได้ในตอนนี้”

“ตราบใดที่ขา้ สามารถออกจากที่นี่ได้ ข้าจะมอบมันให้แก่เจ้า ข้า


เห็นว่าเจ้ามีการบ่มเพาะที่พลังพิเศษ หากเจ้ามีทรัพยากรในการบ่มเพาะที่
เพียงพอ เจ้าสามารถเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็ ว”
“แน่นอนว่าภายในสุ สานจักรพรรดิมีทรัพยากรที่มากมาย แต่มนั ก็
อันตรายอย่างมากสําหรับเจ้า ในทางกลับกัน มันก็สามารถทําให้เจ้าเพิ่ม
พลังขึ้นได้อย่างมาก”

“สําหรับข้า ภายในดินแดนแห่งนี้ ข้าไม่อาจใช้ทรัพยากรใดๆ ใน


การเพิ่มการบ่มเพาะพลังของข้าได้ หากเจ้ามาเป็ นศิษย์ของข้า ข้าจะมอบ
ทรัพยากรทั้งหมดให้แก่เจ้า” ชายชราชุดดํา กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่
จริ งจังมากกว่าเดิม เห็นได้ชดั ว่าเขาต้องการให้ ชูเฟิ ง เป็ นศิษย์ของเขา
จริ งๆ

หลังจากได้ยนิ คํากล่าวของ ชายชราชุดดํา นั้น ชูเฟิ ง ก็เกิดความ


สับสนอย่างมาก เขาจึงกล่าวถามออกไปว่า “ผูอ้ าวุโส ท่านอยากให้ขา้
เป็ นศิษย์จริ งๆ รึ ท่านจะช่วยข้าจริ งๆ รึ ”

“แต่ทาํ ไมท่านถึงจะช่วยข้า ทั้งๆ ที่ขา้ มีพลังเพียงน้อยนิด และท่าน


ยังจะมอบทรัพยากรมาให้ขา้ อีก”
“ฮ่าๆ ทําไมน่ะรึ ข้าต้องการหาทายาทที่ดีสาํ หรับข้า และเจ้าก็มี
คุณสมบัติที่เพียงพอ”

“ถ้าเจ้าต้องการเหตุผลอื่นๆ อีก ข้าก็มีอยูอ่ ีกเหตุผลหนึ่ง”

“ข้าก็อายุมากแล้ว ข้ามีอายุมากกว่าร้อยปี ด้วยพลังของข้า ก็ไม่


นับว่าเลวร้ายอะไร หากข้าจะทะลวงเข้าสู่ ข้ นั ที่สูงกว่านี้ เพื่อยืดอายุของ
ข้าออกไป มันก็เรื่ องที่ยากมาก”

“ตอนนี้ ทรัพยากรต่างๆ ไม่สามารถช่วยข้าเพิ่มพลังได้ หากข้าจะ


เพิ่มพลัง ข้าต้องให้ผเู ้ ชี่ยวชาญระดับจักรพรรดิสงครามช่วย ในการ
ทะลวงพลังเข้าสู่ ระดับจักรพรรดิสงคราม

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////
A : อ๊ากกก เด๋ วไม่ทนั 5 โมงเย็นนน

B : เร็ วๆๆ!!!
บทที่ 539 - ภาระกิจ

" อย่างไรก็ตามในภาคทะเลตะวันออก ผูเ้ ชี่ยวชาญ ราชันย์แห่ง


สงครามนับว่าเกร่ งที่สุด แล้วจะมีผเู ้ ชียวชาญ จักรพรรดิแห่งสงครามอยู่
ได้ยงั ไง ? จักรพรรดิแห่งสงครามนับได้วา่ คือผูป้ ระสบความสําเร็ จ
สู งสุ ด"

" แล้วคนระดับนั้นจะมีใครบ้างยอมเต็มใจสละตนเองเพื่อช่วย
ให้ตาแก่อย่างข้า ให้ได้ทะลวงผ่านเข้าสู่ อาณาจักรนั้น ?

" ดังนั้นข้าจึงจําเป็ นจะต้องหาผูส้ ื บทอดที่มีศกั ยภาพเพียง


พอที่จะก้าวเข้าสู่ อาณาจักร จักรพรรดิแห่งสงคราม ต่อให้ขา้ จะต้องแลก
ด้วยอะไรข้าก็จะเลี้ยงดูเขาให้ได้เป็ นผูเ้ ชียวชาญอาณาจักร จักรพรรดิ
แห่งสงคราม!!! "
" ถึงแม้วา่ ข้าจะยืนยันไม่ได้ ว่าคนๆนั้นจะได้เป็ น จักรพรรดิ
แห่งสงครามได้หรื อไม่ หรื อต่อให้ขา้ ไม่มีเครื่ องยืนยันว่าเขาจะยอมช่วย
คนแก่อย่างข้าหลังจากที่เขาได้เป็ น จักรพรรดิแห่งสงคราม แต่น้ ีกเ็ ป็ น
เส้นทางที่ขา้ ได้เลือกที่จะเดินไป "

" ข้ารู ้แน่แก่ใจแล้วว่ายังไงข้าก็ไม่สามารถประสบความสําเร็ จ


ทียง่ิ ใหญ่แบบนั้นได้ แต่ขา้ ก็ยงั สามารถมอบทุกอย่างที่มีให้คนอื่นเพื่อ
สารฝันของข้าได้ และเจ้าก็คือคนที่ขา้ ต้องการมอบทุกสิ่ งทุกอย่างให้ "

" เหตุผลนี้ เจ้าพอจะยอมรับได้หรื อไม่ ? " ชายชราชุดดํา


หัวเราะ แต่คาํ พูดก่อนนี้เขาไม่ได้ลอ้ เล่นแม้แต่นอ้ ย

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ งพบถึงบางอย่างที่แฝงอยูใ่ นเสี ยงหัวเราะของชายชรา


ชุดดํา มันคือความรู ้สึกที่อดั แน่นของเขา
" อาวุโส โปรดอภัยที่ขา้ ไร้มารยาท หลังที่คุยกันมานานข้ายัง
ไม่ทราบนามของท่าน " ทันใดนั้นใบหน้าของชูเฟิ งก็เต็มไปด้วย
ความคิด จากนั้นเขาก็คารวะชายชราชุดดําพร้อมกับเอ่ยถาม

" ฮ่าๆ ในภาคทะเลตะวันออก ครั้งที่ประมุขพรรคมารทลาย


ราตรี ยงั อยูข่ า้ คือหนึ่งใน 4 ปราการ ทุกคนต่างรู ้จกั นามของข้า "

" แต่ไม่เป็ นไร สถานที่รกร้างเช่นนี้ เจ้าจะเคยได้ยนิ พรรคมาร


ทลายราตรี ได้ยงั ไง ดังนันเจ้าคงไม่รู้ ว่าข้าเป็ นใคร มันก็ไม่แปลก ? "

" ชูเฟิ ง จําชื่อของข้าไว้ ชื่อข้าคือ ชิ๋ว ซานเฟิ ง " ชายชราชุดดํา


ปิ ดตา ขณะที่บอกนามของเขา
" ศิษย์ชูเฟิ ง ขอคารวะอาจารย์ ชิ๋ว ซานเฟิ ง " ในเวลานั้น ชูเฟิ ง
รี บคุกเข่าลงไปกับพื้น และคํานับ ชิ๋ว ซานเฟิ ง "

ที่ทาํ แบบนั้นเพราะเข้าไม่อยากปล่อยโอกาสนี้หลุดไป ในสถานกาณณ์ที่


เขาได้เจอขุมอํานาจขนาดใหญ่ที่เหนือกว่าหมู่เกาะประหาร ตลอดจน
ได้รับสมบัติจากสุ สานจักรพรรดิมากมายมีหรื อ ชูเฟิ ง จะไม่ยอมรับ ชิ๋ว
ซานเฟิ ง เป็ นอาจารย์ของเขา

แน่นอน แม้วา่ ชูเฟิ ง สนใจผลลัพธ์ที่ได้ แต่ยงั ไงทั้งสองฝ่ ายต่างก็ได้รับ


ประโยชน์กนั ทัว่ หน้า จึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

การสนทนาของเขาและ ชิ๋ว ซานเฟิ ง ยังคงดําเนินไป ขณะที่พดู คุยชูเฟิ งก็


คอยสังเกตุสีหน้าของ ชิ๋ว ซานเฟิ ง และตั้งใจฟังนํ้าเสี ยงของเขา
ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงมัน่ ใจว่าที่ ชิ๋ว ซานเฟิ ง พูดมาน่าจะเป็ นความจริ ง และเขา
นั้นต้องการได้ ชูเฟิ ง มาเป็ นศิษย์อย่างแท้จริ ง สําหรับเหตุผลก็อย่างที่เขา
เคยว่ามา

เกี่ยวกับเส้นทางในการต่อสู ข้ องเขา มันเป็ นเรื่ องที่ยากมากสําหรับเขาที่


จะได้กา้ วหน้า ดังนั้นเขาจึงเลือกคนที่มีแนวโน้มว่าจะประสบ
ความสําเร็ จเหนือเขา

ถ้าเขาทําสําเร็ จ เขาก็จะยืมความรู ้ความสามารถของคนที่เขาทําให้พฒั นา


ในการช่วยตัวเค้าเอง แม้วา่ มันจะมีความเสี่ ยง แต่กม็ ีแต่วธิ ีน้ ี

แม้วา่ มันเป็ นเพียงการตัดสิ นของชูเฟิ ง เนื่องจากยังไม่ได้ยนื ยันว่า ชิ๋ว


ซานเฟิ ง เพียงต้องการจะใช้เขาหรื อไม่ ปั จจุบนั ก็เห็นได้ชดั เจนว่ามันไม่
มีทางเลือกอื่น
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดี ดี ดี ลุกขึ้นเร็ ว "

" ชูเฟิ ง ข้าดีใจมากที่ได้เจ้ามาเป็ นลูกศิษย์ "

" ถึงข้าไม่มนั่ ใจ แต่ตอนนี้ ข้าสามารถบอกได้เลยว่าสักวันเจ้า


จะต้องแซงหน้าข้า เจ้าจะสามารถเอาชนะทุกๆคนในภาคทะเล
ตะวันออก เจ้าต้องกลายเป็ นจักรพรรดิแห่งสงคราม "

" เพื่อเส้นทางของเจ้าในการเป็ นจักรพรรดิแห่งสงคราม ข้าจะทํา


ทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อสนับสนุนเจ้า แต่ก่อนหน้านั้นข้ามีภาระกิจ
บางอย่างให้เจ้าช่วยข้า " ชิ๋ว ซานเฟิ ง อมยิม้ และกล่าว

" อาจารย์ท่านมีอะไรโปรดบอกศิษย์มา ศิษย์จะทําให้สุด


ความสามารถ " ชูเฟิ งโค้งคารวะ
" เห้ออ!!! แท้จริ งก็ไม่ใช่เรื่ องใหญ่โตอะไร ข้าเชื่อว่าเจ้าคงพอเดา
ออก ว่าข้าจะไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้หากข้ายังติดแง๊กอยูใ่ นนี้ "

" แต่รูปแบบสัญลักษณ์พนั ธนาการทั้ง4ไม่่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถ


ทําลายได้ ดังนั้นข้าจึงต้องการให้เจ้าไปขอความช่วยเหลือ " ชิ๋ว ซานเฟิ ง
ยิม้ และกล่าว

" ใครหรออาจารย์ ? " ชูเฟิ งถาม

" 1 ใน 4 ปราการของพรรคมารทลายราตรี ฟู่ เหลียนเซิ ง "

" ถึงตอนนั้น พวกเราจะมีความขัดแย่งระหว่างกัน แต่น้ นั เพราะ


เราต้องการชิงตําแหน่งประมุคพรรคแล้วมีครั้งหนึ่ง ฟู่ เหลียนเซิ ง ได้เคย
ติดคค้างข้า "

" และถึงแม้วา่ เขามักใช้วธิ ีการที่ชวั่ ช้า แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ไม่


สนใจวิธีการเพื่อให้ได้บรรลุเป้าหมาย ในฐานะที่เขาเป็ นมนุษย์คนหนึ่ง
เขามักให้ความสําคัญกับมิตรภาพและความซื่ อสัตย์ ตราบใดที่เจ้าพบเขา
และบอกสถานการณ์ในปัจจุบนั รับรองเขาจะต้องมาหาข้า "

" แต่เจ้าควรระวังไว้ ฟู่ เหลียนเซิ ง เป็ นคนที่ข้ ีระแวงอย่างมาก เขา


ไม่เคยบอกใครเกี่ยวกับที่อยูข่ องเขาหรื อตัวตนของเขา หากเจ้าพลาด มัน
คงยากที่จะป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาทําร้ายข้า ระหว่างที่ขา้ ถูกจองจําไว้
ที่นี่ " ชิ๋ว ซานเฟิ ง กล่าว
" อาจารย์แล้วอาวุโส ฟู่ เหลียนเซิ ง อยูไ่ หนตอนนี้ ? เขามี
ลักษณะเช่นไร และข้าจะทํายังไงให้เขาเชื่อว่าข้านั้นเป็ นลูกศิษย์ของท่าน
" ชูเฟิ งรัวคําถามใส่

" เจ้าช่างถามได้รอบคอบยิง่ นัก แต่ขา้ เองก็ไม่รู้วา่ ฟู่ เหลียนเซิ ง


อยูไ่ หนตอนนี้ ข้ารู ้แค่วา่ เขาไม่เคยออกจากภาคทะเลตะวันออก แต่เรื่ อง
เบาะแสต่างๆเจ้าต้องพึ่งความสามารถตัวเองแล้วล่ะ ศิษย์เอ๋ ย แต่วธิ ีทีเจ้า
จะทําให้เขาเชื่อนั้น ง่ายมาก หลังจากที่เจ้าพบเขา ตราบใดที่เจ้าบอกกับ
เขาว่า ที่เหวหมอกทมิฬ เขาเคยเป็ นหนี้ใคร ซึ่ งคนๆนั้นตอนนี้ตอ้ งการ
ความช่วยเหลือจากเขา วิธีน้ ีจะเร็ วที่สุด "

" จําไว้ อย่าพูดเพ้อเจ้อไร้สาระกับเขา ไม่เพียงแต่เขาจะไม่เชื่อเจ้า


เขายังจะฆ่าเจ้าด้วย " ชิ๋ว ซานเฟิ ง เตือนอย่างจริ งจัง
" ไม่ตอ้ งห่วงท่านอาจารย์ ข้าจะหาอาวุโส ฟู่ เหลียนเซิ ง ให้พบให้
เร็ วที่สุด และข้าจะพาเขามาหาท่าน "

นั้นเป็ นคําพูดที่ออกมาจากใจของ ชูเฟิ ง เพราะเขานั้นรี บร้อนที่จะ


แข็งแกร่ ง เขาร้อนใจอยากจะได้กาํ ลังรบฆ่าล้างหมู่เกาะประหาร และ
เงือนไขเหล่านั้นจะสําเร็ จได้หลังจากที่ช่วย ชิ๋ว ซานเฟิ ง ได้แล้ว

" อืม . . . . ยอดมาก แต่หลังจากที่เจ้าไปถึงภาคทะเลตะวันออก


เจ้าจะต้องค่อยๆจัดการเรื่ องนี้ สถานที่แห่งนั้น เทียบไม่ได้กบั ทวีปเล็กๆ
อย่าง 9 อาณาจักร ไม่วา่ จะเป็ นคนหรื อความแข็งแกร่ ง พวกนั้นย่อม
เหนือกว่า . . . . " ชิ๋ว ซานเฟิ ง เตือนเขาอีกครั้ง

" อาจารย์ขา้ จะระวัง " ชูเฟิ ง พยักหน้า หลังจากที่เขาตรวจสอบ


รู ปแบบสัญลักษณ์พนั ธนาการทั้ง 4 เขาก็กล่าวอีกครั้ง " ท่านอาจารย์
ตอนนี้ท่านถูกจองจําในรู ปแบบสัญลักษณ์ท้ งั 4 ท่านไม่สามารถ
เคลื่อนย้ายตัวเองไปไหนได้ และเส้นทางสู่ ภาคทะเลตะวันออกก็ไกลยิง่
นัก และนอกจากนี้ขา้ เองก็ไม่รู้วา่ จะพบอาวุโส ฟู่ เหลี่ยนเซิ ง เมื่อไหร่
หลังจากที่ถึงทะเลวันออก และกว่าข้าจะหาเขาพบ การเดินทางกลับมาก็
จําเป็ นต้องใช้เวลาพอสมควร "

" แล้วช่วงเวลานั้นก็ถือว่ายาวนานพอสมควรระหว่างนั้นท่านจะ
กิน จะดื่ม อะไร ? "

ชูเฟิ งรู ้วา่ เขานั้นแข็งแกร่ งอย่างมาก แต่ยงั ไงเขาก็ยงั จําเป็ นต้องกิน


และดิื่ม ในตอนนั้นราชันย์วานรที่รอดมาได้กเ็ พราะมีคนเตรี ยมอาหารไว้
ให้เพียงพอสําหรับเวลา 200 ปี นั้นคือเหตุผลที่เขาสามารถรอดมาจาก
หอคอยอสู รฟ้า แต่ ชิ๋ว ซานเฟิ ง ยังไม่มีใครเตรี ยมอาหารให้ เค้าจึงกังวัล
ว่าเวลาที่เขากลับมา ชิ๋ว ซานเฟิ งจะด้องไปซะก่อน

" ฮ่าๆๆๆ ไม่ตอ้ งห่วง แม้วา่ รู ปแบบสัญลักษณ์เหล่านี้จะขังข้าไว้


ในนี้ แต่มนั ก็มอบพลังพิเศษให้อย่างต่อเนื่อง และในร่ างข้าก็มีทกั ษะ
ฟื้ นฟู ดังนั้นข้าคงจะไม่อดตาย แต่ขา้ จะแก่ตายมากกว่า "

" ดังนั้นเจ้าไม่ตอ้ งเป็ นห่วงไปหรอก แต่เจ้าควรรี บตามหา ฟู่


เหลียนเซิงให้พบ ถึงเจ้าไม่ได้ทาํ เพื่อคนแก่อย่างข้า ก็คิดซะว่าทําเพื่อคน
รักของเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องรี บทําให้สาํ เร็ จ "

" ถึงตอนนั้นเจ้า ก็ไม่จาํ เป็ นต้องกลัวหมู่เกาะสวะนั้นอีกต่อไป ข้า


จะเริ่ มฟื้ นฟูและรวบรวมสมาชิกพรรคมารทลายราตรี กลับมาให้ยงิ่ ใหญ่
ดังเดิมจากนั้นเราจะเริ่ มเปิ ดสงครามกับหมู่เกาะประหาร!!! "

" ไม่ง้ นั ข้านี่แหละจะจัดการพวกมันด้วยตัวเอง ถึงแม้จะเสี่ ยงแต่


การฟื้ นคืนพรรคมารทลายราตรี จาํ เป็ นต้องใช้เวลา " ชิ๋ว ซานเฟิ ง ยิม้
เบาๆและกล่าว
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////////////////////////////////////////
A : โอ้ว กราบเลยท่านอาจารย์ มืงเอ้ยอย่าให้ จารย์พี่เฟิ งหลุดออกไป
ได้ ไม่ง้ นั หมู่เกาะประหารไม่ได้ตายดีแน่

B : อันนั้นแบบแค่เบาะๆ ลองคิดดูถา้ พรรคมารทลายราตรี เฟื่ องฟู


เหมือนเดิมแล้วร่ วมมือกับ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ ประมุขวิหารเพลิงผลาญ
สวรรค์ เกาะประหารจะเหลืออะไร

C : เหลือเชื่อไง เพราะคงไม่มีวนั เป็ นไปได้!!!

A : ไอเชี้ยนี้แม่ง ขัดตลอด จับแม่งขังลืมเลยดีไม๊!!!

B : มันพูดไรให้มนั พูดไป คอยดูเอาก็แล้วกัน ถึงอาจารย์ไม่ลงมือแค่


ชูเฟิ ง ในตอนนั้นก็พดู ได้วา่ เหนือกว่าคนรุ่ นเยาว์ของหมู่เกาะประหาร
แล้ว เผลอๆเหนือกว่าอาวุโสแนวหน้า หนําซํ้ายังไปขืนใจหลานสาวสุ ด
ที่รัก ของ . . . . . . . . .

A : เหี้ ยแบบนี้แหละ สมกับเป็ นพี่เฟิ ง


บทที่ 540 - ปัจจุบนั

หลังจากนั้น ชิ๋ว ซานเฟิ ง ให้คาํ แนะนํากับ ชูเฟิ ง ต่างๆมากมาย และ


คําแนะนําเหล่านั้นล้วนพุง่ เป้าไปที่เป้าหมาย เพื่อป้องกันเหตุร้ายแก่ ชู
เฟิ ง เมื่อเข้าสู่ ภาคทะเลตะวันออก
ซึ่งคําเหล่านั้น ชูเฟิ ง สามารถรับรู ้ได้ทนั ทีวา่ ไม่เพียงแต่ ชิ๋ว ซานเฟิ ง
ต้องการช่วยชูเฟิ งให้เขาได้รับกําลังสนับสนุน เขายังเป็ นห่วงความ
ปลอดภัยของ ชูเฟิ ง อย่างแท้จริ งอีกด้วย

ซึ่งมันทําให้เห็นได้ชดั เจนยิง่ ว่า ชิ๋ว ซานเฟิ ง ยอมรับชูเฟิ งในฐานะลูก


ศิษย์ของเขาอย่างจริ งจัง และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้หลอกใช้เค้าให้เขา
ออกไปจากที่น้ ี อย่างน้อยๆ ชูเฟิ ง ก็รู้สึกแบบนั้น

ถ้าเขาคิดผิด ว่าชิ๋ว ซานเฟิ ง ไม่เคยคิดจะช่วย ชูเฟิ ง ตั้งแต่แรก เขาเพียงแค่


ต้องการหลอกใช้ชูเฟิ ง ให้พาเขาหลุดพ้นจากสุ สานจักรพรรดิ นั้น
หมายความว่า ความสามารถในการแสดงของ ชิ๋ว ซานเฟิ ง ต้องอยูใ่ น
ระดับสู ง เทียบเท่ากับดารา Holiwood และซึ่ งหมายความอีกอย่าง
ว่า ชูเฟิ ง ล้มเหลวในการมองคน หากถึงตอนนั้นเขาจะไม่โทษฟ้าดิน
หรื อโทษใครทั้งนั้น เขาจะโทษตัวเองทีตาบอดมองคนไม่เป็ น
หลังจากนั้น ชูเฟิ งก็ออกมาจากสุ สานจักรพรรดิอย่างรวดเร็ ว แม้เขารู ้อยู่
แล้วว่าต้องเดินอีกไกล แต่เขาก็ไม่คิดที่จะประมาทส่ วนลึกของสุ สาน
จักรพรรดิ

แม้แต่ชายลึกลับที่นาํ ทางเขามาถึงประตูจกั รพรรดิยงั ต้องใช้เวลาถึงครึ่ ง


วัน ในการทางกลับออกไปคนเดียว เขาจะต้องรี บทําเวลาตลอดทั้งวันทั้ง
คืน เขานั้นใช้เวลาเกินสิ บวันในการวิง่ ออกมาจากสุ สานจักรพรรดิ
จากนั้นเขาก็ได้รู่ถึงวิธีการกลไกของสุ สานจักรพรรดิ ที่ต้ งั อยูใ่ นทวีป
เล็กๆอย่าง 9 อาณาจักร ว่ามันน่ากลัวแค่ไหน เมื่อเรี ยนรู ้โครงสร้างและ
การทํางานของมัน

แต่เขาก็ยงั นับว่ามีโชคอยูบ่ า้ ง หลังจากที่วงิ่ ออกมา ชูเฟิ งได้พบ สะสาร


แก่นแท้อาํ นาจวิญญาณ ซึ่งถือว่าเขานั้นได้เก็บเกี่ยวมาไม่นอ้ ย

เป็ นไปตามที่เขาคาดหวัง เขานั้นสามารถตัดผ่านเข้าสู่ ระดับ 3


อาณาจักรสวรรค์ นอกจากนี้ภายในร่ างของเขา ยังมีอาํ นาจพลังสวรรค์
สะสมไว้อีกเป็ นจํานวนมาก ซึ่ งเขานั้นอยูไ่ ม่ไกลจากระดับ 4 อาณาจักร
สวรรค์

นอกจากนี้หากเขาใช้พลังจากสายฟ้าทั้ง3 ความแข็งแกร่ งของชูเฟิ งจะ


เข้าสู่ ระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ ถึงแม้ระดับ 6 สวรรค์ ไม่ถือว่าน่ากลัว
แต่ดว้ ยพลังระดับนี้กเ็ พียงพอที่เขาจะเดินทางสู่ ภาคทะเลตะวันออกได้
แล้ว อย่างน้อยๆเขาก็ยงั มีพลังที่สามารถเอาตัวรอดที่น้ นั ได้

หลังจากก้าวขาออกจากสุ สานจักรพรรดิ ชูเฟิ งไม่ได้ดิ่งตรงกลับไป เขา


นั้นได้วางรู ปแบบอํานาจพลังปิ ดผนึกทางเข้าและซ่อนทางเข้าสุ สาน
จักรพรรดิเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น

หลังจากที่เขารู ้สึกว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ชูเฟิ งก็เดินออกมาบนถนน


จากนั้นก็ทะยานขึ่นฟ้ามุ่งหน้ากลับสํานักมังกรฟ้า
เมื่อ ชูเฟิ ง กลับมายังสํานักมังกรฟ้า เขาก็พบว่า อาคาร ตําหนัก หอฝึ กตน
หอคัมภีร์ ล้วนแต่สร้างเสร็ จสมบูรณ์ ยิง่ กว่านั้นยังมีขนาดใหญ่ อีกทั้งยัง
สร้างเด่นบนเทือกเขามังกรฟ้าซึ่ งทําให้ สํานักดูยงิ่ ใหญ่อลังการ

เมื่อเทียบกับสํานักมังกรฟ้าในอดีตนี้นบั ว่าสวยกว่าเดิมหลายสิ บเท่า มัน


อาจกล่าวว่า พอๆกับ ตําหนักราชวงศ์เจียงที่เปรี ยบกับวังค์ ซึ่ งพูดได้วา่
สมกับเป็ นสิ่ งก่อสร้างของขุมอํานาจอันดับ 1 ใน 9 อาณาจักร

นอกจากนี้ บรรยากาศภายในสํานักมังกรฟ้า ยังเต็มไปด้วยความชดชื่น


รื่ นเริ ง ถ้าจะอธิบายให้ชดั ๆ ก็คงจะเป็ น คําว่า ครื้ นเครง

ไม่ใช่แค่ สาวกของสํานักมังกรฟ้าเท่านั้น ภายในยังมีผคู ้ นจากนิกายโลก


วิญญาณ อย่าง กู๋ เทียนเซิน และคนอื่นๆ รวมถึงผูค้ นจาก ราชวงศ์เจียง

ไม่ตอ้ งบอก ชูเฟิ งก็พอรู ้วา่ ภายในสํานักมังกรฟ้านั้นกําลังจัดงานฉลอง


เนื่องในโอกาสที่สาํ นักมังกรฟ้าก่อตั้งสําเร็ จ ที่เรี ยกว่า พิธีเปิ ดงาน ซึ่ ง
ผูค้ นเหล่านั้นต่างก็มาร่ วมแสดงความยินดี

" เห้ย!!! ชูเฟิ ง ในที่สุดเจ้าก็กลับมาสักที เป็ นไงบ้าง สําเร็ จได้


ด้วยดีหรื อเปล่า ? "

" โหห ชูเฟิ ง ออร่ าของเจ้าดูเพิ่มขึ้นมากเลยหนิ ดูเหมือนว่าการ


เดินทางครั้งนี้เจ้าจะได้มาไม่นอ้ ย "

" เด๋ วก่อน ชูเฟิ ง แล้วไอ้บา้ ที่คอยตามเจ้า ไปไหนแล้วซะล่ะ


?!!! "

หลังจากที่ราชันย์วานรและผูค้ นเห็น ชูเฟิ ง พวกเขาก็พบว่า พลังวิญญาณ


ของชูเฟิ งพัฒนาจากระดับ 1 อาณาจักรสวรรค์เข้าสู่ ระดับ 3 อาณาจักร
สวรรค์ ทุกคนจึงร่ วมแสดงความยินดีกบั ชูเฟิ ง
แต่พวกเขาก็ยงั พบอีกว่าผูต้ ิดตามสติไม่ดีของชูเฟิ งได้หายไป ราชันย์
วานรเคยบอกกับทุกคนว่า ชูเฟิ ง เดินทางไปกับ ชายบ้าคนนั้น เมื่อเห็นว่า
ชูเฟิ งกลับมาคนเดียว พวกเขาจึงได้แต่ขมวดคิ้วแน่น เพราะรู ้วา่ ต้องมี
บางอย่างเกิดขึ้น

" เรื่ องมันนี้มนั ยาว " ชูเฟิ งยิม้ เบาๆ เพราะผูค้ นต่างก็ดูแสดง
ความกังวล เขาจึงไม่ได้ปิดบังอะไรพวกเขาและค่อยๆเล่าเรื่ องต่างๆที่
เกิดขึ้นให้กบั ฝูงชนฟัง แต่เขาเลี่ยงที่จะบอกเรื่ องราว ชิ๋ว ซานเฟิ ง ที่ได้รับ
เขาเป็ น ศิษย์

" เฮ้อ ไม่วา่ จะยังไงก็ตาม ดีแล้วที่เจ้ากลับมาได้อย่างปลอดภัย!!!


" หลังจากที่พวกเขารู ้วา่ เกิดอะไรขึ้น พวกเขารู ้วา่ ชูเฟิ งคงจะผ่าน
ประสบการณ์ที่น่ากลัว แม้พวกเขาจะไม่ได้เห็นผูเ้ ชี่ยวชาญ จักรพรรดิ
แห่งสงครามเองกับตา แต่เขาก็รู้สึกถึงความน่ากลัวผ่านปาก ชูเฟิ ง ได้
เป็ นอย่างดี
" ใช่แล้ว ชูเฟิ ง เจ้ากลับมาก็ดี ตอนนี้บรรพบุรุษท่านกําลังรอเจ้า
อยู่ " ทันใดนั้น หลี่ จางฉิง ก็พดู ขึ้น

" บรรพบุรุษ เขาออกมาแล้ว ? หรื อว่าเขาตัดผ่านเรี ยบร้อยแล้ว


? " ชูเฟิ งเชื่อมต่อคําพูดนั้นแล้วจึงถาม

" ฮ่าๆ ตอนนี้ท่านรอเจ้าอยูภ่ ายในหอคอยมังกรฟ้า ไว้เจ้าไปดู


เองกับตาดีกว่า " หลี่ จางฉิง ยิม้ พร้อมกับชี้ไปยังทางหอคอย

เห็นแบบนั้น ชูเฟิ งไม่ได้ถามต่อ เพราะเขามองรอยยิม้ ของเขา ชูเฟิ งก็พอ


เดาได้ทนั ทีวา่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าได้ทะลวงผ่านเข้าสู่ อาณาจักร จ้าว
แห่งสงคราม
และหลังจากที่ ชูเฟิ ง เข้ามายังหอคอยมังกรฟ้า เขาก็พบว่า ผูก้ ่อตั้งสํานัก
มังกรฟ้ากําลังพักผ่อนขณะที่นง่ั หลับตาอยูใ่ จกลางลานหอคอย หลังจาก
ที่เขาสัมผัสได้วา่ มีคนเดินเข้ามา เขาก็รีบลืมตาขึ้น พร้อมกับระเบิดคลื่น
พลังอํานาจที่รุนแรงออกไป

มันบอกได้เลยว่าพลังเขาน่ากลัวอย่างมาก แต่หลังจากที่ผกู ้ ่อตั้งสํานัก


มังกรฟ้าเห็นว่าคนที่เข้ามาคือ ชูเฟิ ง เขาก็รีบระงับพลังพร้อมกับจ้องมอง
และกล่าวกับชูเฟิ งด้วยรอยยิม้ บนใบหน้า " ชูเฟิ ง เจ้ากล้บมาแล้ว "

" บรรพบุรุษ ยินดีกบั ท่านด้วยที่ทะลวงผ่านสุ ดยอดอาณาจักร


พลังวิญญาณ จ้าวแห่งสงคราม ! " ชูเฟิ งรี บทําความเคารพ เพราะเขา
พบว่า ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าได้ตดั ผ่านอาณาจักรที่ยากได้สาํ เร็ จ ตามที่
เขาคาดเดาไว้

จากนั้น ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าก็พดู คุยกับ ชูเฟิ ง อยูน่ านสองนาน สิ่ งแรก


ที่พดู คุยกันคือเรื่ องงานเปิ ดพิธีของสํานักมังกรฟ้า
ซึ่งการสร้างสํานักมังกรฟ้านั้นได้เสร็ จสิ้ นผ่านมาหลายวันแล้ว แม้แต่
แขกเรื อนจากทัว่ ทุกสารทิศก็เดินทางมาถึง เหตุผลที่พิธียงั ไม่เริ่ มขึ้น
เนื่องจากพวกเขารอ ชูเฟิ ง

เหตุผลที่สาํ นักมังกรฟ้าสามารถมีวนั นี้ อีกทั้งได้ถือกําเนิดใหม่กเ็ พราะ ชู


เฟิ ง ซึ่งแม้แต่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าเอง ก็สามารถพูดได้เต็มปากว่า
ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจาก ชูเฟิ ง

ดังนั้น ทุกคนจึงได้แต่รอ ชูเฟิ ง ให้เขากลับมา พิธีเปิ ดจึงจะเริ่ ม ดังนั้น ผู ้


ก่อตั้งสํานักมังกรฟ้าจึงตัดสิ นใจได้แล้วว่า พิธีเปิ ดจะเริ่ มขึ้นวันพรุ่ งนี้
อย่างเป็ นทางการ

" เอ้อ ชูเฟิ ง ข้าได้ยนิ ว่าเจ้าจะเดินทางไปยังภาคทะเลตะวันออก


เพื่อเข้าสํานัก 4 คาบสมุทร พร้อมกับ จาง เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง งั้น
หรอ ? " ทันใดนั้นผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าก็ถามขึ้น
หลังจากได้ยนิ ตําพูดของเขา ชูเฟิ ง ก็ชะงักไป เพราะมันใกล้วนั ที่พวกเขา
ได้ตกลงกันไว้วา่ พวกเขาต้องมุ่งหน้าไปยังภาคทะเลตะวันออก

แต่หลังจากได้ยนิ คําถามของผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ชูเฟิ ง ส่ ายหน้าแล้ว


พูดว่า " จริ งๆแล้วข้านั้นเดินทางร่ วมกับพวกเขาไปยังภาคทะเล
ตะวันออก แต่ขา้ ไม่คิดที่จะเข้าสํานัก 4 คาบสมุทร "

" อืม . . . . ไม่วา่ เจ้าจะเข้าสํานักสี่ คาบสมุทรหรื อไม่ แต่การไป


ที่ภาคทะเลตะวันออก เพื่อเปิ ดหูเปิ ดตาหน่อยก็คงจะดีไม่นอ้ ย
โดยเฉพาะความสามารถของเจ้าที่มี สถานที่น้ นั จึงเหมาะสําหรับเจ้า การ
เก็บตัวอยูใ่ น 9 อาณาจักร รังแต่จะเป็ นการปิ ดกั้นความสามารถของเจ้า
"

" แต่ภาคทะเลตะวันออก เป็ นสถานที่รวมตัวของเหล่ามังกรและ


พยัคฆ์ และยังมีทวีปอีกตั้งมากมาย ซึ่ งมันต่างกับ 9 อาณาจักรอย่างชิ้น
เชิง และในแต่ละทวีปก็เต็มไปด้วยอัจฉริ ยะที่เก่งมาตั้งแต่เกิด และ
เป้าหมายของพวกเขาก็คงไม่พน้ ภาคทะเลตะวันออก "

" หากเจ้ากําลังคิดที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งนั้น ก่อนออก


เดินทาง ข้ามีขวัญชิ้นหนึ่งที่อยากจะมอบให้เจ้า " ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า
ยิม้ เบาๆและกล่าว

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////
A : พระเครื่ อง วัดพระบาทนํ้าพุ!!! ตระกรุ ดกันกระสุ น วัดไร่ ออ้ ย หรื อ
จะเป็ น จัตุครามรามเทพ ปุกเสกโดยพระถัง

B4 : บูชา สายศิลทักมือ ปุกเสกโดยวัดเส้าหลินตอนนี้ อัตมามี


โปรโมชัน่ บูชาสายศิล 1 เส้น แถมฟรี เครื่ องรางห้อยคอ ปลุกเสกโดย
หลวงจีน คง เกี่ยง ไม่วา่ ที่ไหนรับรอง แคล้วคาด หากไม่รอดหรื อตาย
ยินดีคืนเงิน

A:...............
C : มีแต่สายศิล มีสายวิทย์-คณิ ตไม๊หลวงพี!่ !!

B : เป็ นไงมืง จ๋ อยเลยดิ!!!

บทที่ 541 - พิธีเปิ ดสํานัก

“ของขวัญงั้นหรื อ” เมื่อได้ยนิ อย่างนั้นชูเฟิ งก็สงสัย

ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้ายิม้ แล้วก็นง่ั ขัดสมาธิ ผสานมือของเขาและมันก็


เกิดเป็ นตราผนึกบางอย่าง

ในตอนนั้นชูเฟิ งรู ้สึกถึงคลื่นบางอย่างที่อยูใ่ นของผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า

นอกจากนี้ ผิวสี แดงของเขาก็เปลี่ยนเป็ นสี ขาวและเริ่ มแสดงออกถึง


ความเจ็บปวด
*โฮกกก*

ทันใดนั้นก็มีเสี ยงมังกรคํารามมาจากร่ างของผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้า และใน


ตอนนั้นก็เกิดรู ปแบบวิญญาณขึ้นบนหน้าผากของเขา

รู ปแบบวิญญาณนั้นเกิดแสงยิงไปทุกทิศทาง และใต้แสงนัน่ มีมงั กรฟ้า


ตัวน้อยบินออกมา และบินมาอยูบ่ นฝ่ ามือของผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าและ
หยุด

อย่างไรก็ตามมังกรฟ้าตัวเล็กตัวนั้น มันก็คือมังกรฟ้าที่เป็ นทักษะเร้นลับ


มังกรฟ้าทะยาน ที่ชูเฟิ งเคยเห็น นอกจากนี้ชูเฟิ งยังสําผัสได้ถึงความ
พิเศษและความแข็งแกร่ งจากตัวของมัน ชูเฟิ งตระหนักดีวา่ ทักษะเร้นลับ
นี้สร้างชื่อให้ผกู ้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้ามามากนับครั้งไม่ถว้ น
แต่ในตอนนี้ เมื่อมองไปเมื่อมองไปที่ผกู ้ ่อตั้งมังกรฟ้า ร่ างของเขาก็เปี ยก
โชกไปด้วยเหงื่อและหอบอย่างหนัก เห็นได้ชดั ว่าเขาบาดเจ็บหนักแล้วก็
ทรมานอยู่

“ท่านผูก้ ่อตั้ง ท่านทําอะไร” เห็นอย่างนั้นชูเฟิ งก็ตกใจอย่างมาก

“ก่อนหน้านี้ ข้าได้สญ ั ญาว่า ข้าจะถ่ายทอด ทักษะเร้นลับนี้ให้เจ้า


ถ้าเจ้าชุบชีวติ ข้าได้ และตอนนี้ขา้ ก็แค่รักษาคําพูด.” ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกร
ฟ้า พูดและยิม้ ด้วยนํ้าเสี ยงที่เหนื่อยอ่อน

“ไม่ ท่านผูก้ ่อตั้ง ของขวัญชิ้นนี้มนั มากเกินกว่าที่ขา้ จะรับไว้ได้.”


ชูเฟิ งรี บปฏิเสธ

“ชูเฟิ ง เจ้าไม่ตอ้ งรู ้สึกผิดไป เจ้าทักษะเร้นลับนี้ มีความคิดเป็ น


ของตัวเองถึงแม้วา่ มันจะเลือกข้าแล้ว แต่มนั ก็ไม่ยอมแสดงพลังทั้งหมด
ออกมา.”

“นอกจากนี้ เจ้านายของมันจะถูกเลือกโดยตัวมัน แม้วา่ มันจะ


ออกมาจากร่ างข้าแล้ว ก็ตอ้ งดูวา่ มันจะเลือกเจ้าหรื อไม่.”

“รอก่อน ข้ากําลังจะปลดผนึกมันเสร็ จแล้ว ในตอนนั้น มันจะ


ตัดสิ นใจด้วยตัวมันเองถ้ามันเลือกเจ้ามันจะไปกลับเจ้าถ้าไม่มนั จะกลับ
เข้าตัวข้า.”

“ดังนั้นอย่าได้ ผลักไสมันเลย มันคงจะดีกว่าถ้าปล่อยให้มนั เลือก


เจ้านายด้วยตัวของมันเอง.”

ผูก้ ่อตั้งมังกรฟ้า ยิม้ เบาๆ และยกนิ้วขึ้น และ มังกรฟ้าก็ร้องอีกครั้ง


จากนั้นมันก็ลอยขึ้นไปบนอากาศและกลายเป็ นมังกรขนาดยักษ์ที่มีพลัง
ไม่ธรรมดา
มันหมุน ตัวอยูบ่ นอากาศและมีหมอกอยูร่ อบๆตัวมัน แสดงให้แห็นถึง
อํานาจของมัน แม้แต่ผกู ้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ก็ยงั ด้อยกว่ามาก

มันไม่ได้พดู อะไรออกมา ขณะนั้นหยุดมองไปที่ ชูเฟิ ง และผูก้ ่อตั้ง


สํานักมังกรฟ้า จากนั้นมันก็รีบพุง่ ลงมา กลายจนกลายเป็ นเส้นแสงสี ฟ้า
ตรงเข้าไปในสมองของชูเฟิ ง

“อ๊ากก” ในตอนนั้นชูเฟิ งก็รู้สึกปวดหัวอย่างมาก และมีขอ้ มูล


จํานวนมากกําลังไหลเข้ามาในสมองเขา

ทักษะเร้นลับมังกรทะยาน ที่เป็ นหนึ่งในทักษะเร้นลับระดับสุ ดยอด ก็


ได้เลือกชูเฟิ งอีกแล้ว และผลลัพธ์น้ นั ทําให้เขาเกิดความตกใจ แต่กเ็ ป็ น
ผลที่คาดเอาไว้แล้ว
“กะแล้ว ข้ารู ้อยูแ่ ล้วว่าระหว่างเจ้ากับข้า มันต้องเลือกเจ้า ใน
ตอนนั้นมันเลือกข้าก็นบั เป็ นเรื่ องที่ช่วยไม่ได้ล่ะนะ” ในตอนนั้น ผู ้
ก่อตั้งสํานักมังกรฟ้าก็ปรากฏรอยยิม้ บนใบหน้าที่ซีดขาวของเขา

เมื่อพลังที่แข็งแกร่ งยอมรับในตนเอง มันจึงทําเขาให้รู้สึกมีความสุ ขและ


ตื่นเต้นมาก

แต่เมื่อมันพบถึง ขีดจํากัดของพลังของเขา มันก็จะจํากัดพลังของมัน


และสร้างแรงกดดันอันใหญ่หลวง อาจกล่าวได้วา่ พลังที่แข็งแกร่ งที่ไม่
สามารถแสดงออกมาได้น้ นั เปลี่ยนเป็ นแรงกดดันให้กบั ร่ างกายเขา
แทน

และผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าก็เป็ นเช่นนั้น พรสวรรค์ของเขานั้นมีจาํ กัด


และเขาไม่สามารถที่จะแสดงประสิ ทธิภาพของทักษะเร้นลับได้อย่าง
สมบูรณ์ มันจึงกลายเป็ นภาระอันใหญ่หลวง ในตอนนี้น้ นั เขาได้ถ่าย
ทอดมันไปที่ชูเฟิ งแล้ว ซึ่งเหมือนกับเขาได้ปลดเปลื้องภาระที่หนักอึ้ง
ออกไป

“แข็งแกร่ งจริ งๆ.” ในตอนนั้นชูเฟิ งก็ตกใจอย่างมากเมื่อทักษะ


เร้นลับเข้ามาในตัวเขา เขาก็เข้าใจมันทันที

ดังนั้น เขาจึงรู ้ทนั ทีวา่ ทักษะมังกรทะยานผ่านเก้าสวรรค์ของเขานั้น


อ่อนด้อยทักษะมังกรฟ้าทะยานหลายเท่า

ถ้าเขาใช้ทกั ษะเร้นลับทั้ง 3 พร้อมกัน ชูเฟิ งก็จินตนาการไม่ออกว่ามัน


จะแข็งแกร่ งขนาดไหน

“ศิษย์ ผูน้ ้ ีขอขอบพระคุณท่านผูก้ ่อตั้ง.” ทันใดนั้นชูเฟิ งก็กม้ ลง


กราบ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าด้วยความขอบคุณ
“ทักษะเร้นลับนี้มนั ควรจะเป็ นของเจ้าตั้งแต่ตน้ แล้ว ข้าก็แค่คอย
ปกป้องมันมากกว่าพันปี เท่านั้นเอง.” ในตอนนั้นผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า
ก็รีบช่วยดึงตัวชูเฟิ งขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิม้

เขามองไปที่เด็กหนุ่มที่ราวกับพายุอย่างชูเฟิ ง ที่มีตน้ กําเนิดที่เป็ นปริ ศนา


และมีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่ งอย่างมาก และครอบครอง ทักษะเร้นลับทั้ง
3 และกําลังจะไปเยือน ภูมิภาคทะเลตะวันออก

วันถัดมา พิธีเปิ ดสํานักมังกรฟ้าก็เริ่ มขึ้นอย่างเป็ นทางการ

ในหุบเขามังกรฟ้า อาจบอกได้วา่ คนที่แข็งแกร่ งอย่างยิง่ ในทวีปเก้า


อาณาจักรมารวมตัวกัน และ ยังมีคนจากราชวงศ์เจียง มาร่ วมแสดงความ
ยินดีดว้ ย
และยังมีมหาอํานาจอื่นๆ และ ผูเ้ ชี่ยวชาญที่ถูกเชิญมา และยังมีหลายคน
ที่ไม่ได้รับเชิญแต่อยากมาเป็ นสักขีพยานการเปิ ดสํานักมังกรฟ้าเช่นกัน

ในวันนั้นนับเป็ นวันแห่งความสุ ขวันนึง สํานักมังกรฟ้าที่มีชื่อเสี ยงโด่ง


ดังเช่นในอดีตได้เปิ ดประตูตอ้ นรับคนจากทัว่ ทุกทิศไม่วา่ จะในหรื อนอก
หุบเขานี้

“ดูนน่ั นัน่ บรรพชนของนิกายโลกวิญญาณ กู่ เทียนเซิ น ที่เป็ น


อัจฉริ ยะก้องทวีปเมื่อ 100 ปี ก่อน”

“หวา ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าวันนี้นอกจากจะได้พบกับจักรพรรดิ
ราชวงศ์เจียงแล้ว ยังได้พบกับบรรพชนเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงอีกด้วย”

“สวรรค์ นัน่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ที่เป็ นคนที่แข็งแกร่ งที่สุดใน


ทวีปเก้าอาณาจักรเมื่อพันปี ก่อน ทําไมเขายังมีชีวติ อยูไ่ ด้”

เมื่อ ผูค้ นเห็น กู่ เทียนเซิน บรรพชนราชวงศ์เจียง และผูก้ ่อตั้งสํานัก


มังกรฟ้า และผูย้ งิ่ ใหญ่คนอื่นๆ พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเพราะ
ตอนนี้ผคู ้ นที่มีชื่อเสี ยงเหล่านั้นได้ปรากฏตัวที่สาํ นักมังกรฟ้าแล้ว

“ดูนน่ั นัน่ ชูเฟิ ง ข้าไม่คิดมาก่อนว่าตอนนี้น้ นั เขาจะสามารถ


ทะลวงไปในระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์ได้แล้ว ความเร็ วการบ่มเพาะ
ของเขาช่างน่ากลัวจริ งๆ.”

“อ๋ า เมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อชูเฟิ งนั้นผิดใจกับพวกมหาอํานาจ


และ ใบประกาศของเขานั้นถูกแปะทัว่ ทุกที่ในทวีปเก้าอาณาจักร ใน
ตอนนั้นมีคนเท่าไหร่ ที่ตามล่าเขา และมีคนเท่าไหร่ ที่ตอ้ งการจะฆ่าเขา”

“แต่ในตอนนี้ ด้วยพลังของเขา เขาสามารถฆ่าคนที่เข้ามาท้าทาย


เขาอย่างง่ายดาย นอกจากนี้เขายังได้จดั การให้พวกมหาอํานาจนัน่ ต้อง
ชดใช้ดว้ ยบทเรี ยนราคาแพง”

“ในตอนนี้ เขานั้นเป็ นตัวต้นแบบของผูค้ นนับไม่ถว้ นในทวีปเก้า


อาณาจักร เขาได้สร้างตํานานไว้นบั ไม่ถว้ น และมากเกินกว่าจะนับเป็ น
บุคลลที่เป็ นอันดับ 1 ของรุ่ นเยาว์.”

ReadMGA#ท่านฮาย
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//
A : เมื่อเหล้าเข้าปาก บวกกับความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน การพนันจึง
เกิดขึ้น

C : พวกมหาอํานาจ จะตั้งวงค์ไฮโล!!!

B : ตํ่า เอี่ยว 20x20

A : หก สู ง จัดไป 100
C : เอ้าๆ ถอยๆ เจ้าจะเปิ ดแล้ว!!! 4 - 4 - 3 ว้า 11 ไฮโล เจ้าแดก
เรี ยบ

A4 : เข้ากันเป็ นปี่ เป็ นขลุ่ยเลย ตอนหน้า จะมีการถกเถียงกันว่าใคร


คือรุ่ นเยาว์อนั ดับ 1 ของ 9 อาณาจักร
บทที่ 542 - ใครคืออัจฉริ ยะอันดับ 1 ของ 9 อาณาจักร ?

“ชูเฟิ งนั้นช่างแข็งแกร่ งจริ งๆ แต่จะบอกได้วา่ ตอนนี้เขานั้นเป็ น


อันดับ 1 ของรุ่ นเยาว์ในทวีปเก้าอาณาจักรแล้วคงไม่ได้หรอก”

“ไม่ตอ้ งพูดถึงจาง เทียนยีท่ ี่อยูใ่ นสํานักมังกรฟ้าเหมือนเขา


แม้แต่คนในราชวงศ์เจียงก็ยงั มีอจั ฉริ ยะอีกมากมายที่จะนํามา
เปรี ยบเทียบกับชูเฟิ ง.”

“เจียง ยีห่ นี่ ที่แข็งแกร่ งที่สุดในรุ่ นเยาว์ของราชวงศ์เจียง ที่มี


ระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์แม้แต่ ผูค้ นในรุ่ นเก่า ก็ยงั กลัวเธอ.”
“เจียง หวูช่ าง อัจฉริ ยะอันดับ 1 ของราชวงศ์เจียง ด้วยอายุ 16
ปี เขามีระดับการบ่มเพาะถึง ระดับ3อาณาจักรสวรรค์ นี้ไม่ใช่วา่ เขามี
พรสวรรค์กว่าชูเฟิ งหรอกหรื อ” ในตอนนั้นก็มีคนพูดขึ้นมาในฝูงชน

“เจ้ายังไม่เข้าใจ ไม่เพียงพรสวรรค์ของชูเฟิ งที่แข็งแกร่ ง แต่ยงั มี


ความเร็ วในการพัฒนาตัวเองของเขาที่เร็ วดัง่ กับพระเจ้าอีก และพลังการ
ต่อสู ข้ องเขา ด้วยระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์ แม้แต่คนที่อยูใ่ นระดับ 5
อาณาจักรสวรรค์กไ็ ม่สามารถต่อกรเขาได้.”

“ชูเฟิ งแข็งแกร่ งนั้นก็จริ ง แต่วา่ จาง เทียนยีน่ ้ นั น่าเกรงขามอย่าง


ยิง่ และ เจียง ยีห่ นี่ และ เจียง หวูช่ าง ที่มาจากราชวงศ์เจียงอีก พวกเขามี
พลังสายเลือด มันอาจเป็ นไปได้วา่ พวกเขาเหนือกว่าชูเฟิ ง และ จาง
เทียนยีเ่ สี ยอีก?”

“อ่า ถ้าพวกเขาประลองกันสักครั้งก็คงจะดี พวกเราจะได้ไม่ตอ้ ง


มาเถียงกันที่น้ ี.”
“ถูกต้อง ข้าอยากจะรู ้ถึงความสามารถระหว่างพวกเขา และอยาก
รู ้วา่ ใครกันที่จะเป็ นคนที่แข็งแกร่ งที่สุดในรุ่ นเยาว์ของทวีปเก้าอาณาจักร
นี้.”

เมื่อมองไปที่ ทั้ง 4 นั้นด้วยพลังของพวกเขานั้นมันนับได้วา่ ยอดเยีย่ มอ


ยางมาก ผูค้ นจึงอยากรู ้วา่ ใครกันที่แข็งแกร่ งกว่า หรื อ อ่อนแอกว่า

เสี ยงพูดคุยเหล่านั้น บุคคลที่อยูใ่ นพื้นที่ระดับสู งนั้นได้ยนิ สิ่ งที่พวกเขา


พูดอย่างชัดเจน ดังนั้น บรรพชนเก่าแก่ราชวงศ์เจียง จึง พูดขึ้นมาว่า
“ท่านอาวุโสมังกรฟ้า ดูเหมือนว่ามีคนอยากเห็นว่าใครจะเป็ นอันดับ 1
ของทวีปเก้าอาณาจักร.”

“มันเป็ นเรื่ องที่หาได้ยากมาก ที่จะเกิดเรื่ องน่าสนุกเช่นวันนี้


ดังนั้น เราไม่จดั งานประลองรุ่ นเยาว์เสี ยหน่อยล่ะ เพื่อตอบสนองความ
ต้องการของพวกเขา.”

“ตามจริ งแล้ว ข้าก็คิดเช่นนั้น.” ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าพูดและหัน


ไปมองทางพวกชูเฟิ งและพูดว่า “ แต่ในตอนนี้ขา้ ไม่รู้วา่ พวกเจ้าทั้ง 4
นั้นจะยินดีประลองสักรอบไหม”

หลังจากได้ยนิ คําพูดของผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ทุกคนต่างดีใจอย่างมาก


พวกเขามองไปที่ชูเฟิ งเพื่อฟังคําตอบจากพวกเขา

เพราะไม่เพียงแค่ผเู ้ ชี่ยวชาญที่มาจากทุกสารทิศนั้นที่อยากจะรู ้ แม้แต่


ผูค้ นที่เคยได้ยนิ กิตติศพั ท์ของพวกชูเฟิ งก็อยากรู ้วา่ ใน4คนนั้นใคร
แข็งแกร่ งที่สุด

และต่อหน้าสายตาของผูค้ น เจียง หวูช่ างก็หวั เราะและพูดขึ้นว่า “ ความ


จริ งแล้วข้าเคยลองประมือกับ พี่ชาย เทียนยีแ่ ล้ว แต่ขา้ ก็ไม่สามารถ
เอาชนะเขาได้.”

“สําหรับพีช่ ายชูเฟิ ง แม้แต่ 18 มังกรทองก็ยงั ถูกเปิ ดขึ้นโดยเขา


ข้าจึงไม่คิดว่าข้าจะสู ก้ บั เขาได้ในระดับพลังเท่ากัน.”

“อะไรนะ เจ้าเคยสู ก้ บั เทียนยี่ แล้ว เจ้ายังไม่สามารถเอาชนะเขา


ได้หรื อ”

หลังจากได้ยนิ ที่ เจียง หวูช่ าง พูดใบหน้าของคนจากราชวงศ์เจียงก็


เปลี่ยนแปลงอย่างหนัก และในตอนนี้พวกเขาก็ตกใจอย่างมาก

เพราะหลังจากชูเฟิ ง ได้เปิ ดใช้งานรู ปแบบ 18 มังกรทอง พลัง


สายเลือดของทุกในราชวงศ์เจียง ก็แข็งแกร่ งขึ้น
ผูค้ นจํานวนมากจึงทะลวงผ่านได้และ หวูช่ าง เป็ น 1 ในนั้น ดังนั้น
ในตอนนี้ระดับพลังของเขานั้นได้อยูใ่ นระดับ 3 เช่นเดียวกับ จาง เทียน
ยีแ่ ล้ว

พลังสายเลือดของพวกเขาแข็งแกร่ งอย่างมาก และได้รับการ


เปลี่ยนแปลงอีก แต่ถึงกระนั้น เจียง หวูช่ าง ที่เป็ นความหวังของราชวงศ์
เจียง ก็ยงั ไม่สามารถเอาชนะจาง เทียนยีไ่ ด้ ซึ่ งมันทําให้พวกเขายากที่จะ
ยอมรับ

ในความจริ งแล้ว แม้แต่ใบหน้าของจักรพรรดิราชวงศ์เจียงก็เปลี่ยนไป


เช่นกัน เขาไม่สามารถทําอะไรได้ ได้แต่เพียงมองไปที่ลูกสาวของเขา
เจียง ยีห่ นี

แม้วา่ พลังสายเลือดของ เจียง ยีห่ นี จะไม่เท่ากับ หวูช่ าง แต่ยงั โชคดี ที่


พลังของเธอนั้นอยูใ่ นระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์แล้ว ในแง่ของระดับ
การบ่มเพาะของเธอนั้น เป็ นต่อให้เป็ นชูเฟิ งและจาง เทียนยี่ เธอย่อม
เหนือกว่า

ในตอนนั้น คนจากราชวงศ์เจียง ก็หนั ไปมอง เจียง ยีห่ นี ด้วยความหวัง


ว่าเธอจะสู เ้ พื่อ ราชวงศ์เจียงได้ เธอจึงยิม้ หวาน และพูดว่า “ แม้วา่ ข้าจะ
อยูใ่ นระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ แต่ขา้ ก็ยงั เป็ นรอง เจียง หวูช่ างอยู่
ดังนั้นไม่ตอ้ งประลอง ข้าก็ไม่สามารถเทียบ ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยีไ่ ด้.”

“นี่…” ในตอนนั้น คนจากราชวงศ์เจียงก็ตกตะลึง มวยยังไม่เริ่ ม


แต่รุ่นเยาว์ของราชวงศ์เจียงก็ยอมแพ้กนั เสี ยแล้ว มันทําให้พวกเขารุ ้สึก
เศร้าใจไม่นอ้ ย

“ฮ่าฮ่า!” ในตอนนั้น ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าก็หวั เราะขึ้น แล้วหัน


ไปมองที่ชูเฟิ ง และ จางเทียนยี่ และพูดว่า “ ดูเหมือนว่าในรุ่ นเยาว์ของ
ทวีปเก้าอาณาจักรนี้ จะเหลือแค่การต่อสู ข้ องเจ้าซะแล้ว เจ้าจะยอม
ประลองกัน ให้พวกเราได้เปิ ดหูเปิ ดตาสักครั้งได้ไหม”
“ความจริ งแล้ว ข้านั้นต้องการจะแลกเปลี่ยนวรยุทธกับศิษย์นอ้ งชู
เฟิ งเช่นกัน และยิง่ หลังจากศิษย์นอ้ งชูเฟิ งได้อยุใ่ นระดับเดียวกับข้า
ความต้องการของข้าก็ยง่ิ ทวีข้ ึน.” จาง เทียนยี่ พูดด้วยรอยยิม้ ใจของเขา
นั้นมีความมุ่งมัน่ ที่อยากจะลองประมือ กับชูเฟิ งอยู่

“เมื่อเป็ นเช่นนั้น ศิษย์พี่ จาง โปรดชี้แนะด้วย.” ชูเฟิ ง ไม่ปฏิเสธ


และลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า และยืนอยูบ่ นท้องฟ้าสี ครามนัน่

ความจริ งแล้วไม่เพียงจาง เทียนยีท่ ี่ตอ้ งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กบั


ชูเฟิ ง แต่ชูเฟิ งก็ตอ้ งการเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ ระดับการบ่มเพาะของชูเฟิ งยังอ่อนด้อย และไม่สามารถที่จะ


เทียบจาง เทียนยีไ่ ด้ แต่ในปัจจุบนั นี้ ระดับของเขานั้นได้สูงขึ้นมาแล้ว
เขาจึงอยากจะลองประมือ กับเทคนิคต้องห้ามของ จาง เทียนยีด่ ู
เพราะทักษะลับต้องห้ามของ จาง เทียนยี่ นั้นไม่ได้ดอ้ ยกว่า กาย
ศักดิ์สิทธิ์ของจื่อ หลิงเลย ชูเฟิ งจึงต้องการรู ้วา่ เมื่อมีคนระดับดียวกัน
แล้ว ใครจะแข็งแกร่ งกว่า ระหว่าง เขาทั้ง2

“ฮ่าฮ่า ศิษย์นอ้ งชูเฟิ งแม้จะเป็ นการประลองข้าจะไม่อ่อนข้อให้


ระวังตัวให้ดีล่ะ ~” เมื่อเห็น ชูเฟิ งตอบรับ จาง เทียนยีก่ ห็ วั เราเสี ยดัง
ด้วยความดีใจ และรี บบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเช่นกัน

ในตอนนั้น ก็มีเสี ยงเชียร์ดงั มาจากสํานักมังกรฟ้า และ ตอนนี้ทุกคนนั้น


เริ่ มไฟลุกแล้ว

พวกเขาจับตาจ้อง ทั้ง 2 โดยไม่พลาดสายตาและไม่เคลื่อนสายตา

เพราะในวันนี้ ฝันของพวกเขานั้นได้เป็ นจริ งแล้ว พวกเขาได้เป็ นสักขี


พยานในการต่อสู ร้ ะหว่าง 2 อัจฉริ ยะระดับสู งสุ ดของทวีปเก้า
อาณาจักร

ReadMGA#ท่านฮาย
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//
A : โอ้วว น่าสนุกชิบหาย แต่คงได้ตอ้ งรอตามวันพรุ่ งนี้วา่ ผลออกมา
จะเป็ นใคร

B : แหม๋ ๆ ผลก็เห็นๆกันอยู่ แต่ข้ ึนอยูก่ บั ว่า ชูเฟิ ง จะเอาจริ งหรื อเปล่า


? กลัวแต่วา่ จะเห็นแก่ความเปนพี่นอ้ งแล้วยอมอ่อนให้อ่ะดิ

A : ทําแบบนั้น จาง เทียนยี่ คงโกรธน่าดู ชูเฟิ งคงไม่โง่ทาํ แบบนั้น


หรอก

C : งดออกเสี ยง

บทที่ 543 - การต่อสู ข้ องอัจฉริ ยะ


ผูค้ นจากภูเขาและทะเลนั้นมารวมตัวกันที่สาํ นักมังกรฟ้า นัน่ หมายความ
ว่าผูค้ นที่ทุกคนรู ้จกั จากทัว่ ทุกสารทิศต่างก็มารวมตัวกันที่นี่

ไม่วา่ งจะเป็ นผูม้ ีชื่อเสี ยง คนทัว่ ไป คนแก่ หรื อ หนุ่มสาว ต่างก็มา


รวมตัวกันที่นี่ เพื่อเข้าร่ วมงานเฉลิมฉลอง และ เพลิดเพลินไปกับพิธีเปิ ด
สํานัก

แต่ในตอนนี้ทุกคนนั้นก็จบั จ้องไป บนท้องฟ้าเหนือ หุบเขามังกรฟ้า


เพราะพวกเขารู ้วา่ ด้านบนนั้นมีการต่อสู ท้ ี่น่าตื่นตาตื่นใจกําลังจะเริ่ มขึ้น

นอกจากนี้นน่ั ไม่ได้เป็ นเพียงการเผชิญหน้าระหว่างผูเ้ ชี่ยวชาญ แต่เป็ น


การต่อสู ร้ ะหว่าง 2 อัจฉริ ยะของ ทวีปเก้าอาณาจักร
“ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง เตรี ยมรับมือ.” ทันใดนั้น จาง เทียนยี่ ที่ยนื อยูบ่ น
อากาศก็คารวะ อย่างสุ ภาพ

“ศิษย์พี่ จาง โปรดชี้แนะด้วย.” ชูเฟิ งก็ยมิ้ เบาๆ และประสานมือ


คารวะตอบเช่นกัน

“ฮ่าา!”

เมื่อเห็นเช่นนั้น จาง เทียนยีไ่ ม่รอช้า ระเบิดเสี ยงตะโกนออกมา เขาไม่ได้


ใช้ทกั ษะอะไร เพียงแค่ชกไปกลางอากาศเท่านั้น
เมื่อหมัดนั้น ถูกปล่อยออกมา ก็มีพลังระดับอาณาจักรสวรรค์ออกมาด้วย
ก่อเกิดเป็ นคลื่นลมที่มีพลังน่าเกรงขาม พุง่ เข้าใส่ ชูเฟิ ง

“ศิษย์พี่ จาง ข้าเกรงว่า การโจมตีน้ ี จะไร้ประโยชน์สาํ หรับข้า.”

อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าการโจมตีของ จาง เทียนยี่ ชูเฟิ งก็ยนื ยิม้ อย่างใจ


เย็น เขายืนไขว้มือไว้ขา้ งหลังและไม่ได้ขยับตัวไปไหน ต่อจากนั้นก็มี
รู ปแบบวิญญาณสี ฟ้าปรากฏด้านหน้า และป้องกันหมัดนั้นไว้

ก่อให้เกิดแรงระเบิดขนาดใหญ่ข้ ึน มาเกิดการปะทะระหว่างพลังระดับ
อาณาจักรสวรรค์และรู ปแบบวิญญาณ แต่เมื่อคลื่นลมหายไป ทุกคนก็
ต้องตกใจอย่างมาก เมื่อพบว่าหมัดของจาง เทียนยีน่ ้ นั ถูกป้องกันโดยชู
เฟิ งอย่างง่ายดาย
“เห! รู ปแบบวิญญาณนี่ ไม่ธรรมดาจริ งๆ แต่ถา้ เจ้าอาศัยแค่รูปแบบ
วิญญาณ เจ้าก็จะไม่สามารถป้องกันการโจมตีครั้งต่อไปของข้าหรอก.”

ขณะนั้น จาง เทียนยี่ ยืนยิม้ แล้วก้าวเท้าออกมา หลังจากนั้นเขาก็ใช้มือ


ซ้ายคว้าอากาศและกลายเป็ นคันธนู และใช้มือขวาดึงอากาศดัง่ จับลูกธนู
และเมื่อเขาปล่อยออก แสงสี ทองพุง่ เป็ นลูกธนู พุง่ เข้าหาชูเฟิ ง

“ธนูร้อยแปลง” เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ งก็พดู ขึ้นมา

เมื่อตอนที่เขาพบจาง เทียนยีค่ รั้งแรก จาง เทียนยี่ ก็ใช้ธนูร้อยแปลง


เช่นกัน ในครั้งนั้น ธนูร้อยแปลงของเขา อาจบอกได้วา่ ไร้เทียมทาน ไม่
เพียงแต่เขา แม้ แต่จื่อ หลิง ก็ไม่สามารถ ป้องกันได้

และวันนี้ จาง เทียนยี่ ได้ใช้ธนูร้อยแปลงอีกครั้ง ซึ่ งมันทําให้ชูเฟิ งเริ่ ม


รู ้สึกตื่นเต้น

เพราะเขาต้องการจะรู ้วา่ ใครสามารถใช้ธนูร้อยแปลงได้ดีกว่ากัน เมื่อ


เขาอยูใ่ นระดับเดียวกับจาง เทียนยี่

ดังนั้น ในตอนนี้มีธนูสีทองเต็มท้องฟ้าพุง่ มาที่เขา ชูเฟิ งไม่เพียงไม่หลบ


เขายังกางรู ปแบบวิญญาณสี ฟ้าไว้ขา้ งหน้าเขา

หลังจากนั้น ชูเฟิ ง ก็ทาํ ท่าทางเดียวกับจาง เทียนยี่ ในมือของเขาปรากฏ


คันธนูสีทอง มือขวาของเขาง้างสายคันธนูแล้วปล่อยคันศรออกไป
ขณะนั้นมีลูกศรธนูสีทองพุง่ ออกมานับไม่ถว้ น

*ฟิ้ ว ฟิ้ ว ฟิ้ ว *

ในตอนนั้น เสี ยงดังขึ้นในท้องและแสงสี ทองลอยออกไปทัว่ ทุกทาง


หลังจากนั้น ธนูแสงทั้ง 2 ฝ่ ายก็ปะทะกันบนอากาศส่ งผลให้เกิดแสงสี
ทองระเบิดออกมา

“สวรรค์ แข็งแกร่ งมาก พวกเขาช่างแข็งแกร่ งมากจริ งๆ นี่คือการ


ปะทะกันระหว่างคนที่แข็งแกร่ งที่สุดในรุ่ นเยาว์”
แม้เห็นแสงและพลังที่น่าเกรงขามบนท้องฟ้า ผูค้ นที่ดูอยูก่ ต็ ะลึงอย่าง
มากเพราะแม้แต่ผอู ้ าวุโสบางคนก็ยงั ไม่สามารถทําเช่นนี้ได้เลย

บางคนก็ไม่เคยเห็นการต่อสู ท้ ี่น่าทึ่งแบบนี้มาก่อน พวกเขาจึงถูกดึงดูด


ด้วยบรรยากาศนี้ และทําให้รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

และมันอาจบอกได้วา่ ธนูร้อยแปลงที่ท้ งั 2 ใช้น้ นั สุ ดยอดมาก แต่


อย่างไรก็ตามย่อมมีคนที่เหนือกว่าและอ่อนแอกว่า หลังจากการปะทะ
ของลูกศรสิ้ นสุ ดลงก็เกิดบางอย่างขึ้น

ศรสี ทองของชูเฟิ งนั้นสามารถทะลวงจุดศูนย์กลางที่ปะทะกันแล้วพุง่ เข้า


ไปยัง จาง เทียนยีไ่ ด้
ตอนแรกจาง เทียนยีส่ ามารถใช้ความสามารถทางกายหลบพวกมันได้
แต่ต่อมานั้นศรสี ทองได้ถูกยิงออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ งมันเกินขอบเขตที่
จาง เทียนยีจ่ ะทนไหว

“ฮ่า!”

ในตอนที่ ศรธนูหลายดอกที่พงุ่ เข้ามาหาเขานั้น เขาก็ได้ระเบิดเสี ยง


ออกมาทันที ธนูร้อยแปลงที่อยูใ่ นมือของเขาก็หายไป มันถูกแทนด้วย
แสงสี ทองในมือทั้ง 2 ข้างของเขา

*ตูม*
หลังจากนั้น เขาก็สะบัดชุดคลุมและ เหวียงมือทั้ง 2 ข้าง ทําให้เกิดเพลิง
ขนาดยักษ์ลอยออกมาจากฝ่ ามือเขาและเผาธนูสีทองบนท้องฟ้านัน่
ทักษะที่เขาใช้คือทักษะระดับ 6

แต่ชูเฟิ งก็ไม่หวาดวิตก เมื่อเห็นเปลวไฟเต็มท้องฟ้า พร้อมกับโหมเข้ามา


ใกล้ๆ

เขาแสยะยิม้ และกํามือแน่น ทันใดนั้นก็มีเสี ยงมังกรคํารามออกมาและ


ปรากฏเป็ นดาบสี ทองที่มือของเขา

หลังจากดาบสี ทองนั้นปรากฏขึ้น ก็เกิดแรงกดดันทําให้ไฟของจางเทียน


ยีก่ ระจายออกไป
“นี่มนั !!! ทักษะ คงชู เฉิ นเหริ น เพลงดาบมังกรคลัง่ ไร้ตวั ตน!!!”
เมื่อเห็ดาบสี ทองของชูเฟิ ง ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ก็ลุกขึ้นยืนและพูดขึ้น

“อะไรนะ เพลงดาบมังกรคลัง่ ไร้ตวั ตน เป็ นทักษะเฉพาะของผู ้


ก่อตั้งของข้า มันถูกครอบครองโดยชูเฟิ งอย่างนั้นหรื อนี่” เมื่อได้ยนิ ที่ ผู ้
ก่อตั้งสํานักมังกรฟ้าพูด ผูอ้ าวุโสจากสํานักไร้ตวั ตนก็ตกใจอย่างมาก

เพราะเพลงดาบมังกรคลัง่ ไร้ตวั ตนนั้นอาจพูดได้วา่ เป็ นความลับที่


ถ่ายทอดให้แก่อจั ฉริ ยะภายในสํานัก แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์เพราะไม่มี
ใครสามารถทําความเข้าใจกับมันได้ ดังนั้นจึงเป็ นเหตุให้มนั สาปสู ญไป
หลายปี
และในตอนนี้ ชูเฟิ งก็ได้ครอบครองทักษะที่สาปสู ญไปกว่า 1000 ปี
แล้วจะไม่ให้พวกเขาตกใจได้อย่างไร

“แข็งแกร่ ง แข็งแกร่ งจริ งๆ ชูเฟิ งเป็ นอัจฉริ ยะระดับเทพจริ งๆ กว่า


1000 ปี แล้ว ในสํานักไร้ตวั ตนของข้าไม่มีใครสามารถทําความเข้าใจ
เพลงดาบมังกรคลัง่ ไร้ตวั ตนได้.”

“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชูเฟิ งจะใช้มนั ได้ ข้าคิดว่าในชีวติ ข้าจะ


ไม่มีบุญได้เห็นทักษะที่ผกู ้ ่อตั้งของข้าสร้างขึ้นเสี ยแล้ว” ในขณะที่ผู ้
อาวุโสคนอื่นๆกําลังตกใจ ประมุขสํานักไร้ตวั ตนก็พดู ขึ้นด้วยความ
ภูมิใจ และตื้นตันใจ

ความจริ งนั้น เพลงดาบมังกรคลัง่ ไร้ตวั ตนที่ถูกใช้โดยชูเฟิ ง มัน


แข็งแกร่ งอย่างมาก หลังจากใช้ทกั ษะมังกรคลัง่ ไร้ตวั ตนนัน่ เขาก็แทบจะ
ไร้เทียบทานเลยทีเดียว

ไม่ตอ้ งพูดถึงทักษะของจาง เทียนยี่ ซึ่ งมันไม่สามารถเอาชนะชูเฟิ งได้


เลย แม้แต่ทกั ษะระดับ 7 ก็เช่นเดียวกัน มันไม่สามารถเอาชนะเพลง
ดาบมังกรคลัง่ ไร้ตวั ตนได้

ดังนั้น เขาจึงดึงกระบี่ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ออกมาจากหลังเขา และตัดสิ นใจใช้


มันสู ก้ บั เพลงดาบมังกรคลัง่ ไร้ตวั ตนของชูเฟิ ง

มันอาจพูดได้วา่ พลังของยอดยุทธภัณฑ์น้ นั แข็งแกร่ งมาก หลังจากเขาได้


ครอบครองกระบี่ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ บรรยากาศรอบๆตัวของจาง เทียนยีก่ ็
แข็งแกร่ งขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ั ลักษณ์บางอย่างเคลื่อนอยูร่ อบตัวเขา และถ้ากระบี่กบั มนุษย์ได้เป็ น
มีสญ
หนึ่งเดียวกัน มันจะเกิดความสามารถที่ยอดเยีย่ ม และด้วยความสามารถ
นั้น ก็สามารถบีบบังคับให้ชูเฟิ งถอยล้นได้อย่างต่อเนื่อง

“ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง เจ้าเล่นมามากพอแล้ว ให้ขา้ จาง เทียนยีไ่ ด้รู้ซ้ ึ งถึง


พลังของขวานอสูรฟ้าของเจ้าหน่อย แสดงให้ขา้ เห็นหน่อยสิ วา่ ขวาน
อสู รฟ้าของเจ้าหรื อ กระบี่ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ ยุทธภัณฑ์ของใครแข็งแกร่ งกว่า
กัน.”

ในตอนนั้น ทั้ง2ได้ปะทะกันอีกครั้งด้วยพลังของกระบี่ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์จาง


เทียนยี่ สามารถบีบให้ชูเฟิ งถอยกลับไปได้อีกหลายก้าว หลังจากนั้นเขา
ก็กา้ วไปข้างหน้าและพูดให้ชูเฟิ งใช้ยอดยุทธภัณฑ์ของเขา

ReadMGA#ท่านฮาย
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////
A : แนะ พี่จาง หาเรื่ องเจ็บตัวซะแล้ว

B : น่าเสี ยดายที่จาง เทียนยีไ่ ม่มี อํานาจพลังวิญญาณ ไม่ง้ นั ให้อสู ร


วิญญาณมาสู ก้ นั คงจะมันส์น่าดู

A : โอ้ววว หากต้านต้านออกมา เกรงว่าคนจะไม่สนใจการต่อสู ้ แต่จะ


ส่ องใต้กระโปรงซะมากกว่า!!!

B : เออ ก็จริ ง!!!

บทที่ 544 - ทุ่มสุ ดกําลัง

“งั้นศิษย์พี่จาง เตรี ยมรับมือ”


ชูเฟิ งไม่ปฏิเสธ คําขอของจาง เทียนยี่ เขายิม้ อ่อนๆ แล้วก็มีแสงปรากฏ
ขึ้นบนมือเขา และปรากฏเป็ นรู ปร่ างของ ขวานอสู รฟ้าบนมือของเขา.

เมื่อ ขวานอสู รฟ้าปรากฏขึ้น มันทําให้อากาศรอบๆแปรปรวน พลังของ


มันนั้นนมีอาํ นาจราวกับจะดูดกลืนทุกสิ่ งอย่าง และในตอนนั้น ทุกคนก็
รู ้สึกทันทีวา่ ชูเฟิ งนั้นแข็งแกร่ งเพียงใด

“แข็งแกร่ งจริ งๆ นัน่ คือขวานอสู รฟ้าอย่างนั้นหรื อ ข้าเคยได้ยนิ มา


ว่า ตระกูล เจีย และมหาอํานาจอื่นๆนั้น ได้ตามล่าชูเฟิ งเพราะขวานนี้
เพื่อต้องการชิงมันมาจากเขา.”
“สมแล้วที่เป็ นยอดยุทธภัณฑ์เลือกผูค้ รอบครอง พลังของมันนั้น
เหนือกว่าดาบไม้ของจาง เทียนยีอ่ ีก มันดูเหมือนว่าผลประลองวันนี้ออก
มาแล้วสิ นะ ว่าผูท้ ี่แข็งแกร่ งที่สุดคือชูเฟิ ง.” คนจากฝูงชนพูดออกมา

“ฮ่าฮ่า ต้องอย่างนี้สิ.” เมื่อเห็นชูเฟิ งใช้ขวานอสู รฟ้า จาง เทียนยี่


นั้นดีใจแทบโดดโลดเต้น และหลังจากนั้นเขาก็กระโดดแล้วเหวียงกระบี่
ไม้ของเขา ไปที่ชูเฟิ งนอกจากนี้ยงั รุ นแรงกว่าที่ผา่ นมาด้วย

“โฮ่!!!.” ต่อหน้าการโจมตีของจาง เทียนยีท่ ี่เพิ่มพลังขึ้น มุมปาก


ของชูเฟิ งก็ยกขึ้น เขายืนอยูก่ บั ที่ไม่หลบหรื อหนี จนกระทัง่ การโจมตี
ของจาง เทียนยีเ่ ข้ามาใกล้ตวั เขา เขาจึงสะบัดแขน และใช้ขวานอสู รฟ้า
ทันที

“ อะวูว้ “
เมื่อตอนที่ขวานอสู รฟ้าเคลื่อนไหวนั้น มันก็มีเสี ยงคล้ายกับหมาป่ าหอน
เกิดขึ้น หลังจากนั้นก็เกิดคลื่นเสี้ ยวจันทร์สีดาํ และเข้าปะทะกับการ
โจมตีของ จาง เทียนยี่

*เคร๊ งง*

อาวุธทั้ง 2 ปะทะกัน ก่อให้เกิดเสี ยงปะทะระหว่างเหล็กเกิดขึ้นบน


อากาศ ด้วยพลังของมันนั้นสามารถทําให้ชูเฟิ งถอยไปได้2-3 ก้าว

แต่ดา้ น จาง เทียนยี่ นั้นเขากระเด็นถอยไปหลายเมตร นอกจากนี้ เมื่อ


มองดีดีแล้วจะพบว่าไหล่ขา้ งที่จบั ดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์น้ นั สัน่ อยู่ เห็นได้ชดั
ว่าเขารับแรงกดดันเข้าไปเต็มๆ

“ขวานอสู รฟ้าของศิษย์นอ้ งชูเฟิ งช่างแข็งแกร่ งยิง่ นัก ในเรื่ องของ


พลังเขาเหนือกว่าเรา และนี่คือพลังของยอดยุทธภัณฑ์เลือกผูค้ รอบครอง
มันเป็ นไปได้วา่ ยอดยุทธภัณฑ์น้ นั ไม่ได้อยูใ่ นระดับเดียวกับยอด
ยุทธภัณฑ์เลือกผูค้ รอบครอง” ในตอนนั้น จาง เทียนยี่ ก็ขมวดคิว้ แน่น
เป็ นครั้งแรกที่เขารู ้ซ้ ึ งถึงพลังของชูเฟิ ง

“ศิษย์พี่จาง ศึกยังไม่ตดั สิ นท่านไม่ควรจะประมาท “ ในตอนนั้นชู


เฟิ งก็ตะโกนขึ้นมา และเมื่อจาง เทียนยีร่ ู ้สึกตัว ชูเฟิ งก็ได้ประชิดตัวเขา
แล้ว และเหวีย่ งขวานลงมาที่เขา

ความเร็ วของชูเฟิ งนั้นสุ ดยอดมาก เขานั้นไม่ให้จาง เทียนยีไ่ ด้หลบเลย


เขาจึงกระชับกระบี่ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์แน่น อัดพลังของเขาใส่ มนั
เมื่อสัญลักษณ์ของกระบี่ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นอีกครั้งพวกมันก็ได้ไป
ป้องกัน ขวานอสูรฟ้าที่กาํ ลังพุง่ ลงมา

และเกิดเสี ยง ดัง แคร๊ ง ขึ้นอีกครั้ง และนัน่ ก็เกิดกระแสไฟฟ้าพุง่ ไปทัว่


ทิศทางพร้อมๆกับคลื่นลม

อย่างไรก็ตาม จาง เทียนยีน่ ้ นั ถอยไปอีกหลายเมตรอีกครั้ง สิ่ งที่แตกต่าง


จากเดิมคือแขนขวาของเขาสัน่ สะเทือนเพิ่มขึ้น และนัน่ มันทําให้เขารู ้สึก
สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับแขนของเขา

“เดี๋ยวก่อน!!! นี่มนั ไม่ใช่แค่พลังของขวานอสู รฟ้าแล้ว ยังมีความ


แข็งแกร่ งของชูเฟิ งเพิ่มเข้าไปด้วย มันช่างร้ายกาจยิง่ นัก การที่ขวานอสู ร
ฟ้าอยูใ่ นมือเขานั้น มันยิง่ ทําให้เขาแข็งแกร่ งขึ้นไปอีก.”

“ไม่ดีแน่ ข้าจะเข้าไปปะทะกับเขาตรงๆไม่ได้แล้ว ข้าควรจะรักษา


ระยะห่างและใช้กระบี่ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์โจมตี จากระยะไกล.” ในตอนนั้น
จาง เทียนยีก่ เ็ ริ่ มตระหนักถึง ขวานอสู รฟ้าบ้างแล้ว

ดังนั้น เขาก็เริ่ มเคลื่อนไหวและใช้ทกั ษะทางกาย เพื่อที่จะเพิง่ ระยะห่าง


ระหว่างชูเฟิ งกับเขา และใช้กระบี่ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์โจมตีชูเฟิ ง

*วูบ่ *
อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้ทกั ษะ ทางกาย ก่อนที่จะถอยหางชูเฟิ งที่โจมตีเข้า
นอกจากนี้ไม่วา่ จะเป็ นความเร็ วหรื อพลังของเขานั้นมันก็เพิม่ ขึ้นกว่า
รอบที่แล้วเสี ยอีก ( T/N ประมานว่า hit and run เข้าโจมตีแล้ว
ถอย )

“โห้ว .” เมื่อเห็นรอยยิม้ ขบขนที่มุมปากชูเฟิ ง จาง เทียนยีก่ ย็ มิ้


ขึ้น

เขารู ้วา่ ไม่เพียงพลังของชูเฟิ งเท่านั้นที่แข็งแกร่ ง แต่แท๊คติคของชูเฟิ ง


นั้นก็ไม่ได้ดอ้ ยกว่าเขาเลย

ตั้งแต่เริ่ มต้น ชูเฟิ งรู ้เพียงว่าขวานอสู รฟ้าของเขานั้นสามารถโจมตี


ระยะใกล้ได้เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถปล่อยให้จาง เทียนยี่ ทิ้ง
ระยะห่างจากตัวเขาได้
การคํานวณที่ผดิ พลาด และ ความประมาทนั้น ทําให้เขาตกอยูใ่ น
สถานการณ์ที่เลวร้าย ในสถานการณ์น้ นั ถ้าเขายังดันทุรังใช้ยอด
ยุทธภัณฑ์สูก้ บั ชูเฟิ งต่อไป นัน่ อาจจะทําให้เขาพลาดท่าได้

อย่างไรก็ตามเขาไม่ตอ้ งการที่จะแพ้การประลอง เขานั้นต้องการติดสิ น


หาผูช้ นะ และผูท้ ี่แข็งแกร่ ง ซึ่งผูท้ ี่ได้รับชัยชนะย่อมน่าภาคภูมิใจกว่าผู ้
แพ้

แม้จะรู ้วา่ ชูเฟิ งนั้นแอบซ่อนพลังไว้อยู่ เขาก็จะสู ด้ ว้ ยเต็มกําลัง และไม่


ยอมเอ่ยยอมแพ้เพราะนี่เป็ นโอกาสเดียวของเขาที่จะได้ประมือกับชูเฟิ ง
ซึ่งเรื่ องแบบนี้ไม่รู้จะมีโอกาสอีกเมื่อไหร่
เขาไม่ได้หวังถึงชัยชนะ เขารู ้วา่ เขานั้นไม่สามารถที่จะชนะชูเฟิ งได้ เขา
จึงทุ่มสุ ดกําลังใช้พลังทั้งหมดต่อสู ก้ บั ชูเฟิ งอย่างเต็มที่

ดังนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของชูเฟิ งอีกครั้ง เขาไม่ได้ใช้กระบี่ไม้


ศักดิ์ป้องกัน แต่เขาระเบิดเพลิงสี ฟ้าออกมาจากร่ างของเขา

ทักษะลับต้องห้ามของ จาง เทียนยีถ่ ูกใช้งานมาแล้ว กลิ่นอายของเขาพุง่


สู ข้ ้ ึน และพลังของเขาเพิ่งขึ้นอย่างน่าเกรงขามมาก แม้แต่ คนในระดับ
6 อาณาจักรสวรรค์กไ็ ม่สามารถเอาชนะเขาได้

ในตอนนั้น ใบหน้าของชูเฟิ งก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เขากระทําบางอย่าง


และนัน่ ทําให้เกิดแสงใต้เท้าเขาและบินนถอยออกมา เขานั้นไม่กล้าเข้า
ไปปะทะกับมันตรงๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อชูเฟิ ง เลือกที่จะถอย จาง เทียนยีก่ พ็ งุ่ เข้ามา และกระชับ
กระบี่ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ไว้แน่น และพุง่ มาทางชูเฟิ ง ที่สาํ คัญที่สุดคือ เขาได้
ระเบิดพลังของทักษะลับต้องห้ามออกมาและนัน่ ทําให้ความเร็ วของเขา
เพิ่มขึ้นอย่างมาก

เพียงแค่พริ บตาเดียวการประลองนี้กถ็ ูกพลิกสถานการณ์กลับ จาง เทียน


ยี่ ที่ต้ งั รับก็กบั มาเป็ นฝ่ ายรุ ก และเริ่ มกดดันชูเฟิ ง

“สวรรค์ เพลิงสี ฟ้า นี่คือทักษะอะไรกัน มันช่างแข็งแกร่ งเสี ยจริ ง”

“จาง เทียนยีม่ ีพลังเช่นนี้อยูด่ ว้ ยหรื อ ด้วยพลังที่น่าเกรงขามเช่นนี้


เขาสามารถก้าวข้ามคนที่อยูใ่ นระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ได้ เขามีพลัง
เช่นนี้ได้อย่างไรกัน หรื อว่า บางทีนี่คือ กายศักดิ์สิทธิ์”

“แข็งแกร่ งจริ งๆ มันช่างแข็งแกร่ งจริ งๆ เขาสามารถกดดันชูเฟิ ง ที่


มีขวานอสู รฟ้าได้ นี่หรื อว่าเราได้ผลสรุ ปกันแล้ว ว่าจาง เทียนยีน่ ้ นั
แข็งแกร่ งที่สุดในรุ่ นเยาว์”

เมื่อเห็นชูเฟิ งถูกกดดันให้ถอย ทุกคนต่างตกใจอย่างมาก เพราะความ


แข็งแกร่ งของจาง เทียนยี่ นี้อาจบอกได้วา่ จาง เทียนยีไ่ ด้สร้างเหตุการณ์
ที่น่าเหลือเชื่อขึ้นแล้ว

แม้จะบางคนที่แอบเชียร์ชูเฟิ งอยู่ แต่เขาก็เริ่ มรู ้สึกว่า จาง เทียนยีน่ ้ นั


แข็งแกร่ งกว่า หลังจาก จาง เทียนยีไ่ ด้แสดงถึงพลังที่ไม่เคยมีใครเห็นมา
ก่อนขึ้นมา
ในตอนนั้น ผูค้ นที่แอบเชียร์จาง เทียนยีน่ ้ นั ก็รู้สึกพอใจมาก และรู ้สึกว่า
ชัยชนะครั้งนี้ตกเป็ นของ จาง เทียนยีแ่ ล้ว

ReadMGA#แปลโดยท่านฮาย
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////
A : สงครามยังไม่จบ อย่าพึ่งนับศพทหาร !!! พี่เฟิ งยังมีไม้เด็ดอีกเยอะ
ทักษะเร้นลับก็ยงั ไม่ได้เอาออกมาใช้ พลังของสายฟ้าก็ยงั ไม่ใช้
จะสรุ ปว่า จาง เทียนยีเ่ ก่งสุ ดยังไม่ได้หรอก

C : หรอ!!! ชูเฟิ งมันเห็นแก่ความเปนพี่เปนน้องมันไม่ใช่หรอก!!

B : ไม่รู้จริ งอย่าพึ่งเดาแทนคนอื่นไอ้ C
บทที่ 545 - ค่อยๆเผยความแข็งแกร่ งออกมา

บนท้องฟ้า จาง เทียนยี่ นั้นยังคงแข็งแกร่ งขึ้น แข็งแกร่ งขึ้น เพลิงที่


ออกมาจากทุกส่ วนจากร่ างกายเขา นั้นกําลังปกคลุมร่ างกายจนเหมือน
เกาะป้องกันตัวเขา แม้แต่กระบี่ไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ในมือเขาก็ดูไม่ธรรมดามัน
ถูกห่อหุม้ ด้วยเปลวเพลิงสี ฟ้า

และในตอนนั้น เขาก็เหมือนกับเป็ นเทพสงคราม ที่ท้ งั หล่อเหลา และ


ทรงพลัง

“จาง เทียนยี่ นี่ช่างแข้งแกร่ งยิง่ นัก เขามีพลังที่ยอดเยีย่ มเช่นนี้ไว้ใน


ครอบครอง.”ในความจริ งแล้ว ผูช้ ม แม้แต่คนในราชวงศ์เจียง ก็รู้สึกตก
ตะลึงในความแข็งแกร่ งของ จาง เทียนยี.่
“พลังเช่นนี้มนั นี่หรื อว่า จาง เทียนยีม่ ีกลายศักดิ์สิทธิ์” มีคนบาง
คนพูดขึ้นมา

“มันคือ ทักษะลับต้องห้าม.” ทันใดนั้น บรรพชนอาวุโสราชวงศ์


เจียงก็พดู ขึ้น

“ท่านพ่อ เขาได้บ่มเพาะทักษะลับต้องห้ามอย่างนั้นหรื อ เขา


แข็งแกร่ งขึ้นเพราะทักษะลับต้องห้ามอย่างนั้นหรื อ” จักรพรรดิราชวงศ์
เจียงถามด้วยความตกใจ

อันที่จริ งแล้ว เขาก็เคยสงสัยว่า จาง เทียนยีน่ ้ นั เคยฝึ กทักษะลับต้องห้าม


มา และเขานั้นเคยเห็นแต่ผคู ้ นที่ใช้ทกั ษะต้องห้ามได้แต่ครึ่ งๆกลางๆ เขา
ไม่เคยเห็นใครสามารถใช้มนั อย่างสมบูรณ์ ได้แบบ จาง เทียนยีเ่ ลย

“มันคงจะเป็ นทักษะลับต้องห้าม แต่อย่างไรก็ตาม ทักษะลับ


ต้องห้ามมักจะมีผลกระทบอยู.่ ”

“เขาไม่ธรรมดาเลย เจ้าหนูนี่ ไม่ธรรมดาจริ งๆ มันเป็ นครั้งแรกที่


ข้าเคยเห็นคนที่ควบคุมทักษะลับต้องห้ามได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้แต่
เจียง หวูช่ าง ก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้.” บรรพชนอาวุโสราชวงศ์เจียง
พูดขึ้นและในเวลาเดียวกันใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาด
ใจ

เพราะทักษะลับต้องห้ามนั้นไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะมีได้ พวกมันนั้น
จะช่วยเพิ่มพลังให้กบั ผูใ้ ช้อย่างมากเช่นเดียวกับกายศักดิ์สิทธิ์
ถ้าทุกคนสามารถฝึ กมันได้ ในโลกนี้กจ็ ะไม่มีผอู ้ ่อนแออยูเ่ ลย ดังนั้น
ทักษะลับต้องห้ามนั้นจึงยากที่จะฝึ ก และบางคนนั้นตายตั้งแต่เริ่ ม

แม้แต่ผทู ้ ี่สามารถฝึ กมันได้น้ นั ก็ไม่สามารถได้รับพลังจากมันอย่าง


สมบูรณ์ ดังนั้นจึงเป็ นเรื่ องยากมากที่จะได้รับพลังจากทักษะลับ
ต้องห้าม.

นอกจากนี้ นั้นความแข็งแกร่ งของทักษะลับต้องห้ามนั้นแตกต่างกันไป


ที่จาง เทียนยีใ่ ช้น้ นั เป็ นทักษะลับต้องห้ามที่แข็งแกร่ งอย่างมากอันหนึ่ง
แต่ยง่ิ ทรงพลังเท่าไหร่ กย็ ง่ิ ยากที่จะควบคุม
จาง เทียนยีน่ ้ นั ได้แสดงถึงพลัง ที่สามารถใช่วชื าลับต้องห้ามได้อย่าง
สมบูรณ์แบบออกมา ดันนั้น เหตุผลที่เจียง หวูช่ างแพ้ให้กบั จาง เทียนยี่
นั้น บรรพชนอาวุโสเข้าใจในทันที เพราะ จาง เทียนยีน่ ้ นั แข็งแกร่ งมาก

“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจาง เทียนยีจ่ ะแข็งแกร่ งขนาดนี้ ข้าไม่รู้


เลยว่าชูเฟิ งจะสู ก้ บั มันได้อย่างไร.”

“หรื อว่า จาง เทียนยี่ จะแข็งแกร่ งกว่าชูเฟิ งจริ งๆ” หลังจากได้ยนิ


คําพูดของ บรรพชนราชวงศเจียง ทุกคนก็มองไปที่จาง เทียนยี่ และรู ้สึก
ในใจว่าเด็กคนนี้ช่างเหนือจินตนาการยิง่ นัก

พวกเขารุ ้สึกว่าถ้าจาง เทียนยีน่ ้ นั ไม่ได้โดนชูเฟิ งบดบังรัศมีไป บางทีเขา


อาจจะเป็ นนคนทีโด่งดังที่สุดในทวีปเก้าอาณาจักร
“ฮึ่ม เจ้าหนูจาง เทียนยีน่ นั่ นใช้ทกั ษะบ้างแล้ว แต่นน่ั ก็ไม่ทาํ ให้
มันแข็งแกร่ งที่สุดอยูด่ ี เมื่อน้องเล็กของข้านั้นใช้พลังทั้งหมดของเขา
จาง เทียนยีก่ ต็ อ้ งโดนเหยียบติดดินอย่างแน่นอน.” ราชันย์ลิงพูดขึ้นด้วย
ท่าทางหงุดหงิดที่ฝงู ชนอวยจาง เทียนยีจ่ นเกินไป

และในตอนน้น ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าก็ยมิ้ ขึ้น เขามองบนท้องฟ้าและ


ไม่ได้พดู อะไร แต่เขามองไปที่ร่างของชูเฟิ ง

“ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง อย่ารอช้า ใช้พลังสายฟ้าที่เจ้าครอบครองไว้แล้ว


จบการต่อสู น้ ้ ีกนั เถิด.” ในตอนนั้น จาง เทียนยีก่ ส็ ่ งข้อความจิตมาหาชู
เฟิ ง
“บัดซบ เจ้าเด็กนี่อวดดีชะมัดยาก ชูเฟิ งอย่าไปเห็นแก่หน้ามัน รี บ
ใช้พลังสายฟ้าของเจ้าเร่ งไปที่ระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์และตบเจ้าเด็ก
เหลือข้อนี้ลงดินด้วยนิ้วแค่นิ้วเดียว แสดงให้มนั เห็นว่าอย่ามาอวดดีแถว
นี้.” ในตอนนั้นต้านต้านก็โวยวายอย่างหงุดหงิดออกมา

ด้วยคําพูดของต้านต้าน ชูเฟิ งก็ยมิ้ ออกมา ถ้าเขาใช้พลังสายฟ้าในร่ าง


ของเขา และ เพิ่มพลังบ่มเพาะของเขาจนตอนนี้ เขาสามารถใช้แค่สายฟ้า
สี ทองก็เอาชนะจาง เทียนยีไ่ ด้แล้ว

อย่างไรก็ตามเขาไม่ตอ้ งการทําอย่างนั้นเ เขาไม่ตอ้ งการที่จะให้ระดับ


พลังของตนสู งกว่า จาง เทียนยี่ และต้องการให้มนั อยูใ่ นระดับเดียวกัน
เพราะไม่ง้ นั มันจะไม่ยตุ ิธรรม

“ศิษย์พี่ จาง ข้าจะไม่ใช้พลังสายฟ้าที่เพิ่มระดับพลังของข้า แต่


ในทางเดียวกันข้าก็จะไม่ยอมถอยให้ท่าน ข้าจะสู ก้ บั ท่านด้วย
ความสามารถอย่างสุ ดกําลัง.”

ชูเฟิ งยิม้ ออกมา และในตอนนั้นก็เกิดควันสี เขียวออกมาจากตัวเขา มัน


เริ่ มเปลี่ยนแปลงเรื่ อยๆ จนในที่สุดมันก็กลายเป็ นม่านแสงสี เขียว

และบนม่านแสงนัน่ ก็มีภาพของสัตว์ขนาดยักษ์ ที่มีรูปร่ างเป็ นเต่า


ด้านหลังมีงูขนาดยักษ์พนั รอบตัวมันอยู่ มันทั้ง 2 นั้นเป็ น1เดียวกัน
และน่าเกรงขามอย่างมาก

สิ่ งที่สาํ คัญที่สุดคือไม่เพียงแค่รูปภาพนั้น มันยังมี ตา 2 คู่ที่แดงกํ่าราว


กับเลือด ที่มนั สามารถเคลื่อนไหวได้ ตอนแรกมันมอง ที่ จาง เทียนยี่
จากนั้นมันก็มองผูค้ นที่อยูด่ า้ นใต้ ต่อจากนั้น เท้าของมันก็เริ่ มขยับ และ
เดินเป็ นวงกลมในม่านแสงนัน่ มันไม่ใช่แค่ภาพปี ศาจแล้ว มันดูเหมือน
จะมีจิตวิญญาณด้วย

“สวรรค์ นี่คืออะไรกัน นัน่ ไม่ใช่วา่ มันมีจิตวิญญาณหรอกหรื อ


แล้วพลังของมันจะขนาดไหนกัน”

และในตอนนั้นทุกคนก็ตอ้ งตะลึงใน วิชาเกราะเต่าทมิฬของชูเฟิ ง เพราะ


สิ่ งที่พวกเขาเห็นนัน่ คือเจ้าเต่านัน่ สามารถขยับได้ จึงไม่ทาํ ให้คิดว่ามัน
เป็ นเกราะธรรมดา

*โฮก~~~~~~~~*

หลังจากนั้น ชูเฟิ งก็ถกแขนเสื้ อขึ้นและก่อให้เกิดเสี ยงคํารามของเสื อ


ออกมา และมันก็สร้างความกลัวและความตกใจให้กบั ผูค้ นอย่างมาก
เพราะที่แขนของชูเฟิ งนั้นมีควันสี ขาว กระจายออกมา

ในที่สุดควันสี ขาวก็ถูกแสดงออกมาเช่นนเดียวกับ เกราะเต่าดํา และ


กลายเป็ นสัตว์ขนาดยักษ์พวกมันตึงหนึ่งสู งกว่า 10 เมตร และแม้แต่
กรงเล็บก็ยาวเป็ นเมตรราวกับเป็ นเคียวขนาดใหญ่

และคนที่มีตาที่ดีเยีย่ มก็บอกได้วา่ นัน่ ไม่ใช่กรงเล็บของสัตว์ทวั่ ๆไป แต่


เป็ นกรงเล็บของพยัคฆ์ขาว เพราะขนของมันนั้นมีสีขาวและมีลายสี ดาํ
พาดอยู่ นัน่ แสดงให้เห็นว่ามันคือพยัคฆ์ขาว

อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นไม่กล้าที่จะยืนยันเพราะไม่เพียง กรงเล็บ


พยัคฆ์ท้ งั ใหญ่ท้ งั 2 ข้าง แต่ยงั มีกลิ่นอายที่ราวกับว่าจะตัดทุกสิ่ งอย่าง
และไม่สามารถหยุดมันได้อยู่
“นี่มนั ทักษะอะไรกัน ทําไมมันถึงแข็งแกร่ งเช่นนี้ ในชีวติ ข้าไม่
เคยเห็นทักษะเช่นนี้มาก่อน.”ทุกคนต่างตะลึง ในทักษะทั้ง 2 ของชูเฟิ ง
เพราะมันทรงพลังอย่างมาก

ReaDMGA#ฮาย
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////
A : ออกมาแล้ว!!! มารอดูกนั ว่า จาง เทียนยี่ จะรับมือกับ ทักษะเร้น
ลับยังไง นี่ยงั ไม่ได้เอามังกรฟ้าออกมานะ ไม่ง้ นั ตะลึงกันเป็ นไก่ตาแตก
แน่

B : มวยมันรู ้ผลตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเปนตอนที่ท้ งั 2 เจอกันใหม่ๆ ตอน


นั้นชูเฟิ งอาจจะสู ไ้ ม่ได้ แต่ตอนนี้ต่างจากเมื่อก่อนแล้ว
C : ชิร์!!!

บทที่ 546 – ผูช้ นะ และผูพ้ า่ ยแพ้

***** โฮกกกกกกกกก *****

ทุกคนทัว่ บริ เวณต่างตกตะลึง เมื่อได้ยนิ เสี ยงคํารามของมังกร ดัง


ขึ้นมาจากทิศทางของ ชูเฟิ ง

เมื่อพวกเขามองไปบนท้องฟ้า พวกเขาต่างอ้าปากค้าง ลิ้นพันกัน


ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
เพราะในขณะนั้น ใต้ฝ่าเท้าของ ชูเฟิ ง ปรากฏมังกรขนาดใหญ่
ออกมา ดวงตาของมันเป็ นสี แดงฉาน หางของมันกําลังกวัดแกว่งอย่าง
ช้าๆ

มันมีลกั ษณะของมังกรอย่างครบถ้วน ทั้งหนวด เขา เกล็ด อีกทั้งยัง


เปล่งออร่ าของความสู งศักดิ์ออกมา ทําให้หลายๆ คนคิดว่ามันเป็ นมังกร
ตัวจริ ง

“สวรรค์ !! นี่มนั ทักษะอะไรกัน !! ถึงได้เรี ยกมังกรออกมาได้ !!”

“น่ากลัวยิง่ นัก !! ข้าไม่เคยคิดเลยว่า ชูเฟิ ง จะมีทกั ษะที่แข็งแกร่ ง


เช่นนี้”
“ไม่น่าแปลกใจเลย ที่เขาสามารถโค่นขุมอํานานต่างๆ ลงได้ มัน
เป็ นเพราะเขามีความแข็งแกร่ งถึงเพียงนี้นี่เอง”

เมื่อเห็นมังกรสี ฟ้าใต้ฝ่าเท้าของ ชูเฟิ ง นั้น ทุกคนต่างยอมรับใน


ความแข็งแกร่ งของ ชูเฟิ ง เพราะด้วยพลังออร่ าที่ปลดปล่อยมาจากมังกร
นั้น มันสามาาถสยบออร่ าพลังของเปลวเพลิงสี ฟ้าของ จาง เทียนยี่ ที่ปก
คลุมบรรยากาศโดยรอบได้อย่างชัดเจน

ในขณะที่ ชูเฟิ ง ยืนอยูบ่ นมังกร โดยที่มีทกั ษะเกราะเต่าทมิฬปก


คลุมร่ างกายของเขาอยู่ อีกทั้งในมือทั้งสองข้างของเขายังมีกรง
เล็บพยัฆค์ขาวปรากฏอยูด่ ว้ ยนั้น สามารถสะกดทุกๆ สายตาที่มองมายัง
เขา ทุกคนต่างรู ้สึกเชิดชู และหวาดกลัวต่อพลังที่แข็งแกร่ งของเขา
เหตุผลที่ทาํ ให้ ทักษะมังกรฟ้าทะยาน เกราะเต่าทมิฬ และ พยัฆค์
ขาวสังหาร แข็งแกร่ งขึ้นนั้น เป็ นเพราะ ชูเฟิ ง มีพลังขั้นแดนสวรรค์ จึง
ทําให้ทกั ษะเร้นลับของเขาพัฒนาขึ้นมาได้อีกขั้นหนึ่ง

ตราบใดที่ ชูเฟิ ง มีความแข็งแกร่ งเพิ่มมากขึ้นนั้น ความแข็งแกร่ ง


ของทักษะเร้นลับก็สามารถแข็งแกร่ งขึ้นตามเขาไปได้ พลังของทักษะ
เร้นลับนั้น สามารถพัฒนาได้ตามความแข็งแกร่ งของผูเ้ ป็ นนาย

“ศิษย์พี่ จาง ข้าจะใช้ทุกอย่างที่ขา้ มี จบการต่อสู ใ้ นครั้งนี้” ชูเฟิ ง


กล่าวพลางยิม้ บางๆ ไปที่ จาง เทียนยี่

“ฮ่าๆ ดีดีดี !! ข้าไม่เคยคิดเลยว่า ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง จะมีทกั ษะเร้นลับ


ที่แข็งแกร่ งขนาดนี้ มันไม่ได้ดอ้ ยไปกว่าทักษะลับต้องห้ามของข้าแม้แต่
น้อย”
จาง เทียนยี่ รู ้สึกตื่นเต้นอย่างมาก หลังจากที่เขาหัวเราะออกมา เขา
ก็สะบัดดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ในมือของเขาออกไป พลันปรากฏคลื่นดาบพุง่
ตรงไปที่ ชูเฟิ ง อย่างต่อเนื่อง

คลื่นพลังของดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์น้ นั แข็งแกร่ งมากอยูแ่ ล้ว แต่


ในตอนนี้ มันได้ถูกเสริ มความแข็งแกร่ งด้วยพลังของเปลวไฟสี ฟ้าเข้าไป
อีก ทําให้พลังของมันน่ากลัวอย่างมาก ในขณะที่มนั พุง่ ออกไปในอากาศ
นั้น บรรยากาศโดยรอบถูกฉีกกระชากออกอย่างน่าหวาดเกรง

“หึ !!” เมื่ออยูต่ ่อหน้าคลื่นดาบของ จาง เทียนยี่ นั้น ชูเฟิ ง ยิม้


ออกมาบางๆ มังกรฟ้าที่ใต้ฝ่าเท้าของเขาก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ ว
พริ บตาเดียวนั้น เงาร่ างของ ชูเฟิ ง ก็กลายเป็ นสายหมอก และหายไป
อย่างรวดเร็ ว
***** โฮกกกกกก *****

เพียงพริ บตาเดียว เสี ยงคํารามของมังกรก็ดงั ขึ้นมาจากด้านหลังของ


จาง เทียนยี่ พร้อมกับพลังของทักษะเร้นลับทั้งสามทักษะที่พงุ่ ตรงมายัง
เขา

***** ฟุ่ บบบบ ฟุ่ บบบบ ฟุ่ บบบบ *****

เมื่อเห็นเช่นนั้น จาง เทียนยี่ ไม่ได้ตกใจหรื อหลบหลีกแต่อย่างใด


เขาสะบัดดาบไม้ศกั ดิ์สิทธิ์ในมือของเขาอีกครั้ง คลื่นดาบก็พงุ่ ทะยานไป
ที่ ชูเฟิ ง อย่างต่อเนื่อง
***** โฮกกกกกกก *****

ชูเฟิ ง ไม่ได้หลบแม้แต่นอ้ ย เขาผสานกรงเล็บพยัฆค์ขาวในมือทั้ง


สองข้างเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ ว

เมื่อกรงเล็บพยัฆค์ขาวผสานเขาด้วยกันนั้นเสี ยงคํารามก็ดงั ขึ้นอย่าง


รุ นแรง พลังรู ปแบบอํานาจของพยัฆค์ขาวก็ปรากฏขึ้น พร้อมกับแผ่ขยาย
ออกมา

เมื่อรู ปแบบพลังของพยัฆค์ขาวปรากฏออกมานั้น คลื่นดาบของ


จาง เทียนสี่ พลันแตกสลาย และหายๅปราวกับควันในอากาศ
แต่เดิมนั้น คลื่นดาบของ จาง เทียนยี่ แข็งแกร่ งอย่างมาก แต่ในเวลา
นี้ มันกลับไม่สามารถต้านพลังของทักษะพยัฆค์ขาวสังหารได้แม้แต่
น้อย

เมื่อคลื่นดาบสลายไป แทนที่พลังของพยัฆค์ขาวจะลดลง มันกลับ


แข็งแกร่ งขึ้น และพัง่ ตรงมายัง จาง เทียนยี่ อย่างรวดเร็ ว

“แข็งแกร่ งจริ งๆ !! นี่คงเป็ นพลังของทักษะเร้นลับสิ นะ !!” จาง


เทียนยี่ รู ้สึกตกตะลึงอย่างมาก เมื่อเขาได้เห็นพลังของทักษะพยัฆค์ขาว
สังหาร
“ฮ่าย์ !!” อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ยอมแพ้แม้แต่นอ้ ย เขาระเบิดพลัง
ของเปลวเพลิงสี ฟ้าขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้าอย่างรวดเร็ ว เพือ่ ต้านพลังของทักษะพ
ยัฆค์ขาวสังหารของ ชูเฟิ ง

***** ครื นนนนนนนนนนนนน *****

เสี ยงดังสนัน่ เกิดขึ้นจากการปะทะของสองทักษะที่ทรงพลัง

เมื่อทักษะพยัฆค์ขาวสังหาร และเปลวเพลิงสี ฟ้า เข้าปะทะกันนั้น


มันก็หลอมรวมกลายเป็ นเป็ นคลื่นพลังทรงกลมอัดแน่นอยูก่ ลางอากาศ
โดยแผ่ออร่ าพลังออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ไม่ดีแน่ !!”

เมื่อเห็นเช่นนั้น ใบหน้าของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ที่เคยสงบนิ่ง


ตั้งแต่ตน้ ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว เพราะหากคลื่นพลังเหล่านี้
นะเบิดออกมานั้น จะทําให้คนในหุบเขาต้องล้มตายอย่างมากมาย
แน่นอน

***** วูบบบบบบบบ *****

เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ ว และสร้างรู ปแบบอํานาจพลังวิญยาณสี ม่วง


ออกมา โดยมีเขาเป็ นจุดศูนย์กลางของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ
รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงนั้นเกิดขึ้นรวดเร็ วมาก เพียง
พริ บตาเดียวมันก็ครอบคลุมพื้นที่โดยรอบ และเข้าปกคลุมท้องฟ้าของ
สํานักมังกรฟ้าอย่างรวดเร็ ว

“สวรรค์ !! นี่มนั เกิดอะไรขึ้น !!” เมื่อเห็นรู ปแบบอํานาจพลัง


วิญญาณสี ม่วงเหล่านั้น หลายๆ คนไม่รู้วา่ มันคืออะไร

มีเพียง ราชาวานร และ บรรพบุรุษของราชวงศ์เจียง เท่านั้น ที่รู้วา่


มันคือรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ ไม่ใช่เพียงแค่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า
จะฟื้ นขึ้นมานั้น เขายังมีพลังของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมสี ม่วงอีก
ด้วย

แต่ในขณะนั้น แม้วา่ ราชาวานร และ บรรพบุรุษของราชวงศ์เจียง


จะเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมสี ม่วงเช่นกัน แต่พวกเขาก็ตอ้ งตก
ตะลึงกับความแข็งแกร่ งของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า

เพียงพริ บตาเดียวเท่านั้น รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณก็เข้าปกคลุม


ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ ว มันเป็ นสิ่ งที่พวกเขาไม่สามารถทําได้ พวกเขาจึง
ถอนหายใจออกมาด้วยความชื่นชม

***** ตูมมมมมมมมมมม *****

ในเวลาเดียวกันนั้น คลื่นพลังของสองทักษะที่กาํ ลังหลอมรวมกัน


อยูน่ ้ นั ก็ระเบิดออกและปะทะเข้ากับรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วง
อย่างรุ นแรง
แม้วา่ จะมีรูปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงรับแรงปะทะเอาไว้ แต่
พวกเขาก็สามารถรับรู ้ได้ถึงแรงสัน่ สะเทือนของผืนแผ่นดินที่กาํ ลังสัน่
ไหวเพราะแรงระเบิด

ที่ดา้ นนอกรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงนั้น ทุกอย่างกําลังสัน่


ไหวด้วยแรงปะทะ ทุกคนไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า สภาพ
โดยรอบจะเป็ นเช่นไร เมื่อต้องได้รับผลจากคลื่นพลังที่รุนแรงเช่นนี้

“แข็งแกร่ งยิง่ นัก นี่หรื อพลังของสุ ดยอดในหมู่คนรุ่ นใหม่ มันเป็ น


พลังที่สามารถกวาดล้างขุมอํานาจต่างๆ ได้ภายในพริ บตาทีเดียว พวก
เขาแข็งแกร่ งจริ งๆ !!” ทุกคนต่างตะโกนออกมาด้วยความตกตะลึง เมื่อ
พวกเขามองออกไปที่ดา้ นนอก
แม้แต่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ก็ไม่เว้น เขากล่าวออกมาเสี ยงเบาว่า
“พลังของทั้งสองคนแข็งแกร่ งยิง่ นัก แต่ถึงอย่างไร ผูช้ นะ และผูแ้ พ้ก็
ต้องต้องปรากฏ”

ReadMGA#abhisit
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////////
A : ผูช้ นะจะเป็ นใคร ??? แล้วผูแ้ พ้จะเป็ นใคร ???

B : เชื่อว่าทุกคนคงเดาออก แต่ผลที่ตามมาอาจมีฝ่ายใดฝ่ ายหนึ่งได้รับ


บาดเจ็บสาหัส และความเป็ นพี่เป็ นน้องของพวกเขาจะเป็ นเช่นไร โปรด
ติดตามกันตอนต่อไป
บทที่ 547 – เตรี ยมออกเดินทาง

เสี ยงดังสนัน่ ดังขึ้นทัว่ ทั้งท้องฟ้า ระรอกคลื่นพลังค่อยๆ ลดกําลัง


ลงหลังจากผ่านไปชัว่ ระยะเวลาหนึ่ง
แต่ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ยังคงไม่ลดรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ
สี ม่วงลงแม้แต่นอ้ ย เขาเกรงว่าคลื่นพลังจะทําให้ทุกคนในพื้นที่ได้รับ
อันตราย

หลังจากคลื่นพลังได้หาสไปอย่างสมบูรณ์ กลุ่มคลันสี ขาวได้ฟ้งุ


กระจายไปทัว่ บริ เวณ เขาก็ปลดรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงออก

ทุกคนต่างมองขึ้นไปในอากาศ ด้วยความตื่นเต้น และคาดหวัง

ทุกสายตาต่างจับจ้องไปในกลุ่มหมอกควันด้วยความระทึก ใน
ที่สุดพวกเขาพบ ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี่
“นี่……มันเกิดอะไรขึ้น !!”

“มัน…..ไม่มี ผูช้ นะ และ ผูแ้ พ้ !! พวกเขาเสมอกัน !!”

อย่างไรก็ตาม เมื่อร่ างกายของ ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี่ ปรากฏ


ออกมาสู่ สายตาของทุกๆ คนนั้น พวกเขาต่างตกตะลึง และเต็มไปด้วสค
วามสับสน

เพราะร่ างกายของ ชูเฟิ ง ที่บอยอยูใ่ นอากาศ และร่ างกายของ จาง


เทียนยี่ ที่ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสี ฟ้า ยังคงเป็ นปกติอยูท่ ุกอย่าง
เสื้ อผ้าของพวกเขาไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความเสี ยหายใดๆ พวก
เขายังคงไม่ได้บาดเจ็บจากการปะทะกันเมื่อครู่ นี่ มันทําให้หลายๆ คน
ต่างสับสน เพราะผลการประลองนี้ ไม่มีผทู ้ ี่ได้รับชัยชนะ หรื อผูท้ ี่พา่ ย
แพ้แต่อย่างใด

“ศิษย์นอ้ ง ชูเฟิ ง ข้าขอบใจมาก ในเวลาที่พลังของข้าได้สลายไป


นั้น เจ้าได้ระงับพลังของเจ้า จึงทําให้ขา้ ไม่ได้รับอันตรายใดๆ” จาง
เทียนยี่ กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิม้ บางๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วย
ความจริ งใจ

“ศิษย์พี่ จาง ท่าน……” ชูเฟิ ง พยายามจะกล่าวอะไรบางอย่าง


ออกมา แต่เมื่อเขาเห็นการแสดงออกของ จาง เทียนยี่ นั้น เขาก็ไม่กล่าว
ออกมาแต่อย่างใด
ในตอนนั้น ที่พวกเขาใบ้พลังเข้าปะทะในครั้งสุ ดท้าย เปลวเพลิงสี
ฟ้าของ จาง เทียนสี่ ได้สลายไป แต่ ชูเฟิ ง กลับระงับพลังของเขาลงอย่าง
รวดเร็ ว

ในขณะที่ทุกอย่างแขวนอยูบ่ นเส้นด้ายนั้น ชูเฟิ ง ได้หยุดยั้งพลัง


ของเขา เหตุที่ของ ชูเฟิ ง นั้น จาง เทียนยี่ สามารถเข้าใจได้อย่างดี

มันเป็ นเจตนาของ ชูเฟิ ง ที่ตอ้ งการให้เขาไม่เสี ยหน้าจากการ


ประลอง จาง เทียนยี่ รู ้สึกตื้นตันใจอย่างมาก เขาเข้าใจได้ดีวา่ ชูเฟิ ง นั้น
นับถือเขาเป็ นพี่นอ้ ง ดังนั้นเขาจึงทําเช่นนั้น

แต่หากเขายอมรับผลการประลองเช่นนั้น มันจะไม่เป็ นธรรมต่อ ชู


เฟิ ง เขาจึงกวาดสายตามองไปยังผูค้ น พร้อมกับรอยยิม้ อ่อนๆ บน
ใบหน้า และกล่าวออกมาเสี ยงดังว่า “การประลองในวันนี้ ข้า จาง เทียน
ยี่ ได้พา่ ยแพ้ !! และแน่นอนว่า ชูเฟิ ง นั้น แข็งแกร่ งกว่าข้าอย่างมาก”

“อะไรนะ !! จาง เทียนยี่ พ่ายแพ้เช่นนั้นรึ !!”

เมื่อได้ยนิ คํากล่าวนั้น พวกเขาต่างไม่เชื่อในตอนแรก แต่เมื่อพวก


เขามองไปที่ใบหน้าของความสบายของทั้ง จาง เทียนยี่ และ ชูเฟิ ง นั้น
พวกเขาก็เชื่อในคํากล่าวนั้นทันที

พวกเขาสามารถบอกได้ทนั ที่วา่ จาง เทียนยี่ นั้น พ่ายแพ้อย่าง


แท้จริ ง

เมื่อหันกลับมามองที่ ชูเฟิ ง นั้น พวกเขาก็ตอ้ งตกใจอย่างมาก และ


นัน่ ทําให้พวกเขาต้องปรับความคิดใหม่ถึงความแข็งแกร่ งของ ชูเฟิ ง

หลังจากการประลองของ ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี่ จบลงไปนั้น พิธี


การเปิ ดสํานักมังกรฟ้าอย่างเป็ นทางการก็สิ้นสุ ดลง แต่เรื่ องการประลอง
ของ ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี่ ยังคงเป็ นที่กล่าวถึงอยูต่ ลอด

แม้วา่ ผลการประลองจะทําให้ทุกคนหลาดใจอยูบ่ า้ ง แต่หลังจาก


นั้น ชื่อของ ชูเฟิ ง ก็ถูกจดจําในฐานะของผูท้ ี่แข็งแกร่ งที่สุดในกลุ่มคน
รุ่ นใหม่ของเก้าอาณาจักร

หลังจากพิธีเปิ ดสิ้ นสุ ดนั้น ชูเฟิ ง , จาง เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง ได้
เตรี ยมตัวเพื่อจะมุ่งหน้าสู่ ทะเลตะวันออก
เพราะจากการคํานวณเวลานั้น อีกเพียงสามเดือนสํานักสี่
คาบสมุทรก็จะเปิ ดรับลูกศิษย์แล้ว

แม้วา่ ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ จะมีพลังขั้นแดนสวรรค์แล้วนั้น แต่การ


เดินทางก็ยงั ต้องใช้เวลาอย่างมาก เพราะหากพวกเขาพลาดในช่วงนี้
พวกเขาจะต้องรอไปอีกหนึ่งปี

ในตอนนี้ ทุกๆ อย่างได้ถูกเตรี ยมพร้อมแล้วลานของสํานักมังกร


ฟ้า ทุกๆ คนต่างมารอเพื่อส่ง ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ ออกเดินทาง

ตรงกลางลานของสํานักนั้น มีรถม้าสี ขาวจอดอยู่ มันมีความงดงาม


อย่างมาก และกลายเป็ นจุดสนใจอย่างรวดเร็ ว
“น้องชาย หวูช่ าง รถม้าของเจ้ามันจะเดินทางไปทันในเวลาสาม
เดือนไหมเนี่ย !! จากที่ขา้ ดู ข้าว่าพวกเราใช้ความสามารถของพวกเราเอง
น่าจะไปได้เร็ วกว่า” เมื่อเห็นรถม้านั้น แววตาของ จาง เทียนยี่ ก็เต็มได้
ด้วยความสบสน

เพราะรถม้าของ เจียง หวูช่ าง นั้นงดงามมาก และแทนที่จะเรี ยกว่า


รถม้า ควรจะเรี ยกมันว่า พระราชวังที่สามารถเคลื่อนที่ได้จะเหมาะสม
กว่า

ด้วยขนาดของมันนั้น จึงทําให้เกิดความกังวลขึ้น ว่าความเร็ วของ


มันจะลดลงในการเดินทาง
“พี่ชาย เทียนยี่ ท่านไม่ตอ้ งกังวลไป รถม้าของข้า เป็ นสิ่ งที่มีค่า
มากสําหรับราชวงศ์เจียง มันไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่ งของมัน”

“แต่เป็ นเพราะความรวดเร็ วของมัน”

“ถึงความรวดเร็ วของมันจะไม่สามารถเทียบเท่าได้กบั ทักษะของ


น้องชาย ชูเฟิ ง แต่มนั มีความเร็ วที่คงที่ สามารถเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง
ภายในเวลาสามเดือน พวกเราจะเดินทางถึงสํานักสี่ คาบสมุทรอย่าง
แน่นอน” เจียง หวูช่ าง กล่าวด้วยความมัน่ ใจ

“อ่า ถ้ามันเป็ นเช่นนั้นก็ตกลง” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น จาง เทียนยี่ ก็


พยักหน้ารับ เขาเพิ่งจะได้เข้าใจความแตกต่างของยอดยุทธภัณฑ์ อันที่มี
ขนาดเล็ก เหมาะแก่การต่อสู ้ และอันที่มีขนาดใหญ่เหมาะแก่การเสริ ม
ความสะดวก
“ว่าแต่…พี่ชาย เทียนยี่ เหตุใดพี่ชาย ชูเฟิ ง จึงยังไม่มา !?” เจียง
หวูช่ าง ถามขึ้น เพราะทุกอย่างได้จดั เตรี ยมไว้พร้อมแล้ว ขาดแต่เพียง ชู
เฟิ ง พวกเขาก็สามารถออกเดินทางสู่ สาํ นักสี่ คาบสมุทรได้

“เขา…..ยังมีบางคนที่ตอ้ งรํ่าลา” จาง เทียนยี่ กล่าวพลางถอน


หายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“อ่า……..” ในเวลาเดียวกันนั้น ชู กู่หยู , หลี่ ซางฉิ ง , ผูก้ ่อตั้ง


สํานักมังกรฟ้า และคนอื่นๆ ที่ใกล้ชิดกับ ชูเฟิ ง ก็ถอนออกมา ใบหน้า
ของพวกเขาก็เต็มไปด้วยคําใบ้ของคําตอบ พวกเขาต่างรู ้ดีวา่ ภายในเก้า
อาณาจักรนั้น มีสองคนที่ ชูเฟิ ง ผูกพันธ์มากที่สุด และเป็ นห่วงมากที่สุด
แม้วา่ ในปัจจุบนั สุ สานจักรพรรดิจะถูกปิ ดลงไปแล้วนั้น แต่สุสาน
พันกระดูกถูกสร้างขึ้นจากฝี มือของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า แม้มนั จะ
ไม่ได้เชื่อต่อกับสุ สานจักรพรรดิแล้วก็ตาม แต่มนั ก็ยงั คงมีอยู่

ภายในสุ สานพันกระดูกนั้น มีรูปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่ถูก


สร้างขึ้นไว้อยู่ ภายในนั้น ซูรู่ และ ซู่เหม่ย ยังคงหลับไหลอยูภ่ ายใน
ใบหน้าของพวกนางเป็ นสี แดงระเรื่ อ ออร่ าพลังของพวกนางอยูใ่ นระดับ
เก้า ขั้นแก่นวิญญาณ แต่น่าเสี ยดายที่พวกนางยังคงไม่ฟ้ื นขึ้นมาจากการ
หลับไหลที่ยาวนาน

“ พี่รู่ , เหม่ยเอ๋ อ ข้ามีความสุ ขมาก ที่พวกเจ้าแข็งแกร่ งขึ้นจากพลัง


ของไข่มุกทั้งสอง แม้วา่ ในตอนนี้พวกเจ้ายังไม่ฟ้ื นมาก็ตาม”
“ข้าอยากจะอยูด่ ูแลพวกเจ้าทั้งสองคนเช่นวันนี้ตลอดไป แต่ขา้ ก็ไม่
มีทางเลือก”

“ในตอนนี้ ข้ามีเรื่ องบางอย่างที่สาํ คัญจะต้องไปทํา นัน่ คือเรื่ องของ


จื่อ หลิง และความเป็ นมาของตระกูลข้าเอง มันทําให้ขา้ ไม่มีทางเลือก
ดังนั้น ข้าจําเป็ นต้องไป” ชูเฟิ ง นัง่ อยูท่ ี่ดา้ นหน้าของรู ปแบบอํานาจพลัง
วิญญาณ เขามองไปที่ ซูรู่ และ ซูเหม่ย พลางยิม้ ออกมาด้วยความไม่
สบายใจนัก

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////
A : จากนั้น พี่เฟิ งก็เริ่ มลงมือ ลักหลับ เสี้ ยววินาทีน้ นั เอง แม่นางทั้ง
สองก็ตื่นขึ้น ด้วยท่าทีสบั สน ???

B:...............
A : พอนางตั้งสติ ก่อนสตาทได้ ขาทั้ง 2 ข้างของนางก็หนีบรัดคอ ชู
เฟิ ง เอาไว้ ในที่สุดชูเฟิ งก็ขาดอากาศหายใจ และตายไปในที่สุด จบ
บริ บูรณ์

B:................

◌ฺ B : จะจบเล่ม 2 แล้วนะคับ อีกตอนเดียว พรุ่ งนี้ เราจะเข้าสู่ ภาค


ทะเลตะวันออก พี่เฟิ งจะไปประกาศศักดิ์ดาที่น้ นั และสร้างตํานานบท
ใหม่ทิ้งไว้ทวั่ ทั้งภาคทะเลตะวันออก โดยใช้ชื่อปลอม ว่า. . . . . . . . เพื่อ
ไม่ให้คนที่เกี่ยวข้องเดือดร้อน พลังของเขาในตอนนี้จะท้าทายโลกใหม่
ได้มากน้อยแค่ไหนต้องรอติดตาม
บทที่ 548 - รอยยิม้ แห่งความสุ ข

" รู วเ่ อ๋ อ เหม่ยเอ๋ อ ดูนี่สิ มันคือขวัญที่ขา้ เตรี ยมไว้สาํ หรับพวกเจ้า


ทั้งสอง "

ชูเฟิ ง หยิบชุดกระโปรงยาวสลวยออกจากถุงจักรวาล หนึ่งคือสี เขียว ปั ก


ด้วยลวดลายดอกหลิว ส่ วนอีกหนึ่ง สี ชมพู ปั กด้วยลวดลายดอกเหมย

พวกมันไม่ใช่ชุดกระโปรงธรรมดาทัว่ ๆไป ซึ่ งทั้งสองชุดถูกทอขึ้นอย่าง


ปรานีตด้วยวัตดุพิเศษสี เขียวมรกตและอีกชุดถูกทอด้วยสี ชมพูสว่าง
นอกจากนี้มนั ยังมีแรงดันวิญญาณมหาศาลซุกซ่อนอยูภ่ ายในชุด พวกมัน
คือยอดยุทธภัณฑ์

ชูเฟิ ง นํามันมาจากการยืดทรัพย์ราชวงศ์จี ซึ่งตอนนั้น ชูเฟิ ง ได้ทรัพย์


สมบัติมามากมาย แต่เขาก็ได้มอบสมบัติเหล่านั้นให้แก่คนตระกูล ชู
อย่างไรก็ตาม มีเพียง ชุดกระโปรงที่งดงาม 2 ชุดนี้ ที่เขาเก็บไว้ให้กบั ซู
รู วแ่ ละซูเหม่ย

" นี่ขา้ เตรี ยมมันไว้สาํ หรับพวกเจ้าทั้งสองเลยรู ้ไม๊ ข้ารู ้สึกว่าชุด


สี เขียวเหมาะรู่ วเอ๋ อ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผูม้ ีกิริยางดงาม ส่ วนสี ชมพูน้ ี
เหมาะสําหรับ เหม่ยเอ๋ อ ซึ่งเหมาะกับความสดใสร่ าเริ ง "

" ข้าเชื่อว่าหากเจ้าทั้งสองได้สวมชุดเหล่านี้ เจ้าทั้งคู่จะต้อง


งดงามอย่างมาก เพราะพวกเจ้าเป็ นคนรักของข้า เจ้าต้องสวยไม่วา่ เจ้าจะ
สวมใส่ ชุดอะไรก็ตาม "

" ขะ . . . . .ข้าอยากเห็นพวกเจ้าทั้งสองใส่ ชุดเหล่านี้จริ งๆ "

เมื่อพูดถึงจุดนั้น เสี ยงของชูเฟิ ง เริ่ มสัน่ เครื อแม้แต่ดวงตาก็เริ่ มแดงระเรื่ อ

ผูค้ นบอกว่า เหตุผลเดียวที่ทาํ ให้บุรุษมีน้ าํ ตา คือการที่ร้องไห้จากหัวใจ


ซึ่งมันแสนเจ็บปวดยิง่ กว่าบาดแผลทางกาย
ซึ่งคนรักทั้งสองคนของเขา เกือบจะตายเพราะตัวของเขา ตอนนี้พวก
นางยังนอนไม่ได้สติมาสองปี เต็มๆและเขาก็ไม่รู้พวกนางจะหลับไปอีก
นานแค่ไหน ชูเฟิ งทั้งรู ้สึกผิด ทั้งแสนจะทรมาณ เหมือนโดนมีดกีดที่
หัวใจ

" รอข้าก่อน สักวันข้าจะกลับมา เมื่อถึงตอนนั้นหากพวกเจ้าฟื้ น


ขึ้น ข้าจะพาพวกเจ้าไปด้วยทุกที่ " ในที่สุด ชูเฟิ งก็พดู ออกมาด้วยใบหน้า
ที่ไม่ค่อยจะเต็มใจ เขาไม่ได้ร้องไห้ออกมา เพราะเขาไม่อยากร้องไห้ต่อ
หน้าคนรัก

เขาจะต้องเข้มแข็ง โดยเฉพาะสถานการณ์แบบนั้นมันต้องทําให้เขา
อดทนมากยิง่ ขึ้น เนื่องจากเขามีภาระหน้าที่ ที่จะต้องทําให้สาํ เร็ จ
หลังจากที่ชูเฟิ งก้มมองสาวงามทั้ง 2 ด้วยความรู ้สึกที่ซบั ซ้อนอยูพ่ กั
หนึ่ง จากนั้นเขาก็ฝืนลุกขึ้นยืน พร้อมกับหันหลังเตรี ยมตัวที่จะกลับ
ออกไป

* ปึ้ งง~~~~~ * ขณะที่ชูเฟิ งก้าวเดินออกมาได้เพียงไม่กี่ก่าว


้ ก็มี
เสี ยงดังมาจากด้านหลัง

เมื่อหันหน้ากลับไปมอง ใบหน้าของ ชูเฟิ ง ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะ


เขาพบว่าภายในรู ปแบบที่วางเอาไว้ดว้ ยสัญลักษณ์ที่ทรงอํานาจ มีสอง
พลังปะทุข้ ึนมันอยูภ่ ายใน ซึ่งพลังนั้นน่ากลัวอย่างมาก

หนึ่งในนั้นคือเปลวเพลิงสี แดงฉาน ส่ วนอีกหนึ่งคือ นํ้าแข็ง สี น้ าํ เงินเย็น


ยะเยือก ทั้งสองเริ่ มเข้าปะทะกัน จากนั้นก็รวมตัวจนกลายเป็ นพลังงานที่
บ้าคลัง่ ก่อตัวเป็ นออร่ าสี ม่วง

" เกิดอะไรขึ้น!!!? " เห็นแบบนั้น ชูเฟิ งตกใจอย่างมาก เพราะ


ในความคิดแรกของเขาตอนนั้นคิดว่า มุกอัคคีและมุกนํ้าแข็ง ตื่นขึ้นมา
อารวาท

ซึ่งเขาไม่สามารถทําอะไรได้เลย ดังนั้น สิ่ งแรกที่เขาคิดคือ การหัน


กลับไป ขอความช่วยเหลือจากผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า

* ตูมมม * แต่ขณะที่ชูเฟิ งกําลังจะหันกลับไป ก็มีเสี ยงระเบิดดังกึกก้อง


ไปทัว่ เมื่อมองเข้าไป ใบหน้าของเขาก็ได้แต่เปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะ
พลังที่หลอมรวมของเปลวเพลิงและนํ้าแข็งมันเปิ ดรู ปแบบอํานาจพลังฯ
ออกมาและแผ่ขยายออกไปจนทัว่ ทั้งห้อง
" ชิบหาย!!! " เมื่อเผชิญสถานการณ์เช่นนั้น ชูเฟิ งถึงกับตื่น
ตระหนก เพราะเขารู ้สึกว่าไข่มุกทั้งสองเกิดคุม้ คลัง่ และเข้าควบคุมซูรู่ว
และซูเหม่ย ซึ่งตอนนี้พวกเขาต่างต้องเผชิญกับภัยพิบตั ิ

ไม่เพียงแต่พวกนางจะกลายเป็ นหุ่นเชิด มันยังเป็ นอันตรายกับพวกนาง


อีกด้วย ซึ่งก่อนที่มนั จะเข้ายึดร่ างพวกนางได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจะ
ไม่ยอมให้มนั เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นจะไม่ใช่เพียงแค่ชีวติ ของเขา มันยังเป็ น
อันตรายต่อซูรู่วและซูเหม่ยอีกด้วย

* ฟรึ บ ฟรึ บ * ชูเฟิ งพยายามสร้างรู ปแบบตราประทับ เพื่อผนึกเปลว


เพลิง และ นํ้าแข็ง ซึ่งในตอนนั้นพลังทั้งสองก็ค่อยๆหดตัวกลับเข้าไป
ในที่สุด พลังงานทั้งสอง ไม่วา่ เปลวเพลิงหรื อนํ้าแข็ง พวกมันไม่เพียงแต่
กลับเขาไป ยังมีร่างทั้งสองปรากฏออกมานั้นคือร่ างของ ซูรู่ว และ ซู
เหม่ย

ยังไงก็ตาม ในตอนนั้น หญิงสาวผูท้ รงเสน่ห์ซูรู่ ว มีไอเย็นเล็กๆแผ่


กระจายออกมารอบๆตัว ทางด้านหญิงงามผูแ้ สนอ่อนหวาน ซูเหม่ย ก็มี
ไอร้อนแผ่กระจายออกมาเช่นเดียวกัน

ส่ วนสําคัญที่สุดคือออร่ าในปัจจุบนั ของพวกนาง มันไม่ได้อยูใ่ น


อาณาจักรแก่นแท้อีกต่อไป แต่มนั กับเป็ น พลังวิญญาณในอาณาจักร
สวรรค์อีกทั้งยังเป็ นอาณาจักรสวรรค์ระดับ 2

" ชูเฟิ ง!!! " หลังจากที่ซูรู่ว และ ซูเหม่ย พบ ชูเฟิ ง บนใบหน้าที่


งดงามปรากฏให้เห็นขึ้นอย่างเด่นชัด ทั้งสองนั้นเผยรอยยิม้ ที่น่า
หลงไหลออกมา

หลังจากนั้นพวกนางก็เรี ยกเขาด้วยความดีใจและแสนตื่นเต้น พวกนาง


โผลเข้าใส่ ชูเฟิ ง ในเวลาเดียวกันพวกนางก็เปิ ดแขนสองข้างเข้าโอบกอด
ชูเฟิ ง ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา โดยที่ไม่คลายออกเลย พวกนางใช้ใบหน้า
แนบลงที่หน้าอกของชูเฟิ ง ซึ่งมันทําให้ภายในหัวใจเขาที่รอคอยวันนี้มา
นานแสนนาน รู ้สึกอบอุ่นขึ้นในทันที

" รู่ วเอ๋ อ เหม่ยเอ๋ อ เจ้าทั้งคู่ ไม่เป็ นอะไรนะ ? " เห็นสองสาว


งามโอบกอดเขาไม่ปล่อย ชูเฟิ ง ถามออกไปโดยความรู ้สึกที่อ้ ึงและสุ ด
แสนจะประหลาดใจ

เขานั้นรอคอยให้คนรักฟื้ นขึ้นมาเป็ นเวลาสองปี และเขาไม่คิดว่าพวก


นางจะฟื้ นขึ้นมาในเวลาที่เหมาะเจาะแบบนี้ ขณะนั้นชูเฟิ งไม่รู้ตวั ว่า
จะต้องตอบสนองไปยังไง เพราะมันเป็ นเรื่ องที่ยากจะเชื่อ

" ชูเฟิ ง ข้าอยากไปภาคทะเลตะวันออก ข้าอยากพบจื่อหลิง เรา


จะไปช่วยนางด้วยกัน นางนั้นเป็ นของเจ้า ของเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น . .
. " จู่ๆซูเหม่ยก็เริ่ มเปิ ดปากพูดก่อน ใบหน้าที่แสนอ่อนหวานของนาง
ขณะนั้น ชะเง้อมองชูเฟิ งขณะที่พดู อย่างจริ งจัง

" เหม่ยเอ๋ อ เจ้า . . . . " ชูเฟิ ง ไม่รู้จะต้องทํายังไงดี หลังจากที่ได้


ยินคําพูดของซูเหม่ยเขาก็ยง่ิ มึนงง เขาคิดในใจว่า นางรู ้เรื่ องภาคทะเล
ตะวันออกได้ยงั ไง ? หรื อว่าจะ . . .

" ชูเฟิ ง แม้วา่ ข้าจะหลับไปนาน แต่ขา้ ก็สามารถรับรู ้และได้ยนิ


เสี ยงสนทนาของทุกคนได้อย่างชัดเจน "
" ข้ารู ้เรื่ องราวที่อย่างที่เกิดขึ้นเป็ นอย่างดี และข้าก็เชื่อว่า น้อง
เหม่ย ก็คงเป็ นเหมือนกับข้าใช่ไม๊ ? "ตอนนั้น ซูรู่ วก็เบิกตากว้าง พร้อม
กับกระพริ บเบาๆด้วยรอยยิม้ ขณะที่นางพูดนางก็มองไปที่ ซูเหม่ย

" ใช่ ข้าเองก็เช่นกัน แม้วา่ ข้าจะหลับสนิท แต่ขา้ ก็ได้ยนิ เสี ยงที่เจ้า


พูด "

" และข้าก็รู้วา่ เจ้าทําอะไรบ้างในระหว่างที่พวกเราหลับ " [


T/N ไม่ได้ลกั หลับนะครับ ประมาณว่าสร้างวีรกรรมอะไรไว้บา้ ง
เพราะพวกนางได้ยนิ พ่อกับพี่ชายเล่าให้ฟัง ]
" ชูเฟิ ง พาพวกเราไปทะเลตะวันออกด้วยเถอะ แม้เราจะเป็ น
ผูห้ ญิง แต่เราจะไม่ยอมเป็ นตัวถ่วงของเจ้า "

" และข้าก็ดูเหมือนจะเข้าใจพลังของมุกอัคคีน้ ี บอกตามตรงว่าข้า


เองก็กลัวพลังอํานาจของมันที่ไหลเวียนอยูใ่ นร่ างกายของข้า "

" ข้าในตอนนี้ คงไม่กลายเป็ นภาระของเข้า ข้าสามารถช่วยเจ้าได้


นะ พาข้าไปกับเจ้า ข้าอยากจะช่วยจื่อหลิงกลับมาให้ได้ " ซูเหม่ยยืน่ หน้า
เรี ยวเล็กเข้าไปใกล้ พร้อมกับคว้ามือของชูเฟิ งขณะที่เขย่า เหมือนกับเด็ก
ที่เอาแต่ใจ

" เหม่ยเอ๋ อ นี่เจ้า . . . . " ในตอนนั้น ชูเฟิ ง รู ้สึกสับสนนิดหน่อย


เพราะเนื่องจากความสุ ขนั้นมันเข้ามาอย่างกระทันหัน
ไม่เพียงแต่ซูรู่วและซูเหม่ยจะตื่นขึ้นมา พวกนางยังได้รับพลังจากไข่มุก
ทั้งสอง ซึ่งชูเฟิ งเองก็รู้สึกถึงพลังอํานาจและประสิ ทธิภาพของมันใน
ปัจจุบนั นอกจากนี้พลังวิญญาณของพวกนางยังแข็งแกร่ งอย่างมาก อาจ
พูดได้วา่ มันไม่ได้ดอ้ ยไปกว่าตัวของเขาเอง

ซึ่งชูเฟิ งต้องพยายามมาอย่างหนัก อีกทั้งยังผ่านประสบการณ์ที่


ยากลําบาก โดยผ่านความเลวร้ายมามากมาย พูดได้วา่ เขานั้นผ่านความ
เป็ นความตายมาอย่างโชกโชนกว่าจะได้รับพลังวิญญาณในระดับนี้มา

แต่ซูรู่วและซูเหม่ย เองก็เช่นเดียวกัน แม้วา่ พวกนานจะนอนหลับสนิท


เป็ นเวลาสองปี แต่พวกนางก็ผา่ นความลําบากมาไม่ใช่นอ้ ย เพราะ
เนื่องจากเวลาที่พวกนางหลับพวกนางต้องต่อสู ก้ บั ความเจ็บปวดทุกข์
ทรมานจึงได้มีทุกวันนี ซึ่งมันก็เป็ นประสบการณ์ที่เลวร้ายไม่ใช่นอ้ ย
นี่นบั เป็ นวาสนา นี่มนั เป็ นวาสนาจริ งๆ สิ่ งที่เรี ยกว่าวาสนา ชูเฟิ ง เคยเจอ
มาก่อน แต่มนั จิบจ้อยเมื่อเทียบกับพวกนาง

แต่สิ่งที่ทาํ ให้ชูเฟิ งมีความสุ ขมากที่สุดไม่ใช่อะไร มันคือตอนที่ซูรู่ว


และซูเหม่ยหลับไปเป็ นเวลา 2 ปี แต่พวกนางนั้นรู ้สึกตัวมาตลอดและ
ได้ยนิ ทุกสิ่ งทุกอย่างที่เขาพูด

พวกนางไม่เพียงแต่รู้เรื่ องของ จื่อหลิง พวกนางยังไม่มีท่าทีหึงหวงหรื อ


โวยวายแม้แต่นอ้ ย พวกนางยังเป็ นห่วง จื่อหลิง อีกทั้งยังจะช่วยเขา พาจื่
อหลิงกลับมา มันทําให้ ชูเฟิ ง มีความสุ ขอย่างหาใดเปรี ยบ

" ชูเฟิ ง จื่อหลิงนางเป็ นผูห้ ญิงที่ดี แม้วา่ เราไม่เคยเห็นนาง แต่


น้องเหม่ยและข้าก็ได้ยนิ คําพูดของพวกเจ้าทั้งสอง นางคงเป็ นห่วงพวก
เรามาก และข้ามัน่ ใจว่านั้นเป็ นเพราะเจ้า ที่เราเป็ นห่วงนาง นั้นก็เป็ น
เพราะเจ้าเหมือนกัน "

" เราสองพีนอ้ งก็เหมือนแม่นาง จื่อหลิง ตราบใดที่เจ้ามี


ความสุ ข พวกเราก็เต็มใจที่จะทําทุกอย่างเพื่อเจ้า "

" พาเราไปทะเลตะวันออกด้วยนะ " ในเวลานั้น ซูรู่ วยังคงพูด


นอกจากนี้ใบหน้าที่แสนจะงดงามของนาง ยังแสดงออกถึงความเด็ด
เดียว

" ชูเฟิ ง พาพวกเราไปเถอะนะ . . . . " ในเวลาเดียวกัน ซูเหม่ยก็


ขอร้องด้วยนํ้าเสี ยงที่อ่อนหวาน
เมื่อเผชิญหน้ากับสองสาวงามที่โอบซ้ายขวา แม้วาเขาจะไม่รู้วา่ จะแสดง
ความรู ้สึกออกมายังไง แต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะปฏิเสธ ขณะที่เขาสู ดลม
หายใจพร้อมกับโอบรัดแขนทั้งสองดึงสองสาวงามเข้ามา จากนั้นเขาก็
ยิม่ พร้อมกับพูดว่า " ได้แน่นอน!!! "
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////
A : เก็บกดมาหลายปี จัดก่อนสักทีสิเป็ นหยัง!!!

B : ไอ้หื่น เจียง หวูช่ างกับจาง เทียนยี่ รอมันจนง่อยจะแดกและ ยังจะ


มีเวลาทําเรื่ องอย่างว่า เด๋ วพวกนั้นก็ไปซะก่อนหรอก

A : ไม่เป็ นไรถึงแม้จะโมโห แต่เมื่อเห็นว่าสองสาวงามฟื้ น พวกเขาก็


คงร่ วมแสดงความยินดีและคงเข้าใจเหตุผลเองนั้นแหละ นิดๆหน่อยๆ
จะเป็ นไร

B : ยอดยุทธภัณฑ์ใช้ในการเดินทาง มีหอ้ งให้อยู่ มืงค่อยสวีดกันใน


นั้นก็ได้!!!

A : จริ งดิ!!!
บทที่ 549 - วิธีคน้ หาเส้นชีพจร

" พีใ่ หญ่ เทียนยี่ ท่านไม่ไปตามพี่ ชูเฟิ ง งั้นหรอ ? นี่มนั ก้ใกล้จะ


มืดแล้วนะ" เจียง หวูช่ าง พูดขึ้นด้วยความกังวล

" เห้!!! บัดนี้ มันใกล้ได้เวลาออกเดินทางแล้ว ดังนั้นต้องคํานึงถึง


ฤกษ์ยามซึ่งในวันที่ออกเดินทางพวกเขาจะมีโชค มันคงจะน่าเสี ยดาย
หากพลาดโอกาสในวันนี้ไป" ในความเป็ นจริ งคนอื่นๆเองก็เริ่ มรู ้สึก
กังวล

ในรุ่ งเช้ามีผคู ้ นจํานวนมากรวมตัวกันเพื่อเตรี ยมที่จะส่ ง ชูเฟิ งและพรรค


พวกออกเดินทาง ตอนนี้แสงตะวันก็เริ่ มเจิดจ้าเข้าไปทุกที และแล้ววัน
ทั้งวันก็ผา่ นไป

ปัจจุบนั ท้องฟ้ากลายเป็ นสี ดาํ ค่อยๆคืบคลานเข้ามาทางด้านขวาต่อ


ดวงตาของพวกเขา มันจึงทําให่พวกเขาเริ่ มจะอยูก่ นั ไม่สุข

" อั้ยหยา!!! เราไปตาม ชูเฟิ งกันเถอะ อย่าทําให้ทุกคนรอเขานาน


ไปกว่านี้ "เห็นแบบนั้น ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าก็พดู ขึ้น

" อืม. . . . " หลังจากที่ได้ยนิ จาง เทียนยี่ ก็พยักหน้ารับ

* ฟิ้ วว *
แต่ ณ ตอนนั้น มีเส้นแสง 3 เส้น พุง่ เข้ามาทิศทาง วังหลัก เส้นแสง
เหล่านั้นไม่มีท่าทีวา่ จะลดความเร็ วลงเลยแม้แต่นอ้ ย ดัง่ อุกกาบาตที่ตก
ลงมา จนในที่สุดมันก้ล่วงลงสู่ พ้นื

เมื่อเส้นแสงทั้งสามล่วงจอดที่พ้นื พวกมันกลายเป็ นร่ างคน 3 คน อีก


ทั้งยังสามารถมองเห็นใบหน้าของพวกเขาได้อย่างชัดเจน มันทําให้คนที่
อยูร่ อบๆนั้น ตกใจอย่างมาก

โดยเฉพาะคนสนิทของ ชูเฟิ ง พวกเขาได้แต่อา้ ปากค้าง ใบหน้าเต็มไป


ด้วยความปลื้มปิ ติยนิ ดี

แน่นอนว่าทั้งสามร่ างนั้นคือ ชูเฟิ ง ซูรู่ และ ซูเหม่ย


ทั้งสองสาวนั้นงดงามอย่างมาก อีกทั้งยังมีลกั ษณะพิเศษเด่นไปกันคนละ
ด้าน พวกนางสวมชุดกระโปรงที่ชูเฟิ งเตรี ยมไว้ให้ ซึ่ งทั้งคู่ถูกประดับ
ด้วยชุดกระโปรงของชนชั้นสู ง มันจึงยิง่ ทําให้เสน่ห์ของพวกนางเด่นชัด
มากยิง่ ขึ้น

ส่ วนชูเฟิ งนั้นก็ยนื อยูร่ ะหว่างกลางพวกนางทั้งสอง โดยที่ถูกพวกนาง


กอดแขนเอาไว้ จากนั้นเขาก็กล่าวกับฝูงชน " ทุกคนโปรดอภัยด้วย ที่ขา้
มาสาย "

" รู่ เอ๋ อ เหม่ยเอ๋ อ พวกเจ้าฟื้ นแล้ว!!!"


ในช่วงเวลานั้นมีชายวัยกลางพลวดเข้ามาหาซู่รู่ และซูเหม่ย ขณะที่ร้อง
ห่มร้องไห้ คนๆนั้นคงจะเป็ นใครไปไม่ได้นอกซะจาก พ่อของ ซูรู่และซู
เหม่ย

" ดีมาก ดีจริ งๆ น้องสาวในที่สุดพวกเจ้าทั้งสองก็ฟ้ื นสักที ! "


ทันทีที่พบซูรู่ และซูเหม่ย พี่ชายและภรรยาของพี่ชายเขาก็กรู กนั เข้ามา
จากนั้นครอบครัวซู ก็ต่างแสดงความดีอกดีใจที่ได้มาอยูพ่ ร้อมหน้ากัน
อีกครั้ง

ในความเป็ นจริ งหลังจากที่พวกเขาได้เห็นทั้งสองสาวฟื้ นขึ้นมา มันก็ทาํ


ให้ทุกคนมีความสุ ขอย่างมาก ไม่วา่ พวกเขาจะแสดงความยินดีมาจาก
เบื้องลึกของหัวใจหรื อไม่ แต่พวกเขาก็ต่างร่ วมแสดงความยินดี เพราะ
มันคือความสุ ขของ ชูเฟิ ง
แน่นอน ว่ามีเฉพาะบางคนเท่านั้นที่มีความสุ ข แต่กม็ ีบางคนกําลังยืนมึน
งง เพราะไม่เขาไม่เคยรู ้จกั กับซูรู่ และซูเหม่ยมาก่อน

ตัวอย่างเช่น เจียง หวูช่ าง ในปั จจุบนั ขี้เลื้อยอยูเ่ ต็มอยูภ่ ายในหัวของเขา


จากนั้นเขาก็ตบที่ไหล่ของ จาง เทียนยี่ และกระซิ บถามเบาๆ "พี่ใหญ่
หญิงงามทั้งสองนั้นเป็ นใคร ทําไมพวกนางถึงได้ดูสนิทสนมกับพี่ ชูเฟิ ง
กัน ? แม้แต่พลังวิญญาณก็ไม่ธรรมดา "

" เอ้อ ข้าเกือบลืมแนะนํา เจ้าคงยังไม่รู้เรื่ องราวสิ นะ " ในตอน


จาง เทียนยี่ ยิม้ เบาๆพร้อมกับอธิบาย ความสัมพันธ์ระหว่าง ชูเฟิ ง กับ
แม่นางทั้งสอง รวมถึงเรื่ องราวต่างๆที่เกิดขึ้นกับพวกเขา

หลังจากทราบเรื่ องราวทุกอย่าง สายตาของ เจียง หวูช่ าง ที่มองชูเฟิ งนั้น


มีอยูอ่ ย่างเดียวนั้นก็คือ ความชื่นชม ในเวลาเดียวกันเขาก็อดที่จะอุทาน
ออกมาไม่ได้ " พีช่ ูเฟิ ง โชคดีจริ งๆที่มีหญิงงามลึกลํ้าเช่นนี้ !!! "

" นี ชูเฟิ ง! ตอนนี้กค็ ่าํ แล้ว ข้าว่าพวกเจ้าควรออกเดินทางกันใน


เช้าวันพรุ่ งนี้จะดีกว่า " ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าไม่มีทางเลือก เมื่อเขา
พบว่าพระอาทิตย์ล่วงลับขอบฟ้าไปแล้ว

" ครับ . . . . " ได้ยนิ แบบนั้นชูเฟิ ง หยักหน้ารับ พร้อมกับรี บเดิน


ไปหา จาง เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง และกล่าว " ศิษย์พี่ จาง น้อง หวูช่ าง
นี่ รู่ เอ๋ อและเหม่ยเอ๋ อ พวกนางอยากร่ วมเดินทางไปกับพวกเรา ที่ภาค
ทะเลตะวันออก ไม่ทราบว่าพวกท่าน อนุญาติหรื อไม่ ? "

" ได้แน่นอน " จาง เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง ตอบตกลงทันทีโดย


ที่ไม่ตอ้ งคิดให้เสี ยเวลา
เช้าวันต่อมา เจียง หวูช่ าง ก็เริ่ มวางแผนที่จะเปิ ดการใช้งานยอด
ยุทธภัณฑ์ จากนั้นเขาก็เปิ ดประตู พร้อมกับ ดึง ชูเฟิ งเข้าไปภายในนั้น
พร้อมกับกล่าวว่า " พี่ ชูเฟิ ง ยุทธภัณฑ์น้ ีไม่ได้มีไว้สาํ หรับใช้ในการต่อสู ้
แต่มีไว้ใช้ในการเดินทาง ซึ่งมันแทบไม่มีความแตกต่างจากพระราชวัง
เคลื่อนที่ ไม่เพียงแต่มีความรวดเร็ วที่ไม่ธรรมดา มันยังกว้างขวาง
สะดวกสบาย เหมาะสําหรับเดินทางไกล "

" มันมีหอ้ งอยูส่ ามห้อง มีหอ้ งโน้นที่กว้างสุ ด แต่เดิมมันเป็ นห้อง


ของข้าเอง เพราะข้านั้นชอบนอนเตียงใหญ่ๆ แต่ตอนนี้ขา้ ยกใหม่ให้ท่าน
ท่านชอบไม๊ล่ะ หุหุ . . . . . " เสี ยงของเจียง หวูช่ าง ที่พดู กับ ชูเฟิ ง เต็ม
ไปด้วยคําไบ้แห่งความลามก ขณะที่กระพริ บตาส่ งสัญญาณให้ จาง
เทียนยี่

ชูเฟิ ง ยิม้ อย่างใจเย็น ขณะที่มอง เจียง หวูช่ าง แล้วกล่าวด้วยเสี ยงเบาๆ "


น้อง หวูช่ าง ทําได้ดีมาก "

ดังนั้น ก็เหมือนกับพวกเขาตกลง ชูเฟิ งนอนห้องเดียวกับ ซูรู่ และซูเหม่ย


จาง เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง แยกกันนอนอีกสองห้องที่เหลือ ขณะที่
พวกเขาทั้ง ห้าคนขึ้นไปบนยอดยุทธภัณฑ์ พร้อมกับออกเดินทางจาก 9
อาณาจักร เข้าสู่ ภูมิภาคทะเลตะวันออก เพื่อไปยัง สํานักสี่ คาบสมุทร

" ข้าไม่รู้เลยจริ งๆ ว่าเด็กพวกนั้นจะประสบความสําเร็ จแค่ไหน


ในทะเลตะวันออก " เมื่อเห็นยอดยุทธภัณฑ์ ราขรถ หายเข้าลับไปที่เส้น
ขอบฟ้าเพียงชัว่ พริ บตา บรรพบุรุษเก่าแก่ของราชวงศ์เจียงก็สุดแสนจะ
หดหู่

" ไม่ตอ้ งกังวล ความสามารถของเด็กพวกนั้นล้วนแต่เกิน


ขอบเขตของข้า ต่อให้เป็ นทะเลตะวันออก พวกเขาก็จะต้องประสบ
ความสําเร็ จอย่างแน่นอน " ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ยืนนิ่งสงบ ขณะที่ยมิ้
และกล่าว

ได้ยนิ คําพูดของ ผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้า ทุกคนก็ต่างยิม้ ออกมาอย่างโล่


งอก ไม่เพียงแต่เขาจะเชื่อคําพูดเหล่านั้น แต่พวกเขาทุกคนต่างเข้าใจ
ความสามารถของหนุ่มสาวเหล่านั้นเป็ นอย่างดี

ยอดยุทธภัณฑ์ ที่สุดแล้วก็ยงั เป็ นแค่เครื่ องมือ ดังนั้นหากจะต้องใช้เป็ น


เวลานาน พวกเขาจะต้องอัดพลังวิญญาณเข้าไปกระตุน้ ให้มนั เคลื่อนที่
ไปข้างหน้า ยิง่ หากผูท้ ี่มีความแข็งแกร่ งอัดพลังเข้าไป มันจะยิง่ ทําให้
ราชรถนั้น รวดเร็ วเป็ นอย่างมาก

ยอดยุทธภัณฑ์น้ ีกเ็ ช่นกัน เพื่อที่พวกเขาจะเดินทางให้ถึงทะเลวัน


ตะวันออกให้เร็ วที่สุด ชูเฟิ ง จึงเป็ นคนที่ขบั เคลื่อน โดยสลับกับคนอื่นๆ
ตลอดทั้งวันทั้งคืน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากชูเฟิ งนั้นมีความสัมพันธ์พิเศษระหว่าง ซูรู่ ละ ซู


เหม่ย จาง เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง จึงขอเสนอตัวในการขับเคลื่อนยอด
ยุทธภัณฑ์ไปด้านหน้าโดยสลับกันแค่สองคน เพื่อให้ ชูเฟิ งนั้นมีเวลา
เพียงพอที่จะอยูก่ บั ซูรู่ และ ซูเหม่ย

ตอนแรก ชูเฟิ ง รู ้สึกไม่ค่อยดีนกั ต่อสหายของเขา หลังจากผ่านมาได้สกั


ระยะ ชูเฟิ ง ก็รู้สึกผิดและระอายใจที่ปล่อยให้พวกเขาทั้งสองเป็ นคน
ขับเคลื่อนยอดยุทธภัณฑ์

แต่เมื่อเขาเห็น จาง เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง ยืนยันอย่างหนักแน่น ชูเฟิ ง


ก็ได้แต่ซาบซึ้งสําหรับนํ้าใจ ความเป็ นพี่เป็ นน้อง โดยที่พวกเขาไม่ตอ้ ง
อธิบายออกมาเป็ นคําพูดใดๆ
ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงสามารถใช้เวลาอยูร่ ่ วมกับทั้งสองสาว และเพลิดเพลินไป
กับทัศนียภาพโดยรอบ ซึ่งมันแสนจะงดงาม มันทําให้พวกเขานั้นมี
ความสุ ขอย่างมาก ซึ่งเขารอวันนี้มานานถึง 2 ปี

เมื่อเริ่ มเข้าสู่ ยามรัตติกาล พวกเขาก็เข้าห้องเพื่อพักผ่อน แต่แทนที่มนั จะ


มีฉากอย่างว่า แต่ ชูเฟิ ง ก็ไม่ได้ทาํ อะไรใดๆ

ชูเฟิ ง นอนสบายแผ่หลาอยูบ่ นพื้น โดยที่สองสาวนอนอยูบ่ นเตียง ตอน


นั้นซูรู่ นางยิม้ พร้อมกับหันหน้าไปที่ ชูเฟิ ง และกล่าว " ก่อนที่จะ
แต่งงาน อย่าได้แม้แต่จะคิด จะทําเรื่ องอย่างว่ากับข้าและน้องสาวของข้า
"
" รู่ เอ๋ อ ไม่นะ บนพื้นมันหนาว!! " ใบหน้าของชูเฟิ งเต็มไปด้วย
การอ้อนวอน แต่มนั ก็ไม่มีประโยชน์ เขาจึงได้แต่โยนสายตาไปอ้อน
วอนต่อ ซูเหม่ย

แต่อย่างไรก็ตาม ซูเหม่ยนางได้แต่อมยิม้ และกล่าว " นางพูดถูกแล้ว "


พวกนางรี บดึงผ้าขึ้นมาห่ม โดยมีเพียงชูเฟิ งที่นอนอยูบ่ นพื้น ขณะที่มอง
หลังคา

" เห้อออ " ชูเฟิ ง ได้แต่มองหลังคาแล้วได้แต่ถอนหายใจอย่าง


หมดหนทาง แต่จากนั้นบนใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิม้ อย่างหน้า
ระรื่ น

ในความเป็ นจริ ง ชูเฟิ ง ไม่เคยคิดวางแผนใดๆที่จะกระทําเรื่ องอย่างว่า


กับ ซูรู่และซูเหม่ยแต่แรก ที่เขายิม้ ออกมาอย่างหน้าระรื่ น เป็ นเพราะเขา
ได้พวกนางกลับมาอยูด่ ว้ ยอีกครั้ง ซึ่ งเรื่ องอย่างว่าจะทําเมื่อไหร่ กไ็ ด้

" ชูเฟิ ง ตอนนี้เจ้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดฟ้าแล้วสิ นะ และเจ้าก็กาํ ลัง


จะถึงแผ่นดินทะเลภาคตะวันออก ข้าคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่ขา้ จะสอน
วิธีคน้ หาเส้นชีพจร " ในขณะที่ชูเฟิ งกําลังจะหลับตานอน เสี ยงของต้าน
ต้านก็ดงั ขึ้น

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////
A : ต้านต้าน อดสงสารพี่เฟิ งไม่ได้สินะ เลยอดที่จะเสนอตัวไม่ได้ !!!

B : ฝันไปเถอะต้านต้านไม่มีวนั ยอมหรอก!!! นางจะสอนวิธีเบิกเนตร


สวรรค์ต่างหาก บอกเลยว่ามันโครตมีประโยชน์
A : ยังไง ???

B : ก็อย่างสมบัติที่คนทัว่ ๆไปหาไม่เจอ หรื อ แม้แต่ผเู ้ ชื่อมต่อระดับสู ง


แต่การที่มีวชิ าค้นหาเส้นชีพจร มันจะช่วยได้อย่างมาก ไม่เพียงแต่ใช้ใน
การหาโอสถระดับสู ง หรื อ ยอดยุทธภัณฑ์ มันยังมีประโยชน์ในการ
ต่อสู จ้ ริ งอีกด้วย แล้วระหว่างตัวของต้านต้าน กับ วิชาค้นหาเส้นชีพจร
จะเลือกอะไร ?

A : เอาต้านต้านดีกว่า!!!

B:.............
บทที่ 550 - เข้าใจถึงแก่นแท้

“วิธีคน้ หาเส้นชีพจรหรอ ?” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นอาการงัวเงียของชู


เฟิ งก็หายไป

ก่อนหน้านี้ ต้านต้านเคยบอกเขาเกี่ยวกับ วิธีคน้ หาเส้นชีพจร มันคือ


วิธีการค้นหาสิ่ งที่แปลกประหลาดตามธรรมชาติ และทรัพยากรบ่มเพาะ

อย่างไรก็ตามวิธีการฝึ กมันนั้นช่างน่าหนักใจมาก นอกจากนี้ในตอนนั้น


ชูเฟิ งนั้นยังมีส่ิ งที่ตอ้ งทําอยูต่ า้ นต้านเลยยังไม่ได้บอกเขา.

ต้านต้านไม่ได้บอก และชูเฟิ งก็ไม่ได้ถาม แต่ความจริ งแล้วชูเฟิ งนั้น


ต้องการที่จะรู ้เรื่ องวิธีคน้ หาเส้นชีพจรอยูต่ ลอดเวลา ดังนั้นต้านต้านจึง
เต็มใจที่จะบอกเขา

ดังนั้น เขาจึงย้ายจิตของตัวเองเข้ามายังพื้นที่โลกวิญญาณ

และเมื่อเห็นต้านต้าน ชูเฟิ งก็ยมิ้ และพูดว่า “ ต้านต้าน เจ้าพร้อมจะสอน


ข้าเรื่ องวิธีคน้ หาเส้นชีพจรแล้วสิ นะ”

“ชูเฟิ ง ฟังให้ดีวธิ ีคน้ หาเส้นชีพจรนั้น ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ


ทัว่ ไปไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ แม้ผเู ้ ชื่อมต่อระดับทองบางคนนั้นก็ยงั
ไม่สามารถที่จะเรี ยนรู ้มนั ได้เลย.”

“เพราะมันเป็ นความลับที่ไม่มีใครบอกต่อกันไป และจํานวนของ


คนที่รู้เรื่ องนี้น้ นั มีนิดเดียว และมันนั้นยังสําคัญกว่าทักษะเร้นลับของเจ้า
ด้วยซํ้าไป ถ้าเรื่ องนี้ถูกแพร่ กระจายออกไปอาจเกิดการนองเลือดก็
เป็ นได้.” ต้านต้าน พูด

“อะไรนะ ผูเ้ ชื่อมต่อทัว่ ไปไม่สามารถครองครองมันได้เลยหรื อ


มันสําคัญขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรื อ”เมื่อฟังที่ตา้ นต้านพูดชื่อเฟิ งก็พดู
ออกมา และยังถามต่ออีกว่า " ต้านต้าน เจ้าไปรู ้เรื่ องนี้มาจากไหน หรื อ
ว่าโลกอสู รฟ้าของเจ้า จะรู ้กนั ”

“แน่นอนว่าไม่ วิธีคน้ หาเส้นชีพจร นั้นถูกคิดขึ้นโดยผูเ้ ชื่อมต่อ


โลกวิญญาณที่แข็งแกร่ งมากๆ ข้านั้นได้เรี ยนจากอสู รวิญญาณอาวุโสคน
หนึ่งที่แข็งแกร่ งกว่าข้าหลายเท่าเพราะผูอ้ าวุโสคนนี้ คือผูเ้ ชื่อมต่อโลก
วิญญาณที่แข็งแกร่ งมากๆคนนั้น.” ต้านต้านพูด

“อะไรนะ ผูอ้ าวุโสที่แข็งแกร่ งกว่าเจ้าหลายเท่า” เมื่อเห็น


เช่นนั้นน ชูเฟิ งก็ตกใจ เพราะก่อนที่ตา้ นต้านจะถูกผนึก เธอแข็งแกร่ ง
อย่างมาก ถ้าเป็ นเช่นนั้น อสู รวิญญาณที่แข็งแกร่ งกว่าเธอนั้นจะ
แข็งแกร่ งขนาดไหน

“มันเป็ นอสู รวิญญาณที่นอ้ ยคนจะกล้ามีเรื่ องด้วยแม้แต่ ในโลก


อสู รฟ้าก็ตาม.” ในที่ผถู ้ ึงเรื่ องนั้น ใบหน้าต้านต้านก็แสดงออกถึงความ
ภาคภูมิใจออกมา เห็นได้ชดั ว่าอสู รวิญญาณตนนั้นต้องไม่ธรรมดาเสี ย
จริ ง

แต่สิ่งที่ทาํ ให้ชูเฟิ งคิดหนักมากที่สุดคือ ถ้าอสู รวิญญาณนั้น มีเจ้านาย


เจ้านายของมันจะแข็งแกร่ งขนาดไหน

“ชูเฟิ งข้าอยากจะเตือนเจ้าสักหน่อย ถึงข้าจะรู ้เรื่ องวิธีคน้ หาเส้น


ชีพจรไม่นอ้ ยแต่ขา้ ก็ไม่รู้วา่ เจ้าจะทําได้สาํ เร็ จหรื อไม่.”

“วิธีคน้ หาเส้นชีพจร นั้นไม่ใช่เรื่ องง่ายเลยที่จะฝึ กฝน.”

“หึ หึ ในโลกนี้มีอะไรง่ายอย่างนั้นหรื อ ต้านต้านบอกข้าที ข้าต้อง


ทําอะไรบ้าง” ชูเฟิ งยิม้ แล้วถาม

“วิธีคน้ หาเส้นชีพจรจําเป็ นต้องบ่มเพาะ1 ใน 3 สิ่ งนี้ 1 คือตา


2 คือสมอง 3 คือหัวใจ.”

“การบ่มเพาะส่ วนตานั้นพูดได้วา่ เป็ นทางที่ดีที่สุดในการฝึ กวิธี


ค้นหาเส้นชีพจร เพราะ ตาของเจ้านั้นจะมองเห็นทุกอย่างและ ตานั้นจะ
ถูกเรี ยกว่า เนตรสวรรค์.”

“เนตรสวรรค์อย่างนั้นหรื อ”

“ถูกต้อง ตราบใดที่เจ้าสามารถฝึ กจนเห็นในสิ่ งที่คนอื่นไม่เห็น


นั้น เจ้าก็ครอบครองเนตรสวรรค์ได้นิดนึงแล้ว.”

“และการฝึ กเนตรสวรรค์น้ นั ต้องใช้อาํ นาจวิญญาณมหาศาลมาก


และพลังตํ่าสุ ดต้องสามารถใช้รูปแบบวิญญาณสี ฟ้าได้ นัน่ เป็ นเหตุผลที่
ข้ารอเจ้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อชุดฟ้าก่อนข้าจึงจะสอนให้.”

“แล้วการบ่มเพาะส่ วนสมองล่ะ”

“บ่มเพาะสมองนั้นคือการเพิ่มความรู ้ของเจ้า เกี่ยวกับล้านๆสิ่ ง


ในโลกนี้ไม่วา่ จะเป็ นภูมิประเทศหรื อภูมิอากาศ เจ้าจะต้องร็ เรื่ องเกี่ยวกับ
พวกมันไม่วา่ จะเป็ นรู ปร่ าง หรื อขนาด.”
“อย่างไรก็ตามไม่วา่ เจ้าจะรู ้เรื่ องพวกมันมากขนาดไหน เจ้าก็ไม่
เห็นมัน อย่างไรก็ตามถ้าเจ้ามีเนตรสวรรค์เจ้าก็จะสามารถระบุรูปร่ าง
ของพวกมันได้.”

“แต่ถา้ เจ้าอยากรู ้วา่ สมบัติน้ นั ซ่อนอยูท่ ี่ไหนบ้างเจ้าต้องก็อาศัย


ความรู ้ซกั หน่อย ส่ วนข้านั้นพอมีขอ้ มูลอยูบ่ า้ งเป็ นข้อมูลเกี่ยวกับ พื้นที่
ทุกๆพื้นที่ที่เก็บซ่อนสมบัติไว้ และถ้าเจ้าต้องการมัน เจ้าก็ตอ้ งพยายาม
เสี ยหน่อย.”

“การบ่มเพาะส่ วนหัวใจนั้นเป็ นเรื่ องที่ง่ายมาก.”

“ทุกสิ่ งนั้น ถ้ามีประโยชน์ยอ่ มมีโทษ และมากเท่าไหร่ น้ นั ขึ้นอยู่


กับผลประโยชน์ ยิง่ ผลประโยชน์มาก ก็ยง่ิ มีโทษมาก ดังนั้นมันก็คือการ
ตัดสิ นใจ.”
“และหลังจากเจ้าสามารถใช้เนตรสวรรค์ได้ และรู ้เรื่ องวิธีคน้ หา
เส้นชีพจรบ้างแล้ว เจ้าก็จะสามารถขุดทรัพยากรที่ฝั่งอยูใ่ ต้ดิน หรื อ
สมบัติได้.”

“แต่เจ้าต้องรู ้ก่อนว่ามันสามารถเปลี่ยนให้เจ้าเป็ นมังกรได้ ถ้า


การบ่มเพาะของเจ้านั้นทะยานขึ้น และมันสามารถหยุดการทํางานของ
ทุกสิ่ งอย่างในตัวเจ้าและฆ่าได้.”

“เมื่อเจ้าพบว่ามีสมบัติซ่อนอยูท่ ี่ไหน เจ้าจะเข้าไปเอามันหรื อไม่


หรื อจะทําอะไรหลังจากเข้าไปยังที่ซ่อนแล้ว สิ่ งเหล่านั้นขึ้นอยู๋กบั หัวใจ
ของเจ้า ถ้าหัวใจของเจ้านั้นแข็งแกร่ งพอ เจ้าก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดึข้ ึน.”
“ชูเฟิ งวิธีคน้ หาเส้นชีพจร มันง่ายเมื่อพูด แต่ยากเมื่อลองทํา เจ้า
ยังต้องการจะเรี ยนรู ้มนั อีกหรื อไม่” ต้านต้าน ถามชูเฟิ ง

ชูเฟิ งยิม้ และแน่นอนว่าคําตอบของเขาคือ “ แน่นอนข้าต้องการ”

หลังจากได้รับคําตอบชูเฟิ ง มุมปากของต้านต้านก็ยกขึ้น เผยให้เห็น


รอยยิม้ ที่งดงามของเธอ เพราะเธอนั้นชอบจิตวิญญาณที่กล้าหาญของชู
เฟิ งอย่างมาก

จากนั้นต้านต้านก็เริ่ มสอนวิธีคน้ หาเส้นชีพจรแก่ชูเฟิ ง ดัง่ คําที่วา่ “


อาจารย์จะชี้ทางไปสู่ ประตูให้ แต่คนที่ตอ้ งผ่านประตูไปนั้นคือตนเอง “
ต้านต้านไม่เคยเห็นคนบ่มเพาะวิธีคน้ หาเส้นชีพจรมาก่อนน เธอรู ้แค่
วิธีการบ่มเพาะเท่านั้น เธอจึงไม่รู้วา่ เขาจะสําเร็ จหรื อไม่ หรื อ เขาจะใช้
เวลานานเท่าใด

ในความจริ งแล้ว วิธีคน้ หาเส้นชีพจร นั้นบ่มเพาะยากมาก มันยากจริ งๆ


แม้จะเป็ นชูเฟิ ง คนที่มีพลังที่แข็งแกร่ งอย่างมากก็ยงั ต้องปวดหัวเมื่อต้อง
เรี ยนรู ้มนั

แต่สาํ หรับการบ่มเพาะของชูเฟิ งแล้ว เขาบ่มเพาะมันเท่าไหร่ กก็ ลายเป็ น


ว่าเขาได้ศึกษามันมากกว่าได้ดูดซับมัน

มันเป็ นเพราะเขาเข้าใจวิธีคน้ หาเส้นชีพจรอย่างลึกและถึงแก่นแล้ว มัน


จึงทําให้เขาสงสัยว่าคนที่สร้างนั้นเทพขนาดไหนถึงสร้างมันได้
สําหรับด้านอื่นๆแล้ว การฝึ กวิธีคน้ หาเส้นชีพจรนั้นคือการยกระดับ
อํานาจวิญญาณทางหนึ่ง

ถ้าเขาบ่มเพาะมันสําเร็ จแล้วเขาก็ไม่ตอ้ งใช้อาํ นาจวิญญาณในการ


ตรวจสอบ ที่พดู อย่างนั้นก็ได้กเ็ พราะเขาสามารถเห็นทุกสิ่ งอย่างที่
อํานาจวิญญาณนั้นสามารถตรวจจับได้

พูดได้วา่ ถ้าชูเฟิ งบ่มเพาะเนตรสวรรค์สาํ เร็ จแล้ว เขาจะสามารถมองทะลุ


กําแพงได้

และระดับต่อจากนั้น ตาทั้งคู่ของชูเฟิ ง ก็จะได้รับความสามารถในการ


โจมตี เพียงแค่มองเขาสามารถระเบิดภูเขา และทําให้น้ าํ ในทะเลสาบ
ระเหยได้

และถ้าเขาชํานาญมัน เขาก็จะสามารถมองได้แม้กระทัง่ หัวใจและ


วิญญาณและสามารถมองแยกแยะจับโกหกได้ เขาสามารถรู ้ตวั ตนของ
ผูค้ นได้โดยแค่การมอง และสามารถบีบบังคับให้ศตั รู ยอมแพ้และละทิ้ง
ชีวติ ได้

ReaDMGA#แปลโดยท่านฮาย
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////////
A : นี้มนั ฮาคิราชันย์ ชัดๆ!!!

B : รี บหน่อย อย่าฝอยเยอะ เด๋ วไม่ทนั 21.00 แล้วงานจะงอก


A : เชอะ!!!
บทที่ 551 - โรงเตี๊ยม หรู หรา

และสําหรับการบ่มเพาะส่ วนสมองนั้น ผลที่ได้น้ นั สุ ดยอดมาก เพียงแค่


คําไม่เกิน 100 คําที่ได้รู้น้ นั ก็แทบจะไขความลึกลับของโลกได้ เพียง
แค่คาํ เดียวนั้นก็สามารถทําให้เข้าใจได้ถึงหลายๆอย่าง ทั้งหมดนัน่ ขึ้นอยู่
กับผูบ้ ่มเพาะด้วย

ในเวลาสั้นๆ ชูเฟิ งสามารถเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้งเขารู ้สึกว่าถ้าเขาบรรลุ


มันได้ในอนาคตเขาจะไม่ตอ้ งกังวลเรื่ องทรัพยากร เพราะเขาสามารถใช้
มันค้นหาได้

ดังนั้นเวลา 2 เดือนของชูเฟิ งก็หมดไปกับการบ่มเพาะวิธีคน้ หาเส้นชีพ


จร

ใน 2 เดือนนั้น ยอดยุทธภัณฑ์ราชรถ ได้บินผ่าน ป่ า ทะเลทราย แม่น้ าํ


ทะเลสาบ ภูเขา มาจํานวนมาก

และหลังจาก 2 เดือนที่เดินทางแบบไม่หยุดพักพวกชูเฟิ งก็ถึง ภูมิภาค


ทะเลตะวันออก

“ชูเฟิ ง ชูเฟิ ง!” ในตอนนั้น ชูเฟิ งนั้นอยู๋ในห้องของเขากําลังศึกษา


เรื่ องวิธีคน้ หาเส้นชีพจรอยู่ ก็มีเสี ยงของซูเหม่ยดังขึ้นมา ชูเฟิ งจึงหยุด
การบ่มเพาะ
“เหม่ย น้อย มีอะไรหรื อ” เมื่อเปิ ดตาขึ้นชูเฟิ งก็เห็น ทั้ง ซูรู่ ว และ
ซูเหม่ยยืนอยูห่ น้าเขา นอกจากนี้ยงั ยืนยืมอยูด่ ว้ ย

“เห้ มาเร็ วเข้า รี บมาดูนี่เร็ ว เจ้าจะได้รู่เมื่อเจ้าได้เห็นเอง!” ซูเหม่ย


ไม่บอกอะไร เธอจับมือชูเฟิ งและดึงเขาออกไป

หลังจากเดินออกมาจากห้องและมาที่หน้าต่าง ดวงตาของชูเฟิ งก็ตอ้ งหด


ลงอย่างรวดเร็ ว ต่อจากนั้นใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

นัน่ เพราะว่าในตอนนี้ ด้านใต้ราชรถนั้น มีทะเลที่กว้างใหญ่ไม่มีสิ้นสุ ด


อยู่ ทะเลนั้นต่างจากที่ชูเฟิ งเคยเห็นมาก่อน
นํ้าทะเลนั้นมีสีฟ้า และมีคลื่นลูกใหญ่ที่สูงเสี ยดฟ้า แม้แต่คลื่นลูกเล็กก็
สู งเป็ นเมตร ในขณะที่ลูกใหญ่สุดนั้นสู งกว่า 100 เมตร นัน่ ทําให้พวก
เขาประหลาดใจมาก

ในตอนนั้นแม้จะยืนอยูใ่ นราชรถแต่กไ็ ด้ยนิ เสี ยงคลื่นเสี ยงชัดเจน เห็น


ได้ชดั ว่า ทะเลแถบนี้น้ นั คนปกติทวั่ ไปไม่สามารถอยูร่ อดได้ และนี่คือ
ทะเลของภูมิภาคทะเลตะวันออก

“ภูมิภาคทะเลตะวันออก ช่างกว้างใหญ่ยง่ิ นักแล้วเหนือทะเลนั้น


ยังมีเกาะอีกด้วย แต่เกาะนี่ขนาดของมันน่าจะใหญ่กว่าทวีปเก้าอาณาจักร
เสี ยอีก
“ทะเลของภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้นมีความลึกมาก จากที่ขา้ เคย
ได้ยนิ ที่กน้ ทะเลนั้น มีส่ิ งมีชีวติ อาศัยอยูม่ ากมาย และยังมีสตั ว์ยกั ษ์ที่
แข็งแกร่ งอาศัยอยูใ่ นทะเลส่ วนลึกอีกด้วย.”

“ในทํานองเดียวกันก้าทะเลนั้น มีส่ิ งก่อสร้างจํานวนนับไม่ถถ้วน


อยู่ และในนั้นยังมีสมบัติอยูม่ ากมายอีกด้วย.” เจียง หวูช่ าง พูดขึ้นจาก
ด้านข้าง

“มันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก เมื่อได้เข้ามาในที่แบบนี้มนั ก็เหมือน


ได้เข้ามาในโลกใหม่แล้ว.” ชูเฟิ งพูด

ภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้นใหญ่มาก ส่ วนสํานัก4สมุทรก็ต้ งั อยูใ่ นพื้นที่


ส่ วนตะวันออกของภูมิภาคนี้ ถ้าพวกเขาต้องการไปที่นน่ั ก็ตอ้ งใช้เวลา
เดินทาง2-3 วันหรื อมากกว่านั้น

หลังจากเดินทางได้ 2 อาทิตย์แล้ว พวกเขาก็เห็นเกาะ และ เห็นมนุษย์


บ้างแล้ว

“ดูนน่ั มีโรงเตี๊ยมอยูต่ รงนั้น พวกเราก็อยูไ่ ม่ไกลจากสํานักสี่ สมุทร


แล้ว ทําไมไม่ไปหาอะไรทานซักมื้อหน่อยล่ะ ที่สาํ คัญจะได้รู้วา่ อาหาร
ของภูมิภาคทะเลตะวันออกมีรสชาติเป็ นยังไง.”

เจียง หวุช่ าง พูดขึ้นแล้วหัวเราะออกมา และเมื่องมองไปที่โรงเตี๊ยม


ขนาดใหญ่นน่ั ก็เห็นว่ามีราชรถและม้าพันธุ์พเิ ศษอยูข่ า้ งนอกและยังมี
สัตว์ยกั ษ์อยูอ่ ีกด้วยพวกมันถูกมัดโดยเชือกรู ปแบบวิญญาณ
ในโรงเตี๊ยมนั้นมีคนอยูม่ ากมาย แม้วา่ มันจะไกลมาก แต่พวกเขาทุกคนก็
สามารถเห็นได้ และเห็นว่าแทบทุกคนในนั้นเป็ นผูฝ้ ึ กตนทั้งสิ้ น

โรงเตี๊ยมนี้มนั ยังไงกันแน่ มันเหมือนกับเมืองขนาดเล็กๆในทวีปเก้า


อาณาจักรเลย ชูเฟิ งและคนอื่นๆไม่เคยเห็นโรงเตี๊ยมเช่นนี้มาก่อน พวก
เขาไม่เคยเห็นโรงเตี๊ยมที่มีผฝู ้ ึ กตนมากมายมารวมตัวกันในที่เดียว

“หวา ที่นี่มีคนเยอะจังเลย เราไปดูกนั เถิด หลังจากกินอาหารแห้ง


มานาน ข้าอยากกินอาหารอร่ อยๆบ้าง.” ในตอนนั้น ซูรู่วก็พดู ขึ้นมา
พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปราถนา

เมื่อเห็นเช่นนั้น จาง เทียนยีท่ ี่รับผิดชอบในเรื่ องการขับราชรถ ก็มองไป


ที่ชูเฟิ ง แล้วก็พยักหน้า จากนั้นเขาก็ขยับราชรถลง เพื่อที่จะเข้าไปยัง
โรงเตี๊ยมนัน่

ส่ วนทางเข้าราชรถนั้น มีชูเฟิ งและคนอื่นอยู่ จึงเป็ นที่สนใจจากผูค้ นใน


โรงเตี๊ยมอย่างมาก เพราะยอดยุทธภัณฑ์น้ นั เป็ นเหมือนสมบัติ แม้แต่ใน
ภูมิภาคทะเลตะวันออกมาก็ยงั คงมีค่ามาก

โดยเฉพาะอย่างยิง่ ราชรถที่พวกชูเฟิ งและคนอื่นๆนัง่ มานั้น มันหรู หรา


และงดงามมาก จึงมีผคู ้ นมาสนใจจํานวนไม่นอ้ ย

แม้บางคนจะเกิดความคิดอกุศล เพราะพื้นที่น้ ีไม่ได้อยูใ่ นการควบคุม


ของ สํานัก 4 สมุทร และมันอยูห่ ่างไกลมากจึงไม่มีคนมาตรวจเรื่ อง
การฆ่า ปล้น ใดๆ ดังนั้น จึงมีอาชญากรอยูใ่ นที่น้ ีเต็มไปหมด
อย่างไรก็ตาม หลังจากพวกชูเฟิ งนั้นเดินออกมาจากราชรถพวกที่คิดจะ
ปล้นก็ได้แต่นื่งเงียบทันที

5 หนุ่มสาว ที่มี 3 คนอยูใ่ นระดับ3 อาณาจักรสวรรค์ และอีก 2 คน


อยูใ่ นระดับ 2 อาณาจักรสวรรค์ ด้วยอายุเพียงนี้ และพลังขนาดนี้ แม้แต่
ในภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้น ก็ไม่ถือว่าน้อย

เมื่อเห็นความแข็งแกร่ งของชูเฟิ งและคนอื่น พวกเขาก็รีบหลบออกมา


ด้วยความกลัวทันที

และมีบางคนนั้น เมื่อเห็นความงามของ ซูรู่ ว และ ซูเหม่ย จึงจ้องมอง


อย่างน่ารังเกียจ
แต่เมื่อพวกเขาเห็น สายตาของชูเฟิ งพวกเขาก็ยมิ้ ขอโทษและคนอื่นๆ จึง
ทําให้พวกเขารี บเดินหนีออกมาอย่างรวดเร็ วโทษ

“ดูเหมือนว่าแถวนี้จะมีพวกชัว่ ร้ายเยอะทีเดียว.” เมื่อเห็นคนถอย


ออกไปเนื้องจากสัมผัสพลังของพวกเขาได้ จาง เทียนยีก่ พ็ ดู ขึ้น

“คนอ่อนแอย่อมเป็ นเหยือ่ ของผูท้ ี่แข็งแกร่ ง นัน่ เป็ นกฎของโลกนี้


“ ชูเฟิ งยิม้ แล้วพูดออกมา

“ คุณชายคุณหนู ท่านจะมาพักหรื อรับทานอาหาร” ในตอนนั้น


ก็มีเสี่ ยวเอ้อวิง่ ออกมาด้วยรอยยิม้
ในตอนนั้นพวกเขาก็พบว่า แม้จะเป็ นชุดบริ กร แต่มนั ก็ดูหรู หราอย่าง
มาก และมันกว่าทวีปเก้าอาณาจักรหลายเท่า

แต่สิ่งที่ตกใจคือ เสี่ ยวเอ้อ นั้นมีระดับอยูท่ ่ กําเนิดวิญญาณ

“โห ในภูมิภาคทะเลตะวันออก แม้แต่เสี่ ยวเอ้อ ก็ยงั อยูร่ ะดับกําเนิด


วิญญาณเลยหรื อ.” ในตอนนั้น ซูเหม่ยก็พดู ออกมาด้วยนํ้าเสี ยง
ประหลาดใจ.

นัน่ เป็ นเพราะก่อนหน้านี้ ระดับของเธอก็อยูแ่ ค่กาํ เนิดวิญญาณเช่นกัน


ถ้าไม่ได้ไข่มุกคิมหันต์ เข้ามาในตัวเธอ เธอก็ยงั อยูใ่ นระดับกําเนิด
วิญญาณ
ใน ภูมิภาคทะเลตะวันออก เสี่ ยวเอ้อที่ต่าํ ต้อยคอยรับหน้าที่เทชาให้คน
อื่นๆ ยังอยูใ่ นระดับกําเนิดวิญญาณ นัน่ ทําให้เธอตกใจอย่างมาก และ
รู ้สึกว่าช่างไม่ยตุ ิธรรมเสี ยจริ ง

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//
แปลโดยท่าน#ฮาย
บทที่ 552 – ความลับของ จาง เทียนยี

“ฮ่า ๆ ท่านแม่นางซูเหม่ยท่านจะต้องยอมรับมันให้ได้! ที่นี่น้ นั เป็ น


ทะเลภาคตะวันออกและข้านั้นยังเคยได้ยนิ เรื่ องที่เกี่ยวกับดินแดน
สงครามศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย สัตว์ยกั ษ์บางตัวที่มีสายเลือดนักสู ม้ าตั้งแต่
กําเนิดนั้นก็มีระดับพลังวิญญาณถึงแดนแก่นแท้เลยทีเดียว!” เมื่อเห็นว่า
ซูเหม่ย นั้นตกอยูใ่ นอาการตะลึง เจียง หวูฉ่ าง ก็ได้ส่งข้อความทางจิตไป
หานางเพื่อพูดใส่ ไฟในทันที

หลังจากที่ได้ยนิ ตําพูดเหล่านั้นใบหน้าของซูเหม่ยก็ยง่ิ ตกใจมากขึ้น


เพราะมันเป็ นครั้งแรกที่เธอนั้นได้รู้สึกว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า” เธอได้
เข้าใจอย่างแท้จริ งแล้วว่าเหตุใดทําใมในสายตาของผูเ้ ชียวชาญหลายคน
ถึงได้มองว่าทวีป 9 อาณาจักรนั้นเป็ นแผ่นดินเล็ก ๆ ที่อยูใ่ นซอกหลืบ
ของโลก

แต่อย่างไรก็ตามแม้วา่ ทะเลภาคตะวันออกนั้นจะมีประชากรที่มีระดับ
พลังวิญญาณที่ดีและกระจัดกระจายอยูท่ ุกหนทุกแห่งแต่ในความเป็ น
จริ งแล้วมันก็ไม่ได้ผเู ้ ชียวชาญที่กา้ วข้ามไปสู่ เขตแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณที่
มากมายนัก
อย่างน้อยภายในโรงเตี๊ยมสุ ดหรู หราแห่งนี้น้ นั ก็มีผเู ้ ชียวชาญถึงหลายพัน
คนและมีเพียงแค่ไม่ถึงร้อยคนเท่านั้นที่อยูใ่ นเขตแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณ
และส่ วนใหญ่น้ นั พวกเขาก็ยงั มีอายุขยั ที่มากแล้ว มีนอ้ ยมากที่จะอยูใ่ น
รุ่ นราวคราวเดียวกับชูเฟิ งและคนอื่น ๆ

นั้นก็คือเหตุผลว่าเหตุใดการณ์ปรากฏตัวของชูเฟิ งและคนอื่น ๆ ถึงได้


สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผคู ้ นในโรงเตี๊ยมได้เป็ นจํานวนมาก นั้นก็
เพราะว่าพวกเขาไม่ได้หวาดกลัวเพียงแค่ระดับพลังวิญญาณของพวกเขา
เท่านั้นแต่พวกเขายังหวาดกลัวไปถึงผูม้ ีขมุ พลังอํานาจที่อยูเ่ บื่องหลัง
และคอยให้การสนับสนุนในการเพิ่มระดับพลังวิญญาณของพวกเขา

(3B //:// ให้อารมณ์ประมาณว่ามึงเอาเงินมา ร.ร. เยอะขนาดพ่อมึง


ต้องรวยแน่ ๆ เลย ก็คล้าย ๆ กับมึงมีระดับพลังขนาดนี้ตระกูลมึงต้องมัง่
คลัง่ แน่ ๆ เลย)
แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ชวั่ ระยะเวลาสัน่ ๆ พวกเขาก็ต่างพากันถอน
หายใจเล็กน้อยเพราะว่าตั้งแต่ที่เขาได้เข้ามายังโรงเตี๊ยมแห่งนี้น้ นั มันก็มี
สภาพแวดล้อมที่ดูสบายตาเขายิง่ นักและบรรยากาศภายในโรงเตี๊ยมนั้นก็
แสนจะครึ กครื้ นฉะนั้นแล้วพวกเขานั้นจึงต้องการจองที่นงั่ ดีดีสกั ทีและ
ลิ้มลองอาหารสไตล์ของทะเลภาคตะวันออกดูสกั ครั้ง

“ศิษย์นอ้ งชุเฟิ งข้ามีเรื่ องสําคัญที่จะต้องคุยกับเจ้าเป็ นการส่ วนตัว


เสี ยหน่อยน่ะ.” แต่ในขณะที่พวกเขากําลังจะจองโต๊ะชูเฟิ งก็ได้รับ
ข้อความทางจิต เขาหันหลังกลับไปแล้วพบกับ จาง เทียนยี ที่กาํ ลังยิม้
เล็กน้อยมองมาทางเขา

“พวกเจ้าไปจองโต๊ะและสัง่ อาหารมารอกันก่อนได้เลย เดี้ยวข้าขอ


เวลาไปเข้าห้องนํ้าสักครู่ ” ชูเฟิ งนั้นได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ วและได้
แยกออกไปจากกลุ่มของเขา
“ศิษย์นอ้ งชูเฟิ งข้าก็จะไปด้วยเช่นกัน!” จาง เทียนยี นั้นได้เข้าใจ
ความหมายของชูเฟิ งแล้วรี บลุกตามออกไป

*** ฟูมมม ***

แต่ทว่าในขณะที่พวกเขาทั้งสองได้เดินออกไปได้ไม่ไกลนักก็ได้มีเสี ยง
ดังก้องราวกับเสี ยงของฟ้าร้องดังขึ้น

เมื่อมองไปยังทิศทางของต้นเสี ยงนั้นพวกเขาก็ได้เห็นราชรถที่ถูกราก
โดยเหล่าสัตว์ยกั ษ์ที่อยูใ่ นแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณมาจากทางทิศตะวันออก
พวกเขาได้เดินทางมาจากขอบฟ้าไกลและลงจอดลง ณ หน้าโรงเตี๊ยม
พร้อมกับเหล่าราชองครักษ์
หลังจากที่ราชรถได้หยุดนิ่งก็ได้มีเหล่าผูเ้ ชียวชาญลงมาจากราชรถของ
พวกเขา และพวกเขาทั้งหมดมีอยูด่ ว้ ยกันถึงสามสิ บแปดคนและพวกเขา
นั้นต่างก็เป็ นผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณ

แต่ทว่าสิ่ งที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ชูเฟิ งและคนอื่น ๆ ได้มาก


ที่สุดนั้นก็คือผูน้ าํ ของพวกเขานั้นเป็ นถึงผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์ระดับ 5
และที่สาํ คัญอายุของเขานั้นก็ยงั เป็ นรุ่ นราวคราวเดียวกันกับ จาง เทียนยี
อีกด้วยเขานั้นเป็ นเพียงแค่ชายหนุ่ม

และยังเห็นได้ชดั ว่าชายหนุ่มผูน้ ้ ีน้ นั เป็ นผูน้ าํ ของกลุ่มคนเหล่านี้


นอกจากนี้หลังจากที่ ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี นั้นยังได้ฟังการสนทนาของ
ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาของพวกเขามันก็ทาํ ให้ ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี รับรู ้วา่
พวกเขานั้นเป็ นใคร
พวกเขานั้นเป็ นเช่นเดียวกับ เจียง หวูช่ าง พวกเขานั้นเป็ นคนของ
ราชวงศ์ เซินถู่ มาจากทางทิศตะวันออกและยังเป็ นผูค้ มที่มี
ความสามารถพิเศษผูม้ ีพลังอํานาจสื บทอดมาทางสายเลือด

และชายหนุ่มผูซ้ ่ ึงเป็ นผูน้ าํ ของกลุ่มและเป็ นผูเ้ ชียวชาญระดับ 5 แดน


สวรรค์นามของเขานั้นคือ เซินถู่ หลาง เป็ นองค์ชายแห่งราชวงศ์ เซิ นถู่
และเขานั้นยังได้เตรี ยมความพร้อมที่จะเข้าสํานักสี่ คาบสมุทรเพื่อฝึ ก
ความสามารถในการบ่มเพาะระดับพลังวิญญาณของเขาอีกด้วย

เขานั้นก็เป็ นเช่นเดียวกับ ชูเฟิ ง และคนอื่น ๆ หลังจากที่ได้เดินทางมา


เป็ นระยะเวลานานและเห็นว่าที่นี่น้ นั มีโรงเตี๊ยมอยูจ่ ึงได้ตดั สิ นใจมา
พักผ่อนยังที่สถานที่พกั ขนาดเล็กแห่งนี้
“ว้าว ในปี นี้ชงั่ มีกลุ่มคนที่น่าประทับใจโพล่มาอย่างมากมายจริ ง ๆ
และดูเหมือนว่าพวกเขานั้นจะเป็ นคนของราชวงศ์ เซิ นถู่ จากทวีปทาง
ทิศตะวันออก!”

“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าไม่กี่วนั ที่ผา่ นมานี้กไ็ ด้มีองค์ชายทั้งสองจาก


ราชวงศ์ เซินถู่ มาจากทวีปตะวันออกเช่นกัน แถมระดับพลังวิญญาณ
ของพวกเขานั้นก็ยงั อยูท่ ี่ระดับ 4 แดนสวรรค์อีกด้วยทั้งที่อายุของพวก
เขานั้นยังน้อยอยูเ่ ลยแท้ ๆ ถ้าพวกเขาได้เข้าไปยังสํานักสี่ คาบสมุทรล่ะก็
ระดับพลังวิญญาณและความสามารถของพวกเขานั้นจะต้องพัฒนาไป
อย่างไม่มีจุดสิ้ นสุ ดเป็ นแน่”

“แต่ทว่าข้านั้นก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าคนของราชวงศ์ เซิ นถู่ นั้นจะ


ยังมีคนที่อยูใ่ นระดับ 5 ของแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณอยูอ่ ีก ในวันนี้ขา้ ว่า
ราชวงศ์ เซินถู่ จะต้องเป็ นขุมพลังอํานาจที่แข็งแกร่ งที่สุดในภาค
ตะวันออกอย่างแน่นอนเลยใช่มยั ?”

การปรากฏตัวของ เซินถู่ หลาง และคนอื่น ๆ นั้นได้ดึงความสนใจของ


คนไปเป็ นจํานวนมาก และบางกลุ่มของผูท้ ี่ได้สงั เกตการณ์โดยรอบนั้น
ก็ได้เริ่ มต้นอุทานกันออกมาเบา ๆ

ในทวีปตะวันออกที่พวกเขาได้กล่าวถึงมานั้นความเป็ นจริ งแล้วมันคือ


สถานที่ที่ชูเฟิ งและคนอื่นๆได้จากมา ในสถานที่ที่หลายทวีปได้เชื่อมต่อ
กัน แต่กไ็ ด้มีอีกหลายทวีปเช่นกันที่ถูกแยกออกด้วย “แม่น้ าํ สายใหญ่”
ฉะนั้นแล้วในมุมมองของผูค้ นจากทะเลภาคตะวันออกจึงได้มองว่าใน
สถานที่ที่ชูเฟิ งและคนอื่น ๆ ได้จากมานั้นคือทวีปตะวันออก

“ไอ้พวกเศษเดนพวกเจ้ากําลังมองหาอะไร? ห่ะ! หากพวกเจ้า


กล้าที่จะรบกวนองค์ชายของพวกข้าแม้แต่นิดเดียวล่ะก็พวกข้าจะฆ่า
พวกเจ้าให้หมดทุกคน!” แต่เพียงยังไม่ทนั ไรผูค้ นของราชวงศ์ เซิ นถู่
นั้นไม่ได้สนใจคําพูดซุบซิบและคําสรรเสริ ญของฝูงชนเลยแม้แต่นอ้ ย
เขากลับสบถออกไปอย่างเสี ยงดัง ทัศนคติของเขานั้นเป็ นสิ่ งที่ต่าํ ช้ามาก

“พวกมันกําลังมองหาที่ตายอย่างแท้จริ ง” เพียงแต่ในขณะที่ชูเฟิ ง
ได้เห็นฉากและได้ยนิ คําพูดนั้นชูเฟิ งอดไม่ได้ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงสี ผวิ
ของเขาและกําฝ่ ามือของเขาเล็กน้อย

แม้วา่ ผูค้ นของราชวงศ์ เซินถู่ นั้นจะชี้ไปที่ฝงู ชนและสบถคําสาปแช่ง


ออกมาแต่ถึงอย่างนั้นความเป็ นจริ งมันก็ได้เหมารวมมาถึง จาง เทียนยี
และพวกของเขาด้วยเช่นกัน

*** หมับ *** เพียงแต่ก่อนที่ชุเฟิ งจะเดินออกไปแขนของเขานั้นก็ได้


ถูกรั้งเอาไว้แล้วดึงกลับมา เมื่อเขาหันกลับไปมองก็พบว่า จาง เทียนยี
นั้นเป็ นคนดึงแขนของเขาเอาไว้ จาง เทียนยี นั้นสัน่ หัวของเขาเล็กน้อย
และพูดกับชูเฟิ งเบา ๆ ว่า “ศิษย์นอ้ งชูเฟิ งพวกเรานั้นพึ่งมายังที่นี่เป็ นครั้ง
แรกอย่าพึ่งคิดที่จะสร้างปัญหาในตอนนี้เลยดีกว่า ถ้าให้เลือกการสร้าง
ศัตรู ที่มากกับการสร้างศัตรู ให้นอ้ ยลงทําใมเราไม่เลือกน้อยล่ะ ทางทีดี
เราควรปล่อยมันไปก่อน หลังพายุฝนย่อมมีทอ้ งฟ้าที่แจ่มใสเสมอ”

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นชุเฟิ งก็เป็ นอันสงบลง เขานั้นไม่ได้กลัวแต่เพียงแค่เขา


นั้นต้องการให้ใบหน้าแก่ จาง เทียนยี

หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับผูค้ นของราชวงศ์ เซิ นถู่ อีกและ


เดินออกจากโรงเตี๊ยมไปยังสถานที่ที่ห่างไกล

“ศิษย์พี่จางท่านมีเรื่ องสําคัญอันใดอย่างนั้นรึ โปรดอย่าได้เกรงใจ


ท่านสามารถพูดมันออกมาได้ท้ งั หมด” ชูเฟิ งนั้นกล่าวออกมาด้วย
รอยยิม้

“อืมถ้าเช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจล่ะ การที่ขา้ ได้เรี ยกเจ้ามายัง


สถานที่ที่ห่างไกลเช่นนี้น้ นั แน่นอนว่าข้านั้นมีเรื่ องสําคัญที่จะต้องให้เจ้า
คอยช่วย” จาง เทียนยี กล่าว

“มันคืออะไรอย่างนั้นรึ ? ขอเพียงแค่ท่านพูดมาเท่านั้น” ชูเฟิ ง


กล่าวอย่างยิม้ แย้ม

“ที่จริ งมันก็ไม่ได้มีอะไรที่มากนัก เพียงแต่ศิษย์นอ้ งชูเฟิ งเจ้าไม่ได้


วางแผนที่เจ้าเข้ากับสํานักสี่ คาบสมุทรไปกับพวกเราแล้ววางแผนที่จะ
เดินทางรอบทะเลตะวันออกอย่างนั้นใช่หรื อไม่?” จาง เทียนยี กล่าว
“อืมใช่แล้วมันเป็ นเช่นนั้น ข้ามีบางสิ่ งบางอย่างที่จะต้องทําน่ะแล้ว
สิ่ งเหล่านั้นมันก็ได้ดลบันดาลให้ขา้ นั้นต้องเดินทางไปทัว่ ทะเลภาค
ตะวันออก” ชูเฟิ งพยักหน้าแล้วกล่าวออกไปโดยที่ไม่ได้ปฏิเสธใด ๆ

“นั้นนับว่าดี! ศิษย์นอ้ งชูเฟิ งข้าต้องการให้เจ้านั้นได้ดูส่ิ งนี้ และ ถ้า


หากเจ้าได้เห็นสัญลักษณ์ของสิ่ งนี้อยูใ่ นที่แห่งหนใดโปรดนํามันมาบอก
แก่ขา้ ” ในขณะที่ จาง เทียนยี พูดกล่าวนั้นเขาก็ได้เอาจี้หยกออกมาจาก
กระเป๋ าและส่ งมันให้แก่ชูเฟิ ง

“นี่คือ?!” เมื่อรับจี้หยกมาแล้วนั้นชูเฟิ งก็ได้ทาํ การตรวจสอบมัน


และก็อดไม่ได้ที่จะต้องประหลาดใจ

เพราะว่าจี้หยกชิ้นนี้น้ นั เป็ นวัสดุสีดาํ มันได้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยลักษณะที่


พิเศษและแม้วา่ จะใช้ความแข็งแรงของชูเฟิ งทั้งหมดในตอนนี้น้ นั ก็
เป็ นไปไม่ได้ที่จะทําลายจี้หยกชิ้นนี้ มันเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจี้หยก
ชิ้นนี้น้ นั ไม่ได้เป็ นจี้หยกธรรมดาสามัญ

นอกจากนี้บนตัวของจี้หยกนั้นก็ได้มีการสลักเป็ นรู ปแบบของดาบด้วย


ความงดงามเป็ นพิเศษ

และขนาดของตัวดาบนั้นก็ยงั เป็ นดาบที่มีขนาดยาวมากพร้อมกับมีการ


สลักเป็ นรู ปปี กคู่อยูด่ า้ นหลังของดาบอีกต่อหนึ่งราวกับว่ามันเป็ นการ
สลักรู ปของดาบติดปี ก ฉะนั้นแล้วถ้าหากมองมันในมุมมองแบบนี้มนั ก็
ดูราวกับว่าเหมือนเป็ นสัญลักษณ์พิเศษบางอย่างราวกับว่ามันมี
ความหมายบางอย่างได้แอบแฝงอยูใ่ นสัญลักษณ์น้ ี

“ศิษย์พี่จางท่านไปได้จ้ ีหยกชิ้นนี้มาจากที่ไหนอย่างนั้นรึ ?” ชูเฟิ ง


ถามเพราะเขานั้นอยากรู ้อยากเห็น สัญชาตญาณของเขานั้นได้บอกเอาไว้
ว่าที่มาของจี้หยกชิ้นนี้น้ นั มันจะต้องไม่ใช่ธรรมดา

“กล่าวกันตามตรงข้านั้นไม่ได้มีความทรงจําได้ตอนที่ได้มนั มา”
จาง เทียนยี กล่าวออกมาด้วยความอดอัดใจ

“เป็ นเช่นนั้น , หรื อว่าท่านสู ญเสี ยความทรงจํา?” เมื่อได้ยนิ


คําพูดเหล่านี้ชูเฟิ งก็ยง่ิ หลายเป็ นประหลาดใจมากยิง่ ขึ้น

#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ
B1 : จริ ง จาง เทียนยี ความจําเสื่ อมโอ้วม้ายยยยย

B4 : ชัง่ น่าสงสารยิง่ นัก…..

B1 : ผมไม่ได้ตอ้ งการความคิดเห็นจากคุณครับ

B4 : ผมก็ไม่ได้คุยกับคุณนี้ครับ

B3 : เป็ นใงล่า ไอ้ควาย B1 ชอบร้อนตัวดีนกั มันต้องเจอแบบนี้

B1 : ยุง่ ว่ะไร B3

B3 : เรื่ องของGUอีกอ่ะ

B4 : อ่าแต่จะว่าไปแล้วตั้งแต่บทที่ 549 มานี่กเ็ ข้าเล่ม 3 ไปแล้ว


ไม่ใช่หรื อ??

B2 : เออใช่จริ ง ๆ ด้วย เรามาพบกันกับผมนาย B2 กับสาระมีอยู่


จริ งไม่เหมือนกับไอ้งงั่ B3
B3 : เอามันเกี่ยวไรกับกูวะ่ ??

B2 : เอาล่ะเข้าเรื่ อง ตั้งแต่บทที่ 549 – 1004 ทั้งหมดจํานวน


455 บทเล่มนี้น้ นั จะเกี่ยวพันกับการไปช่วยเหลือจือหลิงเป็ นส่ วน
ใหญ่และก็มีการสื บเรื่ องราวของพ่อชูเฟิ งเล็กน้อยแต่จะมากน้อยแค่ไหน
นั้นคงต้องคอยติดตามกันต่อไปนะแจ๊ะ และก็แน่นอนว่าขอทานมีออก
บทอีกแน่นอนแต่ครั้งนี้พดู ได้คาํ เดียวว่าเป็ นศัตรู อย่างเต็มตัวแต่เรื่ องราว
หรื อความเป็ นมายังใงนั้นก็ตอ้ งติดตามกันดูอีกทีและในเล่มนี้เมียน้อย
ของบักเฟิ งก็จะโพล่มาอีก 2 คนด้วยกัน 55555 แต่ละคนนี่ประวัติ
เด็ด ๆ ทั้งนั้นและก็พอ่ ของชูเฟิ งนั้นจะโพล่มาในบทที่ 1003 นะ
คร๊ าบผมมมมมมมมมมมมม เอาเป็ นว่าเกิ่น ๆ กันแค่น้ ีพอเอะเดี้ยว ๆ
ในช่วงท้าย ๆ นั้นจะมีเหล่าอัจฉริ ยะจากอาณาจักรสงครามศักดิ์สิทธิ์มา
แจมด้วยนะเธอ 55555 งานนี้มนั !!!

B3 : แหม่เล่นเอาซะหมดเปลือกเลยนะมึง

B2 : olo ไรนี่แค่เกิ่น ๆ พอเกาะประหงประหารไรนี่แค่ข้ ี ๆ แหม่


เจอเด็กที่มาจากแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่คนเดียวแม้กห็ ง๋ อกันหมด
และ

B3 : ยังใงสัสยังจะสปอยอีกถ้ามึงจะทําเช่นนี้มึงไม่บอกไปเลยล่ะว่า
ตอนจบชูเฟิ งมีระดับพลังอยูเ่ ท่าไร

B2 : จะเอาเลยป่ ะหล่ะบอกเลยป่ ะหล่ะ!!!!!!!!!

B1,B4 : ใจเย็นไอ้สองงงง

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 553 – ความหยิง่ ผยองของ เซิ นถู่ หลาง

“ใช่ ข้านั้นได้สูญเสี ยความทรงจําของตัวเองไปตั้งแต่ก่อนที่ขา้ นั้น


จะอายุได้ถึง 6 ขวบ ข้าไม่สามารถรับรู ้เรื่ องราวอะไรได้เลยในช่วงเวลา
ก่อนหน้านั้น พอข้ารู ้สึกตัวข้าก็ได้มาอยูใ่ นอาณาจักรแห่งหนึ่งซึ่ งได้มารู ้
จักรในภายหลังว่านัน่ คืออาณาจักรมังกรฟ้า”

“ในตัวของข้านั้นแถบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากเสื้ อผ้าบนร่ างกาย


และก็ของสองสิ่ งนี้ อันแรกนั้นคือจี้หยก และอันที่สองก็คือนี่…”
ในขณะที่ จาง เทียนยีกาํ ลังกล่าวอยูน่ ้ นั เขาก็ได้นาํ ตําราเล่มหนึ่งออกมา
ซึ่งในหน้าปกของตํารานั้นก็ได้มีคาํ ตัวอักษรขนาดใหญ่เขียนเอาไว้อยู่
สามคําคือ : ทักษะ ลับ ต้องห้าม

“ศิษย์พี่จางนี่มนั …” ในทันทีที่ชูเฟิ งได้เห็นนั้นเข้าก็ได้ตกอยูใ่ น


อาการตกใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดเพราะดูเหมือนว่าเขานั้นจะได้เข้าใจอะไร
บางอย่าง

ว่าการที่ จาง เทียนยี สามารถบ่มเพาะพลังวิญญาณของตนได้ดว้ ยทักษะ


ลับต้องห้ามนั้นเขาจะต้องไม่ได้พบเจอมันมาโดยบังเอิญเป็ นแน่ แล้วที่
สําคัญที่สุดคือการที่เขาได้มีท้ งั จี้หยกและตําราทักษะลึกลับต้องห้ามนี้
นั้นมันก็เป็ นเครื่ องพิสูจน์ได้แล้วว่าต้นกําเนิดของ จาง เทียนยี นั้นมี
ความเป็ นไปได้วา่ จะต้องไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาอย่างแน่นอน

“ตัวข้าเองนั้นก็ไม่ทราบว่าเหตุใดถึงได้สูญเสี ยความทรงจําไป แต่


ที่ขา้ รู ้ได้อย่างแน่ชดั เลยก็คือว่าข้านั้นไม่ใช่คนของอาณาจักรมังกรฟ้า
และก็ไม่ใช่คนของทั้งทวีป 9 อาณาจักร บางทีมนั อาจมีแค่เครื่ องรางจี้
หยกชิ้นนี้เท่านั้นที่จะสามารถขัยความลับของชาติกาํ เนิดของข้าได้วา่ ข้า
นั้นมาจากที่ไหนและบางทีมนั ก็อาจที่จะสามารถเรี ยกความทรงจําก่อนที่
ข้านั้นจะอายุ 6 ขวบกลับมาได้”

“ฉะนั้นแล้วศิษย์นอ้ งชูเฟิ งเจ้าไม่จาํ เป็ นที่จะต้องค้นหาสิ่ งใดเป็ น


พิเศษเพื่อข้าปล่อยให้มนั เป็ นไปตามชะตาฟ้าลิขิตแต่ขา้ ขอเพียงแค่เจ้าให้
ความสําคัญแก่มนั แม้เพียงน้อยนิดก็เกินพอแล้ว เพราะถ้าพูดกันตามตรง
แล้วนั้นข้าเองก็ไม่สามารถรับรู ้ได้วา่ ชาติกาํ เนิดของข้านั้นมันจะอยูใ่ น
ทะเลภาคตะวันออกหรื อไม่” ใบหน้าของ จาง เทียนยี นั้นได้กล่าว
ออกมาพร้อมกับร้อยยิม้ แต่ทว่ารอยยิม้ นั้นกลับดูเศร้าหมองยิง่ นัก

พ่อและแม่ของเขานั้นได้จากเขาไปในตอนที่เขามีอายุได้เพียงแค่ 6
ขวบเท่านั้น ชูเฟิ งไม่สามารถที่จะจินตนาการออกได้เลยว่าเขานั้นจะต้อง
ผ่านความยากลําบากมามากแค่ไหนกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้

แม้วา่ ในวัยเด็กของเขานั้นชูเฟิ งจะอยูก่ บั คนในตระกูลชูซ่ ึ งสําหรับเขา


แล้วมันก็ไม่ได้ดีสกั เท่าไหร่ นกั แต่อย่างน้อยมันก็ยงั มีคนที่คอยดูแลเขา
แต่สาํ หรับ จาง เทียนยี นั้นเขาไม่ได้มีอะไรเลยเมื่อนํามาเทียบกับชูเฟิ ง
แล้วนั้นความเจ็บปวดและทรมานที่เขาได้อยูใ่ นตระกูลชูน้ นั นับว่าเล็ก
เท่าขี้มดไปเลย

และที่สาํ คัญที่สุดชูเฟิ งนั้นยังได้เบาะแสและรับรู ้เรื่ องราวที่เกี่ยวกับชาติ


กําเนิดของเขามาบางแล้วซึ่งเขาเองนั้นก็ได้ภูมิใจไปกับมัน ฉะนั้นแล้วชู
เฟิ งนั้นจึงให้ความรู ้สึกที่เห็นอกเห็นใจและสามารถเข้าใจความรู ้สึกของ
จาง เทียนยี ในตอนนี้น้ นั ได้เป็ นอย่างดี

“ศิษย์พี่จางท่านไม่จาํ เป็ นต้องกังวลอันใด แน่นอนว่าข้านั้นจะให้


ความสําคัญแก่มนั ”

“แต่โปรดเก็บเครื่ องรางจี้หยกนี้ไว้กบั ตัวท่านเถิดข้านั้นจํา


สัญลักษณ์มนั ได้อยูแ่ ล้ว.” ชูเฟิ งนั้นได้รับปากด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง
ในขณะที่เขากําลังพูดอยูน่ ้ นั เขาก็ได้คืนจี้หยกนี้ให้แก่ จาง เทียนยี เพราะ
เขารู ้วา่ จี้หยกอันนี้น้ นั มีความสําคัญต่อ จาง เทียนยี มาก

“ข้าต้องขอโทษด้วยที่นาํ ปั ญหามาให้เจ้าศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง”


หลังจากที่ได้เห็นว่า ชูเฟิ ง นั้นตอบรับปากเขาใบหน้าของ จาง เทียนยี
นั้นก็พลัดปรากฏรอยยิม้ ที่มีความสุ ขขึ้นมาในทันที

หลังจากนั้นชูเฟิ งและ จาง เทียนยี ก็ได้กลับไปที่โรงเตี๊ยม แต่ก่อนที่พวก


เขานั้นจะกลับไปถึงใบหน้าของพวกเขาก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป
ในทันที

มันเป็ นเพราะว่าพวกเขานั้นได้พบกับกลุ่มควันมากมายลอยขึ้นมาเหนือ
จากโรงเตี๊ยม เห็นได้ชดั ว่า ณ ที่แห่งนั้นจะต้องมีการต่อสู ก้ นั เกิดขึ้น
ภายในอย่างแน่นอน และที่สาํ คัญในตอนนี้ เจียง หวูช่ าง ซูรู่ และ ซูเหม่ย
ก็ยงั อยูภ่ ายในโรงเตี๊ยมมันจึงเป็ นเรื่ องธรรมดาที่ชูเฟิ งและ จาง เทียนยี
นั้นจะต้องเป็ นกังวล

ณ ภายในโรงเตี๊ยมสถานที่ที่ชูเฟิ งและคนอื่น ๆ ได้รับการจองเอาไว้น้ นั


ในตอนนี้ได้กลายเป็ นซากปรักหักพังไปเรี ยบร้อยแล้ว
และในใจกลางของซากปรักหักพังนั้นก็ได้มี ซูรู่ และ ซูเหม่ย ยืนอยู่
ใบหน้าของพวกเธอนั้นเต็มไปด้วยความรู ้สึกที่โกรธแค้น พวกเขาทั้ง
สองคนนั้นได้ยนื สนับสนุนอยูด่ า้ นหลังของชายที่ชื่อว่า เจียง หวูช่ าง

“ฮ่า ๆ ข้าไม่เป็ นไรนี่มนั ก็แค่รอยขีดข่วนเท่านั้น” ในตอนนี้บน


หน้าผากของ เจียง หวูช่ าง ได้มีตวั อักษรสี ทองแพรวพราวคําว่า
“ราชวงศ์” เขียนอยูม่ นั อาจจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาในตอนนี้น้ นั ได้
ใช้พลังอํานาจทางสายเลือดของเขา แต่ถึงจะเป็ นแบบนั้นบนร่ างกายของ
เขานั้นก็ได้เต็มไปด้วยรอยแผลจํานวนเล็ก ๆ นับไม่ถว้ นแม้แต่บนมุม
ปากของเขานั้นก็ยงั มีเลือดไหลออกมา

และก็มีกลุ่มของผูค้ นที่ยนื อยูใ่ นด้านหน้าของ เจียง หวูช่ าง นั้นก็คือกลุ่ม


คนของราชวงศ์ เซินถู่ พวกเขานั้นคือผูท้ ี่มอบรอยแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ
ให้แก่ เจียง หวูช่ าง จํานวนนับไม่ถว้ น

“เหอะ เจ้านี่ชงั่ หยิง่ ผยองยิง่ นักข้าก็นึกว่าเจ้านั้นจะมีความแข็งแรงที่น่า


ประทับใจมากกว่านี้เสี ยอีก แต่ในความเป็ นจริ งเจ้ามันก็เป็ นเพียงแค่ขยะ
ชั้นตํ่าเท่านั้น เจ้าแซ่เจียงใช่หรื อไม่?” ในขณะนั้นองค์ชาย เซิ นถู่ หลาง
ก็ได้กล่าวถามออกมาด้วยความชิงชัง

“ใช่แล้วข้าแซ่ เจียง เจ้ามีปัญหาอะไรหรื อไม่” เจียง หวูช่ าง ได้


เช็ดรอยเลือดบนมุมปากของเขาและกล่าวตอบออกไปโดยไม่อายฟ้าดิน

“มีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรื อ? เฮอะ” เซิ นถู่ หลาง หัวเราะเยาะ


และกล่าวออกไปว่า “ จดจําเอาไว้แซ่ของมันนั้นคือเจียงฉะนั้นแล้ว
ราชวงศ์ของมันนั้นก็ตอ้ งเป็ นราชวงศ์เจียง การที่ราชวงศ์ได้กาํ เนิดขยะ
ชั้นตํ่าเช่นมันนั้นดูเหมือนว่าจะไม่มีความจําเป็ นอันใดที่ราชวงศ์ของมัน
นั้นจะต้องดํารงอยูบ่ นโลกใบนี้อีก”

“เมื่อพวกเจ้ากลับไปยังราชวงศ์โปรดรายงานเรื่ องนี้ให้แก่บิดา
ของข้าและส่ งคนไปกําจัดราชวงศ์เจียงในทันที ทําให้ดูเหมือนว่าบน
โลกใบนี้น้ นั ไม่เคยมีราชวงศ์เจียงมาก่อนและที่สาํ คัญจงกําจัดสายเลือด
ราชวงศ์ของพวกมันซะอย่าให้พวกมันได้มีชาติตระกูลสื บทอดต่อไปได้
อีก”

“บัดซบนี่เจ้า !!” หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดเหล่านั้น เจียง หวูช่ าง ก็


ได้กดั ฟันของเขาด้วยความโกรธแค้นและในขณะที่พดู จบเขาก็ได้
พยายามที่จะกรโดดเข้าไปโจมตี เซิ นถู่ หลาง ในทันที

แต่ก่อนที่เขาจะได้เคลื่อนย้ายนั้นเขาก็ได้ถูกหยุดเอาไว้เสี ยก่อนโดย ซูรู่


เธอนั้นได้ส่งซิกเล็กน้อยด้วยการขมวดคิ้วของเธอเพื่อเป็ นการตื่นว่าให้
ใจเย็นลงก่อนและรอให้ชูเฟิ งและ จาง เทียนยี นั้นกลับมาก่อนเมื่อถึง
เวลานั้นแล้วค่อยจัดการ เซินถู่ หลาง ก็ยงั ถือว่าไม่สายจนเกินไป

เจียง หวูช่ าง นั้นเขาไม่ใช่คนที่โง่เขลาเขาในตอนนี้น้ นั รู ้ดีวา่ เขาไม่


สามารถที่จะเอาชนะ เซินทู๊ หลัง่ ได้หลังจากที่ได้แลกเปลี่ยนกระบวน
ท่ากับเขาก่อนหน้านี้ ถ้าหากว่าเขานั้นยังบ้าบิ่นและฝื นบุกฝ่ าเข้าไปเขา
นั้นจะต้องเจ็บตัวกลับมาเป็ นแน่แล้วยิง่ ไปกว่านั้นถ้าเขาได้ลาก ซูรู่ และ
ซูเหม่ย เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยมันจะทําให้ชูเฟิ นนั้นต้องเสี ยใจมากเป็ นแน่

ฉะนั้นแล้วเขาจึงทําได้แค่ตอ้ งดับเปลวไฟในใจของเขาให้สงบลงและ
ไม่ได้พดู อะไรไปมากกว่านี้

“ท่านเจ้าเหนือหัว , ท่านเจ้าเหนือหัวโปรดหยุดเถิดโปรดหยุด
เถิด! มันเป็ นความผิดของข้าน้อยเองมันเป็ นความผิดของข้าน้อย!” เพียง
แค่ในเวลานั้นก็ได้มีชายเฒ่าผูห้ นึ่งแต่งตัวดุดีวงิ่ ออกมาพร้อมกับกล่าวขอ
โทษด้วยรอยยิม้ บนใบหน้าของเขา

ระดับพลังวิญญาณของชายเฒ่าผูน้ ้ ีน้ นั นับว่าไม่ได้เป็ นบุคคลที่อ่อนแอ


เขานั้นได้อยูแ่ ล้วถึงระดับที่ 3 ของเขตแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณและเบื่อง
หลังของเขานั้นก็เต็มไปด้วยผูต้ ิดตาม , ระดับพลังวิญญาณของพวกเขา
นั้นก็ไม่ได้นบั ว่าอ่อนแอเมื่อมองไปยังเครื่ องแต่งกายของเขาก็สามารถ
รับรู ้ได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขานั้นเป็ นคนรับใช้ของโรงเตี๊ยมแห่งนี้และมี
ความเป็ นไปได้วา่ ชายเฒ่าผูม้ ีการแต่งตัวที่ดูดีผนู ้ ้ ีน้ นั จะเป็ นเจ้าของ
โรงเตี๊ยม

“เจ้าเป็ นใคร?” เซินถู่ หลาง ชายตามองไปที่เจ้าของโรงเตี๊ยม


ด้วยความเหยียดหยัน
“ท่านเจ้าเหนือหัวข้าน้อยนั้นคือเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้” เจ้าของ
โรงเตี๊ยมกล่าวด้วยรอยยิม้

“ไอ้เศษเดนเจ้าเป็ นเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้อย่างนั้นรึ ? เจ้ากล้าดี


ยังใงถึงได้มาปรากฏตัวในด้านหน้าขององค์ชายของข้า ?!” หลังจากที่
ได้รู้วา่ เจ้าของโรงเตี๊ยมนั้นเป็ นใครองครักษ์ของราชวงศ์ เซิ นถู่ ที่อยูใ่ น
ระดับที่ 4 แดนสวรรค์วญ
ิ ญาณก็ได้จบั คอเสื้ อของชายเฒ่าขึ้นมาพร้อม
กับคํารามออกมาด้วยความโกรธในทันที

“อย่าเสี ยมารยาท! โปรดใส่ ใจกับมารยาทเสี ยหน่อยสิ พวกเรานั้น


เป็ นคนที่มีฐานะสู งส่ งอย่างนั้นไม่ใช่หรื อใง” เซิ นถู่ หลาง กล่าวออกมา
พร้อมกับรอยยิม้ ที่แปลก

“ครับท่าน” ด้วยคําพูดที่ได้ออกมาจากปากของ เซิ นถู่ หลาง


นั้นมันเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเขานั้นได้รับการปกป้องเจ้าของ
โรงเตี๊ยม

“ขอบพระคุณท่านเจ้าเหนือ, หัวขอบพระคุณท่านเจ้าเหนือหัว,
ขอบพระคุณท่านเจ้าเหนือหัว” หลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวเจ้าของ
โรงเตี๊ยมนั้นก็ได้กราบคารวะต่อ เซิ นถู่ หลาง ในทันทีเพราะว่าความ
แข็งแรงของเขานั้นมันทําให้เขาหวาดกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด

แต่ทว่าสิ่ งที่เขาไม่ได้รู้เลยนั้นก็คือ เซิ นถู่ หลาง นั้นไม่ใช่บุคคลที่เรี ยบ


ง่ายบนใบหน้าของเขาได้ปรากฏรอยยิม้ ที่แปลกขึ้นมาพร้อมกับพูด
ออกมาว่า “ในเมื่อว่าเจ้ารู ้อยูแ่ ล้วว่าข้านั้นเป็ นใครเหตุใดในตอนที่ขา้ ได้
มาถึง เจ้าถึงกลับไม่ออกมาต้อนรับและเตรี ยมห้องพักที่ดีให้แก่ขา้ เจ้ารู ้
หรื อไม่วา่ เจ้านั้นควรที่จะได้รับการลงโทษเช่นไรกับการกระทําผิดของ
เจ้าในครั้งนี้?”
“อ…อะ…อะ…ข้าไม่ได้” เมื่อได้ยนิ คําพูดเหล่านั้นการ
แสดงออกของเจ้าของโรงเตี๊ยมก็กลายเป็ นแข็งค้างไปในทันทีและเขา
เริ่ มที่จะถอยหลังไปที่ละก้าวที่ละก้าว

“โทษของเจ้าคือ…ความตาย!” ทันทีใบหน้าของ เซิ นถู่ หลาง


นั้นก็กลายเป็ นเลือดเย็นเขาได้ฝาดฝ่ ามือของเขาลงไปอย่างรุ นแรงที่
ใบหน้าของชายเฒ่าผูเ้ ป็ นเจ้าของโรงเตี๊ยมในทันที

พลังงานสวรรค์ที่รุนแรงนั้นได้ฉีกผ่านร่ างกายของเขาและ *** โครม


*** เจ้าของโรงเตี๊ยมนั้นกลายเป็ นหมอกเลือดและสลายหายไปใน
อากาศในทันที

“อ้า! ฆ่าแล้ว! ฆ่าแล้ว! แท้จริ งคนจากราชวงศ์ เซิ นถู่ ได้ฆ่าคน


ของทะเลภาคตะวันออก!”

เมื่อเห็นว่าเจ้าของโรงเตี๊ยมของพวกเขานั้นได้ถูกฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตา
มันก็ได้ปรากฏเหงื่อเย็นขึ้นมาบนใบหน้าของพวกเขาและในตอนนี้พวก
เขานั้นก็ได้กรี ดร้องกันออกมาด้วยนํ้าเสี ยงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พวกเขานั้นได้รีบวิง่ กระจัดกระจายกันออกไป

“พวกเจ้ากําลังคิดว่าจะไปไหนหื้ ม? พวกเจ้าทุกคนจงตายตาม
เจ้านายของพวกเจ้าไปซะ” แต่เพียงในขณะนั้น เซิ นถู่ หลาง ก็ได้กล่าว
ออกมาอย่างเย็นชาและเหวีย่ งแขนของเขาที่เต็มไปด้วยพลังอํานาจ
สวรรค์ที่ไม่มีที่สิ้นสุ ดกวาดหลายสิ บผูเ้ ชียวชาญเขตแดนแก่นแท้
วิญญาณลงกลายเป็ นกองเลือดไปในทันที

#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : น้องเจ็บพี่ยงั พอทน แต่ถา้ เมียพี่สุดจะทน กูจะฆ่ามึงล้างตระกูล ชู


เฟิ งไม่ได้กล่าวไว้ 55555

B2 : สงสารบักหลางแท้ ตอนหน้าชะตากรรมของเขาจะเป็ นเช่นไร


กัน

B4 : เหอะสงสัยข้าคงต้องเตรี ยมบทสวดแพร่ เมตรตาอีกแล้วซินะ

B3 : ใจเย็นไอ้สี่คนที่ยงิ่ ผยองแบบมันเนี่ยไม่มีคาํ ว่าตายง่าย ๆ หรอก

B4 : ก็น้ นั แหละคือเหตุผลที่ขา้ นั้นต้องเตรี ยมบทสวด

B1 : จะบทไหนก็เรื่ องของมึงเถอะ ไอ้สี่ ว่าแต่ B2 นายว่าตระกูล


จางนี่จะโหดไหม
B2 : ไม่รู้ดีคงต้องติดตามดูอ่ะแต่เขาก็เกิ่น ๆ มาให้แล้วนะว่าอาจ
ไม่ได้อยูท่ ี่แดนทะเลภาคตะวันออกงั้นก็แสดงว่ามีสองตัวเลือกคืออาจ
เป็ นไปได้วา่ ตระกูลจางนั้นอาจอยูใ่ นทะเลภาคตะวันออกหรื อไม่กอ็ าจ
อยูใ่ นดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์

B3 : อูห้ ู!้ !!!! ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์!!!!!

B1,B2 : หุบปากไป!!!

B3 : ทําใมพวกมึงโหดร้ายกันจังว่ะ ???

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 554 – รับมือกับยุทธ์ภณั ฑ์ช้ นั ยอดด้วยมือเปล่า

“ไปฆ่าพวกมันให้หมด อย่าปล่อยให้ใครมีชีวติ รอดออกไปได้”


ในทันที เซินถู่ หลาง ก็ได้ออกคําสัง่ ไปยังเหล่าองครักษ์ของเขาหลังจาก
ที่เขานั้นได้ฆ่าเหล่ากลุ่มของผูเ้ ชียวชาญไปแล้ว

“ครับองค์ชาย!” เมื่อได้ยนิ คําพูดของ เซิ นถู่ หลาง เหล่าองครักษ์ก็


ได้ปรับตัวลอยสู งขึ้นไปบนอากาศและฆ่าเหล่าบรรดาฝูงชนทุกคนที่
พวกเขาได้พบเห็นอย่างโหดร้ายและไม่ได้มีความลังเลใด ๆ

ในทันทีโรงเตี๊ยมสุ ดหรู หราในตอนนี้น้ นั ก็ได้กลับกลายเป็ นเขตของ


สงครามและการสังหารหมู่ไปเสี ยแล้ว เปลวไฟได้ลุกโชนขึ้นไปเต็ม
ท้องฟ้าพร้อมกับเสี ยงของการระเบิดอยูท่ ุกหนทุกแห่งสถานที่แห่งนี้น้ นั
ได้เต็มไปด้วยเสี ยงกรี ดร้องที่แสนจะเจ็บปวดของผูค้ น
“เจ้าป่ าเถื่อนเจ้าฆ่าผูบ้ ริ สุทธิ์! นี่เจ้ายังเรี ยกตัวเองว่าเป็ นคนได้อยู่
อีกหรื อไม่?” เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่อยูต่ รงหน้านั้น ซูเหม่ย ก็ไม่อาจ
อดทนได้อีกต่อไปเธอชี้ไปที่ เซิ นถู่ หลาง และด่าถ่อเขา

“ยังเป็ นมนุษย์อยูไ่ หมน่ะหรื อ? แน่นอนว่าข้านั้นไม่ใช่มนุษย์


ถ้าจะพูดให้ถูกข้าก็คือเทพเจ้ายังใงล่ะ”

“เจ้าคนพวกนี้น้ นั มันใช้พ้นื ที่มากเกินไป และที่สาํ คัญพวกมัน


ไม่ได้จองห้องพักพิเศษและหรู หราให้แก่ขา้ ทั้ง ๆ ที่ขา้ นั้นได้มาถึงยัง
สถานที่แห่งนี้แล้ว พวกมันล่าช้าเกินไปและยังคิดที่จะมาขัดขวาง
แผนการและความตั้งใจของข้าอีกฉะนั้นแล้วโทษของพวกมันนั้นคือ
ความตายนั้นถือว่าเป็ นสิ่ งที่พิเศษที่สุดสําหรับชีวติ ของพวกมันแล้ว”
เซินถู่ หลาง กล่าวออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
“นี่เจ้า! เจ้ามันเป็ นเพียงแค่สตั ว์ช้ นั ตํ่า!” ซูเหม่ยนั้นได้ด่าถ่อและส
ถบคําสาปแช่งออกไปอย่างเสี ยงดัง

“สัตว์ช้ นั ตํ่า? อ่าได้ได้ เจ้ากล้าบอกว่าข้านั้นเป็ นสัตว์ช้ นั ตํ่าใช่


หรื อไม่? ถ้าเช่นนั้นแล้วเดี้ยวข้าจะทําให้เจ้าได้รับรู ้วา่ ข้านั้นเป็ นสัตว์ช้ นั
ตํ่าจริ งไหม!”

“พวกเจ้า! จงไปฉีกกระฉากเสื้ อผ้าของนังผูห้ ญิงสองคนนี้ซะ ข้า


ต้องการที่จะได้เห็นเรื อนรางของพวกมันทั้งสองคนในตอนนี้” เซิ นถู่
หลาง กล่าวออกมาอย่างเย็นชาพร้อมกับกวาดสายตาของเขาออกไปยัง
เรื อนรางของทั้ง ซูรู่ และ ซูเหม่ย ด้วยความภาคภูมิใจ
“ครับองค์ชาย” เมื่อได้ยนิ คําพูดเช่นนั้นสององครักษ์ที่ยนื อยูข่ า้ ง
หลังของ เซินถู่ หลาง ก็ได้บินต่อไปยัง ซูรู่ และ ซูเหมย ทันที ระดับพลัง
วิญญาณของเขานั้นไม่ได้นบั ว่าอ่อนแอเลยแม้แต่นิดพวกเขาทั้งสองนั้น
ได้อยูใ่ นระดับที่ 4 ของแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณ

“พวกเจ้ากําลังมองหาที่ตายโดยแท้!” แต่เมื่อมองไปยังการ
กระทําของพวกเขาทั้งสองคนนั้นตาของ เจียง หวูช่ าง ก็ได้กลายเป็ น
เกรี้ ยวกราดขึ้นมาในทันทีภายในใจของเขานั้นได้ถูกเติมเต็มไปด้วย
เชื้อเพลิงแห่งความโกรธแค้นเขารี ดเร้นอํานาจสวรรค์ภายในร่ างกายของ
เขาเช่นเดียวกับพลังอํานาจทางสายเลือดขึ้นมาเพื่อที่จะทําการสัง่ สอน
เหล่าองครักษ์ท้ งั สองคนนี้

แม้วา่ พลังอํานาจในการต่อสู ข้ องเขานั้นจะไม่สามารถนําไปเปรี ยบเทียบ


กับ เซินถู่ หลาง ได้แต่สาํ หรับองครักษ์ท้ งั สองคนนี้น้ นั นับว่าไม่ใช่
ปัญหาใหญ่อนั ใดสําหรับเขา

*** ตุ่ม ***

อย่างไรก็ตามก่อนที่ เจียง หวูช่ าง นั้นจะได้มีโอกาศในการโจมตีกไ็ ด้มี


กลุ่มก้อนพลังงานอํานาจสวรรค์ขนาดใหญ่ไร้ขีดจํากัดพุง่ ตรงลงมาจาก
ท้องฟ้าและและสร้างหลุมลึกห่างไกลจาก เจียง หวูช่ าง ออกไปนับสิ บ
เมตรและเมื่อเขาได้สงั่ เกตุสายตาของเขาดี ๆ นั้นก็จะเห็นได้อย่างชัดเจน
ว่าเหล่าสององครักษ์น้ นั ได้เละกลายเป็ นเนื้อบดไปที่เรี ยบร้อยแล้ว

ในเวลาเดียวกันก็ได้มีเสี ยงที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าราวกับว่ามันได้ส่งมา
จากชั้นฟ้าสวรรค์ ไม่นานนักก็ได้มีรูปร่ างของคนสองคนร่ อนลงมายัง
เบื่องหน้าของ เจียง หวูช่ าง ซูรู่ และซูเหม่ย และทั้งสองคนนั้นก็ไม่ใช่
ใครอื่นนอกจาก ชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี แล้วการโจมตีที่แสนจะรุ นแรง
เมื่อสักครู่ น้ ีน้ นั มันย่อมเป็ นที่แน่นอนว่านั้นคือการโจมตีของชูเฟิ ง

"ไอ้สารเลวบัดซบเจ้าจริ งกล้าที่จะโจมตีคนของข้าอย่างนั้นรึ เจ้า


กําลังมองหาที่ตายอย่างแท้จริ ง! พวกเจ้าทั้งหมดจงนําพาพวกมันไปสู่
ความตายซะ!” เมื่อเห็นว่าทั้งสององครักษ์น้ นั ถูกฆ่าตาย เซิ นถู่ หลาง ก็
ได้กลายเป็ นโกรธเกรี้ ยวขึ้นมาในทันทีและคํารามออกไปราวกับเป็ น
เสี ยงของฟ้าร้อง

เมื่อได้ยนิ คําพูดเหล่านั้นความโกรธของเหล่าองครักษ์กไ็ ด้ปะทุข้ ึน


ในทันทีและเริ่ มการสังหารหมู่อีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดนั้นได้บินไปยังชู
เฟิ งในคราวเดียวเพือ่ หวังที่ฆ่าเขา

“พวกเจ้าจริ งต้องการที่จะฆ่าข้า? เหอะมาดูกนั ว่าพวกเจ้าจะมี


ปัญญามากพอไม๊”
แต่ทว่าชูเฟิ งนั้นกลับไม่ได้แสดงความกลัวออกมาเลยแม้แต่นอ้ ยเมื่อต้อง
เผชิญหน้ากับเหล่าผูเ้ ชียวชาญที่แข็งแกร่ งนับหลายสิ บคนบินตรงมายัง
เขาผูเ้ ชียวชาญที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มของพวกเขานั้นจะอยูท่ ี่ระดับ 2
ิ ญาณและส่ วนมากพวกนั้นจะอยูใ่ นระดับที่ 4 ของ
ของแดนสวรรค์วญ
แดนสวรรค์วญ
ิ ญาณ

*** อ่า ***

เพียงแค่ในเวลานั้นเขาก็ได้เหวีย่ งฝ่ ามือของเขาออกไปพร้อมกับพลัง


อํานาจสวรรค์ที่ยงิ่ ใหญ่กลืนกินไปทัว่ ท้องฟ้าราวกับว่ามันเป็ นสัตว์ดุร้าย
ที่กาํ ลังกระหายเลือดและต้องการที่จะกลืนกินพวกเขาทุกคน
"อ้า ~~~~~~"

"องค์ชายโปรดช่วยข้า…อ้า ~~~~~~"

แต่ทว่าในทันทีได้มีเสี ยงร้องอันทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวดดัง
ออกมาและเสี ยงกรี ดร้องของพวกเขานั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นพวกเขานั้นคือ
เหล่าองครักษ์ของราชวงศ์ เซินถู่ ที่กาํ ลังประสบความทุกข์ทรมานที่
แสนสาหัส

แท้จริ งพวกเขานั้นไม่ได้ถูกชูเฟิ งฆ่าในทันที แต่พวกเขานั้นกลับถูก


ทรมานแทนด้วยอํานาจสวรรค์ของชูเฟิ ง นิ้วของพวกเขาที่นิ้วนั้นได้เริ่ ม
ถูกหักไปเลย ๆ ผิวหนังของพวกเขาก็ได้เริ่ มค่อย ๆ ฉี กขาดแม้แต่กระดูก
และเส้นประสาทของพวกเขาก็เริ่ มได้รับความเสี ยหายแล้วด้วยเช่นกัน
ความเจ็บปวดของพวกเขานั้นมันไม่อาจที่จะสามารถจินตนาการได้เลย
อาจพุดได้วา่ ขอตายเสี ยดีกว่าที่จะต้องมารับรู ้ความทรมานและความ
เจ็บปวดเช่นนี้

“หนอยแน่!!!ไอ้บดั ซบ!!! แกกําลังมองหาที่ตายอย่างแท้จริ ง!”

เมื่อเห็นว่าเหล่าองครักษ์ของตัวเองนั้นกําลังถูกทําร้ายและเย้ยหยันอยู่
ตรงหน้าของเขานั้นเจตนาฆ่าที่ไม่มีที่สิ้นสุ ดของ เซิ นถู่ หลาง ก็ได้ระเบิด
ออกมาในทันทีเขาได้คาํ รามคําว่า “ราชวงศ์” ออกมาอย่างเสี ยงดังเพียง
แค่พริ บตาก็พลัดปรากฏตัวอังษรขึ้นบนหน้าผากของเขา

ในทันทีกลิ่นอายระดับที่ 5 แดนสวรรค์วญ
ิ ญาณของเขานั้นเป็ นจริ งดี
มากยิง่ ขึ้นหลายเท่านัก พลังอํานาจในการต่อสู ข้ องเขานั้นแน่นอนว่าไม่
อาจที่จะดูถูกได้เลยที่เดียวและความแข็งแกร่ งของเขานั้นเป็ นดีกว่าเหล่า
องครักษ์นบั หลายเท่าตัวนัก

“เฮอะ” แต่อย่างไรก็ตามชูเฟิ งในขณะนี้น้ นั ไม่จาํ เป็ นต้องพูดถึงระดับ 5


แดนสวรรค์เลยเพราะต่อให้เป็ นระดับที่ 6 หรื อแม้กระทัง่ ระดับที่ 7 ก็
ยังไม่สามารถสร้างความหวาดกลัวใด ๆ ให้แก่เขาได้

พลังสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์น้ นั ได้พงุ่ พล่านขึ้นมาในดวงตาของเขาและกลิ่น


อายของเขานั้นก็ได้เพิม่ ขึ้นอย่างรวดเร็ ว เพียงแค่พริ บตาจากระดับที่ 3
ของแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณก็ได้ทะยานขึ้นไปยังระดับ 6 แดนสวรรค์
ในทันที

หลังจากที่ระดับพลังวิญญาณของเขานั้นได้ทะยานเพิ่มสู งขึ้นมาเสี ยง
ระเบิดทั้งหลายก็ได้ดงั่ ก้องขึ้นบนน่านฟ้า แล้วเสี ยงระเบิดเหล่านั้นก็มา
จากเหล่าองครักษ์ของราชวงศ์ เซิ นถู่ นั้นเอง ร่ างกายของพวกเขานั้นได้
ระเบิดออกจากกลายเป็ นกองเลือดล่วงหล่นลงมายังร่ างกายของ เซิ นถู่
หลาง

“นี่…” ในทันทีไม่เพียงแค่แค่ เซิ นถู่ หลาง เท่านั้นที่ตกตะลึง


เพราะแม้แต่ จาง เทียนยี เจียง หวูช่ าง ซูรู่ และ ซูเหม่ย นั้นก็ยงั พลอยตก
ตะลึงไปด้วยเช่นกัน

พวกเขานั้นรับรู ้วา่ ชูเฟิ งนั้นแข็งแกร่ ง แต่พวกเขานั้นก็ไม่ได้คาดคิดว่าชุ


เฟิ งนั้นจะแข็งแกร่ งถึงเพียงนี้ เพียงแค่ระดับพลังวิญญาณของเขา
ในตอนนี้น้ นั ก็ได้มาถึงในระดับที่ 6 แดนสวรรค์วญ
ิ ญาณแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อมองไปยังพลังอํานาจในการต่อสู ท้ ี่น่ากลัวของชู


เฟิ งและระดับพลังวิญญาณของเขาในตอนนี้แล้วนั้นพวกเขาไม่อาจที่จะ
สามารถจินตนาการถึงความแข็งแกร่ งของชุเฟิ งได้เลยว่าเขานั้นจะ
แข็งแกร่ งไปได้ถึงเพียงไหน บางที่ผเู ้ ชียวชาญระดับ 8 แดนสวรรค์
วิญญาณก็อาจไม่ใช่คู่มือของเขา

“เจ้าเจ้าเจ้าเจ้า…ข้าจะฆ่าเจ้าพร้อมกับหัน่ ร่ างของเจ้าเป็ นหมื่นๆ


ชิ้น!”

เมื่อ เซินถู่ หลาง ได้เผชิญหน้ากับชูเฟิ งในตอนนี้แล้วนั้นเขาก็ได้กล่าว


ออกมาด้วยความหมัน่ ใจที่เหลือล้นและพุง่ ตรงไปยังชูเฟิ งด้วยความ
โกรธแค้นเขานั้นไม่ได้สนใจกลิ่นอายที่เป็ นอันตรายของชูเฟิ งเลยแม้แต่
น้อย เขาในตอนนี้น้ นั ไม่ได้คาํ นึงถึงใด ๆ ทั้งสิ้ นแล้วเริ่ มโจมตีชูเฟิ งอย่าง
ไม่ลืมหูลืมตา

"ย้า!"
เขาแผดเสี ยงให้ความโกรธเกรี้ ยวออกมาพร้อมกระประกายแสงที่สว่าง
จ้าขึ้นบนสองฝ่ ามือของเขา พลันปรากฏสองยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดใบมีด
และคมดาบสองยุทธภัณฑ์น้ ีน้ นั ได้รอยเคว้งอยูบ่ นอากาศ

“ไป.” เพียงแต่ในช่วงเวลานั้นเขาได้ช้ ีไปที่ทางชูเฟิ งอย่างรวดเร็ ว


เขาได้สงั่ ทั้งสองยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดของเขานั้นให้พงุ่ ตรงไปยังชูเฟิ งและ
โจมตีใส่ เขาในทันที

เมื่อเห็นเช่นนั้นในทันที ซูรู่ ซูเหม่ย เจียง หวูช่ าง หรื อแม้กระทัง่ จาง


เทียนยี นั้นก็ยงั สามารถรับรู ้ได้ถึงแรงกดดันและยังต้องยอมรับอีกว่า
เซินถู่ หลาง นั้นเป็ นบุคคลที่มีความแข็งแกร่ งเป็ นอย่างมาก
ไม่เพียงแต่ระดับพลังวิญญาณของเขาเท่านั้นที่อยูใ่ นระดับที่ค่อนข้างดี
แต่พลังอํานาจในการต่อสู ข้ องเขานั้นก็นบั ได้วา่ มีประสิ ทธิภาพเป็ นอย่าง
มากมันเห็นกันได้อย่างชัดเจนว่าเขานั้นจริ งสามารถที่จะทําความเข้าใจ
ยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดทั้งสองและใช้มนั ได้ในเวลาเดียวกัน

หากว่าผูท้ ี่ต่อสู ก้ บั เขาหนึ่งต่อหนึ่งอยูต่ อนนี้เป็ น จาง เทียนยี ล่ะก็


แน่นอนว่า จาง เทียนยี นั้นจะต้องเป็ นผูพ้ า่ ยแพ้อย่างแน่นอน

แต่ทว่ามันก็ชงั่ น่าเสี ยดายยิง่ นักที่คู่ต่อสู ข้ อง เซิ นถู่ หลาง ในตอนนี้น้ นั


ห่าใช่ จาง เทียนยี ไม่แต่มนั คือชูเฟิ ง

“เหอะนับว่าเป็ นช่วงเวลาที่ดี”
*** หวืบ *** เมื่อหันหน้าไปยังยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดทั้งสองนั้นชูเฟิ งก็ยงั
ไม่ได้ลดลงมาจากท้องฟ้าและยังไม่ได้เคล้าโครงที่วา่ จะหลับหนีหรื อล่า
ถอยอีกด้วยและเขานั้นกลับยิง่ ปรับตัวรอยสู งขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง

เมื่อชุเฟิ งได้มายนอยูบ่ นอากาศในจุดที่เขาต้องการแล้วนั้นเขาก็ได้หยุด


การเคลื่อนไหวแล้วกางแขนทั้งสองข้างของเขานั้นออกมาอย่างซื่ อตรง
เขานั้นคิดที่จะคว้าทั้งสองยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดอันสุ ดแข็งแกร่ งด้วยฝ่ ามือ
ของเขา

“ชูเฟิ ง!” เมื่อเห็นเช่นนั้น ซูรู่ และ ซูเหม่ย นั้นก็ยง่ิ เป็ นกังวลและไม่


อาจที่จะทนมองได้พวกเขานั้นได้ปรากฏเหงื่อเย็นขึ้นมาบนใบหน้าของ
พวกเขาเมื่อมองไปยังชูเฟิ ง พลังจากที่พวกเขานั้นสามารถรับรู ้ได้ถึงแรง
กดดันที่มาจากยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอด
แต่ทว่าในขณะนั้นมีเพียงแค่ จาง เทียนยี เท่านั้นที่ดูสงบนิ่งกว่าคนอื่น ๆ
เพราะว่าเขานั้นแท้จริ งได้เคยต่อสู ก้ บั ชุเฟิ งมาก่อนและก็ได้รับรู ้ถึง
ขอบเขตและพลังของเขานั้นแท้จริ งมีความแข็งแกร่ งมากแค่ไหน

“นี่เจ้าคิดที่จะรับยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดด้วยมือเปล่าอย่างงั้นรึ ? ฮ่า ๆ


เจ้ากําลังมองหาที่ตายโดยแท้!” เมื่อเห็นการกระทําของชูเฟิ ง เซิ นถู่
หลาง ก็ยง่ิ กล่าวคําพูดที่เย็นชาออกมาและเต็มไปด้วยรอยยิม้ แห่งความ
เย้ยหยันปรากฏอยูบ่ นใบหน้าของเขา และในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ทุ่มเท
พลังทั้งหมดอัดลงไปในสองยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดของเขาเพื่อที่เขานั้นจะได้
ฆ่าชูเฟิ งด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

*** บุฟูว ~~~~~~ ***


เพียงแค่ช่วงเวลานั้นที่ฝ่ามือของชูเฟิ งได้เข้าใกล้กบั ทั้งสองยอด
ยุทธภัณฑ์ พริ บตาเดียวชูเฟิ งก็คว้าจับกระบี่และดาบไว้ภายในมือทั้งสอง
ข้าง แรงปะทะนั้นทําให้เกิดประกายไฟพร้อมกับคลื่นระเบิดจึงทําให้
พลังที่อดั แน่นอยูย่ ทุ ธภัณฑ์ของพวกมันหายวับไปในทันที

เพราะว่าในขณะที่ชูเฟิ งได้จบั ลงไปที่ยทุ ธภัณฑ์ช้ นั ยอดทั้งสอง เขาก็ได้


ส่ งแรงดันลงไปที่ฝ่ามือของเขาให้กลายเป็ นโล่สะท้อนแรงระเบิดของ
พลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุ ดกลับไปที่ยทุ ธภัณฑ์ช้ นั ยอดทั้งสอง

ในทันทีที่ยทุ ธภัณฑ์ช้ นั ยอดทั้งสองได้ถูกสะท้อนพลังของตนเอง


กลับไปมันก็ทาํ ให้พวกมันนั้นสัน่ ไม่หยุด แต่หลังจากนั้นไม่นานนักมัน
ก็ได้หยุดสัน่ และถูกปราบปรามจริ งโดยชูเฟิ ง ชูเฟิ งนั้นแท้จริ งสามารถ
รับมือกับยุทธ์ช้ นั ยอดได้ดว้ ยมือเปล่า

#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : อื้มหื้ มโครตโหดกระโดดจับ นี่มนั ฝ่ ามือกรงเล็บมังกรของ มังกี้


ดี กราก้อน ใช่หรื อไม่??

B3 : ไอ้B1 มึงอย่าเพ้อเจ้อกูขอร้อง

B1 : ทําใมมึงมีปัญหาอะไรห่ะไอ้หมาหัวเน่า

B3 : ยือหมาหัวเน่าห่าไรมึงอย่ามากล่าวหากันมัว่ ๆ นะเว้ยลูกทีมกู
ออกจะเยอะแยะ

B1 : มันเยอะขนาดนั้นเลยหรอว่ะ

B3 : มึงจะลองเช็คเรตติ้งดูไหมล่ะ??
B2 : พอ ๆ เลิกเพ้อเจอได้และพวกมึงอ่ะมาวิเคราะเนื้อหาในเรื องกัน
ดีกว่า

B4 : ใช่ ๆ เพราะต่อพวกนายเถียงกันมากแค่ไหน เรตติ้ง A B C


นั้นมันก็เหนือกว่าพวกนายอยูด่ ีลองนับดู 7 วันเขาออกกันมาตั้ง 4 –
5 วันส่ วนของเราอ่ะหรอ แค่ 2 3 วันเองมั้งที่มีบท

B1,B3 : มันเป็ นอย่างนั้นได้ยงั ใงว่ะ B4 !!!!!

B4 : ก็ลองไปถามผูแ้ ปลดูเองซิ ครับว่าเขานั้น ขก. และชอบอู ้


ทําใม?? อุบ๊ ….

B1,B3 : ผมไม่เกี่ยวนะครับท่าน B4 คนเดียวเลย

B2 : เดี้ยว ๆ สาระในเรื่ องนี่พวกมึงจะพูดคุยกันไหมเนี่ย การต่อสู จ้ ะ


เป็ นเช่นไร?? พีห่ ลาง กูจะมีชะตากรรมเป็ นเช่นไรมึงไม่คิดจะแค่มนั
บางเลยหรอ

B3 : ชัง่ แม้งดิเดี้ยวอีกไม่กี่บทมันก็ตายและ
B4 : ตามนั้นแหละ B2

B2 : สรุ ปแล้วจะไม่พดู ถึงเนื้อหาในตอนนี้??

B1,B3,B4 : ตามนั้น!!

B2 : โอ้วฟัคกูล่ะสุ ดจะทน!!

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 555 – เจ้ากําลังคิดจะทําอะไร

“นี่มนั เป็ นไปได้ยงั ใงกัน? นี่เจ้าสามารถรับมันได้จริ ง!” เมื่อเห็น


ว่าสองยุทธภัณฑ์ของเขานั้นจริ งถูกปราบปรามโดยชูเฟิ งมันก็ได้ทาํ ให้ตา
ของ เซินถู่ หลาง นั้นเบิกกว้างขึ้นมาในทันทีและในสายตาของเขานั้นก็
ยังเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“ต้องบอกก่อนเลยว่าในแง่ของประสิ ทธิภาพทั้งสองยุทธภัณฑ์ช้ นั
ยอดนี้ แม้มนั จะเป็ นด้อยกว่า ขวานอสู รฟ้า ของข้าเพียงเล็กน้อยแต่กย็ งั
นับได้วา่ มันเหนือชั้นกว่ายุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดชิ้นอื่น ๆ ที่ขา้ นั้นได้เคยเห็น
มา”

“น้องรู่ น้องเหม่ย ข้านั้นต้องการที่จะยกสองยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดทั้ง


สองชิ้นนี้ให้แก่เจ้าเพื่อเอาไว้สาํ หรับเป็ นเครื่ องป้องกันตัวเจ้าคิดว่าเช่น
ไร?” ชูเฟิ งนั้นได้ยบิ ทั้งสองยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดยืนไปให้แก่ ซูรู่ และ ซู
เหม่ย

“แน่นอนข้ารับมัน!” เมื่อเห็นเช่นนั้น ซูรู่ และ ซูเหม่ย นั้นก็ต่าง


พยักหน้ากันและใบหน้าของพวกเธอนั้นก็ยงั เต็มไปด้วยรอยยิม้
ถึงแม้วา่ ยุทธภัณฑ์ท้ งั สองนี้จะมีประสิ ทธิภาพที่ยอดเยีย่ มอยูแ่ ล้วนั้น แต่
ทว่าลักษณะภายของมันนั้นก็นบั ว่ามีความสวยงามที่ไม่แพ้ประสิ ทธิภาพ
ของมันเลยและมันก็ยงั อาจกล่าวได้อีกว่าชัง่ เหมาะสมกับ ซูรู่ และ ซู
เหม่ย ยิง่ นัก

“ไอ้เวรบัดซบเอ้ยนี่เจ้ากล้าคิดที่จะขโมยยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดของข้า
ซึ่ง ๆ หน้าเลยอย่างนั้นรึ ? หน่อยเจ้ามันจะดูถูกข้าเกินไปแล้ว!!.” เมื่อ
เห็นว่าชูเฟิ งจริ งนั้นปล้นทรัพย์สมบัติของเขาทั้งสองชิ้นไปให้คนอื่น
เช่นนี้ต่อหน้าต่อตาของเขามันก็ยง่ิ ทําให้ เซิ นถู่ หลาง โกรธแค้นมากขึ้น
ตาของเขานั้นเป็ นเผยเจตนาฆ่าอย่างเต็มที่เขาในตอนนี้น้ นั ได้กดั ฟันของ
เขาแน่นด้วยความโกรธ

แต่ถึงจะเป็ นแบบนั้นเขาในตอนนี้กย็ งั ไม่ได้แสดงความวูว่ ามออกมามาก


จนเกินไปเพราะว่าเขานั้นได้ทาํ พันธสัญญากับยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดเอาไว้
แล้ว! สมบัติที่ได้ถูกเชื่อมต่อกันด้วยจิตใจนั้นจะสามารถสัง่ การณ์มนั ได้
แม้เพียงแค่ความคิดเขานั้นสามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระ

ฉะนั้นแล้วในช่วงเวลานั้นฝ่ ามือทั้งสองข้างของเขาก็ได้เกิดแสงประกาย
เจิดจ้าขึ้นมา มันได้กลายเป็ นสายใยอํานาจที่เชื่อมต่อไปยังสองยุทธภัณฑ์
ชั้นยอดที่อยูใ่ นมือของชูเฟิ ง แท้จริ งเขาต้องการที่จะเรี ยกอาวุธของเขา
กลับมาอยูใ่ นมือของเขา

“เฮอะ” แต่ในทันทีที่ชูเฟิ งนั้นได้เห็นการกระทําของ เซิ นถู่ หลาง ชูเฟิ ง


ก็ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความเย็นชาฝ่ ามือของเขานั้นได้สนั่ ไหว
เล็กน้อยพร้อมกับถ่ายอํานาจสวรรค์อนั ไร้ขีดจํากัดลงไปที่ท้ งั สอง
ยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอด
จากนั้นก็ได้เกิดเสี ยงดัง *** ปั ง *** ออกมาจากยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดทั้ง
สอง และในขณะเดียวกันใบหน้าของ เซิ นถู่ หลาง ก็ได้กลายเป็ นซี ดขาว
ราวกับคนตายในทันที ประกายแสงบนฝ่ ามือของเขาได้หายไปพร้อมกับ
เลือดก้อนใหญ่ได้ทะลักออกมาจากปากของเขา

“นัน่ เกิดอะไรขึ้น?” ในทันที จาง เทียนยี และก็คนอื่น ๆ นั้นก็ได้


ตกอยูใ่ นความประหลาดใจอย่างถึงที่สุดเพราะว่าฉากในด้านหน้าของ
พวกเขานั้นมันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชูเฟิ งนั้นยังไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ
เลยแม้แต่นิดเดียวแต่ทาํ ใม เซินถู่ หลาง ถึงได้รับอาการบาดเจ็บหนัก
ได้?”

“นี่เจ้า…เจ้า…เจ้ากล้าตัดการเชื่อมต่อของข้ากับสองยุทธภัณฑ์
ชั้นยอดนี้ง้ นั หรอ ?!” ในขณะนี้ใบหน้าของ เซิ นถู่ หลาง ได้ตกอยูใ่ น
อาการที่เต็มไปด้วยความตกใจอย่างแท้จริ ง ความหยิง่ ผยองของเขาก่อน
หน้านี้น้ นั ได้ถูกแทนทีไปด้วยความหวาดกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด
ในขณะที่เขานั้นเป็ นผูท้ ี่ได้รับผลกระทบอยูน่ ้ ีน้ นั เขาย่อมต้องเข้าใจอย่าง
แท้จริ งว่ามันเกิดอะไรขึ้น เหตุผลที่วา่ ทําใมเขาถึงได้รับอาการบาดเจ็บ
หนักนั้นมันก็ไม่มีทางที่จะเป็ นอย่างอื่นไปได้นอกเสี ยจากว่า ชูเฟิ งนั้นได้
ตัดการเชื่อมโยงกันระหว่างเขาและทั้งสองยุทธภัณฑ์ และถ้าจะพูดให้ถู
ก็คือทั้งสองยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดนี้น้ นั ไม่ได้เป็ นของเขาอีกต่อไปแล้ว

มันไม่ได้เป็ นเหมือนอย่างที่เขาเคยได้ยนิ มาก่อนเพราะว่าผูท้ ี่จะสามารถ


ตัดการเชื่อมโยงระหว่างผูใ้ ช้และยุทธภัณฑ์ช้ นั ยอดได้น้ นั เขาผูน้ ้ นั
จําเป็ นจะต้องมีความแข็งแกร่ งกว่าเจ้าของเดิมของยุทธภัณฑ์เป็ นอย่าง
มากไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่อาจที่จะทํามันได้ และในตอนนี้มนั ก็เห็นได้
อย่างชัดเจนว่าชูเฟิ งนั้นมีกลิ่นอายเพียงแค่ระดับ 6 แดนสวรรค์วญ
ิ ญาณ
เทียบเท่าเขาเท่านั้น แล้วเหตุใดสถานการณ์มนั ถึงได้กลายเป็ นเช่นนี้ไป
ได้
การกระทําต่าง ๆ ของชูเฟิ งในตอนนี้น้ นั มันได้ทาํ ให้เขาตระหนักถึง
ความน่ากลัวที่แท้จริ ง เขาในตอนนี้น้ นั กําลังเผชิญหน้ากับศัตรู ที่หน้า
หวาดกลัวเข้าให้แล้ว

*** หวืบ ***

เซินถู่ หลาง นั้นลุกขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซแล้วรี บพลันหันหลังของเขา


ออกไปโดยรอบ เขาได้ใช้ทกั ษะการต่อสู เ้ ฉพาะตัวสร้างแรงลมขึ้นมาใต้
ฝ่ าเท้าของเขาและพยายามที่จะบินหนีออกไปอย่างรวดเร็ ว

“ไอ้ปัญญาอ่อน”
เพียงแต่ในขณะนั้นชูเฟิ งได้ยมิ้ เหยียดหยันต่อการกระทําของ เซิ นถู่
หลาง และเขาได้ยนื่ ฝ่ ามือของเขาออกไปอย่างรวดเร็ วพร้อมกับปล่อย
อํานาจสวรรค์เป็ นรู ปร่ างของฝ่ ามือขนาดใหญ่บนอากาศคว้าตัวของ
เซินถู่ หลาง เอาไว้โดยพลัด

*** ตูมมม *** หลังจากที่ชูเฟิ งนั้นได้คว้าตัว เซิ นถู่ หลาง ที่อยูบ่ น


อากาศเอาไว้ได้จู่ ๆ เขาก็ได้สะบัดแขนของเขาและเหวีย่ ง เซิ นถู่ หลาง
ลงมาที่พ้นื ดินอย่างรุ นแรง

"อ้า!"

ด้วยความแข็งแรงอันมหาศาลมันได้สร้างหลุมลึกขนาดใหญ่บนพื้นดิน
ในทันทีร่างกายของ เซินถู่ หลาง ในตอนนี้น้ นั ได้อยูใ่ นสภาพที่
สะบักสะบอมเป็ นอย่างมากกระดูกทุกส่ วนบนร่ างกายของเขานั้นจริ งได้
ถูกทําลายไปจนหมดแล้วในตอนนี้โดยชูเฟิ ง

หลังจากที่ชูเฟิ งได้เหวีย่ ง เซินถู่ หลาง ลงมายังที่พ้ืนดินเขาก็ค่อย ๆ เดิน


เข้ามาเรื่ อย ๆ จนในที่สุดเขาก็ได้มาถึงและประทับฝ่ าเท้าของเขาลงไปที่
ศีรษะของ เซินถู่ หลาง

“ไอ้เวรบัดซบเอ้ยเจ้ากล้าทําเช่นนี้กบั ข้าได้เยีย่ งไร เจ้ารู ้ไหมว่าข้า


นั้นเป็ นใคร ?! ถ้าท่านพ่อของข้าได้รู้เรื่ องในวันนี้เข้าละก็เขาจะต้องมา
ฆ่าเจ้าแน่ ๆ ! เขาจะต้องมาฆ่าพวกเจ้าทุก ๆ คน!” ในทันที เซิ นถู่ หลาง
ได้คาํ รามออกมาอย่างบ้าคลัง่ เพราะในฐานะที่เขานั้นได้เป็ นองค์ชายผู ้
สู งส่ งเขาไม่เคยที่จะได้รับการกระทําและการถูกเย้ยหยันเช่นนี้มาก่อน

“เจ้าคิดว่าพ่อของเจ้านั้นจะสามารถรับรู ้เรื่ องราวในวันนี้ ได้อย่าง


นั้นหรื อ?” ในขณะนั้นบนมุมปากของชูเฟิ งก็ได้ปรากฏรอยยิม้ ที่แปลก

*** อ่ะ *** เมื่อได้ยนิ คําพูดเช่นนั้น เซิ นถู่ หลาง นั้นกลายเป็ นช็อค
ในทันทีเขาอดไม่ได้ที่จะต้องกลืนนํ้าลายของเขา ความหยิง่ ผยองของเขา
นั้นได้ถูกแทนที่ดว้ ยความหวาดกลัวในทัน เพราะเขาได้เขาใจความคิด
ของชูเฟิ งแล้วว่าเขานั้นต้องการที่จะตัดไฟตั้งแต่ตน้ ลม

“เพียงแต่ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าพวกข้านั้นทําให้เจ้าต้องมีการ
เดินทางที่ล่าช้าฉะนั้นแล้วพวกข้าจึงต้องไถ่โทษด้วยความตายอย่างนั้น
ใช่หรื อไม่”

“แล้วเจ้ารู ้หรื อไม่ ว่าการที่เจ้านั้นได้บงั อาจหาญกล้ามาแตะต้อง


สหายของข้านั้นมันจะต้องได้รับโทษเช่นไร?” ชูเฟิ งกล่าวอย่างหนัก
แน่นและจ้องมองไปที่ เซินถู่ หลาง ที่อยูใ่ ต้ฝ่าเท้าของเขา
“ฮ่า ๆ แหม่พี่ชายสุ ดหล่อมันอาจเป็ นเพียงแค่ความเข้าใจผิดกัน
เท่านั้น! มันเป็ นความเข้าใจผิดน่ะ! มันก็แค่เป็ นเรื่ องความเข้าใจผิดเท่า
นั้นเองข้าหาได้ตอ้ งการจะแตะต้องเหล่าสหายของท่านไม่…อ้าพี่ชาย
สุ ดหล่อ! ท่านกําลังจะทําอะไรท่านกําลังจะพาข้าไปที่ไหน? เพียงแค่
ท่านและข้าสามารถเจรจาและพูดคุยกันได้ดว้ ยคําพูดนะ”

ในทันที เซินถู่ หลาง ก็ได้ตกอยูใ่ นความตื่นตระหนกเพราะว่าเขานั้นจริ ง


ได้หวาดกลัวว่าชูเฟิ งนั้นจะฆ่าเขา แต่ชูเฟิ งนั้นไม่ได้ให้โอกาสใด ๆ ใน
การแก้ตวั ของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เขายก เซิ นถู่ หลาง ขึ้นมาด้วยมือ
เพียงข้างเดียวของเขาและกระจายพลังอํานาจจิตวิญญาณสี ฟ้าปกคลุ่ม
ร่ างกายของเขาเอาไว้ ก่อนที่จะบินไปยังทางทิศเหนือ

จาง เทียนยี และคนอื่น ๆ นั้นได้รู้สึกงงงวยต่อการกระทําของชูเฟิ ง


ฉะนั้นแล้วเขาจึงรี บลุกขึ้นและบินไปยังท้องฟ้าในทิศทางที่ชูเฟิ งได้บิน
ไป

หลังจากที่พวกเขาได้บินขึ้นมายังบนท้องฟ้านั้นพวกเขาก็ได้เห็นว่า
โรงเตี๊ยมที่สุดจะหรู หราและสวยงามในตอนนี้น้ นั มันได้กลายเป็ นซาก
ปรักหักพังไปเรี ยบร้อยแล้ว สภาพของพื้นที่โดยรอบนั้นมันได้ถูกเติม
เต็มไปด้วยซากศพของฝูงชน

มันเป็ นเรื่ องที่ง่ายดายมากสําหรับผูค้ นของราชวงศ์ เซิ นถู่ จะฆ่าผูค้ นที่


อยูท่ ี่นี่ไปทั้งหมด

แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการสังหารหมู่ของผูค้ นจากราชวงศ์
เซินถู่ บรรดาฝูงชนที่ได้รอดชีวติ นั้นพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะอยูใ่ นสถานที่
แห่งนี้นานมากนักพวกเขาได้โพล่ออกมาจากที่หลบซ่อนและหลบหนี
ออกไปอย่างรวดเร็ ว

*** ตูม *** แต่ในขณะเดียวกันเมื่อชูเฟิ งได้มาถึงยังสถานที่ของ


โครงสร้างแห่งหนึ่งของเขาก็ได้ยนื่ ฝ่ ามือของเขาออกไปและระเบิด
ทําลายมันโดยทันที หลังจากที่โครงสร้างชิ้นนั้นได้ถูกทําลายออกไปมัน
ก็ได้ปรากฏก้อนสี เหลือง ๆ ปนดําเล็กน้อยกระจัดกระจายอยูต่ ามพื้น
ประจวบกับกลิ่นของพวกมันที่ได้โชยขึ้นมาบนอากาศนั้นต้องบอกได้วา่
มันชัง่ เหม็นอย่างเหลือใจแน่นอนว่าสถานที่ที่ชูเฟิ งได้ทาํ ลายไปนั้นก็คือ
บ่ออุจจาระขนาดใหญ่ (4B //:// หรื อจะให้พดู อีกอย่างก็คือบ่อขี้
นั้นเอง 5555 โครตจี๊ด)

*** อ่า *** หลังจากที่ชูเฟิ งได้ยนื่ ฝ่ ามือของเขาออกไปและระเบิดฝ่ า


ปิ ดหลุมอุจจาระไปนั้นเขาก็ได้ใช้พลังอํานาจวิญญาณสี ฟ้าครอบคลุม
ร่ างกายของ เซินถู่ หลาง เอาไว้
นอกจากนี้ชูเฟิ งยังได้วา่ การก่อตัวของบนปากบ่อของหลุมอีกด้วยพร้อม
กับหัวเราะออกมาอย่างชัว่ ร้ายต่อ เซิ นถู่ หลาง และกล่าวว่า “ไม่ตอ้ งห่วง
ข้านั้นจะไม่ฆ่าเจ้า’

“ไม่…ไม่…ไม่…เจ้ากําลังจะทําอะไรข้า?!” เมื่อเห็นรอยยิม้
ที่ชวั่ ร้ายของชูเฟิ งนั้นเขาก็ได้กลืนนํ้าลายลงไปในทันทีพร้อมพลัน
ปรากฏเหงื่อเย็นขึ้นมาทัว่ ร่ างกายของเขา แม้แต่เสื้ อผ้าของเขานั้นก็ยงั ชุ่ม
ไปด้วยเหงื่อ เพราะว่าเขาในตอนนี้น้ นั ได้ตกไปอยูใ่ นห้วงลึกแห่งความ
หวาดกลัวอย่างแท้จริ ง

“เดียวอีกไม่ชา้ เจ้าก็จะรู ้เองว่าข้านั้นต้องการที่จะทําอะไร’ ร้อยยิม้


ที่ชวั่ ร้ายได้โพล่ข้ ึนมาบนใบหน้าของชูเฟิ งพลันโยน เซิ นถู่ หลาง ลงไป
ในทันทีพร้อมกับโบกมือ บ๊ายบ่าย
เมื่อสิ้ นสุ ดคําพูดนั้น เซินถู่ หลาง ก็ได้ถูกโยนลงสู่ ความเวิง้ ว้างในบ่อ
อุจจาระในทันที

“อ้า ~~~~~~ ข้าขอสาปแช่งบรรพชนของเจ้า! เจ้ากล้าที่จะ


โยนข้าลงมายังหลุมนี้จริ ง ๆ ?! บัดซบ ข้าขอสาบานว่าข้าจะฆ่าเจ้า! ข้า
จะฆ่าเจ้า !!” ในขณะนี้น้ นั เซิ นถู่ หลาง ได้แสดงความโกรธออกมาอย่าง
เหลือใจและคํารามออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด

แต่ชูเฟิ งนั้นก็ไม่ได้ให้ความสําคัญแก่คาํ พูดใด ๆ ของเขาทั้งสิ้ นมีเพียงแต่


รอยยิม้ จาง ๆ เกิดขึ้นอยูบ่ นใบหน้าของเข้าเท่านั้น เขาได้เริ่ มวางรู ปแบบ
อํานาจพลังวิญญาณปกคลุมปากหลุมบ่ออุจจาระนี้อีกครั้งและทําให้มนั
เป็ นยิง่ แน่นหนามากขึ้นเพราะว่าเขานั้นจริ งต้องการที่จะให้ที่น้ ีเป็ นหลุม
ฝังศพของเขา
#################################
#################################
###############################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 3B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : นั้นแหละครับจุดจบสายกร่ างไม่เลือกที่

B4 : ชะตากรรมนางชัง่ น่าสงสารยิง่ นัก เห้อ เรื่ องมันเศร้านอนตายใน


บ่อขี้ แต่ให้เอาคัมภีร์บทไหนมาสวดให้เขาก็คงไม่ไปสู่ สุขติหรอกมั้ง
แบบนี้

B2 : อยากให้ถึงตอนหน้าไว ๆ อยากฟังคําอธิบายของชูเฟิ งว่ามันจะ


พูดกับ รู่ เหม่ย เจียง จาง ว่ายังใง 555555

B4 : นับว่าชัง่ น่าสงสารยิง่ นัก

B1 : รู ้สึกข่มคอแทน ไม่อยากจะคิดเลยว่าในแต่ ล่ะก่อน ล่ะก่อน นั้น


มันจะหมักมาแล้วนานแค่ไหน บางก้อนอาจเป็ น 10 วัน แต่ถา้ แถว ๆ
ก้นบ่อนี่อาจอยูม่ านานถึง 10 ปี

B3 : ไอ้สสั พอเลยพูดและนึกถึงภาพกูจะอ้วกตาม โธ่ ไอ้เฟิ งแม้งก็ข้ ี


แอ๊บบอกเจ้ากล้ามาแตะต้องเพื่อนของข้าเจ้าจะต้องได้รับโทษแหม่มึง
บอกว่ากล้ามาแต่ตอ้ งเมียก็ได้นะไม่มีใครเขาว่าหรอก หักแขนหักขา
เพื่อนจังพอทนแต่ถา้ คิดจะฉีกเสื้ อเมียกูสกั คนจุดจบของมึงก็คือบ่อขี้

B1,B2 : และดูเป็ นการต่อสู ท้ ี่โครตจะโสโครกจริ ง ๆ

B3 : เปิ ดตํานานนิยายเรื่ องใหม่ บักเฟิ งนักระเบิดบ่อขี้ในตํานาน เรา


จะมาติดตามกันต่อไปว่าบักเฟิ งของเรานั้นจะเล่มมุขขี้แบบนี้กนั ไปอีก
สักกี่ตอนและจะมีอีกสักกี่ครั้งที่จะมีการต่อสู ท้ ี่โครตจะโสโครกแบบนี้
เกิดขึ้น

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..

บทที่ 556 – เหนือฟ้ายังมีฟ้า

หลังจากที่ชูเฟิ งนั้นได้อะไรเสร็ จสิ้ นแล้วเขาก็ได้พลิกฝ่ ามือของเขาขึ้นมา


พร้อมกับหลายสิ บถุงจักวาลปรากฏขึ้น ทุกจักวาลพวกนี้น้ นั ล้วงเป็ นของ
ผูค้ นจากราชวงศ์ เซินถู่ ทั้งสิ้ น

ชูเฟิ งนั้นไม่ได้ฆ่าผูค้ นไปจํานวนมากอย่างสู ญเปล่าก่อนที่เขาจะฆ่าพวก


มันทั้งหมดนั้นเขาก็ได้ดูดซับพลังงานไปให้แก่ ต้านต้าน และก็ปล้น
ทรัพย์สมบัติที่มนั มีออกมาทั้งหมดรวมไปถึงเหล่าถุงจักวาลนี้ดว้ ย

ชูเฟิ งนั้นได้ทาํ ทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ถ้ามันเป็ นเมื่อก่อนล่ะก็แน่นอน


ว่าเขานั้นจะต้องทําไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ทว่าพลังอํานาจของชูเฟิ ง
ในตอนนี้น้ นั มันแตกต่างกัน
“โอ้วข้าไม่ได้คาดคิดเลยนะเนี่ยว่าราชวงศ์ เซิ นถู่ นั้นจะรํ่ารวยถึง
เพียงนี้”

หลังจากที่ได้ตรวจสอบในถุงจักวาลแต่ล่ะถุงมันก็ทาํ ให้ชูเฟิ งนั้นต้อง


พยักหน้ามาด้วยความพึ่งพอใจต่อความรํ่ารวยของผูค้ นจากราชวงศ์
เซินถู่ โดยเฉพาะอย่างยิง่ เซินถู่ หลาง ด้วยตัวเขาเพียงคนเดียวนั้นก็พก
ลูกแก้วสวรรค์วญ
ิ ญาณติดตัวถึงหมื่นเม็ดด้วยกันซึ่ งมันอาจเห็นได้อย่าง
ชัดเจนว่าเขานั้นมัง่ คลัง่ ในทรัพยากรอย่างแท้จริ ง

อนึ่งจะต้องทราบก่อนว่าชูเฟิ งนั้นได้ปล้นสมบัติท้ งั หมดของราชวงศ์จีมา


ทั้งหมดก็ยงั มีเพียงแค่ลูกแก้วสวรรค์วญ
ิ ญาณนับหนึ่งแสนลูกเท่านั้น
แต่ทว่า เซินถู่ หลาง ด้วยการครอบครองของเขาเพียงคนเดียวนั้นกลับมี
ิ ญาณถึงหนึ่งหมื่นลูก นึ่งจึงอาจเป็ นข้อพิสูจน์ได้วา่
ลูกแก้วสวรรค์วญ
ราชวงศ์ เซินถู่ นั้นได้ใช้ทรัพยากรอย่างสิ้ นเปลืองหรื อทว่าพวกเขานั้น
จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรที่มหาศาลอย่างแท้จริ ง

“ฮ่า ๆ พี่ชายชูเฟิ งความคิดของท่านนี่ชง่ั ลํ้าเลิศยิง่ นัก การที่ให้มนั


ตายด้วยการจมอุจจาระตายเช่นนี้!” เพียงแต่ในขณะนั้น เจียง หวูช่ าง ก็
ได้บินมาแล้วกล่าวออกไปด้วยความสะใจใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วย
รอยยิม้ ดูชวั่ ร้ายและมองลงไปในหลุมอุจจาระที่ชูเฟิ งเป็ นคนทํามันขึ้นมา

“ศิษย์นอ้ งชูเฟิ งไอ้สารเลวนี่มนั ตํ่าช้ามากเกินไป มันจริ งกล้าที่จะทํา


ร้าย เจียง หวูช่ าง และยังมีความคิดที่จะทํามิดีมิร้ายต่อศิษย์นอ้ งซูรู่ และ
ซูเหม่ยอีก! เราควรที่จะจับมันไปทรมานเสี ยยังดีกว่าการฆ่ามันด้วยวิธีที่
ง่ายดายเช่นนี้มนั นับดีเกินไปสําหรับมัน.” ในเวลาเดียวกัน จาง เทียนยี
ก็ได้ระบายความโกรธแค้นของเขาออกมา
ในขณะที่เขานั้นต้องเผชิญกับสายตาของทุกคนชูเฟิ งก็กลับตอบสนอง
กลับไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิม้ พร้อมกล่าวออกไปว่า “แน่นอน
ว่าข้านั้นไม่ได้ปล่อยให้มนั จมนํ้าอุจจาระจนตายเช่นนั้นหรอก ข้านั้นได้
สร้างการก่อจิตวิญญาณครอบคลุมร่ างกายของมันเอาไว้เพื่อปกป้องมัน
จากการจมนํ้าอุจจาระ.”

“ว่ายังใงนะ? ศิษย์นอ้ งชูเฟิ งเจ้าวางแผนอะไรไว้อย่างนั้นรึ ?


เหตุใดถึงได้คิดที่จะปกป้องมันจากการจมนํ้าอุจจาระ?”

“ใช่! พี่ใหญ่ชูเฟิ งท่านกําลังวางแผนอะไรไว้ยา่ งนั้นหรื อ มัน


อาจจะเป็ นไปได้วา่ ท่านต้องการให้มนั นั้นอดอาหารจนตาย?” จาง
เทียนยี และ เจียง หวูช่ าง นั้นได้ต่างแสดงความสับสนออกมาต่อความ
ตั้งใจของชูเฟิ งว่าคือสิ่ งใดกันแน่
“แน่นอนว่าข้านั้นก็ไม่ได้ตอ้ งการให้มนั อดตาย” ชูเฟิ งกล่าว
ออกมาด้วยรอยยิม้

“อ้าาา! พี่ใหญ่ชูเฟิ งท่านกําลังว่างแผนจะจัดการเขายังใงกันแน่?


อย่าปล่อยให้ขา้ นั้นต้องคอยเดาอยูอ่ ย่างนี้สิโปรดบอกมาโดยเร็ วเถอะได้
โปรด!” เจียง หวูช่ าง นั้นแสดงอาการหงุดหงิดออกมาเล็กน้อยเพราะว่า
เขานั้นต้องการที่จะรู ้คาํ ตอบของชูเฟิ ง

“ฮ่า ๆ แน่นอนว่าข้านั้นได้สร้างการก่อจิตวิญญาณปกคลุมร่ างกาย


ของมันขึ้นมาเพื่อไม่ให้มนั จมนํ้าอุจจาระ และก็ไม่ได้คิดที่จะพัฒนาการ
และปล่อยมันให้อดตายอีกด้วย เพียงแต่ทว่าการก่อตัวจิตวิญญาณของข้า
นั้นจะเป็ นตัวช่วยในการดูดซับพลังจากภายนอกเข้ามายังภายในช่องทาง
หนึ่งและซึมซับเข้าไปในร่ างกายของมัน ในปริ มาณที่เพียงพอต่อการ
ดํารงชีวติ อยูข่ องมัน”

“และในขณะที่ตอ้ งใช้การดูดซับจากพลังงานภายนอกนั้นเจ้าก็
น่าจะเข้าใจทั้งหมดแล้วนะว่าพลังงานภายนอกนั้นมันคืออะไร?” ชูเฟิ ง
กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิม้ ที่ชว่ั ร้าย

เมื่อได้ยนิ คําพูดเหล่านั้น จาง เทียนยี และ เจียง หวูช่ าง ต่างก็พามองหน้า


กันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความงุนงงแต่ทว่าเพียงไม่นานนักเขาก็เข้าใจ
ถึงบางสิ่ งบางอย่างและถามออกไปว่า “มันคืออุจจาระใช่หรื อไม่?”

“ถูกต้องแล้วมันคืออุจจาระ”
“และมันก็ไม่สามารถที่จะหลบหนีไปไหนได้อีกด้วยเพราะ
พัฒนาการในการก่ออํานาจจิตวิญญาณได้ผกู มัดมันเอาไว้”

“และแน่นอนว่ามันจะไม่ได้อดตายเพราะพลังอํานาจของการก่อ
ตัวนั้นจะคอยดัดแปลงพลังงานมาจากอุจจาระและซึ มซับเข้าไปภายใน
ร่ างกายของมัน ไม่วา่ มันจะเต็มใจหรื อไม่เต็มใจก็ตาม”

“และแน่นอนว่าการดูดซับอุจจาระในแต่ละวันแต่ละวันนั้นมัน
จะต้องไม่มีทางอดตายอย่างแน่นอน” ชูเฟิ งยิม้ และกล่าวออกมาอย่างใจ
แคบและเลวทราม

“ฮ่า ๆ พี่ใหญ่ชูเฟิ งความคิดของท่านนั้นชัง่ ยอดเยีย่ มเสี ยจริ งการที่


ท่านได้โยน เซินถู่ หลาง ลงไปในหลุมอุจจาระก็เพื่อให้มนั ได้กิน
อุจจาระนี่เอง” เจียง หวูช่ าง กล่าวออกมาพร้อมกับเสี ยงหัวเราะชอบใจ
“ฮ่า ๆ ศิษย์นอ้ งชูเฟิ งข้านั้นยอมรับเลยว่าความคิดของเจ้าในครั้งนี้
นั้นชัง่ ร้ายกาจเกินไปกว่าที่ความคิดของข้าหลายเท่านัก ข้าก็นึกว่า เซิ นถู่
หลาง นั้นจะต้องตายภายในวันนี้แล้วซะอีก!” และในขณะนั้นใบหน้า
ของ จาง เทียนยีกย็ งั แสดงออกมาด้วยความรู ้สึกที่ชื่นชม

แต่ทว่าปฏิกิริยาของ ซูรู่ และ ซูเหม่ย นั้นได้แตกต่างกันออกไป ถึงแม้วา่


ชูเฟิ งนั้นจะต้องการระบายความโกรธแทนพวกเขาแต่การที่เขามี
ความคิดในการให้มนั กินอาหารอุจจาระนั้นมันเป็ นวิธีการที่ขยะแขยง
และดูโสโครกมากเกินไป

นอกจากนี้มนั ยังทําให้ความยากอาหารของพวกเขาที่จะต้องการยัด
อาหารอันหรู หรามากมายลงท้องของพวกเขาต้องหายไปภายในพริ บตา
เพราะเรื่ องอุจจาระ นอกจากนี้หนึ่งในพวกเขานั้นก็ยงั ไม่มีใครเลยสักคน
ที่ได้กินอาหารอันหรู หราจากโรงเตี๊ยมสุ ดหรู น้ นั และในตอนนี้โรงเตี๊ยม
แห่งนั้นก็ได้กลายเป็ นเศษซากไปแล้วฉะนั้นกลุ่มของชูเฟิ งจึงได้เลือกที่
จะเดินทางต่อไป

และหลังจากที่พวกเขานั้นได้ออกเดินทางมาในที่สุดพวกเขาก็ได้มาถึง
สํานักสี่ คาบสมุทรเสี ยที สถานที่แห่งนี้น้ นั มันเป็ นทวีปที่เกิดขึ้นจากหมู่
เกาะนับไม่ถว้ นแม้แต่ส่วนหนึ่งของหนึ่งของมันนั้นก็ยงั ดูขนาดใหญ่กว่า
ทวีป 9 อาณาจักรนับหลายเท่านัก

และก็เช่นเดียวกันดินแดนขนาดใหญ่ท้ งั หมดนี้ต่างเป็ นสํานักที่เรี ยกกัน


ว่าสํานักสี่ คาบสมุทร

และสิ่ งที่สาํ คัญที่สุดเมื่อมันกล่าวได้วา่ พื้นที่ขนาดใหญ่ท้ งั หมดขนาดนี้


นั้นได้อยูภ่ ายใต้ในชื่อของสํานักสี่ คาบสมุทร มันก็เป็ นที่ยนื ยันและเห็น
ได้อย่างชัดเจนแล้วว่าสํานักสี่ คาบสมุทรนั้นเป็ นกลุ่มกองกําลังขนาด
ใหญ่อย่างแท้จริ งในการใช้ขมุ พลังอํานาจ

แต่ถึงแม้วา่ สํานักสี่ คาบสมุทรนั้นจะมีขนาดที่ใหญ่มากแต่มนั ก็ไม่ได้


หมายความว่าจะต้องมีสมาชิกสาวกเป็ นจํานวนมากตามขนาดของมัน
อนึ่งจะต้องกล่าวก่อนว่าในทวีป 9 อาณาจักรนั้นมีประชากรอยูน่ บั 10
ล้านคน

แต่ทว่าสํานักสี่ คาบสมุทรนี้น้ นั มีผทู ้ ี่ประสบความสําเร็ จและเข้ามายัง


สถานที่แห่งนี้ได้ไม่กี่แสนคนเท่านั้นพวกเขานั้นเต็มไปด้วยเหล่าผู ้
อาวุโสและเหล่าศิษย์ และประชากรส่ วนใหญ่ของเขานั้นมันจะเป็ น
ผูใ้ หญ่เสี ยทั้งนั้น

และถึงแม้วา่ ในสํานักสี่ คาบสมุทรนั้นจะเป็ นสํานักขนาดใหญ่แต่กลับมี


จํานวนศิษย์ที่นอ้ ยก็ใช่วา่ จะอ่อนแอเหล่าผูท้ ี่อยูภ่ ายในสํานักสี่ คาบสมุทร
นั้นต่างเป็ นมังกรในหมู่มงั กรด้วยกันทั้งนั้น ถ้าจะให้พดู ง่าย ๆ ก็คือ
สํานักสี่ คาบสมุทรนั้นไม่ได้เกรี่ ยงที่จะเลือกเพศชายหญิง หรื อแม้กระทัง่
อายุพวกเขาก็ไม่ได้จาํ กัดแต่ทว่ามันกลับมีขอ้ บังคับเพียงข้อเดียวเท่านั้น
นัน่ ก็คือผูท้ ี่จะเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ทุกคนต้องเป็ นผูเ้ ชียวชาญในระดับ
แดนสวรรค์วญ
ิ ญาณขึ้นไปเท่านั้น

โอ้วเขตแดนสวรรค์พวกเขาทั้งหมดอยูใ่ นเขตแดนสวรรค์อย่างแท้จริ ง
ที่นี่มีหลายร้อยหลายพันผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์พวกเขาทุกคนนั้นนับว่า
เป็ นบุคคลชั้นสู งโดยแท้จริ ง

“โอ้วสวรรค์พวกเขาทั้งหมดล้านอยูใ่ นแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณ! เหล่า
ผูเ้ ชี่ยวชาญสู งสุ ดในทวีป 9 อาณาจักรพวกเขาก็ต่างพากันมายังสถานที่
แห่งนี้!” ในขณะที่พวกเขานั้นได้มองไปยังผูค้ นโดยรอบใบหน้าของ ซู
เหม่ย นั้นก็ได้เต็มไปด้วยอาการตกใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด
มันเป็ นเพราะว่าเธอนั้นได้จอ้ งมองไปยังคนเฒ่าและคนวัยกลางคนที่ยนื
อยูโ่ ดยรอบหรื อแม้กระทัง่ วัยหนุ่มสาวรุ่ นราวคราวเดียวกับพวกเขาก็ยงั
อยูใ่ นแดนสวรรค์วญ
ิ ญาณไม่มีใครในที่น้ ีเลยที่มีระดับพลังวิญญาณอยู่
ในเขตแดนแก่นแท้ มันเป็ นเรื่ องที่น่าลําบากใจสําหรับเธอมากหาก
จะต้องไม่ประหลาดใจกับสิ่ งที่ได้เห็นเหล่านี้

“ไม่จาํ เป็ นที่จะต้องกังวลอันใดหลอกเพราะว่าที่นี่น้ นั คือทะเลภาค


ตะวันออก! ในสถานที่แห่งนี้น้ นั ไม่ได้มีเพียงแค่เหล่าผูเ้ ชียวชาญแดน
สวรรค์เท่านั้นแต่มนั ยังมีไปถึงเหล่าผูเ้ ชียวชาญที่อยูใ่ นระดับจ้าว
สงครามอีกด้วยและที่สาํ คัญละดับที่อยูบ่ นจุดสู งสุ ดผูเ้ ชียวชาญระดับสู ง
ที่แท้จริ งนั้นพวกเขาต่างก็อยูใ่ นระดับแดนราชันย์สงครามก็ยงั มี ผูเ้ ชียว
ชาญที่อยูใ่ นระดับที่เหนือกว่าเหล่าผูเ้ ชียวชาญแดนสวรรค์น้ นั ยังมีอีก
มากมายนักในสถานที่แห่งนี้” เจียง หวูช่ าง อธิบาย
“น้อง หวูช่ าง กล่าวได้ถูกต้องแล้วล่ะในภูมิภาคที่แตกต่างกันนี้
อํานาจห้วงวิญญาณ,อํานาจกําเนิด,อํานาจแก่นแท้,หรื อแม้กระทั้ง
อํานาจสวรรค์พวกมันเหล่านี้น้ นั นับมีความหนาแน่นที่แตกต่างกัน
ฉะนั้นแล้วมันจึงนํามาเปรี ยบเทียบกับทวีป 9 อาณาจักรไม่ได้หรอก
ฉะนั้นแล้วมึงจึงเป็ นเหตุวา่ ทําใมผูเ้ ชียวชาญ ณ ที่แห่งนี้น้ นั ถึงได้ไม่มี
เหล่าผูเ้ ชียวชาญที่มีระดับพลังวิญญาณที่อ่อนแอ”

“และนอกจากนี้ยงั ไม่ตอ้ งพูดถึงชนชาวพื้นเมือง(เจ้าถิ่น)ของทะเล


ภาคตะวันออกเลยพวกเขานั้นได้อยูใ่ นทะเลภาคตะวันออกมาตั้งแต่
กําเนิดมันย่อมเป็ นที่แน่นอนว่าระดับพลังวิญญาณและทรัพยากรในการ
บ่มเพาะพลังวิญญาณนั้นจะต้องห่างไกลจากพวกเราเป็ นอย่างมาก และ
ในสถานที่แห่งนี้มนั ย่อมเป็ นที่แน่นอนว่ามันไม่ใช่สถานที่ของคน
อ่อนแอ
“และนอกจากนี้สาํ นักสี่ คาบสมุทรนั้นยังเต็มไปด้วยข้อบังคบที่
เข้มงวดสําหรับในการคัดเลือกศิษย์ ฉะนั้นแล้วแม้แต่พวกเรานั้นก็ยงั
ไม่ได้มีขอ้ ยกเว้นพวกเขานั้นต่างไม่ได้คาํ นึงถึง ชาติกาํ เนิด เพศ หรื อ
อายุ เกณฑ์ข้นั ตํ่าที่สุดที่จะสามารถเข้าคัดเลือกได้น้ นั ก็คือระดับแดน
ิ ญาณ และถึงแม้วา่ จะอยูใ่ นระดับแดนสวรรค์วญ
สวรรค์วญ ิ ญาณแล้วนั้น
ก็ยงั จะเป็ นที่จะต้องทดสอบ ฉะนั้นแล้วมันก็อาจพูดได้วา่ แม้แต่ให้เจ้า
นั้นอยูใ่ นเขตแดนสวรรค์มนั ก็อาจยังไม่เพียงพอต่อการเข้าร่ วม” ชูเฟิ ง
ยิม้ พร้อมกับอธิบาย

“มันดูเหมือนกับว่าจะเป็ นดังสุ ภาษิตที่วา่ “เหนือฟ้ายังมีฟ้า”


ในตอนนี้น้ นั ข้าได้เข้าใจมันแล้วอย่างแท้จริ งว่ามันนั้นเป็ นเช่นไร”

หลังจากที่พวกเขานั้นได้ยนิ คําพูดของชูเฟิ งและเจียง หวูช่ าง ซูเหม่ย ก็


ได้ดูเป็ นเงียบสงบลงและโพล่คาํ ใบแห่งความสุ ขโพล่ข้ ึนมาบนใบหน้า
ของนาง โดยอาศัยอํานาจของไขมุกเปลวเพลิง, ระดับพลังวิญญาณของ
เธอนั้นก็ได้ทะยานขึ้นมาสู ใ้ นระดับสวรรค์วญ
ิ ญาณในทันที นับจากครา
แรกที่เธอนั้นได้อยูท่ ี่อาณาจักรมังกรฟ้าและได้รู้สึกราวกับว่าผูเ้ ชียวชาญ
แดนสวรรค์น้ นั เปรี ยบได้ดงั่ กับเป็ นตํานานสําหรับเธอ

และในขณะนี้เธอนั้นก็ได้รับรู ้อย่างชัดเจนแล้วว่าแท้จริ งแล้วผูเ้ ชียวชาญ


แดนสวรรค์น้ นั มันก็ไม่ได้มีอะไร หรื ออาจพูดให้ถูกนั้นก็คือเธอนั้นได้มี
ความสุ ขอย่างล้นเหลือ ที่ครอบครองไขมุกเปลวเพลิงและรับการ
ยกระดับโดยมัน เพราะถ้าหากว่าเธอนั้นไม่ได้ไข่มุกนี้คอยเป็ นตัวช่วยใน
การเพิ่มระดับพลังวิญญาณของเธอล่ะก็ เธอนั้นก็จะเป็ นเพียงได้แค่ขยะ
ชั้นตํ่าในสายตาของผูเ้ ชียวชาญทะเลภาคตะวันออกเท่านั้น และมันก็จะ
ทําให้ชีวติ ของเธอนั้นไม่ประสบความสําเร็ จที่ยง่ิ ใหญ่อย่างที่เธอนั้นได้
หวังเอาไว้ (4B //:// ประมาณว่าถ้าไม่ได้ไข่มุกก็คงไม่ได้มีเธอใน
วันนี้วา่ งั้น)

#################################
#################################
###############################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่นอ้ ง 4B หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิ ง
ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เอาล่ะท่านหลาง กูกแ็ ดกขี้ไปเป็ นที่เรี ยบร้อยแล้ว

B2 : หวังว่าจะมีบทอีก

B4 : ให้มนั ตายไปเถอะอย่าไปทรมานมันเลยรู ้สึกสงสารแทนคนอ่าน


ที่ตอ้ งคอยนึกภาพตาม

B2 : เห้อ นั้นซินะ

B3 : ก็ตามนั้น เอ้อใช่มีคนถามเรื่ อง หยวนรู่

B1 : หยวนรู่ กต็ ายไปแล้วนิ

B3 : ตายพ่องมึงอ่ะอย่ามาแอ๊บปล่อยข่าวมัว่ ดิมึงอยากโดนคนอ่านกา
หน้าว่าพวกเราเป็ นพวกล่วงโลกรึ ใง

B2 : อันนั้นก็กเ็ กินไปไอ้สสั หยวนรู่ อ่อถ้าจะให้บอกมันก็ได้มีอะ


มากมายนักหรอกอีก 100+ นางก็โพล่และ

B3 : หื่มมมบอกมาเป็ นตัวเลขที่แม้นยําหน่อยไม่ได้เลยใง

B2 : เอาบอกทําใมอ่ะมีความจําเป้นอ่อ ถ้าบอกไปเขาก็รู้กนั อ่ะดิกไู ม่


บอกหลอก ว้าย ๆ ๆ ๆ

#################################
#################################
###############################

…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิขน้ ไว้เท่านี้


ก่อนนะครับขอบคุณครับสําหรับผูอ้ ่านทุกท่าน####…..
บทที่ 557 - เอาใจใส่ ผดิ ปกติ

ศิษย์ของสํานักสี่ คาบสมุทรจะได้ประโยชน์และได้รับการดูแลอย่างดี
เยีย่ ม เพราะภายในเขตของสํานัก มีพ้ืนที่เหมาะแก่การฝึ กเป็ นพิเศษ อีก
ทั้งยังมีทรัพยากรที่ใช้ในการเพาะปลูกอยูจ่ าํ นวนมาก

รอบๆพืนที่เต็มไปด้วยบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ซึ่ งพวกเขาสามารถจับจอง


สร้างที่อยูอ่ าศัยในพื้นที่ ที่พวกเขาชอบได้ และนั้นมันทําให้พวกเขารู ้สึก
สนุกสนานไปกับมัน

เนื่องจากอาณาเขตของสํานักสี่ คาบสมุทรนั้นกว้างใหญ่ จึงมีสิ่งอํานวย


ความสะดวกในการใช้เดินทาง พวกเขาจึงมีการวางสัญลักษ์รูปแบบ
อํานาจ ตราประทับเคลื่อนย้าย อยูน่ บั ไม่ถว้ นตามจุดต่างๆ ซึ่ งตรา
ประทับเคลื่อนย้ายถูกสร้างขึ้นโดยผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดม่วง

ด้วยการแผ่หลายของตราทับเคลื่อนย้าย ทัว่ ทั้งทวีปจึงมีการเดินทางที่


แสนจะสะดวก ไม่วา่ จะไปไหนก็ตาม มันกลายเป็ นสิ่ งที่น่าประทับใจ
อย่างมาก เพราะความเร็ วของตราประทับเคลื่อนย้าย เป็ นสิ่ งที่ใกล้เคียง
กับพื้นฐานของการขนส่ ง

* ซุบซิบ ซุบซิบ * เสี ยงคนจํานวนมาก

พื้นที่บริ เวณใจกลางของสํานักสี่ คาบสมุทร เป็ นเมืองขนาดใหญ่ ซึ่ งเต็ม


ไปด้วยผูค้ นหลายแสนคน และพวกเขาเหล่านั้นก็ลว้ นแต่มาเพื่อเข้าร่ วม
สํานักสี คาบสมุทร

ภายในเมืองใหญ่ มีตราประทับเคลื่อนย้ายที่เปล่งแสงสี ม่วงอยูน่ บั ไม่


ถ้วน เมื่อแสงนั้นเจิดจ้า ก็มีกลุ่มคนเดินออกมาจากภายในตราประทับ ซึ่ง
นั้นก็คือ ชูเฟิ ง และ คนอื่นๆ
" นี่หรอคือสํานักสี่ คาบสมุทร ไม่ธรรมดาเลยจริ งๆ ถึงกับ
สามารถวางตราประทับเคลื่อนย้ายได้มากมายขนาดนี้!!! ความเร็ วใน
การเคลื่อนที่ เมื่อตอนใช้งานตราประทับก็ค่อนข้างวิเศษ หรื ออาจกล่าว
ได้วา่ ความเร็ วของมันช่างน่ากลัว "

หลังจากที่เดินทางมาไกลแสนไกลแต่การมาถึงสํานักกับใช้เวลาเพียง
สั้นๆ แม้แต่ชูเฟิ งเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อ เขาที่เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯก็เคยใช้
พลังของตราประทับมาบ้างแล้ว ซึ่ งมันต้องใช้ความพยายามอย่างสู ง อีก
ทั้งยังสลับซับซ้อน ซึ่งเขารู ้ดีวา่ มันเป็ นสิ่ งที่ยากแค่ไหน ถึงจะสามารถ
สร้างตราประทับย่นระยะทางได้สมบูรณ์แบบนี้

" ที่แห่งนี้มีอะไรให้เราประหลาดใจได้จริ งๆ หากเป็ นระยะที่


ไกลมากมันคงจะซับซ่้อนมากขึ้นกว่านี้หลายเท่า การวางตราประทับ
เคลื่อนย้ายมันมีโครงสร้างเดียวกับการสร้างตราประทับลวงตา แต่ตรา
ประทับลวงตามันมีขนาดเล็กกว่า "
" แม้วา่ ตราประทับเหล่านี้แสดงผลเป็ นการเคลื่อนย้ายที่รวดเร็ ว
แต่โครงสร้างของมันใหญ่มาก ซึ่ งตราประทับเคลื่อนย้ายที่ใหญ่อีกทั้งยัง
มีจาํ นวนมากมายถึงขนาดนี้ พวกเขาคงต้องใช้ผเู ้ ชื่อมต่อชุดม่วงเป็ น
จํานวนมหาศาล อย่างน้อยๆก็คงมีไม่ต่าํ กว่าหลายร้อยคน "

" กล่าวได้วา่ ตราประทับที่เจ้าเห็นในวันนี้คือเลือดเนื้อและ


หยาดเหงื่อของอาวุโส สํานักสี่ คาบสมุทร "

" แต่หากมันถูกวางโดยผูเ้ ชื่อมต่อฯราชวงศ์ แม้คนคนเดียวก็


อาจจะสามารถวางโครงสร้างดังกล่าวนี้ได้ โดยที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี "
" และหากมันถูกวางโดยผูเ้ ชื่อมต่อฯราชันย์ มันจะเสร็ จสมบูรณ์
ได้ดว้ ยเวลาเพียงไม่กี่วนั และการสร้างตราประทับ พวกเขาก็จะ
เหนือกว่ากับสิ่ งที่เจ้าได้เห็น " ต้านต้านที่อยูใ่ นโลกวิญญาณ อธิบาย

" ผูเ้ ชื่อมต่อฯราชวงศ์ ? ผูเ้ ชื่อมต่อฯราชันย์ ? นั้นคือสิ่ งที่


เหนือกว่า ผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดทองหรื อเปล่า ? "ชูเฟิ งถามด้วยนํ้าเสี ยงที่
ตื่นเต้น เพราะเขารู ้วา่ ผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดทอง ยังไม่ใช่จุดสู งสุ ดของผู ้
เชื่อมต่อโลกวิญญาณ

แต่ตา้ นต้านจะมักไม่ยอมบอกเขาว่ามีผเู ้ ชื่อมต่อที่อยูเ่ หนือชุดคลุมสี ทอง


หรื อเปล่า เพราะว่ามันยังห่างไกลกับความใกล้เคียงที่เขาจะเข้าถึง แต่
ตอนนี้เหมือนว่าต้านต้านนางวางแผนที่จะบอกเรื่ องนี้กบั ชูเฟิ ง

" เริ่ มจากผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดทอง ต่อจากนั้นจะเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯ


ราชวงศ์ เหนือไปกว่านั้นจะเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯราชันย์ " ต้านต้านกล่าว

" แล้วผูเ้ ชื่อมต่อที่เหนือกว่าผูเ้ ชื่อมต่อฯราชันย์ล่ะ ? มีอีกหรื อ


เปล่า " ชูเฟิ ง ถามใกล้ๆ

" เหนือกว่าผูเ้ ชื่อมต่อฯราชันย์ แน่นอนว่ามี แต่ขา้ เกรงว่าแม้แต่


ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์เองก็ยงั ไม่มีใครที่ไปถึงระดับนั้น มันจะดีกว่า
ถ้าเจ้ายังไม่ตอ้ งถาม เพราะสิ่ งเหล่านั้นมันยังห่างไกลจากเจ้าอีกมาก "

" เอาแค่ ผูเ้ ชื่อมต่อฯราชวงศ์ ถ้าพวกเขามีความสามารถพอ อย่าง


น้อยๆต้องมีพลังวิญญาณในอาณาจักรราชันย์แห่งสงคราม แต่น้ นั ก็คงยัง
ไม่พอที่พวกเขาจะได้เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯราชวงศ์ ถ้าหากพวกเขายังไม่เข้าใจ
อํานาจพลังวิญญาณพอ เพราะอํานาจพลังวิญญาณในระดับราชวงศ์เป็ น
สิ่ งที่แตกต่างจากอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงไปอย่างสิ้ นเชิง ซึ่ งความต่าง
ชั้นของมันเทียบได้กบั พิภพและสวรรค์ "

" จึงมีแต่ผเู ้ ชี่ยวชาญอาณาจักร จักรพรรดิแห่งสงครามจึงจะเป็ นผู ้


เชื่อมต่อฯราชวงศ์ ดังนั้นตอนนี้เจ้ารู ้วา่ การที่จะได้เป็ น ผูเ้ ชื่อมต่อฯ
ราชันย์ มันยากแค่ไหนแล้วใช่ม้ ยั ? " ต้านต้านหัวเราะคิกคัก ขณะที่
กล่าว

ได่ยนิ ถึงจุดนั้น ชูเฟิ ง ก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพราะเขารู ้ถึง


เส้นทางของการเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อว่ามันลําบากมากแค่ไหน แม้แต่จกั รพรรดิ
แห่งสงครามนั้นก็ยากมากแล้ว ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงไม่กล้าที่จะจินตนาการ
ไปไกลกว่านั้น

" ขออภัย!!! พวกท่านวางแผนที่จะเข้าร่ วมสํานักสี่ คาบสมุทร ?


" หลังจากเดินออกมาจากตราประทับ ก็มีชายคนหนึ่งตรวงเข้ามาถาม
ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิม้

ผูช้ ายคนนั้นอยูใ่ นวัยกลางคน ดูจากลักษณะแล้วคงจะมีอายุไม่เกิน 40


ปี ซึ่งใบหน้าของเขาเหมือนกับผ่านประสบการณ์อย่างอย่างโชกโชน จึง
มีลกั ษณะภายนอกที่เหมือนจะรู ้อะไรต่อมิอะไร พลังวิญญาณของเขาก็
ไม่ธรรมดาเช่นกัน เขาอยูใ่ นอาณาจักรสวรรค์ระดับ 5 พูดถึงในแง่ของ
พลังวิญญาณอาจบอกได้วา่ เขา เหนือกว่า ชูเฟิ งและคนอื่นๆ

สิ่ งที่สาํ คัญ คือเสื้ อผ้าที่เขาสวมใส่ มีอกั ษรสี ดาํ ขนาดใหญ่ปักไว้วา่ " 4
คาบสมุทร " และป้ายที่เอวก็บอกถึงตัวตอนของเขา ว่าเป็ นคนของสํานัก
สี่ คาบสมุทร

" ศิษย์พี่ พวกเราคิดจะเข้าร่ วมสํานักสี่ คาบสมุทร และพวกเราได้


ยินมาว่าสถานที่แห่งนี้สามารถให้เราพักผ่อนได้ในระหว่างรอ เราจึงมา
ที่นี่ " เจียง หวูช่ าง ตอบกลับอย่างสุ ภาพ โดยไม่กล้าที่จะหยาบคายต่อคน
ของสํานักสี่ คาบสมุทร

โดยเฉพาะบนเส้นทางแห่งนี้ พวกเขาได้เห็นความไร้เหตุผลของคนใน
สํานักสี่ คาบสมุทรมาก็เยอะแล้ว ดังนั้นเจียง หวูช่ าง จึงไม่คิดจะเสี ย
มารยาท เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา

" มาสถานที่แห่งนี้ นับว่าถูกต้อง ศิษย์นอ้ งตามข้ามา ข้าจะจัดหาที่


พักที่ดีที่สุดให้กบั พวกเจ้า " แต่สิ่งทําให้ชูเฟิ งและทุกคนแปลกใจ นั้นก็
คือ คนคนนั้นไม่มีท่าทียง่ิ ยโสเลยแม้แต่นอ้ ย และดูเหมือนว่าเขาจะใจดี
อย่างมาก มันทําให้ชูเฟิ งและคนอื่นมองหน้ากันอย่างมึน งง

ซึ่งเขาคิดว่าชายตรงหน้าเขานั้นคงไม่ต่างจากคนอื่นๆซะอีก แต่เขากับดู
มีน้ าํ ใจอย่างมาก ในตอนแรกที่เดินผ่านมา มีหลายคนจงใจปิ ดทางเดิน
ของพวกเขา พร้อมกับพูดจานินทา ชูเฟิ ง และ คนอื่นๆ แต่ตอนนี้พวกเขา
รู ้แล้วว่าคิดผิด

ผูช้ ายคนนี้ดูใจดีสุดๆ อีกทั้งยังดูแลต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น ไม่


เพียงแต่เขาจะนําทางให้ เขายังป้องกันพวกเขาจากคนรอบข้างที่ทาํ
หน้าตาดุร้ายใส่ แต่เมื่อชายคนนั้นมองหน้า คนอื่นๆก็โค้งตัวขอโทษ
พร้อมกับแยกย้าย และหายไป

ซึ่งเห็นแบบนั้น ชูเฟิ งและคนอื่นๆจ้องหน้ากัน เพราะรู ้วา่ เขาคนนี้เรี ยนรู ้


วิธีที่จะปฏิบตั ิตวั กับผูอ้ ื่น เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ แต่เหมือนว่า ชูเฟิ ง
และพรรรคพวกจะเป็ นข้อยกเว้น

แม้วา่ จะมีคนหลายหมื่นหลายแสนเตรี ยมตัวจะเข้าร่ วมสํานักสี่


คาบสมุทรในวันนี้ แต่ในความเป็ นจริ งมีเพียงกลุ่มของพวกเขาที่ยงั เด็ก
แต่คนที่เป็ นเด็กแท้จริ งแลวกับเข้าสู่ อาณาจักรสวรรค์กนั ทุกคน ซึ่ ง
ภายในคนจํานวนมาก แทบจะไม่มีเลย

ดังนั้น เมื่อเห็นว่ามีเด็กหนุ่มสาวที่แข็งแกร่ งเหมือนชูเฟิ งมาเป็ นกลุ่ม ซึ่ ง


กลุ่มเขามีโอกาสมากที่จะผ่านการทดสอบ และไม่แน่วา่ พวกเขาในวัน
หน้าอาจจะได้ดิบได้ดีในสํานักสี่ คาบสมุทร

ดังนั้น ศิษย์ของสํานักสี่ คาบสมุทรจึงไม่มีใครคิดจะขัดใจพวกของชูเฟิ ง


อีกทั้งพวกเขายังหาลู่ทางที่เข้ามาต้อนรับพวกเขาโดยแอบเนียนตีสนิท

เขาคงจะหวังไว้วา่ หากชูเฟิ งและคนอื่นๆประสบความสําเร็ จในอนาคต


บางทีพวกชูเฟิ งอาจจะดึงพวกเขาขึ้นไปด้วย ซึ่งวิธีน้ นั ก็มกั จะได้ผล
ถึงแม้วา่ มันไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ ในสายตาของคนภายนอก แต่
ในความเป็ นจริ ง ภายในสํานักสี่ คาบสมุทร มีคนทําแบบนี้ไม่นอ้ ย
และก็ดูเหมือนว่า ลูกศิษย์วยั กลางคนคนนี้ได้เตรี ยมที่พกั สุ ดหรู ไว้ให้กบั
พรรคพวกชูเฟิ งเรี ยบร้อยแล้ว นอกจากนี้เขายังจัดหาคนรับใช้ไว้ให้พวก
เขาเรี ยกใช้งาน ซึ่งคนรับใช้ไม่ใช่คนของสํานักสี่ คาบสมุทร แต่มนั คน
รับใช้ของพวกเขา ซึ่งเหล่าอาวุโสและศิษย์ภายในสํานักล้วนแล้วแต่มี
ผูร้ ับใช้กนั แทบจะทุกคน

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///
A : ถ้าฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ ไม่หนีนะ คนรับใช้ของพี่เฟิ ง จะทําให้ทุกคนใน
ภาคทะเลตะวันออกตกใจกันขี้แตกขี้แตน

B : โดยเฉพาะ หมู่เกาะประหาร ยิง่ หากได้กาํ ลังของพรรคมารทลาย


ราตรี บอกไว้เลยโครตจะมันส์!!!

A : ว่าแต่ ชูเฟิ ง จะเข้าสํานักสี่ คาบสมุทรหรื อเปล่า ???


B : ไม่ๆ ชูเฟิ ง มีภาระกิจอื่น จะอยูใ่ นสํานักแค่พกั หนึ่ง !!! จากนั้นก็จะ
เริ่ มไปหาสมบัติเพื่อเพิม่ พลังวิญญาณให้ฟุ่งกระฉูด แต่ก่อนหน้านั้น เด๋ ว
พี่เฟิ งจะเข้าร่ วมงานประมูล ซึ่งในงานนั้น ชูเฟิ ง ไปทําให้ 1 ใน 10
ปรมาจารย์ สะดุดตา และอยากได้มาเป็ นลูกศิษย์!!! ทั้งๆที่แม่งแทบจะ
ไม่รับศิษย์มาก่อน

C : โหวว ขนาดนั้นเลย ก็แค่คนขาเป๋ !!!

A - B : แล้วไง!!! เก่งก็แล้วกัน

บทที่ 558 - สิ บปรมาจารย์สวรรค์

“ ศิษย์พี่ ยูเ่ ห้อ ท่านสุ ภาพเกินไปแล้ว เราไม่ได้ตอ้ งการคนรับใช้


หรอก.” เจียง หวูช่ างพูดอย่างอายๆ และพูดคุยกับชายวัยกลางคนที่ชื่อ
ว่า ยูเ่ หอ
“เจ้าคงเหนื่อยกับการเดินทางสิ นะ เจ้าไม่ควรปฏิเสธเรื่ องเช่นนี้
หรอกนะ นอกจากนี้ คนที่มาเยือนก็ถือแขก ดังนั้นเจ้าที่มา สํานัก สี่
สมุทรของข้า ข้าก็ควรทําสิ่ งที่เหมือนกับการนํานํ้าชามาต้อนรับเจ้า” (
T/N อันนี้เป็ นการเล่นสํานวนครับผมไม่รู้จะเรี ยบเรี ยงยังไงดี ก็
ประมาณว่า เมื่อแขกมาเยีย่ มบ้านก็บริ การแขกประมาณนี้แหละ)

“มีเวลาหลายวันก่อนเริ่ มสอบ และนอกจากนี้การสอบยังกินเวลา


อีกยาวนาน ข้าคิดว่าถ้ามีคนสักคนมาดูและเจ้ามันก็คงจะดี หากเจ้า
ต้องการความช่วยเหลือใดๆ เจ้าจะได้บอกข้ารับใช้ แล้วก็ให้พวกเขามา
บอกข้า แน่นอนข้าจะมาให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะทําได้.”

“นี่กเ็ สี ยเวลามามากแล้ว เจ้าไปพักก่อนเถิด เดี๋ยวข้าจะแจ้งเรื่ อง


เวลาในการทดสอบให้.” ยู่ เหอ ยิม้ แล้วลอยจากไป
ชูเฟิ ง และ คนอื่นๆมองหน้ากันแล้วก็ได้แต่ยมิ้ ให้กบั ท่าทางของ ยูเ่ หอ
ยอมรับข้อเสนอของเขา พวกเขารู ้เหตุผลแล้วว่าทําไม ยูเ่ หอ ถึงได้รับ
ความเคารพ

ในตอนนั้น เจียง หวูช่ าง จาง เทียนยี่ ซู รู่ ว และ ซู เหม่ย ก็รู้สึกมีความ


มัน่ ใจมากขึ้นอย่างมาก และรู ้สึกว่า การได้เข้าร่ วมกับสํานักสี่ สมุทรก็
เหมือนกับปลาที่ได้แหวกว่ายในนํ้า

หลายวันต่อมา ในที่สุดวันทดสอบก็มาถึงแต่ชูเฟิ งนั้นไม่ได้ตอ้ งการจะ


เข้าร่ วมสํานักสี่ สมุทร เป็ นเพราะเขามีเหตุผลบางอย่างที่ตอ้ งทําอยู่

และเมื่อชูเฟิ ง และคนอื่นๆ มายังสถานที่สอบนี้ พวกเขาก็ได้เห็นสนาม


สอบ

สนามทดสอบเป็ นปราสาทแบบปิ ด และพื้นที่ของมันนั้น มีขนาดเท่ากับ


ภูเขาขนาดย่อมๆเลย

และผูท้ ี่มาเข้าร่ วมทดสอบนั้นมีทุกเพศทุกวัย พวกเขาทั้งหมดนั้น อยุใ่ น


ระดับอาณาจักรสวรรค์ และเมื่อคนกว่าหลายหมื่นคนที่เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ
ระดับอาณาจักรสวรรค์ ปรากฏตัวขึ้นทําให้ภาพที่เห็นนี้มนั ช่าง งดงาม
เหลือเกิน

“ชูเฟิ ง เจ้าจะไม่เข้าร่ วมสํานักสี่ สมุทรกับพวกเราหรื อ แล้วข้าจะไป


กับเจ้าไม่ได้จริ งๆหรื อ” นอกสถานที่สอบ ซูเหม่ย ถามชูเฟิ ง
เธอนั้นไม่ได้ตอ้ งการเข้าร่ วมสํานักสี่ สมุทร และต้องการที่จะตามชูเฟิ ง
อย่างไรก็ตามเขา ให้ทุกคนอยูท่ ี่สาํ นัก 4 สมุทรก่อนเพราะเขาไม่อยาก
ให้ทุกคนไปเผชิญอันตรายเช่นเดียวกับเขา

“เหม่ยน้อย ฟังชูเฟิ งเถิด เขามีบางอย่างที่จะต้องแยกตัวไปทําก่อน


ถ้าเจ้าไปกับเขามันจะทําให้เขาเป็ นห่วงเจ้าจนไม่ได้ทาํ อะไร.”

แต่ก่อน ที่ชูเฟิ ง จะพูด ซูรู่ วก้าวออกมาและพูดกับซูเหม่ยพร้อมมองไปที่


ชูเฟิ ง ในสายตาเธอนั้นบ่งบอกรู ้วา่ เธอก็ไม่เต็มใจที่จะพูดเช่นกัน

“ไปเถิด เดี๋ยวข้าก็กลับมาแล้ว.” ชูเฟิ งยิม้ และดันทั้ง2ด้วยรอยยิม้


เมื่อเห็นว่าซูรู่ว และ ซูเหม่ย ยอมปล่อยให้เขาไปแล้ว เขาจึงมุ่งหน้าไปที่
ทางเข้าสถานที่ทดสอบของ จาง เทียนยี่ และ เจียงหวูช่ าง

“ห๊ะ ชูเฟิ ง ทําไมเจ้ายังอยูท่ ี่นี่ การทดสอบจะเริ่ มแล้ว ถ้าเจ้าไม่เข้า


ร่ วมตอนนี้ เจ้าจะหมดสิ ทธิ์นะ.” ในตอนนั้นก็มีเสี ยงดังออกมาจากข้าง
หลังของเขานัน่ เป็ นเสี ยงของ ยูเ่ หอ

“ผูอ้ าวุโส ยูเ่ หอ ข้านั้นไม่ได้ตอ้ งการจะร่ วมสํานักสี่ สมุทรตั้งแต่


แรกแล้ว.” ชูเฟิ งตอบกลับด้วยรอยยิม้

“หา เจ้าพูดเล่นใช่ไหม เจ้าไม่ได้ตอ้ งการเข้าร่ วมสํานักสี่ สมุทร


จริ งๆหรื อ” หลังจจากได้ยนิ ชูเฟิ งพูด ยูเ่ หอก็ตกใจอย่างมาก แต่เมื่อเห็น
ท่าทางจริ งๆจังของชูเฟิ ง เขาจึงเชื่อ หลังจากนั้นเขาก็พดู พร้อมส่ ายหน้า
ว่า, “น่าเสี ยดาย น่าเสี ยดายจริ งๆ.”

*วูบ่ วูบ่ วูบ่ วูบ่ *

ในตอนนั้นก็มีแสงปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า และต่อจากนั้นกลุ่มแสงก็
ทะยานไป-มาเหนือสถานที่ทดสอบ จากนั้นก็หยุดอยูก่ ลางอากาศ

ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็พบว่ามี 9 คนยืนอยู่ ใน9 คนนั้น มี2 เป็ นหญิง


และอีก 7 เป็ นชาย ทั้งหมดล้วนมีผมสี ขาวและมีอายุมากแล้ว

อย่างไรก็ตามระดับการบ่มเพาะของพวกเขานั้นเหนือชั้นมาก มัน
มากกว่าผูก้ ่อตั้งสํานักมังกรฟ้าเสี ยอีก ดังนั้นชูเฟิ งจึงคิดว่าพวกเขาทั้ง 9
นั้งอยูใ่ นระดับ เจ้าสงคราม และระดับต้องไม่ต่าํ แน่นอน

“นัน่ 10 ปรมาจารย์สวรรค์!”

หลังจากเห็น คนทั้ง 9 ปรากฏตัวขึ้น ก็มีเสี ยงดังออกมาจากเหล่าศิษย์


ของสํานักสี่ สมุทรและเหล่าผูอ้ าวุโส

การปรากฏตัวของทั้ง 9 นั้นสร้างความสนใจให้กบั ฝูงชนไมน้อย และ


เมื่อพวกเขาหยุดอยูบ่ นอากาศก็มีเสี ยงส่ งมาทันที

สักพักพวกเขาก็พงุ่ ลงไปยังสนามสอบและนัน่ ทําให้ฝงู ชนเริ่ มสงบลง


“ผูอ้ าวุโส ยูเ่ หอ พวกเขาทั้ง 9 เป็ นใครกัน” ชูเฟิ งถาม

“ชูเฟิ ง เจ้าไม่เคยได้ยนิ เรื่ อง 10 ปรมาจารย์สวรรค์หรื อ” ยู่ เห้อ


ถาม ด้วยความตกใจ

“พูดตามตรงข้าไม่เคยได้ยนิ มาก่อน” ในตอนนั้นชูเฟิ งก็กม้ หน้า


เล็กน้อยและรู ้สึกอายๆ เพราะเขารู ้วา่ สํานักสี่ สมุทรนั้นแข็งแกร่ งมาก แต่
มันก็ไม่แข็งแกร่ งกว่าหมู่เกาะประหาร ดังนั้นชูเฟิ งจึงละทิ้งเรื่ องที่จะเข้า
สํานักสี่ สมุทรทันที

ความจริ งแล้ว เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสํานักสี่ สมุทรเลย เมื่อออกมาจาก


ทวีปเก้าอาณาจักรชูเฟิ งก็ได้แต่ฝึกฝนและเรี ยนรู ้วธิ ีคน้ หาชีพจรสมบัติ
จนตอนนี้เขารู ้เรื่ องสํานักสี่ สมุทรมาบ้าง จากการพูดคุยของ เจียง หวูช่ าง
และคนอื่นๆเท่านั้น

“ไม่เป็ นไร ข้าจะบอกเจ้าเอง.”

“ในสํานักสี่ สมุทร ผูอ้ าวุโสจะมีหน้าที่จดั การเรื่ องศิษย์ และส่ ง


ศิษย์ที่มีความสามารถไปยังเหล่าอาจารย์.”

“เหล่าอาจารย์จะมี 3 ระดับ 1คือ. ปรมาจารย์ปฐพี, และอีก


อย่างคือ ปรมาจารย์นภา. พวกเขาจะรับศิษย์คนใดบ้างก็ข้ ึนอยูก่ บั
ผลลัพธ์จากการทดสอบของเหล่าศิษย์.”
“แต่นอกเหนือจากทั้ง 2 ระดับนั้น ยังมีปรมาจารย์สวรรค์อีก
ด้วย พวกเขานั้นแข็งแกร่ งมาก อาจพูดได้วา่ เป็ นกําลังหลักที่แข็งแกร่ ง
ที่สุดของสํานัก สี่ สมุทร ดันนั้นพวกเขาจึงมีต่าํ แหน่งที่สูงมากในสํานัก.”

“อย่างไรก็ตาม ศิษย์ไม่มีสิทธิ์เลือกพวกเขา พวกเขาเท่านั้นที่มี


สิ ทธิ์เลือก.”

“โดยเฉพาะ 10 ปรมาจารย์สวรรค์ พวกเขาจะเลือกแค่คนละ 1


คนเท่านั้นi.”

“และหลังจากศิษย์ได้จบจากสํานักนี้ไปแล้ว พวกเขาก็จะเริ่ มเลือก


ใหม่ และ ในปี นี้บงั เอิญศิษย์ของพวกเขานั้นได้ออกไปแล้ว พวกเขาจึง
เริ่ มเลือกศิษย์ใหม่.” ยู่ เห้อ พูด
“ไม่แปลกใจเลยว่า คนจากสํานักสี่ สมุทรถึงส่ งเสี ยงเชียร์ เพราะเขา
คือผูย้ งิ่ ใหญ่ในสํานักนี่เอง.”

“แต่ ผูอ้ าวุโส ยู่ เห้อ ท่านบอกว่า 10 ทําไมถึงมี 9คน ล่ะ” ชูเฟิ ง
สงสัย เพราะเขานับได้9คน

“โอ้ คนนั้นเป็ นคนที่แปลกมาก มีศิษย์นอ้ ยมากที่จะต้องตาของเขา


อาจบอกได้วา่ เขาไม่เคยรับศิษย์เลย ดังนั้นไม่ตอ้ งแปลกใจถ้าเขาจะไม่
มี.” ยู่ เหอ พูดขึ้น

“เขาเป็ นเช่นนั้นแล้ว สํานัก สี่ สมุทรไม่ทาํ อะไรหน่อยหรื อ” ชูเฟิ ง


รู ้สึกว่าการที่เป็ นอาจารย์แล้วไม่รับศิษย์มนั ก็เหมือนการเข้าห้องนํ้าแต่
ไม่ได้ข้ ี เช่นนี้แล้วสํานักสี่ สมุทรจะเพิกเฉยต่อการกระทําเช่นนี้อีกหรื อ

“โห้ว.” สําหรับคําถามของชูเฟิ ง ยูเ่ หอ หัวเราและกระซิ บที่ขา้ งหู


เขาว่า “เมื่อคนเราเก่งได้ในระดับนึงแล้ว เขาก็สร้างขอยกเว้นได้.”

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////
A : พี่เฟิ ง จะเข้าสํานักด้วยป่ ะเนี่ย ???

B : ไม่ไง บอกว่าไม่วา่ ง ต้องไปทําภาระกิจ

A : ภารกิจ!!! เออเนอะ แล้วได้ยนิ แว่วๆมาว่า ชูเฟิ ง ไปสะดุดตา หนึ่ง


ในสิ บ ปรมาจารย์สวรรค์ นี่ข่าวรื อจริ งเท็จ เพียงใด
B : จริ งนะ แบบคนๆนั้น ดีกบั ชูเฟิ งมากๆ คอยช่วยเหลือเค้าหลายอย่าง

A : งั้นแปล ว่าพีเ่ ฟิ งตอบรับเป็ นลูกศิษย์อ่ะดิ

B : ไม่เอาไม่พดู ไม่เอาไม่เอาไม่บอก!!!

บทที่ 559 - ของขวัญแสดงความยินดี

การทดสอบของสํานักสี่ สมุทรนั้นซับซ้อนมาก โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อมี


เข้าร่ วมหลายหมื่นคน ทําให้ตอ้ งใช้เวลาหลายวันกว่าการทดสอบจะ
เสร็ จสิ้ น

และระหว่างนั้น ชูเฟิ งก็ศึกษาวิธีคน้ หาเส้นชีพจร ในที่พกั ของเขา


ในขณะที่รอฟังผลการทดสอบ
“ชูเฟิ ง ชูเฟิ ง!” หลายวันผ่านไป ในที่พกั ของเขาที่แสนเงียบงัน ก็มี
เสี ยงดังขึ้น ในตอนนั้นชูเฟิ งก็รู้ทนั ทีวา่ การทดสอบเสร็ จสิ้ นแล้ว

เมื่อชูเฟิ ง ลืมตาขึ้น เขาก็พบว่าประตูหอ้ งของเขาถูกเปิ ดออกและมีร่าง


ของหญิงงามพุง่ เข้ามา และกระโจนสู่ ออ้ มกอดของเขา.

เมื่อมองไปที่สาวงามคนนั้นชูเฟิ งก็หวั เราะเบาๆ เพราะเขารู ้ดีวา่ คนคนนี้


ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ซูเหม่ย “เจ้าดีใจขนาดนี้แสดงว่าผ่านแล้วใช่
หรื อไม่”

“ไม่ใช่แค่ผา่ นเท่านั้น พี่ชายเทียนยี่ และ ข้านั้นนับถือแม่นาง ซู่ รู่ ว


และ ซูเหม่ยจริ งๆ” ก่อนที่ซูเหม่ยจะพูด เสี ยงของ เจียง หวูช่ างก็ดงั
ขึ้นมา

เมื่อมองไปตามเสี ยง เขาก็เห็น เจียง หวูช่ าง จาง เทียนยี่ และ ซู รู่ ว ก็เดิน


เข้ามา พร้อมรอยยิม้ บนใบหน้าของทั้งง 3

“ทําไมหรื อ น้องชายหวูช่ าง ” ชูเฟิ งถาม

“ในการทดสอบครั้งนี้ มี ปรมาจารย์สวรรค์ มาชมด้วย พี่ชายท่าน


คงรู ้บา้ งแล้วว่าพวกเขานั้นโดดเด่นเพียงใด แล้วที่สาํ คัญที่สาํ นักนี้ไม่มี
อาจารย์ มีแต่ ปรมาจารย์ เหล่าปรมาจารย์คือผูท้ ี่จะคอยฝึ ก สอนให้กบั
พวกเรา.”
“และนอกจากนี้ ที่นี่ยงั แบ่งระดับปรมาจารย์เป็ นหลายระดับ
และ 10 ปรมาจารย์สวรรค์น้ นั แข็งแกร่ งที่สุด ตําแหน่งของพวกเขานั้น
สู งส่ งมากและได้รับข้อยกเว้นมากมาย เป็ นเหตุผลให้ทุกๆคนต้องการจะ
เป็ นศิษย์ของพวกเขา.”

“และหากได้เป็ นศฺษย์ของพวกเขา ไม่เพียงจะได้รับสวัสดิการ


ระดับสู งแล้ว ยังได้รับตําแหน่งที่สูงในสํานักอีก แม้แต่ผอู ้ าวุโสและ
เหล่าปรมาจารย์ ก็ยงั ต้องเกรงใจ.”

“แม่นาง ซู รู่ ว และซู เหม่ยนั้น ถูก 2 ปรมาจารย์สวรรค์ จับตอง


มอง นอกจากนี้พวกเธอไม่ตอ้ งทดสอบหรื อแข่งขันใดๆอีก พูดได้วา่ 4
ปี ต่อจากนี้ พวกเธอจะพัฒนาอย่างมากเนื่องจากได้รับการสอนจาก
ปรมาจารย์สวรรค์.”
“พี่ชายชูเฟิ ง ไม่ตอ้ งกังวล ทั้งคู่เป็ นผูห้ ญิง ดังนั้นพวกเธอไม่ได้
เห็นแก่ความงามของแม่นาง ทั้ง 2 อย่างแน่นอน แต่พวกเธอเห็น
ความสามารถต่างหากล่ะ!”

เจียง หวูช่ างพูดด้วยรอยยิม้ เห็นได้วา่ เขายินดีกบั ซู รู่ ว และ ซู เหม่ยจาก


ใจจริ ง

“น้องชาย หวูช่ าง หยุดพูดเล่นได้แล้ว ไม่ใช่วา่ ความสามารถของ


เจ้ากับศิษย์พี่จางก็น่าประทับใจอย่างนั้นหรื อ นอกจากนี้เจ้ายังถูก
ปรมาจารย์สวรรค์ จับตามองอีกด้วย!”

“และหากเจ้าสามารถชนะในงานเผชิญหน้าในวันพรุ่ งนี้ เจ้าก็จะ


ได้เป็ นศิษย์ของปรมาจารย์สวรรค์.” ซู รู่ วพูดขึ้น
“งานเผชิญหน้า มันคืออะไรงั้นหรื อ” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ งก็
สงสัย

“ชูเฟิ ง มันเป็ นอย่างนี้ ศิษย์พี่ จาง แล้วก็ น้องชายหวู่ ชาง นั้นถูก


จับตามองโดย 2 ปรมาจารย์สวรรค์”

“อย่างไรก็ตามยังมีคนที่แข็งแกร่ งอีกจํานวนมากเช่นกัน และ


ปรมาจารย์สวรรค์ ทุกคนนั้นจะรับศิษย์แค่คนเดียว ถ้าน้องชาย หวูช่ าง
และ ศิษย์พี่ จาง ต้องการติดตามพวกเขา เขาก็ตอ้ งเอาชนะศิษย์คนอื่นๆ
และเก็บชัยชนะให้ได้ในที่สุด.” ซู่ รู ว อธิบายให้ชูเฟิ งฟัน
“ปรมาจารย์สวรรค์ สองคนนั้นกําลังลังเลที่จะเลือกคนอยูอ่ ย่าง
นั้นสิ นะ.” ชูเฟิ ง พูด

“อ่า นัน่ แหละที่ขา้ บอกว่าทําไม แม่นาง ซู รู่ ว กับ ซูเหม่ย ถึงน่า


ประทับใจ เพราะทั้ง 2 ไม่ตอ้ งเข้าร่ วมงานเชผิญหน้า แต่กถ็ ูกเลือกแล้ว
นัน่ เป็ นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลยนะ!” เจียง หวูช่ าง พูดขึ้น พร้อม
รอยยิม้

“นี่แหละที่น่าเหลือเชื่อเพราะ นอกจากทั้ง 2 คนนั้นที่เลือกแม่


นาง ซูรู่ ว และ ซูเหม่ย แล้ว ทุกคนนั้นต้องการเลือกศิษย์หลายคน และ
เป็ นเหตุให้มีหลายคนนั้นที่จะต้องถูกกําจัดไป.” จาง เทียนยี่ ยิม้ แล้วพูด

“อืม แต่ พี่ชายชูเฟิ ง ไม่ตอ้ งกังวล.”


“พี่ชาย เทียนยี่ กับข้า ตรวจสอบคู่ต่อสู อ้ ย่างละเอียดแล้ว พูดตาม
ตรงว่า มันอาจจะยากแต่ไม่คณามือพวกเราหรอก.”

“อ่า ใช่ แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ ในบรรดาคนที่จะมาสู ก้ บั พวกข้า


นั้น มีคนแซ่ เซินถู่ และ พวกเขามาจากราชวงศ์ เซิ นถู่ดว้ ย ข้ามัน่ ใจว่า
พวกเขาต้องเกี่ยวข้องกับ เซินถู่ หลาง ซักทางหนึ่ง อย่างแน่นอน.” เจียง
หวูช่ างพูดด้วยรอยยิม้ ชัว่ ร้าย เพราะเขาต้องการแก้แค้น เซิ นถู หลาง

“ถ้าเป็ นเช่นนั้นก็ดี แต่ถา้ ไม่กช็ ่างมัน อย่างไรก็ตามนี่เป็ นโอกาสที่


หายากมาก ไม่ตอ้ งสนว่าคู่ต่อสู ค้ ือใคร และไม่ตอ้ งปราณี มนั แสดงให้
ปรมาจารย์สวรรค์ เห็นถึงความสามารถของเจ้ายิง่ เจ้าทําให้เขาเห็น
ได้มากเท่าไหร่ มันจะเป็ นผลดีต่อการพัฒนาของเจ้า ดังนั้นอย่าเก็บซ่อน
ไว้ล่ะ.” ชูเฟิ ง พูด
“อย่างกังวล ข้ากับ พี่ชาย เทียนยี่ นั้นไม่เคยเห็นแก่หน้าศัตรู อยู่
แล้ว ใช่ไม่พี่ชาย เทียนยี!่ ” เจียง หวูช่ าง หันไปถามความเห็นจาก จาง
เทียนยี่

ทางด้านจาง เทียนยี่ ก็ยมิ้ และตอบว่า “ แน่นอน.”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!”

ในตอนนั้น ชูเฟิ งและคนอื่นๆ ก็หวั เราะออกมา พวกเขารู ้สึกดีมาก


หลังจากนี้ ถ้าทั้ง 4 ได้เป็ นศิษย์ของ ปรมาจารย์สวรรค์ แล้วเส้นทางใน
สํานักสี่ สมุทรของพวกเขานั้น ก็ดงั่ กับเป็ น ก้าวแรกสู่ สวรรค์แล้ว
ในด้านความแข็งแกร่ งนั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในด้านของสถานะ พวก
เขาจะได้รับการเคารพจากผูค้ นจํานวนมาก

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ยินดีดว้ ย ยินดีดว้ ย” ในตอนนั้นก็มี เสี ยงหัวเราะดังออกมา


จากด้านนอก

ชูเฟิ ง และ คนอื่นๆ จึงหันไปดูเจ้าของเสี ยง และพบว่า เจ้าของเสี ยงนั้น


คือคนที่พวกเขารู ้จกั ดี เขาคือ ยูเ่ ห้อ นัน่ เอง

“ศิษย์นอ้ ง ขอแสดงความยินดีดว้ ยจริ งๆ ที่พวกเจ้าทั้งหมดได้


เป็ นศิษย์ของ ปรมาจารย์สวรรค์ในอนาคต ข้าคงต้องพึ่งพวกเจ้า!” ยูเ่ หอ
เดินเข้ามา พร้อมกับของขวัญบางอย่างในมือ
และด้านหลังของเขานั้น มีศิษย์จากสํานักสี่ สมุทรคนอื่นตามเขามา เขา
เดินเข้ามาด้วยรอยยิม้ และถือของขวัญลํ้าค่าไว้ในมือ

“ศิษย์พี่ยเู่ ห้อ ท่านจะทําอะไรของท่าน” เมื่อเห็นเช่นนั้น เจียง


หวูช่ าง ก็ถามด้วยความสับสน

“อ้า ศิษย์นอ้ ง เจียง โปรดรับไว้ดว้ ยนี่ มันก็แค่ของขวัญ


เล็กๆน้อยๆจากใจข้า ไม่ตอ้ งคิดมาเรื่ องมันหรอก.” ยูเ่ ห้อ ยัดเยียดของ
ขวัญในมือให้กบั เจียง หวูช่ าง

“ถูกต้องแล้ว ศิษย์นอ้ ง มันเป็ นของขวัญเล็กๆน้อยๆจากพวกเรา


โปรดรับไว้ดว้ ย ในอนาคตเราอาจจะต้องพึ่งเจ้า …” หลังจากนั้น ศิษย์
ที่ตามยู่ เห้อมา ก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิม้ และยืน่ ของขวัญแสดงความยินดี
ออกมา

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////
A : ประจบสอพลอ!!! แต่ของฟรี มาถึงมือ มีหรื อจะไม่รับ!!!

B : ถูกต้อง!!! รับไปก็ไม่เห็นเสี ยหาย คนแบบนี้ เลียเข้ง เลียขา แต่กไ็ ม่


มีพิษมีภยั อะไร

C : เกิดมีระเบิดอยูข่ า้ งในอ่ะ!!!
A : มืงหรื อบ้าป่ าว!!! นิยายจีนไม่ใช่การ์ตูน เอาระเบิดมาใส่ ไว้ทาํ
มะเขืออะไร

B : อีกไม่นานหรอก!!!

A4 : อย่าไปสนพวกมันคับ อีกไม่กี่ตอนเราจะเข้าสู่ งานประมูล ซึ่ ง


เป็ นครั้งแรกที่ พี่เฟิ งเราจะร่ วมงานนี้ เนตรสวรรค์ จะมีประโยชน์ในการ
ประมูลครั้งนี้หรื อไม่ แล้วพระเอกเราจะรํ่ารวยมากแค่ไหน หรื อ จนมาก
แค่ไหน จะได้รู้ทรัพสิ นย์กนั ในเร็ วๆนี้

C : จน!!!
บทที่ 560 - ประมูล

"นี่…” ในตอนนั้นเจียง หวูชาง ก็ลงั เล เขาไม่รู้วา่ ควรจะรับดี


หรื อไม่ จึงส่ งสายตาไปยังชูเฟิ ง และ จาง เทียนยี่
“น้องชาย หวูชาง รับไว้เถิด เจ้าก็แค่ตอบแทนพวกเขาในอนาคตก็
พอ.”

ชูเฟิ ง ยิม้ เขานั้นยอมรับของจากผูอ้ ื่นและใช้คืนเสมอ ถึงแม้วา่ ยู่ เห้อ จะ


คิดไม่ดีกบั เขา แต่อย่างไรก็ตาม ยู่ เห้อ ก็เคยช่วยเขามาในก่อนหน้านี้

สําหรับคนอื่นๆ ที่ยู่ เห้อ พามานั้นพวกเขาสนิทกันมากและสนิทกับ ยู่


เห้อด้วย จึงไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะรับผลประโยชน์ไว้

หลังจากได้ฟังคําพูดชูเฟิ ง เจียง หวูช่ างก็ไม่ลงั เลและรับของขวัญมา

“อ่า ขอบคุณมาก ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง ขอบคุณมาก ศิษย์นอ้ ง หวูช่ าง!”


เห็นเช่นนั้น ชูเฟิ งและคนอื่นๆก็ไม่ได้พดู อะไร ให้เจียง หวูช่ าง รับของ
ต่อไป ยู่ เห้อ และเพื่อนเมื่อให้ของขวัญก็กล่าวขอบคุณ ระดับความหน้า
ด้านของพวกเขานี่สูงจริ งๆ

“ซู รู่ ว ซู เหม่ย!”

“เจียง หวูช่ าง จาง เทียนยี่ เจ้าอยูท่ ี่นี่หรื อเปล่า”

แต่ทนั ทีที่รับของขวัญเสร็ จ ก็มีเสี ยงที่นุ่มนวลดังมาจากข้างนอก

มันก็เหมือนกลุ่มก่อนหน้านี้ เป็ นกลุ่มคนที่มาเพื่อมอบของขวัญแก่พวก


เขาและหวังจะเป็ นมิตรกับพวกเขา
แต่ เจียง หวูช่ าง และคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ตอบรับของขวัญจากพวกเขา
เหตุผลนั้นง่ายมากเพราะเมื่อเห็นเขาได้ดี ก็เลยจะมาประจบเพื่อ หวังพา
ให้พวกเขาเจริ ญก้าวหน้า

มีคนหลายกลุ่ม เข้ามาหาพวกเขา แต่พวกเจียง หวูช่ าง นั้นไม่สามารถทน


ไหว เพราะพวกเขาคะยั้นคะยอ จึงไม่ง่ายที่จะปฏิเสธ

ซึ่งมันทําให้ชูเฟิ งและคนอื่นๆรําคาญมาก แต่พวก ยู่ เห้อ ก็พึงพอใจอย่าง


มาก

มันไม่ใช่การมีความสุ ขบนความทุกข์คนอื่น แต่เป็ นเพราะ พวกเขารู ้สึก


ดีที่พวกชูเฟิ งยอมรับของขวํญ

แม้วา่ สถานะในสํานัก 4 สมุทรจะไม่สูง แต่มนั ก็ดีกว่าที่เป็ นอยู่

คนอื่นๆที่เข้ามานั้นถูกปฏิเสธ แต่พวกยู่ เห้อ กับยอมรับของขวัญ

แม้พวกเขาจะไม่ตอ้ งการโอ้อวดตัวเองแต่กไ็ ม่สามารถทนได้ เพราะมัน


เป็ นครั้งแรกที่เขารู ้สึกว่าตนเหนือกว่าชาวบ้าน

“ศิษย์นอ้ ง ในตอนนี้ชื่อเสี ยงของเจ้าโด่งดังอย่างมาก มีคนมากมาย


ต้องการจะคบมิตรกับเจ้า.”
“เรื่ องนี้มนั ไม่จบง่ายๆหรอก ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถได้หลับ
อย่างสบายในคืนนี้ ถ้าอย่างนั้นให้ขา้ พาพวกเจ้าไปที่อื่นดีหรื อไม่” ยู่
เห้อ รี บเสนอความคิดทันที

“โอ้ว ศิษย์พี่ ยู่ เห้อ ท่านสามารถหาสถานที่ที่สงบให้พวกข้า


พักผ่อนได้จริ งๆหรื อ พวกเราจะไม่ถูกพวกเขารบกวนอีกแล้วใช่
หรื อไม่” เจียง หวูช่ างพูดขึ้น เขานั้นไม่ตอ้ งการถูกรบกวนจึงต้องหา
สถานที่เงียบๆเพื่อพักผ่อน

“นัน่ มันง่ายมาก เพราะพวกเจ้าถูกจดจําว่าอยูใ่ นที่แห่งนี้ แน่นอน


มันจึงเป็ นเรื่ องง่ายที่จะหาพวกเจ้า แต่ถา้ เจ้าย้ายไปอยูใ่ นสถานที่ของข้า
นั้น พวกเขายังไม่สามารถหาพวกเจ้าเจอ.” ยู่ เห้อ พูด
“ท่านไม่ลาํ บากเอาหรื อ” ชูเฟิ งถาม เขากลัวว่ายู่ เห้อ จะถูกคน
เหล่านั้นรบกวน

“ไม่ตอ้ งกังวล ที่ของข้าแม้จะไม่ใหญ่แต่กไ็ ม่เล็ก มันไม่ใช่บา้ น


โล่งๆมันมีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมดีมากมีท้ งั ภูเขา ลําธาร พวกเจ้า
ไม่ตอ้ งกังวลหรอกตามข้ามาเถิด.” ยู่ เห้อ เอากําปั้ นทุบหน้าอกตัวเอง
เบาๆเพื่อการันตี

เห็นเช่นนั้น พวกชูเฟิ งก็ไม่รอช้า รี บเก็บข้าวของตาม ยู่ เห้อไป

แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ไป พวกเขาก็พบว่า มีคนกําลังบินอยูบ่ นฟ้าอยู่


และมุ่งหน้าไปที่ใจกลางของเมือง
เมื่อเห็นว่าใบหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ชูเฟิ งจึงคิดว่าต้องมี
เรื่ องดีดีแน่นอน

“ศิษย์พี่ ยู่ เห้อ คนพวกนั้นไปไหนกันหรื อ” ชูเฟิ งถามด้วยความ


สงสัย

“อ๊า ทุกปี นั้น ใจกลางเมืองจะมีการจัดงานประมูล หากเจ้ามีสมบัติ


ก็สามารถขายมันออกไปในราคาที่สูงได้.”

“แน่นอนว่า การประมูลนั้นถูกจัดขึ้นโดย สํานักสี่ สมุทร และ


จะต้องจ่ายค่าดําเนินการด้วย.”
“ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง เจ้ามีของที่ตอ้ งการปล่อยประมูลอย่างนั้นหรื อ ถ้า
เป็ นเช่นนั้น เจ้าสามารถใช้สถานะของศิษย์นอ้ งทั้ง 2 ในการปล่อยของ
ได้ และจะไม่มีการเก็บค่าดําเนินการใดๆเพราะสถานะพวกเขา.” ยู่ เห้อ
พูด

“มีคนหลายคนต้องการมาที่นี่ทุกปี พวกเขาต้องการนําของ
บางอย่างมาปล่อยประมูล ถ้าพวกเขาไม่เข้าร่ วมสํานักสี่ สมุทรแล้ว พวก
เขาก็ตอ้ งมาเพื่องานประมูลอย่างแน่นอน.”

“หากเจ้าสนใจ ก็อย่าได้รอช้า ไอดูให้เห็นกับตา เพราะงานประมูล


นี้มีแค่ 1 ครั้งต่อปี เท่านั้น นับว่าเป็ นงานหายาก แม้แต่ศิษย์และผูอ้ าวุโส
จากสํานักสี่ สมุทรก็มาเช่นกัน.”ยู่ เห้อ พูด
“จริ งหรื อ!!”

“ชูเฟิ ง งานนี้ช่างน่าสนใจจริ งๆ เราไปดูกนั เถิดมันยังมีเวลาอีกนาน


ทําไมเราไม่ไปดูก่อนล่ะ” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ซู เหม่ย ก็มาเขย่าแขนชูเฟิ ง
และชวนชูเฟิ งไป

“อื้ม ข้ามีบางอย่างที่อยากจะนําไปขายจริ งๆ ต้องลําบากท่านแล้ว


ศิษย์พี่ ยู่ เห้อ.” ชูเฟิ งพูดและยิม้ บางๆ เมื่อคิดย้อนไป นอกจากทรัพยากร
บ่มเพาะแล้ว ชูเฟิ งยังได้สมบัติมาจาก ราชวงศ์ จีอีกด้วย มันเป็ นสมบัติที่
ราชวงศ์จี เก็บสะสมมากว่าพันปี

ตอนแรกเขาจะใช้สมบัติแลกกับทรัพยากรบ่มเพาะจากผูก้ ่อตั้งสํานัก
มังกรฟ้า และ บรรพชนราชวงศ์เจียง แต่พวกเขานั้นยกให้ชูเฟิ งและไม่
เอาสมบัติชูเฟิ งไป ดังนั้นสมบัติเหล่านั้นจึงอยูท่ ี่ชูเฟิ งครบ

นอกจากนี้ เขาไม่ได้ใช้พวกมันเลย จึงคิดว่าขายไปน่าจะดีกว่า


เปลี่ยนเป็ นทรัพยากรบ่มเพาะมา เผือ่ ได้ใช้ยามฉุกเฉิ น และแบ่งให้กบั ซู
รู่ ว ซูเหม่ย จางเทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง เผือ่ เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

หลังจากตัดสิ นใจ พวกชูเฟิ งก็ไปสถานที่จดั ประมูล มันเป็ นพื้นที่ 4


เหลี่ยมขนาดใหญ่และในสี่ เหลี่ยมนั้งมีผคู ้ นมากมายมาจากหลายทิศทาง
เพื่อมาร่ วมประมูล และขายสมบัติออกไป

และในใจกลางของ 4 เหลี่ยม เป็ นเวทีหรู หราขนาดใหญ่ที่วา่ งเปล่า


เนื่องจากยังไม่มีการประมูลเกิดขึ้น ส่ วนด้านนอกก็เต็มไปด้วยผูค้ นที่
ต้องการจะเข้าไป
ReadMGA [ 拍賣Pāimài ประมูล ]
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////
A : จะขายได้เงินเท่าไหร่ กนั หน้อ ???

B : ไม่รู้แต่ของที่ชูเฟิ งใช้ประมูล ไม่ใช่หน่วยเงินตําลึงหรื อชัง่ ในการ


ซื้อ แต่เป็ น โอสถสวรรค์วญ
ิ ญาณเท่านั้น

A : ชูเฟิ ง จะประมูลได้อะไรดีๆไม๊เนี่ย!!!

A4 : อยากรู ้กต็ อ้ งตามไปอ่านเอาในตอนหน้า ^^


บทที่ 561 - ขาย

“การประมูลจะเริ่ มขึ้น หลังฟ้ามืดแล้ว และสิ่ งที่จะประมูลนั้น


ไม่ใช่สมบัติล้ าํ ค่า แต่เป็ นสิ่ งของที่แปลกประหลาด ในทุกปี จะมีของหา
ยาก และของชั้นดีปรากฏขึ้นดังนั้นมันจึงเป็ นงานประมูลที่คนต่าง
ต้องการเข้าร่ วม.” ยู่ เห้อ พูดขึ้น
“ศิษย์พี่ ยู่ เห้อ ท่านสามารถขายของที่ขา้ มีได้หรื อไม่ ดีที่สุดถ้า
เปลี่ยนมันเป็ นลูกแก้วสวรรค์ดว้ ยแล้ว.”ชูเฟิ งพูด พร้อมยืน่ ถุงจักรวาล
ให้กบั ยู่ เห้อ

ชูเฟิ งยืน่ ให้เขาเพราะเขาอยูใ่ นที่แห่งนี้เป็ นเวลานานจึงน่าจะมี


ความคุน้ เคยอยูบ่ า้ ง เขานั้นไม่กลัวถูกยู่ เห้อโกงเลย นัน่ เป็ นเพราะ ซู รู่ ว
และ ซู เหม่ย เป็ นศิษย์ของ ปรมาจารย์สวรรค์ หากเขาโกงจริ งๆก็อาจจะ
ไม่มีที่ยนื ในที่แห่งนี้กเ็ ป็ นได้

“ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง นี่ ... นี่ ...” หลังจากรับถุงจักรวาลจากชูเฟิ ง มา


เปิ ดดูเขาก็ตกใจอย่างมาก
มันเป็ นเพราะสมบัติที่อยูใ่ นนี้น้ นั มีมากมายเต็มไปหมด พวกมันนั้นมี
ยอดยุทธภัณฑ์หลายชิ้นและยังมียอดยุทธภัณฑ์เลือกนายถึง 3 ชิ้น แม้
เขาจะไม่ตอ้ งการตกใจเขาก็ตอ้ งตกใจ

“ศิษย์พี่ ยูเ่ ห้อ มีปัญหาอะไรหรื อ” ชูเฟิ งถามด้วยรอยยิม้

“ไม่มี ไม่มี ข้าจะปล่อยให้ได้ในราคาสู งที่สุด รอข้าก่อน เดี๋ยวข้า


จะนําไปประมูลเดี๋ยวนี้.”ยู่ เห้อ พูด แล้วรี บไปยังเวทีประมูล

ในตอนแรก ด้วยพรสวรรค์ของพวกเขาทําให้ยู่ เห้อไม่มนั่ ใจนักว่าพวก


เขา จะยอมรับเขาจริ งหรื อไม่ แต่เมื่อชูเฟิ งนําสมบัติออกมาให้เขาไป
ประมูล เขาจึงยอมละทิ้งผลประโยชน์ตวั เอง เพื่อสานความสัมพันธ์กบั
พวกเขา
“โอ้ ยู่ เห้อเจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ามาที่นี่ทาํ ไม หรื อว่าเจ้ามีสมบัติจะ
มาประมูลหรื อ”

1 ในผูอ้ าวุโสแถวๆเวทีประมูลพูดขึ้น

มันเป็ นเพราะเขาจํายู่ เห้อได้ และเขารู ้วา่ ยู่ เห้อเป็ นคนธรรมดา และยัง


เป็ นศิษย์ที่ไร้ค่า เขาจึงจํามันได้

“ไม่ใช่ขา้ หรอก เป็ นเด็กหนุ่มทางนั้นต่างหาก.” ยู่ เห้อ พูดเขาจึง


ชี้ไปทางชูเฟิ งและคนอื่นๆที่อยูบ่ นท้องฟ้า
“โอ้ว” ผูอ้ าวุโสคนนั้นรู ้สึกประหลาดใจมาก และมองตามไป
ทางที่ยู่ เห้อชี้

“นี่มนั …”

เมื่อเห็นชูเฟิ ง ตาของเขาก็เบิกกว้างทันที เพราะอายุเพียงแค่น้ ีแต่อยูใ่ น


ระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์ อาจบอกได้เลยว่าเขานั้นเป็ นอัจฉริ ยะ
แม้กระทัง่ ใน สํานัก 4 สมุทร

“นี่ นี่คงไม่ใช่...!!” แต่เมื่อเห็นคนอื่นๆ 4 คนที่เหลือ เขาก็ตอ้ ง


ตกใจอย่างหนัก
นัน่ เป็ นเพราะเขาเป็ นผูอ้ าวุโส เขาจึงได้เห็นข้อมูลของศิษย์ที่มาเข้าร่ วม
และโดยเฉพาะศิษย์ที่โดดเด่นนั้น ไม่มีทางหลุดรอดสายตาเขาไปได้

เขาจึงจําทั้ง 4 ได้ทนั ที โดยเฉพาะ ซู่ รู่ ว และ ซู เหม่ย ที่ถูกรับเป็ นศิษย์


โดย ปรมาจารย์สวรรค์ ส่ วน เจียง หวูช่ าง และ จาง เทียนยี่ แม้จะยังไม่
แน่นอน แต่พวกเขาก็มีโอกาสที่จะเป็ นศิษย์ของ ปรมาจารย์สวรรค์

ใน 10 ปรมาจารย์สวรรค์ นั้น มี9คนที่มาเลือกศิษย์ และนัน่ มีถึง 4


คนที่ปรากฏอยูใ่ นสายตาเขาในตอนนี่ นอกจากทั้ง 4 นั้นยังมี ชูเฟิ งที่มี
ระดับการบ่มเพาะที่ไม่ธรรมดาอีก

นอกจากนี้ ท่าทางของพวกเขานั้นไม่ตอ้ งเดาก็รู้วา่ พวกเขานั้นสนิทกัน


มาก และมันเป็ นกลุ่มของอัจฉริ ยะ โดยแท้จริ ง

“ยู่ เห้อ นี่เจ้าสนิทกับพวกเขาอย่างนั้นหรื อ!”ในตอนนั้นผูอ้ าวุโส


คนนั้นก็มองไปที่ยเู่ ห้อด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่อ เพราะในอดีตนั้นยู่ เห้อ
นั้นเป็ นแค่คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย แต่ตอนนี้เขานั้นได้เปลี่ยนแปลง
อย่างหนัก จึงทําให้เขาตกใจและสับสนอย่างมาก

เขาไม่เข้าใจว่า อัจฉริ ยะที่น่าภูมิใจอย่างพวกเขาทําไมถึงยอมสนิทกับคน


อย่างยู่ เห้อ

“ฮึ่ม แน่นอน ข้ามีสมั พันธ์อนั ดีกบั พวกเขา ก่อนหน้านี้มีคน


มากมายนําของขวัญมาให้พวกเขา แต่พวกเขาก็ปฏิเสธมันทั้งหมด พวก
เขานั้นยอมรับของขวัญแค่ของข้า และ ไว้ใจข้าอย่างมากมิฉะนั้นเขาไม่
ยอมให้ขา้ นําของพวกนี้มาประมูลหรอก.”
หลังจากพูดจบ เขาก็ยนื่ ถุงจักรวาลของชูเฟิ ง ให้กบั ผูอ้ าวุโสประเมินค่า

และหลังจาก ที่มองไปในถุงจักรวาลนัน่ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลง


อย่างมากและหายใจเข้าอย่างลึก มันเป็ นเพราะเขาได้เห็นสมบัติที่อยูใ่ น
นั้นสมบัติที่คนหลายคนต้องการพวกมัน เขาจึงรู ้ทนั ทีวา่ คนธรรมดานั้น
ไม่มีทางมีสมบัติเช่นนี้แน่นอน

“ผูอ้ าวุโส เจ้ารู ้จกั เด็กๆของข้าใช่หรื อไม่ ดังนั้นมันคงจะเป็ นเรื่ อง


ดีถา้ ท่านสามารถขายในราคาที่สูง เอ้อใช่ ทุกอย่างนั้นเปลี่ยนเป็ น
ลูกแก้วอาณาจักรสวรรค์ดว้ ยนะ.” ยู่ เห้อ พูด
“ตอนนี้พวกเขานั้น ก็นบั เป็ นคนจากสํานักสี่ สมุทร จึงเป็ น
ธรรมดาที่จะไม่เก็บค่าดําเนินการ นอกจากนี้ของพวกนี้น้ นั เป็ นที่
ต้องการอย่างมากจึงไม่ตอ้ งกลัวว่ามันจะขายไม่ได้ราคาสู งและมันไม่ใช่
เรื่ องยากที่จะเปลี่ยนเป็ นลูกแก้วอาณาจักรสวรรค์.”

“หลังจากการประมูล ข้าคิดว่าเจ้าจะช่วยพูดเรื่ องดีดีของข้าให้พวก


เขาฟังบ้างนะ หึ หึ …” ผูอ้ าวุโสประเมินค่า ยิม้ แล้วก็พดู

แม้จะเป็ นผูอ้ าวุโส แต่เมื่อเทียบกับเหล่าปรมาจารย์ สถานะของเขาก็ไม่


สู งนักโดยเฉพาะอย่างยิง่ ผูอ้ าวุโสที่รับงานยิบย่อยแบบเขา ส่ วนศิษย์ของ
ปรมาจารย์สวรรค์ นั้นมีสถานะที่สูงอย่างมาก

“ไม่รู้สินะ.” ยู่ เห้อ ยิม้ แล้วพูด แต่ในใจเขานั้นเต็มไปด้วยความ


ตื่นเต้น
มันเป็ นเพราะเขารู ้วา่ จากวันนี้ เขา ยู่ เห้อ นั้นกําลังพลิกชะตาอย่างมาก
เขาไม่ได้ดูถูกคนอื่น แต่มนั เป็ นเพราะในตอนนี้เขานั้นมีคนมากมายนับ
ถือ และ ต้องการเป็ นมิตรด้วย เป็ นเพราะเขานั้นโชคดีมากที่ถูกยอมรับ
โดยกลุ่มอัจฉริ ยะนี้

หลังจากนั้น พวกชูเฟิ งก็เดินวนรอบๆสถานที่จดั ประมูล และเมื่อเห็น


ของเล่นที่ ซู รู่ ว และ ซูเหม่ยชอบ ชูเฟิ งก็ซ้ื อให้ มันทําให้ 2 สาว มี
ความสุ ขอย่างมาก very happy.

โดยเฉพาะซูเหม่ย นั้น หอมแก้มชูเฟิ งต่อหน้าฝูงชน มันจึงดึงดูสายตา


ของผูค้ นอย่างมาก เพราะไม่วา่ ซูรู่ ว และ ซูเหม่ยจะอยุท่ ี่ไหนนั้น ความ
งามของพวกเธอก็มดั ใจคนจํานวนมาก
และชูเฟิ งที่อยูก่ บั สองสาวงาม สองสไตล์ คนหนึ่งมีเสน่ห์แบบผูใ้ หญ่ที่
ทรงเสน่ห์ ส่ วนอีกคนหนึ่ง น่ารักและไร้เดียงสา ย่อมก่อให้เกิดความ
อิจฉาอย่างมาก

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ ว ท้องฟ้านั้นเริ่ มมืดแล้ว และงานประมูลก็มาถึง


สิ่ งที่น่าตื่นเต้นที่สุดแล้ว นัน่ คือกระประมูลบนเวที

เพราะซู รู่ ว และ ซู เหม่ย นั้นมีสถานะพิเศษ ยู่ เห้อ จึงช่วยให้พวกเขาได้


นัน่ สถานที่ดีดี ที่ใกล้กบั เวทีประมูล.

“ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง สมบัติของเจ้านั้นไม่ได้ถูกเก็บไว้เลยพวกมันจะถูก


นําออกมาประมูลทั้งหมด” หลังจากที่เขานัง่ ลง ยู่ เห้อ ก็เดินกลับมาด้วย
ใบหน้าที่ร่าเริ ง พร้อมถุงจักรวาลระดับสู งในมือของเขา

ReadMGA

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////

A : รวยเลยดิพี่เฟิ ง จริงๆแล้ ว ลูกแก้ วแก่นแท้ ตอนนี ้แทบจะไม่มีผลกับ ชู


เฟิ งเลย ดังนันตอนที
้ ่เขามี 30 ล้ านเม็ดในตอนนัน้ เขามอบให้ กบั สํานัก
มังกรฟ้าไป 10 ล้ าน บางส่วนมอบให้ กบั คนในครอบครัว บางส่วนกับไว้
ที่ตวั เพื่อใช้ เป็ นเงินตราในการแลกเปลีย่ น

B : รู้ได้ ไงว่าพี่เฟิ งรวย ถ้ าพี่เฟิ ง หัวการค้ าแบบ เนี่ย หลี่ ก็อาจจะรวย มี


อยูห่ ลายครัง้ ที่พี่เฟิ ง แม่งใช้ ยาจนหมด เงินจะจ่ายค่าอาหารยังไม่มีเลย
มันจึงกลายเป็ นตราบาปในใจให้ เค้ าพกเงินติดตัวอยูต่ ลอด แล้ วใคร
ทะลึง่ มาหาเรื่ องพี่เฟิ ง จุดจบของพวกมันก็คือ โดนตบแล้ วรี ดทรัพย์
C : บอกแล้ วว่ามันเลว!!!

A - B : นี่แหละสะใจคนอ่าน!!! มีแต่คนโง่เท่านันที
้ ่ไม่เอา อีกอย่าง การ
จะทะลวงระดับพลังแต่ละระดับ

บทที่ 562 - ยัว่ ยุ

“ศิษยน้องชูเฟิ ง ของของเจ้าขายหมดแล้ว” ยู่ เห้อ พูดหลังจาก


กลับมาจากการประมูล

“ต้องรบกวนท่านแล้ว ศิษย์พี่ ยู่ เห้อ.” ชูเฟิ ง รับถุงจักรวาลและ


เมื่อเขาเปิ ดดูเขาก็ตอ้ งตกใจเพราะมี ลูกแก้วสวรรค์กว่า 1 แสน 5 หมื่น
เม็ดอยูใ่ นนั้น
แม้สมบัติของเข่าเหล่านั้นจะมีค่าสู งมาก แต่ชูเฟิ งก็คาํ นวณไว้วา่ มันน่าจะ
ได้แค่หลักหมื่น แต่ในตอนนี้เขาได้รับลูกแก้ววิญญาณจํานวนกว่า 1
แสน 5 หมื่นเม็ดมา มันทําให้เขาต้องแปลกใจอย่างมาก

“ฮี่ฮี่ ศิษย์นอ้ งชูเฟิ ง ข้าอยากรู ้วา่ เจ้าไปเอาสมบัติพวกนี้มาจากไหน


พวกมันช่างหายากอย่างมาก และเป็ นของเก่าแก่บางอันมีอายุถึงหลาย
พันปี สมบัติเช่นนี้มีแต่ผทู ้ ี่มีวาสนาเท่านั้นที่สมควรจะได้รับ.” เมื่อเห็นชู
เฟิ งกําลังสงสัย เขาก็พดู ขึ้น

หลังจากที่ชูเฟิ งได้ยนิ เขาก็เข้าใจบางอย่าง ภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้นก็


คือเปรี ยบดัง่ กับทวีปทางตะวันออก ในสถานที่ที่มีผเู ้ ชี่ยวชาญระดับ
ราชันย์สงครามอยู่ แล้วนับประสาอะไรกับแค่ ลูกแก้วสวรรค์ มันมี
แม้กระทัง่ ลูกแก้วจ้าวแห่งสงครามด้วยซํ้า
ราชวงศ์จี ที่เก็บสะสมของเหล่านี้มากกว่าพันปี มันก็สมเหตุสมผลแล้วที่
สมบัติเหล่านั้นจะได้ราคาสูง

“โอ้ว นี่ไม่ใช่ ศิษย์นอ้ งซู รู่ ว ซู เหม่ย หรอกหรื อ พวกเจ้ารู ้จกั คน


บ้านนอกพวกนี้ดว้ ยหรื อ”

แต่ในตอนนั้น ก็มีเสี ยงดังออกมาจากข้างหลังพวกเขาเมื่อพวกเขาหันไป


ก็พบกลุ่มคนยืนอยู่

กลุ่มคนนั้น ถูกนับด้วยชายหนุ่ม 2 คน ระดับการบ่มเพาะของพวกเขา


นั้นอยูท่ ี่ระดับอาณาจักรสวรรค์ นอกจากนี้พวกเขายังสวมเสื้ อคลุม
เช่นเดียวกับ เซินถู่ หลาง ดังนั้น ชูเฟิ งจึงรู ้วา่ พวกเขาเป็ นใคร
ทั้ง 2 นั้นมาจากราชวงศ์ เซินถู่ คนที่ตอ้ งสู ก้ บั จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่
ชาง

“พี่ชายชูเฟิ ง เขาคือ เซินถู่ เจียง และ เซิ นถู่ ไห่ พวกเขาเป็ นพี่นอ้ ง
กับ เซินถู่ หลาง.” เจียง หวูช่ าง พูดขึ้นมา

เบื้อหลัง ของ พี่นอ้ งเซินถู่ ก็มี 4ศิษย์จากสํานักสี่ สมุทรติดตามอยู่ พวก


เขาเป็ นเหมือนกับ ยู่ เห้อ พวกเขาคิดว่าทั้ง 2 ที่มาจากราชวงศ์เซิ นถู่ นั้น
ต้องกลายเป็ นศิษย์ของ ปรมาจารย์สวรรค์ พวกเขาจึงตัดสิ นใจติดตามทั้ง
2
มิเช่นนั้น มีหรื อคนที่เป็ นศิษย์ของสํานักสี่ สมุทรถึงยอมติดตามคนที่ยงั
ไม่ได้ถูกยอมรับว่าเป็ นศิษย์

หลังจากนั้นชูเฟิ งก็กวาดสายตาไปมองทั้ง 2 แล้วพูดว่า, “ใครปล่อยให้


สุ นขั มาเห่าแถวนี้.”

“บัดซบเจ้าเป็ นใคร เจ้ากล้าพูดกลับศิษย์นอ้ งเซิ นถู่ เช่นนี้เลยหรื อ”


ก่อนที่ ทั้ง 2 จะได้พดู เหล่าเบ๊ ก็ตะโกนใส่ ชูเฟิ งดังลัน่

“เขาคือคู่หมั้นของข้า พวกเจ้ามีปัญหาอะไรหรื อ” ในตอนนั้น ซู


รู่ วก็พดู ขึ้นมา พร้อมกับแรงกดดันที่ส่งตรงออกมาจากใบหน้าที่งดงาม
ของเธอ แววตาคู่งามนั้นคมดัง่ ดาบ และเย็นชาราวกับนํ้าแข็ง เห็นได้ชดั
ว่าเธอไม่พอใจ
“อะไรนะ คู่หมั้นของ ศิษย์นอ้ ง ซู รู่ วอย่างนั้นหรื อ” เมื่อได้ยนิ
เช่นนั้น ทั้งคู่กต็ กใจและหวาดกลัวมาก เขาตกใจเพราะว่า สาวงามที่โดด
เด่นอย่างซู รู่ ว นั้นมีคู่หมั้นแล้ว นัน่ มันทําให้ศิษย์ผชู ้ ายจํานวนมากที่ตก
หลุมรัก ซู รู่ ว ถึงกับใจแตกสลาย

และเหตุผลที่พวกเขาหวาดกลัวคือ ซู รู่ วนั้นกําลังโกรธ พวกเขารู ้สึกถึง


จิตสังหารของ ซู รู่ ว แม้วา่ ด้วยพลังแล้วเขานั้นจะเหนือกว่า ซู รู่ ว แต่
เรื่ องของสถานะนั้น เขาเทียบเธอไม่ได้เลย

“ไม่ใช่แค่พี่สาวของข้า ยังเป็ นคู่หมั้นของข้าด้วย ถ้าเจ้ายังหยาบ


คายไปมากกว่านี้ ข้าจะรายงานเรื่ องให้กบั ปรมาจารย์ ต้วน มู่ ว่ามีคนไม่
เคารพข้า ข้าอยากรู ้วา่ เจ้าจะหนีจากเรื่ องนี้ได้อย่างไร.” ในตอนนั้น ซู
เหม่ย ก็พดู ขึ้น และอ้างชื่อ ต้วน มู่ ที่เป็ น ปรมาจารย์สวรรค์ ที่รับเธอไว้
เป็ นศิษย์
“นี่ นี่ นี่ ...”

ในตอนนั้น พวกเขาก็รู้สึกโง่เขลา ทําอะไรไม่ถูกทันที ได้แต่คิดว่า เกิด


อะไรขึ้น เจ้าเด็กเหลือขอนี่มาจากไหน และยังได้สาวงามทั้ง 2 เป็ น
คู่หมั้นอีกด้วย

มันช่างเป็ นเรื่ องที่น่าเหลือเชื่อจริ งๆ สําหรับคนที่ได้ยนิ เหมือนกับมีคอ้ น


นับล้านตันมาทุบที่หวั เขา

โดยเฉพาะ ที่ ซู เหม่ย บอกว่า จะไปรายงานให้ ปรมารจารย์ ต้วน มู่ นั้น


ทําให้หลายคนหุบปากเพราะความกลัว เพราะถ้า ปรมาจารย์ตว้ น มู่มา
เองนั้น นั้นมันจะไม่จบเพียงพวกเขาแต่มนั จะรามไปถึง ปรมาจารย์ของ
พวกเขาอีกด้วย

“คู่หมั้นหรื อ เขาไม่ใช่สามีเจ้า แล้วเจ้าจะไปปกป้องทําไม”

“ถูกต้อง ถูกต้องแล้ว ศิษย์นอ้ งเป็ นบุคคลพิเศษในสํานัก 4 สมุทร


แล้วเขามีระดับเพียง ระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์ มันจะคุม้ ค่ากับการที่
พวกเจ้าฝากชีวติ ไว้กบั เขาหรื อ ไปกับพวกข้าจะดีกว่านะ!”

ในขณะที่ หลายคนนั้นกําลังหวาดกลัว พี่นอ้ งราชวงศ์ เซิ นถู่ ก็พดู ขึ้นมา


พวกเขาเชื่อว่าหลังจากนี้เขาก็จะได้กลายเป็ นศิษย์ของปรมาจารย์สวรรค์
เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่กลัว ซู รู่ ว กับ ซู เหม่ย
“พวกเจ้า หาที่ตาย” ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็เดือดขึ้นมา นํ้าเสี ยงของ
เขาแฝงด้วยความโกรธ เพราะมีคนกล้ามาหยอกล้อกับคู่หมั้นของเขาใน
ที่สาธารณะ มันจึงทําให้เขารู ้สึกอยากข้าพวกมันอยากมาก

“ชูเฟิ ง!” ในตอนนั้น จาง เที่ยนยี่ ก็พดู ขึ้นมาพร้อมจับไหล่ของชู


เฟิ งไว้

เขารู ้จกั ชูเฟิ งดี ชูเฟิ งนั้น เป็ นคนฉลาด และเขาก็รู้วา่ สถานการณ์เช่นนั้น
เขาไม่สามารถโจมตีอย่างมัว่ ๆได้

แต่เขาก็รู้วา่ ชูเฟิ งเป็ นคนบ้าเลือด เมื่อมีคนมากระตุน้ จุดนี้ของเขา ชูเฟิ ง


จะทําทุกอย่างโดยไม่คาํ นึงถึงผลที่กระทํามา
ดังนั้น เขากลัวว่า กลัวว่าชูเฟิ งจะเริ่ มการฆ่าล้างหมู่ที่นี่ เพราะด้วยความ
แข็งแกร่ งของชูเฟิ ง นั้นไม่มีปัญหาเลยถ้าจะฆ่ากลุ่มคนตรงหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ งนั้นไม่ได้เข้าร่ วมสํานัก สี่ คาบสมุทร เขาถือว่าเป็ นคน


นอก แต่สาํ หรับ เฉินถู เจียง และ เซิ นถู่ ไห่น้ นั ได้เข้าร่ วมแล้ว

ถ้าชูเฟิ งข้าทั้ง 2 ไป มันก็เหมือนกับการตบหน้า สํานักสี่ คาบสมุทร


และทําให้ทางสํานักนั้นไม่มีทางยกโทษให้ชูเฟิ ง และเริ่ มไล่ล่าชูเฟิ ง

“เซินถู่ เจียง เซินถู่ ไห่ เจ้ามีปัญหาอย่างนั้นหรื อ ถ้าเจ้ามีกม็ าเจอกับ


ข้าหน่อย ข้า เจียง หวูช่ าง จะรับเรื่ องของเจ้าไว้เอง.” เจียง หวูช่ างโกรธ
มาก เขาตะโกน ใส่ เซินถู่ เจียง และ เซิ นถู่ ไห่
นํ้าเสี ยงของเขาชัดเจน และ เกือบทุกคนในที่แห่งนี้ที่ได้ยนิ นั้น จับจ้อง
มายังพวกเขา

ไม่เพียงแต่คนนอก แม้กระทัง่ ศิษย์จากสํานัก 4 คาบสมุทรรวมทั้ง ผู ้


อาวุโส และ ปรมาจารย์กด็ ว้ ย

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////

A4 : เอาล่ะครับ ชะตาของสามพีน่ อ้ งเซิ นถู่ จะเป็ นเยีย่ งไรต้องรอ


ติดตาม วันนี้เวลาของเราหมดแล้ว เจอกันวันพรุ่ งนี้ เวลาเดิม ทางช่อง
กําเนิดสงครามเทพสายฟ้า!!! READMGA
บทที่ 563 - สู ร้ าคา

“เจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้ารึ !! ข้าแค่ไม่อยากจัดการเจ้าตรงนี้เท่านั้น”
เมื่ออยูต่ ่อหน้าผูค้ นจํานวนมาก และต่อหน้าปรมาจารย์น้ นั เซิ นถู่ เจียง
ไม่กล้าที่จะทําอะไรมากนั้น เขากล่าวต่อว่า “เจ้าสารเลว รอให้ถึงวัน
พรุ่ งนี้ก่อน แล้วมาดูกนั ว่าข้าจะจัดการเจ้ายังไง !!”

หลังจากกล่าวจบ เขาก็โบกแขนของเขาเป็ นสัญญาณ จากนั้นพรรค


พวกของเขาก็เคลื่อนไปนัง่ ลงตรงบริ เวณใกล้เคียง

“พีช่ าย ชูเฟิ ง ท่านไม่ตอ้ งกังวล เราจะได้รู้กนั ว่า พี่ใหญ่ เทียนยี่ จะ


จัดการเจ้าลูกหมาสองตัวนี่ยงั ไงในวันพรุ่ งนี้” เมื่อ เซิ นถู่ เจียง และ
เซินถู่ ไฮ่ จากไป เจียง หวูช่ าง ก็กล่าวขึ้นด้วยความจริ งจัง
“ไปหาที่นงั่ เถอะ” ชูเฟิ ง เพียงยิม้ บางๆ ขณะกล่าวออกมา พลางชี้
ไปที่ที่นงั่ และไม่ให้ความสนใจต่อ เซิ นถู่ เจียง และ เซิ นถู่ ไฮ่ อีก

แม้วา่ ภายนอกนั้น ชูเฟิ ง จะแสร้งทําเป็ นไม่แยแส แต่แววตาของเขา


กลับเต็มไปด้วยความอาฆาตรอย่างรุ นแรง

แน่นอนว่า ชูเฟิ ง ไม่เพียงแต่จะให้บทเรี ยนแก่พวกเขา ที่กล้ามา


รังแกผูห้ ญิงของเขา ต่อหน้าของเขาเท่านั้น แต่แววตาของเขาสามารถมา
รถบ่งบอกได้วา่ ชูเฟิ ง จะฆ่าพวกเขาในทันทีที่มีโอกาส

แม้วา่ ความวุย่ วายเมื่อครู่ จะกลายเป็ นจุดสนใจของทุกๆ คน แต่เมื่อ


มีคนก้าวขึ้นมาบนเวทีน้ นั ทุกๆ คนก็พากันมองตามกันตาไม่กระพริ บ
เพราะพวกเขารู ้ดีวา่ บางสิ่ งที่น่าตื่นเต้นกําลังจะเริ่ มขึ้น
“ขออภัย ที่ทาํ ให้ทุกๆ ท่านต้องรอนานเช่นนี้”

“ในการประมูลวันนี้ ทางพวกเราได้เตรี ยมสมบัติไว้มากมาย ข้าคิด


ว่าทุกท่านคงจะอยากพบกับสมบัติชิ้นแรกกันแล้ว !!”

ขณะที่เขากล่าว สาวงามสองคนก็เข็นรถเข็นที่ถูกตกแต่งอย่าง
สวยงาม เข้ามายังกลางเวทีประมูล

พวกนางทั้งสองคนนั้น มีระดับการบ่มเพาะพลังไม่สูงนัก ชัดเจน


เลยว่าพวกนางไม่ใช่ศิษย์ของสํานักสี่ คาบสมุทร แต่อาจจะเป็ นผูต้ ิดตาม
ของศิษย์บางคนของสํานัก
รถเข็นคันนั้นถูกประดับอย่างงดงาม ที่ดา้ นบนมีสมบัติในการ
ประมูลวางอยู่ และถูกคลุมด้วยผ้าสี เงินที่เงางาม

ผ้าผืนนั้นไม่ใช่ผา้ ธรรมดา มันถูกปกคลุมไปด้วยรู ปแบบอํานาจ


พลังวิญญาณ ทําให้แม้แต่อาํ นาจพลังวิญญาณของผูเ้ ชื่อมต่อโลก
วิญญาณ ไม่สามาาถตรวจสอบสมบัติที่อยูภ่ ายใต้ผา้ ผืนนั้นได้ จึงทําให้
ความตื่นเต้นในการประมูลเพิม่ สู งขึ้น

***** ฝุ่ บ *****

เมื่อผูน้ าํ การประมูลสะบัดแขนของเขา สองสาวงามก็เปิ ดผ้าคลุม


ผืนนั้นออก ปรากฏกริ ชอ่อนยาวประมาณสามนิ้ว ที่เปล่งแสงออกมาถึง
ห้าสี แก่สายตาของผูร้ ่ วมการประมูล

“กริ ชสี รุ้ง !! มันคือยอดยุทธภัณฑ์ช้ นั ดีที่ถูกสร้างขึ้นจากผูอ้ าวุโส


ชิง เซียนรู่ ว ของหมู่เกาะอมตะเมื่อห้าร้อยปี ก่อน และเป็ นยอดยุทธภัณฑ์
เพียงชิ้นเดียวของท่าน ราคาเริ่ มต้นประมูลที่หา้ พันลูกแก้วสวรรค์ !!”
ผูด้ าํ เนินการประมูลกล่าว

“ห้าพัน !! ยอดยุทธภัณฑ์ช้ นั ดีเช่นนี้ สามารถประมูลได้ถึงห้าพัน


ลูกแก้วสวรรค์เลยรึ ” ชูเฟิ ง รู ้สึกตกใจอย่างมาก แม้วา่ กริ ชสี รุ้งจะค่อนข้า
ดี แต่มนั ก็ไม่อาจเทียบได้กบั ขวานอสู รฟ้า มันมีพลังเพียงเทียบได้กบั
ยอดยุทธภัณฑ์ช้ นั ดีท้ งั สองชิ้นของ เซิ นถู่ หลาง เท่านั้น

แม้วา่ มันจะถูดจัดอยูใ่ นยอดยุทธภัณฑ์ช้ นั ดี แต่ราคาเริ่ มต้นที่หา้ พัน


ลูกแก้วสวรรค์ ก็เป็ นราคาที่สูงเกินไปสําหรับกริ ชสี รุ้ง
“เก้าพัน !! ข้าให้เก้าพัน !!”

เมื่อการประมูลเริ่ มขึ้น ผูค้ นต่างเสนอราคามาอย่างต่อเนื่อง และปิ ด


ที่ราคาเก้าพันลูกแก้วสวรรค์ นัน่ ทําให้ ชูเฟิ ง รู ้วา่ ผูค้ นของหมู่เกาะอมตะ
นั้น มัง่ คัง่ ขนาดไหน

ไม่น่าแปลกใจ สมบัติที่ ชูเฟิ ง ชิงมาได้จากราชวงศ์จี และไร้ค่าใน


สายตาของเขา จะสามารถขายได้ในราคาสู งถึงแสนห้าหมื่นลูกแก้ว
สวรรค์

หลังจากนั้น สมบัติๆ ต่างๆ มากมาย ได้ถูกนําออกมาประมูลชิ้น


แล้วชิ้นเล่า ราคาที่ประมูลไปนั้นก็แตกต่างกันไปเรื่ อยๆ แต่ยงั ไม่มี
สมบัติชิ้นใด ที่สามารถดึงดูดความสนใจของ ชูเฟิ ง ได้แม้แต่นอ้ ย

แม้วา่ จะมียอดยุทธภัณฆ์ปรากฏออกมาในการประมูลเรื่ อยๆ แต่ก็


ไม่อาจทําให้ ชูเฟิ ง สนใจได้ เพราะมันเป็ นเพียงยอดยุทธภัณฑ์ธรรมดา
ทัว่ ๆไปเท่านั้น ไม่ใช่ยอดยุทธภัณฑ์ช้ นั ดีแต่อย่างใด

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็ได้มีสมบัติบางอย่างที่สามารถดึงดูดความ
สนใจของ ชูเฟิ ง ได้ นัน่ คือลายแทงสมบัติ ด้วยแผนภาพของมันค่อนข้าง
จางลงไปนั้น จึงไม่มีผใู ้ ดสามารถตรวจสอบได้วา่ มันเป็ นของจริ งหรื อ
ของปลอม

สาเหตุที่ทาํ ให้ ชูเฟิ ง สนใจในสมบัติชิ้นนี้ ไม่ใช่ดว้ ยความตั้งใจ


ของตัวเขาเอง แต่เป็ นเพราะ เซิ นถู่ เจียง ให้ความสนใจมัน จึงทําให้ ชู
เฟิ ง เกิดความสนใจในสมบัติชิ้นนี้เช่นกัน

“ห้าพันลูกแก้สวรรค์ !!” เซิ นถู่ เจียง ตะโกนเสี ยงดัง แม้วา่ เขาจะ


ไม่มนั่ ใจในรายระเอียดของลายแทงนัก แต่ดว้ ยเหตุผลนี้ จึงทําให้จาํ นวน
คนที่จะเสนอราคาแข่งกับเขานั้นมีนอ้ ยมาก แม้วา่ ราคาเริ่ มต้นจะเริ่ ม
เพียงแค่สามพันลูกแก้วสวรรค์กต็ าม เขาจึงมัน่ ใจว่าเขาจะสามารถ
ประมูลมันมาได้ในราคาห้าพันลูกแก้วสวรรค์

“หกพัน !!” ในเวลานั้น ชูเฟิ ง ก็ตะโกนออกมาอย่างไม่แยแส

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น เซินถู่ เจียง ขมวดคิ้วแน่น จากนั้นเขาก็ตะโกน


ออกมาอีกครั้ง “เจ็ดพันลูกแก้วสวรรค์ !!”
“แปดพัน !!” ชูเฟิ ง ยังคงตะโกนออกมาอย่างต่อเนื่อง

เซินตู่ เจียง รู ้สึกโกรธมาก เขาไม่รู้วา่ ชูเฟิ ง พยายามปั่นหัวเขา หรื อ


ว่า ชูเฟิ ง รู ้เรื่ องของลายแทงสมบัติชิ้นนี้กนั แน่ แต่เขาไม่อาจพลาด
โอกาสที่จะได้รับลายแทงชิ้นนี้ไปได้

เขาหันหน้าไปที่ เซินถู่ ไฮ่ และเมื่อ เซิ นถู่ ไฮ พยักหน้ารับ เขาก็กดั


ฟันแน่น ความกดดันในหัวใจของเขาก็หนักอึก เขาตะโกนออกมาเสี ยง
ดังว่า “หมื่นลูกแก้วสววรค์ !!”

“อะไรนะ !! หมื่นลูกแก้วสวรรค์ !! มันเป็ นราคาของยอด


ยุทธภัณฑ์ไปแล้ว !!”
“ถูกต้อง !! ไม่ใช่แค่ราคาของยอดยุทธภัณฑ์ธรรมดาๆ มันเทียบได้
กับราคาของยอดยุทธภัณฑ์ช้ นั ดี และมากกว่าราคาของกริ ชสี รุ้งไปแล้ว
!!”

“เท่าที่เห็น มันก็เป็ นเพียงแค่แผนที่บางอย่างเท่านั้น อีกทั้งความ


ชัดเจนของมันยังยากที่จะระบุได้วา่ มันเป็ นแผนที่ของอะไร อย่าว่าแต่
ราคาหมื่นลูกแก้วสวรรค์เลย ราคาของมันไม่ควรเกินกว่าสามพันลูกแก้ว
สวรรค์ดว้ ยซํ้าไป !!”

“อ่า…..คนจากทะเลตะวันออก คงคิดว่ามันจะมียอดยุทธภัณฑ์
ซ่อนอยูม่ ากมาย และคงจะใช้สิ่งนั้นในการค้นหายอดยุทธภัณฑ์เหล่านั้น
ซินะ”
“มีคนจํานวนมาก ที่ต้ งั ใจจะวาดแผนที่ของยอดยุทธภัณฑ์ออกมา
เพื่อขาย แต่ในความเป็ นจริ งนั้น มันเป็ นเพียงแค่กลลวงเด็กๆ ที่พวกเขา
ใช้เป็ นช่องทางหารายได้เท่านั้น”

“ก็อย่างว่าละนะ ในโลกใบนี้มีคนหลากหลาย บางคนที่คน้ หา


ความฝันของตน แม้วา่ สิ่ งเหล่านั้นสามารถแลกมาได้ดว้ ยเงินทอง แต่มนั
กลับเป็ นความโง่เขลาที่จะแลกมันกับความฝันลมๆ แล้งๆ เช่นนี้”

หลังจาก เซินถู่ เจียง ตะโกนราคาออกไปนั้น เสี ยงวิพากษ์วจิ ารณ์


ของผูค้ นรอบข้างก็ดงั ระงมไปทัว่ กับการกระทําของ เซิ นถู่ เจียง

ในขณะนั้น เซินถู่ เจียง จึงเข้าใจการกระทําของเขาในทันที เพราะ


ในการประมูลไม่มีสิ่งมีค่าชิ้นใด ที่จะมีราคาสู งไปกว่ายอดยุทธภัณฑ์ช้ นั
ดีอีกแล้ว

แต่ เซินถู่ เจียง ไม่ได้ใส่ ใจกับคําวิจารณ์ของคนรอบข้างแต่อย่างใด


เขายังคงสงบนิ่ง และแสดงท่าที่ภาคภูมิใจออกมา อีกทั้งยังส่ งสายตา
เหยียดหยามกลับไปที่ ชูเฟิ ง

เขาคิดว่า ชูเฟิ ง เป็ นเพียงคนโง่เท่านั้น และจ้องจะให้ ชูเฟิ ง เสนอ


ราคามาอีกครั้ง และเขาจะหยุดสู ร้ าคา และยอมให้ ชูเฟิ ง ได้ของสิ่ งนี้ไป

แต่อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ไม่ตกหลุมพลางของเขาแม้แต่นอ้ ย ชูเฟิ ง


ไม่ได้ใส่ เขาแม้แต่นิดเดียว เขายังคงพูดคุยกับ ซูรู่ และ ซู่เหม่ย อย่าง
สนุกสนาน ไม่แม้แต่จะสนใจในการประมูล
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////
C : เอาล่ะสิ แผนที่ของจริ งของปลอมก็ยงั ไม่รู้ พี่เฟิ งดันสู ร้ าคาแบบ
ควายๆ เพื่อความสะใจ ไม่แปลกใจเลยที่แม่งจน

A : อย่าปากมากไอซี นั้นมันแผนที่สมบัติจริ งๆ ถึงแม้มนั จะจาง แต่


ด้วยเนตรสวรรค์ ชูเฟิ ง ก็สามารถมองมันออกได้

B : แม้มนั จะเป็ นแผนที่สมบัติจริ ง แต่มนั จะคุม้ ค่ากับที่ตอ้ งเสี ยลูกแก้ว


สวรรค์เป็ นหมื่นหรื อเปล่า ???

A4 : พีเ่ ฟิ งของเราจะเป็ นคนโง่อย่างที่ C ว่า หรื อจะมีสมบัติมากมาย


อย่างที่พี่ A คิด ไม่แน่อาจจะมีสมบัติจริ งแต่ได้กลับมาไม่คุม้ กับที่พี่ B
ว่า ผลมันจะออกมาแบบไหนกันแน่ ??? จริ งเท็จ เท็จจริ ง จะออกมา
ในรู ปแบบไหน ต้องรอติดตาม เพราะมันอาจไม่ใช่อย่างที่ A - B -
C วิเคราะห์!!!
บทที่ 564 – โอรสอเวจี
“ไอ้เวนเอ๊ย !!” ในทันใดนั้น มุมปากของ เซิ นถู่ เจียง กระตุกขึ้น
เขาสาปแช่ง ชูเฟิ ง มาจากก้นบึ้งหัวใจของเขาอย่างรุ นแรง เพราะเขาตก
หลุมพลางของ ชูเฟิ ง ด้วยการถูกปั่นราคาให้สูงกว่าที่มนั ควรจะเป็ น

“หมื่นลูกแก้วสวรรค์ !! มีใครให้สูงกว่านี้ไหม”

“หมื่นครั้งที่หนึ่ง หมื่นครั้งที่สอง !!”

***** ก๊องๆๆ *****

“สมบัติชิ้นนี้เป็ นของท่านชายท่านนี้ !!”


เมื่อสิ้ นเสี ยงการประมูลในครั้งนี้ ใบหน้าของ เซิ นถู่ เจียง พลันเศร้า
สลดลง เพราะเขาได้สูญเสี ยลูกแก้วสวรรค์ไปหมื่นลูก ให้กบั แผนที่ที่นาํ
เขาไปสู่ ยอดยุทธ์ภณั ฑ์ธรรมดาเท่านั้น ซึ่ งมันเป็ นการสู ญเสี ยครั้งใหญ่
สําหรับเขา

เมื่อเขามองไปยัง ชูเฟิ ง ที่กาํ ลังปรบมือให้กบั เขา เขาทําได้เพียงกัด


ฟันแน่นด้วยความกราดเกรี้ ยว เพราะเขาไม่สามารถทําอะไรได้ในตอนนี้

“เอาล่ะ รายการประมูลที่ผา่ นๆ มา เกิดจากฝี มือของผูเ้ ชี่ยวบาญ


หรื อแม้แต่ผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ”
“ในรายการประมูลชิ้นต่อไปนั้น มันไม่ได้เกิดจากฝี มือของมนุษย์
แต่เกิดจากธรรมชาติ !!”

เมื่อผูด้ าํ เนินการประมูลปรบมือขึ้น สองสาวงามก็เข็นรถเข็นขึ้นมา


อีกครั้ง หลังจากเปิ ดผ้าคลุมออก บนรถเข็นก็ปรากฏวัตถุบางอย่าง มี
ขนาดใกล้เคียงกับผลแตงโม อีกทั้งยังปล่อยกระแสลมบางออกมา

มันอัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณเพลิงสวรรค์ เมื่อวัตถุชิ้นนี้ปรากฏ
ออกมานั้น แววตาของทุกคนก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างรวดเร็ ว

มันคือสมบัติที่ใช้ในการบ่มเพาะพลังที่ยอดเยีย่ ม มันมีพลังสู งกว่า


ลูกแก้วสวรรค์อย่างมาก อาจกล่าวได้วา่ มันคือสมบัติศกั ดิ์สิทธิ์ ที่
สามารถช่วยให้ผเู ้ ชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์ทะลวงพลังให้สูงขึ้นไปอีกได้
“มันเป็ นสมบัติจากธรรมชาติ ถูกอัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณ
เทียบเท่าได้กบั ลูกแก้วสวรรค์หนึ่งหมื่นลูก อีกทั้งยังสามารถดูดซับพลัง
จากมันได้ง่ายกว่ามาก หากท่านได้รับพลังจากมัน ท่านนะได้พบกับพลัง
ที่เป็ นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ราคาเริ่ มต้นอยูท่ ี่ หนึ่งแสนลูกแก้วสวรรค์
!!” เสี ยงของผูด้ าํ เนินการประมูลดังขึ้น

“หนึ่งแสนลูกแก้วสวรรค์ !! แพงโคตร !! พลังของมันเพียงเทียบ


ได้กบั ลูกแก้วสวรรค์หมื่นลูกเท่านั้น แต่กลับเริ่ มต้นที่หนึ่งแสนลูกแก้ว
สวรรค์” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น จาง เทียนยี่ , เจียง หวูช่ าง และคนอื่นๆ
กล่าวออกมาด้วยความตกใจ และไม่เชื่อกับคํากล่าวนั้น

“นี่เป็ นสมบัติอย่างแท้จริ งสําหรับคนทัว่ ไป ราคาแสนลูกแก้ว


สวรรค์ถือว่าเหมาะสมแล้ว แต่สาํ หรับข้า มันก็ยงั ไม่ใช่สิ่งเหมาะกับราคา
นี้” ชูเฟิ ง กล่าวพลางส่ ายศรี ษะของเขา
ชูเฟิ ง สัมผัสได้วา่ มันเป็ นสมบัติที่แท้จริ ง เพราะคนปกติจะสามารถ
ดูดซับพลังจากลูกแก้วสวรรค์ได้บางส่ วนเท่านั้น แต่หากพวกเขาดูดซับ
พลังจากสมบัติชิ้นนี้ พวกเขาจะสามารถดูดซับได้ง่ายขึ้น

และเหตุผลที่ทาํ ให้เขาส่ ายศรี ษะนั้น เพราะว่าเขาสามารถดูดซับ


พลังจากลูกแก้วสวรรค์ได้ท้ งั หมด หากเขาต้องเสี ยลูกแก้วสวรรค์ถึงหนึ่ง
แสนลูก เพื่อแลกกับพลังวิญญาณที่เท่ากับลูกแก้วสวรรค์เพียงหมื่นลูก
นั้น มันจึงไม่ควรอย่างยิง่

“หนึ่งแสนหนึ่งหมื่น !!”
“หนึ่งแสนสองหมื่น !!”

“หนึ่งแสนสามหมื่น !!”

“หนึ่งแสนสี่ หมื่น !!”

“หนึ่งแสนห้าหมื่น !!”

“สองแสน !!”

หลังจากเริ่ มการประมูลนั้น มีผเู ้ สนอราคาจํานวนมาก เริ่ มต้นที่


หนึ่งแสนลูกแก้วสวรรค์ และจบลงที่ราคาสองแสนลูกแก้วสวรรค์ อาจ
กล่าวได้วา่ การประมูลสมบัติชิ้นนี้น้ นั สามารถสร้างรายได้อย่าง
มหาศาล

ผูท้ ี่ได้สมบัติชิ้นนี้ไปนั้น เป็ นชายชราผูห้ นึ่ง อายุของเขาราวๆ ร้อย


ปี พลังของเขาอยูใ่ นระดับเก้าขั้นแดนสวรรค์

มองผิวเผินนั้น เขาน่าจะมีแผนการในการใช้สมบัติขิน้ นี้ เพื่อทะลวง


พลังของเขา หากเขาทําสําเร็ จ เขาจะมีอายุที่ยนื ยาวขึ้น และแข็งแกร่ งขึ้น
หากเขาล้มเหลว เขาจะหมดสิ้ นซึ่ งสมบัติที่เขาสะสมมาทั้งชีวติ ของเขา

“โอ้วววว !! สมบัติชิ้นนี้ขายได้ถึงสองแสนลูกแก้วสวรรค์ !! นัน่


มันมากกว่าสมบัติของราชวงศ์เจียงของข้า ที่สะสมมากว่าหลายพันปี เสี ย
อีก !!” เจียง หวูช่ าง กล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง
“ฮ่าๆ น้อง หวูช่ าง เจ้าอย่าลืมว่าที่นี่คือทะเลตะวันออก ที่นี่มี
ผูเ้ ชี่ยวชาญจํานวนมาก จึงเป็ นธรรมดาที่จะมีทรัพยากรบ่มเพาะพลัง
จํานวนมาก ด้วยจํานวนขนาดนั้น ลูกแก้วสวรรค์จึงมีมูลค่าน้อยมาก
หากเทียบกับในทวีปเก้าอาณาจักรของพวกเรา” ชูเฟิ ง กล่าวพลางตบไป
ที่ไหล่ของ เจียง หวูช่ าง เบาๆ มันเป็ นสิ่ งที่เขาได้เรี ยนรู ้เมื่อมาอยูท่ ี่นี่

หลังจากสมบัติชิ้นนี้ประมูลจบไปนั้น ยังมีสมบัติที่เป็ นทรัพยากร


ในการบ่มเพาะพลังตามธรรมชาติข้ ึนประมูลอย่างต่อเนื่อง และราคา
ประมูลก็สูงขึ้นเรื่ อยๆ เช่นกัน

มีสมบัติชิ้นหนึ่งที่ราคาประมูลสู งถึงหนึ่งล้านลูกแก้วสวรรค์ มันทํา


ให้ทุกคนในสถานที่แห่งนี้ตกใจอย่างมาก
ผูท้ ี่ประมูลไปได้น้ นั คือ ชายหนุ่มผูห้ นึ่งที่สง่างาม อายุใกล้เคียงกับ
จาง เทียนยี่ แต่ระดับพลังของเขาสู งกว่า จาง เทียนยี่ เขามีพลังระดับห้า
ขั้นแดนสวรรค์

คนผูน้ ้ ียงั ได้เข้าสํานักสี่ คาบสมุทร และได้รับการยอมรับจากเจ้า


สํานัก ชื่อของเขาคือ จู่ ต๋ าเย่ เขาเป็ นอัจฉริ ยะที่เพียบพร้อม เกิดในตระกูล
ที่ทรงพลังในทะเลตะวันออก ปู่ และพ่อของเขามีพลังระดับ จ้าวสงคราม

“สมบัติชิ้นต่อไป เป็ นสมบัติที่พิเศษมาก มันมีพลังมากกว่าสมบัติ


ต่างๆ ที่ผา่ นมา มันควรจะมีราคาประมูลที่สูงกว่าสมบัติท้ งั หมด แต่น่า
เสี ยดาย ที่พลังของมันนั้นไม่สามารถดูดซับได้”
“มันน่าเสี ยดายที่ไม่สามารถใช้มนั ในการบ่มเพาะพลังได้ แต่มนั
ยอดเยีย่ มมาก หากจะเก็บไว้เป็ นที่ระลึก”

“ข้าเชื่อว่าทุกท่านจะต้องรู ้จกั มัน มันคือ โอรสอเวจี !!”

ในขณะที่ผดู ้ าํ เนินการประมูลกล่าวนั้น วัตถุคล้ายทารกขนาดใหญ่


บนรถเข็นก็ปรากฏออกมาบนเวที เมื่อวัตถุชิ้นนี้ปรากฏออกมานั้น แทบ
ทุกคนเกือบจะหยุดหายใจด้วยความตื่นเต้น บางคนถึงกลับเกิดความ
กลัวเมื่อมองไปยังสิ่ งนั้น

ลักษณะภายนอกนั้น มันดูเหมือนกับทารก แต่ผวิ หนังกลับเป็ น


ลาวา
“นี่มนั คืออะไรกัน !! มันอัดแน่นไปด้วยพลังแห่งความกราดเกรี้ ยว
ที่รุนแรงมาก” ชูเฟิ ง ตื่นเต้นอย่างมาก เมื่อเขาได้เห็นสมบัติชิ้นนี้

เขาสัมผัสได้วา่ โอรสอเวจี อัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณมหาศาล


และเต็มไปด้วยอํานาจพลังวิญญาณ ถ้าเขาสามารถดูดซับพลังจากมันได้
นัน่ จะทําให้เขาสามารถก้าวหน้าขึ้นไปได้อีกอย่างแน่นอน

“นี่คือ โอรสอเวจี ตามตํานานกล่าวว่า นี่คือสิ่ งมีชีวติ โบราณ ที่มี


ชีวติ อยูใ่ ต้ดินลึก พวกเขาจะมีรูปร่ างได้ เมื่อเวลาผ่านไปพันปี จากการอัด
แน่นของผืนแผ่นดิน”

“พวกเขาจะมีชีวติ อยูภ่ ายใต้การระเบิดของภูเขาไฟ และหากพวก


เขาออกมาจากลาวาที่เกิดจากการระเบิด ก่อนที่พวกเขาจะมีรูปร่ างนั้น
นี่นจะทําให้พวกเขาตาย”

“โอรสอเวจี ตอนนี้ มีอายุราวๆ หมื่นปี มันมีสติปัญญาเป็ นของ


ตัวเอง แต่น่าเสี ยดาย ที่มนั ได้ตายไปแล้ว” ยู่ เห้อ กล่าวอธิบาย

“โอรสอเวจี เป็ นสิ่ งมีชีวติ ของโลกนี้ง้ นั รึ !!” เมื่อได้ยนิ คํากล่าว


ของ ยู่ เห้อ นั้น เจียง หวูช่ าง และคนอื่นๆ ต่างพากันสงสัย

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////
A : พี่เฟิ ง จะประมูลสมบัติชิ้นนี้แน่นนอน เพราะคนในทะเล
ตะวันออก ต่างก็รังเกียจมัน!!!
B : ช่ายแล้วตอนหน้าจะมีอธิบาย อีกทั้งมันยังมีราคาถูกสุ ดๆ แม้มนั จะ
ไร้ประโยชน์กบั คนอื่นๆ แต่สาํ หรับชูเฟิ งนับว่าเป็ นของดีเลยทีเดียว

C : จะใช่หรอ ถ้าคนรังเกียจแล้วใครมันจะหน้าด้านเอามาประมูล!!!

A : เด๋ วก็รู้!!!

A4 : ตอนหน้าเราจะได้รู้ประวัติของบุคคลในตํานานที่ปรากฏออกมา
เมื่อ หมื่นปี ก่อน ที่ 9 อาณาจักร อีกทั้งยังมี 4 ทักษะเร้นลับ ซึ่ งทิ้ง
ตํานานมากมายไว้ในทะเลตะวันออก หากคนรู ้วา่ ชูเฟิ ง มีทกั ษะเร้นลับ
ถึง 3 ทักษะ รับรองได้วา่ เกิดเรื่ องตามมาแน่นอน แต่ยงั ไงก็อย่าลืมว่า ชู
เฟิ งยังมีหน้ากากมายา!!! ฉะนั้น สนุกแน่นอน
บทที่ 565 - แลกเปลี่ยนสะเทือนสวรรค์

“เป็ นเรื่ องจริ ง มีการบันทึกไว้วา่ กว่าหมื่นปี ที่แล้ว โอรสอเวจี ได้


ปรากฏขึ้น ในภูมิภาคทะเลตะวันออก และตอนนั้นก็เกิดการสังหารหมู่
ขึ้น ไม่มีใครสามารถจัดการมันได้เลยแม้กระทัง่ ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ
สู งสุ ด.”
“ในตอนนั้นภูมิภาคทะเลตะวันออกก็เหมือนกับเป็ นนรกบนดิน
ศพเต็มภูเขาและนํ้าเต็มทะเล เหมือนกับมันจะทําลายภูมิภาคทะเล
ตะวันออกด้วยพลังของมัน” ยู่ เหอ พูดขึ้น

“มันแข็งแกร่ งขนาดนั้นเลยหรื อ แต่ตอนนี้ภูมิภาคทะเลตะวันออก


ก็ยงั อยูด่ ีแสดงว่ามันไม่สามารถทําลายได้ มันเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น
หรื อ” เจียง หวูช่ างถามด้วยความสงสัย

“ธรรมชาติของมั้นนั้นมีความกระหายเลือดอย่างมากและไม่มี
อารมณ์ใดๆ การฆ่าก็เหมือนงานอดิเรกของมัน ดังนั้นเหตุผลที่วา่ มันได้
ทิ้งความต้องการของตัวเองและปล่อยให้ภูมิภาคทะเลตะวันออกอยู่
รอดน่ะหรื อ” ยู่ เห้อพูดพร้อมผงกหัว เหมือนกําลังคิดอะไรอยู่

“มันเกิดอะไรขึ้น” ชูเฟิ ง และ คนอื่นๆถาม


“ใช่แล้ว มันถูกโค่นลงโดยผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับที่ปรากฏตัวอย่าง
กะทันหัน ด้วยพลังของเขามันทําให้โอรสอเวจีถอยกลับ และ บีบบังคับ
ให้มนั ลงไปใต้ดินที่ลึกมากได้ จากนั้นเขาก็ผนึกไว้ นี่คือเหตุผลว่าทําไม
ภูมิภาคทะเลตะวันออกถึงอยูร่ อด.” ยู่ เห้อ พูด

“เขาแข็งแกร่ งมากเลยหรื อ เขาเป็ นใครกัน ระดับของเขาอยูท่ ี่


เท่าไหร่ ” เจียง หวูช่ าง ถามขึ้น ในตอนนั้น ชูเฟิ ง และ คนอื่นๆต่างก็
ต้องการรู ้เช่นกัน

“ไม่มีใครรู ้วา่ เขาคือใคร และไม่มีใครรู ้ชื่อของเขา บอกได้แค่เขา


นั้นไม่ธรรมดา และ แข็งแกร่ งขนาดที่ โอรสอเวจีกไ็ ม่สามารถเทียบได้
ส่ วนระดับพลังของเขาน่าจะอยูท่ ี่ จักรพรรดิสงคราม.”

“นอกจากนี้ ข้างกายเขายังมีสตั ว์เทพศักดิ์สิทธิ์ 4 ตัวอีกด้วย.”


“1 เป็ นมังกรฟ้า 1 เป็ นวิหคเพลิง 1 เป็ นพยัคฆ์ขาว และสุ ดท้าย
เป็ นเต่าดํา ทั้ง 4 นั้นแข็งแกร่ งมาก และ ก็เหมือนเป็ นสัตว์เลี้ยงของชาย
คนนั้น.” ยู่ เห้อ พูดขึ้น

“อะไรนะ!!!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ งก็ตกใจอย่างมาก เจียง หวู่


ชาง จาง เทียนยี่ ซู รู่ ว และ ซูเหม่ย ก็เช่นกัน

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นพวกเขาก็รู้ทนั ทีวา่ คนคนนั้นคือ เจ้าของสุ สาน


จักรพรรดิที่น่าเกรงขาม และยังเป็ น สุ ดยอดอัจฉริ ยะของทวีปเก้า
อาณาจักร เมื่อ หมื่นปี ก่อน ชิง หลงเทียน

ถึงแม้วา่ ความสําเร็ จของเขาจะไม่ได้ถูกจดจําที่ภูมิภาคทะเลตะวันออก


แต่เขาก็เป็ นวีรบุรุษที่ช่วยภูมิภาคทะเลตะวันออกไว้
อย่างไรก็ตาม ผูเ้ ชี่ยวชาญที่ ยู่ เห้อ พูดถึงต้องเป็ น ชิง หลงเทียนแน่นอน
ชูเฟิ งและคนอื่นๆไม่ได้พดู อะไร อย่างไรก็ตาม 3 ทักษะเร้นลับของเขา
นั้นถูกครอบครองโดยชูเฟิ ง หากเรื่ องนี้ถูกกระจายออกไป อาจจะเกิด
การนองเลือดเกินขึ้นก็เป็ นได้

เพราะมรดกที่เป็ นทักษะเร้นลับนั้น มีอาํ นาจพอที่จะสัน่ สะเทือนสวรรค์


และโลก ถ้าผูค้ นนั้นรู ้วา่ ใครเป็ นคนครอบครองมันพวกเขาอาจจะมาเพื่อ
แย่งชิงมันไป

“สิ่ งมีชีวติ ที่น่าเกรงกลัวจากใต้โลก โอรสอเวจี ราคาเริ่ มต้นที่ 1


แสน ลุกแก้วสวรรค์” ผูอ้ าวุโสคุมการประมูลพูดขึ้นเสี ยงดัง

“1 แสนลูกแก้วสวรรค์ นี่ไม่ใช่วา่ มันถูกไปหรื อ” เจียง หวูช่ าง


พูดขึ้น
“มันแพงต่างหากล่ะ ราคามันสู งเกินกว่าที่จะขายออกได้.” เจียง
หวูช่ าง และคนอื่นๆตะลึงทันทีเมื่อได้ยนิ

“แพงอย่างนั้นหรื อ ท่านหมายความว่ายังไง ท่านบอกว่ามันไม่


น่าจะมีราคาถึงขนาดนั้นหรื อ” เจียง หวูช่ าง ถามด้วยความสับสน

“ที่มาของมันนั้นสุ ดยอดมาก และมันก็เป็ นของหายากเช่นกัน แต่


มันก็เป็ นได้แค่สิ่งของไร้ประโยชน์ชิ้นนึง มันไม่สามารถกลัน่ ได้ ได้แต่
นําไปสะสมเท่านั้น.”

“นอกจากนี้เมื่อหมื่นปี ที่แล้ว มันเกือบจะทําลายภูมิภาคตะวันออก


ผูค้ นจึงรู ้สึกว่ามันเป็ นลางร้ายจึงไม่อยากจะเก็บมันไว้ ถ้าใครอยากที่จะ
เก็บมันไว้กต็ อ้ งเป็ นผูท้ ี่ชอบสะสมของแปลกอย่างแน่นอน.”

“ด้วยราคาเช่นนั้นมันถือว่าสู งเกินไปมากนัก โอรสอเวจีน้ ี


สมควรได้ราคาตํ่ากว่านี้อย่างมาก.” ยู่ เห้อ พูดขึ้น

ชูเฟิ งและคนอื่นๆรู ้สึกสับสนเมื่อได้ฟัง ยู่ เห้อ แต่เมื่อไม่มีใครเสนอราคา


เพื่อนํามันไป พวกเขาก็ตอ้ งเชื่อเพราะน่าจะเป็ นเช่นนั้นจริ งๆ

“ผูอ้ าวุโส โอรสอเวจีนี่ เป็ นสิ่ งอัปมังคล และสมควรถูกทําลาย


ทําไมถึงถูกเก็บสะสมล่ะ”

“ข้าไม่รู้วา่ ใครเป็ นคนเก็บมันไว้ แต่ดว้ ยราคา 1 แสนลูกแก้ว


สวรรค์น้ นั มันสู งเกินไป ถ้ามันจะราคาซัก 2 หมื่นข้าก็จะซื้อมันเพื่อนํา
มันไปผนึก เพื่อไม่ให้ความชัว่ ร้ายเล็ดลอดออกมา.”

”ข้าอยากทราบถึงผูท้ ี่ขายมันท่านบอกข้าได้หรื อไม่!”


ในตอนนั้นชายวัยกลางคนก็ตะโกนออกมา ในขณะที่เขาพูดดวงตาของ
เขามองรอบๆและมองหาคนที่เป็ นเจ้าของมัน

เขาเป็ นศิษย์ของสํานัก 4 สมุทร พลัง และตําแหน่งของเขาสู งมาก นัน่


เป็ นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงกล้าพูดเช่นนั้น

“นี่มนั …” ตามกฎแล้วเรื่ องเจ้าของของสมบัติน้ นั ถือเป็ น


ความลับ นอกจากนี้ การประมูลนั้นยังอนุญาตให้ผขู ้ ายตั้งราคาเริ่ มต้น
เองถ้าเขาต้องการมากกว่าที่ผอู ้ าวุโสประเมินค่าตั้งไว้

แม้วา่ เขาจะเป็ นคนธรรมดา แต่ดว้ ยสถานะของผูอ้ าวุโสในการประมูล


แล้ว เขาสามารถเปลี่ยนราคาได้ดว้ ยกดบางอย่าง แต่มนั จะไม่มีผลถ้า
เจ้าของสมบัติน้ นั เป็ นคนที่มีในตําแหน่งที่สูง และเขาที่เป็ นผูอ้ าวุโส
ประมูล ก็ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนราคามัว่ ซัว่ โดยไม่ขออนุญาตเจ้าของสมบัติ
ก่อน
ที่จริ ง เขาก็รู้วา่ โอรสอเวจีน้ นั เป็ นสิ่ งอัปมงคล และไม่น่าจะมีราคาถึง
ขนาดนี้

พูดตามตรง เขาไม่เคยคิดจะเอาของสิ่ งนี้ข้ ึนมาประมูลด้วยซํ้า เพราะว่า


นัน่ จะทําให้เกิดการไม่พอใจ

แต่เขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้ถา้ เจ้าของนั้นยืนกรานจะให้ประมูลมัน
ไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่ องที่เขาไม่กล้าโต้เถียงหรื อนํามันออกจากการประมูล
แม้แต่ถามเขายังไม่กล้าถามเลยว่าทําไมถึงตั้งราคาสู งเพียงนี้

“ท่านผูอ้ าวุโส ข้าจะขอซื้ อมันในราคา 1 แสนลูกแก้วสวรรค์!”


ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็พดู ขึ้น
“อะไรนะมีคนที่ตอ้ งการซื้ อมันในราคาเท่านั้นอยูอ่ ย่างนั้นหรื อ”
เมื่อได้ยนิ คําพูดของชูเฟิ งมันทําให้คนอื่นรู ้สึกแปลกใจ

เป็ นเพราะพวกเขารู ้วา่ ราคาของมันไม่น่าจะถึงขนาดนี้ แม้มนั จะเป็ นของ


หายาก หรื อเป็ นของพิเศษ

“สหาย เจ้าแน่ใจหรื อที่จะซื้ อ โอรสอเวจีน้ ี” ผูอ้ าวุโสคุมการ


ประมูล ประหลาดใจมากเพราะเขารู ้วา่ ราคาของมัน ไม่น่าจะถึงขนาดนี้
ดังนั้นเขาจึงไม่มีความคิดที่จะขายมันไป

“ผูอ้ าวุโส ข้าต้องการมัน .” ชูเฟิ ง พูดยืนยันพร้อมพยักหน้า

“ตกลง ถ้าไม่มีใครให้ราคาสู งกว่า มันจะเป็ นของเจ้า สหาย.” ผู ้


อาวุโสคุมการประมูล พูดขึ้นอย่างเร่ งรี บด้วยความดีอกดีใจ
“เขาต้องบ้าไปแล้วอย่างแน่นอน!”

“เขากล้าที่จะจ่ายขนาดนั้นเพื่อซื้ อของเช่นนั้น สมองของเขาต้อง


มีปัญหาอย่างแน่นอน” หลังจาก ชูเฟิ ง ยืนยัน ก็มีเสี ยงพูดขึ้นมาจาก
รอบๆเขา

ชูเฟิ งนั้นได้แต่ยมิ้ โดยไม่ทาํ อะไร ในสายตาพวกเขามันอาจจะไร้ค่า แต่


ในสายตาชูเฟิ งมันเป็ นสมบัติล้ าํ ค่า

สมบัติล้ าํ ค่าเช่นนั้นในราคาเท่านี้ มันทําให้เขารู ้สึกมีความสุ ขมาก

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////////
A : คงอยากรู ้กนั อ่ะสิ ว่ามันทําอะไรได้ ???

A : จ้างให้กไ็ ม่บอก!!!

C : เรารู ้!!!

B : เอาไว้ทาํ อะไร ???

C : ไว้ปาหัวพ่อมืงไง!!!

B : ไอ้เชี้ย!!! สารเลวมาก!!!

A4 : เอ้อ พวกนี้หยาบคายที่สุด โอรสอเวจีใช้ในการเพิม่ ระดับการ


เพาะปลูกแต่ ชูเฟิ ง ต้องทําให้มนั ผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะ
ดูดซับพลังจากมันได้ แต่ใช้เวลาอีกพักหนึ่ง สําหรับเรื่ องของจื่อหลิง ชู
เฟิ ง ขอเวลาอีกไม่นาน ซึ่ง LV. ของพี่เฟิ งอัพเร็ วมากๆ อีกทั้งยังได้เจอ
สาวงามอีกมากมายที่พี่เฟิ งไปปั กธง พร้อมกับเจอ หยวน รู่ วที่พี่เฟิ งเคย
ขืนใจ นางน่าสงสารมาก จะเกียจจะแค้นยังไง ชูเฟิ ง ก็เป็ นผูช้ ายคนแรก
ของนาง ข้อนี้เป็ นเรื่ องจริ งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะพบกันยังไง
เรื่ องราวความแค้นจะลงเอยแบบไหน ต้องรอติดตาม
บทที่ 566 - คืนพระจันทร์เต็มดวง

ลูกแก้วสวรรค์ 100,000 ราคานั้นคือ ราคาที่ถูกที่สุดในการประมูล


สมบัติในคืนนี้ สําหรับสมบัติล้ าํ ค่า

แต่ถา้ ราคาตํ่ามากก็มกั จะเป็ นสิ่ งที่ถูกมองว่าเป็ นขยะในสายตาผูค้ น


ดังนั้นจึงไม่มีสูร้ าคากับชูเฟิ ง

แต่ในสายตาชูเฟิ งแล้ว มันเป็ นสิ่ งลํ้าค่า และมันมาอยูใ่ นมือเขาด้วยราคา


1 แสน ลูกแก้วแก่นแท้ และในสายตาของคนอื่นนั้นจะมองว่าชูเฟิ งนั้น
โง่เขลา
“ขอบคุณมาก ท่านผูอ้ าวุโส.”

หลังจากได้รับมันมาด้วยราคา 1 แสนลูกแก้วสวรรค์ ชูเฟิ งก็มองไปที่


ตุก๊ ตาสี แดงที่เปี่ ยมไปด้วยพลังในมือเขาในตอนนั้นใจของเขาก็รู้สึก
ตื่นเต้นอย่างมาก ( T/Nกุมารทอง)

หลังจากได้มนั มาเขาเชื่อว่ามันจะช่วยทําให้ระดับของเขาเพิ่มขึ้นได้ และ


มันจะช่วยให้เขาทะลวงผ่านได้ และเมื่อย้อนกลับไปที่สุสานจักรพรรดิ
นั้นเห็นได้วา่ มีพลังสวรรค์มากมายในตัวเขา

“พูดตามตรง พวกเขาพูดถูกแล้วมันเป็ นสิ่ งอัปมงคล เจ้ายังต้องการ


เก็บมันไว้อีกหรื อ” ผูอ้ าวุโสคุมประมูลถามชูเฟิ ง
“ไม่ตอ้ งกังวลท่านผูอ้ าวุโส ข้ารู ้แล้ว ข้าไม่ได้ซ้ื อมันไปสะสม
หรอก ข้ามีแผนบางอย่างถ้าพูดให้ชดั ก็คือข้าจะทําลายมัน.” ชูเฟิ ง ยิม้
แล้วพูด

“เจ้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณอย่างนั้นหรื อ” เมื่อได้ยนิ อย่างนั้น


เขาก็ตอ้ งตกใจ เพราะพลังของ โอรสอเวจีน้ นั น่ากลัวมาก ถ้าไม่ถึงระดับ
ราชันย์สงครามก็ไม่สามารถทําลายมันได้

แต่ถา้ เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้นคงเป็ นการสร้างรู ปแบบและผนึก


มันไว้ พวกเขาเรี ยกมันว่าทําลาย แต่จริ งๆแล้วก็แค่ผนึก
นี่เป็ นเหตุผลที่เขาคิดว่าชูเฟิ งเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ เพราะด้วยพลัง
แค่น้ ีชูเฟิ งนั้นไม่สามารถทําลาย โอรสอเวจีได้จริ งๆหรอก

ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้นเป็ นคนพิเศษ เพราะในระดับเดียวกันนั้นเขา


จะเหนือกว่ามาก และสามารถทําให้อีกฝ่ ายรู ้สึกหวัน่ เกรงได้

“ข้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ.” ชูเฟิ ง ยิม้ แต่ตอนนั้น ซู รู่ ว และ


คนอื่นๆ ก็กาํ ลังคอยเขาอยู่ และนอกจากนี้ยงั มีคนอื่นๆ ที่รอคอยการ
แลกเปลี่ยนอยูอ่ ีก เขาจึงพูดแค่น้ นั แล้วก็จากไป

“ข้ารู ้สึกถึงบางอย่างจากเด็กคนนั้น ด้วยอายุเพียงแค่น้ ีเขาควรจะ


กลัวเมื่อเห็นมัน แต่เขากลับตื่นเต้นที่เห็นมัน หรื อว่าเขาจะรู ้เกี่ยวกับ
โอรสอเวจี” ผูอ้ าวุโสคุมประมูลพูดกับตัวเอง
“มีคนซื้ อมันไปหรื อ!!!” หลังจากชูเฟิ งจากไป ก็มีเสี ยงชายชราดัง
ขึ้นมาด้านหลังผูอ้ าวุโส

เมื่อมองไปดู ผูอ้ าวุโสนั้นก็รู้สึกบางอย่างเขารี บยกมือคารวะ ด้วยความ


เคารพและพูดว่า “ ขอคารวะ ท่าน ไต้ก๋ !ุ ”

ในตอนนั้นก็มีร่างของชายสู งอายุปรากฏขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วย


ริ้ วรอย หัวของเขานั้นเต็มไปด้วยผมสี ดาํ และเขายังสวมใส่ ชุดของ
ปรมาจารย์จาก สํานัก4 สมุทร แต่กไ็ ม่ได้เรี ยบร้อยมาก นอกจากนี้ เขา
นั้นมีแค่ขาเดียวและใช้ไม้เท้าในการช่วยพยุง

“ ศิษย์ ขอคารวะ ท่าน ไต้ก๋ !ู ” ในตอนนั้น คนจากสํานักสี่


คาบสมุทรทุกคน ก็คารวะพร้อมกัน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วย
ความกลัว

เพราะคนคนนี้ คือบุคคลที่แข็งแกร่ งที่สุดในสํานัก 4 คาบสมุทร และยัง


เป็ นผูน้ าํ ของ 10 ปรมาจารย์สวรรค์อีกด้วย ความแข็งแกร่ งของเขานั้น
สามารถเอาชนะ อีก 9 คนได้ดว้ ยมือเดียว

“ข้าถามเจ้าว่า เจ้าขายออกไปแล้วอย่างนั้นหรื อ!!!” ปรมาจารย์ ไต้


กู๋ ถามขึ้นอีกครั้ง

เมื่อเห็นเช่นนั้น ผูอ้ าวุโสก็รู้สึกกลัวอย่างมาก เขาจึงรี บพูดว่า “ นายท่าน


ข้าได้ขายออกไปแล้ว “
“โอ้ว!!!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ท่าทางเย็นชาขอ ไต้ก๋ กู เ็ ปลี่ยนไป
จากนั้น เขาก็พดู ว่า “ มีคนซื้ อไปในราคา 1 แสนลูกแก้วสวรรค์อย่าง
นั้นหรื อ”

“ขอรับ ท่าน.”

“ใครเป็ นคนซื้ อไป”

“เขาเป็ นเด็กหนุ่มนามว่าชูเฟิ ง.” ผูอ้ าวุโสคุมประมูล รี บหยิบ


ใบเสร็ จขึ้นมายืน่ ให้กบั ไต้ก๋ ู
“อืม เขาไม่ใช่ศิษย์สาํ นัก 4 คาบสมุทรอย่างนั้นหรื อ แล้วเขาก็
ไม่ได้สมัครเข้าร่ วมด้วย” ตาของไต้ก๋ เู ปิ ดกว้างขึ้น เมื่อเห็นข้อมูลของชู
เฟิ ง

“ใช่แล้ว เด็กหนุ่มคนนี้แตกต่างจากคนอื่นๆ เขามีบางอย่างที่พิเศษ


กว่า.” ผูอ้ าวุโสประมูลพูดขึ้น

“ฮ่าฮ่า น่าสนใจ ชูเฟิ งคนนี้ช่างน่าสนใจจริ งๆ” ในตอนนั้นก็เกิด


เรื่ องที่ไม่คาดคิดขึ้นใบหน้าที่มกั จะเย็นชาของไต้ก๋ ู ก็เต็มไปด้วยและยิม้
จากนั้นเขาก็สะบัดแขนแล้วลอยจากไป

หลังจากนั้น คนแถวๆนั้นก็ถอนหายใจราวกับได้วางสัมภาระชิ้นใหญ่ลง
ด้วยสถานะที่สูงส่ ง ด้วยพลังของเขา และด้วยที่เขานั้นเป็ นคนไม่
ธรรมดาในสํานัก 4 คาบสมุทร นอกจากเจ้าสํานักและผูอ้ าวุโสเพียง
ไม่กี่คน นอกมีใครบ้างที่จะไม่เกรงกลัวเขา

ชูเฟิ งไม่รู้วา่ เกิดเรื่ องเช่นนี้ข้ ึน จึงได้แต่เดินทางไปยัง ที่ของยู่ เห้อ

ที่อยูอ่ าศัยของ ยู่ เห้อนั้น นับว่าเล็กเมื่อเทียบกับคนอื่นๆในสํานัก 4


คาบสมุทร แต่มนั มีภูเขาขนาดเล็กๆ และทะเลสาบขนาดย่อมๆอยูท่ าํ ให้
ดูไม่เลวเลยทีเดียว และยิง่ โครงสร้างที่ยอดเยีย่ มของมัน แสดงให้เห็นว่า
สํานัก 4 คาบสมุทรดูแลศิษย์ดีขนาดไหน

ในการต้อนรับชูเฟิ งและคนอื่นๆนั้น ยู่ เห้อได้จดั งานเลี้ยงขึ้น และใน


ยามคํ่าคืนพวกเขาได้ดื่มไวน์และพูดคุยกัน
“คืนนี้เป็ นคืนพระจันทร์เต็มดวง มันช่างใหญ่และสวยงามจริ งๆ”
ปกติแล้วซู เหม่ย ไม่ดื่มไวน์ แต่วนั นี้เธอนั้นอยากจะดื่ม และเธอเป็ นคน
ที่ไม่เคยได้ลองแอลกอฮอลล์มาก่อน มันจึงทําให้หน้าเธอแดงเหมือนลูก
แอปเปิ้ ล เสี ยงของเธอก็งุง้ งิ้งๆมีเสน่ห์มาก

“เหม่ยน้อย เจ้าไม่เคยแตะต้องไวน์ ดังนั้นไม่ควรดื่มมากเช่นนี้ ถ้า


เจ้าดื่มมากเกินไป จะทําให้เจ้ารู ้สึกไม่ดีนะ.” ซู รู่ ว พูดขึ้น

“พีส่ าว ท่านพูดเช่นนั้นได้อย่างไร ไม่ใช่วา่ ท่านก็ดื่มเหมือนข้าหรื อ


ท่านทนได้มากกว่าข้าอย่างนั้นหรื อ ตั้งแต่เด็ก นี่เป็ นครั้งแรกที่ขา้ เห็น
ท่านดื่มไวน์เช่นกัน!” ซูเหม่ยพูด

“ข้า…” ซู รู่ ว ที่เจออย่างนั้นก็พดู ไม่ออก และไม่รู้จะตอบกลับ


อย่างไร
“ข้าไม่เคยเห็นพวกเจ้าดื่มไวน์มาก่อน ทําไมวันนี้เจ้าทั้ง 2 ถึงได้
ดื่มล่ะ” ชูเฟิ ง พูดพร้อมยิม้

“ฮึ่ม!” หลังจากได้ยนิ ชูเฟิ งพูด 2พี่นอ้ งก็แค่นเสี ยงและหันมามองชูเฟิ ง


มันทําให้ชูเฟิ งรู ้สึกมึน และ อายเล็กน้อย

“โห้ ดื่มไปเถิดไม่เป็ นไรหรอกวันนี้เป็ นวันเทศกาลชมพระจันทร์


มันเป็ นวันที่นานครั้งจะมีหน.” เมื่อเห็น ท่าทางของชูเฟิ ง ยู่ เหอ ก็พดู
ขึ้นมา

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////
A : พอเหล้าเข้าปากแล้วก็เกิดอารมณ์ เกิดอารมณ์กต็ อ้ งมีเรื่ องอย่างว่า

B : จะเป็ น รู่ ว หรื อ เหม่ย นะที่โดน!!!

A : สาว่าพี่เฟิ งเราโดนลากขึ้นเตียง โชคดีเป็ นบ้า!!!

C : เพ้อเจ้อ!!! อย่างรู่ วกับเหม่ยไม่มีวนั ซะล่ะ จะเกิดเรื่ องอย่างว่า

B : พี่เฟิ งได้กบั ซูรู่วจนนางจะท้องล่ะ บอกไม่มีวนั !!!

บทที่ 567 - ข้าอยากนอนกับเจ้า!!!

เทศกาลชมพระจันทร์ มันคืออะไรหรื อ "ซูเหม่ย กระพริ บตาของเธอ ด้ วย


ความรู้สกึ ประหลาดใจ

"เจ้ าจะเห็นว่าคืนนี ้ดวงจันทร์ มีขนาดใหญ่ เต็มดวง และส่องแสง


ออกมา" ยูเ่ หอ พูด
"ใช่ ใช่! ดวงจันทร์ คืนนี ้สวยงามนัก ข้ าไม่เคยเห็นดวงจันทร์ ที่
สวยงามเช่นนี ้มาก่อน "ซูเหม่ย พูด

“ดวงจันทร์ นี ้ไมได้ สวยงามเช่นนี ้หรอกนะ ทุกๆปี มันจะเกิดขึ ้น


เพียงครัง้ เดียว ซึง่ ปรากฏการณ์นี ้มีการพูดถึงหลากหลายมาก อย่างไรก็
ตามสิง่ ที่ถกู พูดถึงมาที่สดุ คือตํานานของมัน.” ยูเ่ หอ พูด

“ตํานาน ตํานานอะไรหรื อ ศิษย์พี่ยู่ เห้ อ บอกข้ าเร็ ว” ซู เหม่ยถาม


ด้ วยความอยากรู้อยากเห็น
“ตํานานที่มีมาตังแต่
้ โบราณ ในขณะที่พระอาทิตย์ขึ ้นอยูจ่ ะไม่มี
พระจันทร์ และดวงดาว เนื่องจากแสงของพระทิตย์ได้ บดบังเอาไว้ แต่
เมื่อยามราตรี เข้ าปกคลุม ทัว่ ทังผื
้ นดินจะเต็มไปด้ วยความมืดมิด ขนาด
ที่มองไม่เห็นนิ ้วบนแขนตัวเองตอนยื่นออกไป.”

“ในตํานาน กล่าวถึงเรื่ องราวความรักของ ผู้ฝึกตนคูน่ งึ .”

“พวกเขาเป็ นเพื่อนกันมาตังแต่
้ ยงั เล็กๆ และมีความสัมพันธ์แน่น
แฟ้นมาก.”

“ผู้ชายนันมี
้ พรสวรรค์ที่โดดเด่น และ เป็ นอัจฉริ ยะที่ยากหาใคร
เทียบเทียม.”
“แต่สว่ นผู้หญิงนันเป็
้ นคนธรรมดา ที่ความสามารถห่างไกลกับ
ผู้ชาย อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่ได้ ลดลงแม้ แต่น้อย
เพราะ ระดับที่ตา่ งกัน ทําให้ ชายคนนันแข็
้ งแกร่งขึ ้น แข็งแกร่งขึ ้น
ทดแทนในส่วนของนาง และนัน่ มันทําให้ เขาถูกยกย่อง”

“แต่ด้วยเรื่ องกาลเวลา ทังคู


้ น่ นก็
ั ้ เริ่ มชราขึ ้นเรื่ อยๆ แม้ ผ้ หู ญิงจะ
ได้ รับยาวิเศษที่สามารถคงความงามไว้ แต่อายุขยั ของเธอก็ต้องเป็ นไป
ตามลิขิตสวรรค์”

“ผู้ชายกลัวว่าจะเสียเธอไป จึงเริ่ มหาทางที่จจะช่วยเธอ เขาไม่ได้


สนใจเกี่ยวกับความรู้สกึ ของเธอ เขาคิดเพียงแต่วา่ เขาจะไม่ยอม
สูญเสียเธอไป.”
“ในที่สดุ เขาก็คิดว่า ถ้ าตัวเองแข็งแกร่งขึ ้นมันจะมีวิธีชว่ ยเธอได้ .”

“เขาจึงพยายามอย่างหนักจนไปถึงระดับที่โดดเด่นอย่างมากใน
ที่สดุ เขาเหลือเพียงอีกแค่ก้าวเดียวเท่านันก็
้ จะไปถึงระดับที่ไม่มีใครเคย
ไปถึงมาก่อน ในระดับที่ทําให้ โลกต้ องตกตะลึง เพื่อประสบความสําเร็ จ
เขาก็ต้องบ่มเพาะตนเองอย่างหนักโดยใช้ วิธีตา่ งๆ.”

“และเมื่อเขาทําสําเร็จ โลกก็เกิดการสัน่ ไหว เขามีพลังที่จะ


สามารถปกครองโลกและได้ รับพลังที่เป็ นอมตะ ทุกสิง่ อย่างนันถู
้ ก
ครอบครองโดยเขา.”
“แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า การผ่านก้ าวสุดท้ ายของเขานันมั
้ น
จะกินเวลากว่า 100 ปี ในตอนนันร่
้ างของคนรักของเขาได้ เหลือแต่
กระดูกขาวแล้ ว.”

“ผู้ชายคนนันสู
้ ญเสียจิตวิญญาณทังหมด
้ เขาครอบครองพลังที่
เป็ นดัง่ พระเจ้ า แต่ไม่สามารถช่วยคนรักไว้ ได้ .”

“เขาร้ องไห้ ทกุ วัน และเมื่อยามกลางคืน โลกก็จมอยูใ่ นความมืด


มิด เขาก็คิดถึงคําที่คนรักเขาบอกขึ ้นมา.”

“เธอบอกว่า เธอเกลียดเวลากลางคืน เพราะมันไม่มีแสงไฟ ที่ทํา


ให้ เธอได้ มองเห็นหน้ าเขา.”
“เธอพูดว่ามันคงจะดีถ้ามีดวงอาทิตย์ในเวลากลางคืน เธอจะได้
มองเห็นเขาตลอดเวลา.”

“ผู้ชายคนนัน้ รักผู้หญิงคนนันมาก
้ เขารักเธอมากแม้ เธอจะไม่อยู่
แล้ ว เขาสูญเสียเป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ แม้ แต่เวลาที่เหลือของเขา
เขาก็ไม่สนใจ.”

“เมื่อเขาเสียเหตุผลที่จะมีชีวติ อยู่ และในตอนที่เขาตัดสินใจที่จะ


ตายตามเธอไป เขาก็เลือกที่จะทําความหวังของเธอให้ เสร็จก่อนจะจาก
ในตอนนัน้ เขาก็จดุ ประกายแสงขึ ้นมาในตอนกลางคืน.”
“เขาเผาแผ่นหลังบูชายัญตัวเองและใช้ ทกุ สิง่ ทุกอย่าง วาด
รูปแบบวิญญาณครอบคลุมท้ องฟ้า เหนือ 9 สวรรค์ และแล้ วเขาก็สร้ าง
สิง่ ๆหนึง่ ที่สอ่ งแสงไปทัว่ โลกในยามคํ่าคืน.”

“นอกจากนี ้ ผู้ชายคนนันก็
้ ยงั ได้ ให้ ชื่อสิง่ นันขณะที
้ ่เขามีลม
หายใจเลือกสุดท้ ายว่าเป็ น เย่ว์เลีย่ ง (ดวงจันทร์ ) ตามชื่อของเธอ.” [
T/N 月亮 Yuèliàng เยว้ เหลี ้ยง ]

“มันเป็ นเพราะดวงจันทร์ นนส่


ั ้ องแสงในยามคํ่าคืน ดังนันจึ
้ งเกิด
การความทรงจํามากมายในวันนัน้ และผู้คนได้ กําหนดให้ วนั นัน้ เป็ น
เทศการชมจันทร์ และนัน่ ก็คือวันนี ้.”

“นี่คือตํานานที่บอกต่อๆกันมาหลายชัว่ อายุคน และมันยังมี


สโลแกนให้ เจ้ าได้ ใกล้ ชิดกับคนรัก” ยูเ่ หอ พูด

“ฮ่าฮ่า ไร้ สาระ พระจันทร์ คืออะไร มันมีแค่1เดียวในโลกเท่านัน้


ต่อให้ ผ้ เู ชี่ยวชาญแข็งแกร่งขนาดไหน ก็ไม่สามารถทําตัวเองให้ เป็ น
พระจันทร์ ได้ มันเป็ นแค่ตํานานไม่ได้ หมายความว่าเป็ นความจริ ง” ใน
ตอนนัน้ เจียง หวูช่ างก็หวั เราะเสียงดัง

“ถูกต้ อง จะเป็ นไปได้ อย่างไรที่ดวงจันทร์ จะถูกสร้ างโดยมนุษย์


มันช่างไร้ สาระเสียงจริง มา มา มาดื่มดีกว่า ดื่ม ดื่ม ดื่ม!”จางเทียนยี่
พูดขึ ้น.

“ให้ ดแู ลคนที่ใกล้ ชิดเจ้ าให้ ดีที่สดุ อย่างนันหรื


้ อ” อย่างไรก็ตาม
เรื่ องตลกอย่างตํานานของชายคนนัน้ ก่อให้ เกิดความรู้สกึ บางอย่างใน
ตา ของสาวๆ

ซู รู่ว และ ซูเหม่ย หันไปมองชูเฟิ งด้ วยสายตาที่เต็มไปด้ วยความรัก ชู


เฟิ งนันกํ
้ าลังดื่มกับเจียง หวูช่ าง และ จาง เทียนยี่อยูจ่ งึ ไม่มีใครรู้วา่ พวก
เธอคิดอะไรอยู่

หลังจากงานเลี ้ยง ชูเฟิ งก็กลับห้ องเขา และ หยิบโอรสอเวจีมาเพื่อน


กลัน่ มัน แต่วา่ เนื่องจากเขามีภาระที่ต้องแบกรับอยู่ ดังนันเขาเลื
้ อกที่จะ
ยกระดับตนเองดีกว่า

*ก๊ อก ก๊ อก ก๊ อก ก๊ อก *
ในตอนนันก็
้ มีเสียงเคาะประตูดงั ขึ ้น ชูเฟิ งใช้ อํานาจวิญญาณตรวจสอบ
ก็ได้ ร้ ูวา่ คนที่มานันคื
้ อ ซู เหม่ย

“เหม่ยน้ อย เจ้ ามาที่นี ้ตอนนี ้ เพราะคิดถึงข้ าใช่ไม๊ ? ” ชูเฟิ งเปิ ด


ประตูออกมา และเมื่อเห็นเธอ เขาก็ไม่สามารถห้ ามตัวเองไม่ให้ หยอก
ล้ อเธอได้

“ใช่ ข้ าคิดถึงเจ้ า.” อย่างไรก็ตาม มันสร้ างความประหลาดใจให้


ชูเฟิ งมาก ซูเหม่ย ที่จะตอบสนองต่อการหยอกล้ อของเขา ครัง้ นี ้ไม่มี
การตอบสนอง นอกจากนันเธอยั
้ งกระโดษเข้ าสูอ่ ้ อมอกชูเฟิ งอีก

หลังจาก ซู เหม่ยเข้ ามาในห้ อง เธอก็ปิดประตู ในขณะที่อยูใ่ นอ้ อมกอด


ชูเฟิ ง และดันชูเฟิ งไปบนเตียงของเขา

“เหม่ยน้ อย…!!!” เมื่อเห็นซูเหม่ยในตอนนัน้ ชูเฟิ งก็ตกใจมาก

ซูเหม่ยที่ปกติร่าเริง และมักจะใกล้ ชิดกับชูเฟิ ง เธอมีปฏิกิริยาเรื่ องชาย


หญิงมาก สําหรับเธอแล้ วนัน่ เป็ นสิง่ ต้ องห้ ามเลย แต่วนั นี ้เธอกําลังจะ
ทําสิง่ นัน้

“คืนนี ้ข้ าอยากนอนกับเจ้ า.” ซูเหม่ยขยับใบหน้ าของเธอเข้ าไป


ใกล้ ชเู ฟิ งและพูดเบาๆ
*อึก* ในตอนนันชู
้ เฟิ งก็ต้องกลืนนํ ้าลายคําโต เพราะซูเหม่ยตรงหน้ า
เขานันมี
้ เสน่ห์เกินไป

ดวงตา และใบหน้ าที่งดงามน่ารักของเธอ ที่กําลังแดงอยู่ ทําให้ มนั มี


เสน่ห์อย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชูเฟิ งลดสายตาไปเจอกับหน้ าอกของเธอ เขา


มองเห็นผิวที่ขาวราวกับหิมะและมีวตั ถุน่มุ นิ่มกําลังกดทับอกของเขาจน
เป็ นร่องตัว วี ระหว่างหุบเขา ซึง่ ขนาดของมันยากที่จะประเมิน เพราะ
เขายังไม่เคยเห็นมันเต็มๆตา และมันยังถูกกดทับ

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////
A : ตายล่ะดันมาจบในเวลาแบบนี้!!! เซงชะมัด!!!

B : ไปบอกให้คนแปลแถมดิ!!!

A : คงต้องพิจารณาให้ถี่ถว้ น ยิง่ วันเสาร์ - อาทิตย์ คนแปลรี บส่ งงาน


แล้วไปเที่ยวกันหมดล่ะมั้ง

B : ก็คนที่ไม่ไปดิ!!!

A4 : . . . . . . . . . . . .

A4 : เอาล่ะ จะมีมารมาผจญหรื อเปล่า ?? หรื อเขาทั้งสองจะได้เสี ย


กัน ก่อนวัยอันควร รี ดเดอร์ที่อายุต่าํ กว่า 17 ปี ควรได้รับคําแนะนํา คน
รักกันจากใจจริ ง จะมีอะไรกันก็เป็ นเรื่ องไม่แปลก แต่คนยุคนั้นเคร่ ง
เรื่ องขนบธรรมเนียมประเพณี ว่าไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวชายหากยังไม่ได้
เป็ นคู่ครอง แต่พวก ซูรู่วและซูเหม่ย ไม่เปนแบบนั้น นางพร้อมที่จะ
มอบทุกอย่างของนางให้แด่คนรัก รวมทั้งจื่อหลิง หากนางไม่ถูกพิษ นาง
คงมอบร่ างกายให้ ชูเฟิ ง ดังนั้น หากใครเป็ นหมอ ติดต่อด่วน!!! พวกเขา
จะได้กนั ซะที
บทที่ 568 – ใต้แสงจันทร์
ผูท้ ี่มีอายุต่าํ กว่า 3 ปี ควรได้รับคําแนะนํา หรื อให้
พ่อแม่นอน อ่านให้ฟัง ก็จะดี

ในเวลานั้น ชูเฟิ ง หายใจออกอย่างยากเย็น เขาแอบกล่าวในใจว่า


“เหม่ยน้อย นางโตขึ้นก็งดงามไม่แพ้ ซูรู่ เลยแม้แต่นอ้ ย อีกทั้งทรวดทรง
ยัง….”

ชูเฟิ ง ก็เป็ นเพียงชายธรรมดาๆคนหนึ่ง เมื่ออยูภ่ ายใต้สถานการณ์


เช่นนี้ ใต้ทอ้ งของเขาก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา มันคือสิ่ งที่ทุกท่านก็รู้ดี
ชูเฟิ ง รู ้สึกเขินอายอย่างมาก เพราะในขณะที่ร่างกายของ ซูเหม่ย
กําลังแนบชิดอยูบ่ นตัวของเขานั้น นางย่อมรู ้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของ
บางสิ่ งที่หว่างขาของเขา

แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในขณะที่ ซูเหม่ย รู ้ถึงการ


เปลี่ยนแปลงของเขานั้น นางไม่ได้หลีกเลี่ยงมันแม้แต่นอ้ ย นางกลับจ้อง
ไปเขาด้วยความเขินอาย นางเปิ ดริ มฝี ปากสี ชมพูระเรื่ อบรรจงจูบไปริ ม
ฝี ปากของ ชูเฟิ ง

“เหม่ยน้อย !! เจ้าทําอะไรน่ะ !!”อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง กลับหลีกเลี่ยง


ั ญากับ ซูรู่ เอาไว้วา่ เขาจะไม่ทาํ เรื่ อง
จูบของนาง เพราะเขาได้สญ
ระหว่างชายหญิงกับ ซูเหม่ย ก่อนจะแต่งงาน
แต่ในขณะนี้ ใบหน้า และลักษณะท่าทีของ ซูเหม่ย กลับดูมีเสนห์
ดึงดูดอย่างมาก หากเป็ นเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องห้ามใจไม่ไหว นัน่ จะทํา
ให้เขาผิดคําสัญญาที่เคยกล่าวไว้

“ไม่มีอะไร ชูเฟิ ง ข้าชอบเจ้าจริ งๆ ข้าอยากมอบทุกอย่างของข้า


ให้แก่เจ้า….” ขณะที่กล่าวนั้น ซูเหม่ย ได้กม้ ลงไปและถอดชุดสี ชมพู
ของนางออก

ในเวลานั้น เมื่อ ชูเฟิ ง เห็นเต็มสองตาของเขา เลือดกําเดาก็ไหล


ออกมาจากจมูกอย่างรวดเร็ ว

เหตุเพราะร่ างกายที่เปลื่อยเปล่าของสาวงามปรากฏต่อหน้าเขา ผิว


ที่ขาวเนียน ละเอียดอ่อน หน้าอกคู่งามที่ยนื่ ออกมาอวดทรวดทรงอย่าง
เย้ายวน ใบหน้าของนางขึ้นสี แดงเรื่ อด้วยฤทธิ์สุรา มองดูแล้วช่างมีเสนห์
ยิง่ นัก

“ชูเฟิ ง ไม่ใช่เพียงข้าชอบเจ้า แต่ขา้ ยังรักเจ้ า ข้าจะมอบทุกสิ่ งทุก


อย่างของข้าให้แก่เจ้า ข้ายินดีที่จะทําทุกอย่างให้เจ้า เพื่อเจ้าเพียงคน
เดียว…..”

ซูเหม่ย โผเข้ามาในอ้อมกอดของ ชูเฟิ ง อีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ สัมผัส


ที่ฝ่ามือของ ชูเฟิ ง นั้น แตกต่างจากครั้งไหนๆ ที่เขาเคยสัมผัสมา

เมื่อไม่มีเสื้ อผ้าคอยปกปิ ดนั้น ชูเฟิ ง สามารถสัมผัสได้ถึงผิวพรรณ


ของ ซูเหม่ย ได้โดยตรง มันทั้งเรี ยบเนียน และอบอุ่น อีกทั้งยังร้อนแรง
ราวกับเปลวเพลิงที่กาํ ลังลุกไหม้ ภายในหัวใจ แม้แต่ชูเฟิ งเองก็เช่นกัน
***** อืมมมม *****

ชูเฟิ ง พลิกตัวกลับ และกดร่ างของ ซูเหม่ย ลงไปกับเตียง จากนั้น


เขาก็เปิ ดริ มฝี ปากของเขา และบรรจงจูบไปตามร่ างกายของนาง ราวกับ
เขาต้องการจะกลืนกินทุกสิ่ งของนางก็ไม่ปาน

ในขณะเดียวกันนั้น มือของเขาก็ลูบไล้ไปตามเรื อนร่ างของนาง


อย่างแผ่วเบา

“อ๊าาาา……” เมื่อ ชูเฟิ ง เริ่ มบรรเลงลีลารักของเขานั้น ซูเหม่ย ก็


ครางออกมาด้วยความกระเส่ า เนื่องจากนางไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มา
ก่อน
เสี ยงครางที่อ่อนหวานของนาง ยิง่ ทําให้ไฟราคะของ ชูเฟิ ง ถูกจุด
ขึ้นอย่างรวดเร็ ว เขากระชากเสื้ อผ้าของเขาออก และพร้อมที่จะมอบ
ความรักของเขาด้วยอาวุธประจําตัวที่หว่างขาของเขา ตอนนั้นชูเฟิ ง
เตรี ยมสอดปื นใหญ่ เข้าป้อมประจําการ

“ชูเฟิ ง เจ้าจะทําอะไร !!”

แต่ทนั ใดนั้น เสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้นที่ดา้ นหลังของ ชูเฟิ ง มันทําให้ ซู


เหม่ย และเขาเองตกใจมาก เมื่อพวกเขามองตามไปที่ตน้ เสี ยงนั้น
ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว

เพราะนัน่ คือเสี ยงของ ซูรู่ นางยืนอยูท่ ี่หน้าประตู ซึ่ งห่างจากเตียงที่


ชูเฟิ ง กําลังบรรเลงฉากรักกับ ซูเหม่ย ไปสิ บกว่าเมตร ขณะที่ตกตะลึง
และตกใจ

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง และ ซูเหม่ย ที่กาํ ลังเล่นจํ้าจี้กนั อยูน่ ้ นั ก็วง


แตกและแยกย้ายกันใส่ เสื้ อผ้าอย่างรวดเร็ ว ในขณะเดียวกัน ซูรู่ ก็กา้ วเข้า
มาที่ขา้ งเตียง

“ชูเฟิ ง เจ้าลืมคําสัญญาที่ให้ไว้กบั ข้าแล้วรึ ถึงได้ทาํ เช่นนี้ !!” เมื่อ


รอให้ ซูเหม่ย สวมเสื้ อผ้าของนางเสร็ จนั้น ซูรู่ ก็กล่าวออกมาด้วยความ
จริ งจัง

“พีส่ าว นี่ไม่ใช่ความผิดของ ชูเฟิ ง นะ นี่เป็ นเพราะข้า…” ก่อนที่


ชูเฟิ ง จะได้กล่าวอะไรออกไปนั้น ซูเหม่ย ก็ชิงอธิบายออกไปก่อน
“เหม่ยน้อย เจ้าออกไปก่อน และกลับไปที่หอ้ งของเจ้า ข้ามีเรื่ องที่
จะต้องคุยกับ ชูเฟิ ง ตามลําพัง” แต่ก่อนที่ ซูเหม่ย จะกล่าวจบนั้น ซูรู่ ก็
ได้ออกปากให้ ซูเหม่ย กลับห้องไป

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น นางจ้องไปที่พี่สาวขอฝนาง และจ้องไปที่ ชูเฟิ ง


พลางเม้มริ มฝี ปากแน่น ก่อนจะจากไปด้วยความละอาย

“ข้า…..”

“เจ้าไม่ตอ้ งพูดอะไร ข้ารู ้วา่ นางมาหาเจ้า ข้าเป็ นพี่สาว ทําไมข้าจะ


ไม่รู้วา่ นางต้องการอะไร”
“นางชอบเจ้า และรักเจ้ามาก นางต้องการมอบทุกอย่างของนาง
ให้แก่เจ้า ก่อนที่เจ้าจะไป”

“ชูเฟิ ง ข้ารู ้วา่ เจ้าจริ งใจต่อ เหม่ยน้อย แต่ขา้ ก็หวังว่าพวกเจ้าทั้งสอง


คนจะทําเช่นนั้น หลังจากที่พวกเจ้าได้แต่งงานกัน”

“หลังจากที่เจ้ากลับมา มันย่อมจะดีกว่า”

ชูเฟิ ง พยายามจะกล่าวบางอย่างออกมา แต่ ซูรู่ ก็เหมือนจะรู ้ทนั ใน


ทุกๆ เรื่ อง ในขณะนั้น นางก็ทาํ บางอย่างที่ทาํ ให้ ชูเฟิ ง ต้องตกตะลึง นาง
ค่อยๆ ปลดเสื้ อผ้าของนางออก
ในเวลานั้น ทรวดทรงที่สมบูรณ์แบบของนาง ก็ได้ออกมาอวดโฉม
ต่อหน้าของ ชูเฟิ ง พร้อมๆ กับที่นางโผเข้ามาในอ้อมกอดของเขา ทิ้งตัว
ไปบนเตียง

“รู่ เอ๋ อ !! เจ้าจะทําอะไร !!” ชูเฟิ ง สามารถเข้าในคํากล่าวของนาง


ได้อย่างดี แต่เขากลับไม่เข้าใจการกระทําของนางแม้แต่นอ้ ย เนื่องจาก
มันสวนทางกันอย่างสิ้ นเชิง

“ชูเฟิ ง เหม่ยน้อยรักเจ้า แต่ขา้ ก็รักเจ้า เหม่ยน้อยสามารถทําอะไร


ให้เจ้าได้ ข้าก็ทาํ ได้เช่นกัน”

“ชูเฟิ ง ยกโทษให้กบั ความเอาแต่ใจของข้าด้วย ข้ามีนอ้ งสาวเพียง


คนเดียว ข้าหวังว่าเจ้าจะรัก และดูแลนางอย่างดี”

“รออีกหน่อยนะ ไม่ชา้ เหม่ยน้อย ก็จะเป็ นเจ้า พวกเราสองคนจะ


เป็ นของเจ้า ในระหว่างนั้น ให้ขา้ ดูแลเจ้าไปก่อนนะ”

นางกระซิบไปที่ขา้ งหูของ ชูเฟิ ง ด้วยความอ่อนหวาน พร้อมกับใช้


มือที่เรี ยวงามฉีกกระชากชุดที่ ชูเฟิ ง เพิ่มสวมไปเมื่อครู่ ออก และซบไป
ที่ร่างกายของ ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่วา่ ใครก็ไม่สามารถทนต่อไปได้ หัว


ของ ชูเฟิ ง รุ่ มร้อนดังไฟราคะกําลังเผาไหม้
ดังนั้น ด้วยความรวดเร็ ว ชูเฟิ ง พลิกตัวกลับ และกดร่ างของ ซูรู่ ลง
บนเตียง แต่จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ทําให้ ชูเฟิ ง ได้เรี ยนรู ้บางอย่าง เขา
รี บวางรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณครอบคลุมห้องของเขา เพื่อกันไม่ให้
ผูใ้ ดเข้ามาขัดจังหวะ

จากนั้น ชูเฟิ งก็ค่อยๆบรรเลง ร่ างกายของซูรู่ ด้วยปาก ไม่วา่ จะ หู


คอ ภูเขาที่เรี ยบเนียน พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ชูเฟิ งก็งดั ปื นใหญ่ออก
จากคลังอาวุธ ใส่ เข้าป้อมประจําการ ตอนนั้น ซูรู่ ส่ งเสี ยงออกมา ไม่วา่
จะเป็ นเสี ยงของนางที่ครวญคราง หรื อ เสี ยงหายใจของชูเฟิ ง ต่างผสม
ปนแป

ซึ่งขณะที่เขามีความสัมพันธ์กนั ซูรู่ นางหลับตาเอาไว้ ปากอ้า


หน่อยๆ มือของนางคว้าคอของชูเฟิ ง ชูเฟิ งไม่ได้ย้อื ไว้แต่อย่างใด ตอน
นั้นเขาลืมตามองใบหน้าของนางที่แสนจะยัว่ ยวน จากนั้นเขาก็กม้ หน้า
ลงเอาปากปะกบปากของนาง เมื่อจูบกันอย่างบ้าคลัง่ มาพักนึง ชูเฟิ ง ก็
จับขาของซูรู่กลางออก พร้อมกับเริ่ มทําความเร็ ว

ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่ องมา ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอบอวลแห่ง


ความรักของคู่หนุ่มสาว ที่น่าอิจฉา

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////
A : แล้วกูจะสรุ ปท้ายบทยังไงกันล่ะ!!!
B : ขอตัว ไปอ่านหนังสื อธรรมะก่อนล่ะ
บทที่ 569 – เส้นทางแห่งความตาย

เช้าวันรุ่ งขึ้น หลังจากที่ ชูเฟิ ง ตื่นขึ้น เขาก็พบว่า ซูรู่ ไม่ได้อยูข่ า้ งๆ


อีกแล้ว แต่บนเตียงนอนนั้น ยังคงมีกลิ่นหอมของนางติดอยู่ แน่นอน
แล้วว่า เมื่อคืนนี้ ซูรู่ ได้มาหาเขา
เมื่อเขาออกมาจากห้อง เขาก็เห็น ซูรู่ และ ซูเหม่ย สองพี่นอ้ งกําลัง
จํามือพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

ความกังวลใจเล็กๆ ภายในหัวใจของเขาพลันหายไปราวกับควัน
เขาเข้าใจได้ทนั ทีถึงสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของสองพี่นอ้ ง ว่าไม่มีความ
ยัดแย้งใด ทําให้พวกนางผิดใจกันได้

“เป็ นไงบ้าง !! หลับสบายไหมในคืนสุ ดท้าย” ซูเหม่ย ใช้มือเล็กๆ


ของนางแตะไปหลังของ ชูเฟิ ง ในขณะที่เดินเข้ามา และกล่าวเบาๆ ไปที่
ข้างหู

“อ๊ะ แม่นางน้อย…….” ชูเฟิ ง ยังคงระวังตัวอยูม่ าก หลังจาก


ความเขินอายเมื่อคืนนี้ เขาแอบมองไปที่ ซูรู่ และเห็นว่านางเพียงขดริ ม
ฝี ปาก พลางยิม้ บางๆ และหันหน้าไปทางอื่น แสร้งทําเป็ นไม่สนใจต่อ
เขาอีก

ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ไม่สามารถทําอะไรได้ เขาคิดไปว่า ซูรู่ ได้เล่า


เรื่ องราวระหว่างเขากับนางเมื่อคืนนี้ ให้แก่ ซูเหม่ย ฟัง

ในเวลาเดียวกันนั้น ริ มฝี ปากของ ซูเหม่ย ก็ขยับเล็กน้อย นางส่ ง


ข้อความทางจิตสู่ ชูเฟิ ง ว่า

“ครั้งหน้า หาที่ลบั ตาและข้าจะมอบทุกสิ่ งทุกอย่างของข้าให้แก่เจ้า


แต่ตอ้ งระวังอย่าให้พี่สาวข้าจับได้อีก ไม่เช่นนั้น พี่สาวข้าจะไม่ยกโทษ
ข้าแน่ๆ”
แม้แต่ในคืนเทศกาลชมจันทร์ ชูเฟิ ง ก็ยงั ไม่ประสบความสําเร็ จใน
การร่ วมรักกับ ซูเหม่ย แม้วา่ เขาจะได้ร่วมรักกับ ซูรู่ แทนก็ตาม แต่มนั ก็
ไม่เทียบได้กบั ซูเหม่ย ที่เขารัก

เหตุผลที่พวกนางทําตัวเช่นนี้ เพราะว่า พวกนางรู ้ดีวา่ ในวันนี้ ชูเฟิ ง


จะออกจากสํานักสี่ คาบสมุทร และออกเดินทางสู่ การผจญภัยที่ไม่
แน่นอน

ในวันนี้ คือวันสุ ดท้ายของการสอบเข้าเป็ นศิษย์สาํ นักสี่ คาบสมุทร


สําหรับคนที่ผา่ นการสอบก่อนหน้านี้ พวกเขาจะมีอาจารย์ และได้เข้าสู่
สํานักสี่ คาบสมุทร

สําหรับ ซูรู่ และ ซูเหม่ย นั้น พวกนางได้เป็ นศิษย์ของปรมาจารย์


สวรรค์ ทําให้เกิดความอิจฉาอยูบ่ า้ ง

นอกจากสองพี่นอ้ งแล้วนั้น ยังมี จาง เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง ที่ได้


รับคําชื่นชม และมีโอกาสที่จะได้เป็ นศิษย์ของปรมาจารย์สวรรค์

โอกาสทั้งหมดล้วนขึ้นอยูก่ บั พวกเขา อีกทั้งฐานะ และตําแหน่ง


ของพวกเขา ก็ข้ ึนอยูก่ บั ความสมารถของพวกเขาเองเช่นกัน

ภายในบรรดาผูท้ ี่แข่งขันกัน เพื่อจะได้เป็ นศิษย์ของปรมาจารย์


สวรรค์น้ นั ล้วนเป็ นผูท้ ี่แข็งแกร่ ง และขึ้นชื่อว่าเป็ นอัจฉริ ยะทั้งสิ้ น แต่
ในสายตาของ ชูเฟิ ง นั้น ไม่มีแม้แต่คนเดียว ที่สามารถเอาชนะเขาได้
เมื่อมองไปยังสมาชิกรุ่ นใหม่เหล่านั้น เต็มที่พวกเขาก็มีพลังเพียง
ระดับหก ขั้นแดนสวรรค์ และหากว่า ชูเฟิ ง ใล้พลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์
นั้น มันจะทําให้พลังของเขาก้าวเข้าสู่ ระดับหก ขั้นแดนสวรรค์เช่นกัน
และในระดับพลังเท่ากันนั้น ย่อมไม่มีผใู ้ ดเอาชนะ ชูเฟิ ง ได้ นอกจาก จื่อ
หลิง เท่านั้น

ในความเป็ นจริ งนั้น นอกจาก ชูเฟิ ง แล้วนั้น จาง เทียนยี่ และ เจียง
หวูช่ าง เอง ก็ไม่ได้มีอุปสรรคใดๆ ในการสอบ พวกเขาสามารถเอาชนะ
คู่ต่อสู ข้ องพวกเขาได้อย่างง่ายดาย และกลายเป็ นบุคคลที่โดดเด่น และ
ถูกจับตามองจากหลายๆ คน

นัน่ เป็ นเพราะพลังขอกพวกเขาอยูใ่ นระดับสาม ขั้นแดนสวรรค์


เท่านั้น ทางด้าน เซินถู่ เจียง และ เซิ นถู่ ไฮ่ ที่มีพลังระดับสี่ ขั้นแดน
สวรรค์ ก็ได้รับคําชมเชยจากการต่อสู ม้ าไม่นอ้ ย
ชูเฟิ ง รู ้สึกมีความสุ ขอย่างมาก เมื่อเขารู ้วา่ ซูรู่ , ซูเหม่ย , จาง
เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง เป็ นที่จบั ตามองของหลายๆ คน เพราะนัน่ จะ
ทําให้พวกเขามีโอกาสกลายเป็ นศิษย์ของปรมาจารย์สวรรค์ ซึ่ งนัน่ คือ
ทางที่ดีที่สุดภายในสํานักสี่ คาบสมุทร

อีกทั้ง การที่พวกเขาเป็ นถึงอัจฉริ ยะของทวีปเก้าอาณาจักร แม้จะ


มาอยูท่ ี่ทะเลตะวันออก พวกเขาก็ยงั คงขึ้นชื่อว่าเป็ นอัจฉริ ยะอยู่

หลังจากที่ จาง เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง ประสบความสําเร็ จในการ


เป็ นศิษย์ของปรมาจารย์สวรรค์น้ นั ชูเฟิ ง ก็เตรี ยมที่จะออกจากสํานักสี่
คาบสมุทร เพราะในวันนี้ คนที่ไม่สามารถเข้าสู่ สาํ นักสี่ คาบสมุทรได้
จะต้องออกจากสํานัก
เมื่อ ชูเฟิ ง กําลังจะจากไปนั้น เขาไม่ได้ร่ าํ ลาคนอื่นๆ แต่อย่างใด
เพราะเขาไม่ให้ทุกคนต้องเศร้าเสี ยใจ เขาอยากให้ทุกคนมีความสุ ข และ
เขาเองก็จะมีความสุ ขกับการเดินทาง

ในขณะที่เขามาถึงที่ประตูวาร์ปนั้น เขาก็พบกับชายสองคนที่เขา
คุน้ เคย นัน่ คือ เซินถู่ เจียง และ เซิ นถู่ ไฮ่ ใบหน้าของพวกเขากําลังปูด
บวม เพราะถูกอัดโดย จาง เทียนยี่ และ เจียง หวูช่ าง กําลังยืนอยู่
ท่ามกลางเสี ยงซุบซิบของฝูงชนรอบด้าน

ชูเฟิ ง สังเกตเห็นว่า ริ มฝี ปากของพวกเขากําลังขยับ นัน่ หมายความ


ว่า พวกเขากําลังส่ งข้อความทางจิตเพื่อสนทนากันอยู่

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง จึงไม่รอช้า เขารี บแผ่อาํ นาจพลังวิญญาณ


ของเขาออกไปในทันที เพื่อฟังการสนทนาของพวกเขา
“บ้าเอ๊ย !! พวกเราพ่ายแพ้ให้กบั คนที่มีพลังเพียงระดับสาม ขั้น
แดนสวรรค์ ในตอนนี้พวกเราไม่มีหน้า ที่จะอยูท่ ี่นี่แล้ว”

“เฮ้อ ถ้าพี่ใหญ่ เซินถู่ หลาง อยูท่ ี่นี่ล่ะก็ เขาจะต้องสัง่ สอนเจ้าพวก


นั้นแน่”

“แน่นอน ถ้าเขาอยูท่ ี่นี่ ภายในจํานวนผูเ้ ข้าสอบปี นี้ เขาจะต้อง


กลายเป็ นคนที่โดดเด่นที่สุดอย่างแน่นอน”

“แต่ทาํ ไมเขาถึงยังไม่มา !? เราไม่ได้บอกเขาเหรอว่า พวกเราจะ


เข้าสํานักสี่ คาบสมุทร !! นี่เขาทําบ้าอะไรของเขาอยูก่ นั !?”
“ข้าก็ไม่รู้ !! แต่ขา้ มัน่ ใจว่า พี่ใหญ่ เซิ นตู่ หลาง จะต้องมีแผนที่ยอด
เยีย่ มแน่นอน”

เซินถู่ เจียง และเซินถู่ ไฮ่ กําละงสนทนากันเกี่ยวกับความพ่ายแพ้


ของพวกเขา และดูเหมือนว่าคนรอบข้างของพวกเขานั้น ไม่ใช่คนของ
พวกเขาแต่อย่างใด

“โอ้ นึกว่าใคร ที่แท้ก็ เซิ นถู่ เจียง และ เซิ นตู่ ไฮ นี่เอง ไม่เจอกัน
แปปเดียว ทําไมใบหน้าของพวกเจ้าถึงได้กลายเป็ นหมูไปซะแบบนี้”

“อ่า ข้ารู ้แล้ว เจ้าพ่ายแพ้ในการต่อสู ม้ าซิ นะ พวกเขาเป็ นใคร…ใช่


จาง เทียนยี่ กับ เจียง หวูช่ าง ถูกต้องไหม”

“นี่มนั น่าละอายจริ งๆ !! ในคืนนั้น พวกเจ้าบอกว่าจะจัดการกับ


พวกเขา แต่ไหนในตอนนี้พวกเจ้ากลับพ่ายแพ้จนสารรู ปดูไม่ได้เช่นนี้
กัน !! พวกเจ้ามันก็ดีแต่ปากเท่านั้นแหละ” หลังจากฟังการสนทนาอยู่
นานนั้น ชูเฟิ ง ก็ต้ งั ใยเดินเข้าไปหาทั้งสองคน และกล่าวออกมาเสี ยงดัง
ด้วยความเย้นหยัน

“เจ้า !!” ทันที่น้ นั ทั้งสองคนตะโกนออกมา ในท้องของงพวกเขา


รู ้สึกปั่นป่ วนไปด้วยความโกรธเคือง เมื่อพวกเขาถูกฉี กหน้าโดย ชูเฟิ ง

“ฮึ่มมม !!” อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถกล่าวอะไรออกมาได้


เพราะความพ่ายแพ้ของพวกเขานั้น ทุกคนต่างรับรู ้เป็ นอย่างดี หากเขา
กล่าวอะไรออกไป มันยิง่ เป็ นการทําให้พวกเขาต้องตกที่นงั่ ลําบากไป
เท่านั้น ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาทําได้เพียงแค่อดทนเท่านั้น

“อ่า….อย่าเงียบซิ มาคุยกับข้าก่อน”

“อะไรนะ !! พวกเจ้าไม่ได้ยนิ รึ !! ข้าแนะนําว่า พวกเจ้าควรไปแคะ


หูบา้ งนะ”

“สวะ !! ถ้าข้าเป็ นพวกเจ้าสองคน ข้าคงมุดรู หนีไปแล้ว ราชวงศ์


เซินถู่ คงจะเป็ นสถานที่รวบรวมผูเ้ ชี่ยวชาญสวะล่ะซิ ท่า !!” แม้วา่ ทั้ง
สองคนจะไม่ตอบโต้ใดๆ ออกมา ชูเฟิ ง ก็ยงั คงด่าทอพวกเขาด้วยเสี ยงที่
ดังขึ้นกว่าเดิม หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองคนก็หายจากสายตาของทุก
คน ในเวลาเดียวกันนั้น ชูเฟิ ง กลับยิม้ บางๆ ออกมา ราวกับแผนการที่ชวั่
ร้ายของเขาได้สาํ เร็ จลุล่วงแล้ว
เขาไม่รอช้า รี บเข้าไปยังพื้นที่เคลื่อนย้าย และออกมาจากสํานักสี่
คาบสมุทรอย่างรวดเร็ ว ชูเฟิ ง สัมผัสได้ทนั ทีวา่ มีบุคคลสองกําลังรอเขา
อยู่

แม้ไม่ตอ้ งตรวจสอบ ชูเฟิ ง ก็รู้ได้ทนั ทีวา่ สองคนนั้น จะต้องเป็ น


เซินตู่ เจียง และ เซินตู่ ไฮ อย่างแน่นอน เพราะพวกนั้นไม่สามารถทน
ต่อคําดูถูกเหยียดหยามของ ชูเฟิ ง ได้

แน่นอนว่าพวกเขาตั้งใจจะมาสัง่ สอน ชูเฟิ ง แต่พวกเขาไม่รู้ตวั เลย


ว่า คําเย้ยหยันเหล่านั้า คือหลุมพลางที่ ชูเฟิ ง ขุดเอาไว้สาํ หรับพวกเขา
พวกเขายังคงมัน่ ใจว่าด้วยพลังของพวกเจานั้น สามารถจัดการกับ ชูเฟิ ง
ได้อย่างง่ายดาย และไม่รู้เลยว่า พวกเขาเองกําลังจะก้าวเข้าสู่ เส้นทาง
แห่งความตาย
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//
A : ชูเฟิ งจะล่อมัน ไปรู ดทรัพย์อีกสิ ท่า

B : แต่รีดเดอร์บอก เด๋ วสองคนนี้ ถูกจับไปขังบ่อขี้เหมือนกับพี่มนั

A : งั้นก็ฮา เลยอ่ะดิ ถ้าหากพวกมันเห็นพี่ใหญ่ ถูกขังในบ่อขี้ พวกมัน


จะทําหน้าไงนะ

B : แค่คิดก็สะใจล่ะ ตามไปอ่านเลยดีกว่า . . . . .
บทที่ 570 - พี่นอ้ ง พบหน้า

ภายในสํานักสี่ คาบสมุทร การสู ก้ นั โดยพลการเป็ นเรื่ องต้องห้าม ยิง่ ไป


กว่านั้น การฆ่ากันโดยพลการจะได้รับโทษอย่างหนัก หากไม่ได้รับการ
อนุญาติ
ดังนั้น หาก เซินถู่ เจียง และ เซิ นถู่ ไฮ่ อยากจะจัดการกับชูเฟิ ง เขาต้อง
ตามไปชูเฟิ งไปตลอดทาง จนกระทั้งพวกเขาออกมาพ้นจากเขตสํานักสี่
คาบสมุทร แล้วค่อยเริ่ มดําเนินการ

แต่ชูเฟิ ง ก็ไม่ยอมเปิ ดโอกาสให้พวกเขาลงมือได้ง่ายๆ หลังจากที่ออก


พ้นเขตสํานักสี่ คาบสมุทร ชูเฟิ งก็ใช้ทกั ษะติดตัว มังกรทะยานผ่านเก้า
สวรรค์ เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ ว

แม้วา่ ความเร็ วของมังกรทะยานผ่านเก้าสวรรค์จะเร็ ว แต่กย็ งั ห่่างกับ


มังกรฟ้าทะยาน แต่ต่อให้ไม่ใช้มนั พวกเซิ นถู่ เจียง เซิ นถู่ ไฮ่ ก็ยงั ไม่อาจ
ไล่ตามชูเฟิ งได้ทนั อยูด่ ี ขนาดพวกเขาทุ่มสุ ดตัว

ถึงแม้วา่ พวกเขาทั้งสองไล่ไม่ทนั แต่พวกเขาก็ยงั ไม่ถูกทิ้งไว้ดา้ นหลัง


อีกอย่างพวกก็พยายามใช้ความเร็ วให้มนั อยูใ่ นระดับที่พอๆกันเพื่อรักษา
ระยะ ตอนแรกทั้งสองคนคิดว่า ชูเฟิ ง นั้นรู ้สึกตัวมีคนตาม ในขณะที่
พวกเขากําลังวิตกว่าชูเฟิ งจะรู ้ตวั ชูเฟิ งก็ร้องเพลงออกมาขณะที่
เคลื่อนไหว ดังนั้นพวกเขาจึงโล่งใจและคิดว่า ชูเฟิ ง อาจจะยังไม่รู้ตวั

แต่สองพีน่ อ้ ง เซินถู่ เจียง และ เซิ นถู่ ไฮ่ ก็สะกิดใจขึ้นมาได้ ว่าวิธีการ


เคลื่อนไหวของ ชูเฟิ ง มันมีพิรุจน์ ไม่เพียงแต่เขาจะใช้ความเร็ ว ขึ้นๆ
ลงๆ เขายังไม่หยุดพักผ่อนแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่ งคนปกติทว่ั ไปหากเดิน
ทางไกล ก็น่าจะหยุดพักกินข้าวหรื อดื่มนํ้า ไม่กต็ อ้ งนอนงีบเอาแรง แต่ชู
เฟิ งกับเดินทางโดยไม่หยุดพักแม้จะผ่านเวลาไปหลายวัน

แต่ เซินถู่ เจียง และ เซินถู่ ไฮ่ เกลียดชูเฟิ งเข้าไส้ ขนาดลึกจนไปถึง


กระดูก เพื่อให้ได้ระบายความแค้น ในการฆ่า ชูเฟิ ง พวกเขาจึงไม่ยอม
แพ้ง่ายๆ ดังนั้น พวกเขาจึงคอยตาม ชูเฟิ งไปเรื่ อยๆ หลังจากที่เข้าพื้นที่
โรงเตี๊ยมหรู หรา พวกเขาก็พบว่า ชูเฟิ ง นั้นหายไปอย่างไร้ร้องรอย

" บ้าเอ้ย!!!! ไอ้เด็กเวรนั้นหายไปไหน ทําไมจู่ๆมันถึงหายไป


ได้!!! " เซินถู่ เจียงยืนหยุดอยูเ่ หนือโรงเตี๊ยมหรู หรา ขณะที่กวาดสายตา
ไปรอบๆ แต่เขาก็ไม่พบแม้แต่ เงาของชููเฟิ ง พวกเขาจึงตื่นตระหนกอย่าง
มาก เพราะรู ้สึกว่าติดกับของ ชูเฟิ ง

" สวรรค์ . . . . ที่น้ ีมนั ดูคุน้ เอามากๆ หรื อว่า . . . เป็ นโรงเตี๊ยมที่
เราแวะพักในตอนแรก ที่เรามาถึงทะเลตะวันออก ? "หลังจาก เซิ นถู
ไฮ่ สังเกตุรอบๆ เขาก็เอะใจขึ้นมา

" จริ งด้วย!!! ผูค้ นที่นี่หายไปไหนกันหมด อีกอย่างมันก็หรู หรา


อย่างมากแต่ทาํ ไมมีสภาพแบบนี ? ต้องมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่อย่างแน่นอน
" เซินถู่ เจียง ได้ยนิ คําพูดของ เซิ นถู่ ไฮ่ เขาก็พบว่ามันคือโรงเตี๊ยมที่พวก
เขาเคยพักเมื่อก่อนจริ งๆ

* * ปึ้ งง ปึ้ งง * * ที่ใจกลางบริ เวณโรงเตี๊ยม มีเสี ยงแปลกๆค่อยดัง


ออกมาเป็ นระยะๆ

" เสี ยงมาจากทางนั้น ไปดูกนั เถอะ " ได้ยนิ เสี ยงแปลกๆ เซิ นถู่
เจียง และ เซินถู่ ไฮ่ ก็มีท่าทางเปลี่ยนไป พวกเขาคิดว่าเสี ยงตรงนั้นคือ ที่
ชูเฟิ งใช้ซ่อนตัว

" นี่มนั อะไรกัน ? " แต่เมื่อทั้งสองคนพุง่ เข้ามา ก็พบสิ่ งที่เป็ น


ต้นเสี ยง พวกเขาตอนนั้นแทบจะอาเจียน จึงรี บปิ ดปากและจมูกทันที

เพราะสิ่ งที่อยูภ่ ายใต้พวกเขา เป็ นบ่อขี้ขนาดใหญ่ ในนั้นมีอะไรบางปน


อยูใ่ นขี้ และมันคือที่มาของเสี ยงนั้น ในเวลาเดียวกัน ก็มีกลิ่นที่ชวนอ้วก
พวยพุง่ ขึ้นมาอย่า่ งรุ นแรง

*** บูม้ มม *** ทันใดนั้นภายในบ่อขี้ ก็ระเบิดออกมา ในเวลาเดียวกัน


ภูเขาขี้กเ็ กิดการปะทุ จนพุง่ กระจายขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า
" บ้าเอ้ยย!!! " เมื่อพวกเขาเห็นสะเก็ดภูเขาขี้ สี เหลืองเข้ม พุง่ เข้า
มาจะอัดใส่ หน้า เซินถู่ เจียง และเซิ นถู่ ไฮ่ ก็พยายาม ใช้ทกั ษะทางกายที่
แข็งแกร่ งหลบไปด้านข้าง เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าปะทะกับทุเรี ยนบูด

" ฮ่าๆ ในที่สุดข้าก็ออกมาได้สกั ที!!! "

แต่ขณะที่เขาทั้งสองโดดหลบขี้ได้พน้ ก็มีเสี ยงที่มีความสุ ขของใครบาง


คนดังขึ้นมา อย่างร่ าเริ ง เหมือนกับเขารอดพ้นภัยพิบตั ิ ในตอนนั้นทัว่
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยขี้กระจายเกลื่อนกลาด เมื่อเขาหันไปมองต้นเสี ยง
เซินถู่ เจียง และ เซินถู่ ไฮ่ ตกใจจนพูดไม่ออก ขนาดจนต้องขยี้ตาตัวเอง
อย่างรวดเร็ ว เพราะพวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้
เกิดขึ้นต่อหน้าของพวกเขา

พวกเขานั้นพบว่าคนที่กาํ ลังหัวเราะอย่างบ้าคลัง่ เป็ นคนที่พวกเขารู ้จกั


เป็ นอย่างดี เขาคืออัจฉริ ยะอันดับหนึ่งของ ราชวงศ์เซิ นถู่ เซิ นถู่ หลาง
" พี่เซินถู่ หลาง เป็ นท่านจริ งๆหรอ!!! " เซิ นถู่ เจียง และเซิ นถู่ ไฮ่
ถามด้วยอารมณ์ที่ไม่อยากจะเชื่อ จนต้องตะโกนออกไปพร้อมๆกัน

" เสี่ ยวเจียง เสี่ ยวไฮ่ ? เจ้าทั้งสองมาทําอะไรแถวนี่ ? " เห็น


เซินถู่ เจียงและเซินถู่ ไฮ่ สี หน้าของเซิ นถู่ หลาง ก็เปลี่ยนไปอยากมาก

" ท่านพี่เราควรถามท่านมากกว่า . . . . .ว่าทําไมท่านถึงไม่เข้า


ทดสอบสํานักสี่ คาบสมุทร แล้วทําไมท่านถึงเข้าไปอยูใ่ นนั้นได้ ? "
เซินถู่ เจียง ชี้ไปที่บ่อขี้ พร้อมตอบกลับด้วยคําถาม

" เฮ้อ เรื่ องมันยาว แต่แท้จริ งเป็ นเพราะข้านั้นโชคร้าย " ได้ยนิ


เซินถู่ เจียงถามเรื่ องนั้น เซินถู่ หลาง ก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเขา พร้อมกับ
บอกเรื่ องราวว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
" ดังนั้น ท่านจึงมีสภาพอย่างที่เห็นนี่สินะ " หลังจากทราบเรื่ อง
ทั้งหมดว่าทําไม เซินถู่ หลางถึงได้ติดอยูใ่ นบ่อขี้ โดยที่เขาไม่สามารถขัด
ขืนได้ สองพี่นอ้ ง เจียง ไฮ่ ก็งงๆ เพราะรู ้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อ

เพราะพวกเขาล้วนแต่เข้าใจความแข็งแกร่ งของ เซิ นถู่ หลาง เป็ นอย่างดี


เขาเป็ นถึงอัจฉริ ยะอันดับ 1 ในรอบหลายร้อยปี ของประวัติศาสตร์
ราชวงศ์เซินถู่ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่ องเกินจริ ง จนพวกรู ้สึกว่า หากเซิ นถู่ หลาง
มีส่วนร่ วมในการทดสอบเข้าสํานักสี่ คาบสมทร เขาอาจจะกลายเป็ นคน
ที่มีชื่อเสี ยงในสํานัก หรื อบางทีเขาอาจจะกลายเป็ นคนที่แข็งแกร่ งที่สุด
ในการทดสอบ
แต่ปัจจุบนั มีคนที่แข็งแกร่ งกว่า เซิ นถู่ หลาง ขณะที่คนคนนั้นอายุนอ้ ย
กว่า ทําไมเขาจึงจะไม่ประหลาดใจ ?

" เอ้อ!! เสี่ ยวเจียง เสี่ ยวไฮ่ เวลานี้การทดสอบสํานักสี่


คาบสมุทรจบแล้วใช่ม้ ยั ? ทําไมเจ้าถึงไม่อยูท่ ี่สาํ นักล่ะ แล้วพวกเจ้ามา
ทําอะไรแถวนี้ " เซินถู่ หลาง ซอกแซกถาม
" ยิง่ พูดยิง่ หน้าเจ็บใจ เดิมเราไล่เด็กคนหนึ่งมา แต่ใครจะคิดว่า
เมื่อมาถึงนี้ มันจะหายตัวไป " เซิ นถู่ เจียง กล่าวด้วยความโกรธแค้น ซึ่ ง
เซินถู่ ไฮ่ เองก็รู้สึกเช่นเดียวกันว่าพวกเขาอาจจะถูกหลอกให้ตามมา

" เสี่ ยวเจียง เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? บอกข้ามาเร็ ว " เห็นความ


โกรธแค้นของพวกเขา เซินถู่ หลาง รู ้สึกว่าน้องชายของเขาคนอาจจะไป
ทําอะไรผิดมา
เซินถู่ เจียง และ เซินถู่ ไฮ่ ไม่ได้ปิดบังใดๆ พร้อมกับเล่าเหตุการณ์โดย
คร่ าวๆให้กบั เซินถู่ หลาง ฟัง

" นี่มนั ก็ผดิ ปกติจริ งๆนั้นแหละ ไม่รู้วา่ ก่อนว่าจะมีใครกล้ารังแก


น้องชายของข้าเช่นนี้ " แน่นอนหลังจากที่ทราบเรื่ องทั้งหมด เซิ นถู่
หลาง ก็โกรธแค้นร่ วมกับน้องชายของเขา จากนั้นเขามือตบลงมาที่
หน้าอกจนขี้ตามเสื้ อผ้ากระเด็น เพื่อให้คาํ มัน่ " เสี่ ยวเจียง เสี่ ยวไฮ่ ไม่
ต้องกังวล ฟังจากที่เจ้าพูดมา เขาคงจะหนีไปได้ไม่ไกลนัก ข้าจะช่วย
พวกเจ้าค้นหาเจ้าเด็กนั้นด้วยพลังทั้งหมดของข้า่ ดูสิวา่ มันจะหนีพน้ ไป
จากเงื่อมมือข้าได้ไม๊ "
" เยีย่ มเลย!!! พี่ใหญ่ หากท่านลงมือเอง มันหรื อจะหนีรอด
เงื่อมมือท่านไปได้ ข้าจะไปบอกอาวุโสสํานักสี่ คาบสมุทรให้รับท่าน
หากไม่มีท่านสํานักคงไม่มีวนั ได้ดี ฮ่าฮ่าฮ่า " ตอนนั้น เซิ นถู่ เจียง เซิ นถู่
ไฮ่ที่เป็ นศิษย์หลักรับปากทําหน้าที่ผสานงาน ซึ่ งบนใบหน้าของพวกเขา
ตอนนั้นเต็มไปด้วยความยินดีและความตื่นเต้น

" ไม่ตอ้ งตามหาข้าให้เมื่อย ข้าอยูท่ ี่นี่แล้ว " *** โฮ่กกก *** ใน


ตอนนั้นจู่ๆก็มีเสี ยงดัง ระเบิดขึ้นกลางอากาศ จากนั้นก็มีเสี ยงคํารามของ
มังกร ตามมาติดๆ
ในตอนนั้นพวกเขาพบว่าบนท้องนภา ที่เต็มไปด้วยหมู่เมฆาพัดผ่านโดย
สายลม มีมงั กรสี ฟ้าขนาดใหญ่ ดูน่าเกรงขาม ปรากฏอยู่ ณ ตรงนั้น

บนศีรษะของมังกรฟ้าตัวนั้น มีคนยืนอยู่ และคนๆนั้นจะเป็ นใครไม่ได้


นอกซะจาก ชูเฟิ ง

" ชูเฟิ ง แกกล้ามากนะที่มาปรากฏตรงหน้าเรา "


" พี่ใหญ่ มันนี้แหละ ที่ทาํ ให้เราอับอายต่อหน้าผูค้ นจํานวนมาก
วันนี้ท่านจะช่วยพวกเรา สี่ งสอนบทเรี ยนให้กบั มัน!!! " เมื่อพวกเขาเห็น
ชูเฟิ ง เซินถู่ เจียงและเซินถู่ ไฮ่ ดีใจอย่างสุ ดๆ

แต่เมือพวกเขาโยนสายตาไปที่ เซิ นถู่ หลาง ที่ถูกทรมาน ทรกรรมโดยชู


เฟิ ง ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับตะโกนถามด้วย
นํ้าเสี ยง ตื่นตระหนก " พี่ใหญ่ ท่านเป็ นอะไรไป ! ! ? "

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////
A : มันนี้แหละ จับกูขงั ไว้บ่อขี้ คงอยากจะพูดแบบนี้สินะ!!!

B : ฮ่าๆๆ สะใจเป็ นบ้า พี่นอ้ งเซิ นถู่ ที่ชอบอวดอ้างพี่ชายหนักพี่ชาย


หนา คราวนี้แหละจะได้รู้สกั ที ว่าพี่ชายมืงก็ไม่สามารถคุม้ กะลาหัวมืง
ได้

A : ชูเฟิ งแม่งก็โรคจิต ลากน้องที่ภูมิใจในตัวพี่ชาย มาดูสภาพที่น่า


อนาถ แบบนี้!!!

C : ก็พระเอกมันเชี้ย นิสยั ไม่ดี มุทรุ ทําอะไรเกินตัว ชอบคิดว่าตัวเอง


เก่งที่สุด!!!

A : พี่เฟิ งไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งสุ ด แต่แค่ไม่ถอยให้ใคร ถอยก็เหมือน


แพ้ แพ้กค็ ือการสู ญสิ้ นทุกสิ่ งทุกอย่าง ตราบใดที่ใจพีเฟิ งไม่ยอมแพ้ คํา
ว่าแพ้กจ็ ะไม่มีสาํ หรับพี่เฟิ ง รู ้ไว้ซะด้วย!!!
B : โอ้ว พูดได้ดี!!!

A4 : ถูกต้อง สถานการณ์มนั บังคับให้พระเอกยอมแพ้ไม่ได้ ใจอ่อน


ไม่ได้ ซึ่งบทเรี ยนมันก็มีให้เห็นแล้วอยูห่ ลายครั้ง พลาดนิดเดียว จุดจบ
จะเหมือนพ่อบุญธรรมของ ชูเฟิ ง ดังนั้น พระเอกทําไรต้องเด็ดขาด
คิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมา ชูเฟิ งไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งสุ ดเลยสักครั้ง มันมี
แต่อยากจะเก่งขึ้น เก่งขึ้น ดังนั้น RIP สามพีน่ อ้ ง เซิ นถู่

บทที่ 571 - นั้นใคร ?

ปัจจุบนั เซินถู่ หลาง ไม่มีท่าหยิง่ ยโสดัง่ ก่อนหน้านี้ ใบหน้าของเขาเห็น


ได้ชดั ว่าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เขาในตอนนั้น ขาสัน่ ตัวสัน่ เขายกมือที่กาํ ลังสัน่ อยู่ ชี้ไปที่ ชูเฟิ ง ที่ยนื
อยูบ่ นหัวมังกรฟ้า แล้วถาม เซิ นถู่ เจียง และ เซิ นถู่ ไฮ่ " เจ้าสองคน บอก
ข้าที ว่าคนที่กาํ ลังไล่ล่าอยูน่ ้ นั ไม่ใช่เขา ? "

" เขานั้นแหละพี่ใหญ่ ท่านถามทําไมหรอ!! " เซิ นถู่ เจียง และ


เซินถู่ ไฮ่ ไม่ได้โง่ดงั นั้นเมื่อเห็นสี หน้าของเซิ นถู่ หลาง พวกเขาก็พอรู ้
เรื่ องว่าจะเกิดอะไรขึ้น

" บ้าเอ้ย . . . คนที่ผนึกข้า และคนที่พวกเจ้าตามล่า ก็คือคนๆ


เดียวกัน!!! " เซินถู่ หลางตะหวาดด้วยนํ้าเสี ยงแห่งความเกลียดชัง แต่มนั
ก็ไร้ประโยชน์ เพราะเขาทําอะไรไม่ได้แล้ว

" อะไรนะ ? คนที่ท่านแพ้คือเขางั้นหรอ เป็ นไปได้ยงั ไง เขาอยู่


แค่อาณาจักรสวรรค์ระดับ 3 "

หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดของเซินถู่ หลาง เซิ นถู่ เจียง และ เซิ นถู่ ไฮ่ หน้าก็
ทอดสี ทนั ที พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมอง ชูเฟิ ง อีกครั้ง พร้อมกับสังเกตุ
อย่างละเอียด แม้วา่ บรรยากาศของชูเฟิ งจะดูไม่ธรรมดา แต่ในสายของ
พวกเขา ก็เป็ นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาชนะ เซิ นถู่ หลาง ได้

" ไม่มีเวลามาอธิบายแล้ว!!! หนีไปเร็ ว ข้าจะถ่วงเวลาไว้ อย่าได้


หันกลับมา หนีไปให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะทําได้ "

เซินถู่ หลาง ตะโกนออกมาและจากนั้นเขาก็ใช้แขนเหวีย่ งเซิ นถู่ เจียง


และเซินถู่ ไฮ่ ออกไป ด้วยพลังที่สามารถทลายภูเขาได้ท้ งั ลูก ขณะนั้น
น้องชายทั้งสองของเขาพุง่ ทะยานไปยังฟ้าไกลเหมือนกับคันศรที่ปล่อย
จากรถยิงธนู
" นี่เจ้ากล้ามากนะที่ขงั ข้าไว้ในบ่อขี้ ทั้งยังบังคับข้าให้ตอ้ งยึด
ชีวติ ด้วยขี้พวกนั้น ข้าไม่เคยได้รับความอัปยศเช่นนี้มาก่อนในชีวติ ต่อ
ให้ขา้ ไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้ ข้าจะสู ก้ บั เจ้าจนตัวตาย "

ปัจจุบนั เซินถู่ หลาง ดูต่างไปจากที่ผา่ นๆมา สายตาของเขาเหมือนนักล่า


ยามรัตติกาล จิตสังหารเขาเอ่อล้นออกมารอบๆร้่างกาย เขานั้นเตรี ยมใจ
ที่จะตายไว้แล้ว โดยไร้ซ่ ึงความหวาดกลัวใดๆ ตอนนั้นเขาไม่รอช้าที่จะ
เข้าจู่โจม

*** ปั้งงงง **** ขณะที่เขาก้าวออกมา ก็มีออร่ ามหาศาลระเบิดขึ้นจาก


พื้นดิน จากนั้นร่ างของเขาก็พงุ่ เข้าใส่ ชูเฟิ ง
เขานั้นปลดปล่อยออร่ าอาณาจักรสวรรค์ระดับ 5 ออกมา ขณะที่พงุ่ ขึ้น
ฟ้า แม้แต่อากาศรอบๆเขายังบิดเบี้ยวตอนที่เขาแหวกผ่าน ดูแล้วเขาก็
ไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แต่นอ้ ย

แต่ในสายตาของ ชูเฟิ ง ไม่วา่ เซิ นถู่ หลางจะมาไม้ไหน เขาก็ไม่มีวนั ที่จะ


เอาชนะเค้าได้ เขาเหมือนมดเมื่ออยูต่ ่อหน้าชูเฟิ ง ซึ่ งใช้เพียงแค่มือหรื อ
เท้าก็สามารถบดขยี้เขาได้

ดังนั้นใบหน้าของชูเฟิ งจึงปรากฏรอยยิม้ จากนั้นก็กล่าว " นํ้าใจเจ้าช่าง


ประเสริ ฐยิง่ นัก พวกเจ้าทั้งสามคนคงรักกันมากสิ นะ เห็นแก่ขอ้ นี้ ข้าจะ
ไม่แตะต้องราชวงศ์เซินถู่ แต่ เจ้าสามคนพี่นอ้ งจะต้องตาย นี่คือสิ่ งที่เจ้า
จะต้องชดใช้กบั การกระทําของเจ้า " [ T/N ทําร้าย เจียง หวูช่ าง คิดจะ
เอาซูรู่ว ซูเหม่ยไปทําเมีย ]

หลังจากที่เขาพูดจบ ประกายแสงสายฟ้าก็แล๊บออกมาจากดวงตาของเขา
จากนั้นพลังวิญญาณในร่ างกายของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว พร้อมกับ
ออร่ าอาณาจักรสวรรค์

ระดับ 4 > 5 > 6 เพียงพริ บตาเดียว ออร่ าของชูเฟิ งที่อยูใ่ น


อาณาจักรสวรรค์ระดับ 3 ก็เพิ่มขึ้นเป็ น ระดับ 6

*** บูม *** หลังจากที่เสร็ จสิ้ นขั้นตอนออร่ าของชูเฟิ งก็ส่งเสี ยงบอก


จากเขาเปิ ดฝ่ ามือออกเล็กน้อยให้นิ้วทั้ง 5 ยืน่ แขนออกทาง เซิ นถู่ หลาง
ในแนวราบ จากนั้นเขาก็ปล่อยบางอย่างออกไปหา เซิ นถู่ หลาง
ฝ่ ามือนั้นคงสร้างความตกตะลึงให้แก่พิภพและสวรรค์ เพราะมันเป็ น
มังกรที่ทะยานออกมา

**** บูมมมม ****

ด้วยฝ่ ามือนั้นของ ชูเฟิ ง แน่นอนว่า เซิ นถู่ หลาง โดนเข้าไปหลายครั้งต่อ


หลายครั้ง

ในเวลานั้นมีระเบิดดังทัว่ ท้องฟ้า แรงของมันกวาดเมฆให้แหวกกระจาย


ออกไม่เป็ นทรงเดิม เหมือนว่าโลกนั้นตกอยูใ่ นความวุน่ วาย

พลังระดับสวรรค์ที่เข้าปะทะร่ างเขาอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่ามันมี


ผลกระทบต่อร่ างกายของเซินถู่ หลาง แม้วา่ ก่อนหน้านี้เค้าเตรี ยมใจที่จะ
ตาย เมื่อเข้าใกล้สู่ ประตูแห่งชีวติ เขาก็ได้รู้ซ้ ึงถึงความแข็งแกร่ งของชู
เฟิ งอย่างแท้จริ ง เมื่อเขาเผชิญหน้ากับความตาย มีหรื อเขาจะไม่กลัว
แต่ครั้งนี้ ชูเฟิ ง ไม่คิดจะมอบโอกาสให้เขามีชีวติ รอดอีกต่อไป ดังนั้น จะ
เห็นได้ชดั ว่าบนท้องฟ้ามีร่างคนคนหนึ่งกําลงถูกมังกรขยํ้าและชีกเป็ น
ชิ้นๆ

แน่นอนว่าเป็ น เซินถู่ หลาง อัจฉริ ยะอันดับ 1 ของราชวงศ์เซิ นถู่ ที่เป็ น


ผูเ่ ชี่ยวชาญสวรรค์ระดับ 5 บัดนี้เขากลายเป็ นละอองเลือดที่ลอยฝุ้งบน
ฝากฟ้า แม้แต่จิตวิญญาณของเขาก็ไม่หลงเหลือ

" สวรรค์ เขาเป็ นมนุษย์ง้ นั หรอ!!! "

" เขามีความสามารถน่ากลัวขนาดนนั้นเลยหรอ ? เขามัน


ปี ศาจ!!! "
ในท้องฟ้า ณ จุดห่างไกล มีชายสองคนยืนอยู่ แน่นอนว่าพวกเขาคือสอง
พี่นอ้ ง เซินถู่ เจียง และเซินถู่ ไฮ่ พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อว่า ชูเฟิ ง
สามารถฆ่า เซินถู่ หลาง ได้อย่างง่ายดาย

ก่อนหน้านั้นเมื่อย้อนกลับไป พวกเขาทั้งคู่ ต่างไม่เห็นชูเฟิ งอยูใ่ นสายตา


ไม่วา่ จะเป็ นพรรคพวกทั้ง สี่ ของเขา แต่ในตอนนี้ พวกเขาทั้งสอง
หวาดกลัวอย่างแท้จริ ง ไม่วา่ ใครก็ตามที่เห็นวิธีฆ่าคนของ ชูเฟิ ง แล้วจะ
ไม่กลัว ซึ่งมันแทบไม่มี

*** ฟรึ บ *** ในตอนนั้น ชูเฟิ ง ที่ยนื อยูอ่ ีกฝากหนึ่งของท้องฟ้า หัน


หน้าของเขาจ้องมาที่ เซินถู่ เจียง และ เซิ นถู่ ไฮ่

" ชิบหาย!!! เขาพบเราแล้ว!!! หนี หนี!!! "


ภายในหัวใจของพวกเขาสัน่ ระรัวเมื่อได้สบสายตากับ ชูเฟิ ง ขาพวกเขา
แทบจะทรุ ดลงกับพื้น โลหิตพวกเขาเย็นเฉี ยบ พวกเขานั้นหวาดกลัว
อย่างหาใดเปรี ยบ พวกเขาพยายามฝื นร่ างกายพยุงให้เคลื่อนที่ไป
เพื่อที่จะหลบหนี

* ฟิ้ ว *

แต่ในขณะที่พวกเขาเตรี ยมใช้ทกั ษะเพื่อการหลบหนี ก็มีเสี ยงคําราม


ระเบิดดังผ่านหูจากด้านหลังของพวกเขา เสี้ ยววินาทีผา่ นไปก็มีสตั ว์
มหึ มาปรากฏขวางอยูด่ า้ นหน้าพวกเขา
สัตว์มหึ มาขนาดใหญ่โตมีเขากวาง ลําตัวยาว เกล็ดของมันสี เขียวถูกควัน
สี ฟ้าห่อหุม้ มันคือมังกรฟ้าขนาดใหญ่ บนหัวมีชายหนุ่มยืนจ้องมองเขา
ด้วยสายตาเย็นยะเยือก แม้วา่ จะไม่มีจิตสังหาร เพียงแค่สายตาก็ทาํ ให้
พวกเขาหวาดกลัวอย่างมาก

* จ๊ากกก!!! *

" ลูกพี่ใหญ่ ชูเฟิ ง เราผิดไปแล้ว พวกเรานั้นมันมีตาหามีแวว


ไม่!! เราไม่ควรหยาบคายกับท่าน ดังนั้น ได้โปรดให้โอกาสเราสักครั้ง! !
! " เซินถู่ เจียง คุกเข่าลงกลางอากาศพร้อมกับอ้อนวอน ทั้งนํ้าตา

**** เพลี้ย เพลี้ย ****

เซินถู่ ไฮ่ เองก็เช่นกัน เขาไม่เพียงแต่คุกเข่ากลางอากาศเท่านั้น เขายังเอา


มือตบหน้าของตัวเอง 2 ครั้ง ก่อนที่เขาจะพูดพร้อมกับนํ้าหู นํ่าตา "
นายท่าน ชูเฟิ ง มันเป็ นความผิดของข้า ข้ามันไม่ดี!!! ข้ามันเลว!!! ข้าไม่
ควรสร้างปัญหา ข้าไม่ควรดูถูกสหายของท่าน!! ได้โปรด ท่านเป็ นคนใจ
ดีมีเมตตา ได้โปรด อภัยให้เราด้วย ขอโอกาสให้เราได้กลับตัวกลับใจ
เริ่ มต้นใหม่อีกครั้ง ข้าขอร้อง ได้โปรดเมตตาเราด้วย "

อารมณ์ของ ชูเฟิ ง ขณะนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงแม้แต่นอ้ ย เมื่อเขามองดู


สองคนนั้น เพราะหากการที่เขาตั้งใจที่จะฆ่าใคร เขาจะไม่ไขว้เขว

ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงพูดเพียงประโยคเดียวว่า " เจ้าทั้งสองต้องตาม เซิ นถู่


หลางไป "

*** พรึ บ พรึ บ พรึ บ*** หลังจากที่เขาพูดออกมา เขาก็เริ่ มควบคุม


ความคิด ชูเฟิ งไม่ได้อาํ นาจสวรรค์ แต่เป็ นรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี
ฟ้า สร้างขึ้นมาให้กลายเป็ นกรง ผนึกทั้งสองจากทุกทิศทาง
หลังจากนั้นมันก็เริ่ มหดตัวลงอย่างรวดเร็ ว บีบอัด ทั้งสองคนจนแหลก
เป็ นชิ้นๆ ศพของพวกเขาล้วนถูกบดอย่างละเอียด

หลังจากที่ฆ่าพวกเขาหมดแล้วประกายสายฟ้าที่ดวงตาก็หายไป ชูเฟิ ง
พลิกฝ่ ามือพร้อมกับสร้างลูกไฟขึ้นมา จากนั้นก็เหวีย่ งฝ่ ามือออกไปยัง
ศพที่ที่พวกเขาตาย

จากนั้นชูเฟิ งก็เข้าไปหยิบถุงจักรวาลสองถุง ซึ่ งถุงจักรวาลนั้นก็คือของ


เซินถู่ เจียง และ เซินถู่ ไฮ่

* ฟู่ ว * แต่เมื่อเขาได้รับ ถุงจักรวาลมาแล้ว ชูเฟิ ง ก็รีบดึงมือกลับมา


พร้อมกับยัดถุงจักรวาลลงไปที่เอวของเขา แล้วเหวีย่ งสายตาไปยัง
ด้านหลังอย่างรวดเร็ ว พร้อมกับกล่าว " นั้นใคร ? "
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////
A : ใครกันเอ่ย ???

B : ก็ไม่รู้สินะ อาจจะเป็ น ฟู่ เหลียนเซิ ง ที่ชูเฟิ งตามหาก็ได้ !!!

A : จะเจอเร็ วไปป่ ะ

B : ถ้าใช้กด็ ีอ่ะสิ !!! จะได้ถล่มหมู่เกาะประหารให้ราบคาบ

A : อยากให้ชูเฟิ งเก่งขึ้นไวๆ แล้วค่อยบุกน่าจะมันส์กว่า ยืมมือคนอื่น


ฆ่ามันไม่สาแก่ใจ เท่ากับเป็ นคนลงมือเอง

B : เรื่ องราว ณ ทะเลตะวันออก ก็มนั ส์พอสมควรเลยล่ะ พี่เฟิ งสร้าง


วีรกรรมไว้ต้ งั หลายครั้ง จนกล่าวได้วา่ เป็ นคนที่มีชื่อเสี ยงมากที่สุดใน
ภาคทะเลตะวันออก แต่จะเป็ น วีรบุรุษ หรื อ เป็ นจอมมารผูช้ วั่ ร้าย ต้อง
รอดูกนั
บทที่ 572 - ไต้ก๋ ู ผูแ้ ปลกประหลาด

" อํานาจพลังวิญญาณเฉี ยบคมยิง่ นัก ถึงได้ตรวจพบข้า ข้าตาม


เจ้ามา ดูเหมือนเจ้าคือ ชูเฟิ ง สิ นะ " บริ เวณใกล้เคียงจากท้องฟ้า มีชาย
ชราขาเดียว หัวเราะเบาๆ ขณะที่มองมาที่เขา

" ท่านเป็ นใคร ทําไมถึงตามข้ามา ? "

หลังจากพบเจอคนคนนั้น ชูเฟิ งได้แต่ขมวดคิ้วลง เพราะก่อนหน้านี้ เขา


ไม่แน่ใจว่ามีคนตามเขามาจริ งหรื อไม่ เขาแค่รู้สึกถึงบางสิ่ งบางอย่าง แต่
ก็ยงั ไม่มีอะไรมายืนยัน

เสี ยงที่เขาตะโกนไปเมื่อครู่ เป็ นเพียงแค่การคาดเดา เขาไม่คิดว่าจะมีคน


ตามเขามาจริ งๆ แล้วดูจากลักษณะของชายชรา เขามีท่าทีคุกคาม ชูเฟิ ง

นอกจากนี้ไม่เพียงแต่ชายชราคนนั้นจะสวมชุดปรมาจารย์ของสํานักสี่
คาบสมุทร เขายังมีพลังวิญญาณที่ลึกลํ้าอีกด้วย และตอนนี้ ชูเฟิ ง ได้ฆ่า
สองสาวกจากสํานักสี่ คาบสมุทร ดังนั้นเขาจึงคิดว่าคงหนีไม่พน้ จาก
หายนะ

" เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องกลัว แม้ขา้ จะมาจากสํานักสี่ คาบสมทร แต่ขา้


ก็ไม่ได้จะคิดจะเอาเรื่ องกับเจ้าที่ฆ่า สวะสองตัวไร้ประโยชน์ ความคิด
ของข้าเหมือนๆกับที่เจ้าคิด ว่ามันสองคนสมควรที่จะถูกฆ่า " ชายชราขา
เดียว เห็นท่าทีของชูเฟิ งเกร็ งๆ เขาก็ยมิ้ ขณะที่พดู อธิบาย

" ท่านเป็ นใคร ? แล้วมีธุระอะไรกับข้า " ชูเฟิ ง รู ้แค่วา่ เขานั้น


แข็งแกร่ งอย่างมาก แต่กย็ งั ยืนยันไม่ได้วา่ เขาเป็ นมิตรหรื อศัตรู ดังนั้นเขา
จึงต้องระวังตัวไว้ก่อน
" ฮ่าๆ นามของข้าคือ ไต้ก๋ ู เป็ นหนึ่งในสิ บปรมาจารย์สวรรค์ของ
สํานักสี่ คาบสมุทร ที่ขา้ มานี้มีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว ข้านั้นรู ้สึกว่าเจ้า
คืออัจฉริ ยะ ดังนั้นข้าอยากให้เจ้ามาเป็ นลูกศิษย์ของข้า ถ้าเจ้าตกลง ข้าจะ
ทําทุกอย่างเพื่อพัฒนาความสามารถของเจ้า " ไต้ก๋ ู ตอบอย่าง
ตรงไปตรงมา โดยบอกความตั้งใจของเขา

" อะไรนะ ? ท่านคือปรมาจารย์สวรรค์ ? ท่านอยากให้ขา้ เป็ น


ลูกศิษย์ง้ นั หรอ!!! " หลังจากได้ยนิ คําพูดของชายชรา ชูเฟิ งก็ตกใจอย่าง
มาก

ความแข็งแกร่ งของเขา จะเป็ นปรมาจารย์สวรรค์กไ็ ม่แปลก ซึ่ งความ


แข็งแกร่ งของเขาอาจอยูเ่ หนือกว่าระดับ จ้าวแห่งสงคราม และเมื่อเขา
ระบุนามและตัวตนของเขา สิ่ งแรกที่ชูเฟิ งนึกได้วา่ ชายชราตรงหน้าเขา
อาจจะเป็ น ปรมาจารย์แปลกๆคนนั้น ที่แข็งแกร่ งที่สุดในบรรดา สิ บ
ปรมาจารย์สวรรค์
แต่เขาได้ยนิ มาว่า คนคนนี้ไม่เคยรับศิษย์มาก่อน อีกอย่างชูเฟิ งก็ไม่ใช่
ศิษย์ของสํานักสี่ คาบสมุทร แต่เขาก็ยงั อุส่าตามมาถึงที่นี่ เพื่อบอกความ
ต้องการของเขา ว่าอยากมีลูกศิษย์ นั้นมันทําให้ ชูเฟิ ง ตะลึงเบาๆ พร้อม
กับความสับสน

" เมื่อข้า ไต้ก๋ ู เอ่ย ข้ามักจะตรงไปตรงมา สหาย ชูเฟิ ง ข้าอยากรู ้


ว่าเจ้า . . . . จะยอมตกลงหรื อไม่ " ไต้ก๋ ู กล่าวด้วยรอยยิม่

ในตอนนั้น ชูเฟิ งเริ่ มรู ้สึกไม่ค่อยสบายใจมากขึ้นเรื่ อยๆ เมื่อชายชรา


ตรงหน้ารู ้ชื่อของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะตรวจสอบข้อมูลมาเป็ นอย่างดี
แต่ชูเฟิ งก็ยงั ไม่เข้าใจว่าทําไมอาวุโสคนนี้ถึงอยากได้เขาเป็ นลูกศิษย์ แต่
ไม่วา่ จะจริ งหรื อเท็จ หรื อมีเจตนาอื่นๆ ชูเฟิ งก็ไม่เคยคิดว่าจะเข้าร่ วมกับ
สํานักสี่ คาบสมุทร

ดังนั้น เขาจึงผสานมือ และกล่าวอย่างสุ ภาพ " นับเป็ นเกียรติของข้า ชู


เฟิ ง ที่เป็ นที่หมายตาของ อาวุโสไต้ก๋ ู แต่ขา้ ไม่ใช่ศิษย์สาํ นักสี่ คาบสมุทร
ดังนั้นมันจะดูไม่คู่ควรแก่การเป็ นศิษย์ของท่าน "

" ไม่ตอ้ งห่วง ตราบใดที่เจ้ายินดีเป็ นศิษย์ของข้า ข้าก็จะทําให้เจ้า


เป็ นศิษย์ของสํานักสี่ คาบสมุทร ตามกฏแล้ว เจ้าจะต้องผ่านการทดสอบ
แต่น้ นั เป็ นข้อจํากัดสําหรับคนทัว่ ๆไป เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องทําตามกฏพวก
นั้น "ไต้ก๋ ู สบัดมือ พร้อมกับกล่าวกับชูเฟิ งอย่างเป็ นกันเอง

แต่เดิม ชูเฟิ ง นั้นชูเฟิ งไม่เคยคิดว่าจะเข้าร่ วมสํานักสี่ คาบสมุทร ดังนั้น


เขาจึงได้แต่ส่ายหน้าเบาๆและกล่าว " อาวุโสไต้ก๋ ู โปรดอภัยข้าด้วย ข้า
นั้นไม่ปรารถนาที่จะเข้าสํานักสี่ คาบสมุทร "

" โอ้ววว " ได้ยนิ คําพูดของเขา ไต้ก๋ ู ขมวดคิ้วลงเหมือนดาบ เหมือนว่า


เขาดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ แต่ความไม่พอใจผ่านไปชัว่ พริ บตา ไม่ชา้ เขา
ก็ถอนหายใจออกมา ปลดปล่อยบรรยากาศตึงเครี ยดในตัวเขา จากนั้นก็
กล่าว " ผูท้ ี่ปรารถนาเป็ นสาวกของข้านั้นมีอยูม่ ากมายแต่ไม่มีใครเหมาะ
กับข้าเลยสักคน แต่คนที่ขา้ เห็นว่าเหมาะสมกับคิดว่าข้าไม่เหมาะ
โชคชะตาช่างน่าขันยิง่ นัก ก็ได้ ข้าจะไม่ฝืนใจเจ้า "

เมื่อไต้กู่ พูดจบเขาก็หนั ไปอีกด้าน จากนั้นก็หายตัวไป ในเวลาเดียวกัน


เขาก็ส่งข้อความผ่านจิตดังเข้ามาในหูของ ชูเฟิ ง

" สหาย ชูเฟิ ง ข้าจะมองข้ามเรื่ องในวันนี้ หากในอนาคต มีใคร


รังแกเจ้าในภาคทะเลตะวันออก เจ้าสามารถเอ่ยนามของข้า ไต้ก๋ ู หาก
วันนึงเจ้าคิดอยากจะเป็ นลูกศิษย์ของข้า ข้าไต้ก๋ ู ยินดีเปิ ดประตูตอ้ นรับ
เจ้า "

" ขอบคุณอาวุโสไต้ก๋ ู " ชูเฟิ ง รี บคํานับและกล่าวขอบคุณ แต่ก็


ไม่มีการตอบสนองใดๆกลับมาจาก ไต้ก๋ ู

หลังจากที่รออยูท่ ี่เดิมสักพัก ชูเฟิ ง ก็เริ่ มแผ่กระจายอํานาจพลังวิญญาณ


เพื่อสังเกตุบริ เวณโดยรอบ แต่เขาก็ไม่สามารถตรวจพบสิ่ งผิดปกติใดๆ
เขาจึงรู ้วา่ ไต้ก๋ ู นั้นไปแล้ว

" ที่เขาลือกันว่า ไต้ก๋ ู เป็ นคนแปลกๆดูเหมือนจะจริ งสิ นะ " ชู


เฟิ งค่อนข้างตะลึงเมื่อเจอไต้ก๋ ู แต่เขาก็ประทับใจไม่ใช่นอ้ ย แม้วา่ ไต้ก๋ จู ะ
เป็ นคนแปลกๆ อย่างน้อยเขาก็ซื่อตรงและรับฟังผูอ้ ื่น

แต่หลังจากที่เขาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ชูเฟิ งก็เริ่ มระวังตัว เขาสวม


หน้ากากร้อยมายาที่ได้จากผูเ้ ฒ่าร้อยหน้า และสร้างภาพลวงตา
เปลี่ยนเป็ นหน้าชายวัยกลางคน ขนาดตัวโตขึ้นจากเดิม

ชูเฟิ งตัดสิ นใจว่าเขาจะปรากฏตัวต่อโลกภายนอกด้วยหน้าของคนคนนี้


แม้วา่ เขาจะก่อเรื่ องสร้างความชิบหาย หรื อทําการชัว่ ช้าใดๆ มันก็จะไม่
ส่ งผลมาถึงตัวเขา,เจียง หวูช่ าง, จาง เทียนยี่ . ซูรู่ , ซูเหม่ย และคนอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ชูเฟิ ง ตั้งชื่อใหม่ให้กบั รู ปลักษณ์น้ ีวา่ หวูฉ่ ิ ง เหตุผลก็ตรงๆ
ตัว เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายเขาจะต้องเป็ นคนที่อาํ มหิ ตเลือดเย็น ไร้ความ
เมตตา [ T/N 無情 Wúqíng หวูฉ่ ิ ง = ไร้ความปราณี .
เหี้ ยมโหด หรื อเขียนกันในปัจจุบนั 无情 ]

หลังจากที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของเขา ชูเฟิ งก็ต้ งั เป้าที่ ผารอคนรัก

ที่ผารอคนรัก ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน อยูท่ ี่น้ นั นางเป็ นธิดาพรหมจรรย์ของวิหาร


เพลิงผลาญสวรรค์ อีกทั้งยังเป็ น คนรักในอดีตของ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้
ดังนั้น ชูเฟิ งจึงคิดว่าเมื่อ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ ยังดีๆอยู่ บางทีเขาอาจจะทิ้ง
เบาะแสบางอย่างไว้กบั ฉิวซุย ฟู่ หยาน ดังนั้น ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ก็น่าจะเป็ น
คนๆเดียวที่อาจจะรู ้เรื่ องราวต้นกําเนิดของ ชูเฟิ ง

อย่างไรก็ตาม ภาคทะเลตะวันออกนั้นแสนกว้างใหญ่ หากเขาคิดจะไป


ผารอคนรัก เขาจะต้องใช้เวลาไม่นอ้ ยเลยทีเดียว

ก่อนหน้านั้น ชูเฟิ ง เขาต้องการที่จะเพิ่มการเพาะปลูก ดังนั้น สิ่ งแรกเขา


ควรไปที่แรกจริ งๆคือสถานที่หลบซ่อนตัว เพือ่ เตรี ยมปรับปรุ งโอรส
อเวจี

" ชูเฟิ ง ทําไม่ไม่เอาแผ่นที่ ยอดยุทธภัณฑ์ของเซิ นถู่ เจียงที่ได้


จากการประมูลออกมาดูล่ะ บางทีเจ้าอาจจะค้นพบบางสิ่ งบางอย่างก็ได้
" ในตอนนั้นขณะที่เขาพบกับสถานที่ซ่อนตัว และก่อนที่เขาจะเริ่ มลง
มือปรับปรุ งต้านต้านก็พดู ขึ้นมา

" แผนที่ ? มันเป็ นของจริ งงั้นหรอ แต่หากจริ งภาพของมันก็


เลือนลางมากเลยนะ เราไม่มีทางรู ้ได้หรอกว่ามันอยูต่ รงไหน ดังนั้นข้า
ไม่มนั่ ใจว่าเราจะเจอสมบัติ " ชูเฟิ งกล่าว

" ไอ้โง่ หากคนปกติคงหมดปั ญญา แต่เจ้านั้นแตกต่าง อย่างลิมสิ


ว่าเจ้าคือผูท้ ี่ฝึกเนตรสวรรค์ ด้วยพลังนั้นมันไม่ยากหรอกที่จะมองของ
แบบนี้ "

" แม้วา่ เจ้ายังฝึ กเนตรสวรรค์ไม่ถึงขั้น แต่ยงั ไงเจ้าก็ศึกษามันเป็ น


เวลานานพอสมควร ดังนั้นแผนที่เลือนลางอันนี้ เราจะใช้มนั ทดสอบ
ความก้าวหน้าของเนตรสวรรค์ "
" ไม่วา่ จะจริ งหรื อเท็จ แต่เจ้าควรจะลองยืนยันให้แน่ใจอย่าได้
ด้วนสรุ ป หากเจ้ามองภาพออก นั้นก็หมายความว่าเจ้าสามาถเข้าใจ
ขั้นตอนแรก ของเนตรสวรรค์ได้แล้ว ถ้าเจ้าเข้าไปใกล้กบั สถานที่ ซ่อน
สมบัติ เจ้าก็น่าจะมองเห็นมันได้ " ต้านต้านกล่าว

" นั้นสิ !!!! ทําไมข้าถึงลืมมันไปได้นะ ว่าข้ามีเนตรสวรรค์ ที่


สามารถช่วยให้มองเห็นในสิ่ งที่คนอื่นไม่เห็น ยังไงก็ตอ้ งลองดูก่อน
ล่ะ!!! " หลังจากได้ยนิ คําพูดของต้านต้าน ชูเฟิ งก็ฉุกคิดได้ทนั ที เขาไม่
พูดอะไรมาก จากนั้นก็ใช้มือลงไปคว้าแผนที่ที่มีลกั ษณะเป็ นพัดออกมา
มันคือ ยอดยุทธภัณฑ์
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
A : เสี ยดาย พี่เฟิ งน่าจะยอมเป็ นศิษย์ของไต้ก๋ ู ไต้ก๋ ใู จดีกบั ชูเฟิ งมาก

B : ชูเฟิ ง ไม่อยากเป็ นศิษย์ แต่อยากเปนพี่นอ้ ง ที่แม้ไม่เกิดวัน เดือน ปี


เดียวกัน แต่หากตาย ขอตายพร้อมกัน
A : จะคุม้ ไม๊!!!

B : นิยายเรื่ องนี้ คนมีอายุได้นบั หมื่นๆปี แม้จะเป็ นดวงจืตก็เหอะ


เผลออาจจะมี รุ่ นลูก รุ่ นหลาน ของชูเฟิ ง หากมันเป็ นแบบนั้นจริ งๆ ชู
เฟิ ง แม่งคงมีเมียเป็ น 1000 น่าอิจฉาชิบหาย!!!

บทที่ 573 – วัตถุศกั ดิ์สิทธิ์

เมื่อ ชูเฟิ ง เปิ ดใช้งานพัดยอดยุทธภัณฑ์น้ นั ที่ดา้ นหน้าของเขาก็


ปรากฏแผนภาพขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ

แผนภาพนั้น ในสายตาของคนทัว่ ๆ ไปมันเป็ นเพียงภาพเบลอๆ


เท่านั้นๆ แต่เมื่อ ชูเฟิ ง จ้องมองไปยังภาพเหล่านั้น เขาสัมผัสได้วา่ มันมี
บางอย่างซ่อนอยูใ่ นแผนภาพเหล่านั้น
ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงเร่ งพลังสวรรค์ภายในร่ างกายของเขา และอัดแน่น
ไปที่ดวงตา ในช่วงเวลานี้น้ นั แววตาของเขาดูดุร้ายอย่างมาก

แม้วา่ ทักษะเนตรที่ ชูเฟิ ง ใช้น้ นั จะเป็ นเพียงแค่ข้ นั พื้นฐานเท่านั้น


แต่ดว้ ยพลังของเขามันกลับน่ากลัวอย่างมาก

แม้วา่ ชูเฟิ ง จะยังใช้ทกั ษะเนตรสวรรค์ยงั ไม่เชี่ยวชาญชาญ แต่มนั


ก็มีพลังมากพอที่จะใช้ในการตรวจสอบสิ่ งต่างๆ

ถ้าหากเขาสามารถใช้มนั ได้อย่างเชี่วชาญนั้น เขาสามารถมอง


ออกไปได้ไกล และสามารถตรวจสอบสิ่ งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
***** อืมม *****

เมื่อเขาใช้เนตรสวรรค์จอ้ งมองไปยังภาพที่เกิดจากพัดยอด
ยุทธภัณฑ์น้ นั ภาพที่เคยเบลอก็กลับชัดเจนขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ

เมื่อมองผ่านเนตรสวรรค์น้ นั แผนภาพดังกล่าวมันคือ แผนที่ที่


นําไปสู่ สมบัติบางอย่าง

ตรงกลางแผนภาพนั้น มีคาํ เขียนไว้วา่ หุบเขาจิตวิญญาณหมาป่ า


อมตะ

“จิตวิญญาณหมาป่ าอมตะ !!”


“มันเป็ นสิ่ งมีชีวติ ที่เกิดจากการอัดแน่นของธรรมชาติ มีลกั ษณะ
เฉพาะตัว และถูกเรี ยกชื่อตามรู ปลักษณ์ที่ปรากฏออกมาของมัน หากมัน
มีรูปร่ างที่แท้จริ ง พลังของมันสามารถทําให้โลกนี้สน่ั สะเทือนได้ดว้ ย
มือเพียงข้างเดียว”

“ชูเฟิ ง !! ถ้าแผนภาพนี้เป็ นของจริ ง วิญญาณวิญญาณนี้ เหมาะแก่


การเสริ มพลังวิญญาณอย่างมาก !!” เพียงแค่เห็นคําที่เขียนอยูน่ ้ นั ต้าน
ต้าน ก็กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น

“อื้อ….น่าเสี ยดาย ที่พลังเนตรสวรรค์ของข้ามันยังไม่เพียงพอ ข้า


ทําได้เพียงตรวจสอบแบบคร่ าวๆ เท่านั้น ข้าไม่อาจค้นหาเส้นทางในหุบ
เขาจิตวิญญาณหมาป่ าอมตะได้ ข้าคิดว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่ องง่ายแน่ ที่จะ
คนหาสิ่ งที่ซ่อนอยูภ่ ายในนั้น”
“อีกอย่าง ข้าก็สามารถตรวจสอบได้วา่ แผนภาพนี้เป็ นของจริ ง
หรื อไม่” ชูเฟิ ง กล่าวพลางถอนหายใจออกมา

หลังจากได้เรี ยนรู ้มามากมาย ชูเฟิ ง ก็ได้รับรู ้ถึงสมบัติประเภท


ต่างๆ

หนึ่งคือ ประเภทสุ สาน ประเภทนี้จะมีสมบัติจาํ พวกทรัพยากรบ่ม


เพาะ และสมบัติบางอย่างที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์

อีกอย่างคือสิ่ งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และประเภทนี้กม็ ีอยูอ่ ย่าง


มาก และสามารถจําแนกออกมาได้อีกหลายชนิด
เช่น ดอกไม้ สมุนไพร ฯ สิ่ งพวกนี้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ หรื อบาง
ชนิดที่เกิดจากการอัดแน่นของพลังงานตามธรมมชาติ เช่น ก้อนหิ น อัญ
มณี ผลึก หรื ออื่นๆ อีกมาก

สิ่ งเหล่านี้มนั จะอัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณ มันมีรูปร่ างแปลก


ประหลาด มันจึงถูกเรี ยกว่า วัตถถุประหลาด

นอกจากวัตถุประหลาดนั้น ยังมีส่ิ งมีชีวติ ที่เกิดจากการหลอมรวม


ของจิตวิญญาณ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไปนั้น มัน
สามารถเติบโตขึ้นได้ ไม่เพียงแต่มนั จะทรงพลัง แต่มนั ยังสามารถมี
รู ปร่ างไม่เหมือนมนุษย์ หรื อสัตว์ป่า
จิตวิญญาณเหล่านี้จะใช้เวลาในการเติบโตมากกว่าวัตถุประหลาด
แต่เมื่อพวกมันเติบโตขึ้น พวกมันจะแข็งแกร่ งอย่างมาก บางส่ วนของ
พวกมันเพียงแค่หลบซ่อนตัวอย่างสงบในหุบเขา หรื อบางครั้งพวกมันก็
สร้างความวุน่ วายในบางพื้นที่ ดังนั้น ความแข็งแกร่ งของพวกมันจึงเป็ น
ที่ชดั เจนอย่างมาก

ตามแผนภาพนี้ ภายในหุบเขาจิตวิญญาณหมาป่ าอมตะ จะต้องมี


พวกมันซ่อนตัวอยูอ่ ย่างแน่นอน

ยิง่ เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ น้ นั พวกมันที่หลบซ่อนตัวอยูจ่ ะยิง่


เติบโตมากขึ้น และเมื่อถึงเวลาที่พวกมันโตเต็มวัย พวกมันจะมีร่างกาย
ขนาดใหญ่ และพลังแข็งแกร่ งอย่างมาก
จากการเรี ยนรู ้มานั้น ชูเฟิ ง ได้รู้วา่ พวกมันใช้เวลาในการเติบโต
เป็ นเวลานาน และหากมันโตขึ้นมันจะแข็งแกร่ งอย่างมาก

และถ้า ชูเฟิ ง ต้องการเพิ่มพลังวิญยาณของเขานั้น เขาจะต้องออก


ตามหาสิ่ งนี้ เพราะพวกมันสามารถเพิ่มพลังวิญญาณให้เขาได้อย่างมาก

แต่การค้นหาพวกนั้นก็ไม่ใช่เรื่ องง่ายแม้แต่นอ้ ย ขั้นแรกต้องคน


หาทางเข้าไปยังสถานที่ที่พวกมันซ่อนตัวอยู่ ภายในนั้นจะเต็มไปด้วย
เส้นทางมากมาย และในการค้นหาพวกมัน จําเป็ นต้องมีการวางแผน
และการจัดเตรี ยมความพร้อมอย่างดี

แผนที่ที่ถูกบันทึกไว้น้ นั เป็ นแผนที่ของจิตวิญญาณพวกนั้นอย่าง


แน่นอน แต่ดว้ ยความแข็งแกร่ งของดวงตาสวรรค์ของ ชูเฟิ ง ไม่
แข็งแกร่ งพอ จึงทําให้เขาไม่สามาาถค้นหาเส้นทางที่ถูกบันทุกไว้ได้ มัน
ยิง่ ทําให้การค้นหามีความยากลําบากมากขึ้น

แต่นี่กย็ งั ไม่ใช่ส่วนสําคัญ แม้วา่ ชูเฟิ ง จะสามารถตรวจสอบ


เส้นทางได้ แต่เขาก็ยงั ไม่รู้วา่ นี่คือแผนที่ของจริ งหรื อไม่

“อ่า…ถ้าเจ้าจะโทษก็ตอ้ งโทษที่พลังดวงตาสวรรค์ของข้ามันยัง
ไม่เพียงพอ ถ้าข้ามีพลังมากกว่านี้ขา้ ก็สามารถตรวจสอบได้วา่ แผนที่น้ ี
มันเป็ นของจริ งหรื อไม่”

“ไม่วา่ เจ้าจะไปหรื อไม่ไป มันล้วนเป็ นการตัดสิ นใจของเจ้า ข้าจะ


ไม่ยงุ่ ” ต้านต้าน กล่าว
“ข้าก็ไม่ได้วางแผนไว้วา่ จะไปที่นน่ั เพราะเจ้าก็รู้วา่ ข้ายังอ่อนด้อย
ในเรื่ องการค้นหาเส้นทาง”

“แต่ตามบันทึกบนแผนที่น้ ี หุบเขาจิตวิญญาณหมาป่ าอมตะ ก็


ตั้งอยูไ่ ม่ไกลจากที่นี่นกั แม้วา่ จะไม่รู้วา่ มันเป็ นของจริ งหรื อไม่ แต่มนั ก็
คุม้ ที่จะลองไปดูสกั ครั้ง ข้าอาจจะพบอะไรดีๆ บ้างก็ได้” ชูเฟิ ง กล่าว
พลางยิม้ บางๆ

จิตวิญญาณเหล่านี้มีค่ามากจนไม่สามารถประเมินได้ พวกมันใช้
เวลาในการเติบโตอย่างสั้นๆ ก็หลายสิ บปี อย่างนานก็หลายล้านปี เพียง
แค่ระดับหลายสิ บหรื อหลายพันปี พวกมันก็มีความแข็งแกร่ งอย่างมาก

เมื่อมองไปยังพัดยอดยุทธภัณฑ์ชิ้นนี้ และหากว่าแผนที่น้ ีเป็ นของ


จริ ง มันก็มีแนวโน้มว่าจิตวิญญาณที่ซ่อนอยูน่ ้ ีจะใช้เวลาในการเติบโต
เพียงช่วงสั้นๆ

“เชอะ !! ถ้าเจ้าอยากจะไปอยูแ่ ล้วก็ไป !! ไม่ตอ้ งมาหาข้ออ้าง !! แต่


ก่อนที่จะไป เจ้าควรจะเสริ มความแข็งแกร่ งของเจ้าก่อน !!” ต้านต้าน
กล่าวออกมา นางรู ้ดีวา่ ชูเฟิ ง จะตัดสิ นใจเช่นไ ร แม้วา่ สถานที่แห่งนั้น
จะอยูไ่ กล แต่เขาจะต้องไปตรวจสอบมันอย่างแน่นอน

“อ่า….นี่กไ็ ด้เวลาดูดซับพลังของ โอรสอเวจี แล้วซิ นะ”

ชูเฟิ ง กล่าวพลางหัวเราะเบาๆ ในขณะที่เขาเก็บพัดยอดยุทธภัณฑ์


เข้าไป และนํา โอรสอเวจี ออกมา เขาจ้องมองไปที่มนั ด้วยความคาดหวัง
สิ่ งนี้เป็ นสิ่ งที่แปลกประหลาดอย่างมาก ไม่สามารถบอกได้วา่ มัน
คือวัตถุประหลาด หรื อจิตวิญญาณกันแน่

เพราะถ้าเป็ นวัตถุประหลาดจะไม่มีรูปร่ างคล้ายมนุษย์

และถ้ามันเป็ นจิตวิญญาณ มันจะต้องมีร่างกายที่เกิดพื้นแผ่นดิน จึง


จะนับว่ามันมีร่างกาย

ดังนั้น มันอาจกล่าวได้วา่ จิตวิญญาณจะมีรูปร่ างเป็ นธรรมชาติ

แต่ โอรสอเวจี กลับมีรูปร่ างของมนุษย์ อีกทั้งยังมีพลังที่อดั แน่นอยู่


ภายในอย่างมาก
ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงให้คาํ นิยามของ โอรสอเวจี ว่า วัตถุศกั ดิ์สิทธิ์

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////////////////////////////////////////
A : จะเพิ่มพลังวิญญาณขึ้นเป็ นระดับไหนนะ ???

C : จะเพิ่มขึ้นหรอ จะใช้ได้หรื อเปล่าหรอก

B : ได้สิ!!! ต้องได้สิ!!!

C : มันเป็ นวัตถุศกั ดิ์สิทธิ์อายุนบั 10000 ปี เด็กหนุ่มอย่างชูเฟิ งจะ


มีปัญญาดึงพลังจากมันได้หรื อไง น่าขัน!!!

A4 : อยากรู ้วา่ ได้ไม่ได้ ต้องตามไปอ่านตอนหน้า!!!

บทที่ 574 – หุบเขาเขี้ยวหมาป่ า


วัตถุศกั ดิ์สิทธิ์น้ นั แข็งแกร่ งกว่าทั้ง วัตถุประหลาด และจิตวิญญาณ
ทางธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม วัตถุศกั ดิ์สิทธิ์เป็ นสิ่ งที่แข็งแกร่ ง และไม่มีใครกล้าที่


จะเข้าใกล้มนั มากนัก

พลังงานที่อดั แน่นอยูภ่ ายในพวกมันนั้น เป็ นพลังของความเกรี้ ยว


กราด ผูเ้ ชี่ยวชาญที่ตอ้ งการดูดซับพลังของพวกมันนั้น เท่ากับเป็ นการ
ฆ่าตัวตายอย่างไม่ตอ้ งสงสัย

ดังนั้น วัตถุศกั ดิ์สิทธิ์จึงไม่มีประโยชน์ในการเสริ มสร้างพลัง


วิญญาณ มันเป็ นเพียงการคงอยูข่ องความน่ากลัวเท่านั้น
สําหรับ ชูเฟิ ง นั้น วัตถุศกั ดิ์สิทธิ์เป็ นทรัพยากรสําหรับบ่มเพาะพลัง
ชั้นดี อย่างเช่น โอรสอเวจี ในมือของเขาตอนนี้ จะสามารถช่วยให้พลัง
ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

“มาดูกนั ว่าเจ้าจะเพิ่มพลังให้ขา้ ได้แค่ไหน”

หลังจากที่ ชูเฟิ ง เสร็ จสิ้ นการเตรี ยมการทุกอย่างแล้วนั้น เขาจึง


เริ่ มทําการดูดซับพลังงานของมัน ด้วยพลังที่พเิ ศษของมันนั้น จึงทําให้ ชู
เฟิ ง ไม่สามารถดูดซับพลังงานของมันได้โดยตรง

ดังนั้น เขาจึงต้องสร้างรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณผนึกมันเอาไว้


ก่อน และเมื่อวาดรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณเสร็ จ เขาจึงสามารถดูดซับ
พลังของมันได้ทีละนิดๆ

***** อืม *****

เมื่อเริ่ มดูดซับพลังงานนั้น เส้นพลังงานบางๆ ก็ไหลออกจากร่ าง


ของ โอรสอเวจี เข้าสู่ ร่างของ ชูเฟิ ง เขาสามารถสําผัสได้ถึงพลังที่
แข็งแกร่ งได้ในทันที

แม้เส้นพลังงานที่ไหลมานั้น จะมีเพียงเส้นเดียวก็ตาม แต่ ชูเฟิ ง ก็


รู ้สึกได้ถึงพลังที่กราดเกรี้ ยวอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม แม้วา่ พลังที่ไหลเข้ามาจะแข็งแกร่ งขนาดไหน ด้วย


พลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธ์ที่แข็งแกร่ งของ ชูเฟิ ง นั้น มันก็สามารถกลืน
กินพลังงานเหล่านั้นได้อย่างหมดจรดไม่มีเหลือแม้แต่นอ้ ย

การดูดซับพลังงานกําลังเป็ นไปได้อย่างราบรื่ น ด้วยความสําเร็ จใน


การวางรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณในการผนึก และการค่อยๆ ดูดซับ
พลังงานทีละนิดๆ เช่นนี้ จึงทําให้พลังของ โอรสอเวจี ถูกดูดซับโดย ชู
เฟิ ง

หลังจากดูดซับพลังไปได้ช่วงหนึ่ง ร่ างกายของ โอรสอเวจี ก็เริ่ มปริ


แตก ออร่ าพลังที่ปลดปล่อยออกมาคล้ายกระแสลม ก็เปลี่ยนเป็ นสี แดง
อย่างเห็นได้ชดั

ในขณะที่ โอรสอเวจี กําลังเปลี่ยนแปลงไปนั้น ชูเฟิ ง ไม่ได้ให้


ความสนใจแม้แต่นอ้ ย เขายังคงดูดซับพลังของมันอย่างต่อเนื่อง
พลังงานของ โอรสอเวจี ถูกดูดซับอย่างละเอียดโดย ชูเฟิ ง

หลังจากดูดซับพลังของ โอรสอเวจี เสร็ จสิ้ นนั้น ออร่ าพลังของ ชู


เฟิ ง จากระดับสาม ก็เพิ่มขึ้นเป็ นระดับห้า ขั้นแดนสวรรค์ แม้วา่ ชุเฟิ ง
จะคาดการณ์ไว้แล้วว่า พลังของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นถึงระดับห้า แต่เขาก็
ยังคงมีความสุ ขอย่างมาก

เพราะถ้าเขาเสริ มพลังด้วยสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์น้ นั เขาจะมีพลังใน


ระดับแปด ขั้นแดนสวรรค์ และหากว่าเขาไม่พบกับผูเ้ ชี่ยวชาญระดับเก้า
ขั้นแดนสวรรค์ ที่มีพลังพิเศษบางอย่าง นัน่ หมายควมว่า ในขั้นแดน
สวรรค์ จะไม่มีใครสามารถต่อกรกับเขาได้อย่างแน่นอน

แม้วา่ ระดับพลังของเขาในตอนนี้ จะไม่โดดเด่นมากนัก แต่มนั ก็


เพียงพอที่จะทําให้ ชูเฟิ ง สามารถปกป้อง ชีวติ ของเขาภายในทะเล
ตะวันออกได้ ที่สาํ คัญ คือเขาสามารถทะลวงเข้าสู่ ข้นั แดนสวรรค์ได้
อย่างรวดเร็ ว และยังสามารถเข้าใกล้ข้ นั เทพสงครามได้ เพราะเขาใช้
ประโยชน์จากทุกๆ สิ่ ง ที่สามาาถเพิ่มพลังของเขาได้

ชุเฟิ ง สามารถเข้าใจได้ทนั ที ถึงความแข็งแก่งของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์


หากเขามีทรัพยากรการบ่มเพาะพลังที่เพียงพอ เขาก็ไม่ตอ้ งกังวลในเรื่ อง
การทะลวงขั้นพลังอีกต่อไป

“ฮ่าๆ เยีย่ มจริ งๆ !! วัตถุศกั ดิ์สิทธิ์นี่มนั แข็งแกร่ งมาก !! มันอัดแน่น


ไปด้วยพลังงานมหาศาลเลยจริ งๆ !! วัตถุศกั ดิ์สิทธิ์เหล่านี้นี่มนั ช่างมี
ประโยชน์ยงิ่ นัก !!”

ในขณะที่ ชูเฟิ ง กําลังมีความสุ ขนั้น ต้านต้าน ก็กล่าวออกมาด้วย


ความดีใจ เพราะใขขณะที่ ชูเฟิ ง กําลังดูดซับพลังงานของ โอรสอเวจี
นั้น ต้านต้าน ก็ได้พลังงานของมันเช่นกัน ในตอนนี้นางมีพลังระดับหก
จากเดิมที่มีพลังแค่ระดับสอง ขั้นแดนสวรรค์ และมันเป็ นพลังที่มากกว่า
ชูเฟิ ง อยูห่ นึ่งระดับ

“นี่เจ้าดูดซับพลังได้มากกว่าข้าอีก !!” หลังจากที่ ชูเฟิ ง ค้นพบ


ความเปลี่ยนแปลงของ ต้านต้าน นั้น เขาก็ตกใจ และยินดีไปกับนาง
อย่างมาก

แม้วา่ ต้านต้าน จะมีพลังเพียงระดับหก ขั้นแดนสวรรค์ แต่ในความ


เป็ นจริ งนั้น ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับเก้า ขั้นแดนสวรรค์ ก็ไม่สามาาถเอาชนะ
นางได้

และนางก็คอยอยูเ่ คียงข้าง ชูเฟิ ง ตลอด ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ ชูเฟิ ง


จะรู ้สึกมีความสุ ขไปกับการพัฒนาของ ต้านต้าน
“โอรสอเวจี เป็ นวัตถุศกั ดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่ งจริ งๆ !! อีกทั้งมันยังใช้
เวลาในการเติบโตไม่นานมาก !! แต่น่าเสี ยดาย ที่พวกมันสามารถมีชีวติ
อยูไ่ ด้เพียงในใต้ดินลึกเท่านั้น เมื่อออกมาพวกมันจะต้องตายไป !!”

“เวลาที่มนั เติบโตมามันสั้นเกินไป หากมันใช้เวลาในการเติบโต


นานกว่านี้ พวกเราคงได้พลังจากมันมากขึ้นอีกแน่นอน”

“โอรสอเวจี หรื อวัตถุศกั ดิ์สิทธิ์ต่าง แม้พวกมันจะใล้เวลาเติบโต


เพียงมันนาน ยังมีพลังมากขนาดนี้ หากมันใช้เวลาเติบโตถึงหลายสิ บ
หลายร้อย หรื อหลายปี ล่ะ ฮ่าๆ” ต้านต้าน กล่าวออกมาด้วยความสุ ข
เห็นได้ชดั ว่านางกําลังตื่นเต้นอย่างมาก
“ถูกต้อง !! หากว่ามันใช้เวลาเติบโตหลายพันปี พลังที่ได้รับจาก
มันจะต้องมากกว่านี้อย่างแน่นอน ฮ่าๆ” ชูเฟิ ง ก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นเดียวกับ
ต้านต้าน และเขาก็คาดหวังว่าแผนที่ของจิตวิญญาณภายในพัดนัน่ จะ
เป็ นเรื่ องจริ ง

แม้วา่ พลังของจิตวิญญาณจะไม่สามาาถเทียบได้กบั พลังของวัตถุ


ศักดิ์สิทธิ์ แต่กย็ อ่ มทําให้เขาได้พลังมาไม่นอ้ ยเช่นกัน

ดังนั้น หลังจากที่ ชูเฟิ ง และ ต้านต้าน ได้ดูดซับพลังงานเสร็ จสิ้ น


แล้วนั้น พวกเขาก็ออกเดินทางไปยังหุบเขาจิตวิญญาณหมาป่ าอมตะ ที่
ถูกบันทึกไว้ในแผนที่

แต่นี่เป็ นครั้งแรกที่ ชูเฟิ ง เดินทางมาถึงทะเลตะวันออก เขาจึงไม่รู้


สถานที่ต้ งั ของหุบเขา และหลังจากที่เขาสอบถามไปทัว่ นั้น กลับไม่มี
ผูใ้ ดรู ้วา่ หุบเขาจิตวิญญาณหมาป่ าอมตะ ตั้งอยูท่ ี่ใด

แต่โชคดีที่ ชูเฟิ ง เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ เขาจึงสามารถแกะ


รอยจากแผนที่ในมือของเขา และค้นหาสถานที่ต้ งั ของ หุบเขาจิต
วิญญาณหมาป่ าอมตะ ได้

อย่างไรก็ตาม แม้วา่ ในแผนที่จะระบุวา่ มันคือ หุบเขาจิตวิญญาณ


หมาป่ าอมตะ แต่ชาวบ้านกลับเรี ยกมันว่า หุบเขาเขี้ยวหมาป่ า

จากคําแนะนําของชาวบ้านนั้น เดิมที่หุบเขาเขี้ยวหมาป่ า ไม่มีมีชื่อ


แต่อย่างใด แต่เมื่อพันปี ก่อนนั้น หุบเขาได้มีความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
เกิดขึ้น
ในพันปี ก่อนนั้น หุบเขาได้มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มันมี
ลักษณะที่สูงมีปลายแหลม และโค้งงอเล็กน้อย มันจึงถูกเรี ยกว่า หุบเขา
เขี้ยวหมาป่ า

เมื่อมองจากด้านนอกของหุบเขานั้น ชาวบ้านเล่าว่า ที่ยอดของหุบ


เขามีความพิเศษอย่างมาก

“ดูเหมือนว่า แผนที่น้ ีจะเป็ นของจริ งซิ นะ !!”

เพื่อดูความพิเศษของยอดเขาเขี้ยวหมาป่ านั้น ชูเฟิ ง ก็ทะยานตัวขึ้น


ไปในอากาศ สู งกว่าพื้นดินหลายพันเมตร เพื่อมองภาพรวมขหุบเขา
“นี่มนั ….!!”

เมื่อ ชูเฟิ ง ใช้ดวงตาสวรรค์จอ้ งมองไปยังหุบเขาเขี้ยวหมาป่ านั้น


ด้วยพลังของดวงนาสวรรค์ หุบเขาเขี้ยวหมาป่ าที่เคยเงียบสงบ ชูเฟิ ง ก็
มองเห็นสายหมอกที่ปกคลุมหุบเขา กําลังก่อรู ปร่ างเป็ นหมาป่ าจํานวน
มาก

ที่แท้มนั ก็คือสถานที่ชุมนุมของจิตวิญญาณ จากการคาดการณ์ของ


ชูเฟิ ง นั้น จิตวิญญาณเหล่านี้ ค่อนข้างจะแข็งแกร่ งอย่างมาก

ในปัจจุบนั นั้น จิตวิญญาณที่มีรูปร่ างอยูม่ ีจาํ นวนไม่มาก แต่มนั ใช้


เวลาหลายพันปี ในการเติบโต ดังนั้น มันย่อมมีพลังงานอยูอ่ ย่างมาก
แน่นอน

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///
C : เป็ นไงบอกแล้วดูดซับได้!!!

B : มึงมันมัว่ !!!

A : จากระดับ 3 เป็ นระดับ 5 บวกสายฟ้าอีก 3 เป็ นระดับ 8 อย่า


ว่าแต่เจอกับระดับ 9 แม้แต่จา้ วสงครามก็ลาํ บากหน่อยหากเจอชูเฟิ ง

C : จะแน่หรอ!!!

A : เออ!!!
บทที่ 575 - ตัดสิ นใจเข้าไปยุง่

ชูเฟิ ง ยืนอยูใ่ นอากาศมองลงมาเบื้องล่าง หลังจากที่สงั เกตุอยูน่ าน แต่เขา


ก็ยงั ไม่พบตัวถํ้า ที่มีกลิ่นอายอํานาจวิญญาณหรื อตําแหน่งการวาง
รู ปแบบใดๆ เขาจึงตระหนักขึ้นได้

หากเขาจะไม่ลงมือทําอะไรเลยก็ไม่ได้ จึงตัดสิ นใจบินลงไป และเริ่ ม


ค้นหาทางเข้าหุบเขาเขี้ยวหมาป่ า เพื่อค้นหาทางเข้าที่ถูกซ่อนไว้ดว้ ย
อํานาจพลังวิญญาณ แบบละเอียดทุกตารางนิ้ว

**** บูม บูม บูม ****

แต่เมื่อ ชูเฟิ งมาถึงส่ วนใจกลางของหุบเขา ก็มีเสี ยงระเบิดดังขึ้นอย่าง


ต่อเนื่อง จากทิศตะวันออกของหุบเขา
เสี ยงนั้นใกล้เข้ามาเรื่ อยๆ ชูเฟิ งพบว่านั้นคือเสี ยงที่เกิดระหว่างการต่อสู ้
ระหว่างสัตว์มหึ มาและใครคนนึง

สัตว์มหึ มาสู งยีส่ ิ บเมตร ลําตัวขนาดสิ บเมตร เมื่อที่มนั ยึดตัว มันดูเหมือน


ภูเขาลูกเล็กๆลูกนึง

มันมีลกั ษณะคล้ายตัวนิ่ม ตามตัวมันเต็มไปด้วยเกล็ดที่ราวกับชุดเกราะ


ที่สาํ คัญมันมีพลังวิญญาณอยูใ่ นระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์

ซึ่งสัตว์มหึ มาตัวนี้ไม่อาจมองข้าม ในแต่ละก้าวที่มนั ไป มันพัดกวาดเอา


ทุกอย่างที่มนั ยํา่ กาย ภายในรอบรัศมีร้อยไมลฺ ล์ ว้ นแต่สนั่ สะเทือน ต้นไม้
ใบหญ้าโดยรอบเขย่าราวกับว่าจะหักโค่นลงมา

มือของมันถือค้อนขนาดใหญ่ มันฟาดลงใส่ พ้นื อย่างรุ นแรง จนเกิดหลุม


ลึก ทุกครั้งที่มนั สะบัดค้อนต้นไม้จะปลิวว้อนดัง่ พายุพดั กระหนํ่า แล้ว
พื้นที่โดยรอบนั้นก็ต่างมีหลุมอยูน่ บั ไม่ถว้ น ป่ าไม้ที่อุดมสมบูรณ์กต็ ่าง
ไปจากเดิมจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม

คนที่สูอ้ ยูก่ บั มันก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เขาก็อยูใ่ นระดับ 7 อาณาจักร


สวรรค์ ยิง่ ไปกว่านั้น เขายังเป็ นผูห้ ญิง

นางเป็ นหญิงวัยกลาง มีแนวโน้มว่านางจะมีอายุมากกว่า 30 ก็นางก็ยงั


ดูงดงาม แต่ที่สาํ คัญการเพาะปลูกนางที่อยูร่ ะดับนี้ มันช่างน่าประทับใจ
อย่างมาก
หากเทียบกับคนจากอาณาจักรทั้ง 9 การที่กา้ วเข้าสู่ ระดับ 7 อาณาจักร
สวรรค์ สามารถนับด้วยนิ้วมือได้เลย และไม่มีใครที่ไม่อยูใ่ นวัยชรา แต่
การที่นางสามารถฝึ กฝนมาจนถึงวันนี้ได้ ด้วยวัยนี้ มันไม่ได้แปลว่านาง
ร้ายกาจแต่อย่างใด แต่มนั หมายความว่า ผูเ้ ชี่ยวชาญในภาคทะเล
ตะวันออกนั้น มีระดับที่เหนือกว่าต่างจากคนของ 9 อาณาจักร

*** บูม บูม บูม ***

สัตว์มหึ มาและหญิงคนนั้นต่อสู ก้ นั อย่างต่อเนื่อง จนเกิดแรงปะทะที่น่า


กลัว แต่ ชูเฟิ ง รู ้วา่ หญิงคนนั้นคงจะพ่ายแพ้ให้แก่ สัตว์มหึ มา นางคง
กําลังคิดจะหาวิธีที่จะหลบหนีการโจมตีของสัตว์มหึ มา แต่นางก็ถูกบัง
ให้ตอ้ งอยูใ่ นบริ เวณ โดยที่ไม่มีโอกาศ
" สัตว์มหึ มาตัวนี้ ดูเหมือนว่ามันจะเสี ยการควบคุมสิ นะ "

ชูเฟิ งตรวจสอบมันด้วยอํานาจพลังฯที่เฉี ยบคมของเขา และพบว่าสัตว์


มหึ มาที่กาํ ลังกระหายเลือดนั้น เสี ยสติ แม้แต่ตวั ผูห้ ญิงเองก็ยงั ถามมันว่า
เหตุใดมันถึงเข้ามาทําร้ายนาง แต่สตั ว์มหึ มาก็ไม่ได้ตอบกลับใดๆ มันเอา
แต่ต้ งั หน้าตั้งตาโจมตีใส่ ผหู ้ ญิงคนนั้น

มันหมายความว่าสัตว์มหึ มาตัวนั้นมันสู ญเสี ยความเป็ นตัวของตัวเอง


หรื อเกิดบางอย่างขึ้นกับมัน นอกจากนี้ ชูเฟิ ง เข้ายังได้เดินไปรอบๆทุก
พื้นบริ เวณหุบเขา และพบว่าสัตว์มหึ มานั้นมีอยูน่ อ้ ยมาก ยิง่ ระดับ
อาณาจักรสวรรค์น้ นั ยิง่ แล้วเลย แล้วทําไมจู่ๆมันถึงปรากฏขึ้นมาได้

" อีกอย่างมันยังดูแปลกๆ มันต้องมีเงื่อนงําอะไรบางอย่าง


สําหรับเรื่ องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม น่าเสี ยดาย มันไม่เกี่ยวกับเจ้า ดังนั้น
ไม่ตอ้ งเป็ นห่วง " ต้านต้านรู ้สึกหน่ายชูเฟิ งที่ชอบเอาตัวเองเข้าไปยุง่ กับ
เรื่ องชาวบ้าน หากคนที่อยูต่ รงหน้าเขา เป็ นแค่คนธรรมดาๆเผชิญกับฝ่ าย
ตรงข้ามที่แข็งแกร่ งกว่า ชูเฟิ งก็อาจจะเข้าไปช่วย

ในตอนนั้น ทั้งสองต่างก็มีความแข็งแกร่ งพอๆกัน บางทีอาจจะเป็ น


เพราะความขัดแย้ง หรื ออาจจะเป็ นความแค้นระหว่างพวกเขา หรื อจะ
ด้วยเหตุผลอื่นๆ ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงตัดสิ นใจไม่เข้าไปยุง่

ในโลกนี้คือยุคแห่งการต่อสู ้ ผูม้ ีอาํ นาจเท่านั้นที่จะยืนอยูจ่ ุดสู งสุ ด ซึ่ งมัน


มีการต่อสู ก้ นั อยูน่ บั ไม่ถว้ น ไม่วา่ จะที่ไหนๆ หากชูเฟิ งเอาตัวเองเข้าไป
ยุง่ โดยที่เขาไม่ได้รับผลประโยชน์ มันจะทําให้เขาเสี ยเวลา และอาจจะ
เดือดร้อน
" เด๋ ว!! ยังมีคนอื่นอยูอ่ ีก " แต่ในตอนนั้นชูเฟิ งก็พบว่า จุดที่ห่าง
จากการต่อสู ไ้ ปไม่ไกล มีคนสองคนกําลังหลบซ้อนตัวอยูภ่ ายในป่ า

คนนึงเป็ นชาย คนนึงเป็ นหญิง ทั้งสองดูชรา พลังวิญญาณของพวกเขาก็


ไม่ใช่ธรรมดาเขาทั้งคู่อยูใ่ นระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์ ซึ่ งแข็งแกร่ งกว่า
หญิงที่สูก้ บั สัตว์มหึ มา หากดูที่เสื้ อผ้าของพวกเขา จะเห็นได้ชดั ว่าเขามี
แนวโน้มเกี่ยวข้องกับผูห้ ญิงคนนั้น

แต่ในปัจจุบนั ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่ช่วยผูห้ ญิงคนนั้นสู ก้ บั สัตว์มหึ มา


พวกเขายังปล่อยให้ท้ งั คู่ สู ก้ นั เหมือน โดยที่แค่แอบดู

เห็นเป็ นแบบนั้นชูเฟิ งเริ่ มสนใจขึ้นมาทันที เขารี บพุง่ เข้าไปด้วยความ


อยากรู ้ อยากเห็น ตอนนั้นเขารบกลิ่นไอของตัวเองพร้อมกับค่อยๆเข้า
ไปใกล้ๆ ในเวลาเดียวกัน เขาก็เริ่ มแผ่กระจายอํานาจพลังฯเพื่อแอบฟัง
การสนทนาของคู่ชรา

" ตาเฒ่า เราจะดูคุณหนูใหญ่ถูกฆ่าโดยสัตว์มหึ มาจริ งๆหรอ เรา


อาจจะเดือดร้อนก็ได้นะ ?" หลังจากที่ตรวจสอบ เขาก็พบว่าสองคน
นั้นมีอายุมาหลายปี และยังมีฐานะในตระกูลพอสมควรเนื่องจากคอยรับ
ใช้มาหลายปี ผูห้ ญิงคนนั้นมองหน้าชายชรา ขณะกล่าวถามด้วยใบหน้า
ที่ไม่ค่อยจะเต็มใจ

" เจ้าคิดว่าข้าต้องการทําแบบนี้หรอ แต่เด็กบ้านั้นดันเป็ นเซี้ยนห


นามของตระกูล หม่า หากเราไม่ทาํ ตามคําสัง่ พวกเขาก็หาทางฆ่านางอยู่
ดี แล้วคนที่จะตายก็คือลูกของเรา เจ้าอยากให้นางตายหรื อลูกของเราล่ะ
" ชายชราตอบ

" บัดซบ!!! จริ งๆจะเลือกแบบไหนก็เป็ นเราที่ซวย หากใครรู ้


เรื่ องในวันนี้พวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน " ได้ยนิ คําพูดพวกนั้น หญิง
ชราเริ่ มด่าทอ แต่นางไม่ได้พดู ถึงการล้มเลิก ดูเท่านี้กร็ ู ้แล้วว่า นางได้
ตัดสิ นใจเลือกแล้ว

" แม้เราจะทําในเรื่ องผิดศีลธรรม แต่หากจะโทษ ก็เป็ นเพราะ


คุณหนูใหญ่น้ นั แหละ ต้องตําหนิที่นางจริ งจังเรื่ องความสัมพันธ์ของ
ตระกูลหลี่ และ ตระกูล หม่า อีกทั้งยังเลือกเป็ นผูถ้ ือกุญแจเปิ ดสมบัติ
ตอนนี้ ใกล้ถึงเวลาแล้วที่สมบัติจะถูกเปิ ดโดยสองตระกูล "

" แต่คุณหนูใหญ่ ไม่ยอมรับโดยไม่คาํ นึงถึงเหตุผล นางทําสิ่ งที่


นางไม่ควรทํา คือคิดจะต่อต้านพวกเขา ถึงขนาดที่เลือกคัดทหาร ที่มี
ความสามารถอีกทั้งยังหาคนที่นางไว้ใจ เห็นได้ชดั เลยว่านางมี
จุดประสงค์เพื่อเสริ มอํานาจให้กบั ตระกูลหลี่ และต้องการที่จะหุบเอา
สมบัติไว้เพียงผูเ้ ดียว "
" ดังนั้น ตระกูลหม่าจึงไม่พอใจกับการกระทําของนางมาก เขาจึง
วางแผนจัดการกับคุณหนูใหญ่ นั้นแหละเหตุผลที่ขา้ บอกว่า นางนั้น
รนหาที่ตาย!! "

" หากเป็ นแบบนี้ต่อไปโดยไม่จดั การคุณหนูใหญ่ ไม่ชา้ ก็เร็ ว ก็


จะเกิดสงครามระหว่างตระกูลหลี่ และ ตระกูลหม่า นั้นจะทําให้ผู ้
บริ สุทธิ์ถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้น การกระทําของเราในปั จจุบนั
สามารถพูดได้วา่ เรานั้นช่วยเหลือตระกูลหลี่ เมื่อเราทําเพื่อตระกูลหลี่
ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องตําหนิตวั เอง " ชายชราพูดจาฉะฉาน แต่คาํ
เหล่านั้นล้วนฟังดูเป็ นการทรยศต่อตระกูลของตัวเองอีกทั้งยังบอกว่าการ
กระทําของตัวเองคือความชอบธรรม

" สมบัติ ? " อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ถึงกับตาสว่างเมื่อได้ยนิ คําคํา


นั้น
ถ้าหุบเขาเขี้ยวหมาป่ า มีสมบัติ แล้วมันจะเป็ นสมบัติแบบไหน ? สิ่ ง
แรกที่ชูเฟิ งนึกคือ ทางเข้าหุบเขาเขี้ยวหมาป่ าที่ถูกซ่อนด้วยอํานาจจิต
วิญญาณ

มันอาจเป็ นไปได้วา่ มันได้ถูกค้นพบแล้ว ?

" ดูเหมือนว่า ข้าคงต้องเข้าไปยุง่ เรื่ องในวันนี้แล้วสิ นะ "

ตอนนั้น ชูเฟิ ง หันตัวกลับพร้อมกับพุง่ เข้าไปบริ เวณการต่อสู่ ระหว่าง


สัตว์มหึ มาและผูห้ ญิง เหตุการณ์ในวันนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับทางเข้าหุบ
เขาเขี้ยวหมาป่ า ที่ถูกซ่อนไว้ดว้ ยอํานาจจิตวิญญาณ
ถ้าพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับการรับรู ้อาํ นาจพลังฯ มันก็ตอ้ งเกี่ยวข้องกับ
สมบัติ เมื่อ ชูเฟิ ง ไม่สามารถหามันได้ดว้ ยตัวเอง เขาจึงตัดสิ นใจที่จะยืน่
มือเข้าไปยุง่ เรื่ องนี้

" เราไม่เคยมีความบาดหมาง เหตุใดเจ้าถึงจ้องที่จะสังหารข้าให้


ได้ ทําไม ? " หญิงสาว ถูกสัตว์มหึ มากดดัน นางจึงเอาแต่ถามสัตว์
มหึ มา แต่กไ็ ร้ประโยชน์ มันไม่มีการตอบสนองใดๆ อีกทัง่ มันยังคําราม
เสี ยงดังและเข้าโจมตีอย่างบ้าคลัง่

*** ปึ้ งงง *** หลังจากเสี ยงคํารามดังขึ้น ค้อนขนาดใหญ่ในมือของ


สัตว์หมึมากระแทกเข้าไปที่ตวั ของนางอีกครั้ง
ในช่วงเวลานั้น ผูห้ ญิงคนนั้นพยายามเอี้ยวตัวหลบ แต่นางก็ไม่สามารถ
ทําอะไรได้ ดัง่ อํานาจสวรรคค์ของนางไม่ทาํ ตาม ความเร็ วของนางไม่
ทันความคิดที่คาดการณ์เอาไว้ และมันก็เป็ นไปไม่ได้ที่นางจะหลบได้
ทัน
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////
A : นายว่าพี่เฟิ งมันจะปักธงอีกป่ ะว่ะ ???

B ; จะเหลือ หรอ มันปลอมตัวเป็ นชายวัยกลางคน ผูห้ ญิงคนนั้นไม่มี


ทางรู ้วา่ ชูเฟิ งจริ งๆแล้วเป็ นเด็ก

A : งี้กส็ นุกอ่ะสิ !!!

B : ไม่หรอก เป้าหมายชูเฟิ งคือสมบัติในหุบเขาเขียวหมาป่ า ในนั้น


เป็ นสมบัติที่เปี่ ยมไปด้วยพลังอํานาจ!!! อีกอย่างเขาก็ไม่เคยพบเห็นมัน
มาก่อน แต่จะเป็ นอะไรนั้น ต้องรอดู
A : ได้ยนิ ว่า ชูเฟิ งคิดจะช่วยตะกูลหลี่ สู ก้ บั ตระกูลหม่าหนิ

B : อื้มตระกูลหม่าเลวมาก ทรยศพี่นอ้ งร่ วมสาบาน สมควรตายหมื่น


ครั้ง
บทที่ 576 - ผิดปกติ

“ไม่นะ!!”

เมื่อเห็นค้อนขนาดยักษ์กาํ ลังฟาดลงมา ไม่ตอ้ งพูดว่ามันเหนือกว่าเธอ


เพียงใด เธอถึงกับร้องเสี ยงหลงออกมา

ไม่เพียงเท่านั้น ค้อนยักษ์ ยังมีแรงกดดันที่น่าเกรงขามด้วย ถ้าเธอโดน


มันแน่นอนเธอจะกลายเป็ นเนื้อบดที่อยูใ่ นกองเลือดอย่างแน่นอน ซึ่ ง
เป็ นเรื่ องที่เธอไม่สามารถทําใจรับได้
“ตอนนี้แหละ.”

แต่ในตอนที่หญิงคนนั้นกําลังเผชิญหน้ากับความตายนั้น คนที่ซ่อนอยู่
ในความมืด รอโอกาสที่จะปรากฏตัว คนคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชู
เฟิ ง

จากคําพูดของชายชราและหญิงชราคู่น้ นั ทําให้เขาได้รู้วา่ อย่าง ดังนั้นเขา


จึงเลือกที่จะช่วยผูห้ ญิงคนนี้ และเลือกตอนที่เธอกําลังตกอยูใ่ น
สถานการณ์อนั ตรายที่จะปรากฏตัว เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงความ
แข็งแกร่ ง
*วูบ*

เมื่อเวลานั้นมาถึงชูเฟิ งก็ไม่รอช้า รี บพุง่ เข้าไปราวกับมังกร ในตอนนั้นก็


มีประกายแสงปรากฏขึ้นในตาเขา กลิ่นอายของเขาพุง่ ขึ้นสู งถึระดับ 8
อาณาจักรสวรรค์

ชูเฟิ งลอยลงมาจากท้องฟ้า และยืนอยูด่ า้ นหน้าหญิงคนนั้น จากนั้นเขาก็


เหวีย่ งหมัดออกไปปะทะกับขวานยักษ์นน่ั

*ตูม* ในตอนนั้นก็เกิดการระเบิดขึ้นและพลังสวรรค์กก็ ระจายออกมา


และ ค้อนยักษ์น้ นั ก็ถูกทําลายโดยชูเฟิ ง
*โฮกกก* สัตว์มหึ มานัน่ ร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะพลังทําลายจาก
ค้อนนัน่ ถูกบีบให้ไหลย้อนกลับมา

เมื่อการโจมครั้งแรกประสบความสําเร็ จ ชูเฟิ งก็จดั ไปอีกดอก เขาระเบิด


พลังระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์ออกมาในรู ปแบบของแหขนาดยักษ์และ
ขัง สัตว์มหึ มาไว้ภายใน

*โฮก โฮกกกกก~~*

แรงกดดันของชูเฟิ งนั้นแข็งแกร่ งมาก และมันเหนือกว่าแม้กระทัง่ ระดับ


9 อาณาจักรสวรรค์ ดังนั้นด้วยพลังของชูเฟิ งเมื่อเทียบกับสัตว์มหึ มาตัว
นั้นแล้วก็เหมือนกับแมวเผชิญหน้ากับหนู ทําให้มนั ร้องด้วยความกลัว
และเริ่ มที่จะหนี
แต่ชูเฟิ ง นั้นไม่ปล่อยให้มนั ทําเช่นนั้น เขาปล่อยแรงกดดัน กดดันสัตว์
มหึ มาผ่านร่ างกายของมันและตรงเข้าไปยังวิญาณ

ภายใต้ความน่าเกรงขามนี้ ดวงตาของสัตว์มหึ มาก็เต็มไปด้วยความกลัว


จากนั้นร่ างกายของมันก็เล็กลงจากภูเขาขนาดย่อมๆไปเป็ นเสื อ และใน
ที่สุดคุกเข่าอยูบ่ นพื้นดินอย่างหดหู่

ในตอนนั้นสัตว์มหึ มาก็ไม่ได้แสดงท่าทางน่าเกรงขามเหมือนตอนแรก
มันคุกเข่าอยูต่ รงหน้าชูเฟิ งและไม่กล้าที่จะทําอะไร เห็นได้ชดั ว่า ชูเฟิ ง
สามารถปราบมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“นี่มนั …”
เมื่อเห็นเช่นนั้นเธอก็ตอ้ งตะลึง เพราะในตอนนั้นเธอคิดว่าเธอจะต้อง
ตายอย่างแน่นอนแล้ว แต่เธอไม่คิดว่าจะมีคนปรากฏตัวมาต่อหน้าเธอ
และมีพลังที่จะสามารถปราบสัตว์มหึ มาตัวนี้ได้

*วูบ วูบ*

หลังจากชูเฟิ งจัดการกับสัตว์มหึ มาแล้ว ทั้ง 2 ที่ซ่อนอยูก่ อ็ อกมา พวก


เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคู่รักวัยชรา

“ไอ้บดั ซบ เจ้ากล้าทําร้ายท่านหญิงของตระกูลข้าอย่างนั้นหรื อ”
ทั้งคู่ไม่เคยคิดว่าจะมีชายที่น่าเกรงขามเช่นนี้ปรากฏตัวออกมา แต่
อย่างไรก็ตามชูเฟิ งนั้นรู ้แผนของพวกเขาหมดแล้ว ดังนั้นเมื่อพวกเขาเผย
ตัวออกมา พวกเขาจะต้องโจมตีแบบฉับพลัน เพื่อฆ่าชูเฟิ งอย่างแน่นอน

“ฮึ่ม.” ด้วยพลังระดับ 8 ในอาณาจักรสวรรค์ในสายตาชูเฟิ ง


พวกเขานั้นอ่อนแอมาก เพียงชูเฟิ งแค่แค่นเสี ยงอย่างเย็นชาและสะบัด
แขนก็ก่อให้เกิด พลังสวรรค์เกิดขึ้นมา

ด้วยพลังสวรรค์น้ นั ดูเหมือนจะเป็ นพลังที่อ่อนโยน แต่มนั ก็เต็มไปด้วย


พลังที่แข็งแกร่ ง ทําให้ท้ งั คู่ไม่ทนั ได้ต้ งั ตัวและกระเด็นไปหลายเมตร
และได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่พวกเขานั้นไม่รู้กว่าความ พวกเขาจึงโดนชูเฟิ งสวนกลับมา ถ้าไม่ใช่
เพราะเขายั้งมือไว้ ทั้งคู่อาจจะตายไปแล้ว

อย่างไรก็ตามทั้ง 2 คิดว่าที่โดนโจมตีน้ นั เพราะเป็ นความประมาทของ


ตนเอง พวกเขาไม่เคยคิดถึงเรื่ องความ่ต่างของพลัง พวกเขารวมพลัง
ทั้งหมด และต้องการจะโจมตีชูเฟิ ง

“ลุง ชา ป้า ปี่ อย่าโจมตีเขาเขาเป็ นคนช่วยข้าไว้ ข้าเป็ นหนี้


บุญคุณเขา.” ในตอนนั้นหญิงวัยกลางคนก็พดู ขึ้น

หลังจากได้ยนิ ทั้งคู่กห็ ยุดการโจมตีอย่างไม่เต็มใจ แต่มนั ก็ไม่ใช่เรื่ องดีที่


จะโจมตีต่อไป พวกเขารี บเข้าไปหาหญิงวัยกลางคนและแกล้งทําเป็ น
กังวล และพูดว่า “นายหญิงท่านเป็ นอะไรหรื อเปล่า เป็ นความผิดพลาด
ของพวกข้าเองที่ทาํ ให้ท่านต้องเป็ นเช่นนี้.”
“ทั้งหมดนัน่ ต้องขอบคุณท่านผูม้ ีพระคุณที่มาช่วยข้าไว้ มิ
เช่นนั้นข้าไม่รอดหรอก.” ผูห้ ญิงคนนั้นพูดขึ้นมา แล้วเดินเข้าไปหาชู
เฟิ ง

ตอนแรกเธอมองไปที่ สัตว์มหึ มาที่จะฆ่าเธอก่อนหน้านี้ ที่อยูด่ า้ นหน้าชู


เฟิ ง และพูดด้วยความนับถือว่า, “ข้า หลี่ ชาน ขอบคุณที่ท่านช่วยข้า ข้า
ขอทราบนามของท่านผูม้ ีพระคุณจะได้หรื อไม่”

“หวูฉ่ ิง.” ชูเฟิ งไม่ได้มองไปที่หญิงคนนั้น เขาก้มตัวลงและจับตัว


สัตว์มหึ มา
สัตว์มหึ มาตัวนั้นอยูภ่ ายใต้คาํ สัง่ ของเขาโดยสมบูรณ์ และแม้ตอนนี้มนั
จะเหมือนกับแกะ แต่เขาก็รู้สึกถึงความกระหายเลือดของมัน

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////
A : ไอ้แก่ตอแหล คอยดูมืงจะไม่ได้ตายดี!!!

B : หื อกับใครไม่หือ มาหื อกับพีห่ วูฉ่ ิ ง

C : จะแน่สกั แค่ไหน ผูน้ าํ ตระกูลหม่า เป็ นถึงผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักรจ้าว


สงคราม มีหรื อจะแพ้เฟิ ง

A : พี่เฟิ งชนะแน่!!! กูเชื่อแบบนั้น ไม่เพียงแต่จะฆ่าล้างตระกูลหม่า ยัง


จะได้สมบัติท้ งั ตระกูลพร้อมกับสมบัติในหุบเขาเขี้ยวหมาป่ า เผลอๆได้
อํานาจจิตวิญญาณหมาป่ าอมตะ จนทําให้เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อชุดม่วงก็ได้
B : แต่มีคนสปอยว่า ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ไม่เชื่อ ชูเฟิ งพูดหนิ ว่าตระกูลหม่า
คิดจะทรยศ เลยจะฆ่าชูเฟิ ง เพราะบอกว่าชูเฟิ งวางแผนร้ายทําลายสอง
ครอบครัว คิดจะหุบสมบัติ

A : ก็ไม่ยาก ฆ่าแม่งให้หมด!!!
บทที่ 577 - อุบาย

“ท่านผูม้ ีพระคุณท่านบอกว่า เจ้าสัตว์มหึ มานี่แปลกไปอย่างนั้น


หรื อ มันเป็ นยังไงบอกข้าได้หรื อไม่” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น หลี่ชาน ก็ถาม
ด้วยความอยากรู ้อยากเห็น

เธอรู ้วา่ สัตว์มหึ มานี่แปลกไป เพราะมันไม่ใช่สตั ว์ร้าย มันมีความนึกคิด


และมีเหตุผล แต่เจ้าตัวนี้น้ นั มันเหมือนกับสัตว์ร้ายมันจ้องจะเอาชีวติ เธอ
อย่างเดียว ทําให้เธอคิดว่าเรื่ องนี้ตอ้ งมีเงื่อนงํา
“ข้าจะบอกท่าน แต่ท้ งั 2 ต้องไม่อยูใ่ กล้ขา้ .” ชูเฟิ งพูดและมอง
ไปที่ คู่รักวัยชราอย่างเย็นชา

“เจ้าพูดอะไร ลองพูดมาสิ ถา้ เจ้ากล้า …” เมื่อได้ยนิ คําพูดของชู


เฟิ ง คู่รักวัยชรานั้นก็กดั ฟันตัวเอง และใบหน้าของเขาแดงกํ่า

“ท่านลุงชา ท่านป้าปี่ โปรดสุ ภาพด้วย เขาเป็ นคนที่ช่วยชีวติ ข้า


เอาไว้.” แต่ก่อนที่พวกเขาจะพูดจบ หลี่ ชาน ก็พดู ขึ้นมา, “พวกท่านทั้ง
สองออกไปก่อน.”

“คุณหนู เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชายคนนี้เลย ถ้าพวกเราปล่อยให้


ท่านอยูค่ นเดียวข้าเกรงว่าท่านจะไม่ปลอดภัย.” ชายชราพูดขึ้นด้วย
นํ้าเสี ยงกังวล
“ถูกต้อง คุณหนู เขาเป็ นใครมาจากไหนเราก็ไม่รู้บางทีเขาอาจจะ
เกี่ยวข้องกับสัตว์มหึ มาก็ได้” หญิงชรา พูดเสริ ม

“ไม่ตอ้ งกังวลไป ข้าเชื่อ หวูฉ่ ิ ง.” หลี่ ชาน พูดพร้อมรอยยิม้

คู่รักวัยชราไม่สามารถพูดไรต่อได้ เมื่อ หลี่ ชาน ยืนกรานเช่นนั้น ดังนั้น


พวกเขามองไปที่ชูเฟิ ง และพูดว่า, “เจ้าเด็กเหลือขอ จะทําอะไรก็คิดให้
ดีดีดว้ ย นี่คือพื้นที่ของตระกูล หลี่ของข้า ถ้าเจ้ากล้าทําอะไรคุณหนูใหญ่
ของตระกูลข้าอย่างหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่เลย.” หลังจากพูดจบทั้ง
2 ก็จากไป

“โห้.” ชูเฟิ งยิม้ เหยียด กับคําพูดของพวกเขา โดยปกติ ถ้าเขา


อาจจะคิดว่าเป็ นการเตือน แต่สาํ หรับเขาที่ได้รู้อะไรบางอย่างมานี่เขาจึง
รู ้วา่ มันเป็ นการขู่

“ท่านผูม้ ีพระคุณ ข้าอยากรู ้วา่ ท่านรู ้อะไร บอกข้าได้หรื อไม่”


หลังจากคู่รักวัยชราออกไป หลี่ ชานก็ถามอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามชูเฟิ งไม่โดนตอบ และตะโกนเสี ยงดังว่า “ เจ้าแก่ท้ งั 2


เจ้ากล้าแอบฟัง พวกเจ้ายังมีความละอายหลงเหลือหรื อไม่”

“บัดซบ บัดซบจริ งๆ มันเป็ นใครมาจากไหนกัน ถึงรู ้วา่ พวกเรา


แอบอยูท่ ี่นี่ อย่าบอกนะว่ามันเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ” หลังจากที่ได้
ยินชูเฟิ งพูด ชายแก่กบ็ ่นออกมาเบาๆ
“ตาแก่เราจะทํายังไงดี เจ้าหนุ่มนี่ไม่ธรรมดาเสี ยด้วย เขาคงไม่ได้รู้
อะไรเกี่ยวกับเราใช่หรื อไม่” หญิงชรา พูดด้วยความกังวล

“ตอนนี้เรายังทําอะไรไม่ได้ เราไม่สามารถโจมตีมนั ต่อหน้า


คุณหนูใหญ่ได้ เจ้าหนุ่มคนนี้มนั มีพลังไม่นอ้ ยด้วย เราอาจจะฆ่ามันได้
แต่ถา้ เราทําให้คุณหนูใหญ่โกรธเราก็ตอ้ งเผชิญกับผลที่ตามมา.”

“เจ้าเด็กเหลือขอนัน่ ต้องมีความสามารถบางอย่าง แต่เราก็ไม่ตอ้ ง


กังวลมากหรอก เพราะคนที่ทาํ ให้สตั ว์มหึ มาคลัน่ เป็ นตระกูลหม่า ไม่วา่
เจ้าเด็กนัน่ จะแข็งแกร่ งแค่ไหน อย่างมากมันก็เห็นแค่ความแปลกไปของ
สัตว์มหึ มานัน่ แต่ไม่สามารถสื บเรื่ องของมันได้หรอก.”

“นอกจากนี้ แม้สตั ว์มหึ มานัน่ จะกลับเป็ นปกติ แต่มนั ก็ไม่รู้


เกี่ยวกับพวกเรา ไม่ตอ้ งกังวลเรื่ องแรกที่ตอ้ งทําคือไปรายงานกับตระกูล
หม่าและถามถึงแผนการของพวกเขา ถ้าเลวร้ายที่สุดเราอาจจะต้อง
จัดการกับเจ้าเด็กเหลือขอนัน่ กับคุณหนูใหญ่เอง เรื่ องเจ้าเด็กนัน่ เรา
อาจจะต้องทําอะไรบางอย่าง.” หลังจากที่ชายชราพูดจบ ก็พงุ่ จากไป

“อ๋ า~” หญิงชรามองไปที่ชูเฟิ งอีกครั้งก่อนจะตามชายชรานั้นไป

“ข้ารับใช้ 2 คนของท่านดูเหมือนจะไม่ซื่อสัตย์กบั ท่าน” หลังจาก


เห็นว่าคุ่รักวัยชรานั้นได้จากไปแล้ว ชูเฟิ งก็พดู ขึ้นมา

“โห้.” หลี่ ชาน เป็ นคนฉลาดดังนั้นจึงรู ้วา่ เกิดอะไรขึ้น แต่ชาย


แหละหญิงชรานั้นเป็ นคนจากตระกูลหลี่ของ เธอจึงได้ยมิ้ อย่างขมขื่น
“เจ้าสัตว์มหึ มานัน่ ดูเหมือนถูกวางยา และ ก็ถูกผนึกความมีเหตุผล
ด้วยรู ปแบบวิญญาณที่วเิ ศษ ดังนั้น นี่เป็ นเหตุผลว่าทําไมมันถึงคลัง่ .”

“นัน่ หมายความว่าเรื่ องทั้งหมดนั้นถูกจัดฉากขึ้นเพื่อรอท่านมายังที่


แห่งนี้.”

“เรื่ องที่ท่านมายังที่แห่งนี้ และ คนที่รู้วา่ ท่านจะมาที่นี่คือใคร ข้า


คิดว่าท่านจะรู ้คาํ ตอบอยูแ่ ล้วใช่หรื อไม่”

“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะบอกท่านว่าข้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ และ


ในขณะที่ สัตว์มหึ มาโจมตีท่านอยู่ ข้าก็ได้เห็นชายชราและหญิงชรานัน่
กําลังหลบซ่อนตัวและคอยดูอยู.่ ”
“แน่นอนพวกเขาเป็ นคนสนิทกับท่าน และ ข้าเป็ นคนแปลกหน้า
ถ้าท่านเชื่อข้า ท่านก็ตอ้ งระวังพวกเขาในอนาคต แต่ถา้ ไม่ ข้าจะไม่บอก
อะไรกับท่านเลย.” ชูเฟิ งพูด

ในตอนนั้น หลี่ ชานก็เงียบ และท่าทางของเธอก็เปลี่ยนแปลงทันที


ดวงตาของเธอบ่งบอกถึงความไม่สบายใจและความกลัว

ในความจริ งแล้ว ก่อนที่ชูเฟิ งจะพูดเธอก็พอจะเดาได้ เพราะว่าทั้ง 2 นั้น


เป็ นคนพาเธอมาที่นี่ และหลังจากพาเธอมาพวกเขาก็หายไป

เมื่อเธอกําลังปะทะกับสัตว์มหึ มา ไม่วา่ เธอจะตะโกนดังเท่าไหร่ ทั้ง 2


ก็ไม่ปรากฏตัวออกมา แต่หลังจากสัตว์มหึ มาถูกปราบแล้วพวกเขาก็
ปรากฏตัวออกมา ทําให้เธอสู ญเสี ยความเชื่อใจไม่นอ้ ย

ในตอนนี้ คําพูดของชูเฟิ งนั้น ทําให้เธอเชื่อว่า ทั้ง2 นั้นทรยศตระกูลหลี่

“พวกเราพบกันโดยบังเอิญ และข้าไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นเพราะท่าน
ข้าแค่กงั วลว่า สัตว์มหึ มาตัวนั้นจะไปทําร้ายผูอ้ ื่น และที่ขา้ บอกท่านเรื่ อง
นั้นเป็ นเพราะข้าเห็นท่านเป็ นคนดี ข้าไม่ตอ้ งการเห็นคนดีได้รับอันตราย
จากคนอื่น.”

“ดังนั้นท่านไม่จาํ เป็ นต้องขอบคุณข้า และปล่อยให้มนั จบตรงนี้


เถิด.” เมื่อเห็นว่าหลี่ ชานนั้นกําลังกลัวเขา ชูเฟิ งจึงยิม้ แล้วพูดออกมา
“ท่านผูม้ ีพระคุณอย่างพึ่งไป!” ในตอนนั้นชูเฟิ งก็ถูกรั้งไว้ ใน
ตอนที่เขากําลังจะไปนั้น หลี่ ชาน ก็พดู ขึ้นมาและมาดึงมือของเขาเอาไว้

“ท่านหญิง หลี่ ชายแปลกหน้าและหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน


ท่านทําอะไรของท่าน” ชูเฟิ งดึงมือเขาออกมา และเขาไม่ได้ทาํ ท่าทาง
อะไร

“ท่านผูม้ ีพระคุณ ข้าขอโทษ ข้าแค่หงุดหงิดเล็กน้อย.”

“แต่ถา้ ช่วยเป็ นคนดีจนถึงท้ายที่สุด และช่วยข้าได้หรื อไม่ ช่วย


ตระกูลหลี่ของข้าด้วย หากท่านช่วยข้า ข้าจะตอบแทนท่านอย่างงาม”
หลังจาก หลี่ ชาน ปล่อยมึงชูเฟิ ง เธอก็ดึงเสื้ อของเขาและคุกเข่าลง
“ท่านหญิง หลี่ อย่างทําเช่นนี้ ถ้าท่านต้องการพูดอะไรก็พดู มาเถิด
มันดูเหมือนจะมีภยั พิบตั ิจะเกิดขึ้น มันจะมีอะไรเกิดขึ้นนั้นหรื อ ท่าน
บอกข้าได้หรื อไม่.”

“ข้าหวูฉ่ ิง นั้นไม่ใช่ยอดวีรบุรุษ พูดตามตรงข้าไม่ได้เป็ นคนดีขา้ ก็


เป็ นคนเลวคนหนึ่งเหมือนกัน.”

“ดังนั้นถ้าให้ขา้ ช่วยท่านข้าก็จะลองดู สําหรับผลตอบแทนนั้น ถ้า


ข้าช่วยท่านได้ ค่อยพูดถึงมันก็แล้วกัน.”หลังจากได้ยนื เรื่ องผลตอบแทน
ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนทันที ในตอนนี้เขาเหมือนเป็ นนักธุรกิจ

แต่ความจริ งแล้วเขาต้องการให้หลี่ ชาน เห็นว่า เขานั้นเป็ นคนที่เห็นแก่


ผลประโยชน์
แน่นอนว่าเป้าหมายของชูเฟิ งนั้นไม่ใช่ค่าตอบแทนจากตระกูลหลี่ แต่
มันเป็ นสมบัติที่ตระกูลหลี่ และ ตระกูลหม่า พูดถึง

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////////////////////////////////////////

A : คุณหนูใหญ่กไ็ ม่ได้โง่หนิ!!!

B : อย่างว่าเราไม่ควรมองข้ามความหวังดีของใคร หากผูห้ ญิงคนนั้น


เลือกจะเชื่อคนใช้ จุดจบคงไม่พน้ หายนะ

A : อื้ม แต่พอ่ คุณหนูใหญ่หวั แข็ง ไมคิดว่าพี่นอ้ งจะมาทรยศ จึงต้อง


จ่ายราคาที่เหมาะสม สําหรับความโง่ แล้วมาดูกนั ต่อว่า ชูเฟิ งจะแก้
สถานการณ์ยงั ไง
บทที่ 578 - เหตุการณ์เฉพาะหน้า

“นี่…” .ในตอนนี้ หลี่ ชาน รู ้ตวั ว่ามีอนั ตรายกําลังซ่อนอยูท่ ุก


ทิศทาง เธอจึงไม่โง่บอกเรื่ องความลับเกี่ยวกับตระกูลของเธอให้กบั คน
ที่พ่ งึ เคยพบ

แต่ถา้ ชูเฟิ งจากไป และ คนชราคู่น้ นั ทรยศเธอ เธอต้องตายอย่างแน่นอน


ในตอนนี้เธอจึงตกอยูใ่ นสถานการณ์ที่ลาํ บากใจ

“พูดตามตรง ข้าสามารถถอนพิษให้กบั สัตว์มหึ มาได้ มันต้อง


ได้รับยามากพอสมควร ในตอนนั้นเราก็อาจจะสอบถามมันได้วา่ ใคร
เป็ นคงวางยามันหรื อมันไปเจอใครมาก่อนหน้านี้ เมื่อได้รู้เรื่ องนั้นแล้ว
ท่านก็จะได้รู้วา่ ใครกันที่โจมตีท่าน ด้วยหลักฐานชิ้นนี้.”
“แน่นอน ถ้าท่านไม่เชื่อข้า ข้าก็ไม่วา่ อะไร เพราะข้าไม่ได้สนุก
กับการบีบให้คนจนมุมนักหรอก.”ชูเฟิ งพูดพร้อมกับยิม้ จากนั้นเขาก็หนั
หลังกลับ และมีท่าทีจะจากไป

“ท่านผูม้ ีพระคุณ อย่าพึ่งไป!” เห็นเช่นนั้นหลี่ ชาน ก็มาดึงแขน


เสื้ อของเขาอีกครั้ง แล้วพูดว่า “ข้าเชื่อท่าน ได้โปรดช่วยข้าด้วย”

“ที่แห่งนี้ไม่สมควรที่จะคุยเรื่ องนี้ ตามข้ามา.” เห็นเช่นนั้น หลี่


ชานก็ตอบตกลง จากนั้นก็มีมงั กรฟ้าปรากฏขึ้นมาใต้เท้าของเขาในเวล
เดียวกัน เขาก็ได้พาหลี่ ชาน ขึ้นมาบนมังกรและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
และออกจากระยะของเทือกเขาเขี้ยวหมาป่ า

“ท่านผูม้ ีพระคุณ ท่านใช้ทกั ษะอะไรกัน มันช่างรวดเร็ วยิง่ นัก ข้า


ไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน.” หลังจากรู ้สึกถึงพลังของ มังกรฟ้า
ทะยาน ใบหน้าของหลี่ ชานก็เต็มไปด้วยความงงงวย และแม้วา่ ระดับ
พลังของเธอจะสู งกว่าของชูเฟิ ง แต่เธอรู ้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้านั้นมี
ความแข็งแกร่ งอย่างมากและไม่สามารถที่จะคาดเดาได้

ชูเฟิ งได้แค่ยมิ้ เบาๆเมื่อหลี่ชานยกย่องเขา ที่เขาใช้ทกั ษะเช่นนี้กเ็ พราะ


สร้างความน่าเชื่อถือให้กบั หลี่ ชาน ให้เธอเชื่อว่าเขาสามารถช่วยเธอได้

ดังนั้นชูเฟิ งจึงไม่ได้พดู อะไรแล้วพูดว่า “บอกข้ามา เกิดอะไรขึ้นกับ


ตระกูลของท่าน”

ในตอนแรก หลี่ ชาน ก็ลงั เลอยูค่ รู่ หนึ่ง จากนั้นก็ตดั สิ นใจที่จะบอกกับชู


เฟิ ง
เรื่ องมันเริ่ มต้นขึ้นเมื่อ 500 ปี ที่แล้ว

เมื่อ 500 ปี ก่อน บรรพชนตระกูลหม่า และ บรรพชนตระกูลหลี่ นั้นมี


ชาติกาํ เนิดที่ยากจนมาก อาศัยการภาวนาและโชคชะตาในการบ่มเพาะ
ในภูมิภาคทะเลตะวันออกจนได้กลายเป็ นผูฝ้ ึ กตน แต่ พรสวรรค์ของ
พวกเขานั้นก็ธรรมดามาก พวกเขาติดอยูท่ ี่ระดับ ห้วงวิญญาณและไม่มี
ท่าทีจะผ่านไปได้

ระดับห้วงวิญญาณ ในภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้น ถือว่าอ่อนหัดอย่าง


มาก ดังนั้นพวกเขาอาจนับได้วา่ เป็ นพวกกระจอก โดยปกติแล้ว บรรพ
ชนตระกูลหม่า และ บรรพชนตระกูล หลี่ นั้นไม่สามารถสร้างชื่อเสี ยง
ได้โดยมีระดับพลังแค่หว้ งวิญญาณ
พวกเขา ในตอนนั้น ด้วยความยากจนจึงไม่ได้แต่งงานมีภรรยาและถูกดู
ถูกโดยคนอื่น พวกเขาจึงสาบานเป็ นพี่นอ้ งกันและอาศํยกันและกัน
เพื่อนมีชีวติ รอด และ มีชีวติ โดยการอาศัยการล่าสัตว์ในเทือกเขาเขี้ยว
หมาป่ า

แต่วนั หนึ่ง พวกเขาก็พบคนบาดเจ็บในภูเขาเขี้ยวหมาป่ า พวกเขารู ้วา่ ชาย


คนนั้นเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญในระดับหนึ่ง และพวกเขาก็ได้ช่วยชายคนนั้นไว้
และนัน่ เป็ นสิ่ งที่เปลี่ยนชะตาของพวกเขา หลังจากพวกเขาพาชายคนนั้น
กลับไปที่บา้ นและดูแลเขาเป็ นเวลากว่า 3 ปี

มันเป็ นดัง่ สุ ภาษิตที่วา่ : “ผูท้ ี่กระทําด้วยใจจริ งย่อมไม่เกิดความผิดหวัง”.


ในวันหนึ่ง ในฤดูใบไม้ร่วงชายคนนั้นก็ฟ้ื นขึ้นมาและนอกจากนี้กไ็ ด้ใช้
ยาและความสามารถบางอย่างทําให้ร่างกายฟื้ นฟูอย่าง
เขาขอบคุณทั้ง 2 ที่ช่วยชีวติ เขาไว้และให้สมบัติจาํ นวนมากกับพวกเขา
และ พร้อมกับให้ทรัพยากรจํานวนมาก

ก่อนที่เขาจะจากไป เขาไม่เพียงใช้ทกั ษะช่วยให้ท้ งั 2 นั้นเลื่อนระดับ


จากห้วงวิญญาณไปยังระดับอาณาจักรสวรรค์ เขายังบอกอีกว่ามีสมบัติ
พิเศษถูกซ่อนอยูใ่ นเทือกเขาเขี้ยวหมาป่ านี้ อีกด้วย

แต่ในตอนนั้นมันยังไม่ถึงเวลาและสมบัติน้ นั ก็ยงั ไม่สามารถใช้ได้ ถ้า


ปล่อยให้เวลาผ่านไปพอสมควร สมบัติน้ นั ก็จะมีปัญญาเป็ นของตน และ
ได้รับพลังที่แข็งแกร่ งมาก และ มันก็ยากที่จะได้รับมันด้วย

ดังนั้นผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับจึงวางรู ปแบบพิเศษผนึกมันไว้ และ ปกปิ ด


ทางเข้าของมัน และได้ทิ้งกุญแจไว้ให้กบั พรรชนตระกูลหม่า และ
ตระกูลหลี่

ก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้บอกทั้ง 2 ว่าให้เปิ ดรู ปแบบวิญญาณนี้เมื่อ


ผ่านไป 500 ปี แล้ว ในตอนนั้พวกเขาจะได้รับประโยชน์จากมัน แต่
ถ้าพวกเขารี บไปหรื อช้าไป พวกเขาก็จะไม่ได้อะไรเลย

หลังจากผูเ้ ชียว่ ชาญลึกลับจากไป และด้วยพลังของทั้ง 2 ที่สูงส่ งนั้นไม่


เพียงพวกเขาได้แต่งงานมีภรรยา พวกเขายังได้กลายเป็ นคนมีชื่อเสี ยงอีก
ด้วย

แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์หลังจากผ่านไป ไม่กี่10ปี จุดจบของพวกเขาก็


มาถึง พวกเขาไม่สามารถรอจนถึง 500 ปี และเห็นสมบัติลึกลับที่ถูก
ผนึกได้
ก่อนตายเขาได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อครอบครองเทือกเขาเขี้ยวหมาป่ า และ
บอกกับผูส้ ื บทอดเกี่ยวกับสมบัติน้ นั และบอกให้พวกเขาทําตามคําที่ชาย
ลึกลับนั้นบอกว่าให้เปิ ดรู ปแบบนั้นเมื่อถึงเวลา

ในปัจจุบนั นี้ 500 ปี ได้ผา่ นไป ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ตระกูลถือว่า


ดีมาก พวกเขาสามารถเปิ ดรู ปแบบเพื่อสมบัติที่ถูกซ่อนอยูใ่ นเทือกเขา
เขี้ยวหมาป่ าได้

แต่ หลี่ ชานนั้นไม่ได้เชื่อใจ ประมุขตระกูล หม่าและรู ้สึกว่าเขามีความ


โลภในใจของเขา นอกจากนี้เขาได้ใช้เงินจํานวนมากจ้างผูเ้ ชี่ยวชาญด้วย
ในปัจจุบนั นี้ตระกูลหม่านั้น นับว่าเหนือกว่าตระกูล หลี่ แล้ว
ถ้าพวกเขาไปเปิ ดทางเข้าสมบัตินน่ั เธอกังวลว่า ตระกูลว่านั้นจะใช้
โอกาสนั้นทําลายตระกูลหลี่ และครอบครองสมบัติ.

ดังนั้น หลี่ ชาน จึงปฏิเสธที่จะเปิ ดสมบัติของพวกเขาและยังจ้าง


ผูเ้ ชี่ยวชาญให้มาเข้าร่ วมตระกูล หลี่ ของเธอด้วย

หลี่ชาน โกรธตระกูลหม่าอย่างมากในเรื่ องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถ้าไม่ได้ชู


เฟิ ง เธออาจจะต้องตายอย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้น หลี่ ชาน จึงคิดว่าเรื่ อง สัตว์มหึ มาตัวนั้น ต้องเป็ นฝี มือของ


ตระกูลหม่า และ คู่รักชรานั้นก็อาจจะถูกซื้ อตัวไป
“พูดตามตรงข้าได้ยนิ การสนทนาจาก ทั้ง 2 นัน่ และมันเป็ น
อย่างที่ท่านคาดเดา ตระกูลหม่าวางแผนที่จะฆ่าท่าน และใช่ท้ งั 2 นัน่
ถูกซื้อตัวไปแล้ว และเหตุผลคือลูกชายของพวกเขาถูกลักพาตัวไป และ
ตระกูลหม่าได้ใช้ลูกชายของพวกเขาบีบบังคับพวกเขา.” หลังจากได้ยนิ
เรื่ องที่เกิดขึ้น ชูเฟิ งก็ยมิ้ และมองไปที่ หลี่ชาน เขารู ้วา่ เธอนั้นมาถึงทาง
ตันและต้องขอให้เขาช่วย

และเมื่อได้ยนิ ชูเฟิ งพูด หลี่ ชาน ก็ตอ้ งขมวดคิ้วแน่น และกําลังกังวลกับ


เรื่ องนั้น เพราะ คู่รักวัยชรา คู่น้ นั มีลูกชายที่น่าผิดหวังมาก

“ท่านผูม้ ีพระคุณช่วยข้าด้วย เมื่อท่านพาข้ากลับไปยังตระกูลหลี่


ได้ ข้าจะตอบแทนท่านอย่างงาม!” หลี่ ชาน ขอร้องชูเฟิ ง

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ งก็ยมิ้ และมองไปที่ หลี่ ชาน และพูดว่า “ ข้าสามารถ


พาท่านกลับไปตระกูลหลี่ได้ และท่านสามารถบอกความจริ งกับตระกูล
ท่านได้อย่างนั้นหรื อ ท่านมัน่ ใจว่าพวกเขาจะเชื่อท่านอย่างนั้นหรื อ
แม้วา่ พวกเขาจะเชื่อท่านแล้วพวกเขาจะสามารถต่อต้านตระกูลหม่าได้
หรื อ”

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
A : เชื่อป่ ะว่า คนที่บรรพชนตระกูลหลี่ ตระกูลหม่า ช่วยไว้ ยังไม่
ตาย!!!

B : เชื่อ!!! จําได้วา่ มันยังมานัง่ คุยกะ ชูเฟิ ง อยูเ่ ลย ก็อย่างว่าอ่ะนะ เขา


อยากจะมอบพลังให้ลูกหลานคนที่เคยมีบุญคุณ แต่ลูกหลานสองตระกูล
นี้ ไม่เอาไหน อีกคนโลภมาก อีกคนโง่ดกั ดาน สุ ดท้ายก็ตอ้ งมอบพลัง
ให้แก่ผมู ้ ีความสามารถ อีกทั้งยังรอให้ ชูเฟิ ง ไปพบเขาที ดินแดน
สงครามศักดิ์สิทธิ์
A : เออนี้ เค้าว่า 9 อาณาจักร กระจอก แต่เราว่า ทะเลตะวันออก
กระจอกกว่านะ ในแง่ การวางรู ปแบบตราประทับ การวาดสัญลักษณ์
การปลดผนึก การสร้างผนึก คนของ 9 อาณาจักรเหนือกว่ามาก ยิง่ ผู ้
ก่อตั้งมังกรฟ้า นี้นบั ว่าสุ ดยอด แต่ที่ทะเลตะวันออกรู ้สึกว่า ชูเฟิ ง เก่งสุ ด
ล่ะ

B : น่าจะเป็ นแบบนั้น ขนาดผูเ้ ชื่อมต่อชุดม่วง ในทวีปนี้ ยังไม่มี


ปัญญาเอาชนะ ชูเฟิ งได้เลย แต่ในแง่ของระดับพลังวิญญาณ ก็ตอ้ ง
ยอมรับอ่ะ ว่าทะเลตะวันออกเหนือกว่ามาก แต่ถา้ จะสู ก้ นั ด้วยทักษะ
อํานาจพลังฯ ไม่มีทางเอาชนะ ชูเฟิ ง ได้เลย ต่อให้เป็ นตราประทับที่
โครตซับซ้อน แม่งถอดสัญลักษณ์ดว้ ยเนตรสวรรค์

C : ใช้หรอ!!! เห็นมีอยูต่ อน โดนผูห้ ญิงจับมัด แล้วขังไว้ในรู ปแบบ


สัญลักษณ์ผนึกหาทางออกไม่เจอเลยหนิ!!!

A : ยังไงมันก็หาทางออกได้แล้วกันล่ะ!!!
B : ถูกต้อง สุ ดท้ายโดนพี่เฟิ งจับกดด้วยล่ะ!!! ขนาดพี่เฟิ งแบบ เมตตา
สตรี สุดๆล่ะนะ ใครที่ทาํ ให้พี่เฟิ ง ตบได้ นี่แบบว่าสุ ดๆ
บทที่ 579 - สําเร็ จ

“ข้า…” ในตอนนั้น หลี่ ชานอํ้าๆอึ้งๆ หลังจากนั้นเธอก็พดู


ออกมาว่า “ ในปี นี้ตระกูลหม่าจ้างผูเ้ ชี่ยวชาญมา และ พัฒนาคนของ
พวกเขาอย่างฟุ่ มเฟื อย ในด้านพลังตระกูลหลี่ของข้านั้นด้อยกว่าตระกูล
หม่า.”

“อย่างไรก็ตาม ตระกูลหม่านั้นไม่เคยกล้าโจมตีตระกูลหลี่ของข้า
พวกเขานั้นรักษาสัมพันธ์อนั ดีกบั พวกเรามาตลอด ข้าคิดว่าที่เป็ นเช่นนั้น
เพราะเขากลัวท่านพ่อของข้า.”

“พ่อของข้านั้นอยูใ่ นระดับ จ้าวสงคราม แต่ระดับ 1 จ้าวสงคราม


เท่านั้น อย่างไรก็ตาม พลังของเขานั้นไม่ใช่อะไรที่ระดับอาณาจักร
สวรรค์จะต่อกรได้ ต่อให้มีผเู ้ ชี่ยวชาญระดับอาณาจักรสวรรค์หลายพัน
คน พ่อของข้าก็ฆ่าได้อย่างง่ายดาย.”

“เมื่อมองไปที่ ตระกูลหม่า พวกเขามีผเู ้ ชี่ยวชาญแค่หยิบมือ มี


เพียง ผูน้ าํ ตระกูลหม่าเท่านั้นที่อยูใ่ นระดับ 1 อาณาจักรจ้าวสงคราม”

“ผูน้ าํ ตระกูลหม่า ก็เหมือนพ่อของข้า ถ้าเขาสู ก้ นั ผลที่ออกมานั้น


ยากที่จะคาดเดา แต่ถา้ ผลออกมาจากการต่อสู ข้ องทั้ง 2 นั้นนับได้วา่ คือ
ชัยชนะของตระกูลนั้นเลย.”

“ดังนั้น ตอนนี้ขา้ จึงไม่กงั วลเรื่ องที่ตระกูลหม่า จะโจมตีตระกูลหลี่


ของข้า เรื่ องที่ขา้ กังวลคือเรื่ องเกี่ยวกับพ่อของข้า.”
“พ่อของข้า และผูน้ าํ ตระกูลหม่านั้น เป็ นพี่นอ้ งร่ วมสาบานกัน
พวกเขาโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เขาเชื่อใจผูน้ าํ ตระกูลหม่าอย่างสมบูรณ์
แบบ และในสายตาเขาพี่นอ้ งของเขานั้นสําคัญกว่าตระกูล.”

“ดังนั้นข้าคิดว่าถ้าข้าไปบอกเขาเรื่ อง ตระกูลหม่าเห็นแก่ตวั ไม่


เพียงแค่เขาจะโกรธ เขายังจะลงโทษข้าอีกด้วย เว้นแต่ …”

“เว้นแต่มีหลักฐานใช่หรื อไม่” ชูเฟิ ง พูดขึ้น

“อืม ต่อให้พอ่ ของข้านั้นจะสนเรื่ องความสัมพันธ์เพียงใด เขาก็


ไม่ใช่คนที่โง่เขลา ถ้ามีหลักฐานให้เห็นถึงตระกูลหม่าที่จอ้ งจะทําร้ายข้า
มันก็คงจะดี.” หลี่ ชานพยักหน้า
“มันง่ายมาก ยกตัวอย่างเช่น สัตว์มหึ มาตัวนี้ เหตุผลก็คือมันเป็ น
เพราะพลังของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ ถ้าเจ้าให้เวลาข้าสักหน่อย ข้า
สามารถทําให้มนั เป็ นเหมือนเดิมได้ แล้วตอนนั้นเรื่ องราวก็ปรากฏขึ้น.”

“นอกจากนี้ในสถาการณ์แบบนี้ เราก็ไม่มีทางเลือกมากหรอกนะ
ข้าแนะนําให้ท่านบอกกับท่านพ่อของท่านให้ร่วมมือกับตระกูลหม่า
เปิ ดขุมทรัพย์เสี ยดีกว่า.” ชูเฟิ ง พูด

“อะไรนะเปิ ดขุมทรัพย์อย่างนั้นหรื อ” ได้ยนิ เช่นนั้นเธอก็ตกใจ


มาก, “ท่านผูม้ ีพระคุณ สมบัติเหล่านี้เป็ นของผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับ พวกมัน
มีปัญญาเป็ นของตัวเองและพวกมันแข็งแกร่ งอย่างมาก ถ้าระดับไม่ถึง
จ้าวแห่งสงคราม ก็ไม่มีทางปราบมันได้หรอก .”
“ดังนั้นก็จึงกังวลว่า ถ้าพวกเราเปิ ดขุมทรัพย์แล้ว ตระกูลหม่าจะ
หลอกใช้พอ่ ของข้า นี่เป็ นเหตุผลที่ขา้ เลือกจะเปิ ดขุมทรัพย์ล่าช้า.”

“ท่านทําผิดแล้ว ถ้าท่านทําเช่นนี้ต่อไป ท่านจะไม่สามารถยื้อมัน


ออกนานได้หรอก เพราะไม่เพียงพ่อของท่าน แม้แต่ผนู ้ าํ ตระกูลหม่า ก็
ถูกสัง่ มา มันเป็ นคําสัง่ ของ บรรพชนของพวกท่าน.”

“ท่านสามารถเปลี่ยนคําสัง่ ได้หรื อ ท่านสามารถทําให้พอ่ ของท่าน


ต่อต้านกับคําสัง่ ได้อย่างนั้นหรื อ ” ชูเฟิ งถาม

“ข้า…” หลี่ ชาน พูดไม่ออก เธอไม่รู้วา่ จะตอบชูเฟิ งอย่างไร


เพราะที่ชูเฟิ งพูดมันถูกทั้งหมด
“แต่ถา้ ท่านปล่อยให้พอ่ ของท่านรู ้วา่ ตระกูลหม่าเห็นแก่ตวั ได้
ก่อนที่จะเปิ ดขุมทรัพย์ เมื่อมันเปิ ดแล้วด้วยความแข็งแกร่ งของพ่อท่าน
อาจจะจัดการพวกเขาได้.” ชูเฟิ งพูด

“ท่านผูม้ ีพระคุณท่านพูดได้ถูกแล้ว แต่ขา้ ว่า แม้ท่านสามารถทํา


ให้สตั ว์มหึ มากลับเป็ นเช่นเดิม และ ทําให้มนั พูดได้พอ่ ของข้าจะไม่เชื่อ
ทุกสิ่ งที่มนั พูดออกมาเกี่ยวกับผูน้ าํ ตระกูลหม่า ข้ารู ้จกั เขาดี เขาเป็ นคนที่
ดื้อรั้นมากในเรื่ องแบบนี้.”

“ในปี นี้ หลังจากพวกเราได้รวมตัวกันกระทําบางอย่างและได้รับ


ผลประโยชน์มา พ่อของข้ามักจะยกให้ตระกูลหม่าได้รับมากกว่าตระกูล
ของเรานัน่ เป็ นเหตุให้ตระกูลหม่ามีทรัพย์สินมากกว่าตระกูลของเรา.”
หลี่ ชาน พูดด้วยความกังวล
“ก่อนที่ท่านจะจัดการกับเรื่ องนั้น ตอนนี้ท่านมีเส้นทางเดินแค่ 2
เส้น 1 ในนั้นคือจุดจบของตระกูลหลี่.”

“อีก 1 คือ ใช้พลังทั้งหมด และสู เ้ พื่อโอกาสสุ ดท้ายของท่าน


อย่างไรก็ตามโอกาสสําเร็ จมันไม่ถึงครึ่ ง ดังนั้นอย่าไปคิดว่ามันจะพลาด
และให้คิดว่าท่านจะเป็ นผูช้ นะ “ ชูเฟิ งพูด

เมื่อมองไปที่ชูเฟิ งท่าทางของ หลี่ ชาน ก็ตอ้ งเปลี่ยนไป เธอรู ้สึกว่าชาย


ตรงหน้านี้แข็งแกร่ งมาก และรู ้สึกว่าเขาต้องการช่วยตระกูลเธอจริ งๆ
และ เขาอาจจะทําบางอย่างได้

ในตอนนั้น หลี่ ชาน หัวใจของ หลี่ ชานนั้นก็ไว้ใจชูเฟิ งอย่างลึกซึ้ ง


ถึงแม้จะรู ้จกั กันไม่นาน

เหตุผลก็คือชูเฟิ งนั้นใช้อะไรบางอย่าง ที่มาจากเนตรสวรรค์จากวิธีคน้ หา


ชีพจรสมบัติ ไม่เพียงชูเฟิ งจะเห็นทุกสิ่ งอย่าง แต่มนั ก็มีความน่าหลงใหล
อยูด่ ว้ ย

และด้วยการครอบครองเนตรสวรรค์ในตอนนี้ มันทําให้หลี่ ชาน เชื่อใจ


เขาอย่างมาก

ดังนั้น หลี่ ชาน จึงประกาศให้ทุกคนในตระกูลรู ้วา่ ชูเฟิ งเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ


และ จะมาช่วยตระกูลหลี่ เพราะเช่นนั้น เธอจึงชวนชูเฟิ งเข้าตระกูลหลี่
“อะไรนะ ชาน เอ๋ อ เจ้าถูกโจมตีหรื อ” ในพื้นที่ตระกูลหลี่ ชาย
ชราผมขาวและเทาก็แสดงท่าทางตกใจมากเมื่อรู ้วา่ หลี่ ชาน ถูกโจมตี

และคนคนนั้น ก็คือพ่อของ หลี่ ชาน และเป็ นผูน้ าํ ตระกูลที่ ที่อยูใ่ น


ระดับ 1 จ้าวสงคราม

“ท่านพ่อ ข้าถูกสัตว์มหึ มานัน่ โจมตี แต่โชคดีที่ขา้ ถูกช่วยไว้โดย


เขา ถ้าไม่เช่นนั้นในวันนี้ท่านจะไม่ได้เห็นข้าอีกครั้ง.” หลี่ ชานพูดขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น ข้าบอกให้เจ้าอยู๋กบั เธอไม่ใช่หรื อ ทําไมเธอถึงถูก


โจมตีได้ล่ะ” ได้ยนิ เช่นนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ก็ตะคอกใส่ คู่รักวัยชราด้วย
ความโกรธเกรี้ ยว
“มันเป็ นความผิดพลาดของพวกเรา โปรดลงโทษพวกเราด้วย” ใน
สถานการณ์เช่นนั้นทั้ง 2 ไม่ได้พดู อะไร เพียงแค่คุกเข่าด้วยหน้าตา
จริ งจัง และเรี ยกให้ลงโทษตัวเอง

“เจ้าทั้ง 2…” เมื่อเห็นเช่นนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ก็หายโกรธ เขา


สะบัดมือของเขา และพูดว่า “ อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับชาน
เอ๋ อแล้ว และ นอกจากนี้เจ้าทั้ง 2 ไม่ได้ต้ งั ใจให้มนั เกิดขึ้นข้าจะลงโทษ
พวกเจ้าได้อย่างไร.”

“ขอบพระคุณมากท่านผูน้ าํ .” เมื่อเห็นเช่นนั้นมุมปากทั้ง คู่ก็


ยกขึ้นและมองไปที่ชูเฟิ งและสัตว์มหึ มาด้านหลัง ก่อนจะหันตัวกลับ
แล้วเดินออกไป

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////
A : ดูสิวา่ ถ้าชูเฟิ งมีหลักฐาน มันจะเชื่อหรื อเปล่า ???

B : ถ้าไม่เชือ ตระกูลมันคงถึงกาลอวสาน แต่น้ นั ก็ถือเป็ นเรื่ องดีของ ชู


เฟิ ง ที่จะได้กาํ จัดแม่งไปให้พน้ ๆ

A : แล้วทําไมไม่จดั การซะล่ะ

B : มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก การจะเปิ ดขุมสมบัติจะต้องมีศิลา 2 ชิ้น


หนึ่งอยูก่ บั ตระกูลหลี่ อีกหนึ่งอยูก่ บั ตระกูลหม่า อีกอย่างถ้าไม่หาทางยุ
แยงแล้วลุย เกิดเจอ 2 ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับจ้าวสงคราม กับหมาหมู่ ชูเฟิ ง
จะแย่เอา มีแต่คนชอบด่าว่าพี่เฟิ ง มุทะลุ ไม่ใช่สมอง ทําไรเกินตัว
บุ่มบ่าม แต่พอเขาจะใช้สมอง ก็หาว่ามันลีลา
A : แต่น้ ีเหมือนแบบ ชูเฟิ ง พยายามช่วยตระกูลหลี่ แบบสุ ดๆละนะ ถึง
จังหวังสมบัติกเ็ หอะ

C : พูดเหมือนจะดูดีล่ะ สุ ดท้ายพระเอกก็สารเลวเช่นเคย!!!

A : อยากได้พระเอกใจดี โอบอ้อมอารี เป็ นมิตรกับเหล่าสตรี รักความ


ยุติธรรม เปี่ ยมไปด้วยจิตเมตตา ต้องไปอ่านยอดมนุษย์5สี !!! ขนาด
จักรยานจะชนหมา ยังโดดเข้าไปช่วยจนตัวเองเกือบตาย แม่งโดดหนี
จักรยาน ไปเจอสิ บล้อ สุ ดท้ายแปลงร่ างโดดขึ้นฟ้าแม่งเลย

B : ช่ายเรื่ องนี้มนั ดาร์ค พระเอกสายโหด ไม่พอใจกูตบ หมัน่ ไส้กเู ตะ


กวนตีนกูฆ่าแม่ง ยุง่ กะผูห้ ญิงกูมึงตายทั้งโครต

C : ไอ้โฉด!!!
บทที่ 580 - รักษาภาพพจน์

“เจ้าวีรบุรุษหนุ่มเอ๋ ย ขอบคุณจริ งๆที่ช่วยลูกสาวข้า เจ้ามีนามว่า


อะไรอย่างนั้นหรื อ” หลังจากนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหลี่กย็ มิ้ และถามชูเฟิ งด้วย
ความรู ้สึกขอบคุณ

“ข้า ชื่อ หวูฉ่ ิง!” ชูเฟิ งพูดพร้อมประสานมือ

“อ่อ เป็ นวีรบุรุษหวูฉ่ ิงนี่เอง พรสวรรค์ของเจ้านั้นดีจริ งๆ เพียง


อายุแค่น้ ี ก็อยูใ่ นระดับ 8 อาณาจักสวรรค์ขา้ มัน่ ใจว่าเจ้าต้องก้าวเข้าสู่
เจ้าสงครามได้ไม่ยาก.” หลังจากผูน้ าํ ตระกูลหลี่ พูดก็พยักหน้าของตน
จากนั้นเขาก็ปรบมือและพูดว่า, “ข้ารับใช้!”

หลังจากพูดจบก็มี ข้ารับใช้สาว2คนเดินเข้ามาจากห้องอื่น ในมือถือ


ถาดที่เต็มไปด้วยแสงระยิบระยับของลูกแก้ว พวกมันคือลูกแก้วสวรรค์
1 พันเม็ด
“ท่านหวูฉ่ ิง เป็ นเพราะท่าน ชาน เอ๋ อของข้าถึงยังมีชีวติ อยู่ นี่เป็ น
การขอบคุณเล็กๆน้อยๆเจ้าไม่ตอ้ งคิดอะไร โปรดรับมมันไว้ดว้ ย.” ผูน้ าํ
ตระกูล หลี่ พูดขึ้น

“ท่านผูน้ าํ ข้าได้ตอบตกลงคําเชิญของท่านหญิง และใช้พลังของ


ข้าเพื่อตระกูลหลี่ แล้วเธอสัญญากับข้าว่าจะให้ของรางวัลที่เหมาะสม
ดังนั้นแล้วในฐานะของคนตระกูลหลี่ และคนที่ปกป้องเธอข้าขอรางวัล
เป็ นอย่างอื่นได้หรื อไม่” ชูเฟิ ง พูด

“เจ้าหนุ่มน้อยเจ้าช่างฉลาดเสี ยจริ ง ถ้าอย่างนั้นพวกนี้คือ


ค่าตอบแทนที่เจ้าได้ทาํ ไว้ก่อนหน้านี้กแ็ ล้วกัน.”ผูน้ าํ ตระกูล หลี่ ยิม้ แล้ว
พูดขึ้น
เขารู ้วา่ เมื่อชูเฟิ ง ช่วย หลี่ ชาน เอาไว้ เขาจะไม่เข้ารวมกับตระกูลหลี่
ดังนั้นในตอนนั้น ชูเฟิ งไม่ได้มีหน้าที่ที่ตอ้ งปกป้องหลี่ชานแต่เขาก็ทาํ
มัน มันเป็ นเรื่ องน่าอายถ้าให้ค่าตอบแทนชูเฟิ งแค่น้ ี

และชูเฟิ งก็ปฏิเสธมันเห็นได้วา่ เขาไม่ใช่คนที่เห็นแค่ประโยชน์ และเขา


นั้นยึดถือหลักการของตน จึงทําให้ผนู ้ าํ ตระกูลหลี่รู้สึกถูกใจเขาอย่าง
มาก เพราะว่าคนแบบเขานี่แหละที่เขาอยากได้มากที่สุด

“หวูฉ่ ิง พ่อของข้าพูดออกมาแล้ว แล้วก็รับปากแล้ว” หลี่ ชาน


พูดขึ้น

“ถ้าเป็ นเช่นนั้น ข้าก็ขอรับมันไว้แล้วกัน ขอบพระคุณท่านผูน้ าํ


ขอบพระคุณท่านหญิง.” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ งก็ยอมรับ
อย่างไรก็ตาม ลูกแก้วสวรรค์ 1000 เม็ดถือว่าน้อยมากสําหรับชูเฟิ ง
แต่กเ็ ป็ นแบบที่เขาพูดว่า “แม้จะเป็ นยุง ก็ยงั มีเนื้ออยู่ “นอกจากนี้ลูกแก้ว
สวรรค์เหล่านี้พวกเขาก็เต็มใจให้กบั เขา ถ้าเขาไม่รับมันมันก็เหมือนกับ
ทําร้ายตนเอง

“ระดับของสัตว์มหึ มานี้ไม่ได้อ่อนแอเลย แต่มนั ก็ไม่ใช่สิ่งที่มา


จาก หุบเขาเขี้ยวหมาป่ าเช่นกัน ดังนั้นทําไมมันถึงมาที่นี่และโจมตีเจ้า”
ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ตรวจสอบสัตว์มหึ มาที่คุกเข่าอยูด่ า้ นข้างชูเฟิ ง

“ท่านผูน้ าํ สัตว์มหึ มาตัวนี้ได้รับพิษจากผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ ทํา


ให้มนั ถูกผนึกเหตุและผลและความคิดเอาไว้ ดังนั้นมันจึงกลายเป็ น
สิ่ งมีชีวติ ที่ใช้ความรุ นแรงและกระหายเลือด.”
“อย่างไรก็ตาม ข้าสามารถปลดผนึกนั้นได้ และเหตุผลที่มนั มายัง
ที่แห่งนี้กจ็ ะปรากฏขึ้น.” ชูเฟิ งตอบ

“เจ้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณหรอกหรื อ” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นตา


ของ ผูน้ าํ ตระกูลหลี่กเ็ บิกกว้าง ทุกคนนั้นไม่สามารถเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลก
วิญญาณได้ เพราะพวกเขานั้นเป็ นสิ่ งที่แสนวิเศษตั้งแต่เกิด ทําให้พวก
เขาถูกเคารพและยกย่อง

“ถูกต้อง ข้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ.” ชูเฟิ งพยักหน้า

“ดี ดี ในตอนนี้ ตระกูลหลี่ของข้าเหมือนได้รับพรจากความไร้


โชค และได้เชิญคนที่โดดเด่นอย่าง วีรบุรุษหนุ่ม หวูฉ่ ิ ง เข้ามา!”
“ข้ารับใช้ รี บไปจัดที่พกั ให้วรี บุรุษหนุ่มหวูฉ่ ิ งเร็ วเข้า และจาก
วันนี้ เขาถูกดูแลโดยตระกูลหลี่ของข้า.” ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ยิม้ แล้วก็พดู
ขึ้น

“ขอรับ” หลังจากเหล่าข้ารับใช้ไปเตรี ยมกัน ชูเฟิ ง ก็นาํ สัตว์


มหึ มาออกจากห้องโถงไป

“อ้า ชาน เอ๋ อ ลุงหม่าของเจ้ามาหาข้า และต้องการคุยเรื่ องเปิ ด


ขุมทรัพย์ในหุบเขาเขี้ยวหมาป่ า.”

“เขาได้บอกว่าเตรี ยมการทุกอย่างแล้วและได้เชิญผูเ้ ชื่อมต่อชุด


ม่วงมา นัน่ จะทําให้การเปิ ดขุมทรัพย์ไม่มีปัญหาใดๆ ดังนั้นก็เลยตอบรับ
ไปว่าจะเริ่ มใน 10 วัน.” หลังจากชูเฟิ งออกไป ผูน้ าํ ตระกูล หลี่กพ็ ดู
ขึ้น

“ท่านพ่อตอบรับไปแล้ว จะให้ขา้ ทําอะไรล่ะ สุ ดท้ายข้าก็ตอ้ งตาม


ท่าน.”หลี่ จาน พูดด้วยความไม่พอใจ

ในตอนนั้นเธอโกรธเล็กน้อยและไม่ได้เถียงกับพ่อของเธอ นัน่ เป็ น


เพราะว่าชูเฟิ งเป็ นคนแนะนําให้เธอทําเช่นนั้น

“ชาน เอ๋ อ ไม่ตอ้ งกังวล ตระกูล หลี่ของเรา กับ ตระกูลหม่า สนิท


กันหมาหลายชัว่ อายุคนแล้ว และ ลุงหม่าของเจ้าก็โตมาพร้อมๆกับข้า”
“ดังนั้น เจ้าไม่ตอ้ งกังวล แม้วา่ ตระกูลหม่าจะเป็ นคนส่ งคน
มากกว่าเพื่อเปิ ดขุมทรัพย์นนั่ เขาก็จะแบ่งกับพวกเราเท่าๆกัน.”เมื่อเห็น
หลี่ ชาน โกรธ ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ก็พดู ขึ้น

“ท่านพ่อทุกสิ่ งที่ขา้ เคยทํามาก่อนหน้านี้มนั เพื่อตระกูลหลี่ของเรา


หวังว่าท่านคงเข้าใจข้านะ.”

“แต่ท่านคือพ่อของข้า ในฐานะลูกสาว ข้าจะสนับสนุนท่าน.”

“ข้าจะไปจัดทัพของเรา และ หาแผนการเพื่อวันเปิ ดขุมทรัพย์ใน


10 วันข้างหน้า.” หลี่ ชานพูด
“ชานเอ๋ อ พ่อไม่สงสัยเรื่ องความสามารถของเจ้า แต่งานแต่งงาน
ของเจ้าเล่า นัน่ เป็ นสิ่ งที่ขา้ กังวล.”

“ตัวเจ้า ในปี นี้ ก็จะ 35 ปี แล้วถ้าเจ้าไม่รีบแต่งงาน เจ้าก็จะ


กลายเป็ นยัยแก่ไปนะ โอ้ว ข้าคิดว่าเจ้าหนุ่มที่ชื่อ หวูฉ่ ิ ง ก็ไม่เลวนะเจ้า
คิดว่าไง ...” ผูน้ าํ ตระกูล หลี่ ยิม้ ขึ้นมา

“ท่านพ่อ ท่านพูดอะไรของท่าน” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น หลี่ ชาน รี บ


พูดขึ้นมา

“เจ้าหลอกข้าไม่ได้หรอก ดวงตาของเจ้าจะแปลกไปเมื่อมองไปที่
หวูฉ่ ิง นี่เป็ นครั้งแรกที่ขา้ เห็นเจ้ามองผูช้ ายเช่นนั้น อายุของพวกเจ้า ทั้ง
2ก็ไม่น่าจะห่างกันสักเท่าไหร่ ดังนั้นข้าจะเป็ นพ่อสื่ อให้เอง” ผูน้ าํ
ตระกูลหลี่ยมิ้ แล้วพูด

“ท่านพ่อ อย่างมาพูดมัว่ ๆนะ ไม่ง้ นั ข้า จะ” ในตอนนั้น หลี่ ชานก็


พูดออกด้วยท่าทางเกร็ งๆ แต่ใบหน้าของเธอนั้นแดงกํ่า จากนั้นเธอก็วงิ่
ออกจากห้องไป

หลังจากออกมา หลี่ ชาน ก็วางมือไว้ที่อกของเธอ และเธอก็รู้สึกถึงใจที่


กําลังเต้นอยู่ เธอพูดด้วยเสี ยงเบาๆว่า “ นี่มนั อะไรกันข้ารู ้จกั กับเขาไท่
นาน ทําไมถึงเป็ นเช่นนี้”

ตามจริ งแล้ว มันเรื่ องปกติที่ หลี่ ชาน จะมีความรู ้สึกแบบนั้น มันเป็ น


เพราะเธอได้รับผลกระทบจาก เนตรสวรรค์ของชูเฟิ ง นอกจากมันจะ
ช่วยให้เขาแข็งแกร่ งขึ้น มันยังทําให้เขามีเสน่ห์มาอีกด้วย
ชูเฟิ งไม่รู้เรื่ องการพูดคุยของ 2 พ่อลูก ด้วยการนําของเหล่าข้ารับใช้ ชู
เฟิ งก็ได้มาถึงที่คฤหาสน์ใหญ่ และ หรู หรามาก

ภายในคฤหาสน์น้ นั มีผฝู ้ ึ กตนอาศัยอยูไ่ ม่กี่คน พวกเขาไม่ใช่คนจาก


ตระกูลหลี่ ทุกคนนั้นถูกจ้างมา พวกเขานั้นไม่ได้อ่อนแอ และยัง
ครอบครองทักษะที่แข็งแกร่ งอีกด้วย

ในขณะที่พวกเขาอยูใ่ นพื้นที่ของตระกูลหลี่ พวกเขาอาจจะเพลิดเพลิน


กับการเป็ นแขกผูม้ ีเกียรติ อย่างไรก็ตามการได้รับการดูแลหรื อใส่ ใจมาก
เพียงใดก็อยูท่ ี่ความสามารถและความแข็งแกร่ งของตน

แต่หลังจากชูเฟิ ง เข้ามานั้นเขาได้ถูกจัดให้มาอยุใ่ นพื้นที่ที่หรู หราที่สุด


และยังมีขา้ รับใช้ที่ยอดเยีย่ มที่สุด จึงทําให้เป็ นที่ดึงดูดสายตาของคนมาก
และพวกเขาก็ไม่พอใจตั้งแต่ที่ชูเฟิ งก้าวเข้ามาแล้ว

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : ชูเฟิ งอายุแค่ 17 เอง จะให้แต่งกะหญิงอายุ 35 เลยอ่อ มันห่าง
กันเกือบเท่าหนึ่งเลยนะ

B : น่าตายังใช้ได้ เรื่ องอายุอย่าไปสน!!!

A : บ้า สําหรับชูเฟิ ง คงเป็ น น้า อ่ะ ไม่กพ็ ี่นอ้ ง จะให้เอามาเป็ นเมีย มัน
ก็ . . . . . .ดีเหมือนกัน!!!

B : กูนึกว่าจะบอก มันก็คงไม่ดีซะอีก
A : ก็ตอนนี้ชูเฟิ งปลอมตัวเป็ น หวูฉ่ ิ ง จะทําชัว่ ไรไว้กไ็ ม่มีใครรู ้หรอก
ว่าเป็ นชูเฟิ ง

C : กูเริ่ มเกลียดพวกมืงล่ะ!!!
บทที่ 581 – รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วง

“มันเป็ นใคร !! มันเข้ามาภายในคฤหาสน์ได้ยงั ไงกัน !?”

ในขณะนั้น บนพื้นที่บางส่ วน มีหญิงสาวลักษณะน่าเกลียด


แต่งหน้าจัด พบเห็น ชูเฟิ ง ลอบเข้ามาในคฤหาสน์ นางมีพลังระดับแปด
ขั้นแดนสวรรค์ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างมาก

“ข้าได้ตรวจสอบเขาดูแล้ว เขามีพลังระดับแปด ขั้นแดนสวรรค์ !!


ข้าสงสัยว่าทําไมเขาถึงมีความสามารถเข้ามายังคฤหาสน์ได้กนั ” ใน
ขณะเดียวกันนั้น ชายร่ างยักษ์ใบหน้ามีแผลเป็ น ก็กล่าวออกมาด้วยความ
ประหลาดใจ

“ถ้าหากพวกเจ้ามีเวลามาสนใจคนอื่น พวกเจ้าควรเอาเวลาไป
พัฒนาตัวเองจะดีกว่า” ในขณะนั้น ชายชราถือไม้เท้า สวมชุดคลุมสี ฟ้า
ของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ มีพลังระดับเก้า ขั้นแดนสวรรค์ อีกทั้งยังเป็ น
ผูท้ ี่แข็งแกร่ งที่สุดในคฤหาสน์แห่งนี้ ก็กล่าวออกมา

“คาราวะท่าน เยว่เหลา !!” แม้วา่ ทุกๆ คนจะมีพลังที่แข็งแกร่ ง จึง


ทําให้เกิดการปะทะคารมกันบ้าง แต่พวกเขาทุกคนก็เรยถูก เยว่เหลา สัง่
สอนมาทุกคน จึงทําให้พวกเขาเกรงใจ เยว่เหลา อย่างมาก

“ท่าน เยว่เหลา เสี ยใจกับความไม่เป็ นธรรมที่เกิดกับท่านด้วย !!


ด้วยความแข็งแกร่ งของท่าน ท่านควรได้รับการเชื้อเชิญจากตระกูลหลี่
แต่พวกเขากลับไม่ทาํ เช่นนั้น”
“พวกเรายังคิดไม่ออกเลยว่า ทําไมพวกเขาถึงทําเช่นนั้น ทีแรกข้า
คิดว่าพวกเขาต้องการผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงคราม แต่ในท้ายที่สุด พวก
เขากลับรับผูเ้ ชี่ยวชาญระดับเดียวกับพวกเขาเท่านั้น”

“ไม่รู้วา่ เขาใช้ความสามารถอะไรในการเข้ามา !? เห็นได้ใช้วา่


พวกเราแทบทุกคนสามารถเอาชนะเขาได้” เมื่อ เยว่เหลา ปรากฏตัวนั้น
พวกเขาต่างยุยงให้เกิดการต่อสู ร้ ะหว่างเขากับ ชูเฟิ ง โดยให้ความคิดเห็น
ว่า เยว่เหลา ควรจะได้อยูภ่ ายในคฤหาสน์แทนที่จะเป็ น ชูเฟิ ง

“ข้าไม่ตอ้ งการความเห็นใจจากพวกเจ้า !!” เยว่เหลา กล่าวพลาง


หัวเราะออกมาเบาๆ เขาไม่ได้เป็ นเพียงชายชราธรรมดาเท่านั้น ด้วยไหว
พริ บของเขา เห็นได้ชดั ว่าเขามองออกถึงการยัว่ ยุของผูค้ นตรงหน้าเขา
“ตระกูลหลี่ ไม่ได้มง่ั คัง่ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่พวกเขายังให้
ความสนับสนุนแก่บุคคลที่แข็งแกร่ ง ข้าได้ข่าวมาว่า อีกไม่กี่วนั ข้างหน้า
พวกเขาจะเปิ ดการทดสอบอะไรบางอย่าง”

“ทางที่ดี แทนที่พวกเจ้าจะไปอิจฉาผูอ้ ื่น พวกเจ้าควรจะเตรี ยมตัว


เพื่อให้พร้อมกับการทดสอบที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้จะดีกว่า” เยว่
เหลา กล่าวออกมาด้วยความจริ งจัง ราวกับพี่ชายกําลังตําหนีบรรดา
น้องๆ ของเขา

“รับทราบ !!” หลังจากได้ยนิ เช่นนั้น ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะกล่าว


อะไรออกมาอีก
“เอาล่ะ แยกย้ายกันไปเตรี ยมความพร้อมได้แล้ว ไม่วา่ จะเป็ นมังกร
หรื อมดปลวก ก็จะได้รู้กนั ในวันทดสอบ” เยว่เหลา โบกมือเบาๆ พร้อม
กับกล่าวออกมาอย่างมีนยั ยะสําคัญ

หล่าผูค้ นที่อยูต่ รงนั้น ล้วนไม่ใช่คนที่โง่เขลา พวกเขาสามารถ


เข้าใจความหมายที่แอบแฝงอยูใ่ นคํากล่าวนี้ได้อย่างชัดเจน พวกเขาจึง
พากันแยกย้ายออกไป

“ฮึ่ม….!!” หลังจากทุกคนจากไปนั้น เยว่เหลา ก็มองไปยัง


คฤหาสน์ตรงที่ ชูเฟิ ง อยูด่ ว้ ยสายตาเย็นชา

ด้วยความที่ ชูเฟิ ง เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้น เขารับรู ้ได้ทนั ที


ว่ามีคนกําลังจับตามองเขาอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
หลังจากที่เขาสัง่ คนรับใช้เรี ยบร้อยแล้วนั้น เขาก็วางรู ปแบบอํานาจ
พลังวิญญาณไว้โดยรอบ และเริ่ มที่จะฝึ กฝนเพื่อบ่มเพาะพลังของเขา

ชูเฟิ ง ได้วางรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณขนาดใหญ่เอาไว้ เขาพบว่า


รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณโดยรอบนั้นมีสีม่วง นี่แสดงว่ามันเป็ นพลัง
ของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ม่วง

แน่นอนว่ารู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงนั้น ชูเฟิ ง ไม่สามารถ


ทําลายมันได้ แต่หลังจากที่ ชูเฟิ ง ได้ให้คาํ มัน่ ไว้กบั ตระกูลหลี่แล้วนั้น
เขาย่อมจะมีความมัน่ ใจอย่างมาก

ไม่ใช่เพียงแค่เขาจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่ งของพลังวิญญาณ แต่


เขาจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่ งของอํานาจพลังวิญญาณ เพื่อให้เขาเข้าสู่
ระดับชุดคลุมสี ม่วง ของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ

ด้วยพลังของ ชูเฟิ ง ในตอนนี้มีเพียงแค่ระดับห้า ขั้นแดนสวรรค์น้ นั


การจะเข้าถึงอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วง เป็ นสิ่ งที่ร่างกายของเขาไม่
สามารถรับภาระที่หนักหน่วงเช่นนี้ได้

แต่ในความเป็ นจริ ฝนั้น ชูเฟิ ง ค้นพบบางสิ่ งบางอย่าง เมื่อเขาเข้าสู่


ขั้นแดนสวรรค์ และด้วยพลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้น ทําให้การ
บ่มเพาะพลังของเขาเปลี่ยแปลงไปอย่างมาก

ในปัจจุบนั นั้น ชูเฟิ ง ไม่ได้มีพลังเพียงระดับห้า ขั้นแดนสวรรค์ แต่


พลังที่แท้จริ งของเขาคือระดับแปด ขั้นแดนสวรรค์
พลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่พลังภายนอก แต่มนั เป็ นพลังของ ชู
เฟิ ง อย่างแท้จริ ง ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงสามารถสัมผัสอํานาตพลังวิญญาณได้
สู งขึ้น

***** พรึ่ บ *****

ความจริ งนั้น ชูเฟิ ง ได้เตรี ยมความพร้อมทุกอย่างไว้เรี ยบร้อยแล้ว


ภายในโลกวิญญาณของเขาอัดแน่นไปด้วยออร่ าพลังสี ม่วง ในขณะที่เขา
เข้าสู่ โลกวิญญาณของเขา

ในทันทีน้ นั ชูเฟิ ง สามารถสัมผัสได้วา่ อํานาจพลังวิญญาณของเขา


นั้นแข็งแกร่ งขึ้นมาก อีกทั้งมันยังมีสีม่วง และเขาก็สามารถจะควบคุม
มันได้

เขาประสบความสําเร็ จในครั้งแรก เขาสามารถสัมผัสได้ถึงอํานาจ


พลังวิญญาณสี ม่วง ของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ม่วง แต่
มันก็เป็ นเพียงแค่บางส่ วนเท่านั้น

“ต้านต้าน เจ้าคิดว่าเป็ นไงบ้าง !! ข้าสุ ดยอดเลยไหมล่ะ !!”


หลังจากที่ ชูเฟิ ง ประสบความสําเร็ จตั้งแต่ครั้งแรกนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่
จะอวดกับ ต้านต้าน

“ชิร์ มันแทบจะไม่ได้เรื่ องด้วยซํ้า !!” ต้านต้าน กล่าวพลางเม้มริ ม


ฝี ปาก
***** ครื นนนนนน *****

ในขณะนั้น โลกวิญญาณของ ชูเฟิ ง ก็สนั่ สะเทือนอย่างรุ นแรง

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทําให้ ชูเฟิ ง ตกใจอย่างมาก เขารี บหันไป


มองทางประตูบานใหญ่ในโลกวิญญาณของเขา เขาสัมผัสได้ทนั ทีวา่
หลังประตูบานใหญ่น้ นั คลื่นพลังงานกําลังระเบิดออก พลังงานที่ระเบิด
ออกมานั้น ส่ งแรงสัน่ สะเทือนออกมาสู่ โลกวิญญาณอย่างรุ นแรง

***** บูมมมมมม *****


ในช่วงเวลานั้น ชูเฟิ ง จ้องเขม็งไปที่ประตูบานใหญ่ คลื่นพลังที่
ระเบิดออกมานั้นส่ งแรงสัน่ สะเทือนออกมาอย่างต่อเนื่อง

“แข็งแกร่ งมาก !!” ชูเฟิ ง สามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่ ง


อย่างมาก แม้วา่ จะมีประตูก้ นั อยูก่ ต็ าม แต่เขาก็ยงั รับรู ้ได้ถึงพลังที่น่ากลัว
ที่ส่งออกมาจากหลังประตูอย่างชัดเจน

“ในที่สุดมันก็ถึงเวลาแล้วซิ นะ !! แม้แต่ขา้ ก็ไม่สามารถกําราบมัน


ได้ มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ทาํ ได้ !!” ใบหน้าที่งดงามของ ต้านต้าน กําลังเต็ม
ไปด้วยความตื่นเต้น

“ต้านต้าน เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ สิ่ งใดอยูภ่ ายในประตูนนั่ และมันมีพลัง


ขนาดไหน” ชูเฟิ ง กล่าวถาม ต้านต้าน อย่างจริ งจัง เพราะเขารู ้ดีวา่ สิ่ งที่
อยูห่ ลังประตูบานนั้น น่ากลัวอย่างมาก
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////
A : มึงเอ้ย อย่าให้โลกวิญญาณอีกตัวหลุดออกมานะ ไม่วา่ ชูเฟิ ง หรื อ
ทะเลตะวันออก ได้ชิบหายกันหมดแน่!!!

B : ก็จริ งอ่ะนะ เหมือนอย่างกะจิ้งจอกเก้าหาง กับ นารู โตะ แรกๆ ที่


แทบจะเข้ากันไม่ได้ อีกทั้งมันยังเต็มไปด้วยความเกียจชังและความแค้น
แต่มนั มีเรื่ องราวและความเป็ นมาที่ซบั ซ้อน อีกนานเลยกว่าจะถึง ข้าม
แม่งไปก่อนละกัน มาว่าเรื่ องที่ชูเฟิ ง เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อชุดม่วงดีกว่า ตอนนี้
กล่าวได้วา่ ชูเฟิ ง เป็ นหนึ่งในหมู่คนรุ่ นเดียวกันละ แต่ยงั มีอีกคนที่ มี
อํานาจพลังเหนือกว่า แม่งทําสัญญากับอสู รวิญญาณตั้ง 20 ตัว แต่ละ
ตัว ก็ไม่เท่าไหร่ จะมาเทียบกับอสู รวิญญาณ พิภพอสู รฟ้า ได้ยงั ไง จะว่า
ไป มันก็คนละรุ่ นเลยนี้หว่า

A : อ่อ ไอเวรนั้นอ่ะหรอ!!!

C : นายไปว่าไอ้ B ทําไม ?
B : เค้าว่ามืงนัน่ แหละ
บทที่ 582 – บุตรแห่งจักรพรรดิสงคราม

ในตอนแรกนั้น ชูเฟิ ง รู ้สึกหวาดกลัวต่อพลังที่ส่งออกมาอย่างมาก


มันทําให้เขาหวาดกลัวจนถึงก้นบึ้งของหัวใจของเขาอย่างแท้จริ ง แม้วา่
มันจะมีประตู ที่ถูกล่ามไว้ดว้ ยโซ่ปิดกั้นเอาไว้กต็ าม และแม้แต่ที่นี่คือ
โลกวิญญาณของเขาเองก็ตาม ชูเฟิ ง ก็ยงั ไม่กล้าที่จะทําอะไรแม้แต่นอ้ ย

ชูเฟิ ง พยายามต่อต้านพลังที่แข็งแกร่ งนั้นอย่างต่อเนื่อง เขาไม่กล้า


ที่จะเข้าใกล้ประตูบานนั้นแม้แต่นอ้ ย เพราะเขาหวาดกลัวต่อสิ่ งที่อยู่
ด้านหลังประตูบานนั้น

แต่ ชูเฟิ ง ก็พบกับความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้น ความแข็งแกร่ งที่


ส่ งออกมานั้น ทรงพลังอย่างมาก หากไม่มีประตูก้ นั เอาไว้ล่ะก็ ชูเฟิ ง ก็
ไม่อาจจินตนาการถึงสิ่ งที่จะเกิดขึ้นได้แม้แต่นอ้ ย

โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในตอนนี้น้ นั สิ่ งที่ถูกขังอยูห่ ลังประตูบานนั้น


กําลังทําลายรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่ผนึกมันเอาไว้ นี่เป็ นครั้งแรก
ที่ ชูเฟิ ง สามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างยิง่

มันเป็ นสิ่ งที่น่ากลัวอย่างมาก แม้วา่ ชูเฟิ ง จะไม่เคยเผชิญหน้ากับ


มันมาก่อน แต่เขาก็รับรู ้มาโดยตลอดถึงการดํารงอยูข่ องสิ่ งนี้

พลังของมันเปรี ยบได้กบั มหาสมุทรที่ไม่มีจุดสิ้ นสุ ด

เมื่อเทียบกับ ชูเฟิ ง นั้น ตัวเขาเปรี ยบได้กบั ไรฝุ่ นเล็กๆ ต่อหน้าพลัง


ขนาดนี้เท่านั้น

ดังนั้น เมื่อเปรี ยบได้ดงั นี้ ชูเฟิ ง ก็รับรู ้ได้ทนั ทีวา่ หากสิ่ งที่อยู่
ภายในหลังประตูบานนี้ทาํ ลายรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่ผนึกมัน
เอาไว้ได้ออกมา แน่นอนเลยว่าจตัวเขาเองจะต้องตายแน่นอน

“มันคืออสู รวิญญาณจากโลกวิญญาณอสู รฟ้า มันมีลกั ษณะของ


ความบ้าคลัง่ อย่างมาก แม้วา่ มันจะถูกผนึกอยู่ แต่ขา้ ก็มนั่ ใจมากว่า มัน
เป็ นอสู รวิญญาณจากโลกวิญญาณอสู รฟ้าแน่นอน”

“สําหรับพลังของมันนั้น ข้าไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ดูจากการที่มนั


กําลังทําลายผนึกอยูต่ อนนี้ ข้าก็พอจะเดาได้ลางๆ” ต้านต้าน กล่าวพลาง
ยิม้ หวาน
“เจ้าเดาว่าเช่นไร !?” ชูเฟิ ง กล่าวถามอย่างร้อนรน

“ถ้าวัดตามระดับการบ่มเพาะพลังของมนุษย์น้ นั มันก็น่าจะมีพลัง
ขั้นจักรพรรดิสงคราม” ต้านต้าน กล่าวออกมาราวกับเป็ นเรื่ องธรรมดา

“อะไรนะ !! จักรพรรดิสงคราม !!” เมื่อได้ยนิ คําว่า ‘จักรพรรดิ


สงคราม’ นั้น ชูเฟิ ง รู ้สึกตกใจอย่างมาก

สิ่ งที่มีพลังขั้นจักรพรรดิสงครามถูกผนึกอยูภ่ ายร่ างกายของเขา


แม้วา่ เขาจะเคยเข้าสู่ สุสานจักรพรรดิมาแล้วก็ตาม แต่เมื่อคิดว่าสิ่ งที่
แข็งแกร่ งเช่นนั้นอยูภ่ ายในร่ างกายของเขา จึงเป็ นเรื่ องธรรมดาที่เขาจะ
ตกตะลึง
“มีอะไรจะต้องกลัว !! มันไม่ใช่วา่ สิ่ งนี้ถูกผนึกในร่ างกายของเจ้า
มาเพียงวันสองวัน หากมันหนีออกมาได้ มันคงหนีไปนานแล้ว เจ้าคงไม่
มีชีวติ อยูม่ าจนถึงตอนนี้หรอก”

“เจ้าควรจะรู ้ไว้นะ ว่าสิ่ งที่กาํ ลังจ้องจะเอาชีวติ เจ้าแข็งแกร่ งขนาด


ไหน หากมันหลุดออกมาได้ ข้าว่า…..สิ่ งแรกที่มนั จะทํา คือกินเจ้า
แน่นอน ฮี่ฮี่” ต้านต้าน กล่าวออกมา พร้อมกับยิม้ อย่างชัว่ ร้ายไปที่ ชู
เฟิ ง

“ข้าไม่ได้กลัว ข้าเพียงแค่ตกใจเท่านั้น ข้าไม่เคยคิดเลยว่า สิ่ งที่มี


พลังขั้นจักรพรรดิสงครามจะถูกผนึกไว้ในโลกวิญญาณของข้า ชูเฟิ ง
กล่าวพลางส่ ายศรี ษะ จากนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างออก เขาจึงกล่าว
ถามออกไปว่า “ต้านต้าน ไม่ใบ่วา่ พวกเจ้าทั้งสองมีพลังขั้นจักรพรรดิ
สงคราม แล้วคนที่ผนึกพวกเจ้าไว้จะมีพลังขั้นจักรพรรดิสงครามด้วยรึ
!?”

เมื่อเห็นอาการตกตะลึง ลิ้นจุกปากของ ชูเฟิ ง นั้น ต้านต้านทก็กระ


โดดโลดเต้นอย่างชอบอกชอบใจ และกล่าวว่า “ถูกต้อง !! หากพลังของ
ข้ากลับมาดังเดิม ข้ามีพลังขั้นจักรพรรดิสงคราม แต่จะต่างจากเจ้านัน่ ที่
ไม่สามารถนับได้วา่ มันมีพลังขั้นจักรพรรดิสงคราม”

“สําหรับพลังของผูท้ ี่ผนึกข้าไว้ ด้วยความหวาดกลัวของข้า ข้าไม่


สามาาถตรวจสอบการบ่มเพาะพลังของเขาได้”

*****เอื้อกก !! *****
ชูเฟิ ง กลืนนํ้าลายคําใหญ่ลงไป หลังจากได้ยนิ ดังนั้น แม้วา่ เขาจะ
เคยคาดการพลังของ ต้านต้าน ไว้สูงมาก แต่เมื่อเขาได้ยนิ เช่นนี้ ช่วย
ไม่ได้เลยที่เขาจะประหลาดใจ

“ฮึ่ม !! เจ้าบ้านี่ ท่าทีเช่นนี้หมายความว่าเช่นไร !? เจ้าไม่เชื่อว่าข้า


มีพลังขั้นจักรพรรดิสงครามซิ นะ !! ข้าจะบอกให้ ว่าข้าไม่ได้มีเพียงพลัง
ขั้นจักรพรรดิสงครามเท่านั้น แต่ขา้ ยังเป็ นปิ ศาจที่สามารถฆ่าได้โดยไม่
ทันกระพริ บตาเลยด้วยซํ้า !! ข้าขอเตือนเอาไว้ ว่าอย่าทําให้ขา้ โกรธจะ
ดีกว่า !!” เมื่อเห็นท่าทีของ ชูเฟิ ง นั้น ต้านต้าน ก็กล่าวออกมาด้วยความ
ไม่พอใจอย่างมาก

“ฮ่าๆ แน่นอน !! แน่นอน !! ข้าจะไม่เชื่อท่านเทพธิดาได้เช่นไรล่ะ


!!” เมื่อเห็นว่า ต้านต้าน กําลังไม่พอใจนั้น ชูเฟิ ง จึงรี บกล่าวออกมา แต่
เขาก็ไม่สามารถกลั้นเสี ยงหัวเราะเอาไว้ได้
“ไอ้บา้ ชูเฟิ ง !! รอจนถึงวันที่ขา้ เรี ยกคืนพลังของข้ากลับมาได้
ก่อนเถอะ แล้วมาดูกนั ว่าข้าจะจัดการเจ้ายังไง” ต้านต้าน กล่าวออกมา
ด้วสความโกรธ นางเม้มปากแน่น แม่วา่ นางจะคิดว่าดูน่ากลัว แต่ใน
สายตาของ ชูเฟิ ง ใบหน้าของนางในตอนนี้กลับดูน่ารักเสี ยมากกว่า

ในขณะเดียวกันนั้น หลังจากที่พยายามทําลานประตูอยูส่ องครั้ง


คลื่นพลังขั้นจักรพรรดิสงครามก็ค่อยๆ สงบลงไป

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ต้านต้าน ได้ให้คาํ อธิบายเอาไว้วา่ อาจเป็ น


เพราะ ชูเฟิ ง สามารถเข้าถึงอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงได้ จึงทําให้อสู ร
วิญญาณสัมผัสได้ถึงพลังที่คุน้ เคย มันจึงอาละวาดขึ้น
แต่ ชูเฟิ ง ก็ไม่ตอ้ งกังวลอีกต่อไป เพราะผนึกนี้ไม่สามารถทําลาย
ได้โดยอสู รวิญญาณ ผูท้ ี่เป็ นคนผนึก ต้านต้าน และสร้างโลกวิญญาณ
ของ ชูเฟิ ง ไว้น้ นั ไม่ใช่คนธรรมดาแม้แต่นอ้ ย

เห็นได้ชดั ว่า ผูท้ ี่ทาํ เช่นนี้ ต้องการให้ ชูเฟิ ง ได้รับพลังของ ต้าน


ต้าน และอสู รวิญญาณอีกตนหนึ่ง แต่ดว้ ยระดับพลังของ ชูเฟิ ง ในตอนนี้
ยังไม่เพียงพอที่จะรวบรวมพลังทั้งหมดเอาไว้ได้

หลังจากนั้น ชูเฟิ ง ก็ออกจากโลกวิญญาณของเขาด้วยใบหน้าที่


สงบนิ่ง เขาสามารถเข้าใจได้วา่ ผูท้ ี่ผนึก ต้านต้าน และอสู รวิญญาณอีก
ตนหนึ่งที่แข็งแกร่ งอย่างมากเอาไว้ในโลกวิญญาณของเขา นัน่ คือ พ่อ
ของเขาเอง

หลังจากกลับมานั้น ในตอนแรกจากการคาดคะเนระดับพลังของ
หวงฝู่ ห่าวหยู ที่มีพลังขั้นราชันย์สงคราม เขาเดาพ่อของเขามีพลังขั้น
ราชันย์สงครามเช่นกัน แต่ในตอนนี้ ความคิดดังกล่าฝได้พงั ทลายลง เขา
พบว่าพ่อของเขาอาจจะมีพลังขั้นจักรพรรดิสงคราม หรื อสู งกว่านั้น

และยังเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญชั้นแนวหน้า ยิง่ เมื่อ ชูเฟิ ง คิดว่าพ่อของเขามี


พลังขั้นจักรพรรดิสงครามนั้น เลือดภายในร่ างกายของเขายิง่ เดือดพล่าน
ด้วยความภาคภูมิใจ

“ท่านพ่อ แม้วา่ ข้าจะไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นกับท่าน แต่ขา้ ก็จะค้นหา


คําตอบเพื่อไปพบท่านให้ได้ ลูกชายของท่านคนนี้ จะไม่ทาํ ให้ท่าน
ผิดหวัง” หลังจากกล่าวคําเหล่านี้จบ ชูเฟิ ง ก็หนั หน้ากลับมาที่สตั ว์ยกั ษ์
ที่กาํ ลังคุกเข่าอยู่

***** อืมมม *****


ชูเฟิ ง สะบัดแขนเสื้ ออย่างรวดเร็ ว พลังออร่ าสี ม่วงพลันปรากฏ
ออกมาจากร่ างกายของเขา มันกําลังก่อต่อขึ้นบนพื้นอย่างรวดเร็ ว เขา
กําลังวางรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ งขึ้น

ชูเฟิ ง ต้องการทําลายรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณภายในร่ างกาย


ของสัตว์ยกั ษ์ให้เร็ วที่สุด แม้วา่ มันจะไม่ใช่เรื่ องง่าย แต่เขาก็มีความ
มัน่ ใจอย่างมสก ว่าเขาสามารถทําลายมันได้ในเวลาอันสั้น

มันไม่ได้มีเหตุผลมากมายนักที่ทาํ ให้เขาเชื่อมัน่ มันมีเพียงความคิด


เดียว นัน่ คือ หากพ่อของเขาเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจักรพรรดิสงคราม เขา
ย่อมเป็ น บุตรแห่งจักรพรรดิสงคราม เลือดในกายของเขายิง่ เดือดพล่าน
และผลักดันให้เขาก้าวไปข้างหน้า
ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//
A : มันมีประเด็นด้วยเรื่ องที่วา่ ทําไมพ่อ ชูเฟิ ง ถึงได้เอามันมาทิ้งที่เก้า
อาณาจักร

B : แล้วทําไมต้องเป็ น เก้าอาณาจักรล่ะ ทวีปอื่นมีอีกตั้งเยอะตั้งแยะ

C : ทวีปอื่นมันมีสุสานจักรพรรดิป่ะล่ะ

A : เยอะแยะ เหนือกว่าสุ สานจักรพรรดิกม็ ี เคยได้ยนิ ป่ ะสุ สานจิ๋นซี


ฮ่องเต้!!!

B : เออ เห็นว่าที่น้ นั แหล่งกําเนิดพลังวิญญาณเพียบ ตามจํานวนหุ่น


ดินเผาเลยล่ะ 5555+

C : บอกเตี่ยมืง ไปเอาดิ!!!

A-B : . . . . . . . . . . . .
A-B : อสู รอีกตัว มาจากพิภพอสู รฟ้าด้วยล่ะ มีพลังระดับจักรพรรดิ
เชียวนะ แล้วใครหน้อจับมันมาได้!!!

C : เปลี่ยนเรื่ องไวจริ งนะพวกมึง


บทที่ 583 – ยักษ์ขาว-ดํา
MGA583 - Black and White Rakshas

รากษส [ราก-สด] Rakshasa

น. ยักษ์ร้าย, แต่ตวั นิยายมันคือชื่อของโอสถที่กินเข้าไปเพื่อเพิ่มพลัง


กําลังการต่อสู เ้ หมือนโหมดเบอร์เซิ กเกอร์์แต่ไม่บนั่ ทอนพลังวิญญาณ
อีกทั้งยังส่ งผลดีต่อการเพาะปลูกในอนาคต

คฤหาสน์ตระกูลหลี่ หชี่ ชาน ได้ถูกเชิญให้ไปยังตําหนักที่ ชูเฟิ ง


พักอยู่

“นายท่านผูเ้ มตตา หวูฉ่ ิง ท่านให้คนไปตามข้าเร่ งด่วนเช่นนี้ มีเรื่ อง


อะไรรึ !!” ตําแหน่งของ หลี่ ชาน ภายในตระกูลหลี่น้ นั ไม่ได้ต่าํ ต้อยแต่
อย่างใด แต่นอกเหนือจากผูน้ าํ ตระกูลแล้วนั้น แม่นางคนนี้เป็ นผูม้ ี
อํานาจมากที่สุด

แต่ผหู ้ ญิงที่มีอาํ นาจมากเช่นนี้ กลับเรี ยก ชูเฟิ ง ว่า “ผูม้ ีพระคุณ”


นอกจากนี้ นางยังมีทศั นคติที่ดีต่อเขาอย่างมาก

“อสูรเหล็ก ก้าวมาข้างหน้า !!”


[ T/N ที่เรี ยกอสู รเหล็กคือสัตว์มหึ มาที่ชูเฟิ งจับมา เนื่องจากตาม
ตัวของมันเต็มไปด้วยเกล็ดที่เหมือนของตัวนิ่มแต่มีความแข็งแกร่ งอย่าง
มากดัง่ ชุดเกราะ ]

“บอกความจริ งแก่แม่นาง เกี่ยวกับสิ่ งที่เกิดขึ้น” ชูเฟิ ง กล่าวพลาง


มองไปที่สตั ว์ยกั ษ์
“นี่มนั อะไรกัน !!” เมื่อ หลี่ ชาน เห็นเช่นนั้น นางก็ตกใจอย่างมาก
เพราะสัตว์ยกั ษ์ที่โจมตีใส่ นางอย่างดุร้ายในวันนั้น ตอนนี้กลับแสดง
ท่าทีที่อ่อนน้อมออกมา ไม่เหลือซึ่ งภาพลักษณ์เดิมแม้แต่นอ้ ย

เพราในขณะที่ ชูเฟิ ง กล่าวจบนั้น สัตว์ยกั ษ์กล็ ุกขึ้น และโค้งคํานับ


ไปที่ หลี่ ชาน พร้อมทั้งกล่าวออกมาว่า “มันเป็ นความผิดพลาดของข้า
เอง และข้าก็หวังว่าท่านจะรับฟังความจริ งที่เกิดขึ้น”

“เจ้า….เจ้ากลับเป็ นปกติแล้วรึ !!” หลังจากได้ยนิ สัตว์ยกั ษ์ที่ชื่อ


ว่า อสู รเหล็ก กล่าวออกมาเช่นนั้น หลี่ ชาน ก็รู้สึกร่ าเริ งขึ้นมาทันที นาง
หันไปมองที่ ชูเฟิ ง และกล่าวว่า “ผูม้ ีพระคุณ หวูฉ่ ิ ง ท่านทําสําเร็ จ !!”
“ถูกต้อง ด้วยความสามารถของนายท่าน หวูฉ่ ิ ง นั้น ไม่เพียงแต่ขา้
กลับมาเป็ นปกติ แต่ท่านยังทําให้ขา้ เรี ยกความทรงจํากลับมาได้ แม้วา่ ข้า
จะสู ญเสี ยความทรงจําไปในช่วงนั้น แต่ตอนนี้ ข้าก็จาํ มันได้ท้ งั หมด”

ก่อนที่ ชูเฟิ ง จะได้กล่าวอะไรออกมานั้น อสู รเหล็ก ก็กล่าวออกมา


ก่อน และเห็นได้ชดั จากคํากล่าว เหล่านี้วา่ มันรู ้สึกขอบคุณ ชูเฟิ ง อย่าง
มาก ที่สามารถทําลายตราประทับ จนทําให้มนั กลับมาเป็ นปกติได้

“เกิดอะไรขึ้น !? ใครเป็ นผูท้ ี่สะกดเจ้า และชักนําให้เจ้าเข้าสู่ หุบ


เขาเขี้ยวหมาป่ า !?” หลี่ ชาน กล่าวถาม

“ความจริ งก็เป็ นอย่างที่เจ้า และท่าน หวูฉ่ ิ ง คาดเอาไว้ ข้าถูกจับโดย


ตระกูลของข้า และผูท้ ี่จบั ข้า ท่านหม่า ยูค่ ุน” สัตว์ยกั ษ์กล่าวอย่างใจเย็น
แต่คาํ อธิบายเรื่ องทั้งหมด กลับกระจ่างได้ดว้ ยประโยคเดียว

“มันเป็ นเช่นนั้นได้อย่างไร !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนี้ การแสดงออกของ


หลี่ ชาน ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก แม้วา่ นางจจะคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วก็ตาม
แต่เมื่อนางได้ยนิ เข้าจริ งๆ นางกลับไม่อาจทําใจเชื่อได้

หลังจากนั้น หลี่ ชาน ได้พา ชูเฟิ ง และสัตว์ยกั ษ์ไปยังที่พกั ของพ่อ


ของนาง และเล่าเรื่ องราวทุกอย่างให้เขาฟัง

ทั้ง ชูเฟิ ง และสัตว์ยกั ษ์ ได้เล่ารายละเอียดเสริ มเข้าไป และกล่าวอีก


ว่า หลายสิ่ งหลายอย่าได้ถูกวางแผนเอาไว้โดยน้องชายของผูน้ าํ ตระกูล
เพื่อทําให้ตวั เขาได้มีอาํ นาจมากที่สุดภายในตระกูลแทน
“บ้าเอ๊ย !! เสี ยแรงที่ขา้ เห็นว่าเขาเป็ นน้องชายของข้า !! นี่เขาทําได้
แม้กระทัง่ จะฆ่าลูกของข้าเลยรึ !!” ด้วยความช่วยเหลือของ ชูเฟิ ง และ
สัตว์ยกั ษ์ จึงทําให้ผนู ้ าํ ตระกูลได้รู้ความจริ ง เขาสบทออกมาพร้อมกับกํา
หมัด และกัดฟันแน่นด้วยความโกรธแค้น

ชูเฟิ ง ที่เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ม่วงนั้น เขา


สามารถสัมผัสได้ถึงความกระหายเลือดจากผูน้ าํ ตระกูลหลี่ได้อย่าง
ชัดเจน

“ท่านพ่อ พวกเราจะทําอย่างไรกันดี !! ตระกูลหม่า ได้แอบ


วางแผนชัว่ ร้ายมาเป็ นเวลานาน และอีกไม่กี่วน้ ข้างหน้า จะเป็ นการเปิ ด
คลังสมบัติแล้ว พวกเขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน” หลี่ ชาน
กล่าวถามด้วยความกังวล
“อืม…….”

“วันเปิ ดคลังสมบัติได้ถูกกําหนดเอาไว้แล้ว หากข้าเปลี่ยนแปลง


พวกเขาจะต้องสงสัยแน่นอน สถานการณ์เช่นนี้ไม่ดีแน่” ผูน้ าํ ตระกูลห
ลี่ กล่าวออกมาด้วยความจนปั ญญา

“นายท่าน แม่นางชาน ข้ามีแผน !!” ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ก็กล่าว


ออกมา

“หวูฉ่ ิง ท่านมีแผนอะไร รี บบอกมาเร็ ว !!” ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ กล่าว


ถามด้วยความรี บร้อน
“เหตุการณ์ที่ทาํ ให้ แม่นางชาน ต้องเฉี ยดตายนั้น ไม่ได้เป็ น
แผนการของตระกูลหม่าอย่างเดียวเท่านั้น แต่มนั ถูกวางแผนโดย ชาบิ
หากทั้งสองคนไม่ทรยศล่ะก็ เป็ นไปไม่ได้เลยที่ แม่นางชาน จะตกอยูใ่ น
อันตราย” ชูเฟิ ง กล่าว [ T/N ชาบิ คือ คู่รักชรา ตาเฒ่า กับ ยายเฒ่า ที่
คอยรับใช้ตระกูลหลี่ แต่ทรยศไปเข้า ตระกูลหม่า ]

“หื มมมม…ในปี ที่ผา่ นมา ชาบิท้ งั คู่ได้ติดตามข้า ข้าไม่เคยคิดร้าย


ต่อดวกเขาแม้แต่นอ้ ย ถ้าพวกเขาไม่มีขา้ การบ่มเพาะพลังของพวกเขาก็
ไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ แต่พวกเขากลับตอบแทนความเมตตาของข้า
เช่นนี้รึ ข้าจะให้พวกเขาตอบแทนอย่างสาสม !!” เมื่อกล่าวถึง ชายิท้ งั คู่
นั้น ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ก็ตะโกนออกมาราฝกับฟ้าร้อง เจตนาฆ่าอย่าง
รุ นแรงแผ่กระจายออกมาทันที

“นายท่าน ชาบิท้ งั คู่ตอ้ งถูกลงโทษอย่าสาสมแน่นอน แต่ในตอนนี้


พวกเราสามารถใช้งานพวกเขาได้” ชูเฟิ ง กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง

“ใช้งานพวกเขา !! อย่างไร !?” หลี่ ชาน กล่าวถาม

“หนึ่งในพวกเขารู ้วา่ ข้าเป็ นคนช่วยแม่นางชาน และรู ้วา่ ข้าเป็ นผู ้


เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ดังนั้น พวกเขาน่าจะคาดเดาว่าข้าต้องค้นหาตัวผู ้
บงการสัตว์ยกั ษ์อย่างแน่นอน”

“ในวันพรุ่ งนี้ ให้ประกาศออกไปว่าข้าไม่สามารถทําลายตรา


ประทับของสัตว์ยกั ษ์ได้ และมันหลุดจาการควบคุม จนทําให้ถูกฆ่าตาย
ไปแล้ว และข้าจะใช้รูปแบบอํานาจพลังวิญญาณในการสร้างศพปลอม
ขึ้นมา ด้วยพลังของข้า มันสามารถทําให้ผอู ้ ื่นเชื่อได้วา่ มันเป็ นของจริ ง”
“แน่นอนเลยว่า ชาบิท้ งั คู่จะต้องไปรายงานเรื่ องนี้แก่ ตระกูลหม่า
พวกเขาจะคิดว่าพวกเราไม่สามารถล่วงรู ้ความลับนี้ได้ และยังคงนักษา
สัมธ์จอมปลอมนี้ไว้อยู”่

“ส่ วนเรื่ องเปิ ดคลังสมบัติ ก็ให้เปิ ดไปตามกําหนด ยังไงก็ตาม พวก


เราจะต้องเคลื่อนไหวก่อนพวกเขา เรี ยกว่า ‘ปิ ดประตูตีแมว’ !!” ชูเฟิ ฝ
กล่าวอธิบาย

“แต่ความแข็งแกร่ งของตระกูลหม่า แข็งแกร่ งกว่าตระกูลหลี่อยู่


มาก อีกทั้งพวกเขายังวางแผนมาเป็ นเวลานาน ข้าเกรงว่าพวกเราจะไม่
สามารถเอาชนะพวกเขาได้ภายในเวลาไม่กี่วนั นี้” หลี่ ชาน กล่าวด้วย
ความกังวล
“จริ งๆ เรื่ องนี้จดั การได้ไม่ยาก แม้วา่ ตระกูลหม่าทั้งตระกูล จะ
แกร่ งกว่าตระกูลหลี่ แต่เสาหลักของตระกูลหม่าก็มีเพียงหนึ่งเดียว
เท่านั้น หากนายท่านสามารถเอาชนะผูน้ าํ เขาพวกเขาได้ ตระกูลหม่าจะ
ต้อฝพ่ายแพ้อย่างแน่นอน” ชูเฟิ ง กล่าวพลางยิม้ บางๆ

“ท่านหวูช่ ิง ตามหลักเหตุผลแล้วมันถูกต้องมาก แต่ขา้ เคยประลอง


กับ หม่า ยูค่ ุน หลายครั้ง และผลก็ออกมาเสมอกันในทุกๆ ครั้ง ข้าเกรง
ว่า การที่ขา้ จะฆ่าเขาได้ มันจะไม่ใช่เรื่ องง่าย เพื่อป้องกันความผิดพลาด
พวกเราต้องแยกการต่อสู อ้ อกมา แต่มนั ก็มีแนวโน้มว่าท่านจะเป็ น
อันตราย” ผูน้ าํ ตระกูลหลี่กล่าวด้วยความกังวล

“นายท่าน ท่านไม่ตอ้ งกังวลเกี่ยวกับเรื่ องนั้น ข้า หวูฉ่ ิ ง ได้เรี ยนรู ้


เกี่ยวกับรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณหลายประเภท หากท่านตั้งใจที่จะ
สังหาร หม่า ยูค่ ุน ข้าก็มีวธิ ีที่จะสามารถช่วยให้ท่านเอาชนะเขาได้” ชู
เฟิ ง กล่าวด้วยความมัน่ ใจ
“ท่าน หวูฉ่ ิง ข้าสงสัยจริ งๆ ว่าท่านมีวธิ ีการใด !?” ผูน้ าํ ตระกูลหลี่
กล่าวถาม

“ข้ามียาต้องห้ามโบราณอยู่ แม้วา่ มันจะไม่สามารถช่วยให้ท่านเพิง่


พลังจากระดับหนึ่ง ไปเป็ นระดับสอง ขั้นเทพสงครามได้กต็ าม แต่มนั ก็
สามารถเพิ่มความแข็งแกร่ งให้ท่านอย่างมาก และมันก็เพียงพอที่จะทํา
ให้ท่านสามารถเอาชนะผูน้ าํ ตระกูลหม่าอย่างแน่นอน”

“ยังไงก็ตาม หลังจากกินยาต้องห้ามเข้าไปแล้วสิ บชัว่ โมงนั้น


ผลข้างเคียงของยาจะแสดงผลออกมา ท่านจะเจ็บปวดราวกับถูกแมลง
นับหมื่นตัวกัดแทะกระดูกของท่าน แต่ดว้ ยระดับพลังของท่านในตอนนี้
ท่านนะไม่ตายอย่างแน่นอน แต่มนั ยังช่วยในการบ่มเพาะพลังของท่าน
ในอนาคตอีกด้วย” ชูเฟิ ง กล่าวพร้อมกับหยิบยาเม็ดสี ขาวและสี ดาํ
ออกมา

“นี่มนั …ยักษ์ขาว-ดํา !!”

เมื่อเห็นยาเม็ดสี ขาว และสี ดาํ นั้น ใบหน้าของผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ก็เต็ม


ไปด้วยความตกตะลึงอย่างมาก

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//
A : มันยอมเชื่อด้วยเว้ย!!!

B : อืม มันเชื่อมีหลักฐานขนาดนี้แล้วแม่งยังไม่เชื่อก็ไม่รู้จะพูดว่าไง
ล่ะ เพราะชูเฟิ งก็ยงั ไม่รู้จกั ชื่อผูน้ าํ ตระกูลหม่าเลยด้วยซํ้า หากสัตว์มหึ มา
ระบุได้ขนาดนี้ คงไม่ผดิ แน่นอน
C : เด๋ วมันก็โดนเป่ าหู!!!

A : ช่างแม่งดิ ยังไง ชูเฟิ ง ก็จดั การหมดอยูแ่ ล้ว อีกอย่างถ้าคิดจะจับตัว


ชูเฟิ ง ฝันหวานไปล้านปี !!!

B : ถูกต้อง เด๋ วชูเฟิ ง จะแสดงพลังให้พวกมันเห็นเอง ว่าผูเ้ ชื่อมต่อฯ


ของ 9 อาณาจักร เหนือกว่า ภาคทะเลตะวันออก แค่ไหน

บทที่ 584 – ผลประโยชน์

“หวูฉ่ ิง ท่านได้ส่ิ งนี้มาจากที่ใด !?” เมื่อเห็นยาต้องห้ามในมือของ


ชูเฟิ ง นั้น ผูน้ าํ ตระกูลหลี่กส็ บั สนอย่างมาก

ยาต้องห้าสามารถเพิม่ พลังได้เพียงช่วงเวลาสั้น นี่คือสิ่ งที่ทึกคนรู ้


แต่ยาต้องห้ามสามารถแบ่งออกได้ถึงความแข็งแกร่ งของยาตามสี ของ
มัน
หลังจากเข้าสู่ พลังขั้นจ้าวสงครามแล้วนั้น ยาต้องห้ามจะไม่มีผล
ใดๆ กับผูเ้ ชี่ยวชาญขั้น และเช่นเดียวกัน พวกเขาจะไม่ได้รับผลข้างเคียง
จากยาต้องห้ามแม้แต่นอ้ ย เพราะร่ างกายของพวกเขาแข็งแกร่ งอย่างมาก

แต่ยาต้องห้ามที่มีผลต่อผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามนั้น เป็ นยา


ระดับสู ง และวิธีการผลิตก็ถูกปกปิ ดเป็ นความลับไม่ถูกเผยแพร่ ออกไป
อีกทั้งยาต้องห้ามระดับสู งที่ผลิตออกมายังมีสีที่แตกต่างกันน้อยมาก
และยังมีชื่อเรี ยกที่แตกต่างกันออกไป

ตัวอย่างเช่นยาต้องห้ามในมือของ ชูเฟิ ง นั้น เป็ นยาต้องห้าม


คุณภาพระดับสู ง ที่มีผลเพิ่มพลังให้กบั ผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงคราม
โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม ผลข้างเคียงของยานี้
แตกต่างกันอย่างมาก
แม้แต่ในเขตทะเลตะวันออกการจัดหายาต้องห้ามระดับสู งก็เป็ น
เรื่ องยากอย่างมาก มันสามารถพบได้โดยบังเอิญเท่านั้น จึงไม่ใล่เรื่ อง
แปลที่ผนู ้ าํ ตระกูลหลี่จะประหลาดใจ เมื่อ ชูเฟิ ง หยิบเอายาต้องห้ามทั้ง
สองเม็ดนี้ออกมา

“แน่นอนว่าข้าไม่สามารถผลิตมันได้ ข้าเพียงแค่พบมันโดยบังเอิญ
เท่านั้น” ชูเฟิ ง กล่าวพลางพยักหน้าและยิม้ ออกมา ยักษ์ขาว-ดํา นั้น ชู
เฟิ ง ชิงมาจากราชวงศ์จี และเขาคาดว่าเขาอาจจะต้องใช้มนั ในอนาคต
เขาจึงไม่ได้ขายมันออกไป และยังคงเก็บมันเอาไว้

“ยักษ์ขาว-ดํา เป็ นยาต้องห้ามที่มีค่ามาก ข้าไม่สามารถรับมันมา


ฟรี ๆ ได้ ราคาของมันน่าจะอยูห่ า้ หมื่ลูกแก้วสวรรค์ แต่ขา้ จะให้ท่านหก
หมื่นลูกแก้วสวรรค์ สําหรับยักษ์ขาว-ดํานี่” ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ กล่าวพลาง
ลําเลืองมองไปที่ หลี่ ชาน

หลี่ ชาน พยักหน้ารับ นางหันหลังกลับไปและจากไปเพียงไม่นาน


นางก็กลับมาพร้อมกับถุงจักรวาลที่ภายในบรรจุลูกแก้วสวรรค์หกหมื่น
ลูกเอาไว้

ชูเฟิ ง ไม่ได้คดั ค้านต่อการกระทํานี้แต่อย่างใด แม้เขาจะรู ้วา่ ยักษ์


ขาว-ดํา เป็ นสิ่ งที่หาได้ยาก และมีค่ามากนั้น แต่ลูกแก้วสวรรค์หกหมื่น
ลูก ก็เป็ นสิ่ งมีค่าไม่ใช่นอ้ ย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปฏิเสธ

“หวูฉ่ ิง โชคดีจริ งๆ ที่ตระกูลหลี่ของข้า ได้รับท่านเข้ามา ด้วยยักษ์


ขาว-ดํานี่ ข้าเชื่อว่าข้าสามารถเอาชนะ หม่า ยูค่ ุน ได้อย่างแน่นอน” ผูน้ าํ
ตระกูลหลี่ กล่าวพร้อมกับมองดูยกั ษ์ขาว-ดําในมือ และยิม้ ออกมาอย่าง
มัน่ ใจ
เมื่อเห็นว่าพ่อของตัวเองกําลังชื่นชม ชูเฟิ ง นั้น หลี่ ชาน ก็คิด
ย้อนกลับไป ทําให้นางภูมิใจนิดๆ ที่ได้พา ชูเฟิ ง กลับมาพร้อมกับนาง

“ชูเฟิ ง เจ้าคิดว่าผูน้ าํ ตระกูลหลี่จะไว้ใจได้หรื อไม่ !! ข้าสัมผัสสิ่ ง


ผิดปกติบางอย่างได้จากเขา แม้วา่ เขาจะดูโง่ และไม่คิดอะไร แต่ขา้ คิดว่า
เขาอาจจะมีแผนการบางอย่าง ที่แม้แต่เจ้ากับข้าก็ไม่สามารถมองออก
ได้” ในขณะนั้น ต้านต้าน ก็กล่าวออกมาด้วยความกังวล

“ไม่ตอ้ งกังวลไป หากเขาใช้ยกั ษ์ขาว-ดํา ข้าจะสามารถควบคุมเขา


ได้ในเวลาอันสั้น แต่หากข้าควบคุมเขาไม่ได้ การบ่มเพาะพลังของเขาก็
ต้องหายไปอยูด่ ี”
“ไม่วา่ ยังไง เขาจะต้องใช้ยกั ษ์ขาว-ดําแน่ เพราะพลังของเขามีเพียง
ระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงครามเท่านั้น ถ้าเขาไม่ใช้ยกั ษ์ขาว-ดํา เขานะต้อง
สู ญเสี ยพลังอย่างมาก และหากเขาคิดที่จะทําร้ายข้า ข้าจะใช้พลังทั้งหมด
กับทักษะมังกรฟ้า เขาก็ไม่สามารถจับข้าได้ แต่สญ
ั ชาติญาณของข้าบอก
ว่า เขาไม่ใช้คนที่จะมีแผนการซับซ้อนอะไร เขาเป็ นเพียงคนโง่เท่านั้น
และเป็ นเพียงชายแก่ที่งี่เง่า จนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้”

ชูเฟิ ง ยิม้ บางๆ เขาได้สร้างรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณเข้าไปใน


ยักษ์ขาว-ดํา เมื่อผูท้ ี่กลืนกินมันเข้าไปนั้น รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณจะ
เข้าไปยังร่ างกายของคนผูน้ ้ นั โดยที่เขาไม่รู้ตวั แม้แต่นอ้ ย

ตราบใดที่ ชูเฟิ ง กระตุน้ รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณเหล่านั้น เขา


จะสามารถควบคุมผูก้ ินมันเข้าไปได้ทนั ที และหากเขาไม่สามารถ
ควบคุมร่ างกายได้ เขาก็ยงั สามารถควบคุมพลังของผูท้ ี่กินมันเข้าไปได้
ในตอนนี้ ชูเฟิ ง เพียงจะใช้ผนู ้ าํ ตระกูลหลี่ ให้จดั การกับตระกูลหม่า
และยังจะใช้เขาในการบุกเข้าไปยังหุบเขาเขี้ยวหมาป่ า ดังนั้น ยักษ์ขาว-
ดํา จึงเปรี ยบได้กบั ทริ คของเขา

แต่กย็ งั ไม่แน่วา่ ยักษ์ขาว-ดํา จะได้ผล ดังนั้น ไพ่ตายของเขายังคง


เป็ นสามทักษะเร้นลับ ชูเฟิ ง รู ้ดีวา่ พลังของจ้าวสงครามนั้นแข็งแกร่ งมาก
แม้เขาจะไร้ผตู ้ ่อต้านในขั้นแดนสวรรค์ แต่สาํ หรับการสังหารผูเ้ ชี่ยวชาญ
ขั้นจ้าวสงคราม มันยังคงเป็ นเรื่ องยากอย่างมาก

แต่ดว้ ยพลังของสามทักษะเร้นลับ ที่พฒั นาขึ้นไปอีกขั้นนั้น น่าจะ


สามาาถจัดการกับผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามได้ นัน่ จึงเป็ นเหตุผลที่ทาํ
ให้ ชูเฟิ ง มีความมัน่ ใจ
หลังจากนั้น ทึกอย่างก็เป็ นไปตามแผนการของ ชูเฟิ ง ผูน้ าํ ตระกูลห
ลี่ได้ประกาศออกไปว่า ชูเฟิ ง ไม่สามารถทําลายผนึกที่อยูภ่ ายในร่ างของ
สัตว์ยกั ษ์ได้ มันจึงคุม้ คลัง่ ขึ้น และสุ ดท้ายก็ตอ้ งสังหารมันไป

เมื่อข่าวนี้แพร่ กระจายออกมานั้น สมาชิกของตระกูลหลี่ผดิ หวัง


อย่างมาก เพราะพวกเขาคาดหวังว่า ชูเฟิ ง จะสามารถทําลายผนึกได้ และ
สามารถค้นหาตัวผูบ้ งการในการสังหารคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหลี่ได้

ชาบิท้ งั คู่เองก็เชื่อเช่นนั้น พวกเขายังคิดว่าตระกูลหลี่ ยังคงไม่รู้


ความลับใดๆ และยังคงดําเนินการตามแผนการเดิมของพวกเขาต่อไป

หลังจากนั้นไม่กี่วนั วันที่ตระกูลหลี่ และตระกูลหม่า ตกลงกันว่า


จะเข้าไปค้นหาสมบัติภายในหุบเขาเขี้ยวหมาป่ าก็มาถึง ตระกูลหลี่ได้
รวบรวมผูเ้ ชี่ยวชาญจํานวนมากมุ่งหน้าเข้าสู่ หุบเขาเขี้ยวหมาป่ าอย่าง
รวดเร็ ว

“บ้าเอ๊ย เจ้านัน่ มันโชคดีจริ งๆ ที่ได้ช่วยชีวติ ของคุณหนูใหญ่เอาไว้


อีกทั้งยังได้รับความชื่นชมจากท่านผูน้ าํ ตระกูลหลี่อีก” ในขณะนั้น
เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญที่ถูกเชิญมาโดยตระกูลหลี่ ได้มองไปยัง ชูเฟิ ง ที่กาํ ลัง
สนทนาอย่างสนุกสนานกับ หลี่ ชาน อีกทั้งผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ยังคงร่ วม
สนทนาด้วยในบางครั้ง เหตุการณ์น้ ีทาํ ให้เกิดความอิจฉาอย่างรวดเร็ ว

“ในโลกแห่งผูเ้ ชี่ยวชาญนี้ ตระกูลที่แข็งแกร่ งจะสามารถอยูใ่ น


จุดสู งสุ ดได้ แต่ในวันนี้ ตระกูลหลี่กลับไม่ได้เชิญเราเข้าไปร่ วม
สนทนา” ในขณะนั้น เยว่เหลา ก็กล่าวออกมา

“เยว่เหลา ท่านหมายความว่าเช่นไร !?” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น


ผูเ้ ชี่ยวชาญที่อยูใ่ กล้ๆ และกําลังมองดู ชูเฟิ ง สนทนากับ หลี่ ชาน อย่าง
สนุกสนาน และอยากที่จะสัง่ สอน ชูเฟิ ง ก็กล่าวถามออกมา

“วันนี้เป็ นวันอะไร !!” เยว่เหลา กล่าวถาม

“ข้าได้ยนิ มาว่า ภายในหุบเขาเขี้ยวหมาป่ ามีสมบัติบางอย่างอยู่


ตระกูลหลี่ และตระกูลหม่า จะร่ วมมือกันค้นหามัน” ผูเ้ ชี่ยวชาญคน
หนึ่งตอบ

“เมื่อพวกเขาร่ วมมือกันค้นหามัน แน่นอนว่าจะต้องมีการแข่งขัน


ขึ้น ในโลกนี้ไม่มิตรแท้ มีเพียงผลประโยชน์เท่านั้นที่แน่นอน”
“ข้าได้ข่าวมาว่าตระกูลหม่าได้เชิญผูเ้ ชี่ยวชาญมาจํานวนมาก เมื่อ
ถึงเวลาที่พวกเขาปะทะกัน ข้าจะเข้าไปจัดการกับเด็กเหลือของที่มีพลัง
เพียงระดับแปด ขั้นแดนสวรรค์ หวูฉ่ ิง เอง”

“ถ้าหากเกิดการปะทะขึ้น และตระกูลหม่าไม่ตอ้ งการจะสู ญเสี ย


มาก ข้าจะเข้าพวกกับพวกเขา พวกเขาจะต้องส่ งตัวแทนออกมาประลอง
แน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น พวกเจ้าก็เสนอให้เจ้าเด็กเหลือขอ หวูฉ่ ิ ง
ออกไปประลอง ด้วยพลังเพียงระดับแปดของเจ้านัน่ มันต้องแพ้อย่าง
แน่นอน และความพ่ายแพ้น้ นั ก็จะตกเป็ นของตระกูหลี่….” หลังจาก
กล่าวจบ ใบหน้าของ เยว่เหลา ก็เปลี่ยนเป็ นเย็นชาอย่างเห็นได้ชดั

“เป็ นความคิดที่ดี ท่านเยว่เหลา ช่างมีความคิดที่ยอดเยีย่ มจริ งๆ !!”


เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญโดยรอบต่างมองไปที่ ชูเฟิ ง ด้วยความ
เย้ยหยัน

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////
A : ใกล้เข้าสู่ โหมดสู ร้ บล่ะ

B : ชื่อ หวูฉ่ ิง เริ่ มต้นจากการเอาโลหิ ตตระกูลหม่าล้างเท้า แล้วปลด


ทรัพย์ ยึดสมบัติอยากเห็นน่าผูน้ าํ ตระกูลหลี่ชิบหาย ว่ามันจะทําหน้า
ยังไง

C : ขําดิ!!!

A : เวลามืงจะตาย มืงจะขําออกป่ ะล่ะ

B : เออ!!! ได้ขาํ แน่


บทที่ 585 – การปะทะของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ

หลังจากเดินทางเพียงช่วงสั้นๆ ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ ก็ได้เดินทาง


มาถึงสถานที่นดั พบในหุบเขาเขี้ยวหมาป่ า มันเป็ นพื้นที่เล็กๆ ภายในหุบ
เขาเท่านั้น บนพื้นที่เต็มไปด้วยผูค้ นมากมาย ดูจากเสื้ อผ้าแล้วนั้น พวก
เขาล้วนเป็ นคนของตระกูลหม่าทั้งสิ้ น
การบ่มเพาะพลังของตระกูลหม่านับว่ายอดเยีย่ มทีเดียว ที่อ่อนด้อย
มากที่สุดมีพลังระดับห้าขั้นแดนสวรรค์ และส่ วนมากอยูใ่ นจุดสู งสุ ด
ของขั้นแดนสวรรค์ อีกทั้งพวกเขายังมีผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณอีกสิ บแปด
คน แต่ทางด้านตระกูลหลี่น้ นั มีผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณเพียงแค่จาํ นวน
นิ้วมือข้างเดียวเท่านั้น

ดังนั้น อาจกล่าวได้วา่ ความแข็งแกร่ งของตระกูลหม่านั้น


แข็งแกร่ งกว่าตระกูลหลี่ ไม่ใช่เพียงแค่ในด้านความแข็งแกร่ งเท่านั้น แต่
ในด้านจํานวนคนนั้น ตระกูลหม่าก็ยงั เหนือกว่ามาก

บนพื้นที่น้ นั มีชายชราผูห้ นึ่งปรากฏตัวออกมา ผิวหนังของเขาสี


ปกติ แต่พลังของเขาค่อนข้างแข็งแกร่ งมาก
เขาสู งเกือบสามเมตร ร่ างกายของเขากํายําอย่างมาก บนใบหน้า
ของเขาแม้จะคล้ายกับริ้ วรอย แต่มนั คือรอยแผลเป็ นมากกว่า

แม้วา่ เขาจะอายุเกือบจะร้อยปี แต่เขากลับให้ความรู ้สึกราวกับคน


หนุ่มสาว ชูเฟิ ง สามารถคิดออกมาได้ทนั ที่วา่ คนผูน้ ้ ีกค็ ือผูน้ าํ ตระกูล
หม่า หม่า ยูค่ ุน

“น้องชายในที่สุดเจ้าก็มา !! ข้ารอเจ้านานแล้ว !!” เมื่อเห็นชูเฟิ ง


และคนอื่นๆ ทะยานมาในอากาศนั้น หม่า ยูค่ ุน ก็เริ่ มต้นการสนทนากับ
ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ด้วยใบหน้าที่ยมิ้ แย้ม ทางด้านผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ก็แสดง
ใบหน้าที่ตื่นเต้นดีใยออกมา ราวกับไม่เคยมีเรื่ องอะไรเกิดขึ้น พวกเขา
แสดงความรักระหว่างพี่นอ้ งออกมา
ชูเฟิ ง ที่อยูใ่ นเหตุการณ์น้ ีไม่ได้สนใจพวกเขาแม้แต่นอ้ ย เขากลับ
ให้ความสนใจกับหุบเขามากกว่า

เมื่อเขาใช้เนตรสวรรค์ของเขามองไปนั้น เขารับรู ้ได้วา่ สถานที่แห่ง


นี้เป็ นที่ต้ งั ของถํ้าจิตวิญญาณ

อย่างไรก็ตาม หากมองด้วยตาเปล่านั้น สถานที่ตรงนี้กจ็ ะเป็ นเพีง


สถานที่ธรรมดา แม้วา่ ชูเฟิ งจะใช้พลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์กต็ าม นี่ไม่ได้
หมายความว่า ชูเฟิ ง นั้นอ่อนแอ แต่เป็ นเพราะผูท้ ี่ปิดผนึกที่น้ นั แข็งแกร่ ง
เกินไป มันไม่ใช่เพราะสถานที่แห่งนี้ปิดบังตัวตนที่แท้จริ งจากเนตร
สวรรค์ แต่เป็ นเพราะรู ปแบบนาจพลังวิญญาณต่างหาก ที่ปิดกั้นพลัง
ของเนตรสวรรค์
“น้องชาย ข้าต้องรอหลายสิ บปี กว่าจะถึงวันนี้ บรรพบุรุษของพวก
เราก็กาํ ลังเฝ้าดูจากข้างบนแน่ๆ”

“ถูกต้อง เมื่อเรามาถึงนี้แล้ว ดังนั้น ทําไมพวกเราไม่มาเปิ ดมันกัน


ล่ะ” ขณะที่กล่าวนั้น หม่า ยูค่ ุน ก็หยิบหิ นออกมาก้อนหนึ่งจากถุง
จักรวาล ชูเฟิ ง สัมผัสได้ทนั ทีถึงความแปลกประหลาดของหิ นนัน่

“อืมมม…น้องชาย เจ้ากล่าวได้ถูกต้องแล้ว แต่ท่านบรรพบุรุษได้


บอกเอาไว้อย่างชัดเจนว่า มีเพียงผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณเท่านั้น ที่
สามารถเปิ ดมันได้ แต่พวกเราก็ไม่ใช่ผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณทั้งคู”่ ผูน้ าํ
ตระกูลหลี่ กล่าวพลางหยิบหิ นลักษณะเดียวกันออกมาเช่นกัน

“พีช่ าย ปัญหานี้แก้ง่ายมาก ในตอนนี้พวกเราขาดเพียงผูเ้ ชื่อมต่อ


โลกวิญญาณใช่ไหม พวกเราก็แค่เลือกคนที่เหมาะสมออกมารับหน้าที่น้ ี
เท่านั้น เลือกใครดี…..”

“อ่า…เจ้าก็เลือกผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณที่แกร่ งที่สุดจากตระกูลห


ลี่ของเจ้ามาหนึ่งคน และข้าก็จะเลือกผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณที่แกร่ งที่สุด
จากตระกูลหม่าของข้าหนึ่งคนเช่นกัน”

“และให้พวกเขาทั้งสองคนประลองกันดู หากผูใ้ ดชนะก็ให้ผนู ้ ้ นั


รับหน้าที่ในการเปิ ดไป เจ้าคิดว่าวิธีการนี้เป็ นเช่นไร” ผูน้ าํ ตระกูลหม่า
กล่าว

“ได้ซิ !! น้องชายเอาอย่างที่ท่านว่า” ผูน้ าํ ตระกูลหลี่พยักหน้ารับ


จากนั้นเขาก็หนั หน้าไปที่กลุ่มคนของสมาชิกตระกูหลี่ เขามองไปที่ เยว่
เหลา และกล่าวว่า “เยว่เหลา ข้าขอมอบภาระหน้าที่ที่ยงิ่ ใหญ่ในครั้งนี้แก่
เจ้า”
“ขอรับ !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น เยว่เหลา รี บตะโกนรับ เขาจัดเสื้ อ
คลุมของเขา พลางก้าวเดินออกไป และกวาดสายตามองไปที่เหล่าผูค้ น
โดยเฉพาะอย่างยิง่ ชูเฟิ ง เขากล่าวออกมาว่า “เจ้าเด็กน้อย ถึงอย่างไรใน
สถานการณ์สาํ คัญเช่นนี้ ท่านผูน้ าํ ตระกูลก็เลือกข้า”

“ท่านกู่ !!” ในเวลาเดียวกันนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหม่าก็กล่าวขึ้น พร้อม


กับโบกมือของเขา

หลังจากนั้น ชายชราผูห้ นึ่ง ที่สวมเสื้ อคลุมของผูเ้ ชื่อมต่อโลก


วิญญาณสี ฟ้า ก็กา้ วออกมาจากสมาชิกของตระกูลหม่า
ไม่เพียงแต่ชายชราผูน้ ้ ีจะเป็ นผูเ้ ชื่อต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี
ฟ้าเท่านั้น แต่พลังวิญญาณของเขาก็ไม่ได้ดอ้ ยไปกว่า เยว่เหลา แม้แต่
น้อย เขาพลังถึงระดับเก้า ขั้นแดนสวรรค์ แต่เทียบลักษณะนิสยั แล้วนั้น
เขาดูสงบนิ่งกว่า เยว่เหลา อยูม่ าก

“สหาย…พวกเราจะประลองกันด้วยวิธีใด !?” หลังจากชายชรา


ที่ถูกเรี ยกว่า ท่านกู่ ออกมานั้น เขาก็กล่าวถามออกมาด้วยความสุ ภาพ

“ไม่น่าถาม นี่เป็ นการประลองระหว่างผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ


ดังนั้น พวกเรายะประลองกันด้วยรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ” เยว่เหลา
กล่าวจตอบด้วยความเย็นชา พร้อมกับปลดปล่อยอํานายพลังวิญญาณสี
ฟ้าออกมา

***** วูช้ ชชชชชชชช *****


เยว่เหลา สะบัดฝ่ ามือของเขาขึ้นไปบนท้องฟ้า พลันรู ปแบบอํานาย
พลังวิญญาณก็ถูกสร้างขึ้นมาในอากาศอย่างรวดเร็ ว

***** พรึ่ บ *****

อํานาจพลังวิญญาณที่ถูกปลดปล่อยมาจาก เยว่เหลา นั้น รวมตัวกัน


เป็ นดาบขนาดใหญ่ กว้างสามเมตร และยาวถึงเก้าเมตร พุง่ ใส่ ท่านกู่
อย่างนวดเร็ ว

มันไม่ใช่ทกั ษะลับแต่อย่างดัน แต่มนั เป็ นรู ปแบบอํานาจพลัง


วิญญาณ ที่เกิดจากการสร้างขึ้นของ เยว่เหลา ด้วยอํานาจพลังวิญญาณ
ของเขาเอง

“สมกับเป็ นความคาดหวังของตระกูลหลี่ รู ปแบบอํานาจพลัง


วิญญาณนี้แข็งแกร่ งมาก !!” เมื่อดาบยักษ์สีฟ้านี้ปรากฏออกมา แววตา
ของสมาบิกตระกูลหลี่กเ็ ต็มไปด้วยความบื่นชม แม้แต่ผเู ้ ชื่อมต่อโลก
วิญญาณคนอื่นๆ ของตระกูลก็ไม่เว้น แม้วา่ พวกเขาจะเป็ นผูเ้ ชื่มต่อโลก
วิญญาณเช่นกันนั้น แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทําแบบ เยว่เหลา ได้

แม้วา่ สมาชิกของตระกูลหลี่จะอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
นั้น แต่เหล้าผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณของตระกูลหม่ากลับสงบนิ่ง ราวกับ
ว่าพวกเขาเชื่อมัน่ ว่าพวกเขาจะชนะอย่างแน่นอน

“สหาย รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณของเจ้าน่าประทับใจจริ งๆ แต่


ข้าเกรงว่ารู ปแบบอํานายพลังวิญญาณสี ฟ้าของเจ้าจะไม่เพียงพอ ที่จะ
สามารถเอาชนะข้าได้”

ในเวลานั้น ท่านกู่ ก็ยมิ้ ออกมาอย่างเย็นชา เขาวาดฝ่ ามือเขา พลัน


ปรากฏรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงออกมาที่ดา้ นหน้าของเขาอย่าง
รวดเร็ ว

“นี่มนั อะไรกัน !! เขาเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี


ม่วง !!”

“สวรรค์ !! นี่เขามีพลังของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี


ม่วงเชียวรึ !! ไม่ใช่วา่ ต้องทะลวงเข้าสู่ ข้นั จ้าวสงครามก่อนถึงจะสามารถ
มีอาํ นายพลังวิญญาณสี ม่วงได้อย่างนั้นรึ !!”
หลังจากที่เห็นเช่นนั้น ใบหน้าของสมาชิกตระกวลหลี่ที่เต็มไปด้วย
ความชื่นชมในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็ นความตกตะลึงอย่างมาก

ปกติน้ นั ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ม่วงจะต้องมีพลัง


ขั้นจ้าวสงคราม และบุคคลเช่นนั้นก็จะกลายเป็ นมังกรในหมู่คน

ในขณะนี้น้ นั ท่านกู่ จากตระกูลหม่า ได้สร้างความประหลาดใจ


ให้กบั สมาชิกของตระกูลหลี่อย่างมาก และเขายังได้แสดงความห่างชั้น
ของอํานาจพลังวิญญาณของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณสี ฟ้า และสี ม่วง
ออกมาอย่างชัดเจน แน่นอนแล้วว่าตระกูลหลี่จะต้องพ่ายแพ้ในการดวล
ครั้งนี้

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////
B : คนอื่นในตระกูลหลี่ แพ้กค็ งไม่แปลก แต่ถา้ เป็ นชูเฟิ งลงมือ
รับรอง บ่แพ้ไผ๋

A : แม่นนนนน

C : จะแน่สกั แค่ไหน พี่เฟิ ง

A : อาจารย์สอนทักษะ อํานาจพลังเป็ นใครดูดว้ ย!!! ขนาดคนของ


นิกายโลกวิญญาณยังสู ไ้ ม่ได้ ถ้าชูเฟิ งเอาอสู รวิญญาณออกมาสู ม้ ึงเอ้ย!!!
บทที่ 586 - ชูเฟิ งเข้าสู่ การประลอง

“ฮึ่ม ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วงงั้นหรื อ ข้าไม่เชื่อหรอกว่า


เจ้าจะทําลายดาบยักษ์ของข้าได้”

หลังจากที่เขารู ้วา่ พลังฝ่ ายตรงข้ามเหนือกว่าเขา เย่วเ์ หลาก็ยงั ไม่ยอมแพ้


และใช้พลังทั้งหมดในการวางรุ ปแบบ
ในตอนนั้นก่อให้เกิดดาบสี ฟ้าขนาดยักษ์ยาว 9 เมตร และ ขยายขึ้นถึง
10เมตร แม้แต่พลังของมันก็เพิม่ ขึ้นเรื่ อยๆ

แต่ ท่านกู๋ ก็ไม่ได้กลัวมัน เขายิม้ อย่างเย้ยหยัน

“ขยาย!”

ในตอนนั้น ท่านกู่กต็ ะโกนเสี ยงดังลัน่ อํานาจวิญญาณตรงหน้าเขาหมุน


ตัวอย่างรวดเร็ ว เกิดสัญลักษณ์นบั ไม่ถว้ นภายในนั้น มันช่างงดงามและ
สบายตามาก และยังมีพลังที่ซ่อนเร้นอยูอ่ ีก
*ตูม*

เมื่อดาบของ เยว์เหลาเข้ามาใกล้ท่านกู่กเ็ กิดแรงระเบิดจากรู ปแบบ


วิญญาณสี ม่วง ในตอนนั้นรู ปแบบสี ม่วงก็ได้กลายเป็ นมือขนาดยักษ์และ
จับดาบเอาไว้

มันเป็ นมือขนาดยักษ์ที่คล้ายมือของยักษ์ นอกจากนี้มนั ยังรวดเร็ วและ


แข็งแกร่ งมาก มุนจับดาบสี ฟ้านัน่ ไว้และและบีบมันจนทําให้ดาบขนาด
ยักษ์แตกเป็ นเสี่ ยงๆ

*ฟุ่ บ* หลังจากดาบยักษ์ถูกทําลายเย่วเ์ หลาก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก


เขากระอักเลือดออกมาเต็มเสื้ อผ้าไปหมดจากนั้นขาของเขาก็ทรุ ดลงบน
พื้น และ พลังของเขาก็ลดลง ถ้าไม่ได้คนจากตระกูลหลี่ในตอนนั้นเขา
อาจจะล้มฟาดพื้นไปแล้วก็ได้
เยว์เหลานั้นพ่ายแพ้ และได้รับบาดเจ็บสาหัสต่อจากนั้นก็มีเสี ยงร้องดัง
ออกมาจากรู ปแบบวิญญาณชุดม่วง มือขนาดยักษ์น้ นั เติบโตขึ้น ภาตใต้
สายตาผูค้ นนับไม่ถว้ น ก็ได้เห็นสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์เดินออกมา

สัตว์ประหลาดตัวนี้มีร่างกายสี ม่วง มันเกิดจากรู ปแบบวิญญาณ มันมี


รู ปร่ างเป็ นมนุษย์แต่หน้าเป็ นสัตว์ สู งกว่า 10 เมตร กลิ่นอายของมัน
แข็งแกร่ งมาก พลังของมันก็ไม่ธรรมดา เพราะมันถูกสร้างโดยรู ปแบบ
วิญญาณ ซึ่งมันเหมือนของจริ งมาก ถ้ามันมีปัญญา มันจะสร้างความ
กลัวให้ผคู ้ นอย่างมาก

“แข็งแกร่ งจริ งๆ เขาได้แสดงให้เห็นรู ปแบบวิญญาณที่มี


ประสิ ทธิภาพ.” เมื่อเห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นผูค้ นล้วนตื่นตระหนกไป
กับรู ปแบบของท่านกู่
“พี่ชาย ดูเหมือนว่าคนที่รับผิดชอบในการเปิ ดสมบัติครั้งนี้น่าจะ
เป็ นตระกูลหม่าของข้า.” ในตอนนั้นผูน้ าํ ตระกูลหม่าก็พดู ขึ้นใบหน้า
ของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยยิม้

“ฮ่าฮ่า ดีดีดี น้องชาย เจ้าเจอคนที่น่าสนใจเสี ยจริ ง ข้าเห็นความ


พยายามของเจ้าแล้ว น้องชายขอบคุณมากสําหรับความพยายามของ
เจ้า.”

แม้ผนู ้ าํ ตระกูลหลี่จะไม่พอใจ แต่เขาก็หวั เราและพูดออกมา เขาและผูน้ าํ


ตระกูลหม่านั้นเดินไปหน้าท่านกู่ และเตรี ยมจะวางหิ นในมือของพวก
เขา
แม้วา่ ผูน้ าํ ตระกูลหลี่จะไม่ได้กงั วลอะไรแต่คนในตระกูลหลี่น้ นั ใบน่า
ของเขาได้เปล่ยนเป็ นน่าเกลียดมาก พวกเขารู ้สึกเศร้าใจกับการพ่ายแพ้น้ ี
มาก

มันเป็ นเพราะความพ่ายแพ้ของเยว์เหลานั้นเปรี ยบเสมือนความพ่ายแพ้


ของตระกูลหลี่ และนัน่ ทําให้พวกเขาอับอายมาก

“ท่าน กู่ท่านมีความสามารถยิง่ นัก แต่ขา้ นั้นก็ได้เรี ยนรู ้รูปแบบ


วิญญาณมาบ้าง ถ้าท่านจะช่วยชี้แนะให้ขา้ จะได้หรื อไม่” แต่ในตอนนั้น
ก็มีเสี ยงดังมาจากคนตระกูลหลี่

“ใครกัน” หลังจากได้ยนิ เสี ยงนั้นทุกคนต่างรู ้สึกตกใจและมอง


ไปที่เจ้าของเสี ยงทันที
และเมื่อ พวกเขาได้เห็นเขา ก็ตอ้ งตกใจอย่างหนัก เพราะเจ้าของเสี่ ยงนั้น
เป็ น ชายวัยกลางคนน่าตาหล่อเหลา ที่กาํ ลังเดินออกมาจากฝูงชนตระกูล
หลี่ เขาคือชูเฟิ งที่ปลอมตัวเป็ น หวูฉ่ ิ งนัน่ เอง

“หวูฉ่ ิง เจ้ากําลังทําอะไร เจ้าอยากตายหรื อ รี บกลับมาเร็ วเข้า


อย่าออกไปเสี ยหน้าเลย!”

“บัดซบ เจ้านี่จะทําให้ชื่อเสี ยงพวกเราเสี ยหาย แม้แต่เยาว์เหลา


ยังถูกท่านกู่จดั การได้ เขายังจะกล้าเสนอหน้าออกไปอีก”

“อ้า ในตอนนี้ตระกูลหลี่ของข้านั้นช่างน่าอับอายเหลือเกิน.”
หลังจากเห็นว่าชูเฟิ งเป็ นคนก้าวออกมา ทุกคนต่างรู ้สึกเสี ยใจมาก บาง
คนใช้ขอ้ ความทางจิตของชูเฟิ ง บอกให้เขากลับพวกเขาไม่ตอ้ งการให้ชู
เฟิ งสร้างความอับอายให้ตระกูลหลี่

แต่จริ งๆแล้วไม่มีใครรู ้วา่ ทําไมชูเฟิ งถึงทําท่าทางเช่นนั้น แม้ หลี่ชาน


และผูน้ าํ ตระกูลหลี่ที่รู้จกั ชูเฟิ ง ก็ขมวดคิ้วแน่น พวกเขาไม่รู้จกั ชูเฟิ งดีนกั
เขารู ้แค่วา่ เป็ นคนที่อยูใ่ นระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์จะสามารถจัดการ
กับท่านกู๋ได้อย่างไร

“สหาย เจ้าช่างกล้ายิง่ นัก เจ้ามีนามว่าอะไร” ท่าน กู่ ยิม้ แล้วพูด


ออกมา
“ข้าชื่อ หวูฉิง.” ชูเฟิ งตอบกลับทันที

“อ้า หวูฉ่ ิงหรื อ สหายหวูฉ่ ิ ง เจ้าต้องการประลองรู ปแบบ


วิญญาณกับข้าใช่หรื อไม่” ท่านกู่ เย้ยหยัน

“อย่าบอกนะว่าท่านไม่กล้า” ชูเฟิ งตอบกลับด้วยนํ้าเสี ยงเย็นชา

“ฮ่าๆ อย่าล้อเล่นไปหน่อยเลย เจ้าคิดว่ากล้าไม่กล้า คิดว่าข้ากลัว


เจ้าอย่างนั้นหรื อ”

“ตั้งแต่เจ้าก้าวออกมา ข้าก็จะตอบสนองให้กบั เจ้า แต่ความต่าง


ระหว่างเรานั้นมากเดินไป ถ้าข้าโจมตีกเ็ กรงว่าเจ้าจะบาดเจ็บสาหัส.”

“ดังนั้นข้าไม่โจมตีเจ้า ถ้าเจ้าต้องการจะชนะข้า ก็เอาเลยใช้พลัง


ทั้งหมดของเจ้าโจมตียกั ษ์ของข้า ถ้าทําให้มนั ขยับได้เจ้าก็ชนะไป.”ท่าน
กู่ยมิ้ ทองชูเฟิ ง ด้วยสายตาเหยียดหยาม

“โอ้ว ท่านผูจ้ ริ งหรื อ ถ้าข้าสามารถทําให้มนั สัน่ ได้ขา้ จะชนะ


อย่างนั้นสิ นะ” ชูเฟิ งถามกลับเสี ยงดังด้วยนํ้าเสี ยงเหลือเชื่อ

“แน่นอน ข้าเป็ นคนรักษาคําพูด สหาย หวูฉิง อย่าคิดว่าข้าดูถูก


เจ้าข้านั้นแค่อยากให้เจ้าปลอดภัยมันไม่มีทางเลือกแล้ว.” ท่านกู่พดู
“ถ้าอย่างนั้นก็ตอ้ งขอบคุณสําหรับนํ้าใจท่านจริ งๆ.” จากรอยยิม้
บนใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็ นเย็นชาชูเฟิ งกลางแขนออก และเหวีย่ งมัน
ก็ให้เกิดสัญลักษณ์นบั ไม่ถว้ นพุง่ ขึ้นไปบนท้องฟ้า

ความเร็ วของชูเฟิ งนั้นสุ ดยอดมาก ทําให้ผคู ้ นเห็นมือของเขาไม่ชดั เจน


เขาสามารถเห็นได้เพียงภาพซ้อนของแขนนับไม่ถว้ นด้านหน้าพวกเขา

ในสถานการณ์เช่นนี้ โดยมีชูเฟิ งเป็ นจุดศูนย์กลาง ทุกอย่างๆรอบๆตัว


เขาก็เริ่ มเปลี่ยนไปในตอนแรกเกิดเสี ยงระเบิด จากนั้นโลกก็สนั่ ไว้ และ
สุ ดท้ายหิ นก็เริ่ มแตกออกจากกัน และแม้แต่ลมรอบๆเขาก็ได้ก่อตัวเป็ น
ลมหมุน

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////
A : พี่เฟิ ง สู ๆ้ !!!

B : หวู๋ฉิง สู ๆ้ !!!

C : ท่านกู๋ สู ๆ้ !!!
บทที่ 587 - ชูเฟิ งเหนือกว่า

“บรรยากาศช่างรุ นแรงยิง่ นัก ดูเหมือนว่าเจ้าหนุ่มคนนี้กาํ ลังเล่น


กลบางอย่างอยู.่ ” เมื่อเห็นพลังที่เกิดจากชูเฟิ ง ผูค้ นก็ยงั ไม่เชื่อว่าชุเฟิ งจะ
มีความสามารถ

“อ๊า เขาไม่สามารถหนีจากภัยพิบตั ิที่เกิดขึ้นจากตัวเขาได้ เขาช่าง


เป็ นความน่าอับอายของตระกูลหลี่จริ งๆ” ในตอนนั้น เยว์เหลา ที่
บาดเจ็บหนักจากท่านกู๋ เงยหน้าขึ้น หลังจากเขาได้รับรู ้ถึงพลังของ
ท่านกู๋ เขาจึงคิดว่าชูเฟิ งต้องถูกจัดการอย่างแน่นอน

*ฮึ่ม* แต่ในขณะที่ทุกคนรู ้สึกเช่นนั้น ชูเฟิ งผสานมือของเขาในตอนนั้น


ของเขาเกิด ลมหมุนนับ10 หมุนรอบตัวเขาอย่างรวดเร็ วและ
เหมือนกับประตูวงกลมลอยอยูบ่ นโอกาส

ในลมหมุนนั้นก็มีแสงสี ม่วงรอดออกมา พร้อมกับสัญลักษณ์นบั ไม่ถว้ น


เมื่อแสงสี ม่วงรวมตัวกับสัญลักษณ์น้ นั มันก็เกิดแสงขึ้นมาจนในที่สุดลม
หมุนทั้งหมดนัน่ ก็ได้กลายเป็ น รู ปแบบวิญญาณสี ม่วง

“สวรรค์ นี่มนั ”
เมื่อผูค้ นเห็นเช่นนั้นก็ตอ้ งตกใจอย่างหนัก

พวกเขาทุกคนล้วนไม่ใช่ธรรมดา ดังนั้นพวกเขาจึงพูดได้วา่ ชูเฟิ งนั้น


สร้างรู ปแบบวิญญาณสี ม่วงทั้งหมด นอกจากนี้ยงั เป็ นรู ปแบบวิญญาณสี
ม่วง 10 กว่าอัน ด้วยพลังของชูเฟิ งที่อยุใ่ นระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์
แต่กลับครอบครองรู ปแบบวิญญาณสี ม่วง

“มันเป็ นไปได้อย่างไร เขาเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมสี


ม่วงอย่างนั้นหรื อ”

ในตอนนั้นในบรรดาคนที่ไม่ชอบชูเฟิ งก็ตอ้ งตกใจภาพเบื้อหน้าเขา


เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าชูเฟิ งจะมีพลังถึงเพียงนี้
“ท่านผูม้ ีพระคุณหวูฉ่ ิง นี่เรื่ องจริ งอย่างนั้นหรื อ”

ในความจริ งแล้ว ไม่ใช่แค่คนที่ต่อว่าชูเฟิ ง แม้แต่หลี่ ชาน กับผูน้ าํ


ตระกูล หลี่ ก็ตอ้ งตกตะลึง

คนที่มีพลังระดับชุดม่วง ในระดับ 9 อาณาจักรสวรรค์น้ นั นับเป็ น


อัจฉริ ยะแล้ว แต่ถา้ คนที่มีพลังถึงเพียงนั้นในระดับ 8อาณาจักรสวรรค์
นั้นย่อมเป็ นอัจฉริ ยะเหนืออัจฉริ ยะ

“พวกมันเป็ นรู ปแบบวิญญาณสี ม่วงของจริ ง แต่ที่สาํ คัญคือผู ้


เชื่อมต่อโลกวิญญาณสามารถควบคุมรู ปแบบวิญญาณสี ม่วงนับ 10
พร้อมๆกันได้หรื อ”
ท่าน กู๋ ยืนยันในพลังของชูเฟิ ง อย่างไรก็ตามเขาไม่เชื่อว่าชูเฟิ งจะ
สามารถควบคุมพลังมันได้ และ เขาก็ไม่เชื่อว่าชูเฟิ งจะควบคุมมันได้
ทั้งหมด

เมื่อย้อนกลับไปตอนที่เขาได้สมั ผัสกับรู ปแบบวิญญาณสี ม่วงครั้งแรก


ในตอนนั้นเขาก็ตอ้ งพยายามอย่างหนักกว่าจะควบคุมมันได้

*โฮฏ~~~~~~~~~*

แต่ในตอนนั้น ภายในรู ปแบบวิญญาณนับ 10 ก็เกิดเสี ยงร้องออกมา


เสี ยงของมันนั้นน่ากลัวกว่ายักษ์ของท่านกู๋เสี ยอีก
*โฮก~~~~~~~~~*

อย่างไรก็ตามเมื่อเสี ยงร้องปรากฏขึ้นก็ปรากฏร่ างก้าวออกมาจาก


รู ปแบบวิญญาณนัน่ ทําให้ทุกคนประหลาดใจมาก

พวกมันไม่มีตวั ไหนตัวเล็กกว่ายักษ์ที่ท่านกู๋สร้างเลย และถ้ามองไปด้าน


พลังนั้นพวกมันทุกตัวก้าวข้ามยักษ์ของท่านกู๋ไปแล้ว

เป็ นเพราะพวกมันไม่ได้มีเพียงร่ างที่ใหญ่เท่านั้น มันยังมีพลังที่จบั ตัว


เป็ นเกราะบนร่ างของมันและยังมีขวานอีก ซึ่ งการทําให้รูปแบบวิญญาณ
เกิดเป็ นยักษ์หรื อสัตว์น้ นั เป็ นเรื่ องที่ยากมาก แต่วา่ ตอนนี้พวกมัน
ทั้งหมดนั้นใกล้เคียงกับคําว่า นักรบไร้เทียมทาน

*โฮก~~~~~~~~~~*

ในขณะที่ทุกคนกําลังตกใจ พวกมันก็ร้องขึ้นมาอีกครั้ง สัตว์ประหลาด


ไร้เทียมทานทั้ง 10 นัน่ ถูกควบคุมโดยชูเฟิ ง และพุง่ เข้าใส่ ท่านกู๋

*ตูม ตูม ตูม *

ในขณะที่พวกมันวิง่ ก็เหมือนเกิดฟ้าผ่าอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงก่อให้เกิด


ฝุ่ นตลบ แต่มนั ยังทําให้ภูเขาและพื้นดินถึงกับสัน่ สะเทือน นอกจากนี้
ความเร็ วของพวกมันนั้นสู งมาก พวกมันไปถึงด้านหน้าของท่านกู๋ราว
กับหายตัวไป

*กรรรร~~~~*

*ตูม~~~~*

ในตอนนั้นยักษ์ของ ท่านกู๋กเ็ ข้ามาปกป้องท่านกู๋ร่างของมันถูกฉี กโดย


สัตว์ประหลาดของชูเฟิ งในทันที เห็นได้ชดั ว่าสัตว์ประหลาดยักษ์ของ
ท่านกู๋น้ นั ไร้ค่าไปเลยเมื่ออยูด่ า้ นหน้ายักษ์ของชูเฟิ ง

“เจ้าเด็กบัดซบ!”
ในตอนนั้น เมื่อร่ างของสัตว์ยกั ษ์ของเขาถูกฉี กเป็ นชิ้นเล็กๆ ท่านกู๋ก็
คํารามก้องไปบนท้องฟ้า

เขาประทับฝ่ ามือของเขา และสร้างตราประทับแบบพิเศษขึ้น หลังจาก


ตราประทับนํ้าเสร็ จสมบูรณ์ พื้นดินใต้เท้าก็สนั่ สะเทือนอย่างรุ นแรง
เสี ยงแตก เสี ยงหัก ดังขึ้นนับไม่ถว้ นในที่สุดพื้นดินก็แยกออก และ ลอย
ขึ้นไปบนท้องฟ้า

“พลังเช่นนี้ เห็นได้ชดั ว่าเขาทุ่มเททุกสิ่ งเพื่อการโจมตีเพียงครั้งง


เดียว” เมื่อเห็นท่าทางของท่านกู๋ เย่วเ์ หลาก็พดู ขึ้นมา

“ฮ่า!”
ที่จริ งแล้ว เมื่อพลังของท่านกู๋น้ นั สะสมได้ระดับนึง เขาก็คาํ รามขึ้นบน
ท้องฟ้า และก่อให้เกิดรู ปแบบวิญญาณที่ไม่มีสิ้นสุ ดราวกับภูเขาไฟประ
ทุ ออกมาจากร่ างกายของเขา

รู ปแบบวิญญาณนนั้น ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยปราศจากที่ยดึ เหนี่ยว


แต่ที่น่าตกใจที่สุดคือมันเริ่ มรวมตัวกันกลายเป็ นงูขนาดยักษ์บนท้องฟ้า

งูขนาดยักษ์นนั่ ยาวกว่า 200 เมตร มันมีฟันที่แหลมคมและดวงตา


แดงกํ่า มันไม่เพียงดูเหมือนราวกับมีชีวติ แต่พลังของมันนั้นแข็งแกร่ ง
มาก การเคลื่อนไหวของมันราวกับทําให้เกิดพายุข้ ึน
*วูบ่ *

*ตูม ตูม ตูม *

ในตอนนั้น หางของมันก็เคลื่อนไหว ราวกับแส้ มันฟาดลงไปที่สตั ว์


ประหลาดไร้เทียมทันและยากที่จะหยุดยั้งได้

“ฮึ่ม.”

อย่างไรก็ตามชูเฟิ งนั้นไม่ได้เกรงกลัว เขาส่ งเสี ยงออกมาอย่างเย็นชา


และผายมือของเขาและเริ่ มวาดสัญลักษณ์บนมือของเขา
หลังจากวาดเสร็ จเขาก็ยกมือขวาขึ้น เกิดแสงสี ม่วงรอบๆมือของเขา
รู ปแบบวิญญาณนัน่ ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ วเกิดเป็ นงูตวั เล็กๆสี ม่วง
จํานวนมาก เลื้อยขึ้นมาจากแขนชูเฟิ งและในที่สุดพวกมันทั้งหมดก็ได้
เลื้อยเต็มแขนขวาของชูเฟิ ง

ในตอนนั้นแขนขวาของเขาราวกับปกคลุมด้วยแสงสี ม่วง ซึ่ งมันน่าเกรง


ขามอย่างมากแต่นน่ั ก็เป็ นเป็ นพียงจุดเริ่ มต้น ชูเฟิ งสะบัดมือขวาของเขา
และนัน่ ทําให้เกิดพลังวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นและกลายเป็ นมือ
ขนาดยักษ์ที่ใหญ่กว่างูยกั ษ์นนั่

มือขนาดยักษนัน่ มีสีม่วงและยาวกว่า100เมตร มันเหมือนกับมือของ


ปี ศาจที่สาํ คัญที่สุดคือทุกรู ขมุ คนนั้นราวกับมีดาบที่คมกริ บยืน่ ออกมาจน
มันดูคล้ายกับใบเลื่อย ภาพที่เห็นนัน่ ทําให้ผคู ้ นตัวสัน่ ด้วยความกลัว
อย่างมาก
ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////////
A : ท่านกู๋ มืงคงไม่รักชีวติ สิ นะ ???

B : แล้วดันมาจบเอาตอนที่พี่เฟิ งจะได้โชว์เทพ ซะงั้น!!!

A : เห้อ รู ้กร็ ู ้นะว่าใครจะชนะ แต่แบบว่าอยากเห็นตอนที่พี่เฟิ งได้ศิลา


ทั้งสองมาปลดผนึก จริ งๆให้เปนท่านกู๋ มาเปิ ดก็คงไม่ไหวหรอก
เพราะว่ามันมีเคล็ดลับพิเศษ ที่พี่เฟิ งเท่านั้น รู ้ได้ทนั ที

B : เอาล่ะต้องพักกันไว้ก่อน ไว้มาบูล้ า้ งผลาญกันพรุ่ งนี้ ใกล้จบเรื่ อง


กับสองตระกูลนี้สกั ที แล้วเด๋ วไปต่อด้วยเรื่ องของ หยวน รู่ ววววววววว
มีแนวโน้มว่าจะโดนซํ้ารอบสองหรื อไม่ ต้องมารอดูกนั
บทที่ 588 - เปิ ดสมบัติ

" ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าตํ่าไป แต่หากข้าทุ่มเต็มกําลัง เจ้าก็


อาจจะเจ็บตัว " เห็นการโจมตีของ ชูเฟิ ง ท่านกู๋ ก็ตระหนักได้วา่
สถานการณ์ไม่ค่อยจะดี

แต่เขาก็ไม่คิดจะถอย จากนั้นสัญลักษณ์ที่มือเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
กลายเป็ นรู ปแบบอสรพิษขนาดใหญ่ " เลื้อย " อยูใ่ นอากาศ มันอ้าปาก
ขนาดใหญ่ของมันขณะที่ขู่ จนเห็นเขี้ยวที่ใหญ่โตแหลมคม พร้อมกับพุง่
เข้าฉกใส่ ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว

เขารู ้วา่ รู ปแบบอสรพิษขนาดยักษ์น้ ีไม่สามารถเอาชนะ รู ปแบบหัตถ์


วิญญาณที่น่ากลัวของชูเฟิ งได้ เขาจึงไม่คิดจะเข้าปะทะด้วยแรงแบบซึ่ งๆ
หน้า แต่เขาจะชิงจัดการชูเฟิ งให้ได้ภายในการโจมตี ครั้งเดียวด้วย
ความเร็ วของรู ปแบบอสรพิษขนาดยักษ์
" ยังอ่อนไป!! " อย่างไรก็ตามชูเฟิ งนั้นเพียงหัวเราะเบาๆเมื่อเห็น
การกระทําของท่านกู๋ จากนั้นเขาก็สะบัดแขนเบาๆ จากนั้นรู ปแบบหัตถ์
วิญญาณ ก็ค่อยๆสลายและหายไป "

" เกิดอะไรขึ้น ? หรื อว่ารู ปแบบของ หวูฉ่ ิ ง นั้นเป็ นภาระหนักไป


เขาจึงไม่สามารถควบคุมให้มนั คงสภาพได้ มันถึงได้หายไปแบบนั้น ?
" เห็นการก่อตัวของฝ่ ามือขนาดใหญ่ ทุกคนคิดว่า ชูเฟิ งมีปัญหา
ทางด้านการควบคุมให้มนั คงสภาพ เพราะหัตถ์วญ
ิ ญาณขนาดยักษ์น้ นั
ต้องใช้อาํ นาจพลังวิญญาณอย่างมาก แน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่คนทัว่ ๆไปจะ
สามารถควบคุมได้

" ท่านก็รู้วา่ ตาแก่พวกนั้นเจ้าเล่ห์ คราวนี้เห็นที หวูฉ่ ิ ง คงแพ้ "


ในเวลาเดียวกันที่ฝ่ามือยักษ์หายไป อสรพิษที่ยาวกว่า 1000 เมตร
ของท่านกู๋ ที่ห่างจากชูเฟิ งไปไม่ไกล มันเลื้อยเข้ามาหวังจะเขมือบเขา
* ฟ่ อออ!!! *

ในตอนนั้นทุกคนต่างคิดว่า ชูเฟิ ง คงต้องแพ้อย่างไม่ตอ้ งสงสัย จู่ๆชูเฟิ ง


ก็ยมิ้ ออกมาอย่างเยือกเย็นแล้ววาดมือเบาๆอีกครั้ง ทันใดนั้นพื้นที่
ด้านหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป มันปรากฏเป็ นฝ่ ามือขนาดใหญ่ที่น่ากลัว
อย่างทีทุกคนไม่เคยสัมผัสมาก่อน ตอนนั้นฝ่ ามือยักษ์ปิดเส้นทางของ
อสรพิษ

จริ งๆแล้ว ฝ่ ามือยักษ์ไม่ได้หายไปหรื อสลายไปแต่อย่างใด ทุกอย่างใน


ตอนนั้นเป็ นแค่ภาพลวงที่ ชูเฟิ ง สร้างขึ้นมา มันยังคงถูกชูเฟิ งควบคุมได้
อย่างสมบูรณ์ ตามที่ใจเขาปรารถนา
*** พรึ บบ *** แน่นอน ว่าท่านกู๋ นั้นไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ เมื่อ
เห็นการปรากฏตัวของฝ่ ามือยักษ์ เขาไม่ตกใจมากเท่าไหร่ ใบหน้าของ
เขายังเต็มไปด้วยความมัน่ ใจ ตอนนั้นเขาควบคุมรู ปแบบอสรพิษขนาด
ใหญ่ หลบออกด้านข้างของรู ปแบบหัตถ์วญ
ิ ญาณ อ้อมเข้าไปโจมตี ชู
เฟิ ง อีกครั้ง

* * บูม * *

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ งก็ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาส มือขวาของเขาสะบัดไป


ตามรู ปแบบอสรพิษทันที ซึ่งเขาเพิ่มอํานาจความแข็งแกร่ งให้กบั หัตถ์
วิญญาณขึ้นจากเดิม นอกจากนี้เขายังสามารถคว้าจับอสรพิษขนาดใหญ่
ได้อย่างรวดเร็ ว เห็นได้ชดั ว่า ชูเฟิ ง เร็ วกว่าหลายเท่า

เสี ยง ระเบิด ปั้ ง ดังกระหึ่ ม รู ปแบบงูยกั ษ์ที่ท่านกู๋สร้างขึ้นมา ถูกทําลาย


โดยฝ่ ามือยักษ์ของ ชูเฟิ ง อย่างงายดาย

" เป็ นไปได้ยงั ไง ? มันเป็ นไปไม่ได้!!! ข้าคนนี่จะแพ้ให้กบั


คนหนุ่มอย่างเขานี่นะ ข้า . . . "

* เอื้อก ~~~~~ *

เมื่อรู ปแบบที่เขาสร้างแหลกละเอียดเป็ นชิ้นๆ ท่านกู๋ เห่าหอนขึ้นฟ้าด้วย


ความคับแค้น แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบนั้น เลือดก็พงุ่ ทะลักออกมาจาก
ภายในปากของเขา

นอกจากนี้ ใบหน้าของเขายังซี ดขาว หน้าผากเต็มไปด้วยหยดเหงื่อ และ


ดูเหมือนว่าผิวหนังบนร่ างกายเขาจะเหี่ ยวย่นลง ยังกับมีอายุเพิ่มขึ้นมาอีก
หลายสิ บปี คล้ายกับคนแก่ที่กาํ ลังจะใกล้ตาย นั้นเห็นได้ชดั ว่าเขาทุ่ม
อํานาจพลังวิญญาณใส่ เข้าไปในรู ปแบบอสรพิษมหาศาล เขาจึงได้รับ
ผลลัพธ์เช่นนี้ เนื่องจากมันถูกชูเฟิ งทําลาย ไม่อาจกูค้ ืนกลับมาได้ในเวลา
อันสั้น [ T/N เหมือนกับว่ามันอัดพลังชีวติ ให้กบั รู ปแบบอสรพิษ เพื่อ
เพิ่มความแข็งแกร่ งให้มนั เมื่อมันถูกทําลาย ผูท้ ี่สร้างมันก็จะได้รับ
ผลกระทบที่สาหัส ]

แต่เมื่อกลับมามองด้าน ชูเฟิ ง ใบหน้าของเขายังคงสดใส และดู


กระฉับกระเฉง จากนั้นเขาก็สลายฝ่ ามือขนาดใหญ่ โดยที่เขาไม่รับ
ผลกระทบใดๆ ชัดเจนว่าการโจมตีเมื่อครู่ ไม่ใช่พลังทั้งหมดของเขา

" เป็ นไปได้ยงั ไง นี้ นี้ นี้ . . . หวูฉ่ ิ ง แท้จริ งเขามีความสามารถ


ขนาดนี้เลยหรอ ! ? "
" ตะกูลหลี่แท้จริ ง มีผเู ้ ชื่อมต่อฯ ที่มีศกั ยภาพขนาดนี้เชียว ขนาด
เขายังหนุ่มยังแน่นอยูแ่ ท้ๆ "ในตอนนั้น ไม่มีใครแม้แต่คนเดียว ที่ไม่
แสดงสี หน้าตกใจออกมา พวกเขาเข้าใจแล้วว่า ชูเฟิ ง นั้นแข็งแกร่ งจริ งๆ

โดยเฉพาะคนที่ดูถูก ชูเฟิ ง และบอกว่าเขาจะพลาดท่า ตอนนั้นใบหน้า


เต็มไปด้วยความอับอาย เพราะเวลานี้ ในสายตาพวกเขาบอกตัวเองว่า
เข้าใจเขาผิดไป ไม่เพียงแต่ ชูเฟิ ง นั้นไม่ธรรมดา เขายังเป็ นอัจฉริ ยะที่
โดดเด่น

" ฮ่าๆๆ สหาย หวูฉ่ ิง ข้าไม่นึกเลยว่าท่านจะเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯชุด


ม่วง ถึงได้มีทกั ษะควบคุมรู ปแบบวิญญาณ ยอดเยีย่ มขนาดนี้ นี้นบั เป็ น
การเปิ ดหูเปิ ดตาของพวกเราจริ งๆ! ! "
ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ หัวเราะเสี ยงดัง ตอนนี้เขามีความสุ ขอย่างมาก เห็นได้ชดั
ว่า รอยยิม้ นั้นออกมาจากหัวใจ หลังจาก ที่ชูเฟิ งเดินกลับมา เขาได้แต่ชื่น
ชมและสรรเสริ ญ

สําหรับผูน้ าํ ตระกูลหม่า หม่า ยู๋กวน มุมปากเขากระตุกขึ้น โดยเฉพาะ


อย่างยิง่ เมื่อเขาเห็นผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดม่วง ที่ทุ่มเงินมากมายในการเชิญมา
พ่ายแพ้ชายหนุ่มอย่างง่ายดาย มันจึงทําให้ความโกรธของเขาล้นทะลัก
ออกมา พร้อมกับจิตอาฆาต

แต่ตอนนี้ เขานั้นไม่มีทางเลือกจึงได้แต่พยายามระงับความโกรธและจิต
อาฆาตเอาไว้ภายในใจ จากนั้นก็ถอนหายใจออกและพยายามทําสี หน้ามี
ความสุ ขได้อย่างน่าประหลาด จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาผูน้ าํ ตระกูลหลี่
และ ชูเฟิ ง
" ท่านพี่ จริ งๆแล้ว หวูฉ่ ิ ง คนนี้ ไม่ธรรมดาเลยจริ งๆ " ผูน้ าํ
ตระกูลหม่ามองผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ก่อนจะส่ งศิลาที่อยูภ่ ายในมือไปให้แก่ ชู
เฟิ ง และกล่าว " สหายข้า ภาระที่ใหญ่ลวงนี้คงต้องฝากไว้บนบ่าเจ้า
ดังนั้นอย่าทําให้พวกเราผิดหวัง ! "

" หวูฉ่ ิง ตระกูลหลี่ และ ตระกูลหม่า รอคอยวันนี้มา 500 ปี


ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยูก่ บั เจ้าแล้ว " ในเวลานั้น ผูน้ าํ ตระกูลหลี่กล่าว
พร้อมกับมอบศิลาให้แก่ ชูเฟิ ง

" ไม่ตอ้ งกังวล ข้าจะไม่ทาํ ให้ทุกท่านผิดหวัง " ชูเฟิ งยิม้ เบาๆ


พร้อมกับรับศิลาทั้งสองมา
เมื่อชูเฟิ งสําผัสกับศิลา เขารู ้สึกว่ามันมีการต่อตัวของอํานาจพลังพิเศษ
อัดแน่นอยูภ่ ายในนั้น มันเป็ นรู ปแบบที่ทรงพลังอย่างมาก และอาจกล่าว
ได้วา่ วิธีการของมันแม้แต่ชูเฟิ งเองก็ไม่สามารถทําได้

แต่น้ นั ก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับ ชูเฟิ ง เพราะคนที่สร้างศิลาพวกนี้มีคาํ ไบ้


ของวิธีการเปิ ดการทํางาน นอกจากนี้ ยังมีอีกวิธีที่จะทําให้มนั ทํางาน
โดยที่ไม่ใช้พลังของผูเ้ ชื่อมต่อฯ แต่แค่รวมศิลาทั้งสองเข้าด้วยกัน

แน่นอนหลังจากที่ ชูเฟิ ง วางศิลาทั้งสองเข้าด้วยกัน มันก็เกิดเสี ยงดัง


ออกมา จากนั้นศิลาก็เริ่ มงาน แต่จู่ๆมันก็แตกกระจาย ซึ่ งต่างจากที่เขา
คาดหวัง ภายในศิลาทั้งสองไม่ได้มีอาํ นาจพลังฯอยูภ่ ายใน แต่มนั กับ
ส่ องแสง

** ฟิ้ ว ฟิ้ ว **
หลังจากที่สองวัตถุมีแสงปรากฏออกมา พวกมันก็พงุ่ ขึ้นอยูท่ อ้ งฟ้า มันมี
ความรวดเร็ วอย่างมาก และเมื่อมีคนจะไปสัมผัสสองวัตถุน้ นั มันก็บิน
รอบๆฝูงชนราวกับว่ากําลังค้นหาอะไรบางอย่าง

" เร็ วเข้า จับมันไว้!!! "

ในเวลานั้น ไม่วา่ จะเป็ นคนของตระกูลหลี่หรื อตระกูลหม่า พวกเขา


ตื่นเต้นอย่างมาก บางคนถึงกับนึกว่าวัตถุแสงสองเส้นนั้น คือสมบัติและ
พวกเขาก็ตอ้ งการจะจับมัน แม้แต่ผนู ้ าํ ตระกูลหลี่และผูน้ าํ ตระกูลหม่า ก็
สัง่ ให้คนในตระกูลเคลื่อนไหว
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้ วัตถุแสงทั้งสองรวดเร็ วอย่างมาก
แม้แต่จา้ วสงครามสองคนก็ยงั ไม่อาจจะจับพวกมันได้ มันจึงทําให้พวก
เขาตื่นตระหนกอย่างมาก

* ฟิ้ ว ฟิ้ ว *

ขณะที่ทุกคนแสดงสี หน้าผิดหวัง วัตถุแสงสองเส้นนั้นก็สว่างจ้า พุง่ ตรง


เข้ามาที่ ชูเฟิ ง

" อ้า ! "


ตอนนั้น ชูเฟิ ง รู ้สึกปวดหัวอย่างรุ นแรง กระแสพลังที่รุนแรง เริ่ มจากหัว
ของเขากระจายไปทัว่ ทั้งตัว เมื่อเขาชินต่อกระแสพลังเขาก็ค่อยๆเปิ ดตา
ขึ้น ในตอนนั้นใบหน้าของเขาที่นิ่งสงบก็ได้แต่เปลี่ยนไปอย่าง
กระทันหัน

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////////
A : ที่พี่เฟิ งบอกว่า จะไม่ทาํ ให้พวกท่านต้องผิดหวัง เพราะพวกท่านไม่
มีหวังมาตั้งแต่แรก!!!

B : ใช่แล้ว สมบัติที่สามารถเพิ่มความแข้งแกร่ งให้ชูเฟิ งได้ เล็กๆน้อย


ชูเฟิ งทําหมด เพราะเขาต้องพยายามหนักกว่าคนอื่นๆกว่าจะเพิ่มพลัง
วิญญาณได้ในแต่ละระดับ

C : มันก็ตวั ร้ายดีๆ นี่ล่ะหว้า!!!


A : เพื่อเป้าหมายของตัวเอง เพื่อช่วยคนที่มนั รัก จะโหดเหี้ ยม เห็นแก่
ตัว โลภ ก็ไม่เห็นจะแปลก หากชักช้า ทําอะไรยึดยื้อมัวทําตัวเป็ น
พระเอกหนังไทย มีหวังช่วยจื่อหลิงไม่ทนั การ จากนั้นก็จะเป็ นฉากด
ราม่า นํ้าตาแตก

B : ใช่ๆ มีอะไรที่ทาํ ให้พี่เฟิ งใช้ต่อกร กับหมู่เกาะประหารได้ พี่เฟิ งทํา


หมด ขนาด ยอดยุทธภัณธ์ระดับRoyal เลือกผูค้ รอบครอง ยังมอบ
พลังที่ยง่ิ ใหญ่ให้แก่ ชูเฟิ ง อีกทั้งยังมี ราชันย์ยอดยุทธภัณธ์ระดับ
Royal ของประมุขคนก่อน พรรคมารทลายราตรี แต่ชูเฟิ งจะเอามัน
มาใช้หรื อไม่ ยังไม่มีใครรู ้ แต่รู้วา่ ตอนที่ยกพวกถล่มกัน มันส์ชิบหาย แต่
ก่อนจะไปไกลถึงตอนนั้น ชูเฟิ งต้องสะสมชื่อเสี ยงไปทีละน้อย จากนั้น
ก็ตามหา ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน เพื่อทราบเรื่ องราวความเป็ นมาของตัวเอง ที่ผา
รอคนรัก จากนั้นไม่นาน ชูเฟิ งก็ได้พบกับ หญิงสาวที่เค้าเคยขืนใจ และ
เด็กสาวตัวเล็กผูแ้ สนน่ารัก แต่แฝงไปด้วยพลังอันยิง่ ใหญ่ขนาดกวาดล้าง
ทวีปทะเลตะวันออกให้พินาศได้ในคืนเดียว แต่ชูเฟิ งกลับคิดว่านางเป็ น
แค่เด็กสาวธรรมดา มีแค่ช่วงตระกูลหลี่ ตระกูลหม่าที่อ่านแล้วหงุดหงิด
เป็ นเราจะรี บฆ่าแม่งให้หมด แต่ผเู ้ ขียนปูทางไว้ ให้ผคู ้ นระดับธรรมดาๆ
ที่รู้ความน่ากลัวของ หวูฉ่ ิง เพื่อฉากอลังการในวันหน้า เมื่อเขายืนอยู่
จุดสู งสุ ดของภาคทะเลตะวันออก แต่บอกเลย แบ็คพี่เฟิ ง ที่ภาคทะเล
ตะวันออก มีแต่ตวั เป้งๆทั้งนั้น

A : ยาวเลยนะมืง!!! สิ้ นหมู่เกาะประหาร ชูเฟิ งก็ถูกพลักดันให้รับ


ตําแหน่งประมุขพรรคมาร โดยที่มี 4 ผูค้ ุมกฏ กับอีก 5 กองธง!!!

C : นั้นมัน . . . . . . . .
บทที่ 589 - หง เซียง

" นี้มนั เกิดไรขึ้น ? "

ในตอนนั้น ชูเฟิ ง พบว่า เขายังคงอยูท่ ี่เดิมภายในหุบเขา ซึ่ งทิวทัศน์


รอบๆตัวเขาไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่นอ้ ย แต่ที่แปลกคือ ทุกคนที่เข้ามาใน
หุบเขา ไม่วา่ จะคนของตระกูลหลี่หรื อตระกูลหม่าล้วนแต่หายไป
ในปัจจุบนั มีแค่เขาและชายวัยกลางคนที่สวมชุดธรรมดา ยืนหันหลัง
เอาไว้ไคว้ ที่อยูบ่ ริ เวณหุบเขา

เมื่อสายลมพัดเฉียดร่ างของเขาผมสี ดาํ ดัง่ หมึกกับเสื้ อผ้าของเขาปลิวไสว


ไปตามกระแสลม ชูเฟิ งรู ้สึกว่าพลังของเขานั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถจะ
สัมผัสได้

" เจ้าไม่ใช่คนของตระกูลหลี่ หรื อคนจากตระกูลหม่า " ทันใด


นั้นเองเมื่อชายคนนั้นก็หนั หน้ามา ซึ่ งในตอนนั้น ชูเฟิ งก็ได้เห็นใบหน้า
ของเขา

ใบหน้าของเขาธรรมดามากๆ และเสื้ อผ้าของเขายังเรี ยบง่าย เขา


เหมือนกับคนธรรมดาๆทัว่ ๆไป แต่มีหนึ่งสิ่ งที่บอกว่าเขาไม่ธรรมดาคือ
ระหว่างคิว้ ของเขา ซึ่งมันมีลกั ษณะท่าทางไม่เหมือนกับคนธรรมดา เขา
ดูเหมือนกับผูท้ ี่สืบเสื้ อสายของเทพ ดูทรนงและองอาจ เขาคงจะเป็ น
ผูเ้ ชี่ยวชาญที่มีบางอย่างพิเศษ

ซึ่งชูเฟิ งไม่คิดว่า เขานั้นจะเป็ นแค่ภาพลวงตา

ผูช้ ายคนนั้นทําหน้าจริ งจัง เหมือนดัง่ จิตแห่งความรอบรู ้ ทําให้เขาดู


เหมือนคนจริ งๆอย่างมาก แต่เมื่อคิดถึงความเป็ นจริ งในปั จจุบนั เขานั้น
น่าจะเป็ นภาพลวงตา แต่ความจริ งทุกสรรพสิ่ งล้วนไม่แน่นอน สิ่ งที่เขา
คิดว่าไม่จริ งอาจจริ งก็ได้

เขาจะเป็ นอะไรก็ไม่อาจคาดเดา แต่เขาดูเหมือนกับผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับที่


บรรพชนตระกูลหลี่และตระกูลหม่าเคยช่วยไว้เมื่อ 500 ปี ก่อน
" อาวุโส จริ งๆแล้วข้านั้นไม่ได้เป็ นส่ วนหนึ่งของตระกูลหลี่
หรื อ ตระกูลหม่า ข้าคือผูช้ ่วยที่ได้รับเชิญจากตระกูลหลี่ รับผิดชอบเรื่ อง
การเปิ ดสมบัติที่ท่านได้เคยทิ้งไว้ " ชูเฟิ งตอบเขาไปตรงๆ เพราะฝ่ ายตรง
ข้ามเขานั้นเป็ นคนที่เปี่ ยมไปด้วยอํานาจ แม้เขาอาจจะเป็ นจิตส่ วนที่
เหลือเมื่อ 500 ปี ก่อน แต่ถา้ หากเขาต้องการจะฆ่าชูเฟิ ง แน่นอนว่ามัน
ง่ายยิง่ กว่าปัดฝุ่ นที่เกาะอยูบ่ นไหล่

" ข้านั้นได้ทิ้งสิ่ งต่างๆไว้ให้พวกเขามากมายแม้กระทั้งสอง


อํานาจพลังวิญญาณที่แสนวิเศษ ขนาด 500 ปี ผ่านมาแล้ว พวกเขาก็
ไม่สามารถเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณที่ดีได้ ถึงขนาดต้องพึ่งพาคนนอก
งั้นหรอ ? " หลังจากได้ยนิ คําพูดของชูเฟิ ง ผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับกล่าว
ออกมาอย่างหมดหนทาง
" ยังไงก็ตาม มันก็เป็ นเพราะผูส้ ื บทอดของพวกเขานั้นไร้
ความสามารถซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้า และหนี้ที่ติดค้างข้าก็
ชดใช้ให้พวกเขาไปแล้วเมื่อ 500 ปี ก่อน" ผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับเหมือนจะ
ผิดหวังกับทายาทตระกูลหลี่ และทายาทตระกูลหม่า หลังจากที่เขาถอน
หายใจเขาก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง มองชูเฟิ งและถามว่า " หนุ่มน้อย เจ้าชื่อ
อะไร ? "

ได้ยนิ คําพูดนั้น หัวใจของชูเฟิ งบีบรัดเข้ามาทันที ผูช้ ายที่สามารถมอง


ผ่านหน้ากากที่เขาแปลงเปลี่ยน และรู ้วา่ แท้จริ งนั้นเขายังเป็ นแค่เด็กหนุ่ม

" อาวุโส ข้าน้อยชื่อ ชูเฟิ ง " หลังจากที่เขามองชูเฟิ งได้ทะลุปุ่


โป่ ง ชูเฟิ งก็ไม่กล้าปิ ดบังใดๆ เขาเลยคิดจะบอกชื่อจริ งๆของเขาไป
" ชูเฟิ ง เจ้านั้นช่างเป็ นคนมีความสามารถยิง่ นัก หากเป็ นทะเล
ตะวันออกเมื่อ500ปี ก่อน เจ้าคงจะเป็ นอัจฉริ ยะที่หาใครเทียบ จน
แผ่นดินนี้คงไม่เพียงพอสําหรับความสามารถของเจ้า "

" อย่างไรก็ตาม แทนที่จะปล่อยให้สมบัติเหล่านี้ตกเป็ นอยูก่ บั


คนธรรมดาๆ ทําไมไม่มอบให้คนที่มีค่าคู่ควร จริ งหรื อเปล่า บางทีวนั
หน้า ในดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์พวกเราอาจจะได้พบกัน " ผูเ้ ชี่ยวชาญ
ลึกลับยิม้ และกล่าว

" อาวุโส ท่านอยูท่ ี่ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ง้ นั หรอ ?!!! "


ได้ยนิ คําพูดเหล่านนั้น ชูเฟิ งถึงกับยืนอึ้งเพราะเขาเข้าใจความหมายของ
พูดนั้นได้เป็ นอย่างดี ไม่เพียงแต่เขานั้นจะอยูใ่ นสถานที่แห่งนั้น เขายังมี
ชีวติ อยูอ่ ีกด้วย เขาไม่เพียงแต่จะมีชีวติ รอดมาจากเมื่อ 500 ปี ก่อน เขา
ยังสามารถมีชีวติ อยูต่ ่อไปได้อีก รวมๆแล้วเขาก็คงเป็ นคนที่มีอายุขยั
มากกว่า 500 ปี !!!
" โอ้ว ข้านั้นมาจากดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ และหลงเข้ามาที
แห่งนี้เมื่อ 500 ปี ที่แล้ว แต่เจ้าไม่ตอ้ งตกใจไป พลังงานธรรมชาติใน
ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์น้ นั จะแตกต่างไปจากที่อื่นๆ อายุขยั เฉลี่ยของ
คนที่น้ นั ไม่ใช่นอ้ ยๆ ตราบใดที่เขาได้เข้าสู่ อาณาจักรราชันย์สงคราม
และอาศัยทรัพยากรจํานวนมากในการยึดชีวติ มันไม่ยากเลยที่จะมีอายุ
มากกว่า พันปี "

" ในอนาคต หากเจ้าสามารถก้าวเข้าสู่ ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์


เจ้าก็จะได้เห็นทุกสิ่ งทุกอย่าง ข้ารับรองได้วา่ เจ้าต้องชอบที่น้ นั เพราะ
สถานที่แห่งนั้นมันเหมาะสําหรับเจ้า "

" และหากเจ้ามาถึงดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ เจ้าสามารถมาพบ


ข้าที่ป่าไผ่สะบั้นพฤกษา จําไว้ ข้ามีนามว่า หง เซี ยง" ชายลึกลับยิม้ และ
กล่าว เห็นได้ชดั ว่าเขาถูกใจชูเฟิ งไม่ใช่นอ้ ย

" อาวุโส หง เซียง ขอบคุณสําหรับคําเชิญของท่าน หากวันหน้า


ข้าได้มีโอกาสไปเยือนที่ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะไปเยีย่ มท่าน "
ชูเฟิ ง จดจําชื่อของเขาพร้อมกับตกปากรับคํา เพราะเมื่อเขาก้าวเข้าสู่
ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งที่น้ นั มีคนเต็มใจยอมช่วยเหลือเขาใน
สถานที่ลึกลับและเต็มไปด้วยสิ่ งไม่คาดคิด แน่นอนว่ามันย่อมเป็ นเรื่ องดี

" ดูจากความสามารถของเจ้าตอนนี้ มันยังเร็ วไปที่จะก้าวสู่


ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ แต่ยงั ไงข้าจะคอยเจ้า " หง เซี ยงพยักหน้าของ
เขา แล้วกล่าวต่อว่า " ชูเฟิ ง จงฟังไว้ให้ดี หุบเขาเขี้ยวหมาป่ า คือ สถานที่
รวบรวมอํานาจพลังวิญญาณ ที่สงั่ สมมานับ 500 ปี ข้าพบว่ามันคือ
สถานที่ของการรับรู ้อาํ นาจพลังวิญญาณ "

" ปัจจุบนั เจ้านั้นได้อาํ นาจพลังวิญญาณ ที่ขา้ ทิ้งไว้เบื้องหลัง


แน่นอนเพราะเจ้าที่สามารถเปิ ดที่ซ่อนรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ เมื่อ
เจ้าเข้าไปยังภายในส่ วนลึกของที่ซ่อนเจ้าก็จะได้พบชีพจรการรับรู ้
อํานาจพลังวิญญาณ "
" แต่ดว้ ยเวลา500ปี มันทําให้อาํ นาจพลังวิญญาณสะสมอยู่
พัฒนาขึ้น จึงเป็ นธรรมดาที่มนั จะมีสติปัญญาเป็ นของตัวเองและด้วย
จํานวนพลังของมันที่สงั่ สม ข้าเดาว่ามันน่าจะมีพลังวิญญาณในระดับ 1
อาณาจักรจ้าวสงคราม "

" แต่เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องกลัวมัน ตอนนั้น เจ้าจะได้รับประโยชน์


จากการรับรู ้อาํ นาจพลังแรกเกิด มันเป็ นสิ่ งที่มีปัญญา ข้าจึงได้วาง
รู ปแบบเอาไว้ ตราบใดที่เจ้าเข้าไป เจ้าสามารถใช้รูปแบบในการควบคุม
มันด้วยอํานาจพลังที่ขา้ มอบให้ "
" เอาล่ะ เราคุยกันอยูท่ ี่นี่กน็ านพอสมควร เวลาของมันก็จะ
หมดแล้วด้วยสิ ข้าจะสลายรู ปแบบทางเข้าทันที "

" หากเรามีวาสนาต่อกัน ไว้เราพบกัน ณ ที่ดินแดนสงคราม


ศักดิ์สิทธิ์ " เมื่อคําพูดนั้นสิ้ นสุ ด ร่ างของผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับก็กลายเป็ น
เส้นแสงสี รุ้ง พุง่ ทะยานไปบนท้องฟ้า พร้อมกับหายไป ทันใดนั้น
ทิวทัศน์รอบๆตัวของเขาก็เปลี่ยนไป
" ป่ าไผ่สะบั้นพฤกษา!! " ตอนนั้น ชูเฟิ งหลับตาลง และจดจําชื่อ
สถานที่และนามของผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับเอาไว้ในหัวใจ

แม้วา่ พวกเขาจะเพิ่งพบกันเพียงครั้งเดียว แต่เนื่องจากผูเ้ ชี่ยวชาญมอบ


ทุกอย่างที่นี่ให้กบั เขา มันอาจนับได้วา่ เขานั้นได้ช่วยเหลือชูเฟิ ง ซึ่ งชูเฟิ ง
ไม่ได้หวังว่าผูเ้ ชี่ยวชาญคนนั้นจะยอมช่วยเขา แต่ในอนาคตชูเฟิ งนั้นต้อง
ตอบแทนเขา ด้วยการไปเยีย่ มเยียนในสักวัน เพราะเขาดูชอบชูเฟิ งเอา
มากๆ
" หวูฉ่ ิง เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ? เจ้าสบายดีใช่ม้ ยั ? "

ผ่านไปครู่ หนึ่ง ชูเฟิ งก็ได้ยนิ เสี ยงที่ดูรีบร้อนและแสนเป็ นกังวล ดังเข้า


มาที่หูของเขา เมื่อลืมตามองเขาก็พบ ผูน้ าํ ตระกูลหลี่พร้อมเหล่าบริ วาร
และผูน้ าํ ตระกูลหม่าพร้อมเหล่าบริ วาร วิง่ เข้ามาล้อมรอบตัวของเขาเป็ น
วงกลมขณะที่จอ้ งเขม็ง
เขาที่ตอ้ งเผชิญกับความแตกตื่นของฝูงชน ชูเฟิ งจึงยิม้ เบาๆและกล่าวกับ
สองผูน้ าํ " ใต้เท้า ไม่ตอ้ งห่วง เขารู ้วธิ ีเปิ ดมันแล้ว "

หลังจากพูดจบ ชูเฟิ งก็เริ่ มวาดสัญลักษณ์ ทันใดนั้นแสงสี ทองก็ปรากฏ


ขึ้นบนหน้าผากของเขา หลังจากที่มนั ปรากฏ มันก็พงุ่ กระจายออกจาก
หน้าผากของเขา และเข้าครอบคลุมทั้งร่ างของ ชูเฟิ ง
แต่น้ นั มันยังไม่จบ รู ปแบบมันยังคงวิง่ อยูร่ อบๆไปตามร่ างกายของเขา
ลงสู่ พ้นื ดิน แล้วแผ่ขยายออกไปดัง่ เส้นใยแมงมุม พริ บตามันก็กระจาย
ไปทัว่ ทั้งหุบเขา

* ครื่ น ครื่ น ครื่ น * เสี ยงแผ่นดินไหว


ตอนนั้นแสงสว่างกระจายตามพื้นทัว่ ทั้งบริ เวณหุบเขาและมันก็เกิดเสี ยง
ที่ดงั กึกก้อง พื้นมันสัน่ ไหวแปลกๆเหมือนโลกกําลังจะฉี ก ทันใดนั้นก็มี
ทางเข้าสี่ เหลี่ยมที่ดูพิเศษปรากฏขึ้นมาตรงใจกลางของหุบเขา

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////
A : มันคืออะไรกันแน่นะ ภายในนั้น คงไม่ใช่อสู รวิญญาณแน่ๆ คง
เป็ นสิ่ งที่ใช้เพิม่ พูนอํานาจพลังวิญญาณหรื อพลังวิญญาณ

B: จะเป็ นอะไรไม่รู่ แต่ตอ้ งมีประโยชน์กบั ชูเฟิ งแน่ๆ ถ้ากล่าวว่า ชูเฟิ ง


สามารถใช้รูปแบบในการควบคุมมันได้ มันที่มีพลังในระดับ1จ้าว
สงคราม ชูเฟิ งคงใช้มนั จัดการสองตระกูลได้ไม่ยาก หากพวกตระกูล
หม่ามันลงมือ คือถ้าแม่งพลาดลงมือในนั้น คือ เข้าทางของชูเฟิ งเลยล่ะ
เด๋ วพี่เฟิ งเขาจะแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัว ว่าหวูฉ่ ิ งคนนี้เหี้ ยมโหด
อํามหิ ตแค่ไหน

C : พี่เฟิ งปกติแม่งก็จิตเสื่ อมอยูแ่ ล้ว จะเป็ นหวูฉ่ ิ งคงไม่ต่างกัน ถ้ามี


อะไรโหดกว่าตัดหัว ก็วา่ ไปอย่าง

A : ตัดกระจู๋ หยัดใส่ ปาก โหดพอไม๊อายสาดดด

B : โหดเชี้ยๆ!!!

บทที่ 590 - สถานการณ์เปลี่ยน

" ฮ่าๆๆ สําเร็ จแล้วหลังจาก 500ปี ในที่สุดวันนี้กม็ าถึง!!! "


เห็นทางเข้าเปิ ดขึ้นมา ผูน้ าํ ตระกูลหม่า รี บวิง่ เข้าไปด้วยความตื่นเต้น

หลังจากนั้นผูน้ าํ ตระกูลหลี่,ชูเฟิ ง และคนอื่นๆก็รีบตามเข้าไปติดๆ


หลังจากเข้าไปแล้ว ชูเฟิ งพบว่าอํานาจพลังรอบๆศิลายังคงปกติ เมื่อเขา
สังเกตด้วยอํานาจพลังฯ ก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติจริ งๆ แต่เมื่อเขา
พยายามจะกระตุน้ โดยการทําลาย ศิลาก็ส่องแสงแต่ไม่สามารถทําให้
อะไรมันได้

นั้นก็เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่ามันคือสิ่ งมีชีวติ อํานาจพลังวิญญาณ หาก


ชูเฟิ งเข้าใกล้แหล่งรวมอํานาจ มันก็จะยิง่ ทรงอนุภาพ โดยเฉพาะการที่
เขาใช้เนตรสวรรค์คน้ หาตําแหน่งของชีพจรอํานาจพลัง

และเหตุผลว่าทําไมศิลามันถึงพิเศษ เป็ นเรื่ องธรรมดาเพราะพวกมัน


ได้รับผลกระทบจากอํานาจพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ ง ทักษะการค้นหา
เส้นชีพจน ชูเฟิ งยังรู ้มาอีกว่า สิ่ งดังกล่าวนั้นเป็ นปรากฏการณ์ปกติ ซึ่ ง
มันขึ้นอยูก่ บั ระยะเวลาที่สะสมต่างกันของอํานาจพลังวิญญาณ ซึ่ งแต่ละ
สถานที่และความอันตรายก็จะแตกต่างกันออกไป แต่มนั ล้วนเกิดขึ้น
จากชีพจรอํานาจ

อย่างไรก็ตาม ดูจากลักษณะของศิลานี้มนั คงจะอยูม่ านานโข แต่อาํ นาจ


พลังของมันถูกสร้างมาให้ผถู ้ ือครองไม่ได้รับอันตรายจากเส้นชีพจร
อํานาจ แต่ที่น่าจะเป็ นอันตรายคือหนึ่งต้องรู ้วา่ มันมีสติปัญญา

" หวูฉ่ ิง เจ้าทําได้ยงั ไง ทําไมเจ้าถึงเปิ ดสถานที่แห่งนี้ได้


"หลังจากเดินมาตามเส้นทางจิตวิญญาณสักพัก ชูเฟิ งก็เห็นผูน้ าํ ตระกูลห
ลี่เดินเข้ามาข้าง ขณะที่ยมิ้ และถาม

" ตอนที่แสงจากสองศิลานี้ หลังจากที่พวกมันเข้าไปในร่ างกาย


ข้า พวกเขาไม่เพียงมอบพลังให้แก่ขา้ มันยังช่วยให้ขา้ เปิ ดสถานที่แห่งนี้
และพวกเขายังบอกข้าว่าให้ทาํ บางอย่าง " ชูเฟิ งตอบกลับด้วยรอยยิม้
" โอ้ว!! แล้วแสงนั้นมันบอกอะไรกับเจ้าอีก ? "ผูน้ าํ ตระกูลหลี่
ถาม

" ไม่มีอะไรมากหรอกใต้เท้า อย่าได้กงั วล เส้นทางนี้จะพาท่าน


ตรงไปยังที่ต้ งั ของสมบัติ โดยไม่มีอุปสรรคใดๆกีดขวาง อย่างไรก็ตาม
สมบัติน้ นั มีส่ิ งมีชีวติ และมีพลังวิญญาณในระดับจ้าวสงคราม แม้วา่ พลัง
วิญญาณมันจะพอๆกับท่าน แต่ยงั ไงท่านก็ควรระวัง " ชูเฟิ งตอบ

" เห็นด้วย เห็นด้วย อ้า หวูฉ่ ิ ง ขอบคุณสําหรับความพยายาม


ของเจ้าสําหรับการเดินทางครั้งนี้ " ได้ยนิ คําพูดพวกนั้น ผูห้ ลี่ตระกูลหลี่
พยักหน้าขณะที่กล่าว แต่รอยยิม่ บนใบหน้าเขาเปี่ ยมไปด้วยความเย็นชา
ผ่านวาบขึ้นมา
* พรึ บ * เห็นรอยยิม่ นั้น ชูเฟิ ง ก็ไหวตัวทันที ตามสัญชาตญานของเขา
เขาใช้ทกั ษะทางกายกระโจนไปด้านหลัง

" ตาย!!! " เป็ นไปอย่างที่ ชูเฟิ ง คิดไว้ ผูน้ าํ ตระกูลหลี่คิดจะโจมตี


เขา ตอนนั้นเขากระแทกฝ่ ามือเข้ามา คลื่นพลังของมันน่ากลัวของอย่าง
มาก แต่ในสถานณ์ตอนนั้นนับว่าโชคดี เพราะชูเฟิ งหลบได้ทนั ไม่ง้ นั คง
จะได้รับบาดเจ็บสาหัส

" ใต้เท้า ท่านทําอะไร ? " หลังจากที่รู้วา่ ผูน้ าํ ตระกูหลี่ มีเจตนา


ร้ายต่อเขา ขนาดที่ ตอ้ งการจะปลิดชีพเขา มันทําให้ชูเฟิ งนั้นรู ้สึก
ประหลาดใจและพยายามตั้งคําถาม
" ท่านพ่อ ท่านกําลังทําอะไร ?!!! "ในเวลาเดียวกันหลี่ ชาน
ถามขึ้นด้วยสี หน้าที่สบั สน ขณะที่นางพูด นางเปิ ดแขนออก ยืนขวางอยู่
ด้านหน้าของ ชูเฟิ ง เพราะนางเกรงว่าพ่อของนาง คิดจะโจมตีใส่ ชูเฟิ งอีก
ครั้ง

" ชายเอ๋ อ อย่าหลงกลเขา ข้าถามอาของเจ้าแล้ว เขาไม่วางยาสัตว์


มหึ มาให้โจมตีเจ้า หรื อคิดจะทําร้ายตระกูลหลี่ของข้า เรื่ องทั้งหมดถูก
แต่งขึ้นโดย หวูฉ่ ิง เขาวางแผนจะหลอกใช้ขา้ และเจ้า เพื่อให้ตระกูลหลี่
และ ตระกูลหม่า ฆ่ากันเอง จากนั้นเขาจะหุบสมบัติไว้เพียงคนเดียว "
ผูน้ าํ ตระกูลหลี่คิดว่าตัวเองฉลาด ที่รู้แผนการของชูเฟิ ง [ T/N สงสัย
อยากจะตายมาก โง่แล้วเสื อกอวดฉลาด ]

" ท่านพ่อ ท่านพูดเรื่ องอะไร ข้าไม่เข้าใจ แล้วทําไมหวูฉ่ ิงถึง


ต้องคิดจะทําร้ายตระกูลหลี่ของเรา เขาเป็ นคนที่ช่วยข้าไว้ เขานั้นเพียง
ต้องการช่วยตระกูลหลี่ของเรา " หลี่ ชาน พูดอย่างไร้หนทาง เพราะนาง
ไม่รู้วา่ จะต้องทํายังไง

" เห้อ ชานเอ๋ อ ทําไมเจ้าถึงโง่แบบนี้ สัตว์มหึ มาไม่ได้ผถูก


ควบคุมใดๆ และชาปี่ นั้นก็ไม่ได้คิดทรยศตระกูลหลี่ของเรา ทุกอย่าง
ล้วนเป็ นแผนของ หวูฉ่ ิง ที่เป็ นคนแต่งเรื่ อง สมรู ้ร่วมคิดกับสัตว์มหึ มา
ตัวนั้น หวูฉ่ ิง เขาหลอกใช้เจ้า !! " ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ พยายามอธิบายให้กบั
หลี่ ชาน

" จะเป็ นไปได้ยงั ไงกัน ท่านพ่อ ท่านต้องเข้าใจหวูฉ่ ิ งผิดแน่ๆ


เขาไม่ได้หลอกใช้ขา้ หรื อต้องการทําลายตระกูลหลี่ของเรา ข้าเชื่อว่าเขา
นั้นบริ สุทธิ์ " หลี่ ชาน พยายามปกป้อง ชูเฟิ ง

" หลานชานของข้า อย่าบอกนะว่าเจ้าเชื่อถือคนนอกมากว่าอา


ของเจ้า เจ้าคิดจริ งๆหรื อว่า ข้านั้นคิดทําร้ายตระกูลหลี่ ? "
" เจ้าอย่าโง่หลงกันมัน ตระกูลหม่าและตระกูลหลี่น้ นั คบหากัน
มานานหลายปี แล้วทําไมข้าต้องคิดไม่ซื่อกับตระกูลหลี่ของเจ้าด้วยล่ะ
? " ตอนนั้นผูน้ าํ ตระกูลหม่ากล่าว ใบหน้าของเขาเหมือนกับบอกว่า
ตัวเองเป็ นผูบ้ ริ สุทธิ์

" คุณหนูใหญ่ ตาสว่างได้แล้ว เจ้าคนนอกนั้นมันหลอกพวกเรา "


ในเวลาเดียวกัน ชาปี่ เองก็พยายามกระตุุน้ นาง

" พวกเจ้า สองคน!!! " เห็นหลายคนรุ มเร้า หลี่ ชาน ไม่สามารถ


ทนกดดันได้นางจึงก้าวถอยหลัง นางนั้นเริ่ มเกิดความกลัวอีกทั้ง
หวัน่ ไหว จนแทบนางจะล้มลงกับพื้น โชคดีที่ ชูเฟิ ง คนดันนางเอาไว้
ปัจจุบนั ของชูเฟิ งนั้นดูสงบอย่างมาก เพราะเค้าคิดไว้แล้ว ว่าพ่อของหลี่
ชาน ผูน้ าํ ของตระกูลหลี่ เป็ นควายโง่อย่างที่เขาคาดเดา

เขารู ้วา่ ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ได้แอบไปพบกับผูน้ าํ ตระกูลหม่าก่อนหน้านี้ไม่กี่


วัน และไปถามว่า น้องชายเขาได้ควบคุมสัตว์มหึ มาให้มาฆ่า หลี่ ชาน
และ วางแผนร้ายต่อตระกูลหลี่หรื อเปล่า แล้วใครที่ไหนมันจะยอมรับ
แต่มีเรื่ องหนึ่งที่ตอ้ งยอมรับนั้นก็คือ ความโง่ของผูน้ าํ ตระกูลหลี่

และผลที่ออกมาก็อย่างคาดคิด ว่าผูน้ าํ ตระกูลหม่า ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา


ด้วยการทําสี หน้าไม่รู้เรื่ องและยังโยนความผิดให้กบั ชูเฟิ ง และผูน้ าํ
ตระกูลหลี่น้ นั ก็เป็ นบุคคลปัญญาอ่อนอย่างที่ชูเฟิ งคิด เพราะเขานั้นเสื อก
เชื่อคําพูดทั้งหมดของ ผูน้ าํ ตระกูลหม่า
" หลี่ ชาน พ่อของเจ้าเป็ นคนฉลาดจริ งๆ นี้มนั นับเป็ นเรื่ องที่ปฏิ
หาริ ยส์ าํ หรับตระกูลหลี่ของเจ้าที่ยงั มีชีวติ รอดกันมาได้จนถึงตอนนี้ " ชู
เฟิ งแสยะยิม้ พูดกับหลี่ ชาน ขณะที่จอ้ งหน้าของผูน้ าํ ตระกูลหลี่และผูน้ าํ
ตระกูลหม่า พร้อมกับกล่าว " ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเจ้าทังสอง เห็นข้า
ไร้ประโยชน์แล้วสิ นะ ถึงได้คิดจะกําจัดข้า ? "

" ไม่ใช่วา่ เจ้านั้นไร้ประโยชน์ แต่เจ้ามันสมควรตายตั้งแต่แรก "


ผูน้ าํ ตระกูลหม่ากล่าวว่า ชูเฟิ งนั้นทําผิดต่อพวกเขาอย่างแท้จริ ง ราวกับ
ว่าชูเฟิ งคือคนร้ายที่ทาํ รายมิตรภาพของพวกเขา

" โว้วว เจ้าคิดจะฆ่าข้างั้นหรอ หากเจ้ามีปัญญาอ่ะนะ " ชูเฟิ ง


กล่าวพร้อมกับโดดขึ้นขี่มงั กรฟ้าที่น่าเกรงขามที่ปรากฏอยุใ่ ต้ฝ่าเท้าของ
เขา พริ บตาเดียว ชูเฟิ งก็เข้าไปส่ วนลึกของเส้นทางจิตวิญญาณ
" มึงตาย!!! " เห็นชูเฟิ งคิดจะหนี ผูนู ้ าํ ตระกูลหม่าก็กา้ วตามชูเฟิ ง
ออกไปอย่างรวดเร็ ว

" น้องชายข้าจะช่วยเจ้าเอง!! " ในตอนนั้นผูน้ าํ ตระกูลหลี่ วิง่ ไล่


ตามพวกเขาไป พร้อมกับความกระหายเลือด

" ท่านพ่ออย่าไป ท่านอย่าทําร้ายหวูช่ ิง อย่าได้หลงกล หม่า ยู๋คุน


" เห็นเช่นนั้นใบหน้าของหลี่ ชานก็เปลี่ยนไปอย่างมาก แต่ขณะที่นาง
กําลังจะตามเข้าไป ผูเ้ ฒ่าทั้งสองก็ปรากฏอยูต่ รงหน้าเขา นั้นก็คือ คู่รัก
ชา - ปี๋

" ถอยไป!! อย่ามาขวางทางข้า!!! " หลี่ ชาน พยายามตะโกนไล่


" อ้า!!! " ในตอนนั้น หลี่ ชาย รู ้สึกถึงคลื่นพลังอาณาจักร
สวรรค์ท้ งั สองพุง่ แทรกผ่านร่ างกายของนาง จากนั้นพลังวิญญาณก็
หายไป แล้วนางก็ค่อยๆล้มลงกับพื้น

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////////
A : เมื่อสองตระกูลเข้าหํ่าหันกันเมื่อไหร่ ก็จะเข้าแผน ชูเฟิ งทันที

B : ก็คิดอยูแ่ ล้วว่าต้องเป็ นแบบนี้ เอาจริ งๆจะฆ่าคนสองตระกูลนี้


ไม่ใช่ปัญหาเลย ชูเฟิ งจัดการคนหนึ่ง ต้านต้านจัดการอีกคน แต่มนั เสื อก
ตีกนั เอง เข้าแผนชูเฟิ งเปะๆ

A : สาว่ามีอาํ นาจพลังที่มีชีวติ อยูใ้ นนี้ดว้ ยล่ะ อีกอย่างชูเฟิ งก็เสมือน


เป็ นเจ้านายของมัน แต่โชคร้ายนิดหนึ่งที่ชูเฟิ งไม่อยากออกแรง นัง่ รอดู
พวกมันฆ่ากันเองมันส์กว่า

B : จริ งๆ น่าจะจัดการผูน้ าํ ตระกูลหลี่ไปด้วย


A : เด๋ วมันก็สาํ นึก แต่ตอนนั้นมันคงสายไปแล้วล่ะ ถ้าชูเฟิ ง ไม่มาช่วย
นะ ตระกูลหลี่ตายเป็ นเบือ แถม หลี่ชาน ก็เกือบเสี ยซิ ง

C : สุ ดท้ายพี่เฟิ งก็เอาไปแดกอยูด่ ี!!!

A - B : เสื อกกก!!!

บทที่ 591 – วิหคนํ้าแข็งอมตะ

ภายใต้หุบเขาเขี้ยวหมาป่ านั้น ปรากฏประกายแสงสี แดงขึ้นเป็ น


เส้น ที่เกิดจากการพุง่ ทะยานของผูน้ าํ ตระกูลหม่า และผูน้ าํ ตระกูลหลี่

แม้วา่ พวกเขาจะแข็งแกร่ งมาก ซึ่ งมีพลังถึงระดับหนึ่ง ขั้นจ้าว


สงคราม แต่พฝกเขาก็ไม่สามาาถที่จะไล่ตาม ชูเฟิ ง ได้ทนั แม้เงาของ ชู
เฟิ ง นั้น พวกเขาก็ไม่สามารถเห็นได้
“บ้าเอ๊ย !! ทําไมเจ้านัน่ ถึงได้รวดเร็ วเช่นนี้ !!”

ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็ นที่ผนู ้ าํ ทั้งสองตระกูลไม่คาดคิดมาก่อน


ด้วยความที่พ้ืนที่ท้ งั หมดถูกปิ ดกั้นเอาไว้ ไม่วา่ ช้าหรื อเร็ ว พวกเขาก็จะ
สามารถจับตัว ชูเฟิ ง ได้ แต่ในขณะนี้พวกเขากลับไม่เห็นแม้แต่เงาของ ชู
เฟิ ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาติดตาม ชูเฟิ ง มาจนสุ ดเส้นทางนั้น พวก


เขากลับไม่พบ ชูเฟิ ง แม้แต่อย่างใด ราวกับว่าเขาหายไปเฉยๆ โดยไม่
เหลือร่ องรอยใดๆ เอาไว้แม้แต่นอ้ ย

แต่ในเวลานั้น พวกเขาทั้งสองคนก็ลืมความคิดที่จะติดตาม ชูเฟิ ง


ไปอย่างรวดเร็ ว เพราะพวกเขากําลังถูกดึงดูดบางอย่างที่อยูต่ รงหน้าของ
พวกเขา

มันคือถํ้าขนาดใหญ่ ที่โอบล้อมไปด้วยจิตวิญญาณสี แดง ที่ผนัง


ของถํ้ามันดูคล้ายกับผลึกนํ้าแข็งที่งดงามอย่างมาก

ผลึกนํ้าแข็งเหล่านี้ไม่ใช่ผลึกธรรมดา มันมีความพิเศษอย่างมาก

มันเป็ นผลึกที่มีความแข็งแกร่ ง และคงทนอย่างมาก อีกทั้งยังหาได้


ยาก แต่ภายในถํ้านี้กลับมีผลึกประเภทนี้ ที่จบั ตัวกันเป็ นก้อนขนาดใหญ่

มันมีลกั ษณะคล้ายกับไข่ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากผลึกนํ้าแข็ง ซึ่ งมันมี


ขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางของมันยาวประมาณสิ บเมตร ตั้งอยูใ่ นใจ
กลางของพระราชวังสี ฟ้า อีกทั้งยังมีออร่ าพลังวิญญาณปลดปล่อย
ออกมาอย่างเห็นได้ชดั

“สมบัติ !! นี่มนั สมบัติที่อดั แน่นไปด้วยอํานาจพลังวิญญาณตาม


ธรรมชาติ ในที่สุด การรอคอยกว่าห้าร้อยปี ของตระกูลหม่าของข้ามันก็
คุม้ ค่าจริ งๆ”

ในเวลานั้น ผูน้ าํ ตระกูลหม่า ก็กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น พร้อม


กับที่เขาพุง่ ทะยานออกไปราวกับดาวตก มาที่ดา้ นหน้าของไข่ผลึกยักษ์
นัน่

***** อืมม *****


ในขณะที่ฝ่ามือของเขาแตะไปที่เปลืกของไข่ผลึกนัน่ พลังงาน
มหาศาลก็ระเบิดออกมา แม้แต่ผนู ้ าํ ตระกูลหม่า ที่มีพลังถึงระดับหนึ่ง
ขั้นจ้าวสงครามยังกระเด็นออกมา

***** เปรี๊ ยะ *****

พร้อมกับบนผิวของไข่เกิดรอยร้าวขึ้น มันแพร่ กระจายไปทัว่ ทั้ง


พื้นผิว และเกิดเสี ยงดัง “เปรี๊ ยะ !!” ออกมา

“น้องพี่ระวัง !! ถอยออกมาเร็ ว !!” ในขณะนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหลี่


ตะโกรออกมาเสี ยงดัง พร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากของ
เขา
เพราะในทันทีที่ไข่ผลึกนํ้าแข็งแตกออกนั้น ก็ได้ปรากฏ วิหคที่
ร่ างกายเป็ นนํ้าแข็ง ออกมา

ถึงแม้วา่ ร่ างกายของมันจะไม่ใหญ่มาก แต่พลังออร่ าที่แผ่ออกมา


จากตัวของมันนั้น แข็งแกร่ งอย่างมาก มันมีพลังถึงระดับหนึ่ง ขั้นจ้าว
สงคราม แต่นน่ั ไม่ใช่พลังธรรมดา มันแฝงมาด้วยออร่ าที่น่าเกรงขาม ที่
สามารถทําให้ผพู ้ บเห็นกราบไหว้บูชาได้ ราวกับพวกเขากําลังจ้องมอง
สิ่ งศักดิ์สิทธิ์อยู่

“น้องพี่ นี่เป็ นสมบัติจริ งๆ แต่สถานการณ์ตอนนี้ พวกเราควรจะ


หาวิทีํ ่เหมาะสมยิง่ กว่านี้ พลังมันแข็งแกร่ งมาก ด้วยพลังของมันย่อมจะ
สามารถทําให้ตระกูลของพวกเรา เฟื่ องฟูมากกว่าในอดีตแน่นอน”
เมื่อเปรี ยบเทียบความกลัวของ ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ นั้น ผูน้ าํ ตระกูลหม่า
กลับรู ้สึกตื่นเต้นมากกว่า เขาไม่ได้กา้ วถอยหลังแม้แต่นอ้ ย แต่เขากลับ
ปลดปล่อยพลังวิญญาณระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงครามออกมาอย่างรุ นแรง
พลังวิญญาณเหล่าน้นพุง่ เข้าใส่ วหิ คนํ้าแข็งอมตะอย่างรวดเร็ วราวกับ
ลูกศร

“โอ้วววววววว !!”

***** บูมมมมมมม *****

พลังออร่ าของจ้าวสงครามทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างรุ นแรง คลื่น


พลังระเบิดตัวออกมาเป็ นวงกว้าง พื้นที่โดยรอบกลายเป็ นสนานรบของ
พวกเขาในทันที

วิหคนํ้าแข็งอมตะแข็งแกร่ งอย่างมาก ทุกๆ ครั้งที่มนั กระพือปี ก


พายุที่มีความเย็นอย่างมากจะถูกปล่อยออกมา อีกทั้งยังเต็มไปด้วยเกล็ด
นํ้าแข็งที่มีความแหลมคมอย่างมาก

แต่ในทํานองเดียวกันนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหม่า ก็ไม่ใช่บุคคลที่จะ


จัดการได้อย่างง่ายดาย เขาซึ่งมีปรพสบการณ์การต่อสู ม้ าอย่างโชกโชน
นั้น เขาได้ใล้ทกั ษะการต่อสู ร้ ะดับสู ง เขาปะทะกับพลังของวิคหคนํ้าแข็ง
อมตะอยางสู สี

“สวรรค์ !! นะ…นะ…นะ…นี่มนั อะไรกัน !!”


ในขณะนั้น สมาชิกของทั้งสองตระกูลก็มาถึงยังพื้นที่น้ นั พวกเขา
ได้เห็นวิหคนํ้าแข็งอมตะกําลังแสดงพลังของมันอยู่ พวกเขาทําได้เพียง
ยืนตะลึงอ้าปากค้าง ไม่ม่แม้แต่คยเดียวที่จะเคลื่อนไหวใดๆ ออกมา

“พีช่ าย !! ทําไมเจ้าไม่ช่วยข้าจัดการกับเจ้านี่ !! อนาคตของพวกเรา


สองตระกูล ล้วนขึ้นอยูก่ บั พวกเราทั้งสองคน !!” ผูน้ าํ ตระกูลหม่า
ตะโกนออกมา

หลังจากได้เห็นพลังของวิหคนํ้าแข็งอมตะนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ก็


รับรู ้ได้ทนั ที เขาไม่รอช้าแต่อย่างใด เขารี บพุง่ ทะยานออกไป และเข้า
ร่ วมในการต่อสู ค้ รั้งนี้อย่างรวดเร็ ว

***** บูมมมมมมมม *****


แม้จะไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู ้ แต่งวิหคนํ้าแข็งอมตะก็
แข็งแกร่ งอย่างมาก มันสามารถต้านทานการโจมตีของผูน้ าํ ตระกูลหม่า
ได้อย่างต่อเนื่อง แต่มนั กลับไม่มีความเฉลียวฉลาดแม้แต่อย่างใด

เพราะเมื่อผูน้ าํ ตระกูลหลี่ได้เข้าร่ วมการต่อสู น้ ้ นั สองปี กหรื อจะสู ส้ ี่


มือ วิหคนํ้าแข็งอมตะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของสองผูน้ าํ ตระกูล
ที่กาํ ลังสาดทักษะการต่อสู เ้ ข้าใส่ มนั อย่างต่อเนื่องได้

“โอ๊กกกกกกก !!”

ในที่สุด เสี ยงร้องแห่งความเจ็บปวดก็ดงั ขึ้น พร้อมๆ กับที่วหิ ค


นํ้าแข็งอมตะไม่สามารถจะต่อสู ไ้ ด้อีก ร่ างกายของมันกําลังสลายไปกับ
อากาศ เหลือไว้เพียงไข่ผลึกนํ้าแข็งขนาดเท่ากับลูกแตงโมง

แม้วา่ ขนาดของมันจะแตกต่างจากก่อนหน้านี้น้ นั แต่พลังมี่อดั แน่น


อยูภ่ ายในกลับบริ สุทธิ์อย่างมาก

“ฮ่าๆ…สําเร็ จ !! น้องพี่ พวกเราทําสําเร็ จ !!” ในขณะนั้น ผูน้ าํ


ตระกูลหลี่ ก็กล่าวออกมาด้วยความสุ ขอย่างมาก เขาก้าวเข้าไปใกล้
เพื่อที่จะได้ชื่นชมรางวัลแห่งชัยชนะของพวกเขา

***** ฉึก *****


แต่ในเวลานั้น เขากลับรู ้สึกเจ็บปวดที่กลางหน้าอกของเขา
ของเหลวอุ่นๆ ไหลออกมาจากหน้าอกของเขาอย่างรวดเร็ ว เมื่อเขาก้ม
ลงไปมองนั้น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างมาก

เพราะเขาพบว่า มันมีใบดาบสี ฟ้ายาวสามฟุตแทงทะลุออกมาจาก


หน้าอกของเขา เขารู ้จกั ดาบเล่มนี้ดี เพราะมันคือยอดยุทธภัฌฑ์ช้ นั ดีของ
น้องชายที่เขาไว้ใจมากที่สุด ผูน้ าํ ตระกูลหม่า หม่า ยูค่ ุน

“เจ้า….เจ้า….เจ้า…!!”

ผูน้ าํ ตระกูลหลี่หนั กลับไปมอง เขาก็พบกับผูน้ าํ ตระกูลหมาที่ยนื อยู่


ด้านหลังของเขา อีกทั้งในมือยังคงจับยอดยทธภัณฑ์ช้ นั ดีที่กาํ ลังแทง
ทะลุหน้าอกของเขาอยู่
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////
A : ฮ่าๆ สมนํ้าหน้าไอ้ควายยย

B : ตอบแทนความหวังดีของพี่เฟิ งด้วยการหักหลัง เจอดอกนี้ไป ซึ้ ง


นํ้าตาแตกเลยดิ

C : ทํางานได้เยีย่ ม หม่า ยู๋คุน !!!

A - B : นี้มนั ยังน้อย เด๋ วมันเจอกรรมสนองหนักยิง่ กว่านี้ หลายเท่า


บทที่ 592 – เลวยิง่ กว่าเดรัจฉาน

“หม่า ยูค่ ุน เจ้าเดรัจฉาน !! เสี ยแรงที่ขา้ ไว้ใจเจ้า !! แต่เจ้ากลับทํา


กับข้าเช่นนี้รึ !!

ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ ไม่กล้าที่จะเชื่อสายตาของเขาเอง เขาไม่กล้าที่จะ


เชื่อว่าน้องชายที่เขารักมากจะทํากับเขาเช่นนี้ แต่เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นต่อ
หน้าของเขาเช่นนี้ ก็ยากที่เขาจะปฏิเสธความจริ งได้

ในขณะนั้น เขารู ้โกรธอย่างมาก แต่มนั ก็ไม่อาจเทียบได้กบั ความ


เจ็บปวด จากก้นบึ้งหัวใจของเขา ที่เขาถูกทรยศโดยบุคคลที่เขาเรี ยกว่า
น้องชาย

อย่างไรก็ตาม ผูน้ าํ ตระกูลหม่า ไม่ได้สนใจต่อปฏิกิริยาของ ผูน้ าํ


ตระกูลหลี่ แม้แต่นอ้ ย เขาดึงยอดยุทธภัณฑ์ช้ นั ดีออกมาจากอกของเขา
อย่างเย็นชา จากนั้นก็ปล่อยออกมากดร่ างของเขาไว้กบั พื้น

หลังจากนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหม่า ก็กา้ วไปหยิบไข่ผลึกนํ้าแข็งขึ้นมา


จากพื้น และหันไปมองที่ ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ และกล่าวอย่างเย็นชาว่า
“พี่ชาย อย่าได้โทษความโหดเหี้ ยมของข้า แต่จงโทษความโง่เขลาของ
เจ้า ที่เชื่อมัน่ มิตรภาพ และคําว่าพี่นอ้ งเถิด”
หลังจากกล่าวจบนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหม่า ก็กวาดสายตาไปยังสมาชิก
ของตระกูลหม่าที่เขาพามา พร้อมทั้งโบกมือ และกล่าวออกมาว่า
“จัดการ !!”

***** บูมมมมมมม *****

“อ๊าาาาาาา !!”

“อ๊ากกกกกกกกกกก !!”
หลังจากที่ผนู ้ าํ ตระกูลหม่าออกคําสัง่ นั้น เหล่าสมาชิกตระกูลไม่ได้
กล่าวอะไรออกมาแม้แต่นอ้ ย พวกเขาเริ่ มโจมตีใส่ สมาชิกของตระกูลหลี่
อย่างรวดเร็ ว ถึงแม้วา่ สมาชิกของตระกูลหลี่จะไม่ได้พบกับความ
ฉุกละหุกเช่นนี้ ด้วยความต่างชั้นของพลัง พวกเขาก็จะต้องพ่ายแพ้อย่าง
สิ้ นเชิงอยูแ่ ล้ว

แต่ที่ส่ิ งที่ทาํ ให้สมาชิกของตระกูลหลี่ประหลาดใจมากที่สุดนัน่ คือ


ผูอ้ าวุโสชาปี่ ทั้งคู่ ซึ่งพวกเขาไม่ได้ต่อสู ก้ บั สมาชิกของตระกูลหม่าแต่
อย่างใด พวกเขากลับโจมตีใส่ สมาชิกตระกูลหลี่แทน และในทุกๆ การ
ลงมือของพวกเขา นัน่ หมายถึงหนึ่งชีวติ ที่ตอ้ งจบลง ตัวตนที่แท้จริ งของ
ผูท้ รยศถูกเปิ ดเผยออกมาอย่างไม่มีการปิ ดบังใดๆ

ในฐานะที่เป็ นบุตรสาวของผูน้ าํ ตระกูลหลี่ หลี่ ชาน ไม่ได้เข้าร่ วม


การต่อสู แ้ ต่อย่างใด นางถูกผนึกอยูภ่ ายในรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ
และนางทําได้เพียงทนดูเหล่าสมาชิกของตระกูลค่อยๆ ล้มตายลงอย่าง
ต่อเนื่อง

“หม่า ยูค่ ุน เจ้ามันเลวยิง่ กว่าสัตว์ !! เจ้าลืมแม้แต่คาํ สอนของบรรพ


บุรุษ !! หัวใจของเจ้ามันทรามยิง่ กว่าสุ นขั !!”

เมื่อเห็นลูกน้องของเขาค่อยล้มตายลงด้วยความโง่เขลาของเขานั้น
ผูน้ าํ ตระกูลหลี่กถ็ ูกครอบงําด้วยความกราดเกรี้ ยวอย่างแท้จริ ง เจาไม่
สนใจต่ออาการบาดเจ็บจากบาดแผลที่หน้าอกของเขาอีก เขารี บกระโจน
เข้าใส่ ผนู ้ าํ ตระกูลหม่าอย่างรวดเร็ ว

แต่ดว้ ยร่ างกายที่บาดเจ็บของเขานั้น เขาย่อมไม่สามารถเอาชนะ


ผูน้ าํ ตระกูลหม่าได้ เขาถูกเตะล้มลงกับพื้นอีกครั้ง และถูกเหยียบซํ้า
พร้อมกับขยี้ไปที่บาดแผลของเขาด้วยเท้าของผูน้ าํ ตระกูลหม่า
“พีช่ าย เจ้าบอกว่าข้าลืมคําสอนของบรรพบุรุษเช่นนั้นรึ !! คําสอน
ที่ให้พวกเราร่ วมมือกันเป็ นพี่นอ้ งกันนัน่ รึ !! คําสอนพวกนั้นมันสามารถ
ทําให้ตระกูลของข้าก้าวหน้าได้รึ !! คําสอนนัน่ มันทําให้ตระกูลของข้า
ได้สิทธิ์ขาดในหุบเขาเขี้ยวหมาป่ าเช่นนั้นรึ !! ข้าจะบอกอะไรให้เจ้าฟัง
!!”

“บนโลกนี้มนั ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างเป็ นเพียงความว่างเปล่า


แต่มีสิ่งหนึ่งที่จริ งแท้แน่นอน นัน่ คือ ผูช้ นะเป็ นจ้าว ผูแ้ พ้เป็ นโจร !! ข้า
ไม่หวาดเกรงที่จะต้องถูกนินทา เพราะหากข้าได้รับชัยชนะ ก็จะไม่มี
ใครกล้าที่จะชี้นิ้วสัง่ ข้าอีก

“พวกเขาเหล่านั้นจะต้องทําตามคําสัง่ ข้า จะไม่มีใครสนใจถึง


วิธีการ พวกเขาจะจดจําเพียงแค่ผชู ้ นะ พวกเขาจะต้องจดจําสิ่ งที่ขา้ หม่า
ยูค่ ุน เหลือทิ้งเอาไว้ !!” หม่า ยูค่ ุน กล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่าง
บ้าคลัง่ เสี ยงหัวเราะของเขาไม่มีความละอายแม้แต่นอ้ ย

“เดรัจฉาน !! ข้ามันตาบอดเองที่นบั เจ้าเป็ นพี่นอ้ ง !! ข้ามันตาบอด


เองที่ให้ความไว้วางใจเจ้า !! เจ้ามันเป็ นเดรัจฉาน !! ตํายิง่ กว่าหมู ยิง่ กว่า
หมา !!” ผูน้ าํ ตระกูลหลี่ กัดฟันแน่นด้วยความกราดเกรี้ ยว ใบหน้าของ
เขาเปลี่ยนเป็ นสี แดงฉานด้วยความโกรธ ในขณะที่เขาสบถออกมาอย่าง
รุ นแรง

“เดรัฉาน !! เจ้าบอกว่าข้าเป็ นเดรัจฉานเช่นนั้นรึ !! ข้าจะแสดงให้


เจ้าดูถึงความเป็ นเดรัจฉาน !!” หม่า ยูค่ ุน ไม่ได้สะทกสะท้านต่อคําสบถ
เหล่านั้นแม้แต่นอ้ ย เขาจ้องมองไปที่ผนู ้ าํ ตระกูลหลี่อย่างเย็นชา และ
กล่าวออกมาว่า “นําตัวนางมา !!”

“ให้ขา้ ไป ให้ขา้ ไป”


หลังจากผูน้ าํ ตระกูลหม่ากล่าวจบนั้น เหล่าสมาชิกตระกูลหลี่ไม่
ลังเลแม้แต่นอ้ ย พวกเขารี บเข้าไปพาตัว หลี่ ชาน มาที่ผนู ้ าํ ตระกูลหม่า
อย่างรวดเร็ ว

“หม่า ยูค่ ุน !! เจ้าจะทําอะไร !! มีอะไรก็มาทําที่ขา้ !! อย่าทําอะไร


ชานเอ๋ อ ของข้า !!” เมื่อเห็นเช่นนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหลี่กล่าวออกมาด้วย
ความหวาดกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจ กลัวว่า หม่า ยูค่ ุน จะทําในสิ่ งที่เขา
ไม่อาจทนได้

“พีช่ าย เจ้าไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ข้าไม่ทาํ อันตรายใดๆ ต่อ ชานเอ๋ อ


หรอก”
“ชานเอ๋ อ หลายสาวที่น่ารักของข้า ไม่ตอ้ งห่วง ข้าจะไม่ทาํ นร้ายเจ้า
ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี”

หมา ยูค่ ุน กล่าวพลางยิม้ แปลกๆ ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือจับไปที่กราม


ของ หลี่ ชาน และกว่าออกมาว่า “หลานข้า เจ้าฉลาดกว่าพ่อของเจ้า เจ้า
ดูแลร่ างกายของเจ้าให้บริ สุทธิ์เพื่อรอข้า อาของเจ้า”

“สวะ !! จิ้งจองเฒ่า !!” หลี่ ชาน เปิ ดปากของนาง และถุยนํ้าลายใส่


หน้า หม่า ยูค่ ุน อย่างรวดเร็ ว

“สวะรึ !! ข้าจะให้เจ้าได้เห็นถึงวิธีการสวะเช่นข้า !!” ด้วยกําลัง


ของ หม่า ยูค่ ุน เขาฉีกกระโปรงของ หลี่ ชาน ออก เผยให้เห็นเรี ยวขาที่
ขาวเนียนของนางอย่างเด่นชัด พร้อมกับกดนางลงมาใต้ตวั เขาอย่าง
รวดเร็ ว

“หม่ายูค่ ุน เจ้าจะทําอะไร !! ชานเอ๋ อ เป็ นหลานของเจ้า !! เป็ น


หลานของเจ้า !!”

“เจ้าเดรัจฉาน ปล่อยข้า !! ปล่อยข้า !!” เมื่อเห็นว่า หม่า ยูค่ ุน


ต้องการจะทําอะไรกับ หลี่ ชาน บุตรสาวของเขานั้น หัวใจของผูน้ าํ
ตระกูลหลี่กแ็ ทบจะระเบิดออกมา เขาพยายามตะเกียกตะกายด้วยพลังที่
มีท้ งั หมดของเขา

“อยูน่ ิ่งๆ ซะ !!” อย่างไรก็ตาม เพียงฝ่ ามือเดียวของผูน้ าํ ตระกูล


หม่านั้น ก็ทาํ ให้ผนู ้ าํ ตระกูลหลี่ลม้ ลงกับพื้นอีกครั้งอย่างรุ นแรง กระดูก
ทัว่ ร่ างกายของเขาแตกร้าว และเขาก็ไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีก
“อืมมม….อยูน่ ิ่งๆ แบบนั้นแหละ และคอยดูวธิ ีการเล่นสนุกของ
ข้ากับลูกสาวของเจ้า ในฐานะน้องชายของเจ้า ข้าจะยอมมอบความ
บริ สุทธิ์ของ ชานเอ๋ อ ให้แก่คนนอกได้เช่นไร ฮ่าๆ….” หม่า ยูค่ ุน
หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลัง่ พร้อมกับใบ้ฝ่ามือลูบไล้ไปตามผิวขาวเนียน
ของ หลี่ ชาน

อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหลี่กไ็ ม่สามารถทําอะไรได้


เขาทําได้เพียงมองดูลูกสาวของเขากําลังถูกยํา่ ยี โดยคนท่เขานับถือเป็ น
พี่ชาย

เขารู ้สึกเสี ยใจมากกับความโง่เขลาของตัวเขาเอง ที่ไม่ยอมเชื่อ


บุคคลที่เขาควรเชื่อ
เขาไม่ยอมเชื่อคํากล่าวของ หลี่ ชาน และ หวูฉ่ ิ ง จึงทําให้ทุกอย่าง
กลายเป็ นแบบนี้

แต่ทุกอย่างที่โลกใบนี้ขาดไปก็คือ ยารักษาความเสี ยใจ ในตอนนี้


เขาจะต้องรับผลตอบแทนจากการกระทําของเขา เขาจะต้องเสี ยความ
บริ สุทธิ์ของลูกสาวของเขา และเสี ยตระกูลหลี่ของเขาไป นี่คือสิ่ งที่เขา
จะต้องแบกรับ

ในขณะนั้น หลี่ ชาน พยายามดิ้นรนอย่างสุ ดกําลัง ดวงตาของนาง


ปรากฏนํ้าตาไหลออกมาเป็ นสายอย่างต่อเนื่อง นางไม่สามารถตําหนิ
ใครได้ นอกจากตัวของนางเอง ที่มีพอ่ งี่เง่าเช่นนี้

“โอ้ !! ข้าก็เคยเห็นคนที่เลวทรามมาก็มาก แต่ไม่เคยเห็นใครเลว


ทรามเท่านี้มาก่อนเลย !!”

ในขณะที่ ตระกูลหลี่ กําลังจะถูกทําลายอย่างสมบูรณ์ และความ


บริ สุทธิ์กาํ ลังจะถูกพรากไปนั้น เสี ยงที่คุน้ เคยเสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้นมาจาก
ด้านในของพระราชวัง

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////////////////////////////////////////
A : พวกมืงคิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่ กันรอไว้เลย!!!

B : สั้นๆ ง่ายๆ ตายชัวร์


บทที่ 593 - ทุกอย่างอยูใ่ นการควบคุม

“หวูฉ่ ิง”
หลังจากมีเสี ยงดังขึ้น สายตาของทุกคนก็จบั จ้องไปที่เจ้าของเสี ยงนั้น
และพวกเขาก็พบว่าในส่ วนลึกของวิหาร มีร่างปรากฏอยูร่ ่ างหนึ่ง
เจ้าของร่ างก็คือชูเฟิ ง

หลังจากได้เห็นชูเฟิ งทุกคนก็แทบจะกระโดดออกมาราวกับเห็นผี มัน


เพราะว่า พวกเขาไม่ได้เห็นชูเฟิ งในก่อนหน้านี้ และมีบางคนคิดว่าเขา
ถูกฆ่าไปแล้ว แต่ตอนนี้ชูเฟิ ง นั้นปรากฏตัวขึ้นมานัน่ หมายความว่าเขา
ยังสบายดีอยู่

แต่ถา้ ชูเฟิ งยังไม่ถูกฆ่า เขาไปอยูท่ ี่ไหนมาจนถึงตอนนี้ เขามาปรากฏตัว


ที่วหิ ารนํ้าแข็งโดยไม่ส่งเสี ยงและไม่มีคนรู ้เลยได้อย่างไร เขาทําได้
อย่างไร

“หม่า ยูค่ ุน เจ้ามันเดรัจฉานเสี ยจริ งอีกทั้งยังสารเลวบัดซบ มันยาก


มากที่จะกูเ้ จ้ากลับ.”

ชูเฟิ งไม่ได้ใส่ ใจสายตาของผูค้ น และ เขามองไปที่ผนู ้ าํ ตระกูลหม่า


ก่อนที่จะหันไปที่ผนู ้ าํ ตระกูลหลี่ที่เต็มไปด้วยแผลแล้วพูดว่า “ ผูน้ าํ
ตระกูลหลี่ ท่านรู ้หรื อยังว่าแท้จริ งแล้วน้องชายสุ ดที่รักของท่านเป็ นคน
อย่างไร รู ้สึกอย่างไรล่ะ”

“ข้า…” ในตอนนั้นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอับอาย
และ เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรได้แต่กม้ หัว แล้วยอมรับต่อคําพูดของชูเฟิ ง

ในตอนนี้ เขารู ้แล้วว่าชูเฟิ งนั้นต้องการจะช่วยเขา แต่เขาไม่ยอมรับมัน


และวางแผนที่จะฆ่าเขา นัน่ คือสิ่ งที่เรี ยกว่าตอบแทนพระคุณด้วยความ
ชัว่ ช้าอย่างแท้จริ ง (เนรคุณ)
“ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ามีทกั ษะบางอย่างที่ขา้ ไม่รู้จกั และไม่
เคยเห็น แต่เจ้าคิดว่าเมื่อเจ้าปรากฏตัวขึ้นมาเจ้าจะหนีรอดจากข้าไปได้
หรื อ.” ผูน้ าํ ตระกูลหม่า ยิม้ อย่างชัว่ ร้าย

“หนี ทําไมข้าต้องการหนี สําหรับพวกเจ้าข้าสามารถฆ่าได้ดว้ ย


เวลาสั้นๆ ทําไมข้าต้องหนีล่ะ” เมื่อได้ยนิ คําพูดของผูน้ าํ ตระกูลหม่า ชู
เฟิ งก็ยมิ้ เย้ยหยัน

“อะไรนะ ฆ่าพวกข้าอย่างนั้นหรื อ ด้วยพลังแค่ระดับ 8


อาณาจักรสวรรค์ เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ากล้าพูดถ้อยคําที่ไร้ยางอายได้
อย่างไร” ในตอนนั้น ใบหน้าของผูน้ าํ ตระกูลมาก็เปลี่ยนเป็ นเย็นเยือก
เขาแบมือออกและยิงฝ่ ามือออกมาทันที
ฝ่ ามือนั้นมีพลังระดับเจ้าสงคราม มันเป็ นพลังที่เหนือกว่าพลังอาณาจักร
สวรรค์อย่างแน่นอน เมื่อมันถูกปล่อยออกมา พื้นที่ที่มนั ผ่านก็เกิดการ
บิดเบี้ยว และแตกออก

มันช่างไร้เทียมทานเสี ยจริ ง

“ฮึ่ม.” อย่างไรก็ตามเมื่อยืนต่อหน้าการโจมตีน้ ีชูเฟิ งก็ไม่ได้ตื่น


ตระหนก เขาทําแค่แค่นเสี ยงอย่างเย็นชา

หลังจากแค่นเสี ยงนั้น วิหารนํ้าแข็งก็สน่ั ไหว และในตอนนั้น ก็มีแสงสี


ทองประกายออกมา ราวกับเป็ นแสงจากพระอาทิตย์ทาํ ให้ผคู ้ นนั้นแสบ
ตาและไม่กล้าจะมองมันตรงๆ พวกเขาทําได้เพียงหลี่ตา มอง
แต่หลังจากแสงสี ทองนั้นได้หายไป พวกเขาก็กล้ามองกลับไปที่ วิหาร
นํ้าแข็ง และมองเพียงภาพด้านหน้า พวกเขาก็ตอ้ งตกใจอย่างมาก และ
ใบหน้าของบางคนก็เต็มไปด้วยความกลัว

เพราะในตอนนั้น ในวิหารนํ้าแข็ง ไม่เพียงมีชูเฟิ งอยูต่ รงกลาง แต่ยงั


ไม่ได้รับผลกระทบจากผูน้ าํ ตระกูลหม่าอีกด้วย ราวกับฝ่ ามือนั้นไม่เคย
ปรากฏขึ้น

แต่ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดคือ หลี่ ชาน ที่อยูใ่ กล้กบั ผูน้ าํ ตระกูลหม่านั้น


ตอนนี้ได้อยูข่ า้ งหลังชูเฟิ งแล้วแม้แต่รูปแบบวิญญาณก็ถูกยกลิกไป
ในตอนนี้เธอซ่อนตัวอยูห่ ลังชูเฟิ งด้วยความหวาดกลัว
“เจ้าเด็กเหลือขอ ถ้าเจ้าอยากตายข้าจะสนองให้เดี๋ยวนี้.” ใน
ตอนนั้นไม่เพียงใบหน้าของคนอื่นที่แสดงความหวาดกลัวแม้แต่ใบหน้า
ของผูน้ าํ ตระกูลหม่าก็เกิดความหวาดกลัวเช่นกัน

แต่หลังจากเขาคิดไปมา เขาก็คิดว่ามันเป็ นเพียงแค่โชคร้ายเท่านั้น ดังนั้น


เขาจึงเรี ยกใช้พลังของเขาอีกครั้งและเหวีย่ งหมัดออกมา

*ตูม* แม้แต่พระราชวังนํ้าแข็งก็เกิดการสัน่ ไหว เมื่อหมัดถูกปล่อย


ออกมา หลังจากนั้นหมัดนั้นก็เกิดการระเบิดและกลายเป็ นเสื อดาว ยาว
กว่า 100 เมตร

เสื อดาวขนาดยักษ์ที่ราวกับมีชีวติ และมีที่น่าเกรงขาม กําลังวืง่ อยูบ่ น


อากาศและส่ งเสี ยงคํารามไปทัว่ ภูเขา และพลังที่ราวกับทําลายทุกสิ่ งเมื่อ
มันบินผ่านก็พงุ่ ตรงไปที่ชูเฟิ ง
“แย่แล้ว นัน่ มันทักษะที่แข็งแกร่ งที่สุดของเขา เสื อดาวพิโรธ
กวาดล้าง”

“เร็ วเขารี บถอยเร็ วเข้าไม่ง้ นั พวกเราจะถูกลูกหลงไปด้วย”

ในตอนนั้นผูค้ นที่เห็นภาพนี้กข็ มวดคิ้วแน่ดว้ ยความกลัว พวกเขาล้วน


ถอยยออกห่างเพราะรู ้จกั ทักษะนี้ดี เพียงแค่แรงระเบิดของมันก็สร้าง
บาดแผลให้กบั พวกเขาได้แต่ถา้ ลูกหลงเข้าไปอาจจะถึงตายเลยทีเดียว

*ฮึ่ม*
อย่างไรก็ตาม ผูค้ นนั้นรู ้วา่ เขาต้องหนีจากหายนะให้ได้ และในตอนนั้น
แสงสี ทองก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เหมือนก่อนหน้านี้มนั ปรากฏเพียงแปบ
เดียวก็หายไป

“สวรรค์มนั เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เมื่อทุกอย่างสิ้ นสุ ดลงและเมื่อพวกเขาหันกลับไปมองที่วหิ ารนํ้าแข็ง


พวกเขาก็พดู อะไรไม่ออกทันที

เพราะในสายตาของพวกเขา ชูเฟิ งนั้นยืนอยู๋ที่เดิม ไม่ได้ขยับไปไหน


ทักษะที่แข็งแกร่ งที่สุดของผูน้ าํ ตระกูลหม่า ก็หายไปเหมือนกับก่อน
หน้านี้
แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดคือในชูเฟิ งนั้นมีบางอย่างอยู่ มันคือไข่น้ าํ แข็ง
ไข่น้ าํ แข็งที่เคยอยุใ่ นมือของผูน้ าํ ตระกูลหม่าบัดนี้มนั มาอยูท่ ี่เขาแล้ว

ในตอนนั้น ในสายตาทุกคนก็จบั จ้องมีที่ชูเฟิ ง พวกเรารู ้สึกตกใจและ


หวาดกลัวมาก เพราะจากสายตาของพวกเขา ชูเฟิ งนั้นเหมือนสัตว์
ประหลาด มันเหมือนกับเขามีความสามารถที่น่าเหลือเชื่อบางอย่าง

ความจริ งแล้ว หลี่ ชานที่อยูห่ ลังชูเฟิ งก็เช่นกัน เธอนั้นตกใจอย่างมากถึง


มากที่สุด

เพราะแม้แต่เธอที่อยูข่ า้ งเขา เธอก็ไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้น หรื อ ชูเฟิ งทําอะไร


ลงไป

“เจ้าเด็กเหลือขอ หยุดล้อเล่นแล้วมาสูก้ บั ข้าตัวต่อตัวเดี๋ยวนี้” ใน


ตอนนั้นผูน้ าํ ตระกูลหม่าก็ตะโกนดังลัน่ ใบหน้าของเขาแสดงถึงความ
กลัวอย่างมาก

“อะไร เจ้ากลัวอย่างนั้นหรื อ” ชูเฟิ งยิม้ พร้อมส่ งสายตาดูถูกไป

“กลัวอย่างนั้นหรื อ เจ้าบอกว่าข้าที่อยูใ่ นระดับเจ้าสงครามกลัวเด็ก


เหลือขออย่างเจ้าที่อยูใ่ นระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์เช่นนั้นหรื อ”

แม้จะกลายเป็ นหิ น ผูน้ าํ ตระกูลหม่าก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เขานั้น


กลางแขนออก และใช้ทกั ษะที่แข็งแกร่ งโจมตีชูเฟิ งต่อไป

อย่างไรก็ตามก็เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ เกิดแสงสี ทองขึ้นและการโจมตี


ของเขาก็หายไป

“เจ้า เจ้า เจ้า เจ้า ยังเป็ นมนุษย์อยูอ่ ย่างนั้นหรื อ” ในตอนนั้น


ผูน้ าํ ตระกูลหม่าก็ตอ้ งตื่นตระหนกอย่างมาก เขาตื่นตระหนกจนต้องถอย
ออกไป จนเกือบสะดุดล้มลงบนพื้น

ในตอนนั้นเขารู ้สึกไร้พลังอย่างมาก ไม่วา่ เขาจะโจมตีสกั เท่าไหร่ กไ็ ม่


สามารถทําอะไรชูเฟิ งได้ แต่เมือมองไปที่ชูเฟิ ง เขาก็ไม่สะทกสะท้าน
อะไรตั้งแต่ตน้ จนจบ เขาก็ยนื ยิม้ อยูเ่ หมือนเดิม ราวกับเขานั้นได้ควบคุม
ทุกสิ่ งไว้แล้ว
ในสถานการณ์เช่นนั้น แม้เป็ นระดับ 1 เจ้าสงครามแบบเขาก็ตอ้ งกลัว
เพราะสิ่ งที่เขาเผชิญด้วยทําให้เขารู ้วา่ ชูเฟิ งนั้นเหนือกว่าเขามาก และ
รู ้สึกว่าชูเฟิ งนั้นได้ควบคุมทุกสิ่ งอย่างไว้แล้ว

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////
A : มึงมีสมบัติอะไรเอาออกมาให้หมด แล้วพีเฟิ งจะทําให้มืงตายแบบ
สบาย!!!

C : อย่าไปให้มนั จะแบบไหนก็ตายอยูด่ ีล่ะว่ะ!!!

B : ยังไงของมึงก็โดนเอาแน่ๆ แค่ได้ตายสบายไม่ดีหรื อไง๊

A : มีครั้งไหนทีพี่เฟิ งตบเกรี ยนคนแล้วไม่ปลดทรัพย์ ไม่เคย!!!นอกซะ


จากถุงจักรวาลจะสลายไปพร้อมกับพลังทําลาย ขนาดแหล่งกําเนิด
วิญญาณยังโดนแดกเข้าไปด้วย
A : สมนํ้าหน้าผูน้ าํ ตระกูลหลี่ชิบหาย ไอ้ควายนี้ตอ้ งตบให้หายโง่สกั ที

B : พีเฟิ งไม่ตอ้ ง เด๋ วพีB


่ นี้แหละจัดการเอง กูจะตบให่สมองแม่งพิการ
เลย ปัญญาอ่อนดีนกั พ่อมืงดิ ไปถามศัตรู วา่ เป็ นคนวางแผนหรื อเปล่า
ขนาดคนบ้ามันยังไม่ยอมรับเลยว่าตัวเองบ้า แล้วโจรที่ไหนบ้างยอมรับ
ว่าตัวเองเปนโจร ถ้าคนเขียนจะเขียนให้มนั โง่ได้ขนาดนี้ ไมไม่เขียนให้
มันไปควายซะเลย!!!

A4 : ใจเย็นๆหนุ่มๆ เขาเขียนเค้าทํามาดีแล้ว อาจเป็ นเพราะความเชื่อ


ใจในมิตรภาพ แบบไม่ลืมหูลืมตา ผลเลยออกมาเป็ นแบบนี้ ยังไงเขาก็ได้
บทเรี ยนแล้ว ปล่อยๆเขาไปเหอะ ถ้าพวกคุณยังไม่พอใจ เด๋ วกูจะตบมัน
ให้เอง

บทที่ 594 - ความตาย

"เจ้ายังไม่เห็นอีกหรื อ” ชูเฟิ งพูดพร้อมยิม้ เบาๆ


“เห็นอะไร เจ้าพูดถึงอะไร เจ้าพูดบ้าอะไร”

ผูน้ าํ ตระกูลหม่าเกรงกลัวอย่างหนัก เขาคิดว่าต่อให้ผเู ้ ชี่ยวชาญที่


แข็งแกร่ งแค่ไหน ก็รับการโจมตีเขาโดยที่ไร้เสี ยงและยังเอาของจากมือ
เขาไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าชูเฟิ งต้องไม่ใช่มนุษย์

“ข้าคิดว่าเจ้าจะฉลาดกว่านี้ แต่เจ้าก็โง่เหมือนกับพี่ชายเจ้าไม่มี
ผิด.” ชูเฟิ ง ยิม้ ดูถูก และจากนั้นพระราชวังนํ้าแข็งก็เกิดแสงสี ทองึ้นอีก
ครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้แสงสี ทองนั้นไม่มากเท่าแต่ก่อน แม้จะทําให้


แสบตา แต่กไ็ ม่ถึงขั้นทําให้ผคู ้ นมองมันไม่ได้
ในสถานการณ์เช่นนั้น ผูค้ นก็รู้วา่ แสงสี ทองนั้นมาจากวิหารนํ้าแข็ง โดย
มีเส้นสี ทองและสัญลักษณ์รวมกันอยูแ่ ละวาดเป็ นรู ปแบบที่ยงิ่ ใหญ่มาก

“ช่างเป็ นรู ปแบบที่แข็งแกร่ งอะไรเช่นนี้ เจ้าสามารถควบคุมมันได้


อย่างไร เจ้าเป็ นใครกันแน่”

ในตอนนั้น ผูน้ าํ ตระกูลหม่าก็สามารถประติดประต่อได้ มันไม่ใช่เพราะ


พลังของชูเฟิ ง แต่มนั เป็ นเพราะรู ปแบบนั้นแข็งแกร่ ง และเหตุผลที่ชูเฟิ ง
ทําเรื่ องลึกลับนัน่ ได้เป็ นเพราะเขาอาศัยพลังของรู ปแบบวิญญาณสี ทอง

มันช่างแข็งแกร่ งยิง่ นัก รู ปแบบวิญญษณสี ทองนี้ ต้องถูกวาดทิ้งไว้โดยผู ้


เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดทอง และต้องไม่ใช่ผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุด
ทองธรรมดาๆ แน่นอน

นอกจากนี้ ที่แห่งนี้เป็ นสถานที่ที่ถูกผนึกไว้ มันเป็ นไปไม่ได้ที่ชูเฟิ งจะ


เป็ นคนวางเพราะ เขาไม่มีพลังถึงขนาดนั้น รู ปแบบนี้ตอ้ งถูกวางโดย
ผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับเมื่อ 500 ปี ก่อนอย่างแน่นอน

แต่ ชูเฟิ งสามารถควบคุมรู ปแบบวิญญาณนี้ได้อย่างไร เขาก็ยงั ไม่เข้าใจ

“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าโง่ เจ้าก็ยงั โง่จริ งๆ เจ้าไม่รู้หรื อว่ากุญแจนัน่ ได้


ให้พลังที่ควบคุมรู ปแบบวิญญาณนี้กบั ข้ามา”

ในตอนนั้นชูเฟิ งก็ยมิ้ ขึ้นมา พร้อมปล่อยแรงกดดันนับไม่ถว้ นออกมา


และ ตุบ้ ผูน้ าํ ตระกูลหม่าก็ถูกบังคับให้คุกเข่าอยูก่ บั พื้นพร้อมใบหน้าที่
เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาไม่เหลือพลังที่จะสู ต้ ่ออีกแล้ว

“เจ้าหน้าไม่อาย เจ้ากล้าใช้ส่ิ งที่ถูกทิ้งไว้โดยบรรพชนตระกูลข้า


ต่อสู ก้ บั ข้า” เมื่อผูน้ าํ ตระกูลหม่ารู ้ความจริ ง เขาก็ด่าทอชูเฟิ งทันที

“หน้าไม่อายอย่างนั้นหรื อ คนอย่างเจ้ากล้าว่าคนอื่นอย่างนั้น
หรื อ” ชูเฟิ ง หัวเราะ และพูดว่า, “พูดตามตรงได้เลย ว่าทําไมข้าถึง
สามารถควบคุมรู ปแบบนี้ได้ นัน่ ก็ตอ้ งขอขอบคุณเจ้า ถ้าเจ้าไม่ได้เป็ น
คนไร้ประโยชน์ ผูอ้ าวุโส หง เซี ยง ก็คงไม่บอกถึงวิธีควบคุมรู ปแบบนี้
กับข้าหรอก.”

“อะไรนะ ท่านหง เซียงอย่างนั้นหรื อ เจ้ารู ้จกั ชื่อนี้ได้อย่างไร”


“เป็ นไปไม่ได้ เป็ นไปไม่ได้ ตระกูลหลี่ และ ตระกูลหม่าได้
ช่วยชีวติ หง เซียงเอาไว้ เขาจะตอบแทนนํ้าใจโดยส่ งรู ปแบบวิญญาณนี้
ให้กบั มือศัตรู ได้อย่างไร” หลังจากรู ้ความจริ ง ผูน้ าํ ตระกูลหม่าก็สบั สน
อย่างมาก ใบหน้าของเขาตอนนี้ราวกับกลายเป็ นขี้เถ้า และ ยากที่จะทํา
ให้ยอมเชื่อความจริ ง

“ตอบแทนอย่างนั้นหรื อ ใช้ตระกูลพวกเจ้าช่วยผูอ้ าวุโสเอาไว้ แต่


เหตุผลที่ตระกูลเจ้ามีวนั นี้กเ็ พราะผูอ้ าวุโส หง เฉี ยง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้
เป็ นหนี้บุญคุณกับบรรพชนของเจ้า.”

“ถ้าเจ้าหวังว่าเขาจะปกป้อง ตระกูลของเจ้าเพียงเพราะบุญคุณ
เล็กน้อย มันก็สมควรแล้วที่ผอู ้ าวุโสหง เซี ยง จะปล่อยปะละเลยคนไร้ค่า
เช่นเจ้า.”
“ตายซะ วันนี้ขา้ จะลบทายาทที่น่ารังเกียจเช่นเจ้าออกจาก
ตระกูลหม่า เพราะบรรพชนตระกูลหม่าของเจ้าคงลําบากใจไม่นอ้ ยที่มี
ทายาทเช่นเจ้า.”หลังจากที่ชูเฟิ งพูด ดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย และ
กดดันให้ผนู ้ าํ ตระกูลหม่าตกอยูใ่ นความกลัวอย่างไม่สิ้นสุ ด

“อ๊ากกก~~~~~~~~”

ภายใต้แรงกดดันที่น่าเกรงขาม ผูน้ าํ ตระกูลหม่านั้นไม่เหลือพลังที่จะ


ต่อต้านแล้ว เขาทําได้แค่ปล่อยให้แรงกดดันกดร่ างของเขาจนมันบิด
เบี้ยง จากนั้นเลือดของเขาก็ไหลออกมา และแม้แต่จิตสํานึกของเขาก็ยงั
แตกเป็ นเสี่ ยงๆ นอกจากนี้พลังของเขาก็ถูกดูดกลื่นไปโดยชูเฟิ ง จน
ในตอนนี้ผนู ้ าํ ตระกูลหม่านั้นจมอยูใ่ นบ่อเลือด
“นี่มนั ไม่ดี แล้ว วิง่ วิง่ เจ้านั้นมีความสามารถที่น่ากลัวเกินไป
แม้แต่ประมุขของเรายังถูกฆ่า ดังนั้นพวกเราไม่สามารถยืนอยูใ่ นรู ปแบบ
นี้ได้แล้ว!”

เมื่อเห็นชูเฟิ ง ขยี้ ผูน้ าํ ตระกูลของพวกเราจมลงบ่อเลือด ผูค้ นตระกูล


หม่าก็ตกอยูใ่ นความกลัว ทุกคนไม่สนเรื่ องฆ่าคนตระกูลหลี่แล้ว ได้แต่
หันหลังกลับแล้ว วิง่ หนี พวกเขานั้นต้องการออกจาสถานที่ที่อนั ตราย
เช่นนี้ ถ้าชูเฟิ งฆ่าได้แม้กระทัง่ ผูน้ าํ ตระกูลของเขา แล้วนับประสาอะไร
กับพวกเขาล่ะ

“อ๊ากกก”

อย่างไรก็ตาม คนที่หนีออกมานั้นไม่ทนั หนีได้กี่กา้ ว ก็เผชิญ กับเสี ยง


มังกรคําราม หลังจากนั้นก็มีมงั กรฟ้า ลอยลงมาจากฟ้า ขวางทางออก
ของพวกเขาไว้ และ ก็มีร่างของชูเฟิ งยืนอยูบ่ นมังกรยักษ์ตวั นั้น

“ผูค้ นทั้งหมดฟังคําสัง่ ของข้า ข้าสามารถปล่อยให้พวกเจ้ามีชีวติ


ต่อไปได้ แต่ไม่ใช่ 2คนนั้น สิ่ งที่ขา้ เกลียดที่สุดก็คือการทรยศ ดังนั้น
พวมันสมควรตาย.” ชูเฟิ ง มองไปที่ คูร่ ัก ชาปี่ ด้วยสายตาที่เย็นเยือก

“ฮึ่ม เจ้าคิดว่าเจ้าเป็ นใคร คิดว่าเจ้าจะฆ่าพวกเราก็ทาํ ได้อย่างนั้น


หรื อ ท้ายที่สุดแล้ว เจ้าก็แค่เด็กเหลือขอในระดับอาณาจักรสวรรค์เท่านั้น
ถ้าเจ้าออกจากพื้นที่ของรู ปแบบวิญญาณแล้ว เจ้าคิดว่าเจ้าจะเหลืออะไร
อีกล่ะ”

“ทุกคนอย่าไปกลัว ถ้าพวกเราร่ วมมือกัน ก็สามารถฆ่าเจ้าเด็กนี้ได้


ง่ายเหมือนพลิกฝ่ ามือ ในตอนนั้น สมบัติท้ งั หมดก็เป็ นของพวกเรา ทุก
สิ่ งทุกอย่างของตระกูลหลี่ และ ตรกูลหม่าจะเป็ นของพวกเรา!” คู่รัก ชา
ปี่ พูดขึ่น

ผูค้ นนั้นเมื่อเห็นทางออกถูกขวางเอาไว้กไ็ ม่มีทางเลือก และเมื่อเห็นชู


เฟิ งอยูใ่ นระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์ พวกเขาก็พร้อมจะสู ต้ ายกับชูเฟิ ง

อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขาแพ้พวกเขาก็ตาย ถ้าพวกเขาชนะพวกเขาก็รวย
นอกจากนี้พวกเขารู ้สึกว่า โอกาสชนะของพวกเขานั้นมีมากกว่าดังนั้น
จึงไม่ยากที่จะตัดสิ นใจ

*วุบ่ *
ในตอนนั้น ที่คนตระกูลหม่ากําลังเลือกที่จะตัดสิ นใจ ชูเฟิ งก็ได้ใช้ทกั ษะ
มังกรฟ้าทะยานพุง่ ไปอยูด่ า้ นหน้า คู่รัก ชาปี่

*ตูม*

จากนั้น หมัดของเขาก็ถูกเหวีย่ งไปที่ ร่ างของชายชราที่มีชื่อว่า ชา ด้วย


หมัดเดียวนั้นชายชราไม่ทนั ได้ส่งเสี ยงร้องออกมา วิญญาณของเขาก็ถูก
ทําลายชูเฟิ งพร้อมกับร่ างกายที่กลายเป็ นหมอกสี เลือด

“ข้ามีพลังแค่ระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์เท่านั้น แต่พวกเจ้าคิดว่า


จะฆ่าข้าได้อย่างนั้นหรื อ” ชูเฟิ งพูดขึ้นมา
“อ๊ากกกก~~~~~~ เจ้าบัดซบ ข้าจะฆ่าเจ้า” เมื่อเห็นสามีถูก
ฆ่าไปต่อหน้าหญิงชรานามว่าปี่ ก็โกรธจัดและตะโกนใส่ ชูเฟิ งด้วยความ
โกรธ

“ฮึ่ม ถ้าเจ้าต้องการตายล่ะก็ ข้าจะสนองให้.” ในตอนนั้นท่าทาง


ของชูเฟิ งไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่นอ้ ย เมื่อหญิงชราปี่ พุง่ เข้ามาหาเขา มันก็
เหมือนกับโยนชีวติ ทิ้ง หมัดอีกข้างถูกปล่อยออกมาดังปั้ ง เช่นเดียวกับ
สามี หญิงชราตายอย่างอนาถในพริ บตา

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////
A : สมควรแล้ว สมควรแล้ว
C : เลวระยํา ฆ่ากระทั้งคนแก่

B : เป็ นมืง มืงจะฆ่าไม๊ อีดอกแอ๊บเป็ นคนดี!!! เด๋ วถีบควํ้า!!!

A : ไม่ตอ้ งกูเอง!!!

บทที่ 595 - ระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์

" ท่านจอมยุทธ หวูฉ่ ิง โปรดเมตตาด้วย โปรดเมตตาด้วย"

เมื่อพวกเขาได้เห็นความตายของคู่ ชาปี่ ทุกคนจากตระกูลหม่าที่คิดจะสู ้


กับ ชูเฟิ ง ก่อนหน้านี้ ไม่มีแม้แต่ท่าทีของการเตรี ยมพร้อมสําหรับการ
ตัดสิ นใจเหมือนก่อนหน้านี้ ไม่วา่ จะเป็ น ชาย หรื อ หญิง คนแก่ หรื อ
เหล่าหนุ่มสาว ทุกคนต่างคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับเอาหัวโขกพื้นไม่มี
ท่าทีวา่ จะหยุด

พวกเขารู ้ตวั ว่าโง่เขลา ที่เกิดความคิดเช่นนั้น ในที่สุดพวกเขาก็รู้วา่ ชายที่


พวกเขาดูถูกที่ยนื อยูต่ ่อหน้านี้ นั้นน่ากลัวแค่ไหน ชูเฟิ งสามารถปลิด
ชีวติ พวกเขาได้อย่างง่ายดาย ชายที่มีนามว่า หวูฉ่ ิ ง เป็ นคนที่แข็
งแกร่ ง และโหดเหี้ ยม

* ฟิ้ ววว * .
ทันใดนั้น ชูเฟิ ง ก็สบัดแขนเสื้ อของเขาไปมาอย่างรวดเร็ ว จนเกิดคลื่น
พลังที่รุนแรง พัดเขาใส่ พวกเขา จากนั้นมันก็ดูดเอาถุงจักรวาล หลายใบ
เข้ามาอยูใ่ นฝ่ ามือของชูเฟิ ง

เป็ นธรรมดาที่คนเหล่านั้นจะโดนปลดทรัพย์ เมื่อเห็นแบบนั้นผูค้ นไม่


แม้แต่จะกล้าชําเลืองมองหน้าของชูเฟิ ง จากนั้นชูเฟิ งก็กล่าว " ไปซะ
พวกเจ้ามาทางไหนก็กลับไปทางนั้น!!! "

" ท่านจอมยุทธ ขอบคุณสําหรับความเมตตา ขอบคุณสําหรับ


ความเมตตา! " ได้ยนิ แบบนั้นฝูงชนตระกูลหม่า ไม่ลงั เลแม้แต่นอ้ ย พวก
เขารี บวิง่ หนีออกไปอย่างน่าตาตื่น จนบางคนถึงกับสะดุดล้มหัวทิ้มพื้น

" ท่านจอมยุทธหวูฉ่ ิง ขอบคุณที่ช่วยชีวติ พวกเราไว้ โชคดีที่


ท่านมาช่วยได้ทนั ไม่เช่นนั้นตระกูลหลี่ของเราคงต้องพินาศ " หลังจาก
เห็นชูเฟิ งเดินเข้ามายังทิศทางของ ผลึกนํ้าแข็ง ผูค้ นจากตระกูลหลี่ที่รอด
ชีวติ ก็กล่าวขอบคุณชูเฟิ งด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับความกระเหี้ ยนกระหายกระหื อรื อใน


การเลียแข้งเลียขา ชูเฟิ ง ก็ไม่ได้สนใจใดๆพวกเขา เขาสะบัดแขน
ออกไป และพลังนั้นก็เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับตระกูลหม่าก่อนหน้านี้ ชู
เฟิ งนั้นได้ชิงถุงจักรวาลของพวกเขา

" จอมยุทธหวูฉ่ ิง ท่าน . . . . . . "

การกระทําของชูเฟิ งทําให้ผคู ้ นของตระกูลหลี่ตกใจอย่างมาก


ผูเ้ ชี่ยวชาญที่ตระกูลหลี่จา้ งมาถึงกับมุมปากกระตุกภายในใจเต็มไปด้วย
ความเจ็บปวด
เพราะพวกเขาไม่ใช่คนส่ วนหนึ่งของตระกูลหลี่ ดังนั้นพวกเขาไม่มี
ความจําเป็ นจะต้องเอาชีวติ ไปเสี่ ยงเป็ นเสี่ ยงตาย พวกเขานั้นรับใช้
ตระกูลหลี่กเ็ พื่อเงิน แต่ตอนนั้น รางวัลที่ได้รับมาจากตระกูลหลี่ ล้วนแต่
อยูใ่ นถุงจักรวาล ที่ชูเฟิ ง ยึดเอาไป ไม่เพียงแค่น้ นั มันยังมีสมบัติที่พวก
เขาสัง่ สมมาเป็ นเวลาหลายปี ตอนนี้พวกเขาหมดเนื้อหมดตัวแล้ว

เมื่อเห็นปฏิกิริยาตกใจของผูค้ น ชูเฟิ งยิม้ อย่างเย็นชาและกล่าวว่า "


อย่าได้คิดว่าข้านั้นมีหน้าที่ตอ้ งคอยปกป้องพวกเจ้า เพราะตอนนั้นผูน้ าํ
ตระกูลของเจ้า คิดจะฆ่าข้า หากข้าหลบไม่ทนั ป่ านนี้ขา้ คงตายด้วยฝ่ ามือ
ของเขาไปแล้ว!!! "

" ที่ขา้ คลี่คลายสถานการณ์น้ ี ไม่ได้เเปลว่าข้า หวู๋ฉิง เป็ นสหาย


ของเจ้า ข้าก็เหมือนคนของตระกูลหม่า ที่เป็ นศัตรู !!! " ชูเฟิ งพูดขึ้นมา
พร้อมกับกวาดสายตาที่เย็นเยือกไปรอบๆฝูงชน
" ท่านจอมยุทธโปรดเมตตา โปรดเมตตา ท่านอยากได้อะไรเอาไป
ให้หมด อย่าได้ฆ่าพวกเราเลย "

ตอนนั้น ผูค้ นของตระกูลหลี่ ถึงกับตัวสัน่ งกๆพร้อมกับรี บทิ้งตัวคุกเข่า


กับพื้น เหมือนกับการกระทําก่อนหน้านี้ของคนจากตระกูลหท่า ทุกคน
ต่างพยายามอ้อนวอน เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่หลุดออกมา
จากดวงตาของชูเฟิ ง

ในตอนนั้นพวกเขาเชื่ออย่างหมดใจว่า ชูเฟิ งคิดจะฆ่าพวกเขาหากพวก


เขากล้าขืดขืน ซึ่งสายตาของเขาที่จอ้ งมาน่ากลัวอย่างมาก เหมือนกับว่า
ชูเฟิ ง นั้นไม่ใช่มนุษย์แต่เป็ นปี ศาจเลือดเย็น
หลังจากนั้นชูเฟิ งก็เดินตรงเข้าไปที่ผนู ้ าํ ตระกูลหลี่ และเขาก็ดูเหมือนจะ
มีปฏิกิริยาเหมือนกับที่ชูเฟิ งคาดการณ์ไว้ ปั จจุบนั เขาดูสงบนิ่ง พร้อมกับ
พูดกับ ชูเฟิ ง " หวูฉ่ ิง ข้ามันโง่ ที่ไม่อาจแยกแยะสิ่ งที่ถูกที่ผดิ และเลือกที่
จะเชื่อเจ้าเดรัจฉานหม่า ยู๋คุน ทรยศเจตนาดีของเจ้า อีกทั้งยังคิดจะฆ่าเจ้า
. . . หวูฉ่ ิง สังหารข้าเถิด ได้โปรดปลิดชีวติ ข้า ให้ใจข้ารู ้สึกดีข้ ึน "

" หวูฉ่ ิง อย่า!! อย่าฆ่าพ่อข้า ได้โปรดให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง "


ทันใดนั้นหลี่ ชานก็รีบวิง่ เข้ามาคุกเข่าอยูต่ ่อหน้าชูเฟิ ง โดยที่พอ่ นางอยู่
ด้านหลัง นางพยายามอ้อนวอนชูเฟิ งให้ยกโทษให้

" คุณหนูใหญ่ รี บลุกขึ้น " ชูเฟิ ง จับหลี่ ชานขุ้ ึน แล้วมองไปที่


ผูน้ าํ ของตระกูลหลี่และกล่าว " ที่จริ ง ข้าควรจะฆ่าเจ้าเพราะเจ้านั้น
พยายามสังหารข้า ซึ่งความผิดของเจ้านั้นคือความตาย "
" แต่ในวันนี้ ข้ายังจะไม่ฆ่าเจ้า แต่ไม่ใช่เพราะข้าสงสารเจ้า แต่
เพราะข้าเห็นแก่ลูกสาวเจ้า "

หลังจากพูดคําเหล่านั้นแล้ว ชูเฟิ งก็เหวีย่ งสายตาไปที่หลี่ ชาน และกล่าว


" คุณหนูใหญ่ ข้าต้องการใช้วตั ถุที่พบอยูท่ ี่นี่ ท่านจะว่ายังไง"

" ไม่วา่ ยังไง ที่นี่กเ็ ป็ นสถานที่ของตระกูลหลี่ของท่านที่รักษามา


นานหลายปี แต่ขา้ คิดว่านี้คือมันค่าตอบแทนที่ขา้ สมควรได้ ในอนาคต
ข้าจะแบ่งให้ท่านเท่าๆกัน " หลังจากพูดจบ ชูเฟิ งก็โดดขึ้นขี่มงั กรฟ้า
พร้อมกับ หายไปโดยที่ไม่หนั กลับมามอง

หลังจาก ชูเฟิ งจากไป คนตระกูลหลี่กเ็ หมือนยกเขาออกจากอก พวกเขา


รี บวิง่ เข้าไปในพระราชวังผลึกนํ้าแข็ง และเริ่ มต้นรักษาผูน้ าํ ตระกูล มี
แต่หลี่ ชาน ที่จอ้ งมองไปยังทิศทางที่ ชูเฟิ งจากไปอยูเ่ ป็ นเวลานาน โดย
ที่ทาํ หน้ามึนงง

ชูเฟิ งออกจากถํ้าจิตวิญญาณ แต่ยงั อยูบ่ ริ เวณหุบเขาเขี้ยวหมาป่ า โดยที่


ถือไข่ผนึกนํ้าแข็ง เขารู ้สึกว่ามันคือวัตถุที่มีพลังวิญญาณอัดอยูเ่ ต็มเปี่ ยม

แม้พลังวิญญาณของมันอยูใ่ นระดับ 1 จ้าวแห่งสงคราม แต่พลังงานที่


บรรจุน้ นั ดูไม่เหมือนกับพลังที่อยูใ่ นระดับ 1 จ้าวแห่งสงครามแม้แต่
น้อย มันคือวัตถุพลังวิญญาณอย่างแท้จริ ง ที่มีคุณค่าสําหรับพลังวิญญาณ
อย่างมาก

ชูเฟิ ง ร้อนรนที่จะปรับปรุ งมัน เขาจึงไปหาที่ซ่อนในการบ่มเพาะ เมื่อ


เขาพบ ชูเฟิ งก็เริ่ มต้นดําเนินการกลัน่ พลังวิญญาณจากไข่ผลึกนํ้าแข็ง
แม้วา่ มันเป็ นไข่ที่มีอาํ นาจพลังวิญญาณที่สะสมมานานกว่า500ปี มันก็
ไม่มีอนั ตรายใดๆต่อเขา นอกจากนี้ชูเฟิ งยังเป็ นถึงผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดม่วง
มันจึงง่ายมากที่เขาจะดูดซับพลังเอาไว้ หลังจากผ่านไปหนึ่งชัว่ ยาม ชู
เฟิ ง ก็ ดูดซับพลังจากมันเอาไว้ได้จนหมด

หลังจากเสร็ จเรี ยบร้อย พลังจากไข่ผนึกนํ้าแข็งก็วงิ่ ไปทัว่ ร่ างของชูเฟิ ง


ในตอนนั้นเขาก้าวเข้าสู่ ระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ หากเขาใช้สายฟ้าทั้ง
สาม ชูเฟิ งจะมีพลังวิญญาณอยูใ่ นระดับ 9 อาณาจักรสวรรค์ อีกแค่เพียง
ระดับเดียวเขาก็จะไปถึงอาณาจักรจ้าวแห่งสงคราม

เวลาผ่านไปไม่ถึงปี นับตั้งแต่จื่อหลิง ถูกพาตัวไป ในช่วงเวลานั้น ชูเฟิ ง


สามารถเพิ่มพลังวิญญาณได้ถึง 8 ระดับ จากอาณาจักรแก่นแท้ปัจจุบนั
เขาเข้าสู่ อาณาจักรสวรรค์ระดับ 6 นั้นถือว่าการเพาะปลูกของเขา
เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ วจนน่ากลัวอย่างมาก
" เห้อ จริ งด้วย ข้าลืมนึกไปเลยว่าเมื่อพลังข้าเพิ่มขึ้นทรัพยากรที่
ต้องใช้กต็ อ้ งน่ากลัวขึ้นเช่นกัน แม้แต่อาํ นาจพลังฯทีสง่ั สมมานานกว่า
500ปี ยังทําให้พลังข้าเพิ่มได้เพียงหนึ่งระดับ หากข้าจะใช้ลูกแก้ว
สวรรค์ ข้าต้องใช้มนั จํานวนมากมายเท่าไหร่ ถึงจะทะลวงผ่านขึ้นไป
?"

ถึงแม้วา่ เขานั้นจะประสบความสําเร็ จในการยกระดับพลังวิญญาณ แต่ชู


เฟิ งก็ยงั รู ้สึกท้อใจ เพราะหลังจากที่เขาดูดซับพลังอํานาจ จากโอรสอเวจี
และไข่ผนึกนํ้าแข็ง พลังเขายังเพิ่มขึ้นมาได้แค่ 3 ระดับ หากชูเฟิ งจะ
ก้าวขึ้นสู่ ระดับที่สูงกว่านี้เขาต้องใช้ทรัพยากรจํานวนที่น่ากลัวอย่างมาก

ก็ไม่ใช่เรื่ องแปลกที่เขาจะมีพลังเพิ่มขึ้นแค่ สามระดับ และหากเขา


ต้องการใช้สิ่งต่างเช่นลูกแก้วสวรรค์สาํ หรับการเพาะปลูก ซึ่ งเขาไม่รู้วา่
มันต้องใช้จาํ นวนถึงขนาดไหน

" เจ้าเข้าสู่ อาณาจักรสวรรค์ระดับ 6 ได้นี่กด็ ีมากแล้ว เจ้าควร


จะพอใจกับมัน " ผ่านไปครู่ ต้านต้านก็พดู ขึ้น ขณะที่หวั เราะ

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////
A : มืงจะใช้ทรัพยากรเปลืองไปไหน ?

B : ใจเย็นๆ รู ้ๆกันอยูว่ า่ ชูเฟิ งมันมีสายเลือดที่ข้ ีโกง!!! เมื่อมีขอ้ ดีมนั


ย่อมมีขอ้ เสี ย แต่ใช่วา่ จะแย่ไปทั้งหมด ตอนนี้เขาสามารถปลิดชีพพวก
อาณาจักรจ้าวสงครามระดับต้นๆ ได้อย่างไม่ยาก นี้กบั นับว่าดีมากแล้ว

C : ก็ข้ ีโกงจริ งๆนั้นแหละ!!!


B : ทุกอย่างมีมนั ข้อกําหนดไว้แล้ว ใช่วา่ มันจะทําได้ทุกอย่างไปหมด
ซึ่งเงื่อนไขในการทํางานของมันก็ยากแสนยาก แต่ถา้ ใช้ได้คล่องนั้น
แหละจะบอกว่ามันโกงถึงจะได้ แต่อย่าลิมว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า

บทที่ 596 - ค่าการใช้งานสู่ ผาคนรัก

" ต้านต้าน มันคือพลังวิญญาณที่สงั่ สมมามากกว่า 500 ปี


แต่มนั กับช่วยให้พลังวิญญาณข้าเพิ่มได้เพียงหนึ่งระดับ จากระดับ 5
เข้าสู่ ระดับ 6 แล้วหากเป็ นลูกแก้วสวรรค์ล่ะ ข้าไม่อยากจะนึกเลยจริ งๆ
"

ชูเฟิ งรู ้สึกหมดหนทาง แม้เขาจะรู ้ดีวา่ เขานั้นต้องใช้ทรัพยากรที่จาํ นวน


มหาศาลในการที่จะก้าวสู่ ระดับต่อไปที่สูงกว่า และหากเขาจะทะลวง
ผ่านอาณาจักรสวรรค์ข้ ึนไปมันคงจะยากอย่างมาก เมื่อเขาเจอกับ
สถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาอย่างขมขื่น
" เจ้าบ้า ไข่ผนึกนํ้้ าแข็งแม้จะเปี่ ยมด้วยพลังวิญญาณก็จริ ง แต่
ระยะเวลาที่มนั สัง่ สมพลังก็แค่ 500ปี เจ้าต้องรู ้วา่ ยังมีส่ิ งมีชีวติ อื่นๆที่มี
พลังวิญญาณที่ทรงอนุภาพอยูอ่ ีก อย่างน้อยๆพวกมันต้องสัง่ สมพลังไว้
ไม่ต่าํ กว่า 10000 ปี

" อีกอย่าง เจ้าควรจะคิดแบบนี้ ปั จจุบนั เจ้านั้นได้พบพลังเหล่านี้


หลังจากที่กา้ วเข้าสู่ ทะเลภาคตะวันออกเพียงไม่นาน จะเห็นได้ชดั ว่า
ทะเลตะวันออก นั้นเต็มไปด้วยสถานที่ที่แปลกหลาด อย่างน้อยมันก็ยงั มี
ทรัพยากรที่แปลกประหลาดตามธรรมชาติมากกว่าทวีป 9 อาณาจักร

" ตราบใดที่เจ้าเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ ด้วยวิธีการค้นหาของเจ้า เจ้ายัง


ต้องกังวลเรื่ องทรัพยากรอีกหรอ? ในสถานที่นีเจ้านั้นเหมือนปลาที่วา่
ยอยูใ่ นนํ้า ที่มีแหล่งเพาะปลูกไม่มีที่สิ้นสุ ด " ต้านต้านพูดขณะที่ยมิ้
หวาน
" อืม ข้ารู ้วา่ เจ้าอยากทําให้ขา้ สบายใจ แต่เจ้าก็พดู ถูก ถึงเวลาที่ขา้
ต้องเลิกกังวลสักที " ชูเฟิ งเข้าใจในสิ่ งที่ตา้ นต้านพยายามบอก หลังจากที่
ได้ยนิ นางพูด เขารู่้ สึกว่าหนทางข้างหน้ามันช่างงายดายจริ งๆ

" เจ้าจะไปที่ไหนต่อ ? " ต้านต้าน ถาม

" แน่นอน ที่ผาคนรัก เพื่อพบกับ ฉิ วซุ่ย ฟู๋ หยาน " ชูเฟิ งยิม้ เบาๆ
พร้อมกับกระโจนขึ้นฟ้า และกับมุ่งหน้าไปยังทิศทางผาคนรัก

ทะเลภาคตะวันออกมีพ้นื ที่ขนาดกว้างใหญ่ และเส้นทางที่จะไปผาคน


รักก็อยูไ่ กลมาก ดังนั้น พวกเขาจึงต้องใช้เวลาในการเดินทางไม่นอ้ ย
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ ชูเฟิ ง เดินทางมาได้สกั พัก เขาก็พบว่ามีเมือง
ขนาดใหญ่ที่มีการวางตราประทับ

มันคือตราประทับเคลื่อนย้าย ที่ดูโบราณเก่าแก่ ซึ่ งมันดูคลังมากกว่าที่


พบในสํานักสี่ คาบสมุทร พวกเขาบอกว่ามันคือสิ่ งที่ ผูเ้ ชื่อมต่อฯ ที่ทรง
พลังอํานาจทิ้งไว้จากช่วงที่ผา่ นมา ดังนั้น ไม่วา่ จะเป็ นความเร็ วหรื อ
จํานวนคนที่สามารถเคลื่อนย้าย หรื อจะเป็ นระยะทางทั้งหมดจัดว่าอยูใ่ น
ระดับที่สูงเป็ นอย่างมาก

แต่ตราประทับเคลื่อนย้ายจากยุคโบราณทั้งหมดถูกครอบครองโดยหมู่
เกาะประหาร หากใครต้องการที่จะใช้มนั พวกเขาจะต้องจ่ายค่าการใช้
งาน ราคาจะขึ้นอยูก่ บั ระยะทาง ไม่ตอ้ งพูดถึงคนทัว่ ๆไปแม้แต่
ผูเ้ ชี่ยวชาญบางคนก็ไม่มีปัญญาที่จะจ่ายไหว

แม้บางคนจะมีเงินพอสําหรับการใช้งาน แต่พวกเขาก็ไม่เต็มใจที่จะจ่าย
ค่าการใช้งานที่แพงหูฉีกในการเดินทาง นอกซะจากคนที่รวยจริ งๆหรื อ
ตระกูลผูด้ ีเท่านั้นที่จะใช้มนั

แม้วา่ ชูเฟิ ง จะไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่เขาก็พอมีลูกแก้วสวรรค์อยูอ่ ยูท่ ี่ตวั


และจํานวนของมันก็ไม่ได้มีมากขนาดที่วา่ สามารถช่วยให้เพิ่มระดับ
พลังวิญญาณของเขา แต่มนั ก็เหลือเฟื อที่จะใช้ในเรื่ องการเดินทาง

ดังนั้นด้วยความสะดวกสบายของตราประทับเคลื่อนย้ายโบราณ ชูเฟิ งจึง


ประหยัดเวลาในการเดินทางได้เป็ นอย่างมาก ภายในเวลาไม่กี่วนั เขาก็
มาถึงผาคนรัก มันประหยัดเวลาให้เขาเป็ นสิ บเท่าหากเขาบินมาด้วย
กําลังของตัวเอง

" ตราประทับเคลื่อนย้ายโบราณ นี้ไม่ธรรมดาเลยจริ งๆ พวกมัน


รวดเร็ วกว่าที่สาํ นักสี่ คาบสมุทรอีก ต้านต้าน เจ้ารู ้เยอะ แล้วเจ้ารู ้หรื อ
เปล่า ว่าผูเ้ ชี่ยวชาญแบบไหนที่สร้างประทับเคลื่อนย้ายโบราณเหล่านี้
ขึ้นมา "

หลังจากที่เดินออกจากตราประทับ เขารู ้สึกสับสนกับความเร็ วที่แสนน่า


กลัวของมัน เขารู ้วา่ มันสามารถทําให้เขาเดินทางไปทัว่ ทั้งแผ่นดินทะเล
ภาคตะวันออกได้อย่างง่ายดาย

ซึ่งคนแบบไหนกันที่สร้างสิ่ งที่มีประสิ ทธิภาพขนาดนี้ข้ ึนมาได้ แล้วต้อง


เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯแบบไหน เพราะผูเ้ ชื่อมต่อชุดม่วงฯ เขาก็พอเรี ยนวิธีการ
สร้างตราประทับมาเช่นกัน และเขาก็รู้วา่ ต้องเป็ นคนที่เก่งในเรื่ องการ
ควบคุมรู ปแบบอํานาจฯด้วยวิธีพิเศษตามที่ใจต้องการ เช่นการวางตรา
ประทับอย่างต่อเนื่อง

" เท่าที่ขา้ รู ้ มันน่าจะถูกวางโดยผูเ้ ชื่อมต่อฯผ้าคลุมราชวงศ์ แต่


กาลเวลามักผ่านไปอย่างรวดเร็ วเสมอนับแต่เริ่ มการวาง มันจึงทําให้ตรา
ประทับมีการเสื่ อมโทรม มันต้องใช้ระยะเวลาฟื้ นฟูที่ยาวนานอย่าง
น้อยๆก็ตอ้ งเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดทอง ถึงจะสามารถเปิ ดใช้งานพวกมัน "

" ดังนั้น พวกหมู่เกาะประหารจึงมีการเรี ยกเก็บค่าการใช้งาน ตรา


ประทับเคลื่อนย้าย ในราคาที่สูงดังกล่าว เพราะพวกเขาคงจะใช้เงินไป
ไม่นอ้ ยถึงจะจ้างผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดทอง มาซ่่อมตราประทับเคลื่อนย้าย
เหล่านี้ "ต้านต้าน อธิบาย

" ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณผ้าคลุมราชวงศ์ง้ นั หรอ ? "

" ขนาดผูเ้ ชื่อมต่อฯผ้าคลุมราชวงศ์กท็ รงพลังได้มากขนาดนี้ แล้ว


หากเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯผ้าคลุมราชันย์ล่ะ มันจะทรงพลังแค่ไหน ? "
เดิมทีชูเฟิ งคิดว่าตราประทับเคลื่อนย้ายถูกวางโดยผูเ้ ชื่อมต่อฯผ้าคลุม
ราชันย์ตราประทับถึงเปี่ ยมไปด้วยประสิ ทธิภาพแบบนี้ แต่ตอนนี้เขากับ
รู ้วา่ เป็ นเพียงผูเ้ ชื่อมต่อฯผ้าคลุมราชวงศ์เท่านั้นที่วาง เป็ นอีกครั้งที่เขา
อย่ากรู ้ถึงความแข็งแกร่ งของผูเ้ ชื่อมต่อฯผ้าคลุมราชันย์ ไม่ตอ้ งสงสัยเลย
ว่าอย่างน้อยๆจะต้องเข้าสู่ ระดับ จักรพรรดิสงครามจึงจะสามารถเป็ นได้

ผาคนรักในความเป็ นจริ ง เป็ นเพียงเกาะที่มหาสมุทรล้อมรอบ ยิง่ ไปกว่า


นั้น มันยังเป็ นเกาะขนาดกว้างใหญ่ มีพ้นื ที่สูงชัน วิวรอบๆเกาะก็งดงาม
อย่างมาก ราวกับว่าเป็ นดินแดนสวรรค์ในเมืองมนุษย์ ตามพื้นดินเต็มไป
ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่แปลกตา ยิง่ พวกหยาดนํ้าค้างที่เกาะตามใบหญ้า
ยิง่ ทําให้มนั งดงามมากยิง่ ขึ้น

บนเกาะนี้ ไม่มีพรรคหรื อนิกายใดๆ แต่ที่น้ นั กับมีผเู ้ ชี่ยวชาญอยูม่ ากมาย


ที่อาศัยอยูบ่ นเกาะ บรรดาผูเ้ ชี่ยวชาญที่หลบซ่อนอยูท่ ี่น้ ีไม่ชอบความ
เอะอะวุน่ วาย ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อนุญาตให้คนเข้ามาตามใจชอบ

ผูเ้ ชี่ยวชาญ ที่อาศัยอยูบ่ นเกาะได้วางรู ปแบบฯที่มองไม่เห็นปกคลุมทัว่


ท้องฟ้าจรดผืนดิน ทัว่ ทั้งผาคนรัก ซึ่ งมีเพียงทางเข้าอยูแ่ ค่ไม่กี่ทาง

" หยุด !! " ขณะที่ชูเฟิ งเดินมาถึงทางเข้า ก็มีเสี ยงตะโกนให้


หยุดของชายหนุ่ม

ชายหนุ่มคนนั้นมีอายุเพียงยีส่ ิ บกว่าๆ แต่มีพลังวิญญาณอยูใ่ นระดับ 3


อาณาจักรสวรรค์ อาจบอกได้วา่ ด้วยวัยเพียงเท่านี้นบั ว่าไม่เลว แต่ต่อ
หน้าของ ชูเฟิ ง นั้นเขาดูข้ ีประติ๋วไปเลย
" พี่ชาย ข้ามาที่นี่เพื่อพบแม่นาง ฉิ วซุ่ย " ชูเฟิ งกล่าวอย่าง
สุ ภาพ

แม่นางฉิวซุ่ย เป็ นเพียงชื่อที่คนเรี ยกกัน ในความเป็ นจริ ง ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน


นั้นได้ปกติชื่อเต็มๆของนาง ถ้าหากเป็ นคนที่มาจากผาคนรัก พวกเขา
อาจจะไม่รู้วา่ นางคือบุตรสาวของประมุขวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ นั้น
คือสิ่ งที่เขาได้ยนิ มาจากอาจารย์ ชิ๋ว ซานเฟิ ง

" เจ้ามาที่นี่เพื่อพบอาวุโส ฉิ วซุ่ย ? หากให้ขา้ เดา เจ้าคง


ต้องการเป็ นสาวกของนางสิ นะ "

" กลับไปซะอาวุโสฉิ วซุ่ยไม่รับสาวกอีกต่อไป นอกจากสาวก


ที่นางรับมาก่อนหน้านี้ "
" ไม่ตอ้ งพูดถึงการที่เจ้าจะเป็ นสาวกของอาวุโสฉิ วซุ่ย แม้แต่
การจะเป็ นสาวกของอาวุโสที่ผาคนรักก็เป็ นไปไม่ได้ ไม่ใช่เหตุผลอื่นใด
แต่เป็ นเพราะเจ้าไม่มีคุณสมบัติ ออกไปเด๋ วนี้ อย่ามาทําให้ผาคนรักอัน
ศักดิ์สิทธิ์ตอ้ งมัวหมอง "

ทัศนคติของชายหนุ่มคนนี้ช่างหยิง่ ยโสอย่างมาก ถึงแม้วา่ พลังวิญญาณ


ของชูเฟิ งจะมากกว่าเขา แต่ในสายตาที่เขามองชูเฟิ งนั้นเต็มไปด้วยการดู
ถูกและเหยียดหยาม ขณะที่เขาพูด เขาก็ช้ ีไปที่แผ่นหิ นบริ เวณใกล้เคียง

แต่ตอนนั้นชูเฟิ งก็พบอักษรที่เขียนไว้บนแผ่นหิ น เรี ยงเป็ นแถวตัวเบริ่ ม


" ผูท้ ี่อายุมากกว่า20 อย่าได้หย่ามกายมาบนเกาะแห่งนี้ เพื่อขอพบเหล่า
อาวุโส แม้จะอายุไม่ถึง 20 หากยังไม่เข้าสู่ อาณาจักรสวรรค์กไ็ ม่อาจ
เหยียบเกาะนี้ เพื่อขอเป็ นสาวก ! "
หลังจากที่ได้เห็นอักษรบนแผ่นหิ น ทุกอย่างก็ลงตัว ชูเฟิ งรู ้แล้วว่าจะต้อง
ทํายังไงถึงได้เข้าไปภายใน เขาไม่พดู ใดๆ เพียงแค่ยมิ้ บางๆพร้อมกับหัน
ซ้ายหันขวา หาขี้กระปอม

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
A : อย่าบอกนะ จะใช้หน้าจริ งๆ

B : ไม่ใช่ม้ งั !!! แต่ยงั ไงก็เหอะ เมื่อชูเฟิ งเหยียบไปที่ไหน ที่น้ นั ต้องมี


การตีกนั

C : ตัวหายนะ!!!

A : ชูเฟิ ง ไม่ใช่คนเริ่ มก่อนละกัน ไม่วา่ ที่ไหนก็ตอ้ งมีจา้ วถื่น เมื่อเขา


ไปจะโดนเบ่งใส่ กไ็ ม่แปลก แต่ที่แปลกคือมันไม่ใช่คนยอมคนนี้แหละ
ถ้าไม่ใช่ญาติมนั ตบควํ้าแทบจะทุกคน ขนาดพวกชูเซิ น มะก่อนนี้ยงั โดน
เลย มีแต่สตรี ที่พี่เฟิ งอลุ่มอล่วย แต่ถา้ ปากเสี ยจริ งๆก็โดนเหมือนกัน

B : คงงั้นอ่ะ

บทที่ 597 – สิ บสาวงามแห่งทะเลดอกไม้

เมื่อมาถึงพื้นที่เปลี่ยวนั้น ชูเฟิ ง ได้เปลี่ยนเสื้ อผ้าของเขาอย่าง


รวดเร็ ว อีกทั้งเขายังเปลี่บนหน้ากากของเขา จากใบหน้าของชายวัย
กลางคน เปลี่ยนเป็ นใบหน้าของคนหนุ่มอายุราวยีส่ ิ บปี

อีกทั้งเขายังปลดพลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ออก จึงทําให้พลังของ
เขาลดเหลือเพียงระดับหก จากระดับเก้าขั้นแดนสวรรค์

หลังจากนั้น ชูเฟิ ง ก็กลับมายังจุดเดิมในก่อนหน้านี้ เมื่อ ชูเฟิ ง


กลับมาอีกครั้งนั้น ชายหนุ่มผูน้ ้ ีกแ็ ววตาเป็ นประกาย ความหยิง่ ผยองใน
ก่อนหน้านี้กลับหายไปจนสิ้ น ราวกับไม่เคยเกิดขึ้น เขากล่าวถาม ชูเฟิ ง
ออกไปว่า “น้องชาย เจ้ามาที่ผาคนรักแห่งนี้ เพื่อเสาะหาอาจารย์รึ”

ชายคนนั้นยิม้ ออกมาอย่างสุ ภาพ แตกต่างจากการแสดงออกใน


ก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับเหว ส่ วนเหตุผลนั้น ชูเฟิ ง สามารถรับรู ้ได้อย่างดี

แม้ในก่อนหน้านี้ พลังของเขาจะสู งมากถึงระดับเก้า ขั้นแดน


สวรรค์ แต่ดว้ ยรู ปลักษณ์ของชายวัยกลางคน นัน่ จึงไม่ทาํ ให้เป็ นจุด
สนใจได้ เพราะในทะเลตะวันออกนั้น บุคคลในรุ่ นนี้ลว้ นก้าวเข้าสู่ ข้ นั
จ้าวสงครามเป็ นส่ วนใหญ่

แต่ถึงแม้ในเวลานี้ พลังของเขาจะไม่สูงมาก เพียงระดับหก ขั้น


แดนสวรรค์ แต่ดว้ ยอายุของเขาเพียงยีส่ ิ บปี นั้น สามารถเรี ยกได้วา่ ชูเฟิ ง
ในรู ปลักษณ์น้ ีเป็ นอัจฉริ ยะ ถึงจะไม่โดดเด่นมากนัก แต่กอ็ ยูเ่ หนือกว่า
ชายตรงหน้าของเขา

และด้วยความเป็ นอัจฉริ ยะเช่น ชูเฟิ ง นั้น เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญของผา


คนรัก ย่อมยินดีที่จะรับ ชูเฟิ ง เป็ นศิษย์ ดังนั้น ชายคนนี้จึงไม่กล้าอวดดี
ต่อหน้า ชูเฟิ ง

“พีช่ าย ข้า หวูฉ่ ิ ง ได้ยนิ มาว่าผูอ้ าวุโส ฉิวซุ่ย ของผาคนรัก มีฝีมือที่


โดดเด่นอย่างมาก และข้าต้องการมาฝากตัวเป็ นศิษย์ของนาง เพื่อเรี ยนรู ้
บางอย่าง” ชูเฟิ ง กล่าวตอบ

“ผูอ้ าวุโส ฉิวซุ่ย !! น้องชาย หวูฉ่ ิ ง เจ้าหมายถึง ผูอ้ าวุโสหญิง ฉิ ว


ซุ่ย ใช่หรื อไม่ !?” ชายหนุ่มตกใจเล็กน้อย
“ถูกต้อง !!” ชูเฟิ ง กล่าวพลางพยักหน้า

“น้องชาย หวูฉ่ ิง ผูอ้ าวุโส ฉิ วซุ่ย แข็งแกร่ งมาก ผูท้ ี่เคยประลองกับ


นางล้วนพบกับความพ่ายแพ้ และนางก็ได้ชื่อว่าเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญอันดับ
หนึ่งของผาคนรักแห่งนี้”

“แต่เนื่องจากผูอ้ าวุโส ฉิวซุ่ย มีขอ้ มูลอยูน่ อ้ ยมาก ดังนั้น ผูท้ ี่รู้เรื่ อง


ของนาง จึงมีอยูไ่ ม่มาก เห็นว่าเจ้ารู ้จกั กับผูอ้ าวุโส ฉิ วซุ่ย เช่นนี้ เจ้าก็
เตรี ยมตัวมาไม่นอ้ ย”

“การคัดเลือกศิษย์ของผูอ้ าวุโส ฉิ วซุ่ย นั้นยากมาก และศิษย์ที่นาง


รับนั้น ล้วนแต่เป็ นผูห้ ญิง ไม่เคยรับศิษย์ผชู ้ ายเลยสักครั้ง แม้วา่
ความสามารถของเจ้าจะยอดเยีย่ ม ข้าเกรงว่าเจ้าอาจจะไม่มีโอกาสนั้น”
ชายหนุ่มผูน้ ้ นั กล่าว

เมื่อได้ยนิ ดังนั้น ชูเฟิ ง ขมวดคิว้ เล็กน้อย เขายังคงคิดว่า นัน่ เป็ น


เพียงข้ออ้างเพื่อกันเขาออกจากผารัก แต่แล้วเขาก็ตอ้ งคิดใหม่เมื่อเขาได้
ยินคํากล่าวต่อมาว่า “น้องชาย หวูฉ่ ิ ง หากเจ้าต้องการจะไปทดสอบ เจ้า
สามารถไปลองดูได้ แต่หากผูอ้ าวุโสเขาไม่รับเจ้าเป็ นศิษย์ เจ้าอาจจะได้
เป็ นศิษย์ของผูเ้ ชี่ยวชาญท่านอื่นๆ แต่นน่ั ก็นบั ยอดเยีย่ มแล้ว”

ขณะที่เขากล่าวนั้น เขาก็เปิ ดเส้นทางเข้าสู่ ผาคนรักให้ ชูเฟิ ง และ


พร้อมกับชี้ไปที่ป้าย

เมื่อ ชูเฟิ ง เห็นป้ายนั้น เขาสัมผัสได้ทนั ทีถึงความพิเศษของมัน


มองดูภายนอกนั้น มันเป็ นเพียงป้ายไม้ธรรมดาเท่านั้น แต่เมื่อเขาใช้
อํานาจพลังวิญญาณตรวจสอบ เขาก็พบส่ าป้ายนั้นถูกสร้างด้วยรู ปแบบ
อํานาจพลังวิญญาณ ตรงกลางป้ายมีคาํ ว่า “เยีย่ ม” สลักเอาไว้อยู่ อีกทั้ง
ด้านล่างยังสลักวันที่สร้างป้ายนี้ข้ ึนเอาไว้

“น้องชาย หวูฉ่ ิง นี่คือป้ายเยีย่ ม ในเส้นทางนี้เจ้าสามารถค้นหา


อาจารย์ของเจ้าได้ แต่หากเจ้าไม่พบพวกเขาภายในสิ บวัน เจ้าจะถูกขับ
ออกมาจากผาคนรักในทันที” ชายหนุ่มกล่าวเตือน

“พีช่ าย ขอบคุณสําหรัยคําแนะนํา”

ชูเฟิ ง ประสานมือขึ้นคาราวะ และจากออกมา เมื่อเขาเข้ามายังพื้นที่


ของผาคนรักนั้น เขาพบว่ามันมีขนาดใหญ่อย่างมาก เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญต่าง
ซ่อนตัวอยูต่ ามจุดต่างๆ ยกเว้นพื้นที่ที่งดงาม เพราะตรงนั้นไม่ได้รับ
อนุญาตให้ผใู ้ ดครอบครอง มันเป็ นพื้นที่ของส่ วนรวม
หลังจากที่เข้ามายังเส้นทางของป้ายนั้น ชูเฟิ ง ไม่หยุดเดินแต่อย่าง
ใด เพราะในก่อนหน้านี้เขาได้สอบถามถึงที่พกั ของ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน
มาป็ นที่เรี ยบร้อยแล้ว

“สถานที่แห่งนี้มนั สวรรค์บนดินชัดๆ !!”

เมื่อมาถึงสถานที่ที่เขาสอบถามมานั้น ชูเฟิ ง ก็ตอ้ งพบกับความ


ตะลึงอย่างมาก เพราะที่พกั ของ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน นั้น สร้างขึ้นอยูท่ ่ามก
ลามทะเลดอกไม้ มันประกอบด้วยดอกไม้ที่งดงามหชายชนิด ห้อมล้อม
ที่พกั อาศัยของนางอยูร่ าวกับทะเลดอกไม้

พื้นที่ที่งดงามเช่นนี้ควรจะเป็ นพื้นที่ของส่ วนรวม แต่สาํ หรับ ฉิ ว


ซุ่ย ฟู่ หยาน นั้น จะเห็นได้วา่ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนอื่นๆ ต่างหลีกทางให้นาง
ดังนั้น นางจึงเป็ นข้อยกเว้นในข้อกําหนดนี้

“เจ้าเป็ นใคร !? มีธุระอะไรถึงได้มาที่นี่ !?” ในขณะที่ ชูเฟิ ง


กําลังชื่นชมกับทัศนียภาพที่งดงามอยูน่ ้ นั จู่ๆ ก็มีเสี ยงของหญิงสาวกล่าว
ออกมาเสี ยงดัง

เมื่อมองตามไปยังต้นเสี ยงนั้น ชูเฟิ ง ก็พบกับสิ บสาวงามยืนอยู่


หญิงสาวเหล่านี้เป็ นเพียงรุ่ นเยาว์เท่านั้น เพราะผูท้ ี่อาวุโสสุ ดอายุน่าจะ
ไม่เกินยีส่ ิ บปี และผูท้ ี่อายุนอ้ ยสุ ดน่าจะอายุประมาณสิ บห้าปี เท่านั้น

หญิงสาวเหล่านี้ลว้ นไม่ธรรมดาอย่างมาก ผูท้ ี่อายุสิบห้าปี มีพลังถึง


ระดับหนึ่ง ขั้นแดนสวรรค์ คนอื่นๆ ก็ลว้ นอยูใ่ นขั้นแดนสวรรค์ แต่ผทู ้ ี่
อายุยสี่ ิ บปี มีพลังถึงระดับแปดขั้นแดนสวรรค์ ซึ่ งมากกว่าพลังของ ชูเฟิ ง
อยูถ่ ึงสองระดับ

นอกจากการเพาะปลูกที่สูงของพวกนางแล้วนั้น พวกนางยังมี
ความพิเศษอยูอ่ ีก นัน่ คือความงดงามของพวกนาง โดยเฉพาะผูท้ ี่มีอายุ
ยีส่ ิ บปี และมีพลังถึงระดับแปดนั้น การปรากฏตัวของนางช่างงดงาม
โดดเด่นกว่าผูอ้ ื่นอย่างเห็นได้ชดั

ผิวของนางขาวดุจหิ มะ ใบหน้าละเอียดอ่อน แววตาดูสดใสร่ าเริ ง


อย่างมาก

แต่นางกลับเย็นชาอย่างมสก เพราะในขณะที่หญิงสาวคนอื่นๆ
กําลังกระพริ บตาปริ บๆ เพื่อตรวจสอบ ชูเฟิ ง นั้น ตั้งแต่ตน้ จนจบ นาง
ยังคงเพียงมองไปที่ทะเลดอกไม้เท่านั้น
“เจ้ากําลังมองสิ่ งใดกัน !? ข้ากําลังพูดก้บเจ้าอยูน่ ะ !! เจ้าหูหนวกรึ
!?” เมื่อเห็นว่า ชูเฟิ ง กําลังมองมาที่พวกนางตาไม่กระพริ บ หนึ่งในสาว
งามก็กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

“ข้ามาเพื่อพบกับท่านอาวุโส ฉิวซุ่ย !!” ชูเฟิ ง กล่าวตอบ พลางเกา


ศรี ษะเบาๆ แก้เขิล

“มาพบท่านอาจารย์ !! เจ้ามีธุระอันใด !?” หญิงสาวคนหนึ่งกล่าว


ถามด้วยนํ้าเสี ยงที่อ่อนโยน

“ข้ามาพบกับท่าน เพื่อสนทนาเรื่ องบางอย่างเท่านั้น !!” ชูเฟิ ง


กล่าวตอบพลางยิม้ บางๆ
“หื ม…คงมากกว่านั้นแน่ เห็นได้ชดั ว่าเจ้ารู ้จกั กับท่านอาจารย์ เจ้า
ต้องการจะเป็ นศิษย์ของท่านล่ะซิ !!” สาวงามนางหนึ่งกล่าวออกมาด้วย
ความเย้ยหยัน

“ออกไปซะ ท่านอาจารย์ไม่ได้อยูท่ ี่นี่ และท่านก็รับเพียงลูกศิษย์ที่


เป็ นหญิงเท่านั้น มิใช่ชาย อีกทั้งท่านยังรับศิษย์เพียงแค่สิบคนเท่านั้น ซึ่ ง
ในตอนนี้กค็ รบสิ บคนแล้ว แม้เจ้าจะเป็ นผูห้ ญิง ท่านก็จะไม่รับเจ้าเป็ น
ศิษย์ !!” สาวงามอีกนางหนึ่งกล่าว

ขณะที่กล่าวนั้น พวกนางก็หนั กลับไป และลอยอยูท่ ่ามกลางทะเล


ดอกไม้ เข้าไปยังตําหนักที่ต้ งั อยูใ่ จกลางของทะเลดอกไม้อย่างช้าๆ
ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////
A : เด๋ วคอยดูสิวา่ เมื่อมันได้เห็นอิทธิฤทธิ์ของชูเฟิ ง มันยังจะปากดีอีก
ไม๊

B : ใจก็อยากจะตบให้ล่วงอยู่ แต่มนั ดันเป็ นศิษย์ของอาวุโส ฉิวซุ่ยนี้สิ


แต่อีกเด๋ วนางก็จะได้สาํ นัก ที่ตวั เองนั้นโวยวายใส่ ใคร

C : มันคงจะปลํ้าเขาอีกล่ะสิ !!!

A : มืงเห็นพี่เฟิ งเปนคนยังไงเนี่ย ???

C : เลวระยํา สันดารดิบ ป่ าเถื่อน ไร้อารยธรรม

B : พ่อประเสริ ฐ
บทที่ 598 – ผลไม้แห่งสงคราม

“ศิษย์นอ้ ง ข้ามีธุระด่วนกับผูอ้ าวุโส ฉิ วซุ่ย จริ งๆ ได้โปรดให้ขา้ ได้


พบกับท่านด้วย !!” ชูเฟิ ง ยังคงอ้อนวอน ด้วยการเดินทางที่แสนไกลนั้น
เขาจึงไม่อยากที่จะกลับไปมือเปล่า

“ไปซะ !!” ในขณะนั้น สาวงามที่มีพลังระดับแปด ขั้นแดนสวรรค์


ก็ตะโกนออกมา พร้อมกับโจมตีใส่ ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว

แม้วา่ นางจะไม่ได้มอง ชูเฟิ ง แต่นางกลับสามารถโจมตีได้อย่าง


แม่นยํา แต่นน่ั ไม่ใช่ส่วนสําคัญ ที่สาํ คัญคือนางผสานอํานาจพลัง
วิญญาณ เกิดเป็ นกําแพงสี ม่วงกดดัน ชูเฟิ ง เอาไว้ นี่หมายความว่านาง
เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ม่วง

“ทั้งอวดดี และไร้เหตุผลจริ งๆ !!” เมื่อเห็นรู ปแบบอํานาจพลัง


วิญญาณสี ม่วงปรากฏออกมานั้น แววตาของ ชูเฟิ ง ก็เปลี่ยนความไม่
พอใจอย่างรวดเร็ ว แม้จะเป็ นสาวงามแต่ ชูเฟิ ง ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอีก
หากว่าเขาไม่ตอ้ งขอร้องพวกนาง แน่นอนว่าเขาจะไม่สุภาพเช่นนี้

หลังจากการโจมตีปรากฏออกมานั้น ชูเฟิ ง ไม่ใช่คนโง่ที่จะยืนรอ


รับการโจมตีนิ่งๆ เขาจะต้องสอนบทเรี ยนบางอย่างให้แก่นาง

***** วูว้ วววว *****

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ ชูเฟิ ง กําลังจะเคลื่อนไหวนั้น เสี ยงแผด


ร้องก็ดงั ขึ้นมาจากด้านหลังของเขา ทําให้ความตั้งใจที่จะเคลื่อนไหวนั้น
ถูกลบหายไป เขาขมวดคิว้ บางๆ ขณะหันกลับไปมอง เขาก็พบกับสัตว์
ยักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วง
สัตว์ยกั ษ์ตวั นี้กาํ ลังทะยานอยูใ่ นอากาศ ในเวลาเดียวกันมันก็แยก
เขี้ยวออกมา และพุง่ เข้าชนรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณอย่างรุ นแรง

***** บูมมมมมมม *****

เมื่อทั้งสองเข้าปะทะกันนั้น คลื่นพลังทําลายได้แผ่กระจายออกมา
เป็ นวงกว้าง ทั้งสัตว์ยกั ษ์ และผนังรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณก็สลายไป
ทั้งคู่

ในเวลานั้น ชูเฟิ ง ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อสัตว์ยกั ษ์ได้สลายไป


ชายหนุ่มรู ปร่ างสง่างาม แต่กลับมีใบหน้าที่คล้ายกับผูห้ ญิงก็ปรากฏตัว
ออกมา
ด้วยใบหน้าที่ละเอียดอ่อน และผิวพรรณที่ขาวราวหิ มะนั้น เขาจึง
น่าจะเนรี ยกว่าเป็ นหญิงสาวมากกว่า

แม้วา่ ชายผูน้ ้ ีจะมีลกั ษณะคล้ายกับหญิงสาว แต่พลังของเขาก็ไม่ได้


อ่อนแอแม้แต่นอ้ ย เขามีพลังเทียบได้กบั สาวงามนางนั้น ที่มีพลังถึง
ระดับแปด ขั้นแดนสวรรค์

นอกจากนี้ยงั มีคนอื่นอีกที่อยูด่ า้ นหลังของเขา การบ่มเพาะพลังของ


เขาก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน อาจเรี ยกได้วา่ เขาคือมังกรในหมู่ชาย แต่คนที่อยู่
ในความสนใจของ ชูเฟิ ง นั้นไม่ใช่พวกเขา แต่เป็ นอีกคนหนึ่ง ชายคน
นั้นมีแผลเป็ นบนใบหน้า

ชายผูน้ ้ ีพยายามปกปิ ดพลังของเขาเอาไว้ แต่เขาก็ไม่สามารถหลบ


พ้นการตรวจสอบของ ชูเฟิ ง ไปได้ ชูเฟิ ง พบว่าชายคนนี้มีพลังถึงระดับ
เก้า ขั้นแดนสวรรค์ และจากการปรากฏตัวของเขานั้น เขาน่าจะอยูใ่ น
จุดสู งสุ ดของขั้นแดนสวรรค์ และจะเข้าสู่ ข้ นั จ้าวสงครามได้ในอีกไม่
นานนี้

“เซว่ ยี่ ข้ากําละงบังคับให้เจ้านี่กลับออกไป ทําไมเจ้าถึงขัดขวางข้า


หรื อว่าเจ้า…กับเจ้านี่ !!” เมื่อเห็นเช่นนั้น สาวงามที่อวดดีกก็ ล่าว
ออกมาอย่างตรงไปตรงมา เสี ยงของนางแสบเข้าไปถึงแก้วหูเลยทีเดียว

“ฮี่ฮี่ แม่นาง ว่านชือ อย่าได้เข้าใจผิด ข้าไม่รู้วา่ เด็กคนนี้เป็ นใคร แต่


ข้าเห็นว่าเจ้าได้ใช้รูปแบบอํานาจพลังวิญญาณ ข้าจึงรู ้สึกคันไม้คืน
อยากจะทดสอบฝี มือของเจ้าดูเท่านั้น”

“แม่นาง ว่านชือ เหตุใดเจ้าจึงได้โกรธ หรื อเจ้าเด็กนี่มนั ทําให้เจ้า


บันดาลโทสะออกมาเช่นนี้”

“แม่นาง ว่านชือ ไม่ตอ้ งลําบาก หากเป็ นเช่นนั้น ข้า เซว่ ยี่ จะเป็ น
คนสัง่ สอนมันเอง ทีกล้าบังอาจไร้มารยาทกับแม่นาง ว่านชือ เช่นนี้”
เยว่ ยี่ กล่าวออกมา พร้อมกับกําลังยะเคลื่อนที่ เพื่อโจมตีใส่ ชูเฟิ ง

“ไม่จาํ เป็ น หากเจ้าต้องการสิ่ งใด ก็จงกล่าวออกมา อย่าได้


เสี ยเวลา” ว่านชือ กล่าว

“ฮี่ฮี่ แม่นาง ว่านชือ นี่ฉลาดจริ งๆ หากแม่นางกล่าวเช่นนั้น ข้าจะ


ไม่ออ้ มค้อมอีกต่อไป”
“ข้ามาที่นี่ เพื่อจะมาเอาผลไม้แห่งสงคราม ที่ขา้ สู ญเสี ยไปจากการ
พ่ายแพ้เจ้าในครั้งสุ ดท้าย !!” เยว่ ยี่ กล่าวพลางยิม้ บางๆ

“โฮ่….เจ้าต้องการผลไม้แห่งสงคราม ที่สูญเสี ยให้แก่ขา้ ในความ


พ่ายแพ้ในครั้งสุ ดท้ายเช่นนั้นรึ !! ย่อมได้ หากเจ้าต้องการ แต่เจ้าต้อง
เอาชนะข้าให้ได้เสี ยก่อน !!”

ว่านชือ ยิม้ อย่างเหยียดหยัน ในขณะที่นางกล่าวนั้น ก็มีประกาย


แสงลอยออกมาจากถุงจักรวาลของนาง มันคือผลไม้ชนิดหนึ่งมีขนาด
ประมาณสามนิ้วปรากฏอยูใ่ นมือของนาง

ในขณะที่ผลไม้ปรากฏออกมานั้น ชูเฟิ ง ก็ตาเป็ นประกาย ถึงแม้


ผลไม้น้ ีจะมีลกั ษณะที่แปลกประหลาด แต่มนั ก็อดั แน่นไปด้วยพลังเทพ
สงครามอย่างชัดเจน
ทุกคนบนโลกต่างรู ้ดีวา่ ทรัพยากรการบ่มเพาะพลังมีท้ งั ขั้นแก่นแท้
วิญญาณ และขั้นแดนสวรรค์ แต่กบั ผลไม้แปลกนี่ ที่มีพลังถึงขั้นจ้าว
สงครามนั้น มันช่างเป็ นสิ่ งที่น่าแปลกใจอย่างมาก จากการคาดเดาของ ชู
เฟิ ง นั้น ผลไม้ผลนี้ น่าจะเป็ นโอสถระดับกลางอย่างแน่นอน”

“ย่อมได้ แต่คนที่จะรับมืเจ้าไม่ใช่ขา้ แต่เป็ นลูกพี่ลูกน้องของข้า”


เยว่ ยี่ กล่าวพลาง ชี้ไปที่ชายร่ างยักษ์ที่มีแผลเป็ นบนใบหน้าที่อยูข่ า้ งๆ
เขา

“ข้า เยว่ เจียน ลูกพี่ลูกน้องของ เยว่ ยี่ ข้าเคยได้ยนิ มาว่าแม่นาง เจียง


ว่าน ชือ ของผาคนรักมีฝีมือที่โดดเด่น อีกทั้งยังสามารถควบคุม
อํานาจพลัววิญญาณได้อย่างยอดเยีย่ ม”
“และข้า เยว่ เจียน ก็พอจะมีความรู ้เกี่ยวกับรู ปแบบอํานาจพลัง
วิญญาณอยูบ่ า้ ง ข้าจึงต้องการรับคําชี้แนะจากแม่นาง เจียง ว่านชือ ดูสกั
ครั้ง” ชายที่มีแผลเป็ นบนใบหน้าประสานมือขึ้น และกล่าวกับ เจียง
ว่านชือ เสี ยงดัง

“เยว่ ยี่ นี่มนั หมายความว่ายังไง !! เจ้าไม่สามาาถเอาชนะศิษย์พี่ของ


ข้าได้ จึงต้องยืมมือผูอ้ ื่นเลยรึ !!”

“เท่าที่ขา้ ดู ลูกพี่ลูกน้องของเจ้า ไม่ใช่คนของผาคนรัก !! เพราะ


ด้วยอายุของเขาย่อมไม่ใช่คนของผาคนรักอย่างแน่นอน !! เจ้าทําเช่นนี้
มันไม่เป็ นการละเมิดกฏของที่นี่รึ !!” สาวงามนางหนึ่งกล่าวตําหนิอย่าง
รุ นแรง
“แม่นาง เจ้าก็กล่าวเกินไป !! ข้าแน่ใจว่าเจ้าคงจะเป็ นแม่นาง ซุน ยี่
หาน ที่ลูกพี่ลูกน้องของข้ากล่าวพึงบ่อยๆ ใช่หรื อไม่” เยว่ เจียน
ประสานมือขึ้น และกล่าวถาม

“ถูกต้อง ข้าคือ ซุน ยีห่ าน !!” ซุน ยีห่ าน กล่าวพลางตบไปที่


หน้าอกของตัวเองอย่างมัน่ ใจ

“แม่นาง ซุน ยีห่ าน แน่นอนว่าข้าไม่ใช่คนของผาคนรัก แต่ขา้ มา


ที่นี่เพื่อเยีย่ มลูกพี่ลูกน้องของข้าเท่านั้น และข้าก็กาํ ลังกล่าวกับ แม่นาง
เจียง อยู่ เจ้าไม่ควรสอดเรื่ องของผูอ้ ื่น หากแม่นางเจียง หวาดกลัวที่
จะต้องประมือกับข้า ข้าก็จะกลับไปแต่โดยดี แต่เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะ
กล่าวกับข้า !!” เยว่ เจียน กล่าว
“เจ้า…….!!” เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของ เยว่ เจียน นั้น ซุน ยีห่ าน
โกรธอย่างมาก นางชี้ไปที่ เยว่ เจียน และกําลังจะด่าออกมา

“ยีห่ าน หยุด !!” แต่ในขณะนั้น เจียง ว่านชือ ก็กล่าวออกมา ทําให้


ซุน ยีห่ าน หยุดคํากล่าวเอาไว้ เจียง ว่านชือ ยิม้ ออกมาบางๆ และกล่าว
ออกมาว่า “การยัว่ ยุของเจ้ายอดเยีย่ มมาก แต่มนั ก็ไม่ได้ผลสําหรับข้า”

“ถ้าเจ้าต้องการประมือกับข้าก็ยอ่ มได้ แต่ขา้ มีขอ้ แม้อยูอ่ ย่างหนึ่ง


หากเจ้าต้องการ ผลไม้แห่งสงคราม ที่ เยว่ ยี่ สู ญเสี ยให้แก่ขา้ เจ้าต้องหา
สิ่ งที่มีค่าเท่าเทียมกันมาแลกมันไป หากไม่ได้ตามนี้ ก็เชิญเจ้ากลับไปได้
!!”

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////////////////////////////////////
A : กูวางเดิมพันว่า พี่เฟิ งเสื อก ร้อยเปอเซนต์

B : กูดว้ ยคน

C : กูกด็ ว้ ย เพราะกูมนั่ ใจว่ามันต้องเสื อกแน่ๆ

A : ของเดิมพันมันดึงดูดซะขนาดนั้น!! มีหรื อพี่เฟิ งจะไม่สน

บทที่ 599 - พ่ายแพ้ในที่สุด

“แม่นาง เจียง ท่านกล้าถามเช่นนี้ได้อย่างไร ถ้าพวกเราต้องการ


ประลองเดิมพันกับท่าน แน่นอนพวกเราต้องเตรี ยมมันมาก่อนอยูแ่ ล้ว.”
เซว่ เจียน ยิม้ แล้วพูดออกมา จากนั้นประกายของต้นโอสถทิพย์รูปร่ าง
คล้ายกับอุง้ เท้าแมวก็ปรากฏอยูใ่ นมือของเขา

แม้วา่ โอสถนัน่ จะมีลกั ษณะแปลกประหลาด พลังของมันนั้นไม่ได้ดอ้ ย


กว่าผลจ้าวสงครามที่อยูใ่ นมือ ของ เจียง ว่านชือเลย มันอาจเหนือกว่า
ด้วยซํ้าไป

“นี่คือจ้าวโอสถระดับกลาง ผลไม้แห่งสงครามต้นอุง้ เท้าแมว มัน


เป็ นสิ่ งหายากและเหนือกว่าผลจ้าวสงครามที่อยูใ่ นมือแม่นางเจียง มันมี
ค่าพอที่จะเดิมพนันหรื อไม่” เซว่ เจียน ยิม้ และพูดออกมา ท่าทางของ
เขานั้นราวกับมัน่ ใจว่ากุมชัยชนะเอาไว้แล้ว

“แน่นอน มันมีค่าพอ.” เจียง ว่านชือยิม้ หวานและเต็มไปด้วย


ความมัน่ ใจ

“แม่นาง เจียง เราจะใช้กฏและการประลองเช่นเดียวกับที่ท่าน


ประลองกับญาติของข้าได้หรื อไม่” เซว่ เจียน พูดขึ้น
“ไม่มีปัญหา.” เจียง ว่านชือ ยิม้ แล้วพูดออกมา

“ถ้าอย่างนั้น ข้าขอเริ่ มก่อน.” ทันใดนั้น เซว่ เจียน ก็เปลี่ยนท่าที


และเริ่ มโจมตีทนั ที

มือของเขานั้นรวดเร็ วมาก และในเวลาอันสั้นๆ ก็มีรูปแบบวิญญาณ


ขนาดยักษ์ถูกวางไว้ และในขณะที่เขาวางรู ปแบบนั้น เจียง ว่านชือ
ไม่ได้ทาํ อะไร เธอยืนอยูบ่ นอากาศรอดูความเปลี่ยนแปลงของมัน

*โฮกกก* ทันใดนั้นก็มีเสี ยงดังกึกก้องออกมา จากนั้นแสงสี ม่วงก็ระเบิด


ออกมาจากรู ปแบบวิญญาณนั้น ขาของมันก้าวออกมาจากรู ปแบบ
วิญญาณนั้น แล้วมันก็พงุ่ โจมตีใส่ เจียง ว่านชือ
ความเร็ วของมันนั้นรวดเร็ วมาก และตัวตนของมันนั้นไม่ธรรมดาเลย
ด้วยตาเปล่าๆของเขาพวกเขาก็สามารถเห็นรู ปร่ างของมันได้ ตัวของมัน
นั้นเหมือนจะเป็ นการผสมกันระหว่างเสื อดาวและหมาป่ า สี ของมันนั้น
ฉูดฉาดมาก ทําให้มนั ดูเหมือนสัตว์มหึ มา แต่วา่ มันถูกสร้างขึ้นจาก
รู ปแบบวิญญาณ

นอกจากนี้ ขนาดของมันนับว่าเล็กมากหากเทียบกับสัตว์มหึ มา มันสู ง


น้อยกว่า2 เมตร และพลังของมันก็ดูท่าจะอยูใ่ นระดับปานกลาง ไม่
สามารถพูดได้วา่ มันแข็งแกร่ ง นอกเหนือจากความเร็ วแล้วมันยังไม่มี
ข้อดีอื่นๆเลย.

“เจ้าช่างชอบดูถูกผูค้ นเสี ยจริ ง เจ้าคิดว่าข้าจะพ่ายแพ้ให้กบั รู ปแบบ


กระจอกๆเช่นนี้อย่างนั้นหรื อ.”
“อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้าต้องการให้จา้ วโอสถระดับกลางเป็ นของขวัญ
แก่ขา้ ข้าก็ยนิ ดีจะรับมัน.” เจียง ว่านชือก็เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุด
ม่วง เมื่อเห็นสิ่ งที่ เซว่ เจียนทํานั้นอ่อนแอเกินไป เธอก็ไม่รอช้ารี บ
เคลื่อนไหวนิ้วของเธอราวกับสายฟ้า และเริ่ มวาดรู ปแบบวิญญาณขึ้น

“เดี๋ยวก่อน.” ในตอนนั้น นัยน์ตาของชูเฟิ งก็เกิดประกาย เขาพบว่า


มีบางอย่างแปลกไป เจ้าตัวที่ออกมาจากรู ปแบบที่ถูกวางโดย เซว่ เจียน
นั้นมันอ่อนแออย่างมาก แต่รูปแบบที่เขาวางนั้นมันเต็มไปด้วยพลัง
มหาศาล จากประสบการณ์ของชูเฟิ ง ลักษณะของรู ปแบบวิญญาณที่ เซว่
เจียน วางนั้นมันต้องแข็งแกร่ งมากอย่างแน่นอน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีร่างที่อ่อนแอออกมาจากรู ปแบบนั้น แต่ไม่วา่ เจ้าสิ่ ง


นั้นจะอ่อนแอจริ งหรื อไม่ จากที่ชูเฟิ งเห็นมันต้องมีกลลวงบางอย่าง
“แม่นาง เจียง ไม่ควรประมาทมันนะ รู ปแบบที่ เซว่ เจียน วางเป็ น
รู ปแบบที่ทรงพลังมาก มันเป็ นไปไม่ได้ที่จะมีสิ่งเช่นนี้เกิดขึ้น อย่า
ประมาทมัน ใช้รูปแบบระดับสู งเพื่อป้องกันมันเถิด.” ชูเฟิ ง ส่ งข้อความ
จิตไปบอก เจียง ว่านชือ

เหตุผลที่เขามาที่นี่กเ็ พื่อพบ ชิวฉุย ฟู่ หยาน และเจียง ว่านชือยังเป็ นศิษย์


ของนางอีกด้วย ดังนั้นชูเฟิ งจึงได้คิดจะปล่อยเธอตาย

เมื่อได้ยนิ ชูเฟิ ง พูดเธอก็หนั ไปหาชูเฟิ ง พร้อมกับพูดด้วยนํ้าเสี ยงไม่


พอใจว่า “ หุบปาก ในเรื่ องของรู ปแบบวิญญาณ ข้าจะด้อยกว่าเจ้าได้
อย่างไร”
หลังจากพูดจบ เจียง ว่านชือ ก็ไม่ได้เปลี่ยนถ้าทางและร่ างรู ปแบบ
วิญญาณของเธอต่อไป และหลังจากนั้นรู ปแบบวิญญาณสี ม่วงขนาด
ยักษ์กเ็ กิดขึ้น

แม้วา่ รู ปแบบนั้นจะแข็งแกร่ งแต่กไ็ ม่ได้แข็งแกร่ งที่สุด เธอไม่ได้เชื่อชู


เฟิ งและวางรู ปแบบที่เธอรู ้สึกว่าสามารถจัดการศัตรู ตรงหน้าได้อย่าง
ง่ายๆ

“อ๋ า เจ้ากล้าเมินคําเตือนของข้า แล้วเจ้าจะรู ้ถึงความพ่ายแพ้ที่อยู่


ตรงหน้า.” ชูเฟิ ง พูดออกมา ท่าทางของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเขานัง่ อยูท่ ี่
เดิมและเพลิดเพลินไปกับมัน

*ฮึ่ม~~~* ในตอนนั้นก็เกิดเสี ยงระเบิดของลมดังขึ้น จากรู ปแบบของ


เจียง ว่านชือ พายุสีม่วงก็ได้ปรากฏขึ้น
หลังจาก พายุน้ นั ปรากฏขึ้น ท้องฟ้าก็ได้เปลี่ยนสี มันทั้งหมดดํามืด พลัง
ของมันนั้นเหนือกว่าเจ้าตัวที่ เซว่ เจียนสร้างขึ้นเมฆที่มืดครึ้ มได้หมุนตัว
และเกิดพลังมหาศาลพุง่ ไปยัง เจ้าตัวประหลาดนัน่

“ฮ่าฮ่า ศิษย์พี่เจียง ท่านช่างสุ ดยอดยิง่ นัก ด้วยรู ปแบบพายุน้ ี มัน


น่าจะสามารถทําลายรู ปแบบกระจอกๆนัน่ ได้ง่ายๆ.” ในตอนนั้นศิษย์
น้องของ เจียง วานชือ ก็พดู ขึ้น

“หื มมมมม.” ในตอนนั้น เซว่ เจียนก็ยมิ้ และประสานฝ่ ามือของ


เขา “กรรรร” และหลังจากนั้นก็มีเสี ยงร้องอย่างบ้าคลัง่ ดังมาจากทางตัว
ประหลาดนัน่
หลังจากอํานาจของมันนั้นแสดงออกมา จากขนาดของมันที่เดิมมีขนาด
ไม่ถึง 2 เมตรก็ขยายเป็ นสู งกว่า 10 เมตรในพริ บตา และยังใหญ่กว่า
พายุหมุนเสี ยอีก

“เฮือก!” ในตอนนั้นท่าทางของ เจียง ว่านชี และคนอื่นๆก็ตอ้ ง


เปลี่ยนอย่างหนัก ก่อนหน้านี้ใบหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยรอยยิม้ แต่
ตอนนี้เต็มไปด้วยความกลัว

แต่นน่ั มันก็สายไปแล้ว รู ปแบบนั้นถูกสร้างเสร็ จแล้ว เธอไม่สามารถ


ย้อนไปได้ สัตว์ขนาดยักษ์ที่ถูกสร้างโดย เซว่ เจียน ก็เปิ ดปากของมันขึ้น
และดูดพายุเข้าไปจนหมด

*ตูม* หลังจากนั้น ก็เกิดเสี ยงระเบิดดังมาจากรู ปแบบวิญญาณที่ เจียง


ว่านชือ วางไว้ และเมื่อหันไปมองก็เห็นได้ชดั ว่ารู ปแบบนั้นเกิดรอยแตก
ยาวทั้งรู ปแบบ

เธอแพ้แล้ว การประลองรู ปแบบวิญญาณสิ้ นสุ ดแล้ว เจียง ว่านชือพ่าย


แพ้อย่างสมบูรณ์

“บัดซบ ไอ้สารเลว เจ้าโกง!” ในตอนนั้น ซุน ยีห่ าน และ ศิษย์


น้องของเจียง ว่านชือ ที่ไม่ยอมรับผลลัพธ์น้ ี ก็ตะโกนขึ้น

“โกงหรื อ แม่นาง ข้าอยากรู ้วา่ ข้าโกงยังไง” เซว่ เจียน พูดพร้อม


รอยยิม้
“มันยังจําเป็ นต้องอธิบายอีกหรื อ มันก็ชดั เจนแล้วว่าเจ้าวาง
รู ปแบบที่แข็งแกร่ งไว้ แต่เจ้าก็ซ่อนพลังของมัน นี่ยงั ไม่โกงอีกหรื อ”
ซุน ยีห่ าน พูด

“ฮ่าๆ นี่คือครั้งแรกที่ขา้ ได้ยนิ ว่าการซ่อนพลังไว้คือการโกง แม่


นาง ซุน มันช่างน่าเสี ยดายจริ งๆที่ท่านได้เป็ นศิษย์ของผูอ้ าวุโส ฉิ วซุ่ย
แค่เรื่ องง่ายๆเช่น 'การศึกไม่ หน่ ายอุบาย' เจ้าก็ยงั ไม่รู้ "

“ในตอนนั้น ศิษย์พี่เจียงของเจ้ากําลังลังเลที่จะเคลื่อนไหว เธอได้


สังเกตอยูซ่ กั พักจนสุ ดท้ายเธอก็ไม่ได้รู้ในสิ่ งที่ขา้ ทํา เธอจึงประมาทข้า
นัน่ เป็ นเหตุให้เธอตกอยูใ่ นอุบายของข้า เจ้ายังจะสามารถโทษข้าได้อีก
หรื อ?” เซว่ เจียน พูด

“เจ้า เจ้าเป็ นคนบังคับให้ขา้ พูดเองนะ!” ซุน ยีห่ าน กัดฟันด้วย


ความโกรธ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ

“ข้าบังคับอย่างนั้นหรื อเจ้าพูดของเจ้าเอง ถ้าเจ้าไม่แพ้ เจ้าจะพูด


เช่นนี้หรื อ.” เซว่ เจียน ยิม้ แล้วพูดออกมา

“ยีห่ าน พวกเจ้าทั้งหมด หุบปากซะ.” สุ ดท้าย เจียง ว่านชือก็พดู


ขึ้นใบหน้าของเธอซีดเล็กน้อยเห็นได้วา่ เธอได้รับผลกระทบมา แต่มนั ก็
ไม่ได้หมายความว่าเธอนั้นได้รับความพ่ายแพ้ เธอสะบัดมือและจากนั้น
ผลไม้แห่งสงครามก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า และบินไปหา เซว่ เจียน

“ฮี่ฮี่.” หลังจากรับ ผลไม้แห่งสงครามมา เซว่ เจียนก็ตรวจสอบ


มัน และยืนยันว่ามันเป็ นอันเดียวกับญาติของเขาได้เสี ยไป จากนั้นเขาก็
พูดว่า “ แม่นางเจียง ถ้าท่านไม่ยอมรับความพ่ายแพ้น้ ี ท่านสามารถ
ประลองกับพวกเราได้อีกครั้ง”
ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
A : ยโสดีนกั อีวะเรน แพ้ อีกทั้งยังเสี ยโอสถระดับจ้าวสงคราม
ระดับกลางไปง่ายๆ สมนํ้าหน้า

B : ก็ชูเฟิ งเตือนแล้วว่า อย่าบุ่มบ่าม ให้ระวังตัว ดื้อรั้นไม่เชื่อ เสื อกไป


ตะคอกใส่ เขาอีก เด๋ วได้เห็นพลังของผูเ้ ชื่อมต่อฯของเก้าอาณาจักร แล้ว
จะกรี๊ ดขี้แตก

A : วานชื่อ นี่แม่งแดกแตนเข้าไปไงว่ะ ปากจัดชิบหาย ไม่เก่งยังจะ


อวดดี ขอสมนํ้าหน้ารอบสอง

C : คนเค้ามัน่ ใจในตัวเองผิดตรงไหน ที่ไม่รับฟังเพราะนางคิดว่า ชู


เฟิ งนั้นทําเป็ นอวดเก่ง เปนใครมาจากไหนก็ไม่รู้ อยูด่ ีๆทํามาเป็ นหวังดี
B : มืงชักจะเอาใหญ่ล่ะนะ ผูห้ ญิงนี้มืงออกตัวแรงตลอด

บทที่ 600 - เจ้ากล้า ?

“บัดซบ ไอ้สารเลว เจ้าช่างโอหังยิง่ นัก ศิษย์พี่ รี บให้บทเรี ยนแก่มนั


เถิด ให้มนั รู ้จกั ที่สูงที่ต่าํ เสี ยบ้าง.”

“ถูกต้องศิษย์พี่ รี บให้บทเรี ยนกับเจ้าสารเลวน่ารังเกียจนี่เถิด ให้


มันได้รู้ถึงความแข็งแกร่ งของท่าน ให้มนั ได้รู้วา่ ถ้ามันไม่ใช่อุบายมันจะ
ไม่สามารถเอาชนะท่านได้.”

ซุน ยีห่ าน และ คนอื่นๆ รู ้สึกว่า เซว่ เจียน ชนะเพราะกลอุบาย ดังนั้น


เมื่อเขาเย้ยหยัน เป็ นธรรมดาที่พวกเธอต้องการจะเอาคืน
อย่างไรก็ตาม พวกเธอนั้นพูดกันไม่มีทีท่าว่าจะยอม จนทําให้ เจียง
ว่านชือ ต้องขมวดคิว้ และนิ่งเงียบ

ที่เธอแพ้ ก็เพราะเธอประมาทในการประลองครั้งนั้น ด้วยระดับผู ้


เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง เธอรู ้ดีวา่ การอําพรางความสามารถของ
รู ปแบบวิญญาณนั้นเป็ นสิ่ งที่ยากมาก นัน่ หมายความว่าเซว่ เจียนนั้น
แข็งแกร่ งมากเขาสามารถทําในสิ่ งที่เธอไม่สามารถทําได้

ตอนนี้ เซว่ เจียนได้ยว่ั ยุเธอ มันเห็นได้ชดั ว่าเขามัน่ ใจมากว่าจะเอาชนะ


เธอได้ ดังนั้นเขาต้องมีรูปแบบอื่นอย่างแน่นอน

เซว่ เจียน เอาชนะ เจียง วานชือ ด้วยกลลวง แต่ความจริ งแล้วถ้าเขาโจมตี


ตรงๆ เขาก็ยงั สามารถเอาชนะ เจียง ว่านชือได้ แต่เขาไม่ได้ทาํ อย่างนั้น
แน่นอนว่าเขาจงใจ

เขาจงใจทําให้เจียง ว่านชือ รู ้สึกว่าเธอแพ้เพราะประมาทและด้วยเหตุผล


นั้น ถ้าเซว่ เจียน ยัว่ ยุอีกครั้ง เจียง ว่านชือ ก็ตอ้ งตอบรับการประลองของ
เขาแน่นอน และเมื่อถึงตอนนั้นเขาจะใช้พลังทั้งหมดเอาชนะเจียง ว่านชื
ออีกครั้ง

ในตอนนั้น เจียง ว่านชือหงุดหงิดมาก แน่นอนเธอรู ้ถึงความแข็งแกร่ ง


ของอีกฝ่ าย และรู ้ถึงแผนของเขา

มันอาจพูดได้วา่ เจียง ว่านชือ ตกอยูใ่ นสถาการณ์ลาํ บาก เธอนั้นไม่


สามารถตอบตกลงได้ และ ปฏิเสธได้ ดังนั้นเธอจึงทําอะไรไม่ถูก
“แม่นาง เจียง อย่าไปรับคําท้านั้นเลย ปล่อยให้ขา้ จัดการเถอะ ข้า
สามารถเอาชนะเขาแทนท่านได้.” ในตอนนั้น เสี ยงของชูเฟิ งก็ดงั ขึ้นมา
ในหูของเจียง ว่านชือ.

“เจ้า ด้วยระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์น่ะหรื อ อย่าบอกข้านะว่าเจ้า


เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วงแล้ว”

โดยปกติแล้ว เธอนั้นไม่แยแสชูเฟิ งเลย แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอ


ต้องมองเขาใหม่ เพราะตั้งแต่แรกเขาเตือนเธอแล้ว แต่เธอรั้นที่จะไม่ฟัง
เขา และผลก็ออกมาอย่างที่เห็นนี้

นัน่ เพราะ ด้วยระดับการบ่มเพาะของชูเฟิ งที่ไม่ได้แข็งแกร่ ง ในสายตา


เธอ เธอจึงมองเขาเป็ นคนธรรมดา

“แม่นาง เจียง ถ้าอย่างนั้นท่านก็ลองใช้พลังของท่านตรวจสอบฝ่ า


มือข้าดูสิ “ ชูเฟิ งส่ งข้อความทางจิตพร้อมยิม่ ขึ้น

*ฮึ่ม* เมื่อได้ฟังเช่นนั้น เธอก็ไม่รอช้ารี บใช้พลังของเธอตรวจดูพลังฝ่ า


มือของชูเฟิ งอย่างลับๆ

“นี่... นี่มนั !” และเมื่อ เจียง ว่านชือ ตรวจสอบฝื มือของชูเฟิ ง


ดวงตาของเธอก็ตอ้ งเกิดประกาย และ ตกใจอย่างมาก

ในตอนนั้น ชูเฟิ งได้วางรู ปแบบไว้บนฝ่ ามือของเขา รู ปแบบนั้นไม่


สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สามารถรับรู ้ได้ดว้ ยพลังวิญญาณ

รู ปแบบวิญญาณของชูเฟิ งนั้น ทําให้ เจียง ว่านชือ สัมผัสได้ 2 สิ่ ง อย่าง


แรกคือ ชูเฟิ งนั้นเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง

อีกอย่างคือ ชูเฟิ งนั้นสามารถควบคุมรู ปแบบวิญญาณ ได้อย่างเชี่ยวชาญ


และเหนือกว่า เธออย่างมาก

“เจ้ามีเหตุผลอะไรที่ตอ้ งมาช่วยข้าอย่างนั้นหรื อ” ในตอนนั้น เมื่อ


เธอได้เห็นถึงความสามารถของชูเฟิ งแล้ว เธอจึงถามออกไปด้วยความ
สงสัย
“ข้าได้รับมอบหมายมาจากอาจารย์ของข้า ให้มาส่ งข้อความ
บางอย่างกับ ผูอ้ าวุโส ฉิวซุ่ย นัน่ คือเหตุผลที่ขา้ มาที่นี่.”

“ท่านอาจารย์ของข้า และท่านอาวุโส ฉิวซุ่ย เป็ นสหายเก่า ดังนั้น


พวกเราก็เหมือนอยูฝ่ ั่งเดียวกัน และเมื่อท่านต้องเผชิญหน้ากับศัตรู จึง
เป็ นธรรมดาที่ขา้ ต้องช่วย” ชูเฟิ ง ตอบกลับด้วยรอยยิม้

“อาจารย์ของเจ้าเป็ นใคร” เจียง ว่านชือ ถามขึ้น

“ข้าไม่สะดวกที่จะเปิ ดเผยชื่ออาจารย์ของข้า แต่แน่นอนว่าข้าไม่


เป็ นภัยกับเจ้า ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า ข้าก็ไม่สามาถทําอะไรได้แล้ว,” ชูเฟิ ง พูด
“แม่นาง เจียง ทําไมเจ้าถึงไม่ตอบรับล่ะ เจ้ากลัวอย่างนั้นหรื อ”
ในตอนนั้น เซว่ เจียนก็พดู ขึ้น

“ศิษย์พี่ ทําไมท่านไม่ตอบรับเขาล่ะ ให้บทเรี ยนกับเขาและให้เขา


รู ้ถึงพลังของเจ้าล่ะ!”

“ศิษย์พี่ ถ้าท่านไม่มีของที่จะเดิมพัน ข้ายังมีจา้ วโอสถระดับกลาง


อยู่ ข้าสามารถให้ท่านยืมได้,” ศิษย์นอ้ งของ เจียง ว่านชือพูดขึ้น

“เซว่ เจียง ถ้าเจ้าไม่ใช้กลลวง เจ้าจะเอาชนะแม่นางเจียงได้อย่าง


นั้นหรื อ คนเช่นเจ้านั้นไม่มีค่าพอที่จะให้แม่นางเจียง ลงมือหรอก มันจะ
ทําให้นาเสื่ อมเสี ยเกียรติซะเปล่าๆ "
“ถ้าเจ้ากล้า ข้าจะเป็ นคนรับมือกับเจ้าเอง อย่างไรก็ตาม ข้าคิดว่า
เจ้าต้องไม่กล้าอย่างแน่นอน” ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็พดู ขึ้น

“อะไร? เจ้านะเหรอ!!!” คําพูดของชูเฟิ งนั้นทําให้ผคู ้ นตกตะลึง


ถ้าไม่ใช่วา่ เขาตะโกนเสี ยงดัง ผูค้ นแทบไม่รู้วา่ เขามีตวั ตน แต่เมื่อเขา ยัว่
ยุ เซว่ เจียน นั้นทําให้ทุกคนตกตะลึง

“เจ้าหนู เจ้าเป็ นใคร กล้าดีอย่างไรที่จะมาท้าสู ก้ บั ญาติของข้า ดู


ระดับของเจ้าสิ แม้เจ้าจะเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ คงเป็ นได้แค่ชุดฟ้า
เจ้าคิดว่าตัวเองมีค่าพอจะมาสู ก้ บั ญาติของข้าอย่างนั้นหรื อ หาเรื่ องตาย
ซะเปล่าๆ,” เซว่ ยี่ พูดเย้ยหยันชูเฟิ งด้วยความไม่พอใจ

“ถูกต้อง เจ้าจะเป็ นตัวแทนของศิษย์พี่ของข้าอย่างนั้นหรื อ พวก


เราไม่ได้สนิทกัน ดังนั้นอย่าทําให้พวกเราเสี ยหน้าเลยเรื่ องนี้เราจัดการ
ได้ เราไม่ตอ้ งการความช่วยเหลือจากเจ้า.”

ไม่เพียงแค่ เซว่ ยี,่ ซุน ยีห่ าน และคนอื่นๆต่างดูถูกชูเฟิ ง แต่ชูเฟิ งก็ยงั ยืน


กรานเช่นเดิม แม้คนอื่นๆจะดูถูกเขา

“ฮ่าฮ่า เจ้าหนู เจ้าช่างน่าสนใจจริ งๆ เจ้าต้องการช่วยพวกเธอและ


เลียขาพวกเธออย่างนั้นสิ นะ แต่น่าเสี ยดายพวกเธอไม่สนใจเจ้าเลย รี บ
ออกไปเสี ย ขยะเช่นเจ้าไม่สมควรอยูท่ ี่นี่.” ในตอนนั้น เซว่ เจียนก็พดู
ขึ้น เขาไม่แม้แต่จะมองไปที่ชูเฟิ งตรงๆ เขาเพียงเหล่ตามองเท่านั้น

“ใครบอกว่าเราไม่สนใจเขาอย่างนั้นหรื อ” ในตอนนั้น เจียง


ว่านชือก็พดู ขึ้นน หลังจากนั้นเธอก็พดู ต่อว่า, “ถ้าเจ้าต้องการประลอง
กับข้าอีกครั้ง นัน่ ไม่มีปัญหา”
“แต่เจ้าต้องเอาชนะเขาให้ได้เสี ยก่อน ถ้าเจ้าไม่สามารถชนะเขาได้
เจ้าก็ไม่มีค่าพอที่จะประลองกับข้า เพราะว่า ข้านั้นไม่ชอบประลองกับ
ผูเ้ ชี่ยวชาญที่เก่งแต่ดา้ นหลอกลวง” เจียง ว่านชือ พูดขึ้น.

“ศิษย์พี่ ท่านพูดอะไรของท่าน ท่านจะให้เขาไปประลองกับเจ้า


สารเลวน่ารังเกียจแทนท่านหรื อ เขาอยูใ่ นระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์เอง
นะ!” ในตอนนั้น ซุน ยีห่ าน และคนอื่นๆ ก็ตกใจอย่างมาก เพราะพวก
เธอไม่เข้าใจว่า เจียง ว่านชือ คิดอะไรอยู่

“พวกเจ้าทั้งหมด หุบปาก,” เจียง ว่านชือ ตะวาดใส่ เหล่าศิษย์นอ้ ง


ของเธอ ดังนั้นเธอจึงหันหน้าไปที เซว่ เจียนแล้วพูดว่า “ เจ้ากล้า
หรื อไม่"
ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////
A : เปลี่ยนจากหลังตีนเป็ นหน้ามือเชียว มะกี้ยงั ตะคอกใส่ อยูป่ าวๆ

B : เด๋ ว พวกน้องๆของนางก็ได้รู้ซ้ ึงเองล่ะ

C : เห็นไม๊ล่ะ วานชือ ไม่ใช่ คนอย่างที่พวกมืงคิดกัน นางก็เป็ นคนที่


พอมีเหตุมีผล

A : ก็กหู มัน่ ไส้อ่ะ

C : มืงมันไม่มีเหตุผล
B : เด๋ วมืงคอยดูนะ ว่าเซว่ ยี่ กับ เซว่ เจียน ใครจะเป็ นรายแรก แต่
รับรองได้เลยว่าพี่เฟิ งจัดหนัก!!!
บทที่ 601 - ท่าทางยะโส

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าพูดเรื่ องตลกให้ขา้ ฟังอย่างนั้นหรื อ ข้าจะกลัวเจ้าเด็กนี่


ได้อย่างไร”

“แม่นาง เจียง ข้าไม่ได้ต่อว่าอะไรเจ้าหรอกนะ แต่ถา้ ท่านจะต้อง


การหาโล่มนุษย์กค็ วรจะหาที่มนั ดีกว่านี้หน่อยนะ”

“แต่เมื่อเจ้าต้องการข้าก็จะสนองให้ ข้าจะจัดการเจ้าขยะนี่ แล้วก็


ประลองกับเจ้า.” เซว่ เจียนยิม้ อย่างเย็นชาและมองไปที่ชูเฟิ ง “ เจ้าหนู
อย่างที่แม่นางเจียงพูด ข้าจะให้โอกาสเจ้า”
“แต่ถา้ เจ้าต้องการประลองกับข้า เจ้าคงจะมีของที่มี่ค่าพอพอกับ
จ้าวโอสถระดับกลางมาเดิมพันด้วยสิ นะ เจ้าเอามันออกมาให้ขา้ ดูได้
หรื อไม่”

“ความจริ งแล้ว ข้าไม่มีจา้ วโอสถระดับกลางหรอก แต่ขา้ มีสิ่งอื่น


มาเดิมพันแทน” ชูเฟิ ง พูดพร้อมรอยยิม้ บนหน้า

“แล้วเจ้ามีอะไร? บอกข้ามา หากมันลํ้าค่าจริ งๆ ข้าก็จะยอมรับมัน


,” เซว่ เจียน พูด

“ข้าจะวางชีวติ ข้าเป็ นเดิมพัน,” ชูเฟิ งพูด


“อะไรนะ ชีวติ เขา เขาบ้าไปแล้วหรื อ” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ซุน ยี่
หาน และคนอื่นๆ ก็ตกใจ เพราะพวกเธอคิดว่า ชูเฟิ งต้องแพ้อย่างไม่ตอ้ ง
สงสัย และที่เขาทําเช่นนั้นก็เท่ากับฆ่าตัวตาย

“เจ้าต้องการใช้ชีวติ ของเจ้าเดิมพันกับผลไม้แห่งสงครามของข้า
อย่างนั้นหรื อ พูดตามตรงๆชีวติ ของเจ้าไม่ได้มีค่าเท่ามันหรอก!” เซว่
เจียนพูดขึ้น

“อะไรกัน หรื อว่าเจ้าไม่กล้า ? เจ้ากลัวจะแพ้ขา้ อย่างนั้นหรื อ


เพราะอย่างนั้นสิ นะ เจ้าถึงไม่กล้าเดิมพันกับข้า” ชูเฟิ ง พูดพร้อมยิม้ เย้ย
หยัน

“บัดซบ!!! ข้านี่นะกลัวเจ้า ทําไมเจ้าไม่กม้ มองดูตวั เองก่อนล่ะ ว่า


มีค่าพอ ที่จะทําให้ขา้ กลัวเจ้าได้หรื อไม่” เซ่ว เจียน พูด
“หากเจ้าไม่กลัวข้า เหตุใดจึงไม่รับคําท้าข้าล่ะ เท่าที่ขา้ เห็น ก็มีแค่
เจ้ากลัวจะแพ้ขา้ แต่ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ เลยพร่ ามนั้นพร่ ามนี้” ชูเฟิ ง
พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิม้ ที่เย็นชา

“สามหาว!!! ในเมื่ออยากจะตายนัก ข้าก็จะสนองให้ “

“คนที่นี่ จงเป็ นพยาน เจ้าเด็กนี่เอาชีวติ ของตัวเองเป็ นเดิมพัน ถ้าข้า


พลั้งมือฆ่าเขาไป นัน่ ก็เป็ นเรื่ องสมเหตุสมผลแล้ว.”

แม้เขารู ้วา่ ชูเฟิ งพยายามจะยัว่ เขา แต่เซ่ว เจียน ก็โกรธอย่างหนัก ด้วย


ความหยิง่ ผยองและความยะโสของเขา เขาจึงต้องการให้ชูเฟิ งหายไป
จากโลกใบนี้

“ นัน่ ก็ข้ ึนอยูก่ บั ความสามารถของเจ้า ว่ามีพอที่จะเอาชีวติ ของ


ข้าได้หรื อไม่ แล้วเราจะได้รู้กนั ”

ชูเฟิ งหัวเราะด้วยความมัน่ ใจ จากนั้นพลังวิญญาณสี ฟ้า ก็ออกมาจากตัว


เขา จากนั้นเขาก็ใช้นิ้วของเขาเริ่ มร่ างรู ปแบบขึ้น

“เจ้านั้นเป็ นแค่ผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดฟ้า นี่มนั รนหาที่ตาย


ชัดๆ” เมื่อเห็นรู ปแบบสี ฟ้าของชูเฟิ ง เซว่ ยี่ ก็รู้สึกมึนงง เพราะ ผู ้
เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดฟ้านั้นไม่สามารถที่จะสู ก้ บั ผูเ้ ชื่อมต่อโลก
วิญญาณชุดม่วงได้อย่างแน่นอน ชูเฟิ งในตอนนี้กเ็ หมือนกับไข่ที่กาํ ลังจะ
ไปกระทบกับหิ น เหมือนกับการรนหาที่ตายอย่างแท้จริ ง
“น่าผิดหวังจริ งๆ นี้เราต้องมาเสี ยหน้าเพราะเขางั้นหรอ เป็ นแค่ผู ้
เชื่อมต่อฯชุดฟ้าแท้ๆ ยังจะเสนอหน้าออกไปสู ้ เขาอยากจะตายก็เรื่ อง
ของเขา แต่ตอ้ งไม่ใช่ในฐานะตัวแทนพวกเรา น่าขายหน้าชะมัด” ใน
ตอนนั้น ซุน ยีห่ าน และคนอื่นๆก็โกรธอย่างมาก พวกเธอสนใจแต่เรื่ อง
ตัวเอง ไม่มีใครสนใจเรื่ องชีวติ ของชูเฟิ ง

“ฮึ่ม ไม่เพียงแต่เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดฟ้า แต่การวาง


รู ปแบบของเขาก็ยงั เงอะๆงะๆ เจ้าเด็กนี่มีแผนอะไรกันเป็ นไปได้หรื อไม่
ว่า เจ้าเด็กหนุ่มนี้ตอ้ งการที่จะตายอยูแ่ ล้ว หรื อว่า เขารู ้วา่ พวก เจียง
ว่านชือ จะไม่ปล่อยให้เขาตาย และมาช่วยเขาไว้ในตอนนั้น”

เซว่ เจียน คิดอย่างระมัดระวังตัว เมื่อชูเฟิ ง วางรู ปแบบวิญญาณ เขาใช้


รู ปแบบของเขาเพื่อตรวจสอบว่าชูเฟิ ง นั้นมีอุบายอะไรหรื อเปล่า
แต่ เขาก็พบว่ารู ปแบบของชูเฟิ งนั้นไม่มีอะไรแปลกไป มันเป็ นรู ปแบบ
สี ฟ้าทัว่ ๆไป

“เซ่ว เจียน เอานี้ไปกิน!”

ในที่สุดหลังจากวางรู ปแบบอย่างนาวนาน รู ปแบบของชูเฟิ งก็เสร็ จสิ้ น


เขาตะโกนเสี ยงดังลัน่ และสิ่ งที่ออกมาจากรู ปแบบนั้นทําให้ทุกคนมีสี
หน้าเปลี่ยนแปลงอย่างไม่มีสิ้นสุ ด

เพราะว่ามันเป็ นมือเล็กๆราวกับทารกที่ถูกสร้างโดย รู ปแบบวิญญาณสี


ฟ้า ด้วยมือเล็กๆนัน่ พุง่ เข้าไปหา เซ่ว เจียน ช้ามากและเพราะความเร็ ว
ของมันช้ามัน มันจึงสร้างความไม่พอใจให้กบั เซ่ว เจียน อย่างมาก
"ไอ้!! อยากจะตายมากนักใช่ไม๊ ตอนนี้ต่อให้เทพลงมาห้าม ข้าก็
จะฆ่าเจ้าให้ได้ ตายซะเถอะ!!!” เซ่ว เจียน โกรธชูเฟิ งอย่างสมบูรณ์แบบ
เขากระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า และวางรู ปแบบสี ม่วงด้วยความเร็ ว

*โฮกกกก* และเมื่อรู ปแบบนั้นถูกวางเสร็ จ เจ้าสัตว์ยกั ษ์ที่เอาชนะ เจียง


ว่านชือ ก็ปรากฏออกมาอีกครั้งแต่คราวนี้ มันปรากฏตัวพร้อมกับ
กลายเป็ นขนาดของสัตว์ยกั ษ์ต้ งั แต่ตน้ และพลังของมันก็น่าเกรงขาม
อย่างมาก

“พวกเราจะทํายังไงดี ถ้าพวกเราไม่ช่วยเขา เขาต้องถูกฆ่า


แน่นอน!” เมื่อเห็น เช่นนั้น ท่าทางของ ซุน ยีห่ าน ก็ตอ้ งเปลี่ยนไป แม้
ตอนแรกเธอจะเหน็บแนมชูเฟิ งไว้ แต่เมื่อชูเฟิ ง เผชิญหน้ากับความตาย
เธอก็รู้สึกเห็นใจเขาอย่างมาก
“พวกเราไม่สามารถช่วยเขาได้ ถ้าพวกเราจะช่วย พวกเราก็ตอ้ งให้
จ้าวโอสถระดับกลางแทนชีวติ ของเขาไป แล้วชีวติ เขานั้นมีค่าพอแล้วงั้น
หรอ ที่พวกเราจะต้องเสี ยสละ” ศิษย์หญิงคนนึง พูดขึ้น

“ถูกต้อง ปล่อยเขาตายไปเถิด ถ้าสองพีน่ อ้ งนัน่ มีโอกาส เขา


อาจจะใช้ชีวติ ของเขามาขู่ เพื่อให้เราหลงกล เอาจ้าวโอสถระดับกลาง
ของเราไปก็ได้” ศิษย์หญิง อีกคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างโหดร้าย

“พวกเจ้า หุบปาก!!! แล้วจับตามองเขาไว้ให้ดีดี.”

ในตอนนั้น เจียง ว่านชือ ได้พดู ขึ้นด้วยนํ้าเสี ยงเย็นชา และนัน่ ทําให้พวก


ซุน ยีห่ าน รู ้สึกกลัว พวกเธอไม่เข้าใจว่าทําไมศิษย์พี่ของพวกเธอถึงเชื่อ
ใจชูเฟิ งมากนัก พวกเธอไม่กล้าพูดอะไร และ จับจ้องไปที่การต่อสู น้ น่ั

*โฮก*

รู ปแบบวิญญาณสัตวว์ร้ายของ เซว่ เจียน มีความเร็ วอย่างมาก เมื่อเทียบ


กับมือทารกที่ราวกับเต่าคลานของชูเฟิ ง และพริ บตาเดียวเจ้าสัตว์ตวั นั้น
ก็มาถึงมือเล็กๆนัน่ และอ้าปากของมันจะกลืนกินมือขนาดเล็กนัน่

แต่หลังจากกลืนมือนั้นไปแล้ว เจ้าสัตว์น้ นั ก็ยงั ไม่หยุด มันเปิ ดปากของ


มันอีกครั้งแล้วพุง่ ไปยังชูเฟิ ง
“หึ มันจบแล้ว! “ เมื่อเห็นเช่นนั้น เซว่ ยี่ ยิม้ ออกมา เพราะเขารู ้วา่
ยังไงชูเฟิ งก็พา่ ยแพ้อยูด่ ี และเมื่อภาพนั้นมาถึงเขาจะรู ้สึกยินดีเป็ นอย่าง
มาก

*ฮึ่ม* อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าสัตว์ยกั ษ์เข้ามาใกล้ชูเฟิ ง มุมปากเขาก็ยกขึ้น


(T/N You activated my TRAP CARD!!! )

จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหวมือของเขา และนัน่ ทําให้รูปแบบวิญญาณสี ฟ้า


นั้น เกิดแสงออกมา และสัญลักษณ์ของมันก็เริ่ มเปลี่ยนแปลง ในตอน
นั้นจากสี ฟ้า เริ่ มเปลี่ยนเป็ นสี ม่วง และพลังของมันก็เพิ่มขึ้นเป็ นหลาย
เท่า

“แย่แล้ว , รู ปแบบนี้มนั เป็ นกลลวง!” เมื่อเห็นรู ปแบบของชูเฟิ ง


เปลี่ยนแปลง ท่าทางของ เซว่ เจียนก็เปลี่ยนแปลง เขาตระหนักได้ถึง
สถานการณ์ที่น่ากังวล

*ตูม*

เมื่อเขารู ้ มันก็สายไปแล้ว เสี ยงระเบิดดังขึ้นบนท้องฟ้า สัตว์ยกั ษ์สีม่วงที่


ถูกเขาสร้างขึ้น กลายเป็ นเศษซาก

เมื่อคลื่นระเบิดหายไป ก็มีมือขนาดยักษ์ปรากฏต่อหน้าผูค้ น ไม่เพียงแต่


ขนาดที่ใหญ่ของมัน มันยังดูทรงพลังจนน่าเกรงขาม จนผูค้ นสัมผัสถึง
กลิ่นอายที่แสนน่ากลัวได้จากมัน
ที่สาํ คัญที่สุดคือ มือนั้นเป็ นสี ม่วง เป็ นอันเดียวกับ มือทารกที่น่าผิดหวัง
ก่อนหน้านี้ ไม่มีผดิ

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////
A : เป็ นไงล่ะ จ๋ องเลยดิอีกพวกชะนี!!!

B : เอาน่าๆ ผูห้ ญิงที่ตดั สิ นคนแค่ภายนอกไม่มีค่าพอ ให้พี่เฟิ งลงมือ


หรอก ปล่อยให้แม่งแก่ตายเหอะ

A : แกคิดว่ามันจะยอมแพ้ป่ะว่ะ ???

B : ยอมแพ้ ? ยอมแพ้กเ็ ท่ากับเสี ยผลไม้แห่งสงครามอ่ะดิ มันคงไม่


ปล่อยให้จบลงง่ายๆแบบนี้หรอก ถึงมันแพ้ อีกคนก็เสนอตัวมาสู อ้ ยูด่ ี
สรุ ปชูเฟิ งได้รับเต็มๆ
A : น่าจะเป็ นเช่นนั้น แต่ถา้ ไม่อ่านก็คงไม่รู้ แต่พี่เฟิ งคงไม่ปล่อยให้มนั
จบลงง่ายๆแบบนี้หรอก ถ้าอีกฝ่ ายไม่ยอมแพ้แต่โดยดี
บทที่ 602 - ต่อสู อ้ ีกครั้ง

“เป็ นไปได้อย่างไรรู ปแบบของ เซว่ เจียนถูกทําลายอย่างนั้นหรื อ”


เมื่อเห็นภาพนี้ เกือบทุกคนต้องตกใจอย่างมาก จนอ้าปากค้าง

“เกิดอะไรขึ้น เห็นอยูช่ ดั ๆว่ามันเป็ นรู ปแบบสี ฟ้า ทําไมมันถึง


กลายเป็ นรู ปแบบสี ม่วงได้ล่ะ”

“แล้ว มือยักษ์นนั่ มันอะไรกัน ทําไมมันถึงทําลายรู ปแบบของเจ้า


สารเลวน่ารังเกียจนัน่ ได้อย่างง่ายดาย!”
ในตอนนั้น ซุน ยีห่ านและคนอื่นๆก็ตอ้ งเบิกตากว้าง ใบหน้าของพวก
เธอเต็มไปด้วยความตกใจ

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีฝีมือถึงขนาดนี้ เขาสามารถวาง
รู ปแบบวิญญาณ ที่ต่างกัน 2 แบบซ้อนกันได้ มันช่างลึกลํ้าจริ งๆ ขนาด
ที่วา่ สามารถหลอก เซว่ เจียนได้”

เจียง ว่านชือ มองรู ปแบบที่ชูเฟิ งวางไว้อย่างละเอียด เธอรู ้วา่ เขาต้องใช้


กลลวง แต่ไม่รู้วา่ มันจะแนบเนียนขนาดนี้ แม้แต่เธอก็ยงั ต้องตกตะลึง
ตามคนอื่นๆไป

“ศิษย์พี่ ท่านหมายความว่าอย่างไร อย่าบอกนะว่าเขาเป็ นผู ้


เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง” หลังจากได้ยนิ คําพูดของ เจียง ว่านชือ
ซุน ยีห่ าน และคนอื่นๆถึงกับหน้าถอดสี เพราะก่อนหน้านี้พวกเธอได้ดู
ถูกชูเฟิ งไว้มากและไม่ได้รู้สึกว่าเขาจะเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ

“อืม ไม่ใช่แค่ผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วงเท่านั้น ด้าน


ความสามารถเขายังเหนือกว่าข้า และ ยังเหนือกว่า เซว่ เจียนด้วยซํ้าไป.”
เจียง ว่านชือตอบ

“สวรรค์ เขาช่างแข็งแกร่ งจริ งๆ!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นศิษย์หญิง


ทั้ง 9 รวมทั้ง ซุน อี้หาน ก็ไม่สามารถทําใจสงบได้ ดวงตาของพวกเธอ
นั้นเต็มไปด้วยความตกใจที่มีต่อชูเฟิ ง ยกตัวอย่างเช่น เขาเป็ นหนุ่มหล่อ

และเขายังเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง ในระดับ 6 อาณาจักร


สวรรค์ และยังเชี่ยวชาญเรื่ องรู ปแบบวิญญาณอีกด้วย
“เจ้าเด็กเหลือขอเจ้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง ทําไมเจ้า
ถึงใช้พลังของชุดฟ้าล่ะ?!” เซว่ เจียนพูดขึ้นมา เขารู ้ดีวา่ เขาตกอยูใ่ น
อุบาย จึงได้แต่กดั ฟันด้วยความโกรธ ดวงตาของเขาแดงกํ่าราวกับเลือด
บ่งบอกถึงความโกรธที่ชดั เจน

“ข้าก็แค่อยากให้เจ้าได้ลองชิมรสชาติของการโดนหลอกด้วย
ตนเองบ้าง.” ชูเฟิ ง ยิม้ พร้อมพูดขึ้น “เจ้าแพ้แล้ว ดังนั้นเอาจ้าวโอสถ
ระดับกลางมาซะ”

“ฮึ่ม ถึงเจ้าจะชนะ แต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะเก็บมันไว้ได้ .”


ในขณะที่ เซว่ เจียนพูด เขาก็กดั ฟันอย่างหนัก แต่เขาก็ยงั คงโยนให้กบั ชู
เฟิ ง
“ดูเหมือนเจ้าจะมีปัญหา ถ้าเจ้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เราจะ
ประลองอีกครั้งก็ได้นะ,” ชูเฟิ งยิม้ พร้อมรับผลไม้แห่งสงครามมา

“ข้าจะเดิมพันเช่นเดิม แต่ตอนนี้ขา้ ไม่ได้เดิมพันกับจ้าวโอสถ


ระดับกลางในมือเจ้า ข้าต้องการเดิมพันด้วยชีวติ ของเจ้า เจ้ากล้าหรื อไม่”
เซว่ เจียน พูดขึ้นด้วยความโกรธ

“เจ้าต้องการชีวติ ข้าอย่างนั้นหรื อ ก็ได้ แต่เจ้าต้องนําจ้าวโอสถ


ระดับกลาง 2 อันมาเดิมพัน เจ้ามีหรื อเปล่า?” ชูเฟิ งพูดขึ้นด้วยท่าทาง
ไม่ค่อยพอใจ

“ฮึ่ม ข้ามีมนั แน่นอน ข้ากลัวว่าแค่ชีวติ ของเจ้าชาติน้ ีจะไม่ได้ใช้มนั


!” เซว่ เจียน เย้ยหยัน พร้อมกับเอามือของเขาล้วงไปที่ถุงจักรวาล และ
หยิบจ้าวโอสถอุง้ เท้าแมวขึ้น มา 2ชิ้น

“ดี!!! งั้นพวกเรามาเริ่ มกันเลย งานนี้เหมือนข้าจะได้ของดีมา


ฟรี ๆ” ชูเฟิ งยิม้ ด้วยความมัน่ ใจ

“ในตอนนี้ ข้าจะเอาชีวติ กระจอกๆของเจ้า.” เซว่ เจียน ที่เกลียดชู


เฟิ งเป็ นทุนเดิมอยูแ่ ล้ว จึงไม่รอช้า รี บวางรู ปแบบวิญญาณสี ม่วงขึ้นมา
แต่เมื่อสังเกตุดีดีแล้ว มันไม่ใช่รูปแบบทัว่ ไป แต่มนั คือ ประตูเชื่อมต่อ
โลกวิญญาณ

้ ~~~~* ในตอนที่ ประตูปรากฏขึ้นก็มีเสี ยงที่เหมือนกับหมา


*อะวู~
ป่ าหอน และ ผีดงั ขึ้น
หลังจากนั้นก็มีควันสี เขียวที่น่าเกรงขามลอยอยูบ่ นอากาศ

บ้างก็กลายเป็ นรู ปร่ างของมนุษย์บา้ งก็กลายเป็ นปากสี เลือด บ้างก็


กลายเป็ นดวงตาที่แดงกํ่าราวกับเลือด และที่สาํ คัญที่สุดคือควันเหล่านั้น
มีกลิ่นอายอยูใ่ นระดับ 9 อาณาจักรสวรรค์

“นัน่ มันอสู รวิญญาณพิภพภูติพราย แล้วมันยังอยูใ่ นระดับ 9


อาณาจักรสวรรค์เลยด้วย!”

เมื่อเห็นเช่นนั้น ใบหน้าของพวกเจียง ว่านชือก็เกิดการเปลี่ยนแปลง


พวกเธอไม่คิดว่า เซว่ เจียนจะหยุดการใช้รูปแบบวิญญาณ และใช้อสู ร
วิญญาณสู ก้ บั ชูเฟิ ง
อสู รวิญญาณ กับ รู ปแบบวิญญาณนั้นต่างกันมาก ไม่วา่ รู ปแบบวิญญาณ
จะแข็งแกร่ งเท่าใดมันก็ยงั เป็ นแค่รูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิง่ รู ปแบบที่มี
เวลาสั้นๆ ความสามารถของมันอาจจะดีและแข็งแกร่ งอยูบ่ า้ ง แต่
รู ปแบบวิญญาณประเภทนั้นก็สามารถถูกทําลายอย่างง่ายโดย ทักษะ
ต่อสู ้

ส่ วนอสู รวิญญาณนั้นไม่ตอ้ งพูดถึงมัน พวกมันมีชีวติ อยูด่ ว้ ยพลังที่พิเศษ


พวกมันนั้นไม่ใช่อะไรที่รูปแบบวิญญาณจะต่อกรได้ และด้วยพลังระดับ
9 อาณาจักรสวรรค์น้ นั สามารถฆ่าชูเฟิ งได้ในพริ บตาเลยทีเดียว

ระดับของชูเฟิ งนั้นอยูท่ ี่ระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ เมื่อเทียบกับระดับ


9 อาณาจักรสวรรค์แล้วมันต่างราวฟ้ากับเหว ไม่ตอ้ งพูดถึงการประลอง
รู ปแบบวิญญาณ มันรวมไปถึงพลังที่แท้จริ งด้วย
“เจ้าสารเลวน่ารังเกียจ เจ้าช่างกลับกลอกเสี ยจริ ง เจ้าบอกว่าเป็ น
การประลองรู ปแบบวิญญาณ แต่เจ้ากับอัญเชิญอสู รวิญญาณมา?!” เมื่อ
เห็นเช่นนั้น ซุน ยีห่ าน ก็ด่าทอ เซว่ เจียนด้วยเสี ยงที่ดง่ั ลัน่

“ฮึ่ม อสู รวิญญาณไม่ใช่รูปแบบวิญญาณหรื อไง ถ้าไม่ใช่ผู ้


เชื่อมต่อโลกวิญญาณจะสามารถอัญเชิญอสู รวิญญาณได้อย่างไร แม่นาง
เจียง เจ้าตอบหน่อยสิ ว่า อสูรวิญญาณเป็ นส่ วนหนึ่งของรู ปแบบ
วิญญาณหรื อไม่?” เซว่ เจียนถามเสี ยงดังด้วยท่าทางเย็นชา

ในตอนนั้น เจียง ว่านชีตอ้ งขมวดนิ้วแน่น บนใบหน้าของเธอนั้นกําลัง


ลังเลอยู่ แต่สุดท้ายเธอก็ตอ้ งพยักหน้าแล้วพูดไป “ ใช่มนั เป็ น “
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ตอ้ งพูดอะไรให้มากความ,” เซว่ เจียน เย้ยหยัน
อีกครั้งจากนั้นก็หนั ไปมองชูเฟิ ง และตะโกนดังลัน่ , “เจ้าหนู ตายซะ”

*กร๊ ากกก~~~~~* ในตอนนั้น อสู รวิญญาณภูติพรายก็คาํ รามขึ้น


และมันก็กลายเป็ นแสงสี เขียว บินเข้าใส่ ชูเฟิ ง. (T/N นึกไม่ออกว่ามัน
คํารามยังไง)

“ศิษย์พี่ เราจะทํายังไงดี” เมื่อเห็นเช่นนั้น พวกซุน ยีห่ าน ก็ถาม


ขึ้น หลังจากรู ้วา่ ชูเฟิ งมีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา พวกเธอก็ไม่ตอ้ งการให้
ชูเฟิ งตาย

“ดูไปเงียบๆ เมื่อถึงเวลาข้าจะเคลื่อนไหวเอง.” เจียง ว่านชือ พูด


ขึ้น หลังจากพูดจบเธอก็กระโดดไปด้านหน้าชูเฟิ ง มันทําให้เห็นว่าเธอ
สนใจเรื่ องชีวติ เขามากแค่ไหน
“ฮึ่ม วันนี้ ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ ผีผา ฆ่ามันซะ แล้วข้าจะ
ให้รางวัลแก่เจ้า” เซว่ เจียน ตะโกนเสี ยง ดังลัน่

“คูค้ ุคุคุคุคู….”

“เซว่ เจียน เจ้าควรพูดให้ตรงๆดีกว่านะ ข้าจะไปเอาหัวเจ้าเด็กนัน่


มาให้.”

อสู รวิญญาณภูติพรายหัวเราะอย่างบ้าคลัง่ หลังจากนั้นร่ างของมันก็เกิด


การเปลี่ยนแปลง กลายเป็ นรู ปร่ างคล้ามนุษย์สูงหลายเมตร ทําให้ดูน่า
เกรงขามอย่างมาก
และความเร็ วของมันก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า มันได้กา้ วข้ามความเร็ วของ
เจียง ว่านชี ไปและในพริ บตาเดียว มันก็มาถึงชูเฟิ ง

“บัดซบ!” เมื่อเห็นฉากที่น่ากลัวเช่นนั้นในสายตา เจียง ว่านชือก็


ตะโกนขึ้น พร้อมใบหน้าที่ตกอยูใ่ นความกลัวนัน่

ในขณะที่เจียง ว่านชือ และ คนอื่นๆกําลังตกใจ ชูเฟิ งนั้นยิม้ ขึ้น และพูด


ว่า “ต้านต้าน ได้เวลาแล้ว!”

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////
A : กรี๊๊ ดดดดด ต้านต้าน จะออกมาแล้ว!!!

B : งานนี้ได้ตะลึงกันแน่พวกมืง เจออสู รวิญญาณ พิภพอสู รฟ้า ใน


ตํานาน

A : อย่าพูดมาก รี บไปต่อกันเลยดีกว่า!!!

C : ชิร์!!!

บทที่ 603 - ความงดงามที่เป็ นเลิศ

" รี บๆเปิ ดประตูโลกวิญญาณซะที ข้าคันไม้คนั มือจะแย่!!! " เสี ยง


ของต้านต้าน ดังขึ้นมาภายในหูของชูเฟิ ง ด้วยนํ้าเสี ยงที่กระดี้กระด้า

" ฮ่าฮ่า ไปเลยราชินีของข้า " ชูเฟิ งก็ไม่ลงั เล เขารี บอัญเชิญประตู


โลกวิญญาณออกมา จากความคิดของเขา

" นี่ เจ้ายังคิดจะขัดขืนอีกงั้นหรอ ? ต่อหน้าข้า ราชันย์ผผี า อยาก


ตายก็มา!!! " เมื่อประตูโลกวิญญาณของชูเฟิ งโผล่ออกมา อสู รวิญญาณ
พิภพภูติพรายตนนั้น รี ดเค้นอ่อร่ าเป็ นควันสี เขียวเข้มกระจายออกมา

* ฟรู่ วว * ขณะที่ควันสี เขียวเข้มกระจายออก ควันสี ดาํ ก็ค่อยๆ


ทะลักออกมาจากประตูโลกวิญญาณที่อยูเ่ บื้องหน้าของ ชูเฟิ ง

ควันสี ดาํ ที่ทะลักออกมา ได้ก่อตัวกันอย่างสมบูรณ์พงุ่ ออกไปดัง่ ดาบ


แห่งความมึด พัดผ่านอากาศ จนทําให้ควันสี เขียวของอสู รวิญญาณภูต
พายตนนั้นหายวับไปกับตา
" มันเกิดอะไรขึ้น ? " ในตอนนั้นทุกคนตกใจกันอย่างมาก
แม้แต่อสูรวิญญาณก็เริ่ มหน้าเสี ย มันขมวดคิว้ แน่น ขณะที่หยุดอยูบ่ น
อากาศ ดวงตาสี แดงกํ่ าดัง่ โลหิ ตจ้องไปที่ของควันสี ดาํ โดยไม่กล้าที่จะ
ประมาท

ควันสี ดาํ แปลกอย่างมาก มันได้กลบกลิ่นอายของอสู รวิญญาณพิภพภูติ


พรายจนหมดสิ้ น ตามหลักการณ์อสู รวิญญาณที่มาจากพิภพภูติพรายมัก
ถูกเรี ยก "รัตติกาล" แต่ควันสี ดาํ เหล่านั้นกับบดบังโดยพลังที่ดูลึกลํ้ายิง่
กว่าหลายร้อยหลายพันเท่า มันทําให้ผคู ้ นที่พบยอมสยบให้จากก้นบึ้ง
ของจิตใจ

" ศิษย์พี่ มันเป็ นอสู รวิญญาณอะไรกันแน่ ทําไม ใจข้า รู ้สึก


หวัน่ ๆเช่นนี้ "
" อ้า! ! ! ! ศิษย์พี่ นั้นมันคืออะไรกันแน่ ทําไมมันถึงได้น่ากลัว
แบบนั้น " ในเวลาเดียวกัน ความกลัวก็เริ่ มเข้าครอบงํา ซุน ยีห่ านและคน
อื่นๆ ถึงแม้พวกนางจะเป็ นผูห้ ญิง ที่พบเจอสิ่ งต่างๆมามาก แต่เมื่อเจอ
เหตุการณ์แปลกๆนี้ มันทําให้พวกนางเริ่ มเกิดความกลัว

" มันอาจจะเป็ นอสู รวิญญาณจากโลกวิญญาณณพิภพปี ศาจ มัน


ถึงได้กลบกลิ่นอาย แห่งรัตติกาล ที่เกรงขามของอสู รวิญญาณพิภพภูติ
พรายได้แบบนั้น . . . . มันจะ .ต้องเป็ นอสู รวิญญาณพิภพปี ศาจ " เจียง
วานชือ ตอบ

" อะไรนะ ? อสู รวิญญาณพิภพปี ศาจ ? นั้นมันเป็ นอสู ร


วิญญาณที่มีประสิ ทธิภาพอย่างมาก!! ทําไมผูช้ ายคนนี้ ถึงได้ทาํ สัญญา
กับ อสู รวิญญาณพิภพปี ศาจได้ "
ได้ยนิ คําพูดพวกนั้น ซุน ยีห่ านและคนอื่นๆ ก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้า
ลึกๆอีกครั้ง ในคราวนี้สายตาของพวกนางนั้นเริ่ มเกิดความเคารพนับถือ
ที่มีต่อ ชูเฟิ ง

อสู รวิญญาณจากโลกวิญญาณปี ศาจ อาจเทียบได้กบั อสู รวิญญาณจาก


โลกวิญญาณนางฟ้า พวกเขานั้นยากที่จะยอมติดตามใครและที่ยากกว่าก็
คือการทําสัญญากับพวกเขา การที่สามารถทําสัญญากับอสู รวิญญาณ
พิภพปี ศาจได้หนึ่งตน ก็หมายความว่าคนคนนั้นเป็ นคนที่มีศกั ยภาพที่
สู งส่ ง มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่ถูกยอมรับโดยอสู รวิญญาณพิภพปี ศาจ

" อ่อนี่เจ้าก็ทาํ สัญญากับอสู รวิญญาณแล้วสิ นะ งั้นข้าก็มีอีก


เหตุผลที่จะต้องฆ่าเจ้า "
ในเวลานั้น เซว่ เจียน จดจ่อไปที่อสู รวิญญาณของชูเฟิ ง เขาคิดว่ามัน
น่าจะเป็ นอสู รวิญญาณจากพิภพปี ศาจเหมือนกับที่คนอื่นๆคิด แต่ควันสี
ดํานั้นแปลกอย่างมาก แม้เขาใช้อาํ นาจพลังฯตรวจสอบ ก็ไม่อาจสัมผัส
ได้ถึงระดับพลังอสูรวิญญาณของชูเฟิ ง

" คุคุคุ เจ้าเป็ นอสู รวิญญาณจากโลกวิญญาณปี ศาจจริ งงั้นหรื อ ?


รี บๆโผล่หวั ออกมาซะที ให้ขา้ ได้เห็น ว่าคนที่มากจากพิภพปี ศาจนั้นจะ
แน่สกั แค่ไหน " อสู รวิญญาณพิภพภูติพราย ยืนอยูก่ ลางอากาศพร้อมกับ
ตะโกนเสี ยงดัง

แม้วา่ เขารู ้สึกว่าพลังจากควันนั้นไม่ธรรมดา แต่มนั ก็ไม่ง่ายที่จะเชื่อ มัน


พยายามข่มอารมณ์หวัน่ ๆของมัน เพราะมันรู ้สึกว่าจะเสี ยหน้า เนื่องจาก
ชูเฟิ งนั้น มีพลังวิญญาณในระดับที่ต่าํ ปกติแล้ว พลังวิญญาณอสู ร
วิญญาณของชูเฟิ ง ก็ไม่น่าจะเท่าไหร่
" โลกวิญญาณปี ศาจ นี้เห็นว่าข้าเป็ นอสู รวิญญาณที่มาจาก
สถานที่ไร้ค่าแบบนั้นงั้นหรอ!!! " ในที่สุดเสี ยงที่ฟังดูไม่สบอารมณ์กด็ งั
ออกมาจากควันสี ดาํ ทมิฬ

ในเวลาเดียว ก๊าซสี ดาํ จํานวนมหาศาล ที่ก่อตัวอยูก่ เ็ ริ่ มกระจายออกไป


อย่างรวดเร็ ว ทันใดนั้นความงามที่เป็ นเลิศก็ปรากฏออกมาต่อหน้าฝูงชน

ร่ างกายที่ละเอียดอ่อน ใบหน้าที่งดงามหาใครเทียบ อีกทั้งผิวพรรณที่


เลียบเนียน จัดว่าบนร่ างกายนางไม่มีขอ้ บกพร่ องใดๆ นางนั้นกล่าวได้วา่
เพอเฟ็ ค!!!

ชุดกระโปรงสี ดาํ สั้น ทักทอด้วยขนสี ดาํ เผยให้เห็นขาที่เรี ยวขาว ไหล่ท้ งั


สองข้างเปิ ดออกให็เห็น เสน่ห์ของนางนั้นทําให้ผทู ้ ี่พบเห็นแทบจะเลือด
กําเดาทะลัก ใครที่ได้เหลือบมองนางจะไม่สามารถละสายตาออกมาได้
เลย พวกเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะได้ครอบครอง

หลังจากเห็นผูห้ ญิงคนนั้นปรากฏ เจียง ว่านชือ, ซุน ยีห่ าน และคนอื่นๆ


ที่ยนื อยูท่ ่ามกลางมหาสมุทรดอกไม้ถูกบดบังรัศมีไปเลย เป็ นธรรมดา
เพราะนางคือ ราชินีจากโลกวิญญาณอสูู รฟ้า ต้านต้าน นั้นเอง

" ว้าว!!! ข้าคิดว่า อสู รวิญญาณจากโลกวิญญาณปี ศาจ จะน่า


เกลียดยิง่ กว่าข้า คิดไม่ถึงเลยว่าจะงดงามขนาดนี้ สายมาก!!! ในชีวติ ข้า
นางเป็ นคนที่งดงามที่สุดที่ขา้ เคยพบเคยเห็น ! "

หลังจากที่เห็นรู ปร่ างน่าตาของต้านต้าน ใบหน้าของอสู รวิญญาณพิภพ


ภูติพรายก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แม้แต่น้ าํ ลายของมันก็ยงั ไหล
ออกมา ตาของมันดูตกตะลึง โดยลักษณะของต้านต้านที่มนั ได้เห็น
" ศิษย์พี่ อสู รวิญญาณพิภพปี ศาจ สวยมากขนาดนี้เลยหรอ ?!!
" ไม่ตอ้ งพูดถึงพวกเพศผู ้ แม้แต่ ซุน ยีห่ าน และผูห้ ญิงคนอื่นๆก็ถูก
ดึงดูดโดยลักษณะของต้านต้าน พวกนางถอนหายใจออกมาอย่างช่วย
ไม่ได้ เพราะพวกนางล้วนอยากที่จะงดงามได้แบบนั้น

" ไม่ นางไม่ใช่อสูรวิญญาณจากพิภพปี ศาจ แน่นอนว่าพวกมัน


ไม่ได้มีรูปร่ างเหมือนมนุษย์ " อย่างไรก็ตาม เจียง วานชือ ปฏิเสธว่าต้าน
ต้านไม่ได้เป็ นอสู รวิญญาณจากพิภพปี ศาจ เมื่อดูจากลักษณะ

" อ๋ อ! ! ! อย่างที่อาจารย์เคยบอก ว่าอสู รวิญญาณจากพิภพปี ศาจ


ไม่ได้มีลกั ษณะที่เหมือนกับมนุษย์แบบเป๊ ะๆ หรื ออาจเป็ นไปได้วา่ นาง
จะเป็ นอสู รวิญญาณจากพิภพนางฟ้า ? " ตอนนั้น ซุน ยีห่ านและคน
อื่นๆก็เริ่ มที่จะคาดเดา
" ไม่ใช่เช่นนั้นเหมือนกัน ทําไมอสู รวิญญาณจากพิภพนางฟ้าถึง
ได้มีออร่ าพลังแห่งความมืด ? " เจียง วานชือ ส่ ายหน้าอีกครั้ง

ตอนนั้น บรรดาเหล่าสตรี ท้ งั หลายก็เริ่ มขมวดคิว้ จมลงไปในความเงียบ


งัน แต่หลังจากผ่านไปสักพัก พวกนางก็ตาสว่างขึ้นด้วยความตกใจ มี
ความคิดหนึ่งผุดเข้ามาในหัวของพวกนาง จนพูดออกมาพร้อมกัน "
สวรรค์ หรื อว่านางจะมาจากพิภพอสู รฟ้า! "

" อสู รวิญญาณจากพิภพอสู รฟ้า ? ! ! ! "

" เป็ นไปไม่ได้!! อสู รวิญญาณจากพิภพอสู รฟ้าเป็ นเหมือน


ตํานาน ทําไมเจ้าบ้านี่ถึงได้ทาํ สัญญากับพวกเขาได้ล่ะ ? เขามีอะไรดี ?
"

ในเวลาเดียกวัน เซว่ เจียน ก็คิดว่าอาจเป็ นไปได้ แต่เขาก็รีบปฏิเสธ


เพราะว่าอสู รวิญญาณจากพิภพอสู รฟ้าเป็ นเหมือนกับตํานาน แล้วเขาจะ
ทําใจให้เชื่อได้ยงั ไง ว่าชูเฟิ งจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่ งที่เป็ นเหมือนกับ
ตํานาน

" ว้าว แม่สาวน้อยอสู รวิญญาณพิภพพปี ศาจ เห็นแก่รูปร่ างหนา


ตาของเจ้า ข้าจะให้โอกาสเจ้าสักครั้ง! ตราบใดที่เจ้ายินดีปรนิบตั ิขา้ ข้าก็
จะไว้ชีวติ เจ้า เป็ นไงล่ะข้อเสนอข้า ? " อสู รวิญญาณพิภพภูติพราย เลีย
ริ มฝี ปากด้วยลิ้นที่แสนจะน่ารังเกียจ

" หื ม . . " ยังไรก็ตาม ในตอนนั้นสายตาของต้านต้าน ถึงกับเบิก


กว้าง ควันสี ดาํ ที่ไม่มีที่สิ้นสุ ดระเบิดทะลักออกจากร่ างกายของนาง

**** ตูมมม **** เมื่อควันสี ดาํ เพิ่มขึ้นมหาศาล แม้แต่กระทั้งท้องฟ้าก็


ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด พวกก้อนเมฆก็เริ่ มพัดผ่านกันอย่างบ้าคลัง่
ผืนดินเริ่ มสัน่ สะเทือน ราวกับว่าถึงจุดสิ้ นสุ ดของโลก ตอนนั้นต้านต้าน
น่ากลัวโครตๆ

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///
A : กําลังจะสู เ้ ลย จบซะแล้ว!!!

B : เห้อ พรรณนากันซะยาวเยียด สุ ดท้ายได้เวลาสู ก้ ด็ นั มาจบซะหนิ


ถึงจะรู ้ผลว่าใครแพ้ใครชนะก็เหอะ

A : นั้นสิ นะ ช่วยไม่ได้ งั้นก็ตอ้ งรอติดตามพรุ่ งนี้แล้วล่ะ ตอนนี้พวก


ผูห้ ญิงเหล่านี้ คงได้รู้ซ้ ึงถึงความแข็งแกร่ งของชูเฟิ งแล้วล่ะสิ สักพักเด๋ ว
ก็มาเลียเข้งเลียขา

B : งั้นพี่เฟิ งก็เลียสวนสิ จะรอไร ?

C : ไอ้จิตเสื่ อม!!!
บทที่ 604 - ทัศนคติเปลี่ยน

" อสู รวิญญาณที่ทรงพลังอํานาจแบบนี้ ไม่มีอย่างอื่นนอกซะจาก


อสู รวิญญาณจากพิภพอสู รฟ้า ? "ซุน ยีห่ าน และคนอื่นๆพูดออกมา
พร้อมกัน

" ไม่จริ ง คงไม่ใช่หรอก อสู รวิญญาณพิภพอสู รฟ้าเป็ นดัง่ ตํานาน


ถ้านางมาจากโลกวิญญาณอสู รฟ้าจริ งๆ พลังวิญญาณของนางทําไมถึง
อยูแ่ ค่ระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ ไม่วา่ จะยังไง ก็คงเป็ นไปไม่ได้ที่นาง
จะเอาชนะอสู รวิญญาณพิภพภูติพรายตนนั้น ระยะห่างของพลังมัน
ต่างกันเกินไป นางคงจะถูกมันกําจัดอย่างแน่นอน "
เจียง วานชือ ส่ ายหน้า เมื่อนางพูด นางก็มองที่ชูเฟิ ง จดจ้องอย่างใจจดใจ
จ่อ นางคิดว่า ชูเฟิ ง คงจะพ่ายแพ้อย่างไม่ตอ้ งสงสัย และเมื่อเวลานั้น
มาถึงนางจะเข้าขัดขวาง เพื่อปกป้อง ชูเฟิ ง ทันที

" ฮ่าๆๆ น่าสนใจจริ งๆ มาดูสิวา่ ข้าจะทํายังไงกับผูห้ ญิงดื้อรั้น


อย่างเจ้า "

อสู รวิญญาณพิภพภูติพรายหัวเราะ ไม่เพียงแต่มนั ไม่กลัวต้านต้าน มันยัง


โดดไปด้านหน้า พร้อมกับปล่อยควันสี เขียวเข้ม เข้าปะทะกับ ควันสี ดาํ
ของต้านต้านที่ปล่อยออกมา
" อ๊าาาา ~~~~~~~ "

เมื่อ ควันทั้งสองสัมผัสกัน ราชันย์แห่งพิภพภูติพรายถึงกับร้องโหยหวน


อย่างเจ็บปวด มันกรี ดร้องออกมาด้วยความทุกข์ทรมาน เพราะในตอน
นั้นควันสี เขียวเข้มของมันถูกปกคลุมด้วยควันสี ดาํ

ควันสี ดาํ เข้าโอบล้อมจากนั้นมันก็กลายเป็ นหัตถ์สีดาํ ขนาดใหญ่ คว้าไป


ที่ร่างของอสู รโลกวิญญาณพิภพภูติพราย

" สวรรค์ นะ . . นั้น มะ . . .มัน ? " เมื่อพวกเขาเห็นสภาพที่น่า


อดสู ของอสู รวิญญาณภูติพรายตนนั้น ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่เห็นแล้ว
จะไม่ตกตะลึงจนลิ้นพันกัน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
ฉากที่เกิดขึ้นต่อหน้านั้นมันเหนือความคาดหมายของพวกเขา อสู ร
วิญญาณภูติพรายกําลังถูกหัตถ์ยกั ษ์สีดาํ ทมิฬคว้าตัวเอาไว้ จนไม่สามารถ
กระดิกได้

ปัจจุบนั มันมีสภาพดัง่ คนชราที่กาํ ลังจะตาย ร่ างกายของมันที่ไม่ค่อยจะ


น่าพิศมัย กับเสี ยงร้องโหยหวนที่แสนทุกข์ทรมาน ตอนนี้มนั จะ สู ก้ ส็ ู ้
ไม่ได้ จะหนีกห็ นีไม่ได้ ไม่วา่ จะพลังวิญญาณของมันหรื อพลังชีวติ ของ
มันทั้งคู่ต่างถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็ ว มันถูกดูดกลืนด้วยมือสี ดาํ ขนาด
ใหญ่ที่จบั ตัวของมันไว้ และในตอนนั้นต้านต้านเองก็ทาํ น่าระรื่ นอย่าง
มาก

เมื่อย้อนมองกลับไปที่อสู รวิญญาณภูติพรายก่อนหน้านี้ ที่มนั เคยคิดจะ


เล่นกับนาง ในตอนนี้มนั ถูกต้านต้านมองด้วยสายตาที่เวทนา ขณะที่นาง
ยิม้ หวาน และกล่าวกับมัน " จําใส่ หวั เอาไว้ ข้าไม่ใช่สิ่งมีชีวติ ชั้นตํ่าที่มา
จากโลกวิญญาณปี ศาจ แต่ขา้ มาจากโลกวิญญาณอสู รฟ้า!!! "

หลังจากพูด ต้านต้านก็ยง่ิ กระดี้กระด้า พลังในร่ างกายของนางสู บฉี ด


เดือดพล่านอยูภ่ ายในร่ าง แล้วตอนนั้นเองก็เกิดเสี ยงดัง *ปั้ ง* อสู ร
วิญญาณภูติพรายถูกบีบจนตายด้วยหัตถ์ทมิฬ พลังวิญญาณทั้งหมดถูก
ดูดกลืนโดยต้านต้าน

" สวรรค์ มันเป็ นไปไม่ได้!!! อสู รวิญญาณภูติภรายอยูใ่ นระดับ


9 อาณาจักรสวรรค์ จะแพ้นาง " ซุน ยีห่ าน ก้าวถอยหลัง ใบหน้าของ
นางซีดเผือดไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยของเลือด

" ร้ายกาจมาก นางฆ่ามันได้ภายในพริ บตา อสู รวิญญาณที่ทรง


พลังอํานาจเช่นนี้ ไม่ตอ้ งสังสัยเลยว่านางคือ อสู รวิญญาณที่มาจากโลก
วิญญาณอสู รฟ้า ในตํานาน "
แม่นางคนอื่นๆก็ตอ้ งตะลึง เมื่อต้านต้านประกาศตัวตนของนาง และยิง่
ได้เห็นความแข็งแกร่ งของนาง พวกเขาก็ยนื ยันว่า ต้านต้าน เป็ นอสู ร
วิญญาณที่มาจากโลกวิญญาณอสู รฟ้า

" เป็ นไปไม่ได้!!! ไอบ้านั้นมันทําพันธะสัญญากับอสู รวิญญาณ


พิภพอสู รฟ้าได้ง้ นั หรอ!!! "เมื่อแทบกับการแสดงออกของ ซุน ยีห่ าน
และคนอื่ นๆ พวกเซว่ ยีแ่ ละคนอื่นๆ ถึงกับทําตาลุกตาเหลือก โดยที่ไม่
อยากจะยอมรับในสิ่ งที่เกิดขึ้น

นับตั้งแต่ครั้งโบราณ ผูท้ ี่สามารถทําพันธะสัญญากับอสู รวิญญาณพิภพ


อสู รฟ้าได้ จะกลายเป็ นบุคคลที่สุดยอดของแต่ละทวีป และพวกเขาล้วน
แต่เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯที่ทรงพลังอํานาจเช่นกัน
แม้จนกระทั้งบัดนี้ ผูท้ ี่ทาํ พันธะสัญญากับอสู รวิญญาณพิภพอสู รฟ้าที่
ปรากฏขึ้นมาในทะเลตะวันออกนั้นไม่เคยมีเลย แต่กม็ ีตาํ นานมากมาย
เกี่ยวกับพวกเขา เพราะพลังของอสู รวิญญาณพิภพอสู รฟ้า ที่พวกเขา
ได้รับ

และในปัจจุบนั ชูเฟิ ง ก็เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯ ที่ทาํ สัญญากับอสู รวิญญาณพิภพ


อสู รฟ้า แล้วทําไมพวกเขาที่ได้รู้ถึงจะไม่ตกใจ โดยเฉพาะผูท้ ี่มีความ
ขัดแย้งกับชูเฟิ ง อย่าง เซว่ ยี่ ,เซว่ เจียน พวกเขาตอนนั้นหวาดวิตกกัน
อย่างมาก
** พรึ บ ** จู่ๆ เซว่ เจียน ก็สะบัดมือ แล้วก็มีบางอย่างพุง่ ไปหา ชูเฟิ ง

** หมับ ** ชูเฟิ งคว้ามันเอาไว้ ในตอนนั้นเขาก็รู้ความหมายของมัน


ทันที

" พีช่ าย ท่านเหนือกว่าข้าเซว่ เจียน นั้นคือของตามที่เราตกลงกัน


ไว้ " หลังจากพูดคํานั้น เขาก็หนั ไปทาง เจียง วานชือ และกล่าว " แม่นาง
เจียง เวลานี้ท่านได้อาศัยความช่วยเหลือจากผูเ้ ชี่ยวชาญ ข้านั้นไม่อาจ
เอาชนะเขาได้ แต่ไม่ชา้ ก็เร็ ว ข้าจะกลับมาใหม่อย่างแน่นอน และข้าหวัง
ว่าตอนนั้น ที่อยูอ่ าศัยของท่านยังคงมีผเู ้ ชี่ยวชาญท่านนี้อยู่ "

หลังจากที่พดู จบ เซว่ เจียน ก็สะบัดแขนหันไปอีกด้าน พร้อมกับมองไป


ที่ เซว่ ยี่ และพรรคพวกด้วยความขมขื่น ที่อยูด่ า้ นหลังเหมือนจะบอกว่า
กลับได้ จากนั้นพรรคพวกของเขาก็มองไปที่ ชูเฟิ ง แวบหนึ่ง จากนั้น
พวกเขาก็ตาม เซว่ เจียน ออกไปอย่างรวดเร็ ว
" เฮ้อ น่าเบื่อชะมัด ที่พวกเขาดันยอมแพ้ไปแบบนี้ " ต้านต้าน
ยังคงกอดอกด้วยความภูมิใจ หลังจากนั้นนางก็ยดึ แขนบิดขี้เกียจ พร้อม
กับหันหลังกลับมา กลายเป็ นเส้นแสงสี ดาํ ลอยเข้าไปในประตูโลก
วิญญาณ

" โห!!สุ ดยอดมาก ที่เจ้าได้ทาํ สัญญากับอสู รวิญญาณจากโลก


วิญญาณอสู รฟ้า!!! เจ้าเป็ นคนแรกเลยที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ของ
ภาคทะเลตะวันออก !!! "
ขณะนั้น ซุน ยีห่ าน ก็เดินเข้ามาหา ชูเฟิ ง พร้อมกับมองเขาด้วยสายตาที่
เร้าร้อน ทําให้นางดูเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน ก่อนหน้านี้ สายตานาง
เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม ในตอนนี้ เปลี่ยนเป็ นใบหน้าที่เต็มไป
ด้วยความชื่นชม

" ขอบคุณท่านที่ช่วยข้าไว้ ข้ามีนามว่า เจียง วานชือ ไม่ทราบว่า


นามของท่านคือ ? " ขณะเดียวกันที่ ศิษย์นอ้ งนางพูดขึ้น เจียง วานชือ
ก็เข้ามาแทรก
สี หน้าการแสดงออกของ เจียง วานชือ เห็นได้อย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้
นางแทบจะไม่ได้มองหน้า ชูเฟิ ง แต่ตอนนี้สายตาที่นางมองเขา เต็มไป
ด้วยความซับซ้อน อารมณ์ที่หวัน่ ไหวสัน่ ระรัวอยูภ่ ายในดวงตา มันคือ
ความซาบซึ้ งและความเคารพ

" แม่นาง เจียง ท่านไม่ตอ้ งสุ ภาพก็ได้ ข้าบอกแล้วว่าเราเหมือน


เป็ นคนรู ้จกั เมื่อมีศตั รู มารบกวน ก็เป็ นหน้าที่ของข้าที่จะต้องยืน่ มือ
ช่วยเหลือ ชื่อของข้า ท่านอาจารย์เป็ นคนตั้งให้วา่ 'หวูฉ่ ิง' " ชูเฟิ งกล่าว
พร้อมกับรอยยิม้
" เจ้าชื่อ หวูฉ่ ิง เอ่อ . . . . . น้อง . . . หวูฉ่ ิ ง สิ นะ ดูตามอายุแล้ว ข้า
น่าจะมีอายุมากกว่าเจ้า ดังนั้นหากไม่เป็ นการลําบากใจเจ้าจะเรี ยกข้า ศิษ
พี่ ก็ได้ " เจียง วานชือ กล่าวด้วยรอยยิม้

" ข้าก็อาวุโสกว่าเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องเรี ยกข้าว่าศิษย์พี่ " จู่ๆ ซุน ยี่


หาน ก็เข้ามาขัดจังหวะ
" หวูฉ่ ิง คารวะเหล่าศิษพี่ ! " เห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง รี บยิม้ รับพร้อม
กับยกมือคารวะอย่างสุ ภาพต่อเจียง วานชือและคนอื่นๆ

แต่ขณะที่เขาพูด เขาก็เก็บจ้าวโอสถระดับกลางที่ได้มาสามอันเข้าไป
แม้วา่ หนึ่งในนั้นจะมาจาก เจียง วานชือ แต่ท้ งั หมดแล้ว ก็เป็ นชูเฟิ งที่นาํ
มันกลับมา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ยนื่ มันคืนให้กบั นาง
ถึงแม้วา่ มันจะดูไม่ค่อยดี แต่ชูเฟิ งจําเป็ นต้องรี บพัฒนาพลังวิญญาณ ให้
เร็ วที่สุด เพื่อให้เขานั้นขึ้นไปยังจุดสู งสุ ด เป็ นการพิสูจน์ตนเอง

" น้อง หวูฉ่ ิง เจ้านี้ไม่มีความเกรงใจเอาซะเลย ช่างเถอะ แต่ขา้


สงสัยว่า . . . . เจ้ามียงั ธุระอะไรกับข้าอีกไม๊ ? " เจียง วานชือถาม
" ภายใต้คาํ สัง่ ของท่านอาจารย์ ข้าต้องนําเรื่ องบางอย่างไปบอก
กับท่านอาวุโส ฉิวซุ่ย ยังไงก็ตาม อาจารย์ขา้ ได้กาํ ชับมาว่า นอกจาก
อาวุโสฉิวซุ่ย ห้ามนําเรื่ องนี้บอกกับใคร ดังนั้น ศิษย์พี่เจียงโปรดอภัยให้
ข้าด้วย เนื่องจากข้าไม่อาจบอกท่านได้ " ชูเฟิ ง กล่าว

" ไม่เป็ นไรเจ้าอย่าได้เกรงใจ แต่อาจารย์ขา้ มีสหายน้อยมาก มี


เพียงกี่คนเท่านั้นที่ขา้ รู ้ น้องหวูฉ่ ิ ง พอจะบอกนามของอาจารย์เจ้าได้
หรื อไม่ ไม่ตอ้ งบอกมาทั้งหมด แค่เพียงไบ้ให้ขา้ สักเล็กน้อยก็พอแล้ว "
เจียง วานชือ ถาม
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////
A : จะดีอ่อ รู ้ชื่ออาจารย์ของพี่เฟิ ง จะไม่ข้ ีหดตดหายกันเลยหรื อไง

B : ขนาดแค่พวกอาวุโส ฉิวซุ่ย ฟู่ หยานได้รู้ ยังตะลึงเลย เพราะ 1 ใน


4 ปราการ ชิ๋ว ซานเฟิ ง ไม่เคยรับศิษย์มาก่อน จนนางต้องคอยประคบ
ประง๋ ม ชูเฟิ ง อย่างกะใครในหิ น อีกทั้ง ชูเฟิ งยังเป็ นเด็กทีคนรักนางให้
ความสําคัญ นั้นก็คือ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว่ ที่นาํ ชูเฟิ งมา 9 อาณาจักร เรื่ องราว
ชีวะประวัติชูเฟิ ง พาคนแปลปวดกระหม่อม มว๊ากกก

B : ตอนอาจารย์พี่เฟิ งยังไม่ปรากฏ ชื่อเสี ยงของ ชูเฟิ งนั้นก็แทบจะเป็ น


บุคคลอันดับ 1 ของทะเลภาคตะวันออก ตํานานอะไรก็ตามที่ไอมู่หรง
ไรนั้นสร้างไว้ ถูก พี่เฟิ ง ทําลายจนไม่เหลือ แถมสถิติยง่ิ กว่าร้อยเท่าพัน
เท่า พวกศิษย์พี่เหล่านี้กแ็ ค่ ลูกเจี๊ยบ ศัตรู ที่แท้จริ งตอนนี้ของพี่เฟิ งมีเพียง
หนึ่งเดียว นั้นก็คือ ยอดนักสื บโคนัน

A : มึงพูดเป็ นงานเป็ นการมาซะยาว ยังจะเล่นอีก!!!

B : พอพูดถึงมีเพียงหนึ่งเดียว เมือ่ไหร่ กน็ ึกถึง โคนันตลอดเลยกู

B : หมู่เกาะประหารไง หมู่เกาะประหาร ศัตรู จะมีใครได้ล่ะ ใครไม่


กล้าหื อ แต่พี่เฟิ งกล้า เหมือนไม่ปิดบังอ่ะ ว่าตั้งตัวเป็ นศัตรู ออกลูกบ้า
หน่อย แต่กช็ อบ ใจถึงดี!!!

C : ใจถึงๆ เปนไงล่ะ หนีตีนกันแทบไม่ทนั

A : นี้ พูดถึงพี่เฟิ ง ?

C: ป่ าว ?? เด็กอนุบาลแถวบ้าน
C: วันนี้เห็นพ่อมันเอาอีดาบให้ วันนี้บอก ไปเอาคืนพวกมันเลยลูก!!!

A : แล้วคนที่ เด็กมีเรื่ องด้วยอ่ะ ??

C : ก็กนู ้ ีแหละ!!!

B : แหม๋ !!! ไอ้พอ่ วีรบุรุษ


บทที่ 605 – ร้ายกาจ

“อาจารย์ของข้าแซ่ ฮวางฟู่ ท่านเป็ นสหายเก่าของท่าน ฉิ วซุ่ย ข้า


สามารถบอกท่านได้เพียงเท่านี้ หากท่านบอกอาจารย์ของท่านเช่นนี้
อาจารย์ของท่านจะทราบเอง”

ชูเฟิ ง ต้องการที่จะพบ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ดังนั้น เขาจําเป็ นต้องสร้าง


ความสัมพันธ์ข้ ึนมา เขาจึงโกหกออกไปว่า ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว่ เป็ นอาจารย์
ของเชา เพื่อเพิ่มโอกาสในกานพบกับ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน

เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของ ชูเฟิ ง นั้น ใบหน้าของ เจียง ว่านชือ


เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แววตาของนางแสดงออกถึงแววครุ่ นคิดอยูช่ ว่ั ครู่
ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง ท่านอาจารย์ของข้าไม่ได้อยูท่ ี่นี่
หากเจ้าต้องการจะพบท่าน เจ้าสามารถกลับมาใหม่อีกครั้งได้”

การแสดงออกของ เจียง ว่านชือ นั้น ไม่ใช่การแสดงออกของคนที่


กําลังโกหก ชูเฟิ ง จึงกล่าวถามออกไปว่า “ศิษย์พี่ เจียง ท่านทราบ
หรื อไม่วา่ ผูอ้ าวุโส ฉิวซุ่ย ไปที่ใด !?”

“ท่านอาจารย์ได้ไปยัง ทะเลโลหิ ตนิรันดร์ !!” เจียง ว่านชือ กล่าว


“ทะเลโลหิ ตนิรันดร์………มันคือที่ใด !?” ชูเฟิ ง กล่าวถาม
ด้วยความสงสัย

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้าไม่ได้มาจากทะเลตะวันออกรึ ถึงได้ไม่รู้จกั


ทะเลโลหิ ตนิรันดร์” เจียง ว่านชือ เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ความประหลาดใจ
ปรากฏขึ้นในแววตาของนางอย่างชัดเจน

“ศิษย์พี่ เจียง บองตามตรง ข้าไม่มาจากทะเลตะวันออก ข้ามาจาก


ทะเลใต้ และข้ามาที่นี่เพื่อพบกับผูอ้ าวุโส ฉิ วซุ่ย !!” ชูเฟิ ง กล่าวพลางยิม้
บางๆ

“ทะเลโลหิ ตนิรันดร์ เป็ นสถานที่ศกั ดิ์สิทธิ์ ที่เหมาะแก่การบ่มเพาะ


พลัง โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามขึ้นไป เหล่าผูค้ นชั้น
นําล้วนทําการบ่มเพาะภายในสถานที่แห่งนั้นแทบทั้งปี แต่ในเร็ วนี้ที่นน่ั
ได้มีปิศาจปรากฏตัวออกมา”

“ปิ ศาจ !!”

“อืม….จากที่ได้ขา้ ได้ยนิ มานั้น ปิ ศาจได้ฆ่าเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญอย่าง


กับมดปลวก อีกทั้งการปรากฏตัวของมันยังแปลกประหลาดอย่างมาก
หลังจากข่าวของปิ ศาจแพร่ กระจายออกมานั้น สองผูอ้ าวุโสของผาคน
รักได้เดินทางไปยังทะเลโลหิ ตนิรันดร์ เพื่อจัดการกับปิ ศาจ และคืน
ความสงบสุ ขแก่ทุกๆ คน”

“แต่พวกเขากลับไม่คาดคิดถึงความแข็งปิ ศาจนั้น ว่ามันจะ


แข็งแกร่ งยิง่ กว่าพวกเขา ทําให้ผอู ้ าวุโสหนึ่งท่านตายไป และอีกหนึ่ง
ท่านสามารถหนีกลับมาได้ แต่กไ็ ด้รับบาดเจ็บอย่างหนักเช่นกัน”
“หลังจากที่เขากลับมาถึงผาคนรักนี่ เขาก็ได้เล่าเรื่ องราวให้แก่
อาจารย์ของข้าฟัง”

“โดยปกติน้ นั ท่านอาจารย์ของข้าจะไม่ทาํ อะไรเช่นนี้ แต่บงั เอิญว่า


ผูอ้ าวุโสที่ตายไปนั้น เป็ นสหายของท่าน ดังนั้น ท่านจึงไม่อยากให้สหาย
ของท่านต้องตายไปอย่างไร้ความหมาย ท่านจึงตั้งใจที่จะไปจัดการกับ
ปิ ศาจทันที และท่านก็ได้ออกเดินทางไปยังทะเลโลหิ ตนิรันดร์เมื่อเช้านี้
เอง ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง ข้าเสี ยใจด้วย เจ้ามาช้าเพียงก้าวเดียวเท่านั้น !!”

“ถ้าเจ้ามาเร็ วกว่านี้เพียงหนึ่งเก้า เจ้าก้จะได้พบกับท่านอาจารย์ของ


ข้า” เจียง ว่านชือ กล่าวด้วยใบหน้าเสี ยดาย
“ถ้าเช่นนั้น ศิษย์พี่ เจียง ท่านพอจะทราบหรื อไม่ ว่าผูอ้ าวุโส ฉิ วซุ่ย
จะกลับมาเมื่อใด !?” ชูเฟิ ง กล่าวถามออกไปอย่างรวดเร็ ว

“ข้าก็ไม่มนั่ ใจนัก หากท่านจัดการเสร็ จเร็ วก็น่าจะภายไม่กี่วนั หาก


ช้าก็ภายในไม่กี่เดือน ท่านอาจารย์เป็ นคนที่ค่อนข้างทําตัวตามสบาย
หากท่านจัดจากเรื่ องปิ ศาจเสร็ จสิ้ น ท่านอาจจะไม่กลับมายังผาคนรัก
ในทันทีกเ็ ป็ นได้”

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง หากเจ้าต้องการที่จะพบกับท่านอาจารย์ของข้า


อย่างเร่ งด่วนนั้น เจ้าสามารถมุ่งหน้าไปยังทะเลโลหิ ตนิรันดร์ได้เลย ด้วย
ประตูเคลื่อนย้ายที่ดา้ นนอกของผาคนรัก ที่นนั่ สามารถส่ งเจ้าไปยังทะเล
โลหิ ตนิรันดร์ได้ในทันที บางทีเจ้าอาจจะได้พบกับท่านที่นนั่ ก็ได้” เจียง
ว่านชือ กล่าว
“อืม….ศิษย์พี่ เจียง ขอบคุณสําหรับคําแนะนํา ข้ามีธุระเร่ งด่วนที่
จะต้องพบกับผูอ้ าวุโส ฉิวซุ่ย ดังนั้นข้าจะไม่รบกวนอีก ข้าขอตัวลา” ชู
เฟิ ง กล่าวพลางหันกลับ และจากไป

“ศิษย์พี่ เขาบอกว่าเขาชื่อ หวูฉ่ ิ ง ท่านคิดว่านัน่ เป็ นชื่อจริ งของเขา


หรื อไม่ !?” ซุน ยีห่ าน กล่าวถามพลางกะพริ บตามองตามเส่ นทางที่ ชู
เฟิ ง จากไป

“มันไม่สาํ คัญว่านัน่ ใช่ชื่อจริ งของเขาหรื อไม่ แต่ดว้ ยความ


แข็งแกร่ งของเขา และด้วยการบ่มเพาะพลังเพียงอายุเท่านี้กลับสู งส่ งถึง
เพียงนี้ และอีกทั้งเขายังได้ทาํ สัญญาณกับโลกวิญญาณอสู รฟ้าอีก ข้า
มัน่ ใจว่าอาจารย์ของเขาจะต้องเป็ นผูท้ ี่ยง่ิ ใหญ่มากแน่นอน” สาวงามอีก
นาง กล่าวขึ้น
ในขณะนั้น หลังจากที่จอ้ งไปยังเส้นทางที่ ชูเฟิ ง จากไปเป็ นเวลา
นั้น ใบหน้าของ เจียง ว่านชือ ก็เต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก นางหัน
กลับมากล่าวกับศิษย์นอ้ งของนางว่า “ดูแลที่นี่ดว้ ย ข้าจะกลับมาในเร็ วๆ
นี้ !!”

***** ฟิ้ วววว *****

จากนั้น เจียง ว่านชือ ก็พงุ่ ทะยานออกไปตามเส้นทางที่ ชูเฟิ ง จาก


ไป ในขณะที่นางทะยานออกไปนั้นกระโปรงของนางก็พริ้ วไสวอย่าง
งดงาม และหายลับไปในทุ่งดอกไม้อย่างรวดเร็ ว

“ทุกคนอยูท่ ี่นี่ และทําตามคําสัง่ !!” ซุน ยีห่ าน กลอกตาไปมา และ


คิดว่าอาจจะมีเรื่ องบางอย่างเกิดขึ้น นางยิม้ ออกมาแปลกๆ จากนั้นก็
ทะยานตามทั้งสองคนไป

ที่ดา้ นนอกผาคนรักนั้น ชูเฟิ ง กําลังมุ่งหน้าไปยัง ประตะเคลื่อนย้าย


ซึ่งบริ เวณนี้เป็ นสถานที่ตอ้ งห้าม จึงทําให้ไม่ค่อยมีผคู ้ นเข้ามานัก
โดยรอบจึงเป็ นทัศนียภาพของธรรมชาติ

“ออกมา อย่ามาทําลับๆ ล่อๆ” ชูเฟิ ง กล่าวพร้อมกับหันกลับไป


ด้วยรอยยิม้ บางๆ

*****ฝุ่ บบบ *****

ในขณะนั้น ก็มีคนสองคนพุง่ ทะยานออกมาตามลําดับ สองคนนั้น


ก็คือ เซว่ ยี่ และ เซว่ เจียน พวกเขาปรากฏตัวออกมาพร้อมกับจิตสังหาร
อย่างรุ นแรง

“พวกเจ้านี่คิดสั้นจริ งๆ ข้าเพิ่งได้โอสถระดับกลางมาสองชิ้น แต่


พวกเจ้ากลับยังกล้าติดตามข้ามาเพื่อจะแก้แค้นเช่นนั้นรึ !!” ชูเฟิ ง รับรู ้
ได้ถึงแผนการของพวกเขาเป็ นอย่างดี

“หากเจ้ารู ้เช่นนั้น แล้วเหตุใดเจ้าไม่กลับไปยังผาคนรัก เพื่อขอ


ความช่วยเหลือ !! ข้าก็ไม่รู้วา่ เจ้ามัน่ ใจในตัวเอง หรื อว่าเป็ นเพียงเพราะ
ความโง่เขลาของเจ้ากันแน่” เซว่ ยี่ จ้องมองไปที่ ชูเฟิ ง ด้วยความเหยียด
หยัน ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่ลึกๆ มันกลับมี
ความ ชื่นชม อยูภ่ ายในแววตานั้น

“แม้ขา้ รู ้วา่ พวกเจ้าจะต้องมาแก้แค้น แต่วา่ พวกเจ้าทั้งสองคนก็


ไม่ใช่คนที่จะสามารถสร้างปัญหาให้แก่ขา้ ได้” ชูเฟิ ง กล่าวพลางยิม้
บางๆ เหมือนเขาไม่เห็นทั้งสองคนนี้อยูใ่ นสายตาแม้แต่นอ้ ย

“โฮะ !! เจ้าก็ยงั คงปากดีเช่นเดิม แต่เจ้าก็พอจะมีความสามารถที่จะ


หยิง่ ได้อยูบ่ า้ ง กล่าวตามตรง หากเจ้าไม่ได้เกี่ยวของกับพวกนาง ข้าก็
อยากจะเป็ นสหายของเจ้า”

“แต่ในเมื่อเจ้าเป็ นศิษย์พี่ศิษย์นอ้ งของสาวๆพวกนั้น ข้าก็คงต้อง


จัดการกับเจ้า เพราะหากปล่อยคนเช่นเจ้าไป ในอนาคตหากได้พบกันอีก
ข้ามัน่ ใจว่าเจ้าจะไม่ปล่อยพวกข้าสองพี่นอ้ งไปแน่” เซว่ เจียน กล่าว
ออกมา ในขณะที่จอ้ งไปยัง ชูเฟิ ง เขาไม่ได้หยิง่ ผยองเหมือนกับ เซว่ ยี่
แม้แต่นอ้ ย เขากลับมีความความรอบคอบอย่างชัดเจน

“เฮ้อ….อย่าได้เสี ยเวลาอีกเลย ข้ายังต้องรี บไปอีก ในเมื่อพวกเจ้า


เหนื่อยที่จะหายใจเช่นนี้แล้ว !!”

ในขณะที่ ชูเฟิ ง กล่าวนั้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็ นเย็นชา แวว


ตาของเขาเป็ นประกาย เพียงพริ บตาเดียวนั้น อ่อร่ าพลังของเขาก็พงุ่
สู งขึ้น จากระดับหก เป็ นระดับเก้า ขั้นแดนสวรรค์อย่างรวดเร็ ว

“จะ…จะ…เจ้าปกปิ ดพลังที่แท้จริ ง !!” เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลง


ของออร่ าพลังของ ชูเฟิ ง นั้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหยิง่ ผยองของ
เซว่ ยี่ ก่อนหน้านี้กห็ ายไป เหลือเพียงความหวาดกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด
เอาไว้

เพราะด้วยความต่างชั้นของออร่ าพลังของ ชูเฟิ ง นั้น เขาไม่เคย


สัมผัสพลังเช่นนี้ได้ในขั้นแดนสวรรค์ มันอาจกล่าวได้วา่ ออร่ าพลังของ
ชูเฟิ ง แข็งแกร่ งยิง่ กว่าพลังระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////////////////////////////////
A : โอ้วพระถัง ที่สถิต ณ.สวนดอกท้อ หากท่านพบพระไตรปิ ฎกแล้ว
โปรดรับชายบาป 2 คน ไว้ในอ้อมอกของท่านด้วย!!! อาเมน

B : สาบานว่าบทสวด!!!

A : อื้ม!!! ตํานานไซอิ๋ว ตอนที่พระถังไปอัญเชิญพระไตรปิ ฎก ณ ชมภู


ทวีป หง๋ อคง ได้ตีพิมพ์บทสวดนี้ข้ ึนมา เพื่ออ้อนวอนอาจารย์ ในยามที่
ปวดหัว ต้องการพารา

C : เรื่ องหง๋ อคง เค้าบอกเป็ นเรื่ องแต่งขึ้น แต่พระถังนี้อาจจะจริ งนะ


แต่ไม่แน่ใจ ว่าคนแต่งแต่งก่อน ปี พุทธศักดิ์ราชหรื อหลัง

B : มาเป็ นการเป็ นงาน เชียวนะ แน่จริ งอย่าเปิ ด google ล่ะ


ตอบดิ!!!

C : กูยอมแพ้!!! เปิ ดหนังดูทีไร รอฟังมันบอก มันก็ไม่ยอมบอกซะที


บอกแค่ ไซอิ๋ว ภาคโดย พันธมิตร ที่ได้ยนิ ก็มีแค่น้ นั

A : เด๋ วก่อนๆ พวกมืงนอกเรื่ องกันใหญ่ เอาเป็ นว่า ชะตากรรมของไอ


สองคนนี้จะเป็ นยังไงไม่มีใครรู ้ ต้องรออ่านดูเท่านั้น

B : มืงแม่งคนเริ่ มเลย มีหน้ามีพดู ดี!!!


บทที่ 606 – ทะเลโลหิ ตนิรันดร์

“อึ้ก…พี่นอ้ ง หนี !!” เซว่ เจียน มีพลังถึงระดับเก้า ขั้นแดน


สวรรค์ สามารถรับรู ้ได้ถึงอันตรายยิง่ กว่า เซว่ ยี่ และด้วยพลังของเขา ทํา
ให้เขามีประสบการณ์ความหวาดกลัวมามาก

หลังจากที่เขาตะโกนออกไปนั้น เขาก็รีบหันหลังกลับ และพร้อมที่


หนีออกไปให้เร็ วที่สุด

“พวกเจ้าคิดจะหนีรึ !! ไม่มีทาง !!” ในขณะนั้น ชูเฟิ ง กล่าวออกมา


อย่างเหยียดหยัน พร้อมกับระเบิดพลังขั้นแดนสวรรค์ออกมาอย่างบ้า
คลัง่ พลังเหล่านั้นอัดแน่นจนมีลกั ษณะคล้ายกับปากของปิ ศาจร้าย มัน
พุง่ ตรงไปกลืนกิน เซว่ เจียน และ เซว่ ยี่ อย่างรวดเร็ ว

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก…..!!”

ในเวลานั้น เซว่ เจียน และ เซว่ ยี่ กรี ดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด


ภายในพลังออร่ าที่บา้ คลัง่ ของ ชูเฟิ ง นั้น ร่ างกายของพวกเขากําลังได้รับ
ความทรมานอย่างสาหัส

ไม่เพียงแต่ร่างกายของพวกเขากําฉี กขาด แม้แต่แหล่งพลังวิญญาณ


ของพวกเขาก็กาํ ลังถูกดูดออกไป แต่ในทุกขั้นตอนนี้ พวกเขากลับมีชีวติ
อยู่ และรับรู ้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
หลังจากนั้นเพียงไม่นาน เสี ยงกรี ดร้องของพวกเขาก็เงียบหายไป
พร้อมๆ กับร่ างกาย และอวัยวะของพวกเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

***** วูบบบบบบ *****

ออร่ าพลังที่แผ่ออกไปอย่างบ้าคลัง่ ของ ชูเฟิ ง ก็ได้ไหลกลับเข้า


มายังร่ างกายของเขาอย่างรวดเร็ ว พร้อมกับถุงจักรวาลที่ลอยเข้ามาอยูใ่ น
มือของเขา หลังจากตรวจสอบเพียงพริ บตาเดียวนั้น เขาก็สบถบางอย่าง
ออกมา และโยนถุงจักรวาลนั้นไปมาในอากาศ และกล่าวว่า “หึ พวกดี
แต่ปาก !!”

เหตุที่ ชูเฟิ ง ทําเช่นนั้น เพราะว่าในก่อนหน้านี้ เซว่ ยี่ ได้กล่าวว่า


เขามีจา้ วโอสถอยูจ่ าํ นวนมาก และหลังจากที่ ชูเฟิ ง ตรวจสอบน้น เขาก็
พบว่าจ้าวโอสถทั้งหมดเป็ นเพียงยาระดับตํ่า ไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียวที่เป็ น
ระดับกลาง

แม้วา่ จ้าวโอสถเหล่านั้นจะนับว่าเป็ นของมีค่า ที่อยูภ่ ายในถุง


จักรวาลของพวกเขา และเรี ยกได้วา่ เป็ นความมัง่ คัง่ ของคนปกติน้ นั แต่
สําหรับ ชูเฟิ ง มันเป็ นเพียงการเก็บเกี่ยวที่เล็กน้อยอย่างมาก

หลังจากที่เก็บถุงจักรวางแล้วนั้น ชูเฟิ ง ก็หนั กลับไปด้วยรอยยิม้


บางๆ ประกายในดวงตาของเขาก็หายไป เขาปลดพลังของสายฟ้า
ศักดิ์สิทธิ์ออก ทําให้พลังเขาลดลงเหลือเพียงระดับหก ขั้นแดนสวรรค์
เช่นเดิม ตอนนัน่ เขามุ่งหน้าตรงไปยัง ประตูเคลื่อนย้าย อย่างรวดเร็ ว

เมื่อร่ างของ ชูเฟิ ง ค่อยๆ ห่างออกไป และหายไปอย่างสมบูรณ์น้ นั


ในบริ เวณใกล้เคียงก็ปรากฏร่ างของคนสองคน ที่กาํ ลังก้าวออกมา นัน่
คือ เจียง ว่านชือ และ ซุน ยีห่ าน นัน่ เอง

“สวรรค์ !! นี่เขามีพลังถึงระดับเก้า แดนสวรรค์ เชียวรึ อีกทั้งพลัง


ต่อสู ข้ องเขายังแข็งแกร่ งอย่างมาก นัน่ มันสามารถเทียบได้กบั พลังระดับ
หนึ่ง อาณาจักรจ้าวสงครามเลยไม่ใช่รึ !!”

“ไม่น่าเชื่อ ว่าเขาจะสามารถปกปิ ดพลังที่แท้จริ งของเขาได้อย่างดี


จนไม่สามารถตรวจสอบได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาสามารถทําสัญญา
กับโลกวิญญาณอสู รฟ้าได้ !! นี่มนั ปิ ศาจชัดๆ ข้าไม่เคยเห็นใคร
แข็งแกร่ งเท่านี้มาก่อนเลย” ในขณะนั้น ริ มฝี ปากของ ซุน ยีห่ าน ก็อา้
ค้าง แววตาของนางเต็มไปด้วยความตกตะลึง

ในขณะนั้น เจียง ว่านชือ กําลังจ้องมองไปยังทิศทางที่ ชูเฟิ ง


หายไป แม้วา่ นางจะไม่ได้กล่าวอะไรออกมา แต่แววตาที่สดใสของนาง
ก็เต็มไปด้วยความอัปยศ

หลังจากนิ่งเงียบครุ่ นคิดอยูง่ ชัว่ ครู่ น้ นั นางขดริ มฝี ปากขึ้น และ


หัวเราะออกมาด้วยความขมขื่น “ข้าประเมินตัวเองสู งเกินไป ข้ามัน่ ใจว่า
ข้าคืออัจฉริ ยะ และไม่มีใครสามารถเทียบได้ในรุ่ นเดียวกัน แต่กลับลืม
ไปว่า ยังมีอีกหลายคนที่ปิดบังพลังที่แท้จริ งเอาไว้ อีกทั้งพวกเขายังไม่
หยิง่ ผยอง หากมองจากภายนอกพวกเขาก็เป็ นเพียงคนธรรมดา แต่
แท้จริ งแล้วนั้น พวกเขากลับแข็งแกร่ งกว่าข้ายิง่ นัก”

“ก่อนหน้านี้พวกเราได้แสดงออกถึงความหยิง่ ผยองต่อหน้าของ
เขา แต่ในตอนนี้ ข้ารับรู ้ได้แล้วว่า พวกเราก็ไม่ต่างอะไรจากสวะเท่านั้น
พวกเราอาจจะตายได้เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียวของเขา !!”
เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของ เจียง ว่านชือ นั้น ซุน ยีห่ าน ก็ขนลุกเกรี ยว
ก่อนที่นางจะกล่าวออกมาว่า “ศิษย์พี่ นี่คงจะเป็ นสิ่ งที่ท่านอาจารย์เคย
กล่าวไว้ เหนือฟ้า ยังมีฟ้า”

เหตุผลที่ เจียง ว่านชือ และ ซุน ยีห่ าน ติดตาม ชูเฟิ ง ออกมานั้น


เพราะพวกนางคิดว่า เซว่ เจียน และ เซว่ ยี่ จะต้องมาแก้แค้น ชูเฟิ ง
แน่นอน พวกนางจึงคิดที่จะแอบปกป้อง ชูเฟิ ง ให้ไปถึง ประตู
เคลื่อนย้าย อย่างปลอดภัย แต่พวกนางกลับไม่คาดคิดว่านะได้เห็นความ
แข็งแกร่ งของ ชูเฟิ ง และนัน่ ทําให้พวกนางหวาดกลัวอยูไ่ ม่นอ้ ย

ความจริ งนั้น ด้วยอํานาจพลังวิญญาณของ ชูเฟิ ง เขาไม่ได้


ตรวจสอบพบเพียง เซว่ เจียน และ เซว่ ยี่ เท่านั้น แต่เขาตรวจพบพวก
นางทั้งสองคนอีกด้วย
แต่ดว้ ยการแสดงออกของพวกนางในก่อนหน้านี้น้ นั ทําให้ ชูเฟิ ง
ต้องตัดสิ นใจบางอย่างภายในหัวใจของเขา

ภายใต้สถานการณ์บางครั้ง ที่ตอ้ งอยูต่ ่อหน้าบางคนนั้น การปกปิ ด


ความแข็งแกร่ งก็ไม่ใช่ตวั เลือกที่ดีนกั เพราะถึงอย่างไร ในโลกนี้ผู ้
แข็งแกร่ งเท่านั้นที่จะเป็ นเจ้า และได้รับการยอมรับ นับถือจากคนอื่นๆ
หากว่าอ่อนแอ แม้จะแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนออกมา พวกเขาก็จะ
ได้รับเพียงความเย้ยหยันกลับมาเท่านั้น

ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงตัดสิ นใจว่า ในอนาคตหากเขาต้องการจะเดินทาง


ในทะเลตะวันออกนั้น เขาจะใช้ใบหน้าที่แท้จริ งของเขา หากเขาต้องการ
จะทําสิ่ งใด เขาจะใช้ใบหน้าปลอมของเขา เพียงเพื่อหลบหนี หรื อปะทะ
กับศัตรู ของเขาเท่านั้น
และเขาจะทําให้ทุกคนได้รู้วา่ หวูฉ่ ิ ง ไม่ใช่บุคคลที่พวกเขาควรจะ
ลูบคมด้วย และสักวันหนึ่ง เขาจะให้ทุกคนได้รู้วา่ หวูฉ่ ิง เป็ นเพียงชื่อ
และรู ปลักษณ์ปลอมของ ชูเฟิ ง เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เวลานั้นจะต้องเป็ นเวลาที่ไม่มีผใู ้ ดสามารถข่มขู่หรื อ


ทําอันตรายใดๆ ต่อครอบครัวของเขาได้ภายในทะเลตะวันออก และมัน
จะต้องเวลาที่เขามีความแข็งแกร่ งถึงขีดสุ ด และสามารถสยบหมู่เกาะ
ประหารให้อยูแ่ ทบเท้าของเขาได้แล้วเท่านั้น

ในทะเลที่กว้างใหญ่น้ ี มีพ้นื ที่ขนาดใหญ่อยูท่ างทิศตะวันออก มัน


จึงได้ชื่อว่า เขตทะเลตะวันออก

ทะเลโลหิ ตนิรันดร์น้ นั ตั้งอยูท่ ี่ใจกลางของพื้นที่ทะเล ดังนั้น มันจึง


เป็ นสถานที่ที่ห่างไกลจากผาคนรักอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ในเขตทะเลตะวันออกนั้น มี ประตูเคลื่อนย้าย
กระจายตัวอยูอ่ ย่างมาก หากมีเงิน เรื่ องระยะทางก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

แม้วา่ ชูเฟิ ง จะไม่สามารถเรี ยกได้วา่ เขามัง่ คัง่ มากนัก แต่เขาก็พอมี


ที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมในการจ่ายสําการเปิ ดใช้ ประตูเคลื่อนย้าย อย่างไม่
มีปัญหา

ดังนั้น หลังจากไม่กี่วนั ชูเฟิ ง ก็ได้มาถึง ทะเลโลหิ ตนิรันดร์ อย่าง


รวดเร็ ว

“ไม่แปลกใจเลย ที่จะเรี ยกว่า ทะเลโลหิ ต เพราะนํ้าทะเลที่นี่มนั มีสี


เลือดนี่เอง” ชูเฟิ ง จ้องมองไปยังนํ้าทะเล และอุทานออกมา เพราะนํ้า
ทะเลโดยปกติน้ นั จะเป็ นสี ฟ้า แต่น้ าํ ทะเลที่นี่กลับมีสีแดงฉานคล้ายกับ
เลือด

แม้วา่ มันจะมีสีแดงคล้ายเลือด แต่มนั ก็ไม่ทาํ ให้เขาหวาดกลัวแต่


อย่างใด แต่เขากลับมองว่ามันสวยงามอย่างมาก

แม้วา่ มันจะมีสีเลือด แต่มนั ไม่ได้มีกลิ่นคาวเลือดแม้แต่นอ้ ย มันยัง


ส่ งกลิ่นหอมเล็กน้อยออกมาอย่างต่อเนื่องแทน

นอกจากนี้ คลื่อนลมที่รุนแรงของเขตทะเลตะวันออกนั้นรุ นแรง


มาก มันสามารพสร้างคลื่นยักษ์ที่สูงเทียมฟ้าได้อย่างง่ายดาย แต่ที่ ทะเล
โลหิ ตนิรันดร์ นี้ กลับไม่มีคลื่นลมแม้แต่นอ้ ย พื้นผิวของทะเลเงียบสงบ
จนดูราวกับกระจกสี แดง
โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อมันถูกสาดแสงใส่ ดว้ ยดวงอาทิตย์ แสงสี
แดงระยิบระยับจะปรากฏขึ้นอย่างงดงาม ทําให้ผพู ้ บเห็นต่างถอนหายใจ
ออกมาด้วยความชมเชยไปตามๆ กัน

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////////
B : เนื้อเรื่ องเค้าอธิบายไว้ดีล่ะ มืงอย่านอกเรื่ องจนเสี ยเรื่ องอีกล่ะ ??

A : ขึ้นไปดักก่อน เชียวนะมืง

C : กว่าจะเก่ง ก็คงอีกสักพักใหญ่ๆอ่ะ แต่เดือนหนึ่งได้ 150 ตอน


คงไม่นานหรอกมั้ง นี้เผลอแปปๆก็ไป 600 ล่ะ เวลาช่างรวดเร็ วยิง่ นัก
ช่วงเนื้อเรื่ องจะเข้มข้น ก็ต่อจากนี้ล่ะ

B : เป็ นไงดูคุณ C ซะก่อน แม่งพูดเหมือนแปลเอง

C:..............
บทที่ 607 - ตํานานโบราณ

*ฮึ่ม* ในตอนนั้นชูเฟิ งก็ขมวดคิ้วแน่น เขารู ้สึกไม่สบายใจ จึงใช้พลัง


วิญญาณเพื่อตรวจสอบ

เขารู ้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ก็จึงรี บหันกลับไปมองด้านหลัง และ


นัน่ ก็ทาํ ให้เขาพบว่า มีชายชราคนนึงกําลังบินตามเขามา

ชายชราคนนั้นเป็ นคนตาบอด แม้วา่ เขาจะมองไม่เห็น แต่เสื้ อผ้าของเขา


ก็ดีมาก แม้วา่ มันจะไม่หรู หราแต่มนั ก็สะอาดมาก

โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผมสี ขาวของเขา มันยาวไม่ถึงส้นเท้าเลยทีเดียว ส่ วน


เคราของเขาแม้วา่ จะไม่ยอมแต่กไ็ ม่ได้ส้ นั มันขาวเหมือนหิ มะ แล้วก็
สะอาดมาก
“ฮี่ฮี่ เจ้าหนุ่ม นี่เป็ นครั้งแรกที้เจ้าได้มาเยือนทะเลโลหิ ตนิรันดร์ใช่
หรื อไม่” ชายชรา ตาบอดถามขึ้นด้วยรอยยิม้ เขาเข้ามาหาชูเฟิ งระดับ
พลังของเขาอยูท่ ี่ระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์ และเขายังเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อ
โลกวิญญาณอีกด้วย

แม้วา่ ตาของเขาจะไม่เห็นเขาก็ยงั ใช้พลังวิญญาณตรวจสอบได้ ดังนั้นชู


เฟิ งจึงไม่ได้สงสัยเขาและพูดอย่างสุ ภาพว่า “ ท่านผูอ้ าวุโสนี่เป็ นครั้ง
แรกที่ขา้ ได้มาที่นี่ ข้าอยากทราบว่าที่แห่งนี้พิเศษอย่างไร “

“สถานที่แห่งนี้น้ นั คงอยูม่ าตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ส่ วนเรื่ องต้น


กําเนิดของมันนั้นไม่มีใครสามารถทราบได้ ผูค้ นต่างพูดกันไปต่างๆ
นาๆ หลายรู ปแบบ บ้างก็วา่ มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ บางก็วา่ มันเกิดขึ้น
เพราะปรากฏการณ์ประหลาด แต่ท่ขา้ ชอบที่สุดคือมันเป็ นตํานานจากยุค
โบราณ,” ชายตาบอดลูบเคราะและพูดขึ้น

“โอ้ ตํานานอะไรกัน ผูอ้ าวุโสท่านบอกข้าได้หรื อไม่ ”

เมื่อได้ยนิ เขาพูดว่า ตํานานของสมัยโบราณกาล ชูเฟิ งก็สนใจทันที


เพราะยุคโบราณนั้นเป็ นเวลาที่ห่างมายาวนานมาก มันผ่านมามากกว่า
หลายหมื่นปี แล้ว

มันต่างจากยุคอื่นๆอย่างมาก เมื่อบ่มเพาะทักษะนั้นเริ่ มที่จะรุ่ งเรื่ อย เมื่อง


ผูเ้ ชี่ยวชาญมากขึ้นๆ และ เมื่อสัตว์ประหลาดทั้งหลายนั้นมีมากมายก่าย
กอง มันเป็ นยุคที่ลึกลับ และเต็มไปด้วยเรื่ องราวและตํานาน
อาจะพูดได้วา่ ทุกสายพันธุ์น้ นั ถูกปล่อยไปทัว่ โลก และพระเจ้าก็ได้
ถ่ายทอดทักษะมายังโลก เพื่อให้ได้เรี ยนรู ้กนั และเข้าใจมัน มนุษย์ สัตว์
ประหลาด สัตว์ แม้กระทัง่ พืช ทั้งหมดนั้นสามารถเข้าใจถึงการบ่มเพาะ
ทักษะได้

และด้วยสติปัญญาที่หลักแหลม มนุษย์สามารถครองครองพลังได้อย่าง
เร็ วไว พวกเขาได้รับพลังที่ททําให้พวกเขาแข็งแกร่ งกว่า สายพันธุ์อื่นๆ
และ กลายเป็ นราชาของโลกนี้

อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์อื่น ก็ครอบครองพวกมันได้เช่นเดียวกับมนุษย์


พวกมันต่างจาก สัตว์มหึ มา ต่างจาก สัตว์ร้าย และต่างจาก สัตว์ป่า พวก
มันมีปัญญาที่ไม่แพ้มนุษย์ และยังมีสายเลือดที่บริ สุทธิ์ พวกมันยังรัก
ความสงบสุ ขอีกด้วย
หลังจากได้เข้าใจถึงการบ่มเพาะนั้น พวกมันก็ไม่ได้ทาํ เช่นเดียวกับ
มนุษย์และใช้มนั เพื่อตัวเอง พวกมันเริ่ มที่จะแพร่ กระจายเรื่ องนี้ไปยัง
สายพันธุ์อื่นๆ และ สัน่ สะเทือนตําแหน่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มนุษย์น้ นั
ไม่กล้าที่จะทําอะไร เพราะว่า จากที่ได้ยนิ ความแข็งแกร่ งของพวกมัน
นั้นเหนือกว่ามนุษย์

แต่สายพันธุ์ที่แข็งแกร่ งและทรงภูมิน้ นั ได้สูญพันธ์ไปแล้วเมื่อสมัย


โบราณและไม่มีการปรากฏขึ้นอีกครั้งผูค้ นจึงเรี ยกมันว่า “สิ่ งมีชีวติ ยุค
โบราณ”

สรุ ปกืคือ ในยุคนั้นเต็มไปด้วยความลึกลับที่แม้แต่คนในยุคนี้กต็ อ้ งการ


ที่จะรู ้เรื่ องที่เกิดขึ้นในยุคนั้น

ถึงอย่างนั้นเรื่ องราวที่เล่ากันมานั้นไม่มีใครทราบว่าเป็ นจริ งหรื อเท็จ


เพราะมันเป็ นเรื่ องราวที่ถูกเล่าต่อกันมา และผูค้ นก็เพลิดเพลินที่จะฟัง
มัน แม้แต่ชูเฟิ งก็ไม่มีขอ้ ยกเว้น

“ฮี่ฮี่ เรื่ องมันยาว และ และมันอาจจะพลิกเรื่ องที่เจ้ารู ้มาทั้งหมด ข้า


กลัวว่าเกรงว่าถ้าข้าพูดไปเจ้าจะไม่เชื่อข้าและมองว่าข้าบ้า,” ชายชราพูด
พร้อมรอยยิม้

“เรื่ องของยุคสมัยโบราณ ที่ผา่ นมานานแล้วไม่วา่ จะจริ งหรื อเท็จไม่


มีใครสามารถรู ้ได้” ชูเฟิ งยิม้ พร้อมพูดขึ้น, “ผูอ้ าวุโส ข้าไม่ติท่านหรอก
ข้าพร้อมที่จะฟัง.”

“ฮ่าฮ่า ไม่เลว เจ้าหนุ่ม เจ้าช่างน่าสนใจจริ งๆ ถ้าเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าจะ


เล่าให้ฟัง”
“มันพูดถึงในยุคโบราณ เป็ นเรื่ องเกี่ยวกับสิ่ งมีชีวติ โบราณ พวกมัน
มองสายพันธุ์อื่นเป็ นทาส เป็ นของเล่น และเป็ นสัตว์เลี้ยง เพราะความ
แข็งแกร่ งของมันมนุษย์และสายพันธุ์อื่นๆต้องยอมจํานน และมีชีวติ
อย่างกับหมูกบั หมาภายใต้อาํ นาจของพวกมัน

“อย่างไรก็ตาม มีมนุษย์หลายคนที่ไม่ยอมมีชีวติ เช่นนั้น 1ในนั้น


ฉลาดมาก เขายอมให้ตวั เองถูกจับและกลายเป็ นทาส แต่ดว้ ยสติปัญญา
ของเขา เขาสามารถสร้างความไว้วางใจได้อย่างรวดเร็ ว และกลายเป็ น
ข้ารับใช้ของราชันย์ยคุ โบราณ.”

“แต่ดว้ ย สติปํญญาของเขา ไม่ได้หยุดแค่เพียงนั้นหรื อบอกอีกอย่าง


ว่า ความทะเยอทะยานของเขาไม่หยุดแค่เพียงนั้น เขากลายเป็ นคนสนิท
ของราชันย์ยคุ โบราณ เขาจึงได้รู้การบ่มเพาะของราชันย์โบราณ ทั้งวัน
ทั้งคืน ในวันหนึ่งเขาก็ได้ ครอบครองสิ่ งนั้น และสร้าง วิธีบ่มเพาะ
ให้กบั มนุษย์”

“เขาเริ่ มที่จะบ่มเพาะตนเอง และ ได้รับพลังที่พวกสิ่ งมีชีวติ ยุคโบ


ราณ์มี นอกจากนี้ เขายังพบพลังอย่างอื่นที่ แม้แต่สิ่งมีชีวติ ในยุคโบราณ์
ก็ยงั ไม่มี”

“มันเป็ นพลังที่สามารถเปิ ดประตูไปยังต่างโลก และ เรี ยกสิ่ งมีชีวติ


ต่างโลกมาได้”

“อย่างไรก็ตาม พลังนัน่ ไม่ใช่พลังที่ทุกคนจะมีได้ มันเป็ นพลัง


พิเศษชนิดนึงที่เชื่อมต่อกับบางอย่างที่ถูกเรี ยกว่า พลังวิญญาณ และ
ต่อมาพลังนั้นก็ถูกเรี ยกว่า รู ปแบบวิญญาณ,” ชายชราพูดขึ้น
“สวรรค์ จากที่ท่านพูดมาไม่ได้หมายความว่าคนคนนั้น เป็ นคน
แรกที่สามารถสร้างวิธีบ่มเพาะได้ และยัง เป็ นคนแรกที่มีพลังวิญญาณ
ด้วยอย่างนั้นหรื อ” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ งก็ตกใจอย่างหนักเพราะที่ชาย
ชราเล่ามันแตกต่างกับคนอื่นๆแทบจะพลิกบทเลยทีเดียว

“ชู่ เจ้าอย่าพึ่งขัด ให้ขา้ พูดให้จบก่อน” ชายชราเอานิ้วทาบริ ม


ฝี ปากและสงเสี ยงและบอกใช้ชูเฟิ งบเงียบลงและฟังเขาต่อไป

“พลังของเขานั้นแข็งแกร่ งขึ้น ทุกวันนทุกวัน จนในที่สุดในสัน


หนึ่งเขาสามารถก้าวข้ามสิ่ งมีชีวติ ยุคโบราณไปได้และมีเพียงราชันย์ยคุ
โบราณเท่านั้นที่จะต่อกรได้ “

“เขาต้องการให้มนุษย์น้ นั ได้อยูใ่ นระดับเดียวกับสิ่ งมีชีวติ ยุค


โบราณ แต่เห็นได้ชดั ว่าราชันย์ยคุ โบราณ์น้ นั ไม่เต็มใจ จึงเกิดการปะทะ
กันเกิดขึ้น”

“การปะทะครั้งยิง่ ใหญ่น้ นั กินเวลากว่าหลายวัน และท้ายที่สุด เป็ น


ราชันย์ยคุ โบราณที่ถูกกําจัด”

“หลังจากราชันย์ตายไป เลือดของมันก็ไหลลงไปนํ้าทะเล จนใน


ที่สุดมันก็ได้ไหลท่วมนํ้าทะเลจนทําให้น้ าํ ทะเลมีสีแดง “

“อย่างไรก็ตาม บุคคลที่เอาชนะราชันย์ยคุ โบราณ์น้ นั มาได้ ก็ตอ้ ง


แลกด้วยกับความสู ญเสี ยบางอย่าง ตาหนึ่งข้างของเขาถูกราชันย์น้ นั
ทําลายไปและไม่มีวนั ที่จะฟื้ นคืนได้.”

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/
A : นี้เป็ นตํานานของทะเลโลหิ ตนิรันดร์ แต่เกี่ยวพันกับ หยวน รู่ ว !!!

B : เอ้ยๆ!!! อย่าพึ่งสปอย เด๋ วตบควํ่า รออ่านสนุกกว่า


บทที่ 608 - บรรพบุรุษแห่งโชคชะตา

“ถึงแม้วา่ เขาจะเสี ยดวงตาของเขาไป มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขา


จะสู ญเสี ยจิตวิญญาณในการต่อสู ไ้ ป นอกจากนี้มนั ยังทําให้เขาได้เห็น
โลกที่ชดั เจนยิง่ ขึ้นด้วย”.

“ดังนั้นเขาจึงตัดสิ นใจปลดปล่อยมนุษย์ทุกคนบนโลก และ เขา


ไม่ได้ตอ้ งการให้มนุษย์น้ นั เท่าเทียมกับสิ่ งมีชีวติ ยุคโบราณ แต่เขา
ต้องการใช้มนุษย์น้ นั กลายเป็ นราชันย์และกฎของโลกนี้”
“ดังนั้นเขาจึงถ่ายทอดวิธีการบ่มเพาะให้กบั มนุษย์และสอนให้
มนุษย์กลายเป็ นผูฝ้ ึ กตนเพื่อต่อการกับสิ่ งมีชีวติ ยุคโบราณ พวกเขาเริ่ ม
ตั้งแต่ ภูมิภาคทะเลตะวันออกและ ในที่สุดสิ่ งมีชีวติ ยุคโบราณก็ถูกกําจัด
ไป และสร้างยุคสมัยของมนุษย์ข้ ึน

“และคําถามของเจ้านั้น ถูกต้องแล้ว เขาเป็ นคนคิดค้นวิธีการบ่ม


เพาะเหล่านั้น และรวมไปทั้งรปแบบวิญญาณด้วย แต่ผลงานของเขา
ไม่ได้มีแค่น้ นั ผลงานของเขานั้นรวมไปถึงการเปลี่ยนชะตาของมนุษย์
ดังนั้นทําไมคนรุ่ นหลังถึงเรี ยกเขาว่าบรรพบุรุษแห่งโชคชะตา,” ชาย
ชราตาบอดพูดขึ้น

“บรรพบุรุษแห่งโชคชะตาอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นก็หมายความวาทะเล
โลหิ ตนิรันดร์นี่ คือสถานที่ที่เขาเอาชนะราชันย์ยคุ โบราณ์ได้อย่างนั้น
หรื อ นี่หมายถึง” ชูเฟิ ง พูด
ชายตาบอดนั้นพูดถูกฉากราวกับเขาได้เห็นด้วยตัวเอง เพราะอย่างนั้น ชู
เฟิ งจึงไม่รู้วา่ มันเป็ นตํานาน และรู ้สึกว่ามันอาจจะเกิดขึ้นจริ ง ถ้าให้เขา
เลือก ชูเฟิ งอาจจะเลือกเชื่อชายตาบอดก็เป็ นได้

“ฮี่ฮี่ มันเป็ นเพียงแค่ตาํ นาน ที่เล่ากันเพราะความสนุกเท่านั้น อย่าไป


คิดมากเลย “.

“แต่เจ้ามีพรสวรรค์ที่สุดยอดเสี ยจริ ง อายุเพียงแค่น้ ีกบ็ ่มเพาะได้ถึง


ระดับนี้แล้ว ที่นี่คงเหมือนกับแดนศักดิ์สิทธิ์ของการบ่มเพาะ”

“โดยเฉพาะอย่างยิง่ พวกเราที่มีระดับอาณาจักรสวรรค์มนั ช่างมี


ประโยชน์มากจริ งๆ อย่างไรก็ตามเจ้าไม่สามารถบ่มเพาะที่นี่ได้นานนัก
ถ้าเจ้ารู ้สึกเจ็บปวดเมื่อไรก็ให้รีบออกทันที และค่อยมาใหม่คราวหลัง
“อ่า ใช่ เมื่อเร็ วๆนี้ ทะเลโลหิ ตนิรันดร์น้ นั มีเรื่ อยเกิดขึ้น ดังนั้นอย่า
เข้าไปลึกมาก และคอยระวังสัตว์ประหลาดให้ดีดี ฮี่ฮี่.” ชายชราตาบอด
พูดขึ้นจากนั้นก็จากไป

เมื่อเห็นชายชราห่างออกไป ชูเฟิ งก็รู้สึกแปลกๆ จึงใช้พลังวิญญาณ


ตรวจสอบชายคนนั้นและพบว่า ชายคนนั้นมีพลังอยูท่ ี่ระดับ 8
อาณาจักรสวรค์จริ งๆ ไม่ได้หลอกลวง

แต่ เขาก็รู้สึกว่าชายชราคนนี้น้ นั ไม่ธรรมดา แต่ชูเฟิ งก็ไม่ได้มน่ั ใจมาก


นัก เพราะทั้งหมดนัน่ เป็ นสัญชาตญาณของเขา
“โอ้ย น้องชาย อย่าไปฟังตาแก่นน่ั เลย เขาก็แค่คนบ้าคนนึงเท่านั้น
แหละ.”

“ถูกต้องเขาอยูท่ ี่นี่มาหลายปี แล้ว เมื่อมีหน้าใหม่เข้ามาที่นี่ เขาก็จะ


เล่าเรื่ องมัว่ ๆให้ฟัง.”

“อ่า เพราะเช่นนั้นแหละ ข้ารู ้วา่ เจ้าเป็ นคนฉลาด และแยกแยะได้วา่


ควรเชื่อหรื อ.”

“ถูกต้อง น้องชายท่าทางของเจ้าฉลาดนัก เจ้าจะไปเชื่อคําพูดมัว่ ซัว่


ของชายตาบอดได้อย่างไร เรื่ องการบ่มเพาะแน่นอนว่ามันเป็ นพรจาก
สวรรค์ ใครๆก็รู้ มันจะถูกสร้างโดยคนคนหนึ่งได้อย่างไร”
ในตอนนั้น ก็มีกลุ่มคนหนุ่มและสาวบินผ่านไป อายุของพวกเขานั้น
ใกล้เคียงกับชูเฟิ ง อาจจะมากกว่าเขาไม่กี่ปี แต่การบ่มเพาะของพวกเขา
อยูใ่ นระดับต้นๆของอาณาจักรสวรรค์ นัน่ เป็ นเหตุผลที่พวกเขาเข้ามา
เตือนชูเฟิ งก็เพราะว่าพวกเขารู ้ถึงพรสวรรค์ของชูเฟิ ง จึงต้องการเป็ น
เพื่อนกับเขา”

“เรื่ องของยุคโบราณนั้นมันผ่านมานานแล้ว ใครจะสามารถบอกได้


เล่าว่าเรื่ องใดจริ งเรื่ องใดปลอม” ชูเฟิ งยิม้ เบาๆ เขาขี้เกียจที่จะพูดคุยกับ
คนที่ตอ้ งการผลประโยชน์จากเขาดังนั้นเขาจึงจากไป และมุ่งหน้าไปยัง
ส่ วนลึกของ ทะเลโลหิ ตนิรันดร์

“บัดซบ เรามาเตือนเขาดีดี เขาก็ไม่สนใจและเพิกเฉยพวกเราอีก เขา


ยังหยิง่ ยิง่ หนัก.” เมื่อเห็นชูเฟิ งจากไปโดยไม่สนใจพวกเขา ชายในกลุ่ม
นั้นคนนึงก็พดู ออกมาด้วยความไม่พอใจ
“เขายิง่ เพราะเขามีความสามารถพอที่จะหยิง่ ได้ อย่าไปว่าเขาเลย คน
เช่นเขาน่าจะมาจากมหาอํานาจที่หนึ่งหรื อมีอาจารย์ที่ไม่ธรรมดา ถ้าเขา
ได้ยนิ เจ้าพูดว่าเขา เราจะไม่ช่วยเจ้าเด็ดขาด.”

“ถูกต้อง อย่าลากพวกเราไปด้วยเพียงเพราะปากของเจ้า.”

สหายของชายคนนั้นพูดขึ้น มันทําให้เขาพูดไม่ออกและละทิ้งความ
โกรธนัน่ ทําหมด ที่เพื่อนๆของเขาพูดนั้นไม่ผดิ เพราะคนในสถานที่
เช่นนั้น ตัดสิ นกันด้วยระดับพลัง พวกเขาบางคนอาจจะใจแคบ และ
ชอบดูถูกคนก็เป็ นได้

ทะเลโลหิ ตนิรันดร์ นั้นเป็ นสถานที่ที่ใหญ่มาก และอยูภ่ ายในเขตทะเล


มันไม่มีจุดเคลื่อนย้ายอย่างทัว่ ถึงอย่างเช่น ส่ วนกลางของมัน ถ้าชูเฟิ ง
ต้องการพบ ชิวฉุย ฟู่ หยาน ที่สถานที่ที่มีสตั ว์ประหลาดอยูม่ ากมาย เขาก็
ต้องฝ่ าเข้าไป

ตามทางนั้น ชูเฟิ งได้ทาํ ความเข้าใจกับโคตรสร้างของ ทะเลโลหิ ตนิ


รันดร์ เขาก็ได้รู้วา่ มันไม่ใช่เกาะในทะเล และแม้แต่จุดเคลื่อนย้ายนั้นก็ยงั
ถูกสร้างบนอากาศ

ที่แห่งนี้ เป็ นสถานที่ที่พิเศษมาก พวกมันเหมือนกับถูกสร้างโดยผู ้


เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่ทรงพลัง พวกเขาได้สร้างเป็ นเกราะเล็กๆ และมี
พื้นที่ขนาดใหญ่อยูใ่ นเกราะนั้น

พื้นผิวทะเลสี แดงราวกับเลือดและเกาะด้านล่างที่มีเมฆ ลอยอยูด่ า้ นบน


อาจบอกได้วา่ เป็ นภาพที่หาดูได้ยากภาพหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การบ่มเพาะในทะเลโลหิ ตนิรันดร์น้ นั สามารถบ่มเพาะได้
โดยอิสระ แต่ถา้ เขาต้องการอาศัยอยูท่ ี่นี่ ก็ยอ่ มมีค่าใช้จ่าย หากคัดค้านก็
จะถูกขับไล่ออกไป

นัน่ เป็ นเพราะว่าทะเลโลหิ ตนิรันดร์น้ นั ได้ถูกครองไว้แล้ว ก่อนหน้านี้


มันเคยเป็ นของพรรคมารทะลายราตรี แต่ในตอนนี้มนั เป็ นของหมู่เกาะ
ประหาร

เมื่อพวกมันเห็นว่า พรรคมารทะลายราตรี เกิดการแตกแยก และ วิหาร


เพลิงผลาญสวรรค์ได้หายไป หมู่เกราะประหารก็ราวกับเป็ นดวงอาทิตย์
ที่อยูบ่ นท้องฟ้า พวกเขาราวกับเป็ นผูน้ าํ ของภูมิภาคทะเลตะวันออก
“สถานที่แห่งนี่ช่างมีชีวติ ชีวาอย่างแท้จริ ง สมแล้วที่ได้รับชื่อว่า
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการบ่มเพาะ ข้าเชื่อว่าถ้าสัตว์ประหลาดไม่ปรากฏตัว
ขึ้นต้องมีผคู ้ นเข้ามาบ่มเพาะมากกว่านี้แน่นอน.”

หลังจากผ่านไปหลายชัว่ โมง ชูเฟิ งก็เข้ามายังพื้นที่ใจกลางของทะเล


โลหิ ตนิรันดร์ได้ สถานที่แห่งนี่บอกได้วา่ มีพลังงานที่แสนวิเศษอยูเ่ ต็ม
ไปหมด

อย่างไรก็ตาม เพราะมีสตั ว์ประหลาดปรากฏก่อนหน้านี้ จึงทําให้มีคนที่


เข้ามาบ่มเพาะถูกฆ่า เมื่อชูเฟิ งทอดสายตามองออกไป ก็ได้เห็นร่ างนับ
ไม่ถว้ นอยูเ่ ต็มที่แห่งนี้ ดูจากคร่ าวๆแล้วน่ามีหลายพันคน และนัน่ ก็แค่
ในระยะสายตาของชูเฟิ งเท่านั้น
*ซู่ม ซู่ม ซู่ม* ในตอนนั้นก็มีเสี ยงดังก้องดังขึ้น ห่างจากชูเฟิ งหลายไมล์
นํ้าทะเลที่สงบสุ ขก็เกิดการสัน่ ไหว และเกิดคลื่นลมที่บา้ คลัง่ ขึ้นทําให้
สถานที่แห่งนี้วนุ่ วาย

“อ๊า สัตว์ประหลาดมาแล้ว หนีเร็ วเข้า”

*วูบ่ ~~~~*

เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลง ผูค้ นหลายคนจึงเริ่ มที่จะหนี มีผคู ้ นหลายคน


บินขึ้นสู งบนท้องฟ้าและหนีไป อย่างไรก็ตามชูเฟิ งนั้นมุ่งหน้าต่อไป
และบินไปยังจุดที่เกิดคลื่นขึ้นมา

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////////
A : เราว่าชายตาบอดคนนี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับตํานานที่เล่ามาหรื อเปล่า
?

B : ส่ วนใหญ่พวกที่ดูอ่อนๆ บ้าๆบอๆ มักจะมีอะไรพิเศษด้วยสิ ก็ไม่


แน่หรอก แล้วที่วา่ ประมุขของทะเลตะวันออก คือ หมู่เกาะประหาร อีก
ไม่นานหรอก จะมีประมุขคนใหม่

A : ได้ข่าวว่า ชูเฟิ งร่ วมมือกับพรรคมารทลายราตรี อัดหมู่เกาะ


ประหารหนิ ไม่แน่ใจว่า ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน กับ คนที่ถอนพิษให้จื่อหลิง เข้า
ร่ วมด้วยอ่ะป่ าวววว ??

C : ฉลาดไม่เบา แอบสปอยว่าถอนพิษได้วา่ งั้นเถอะ หนทางมันไม่


หวานหมูขนาดนั้นหรอก

B : ถึงไม่ง่ายแต่กไ็ ม่ยาก

ประกาศจากทีมงาน
วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559 ทีมแปลทั้งทีม ขอลาหนึ่งวัน
ครับผม

พวกเราต้องกราบขอประทานอภัยทุกๆท่านด้วยนะคับ

บทที่ 609 - ตุก๊ ตาในมหาสมุทร

ในตําแหน่งกึ่งกลางของทะเลโลหิ ตนิรันดร์ นํ้าทะเลสี เลือดที่เดิมสงบนิ่ง


พลันกระเพื่อม! ตามด้วยการก่อตัวของคลื่นขนาดยักษ์ที่สูงหลายสิ บฟุต
พวกมันดูราวกับสัตว์ป่าที่ดุร้ายกู่ร้องคํารามกึกก้อง

แต่เหตุผลหนึ่งที่เกิดคลื่นเช่นนี้ข้ ึนนั้นไม่ได้เกิดจากสัตว์ร้ายใดๆ แต่มนั


เกิดจากคนเพียง 2 คน ใช่แล้ว!! “ชายวัยกลางคน”
ชายวัยกลางคน 2 คนนั้น คนนึงมีรูปร่ างใหญ่โต เต็มไปด้วยขนบน
ใบหน้า แม้กระทัง่ มือทั้งสองข้างยังมีขนสี ดาํ ด้วย ถ้าสังเกตุดีๆจะเห็น
เป็ นคนๆนึง แม้วา่ เขาจะเหมือนกับกอริ ล่ายักษ์กต็ าม

แม้วา่ คนผูน้ ้ ีจะมีลกั ษณะเถื่อนๆเหมือนคนป่ า แต่การบ่มเพาะของเขานั้น


ไม่ได้อ่อนแอเลย คลื่นพลังที่เล็ดลอดออกจากตัวเค้าคือพลังอาณาจักร
จ้าวสงคราม ชายร่ างใหญ่ที่มาพร้อมชายวัยกลางคนคือระดับหนึ่งของ
จ้าวสงคราม

แม้วา่ คนอื่นจะเป็ นชายวัยกลางคนเหมือนกัน แต่เขาถือว่าเป็ นชายวัย


กลางคนที่ดูแลตัวเองค่อนข้างดี ผิวพรรณของเขาดูอ่อนเยาว์เป็ นอย่าง
มาก ใบหน้าเกลี้ยงเกลาแลดูสง่างาม มันชัดเจนมากเมื่อเทียบกับชายร่ าง
ใหญ่ที่เหมือนคนป่ าอีกคนในแง่ของลักษณะภายนอก
เขาไม่ได้อ่อนแออย่างแน่นอน แม้วา่ เค้าจะมีลกั ษณะที่ดูอ่อนโยนก็ตามที
ในทํานองเดียวกันเขาเป็ นถึงระดับหนึ่งของจ้าวสงครามและในขณะนี้
เขาและชายร่ างใหญ่อยูร่ ะหว่างการต่อสู ท้ ี่รุนแรง การเปลี่ยนแปลง
ภายในสถานที่แห่งนี้ท้ งั หมดล้วนเกิดจากเขาทั้งสองคน

แม้วา่ การต่อสู ข้ องพวกเขาจะทวีความรุ นแรงและยังไม่ทราบผลการต่อสู ้


ที่แน่ชดั ถ้าสังเกตุดีๆมันไม่ยากที่จะบอกว่าพวกเขาไม่ใช่ศตั รู ดูเหมือน
พวกเขากําลังฝึ กเสี ยมากกว่า

มันเป็ นเพราะพวกเขาสวมเสื้ อผ้าเหมือนกัน ด้านหลังเสื้ อคลุมของพวก


เขา มีตวั หนังสื อขนาดใหญ่ที่แพรวพราวและชัดเจน “ หมู่เกาะ
ประหาร”!
“มันคือคนจาก หมู่เกาะประหาร เช่นนั้นรึ ?!”

ชูเฟิ งเห็นสัตว์ประหลาดปรากฏตัวขึ้นเขาก็รีบบินไปอย่างรวดเร็ ว แต่


หลังจากนั้นเขาพบว่ามันคือการวิวาทระหว่างระดับหนึ่งของจ้าว
สงคราม โดยเฉพาะอย่างยิง่ ที่พวกเขาเป็ นคนที่มาจาก หมู่เกาะประหาร
ช่วยไม่ได้ที่เขาจะหน้ามุ่ย ร่ องรอยความไม่พอใจเกิดขึ้นในดวงตาของ
เขาอย่างฉับพลัน

สถานที่น้ นั เป็ นจุดศูนย์กลางของทะเล นอกจากนี้ยงั เป็ นสถานที่ๆคน


จํานวนมากไปบ่มเพาะพลัง เมื่อการต่อสู ท้ ี่รุนแรงของพวกเค้าสิ้ นสุ ดลง
มีเพียงไม่กี่คนที่บาดเจ็บจากเศษเสี้ ยวพลังการต่อสู ข้ องพวกเขา

แต่กช็ ดั เจนแล้วว่าพวกเขาไม่ได้ใส่ ใจในเรื่ องนี้ แม้วา่ จะมีการเรี ยกขาน “


หมู่เกาะประหาร ” ว่าเป็ นคนที่ชอบธรรม แต่ในความเป็ นจริ งแล้ว
ตัวตนของพวกเขาก็ไม่ได้ดีมากนัก อย่างน้อยๆในสายตาของทุกๆคน
ที่นี่บุคคลทั้งสองนี้ไม่ได้เป็ นคนดีเลย

“คนจาก หมู่เกาะประหาร แข็งแกร่ งเป็ นอย่างมาก!! บางทีข้นั แดน


สวรรค์ของพวกเรายังมิอาจเทียบได้ แล้วก็เป็ นเช่นนั้นจริ งๆ...โถ่เอ้ย!!
ฮึ่ยยย….” หญิงตาบอดโง่เง่า ที่อยูใ่ กล้กบั ชูเฟิ งจ้องมองด้วยหัวใจที่
เต้นจนจะทะลุออกมาของเธอ ขณะที่เธอมองไปยังสองอัจฉริ ยะจาก หมู่
เกาะประหาร เธอยกย่องพวกเขาอย่างที่สุด ใบหน้าของเธอแดงกํ่าพร้อม
กับนํ้าลายกําลังไหลออกมาจากปาก

“ฮึ่ม.. เมื่อสัตว์ประหลาดปรากฏขึ้น ทําไมเราจะไม่เห็นพวกมันห


ล่ะ? ตอนนี้เจ้าสัตว์ประหลาดนัน่ ไม่ได้อยูท่ ี่นี่ พวกมันกําลังอวดเบ่งกัน
อยู่ ในฐานะผูจ้ ดั การของที่นี่มนั ก็ไม่ได้สนใจว่าพวกมันไม่รักษาความ
สงบในสถานที่แห่งนี้ แต่ตอนนี้พวกมันกําลังสร้างความเสี ยหายด้วยตัว
มันเอง นี่ยอ่ มทําให้คนไม่พอใจ...”

แต่เมื่อเทียบกับการชื่นชมและการสรรเสริ ญของคนตาบอดบางคน ยังมี


อีกหลายคนที่แสดงความไม่พอใจ ข้างหลังชูเฟิ งชายคนนึงที่เปี ยกโชก
ไปด้วยนํ้าทะเลกําลังสาปแช่ง มองไปที่การปรากฏตัวของชายวัย
กลางคนทั้งสอง เขาได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนจากเสี้ ยวความเสี ยหาย
จากการต่อสู ก้ นั ของทั้งสอง เช่น การต่อสู ท้ าํ ให้เกิดคลื่นนํ้าพุง่ มาใส่ เขา

“อะฮึ่ม!”

ในจังหวะนั้นชายที่มีใบหน้าเย็นชา หันมาอย่างเย็นชาทางชายที่นง่ั อยู่


หลังชูเฟิ ง เขาได้ยนิ คําสาปแช่งนั้น
แต่กไ็ ด้ยนิ ไม่มากนัก เขาหันไปมองรอบๆ เขาแผ่พลังจ้าวสงคราม ซึ่ ง
เกิดจากความคิดของเขาออกไป

*ตูม….ตูม….ตูม*

ความกดดันแผ่ออกมาถึงก่อนที่พลังวิญญาณจะตามมา ความกดดันอัน
บ้าคลัง่ ที่เกิดอย่างฉับพลันส่ งผลให้น้ าํ ทะเลด้านล่างระเบิด กลายเป็ น
กําแพงสี เลือดสู งหลายสิ บฟุตกดดันไปยังชูเฟิ งและคนอื่นๆ

“โถ่เอ้ย!!! ไอ้บา้ นี่ นี่มนั ไม่ตลกเลยนะเว้ย!!!” ในตอนนั้นเองชายที่


เป็ นคนสาปแช่งหันมองไปรอบๆแล้วเริ่ มวิง่ หนี แม้วา่ คลื่นนํ้าทะเลจะ
ไม่ได้แข็งแกร่ งมากนักแต่พลังวิญญาณที่ถูกแผ่ออกมานั้นไม่สามารถ
ต้านรับได้ ถ้าปะทะตรงๆเขาจะบาดเจ็ดสาหัสแต่พลังที่มาปะทะนั้นต้อง
ไม่รุนแรงมาก ในทางกลับกันถ้าพลังรุ นแรงชีวติ เขาคงจะหาไม่

“แย่แล้ว!!!! หนีเร็ ว~~” ในขณะเดียวกันผูค้ นที่อยูแ่ ถวนั้นพากัน


หนีอย่างสุ ดชีวติ เพื่ อหลบให้พน้ ระยะ แม้แต่หญิงตาบอดโง่เง่า ก็ไม่เว้น
เธอเก็บของทุกอย่างพร้อมทั้งรี บโกยในทันที

ชายที่มีใบหน้าเย็นชาไม่ได้จู่โจมเฉพาะคนที่ดูถูกเค้าแต่เป็ นทุกคนที่อยู่
ในสถานที่น้ นั ทั้งหมด ถ้าพวกมันไม่รีบหนีกต็ อ้ งได้รับผลกระทบ
แน่นอน

“แข็งแกร่ งยิง่ นัก...เนี่ยหน่ะหรอคนที่มาจาก หมู่เกาะประหาร?!”


ใครคือชูเฟิ ง? เขามองผ่านชูเฟิ งไปยังเป้าหมายของเขา เขาไม่ได้
วางแผนที่จะฆ่าชายคนนั้นหรื อคนอื่นๆ ด้วยความแข็งแกร่ งของเค้าถ้า
เค้าลงมือระยะเพียงเท่านี้เขาหนีไม่รอดแน่

ปัจจุบนั ชายใบหน้ายุติธรรม กําลังยืนคุมเชิง เหมือนจะทําให้ดูน่า


กลัว แต่มีหรื อที่ ชูเฟิ งจะกลัว ขณะนั้นคนอื่นๆกําลังเผ่นหนีอย่างตาลี
ตาเหลือก

แม้วา่ เค้าจะไม่พอใจชายวัยกลางคนคนนั้นมาก แต่ชูเฟิ งไม่ตอ้ งการมี


ปัญหากับคนที่มาจาก หมู่เกาะประหารในตอนนี้ เพราะในตอนนี้มนั ยัง
ไม่ถึงเวลา และเขาก็ยงั มีพลังไม่มากพอที่จะปะทะกับคนของหมู่เกาะ
ประหาร

เมื่อคิดถึงจุดนี้ชูเฟิ งทนไม่ได้กบั ความไม่พอใจในหัวใจของเค้า ชูเฟิ ง


มองไปรอบๆและเตรี ยมตัวจะจากไป

“ยี้~ห้า...ยี้~ห้า”

“สนุกสุ ดๆเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ~~~~”

“โอ้! อย่าหนีสิ! นี่มนั สนุกมากเลยนะ”

แต่ในขณะที่ชูเฟิ งหันมองไปรอบๆและเตรี ยมตัวจะจากไปนั้น เขาก็ได้


ยินเสี ยงจากบริ เวณใกล้ๆกับคลื่นยักษ์ เป็ นเสี ยงของเด็ก! ถูกต้อง..นัน่
เป็ นเด็กอย่างแน่นอน
“รอเดี๋ยว!!!” มีบางอย่างผิดปกติ ชูเฟิ งหันไปมองรอบๆทันที เขา
พบตุก๊ ตาตัวเล็กๆบนคลื่นยักษ์ที่ถูกพลังพลักดันสู งขึ้นจนสามารถแตะ
ขอบฟ้าได้

เป็ นผูห้ ญิง!!...ดูอ่อนเยาว์ยง่ิ นัก..อายุกไ็ ม่น่าจะเกินสามปี ในขณะนั้นเธอ


ยืนอยูเ่ หนือคลื่นยักษ์ อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้มีร่องรอยความกลัวแม่แต่
น้อย แต่เธอกลับสนุกสนานร่ าเริ งหัวเราะคิกคักที่ได้ขี่คลื่นเหล่านั้น

แม้วา่ สาวน้อยจะมีความกล้าหาญอยูบ่ า้ ง แต่หลังจากชูเฟิ งได้ตรวจสอบ


เธอเขาพบว่าเธอเป็ นเพียงเด็กธรรมดาๆที่ไม่มีพลังการบ่มเพาะใดๆ

สําหรับเด็กสาวเช่นเธอไม่ตอ้ งพูดถึงพลังยุทธ์ที่กาํ ลังใกล้เข้ามาเบื้องหลัง


คลื่นยักษ์ เพียงแค่คลื่นจํานวนมหาศาลที่ถาโถมเข้ามาบนตัวเธอก็เพียง
พอที่จะบดขยี้เธอ

แทบจะในทันทีหวั ใจของชูเฟิ งสัน่ ไหวด้วยความเห็นอกเห็นใจ ถ้าเธอ


เป็ นผูบ้ ่มเพาะพลังเขาจะไม่ยงุ่ กับเรื่ องนี้ แต่สาํ หรับชีวติ น้อยๆนี้ ชูเฟิ ง
จะ….

*วูบบบ* คิดถึงจุดนั้นชูเฟิ งไม่ลงั เล เขาไม่เลือกที่จะหลบหนีคลื่นยักษ์


เขากลับพุง่ เข้าไปยังคลื่นยักษ์แทน

*วูวววว* ชูเฟิ งใช้ทกั ษะเร้นลับ มังกรทะยาน ความเร็ วของเค้าพุง่ ขึ้นสู ง


ผิดปกติ ในท้ายที่สุดเขาก็สามารถช่วยเด็กสาวจากคลื่นยักษ์ก่อนที่มนั จะ
บดขยี้เธอ
แต่ในขณะที่เค้าช่วยเด็กสาว พลังวิญญาณที่อยูใ่ กล้เคียงก็ถาโถมมาที่เค้า
แม้เค้าจะเพิม่ ความเร็ วขึ้น แต่ชูเฟิ งก็ไม่สามารถจะหลบเลี่ยงมันได้

“ดูนน่ั !! นัน่ ใช่คนบ้าหรื อเปล่า? ทําไมเค้าไม่หนี แต่กลับวิง่ เข้าไป


หาพลังนัน่ แทน!”

“เดี๋ยว!! เค้าช่วยเด็กผูห้ ญิงคนนั้น!”

“อาาา...เค้าเป็ นดีจริ งๆ แต่น่าเสี ยดายยิง่ นัก คนดีมกั อายุส้ นั ….”


อํานาจพลังที่พงุ่ พล่านรวมถึงการกระทําของชูเฟิ งกระตุน้ ความสนใจ
ของทุกคน สายตาของพวกเขาสัน่ เคลือพร้อมกับถอนหายใจ เฮ้อ..ชูเฟิ ง
กับเด็กผูห้ ญิงคนนั้นไม่รอดแน่นอน…..

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////
A : เสี่ ยวยู๋ ของพีเ่ ฟิ งมาแล้ว เด็กคนนี้ไงที่พวกเราพูดถึง

B : ชูเฟิ งรักและเอ็นดูอย่างกับน้องสาวที่เกิดจากท้องพ่อท้องแม่
เดียวกัน แต่ดนั คิดว่านางเป็ นเด็กธรรมดา แต่บอกไว้เลย โครต. . . .

A : ยังไงว่ะ ยังไม่เห็นนางแสดงพลังไรเลย
B : เด๋ วก็ได้รู้ สปอยมาก เด๋ วจะโดนท่านฮาย ทีบหน้าเอา!!!

C : สาว่าก่อนหน้านี้พวกมึงสปอยกันไปล่ะ . . . .

บทที่ 610 - ปะทะจ้าวสงคราม

ในสถานะการณ์เช่นนี้ชูเฟิ งไม่ได้ตระหนกมากนัก แม้วา่ พลังจ้าว


สงครามจะแข็งแกร่ งมาก แต่ดว้ ยความแข็งแกร่ งของเค้าเค้าไม่สามารถ
รับมือกับมันได้

เมื่อคิดถึงจุดนี้ดวงตาของชูเฟิ งสาดประกาย ด้วยสายฟ้าทั้งสามเส้นมัน


เพิ่มพลังให้ร่างกายชูเฟิ ง ชูเฟิ งกําหมัดแน่นข้างนึงแล้วเหวีย่ งมันออกไป

ด้วยการระเบิดอย่างรุ นแรงทําให้เกิดระรอกคลื่นและฟองอากาศกระจาย
ออกไปทัว่ ทุกพื้นที่ คลื่นนํ้าขนาดมหึ มารวมกับพลังจ้าวสงครามอันบ้า
คลัง่ แต่มนั ก็ถูกทําลายลงด้วยหมัดของชูเฟิ ง

“โอ้..สวรรค์!! นายเห็นนัน่ มั้ย เด็กคนนั้นทลายการโจมตีของจ้าว


สงคราม!”

“ทรงพลังยิง่ นัก! เขาอยูเ่ พียงขั้นแดนสวรรค์เท่านั้น การบ่มเพาะ


ของเค้าแข็งแกร่ งขนาดไหนกันนะ? เค้าสามารถต่อกรกับพลังวิญญาณ
ของผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวสงครามได้อย่างไร? หากคิดดีๆแล้วพลังระดับจ้าว
สงครามและพลังสวรรค์น้ นั มีระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้ นเชิง!!”

การกระทําของชูเฟิ งก่อให้เกิดความโกลาหลอย่างไม่ตอ้ งสงสัย ทุกคนที่


เห็นพากันอ้าปากกว้างจนคางแทบจะตกถึงพื้น แม้แต่ดวงตาของพวกเขา
ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“วูห้ ูว้ ว~~ พี่ใหญ่! ท่านแข็งแกร่ งยิง่ นัก!”

มองไปที่คลื่นนํ้าที่สาดกระจายไปทัว่ ท้องฟ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด ถึง


กระนั้นคลื่นนํ้าเหล่านั้นก็ไม่ได้กระทบตัวเธอเลยแม้แต่นอ้ ย เธอถูก
ป้องกันโดยชั้นของแสงสี ม่วง เธอกระพริ บตากลมโตสุ กใสของเธอและ
อุทานออกมา

อย่างไรก็ตามชูเฟิ งไม่ได้มีเวลามาสนใจเด็กหญิงในอ้อมกอดของเค้า
เพราะเขารู ้สึกถึงสายตาที่เหี้ ยมโหดไร้ความปราณี ท้ งั สองจ้องมองมาที่
เค้า
ชูเฟิ งเงยหน้ามองไปยังนํ้าทะเลสี เลือดที่แตกกระจายราวกับพายุ เขาเห็น
สองผูเ้ ชี่ยวชาญจาก หมู่เกาะประหาร ที่หยุดการต่อสู ้ พวกเขาทั้งสอง
มองมายังชูเฟิ งด้วยสายตาที่ไม่พอใจเป็ นอย่างยิง่

“น้องชาย...พวกเราไร้ซ่ ึงความเกลียดชังต่อกัน...เหตุใดเจ้าถึงโจมตี
ข้าโดยไร้เหตุผลเช่นนี้?” ชายใบหน้ายุติธรรม ถามขึ้นทันทีดว้ ยนํ้าเสี ยง
ที่ไม่พอใจขณะที่เขาประสานมือไปด้วย ชัดเจนแล้วว่าการที่ชูเฟิ งทําลาย
การโจมตีของเขานั้นทําให้เขาโกรธ

“ท่านกําลังใช้ถอ้ ยคําข่มขู่อยูห่ รื อไม่...ชัดเจนแล้วว่าท่านมี


วัตถุประสงค์ที่จะทําร้ายผูบ้ ริ สุทธิ์ และตอนนี้ท่านพูดว่าข้าโจมตีท่าน?
ถ้าการโจมตีของไม่ได้ช่วยแม่ตุก๊ ตาน้อยนัน่ ข้าคงไม่ใส่ ใจคนเช่นท่าน”
ชูเฟิ งไม่ได้กลับลงมา กลับกันเขาชี้ไปที่หน้าของชายคนนั้นพร้อมกับ
ตําหนิ นัน่ เป็ นธรรมชาติของชูเฟิ ง
มันไม่สาํ คัญว่าพวกนั้นจะอ่อนแอเท่าใด เมื่อแสดงออกด้วยสี หน้าที่ดี
และเหมาะสม ชูเฟิ งจะให้ความเคารพพวกมัน แต่ถา้ แสดงออกถึงสี
หน้าที่ไม่สบอารมณ์ ไม่สาํ คัญว่าพวกมันจะแข็งแกร่ งขนาดไหน ชูเฟิ ง
ย่อมไม่ให้ความเคารพพวกมันเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิง่ คนที่มีความตั้งใจแต่แรก ชูเฟิ งจะไม่แสดงถึงความ


อ่อนแอต่อหน้าพวกเขา หลังจากนั้นไม่สาํ คัญว่าคุณจะทําอะไร พวกเขา
จะไม่ลืมคุณ ดีกว่าการดูแคลนตัวเอง เหตุใดถึงไม่ดึงจิตวิญญาณ
ออกมาหล่ะ

“เจ้าสารเลวน้อย!! เหตุใดเจ้ากล้าพูดกับข้าเช่นนี้? ถ้าข้าไม่ให้


บทเรี ยนแก่เจ้า เจ้าคงไม่เห็น คนหมู่เกาะประหาร ของข้าอยูใ่ นสายตา!!”
ในจังหวะนั้นชายร่ างใหญ่ป่าเถื่อน ได้โจมตีเข้ามา เขาฟาดฝ่ ามือออกไป
ท้องฟ้าพลันเปลี่ยนสี อย่างฉับพลัน ใบหน้าหน้าของผูส้ งั เกตุการณ์
ทั้งหลายกลายเป็ นประหลาดใจ เนื่องด้วยฝ่ ามือของชายร่ างใหญ่ป่าเถื่อน
นั้นทรงพลังมากกว่า ต่างจากท่าทางสบายๆของชายใบหน้ายุติธรรม
ในตอนนี้ จากพลังนัน่ เห็นได้ชดั ว่านี่คือความแข็งแกร่ งที่แท้จริ งของจ้าว
สงคราม การโจมตีของเขาตอนนี้เป็ นเพียงการแสดงให้เห็นถึงความ
แข็งแกร่ งของเค้าเท่านั้น

แต่แม้จะเป็ นเช่นนั้นชูเฟิ งก็ไม่ได้เกรงกลัว จากการวิเคราะห์ของเค้า


แม้วา่ พลังของอีกฝ่ ายจะแข็งแกร่ งเป็ นอย่างมาก เค้าอาจจะไม่พา่ ยแพ้คู่
ต่อสู ข้ องเค้าด้วยความแข็งแกร่ งของเค้าในตอนนี้ ดังนั้นอํานาจสวรรค์
ในร่ างกายของเค้าได้เพิ่มขึ้น จากนั้นเขาได้ซดั ฝ่ ามือออกไป

อํานาจพลังที่แผ่ออกมาจากฝ่ ามือซูเฟิ งนั้นไม่ได้ดอ้ ยไปกว่าชายร่ างใหญ่


ป่ าเถื่อนเลย
** ตูมมม **

การปะทะกันของพลังทั้งสองทําให้เกิดระลอกคลื่นอย่างฉับพลัน
ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็ นอย่างที่พวกเขาคิด พลังที่ปะทะกันนั้นแข็งแกร่ ง
พอๆกัน

“โอ้! เจ้าเห็นนัน่ มั้ย ชายคนนั้นสามารถหักล้างพลังโจมตีอนั


แข็งแกร่ งของผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวสงครามระดับหนึ่งได้ดว้ ยพลังระดับ 9
ขั้นแดนสวรรค์!!”

“ทรงพลังมาก! ดูเหมือนว่าพลังนัน่ ไม่สมเหตุสมผลเลย เด็กคนนั้น


แข็งแกร่ งอย่างแท้จริ ง แข็งแกร่ งจนกระทัง่ สามารถต่อกรกับผูเ้ ชี่ยวชาญ
อาณาจักรจ้าวสงครามได้ เขามาจากพรรคไหนและเขามาจากที่ใด? คน
ระดับเค้า น่าจะต้องมีคนรู ้จกั บ้างสิ ทําไมข้าถึงไม่เคยได้ยนิ ชื่อของเค้า”

เมื่อได้เห็นเหตุการที่ไม่น่าเชื่อด้วยสายของพวกเขา คนรอบๆข้างก็อุทาน
อย่างไม่สิ้นสุ ด บางคนถึงกับคาดเดาตัวตนของชูเฟิ ง พวกเขาทั้งหมด
รู ้สึกว่าตัวตนของชูเฟิ งนั้นไม่ธรรมดาและเป็ นไปได้วา่ เบื้องหลังเค้าต้อง
ยิง่ ใหญ่อย่างแน่นอน

“เจ้าเด็กดื้อ! ข้าถามเจ้าด้วยความเมตตาว่าเจ้าเป็ นใคร แต่เจ้าก็ยงั จู่


โจมข้า ไม่สนใจข้า ถ้าข้าไม่ให้บทเรี ยนแก่เจ้า เจ้าคงไม่รู้วา่ ฟ้าสู ง
แผ่นดินตํ่าเป็ นเช่นไร” คําเยินยอจากผูค้ นรอบข้างทําให้เจ้าสงคราม ทั้ง
สองโกรธแค้นมากขึ้น ชายใบหน้ายุติธรรมไม่ได้ยนื ดูอยูข่ า้ งๆอีกต่อไป
เขานั้นได้เข้าร่ วมการต่อสู แ้ ล้ว ณ ตอนนั้น
** ตูม ตูม ตูม** เมื่อชายใบหน้ายุติธรรมลงมือจู่โจม เขาได้ใช้ทกั ษะ
ต่อสู ้ มันเป็ นทักษะต่อสู ร้ ะดับ 7

ทันทีที่มนั ปรากฏท้องฟ้าก็ได้เปลี่ยนสี ทักษะต่อสู ท้ ี่ใช้ออกมานั้นกําลัง


กลายเป็ นกองทัพนับล้านกระจายตัวอันออกไป ซึ่ งสามารถมองเห็นได้
ด้วยตาเปล่า

พลังวิญญาณของเขาสามารถสร้างกองทหารนับล้านคน พลังที่
แพร่ กระจายออกมาจากเหล่าทหารนั้นล้วนไม่ธรรมดา พวกเขาล้วนอยู่
ขั้นแดนสวรรค์ เป็ นไปได้วา่ ความแข็งแกร่ งของพวกเค้าอาจจะ
แข็งแกร่ งกว่าผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์ โดยเฉลี่ยแล้วความแข็งแกร่ ง
ของทหารแต่ละคนจะอยูท่ ี่ระดับ 7 ขั้นแดนสวรรค์ แม้วา่ บางคนอาจจะ
ไม่แข็งแกร่ งขนาดนั้น แต่ถา้ มีหลายสิ บล้านมันก็น่าหวาดหวัน่ เป็ นอย่าง
มาก
“ทักษะที่น่าสะพรึ งกลัวนัน่ มันคืออะไร? บอกได้เลยว่ามันเป็ น
ทักษะที่ทรงพลังอย่างแท้จริ ง และสิ่ งนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ดว้ ยฝี มือของ
ผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักรจ้าวสงครามเท่านั้น เหมือนกับที่เคยได้ยนิ มาไม่มี
ผิด"

อาจจะกล่าวได้วา่ ทักษะต่อสู ้ที่ชายใบหน้ายุติธรรมใช้แข็งแกร่ งเป็ นอย่าง


มาก แม้แต่เจ้าสงครามคนอื่นๆที่อยูใ่ ห้กลุ่มผูส้ งั เกตุการณ์ยงั ไม่สามารถ
รับมือกับทักษะต่อสู ช้ นิดนี้ได้

“โอ้! กองทัพนับล้านเช่นนั้นรึ ? ข้าจะคอยดูวา่ รู ปแบบอํานาจ


วิญญาณของข้าจะหยุดมันได้หรื อไม่!”
มองดูกองทัพนับล้านบนท้องฟ้าที่ถาโถมเข้ามา มันจุดประกายการต่อสู ้
ของชูเฟิ ง ก่อนหน้าที่เขาจะก้าวเข้าสู่ ระดับ 9 ขั้นแดนสวรรค์ ไม่มีใคร
สามารถกําจัดเข้าได้ในขณะที่เขาอยูท่ ี่ระดับ 3 ขั้นแดนสวรรค์

แต่ตอนนี้เขาอยูใ่ นระดับ 9 ขั้นแดนสวรรค์แล้ว แม้วา่ จะยังรู ้สึกถึงแรง


กดเมื่อเผชิญหน้ากับผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ 1 เจ้าสงคราม นัน่ แสดงให้เห็น
ถึงความแข็งแกร่ งของเจ้าสงครามและพลังวิญญาณที่ไม่ธรรมดา ถึง
กระนั้นชูเฟิ งก็ยงั ให้ความรู ้สึกที่เยือกเย็น เขาซึ่ งอยูร่ ะดับ 9 ขั้นแดน
สวรรค์น้ นั กําลังคิดจะต่อต้านผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ 1 เจ้าสงครามเช่นนั้น
หรื อ?

“ฮ้าาา~~~”

ทันใดนั้นชูเฟิ งยกแขนขึ้นแล้วกางมันออกอย่างฉับพลัน พร้อมกับระเบิด


เสี ยงตะโกนในเวลาเดียวกัน อํานาจรู ปแบบวิญญาณสี ม่วงไหลทะลัก
ออกมาจากร่ างกายของเขา ในชัว่ พริ บตามันกลายเป็ นรู ปแบบกําแพง
อํานาจวิญญาณที่เชื่อมกับผืนนภาจนสุ ดพสุ ธา

** ตูม ตูม ตูม ตูม ตูม ตูม **

เมื่อรู ปแบบอํานาจวิญญาณก่อตัวเสร็ จสิ้ น กองทัพนับล้านก็มาถึงพร้อม


กับการระเบิด ทันทีที่เกิดการระเบิดขึ้นสิ่ งที่ตามมาคือระลอกคลื่นทัว่ ทุก
พื้นที่แม้แต่โลกทั้งโลกยังไหวเอน ท้องฟ้าที่กระจ่างใสเต็มไปด้วยความ
สับสนวุน่ วาย

ผูส้ งั เกตุการณ์จาํ นวนมากไม่สามารถหันหลังกลับได้ทนั ด้วยความกลัว


อันลึกลํ้าพวกเขาถูกลากเข้าสู่ วงั วนการต่อสู ท้ ี่น่าสะพรึ งกลัว
อย่างไรก็ตามเมื่อการสัน่ สะเทือนลดน้อยลง มวลระลอกคลื่นได้ค่อยๆ
กระจายออกไป ทุกคนกลับรู ้สึกประหลาดใจว่ากองทัพนับล้านได้อนั
ตทานหายไป

แม้รูปแบบอํานาจวิญญาณจะเต็มไปด้วยรอยร้าวและความเสี ยหายอย่าง
หนักแต่มนั ก็ยงั ไม่อาจพังทลาย ชูเฟิ งสามารถใช้รูปแบบวิญญาณของเขา
หยุดทักษะระดับ 7 ที่น่าสะพรึ งกลัวจากผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ 1 จ้าว
สงครามได้……..

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

จบไปอีกตอนกับผม นาย KWong


นี่เป็ นนิยายเรื่ องแรกที่ผมหัดแปล แต่ขอบ่นนิดนึง ผมว่า version
eng มันก็แปลมัว่ ๆอยูน่ ะบางที อ่านแล้วไม่รู้เรื่ อง บางครั้งผมเลยต้อง
ตีความเองและแต่งประโยคเพิ่มเข้าไป ผลออกมาก็อย่างที่เห็นหล่ะครับ

ติชมกันนะครับ(แต่อย่าแรงมากเดี๋ยวรับไม่ได้ 555+) ผมจะได้เอามา


ปรับตัว

ปอลิง. ผมว่า web ‘novelupdate’ แปล eng ดีสุด 555+

** ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ

Nack wattana
เต็มที่ครับกับความคิดเห็นคับ เนื่องจากคนเราจะเติบโตได้กด็ ว้ ยคําติชม
ของทุกๆท่าน ผมก็โดนมาไม่นอ้ ย กว่าจะมาได้จนทุกวันนี้ [ไม่รู้ดีแล้ว
หรื อยัง] คําชมหรื อคําติ ล้วนแต่เป็ นกําลังใจจากทุกคน ผมเชื่อว่าที่เค้าติ
เพราะหวังดีกบั เรา อยากให้เราพัฒนา อย่างเช่นเรื่ องชื่อ ตัวละครของทีม
เพราะแต่ละคนแปลกันยังกะมาคนละที่ ตรงนี้ผมเห็นด้วย เลยปรับให้
เหมือนกันทั้งทีม ส่ วนเรื่ องสํานวนผมจะพยายามบังคับให้ไปทาง
เดียวกัน เพราะก่อนลงผมจะเป็ นคนนัง่ ปรับนั้นปรับนี้ ถ้าไม่มีเวลา ก็ลง
เลย ซึ่งเป็ นการมักง่ายอย่างมาก ต้องกราบขอประทานอภัย - -"

การมีทีมแปลหลายคนก็ดีอย่างเพราะวันหนึ่งเราต้องแปลกันทุกคน คน
ละ 2 ตอนเผือ่ ของวันต่อไป เนื่องจากบางท่าน อาจจะมีธรุ ด่วน รับงาน
ไปแล้วแปลไม่ทนั เราจะได้แชร์งานกันทัว่ ถึง ตัวผมไม่มีวนั หยุดเพราะ
ทํามาจนเคยชิน แต่คนอื่นๆอาจจะต้องการใช้เวลากับครอบครัวหรื อ
พักผ่อน ผมเชื่อว่าทุกท่านคงจะเข้าใจ

ส่ วนวันที่องั คารที่ 6 หรื อวันพรุ่ งนี้ กระผมต้องเดินทางไป ตจว อาจจะ


ใช้เวลานานพอสมควร ถ้าทันผมก็อาจจะมาอัพลงตามปกติ แต่เกรงว่าจะ
เพลียจนร่ างกายรับไม่ไหว จึงประกาศขอลา 1 วันล่วงหน้า

#รู ้สึกผิดมาก จะโยนงานไปทิ้งไว้ให้ท่านอื่นก็จะยังไงๆ ผมเลยแจ้งให้


หยุดทั้งทีมเลย ขอบคุณทุกท่านที่คอยเป็ นกําลังใจเสมอมา
บทที่ 611 - ปราบปราม

“เขาต้านมันได้! เข้าต้านมันได้อีกแล้ว! นั้นมันรู ปแบบวิญญาณ


อะไรกันแน่ถึงทรงพลังขนาดนี้ แล้วอายุแค่น้ ีเขาก็ได้เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯชุด
ม่วง มันเป็ นไปได้ยงั ไงที่มนั สามารถป้องกันการจู่โจมระดับจ้าว
สงคราม? ”

“ไม่น่าเชื่อ นี่เป็ นครั้งแรกตั้งแต่ขา้ เกิดมาที่เห็นผูม้ ีพลังระดับนี้


สามารถต่อกรกับระดับจ้าวสงครามอย่างเท่าเทียมได้” ณ ขณะนั้น ฝูง
ชนรอบๆไม่สามารถอดกลั้นได้ ถ้าก่อนหน้านั้นมันเป็ นเพียงความ
บังเอิญ แล้วตอนนี้หล่ะ? พวกเขารู ้วา่ ชูเฟิ งมีความแข็งแกร่ งเพียง
พอที่จะต่อกรกับอาณาจักรจ้าวสงครามได้

“ระดับสวรรค์สูก้ บั จ้าวสงครามได้ง้ นั หรอ ? น่าขันยิง่ นัก แสดง


ให้ขา้ เห็นอีกทีสิวา่ เจ้าสามารถรับมือกับพวกข้าได้”

การโจมตีของพวกเขาทั้งสองคนถูกป้องกันอย่างต่อเนื่อง การกระทํา
ของชูเฟิ งทําให้ชายร่ างใหญ่ป่าเถื่อนและชายใบหน้ายุติธรรมเดือดดาล
เป็ นอย่างยิง่ ระดับ 1 ขั้นจ้าวสงครามทั้งสองคนรู ้สึกราวกับว่าใบหน้า
ของพวกเขาถูกใช้เพื่อปัดกวาดพื้น

* วูช วูช ~~~ * ฝ่ ามือของพวกเขาปรากณแสงเป็ นประกายและยอด


ยุทธภัณฑ์พลันปรากฏขึ้นในมือของพวกเค้า

อาวุธของชายร่ างใหญ่ป่าเถื่อนคือดาบยาว 3 เมตร มันดูน่าเกรงขามเป็ น


อย่างมาก
อาวุธของชายใบหน้ายุติธรรมคือแส้สีเขียวซึ่ งมีออร่ าที่ทรงพลังอย่าง
มากรั่วไหลออกมา

สามารถกล่าวว่ามันเทียบได้กบั ยอดยุทธภัณฑ์ช้ นั ดี การที่มนั แข็งแกร่ ง


แบบนั้นเป็ นเพราะว่าทักษะยุทธ์ของมันเป็ นเอกลักษณ์ ที่ได้หลอม
รวมเข้ากับพลังจ้าวสงคราม ดังนั้นเมื่อมันอยูใ่ นมือของผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าว
สงครามมันจึงสามารถเปล่งพลังที่จริ งออกมา

สิ่ งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าของฝูงชนได้บอกพวกเขาว่าข่าวลือนั้นเป็ นเรื่ อง


จริ ง หลังจากทั้งสองคนใช้ยอดยุทธภัณฑ์ ออร่ าของพวกเขาแข่งแกร่ ง
ยิง่ ขึ้น พวกเขาทั้งสองยืนอยูก่ ลางอากาศ พวกเขาดูราวกับเทพเจ้าผูช้ าํ
ชองการศึก บรรยากาศของพวกเขาราวกับสื บเชื้อสายมาจากพระเจ้า
“เจ้ามาได้ถูกเวลายิง่ นัก ให้ขา้ ได้สมั ผัสกับระดับของยอด
ยุทธภัณฑ์ที่ถูกกวัดแกว่งโดยผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวสงครามที!”

ถ้าเป็ นคนทัว่ ไปที่อยูใ่ นสถานะการณ์เช่นเดียวกันนี้ ความกลัวคงจะแบ่ง


บานในหัวใจของพวกเขาราวกับดอกไม้ แต่ไม่ใช่กบั ชูเฟิ ง! เขาไม่ได้
หวาดกลัวเลยแม้แต่นอ้ ย กลับกันเขากลับรู ้สึกตื่นเต้นเป็ นอย่างมาก
หลังจากปรากฏแสงสี ดาํ ขวานอสู รฟ้าพลันปรากฏในมือของชูเฟิ ง

*ฟุบ ฟุบ ฟุบ* ในเวลาเดียวกัน ชูเฟิ งย่างก้าวโดยใช้ทกั ษะของจักรพรรดิ


นภาพุง่ ไปยังขั้นเทพยุทธ์ท้ งั สอง

“รนหาที่ตาย!! วันนี้ขา้ จะสอนทบเรี ยนแก่เจ้า”


มองเห็นชูเฟิ งพุง่ เข้าหาพวกเขาอย่างห้าวหาญ ผูเ้ ชี่ยวชาญทั้งสองขบฟัน
ของพวกเขาด้วยความโกรธ

พวกเขาไม่รอช้ารี บกระชับยอดยุทธภัณฑ์ในมือและเข้าหํ้าหัน่ กับชูเฟิ ง


ตามลําดับ [ T/N เหมือนคนหนึ่งเข้า คนหนึ่งออก เมื่อเห็นว่ามีช่องให้
เข้าโจมตี ]

*เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง*

*ตูม ตูม ตูม ตูม*


ยอดยุทธภัณฑ์ท้ งั สามเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด การเหวีย่ งอาวุธแต่
ละครั้งก่อให้เกิดพลังอันมหาศาล และการปะทะกันแต่ละครั้งก่อให้เกิด
เสี ยงระเบิดอึกทึก

ขณะที่ท้ งั สามปะทะกันแม้แต่ทอ้ งฟ้ายังเกิดรอยแยก และแตกระแหง


ท้องฟ้าที่ท้ งั สามคนปะทะกันอยูพ่ ลันเข้าสู่ ความสับสนวุน่ วายพร้อมกับ
ความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุ ด มีเพียงบริ เวณที่พวกเขาปะทะกันเท่านั้นที่มีแสง
สว่าง ซึ่งแสงสว่างนั้นเกิดจากการปะทะกันของพลังวิญญาณที่ไม่
ธรรมดา

“สวรรค์!! เขาสามารถต่อกรกับผูเ้ ชี่ยวทั้งสองได้อย่างเท่าเทียม


จริ งๆหรื อ? มันเหมือนกับว่าเรากําลังดูเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญระดับจ้าว
สงครามเข้าหํ่าหัน่ กันเอง ถ้าเขาสู ก้ บั ผูเ้ ชี่ยวจ้าวสงครามแบบตัวต่อตัว
ไม่แน่วา่ เขาอาจจะสามารถกําจัดพวกเขาได้หรอกหรื อ?” วงจรการ
ต่อสู ข้ องพวกเขาทั้งสามนั้นสัน่ สะเทือนแม้กระทั้งสวรรค์และพื้นพิภพ
นอกจากนั้นการต่อสู ข้ องพวกเขายังดึงดูดสายตาของเหล่าผูส้ งั เกตุการณ์
ซึ่งทุกคนที่เห็นล้วนตกอยูใ่ นอาการตกตะลึงอย่างถึงที่สุด

“ฮ่าๆ เนี่ยหรอฝี มือระดับจ้าวสงคราม สวะดีๆ!!!” ชูเฟิ งต่อสู ก้ บั


พวกเขาอย่างห้าวหาญมากและมากขึ้นเรื่ อยๆ และดูเหมือนว่าบรรยากาศ
รอบๆชูเฟิ งในตอนนี้กาํ ลังสะกดข่มพวกเขาทั้งสอง

มองดูสีหน้าอันน่าเกลียดนัน่ ชูเฟิ งแน่ใจว่าทั้งสองคนคงจะหมดลูกไม้


แล้ว ถ้าสถานะการณ์ยงั เป็ นเช่นนี้ต่อไป ไม่ถึงสมชัว่ ยามพวกเขาต้อง
โดนชูเฟิ งกําจัดแน่ ที่ผา่ นมาชูเฟิ งใช้ยอดยุทธภัณฑ์และทักษะลับของเค้า
อีกไม่นานสองคนนี้คงพ่ายแพ้แก่เขาเป็ นแน่

“ผูใ้ ดกล้าก่อปัญหากับคนหมู่เกาะประหาร ของข้า !!!?” แต่


ในขณะนั้น เสี ยงตะโกนที่ชดั เจนพร้อมกับออร่ าที่ทรงพลังราวกับไม่มีที่
สิ้ นสุ ดได้ดงั มาจากท้องฟ้า

“บ้าเอ้ย!” ทันใดนั้นหน้าของชูเฟิ งพลันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก


เค้ารี บพุง่ ตัวถอยกลับไปด้านหลัง

เฉพาะชูเฟิ งเท่านั้นที่พบว่ามีชายชราผมขาวบินลงมาจากท้องฟ้าตรง
มายังการต่อสู ข้ องพวกเขา บุคคลนั้นยังส่ วมใส่ เสื้ อผ้าที่ไม่ธรรมดาของ
หมู่เกาะประหาร นอกจากนั้นออร่ าของเขายังอยูใ่ นระดับ 3 ขั้นจ้าว
สงคราม

“งั้น..เจ้าคือเด็กสารเลว แม้ขา้ จะไม่รู้วา่ อาจารย์ของเจ้าเป็ นใคร แต่


ไม่มีใครในทะเลภูมิภาคทะเลตะวันออกกล้ามาหยิง่ ผยองต่อหน้าคนจาก
หมู่เกาะประหาร ของข้า ตอนนี้ขา้ จะให้บทเรี ยนแก่เด็กโง่เง่าเช่นเจ้าใน
แทนอาจารย์เจ้าเอง!!”
หลังจากชายชราปรากฏตัว เขาไม่รอการโต้แย้งและเข้าจู่โจมชูเฟิ งโดย
ทันที จากที่เขาได้ฟาดฝ่ ามือออกไป ชูเฟิ งรู ้สึกได้ถึงพลังที่พงุ่ พล่าน
ดึงดูดอย่างไม่สิ้นสุดรอบๆตัวของเค้า ซึ่ งทั้งหมดนั้นพุง่ มาจากชายชรา

ในเวลาเดียวกันนั้นชายร่ างใหญ่ป่าเถื่อนและชายใบหน้ายุติธรรมยังโบก
สบัดยอดยุทธภัณฑ์ในมือของพวกเขาโจมตีอย่างอุกอาจมายังชูเฟิ ง

ชูเฟิ งรู ้ดีวา่ เขาไม่สามารถจัดการกับชายชราได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึง


ไม่ลงั เลที่จะใช้ทกั ษะเร้นลับมังกรฟ้าทะยาน ซึ่ งเป็ นทักษะที่ได้จากผู ้
ก่อตั้งสํานักมังกรฟ้าอย่างเต็มกําลัง

* วูบ *
เมื่อทักษะมังกรฟ้าทะยานปรากฏขึ้นก็ปรากฏมังการคํารามออกมาทันที
จากนั้นมันได้กลายเป็ นลําแสงสี ฟ้าพุง่ หายไปด้วยความเร็ วที่ไม่อาจจ้อง
มองด้วยตาเปล่า เสี้ ยววิน้ นั เขาก็ได้หลบหนีไปไกลแล้ว

“เฮอะ..เผ่นเร็ วจริ งนะ ไอ้เด็กเวน ถ้ามันช้ากว่านี้แม้เพียงนิด มันคง


จะโดนข้าฝ่ าเป็ นสองซีกไปแล้ว” มองไปยังทางที่ชูเฟิ งหลบหนีไป ชาย
ป่ าเถื่อนไม่สามารถตามเขาได้ทนั ดังนั้นหลังจากที่เขาพ่นนํ้าลายออกมา
จากปากใหญ่ๆของเค้า เขาก็ก่รู ้องด้วยความเกรี้ ยวกราด

“หุบปาก! เรามาที่นี่เพื่อจับอสู ร...ไม่ได้มาทําให้ตวั เองขายหน้า


การกระทําของพวกแกตอนนี้มนั ส่ งผลกระทบร้ายแรง พวกแกไม่รู้ถึง
ภาพลักษณ์ภายนอกของ หมู่เกาะประหาร รึ ไง?!” ชายชราตําหนิอย่าง
เกรี้ ยวกราด
“ผูอ้ าวุโส พวกเราแค่อยากแสดงพลังของ หมู่เกาะประหาร ให้คน
เหล่านี้ได้ประจักษ์ แต่ใครจะรู ้วา่ จะมีเจ้าเด็กเหลือขอมาขัดขวางกลางคัน
เสี ยก่อน?” ชายใบหน้ายุติธรรมอธิบาย

“แสดงพลังของพวกเจ้ารึ ?” จากที่เห็นมันเหมือนกับความลําบาก
ใจของพวกเจ้ามากกว่า

“ระดับ 1 อาณาจักรจ้าวสงคราม 2 คน ถูกปราบโดยเจ้าเด็ก


เหลือขอคนนึงที่อยูใ่ นระดับ 9 ขั้นแดนสวรรค์ เจ้ายังมีหน้าจะพบผูค้ น
อีกรึ ?!!” เมื่อพูดถึงเรื่ องนั้นชายชรากลายเป็ นเกรี้ ยวกราดมากกว่าเดิม
“พ. .พวก…ร..เรา” ทั้งสองกลายเป็ นพูดไม่ออก ไม่แม้แต่จะหาคํา
แก้ตวั

ข้อเท็จจริ งที่ท้ งั สองถูกยับยั้งโดยชูเฟิ ง คนภายนอกอาจไม่สามารถพูด


อะไรได้ แต่พวกเขารู ้ดีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ พวกเขาไม่
สามารถปิ ดบังว่าใครเป็ นผูไ้ ด้เปรี ยบและใครเป็ นผูเ้ สี ยเปรี ยบจากชาย
ชราได้

“ฟังนะ ท่านหญิงย่าเฟยจะเสด็จผ่านมาทางนี้และท่านได้ยนิ ว่ามี


อสู รปรากฏตัวอยู่ ท่านกําลังมุ่งหน้ามาที่นี่ตอนนี้ หลังจากที่ท่านมาถึง
จนกระทั้งก่อนที่ท่านจะจากไป มันจะดีมากถ้าเจ้าทั้งสองไม่สร้างปั ญหา
ให้ขา้ หรื อถ้าเจ้าทั้งสร้างปัญหา เมื่อถึงตอนนั้นข้าก็ไม่อาจช่วยเจ้าได้”
ชายชราเตือนพวกเขาทั้งสอง
“ท่านหญิงย่าเฟยรึ ?” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ทั้งสองไม่ชกั ช้าแต่อย่างใด
กลับกันทั้งสองรี บเผ่นทันที ทั้งสองกลายเป็ นสายรุ่ งและบินลงไปยัง
ด้านล่าง ด้วยนํ้าทะเลที่สาดกระจายไปทัว่ ทุกที่ ทั้งสองก็ได้พงุ่ ลงไปใน
ทะเลโลหิ ต

“จริ งๆแล้วเจ้าเด็กนัน่ มาจากที่ใดกัน? สามารถต่อกรกับ


ผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวสงครามได้ดว้ ยการบ่มเพาะระดับนั้น นี่ไม่ใช่อะไรที่คน
ธรรมดาจะทําได้” ในขณะนั้นชายชราที่มีพลังระดับ 3 จ้าวสงครามได้
เหม่อมองไปยังทางที่ชูเฟิ งได้หลบหนีไป คิ้วของเขาขมวดแน่น ดวงตา
เป็ นประกายในขณะที่จมอยูใ่ นห้วงความคิด…..

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
~~~~~~~~~~~~
A - B - C อยูด่ า้ นล่างจร้า

ก็จบกันไปอีกตอนนะครับ
KWong: พี่เฟิ งเราก็ง้ ีแหละเป็ นคนดีที่หาเรื่ องใส่ ตวั แต่ถา้ จะพูดกัน
จริ งๆคนที่หาเรื่ องกลับกลายเป็ นเจ้า 2 ตัวนั้นมากกว่า เพราะมันทั้งใจ
แคบทั้งขี้โอ่ ว่าแต่...นี่มนั แสดงให้เห็นถึงลักษณะนิสยั ของคนจีนหรื อ
เปล่าน้อ…..

น่าคิดนะผมว่า เห็นได้จากข่าวแต่ละวันที่เกี่ยวข้องกับพี่จีนใน TV

///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////
A : คันปากอยากสปอย

B : เออดิ เก่งได้แค่ตอนนี้ละว่ะ ไอพวกหมู่เกาะประหาร เด๋ วอีกไม่


นานหรอก พวกมืงโดนเก็บเป็ นรายบุคคลแน่ ตอนนี้ขออัพ LV ก่อน
เด๋ วได้เรื่ องประวัติของตัวเองมะไหร่ เมื่อนั้นแหละ
A : กูล่ะอยาก ให้พอ่ ชูเฟิ ง ออกมาจริ งๆ ถ้าเกิดพี่เฟิ งแม่งตายจริ งๆ มึง
เอ้ย ทะเลตะวันออก คงหายไปจากแผนที่โลก

B : ไม่ตอ้ งถึงมือพ่อมันหรอก แค่เหล่าบรรดาพันธมิตรชูเฟิ งกับ


อาจารย์ชูเฟิ ง พวกมันก็ไมเกนขึ้นกันล่ะ อีกอย่างเด๋ วเราจะได้รู้เรื่ องของ
ตุก๊ ตาน้อยล่ะว่านางเป็ นใคร น่ารักมากๆ เด็กน้อยไร้เดียงสาแนว ลิโล
บทที่ 612 - เสี่ ยวยู่

“นัน่ ใกล้มากเลยนะ ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าในหมู่เกาะประหารจะมี


ผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวสงครามมากมายเช่นนี้ มันเหมือนกับว่าพวกเขามีรากฐาน
ที่ดีอย่างแท้จริ ง พวกเขาไม่ธรรมดาเลย” เมื่อมองไปยังชายชราระดับ 3
ขั้นจ้าวสงครามที่ไม่ได้ไล่ล่าเค้า ชูเฟิ งไม่ได้มุ่งหน้าออกไปไกลมากนัก
เขาหยุดลงบนผิวนํ้า

“ยิห๊ า้ ยิห๊ า้ ยิห๊ า้ ยิห๊ า้ ...พี่ชาย ท่านแข็งแกร่ งจังเลย ท่านบินได้เร็ ว


มาก มากจนข้ามองไม่เห็นอะไรรอบๆตัวข้าเลย” ขณะนั้น เสี ยงใสๆดุจ
ระฆังเงินได้ลอยมาจากอ้อมกอดของชูเฟิ ง

ชูเฟิ งก้มหัวลงมามองเด็กสาวที่เค้าได้ช่วยไว้ซ่ ึ งตอนนี้กาํ ลังกอดชูเฟิ ง


แน่นและมองมาที่ชูเฟิ งด้วยดวงตาคู่กลมโตที่บริ สุทธ์

“เรี ยกข้าว่าลุง ไม่ใช่พี่ชาย” ชูเฟิ งกล่าวอย่างเอาแต่ใจในขณะที่เค้า


กําลังสร้างรู ปแบบวิญญาณบนผิวทะเลแล้ววางเด็กสาวลงบนนั้น

“ไม่ๆ พี่ชาย ท่านยังดูหนุ่มๆอยูเ่ ลย ทําไมให้ขา้ เรี ยกท่านว่าลุงห


ล่ะ??” เด็กสาวกล่าวด้วยความไร้เดียงสาเป็ นอย่างมากพร้อมกับที่เธอ
กระพริ บตาคู่งามถี่ๆ
ชูเฟิ งเพียงพบว่าเด็กสาวคนนี้น้ นั งดงามทีเดียว คิ้วที่เรี ยวยาว ผิวที่
กระจ่างใสราวกับหยก ปากที่เล็กบางละเอียดอ่อนราวกับผลเชอรี่ ผม
เกลียวยาวโดยธรรมชาติ เธอช่างน่ารักช่างดุจดัง่ ตุก๊ ตาตัวน้อยๆ

แต่ชุดที่เธอสวมใส่ นี่ช่างน้อยนิดเสี ยนี่กระไร มันแทบจะเปลือยซะด้วย


ซํ้าไป ยังมีชุดชั้นในสี ชมพู อยูร่ ะหว่างซาลาเปาทั้งสองลูกของเธอ
ครอบคลุมพื้นที่สงวนของเธอ เธอไม่มีแม้กระทั้งรองเท้า มีเพียงเท้าที่
เปลือยเปล่าเท่านั้น [ T/N เหมือนกับชุดนาจาตอนเด็ก ]

แต่เมื่อมองดูดีๆชูเฟิ งพบว่าภายใต้ชุดชั้นในขอเธอนั้น ปรากฏบางสิ่ งที่


ตราตรึ ง บางสิ่ งนั้นช่างพิเศษยิง่ นัก มันเหมือนกับปลาที่ยงั ไม่มีปีก โดย
ไม่ตอ้ งคํานึงถึงนี่มนั แปลกสุ ดๆ

“ตกลง...ข้าจะฟังเจ้า..สาวน้อย งั้น..บอกพี่ชายคนนี้หน่อยได้ม้ ยั ว่า


พ่อแม่เจ้าเป็ นใคร?”

หลังจากตรวจสอบเธออย่างจริ งจังแล้ว ปรากฏว่าชูเฟิ งค่อนข้างชอบเธอ


ดังนั้นช่วยไม่ได้ที่เขาจะถามเธอเกี่ยวกับรายของเธอมากขึ้นและเขายัง
ต้องการนําเธอไปส่ งคืนให้กบั พ่อแม่ของเธอ หลังจากเรื่ องราวทั้งหมด
ในตอนนี้เด็กสาวน่ารักได้หายไป พ่อแม่ของเธอคนเป็ นกังวลมาก

“พ่อแม่หรอ? พี่ชาย...พ่อแม่คืออะไรหรอ...มันกินได้ม้ ยั ” เด็ก


สาวหยีตาของเธอมันช่างเหมือนกับรู ปจันทร์เสี้ ยว เธอยิม้ หวานเป็ น
อย่างมาก ท่าทางที่เธอแสดงออกมาช่างบริ สุทธิ์ผดุ ผ่องราวกับว่าเธอได้
พูดมันออกมาจากใจ

“สาวน้อย...อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่มีพอ่ แม่?!” ดูเหมือนกับว่าสิ่ งที่


เด็กสาวได้แสดงออกมานั้นทําให้ชูเฟิ งรู ้สึกว่าสาวน้อยคนนี้ไม่รู้จริ งๆว่า
พ่อแม่คืออะไร

“ข้าไม่มีพอ่ แม่หรอก… พี่ชาย..ท่านมีม้ ยั ขอข้ากินมันหน่อย


ได้ม้ ยั ?” เด็กหญิงถามซอกแซก

“เอ่อ...เรื่ องนั้น...พ่อแม่กินไม่ได้ พ่อแม่คือคนที่ให้กาํ เนิดเราและ


เลี้ยงดูเรา สาวน้อย...เจ้าไม่มีพอ่ แม่จริ งๆหรอ?” ชูเฟิ งถาม

“ข้าไม่มี ข้าไม่รู้วา่ ใครคือผูใ้ ห้กาํ เนิดและไม่รู้วา่ ใครคือผูท้ ี่เลี้ยงดู


ข้า” เด็กสาวตอบ

ได้ยนิ คําตอบนั้นชูเฟิ งขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามต่อว่า “งั้น สาวน้อย


ใครพาเจ้ามาที่แห่งนี้?”

“ไม่มีใครพาข้ามาที่แห่งนี้ ข้าว่ายนํ้ามาเอง” เด็กสาวกล่าว

“อะไรนะ? เจ้าว่า เจ้าว่ายนํ้ามาด้วยตัวเองเนี่ยนะ?” ได้ยนิ คํา


เหล่านั้นมันทําให้ชูเฟิ งรู ้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างไม่ได้ต้ งั ใจ
ความรู ้สึกแรกของเข้าคือสาวน้อยคนนี้กาํ ลังโกหก

ทะเลโลหิ ตนิรันดร์น้ นั กว้างใหญ่มาก แม้วา่ นักบ่มเพาะที่อยูใ่ นขั้นแดน


สวรรค์ปราถนาจะมายังใจกลางของทะเลแห่งนี้ยงั ไม่อาจเป็ นไปได้
นับประสาอะไรก็เด็กสาวเพียงคนเดียว
“พีช่ าย ท่านไม่เชื่อข้าหรอ? ท่านไม่เชื่อว่าข้าว่ายนํ้ามาด้วยตัวคน
เดียวหรอ?” เด็กสาวกระพริ บตาของเธอพร้อมกับจ้องมองไปยังความ
สงสัยของชูเฟิ ง

* วูชช *

.ในขณะที่เธอพูดจบ เธอหมุนตัวกลับพร้อมกับกระโดด ร่ างอันเพีย


วบางเธอเธอราวกับมังกร เธอกระโดดลงในทะเลพร้อมกับท่าทางที่
สมบูรณ์แบบ

ในช่วงแรกชูเฟิ งรู ้สึกวิตกกังวลนิดหน่อย หลังจากที่เห็นเธอกระโดดลง


ในนํ้า โดยไม่รอให้ร่างพ้นนํ้าเธอกับแวกว่ายด้วยความเร็ วอย่างน่า
อัศจรรย์ ความเร็ วนั้นเร็ วเป็ นอย่างมากแม้แต่ชูเฟิ งยังรู ้สึกตกใจ แม้วา่ จะ
เป็ นขั้นแดนสวรรค์ยงั ไม่อาจบรรลุความเร็ วระดับนี้ได้ แต่นี่มนั เกิดขึ้น
โดยสาวน้อยคนนึงเท่านั้น

นอกจากนี่ สาวน้อยยังเร่ งความเร็ วมากขึ้นเรื่ อยๆ ซึ่ งมันเกินกว่าความเร็ ว


ของผูบ้ ่มเพาะขั้นแดนสวรรค์ในขณะที่พวกได้ใช้ทกั ษะทางร่ างกาย มัน
เป็ นความเร็ วที่มิอาจคาดคิด

* หึ่ มม * รู ้สึกถึงความผิดปกติของเด็กสาว ชูเฟิ งถลกแขนเสื้ อขึ้นพร้อม


กับตักสาวน้อยขึ้นจากทะเลทําให้เธอลอยอยูใ่ นอากาศ

“ยิ.้ .ห้า..ยิ.้ .ห้า..ข้าบินได้ ข้าบินได้ ดูสิพี่ชาย~~” ขณะที่เธอลอย


อยูก่ ลางอากาศ เธอยังทําท่าทางว่ายนํ้าอย่างผ่อนคลายและค่อนข้างร่ าเริ ง
แต่เมื่อชูเฟิ งใช้อาํ นาจวิญญาณตรวจสอบร่ างกายของเธอ มีบางสิ่ งทําให้
ชูเฟิ งรู ้สึกประหลาดใจ เนื่องจากเด็กสาวมีความสามารถที่ไม่ธรรมดา
และชูเฟิ งก็ยงั ไม่สามารถตรวจพบความผิดปกติใดๆ

จริ งๆแล้วเพราะว่าที่มาของเด็กสาวนั้นย่อมไม่ธรรมดา เธอปกปิ ดความ


แข็งแกร่ งของเธอได้เป็ นอย่างดี เมื่อพูดถึงพลังของเธอแล้วมันดูเหมือน
สายฟ้าศักดิ์สิทธ์ของชูเฟิ ง ไม่สาํ คัญว่าชูเฟิ งนั้นแข็งแกร่ งขนาดไหน
พวกเขาจะไม่เพียงค้นหาความผิดปกติไม่ได้ พวกเขายังไม่สามารถตรวจ
พบสายฟ้าศักดิ์สิทธ์ในตันเถียนของฟูเฟิ งด้วย

“สาวน้อย เจ้ามีชื่อว่าอะไร?” ชูเฟิ งถาม

“ข้าเรี ยกว่า ‘เสี่ ยวยู’่ ” เธอกล่าวด้วยความภาคภูมิใจพร้อมกับยืด


อกของเธอขึ้น
[ T/N 小鱼 Xiǎo yú เสี่ ยวยู่ หรื อ ปลาน้อย ]

่ ใครตั้งชื่อนี้ให้เจ้า?” ชูเฟิ งถามขึ้นทันที เขาต้องการ


“เสี่ ยวยู?
ทราบผูท้ ี่เกี่ยวที่ขอ้ งกับนาง[1]และสถานที่ที่นางจากมา
[ -- [1] “find the melons by going
along the vines” เป็ นสํานวนแปลว่า ‘ค้นหาแตงโมไปพร้อม
องุ่น’ มันเป็ นคําเปรี ยบเปรย ในกรณี น้ ีคือชูเฟิ งต้องการทราบข้อมูลคนที่
เกี่ยวข้องกับนาง -- ]

“อ่า..ใครให้ชื่อนี้แก่ขา้ งั้นหรอ? ข้าลืมแล้ว” เด็กสาวกล่าวด้วย


ความมัน่ ใจ
หลังจากนั้นชูเฟิ งถามนางอีกหลายตําถาม แต่กย็ งั ไม่ได้รับตอบที่น่า
พอใจ สุ ดท้ายแล้วนอกจากชูเฟิ งจะรู ้วา่ เด็กสาวเรี ยกว่าเสี่ ยวยูแ่ ล้วชูเฟิ งก็
ไม่รู้อะไรอีกเลย

ขณะที่เค้าล้มเหลว ชูเฟิ งเริ่ มแบกสาวน้อยและไปยังพื้นที่โดยรอบพร้อม


กับสอบถามเรื่ องราวต่างๆ มีอยูอ่ ย่างหนึ่งที่แน่ชดั คือไม่มีใครเคยเห็น
เด็กเด็กสาวมาก่อนและไม่มีใครรู ้จกั ครอบครัวของเธอ

เด็กสาวไม่เคยไว้ใจในความช่วยเหลือของใครเลยตั้งแต่เกิดมาจนถึง
บัดนี้ เธอเชื่อเพียงตัวของเธอเองและเธอจับปลาในทะเลกินเป็ นอาหาร
ตั้งแต่เธอเกิดจนถึงบัดนี้ เด็กสาวกินเพียงแค่ปลาและดื่มนํ้าทะเลจนถึง
บัดนี้

ในชีวติ ของเธอ ความพิเศษของเด็กสาวค่อนข้างดึงดูดความสนใจของ


ผูค้ นมากมาย บางคนต้องการที่จะลักพาตัวเด็กสาวอย่างลับๆและนําเธอ
กลับไปพัฒนา

แต่เป็ นเพราะความเร็ วของเธอในนํ้านั้นเร็ วเป็ นอย่างมาก ไม่มีใครที่


สามารถตามจับเธอได้ทนั ดังนั้นจนถึงตอนนี้ยงั ไม่มีใครได้เข้าใกล้เด็ก
สาวเลย สามารถกล่าวได้เลยว่าชูเฟิ งนั้นเป็ นแรกที่ได้ใกล้ชิดเธอ

เมื่อบางคนเห็นชูเฟิ งแบกสาวน้อย พวกเขาเริ่ มพูดคุยกันพร้อมกับรอยยิม้


ที่ปรากฏออกมา พวกเขาชื่นชมชูเฟิ งอย่างแท้จริ ง โดยเฉพาะอย่างยิง่
หญิงสาวที่มีชาติกาํ เนิดไม่ธรรมดา พวกเธอพร้อมที่จะต่อสู ก้ บั สาวน้อย
นัน่

สาวน้อยงดงามเป็ นอย่างยิง่ งดงามเป็ นอย่างยิง่ แม้วา่ เด็กสาวจะไม่


สามารถพัฒนา(ร่ างกาย)ไปได้อีก แต่มนั ก็ยอดเยีย่ มมากแล้วที่จะนําเธอ
มาดูแล แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์เพราะเธอนั้นดื้อรั้นเป็ นอย่างมาก
นอกจากนี้ชูเฟิ งยังไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้อีกด้วย

จริ งๆแล้ว ถ้าเด็กสาวไม่ได้ปรากฏตัวในทะเลโลหิ ตนิรันดร์มานานกว่า


ครึ่ งปี ดูเหมือนกับว่าผูค้ นคงจะมองเธอในฐานะปี ศาจน่าหวันเกรงที่จบั
ผูค้ นเพื่อใช้บ่มเพาะพลัง ซึ่งในความเป็ นจริ งตอนนี้กย็ งั มีบางคนมองเธอ
่ ...
เป็ นปี ศาจอยู…

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
A : ชูเฟิ งคงรักนางมากอ่ะ

B : ช่าย ใครทําไรเสี่ ยวยูไ่ ม่ได้เลย เพราะ ชูเฟิ งไม่ยอมแน่ๆ ชูเฟิ งรัก


นางอย่างกะลูก ชีวิตนางน่าสงสารมากๆ ไม่มีท้ งั พ่อทั้งแม่ ตัวคนเดียวมา
ตลอดแต่เกิด แถมยังโดนคนไล่ล่าอีก
A : แล้วชูเฟิ งจะเอามาเลี้ยงเป็ นน้องแท้ๆป่ ะ

B : เอามาสิ !!! ปล่อยเด็กตัวเล็กๆให้อยูค่ นเดียวได้ยงั ไง แต่นางนั้นซน


มาก ชอบหายไปนั้นมานี้ ทําเอาชูเฟิ ง ปวดหัวไม่นอ้ ย ยิง่ คนอื่นจะแตะนี้
ไม่ได้เลย แต่พวกหมู่เกาะประหารอยากได้ตวั นาง จับไปบ่มเพาะพลัง
วิญญาณ แล้วคิดว่าพี่เฟิ งจะยอมป่ ะล่ะ ยิง่ เกลียดเปนทุนเดิมด้วย ถ้าเสี่ ยว
ยู่ เปนไรไป ไม่แน่พลังสายฟ้าในร่ างอาจจะระเบิดออก ไม่พี่เฟิ งก็คง
ปล่อย อสู รวิญญาณอีกตัว มาทําลาย ทั้งทวีป

A : ทําขนาดนั้นเลย!!!

B : ไม่ใช่สายสัมพันธ์แบบหนุ่มสาวแต่เหมือนกับพี่นอ้ งที่รักกันมากๆ
เพราะเสี่ ยวยูเ่ องก็ไม่มีใครอีกนอกจากชูเฟิ ง ตอนที่นางโตบอกเลยว่า
เทียบกะ ต้านต้าน และ จื่อหลิง ได้อ่ะ

C : มันเป็ น โลลิค่อน ไง๊ ? เลี้ยงต้อย สารเลวที่สุด!!!


แปลโดยคุณ Kwong
บทที่ 613 - อสู ร

“เสี่ ยวยู่ ทําไมเจ้าถึงกินแต่ปลาดิบหล่ะ? มา..เดี๋ยวข้าปิ้ งให้ กลิ่น


ของปลาที่ปิ้งแล้วนี่มนั หอมมากเลยนะ!” ชูเฟิ งทางซอกแซกขณะที่มอง
ไปยังเสี่ ยวยูท่ ี่นง่ั อยูถ่ ดั จากเขาไป เด็กสาวถือปลาดิบอยูใ่ นมือและนัง่
อย่างเป็ นระเบียบ

“ไม่อร่ อย ไม่อร่ อย” หลังจากที่ได้ยนิ คําถามของชูเฟิ ง เสี่ ยวยูร่ ี บ


ส่ ายหน้าของเธอแล้วรี บทําความสะอาดปลาของเธอทันที จากนั้นเธอก็
พูดขึ้นว่า “แบบนี้ถึงอร่ อย”

“อ่าา..อํ้า...”
หลังจากที่พดู เสร็ จ เธออ้าปากของเธอขึ้นแล้วก็เริ่ มกินปลาอย่าง
เอร็ ดอร่ อย ในขณะที่เธอกินริ มฝี ปากของเธอก็เกิดเสี ยง *จุ๊บ จับ๊ จุ๊บ จับ๊ *
อย่างแต่เนื่อง ในขณะนั้นชูเฟิ งพบว่าแม้เขาจะเห็นเธอกินปลาดิบแต่เขาก็
ไม่ได้รู้สึกขยะแขยงเลย มากกว่านั้นชูเฟิ งยังรู ้สึกว่าสาวน้อยนั้นน่ารัก
มากและมันยังทําให้บางคนนั้นหลงเสน่ห์การกินของเธอเหมือนกับถูก
ล่อลวง

อย่างไรก็ตามในตอนนั้น เกิดคําถามในใจของเขา เสี่ ยวยูช่ อบกินอาหาร


ดิบๆ สามารถรอดชีวติ ได้ดว้ ยการดื่มนํ้าทะเล หรื อว่าเธอจริ งๆแล้ว
เกี่ยวข้องกับอสู รที่ตอนนี้ทาํ ให้เกิดความโกลาหลขึ้นในทะเลโลหิ ตนิ
รันดร์

* กี้ กี้ กี้ กี้ กี้ *


แต่ในจังหวะนั้นพลันบังเกิดเสี ยงที่ทรงพลังอย่างมากดังจากจุดศูนย์ของ
ทะเลโลหิ ตนิรันดร์ เสี ยงนั้นราวกับเสี ยงของเตียงไม้ที่กาํ ลังสัน่ ไหวไป
มา(เสี ยง เอี้ยดๆๆ อื้มม อ้าาาาห์ **เดี๋ยวๆไม่ใช่ละ) นอกจากนั้นมันยัง
เหมือนกับเสี ยงคํารามตํ่าๆของสิ่ งมีชีวติ บางอย่าง ในกรณี ของเสี ยงๆนี้
อย่างแรกคือไม่รู้สึกถึงสิ่ งใด แต่ถา้ พวกเขาฟังมันดีๆ เส้นผมพวกเขาจะ
ตั้งชี้ท้ งั หมด และพวกเขาจะรู ้สึกอึดอัด

“ยิฮ้ ่า ยิฮ้ ่า อสู รยักษ์กาํ ลังมา! มันกําลังจะมาจับคนไปกินอีกครั้ง!”

“พี่ชาย ไปดูอสู รยักษ์กินคนดีกว่า!” เมื่อได้ยนิ เสี ยงนั้น เสี่ ยวยู่


ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นและหยุดปลาดิบที่อยูใ่ นมือของเธอ
“เสี่ ยวยู่ ทําไมเจ้าถึงได้พดู แบบนั้น เจ้าพูดเหมือนตัวเองมีจมูกของ
เหล่าอสู ร” ชูเฟิ งรู ้สึกตกใจที่ได้ยนิ คําพูดนั้น

“หาา~? อสู ร? มันคืออสู ร อสู รที่มนั จะกินคนทุกครั้งที่มนั


ปรากฏตัว มันทําให้เกิดเสี ยงแบบนั้น แล้วคนจํานวนมากก็จะถูกมันจับ
ไป”

เสี่ ยวยูก่ ระพริ บตาแล้วพูดพลางขํา สําหรับเธอแล้วดูเหมือนว่ามนุษย์ที่


ถูกกินนั้นไม่ได้น่ากลัวเลย มากกว่านั้นมันเหมือนกับเรื่ องน่าขบขัน

“เสี่ ยวยู่ อยูน่ ี่ก่อนรอข้าด้วย อย่าเพิ่งไป และที่สาํ คัญห้ามไปทางที่


อสู รตัวนั้นอยู่ เข้าใจมั้ย?” เขากับเสี่ ยวยูพ่ ดู อย่างเคร่ งเครี ยดในขณะที่
เขายืนขึ้น
“ยิฮ้ ่า ยิฮ้ ่า อืม~~” เริ่ มแรกนั้นใบหน้าเสี่ ยวยูป่ ระดับไปด้วย
รอยยิม้ แต่กถ็ ูกแทนทันทีดว้ ยความเศร้าหลังจากได้ยนิ ชูเฟิ งพูด แต่เธอก็
ไม่ได้พดู อะไรต่อ เธอหย่อนขาเล็กๆของเธอลงพร้อมกับนัง่ ไขว้ขาบน
รู ปแบบวิญญาณที่ชูเฟิ งสร้างขึ้น หลังจากที่จอ้ งชูเฟิ งด้วยความขุ่นเคือง
เธอเปิ ดปากของเธอแล้วเริ่ มกินปลาดิบต่อ

แม้วา่ เสี่ ยวยูจ่ ะแสดงออกถึงความไม่เชื่อฟังเป็ นอย่างมาก แต่การกระทํา


ของเธอก็ได้บอกว่าเธอเลือกที่จะเชื่อฟังชูเฟิ งและนัง่ อยูข่ า้ งหลังเขา

“ดีมาก” เมื่อเห็นเธอเชื่อฟัง ชูเฟิ งยิม้ นิดๆ แล้วรี บกระโดดมุ่ง


หน้าไปยังศูนย์กลางของทะเลโลหิ ตนิรันดร์ทนั ที
เหตุผลที่ทาํ ไมชูเฟิ งมาที่แห่งนี้เพื่อค้นหา ฉิ๋วซุ่ย ฟู่ หยาน เธอมายังที่นี่
เพื่อตามจับอสู ร ดังนั้นมันง่ายมากที่จะค้นหาเธอในที่ที่อสู รปรากฏตัว

หลังจากที่บินด้วยความเร่ งรี บ ชูเฟิ งก็กลับมายังศูนย์กลางของทะเล


โลหิ ตนิรนดร์ในไม่ชา้ อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะเห็นอสู ร ชูเฟิ งตกใจ
กับฉากที่เห็น

บนผิวนํ้าทะเลที่ที่เขาสู ก้ บั ชายใบหน้ายุติธรรมและชายป่ าเถื่อนก่อนจะมี


พายุที่ทิ้มแทงท้องฟ้าปรากฏ มีน้ าํ วนในบริ เวณที่เกิดพายุและพื้นที่น้ นั ยัง
ถูกนําวนปกคลุมอย่างมหาศาล

ไม่มีใครที่สามารถหลบหนีออกไปยังสถานที่ที่ถูกปกคลุมนี้ได้ ชูเฟิ งเห้


นด้วยตาของเขาเอง ผูค้ นนับไม่ถว้ นถูกห้อมล้อมด้วยพายุและอ่างนํ้าวน
ขนาดมหึ มาในทะเลนั้น
แม้วา่ คนจํานวนมากได้ร้องออกมาด้วยทรมานอย่างไม่สิ้นสุ ด ชูเฟิ ง
มองเห็นสามคนที่คุน้ เคย พวกเขาตือชายใบหน้ายุติธรรมและชายร่ าง
ใหญ่ป่าเถื่อนผูท้ ี่แรกเปลี่ยนกระบวนท่ากับชูเฟิ ง รวมถึงระดับ 3 จ้าว
สงครามก็อยูท่ ี่นน่ั ด้วย

ต่อหน้าพายุที่น่าหวาดหวัน่ ชายชราระดับ 3 จ้าวสงครามพยายามที่จะ


ต่อต้านมัน แต่กเ็ ป็ นที่น่าเสี ยดายที่พลังของชายชรายังมีนอ้ ยเกินไปที่จะ
ต่อกรกับมัน เช่นเดียวกันกับคนอื่นๆพวกเขาโดนพายุและนํ้าวนกวาด
ไปหมด

“ทรงพลังยิง่ นัก! เจ้าอสู รเคยถูกกดขี่อยูท่ ี่นี่ง้ นั รึ ? พลังของมันจะ


มากขนาดไหนนะ?” ชูเฟิ งยืนอยูก่ ลางอากาศพร้อมกับหวาดกลัวอย่าง
มาก ตัวเขาที่เป็ นคนกล้าหาญยังไม่กล้าเข้าใกล้มนั
อํานาจของพายุน้ นั ทําให้ชูเฟิ งหวาดกลัวเป็ นอย่างมาก แต่ไม่แค่เฉพาะ
เขาเท่านั้นคนอื่นๆที่มีพลังวิญญาณตํ่ากว่าระดับ 5 จ้าวสงครามยังไม่
แข็งแกร่ งพอที่จะต่อกรกับมัน ยิง่ พวกเขาเข้าใกล้มนั มากเท่าไหร่ พวกเขา
ยิง่ จะโดนดูดไปมากเท่านั้น

“อสู รปรากฏตัวแล้ว ทําไมฉิ๋วซุ่ย ฟู่ หยานยังไม่ปรากฏตัวอีก?


ด้วยตรรกะของเธอเธอควรจะมาถึงที่นี่ก่อนข้าสิ ” สายตาของชูเฟิ งไม่ได้
จ้องไปยังพายุเพียงอย่างเดียว นอกจากนั้นเขายังจ้องมองไปยังกลุ่มของ
ผูค้ นเพื่อค้นหาฉิ๋วซุ่ย ฟูหยานด้วย

* บูม * ทันใดนั้นขณะที่ชูเฟิ งสังเกตุโดยละเอียดอยูน่ ้ นั พายุซ่ ึ งได้ปก


คลุมทุกสิ่ งทุกอย่างไว้ภายในมีเส้นรอบวงประมาณ 1,600 กิโลเมตร
ได้แผ่ขยายไปอย่างรวเร็ ว ด้วยความเร็ วที่ไม่น่าเชื่อนี้มนั ก็ได้กวาดทุก
อย่างหายไปด้วย

“บ้าจริ ง” ในช่วงเวลานั้นชูเฟิ งตกใจอย่างมาก โดยที่ไม่ตอ้ งคิดเขา


หันหลังกลับและรี บหนีทนั ที เพราะเขาไม่อยากจะกลายเป็ นทรัพยากร
การบ่มเพาะของอสู ร

“อ่าห์~~~” อย่างไรก็ตามถึงแม้ความเร็ วของพายุน้ นั จะเร็ วมาก


เพียวใดแต่มนั ก็ยงั ห่างไกลกว่าจินตนาการของชูเฟิ ง และในตอนนั้นชู
เฟิ งได้หนั หน้ากลับมา คลื่นขนาดมหึ มาที่แตะได้แม้กระทัง่ ท้องฟ้าถล่ม
ลงมา ในตอนนั้นชูเฟิ งรู ้สึกมึนงงก่อนที่เขาจะขาดสติไปโดยสมบูรณ์
และเข้าสู่ อาการโคม่า

หลังจากไม่รู้วา่ ใช่เวลาไปมากเท่าไหร่ ชูเฟิ งก็ได้ฟ้ื นคืนสติ และเมื่อเขา


ได้ลืมตาที่หนักอึ้ง การมองเห็นของเค้าก็ได้กลับคืนมาเขาช่วยไม่ได้ที่จะ
สู ดเอาอากาศหายใจเข้าไป

หลังจากเหตุการณ์น้ นั เขาก็ได้ลงไปอยูท่ ี่กน้ ทะเลแล้ว นํ้าทะเลของ


สถานที่แห่งนี้ถูกดึงออก มันกลายเป็ นที่โล่งที่โดนปกคลุมด้วยนํ้าทะเล

ในพื้นที่โล่งมีคนจํานวนหลายพันอยู่ พวกเขาทั้งหมดเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ คน


ที่อ่อนแอที่สุดก็ยงั อยูใ่ นอาณาจักรสวรรค์วญ
ิ ญาณแล้วก็ยงั มีระดับ 3
จ้าวสงครามด้วย พวกเขาทั้ง 3 คนก็คือคนที่มากจากหมู่เกาะประหาร

มือและเท้าของทุกคนถูกมัดไว้ดว้ ยหญ้าวารี วเิ ศษ คนส่ วนมากยังไม่ได้


สติแต่กม็ ีบางคนที่รู้สึกตัวแล้ว ใบหน้าของทุกคนเเต็มไปด้วยความตื่น
ตระหนกและความหวาดกลัว บางคนยืนขึ้นแล้วตะโกนดังสนัน่ เพื่อขอ
ความช่วยเหลือและบางคนก็ร้องไห้สะอื้นด้วยความกลัว
ที่พวกเขาสะอื้นเพราะความกลัวเนื่องจาก ใต้เท้าของพวกเขาไม่มี
แม้กระทัง่ หิ นหรื อทรายเลย มันมีเพียงกระดูก กระดูกของผูฝ้ ึ กตนนับไม่
ถ้วน เมื่อมองดูชิ้นส่ วนต่างๆของกระดูกที่เปล่งแสง พวกเขาสามารถ
บอกได้เลยว่าผูค้ นเหล่านี้เมื่อตอนที่เขามีชีวติ อยู่ พวกเขาไม่ได้อ่อนแอ
เลย เช่นเดียวกับความจริ งที่วา่ พวกเขาเพิ่งจะเสี ยชีวติ เมื่อเร็ วๆนี้

หลังจากที่ชูเฟิ งตรวจสอบพวดเขาด้วยอํานาจวิญญาณ ชูเฟิ งพบว่าแหล่ง


พลังงานในกระดูกเหล่านั้นได้หายไปแล้ว แหล่งพลังทั้งหมดนั้นถูกดูด
ซับและกลัน่ โดยใครบางคน

“โถ่เอ้ย! กระทัง่ พลังของข้ายังไม่มี” ณ ขณะนั้นชูเฟิ งต้องการที่


จะกําจัดหญ้าวารี ที่มดั ตัวเขาอยู่ แต่เขาพบว่า เขาไม่มีแม้แต่พลังจะขัดขืน
เลย
เมื่อมองดูรอบๆเค้าชูเฟิ งรู ้วา่ นัน่ ไม่ใช่แค่เค้าคนเดียว แม้แต่คนอื่นๆก็
โดนยึดพลังไป หลังจากอย่างรอบคอบแล้ว ชูเฟิ งตระหนักถึงบางอย่าง
มันไม่ใช่วา่ พวกเขาเสี ยงการบ่มเพาะไป แต่เพราะพื้นที่น้ ีมนั พิเศษ พื้นที่
แถบนี้ที่ถูกปกคลุมไปด้วยนํ้าทะเลจริ งๆแล้วคือการก่อตัว และการก่อตัว
นั้นได้เอาการบ่มเพาะของพวกเขาไป

ในช่วงเวลานั้นชูเฟิ งแอบสาปแช่ง ถ้าพวกเขาไม่มีแม้กระทัง่ พลังที่จะทํา


ให้พวกเขาเป็ นอิสระจากหญ้าวารี น้ ี นี่ไม่ใ◌่ชว่าพวกเขาเหมือนปลาที่อยู่
บนเขียงเช่นนั้นรึ พวกเขาไม่สามารถทําอะไรได้ นอกจากนัง่ รอให้อสู ร
เข้ามาเชือดพวกเขา?

“กี้ กี้ กี้ กี้ กี้ กี้ กี้ ” อย่างไรก็ตามเขากําลังกังวลกับเสี ยงที่ทาํ ให้ที่
สามารถทําให้แข็งราวกับหิ นที่ดงั มาจากที่ที่ห่างออกไป มันกําลังใกล้เขา
มาเรื่ อยๆ
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////////
ท่าน#Kwong

A : เอ้ยยย ปี ศาจมาแล้วจะโดนแดกไม๊เนี่ยพี่เฟิ ง

B : ไม่มีทาง ไม่ตอ้ งสปอยทุกคนก็ตอ้ งพอเดาได้

A : แล้วไอสามตัวจากหมู่เกาะประหารอ่ะ

B : จะเหลือขี้ไง๊ โดนแดกชัวร์ๆ!!! รู ้ป่ะว่าอสู รตัวนี้รู้จกั กะพี่เฟิ ง


เรื่ องราวต่อจากนี้จะเริ่ มสนุกล่ะ ชูเฟิ ง โดนหญิงจับทรมาร แก้ผา้ เอาไม้
หนีบเสื้ อหนีบหัวนม

A : แม่นางนั้นมีนามว่าเช่นไร ทําไมถึงโหดร้ายเช่นนี้
B : บอกไว้เลยว่าสวยแต่กโ็ รคจิต เป็ นหญิงร้ายอันดับ 1 ตั้งแต่อ่าน
เรื่ องนี้มา แบบน่าตบสุ ดๆ!!!

บทที่ 614 - รวมพลังหนี

"อ๊ากกก”

เกิดเสี ยงดังขึ้นอีกครั้ง เสี ยงร้องที่เต็มไปด้วยความกลัวดังขึ้นหลายครั้ง

เสี ยงร้องดังขึ้นมาจากผูท้ ี่ไม่สามารถคุมสติได้ ในตอนนั้นพื้นที่น้ นั มัน


ช่างมีบรรยากาศที่ น่าเกรงกลัว แปลกประหลาด และ น่าขนลุกทัว่ พื้นที่
นั้น

แต่ในขณะที่ทุกๆคนกําลังต่อต้านด้วยพลังทั้งหมดที่พวกเขามี หรื อ กรี ด


ร้องไปแล้ว ชูเฟิ งก็ได้จบั จ้องไปที่ทิศทางที่มีเสี ยงประหลาดส่ งออกมา

สุ ดท้าย ในมุมมืด ก็มีเงาร่ างหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตา มันสู งประมาน 2


เมตรและมีหญ้าปกคลุมทัว่ ร่ าง

ร่ างของมันอาจจะยังไม่ชดั เจนนัก แต่พวกเขาสามารถเห็น ดวงตาคู่แดง


กํ่าของมันได้ และนัน่ ทําให้ผคู ้ นตกอยูใ่ นความกลัวเช่นเดียวกับ สัตว์
มหึ มาหรื อสัตว์ร้าย นอกจากนี้ กลิ่นอายของมันส่ งผลให้พวกเขาเป็ นอม
พาต อสู รทรงพลังตัวนี้น้ นั มีพลังถึงระดับ 5 เจ้าสงคราม

มันเดินออกมาอย่างช้าๆ เหมือนกับกําลังเพลิดเพลินในความกลัวของ
ผูค้ น และมันก็ได้หยุดหลังจากมาถึงชายวัยกลางคนคนหนึ่ง และมันก็
มองเขาด้วยสายตาเย็นเยือก
*ฮึ่ม*

หลังจากมันจ้องไปที่ชายคนนั้น เขาก็รีบใช้พลังพุง่ ขึ้นไปเพื่อหนีออก


ห่างจากอสู รตัวนั้น

“อย่าฆ่าข้าเลย ข้ามีครอบครัว มีลูก มีภรรยาต้องดูแล ครอบครัว


ของข้าต้องพึ่งพาข้า ข้าไม่สามารถที่จะตายได้ อย่าฆ่าข้าเลย ได้โปรด
เมตตาข้าด้วย!” ชายคนนั้น หวาดกลัวและตื่นตระหนกอย่างไม่มีที่
สิ้ นสุ ด

*กว๊ากกก~~~~*
แต่มนั ก็ไม่ได้สนใจเขา มันคํารามเสี ยงออกมาและเสี ยนั้นแสบแก้วหู
มาก และพลังนัน่ ได้เข้าไปล้อมรอบชายวัยกลางคนเอาไว้

“อ๊ากกก~~~”

หลังจากมันล้อมรอบเสร็ จแล้ว มันก็เริ่ มดูดพลังของชายคนนั้น และทํา


ให้เขาร้องเหมือนหมูถูกเชือด ทําให้ทุกคนต้องถึงกับตกอยูใ่ นความกลัว
เมื่อเห็นภาพนั้น แม่แต่ชูเฟิ งก็ตอ้ งขมวดคิว้ และมีเหงื่อไหลออกมาบนน
หน้าผากเขา

พวกเขาเป็ นเช่นนั้นเพราะ มันดูดทุกอย่างของชายไปทั้งหมด ในตอน


แรกก็เป็ นผิวหนัง ต่อด้วยก้าม เส้นเลือด เหลือทิ้งไว้เพียงกระดูกที่ไม่มี
เศษเนื้อหรื อเลือดติดไว้เลย

นัน่ เพราะกระบวนการกลัน่ พลัง ของมันนั้นรวดเร็ วอย่างมาก ไม่ตอ้ ง


สงสัยสิ่ งที่เกิดขึ้นทําให้หลายต่อหลายคนหน้าซี ดไปด้วยความกลัว บาง
คนนั้นถึงกระทัง่ สลบไปเลย

“กรี๊ ดดดด~~~”

แต่นน่ั ก็เป็ นเพียงที่จุดเริ่ มต้น เป้าหมายต่อไปของมันคือ ผูห้ ญิงที่อยู่


ใกล้ๆชายคนก่อนหน้านี้ ผูห้ ญิงคนนั้นถูกยกตัวขึ้น และ มันก็เริ่ มที่จะ
กลัน่
ในสุ ดท้าย ก็เช่นเดียวกับคนก่อนหน้านี้ ผูห้ ญิงคนนั้นถูกกลัน่ ทุกสิ่ งทุก
อย่าง จนเหลือแค่กระดูก

“อ๊ากก~~~~”

หลังจากนั้น คนอื่นๆก็ถูกกลัน่ เช่นเดียวกัน ภายในเวลาสั้นๆมันก็ดูดและ


กลัน่ พลังไปกว่า 10 คนแล้ว

“เราต้องโดนกินแน่ๆ เราต้องตายแน่เลย พวกเราต้องตายกัน


ทั้งหมด พวกเราต้องถูกมันดูดกลืนอย่างแน่นอน !”

ในตอนนั้นก็มีบางคนจิตตกอย่างหนัก ที่ได้เห็นภาพภาพนั้น ทุกสิ่ งทุก


อย่างถูกดูดกลืนไปทั้งหมด ภาพที่เห็นนั้นช่างทรมานเสี ยจริ ง ราวกับมัน
แสดงให้เห็นว่าเป็ นศัตรู ของเหล่ามนุษย์ มันจงใจให้มนุษย์ได้รับความ
เจ็บปวดทรมานที่สุดแล้วค่อยกลัน่ พวกเขา

“ไม่ ไม่ ไม่ อย่าฆ่าข้าเลย ข้าจะตายเช่นนี้ไม่ได้ แม้ขา้ ตาย ข้าก็ไม่


อยากตายอย่างทรมาน”

บางคนนั้นสู ญเสี ยเหตุผลไปทั้งหมด และเลือกจะฆ่าตัวตาย แต่น่า


เสี ยดายนัก พวกเขาได้เสี ยพลังไปทั้งหมด และไม่เหลือโอกาสที่จะฆ่า
ตัวตาย พวกเขาทําได้แต่รอความตายจากอสู รตัวนั้นเท่านั้น

“เห้ เจ้าหนุ่มที่อยูต่ รงนั้น ถ้ายังไม่อยากตายให้มาซ่อนตรงนี้ ข้ามี


ทางช่วยเจ้าได้.”
แต่ในตอนนั้น ก็มีขอ้ ความจิตส่ งมายังหูของชูเฟิ ง มันคือชายชราที่อยูใ่ น
ระดับ 3 เจ้าสงคราม ของหมู่เกราะประหาร

นอกจากนี้ไม่ใช่เพียงเขา ยังมีชายร่ างใหญ่หน้าตาน่ากลัวอยูข่ า้ งเขาด้วย

เมื่อเห็นเขาส่ งข้อความจิตมายังชูเฟิ ง ชูเฟิ งก็รู้ทนั ทีวา่ พลังของพวกเขา


นั้นยังอยู่ ดังนั้นชูเฟิ งจึงรี บตอบกลับไปอย่างรวดเร็ ว, “พวกท่านมีวธิ ี
อะไรหรื อ ลองว่าแผนการมา”

“เจ้าหนู เจ้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณอย่างนั้นสิ นะ ถ้าใช่ ข้าก็


สามารถช่วยเจ้าได้,” ชายชราคนนั้นถามชูเฟิ งตรงๆ
“ใช่” ชูเฟิ งตอบ

“ถ้าอย่างนั้นเราก็ตอ้ งรี บออกไปจากที่นี่ หากช้า เราอาจจะตาย”


ชายชรา พูดขึ้นอีกครั้ง จากนั้นเขาก็หนั ไปมองที่ชายชราผมดําด้านข้าง
อายุของเขานั้นน่าจะมากกว่าพันปี แล้ว และเขามีพลังอยูใ่ นระดับ 9
อาณาจักรสวรรค์ และยังสวมชุดคลุมผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมฟ้า
อีกด้วย

ชูเฟิ งเข้าใจทันทีวา่ เขากําลังพูดคุยกันอยู่ อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้วา่ ทั้ง 2


นั้นจะมีแผนสกปรกอะไร แต่เขาน่าจะมีวธิ ีบางอย่างที่จะสามารถช่วย
พวกเขาได้ และ มีผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้
นอกจากนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ ชูเฟิ งจึงไม่ได้คิดมาก และ ค่อยๆขยับ
ร่ างของเขาไปใกล้ๆ 3 คนนั้น

ในขณะเดียวกันก็มีผคู ้ นเข้ามาใกล้ๆ ชูเฟิ งรู ้ได้ทนั ทีวา่ พวกเขาเป็ นผู ้


เชื่อมต่อโลกวิญญาณ และ ยังมีพลังที่แข็งแกร่ งมาก

“ดูนี่ ข้ามีสมบัติอยู่ มันจะช่วยให้พวกเราเปิ ดรู ปแบบนี้ได้ แต่กต็ อ้ ง


ใช้พลังวิญญาณที่แข็งแกร่ งอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้พวกเราสามารถเปิ ด
ได้แล้ว แม้วา่ อสู รตัวนั้นจะสามารถกลัน่ พวกเราได้ แต่มนั ก็ทาํ ได้เพียงที
ละคนเท่านั้น มันไม่สามารถจัดการพวกเราได้ใน 2 ชัว่ โมง ดังนั้นรี บ
เร็ วเข้า ไม่ตอ้ งคิดมากเกี่ยวกับสิ่ งนี้ รี บใช้พลังใส่ สมบัติของข้าถ้าพวกเรา
ไม่ทาํ พวกเราก็จะตาย.”

คําพูดของ เจ้าสงครามระดับ 3 คําพูดของเขาเหมือนคําพูดธรรมดา แต่


มันก็เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ชูเฟิ งนั้นรู ้วา่ มันเป็ นสมบัติ แต่วา่ พลังของมัน
นั้นต้องใช้พลังอย่างมาก และในตอนนี้ไม่มีใครที่เหลือพลังมากมาย
เพียงพอ ดังนั้นพวกเขาก็ตอ้ งทําเช่นนี้เท่านั้นถึงใช้งานมันได้

พูดตามตรงชูเฟิ งไม่ได้เชื่อใจทั้ง 3 ที่มาจากหมู่เกราะประหาร แต่เมื่อ


เห็นผูค้ นที่ถูกเรี ยกมาเริ่ มใส่ พลังไปในนั้น มันคงจะไม่ดีถา้ ชูเฟิ งจะไม่ทาํ
อะไรเลย ไม่วา่ มันจะจริ งหรื อหลอก มันก็เป็ นคนทางเดียวที่เขาสามารถ
รอดไปได้

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////
A : ไอ้พวกหมู่เกาะประหาร ไม่มีคนดีสกั คน มันต้องทรยศชัวร์ๆ แล้ว
พี่เฟิ งจะทําไงล่ะ
B : ไม่ตอ้ งห่วง เรื่ องจะดีแทบจะไม่มีทางเป็ นไปได้ พี่เฟิ งก็ไม่โง่ขนาด
ไว้วางใจพวกนัน่ อีกอย่างอสู รตนนี้กค็ งไม่มีทางกินพีเฟิ งเป็ นแน่

A : มัน่ ใจได้ไง ยังไงอสู รก็คืออสู รอยูว่ นั ยังคํ่า ถ้ามันแดกพี่เฟิ งได้


จริ งๆ พลังมันคงพุง่ ทะยานฟ้าอ่ะ

B : กรณี พี่เฟิ งตาย อสู รวิญญาณจะเป็ นอิสระ แล้วหากต้านต้านกับ


อสู รอีกตัวหลุดออกมาจะเกิดอะไรขึ้น กรณี ตา้ นต้าน อาจจะอยูใ่ นโลก
วิญญาณเพราะคู่สญ ั ญาตาย แต่อีกตัวไม่รู้จะกลับโลกอสู รฟ้าหรื อหลุด
มาด้านนอก แล้วอีกอย่างอสู รตนนี้กเ็ หมือนจะกลัวชูเฟิ งเบาๆ แต่จะด้วย
เหตุผลอะไรต้องรออ่านดู . . . .
บทที่ 615 - คนคุน้ เคย ?

ในสถานที่เช่นนี้มนั ก็เหมือนกับนรกของเหล่ามนุษย์ กับคนปกติ ผูฝ้ ึ ก


ตนที่ได้เห็นคนถูกกลัน่ โดยอสู รตัวนั้น ก็รู้สึกสยองอย่างมาก
ในสถานการณ์เช่นนั้น ผูค้ นที่ได้เห็นการกลัน่ และเสี ยงร้องโหยหวน ก็
รู ้สึกว่าเวลานั้นผ่านไปช้าเหลือเกิน

แต่สาํ หรับคนที่มีโอกาสรอดเช่นชูเฟิ งนั้น รู ้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็ ว


มาก ผูค้ นส่ วนใหญ่น้ นั ถูกกลัน่ โดยเจ้าอสู รนัน่ ไปหลายพันคนแล้ว

แม้แต่คนที่แอบเคลื่อนไหวไปยังที่ปลอดภัย ก็ไม่พน้ สายตาของเจ้าอสู ร


นัน่ พวกเขาไม่มีทางรอดชะตาที่จะถูกกลัน่ ได้

“อ๊ากก~~~ อ๊ากก~~~”

เสี ยงร้องดังและหยุด เรื่ องๆไม่มีสิ้นสุ ดแต่ในตอนนั้นชูเฟิ ง และคนอื่นๆ


ไม่มีเวลาคิดถึงเสี ยงร้อง เพราะหลังจากกระดูกถูกโยนลงไป มันก็เห็น
พวกเขา

“แย่แล้ว มันเห็นพวกเราแล้ว เร็ วเข้ารี บใช้สมบัติของเจ้าไม่ง้ นั เรา


จะตาย, !”

ในตอนนั้นพวกเขาต่างตื่นตระหนก เพราะกลัวว่าจะกลายเป็ นเป้าหมาย


ต่อไป

“หุบปากซะ!” ในตอนนั้นขาที่ทรงพลังข้างนึงก็ถีบคนที่ตะโกน
ออกมา เข้าไปยังฝูงคน
คนที่เตะนั้นคือ ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ 3 เจ้าแห่งสงครามจากหมู่เกาะ
ประหาร

“เจ้า เจ้า เจ้า …” เมื่อเห็นว่าเขาถูกทรยศ คนที่ถูกเตะก็กดั ฟันแน่น


ด้วยความโกรธ แต่ก่อนที่เขาจะได้ทาํ อะไรเจ้าอสู รนัน่ ก็ยกเขาขึ้นบน
อากาศ และเริ่ มที่จะกลัน่ เขา

แต่นง่ั ก็แค่เริ่ มต้น หลังจากเขาได้ถีบไปคนนึง 3 คนจากหมู่เกาะ


ประหาร ด้วยพลังกายระดับ 3 เจ้าแห่งสงคราม ก็เริ่ มที่จะถีบคนอื่นๆ
ตามไป

“เจ้าทําอะไรของเจ้า พวกเขาช่วยเจ้านะ เจ้ายังเป็ นมนุษย์อยู่


หรื อไม่” ชูเฟิ ง พูดขึ้นมา
“เจ้าหนู ฟังข้า ในเวลาเช่นนี้น้ นั มันต้องมีการเสี ยสละเกิดขึ้นบ้าง”

“เป็ นเพราะพวกจ้านั้นมีพลังวิญญาณ และเจ้านั้นแข็งแกร่ งที่สุดใน


บรรดาคนทั้งหมดนั้นเป็ นเหตุผลที่ขา้ เก็บเจ้าไว้ เจ้ารี บใส่ พลังเข้าไปมิ
เช่นนั้น ข้าจะถีบเจ้าไปอีกคน,” ชายชราจาก หมู่เกาะประหารพูดขึ้น

“พลังวิญญาณอย่างนั้นหรื อ เจ้าขยะ 2 คนข้างๆเจ้าไม่มีพลัง


วิญญาณทําไมเจ้าไม่ถีบเขาออกไปล่ะ” ชูเฟิ งถามขึ้นในขณะที่จอ้ งหน้า
ชายชรา

“หุบปาก ถ้าเจ้าต้องการจะตาย ข้าจะสงเคราะห์ให้” ชายชราพูดขึ้น


ด้วยความโกรธ เขาชี้หน้าชูเฟิ งและตะโกนเสี ยงดัง
“อย่างนี้นี่เอง เจ้าต้องการใช้ขา้ เป็ นสะพานเพื่อข้ามนํ้าไปสิ นะ เจ้า
ฝันไปซะเถอะ ถ้าเจ้าไม่ตอ้ งการให้พวกเรารอด เจ้าก็อย่าหวังว่าจะรอด
เลย ถ้าพวกเราต้องตาย ก็ตายด้วยกันหมดนี่แหละ!” ชูเฟิ งพูดขึ้นด้วย
ความโกรธ

“ถูกต้อง พวกเราจะไม่ยอมเป็ นสะพานให้เจ้าเหยียบ ถ้าเจ้าต้องการ


ให้พวกเราตาย พวกเราก็จะเอาพวกเจ้าไปด้วย!”

“บัดซบ ไหนว่าหมู่เกาะประหารมีความเอื้อเฟื้ อเผือ่ แผ่และมี


มนุษยธรรม แต่นี่มนั ต่างกับที่ได้ยนิ มาอย่างริ บรับเลย ถ้าพวกเราต้องตาย
พวกเราก็จะขอลากเจ้าไปด้วย!”
ในตอนนั้น เมื่อผูค้ นรู ้แผนชัว่ ของพวกหมู่เกาะประหารพวกเขาก็ตะโกน
เสี ยงดังลัน่ ต้องการให้อสู รนั้นเปลี่ยนเป้าหมายมาที่พวกเขา เพื่อกลัน่ คน
จากหมู่เกาะประหาร

“บัดซบ พวกเจ้าทั้งหมดหาที่ตายจริ งๆ!” ในตอนนั้นชายร่ างยักษ์


จากหมู่เกาะประหารก็พดู ขึ้นพวกเขาเริ่ มจับพวกผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ
พร้อมชูเฟิ งมัดขา และโยนมันอออกไปด้านหน้าของอสู ร

“ท่านอสู ร ท่านอสู ร เจ้าสัตว์3ตัวจากหมู่เกาะประหาร กําลัง


ซ่อนอยุต่ รงนั้น มันจะลอบทําร้ายท่าน เร็ วเข้ารี บหยุด อ๊ากกกกกก
~~~~”

เขาพยายามที่จะบอกที่ซ่อนให้กบั อสู รได้รู้วา่ 3คนจากหมู่เกาะประหาร


นั้นอยูท่ ี่ไหน

อย่างไรก็ตาม มันไร้ประโยชน์ เมื่ออสู รนั้นไม่เข้าใจคําพูดของมนุษย์


มันจึงเพิกเฉยต่อคําพูดและเริ่ มกลัน่

“บัดซบ!!!.” เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ งก็ยนื ขึ้น เขาไม่ได้มีพลังระดับ


เจ้าสงคราม ดังนั้นเขาจึงใช้พลังเพื่อให้หลุดจากต้นหญ้านํ้าที่มดั ตัวเขาไว้
แต่ในตอนนั้นอสู รก็ได้มาถึงเขาพอดี

โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อเขาหันกลับไปและเห็นท่าทางของพวกหมู่เกาะ
ประหารซึ่งมันทําให้เขาไม่พอใจอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามอสู รนั้นไม่
เข้าใจคําพูดของมนุษย์ เขาไม่สามารถทําอะไรได้แล้ว หรื อว่าจะชะตา
ของเขาจะถูกสวรรค์ทอดทิ้งแล้วหรื อ
“อ๊ากก~~~”

ในที่สุด ก็มีเสี ยงร้องจากคนอื่นที่ถูกกลัน่ ในพื้นที่วา่ งก้นสมุทร มีเพียง


อสู ร ชูเฟิ ง และ อีก3คนจากหมู่เกาะประหารที่ยงั อยู่

“มาที่ขา้ สิ ไองี่เง่า มาดูกนั ว่าเจ้าจะเอากระดูกและเลือดเนื้อของข้า


ไปได้หรื อไม่!”

เมื่อร่ างกายของเขาถูกยกสู งขึ้น และ อยูใ่ กล้กบั อสู ร ชูเฟิ งนั้นไม่มีการ


แสดงออกถึงความกลัวแม้แต่นอ้ ย เขาตะโกนใส่ อสู รตัวนั้นด้วยความ
โกรธ
*ฮึ่ม*

อย่างไรก็ตาม เมื่ออสู รนั้นเห็นหน้าชูเฟิ ง ตาที่แดงกํ่าดัง่ เลือดของมันก็


เกิดประการแสง ในตอนนั้นชูเฟิ งรู ้สึกว่าร่ างกายของมันสัน่ เบาๆ

เมื่อมองอย่างระมัดระวังชูเฟิ งก็พบว่าในตาที่แดงกํ่าของมันมีความกลัว
ปรากฏอยู่ นอกจากนี้เขารู ้สึกถึงความคุน้ เคยที่ออกมาจากตาของมันอีก
ด้วย

“เจ้าเป็ นใครกัน!!!” ในตอนนั้นก็เกิดความรู ้สึกบางอย่างใน


ความคิดของชูเฟิ ง เจ้าอสู รที่อยูต่ รงหน้าเขานั้นมันช่างคุน้ เคยเสี ยจริ ง
*ตุบ* แต่เรื่ องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่ออสู รตัวนั้นปล่อยชูเฟิ งลงพื้น
จากนั้นมันก็หนั มามองเขาแว้บนึงจากนั้นมันก็หนั กลับและเดินไปยัง 3
คนที่มาจากหมู่เกาะประหาร

“บัดซบ เกิดอะไรขึ้น ทําไมมันถึงตรงมาที่เรา ทําไมมันถึงไม่กลัน่


เจ้าเด็กนัน่ ”

เมื่อเห็นเช่นนั้น พวกเขาก็รู้สึกกลัวอย่างมาก และไม่เข้าใจว่าทําไมมันไม่


ฆ่าชูเฟิ ง และตั้งเป้ามาที่พวกเขาทันที

“ชิบหายแล้ววว.” ในตอนนั้น ชายชราที่อยูใ่ นระดับ 3 เจ้าแห่ง


สงครามก็ตะโกนดังลัน่ จากนั้นเขาก็เดินมาด้านหน้าของชายร่ างยักษ์
และ แบมือขึ้นทําให้สญ
ั ลักษณ์สว่านปรากฏขึ้น

อย่างไรก็ตามเมื่อสัญลักษณ์น้ นั ปรากฏขึ้น มันก็หมุนทันที ซึ่ งก่อให้เกิด


บรรยากาศที่น่าเกรงขามมาก และ ยังมีกลิ่นอายที่น่ากลัวอีก เขาไม่เคย
คิดว่าจะได้ใช้สมบัติชิ้นนี้เพื่อหลบหนีแบบนี้ ความจริ งแล้วเขาต้องการ
ใช้มนั เพื่อต่อสู ก้ บั อสู รตัวนั้น

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////
A : ภาวะนาให้มืงฆ่าอสู รตัวนี้ได้ สําเร็ จนะ ถ้าหากไม่คุนมืงตายอย่าง
แน่นอน
B : อสู รตนนี้ ทําไมถึงไม่ฆ่า ชูเฟิ ง แล้วทําไมมันต้องกลัวชูเฟิ ง มัน
กลัวอะไรที่อยูใ่ นตัวเค้าหรื อเปล่า ? แล้วทําไมชูเฟิ งถึงบอกว่าคุน้ เคย ?

C : ก็ไม่รู้สินะ ?

B : รู ้คาํ ตอบพิมพ์ ชื่อ ตัวละครที่ชูเฟิ งบอกว่าคุน้ เคย แล้วส่ งSMS


มาที่ 1150 ต่อ 191 หากตอบถูกเป็ น 10 ท่านแรก ท่านจะโดน
จับ ข้อหา ก่อกวน การปฏิบตั ิงานของเจ้าหน้าที่ ขอบพระคุณทุกท่านที่
ร่ วมสนุก
บทที่ 616 - ต้องโหดเหี้ ยม

“เจ้าอสู ร!! ตายซะ!!!” ทันใดนั้นชายชราตะโกนพร้อมกับแทง


สว่านออกไปด้วยความตกใจ จากนั้นจู่ๆสว่านในมือก้หายวับไปจากมือ
สว่านนั้นมีขนาดใหญ่กว่าฝ่ ามือ หลังจากที่มนั หายไปจากมือของเขา
ทันใดนั้นมันขยายขนาดขึ้นหลายสิ บเมตร มันเปล่งแสงสี ทองแพรว
พราวพร้อมด้วยพลังอันมหาศาลและล้อมรอบไปด้วยสัญลักษณ์ที่ทรง
พลัง มันถูกยิงอย่างรุ นแรงไปที่อสู รตนนั้น

“บ้าเอ้ย!”

ณ ขณะนั้นชูเฟิ งแอบสาปแช่งอยูเ่ นื่องจากด้วยความเฉี ยบคมของอํานาจ


วิญญาณของเค้า สามารถตรวจสอบได้ทนั ทีวา่ สว่านอันนั้นไม่ใช่สมบัติ
ธรรมดาแต่มนั คืออาวุธพิเศษที่สร้างขึ้นโดยผูเ้ ชือมต่อฯชุดคลุมสี ทอง

อาวุธนัน่ ใช่ได้แค่ครั้งเดียวแต่พลังของมันนั้นน่าสะพรึ งเป็ นอย่างมาก


โดยเฉพาะอย่างยิง่ สิ่ งที่ชายชรามีอยูน่ ้ นั ไม่ธรรมดาเลย
ถ้าเป็ นก่อนหน้านี้ ชูเฟิ งคาดหวังให้ชายชราทําสําเร็ จและมันมีความ
เป็ นไปได้อย่างมากถ้ามีใครสักคนรู ้ หรื อไม่อสู รก็อาจจะไม่ปล่อยให้เขา
พร้อมกับคนที่มากจากเกาะประหารมีชีวติ รอด

แต่ตอนนี้ ไม่เพียงแค่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับอสู รแต่ยงั ทําให้ชูเฟิ งมีโอกาส


มีชีวติ รอดต่อไป นอกจากนี้ถา้ มีบางอย่างเกิดขึ้นอสู รและชายชรามีชีวติ
รอดแทน ชูเฟิ งคงตายอย่างไม่ตอ้ งสงสัย

อย่างไรก็ตาม โดยที่ไม่คาดคิดเป็ นอสู รที่เผชิญกับอาวุธรู ปแบบวิญญาณ


ที่น่ากลัว มันไม่ได้หลบหรื อป้องกันตัวแต่อย่างใด มันเพียงเดินเข้ามา
อย่างสง่าผ่าเผยที่อาวุธรู ปแบบวิญญาณ มันเพียงร่ างกายเปล่าๆหยุดการ
โจมตีนนั่
* บูม * ท้ายที่สุด อาวุธนัน่ ก็ถูกทําลายในขณะที่เข้าปะทะกับร่ างกาย
ของอสู ร การจู่โจมนัน่ ทําได้แค่สร้างเสี ยงระเบิดอีกทีกคึกโครมเท่านั้น
แม้วา่ มันจะก่อให้เกิดระรอกคลื่นที่น่ากลัว แต่หลังจากนั้นระรอกคลื่นก็
หายไป มันโดนดูดซึมโดยอสู ร

ใช่แล้ว การโจมตีที่น่ากลัวของอาวุธอํานาจพลังวิญญาณถูกดูดซับโดย
อสู รจนหมดสิ้ น อาวุธที่ชายชราเตรี ยมขึ้นด้วยความพิถีพิถนั นั้นคล้ายกับ
การเอาไข่ไปขว้างใส่ หิน มันไม่สามารถทําให้อสู รได้รับบาดได้แม้เพียง
นิด

“เป็ นไปได้ยงั ไง!!!” เมื่อเห็นเช่นนั้นแม้แต่ตวั ชายชราเองก็ยงั ตกใจ


ตามความเข้าใจของเขา อวุธรู ปแบบวิญญาณมีความเป็ นไปได้สูงที่จะทํา
ให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสแม้วา่ จะเป็ นระดับ 5 ขั้นเทพสงครามก็ตาม แต่
สถานะการณ์ตอนนี้เรื่ องแบบนี้มนั ไม่ควรเกิดขึ้น
เว้นแต่…..เว้นแต่วา่ พลังของมันเข้าสู่ สถานะที่ไม่สามารถควบคุมได้

“ผูอ้ าวุโส เราจะทํายังไงดี? แม้แต่อาวุธยังทําอะไรมันไม่ได้เลย”

ในเวลาเดียวกัน ชายป่ าเถื่อนคล้ายกอลิล่าและชายใบหน้ายุติธรรมตกอยู่


ในความหวาดกลัวเรี ยบร้อยแล้ว สว่านของพวกเขาคือโอกาสสุ ดท้าย
และตอนนี้โอกาสสุ ดท้ายของพวกเขาก็โดนทําลายไปแล้ว ตอนนี้พวก
เขาเริ่ มรู ้สึกถึงความสิ้ นหวังแม้ทางออกก็ไม่มี

“เราจะทําอะไรได้อีก? เราทําได้เพียงรอความตายเท่านั้น” ชาย


ชราเปล่งเสี ยงออกทางจมูกอย่างเย็นชา แล้วประกายความดุร้ายก็ส่อง
แสงอยูใ่ นดวงตาของเขา ขณะที่เขาพูดเขาคว้าชายป่ าเถื่อนและชายใบ
หนา◌้ยตุ ิธรรมโยนไปตรงหน้าของอสู ร

* ฮึ่มม * และเมื่อทั้งสองถูกโยนไปตกอยูถ่ ดั ทางอสู ร พวกเขาก็ถูก


ยกขึ้นด้วยพลังที่เป็ นเอกลักษณ์ของอสู ร มันคือจุดเริ่ มต้นของจังหวะการ
กลัน่

“นายท่าน ข้าใคร่ ขอถามท่านได้หรื อไม่วา่ ท่านมากจากที่ใด? แต่


ได้โปรด...อย่าฆ่าข้าเลย ข้าเต็มใจที่จะติดตามรับใช้ท่าน แม้วา่ ท่านอยาก
ให้ขา้ เป็ นวัว ม้า หมู หมา อะไรก็ตาม ข้ายอมทั้งหมด ข้าจะไม่ปริ ปาก
แม้แต่เพียงครึ่ งคํา ดังนั้นได้โปรด...นายท่าน..โปรดเมตตาข้าด้วย”

“เมตตาข้า….เมตตาข้าด้วย! อย่าฆ่าข้า! ข้าเต็มใจที่จะเป็ นข้ารับ


ใช้ที่ซื่อสัตย์ต่อท่าน..ข้าสามารถหาทรัพยากรบ่มเพาะให้ท่านได้มากกว่า
นี้.. ข้าสามารถหาเหยือ่ ที่เป็ นผูฝ้ ึ กตนที่แข็งแกร่ งให้ท่านดูดกลืนได้ ฉะ
นั้น..ได้โปรด..อย่าฆ่าข้า!”

ตอนนี้ชายป่ าเถื่อนและชายใบหน้ายุติธรรมได้ตกอยูใ่ นความกลัว


เรี ยบร้อยแล้ว พวกเขาซึ่งหวาดกลัวต่อความตายได้เริ่ มพูดทุกอย่าง
ออกมาโดยไร้ยางอาย โดยเฉพาะอย่างยิง่ ชายใบหน้ายุติธรรม เขายังมี
ข้อเสนอที่จะให้ทรัพยากรบ่มเพาะแก่อสู ร พวกเขาด้อยค่ากว่าหมูและ
หมาแม้กระทัง่ สัตว์อื่นๆก็ดว้ ย

“อ้า~~”

อย่างไรก็ตาม อสู รไม่ได้สนใจในสิ่ งที่พวกเขาเสนอเลยแม้แต่นอ้ ย หัวใจ


ทั้งสองบิดกระชากพร้อมกับส่ งเสี ยงเกรี ยดร้องออกมา ทั้งเริ่ มที่จะ
ประสบกับความทุกข์ทรมานอันโหดร้าย
ความโหดเหี้ ยม มันคือความโหดเหี้ ยมอย่างแท้จรื ง แม้วา่ พวกเค้าทั้งสอง
จะยังอดทนต่อความเจ็บปวดจากการกลัน่ ได้ และกระบวนกลัน่ นี้
แน่นอนว่ามันต้องเกิดกับคนอื่นๆด้วย พวกเขาใช้เวลานานเป็ นอย่างมาก
ในกระบวนการนี้

ที่จริ งแล้ว อสู รมีความตั้งใจที่จะทรมานพวกเขา มันทรมานอย่างช้าๆ


และในระหว่างนั้น ชูเฟิ งสามารถเห็นผิวหนังของพวกเขากําลังปริ แตก
อย่างชัดเจน การปริ แตกนั้นมาพร้อมกับธารสายโลหิ ตสี แดงฉานไหล
พล่านเข้าสู่ ร่างการของอสู ร การกลัน่ และการดูดซึ มหมายถึงสิ่ งนี้

หลังจากที่ผวิ หนังของพวกเขาปริ แตกแล้ว ตามมาด้วยกระดูกสดๆและ


อวัยวะภายใน ก่อนกระบวกการกลัน่ จะเสร็ จสิ้ น พวกเขาทั้งสองคนยังมี
ชีวติ อยู่ สามารถเห็นได้จากการที่พวกเขารู ้สึกทรมานอยู่
หลังจากกระบวนการทรมานที่ยาวนาน ชุดของกระดูกของพวกเขาทั้ง
สองคนยังคงอยู่ แต่ตอนนี้อสู รไม่ได้ทาํ แบบเดิมเหมือนก่อนหน้านี้ มัน
แค่โยนพวกเขาไปด้านข้าง กองกระดูกที่แตกเป็ นเสี่ ยงๆได้หอ้ มล้อม
พวกเขาไว้

วิธีการที่มนั ทํากับพวกเขานั้นไม่เพียงแค่ยดื เวลาออกไป มันยังรวมถึง


เพิม่ วิธีการทรมานเข้าไปด้วย และมันยังกินกระดูกพวกเขาไปด้วย ไม่
เหลือแม้แต่เศษซาก

“ฮ่า ฮ่า ชูเฟิ งดูสิ! วิธีการที่อสู รตัวนั้นทําช่างคล้ายกับเจ้ายิง่ นัก ทั้ง


รุ นแรงและโหดร้ายพอๆกัน” ทันใดนั้น ต้านต้านก็เชียร์อย่างมีความสุ ข
พร้อมกับระบายความโกรธออกมาทางใบหน้า
“อะไรนะ? ปกติขา้ เป็ นคนที่โหดร้ายแบบนั้นหรอ?” ชูเฟิ งถาม
ขึ้นด้วยใบหน้าที่บริ สุทธ์หลังจากที่ได้ยนิ คําพูดเหล่านั้น

“เจ้าหรอ? เจ้าเป็ นคนที่โหดร้ายมาก โหดร้ายกว่าอสู รซะอีก


เมื่อไหร่ กต็ ามที่เจ้าเกรี้ ยวกราด เจ้าก็จะกลายเป็ นอย่างอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์!!
ฮ่า..ฮ่า แต่ขา้ ชอบแบบนั้น เป็ นมนุษย์ที่เกรี้ ยวกราด โดยเฉพาะอย่างยิง่
เมื่อเจ้าเผชิญหน้ากับศัตรู ไม่เพียงเจ้าจะเลือดเย็นแต่ยงั อํามหิ ตอีกด้วย เจ้า
จะต้องกลายเป็ นคนบ้าและเกรี้ ยวกราดเท่านั้นถึงจะทําให้หวั ใจของพวก
เขาสัน่ สะท้านเมื่อได้ยนิ ชื่อของเจ้าและสู ญเสี ยความกล้าหายทั้งหมดเมื่อ
ได้เผชิญหน้ากับเจ้า” ต้านต้านพูดพลางหัวเราะขบขัน

ณ ขณะนั้น ชูเฟิ งรู ้สึกว่าเขาไม่สามารถโต้เทียงได้ ไม่ใช่เพราะเขาโง่ แต่


โดยธรรมชาติแล้วเขารู ้วา่ คนประเภทไหนที่เขาต้องเกรี้ ยวกราด แต่เขา
ไม่เคยเสี ยใจที่ทาํ แบบนั้นแต่กลับกันเขากลับรู ้กสึ กว่าต้านต้านพูดถูก
เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู เขาจะกลายเป็ นอํามหิ ตและเลือดเย็น กลายเป็ น
ปี ศาจที่ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ ยวความเป็ นมนุษย์

หลังจากที่เขาดูดว้ ยตาของตัวเอง ตอนที่อสู รกําลังดูดกลืนชายป่ าเถื่อน


และชายใบหน้ายุติธรรมด้วยวิธีการที่โหดเหี้ ยมอํามหิ ต ไม่เพียงเขาจะ
รู ้สึกแย่ แต่เขากลับรู ้สึกสดชื่นเพราะทั้งสองคนนั้นคือศัตรู ของเขา

ไม่...ไม่ใช่แค่สองคนนั้น ไอ้แก่ระดับ 3 ขั้นจ้าวสงครามนัน่ ด้วย

“เจ้าเป็ น...เจ้าเป็ น...เจ้าเป็ นเหมือนกับสิ่ งนั้น...เจ้าเป็ น…..เจ้า


เป็ น…..เจ้าเป็ นอสู ร!”
ในการเปรี ยบเทียบของชูเฟิ งอย่างใจเย็น สี หน้าและเสี ยงกรี ดร้องภายใน
ตัวเค้านั้นสดชื่น ผูอ้ าวุโสจากเกาะประหารกลับกลายเป็ นใบหน้าซี ดราว
กับกระดาษ ร่ ายกายของเขาสัน่ สะท้านอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด

ขณะที่เขาถอยออกห่าง เขาชี้ไปที่ชูเฟิ ง เขาคาดเดาในใจของเขาเกี่ยวกับ


การกระทําที่ไม่ปกติของอสู ร เด็กเหลือขอนั้นไม่ธรรมดาเลย มันอยูฝ่ ่ าย
เดียวกันกับอสู ร เขากลายเป็ นเหมือนกับแกะที่วงิ่ เข้าปากเสื อ

“อ้า~~”

อสู รไม่ปล่อยโอกาสให้ชายชราหายใจมันสะกดเขา และแล้วชายชราก็


พบกับชะตากรรมที่เหมือนกับชายป่ าเถื่อนและชายใบหน้ายุติธรรมก่อน
หน้านี้ เขาเริ่ มได้รับการทรมานอย่างไรหัวใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับทั้งสองคน ชายชราสามารถทนการทรมาน
นั้นได้แม้วา่ จริ งๆแล้วมันน่าอนาถกว่าที่คิดเยอะ แต่สาํ หรับชูเฟิ งแล้ว
ชายชราคนนี้มนั สมควรที่จะได้รับ…...
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////
A : เอ้อ ตายสักที!!!

B : แต่วา่ ชูเฟิ งจะออกจากที่น้ ียงั ไงอ่ะสิ อสู รจะปล่อยให้ชูเฟิ งไปดีๆ


หรื อ เค้าต้องแอบหนีออกไป ไม่แน่กอ็ าจมีคนมาช่วย

A : เสี่ ยวยู่ ก็อยูข่ า้ งนอกเกิดพวกหมู่เกาะประหารมาตอนที่ชูเฟิ งตกอยู่


ในสถานการณ์แบบนี้ล่ะ

B : เสี่ ยวยู่ นางเอาตัวรอดได้ แค่วา่ ยลงทะเล พวกนั้นก็ตามจับไม่ทนั


แล้วล่ะมั้ง อีกอย่างเห็นนางเป็ นเด็กไร้เดียงสาแบบนี้ จริ งๆอายุเยอะกว่า
ชูเฟิ งอีก เรื่ องความงามไม่ตอ้ งพูดถึง จัดว่าอยูใ่ นระดับ ต้านต้าน
A : งี้พี่เฟิ งก็ปักธงอ่ะดิ

B : ไม่นะ พี่เฟิ งรักนางแบบพี่แบบน้องมากกว่า แต่ชูเฟิ งจะมีวนั รู ้เรื่ อง


นั้นหรื อเปล่า ? แต่กไ็ ม่แน่นะ ถ้าในมุมมองพวกเราอาจมองเสี่ ยวยู่ เป็ น
นางเงือก แล้วเงือกส่ วนใหญ่กง็ ามๆทั้งนั้น

A : ใกล้จะเริ่ มเปิ ดศึกกับ หมู่เกาะประหารล่ะ แต่ได้ยนิ มาว่ายังไม่เต็ม


รู ปแบบฯ แค่ก่อกวน สร้างความปวดหัว บอกเลยไอ้พวกหมู่เกาะที่คิดจะ
จับพี่เฟิ งกลับไปที่ฐาน แม่งโครตจะคิดผิด

แปลโดยคุณ#KWong
บทที่ 617 – มันคือใครกันแน่

***** ฝุ่ บ *****

หลังจากที่ทุกอย่างจบลง อสู รก็หนั มามอง ชูเฟิ ง เพียงผ่านๆ เท่านั้น


ทุกๆ อย่างๆ ก็กลายเป็ นภาพเบลอ และ ชูเฟิ ง ก็หมดสติไป

เมื่อเขาฟื้ นกลับมานั้น เขาพบว่าอํานาจพลังวิญญาณที่หายไปของ


เขากลับคืนมาดังเดิมแล้ว เขาพยายามประคองตัวเองขึ้น และพบว่า
ทางเข้าถูกปิ ดผนึกอย่างสมบูรณ์ และไม่มีแม้แต่ร่องรอยของอสู รอยู่

“ทําไมถึงรู ้สึกคุน้ เคยเช่นนี้ !? มันเป็ นใครกันแน่ !?” ชูเฟิ ง


ครุ่ นคิดอยูช่ วั่ ครู่ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถนึกออกถึงการมีตวั ตนอยู่
ของมัน ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงควรรี บออกจากความ
ยุง่ ยากตรงนี้เสี ยก่อน

ชูเฟิ ง จงใจดํานํ้าอ้อมมาอีกทางก่อนที่เขาจะโผล่ข้ ึนมายังผิวนํ้า เหตุ


ที่เขาทําเช่นนี้เพราะเขาต้องการให้คนอื่นๆ คิดว่าเขาไม่สามารถหนีจาก
เงื้อมมือของอสู รได้
หลังจากที่เขาขึ้นมายังผิวนํ้า สิ่ งแรกที่เขาจะทําคือไปยังสถานที่ที่
เสี่ ยวยูร่ อเขาอยู่

“อึ้ก…….เสี่ ยวยูไ่ ปไหน !?” เมื่อ ชูเฟิ ง มาถึงสถานที่น้ นั เขาก็


ต้องขมวดคิ้วแน่น หัวใจของเขาสัน่ สะท้าน แม้แต่รูปแบบอํานาจพลัง
วิญญาณที่เขาวางไว้ และเสี่ ยวยูก่ ไ็ ด้หายไป

นี่คือสิ่ งที่ ชูเฟิ ง กังวลมากที่สุด เพราะเสี่ ยวยูเ่ ป็ นสิ่ งมีชีวติ ที่พิเศษ


มาก มีหลายๆ คนต้องการจะจับตัวนางไป หากผูท้ ี่อ่อนโยนจับนางไป
เขาอาจจะดูแลนางอย่างดี แต่หากผูโ้ หดเหี้ ยมจับนางไปนั้น เขาอาจจะทํา
ให้นางต้องตกอยูใ่ นความทุกข์ทรมาน
“พี่ใหญ่!!” ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ก็ได้ยนิ เสี ยงตะโกนที่ร่าเริ งของเสี่ ยว
ยูด่ งั ขึ้นมาจากระยะที่ห่างออกไป

เมื่อมองไปตามต้นเสี ยงนั้น ชูเฟิ ง ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก


เพราะที่ผวิ นํ้ามีคลื่นคล้ายคมดาบก็ลงั พุง่ ตรงมายังทิศทางที่เขาอยู่

ด้วยความเร็ วของมันนั้น มันทําให้ ชูเฟิ ง ลิ้นจุกปากพูดไม่ออก


เพราะมันรวดเร็ วยิว่ กว่าทักษะมังกรฟ้าทะยานของเขามาก และ ชูเฟิ ง ก็
พบว่า เสี่ ยวยูเ้ ป็ นอสู รที่แท้จริ ง

“ฮ่าๆ พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็กลับมา !! ข้าไม่ได้ไปในทุกๆ ที่ ~ ข้า


เชื่อฟังท่านอย่างดี !!” เมื่อเสี่ ยวยูเ่ ข้ามาใกล้ นางก็กระโจนขึ้นจากนํ้า
ในขณะที่นางอยูใ่ นอ้อมกอดของ ชูเฟิ ง นั้น ร่ างกายของนางไม่มีน้ าํ
แม้แต่หยดเดียวที่ติดตัวนางมา

“อืม…ดีมาก เจ้าเชื่อฟังดีมาก” เมื่อมองไปที่เสี่ ยวยูใ่ นอ้อมกอด


นั้น ความกังวลภายในหัวใจของ ชูเฟิ ง พลันสงบลงอย่างรวดเร็ ว

“ไม่ธรรมดาจริ งๆ ความสามารถของนางมีมากกว่าเจ้าซะอีก !!
อย่างน้อย ความเร็ วในนํ้าของนาง เจ้าก็ไม่สามารถตามนางได้ทนั !!”
ต้านต้าน กล่าวพลางหัวเราะคิกคักออกมา

“ต้านต้าน เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ เสี่ ยวยูม่ าจากที่ใด !?” ชูเฟิ ง กล่าวถาม
แม้วา่ ต้านต้าน จะเป็ นอสู รวิญญาณ แต่นางก็รู้เรื่ องราวมากมายที่เขาไม่รู้
“ดูสญ
ั ลักษณ์ของนาง มันเป็ นสิ่ งที่เฉพาะเจาะจงอย่างมาก ข้าก็ไม่รู้
เหมือนกัน มันไม่เหมือนกับสิ่ งมีชีวติ ที่เกิดมาจากโลกของเจ้า !!” ต้าน
ต้าน กล่าวพลางขดริ มฝี ปากเล็กน้อย

ชูเฟิ ง มองไปยังสัญลักษณ์ของนางอย่างรวดเร็ ว แต่เขาก็ตอ้ งพบว่า


เขาไม่เคยเห็นสัญลักษณ์น้ ีมาก่อน จากสิ่ งที่เขารู ้ ขุมพลังอํานาจต่างๆ ใน
เขตทะเลตะวันออกนั้น ไม่มีสญ
ั ลักษณ์น้ ี

“นี่อาจจะเป็ นขุมพลังบางอย่างในเขตทะเลตะวันออกที่ไม่มีใคร
รู ้จกั หรื อไม่กอ็ าจจะเป็ นขุมพลังของแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์กเ็ ป็ นได้”

ชูเฟิ ง ไม่สามารถไขข้อสงสัยของเขาได้ แต่เขามัน่ ใจมากว่าเสี่ ยวยู่


ต้องไม่ใช่สิ่งมีชีวติ ธรรมดาอย่างแน่นอน
และแน่นอนว่า ชูเฟิ ง ไม่สามารถระบุได้วา่ เสี่ ยวยู่ แข็งแกร่ งจริ งๆ
หรื อไม่

โลกใบนี้มีสิ่งที่แปลกประหลาดอยูม่ ากมาย หากมีคนบอก ชูเฟิ ง ว่า


เสี่ ยวยูค่ ือสิ่ งมีชิตที่ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีการที่พิเศษ เขาก็คงจะเชื่อเช่นนั้น

“เสี่ ยวยู่ เจ้าบอกข้าได้ไหม ว่าชุดของเจ้ามาจากที่ใด” ชูเฟิ ง กล่าว


ถาม

“ข้าก็ไม่รู้ !! มันอยูก่ บั ข้ามาตั้งแต่ขา้ ลืมตาขึ้น !!” เสี่ ยวยู่ ตอบด้วย


ใบหน้าที่ใสซื่อ พร้อมกับยืน่ ชุดของนางออกมา
ชูเฟิ ง เพียงยิม้ ตอบบางๆ เขาไม่สามารถได้รับคําตอบใดๆ จากสาว
น้อยคนนี้ได้

***** พรึ่ บ *****

ทันใดนั้น ชูเฟิ ง ก็ตรวจพบผูเ้ ชี่ยวชาญที่เหนือกว่าขั้นแดนสวรรค์


หลายคน กําลังทะยานอยูบ่ นท้องฟ้าห่างออกมา พวกเขาไม่ได้สนใจต่อ
ชูเฟิ ง แม้แต่นอ้ ย และมุ่งหน้าไปยังจุดที่ปิศาจถูกพบใสก่อนหน้านี้อย่าง
รวดเร็ ว

หลังจากนั้นเพียงไม่นาน คนกลุ่มนั้นก็ทะยานผ่านกลุ่มของ ชูเฟิ ง


พวกเขามีใบหน้าที่ตื่นเต้นอย่างมาก ราวกับว่าพวกเขากําลังค้นพบสมบัติ
จากการสนทนาของพวกเขานั้น ชูเฟิ ง รู ้ได้วา่ พวกเขาเป็ นคนของ
หมู่เกาะประหาร และมีบุคคลหนึ่งถูกเรี ยกว่า หย่าเฟย

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง ขมวดคิว้ แน่น เพราะพวก หย่าเฟย ต้องการ


ที่จะมาจับอสู ร ถ้าเป็ นในก่อนหน้านี้เขาคงไม่ตอ้ งกังวลเกี่ยวกับมัน แต่
ในตอนนี้มนั กลับเป็ นตรงกันข้าม

เขารู ้สึกถึงความผูกพันธ์บางอย่างระหว่างเขาและอสู รตนนั้น


ดังนั้น เขาจึงไม่อาจนิ่งเฉยยืนดูอสู รตนนั้นตายไปได้

ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงรี บแต่งตัวให้กบั เสี่ ยวยู่ เขาก็พบว่านางน่ารักน่า


เอ็นดูมาก

“เสี่ ยวยู่ เจ้าอยูใ่ นอ้อมกอดของพี่ใหญ่น่ิงๆนะ อย่าพึ่งพูด และไม่


เคลื่อนไหวโดยที่พี่ใหญ่ไม่ได้สง่ั !?” ชูเฟิ ง กล่าวถามด้วยรอยยิม้

“อืมมม….” เสี่ ยวยู่ พยักหน้าสองสามครั้งพลางยิม้ บาง ท่าทาง


ของนางน่ารัก น่าเอ็นดูมากๆ หลังจากนั้น ชูเฟิ ง จึงอุม้ นางขึ้น และ
ทะยานตามกลุ่มของ หย่าเฟย ไป

เมื่อมาถึงยังจุดที่ถูกอสู รลักพาตัวไปนั้น ชูเฟิ ง ก็พบว่ามันถูก


ครอบครองโดยคนประมาณคร่ าวๆ กว่าหมื่นคน
ข่าวการลักพาตัวของอสู รนั้นเป็ นที่สนใจของหลายคนอย่าง
มาก สามารถเห็นได้ชดั การรวมตัวของผูค้ นจํานวนมาก ภายในกลุ่มคน
เหล่านั้น หย่าเฟย ยังคงมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นเคย

เมื่อเคลื่อนผ่านฝูงชนเข้าไปนั้น ตรงจุดศูนย์กลางของกลุ่มคน ชูเฟิ ง


ก็เห็นผูห้ ญิงยีส่ ิ บคน พวกนางล้วนเป็ นคนจากหมู่เกาะประหารทั้งสิ้ น

นอกจากนี้ ความแข็งแกร่ งของพวกนางยังอยูใ่ นขั้นจ้าวสงครามทั้ง


ยีส่ ิ บคน ในตอนนี้ ผูท้ ี่เปรี ยบได้กบั ตํานานของทวีปเก้าอาณาจักรได้
ปรากฏตัวออกมาถึงยีส่ ิ บคนในคราวเดียว

แม้วา่ จะมีบางคนอ่อนแอ หรื อบางคนที่แข็งแกร่ งกว่า แต่แน่นอน


ว่าพวกนางล้วนเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงคราม และพวกนางก็ไม่ได้มี
อายุมากนัก พวกนางยังอยูใ่ นรุ่ นวัยกลางคนเท่านั้น และที่น่าสนใจคือ
พวกนางล้วนแล้วแต่เป็ นสาวงามทั้งสิ้ น

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทุกๆ สายตาต่างถูกดึงดูดด้วยความงดงาม


ของทั้งยีส่ ิ บสาวงามที่ใจกลางฝูงชนจนกลายเป็ นตาเดียว

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////////////////////////////////////
A : เอาล่ะ ชูเฟิ ง จะทําไงกับสาวงามทั้ง 20 นะ จะหาเรื่ องแถยังไง
ในการช่วยเหลืออสู รตนนั้น

B : หย่าเฟย นี้เป็ นหนึ่งใน 3 สาวงามของทะเลภาคตะวันออกเลยหนิ


ร้ายกาจชิบหาย แต่เรื่ องความงดก็ยงั แพ้ จื่อหลิง

C : จื่อหลิง คู่หมั้นนายน้อยหมู่เกาะประหารอ่ะหรอ

A : เออ!!! คู่หมั้นนายน้อยหมู่เกาะประหาร แต่เป็ นเมียชูเฟิ ง!!!


B : ช่ายๆ!!! นายน้อยสวะไรนั้น อีกไม่นาน เด๋ วจะโดนพี่เฟิ งตบเกียน
แตก แล้วอีกอย่างตอนนี้จื่อหลิงก็อยูบ่ า้ น ไม่เคยออกไปเจอนายน้อยไร
นั้นและก็ไม่คิดจะเจอด้วย คนเดียวที่นางรอมีแค่พี่เฟิ งคนเดียวเท่านั้น

C : หรออออ!!!

B : พูดล่ะคันปาก อยากสปอย. . . . .
บทที่ 618 – สามสาวงาม

หญิงสาวนั้นงดงามมาก

ร่ างกายสู งระหงส์ อกกลมงามคู่สวย กระโปรงเข้ารู ป ส่ วนโค้งเว้า


ของร่ างกายของนางช่างสมบูรณ์แบบ

ไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้น แม้แต่ใบหน้าของนางก็งดงามเช่นกัน
คิ้วเรี ยวยาว ดวงตากลมโต ริ มฝี ปากเป็ นกระจับสี แดงระเรื่ อขณะที่นาง
ขดริ มฝี ปากเล็กน้อย

ความงดงามของนางเกินกว่าคนทัว่ ไปมากนัก แม้แต่ ซูรู่ และ ซู


เหม่ย ก็ไม่อาจเทียบนางได้ มีเพียง จื่อ หลิง และ ต้านต้าน เท่านั้น ที่จะ
สามารถเอาชนะความงดงามของนางได้

จึงไม่แปลกใจเลยที่ชายหนุ่มทัว่ บริ เวณจะรู ้สึกตื่นเต้นกันออกหน้า


ออกตา

และไม่ใช่เพียงความงดงามของนางเท่านั้นที่โดดเด่น แต่ในด้าน
พลังต่อสู ข้ องนางนั้นก็ยอดเยีย่ มอย่างมาก จากออร่ าพลังที่เล็ดลอด
ออกมาจากร่ างของนางนั้น สามารถบอกได้วา่ นางมีพลังถึงระดับห้า ขั้น
จ้าวสงคราม
จากการสังเกตของ ชูเฟิ ง นั้น นางมีอายุเพียงยีส่ ิ บปี ต้นๆ เท่านั้น
ด้วยการบ่มเพาะพลังระดับนี้ และด้วยความงดงามขนาดนี้ อาจกล่าวได้
ว่านางคือความภาคภูมิใจของสวรรค์กไ็ ม่ปาน

เมื่ออยูต่ ่อหน้านางนั้น แม้แต่ ชูเฟิ ง ก็ไม่อาจเอื้อม เพราะนางคือ


อัจฉริ ยะที่แท้จริ ง

จากการสนทนาของคนรอบข้างนั้น ทําให้ ชูเฟิ ง ได้รู้วา่ นางคือ แม่


นาง หยา เฟย จากหมู่เกาะประหาร

“ข้าไม่คิดเลยว่า แม่นาง หยา เฟย จะเป็ นสาวงาม และแข็งแกร่ งถึง


เพียงนี้ แบบนี้หมู่เกาะประหารคงจะปิ ดบังพลังที่แท้จริ งเอาไว้อีกมาก
มันเป็ นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถทําให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งแข็งแกร่ งขึ้น
มาถึงเพียงนี้”

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง จึงลอบสู ดหายใจอย่างยากเย็น เพราะนี่เป็ น


เพียงตัวแทนของหมู่เกาะประหารยังแข็งแกร่ งถึงเพียงนี้

“ว้าวววว ... สมกับคําเล่าลือ หนึ่งในสามสาวงามแห่งเขตทะเล


ตะวันออก !! นางช่างมีความดีงดูดที่มากมายยิง่ นัก งดงามยิง่ กว่า
ภาพวาดมากเหลือเกิน”

ในขณะนั้น ชายร่ างยักษ์ที่อยูต่ ิดกับ ชูเฟิ ง ก็ถูมือไปมาขณะที่เขา


จ้องมองไปยังสาวงามด้านหน้า
เมื่อมองขึ้นไปส่ วนบนนั้น ชูเฟิ ง พบว่านํ้าลายของเขากําลังไหลเยิม้
และเมื่อมองกลับมาที่ดา้ นล่าง ก็พบว่ากางเกงเขากําลังตุง แถมยังเปี ยก
อยูอ่ ีกด้วย

ชูเฟิ ง ไม่อยากที่จะสนใจกับคนลามกเเช่นนี้ แต่เมื่อเขาได้ยนิ คําว่า


“สามสาวงามแห่งเขตทะเลตะวันออก” เขาจึงรู ้สึกสนใจขึ้นมาและ
กล่าวถามออกไปว่า “พี่ชาย สามสาวงามที่ท่านว่าผูใ้ ดรึ !?”

“น้องชาย เจ้าไม่รู้จริ งๆ รึ วา่ สามสาวงามแห่งเขตทะเลตะวันออก


คือผูใ้ ด !! เจ้ายังเป็ นลูกผูช้ ายอยูห่ รื อเปล่า !?” ชายคนนั้น มองไปที่ ชู
เฟิ ง อย่างเหยียดหยัน

“นี่มนั ไม่ถูกต้อง !! ข้าเคยได้ยนิ มาว่ามีเพียงสองสาวงามแห่งเขต


ทะเลตะวันออกเท่านั้น !! แล้วมันจะมีสามสาวงามได้อย่างไร !?” ชาย
อีกคนเดินเข้ามาใกล้ หลังจากได้ยนิ การสนทนาของพวกเขา

“ฮี่ฮี่ เจ้ายังไม่รู้รึ เมื่อไม่มีกี่เดือนก่อนนี้ ยังคงมีเพียงสองสาวงาม


แห่งเขตทะเลตะวันออก แต่ในตอนนี้มีสามสาวงาม !!” ชายร่ างยักษ์
ลามกกล่าวยัว่ ชายอีกคน

“สามสาวงาม !! ผูใ้ ดคือสาวงามคนที่สามรึ !?” ชายหนุ่มกล่าว


ถามด้วยความสนใจ

“หนึ่งคือสาวงามผูเ้ ป็ นอัจฉริ ยะของหมูเกาะประหาร และยังเป็ น


คู่หมั้นของประมุขแห่งหมูเกาะประหาร แม่นาง หย่า เฟย” ชายร่ างยักษ์
กล่าว
“นี่คือแม่นาง หย่า เฟย คู่หมั้นของนายน้อยหมู่เกาะประหาร !!”
เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ บ ก็จอ้ งมองไปที่ หยา เฟย ด้วยแววตาที่ซบั ซ้อน

มันเป็ นเพราะว่าคนรักของ ชูเฟิ ง จื่อ หลิง ได้ถูกบังคับให้กลับมายัง


เกาะประหาร เพื่อเป็ นคู่หมั้นของนายน้อยแห่งเกาะประหาร แม้วา่ ชูเฟิ ง
จะไม่เคยพบกับนายน้อยของเกาะประหารมาก่อน แต่เขาก็ตดั สิ นใจ
เอาไว้แล้วว่า นายน้อยแห่งเกาะประหารคือศัตรู ตวั ฉกาจของเขา

และในตอนนี้ ก่อนที่ ชูเฟิ ง จะได้พบกับนายน้อยแห่งหมู่เกาะ


ประหาร เขาก็ได้พบกับคู่หมั้นของเขา ซึ่ งเป็ นผูห้ ญิงที่มีความงดงาม
และแข็งแกร่ งอย่างมาก จึงเป็ นธรรมดาที่ ชูเฟิ ง จะรู ้สึกไม่พอใจ
“สาวงามคนที่สองเป็ นศิษย์ของประมุขหุบเขาแห่งสายหมอก เพียว
เหมี่ยว นางเป็ นศิษย์คนที่สามชื่อว่าแม่นาง ฉิ วซื อ”

“ตามคําบอกเล่านั้น ความงดงามของแม่นาง หย่า เฟย เปรี ยบได้กบั


เปลวเพลิงที่ร้อนแรง เมื่อมองไปที่นางจะทําให้รู้สึกร้อนรุ่ ม จิตใจจะ
ล่องลอยออกไปไกล

“แต่ความงดงามของแม่นาง ฉิ วซื อ เปรี ยบได้กบั ความหนาวเย็น ที่


สามารถมองได้ แต่ไม่สามารถแตะต้องนางได้ ราวกับว่านางคือสิ่ ง
ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อาจเอื้อมถึง”

“มาในวันนี้ เมื่อข้ามองไปที่แม่นาง หยา เฟย ข้าก็ได้รู้วา่ ข่าวลือนั้น


เป็ นจริ ง หากผูท้ ี่จิตใจไม่เข้มแข็ง เพียงแค่มองไปที่ใบหน้าอันทรงเสน่ห์
ของนาง จิตใจของพวกเขาอาจหลุดลอยไปไกล และข้าก็เชื่อว่า ข่าวลือ
เกี่ยวกับแม่นาง ฉิวซือ ก็คงจะเป็ นเรื่ องจริ งเช่นกัน”

ขณะที่เขากล่านั้น เขาก็ชาํ เลืองมองไปที่ หยา เฟย และใช้มือขวาถู


ไปเสื้ อผ้าส่ วนที่เปรี ยกของเขา อย่างไม่แคร์สายตาผูอ้ ื่น

“พีช่ าย ข้ารู ้เรื่ องสองสาวงามนี้ หนึ่งคือผูท้ ี่มาจากหมู่เกาะประหาร


หย่า เฟย และอีกหนึ่งคือผูม้ าจากหุบเขาสายหมอก ฉิ วซื อ แต่สิ่งที่ขา้
อยากรู ้คือ ผูใ้ ดคือสาวงามคนที่สาม !?” ชายหนุ่มถามออกมาด้วยความ
สงสัย

“หึ หึ สาวงามคนที่สามนั้นไม่ธรรมดาเลย นางมีกายศักดิ์สิทธิ์ และ


เพิ่งกลับมาในเขตทะเลตะวันออกหลังจากที่จากไปกว่าสิ บสองปี นาง
เป็ นคนของตระกูลจื่อ” ชายร่ างยักษ์กล่าวด้วยความพึงพอใจ
“จื่อ หลิง !! นางคือ จื่อ หลิง ใช่หรื อไม่ !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ม่าน
ตาของ ชูเฟิ ง หดเล็กลง ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว
เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

เพราะ จื่อ หลิง นั้นคือคนรักของ ชูเฟิ ง แม้วา่ เหตุผลที่เขามายังเขต


ทะเลตะวันออกนี้เพื่อสื บหาความลึกลับของตระกูลของตนเอง แต่อีก
เหตุผลหนึ่งของเขานั้น ก็เพื่อช่วยเหลือคนรักของเขา จื่อ หลิง

“ข้าก็พอรู ้เกี่ยวกับกายศักดิ์สิทธิ์แห่งหุบเขาดอกไม้ของตระกูลจื่ออ
ยูบ่ า้ ง หลังจากที่นางเกิดมาไม่นาน นางก็ได้ถูกบังคับให้เป็ นคู่หมั้นของ
นายน้อยแห่งหมู่เกาะประหาร หลังจากที่นางกลับมาจากการบ่มเพาะ
พลังนั้น นางก็เอาแต่ขงั ตัวเองอยูภ่ ายในห้องเท่านั้น แต่เท่าที่ขา้ รู ้มานางมี
ชื่อ จื่อ ยูเ่ อ๋ อ และที่เจ้าบอกว่าชื่อ จื่อ หลิง นั้น น่าจะเป็ นตอนที่นาง
ออกไปบ่มเพาะพลังของนาง” ชายร่ างยักษ์กล่าวด้วยความตกใจ
“ถูกต้อง จื่อ หลิง เป็ นชื่อของ จื่อ ยูเ่ อ๋ อ เพราะเมื่อในเร็ วๆ นี้ หุบเขา
ดอกไม้ของตระกูลจื่อ ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อของ จื่อ หลิง และในตอน
นั้น มีหลายที่ได้เห็นคู่หมั้นของนายน้อยแห่งหมู่เกาะประหาร”

“จากคําบอกเล่าของผูท้ ี่ได้เห็นนางนั้น พวกเขาบอกว่าความงดงาม


ของนางราวกับเทพธิดาจากสวรรค์ ผิวพรรณของนางล้วนสมบูรณ์แบบ
ไร้ที่ติ ราวกับว่าการมีตวั ตนของนางเหมือนอยูใ่ นความฝัน”

“ผูท้ ี่เคยเห็น จื่อ หลิง นั้น ล้วนบอกว่านางงดงามยิง่ กว่า หย่า เฟย


และ ฉิวซือ นางสมควรได้รับชื่อว่าเป็ นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเขตทะเล
ตะวันออก”

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///
A : ก็แน่นอนล่ะ สาวงามทั้งทะเลภาคตะวันออก มีไผบ้างที่ไม่โดนพี่
เฟิ งปักธง อย่างน้อยๆก็ 2 ใน 3 สาวงาม ที่ไม่ติดอันดับอีกเพียบ ไม่
ตุย้ ท้อง ก็ทุบ ไม่กล็ ากมัดไว้ดว้ ยเชือกรู ปแบบอํานาจฯ ซาดิสชิบหายยย

B : มืงอ่ะดิซาดิส สปอยซะพระเอกกูดูชวั่ ไปเลย!!!

A : ก็จริ งไม๊ล่ะ ถึงฆ่าไปก็เท่านั้น แล้วอะไรที่สาํ คัญกับผูห้ ญิงที่สุดล่ะ

B : ของกิน!!!

A : ก็จริ งนะ แต่มึงอย่ายึดจากความรู ้สึกของผูห้ ญิง ในโลกความเป็ น


จริ งดิ!!!
บทที่ 619 - อสู รปรากฏตัวอีกครั้ง

“อะไรนะ? เธองดงามกว่า หย่า เฟย และ ฉิ วซื อ รึ ? จื่อหลิงงดงาม


ขนาดนั้นเชียว? ข้าล่ะอยากจะเห็นยิง่ นัก” หลังจากได้ฟังคําของชาย
ร่ างยักษ์ ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความโหยหา

“ฮี่ฮี่ มันยังคงเป็ นเพียวข่าวลือ จะจริ งหรื อเท็จนั้นก็ยงั ไม่แน่ชดั ”

“แต่ไม่วา่ จะเป็ นอะไร สําหรับจื่อหลิงนั้นสามารถประเมินได้วา่ เธอ


มีแนวโน้มที่จะงดงามอย่างมาก” ชายร่ างยักษ์กล่าว

“อ่าาา..นายน้อยแห่งหมู่เกาะประหารช่างโชคดียงิ่ นัก สุ ดยอดสาว


งามทั้ง 3 แห่งทะเลภูมิภาคตะวันออก สองในสามคนนั้นเป็ นคู่หมั้น
ของเขา นั้นมันช่างน่าอิจฉายิง่ นัก” ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วย
ความชื่นชม สําหรับชายหนุ่มนั้นไม่ตอ้ งกล่าวถึงว่าจะนําสุ ดสอดสาว
งามทั้งสองมาเป็ นคู่หมั้น การได้พบเห็นสักครั้งก็ถือเป็ นสมบัติอย่าง
หนึ่ง
“เฮ้..ใครจะไปคิดว่านัน่ จะเป็ นนายน้อยแห่งหมู่เกาะประหาร? เขา
เป็ นอัจฉริ ยะอันดับหนึ่งในรุ่ นเยาว์ของภูมิภาคทะเลตะวันออก! เขายัง
เป็ นผูน้ าํ ในอนาคตของหมู่เกาะประหารเชียวนะ นัน่ หมายความว่าใน
อนาคตเขาจะเป็ นราชันย์แห่งภูมิภาคทะเลตะวันออกอีกด้วย!”

“ไม่ใช่วา่ สุ ดสอดสาวงามแห่งภูมิภาคทะเลตะวันออกจะต้อง
แต่งงานกับเขาหรอกหรอ? ในทางตรงกันข้ามนอกจากเค้าใครจะคู่ควร
กับสาวงามทั้งสามอีก?” ขณะที่ชายร่ างยักษ์พดู ขึ้น ใบหน้าของเขา
เหมือนเต็มไปด้วยความยกย่องนับถือ

“แม้วา่ มันจะเป็ นเรื่ องจริ ง จากที่ขา้ ได้ยนิ มา จริ งๆแล้วนายน้อยจาก


หมู่เกาะประหารเคยแสดงความรักของเขาครั้งนึงต่อ ฉิ วซื อ แห่งหุบเขา
สายหมอกแต่เขากลับถูกปฏิเสธ จากเหตุการณ์น้ นั เห็นได้ชดั เลยว่าหญิง
สาวทุกคนไม่จาํ เป็ นต้องเต็มใจที่จะแต่งงานกับเขา” ชายหนุ่มกล่าว
“อ่า~~ นัน่ เป็ นเรื่ องโกหกอย่างแท้จริ ง ดูที่การบ่มเพาะของนาย
น้อยหมู่เกาะประหารสิ ผูห้ ญิงคนไหนจะปฏิเสธเขาได้? ข้ามัน่ ใจว่าถ้า
เขาพยายามไล่ตาม ท่านหญิงฉิ วซื อ เธอจะตอบตกลงอย่างแน่นอนโดย
ไม่ตอ้ งคิดอะไรเลย”

“สามสุ ดยอดสาวงามของภูมิภาคทะเลตะวันออกไม่ชา้ ก็เร็ วจะเป็ น


ของนายน้อยหมู่เกาะประหาร เรื่ องนี้คงไม่มีใครปฏิเสธได้” ชายร่ าง
ยักษ์กล่าวออกมาด้วยความมัน่ ใจเป็ นอย่างมาก เห็นได้ชดั ว่าเขามีความ
มัน่ ใจในตัวเองเป็ นอย่างมาก

* บูม บูม บูม บูม บูม *


แต่ในขณะนั้น บนผิวทะเลที่สงบเบื้องล่าง เสานํ้าหลายสิ บต้นก็ปะทุ
ออกมา ขณะที่เสานํ้าพุง่ ไปยังท้องฟ้า มีหญิงสาว 8 คนโผล่ออกมาจาก
เสานํ้าเหล่านั้น และในที่สุดก็มาปรากฏตัวต่อหน้าหย่า เฟย

ไม่เพียงเท่านั้น หญิงสาวทั้ง 8 คนล้วนมากจากหมู่เกาะประหาร พวก


นางทั้งหมดมีการบ่มเพาะอยูท่ ี่อาณาจักรจ้าวสงคราม นอกจากนี้ยงั มีจา้ ว
สงคราม 20 คนก่อนหน้านี้ที่ติดตามหย่า เฟย พวกเขาถูกจัดตั้งมาจาก
ผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวสงคราม 100 คน มันนับเป็ นขุมกําลังที่ไม่ธรรมดาซึ่ ง
ทําให้ผคู ้ นถึงกับตกตะลึงไม่นอ้ ย

แม้วา่ พวกเขาและหย่าเฟยจะเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวสงคราม ความแตกต่าง


ในสถานะของพวกเขาราวกับท้องฟ้าและผืนดิน หลังจากจ้าวสงครามทั้ง
8 ปรากฏตรงหน้าหย่า เฟย พวกนางทั้งหมดคุกเข่าลงเบื้องหน้าหย่า
เฟยพร้อมกับแสดงความเคารพ
“เป็ นยังไงบ้าง!? พบอะไรบ้างมั้ย?” หย่า เฟยพูดด้วยความใจ
เย็น แต่น้ าํ เสี ยงกลับน่ารื่ นรมย์อย่างมาก ไม่เพียงทําให้หญิงสาวที่งดงาม
สัน่ ไหวด้วยความงดงามของหย่า เฟยที่ปรากฏ แม้แต่น้ าํ เสี ยงของหย่า
เฟยยังมีเสน่ห์เป็ นอย่างมาก

“ท่านหญิง ที่เบื้องล่างของทะเลมีรูปแบบวิญญาณซับซ้อน รู ปแบบ


นั้นเต็มไปด้วยกระดูกนับไม่ถว้ น แต่เราไม่พบร่ องรอยของอสู รเลย”
หนึ่งในหญิงสาวกล่าวตอบด้วยความสุ ภาพ เธอคนนี้ดูเหมือนจะเป็ นผู ้
เชื่อมต่อฯ

“ข้าเข้าใจแล้ว” หย่า เฟยยิม้ อย่างมีเสน่ห์ พร้อมกับเบนสายตาไปที่


ฝูงชนแล้วพูดว่า “ข้อต้องขออภัยทุกท่าน เนื่องจากหมู่เกาะประหารของ
ข้าประมาทก่อนหน้านี้ ทําให้ผบู ้ ริ สุทธิ์จาํ นวนมากถูกอสู รร้ายสังหาร
สําหรับผูท้ ี่เสี ยชีวติ หมู่เกาะประหารของข้าจะให้ความช่วยเหลือแก่
ครอบครัวของพวกเขา”

“แต่..ข้ารู ้สึกว่าความช่วยเหลือที่ดีที่สุดนั้นแน่นอนว่าไม่ใช่เงิน
ทอง! แต่เป็ นเกียรติยศ”

“ดังนั้น ข้าจึงขอรับรองด้วยเกียรติ ของหมู่เกาะประหารของข้า ว่า


จะกําจัดเจ้าอสู รร้ายตนนั้นให้ได้อย่างแน่นอน พร้อมกับคืนดินแดนบ่ม
เพาะอันศักดิ์สิทธิ์ที่สงบสุ ขให้แก่ทุกคน”

“ดี~~~~”

“ท่านหญิงหย่า เฟย!!”
“ท่านหญิงหย่า เฟย!!”

สามารถกล่าวได้วา่ หย่า เฟยรู ้ดีถึงวิธีการจูงใจผูต้ น ด้วยคําธรรมดาๆ


เพียงไม่กี่คาํ มันสามารถจุดประกายขวัญกําลังใจและชี้นาํ พวกเขาให้ดู
เหมือนว่าพวกเขาสามารถสละชีวติ ของพวกเขาเพื่อหย่า เฟยได้ แน่นอน
ด้วยความงามที่ทรงเสน่ห์เพียงหนึ่งเดียวของนาง ไม่จาํ เป็ นแม้แต่จะ
กล่าวถึงว่าจะมีความงดงามไหนทรงพลังเท่าสิ่ งที่หย่า เฟยทํา

ดูเหมือนหย่า เฟยจะคาดการณ์ถึงปฏิกิริยาของฝูงชนเอาไว้แล้ว ดังนั้น


รอยยิม้ ที่น่ารักของเธอไม่ได้ลดทอนลงไปเลย แต่ทางกลับกัน นางยังเติม
เชื้อเพลิงแห่งความแค้นลงไปอย่างไม่ลดละ “อสู รตนนั้นมันแสน
เหี้ ยมโหด มันดูดซับพลังวิญญาณของพวกเราไปเป็ นทรัพยากรบ่มเพาะ
ของมัน ข้ามัน่ ใจว่าทุกคนล้วนทราบเรื่ องนี้”

“และแน่นอนว่า พฤติกรรมที่ผา่ นมาของอสู รร้าย มันเหมือนกับว่า


ได้เคลื่อนที่ไปรอบๆบริ เวณศูนย์กลางของทะเลโลหิ ตนิรันดร์
นอกจากนั้น มันยังปรากฏออกมาเมื่อมีคนอยูจ่ าํ นวนมาก"

“ดังนั้น ถ้าเราต้องการจับอสู รร้าย พวกเราต้องล่อเสื อออกจากถํ้า


ข้าต้องการให้ทุกคนช่วยกัน ถ้าต้องการให้ทุกคนมีแหล่งบ่มเพาะใน
สถานที่แห่งนี้ ก็ตอ้ งล่อมันออกมาให้ได้”

“แต่ไม่ตอ้ งกังวล เมื่อข้าหย่า เฟยอยูท่ ี่นี่ ข้าขอยืนยันว่าทุกคน


จะต้องปลอดภัย”
“แน่นอนว่าถ้ามีใครที่นี่ไม่เชื่อมัน่ ในความแข็งแกร่ งของข้า ท่าน
สามารถจากไปได้ในตอนนี้ ข้าจะไม่บงั คับใครให้ยนื อยูโ่ ดยที่ฝืนใจ”

“พวกเราจะทําตามวิธีของท่าน ท่านหญิงหย่า เฟย!!!”

“พวกเราเชื่อในตัวท่านหญิงหย่า เฟย!!!”

“การกําจัดอสู รร้ายคือสิ่ งที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน!!!”

ภายใต้การยัว่ ยุของหย่า เฟยพร้อมกับกลุ่มคนเล็กๆที่ได้รับข้อยกเว้นให้


จากไป พวกเขาส่ วนมากยืนอยูเ่ บื้องหลัง โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผูช้ ายไม่มี
ใครเลือกที่จะจากไป แม้แต่คนเดียว

สิ่ งที่ตามมานั้น พวกเขาปลดเสื้ อผ้าพร้อมกับกระโดดลงในทะเลเบื้อง


ล่างทําท่าทางคล้ายจะบ่มเพาะในทะเล ไม่ทราบว่ามันได้วางแผนไว้ก่อน
หรื อไม่ ผูค้ นเปลื้องผ้าตนเองจนเสร็ จสิ้ นเบื้องหน้าของหย่าเฟยและสาว
งามคนอื่นๆ และได้ลงไปว่ายนํ้าพร้อมด้วยร่ างกายที่เปลือยเปล่า

เมื่อได้เผชิญหน้ากับผูค้ นที่ไร้ยางอาย หย่า เฟยและคนอื่นๆไม่ได้


หวัน่ ไหวไปกับพวกเขา พวกเธอไม่สนใจคนเหล่านั้นแต่อย่างใด
หลังจากการวางรู ปแบบวิญญาณซับซ้อนบนท้องฟ้า พวกเขากระโดดลง
ไปในนํ้าและรอคอยการปรากฏตัวของปี ศาจอย่างเงียบๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับผูค้ นธรรมดา ชูเฟิ งตอนนี้ได้เตรี ยมบ่มเพาะ


เหนือทะเลที่มีความรู ้สึกขัดแย้งนิดหน่อย
อีกนัยนึงเขาไม่ได้หวังว่าเจ้าอสู รนั้นจะปรากฏตัว เพราะหย่า เฟยนั้น
ไม่ใช่คนธรรมดา เธอได้เตรี ยมการบางอย่างมาแน่นอน ถ้าอสู รตนนั้น
ปรากฏตัวขึ้นมาจริ งๆ มันอาจจะโดนหย่า เฟยกําจัดก็ได้

แต่อีกนัยนึง ชูเฟิ งหวังว่าอสู รจะปรากฏตัวเพราะถ้ามันไม่ปรากฏตัว เขา


ก็จะไม่มีโอกาสที่จะทราบได้เลยว่าจริ งๆแล้วใครกันที่เป็ นอสู รตนนั้น
และทําไมถึงปล่อยให้ชูเฟิ งมีชีวติ รอด

เขานั้นอยากจะรู ้เป็ นอย่างมาก ว่าเขาเกี่ยวข้องอะไรกับการคงอยูข่ อง


พลังที่ทรงอํานาจและความน่าหวาดหวัน่ เช่นนั้น ชูเฟิ งได้แต่คิดถึงความ
เป็ นไปได้วา่ บางทีอสู รอาจเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษของเค้า
แต่คาํ ตอบสุ ดท้ายไม่ใช่บางสิ่ งที่สามารถค้นพบได้ดว้ ยการคาดเดาของชู
เฟิ ง ดังนั้นเขาจึงต้องการเจอกับอสู รตนนั้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เหนือความคาดหมายของวิธีที่ชูเฟิ งคิด ถ้าบางสิ่ งเกิดขึ้น


ด้วยเจตนามันจะเกิดบางอย่างขึ้นไม่ชา้ ก็เร็ ว

หลังจากเวลา 3 วัน 3 คืนผ่านไป ผูฝ้ ึ กตนมากกว่าหมื่นคนก็ได้รวมตัว


กันที่ศูนย์กลางของทะเลโลหิ ตนิรันดร์ พวกเขากําลังบ่มเพาะกันอยูท่ ี่นน่ั

พวกเขาพูดคุย หัวเราะ พร้อมกับทําเสี ยงรบกวน พวกเขาราวกับว่าได้ลืม


ถึงการดํารงอยูข่ องอสู รที่โหดเหี้ ยม พวกเขานั้นดูครื้ นเครงและมี
ความสุ ขกันออกน่าออกตา ก่อนที่จะถึงฉากอันน่าหวาดกลัวของการ
โจมตีของอสู รตนนั้น
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นได้มีเสี ยงเปล่งออกมาจากเบื้องล่างของทะเล
จนมันได้ทาํ ลายฉากที่รื่นเริ งจนหมดสิ้ น

* กี้ กี้ กี้ กี้ กี้ กี้ กี้ กี้ *

เสี ยงที่แปลกประหลาดและน่ากลัวดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนทําให้ทุก


คนตกอยูใ่ นความกลัว บางคนที่เกิดความกลัวเล็กน้อยก็มีเพียงแค่เหงื่อ
อันเย็นเฉียบไหลออกมา ในขณะที่บางคนหวาดกลัวมากก็สนั่ เทาไป
ทั้งตัว จนไม่สามารถเปล่งเสี ยงออกมาเป็ นคําที่คนฟังแล้วควรจะเข้าใจ

เมื่ออสู รได้ปรากฏตัวขึ้นมา มันทําให้ทุกคนตกอยูใ่ นความหวาดกลัว


แม้วา่ พวกเขาจะรู ้วา่ หย่า เฟยและคนอื่นๆยืนอยูก่ ลางอากาศในรู ปแบบ
วิญญาณที่ซบั ซ่อนเพื่อรอคอยให้อสู รปรากฏ แต่่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะอยู่
เหนือนํ้าต่อไป จนพวกเขารี บโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าเพือ่ หนีให้ห่างจาก
พื้นผิวทะเล เนื่องจากเกรงว่าตนนั้นจะต้องตกเป็ นเหยือ่ ของอสู รร้าย

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///
A : ขอโทษที สามสาวงามแห่งทะเลตะวันออก ต้องตกเป็ นของบักเฟิ ง
คนเดียว
◌ฺ B : ฉิวซือ จริ งๆก็คือหนึ่งในสาวงาม 4 ฤดูแห่งหุบเขาสายหมอก
แต่ไม่แน่ใจว่าคนไหนที่ติดพี่เฟิ ง ขนาดตามตูดต้อยๆ 4ป่ ะว่ะ ไม่แน่ใจ
บ้านเรา แม่งมี 2 ฤดูเอง

A : อ่อ ฤดูร้อน กับ ฤดูโครตร้อน ใช่ป่ะ


B : พูดอีกก็ถูกอีก!!!
บทที่ 620 - พลังของหย่า เฟย

*บู๋มบุ๋มบุ๋มบุ๋ม*

ในตอนนี้น้ าํ ทะเลสี เลือดนั้นก็ไม่ได้สงบแล้ว หลังจากนั้นก็เกิดการ


ระเบิดรุ นแรงบนผิวของนํ้าทะเล ทําให้น้ าํ นั้นลอยขึ้นสู งมากและเกิด
คลื่นที่รุนแรงบนทะเล

*ตูม*

อย่างไรก็ตามตอนที่พวกเขานั้นกําลังประเมินพลังของอสู รนั้นขณะที่
ลอยอยูบ่ นท้องฟ้า จู่ๆก็มีแรงระเบิดที่รุนแรงขึ้นมาจากทะเลหลังจากนั้น
ก็เกิดนํ้าวนขึ้นบนผิวทะเลลอยขึ้นมา

นํ้าวนนั้นหมุนแรงขึ้นและแรงขึ้น และสร้างเสี ยงที่ดงั ก้อง จนทะเลสี


แดงเลือดนั้นหมุนแรงมากจนแทบจะกลายเป็ นผิวนํ้าเรี ยบๆ

นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่น้ าํ วนที่อยูบ่ นทะเล แม้แต่ทอ้ งฟ้าก็ถูกครอบคลุม


โดยพลังนัน่

“อ๊ากก~~~”

ในตอนนั้น แม้แต่คนที่อยูบ่ นอากาศก็ไม่สามารถหนีจากพลังที่มาจาก


ทะเลนั้นได้ พวกเรานั้นเริ่ มที่จะถูกดูดลงไปสู่ทะเล
ในตอนนั้น ก็มีเสี ยงร้องราวกับหัวใจถูกขยี้จนแหลกละเอียดดังขึ้นอย่าง
ต่อเนื่องและไม่มีสิ้นสุ ด ต่อหน้าพลังของอสู รนั้นทุกคนต่างหวาดกลัว
อย่างมาก และไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยได้

*ตูม*

ในตอนนั้นก็มีเสี ยงระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า และปรากฏร่ างของสาวงาม


100 คนปรากฏขึ้นบนนท้องฟ้า พวกเธอคือ กลุ่มของ หย่า เฟยนัน่ เอง

“เจ้าอสู รผูโ้ ง่เขลา เจ้ายังกล้าสร้างความวุน่ วายในที่แห่งนี้อีกหรื อ


วันนี้ขา้ จะส่ งเจ้ากลับบ้านเก่า!”
ในตอนนี้ ชุดกระโปรงของหย่า เฟยนั้น กําลังพัดปลิวอย่างรุ นแรง และ
กลิ่นอายของเธอนั้นก็รุนแรงอย่างมากเช่นกัน แต่นน่ั ก็ไม่ได้ทาํ ให้ความ
งดงามของเธอลดลงเลย และยังเพิ่มความเป็ นวีรสตรี บนใบหน้าเธอด้วย

แต่นน่ั ก็เป็ นเพียงในสายตาคนอื่น ในสายตาชูเฟิ ง เขาเห็นว่าคู่หมั้นของ


นายน้อยแห่งหมู่เกาะประหารนั้นเป็ นคนรุ นแรงมาก

“รู ปแบบหมื่นสวรรค์ดูดกลืนทุกสรรพสิ่ ง!”

ทันใดนั้นหย่า เฟยก็ตะโกนออกมาเสี ยงดัง บนหัวของเธอเกิด ลมหมุนสี


เงินขึ้น และ เมื่อลมหมุนนั้นปรากฏตัวก็ก่อให้เกิดพลังที่รุนแรงกระจาย
ออกมา พลังของมันนั้นทําให้ทุกคนรุ ้สึกว่าทะเลกําลังถูกดูดเข้าไปในลม
หมุน

“นี่มนั อะไรกันทําไมมันถึงทรงพลังเช่นนี้.” ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็


ตกใจมาก เพราะมันไม่ใช่รูปแบบวิญญาณ แต่มนั เป็ นทักษะ นัน่ เป็ น
เพราะเขารู ้สึกว่าทักษะที่ หย่า เฟย ใช่มนั แข็งแกร่ งกว่านํ้าวนที่ถูกสร้าง
โดยอสู รนัน่

เพียงพริ บตาหย่า เฟย ก็คุมสถานการณ์ไว้ได้ เธอดึงทุกคนกลับเข้ามาใน


ลมหมุนที่อยูใ่ นอากาศ เพื่อให้พวกเขาได้อยูใ่ นที่ปลอดภัย

*ตูมม*
เมื่อ หย่า เฟย ช่วยผูค้ นจนหมดแล้ว ใจกลางนํ้าวนก็เกิดระเบิดขึ้น ใน
ตอนนั้นก็มีบางสิ่ งพุง่ ออกมาจากระเบิดนัน่

มันสู งกว่า 2 เมตร และมีหญ้านํ้าอยูเ่ ต็มตัว ดวงตาสี แดงกํ่าและสว่าง


ราวกับตะเกียง เมื่อเห็นเช่นนั้นชูเฟิ งก็จาํ ได้ทนั ทีวา่ มันคืออสู รตัวนั้น

*โฮก~~~*

เมื่ออสู รปรากฏตัวขึ้น มันก็ส่งเสี ยงคํารามทันที หลังจากนั้น กลิ่นอาย


แห่งความดิบเถื่อนก็ลอยออกมาจากตัวมัน และรวมตัวกันกลายเป็ นคม
ดาบ คมดาบนั้นมันดูเหมือนกับสว่าน และมีความยาวหลายฟุต จากนั้น
อสู รตัวนั้นก็ได้ปล่อยดาบพุง่ มาที่ หย่า เฟย
“มันมีระดับ 5 เจ้าสงคราม เช่นนี้ขา้ ย่อมไม่แพ้อย่างแน่นอน.”

เมื่อรู ้สึกถึงพลังของอสู ร หย่า เฟย ก็ไร้ซ่ ึ งความกลัว แต่เธอมีกลับมี


ความสุ ข เธอนั้นอยูใ่ นระดับ 5 เจ้าสงคราม และมันเป็ นระดับเดียวกับ
อสู รตัวนั้น เธอจึงมัน่ ใจว่าเธอสามารถเอาชนะมันได้

เมื่อเผชิญหน้ากับดาบที่มีพลังระดับเจ้าสงครามนัน่ หย่า เฟย ก็ยงั ใจเย็น


และเธอก็ไม่ได้สวนกลับไปเมื่อคมดาบนัน่ เข้ามาใกล้เธอก็ได้เคลื่อนมือ
ของเธอมาเพื่อรับคมดาบนั้นเอาไว้

“นี่มนั อะไรกัน แม่นาง หย่า เฟย ต้องการทิ้งชีวติ อย่างนั้นหรื อ”


เมื่อเห็นเช่นนั้น คนทั้งหลายต่างรู ้สึกตกใจ ในพวกเขานั้นระดับตํ่าสุ ดยัง
เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสวรรค์ แต่พวกเขาก็รู้สึกเกรงกลัวในคมดาบนั้น
มาก

ในตอนนั้นผูค้ นต่างรู ้สึกกังวล และคิดว่า มือของ หย่า เฟย จะถูกหัน่ เป็ น


ชิ้นๆ แต่หลังจากนั้นก็มีแสงประกายออกมาจากมือของเธอ และเกิดเสี ยง
ดัง ปัง ดาบนั้นค่อยๆแตกที่ละเล็กทีละน้อย สุ ดท้ายมันกลายเป็ นเศษๆ

การโจมตีที่น่าเกรงขามของอสู รนัน่ ถูกหยุดโดย หย่า เฟย อย่างง่ายดาย

“ดินแดนแห่งเถาวัลย์!”
หลังจากหยุดการโจมตีน้ นั ได้ หย่า เฟย ไม่ได้หยุด และโจมตีทนั ที
เถาวัลย์นบั ไม่ถว้ นพุง่ ออกมาจากแขนเสื้ อของเธอ และพวกมันก็พงุ่ ไป
รัดอสู รนั้นและโจมตีมนั ทันที ความเร็ วของพวกมันนั้นสู งมาก เมื่อมัน
ค้นพบอสู รมันจึงเริ่ มโจมตีทนั ที

*โฮก~~~~*

ในตอนนั้น อสู รก็คาํ รามด้วยเสี ยงที่แสบแก้วกูออกมา พลังของมันนั้น


เล็ดลอดออกมาจากเถาวัลย์

ทุกคนรุ ้วา่ เจ้าอสู รนั้นกําลังต่อต้านอยู่ แต่มนั ไม่สามารถต้านทานเถาวัลย์


ที่ หย่า เฟย ปล่อยออกมาได้หมด เถาวัลย์พวกนั้นมันเริ่ มที่จะรัดมันแน่น
ขึ้นๆ

“สุ ดยอด แม่นาง หย่า เฟย ช่างแข็งแกร่ งยิง่ นัก เจ้าอสู รตัวนี้ มันคือ
อสู รที่ก่อเรื่ องใน ทะเลโลหิ ตนิรันดร์และไม่มีใครปราบมันได้ ข้าไม่เคย
คิดว่าหลังจาก แม่นาง หย่า เฟย มาที่นี่ เธอจะจัดการกับมันได้อย่าง
ง่ายดายเช่นนี้ พลังระหว่างเธอ กับ มันช่างต่างกันเหลือเกิน”

เมื่อเห็นว่า หย่า เฟย กําลังได้เปรี ยบ ผูค้ นต่างรู ้สึกยินดี

แต่ชูเฟิ งไม่เห็นเป็ นเช่นนั้น เขาได้พึมพํากบตัวเองว่า “ ไม่ใช่ นี่มนั


แปลกไป พลังของอสู รตัวนี้ไม่ได้มีแค่น้ ี.”
ชูเฟิ งนั้นเคยเห็นพลังของมันมาก่อน เขาจึงรู ้วา่ มันทรงพลังแค่ไหน แต่
ในตอนนี้ พลังของมันที่แสดงให้เห็นนั้นทําให้เขารู ้สึกสงสัย

*ฮึ่ม*

แต่ในตอนนั้น ก็เกิดพลังไร้รูปออกมาจากร่ างของอสู รนั้น และมันพุง่


ตรงไปยังทะเล

*ตูม*

หลังจาก มันได้พงุ่ เข้าใส่ ทะเล นํ้าทะเลที่นิ่งสงบ ก็เกิดการเคลื่อนไหว


ราว กับภูเขาไฟประทุ มันพุง่ ขึ้นทันทีและไปล้อมรอบอสู รนั้นไว้
*โฮก*

ในตอนนั้นพลังของเจ้าอสู รนั้นเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลัง่ และมันได้คาํ ราม


ออกมาด้วยความโกรธ จากนั้นมันก็พงุ่ ลงไปในนํ้าทะเลทั้งที่มีเถาวัลย์
ล้อมรอบอยู่

*วูบ่ *

ในตอนนั้น หย่า เฟย ที่อยูอ่ ีกด้านของ เถาวัลย์กถ็ ูกมันลากลงไปด้วยพลัง


ที่ทรงพลังมาก และมุ่งตรงไปยัง ทะเลโลหิ ตนิรันดร์
“แม่นาง หยา เฟย โปรดระวังด้วย เจ้าอสุ รตัวนี้จะแข็งแกร่ งขึ้นเมื่อ
อยูใ่ นนํ้า อย่างไปสู ก้ บั มันเมื่อมันอยูใ่ นนํ้าเลย.”เมื่อเห็นเช่นนั้น ผูค้ นจาก
หมู่เกาะประหารก็พดู ขึ้นเสี ยงดัง

“ฮึ่ม เจ้าต้องการดึงข้าลงไปในนํ้าอย่างนั้นหรื อ แสดงให้ขา้ ดูหน่อย


ว่าเจ้าแข็งแกร่ งแค่ไหนเมื่ออยูใ่ นนํ้า!”

แต่เพราะเธอไม่รู้วา่ เจ้าอสู รตัวนี้จะแข็งแกร่ งขึ้นขนาดไหนเมื่ออยูใ่ นนํ้า


อย่างไรก็ตามเธอก็พงุ่ ตามมันไปด้วยความมัน่ ใจ และไม่สนใจเกี่ยวกับ
มัน ไม่เพียงเธอจะไม่ปล่อยเถาวัลย์ในมือ เธอยังพุง่ ตามมันไปด้วย

*ตูม บุ๋ม บู๋ม*


หลังจาก หย่า เฟย ลงไปในนํ้านั้น ชูเฟิ งก็สามารถเห็นทั้ง2ได้ชดั เจนว่า
ทั้ง 2 นั้นไม่ปะทะกัน แต่หย่า เฟยปล่อยให้มนั ลากไปตามทาง พูดให้
ชัดๆก็คือ มันกําลังมุ่งหน้าไปทางอื่น แต่หย่า เฟยก็ไม่ได้ขดั ขืนปล่อยให้
มันลากไปด้วย

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
A : หย่า เฟย เป็ นพี่หญิงที่อวดดีชิบหาย รอพี่เฟิ งเข้าสู่ อาณาจักร จ้าว
สงครามก่อน จะสัง่ สอนให้เข็ด

B : ไม่ตอ้ งรอถึงขนาดนั้น แค่ระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์ บวกพลัง


จาก 3 สายฟ้า พี่เฟิ ง ที่อยูใ่ นระดับ 2 ก็จดั การได้อย่างอยูห่ มัด อีกไม่
นาน สกิลพี่เฟิ งมาเต็ม ตอนนั้น ตํานานที่เคยมีในทะเลตะวันออกก็จะ
ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

A : คนที่มี 4 ทักษะเร่่ นลับ สัตว์เทพทั้ง 4 สิ นะ ตอนนี้มีสามล่ะ


อาจารย์หลุดมาเมื่อไหร่ เป็ นสี่ คราวนี้ล่ะมึง จะได้รู้ ว่าใครกันแน่คือ
จักรพรรดิของทะเลตะวันออก นี้ยงั ไม่รวมพลังของกองทัพในอานัตินะ
พี่เฟิ งรวบรวม ขุมพลังอย่าง พรรคมารทะลายราตรี กับ วิหารเพลิงพลาญ
สวรรค์ได้มะไหร่ ได้รู้กนั เลยเชียว

C : มืงแม่งสปอยเรื่ องมัว่ ชัว่ เด๋ วคนก็คิดเปนจริ งเปนจังหรอก

B : มันไม่ได้มว่ั เว้ย เรื่ องจริ งแฝงอยูใ่ นคําพูดของไอ A มืงอ่ะจะพา


คนอ่านไขว่เขว ส่ วนเรื่ องตํานานก็เคยกล่าวไว้ล่ะว่า วีรบุรุษที่เคยช่วย
ทะเลตะวันออกจาก โอรถอเวจี ก็คือบุคคลในตํานานของ เก้าอาณาจักร
ที่มี 4 ทักษะเร้นลับ
บทที่ 621 - เปิ ดเผย

เมื่อเห็นทั้ง 2 จมลงสู่ ทะเลชูเฟิ งก็เริ่ มมีความคิดบางอย่าง หลังจากเห็น


ทิศทางที่ท้ งั 2 มุ่งหน้าไปเขาก็เดินออกจากฝูงชนและใช้ทกั ษะมังกรฟ้า
ทะยานตามไป
“บัดซบ ข้าไม่สามารถตามไปได้ พวกเขาช่างไวยิง่ นัก.” แต่มนั ก็
ไร้ประโยชน์ดว้ ยความต่างของพลัง แม้แต่ชูเฟิ งใช้ทกั ษะเร้นลับ เขาก็ไม่
สามารถที่จะถามพวกมันทัน

“ไอ้หยา ไอ้หยา พี่ชาย ท่านต้องการตามทั้ง 2 ไปหรื อไม่” แต่


ความหวังของชูเฟิ งก็ยงั ไม่หมดไป เพราะในตอนนั้นก็มีเสี ยงดังมาจาก
ทางแขนของเขา

เมื่อเขาก้มหน้าไปมอง เขาก็เห็นเสี่ ยวยู่ กําลังจ้องเขาตาแป๋ ว

“อืม.” ชูเฟิ งตอบพร้อมพยักหน้า


จากนั้น เสี่ ยวยู่ ก็ยมิ้ จนเห็นฟันขาวประกายออกมา และพูดว่า “พี่ชาย จับ
ขา เสี่ ยวยูไ่ ว้ให้แน่นๆนะ อย่าให้มือหลุดจากขาเสี่ ยวยู~
่ ”

“ตกลง.” ชูเฟิ ง รู ้วา่ เสี่ ยวยูจ่ ะพาเขาตามทั้ง 2 ไป เขาจึงไม่ลงั เล


จับข้อเท้า เสี่ ยวยูไ่ ว้

*ฟรึ่ บ* เมื่อชูเฟิ งจับขาของเสี่ ยวยู่ เขาก็รู้สึกถึงแรงมหาศาลที่พาเขาไป


นํ้ารอบๆตัวเขากลายเป็ นเส้นสี ทางวิง่ ผ่านเขาไป

แสดงให้เห็นว่าความเร็ วในการว่ายของเสี่ ยวยูน่ ้ นั เร็ วกว่ามังกรฟ้า


ทะยานเสี ยอีก และเพราะความเร็ วขนาดนี้ ใบหน้าของชูเฟิ งก็ตอ้ งเปลี่ยน
และเขาก็ตอ้ งอ้าปากค้าง
“ความเร็ วในการว่ายนํ้าของเสี่ ยวยูท่ าํ ไมถึงเร็ วเช่นนี้”

ชูเฟิ งตกใจอย่างมาก เขารู ้วา่ เสี่ ยวยูน่ ้ นั ไม่ใช่เด็กธรรมดา และรู ้วา่ เธอว่าย
นํ้าเร็ ว แต่เขาไม่คิดว่าความเร็ วของเธอนั้นจะเหนือกว่าที่เขาจินตนาการ
ไว้มาก

ในตอนนั้นชูเฟิ งนั้นอยากรู ้ถึงตัวตนของเธอมากขึ้น แม้วา่ เธอนั้นจะดู


เหมือนเด็กผูห้ ญิงธรรมดาที่ไม่มีการบ่มเพาะใดๆเลย แต่เธอมี
ความสามารถเช่นนี้ได้อย่างไร

*วูบ่ วูบ่ วูบ่ *


“ไอ้หยา ไอ้หยา!”

ความเร็ วในการว่ายนํ้าของเสี่ ยวยูน่ ้ นั เหมือนมังกรนํ้าที่กาํ ลังว่ายนํ้าอยู่


มันเร็ วมาก ขณะที่เธอกําลังว่ายเธอก็ส่งเสี ยงร้องออกมาและนัน่ แสดงให้
เห็นว่าเธอมีความสุ ขมาก และในไม่ชา้ เธอก็ตาม หย่า เฟย และ อสู รตัว
นั้นทัน

*ตูม ตูม ตูม *

ในตอนนั้น หย่า เฟย และ อสู ร กําลังต่อสู ก้ นั อยู่ ก่อให้เกิดแรงคลื่น


กระจายไปทัว่ นํ้าทะเล
พลังระดับ 5 เจ้าแห่งสงครามของทั้ง 2 นั้นช่างน่าเกรงขามจริ งๆ ชูเฟิ ง
ไม่กล้าเข้าไปใกล้ เพราะถ้าเขาถูกลูกหลง ชีวติ น้อยๆของเขาอาจจะถูก
พรากเอาไปเลยก็ได้

ในตอนนั้น ชูเฟิ งใช้ ทักษะเร้นลับ เกราะเต่าดําในการเป้ากันตัวเองและ


เพิ่มความปลอดภัยให้กบั ตัวเอง

หลังจาก เขายืนยันเป้าหมายของอสู รแล้ว เขาก็เริ่ มที่จะส่ งสารทางจิตหา


อสู รตัวนั้น แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์เพราะไม่มีการตอบรับจากอสู รตัวนั้น
ราวกับมันไม่ได้รับสารทางจิตจากเขา

“เจ้าเป็ นใคร ทําไมก่อนหน้านี้ถึงไม่ฆ่าข้าล่ะ”


“เจ้ารู ้วา่ ใคร เจ้าสามารถมองผ่านหน้ากากข้าแล้วรู ้วา่ ข้าคือชูเฟิ งใช่
หรื อไม่”

“เจ้าเป็ นใครกัน ทําไมถึงฆ่าผูบ้ ริ สุทธิ์ ที่นี่ล่ะ โปรดตอบข้าด้วย ข้า


มาดี บางทีขา้ อาจจะช่วยเจ้าได้.”

แต่ชูเฟิ งก็ไม่ยอมแพ้ เขามัน่ ใจว่าอสู รตัวนั้นได้รับสารทางจิตจากเขาแล้ว


และเขาก็เชื่อว่าเจ้าอสู รตัวนั้นมีสติปัญญา

แต่ในตอนนั้น การต่อสู ก้ ย็ ง่ิ วุน่ วายขึ้น ชูเฟิ งไม่สามารถเห็นการกระทํา


ของทั้ง2ได้ชดั เจน สิ่ งที่เขาเห็นก็มีเพียงอํานาจที่น่าเกรงขามที่ถูกปล่อย
ออกมา และความเสี ยหายที่เกิดใต้ทะเลเท่านั้น
*ตูม* ทันใดนั้น ก็เกิดเสี ยงระเบิดขึ้นดังออกมาจากการต่อสู ้ และใน
พริ บตาก็มีบางอย่างพุง่ เข้ามาหาชูเฟิ ง มันคือ หยา เฟย นัน่ เอง

“ตามข้ามา.” เมื่อ เธอมาถึงชูเฟิ ง เธอก็ใช้มือคว้าไหล่เขาไว้

*วูบ่ * หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้พดู อะไรแล้วก็พงุ่ ขึ้นไปยังผิวของนํ้าทะเล


พร้อมชูเฟิ ง

*โฮก~~~~~* ในตอนนั้นชูเฟิ งได้ยนิ เสี ยงคํารามอย่างไม่สิ้นสุ ดดัง


ขึ้นมาจากด้านล่าง และ กลิ่นอายที่ทรงพลังนั้นกําลังเข้ามาใกล้อย่าง
รวดเร็ ว ชูเฟิ งรู ้ทนั ทีวา่ มันเป็ นอสู รตัวนั้น
แม้วา่ เขาจะไม่รู้วา่ ทําไมหย่า เฟย ถึงลากเขาขึ้นมาด้วย แต่สญ
ั ชาตญาณ
ของเขาบอกว่าเขากําลังพุง่ ไปในทิศทางที่เป็ นอันตราย เขาจึงส่ งสารทาง
จิตไปหาเสี่ ยวยูว่ า่ "หนีไป”หลังจากบอกเธอเช่นนั้น ชูเฟิ งก็ผละเสี่ ยวยู่
ออกจากแขนเขาไป

“เจ้า!”

เมื่อเห็นชูเฟิ งปล่อยเสี่ ยวยูไ่ ป หยjา เฟย ก็โกรธอย่างมาก แต่เธอไม่ได้


ตามเสี่ ยวยูไ่ ป แต่เพิม่ ความเร็ วของเธอเพื่อขึ้นไปแทน

ด้วยความเร็ วเช่นนั้นก่อให้เกิดแรงกระแทกจากนํ้าทะเล แต่หย่า เฟย ก็


ไม่ได้หยุดเคลื่อนที่เมื่อเธอเข้าสู่ เมฆขนาดใหญ่เธอจึงหยุดและมองลงไป
ด้านล่างเพื่อสํารวจ

ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็พบว่า หย่า เฟย ได้รับบาดเจ็บ บริ เวณไหล่ และเสี ย


เลือดเล็กน้อย เห็นได้ชดั ว่าเป็ นรอยกรงเล็บ

หย่า เฟย ไม่ได้มองชูเฟิ ง เธอมองไปที่ผวิ นํ้าทะเล และ หลังจากเห็นว่า


อสู ร ตัวนั้นไม่ได้ไล่ตามเธอมาแล้ว เธอจึงหันมามองชูเฟิ ง และเริ่ ม
ตรวจสอบเขา

“แย่แล้ว เธอเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ ด้วยพลังของเธอเธอ


อาจจะตรวจพบการส่ งสารทางจิตระหว่างข้า กับ อสู รนัน่ !” เมื่อเห็น
เช่นนั้นชูเฟิ งก็รู้สึกกังวล
หลังจากสํารวจชูเฟิ งเสร็ จ หย่า เฟย ก็พดู ขึ้นว่า “ เจ้าเป็ นพวกเดียวกับ
อสู รนัน่ อย่างนั้นหรื อ”

“เจ้าพูดอะไร ข้าจะไปเป็ นพวกเดียวกันมันได้อย่างไร!” ชูเฟิ งรี บ


ปฏิเสธทันที ในตอนนี้เขาอยูใ่ นกํามือของ หย่า เฟย จึงเป็ นธรรมดาที่เขา
ต้องปฏิเสธ ถ้าไม่ง้ นั ก็เป็ นการรนหาที่ตาย

นอกจากนี้ เขายังไม่กล้ายืนยันว่าเขารู ้จกั กับอสู รหรื อไม่ เพราะเขายังไม่


รู ้วา่ อสู รตัวนั้นคือใครกันแน่

“ฮึ่ อย่างน้อยตอนนี้ สารทางจิตที่เจ้าส่ งไปยังอสู รนัน่ ก็ถูกข้ารู ้แล้ว


ข้ารู ้เรื่ องที่เจ้าพูดทั้งหมด เจ้ายังกล้าปฏิเสธอีกหรื อ” หย่า เฟย พูด
“ถ้าเจ้ารู ้เรื่ องข้อความจิตที่ขา้ ส่ งไปหาอูสรนัน่ แล้ว เจ้าก็ไม่ควรมา
จับผิดข้า เห็นได้ชดั ว่าข้าสาปแช่งและด่ามันมากมาย อย่าบอกข้านะว่าที่
ข้าด่ามันแสดงว่าข้าเป็ นพวกมัน!” ชูเฟิ ง พูด

ชูเฟิ งลองเดิมเสี่ ยง ที่เขาลองเสี่ ยงก็แค่หย่า เฟย นั้นจับได้วา่ เขาส่ งสาร


ทางจิตไปหาอสู รนัน่ แต่ไม่ได้รู้ถึงเรื่ องที่เขาคุยกับมัน

เหตุผลที่ชูเฟิ งกล้าทําเช่นนี้ เพราะเขามัน่ ใจอยู่ แม้วา่ เขาจะรู ้วา่ หย่า เฟย


นั้นเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ และอาจจะมีรูปแบบวิญญาณที่เหนือเขา
ชูเฟิ งก็รู้สึกว่าแม้เรื่ องที่เขาส่ งสารทางจิตนั้นถูกจับได้โดย หย่า เฟย แต่
เธอก็ไม่ได้รู้เรื่ องราวนั้นชัดเจน
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///
A : พี่เฟิ งจะงานเข้าล่ะ โดนหย่า เฟย จับไปกระทําชําเลา

B : ซาดิสสุ ดๆแมนางคนนี้!!!

A : แต่การที่จบั พี่เฟิ งนี้เป็ นเรื่ องที่โง่อยากมหันต์ แล้วคลังสมบัติของ


หมู่เกาะประหารจะเป็ นเช่นไรต้องรอติดตาม

B : เอ้ยยยย!!!
บทที่ 622 - ความร้ายกาจที่ซ่อนอยู่

“เจ้าช่างกลับกระล่อนยิง่ นัก เจ้าไม่ได้สาปแช่งมัน แต่เจ้าติดต่อกับ


มัน”
“เห็นได้ชดั ว่าเจ้าอยูข่ า้ งเดียวกับมัน นอกจากนี้เจ้ายังมีเด็กหญิงที่
แปลกๆอยูด่ ว้ ยอีก”

“เด็กหญิงคนนั้นช่างวิเศษอย่างมาก แม้วา่ เธอจะไม่มีระดับการบ่ม


เพาะ แต่เธอก็มีพลังที่คนธรรมดาไม่มี นอกจากนี้เป็ นไปไม่ได้คน
ธรรมดาจะเป็ นแบบเธอได้ ข้าจึงคิดว่าเธอน่าจะเกี่ยวข้องกับอสู รนัน่ ”

“แล้ว เธอยังอยูก่ บั เจ้า นัน่ ได้บ่งบอกทุกอย่างแล้ว.” หย่า เฟยไม่ใช่


คนธรรมดา เธอไม่เชื่อชูเฟิ งและเริ่ มจับผิดเขา

“เจ้ากําลังพูดเรื่ องอะไร เห็นได้ชดั ว่าข้าสาปแช่งมัน น้องชายของ


ข้าตายก็เพาะมัน ดังนั้นข้าจึงเกลียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับมัน ข้ารู ้วา่ ข้าไม่
สามารถเอาชนะมันได้ ข้าจึงได้แต่สาปแช่งมัน”
“ส่ วนเรื่ องเสี่ ยวยู่ ข้ารู ้วา่ เธอนั้นวิเศษมาก แต่ขา้ ก็ไม่รู้วา่ ทําไมนาง
ถึงมาติดข้า ด้วยบางอย่างข้าจึงไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะมาร้าย”

“เพียงเช่นนั้น เห็นได้ชดั ว่าเจ้าพูดใส่ ร้ายข้า ว่าข้าอยูข่ า้ งเดียวกับ


อสู รนัน่ ถ้าเจ้าจะยืนยันเช่นนั้นข้าก็ไม่มีคาํ พูดอะไร”

“เจ้าเป็ นส่ วนหนึ่งของหมู่เกาะประหารแท้ๆแต่เจ้าก็ไม่ยตุ ิธรรมเอา


เสี ยเลย มันจะทําให้คนอื่นมองเจ้าไม่ดีนะ แม่นางหย่า เฟย” ชูเฟิ งรู ้วา่
หย่า เฟย ไม่สามารถขยายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอสู รนัน่ ได้ เขาจึง
ค้านหัวชนฝา
“โฮ่.” แต่หลังจากได้ยนิ นคําพูดของชูเฟิ ง หย่า เฟย ก็ไม่ได้พดู
อะไร ต่อจากนั้น เธอก็ยมิ้ ขึ้นมา แต่รอยยิม้ ของเธอนั้นแปลกมาก มันทํา
ให้ชูเฟิ งที่ไม่ทนั ตั้งตัวถึงกับขนลุก

“ดี!!! ถ้าเป็ นเช่นนั้น ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า ข้าก็ไม่สามารถทําอะไรได้


แล้วพบกันใหม่นะ.” เมื่อรู ้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ชูเฟิ งก็ทาํ ท่าจะจาก
ไป

“อ๊ากก!”

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้ไป เขาก็ได้ยนิ เสี ยงดัง “ ฉ่า ” และเขาก็


เหนว่าหัวไหลของเขาถูกโจมตีโดย หย่า เฟย
แต่นน่ั ก็ไม่ได้จบเช่นนั้น ชูเฟิ งรู ้สึกว่ามีพลังไหลเข้ามาตัวเขา และมันได้
โจมตีอวัยวะภายในของเขา

“อ๊ากก~~~”

ความเจ็บปวดที่รุนแรงนั้นทําให้ชูเฟิ งร้องออกมาดังลัน่ เขาต้องการร้อง


เสี ยงดังเพื่อให้คนอื่นได้ยนิ ที่สาํ คัญที่สุดเขาต้องการให้อสู รได้ยนิ และ
หวังว่ามันจะช่วยเขา

แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์ ไม่มีใครปรากฏขึ้นใกล้เขาเลย หย่า เฟย ไม่ได้หยุด


เพราะชูเฟิ งร้อง เธอยิม้ อย่างโหดเหี้ ยมและเข้าไปกระซิ บกับชูเฟิ งว่า”
เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปเพราะความดื้อรั้นของเจ้าหรื อ ข้าจะให้เจ้าได้
พูดความจริ งออกมา ให้ได้”
“อ๊ากก~~~~”

หลังจาก หย่า เฟย พูด ชูเฟิ งก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างหนักในร่ างกาย


เขา มันทําให้เขาเหงื่อไหลอย่างรวดเร็ วและเริ่ มที่จะหมดแรง ดวงตาของ
เขาเริ่ มพร่ ามัว และ เขาเริ่ มที่จะครองสติไว้ไม่อยู่

หลังจากเวลาผ่านไป ชูเฟิ งก็ได้สติอีกครั้งเมื่อเขาลืมตาขึ้น เขาก็พบว่าเขา


นั้นนอนอยูใ่ นวัง และวังนัน่ งดงามมาก ราวกับสร้างเพื่อฝังศพพระราชา

แต่ในตอนนั้น เขาก็พบว่าเขาถูกมัดด้วยพลังที่แข็งแกร่ งและถูกตรึ งไว้ที่


ไม้กางเขน
ไม่ไกลจากเขา มีคนคนหนึ่งยืนอยู่ คนคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หย่า
เฟย

“บัดซบ.” หลังจากเห็น หย่า เฟย เขาก็สาปแช่งเธอในใจเขา เขา


รู ้สึกว่าหย่า เฟยนั้นจะทรมาน เพื่อสอบสวนเขา

“โอ้ เจ้าตื่นแล้ว” เมื่อเห็นชูเฟิ งตื่น หย่า เฟย ก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิม้

หลังจากเธอพูดเธอก็ขยับมือขาวๆของเธอและนัน่ เผยให้เห็นมีดที่เกิด
จากพลังระดับเจ้าแห่งสงครามในมือเธอ
“เจ้าจะทําบ้าอะไร ยายซาดิส”

ชูเฟิ งขมวดคิ้วแน่น เขารู ้วา่ หย่า เฟย ต้องมีแผนที่จะทําบางอย่างกับเขา


ถ้าสิ่ งที่เขาคิดถูกต้อง หย่า เฟย นั้นไม่ใช่คนดี เธอนั้นไม่สนใจอะไร
นอกจากเป้าหมายของเธอ

เธอเป็ นผูห้ ญิงที่งดงาม และมีความสามารถที่โดดเด่นมาก แต่ลึกๆแล้วที่


เธอซ่อนไว้คือพิษร้ายในตัวเธอ

“เอ๋ กลัวอย่างนั้นหรื อ” หย่า เฟย ไม่ตอบเขา และเดินเข้าไปที่เขา


เธอเริ่ มใช้มีดในมือเลื่อนไปรอบๆตัวชูเฟิ งและนัน่ มันทําให้น่า
หวาดเสี ยวมาก
“กลัวอย่างนั้นหรื อ ตั้งแต่เกิดมาข้าไม่เคยรู ้สึกถึงคําว่ากลัวซักครั้ง.”
ชูเฟิ ง พูด

“โอ้ เจ้าช่างพูดมากเสี ยจริ ง สงสัยข้าต้องทําบางอย่างเพื่อให้เจ้า


เงียบเสี ยแล้ว” หย่า เฟย พูดด้วยรอยยิม้

“ข้าเคยบอกไปแล้ว ตอนนี้ขา้ ไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า ถ้าเจ้าจะข้าฆ่า


ก็เอาเลย ถ้าเจ้าจะลอกหนังข้าก็จดั การเลย ข้า ชูเฟิ งจะไม่ส่งเสี ยงแม้แต่
นิดเดียว.”

เมื่อตกอยูใ่ นเงื้อมมือของ หย่า เฟย ชูเฟิ งก็ได้แต่โทษที่เขาประมาท และ


ความสามารถที่อ่อนด้อยของเขา แม้วา่ เธอจะข้าเขา เขาก็จะได้ไม่รู้สึก
แค้น แต่ในตอนนั้นชูเฟิ งรู ้สึกว่าผลที่จะมานั้นเลวร้ายอย่างยิง่

“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงให้ขา้ ดูหน่อยว่าเจ้าจะทนได้แค่ไหน” เมื่อได้


ยินคําพูดชูเฟิ ง ใบหน้าของ หย่า เฟย เปลี่ยนเป็ น เย็นวาบ จากนั้นเธอก็
แทงมีดไปที่หน้าอกของชูเฟิ งดังฉึ ก

อย่างไรก็ตามเมื่อมีดได้ถูกแทงมาที่หน้าอกเขา เขาก็กดั ฟันแน่นและไม่


ส่ งเสี ยงร้องใดๆ

“ฮึ่ม.” เมื่อเห็นชูเฟิ ง หย่า เฟย ก็แค่นเสี ยงอย่าเย็นชา จากนั้นเธอก็


เคลื่อนมือเธอเพื่อสร้างบาดแผลให้ใหญ่ข้ ึน
ไม่วา่ เขาจะทนมากแค่ไหน ใบหน้าของเขาก็เริ่ มซี ดขาวและเย็นยะเยือก
จากนั้นก็มีเหงื่อไหลออกมา

แต่ถึงกระนั้น ชูเฟิ งก็ไม่ได้ส่งเสี ยงออกมา จากนั้นเขาก็ยมิ้ อย่างเย็นชา


แล้วพูดว่า “ เจ้าทําได้แค่น้ ีหรื อแม่นาง ยังไงเจ้ามันก็เป็ นผูห้ ญิงอยูว่ นั ยัง
คํ่า ดูเหมือนเจ้าต้องการให้ขา้ สอนเจ้าเรื่ องวิธีทรมารคนอย่างนั้นสิ นะ”

“ฮึ่ม เจ้าคิดว่าจะสามารถสอนข้าได้อย่างนั้นหรื อ” หลังจากพูดจบ


เธอก็หงายฝ่ ามือขึ้นและนัน่ ก็ปรากฏเป็ นกล่องไม้บนฝ่ ามือเธอ

*ฮึ่ม*
และเมื่อกล่องไม้นน่ั ปรากฏขึ้น มันก็มีรูปแบบวิญญาณอยู่ และใน
รู ปแบบนั้นก็มีแมลงสี แดง ขนาดพอพอกับมดอยู่

แมลงพวกนั้นน่ารังเกียจมาก แม้มนั จะขนาดเล็ก พวกมันก็มีกรงเล็บสี ดาํ


และสร้างเสี ยง ฉี่ฉี่ ทําให้น่าขนลุกมาก

หลังจากแมลงพวกนี้ปรากฏตัวขึ้น หย่า เฟย ก็ยมิ้ แล้วพูดว่า “เจ้าคงจะคิด


ว่าข้าโง่ที่ใช้มีดกับเจ้าสิ นะ เจ้าผิดแล้วข้าแค่จะสร้างแผลสดๆเพื่อสนอง
พวกมัน”

“เจ้ารู ้หรื อเปล่าว่าพวกนี้คืออะไร พวกมันคือแมลงกลืนวิญญาณ


พวกมันจะเข้าไปในร่ างเจ้าและเริ่ มกินอวัยวะเจ้าและกินสมองเจ้า และ
สุ ดท้ายมันก็จะกินวิญญาณเจ้า”
“ในตอนนั้นไม่วา่ ข้าจะถามอะไร เจ้าก็จะตอบข้า ไม่วา่ ข้าขะให้เจ้า
ทําอะไร พวกมันก็จะบังคับให้เจ้าทําได้”

“แต่ก่อนหน้านั้นเจ้าก็ตอ้ งได้รับบาดเจ็บอย่างมาก และจากนี้เจ้าจะ


ได้รับการทรมานที่โหดร้ายที่สุดร่ างกายของเจ้าจะถูกกลืนกินทีละนิดๆ
จนหมดวิญญาณเจ้า”

“แสดงให้ขา้ ดูหน่อยสิ วา่ เจ้าจะทันมันได้หรื อไม่.”


"จัดมาโลดอีหนู!!!" ชูเฟิ งไม่ได้กล่าวไว้

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////
B : อย่าเอาตัวเองไปปนกะเนื้อเรื่ องสิ ไอปั ญญาอ่อน A !!!

A : มันอดไม่ได้น้ ีหว่า!!!

B : ก็จริ งอ่ะ จับใครไม่จบั มาจับ ชูเฟิ ง แมลงขี้ตูดไรนั้น เข้าไปในร่ างพี่


เฟิ งก็มีแต่จะกลายเป็ นแหล่งพลังวิญญาณซะเปล่าๆ

A : คงงั้นแหละ นางคิดจะจับเสี่ ยวยู่ มาบ่มเพาะสงสัยอยากให้ทะเล


ตะวันออกหายไปจากแผนที่โลก
B : ก็น้ นั นะสิ !!! พี่นอ้ งคู่น้ ีรักกันจะตาย ลองให้สายฟ้าพี่เฟิ งตื่นสิ แล้ว
จะเป็ นเหมือนที่หุบเขาเทพกระบี่ คราวนี้หมู่เกาะประหารได้กลายเป็ น
ทะเลอันเวิง้ ว้างแน่ๆ

C : พวกมืงมันช่างจินตนาการลํ้าเลิศจริ งๆ
บทที่ 623 - สายฟ้าศักดิสิทธิ์สาํ แดงเดช

* จิ๊ จิ๊ จิ๊ จิ๊ *

หลังจากที่พดู ร่ องรอยความดุร้ายที่น่าหวาดหวัน่ แสดงออกมาบน


ใบหน้าที่สวยงานของหย่าเฟยทันดี ด้วยความคิดที่วา่ รู ปแบบวิญญาณ
จะถูกเปิ ดโดยอัตโนมัติแล้วแมลงกลืนวิญญาณที่ถูกบรรจุอยูใ่ นนั้น ก็
เจาะเข้ามาในร่ างกายชูเฟิ งผ่านทางบาดแผลที่นางทําไว้

ทันใดนั้น ชูเฟิ งได้ประสบกับความทุกทรมานแสนสาหัสเกินจะรับไหว


ยากสุ ดจะพรรณนา มันเหมาะสมแม้จะพูดว่านี่คือความทรมานอย่าง
ที่สุดที่ชูเฟิ งเคยประสบมาจนถึงขณะนี้

แต่ถา้ ไม่คาํ นึงถึงเรื่ องความอดทนของชูเฟิ ง ชูเฟิ งขบฟันแน่นพร้อมทั้ง


จ้องเขม็งไปที่หย่าเฟย ชูเฟิ งตัดสิ นใจแล้วว่าถ้าเขาสามารถเอาชีวติ รอด
ได้ เขาจะให้ ยัยอสรพิษ คนนี้ได้ชดใช้ในสิ่ งเธอทํา แบบที่อยากจะลืม ก็
ลืมไม่ลง

“ฮึ่ม..เจ้าสามารถทนมันได้จริ งๆ แต่ไม่วา่ ยังไงก็ตาม..อีกไม่นาน


...เจ้าจะถูก แมลงกลืนวิญญาณ ฆ่าตาย และเมื่อถึงตอนนั้น เจ้าจะ
กลายเป็ นหุ่นเชิดของข้า เจ้าจะทําตามทุกสิ่ งที่ขา้ บอก”

“จริ งๆแล้ว ข้าไม่ได้สนใจว่าเจ้าจะเกี่ยวข้องกับอสู รตัวนั้นหรื อไม่


เพราะถึงแม้วา่ ไม่มีเจ้า ข้าก็มีความสามารถเพียงพอที่จะฆ่ามันได้”
“มีเพียง 2 เหตุผลที่วา่ ทําไมข้าถึงนําเจ้ากลับมา ประการแรก..
ทักษะที่ที่เจ้าแสดงก่อนหน้านี้เป็ นทักษะที่ไม่ธรรมดา ข้าสงสัยว่ามันคือ
ทักษะเร้นลับ ไม่วา่ มันจะจริ งหรื อไม่ มันจะเปิ ดเผยออกมาเองโดย
ธรรมชาติหลังจากฆ่าเจ้า”

“แต่ก่อนข้าฆ่าเจ้า ข้ามีอย่างอื่นต้องทํา...ข้าจะจับเด็กที่ชื่อว่าเสี่ ยวยู่


โดยใช้เจ้าเป็ นตัวล่อ”

“หญิงคนนั้นพิเศษเป็ นอย่างมาก ข้าสนใจที่จะศึกษานางสักหน่อย


ข้าอยากรู ้วา่ แหล่งที่มาของพลังของนางนั้นจริ งๆแล้วมาจากที่ใด ข้าไม่
ทราบว่ากระดูกของร่ างกายเล็กๆนัน่ จะใช้ในการทรมานของข้าได้
หรื อไม่”
“แต่จริ งๆแล้ว นัน่ ไม่ใช่เรื่ องอันใดเลย แม้วา่ ข้าไม่สามารถเอาพลัง
ของนางมาได้ แต่การฆ่านางก็หมายความว่าข้ามีศตั รู ที่ตอ้ งกําจัดน้อยลง
ไปอีก 1 จากที่ขา้ พูดมาทั้งหมด ถ้าลองคิดแบบอัจฉริ ยะสักเล็กน้อย
ศัตรู ยงิ่ น้อยก็ยง่ิ ดี เจ้าว่างั้นมั้ย?”

หย่าเฟยมองไปที่ชูเฟิ งพร้อมยิม้ เล็กน้อย เธอบรรจงวางริ มฝี ปากแดงระ


เรื่ อทรงเสน่ห์ของเธอไปใกล้ๆชูเฟิ ง แต่ในมุมของชูเฟิ งนั้นหญิงสาวคน
นี้ไม่มีความดึงดูดใจเลยแม้แต่นอ้ ย เธอไม่ได้มีอะไรเลยนอกเสี ยจาก
กลิ่นอายที่อนั ตราย

ในตอนนี้ร่างกายของชูเฟิ งสัน่ ไหวพร้อมกับเหงื่อที่ไหลออกมาราวสาย


ฝนโดยไม่เจตนา ความเจ็บปวดจากแมลงกัดกินวิญญาณ เป็ นอะไรที่คน
ทัว่ ไปไม่อาจทนได้
แต่ไม่เพียงชูเฟิ งอดทนกับมันได้ เขายังยิม้ แล้วพูดกับหย่าเฟยด้วย
นํ้าเสี ยงที่อ่อนแอว่า “สารเลว!! จะรี บฆ่าข้าก็ทาํ ตอนนี้เสี ยดีกว่า อย่าให้
ข้ารอดชีวติ ไปได้ มิเช่นนั้นข้าจะให้เจ้าชดใช้เรื่ องวันนี้”

“โอ้? ปากดีนกั นะ ข้าชื่นชมเจ้า แต่ช่างน่าเศร้านัก วิธีเดียวที่ขา้ จะ


จับเสี่ ยวยูไ่ ด้กค็ ือใช้เจ้า และข้าต้องได้ทกั ษะเล้นรับที่เจ้าครอบครองอยู่
สิ่ งเหล่านั้นจะสาปสู ญไปพร้อมกับเจ้า และมีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถ
แสดงพลังที่แท้จริ งของพวกมันได้”

“เฮ้...แต่ไม่ตอ้ งกังวลไป ข้า หย่า เฟย ขอให้สตั ย์ต่อสวรรค์วา่


หลังจากใช้เจ้าเสร็ จแล้ว ข้าจะทําให้เจ้าตายอย่างทรมาน นัน่ คือราคาที่
เจ้าสาปแช่งข้า”
หย่า เฟยยิม้ อย่างแปลกประหลาด ด้วยมือที่งดงามราวกับหยกของเธอ
ทันใดนั่้ นได้หวดลงอย่างแรง พร้อมกับทิ้งรอยฝ่ ามือแดงๆบนใบหน้า
ของชูเฟิ ง

หลังจากที่ตบชูเฟิ งแล้ว ความโกรธหย่าเฟยก็ยงั ไม่คลาย นางยกฝ่ ามือขึ้น


และเตรี ยมจะตบชูเฟิ งอีกครั้ง

* ก็อกก็อกก็อก ก็อกก็อกก็อก * ในช่วงเวลานั้น เสี ยงเคาะประตูดงั มาก


จากภายนอกพระราชวัง

“อะไรหน่ะ?” ขณะที่คิด ปรากประตูแพรวพราวกระจ่างใส และ


ท้ายที่สุดสิ่ งที่ปรากฏคือประตูรูปแบบวิญญาณ
หลังจากประตูรูปแบบวิญญาณปรากฏ หญิงสาวในขั้นจ้าวสงครามเดิน
เข้ามา นางคือหนึ่งในผูใ้ ต้บงั คับบัญชาของหย่า เฟย แต่ในขณะนั้น
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัวพร้อมกับพูดว่า “ท่านหญิง
หย่า เฟย อสู รปรากฏตัวอีกครั้งแล้ว มันกําลังจู่โจมคนของเราอยู!่ ”

“โอ้? มันกําลังแก้แค้นสิ นะ?”

“ช่างบังเอิญ ข้าก็มีความแค้นที่ตอ้ งสะสาง!” หลังจากได้ยนิ คํากล่าว


หย่า เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย ร่ องรอยความกระหายเลือดปรากฏภายใน
ดวงตาของนางทันที

แต่ก่อนที่จะเดินออกไปยังประตูรูปแบบวิญญาณ นางหันกลับมามองชู
เฟิ งแล้วกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า “เจ้าคงคิดว่า เจ้ามีโอกาสหลบหนีหลังจากที่
ข้าไปแล้วใช่หรื อไม่?”

“เจ้าไม่ควรคิดเช่นนั้น เพราะสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่วา่ ใครๆก็สามารถ


หลบหนีออกไปได้ เดี๋ยวอีกไม่นานแมลงกลืนวิญญาณพวกนั้นก็จะเข้า
ยึดครองร่ างของเจ้า เมื่อข้ากลับมา เจ้าจะมาประจบประแจงข้าและ
กลายเป็ นหุ่นเชิดของข้า” [ T/N นึกว่านางจะพูดว่า เมื่อข้ากลับมา เจ้า
จะกลายเป็ นผัวของข้าซะอีก ]

“เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ สิ่ งที่ขา้ จะทําหลังจากที่เจ้ากลายเป็ นหุ่นเชิดของข้า


คืออะไร? ข้าจะทําลายความเป็ นชายของเจ้าทิ้ง และเจ้าจะไม่สามารถ
เรี ยกตนเองว่าเป็ นชายได้อีกครั้ง ข้าจะให้เจ้าตัด รากฐานชีวติ ของเจ้าทิ้ง
เจ้าคงต้องการเกียรติไช่ไม๊? แต่ขา้ จะไม่ยอมมอบมันให้แก่เจ้า นัน่ คือ
วิธีการที่ขา้ จะจัดการเจ้าโดยที่เจ้าไม่สามารถต่อต้านข้าได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ฮ่า…..”
พร้อมกับการหายตัวไปของเสี ยงหัวเราะที่บา้ ครั้งไร้ความปราณี หย่า เฟ
ยออกมาพร้อมกับผูใ้ ต้บงั คับบัญชา ไม่มีผใู ้ ดถูกทิ้งไว้เบื้องหลังเพื่อ
ปกป้องชูเฟิ ง และในพระราชวังที่กว้างใหญ่ กลับเหลือเพียงชูเฟิ งในที่
แห่งนั้น

แต่ในปัจจุบนั ไม่เพียงพลังของชูเฟิ งถูกจํากัด แม้แต่ร่างกายของเขา


ตอนนี้กาํ ลังถูกกัดกินโดยแมลงกลืนวิญญาณ

แมลงเหล่านั้นทรงพลังอย่างมาก แม้ชูเฟิ งจะมีความกล้าในการเผชิญ


ความเจ็บปวด แต่เขาไม่สามารถหยุดพวกมันจากการกลืนกินร่ างกาย
ของเขาได้ ถ้ายังเป็ นเช่นนี้ต่อไป ในที่สุดเขาจะต้องกลายเป็ นหุ่นเชิด
อย่างแน่นอน
“ชูเฟิ ง เจ้าไม่อาจนัง่ รอความตายตรงนี้ เร็ วเข้า! รี บคิดวิธีเรี ยกใช้
อํานาจจากสายฟ้าศักดิสิทธิ์ ลองใช้มนั ทําลายสิ่ งที่พนั ธนาการเจ้าและไล่
พวกแมลงพวกนี้ออกไป” ในตอนนั้น ต้านต้านที่อยูเ่ งียบๆได้พดู ขึ้น

หลังจากได้ยนิ คําของต้านๆ เหมือนดัง่ พระเจ้าทรงโปรด ก่อนหน้านี้ชู


เฟิ งเป็ นกังวลกับความอดทนของเขาต่ออาการเจ็บเปิ ดที่เกิดจากแมลง
กลืนวิญญาณ และมองข้ามสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในร่ างกายไป หลังจากคิดได้
ว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์น้ นั ทรงพลัง ถ้างั้นบางที..มันอาจจะช่วยขจัดแมลงกัด
กินวิญญาณและทําลายสิ่ งที่พนั ธนาการเขาอยู่

“ฮ่า!!” เมื่อคิดได้เช่นนั้น ชูเฟิ งไม่รอช้าและด้วยความคิดของเขา ชู


เฟิ งเริ่ มกัดฟันใช้ท้ งั ร่ างกายและจิตใจเพื่อเชื่อมต่อกับอํานาจของสายฟ้า
ทั้ง 3
“โฮกกก~~~”

เมื่อทําเช่นนั้น อํานาจของสายฟ้าทั้งสามในโลหิ ตของชูเฟิ งเป็ น


เหมือนกับ กษัตริ ยท์ ี่ลืมตาตื่นขึ้นจากการถูกครอบงํา ในตอนนั้นเอง!
พวกมันถูกปลุกให้ตื่นขึ้น พวกมันเริ่ มกัดกินแมลงกลืนวิญญาณที่
กระจายอยูใ่ นโลหิ ตของชูเฟิ งและเล็งที่จะยึดร่ างกายของเขา

นอกจากนั้นอํานาจของสายฟ้าไม่เพียงไม่สามารถหยุดได้ ตราบเท่าที
แมลงกลืนวิญญาณเหล่านั้นแตะต้องมัน พวกมันจะดูดซับและกลืนกิน
ทันทีโดยไม่มีร่องรอยการต่อต้าน

* เปรี๊ ยะ เปรี๊ ยะ เปรี๊ ยะ เปรี๊ ยะ เปรี๊ ยะ*


การเผชิญหน้ากับสายฟ้าที่รุนแรง แมลงกลืนวิญญาณแปลกๆเหล่านั้น
เหมือนได้เผชิญหน้ากับศัตรู ขนาดมหึ มา พวกมันไม่ได้มีความยิง่ ใหญ่
เช่นแต่ก่อน มันเหมือนกับหนูที่เห็นแมว พวกมันรี บหนีออกจากร่ างชู
เฟิ งท่ามกลางเสี ยงร้องของความหวาดกลัว

ท้ายที่สุดแมลงกลืนวิญญาณส่ วนใหญ่ที่เข้าไปในร่ างชูเฟิ งถูกกลืนกิน


ด้วยสายฟ้าในร่ างกายชูเฟิ ง อย่างไรก็ตาม ยังมีแมลงกลืนวิญญาณส่ วน
น้อยที่หนีออกมาจากร่ างกายของชูเฟิ งสําเร็ จและซ่อนอยูใ่ นพระราชวัง

“ฮูว้ ..ข้ายังคงไม่เข้ามันอย่างลึกซึ้ ง ถ้าข้าสามารถควบคุมพลังนี้ได้


ซึ่งข้าปราถนาเป็ นอย่างยิง่ มันจะเป็ นสิ่ งที่ดีแค่ไหนกันนะ....”
หลังจากอํานาจของสายฟ้าทั้ง 3 ขับไล่แมลงกลืนวิญญาณออกจาก
ร่ างกายชูเฟิ ง ขอบเขตพลังของเขาก็พ้นื คืนมา ในสถานะการณ์เช่นนี้แม้
ชูเฟิ งผ่อนลมหายใจออกด้วยความโล่งอก แต่ไม่มีการแสดงออกถึง
ความสุ ขบนใบหน้าของเขา

อํานาจของสามสายฟ้าได้ออกจากตันเถียนของชูเฟิ งแล้ว และมันได้เข้า


ไปอยูใ่ นเลือดของชูเฟิ งแทน กล่าวว่ามันได้รวมเป็ นหนึ่งกับร่ างกายชู
เฟิ ง เพราะชูเฟิ งรู ้สึกได้วา่ สายฟ้าทั้งสามแตกต่างจากสายฟ้าอื่นๆ

สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ยงั คงอยูใ่ นตันเถียนของชูเฟิ งแม้จะมีบางส่ วนอยูใ่ น


ร่ างกายชูเฟิ ง เขาก็ยงั ไม่สามารถใช้มนั ได้ท้ งั หมดไม่วา่ จะด้วยวิธีใด

แต่ทว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ท้ งั 3 นั้นแตกต่างอย่างสิ้ นเชิง มันดูไม่เหมือน


อยูใ่ นตัวชูเฟิ ง แต่มนั เหมือนเป็ นส่ วนหนึ่งของชูเฟิ งมากกว่า พลัง
เหล่านั้นคือพลังของชูเฟิ ง…….

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////
A : นี้แค่พลังส่ วนนิดๆของสายฟ้านะ อย่าให้ตื่นขึ้นมาจริ งๆ พี่เฟิ งแม่
งจะกลายเป็ นอังกอร์

B : จริ งอ่ะ แม่งขนาดสติจริ งๆ เวลาสายฟ้าตื่น เงื่อนไขคือความโกรธ


ล้วนๆ ถ้าหากมีความเสี ยใจปะปน สายฟ้าจะไม่ทาํ งาน

A : มืงโทรไปบอกพี่เฟิ งดิ!!!
B : ไม้ได้ๆ เดี๋ยวคนแต่งจะว่าเอา!!! คอยดูตอนที่อีซาดิส หย่า เฟย
กลับมาเถอะ แม่งได้ร้องขี้แตกขี้แตนแน่ๆ

บทที่ 624 - เปิ ดรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ

แต่สิ่งที่ชูเฟิ งไม่สามารถทําได้คือการยิบยืมพลังจากสายฟ้าทั้งสามเพื่อ
ยกระดับการบ่มเพาะของเขาได้ เพราะชูเฟิ งในตอนนี้ยงั ไม่สามารถดึง
พลังของสายฟ้าทั้งสามออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่

เหมือนกับว่า สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นเป็ นหนึ่งเดียวกัน แต่พวกมันเอง


ล้วนมีชีวติ และความนึกคิดเป็ นของตนเอง ชูเฟิ งเพียงปลุกมันเท่านั้น แต่
เป็ นตัวมันเองที่ทาํ ลายพันธนาการและแมลงกลืนวิญญาณ ไม่ใช่ชูเฟิ งที่
สัง่ มัน
แต่มีบางอย่างที่ชูเฟิ งมัน่ ใจได้แน่นอนว่าการเพิม่ พลังการบ่มเพาะ ไม่ใช่
ความสามารถทั้งหมดของสายฟ้าทั้งสาม ถ้าเกิดวันนึง ชูเฟิ งสามารถ
ควบคุมสายฟ้าได้อย่างลึกซึ้ ง เขาจะต้องแข็งแกร่ งหาใครเทียบได้อย่าง
แน่นอน

* วูช วูช *
อย่างไรก็ตามตอนนี้ ชูเฟิ งไม่มีเวลาให้คิดมาก เขาต้องรี บวางรู ปแบบฯ
เพื่อปลดเชือกรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่พนั ธนาการมือและเท้าของ
เขา เขายังต้องสมานแผลและห้ามเลือดของเขาให้เร็ วที่สุด

ตามหลักแล้วด้วยความแข็งแกร่ งของชูเฟิ งตอนนี้ การที่จะปลดรู ปแบบฯ


พันธนาการที่ถูกใช้โดยจ้าวสงครามระดับ 5 นั้น เป็ นเรื่ องที่ยากเย็น
แสนเข็น จะบอกว่าแทบเป็ นไปไม่ได้เลยก็วา่ ได้

แต่ดว้ ยความโชคดี หย่า เฟยมีความมัน่ ใจในตัวเองมากเกินไป นางไม่คิด


ว่าชูเฟิ งจะสามารถทําลายพันธนาการและฟื้ นฟูการบ่มเพาะของเขาได้
ดังนั้นสิ่ งที่เธอใช้พนั ธนาการชูเฟิ งก็ไม่มากมายนัก เป็ นเพียงการ
พันธนาการแบบขอไปที
หลังจากที่ชูเฟิ งได้ใช้ความพยายามอย่างอยูพ่ กั หนึ่ง เขาก็สามารถปลด
พันธนาการได้ จนพาตัวเองคืนสู่ อิสระภาพ

“บัดซบ!! นี่มนั ประตูปลอมหนิหว่า มันควรจะเป็ นแค่ประตูสองชั้น


แล้วข้างนอกก็น่าจะเป็ นประตูธรรมดา แล้วข้างในเป็ นประตูที่สร้างด้วย
ั ลักษณ์ผา่ นรู ปแบบอํานาจมันกับพิเศษขึ้นไป
รู ปแบบอํานาจฯ แต่น้ ีสญ
อีก” แม้วา่ ชูเฟิ งจะสามารถฟื้ นฟูการบ่มเพาะของเขาและเป็ นอิสระจาก
พันธนาการ ชูเฟิ งพบว่าพระราชวังนี้ไม่ธรรมดาเลย
กําแพงทั้งหมดของพระราชวังไม่สามารถทําลายได้ เหมือนกับมันเสริ ม
ด้วยรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณชนิดพิเศษที่แข็งแกร่ งรู ปแบบฯหนึ่ง
ด้วยทักษะความเข้าใจของชูเฟิ งในตอนนี้ เขาไม่สามารถทําลายมันได้
โดยง่าย

แม้วา่ จะใช้ประตูรูปแบบอํานาจพลังวิญญาณเดียวกับที่หย่า เฟยและอีก


คนที่ออกไปเมื่อสักครู่ น้ ี ซึ่งตอนนันชูเฟิ งกําลังยืนอยูท่ ี่พระราชวัง แต่ไม่
ว่าเขาจะใช้อาํ นาจพลังวิญญาณตรวจสอบสถานที่น้ ีขนาดไหน เขาก็ไม่
สามารถรับรู ้ถึงประตูรูปแบบอํานาจพลังวิญญาณได้ ราวกับมันไม่อยู่
เลย
ทันใดนั้น ชูเฟิ งมัน่ ใจว่ารู ปแบบฯในพระราชวังแห่งนี้ถูกทิ้งไว้โดยผู ้
เชื่อมต่อฯชุดทอง ไม่เช่นนั้นมันคงเป็ นไปไม่ได้ที่จะทรงพลังเช่นนี้
เพราะขนาดชูเฟิ งก็ไม่สามารถตรวจพบมันได้

“ดูเหมือนว่าข้าต้องลองใช้เนตรสวรรค์ซะแล้ว” ในสถานะการณ์น้ นั
ไพ่ใบสุ ดท้ายของชูเฟิ งคือเนตรสวรรค์ของวิธีคน้ หาเส้นชีพจร

* ฮึ่ม *
เมื่อชูเฟิ งใช้เนตรสวรรค์ การมองเห็นของเขาก็เปลี่ยนไปทันที สี สนั
คมชัดสดใสถูกเปิ ดเผยออกมาโดยไม่สามารถซ่อนไว้ได้ มันเป็ นการ
บังคับอย่างช่วยไม่ได้ ราวกับว่ามันเป็ นกระบี่ไร้ลกั ษณ์ที่สามารถทะลุ
ทะลวงได้ทุกสิ่ ง

ทันใดนั้น ถ้าชูเฟิ งใช้สายตาจ้องไปยังคนที่มีการบ่มเพาะระดับเดียวกัน


มันสามารถข่มขู่คุกคามคนเหล่านั้นจนสู ญเสี ยเจตนารมณ์ในการต่อสู ไ้ ด้
เพียงแค่จอ้ งมอง คนเหล่านั้นก็ตกอยูภ่ ายใต้อาํ นาจชูเฟิ ง ชูเฟิ งสามารถฆ่า
ใครก็ตามที่เขาจ้อง นัน่ คือพลังอีกอย่างของ เนตรสวรรค์

แต่ความแข็งแกร่ งของเนตรสวรรค์ไม่เพียงจํากัดอยูแ่ ค่น้ นั สิ่ งสําคัญ


ที่สุดของมันคือความแข็งแกร่ งของการมองเห็นที่เฉี ยบคม อํานาจ
ดังกล่าวได้ช่วยให้ชูเฟิ งมองเห็นหลายสิ่ งที่คนธรรมดาหรื อแม้แต่ผู ้
เชื่อมต่อฯชั้นสู งก็ไม่อาจมองเห็นได้เหมือนกับเขา

อํานาจการตรวจสอบของเนตรสวรรค์เหนือกว่าอํานาจพลังฯธรรมดาๆ
หลายเท่านัก

หลังจากชูเฟิ งใช้เนตรสวรรค์ ประตูที่อยูเ่ บื้องหน้าของเขาเริ่ มมีการ


เปลี่ยนแปลง รู ปแบบฯสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ ก็ค่อยๆปรากฏออกมาทีละ
นิดและค่อยชัดขึ้นชัดขึ้น
มันเป็ นไปตามที่ชูเฟิ งคาดการไว้ ว่าทัว่ ทั้งพระราชวังเต็มไปด้วยรู ปแบบ
อํานาจพลังวิญญาณที่ทรงอํานาจ ประตูรูปแบบฯที่ถูกซ่อนไว้เบื้องหลัง
ประตูพระราชวังมันคือของปลอม

แล้วรู ปแบบฯนั้นก็ทรงพลังอย่างมาก แม้วา่ ชูเฟิ งจะพบการดํารงอยูข่ อง


มัน แต่มนั ไม่ใช่สิ่งที่ชูเฟิ งตอนนี้สามารถถอดอักขระและทําลายมันได้
แม้จะค้นหาทางออก แต่เขาก็ไม่สามารถออกจากพระราชวังได้เพราะชู
เฟิ งไม่มีทกั ษะมากพอในการเปิ ดรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ ง
อันนี้

“บ้าชิบ!! นี่ขา้ ชูเฟิ ง จะตายภายใต้เงื้อมมือของพวกสารเลวนัน่ จริ งๆ


หรื อ?!” ไม่วา่ ชูเฟิ งจะสงบนิ่งมากเพียงใด เขาก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะตื่น
ตระหนก เนื่องจากเขารู ้วา่ หลังจากหย่า เฟยกลับมา นางจะไม่ปล่อยเขา
ไปอย่างแน่นอน ชูเฟิ งไม่ปราถนานัง่ รอความตายที่นี่ แล้วมัน..จะไม่มี
อะไรเลยหรอที่ชูเฟิ งสามารถทําได้

* ฮึ่ม *

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ งมาถึงจุดที่หมดหนทาง ประตูรูปแบบอํานาจวิญญาณ


ที่ถูกปิ ดอยูต่ รงหน้าเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยไม่คาดคิด ตอนนั้นมี
บางคนกําลังเปิ ดมัน!
* วูช *

นัน่ ทําให้ชูเฟิ งขมวดคิว้ แน่น สัญชาตญาณบอกชูเฟิ งให้หลบไปด้านข้าง


เนื่องจาก ชูเฟิ งเกิดนึกถึงความเป็ นไปได้ 2 ประการ

ประการแรกคือ หย่า เฟยได้กลับมา แล้วหากหย่า เฟยกลับมาจริ งๆ


แม้วา่ ชูเฟิ งพื้นคืนความแข็งแกร่ งแล้ว แน่นอนว่าเขาตอนนี้ยงั ไม่สามารถ
เอาชนะนางได้ แล้วสิ่ งที่รอคอยเขาอยูค่ ือเส้นทางแห่งความตาย
ประการที่สองคือ คนจากหมู่เกาะประหารเป็ นผูเ้ ปิ ดประตูรูปแบบ
อํานาจวิญญาณ ซึ่งต้องวาดสัญลักษณ์บางอย่างที่เหมือนกับรหัสที่พวก
เขารู ้กนั ซึ่งถูกติดตั้งอยูภ่ ายใน ดังนั้นใครก็ตามที่รู้รหัสผ่าน แน่นอนว่า
สถานะของคนคนนั้นย่อมไม่ธรรมดาหรื อไม่มนั ก็คงจะไม่อ่อนแอ แต่
หากเขาไม่ใช่หย่า เฟย ชูเฟิ งก็เหมือนมีเชือกแห่งโอกาสหย่อนลงมา บาง
ทีเขาอาจจะสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อหลบหนีไป

* วู *

ทันใดนั้น ชูเฟิ งตกอยูภ่ ายใต้ความวิตกกังวลอย่างหนัก เขาใช้แม้แต่


ทักษะมังกรฟ้าทะยานและทักษะเกราะเต่าทมิฬในเวลาเดียวกัน พร้อม
กับเค้นพลังของสองทักษะจนถึงขีดสุ ด
ชูเฟิ งต้องเผชิญกับสถานะการณ์ตึงเครี ยด เนื่องจากชีวติ ของเขาขึ้นอยูก่ บั
ผูท้ ี่เปิ ดประตูรูปแบบอํานาจพลังวิญญาณเข้ามา เพื่อจะให้แม่นยํามากขึ้น
เขาจึงเผ่งสมาธิกบั คนที่กาํ ลังจะเข้ามาในห้องขณะนั้น

“ยิห้ า้ ยิห้ า้ ยิห้ า้ ยิห้ า้ ” จู่ๆก็มีเสี ยงขี้เล่น มาพร้อมกับร่ างของบุคคลขนาด


เล็ก กําลังกระโดดโลดเต้นเข้ามาในพระราชวังที่เต็มไปด้วยรู ปแบบ
อํานาจพลังวิญญาณ
่ ” ขณะที่เห็นร่ างกายอันบอบบางตรงหน้าเค้า ชูเฟิ งผงะไป
“เสี่ ยวยู?
ทันที เขาแทบอยากเชื่อสายตัวเอง

“ยี้หา้ ยี้หา้ ยี้หา้ พี่ใหญ่ สุ ดท้ายเสี่ ยวยูก่ พ็ บท่าน ฮ่าฮ่า ดีจริ งๆ ดีที่สุด
เลย!”

“เสี่ ยวยูเ่ ก่งจริ งๆ! ลาลาลา~~” หลังจากได้พบชูเฟิ ง เสี่ ยวส่ งเสี ยงร้อง
อย่างตื่นเต้นพร้อมกับเริ่ มกระโดดโลดเต้นไปยังศูนย์กลางพระราชวัง
เธออ้าแขนของเธอพร้อมกับหมุนมือเป็ นวงกลมใบจุดๆหนึ่ง ช่างไร้
เดียงสา..ปราศจากความกังวล..และน่ารักอย่างมาก
* จิ๊ จิ๊ จิ๊ จิ๊ จิ๊ *

แต่ในตอนนั้นเอง จากมุมของพระราชวัง..เสี ยร้องเขย่าขวัญดังออกมา


ในขณะเดียวกัน วัตถุสีดาํ หนาแน่นเต็มพื้นที่ กําลังคืบคลา◌่นมายังเสี่ ยว
ยู่ ความเร็ วของพวกมันเร็ วเป็ นอย่างยิง่ จนไม่อาจกล่าวได้

“บัดซบ! เสี่ ยวยู่ วิง่ เร็ ว!” เมื่อเห็นฉากนั้น ท่าทางของชูเฟิ งเปลี่ยนไป


อย่างมาก เนื่องจากเขารู ้วา่ วัตถุสีดาํ นัน่ คืออะไร มันคือฝูงแมลงกลืน
วิญญาณ
แม้วา่ แมลงกลืนวิญญาณส่วนใหญ่ที่เข้าสู่ ร่างกายชูเฟิ งก่อนหน้านี้ได้ถูก
สายฟ้ากําจัดไปหมดแล้ว แต่ยงั มีบางส่ วนที่หลบหนีไปได้

ซึ่งชูเฟิ งไม่คาดคิดเลยว่าไอ้แมลงกลืนวิญญาณมันจะน่ารังเกียจและไร้
ความปราณี เช่นนี้ แม้วา่ พวกมันจะกลัวชูเฟิ ง แต่ในขณะที่มนั เห็นเสี่ ยวยู่
มันก็เข้าจู่โจมเด็กสาวทันที

ชูเฟิ งมีประสบการณ์ตรงกับความแข็งแกร่ งของแมลงกลืนวิญญาณพวก


นี้ ถ้าปราศจากอํานาจสายฟ้าแล้ว เป็ นไปได้วา่ เขาคงกลายเป็ นหุ่นเชิด
เรี ยบร้อยแล้ว
ดังนั้นชูเฟิ งไม่กล้าแม้แต่จะประมาทพวกมัน เขากระตุน้ ทักษะมังกรฟ้า
ทะยานแล้วพุง่ ไปทางเสี่ ยวยู่ เขาบังคับปล่อยแรงดันเขาและต้องการ
สังหารแมลงกลืนวิญญาณเหล่านั้น………..

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////
A : เสี่ ยวยู่ ไม่อ่อนแอขนาดนั้นหรอกพี่เฟิ ง ขนาดประตูรุปแบบอํานาจ
พลังวิญญาณที่ทรงพลัง เสี่ ยวยูย่ งั เข้ามาได้ แมลงขี้กากพันนี้จะทําอะไร
เสี่ ยวยูไ่ ด้

B : เสี่ ยวยู่ เป็ นคนที่ลึกลับอย่างมาก แม้แต่พวกเราก็ยงั ไม่รู้เลยว่านาง


เป็ นใคร แต่ขาํ มากที่คนคิดว่า เสี่ ยวยูเ่ ป็ นลูกชูเฟิ งกับหยวนรู่ ว ได้กนั ไม่กี่
ปี เอง 555+

A : ช่ายๆ ถ้าติดลูกง่ายแบบนั้น ลูกพี่เฟิ งกับซูรู่ คงเป็ นสิ บ ได้กนั ตาม


ท้องเรื่ องก็ 3 ครั้ง ตอนที่ ซูเหม่ย เผลออีกนับครั้งไม่ถว้ น แต่ไม่ทอ้ งสัก
ที รี ดเดอร์กเ็ ริ่ มสงสัยกันล่ะ ว่าพี่เฟิ งเราไม่มีน้ าํ ยาอ่ะป่ าววว แต่อยากเห็น
ลูกๆของพี่เฟิ งมาก ผมว่าตอนจบเราคงได้รู้วา่ พีเ่ ฟิ ง จะมีลูกกี่คน แล้วเมีย
อีกกี่คน คงไม่ต่าํ กว่า 3 อย่างแน่นอน

B : แต่ไม่อยากให้ ต้านต้าน เป็ นเมียพี่เฟิ งเลย อยากให้เป็ นเมียกู


มากกว่า!!!

A : เมียกู!!!

C : ฝันไปเถอะ ต้านต้านไม่ยอมเสี ยตัวให้ไอเฟิ งหรอก!!!

A - B : ทําเป็ นรู ้ดี

แปลโดยท่าน#KWong
บทที่ 625 – เวทย์มนต์ของเสี่ ยวยู่

“จี้ จี้ จี้ !!”

ในเวลานั้น ชูเฟิ ง ประเมินความสามารถของแมลงกลืนวิญญาณตํ่า


เกินไป แรงกดดันของเขาใช้ไม่ได้ผลกับพวกมันแม้แต่นอ้ ย อีกทั้ง
ความเร็ วของมันยังเกินกว่าที่ ชูเฟิ ง จินตนาการเอาไว้มาก มันสามารถพุง่
ไปถึงตัวของเสี่ ยวยูไ่ ด้ก่อนเขา และเริ่ มที่จะโจมตีใส่ นางโดยการเจาะเข้า
ไปในร่ างกายของนาง เพื่อทําให้นางกลายเป็ นหุ่นเชิด

“ยีห่ ๊ายีห่ ๊า !!”

ชูเฟิ ง ตื่นตระหนกอย่างมาก ด้วยความที่ไม่รู้ที่มาของเหล่าแมลง


กลืนวิญญาณ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เสี่ ยวยู่ ไม่ได้หวาดกลัวพวกมัน
แม้แต่นอ้ ย นางไม่ได้หลบหลีกหรื อกระโดดหลบแต่อย่างใด นางกับยืน
นิ่งเฉยๆ

ในขณะที่แมลงกินวิญญาณสัมผัสกับร่ างกายของนางนั้น ร่ างของ


นางพลันเปล่งแสงกระจายออกมาทัว่ ทิศทาง
แสงสว่างจ้าราวกับดวงอาทิตย์ ที่สามารถแผดเผาทุกสิ่ งอย่างให้
กลายเป็ นจุลได้ในพริ บตา

แม้แต่ ชูเฟิ ง ยังต้องปิ ดตาของเขา และถูกดีดกลับออกมาด้วยพลัง


อันมหาศาลที่แผ่กระจายออกมา

เมื่อแสงสว่างจ้าเหล่านั้น ค่อยๆ จางลง ชูเฟิ ง ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เมื่อ


เขามองเห็นทุกอย่างชัดเจน มันช่วยไม่ได้เลยที่ใบหน้าของเขาจะ
เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว

ชูเฟิ ง ใช้อาํ นาจพลังวิญญาณของเขาตรวจสอบออกไป เขาพบว่า


เสี่ ยวยูย่ งั คงยืนอยูท่ ี่เดิม ร่ างกายของนางไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ อีกทั้ง
รอบๆ ร่ างกายของนางยังมีวตั ถุสีดาํ ๆ ลอยอยู่ นัน่ คือแมลงกลืนวิญญาณ

แต่แมลงกลืนวิญญาณเหล่านั้นไม่เหลือสัญญาณของชีวติ แม้แต่เศษ
เสี้ ยวเดียว มันเหลือแค่เพียงร่ างที่ไร้วญ
ิ ญาณเท่านั้น

“เสี่ ยวยู่ !! เจ้าเป็ นอะไรไหม !?” แม้วา่ แมลงกลืนวิญญาณจะตาย


หมดแล้ว แต่ ชูเฟิ ง ก็ยงั คงมีความกังวลอยูม่ าก เขาเดินเข้าไปตรวจสอบ
อาการของเสี่ ยวยูอ่ ย่างละเอียด และระมัดระวังอย่างมาก

หลังจากตรวจสอบเสี่ ยวยูเ่ สร็ จ และพบว่านางปลอดภัยยดีน้ นั ชูเฟิ ง


ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาหันกลับมามองที่ซากของ
แมลงกลืนวิญญาณ และหายใจเข้าอย่างยากเย็น ก่อนจะกล่าวถามออกมา
ว่า “เสี่ ยวยู่ บอกพี่ใหญ่ซิวา่ แสงที่ปรากฏออกมาคืออะไร !?”
“อะไรเหรอ !! พี่ใหญ่ ท่านกําลังพูดถึงสิ่ งใดรึ !?”

“เสี่ ยวยูเ่ องก็ไม่รู้เหมือนกัน ทุกๆ ครั้งที่ขา้ พบสิ่ งดูน่าสนุก


บางอย่างจะเกิดขึ้น และหลังจากนั้นของน่าสนุกเหล่านั้นก็จะตาย” เสี่ ยว
ยูก่ ล่าวพลางกระพริ บตาปริ บๆ

“โอ้โห !! ไม่ธรรมดาจริ งๆ นางไม่ใช่คนธรรมดาเลย !!”

“ชูเฟิ ง เจ้าได้พบสมบัติเข้าแล้ว !! ไม่เพียงแต่มีความรวดเร็ วในการ


ว่ายนํ้า นางยังซ่อนพลังมหาศาลเอาไว้อีก”
“เห็นได้ชดั ว่าแสงเหล่านั้นมาจากร่ างกายของนาง อีกทั้งมันยัง
แข็งแกร่ งอย่างมาก เมื่อมีอนั ตรายใดๆ จะเกิดขึ้นกับนาง พวกมันจะถูก
ทําลายโดยพลังที่คุม้ ครองนางอยู”่

“ชูเฟิ ง ในอนาคตเจ้าควรพานางไปด้วย และแทนที่เจ้าจะปกป้อง


นาง นางอาจจะเป็ นคนปกป้องเจ้าแทน”

“หากพบกับศัตรู เจ้าเพียงแค่ให้นางออกมาด้านหน้า ไม่เพียงแต่


ปัญหาเหล่านั้นจะหายไป แม้แต่ศตั รู ของเจ้าก็คงตายไปจนหมด”

“นางไม่ใช่ภาระแม้แต่นอ้ ย !! แต่นางคืออาวุธทําลายล้างที่ทรงพลัง
อย่างมาก !!” ต้านต้าน กล่าวอย่างตื่นเต้น หลังจากที่ได้เห็นพลังที่
คุม้ ครองร่ างกายของเสี่ ยวยู่
ชูเฟิ ง ไม่ได้โง่ เขารับรู ้ได้ถึงพลังที่แข็งแกร่ งของเสี่ ยวยู่ แต่เขาก็ไม่
อาจทําตามคําแนะนําของ ต้านต้าน เขาจึงส่ ายศรี ษะและแอบกล่าว
ออกมาว่า “ข้าเข้าใจในความคิดของเจ้า แต่ขา้ ก็ไม่อาจใช้นางเป็ นโล่
ปกป้องข้าได้”

“นอกจากนี้ ที่เป็ นเช่นนี้เพราะนางไว้ใจข้า จึงได้ติดตามข้า จะให้


ข้าใช้ความบริ สุทธิ์ใจของนางเพื่อประโยชน์ได้อย่างไร”

“เอาล่ะๆ แล้วแต่เจ้า ข้าขี้เกียจพูดแล้ว !!” ต้านต้าน กล่าวพลางขด


ริ มฝี ปาก นางไม่สามารถเข้าใจ ชูเฟิ ง ได้ นางจึงไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
อีก
เมื่อรับรู ้ได้ถึงปฏิกิริยาของ ต้านต้าน ชูเฟิ ง เพียงยิม้ ออกมาบางๆ
ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “เสี่ ยวยู่ เจ้ามาทําอะไรที่นี่ !?”

“ยีห่ ๊า ยีห่ ๊า !! เสี่ ยวยูร่ ู ้วา่ พี่ใหญ่อยูท่ ี่นี่ ข้าก็เลยมาเพื่อพบท่าน” นาง


กลาวงพลางหัวเราะคิกคัก

“แต่….เสี่ ยวยู่ เจ้ารู ้ได้อย่างไรว่าพี่ใหญ่อยูท่ ี่นี่ !?” ชูเฟิ ง กล่าว


ถาม

“ฮี่ฮี่ พี่ใหญ่ ท่านคงไม่รู้ !! ว่าเสี่ ยวยูเ่ ป็ นคนฉลาด เสี่ ยวยูแ่ อบ


ติดตามท่านมาตลอด จึงได้รู้วา่ ท่านอยูท่ ี่นี่” เสี่ ยวยู่ กล่าวตอบ
“อะไรนะ !! เจ้าติดตามข้ามา !! แล้วเจ้าผ่านรู ปแบบอํานาจพลัง
วิญญาณมาได้อย่างไร !?” ชูเฟิ ง กล่าวถามด้วยความประหลาดใจ

“รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ !!” เสี่ ยวยูก่ ลอกตาไปมาด้วยความ


ครุ่ นคิด เพียงชัว่ ครู่ น้ นั แววตาของนางก็เป็ นประกาย นางกระโดดขึ้น
และเอาฝ่ ามือไปแตะที่รูปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่ซ่อนอยู่ พลันมันก็
ปรากฏขึ้น และคลายผนึกออก

“พี่ใหญ่ ท่านหมายถึงสิ่ งนี้เหรอ !?” เสี่ ยวยูก่ ล่าว

“ใช่ !! เสี่ ยวยูเ่ จ้าทําได้ยงั ไง !?” ชูเฟิ ง รี บยืนขึ้น เขาพบว่ารู ปแบบ


อํานาจพลังวิญญาณถูกเปิ ดออกโดยเสี่ ยวยู่
“เพียงแตะไปเฉยๆ มันก็เป็ นแบบนั้น เสี่ ยวยูท่ าํ ได้ พี่ใหญ่กน็ ่าจะ
ทําได้” นางกล่าวออกมา พลางหดมือกลับเข้ามา และรู ปแบบอํานาจ
พลังวิญญาณเหล่านั้นก็หายไป

หลังจากได้ยนิ เสี่ ยวยูก่ ล่าวเช่นนั้น ชูเฟิ ง จึงยืน่ มือ ออกไปสัมผัส


แบบเดียวกับที่เสี่ ยวยูท่ าํ แต่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นแม้แต่นอ้ ย แม้วา่ เขาจะใช้
อํานาจพลังวิญญาณก็ยงั ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง

“แปลกมาก ทําไมพี่ใหญ่ถึงเปิ ดไม่ได้ !?” เสี่ ยวยู่ กล่าวออกมา


ด้วยความสับสน เมื่อเห็นว่า ชูเฟิ ง ไม่สามารถเปิ ดรู ปแบบอํานาจพลัง
วิญญาณได้

ในเวลานั้น ชูเฟิ ง ก็รู้ได้ทนั ทีวา่ มันเป็ นเพราะพลังพิเศษของเสี่ ยวยู่


จึงทําให้นางสามารถเปิ ดรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณได้

เสี่ ยวยูม่ ีเวทย์มนต์พิเศษ แม้ภายนอกนางจะดูเหมือนคนทัว่ ไป แต่


นางกลับมีบางอย่างที่แตกต่าง และแข็งแกร่ งอย่างมาก

โชคดีที่คนอื่นรู ้เพียงแต่วา่ นางว่ายนํ้าได้รวดเร็ วเท่านั้น ไม่รู้ถึง


ความสามารถในการเปิ ดรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ หรื อพลังในการ
ป้องกันตนเองของนาง หากเรื่ องนี้แพร่ งพรายออกไปนั้น เขตทะเล
ตะวันออกต้องสัน่ สะเทือนอย่างแน่นอน และหากเป็ นเช่นนั้น นาง
อาจจะตกอยูใ่ นอันตรายได้

“เสี่ ยวยู่ พี่ใหญ่ไม่สามารถเปิ ดรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณนี้ได้ เจ้า


ต้องเป็ นคนเปิ ด และพาพี่ใหญ่ออกจากที่นี่ ไม่เช่นนั้น หากผูห้ ญิงที่ชื่อว่า
หย่า เฟย กลับมา พวกเราสองคนจะมีปัญหาแน่” ชูเฟิ ง กล่าว
“ได้เลย !! ดูเสี่ ยวยูด่ ีๆนะ !!” นางเชื่อฟังคํากล่าวของ ชูเฟิ ง อย่าง
ทันที นางวางฝ่ ามือลงอีกครั้ง รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณก็เปิ ดออก
และนางก็กา้ วเข้าไปด้านในอย่างง่ายดาย

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง ก็รีบตามเข้าไปในทันที เมื่อเขาก้าวเข้าไปนั้น


มีบางอย่างทําให้หวั ใจของเขาสัน่ ไหว อารมณ์ข่นุ มัวของเขาก็หายไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อ ชูเฟิ ง ก้าวเข้าไปนั้น สิ่ งที่ปรากฏตรงหน้าของ


เขาไม่ใช่ทางออกแม้แต่นอ้ ย แต่มนั กลับเป็ นพระราชวังที่งดงาม

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////
A : พี่เฟิ งออกมาด้านนอกแล้ว พวกมึงได้ร้องแน่!!!

C : ทําไม พี่เฟิ งจะเยีย่ วใส่ ประตูไง๊!!!

B : ใครมันจะทําแบบนั้นว่ะ เยีย่ วใส่ พวกนั้นคงจะโกรธอ่ะ เด๋ วรออ่าน


แล้วกัน ตอนหน้าเรื่ องสนุกๆก็จะเริ่ มขึ้นแล้ว

A : ใช่ๆ เผาตําหนักพวกมันยังดีกว่าเยีย่ วใส่ เลย สมองมึงแม่งมีเท่าเม็ด


ถัว่ จริ งๆ
บทที่ 626 - ระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์

พระราชวังนี้งดงามอย่างมาก มันงดงามยิง่ กว่าพระราชวังที่ ชูเฟิ ง


เคยเห็นมาทั้งหมด ในขณะที่ตื่นตะลึงกับความงดงามอยูน่ ้ นั นํ้าตาของ
เขาก็ไหลออกมา เพราะที่ดา้ นหน้าของเขานั้นมันเต็มไปด้วยทรัพยากร
การบ่มเพาะพลังที่มากมายมหาศาล
ทรัพยากรเหล่านั้นมีท้ งั ลูกแก้วสวรรค์ระดับสู ง หรื อโอสถระดับสู ง
แม้แต่จา้ วโอสถก็ยงั มี ถึงจะมีจาํ นวนไม่มาก แต่ในจํานวนนั้น ล้วนแต่
เป็ นจ้าวโอสถระดับกลางเสี ยส่ วนมาก มีเพียงส่ วนน้อยที่เป็ นจ้าวโอสถ
ระดับตํ่า

“จริ งเหรอเนี่ย !! ไม่แปลกที่สถานที่แห่งนี้จะพิเศษเช่นนี้ มันเป็ น


คลังทรัพยากรของทะเลโลหิ ตนิรันดร์ ที่คนของหมู่เกาะประหารใช้เก็บ
ทรัพยากรนี่เอง”

ในตอนนี้ หัวใจของ ชูเฟิ ง เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก มัน


เป็ นครั้งแรกที่เขาได้เห็นทรัพยากรที่มากมายมหาศาลถึงเพียงนี้ มากกว่า
ครั้งไหนๆ ที่เขาเคยเห็นมา อีกทั้งมันยังมีความสมบูรณ์ทางด้านคุณภาพ
อย่างมาก
เมื่อมาอยูท่ ี่ตรงนี้ ชูเฟิ ง คาดคิดว่าหากเขาสามารถดูดซับพลังของ
ทรัพยากรทั้งหมดนี้ ย่อมจะสามารถทําให้พลังของเขาก้าวหน้าขึ้นได้
แน่นอน

และหากเมื่อเขามีพลังถึงระดับเจ็ด ขั้นแดนสวรรค์ และเมื่อเขาใช้


พลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ท้ งั สามสาย พลังของเขาจะสามารถทะลวงเข้า
สู่ ข้นั จ้าวสงครามได้อย่างแน่นอน

ชูเฟิ ง สามารถเข้าใจถึงความต่างของพลังขั้นแดนสวรรค์ และจ้าว


สงครามได้ดี หากเขาสามาาถทะลวงเข้าสู่ ข้นั จ้าวสงครามได้น้ นั เขาย่อม
เอาชนะผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสอง ขั้นจ้าวสงครามได้ และสามารถสู ไ้ ด้อย่าง
สู สีกบั ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสาม ขั้นจ้าวสงครามได้

“ยีห่ ๊า , ยีห่ ๊า !! พี่ใหญ่ มีพระราชวังอื่นที่งดงามอยูใ่ นพระราชวังนี้


!!” เสี่ ยวยู่ เห็นว่า ชูเฟิ ง ชื่นชอบความงดงามของพระราชวังนี้ นางจึง
ก้าวไปที่ประตู และกล่าวออกมา

“จริ งเหรอ !? พาข้าไปดูซิ !!” หลังจากได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง ก็


กล่าวออกมาอย่างรวดเร็ ว ด้วยความตื่นเต้น

เสี่ ยวยูไ่ ม่รอช้า นางรี บเปิ ดรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ เข้ามาใน


พระราชวังอีกชั้น และเมื่อ ชูเฟิ ง เข้ามานั้น ใบหน้าของก็เต็มไปด้วย
ความสุ ขมากยิง่ มากกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า

เพราะในชั้นนี้น้ นั ช่องว่างระหว่างพื้นที่ช้ นั ก่อนหน้าและชั้นนี้ ถูก


อัดแน่นไปด้วยลูกแก้วสวรรค์จาํ นวนมาก
“ดูเหมือนว่าข้าจะเดาถูก นี่คงจะเป็ นคลังเก็บสมบัติของคนหมู่เกาะ
ประหาร ที่ได้รับมาจากค่าธรรมเนียมในการเปิ ดประตูเคลื่อนย้ายมายัง
ทะเลโลหิ ตนิรันดร์”

“ไม่แปลกใจเลย ที่หลังจากหมู่เกาะประหารขึ้นเป็ นขุมอํานาจที่


แข็งแกร่ ง พวกเขาก็ยงั คงแข็งแกร่ งมากขึ้นไปอีก”

“ในตอนนี้พวกเขาได้ครอบครองประตูเคลื่อนย้ายเกือบทั้งหมดใน
เขตทะเลตะวันออก พวกเขาย่อมได้รับทรัพยากรการบ่มเพาะจํานวน
มาก นี่จึงทําให้พวกเขาแข็งแกร่ งขึ้นอย่างต่อเนื่องสิ นะ”

ในตอนนี้น้ นั ชูเฟิ ง มีความสุ ขอย่างมาก ด้วยทรัพยากรการบ่มเพาะ


พลังในพระราชวังทั้งสองชั้นนั้น ย่อมทําให้เขาทะลวงพลังขึ้นไปได้
อย่างแน่นอน

“ทรัพยากรเหล่านี้มนั มีมากเกินไป แม้ขา้ จะมีถุงจักรวาลหลายถุง ก็


ไม่สามารถขนพวกมันทั้งหมดออกไปได้ !!” ใบหน้าแห่งความสุ ขของ
ชูเฟิ ง หายไปในพริ บตา กลายเป็ นใบหน้าของความยุง่ เหยิง

มันเป็ นอย่างที่ ชูเฟิ ง กล่าว เพราะทรัพยากรการบ่มเพาะมีจาํ นวน


มาก และเขาก็ไม่สามารถขนมันออกไปทีละนิดๆ ได้ เพราะเขาไม่มนั่ ใจ
ว่า หย่า เฟย จะกลับมาเมื่อไร

“ชูเฟิ ง นี่มนั ไม่ดีแน่ ตอนนี้เจ้ามีเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น !!” ใน


เวลานั้น ต้านต้าน ก็กล่าวออกมา
“ต้านต้าน เจ้าจะให้ขา้ ดูดซับพลังพวกมันตรงนี้เลยรึ !!” ชูเฟิ ง
ไม่ใช่คนโง่ เขาคิดถึงวิธีการนี้ออก่กอนที่ ต้านต้าน จะกล่าวออกมาด้วย
ซํ้า แต่วธิ ีการนี้มนั ก็มีความเสี่ ยงเกินไป

“มันก็ไม่มีทางเลือกมากนัก นอกจากเจ้าจะดูดซับพลังของมันที่นี่
หรื อว่าเจ้าจะรอให้พวกเขากลับมา และเจ้าก็ตอ้ งทิ้งทรัพยากรเหล่านี้ไป
เจ้ามีเพียงสองทางนี้เท่านั้น”

“หากเจ้าเลือกที่จะหนีไปนั้น เจ้าอาจจะพบกับ หย่า เฟย ในขณะที่


เจ้ากําลังหลบหนี และนัน่ ก็อาจจะทําให้เจ้าตกอยูใ่ นอันตราย”

“ยังไงก็ตาม แม้วา่ เจ้าจะพบกับ หย่า เฟย เจ้าอาจจะไม่ตายก็เป็ นได้


เพราะด้วยพลังของ เสี่ ยวยู่ นั้น ไม่แน่วา่ บางที่แม้แต่ หย่า เฟย ก็ไม่
สามารถต้านทานนางได้ แต่นน่ั เจ้าต้องใช้นางเป็ นโล่เพื่อป้องกันตัวเจ้า
เอง”

“ชูเฟิ ง ถ้าเจ้าจะทําเช่นนั้น เจ้าต้องไม่มีความปราณี ใดๆ หากเจ้ายัง


โลเลเช่นนี้ จะไม่มีใครที่สามารถช่วยเหลือเจ้าได้ !!” ต้านต้าน กล่าว
เตือนด้วยความจริ งจัง

“ตกลง ข้าจะเชื่อเจ้า !!” หลังจากนั้น แววตาของ ชูเฟิ ง ก็เต็มไป


ด้วยความมุ่งมัน่ เขานัง่ ขัดสมาธิลง และเริ่ มใช้ทกั ษะเพื่อเพิ่มความ
รวดเร็ วในการบ่มเพาะพลัง

***** ฮูว้ ววววววว *****


หลังจาก ชูเฟิ ง เริ่ มใช้ทกั ษะนั้น ภายในพระราชวังก็เกิดลมขึ้นอย่าง
รวดเร็ วจากทัว่ ทิศทาง ทรัพยากรการบ่มเพาะพลังต่างบินว่อน และพุง่
เข้ามาในปากของ ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว

ชูเฟิ ง วางเดิมพันในครั้งนี้อย่างมาก เพราะเขาไม่สามารถขนพวก


มันออกไปทั้งหมดได้ ดังนั้นเขาจึงต้องดูดซับพลังงานของพวกมันที่นี่
แทน

การดูดซับพลังงานจากทรัพยากรเหล่านี้ตอ้ งใช้เวลาอย่างมาก แต่


สําหรับ ชูเฟิ ง นั้น มันกลับเป็ นเรื่ องง่ายอย่างมาก

แม้วา่ ทรัพยากรการบ่มเพาะในชั้นนี้จะมีอยูม่ าก แต่หลังจากใช้เวลา


ในการดูดซับกว่าหนึ่งชัว่ โมงนั้น ทรัพยากรทั้งหมดก็ถูก ชูเฟิ งดูดซับจน
หมดสิ้ น ในตอนนี้พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก และช่องว่างของพลัง
ของเขาก่อนที่จะก้าวสู่ ระดับเจ็ดนั้นก็เหลือเพียงอีกไม่มาก

หลังจากดูดซับพลังของทรัพยากรในชั้นนี้เสร็ จนั้น ชูเฟิ ง ไม่ได้จาก


ไป หรื อซ่อนตัวในสถานที่ปลอดภัยแต่อย่างใด เขากลับออกมายังชั้น
ก่อนหน้าอย่างรวดเร็ ว และเริ่ มดูดซับพลังของทรัพยากรเหล่านั้นอย่าง
บ้าคลัง่

และทรัพยากรในชั้นนี้มีจาํ นวนเพียงแค่หนึ่งในสามของชั้นที่แล้ว
ชูเฟิ ง จึงใช้เวลาเพียงไม่นายในการดูดซับพลัง และสิ่ งที่ทาํ ให้เขามี
ความสุ ขอย่างมากก็คือ…..

หลังจากที่ ชูเฟิ ง ดูดซับพลังของทรัพยากรไปเพียงแค่สองในสาม


ของทั้งหมดนั้น พลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์กต็ ื่นขึ้น
ในตอนนี้พลังของเขาก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก และนี่เป็ นครั้งแรกที่
เขาได้ใช้ทรัพยากรการบ่มเพาะพลังอย่างลูกแก้วสวรรค์ ในการบ่มเพาะ
พลังของเขา

ในตอนนี้พลังของ ชูเฟิ ง อยูใ่ นระดับเจ็ด อาณาจักรสวรรค์ และหา


กว่าเขาใช้พลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์น้ นั เขาจะสามารถทะลวงพลังขึ้นถึง
ระดับหนึ่ง อาณาจักรจ้าวสงครามได้

และจากการคาดเดาของ ชูเฟิ ง นั้น เขาจะสามารถต่อสู ก้ บั


ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสาม ขั้นจ้าวสงครามได้ นี่จึงเป็ นการพัฒนาขึ้นแบบ
ก้าวกระโดดอย่างมาก
ในตอนนี้ ชูเฟิ ง ได้กา้ วเข้าสู่ พลังขั้นใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วย
พลังของเขาในตอนนี้ เขาเปรี ยบได้กบั ตํานานของทวีปเก้าอาณาจักร แต่
สําหรับสถานที่แห่งนี้ มันยังคงไม่เพียงพอ

แม้วา่ ชูเฟิ ง จะอยูใ่ นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ซ่ ึ งเขายินดีอย่าง


มาก แต่เขากลับไม่หยุดที่จะดูดซับพลังของทรัพยากรเหล่านั้น เขายังคง
ดูดซับพลังอย่างต่อเนื่อง

ชูเฟิ ง ตั้งใจที่จะดูดซับพลังของทรัพยากรเหล่านี้ จนกว่าจํานวน


ของมันจะเหลือน้อย และสามารถใช่ถุงจักรวาลในการขนย้ายมันไปได้

“ฮึ่ง หย่า เฟย ขังข้าไว้ที่นี่ เพราะมันคิดว่าข้าไม่สามารถทําลายได้


แต่นางไม่คาดคิดว่าข้าจะได้รับความช่วยเหลือของ เสี่ ยวยู่ ไม่เพียงแต่ขา้
จะหนีออกไปได้ แต่ขา้ จะทําให้ที่นี่เหลือแต่เพียงความว่างเปล่า แล้วข้า
จะรอดูวา่ นางจะตอบเรื่ องนี้กบั หมู่เกาะประหารเช่นไร”

ด้วยทรัพยากรการบ่มเพาะจํานวนมากเช่นนี้ ความมัง่ คัง่ ของหมู่


เกาะประหารย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และด้วยความผิดพลาดของ
หย่า เฟย จึงทําให้ทรัพยากรเหล่านี้หายไปจนหมด นางจะต้องได้รับโทษ
อย่างแน่นอน

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////
A : เลวได้ใจเลยพี่เฟิ ง แต่นายต้องทํายิง่ กว่านั้น ไม่ง้ นั รี ดเดอร์จะไม่
หายแค้น อย่างเอาขี้ไปเขียนหน้าประตูกาํ แพง ว่าหย่า เฟย วันหน้าข้าจะ
มารับ ความบริ สุทธิ์ของเจ้า

B : หลักแหลมยิง่ นัก!!!
A : นี้ยงั ถือว่าน้อย พวกหมู่เกาะประหารเอาจริ งๆไม่มีใครดีสกั คน
อวดดีหยิง่ ผยอง ยโสโอหัง ไม่เห็นใครอยูใ่ นสายตา สักวันหนึ่งรับลอง
พวกมันจะต้องสู ญสิ้ นทุกสิ่ งทุกอย่าง เมื่อมันมาทําให้ ชูเฟิ งโกรธ

B : ตระกูลจื่อ ก็สารเลวพอๆกัน พ่อแม่นางก็ไม่มีหวั คิด แม้จะอยากให้


ลูกได้ดี แต่ดนั พรากความสุ ขของลูก วันหน้า หุบเขาดอกไม้ได้ราบเป็ น
น่ากอง
บทที่ 627 - การต่อสู ข้ องผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวสงคราม

จู่ๆชูเฟิ งก็เกิดความคิดที่น่าตื่นเต้นขึ้นมาอย่างกระทันหัน จากนั้นด้วยนิ้ว


มือของเขาโบกสบัดไปรอบๆ เพื่อใช้รูปแบบฯวาดตัวอักษรขนาดใหญ่
กลางอากาศ เพื่อทิ้งข้อความไว้ “ข้าต้องขอขอบคุณแม่นางผูแ้ สนงดงาม
หย่า เฟย สําหรับของขวัญจํานวนมากมายมหาศาล ข้าหวูฉ่ ิ งจะขอรับ
พวกมันไว้ดว้ ยความเต็มใจ ในวันหน้า หวูฉ่ ิ ง จะกลับมาตอบแทนท่าน
ให้อย่างแน่นอน"

หลังจากที่วาดอักษรเหล่านั้น ชูเฟิ งก็เก็บทรัพยากรบ่มเพาะที่เหลือลงไป


ในถุงจักรวาล ตอนนี้อาจกล่าวได้วา่ ชูเฟิ งนั้นเป็ นคนรุ่ นเยาว์ที่เต็มไป
ด้วยความมัง่ คัง่ เนื่องจากลูกแก้วสวรรค์ที่เขามี

“ว้าว~~ พี่ใหญ่ ท่านแข็งแกร่ งสุ ดๆเลย ท่านกินของสวยงามพวก


นี้ต้ งั มากมายในครั้งเดียว พี่ใหญ่ท่านทําได้ยงั ไง? ท่านสอนเสี่ ยวยูบ่ า้ ง
สิ ?”

ทันใดนั้น เสี่ ยวยูท่ ี่รออย่◌ูขา้ งๆอย่างเชื่อฟังตลอดเวลา วิง่ กระโดดโลด


เต้นไปมาพร้อมกับกระโดดมาอยูใ่ นอ้อมกอดของชูเฟิ งขณะที่เอื้อนเอ่ย
อย่างน่ารัก

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ งช่วยไม่ได้ที่จะยิม้ จางๆ พร้อมกับใช้นิ้วชี้แตะเบาๆ


ไปที่หน้าผากของเสี่ ยวยู่ แล้วพูดว่า “พี่ใหญ่เป็ นชายชาตรี พี่ใหญ่จึงทํา
ได้ เสี่ ยวยูห่ า้ มเลียนแบบพี่ใหญ่อย่างเด็ดขาด! เจ้าเป็ นสาวงาม เจ้าต้อง
กินช้าๆแล้วเจ้าจะเป็ นที่ชื่นชอบของคนอื่นๆ”

“ไม่!” อย่างไรก็ตาม เสี่ ยวยูบ่ ุย้ ปาก นางสัน่ ศีรษะพลางกล่าวว่า


“เสี่ ยวยูไ่ ม่ตอ้ งการให้คนพวกนั้นมาชอบ คนพวกนั้นทั้งหมดเป็ นคนเลว
ไม่มีใครสักคนหวังดีต่อเสี่ ยวยู่ พวกนั้นเข้าใกล้เสี่ ยวยูเ่ พราะอยากจับตัว
เสี่ ยวยูต่ อ้ งการให้แค่พี่ใหญ่ชอบเสี่ ยวยูเ่ พียงคนเดียวเท่านั้น”

“เสี่ ยวยู่ เจ้ารู ้ได้ยงั ไงว่าพี่ใหญ่หวังดีกบั เจ้า ?” ชูเฟิ งกล่าวพร้อม


รอยยิม้

“นี่..เสี่ ยวยูไ่ ม่ได้โง่นะ แน่นอนว่าเสี่ ยวยูร่ ู ้ดีวา่ ใครเป็ นคนดีหรื อใคร


เป็ นคนไม่ดี” นางแลบลิ้นใส่ ชูเฟิ งพร้อมดึงมือของนางกลับ จากนั้นนาง
วิง่ ออกไปพร้อมกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ไปกันได้แล้ว! ข้าเบื่อที่จะอยูท่ ี่นี่นานๆ
เราออกไปเล่นข้างนอกกันเถอะ”

เมื่อได้ยนิ เสี่ ยวยูก่ ล่าว ชูเฟิ งไม่มีแม้คาํ จะกล่าว เขาคิดว่าเขานั้นประเมิน


สาวน้อยคนนี้ต่าํ ไป แม้ตามอายุเด็กปกติ หรื อแม้อีกคนจะโตกว่าเสี่ ยวยู่
ในขณะที่อายุท้ งั สองเท่ากัน พวกเขายังไม่รู้วา่ อะไรเป็ นอะไร แต่นางต่าง
ออกไปอย่างชัดเจน จากเรื่ องราวทั้งหมดนั้น เสี่ ยวยูใ่ ช้ชีวติ อยูใ่ นโลก
ภายนอกเพียงลําพังนานกว่าค่อนชีวติ ของนาง ใครจะรู ้วา่ นางผจญกับ
อันตรายมามากขนาดไหน

อีกมุมนึง แม้วา่ รู ปโฉมของนางจะดูอ่อนเยาว์อย่างยิง่ แต่ในความเป็ น


จริ งแล้ว ชูเฟิ งไม่อาจทราบได้วา่ แท้จริ งแล้วเสี่ ยวยูม่ ีอายุเท่าไหร่ ดูจาก
รู ปโฉมภายนอกของนาง บางทีนางอาจจะเป็ นคนที่แปลกประหลาดตาม
ธรรมชาติ เป็ นอสู รน้อยที่มีชีวติ อยูก่ ว่าพันปี
ในภายหลัง เสี่ ยวยูก่ าํ ลังนําทางพวกเขามาถึงคลังสมบัติอย่างรวดเร็ ว ชู
เฟิ งยังพบว่ามันคือคลังสมบัติที่สร้างอยูใ่ ต้ทะเล

นอกจากนี้มนั ถูกปิ ดบังด้วยพลังบางอย่างที่สลับซับซ้อนเป็ นอย่างมาก


ถ้าชูเฟิ งไม่ใช้เนตรสวรรค์ เขาจะไม่สามารถมองเห็นสิ่ งที่อยูภ่ ายในนั้น
เมื่อสายตาของเขากวาดผ่าไป เขาเห็นหิ นยักษ์ธรรมดาๆที่อยูใ่ ต้ทอ้ ง
ทะเล แม้วา่ จะใช้อาํ นาจวิญญาณในการตรวจสอบ เขากับไม่รู้สึกอะไร
นอกจากของธรรมดาๆทัว่ ๆไป

ด้วยสิ่ งนั้น เห็นได้ชดั ว่าผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดทองน่ามหัษจรรย์เพียงใด พวก


เขาแตกต่างกับผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดม่วงอย่างสิ้ นเชิง ถ้าเสี่ ยวยูไ่ ม่มาช่วยเขาใน
วันนี้ ชูเฟิ งคงไม่อาจหลบหนีจากความตายที่รออยูไ่ ด้
“เสี่ ยวยู่ เจ้าอยากไปไหนต่อ? พี่ใหญ่จะไปกับเจ้าและจะคอยอยู่
เล่นกับเจ้า ดีม้ ยั ?” เนื่องจากเสี่ ยวยูช่ ่วยเหลือชูเฟิ ง เขารู ้สึกทราบซึ้ ง
อย่างยิง่ และวิธีที่ชูเฟิ งใช้ตอบแต่สาวน้อยนั้นธรรมดาเป็ นอย่างมาก มัน
เป็ นเพียงการคลุกคลีกบั นาง...เล่นกับนาง

“จริ งๆนะ พี่ใหญ่จะไปเล่นกับเสี่ ยวยูจ่ ริ งๆนะ! นี่มนั ดีมากๆเลย!”

“แต่เราจะไปเล่นที่ไหนดีหล่ะ?” นางวางมือของนางไว้ใต้คาง
ดวงตาอันบริ สุทธิ์ของนางหมุนไปรอบๆ นางทําท่าเหมือนเป็ นบุคคล
สําคัญกําลังขบคิด ในขณะที่นางใช้ความคิดอยู่
ทันใดนั้น ดวงตาของนางส่ องประกายไปที่ชูเฟิ ง นางพูดอย่างมีความสุ ข
“ใช้แล้ว! พี่ใหญ่ นัน่ พี่สาวที่ชวั่ ร้าย คนที่จบั พี่ชายไป ตอนนี้นางกําลัง
ต่อสู ก้ บั อสู รกินคนอยู!่ เสี่ ยวยูอ่ ยากเห็น”

“อะไรนะ? หย่า เฟยกําลังต่อสู ก้ บั อสู รนั้นจริ งๆรึ ? ได้ยนิ เช่นนั้น


ชูเฟิ งช่วยไม่ได้ที่จะขมวดคิว้ ของเขา

ชูเฟิ งผูท้ ี่เพิง่ จะประสบกับภัยพิบตั ิ ยังรู ้สึกค่อนข้างหวัน่ ๆเมื่ออยูต่ ่อหน้า


หย่า เฟย แต่หลังจากคิดอย่างถี่ถว้ นแล้ว ในขณะนั้นชูเฟิ งคว้าจับเท้าของ
เสี่ ยวยูพ่ ร้อมกับกล่าวว่า “แน่นอน เสี่ ยวยู่ พาพีช่ ายไปดู แต่..เราอย่าเข้า
ไปใกล้มากนะ”

“อืม..” ชูเฟิ งตกลง ในขณะที่เสี่ ยวยูพ่ ยักหน้าอย่างแข็งขันด้วย


ความสุ ขอย่างล้นเหลือ จากนั้นนางก็กลายเป็ นแสงเลือนลางพุง่ ออกไป
ด้วยความเร็ วที่ไม่น่าเชื่อ นางพาชูเฟิ งว่ายนํ้าจนถึงระยะที่เหมาะสม

* บูม บูม บูม บูม บูม*.

บางพื้นที่ดา้ นบนบางพื้นที่บริ เวณศูนย์กลางทะเลโลหิ ตนิรันดร์ เสี ยง


ระเบิดดังอยูท่ วั่ ทุกที่ ระลอกคลื่นและพลังงานมหาศาล มาบรรจบกัน
อย่างไม่สิ้นสุ ด

ท้องฟ้าพลันบังเกิดความปั่นป่ วน เมฆทมิฬปรากฏ สายฟ้าฟาดลงมา


อย่างน่าขนหัวลุก
บนผิวนํ้าทะเล เกิดคลื่นจํานวนนับไม่ถว้ นแพร่ กระจายกว้างออกไป
บางครั้งบางคราวมันราวกับเป็ นสัตว์มหึ มากระจายตัวออก ก่อให้เกิด
เสี ยงคํารามด้วยความพิโรธดังสนัน่ หวัน่ ไหว

ขณะที่พลังงานทั้งสองตัดผ่านกันและกัน ก็บงั เกิดระลอกคลื่นที่บา้ คลัง่


อย่างไม่รู้จบ สถานที่แห่งนั้นกลายเป็ นสถานที่ๆอันตรายไปโดยปริ ยาย
โดยการปะทะของผูเ้ ชี่ยวชาญระดับจ้าวสงครามที่อยูเ่ บื้องล่าง หากเข้า
ไปโดยไม่ระวังก็อาจจะตายแบบไม่รู้ตวั

* วูช วูช วูช *


หย่า เฟยก้าวกระโดดไปบนก้อนเมฆ ชุดกระโปรงที่มีสีสนั สดใสของ
นางพัดพริ้ วไหวไปมา นางเปรี ยบเสมือนเทพธิดาขณะที่กาํ ลังเปลี่ยน
ฉากของพื้นที่ตรงนั้น

นางถือกระบี่ยาวสี ชมพูไว้ในมือ มันยาวไม่เกินสามฟุตราวกับถูกสร้าง


ขึ้นด้วยกลีบดอกไม้ กระนั้นแล้วมันยังกระจายอํานาจที่น่าเหลือเชื่อ
ออกมา

เมื่อหย่า เฟยกํากระบี่ไว้ในมือของนาง อํานาจของนางเพิ่มขึ้น


หลายเท่าตัว คลื่นกระบี่ของนางทําให้โลกสัน่ สะเทือน กระบี่ยาวสี ชมพู
แม้มนั จะไม่ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยกลีบดอกไม้สีชมพู แต่มนั กับมีกลีบ
ดอกไม้ปรากฏและร่ วงหล่นทัว่ ทุกที่

กลีบดอกไม้ร่วงหล่นราวกับฝนที่โปรยปราย แต่มนั กับเต็มไปด้วยพลัง


อํานาจอันน่าหวาดหวัน่ แม้แต่อากาศยังถูกเฉื อนออก ทุกๆที่มนั พาดผ่าน
ก่อให้เกิดการล่มสลายและร่ วงหล่นสู่หายนะ มันคือสิ่ งที่น่ากลัวอย่างถึง
ที่สุด

มันไม่ใช่ยอดยุทธภัณฑ์ธรรมดาๆอย่างแน่นอน ถึงแม้วา่ จ้าวสงครามจะ


เป็ นผูใ้ ช้มนั มันก็ไม่สามารถแสดงพลังที่น่ากลัวออกมาได้

แต่อสู รตนนี้กไ็ ม่ใช่ตวั ตนที่ธรรมดาเช่นกัน ตอนนี้มนั กําลังกระโจนลง


ไปในทะเลและเคลื่อนที่ ก่อให้เกิดคลื่นนํ้าทะเลสี เลือดซัดขึ้นไปบน
อากาศ ภาพนั้นมันช่างเป็ นเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อ

แต่นน่ั ก็ยงั ไม่เท่าไหร่ ส่ วนที่สาํ คัญที่สุดคือพลังของมันที่แข็งแกร่ งอย่าง


มาก ก็จริ งที่น้ าํ ทะเลมันจะดูธรรมดาๆ แต่ประมาณที่มหาศาลของมันทํา
ให้มนั นั้นทรงพลัง ขนาดนํ้าเพียงหยดเดียวมันก็สามารถเจาะผ่านชั้นเมฆ
บนท้องฟ้าได้ ดังนั้นไม่ตอ้ งกล่าวถึงคลื่นนํ้าจํานวนมหาศาลนั้น ว่ามัน
จะน่ากลัวแค่ไหน

แม้วา่ ยอดยุทธภัณฑ์ที่ทรงพลังและไม่ธรรมดาอยูใ่ นมือของหย่าเฟย มัน


ก็ทาํ ได้แค่หกั ล้างการโจมตีน้ นั อย่างต่อเนื่อง นางและอสู รอยูใ่ น
อาณาจักรจ้าวสงครามระดับ 5 เท่าๆกัน ดังนั้นไม่มีใครรู ้วา่ ผลลัพธ์จะ
ออกมาในรู ปแบบใด

“ทรงพลังยิง่ นัก นี่คือการต่อสู ท้ ี่แท้จริ งของผูเ้ ชี่ยวชาญอาณาจักรจ้าว


สงครามงั้นรึ ?”
“อสูรตัวนั้นก็ทรงพลังไม่แพ้กนั ดูเหมือนว่ามันสามารถเพิ่มพลัง
ของมันได้เมื่ออยูใ่ นนํ้า ด้วยการยืมพลังจากท้องทะเล ไม่ธรรมดาจริ งๆ”

ทันใดนั้น ชูเฟิ งที่กาํ ลังปกปิ ดออร่ าของเขาอยู่ และเฝ้าสังเกตุทุกสิ่ งทุก


อย่างกับเสี่ ยวยูใ่ นระลอกคลื่นที่ห่างออกไปอย่างเงียบๆ หลังจากเห็นการ
ต่อสู ท้ ี่น่าตกตะลึง ชูเฟิ งช่วยไม่ได้จริ งๆที่จะเปร่ งเสี ยงอุทานออกมาด้วย
ตกใจ ที่เห็นความแข็งแกร่ งของพวกนั้น

แม้ในตอนนี้ ตราบเท่าที่ชูเฟิ งใช้พลังของสายฟ้าทั้งสาม เขาก็คงไม่มี


ปัญหาในการก้าวเข้าสู่ ระดับ 1 อาณาจักรจ้าวสงครามและยังได้รับ
ความแข็งแกร่ งที่จา้ วสงครามเท่านั้นที่มี นอกจากนี้เขายังสามารถใช้พลัง
ทักษะที่มีอยูใ่ นโลกนี้ได้มากมาย แต่ชูเฟิ งก็รับรู ้ได้อย่างชัดเจน ว่าหาก
เขาต่อสู ก้ บั หย่าเฟยหรื ออสู ร เขาจะไม่สามารถรับการโจมตีระดับนั้นได้
แม้แต่กระบวนท่าเดียว แม้วา่ ทั้งสองเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวสงคราม
เหมือนกัน แต่พวกเขาทั้งสองก็มีระดับที่ห่างจากเขาไปอย่าง
สิ้ นเชิง……..

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////
A : พี่เฟิ งตอนนี้ยงั สู ไ้ ม่ได้อีกหรอ งั้นก็ตอ้ งรออีกแปป ตอนนี้เขาต้อง
ตามหา ฉิวซุย ฟู่ หยานให้พบซะก่อน หลุดจากเป้าหมายมาไกล
พอสมควร ตอนนี้ได้เวลาวกกลับไปสักที

B : ใช่ๆ ตอนนี้ยงั สู ไ้ ม่ได้ แต่เร็ วๆนี้แหละ จะได้เห็นกัน

A : ว่าแต่ ตอนที่หย่าเฟยกลับมา นางคงจะโกรธหัวฟัดหัวเหวีย่ งน่าดู


ฉลาดชิบหาย เล่นโยนขี้ไปให้ชื่อหวูฉ่ ิ ง
B : ก็ดีแล้วไง ชูเฟิ งจะได้ไม่เดือดร้อน อีกอย่างคนใกล้ตวั ของเขาก็คง
จะปลอดภัย แต่เรื่ องที่นางโมโหหัวฟัดหัวเหวีย่ งของมันแน่อยูแ่ ล้ว แต่
จะโมโหขนาดไหนต้องรออ่านเอา
บทที่ 628 - ทักษะต้องห้าม

*ตูม ตูม ตูม*

เสี ยงระเบิดได้ดงั ก้องไปหลายไมล์ ซึ่ งแสดงให้เห็นว่าหย่า เฟย กับ อสู ร


ตัวนั้น ปะทะกันรุ นแรงแค่ไหน

“เจ้าอสู รตัวนี้ทาํ ข้าเสี ยเวลามากว่า 2 ชัว่ ยามแล้ว ถ้าข้ายังไม่


สามารถปราบมันได้ และข่าวนี้แพร่ ออกไป ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"
“ข้าไม่สามารถปล่อยให้มนั ยืดเยื้อได้อีกแล้ว ต้องรี บจบมันให้เร็ ว
ที่สุด มิเช่นนั้นคงเป็ นข้าที่จะแย่!”

ทันใดนั้นแววตาของหย่า เฟย ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มือความของเธอกํา


ดาบแน่น มือซ้ายของเธอเริ่ มทําอะไรบางอย่าง และต่อจากนั้นก็เกิดกลิ่น
อายรอบตัวเธอ สักพักมันก็กลายเป็ นแสงหมุนวนรอบตัวเธอ

พลังของหยา เฟย เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ วในตอนนั้นมันพุง่ ไปเกือบถึง


ระดับ 6 จ้าวแห่งสงคราม

“ทักษะต้องห้ามชั้นบาดาล คมกระบี่ลวงตา!”
ในตอนนั้น หย่า เฟย ตะโกนเสี ยงดันลัน่ จากนั้นกระบี่สีชมพูในมือเธอ
ก็ปรากฏแสงขึ้นจากนั้นจากนั้นเธอก็เหวีย่ งมันลงและก็มีแสงสี ขาวฟาด
ลงมาดัง ตูม้

ความเร็ วของแสงสี ขาวนั้นรวดเร็ วมาก และพื้นที่ของมันก็ครอบคลุม


พื้นที่กว้าง ถ้ามองมาจากไกลๆ ก็เห็นว่ามันราวกับเป็ นแสงศํกดิ์สิทธิ์ที่
ส่ งตรงมาจากสวรรค์ แต่ถา้ ดูดีดีจะเห็นได้ชดั ว่ามันมีรูปร่ างของกระบี่ที่
ใหญ่มาก

*โฮกกกก*

ในตอนนั้น อสู รตัวนั้นไม่ทนั ได้ต้ งั ตัว มันจึงรี บ พุง่ ลงสู่ ทะเล


ในตอนนั้น คลื่นทะเลก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในตอนแรกนํ้าทะเลสี แดง
นั้นหมุนวนเป็ นนําวนแต่ตอนนี้คลื่นนั้นมันได้แปลงเปลี่ยนเป็ นรู ปแบบ
ที่คล้ายกับกระดองเต่าครอบคลุมพื้นที่อยู่

*ตูม* ในที่สุดกระบี่นนั่ ก็ตกลงมา และ เกิดเสี่ ยงดังสนัน่ นํ้าทะเลเกิด


การกระจายไปทัว่ ทุกที่ เห็นได้ชดั ว่าการป้องกันของอสู รนัน่ ถูกทําลาย
ลงอย่างง่ายดาย

“ช่างแข็งแกร่ งยิง่ นัก ข้าไม่เคยเห็นทักษะที่ทรงพลังเช่นนี้มาก่อน


หรื อว่ามันจะเป็ นทักษะระดับ 9” ชูเฟิ งตกใจมาก นี่เป็ นครั้งแรกที่เขา
ได้รู้ถึงความแข็งแกร่ งของ หย่า เฟย
“ไม่ใช่นี่ไม่ใช่ทกั ษะระดับ 9 แต่เป็ นทักษะต้องห้าม ,” ต้านต้าน
พูด

“ทักษะต้องห้ามอย่างนั้นหรื อ!” ชูเฟิ งได้ยนื เช่นนั้นเขาก็ตกใจ เขา


เคยได้ยนิ แต่ วิชาลับต้องห้ามแต่ตอนนี้ได้รู้ถึงอีกอย่างนึงเขาจีงถามไป
ว่า. “ต้านต้าน เจ้าพูดอะไร เจ้าจะบอกว่ามันเหมือนกับวิชาลับต้องห้าม
อย่างนั้นหรื อ”

“ไม่!!! แม้วา่ ทั้ง 2 จะถูกตราว่าต้องห้ามเหมือนกัน แต่มนั ก็


แตกต่างกันอย่างสิ้ นเชิง”

“ทักษะนั้น ไม่ใช่พลังที่มาจากร่ างกาย แต่มนั ใช้พลังของโลกหรื อ


ธรรมชาติในการสร้างความสามารถที่วเิ ศษ ดังนั้นมันจึงมีขอ้ จํากัด และ
ระดับ 9 ถือเป็ นที่สิ้นสุ ด เพราะพลังจากระดับ 9 นั้นมันเริ่ มมี
ผลกระทบต่อผูใ้ ช้ อาจทําให้บาดเจ็บและตายได้”

“ดังนั้น ทักษะที่เหนือกว่าระดับ 9 จึงถูกตั้งว่าเป็ นทักษะต้องห้าม


เพื่อบอกเหล่ามนุษย์วา่ เป็ นทางเลือกที่ดีที่จะไม่ยงุ่ กับทักษะพวกนี้”

“และในทักษะต้องห้ามนั้นก็มีระดับที่แตกต่างกันไป”

“ที่ขา้ รู ้กม็ ี 4 ชั้นตามลําดับ บาดาล พสุ ธา นภา สวรรค์”

“ก่อนหน้านี้ หยา เฟย ได้ตะโกนมากว่าเป็ นทักษะต้องห้ามชั้น


บาดาล นัน่ หมายความว่าสิ่ งที่เธอใช้ยอ่ มเป็ นทักษะต้องห้าม มันไม่
แปลกหรอกที่จะมีทกั ษะต้องห้ามในที่แบบนี้ โดย เฉพาะอัจฉริ ยะอย่าง
เธอที่เกิดในตระกูลมหาอํานาจ”

“หลังจากที่ได้ดูความสามารถของมันแล้วข้ามันใจได้เลยว่ามัน
เป็ นทักษะต้องห้ามแน่นอน,”ต้านต้านพูดขึ้น

“ต้านต้าน จากที่เจ้าพูดไม่ได้หมายความว่าทักษะต้องห้ามนั้นจะ
ส่ งผลกระทบไม่ใช่หรื อ มันนานแค่ไหนก่อนที่ผลกระทบนัน่ จะเกิดขึ้น”
ชูเฟิ งนั้นค่อนข้างฉลาด เขาเข้าใจเรื่ องทักษะต้องห้ามทันที แต่เขานั้นก็
ต้องการยืนยันเริ่ มผลกระทบจากมัน

อย่างไรก็ตาม ทักษะต้องห้ามนั้นก็ยอ่ มมีผลกระทบมาสู่ ผใู ้ ช้ ดังนั้น ถ้า


อสู รตัวนั้นสามารถป้องกัน ทักษะของหย่า เฟย ได้ หลังจากหย่า เฟยใช้
มัน เธอต้องแพ้มนั แน่นอน
“ผลกระทบของทักษะต้องห้ามนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้จะ
เป็ นระดับที่ต่าํ สุ ดอย่าง ชั้นบาดาล ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

“แต่ถา้ เจ้าต้องการใช้ทกั ษะต้องห้ามและเจ้าต้องการลดผลกระทบ


ก็พอจะมีอยู่ 2 วิธี”

“สิ่ งแรกคือ ความรู ้ความเข้าใจในทักษะนั้น ถ้าเจ้าเข้าใจมันมาก


เท่าไหร่ เจ้าก็สามารถลดความรุ นแรงของผลกระทบได้ “

“ประการสองคือ ใช้ทรัพยากรหรื อพลังจากบางอย่างในการใช้


ทักษะนั้น ถ้าเป็ นวิธีน้ นั แม้จะมีผลกระทบแต่กไ็ ม่รุนแรงนัก”
“หย่า เฟย คนนี้ฉลาดมาก เธอเลือกใช้วธิ ีที่ 2 เธอใช้ ยุทธภัณฑ์
พิเศษในมือเพื่อใช้ทกั ษะต้องห้าม”

“การกระทําเช่นน้นไม่ได้หมายความว่าเธอไม่สามารถใช้ทกั ษะ
ต้องห้ามได้ดว้ ยตัวเอง จึง ใช้พลังของยอดยุทธภัณฑ์ในการช่วย แต่น้ นั
เป็ นการใช้เพื่อลดผลกระทบที่เธอได้รับ,” ต้านต้าน พูด

*ตูม ม ม ม ม*

*ตูม ม ม *

*ตูม*
ในขณะที่ท้ งั 2 กําลังคุยกัน หยา เฟย ก็ไม่ได้หยุดการโจมตี เธอโจมตี
อย่างต่อเนื่อง และ กระบี่สีขาวอันอื่นก็พงุ่ ตรงมาจากต้องฟ้า

ทุกครั้งที่ดาบนั้นปรากฏมันก็ส่องแสงราวกับพระอาทิตย์ และราวกับทํา
ให้ให้โลกนั้นเกิดแสงขึ้นมา นอกจากนี้ เมื่อมันลงมาก็เกิดคลื่นลม
กระจายอย่างบ้าคลัง่ พุง่ ลงมาด้วย

เห็นได้ชดั ว่า อสู รตัวนั้นไม่สามารถต่อต้านทักษะต้องห้ามได้ และ หย่า


เฟยเองก็ไม่ปล่อยโอกาสให้มนั ได้หนี เธอยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่อง สิ่ งที่
อสู รมันทําได้กม็ ีเพียงแต่ตอ้ งป้องกัน และพลังของมันก็หมดลงเรื่ อยๆ

*ตูม* ในที่สุดเสี ยงระเบิดอย่างอื่นก็ปรากฏขึ้น มันคือเสี ยงคํารามของ


สัตว์ร้ายที่ระเบิดออกมา ก่อให้เกิดนํ้าพุง่ ขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับคมดาบ
และมันก็ตกลงมา อสู รตัวนั้นร้องลัน่ ด้วยความเจ็บปวดก่อนหมดสติไป

“ฮึ่ม เจ้าไม่ธรรมดาทีเดียว ที่สามารถรับมือข้าได้ถึงเพียงนี้ แต่น่า


เสี ยดายที่เจ้าต้องมาตายในมือข้า “

“ขอข้าดูหน่อยว่าเจ้าเป็ นอสู รแบบไหน.” เมื่อเห็นว่าตนประสบ


ความสําเร็ จในการเอาชนะอสู รนัน่ มุมปากของเธอก็ยกขึ้น

แต่เธอก็ไม่ได้โจมตีมนั ต่อและใช้ทกั ษะต้องห้ามนั้นเพื่อฆ่าอสู ร แต่เธอ


สะบัดมือของเธอและนัน่ ทําให้เกิดพลังไหลออกมา เพื่อดึงอสู รออกมา
จากทะเล
“แย่แล้ว!!! ข้าไม่สามารถให้เธอหรื อใครแตะต้องมันได้" ในตอน
นั้นชูเฟิ งก็ตอ้ งตื่นตระหนก เพราะเขายังไม่รู้วา่ เจ้าอสู รตัวนั้นเป็ นใคร
เขาจึงไม่สามารถปล่อยให้มนั ตกอยูใ่ นมือ หย่า เฟย ได้

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : เราจะได้รู้แล้ว ว่าอสูรตนนี้เป็ นใครกันแน่ แล้วมันเกี่ยวข้องอะไร
กับ ชูเฟิ ง

B : หย่า เฟย เก่งนักเก่งหนา เด๋ วเถอะแม่นาง รอพบกันที่หุบเขาแห่ง


สายหมอก พี่เฟิ งจะอัดให้อ่วมอรทัย
A : ได้ข่าวว่ามีผเู ้ ชี่ยวชาญ ระดับ 5 จ้าวสงครามลุมชูเฟิ ง 3 ต่อ 1
แล้วเอาพีเ่ ฟิ งไม่ลงด้วยหนิ

B : ถูกต้องพวกหมู่เกาะประหารหมาหมู่ เห็นพี่เฟิ งเปิ ดประตูสู่ โลก


แห่งสมบัติได้ คิดจะเอาเป็ นของตัวเอง ที่ไหนได้ติดกับดัก จากนั้นพี่เฟิ ง
อัดแม่งกระจุยกระจาย จนวิง่ หนีหางจุกตูด ซึ่ งตอนนั้น ชูเฟิ งก็ได้ทาํ ลาย
สถิติ ของมู่หรง ซุน นายน้อยหมู่เกาะประหารจนย่อยยับ ซึ่ งเป็ นตํานาน
บทแรกของ หวูฉ่ ิง ที่ทาํ ให้ชื่อเสี ยงเขาเป็ นที่เล่าขาน

C : ช่ายอ่อ!!! ไม่ใช่วา่ โง่โดนเค้าแย่งสมบัติไปหมดหรอกนะ

B4 : เรื่ องราวที่พวกเขาพูดกันนั้น จะจริ งเท็จแค่ไหน หรื อ จะสนุกแค่


ไหน อีกไม่นานเราจะได้รู้กนั ตอนนี้พี่เฟิ งต้องช่วยอสู รตนนั้น แล้วเค้า
จะรับมือกับ หย่า เฟย ได้หรื อไม่
บทที่ 629 - ตะลึง งึงงัน

แต่หย่า เฟย นั้นช่างแข็งแกร่ งเสี ยจริ ง ในตอนนี้เขารู ้แล้วว่าเขาไม่


สามารถเอาชนะเธอได้ เอาจึงหันไปพูดกับเสี่ ยวยูว่ า่ “ เสี่ ยวยู่ เจ้าช่วยพี่
ใหญ่หน่อยสิ ช่วยอสู รตัวนั้นได้หรื อไม่”

“ช่วยอสู รกินคนอย่างนั้นหรื อ ได้ได้ คอยดูเสี่ ยวยูใ่ ห้ดีดีนะ!”


หลังจากได้ยนิ คําพูดเขา เสี่ ยวยูก่ พ็ ยักหน้าอย่างรวดเร็ ว และไม่มีร่องรอย
ของความกลัวปรากฏบนหน้าเลย มันดูเหมือนเป็ นเรื่ องสนุกสําหรับเธอ

*วูบ่ *
ในตอนนั้นเขารู ้สึกว่าภาพรอบๆตัวเขามันเบลอลง และความเร็ วของ
เสี่ ยวยูก่ เ็ พิม่ ขึ้น ก่อนที่ชูเฟิ งจะรู ้สึกถึงมัน เขาก็ได้มาปรากฏตัวหน้าอสู ร
แล้ว

ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่อดที่จะชื่นชมความเร็ วของ เสี่ ยวยูไ่ ด้ เขารี บ


จับอสู รไว้ทนั ที

นัน่ เป็ นเพราะเขายังอยูใ่ นระยะโจมตีของหย่า เฟย พลังมหาศาลนั้น


ไม่ได้พงุ่ ตรงไปที่อสู ร แต่มนั เคลื่อนไปบนท้องฟ้า

เสี่ ยวยู่ นั้นฉลาดมาก เมื่อเห็นว่าชูเฟิ งจับอสู รไว้ได้แล้ว เธอก็หนั ไป


รอบๆ และใช้พลังของเธอพุง่ ลงไปสู่ทะเลราวกับแสง ด้วยความเร็ วที่น่า
เหลือเชื่อ พวกเขาทิ้งห่างจาก หย่า เฟย ออกไป
“บัดซบ ข้าไม่ได้ทาํ อะไรให้เจ้า เจ้ากล้ามายุง่ เรื่ องของข้าได้อย่างไร
เจ้าเป็ นพวกเดียวกับอสู รนัน่ อย่างนั้นสิ นะ.”

แม้วา่ ความเร็ วของเสี่ ยวยูจ่ ากมากจนหย่า เฟย เห็นไม่ชดั เจนแต่เธอก็


พอจะรู ้วา่ คนที่มาช่วยอสู รไว้คือ เสี่ ยวยู่

*วูบ วูบ วูบ …*

หลังจากเอาชนะอสู รได้แล้ว มันก็ถูกช่วยไว้จากคนบางคน นัน่ ทําให้


หย่า เฟย โกรธมาก เธอแทงกระบี่ของเธอสู่ พ้นื ผิวทะเลที่อยูด่ า้ นใต้เธอ
*ตูม ตูม ตูม *

กลีบดอกไม้นบั ไม่ถว้ นจากกระบี่ของเธอ [ T/N นึกภาพเซนบง


ซากุระไว้ ] ปกคลุมพื้นผิวทะเลไว้ราวกับเป็ นพายุ มันสร้างคลื่นที่
รุ นแรงและโจมตีไปยังทะเล

แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์ ไม่วา่ หย่า เฟย จะโจมตีแรงเท่าไหร่ มันก็ไม่


สามารถที่จะทําอะไรกับเสี่ ยวยูไ่ ด้ เพราะเธอนั้นได้หนีไปไกลแล้ว

“หนีไปแล้วหรื อ แสดงให้ขา้ เห็นหน่อยว่าความเร็ วของเจ้าเป็ นดัง่


ตํานานที่วา่ ไม่มีใครสามารถจับเจ้าทันจริ งหรื อไม่!” เมื่อรู ้สึกว่าเสี่ ยวยู่
นั้นหนีไปแล้ว หย่า เฟย ก็เค้นเสี ยงอย่างเย็นชาจากนั้นเธอก็เก็บกระบี่
และพุง่ ตามไป
“อืม!”

แต่ในตอนนั้นดวงตาเธอก็เกิดประกายแสง และท่าทางของเธอก็
เปลี่ยนไป ใบหน้าที่แดงดัง่ กุหลาบของเธอซี ดขาวราวกับไร้เลือด

ริ มฝี ปากของเธอก็กลายเป็ นสี ฟ้าและม่วงราวกับได้รับพิษและบาดเจ็บ


สาหัส มันดูเหมือนความตายกําลังวิง่ เข้ามาหาเธอ ที่เธอเป็ นเช่นนั้น นัน่
เป็ นเพราะผลกระทบที่ได้รับจากการใช้ ทักษะต้องห้ามกําลังกระโจน
เข้าหาเธอ

ในสถานการณ์เช่นนั้น หย่า เฟย ไม่สามารถตามต่อไปได้แล้ว เธอรี บ


โยนยาบางอย่างใส่ ปาก จากนั้นก็นง่ั ขัดสมาธิ แล้วก็เริ่ มที่จะฟื้ นฟูตนเอง
และเธอต้องต่อสู ก้ บั ผลกระทบที่รุนแรงมาก

หลังจากนั้นสักพัก ใบหน้าของ หย่า เฟย ก็ดีข้ ึน ใบหน้าที่ซีดขาวเริ่ มมีสี


แดงแล้ว แต่เธอนัน่ ก็เปี ยกโชกไปด้วยเหงื่อ และหอบหายใจอย่างหนัก
เห็นได้ชดั ว่าผลกระทบที่เธอได้รับนั้นไม่ธรรมดาจริ งๆ

หลังจากหลุดพ้นจากผลกระทบ หย่า เฟย ก็ถอนหายใจราวกับปล่อย


ภาระที่หนักอึ้ง แต่เธอก็ยงั คงใจเย็น และมองไปที่น้ าํ ทะเล จากนั้นก็
เลื่อนสายตาไปมองที่ปลายขอบฟ้าอีกครั้งและพูดว่า"ดูเหมือนว่าคนที่มา
ช่วยจะมี 2 คน 1 เสี่ ยวยู่ แล้วอีก 1 คือใครล่ะ”

หย่า เฟย คิดอย่างหนักแต่สุดท้ายก็ไม่ได้คาํ ตอบ เธอถอนหายใจเบาๆ


แล้วพึมพําว่า “ ความเร็ วของเด็กหญิงคนนั้นไม่ใช่เรื่ องโกหกเลย มัน
ช่างลึกลับเสี ยจริ ง ถ้าข้าได้มนั มาข้าก็จะเหนือกว่าไอเลว มู่หรง ซุน”

“ฮึ่ม เจ้าคิดว่าข้าเป็ นของเจ้าอย่างนั้นหรื อ รอจนกว่าข้าจะก้าวผ่าน


เจ้า ใครจะไปสนว่าเจ้าจะเป็ นประมุขน้อยของหมู่เกาะประหาร ข้าไม่
ต้องการแต่งงาน ข้าก็จะไม่แต่งไม่มีใครสามารถห้ามข้าได้.” หย่า เฟย
พึมพํา พร้อมปรากฏรอยยิม้ บนหน้า.

เหตุผลที่เธอยิม้ เพราะเธอนึกถึงบางอย่างได้ ดังนั้นเธอจึงรี บพุง่ ออกไป


ทันที

สถานที่ที่ หย่า เฟย มุ่งหน้าไปนั้นไม่ใช่ที่อื่นนอกจากที่ที่เธอได้ขงั ชูเฟิ ง


ไว้ขา้ งใน เธอคิดว่าในตอนนี้ชูเฟิ งนั้นได้กลายเป็ นหุ่นเชิดแล้ว มันจะ
เป็ นเหยือ่ ชั้นดีที่ใช้ล่อเสี่ ยวยู่
อย่างไรก็ตาม เธอนํากลุ่มคนระดับเจ้าสงคราม 100 คน และมุ่งหน้า
กับไปยังที่เก็บสมบัติที่เตรี ยมไว้เพื่อนบ่มเพาะเธอ และเมื่อเธอมาถึง
ท่าทางของเธอก็ตอ้ งเปลี่ยนทันที

ที่เก็บสมบัติน้ นั ในทะเลโลหิ ตนิรันดร์ ว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์แบบ เห็น


ได้ชดั ว่ามันถูกขโมยไปจนสิ้ นและไม่เหลือหลักฐานแม้แต่เส้นผม

“มันเป็ นใคร ใครกล้าขโมยของจากหมู่เกาะประหาร ถ้าข้ารู ้วา่ มัน


เป็ นใคร ข้าจะสับมันหมื่นๆชิ้น”

“เร็ วเข้า รี บตรวจสอบอย่างละเอียด ตรวจสอบทุกคนที่รู้ถึง


รหัสผ่านของที่เก็บสมบัติน้ ี แล้วหาตัวขโมยมาให้ได้!” หย่า เฟย
ตะโกนดังลัน่ เพราะที่แห่งนี้ถูกซ่อนไว้ในรู ปแบบวิญญาณที่ทรงพลัง
มาก

“น้อมรับคําสัง่ !” เมื่อได้ยนิ คําสัง่ ของ หย่า เฟย สมุนก็ไปกล้าขัด


ใดๆ นัน่ เป็ นเพราะสมบัติถูกขโมยนั้นไม่ใช่เรื่ องเล็กดังนั้น พวกเขาต้อง
รี บตรวจสอบว่าตอนนี้ใครนั้นน่าสงสัยที่สุด

หลังจากสัง่ งานเสร็ จเธอก็รีบก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็ วและมาถึงส่ วนที่2


ของพระราชวัง เธอหวังว่าที่แห่งนี้น้ นั จะไม่เกิดอะไรขึ้นแต่เมื่อเข้ามา
เธอก็ตอ้ งโกรธจัด เพราะมันมีแต่ความว่างเปล่า

“บัดซบ ข้าไม่อยูแ่ ค่ครึ่ งวัน ใครกันที่สามารถขโมยพวกมันไป


ทั้งหมดได้” หลังจากเห็นได้ชดั ว่าที่เก็บสมบัติท้ งั 2 ที่ถูกขโมยไปเรี ยบ
หยา เฟย ก็โกรธอย่างมาก จากนั้นเธอก็พยายามทําใจให้สงบและคิดว่า
ใครน่าสงสัยที่สุด

ขณะที่เธอคิด เธอก็เดินไปเรื่ อยๆ จนมาถึงส่ วนสุ ดท้ายของพระราชวัง

ถึงแม้วา่ เรื่ องสมบัติถูกขโมยนั้นจะทําให้เธอโกรธจัดแต่ในความจริ ง


แล้ว หมู่เกาะประหารก็ยงั มีสมบัติอีกนับไม่ถว้ น

ในตอนนี้เรื่ องที่สาํ คัญที่สุดสําหรับเธอคือ ชูเฟิ ง เพราะชูเฟิ งนั้นจะทําให้


เธอจับเสี่ ยวยูไ่ ด้ง่ายยิง่ ขึ้น เมื่อเทียบกันแล้ว เสี่ ยวยูน่ ้ นั มีค่ามากกว่า
สมบัติมากมายมหาศาล ดังนั้นเธอต้องรี บไปดูวา่ ชูเฟิ งยังอยูห่ รื อไม่

“สวรรค์ นี่ นี่มนั อะไรกัน!!!”


อย่างไรก็ตามเมื่อเธอข้ามผ่าน รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณอันสุ ดท้าย
แล้วก้าวเข้ามายังสถานที่ที่ขงั ชูเฟิ งไว้น้ นั ใบหน้าของเธอก็ตอ้ งถอดสี
และ ทําอะไรไม่ถูก

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : ตกใจเลยอ่ะดิ!!!

B : แต่แปลกใจสุ ดๆ ที่นางจะไม่ชอบขี้หน้า นายน้อยหมู่เกาะประหาร


มู่หรง ซุน นี้แหละ

A : งี้พี่เฟิ งก็มีลุน้ อ่ะดิ ???

B : ผูห้ ญิงโหดร้ายแบบนั้นใครจะเอาทําแม่ของลูกได้วะ่ !!!


A : มะก่อนจื่อหลิงก็เป็ นแบบนั้น สุ ดท้ายก็ตกหลุมรัก ชูเฟิ ง หัวปั กหัว
ปํ า

B : ก็จริ งอยู่ แต่ที่นางเป็ นแบบนั้นเพราะต้องการไปให้ถึงเป้าหมาย


เพราะตอนนั้นนางต้องรี บแข็งแกร่ งขึ้นเพื่อ ล้างแค้นให้กบั ตระกูลจื่อ แต่
เมื่อรู ้ความจริ งนางก็สูญเสี ยเป้าหมายไป ตอนนี้นางมีชีวติ อยูเ่ พื่อชูเฟิ ง
เพียงคนเดียว แต่ หย่า เฟย ต่างกับจื่อหลิง นางคนนั้น โหดร้ายโดยสัน
ดารหรื อเป็ นคนที่โหดร้ายครั้งแต่เมื่อลืมตาตื่น

A : แต่นางน่าตางดงามมากเลยนะ

B : งดงามแต่ใช้วา่ พี่เฟิ งต้องเอาทั้งหมดหนิ เห็นแบบนั้น พี่เฟิ งก็เลือก


เยอะอยูน่ ะ

บทที่ 630 - แกเป็ นใครกันแน่

ในเวลาเดียวกัน ณ ใจกลางพระราชวัง รู ปแบบฯที่จบั ชูเฟิ งไว้ยงั คงอยู่


เช่นเดิม แต่มนั กับไร้ร่องรอยของเขา

แม้วา่ ชูเฟิ ง จะหายไป แต่กม็ ีบางอย่าง ที่เหลือไว้ ณ ใจกลางของ


พระราชวัง มันเป็ นตัวอักษรที่ถูกสร้างขึ้นโดยรู ปแบบอํานาจพลัง
วิญญาณที่เป็ นข้อความ . . . . .

" ข้าต้องขอขอบคุณแม่นางผูแ้ สนงดงาม หย่า เฟย สําหรับ


ของขวัญจํานวนมากมายมหาศาล ข้าหวูฉ่ ิ งขอรับพวกมันไว้ดว้ ยความ
เต็มใจ วันหน้า หวูฉ่ ิง จะกลับมาตอบแทน ให้ท่านอย่างแน่นอน "

" บัดซบ . . .เป็ นมันนี่เอง!!! " หย่า เฟย นางเข้าใจได้ทนั ที ว่าคนที่


ปล้นคลังสมบัติไม่ใช่ฝีมือของคนหมู่เกาะประหาร แต่เป็ นคนที่นางจับ
ขังไว้ที่นี่
นางคิดว่าสถานที่น้ ีชูเฟิ งคงไม่มีทางออกไปได้ ดังนั้นนางจึงเลือกที่นี่
เป็ นที่ขงั ชูเฟิ ง และรอทําให้เขากลายเป็ นหุ่นเชิด ซึ่ งที่นี่นบั เป็ นที่ที่ดีที่สุด
ซึ่งนางไม่เคยคิดเลยว่า ชูเฟิ ง จะรู ้วธิ ีหลบหนี แถมยังปล้นทุกอย่าง
ออกไปได้ มันจึงทําให้นางโกรธแค้นเป็ นอย่างมาก

ในขณะนั้น หย่า เฟย นางกัดฟันด้วยความโกรธ จนมันแทบจะระเบิด


ออกมา นางรี บเดินออกมายังทางเข้าพร้อมกับความพิโรธ ขณะที่กาํ หมัด
แน่นจนร่ างกายสัน่ สะท้านและกล่าว " ไอ้หวูฉ่ ิ ง ไอ้หวูฉ่ ิง ไอ้สารเลวหวู่
ฉิง!!! "

" คนที่ช่วยอสู รตนนั้นกับเสี่ ยวยู่ คงเป็ นเจ้าอีกสิ นะ ดูเหมือนข้า


จะประเมินเจ้าตํ่าไป ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะมีความสามารถมากขนาดนี้
ไม่เพียงแต่เจ้าจะหนีรอดจากท้องพระคลัง เจ้ายังขโมยค่าผ่านทางของ
หมู่เกาะประหารที่สะสมมาไปได้อีก "
" ไม่ตอ้ งห่วง ข้าไม่เคยปล่อยให้ใครรอดไปได้หลังจากที่ก่อเรื่ อง
ขนาดนี้ อย่าแม้แต่จะคิดว่าข้าจะยอมอยูเ่ ฉย "

" เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถหนีพน้ จากเงื่อมมือข้าไปได้ง้ นั หรอ ข้า


จะแสดงให้เห็นว่าข้านั้นสามารถทําอะไรเจ้าได้บา้ ง มันคือสิ่ งที่เจ้าไม่
สามารถจินตนาการได้ นั้นคือ ความตายที่แสนทรมานที่ขา้ จะมอบให้ "

หลังจากพูดจบ หย่า เฟย ก็สงบสติอารมณ์ พร้อมระเบิดออร่ าแผ่กระจาย


เข้าไปทัว่ ทุกที่ ดังปั้ ง ทันใดนั้นรู ปแบบฯของชูเฟิ งที่วาดไว้แตกละเอียด
พร้อมกับล่วงหล่นสู่ พ้นื ราวกับเศษกระจกที่เป็ นละอองแวววาว กระจาย
ไปทัว่ ทั้งพระราชวัง
ขณะที่ หย่า เฟย กําลังจมอยูก่ บั ความพิโรธ ชูเฟิ งและเสี่ ยวยูก่ เ็ ดินทาง
ออกจากทะเลโลหิ ตนิรันดร์ไปไกลแล้ว เหตุผลที่เขาเดินทางออกไปได้
อย่างรวดเร็ ว นั้นก็เพราะความเร็ วของเสี่ ยวยู่

ถึงแม้วา่ พวกเขาจะออกมาจากอาณาเขตทะเลโลหิ ตฯ แต่เพื่อความ


ปลอดภัย พวกเขาจึงไม่คิดจะบินขึ้นไปเหนือผิวนํ้า พวกเขายังคงแหวก
ว่ายอยูใ่ นทะเลพร้อมกับปกปิ ดออร่ า

" เจ้าเป็ นใครกันแน่ ? ! "

ปัจจุบนั ชูเฟิ ง กําลังตรวจสอบ อสู รตนนั้นอย่างละเอียด จากนั้นเขาก็


ค้นพบวิธีบางอย่างที่อาจจะพอเป็ นไปได้ ถ้าหากเขาคิดจะนําหญ้าที่ปก
คลุมร่ างกายของอสู รออก หรื อ ใช้อาํ นาจพลังฯของเขาตรวจสอบ เขาก็
คงจะไม่พบอะไรเลย แต่เขายังมี เนตรสวรรค์ ที่สามารถตรวจสอบได้
ทุกอย่าง

หากดูจากลักษณะของมัน มันคงดูเหมือนอสู รอย่างแท้จริ ง เป็ นแค่สตั ว์


ประหลาดที่มีลกั ษณะพิเศษ แต่แล้วทําไมเขาจึงรู ้สึกคุน้ เคยกับมัน ?
เพราะเขาไม่เคยพบเจอมันมาก่อน อีกอย่างทําไมมันถึงไม่ฆ่าเขา ?

* พรึ บ * .

ขณะที่ ชูเฟิ ง กําลังคาดเดาไปต่างๆนาๆ อสู รก็ลืมตาขึ้น ทันทีที่ดวงตาสี


แดงปรากฏ ชูเฟิ ง ก็สมั ผัสได้ถึงจิตสังหาร
แต่จิตสังหารนั้นก็อยูแ่ ค่เพียงแว๊บเดียว จากนั้นก็หายไปในความว่าง
เปล่า ขณะที่อสู รตนนั้นเห็น ชูเฟิ ง ดวงตาสี แดงของมันถึงกับพลันสว่าง
เห็นได้ชดั ว่ามันรู ้จกั เขาและจําเขาได้

" เจ้าจําข้าได้ใช่หรื อเปล่า ? แล้วเจ้าเป็ นใคร มาจากที่ไหน ? "


เห็นปฏิกิริยานั้น ชูเฟิ ง ก็รีบยิงคําถามใส่ มนั ทันที เขาอยากรู ้จริ งๆว่า
ทําไมอสูรตนนี้ถึงไม่ฆ่าเขา หรื อว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับเขา ไม่แน่วา่ มัน
อาจจะเกี่ยวข้องกับครอบครัวที่แท้จริ งของเขา

* โฮกกกกก * ในตอนนั้น อสู รคุกเข่าลงบนผิวนํ้าขณะที่ใช้มือสองข้าง


กอดหัวเอาไว้ พร้อมกับร้องออกมาอย่างทรมาน เสี ยงที่ดงั ของมัน ทําให้
จิตใจของผูค้ นที่ได้ยนิ ต่างก็เกิดความหวาดหวัน่

ตอนแรก ชูเฟิ ง รู ้สึกตกใจอยูบ่ า้ งเมื่อเห็นแบบนั้น เพราะอสู รนั้นมีการ


เปลี่ยนแปลงท่าที ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าอสู รตนนี้ คิดจะทําร้ายเขาหรื อไม่
และด้วยความแข็งแกร่ งของมัน หากมันสู ญเสี ยการควบคุมและต้องการ
ทําร้ายชูเฟิ ง เขาจะไม่สามารถทําอะไรได้เลย

แต่ ชูเฟิ งก็พบว่าเสี ยงของอสู รที่ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมาน ก็เริ่ ม


เปลี่ยนแปลงไปเป็ นเช่นกัน จากเสี ยงร้องคํารามกู่กอ้ งของอสู รร้าย
ค่อยๆกลับกลายมาเป็ นเสี ยงที่เหมือนกับของมนุษย์

ในเวลาเดียวกัน ลักษณะภายนอกของอสู รตนนั้นก็เริ่ มเปลี่ยนไป หญ้า


วารี ที่ปกคลุมตามตัวของมันก็เริ่ มค่อยๆหดลง จนในที่สุดก็ปรากฏเป็ น
รู ปลักษณ์ของมนุษย์

มันคือผูห้ ญิง ที่ร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสี ฟ้า แต่ดวงตาของนาง


ยังคงเป็ นสี แดง และใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาณ
ขณะที่ร้องออกมา

" นี่เจ้า!!!! " เมื่อเห็นผูห้ ญิงคนนั้น สี หน้าของ ชูเฟิ งก็เปลี่ยนไป


อย่างมาก เขารู ้สึกตกตะลึงอย่างหาใดเปรี ยบ เพราะเขานั้นรู ้จกั กับผูห้ ญิง
ที่อยูต่ รงหน้า

นางคือศิษย์อนั ดับหนึ่ง ของสํานักสตรี หยก ภายใน เก้าอาณาจักร และ


นางก็เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ งกับ ชูเฟิ ง ซึ่ งนางก็คือ หยวนรู่ ว

แต่นางดูไม่เหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากนางเคยมีผวิ พรรณที่งดงาม แต่ชู


เฟิ งก็มนั่ ใจเพราะเขาสามารถยืนยันได้วา่ นางคือ หยวนรู่ ว
ชูเฟิ ง รู ้สึกสับสนอยู่ ณ ตอนนั้น ซึ่ งเขาเคยคาดเดาไปต่างๆนาๆเกียวกับ
ตัวตนของอสู ร ซึ่งเขาไม่เคยคิดว่าอสู รจะเป็ น หยวนรู่ ว นั้นต่างกับที่ใจ
เขาหวังไว้ริบรับ

เพราะอสูรตนนี้มีความแข็งแกร่ งเป็ นอย่างมาก ซึ่ งหยวนรู่ วที่เขาเคยรู ้จกั


ไม่ได้แข็งแกร่ งถึงขนาดนี้ แม้วา่ นางจะฝึ กทักษะลับต้องห้าม มันก็ไม่
น่าจะเป็ นไปได้ที่นางจะมีความแข็งแกร่ งเหมือนกับดัง่ ในปั จจุบนั

" ออกไป!!! หนีไปเร็ วเข้า!!! ไม่ง้ นั ข้าจะฆ่าเจ้า!!! "

ชั้วขณะนั้น อสู รก็ตะโกนออกมาอย่างร้อนรนขณะที่มอง ชูเฟิ ง แม้วา่


นํ้าเสี ยงของมันจะเต็มไปด้วยความเคียดแค้น แต่น้ นั ก็เป็ นนํ้าเสี ยงของ
หยวนรู่ ว อย่างไม่ตอ้ งสงสัย
" โอ้โห เรื่ องนี้ช่างน่าสนใจยิง่ นัก ชูเฟิ งอสู รตนนี้คืออดีตคู่หมั้น
ของเจ้า! นึกไม่ถึงว่านางจะไม่อยากฆ่าเจ้า ฮ่าฮ่าฮ่า "

หลังจากที่พบว่าอสู ร คือหยวนรู่ ว แม้แต่ตา้ นต้านเองก็ยงั แปลกใจ แต่


นางแตกต่างจาก ชูเฟิ ง เพราะจุดยืนของนางคือผูท้ ี่เฝ้าคอยสังเกตุการณ์
นางจึงทําเหมือนมันเป็ นเรื่ องเล่นๆราวกับกําลังดูการแสดง โดยที่ไม่มี
ความหวาดกลัวใดๆ หลังจากที่เผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้

" มันเกิดขึ้นได้ยงั ไง ? ทําไมเจ้าถึงกลายเป็ นแบบนี้ ?!!! "


เมื่อเห็น หยวนรู่ ว ชูเฟิ ง ดวงตาของเขาก็ระสํ่าระสาย หัวใจของเขาเกิด
ความหวั้นไหว
จากมุมมองอีกด้านหนึ่ง เหตุผลที่หยวนรู่ วตกอยูใ่ นสภาพเช่นนี้เป็ น
เพราะ ชูเฟิ ง ถ้าชูเฟิ งไม่ "ข่มขืน" นางในวันนั้น หยวนรู่ ว ที่ฝึกทักษะลับ
ต้องห้ามคงไม่ถูกอสู รเข้าแทรกจนกลายมาเป็ นแบบนี้

ถึงแม้วา่ หยวนรู่ ว จะเป็ นฝ้ายกระทําเขาก่อน แต่ชูเฟิ งก็ไม่น่าจะทํา


รุ นแรงกับนางถึงขนาดนี้ ตอนนั้นเขาทําเพียงเพื่อระบายความโกรธ
ออกมา จึงคิดจะทําให่่นางกลายเป็ นผูห้ ญิงของเขา หากเขาไม่ทาํ ร้ายนาง
นางคงมีตอ้ งตกอยูใ่ นสภาพเช่นนี้ นางในตอนนี้มีสภาพไม่รู้วา่ คนหรื อผี
มันจึงทําให้ส่วนลึกภายในใจของ ชูเฟิ ง เกิดความรู ้สึก เสี ยใจ

" ฮ่า!! ฮ่า!! ฮ่า!! ฮ่า!! ฮ๋ า!! "

" นี้ไม่ใช่เจ้า!!! "


อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ชูเฟิ งกําลังสํานึกเสี ยใจ เขาก็เกิดความรู ้สึกที่
สับสน เพราะจู่ๆก็เกิดเรื่ องบางอย่างที่ยากจะยอมรับที่ปรากฏขึ้นมา อยู่
ดีๆหยวนรู่ ว ก็หวั เราะขึ้นมา และท่าทางของนางยังดูผดิ ปกติ แม้แต่เสี ยง
ของนางก็ฟังดูผดิ ปกติราวกับเป็ นคนละคน

เมื่อมองกลับไปที่ หยวนรู่ ว ชูเฟิ งก็พบว่า เกล็ดตามร่ างกายของนางนั้น


เลือนหายไป กลับกลายเป็ น หญิงงามที่มีเสน่ห์ ดัง่ เช่นในอดีต

สัดส่ วนที่โค้งเว้า ผิวที่ขาวเนียน หน้าตาสะสวย ร่ างกายที่แสนจะดึงดูด


ทั้งหมดทั้งมวลล้วนแต่ไม่มีขอ้ ตําหนิ ขณะนั้นนางเปลือยกลายปรากฏ
ร่ างที่สมบูรณ์ ต่อหน้าของ ชูเฟิ ง
แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวของ หยวนรู่ ว ทําให้ชูเฟิ งขมวดคิ้วลง ราว
กับว่าเขาเหมือนจะรับรุ ้อะไรบางอย่าง จากนั้นเขาก็กล่าวออกไปว่า " แก
เป็ นใครกันแน่ ?!!! "
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : มีคนตอบถูกเยอะเลย!!!

C : ก็พวกมืงนั้นแหละทําให้ เขารู ้

B : ไม่แน่หรอกอาจจะมีคนแอบไปส่ องอิ้งมาก็ได้ หากใครไม่อ่าน


แล้วเดาถูกโดยที่ผกู เนื้อเรื่ องของนิยายได้ นับว่าเก่งมากๆ พวกเรายังเดา
กันไม่ถูกเลย
A : จริ งๆอ่ะ แต่ตอนนี้สงสารหยวนรู่ วมากๆ พี่เฟิ งแม่งเอาไม่แบ่งใคร
เลย

C : สารเลวจริ งๆ!!!

A : พี่เฟิ ง ???

C : มึงนั้นแหละ

B : พี่เฟิ งก็สาํ นึกแล้วนะ หากย้อนไปอ่านพวกเราก็คิดว่านางสมควร


โดนแล้ว ไม่ง้ นั ชูเฟิ ง คงต้องเสี ยตัวให้ศิษย์นอ้ งของนาง แล้วโดนจับ
แต่งงานกันไปล่ะ แต่ยงั ไงหยวนรู่ วเองก็รู้สึกผิด นางเลยไม่อยากฆ่าชู
เฟิ ง แต่เป็ นอสู รภายในร่ างที่มนั คอยควบคุมนางต่างหากที่คิดจะฆ่า
A : แล้วจะมีทางรักษาป่ ะ ??

B : มี!!! เด๋ วเดินทางไปยังหุบเขาแห่งสายหมอก เพื่อเข้าร่ วมงาน


บางอย่าง ตอนนั้นแหละชูเฟิ งจะเข้าไปหาบางอย่างมาเพื่อรักษาหยวน
รู่ ว

A : แล้วพี่เฟิ งจะจัดอีกสักดอกไม๊ ??

B : อีก 20 ดอก!!!

C : ไม่ตอ้ งทํามาหากินกันพอดี!!!
บทที่ 631 – น่าสังเวช
“ฮ่าๆ !!”

“ข้าคือใครน่ะรึ !! ข้าก็คือ หยวน รู่ ว !!”

“อย่าบอกนะว่าเจ้าจําข้าไม่ได้ !!” ร่ างกายของ หยวน รู่ ว ทําท่าบิด


ไปมา

“เจ้าไม่ใช่ หยวน รู่ ว !! เจ้าเป็ นใครกันแน่ !?” ชูเฟิ ง เชื่อว่านี่ไม่ใช่


หยวน รู่ ว อย่างแน่นอน อย่างน้อยนํ้าเสี ยงของนางก็ไม่เหมือนกับ
นํ้าเสี ยงของ หยวน รู่ ว ที่เขาเคยได้ยนิ
“ชูเฟิ ง ทําไมเจ้าพูดแบบนั้นล่ะ !! เจ้าจําสิ่ งที่ทาํ กับข้าไว้ใน
อาณาจักรมังกรฟ้าไม่ได้รึ !!” ใบหน้าของ หยวน รู่ ว เต็มไปด้วยความ
ไม่พอใจ แต่แววตาของนางกลับเป็ นประกายระยิบระยับ

“เจ้ารู ้วา่ ข้าคือ ชูเฟิ ง !!” ชูเฟิ ง ตกใจอย่างมาก เพราะในตอนนี้เขา


ได้ปกปิ ดตัวตนที่แท้จริ งของเขาอยู่ แต่คนตรงหน้าของเขากลับรู ้วา่ เขา
เป็ นใคร และรู ้แม้กระทัง่ เรื่ องของเขากับ หยวน รู่ ว

“ฮ่าๆ นี่มนั ก็แค่หน้ากากธรรมดา มันสามารถหลอกมนุษย์ทวั่ ไป


ได้ แต่ไม่อาจหลอกอสู รได้ เพียงข้าเห็นเจ้าในครั้งแรก ข้าก็รู้วา่ นัน่ คือเจ้า
!!” หยวน รู่ ว กล่าว พลางยิม้ หยันออกมา

“เจ้าไม่ใช่ หยวน รู่ ว !! เจ้าเป็ นใครกันแน่ แล้วเหตุใดจึงต้องปลอม


เป็ นนาง !?” ชูเฟิ ง ไม่ใส่ ใจต่อคํากล่าวของนาง เขากลับถามออกมา
อย่างรุ นแรง

“แน่นอนว่าข้าไม่ใช่ หยวน รู่ ว แต่นางก็ได้ถูกข้ายึดร่ างนี้มาเป็ น


เวลานานแล้ว !!”

“และเหตุผลที่ทาํ ไมนางถึงได้ฉลาดขึ้น นัน่ ก็เป็ นเพราะข้า ด้วยพลัง


ของข้า นางจะกลายเป็ นคนที่แข็งแกร่ ง !!”

“เจ้า !! แม้วา่ เจ้าจะเป็ นคนปลดปล่อยข้า แต่เจ้ารู ้ความลับของข้า


มากเกินไป ข้าไม่อาจปล่อยให้เจ้ามีชีวติ ต่อไปได้ ถึง หยวน รู่ ว จะไม่
อยากฆ่าเจ้า แต่นน่ั ไม่ใช่สาํ หรับข้า !!” ขณะที่กล่าวนั้น ใบหน้าของนาง
ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว จิตสังหารถูกปลดปล่อยออกมาอย่าง
รุ นแรงจากร่ างกายของนาง
“ไม่ !!” อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จิตสังหารถูกปลดปล่อยออกมา
นั้น หยวน รู่ ว ก็กมุ ขมับ และตะโกนมาที่ ชูเฟิ ง “หนีไป !!”

“นังคนไร้ประโยชน์ เจ้าสาบานว่าจะฆ่าเขาไม่ใช่รึ !! ตอนนี้เขามา


อยูต่ ่อหน้าของเจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่ฆ่าเขา ทั้งยังไปอภัยให้ส่ิ งที่เขาทํา
ไว้อีก !!” เสี ยงที่เด่นชัดดังขึ้นมาอีกครั้ง

“หุบปาก !! เขาไม่ใช่คนที่ทาํ ให้ขา้ ต้องอยูใ่ นสภาพเช่นนี้ !! ข้าจะ


ไม่ยอมให้เจ้าใช้ร่างกายของข้าฆ่าผูใ้ ดอีกเด็ดขาด !! ข้าจะฆ่าเจ้า !!”

“ฆ่าข้ารึ !! เจ้าฆ่าข้า ก็เท่ากับฆ่าตัวตาย !! เพียงเพราะมนุษย์ที่ต่าํ ช้า


เช่นนี้ เจ้าคิดจะฆ่าตัวตายเลยรึ !!”
“เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าฆ่าผูใ้ ดอีก ข้ายินดีที่จะดับชีวติ ตัวเอง !!”

“หึ หึ เจ้ามันใจดีเกินไป แต่น่าเศร้า ร่ างกายนี้ไม่ใช่ของเจ้าอีกต่อไป


ข้าจะใช้มนั เพื่อฆ่าคนที่ทาํ ให้เจ้าต้องแปดเปื้ อน !!”

ทันใดนั้น เสี ยงจริ งของ หยวน รู่ ว ก็ถูกยับยั้งเอาไว้ สายตาที่เย็นชา


และเต็มไปด้วยจิตสังหาร ก็กลับมาจ้องมองที่ ชูเฟิ ง “เจ้าสารเลว เจ้ามี
เสน่ห์ไม่เลว ถึงทําให้นงั โง่นี่กล้าที่จะต่อต้านข้า !!”

“เจ้าเป็ นใคร !? เจ้าทําอะไรกับ หยวน รู่ ว !?” ชูเฟิ ง ไม่ใช่คนโง่


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาสามารถรับรู ้บางอย่างได้
หน้าตาของนางคือ หยวน รู่ ว ไม่ผดิ แน่นอน แต่ดูเหมือนว่าร่ างกาย
ของนางจะถูกครอบครองด้วยบางอย่างที่แข็งแกร่ ง และสามารถทําให้
ร่ างต้นแข็งแกร่ งขึ้นได้ อีกทั้งยังสามารถทําให้ หยวน รู่ ว เปลี่ยนไปได้

“มันไม่สาํ คัญว่าข้าทําอะไรกับ หยวน รู่ ว เพราะว่าพวกเราอยู่


ด้วยกัน ตายด้วยกัน ข้าคือนาง และนางคือข้า”

“แต่เจ้าไม่ตอ้ งกังวลไป เพราะการมีตวั ตนของข้า ทําให้นาง


แข็งแกร่ งขึ้น และจะกลายเป็ นบุคคลที่โดดเด่นเหนือผูใ้ ดในโลกใบนี้ !!”

“แต่สิ่งที่เจ้าควรจะกังวลคือตัวเจ้า และสาวน้อยข้างกายเจ้า พวกเจ้า


จะต้องตาย และพลังของพวกเจ้าจะถูกข้าดูดซับ !!” แววตาของ หยวน
รู่ ว เปลี่ยนเป็ นสี แดงฉาน จิตสังหารแผ่กระจายออกมาอย่างรุ นแรง
ในขณะที่นางกล่าว นางก็พมุ่ โจมตีเข้าใส่ ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว

***** พรึ่ บ *****

ในเวลานั้น ประกายแสงจางๆ ก็เปล่งออกมาจากท้องของ หยาน รู่ วหยู ชู


เฟิ ง สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันคือสัญลักษณ์บางอย่าง
ั ลักษณ์น้ นั ปรากฏขึ้นมา หยาน รู่ วหยู ก็
“อ๊าาาาาาาาา !!” ทันทีที่สญ
กรี ดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

พร้อมกันนั้น ร่ างกายของ หยวน รู่ ว ก็เปลี่ยนแปลงไป เกล็ดสี ฟ้า


ค่อยๆ ปรากฏออกมา และเข้าปกคลุมผิวหนังที่ขาวราวหิ มะของนาง
อย่างรวดเร็ ว อีกทั้งช่องว่างระหว่างเกล็ดที่มีอยูก่ ม็ ีขนแซมขึ้น
พริ บตาเดียวนั้น นางก็กลับไปมีร่างกายเป็ นอสู รดังเช่นในอดีตที่ผา่ นมา
***** ตูมมมมมม *****

เสี ยงระเบิดดังขึ้น รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่ ชูเฟิ ง วางเอาไว้


พลันแตกสลายในทันที แรงระเบิดเข้าปกคลุม ชูเฟิ ง , เสี่ ยวยู่ และอสู ร
อย่างรวดเร็ ว
“นัน่ …เจ้า !!” เมื่อ ชูเฟิ ง เงยหน้าขึ้นและมองออกไปนั้น เขาก็
หวาดผวาอย่างมาก เพราะเขาเห็นได้อย่างชัดเจนถึงบุคคลที่ยนื อยูบ่ นผิว
ของนํ้าทะเล นัน่ ก็คือ หย่า เฟย

“ฮึ่ม !! เจ้าคิดเหรอว่าจะหนีพน้ มือข้าไปได้ !!” ในขณะนั้น หย่า


เฟย กําดาบยาวในมือแน่น กระโปรงสี ชมพูของนางสะบัดไหวแม้ไม่มี
กระแสลม นางไม่ได้ปิดบังจิตสังหารที่รุนแรงเลยแม้แต่นอ้ ย
“ข้าไม่คิดเลยว่าทักษะของนางจะแข็งแกร่ งถึงขนาดนี้ นางสามารถ
ทิ้งสัญลักษณ์ไว้นางร่ างกายของ หยวน รู่ ว ได้ !!” ในทันทีน้ นั ชูเฟิ ง ก็
สามารถมองออกมาว่าเกิดอะไรขึ้น นี่เป็ นเพราะ หย่า เฟย ได้ทิ้ง
สัญลักษณ์ไว้ในร่ างกายของ หยวน รู่ ว นางจึงสามารถติดตามพวกเขามา
ได้ทนั

“โอ้ววววววววว !!” หลังจากมีสภาพร่ างกายกลับไปเป็ นอสู รนั้น


หยวน รู่ ว ก็ไม่สามารถพูดออกมาเป็ นคําพูดได้อีก หลังจากที่คาํ ราม
ออกมานั้น นางก็เตรี ยมที่หนีออกไป
“เสี่ ยวยู่ เลทโก!!” ในขณะเดียวกันนั้น ชูเฟิ ง ก็คว้าไปที่ขอ้ มือของ
เสี่ ยวยู่ และเตรี ยมที่จะหนีเช่นกัน

“พวกเจ้าคิดจะหนีรึ !! ข้าได้เตรี ยมการมาแล้ว พวกเจ้าไม่มีทางหนี


ข้าไปได้ !!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น หย่า เฟย วาดฝ่ ามือของนางอย่างรวดเร็ ว นางกล่าว
ออกมาอย่างเยือกเย็น “ผนึก !!”

พลันสัญลักษณ์ต่างๆ ก็ปรากฏออกมา ผนึกโปร่ งใสเข้าสกัดกั้น


กลายเป็ นกรงขัง ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ เอาไว้ภายในอย่างรวดเร็ ว

“อึก !! ก่อนที่นางจะมา นางได้แอบมาวางรู ปแบบฯเอาไว้ก่อนแล้ว


!!” ชูเฟิ ง ตะโกนขึ้นในใจ
ในขณะนั้น อสู ร ที่มีความแข็งแกร่ งอย่างมาก แต่ในตอนนี้หลังจาก
ผ่านการต่อสู ม้ า และมันยังไม่ได้รับการพักฟื้ นนั้น มันจึงไม่อาจทําลาย
รู ปแบบนี้ได้

ส่ วนเสี่ ยวยูน่ ้ นั แม้วา่ พลังพิเศษของนางจะแข็งแกร่ งมาก แต่ดว้ ย


รู ปแบบนี้เพียงแค่ขงั พวกเขาเอาไว้ โดยที่ไม่ได้ทาํ อันตรายต่อนาง พลัง
พิเศษของนางจึงไม่อาจแสดงผลออกมาได้
***** ซู่ววววววววว *****

ในขณะเดียวกันนั้น รู ปแบบนั้นก็หดตัวเล็กลงเรื่ อยๆ จนเหลือพื้นที่


แค่เพียงให้ท้ งั สามคนอยูไ่ ด้ ทั้งสามคนถูกขังอยูต่ รงหน้าของ หย่า เฟย
เมื่อกรงนี้ถูกสร้างขึ้นนั้น ด้วยความที่ หย่า เฟย ได้แอบมาวาง
รู ปแบบเอาไว้ก่อนนั้น มันจึงแข็งแกร่ งอย่างมาก อย่างน้อย ชูเฟิ ง และ
คนอื่นๆ ก็ไม่สามารถทําลายมันได้

ในเวลาเดียวกันนั้น หย่า เฟย ก็ยมิ้ และกล่าวออกมาในขณะที่มอง


ทั้งสามคนถูกขังอยูใ่ นกรง “พวกเจ้าทั้งสามจะต้องตายอย่างน่าสังเวช
ที่สุด"
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : แม่นางโรคจิตคนนี้ ฝี มือไม่เลวแหะ

B : เชื่อป่ ะว่าคนที่พวกเราคาดไม่ถึงจะออกมา

A : หรื อว่า ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้!!!

B : ฮวางฟู่ โผล่มาก็สบายดากพี่เฟิ งล่ะ ขนาดอาจารย์พเี่ ฟิ ง ยังเอาชนะ


ไม่ได้เลย ถ้าเป็ นคนในระดับบรรพชนของหมู่เกาะประหารโผล่มา ก็ไม่
แน่
A : นั้นดิจะให้ หย่า เฟย ตายไปทั้งๆที่ยงั บริ สุทธิ์อยู่ เสี ยดายแย่

C : สมอง มีแต่เรื่ องแบบนี้แหละพวกมืง!!!

B : เราแค่แสดงความคิดเห็น และเราก็เชื่อว่าคนหมู่มาก โดยเฉพาะ


บุรุษทั้งหลายก็คิดเช่นเดียวเหมือนกับไอ A ส่ วนเรื่ องใครจะออกมา
ช่วยก็ยงั ไม่แน่ เพราะพลังของเสี่ ยวยู่ ก็เพียงพอที่จะพาพวกเขาให้หนี
รอดไปได้
บทที่ 632 – ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน

“แม่นาง เจ้าต้องการฆ่าอสู ร เหตุใดเจ้าต้องลากผูอ้ ื่นมาเกี่ยวข้อง


ด้วยเล่า !!”

“โดยเฉพาะอย่างยิง่ สาวน้อยผูน้ ้ นั ดูเหมือนว่านางจะอายุเพียงไม่


เท่าไหร่ เจ้าจะฆ่านางด้วยเช่นนั้นรึ !!”

“หากเจ้าทําเช่นนั้น เจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับปิ ศาจ และยิง่ เจ้าเป็ นคน


ของหมู่เกาะประหาร เจ้าไม่รู้สึกละอายใจบ้างรึ !!”

ในขณะที่ หย่า เฟย กําลังจะจัดการกับทุกคนนั้น ก็มีเสี ยงหนึ่งดัง


ขึ้นมา มันเป็ นเสี ยงที่ทาํ ให้ทุกหัวใจต้องสัน่ ไหว

หลังจากได้ยนิ เสี ยงนั้น ใบหน้าของ ชูเฟิ ง และคนอื่น ก็


เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว พวกเขาพยายามมองไปรอบๆ เพราะพวก
เขารู ้ดีวา่ บุคคลที่มานั้น ย่อมไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน
“เจ้าเป็ นใคร !? อย่ามาทําลับๆ ล่อๆ………..เจ้าจะทํา
อย่างไรกับปิ ศาจตนนี้ !?” หย่า เฟย กล่าวพร้อมกับมองออกไปรอบๆ
แต่นางก็ไม่สามารถพบกับต้นเสี ยงนั้นได้

“อย่าได้ถามข้าว่าทําเช่นไร !! จงรี บปล่อยพวกเขาไปซะ !!” เสี ยง


นั้นกล่าวออกมาอีกครั้ง จากนํ้าเสี ยงนั้นสามารถบอกได้วา่ เขากําลังดูถูก
หย่า เฟย อย่างมาก

“ฮึ่ม ถ้าเจ้าต้องการที่จะช่วยอสู รร้าย ก็จงเผยตัวออกมา อย่าได้


ปิ ดบังตัวตนของเจ้า จงออกมาแสดงความแข็งแกร่ งของเจ้าซะ ไม่ใช่มา
พูดกับข้าเช่นนี้ !!”

แม้วา่ หยา เฟย จะกล่าวออกมาเช่นนี้ แต่ความจริ งนั้น นางกําลัง


หวาดกลัวอย่างเห็นได้ชดั นางสร้างรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณขึ้นมา
ละทะยานขึ้นไปในท้องฟ้า

***** ปึ้ ก !! *****

“อ๊าาา !!”

อย่างไรก็ตาม เมื่อนางทะยานขึ้นไปได้ไม่มากนั้น นางก็ชนเข้ากับ


กําแพงโปร่ งใส่ จนตกลงมา พร้อมทั้งกระอักเลือดออกมากองหนึ่ง

ในขณะเดียวกันนั้น ประกายแสงสี ทองก็แผ่กระจายออกมาทัว่


บริ เวณ แม้จะเป็ นเพียงแค่ประกายสี ทองนั้น แต่มนั ก็ชดั เจนแล้วว่า สิ่ งที่
ปิ ดกั้น หยา เฟย คือรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ทองอย่างแน่นอน
“บ้าเอ๊ย !! เจ้าเป็ นใคร !? เหตุใดไม่เผยตัวออกมาให้ขา้ ได้รู้วา่ ผูใ้ ด
เข้ามาปกป้องอสู รตนนี้กนั !!” หย่า เฟย ตกตะลึงอย่างมาก เพราะผู ้
เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสี ทองนั้น ไม่ใช่วา่ ผูใ้ ดก็สามารถ
เข้าถึงได้ อย่างน้อยจะต้องเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับเก้า อาณาจักรจ้าว
สงคราม จึงจะสามารถทําได้

และในตอนนี้ ผูท้ ี่เข้ามาขัดขวางคือ ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับ


ชุดคลุมสี ทอง หย่า เฟย ตระหนักดีวา่ สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ค่อยดีแน่
ด้วยความแข็งแกร่ งของนาง ย่อมไม่สามารถที่จะจัดการกับ ชูเฟิ ง และ
คนอื่นๆ ได้ในตอนนี้

สถานการณ์เช่นนี้มนั ทําให้นางอับอายอย่างมาก ดังนั้นนางจึง


ต้องการรู ้ตวั ตนของคนที่ขดั ขวางนาง เพื่อในอนาคตนางจะได้ตามไปแก้
แค้นได้

“แม่นางน้อย หากเจ้าต้องการที่จะรู ้วา่ ข้าคือใคร ข้าจะให้เจ้าได้สม


ดังปราถนา !!” เสี ยงนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้มนั ดังออกมาจาก
ด้านข้างของ ชูเฟิ ง

***** พรึ่ บ *****

ในขณะที่เสี ยงนี้ดงั ขึ้นนั้น กรงที่ขงั ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ ก็สลายไป


พร้อมกับมีคนปรากฏตัวออกมาสองคน

เมื่อ ชูเฟิ ง หันไปมองทั้งสองคนนั้น เขาก็ตอ้ งตกใจอย่างมาก คน


หนึ่งนั้นมีหน้าตางดงาม และค่อนข้างอ่อนโยน ชูเฟิ ง รู ้จกั กับนาง นาง
คือ เจียง ว่านชือ จากผาคนรัก

ส่ วนอีกคนที่ยนื อยูถ่ ดั จากนางนั้น นางสวมกระโปรงสี ขาวนวล แต่


ยังสามารถมองเห็นรู ปร่ างได้อย่างชัดเจน รู ปร่ างของนางไม่ได้ดอ้ ยไป
กว่า หยวน รู่ ว หรื อ หย่า เฟย แม้แต่นอ้ ย

ที่ใบหน้าของนางมีผา้ บางๆปิ ดบังอยู่ สามารถมองเห็นได้เพียงแค่


ดวงตาทั้งคู่เท่านั้น

แม้วา่ ใบหน้าของนางจะถูกปกปิ ดอยูน่ ้ นั ก็สามารถเห็นได้ชดั ว่า


นางมีความงดงามอย่างมาก แม้แต่ เจียง ว่านชือ ที่โดดเด่น เมื่อมายืน
ข้างๆ นางยังถูกบดบังจากความสง่างามของนาง
มันไม่ใช่เพราะความงดงาม ด้วยผ้าบางๆ ที่ปิดบังใบหน้าของนาง
อยูน่ ้ นั จึงไม่อาจตรวจสอบได้วา่ ความงดงามของนางจะมากกว่า เจียง
ว่านชือ หรื อไม่

แต่เป็ นเพราะออร่ าที่เปล่งออกมาจากร่ างกายของนาง มันโดดเด่น


เหนือกว่าผูอ้ ื่นอย่างมาก แม้แต่ หย่า เฟย ที่มีผวิ พรรณที่งดงาม แต่กไ็ ม่
อาจเทียบกับออร่ าที่เปล่งออกมาจากนางผูน้ ้ ีได้

ด้วยลักษณะ และออร่ าที่โดดเด่น อีกทั้งความสามารถที่แข็งแกร่ ง


นางยังปรากฏตัวออกมาพร้อมกับ เจียง ว่านชือ และดูเหมือนว่า เจียง
ว่านชื่อ จะให้ความเคารพต่อนางไม่นอ้ ย ชูเฟิ ง จึงรับรู ้ได้ทนั ที ว่าแม่นาง
ผูน้ ้ ีคือ ธิดาพรมจรรย์ของวิหารศักดิ์สิทธิ์เพลิงพลาญสวรรค์ สาวงามแห่ง
เขตทะเลตะวันออก ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน
“เจ้าเป็ นใคร !! เจ้ากล้าที่ปลดผ้าคลุม แล้วเปิ ดเผยใบหน้าออกมา
หรื อไม่ !!” ชูเฟิ ง รู ้ดีวา่ นางคือ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน แต่ หย่า เฟย ด้วยความ
หยิง่ ผยองของนาง นางกลับชี้ไปที่ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน แบะกล่าวถามออกมา
เสี ยงดัง

“หุบปาก !! เจ้าคิดว่าเจ้าเป็ นใคร ถึงได้กล้ากล่าวกับท่านอาจารย์ขา้


เช่นนี้ !!” ในขณะนั้น เจียง ว่านชือ ไม่สามารถทนต่อการกระทําที่
ก้าวร้าวของ หย่า เฟย ได้อีก นางจึงตะโกนกลับไปด้วยความเกรี้ ยวกราด

“หึ !! เป็ นเพียงแค่ผเู ้ ชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์ เจ้ามีค่าพอที่จะกล่าว


กับข้าเช่นนั้นรึ !!” หย่า เฟย โกรธอย่างมาก นางทะยานออกมาเพื่อที่จะ
โจมตีใส่ เจียง ว่านชื่อ
“อ๊าาา !!” แต่ก่อนที่นางจะได้โจมตีน้ นั ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ขมวดคิ้ว
เล็กน้อย พลันอํานาจพลังวิญญาณสี ทองก็แผ่กระจายออกมา และ
กระแทกเข้าใส่ หย่า เฟย ที่ลอยอยูใ่ นอากาศจนกระเด็นกลับไป

“บ้าเอ๊ย !! เจ้ากล้าโจมตีใส่ ขา้ !! เจ้ารู ้หรื อไม่ ว่าข้าเป็ นใคร !!” หย่า
เฟย รู ้สึกไม่พอใจอย่างมาก นางไม่อาจยอมรับสถานการณ์ในปั จจุบนั
ของนางได้

“โฮะ !!” ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ยิม้ บางๆ และกล่าวกับ หยา เฟย ว่า “
หย่า เฟย คู่หมั้นของประมุขน้อยแห่งหมู่เกาะประหาร มู่หรง ซุน พ่อแม่
ของเจ้ามีตาํ แหน่งที่ค่อนข้างดีในหมู่เกาะประหาร และปู่ ของเจ้า หย่า ซ่ง
หยุน ก็ไม่ธรรมดา เป็ นถึงผูน้ าํ ของเก้า นิรันด์ ในหมู่เกาะประหาร ข้าพูด
ถูกไหม !!”
“หื ม…..เจ้ารู ้เช่นนี้แล้วยังกล้าทําเช่นนี้อีกรึ !! เจ้าไม่กลัวท่านปู่
ของข้า และหมู่เกาะประหารเช่นนั้นรึ !!” หยา เฟย กล่าว

“กลัว !? เจ้าคิดว่าหมู่เกาะประหารของเจ้าแข็งแกร่ งที่สุดเช่นนั้นรึ


!!” ในขณะที่ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน กล่าวออกมานั้น แววตาของนางก็
เปลี่ยนเป็ นเย็นชาอย่างรวดเร็ ว

“อ๊า !!” เมื่อเห็นแววตานั้น ใบหน้าของ หย่า เฟย ก็เปลี่ยนแปลงไป


อย่างมาก นางสามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงภายใต้แววตานั้น
อย่างชัดเจน

“จําไว้ให้ดี ข้าคือ เต๋ า ฉิวซุ่น แห่งผาคนรัก ข้าจะพาทั้งสามคนไป


หากเจ้าไม่พอใจ เจ้าสามารถไปพบข้าได้ทุกเมื่อ !!”
“ไม่วา่ จะเป็ นปู่ เจ้า หรื อหมู่เกาะประหารของเจ้า หากต้องการที่จะ
แก้แค้นข้า ให้ไปที่ผาคนรักเพื่อพบข้าได้ !!”

“แต่ในตอนนี้ ก่อนที่ขา้ จะเปลี่ยนใจ เจ้าจงรี บไสหัวไปซะ !!” ฉิว


ซุ่ย ฟู่ หยาน กล่าวด้วยความเย็นชา

“เจ้า……… !!” หย่า เฟย ไม่พอใจอย่างมาก แต่เมื่อนางนึกถึง


แววตาที่เย็นชา และความที่ไม่เห็นหมู่เกาะประหารอยูใ่ นสายตาของ ฉิ ว
ซุ่ย ฟู่ หยาน นั้น นางจึงหันกลับ และก้าวออกไปอย่างรวดเร็ ว เพื่อ
กลับไปยังทะเลโลหิ ตนิรันดร์

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : แบ็คคนที่สองของพี่เฟิ ง ในทะเลตะวันออกโผล่มาแล้ว

C : แล้วคนแรกอ่ะ

B : อาวุโสแห่งสํานักสี่ คาบสมุทร ปรมาจารย์สวรรค์ ท่าน ไต้ก๋ ู

A : ไต้ก๋ เู ก่งขนาดเป็ นแบ็คพี่เฟิ งได้เลยหรอ ตอนแรกนึกว่าจารย์พี่เฟิ ง


คนแรกซะอีก

B : ไต้ก๋ ู อย่างน้อยๆก็เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญในอาณาจักร ราชันย์สงคราม


แบ็คพี่เฟิ งจริ งๆเยอะมาก ไม่เคยปรากฏตัวออกมาพร้อมกัน แต่เมื่อ
รวมตัวกันเมื่อไหร่ ต่อให้โครตพ่อโครตแม่หมู่เกาะประหารมารวมกัน ก็
ไม่มีปัญญาเอาชนะได้ เป็ นไงสุ ดยอดไม๊ล่ะ ?

A : สุ ดยอดหว้าา!!!
บทที่ 633 - สะกดอสู ร
“ข้าน้อย หวูฉ่ ิง คาระวะผูอ้ าวุโส ฉิ วซุ่ย!” หลังจากที่ หย่าเฟย จาก
ไป ชูเฟิ งรี บหันกลับมาทําความเคารพ ฉิ วซุ่ย ฟู่ เหยียน

“ข้ารู ้วา่ เจ้ามีบางสิ่ งจะกล่าว แต่ตอนนี้...ข้าต้องการต้องการดูแลอสู ร


นี่ก่อน มันไม่สายเกินถ้าจะกล่าวคําพูดเหล่านั้นภายหลัง” ฉิ วชุ่ย ฟู่ เห
ยียน โบกมือของนางเพื่อบอกให้ ชูเฟิ ง และ เสี่ ยวยู่ อยูห่ ่างๆจาก หยวน
รู่ ว

“ คับ!!! ” เมื่อเห็นดังนั้น ชูเฟิ งไม่กล้ารอช้าเพราะเขารู ้วา่ ฉิ วชุ่ย ฟู่


เหยียน ต้องการจะช่วย หยวน รู่ ว โดยทันที..ชูเฟิ งพาเสี่ ยวยูถ่ อยออกมา
อยูด่ า้ นข้าง

“เจ้าอสู รชัว่ ! เจ้ากล้ากระทําการน่ารังเกียจโดยใช้ร่างกายของมนุษย์


และล่าการบ่มเพาะของพวกเขา? วันนี้..ข้าจะพิพากษาเจ้า.” ฉิ วซุ่ย ฟู่ เห
ยียน กางแขนทั้งสองข้างออกพร้อมทั้งขยับแขนอย่างรวดเร็ วเพื่อใช้
ทักษะ นางรวดเร็ วเป็ นอย่างมาก ชูเฟิ งไม่สามารถมองตามความ
เคลื่อนไหวของนางได้ชดั เจนนัก เขาเห็นเพียงแสงลางๆนับไม่ถว้ นโบก
สะบัดไปมา ทักษะมือของนางลึกซึ้งยากหยัง่ ถึง

* วู~~~~ *

เมื่อตกอยูใ่ นสถานะการณ์ที่เสี ยเปรี ยบ หยวน รู่ ว เริ่ มวิง่ ไปรอบๆทัว่ ทุก


พื้นที่ แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์ เมื่อรู ปแบบวิญญาณที่ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน กางไว้
แข็งแกร่ งเป็ นอย่างมาก ไม่มีโอกาสให้นางหลบหนี นางร้องออกมาด้วย
ความเจ็บปวดอย่างไม่สิ้นสุ ด ตอนนี้ นางทําได้เพียงทนกับความเจ็บปวด
ที่เกิดจากรู ปแบบวิญญาณที่ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน วางไว้
“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง ข้าต้องขอโทษจริ งๆที่ทาํ ให้เจ้าเดือดร้อน แต่มนั
เป็ นเจตนาของอาจรย์ขา้ ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถขัดได้” ในตอนนั้น เจียง
ว่านชือ เดินมาข้างๆชูเฟิ ง

“ศิษย์พี่ เจียง เกิดอะไรขึ้นหรื อ?” ชูเฟิ งถามอย่างงุนงง เขาสับสน


เล็กน้อย

“โฮ้...คือว่านะ จริ งๆแล้ว ตอนที่ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ งมาถึงผาคนรัก และ


ถามถึงอาจารย์ของข้า ตอนนั้นท่านอาจารย์อยูท่ ี่นี่ ”

“แต่อาจารย์ของข้าไม่ตอ้ งการพบศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ ง และที่สาํ คัญ


อาจารย์บอกกับข้าอย่างลับๆ เพื่อให้ขา้ บอกเจ้าว่าท่านไม่ได้อยูท่ ี่นี่ ท่าน
ไปที่ทะเลโลหิ ตนิรันดร์เพือ่ จับอสู ร”
“หลังจากศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิงจากไปไม่นาน อาจารย์กพ็ าข้ามายัง
สถานที่แห่งนี้ และแอบปกป้องเจ้าอย่างลับๆ ท่านอาจารย์และข้าอยูท่ ี่นี่
ตอนที่เจ้าถูกอสู รจับตัวไป ตอนแรกท่านต้องการไปช่วยเจ้าและกําจัด
อสู รไปพร้อมๆกัน ”

“แต่ท่านคิดไม่ถึงว่าอสู รตั้วนั้นจะไม่ฆ่าเจ้า หวูฉ่ ิ ง เมื่อเห็นเช่นนั้น


แล้วมันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น ท่านเองก็ไม่ได้แสดงตัวออกมา
จนกระทัง่ ถึงวันที่หย่าเฟยต้องการจะฆ่าเจ้า ท่านอาจารย์ถึงจงใจปรากฏ
ตัวออกมา” เจียง ว่านชือ อธิบาย

“เรื่ องมันก็เป็ นเช่นแหละ” ขณะนั้น ชูเฟิ งทําอะไรไม่ถูก เขารู ้วา่


ฉิวซุ่ย ฟู่ เหยียน ไม่เชื่อเขาและจงใจสังเกตุเขา อาจจะเป็ นไปได้วา่ ฉิ วซุ่ย
ฟู่ เหยียน ในตอนนั้นรู ้วา่ ชูเฟิ งสวมหน้ากากมายา เพื่อปิ ดบังใบหน้าที่
แท้จริ งของเขา นอกจากนี้ยงั รู ้วา่ จริ งๆแล้วเขาคือชูเฟิ ง
แต่สิ่งที่ทาํ ให้ชูเฟิ งทําตัวไม่ถูกมากที่สุดคือ เขาไม่สามารถตรวจพอ
ร่ องรอยของ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ได้เลย หากเขาจะตําหนิ เขาเพียงตําหนิ
ตนเองที่ไม่แข็งแกร่ งพอ ต่อหน้าพลังของผูเ้ ชี่ยวชาญ เขาเป็ นเพียงตัวตน
ที่เล็กจ้อย

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง อาจารย์ของข้ามีเจตนาดี ดังนั้นข้าหวังว่าเจ้าจะไม่


ถือสา” เจียง วานชือ แนะนําด้วยรอยยิม้ ราวกับนางทราบความคิดของชู
เฟิ ง ขณะที่นางพูดนางเหลือบมองไปที่เสี่ ยวยูท่ ี่อยูใ่ นอ้อมกอดของชูเฟิ ง
หลังจากเห็นเสี่ ยวผูน้ ่ารัก นางช่วยไม่ได้ที่เหยียดมือออกไปแตะใบหน้า
ที่งดงามของสาวน้อย “สาวน้อยผูน้ ้ ีน่ารักยิง่ นัก ในอนาคต นางจะเติบ
ใหญ่เป็ นสุ ดยอดสาวงามอย่างแน่นอน”

“ถุย้ !” อย่างไรก็ตามก่อนที่ เจียง ว่านชือ จะสัมผัสเสี่ ยวยู่ สาวน้อย


หลบทันทีพร้อมกับอ้าปากถ่มนํ้าลายไปยัง เจียง ว่านชือ ถ้านางมี
ปฏิกิริยาโต้ตอบเชื่องช้า นํ้าลายของเสี่ ยวยูค่ งจะโดนหน้าของนาง

“เสี่ ยวยูอ่ ย่าหยาบคายสิ !” เมื่อเห็นเช่น ชูเฟิ งตกใจอย่างมาก เขาไม่


คิดเลยว่าเสี่ ยวยูจ่ ะหยาบคายกับผูอ้ ื่น

“ฮึ่ม..” เสี่ ยวยูไ่ ม่เห็นด้วยกับคําตําหนิของชูเฟิ ง นางหันหน้าหนี


พร้อมกับบุย้ ปาก ท่าทางน่ารักน่าชังที่แสดงออกมาของนางทําให้ชูเฟิ ง
ทําอะไรไม่ถูก

“โฮ่..เด็กสาวผูน้ ้ ีช่างน่ารักน่าชัง” แต่สิ่งที่ทาํ ให้ชูเฟิ งประหลาดใจ


คือสี หน้าของเสี่ ยวยูก่ ่อนหน้านี้ ไม่เพียง เจียง ว่านชือ จะไม่โกรธ นาง
ปิ ดปากพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ความชื่นชอบของนางต่อเสี่ ยวยูน่ ้ นั ดู
เหมือนจะเพิ่มมากขึ้น
* ตูม ตูม ตูม * แต่ในขณะนั้น เสี ยงระเบิดดังมากจากรู ปแบบวิญญาณที่
ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน กางไว้

เมื่อมองไปยังต้นเสี ยง ชูเฟิ งและ.เจียง ว่านชือ ต้องอ้างปากค้าง ทันใด


นั้น รู ปแบบดังกล่าวเต็มไปด้วยโซ่รูปแบบวิญญาณสี ทอง โซ่เหล่านั้น
มัด หยวน รู่ ว อย่างแน่หนา

แต่ หยวน รู่ วยังคงต่อต้านรู ปแบบวิญญาณที่ทรงพลังนัน่ ชูเฟิ งและคน


อื่นๆสามารถเห็นชั้นพลังที่ต่อต้านโซ่ทองชั้นแล้วชั้นเล่าอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม นัน่ ยังไม่นบั เป็ นอันใด ที่สาํ คัญที่สุดคือ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ที่
ทรงพลังยังแสดงออกถึงความเครี ยด แม้วา่ มือของนางจะสัน่ เล็กน้อย แต่
หน้าผากของนางเต็มไปด้วยเหงื่อขนาดเท่าลูกปั ด ราวกับนางกําลังอด
กลั้นกับแรงกดดันบางอย่าง

“รู ปแบบทักษะ สะกดหมื่นอสู ร ผนึก!” ทันใดนั้น นางตะโกน


เบาๆ มือของ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน เปลี่ยนจากรู ปแบบปกติเป็ นร่ ายทักษะ
รู ปแบบสี ทองมหึ มาเริ่ มจากผันผวน กลับหดตัวลง กลายเป็ นกรงขนาด
เล็ก ท้ายที่สุดกรงขนาดเล็กกลายเป็ นรู ปร่ างคล้ายโลงศพ พร้อมกักขัง
หยวนรู่ ว ไว้ภายใน

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า มนุษย์โง่เง่า เจ้าไม่สามารถขับไล่ขา้ ได้! พวกเรา


รวมเป็ นหนึ่งเดียว พวกเจ้าไม่มีทางเลือก ฆ่าข้าก็เท่ากับฆ่านาง ฮ่าฮ่าฮ่า
ฮ่าฮ่า” เสี ยงตะโกนที่เฉียบคมและบ้าคลัง่ ดังมาจากโรงศพ มันมาจาก
อสู รที่อยูใ่ นกาย หยวนรู่ ว
* วูช วูช วูช *

อย่างไรก็ตาม ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ไม่ได้สนใจเสี ยงตะโกนของอสู ร นางวาด


บางอย่างในอากาศด้วยมือข้างเดียว จากนั้นสัญลักษณ์สีทองก็ได้ก่อตัว
ขึ้น

หลังจากสัญลักษณ์สีทองลอยไปอยูเ่ หนือโลงศพ จากที่มนั กําลังสัน่ เทา


พลันสงบลง เสี ยงตะโกนของอสู รหายไปในที่สุด

“หวูฉ่ ิงขอบคุณผูอ้ าวุโสที่ช่วยเหลือ!” เมื่อเห็นดังนั้น ชูเฟิ งรี บพุง่


ไปข้างหน้า ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน พร้อมกับแสดงความเคารพ
“หวูฉ่ ิง? ไม่ใช่เจ้าชื่อชูเฟิ งหรอกรึ ?” อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยนิ คํา
ของชูเฟิ ง ร่ องรอยความไม่พอไปพาดผ่านบนหน้า ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน พร้อม
ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ชูเฟิ งไม่สามารถทําอะไรได้ในสถานะการณ์เช่นนี้ เมื่อคิดดูดีๆแล้ว บท


สนทนาก่อนหน้านี้ระหว่าง หยวนรู่ วกับเขาคงถูก ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ได้ยนิ
เข้า

แต่สิ่งนั้นย่อมเกิดขึ้นแล้ว ชูเฟิ งไม่สามารถทําอะไรได้ เขาเพียงกล่าวด้วย


ใบหน้าสํานึกผิด “ผูน้ อ้ ยไม่ได้ต้ งั ใจจะปิ ดบัง แต่เป็ นคําสัง่ ของท่าน
อาจารย์ ข้าชูเฟิ งไม่กล้าทรยศท่าน ข้าทําได้เพียงก้าวเข้ามาในภูมิภาค
ทะเลตะวันออกด้วยชื่อปลอมเท่านั้น”
"เจ้าเชื่อฟังอาจารย์เจ้ามากขนาดนั้นเชียว ?!! "

“ฮึ่ม..จ้าวต้องการอะไรจากข้า? หรื อนี่เป็ นคําสัง่ ของอาจารย์เจ้า


อีก” ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน จ้องเขม็งมากที่ชูเฟิ งอีกครั้ง ความริ ษยาปรากฏใน
คําพูดของนางอย่างชัดเจนแต่ยงั มีความสงสัยอยูเ่ ล็กน้อย

“อึก...” ขณะที่เผชิญกับคํากล่าวของ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ชูเฟิ งทําได้


เพียงแค่เงียบและไม่รู้วา่ จะตอบสนองอย่างไร

“เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องขอบคุณข้า อสู รที่อยูใ่ นร่ างกายสหายของเจ้านั้น


ไม่ธรรมดา เพื่อที่จะฆ่ามัน เราจะต้องเอามันออกจากร่ างกายนางมา
เสี ยก่อน”
“แต่มนั ได้รวมเป็ นหนึ่งกับสหายของเจ้าแล้วก่อนหน้านี้ ด้วย
ความแข็งแกร่ งของข้าตอนนี้ มันไม่ง่ายที่จะบังคับให้มนั ออกมาจากร่ าง
สหายเจ้า ฉะนั้นตอนนี้ขา้ ทําได้เพียงผนึกมันไว้ชว่ั คราวเท่านั้น”

“ผูอ้ าวุโส ฉิวซุ่ย สหายข้าจะปลอดภัยหรื อไม่?” ชูเฟิ งถามด้วย


ความเป็ นห่วง…...
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////

A : อั้ยหยาา!!! ชูเฟิ งมืงไปไม่เป็ นแล้วล่ะดิ!!!

B : ที่นางเป็ นแบบนั้น เพราะได้ยนิ ว่าชูเฟิ งเป็ นศิษย์ของฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้


ที่เคยเป็ นคนรักของนาง นางคงคิดอ่ะว่าทําไมเขาถึงไม่มาพบด้วยตัวเอง
ที่ไหนได้ ชูเฟิ ง แม่งแต่งเรื่ อง
A : งี้ไม่โดนนางถีบหรอกหรอ!!!

B : ไม่ๆ อาจารย์พี่เฟิ ง ชิว ฉานเฟิ ง ก็เป็ นสหายเก่าของนาง เหมือนกัน


แต่ชุเฟิ งก็เป็ นเด็กที่ฮวางฟู่ เอามาจริ งๆนั้นแหละ นางจึงต้องปกป้องชู
เฟิ งอย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่ องราวต่อจากนี้จะยิง่ เข้มข้น

บทที่ 634 - ผูน้ าํ 9 นิรันดร์

“ไม่เป็ นไรอย่างนั้นหรื อ เจ้าลองมองไปที่สหายของเจ้าดู ถ้านาง


สบายดี นางก็ไม่ตอ้ งถูกข้าผนึกหรอก ถ้าเจ้าต้องการให้นางกลับเป็ น
ปกติ เจ้าต้องเอาอสู รตนนัน่ ออกจากร่ างของนาง”

“แต่เจ้าไม่ตอ้ งกังวล สหายเก่าข้านางมีรูปแบบอํานาจพลังวิญญาณ


ค่อนข้างแข็งแกร่ ง นางคนนั้นมีความสามารถที่คนทัว่ ไปไม่รู้จกั และ
นางก็ยงั ได้ศึกษาเรื่ องอสู รมามากมาย บางที่นางอาจจะช่วยสหายเจ้าได้”
ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน กล่าว
“ขออภัยที่ขา้ เสี ยมารยาทต่อท่าน ท่านอาวุโส ” ชูเฟิ งรี บประสาน
มือคารวะทันที

ถ้าเป็ นก่อนหน้านี้ ชูเฟิ งอาจจะไม่กงั วลเรื่ องชีวติ ของ หยวน รู่ ว แต่
หลังจากเห็นนางต้องได้รับบาดเจ็บและทรมาน และ โดยเฉพาะการที่
นางไม่ฆ่าเขา นัน่ ยิง่ ทําให้เขาต้องการจะช่วยนาง และเขาพอจะรู ้วา่ ที่
หยวน รู่ ว เป็ นเช่นนี้นน่ั ก็เป็ นเพราะเขา

“อย่างแรกเจ้าไม่ตอ้ งกังวล และคอยภาวนาว่าให้นางปลอดภัย แต่


ก่อนหน้านั้น ข้ามีบางอย่างที่ขา้ ต้องการฟังจากเจ้า ตามข้ามา.”
หลังจากที่ ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน พูด นางก็เรี ยกชูเฟิ งและคนอื่นๆ และ
ต่อจากนั้นทั้งหมดก็เริ่ มบิน

“ท่านผูอ้ าวุโส ฉิวชุ่ย ท่านกําลังมุ่งหน้าไปยังทะเลโลหิ ตนิรันดร์


อย่างนั้นหรื อ” ชูเฟิ ง ถาม

“ถูกต้อง ข้ากําลังมุ่งหน้าไปยังที่นนั่ เพื่อพักในคืนนี้” นางตอบ


กลับมา

“แต่…”

“แต่อะไร เพราะมันเป็ นอาณาเขตของหมู่เกาะประหารเช่นนั้น


หรื อ”

“ฮึ่ม คนอื่นอาจจะเกรงกลัวพวกมัน แต่ขา้ ไม่” ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยาน ยิม้


เย็นชา และพูดด้วยนํ้าเสี ยงเด็ดขาด ราวกับไม่เห็นหมู่เกาะประหารอยูใ่ น
สายตา

และนัน่ ชูเฟิ งก็เข้าใจใน ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยานในทันนที อย่างไรก็ตามเขานั้น


ได้รุ้บางอยางมาจากอาจารย์ของเขา ฉิ ว ซานเฟิ ง

ในตอนนี้ หมู่เกาประหารนั้นแข็งแกร่ ง แต่เมื่อตอนที่ พรรคมารทลาย


ราตรี กับ วิหารเพลิงผลาญสวรรค์ยงั รุ่ งเรื่ องอยู่ หมู่เกาะประการก็ราวกับ
เป็ นสวะที่ไร้ตวั ตน
ดังนั้นไม่วา่ หมู่เกาะ ประหารจะแข็งแกร่ งขึ้นเพียงใด ก็ยงั อ่อนหัดใน
สายตาขุมอํานาจในอดีตทั้ง 2 อยูด่ ี มันไม่มีทางเหนือกว่าผูย้ งิ่ ใหญ่ใน
ภูมิภาคทะเลตะวันออกไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ คนอย่าง ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน
และ ฉิว ซานเฟิ ง พวกเขานั้นเหนือกว่าหมู่เกาะประหารมากหลายขุม

แต่ชูเฟิ งนั้นรู ้วา่ พวกเขาแข็งแกร่ งมาก มันเป็ นเพราะเขาได้เห็นบางอย่าง


ตั้งแต่ได้เข้ามาในภูมิภาคทะเลตะวันออก

และแม้ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน จะแข็งแกร่ ง แต่มนั ก็ยงั ห่างกับ ฉิ ว ซานเฟิ ง และ


ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้อยู่ นัน่ หมายความว่าแม้นางอยูใ่ นระดับ ราชันย์สงคราม
แต่มนั ก็ไม่ได้สูงมาก

แต่ดว้ ยการบ่มเพาะของนางนั้น แม้จะประกาศสงครามกับหมู่เกาะ


ประหารก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร ถ้านัน่ เป็ นเพียงแค่นางคนเดียว แต่ตอนนี้
นั้นมีพวกเขาอยูด่ ว้ ย ถ้าหมู่เกาะประหารเรี ยกกําลังเสริ มมานัน่ ย่อมไม่ใช่
เรื่ องดี

อย่างไรก็ตาม ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน นั้นเป็ นผูอ้ าวุโส ชูเฟิ งจึงไม่ได้คดั ค้าน
อะไรและตามนางไป

ในตอนนั้น ชูเฟิ งและอื่นๆ ได้เข้ามาในทะเลโลหิ ตนิรันดร์ จากนั้นก็


พวกเขาก็ได้หาเกาะลอยเล็กๆ เพื่อพักผ่อน

ข่าวเรื่ องนี้น้ นั แพร่ กระจายอย่างรวดเร็ ว


สําหรับคนอื่นๆนั้นไม่ค่อยสําคัญเท่าไหร่ และมีบางคนคิดว่ามันเป็ นข่าว
ดีเพราะกลุ่มคนเหล่านั้นจะมาช่วยจับอสู รให้พวกเขา

แต่สาํ หรับ หย่า เฟย นั้นไม่นางไม่สามารถผ่อนคลายได้เลย นางโกรธจัด


จนทําลายข้าวของเละเทะไปทัว่

“บัดซบ ช่างน่ารังเกียจยิง่ นัก นี่ยงั กล้ามาเหยียบที่ของข้าอีกนั้นหรื อ


นี่มนั เท่ากับเป็ นการหยามหน้าข้า หยามหน้าหมู่เกาะประหารของข้า
ชัดๆ”

“ฉิวชุ่ย แห่งผาคนรักอย่างนั้นหรื อ”
“ถ้าเจ้ากล้ากดดันข้าให้จนมุม ข้าก็จะขยี้ผาคนรักของเจ้าซะ!” หย่า
เฟย โกรธจัด จึงตะโกนออกมา

“ท่านหญิง หย่า เฟย ข้ามีบางอย่างจะมารายงานท่าน.” ในตอนนั้น


ก็มีเสี ยงผูห้ ญิงดังขึ้นมาจากด้านนอก

“ตอนนี้ ข้าไม่ฟังอะไรทั้งนั้น!!!” หย่า เฟย โกรธจัด ดังนั้นนางจึง


ตะคอกออกไปอย่างแรง และนัน่ ทําให้นางสร้างแรงกดดันพุง่ ผ่านประตู
ส่ งผลให้ หญิงสาว ระดับ 3 เจ้าสงคราม ลอยออกไปและได้รับบาดเจ็บ

ความไม่พอใจและหงุดหงิดปรากฏบนใบหน้า หญิงสาวคนนั้น เมื่อนาง


ถูกกระทําเช่นนี้ นางเองก็อยูใ่ นระดับจ้าวแห่งสงคราม และระดับของ
นางก็ไม่ได้ต่าํ แม้มนั จะไม่มากเท่า หย่า เฟย แต่กน็ บั ได้วา่ นางนั้นเป็ น
อัจฉริ ยะ
ซึ่งนางรู ้สึกไม่พอใจอย่างมากที่ตอ้ งรับใช้คนอื่นเหมือนทาส แต่นน่ั ก็ยงั
ไม่พอแค่น้ นั นางยังต้องมาเป็ นที่รองรับอารมณ์ของหย่า เฟย อีก

อย่างไรก็ตาม นางก็ไม่กล้าแสดงความไม่พอใจและความโกรธนั้น
ออกมา นางทําได้แค่ฝืนยิม้ เพียงเท่านั้น

นัน่ เป็ นเพราะ จุดยืนของหย่า เฟย ในหมู่เกาะประหาร นั้นไม่ใช่สิ่งที่นาง


จะทําไม่ดีดว้ ยได้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อนางมองจดหมายที่อยูใ่ นมือ
แล้ว

แม้วา่ หมู่เกาะประหารนั้นจะทรงพลังมาก แต่กม็ ีแค่คนไม่มากนัก ที่แข็ง


แกรงเช่นหย่า เฟย และในกลุ่ม 100 จ้าวแห่งสงครามที่ติดตามหย่า
เฟย ทั้งหมดล้วนเป็ นหญิงงาม ที่ยงั เยาว์วยั และ มีพรสวรรค์ที่โดดเด่น

และเหตุผลว่าทําไมหย่า เฟย จึงได้รับการดูแลเช่นนั้น ก็เป็ นเพราะ นาง


นั้นเป็ นคู่หมั้นของ มู่หรง ซุน และนอกจากนี้ ปู่ ของนางยังมีอาํ นาจมาก
อีกด้วย

ใน หมู่เกราะประหาร คนที่แข็งแกร่ งที่สุดย่อมเป็ นผูน้ าํ ของหมู่เกราะ


ประหาร นอกเหนือจากเขา ยังมี อีก 9 คนที่แข็งแกร่ งเช่นกัน และยัง
คอยควบคุม พื้นที่ต่างๆด้วย คนทั้ง 9 คนนั้นขึ้นตรงต่อ หมู่เกาะ
ประหาร

ผูค้ นเรี ยกพวกเขาว่า 9 นิรันดร์ และ ปู่ ของหย่า เฟย ก็เป็ นผูน้ าํ ของพวก
เขา มันอาจพูดได้วา่ ตําแหน่งของปู่ ของนางในหมู่เกาะประหารนั้น เป็ น
รองแค่เพียงคนเดียว นัน่ เป็ นธรรมดาจึงไม่มีใครกล้าที่จะหื ออือ กับหย่า
เฟย

“แม่นาง หย่า เฟย นี่เป็ นจดหมาย ที่ได้รับจาก ท่านปู่ ของท่าน.”


หลังจากจัดแจงอารมณ์ได้แล้ว หญิงสาวคนนั้นก็พดู ออกมาด้วยนํ้าเสี ยง
เคารพ

*ปัง* และเมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ประตูกเ็ ปิ ดขึ้น ร่ างของ หย่า เฟย ปรากฏขึ้น


ด้านหน้าประตู

หลังจากเห็นจดหมายบนมือ หญิงสาวคนนั้น หย่า เฟย จึงหยิบมันมา


และ เริ่ มอ่าน
พอนางอ่านไปสักพักอารมณ์โกรธของนางก็ลดลง และ ได้เปลี่ยนเป็ น
ความรู ้สึกยินดี ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิม้ หลังจากอ่านจบ นางก็
วางจดหมายแล้วพูดว่า “ นี่ช่างเป็ นข่าวดียงิ่ นัก คืนนี้ท่านปู่ ของข้าจะมา
แต่โปรดจําไว้อย่าให้ใครรู ้เด็ดขาด เรื่ องนี้ตอ้ งเก็บเป็ นความลับ.”

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : มันจะฟ้องปู่ ให้ ปู่ เอาเรื่ อง ฉิ วซุ่ย แต่โทษที ปู่ นางเจอกําแพงที่ไม่
อาจก้าวผ่านได้

B : ไอ้พวก 9 นิรันดร์ ว่าเก่งนักเก่งหนา เจอพี่เฟิ งกูตบซะแทบชัก ไม่


ต้องถึงมือพี่เฟิ งแค่เจอราชันย์ธาตุท้ งั 5 ของพรรคมารก็ไม่ไหวกันล่ะ
ถ้า 4 ประการพิทกั ษ์กฎออกมาเองมืงเอ้ย แปปเดียวจบ
A : จบแล้ว ก็ไปลุยต่อที่ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ดิ!!!

C : เอาทะเลตะวันออกให้รอดกันก่อนไม๊ ???

บทที่ 635 - อยากทราบต้นกําเนิด

“รับทราบท่านหญิง!” เมื่อได้ยนิ ว่าผูน้ าํ ของเก้านิรันดร์จะมา


ใบหน้าของหญิงสาวก็ตอ้ งเปลี่ยนแปลงแม้แต่ร่างของเธอก็เกิดอาการ
สัน่ เธอจึงรี บขอตัวก่อน แล้วก็ไปเตรี ยมพร้อมเพื่อการมาของเขา

ผูน้ าํ เก้านิรันดร์น้ นั เป็ นบุคคลสําคัญในหมู่เกาะประหาร นอกเหนือจาก


ประมุขหมู่เกาะประหารแล้วไม่มีใครกล้าที่จะเสี ยมารยาทกับเขาแม้แต่
ประมุขน้อยก็ยงั เคารพเขาและเรี ยกเขาว่า ผูอ้ าวุโสนิรันดร์ที่1
“ฮึ่ม ยัยฉิวชุ่ยนัน่ ไม่เกรงกลัวต่อหมู่เกาะประหารของข้า และ ไม่
เกรงกลัวต่อปู่ ของข้าใช่หรื อไม่ แสดงให้ขา้ ข้าดูหน่อยว่าเจ้าจําทํายังไง
เมื่ออยูต่ ่อหน้าปู่ ของข้า.” ในตอนนั้น หยา เฟย ก็พึมพําด้วยความเคียด
แค้น

ชูเฟิ งและคนอื่นๆไม่รู้วา่ ปู่ ของ หยา เฟย หยา จงหยุน กําลังมาที่ทะเล


โลหิ ตนิรันดร์

ในตอนนั้น ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน ได้เรี ยกชูเฟิ งมาที่พกั ของเธอแล้วคุยกันตาม


ลําพัง

“ชูเฟิ ง เจ้าพูดว่าเจ้าเป็ นศิษย์ของเขา แต่ขา้ ไม่สามารถเชื่อเจ้าได้ ถ้า


เจ้าต้องการให้ขา้ เชื่อเจ้าก็ตอ้ งตอบคําถามของข้า,” ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยานพูด

“ผูอ้ าวุโสฉิวชุ่ย โปรดถามมา,” ชูเฟิ งพูดขึ้น

“เจ้าลองบอกนามและนามเรี ยกของข้าและอาจารย์ของเจ้ามาสิ ”
ฉิวชุ่ย ฟู่ หยานพูด

“อาจารย์ของข้าชื่อ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ ส่ วนท่านชื่อ ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยาน


พวกท่านทั้ง2 เป็ นคู่รักกัน และยังถูกเรี ยกว่า โอรสและธิดาศักดิ์สิทธิ์
แห่งวิหารเพลิงผลาญสวรรค์,” ชูเฟิ งพูด

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นเธอก็ตอ้ งขมวดคิ้ว และเกิดบางประกายบางอย่างในตา


ของเธอจากนั้นเธอก็ถามเขาว่า, “ เขาอยูท่ ี่ไหน เขาสบายดีหรื อเปล่า”

“เอ่อ…!!!” ชูเฟิ งพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางของ ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยาน


เขาเห็นว่าเธอกังวลอย่างมาก จึงรู ้สึกว่าความรู ้สึกของทั้งคู่น้ นั ไม่
ธรรมดา

“อะไรนะเขาเป็ นไรอย่างนั้นหรื อ ตอนนี้เขาอยูไ่ หน รี บบอกข้ามา


เร็ วเข้า!” ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน จับไหล่ชูเฟิ งและถามอย่างรนราน.

ในตอนนั้นชูเฟิ งก็กดั ฟันตัวเองและหลังจากเตรี ยมพร้อมแล้วเขาก็ยกเลิก


การใช้หน้ากากปลอมตัวและเขาก็พดู ว่า” ข้าขออภัยผูอ้ าวุโสฉิวชุ่ย
ข้าน้อยชูเฟิ งโกหกท่าน.”
“โกหกอย่างนั้นหรื อ เจ้าหมายความว่ายังไง” เมื่อเห็นท่าทางของ
ชูเฟิ ง ฉิวชุ่ย ฟู่ หยานก็สงสัย

มันเป็ นเพราะว่าชูเฟิ งในตอนนี้น้ นั แม้เขาจะมีกลิ่นอายระดับ 1 จ้าว


แห่งสงครามเช่นเดิมแต่รูปร่ างของเขานั้นเป็ นชายหนุ่มและด้วยอายุ
เท่านี้ ระดับเท่านี้บอกได้เพียง3คําว่า ทู มัน นี่ [T/n มีพรสวรรค์ ที่
ยอดเยีย่ ม อย่างมาก ]

แต่สิ่งที่ฉิวชุ่ย ฟู่ หยานสนใจในตอนนี้น้ นั ไม่ใช่เชื่อพรสวรรค์ของเขา แต่


เป็ นเรื่ องที่เขาโกหกเธอ เธอสงสัยว่าเขากําลังซ่อนอะไรไว้และ เขารู ้เรื่ อง
ระหว่างเธอกับ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ได้อย่างไร

“ผูอ้ าวุโสฉิวชุ่ย ความจริ งแล้วฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ ไม่ใช่อาจารย์ของข้า


แต่พวกเรามีความสัมพันธ์เป็ นอย่างอื่น,” ชูเฟิ ง พูด

“ความสัมพันธ์อนั ใด มันจะดีกว่าถ้าเจ้าพูดมาให้ชดั เจน เพราะข้า


สามารถเอาชีวติ เจ้าได้ทุกเมื่อ,” ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยานพูดอย่างหงุดหงิด

“ข้าน้อย โตมาในทวีปเก้าอาณาจักร แต่ไม่เกิดที่นน่ั ”

“ข้าไม่รู้เรื่ องของครอบครัวข้า ข้ารู ้เพียงแต่วา่ ผูอ้ าวุโส ฮวางฟู่ เป็ น


นคนพาข้ามาที่นนั่ ,” ชูเฟิ ง พูด

“อะไรนะ อย่าบอกนะเจ้าคือ. . .” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นสายตา ฉิ วชุ่ย


ฟู่ หยาน ก็เกิดประการแสงแว้บนึง จากนั้นเธอก็ถามเขาอีกครั้ง” แล้วเจ้า
มีความสัมพันธ์อะไรกับเขาไม่เกี่ยวข้องกับข้า ทําไมเจ้าต้องมาหาข้าแล้ว
บอกว่าเป็ นศิษย์เขา เจ้ามีเป้าหมายอะไร”

“ผูอ้ าวุโส ข้าแค่ตอ้ งการรู ้เรื่ องครอบครัวของข้า แต่ขา้ ไม่สามารถ


ตามหาผูอ้ าวุโส ฮวางฟู่ ได้ ดังนั้นข้าจึงมาหาท่านและถามท่านเพราะท่าน
รู ้จกั กับเขามาก่อน บางทีท่านอาจจะรู ้เรื่ องของข้า,” ชูเฟิ งพูด

“แล้วเจ้ารู ้วา่ ข้าอยูท่ ี่นี่ได้ยงั ไง หรื อว่าเขาเป็ นคนบอกเจ้า” ฉิวชุ่ย


ฟู่ หยานถาม

“เป็ นคนอื่นที่บอกข้า”
“ใคร”

“ฉิว ซานเฟิ ง.”

“อะไรนะเป็ นเขาอย่างนั้นหรื อ” เมื่อได้ยนิ ชื่อนั้น ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยานก็


ตกใจมาก หลังจากนั้นก็ถามว่า “แล้วเจ้าเป็ นอะไรกับเขา ??”

จากเริ่ มต้นจนจบ ชูเฟิ งสังเกตท่าทางของเธอมาตลอดและเมื่อเห็นเธอใจ


อาจจะเป็ นไปได้วา่ เธอไม่ชอบฉิ ว ซานเฟิ ง ดังนั้นชูเฟิ งจึงพูดว่า” ข้าพูด
ตรงๆ ฉิว ซานเฟิ งคืออาจารย์ของข้า.”

“เจ้าเป็ นศิษย์ของเขาอย่างนั้นหรื อ”
“นี่มนั ช่างเป็ นเรื่ องที่ซบั ซ้อนเสี ยจริ ง เจ้านั้นถูกฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ พา
ไปยังทวีปเก้าอาณาจักร แต่เจ้าไปเป็ นศิษย์ ฉิ ว ซานเฟิ งได้อย่างไร” ฉิว
ชุ่ย ฟู่ หยาน สงสัยมาก

“ผูอ้ าวุโสท่านรู ้เรื่ องตระกูลของข้าหรื อไม่ โปรดบอกข้าด้วย.”


เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ งก็พดู ขึ้น

“ข้าไม่รู้เรื่ องนั้นหรอก ข้ารู ้แค่บางอย่างถ้าเจ้าต้องการรู ้ เจ้าต้อง


ตอบคําถามข้ามาก่อน.”

หลังจากนั้น ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน ถามชูเฟิ ง เขาก็ไม่ได้บอกอะไร เขาก็ได้บอก


ถึงเรื่ อง ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ และเขาพบฉิ ว ซานเฟิ งได้อย่างไร

แต่เขาก็เป็ นคนฉลาดเขาก็ปกปิ ดบางเรื่ องเช่นเรื่ องที่ทาํ ไม ฉิ ว ซานเฟิ ง


ถึงรับเขาเป็ นศิษย์ไว้

และเรื่ องที่ ฮวางฟู่ ห่าวเยว้ กลายเป็ นบ้า ชูเฟิ งรู ้วา่ เป็ นเพราะพ่อของเขา
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พดู ออกไป เพราะฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ กับ ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยาน
นั้นสนิทกัน ถ้าเธอรู ้ เธออาจจะแก้แค้นแทนฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้กเ็ ป็ นได้

“อ่า ข้ารู ้วา่ เส้นทางแห่งสวรรค์นนั่ ไม่ธรรมดา แต่ประมุขวิหาร ก็


ไม่ฟังคําพูดของข้า และแม้แต่ ฮวางฟู่ ห่าวเยว้กไ็ ม่เชื่อข้า และดึงดันจะ
เข้าไปยังที่แห่งนั้น.” หลังจากที่ได้ยนิ ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยานก็พดู ขึ้น จากนั้น
เธอก็มองไปที่ชูเฟิ งและพูดว่า “ข้ารู วา่ วิหารเพลิงผลาญสวรรค์ได้นาํ คน
จํานวนมากไปที่แห่งนั้นเพื่อจะไปยังแดนศักดิ์ของผูฝ้ ึ กยุทธ แต่พวกเขา
ก็ประสบเหตุบางอย่าง และมีแค่ฮวางฟู ห่าวเยว้เท่านั้นที่รอดมา และเขา
ยังนําเด็กคนนึงออกมาอีกด้วย และเด็กคนนั้นก็คือเจ้า.”

“พวกเขาประสบเหตุอย่างนั้นหรื อ บนเส้นทางสวรรค์ที่ไปยังแดน
ศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรื อ ผูอ้ าวุโสฉิ วชุ่ย เกิดอะไรขึ้น บอกข้าได้หรื อไม่”
ในตอนนั้น ชูเฟิ งรู ้สึกดีใจเล็กน้อยเพราะเขารู ้แล้วว่า ครอบครัวของเขา
อาจจะอาศัยอยูใ่ นแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์นน่ั

“ไม่ ข้าไม่รู้เรื่ องของเจ้าหรอก ข้ารู ้แค่วา่ เกิดเรื่ องบางอย่างขึ้นที่


เส้นทางแห่งสวรรค์ เมื่อ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ มาหาข้า เขาได้ทิ้งคําบางอย่าง"

“โดยบอกว่า อย่าได้ไปที่เส้นทางแห่งสวรรค์อย่างเด็ดขาด,” ฉิว


ชุ่ย ฟู่ หยานพูด
ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : พ่อ ชูเฟิ ง โหดจริ งๆ ถ้าชูเฟิ ง ซื่ อๆหน่อยเผลอบอก ฉิ วซุ่ย ทุกอย่าง
นางคงไม่ลงั เลที่จะฆ่าชูเฟิ ง

B : ช่ายคนเรา ก็มีเรื่ องที่พดู ได้และก็ที่พดู ไม่ได้ กันทุกคน อย่างกูกม็ ี


ความลับกะมืงเหมือนกัน แม้เราจะสนิทกันก็เหอะ

A : กูกม็ ี

B : งั้นเรา เปิ ดใจคุยกันเลย คืองี้นะ กูไปได้กบั เมียมืงว่ะ


A : เหี้ ย!!! เหมือนกันเลย งั้นเราหายกัน!!!

C : เออ มันตกลงกันได้ดว้ ยดีเว่ย!!!


บทที่ 636 – เสี่ ยวยูห่ ายตัวไป

“มีอย่างอื่นที่ ผูอ้ าวุโส ฮวางฟู่ ได้กล่าวกับท่านมาอีกหรื อไม่” ชู


เฟิ ง กล่าวถามด้วยความไม่พอใจ

อย่างไรก็ตาม ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน เพียงส่ ายศรี ษะ และยิม้ ออกมา “เขา


เป็ นคนที่ไม่เคยหวาดกลัวต่อสิ่ งใด พลังของเขาแข็งแกร่ งราวกับพระเจ้า
ภายในเขตทะเลตะวันออกไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้”
“แต่ในตอนนั้น ที่ขา้ พบกับเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความ
หวาดกลัว ราวกับว่ามีผใู ้ ดทําให้เขาตกตะลึงอย่างมาก”

“ข้าไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า สิ่ งใดที่ทาํ ให้บุคคลเช่นเขา


หวาดกลัวได้ถึงเพียงนั้น คําตอบทั้งหมดอาจจะอยูท่ ี่เส้นทางสวรรค์ก็
เป็ นได้”

“ข้าเข้าใจ ขอบคุณผูอ้ าวุโส สําหรับคําแนะนํา” ชูเฟิ ง ไม่ได้โง่ เขา


สามารถเข้าใจได้ท้ งั หมด ทั้งเรื่ องที่ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ และเรื่ องราวของ
ตระกูลของเขาอาจจะมีคาํ ตอบบางอย่างใน เส้นทางสวรรค์

แม้วา่ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน จะไม่สามารถให้คาํ ตอบที่แท้จริ งแก่เขาได้


นั้น แต่นางก็ได้ให้คาํ ใบ้สาํ คัญมาแก่เขา ทั้งเรื่ องที่เกิดขึ้นกับ ฮวางฟู่ ฮ่าว
เยว้ และสมาชิกของเขา ที่อาจจะพบได้ในเส้นทางสวรรค์
“ชูเฟิ ง มันอาจจะเร็ วไปสักหน่อย วันพรุ่ งนี้เราจะออกเดินทาง” ฉิ ว
ซุ่ย ฟู่ หยาน กล่าว

“ผูอ้ าวุโส วันพรุ่ งนี้พวกเราจะไปที่ใด !?” ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“เจ้าเคยได้ยนิ ชื่อ หุบเขาแห่งสายหมอก หรื อไม่ !?” ฉิ วซุ่ย ฟู่ ห


ยาน กล่าวถาม

“ข้าเคยได้ยนิ ” ชูเฟิ ง พยักหน้ารับ เขารู ้วา่ ที่หุบเขาแห่งสายหมอก


นั้น มีผเู ้ ชี่ยวชาญที่โดดเด่นที่ชื่อ แม่นาง เพียวเมี้ยว อาศัยอยู่
และ ชูเฟิ ง ไม่ได้รู้เพียงแค่ แม่นาง เพียวเมี้ยว เท่านั้น เขายังรู ้ถึง
ศิษย์ท้ งั สี่ ของนางอีก

ไม่ใช่เพียงแค่ แม่นาง เพียวเมี้ยว เท่านั้น นางยังมีลูกศิษย์อจั ฉริ ยะ


ทั้งสี่ คน ที่มีชื่อว่า ชุน หวู่ , เซี้ย ยู๋ , ฉิ ว ซื อ และ ตง เซว
[ T/n พวกนางได้รับฉายาว่า สาวงามสี่ ฤดู แห่งหุบเขาสายหมอก
เพราะแซ่ของพวกนางมีคาํ ที่แปลว่าฤดูน้ นั ๆ เช่น ตง เซวีย Dōng 冬
ฤดูหนาว / เซี้ ย ยู่ 夏 Xià ฤดูร้อน / ฉิ ว ซื อ 秋 Qiū ฤดูใบไม้ล่วง /
ชุน หวู่ 春 Chūn ฤดูใบไม้ผลิ ]

ไม่ใช่เพียงแค่ความอัจฉริ ยะเท่านั้น พวกนางทั้งสี่ ยงั มีความงดงาม


และยังมีความสามารถในการขับร้อง เต้นรํา ที่ยอดเยีย่ ม จึงทําให้พวก
นางเป็ นที่หมายปองของชายหนุ่มแทบทุกคน
โดยเฉพาะอย่างยิง่ ฉิว ซื อ นางได้รับการยกย่องให้เป็ นหนึ่งในสาว
งามของเขตทะเลภาคตะว้นออก ที่มีความงดงามเทียบได้กบั หย่า เฟย

“ดี ที่เจ้ารู ้จกั กับ แม่นาง เพียวเมี้ยว นางเป็ นสหายเก่าของข้า นางยัง


มีความสามารถที่ยอดเยีย่ มในรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ และนางยังมี
ความรู ้เรื่ องสัตว์ประหลาด หรื อปิ ศาจเป็ นอย่างดี ไม่แน่วา่ นางอาจจะ
สามารถช่วยเหลือสหายของเจ้าได้” ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน กล่าว

“ผูอ้ าวุโส ข้ามีสิ่งหนึ่งที่ขา้ อยากจะถาม” ชูเฟิ ง กล่าว

“ว่ามา !!” ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน กล่าว


“ข้าไม่ใช่ศิษย์ของผูอ้ าวุโส ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ ท่านได้รับรู ้เรื่ องนี้ไป
แล้ว และข้าก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ กับท่าน เหตุใดท่านถึงยังจะ
ช่วยเหลือข้า” ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“อย่าได้คิดมาก” ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ยิม้ บางๆ และกล่าวออกมาว่า


“แม้วา่ ข้าจะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับเจ้า แต่สหายของเจ้าได้
เปลี่ยนเป็ นปิ ศาจเช่นนี้ นี่จึงเป็ นหน้าที่ของข้าที่จะยืน่ มือช่วยเหลือ ข้าไม่
อาจนิ่งดูดายสิ่ งนี้ได้”

“อีกอย่าง แม้วา่ เจ้าจะไม่ได้เป็ นศิษย์ของท่าน ฮวางฟู่ แต่เจ้าก็เป็ น


ศิษย์ของท่าน ฉิว ซานเฟิ ง ที่มีมิตรภาพอันดีต่อข้า ดังนั้น ข้าจึงต้องดูแล
เจ้า”
“ขอบคุณอาวุโส !!” ชูเฟิ ง ยกมือขึ้นคาราวะ และเดินออกจากห้อง
ไป

หลังจากที่ ชูเฟิ ง จากไปนั้น ใบหน้าของ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ก็


เปลี่ยนแปลงไป นางถอนหายใจออกมาขณะที่มองไปยังทางที่ ชูเฟิ ง จาก
ไป และพึมพําออกมาว่า “เป็ นครั้งแรกที่ขา้ ได้เห็นความกลัวในตัวของ
เขา”

“แม้วา่ เขาจะไม่ได้กล่าวออกมา แต่ขา้ ก็รู้ดีวา่ เขากลัว เส้นทาง


สวรรค์ และคนที่เขาจะต้องปกป้อง”

“ทั้งสองอย่างล้วนมีความสัมพันธ์ต่อเขา และหนึ่งในนั้นก็มีผลต่อ
ชีวติ ของเขาอย่างมาก ข้าควรที่จะปกป้องเขาให้ปลอดภัย”
ด้วยรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่ปกคลุมห้องอยูน่ ้ นั ทําให้ ชูเฟิ ง
ไม่สามารถได้ยนิ สิ่ งที่ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน พึมพําออกมาได้ และในขณะที่เขา
ออกมานั้น เขาก็ได้พบกับคนผูห้ นึ่งที่คุน้ เคย นัน่ ก็คือ เจียง ว่านชือ

“ศิษย์พี่ เจียง ท่านมาทําอะไรที่นี่ !! มีอะไรเกิดขึ้นรึ !?” ชูเฟิ ง


เห็นท่าทีที่เคร่ งเครี ยดของ เจียง ว่านชือ เขาจึงคาดว่าต้องมีบางอย่าง
เกิดขึ้น

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เกิดเรื่ องแล้ว !! ข้าตั้งใจที่จะเอาหมัน่ โถวไปให้


เสี่ ยวยู่ แต่เมื่อข้าไปที่หอ้ งของนาง นางกลับไม่อยูท่ ี่นน่ั !! ข้าได้ออก
ค้นหาจนทัว่ แล้วแต่ยงั ไม่พบตัวนาง !!” ในตอนนี้ ชูเฟิ ง ได้สวม
หน้ากากเพื่อปิ ดบังตัวตนของเขาเอาไว้ จึงทําให้ เจียง ว่านชือ ยังไม่รู้ถึง
ตัวตนที่แท้จริ งของเขา
“เสี่ ยวยู่ หายไป” ชูเฟิ ง กล่าวถามอย่างใจเย็น

“เสี่ ยวยูห่ ายไปจริ งๆ ข้าตามหานางจนทัว่ แล้ว แต่กย็ งั ไม่พบนาง


เลย”

“อีกอย่าง ทัว่ ทั้งบริ เวณก็มีรูปแบบอํานาจพลังสิ ญญาณที่ถูกวางไว้


โดยท่านอาจารย์ของข้า ซึ่งนัน่ จะทําให้นางไม่สามารถออกไป
นอกเหนือจากที่ได้ แต่ขา้ ก็ยงั ไม่พบนาง” เจียง ว่านชือ กล่าวออกมา
อย่างจริ งจัง

“อึ้ก !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง ตกใจอย่างมาก ด้วยความซุกซน


ของเสี่ ยวยู่ และความสามารถของนาง ที่สามารถทําลายรู ปแบบอํานาจ
พลังวิญญาณได้อย่างง่ายดาย อาจทําให้นางออกไปที่ทะเลโลหิ ตนิรันดร์
ซึ่งในตอนนี้ หย่า เฟย ได้จบั ตาดูพวกเขาอยู่ นางอาจจะถูกจับตัวไปโดย
หย่า เฟย ซึ่งนัน่ ทําให้ ชูเฟิ ง รู ้สึกเป็ นกังวลอย่างมาก

แม้วา่ ชูเฟิ ง จะกังวลอย่างมาก แต่เขาก็ยงั คงพูดปลอบ เจียง ว่านชือ


ออกมาว่า “ศิษย์พี่ เจียง ท่านไม่ตอ้ งกังวลไป ด้วยพลังของเสี่ ยวยู่
รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณไม่สามารถปิ ดกั้นนางได้ นางอาจจะออกไป
เที่ยวเล่นตามประสาของนางเท่านั้น”

“แต่ หย่า เฟย เป็ นอันตรายอย่างมาก หากเสี่ ยวยูอ่ อกไป นางอาจจะ


ตายก็เป็ นได้”

“พวกเราจะต้องออกไปตามหานาง ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง เจ้ารออยูท่ ี่นี่


ก่อน ข้าจะไปบอกท่านอาจารย์ !!” เจียง ว่านชือ กล่าวออกมา และรี บ
สิ่ งไปยังตําหนังของ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน

เมื่อ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ได้ทราบเรื่ องที่เสี่ ยวยูห่ ายตัวไปนั้น นางไม่ได้


นิ่งดูดายแต่อย่างใด นางรี บเปิ ดรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ และออกไป
ค้นหาตัวเสี่ ยวยูพ่ ร้อมกับ ชูเฟิ ง และ เจียง ว่านชือ อย่างรวดเร็ ว

ยิง่ พวกเขาออกค้นหามากเท่าไหร่ ชูเฟิ ง ยิง่ ไม่สบายใจมากขึ้น


เท่านั้น เพราะด้วยทะเลโลหิ ตนิรันดร์น้ นั มีขนาดใหญ่อย่างมาก อีกทั้ง
ความเร็ วของเสี่ ยวยูเ่ มื่ออยูใ่ นนํ้า นางยิง่ รวดเร็ วอย่างมาก ชูเฟิ ง จึงไม่รู้ได้
ว่าตอนนี้เสี่ ยวยูย่ งั คงปลอดภัยดีหรื อไม่

ในขณะที่พวกเขาออกค้นหา เวลาก็ได้ค่อยๆ ผ่านไปทีละนิดๆ


ท้องฟ้าที่สดใสได้ถูกแทนที่ดว้ ยท้องฟ้าที่มืดมิดยามราตรี อย่างรวดเร็ ว
ในตอนนี้ได้เข้าสู่ เวลากลางคืน ที่ทาํ ให้ทะเลโลหิ ตนิรันดร์มีความงดงาม
ที่น่าหลงใหลมากขึ้น

แต่ในเวลานั้น ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ ไม่มีเวลามาชื่นชมกับความ


งดงามของทะเลโลหิ ตนิรันดร์แม้แต่นอ้ ย พวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล
ในขณะที่พวกเขายังไม่สามารถพบตัวของเสี่ ยวยู่

และในเวลาเดียวกันนั้น ผูท้ ี่แข็งอีกคนหนึ่งก็ได้อยูใ่ นทะเลโลหิ ตนิ


รันดร์เช่นกัน

ในห้องของ หย่า เฟย มีชายชราผมสี ขาว สู งราวสามเมตร สวม


เสื้ อผ้าที่งดงาม นัง่ อยูใ่ นนั้น
แววตาของเขาราวกับนกอินทรี ย ์ คิ้วเรี ยวสี ขาว ออร่ าพลังที่เล็ดลอด
ออกมานั้น แข็งแกร่ งจนยากที่จะหาผูต้ า้ นทาน

ชายชราผูน้ ้ ีจะเป็ นใครอื่นไม่ได้ นอกจากผูน้ าํ ของเก้านิรันดร์ แห่ง


หมู่เกาะประหาร ปู่ ของ หย่า เฟย เขาคือ หย่า จ่งหยุน

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///
A : เสี่ ยวยู่ เป็ นไงบ้างอ่ะ ???

B : สบายดี ตอนนี้กาํ ลังเที่ยวเล่นอยู่

A : เสี่ ยวยู่ รู ้นะว่าเก่ง แต่นางจะปลอดภัยอ่อ

B : อืม ถ้านางคิดจะทําลายทะเลตะวันออก แค่วนั เดียวทุกอย่างก็


พินาศล่ะ!!!

C : เก่งแบบนี้ ให้เสี่ ยวยูเ่ ป็ นพระเอกเหอะ!!! แม่งชูเฟิ งอ่อนชิบหาย ให้


เด็ก 3 ขวบมาปกป้อง!!!

B : เสี่ ยวยู่ ไม่ใช่เด็ก 3 ขวบ จริ งๆนางมีอายุเป็ นพันๆปี แต่มีบางอย่าง


ทําให้นางอาจกลับกลายมาเป็ นเด็ก แล้วมีแค่เฉพาะช่วงนี้นะ ที่นางอยู่
กับพี่เฟิ ง นางต้องการให้พี่เฟิ งเราเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเติบโตด้วย
ตัวเอง นางจึงเดินทางออกไปตีดมั มี่ ที่คาสิ โนปอยเปรต

A : เอ่อ เปลี่ยนเป็ น ลาสเวกัส ก็ดีนะ ไม่ก็ คาสิ โนมาเก๊า ไรงี้ ปอยเปรต


มันดูดิบเถื่อนยังไงไม่รู้!!!

B : มันใกล้บา้ นพวกเราดี!!! เราจะได้แวะไปเยีย่ มเยือน

A : เออว่ะ มีเหตุผล!!! แต่เด็ก 3 ขวบไปนัง่ ตีดมั มี่ มันก็ยงั ไงๆนะ


เปลี่ยนเป็ น นํ้าเต้าปูปลา ได้ไม๊ ???

B : งั้นมาบ้านกูเลย จะเอาแบบลูกเต๋ า หรื อ เอาแบบฉลากดี!!!


C : เล่นกันมะไหร่ บอกกูดว้ ย จะได้บอกตํารวจไปจับ!!!
บทที่ 637 – หลอกผูอ้ ื่น และหลอกตัวเอง

“ท่านปู่ !! ในที่สุดท่านก็มาพบกับข้า !! ข้าคิดว่าท่านปู่ จะลืมข้าไป


เสี ยแล้ว !!” หย่า เฟย ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่นาง
กระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของ หย่า จ่งหยุน

“ฮ่าๆ ข้ามีหลานเพียงคนเดียว ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไร !! ข้าเพิ่ง


กลับมาจากการบ่มเพาะพลังที่เงียบสงบ และก่อนที่ขา้ จะไปพบผูน้ าํ
ตระกูล ข้าก็อยากจะมาพบเจ้าก่อน !!” แววตาของ หยา จ่งหยุน เต็มไป
ด้วยความรัก ในขณะที่เขามองไปยัง หยา เฟย

“ท่านปู่ ท่านทําสําเร็ จไหม !!” เมื่อได้ยนิ ว่าปู่ ของนางเพิ่งกลับมา


จากความเงียบสงบนั้น ใบหน้าของ หย่า เฟย ก็เต็มไปด้วยความคิดถึง
“มีหรื อ ที่ขา้ จะทําไม่สาํ เร็ จภายใต้ความเงียบสงบเช่นนั้น !!” หยา
จ่งหยุน หัวเราะออกมา แทนคําตอบที่ชดั เจน

“เยีย่ มเลย !! ท่านปู่ พลังของท่านในตอนนี้สามารถเทียบได้กบั ท่าน


ผูน้ าํ ตระกูลหรื อเปล่า !!” เมื่อได้รู้คาํ ตอบของปู่ ของนางนั้น หย่า เฟย ก็
ยิม้ ออกมา เพราะปู่ ของนางคือผูส้ นับสนุนที่แข็งแกร่ งที่สุดของนาง ยิง่ ปู่
ของนางแข็งแกร่ งมากเท่าไหร่ นางยิง่ ไม่กล้วฟ้ากลัวดินมากเท่านั้น

“เด็กโง่เอ๋ ย !! พลังของข้ายังไม่อาจเทียบได้กบั ท่านผูน้ าํ !! แต่


ในตอนนี้ความแข็งแกร่ งของข้าเป็ นอันดับสามในหมู่เกาะประหาร และ
มันจะต้องเปลี่ยแปลงอย่างแน่นอน” หย่า จ่งหยุน กล่าวออกมาด้วย
รอยยิม้ เห็นได้ชดั ว่าเขามีความสุ ขอย่างมาก
“อันดับสามของผูแ้ ข็งแกร่ งที่สุดในหมู่เกาะประหาร !!
นอกเหนือจากท่านผูน้ าํ ยังมีคนที่แข็งแกร่ งกว่าท่านปู่ อีกเหรอ !?” หย่า
เฟย ยิม้ บางๆ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ เพราะนางไม่คิด
ว่าจะมีผใู ้ ดที่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะอยูเ่ หนือปู่ ของนาง

“เด็กโง่ เจ้าลืมผูน้ าํ คนก่อนไปแล้วรึ ในตอนนี้ท่านผูน้ ้ นั ก็คือท่านผู ้


เฒ่าของหมู่เกาะประหาร” หยา จ่งหยุน กล่าวถาม

“ท่านผูเ้ ฒ่า !! ท่านปู่ ท่านหมายถึงปู่ ของ มู่หรง ซุน ใช่ไหม !! เขา


ยังไม่ตายอีกเหรอ !?” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น หย่า เฟย ตกใจอย่างมาก
เพราะตั้งแต่เด็กนั้น นางจําได้วา่ ท่านผูเ้ ฒ่า ต้องใช้โอสถจํานวนมากใน
การช่วยให้เขามีชีวติ อยูต่ ่อไปได้ในทุกๆ วัน
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ไม่เคยเห็นเขา และไม่มีผใู ้ ดกล่าวถึงเขา
อีกเลย ความแข็งแกร่ งของหมู่เกาะประหารในตอนนี้ ก็เกิดจากประมุข
คนปัจจุบนั เพียงคนเดียวเท่านั้น

ดังนั้น หย่า เฟย จึงคิดว่า ท่านผูเ้ ฒ่า ได้ตายไปแล้ว และเวลาก็ได้


ล่วงเลยมาแล้วหลายปี

“อ่า หลานรัก อย่าได้กล่าวเช่นนี้ออกมาอีก ท่านผูเ้ ฒ่า ยังคงมีชีวติ


อยู่ !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น หย่า จ่งหยุน รี บกล่าวเตือนออกมาอย่างจริ งจัง

“หรื อว่า……เขาจะทะลวงพลังขึ้นไปได้ ทําให้เขาสามารถมี


ชีวติ ต่อมาได้” หย่า เฟย คิดถึงหนทางที่สามารถทําให้ ท่านผูเ้ ฒ่า มีชีวติ
อยูต่ ่อมาได้
“อืม ท่านผูเ้ ฒ่าประสบความสําเร็ จนานแล้ว ในตอนนี้ท่านได้เก็บ
ตัวเพื่อบ่มเพาะพลังไปอีกขั้น”

“ถ้าเขาทําสําเร็ จอีกครั้ง แม้แต่ประมุขของพรรคมารทลายราตรี


และประมุขของวิหารเพลิงพลาญสวรรค์ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ ก็ไม่อาจ
เอาชนะเขาได้ และเขาจะเป็ นผูท้ ี่แข็งแกร่ งที่สุดของเขตทะเลตะวันออก”
หย่า จ่งหยุน กล่าว

“ท่านปู่ ข้าได้ยนิ ท่านพูดถึงประมุขของพรรคมารทลายราตรี และ


ประมุขของวิหารเพลิงพลาญสวรรค์บ่อยมาก ผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ ง
เช่นนั้นมีตวั ตนอยูจ่ ริ งๆ หรื อ !?” หย่า เฟย กล่าวถามด้วยความสงสัย
แม้วา่ ในตอนที่นางยังเด็กนั้น ทั้งพรรคมารทลายราตรี และวิหาร
เพลิงสวรรค์จะยังคงอยูก่ ต็ ามแต่นางก็ยงั เด็กเกินไป นางถูกเลี้ยงดูเพียง
เล่นสนุกตามประสาเด็ก และคอยบ่มเพาะพลังเท่านั้น ปู่ และพ่อแม่ของ
นางก็ไม่เคยพานางไปดูถึงความแข็งแกร่ งของทั้ง พรรคมารทลายราตรี
และวิหารเพลิงพลาญสวรรค์แม้แต่นอ้ ย

“โฮ่ คิดย้อนกลับไปตอนนั้น ทั้งสองขุมอํานาจได้ข่มเหงหมู่เกาะ


ประหารของพวกเราจนแทบที่จะไม่มีพ้ืนที่ให้หายใจ แต่ในตอนนี้ วัน
คืนที่ทุกข์ทรมานได้ผา่ นพ้นไปแล้ว”

“ตราบใดที่ ท่านผูเ้ ฒ่าทําสําเร็ จ แม้พรรคมารทลายราตรี และวิหาร


เพลิงพลาญสวรรค์จะยังคงอยู่ พวกเขาจะต้องสิ โรราบต่อหมู่เกาะ
ประหารของพวกเราแน่นอน” หย่า จ่งหยุน กล่าวด้วยความมัน่ ใจ
“แล้วท่านปู่ หวังให้เขาทําสําเร็ จหรื อไม่ !?” หยา เฟย รู ้สึกตื่นเต้น
อย่างมาก ด้วยความที่นางเป็ นสมาชิกของหมู่เกาะประหาร นางจึงหวัง
ให้ปู่ของนาง และหมู่เกาะประหารแข็งแกร่ งขึ้น

“ข้าก็หวังให้เขาทําสําเร็ จ แต่พลังระดับจักรพรรดิสงครามนั้นยากที่
จะทะลวงข้ามไปได้ แม้แต่ประมุขพรรคมารทลายราตรี และ ฮวางฟู่ ฮ่าว
เยว้ ที่สามารถทําให้ทุกคนต้องตกตะลึง ยังไม่สามารถทะลวงพลังไปได้
มากกว่านี้”

“แต่ในตอนนี้หมู่เกาะประหารได้ครองอํานาจสู งสุ ดของเขตทะเล


ตะวันออก จึงทําให้พวกเราได้รับทรัพยากรการบ่มเพาะจํานวนมาก ด้วย
ทรัพยากรเหล่านั้น น่าจะทําให้ ท่านผูเ้ ฒ่า สามารถทะลวงพลังขึ้นไปได้
สําเร็ จ” หย่า จ่งหยุน กล่าว
“ท่านปู่ ถ้าประมุคพรรคมารทลายราตรี และ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว่ ยังอยู่
ที่นี่ พวกเขาจะมีการบ่มเพาะพลังเท่าเดิมหรื อไม่ !?” หย่า เฟย กล่าว
ถามด้วยความสงสัย จากที่ปู่ของนางกล่าวถึงสองบุคคลนี้บ่อยๆ นางจึง
คาดว่าทั้งสองคนจะต้องเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ งอย่างมาก

“นี่……” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น หยา จ่งหยุน ไม่สามารถตอบคําถาม


นี้ออกมาได้ เพราะในตอนนั้นพวกเขาทั้งสองได้มีพลังถึงระดับนั้นแล้ว

หากคํานวณจากความสามารถของ ฮวางฝู่ ฮ่าวเยว้ เมื่อสิ บปี ก่อน


นั้น เขาย่อมจะต้องมีพลังที่แข็งแกร่ งขึ้นกว่านี้อีกมาก และการคํานวณนี้
ขึ้นอยูก่ บั ตัวเขาเอง ที่จะกล่าวออกไปเช่นไร

“ข้าคิดว่าพวกเขาก็ไม่สามารถทะลวงพลังไปได้ ยิง่ กว่านั้น


ในตอนนี้พวกเขาก็ไม่ได้อยูท่ ี่นี่ ในตอนนี้หมู่เกาะประหารของพวกเรา
แข็งแกร่ งที่สุด”

“ในตอนนั้น พรรคมารทลายราตรี และวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ ทํา


ได้เพียงแบ่งออกเป็ นสองขั้วอํานาจ แต่ในตอนนี้หมู่เกาะประหารของ
พวกเรากลับสามารถรวมอํานาจไว้เป็ นหนึ่งเดียวได้ นี่แสดงให้เห็นถึง
ความเหนือกว่าของพวกเราได้อย่างเด่นชัด” หย่า เฟย กล่าวออกมา
ขณะที่หวั เราะคิกคัก เมื่อนางเห็นว่าปู่ ของนางกําลังลําบากใจที่จะตอบ
คําถามของนาง

“ฮ่าๆ สมกับเป็ น เฟยเอ๋ อ ของข้า ความสําเร็ จของหมู่เกาะประหาร


ของพวกเราในตอนนี้ เป็ นสิ่ งที่พรรคมารทลายราตรี และวิหารเพลิง
ผลาญสวรรค์ไม่เทียบเคียงได้” เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของ หยา เฟย นั้น หยา
จ่งหยุน ก็หวั เราะออกมาเสี ยงดังด้วยความสุ ข
“อ่า แต่วา่ น่าเศร้า แม้วา่ หมู่เกาะประหารของพวกเราจะแข็งแกร่ ง
มาก แต่กม็ ีบางคนที่มนั ไม่เห็นพวกเราในสายตา” หย่า เฟย กล่าวพลาง
ทําท่าเศร้า

“เฟยเอ๋ อ เจ้าหมายถึงผูใ้ ด !?” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น หยา จ่งหยุน ก็


ขมวดคิว้ ขึ้น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เพราะเขาเห็นได้
ชัดว่าหลานรักของเขาถูกบางคนรังแก

“ท่านปู่ ท่านเคยได้ยนิ ชื่อของ เถ่า ฉิ วซุ่ย จากผาคนรักหรื อไม่ !?”


หย่า เฟย กล่าวตอบด้วยคําถาม

“ข้าเคยได้ยนิ เรื่ องของผาคนรักมาบ้าง มันเป็ นสถานที่ที่พวกสวะ


ใช้หลบซ่อนตัว แต่ชื่อ เถ่า ฉิวซุ่ย ข้าไม่เคยได้ยนิ มาก่อน” หย่า จ่งหยุน
กล่าวพลางส่ ายศรี ษะของเขา
“ฮึ่ม ที่แท้กค็ นนิรนาน ท่านปู่ ข้าจะบอกให้ท่านฟัง เถ่า ฉิ วซุ่ย เป็ น
คนที่หยิง่ ยะโสมาก ไม่เพียงแต่นางจะไม่เห็นหมู่เกาะประหารอยูใ่ น
สายตาเท่านั้น นางยังไม่เห็นท่านปู่ อยูใ่ นสายตาของนางอีกด้วย”

ในตอนนี้ หย่า เฟย รี บใช้โอกาส “ราดนํ้ามันลงบนกองไฟ”


เพิ่มเติมความคับแค้น เพื่อยุให้ หยา จ่งหยู ไปแก้แค้น เต๋ า ฉิ วซุ่ย

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : เพ้อฝัน รวมทะเลตะวันออกไว้ใต้ฝ่าเท้า เด๋ วพี่เฟิ งจะรวม พรรค
มารทลายราตรี กะวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ให้มืงดู แล้วรอดูดิผเู ้ ฒ่า ผูแ้ ก่
ว่าแน่แล้ว จะต้องจ๋ อยแค่ไหน
B : เอาน่า อย่างว่าและพวกมันไม่เห็นโลงศพไม่หลัง่ นํ้าตา ตอนนี้
ปล่อยมันได้ใจไปก่อน แต่คิดจะไปแก้แค้น นี้คิดดีแล้วหรื อยัง ???

A : คงไปทําตัวเองให้ขายหน้ามากกว่าเดิมเปล่าๆ ???

B : ตอนหน้ายังมี งั้นตามไปดูเลย
บทที่ 638 - ท้องฟ้ายามราตรี กาํ ลังพังทลาย

หลังจากได้ยนิ คําพูดของหย่าเฟย หย่า จ่งหยุนจมลงสู่ ความครุ่ นคิด


หลังจากนั้นสักพักใหญ่ เขาถามหย่าเฟยว่า “เฟยเอ๋ อ เจ้ากล่าวว่า เถ่า ฉิ ว
ซุ่ย เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดคลุมสี ทองงั้นรึ ?”

“อืม.” หย่าเฟยพยักหน้าเพื่อยืนยัน

“แต่นางสวมชุดสี ขาวไม่ใช่รึ?!” หย่าซงหยุนถามนางต่อ


“อืม..ท่านปู่ ท่านรู ้ได้อย่างไร? หรื อว่าท่านรู ้จกั นาง?” หย่าเฟยถา
มด้วยความงุนงง

“เฟยเอ๋ อ ไม่ใช่วา่ ผูห้ ญิงคนนั้นมีลกั ษณะที่โดดเด่นรึ ? แม้วา่ อายุ


นางใกล้ 40 ปี แต่ไม่ใช่วา่ ผิวพรรณของนางและท่าทางของนางยัง
เหนือกว่าผูอ้ ื่นรึ ? ” หย่า จ่งหยุนถามต่อ

“ข้าไม่อาจเห็นนาง เพราะนางใช้ผา้ คลุมปกปิ ดใบหน้า แต่เมื่อ


มองดูรูปลักษณ์และเค้าโครงใบหน้านาง ข้าเห็นว่านางงดงาม แต่ถา้ เอ่ย
ถึงเรื่ องลักษณะท่าทางของนางจากคําพูดท่าน...นางมีท่างทางที่ไม่
ธรรมดาสามัญ ราวกับว่านางไม่ได้มาจากโลกมนุษย์” หย่า เฟยตอบ
“ถ้าเจ้าคิดเช่นนั้น..ดูเหมือนที่เจ้าบอกนั้นจะเป็ นนางจริ งๆ”
หลังจากได้ยนิ คําพูดของหย่า เฟย หย่าจ่งหยุนผงกหัวเบาๆ มุมปากที่ราว
กับกุหลาบของเขาเผยให้เห็นรอยยิม้ ที่สนใจ

“ท่านปู่ จริ งๆแล้ว เถ่า ฉิ วซุ่ย เป็ นผูใ้ ด?” ทันใดนั้น หย่าเฟยมัน่ ใจ
ว่าปู่ ของนางรู ้อย่างแน่นอนว่า แม่นางเถ่า ฉิ วซุ่ย เป็ นใคร ไม่เช่นนั้นท่าน
คงไม่ทาํ ท่าทางเช่นนี้ ดังนั้นหย่าเฟยอยากรู ้เป็ นอย่างมากว่านางเป็ นใคร

“ถ้าข้าเดาไม่ผดิ แม่นางเถ่า ฉิ วซุ่ย ต้องไม่ใช่คนธรรดาแน่นอน เธอ


สมควรเป็ นผูท้ ี่ถูกเรี ยกว่า สาวงามอันดับหนึ่งแห่งภูมิภาคทะเล
ตะวันออก และนางคงจะเป็ น ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ธิดาศักดิสิทธิ์ แห่งวิหาร
เพลิงผลาญสวรรค์” หย่า จ่งหยุนกล่าว

“ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ธิดาศักดิสิทธิ์แห่งวิหารเพลิงผลาญสวรรค์?!”


“ท่านปู่ นางไม่ได้เป็ นเช่นนั้นใช่ม้ ยั ? ท่านเคยกล่าวว่าเมื่อ 10 ปี
ที่แล้ว วิหารเพลิงผลาญสวรรค์ได้นาํ คนทั้งหมดวิหารไปยังเส้นทาง
สวรรค์และได้ยา้ ยไปยังดินแดนศักดิสิทธ์ของผูฝ้ ึ กตน ?”

“ถ้าเป็ นเช่นนั้น เป็ นไปได้อย่างไรที่ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ธิดาศักดิสิทธ์


แห่งวิหารเพลิงผลาญสวรรค์จะมาปรากฏตัวอยูใ่ นภูมิภาคทะเล
ตะวันออก?”

ใบหน้าของหย่าเฟยเต็มไปด้วยความตกใจ นามของ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน เป็ น


ที่รู้จกั แพร่ หลายในภูมิภาคทะเลตะวันออก แม้วา่ วิหารเพลิงผลาญ
สวรรค์จะไม่ปรากฏมาหลายปี แล้ว แต่ผคู ้ นยังไม่ลืมเลือนนามที่ยง่ิ ใหญ่
นั้น นางเป็ นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัย ผูค้ นที่หลงรักนั้นไม่สามารถนับ
จํานวนได้ แต่นน่ั ก็เป็ นเพียงความเพ้อฝันของพวกเขา
“งั้นเจ้าคงยังไม่ทราบเรื่ องนี้ หลังจากที่วหิ ารเพลิงผลาญสวรรค์
เคลื่อนไหว ข้าได้ส่งผูน้ าํ หมู่เกาะไปพร้อมกับพวกเขา ในตอนนั้น ข้าได้
สังเกตุผคู ้ นของวิหารเพลิงผลาญสวรรค์อย่างถี่ถว้ น ข้าพบว่าผูเ้ ชี่ยวชาญ
ที่มีชื่อเสี ยงทั้งหมดก็อยูท่ ี่นน่ั ด้วย มีเพียงแต่ธิดาศักดิสิทธ์ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน
เท่านั้นที่ไม่ได้แสดงตัว”

“ในตอนนั้น ข้ารู ้สึกว่า เป็ นไปได้วา่ นางไม่ได้อยูใ่ นวิหารเพลิง


ผลาญสวรรค์ และตอนนี้ แม่นางเถ่า ฉิ วซุ่ย ที่เจ้าพูดถึง ไม่วา่ จะเป็ นอายุ
หรื อลักษณะ ล้วนใกล้เคียงกับ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ยิง่ นัก ข้ามัน่ ใจว่านาง
คล้ายกับ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยานอย่างมาก” หย่า จ่งหยุนกล่าว

“นั้นหมายความว่านางคือ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน? ไม่แปลก...ไม่แปลกใจ


เลยว่าทําไมนางจึงไม่เห็นเกาะประหารอยูใ่ นสายตา เพราะนางเป็ นธิดา
ศักดิ์สิทธ์แห่งวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ นางเลยแสดงท่าทีเช่นนั้นได้”
หย่าเฟยถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับใบหน้าแห่งความเศร้าโศก

“เด็กโง่! แม้วา่ วิหารเพลิงผลาญสวรรค์นะทรงพลัง แต่นน่ั ก็หลายปี


มาแล้ว ตอนนี้! วิหารเพลิงผลาญสวรรค์ไม่ปรากฏมานานแล้ว แม้วา่ นาง
จะเป็ นอัจฉริ ยะที่หลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ก็ไม่มีขมุ
กําลังมหาศาลปกป้องตัวนางแล้ว เจ้าก็ไม่จาํ เป็ นต้องหวาดกลัว” หย่า จ่ง
หยุนกล่าว

“แต่ท่านปู่ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ยังคงเป็ นธิดาศักดิสิทธ์แห่งนิกายผลาญ


สวรรค์ นางมีความแข็งแกร่ งเป็ นอย่างมากในอดีต ดังนั้นตอนนี้ ข้า
มัน่ ใจว่านางยังคงแข็งแกร่ ง ทางที่ดีท่านอย่าไปยัว่ นางดีกว่า” หย่าเฟยจง
ใจพูดแบบนั้น แม้วา่ จริ งๆแล้วนางกําลังยัย่ ปุ ู่ ของนางให้เคลื่อนไหว

“ฮ่าฮ่า เฟยเอ๋ อ..เด็กโง่ของข้า จริ งๆแล้วเจ้าประเมิน ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน


สู งเกินไป”

“โอรสศักดิสิทธ์ แห่งวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ แม้


จะทรงพลังอย่างมาก แต่ความแข็งแกร่ งของธิดาศักดิสิทธ์ ฉิ วซุ่ย ฟู่ ห
ยาน ยังห่างไกลจากเขานัก นางไม่สามารถทําอะไรปู่ ของเจ้าได้ อย่าว่า
แต่ตอนนี้เลย?”

“จากที่เจ้าพูด ตอนนี้นางพํานักอยูใ่ นภูมิภาคตะวันออกใช่ม้ ยั ? รี บ


พาข้าไปที่นนั่ ถ้าข้าไม่ให้บทเรี ยนกับนาง นางคงคิดว่าการข่มเหง
หลานสาวข้าเป็ นเรื่ องสนุก!” หย่า จ่งหยุนกล่าวพลางเอามือตบอก เขา
เชื่อที่หย่าเฟยพูด

“เยีย่ มเลย ข้ารู ้วา่ ท่านปู่ ของข้าทรงแข็งแกร่ งที่สุด” หย่าเฟยกระ


โดดอย่างมีความสุ ข นางปิ ติยนิ ดียง่ิ นัก ต่อหน้าปู่ ของนาง นางยังคงมี
ทัศนคติที่เย่อหยิง่ นางเหมือนเด็กน้อยที่น่ารัก

* ปัง * ทันใดนั้น ประตูที่ปิดอย่างแน่นหนาถูกเปิ ดออกทันทีโดยบาง


คน ข้ารับใช้สาวที่เต็มไปด้วยความกลัววิง่ เข้ามาพร้อมพูดเสี ยงสัน่ ว่า
“ท่านผูน้ าํ ท่านหญิงหย่าเฟย เกิดเรื่ องไม่ดีแล้ว”

“บังอาจ! ข้ากําลังคุยกับปู่ ของข้าอยู่ ใครใช้ให้เจ้าบุกรุ กโดยไม่แจ้ง


ให้ทราบ?” เมื่อสาวใช้เข้ามา หย่าเฟยกลายเป็ นเกรี้ ยวกราด นางชี้ไปที่
สาวรับใช้และตรงเข้าไปตบนาง

“เดี๋ยว!” อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นางจะได้ลงมือ นางถูกหยุดโดยปู่


ของนาง หลังจากที่หย่า จ่งหยุนหยุดนางแล้ว เขาถามอย่างเคร่ งขรึ มว่า
“มีเรื่ องอะไรเร่ งด่วนที่อยากอยากจะพูด ก็รีบพูดมา”
“ท่านผูน้ าํ ที่หนึ่ง ท่านหญิงหย่าเฟย”

“มีสิ่งผิดปกติบนท้องฟ้าด้านนอก กรุ ณาออกมาด้านนอกเพื่อ


ตรวจสอบด้วย” .หญิงรับใช้ตอบอย่างเคร่ งเครี ยด

“อะไร? สิ่ งผิดปกติอะไรบนท้องฟ้า?”เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น การ


แสดงออกของหย่า จ่งหยุนและหย่า เฟยก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
ร่ างกายของเขาเคลื่อนไหวออกไปเป็ นลําแสงพุงออกไปยังท้องฟ้าด้าน
นอกพระราชวัง

ทันใดนั้น พวกเขาพบว่ามีเกาะหลายเกาะลอยอยูด่ า้ นบน พวกเขาจ้อง


มองไปที่ทอ้ งฟ้ายามคํ่าคืนด้วยสี หน้าที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ มี
บุคคลจํานวนไม่มากปรากฏขึ้นในท้องฟ้า ด้วยอาการที่ตกใจ
เมื่อพวกเขาแหงนหน้าขึ้นมอง ใบหน้าของหย่า จ่งหยุนและหย่า เฟย
เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อาการตกใจที่หาที่เปรี ยบไม่ได้ปรากฏอยูใ่ น
ดวงตาที่เบิกว่า

เป็ นเพราะว่าในขณะนั้น ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว มีสิ่งผิดปกติ


ปรากฏอยู่

ไม่รู้วา่ มันเกิดขึ้นห่างไกลกับพวกเขาขนาดไหน มีรอบแยกปรากฏอยู่


แต่แน่นอนว่าด้านบนสายธารแห่งดวงดาวในสวรรค์ท้ งั 9 เป็ นสถานที่
ที่คนไม่ควรไป
แน่นอนมันคือรอยแยก แม้วา่ ความมืดจะอยูร่ อบ แต่กย็ งั สามารถเห็นได้
ว่ามันมีรอยแยก รอบรอยแยกค่อยๆขยายใหญ่ข้ ึนขณะที่ทอ้ งฟ้าถูกฉี ก
ออก

“สวรรค์! ท้องฟ้าถูกฉีก! มันเกิดอะไรขึ้น! นี่คือภัยพิบตั ิที่ตาํ นาน


ได้กล่าวไว้และท้องฟ้าจะถล่มลงมาใส่ เราเช่นนั้นรึ ?” เมื่อเห็นรอยแยก
ขยายใหญ่ข้ ึนเรื่ อยๆ บางคนเริ่ มตะโกนออกด้วยความหวาดกลัวจาก
หัวใจ

“ท่านปู่ เกิดอะไรขึ้น? มีการถือกําเนิดของกายศักดิสิทธ์รึ?” มัน


ไม่ใช่ครั้งแรกที่หย่า เฟยเคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ เมื่อตอนนางยังเยาว์
นางเคยเห็นสิ่ งผิดปกติในท้องฟ้า และในเวลานั้นมีกายศักดิสิทธ์ถือ
กําเนิดขึ้นในภูมิภาคทะเลตะวันออก นัน่ คือกายศักดิสิทธิ์ของจื่อหลิง
“ไม่. ปรากฏการของกายศักดิสิทธิ์จะอยูห่ ่างไกลจากสายตาผูค้ น
ทั้งมันยังยังเป็ นตัวแทนอํานาจพิเศษแห่งสวรรค์ที่พวกเรารู ้กนั ”

“แต่เวลานี้ เหตุการณ์มนั ต่างออกไป มันดูไม่เหมือนกายศักดิสิทธิ์


มันดูเหมือนการดํารงอยูข่ องสิ่ งที่น่าสะพรึ งกลัว ที่ฉีกแบ่งท้องฟ้าออก
จากกัน”

“เฟยเอ๋ อ ดูให้ดี ดูรูปร่ างของรอยแยก มันดูไม่เหมือนสิ่ งที่มนุษย์ลง


มือทําเพือ่ แยกท้องฟ้าออกจากกันรึ ?” หย่า จ่งหยุนถามในขณะที่ช้ ีไปที่
ท้องฟ้ายามคํ่าคืน

หลังจากที่ได้ยนิ ปู่ ของนางพูด ที่ดา้ นข้างรอยแยกที่กาํ ลังขยายตัวอย่างไม่


สิ้ นสุ ดบนท้องฟ้า หย่า เฟยมองดูรายละเอียดของมันอีกครั้ง
แม้วา่ พื้นผิวของมันจะดูธรรมดา แต่ความหวาดกลัวสุ ดจะพรรณาได้
ปรากฏบนหน้าที่ตกใจของนางทันที แม้วา่ ร่ างกายของนางจะสัน่ เทา
เล็กน้อย แต่นางยังพูดด้วยนํ้าเสี ยงอ่อนโยนเป็ นอย่างมากว่า “ท่านปู่ นัน่ .
นัน่ ..นัน่ ..นัน่ มันอะไร?”........... ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////////////////////////////
A : นี้ไงพวกมืงไม่ตอ้ งไปหาตีนหรอก ตีนมาหาแล้ว คิดได้ไงมีเรื่ อง
กับ ฉิวซุย แม่งคงคิดว่า ฮวางฟู่ ตายไปแล้ว อยากจะเห็นตอนที่ ฮวางฟู่
กับ ฉิว ซานเฟิ ง มากระทึบพวกมันไวๆจุง

B : ตอนหน้าไม่แน่วา่ อาจะเป็ น ฮวางฟู่ ก็ได้!!! สาว่า ได้ความทรงจํา


คืนมาคร่ าวๆแล้ว ตอนที่เจอกันกับชูเฟิ งใหม่ๆ แม่งก็อยูใ่ นอาณาจักร
ราชันย์สงครามล่ะ ไม่น่าล่ะ ใครถึงทําไรมันไม่ได้เลย ต่อให้เป็ นราชวงศ์
เจียงโผล่ออกมาตอนนั้นก็เหอะ แต่ดีแล้วล่ะที่ราชวงศ์เจียงไม่ต้ งั ตัวเป็ น
ศัตรู กบั พี่เฟิ ง ตอนนี้ สํานักมังกรฟ้าคงจะครื่ นเครงกันน่าดู

A : เออ ว่าแต่ 9 อาณาจักจะโดนลูกหลงไปด้วยป่ ะ ตอนที่ทาํ สงคราม


กันเต็มรู ปแบบ

B : ความลับ!!!

A : กวนตีนนน!!!

C : ทั้ง 9 อาณาจักร ยกพวกกันมาหมด โหดป่ ะล่ะ แต่ละคนอยูใ่ น


อาณาจักร แก่นแท้วญ ิ ญาณ มีไม่กี่คนที่
ิ ญาณ ดีสุด อาณาจักรสวรรค์วญ
เข้าสู่ อาณาจักรจ้าวสงคราม อย่างผูก้ ่อตั้งกับพี่ลิง ขนาดชาวบ้านยัง
มาร่ วมสงครามเลย ไม่เน้นคุณภาพแต่เน้นจํานวนคน
B : ไปกันใหญ่ล่ะไอ C !!! แต่ลอยแตกของฟ้าจะเป็ นอะไรนั้นต้อง
รอตามดูกนั เชื่อว่าทุกคนคงขาดไม่ถึง!!!

C : พ่อพี่เฟิ ง มาเยือน!!! เพื่อพบชูเฟิ งครั้งแรก!!!

A : ไม่ใช่ เคโงะ จะได้เจอพ่อง่ายแบบนั้น

C ; หรื อว่า พิซซ่าจะมาส่ ง ???

B : โอ้ว น่าอร่ อย!!! ไปแดกในส้วมไป

บทที่ 639 – ฝ่ ามือยักษ์ที่น่าหวาดเกรง

ในคืนที่ฟ้าเงียบสงัดนั้น จู่ๆ ท้องฟ้าก็เปิ ดออก ราวกับมันถูกฉี ก


กระชากด้วยฝ่ ามือขนาดใหญ่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทาํ ให้คนที่พบเห็น
ต่างหวาดกลัวไปตามกัน
บนท้องฟ้าที่สูงเช่นนั้น หากเป็ นฝี มือของมนุษย์ ผูท้ ี่สามารถทําได้
จะต้องมีร่างกายที่ใหญ่โตอย่างมาก อีกทั้งยังมีพลังมากมายมหาศาลเกิน
กว่าที่จะจินตนาการได้

ยิง่ พวกเขาคิดถึงผูท้ ี่สามารถทําเช่นนี้ได้ พวกเขายิง่ รู ้สึกหวาดกลัว


มากขึ้นไปอีก เพราะนี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่มนุษย์ หรื อแม้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญที่
แข็งแกร่ งจะสามารถกระทําได้อย่างแน่นอน

พวกเขาต่างคิดว่ามันเป็ นฝี มือของพระเจ้า หรื อปิ ศาจ หรื ออาจจะ


เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติบางอย่าง ซึ่ งไม่เกี่ยวข้องกับมนุษย์แม้แต่
น้อย
สิ่ งที่เกิดขึ้นนี้ทาํ ให้ทุกคนต่างตกตะลึงถึงขีดสุ ด พวกเขาต่างไม่
สามารถทําอะไรได้ แม้วา่ พวกเขาอยากรู ้มากแค่ไหนก็ตาม

ทุกคนในเขตทะเลตะวันออกต่างเห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้ ไม่เว้น
แม้แต่ ชูเฟิ ง

แต่ในขณะนี้ ชูเฟิ ง ไม่มีความคิดที่จะหยุดดูมนั แม้แต่นอ้ ย เพราะใน


หัวของเขาตอนนี้มีเพียงเรื่ องเดียวเท่านั้น นัน่ ก็คือเรื่ องของ เสี่ ยวยู่

“ชูเฟิ ง !!” ในขณะนั้น ก็มีเสี ยงหนึ่งดังขึ้น พร้อมๆ กับร่ างกายที่


งดงามราวกับนางฟ้าปรากฏตัวออกมาที่ดา้ นหน้าของ ชูเฟิ ง นัน่ ก็คือ ฉิ ว
ซุ่ย ฟู่ หยาน
“ผูอ้ าวุโส ฉิวซุ่ย ท่านพบ เสี่ ยวยู่ หรื อไม่ !?” ชูเฟิ ง กล่าวถามด้วย
ความกังวล

แต่ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน กลับส่ ายศรี ษะของนาง และกล่าวออกมาว่า “ชู


เฟิ ง ด้วยวิธีที่เราค้นหานางอยูใ่ นตอนนี้ พวกเรายังไม่สามารถพบนางได้
อีกทั้งความรวดเร็ วของนางในนํ้ายังรวดเร็ วมาก ถ้านางออกไปเที่ยวเล่น
นางอาจจะไม่อยูใ่ นทะเลตะโลหิ ตนิรันดร์กเ็ ป็ นได้ และด้วยความเร็ ว
ขนาดนั้น เจ้าคิดว่าจะพบนางได้หรื อ !!”

“ดังนั้นเจ้าควรจะกลับไปรอ เสี่ ยวยู่ ดีกว่า หากนางเที่ยวเล่นจน


พอใจแล้วนางน่าจะกลับมาเอง”
“ส่ วนเรื่ องที่นางอาจถูกจับตัวไปนั้น เจ้าไม่ตอ้ งกังวลไป ด้วย
ความเร็ วของนาง หยา เฟย ย่อมไม่มีความสามารถที่จะจับนางได้ทนั ”

หลังจากกล่าวจบนั้น ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ก็แหงนหน้าขึ้นไปมองบน


ท้องฟ้า และถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมทั้งกล่าวออกมาว่า “คืนนี้ช่าง
แปลกเสี ยจริ ง !!” จากนั้นนางก็พงุ่ ทะยานออกไปอย่างรวดเร็ ว พร้อมทั้ง
แผ่อาํ นาจพลังวิญญาณออกมาเพื่อเพิม่ ความสามารถในการตรวจสอบ

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง ก็รู้วา่ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน พยายามค้นหาเสี่ ยวยู่


อย่างเต็มที่ และนางก็เป็ นคนที่มีเหตุผลอย่างมาก เพราะหากเสี่ ยวยูอ่ ออก
ไปเที่ยวเล่นจริ ง ไม่นานนางก็จะกลับมายังเกาะลอย และหากนาง
กลับไป และไม่มีผใู ้ ดรอนางอยูท่ ี่นน่ั อันตรายอาจจะเกิดขึ้นกับนางก็
เป็ นได้
ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงไม่สุ่มออกคนหาตัวของเสี่ ยวยู่ เขารี บใช้ทกั ษะเพื่อ
กลับมายังเกาะลอยอย่างรวดเร็ ว

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง !! เจ้าพบเสี่ ยวยูไ่ ม๊ !?” เมื่อกลับมาถึงเกาะลอย


นั้น ชูเฟิ ง ก็พบว่า เจียง ว่านชือ ได้กลับมาถึงก่อนแล้ว และนี่อาจนะเป็ น
คําสัง่ ของ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ที่ให้นางกลับมาก่อนก็เป็ นได้

ชูเฟิ ง ส่ ายศรี ษะของเขาและกล่าวออกมาว่า “ศิษย์พี่ เจียง ท่านไม่


ต้องกังวล ข้าเชื่อว่าเสี่ ยวยูจ่ ะต้องกลับมาในเร็ วๆ นี้แน่นอน ท่านรออยู่
บนนี้ ส่ วนข้าจะลงไปรอรับนางที่ดา้ นล่าง”

“เพราะนางมีความสามารถที่ยงั แอบแฝงอยูอ่ ีกมาก ข้าเองก็ไม่รุ้วา่


นางจะสามารถทะยานบนอากาศแล้วกลับมาที่ได้โดยตรงหรื อไม่ หาก
เป็ นเช่นนั้น ท่านก็เพียงลงไปบอกข้า”
“ได้เลย ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง” เจียง ว่านชือ พยักหน้ารับ

หลังจากกล่าวจบ ชูเฟิ ง ก็กระโดดลงมากจากเกาะลอยลงสู่ ผวิ นํ้า


ทะเลโลหิ ตนิรันดร์อย่างรวดเร็ ว

หลังจากยืนบนผิวนํ้าอย่างสงบเพื่อรอเสี่ ยวยูน่ ้ นั ชูเฟิ ง ก็แทบจะทํา


อะไรไม่ถูก เพราะสถานที่ตรงนี้เป็ นจุดศูนย์กลางบองทะเลโลหิ ตนิ
รันดร์ ผูค้ นทั้งหมดต่างอาศัยอยูต่ รงบนิเวณนี้

และด้วยเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดบนท้องฟ้านั้น ทําให้มีเสี ยง
อื้ออึงดังขึ้นมาอย่างไม่ขาดสายตลอดเวลา มันจึงทําให้ ชูเฟิ ง ต้องแหงน
หน้าขึ้นไปมองท้องฟ้านั้นเช่นกัน

“ต้านต้าน เหตุการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้ เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ มันเกิด


อะไรขึ้น !?” ชูเฟิ ง ตรวจสอบรอบๆ อย่างระมัดระวัง และพบว่า
เหตุการณ์น้ ีแปลกประหลาดอย่างมาก มันราวกับเป็ นฝี มือของพระเจ้าก็
ไม่ปาน

“หึ แม้วา่ ข้าจะเคยเห็นเหตุการณ์มากมายในโลกวิญญาณ แต่นี่ก็


เป็ นครั้งแรกที่ขา้ เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ทําไมเจ้าไม่ใช้พลังของเนตร
สวรรค์ตรวจสอบมันดูล่ะ !?” ต้านต้าน กล่าวพลางหัวเราะเบาๆ

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง ไม่รอช้า เขารับใล้พลังของเนตรสวรรค์


มองไปยังท้องฟ้าอย่างรวดเร็ ว ด้วยพลังของเนตรสวรรค์น้ นั เขาก็พบ
บางอย่างที่ผดิ แปลกออกไปจากครั้งแรกที่เขามองมัน
ในการมองเห็นของคนทัว่ ไปนั้น พวกเขาจะเห็นเพียงท้องฟ้าถูก
แยกออก ราวกับมันถูกฉีกด้วยฝ่ ามือขนาดใหญ่

แต่ดว้ ยพลังของเนตรสวรรค์น้ นั ชูเฟิ ง สามารถมองเห็นบางอย่างที่


ค่อนข้าชัดเจน เขาเห็นฝ่ ามือขนาดใหญ่ลอดผ่านลงมาจากท้องฟ้าที่เปิ ด
ออกนั้น

“นะ……นี่มนั เกิดอะไรขึ้น !!” เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง ไม่


สามารถสงบสติอารมณ์ของเขาได้แม้แต่นอ้ ย เขากลับรู ้สึกหวาดกลัว
อย่างมากเมื่อเขาเห็นเช่นนั้น
แม้วา่ ผูเ้ ชี่ยวชาญจะแข็งแกร่ งเพียงใด แต่พวกเขาก็มีขีดจํากัด พวก
เขาสามารถเดินบนอากาศ และเพียงแค่ทะลวงไปในชั้นเมฆได้ แต่พวก
เขาไม่อาจขึ้นไปถึงชั้นฟ้า ดวงดาว หรื อดวงจันทร์ได้

แต่ในเวลานี้กลับมีฝ่ามือขนาดใหญ่ ฉี กกระชากท้องฟ้าออกต่อ
หน้าของ ชูเฟิ ง มันทําให้เขาหวาดกลัวอย่างมาก

เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า ฝ่ ามือขนาดใหญ่น้ ีมีพลังมาก


เพียงใด ถึงสามารถฉีกท้องฟ้าออกจากันได้เช่นนั้น

ชูเฟิ ง ยิง่ ไม่สามารถจินตนาการได้มากขึ้นไปอีก ด้วยขนาดของเขต


ทะเลตะวันออกที่กว้างใหญ่น้ ี แต่มนั กลับสามารถถูกบดขยี้ได้โดยนิ้ว
เพียงนิ้วเดียวของฝ่ ามือขนาดใหญ่น้ ี
ฝ่ ามือนี้น่าหวาดกลัวอย่างมาก ความหวาดกลัวของ ชูเฟิ ง พุง่ ทะลุ
ถึงขีดสุ ด เพราะเจ้าของฝ่ านี้ยอ่ มสามารถทําลายพื้นแผ่นดิน และท้องฟ้า
ได้อย่างง่ายดายแน่นอน

ในตอนนี้ ชูเฟิ ง ที่ไม่เคยเชื่อเรื่ องของพระเจ้านั้น เขากลับคิดว่า


เหตุการณ์น้ ีเกี่ยวข้องกับพระเจ้า

“มันคือหัตถ์ของพระเจ้า !?” นี่คือคําถามที่ติดอยูภ่ ายในหัวใจของ


ชูเฟิ ง

“ต้านต้าน เจ้าเห็นนัน่ หรื อไม่ !!” ชูเฟิ ง รี บกล่าวถาม ต้านต้าน


อย่างรวดเร็ ว เพราะการมองเห็นของเขาเชื่อมต่อกับนาง
“อืมมมม…..ดูเหมือนว่านี่จะเป็ นของจริ ง !!” ต้านต้าน กล่าว
ออกมาด้วยความจริ งจัง ความขี้เล่นของนางหายไปอย่างหมดจรด

“ต้านต้าน เจ้าหมายความว่าไง !? อย่าบอกนะว่าฝ่ ามือนี่เป็ นของ


จริ ง ไม่ใช่เพียงภาพลวงตา !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง กล่าวถามอย่าง
ตกตะลึง

“นี่อาจจะเป็ นโชคชะตาแห่งภัยพิบตั ิ ถ้าเป็ นเช่นนั้นมันก็ไม่อาจ


หลีกหนีได้ อย่าได้กงั วลไป เพราะถึงอย่างไรเจ้าก็ไม่อาจทําอะไรได้
หวังว่าโชคชะตาแห่งภัยพิบตั ิน้ ีจะไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า” หลังจากกล่าวจบ
ต้านต้าน ก็เงียบไป อาจกล่าวได้วา่ แม้แต่มหาราชินีอย่างนางที่ไม่เคย
เกรงกลัวสิ่ งใด กลับหวาดกลัวต่อสิ่ งที่เกิดขึ้นนี่
ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////
A : และแล้วตอนนี้เราก็ยงั ไม่รู้วา่ นี้เป็ นฝี มือใคร แล้วจะมีส่วน
เกี่ยวข้องอะไรกับชูเฟิ ง

B : นั้นสิ ความซวยจะไปตกที่ใคร รอลุน้ กันในตอนหน้า

บทที่ 640 – ออกเดินทาง

ยิง่ ต้านต้าน นิ่งเงียบเท่าไหร่ ชูเฟิ ง ยิง่ กังวลมากขึ้นเท่านั้น


ในตอนนี้เขาถึงได้เข้าใจถึงคําว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า !!”

แต่เมื่อเขามองไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในท้องฟ้าตอนนี้ เขายิง่
หวาดกลัวมากขึ้นไปอีก
หากทุกอย่างที่เกิดขึ้นในท้องฟ้าตอนนี้เป็ นเรื่ องจริ งนั้น ชูเฟิ ง หรื อ
ผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงคราม , ราชันย์สงคราม หรื อแม้แต่จีกรพรรดิสง
คราม ก็มีค่าไม่ต่างจากไรฝุ่ น

หากว่าเส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังไม่มีจุดสิ้ นสุ ด และไร้ขีดจํากัด


นั้น นอกจากเก้าสวรรค์ที่คงอยู่ ก็ยงั มีพลังอํานาจที่เหนือกว่าจนสามารถ
ฉีกกระชากท้องฟ้าออกจากกันได้เช่นนี้

แม้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญที่อยูใ่ นจุดสู งสุ ดของเขตทะเลตะวันออก เมื่ออยู่


ต่อหน้าพวกเขาก็มีค่าเพียงฝุ่ นละออง ราวกับสายลมที่ไร้ค่าเท่านั้น

“ยีย่ า่ ยีย่ า่ !! พี่ใหญ่ !!”


ในขณะที่ ชูเฟิ ง กําลังตื่นตะลึงอยูน่ ้ นั จู่ๆ ก็มีเสี ยงที่ไพเราะดัง
ขึ้นมาจากระยะที่ห่างออกไป

เมื่อได้ยนิ เสี ยงนั้น ความกังวลและความไม่สบายใจของเขาก็


หายไปราวกับฝุ่ นความ มันถูกแทนที่ดว้ ยความสบายใจอย่างมาก ชูเฟิ ง
มองออกไปนังต้นเสี ยงอย่างรวดเร็ ว

ลูกคลื่นกําลังพุง่ ตรงมายังเขาอย่างรวดเร็ ว ในคลื่นนั้นมีคนตัวเล็กๆ


เมื่อเข้ามาใกล้คนตัวๆ เล้กนั้นก็กระโดดเข้าสู่ ออ้ มกอดของ ชูเฟิ ง อย่าง
รวดเร็ ว และคนตัวเล็กนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เสี่ ยวยู่

“เสี่ ยวยู่ ในที่สุดเจ้าก็กลับมา !!” ชูเฟิ ง ไม่ได้ตาํ หนิเสี่ ยวยูแ่ ต่อย่าง


ใด ในตอนนี้เขาเต็มไปด้วยสบายใจ และความรู ้สึกผ่อนคลาย

“ฮี่ฮี่ พี่ใหญ่ ท่านเป็ นห่วงเสี่ ยวยูเ่ หรอ !?” เสี่ ยวยู่ ฉลาดอย่างมาก
นางกล่าวออกมาพลางกระพริ บตาปริ บๆ

“ข้าต้องเป็ นห่วงซิ !! เสี่ ยวยูค่ ือนางฟ้าของพี่ใหญ่ !! เมื่อนางฟ้าของ


พี่ใหญ่หายไปข้าจะไม่ห่วงได้อย่างไร !!” ชูเฟิ ง กล่าวพลางยิม้ บางๆ
พร้อมกับลูบไปที่ผมสี ดาํ ของเสี่ ยวยูอย่างแผ่วเบา เห็นได้ชดั ว่าเขาเอ็นดู
เสี่ ยวยูอ่ ย่างมาก

“พี่ใหญ่ !! เสี่ ยวยูม่ ีที่ที่อยากไป !!” เสี่ ยวยู่ กล่าวออกมาอย่าง


รวดเร็ ว
“ไป !? ไปไหน !?” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง จึงกล่าวถามออกมา
ด้วยความประหลาดใจ

“ไปยังที่สถานที่เที่ยวเล่นใหม่ๆ ที่นี่เสี่ ยวยูเ่ ที่ยวเล่นพอแล้ว !!”


เสี่ ยวยู่ กล่าวพลางอมยิม้

“แล้วเสี่ ยวยูจ่ ะกลับมาเมื่อไหร่ !!” ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“กลับมา !! เสี่ ยวยู่ จะไม่กลับมาในที่ที่เคยเที่ยวเล่นแล้ว !! เสี่ ยวยู่


จะออกเที่ยวเล่นไปเรื่ อยๆ !!” ปลายน้อย กล่าว
“เอ๋ …..แล้วเสี่ ยวยูจ่ ะไปเมื่อไหร่ !?” ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“ตอนนี้”

“ตอนนี้ !!”

“อืม !!” เสี่ ยวยู่ พยักหน้าเบาๆ

มีบางอย่างทําให้ ชูเฟิ ง รู ้สึกปวดใจ เมื่อเขามองไปยังเสี่ ยวยู่ แม้วา่


จะได้ร่วมทางกันเพียงไม่นาน แต่ ชูเฟิ ง ก็รู้สึกอย่างชัดเจนว่าเขาอยากจะ
ปกป้องสาวน้อยคนนี้
แต่ ชูเฟิ ง ก็ตอ้ งหยุดความคิดของเขาเอาไว้ เพราะด้วยความ
แข็งแกร่ งของเขาไม่เพียงพอที่จะปกป้องนาง นี่จึงเป็ นเหตุผลที่เขาไม่
ขอให้ เสี่ ยวยู่ อยูก่ บั เขา หรื อให้เขาร่ วมเดินทางไปกับนาง

ชุเฟิ ง รู ้ดีวา่ เสี่ ยวยู่ เป็ นเพียงเด็กเล็กคนๆ หนึ่ง ที่เดินผ่านเข้ามาใน


ชีวติ ของเขา มันเป็ นไปไม่ได้เลยที่คนพิเศษอย่างนางจะอยูเ่ คียงข้างเขา
ตลอดไป

นอกจากนี้ ชูเฟิ ง ยังมีอีกหลายสิ่ งที่เขาจะต้องทํา เขาได้แบก


ภาระหน้าที่ที่หนักหนามากมายเอาไว้บนตัวของเขา และเขาเองก็ไม่
อยากพานางไปร่ วมจมไปกับความทุกข์ในภายภาคหน้าที่อาจจะเกิด
ขึ้นกับเขา
แม้วา่ ชูเฟิ ง จะรู ้วา่ ไม่นานพวกเขาจะต้องแยกจากกัน แต่เขาก็ไม่
คิดว่ามันจะรวดเร็ วเช่นนี้

“พี่ใหญ่ !! ข้ามีของขวัญให้ท่าน !!” เสี่ ยวยู่ กล่าวพลางหัวเราะคิก


คัก ขณะที่นางผายฝ่ ามือของนางออก ก็มีสร้อยคอปรากฏอยูบ่ นฝ่ ามือ
ของนาง

เมื่อ ชูเฟิ ง จ้องมองไปยังมันนั้น เขาก็พบกับกับสร้อยคอเส้นที่ดู


น่าสนใจอย่างมาก มันเป็ นสร้อยคอที่ทาํ จากเชือกป่ าน และมีหินสี ดาํ ๆ
อยูต่ รงกลาง

หากมองอย่างละเอียดนั้น มันเป็ นเพียงสร้อยคอธรรมดา ที่ถูกทํา


ขึ้นด้วยเชือกป่ าน ผูกติดกับหิ นสี ดาํ และการผูกนั้นก็เป็ นการผูกเพียง
หยาบๆ เท่านั้น

“ฮี่ฮี่ พี่ใหญ่ สร้อยคอนี้ เสี่ ยวยู่ เป็ นคนทําเอง !!” เสี่ ยวยู่ กล่าวอย่าง
ภาคภูมิใจ ขณะที่นางมองไปยังสร้อยคอในมือของนาง

“ยอดเยีย่ มมาก !! ข้าไม่คิดเลยว่า เสี่ ยวยู่ จะสามารถสร้างสร้อยคอ


ของตัวเองขึ้นมาได้ !!” แม้วา่ มันจะเป็ นสร้อยที่ถูกทําออกมาอย่าง
หยาบๆ แต่มนั ก็เป็ นฝี มือของเด็กสามควบเท่านั้น ชูเฟิ ง จึงกล่าวชม
ออกไปด้วยความประทับใจ

“ฮี่ฮี่ พี่ใหญ่ ท่านจะต้องสวมมันไว้ตลอด หากท่านทําให้มนั หาย


หรื อถอดออก เสี่ ยวยู่ จะโกรธท่าน !!” เสี่ ยวยู่ กล่าวพลางยืน่ สร้อยคอใส่
มือของ ชูเฟิ ง
“เสี่ ยวยู่ หากเจ้าจะออกเดินทางไปในตอนนี้ พี่ใหญ่กม็ ีของขวัญจะ
มอบให้เจ้าเช่นกัน !!” สมบัติของ ชูเฟิ ง นั้นมีอยูม่ ากมาย เขาเลือก
ออกมาอย่าตั้งใจ เขาหยิบกําไลข้อเท้าที่งดงามออกมาเส้นหนึ่ง และสวม
มันไว้ที่ขอ้ เท้าเล็กๆ ของ เสี่ ยวยู่

มันไม่ได้เป็ นเพียงกําไลข้อเท้าธรรมดาเท่านั้น แต่มนั คือยอด


ยุทธภัณฑ์ ที่สามารถป้องกันตัวเองโดยอัตโนมัติได้

“ยีย่ า่ ยีย่ า่ !! พี่ใหญ่ เสี่ ยวยูช่ อบมันมาก มันสวยมาก!!” นางไม่ได้


สนใจว่ามันจะเป็ นยอดยุทธภัณฑ์แต่อย่างใด นางมีความสุ ขอย่างมากต่อ
ของขวัญชิ้นนี้ นางกระโดดลงนํ้า และว่ายวนอยูร่ อบๆ ชูเฟิ ง อย่าง
รวดเร็ ว
“พี่ใหญ่ เสี่ ยวยูจ่ ะไปแล้วนะ !!” หลังจากว่ายวนรอบๆ อยูส่ กั พัก
นางก็หยุด และกล่าวลา ชูเฟิ ง

“อืม….พี่ใหญ่จะคิดถึงเจ้านะ เสี่ ยวยู่ !!” ชูเฟิ ง ยืนอย่างสงบนิ่ง


บนผิวนํ้าอย่างมัน่ คง เขาโบกมือให้เสี่ ยวยูพ่ ร้อมกับยิม้ ออกมาบางๆ

“เสี่ ยวยู่ ก็จะคิดถึงท่าน พี่ใหญ่ ลาก่อน !!” เสี่ ยวยู่ กล่าวด้วยรอยยิม้


พราวระยับ ก่อนที่นางจะหันหน้าออกไป และว่ายออกไปราวกับนาง
เงือก พร้อมกับเสี ยงร้องอย่างร่ าเริ ง “ยีย่ า่ ยีย่ า่ !!” ในที่สุดนางก็หายไป
จากสายตาของ ชูเฟิ ง

ชูเฟิ ง มองไปยังเส้นทางที่ เสี่ ยวยู่ หายลับไป เขามองลงมายัง


สร้อยคอในมือของเขาด้วยรอยยิม้ ก่อนที่จะสวมมันไว้ที่คอ และเก็บหิ น
สี ดาํ ใส่ ไว้ใต้เสื้ อผ้าของเขา

ณ ทางด้าน หมู่เกาะประหารบริ เวณเขตทะเลโลหิ ตนิรันดร์

“สิ่ งที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้านัน่ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขตทะเล


ตะวันออก และถึงแม้มนั จะเกี่ยวของกับสถานที่แห่งนี้ แต่มนั ก็ไม่ใช่สิ่ง
ที่ไม่ดี ดังนั้น เฟยเอ๋ อ เจ้าไม่ตอ้ งหวาดกลัว”

ในขณะนั้น หย่า จ่งหยุน กําลังจ้องมองไปยังความผิดปกติที่เกิดขึ้น


ในท้องฟ้า พร้อมกับปลอบใจหลานสาวของเขา

“อืมมมม” แม้วา่ หย่า เฟย จะหวาดกลัว แต่หลังจากที่เหตุการณ์


แปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นเป็ นเวลานาน แต่ยงั ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นนั้น นางก็
ค่อยๆ ผ่อนคลายลงด้วยความสบายใจ

ดังนั้นนางจึงกล่าวกับ หย่า จ่งหยุน ว่า “ท่านปู่ เหตุการณ์น้ ีกเ็ กิด


ขึ้นมานานแล้ว แต่กย็ งั ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น พวกเราก็อย่าได้ใส่ ใจ
มันอีกเลย ตอนนี้ขา้ อยากรู ้วา่ เถ่า ฉิ วซุ่ย จะหนีไปแล้วหรื อเปล่าหชังจาก
ข่าวที่ท่านปู่ กลับมายังทะเลโลหิ ตนิรันดร์ !!”

“อืม…เฟยเอ๋ อ พูดถูก แม้วา่ มันอาจจะเป็ นลางบอกเหตุอะไร


บางอย่าง แต่พวกเราก็ไม่อาจควบคุมมันได้ พวกเราควรไปเยีย่ มบุตรสาว
ศักดิ์สิทธิ์ผทู ้ ี่ขา้ ไม่เคยพบมานานกันเสี ยก่อน”

หย่า จ่งหยุน พยักหน้าเบาๆ เพื่อแสดงความแข็งแกร่ ง และอํานาจ


ของเขานั้น เขาได้พาผูเ้ ชี่ยวชาญจากหมู่เกาะประหารมาด้วย เพื่อไปยังที่
พักอาศัยของ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : เสี่ ยวยู่ T^T

B : เสี่ ยวยู่ T^T

C : เสี่ ยวไป๋ T^T หายไปนานเลย จนทุกคนลืมมืงกันไปแล้ว ช่างน่า


สงสารยิง่ นัก!!!

A - B : เสี ยอารมณ์ชิบหาย เห็นไม๊วา่ เค้ากําลังดราม่ากัน

C : กูกด็ ราม่า!!!
บทที่ 641 - ภัยธรรมชาติ

หลังจากที่ตดั สิ นใจแล้ว หย่า จ่งหยุน นํา หย่า เฟย และผูต้ ิดตามจ้าว


สงครามทั้ง 100 ตลอดจนถึงผูเ้ ชี่ยวชาญที่ทาํ หน้าที่ป้องกันหมู่เกาะ
ประหารในทะเลโลหิ ตนิรันดร์ เพื่อมุ่งหน้าไปยัง ที่พกั ของ แม่นาง ฉิ ว
ซุย

แต่ หย่า จ่งหยุน และ หย่า เฟย ไม่ได้บอก เหล่าฝูงชนของหมู่เกาะ


ประหาร ว่าทําไมถึงต้องตามล่า เถ่า ฉิ วซุ่ย ซึ่ งพวกเขาต้องปฏิตามเพราะ
พวกเขาอยูต่ ่อหน้า ผูน้ าํ ของ เก้า นิรันดร์ ซึ่ ง เขายังเป็ นผูเ้ ฒ่าที่แข็งแกร่ ง
ที่สุดเป็ นอันดับ 2 ของหมู่เกาะประหาร [ T/N ที่คิดว่าแข็งแกร่ งเป็ น
ที่ 2 เพราะมีคนไม่กี่คนที่รู้วา่ ผูน้ าํ รุ่ นก่อนของหมู่เกาะประหารยังมี
ชีวติ อยู่ ]

สําหรับใบหน้า หย่า เฟย ในตอนนั้น เต็มไปด้วยความพึงพอใจ เพราะ


นางโกรธ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยานเป็ นอย่างมากที่โดนหยามหน้า แล้วนางก็ได้
โอกาสแก้แค้นเร็ วขนาดนี้ นางแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะเห็นความกลัว
ของ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน
* บูมมมมมมมมม *

แต่เมื่อพวกเขาเริ่ มเคลื่อนไหวและกําลังจะก้าวมาถึงเกาะลอย ที่เป็ นที่พกั


ของ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ก็มีเสี ยงระเบิดดังกึกก้องบนท้องฟ้า

เมื่อพวกเขาแหงนหน้ามองขึ้นไป ทุกคนก็ถึงกับหน้าถอดสี ใบหน้าของ


พวกเขาจมลงไปกับความตะลึง ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความ
หวาดกลัว

" อ๊าาาาาาา ~ ~ ~ "


ตอนนั้น หลายคนที่มีจิตใจที่ไม่หนักแน่นเริ่ มจะกรี ดร้องออกมา จนเสี ยง
ดังระงม

ในตอนนั้นเหนือสวรรค์ท้ งั เก้า เกิดการแหวกออกอย่างไม่รู้จบ จากนั้นก็


มีฝ่ามือขนาดมหึ มาออกมาปกคลุมทัว่ ผืนฟ้าค่อยๆซัดลงมากจากด้านบน

ฝ่ ามือนั้นปรากฏขึ้นมาและก็หายไปอย่างต่อเนื่องราวกับสิ่ งลวงตา
สัญลักษณ์ที่อยูร่ อบๆมัน ยากที่จะบอกว่าฝ่ ามือนั้นคือสิ่ งใด ยังไรก็ตาม
สิ่ งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ ความกลัวที่เกิดขึ้นในจิตใจของทุกๆคน ฝ่ ามือนั้น
เหมือนจะสามารถทําลายทุกสิ่ งทุกอย่าง

* บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม*


ในทันทีที่ฝ่ามือขนาดมหึ มาซัดลงมา ทุกคนเห็นชัดว่าแผ่นดินยุบลงไป
ด้านนอกของโลก ดวงดาวได้ถูกมันทําลาย เนื่องจากดวงดาวถูกทําลาย
ท้องฟ้าจึงเต็มไปลูกไฟอุกกาบาตที่ถล่มลงมา

ขณะนั้นท้องฟ้าได้พงั ทลายย่อยยับ พวกเขาก็ไม่สามารถมองเห็นดวง


ตะวัน ดวงจันทร์ หรื อ ดวงดาวได้ พวกเขามองเห็นแค่เพียงพื้นที่
ด้านล่าง

แต่ถึงแบบนั้น โลกก็ไม่ได้ตกลงสู่ ความมืดมิดแต่อย่างใด กับเป็ นแสง


สว่างอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด

เหตุผลที่เป็ นเช่นนั้น เนื่องจากท้องฟ้าเต็มไปด้วยอุกกาบาต ที่มีอยูน่ บั ไม่


ถ้วน พวกเขาทุกคนบอกได้วา่ อย่างน้อยๆ ก็มีปริ มาณเพียงพอที่จะ
ทําลายทะเลตะวันออก

มันเหมือนความบ้าคลัง่ ของดาวหางที่ทาํ ให้โลกสว่าง แต่สีที่สว่างนั้นคือ


สี แดงเพลิงที่พดั พาความมืดมิด และเมื่อแสงสว่างสี แดงเพลิงปะทะกับ
ทะเลสี แดงเลือด มันจึงทําให้ทะเลโลหิ ตนิรันดร์กลายเป็ นลาวา

ทะเลโลหิ ตนิรันดร์ที่สงบอยูเ่ สมอ บัดนี้มนั ไม่เป็ นเหมือนดัง่ ปั จจบุน


ตอนนี้ผวิ นํ้ามันเหมือนกับ ลาวา ที่ผดุ ขึ้นตลอดเวลา

" หนี! ! ! ! ! ทุกคนหนีไป! ! ! โลกถึงการอวสานแล้ว "

เห็นแบบนั้น ทุกคนที่กาํ ลังพากันตะลึง ไม่มีเวลาพอที่จะคิดเรื่ องอื่น


ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือการวิง่ หนีเอาตัวรอด

ขณะที่พวกเขาหนี ฝ่ ามือขนาดมหึ มาก็ค่อยๆลดลงมาครอบคลุมทั้ง


ท้องฟ้า และตอนนี้กย็ งั มีอุกกาบาตที่ตกกระจายไปทัว่ ทุกภูมิภาคทะเล
ตะวันออก แล้วพวกเขาจะหนีไปไหนได้ ?

" ท่านปู่ พวกเราจะทํายังไงกันดี " หย่า เฟยในตอนนั้นได้ลืมการ


แก้แค้นไปโดยปริ ยาย นางที่มกั จะหยิง่ ยโส อวดดี ปั จจุบนั กับมีสีหน้าที่
ซีดเผือดราวกับไก่ตม้ นั้นเป็ นเพราะความหวาดกลัว แม้แต่ร่างของนาง
ยังสัน่ เทาเบาๆ นางทําตัวเหมือนเด็ก ที่โดดเข้าไปยังอ้อมกอดของปู่ โดย
ไม่กล้าขยับไปไหน

" เฟย เอ๋ อ ไม่ตอ้ งกลัว ตอนนี้ปู่อยูก่ บั เจ้า แม้ต่อให้ขา้ แลกด้วยลม


หายใจสุ ดท้าย ข้าจะต้องทําให้เจ้าปลอดภัย "
ขณะนั้น หย่า จงหยุน ใช้มือข้างหนึงกอดหย่า เฟย แน่น และในเวลา
เดียวกันเขาก็ใช้มืออีกข้าง สร้างรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณสี ทองขึ้นมา

รู ปแบบอํานาจสี ทอง ไม่ได้ปลกคลุมทัว่ ทุกพื้นที่ แต่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อ


ปกป้องตัวเขาและหย่า เฟย ไม่วา่ คนอื่นๆจากหมู่เกาะประหารจะขอร้อง
เขายังไง เขาก็ไม่ยอมให้ใครเข้ามา

เหตุผลที่เขาทําแบบนั้นเพราะว่าเขาไม่อยากใช้อาํ นาจพลังที่จะปกป้อง
ตัวเองไปช่วยคนอื่น ในวินาทีน้ นั เขาเพียงแค่ตอ้ งการให้ตวั เองและ
หลานสาว มีชีวติ รอด
ถึงแม้วา่ รู ปแบบอํานาจพลังของหย่า จงหยุน ไม่วางรู ปแบบขนาดใหญ่
ครอบคลุมพื้นที่ แต่มนั ก็ถูกสร้างขึ้นด้วยอํานาจพลังทั้งหมดของเขา
แทบจะพูดได้วา่ เขาใช้ทุกอย่างที่เขามี เพราะในสถานการณ์แบบนี้ เขา
ไม่กล้าที่จะเก็บอะไรไว้

ด้วยพลังที่ขีดสุ ดของเขา ในที่สุดเขาก็สร้างหอคอยสี ทองขนาดเล็ก สู ง


ประมาณ 5 เมตรข ความกว้าง 2 เมตรขึ้นมา แม้วา่ หอคอยจะดูไม่ใหญ่
มาก แต่มนั ก็เปี่ ยมไปด้วยอํานาจพลังที่แข็งแกร่ ง มันคือรู ปแบบป้องกัน
ที่ร้ายกาจของ หย่า จงหยุน

* พุง่ *
แต่เมื่อวางรู ปแบบเสร็ จเรี ยบร้อย ก็มีเสี ยงอึกทึกเกิดขึ้นบนท้องฟ้า
ระยะไกลออกไป ในเวลาเดียวกัน โลกก็สนั่ สะเทือน จนผิน้ ผิวทะเล
โลหิ ตนิรันดร์ที่เหมือนลาวาเกิดการปะทุ นํ้าจํานวนมากพุง่ ขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า
และในตอนนั้นทุกอย่างก็จมลงสู่ ความอลม่าน

* พุง่ พุง่ พุง่ พุง่ พุง่ *

หลังจากที่เสี ยงนั้นดังขึ้น ก็มีเสี ยงระเบิดดังอย่างต่อเนื่องไล่เข้ามาหา


หย่า เฟย และ หย่า จงหยุน พวกเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็ นอุกกาบาต
จากท้องฟ้ากําลังตกลงมาใกล้ๆ
หลังจากที่เห็นเส้นแสงเปลวเพลิง จากด้านบนกําลังลงมากระแทกกับ
อากาศ มันก็เกิดการระเบิดกระจายออกเป็ นคลื่นพลังที่แสนจะดุร้าย ทํา
ให้ลมพัดออกไปโดยรอบในรู ปทรงของวงกลม คลื่นพลังที่กระจายออก
ไม่มีท่าทีวา่ จะเบาลง มันยังคงพัดผ่านทุกพื้นที่และทุกสิ่ งทุกอย่าง ไม่วา่
จะดูยงั ไง คลื่นระลอกนั้นมันก็สามารถฆ่าพวกเขาได้

" อ้า ~ ~ ~ "

ในที่สุด อุกกาบาตก็ตกลงสู่ ทะเลโลหิ ตนิรันดร์ ทันทีที่มนั กระแทก นํ้าก็


เกิดการระเบิดขึ้นดัง่ ภูเขาไฟระเบิดจนลาวาทะลักออกมา

และเมื่อคลื่นพลังกวาดผ่าน นอกจาก หย่า เฟย และ หย่า จงหยุน ที่อยูใ่ น


รู ปแบบอํานาจฯ ทุกคนล้วนแต่กลายเป็ นเถ้าถ่าน พวกเขาตายอย่าง
รวดเร็ วโดยที่ไม่เหลือซาก
แม้แต่รูปแบบอํานาจที่สร้างด้วยพลังที่มหาศาลเมื่อเจอกับคลื่นพลังที่ถา
โถมมันก็เกิดรอยแตกร้าวเพราะทนไม่ไหว

" มันเป็ นไปได้ยงั ไง ทําไมถึงเกิดเรื่ องแบบนี้ ? หมู่เกาะประหาร


ของข้าได้กา้ วสู่ จุดสู งสุ ด ของทะเลตะวันออก และพวกเราก็อยูก่ นั อย่าง
สงบสุ ข องค์เทพ ทําไมท่านทํากับเราเช่นนี้ พวกเราทําอะไรผิด ท่านถึง
ได้ลงโทษเรา ? "

หย่า จงหยุน แหงนมองด้านบนพร้อมกับตะโกน ขณะใช้สายตาที่เต็มไป


ด้วยความสบสนจ้องมาไปที่ฝ่ามือขนาดมหึ มา ที่กาํ ลังอยูบ่ นอากาศปก
คลุมท้องฟ้า
ในตอนนั้น เขาที่มกั จะมีท่าที ยโสโอหัง ไม่มีแม้แต่เสี้ ยวของท่าทีแบบ
นั้น ขณะที่เขาเปลี่ยนไปราวกับคนละคน แม้เขาจะมีตาํ แหน่งสู งเป็ นถึง
ผูน้ าํ ของ เก้านิรันดร์ ที่ทุกคนเคารพยําเกรงในทะเลตะวันออก เมื่อเขา
ต้องเผชิญหายนะที่แท้จริ ง เขากับดู ตํ่าต้อยไร้พลัง เพราะเขารู ้ดีวา่ เขาไม่
อาจต้านทานต่อพลังในระดับนี้ได้

" ท่านปู่ แย่แน่ๆ!!! " ณ ตอนนั้น หย่า เฟย ที่ตกใจหวาดกลัว ก็


ส่ งเสี ยงร้องออกมา

เมื่อเขาหันหัวขึ้นมองอีกครั้ง ใบหน้าของ หย่า จงหยุน ก็เปลี่ยนแปลงไป


อย่างมาก เพราะอุกกาบาตที่มีขนาดใหญ่สุดและสามารถทําลายได้ทุกสิ่ ง
อย่าง กําลังมุ่งหน้าตรงเข้ามายังทิศทางของเขา ความเร็ วของมันรวดเร็ ว
อย่างมาก และยังมีขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนหนึ่งของทะเลโลหิ ต
นิรันดร์ ซึ่งพวกเขาไม่อาจจะหลบเลี่ยงมันไปได้
* บูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม *

ในที่สุด ก็มีการระเบิดดังสนัน่ ขึ้น ซึ่ งในตอนนั้น หย่า จงหยุน และ หย่า


เฟย รู ้สึกว่าทุกอย่างมืดไปหมด ร่ างกายพวกเขาค่อยๆหายไป และสู ญ
สิ้ นสติในที่สุด

หลังจากที่เผชิญกับสิ่ งที่ไม่รู้จกั และไม่รู้วา่ เวลาผ่านไปนานแค่ไหน หย่า


เฟย ก็ค่อยๆลืมตาขึ้น แต่หลังจากที่นางตื่น นางก็พบว่าโลกที่นางเห็น
เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้ นเชิง

ท้องฟ้าสี แดงเลือดเต็มไปด้วยรอยแตกแยก โลกทั้งใบกลายเป็ นสี แดง


และเต็มไปด้วยลาวา ระหว่างท้องนภาและผืนพิภพ ไม่มีแม้แต่ร่องรอย
ของสิ่ งมีชีวติ ที่หลงเหลือ จะมีกแ็ ต่ ความกลัวที่ไร้ขอบเขต

" นี่หรื อว่าข้าตายไปแล้ว ? " นั้นคือสิ่ งที่ หย่า เฟย ฉุกคิดขึ้น


ได้ หลังจากผ่านเหตุการณ์อนั แสนเลวร้าย นางไม่คิดว่านางจะยังมีชีวติ
รอด

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////
A : ตายง่ายชิบหาย!!!

B : นี้จะเป็ นอวสานของทะเลภาคตะวันออกจริ งๆหรื อ ไม่ใช่หรอก


เป็ นแค่ภาพที่แสดงให้เห็นหายนะที่กาํ ลังจะบังเกิด หาก ชูเฟิ ง เป็ นอะไร
ไปต่างหาก

C : ลูกเทวดาจริ งๆ ใครเตะต้องไม่ได้!!!
B : ไม่ใช่ ลูกเทวดา แต่เป็ น บุตรของพระเจ้าต่างหากล่ะ พระเจ้าแห่ง
สงคราม พระเจ้าแห่งการต่อสู ้ พระเจ้าแห่งการทําลายล้าง ซึ่ งที่กล่าวมา
ล้วนแต่ไม่เป็ นความจริ งแต่อย่างใด

A : แม่งเปรยมาซะกู เคลิ้มเลย!!! ที่ไหนได้บอกไม่เป็ นความจริ ง


บทที่ 642 - การเตือน

" นัน่ มัน ?! ! ! " ตอนนั้น หย่า เฟย ได้มองเห็นบางอย่าง นาง


จึงรี บบินลงไปทันที

ภายในลาวาที่ไหลออกมาพร้อมกับความร้อนอันรุ นแรง นางเห็นปู่ ของ


นาง หย่า จงหยุน กองอยู่

" ท่านปู่ ! ! ! " เมื่อเห็นปู่ ของนาง หย่า เฟย แปลกใจและตกใจ


อย่างมาก นางรี บยกร่ างของปู่ ขึ้นมาจากลาวา
เพราะนางที่มกั จะเห็นปู่ นางเป็ นเหมือนกับวีรบุรุษ ผูท้ ี่นางภาคภูมิใจเป็ น
อย่างมาก นางจึงตกใจไม่นอ้ ยที่เห็นเขาในสภาพแบบนั้น อย่างไรก็ตาม
หลังจากที่นางตรวจสอบ นางก็พบว่าชีพจรของปู่ นางยังคงเต้นอยู่ เขายัง
ไม่ตาย

" ทําไมถึงเป็ นแบบนี้ได้ล่ะ ? ทําไมเรายังไม่ตาย ? " หลังจาก


ที่ตรวจสอบความผิดปกติของปู่ หย่า เฟย ก็เริ่ มสํารวจตัวเอง นางพบว่า
ชีพจรและการเต้นของหัวใจมันเสถียรอย่างมาก ซึ่ งสิ่ งนี้เป็ นเครื่ องยืนยัน
ของการมีชีวติ ไม่วา่ นางจะดูยงั ไงก็ไม่สอดคล้องกับคนที่ตายไปแล้ว

เพราะนางรู ้วา่ คนที่ตายแล้วย่อมไม่มีการเต้นของชีพจรหรื อหัวใจ จะ


เหลือเพียงแค่ดวงวิญญาณที่ยงั มีสติ หลังจากที่ตายแล้ว เวลานั้นสติพวก
เขาจะก้าวไปสู่ โลกอื่น ซึ่งเป็ นโลกที่น่ากลัวอย่างมาก ที่เราเรี ยกกัน
ปรโลก ยังไงก็ตาม เมื่อนางพบว่ายังมีชีพจร นั้นจึงหมายความว่านางยัง
ไม่ตาย

" อัก่ อัก่ เฟยเอ๋ อ เจ้าไม่เป็ นไรนะ ? " สักพัก หย่า จงหยุน ก็
กระแอมขึ้นมาสองสามครั้ง จริ งๆแล้วเขานั้นตื่นมาพักนึงแล้ว สิ่ งแรกที่
เขาทําหลังจากได้สติ ก็คือการสํารวจหลานสาวและตัวเองอย่างละเอียด
เขากลัวอย่างมากว่าหลานสาว จะเป็ นอะไรไป

" ท่านปู่ เฟยเอ๋ อสบายดี ท่านล่ะ? รู ้สึกบาดเจ็บตรงไหนหรื อ


เปล่า ? " เมื่อเห็นปู่ ของนางฟื้ น หย่า เฟย ดีใจอย่างมาก นางรี บโผลเข้า
ใส่ หย่า จงหยุน พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้น

" เด็กโง่ อย่าร้องไห้ ปู่ ของเจ้าสบายดี ก่อนหน้านี้ขา้ ได้วาง


รู ปแบบด้วยพลังไม่เต็มที่ เพราะกลัวว่าจะเสี ยแรงมากเกินไป " หย่า จง
หยุน อธิบาย
" นี้กห็ มายความว่า ท่านปู่ ไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไม๊ ? " หย่า
เฟยถาม

" อืม . . . " หย่า จงหยุน พยักหน้าด้วยรอยยิม้ ที่อ่อนโยน

และหลังจากได้ยนิ คําพูดของ หย่า จงหยุน หย่า เฟย ก็ยมิ้ ออกมาอย่างมี


ความสุ ข แม้วา่ ตอนนี้ ท้องฟ้าจะถล่ม แผ่นดินจะทลาย แม้แต่โลกก็มี
สภาพไม่เหมือนเก่า แต่นางและปู่ ของนาง ก็ยงั สามารถเอาชีวติ รอดมา
ได้ ช่างนับว่าเป็ นความโชคดีในความโชคร้าย

" นั้นใครกัน ? " ในตอนนั้น หย่า จงหยุน พลันดวงตาสว่างขึ้น


เขาดึงหย่า เฟยไปไว้ดา้ นหลัง พร้อมกับตะโกนออกไปยังด้านหน้า

เห็นแบบนั้น หย่า เฟย รับทิ้งสายตาไปยังทิศทางที่ หย่า จงหยุน ตะโกน


นางพบว่าห่างออกไปหลายร้อยเมตรมีบางอย่างอยูห่ ่างจากพวกเขา มัน
ลักษณะสี ฟ้าปรากฏออกมา ขณะที่บริ เวณนั้นปกคลุมไปด้วยหมอกสี
ขาว ซึ่งไม่มีอยูก่ ่อนหน้านี้

ในตอนนั้น หย่า เฟย เต็มไปด้วยความกังวลที่พงุ่ ขึ้นถึงขีดสุ ด เพราะเมื่อ


นางใช้อาํ นาจตรวจสอบภายในหมอก นางก็ไม่สามารถตรวจพบอะไร
ได้ ยิง่ ไปกว่านั้น ภายในหมอกยังมีเสี ยงฝี เท้าค่อยๆก้าวเข้ามาดังอย่าง
ชัดเจน

* ตุบ๊ ตุบ๊ ตุบ๊ ตุบ๊ ตุบ๊ . . . . . . . *


เสี ยงฝี เท้าค่อยๆดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมันก็ยงั เข้ามาใกล้กบั พวกเขา
ไม่เพียงแต่หย่า เฟย แม้แต่ หย่า จงหยุน ยังขมวดคิว้ ลง ดวงตาของเขา
สัน่ ระรัว และแม้กระทั้งหัวใจของเขายังเต้นรัวไม่เป็ นจังหวะ แทบจะจุก
ขึ้นที่คอ

พวกเขาพึ่งผ่านพ้นภัยพิบตั ิ อันโหดร้ายมาและความหวาดกลัวที่มีต่อฝ่ า
มือขนาดมหึ มาในท้องฟ้าก็ยงั ไม่หายไป และในเวลาแบบนี้พวกเขาก็ยงั
ไม่สามารถตรวจสอบได้วา่ สิ่ งใดที่กาํ ลังเข้ามาใกล้พวกเขา

* ฟู่ ววว * ทั้งสองของคงจ้องอย่างไม่ละสายตา แต่ตอนนั้นหมอกก็ได้


กระจายออกพร้อมกัน จากนั้นก็มีร่างของใครบางคนปรากฏขึ้นมาต่อ
สายตาของ หย่า เฟย และ หย่า จงหยุน
เมื่อเห็นคนๆนั้น ไม่วา่ จะเป็ นหย่า เฟย หรื อ หย่า จงหยุน ก็ถึงกับตก
ตะลึงจนพูดไม่ออก ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เพราะในตอนนี้ คนที่กาํ ลังก้าวมาบนอากาศและค่อยๆเข้ามาใกล้ นาง


เป็ นแค่ หญิงสาววัยรุ่ น

นางมีเส้นผมที่ดาํ สลวยกระจายยาวไปถึงด้านหลัง คิ้วเรี ยวยาวเข้ม


ดวงตากลมโต จมูกโด่งขนาดเล็ก ริ มฝี ปากแดงอย่างลูกเชอร์รี่ และยังมี
ผิวพรรณที่อ่อนเยาว์ ความงามของนางก้าวมาถึงขีดสุ ด และแน่นอนว่า
นางงดงามยิง่ กว่า หย่า เฟย หลายเท่า

โดยเฉพาะเสน่ห์ที่ดูบริ สุทธิ์และท่าทาง นางเป็ นตัวตนที่ หย่า เฟย ไม่


อาจจะเทียบได้ นางเหมือนกับนางฟ้าที่ลงมาจากสรวงสวรรค์
ไม่เพียงแต่นางจะดูงดงามและน่ารัก รู ปร่ างของนางยังยอดเยีย่ ม
ผิวพรรณภายนอกขาวจัว๊ ราวกับได้รับการดูแลมาเป็ นอย่างดี กล่าวได้วา่
ผิวของนางเหมือนดัง่ หยกขาวที่เปล่งประกายเจิดจรัส

แต่สิ่งที่ทาํ ให้ หย่า เฟย และ หย่า จงหยุน ตกใจไม่ใช่ความงามที่


เหมือนกับนางฟ้า แต่เป็ นเสื้ อผ้าของนางที่สวมใส่

นางมีลกั ษณะงดงามโดยเสน่ห์หา แต่เสื้ อผ้านางน้อยชิ้นมาก นางสวม


เพียงชุดชั้นในเท่านั้น แน่นอนว่าแค่ท่อนบน ที่เป็ นสายคล้องคอสี ชมพู
มันปกปิ ดสัดส่ วนตรงหน้าอกของนาง แม้วา่ มันจะปิ ดมาถึงพื้นที่สาํ คัญๆ
แต่กส็ ามารถเห็นเรื อนร่ างที่ขาวจัว๊ ของนางได้อย่างชัดเจนตลอดจนถึง
เรี ยวขาของนาง ทุกอย่างล้วนแต่สมบูรณแบบ ซึ่ งมันได้ปรากฏขึ้นมาต่อ
หน้าต่อตาของพวกเขา

ยังไรก็ตาม นอกจากชุดชั้นในสี ชมพูที่สวม หญิงสาวผูแ้ สนงดงามคน


นั้นยังมีเครื่ องประดับอื่นอยูอ่ ีก มันคือกําไลข้อเท้าที่แสนจะงดงาม นั้น
คือ ยอดยุทธภัณฑ์
" จะ จะ เจ้า ? "

ตอนนั้น หย่า เฟย สับสนอย่างมาก เพราะนางจําได้อย่างละเอียดถึงคนที่


สวมชุดชั้นในสี ชมพูด นางดูคล้ายๆกับผูห้ ญิงคนหนึ่งที่นางคุน้ อย่างมาก
และนางก็มกั จะอยูบ่ ริ เวณรอบๆทะเลโลหิ ตนิรันดร์
ดังนั้น หย่า เฟย จึงคิดว่าคนที่ปรากฏตัวอยูต่ รงหน้านางคือคนเดียวกับ
เด็กผูห้ ญิงตัวเล็กๆที่นางต้องการจะจับ นั้นก็คือ เสี่ ยวยู่

" เฟยเอ๋ อ เจ้ารู ้จกั นางหรอ ? " หย่า จงหยุน ไม่เคยเห็นเสี่ ยวยูม่ า
ก่อน แต่เขาก็รู้วา่ หลานสาวของเขาน่าจะรู ้จกั กับ สาวงามลึกลับคนนี้
หญิงสาวผูน้ ้ นั ไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของพวกเขา เห็นได้ชดั ว่าพวกนั้น
กําลังตะลึงและแสดงความหวาดกลัวออกมา เมื่อก้าวเข้าใกล้ไม่เกิน
200 เมตร นางก็หยุด

" เจ้า . . เจ้าคือเสี่ ยวยู่ ? " ในที่สุดหย่าเฟยก็ถาม ด้วยนํ้าเสี ยงที่ไม่


อยากจะเชื่อ

* หื ม *
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น ดวงตาของเสี่ ยวยูก่ เ็ ปลี่ยนแปลงไป จากนั้นก็
มีแรงดันวิญญาณมหาศาลกระแทกลงมาจากด้านบน ทําให้ หย่า เฟย
และ หย่า จงหยุน คุกเข่าอยูก่ ลางอากาศเอาดื้อดื้อ พลังอันแข็งแกร่ งทํา
ให้อากาศที่พวกเขาคุกเข่าเกิดรอยแตก
ตอนนั้น หย่า เฟย และ หย่า จงหยุน เริ่ มเวียนหัว เพราะพวกเขาต่อต้าน
พลังนั้น แม้แต่การหายใจของพวกเขาก็ไม่คงที่ ราวกับว่าพวกเขาจะตาย
ได้ทุกเมื่อ ใบหน้าพวกเขาตอนนั้นเต็มไปด้วยความทรมาน

อย่างไรก็ตาม เสี่ ยวยู่ ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความเห็นใจ ขณะที่มอง


สภาพอันน่าสังเวชของพวกเขา นางมองทั้งสองอย่างเหยียดหยันและ
กล่าวด้วยนํ้าเสี ยงที่เตือนอย่างจริ งจัง " ฟังให้ดี!! อย่าได้คิดโจมตี หวูฉ่ ิ ง
หรื อทําร้ายเขาเป็ นอันขาด ไม่ง้ นั คนที่จะตายจะไม่ใช่แค่เจ้าสองคน แต่
จะเป็ นทุกสิ่ งที่อยูใ่ นทะเลตะวันออก!!! "
* ฟรู่ วว * หลังจากที่จบคําพูดนั้น พื้นที่ขนาดใหญ่ของหมอกสี ขาวก็
โผล่ข้ ึนมารอบๆตัวนางอีกครั้ง มันเข้าปกคลุมร่ างกายของนางอย่าง
รวดเร็ ว จากนันนางก็หายตัวไป

นอกจากนี้ หมอกที่กระจายนั้น มันก็เข้าครอบคลุมหย่า เฟย และ หย่า จง


หยุน ในเวลาเดียวกัน แรงกดดันที่สุดแสนจะทนก็หายไปราวกับเมฆที่
สลาย
หย่า เฟย และ หย่า จงหยุน ยังไม่ทนั หลุดพ้นจากสถานการณ์อนั ตราย
ที่สุดแสนจะพรรณา พวกเขาก็ได้ยนิ เสี ยงที่แสนคุน้ เคยดังขึ้นมาอย่างไม่
รู ้จบ

" ท่านผูเ้ ฒ่านิรันดร์ที่หนึ่ง ! ! ! "


" ท่านหญิง หย่า เฟย ! ! !"

เสี ยงนั้นช่างแสนคุน้ เคย มันเป็ นเสี ยงของผูต้ ิดตามของหย่าเฟยและ


ผูเ้ ชี่ยวชาญหมู่เกาะประหาร

และขณะที่เสี ยงดังขึ้นหมอกที่อยูร่ อบๆตัวของพวกเขาก็ค่อยๆสลายไป


เมื่อหมอกหายไป ทั้งสองที่พ่ งึ พบกับฉากที่น่าสยอดสยองก็มีสีหน้า
เปลี่ยนไปอย่างมาก
ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//
A : นี้ไงของขวัญชิ้นโบแดง ก่อนจากของเสี่ ยวยู่ แน่นอนว่าหากชูเฟิ ง
เป็ นไรไป ทะเลตะวันออกพินาศแน่ๆ แต่อยากรู ้จริ งๆว่าเสี่ ยวยูเ่ ป็ นใคร

B : อยากสปอยนะ แต่เด๋ วนี้โทษของการสปอยมันแรง!!!

A : ยังไงอ่อ ??

B : โดนเตะปาก!!!

A : งั้นเอาไว้ก่อน!!! ตอนนี้พี่เฟิ งก็ตอ้ งช่วยตัวเองไปก่อนล่ะ ช่วย


ตัวเองนี้คือพึ่งพาตัวเองนะ ไม่ใช่ช่วยแบบนั้น ถ้าอยากเมื่อไหร่ คอ่ ย
กลับไปสํานักสี่ คาบสมุทร ซึ่งตอนที่ 748 หากจําไม่ผดิ ชูเฟิ ง ก็ Ft.
ซูเหม่ยล่ะ แต่ถา้ จําไม่ผดิ ตอนที่ ชูเฟิ ง Ft. จื่อหลิง น่าจะเป็ น 3000
กว่าๆ

C : นี้คนเขียนยังไปไม่ถึง 2800 เลย มืงรู ้ได้ไงว่ะ ว่าได้กนั ตอน


3000 กว่าๆ

A : ก็โทรไปคุยมาล่ะ ว่าเขียนให้ได้กนั เร็ วๆหน่อย เอาเป็ นตอนพิเศษ


แทรกละหว่างตอนที่ 900 กว่าๆ ไม่กท็ าํ Verson 0.5 ไรมาก็
ได้ รอถอนพิษออก กูจะให้พี่เฟิ งเสี ยบเลย

B : GOOD JOB!!!
บทที่ 643 - หายไป

สิ่ งแรกที่เข้าสู่ สายตาของหย่า เฟยและหย่า จ่งหยุนคือข้ารับใช้สาวนับ


ร้อยของหย่าเฟย รวมถึงกลุ่มคนจากหมู่เกาะประหาร พวกเขาทั้งหมดยืน
อยูใ่ กล้ๆ หย่าเฟย และ หย่า จ่งหยุน พร้อมกับจ้องมองทั้งสอง ความ
หวาดกลัวและกังวลภายในดวงตาที่เบิกกว้าง...ใบหน้าของพวกเขา
เหล่านั้นเต็มไปด้วยความตกใจ

มองไปรอบๆ ทั้งสองพบว่าเกาะประหารยังเงียบสงบดังเดิม เกาะลอยฟ้า


ทั้งหมดยังคงไม่ได้รับความเสี ยหาย พวกเขาเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้อง
ไปบนท้องฟ้า รอยแยกยังคงอยูต่ รงนั้น ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวก็
เต็มไปด้วยรอยแยกเช่นเดิม

เมื่อสายตาของพวกเขาจับจ้องมายังตนเอง ร่ างกายของพวกเขาเปี ยกชุ่ม


มันคือกลิ่นของนํ้าทะเล ราวกับว่าพวกเขาตกลงไปในทะเลโลหิ ตนิ
รันดร์เบื้องล่าง นอกจากนี้คนอื่นๆก็ชุ่มโชกไปด้วยนํ้าทะเลเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิง่ หย่าเฟย นางหลัง่ เหงื่อเย็นเยียบ นางไม่อาจควบคุม
ร่ างกายที่สนั่ เทาเอาไว้ได้
“จริ งๆแล้วเกิดอะไรขึ้นที่นี่? ” หย่า จ่งหยุนถามข้ารับใช้ที่อยู่
ข้างๆเขา เมื่อเขาเห็นสถานะการณ์ที่แปลกประหลาดนี้

“ท่านผูน้ าํ ที่หนึ่ง เอ่อ….” ข้ารับใช้ที่ถูกถามใบหน้าเต็มไปด้วย


ความหวาดกลัว ราวกับว่านางไม่กล้าพูดถึงสิ่ งนั้น

“พูดออกมา!” หย่า จ่งหยุนถามอย่างฉับพลัน

“ท่านผูน้ าํ ที่หนึ่ง ก่อนหน้านี้เรากําลังติดตามท่านกับท่านหญิงหย่า


เฟย แต่ท่านทั้งสองมองไปที่ทอ้ งฟ้าด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว ท่านหญิง
หย่าเฟยกรี ดร้องและกระโจนเข้าสู่ ออ้ มกอดท่าน”
“ในภายหลัง ท่านผูน้ าํ ที่หนึ่ง ได้ปลดปล่อยสุ ดยอดรู ปแบบ
วิญญาณที่มองไม่เห็น ในที่ๆท่านยืนอยู่ รู ปแบบนั้นทรงพลังเป็ นอย่าง
มาก ข้ารับใช้เช่นพวกข้าไม่เคยมันมาก่อน แต่หลังจากที่ท่านปลดปล่อย
รู ปแบบวิญญาณไม่นาน ท่านก็กระโดดลงไปในทะเลโลหิ ตนิรันดร์
ข้างล่างนี้”

“เมื่อเห็นท่านกระโดดลงไปในทะเล ท่านหญิงหย่าเฟยรี บตามลง


ไปเพื่อนําท่านขึ้นมา หลังจากนั้น ท่านสนทนาบางอย่างที่พวกข้าไม่
เข้าใจกับท่านหญิง” ข้ารับใช้ตอบอย่างจริ งจัง

ทันใดนั้นหย่า เฟยและหย่า จ่งหยุนมองไปยังคนอื่นๆ พวกเขามองไปที่


ฝูงชน ดวงตาทั้ง 4 ผสานเป็ นหนึ่ง เมื่อเห็นทุกคนพยักหน้ายืนยันคําพูด
ของข้ารับใช้คนนั้นว่าเป็ นความจริ ง พวกเขาทั้งสองขมวดคิ้วแน่นและ
เอ่ยถามออกไปในเวลาเดียวกัน “งั้นเจ้าจะบอกว่าทุกสิ่ งที่เกินขึ้นกับข้า
ล้วนเป็ นเพียงสิ่ งที่ขา้ คิดไปเอง?”
“ดูนน่ั ! รอยแยกกําลังปิ ด” ทันใดนั้นมีเสี ยงดังสนัน่ จากที่ที่ห่าง
ออกไป

พวกเขาเงยหน้าขึ้นมอง พวกเขาพบว่าแล้วรอยแยกที่ปรากฏบนสวรรค์
ทั้งเก้ากําลังปิ ดลงอย่างช้าๆ

“ท่านปู่ เราจะทําอย่างไรดี?” ตอนนี้หย่า เฟยไม่รู้วา่ ต้องทําอะไร


นางทําได้เพียงถามปู่ ของนางเพื่อขอความช่วยเหลือ

หย่า จ่งหยุนเช็ดเหงื่อเย็นเยียบต่อหน้าหย่าเฟยเป็ นอันดับแรก จากนั้น


แตะไปที่ไหล่นางพร้อมกับส่ งข้อความทางจิตว่า “เฟยเอ๋ อ อย่างแรก
บอกทุกสิ่ งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเสี่ ยวยูใ่ ห้ขา้ ฟัง”

หย่าเฟยไม่กล้าปิ ดบังใดๆ นางบอกทุกสิ่ งทุกอย่างเกี่ยวกับเสี่ ยวยูแ่ ละชู


เฟิ งตามตรง แน่นอนนางยังบอกถึงเรื่ องผิดปกติที่เกิดระหว่างพวกเขา
ด้วย

หลังจากรู ้เรื่ องราวที่เกิดขึ้น หย่า จ่งหยุนหันไปทางโลงศพแปลก


ประหลาดนัน่ แล้วถามว่า “เฟยเอ๋ อ เจ้าคิดว่าสิ่ งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็ นเรื่ อง
จริ ง?”

“อืม โดยส่ วนตัว ข้าคิดว่ามันจริ งเสี ยยิง่ กว่าจริ ง” หย่า เฟยผงกหัว


ของนาง ในความเป็ นจริ งแล้วตอนนี้เธอไม่สามารถยืนยันได้วา่ สิ่ งที่
เกิดขึ้นนั้นนางคิดไปเองหรื อเกิดขึ้นจริ ง
“แม้วา่ ข้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดคลุมสี ทองยังไม่สามารถรับรู ้ได้วา่ มัน
เป็ นภาพลวงตา….ไม่ตอ้ งพูดถึงเจ้าเช่นกัน นัน่ สามารถพูดได้วา่ ผูท้ ี่ใช้
ภาพลวงตาใส่ เรานั้นทรงพลังขนาดไหน”

“อย่าไปยัว่ ยุหวูฉ่ ิง นอกจากนั้นอย่าไปยัว่ ยุเสี่ ยวยู่ ทุกคนที่เกี่ยวข้อง


กับพวกมันก็หา้ มไปตอแยอย่างเด็ดขาด” หย่า จ่งหยุนพูด

“ท่านปู่ เป็ นไปได้หรื อไม่วา่ สิ่ งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็ นเรื่ องเท็จ?


พวกเขาต้องให้อภัยเพราะท่านและข้าถูกภาพลวงตา?” หย่าเฟยข่มขื่น
เล็กน้อย

“เด็กโง่!!! เจ้ายังเยาว์และขาดความเข้าในสถานการณ์ที่รุนแรงนี้
ภาพลวงตานั้นไม่ได้เป็ นเพียงเรื่ องเท็จ ถ้าคนที่ใช้ภาพลวงตาต้องการให้
เราทั้งคู่ตาย เราคงตายไปเรี ยบร้อยแล้ว” หย่า จ่งหยุนพูดเบาๆผ่าน
ข้อความทางจิต

* อึก * หลังจากได้ยนิ คําเหล่านั้น หย่าเฟยกลืนนํ้าลายอึกนึงพร้อมกับ


หลัง่ เหงื่อเย็นเยียบ

การที่ปู่ของนางเป็ นเช่นนี้ นัน่ หมายความว่า เสี่ ยวยูเ่ ป็ นบุคคลที่ไม่


ธรรมดา อย่างน้อยบุคคลที่ทาํ ให้นางและปู่ ของนางเคลื่อนไหวต้องไม่
ธรรมดา

ในสถานะการ์เช่นนี้ ถึงหย่าเฟยจะไม่เต็มใจขนาดไหน นางยังคง


หวาดกลัว นางไม่มีทางเลือกนางทําได้เพียงยอมให้ชูเฟิ ง เถ่า ฉิ วซุ่ย และ
คนอื่นๆ
หลังจากนั้น หย่า จ่งหยุนสัง่ คนที่อย่◌ูทีน้ ีวา่ ห้ามนําเรื่ องที่เขาถูกภาพลวง
ตาไปบอกใคร ผูค้ นที่นี่เองก็เช่นกัน พวกเขาเหล่านี้หวาดกลัวหย่า เฟย
และหย่า จ่งหยุนอย่างมาก พวกเขาไม่กล้าจะนําเรื่ องไปบอกใคร

กลุ่มคนก้าวร้าวที่เป็ นตัวต้นคิดในการตามหา เถ่า ฉิ วซุ่ย และ ชูเฟิ ง เพื่อ


ทวงหนี้เช่นกัน พวกเขาถูกบังคับให้หยุดก่อนที่พวกเขาจะถลําลึกไป
มากกว่านี้.

แม้มนั เป็ นเรื่ องน่าอับอายที่จะทําเช่นนั้น หย่าเฟยและหย่า จ่งหยุนไม่มี


ทางเลือกอื่น มันไม่ได้สาํ คัญอะไรมากมายสําหรับหย่าเฟย หลังจาก
เรื่ องราวเหล่านี้ นางยังคงเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงคราม อย่างไรก็ตาม
หย่า จ่งหยุนที่เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงครามยังรู ้สึกกดดันจาก
เรื่ องราวเหล่านี้ เขารู ้วา่ มีการดํารงอยูข่ องบางสิ่ งที่เขาไม่สามารถต่อแย
ได้

ขณะที่เขาไม่สามารถทําอะไรได้ หย่า จ่งหยุนทําได้เพียงแหงนหน้ามอง


ท้องฟ้า เขาขมวดคิ้วแน่นมองไปยังรอยแยกด้านบนที่ค่อยๆปิ ดตัวลง เขา
ยังรู ้สึกว่ารอยแยกนัน่ มีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสิ่ งที่เขาได้พบวันนี้

อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าจะคิดถึงเรื่ องนี้มากเกินไป เขาไม่กล้า


จินตนาการถึงผลที่จะตามมาถ้าเขาเกิดไปต่อแยกับผูค้ นที่เกี่ยวข้องกับ
รอยแยกบนทองฟ้านัน่ บางทีท้ งั ภูมิภาคทะเลตัวออกอาจจะโดนถล่มจน
สิ้ นซากเพราะเขาเพียงคนเดียว

ในเวลาเดียวกัน ชูเฟิ งได้กลับไปยังเกาะลอยฟ้า หลังจากบอกกล่าวกับ


เจียง ว่านชือ ว่า เสี่ ยวยู่ จากไปแล้ว เขาจึงกลับไปที่หอ้ งเพื่อพักผ่อน
หลังจากเสี่ ยวยูจ่ ากไปมันเป็ นเหตุผลที่ทาํ ให้ชูเฟิ งรู ้สึกเศร้าใจเล็กน้อย
เขาไม่ได้มองรอยแยกบนท้องฟ้าต่อเพราะเขาไม่มีอารมณ์ทาํ อะไรทั้งนั้น

นอกจากนี้ ชูเฟิ งรู ้วา่ ถ้ารอยแยกบนท้องฟ้านําบางสิ่ งมาด้วย เขาคงไม่


สามารถหลบเลี่ยงสิ่ งนั้นได้ เขาเพียงมองมันอยูห่ ่างๆโดยไม่ทุกร์ร้อน

ท้ายที่สุดคํ่าคืนอันยาวนานก็ถูกแทนที่ดว้ ยแสงอรุ ณแห่งวันใหม่ รอย


แยกบนท้องฟ้าได้ปิดสนิทและหายไปก่อนที่ดวงตะวันจะมาเยือน

แม้วา่ รอยแยกปิ ดไปแล้ว บัดนี้ยงั ไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆเกิดขึ้นในทะเล


โลหิ ตนิรันดร์ แต่ผคู ้ นยังรอฟังข่าวเนื่องจากพวกเขาไม่เชื่อว่ามีส่ิ ง
ผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น และสิ่ งผิดปกติน้ นั ได้นาํ บางอย่างที่ไม่ธรรมดา
มาด้วย แต่กระนั้น ทุกคนยังคงกําลังรอคอยการมาถึงของข่าวที่น่าตกใจ
พร้อมควาดหวังว่ามันจะน่าสนใจสําหรับพวกเขา

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ งและคนอื่นๆได้เดินทางออกไปจากทะเลโลหิ ตนิ


รันดร์เรี ยบร้อยแล้ว พร้อมกับมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เรี ยกว่า หุบเขาสาย
หมอก ยังมีผคู ้ นจํานวนมากที่ให้ความสนใจและคาดหวังกับข่าวที่
เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผา่ นมา

ในเวลาเดียวกัน ในส่ วนที่ลึกที่สุดของทะเลโลหิ ตนิรันดร์ มีบุคคลที่


เคลื่อนที่ดว้ ยความเร็ วสู งราวกับแสง

ท้ายที่สุด เขาหยุดลงและหากเข้าไปใกล้กว่านี้ เขาจะเห็นชายชราตาบอด


ที่ชูเฟิ งได้พบเมื่อตอนที่เขาเข้ามาในทะเลโลหิ ตวิญญาณ
ในขณะนี้ ชายชราซ่อนวัตถุบางอย่างในมือของเขาไว้ในชุดสี ดาํ
หลังจากกําวัตถุน้ นั แน่น การแสดงออกถึงความหวาดกลัวเหลือคนานับ
ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาโอดควรญอย่างแผว่เบา “มันเกิดขึ้นได้
ยังไงกัน? ทําไมข้าไม่รู้สึกถึงเศษเสี้ ยวออร่ าของมัน? มันหายไป! มัน
ไม่ได้อยูใ่ นทะเลโลหิ ตนิรันดร์! งั้นจริ งๆแล้วมันไปที่ใด?!”
.............

[ T/N ชายตาบอดสัมผัสพลังมหาศาลของเสี่ ยวยูไ่ ม่ได้ ดัง่ นั้น ทะเล


โลหิ ตนิรันดร์จึงกลายเป็ นแค่ทะเลธรรมดาๆ ]

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////
A : นี่เราได้ข่าวมาว่า เสี่ ยวยู่ เป็ นเอเลี่ยน นางอาศัยอยู่ ณ ดินแดนแห่ง
จักรวาล ซึ่งเป็ นอาณาจักรที่มีผเู ้ ชี่ยวชาญสุ ดยอดกว่า ดินแดนสงคราม
ศักดิ์สิทธิ์!!!

B : เอ้ยๆๆๆ!!!

C : เอเลี่ยน พ่องมืงดิ เพ้อเจ้อ แม่งถ้าเสี่ ยวยูเ่ ปนเอเลี่ยน นิยายเรื่ องนี้จะ


เป็ นเรื่ องเชี้ยอะไร ยิง่ กว่า ไอมดแดงเอาขบวนการ 5 สี มาปนอีก
เหมือนกับ หนังหุ่นยนต์ ที่เอา พ่อมด มาไว้ในเรื่ อง อย่าพูดอะไรโง่ๆ
ออกมาอีกอ่ะ

A : แหม๋ แหย๋ เล่นหน่อยเดียวเอง ว่าแต่ พวกนี้มนั ยังจะกล้าตอแยชู


เฟิ งอ่ะเปล่า ?
B : มีหรื อที่พวกนี้จะเลิกลา ปู่ นางอ่ะที่ไม่เอาคนหนึ่ง แต่หลานมันก็รู้
ว่าเปนยังไง อีกอย่างเรื่ องนี้พดู ไปก็มีแต่ตวั เองจะกลายเป็ นตัวตลก คน
หมู่เกาะประหารเลยแทบไม่มีใครรู ้ เลยหาเรื่ อง ชูเฟิ ง ไม้พกั แต่เดียวก็รู้
ว่าคนที่มีเรื่ องกับพี่เฟิ งจะต้องเจอกับอะไร ???

A : ตอนต่อไป พวกเขาจะเดินทางไปยังหุบเขาแห่งสายหมอก เพื่อ


รักษาหยวน รู่ ว และชูเฟิ งก็ได้เข้าร่ วมเทศกาลบางอย่าง ที่เกี่ยวกับการ ล่า
ของที่ใช้รักษาหยวนรู่ ว แต่ของสิ่ งนั้นมันหาได้ยากยิง่ มีแค่บุคคลใน
ตํานานไม่กี่คนที่พบมัน และยิง่ ไปกว่านั้นสิ่ งที่เปนแค่ตาํ นานที่ไม่มีใคร
พบ แต่ชูเฟิ งดันไปพบ เพราะเนตรสวรรค์ที่เติมทรู มากว่า 1000 บาท
จึงทําให้เขาพบไรดีๆอีกมากมาย

B : เห้อคิดถึงเสี ยวยู่ แต่วนั หน้านางออกมาอีกแน่นอน แต่อย่างว่า คน


เขียนพอเขียน ชูเฟิ ง ไปอยูก่ บั ใคร พอจากกันทีไรหดหู่ทุกที ตอน ซู
เหม่ย ซูรู่ ก็ที จื่อหลิง ก็ที แต่ช่วงที่ห่างกันพวกเราก็จะได้เห็นพี่เฟิ ง บู๊
แบบไม่พกั แล้วยังเจออะไรตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย อีกอย่างพี่เฟิ งแม่งก็
ไม่เคยขาดผูห้ ญิงที่คอยข้างกาย พูดแล้วก็นะ . . . .

C : ที่มึงพูดๆมาสรุ ปแล้ว อิจฉาเขา!!!

B : เออ!!!

บทที่ 644 - หุบเขาสายหมอก

หลังจากนั้น ชูเฟิ งและคนอื่นๆก็มาถึงหุบเขาสายหมอกด้วยความรวดเร็ ว

อย่างไรก็ตามพวกเขาเดินออกมาจากจุดเคลื่อนย้ายและเดินทาเข้าไปใน
นั้นทันที ในตอนนั้นพวกเขาก็ได้พบว่ามีเมฆสี ดาํ ขนาดใหญ่ลอยอยู่
เหนือผิวนํ้าทะเล
เมฆสี ดาํ นี้ปกคลุมพื้นที่กว้าง ราวกับเป็ นส่ วนหนึ่งของโลกนี้ และใน
เมฆสี ดาํ นั้น มีเสี ยงสายฟ้าดังอยูไ่ ม่รู้จบ มันช่างแปลกยิง่ นัก มันทําให้
พวกเขารู ้สึกว่าต้องเกิดบางอย่างขึ้น

*เปรี้ ยง!!!* ทันใดนั้นเสี ยงระเบิดที่รุนแรงดังขึ้น และก่อให้เกิดคลื่นสี


ทองกระจายออกไปทัว่ ท้องฟ้า ส่ งผลให้เมฆสี ดาํ แตกออกแต่ทา้ ยที่สุด
มันก็รวมตัวกันอีกครั้ง

*เปรี้ ยงงงงง* อย่างไรก็ตามมีเสี ยงระเบิดอย่างอื่นดังขึ้น ซึ่ งน่าจะรุ นแรง


กว่าคลื่นก่อนหน้านี้ มันปกคลุมเมฆสี ดาํ อย่างรวดเร็ ว
มันเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง การระเบิดและคลื่นนั้นก่อให้เกิดเสี ยงที่น่ากลัว
มาก คนที่ได้ยนิ เสี ยงนั้นล้วนหนาวไปถึงกระดูก

“สวรรค์ เกิดอะไรขึ้นกันทําไมเมฆที่น่ากลัวเช่นนั้นถึงส่ งเสี ยง


ออกมาเช่นนี้!” ผูค้ นที่ยนื อยูต่ รงจุดเคลื่อนย้ายพูดขึ้น

“มันต้องมีคนกําลังสู ก้ บั เมฆสี ดาํ นัน่ อยูแ่ น่นอน และระดับพลังของ


พวกเขานั้นช่างแข็งแกร่ งยิง่ นัก.” ชูเฟิ งพูด เขาคิดว่าพลังของคนที่ต่อสู ้
อยูน่ ้ นั น่าจะอยูใ่ นระดับ ราชันย์สงคราม

“ว่านชือ พา หวูฉ่ ิง ไปยังหุบเขาสายหมอกก่อน ” ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยาน


พูด แม้วา่ เธอจะรู ้ชื่อจริ งๆของชูเฟิ ง แต่เธอก็เรี ยกเขาหวูฉ่ ิ งเพื่อช่วย
ปกปิ ดตัวตนเขา
*วูบ* หลังจากพูดจบ ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน ก็สะบัดผ้าคลุม และบินขึ้นไปบน
ท้องฟ้าพร้อมมีสายรุ ้งตามหลัง ความเร็ วของเธอนั้นรวดเร็ วมาก ทําให้
ผูเ้ ชี่ยวชาญที่กาํ ลังจับตาดูน้ นั รู ้ทนั ทีวา่ เธอเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสู ง. พวก
เขาจึงมองไปที่ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน และพวกชูเฟิ งด้วยสายตาเคารพ

แต่พวกชูเฟิ งก็ไม่ได้สนใจหยุดมอง พวกเขารี บบินไปทางหุบเขาสาย


หมอกอย่างรวดเร็ ว

หลังจาก ฉิวชุ่ย ฟู่ หยานไปแล้ว ชูเฟิ งก็ผอ่ นคลายลง มันเป็ นเพราะความ


แข็งแกร่ งของฉิวชุ่ย ฟู่ หยานทําให้เขากดดัน ชูเฟิ งรู ้วา่ บุคคลเช่นเธอนั้น
ชอบ ความสงบสุ ข ดังนั้นในการเดินทางตลอดที่ผา่ นมานั้น ชูเฟิ งจึงสงบ
เสงี่ยมเพื่อไม่ไปขัดใจฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน
“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้ากลัวอาจารย์ของข้าอย่างนั้นหรื อ” เจียง
ว่านชือ ถามขึ้นด้วยรอยยิม้ เมื่อเห็นท่าทางของชูเฟิ งปลี่ยนไป

“ไม่ได้กลัว แต่เคารพต่างหาก!” ชูเฟิ งตอบกลับ

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้าช่างฉลาดเสี ยจริ ง เจ้ารู ้เรื่ องของอาจารย์ขา้ มา


บ้างแล้ว แน่นอนว่าอาจารย์ขา้ นั้นชอบความเงียบสงบ แม้ปกตินางจะ
เป็ นคนเข้มงวด แต่กเ็ ป็ นคนใจดีเช่นกัน,” เจียง ว่านชือ พูดขึ้นด้วย
รอยยิม้ .

“อืม! แน่นอน ผูอ้ าวุโส ฉิ วชุ่ยนั้น เป็ นคนใจดี ไม่ง้ นั คงไม่ช่วย


หยวน รู่ ว หรอก ว่าแต่เมฆสี ดาํ ที่เห็นนัน่ พวกเราไม่รุ้วา่ มันคืออะไร แต่
ผูอ้ าวุโสฉิวชุ่ยคงไปตรวจสอบดู และเหตุผลนัน่ เป็ นเพราะเธอต้องการ
ลบภัยพิบตั ิเช่นนี้ออกไป" ชูเฟิ งพูด.

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง ดูเหมือนเจ้าจะรู ้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกบั เมฆ


สี ดาํ นี้ใช่หรื อไม่” เจียง ว่านชือ ถามขึ้นด้วยรอยยิม้

“ใช่ มันมีบางอย่างผิดปกติในเมฆสี ดาํ นี้ พวกมันค่อนค้างแปลก


มา และอาจมีอนั ตรายภายในนั้น,” ชูเฟิ ง พูด

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง สายตาเจ้าช่างดีเสี ยจริ ง มันคือเมฆที่เลวร้าย และ


อาจจะมีปีศาจอยูภ่ ายในนั้น,” เจียง ว่านชือ พูดขึ้น

“ปี ศาจอย่างนั้นหรื อ” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นชูเฟิ งก็ตอ้ งตกใจ จากนั้น


เขาก็พดู ขึ้นว่า "ศิษย์พี่เจียง ท่านช่างมีทกั ษะสายตาที่ทรงพลังยิง่ นัก ท่าน
สามารถวิเคราะห์ได้ลึกซึ้ งจริ งๆ ข้าอยากรู ้วา่ ท่านเห็นปี ศาจนั้นได้
อย่างไร และรู ปร่ างของปี ศาจที่ท่านบอกเป็ นยังไง”

“เจ้าล้อเล่นแล้ว ศิษย์นอ้ งหวู่ ฉิ ง ข้าจะมีทกั ษะแบบนั้นได้อย่างไร


นัน่ เป็ นเพราะ ข้าได้ตามอาจารย์มาที่นี่หลายครั้งแล้ว และทุกครั้งที่ขา้
เห็นเหตุการณ์แบบนี้ อาจารย์ของข้าก็มกั จะไปจัดการ”

“และหลังจากนั้น ข้าก็ถามนาง และนางได้บอกข้าว่า หุบเขาสาย


หมอกเป็ นแดนชัว่ นิรันดร์ อาจพูดได้วา่ เป็ นสถานที่ที่วเิ ศษที่สุดใน
ภูมิภาคทะเลตะวันออก และยังเป็ นสถานที่ที่แปลกประหลาดที่สุด มัน
มักจะมีอสู รปรากฏตัวขึ้นบ่อยครั้ง”

“และเมื่ออสู รปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็ไม่ปล่อยให้มนั ออกไปจาก


หุบเขาสายหมอกเนื่องจากถ้าพวกเขาปล่อยไปมันอาจจะไปรุ กรานผู ้
บริ สุทธิ์ที่มายังหุบเขาสายหมอกนี้ และปี ศาจตนนั้นมีรูปร่ างเป็ นเยีย่ งไร
ข้าไม่รู้หรอก,” เจียง ว่านชือพูด

“ ช่างแปลกจริ งๆ ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าเมฆสี ดาํ นัน่ จะแปลก


ประหลาดแบบนี้ เหมือนกับว่ามันให้ความรู ้สึกที่ไม่อาจจะบรรยายได้.”
ชูเฟิ งนั้นตกใจมาก หลังจากเข้ามาในภูมิภาคทะเลตะวันออก เขาก็ได้รับ
ประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยได้ยนิ มาก่อนมากมาย

“โห้ ที่จริ งแล้วในหุบเขาสายหมอกนั้นมีแผนที่ที่บอกถึงปี ศาจอยู่


และเมื่อมันปรากฏตัวขึ้น แผนที่น้ นั จะชี้จุดที่มนั เกิดขึ้น ถ้าข้าคิดไม่ผดิ
คนที่ต่อสู ก้ บั เมฆสี ดาํ นัน่ ต้องเป็ น ประมุขของหุบเขาสายหมอก ผู ้
อาวุโส เพียวเมี้ยวแน่ๆ อาจารย์ของข้าจึงมุ่งหน้าไปเพราะต้องการ
ช่วยเหลือเธอ,” เจียง ว่านชีพดู ขึ้น
“ข้าได้ยนิ มาว่า แม่นางเพียวเมี้ยวนั้นเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับใน
ภูมิภาคทะเลตะวันออก ข้าอยากรู ้วา่ ข่าวนั้นเป็ นจริ งหรื อไม่ และ
ผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับนั้นแข็งแกร่ งกว่า ผูอ้ าวุโสฉิ วชุ่ย อีกอย่างนั้นหรื อ” ชู
เฟิ งถามขึ้นด้วยรอยยิม้ ก่อนที่เขาจะรู ้สึกว่าคนที่ต่อสู ก้ บั เมฆสี ดาํ นั้น
แข็งแกร่ งมาก และจากที่คาํ พูดของ เจียง ว่านชือ เขาเคยได้ยนิ ชื่อของ แม่
นาง เพียวเมี้ยว มาก่อน และยังได้ยนิ อีกว่านางนั้นแข็งแกร่ งกว่า ฉิ วชุ่ย
ฟู่ หยาน ชูเฟิ งจึงต้องการยืนยันเรื่ องนี้

“แน่นอน ผูอ้ าวุโสเพียวเมี้ยวนั้น แข็งแกร่ งกว่า หุบเขาสายหมอก


นั้นแปลกประหลาดที่สุดในภูมิภาคทะเลตะวันออก และมันมีทรัพยากร
มากมาย จึงทําให้หมู่เกาะประหารนั้น จับจ้องมาที่แห่งนี้มานานแล้ว แต่
พวกมันก็ไม่กล้ายืน่ มือเข้ามานัน่ เป็ นเพราะพวกมันกลัวคนคนหนึ่ง,”
เจียง ว่านชือ พูด
“และคนๆนัน่ ก็คือ แม่นางเพียวเมี้ยว อย่างนั้นหรื อ!” ชูเฟิ ง ถาม

“ถูกต้อง!!!” เจียง ว่านชือ ตอบ

“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า แม่นางเพียวเมี้ยวจะแข็งแกร่ งขนาดที่


แม้แต่หมู่เกาะประหารก็ยงั เกรงกลัว.”

ชูเฟิ งรู ้สึกตะลึงมาก เพราะเข้าไม่ได้เป็ นคนในภูมิภาคทะเลตะวันออกจึง


ไม่รู้อะไรมากนัก แต่ตอนนี้เขาได้รู้เรื่ องหลายอย่าง และรู ้วา่ มีบุคคลที่
เหนือกว่าหมู่เกาะประหาร ราวกับเป็ นพระอาทิตย์ที่อยูบ่ นท้องฟ้า
แน่นอน นัน่ คือ แม่นางเพียวเมี้ยวที่หมู่เกาะประหารเกรงกลัว นัน่ เป็ น
เพราะตัวตนที่แข็งแกร่ งของแม่นางเพียวเมี้ยวนั้นเอง
“แน่นอน ว่าผูอ้ าวุโสเพียวเมี้ยวถูกเลือกให้เป็ นผูพ้ ิทกั ษ์แห่งหุบเขา
สายหมอก ระดับและความสามารถของท่านอาวุโสเพียวเมี้ยวก็ยงั สู ง
มาก และจากที่ขา้ ได้ยนิ ผูอ้ าวุโสเพียวเมี้ยวนั้นมีอายุเกือบพันปี แล้ว แต่
นางก็ยงั สุ ขภาพแข็งแรงดี,” เจียง ว่านชือพูด

“นางอยูม่ านานเช่นนี้จริ งหรื อ!!! นางมีระดับการบ่มเพาะถึงเพียง


ไหนกัน!!!”

หลังจากที่ได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ งก็ตอ้ งตกใจอีกครั้ง เพราะคนที่อยูม่ าเกือบ


พันปี นั้นย่อมเป็ นผูท้ ี่มีระดับการบ่มเพาะที่สูงมาก และนางอยูม่ าถึง
เช่นนั้นได้อย่างไร

“ไม่หรอก.” เจียง ว่านชือส่ ายหน้า แล้วพูดต่ออีกว่า” จริ งอยูท่ ี่ผู ้


อาวุโสเพียวเมี้ยวนั้นมีระดับที่สูงมาก แต่เหตุผลที่นางมีชีวติ ยาวนานนัน่
ไม่ใช่จากการบ่มเพาะหรอก”

“เหตุผลที่นางสามารถทําเช่นนั้นได้ เป็ นเพราะ หุบเขาสายหมอก


ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง ก็เป็ นอย่างที่ขา้ พูดนัน่ แหละ หุบเขาสายหมอกนั้นเป็ น
ดินแดนที่แปลกประหลาด และอาจเรี ยกได้วา่ เป็ นดินแดนแห่งนิรันดร์
เจ้าก็รู้วา่ คําว่านิรันดร์น้ นั ไม่ใช่คาํ ที่จะนํามาพูดพล่อยๆ.”

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////A : เพียวเมี้ยว นี้เปนแบ็คอีกคนของพี่เฟิ งป่ ะ ???

B : ไม่รู้สิ ปกตินางไม่เคยออกจากหุบเขาสายหมอกนะ แล้วจะยืน่ มือ


ไปยุง่ เรื่ อง ชูเฟิ ง ได้ยงั ไง ถ้าล่อตีนมาหาที่น้ ี ก็วา่ ไปอย่าง
A : แต่ ได้ยนิ มาว่า เพียวเมี้ยว ฉิ วซุ่ย รู ้จกั กับ อาจารย์ ชูเฟิ งนะ และก็ยงั
เกรงใจกันมากอีกด้วย ขนาดที่บอกว่า ห้ามให้ชูเฟิ งเป็ นไรไปเด็ดขาด ไม่
งั้น เมื่ออาจารย์เค้ากลับมา ทะเลตะวันออกคงไม่ปลอดภัย

B : ช่ายแล้ว เพราะในตอนนี้ ฉิ ว ซานเฟิ ง คือผูค้ รอบครอง ตําแหน่ง


ประมุขของพรรคมาร ดัง่ นั้นหากศิษย์เพียงหนึ่งเดียวของเขาไปไรไปคง
ไม่ดีแน่

A : จะว่าไป ไต้ก๋ ู ก็อยากได้ชูเฟิ งมาเป็ นศิษย์จนตัวสัน่ เลยหนิ

B : ถูกต้อง พอจบภารกิจที่หุบเขา สายหมอก เด๋ วชูเฟิ งก็กลับสํานักสี่


คาบสมุทรล่ะ แต่บอกไว้เลยว่าช่วงหุบเขาสายหมอกก็สนุกไม่นอ้ ย
ทีเดียว

บทที่ 645 - ดินแดนตราประทับนิรันดร์


“หุบเขาสายหมอก ช่างวิเศษจริ งๆ ศิษย์พี่เจียง ช่วยอธิบายให้ศิษย์
น้องผูน้ ้ ีเข้าใจถึงมันยิง่ ขึ้นหน่อย.” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ งก็อยากรู ้เรื่ อง
หุบเขาสายหมอกมากขึ้น

ก่อนหน้านี้เขารู ้แค่เรื่ องทัว่ ๆไป เช่นที่หุบเขาสายหมอกนี้ มีผเู ้ ชี่ยวชาญ


เก็บตัวอยูแ่ ละยังมี 1 ในสาวงามของภูมิภาคทะเลตะวันออก ฉิ ว ชือ

แต่เมื่อมองดูสภาพในตอนนี้มนั ช่างแตกต่างยิง่ นัก ชูเฟิ งจึงเข้าใจทันทีวา่


ทําไมที่นี่มนั ถึงเป็ นสถานที่ที่พิเศษ เพราะเมื่อเขาได้รู้เรื่ องหุบเขาสาย
หมอก จาก เจียงว่านชี เขาจึงรู ้สึกว่ามันมีความลับอยูใ่ นที่แห่งนี้

“จริ งๆแล้วข้าก็ไม่รู้อะไรมากหรอก ข้านั้นเพียงได้แต่ฟังอาจารย์


มาบ้าง ที่แห่งนี้ไม่มีใครรู ้เรื่ องของมันมากนักหรอก พวกเขารู ้แค่วา่ มัน
เป็ นสถานที่พิเศษ และสามารถช่วยยืดชีวติ ได้ นัน่ เป็ นเหตุให้ทาํ ไมที่
แห่งนี้ถึงแปลกประหลาดที่สุดในภูมิภาคทะเลตะวันออก”

“จากที่อาจารย์ของข้าได้บอกไว้วา่ หุบเขาสายหมอกนั้นเหมือน
เป็ นผนึกขนาดยักษ์ ที่ผนึกปี ศาจไว้แต่บางครั้งก็มีเงาของป๊ ศาจหลุด
ออกมา และก่อปัญหา”

“เงาของปี ศาจก็คือเมฆสี ดาํ ที่เจ้าเห็นก่อนหน้านี้ พวกมันเป็ นเพียง


แค่เงาเท่านั้น และไม่สามารถออกจากหุบเขาสายหมอกได้ แต่ถา้ เราไม่
สนมัน เมื่อเวลาผ่านไปมันก็จะหลุดจากผนึกอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นนี่
คือเหตุผลที่วา่ ทําไมที่หุบเขาสายหมอก ต้องมีผพู ้ ิทกั ษ์ “

“และผูพ้ ิทกั ษ์น้ ี อาจพูดได้วา่ ถูกเลือกโดยหุบเขาสายหมอก และมี


เพียงสตรี เท่านั้นที่จะได้รับตําแหน่งนัน่ ในตอนนี้ผพู ้ ิทกั ษ์ที่วา่ ก็คือผู ้
อาวุโส เพียวเมี้ยวและข้ามัน่ ใจว่า ผูพ้ ิทกั ษ์ในอนาคตย่อมเป็ น 1 ในลูก
ศิษย์ของนาง,” เจียง ว่านชือ พูด

“มันช่างลึกลับเสี ยจริ ง แล้วใครคือผูพ้ ิทกั ษ์คนแรกของหุบเขาสาย


หมอกล่ะ” ชูเฟิ ง ถาม

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้าถามว่าใครคือผูท้ ี่เป็ นผูพ้ ิทกั ษ์คนแรกอย่างนั้น


หรื อ”เจียง ว่านชียมิ้ .

ชูเฟิ ง เกาหัวของเขา แล้วพูดว่า”ใช่แล้ว ข้าได้ฟังจากท่านแล้ว แม้ขา้ จะ


ยังไม่เห็นหุบเขาสายหมอกชัดๆ แต่ขา้ ก็รู้สึกว่าที่แห่งนี้น้ นั ไม่ธรรมดา”
“ถ้าเป็ นอย่างที่ศิษย์พี่เจียงพูด หุบเขาสายหมอกความจริ งแล้วคือ
รู ปแบบผนึกขนาดยักษ์สินะ ดังนั้นข้าจึงมัน่ ใจว่าผูป้ กครองที่แห่งนี้ยอ่ ม
เป็ นคนที่แข็งแกร่ งมาก หรื อไม่กพ็ วกเขาต้องแข็งแกร่ งอย่างมาก ถ้าข้า
ไม่ได้ทราบชื่อของพวกเขาข้าต้องเสี ยใจไปนานเลย!”

ในตอนนั้น เจียง ว่านชือ ก็ส่ายหน้าเบาๆแล้วพูดว่า “หุบเขาสายหมอก


นั้นมีอยูม่ าหลายรุ่ นแล้ว ไม่มีใครรู ้วา่ ใครเป็ นผูป้ กครองหุบเขาสาย
หมอกคนแรก จากที่ขา้ ได้ยนิ มาหุบเขาสายหมอกมีจารึ กถึงเรื่ องราว
สมัยก่อนอยูแ่ สดงว่า หุบเขาสายหมอกย่อมมีมาตั้งแต่ยคุ โบราณ.”

“ยุคโบราณอย่างนั้นหรื อ นัน่ หมายความว่าหุบเขาสายหมอกนี่ช่าง


ลึกลับจริ งๆ ข้าชักอยากจะรู ้เรื่ องนี้มากขึ้นซะแล้ว.” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชู
เฟิ งก็รู้สึกสนใจอย่างมาก
“ไม่ตอ้ งห่วง หุบเขาสายหมอกจะไม่ทาํ ให้เจ้าผิดหวัง.” เจียง
ว่านชือ พูดขึ้นด้วยรอยยิม้

หลังจากเดินทางด้วยความรวดเร็ ว ชูเฟิ งก็พบว่าพวกเขาได้เข้ามาพื้นที่ที่


กว้างใหญ่และเป็ นทะเลไร้ขอบเขตอีกครั้ง เมื่อคิดย้อนกลับไปเจียง
ว่านชือ บอกว่าหุบเขาสายหมอกนั้นอยูไ่ ม่ไกลจากนี้ แต่ชูเฟิ งไม่คิดว่า
มันจะเป็ นเกาะที่งดงามเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ งนั้นก็ได้รู้วา่ เขาคิดผิดมาตลอดเพราะสิ่ งที่ปรากฏอยู่


ตรงหน้าเขาคือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเมฆสี ขาว

เมฆสี ขาวนี้ปกคลุมพื้นที่ใหญ่และทําให้ดูงดงามมาก รู ปร่ างของมันนั้น


มีหลายขนาดหลายรู ปร่ างแต่เมื่อดูแล้วมันคล้ายกับขนมสายไหม อาจพูด
ได้วา่ นี่เป็ นเมฆสี ขาวที่สวยที่สุดที่เขาเคยเห็นมา
และหลังจากเคลื่อนตัวผ่านเมฆมาสักพักชูเฟิ งก็ตกใจ อย่างมาก

ที่เขาตกใจก็เพราะเขาพบว่า บนเมฆที่ห่างออกไปนั้นมีเทือกเขาอยู่
เทือกเขานั้นไม่ได้สูงเสี ยดขึ้นมาบนเมฆสี ขาว แต่มนั ตั้งอยูบ่ นเมฆสี ขาว
แทน

นอกจากนี้ เทือกเขานี้น้ นั งดงามมาก เพราะมันมีภูเขานับไม่ถว้ นอยูข่ า้ ง


ในและนํ้าตกที่ไหลลงมา มันเหมือนมังกรนํ้าที่เลื้อยลงจากภูเขาและเข้า
สู่ กอ้ นเมฆ และมีรุ้งกินนํ้าอยูร่ อบๆ

และเมื่อชูเฟิ งอยูใ่ ต้เมฆสี ขาวนั้น เขาก็ไม่สามารถมองเห็นจุดที่น้ าํ ตก


ไหลลงไปได้ชดั นัน่ หมายความว่านํ้าตกนั้นไม่ได้ไหลลงสู่ กอ้ นเมฆ

ชูเฟิ งนั้นเคยเห็นเกาะลอยมาก่อนหน้านี้ และเขายังเคยเห็นเกาะลอยมา


มากมายในทะเลโลหิ ตนิรันดร์

แต่ นี่เป็ นครั้งแรกที่เขาเห็นเทือกเขาลอย เขานั้นไม่สามารถจินตนาการ


ได้เลยว่ารู ปแบบเช่นใดที่ทาํ เช่นนี้ได้ เขารู ้เพียงว่ามันเป็ นรู ปแบบที่ทรง
พลังมาก ที่เขาอาจจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะได้เรี ยนรู ้มนั

และที่สาํ คัญที่สุดหุบเขาสายหมอกนั้นอยูบ่ นเมฆสี ขาว ต่อมานั้นพวกเขา


ได้มาถึงจุดยอดของเมฆสี ขาวและมองขึ้นไปชูเฟิ งก็พบว่า บนนั้นยังมี
เมฆสี ขาวที่งดงามยิง่ กว่าอยูบ่ นนั้น
เมฆพวกนั้นลอยอยูส่ ู งมาก แม้ชูเฟิ งจะสามารถบินได้ แต่ดว้ ย
ความสามารถของเขาในตอนนี้เขาไม่สามารถบินไปยังความสู งเช่นนั้น
ได้

นอกจากนี้ เมฆพวกนั้นลอยช้ามากๆ พวกมันค่อยๆลอยเอื่อยๆอยูบ่ นหุบ


เขาสายหมอก นัน่ แสดงว่าเมฆพวกนี้น้ นั ไม่ได้เกิดขึ้นจากธรรมชาติแต่
อาจเกิดจากรู ปแบบอํานาจวิญญาณที่ทรงพลัง

มันอาจพูดได้วา่ แม้เขาจะรู ้เรื่ องความพิเศษของหุบเขาสายหมอกมาก่อน


แต่เมื่อเขามาเห็นกับสายตาของเขาเองแล้ว ชูเฟิ งจึงรู ้สึกว่านี่มนั ยิง่ กว่าที่
เขาคิดเสี ยอีกซึ่งมันทําให้เขาพอใจอย่างมาก และความสงสัยของเขาก็ทวี
ขึ้นเช่นกัน
“ทําไมมันถึงถูกเรี ยกว่าหุบเขาสายหมอกล่ะ จากที่ขา้ เห็นมันน่าจะ
ถูกเรี ยกว่าเทือกเขาลอยมากกว่า” ชูเฟิ งพูดเล่นอย่างขบขัน

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง เจ้าช่างมีอารมณ์ขนั ยิง่ นัก.” หลังจากได้ยนิ คําพูด


ของชูเฟิ ง เจียง ว่านชือก็หวั เราะออกมาจากนั้นเธอก็พดู ว่า”ความลึกลับ
ของมันไม่ได้มีแค่น้ ีหรอกศิษย์นอ้ งเจ้าเห็นว่าเมฆสี ขาวอยูข่ า้ งบนใช่
หรื อไม่ เมฆนัน่ และพื้นที่เราเหยียบอยูน่ น่ั ก็เป็ นแค่ส่วนหนึ่งของรู ปแบบ
ฯแห่งหุบเขาสายหมอกเท่านั้น

“เมฆสี ขาวที่ลอยอยูบ่ นอากาศนั้นเกิดขึ้นจากอุณหภูมิที่ต่างกัน


ตามเวลาที่แตกต่างกันไป นัน่ หมายความว่าหุบเขาสายหมอกนั้น
สามารถเปลี่ยนได้ถึง 4 ฤดู”

“แต่อาจพูดได้วา่ ที่แห่งนี้ นั้นอบอุ่นตลอดทั้งปี เพราะมันมีฤดูร้อน


ใบไม้ร่วงและใบไม้ผลิปรากฏขึ้น แต่ฤดูหนาวนั้นความจริ งแล้วมันไม่มี
อยู่ ”

“การใช้รูปแบบวิญญาณสร้างฤดูกาลเช่นนี้ช่างน่าประทับใจเสี ย
จริ ง” เมื่อได้ยนิ เจียง ว่านชือพูด ชูเฟิ งก็รู้ถึงความพิเศษของสถานที่แห่ง
นี้มากขึ้น และเขาจึงเข้าใจว่าทําไมที่แห่งนี้ถึงแปลกประหลาดที่สุดใน
ภูมิภาคทะเลตะวันออก”

“จริ งสิ ! ศิษย์พี่เจียง หุบเขาสายหมอกไม่ได้เป็ นที่อยูข่ องแม่นาง


เพียวเมี้ยวหรอกหรื อ ทําไมถึงมีผฝู ้ ึ กตนอยูม่ ากมายเช่นนี้ล่ะ หรื อว่าพวก
เขาจะมาขอให้แม่นางเพียวเมี้ยวเป็ นอาจารย์ให้ แต่จาํ นวนคนขนาดนี้จะ
ไม่เยอะไปหน่อยหรื อ”

ในตอนนั้นชูเฟิ งก็ถามด้วยความสงสัย เพราะเขาเห็นผูบ้ ่มเพาะฝึ กตน


มากมายอยูบ่ นถนน และเมื่อมองไปที่ระดับของพวกเขาก็เห็นในกลุ่ม
นั้นมีหลายคนอยูใ่ นระดับจ้าวสงครามและมีเพียงส่ วนน้อยที่อยูใ่ นระดับ
อาณาจักรสวรรค์นอกจากนี้พวกเขานั้นยังไม่มีใครน่าจะอายุเกิน 30 ปี
นัน่ ทําให้ชูเฟิ งสงสัยมาก

ในตอนแรกชูเฟิ งคิดว่าพวกเขามาเพื่อมาขอให้แม่นางเพียวเมี้ยวเป็ น
อาจารย์ เพราะชื่อของนางนั้นยิง่ ใหญ่มาก แต่เมื่อพวกเขาเข้าใกล้หุบเขา
สายหมอก ชูเฟิ งก็พบบางอย่างที่ไม่ปกติ

ว่ากันว่าจะมีส่ิ งที่เรี ยกว่า “มังกรในหมู่คน” อยูด่ ว้ ยอายุที่ยงั เยาว์วยั แต่มี


ระดับการบ่มเพาะที่แข็งแกร่ งในกลุ่มคนมักจะมีอจั ฉริ ยะอยูด่ ว้ ยเสมอแต่
นี้มนั ช่างแปลกยิง่ นักเพราะที่แห่งนี้น้ นั มีบุคคลแบบนั้นมากเกินไป

“โฮะโฮะ.” เจียง ว่านชือหัวเราะพร้อมเอามือปิ ดปากตัวเองเมื่อได้


ยินคําพูดของชูเฟิ ง จากนั้นเธอก็ตอบเขาว่า “ดูเหมือนว่าศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ ง
จะไม่ค่อยรู ้อะไรเกี่ยวกับภูมิภาคทะเลตะวันออกจริ งๆสิ นะ”

“ศิษย์พี่ เจียง มีอะไรอย่างนั้นหรื อ” ชูเฟิ งถามขึ้นด้วยความสงสัย

“พวกเขามารวมตัวกันที่นี่เพื่อเข้าสู่ ดินแดนตราประทับนิรันดร์
ยังไงล่ะ!” เจียง ว่านชือพูด

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : นี้ไงล่ะ! งานเทศกาลที่เราพูดถึง มันคือการล่าตราประทับนั้นเอง
ลักษณ์ของมันน่าจะอธิบายไว้ในเนื้อเรื่ อง แต่ขอบอกเลย ใช่วา่ ใครจะจับ
มันได้ง่ายๆ ขนาด มู่หรง ซุน อัจฉริ ยะ อันดับ 1 ยังจับได้ ร้อย ไม่เกิน
สองร้อย

B : มันมีช่วงน่าหมัน่ ไส้อยูด่ ว้ ย พี่เฟิ งไม่บอกใครนะว่าตัวเองมีเนตร


สวรรค์ แต่บอกว่าเค้ารู ้วธิ ีล่าตราประทับ แต่กบั ไม่มีใครเชื่อ นําซํ้ายัง
โดนดูถูก ด่าทอ สาดเสี ย เถเสี ย

A : มันเปนใครว่ะ!!!

B : บอกไม่ได้!!! แต่งานนี้พี่เฟิ งจะเปิ ดตํานานบทแรกของ หวูฉ่ ิ ง ณ.


ทะเลตะวันออก งานนี้ได้ตะลึงทั้งอาณาจักร!!!
บทที่ 646 - บุรุษผูท้ ุบตีสตรี
“ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์!!” ชูเฟิ งรู ้สึกทึ่งเป็ นอย่างมาก
เมื่อได้ยนิ คํานั้น

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง ข้าไม่ได้บอกเจ้าหรื อว่าหุบเขาสายหมอกเป็ น


สถานที่ๆพิเศษอย่างมาก ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์ เป็ นหนึ่งใน
สถานที่โดดเด่นของหุบเขาสายหมอก” เจียง ว่านชือ พูดด้วยรอยยิม้

“ศิษย์พี่เจียง อย่าปล่อยให้ขา้ สงสัยสิ จริ งๆแล้ว ดินแดนแห่งตรา


ประทับนิรันดร์ มีความพิเศษยังไงถึงสามารถดึงดูดอัจฉริ ยะรุ่ นเยาว์
จํานวนมากมายังที่แห่งนี้? จากที่ขา้ เห็นอัจฉริ ยะรุ่ นเยาว์ของภูมิภาค
ทะเลตะวันออกมาที่นี่หมดเลยใช่ม้ ยั ?”

ชูเฟิ งกําลังยืนสังเกตุและพบว่ามีเพียงอัจฉรัยะไม่กี่คนมีการบ่มเพาะที่
โดดเด่น เขาเชื่อว่าบุคคลเหล่านี้คือยอดอัจฉริ ยะในภูมิภาคทะเล
ตะวันออก ตั้งแต่อจั ฉริ ยะจํานวนมากปรากฏตัวที่สถานที่แห่งนี้ นัน่
หมายความว่าพวกเขาต้องได้รับผลตอบแทนที่ยอดเยีย่ มสําหรับการบ่ม
เพาะภายใน ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์

“ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์ คือโลกที่แตกต่าง ทางเข้าของ


โลกแห่งนี้อยูท่ ี่จุดสู งสุ ดของหุบเขาสายหมอก อย่างไรก็ตามทางเข้า
ขนาดใหญ่จะเปิ ดออกทุกๆ 6 ปี และบุคคลที่อายุไม่กิน 30 ปี เท่านั้นที่
สามารถเข้าไปได้”

“แม้วา่ ภายใน ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์ จะมีตราประทับ


ลึกลับ ใครก็ตามที่เข้ามาและสามารถเก็บตราประทับได้ จากที่ขา้ ได้ยนิ
มา ตราประทับที่เก็บมาได้น้ นั สามารถนําไปแลกเปลี่ยนกับทักษะที่มีค่า
เท่าเทียมกันที่ตาํ หนักคัมภีร์แห่งหุบเขาสายหมอก”
“ในตําหนักคัมภีร์ จะมีทกั ษะส่ วนมากจะเป็ นทักษะระดับ 7
ตราบเท่าที่เจ้าสามารถเก็บตราปะทับนัน่ ได้ในจํานวนมาก เจ้ายังสามารถ
นํามาแลกกับทักษะต้องห้ามได้อีกด้วย”

“ทักษะต้องห้าม?” ชูเฟิ งสนใจทันทีเมื่อได้ยนิ คํานั้น เขามี


ประสบการณ์กบั ทักษะต้องห้ามจากหย่าเฟย เขารู ้วา่ การครอบครอง
ทักษะต้องห้ามเป็ นเรื่ องที่อนั ตราย แต่ทกั ษะต้องห้ามก็ยงั คงมีพลังที่ไม
ธรรมดา

แม้วา่ ทักษะเร้นลับที่ชูเฟิ งมีอยูจ่ ะทรงพลัง แต่พวกมันก็เติบโตอย่างช้าๆ


ตามตัวเขา แต่ทกั ษะต้องห้ามนั้นต่างออกไป ตราบเท่าที่ฝึกมันสําเร็ จ ก็
จะมีความแข็งแกร่ งมหาศาล ดังนั้นชูเฟิ งจึงสนใจทักษะต้องห้ามเป็ น
อย่างมาก
“ถูกต้อง! ทักษะต้องห้าม พวกมันเป็ นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้
และทัว่ ทั้งภูมิภาคทะเลตะวันออก ผูท้ ี่ครอบครองทักษะต้องห้ามนั้น
สามารถนับนิ้วได้ เลย มันน้อยเสี ยยิง่ กว่าน้อยอีก แม้วา่ อัจฉริ ยะจากเกาะ
ประหารจะสามารถเรี ยนรู ้มนั ได้ แต่ราคาที่ตอ้ งจ่ายสําหรับทักษะ
ต้องห้ามนั้นก็สูงเป็ นอย่างมาก”

“นอกจากนั้นใน ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์ ยังมีโอกาสได้


ทักษะต้องห้ามด้วย ดังนั้นมันทําให้ขมุ อํานาจต่างๆเพ่งมองมายังสถานที่
แห่งนี้ดว้ ยความโลภ ทุกๆครั้งที่ ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์ เปิ ด
ออก ขุมอํานาจเหล่านั้นจะส่ งสุ ดยอดอัจริ ยะของพวกเขาเข้ายังสถานที่
แห่งนี้”

“แต่น่าเศร้า..จนถึงบัดนี้ มีผคู ้ นเพียงเล็กน้อยที่จะได้ครองทักษะ


ต้องห้ามในสถานที่แห่งนี้ ยกตัวอย่างเช่น ครั้งล่าสุ ดที่ดินแดนตรา
ประทับสงครามเปิ ดออก มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถครอบครอง
ทักษะต้องห้าม คนๆนั้นคือนายน้อยแห่งเกาะประหาร มู่หรง ซุน” เจียง
ว่านกล่าว

“มู่หรงซุน?” ได้ยนิ ชื่อนั้น แววตาของชูเฟิ งสัน่ ไหวเล็กน้อย มัน


ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยนิ ชื่อนี้นบั ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในภูมิภาคทะเล
ตะวันออก เขารู ้วา่ มู่หรงซุน คือคนที่จะแต่งงานกับจื่อหลิง

“ศิษย์นอ้ ยหวูฉ่ ิง เจ้ารู ้จกั มู่หรงซุน หรอ? เขายังหนุ่มแน่น และ


การบ่มเพาะของเขาอยูใ่ นระดับที่ไม่อาจต่อต้านได้ เขาสามารถต่อสู ก้ บั
ระดับผูอ้ าวุโส และยังได้รับการยอมรับว่าเป็ นอัจฉริ ยะอันดับหนึ่งใน
ทะเลภูมิภาคตะวันออก”

“มีบางคนบอกว่าพรสวรรค์ของ มู่หรง ซุน โดดเด่นกว่าอัจฉริ ยะ


รุ่ นก่อนอย่าง ฮว่างฟู่ ฮ่าวเยว้ ที่นามของเขาสัน่ สะเทือนภูมิภาคทะเล
ตะวันออก”

“อย่างไรก็ตาม เป็ นเรื่ องที่น่าเศร้า เพราะจริ งๆแล้ว มู่หรง ซุน มี


อายุครบ 30 ในปี นี้ ซึ่งมันเกินกว่าที่ มู่หรง ซุน จะเข้าไปได้แล้ว”

“นอกจากนี้ ด้วยการบ่มเพาะของเขาตอนนี้ ข้ามัน่ ใจว่า มู่หรง ซุน


จะสามารถเก็บเกี่ยวรางวัลได้มากขึ้น ถ้าเขาได้เข้าไปใน ดินแดนตรา
ประทับสงครามอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็จะโด่ดเด่นกว่าเมื่อตอน 6 ปี ที่
แล้ว” เมื่อกล่าวถึง มู่หรง ซุน ใบหน้า เจียงว่าน เต็มไปด้วยความเคารพ
นับถือและยกย่องเขาอย่างไม่สิ้นสุ ด

ชูเฟิ งทําได้เพียงยิม้ จางๆมายังท่าทางของเจียง ว่านชือโดยไม่มีการ


กล่าวโทษแม้แต่นอ้ ย แม้วา่ มู่หรงซุน เป็ นศัตรู ตวั ฉกาจของเขา แต่นน่ั ก็
ไม่ได้เกี่ยวกับ เจียง ว่านชือ เหนือสิ่ งอื่นใด หญิงสาวย่อมชมชอบบุรุษที่
ยอดเยีย่ ม และแน่นอนว่าเจียง ว่านชื่อก็ไม่เว้น ซึ่ งมันก็ไม่ใช่เรื่ องผิด
อะไร

“วิง่ ? วิง่ ไปเรื่ อยๆ! ให้ขา้ เห็นว่าเจ้าวิง่ ได้ไกลแค่ไหน? เมื่อข้าจับ


เจ้าได้ ข้าจะทําให้เจ้าเป็ นคนพิการแน่นอน!”

แต่ในขณะนั้น จากทิศทางของหุบเขาสายหมอก มีเสี ยงตะโกนดังมา


เมื่อมองไปยังต้นเสี ยง ผูค้ นจํานวนมากกําลังเหาะด้วยความเร็ วสู ง

คนผูห้ นึ่งที่อยูด่ า้ นหน้าคือหญิงสาวที่สาวใส่ เสื้ อผ้าราวกับขอทาน เธอดู


มอมแมมมาก ผมเพ้ากระเซอะกระเซิ ง โคลนเลอะไปทัว่ ทั้งตัว ใครจะ
ทราบว่านางไม่ได้อาบนํ้ามานานขนาดไหนแล้ว ถ้านางไม่ได้มีส่วนเว้า
ส่ วนโค้งบริ เวณน่าอกแล้วหล่ะก็ ไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่านางเป็ น
สตรี
แม้วา่ นางจะมอมแมมจนดูเหมือนขอทาน แต่นางยังมีระดับการบ่มเพาะ
อยูท่ ี่ระดับ 9 อาณาจักรสวรรค์ ซึ่ งแข็งแกร่ งกว่า เจียง ว่านชือ

ทันใดนั้น นางใช้ทกั ษะพิเศษทางกายพุง่ อย่างบ้าคลัง่ มาที่พวกเขา

ด้านหลังหญิงสาวตามมาด้วยชาย 5 คน การบ่มเพาะของทั้ง 5 ไม่ได้


อ่อนแอ พวกเขาทั้งหมดอยูแ่ ดนจ้าวสงคราม 4 คนอยูร่ ะดับ 1 จ้าว
สงคราม และอีกคนที่เป็ นชายร่ างท้วมอยูร่ ะดับ 2 จ้าวสงคราม

ความเร็ วของทั้ง 5 คนนั้นสู งเป็ นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิง่ ชายร่ าง


ท้วม และทันใดนั้นพวกเขาใช้ทกั ษะทางร่ างกายที่ค่อนข้างแข็งแกร่ ง
ขณะที่พวกเขาไล่ล่า ไม่สาํ คัญว่าทักษะทางกายของหญิงสาวจะลึกลํ้าถึง
เพียงไหน แต่มนั ก็ยงั มีความต่างระหว่างอาณาจักรจ้าวสงครามและ
อาณาจักรสวรรค์อย่างมาก และนางเองก็กาํ ลังจะถูกจับ

“ยังจะหนีอีกหรอ? ให้ขา้ เห็นหน่อยว่าเจ้าจะหนีไปที่ใด!” ชาย


ท้วมระดับ 2 จ้าวสงครามระเบิดเสี ยงตะโกนทันที ควันสี ม่วงพวยพุง่
ออกจากร่ างกายของเขาอย่างไม่สิ้นสุ ด

มันคือรู ปแบบอํานาจวิญญาณ ตอนนั้นมันครอบคลุมไปทัว่ ท้องฟ้าและ


พื้นดิน ทั้งยังปกคลุมหญิงสาวในทันที ท้ายที่สุดมันกลายเป็ นกรงที่ขงั
นางไว้
ครั้งแรกหญิงสาวพยายามใช้ทกั ษะของนางเพือ่ ทําลายรู ปแบบวิญญาณ
แต่มนั ก็ไร้ประโยชน์เนื่องจากรู ปแบบถูกวางไว้โดยผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าว
สงคราม ส่ วนนางที่อยูอ่ าณาจักรสวรรค์จะสามารถทําลายมันได้
อย่างไร? เมื่อนางไม่สามารถทําอะไรได้ นางเริ่ มตะโกนสาปแช่ง “สาร
เลว! ปล่อยข้าออกไปนะ พวกเจ้าทั้ง 5 มันสารเลว! เจ้าจับข้าไปเพื่อ
อะไร? ข้ามาที่นี่เพื่อเพื่อเข้าไปยัง ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์!
เพื่อเยียวยารักษาตัวข้า แต่นี่! เจ้ากลับละเมิดกฏของหุบเขาสายหมอก เจ้า
ไม่กลัวท่านหญิงเพียวเมี้ยวลงโทษพวกเจ้าทั้งหมดรึ ?”

“ฮึ่ม..เข้า ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์ งั้นรึ ? เจ้า..ด้วยพลัง


วิญญาณอาณาจักรสวรรค์..เจ้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติรึ? ไม่เพียงเจ้าสร้าง
ป้ายสายหมอกปลอม...เจ้ายังกล้าขายมันให้กบั พวกข้า เจ้าต้องการให้
พวกข้าขายหน้า..ต้องการให้ขา้ เสี ยหน้าภายในหมู่คนรุ่ นเดียวกัน ถ้าข้า
ไม่ให้บทเรี ยนเจ้า เจ้าคงคิดว่าพวกข้าเป็ นคนโง่ใช่ไม๊!” ระดับ 2 จ้าว
สงครามตะโกนเสี ยงดังลัน่ ขณะที่เขาถือป้ายแปลกๆไว้ในมือ
“ข้าแค่พดู ว่ามันคือป้ายสายหมอก แต่ขา้ ไม่เคยพูดว่ามันคืออัน
เดียวกันกับป้ายของหุบเขาสายหมอก ข้าไม้ได้บงั คับให้เจ้าซื้ อ แต่พวก
เจ้าดื้อรั้น ต้องการให้ขา้ ขายมันให้กบั พวกเจ้า พวกเจ้าจะให้ขา้ ทําเช่นไร
ล่ะ?” หญิงสาวพูดตลบตะแลงในขณะที่เธอพยายามชี้แจงเหตุผล

“บัดซบ!! เจ้ากล้าปฏิเสธรึ ? นางบ้า!! วันนี้..ข้าจะทุบตีเจ้าให้


ตาย!!” ดูเหมือนนางจะทําให้พวกเขาโกรธ พวก ระดับ 1 จ้าวสงคราม
จึงโบกสบัดมือของเขาตบไปในอากาศ

* วูช * อย่างไรก็ตาม สิ่ งที่ไม่คาดคิดคือ นางเผชิญหน้ากับการโจมตีจาก


ระดับ 1 จ้าวสงคราม นางแค่เบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อหลบการโจมตี
จากนั้นนางใช้พลังอาณาจักรสวรรค์ของนางตะโกนไปรอบๆ “ช่วย
ด้วย!! ชายทั้ง 5 คนนี้ กําลังทุบตีหญิงสาวไร้ทางสู !้ ! ทุกคนมาดู
เร็ ว!!”......
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////
A : ตัวละครแบบนี้ มักจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงอยูเ่ สมอ ถายสิ วา่ นางเป็ น
ใคร

C : จื่อ . . . . . !!!

A : จื่อ . . . . . !!!

B : จื่อ . . . . . ซวน . . . . .หยวน!!!


บทที่ 647 – ความยุติธรรม

ในขณะที่ระยะทางไปถึงหุบเขาสายหมอกเหลืออยูไ่ ม่มากนั้น ก็ได้


มีเสี ยงโหวกเหวกดังขึ้น คนที่อยูใ่ นบริ เวณนั้นต่างหันไปมองตามต้น
เสี ยงที่ดงั ออกมา

เมื่อพวกเขาหันกลับไปมองนั้น พวกเขาก็เห็นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสอง


ขั้นจ้าวสงครามตะโกนออกมาว่า “ข้าคือนายน้อยแห่งคฤหาสน์พยัฆค์ ตี๋
เฟิ น !!”

“ผูห้ ญิงคนนี้โกงเงินข้าไป ข้าเพียงต้องการทวงของของข้าคืน


เท่านั้น และนี่กเ็ ป็ นเพียงการเตือนของข้าเท่านั้น ขอแนะนําว่าผูท้ ี่อยูใ่ น
บริ เวณนี้ อย่าได้สอดมือเข้ามา” ตี๋ เฟิ น กล่าวออกมาเหมือนจะสุ ภาพ แต่
ความจริ งนั้นกลับเต็มไปด้วยความหยิง่ ผยอง
ผูค้ นที่สามารถเดินทางมาถึงหุบเขาสายหมอกได้น้ นั ย่อมเป็ นผูท้ ี่มี
การบ่มเพาะพลังค่อนข้างสู ง แต่น่าเสี ยดาย ที่ผทู ้ ี่อยูใ่ นบริ เวณนี้กลับมี
พลังสู งสุ ดอยูท่ ี่ระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม อีกทั้งคฤหาสน์พยัฆค์ยงั มี
อํานาจมากในเขตทะเลตะวันออก

หลังจากที่ได้รู้วา่ ชายผูน้ ้ ีคือ ตี๋ เฟิ น นั้น ผูค้ นที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยูก่ ็


ไม่มีแม้แต่คนเดียว ที่อยากจะเข้าไปยุง่ กับเรื่ องนี้

เมื่อเห็นถึงความเย็นชาของผูค้ น แม้วา่ จะมีคนผ่านไปมาไม่นอ้ ย แต่


ไม่มีแต่คนเดียวที่จะยืน่ มือเข้าไปช่วยเหลือนาง นางจึงลดความหยิง่
ยะโสของตัวเองลง และกล่าวพลางยิม้ ออกมาว่า “เฮ้ๆ มันก็เป็ นแค่จา้ ว
โอสถระดับตํ่าแค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ข้าก็แค่คืนมันไปก็จบใช่ไหม !?”
“ฮึ่ม แน่นอนว่าเจ้าต้องคืนจ้าวโอสถให้แก่พวกเรา แต่ตราบใดที่เจ้า
คืนมันให้แก่พวกเราแล้ว ความจริ งเจ้าก็คงคิดว่าพวกเราเป็ นเพียงคนโง่
เท่านั้น เจ้ามันโอหังเกินไป !!” ตี๋ เฟิ น สู ดหายใจเข้าอย่างเย็นชา พร้อม
กับพุง่ ทะยานออกไปในรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ และใช้มือข้างหนึ่ง
บีบไปที่คอของนาง

“อึ้ก !!” นางพยายามดิ้นรนขณะที่อยูใ่ นกํามือของเขา นางทั้งทุบ


ทั้งชกไปที่แขนของเขา แต่ดว้ ยกล้ามเนื้อแขนที่แข็งแรงมันกลับไม่ได้รับ
ผลจากการกระทําของนางแม้แต่นอ้ ย แรงบีบของเขาค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละ
นิดๆ นางรู ้สึกว่านางไม่อาจจะหายได้ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความ
เจ็บปวด และอีกไม่นานนางก็คงจะตายในไม่ชา้

***** ตูมมมม *****


ในเวลาที่นางกําลังจะตายนั้น เสี ยงระเบิดก็ดงั ขึ้น พร้อมกับพลัง
มหาศาลที่กดทับลงมาจากอากาศอย่างรุ นแรง

ความรุ นแรงของพลังนั้น อัดกระแทกผูเ้ ชี่ยวชาญระดับหนึ่ง ขั้น


จ้าวสงครามกระเด็นออกไปไกล แต่สาํ หรับ ตี๋ เฟิ น นั้นเขายังคงอยูท่ ี่เดิม
มีเพียงความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเขา และเขาก็ยงั คงบีบคอของ
ผูห้ ญิงคนนั้นอยูเ่ ช่นเดิม

***** ปัง *****

ในเวลาเดียวกันนั้น ก็ปรากฏฝ่ ามือหนึ่งคว้าลงบนข้อมือของ ตี๋ เฟิ น


ด้วยความรุ นแรงนั้น ทําให้ ตี๋ เฟิ น ต้องคลายมือออกจากคอของผูห้ ญิง
คนนั้น
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ วก็มีคนผูห้ นึ่งปรากฏตัว
ออกมาที่ดา้ นหน้าของผูห้ ญิงคนนั้น นัน่ ก็คือ ชูเฟิ ง

“เจ้าเป็ นใคร !?” ตี๋ เฟิ น ตะโกนออกมาด้วยความเย็นชา แววตา


ของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาต ถึงแม้วา่ ชูเฟิ ง จะแข็งแกร่ งมาก แต่เท่าที่
เขาดูน้ นั ชูเฟิ ง มีพลังไม่เกินระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม และการที่เขาถูก
บีบให้ถอยออกมาด้วยผูเ้ ชี่ยวชาญระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงครามเช่นนี้ เป็ น
สิ่ งที่ทาํ ให้เขาไม่พอใจอย่างมาก

“มันไม่สาํ คัญว่าข้าเป็ นใคร แต่สิ่งที่สาํ คัญคือการที่ขา้ ทนไม่ได้ที่


เห็นผูช้ ายรังแกผูห้ ญิงเช่นนี้ !!” ชูเฟิ ง กล่าวด้วยรอยยิม้ บางๆ แต่แววตา
ของเขากลับเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
ในเวลานั้น เจียง ว่านชือ ก็ปรากฏตัวออกมาที่ดา้ นหลังของผูห้ ญิง
คนนั้น และเข้าไปประคองนางไว้อย่างรวดเร็ ว

“เจ้าบ้ารึ เปล่า !! เจ้าคิดว่าพวกข้าใคร !! ถึงได้กล้าสอดมือมาเช่นนี้


!!” ในขณะนั้น ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงครามทั้งสี่ คนที่โดน
คลื่นพลังของ ชูเฟิ ง กระแทก ก็ตะโกนออกมา พร้อมกับทะยานขึ้นและ
โจมตีออกมาด้วยความกราดเกรี้ ยว

แม้วา่ ทั้งสี่ คนจะไม่ได้ทกั ษะการต่อสู ้ แต่ดว้ ยพลังขั้นจ้าวสงคราม


นั้น พลังของพวกเขาก็รุนแรงอย่างมาก เมื่อพวกเขาเริ่ มแสดงความ
แข็งแกร่ งออกมานั้น ความหวาดกลัวก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ เจียง
ว่านชือ และผูห้ ญิงคนนั้นอย่างรวดเร็ ว
โดยเฉพาะ เจียง ว่านชือ นางไม่อาจประคองผูห้ ญิงคนนั้นเอาไว้ได้
อีก เพราะด้วยความที่นางมีพลังเพียงระดับแปด ขั้นแดนสวรรค์เท่านั้น
แม้วา่ นางจะใช้ทกั ษะการต่อสู เ้ ข้าต้านพลังก็ไม่สามารถต้านได้ นี่คือ
ความแตกต่างของขั้นแดนสวรรค์ และขั้นจ้าวสงคราม

เมื่อเห็นว่า เจียง ว่านชือ หวาดกลัวต่อพลังของพวกเขาทั้งสี่ คนนั้น


พวกเขาก็แสยะยิม้ ออกมาด้วยความภาคภูมิใจ อย่างไรก็ตาม แม้วา่ เจียง
ว่านชือ จะหวาดกลัว แต่ ชูเฟิ ง กลับไม่หวาดกลัวแม้แต่นอ้ ย

“ไปซะ!!” ชูเฟิ ง ยังคงยืนอยูอ่ ย่างสงบนิ่งโดยไม่ขยับแม้แต่กา้ วเดียว


เขาตะโกนออกมาพร้อมกับระเบิดพลังออกมาอย่างรุ นแรง คลื่นพลังนั้น
รุ นแรงมาก มันทําให้การโจมตีของทั้งสี่ คนหายไป และกระแทกพวกเขา
กระเด็นไปอีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าเจ้าอยากตายมากซิ นะ !!” เมื่อเห็นเช่นนั้น ตี๋ เฟิ น ไม่
รอช้า เขารี บชกหมัดออกไปอย่างรวดเร็ ว

***** ตูมมม *****

ในขณะที่หมัดพุง่ ออกมานั้น ท้องฟ้าพลันเปลี่ยนสี บรรยากาศ


โดยรอบแตกออกราวกับกระจก มันไม่ใช่หมัดธรรมดา แต่เป็ นทักษะ
การต่อสู ท้ ี่ทรงพลังอย่างมาก

“หื มมม !!” อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่นอ้ ย เขาชก


หมัดออกไปเช่นเดียวกัน แต่เขาไม่ได้ใช้ทกั ษะการต่อสู ใ้ ดๆ ทั้งสิ้ น เขา
เพียงชกออกไปด้วยพลังเท่านั้น
***** ตูมมมม ครื นนนนนนนนนนน *****

เมื่อสองหมัดเข้าปะทะกันนั้น คลื่นพลังแผ่กระจายออกมาอย่าง
รุ นแรง อากาศโดยรอบแตกออก ผืนแผ่นดินสัน่ ไหว

หลังจากการปะทะกัน ตี๋ เฟิ น ถูกระแทกออกไปไกล หลังจากหยุด


ลงบนพื้นนั้น เขาได้มองกลับไปยัง ชูเฟิ ง เขาพบว่า ชูเฟิ ง ไม่ได้ขยับไป
แม้แต่นิ้วเดียว ยังคงยืนอยูท่ ี่เดิมอย่างสงบนิ่ง

“เป็ นไปได้ยงั ไง เห็นได้ชดั ว่าชายคนนี้มีพลังเพียงระดับหนึ่ง จ้าว


สงครามเท่านั้น !! ทําไมเขาถึงได้มีพลังมากมายเช่นนี้ !!” เมื่อเห็น
เช่นนั้น ผูเ้ ชี่ยวชาญทั้งสี่ คนต่างตระหนักดีวา่ ชูเฟิ ง มีความสามารถ
มากกว่าที่เขาคาดเดาเอาไว้มาก
ตี๋ เฟิ น เองนั้นก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ใบหน้าของเขา
เปลี่ยนแปลงเป็ นปั้ นยากอย่างมาก เขากล่าวออกมาว่า “ไม่แปลกใจเลย
ว่าทําผูห้ ญิงคนนี้ถึงได้มีทีท่าหยิง่ ยะโสเช่นนี้ เป็ นเพราะมีผชู ้ ่วยเหลือนาง
นี่เอง ตั้งแต่เจ้าเข้ามาช่วยนาง เจ้าต้องได้รับผลจากการกระทําเช่นนี้ เจ้า
กล้าที่จะเผยชื่อของเจ้าหรื อไม่ !!”

“หื ม !! สวะเช่นเจ้า ไม่สมควรที่จะได้รู้ชื่อของข้า แต่วนั นี้ขา้


อารมณ์ดี ข้าจะยกเว้นให้เป็ นพิเศษ !!”

“แคะหูแล้วฟังให้ดี นามของข้าคือ หวูฉ่ ิ ง ไม่มีสาํ นักหรื อพรรค


ใดๆ ข้าเดินทางเพียงลําพัง ในอนาคตหากเจ้าต้องการแก้แค้น มาหาข้า
ได้ทุกเมื่อ !!” ชูเฟิ ง กล่าวออกมาอย่างเย็นชา
"เจ้า……เจ้าจะต้องได้รับผลของเจ้าในอนาคต !!” ตี๋ เฟิ น กล่าว
ออกมา เขากัดฟันด้วยความโกรธ แต่เขากลับไม่สามารถทําอะไรได้
หลังจากนั้นเขาก็จากไป

ที่เขาจากไปเช่นนี้ เพราเขาไม่มนั่ ใจว่าหากต่อสู ย้ ดื เยื้อ เขาจะ


สามารถเอาชนะ ชูเฟิ ง ได้หรื อไม่

มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหากเขาเอาชนะ ชูเฟิ ง ได้ แต่หากเขาซึ่ งเป็ น


ถึงผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสอง ขั้นจ้าวสงคราม แต่กลับพ่ายแพ้ให้แก่ ชูเฟิ ง ซึ่ ง
มีพลังเพียงระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงครามนั้น มันย่อมเป็ นเรื่ องที่น่าอับอาย
อย่างมาก
“พีช่ าย ตี๋ เฟิ น พวกเราจะปล่อยเขาไปแบบนี้รึ !!” เมื่อเห็นเช่นนั้น
ผูเ้ ชี่ยวชาญทั้งสี่ คนต่างสับสนอย่างมาก

“นี่กใ็ กล้จะสิ้ นเดือนแล้ว หากว่าพวกเรายังไปไม่ถึงยอดหุบเขาสาย


หมอก พวกเราอาจะพลาดโอกาส และพวกเจ้าเองก็คงไม่อยากเดินทาง
ในยามกลางคืนผ่านมหาสมุทรนี้ใช่หรื อไม่”

“แม้วา่ ผูห้ ญิงคนนั้นจะน่ารังเกียจ แต่นางก็เป็ นผูห้ ญิง เรากําลังตก


เป็ นจุดสนใจ หากมีผใู ้ ดปากมาก นัน่ จะไม่เป็ นผลดีต่อพวกเรา” ตี๋ เฟิ น
พยายามหาข้ออ้างเพื่อปิ ดบังความขี้ขลาดของเขา

“พี่ ตี๋ เฟิ น กล่าวได้เหมาะสมมันย่อมไม่สายเกินไปที่พวกเราจะให้


บทเรี ยนแก่เขา !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น แม้วา่ ทั้งสี่ คนจะรู ้ความคิดของเขา
แต่มนั ย่อมไม่ดีแน่หากว่าพวกเขาจะต้องอับอาย และมันย่อมจะดีกว่า
หากพวกเขารี บจากออกไป

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
/////////
A : ดีแล้วที่ยอมไป ไม่ง้ นั ตีนพี่เฟิ งคงได้เปื้ อนเลือด!!!

C : เตะหมาโชว์ไง๊!!!

B : เตะมืงนั้นล่ะ!!!

C : พี่เฟิ งทําไรกูไม่ได้หรอก!!!

A : พี่เฟิ งไม่ตอ้ ง กูเอง!!!

บทที่ 648 – การตอบแทนของหญิงสาว

“เจ้าช่างกล้าหาญจังเลย!! ข้าจะตอบแทนเจ้าที่ช่วยข้า ข้ายินดีที่จะ


มอบทุกๆ อย่างของข้าให้แก่เจ้า !!” หลังจากที่ ตี๋ เฟิ น และพรรคพวก
จากไปนั้น ชูเฟิ ง ก็สมั ผัสบางอย่างที่อ่อนนุ่มได้จากด้านหลังของเขา เมื่อ
เขาหันกลับไปมองเขาก็พบว่า หญิงสาวผูน้ ้ นั ได้กระโดดกอดเขาอยู่

ในขณะนั้น ชูเฟิ ง พบว่าผูห้ ญิงคนนี้สกปรกอย่างมาก นอกจาก


ดวงตากลมโต และฟันที่ขาวของนาง ทัว่ ทั้งร่ างกายของนางเป็ นสี คลํ้า
มันไม่ใช่สีผวิ โดยธรรมชาติ แต่เป็ นสี คลํ้าของการสะสมของสิ่ งสกปรก
อีกทั้งมันยังส่ งกลิ่นเหม็นออกมา

อาจกล่าวได้วา่ การตอบแทนโดยการกอดของนาง ไม่ใช่สิ่งที่ทาํ ให้


ชูเฟิ ง พึงพอใจนัก แต่กลับทําให้เขาอึดอัดใจอย่างมากด้วยความสกปรก
ของนาง

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ไม่ได้ผลักไสนางออกไปในทันที เขาสะบัดมือ


ของเขา และโยนนางออกไปราวกับของเล่น
จากนั้น เขาก็กล่าวกับนางว่า “ถ้าเจ้ายังทําในสิ่ งที่ไม่ชอบธรรม
เช่นนี้ เจ้าอาจจะตายในไม่ชา้ แม้วา่ พวกเขาจะหลงกลเจ้าเพราะความ
โลภ เพื่อหาข้อได้เปรี ยบเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ แต่มนั ก็ไม่เหมาะสมที่เจ้าจะ
หลอกขายป้ายปลอม นี่เป็ นเขตของหุบเขาสายหมอก หากพวกเขารู ้เข้า
มันจะเป็ นการไม่เหมาะสม ข้าขอแนะนําให้เจ้ารี บออกไปจากที่นี่เสี ย
ดีกว่า !!”

หลังจากกล่าวจบ ชูเฟิ ง ก็หนั ไปกล่าวกับ เจียง ว่านชือ ว่า “ศิษย์พี่


ไปกันเถอะ !!”

“อืม !!” เจียง ว่านชือ พยักหน้ารับ และเริ่ มก้าวเดินตามไป แววตา


ของนางเต็มไปด้วยความซับซ้อนขณะที่นางมองไปยัง ชูเฟิ ง
ก่อนหน้านี้ ชูเฟิ ง สามารถเอาชนะผูเ้ ชี่ยวชาญระดับหนึ่ง และระดับ
สอง ขั้นจ้าวสงครามได้ โดยที่ไม่ขยับแม้แต่นอ้ ย เจียง ว่านชือ จึงยกย่อง
ความแข็งแกร่ งของ ชูเฟิ ง อย่างมาก

แม้วา่ พวกเขาจะเป็ นศิษย์ของอาจารย์ที่มีชื่อเสี ยงใกล้เคียงกัน แต่


กลับมีพลังที่ต่างกันอย่างมาก และเมื่อคิดถึงในครั้งแรกที่นางวางท่าหยิง่
ยะโสใส่ ชูเฟิ ง นัน่ ยิง่ ทําให้นางรู ้สึกละอายใจ

“นายท่านรอก่อน !!” ในขณะนั้น ผูห้ ญิงคนนั้นก็วงิ่ เข้ามา นาง


ไม่ได้กอด ชูเฟิ ง อีก เพียงแต่หยุดอยูห่ ่างจากเขาหลายเมตร นางยืนมือ
ออกมา พร้อมทั้งส่งป้ายในมือให้แก่ ชูเฟิ ง และกล่าวว่า “นายท่าน การ
ประลองเพื่อแย่งชิงป้ายดินแดนตราประทับนิรันดร์ จะเปิ ดขึ้นในทุกๆ
หกปี ในตอนนี้อจั ฉริ ยะทัว่ ทั้งเขตทะเลตะวันออกได้มารวมตัวกันที่นี่
พวกเขาทุกคนจะได้รับการตรวจสอบเป็ นรายบุคคล และข้าได้ยนิ ว่า
ท่านไม่มีสาํ นัก หรื อพรรคที่สงั กัดอยู่ ข้าเกรงว่าท่านจะไม่สามารถเข้าไป
ได้”

“แต่ตราบใดที่ท่านถือป้ายนี้ ท่านจะไม่ตอ้ งรับการตรวจสอบใดๆ


และสามารถเข้าไปได้โดยตรง”

“แม่นาง เจ้าไม่ตอ้ งกังวล พวกเราสองคนสามารถเข้าไปได้อย่าง


แน่นอน” เจียง ว่านชือ กล่าวออกมาด้วยความมัน่ ใจ

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะมัน่ ใจมากเลยนะ และข้าก็เชื่อว่าเจ้าจะต้องมี


ผูส้ นับสนุนอยูบ่ า้ ง แต่หุบเขาสายหมอกให้ความเท่าเทียมกับทุกคน อีก
ทั้งอัจฉริ ยะที่มากันมากมายเช่นนี้ พวกเขาก็ตอ้ งมีผสู ้ นับสนุนเช่นกัน”
“พวกเขาทั้งหมดจะได้รับการดูแลที่เท่าเทียมกัน จะไม่มีผใู ้ ดมีสิทธิ์
เหนือกว่าผูอ้ ื่น !! นอกจากว่าเจ้าจะเป็ นอัจฉริ ยะที่โดดเด่น เจ้าก็จะได้รับ
ป้ายหมอก ซึ่งจะทําให้ได้รับการดูแลอย่างดี” นางกล่าวออกมาพลางถือ
ป้ายในมือแกว่งไปมา

“เจ้า !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น เจียง ว่านชือ รู ้สึกโกรธมาก แต่เพียง


พริ บตาเดียวนั้น นางก็ระงับความโกรธของนางลง และยิม้ บางๆ พร้อม
กล่าวออกมาว่า “ข้าไม่ได้รับป้ายนี้แน่นอน เพราะข้าไม่ตอ้ งการป้ายของ
ปลอมจากเจ้า”

“โอ้ยๆ ใครบอกว่ามันเป็ นของปลอม เจ้าเคยเห็นป้ายหมอกรึ !! อีก


อย่าง ข้าให้ท่านผูน้ ้ ีที่ช่วยเหลือข้า ไม่ใช่ให้เจ้าสักหน่อย !!” จากนั้นนาง
ก็เถียงกับ เจียง ว่านชือ อยูพ่ กั ใหญ่ๆ
ในขณะที่เกิดสงครามนํ้าลายอยูน่ ้ นั ชูเฟิ ง ก็ตรวจสอบป้ายนั้นอย่าง
นะมัดระวัง เขาพบว่ามันมีความงดงามอย่างมาก มันมีลกั ษณะคล้ายกับ
ปี กหงส์ อีกทั้งมันยังอัดแน่นไปด้วยพลังบางอย่าง แม้วา่ ภายนอกจะ
คล้ายกับป้ายที่ ตี๋ เฟิ น และพรรคพวกได้ไปนั้น แต่ความจริ งแล้วมัน
แตกต่างกันอย่างมาก

เมื่อมองกลับไปที่ผหู ้ ญิงคนนั้น ชูเฟิ ง คาดว่านางอาจจะไม่ใช่คน


ธรรมดา เขาจึงปราม เจียง ว่านชือ และกล่าวกับผูห้ ญิงคนนั้นว่า “ข้าจะ
ลองเชื่อเจ้าสักครั้งหนึ่ง ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่สร้างปั ญหาให้แก่ขา้ !!” ชุ
เฟิ ง กล่าวพลางรับป้ายนั้นมา

“ไม่ตอ้ งกังวล ทําไมข้าจะต้องหลอกท่าน ฮี่ฮี่ !!” นางยืน่ ป้ายส่ งให้


ชูเฟิ ง พร้อมกับส่ งสายตาออกไปด้วยความเสน่หา แต่เห็นได้ชดั ว่ามันไม่
มีผลต่อ ชูเฟิ ง แม้แต่นอ้ ย
ผูห้ ญิงคนนี้ฉลาดอย่างมาก หลังจากที่นางมอบป้ายให้แก่ ชูเฟิ ง
แล้วนั้น นางก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก

เจียง ว่านชือ มองดู ชูเฟิ ง รับป้ายมาจากผูห้ ญิงคนนั้นด้วยความ


สับสน แต่นางก็ไม่กล่าวอะไรออกมา ดังนั้น นางและ ชูเฟิ ง จึงมุ่งหน้าสู่
ยอดเขาของหุบเขาสายหมอกต่อไป

หุบเขาสายหมอกเป็ นหุบเขาขนาดใหญ่มาก พื้นที่ของมัน


ครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวาง ผูค้ นมากมายต่าชื่นชมในความอุดม
สมบูรณ์ของหุบเขาสายหมอก และความแข็งแกร่ งของมัน

มันเป็ นเพราะพื้นที่ของหุบเขาสายหมอกนั้น ถูกครอบคลุมโดย


รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณไว้ท้ งั หมด ไม่มีผใู ้ ดที่สามารถบุกเข้าไปได้
แม้แต่คนเดียว ทางเดียวที่จะสามารถเข้าไปยังหุบเขาสายหมอกได้น้ นั
คือเข้าโดยผ่านทางประตูอาํ นาจพลังวิญญาณที่ถูกสร้างไว้

เมื่อ ชูเฟิ ง และ เจียง ว่านชือ มาถึงที่ยอดเขาของหุบเขาสายหมอก


นั้น เขาก็พบว่ามันเป็ นดังคํากล่าวของผูห้ ญิงคนนั้น ในตอนนี้ พื้นที่
บริ เวณนี้เต็มไปด้วยผูค้ นมากมาย ผูท้ ี่อ่อนแอที่สุดมีพลังระดับเก้า ขั้น
แดนสวรรค์ และส่ วนมากจะเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามทั้งสิ้ น

แม้วา่ พวกเขาจะเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม ที่


เปรี ยบได้กบั ตํานานของทวีปเก้าอาณาจักรนั้น ในตอนนี้กลับมีอยูห่ ลาย
คนที่เป็ นเช่นนั้น และพวกเขาต่างเป็ นคนหนุ่มสาวที่มีอายุเพียงสามสิ บปี
เท่านั้น
นัน่ จึงสามารถบอกได้อย่างหนึ่ง ไม่ใช่เพียงแค่ทรัพยากรการบ่ม
เพาะพลังที่มีจาํ กัดในทวีปเก้าอาณาจักรเท่านั้น แต่พวกเขายังขาดแคลน
ผูท้ ี่มีความเข้าใจในพลังมากกว่าขาดแคลนทรัพยากรเสี ยอีก

ดังนั้น แม้วา่ ชูเฟิ ง จะเหนือกว่าผูอ้ ื่นภายในทวีปเก้าอาณาจักร แต่


เมื่อมาอยูท่ ี่นี่ เขาก็ไม่ต่างจากคนทัว่ ไปมากนัก

หากสุ่ มคนใดคนหนึ่งจากที่อยูใ่ นบริ เวณนี้ และให้เขาไปอยูใ่ น


ทวีปเก้าอาณาจักรนั้น เขาจะได้รับการยกย่องให้เป็ นอัจฉริ ยะจากทุกคน
อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม แม้วา่ ผูค้ นที่นี่จะมีความต่างจาก ชูเฟิ ง อยูบ่ า้ ง แต่ ชู


เฟิ ง ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อเขาคิดว่าหากคนของเขตทะเลตะวันออกมี
พลังถึงเพียงนี้ แล้วผูค้ นของดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์จะมีพลังต่างจาก
เขามากถึงขนาดไหน

ไม่แปลกใจเลยหากดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ จะเป็ นดินแดน


ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญ และในสายตาของพวกเขา ชูเฟิ ง และคน
อื่นๆ ก็ไม่ต่างจากขยะที่มีพลังเพียงน้อยนิดเท่านั้น

“บ้าเอ๊ย !! ข้าไม่คิดเลยว่าการต่อสู เ้ พื่อแย่งชิงเข้าแดนดินตรา


ประทับนิรันดร์จะสามารถเรี ยกระดมคนได้ถึงขนาดนี้ !! มันก็เหมาะสม
สําหรับผูเ้ ชี่ยวชาญอัจฉริ ยะในขั้นจ้าวสงคราม แต่นี่แม้กระทัง่
ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับเก้า แดนสวรรค์ที่อายุเกือบจะสามสิ บยังมาร่ วมด้วย เขา
คิดว่าเขาจะสามารถเข้าร่ วมได้เช่นนั้นรึ !!”

“ด้วยคนจํานวนมากเช่นนี้ กว่าจะตรวจสอบทุกคนเสร็ จสิ้ นคงจะ


มืดเสี ยก่อน !! พวกเราต้องทําได้เพียงแค่รอให้ท่านอาจารย์ของข้ามา
เสี ยก่อน”

เมื่อมองไปยังผูค้ นมากมายนั้น เจียง ว่านชือ รู ้สึกท้อใจอย่างมาก


แม้วา่ นางจะเคยมาที่นี่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งนางจะมาพร้อมกับ ฉิ วซุ่ย
ฟู่ หยาน และสามารถเข้าไปยังด้านในได้โดยตรง จึงทําให้นอกจาก แม่
นาง เพียวเมี้ยว และผูท้ ี่มีฐานะสู งภายหุบเขาสายหมอก ไม่มีผใู ้ ดรู ้จกั กับ
นาง

และผูท้ ี่เฝ้าประตูอยูใ่ นตอนนี้กเ็ ป็ นเพียงคนรับใช้เท่านั้น แม้วา่ การ


บ่มเพาะพลังของเขาจะค่อนข้างดี แต่เขาก็มีค่าเพียงแค่คนรับใช้ นัน่ จึง
ทําให้เขาไม่รู้จกั กับ เจียง ว่านชือ จึงทําให้นางและ ชูเฟิ ง ทําได้เพียงแค่
รอคอย ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน เสร็ จสิ้ นการดูแลปี ศาจ และพาพวกเขาเข้าไป
เท่านั้น

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : B เอ็งว่า ญ ขอทานจะเป็ น เพียวเมี้ยวป่ ะ ???

B : ไม่รู้สิ แต่คนที่อยูม่ าเป็ นพันๆปี จะมาทําอะไรแบบนี้อ่อ ???

C : อายุ ไม่เห็นเกี่ยวเลย ขอแค่ให้ชีวติ มีความสุ ข จะทําอะไรก็ยอ่ ม


ได้!!!

A : วันนี้ มีปรัชญาเว้ย!!! พายุจะเข้าประเทศไทยหรื อเปล่า ???

B : สึ นามิคงกระหนํ่าทางภาคอีสาน!!!

C:.............

B4 : ชูเฟิ งและเจียง ว่านชือ จะเข้าไปยังดินแดนตราประทับนิรันดร์


ได้เช่นไร พวกเราต้องรอติดตามกันในวันต่อไป
บทที่ 649 - ป้ายจริ งหรื อปลอม

“พีช่ ายตี๋ เฟิ่ น ดูนน่ั นัน่ ไม่ใช่เด็กเหลือขอที่มาดึงจมูกพวกเราหรื อ”


ในตอนนั้นก็มีคนพูดขึ้นพร้อมชี้นิ้วไปบนท้องฟ้า และนัน่ ก็ทาํ ให้พวก
เขาเห็นร่ างของชูเฟิ งและเจียง ว่านชืออยู่

“ดูเหมือนว่าพวกมันจะพักแรมทางด้านนอกหุบเขาสายหมอกสิ นะ
หึ หึ ใครสัง่ ใครสอนให้มายุง่ เรื่ องชาวบ้าน!,” ตี๋ เฟิ่ น พูดพร้อมรอยยิม้
ชัว่ ร้าย

ทางเข้าหุบเขาสายหมอกจะปิ ดลงก่อนตะวันจะลับขอบฟ้า และในตอน


นั้นมักจะมีคนในแถวที่จะลองทดสอบความเร็ วของตนในการเข้ามายัง
หุบเขาสายหมอกนี้ก่อนตะวันจะตกดิน แต่พวกชูเฟิ งนั้นตามคิวแล้วพวก
เขาไม่มีสิทธิ์จะเข้ามันก่อนประตูปิดแน่นอน
อย่างไรก็ตามชูเฟิ งนั้นไม่ได้แทรกเข้าไปเมื่อและเดินมาที่แถว พวกเขาก็
มาอยูท่ ี่ดา้ นหน้า นัน่ อาจจะเป็ นความโชคดีในความโชคร้ายที่พวกเขา
ได้รับก็เป็ นได้

“ดูนน่ั ในมือของเจ้าหนุ่มนัน่ มันคืออะไรน่ะ”

“บัดซบ นัน่ มันคือ ป้ายสายหมอก เขาต้องได้มาจากหญิงบัดซบนัน่


แน่ๆ.”

“ถูกต้องมันเหมือนกับที่พวกเรามีเลย เขาไม่ได้ผสมมันขึ้นมาใช่
หรื อไม่”
“ไม่น่าเลยจริ งๆ แม้วา่ เขาจะเขลา ก็ไม่ควรเขลาเพียงนี้,” ตี๋ เฟิ่ น
พูดขึ้นพร้อมมองไปที่เข็มกลัดในมือชูเฟิ ง

“ศิษย์พี่เจียงปกติแล้ว ผูอ้ าวุโสเพียวเมี้ยว ใช้เวลารับมือกับปี ศาจ


นานไหม” ชูเฟิ งถาม

“ข้าก็ไม่มนั่ ใจ บางทีมนั ก็เร็ วมาก แต่บางทีมนั ก็นานเป็ นวันตามที่


อาจารย์ของข้าบอก ถึงแม้ผอู ้ าวุโสเพียวเมี้ยวจะมีพลังที่น่าเหลือเชื่อ แต่
ถ้านางสู ก้ บั ปี ศาจหลายวัน ก็ยอ่ มได้รับบาดเจ็บมาบ้าง,” เจียง ว่านชือ
พูด

“มันแข็งแกร่ งเช่นนั้นเลยหรื อ” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นชูเฟิ งก็ตกใจ ถ้า


ตามที่เจียง ว่านชีพดู เป็ นจริ ง ปี ศาจที่ถูกผนึกไว้ยอ่ มแข็งแกร่ ง เพราะ
แม้แต่ภาพลวงตาก็สามารถ สร้างบาดแผลให้ท่านหญิงเพียวเมียวได้
แล้วร่ างหลักของมันเล่า จะแข็งแกร่ งเพียงใด

แต่ที่เขาตกใจยิง่ กว่านั้น ไม่ใช่เรื่ องความแข็งแกร่ งแต่เป็ นเรื่ องอื่น เขาจึง


พูดกับ เจียง ว่านชือ ว่า”ศิษย์พี่ เจียง พวกเขาไม่รู้วา่ ผูอ้ าวุโส ฉิ วชุ่ย จะ
กลับมาเมื่อไหร่ ถ้านางไม่กลับมาวันนี้ พวกเราไม่ตอ้ งรอข้างนอกกันทั้ง
คืนเลยหรื อ”

“นี่…” เจียง ว่านชือ ถึงกับพูดไม่ออก เธอไม่รู้วา่ ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยาน


จะกลับมาเมื่อไหร่

“ถ้างั้นข้าคิดว่า เราควรลองใช้ป้ายสายหมอกนี่.” ชูเฟิ ง พูด


“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้าไม่ควรทําเช่นนี้ เจ้าเชื่อหรื อว่าป้ายอันนี้น้ นั
เป็ นของแท้” เจียง ว่านชือ รี บพูดขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางของเขา

ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็ยมิ้ แล้วพูดว่า “ ไม่วา่ มันจะจริ งหรื อปลอม พวกเราจะ


รู ้ได้กต็ อ้ งเมื่อลองใช้มนั เท่านั้น และด้วยเหตุผลบางอย่างข้ารู ้สึกว่า แม่
นางคนนั้นจะไม่หลอกข้า “

“นอกจากนี้ ถ้ามันปลอมแล้วจะเป็ นไร อย่างมากผูค้ นก็แค่หวั เราะ


ใส่ เรา พวกเรารี บไปเข้าแถวกันเถิด ศิษย์พี่ เจียง ท่านอาจจะสนใจเรื่ อง
ภาพลักษณ์ต่อผูค้ น แต่ขา้ ไม่ ถ้าท่านไม่ตอ้ งการทดลองพร้อมๆข้า ข้าก็
จะไปคนเดียว.” เมื่อพูดจบ ชูเฟิ งก็รีบบินไปที่ทางเข้า

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง รอเดี๋ยว!!” ในตอนแรกเธอนั้นมีแผนจะตามเขา


ไป แต่หลังจากนั้นสักพักเธอก็หยุดลง และไม่เดินต่อเพราะเธอเชื่อว่า
ป้ายนัน่ เป็ นของปลอม

แม้ เธอจะไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับอัจฉริ ยในที่แห่งนี้ แต่เธอก็เป็ นศิษย์


ของอาจารย์ที่มีชื่อเสี ยงคนนึง และในบรรดาศิษย์ของผาคนรัก เธอนั้น
เป็ น 1 ในคนที่อยูใ่ นระดับสู งสุ ด ดังนั้นเธอจึงไม่ตอ้ งการที่จะเสี ยหน้า

“พีช่ าย ตี๋ เฟิ่ น ดูนน่ั เจ้าหนุ่มคนนั้นมันกําลังบินไปที่ทางเข้าและใช้


ป้ายปลอมนัน่ มันคงไม่เป็ นเรื่ องยุง่ ยากใช่หรื อไม่” ลูกน้องของตี๋ เฟิ่ นที่
ถูกชูเฟิ งกระทืบ พูดขึนพร้อมชี้ไปบนท้องฟ้า

“มันไม่น่าจะเป็ นเช่นนี้ เว้นแต่สมองของเขาจะฝ่ อ ถึงได้กล้าที่จาํ


ทําเช่นนี้.” ตี๋ เฟิ่ นสายหน้า เขาไม่คิดว่าชูเฟิ งจะเขลาเช่นนี้
“ดูนน่ั เขาทํามันจริ งๆ!” ในตอนนั้นก็มีเสี ยงคนพูดขึ้น

“บ้าน่า นี่มนั ไม่จริ งใช่ไหม ทําไมเขาถึงโง่ได้เพียงนี้” เมื่อเห็น


ดังนั้นใบหน้าพวกเขาก็เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

“เฮ้ย! เจ้ากําลังทําอะไร ทําไมเจ้าไม่รอให้ถึงคิวของเจ้าก่อน เจ้ามา


แซงข้าทําไม!”

คนที่อยูห่ วั แถวที่มีระดับ 1 จ้าวแห่งสงคราม ที่เข้าคิวนั้นกําลังมาถึงเขา


พอดี เขานั้นกําลังจะหยิบหลักฐานแสดงตัวตนออกมา แต่เขาก็ไม่คิดว่าชู
เฟิ งจะบินมาแซงหน้าเขาแบบนี้ มันทําให้เขาโกรธมาก
“ถูกต้อง เจ้าใหญ่มาจากไหนกัน ถึงมาแซงหน้าพวกเรา เจ้าไม่เห็น
คนที่กาํ ลังต่อแถวอยูอ่ ย่างนั้นหรื อ” ในตอนนั้นคนที่อยูด่ า้ นหลังก็พดู
ขึ้นด้วยความโกรธ เพราะเขารอมาเป็ นเวลานานแล้ว

ในตอนนั้นยามเฝ้ารู ปแบบวิญญาณที่มีผมขาวสลับเทา ที่มีระดับจ้าว


สงคราม และเป็ นระดับที่สูงมากเขามีระดับถึง 6 เจ้าสงคราม ซึ่ ง
มากกว่าหย่า เฟย เสี ยอีก

เขาตรวจสอบชูเฟิ ง อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่า พลังแค่ชูเฟิ งจะได้รับป้าย


สายหมอกมา ดังนั้นเขาจึงพูดไปว่า” กลับไปต่อแถวซะ ถ้าเจ้าแหกกฏ
ไม่วา่ เจ้าจะใหญ่มาจากไหนก็อย่าโทษว่าข้าไม่สุภาพ!”
“เห้อ ข้ามีป้ายสายหมอก ท่านยังต้องให้ขา้ รออีกอย่างนั้นหรื อ” ชู
เฟิ งพูดพร้อมแสดงป้ายในมือเขา

“ฮ่าฮ่าฮ่า ป้ายสายหมอก คนอย่างเจ้าเนี่ยนะ เจ้าได้รับ ป้ายสาย


หมอก จากที่ขา้ เห็นเจ้าได้มนั มาจาก ขอทานหญิงใช่หรื อไม่” เมื่อเห็น
ป้ายในมือชูเฟิ ง ชายชราก็หวั เราะแล้วพูดขึ้นเสี ยงดังลัน่ จากนั้นฝูงชนก็
หัวเราะตามเพราะพวกเขาคิดว่าป้ายนั้นเป็ นของปลอมแน่นอน

ชายชราไม่ได้มองป้ายในมือชูเฟิ งแต่อย่างใด เขาตะโกนด้วยนํ้าเสี ยงเย็น


ชาว่า “เจ้านี่ยงั ไม่กลับใจอีกอย่างนั้นหรื อ เจ้ายืนยันจะใช้ป้ายปลอมสิ นะ
ถ้าเจ้าเพิกเฉยต่อคําเตือนของข้า ถ้าอย่างนั้นวันนี้ขา้ จะให้บทเรี ยนกับ
เจ้า.”

ในขณะที่เขาพูด คิ้วของเขาที่คมดัง่ ดาบก็ขมวดแน่น จากนั้นก็เกิดแรง


กดดันพุง่ ตรงไปยังชูเฟิ ง

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ งนั้นกลัวว่ามันจะล้มเหลวและทําให้เขาได้รับอันตราย


เขาจึงแสดงป้ายให้ชายชราดูชดั ๆ และพูดว่า "ท่านยังไม่แม้แต่จะ
ตรวจสอบเลยแล้วท่านรู ้ได้อย่างไรมันเป็ นของจริ งหรื อของปลอม”

*ฮึ่ม* ในตอนนั้นก็มีพลังไร้รูปร่ างพุง่ ออกมาจากป้ายในมือชูเฟิ ง ไม่


เพียงแรงกดดันของชายชราจะหายไป แต่มนั ส่ งผลให้ชายชรานั้นถอย
หลังไปหลายก้าวและเซจนล้มลง

จากนั้น ใบหน้าชายชราก็เปลี่ยนแปลงอย่างหนัก และเมื่อมองไปที่ป้าย


ในมือชูเฟิ ง เขาก็ตอ้ งตกใจอย่างหนัก และรี บลุกขึ้นยืนและพูดด้วย
นํ้าเสี ยงเคารพว่า "ชายชราผูน้ ้ ีช่างโง่เขลายิง่ นัก ที่ไม่ได้ตรวจสอบดูก่อน
ว่ามันเป็ นของจริ งหรื อของปลอม ได้โปรดยกโทษให้ขา้ ด้วย”
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : ง่ายดีเนาะ!!! น่าตบกระบานสักที

B : พี่เจียง ที่ยนื ด้านหลังคงเอ๋ อแดก นี้กแ็ สดงว่า หญิงขอทานคนนั้น


คงไม่ใช่คนธรรมดาๆถึงได้มีป้ายสายหมอก

A : นั้นดิ หรื อจะเป็ น เพียวเมี้ยวจริ งๆ!!!

B : ไม่บอก! เด๋ วต้องตามไปดู


บทที่ 650 - ท่านหญิง เพียวเมี้ยว

“อะไรนะป้ายในมือเจ้าหนุ่มนัน่ เป็ นของจริ งอย่างนั้นหรื อ” กลุ่ม


คนที่ยนื อยูห่ ลังชูเฟิ งพูดขึ้นมา

“ผูอ้ าวุโสท่านก็แค่ทาํ ตามหน้าที่ นอกจากนี้ ข้านั้นมีศิษย์พี่มาด้วย


ข้าหวังว่าท่านจะให้พวกเราเข้าไปพร้อมกันได้”

ชูเฟิ งยิม้ แม้วา่ ชายชราจะแสดงความโหดเหี้ ยมกับเขาก่อนหน้านี้ แต่ชู


เฟิ งก็ไม่ทาํ อะไรเขานัน่ เป็ นเพราะชายชรานั้นแข็งแกร่ ง ไม่วา่ เขาจะมี
ตําแหน่งอะไรในหุบเขาสายหมอก แต่ดว้ ยความต่างของระดับพลังชูเฟิ ง
จึงไม่อยากเสี ยหน้าต่อคนจํานวนมาก

“ถ้างั้นขอข้าถามหน่อย ว่าศิษย์พี่ท่านมีนามว่าเช่นไร แล้ว นางมา


จากไหน” ในตอนนั้นเมื่อเห็นว่าชูเฟิ งสุ ภาพกับตน ชายชราก็ยมิ้ แล้ว
ถามอย่างสุ ภาพ

ในตอนนั้นชายชรา ก็หยิบหนังสื อเล่มหนาขึ้นมา หนังสื อเล่มนั้นบันทึก


ข้อมูลของศิษย์สาํ นักต่างๆในภูมิภาคทะเลตะวันออกไว้

“ศิษย์พี่ของข้าชื่อ เจียง ว่านชือ นางเป็ นศิษย์ของผูอ้ าวุโสฉิวชุ่ย


แห่งผาคนรัก,”ชูเฟิ ง พูด.

“โอ้ ศิษย์ของท่านหญิง ฉิ วชุ่ยอย่างนั้นหรื อ นางเป็ นสหายคนสนิท


กับท่านหญิงเพียวเมี้ยวด้วย ก่อนที่นางจะออกไปนางได้บอกว่า ถ้าท่าน
หญิง ฉิวชุ่ย และ ศิษย์มา ให้พวกนางผ่านไปได้ทนั ทีไม่ตอ้ งตรวจหรื
อนําป้ายไว้แต่อย่างใด,”ชายชรา ยิม้ แล้วพูดออกมา
“ถ้าอย่างนั้นก็ตอ้ งขอบคุณท่านผูอ้ าวยุโสจริ งๆ.” ชูเฟิ งไม่คิดว่า
ท่านหญิง เพียวเมียวจะทิ้งข้อความไว้เช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงรี บไปเรี ยกเจียง
ว่านชือ หลังจากนั้นทั้งคู่กเ็ ข้าไปในหุบเขาสายหมอกท่ามกลางสายตา
ของคนจํานวนมาก

“บัดซบ จริ งหรื อ พวกมันสามารถแซวคิวแล้วเข้าไปได้จริ งๆอย่าง


นั้นหรื อ”

“เป็ นไปได้อย่างไร ที่เข็มกลัดสายหมอกที่มนั มีจะเป็ นของจริ ง


ระดับพลังเพียงแค่น้ นั มันได้รับมาจากไหนกัน”

ผูค้ นจํานวนมากต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็นนี้ โดยเฉพาะ ตี๋ เฟิ่ น และ


ลูกน้อง พวกมันเปิ ดตากว้าง และใบหน้าของพวกมันเต็มไปด้วยความ
เหลือเชื่อ

หลังจาก พวกชูเฟิ งเข้ามาแล้ว ก็หาที่พกั ผ่อนทันที

มีหลายสถานที่บนหุบเขานั้น แม้มนั จะไม่ได้หรู หรา แต่กเ็ ต็มไปด้วย


ความดึงดูด ด้วยโคตรสร้างที่น่าชมของมันและทิวทัศน์ที่งดงามของหุบ
เขาสายหมอก

แม้วา่ ที่พกั นั้นจะค่อนข้างดี แต่มนั ก็มีขอ้ บังคับมากไปหน่อยจึงทําให้ราว


กับไร้อิสรภาพ ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็พบว่ามีผเู ้ ชี่ยวชาญจํานวนไม่มากและ
ไม่นอ้ ยที่อยูใ่ นหุบเขาสายหมอก นอกจากกนี้พวกเขายังทําหน้าที่เป็ น
ยามอีกด้วยนอกเหนือจากคนที่อยูใ่ นสถานที่พกั ที่วเิ ศษจริ งๆ พวกเขาจะ
ไม่ให้ใครเดินเล่นตามใจชอบ แม้กระทัง่ พวกชูเฟิ งก็ดว้ ย
“ยามพวกนี้น้ นั ไม่ธรรมดา พวกเขาเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญในระดับเจ้าแห่ง
สงครามทั้งหมด” ชูเฟิ ง พูดขึ้น

“แต่แน่นอนว่า เพราะหุบเขาสายหมอกนั้นเป็ นสถานที่ที่สามารถ


ยืดชีวติ ได้ นัน่ เป็ นเหตุผลว่าทําไมถึงมีผเู ้ ชี่ยวชาญมาเก็บตัวที่นี่มากมาย”

“อย่างไรก็ตาม แม้พวกเขาจะมีระดับพลังที่สูงแต่พวกเขาก็ไม่มี
ตําแหน่งที่สูงในหุบเขาสายหมอก นอกจาก ท่านหญิงเพียวเมี้ยวและ
เหล่าศิษย์แล้วแล้ว พวกเขาก็เป็ นได้แค่ลูกน้องที่คอยรับคําสัง่ รอบๆ”
เจียง ว่านชือพูดขึ้น
“หมายความว่า นอกจากศิษย์ 4 คนแล้ว ท่านหญิงเพียวเมี้ยวไม่ได้
รับศิษย์อีกเลยอย่างนั้นหรื อ” ชูเฟิ งถามด้วยความสงสัย

“อืม ทั้ง 4 นั้นผูอ้ าวุโสเพียวเมี้ยวเลือกด้วยตัวเอง ทั้ง4นั้นเป็ น


อัจฉริ ยะที่แท้จริ ง เมื่อเทียบกับพวกข้าแล้วช่างห่างไกลยิง่ นัก” เมื่อ
กล่าวถึงทั้ง 4 ใบหน้าของเจียง ว่านชือก็มีความอัปยศเกิดขึ้นเล็กน้อย

“พรสวรรค์ของศิษย์พี่เจียงนั้น โดดเด่น ในเวลาสั้นๆท่านจะต้อง


ก้ามข้ามพวกนางไปได้แน่นอน,” ชูเฟิ ง พูดเพื่อให้กาํ ลังใจ เจียง ว่านชือ

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้าประเมินข้าสู งไป คนอื่นไม่รู้หรอกแต่ขา้ รู ้


พวกเราพีน่ อ้ งนั้นไม่สามารถเทียบกับ นางทั้ง4ได้”
“พวกนางถูกเลือกด้วยท่านหญิงเพียวเมี้ยว ไม่ใช่แค่ในด้านของ
ความสามารถในด้านของความงามพวกนางก็เหนือกว่า พวกนางคือ
อัจฉริ ยะในหมู่อจั ฉริ ยะ”

“แต่สาํ หรับพวกเรา พวกเราเป็ นเด็กกําพร้าที่ถูกปั้ นโดยอาจารย์


ถ้าไม่ใช่อาจารย์ของพวกเราพวกเรานั้นคงไม่สาํ เร็ จถึงเพียงนี้ แม้แต่พลัง
วิญญาณนัน่ พวกเราก็ได้รับถ่ายทอดมาจากอาจารย์.”

เมื่อพูดถึงชุดนั้น เจียง ว่านชืกล็ ะอายใจมาก เธอรุ ้ดีวา่ เธอนั้นไม่มีทาง


เหนือกว่าอัจฉริ ยะถ้มไม่ได้อาจารย์ของเธอให้ทรัพยากรจํานวนมากมา
เธอนั้นไม่อาจมีความสําเร็ จถึงเพียงนี้

“ศิษย์พี่เจียง อย่างคิดเช่นนั้น แม้ทรัพยากรจํานวนมากจะเปลี่ยนคน


ธรรมดาได้ แน่พวกเขาก็ถูกจํากัด”

“ศิษย์พี่ เจียง ที่มีระดับถึงเท่านี้ในอายุแค่น้ ี ต้องเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ


ระดับเจ้าแห่งสงครามได้แน่นอน

“ท่านควรรู ้ไว้วา่ สถานที่ที่ขา้ โตมานั้น ไม่มีใครเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ


ระดับจ้าวแห่งสงครามเลย ในที่แห่งนั้นตัวตนระดับจ้าวแห่งสงครามก็
ราวกับเป็ นตํานานเพียงแค่เข้าสู่ ระดับอาณาจักรสวรรค์ได้กแ็ ทบจะเป็ น
อัจฉริ ยะระดับสู งสุ ดแล้ว”

“ท่านต้องรู ้วา่ ยังมีคนและทวีปเช่นนั้นจริ งๆ พวกเขามีศิษย์กว่าล้าน


คนและใหญ่ข้ ึนมาก็มีศิษย์กว่า 10 ล้านคน มีคนแค่จาํ นวนน้อยที่เป็ น
ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับอาณาจักรสวรรค์ พวกเขาส่ วนใหญ่จะติดอยูท่ ี่
อาณาจักรแก่นแท้วญ
ิ ญาณ
“ถ้าหากเป็ นระดับการบ่มเพาะของศิษย์พี่เจียงนับว่าธรรมดาแล้ว
แล้วพวกเขาเล่า!” ชูเฟิ งพูดขึ้น

“จริ งหรื อ!” เมื่อได้ยนิ คําพูดของชูเฟิ งเธอจึงเริ่ มมีกาํ ลังใจมากขึ้น

“แน่นอนว่าจริ ง ศิษย์พี่เจียงถ้าท่านไม่เชื่อข้า ในอนาคตข้าจะพา


ท่านไปทวีปเก้าอาณาจักรและให้ท่านได้เห็นสถานที่ที่ขา้ โตมา” ชูเฟิ ง
พูด

“ตกลง ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง นี่คือสัญญาของพวกเรา เจ้าห้ามคืนคํา”


“ข้าไม่คืนคําแน่นอน.” [ T/N เพราะมันคือวิถีนินจาของฉัน ]

“ฮิฮิ!!!.”

แม้จะรู ้วา่ คําพูดของชูเฟิ งนั้นเป็ นเพียงคําปลอบใจ แต่เจียง ว่านชือก็รู้สึก


ดีข้ ึนมา หลังจากนั้นทั้ง 2 ก็คุยกันยาวจนถึงเวลาอาหารเย็น หลังจากนั้น
ในเวลาตอนมืด ฉิวชุ่ย ฟู่ หยานก็มาตามหาพวกเขา และได้มายังที่พกั ของ
เจียง ว่านชือ

ชูเฟิ งนั้น เขาไม่กงั วลเท่าใดนัก แม้วา่ หยวน รู่ ว จะอยูใ่ นกํามือของ ฉิ ว


ชุ่ย ฟู่ หยานแต่เขาเชื่อว่านางมีความสามารถที่จะปกป้องหยวนรู่ ว
แน่นอน
เช้าวันต่อมา ประตูหอ้ งของชูเฟิ งก็ถูกเคาะ เมื่อเขาเปิ ดมันก็พบฉิ วชุ่ย ฟู่ ห
ยาน และเจียงว่านชือ อย่างไรก็ตามยังมีคนอื่นอยูอ่ ีกคนคนนั้นก็คือ
ผูป้ กครองหุบเขาสายหมอก ท่านหญิง เพียวเมี้ยว

จากที่ เจียง ว่านชือ พูด ท่านหญิงเพียวเมี้ยวอยูม่ ากกว่าพันปี แล้ว ดังนั้น


เขาจึงคิดว่านางเป็ นคนชราแล้ว

แต่ที่เขาเห็นนั้นก็คือ รู ปร่ างนางนั้นยังไม่ผา่ นวัยกลางคนรู ปลักษณ์ของ


นางแม้จะไม่โดดเด่นและสามารถพูดได้วา่ ธรรมดา แต่กม็ ีกลิ่นอายที่น่า
เกรงขามออกมาทัว่ พื้นที่
หลังจาก ท่านหญิงเพียวเมี้ยวเห็นชูเฟิ ง ดวงตาก็เกิดประกายขึ้น สายตาที่
คมกริ บทั้ง 2 พุง่ ผ่านร่ างชูเฟิ งราวกับดาบและตรวจสอบเขา ไม่เพียงดู
แค่ระดับพลังของชูเฟิ ง แต่มนั จะดูไปถึงตัวตนของชูเฟิ ง

ในตอนนั้นชูเฟิ ง ไม่สามารถทําใจให้สงบได้ร่างของเขาสัน่ เทา เพราะ


สายตาที่พงุ่ เข้ามายังร่ างของเขานั้น ราวกับสัตว์ประหลาด แน่นอนว่า
ระดับของนางนั้นเหนือกว่าฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน และเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญที่ยอด
เยีย่ มมาก

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////
A : ถ้าจะถามว่า เสี่ ยวยู่ กับ เพียวเมี้ยว ใครเก่งกว่า เราตอบได้เลยว่า
เสี่ ยวยู่

B : แล้วถ้าพ่อกับแม่ ของชูเฟิ งล่ะใครเก่งกว่ากัน ต้องบอกว่าเก่งคนละ


ด้าน ส่ วนทางด้านแม่ของชูเฟิ ง นางคือสุ ดยอด ผูเ้ ชื่อมต่อฯชุดคลุม
จักรพรรดิ สัญลักษณ์ . . . . . ส่ วนทางพ่อ ก็คือ สุ ดยอดสายเลือดที่ทรง
พลังอํานาจ ซึ่งชูเฟิ งคือผูท้ ี่ได้รับ ส่ วนดีท้ งั 2 มา จึงอาจพูดได้วา่ แม่ง
เมพสาดด!!!

A : งี้ใครจะสู พ้ ี่เฟิ งได้

C : อย่ามาตลก ถึงพ่อแม่มนั จะเจ๋ ง แต่ ดูยงั ไง ชูเฟิ ง ก็ธรรมดาๆ อีก


อย่างเหนือฟ้าย่อมมีฟ้า คู่ปรับต้องเปลี่ยนไปตามเวลาอย่างแน่นอน
ตอนนี้ปีนให้ถึงจุดสู งสุ ดของทะเลตะวันออกให้ได้ก่อนเหอะ

B : ชูเฟิ ง จะธรรมดาหรื อไม่ เด๋ วเราจะได้เห็นกัน!!!


บทที่ 651 - โอกาสในการรอดชีวติ
แต่โชคยังดี ไม่วา่ การจ้องมองของท่านหญิงเพียวเมี้ยวจะดุดนั เพียงใด
แต่กย็ งั ไม่สามารถมองเห็นสายฟ้าศักดิสิทธิ์ในตันเถียนของชูเฟิ งได้ นาง
พบว่าส่ วนใหญ่แล้วมีอาํ นาจพิเศษอยูภ่ ายในโลหิ ตของชูเฟิ ง และอํานาจ
พิเศษนั้นก็จะไม่ทาํ ผูอ้ ื่นรู ้สึกว่าชูเฟิ งแปลกประหลาด กลับกันมันทําให้
พวกเขารู ้สึกว่าชูเฟิ งแข็งแกร่ งเป็ นอย่างมาก

เหตุผลสําหรับเรื่ องนี้คืออํานาจพิเศษนั้นเป็ นสิ่ งที่คนทัว่ ไปไม่สามารถมี


ได้ อย่างไรก็ตาม มันคืออํานาจพิเศษที่ไม่มีผลกระทบใดๆทั้งสิ้ น มัน
เป็ นส่ วนหนึ่งของชูเฟิ งอย่างแท้จริ ง นอกจากนั้น ราวกับว่าอํานาจ
ประเภทนี้จะสามารถเติบโตไปพร้อมๆกับชูเฟิ งได้ นั้นหมายความว่า
พรสวรรค์ดา้ นการบ่มเพาะของชูเฟิ งสู งส่ งเป็ นอย่างมาก!

สําหรับท่านหญิง เพียวเมี้ยว แม้นางจะเห็นว่าชูเฟิ งนั้นแตกต่างจากคน


อื่นๆ ใบหน้าของนางยังคงสงบนิ่ง..ไร้ซ่ ึ งการเปลี่ยนแปลงใดๆ นางพูด
อย่างใจเย็นว่า “เจ้าคือศิษย์ของ ฉิ ว ซานเฟิ ง รึ ?”

“ผูอ้ าวุโส ถูกต้องแล้ว ข้าผูเ้ ยาว์ชูเฟิ งเป็ นศิษย์ของ ฉิ ว ซานเฟิ ง” ชู


เฟิ งตอบตามความจริ งพร้อมกับประสานมือ

“เหตุใดเจ้าถึงไม่แสดงใบหน้าที่แท้จริ งของเจ้า?” ท่านหญิงเพียว


เมี้ยวมองผ่านหน้ากากที่ปกปิ ดใบหน้าของชูเฟิ ง แต่ดูเหมือนว่านางมอง
ไม่เห็นลักษณะที่แท้จริ งของชูเฟิ ง

“ผูอ้ าวุโส นี่คือความปราถนาของอาจารย์ขา้ ข้าไม่กล้าปิ ดบังต่อผู ้


อาวุโส” ขณะที่ชูเฟิ งพูด เขาถอดหน้ากากของเขาออกพร้อมกับเผย
ใบหน้าที่แท้จริ ง
“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง เจ้า….” หลังจากที่เห็นลักษณะที่แท้จริ งของชู
เฟิ ง ท่านหญิงเพียวเมี้ยวไม่ได้แสดงท่าทางอะไรมาก กลับกัน ใบหน้า
ของเจียง ว่านชื่อเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

นี่เป็ นครั้งแรกของ เจียง ว่านชือ ที่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริ งของเขา แม้วา่


นางรู ้วา่ หวูฉ่ ิง ไม่ใช่ชื่อที่แท้จริ งของชูเฟิ งและเขายังก็ยงั ปกปิ ด
รู ปลักษณ์ที่แท้จริ ง

ก่อนหน้านี้ นางเข้าใจว่าใบหน้าที่แท้จริ งของชูเฟิ งไม่ต่างกันมากกับ


ใบหน้าของ หวูฉ่ ิง ในปัจจุบนั แต่ตอนนี้ นางพบว่าสิ่ งที่นางเห็นช่าง
แตกต่างจากที่นางจินตานาการยิง่ นัก

ในแง่ของรู ปลักษณ์ แม้วา่ ใบหน้าของชูเฟิ ง อาจจะไม่สามารถพูดได้วา่


หล่อเหลาเอาการ แต่มนั ก็มีร่องรอยความห้าวหาญที่เป็ นเอกลักษณ์อยู่
ระหว่างคิว้ ของเขา เมื่อมองไปที่ชูเฟิ ง มันดูเจริ ญหูเจริ ญตาและสบายตา
มากกว่าเมื่อเปรี ยบเทียบกับใบหน้าปลอมของเขา นอกจากนี้มนั ยังทําให้
ผูค้ นรู ้สึกว่าในอนาคตชูเฟิ งจะประสบความสําเร็ จเป็ นอย่างมากเพียงแค่
ชําเลืองไปที่ลกั ษณะท่างทางของเขา

แต่สิ่งที่ทาํ ให้ เจียง ว่านชื่อ ตกใจมากที่สุดคืออายุที่แท้จริ งของชูเฟิ ง ถ้า


ตัดสิ นจากลักษณะของเขา เขายังไม่เป็ น ‘ผูใ้ หญ่’ แต่มนั จะถูกต้อง
มากกว่าหากจะกล่าวว่าเขาเป็ น 'ชายหนุ่ม’

ชายหนุ่มที่กา้ วเข้าสู่ ข้นั จ้าวสงคราม นัน่ เป็ นสิ่ งที่ไม่เคยได้ยนิ มาก่อน ซึ่ ง
นัน่ ทําให้เจียง ว่านชืออุทานออกมาโดยไม่ได้ต้ งั ใจและประหลาดใจว่า
พลังขั้นไหนที่พรสวรรค์ในการบ่มเพราะของชูเฟิ งจะไปถึง
“แม้วา่ ในแง่ของการบ่มเพาะ เจ้าอาจจะไม่ได้อยูจ่ ุดสู งสุ ด แต่
ความสามารถของเจ้านั้นค่อนข้างดี ฉิ วซานเฟิ ง นับว่ามีสายตาที่แหลม
คมยิง่ นัก”

“ในอีกไม่กี่วนั ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์ของหุบเขาสาย
หมอกของข้าจะเปิ ดออก เจ้าเต็มใจที่จะเข้าไปที่นนั่ มั้ย?” ท่านหญิง
เพียวเมี้ยวถาม

“ข้าเต็มใจ” มันเป็ นโอกาสที่หาได้ยากยิง่ ดังนั้นไม่มีเหตุผลที่ตอ้ ง


ปฏิเสธ

“เอาสิ่ งนี้ไปวางไว้ในจุดที่ปลอดภัย เมื่อดินแดนแห่งตราประทับ


นิรันดร์เปิ ดออก เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องผ่านการทดสอบใดๆ เจ้าสามารถเข้า
ไปในนั้นได้ทนั ที...ในอนาคตเจ้าสามารถกลับมาที่หุบเขาสายหมอกของ
ข้าได้ทุกเมื่อที่เจ้าต้องการ” ขณะที่นางพูด ท่านหญิงเพียวเมี้ยวได้ให้
แผ่นป้ายกับชูเฟิ ง มันคือ ‘ป้ายสายหมอก’

“ผูน้ อ้ ย ชูเฟิ ง ขอบคุณผูอ้ าวุโสเพียวเมี้ยว” แม้วา่ ชูเฟิ งจะมีป้าย


แล้ว แต่ถา้ สามารถรับป้ายจากท่านหญิงเพียวเมี้ยวเป็ นการส่ วนตัวนัน่
ย่อมถือเป็ นเกียรติ

“ว่านชือ ปี นี้เจ้าอายุเท่าใด?” ท่านหญิงเพียวเมี้ยวมองไปที่วา่ ชื่อ

“ท่านหญิงเพียวเมี้ยว ปี นี้ขา้ ว่านชือ อายุ 22 ปี ” เจียงว่าชือตอบ


ด้วยความสุ ภาพ
“อืม.. จากความสามารถของเจ้า หลังจากนี้ 6 ปี ตัวเจ้าไม่น่ามี
ปัญหาในการเข้าสู่ ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์ อย่างไรก็แล้วแต่
เพื่อความสําเร็ จ เจ้าต้องฝึ กให้หนัก อย่าทําให้อาจารย์ของเจ้าต้องอับอาย
ขายหน้า” ท่านหญิงเพียวเมี้ยวพูด

“ว่านชือจะพยายามให้มากขึ้นอีก”

แม้วา่ จะมีรอยยิม้ ที่อบอุ่นปรากฏบนใบหน้าของเจียงว่านชือ แต่ชูเฟิ ง


สามารถบอกได้เลยว่า ว่านชือนั้นกดดันเป็ นอย่างมาก

ท่านหญิงเพียวเมี้ยวมอบป้ายสายหมอกแก่ชูเฟิ งตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ แต่


เจียง ว่านชือ นางเป็ นศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจของ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน แต่ถึงอย่าง
นั้น นางก็ยงั ไม่ได้รับป้ายถึงแม้วา่ นางจะมาบ่อยแค่ไหน นัน่ หมายความ
ว่า ท่านหญิงเพียวเมี้ยว ยังไม่ยอมรับนาง
“ฉิวซุ่ย...ข้าจะไปแล้ว ให้เจ้าคุยกับชูเฟิ งเรื่ องของเด็กคนนั้นเอง”
หลังจากพูดจบ ท่านหญิงเพียวเมี้ยวก็ได้หายตัวไป นางไม่แม้แต่จะผ่าน
ประตู

หลังจากนั้น ฉิวซุ่ย ฟู่ หยานนําเจียง ว่านชือไปในพระราชวังที่ชูเฟิ งอยู่


หลังจากที่ปิดประตูแล้วนางได้พดู กับทั้งสองคนว่า “ท่านหญิงเพียวเมี้ยว
ก็เป็ นเช่นนี้แหละ แต่จริ งๆแล้วนางเป็ นคนดีนะ เจ้าอย่าถือสานางเลย..”

ชูเฟิ งยิม้ เล็กน้อยหลังจากได้ฟังคําของ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ผูค้ นแต่ละคนล้วน


ต่างกัน บางคนเปลือกนอกดูราวกับคนดี แต่ภายในจิตใจกลับตาลปั ท
เป็ นตรงกันข้าม บางคนเปลือกนอกเต็มไปด้วยคุณความดีงามและ
ความชอบธรรม แต่กลับสามารถกระทําสิ่ งที่น่ารังเกียจได้ท้ งั หมด
อย่างไรก็ตาม บางคนอาจไม่ได้พดู จาน่ารักอ่อนหวาน ทําให้ผอู ้ ื่นรู ้สึกถึง
ความไม่แยแส แต่พวกเขายังมีหวั ใจที่ช่วยเยียวยาความเจ็บปวดและ
ปัญหาต่างๆ ชูเฟิ งรู ้สึกว่าท่านหญิงเพียวเมี้ยวเป็ นคนเช่นนั้น ดังนั้นเขา
จึงไม่ได้สนใจและถามต่อว่า “ผูอ้ าวุโสฉิ วซุ่ย เด็กคนนั้นที่ผอู ้ าวุโสเพียว
เมี้ยวพูดถึงคือ หยวนรู่ ว ใช่หรื อไม่?”

หลังจากได้ยนิ คําของชูเฟิ ง ฉิวซุ่ย ฟู่ หยานดูเหมือนจะแปลกไปเล็กน้อย


นางพูดพร้อมรอยยิม้ ว่า “เจ้าฉลาดมาก ท่านหญิงเพียวเมี้ยวเคยเห็น
หยวนรู่ วแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น นางยังใช้เวลาของเมื่อวานนี้ท้ งั คืนพยายาม
ขับไล่ปีศาจออกจากร่ างของหยวนรู่ วด้วยมือของนางเอง แต่น่าเศร้า..
ปี ศาจที่อยูใ่ นร่ างกายหยวนรู่ วไม่ถูกขับไล่ได้โดยง่าย”

“ข้าได้ยนิ นางพูดว่าปี ศาจที่อยูใ่ นร่ างของหยวนรู่ วดูเหมือนจะมา


จาก 'ยุคโบราณ’ และมันยังอยูใ่ นสถานะที่ไร้รูปร่ าง อย่างไรก็ตาม
หยวนรู่ วน่าจะเคยบ่มเพาะทักษะพิเศษบางอย่าง ดังนั้น มันเลยเป็ น
สาเหตุให้หวั ใจปี ศาจที่ไร้รูปร่ างถือกําเนิดอีกครั้งในร่ างกายของนาง”

“ใช่ หยวนรู่ วได้บ่มเพาะทักษะลับต้องห้ามครั้งนึง เป็ นไปได้


หรื อไม่วา่ ปี ศาจที่ครอบครองร่ างของนางในตอนนี้ ฟื้ นขึ้นมาจากการฝึ ก
ทักษะนัน่ ?” ชูเฟิ งถามด้วยความตกใจเล็กน้อย

“มันเป็ นไปได้อย่างมาก แม้วา่ มันอาจจะดูเหลือเชื่อ แต่จากที่ท่าน


หญิงเพียวเมี้ยวพูดมา มีโอกาสที่ปีศาจร้ายในยุคโบราณจะใช้วธิ ีน้ นั ใน
การคืนชีพ”

“อย่างไรก็ตาม ปี ศาจนัน่ สามารถคืนชีพในร่ างกายของผูท้ ี่ฝึก


ทักษะคนแรกเท่านั้น ดังนั้นตั้งแต่เริ่ มแรกที่หยวนรู่ วได้ฝึกทักษะนี่
ปี ศาจก็ได้เข้ามาในร่ างนางเรี ยบร้อยแล้ว”
“จากที่นางพูด ปี ศาจเป็ นเหมือนปรสิ ตที่อยูใ่ นร่ างกายหยวนรู่ ว มัน
ทําให้ร่างกายของนางเจริ ญเติบโตอย่างช้าๆในขณะที่มนั ค่อยๆกัดกินร่ าง
ของนางทั้งหมดไปพร้อมกัน เมื่อถึงเวลาสุ กงอมได้ที่ มันจะเข้ายึด
ร่ างกายของหยวนรู่ วอย่างรวดเร็ ว และมันก็จะคืนชีพได้ในที่สุด”

“อย่างไรก็ตาม สถานะการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างพิเศษอย่างเห็นได้
ชัด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่ วนใหญ่เป็ นเหตุให้ปีศาจไม่สามารถปกปิ ด
ตนเองได้อีกต่อไป มันจึงปรากฏตัวขึ้น นัน่ เป็ นเหตุผลที่ทาํ ไมหยวนรู่ ว
ยังคงมีสติอยู่ และตอนนี้ปีศาจเองก็กาํ ลังดิ้นรนเพื่อแย่งชิงร่ างกายของ
นาง นี่คือสิ่ งที่กาํ ลังเกิดขึ้น”
“และข้าคิดว่าคนที่ทาํ ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ข้ ึนก็คือเจ้า ถูกมั้ย?”
ฉิวซุ่ย ฟู่ หยานถาม

“มันเป็ นข้า” ชูเฟิ งผงกหัวอย่างเขินอาย

“อ่า...เจ้า” เมื่อเห็นชูเฟิ งผงกหัวยอมรับ ดวงตาของฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน


เป็ นประกาย ในขณะที่ใบหน้าปรากฏรอบยิม้ จางๆ ราวกับว่านางรู ้
เหตุผลว่าทําไมปี ศาจถึงถูกบังคับให้ปรากฏตัว

อย่างไรก็ตาม ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ไม่ได้ตาํ หนิชูเฟิ ง หรื อเปิ ดเผยเรื่ องราวใดๆ
นางพูดกับชูเฟิ งว่า “แม้วา่ เจ้าผิด แต่เจ้าต้องไม่ตอ้ งตําหนิตวั เอง ถ้าไม่
เป็ นเพราะเจ้า หยวนรู่ วเพียงรอคอยเข้าสู่ เส้นทางแห่งความตาย ฉะนั้น
โอกาสรอดของนางในตอนนี้ข้ ึนอยูก่ บั เจ้า เจ้าต้องทําบางอย่างเพื่อนาง”
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////A : ดี
นะ หยวน รู่ ว ไม่ทอ้ ง!!!
B : นางท้องไม่ได้ เพราะฝึ กวิชามาร!!!
A : ถ้ารู ้แต่แรกมืงว่ามันจะเอาป่ ะ
B : ไม่!!!
C : ไม่เหลือ หรอก!!!
A : พี่เฟิ งอ่ะนะ
C : กูน้ ีแหละ
B : สารเลว!!!
บทที่ 652 – คฤหาสน์รื่นรมณ์

“ผูอ้ าวุโส ฉิวซุ่ย ท่านหมายความว่าแม้แต่ แม่นาง เพียวเมี้ยว ก็ไม่


สามารถช่วยเหลือ หยวน รู่ ว ได้หรื อ !?” ชูเฟิ ง จับใจความได้บางอย่าง
จากคํากล่าวของ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน จึงทําให้ความกังวลปรากฏขึ้นบน
ใบหน้าของเขา

“อสูรโบราณยังคงอ่อนแอ และยังฟื้ นสภาพกลับมาไม่หมด หาก


ฟื้ นสภาพกลับมาจนพร้อมนั้น อย่าว่าแต่ท่าน เพียวเมี้ยว เลย แม้แต่เขต
ทะเลตะวันออกก็จะพบกับความพินาศ !!” ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน กล่าว

“แล้วพวกเราจะทําเช่นไร !? ไม่ควรปล่อยให้เป็ นภาระของ


หยวน รู่ ว เพียงคนเดียวเช่นนี้ !!” ชูเฟิ ง เต็มไปด้วยความกังวลมากกว่า
เก่า และเขาก็เอะใจบางอย่างจึงกล่าวออกมาว่า “อย่าบอกนะว่าแม่นาง
เพียวเมี้ยว วางแผนที่จะฆ่านาง !!”

“ไม่ใช่เช่นนั้นแน่นอน แต่ตอนนี้พวกเรายังไม่สามารถทําอะไรได้
พวกเราขาดบางสิ่ งที่ใช้ในการช่วยเหลือนาง !!” ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน กล่าว
“บางอย่าง !?” ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“ตราประทับดอกบัวอมตะ !!” ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน กล่าว

“ตราประทับดอกบัวอมตะ อยูภ่ ายในดินแดนตราประทับนิรันดร์


ใช่หรื อไม่ !?” ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“ถูกต้อง ตราประทับดอกบัวอมตะ เป็ นสิ่ งที่หาได้ยากอย่างมาก


และมันก็มีอยูภ่ ายในดินแดนตราประทับนิรันดร์เท่านั้น !!”
“เพราะมันเป็ นสิ่ งหาได้ยากมาก หลังจากที่ทุกคนเข้าไปยังดินแดน
ตราประทับนิรันดร์ พวกเขาต้องพยายามอย่างมากเพื่อที่จะค้นหา
วิญญาณตราประทับ หากเจ้าต้องการตราประทับดอกบัวอมตะ เจ้า
จะต้องพึ่งพาความสามารถของเจ้าเท่านั้น ไม่มีผใู ้ ดที่สามารถช่วยเหลือ
เจ้าได้ !!” ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน กล่าว

“นี่หมายความว่า ที่ผอู ้ าวุโส เพียวเมี้ยว มอบป้ายตําแหน่งของหุบ


เขาสายหมอกให้แก่ขา้ ก็เพื่อให้ขา้ ค้นหาตราประทับดอกบัวอมตะ
เช่นนั้นรึ !!” ชูเฟิ ง กล่าวพลางมองป้ายในมือด้วยความรู ้สึกที่ซบั ซ้อน

“มันก็ไม่ใช่เช่นนั้นทั้งหมด ยังไงก็ตาม นัน่ ก็เป็ นเหตุผลหนึ่ง


เพราะในตอนนี้คนที่สามารถช่วยเหลือ หยวน รู่ วได้ ก็เพียงแต่เจ้า !!”

“ข้าลืมบอกบางอย่างแก่เจ้าไป!!” ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน กล่าว


“อะไรหรื อ !?” ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“หากอสู รถูกกําจัดออกจากร่ างของ หยวน รู่ วเรี ยบร้อยแล้ว เพียว


เมี้ยว จะรับนางเป็ นศิษย์ !!”

“ข้าทําได้เพียงแค่บอกแก่เจ้าเท่านั้น แม้แต่ หยวน รู่ วเอง นางก็ไม่มี


สิ ทธิ์ที่จะปฏิเสธ !!” ฉิววุย่ ฟู่ หยาน กล่าวออกมาอย่างจริ งจัง ถึงความ
ต้องการที่แอบแฝงของ เพียวเมี้ยว

“มันเป็ นวาสนาที่ดีของนาง ที่จะมีอาจารย์ที่แข็งแกร่ งเช่นผูอ้ าวุโส


เพียวเมี้ยว ข้าเชื่อว่านางจะต้องยินดีอย่างแน่นอน !!” ชูเฟิ ง กล่าวพลาง
ยิม้ บางๆ

“ทางที่ดี เจ้าควรจะเตรี ยมตัวเพื่ออกค้นหาตราประทับดอกบัว


อมตะดีกว่า เพราะถึงอย่างไรในวันนี้กย็ งั ต้องตรวจสอบคนอีกนาน !!”
หลังจากกล่าวจบ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ก็พา เจียง ว่านชือ จากไป

***** ก๊อกๆๆ *****

หลังจากที่ ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน และ เจียง ว่านชือ จากไปนั้น ประตูหอ้ ง


ของ ชูเฟิ ง ก็ถูกเคาะ เมื่อเขาเปิ ดออกไป เขาก็พบกับผูห้ ญิงคนหนึ่ง นาง
ไม่ได้มีใบหน้าที่งดงามมากนัก แต่มีดวงตาที่สดใส แต่ส่วนสําคัญคือ
การบ่มเพาะพลังของนางสู งถึงระดับเจ็ด ขั้นแดนสวรรค์
“แม่นาง มีอะไรรึ !?” ชูเฟิ ง กล่าวถามด้วยความสุ ภาพ

“นายท่าน หวูฉ่ ิง ใช่ม้ ยั !? ข้าเป็ นคนรับใช้จากหุบเขาสายหมอก


นายหญิงให้ขา้ มาเชิญนายท่านไปยัง คฤหาสน์รื่นรมณ์ เพื่อไปชมภาพ
ของ ตราประทับดอกบัวอมตะ” นางกล่าวตอบด้วยความนอบน้อม

“อ่า ต้องรบกวนแม่นางแล้ว !!” ชูเฟิ ง กล่าวตอบพลางยิม้ บางๆ แต่


ในความเป็ นจริ งนั้น เขาค่อนข้างตกใจเล็กน้อย

ผูเ้ ชี่ยวชาญจํานวนมากต่างรวมตัวอยูใ่ นหุบเขาสายหมอก แต่


แม้กระทัง่ คนรับใช้ยงั มีพลังถึงระดับเจ็ด ขั้นแดนสวรรค์ มันทําให้เขาอด
คิดไม่ได้เลยว่า แม่นาง เพียวเมี้ยว จะแข็งแกร่ งสักเพียงใด และนางจะ
ต้อนรับ เจียง ว่านชือ เช่นไร
เพราะด้วยระดับพลังของ เจียง ว่านชือ นั้น นางไม่อาจเรี ยกได้วา่
เป็ นอัจฉริ ยะ อาจกล่าวได้วา่ “นางเป็ นเพียงกบในกะลาเท่านั้น ด้วย
ความอ่อนแอของนาง ยังไม่สามารถจะก้าวออกสู่ โลกภายนอกได้ เพราะ
มันเต็มไปด้วยเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ งอย่างมาก !!”

“เจ้าเป็ นศิษย์ของผูอ้ าวุโสรึ !?” ชูเฟิ ง กล่าวถามขณะที่เดินตาม


นางไป

เพื่อต่ออายุของพวกเขา เหล่าผูอ้ าวุโสต่างจงรักภักดีต่อหุบเขาสาย


หมอก ชูเฟิ ง สามารถเข้าใจได้
แต่แม่นางคนนี้เป็ นเพียงคนรุ่ นหนุ่มสาวเท่านั้น นางควรมีอนาคตที่
ดี โดยการเข้านิกาย หรื อไม่สาํ นักต่างๆ ซึ่ งนางไม่ควรมาเป็ นคนรับใช้
อยูท่ ี่นี่

“นายท่าน !! ท่านประเมินข้าสู งเกินไป !! ด้วยความสามารถของข้า


ไม่อาจเป็ นศิษย์ของนายหญิงได้ !! ข้าเป็ นเพียงคนรับใช้เท่านั้น !! ยังไงก็
ตาม ถึงข้าจะเป็ นเพียงคนรับใช้ แต่นายหญิงก็ปฏิบตั ิต่อข้าอย่างดี”

“ไม่ใช่เพียงแค่น้ นั พวกเรายังได้รับทรัพยากรการบ่มเพาะที่ดี อีก


ทั้งยังได้รับคําชี้แนะจากนายหญิงน้อยสี่ ฤดู ที่เป็ นศิษย์โดยตรงของนาย
หญิง ในการบ่มเพาะพลัง ดังนั้น แม้วา่ พวกเราจะเป็ นเพียงคนรับใช้ แต่
พวกเราก็ได้รับการฝึ กฝน และได้รับการดูแลที่ดี ที่ผอู ้ ื่นต่างใฝ่ ฝัน” นาง
กล่าวอธิบายออกมา เมื่อเห็นความสับสนของ ชูเฟิ ง จากคํากล่าวของนาง
ไม่มีความรู ้สึกตํ่าต้อยแม้แต่นอ้ ย แต่กลับเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
“อ่า ข้าเข้าใจแล้ว มันเป็ นเช่นนี้นี่เอง” ชูเฟิ ง พยักหน้ารับ คํากล่าว
ของนางสามารถไขข้อข้องใจของเขาได้อย่างดี

ในหุบเขาสายหมอกนั้น ผูท้ ี่มีอาํ นาจมากที่สุดคือ แม่นาง เพียวเมี้ยว


รองลงมาก็จะเป็ นสาวงามสี่ ฤดูของนาง ส่ วนคนอื่นๆ จะได้รับหน้าที่
เป็ นผูด้ ูแล หรื อคนรับใช้ ถึงอย่างไร ทุกคนๆ จะได้รับทรัพยากรที่
เหมาะสมและการดูแลที่ดี จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายๆ คนยอมที่จะเป็ น
เพียงคนรับใช้ที่ต่าํ ต้อย เพราะพวกเขาได้รับผลตอบแทนที่ดีเมื่ออยูท่ ี่นี่
พวกเขาสามารถก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่องบนเส้นทางของการบ่มเพาะ
พลัง

หากมองเพียงผิวเผินนั้น ตําแหน่งผูด้ ูแล และคนรับใช้ จะเป็ น


ตําแหน่งที่ต่าํ ต้อย แต่ความจริ งนั้น พวกเขาเป็ นผูท้ ี่น่าอิจฉาอย่างมาก
และพวกเขาก็เป็ นผูท้ ี่ได้รับคําชื่นชมอย่างมาก จากผูท้ ี่รู้ความเป็ นมาของ
พวกเขา

หลังจากการนําทางของแม่นางผูน้ ้ นั ชูเฟิ ง ก็กา้ วผ่านเส้นทาง


ต้องห้าม และขึ้นมาถึงยอดของหุบเขาสายหมอก ทัว่ ทั้งบริ เวณถูกปก
คลุมไปด้วยหมอกบางๆ ที่ดา้ นข้างมีน้ าํ ตกขนาดใหญ่ สภาพแวดล้อม
เช่นนี้ราวกับว่ามันเป็ นอาณาจักรนิรันดร์กไ็ ม่ปาน

ที่ดา้ นบนนั้นมีคฤหาสน์หลังหนึ่งตั้งอยู่ มันถูกสร้างด้วยอิฐ มุงด้วย


กระเบื้องสี ขาว เป็ นคฤหาสน์ที่งดงามอย่างมาก ที่ทางเข้าบนป้านมีคาํ
เขียนไว้วา่ “คฤหาสน์รื่นรมณ์”

“นายท่าน ที่นี่คือคฤหาสน์รื่นรมณ์ ภายในนั้นจะมีภาพของตรา


ประทับต่างๆ ในดินแดนตราประทับนิรันดร์ และยังมีจิตกรรมฝาผนัง ที่
กล่าวถึงตราประทับดอกบัวอมตะฯ ภายในนั้นคนรับใช้ไม่ได้รับอนุญาต
ให้เข้าไปได้ ดังนั้น ข้าจึงมาส่ งท่านได้เพียงแค่ตรงนี้” นางกล่าวอย่าง
นอบน้อม

“เหนื่อยหน่อยนะ!!” ชูเฟิ ง กล่าวพลางเดินไปยัง คฤหาสน์รื่นรมณ์

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ ชูเฟิ ง จะได้เข้าไปนั้น เขาก็พบกับกลุ่มคนกว่า


ยีส่ ิ บคน พวกเขาล้วนเป็ นเด็กหนุ่มสาว คนที่อ่อนแอที่สุดมีพลังระดับ
สอง จ้าวสงคราม และผูท้ ี่แข็งแกร่ งที่สุด มีพลังถึงระดับห้า ขั้นจ้าว
สงคราม เทียบเท่าได้กบั หย่า เฟย

ชูเฟิ ง ไม่ให้ความสนใจต่อพวกเขา และกําลังก้าวเข้าไป


“หยุด !! เจ้าคิดว่าที่นี่คือที่ใด เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถเข้าไปได้รึ !!”

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ ชูเฟิ ง จะได้กา้ วเข้าไปนั้น ก็มีเสี ยงตะโกนดัง


ขึ้น เมื่อ ชูเฟิ ง หันกลับไปมองเขาก็พบชายสองคนที่สวมเสื้ อผ้าสง่างาม
ทั้งสองคนมีพลังถึงระดับสอง ขั้นจ้าวสงคราม และ ชูเฟิ ง สามารถรู ้ได้
ทันทีวา่ พวกเขาไม่ใช่คนของหุบเขาสายหมอก

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
//////
A : อยูด่ ีไม่วา่ ดี อยากแดกตีนเป็ นของว่าง!!!

B : เด๋ วพี่เฟิ งก็จดั หนักหรอก ส้นตีนผัดพริ กแกง แผนงศอก!!!

C : น่าอร่ อยดีเนอะ!!!

B : จะแดกไม๊ล่ะ เด๋ วจัดให้!!!


C : ช่วงนี้เป็ นร้อนใน แดกของเผ็ดๆไม่ค่อยได้!!!

A : กูนึกว่ามันจะแน่ . . . . .
บทที่ 653 – ชุน หวู่

“เจ้าเป็ นใคร !! ใหญ่มาจากไหนถึงได้มาหยุดข้า!!” ชูเฟิ ง กล่าว


พลางกวาดสายตามองไปยังพวกเขาทั้งสองคน

“เราคือใครรึ !! พวกข้าคือคนที่ได้รับป้ายสายหมอก !!” ชายคน


หนึ่งกล่าว

“ถูกต้อง นี่คือคฤหาสน์รื่นรมณ์ !! ผูท้ ี่ไม่ได้รับป้ายสายหมอก จะ


ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา !!” ชายอีกคนหนึ่งกล่าวด้วยความหยิง่ ผยอง
“เกิดอะไรขึ้น !?” เมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้น ชายผูม้ ีพลังระดับ
สอง ขั้นจ้าวสงครามอีกคนหนึ่งก็กา้ วเข้ามา

“โอ้ ที่แท้กเ็ ป็ นท่าน หลิน ชายผูน้ ้ ีมาที่ และพยายามที่จะลอบเข้าไป


ในคฤหาสน์รื่นรมณ์ พวกข้าเพียงแค่เตือนเขาเท่านั้น” ชายทั้งสองคน
กล่าวพร้อมกัน

“ทําไมต้องเปลืองนํ้าลายกล่าวกับคนเช่นนี้ !! เพียงแค่เรี ยกยามมา


และลากตัวเขาออกไปก็สิ้นเรื่ อง!!” ชายที่ถูกเรี ยกว่า ท่านหลิน ไม่แม้แต่
จะมองไปยัง ชูเฟิ ง เขามีความหยิง่ ยะโสมากกว่าชายทั้งสองคนอย่างเห็น
ได้ชดั

ชูเฟิ ง ไม่เคยกลัวต่อคนที่ไม่ชอบเขา เขาเตรี ยมที่จะเอาป้ายสาย


หมอกออกมา แต่ในเวลานี้น แววตาของเขาก็เป็ นประกาย ในขณะที่เขา
เห็นคนผูห้ นึ่งเดินเข้ามาใกล้

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร !!” เสี ยงที่ไพเราะดังขึ้น


พร้อมกับร่ างราวกับผีเสื้ อบินผ่านชายทั้งสามคนมาอย่างงดงาม

นางเป็ นผูห้ ญิงที่งดงามอย่างมาก อีกทั้งยังมีรอยยิม้ ที่เจิดจ้าชวน


หลงใหล พลังของนางสู งถึงระดับสี่ ขั้นจ้าวสงคราม ซึ่ งมากกว่าชายทั้ง
สามคนอย่างมาก

“แม่นาง ชุน หวู่ ท่านรู ้จกั เขารึ !?” เมื่อเห็นเช่นนั้น ใบหน้าของ


ชายทั้งสามคนต่างเต็มไปด้วยความตกตะลึง
หลังจากที่ได้ยนิ เช่นนั้น ใบหน้าของ ชูเฟิ ง ก็เปลี่ยนแปลงไป
เล็กน้อย เขารู ้ในทันทีวา่ นางคือหนึ่งในสี่ ศิษย์ของนายหญิง เพียวเมี้ยว
ชุน หวู่

“นี่คือ หวูฉ่ ิง ท่านอาจารย์ของข้าเป็ นคนเชิญเขามา !! พวกเจ้าทั้ง


สามคนทําอะไรเขาล่ะก็ !?” ชุน หวู่ มองไปยังทั้งสามคนด้วยใบหน้าที่
แข็งกระด้าง ต่างจากใบหน้าที่มองไปยัง ชูเฟิ ง อย่างชัดเจน

“เอิ่ม…..!!”

พวกเขาทั้งสามคนต่างพูดไม่ออก ขณะที่ใบหน้าของพวกเขาเริ่ ม
เปลี่ยนไปเป็ นปั้ นยากขึ้นทุกที พวกเขาไม่คิดว่าเด็กเหลือขอที่ดู
ธรรมดาๆ จะเป็ นแขกพิเศษของนายหญิง เพียวเมี้ยว
นอกจากนี้ พวกเขายังเห็นถึงความตื่นเต้นดีใจของ ชุน หวู่ ได้อย่าง
ชัดเจน ซึ่งพวกเขาไม่เคยเห็นนางแสดงปฏิกิริยาเช่นนี้ออกมาก่อน

ในทีนทีน้ นั พวกเขาทั้งสามคนต่างรู ้สึกละอายใจ ที่พวกเขาได้ไป


ล่วงเกินคนที่พวกเขาไม่สมควรล่วงเกินอย่างมาก

“ไม่มีอะไร เพียงแค่พชี่ ายทั้งสามคนนี้ไม่ทราบว่าข้าได้รับป้ายสาย


หมอกมา พวกเขาเพียงแค่พยายามไล่ขา้ ออกไปเท่านั้น !!” ชูเฟิ ง กล่าว
พลางยิม้ บางๆ ราวกับเป็ นเรื่ องเล็กน้อย แต่ในความเป็ นจริ งนั้น เขาได้
บอกถึงพฤติกรรมของทั้งสามคนแก่ ชุน หวู่ ไปเรี ยบร้อยแล้ว
“เอิ่ม…มันเป็ นเพียงแค่ความเข้าใจผิด !!” พวกเขาทั้งสามคนต่าง
ตัวสัน่ สะท้านด้วยความหวาดกลัว เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของ ชูเฟิ ง เหงื่อเย็น
ผุดขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา ในขณะที่พวกเขาพยายามหาคําอธิบาย

“พวกเจ้าทั้งสามคนคิดว่าศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง เป็ นคนที่พวกเจ้าทั้งสาม


คนสามารถหยุดได้เช่นนั้นรึ !!” ชุน หวู่ กล่าวพลางชําเลืองมองไปที่
สามคนนั้นอย่างเย็นชา นางไม่ได้ใส่ใจต่อพวกเขาอีก และหันกลับมา
กล่าวกับ ชูเฟิ ง ว่า “ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง อย่าได้ใส่ ใจ รี บตามข้ามาเพื่อดูตรา
ประทับดอกบัวอมตะแห่งการทําลายเถอะ !!” นางกล่าวจบก็กา้ วนํา ชู
เฟิ ง เข้าไปยัง คฤหาสน์รื่นรมณ์

ในขณะที่ชายทั้งสามคนมองดู ชุน หวู่ และ ชูเฟิ ง จากไปนั้น หัวใจ


ของพวกเขาก็อดั แน่นไปด้วยความเกลียดชังจนยากจะบรรยาย แน่นอน
ว่าพวกเขาไม่ได้รับป้ายสายหมอก พวกเขาจึงวางแผนที่จะขับไล่ผบู ้ ุกรุ ก
และหวังให้ได้รับความดีความชอบ แต่พวกเขาก็ตอ้ งพบกับความ
ผิดพลาด ที่ทาํ ให้พวกเขาได้รับความโกรธเคืองมาแทน

ดังนั้น ในหัวใจของพวกเขาจึงรู ้ดีวา่ พวกเขาได้ทาํ ผิดพลาดอย่าง


ใหญ่หลวง เพราะพวกเขาได้ทาํ ให้แม่นาง ชุน หวู่ ต้องโกรธเคือง ในภาย
ภาคหน้านั้น พวกเขาต้องลําบากอย่างแน่นอน

ชูเฟิ ง ไม่ได้สนใจต่อความเปลี่ยนแปลงของหัวใจของชายทั้งสาม
คนแต่อย่างใด ในตอนนี้เขากําลังชมภาพจิตรกรรมของตราประทับ
ดอกบัวอมตะแห่งการทําลาย โดยการนําทางของ ชุน หวู่

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ไม่เพียงแต่ได้รู้วา่ คฤหาสน์รื่นรมณ์ ไม่ได้


บันทึกเพียงตราประทับดอกบัวอมตะฯไว้เท่านั้น เขายังพบว่ามันยัง
บันทึกวิญญาณตราประทับแห่งการทําลายไว้อีกมาก
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ชูเฟิ ง กลับรู ้สึกสับสนกับแม่นาง ชุน หวู่
อย่างมาก เพราะเขามัน่ ใจว่าเขาไม่เคยพบนางมาก่อน แต่นางกลับ
ต้อนรับเขาราวกับสหายที่เคยพบกันมาก่อน

ในขณะที่เขาเดินเคียงไหล่มากับแม่ ชุน หวู่ นั้น สายตาทุกๆ คู่ต่าง


จ้องมองมาที่ดว้ ยความกดดัน โดยเฉพาะอย่างยิง่ สายตาของเหล่าชาย
หนุ่ม ที่เต็มไปด้วยความอิจฉา และโกรธเคือง

“นี่คือตราประทับดอกบัวอมตะแห่งการทําลาย !!” หลังจากเดินมา


ได้ระยะสั้นๆ พวกเขาก็มาถึงภาพจิตรกรรมขนาดใหญ่ดา้ นหน้าของพวก
เขา
ภาพด้านหน้านั้นคือ ภาพดอกบัวสี ทองขนาดใหญ่ กลีบทั้งหมด
เป็ นสี ทอง ที่ตรงกลางถูกแกะเป็ นลักษณะคล้ายกับสัญลักษณ์บางอย่าง
เพียงแค่มองแว๊บเดียวเท่านั้น ก็สามารถรู ้ได้วา่ มันเป็ นวัตถุที่ไม่ธรรมดา
แม้แต่นอ้ ย

“งดงามมาก ข้าชักอยากเห็นตราประทับดอกบัวอมตะฯของจริ ง
แล้วซิ !!” ชูเฟิ ง สลักภาพของตราประทับดอกบัวอมตะฯลงในหัวใจ
ของเขา ในแววตาของเขาไม่ได้มีเพียงความชื่นชมเท่านั้น แต่มนั กลับ
เต็มไปด้วยความต้องการอย่างมาก

“ผูอ้ าวุโส ชุน หวู่ พวกเราเคยพบกันมาก่อนรึ !?” ชูเฟิ ง กล่าวถาม


ด้วยความสับสน เพราะเขามัน่ ใจอย่างมากว่าเขาไม่เคยพบนางมาก่อน
แต่นางกลับดูรู้จกั กับเขาอย่างดี
***** พรื ดดดดด *****

ชุน หวู่ กุมมือปิ ดปากและหัวเราะออกมาเบาๆ นางหัวเราะออกมา


สักพักก่อนที่นางจะเอามืองดงามราวกับหยกของนางลง พร้อมกับเดิน
มาที่ดา้ นหน้าของ ชูเฟิ ง และกล่าวว่า “ตั้งแต่เจ้าเข้ามาที่นี่ และได้เข้า
มายังคฤหาสน์รื่นรมณ์แห่งนี้ นัน่ เป็ นเพราะป้ายสายหมอกของข้า !!”

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง ก็แววตาป็ นประกาย เขาจ้องมองไปยัง ชุน


หวู่ อย่างละเอียด เวลาผ่านไปสักพักเขาก็กล่าวออกมาว่า “ผูอ้ าวุโส ชุน
หวู่ หรื อว่าท่านจะ……”

“ดูเหมือนว่าเม็ดแปลงโฉมจะใช้ได้อย่างยอดเยีย่ มจริ งๆ ฮ่าๆๆ !!”


“ถูกต้อง ข้าคือผูห้ ญิงสกปรกคนนั้น ที่หลอกขายป้ายปลอม !!”
ชุน หวู่ กล่าวพลางยิม้ อย่างพึงพอใจ

หลังจากได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ ง ก็ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่


งอก “ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมนางถึงต้อนรับข้าอย่างดี ที่แท้นางก็คือ
ผูห้ ญิงสกปรกคนนั้น”

“ข้า ฉิงหวู่ นี่โง่จริ งๆ ที่ไม่รู้จกั ผูอ้ าวุโส ชุน หวู่ ข้าต้องขออภัยท่าน


จริ งๆ !!” ชูเฟิ ง กล่าวออกมาอย่างนอบน้อม พร้อมกับส่ งป้ายสายหมอก
คืนให้แก่ ชุน หวู่

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : ถ้าจะถามว่าพี่เฟิ งปักธงไม๊ ก็น่าจะปั กนะ

B : โนวๆ พี่เฟิ งเห็นนางเป็ นสหายที่ดีคนหนึ่ง นางต่างหากที่หลงรัก ชู


เฟิ ง

C : แหม๋ !!! หมัน่ ไส้จริ ง!!! คนหล่อเลือกได้เนี่ย!!!

A : กูกเ็ ริ่ มหมัน่ . . . ล่ะ

B : ไอ้เชี้ย C ช่ายป่ ะ

A : ใช่!!! อย่าบอกว่ามืงก็ดว้ ย

B : ใช่!!! เอาแม่งเลยป่ ะล่ะ

C : แน่จริ งอย่าลุม อย่าวิง่ ตาม อย่าใช้อาวุธ อย่าใช้มือ อย่าใช้หวั อย่า


ใช้ขา อย่าลืมตา อย่าทําไรกูเลย!!!

A4 : ถ้ามืงจะห้ามขนาดนี้!!! พวกมันคงทําไรมืงไม่ได้แล้วล่ะ
บทที่ 654 - แผนที่พิศวง

“เอ๋ ๆ ไม่เป็ นไร ไม่เป็ นไร มันก็แค่รูปลักษณ์ภายนอก เป็ นเรื่ อง


ธรรมดาอยูแ่ ล้วที่เจ้าจําข้าไม่ได้ ถ้าเจ้ายังจําข้าได้...แล้ว ทําไมข้าต้องทํา
ให้มนั ยุง่ ยากต่อไปด้วยเล่า?” ชุนหวูย่ มิ้ แบบพิลึกๆ หลังจากวางป้ายลง
นางถามชูเฟิ งว่า “ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ ง เจ้าจําได้หรื อไมว่าตราประทับดอกบัว
อมตะฯมีลกั ษณะเช่นไร?”

“อื้ม ถ้าข้าเห็น ข้าต้องจํามันได้อย่างแน่นอน” ชูเฟิ งผงกหัว

“งั้น อย่าอยูท่ ี่นี่ต่อเลย ข้าจะพาเจ้าไปพบศิษย์พี่ท้ งั 3 ข้าได้ยนิ มา


ว่าศิษย์พี่ใหญ่นาํ บางสิ่ งที่น่าสนุกมากๆมาจากอาจารย์ของข้าด้วยวันนี้!”
ขณะที่นางพูด นางเหยียดแขนของนางออกและจับไปที่มือของชูเฟิ ง
นางดึงชูเฟิ งพร้อมกับเริ่ มวิง่ ไปยังสถานที่อื่น
“ศิษย์พี่ท้ งั 3? ศิษย์พี่ชุน หวู่ ไม่ใช่วา่ ท่านหญิงเพียวเมี้ยวรับศิษย์
แค่ 4 คนหรอกรึ ? ศิษย์พี่ท้ งั สามนี่มาจากไหน?” ชูเฟิ งถามด้วยความ
สับสนในขณะที่วง่ิ ไป

“ใช่ อาจารย์ขา้ รับศิษย์ 4 คน!” ชุนหวูพ่ ยักหน้าพร้อมด้วยใบหน้า


สํานึกบุญคุญ นางยิม้ แย้มแพรวแราวพร้อมกับพูดว่า “อ๋ า...ข้ารู ้ เจ้าต้อง
คิดว่า ฤดูท้ งั 4 คือ ชุน (ฤดูใบไม้ผลิ) เซี้ย (ฤดูร้อน) ฉิ ว (ฤดูใบไม้ร่วง)
และ ตง (ฤดูหนาว) ดังนั้น ข้าคือ ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าควรจะมีศิษย์นอ้ ง 3 คน
แต่ขา้ เพิ่งพูดว่า ศิษย์พี่ท้ งั 3 นัน่ จึงทําให้เจ้าไม่เข้าใจใช่ม้ ยั ?”

“อืม..” ชูเฟิ งพยักหน้า

“ข้าจะบอกความจริ ง สิ่ งที่เจ้าพูดก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่ไม่รู้วา่


ความจริ งเป็ นเช่นไร แล้วก็ชอบเดาสุ่ มกันไปเอง พวกเราพี่นอ้ งทั้ง 4
คน เซี้ ยหยู คือ พี่ใหญ่ ตงเซวีย คือ พีร่ อง ฉิ วซือ คือ พี่สาม.... ในสายตา
ของคนภายนอก ข้าคือ ศิษย์พี่ใหญ่ แต่ในความเป็ นจริ งแล้ว ข้าคือน้อง
เล็ก”

“ข้าอายุเพียง 22 ปี ข้าดูเหมือนพี่ใหญ่มากเลยหรอ?” เมื่อพูดถึง


จุดนั้น ชุน หวูบ่ ุย้ ปาก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู
นางดูมีเสน่ห์และน่ามองยิง่ นัก

ศิษย์อย่างเป็ นทางการของท่านหญิงเพียวเมี้ยวเกินกว่าที่ชูเฟิ งจินตนาการ


ไปมาก แต่เดิมแล้ว ชูเฟิ งคิดว่าศิษย์ของท่านหญิงเพียวเมี้ยวนั้นจะ
เย่อหยิง่ ..จองหองไร้ที่สิ้นสุด แต่ชูเฟิ งไม่คาดคิดว่าชุนหวูจ่ ะเป็ นเด็กสาว
ที่น่ารักและซุกซน จะถูกต้องมากกว่าหากเรี ยกนางว่า ‘สตรี ’ อย่างไรก็
ตาม ชูเฟิ งก็ชอบนิสยั ของชุนหวูไ่ ม่นอ้ ย
ด้วยการนําทางของชุนหวู่ ชูเฟิ งก็ได้มาถึงพระราชวังที่ไม่ได้กว้างขวาง
มากนัก แต่กลับเป็ นระเบียบอย่างมาก ในตําแหน่งศูนย์กลางของ
พระราชวังมีโต๊ะอยูต่ วั นึงทําจากหยก รอบๆโต๊ะรายล้อมไปด้วยบุรุษ 5
คน และสตรี อีก 3 คน

บุรุษทั้ง 5 มีลกั ษณะที่สูงส่ งและแข็งแกร่ งเป็ นอย่างมาก บุรุษ 4 คน มี


การบ่มเพาะระดับ 3 ขั้นจ้าวสงคราม และอีก 1 ที่อยูใ่ นระดับ 4 ขั้น
จ้าวสงคราม

ถ้าเปรี ยบเทียบกับบุรุษทั้ง 4 คนแล้ว สตรี ท้ งั สามกลับมีความโดดเด่น


มากกว่า สตรี 2 นางอยูใ่ นระดับ 4 ขั้นจ้าวสงคราม และอีกคนอยูใ่ น
ระดับ 5 ขั้นจ้าวสงคราม นางคือการดํารงอยูท่ ี่แข็งแกร่ ง ซึ่ งชูเฟิ งรู ้สึก
ได้ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาออกจากพระราชวัง
ถ้าไม่กล่าวถึงความแข็งแกร่ ง ลักษณะที่ปรากฏของพวกนางดูราวกับ
เทพธิดาอย่างมาก กล่าวได้วา่ นางมีความงดงามที่โดดเด่น โดยเฉพาะ
อย่างยิง่ หญิงสาวที่มีพลังระดับ 5 ขั้นจ้าวสงคราม แม้วา่ ในแง่ของเค้า
โครงใบหน้า นางอาจไม่ได้ดีไปกว่างชุนหวู่ แต่ในแง่ของท่วงท่าอันเป็ น
เอกลักษณ์ของนางนั้นกล่าวได้วา่ สมบูรณ์แบบ ด้วยท่วงท่าของนางทํา
ให้ผคู ้ นรู ้สึกว่าไม่อาจแตะต้องได้

ไม่วา่ เรื่ องความแข็งแกร่ งหรื อความงาม ยังมีสตรี อีกนางนึงที่เหนือกว่า


สตรี ท้ งั สองรวมถึงชุนหวูด่ ว้ ย ชูเฟิ งไม่ตอ้ งคิดเลยว่าสตรี นางนั้นคือใคร
แน่นอนว่าต้องเป็ นสุ ดยอดสาวงามนามขจรกระจายไปทัว่ ภูมิภาคทะเล
ตะวันออก นางคือ ฉิว ซือ

“ศิษย์พี่เซี้ย หยู๋ ศิษย์พี่ตง เซวีย ศิษย์พี่ฉิว ซื อ ดูสิขา้ พาใครมา!” ชุน


หวูต่ ะโกนพร้อมหัวเราคิกคักหลังจากเข้ามาในพระราชวังแล้ว
หลังจากพวกเขาเบนสายตามา ความประหลาดใจและความตกใจปรากฏ
บนใบหน้าของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิง่ เซี้ ย หยู๋ ใบหน้านาง
เปลี่ยนเป็ นเข้มงวดและตะโกนอย่างเย็นชาออกไปว่า “น้องหวู!่ บุรุษ
และสตรี หา้ มแตะเนื้อต้องตัวกัน เจ้ากําลังดึงเขาและตะโกนไปทัว่ แบบนี้
มารยาทของเจ้าไปอยูท่ ี่ไหนหมด?”

“เอ่อ!..ศิษย์พี่เซี้ย หยู ข้าไม่ได้ดึงใครเล๊ย...” เมื่อเห็นดังนั้น ชุน หวู่


รี บปล่อยมือที่นางจับชูเฟิ งทันที นางยิม้ หวาน ชี้ไปยังชูเฟิ งและพูดว่า “นี่
คือหวูฉ่ ิง เขามาพร้อมกับผูอ้ าวุโสฉิ วซุ่ยแห่งผาคนรัก ท่านอาจารย์มอบ
ป้ายสายหมอกกับเขา เขาสามารถเข้าไปยังดินแดนแห่งตราประทับนิ
รันดร์พร้อมกับพวกเรา”

“โอ้?” ได้ยนิ เช่นนั้น สายตาของพวกเขาเปลี่ยนไปอีกครั้งนึง พวก


เขาช่วยไม่ได้ที่ตอ้ งประเมินชูเฟิ งใหม่ อย่างไรก็ตามพวกเขาพบว่าการ
บ่มเพาะของชูเฟิ งอยูใ่ นระดับ 1 ขั้นจ้าวสงคราม ความผิดหวังจึง
ปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขา

ด้วยเรื่ องที่ชูเฟิ งสวมน่ากากแปลงโฉม ชูเฟิ งสามารถปกปิ ดดวงตาของ


เขาและพวกเขาไม่สามารถเห็นดวงตาที่แท้จริ งของชูเฟิ ง แม้กระทัง่ พวก
เขาไม่สามารถเห็นสายฟ้าทั้ง 3 ที่รวมตัวกันอยูใ่ นตอนนี้ ดังนั้นพวกเขา
จึงไม่เห็นการบ่มเพาะที่แท้จริ งของชูเฟิ ง ในขณะที่พวกเขาเห็นเพียง
ระดับ 1 ขั้นจ้าวสงครามเพราะชูเฟิ งใช้อาํ นาจพิเศษของสายฟ้า จากที่
พวกเขาเห็นพวกเขารู ้สึกว่าชูเฟิ งอยูใ่ นระดับที่ธรรมดาเป็ นอย่างมาก
ท้ายที่สุด พวกเขาไม่แม้แต่จะเอาชูเฟิ งไปเปรี ยบเทียบ และแม้กระทัง่ ไม่
เห็นชูเฟิ งอยูใ่ นสายตา

ด้วยเหตุน้ ี เซี้ย หยู๋ ฉิว ซือ ตง เซวีย จึงไม่พดู คุยกับชูเฟิ งและหันหลัง


กลับทันที ขณะที่บุรุษทั้ง 5 พวกเขาต้อนรับชุน หวูด่ ว้ ยใบหน้าที่เต็มไป
ด้วยการประจบประแจง แต่ไม่มีใครให้ความสนใจชูเฟิ งเลย
ชูเฟิ งเคยประสบกับสถานะการณ์เช่นนี้มาก่อน ในโลกนี้ ผูแ้ ข็งแกร่ ง
ย่อมเหนือกว่า ในสายตาของผูเ้ ชี่ยวชาญ ผูอ้ ่อนแอไม่สมควรเป็ นสหาย
ของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิง่ สําหรับอัจฉริ ยะพวกนี้ พวกเขาเป็ น
เช่นนั้น

ดังนั้นแล้ว ชูเฟิ งไม่ได้ตาํ หนิใดๆพวกเขา หลังจากเรื่ องทั้งหมด มันเป็ น


ปฏิกริ ยาทัว่ ๆไปของคน ถ้าชุนหวูไ่ ม่ได้พบเขาก่อนหน้านี้ บางทีนางอา
จะเป็ นเช่นเดียวกันกับคนเหล่านี้กไ็ ด้

“ศิษย์พี่เซี้ย หยู๋ ท่านบอกว่าท่านมีอะไรสนุกๆไม่ใช่หรอ? เร็ วเข้า


รี บเข้านํามันออกมา!” ชุนหวูก่ ระโดดข้ามเข้ามา และดึงชายเสื้ อของเซี้ย
หยู๋อย่างใจร้อน
“น้องหวู่ เจ้าก็รู้วธิ ีเล่น สิ่ งนี่ไม๊...” เซี้ย หยู๋ช้ ีไปที่กระดาษสี ขาวบน
โต๊ะ

“นี่คืออะไร?” นางกระพริ บตาและมองอย่างอยากรู ้อยากเห็นไปที่


มัน

“นี่คือ ‘แผนที่พิศวง’ มันคือสมบัติของท่านอาจารย์ มันช่วยผู ้


เชื่อมต่อฯได้อย่างมาก”

“วันนี้ ท่านมอบแผนที่น้ ีให้ขา้ และให้ขา้ นํามาให้ทุกคนเล่น” เซี้ย


หยูอ่ ธิบาย
“โอ้? แผนที่น้ ีมนั พิเศษยังไงหรอ?” ชุน หวูถ่ ามต่อ

“มันพิเศษกว่าที่เจ้าจินตนาการไว้มาก” เซี้ย หยู๋ยมิ้ อย่างไม่ค่อย


พอใจ จากนั้น เส้นใยอํานาจวิญญาณได้ถูกย้อมลงไปในกระดาษสี ขาว

* ฮึ่ม *

เมื่ออํานาจวิญญาณลอยเข้าไป กระดาษสี ขาวพลันเปลี่ยนแปลงทันที มัน


มีเครื่ องหมายปรากฏขึ้นด้วยความรวดเร็ ว มันก่อตัวขึ้นเป็ นภาพวาดภูมิ
ประเทศ ในเวลาเดียวกัน มีลวดลายของคําปรากฏขึ้น “มีน้ าํ ตกจํานวน
เท่าใดปรากฏในภาพวาดนี้?”
“จํานวนนํ้าตกหรอ? หมายความว่ายังไง?” ชุนหวูถ่ ามต่อ

“มีสายธารนํ้าตกซ่อนอยูใ่ นภาพวาดนี้ นํ้าตกแต่ละภาพล้วนค้นหา


ได้ยากยิง่ ยิง่ เจ้าหาเจอมากเท่าไหร่ ระดับความยากก็จะเพิม่ มากขึ้น มี
เพียงผูเ้ ชื่อมต่อฯที่แข็งแกร่ งเท่านั้นที่สามารถมองเห็น”

“หลังจากเจ้าเห็นมันแล้ว เจ้าสามารถใช้นิ้วเขียนคําตอบลงใน
ภาพวาด ถ้าคําตอบของเจ้าถูก เจ้าจะได้รับอํานาจพลังพิเศษ ที่เสริ มสร้าง
อํานาจวิญญาณของเจ้า แต่ถา้ คําตอบของเจ้าผิด เจ้าก็จะได้รับอํานาจ
พิเศษเช่นกัน แต่ไม่ใช่อาํ นาจพิเศษที่ช่วยเพิ่มอํานาจวิญญาณให้เจ้า
กลับกันมันจะลดถอนอํานาจวิญญาณของเจ้าแทน” เซี้ย หยู๋อธิบาย
“มันน่าสนใจมาก!!!” หลังจากได้ยนิ คําอธิบายของเซี้ ย หยู๋ ชุน หวู่
มีความสุ ขและกระโดดโลดเต้นอยูบ่ ริ เวณนั้น ด้วยสายตาที่เปิ ดกว้างมาก
ขึ้น นางเริ่ มค้นหาอย่างระมัดระวัง

ในขณะเดียวกัน แทบทุกคนมุ่งไปดูภาพวาดนั้น จากรายละเอียดที่พบ


มันสมควรจะถูกเรี ยกว่าแผนที่พิศวง

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : ถ้าพี่เฟิ งเล่น ด้วยเนตรสวรรค์ แปปเดียวคงจบ!!!

B : ถูกต้อง แต่ใครจะยอมให้พี่เฟิ งเราเล่นล่ะ ก็มองว่าพี่เฟิ งกระจอกซะ


ขนาดนั้น พูดไรออกไป ก็มีแต่จะโดนเบรก ไม่กถ็ ูกเหยียดหยาม!!!

A : เออที่พดู มาก็มีเหตุผล แล้วพี่เฟิ งจะทํายังไงล่ะ ?


B : ก็รอให้พวกมันพลาดกันก่อนไงล่ะ! ค่อยเสี ยบ พร้อมกับยึดเอา
อํานาจพลังวิญญาณไว้! คนที่จบั ตัวชูเฟิ งไว้ตอนที่เค้าตอบ ก็จะได้รับ
พลังไปด้วย สําหรับคนที่สูญเสี ยพลังตอนที่ตอบผิดก็จะได้อาํ นาจพลัง
คืนมา แต่จะมีใครบ้างล่ะ ที่วางใจพี่เฟิ งของเรา

บทที่ 655 - จู เทียนหมิง

“แผนที่น้ ีค่อนข้างลึกลับ โปรดให้ขา้ ลองก่อน” ในตอนนั้น


ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ 3 จ้าวสงครามก็พดู ขึ้น จากนั้นเขาก็วาดเลข 一 บน
เหนือนํ้าตก

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเขียนเสร็ จแล้วรู ปวาดนัน่ ก็เกิดแสงขึ้น และแสงนั้น


ก็ได้พงุ่ เข้าสู่ ตวั เขาผ่านทางนิ้วที่วาดตัวเลข [ T/N ตัวเลข ( 一 = 1
>二=2>三=3>四=4>五=5 >六=
6 ) วาดตามที่เห็นภาพสายนํ้าตก ]
*ตูม*

เกิดเสี ยงดังออกมาจากหัวเขา ทําให้เขาเดินถอยหลังหลายก้าวและคุกเข่า


ลงจนล้มลงไปในที่สุด ในตอนนี้ผวิ ของเขานั้นซี ดขาว และดวงตาก็
แข็งถื่อ เห็นได้ชดั ว่าเขาได้รับผลกระทบอย่างมาก

เมื่อเธอเห็นเช่นนั้น เซี้ย หยู ก็ไม่ได้เห็นใจ นอกจากนั้นเธอยังโกรธเขา


อีกว่า “คุณชายหลี่ ดูเหมือนเจ้าจะดูถูกแผนที่ของอาจารย์ขา้ มากไปแล้ว”

“ไม่ ข้าไม่กล้า.” เมื่อเห็น เซี้ ย หยู โกรธ คนที่ถูกเรี ยกว่า คุณชายห


ลี่น้ นั ก็รีบพูดขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม เซี้ย หยู ไม่ได้ใส่ ใจ และพูดว่า “ เจ้าไม่ได้ตรวจสอบมัน
อย่างดี เจ้าไม่แม้แต่จะใช้อาํ นาจพลังวิญญาณ และเขียนตัวเลขไปสุ่ มๆ
เพราะเจ้าต้องการทดลองความลึกลับของมันใช่หรื อไม่!”

“อย่างไรก็ตามเห็นได้ชดั ว่าพลังวิญญาณของเจ้าอ่อนแอลงอย่าง
ถาวร ถ้าเจ้าไม่หาโอสถมาฟื้ นฟูมนั ข้าเกรงว่าอํานาจวิญญาณของเจ้าจะ
สิ้ นสุ ดแค่เท่านี้ และนี่คือค่าตอบแทนสําหรับบทเรี ยนที่เจ้ากล้าล่วงเกิน.”

“แม่นาง เซี้ ย หยู โปรดเมตตาด้วย ข้าไม่ได้ต้ งั ใจทําเช่นนี้โปรดให้


โอกาสข้าอีกครั้ง.” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น คุณชายหลี่ ก็รีบประสานมือ
คารวะคุกเข่า ขอความเห็นใจ
อย่างไรก็ตามสําหรับอัจฉริ ยะแบบเขานั้น การเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลก
วิญญาณนั้นเป็ นความภาคภูมิใจของเขา ถ้าในอนาคตเขาไม่สามารถใช้
รู ปแบบวิญญาณได้นนั่ จะส่ งผลกับเขาอย่างมาก

“นี่คือบทลงโทษของเจ้า แม้แต่อาจารย์ของข้าก็ไม่สามารถช่วยได้
เจ้าลองคิดหาทางฟื้ นฟูมนั ดูเอาเองสิ .”เซี้ย หยู พูดแล้วสะบัดมือ

“น้องชาย หลี่ ข้าไม่อยากจะตําหนิเจ้า แต่เข้านั้นได้พลาดไปแล้ว


ก่อนหน้านี้ แม่นาง เซี้ ย หยู ก็ได้แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า แผนที่น้ ีมนั
ลึกลับมาก แต่เจ้าก็ไม่เชื่อ นี่เป็ นบทลงโทษที่เจ้ากล้าดูถูกมัน”

“ถูกต้อง มันสมควรแล้ว มันจะดีที่สุดถ้าเจ้ากลับไปหาอาจารย์ของ


เจ้าและอธิบายให้เขาฟัง เขาอาจจะหาวิธีช่วยเจ้าได้ แต่ขา้ ก็ค่อนข้าง
มัน่ ใจว่าถ้าอาจารย์ของเจ้ารู ้เรื่ องเขาก็คงโกรธในความเขลาของเจ้า
เพราะในภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้นไม่มีใครกล้าดูถูกสมบัติของ ผู ้
อาวุโส เพียวเมี้ยวหรอก,” ผูช้ ายที่อยูต่ รงนั้น 2 คนพูดขึ้น

หลังจากได้ยนิ เช่นนั้น ใบหน้าของ นายหลี่ ก็ดาํ สนิทเป็ นถ่าน เขารู ้วา่


ในตอนนี้เขาได้พลาดมหันต์แล้ว และในตอนนี้โชคชะตาของเขาช่าง
เลวร้ายเหลือเกิน

“ฮี่ฮี่ ดูเหมือนว่าสมบัติของท่านอาจารย์จะลึกลับจริ งๆนะ ขอข้า


ลองหน่อยข้าอยากรู ้วา่ มันจะเป็ นยังไง.” ในตอนนั้น ชุน หวูก่ ก็ ระโดด
ไปหน้าภาพวาดและจะลงมือเขียนเลขบนภาพวาด

“ชุน หวู่ หยุดเดี๋ยวนี้.” อย่างไรก็ตามก่อนที่ ชุน หวูจ่ ะได้ลงมือ เซี้ ย


หยู ก็ดึงเธอกลับมาก่อน เธอจึงได้แต่เงียบเพราะเห็นท่าทางของศิษย์พี่
ของตน
“ทุกคน มีใครสามารถบอกได้บา้ งว่ามีน้ าํ ตกเท่าไหร่ อยูใ่ นภาพวาด
นี้” หลังจาก หยุด ชุน หวูแ่ ล้ว เซี่ ย หยูกพ็ ดู ขึ้นด้วยรอยยิม้

“นี่…” หลังจากเห็นอานุภาพของมันแล้ว ไม่มีใครกล้าที่จะ


ทดลองมัน พวกเขานั้นกลัวจะกลายเป็ นแบบ คุณชายหลี่

“คุณชาย เกา เฉียง ข้าได้ยนิ ว่าทักษะรู ปแบบวิญญาณของเจ้านั้น


โดดเด่นมาก เจ้าสามารถเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วงได้ในขณะที่
อยูใ่ นระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์ ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถไขความลึกลับ
ของภาพวาดนี้ได้” เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไร เซี้ ย หยู จึงทอดสายตา
ไปที่ชายที่มีระดับ 4 จ้าวสงคราม
เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ใบหน้าของ เกา เฉี ยงนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก
เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ แผนที่อนั นี้ช่างไม่ธรรมดาจริ งๆมันเป็ นถึง
สมบัติของท่านอาวุโสเพียวเมี้ยว โปรดยกโทษให้ขา้ ด้วยข้านั้นไม่มี
ความสามารถเพียงพอที่จะทดสอบมัน”

“อย่างไรก็ตามข้ารู ้จกั คนผูห้ นึ่ง เขาเป็ นศิษย์เอกของเจ้าวิหาร หวู่


หยา และเจ้าวิหาร หวู่ หยา นั้นเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณที่หาจับตัวได้
ยากคนหนึ่ง ข้ามัน่ ใจว่าเขาผูน้ ้ นั จะสามารถมองเห็นมันได้ถึงแก่น
แน่นอน,” เกา เฉี ยง พูด

“คนที่เจ้าพูดถึงหรื อว่าจะเป็ น จู เทียนหมิง” ตง เซวีย พูดขึ้น

“ถูกต้อง แม่นางตง เซวีย น้องชายจู นั้นมีอายุเพียง 23 ปี และ


พรสวรรค์ของเขานั้นโดดเด่นมากเขาเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง
ในขณะที่อยูใ่ นระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์ แม้ตอนนี้ขา้ จะมีพลัง
มากกว่าเขา แต่ดา้ นอํานาจวิญญาณนั้นข้าย่อมด้อยกว่าเขา”

“น้องชาย จูน้ นั ได้รับป้ายของผูอ้ าวุโสเพียวเมี้ยวมา และตอนนี้เขา


อยูใ่ นหุบเขาสายหมอก ทําไมท่านไม่ลองเชิญเขามาล่ะ บางทีเขาอาจจะ
ไขปริ ศนาของแผนที่พยากรณ์น้ ีได้กไ็ ด้นะ,” เกา เฉี ยง พูด

“พวกเราไม่เคยเห็นเขามาก่อน ดังนั้นการเชิญเขาอย่างกระทันหัน
ดูจะไม่เหมาะสม.” ตง เซวีย พูดขึ้น

“ไม่มีปัญหา ข้าและน้องชาย จู นั้นสนิทกัน ดังนั้นข้าสามารถชวน


เขามาร่ วมด้วยได้,” เกา เฉี ยง พูด
“นัน่ ช่างยอดเยีย่ มจริ งๆ.” ตง เซวีย พูดขึ้นจากนั้น เธอก็ออกไปกับ
เกา เฉียง ต่อจากนั้นไม่นาน ทั้ง 2 ก็กลับมาพร้อมกับมีคนติดตามมา
ด้วย

ท่าทางของชายคนนั้นไม่ธรรมดา พลังของเขานั้นด้อยกว่า เกา เฉี ยง อยู่


นิดหน่อยเขามีพลังอยูร่ ะดับ 3 เจ้าแห่งสงคราม แต่กไ็ ม่มีทีท่าจะด้อย
กว่า เกา เฉียงเลย ท่าทางของเขานั้นหยิง่ ผยองมาก เมื่อเขามองไปที่ชูเฟิ ง
ก็เกิดสายตาแห่งความรังเกียจขึ้น

“คุณชาย จู เจ้าเห็นอะไรหรื อ” เซี้ย หยูพดู ขึ้น ในตอนนั้นเซี้ย หยู


หวังว่า จะมีซกั คนที่สามารถพบคําตอบของแผนที่พยากรณ์น้ ีได้
“พูดตามตรง แม่นาง เซี้ ย หยู ข้านั้นได้บ่มเพาะอํานาจวิญญาณมา
ตั้งแต่เด็ก และข้าสามารถรวบรวมพลังวิญญาณไว้ที่ดวงตา และสามารถ
เห็นสิ่ งที่คนปกติไม่เห็นได้”

“นอกจากนี้ หลังจากนั้นหลายปี ข้าได้ประสบความสําเร็ จมา


เล็กน้อย สําหรับแผนที่พยากรณ์น้ ีแล้วไม่ใช่เรื่ องยากสําหรับข้า,” จู
เทียนหมิง พูดด้วยความมัน่ ใจ

“ถ้าเป็ นเช่นนั้น ก็เยีย่ มเลย ข้าขอให้ คุณชายจู แสดงให้พวกเราเห็น


ถึงรู ปแบบวิญญาณของท่านหน่อย” เซี้ย หยู พูดขึ้นด้วยรอยยิม้ ท่าท่าง
ของเธอนั้นสุ ภาพมาก

“ก็ยอ่ มได้!.” จู เทียนหมิง ยิม้ เบาๆ จากนั้นดวงตาของเขาก็เกิดรังสี


บางอย่างส่ องไปทัว่ ๆ แผนที่น้ นั สักพักดวงตาของเขาก็กลับเป็ นเช่นเดิม
ในตอนนี้เขารู ้แล้วว่าควรทําอะไรต่อ โดยไม่ตอ้ งพูดอะไร เขานั้นเคลื่อน
นิ้วของเขาไปที่แผนภาพนัน่ และเขียนเลข 6六 ลงไป.

ในตอนนั้น คนอื่นนอกเหนือจากชูเฟิ งก็เกร็ งอย่างมาก พวกเขาจ้องแผน


ที่ตาไม่กระพริ บ บรรยากาศตรงนั้นเงียบจนได้ยนิ เสี ยงใจเต้น

*ฮึ่ม* ในตอนนั้น แผนที่พยากรณ์กเ็ กิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น มันปรากฏ


นํ้าตก 6 สายขึ้นมาบนภาพจากนั้นก็มีแสงระเบิดออกมาและไหลเข้าสู่
ร่ างกายของ จู เทียนหมิง ผ่านทางนิ้วของเขา

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : เก่ง เหลือเกิน!!!

B : ทําเป็ น ใช้อาํ นาจวิญญาณรวมไว้ที่ดวงตา ถุย้ !!! เทียบ เนตรสวรรค์


ทักษะค้นหาเส้นชีพจร ไม่ได้หรอกเว้ย ดวงตาพี่เฟิ ง สามารถมองรอด
ผ่านได้แม้กระทั้ง เสื้ อผ้าผูห้ ญิง!!!

A : อยากฝึ กมั้งโว้ยยยย!!!!

B : จะเอาไว้ส่องดูผหู ้ ญิง ???

A : ป่ าว ใช้ส่องถ้วยเขย่า ไฮโล . . . .
C : มืงสองตัวนี้ เชี้ยพอๆกันเลย คนนึงบ้าผู ้ ญ คนนึงบ้า พนัน

A - B : มืงดีตายล่ะ!!! ไอ้คนบ้ากาม!!! สักวันมืงต้องโดนจับ ข้อหา


พรากผูเ้ ยาว์!!!

C:.........
บทที่ 656 - ชูเฟิ งเปิ ดปากพูด

เมื่อมันเข้าไปในร่ างของเขา ท่าทางของ จู เทียนหมิงก็เปลี่ยนแปลงอย่าง


มาก แต่มนั แต่ต่างกับคุณชายหลี่

จู เทียนหมิง นั้นมีใบหน้าที่แสดงถึงความรู ้สึกเจ็บ แต่เขาก็ยงั มีความสุ ข


ท่าทางของเขานั้นไม่ได้เห็นได้ชดั ว่าเขาไม่เป็ นไรมาก จากนั้นเขาก็พดู ว่า
“ มันช่างสุ ดยอดเสี ยจริ ง สมแล้วที่เป็ นสมบัติของผูอ้ าวุโส เพียวเมี้ยว”

*วูบ่ * หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงกับ จู เทียนหมิง แผนที่พยากรณ์ ก็


ได้กลายเป็ นกระดาษสี ขาว

เมื่อพวกเขาเห็นถึงการเปลี่ยนแปลง พวกเขาก็รู้วา่ จูเทียนหมิงนั้น ได้รับ


ผลประโยชน์เข้าไปเต็มๆ

“คุณชาย จู เจ้าทําสําเร็ จสิ นะ มันรู ้สึกยังไงบ้างล่ะ” เซี่ ย หยู ถาม


ขึ้น.

“ข้ารู ้สึกดีมาก อํานาจวิญญาณของข้านั้นแข็งแกร่ งขึ้น อย่างไรก็


ตามพลังของมันนั้นแข็งแกร่ งเกินไป แค่คนเดียวรับมันไปครั้งเดียวก็เกิน
พอแล้ว ข้าเกรงว่าถ้ารับมันไปอีกครั้งจะได้ผลที่ตรงข้าม.”

“คุณชาย จู คําพูดของเจ้านั้นถูกต้อง อาจารย์ของข้าบอกไว้วา่ พลัง


ที่ได้รับจากมันจะรับได้แค่คนละครั้งเท่านั้น นัน่ คือข้อจํากัดของทุกคน”

“คุณชาย จู สามารถมองเห็นถึงเบื้องหลังของมันได้ เจ้าน่าจะทํามัน


สําเร็ จในครั้งอื่นๆ เจ้าจะช่วยพวกเราให้ได้รับผลของมันได้หรื อไม่”
เซี้ย หยู พูดขึ้นพร้อมรอยยิม้

“ถ้าแม่นางเซี้ย พูดเช่นนั้น แน่นอนข้าคงไม่ปฏิเสธ.” จู เทียนหมิง


ตอบกลับโดยไม่ลงั เล
“ต้องขออภัยที่สร้างความลําบากให้เจ้า.” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น เซี้ย หยู
ก็ยมิ้ กว้าง เธอรี บไปหาแผนที่พยากรณ์อนั อื่น ละนัน่ ก็แสดงให้เห็นถึง
ภาพวาดที่มีอาวุธเต็มไปหมด และเกิดคําถามขึ้นเหมือนก่อนหน้านี้วา่
“มีขวานกี่อนั ”.

*ฮึ่ม* จู เทียนหมิง ยิงแสงออกจากสายตาหลังจาก ตรวจสอบมันเสร็ จก็


พูดว่า “ แม่นางเซี้ย มีขวานเพียง 1 เท่านั้น.”

“น้องชาย หวูฉ่ ิง เจ้าก็เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณอย่างนั้นหรื อ”


หลังจากได้ยนิ คําตอบ เซี้ย หยู ก็ไม่ได้ไปรี บใส่ ขอ้ มูล แต่มองไปที่ชูเฟิ ง

“ผูอ้ าวุโส เซี้ ย หยู ข้าเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณเช่นกัน ” ชูเฟิ ง


ตอบด้วยรอยยิม้
“เยีย่ มเลย ตั้งแต่ คุณชาย จูน้ นั ได้มาช่วยพวกเรา ข้าคิดว่าวันนี้ทุกๆ
คนควรจะมีส่วนร่ วมรับผลจากมัน”

“น้องชาย หวูฉ่ ิง ในที่นี่ เจ้าอ่อนแอที่สุด ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็ นคน


แรก,” เซี้ ย หยู พูดขึ้นด้วยรอยยิม้

ในตอนนั้น ชูเฟิ งนั้นได้แต่แอบด่าอยูใ่ นใจ

เขารู ้วา่ เซี้ ย หยูไม่ได้เป็ นคนที่มีจิตใจงดงามและให้โอกาสเขา เธอแค่ไม่


เชื่อคําในความสามารถของจู เทียนหมิง และ เป็ นเช่นเดียวกับ คุณชาย
หลี่ จึงให้ชูเฟิ งเป็ นคนทดสอบ
“ศิษย์พี่ เซี้ย หยู ข้าคิดว่าไม่ถูกต้อง น้องชายหวูฉ่ ิ ง นั้นมีระดับ
อ่อนแอที่สุด เขานั้นไม่ควรทําเป็ นคนแรกจากที่ขา้ เห็นควรเป็ นคุณชาย
เกา เฉียง.” แต่ในตอนนั้น เสี ยง ชุน หวูก่ ด็ งั ขึ้น เธอนั้นฉลาดมาก เธอ
มองออกว่า เซี้ ย หยูกาํ ลังใช้ชูเฟิ งไปเป็ นหนูทดลอง และคําพูดของเธอ
นั้นช่วยชูเฟิ งให้ออกจากสถานการณ์ที่น่าลําบากได้

“นี่…” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ท่าทางของเกา เฉี ยงก็เปลี่ยนอย่างมาก

“พีช่ าย เกา ไปเลย ท่านไม่เชื่อความสามารถของข้าอย่างนั้นหรื อ”


จู เทียนหมิง พูดขึ้น
“นี่ ... ตกลง ถ้าเป็ นเช่นนั้น ข้า เกาเฉี ยงจะเป็ นคนลงมือเอง “ เมื่อ
พูดจบ เกาเฉียงก็กา้ วไปเขียน เลข 1 บนแผนที่พยากรณ์

หลังจากเขียนเสร็ จแสงก็พงุ่ สู่ ตวั ของเขาเช่นเดียวกับจูเทียนหมิง ใบหน้า


ที่เต็มด้วยความกังวลก่อนหน้านี้หายไป และแทนที่ดว้ ยใบหน้าที่เต็มไป
ด้วยสุ ข

“สุ ดยอด มันช่างสุ ดยอดจริ งๆ แผนที่พยากรณ์นี่ เป็ นวัตถุศกํ ดิ์


สิ ทธิ์แน่นอน”

“แม่นาง เซี้ ย หยู แม่นาง ชุน หวู แม่นาง ตง เซวีย แม่นาง ฉิ ว ชือ
น้องชาย จู ขอขอบคุณจริ งๆ.” เกาเฉี ยงพูดขึ้น
“คุณชายจู ดูเหมือนว่าพลังของเจ้านั้นโดดเด่นจริ งๆ พวกเราพี่นอ้ ง
ขอยอมรับด้วยใจจริ ง” เซี้ย หยูพดู ขึ้น หลังจากนั้นเธอก็พาทั้งหมดไปยัง
แผนที่พยากรณ์อนั ต่อไป

อย่างไรก็ตาม เซี่ย หยูน้ นั ไม่ได้เชื่อในความสามารถของ จู เทียนหมิง


ทั้งหมด แต่เมื่อเห็นว่ามันสําเร็ จถึง สองคราเธอจึงเริ่ มเชื่อบ้างแล้ว ว่า
หากทําตามคําแนะนําของ จู เทียนหมิง เขาก็จะได้รับอํานาจวิญญาณจาก
แผนที่พิศวง

แต่ในตอนนั้น ชูเฟิ งที่อยูข่ า้ งหลังตลอดเวลาและไม่ใครสนใจเขาเลย ใน


ตอนนั้นเขากําลังใช้เนตรสวรรค์ตรวจสอบ แผนที่พยากรณ์พร้อมกับ
ตรวจสอบ จู เทียนหมิงด้วย

และเขาก็พบว่า รู ปแบบวิญญาณที่จูเทียนหมิงเรี ยกว่า รู ปแบบวิญญาณ์ที่


พิเศษนั้นแม้วา่ มันจะเป็ นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แต่มนั ก็ใช้พลังอย่าง
มาก

นอกจากนี้ ภาพที่แสดงบนแผนที่พยากรณ์น้ นั ยากขึ้นเรื่ อยๆ และ


ในตอนนี้ พลังของ จู เทียนหมิงก็เริ่ มน้อยลง อย่างไรก็ตามเพื่อรักษา
หน้าของเขา เขาจึงไม่พดู อะไร และอ่านภาพวาดนั้นต่อไป

หลังจากเห็นความสําเร็ จแล้ว จึงไม่มีใครสงสัยในตัวของ จู เทียนหมิง


แต่ในตอนสุ ด ฉิว จือ ที่ถูกขนานนามว่าเป็ น 1 ในสาวงาม ของภูมิภาค
ทะเลตะวันออกก็ไปยืนอยูห่ น้ารู ป และ นัน่ แสดงให้เห็นท่าทางที่งดงาม
ดัง่ เทพธิดา

อย่างไรก็ตามเมื่อเธอจะใช้มือของเธอในการเขียนคําตอบตอบที่ จู
เทียนหมิง บอกมา ชูเฟิ งก็พดู ขึ้นมาทันที “ ช้าก่อน! "

*วูบ* เสี ยงตะโกนนั้น สร้างความตกใจให้กบั ทุกคนมาก ทุกคนต่าง


ทอดสายตาไปที่ชูเฟิ ง

“หวู่ ฉิง เจ้าทําอะไรของเจ้า” เซี่ ย หยู ถามขึ้นด้วยความไม่พอใจ


“ศิษย์พี่ เซี้ย หยู ศิษย์พี่ ฉิ ว จือ ที่คุณชายจูบอกมานัน่ ผิด คําตอบนั้น
ไม่ใช่ 4 แต่เป็ น 5 ถ้าท่านเขียนเลข 4 ลงไปย่อมได้รับผลจากมันอย่าง
แน่นอน,” ชูเฟิ ง พูดอย่างใจเย็น

“ไร้สาระ เจ้ามีความสามารถพอที่จะบอกว่าคําตอบของข้าผิด
อย่างนั้นหรื อ” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น จู เทียนหมิง ก็โกรธ

“น้องชายคนนี้ ชื่อ หวู่ ฉิ งใช่หรื อไม่ ข้าไม่วา่ เจ้าหรอกนะ ถ้าเจ้า


จะทําตัวเป็ นวีรบุรุษปกป้องสาวงามแต่ควรจะเลือกวิธีที่ดีกว่านี้ ถ้าเจ้าทํา
เช่นนี้มนั ไม่เพียงเป็ นการช่วย แต่เป็ นการทําอันตรายต่อนางอีกด้วย.”

“ถูกต้อง แม้เจ้าจะมีผยู ้ งิ่ ใหญ่อยูเ่ บื้องหลัง ก็ไม่ควรทําเช่นนี้ ถ้าแม่


นาง ฉิว ชือ ทําตามที่เจ้าแล้วเขียนลงไป และได้ผลกระทบกลับมา เจ้าจะ
สามารถรับผลที่เกิดขึ้นได้หรื อไม่” ในตอนนั้น เกา เซี ยน ก็พดู ขึ้นมา
“ศิษย์นอ้ ง หวู่ ฉิง เจ้าจะเป็ นคนที่ ผูอ้ าวุโส ฉิ วชุ่ยพามา ข้าก็ไม่
สงสัยในความสามารถของเจ้าหรอกนะ แต่รูปแบบวิญญาณของ คุณชาย
จู นั้นแข็งแกร่ งมาก พวกเราต่างยืนยันกันมาแล้ว”

“ดังนั้น เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าฉลาด หรื อไม่กอ็ ย่างโทษข้าถ้าข้าลงมือกับ


เจ้า,” เซี่ย หยู พูดขึ้นอย่างเย็นชา

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : เค้าอุส่าหวังดี กับได้รับการตอบแทนเช่นนี้ ปล่อยๆให้แม่ง ตายๆ
ไปเลย ว่าแต่ตอนที่แล้วพี่เฟิ งแม่งหายไปเลย มาตอนนี้ พูดคําเดียวว่า 'ช้า
ก่อน'

B : ถูกต้อง อุส่าเงียบตั้งนาน พอพูดเตือนด้วยความหวังดี กับมีท่าทาง


แบบนี้ พวกเห็นแก่ตวั อย่าไปสนใจมันเลย!!! แล้วคนที่เงียบๆนิ่งๆ เมื่อ
ถึงเวลาระเบิดลงมันน่ากลัวนะ!

A : งั้นรี บตามไปดู ชะตากรรมของพวกหมาหน้าโง่กนั เถอะ!!!

B : เอ่อ. . . . . . . . .ตอนที่เหลือจะตามมาช่วงเยนๆอ่ะ!!!

A : งั้น ตามด่วนเลย!!!
B : ลาบแซบ!!!

C : เอ้ยย ระหว่างรอ จะบอกไรดีๆให้ฟัง รู ้ป่ะ เสี่ ยวยู่ ที่จริ งเป็ นใคร


แล้วที่บอกว่า แม่ชูเฟิ งเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อที่สุดยอด ลองคิดดู รู ปแบบลวงตาที่
เสี่ ยวยู่ ใช้ร้ายกาจแค่ไหน ไม่ได้สปอยนะ!!! ให้คิดเอา . . . .

A- B : สารเลว!!! ไม่รู้จะหาคําไหนมาด่ามืงดี
บทที่ 657 – ข้าเชื่อในตัวเขา

“โฮะ !!” อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ไม่รู้สึกโกรธต่อคํากล่าวของคนอื่น


แต่อย่างใด เขาหัวเราะและกล่าวออกมาว่า “ข้าได้บอกในสิ่ งที่ขา้ สมควร
จะบอกไปแล้ว ส่ วนท่านจะเชื่อหรื อไม่ ก็ข้ ึนอยูก่ บั ท่าน !!”
“ยังไงก็ตาม ผูอ้ าวุโส ฉิว ซื อ ข้าแนะนําว่าให้ท่านคิดให้รอบคอบ
หากท่านสู ญเสี ยอํานาจพลังวิญญาณไป นั้นย่อมเป็ นความอับอายของ
ท่าน !!”

“ไม่ตอ้ งห่วงศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง ข้าเชื่อว่าท่าน จู จะไม่ผดิ พลาด !!”


อย่างไรก็ตาม ฉิว ซือ ไม่ได้เชื่อตามคําแนะนําของ ชูเฟิ ง แม้วา่ ใบหน้า
ของนางจะปรากฏรอยยิม้ บางๆ แต่ในใจของนางก็เริ่ มตระหนักตามคํา
กล่าวเตือนของ ชูเฟิ ง

นางใช้ฝ่ามือวาดเลขสี่ ลงบนแผนภาพอย่างระมัดระวัง

***** ซู่ววววววว *****


แต่ทนั ใดนั้น ในขณะที่นางวาดเสร็ จ ประกายแสงก็พงุ่ เข้าใส่
นิ้วนางรวดเร็ วราวกับสายฟ้า เสี ยงระเบิดดังขึ้นในหัวของนาง พลัน
ใบหน้าที่งดงามของนางก็เปลี่ยนเป็ นสี ขาวซี ด

“ทําไมถึงเป็ นเช่นนี้ !?” เมื่อเห็นเช่นนั้น จู เทียนหมิง , เกา เฉี ยง


และคนอื่นๆ ต่างตกตะลึงอย่างมาก พวกเขาต่างไม่คาดคิดว่า จู เทียนห
มิง จะผิดพลาด

“ฉิว ซือ เจ้าเป็ นอะไรไป !!”

“ฉิว ซือ เกิดอะไรขึ้น !!”


“ศิษย์พี่ท่านบาดเจ็บรึ ไม่ !!”

ในเวลานั้น เซี๊ยะ หยู , ตง เซวีย และ ชุน หวู่ ก็เข้าไปที่ดา้ นหน้า


ของนางพร้อมกับกล่าวถามออกมาด้วยความกังวล

“ศิษย์พี่ เซี๊ยะ หยู อํานาจพลังวิญญาณของศิษย์พี่กาํ ลังอ่อนแอลง


!!” ในขณะนั้น ผิวหนังของ ฉิ ว ซื อ ก็เริ่ มเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าเกลียด
สําหรับอัจฉริ ยะเช่นนางนั้น อํานาจพลังวิญญาณของนางเป็ นสิ่ งที่ไม่เคย
ได้รับผลกระทบจากใดๆ ทั้งสิ้ น

“จู เทียนหมิง เจ้าทําอะไร!! เจ้าจงใจทําร้ายนางเช่นนั้นรึ !!” ใน


เวลานั้น ตง เซวีย รู ้สึกโกรธอย่างมาก นางชี้ไปที่ จู เทียนหมิง พร้อมกับ
ด่าทอออกมาอย่างรุ นแรง
“ขะ…ขะ…ข้า….”

ในเวลานั้น จู เทียนหมิง ไม่คิดว่าเขาจะผิดพลาด และไม่คิดว่า


ผลกระทบจะทําให้อาํ นาจพลังวิญญาณของ ฉิ ว ซื อ ได้รับความเสี ยหาย
เช่นนี้ แม้วา่ นายหญิง เพียวเมี้ยว จะไม่ตาํ หนิ และปล่อยเขาไปนั้น แต่
หากว่าข่าวนี้แพร่ กระจายออกไป มีแต่พระเจ้าเท่านั้น ที่จะรู ้วา่ เหล่าผูค้ น
ที่ชื่นชมในตัวของ ฉิว ซือ จะจัดการเขาอย่างไร

“ฉิว ซือ เจ้าไม่ตอ้ งกังวลไป ท่านประมุขได้เคยบอกไว้วา่ อํานาจ


พลังจากภาพวาดเหล่านี้สามารถลบล้างกันได้ หากได้รับผลข้างเคียงจาก
มัน ก็สามารถใช้พวกมันในการแก้คืนสถานการณ์ได้ !!”
“นอกจากนี้ หุบเขาสายหมอกยังมีส่ิ งที่ทรงพลังอีกมาก หาก
ภาพวาดเหล่านี้ไม่สามารถช่วยเจ้าได้ ท่านประมุขยังมีของวิเศษอีก
มากมายที่สามารถช่วยเหลือเจ้าได้ !!” เซี๊ ยะ หยู กล่าว

“ศิษย์พี่ สิ่ งที่ท่านกล่าวจริ งหรื อ !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ใบหน้าของ


ฉิว ซือ ก็เต็มไปด้วยความหวังอย่างมาก

“แน่นอน มันย่อมเป็ นความจริ ง ข้าจะหลอกเจ้าเพื่ออะไร !!” แม้วา่


เซี๊ยะ หยู จะไม่ไว้ใจคนนอก แต่เพื่อการรักษา ฉิ ว ซื อ นั้น นางก็ไม่มี
ทางเลือก

“จู เทียนหมิง เจ้ามัวดูอะไรอยู่ ทําไมเจ้าไม่มองดูมนั ใหม่ !!” ตง เซ


วีย ตะโกนขึ้น และชี้ไปที่ จู เทียนหมิง อีกครั้ง
“แม่นาง ดง เซว่ ไม่ตอ้ งกังวล ข้าจะดูมนั ใหม่อย่างละเอียด !!”
ในขณะนั้น ใบหน้าของ จู เทียนหมิง ชุ่มไปด้วยเหงื่อแห่งความ
หวาดกลัว เขาไม่รอช้า หลังจากที่เช็ดเหงื่อบนใบหน้าแล้วนั้น เขารี บจ้อง
มองไปยังภาพวาดอีกครั้ง

ในเวลานั้น จู เทียนหมิง ไม่กล้าประมาทแม้แต่นอ้ ย เขาจ้องมองมัน


อย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม แต่ยง่ิ เขามองมันมากเท่าไหร่ เหงื่อบน
ใบหน้าของเขายิง่ มากเท่านั้น ร่ างกายของเขาเริ่ มจะสัน่ สะท้าน

“เจ้าดูอยูน่ านแล้ว ได้คาํ ตอบที่แน่นอนรึ ยงั !!” ตง เซวีย ตะโกน


ขึ้นมาอีกครั้ง
“ดะ…ดะ…ได้ !!” ด้วยความหวาดกลัว จู เทียนหมิง รี บพยัก
หน้ารับอย่างรวดเร็ ว

“มันคืออะไร !!” ดง เซว่ ตะคอกใส่

แต่ใบหน้าของ จู เทียนหมิง ก็เต็มไปด้วยความกังวล แววตาของเขา


ลอกแล่ก ร่ างกายสัน่ สะท้าน ก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาด้วยเสี ยงที่สน่ั
เครื อว่า “สะ…สะ…สี่ !!”

“เจ้าคิดว่าข้าโง่เช่นนั้นรึ !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ตง เซวีย โกรธอย่าง


มาก นางระเบิดออร่ าพลังสี ฟ้าออกมาอย่างรุ นแรง ทัว่ ทั้งพระราชวังถูก
ปกคลุมไปด้วยนํ้าแข็ง พลังของนางมากกว่าพลังของ จู เทียนหมิง อย่าง
ชัดเจน
“แม่นาง ตง เซวีย ท่านโปรดระงับความโกรธของท่านก่อน !!” ใน
เวลานั้น เกา เฉียง ก็พงุ่ ตัวออกไป พร้อมทั้งปลดปล่อยพลังระดับสี่ ขั้น
จ้าวสงครามออกมา เพื่อป้องกันพลัง ตง เซวีย และกล่าวถาม จู เทียนห
มิง ด้วยความจริ งจังว่า “น้อง จู เจ้าคงไม่เล่นตลกอะไรอีกนะ กล่าวความ
จริ งมา !!”

“พี่ เกา รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณของข้าเป็ นรู ปแบบพิเศษ ข้าได้


ใช้มนั ดูอย่างละเอียด และคําตอบของมันก็เป็ น สี่ ข้าไม่คิดว่ารู ปแบบ
อํานาจพลังวิญญาณของข้าจะผิดพลาด อาจมีบางอย่างที่ผดิ พลาด
เกี่ยวกับภาพวาดนี้กเ็ ป็ นได้ !!” จู เทียนหมิง กล่าวพลางสัน่ สะท้านด้วย
ความหวาดกลัว

“หุบปาก !! ไม่เพียงแต่เจ้าทําร้ายศิษย์พี่ของข้า เจ้ายังกล่าวหา


สมบัติของท่านอาจารย์ขา้ อีก เจ้าไม่สมควรมีชีวติ ต่อไป !!” ในทันทีน้ นั
แววตาของ ดง เซว่ ก็ลุกโชนด้วยความกราดเกรี้ ยว ความเรี ยบร้อย
อ่อนหวานของนางในก่อนหน้านี้ได้หายไป เหลือไว้เพียงความป่ าเถื่อน
เท่านั้น

ในเวลานั้น ชุน หวู่ ก็กล่าวถาม ชูเฟิ ง ว่า “ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง เจ้ามี


คําตอบอื่นใช่หรื อไม่ !!”

ในตอนนั้น ชูเฟิ ง กําลังเฝ้าดูสถานการณ์อย่างสงบ พร้อมกับรอยยิม้


บางๆ บนใบหน้าของเขา ในตอนแรกนั้น เขาไม่คิดที่จะยืน่ มือเข้า
ช่วยเหลือแต่อย่างใด แต่เมื่อ ชุน หวู่ กล่าวถามออกมานั้น เขาก็กล่าว
ตอบด้วยรอยยิม้ ว่า “ศิษย์พี่ ชุน หวู่ คําตอบของมันคือ ห้า !!”

“ข้าจะลองดู !!” เมื่อได้ยนิ คําตอบนั้น ชุน หวู่ ก็กา้ วตรงไปที่


ภาพวาด และยกฝ่ ามือของนางขึ้น เตรี ยมที่เขียนคําตอบลงไป

“น้องหวู่ เจ้าบ้าไปแล้วรึ !! เจ้าเชื่อในคําพูดของเขารึ !!” เมื่อเห็น


เช่นนั้น ตง เซวีย จึงรี บเข้าไปห้ามนางทันที เพราะในตอนนี้ แม้แต่ จู
เทียนหมิง ยังไม่สามารถให้คาํ ตอบที่ถูกต้องออกมาได้ ดังนั้น นางจึงไม่
เชื่อคํากล่าวของ ชูเฟิ ง แม้แต่นอ้ ย

“ใช่ !! แม่นาง ชุน หวู ท่านควรคิดให้รอบคอบมากกว่านี้ !!” ใน


เวลาด เดียวกันนั้น เกา เฉียง และคนอื่นๆ ก็กล่าวออกมาพร้อมกัน เมื่อ
พวกเขาเห็นว่า ชุน หวู่ กําลังจะทําลายอนาคตของตัวเองเช่นนี้

“ข้าเชื่อในตัวเขา !!” ชุน หวู่ กล่าวออกมาด้วยรอยยิม้ นางไม่ใส่ ใจ


ต่อคําเตือนของ ตง เซวีย และคนอื่นๆ แม้แต่นอ้ ย นางวาดฝ่ ามือเป็ นเลข
ห้า ลงไปอย่างรวดเร็ ว
ในขณะนั้น ทุกคนแทบจะหยุดหายใจ เพราะพวกเขาเกรงว่า ชุน
หวู่ จะได้รับผลตรงกันข้าม แม้แต่ ตง เซวีย ก็ผละออกมาจากตัวของนาง
และถอยออกมาหลายก้าว เพราะเกรงว่าตัวของนางเองจะได้รับ
ผลกระทบ

***** พรึ่ บ *****

“อืมมมม….” ในเวลานั้น ประกายแสงจากภาพวาดก็ไหลเข้าสู่


ร่ างกายของ ชุน หวู่ และทําให้ร่างกายของนางเปล่งแสงออกมาบางๆ

“สวรรค์ !! เป็ นไปได้ยงั ไง !?” เมื่อเห็นเช่นนั้น ทุกคนต่างตก


ตะลึงอย่างมาก ผลของมันแตกต่างจากของ ฉิ ว ซื อ อย่างมาก พวกเขาไม่
คิดเลยว่า คําตอบของ ชูเฟิ ง ที่มีพลังวิญญาณเพียงระดับหนึ่ง ขั้นจ้าว
สงครามจะถูกต้อง

“เป็ นไปไม่ได้ !! เป็ นไปไม่ได้ !! ข้ามองอย่างละเอียดแล้ว !!


คําตอบของมันคือ สี่ อย่างแน่นอน !!” ในเวลานั้น ใบหน้าของ จู
เทียนหมิง เต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างมาก เขาไม่สามารถยอมรับกับ
สิ่ งที่เกิดขึ้นได้แม้แต่นอ้ ย

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////
B : เอ้ยยย หวยออกพรุ่ งนี้ ฉลากกินแบ่ง ยังไม่ได้ซ้ือสักใบเลย!!! สาธุ
รางวัลที่ 1 รางวัลแจกพ๊อต!!!
C : ยังไม่ทนั ไปซื้ อเลย แม่งขอรางวัลที่ 1 ซะและ!!!

A : พอพูดถึงตัวเลขพวกมืงก็เอากันใหญ่เลยนะ!!!

C : ผีพนัน แบบคุนมืง อย่าบอกว่าไม่ซ้ือ

A : ไม่!!! ฉลากกินแบ่งกุไม่ซ้ื อ กุซ้ือใต้ดิน!!! 999 ร้อยxร้อย

C : เลขตอง ซื้ อร้อยxร้อย?! มืงจะสลับตัวเลขทําขี้เกลือไร ?


บทที่ 658 – ความกล้าหาญของ ชูเฟิ ง

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้ายอดเยีย่ มจริ งๆ !!” ชุน หวู กระโดดด้วย


ความสุ ขอย่างมาก ในขณะที่กระโปรงของนางกําลังพริ้ วไหว นางก็ได้
เข้ามาในอ้อมกอดของ ชูเฟิ ง ภายใต้สายตาของคนรอบข้างนั้น นางได้
หอมแก้มของ ชูเฟิ ง ไปหนึ่งฟอด

จากความตื่นเต้นของนางนั้น ชูเฟิ ง สามารถบอกได้วา่ ชุน หวู่


ไม่ได้เชื่อเขาตั้งแต่แรก และเมื่อนางทําสําเร็ จ จึงทําให้นางรู ้สึกตื่นเต้น
อย่างมาก

แม้รู้วา่ ชุน หวู่ จะไม่ได้เชื่อใจเข้าแต่แรกนั้น แต่เมื่อริ มฝี ปากสี ชมพู


ระเรื่ อของนางสัมผัสกับแก้มของเขา ทําให้ ชูเฟิ ง ยกโทษให้กบั นางอย่าง
หมดสิ้ น

“ศิษย์พี่ ฉิว ซือ มานี่เร็ ว ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง สามารถไขคําตอบของ


ภาพวาดเหล่านี้ได้ เขาน่าจะช่วยฟื้ นฟูอาํ นาจพลังวิญญาณของท่านได้
เช่นกัน !!” หลังจากจูบไปที่แก้มของ ชูเฟิ ง แล้วนั้น ภายใต้สายตาที่ตก
ตะลึงของทุกคน ชุน หวู่ ได้ประคอง ฉิ ว ซื อ ขึ้นและก้าวไปยังด้านหน้า
ของภาพวาด

แม้แต่ เซี๊ยะ หยู ก็รู้สึกตื่นเต้นไปกับพลังของ ชุน หวู่ ที่ได้รับมา


จากภาพวาดนั้นเช่นกัน

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง รบกวนเจ้าแล้ว !!” ชุน หวู่ กล่าวพลางยิม้ หวาน


หลังจากที่นางทําสําเร็ จนั้น นางก็ไม่มีความกังขาในตัวของ ชูเฟิ ง แม้แต่
น้อย

ชูเฟิ ง นั้น ไม่ได้ปฏิเสธ ชุน หวู่ แต่อย่างใด เขาใช้พลังของเนตร


สวรรค์มองไปอย่างรวดเร็ ว โดยไม่ได้บอกให้คนอื่นๆ ได้รู้ แต่แววตา
ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

นอกจากนี้ เนตรสวรรค์ของ ชูเฟิ ง ยังแตกต่างจาก รู ปแบบอํานาจ


พลังวิญญาณของ จู เทียนหมิง อย่างมาก รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณนั้น
จะส่ งประกายแสงจากดวงตามองไปยังภาพวาด ซึ่ งมันเป็ นทักษะที่ไม่
ธรรมดาอย่างมาก
แต่ ชูเฟิ ง นั้น เพียงแค่หนั ไปมองที่ภาพวาดเพียงผ่านๆเหมือนกรอก
สายตาไปมา หากมองผิวเผินนั้น ทุกคนจะไม่พบความพิเศษอะไรจาก
เขา และด้วยพลังของ ชูเฟิ ง นั้นอ่อนแออยูม่ าก จึงกล่าวได้วา่ เขาแทบจะ
ไร้ประโยชน์

แต่สาํ หรับ ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณอย่าง ชุน หวู่ และคนอื่นๆ นั้น


พวกเขาสามารถบอกได้วา่ แววตาของ ชูเฟิ ง นั้นพิเศษอย่างมาก แต่พวก
เขาก็ไม่สามารถระบุได้วา่ มันคืออะไร ราวกับว่ามันเป็ นการเปลี่ยน
แก้วตาใหม่

“สาม !!” ชูเฟิ ง เพียงกวาดตามองไปที่ภาพวาดด้วยพลังของเนตร


สวรรค์ และกล่าวออกมา
“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้ามัน่ ใจไหม !!” ชุน หวู่ กล่าวถาม

“ข้ามัน่ ใจ !!” ชูเฟิ ง กล่าวตอบอย่างมัน่ คง

อย่างไรก็ตาม ฉิว ซือ และคนอื่นๆ ต่างยังไม่เชื่อในคําตอบของ ชู


เฟิ ง พวกเขาต่างขมวดคิ้วแน่น และ ฉิ ว ซื อ เองก็ไม่กล้าที่จะวาดคําตอบ
ใดๆ ลงไปในภาพวาดนั้น เพราะนางหวาดกลัวต่ออันตรายถึงชีวติ ที่จะ
เกิดขึ้นอีก

***** พรึ่ บ *****


ในเวลานั้น จู เทียนหมิง ใช้รูปแบบอํานาจพลังวิญญาณของเขาจ้อง
มองไปยังภาพวาดอย่างละเอียด ก่อนจะกล่าวกับ ฉิ ว ซื อ ว่า “แม่นาง ฉิ ว
ซือ อย่าเชื่อเขา คําตอบคือ สอง ไม่ใช่ สาม !!”

“หุบปาก !!” เซี๊ยะ หยู ที่นิ่งเงียบอยูน่ านก็ตะโกนขึ้น แบะกล่าวกับ


ฉิว ซือ ว่า “ศิษย์นอ้ ง ถึงอย่างไรท่านอาจารย์กส็ ามารถรักษาเจ้าได้ ไม่มี
ความจําเป็ นใดๆ ที่เจ้าจะต้องมาเสี่ ยง กลับไปพบท่านอาจารย์จะดีกว่า
!!”

หลังจากได้ยนิ คํากล่าวของ เซี๊ ยะ หยู นั้น ฉิ ว ซื อ ก็เกิดความลังเล


ขึ้น เพราะนางต้องการจะรักษาอํานาจพลังวิญญาณของนางด้วยพลังของ
ภาพวาด หลังจากที่ทาํ ผิดพลาดในครั้งแรกนั้น นางจึงไม่อยากพลาด
โอกาสในครั้งที่สองไป
แต่ถึงอย่างไร นางก็ยงั คงไม่ไว้ใจ ชูเฟิ ง จึงทําให้ภายในหัวใจของ
นางรู ้สึกสับสนอย่างมาก

“มันไม่สาํ คัญว่าท่านจะเชื่อข้าหรื อไม่ ถึงอย่างไร ชีวติ และความ


ตายของท่านก็ไม่เกี่ยวข้องกับข้า ที่ขา้ ทําไปก็เพื่อประโยชน์ของแม่นาง
ชุน หวู่ เท่านั้น !!”

“ดังนั้น จงเปิ ดตาของพวกท่าน และดูซะว่าคําตอบของข้านั้น


ถูกต้องหรื อไม่ !!”

ในเวลานั้น ชูเฟิ ง ก็เดินมาที่ดา้ นหน้าของภาพวาด ตรงหน้าของ ฉิว


ซือ ด้วยรอยยิม้ บางๆ พร้อมทั้งวาดฝ่ ามือเป็ นเลข สาม ลงไปบนภาพวาด
***** พรึ่ บ *****

ประกายแสงจากภาพวาดไหลเข้าสู่ ร่างกายของ ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว


พลันร่ างกายของเขาก็เปล่งแสงออกมาจางๆ

“จริ งรึ เนี่ย !!” เมื่อเห็นเช่นนั้น พวกเขาทุกคนต่างตกตะลึงอย่าง


มาก เพราะพวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า ชูเฟิ ง จะสามารถไขปริ ศนาของ
ภาพวาดของได้ถึงสองครั้งติด ซึ่ งตรงกันข้ามกับ จู เทียนหมิง

“ฮ่าๆ ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้านี่ช่างยอดเยีย่ มยิง่ นัก !!” ในขณะนั้น ชุน


หวู่ ก็กระโดดไปรอบ ชูเฟิ ง ด้วยความตื่นเต้น
“ศิษย์พี่ ฉิว ซือ การรักษาอํานาจพลังวิญญาณเป็ นเรื่ องเล็ก ข้าเชื่อ
ว่าของวิเศษสามารถรักษาท่านได้ แต่นน่ั ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่ง หรื อ
สองวัน !!”

“แต่ในตอนนี้ ท่านมีโอกาสที่ดีกว่า ไม่เพียงแต่มนั จะรักษาอํานาจ


พลังวิญญาณของท่านได้เท่านั้น มันยังสามารถเพิ่มพลังได้อีก แต่ท่านได้
ปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดลอยไป และทําให้ท่านพลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้
ท่านคิดว่ามันเป็ นการกระทําที่ชาญฉลาดหรื อไม่ !!” ชูเฟิ ง กล่าวพลาง
ยิม้ บางๆ

“เจ้าก็พดู ง่ายเกินไป ถึงแม้วา่ เจ้าจะทําสําเร็ จได้ถึงสองครั้ง แต่เจ้า


กล้ารับประกันในครั้งที่สาม หรื อสี่ หรื อไม่ !!”
“เจ้ากล้ารับประกันหรื อไม่ ว่าเจ้าจะไม่ทาํ พลาดเช่นเดียวกับ จู
เทียนหมิง และจะไม่ทาํ ให้ศิษย์นอ้ ง ฉิ ว ซื อ ของข้าต้องสู ญเสี ยอํานาจ
พลังวิญญาณ ถ้าเป็ นเช่นนั้นเจ้าจะรับผิดชอบไหวรึ !!” ตง เซว่ กล่าว
ถามอย่างรุ นแรง

“หากข้าทําพลาด ข้าจะตัดหัวของข้า เพื่อรับโทษ !!” ชูเฟิ ง กล่าว


พลางยิม้ บางๆ แต่หวั ใจของทุกคนต่างสัน่ ไหวด้วยความตกตะลึง

ยอมสละชีวติ ของตนเองเพื่อรับผิดชอบในการกระทําเช่นนี้
หมายความว่าบุคคลเช่นนี้ยอ่ มมีความมัน่ ใจในตนเองสู ง หรื ออาจจะ
กล่าวได้วา่ เขาเป็ นเพียงคนบ้าเท่านั้น แต่อย่างน้อย ชูเฟิ ง ก็มีความกล้า
หาญที่หาได้ยากอย่างมาก
“ศิษย์นอ้ ง ชุน หวู่ ดูเหมือนว่าเจ้าจะตาถึงไม่เบา !!” ฉิ ว ซื อ กล่าว
ชื่นชม ชุน หวู่ พลางยิม้ บางๆ ก่อนจะกล่าวกับ ชูเฟิ ง ด้วยนํ้าเสี ยงที่นอบ
น้อมว่า “ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง ในก่อนหน้านี้ หากข้าทําให้เจ้าต้องขุ่นเคือง ข้า
ต้องขออภัยเจ้าด้วย และข้าก็หวังว่าศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง จะยกโทษให้แก่ขา้
!!”

ทัศนคติของ ฉิว ซือ ที่มีต่อ ชูเฟิ ง เปลี่ยนไปอย่างสิ้ นเชิง ไม่เพียงแต่


เขาจะสามารถไขปริ ศนาของภาพวาดได้ถึงสองครั้ง แต่เขายังมีความกล้า
หาญ และความมัน่ ใจอย่างมาก

บุคคลที่มีความกล้าหาญเช่น ชูเฟิ ง นั้น แม้วา่ การบ่มเพาะพลังของ


เขาจะอ่อนแอในตอนนี้ แต่ในอนาคต เขาย่อมเป็ นบุคคลที่โดดเด่นอย่าง
แน่นอน เพราะเขามีบางอย่างที่ผชู ้ ายคนอื่นๆ ไม่มี

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : อ๊ากกก!!! จบแล้ว!!!

B : วันนี้ พวกเรา ทีมงาน ขอจบการพรี เซนต์ กันเพียงเท่านี้


ขอบพระคุณคับ

C : เด๋ วเราจะสปอยให้ฟัง จริ งๆแล้ว เสี่ ยวยู่ ไม่ใช่นอ้ งสาวพี่เฟิ ง แต่


เป็ น . . . . . .ของพี่เฟิ ง

A : เมียยยยย!!!

B : กูวา่ ล่ะ ต้องสายโลลิค่อน

A : พี่เฟิ งแม่ง!

C : ยังไม่ทนั บอกเลย พากันเดาตาผึดตาผือ

A : ว่ะ! ภาษาจีน ไอ C มันแน่นจริ งๆ


บทที่ 659 - ปี ศาจ

ด้วยความที่วา่ นางทําให้แผนที่พิศวงเปลี่ยนไปอีกครั้ง ดังนั้นฉิ วซื อไม่ได้


ลังเลอีกต่อไป นางพูดกับชูเฟิ งว่า “ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ ง...โชคชะตาของข้าอยู่
ในมือเจ้า”

ชูเฟิ งเองก็ยมิ้ อย่างมัน่ อกมัน่ ใจ หลังจากกวาดสายตาไปทัว่ แผนที่ดว้ ย


เนตรสวรรค์ เขาพูดว่า “ศิษย์พี่ฉิวซือ โปรดวาดเลข 6 ลงไป”

* วูช วูช * หลังจากได้ยนิ ของชูเฟิ ง นางไม่แม้แต่จะหยุดคิด นางวาดมือ


ของนางและใช้นิ้วเขียนคําตอบลงไปอย่างแผ่วเบา เพียงแค่กระพริ บตา
รู ปลักษณ์ที่งดงามทว่าดุร้ายถูกเขียนลงในภาพวาด
* ฮึ่ม ฮึ่ม * เมื่อเลข 6 ปรากฏ เกิดประสายแสงสาดส่ องไปทัว่ ทุกพื้นที่
พร้อมกับลําแสงที่ผา่ นเข้าไปในร่ างกายของฉิ วซื อ ทันใดนั้นเมื่อมองมา
ที่ฉิวซือ จากผิวที่ซีดขาวของนางทันใดนั้นได้กลับมาเป็ นสี ผวิ ปกติ
นอกจากนั้นใบหน้าของนางยังงดงามเป็ นอย่างมาก บนใบหน้าที่เย็นชา
ราวกับนํ้าแข็งของนางพลันปรากฏร่ องรอยของรอยยิม้ ที่ทรงเสน่ห์ชวน
หลงไหลที่หาได้ยากยิง่

“ฉิวซือ!”

“ศิษย์พี่!”

“ศิษย์นอ้ ง มันสําเร็ จหรื อไม่?!” ในเวลาเดียวกัน เซี้ย หยู ชุน หวู่


และตง เซวีย รี บเข้ามาหาพร้อมกับถามด้วยความยินดี
“อืม..อํานาจวิญญาณของข้าได้รับการฟื้ นฟูกลับมาเหมือนกับ
ก่อนหน้านี้ แผนที่พิศวงนี้ช่างลึกลับยิง่ นัก” ฉิ ว ซื อผงกหัวยืนยัน พร้อม
กันนั้นใบหน้าของนางยังประดับไปด้วยรอยยิม้ ที่ชวนหลงไหล เห็นได้
ว่านางมีความสุ ขอย่างมาก ซึ่งความสุ ขนั้นออกมาจากจิตใจของนาง

“อย่างที่ขา้ คาด บุคคลที่ผอู ้ าวุโสฉิ วซุ่ยพามา ย่อมไม่ธรรมดา เจ้า


ปกปิ ดความสามารถของเจ้าได้ดียง่ิ นัก ข้า..เซี้ ย หยู ขอชมเชยเจ้า” เมื่อ
เห็นความสําเร็ จของชูเฟิ งในการช่วยฉิ ว ซื อ ท่าทีของเซี้ ย หยูพลัน
เปลี่ยนแปลง นางนอบน้อมและขอบคุณชูเฟิ งอย่างแท้จริ ง

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง ข้ากังวลเกี่ยวกับศิษย์พี่ฉิว ซื อเป็ นอย่างมาก และ


ข้าเองก็ได้ล่วงเกินเจ้าด้วยคําพูดของข้า ข้าหวังว่าเจ้าจะอภัยให้ความไร้
มารยาทของข้า” ตงเซวียก็ขอบคุณชูเฟิ งอย่างจริ งจัง
“ศิษย์พี่...ท่านสุ ภาพเกินไปแล้ว การที่ขา้ สามารถช่วยศิษย์พี่ฉิว
ซือได้..ถือเป็ นเกียรติของข้า” แม้วา่ ชูเฟิ งจะไม่ชอบเซี้ย หยูและตง เซวีย
แต่เขาก็สามารถวิเคราะห์สถานะการณ์ตอนนี้ออกอย่างทะลุปรุ โปร่ ง
ตอนนี้พวกนางอยูใ่ นหุบเขาสายหมอก และเขาเองก็ไม่ตอ้ งการสร้าง
ศัตรู เพิ่ม

ตั้งแต่ท่าทางที่พวกนางแสดงออกรวมถึงยอมรับผิด ไม่วา่ พวกนางจะ


ตั้งใจหรื อไม่ชูเฟิ งก็ยอมรับ เพราะเขาไม่ใช่คนใจแคบ...ปล่อยให้มนั ผ่าน
ไป..และไม่ทาํ ให้เรื่ องมันยุง่ ยาก

หลังจากนั้น ชูเฟิ งไขปริ ศนาแผนที่พิศวงอีกครั้ง และในครั้งนี้ จาก


ผลลัพธ์ที่ปรากฏออกมา ไม่เพียงมันสําเร็ จ มันยังช่วยให้ฉิว ซื อที่ได้รับ
การฟื้ นฟูไปแล้ว ทั้งยังได้รับรางวัลไปด้วย นางยังได้รับอํานาจลึกลับที่
ช่วยให้นางแข็งแกร่ งขึ้นจากแผนที่พิศวง
“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง เวลานี้..ข้าขอบคุณเจ้าเป็ นอย่างมาก ข้า..ฉิ ว ซื อ
ไม่รู้วา่ จะตอบแทนเจ้าอย่างไร?” ตอนนี้ ไม่เพียงนางรับได้การฟื้ นฟู
จากอํานาจวิญญาณที่เสี ยหายของนาง นางยังได้รับความแข็งแกร่ ง
เพิ่มขึ้นด้วย ฉิว ซืออารมณ์ดีมาก นางสุ ภาพอย่างยิง่ เมื่อเผชิญหน้ากับชู
เฟิ ง

“ศิษย์พี่ฉิว ซือ...ท่านสุ ภาพเกินไปแล้ว แต่แรกแผนที่พิศวงนี้เป็ น


สมบัติของผูอ้ าวุโสเพียวเมี้ยว ข้ามัน่ ใจว่านางสามารถแก้ปริ ศนาได้ ข้า
เพียงแสดงความสามารถเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ถึงแม้ไม่มีขา้ ข้ามัน่ ใจว่าผู ้
อาวุโสเพียวเมี้ยวจะใช้แผนที่พิศวงนี้ช่วยให้อาํ นาจวิญญาณของท่าน
แข็งแกร่ งยิง่ ขึ้น” ชูเฟิ งพูดด้วยความนอบน้อมเป็ นอย่างมาก

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง...เจ้าถ่อมตัวเกินไปแล้ว แม้วา่ อาจารย์ของข้า


สามารถไขปริ ศนาแผนที่น้ ีได้ แต่ท่านได้กล่าวว่า ท่านจะไม่มอบอํานาจ
พิเศษของแผนที่น้ ีให้พวกข้า ถ้าพวกข้าต้องการ พวกข้าต้องไขปริ ศนา
เอง”

“ตอนนี้ ในรุ่ นราวคราวเดียวกัน มีเพียงเจ้า...ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ ง ที่


สามารถไขปริ ศนาได้ ด้วยเหตุน้ ี...เจ้าได้กา้ วข้ามพวกเราทั้งหมดไปแล้ว
ข้ามัน่ ใจว่าในอนาคต..ความรอบรู ้ในทักษะรู ปแบบวิญญาณของเจ้า
จะต้องเหนือกว่าพวกเราทั้งหมดอย่างแน่นอน” เซี้ย หยูยมิ้ บางๆบน
ใบหน้าของนาง แต่ทา้ ยที่สุดนางก็พดู ความจริ ง

วันนี้ เหตุผลที่นางนําแผนที่พิศวงมา แม้วา่ การเชิญผูค้ นมากมายในรุ่ น


ราวคราวเดียวกันที่มีความเข้าใจในทักษะรู ปแบบวิญญาณสู ง เพราะว่า
นางต้องการความมัน่ ใจในอํานาจวิญญาณของคนที่เชิญมานั้นจะ
สามารถไขปริ ศนาของภาพวาดและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากมันได้
“น้องชายหวูฉ่ ิง เจ้าปกปิ ดความสามารถได้ดียงิ่ นัก! ข้าคาดไม่ถึงว่า
ทักษะทางรู ปแบบวิญญาณของเจ้าจะบรรลุถึงขั้นนี้ ในขณะที่ตวั เจ้าเอง
ยังเยาว์วยั ก่อนหน้านี้ ข้า..เกาเฉี ยง มีตาหามีแววไม่ ข้าต้องขออภัยเจ้า
แล้ว ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง” ทันใดนั้น คนที่ชื่อว่าเกาเฉี ยงเดินขึ้นมาพร้อมกับ
กล่าวขอโทษต่อหน้าชูเฟิ ง

อันที่จริ งแล้ว ไม่เพียงเกาเฉียง บุคคลอื่นๆอีกมากมายเริ่ มคิดหาวิธีเข้า


ใกล้ชูเฟิ ง เพราะเนตรสวรรค์ที่ชูเฟิ งได้แสดงออกไปนั้นทําให้พวกเขา
ทั้งหมดมัน่ ใจ ในจิตใจของพวกเขา ชูเฟิ งในตอนนี้มีคุณสมบัติเพียงพอ
ที่ป็นสหายของพวกเขา

จริ งๆแล้วพวกเขาไม่รู้วา่ ภายในใจของชูเฟิ ง สําหรับพวกเขาทั้งหมดนั้น


‘ไม่มี’ คุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็ นสหายกับชูเฟิ ง เพราะสิ่ งที่ชูเฟิ งเกลียด
ที่สุดคือพวกประจบสอพลอที่ตอ้ งการคบหาเพียงเพื่อหวังผลประโยชน์
ขณะที่ทุกคนพูดคุยกับชูเฟิ งอยู่ ที่มุมของพระราชวัง จู เทียนหมิงกําหมัด
พร้อมกับขบฟันแน่น เขาจ้องมองชูเฟิ ง ด้วยความเกลียดชังเป็ นอย่างมาก
เขาเพียงแค่นเสี ยงเย็นชาพร้อมกับหันหลังกลับและจากไปในที่สุด

หลังจากนั้น เซี้ย หยูนาํ แผนที่พิศวงออกไป หลังจากพวกนางทั้ง 4 คน


เสริ มสร้างความแข็งแกร่ งของอํานาจวิญญาณแล้ว นางไม่ให้โอกาสผูใ้ ด
รับผลประโยชน์ ขณะที่คุณชายหลี่ ผูท้ ี่มีอาํ นาจวิญญาณอ่อนแอที่สุด
นางก็ไม่อนุญาติให้ชูเฟิ งช่วย

จากนั้นจะเห็นได้วา่ ไม่เพียงเซี้ ย หยูจะมีแผนการที่น่ากลัวแต่นางก็ยงั


โหดเหี้ ยมด้วย คนที่เห็นลักษณะนิสยั ของนางทั้งหมดจะรู ้วา่ ไม่เป็ นการ
ดีถา้ จะทําให้นางโกรธ ดังนั้นเมื่อนางเอาแผนที่พิศวงออกไป ไม่มีผใู ้ ด
กล้าพูดอะไรสักคํา ขณะที่ คุณชายหลี่ ได้แต่สาปแช่งในโชคชะตาของ
เขา

หลังจากเรื่ องราวทั้งหมด ชูเฟิ งวางแผนที่จะกลับไปยังสถานที่ของเขา


เพื่อพักผ่อน แต่เขาก็สามารถทําอะไรได้ เนื่องจากชุน หวูต่ วั ติดอยูก่ บั ชู
เฟิ งและนางไม่ตอ้ งการให้เขาไป ไม่วา่ เขาจะพูดอะไร นางก็จะลากเขา
ไปชมทัศนียภาพที่สวยงามต่างๆของหุบเขาสายหมอกด้วยกันกับนาง

มันยากที่จะปฏิเสธนํ้าใจนาง และชูเฟิ งเองก็ตอ้ งการเดินชมรอบๆหุบเขา


สายหมอกด้วย ดังนั้นด้วยสาวงามอย่างชุน หวู่ พวกเขาเริ่ มเดินเล่น
รอบๆพื้นที่ตอ้ งห้ามสําหรับบุคคลภายนอก

แม้มนั จะไม่เหมือนการเดินเล่นมากนัก แต่ชูเฟิ งก็อุทานเกี่ยวกับหุบเขา


สายหมอกว่ามันจะซับซ้อนไปมั้ย ที่อยูข่ า้ งๆนั้นคือพืชที่มีความพิเศษ
เป็ นอย่างมาก บุคคลภายนอกย่อมไม่เคยเห็นมันมาก่อน นอกจากนั้นยัง
ั ลักษณะที่ถูกแกะสลักอยูบ่ นหิ นขนาดมหึ มา
มีสญ

พวกมันทั้งหมดคือสัญลักษณ์และตราประทับที่เกิดจากการก่อตัวของ
รู ปแบบวิญญาณ ซึ่งพวกมันยังทรงพลังอย่างมาก ชูเฟิ งสังเกตุ
รายละเอียดของมันมากขึ้นพร้อมกับศึกษามันด้วยหัวใจ นอกจากนี้ชูเฟิ ง
ยังรู ้สึกว่าวิญญาณของเขาสัน่ ไหวเพราะพวกมันเหล่านั้นทรงพลังเป็ น
อย่างมาก เขาไม่สามารถจินตนาการได้วา่ พวกมันเป็ นรู ปแบบวิญญาณ
ประเภทไหนราวกับสัญลักษณ์พวกนั้นเขียนลงบนตัวมัน

“ต้านต้าน เจ้าเห็นใช่ม้ ยั ? เจ้าสามารถระบุสิ่งที่อยูบ่ นจุดสู งสุ ด


ของหุบเขาสายหมอกได้ม้ ยั ?” ชูเฟิ งช่วยไม่ได้ที่จะถามต้านต้านด้วย
ความสงสัย

“ข้าเคยเห็นมัน มันมาจากยุคโบราณแน่นอน และพวกมันก็ยงั เป็ น


ตราประทับสําหรับรู ปแบบผนึก ดูเหมือนว่าที่หุบเขาสายหมอกนี้จะเป็ น
เศษเสี้ ยวที่เหลืออยูข่ องยุคโบราณ และยังมีปีศาจที่น่าสะพรึ งกลัวถูกปิ ด
ผนึกอยูภ่ ายในนั้น” ต้านต้านพูดด้วยเสี ยงเกียจคร้านเป็ นอย่างมาก
ขณะที่นางเองก็เพิ่งตื่น

“มันคือปี ศาจจริ งๆรึ เนี่ย?”

“แน่นอนมันคือปี ศาจ นอกจากนี้มนั ยังเป็ นปี ศาจที่ร้ายกาจอย่าง


มากด้วย แม้วา่ ข้าจะไม่เข้าใจความหมายของสัญลักษณ์และตราประทับ
พวกนี้ แต่ขา้ สามารถตรวจสอบคร่ าวๆว่าหนึ่งในการก่อตัวที่ถูกสร้างขึ้น
มีความแข็งแกร่ งในการทําลายที่ทรงพลังอย่างถึงขีดสุ ด แต่การก่อตัว
ของตราประทับพวกนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้ปิดผนึกมันเท่านั้น หรื อว่าเจ้าคิด
จริ งๆ ว่ามันคืออะไรที่ธรรมดา ?” ต้านต้านตอบคําถามของชูเฟิ ง
“งั้น..เจ้าคิดว่าปี ศาจนัน่ จะทรงพลังขนาดไหน? แล้วจะเกิดอะไร
ขึ้นถ้ามันหลุดออกมา?” ชูเฟิ งถาม

“เหอะ!...การทําลายดินแดนทะเลตะวันออกทิ้งยังง่ายเกินไป
สําหรับมัน” ต้านต้านพูดพร้อมรอยยิม้ …...

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : ที่แท้ ก็เป็ นปี ศาจจากยุคโบราณ ที่ถูกผนึกไว้เมื่อนานมาแล้ว หุบ
เขาสายหมอกถึงได้พิเศษไปจากที่อื่นๆสิ นะ
B : ดินแดนตราประทับนิรันดร์พิเศษยิง่ กว่านี้อีก สมบัติต่างๆเพียบ
ทักษะต้องห้าม ชั้นต่างๆก็เต็มไปหมด ซึ่ งทางเข้าไม่เคยมีใครพบเห็นมัน
มาก่อน! แต่เมื่อคนเห็น ทุกคนจะสัมผัสได้ถึงพลังของมัน แต่มีแค่ผทู ้ ีถูก
เลือกเท่านั้น ที่จะได้รับอํานาจพิเศษ ส่ วนที่พวกลักไก่ โดยอยากได้
สมบัติ ต้องเจอดีอย่างคาดไม่ถึง

A : พี่เฟิ งเราคงใช้เนตรสวรรค์ไปจ๊ะเอ๋ สินะ

B : ไม่บอก!!! พีเ่ ฟิ งมีเป้าหมายแค่ตอ้ งการล่า ตราประทับดอกบัว


อมตะแห่งการทําลาย เท่านั้น ไม่ได้คิดจะล่าดวงวิญญาณตราประทับ
เพื่อนําไปแลกของรางวัล!!!

A : อ่านจากตอนที่ผา่ นมา อํานาจพลังวิญญาณของชูเฟิ งนี้ไม่ธรรมดา


จริ งๆ สมแล้วที่มีแม่ เป็ นถึงสุ ดยอดผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ ผ้าคลุม . . . .
..
บทที่ 660 - เจ้าวิหาร วูห่ ย่า

“ศิษยน้อง หวูฉ่ ิง ศิษย์นอ้ ง ชุน หวู.” หลังจากพระอาทิตย์ลบั ขอบ


ฟ้าไปแล้ว ตง เซวีย ก็เข้ามา จากนั้นเธอก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า, “ใน
ที่สุด ก็เจอพวกเจ้าเสี ยที.”

“ศิษย์พี่ ตง เซวีย มีอะไรอย่างนั้นหรื อ ดูแล้วท่านเป็ นกังวลเอามาก


เลย ท่านคิดว่าข้าจะเป็ นอะไรอย่างนั้นหรื อ” ชุน หวู่ พูดพร้อมหัวเราะ
ฮิอิ ท่าทางของเธอดูเหมือนเด็กมาก

“แม่นางน้อย เจ้าพาศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ งเดินไปทัว่ ข้าต้องลําบากตาม


หาเจ้า.” ตง เซวีย ยิม้ และมองไปที่ ชุน หวู่

“โอ้ แสดงว่า ศิษย์พี่ตง เซวีย จะแย่งศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง ของข้าไปอย่าง


นั้นหรื อ ไม่เอานะ ข้าไม่ยอม …” ชุน หวู่ เบ้ปาก และกอดแขนชูเฟิ ง
แน่น

แน่นอนชูเฟิ ง ไม่ได้ปฏิเสธการกระทําของนาง เขานั้นไม่เพียงยอมรับใน


ตัวนาง แต่เพราะความงดงามและท่าทางนัน่ ชูเฟิ งจึงไม่ปฏิเสธ

“โอ้! เจ้า หยุดล้อเล่นได้แล้ว ข้ามีเรื่ องมาบอก ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ ง” ตง


เซวีย พูดจากนั้นก็หนั ไปพูดกับชูเฟิ งว่า "ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง คืนนี้ อาจารย์
ของข้าจะจัดงานต้อนรับสหายเก่า แน่นอนว่า ผูอ้ าวุโส ฉิวชุ่ยจะต้องมา
และเจ้าก็สามารถเข้าร่ วมได้!”

“จริ งหรื อ อย่างนั้นก็เยีย่ มเลย เริ่ มเมื่อไหร่ เริ่ มเมื่อไหร่ ล่ะ ศิษย์พ”ี่
เมื่อได้ยนิ ว่ามีงานเลี้ยง ชุน หวู่ ก็กระโดดโลดเต้น ตบมือส่ งเสี ยงด้วย
ความดีอกดีใจ เพราะเธอนั้นไม่เคยเข้าร่ วมงานเลี้ยงมาก่อน
“มันจะเริ่ มขึ้นในอีกไม่ชา้ ทั้งคู่ ตามข้ามา.” ตง เซวีย ยิม้ หวาน
รอยยิม้ ของนางนั้น ทําให้ชายฉกรรจ์ตอ้ งลุ่มหลงได้อย่างสบายๆ

จากที่เห็นนั้น อาจพูดได้วา่ ความงามของสาวงามสี่ ฤดู ที่ลือๆกันนั้นเป็ น


ความจริ ง อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ งนั้น ก็เห็นธาตุแท้ของ ตง เซวียแล้ว ดังนั้น
เขาจึงรู ้วา่ ตง เซวีย นั้น เป็ นคนเช่นไร

ในที่สุด ตง เซวีย ก็นาํ ชูเฟิ งมาที่ ยอดเขา ในตอนนั้น เขาก็ได้เห็นว่างาน


เลี้ยงถูกจัดที่ยอดเขา นอกจากนี้ ยังมีคนหลายคน มาเข้าร่ วมด้วย.

อย่างไรก็ตาม แขกที่มาเข้าร่ วมนั้นไม่ใช่อจั ฉริ ยะหนุ่มสาว แต่เป็ นงาน


ต้องรับสกายเก่าของผูอ้ าวุโสเพียวเมี้ยว แขกที่มาเข้าร่ วมนั้นมีผอู ้ าวุโส
จากรุ่ นชรา และเหล่าศิษย์

ชูเฟิ งก็ลองสอบถามดู และพบว่า ชายชรากลุ่มล้วนเป็ นผูย้ ง่ิ ใหญ๋ ที่สร้าง


ชื่อในภูมิภาคทะเลตะวันออก พวกเขานั้นมีพลังระดับจ้าวแห่งสงคราม
มีเพียงเล็กน้อยที่อยูบ่ ่นจุดสู งสุ ดของจ้าวแห่งสงคราม แต่ไม่มีใครอยูใ่ น
ระดับราชันย์สงคราม

จากที่เห็น ภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้น ราชันย์สงครามนั้นถือว่าแข็งแกร่ ง


มาก หากใครสามารถไปถึงระดับนั้นได้ยอ่ มถูกนับเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญอย่าง
แท้จริ ง

ในตอนนั้นชูเฟิ งก็พบคนคุน้ เคย 2 คนนัน่ คือ เกาเฉี ยง และ จู เทียนหมิง


อาจารย์ของ เกา เฉี ยงนั้นเกินกว่าที่ชูเฟิ งคิดเอาไว้มาก เขาเป็ นหญิงชรา
ผมขาว ที่น่าจะอยูม่ าหลายปี แล้ว ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยริ้ วรอย และ ฝ่ าก
ละเป็ นจุดๆ ผมนางนั้นขาวเหมือนหิ มะ ท่าทางของหญิงชราคนนั้น ดู
เหมือนศพยิง่ นัก มันช่างเป็ นภาพลักษณ์ที่น่าหวาดกลัวเสี ยจริ งๆ

อาจเป็ นเพราะ เกา เฉียง ได้บอกนางบางอย่างเกี่ยวกับชูเฟิ ง หญิงชราคน


นั้นกับเกาเฉียง จึงประสานมือทักทายชูเฟิ ง

“นี่คือ ผูเ้ ชี่ยวชาญลึกลับในเนินเขาตะขาบ ผูค้ นเรี ยกนางว่า แม่เฒ่า


กงวู่ 蜈蚣 (ตะขาบ) หญิงชราคนนั้นมีศิษย์อยูค่ นนึง นางรักเขา
เหมือนเป็ นหลานแท้ๆในไส้ และฟูมฟักเขาอย่างดี ดังนั้นนัน่ เป็ นเหตุผล
ว่าทําไมระดับการบ่มเพาะของเกา เฉี ยงถึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว
“แม้ท่าทางของนางจะดูน่ากลัว แต่อาจารย์ขา้ ได้บอกไว้วา่ นางนั้น
ไม่ใช่คนเลว นางมักจะท่องเที่ยวไปทัว่ ทะเลตะวันออกเพื่อช่วยเหลือ
ผูอ้ ื่น.” ชุน หวู่ ที่อยูข่ า้ งชูเฟิ ง พูดขึ้น

แน่นอนว่าการมี สาวงามอยุใ่ กล้ตวั นั้น ทําให้เขาเป็ นเป้าสายตาไม่นอ้ ย


โดยเฉพาะอย่างยิง่ กับคุณในรุ่ นใกล้ๆกัน เมื่อเห็นสาวงาม อย่าง ชุน หวู่
สนิทกับคนระดับ 1 จ้าวสงคราม พวกเขาก็รู้สึกไม่พอใจและอยากจะ
อัดชูเฟิ ง พวกเขาต่างคิดว่าทําไมชูเฟิ งถึงยืนในจุดนั้นได้ดว้ ยพลัง
เพียงแค่น้ ี

ในตอนนั้น จู เทียนหมิง ก็หนั มามองชูเฟิ ง สายตาเขารามกับคมดาบ


เหมือนกับต้องการฆ่าชูเฟิ งด้วยสายตาคู่น้ ี และเหตุผลที่เป็ นเช่นนั้น
ไม่ได้เกิดจากความอิจฉาเพียงอย่างเดียว แต่มนั รวมไปถึงความอัปยศที่ชู
เฟิ งมอบให้เขาอีกด้วย
“เจ้ามองหาอะไร เจ้าไม่เคยเห็นคนหรื อไง!”ชุน หวู่ พูด เมื่อเห็น
สายตาที่ไม่หวังดีของ จู เทียนหมิง เธอจึงตะโกนใส่ เขา

เมื่อนางตะโกนขึ้นย่อมเป็ นเป้าสายตาของผูค้ น หลังจากนั้นพวกเขา


ทั้งหมดก็หนั ไปมองที่ จู เทียนหมิง และตอนนั้น ใบหน้าของ จู เทียนห
มิง ก็บิดเบี้ยว เพราะเขาไม่กล้าทําอะไร ชุน หวู่ จึงได้แต่เดินหนีไป

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง จู เทียนหมิง ไม่ใช่คนดีนกั เขาก็เหมือนอาจารย์


ของเขา เจ้าวิหาร วูห่ ยา เป็ นคนน่ารังเกียจและใจแคบ ถ้าในอนาคตเจ้า
ต้องพบเจอเขาคนเดียว เจ้าต้องระวังตัวให้,” ชุน หวู่ ส่ งสารทางจิตมา
บอกชูเฟิ ง
“หึ อาจารย์ของมันก็เหมือนกัน เจ้าวิหาร วูห่ ยา ก็เป็ นเดรัจฉานดี
ดีนี่แหละ ภายนอกทําเป็ นใจกว้างและมีความเมตตา ถ้าเขาไม่เคยช่วย
อาจารย์ขา้ ในเรื่ องเล็กน้อยก่อนหน้านี้ อาจารย์ขา้ ก็คงไม่เชิญเขามา
เหยียบที่น้ ี"

“ใช่แล้วๆ เจ้าเด็กเหลือขอที่ยนื อยูข่ า้ งหลังเจ้าวิหาร วูห่ ยาคือ


น้องชายของจู เทียนหมิง จู ตี่กวง ทั้ง 2 เป็ นศิษย์รักของเจ้าวิหารวูห่ ยา”

“แม้วา่ ระดับของ จู ตี่กวง จะด้อยกว่าคนพี่ไม่เท่าไหร่ แต่เขากับ


ไม่ได้รับ ป้ายสายหมอก แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ได้รับอนุญาติให้เข้าสู่
ดินแดนตราประทับนิรันดร์ โดยต้องผ่านการทดสอบ.” ชุน หวู่ พูดขึ้น

ชูเฟิ ง จับจ้องไปที่ เจ้าวิหารวูห่ ยา ก็รู้วา่ เขาไม่แก่มากนักอายุเขาน่าจะ


ประมาน 50 – 60 แต่ระดับการบ่มเพาะของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอเลย
เขาอยูใ่ นระดับสู งสุ ดจ้าวแห่งสงครามเลยทีเดียว และอายุประมาณเขานี้
ต้องทะลวงเป็ นราชันย์สงครามได้อย่างแน่นอน

นอกจาก จู ตี่กวงและเขาก็ได้มองไปที่ จู เทียนหมิง ที่เขาเกลียด ถ้ามีคน


พูดว่า จู เทียนหมิงนั้นเป็ นตัวตนที่ถูกยอมรับ ถ้าอย่างนั้น จู ตี่กวง ก็
เป็ นได้แค่คนธรรมดา

เพราะระดับของเขาน้อยกว่า จู เทียนหมิง เขาอยูใ่ นระดับเพียง 2 เจ้า


แห่งสงคราม

อย่างไรก็ตามว่าจะเป็ น เจ้าวิหารวูห่ ยา และ จู ตี่กวง มองไปที่ชูเฟิ งนั้น


เห็นได้ชดั ว่าเขามีเจตนาไม่ดี แม้วา่ เจ้าวิหารวูห่ ยา จะซ่อนมันไว้แต่ชูเฟิ ง
ก็จบั มันได้
เห็นได้ชดั ว่า ทั้ง 2 รู ้เรื่ องบางอย่างเกี่ยวกับเขา มาจาก จู เทียนหมิง
แน่นอน

“ศิษย์พี่ ชุน หวู ตอนนี้ ท่านบอกว่าตราสายหมอกนั้น ถูกแจก


ออกไปโดยมีจาํ นวนจํากัดใช่หรื อไม่ ถ้าอย่างนั้นมันมีกี่อนั ที่ถูกแจก
ออกไปล่ะ” ชูเฟิ งถาม เพราะเขาอยากรู ้วา่ คนจากหมู่เกาะประหารจะ
ได้รับไปหรื อไม่

หลังจากที่ เขามีชะตาที่ตอ้ งทําสงครามกับมหาอํานาจอย่าง หมู่เกาะ


ประหาร ดังนั้นเขาจึงกังวลมากเกี่ยวกับหมู่เกาะประหาร.

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : เด๋ วมีการไฝว้ เกิดขึ้นชัวร์

B : ถูกต้อง ไอพีน่ อ้ งเกา อีกคนไม่พอใจว่าทําไมชูเฟิ งที่มีพลังวิญญาณ


น้อยกว่ามัน ถึงได้รับป้ายสายหมอก ประมาณว่าตัวเองเก่งกว่า ทําไม
ไม่ได้ป้าย

A : งี้กม็ นั ส์อ่ะดิ!!!
บทที่ 661 - คําพูดที่สร้างปั ญหา

“ในตอนนี้มีท้ งั หมด 60 ป้าย โดยปกติแล้วจะแจกจ่ายให้อจั ฉริ ยะ


ที่อายุไม่เกิน 30 ปี “
“อย่างไรก็ตามเกือบครึ่ งนึง ถูกส่ งไปยังหมู่เกาะประหาร เพราะที่
แห่งนั้นมีอจั ฉริ ยะจํานวนมาก และพวกเขายังเป็ นผูป้ กครองของภูมิภาค
ทะเลตะวันออก,” ชุน หวู่ พูดขึ้นด้วยรอยยิม้

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ งต้องขมวดคิ้วอย่างหนัก เพราะอัจฉริ ยะจากหมู่


เกาะประหารนั้นมีเกือบครึ่ งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ งของพวกเขา

เขาไม่กล้าพูดอะไร เพราะเมื่อคนในรุ่ นพวกเขาโตขึ้น หมู่เกาะประหารก็


น่าจะกลายเป็ นมหาอํานาจที่ไม่สามารถกําจัดได้ง่ายๆอย่างแน่นอน หาก
ไม่มีมหาอํานาจอื่นๆในภูมิภาคทะเลตะวันออกมาช่วยเหลือเขา

“แต่คนพวกนั้น หยิง่ มาก จนถึงตอนนี้ไม่มีใครมาหุบเขาสาย


หมอกทุกคน ข้าเชื่อว่าพวกเขาจะมาเมื่อการเปิ ดม่านสิ้ นสุ ดแล้วดินแดน
ตราประทับนิรันดร์เปิ ดขึ้นอย่างแน่นอน,” ชุน หวู่ พูดขึ้น

“และเมื่อม่านของมันเกิดขึ้นแล้ว จะมีคนสักเท่าไหร่ กนั ”ชูเฟิ ง


ถาม.

“การเปิ ดม่านนั้น นั้นจะเปิ ดขึ้นในวันพรุ่ งนี้ และใน 2 วันนั้น จะ


มีคนถูกเลือก 40 คน จะมีเพียงแค่ 100 คนเท่านั้นที่ได้เข้าไปยัง
ดินแดนตราประทับนิรันดร์ และเมื่อได้ผลสรุ ปของการเปิ ดม่านแล้ว
ดินแดนตราประทับนิรันดร์กจ็ ะเปิ ดขึ้น” (T/N ถือป้าย 60 คัดเลือก
40 รวมเป็ น 100 )

“อย่างไรก็ตาม มักจะมีคนกว่าพันคนที่มาแล้ว ไม่ได้รับป้ายสาย


หมอกนี้ และคนที่เป็ นเช่นนั้นมักเป็ นคนที่มีพลังน้อยๆเท่านั้น โดยปกติ
แล้วระดับตํ่าที่สุดที่จะเข้าร่ วมดินแดนตราประทับนิรันดร์กค็ ือ 2 จ้าว
แห่งสงคราม แต่ หวู่ ฉิง เจ้าเป็ นกรณี พิเศษ เพราะข้าเห็นเจ้าเตะคนระดับ
2 จ้าวแห่งสงครามได้สบายๆเลย ฮี่ฮี่.”

เมื่อเห็นรอยยิม้ ซุน หวู ชูเฟิ งจึงถามอีกว่า “แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่


ทําร้ายท่านล่ะ”

“อิอิ มันเป็ นความลับ.” ชุน หวู พูดขึ้นด้วยพร้อมรอยยิม้

แม้วา่ เธอจะไม่พดู อะไร แต่ชูเฟิ งก็รู้คาํ ตอบดีวา่ นางต้องแก้แค้นพวกเขา


อย่างแน่นอน

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง.” ในตอนนั้นก็มีเสี ยงที่คุน้ เคยดังขึ้น มันเป็ น


เสี ยงของ เจียง ว่านชือนัน่ เอง

“โอ้ ศิษย์นอ้ งเจียง ไม่ได้เจอกันนานข้าคิดถึงจังเลย ขอกอดหน่อย


เจ้ามาอยูท่ ี่นี่ แล้วผูอ้ าวุโส ฉิวชุ่ยล่ะไม่ได้อยูด่ ว้ ยหรื อ –ข้าคิดถึงนางจัง
เลยย~” เมื่อเห็น เจียง ว่านชือ ชุน หวูก่ ท็ กั ทายก่อนชูเฟิ ง

เมื่อเห็นภาพดังนั้นก็ชวนให้ชูเฟิ งอดนึกภาพที่ ชุน หวู่ กับ เจียง ว่านชือ


เถียงกันตอนด้านนอกหุบเขาสายหมอกไม่ได้ แต่สกั พักชูเฟิ งก็ตระหนัก
ได้วา่ นัน่ เป็ นเพียงการแสดงนัน่ เอง

“ศิษย์พี่ ชุน หวู ผูอ้ าวุโส เพียวเมี้ยว เรี ยกอาจารย์ขา้ ไปก่อนหน้านี้


ดังนั้น นางจึงไม่มาวันนี้ แม้นางจะมาก็คงจะมาทีหลัง”
“อ่อแล้ว ผูอ้ าวุโสเพียวเมี้ยว ฝากข้อความของข้ามาถึงพวกท่าน
ด้วยว่า เธองานเข้าอย่างกะทันหัน ขอให้พวกท่านช่วยต้อนรับแขกด้วย.”

เจียง ว่านชือ นั้นยอมรับชุน หวู ตั้งแต่เห็น ในด้านของอายุ ชุน หวู ไม่ได้


แก่กว่าเธอมากนัก แต่เธอก็เคารพชุน หวู มาก

และเมื่อเห็นท่าทางของ เจียง ว่านชือ เป็ นเช่นนั้น ชูเฟิ งก็ได้แต่ยมิ้ และ


คิดว่าถ้า เจียง ว่านชือ รู ้วา่ ชุน หวู คือผูห้ ญิงเนื้อตัวสกปรกนัน่ จะมี
ท่าทางอย่างไร

“อ่า ไม่นะท่านอาจารย์ นี่มนั ช่างน่าสงสัยยิง่ นัก ด้วยลักษณะของ


นางไม่น่าจะทําแบบนี้ นอกจากนี้ มันยังไม่ยตุ ิธรรมสําหรับคนที่มารอ
คอยเพื่อจะพบนางอีกด้วย.” ชุน หวู พูดขึ้น
หลังจากนั้น ชุน หวู ก็ไปบอก เซี่ ย หยู เรื่ อง ท่านหญิง เพียวเมี้ยว เทงาน
เลี้ยง เพื่อให้ เซี่ย หยูจดั การกับปั ญหานี้ เพราะเธอนั้นน่าจะมี
ความสามารถที่เหมาะสมที่สุด.

ด้วยนํ้าเสี ยงที่ไพเราะ และ อ่อนหวาน พร้อมกับเหตุผลที่เธอได้บอก


ผูค้ นว่า ท่านหญิงเพียวเมี้ยว นั้นไม่สามารถเข้าร่ วมงานเลี้ยงได้ จึงมา
กล่าวขอโทษ และ กล่าวเปิ ดงานเลี้ยง

“แม่นาง เซี่ย หยู ท่านหญิงเพียวเมี้ยว ได้กระจายป้ายสายหมอก


ออกไปตามความต้องการของนางหรื อไม่” เจ้า วิหาร วู่ หยา พูดขึ้น
“ท่านอาวุโส วูห่ ยา ป้ายสายหมอกที่อาจารย์ขา้ ได้แจกจ่ายไปนั้นย่อ
มตกอยูใ่ นมือของผูท้ ี่เหมาะสม,” เซี่ ย หยู ตอบกลับ

“โอ้ นัน่ ก็น่าแปลกใจยิง่ นัก ทําไมศิษย์ของข้า จู ตี่กวง ที่อยุใ่ น


ระดับ 2 เจ้าสงครามจึงไม่ได้รับ”

“อย่างไรก็ตามข้าได้ยนิ ว่า ปี นี้ มีคนที่อยูใ่ นระดับ 1 จ้าวแห่ง


สงครามได้รับป้ายสายหมอกไว้ดว้ ย ดังนั้นไม่ได้หมายความว่า ท่าน
หญิงเพียวเมี้ยว จะแจกจ่ายตามใจตนหรื ออย่างไร,” เจ้าวิหาร วู่ หยา พูด
ขึ้น

“โอ้ มีเรื่ องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยหรื อ เจ้าวิหาร วู่ หยา อย่าพูดพล่อยๆ


ท่านหญิง เพียวเมี้ยว นั้น ยุติธรรมเสมอ นางจะทําเช่นนั้นได้อย่างไร”
“ถูกต้อง แม้ศิษย์ขา้ จะไม่ใช่อจั ฉริ ยะ แต่เขาก็อยูใ่ นระดับ 2 จ้าว
สงคราม ถ้าพวกเรามาพูดเช่นเดียวกับท่าน ท่านหญิง เพียว เมี้ยว ก็ตอ้ ง
ให้พวกเราอย่างนั้นสิ นะ ถ้านางไม่ทาํ เช่นนั้น แสดงว่านางไม่ยตุ ิธรรม
จริ งๆ ทุกๆคนคิดว่าอย่างไร”

“ใช่ใช่ใช่ ถ้าพวกเราพูดถึงเรื่ องของความสนิทศิษย์ทุกคนในที่น้ ีก็


สมควรได้รับป้ายสายหมอก.”

“เจ้าวิหาร วูห่ ยา ดูเหมือนท่านจะดูถูกแม่นางเพียวเมี้ยวไปหน่อย


แล้วล่ะมั้ง แม้วา่ เราจะมีสมั พันธ์ที่ดีต่อกัน ถ้าท่านยังพูดถึงนางเช่นนี้
อย่าหาว่าข้าไม่เตือน.”
หลังจากเจ้าวิหารวู่ หยา พูดมันก็เกิดการแตกแยกเล็กน้อย บางคนนั้นเริ่ ม
พูดและเห็นด้วยกับ เจ้าวิหาร วูห่ ยา บางคนนั้นสําหรับพวกเขาแล้ว พวก
เขาเคารพท่านหญิงเพียวเมี้ยวอย่างมากจึงไม่ชอบให้ใครมาพูดจะให้
เสี ยหาย

แต่คนที่รู้ความจริ งเช่น ศิษย์ท้ งั 4 และคนอื่นๆ ต่างขมวดคิว้ เพราะ


หมายความว่าเรื่ องที่เขาพูดมานั้นนเป็ นปั ญหาอย่างมาก เพราะไม่เพียง
จะทําให้ชูเฟิ งตกอยูใ่ นที่นง่ั ลําบาก แต่ยงั ทําให้ผคู ้ นสงสัยใน ท่านหญิง
เพียวเมี้ยวอีกด้วย

“โฮ่โฮ่ ทุกคนโปรดสงบก่อน ข้าจะกล้าดูถูกท่านหญิงได้อย่างไร


แต่ขา้ ได้ยนิ มาว่ามีคนที่อยูใ่ นระดับ 1 จ้าวแห่งสงครามได้รับเลือกให้
เข้าร่ วมดินแดนตราประทับนิรันดร์และได้รับป้ายสายหมอกมาจริ งๆ
โดยไม่ตอ้ งคัดเลือกในงานเปิ ดม่าน แต่สามารถเข้าร่ วมได้ตรงๆ”
“และในฐานะที่ท่านหญิง เพียวเมี้ยว เป็ นผูพ้ ิทกั ษ์หุบเขาสายหมอก
ในเรื่ องการเข้าร่ วมดินแดนตราประทับนิรันดร์น้ นั ต่อให้นางจะทําเช่น
ไรหรื อ นางจะพูดเช่นไรก็ยอ่ มไม่มีใครสงสัย”

“ดังนั้น ในเรื่ องของป้ายสายหมอกอันนี้ ข้าแค่ถามออกมาว่าท่านมี


เหตุผลพิเศษอันใดที่ทาํ เช่นนี้ และข้าไม่ได้มีเจตนาก้าวก่ายนาง.” เจ้า
วิหาร วู่ หยา พูดขึ้นพร้อมมองไปที่ชูเฟิ ง

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : ลองเอาศิษย์มืงมาสู ด้ ิ แล้วจะรู ้ซ้ ึ งเลย!!!
B : บอกคําเดียวว่า เละ ทั้ง ศิษย์และอาจารย์!!!

A : ชูเฟิ งอัดยันอาจารย์เลยอ่อ โหดจุง

B : ป่ าว!!! ถ้าลองคิดในแง่ความเป็ นไปได้ ชูเฟิ ง ย่อมเอาชนะสองคน


นั้นได้สบายๆอยูแ่ ล้ว แต่หากชูเฟิ งต้องการปลิดชีวติ พวกมัน ให้เป็ น
บทเรี ยนก็คนรอบๆ วูห่ ย่า ต้องโดดมาช่วยอยูแ่ ล้ว

C : มืงสปอยซะกู เดาได้เลย!!!

A : เอาต้านต้าน ออกมาเผด็จศึกสิ นะ!!!


B : รออ่านเอง!!!
บทที่ 662 - ตอบโต้

***** ปัง !! ******

เสี ยงระเบิดขึ้นอย่างรุ นแรง พลันปรากฏร่ างของผูเ้ ชี่ยวชาญที่


แข็งแกร่ งขึ้นในบนิเวณนั้น และชี้ไปที่ ผูน้ าํ วิหาร หวูห่ ยา

“หวูห่ ยา ข้าไม่สนใจต่อข่าวลือ หากว่าเจ้ายังแคลงใจในตัวนาย


หญิง เพียวเมี้ยว อีก ก็จงอย่าได้ตาํ หนิขา้ !!” ชายชราร่ างสู งใหญ่ ใบหน้า
เต็มไปด้วยความกราดเกรี้ ยว เมื่อเขาได้ยนิ วูห่ ยา กล่าวเช่นนั้น เขาจ้อง
มองไปที่ วูห่ ยา และพร้อมที่จะโจมตี

“ท่าน เจา ข้านับถือในความภักดีของท่าน แต่นี่มนั มากเกินไป !!”


“และสิ่ งที่ขา้ กล่าวมันไม่ใช่เพียงข่าวลือ หรื อเรื่ องโกหก แต่มนั เป็ น
เรื่ องจริ งทั้งสิ้ น หากพวกท่านไม่เชื่อข้า พวกท่านสามารถถาม ศิษย์ของ
นายหญิง เพียวเมี้ยว เซี๊ยะ หยู ได้ !!” ผูน้ าํ วิหารกล่าวด้วยรอยยิม้

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ทุกคนต่างจ้องมองมายัง เซี๊ ยะ หยู

เมื่อนางต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ใบหน้าของนางก็
เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก นางรู ้สึกโกรธอย่างมาก แต่ไม่สามารถทํา
อะไรได้ เพราะถึงอย่างไร ผูน้ าํ วิหารก็เป็ นถึงผูอ้ าวุโส และอีกทั้งนี่ยงั อยู่
ภายใต้สายตาของเหล่าผูอ้ าวุโสจํานวนมาก
“ถูกต้อง ท่านอาจารย์ได้มอบป้ายหมอกให้แก่ หวูฉ่ ิ ง ถึงแม้วา่ เขา
จะมีพลังเพียงระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม แต่เขาก็คุณสมบัติเพียงพอที่จะ
เข้าสู่ ดินแดนตราประทับนิรันดร์ !!” ในขณะนั้น ชุน หวู ก็กา้ วเข้ามา
และกล่าวพลางชี้ไปที่ ชูเฟิ ง ที่ยนื อยูข่ า้ งๆ

“มันจะเป็ นเช่นนั้นได้อย่างไร !!”

“ที่แท้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงครามจะผ่านการ


ตรวจสอบ และสามารถได้รับป้ายสายหมอกมาเช่นนี้ !!”

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น พวกเขาต่างตกอยูใ่ นความโกลาหล แต่ไม่มีใคร


กล้าที่จะตําหนิ ศิษย์ของนายหญิง เพียวเมี้ยว พวกเขาต่างจ้องมองไปยัง
หวูฉ่ ิง แทน
“แม่นาง ชุน หวู เจ้ากล่าวว่าเขามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าสู่
ดินแดนตราประทับนิรันดร์ เช่นนั้นก็ตอ้ งพิสูจน์ !!” หลายๆ คนเริ่ มไม่
พอใจ และตั้งคําถามขึ้นมา

ในแง่ความสัมพันธ์น้ นั พวกเขาต่างเกี่ยวข้องกับนายหญิง เพียว


เมี้ยว และในด้านการบ่มเพาะพลัง พวกเขาก็เหนือกว่า ชูเฟิ ง แต่พวกเขา
กลับไม่ได้รับป้ายสายหมอก นี่จึงทําให้พวกรู ้สึกไม่พอใจอย่างมาก

“ต้องการพิสูจน์เช่นนั้นรึ เพียงแค่คาํ เชิญของท่านอาจารย์ขา้ ก็น่าจะ


เพียงพอ พวกท่านกลับมีอคติต่อท่านอาจารย์ของข้า !!” ชุน หวู กล่าว
ออกมาอย่างรุ นแรง นํ้าดสี ยงของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เมื่อนางต้องเผชิญหน้ากับคนรุ่ นเดียวกันนั้น นางไม่หวัน่ เกรง
แม้แต่นอ้ ย เพราะหากเรี ยงลําดับความสัมพันธ์ นอกจากท่านอาจารย์
และผูอ้ าวุโส ก็ไม่มีผใู ้ ดไม่เกรงใจ ชุน หวู

“แม่นาง ชุน หวู อย่าเพิ่งโกรธ นายหญิง เพียวเมี้ยว ขึ้นชื่อว่าท่าน


ดูแลศิษย์เป็ นอย่างดี และนี่หมายความว่า เขาอาจจะมีสถานะพิเศษ จึง
ได้รับสิ ทธิ์พิเศษเช่นนี้ !!” ใครบางคนกล่าวเย้ยหยันออกมา

“หื ม สถานะพิเศษอะไร ถึงทําให้เขาได้รับการดูแลที่พิเศษเช่นนี้


!!” มีบางคนกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

“ถูกต้อง ถ้าเจ้ากล่าวว่าเขามีอาจารย์ที่แข็งแกร่ ง จนทําให้เขาได้รับ


ข้อยกเว้นจากนายหญิง เพียวเมี้ยว ข้าจะขอถามว่าแม่นาง ชุน หวู ถึงการ
สิ ทธิ์พิเศษของเขา” ผูน้ าํ วิหาร หวูห่ ยา กล่าวถามด้วยรอยยิม้
“นี่…..” ในเวลานี้ ชุน หวู ไม่สามารถกล่าวแทน ชูเฟิ ง ได้อีก
นางทําได้เพียงมองไปยังเขา จึงทําให้เขากลายเป็ นจุดสนใจของคนใน
ห้องงานเลี้ยงอย่างรวดเร็ ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อ ชูเฟิ ง ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ เขา


กลับสงบเยือกเย็น เขายืนขึ้น และมองไปยังผูค้ นโดยรอบ พร้อมกล่าว
ออกมาอย่างราบเรี ยบว่า “ข้าไม่สามารถบอกชื่อท่านอาจารย์ของข้าได้
และความจริ งนั้น หลายๆ คนในที่น้ ี ไม่มีค่าพอที่จะทราบชื่อของท่าน
อาจารย์ของข้า !!”

“อย่างไรก็ตาม ข้า หวูฉิง สามารถให้คาํ ตอบเกี่ยวกับข้อสงสัยของ


ท่านได้ !!”
“เช่นไร !!” ผูน้ าํ วิหาร หวูห่ ยา กล่าวถามเชิงถากถาง

“จากคํากล่าวไร้สาระมากมายของท่าน ท่านเพียงต้องการจะบอก
กับทุกคนว่าข้า ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่เข้าไปยังดินแดนตราประทับนิ
รันดร์ แล้วท่านคิดว่าศิษย์ท้ งั สองคนที่อยูด่ า้ นหลังของท่านมีคุณสมบัติ
เพียงพอที่จะเข้าไปยังดินแดนตราประทับนิรันดร์เช่นนั้นรึ !?”ชูเฟิ ง
กล่าวตอบด้วยคําถาม พลางยิม้ บางๆ

“หื ม เทียนหมิง เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสาม ขั้นจ้าวสงคราม และเขา


ก็ได้รับป้ายสายหมอกมา เจ้าจงคิดเอาว่าเขามีคุณสมบัติหรื อไม่ !!”

“ส่ วน ตี่กวง เขามีพลังในระดับสอง ขั้นจ้าวสงคราม แม้วา่ เขาจะ


ไม่ได้รับป้ายสายหมอก แต่เขาก็สามารถผ่านการตรวจสอบได้อย่าง
ง่ายดาย !!” วูห่ ยา กล่าวด้วยความมัน่ ใจ

“อืม ศิษย์พี่ จู เทียนหมิง แข็งแกร่ งจริ งๆ โดยเฉพาะความสามารถ


ด้านรุ ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ !!”

“ก่อนหน้านี้ ข้าได้เข้าไปในคฤหาสน์รื่นรมณ์ พร้อมกับศิษย์พี่


เทียนหมิง และศิษย์พี่ท้ งั สี่ ของท่าน เพียวเมี้ยว ข้าได้เห็นถึง
ความสามารถของท่าน เทียนหมิง ในการไขปริ ศนาสมบัติอย่างยอด
เยีย่ ม”

“ไม่เพียงแต่ท่าน จู เทียนหมิง จะช่วยให้เหล่าศิษย์พี่ได้รับพลัง


เพิม่ ขึ้น ท่านยังเกือบทําให้ศิษย์พี่ ฉิ ว ซื อ สู ญเสี ยอํานาจพลังวิญญาณไป
อย่างสมบูรณ์ ข้า หวูฉ่ ิง ชื่นชมในความสามารถของท่าน และข้าคิดว่าข้า
ด้อยกว่าท่านแน่นอน !!” ชูเฟิ ง กล่าวอย่างเย็นชา ผิวเผินนั้น ดูเหมือน
เขากําลังชื่นชม แต่ในความเป็ นจริ งนั้น เขากําลังเย้ยหยัน

“ถูกต้อง !! ท่าน จู สมกับเป็ นศิษย์ของท่าน วูห่ ยา โดยเฉพาะอย่าง


ยิง่ รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากท่าน มัน
ช่าง…….เก่าแก่ยง่ิ นัก !!”

“ถ้าไม่ได้ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง ช่วยไว้ ด้วยรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ


ของท่าน จู ข้าเกรงว่าอํานาจพลังวิญญาณของศิษย์พี่ ฉิ ว ซื อ คงจะสู ญ
หายไปตลอดกาล !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชุน หวู ยิม้ พรายออกมา นางรี บ
‘ราดนํ้ามันลงบนกองไฟ’ อย่างรวดเร็ ว โดยกล่าวถึงการกระทําที่ต่าํ ต้อย
ของ จู เทียนหมิง ภายในคฤหาสน์รื่นรมณ์

“เจ้า…. !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ใบหน้าของเจ้าวิหาร วูห่ ยา


เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะเขาไม่คิดว่า ชูเฟิ ง และคนอื่นๆ จะ
กล่าวถึงรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ เพราะในเขตทะเลตะวันออกนั้น
รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณของเขามีชื่อเสี ยงอย่างมาก เขากลายเป็ นผู ้
เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดทอง และมีพลังถึงระดับสู งสุ ดของขั้นจ้าว
สงคราม จึงไม่มีใครกล้ากล่าวถึงพลังของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ
ของเขา

แต่ในวันนี้ สิ่ งที่ จู เทียนหมิง ได้ทาํ ไว้ในคฤหาสน์รื่นรมณ์ นั้นทํา


ให้อาจารย์ของเขาต้องเสี ยชื่อเสี ยง

“อะไรนะ !! ศิษย์ของเจ้าวิหาร หวูห่ ยา ที่มีชื่อเสี ยงด้านรู ปแบบ


อํานาจพลังวิญญาณทําพลาด จนเกือบต้องทําให้แม่นาง ฉิ ว ซื อ ต้อง
สู ญเสี ยอํานาจพลังวิญญาณรึ !!”
“ถูกต้อง !! ไม่รู้วา่ มันเป็ นเรื่ องจริ งหรื อเท็จ หากเป็ นเรื่ องจริ ง เด็กที่
ชื่อว่า หวูฉ่ ิง ย่อมแข็งแกร่ งอย่างมาก อย่างน้อยก็มีความสามารถที่
เหนือกว่าศิษย์ของเจ้าวิหาร วูห่ ยา !!” คํากล่าวของ ชูเฟิ ง และ ชุน หวู
ได้ทาํ ให้ทุกคนต่างเกิดความสนใจอย่างมาก และทําให้พวกเขาประเมิน
ตัว ชูเฟิ ง สู งขึ้น

“นัน่ คือเรื่ องจริ ง ศิษย์ของข้า เกา เฉี ยง ในวันนั้นเขาก็ได้อยูท่ ี่นน่ั


เขาสามารถยืนยันเรื่ องนี้ได้ !!”

“มันเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณของ
จู เทียนหมิง จึงทําให้แม่นาง ฉิ ว ซื อ เกือบต้องสู ญเสี ยอํานาจพลัง
วิญญาณ ดีที่ได้ หวูฉ่ ิง ช่วยเหลือเอาไว้ หากไม่เป็ นเช่นนั้น ก็ไม่รู้วา่ จะ
เกิดอะไรขึ้น !!”
“อย่างที่ทุกคนรู ้ แม่นาง ฉิ ว ซื อ คืออัจฉริ ยะอันดับต้นๆ ของเขต
ทะเลตะวันออก หากเกิดอะไรขึ้นกับนาง นัน่ ย่อมเป็ นความสู ญเสี ยของ
เขตทะเลตะวันออก !!” ในเวลานั้น อาจารย์ของ เกา เฉี ยง หญิงชรา หวู่
กง ก็ออกมากล่าวที่ดา้ นข้างของ ชูเฟิ ง

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : และแล้วก็ได้บทสรุ ป!!!

B : ยังเชื่อดิ ยอมแพ้ท้ งั ๆที่ยงั ไม่สู้ มันยังไงๆอยู่ เราคิดว่า วูห่ ยา คงจะ


ให้ศิษย์คนเล็ก จู ตี่กวง มาประลองกับ ชูเฟิ ง เพื่อ ชิงป้าย!!!

A : หาเรื่ องตายสิ ไม่วา่ !!!

B : ช่ายเวลาใครบีบชูเฟิ งมากๆไม่ได้ตายดีสกั คน การประลองเกิดขึ้น


แน่ หากชนะชูเฟิ ง มันก็ได้ป้าย!! หากแพ้ ก็ตอ้ งมีไรมาทดแทน ดีไม่ดี ชู
เฟิ ง อาจเอาชีวติ มัน
A : โอ้ว!!!
บทที่ 663 – ราคา

“นี่หมายความว่ามันเป็ นเรื่ องจริ ง !!”

“สวรรค์ !! ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่นาง ฉิ ว ซื อ นายหญิง เพียว


เมี้ยว ต้องโกรธเคืองอย่างมากแน่ๆ!!”

“ท่านเจ้าวิหาร วูห่ ยา ท่านควรขอบคุณ หวูฉ่ ิ ง นะ หากไม่ได้เขา


ศิษย์รักของท่านอาจจะได้รับความเดือดร้อนก็เป็ นได้ !!” เมื่อได้ยนิ คํา
กล่าวของแม่เฒ่า หวูก่ ง นั้น พวกเขาก็เริ่ มที่จะมอง ชูเฟิ ง ใหม่ และ
เรี ยกร้องให้ วูห่ ยา ขอบคุณ
“ข้าคิดว่ารู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณของท่าน วูห่ ยา สุ ดยอดแล้ว
แต่ดูเหมือนว่าตัวตนของอาจารย์ หวูฉ่ ิ ง จะแข็งแกร่ งยิง่ กว่า ไม่เช่นนั้น
เขาคงไม่มีพลังของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณที่ล้ าํ ลึกเช่นนั้น !!” บาง
คนเริ่ มเชิดชู ชูเฟิ ง และกล่าวในเชิงดูถูก หวูห่ ยา

ใบหน้าของ หวูห่ ยา เริ่ มจะเปลี่ยนเป็ นปั้ นยากขึ้นทุกที ทีแรกเขา


ต้องการระบายความโกรธแค้นของศิษย์ของเขา แต่ในตอนนี้เขากลับ
ต้องอับอายเพราะศิษย์ของเขาแทน

ดังนั้น เขาจึงกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ใส่


ต่อคนรอบข้าง และชี้ไปที่ ชูเฟิ ง พร้อมกับกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เจ้าคิดว่า
เจ้าแข็งแกร่ งในด้านรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณแล้วเจ้าจะสามารถผ่าน
การตรวจสอบได้รึ !! การตรวจสอบใช้วธิ ีตรวจจากระดับพลังการบ่ม
เพาะ ไม่ใช่ดว้ ยความแข็งแกร่ งของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ !! เจ้าคิด
ว่าเจ้าจะผ่านการตรวจสอบ เพียงเพราะรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ
แข็งแกร่ งกว่าผูเ้ ชี่ยวชาญคนอื่นๆ เช่นนั้นรึ !!”

“ช้าก่อน ท่านเจ้าวิหาร วูห่ ยา ท่านก็กล่าวแปลกๆ ข้าคิดว่าท่านเป็ น


ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณน่าจะเข้าใจในเรื่ องนี้ได้ดี !!” ชูเฟิ ง กล่าวเย้ยหยัน
พลางยิม้ บางๆ

“ถูกต้อง !! ผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ เปรี ยบได้กบั มังกรในหมู่คน


หากผูเ้ ชี่ยวชาญ เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณด้วยแล้วนั้น พวกเขาย่อม
เหนือกว่าผูเ้ ชี่ยวชาญทัว่ ๆ ไปอย่างมาก !!”

“อีกอย่าง หากผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ มีพลังอํานาจพลังวิญญาณที่


แข็งแกร่ ง พวกเขาจะยิง่ ทรงพลังอย่างมาก ตามตํานานนั้น ผูเ้ ชื่อมต่อโลก
วิญญาณสามารถเรี ยกกองทัพจากโลกวิญญาณออกมา และตู่สูก้ บั
กองทัพนับหมื่นได้ดว้ ยเพียงลําพัง ซึ่ งผูเ้ ชี่ยวชาญทัว่ ๆ ไปย่อมไม่
สามารถเทียบได้ !!”

ในตอนนี้มีผเู ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณหลายคนอยูใ่ นที่น้ ี ชูเฟิ ง จึง


ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง เพื่อผลัก วูห่ ยา ให้ตกสู่ สถานการณ์ที่ไม่
สามารถจะกูค้ ืนได้

“ทุกคนอย่าได้เข้าใจผิด ข้าก็เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ ทําไมข้าถึง


จะไม่รู้ความแตกต่างข้อนี้ !!”

“ยังไงก็ตาม พลังของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณ จะแข็งแกร่ งขึ้นตาม


ระดับการบ่มเพาะพลัง ข้าจึงไม่เชื่อว่า หวูฉ่ ิ ง ที่มีพลังเพียงระดับหนึ่ง
ขั้นจ้าวสงคราม จะสามารถเอาชนะผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ งกว่าเขาได้ !!”
“ถ้าเขาไม่ได้รับป้ายหมอกนี้มา ข้ามัน่ ใจว่าเขาย่อมไม่สามารถผ่าน
การตรวจสอบ และได้เข้าดินแดนตราประทับนิรันดร์แน่นอน !!”
ภายใต้ความกดดันจากสายตาของทุกๆ คนนั้น วูห่ ยา ยังคงกัด ชูเฟิ ง ไม่
ปล่อย

“อ่า หากว่าท่าน หวูห่ ยา สงสัยในตัวข้า ข้าก็มีวธิ ีให้ท่านตรวจสอบ


!!” ชูเฟิ ง ยิม้ บาง พร้อมกับหยิบป้ายหมอกของเขาออกมา และโยนไปที่
พื้นที่จดั เลี้ยง

“ข้า หวูฉ่ ิง จะประลองกับศิษย์ของท่านเจ้าวิหาร วูห่ ยา ท่าน จู ตี่ก


วง หากข้าแพ้ ข้ายินดีที่จะมอบป้ายหมอกให้ และไม่เข้าร่ วมการ
ตรวจสอบในวันพรุ่ งนี้ และข้าจะออกจากหุบเขาสายหมอกภายในวันนี้
โดยที่ไม่เขาสู่ ดินแแดนตราประทับนิรันดร์ !!”
“แต่หากว่าข้าชนะ ข้าก็หวังว่าท่าน จู ตี่กวง จะทําเช่นเดียวกับข้า
คือไม่เข้าร่ วมการตรวจสอบในวันพรุ่ งนี้ และไม่เข้าสู่ ดินแดนตรา
ประทับนิรันดร์ !!”

“นี่คือราคาที่ท่านต้องจ่าย เพราะความสงสัยของท่านอาจารย์ของ
ท่าน วูห่ ยา ที่สงสัยในคุณสมบัติของข้าที่จะเข้าดินแดนตราประทับนิ
รันดร์ !!” ชูเฟิ ง กล่าวกับ จู ไต้กวง

“ฮูๆๆๆๆๆๆ…. !!” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ฝูงชนต่างตกอยูใ่ นความ


โกลาหล พวกเขาต่างมองไปที่ ชูเฟิ ง ด้วยแววตาที่ซบั ซ้อน บางคนมอง
ว่า ชูเฟิ ง มีความกล้าหาญอย่างมาก บ้างก็มองว่าเขามัน่ ใจในตัวเองสู ง

โดยเฉพาะอย่างยิง่ เซี๊ยะ หยู , ตง เซวีย และ ฉิ ว ซื อ หลังจากผ่าน


เหตุการณ์ต่างๆ มานั้นพวกนางก็ได้เห็นถึงความสามารถของ ชูเฟิ ง
แม้วา่ จะอยูภ่ ายใต้ความเสี่ ยง หรื อแม้แต่ความตํ่าช้าของ วูห่ ยา ชูเฟิ ง ก็
สามารถแก้สถานการณ์ได้อย่างเยือกเย็น พวกนางจึงรู ้สึกชื่นชม ชูเฟิ ง
อย่างมาก แม้วา่ การบ่มเพาะพลังของ ชูเฟิ ง จะอ่อนแอกว่าพวกนาง แต่
อย่างน้อย ชูเฟิ ง ก็ไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้าไม่ตอ้ งฝื นตัวเองเช่นนี้ !! หากเจ้าไม่สามารถ


เข้าดินแดนตราประทับนิรันดร์ได้ ใครจะช่วยเหลือ หยวน รู่ ว !!”
ในขณะนั้น ใบหน้าของ เจียง ว่านชือ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก นางดึง
แขนของ ชูเฟิ ง เบาๆ พร้อมกับส่ งข้อความทางกระจิตหาเขา

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ไม่ใส่ ใจต่อ เจียง ว่านชือ เขากล่าวถาม จู ตี่กวง


ไปอีกครั้ง “ท่านกล้าหรื อไม่ !!”
“ตี่กวง !!” ในเวลานั้น หวูห่ ยา ตะโกนออกมาด้วยความกราด
เกรี้ ยว เพราะ จู ตี่กวง กําลังยืนอยูด่ ว้ ยแววตาที่วา่ งเปล่า

ในเวลานี้น้ นั ชูเฟิ ง ไม่ใช่เพียงท้าทาย จู ตี่กวง เท่านั้น แต่เขายังท้า


ทาย หวูห่ ยา อีกด้วย หาก จู ไต้กวง ปฏิเสธนั้น ไม่ใช่เพียงเขาจะเสี ยหน้า
แต่รวมถึงตัวของเจ้าวิหาร วูห่ ยา อีกด้วย

“เอ๊ะ… !!”

เมื่อได้ยนิ เสี ยงเรี ยกของอาจารย์ของเขานั้น จู ตี่กวง ก็ได้สติกลับมา


ในความเป็ นจริ งนั้น เขากําลังหวาดกลัว ชูเฟิ ง หลังจากที่ได้ฟังเรื่ องราว
ของ ชูเฟิ ง ที่สามารถไขปริ ศนาของภาพวาด ที่แม้แต่พชี่ ายของเขายังไม่
สามารถไขได้น้ นั เขาก็คิดว่า ชูเฟิ ง นั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน อย่าง
น้อยเขาก็ตอ้ งมีพลังเหนือกว่าระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงครามอย่างที่เห็น
ถ้าเขามีทางเลือกนั้น เขาก็เลือกที่จะปฏิเสธอย่างแน่นอน แต่ดว้ ย
การคุกคามจากอาจารย์ของเขานั้น เขาจึงไม่เหลือหนทางให้ถอย เขาก้าว
ออกมาและกล่าวกับ ชูเฟิ ง ว่า “ถ้าเจ้าต้องการที่จะสู ้ ก็สู้ !! อย่าหวังว่าข้า
จะกลัวเจ้า !!”

***** วูช้ ชชชชชช *****

หลังจากที่ จู ตี่กวง กล่าวจบนั้น พายุกก็ ่อตัวขึ้นในจุดที่ ชูเฟิ ง ยืนอยู่


พลันร่ างของ ชูเฟิ ง ก็หายตัวไป และเขาก็ปรากฏออกมาอีกครั้งบน
อากาศ และชี้มาที่ จู ตี่กวง พร้อมกับกล่าวว่า “โปรดชี้แนะ !!”
“ฮึ่ม !!” แม้วา่ จู ตี่กวง จะไม่มีความมัน่ ใจนัก แต่หลังจากโดนยัว่ ยุ
นั้น เขาก็พงุ่ ทะยานขึ้นไปในอากาศด้วยความโกรธ

ในเวลาเดียวกันนั้น ไม่เพียงแต่เขาแผ่พลังระดับสอง ขั้นจ้าว


สงครามออกมา เขายังใช้ทกั ษะการต่อสู ท้ ี่มีประสิ ทธิภาพออกมา

***** ฮู่ ฮู่ ฮู่ *****

ทักษะต่อการต่อสู ไ้ ด้ปรากฏออกมา มันคือเปลวเพลิงที่คลุม้ คลัง่


เปลวเพลิงเหล่านั้นพุง่ ขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้ายามคํ่าคืนสว่างไสวราวกับดาวตก ไม่
เพียงแต่ความสว่างเท่านั้น พลังของมันยังแข็งแกร่ งอย่างมาก
“ทักษะนี้แข็งแกร่ งมาก……ด้วยพลังการต่อสู ร้ ะดับนี้ เขาย่อม
เป็ นความภาคภูมิใจของจ้าววิหาร วูห่ ยา อีกหนึ่งคนแน่นอน !!”
หลังจากเห็นพลังของทักษะนี้น้ นั เหล่าผูค้ นในรุ่ นเดียวกันก็กล่าวชื่นชม
ออกมา แม่แต่ผอู ้ าวุโสก็พยักหน้าเบาๆ

แต่เมื่อเปรี ยบเทียบกับคนอื่นๆ แล้วนั้น เซี๊ ยะ หยู ,ตง เซวีย ,ฉิว


ซือ และ เจียง ว่านชือ ต่างขมวดคิว้ เล็กน้อย พร้อมกับเหงื่อตกแทน ชูเฟิ ง
เพราะพวกเขาสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า จู ตี่กวง ไม่ธรรมดาแม้แต่
น้อย ทักษะที่เขาใช้ เป็ นถึงทักษะระดับแปด !!

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : เด๋ ว มืงเจอ ทักษะเร้นลับที่สน่ั สะเทือน ทะเลตะวันออก!!!

B : ถ้าปล่อยทิ้งไว้ ไม่มีแถม คงค้างกันน่าดูชม


C : กูวา่ ตอนหน้า ถ้าสู ก้ นั ไม่จบ มันจะค้างกว่านะ!!!

B : เออว่ะ!!! แต่อยากเห็นหน้าคนพวกนี้ตอนที่เห็น ทักษะเร้นลับ


จริ งๆ พยัคฆ์ขาว มังกรฟ้า เต่าทมิฬ 3 สัตว์เทพในตํานาน ไม่แน่ก็
อาจจะไม่ตอ้ งใช้กไ็ ด้ แค่ฝ่ามือลวงตาก็จอดล่ะ 55555
บทที่ 664 - กระบี่ทะลายนภา

* ตูม ตูม ตูม*

ทักษะที่ทรงพลังชโลมทัว่ ท้องฟ้ายามคํ่าคืน ความแข็งแกร่ งของผูเ้ ชียว


ชาญขั้นจ้าวสงครามนั้นทรงพลังอย่างแท้จริ ง ถ้าเขาใช้ทกั ษะการต่อสู ้
มันง่ายมากที่การจะทํานี้จะเปลี่ยนขุนเขาให้กลายเป็ นซากปรักหักพัง
อย่างไรก็ตามชูเฟิ งไม่ได้กลัวแม้แต่นอ้ ย ขณะที่เขายืนอยูบ่ นฟ้า ดวงตา
ของเขารวมกับดวงประทีบ มือของเขาขยับอย่างรวบเร็ ว จากนั้นอํานาจ
วิญญาณสี ม่วงแผ่ออกมาจากร่ างกายของเขาอย่างไม่สิ้นสุ ด และทันใด
นั้นมันก็กลายเป็ นรู ปแบบวิญญาณ

“เฮอะ! เจ้าต้องการใช้รูปแบบวิญาณป้องกัน ฝนดาวตกอัคคี


กระหนํ่า ของข้ารึ ? ไร้เดียงสายิง่ นัก!”

ถ้าชูเฟิ งใช้ทกั ษะโจมตีสวนกลับ บางที จู ตี่กวง อาจจะรู ้สึกกลัวเล็กน้อย


อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าชูเฟิ งใช้อาํ นาจวิญญาณต่อต้านการโจมตีของเขา
เขากลับมัน่ ใจ พลังในร่ างของเขาไหลเวียน และตอนนี้เขาเริ่ มใช้ถ่ายเท
พลังทั้งหมดของเขาลงในทักษะระดับ 8 ฝนดาวตกอัคคีฯ เขาต้องการ
ใช้ทกั ษะเพียงอย่างเดียวในการจัดการกับชูเฟิ ง

“เฮ้..”

อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญหน้ากับทักษะที่ทรงพลังของ จู ตี่กวง ชูเฟิ งเพียง


ยิม้ ง่ายๆ เมื่อท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝนดาวตกเพลิง มือของชูเฟิ ง
เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ ว อํานาจไร้รูปร่ างถูกส่ งเข้าไปในรู ปแบบ
วิญญาณ

* ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ *


ทันใดนั้นเกิดสิ่ งที่ไม่คาดคิด การระเบิดขนาดยักษ์ที่มาพร้อมกับคลื่น
กระแทกเกินกว่าที่จะจินตนาการถึงความหน้ากลัวของมันได้ แต่
อุกกาบาตไฟที่ทรงพลังเหล่านั้นราวกับตกลงไปในนํ้า พวกมันถูกดูดซับ
เข้าไปในรู ปแบบวิญญาณตรงหน้าชูเฟิ ง

“เป็ นเช่นนี้ได้อย่างไร?” เมื่อเห็นสิ ง่ที่เกิดขึ้น ท่าทางของ จู ตี่ก


วง เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าทักษะที่ทรงพลังที่สุด
ของเขาจะไม่สามารถทําอันตรายใดๆต่อชูเฟิ งได้ มันไม่แม้แต่จะทําให้ชู
เฟิ งหวาดกลัวได้

“สถานะการณ์นี่มนั อะไร? ไม่ใช่วา่ นัน่ เป็ นรู ปแบบวิญญาณ


ธรรมดาๆรึ ? มันดูดซึมทักษะระดับ 8 ได้ง้ นั รึ ?” ในความเป็ นจริ ง ไม่
เพียง ตี่กวง ที่ตกใจ ผูค้ นในรุ่ นเดียวกันก็ยงั ตะลึง พวกเขาถูกทําให้มึนงง
ด้วยทักษะของชูเฟิ ง

“รู ปแบบนี้ อาจจะเป็ น…?”

“เป็ นไปไม่ได้ เขายังเป็ นแค่ผเู ้ ชื่อมต่อฯชุดม่วง และตอนนี้คู่ต่อสู ้


ของเขาก็เป็ นถึงระดับ 2 ขั้นจ้าวสงคราม เป็ นไปได้อย่างไรที่เขาจะ
สร้างรู ปแบบนี้สาํ เร็ จ?” อย่างไรก็ตามถ้าเปรี ยบเทียบกับคนรุ่ นเยาว์
เหล่านั้น ดวงตาของผูเ้ ชี่ยวชาญอาวุโสพลันส่ องประกาย ในขณะที่พวก
เขาคิดถึงความเป็ นไปได้
ด้วยความคิดที่ผา่ นเข้ามา พวกเขารู ้สึกว่าชูเฟิ งไม่สามารถสร้างรู ปแบบ
ดังกล่าวให้สาํ เร็ จได้ดว้ ยการบ่มเพาะของเขา แน่นอนว่าชูเฟิ งยิง่ ไม่
สามารถใช้รูปแบบนั้นในการเอาชนะ จู ตี่กวง ผูท้ ี่อยูใ่ นขั้นที่เหนือกว่า
เขาได้

“พี่ จู กลิ่นอายที่ท่านปล่อยออกมาช่างดียง่ิ แต่ท่านยังขาดพลังไป


หน่อย ให้ขา้ ช่วยท่านสักครั้งเพื่อเพิม่ เติมส่ วนที่ขาดหายของทักษะนี้”

ชูเฟิ งผูท้ ี่ยนื อยูใ่ นท้องฟ้าเยาะเย้ย และในขณะเดียวกัน รู ปแบบวิญญาณสี


ม่วงเริ่ มหมุนอย่างต่อเนื่อง มันส่ งเสี ยงครวญครางพร้อมทั้งสัน่ อย่าง
รุ นแรง สถานะการในตอนนั้นรัศมีที่แผ่ออกมาจากรู ปแบบสว่างมากขึ้น
...มากขึ้น แสงสี ม่วงเริ่ มกระจายออกไปทัว่ ทุกทิศทาง ราวกับว่ามีพระ
อาทิตย์สีม่วงอยูบ่ นท้องฟ้ายามคํ่าคืน
* วู~~~ *

ทันใดนั้นกลิ่นอายความอํามหิ ตกระจายออกมาอย่างต่อเนื่อง เปลวเพลิง


ทวีความเข้มข้นอย่างไม่สิ้นสุ ดจากรู ปแบบวิญญาณสี ม่วง และในขณะที่
เปลวเพลิงเหล่านั้นประทุออกมา มันกลายเป็ นวิหคเพลิงนับไม่ถว้ น

ท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยวิหคเพลิง ไม่เพียงพวกมันสามารถสร้างเสี ยงที่


บาดหู พวกมันยังมีแม้กระทั้งพลังอํานาจที่น่ากลัว ฉากนั้น พลังงานที่
ปรากฏดูราวกับฝนดาวตกอัคคีฯที่ จู ตี่กวง ใช้ก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามสิ่ งหนึ่งที่ต่างกันอย่างแน่นอนคือฝนดาวตกอัคคีฯได้
กลายเป็ นวิหคเพลิงแล้ว ไม่เพียงพวกมันจะมีความคิด แม้แต่ในแง่ของ
กลิ่นอายที่พวกมันปล่อยออกมา พวกมันก็ยงั แข็งแกร่ งกว่าที่ตี่กวงใช้

“สวรรค์ นี่มนั รู ปแบบผกผัน! เขาสามารถเข้าใจรู ปแบบนี้ดว้ ยอายุ


เท่านี้ได้อย่างไร? นอกจากนั้นมันยังใช้ความชํานาญเป็ นอย่างมาก!”
ผูเ้ ชี่ยวชาญอาวุโสกว่าบางคนถึงกับอุทานออกมาเมื่อพวกเขาเห็นฉากที่
เกิดขึ้น ใบหน้าที่มีอายุของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

“ท่านอาจารย์ รู ปแบบนัน่ มันคืออะไร? มันช่างทรงพลังยิง่ นัก!”


เกา เฉียง ถามอาจารย์ของเขา หญิงชรา หวูก่ ง อย่างสงสัย ตอนนี้เขา
ตกใจเป็ นอย่างมากในฉากที่เกิดขึ้นบนอากาศ
“นี่คือ รู ปแบบผกผัน มันสามารถดูดซับและเปลี่ยนการโจมตีของ
คู่ต่อสู ไ้ ด้ นอกจากนั้นมันยังเสริ มความแข็งแกร่ งให้กบั การโจมตีที่สวน
กลับไปทางเจ้าของๆมันด้วย ”

“รู ปแบบนี้ตอ้ งใช้อาํ นาจวิญญาณสู งมากและต้องความคุมการก่อ


ตัวของตราประทับด้วย ส่ วนใหญ่มกั จะใช้มนั กับกับคู่ต่อสู ท้ ี่อ่อนแอกว่า
ตนเอง เพื่อให้พวกเขาได้รับรู ้รสชาติพลังของพวกเขาเอง”

“อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงหวูฉ่ ิ งจะใช้มนั ได้อย่างเชี่ยวชาญ เขายังใช้


มันกับคู่ต่อสู ข้ ้นั จ้าวสงครามที่เหนือกว่าเขาด้วย เขาช่างเป็ นบุคคลที่ไม่
ธรรมดาอย่างแท้จริ ง” แม่เฒ่า หวูก่ งพูดถึงจุดนั้น หลังจากนั้นนางเบน
สายตาไปหาเกา เฉี ยง แล้วพูดว่า “เกา เฉี ยง เจ้าเองก็เป็ นผูเ้ ชื่อมต่อฯชุด
คลุมสี ม่วงเช่นกัน และระดับการบ่มเพาะของเจ้าก็อยูใ่ นระดับ 3 ซึ่ งสู ง
กว่าหวูฉ่ ิง อย่าไรก็ตามในตอนนี้ดว้ ยความสามารถของหวูฉ่ ิ งเขาก็
สามารถเข้าใจรู ปแบบผกผันได้แล้ว เจ้าเองยังไม่เคยได้ยนิ ชื่อรู ปแบบ
ผกผันมาก่อน ขณะที่อีกคนในรุ่ นเดียวกันกับเจ้าสามารถเข้าใจมันได้
แล้ว เจ้าไม่รู้สึกละอายบ้างรึ ?”

“ข้า...” ด้วยการตัดสิ นของอาจารย์เกา เฉี ยงเช่นนี้ สี หน้าของเขา


กลับกลายเป็ นแดงเล็กน้อย หลังจากที่เขามองกลับไปบนอากาศ ความ
เคารพของเขาต่อชูเฟิ งกลับกลายเป็ นมากขึ้น เนื่องจากเขารู ้วา่ ทักษะ
รู ปแบบวิญญาณของชูเฟิ งนั้นโดดเด่นและเหนือกว่าเค้าอย่างมาก

* บูม บูม บูม บูม *

ขณะที่หญิงชราหวูก่ งและเกาเซี ยงกําลังสนทนากัน การโจมจีสวนกลับ


ของชูเฟิ งก็มาถึง จู ตี่กวง ในตอนนี้กาํ ลังใช้ทกั ษะระดับ 8 ที่ทรงพลัง
เข้าปะทะกับการโจมตีของชูเฟิ งเพื่อป้องกันตนเอง
อย่างไรก็ตามเขาไม่คาดคิดว่าการโจมตีของชูเฟิ งจะทรงพลังขนาดนนี้
เขาที่เป็ นถึงระดับ 2 ขั้นจ้าวสวรรค์และใช้ทกั ษะระดับ 8 ในการ
ป้องกันยังพ่ายแพ้

ขณะที่เขาไม่มีทางเลือก เขาขบฟันแน่นพร้อมกับระเบิดเสี ยงคําราม แสง


สว่างสาดประกายในฝ่ ามือของเขา ขณะนั้นกระบี่ยาวสี เงินได้ปรากฏ
ออกมา

มันคือยอดยุทธภัณฑ์ แต่นน่ั ไม่ใช่ส่วนทําสําคัญ ส่ วนที่สาํ คัญที่สุด


ในตอนนี้คือ พลังที่โคจรรอบๆกายของ จู ตี่กวง ได้สลายหายไปหมด
ออร่ าที่ทรงพลังอย่างมากถูกหลอมรวมเข้าด้วยดัน
“เป็ นไปได้รึที่ จู ตี่กวง ต้องการใช้ส่ิ งนั้น?!”

เมื่อเห็นเขากํายอดยุทธภัณฑ์ในมือแน่นและพิจารณาพลังในร่ างกายของ
เขา นักเรี ยนของชุนหวูก่ ลัวจนหัวหด ความกังวลบนใบหน้าของนาง
เพิม่ ขึ้น

“ศิษย์พี่ชุนหวู่ เขากําลังวางแผนจะทําอะไร?” เจียงว่าชือถามอย่าง


กังวล

“เจ้าวิหาร หวูห่ ยา ได้สร้างทักษะระดับ 9 ซึ่ งเรี ยกว่า ‘แทงกระบี่


ทะลายนภา’ ”

“อย่างไรก็ตามทักษะระดับ 9 นี่แตกต่างจากทักษะอื่นๆ เงื่อนไข


ในการใช้มนั คือ คนๆต้องกวัดแกว่งยอดยุทธภัณฑ์กระบี่”
“หลังจากการใช้งาน พลังของทักษะระดับ 9 จะเพิ่มขึ้นอย่าง
มหาศาลเทียบได้กบั ทักษะต้องห้าม เจ้าวิหารวูห่ ยาเคยใช้ทกั ษะนี้โค้นล้ม
ผูเ้ ชี่ยวชาญจํานวนมากในรุ่ นเดียวกัน”

“ดูท่าทาง จู ตี่กวง ก่อนนี้สิ เขาได้บ่มเพาะทักษะนี้เรี ยบร้อยแล้ว


เขาได้ทุ่มทุกอย่างที่เค้ามีเพื่อปะทะกับชูเฟิ งด้วยทักษะนี้ของเขา ”
ชุนหวูอ่ ธิบาย

“อะไรนะ? เทียบได้กบั ทักษะต้องห้าม?” เจียงว่านชืออุทาน


ออกมาด้วยความตกใจในขณะที่นางได้ยนิ คําอธิบายนั้น ตั้งแต่ได้ติดตาม
ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน มาเป็ นเวลานาน นางไม่เคยได้ยนิ เกี่ยวกับประเภทของ
ทักษะต้องห้ามทั้ง 4 อันได้แก่ บาดาล พื้นภิภพ สรวงสวรรค์ และพระ
เจ้า นางรู ้เพียงแต่ทกั ษะต้องห้ามที่ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยานใช้
ระดับการสังหารที่ไม่อาจประมาณได้ยงั คงตราตรึ งอยูใ่ นความทรงจํา
ของนาง ดังนั้นตราบเท่าที่นางจินตนาการถึง จู ตี่กวง ที่กาํ ลังใช้ทกั ษะที่
เทียบเท่ากับทักษะต้องห้ามนั้น นางพลันรู ้สึกว่าชูเฟิ งกําลังตกอยูใ่ น
อันตรายทันที

“กระบี่ทะลายนภา!!!”

ในตอนนั้น จู ตี่กวง คํารามออกมา เขาชี้ยอดยุทธภัณฑ์ในมือของเขาไป


ที่ทอ้ งฟ้า เสาแห่งแสงสี กหุ ลาบเจิดจ้าจนแทบมองไม่เห็นพุง่ จากพื้นดิน
ขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า และตรงเข้าไปหาชูเฟิ ง!!!.....
ReadMGA

บทที่ 665 – ข้าต้องการชีวติ ของเจ้า

ในขณะนี้น้ นั ประกายแสงของกระบี่พงุ่ ขึ้นสู งเสี ยดฟ้า แสงของมัน


แวววับเป็ นคนดาบอย่างชัดเจน

มันดูราวกับภูเขาที่สูงชัน ไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ที่น่าเกรงขาม
แม้แต่พลังของมันก็เป็ นที่น่าหวาดเกรงอย่างมาก

บรรยากาศโดยรอบของประกายแสงนั้นแตกออกอย่าน่ากลัว ราว
กับว่าไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถต้านทานพลังของมันได้
เมื่อกระบี่ปรากฏออกมานั้น ทุกคนต่างตกอยูภ่ ายใต้ความตกตะลึง
ด้วยพลังของกระบี่ทะลายนภานั้น ทักษะการต่อสู ธ้ รรมดาไม่สามารถ
เทียบได้แม้แต่นอ้ ย พลังของมันสามารถเทียบได้กบั ทักษะต้องห้าม

“กระบี่ดี !!” เมื่อต่อหน้าการโจมตีน้ ีน้ นั ชูเฟิ ง ไม่ได้หวาดกลัวเลย


แม้แต่นอ้ ย แต่เขากลับมีความสุ ขอย่างมาก

***** พรึ่ บ *****

ในเวลานั้น ชูเฟิ ง ประสานมือของเขาขึ้น แววตาของเขาเกิด


ประกายแสงสี ม่วงวิบวับ ออร่ าพลังสี ม่วงแผ่กระจายออกมาอย่างรวดเร็ ว
***** วูบ *****

ทัว่ ทั้งบริ เวณนั้นถูกปกคลุมไปด้วยอํานาจพลังวิญญาณสี ม่วงอย่าง


รวดเร็ ว เพียงพริ บตาเดียวนั้น พลังของดาบทลายสวรรคืกห็ ายไป
เช่นเดียวกับพลังของดาวตกเพลิงในก่อนหน้านี้โดย ชูเฟิ ง

“มันเป็ นไปได้เช่นไร!! แม้แต่พลังที่แข็งแกร่ งเช่นนี้ยงั สามารถ


ป้องกันไว้ได้ !!” ไม่ตอ้ งกล่าวถึง จู ไต้กวง แม้แต่เหล่าผูอ้ าวุโสยังอุทาน
ออกมาด้วยความตกตะลึง

แม้วา่ จู ตี่กวง จะไม่สามารถดึงพลังทั้งหมดของกระบี่ทะลายนภา


ที่ออกมานั้น แต่ดว้ ยพลังระดับสอง ขั้นจ้าวสงครามของเขา ภายในรุ่ น
เดียวกันนั้น เขาสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย
แต่การโจมตีดงั กล่าว กลับถูกป้องกันได้โดย ชูเฟิ ง ที่มีพลังเพียง
ระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงครามเท่านั้น นี่จึงทําให้ทุกคนตกใจอย่างมาก อีก
ทั้ง ชูเฟิ ง ยังใบ้เพียงรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณ โดยที่ไม่ได้ใช้พลัง
วิญญาณของเขาเลยแม้แต่นอ้ ย

ชูเฟิ ง ซึ่งมีพลังเพียงระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม มีความกล้าหาญที่


จะเข้าปะทะกับผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสอง ขั้นจ้าวสงคราม อีกทั้งยังสามารถ
จัดการได้อย่างง่ายดาย

“ท่านเจ้าวิหาร หวูห่ ยา ท่านกล่าวว่ารู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณไม่


สามารถเอาชนะผูท้ ี่แข็งแกร่ งกว่าตนเองได้ ในวันนี้ ข้าจะทําให้ท่านได้
เห็นว่ารู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณของข้า สามารถเอาชนะศิษย์ของท่าน
ที่มีพลังในระดับสอง อาณาจักรจ้าวสงคราม!!”
ชูเฟิ ง กล่าวออกมาอย่างเย็นชา พร้อมๆ กับที่เขาวาดฝ่ ามือของเขา
เบาๆ ประกายแสงก็ปรากฏออกมาอย่างรวดเร็ ว

ประกายแสงเหล่านั้นรวมตัวเป็ นรู ปลักษณ์ของกระบี่ทลายนภา ซึ่ ง


มันเจิดจ้ามากกว่าก่อนหน้านี้ อีกทั้งพลังของมันยังแข็งแกร่ งยิง่ กว่าตอน
ที่ จู ตี่กวง ใช้

“เป็ นไปไม่ได้ !! นี่เขาสามารถใช้วธิ ีน้ ีกบั กระบี่ทะลายนภาได้เชียว


รึ !!”

เมื่อเขาเห็นกระบี่ยกั ษ์พงุ่ ลงมาจากท้องฟ้านั้น จู ตี่กวง รู ้สึก


หวาดกลัวอย่างมาก เขาไม่รู้แม้แต่นอ้ ยว่า ชูเฟิ ง ใช้รูปแบบอํานาจพลัง
วิญญาณกับเขา แต่เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังกระบี่ทะลายนภาของ
ชูเฟิ ง แข็งแกร่ งกว่าของเขาอย่างมาก

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งสําคัญ เพราะในขณะนี้น้ นั จู ตี่กวง ได้เห็นพลังของ


กระบี่ทะลายนภาที่กาํ ลังพุง่ ลงมา มันก็ทาํ ให้เขารู ้สึกอ่อนแอ และไม่
สามารถที่จะทําอะไรต่อไปได้

หากสถานการณ์ยงั เป็ นเช่นนี้ต่อไปนั้น ชีวติ ของเขาย่อมตกอยูใ่ น


อันตรายอย่างมาก เพราะด้วยการโจมตีของ ชูเฟิ ง นั้น สามารถคร่ าชีวติ
ของเขาได้อย่างง่ายดาย

***** ฝุ่ บ *****


ในเวลานั้นก็ปรากฏร่ างหนึ่งขึ้นมาที่ดา้ นหน้าของ จู ตี่กวง คนๆ
นั้นก็คือพี่ชายของเขา จู เทียนหมิง

เขากําหมัดของเขาแน่นพร้อมกับชกออกไปยังท้องฟ้า พลังของ
หมัดถูกอัดแน่นอย่างมาก มันพุง่ ขึ้นไปและเข้าปะทะกับกระบี่ทะลาย
นภาอย่างรุ นแรง

“แข็งแกร่ งมาก พลังของน้องชาย จู แข็งแกร่ งจริ งๆ !!” แม้แต่ เกา


เฉียง ที่ได้รู้ถึงการกระทําของ จู เทียนหมิง ในวันก่อน ยังพยักหน้า
ออกมาด้วยความชื่นชม

“เห้ออ…!!” เมื่อเทียบกับ เกา เฉี ยง นั้น ทุกๆ คนในพื้นที่ต่างส่ าย


ศรี ษะ และถอนหายใจออกมา เพราะในเมื่อ จู เทียนหมิง ยืน่ มือเข้ามา
ช่วยเช่นนี้ ย่อมหมายความว่า จู ตี่กวง ได้พา่ ยแพ้อย่างสมบูรณ์

ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสอง จ้าวสงคราม ได้พา่ ยแพ้ให้กบั ผูเ้ ชี่ยวชาญ


ระดับหนึ่ง มันช่างเป็ นความอับอายอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในก่อนหน้านี้ที่พวกเขาได้ดูถูก ชูเฟิ ง เอาไว้ นี่


เปรี ยบได้กบั ว่าเจ้าวิหาร หวูห่ ยา และศิษย์ท้ งั สองของเขาถูกตบหน้า
อย่างแรง

“ท่านเจ้าวิหาร หวูห่ ยา ดูเหมือนว่าข้าจะได้รับชัยชนะแล้วสิ นะ !!”


ชูเฟิ ง ได้คาํ นวณการเข้ามาช่วยเหลือของ จู เทียนหมิง เอาไว้แล้ว เขาจึง
ไม่ได้ใส่ใจต่อ จู ตี่กวง แต่อย่างใด เขากล่าวกับ หวูห่ ยา โดยตรง
ที่ ชูเฟิ ง เลือก จู ตี่กวง เป็ นคู่ต่อสู น้ ้ นั ไม่เพียงเพราะตัดโอกาสของ
เขาในการเข้าสู่ ดินแดนตราประทับนิรันดร์เท่านั้น แต่เขายังต้องการฉี ก
หน้าของ หวูห่ ยา ต่อหน้าทุกๆ คนอีกด้วย

หลังจาก ชูเฟิ ง กล่าวจบนั้น ทุกๆ สายตาต่างจ้องมองไปยัง หวูห่ ยา


บางคนมองไปด้วยแววตาที่สงสาร แต่บางคนก็มองไปด้วยแววตาเย้ย
หยัน พวกเขาเย้ยหยันคนที่ดูถูกผูอ้ ื่น

ในขณะนั้น ใบหน้าของ หวูห่ ยา ก็เปลี่ยนเป็ นสี ขาวซี ด แม้แต่ริม


ฝี ปากของเขาก็สนั่ เทา ในขณะนี้เขาแทบอยากจะแทรกแผ่นดีหนีไปให้
ไกล เพราะเขาไม่สามารถกล่าวตอบใดๆ ต่อ ชูเฟิ ง ได้แม้แต่นอ้ ย เขาทํา
ได้เพียงอดทนต่อทุกๆ สิ่ งที่เกิดขึ้นเท่านั้น
“หวูฉ่ ิง เจ้าไม่ด่วนสรุ ปไปหน่อยรึ !! เจ้าคิดว่าน้องชายของข้าจะ
หมดหนทาง และพ่ายแพ้ให้กบั เจ้าเช่นนั้นรึ !!” ในเวลานั้น จู เทียนหมิง
ก็ช้ ีหน้าของ ชูเฟิ ง และตะโกนออกมาเสี ยงดัง

“ฮ่าๆ ตลก!! เจ้าคิดว่าน้องชายของเจ้ายังไม่พา่ ยแพ้เช่นนั้นรึ !! ถ้า


หากไม่มีสุนขั เข้ามาขวาง เจ้าคิดว่าน้องชายของเจ้าจะยืนอยูด่ า้ นหลังของ
เจ้าอย่างปลอดภัยเช่นนี้รึ !!”

ชูเฟิ ง กล่าวออกมาอย่างรุ นแรง ในตอนแรกเพียงแค่พวกเขาตั้งตัว


เป็ นศัตรู กบั ชูเฟิ ง เท่านั้น แต่ในตอนนี้พวกเขากลับเป็ นคนที่ไร้ยางอาย
อย่างมาก ชูเฟิ ง จึงไม่มีความจําเป็ นใดๆ ที่จะต้องสุ ภาพกับคนเช่นนี้

“สารเลว !! เจ้าว่าใครเป็ นสุ นขั !!” เมื่อดูถูกต่อหน้าฝูงชนนั้น จู


เทียนหมิง ก็ตะโกนออกมาด้วยความกราดเกรี้ ยว
“ผูช้ นะเป็ นจ้าว ผูแ้ พ้เป็ นโจร เจ้าย้งมีหน้ามาโต้แย้งอีกรึ !! เจ้าคิด
ว่าทุกคนในที่น้ ีตาบอดรึ ไง !!” ในเวลานั้น ก่อนที่ ชูเฟิ ง จะได้กล่าว
ออกไป ชุน หวู ก็ช้ ีไปที่ จู เทียนหมิง พร้อมด่าทอออกมาอย่างรุ นแรง
เพราะนางก็เพิ่งเห็นความหน้าด้านของเขาในวันนี้เช่นกัน

“ถูกต้อง !! ข้าไม่คิดเลยว่าศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจของท่านเจ้าวิหาร หวู่


หยา จะเป็ นคนที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !!” ในขณะนั้น ผูอ้ าวุโสต่างกล่าว
ออกมาตามๆ กัน

แน่นอนว่า จู เทียนหมิง ไม่กล้าที่จะทําอะไรต่อ ชุน หวู และคน


อื่นๆ ที่ดูหมิ่นเขา เขาจึงตะโกนออกไปที่ ชูเฟิ ง อีกครั้งว่า “น้องชายข้า
ได้พลาดไป !! เจ้ากล้าที่จะสู ก้ บั ข้ารึ ไม่ !!”
“โอ้ !! น้องชายแพ้ไป เลยส่ งพี่ชายออกมาสู แ้ ทน !! ระดับสาม ขั้น
จ้าวสงคราม ท้าสู ก้ บั ผูท้ ี่อยูใ่ นระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม !! เจ้าไม่
ละอายบ้างรึ !!” ชูเฟิ ง กล่าวพลางหัวเราะออกมา นํ้าเสี ยงของเขาเต็มไป
ด้วยความเหยียดหยามอย่างชัดเจน

ในเวลานั้น หลายๆ คนเริ่ นสนทนา และวิพากษ์วจิ ารณ์ออกมา


พวกเขาวิจารณ์ถึงการกระทําที่หน้าด้านของ จู เทียนหมิง

ในตอนนี้น้ นั หัวใจของ จู เทียนหมิง เต็มไปด้วยความโกรธแค้น


เขาจึงไม่ใส่ ใจต่อคํากล่าวของคนรอบข้างแม้แต่นอ้ ย เขาไม่สามารถทน
ได้ ที่นอ้ งชายของเขาจะพลาดโอกาสในการเข้าสู่ ดินแดนตราประทับนิ
รันดร์
ดังนั้น เขาจึงตะโกนออกไปที่ ชูเฟิ ง อีกครั้ง “เจ้ากล้ารึ ไม่ !! หากไม่
กล้า ก็จงหุบปากของเจ้าไปซะ !!”

“หื ม !! ทําไมจะไม่กล้า !! เจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้าเช่นนั้นรึ !!” ชูเฟิ ง


กล่าวพลางหัวเราะเบาๆ ใบหน้าของเขาไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่นอ้ ย
หลังจากนั้นเขาก็กล่าวออกมาอีกว่า “แต่ถา้ ข้าตกลง คนทั้งโลกจะคิดว่า
ข้าทนไม่ได้ต่อการยัว่ ยุของคนพาล !! ดังนั้น หากเจ้าต้องการท้าประลอง
กับข้า เจ้าต้องมีสิ่งมาเดิมพัน !!”

“หากข้าพ่ายแพ้ ข้าจะไม่เข้าสู่ ดินแดนตราประทับนิรันดร์ เจ้าตกลง


รึ ไม่ !!” ในขณะที่เขากล่าว จู เทียนหมิง ก็หยิบป้ายหมอกของเขา
ออกมา
“นัน่ คือสิ่ งที่ขา้ เดิมพันกับน้องชายของเจ้า ไม่ใช่เจ้า หากเจ้า
ต้องการจะประลองกับข้า เจ้าคิดว่าเพียงแค่ป้ายหมอกมันเหมาะสมแล้วรึ
!!” ชูเฟิ ง กล่าวพลางส่ ายศรี ษะของเขา

“แล้วเจ้าต้องการสิ่ งใด !?” จู เทียนหมิง ตะโกนถามด้วยความ


หงุดหงิด เพราะอยากจะต่อสู ก้ บั ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว หนึ่งเพื่อล้างแค้น
ให้แก่นอ้ งชายของเขา สองก็เพื่อกูห้ น้าให้แก่อาจารย์ของเขา

ในขณะที่ จู เทียนหมิง ตะโกนถามออกมานั้น ใบหน้าของ ชูเฟิ ง ก็


แขวนไปด้วยรอยยิม่ บางๆ จากนั้นเขาก็กล่าวออกมาว่า “หากว่าเจ้าพ่าย
แพ้ ข้าต้องการชีวติ ของเจ้า!!”

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : กล้าป่ าว!!!

B : ถ้ากล้านับว่ารนหา ที่ตาย การที่ชูเฟิ งพูดมาแบบนั้น นั้นก็


หมายความว่าเค้าต้องการปลิดชีวติ จู เทียนหมิง นี้แค่ใช้คาถาก๊อปปี้
อย่างเดียวนะ ยังไม่ใช้ พันปักษา ไม่ง้ นั ละน่าดูชม

C : นั้นมัน นารู โตะ!!!

A : มัว่ . . . . ซา . . . .

C : ซา. . . .กุระ!!!

A : ซาซึเกะ! ไอโง่!

B : กูพดู ถึง คาคาชิ!!! ว้ายยยย หน้าแหก

A - C : เด่วมืงอ่ะ จะหน้าแหก

A4 : ไงไอ A กับ ไอ C เข้ากันได้แบบนั้นล่ะ แปรพรรคแล้วอ่อ ?


บทที่ 666 - อัจฉริ ยะที่หาใครเทียบ

“อะไรนะ? พนันด้วยชีวติ ?!”

เมื่อชูเฟิ งพูดคํานั้นออกไป มันก่อให้เกิดความปั่นป่ วนวุย่ วายอย่างไม่


ต้องสงสัย ระดับ 1 ขั้นจ้าวสงครามเรี ยกร้องด้วยตัวเขาเอง ให้มีการ
ประลองโดยที่เดิมพันชีวติ กับระดับ 3 ขั้นจ้าวสงคราม กล่าวได้วา่ ผูค้ น
ที่อยูใ่ นเหตุการณ์น้ ีหวาดกลัวกับคําพูดชูเฟิ ง

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง เจ้าบ้าไปแล้วหรอ? เขามีพลังระดับ 3 จ้าว


สงครามเชียวนะ!” ชุน หวูแ่ อบส่ งข้อความทางจิตให้ชูเฟิ ง เพื่อหยุดการ
กระทําบ้าๆ

อย่างไรก็ตามชูเฟิ งไม่ได้ใส่ใจในสิ่ งที่ผคู ้ นถกเถียงกัน และยังไม่สนใจ


คําเตือนด้วย เขาพูดกับจู เทียนหมิงที่อยูด่ า้ นหน้าเขาว่า “เจ้ากล้ามั้ย?”

“ฮ่าฮ่า เจ้าช่างกล่าวอะไรที่น่าขัน! ถ้าข้าไม่กล้า ข้าก็เป็ นปู่ ของเจ้า


แล้ว!!” จู เทียนหมิงหัวเราะ จากมุมมองของเขา เป็ นไปไม่ได้ที่ชูเฟิ งจะ
เอาชนะเขา แม้วา่ เขาจะเกลียดชูเฟิ งเข้ากระดูกดํา แต่ตอนนี้การกระทําชู
เฟิ งไม่ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตาย มีเหตุอะไรที่เขาต้องปฏิเสธ?

ดังนั้นไม่เพียงเขาจะเห็นด้วย เขายังประสานมือไปที่ผคู ้ นที่อยูด่ า้ นล่าง


และพูดว่า “น้อง..ชูเฟิ งต้องการเดิมพันด้วยชีวติ ของเขากับข้า ซึ่ งเขาพูด
มันออกมาเอง ดังนั้น ข้าขอถามทุกท่าน.. เพื่อเป็ นพยานในกรณี ที่เขาไม่
ยอมรับความพ่ายแพ้”

“นี่….”
จนถึงตอนนี้คนส่ วนมากยืนอยูข่ า้ งเดียวกันกับชูเฟิ ง พวกเขาเห็นตรงกัน
หมดว่าชูเฟิ งคืออัจฉริ ยะ นอกจากนั้น มันยังเป็ นเจ้าวิหารวูห่ ย่าและคน
อื่นๆที่เข้าข้างนางเป็ นฝ่ ายผิดตั้งแต่แรก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ตอ้ งการใช้ชู
เฟิ งมอบชีวติ ของเขาให้กบั เรื่ องไร้สาระพวกนี้ แม้วา่ จะไม่มีใครโต้ตอบ
จู เทียนหมิงสักคน

“คุณชายจู ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ ง พวกท่านมีวนั นี้ได้เพราะบิดามารดาของ


พวกท่าน อย่าทําเหมือนชีวติ ของท่านเป็ นแค่เรื่ องสนุก” เซี้ย หยูแนะนํา
พวกเขา นอกจากนี้เมื่อเห็นพรสวรรค์ของชูเฟิ ง นางย่อมไม่ตอ้ งการให้
เกิดอะไรขึ้นกับชูเฟิ ง

“ข้าทําให้ท่านยุงยากแล้ว...ศิษย์พี่” อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่จู เทียนหมิ


งมุ่งหมายจะเอาชีวติ ชูเฟิ ง เขาจะสนใจเซี้ ย หยูได้อย่างไร? เขายืนอยูบ่ น
อากาศพร้อมกับทําความเคารพ โดยไม่คาํ นึงถึงปฏิกริ ยาคนด้านล่าง เขา
ชี้ไปที่ชูเฟิ งและพูดว่า “เจ้าช่างเย่อหยิง่ อวดดี และเจ้า..ไม่เห็นใครอยูใ่ น
สายตา..วันนี้!! ข้าจะให้บทเรี ยนที่ดีแก่เจ้าในฐานะผูค้ น...ที่นี่!!”

* ตูม *

หลังจากที่พดู จบ จู เทียนหมิงจู่โจมทันที อย่างไรก็ตามการจู่โจมนั้น


แตกต่างจากน้องชายเขาจู ตี่กวง สิ่ งที่เขาใช้ไม่ใช่ทกั ษะการต่อสู ้ ไม่ใช่
พลังวิญญาณ แต่เป็ นรู ปแบบวิญญาณ

รู ปแบบวิญญาณที่ไม่สามารถทําลายได้ มันถูกเรี ยกว่าเป็ นวิธีการป้องกัน


ที่แข็งแกร่ งที่สุด อย่างไรก็ตามในมือของจู เทียนหมิง มีอาํ นาจวิญญาณ
ที่ไม่สามารถทําลายได้กลับกลายเป็ นการจู่โจมที่รุนแรง
แม้วา่ จะใช้รูปแบบวิญญาณ มันไม่ใช่กาํ แพง แต่น้ ีขนาดเป็ นรู ปแบบ
กระบี่นบั ไม่ถว้ นที่แหวกผ่านอากาศ มันทําได้แม้กระทัง่ ฉี กกระอากาศ
ออกเป็ นชิ้นๆ และความแข็งแกร่ งของมันนั้นไม่ได้ดอ้ ยไปกว่าทักษะ
การต่อสู เ้ ลย

“เจ้าต้องการสู ด้ ว้ ยทักษะรู ปแบบวิญญาณเพื่อกูห้ น้าให้อาจารย์เจ้า


เช่นนั้นรึ ?”

“ช่างไร้เดียงสา! ระดับ 3 สู ก้ บั ระดับ 1 ทันที่เจ้าจู่โจมมา เจ้าก็


แพ้แล้ว!!”

ชูเฟิ งมองไปยังอุบายของจูเทียนหมิง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หลบไป


ไหน คล้ายกับเขาตั้งใจมากกว่า ทันใดนั้นรู ปแบบวิญญาณสี ม่วงที่ไม่
สิ้ นสุ ดกลายเป็ นกระบี่ที่แหลมคมนับ 10,000 เล่ม!! ในลักษณะที่
อัดกันแน่น พวกมันพุง่ ลงมาจากท้องฟ้าและบินเข้าหาจูเทียนหมิงอย่าง
รวดเร็ ว

* เปรี้ ยง เปรี้ ยง เปรี้ ยง*

รู ปแบบวิญญาณเข้าปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า บังเกิดคลื่นกระแทก
สัน่ สะเทือนไปทัว่ ทุกพื้นที่ ราวกับพวกมันเป็ นดอกไม้ไฟที่สวยงาม แต่
ทุกคนรู ้วา่ พลังที่น่าหวาดหวัน่ นั้นประกอบไปด้วยอํานาจพลังสี ม่วงนับ
ไม่ถว้ น

“ทักษะของเจ้าช่างน้อยนิด แต่เจ้าก็ยงั สู ก้ บั ข้าด้วยทักษะรู ปแบบ


วิญญาณ เจ้าจะต้องพ่ายแพ้ขา้ อย่างไม่ตอ้ งสงสัย”
เมื่อเห็นชูเฟิ งป้องกันการโจมตีของเขา มือของจูเทียนหมิงโบกสบัด
ภายใต้คาํ สัง่ ของเขา สัญลักษณ์และตราประทับนับไม่ถว้ นปรากฏขึ้น
จากนั้นเขาวาดรู ปแบบวิญญาณที่งดงามตรงหน้าของเขา

* วู * เมื่อรู ปแบบปรากฏ พลันปรากฏเสี ยงคํารามที่ดุร้ายออกมา สัตว์


ร้ายขนาดยักษ์นบั ไม่ถว้ นถูกห่อหุ่มด้วยรู ปแบบวิญญาณ ขณะที่พวกมัน
เหยียบย่างบนอากาศ พวกมันก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าและมุ่งตรงไป
ข้างหน้า

“ชูเฟิ ง อย่าประมาท!! ในแง่ของทักษะรู ปแบบวิญญาณ เจ้า


เหนือกว่าเขาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เจ้าอย่าลืมว่าเขาเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ
ระดับ 3 ขั้นจ้าวสงคราม ด้วยการเกื้อหนุนของการบ่มเพาะของเขา
รู ปแบบวิญญาณของเขาย่อมไม่ดอ้ ยไปกว่าเจ้า” ทันใดนั้น ต้านต้าน ที่
อยูเ่ งียบๆจนถึงตอนนี้ เตือนชูเฟิ งอย่างจริ งจัง
“ไม่ตอ้ งกังวล!” แน่นอนชูเฟิ งรู ้สึกถึงได้วา่ จู เทียนหมิงนั้น
แข็งแกร่ งเป็ นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นชูเฟิ งก็ไม่ยอมแพ้ ตั้งแต่ที่จู
เทียนหมิงต้องการสู ด้ ว้ ยทักษะรู ปแบบวิญญาณ ชูเฟิ งก็จะใช้ทกั ษะ

ชูเฟิ งตั้งใจแน่วแน่ และคล้ายกับว่ารู ปแบบวิญญาณที่ทรงพลังชนิดหนึ่ง


ได้ถือกําเนิดในความคิดของเขา ในลักษณะเดียวกันกับสัตว์ยกั ษ์หลาย
ตัวที่ถูกปกคลุมโดยรู ปแบบวิญญาณ พวกมันกระโดดออกมา และต่อสู ้
กับกับสัตว์ยกั ษ์ตวั อื่นๆของจูเทียนหมิงในอากาศ แต่เหมือนกับก่อนนี้
มันจบลงด้วยวาด

ดังนั้นรู ปแบบที่ทรงพลังมากขึ้น...มากขึ้นได้กระโดดออกมา และการ


ต่อสู น้ บั ไม่ถว้ นได้ปรากฏต่อสายตาของทุกคน
กระบี่ ดาบ นํ้า ไฟ สัตว์ป่า พืช ทุกสิ่ งที่มีอยูบ่ นโลกในนี้ ถูกแสดงให้
ประจักษ์ท้ งั หมดภายใต้การต่อสู ข้ องชูเฟิ งและจู เทียนหมิง

“ทรงพลังยิง่ นัก นี่...คือการต่อสู ข้ องผูเ้ ชื่อมต่อฯ หนึ่งล้านการ


เปลี่ยนแปลงประกอบไปด้วยความแปลกประหลาดที่มนุษย์จะสามารถ
จินตนาการได้ มันช่างยอดเยีย่ มยิง่ นัก” ผูเ้ ชี่ยวชาญอาวุโสผูห้ นึ่งอุทาน
ออกมาโดยไม่ได้ต้ งั ใจ ตั้งแต่ที่ผบู ้ ่มเพาะมีทกั ษะการต่อสู ้ แม้วา่ ผู ้
เชื่อมต่อฯโดยทัว่ ไปจะใช้รูปแบบวิญญาณเพือ่ ป้องกันทักษะการต่อสู ้
แต่มนั ยากมากที่จะได่เห็นการต่อสู ด้ ว้ ยรู ปแบบวิญญาณเช่นนี้

“ไม่!! คนที่ทรงพลังควรจะเป็ นหวูฉ่ ิ ง ด้วยความแข็งแกร่ งของ


ระดับ 1 ขั้นจ้าวสงคราม เขาสามารถหลีกเลี่ยงความปราชัยในขณะที่
เขาต่อสู ก้ บั ระดับ 3 ขั้นจ้าวสงคราม เด็กคนนี้ทรงพลังขนาดไหนกัน
แน่?” ผูเ้ ชี่ยวชาญอาวุโสอีกคนพูด
“อืม...คําพูดของเจ้ายํ้าเตือนข้าว่าสถานะการณ์น้ ีเป็ นอย่างเจ้าว่า
อํานาจวิญญาณของเด็กคนนี้แข็งแกร่ งอย่างมาก และเขายังใช้ทกั ษะ
รู ปแบบอํานาจวิญญาณได้ตามที่ใจเขาปรารถนา ถ้าระดับการบ่มเพาะทั้ง
คู่อยูใ่ นระดับเดียวกัน จู เทียนหมิงต้องพ่ายแ◌าํ ◌้อย่างแน่นอน” เมื่อได้
ยินคําพูดนั้น ผูเ้ ชี่ยวชาญอาวุโสคนก่อนผงกหัวยกย่องยากมาก

* ตูม * ทันใดนั้น การระเบิดอื่นๆที่สนั่ สะเทือนโลกกระจายออกไปใน


อากาศ ขณะที่รัศมีของแสงอันแพรวพราว ผูค้ นกลับรู ้สึกประหลาดใจ
เมื่อพบว่า รู ปแบบวิญญาณที่โจมตีชูเฟิ งนั้นได้แพร่ กระจายออกไปใน
ตําแหน่งของจู เทียนหมิง นอกจากนี้มนั ยังห้อมล้อมเขาด้วย

แต่ทนั ใดนั้น พลังการต่อสู ไ้ ร้ที่สิ้นสุ ดได้ระเบิดออกมา ลบล้างรู ปแบบ


วิญญาณโจมตีของชูเฟิ ง เมื่อรู ปแบบวิญญาณหายไป ทุกๆคนช่วยไม่ได้
ที่จะเปลี่ยนสี หน้า

ทันใดนั้น จูเทียนหมิงที่ปรากฏตัวในสายตาของพวกเขาก่อนหน้านี้เส้น
ผมกลายเป็ นกระเซอะกระเซิง ยังมีร่องรอยโลหิ ตจํานวนมากบนใบหน้า
ของเขา ชัดเจนแล้วว่าเขาบาดเจ็บจากรู ปแบบวิญญาณโจมตีของชูเฟิ ง
เมื่อไม่นานมานี้

“เขาพ่ายแพ้แล้ว! หวูฉ่ ิง..ที่อยูใ่ นระดับ 1 จ้าวสงคราม ทําให้จู


เทียนหมิง ระดับ 3 ขั้นจ้าวสงครามบาดเจ็บด้วยทักษะรู ปแบบวิญญาณ
ผลลัพธ์ของการต่อสู ด้ ว้ ยรู ปแบบวิญญาณได้ประจักษ์ผลแล้ว”

เหตุการณ์น้ นั ทําให้ทุกคนตกใจอีกครั้ง เนื่องจากในสายตาของพวกเขา


การที่สามารถต่อสู ก้ บั จู เทียนหมิงได้อย่างทัดเทียมนั้นหมายความว่าชู
เฟิ งน่าประทับใจอย่างมาก ไม่เพียงหมายความว่าการต่อสู ด้ ว้ ยพลังของชู
เฟิ งจะทรงพลังมากกว่าอย่างขาดลอย นอกจากนี้มนั ยังหมายความว่า
พรสวรรค์ของเขานั้นยังผิดสามัญสํานึก และยังมีความเข้าใจในทักษะ
รู ปแบบวิญญาณที่ทรงพลังอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยคาดว่าชูเฟิ งจะเอาชนะจู เทียนหมิงได้จริ งๆ


และสิ่ งที่พวกเขาตะลึงมากที่สุดสามารถพูดได้วา่ มันคล้ายกับความ
มหัศจรรย์ นอกจากนั้นระยะห่างระหว่างทั้งสองคือ 2 ระดับเต็มๆ

อาณาจักรจ้าวสงครามนั้นแตกต่างกับ 4 อาณาจักรก่อนหน้า
นี้ อาณาจักรห้วงวิญญาณ อาณาจักรกําเนิดวิญญาณ อาณาจักรแก่นแท้
วิญญาณ และอาณาจักรสวรรค์วญ
ิ ญาณ มีความต่างอย่างมหาศาล
ระหว่างทุกๆระดับ เทียบได้ราวกับระยะห่างระหว่างสวรรค์กบั โลก
มนุษย์
ถ้าให้พดู แบบปกติๆ การที่สามารถโค้นล้มผูท้ ี่อยูใ่ นระดับเดียวกันนั้น
หมายความว่าพวกเขาคือผูเ้ ชี่ยวชาญที่มีพรสวรรค์โดดเด่น การที่
สามารถโค้นล้มผูค้ นที่มีระดับมากกว่าตนเอง 1 ระดับ หมายความว่า
พวกเขาเป็ นอัจฉริ ยะที่หาได้ยาก แต่การที่สามารถโค้นล้มผูค้ นที่มีระดับ
มากกว่าตนเอง 2 ระดับ หมายความว่าพวกเขาเป็ นอัจฉริ ยะที่หาใคร
เทียบได้ . . . . .

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////
A : เป็ นไงล่ะ ยังจะเอาอีกไม๊

B : ยังไม่จบหรอก อย่าลืมสิ ว่าเราเดิมพันกันไว้วา่ ยังไง!!!

A : ยังไม่จบก็รีบ ทําไวๆ อยากอ่านต่อแล้ววววว!!!


B : ลาบแซบ!!! คับผม
บทที่ 667 – การต่อสู ท้ ี่แลกด้วยชีวติ

“จู เทียนหมิง เจ้าแพ้แล้ว !!” ชูเฟิ ง กล่าวออกมาท่านกลางสายตา


ของทุกๆ คน พร้อมกับจ้องไปที่ จู เทียนหมิง ซึ่ งในเวลานี้ใบหน้าของ
เขาเปลี่ยนเป็ นสี ขาวซีด

“ยัง !! คนที่ตอ้ งตายคือเจ้า !!” อย่างไรก็ตาม นี่เป็ นการต่อสู โ้ ดยมี


ชีวติ เป็ นเดิมพัน จู เทียนหมิง จึงไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย
ได้ เขาพลิกฝ่ ามือของเขา พลันปรากฏดาบสี ทองออกมาบนฝ่ ามือของ
เขา

มันคือยอดยุทธภัณฑ์ อีกทั้งยังเป็ นยอดยุทธภัณฑ์ที่แข็งแกร่ งกว่า


กระบี่สีเงินของน้องชายของเขา มันอาจกล่าวได้วา่ พลังของมันสามารถ
เทียบเคียงได้กบั ขวานอสู รฟ้า

เมื่อ จู เทียนหมิง ใช้ยอดยุทธภัณฑ์ของเขานั้น พลังของเขาก็


เพิ่มขึ้นอย่างมาก เขาพุง่ เข้าโจมตีใส่ ชูเฟิ ง โดยผสานรู ปแบบอํานาจพลัง
วิญญาณของระมัดระวัง

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ จู เทียนหมิง ในตอนนี้น้ นั ชูเฟิ ง รู ้สึกกดดัน


อยูใ่ าก อาจกล่าวได้วา่ การปะทะกับผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสาม ขั้นจ้าว
สงครามยังเป็ นความท้าทายสําหรับเขา

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ไม่ได้แตกตื่นแต่อย่างใด เขากลับยิม้ บางๆ


ออกมา เพียงพริ บตาเดียวนั้น ขวานอสู รฟ้า ก็ปรากฏออกมาในมือของ
เขา
***** เคร้ง !! *****

หลังจากเรี ยกขวานอสู รฟ้าออกมานั้น ชูเฟิ ง ก็พงุ่ ทะยานออกไปเข้า


ปะทะกับ จู เทียนหมิง อย่างรวดเร็ ว

***** เคร้ง !! *****

หลังจากปะทะกันแล้วนั้น ชูเฟิ ง สะบัดขวานในมือของเขาออก


ในขณะที่ จู เทียนหมิง แทงดาบในมืออกมายังลําคอของ ชูเฟิ ง
แต่ ชูเฟิ ง ไม่ได้หลบหลีกแต่อย่างใด เขากลับพลิกขวานและสับลง
มาที่ศรี ษะของ จู เทียนหมิง ราวกับต้องการจะผ่าเปิ ดกระโหลกศรี ษะ
ของเขาให้แยกเป็ นสองซีก

ในตอนแรกนั้น จู เทียนหมิง ยิม้ เยาะเย้ยให้กบั ความโง่เขาของ ชู


เฟิ ง ที่กล้าแลกดาบกับเขา เพราะด้วยพลังระดับสาม ของเขานั้น เขาย่อม
เร่ งความเร็ วในการโจมตีได้ ถึงแม้วา่ ชูเฟิ ง จะมีความสามารถด้าน
รู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณเป็ นเลิศ แต่เขาก็ไม่สามารถใช้รูปแบบ
อํานาจพลังวิญญาณในการเสริ มความเร็ วได้

การต่อสู ใ้ นครั้งนี้น้ นั ชูเฟิ ง มีพลังเพียงระดับหนึ่ง ซึ่ ง จู เทียนหมิง


คาดว่าถึงอย่างไรเขาก็ชนะอย่างแน่นอน ดังนั้น ด้วยพลังระดับสามของ
เขา เขาจึงเพิ่มความเร็ วของดาบในมือขึ้นไปอีก เพื่อที่จะจัดการกับ ชูเฟิ ง
ได้อย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ความไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ความเร็ วของขวานในมือ
ของ ชูเฟิ ง ไม่ได้ดอ้ ยไปกว่าดาบในมือของเขาแม้แต่นอ้ ย ภายใต้
สถานการณ์เช่นนี้ เขาอาจจะได้รับบาดเจ็บ หรื อตายไปพร้อมกับ ชูเฟิ ง

***** ฝุ่ บ *****

ในขณะนั้น จู เทียนหมิง ไม่กล้าที่จะเอาชีวติ เข้าแลก เขาหลบขวาน


ของ ชูเฟิ ง ออกมา ในขณะที่เขาหยุดการโจมตีของตนเองไปด้วย ถึง
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถหยุดความเร็ วของขวานอสู รฟ้าได้

ขวานอสู รฟ้า ได้เฉือนลงบนแขนของ จู เทียนหมิงอย่างรวดเร็ ว แม้


จะเป็ นเพียงบาดแผลเล็กๆ นั้น แต่กลับมีเลือดไหลซึ มออกมาอย่าง
ชัดเจน
“ให้ตายสิ !! เจ้าเอาชีวติ เข้าแลกเชียวรึ !! ดี ข้าจะจัดให้ !!”

เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บนั้น ในตอนนี้ จู เทียนหมิง ก็เต็มไปด้วยความ


โกรธ เขาพุง่ ทะยานอกมาอีกครั้ง หมายจะฟัน ชูเฟิ ง ให้ตาย

***** ฝุ่ บ *****

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ไม่ได้ใส่ ใจต่อการโจมของ จู เทียนหมิงแม้แต่


น้อย เขากลับยกขวานฟ้าขึ้น และสับลงมายังศรี ษะของ จู เทียนหมิง อีก
ครั้ง
“เจ้าโง่ !! เจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้ารึ ไง !! ร่ างกายของข้าเป็ นถึง
ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสาม !! ข้าจะแลกชีวติ กับเจ้า แล้วมาดูกนั ว่าใครจะตาย
ก่อน !!”

ในขณะนี้น้ นั จู เทียนหมิง เต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่ได้หลบ


แม้แต่นอ้ ย ร่ างกายของเขาปรากฏคลื่นพลังสี ทองออกมาล้อมรอบ เขา
ได้ใช้ทกั ษะการต่อสู บ้ างอย่างเพื่อป้องกันร่ างกายของเขา

มันคือทักษะป้องกันระดับแปด จู เทียนหมิง ได้ตดั สิ นใจที่จะแลก


ชีวติ กับ ชูเฟิ ง

“หึ !!”
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ก็ยมิ้ ออกมาบางๆ พร้อมกับใช้ทกั ษะ
เกราะเต่าทมิฬเข้ามาห่อหุม้ ร่ างกายของเขา และปรากฏหมอกสี ขาว
จํานวนมากเข้าปกคลุมพื้นที่ และบดบังสายตาของ จู เทียนหมิง

***** ฝุ่ บ *****

ทันทีที่หมอกสี ขาวปรากฏออกมานั้น จู เทียนหมิง ก็รู้สึกว่าศรี ษะ


ของเขาถูกกระแทก และเขาก็ไม่กล้าคิดถึงสิ่ งนี้แม้แต่นอ้ ย

สิ่ งเดียวที่เขาคิดในตอนนี้คือ ชูเฟิ ง กําลังใช้ขวานอสู รฟ้าฟันลง


มายังศรี ษะของเขา เขาไม่ลงั เลแม้แต่นอ้ ย เขาจับดาบสี ทองในมือแน่น
และฟันออกไปด้านหน้าหมายที่จะเอาชีวติ ของ ชูเฟิ ง

***** วูบ *****

อย่างไรก็ตาม เขาได้ยนิ เพียงเสี ยงของดาบฟันใส่ อากาศเท่านั้น


ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว เมื่อเขาฟันใส่ เพียง
อากาศเท่านั้น นี่กห็ มายความว่า ชูเฟิ ง ไม่ได้อยูต่ รงหน้าของเขา

เมื่อหมอกสี ขาวเริ่ มกระจายตัวออกนั้น จู เทียนหมิง ก็พบว่า ชูเฟิ ง


ได้ยนื อยูท่ ี่ดา้ นข้างของเขา และในเวลาเดียวกันนั้น ขวานอสู รฟ้า ในมือ
ของ ชูเฟิ ง ก็กาํ ลังลดตํ่าลงมา
ขวานอสู รฟ้า นั้นทรงพลังอย่างมาก เมื่อมันเข้าปะทะกับเกราะที่
ส่ วนหัวของ จู เทียนหมิง เกราะเหล่านั้รนก็แตกกระจายออกไปอย่าง
รวดเร็ ว

“บ้าเอ๊ย !!” ในเวลานั้น จิตใต้สาํ นึกของ จู เทียนหมิง สัง่ ให้เขา


หลบ แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่สามารถที่จะทําได้แต่อย่างใด
เพราะพลังส่ วนใหญ่ของเขาได้ถูกทําลายโดย ชูเฟิ ง ไปแล้ว

ขวานอสู รฟ้าได้ผา่ ลงตรงข้างใบหน้าของ จู เทียนหมิง ตัดเอาหูขา้ ง


หนึ่งของเขาออก และด้วยพลังของขวานมันยังไม่หมดสิ้ นแค่น้ นั มันยัง
ฟันลงไปบนไหล่ของ จู เทียนหมิง อย่างรุ นแรง

“อ๊าาาา !!” จู เทียนหมิง ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เสี ยงของ


เขาราวกับเสี ยงของหมูถูกเชือด
เพราะในเวลานี้ เขาได้สูญเสี ยใบหูไปข้างหนึ่ง อีกทั้งไหล่ของเขาก็
เกือบจะขาดออกไป

อย่างไรก็ตาม จู เทียนหมิง ไม่ใช่บุคคลที่สามารถจัดการได้ง่ายๆ


แม้วา่ เขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็สามารถอดทนมันได้ เขาก้าวออกมา
และกลายเป็ นประกายแสงพุง่ ออกไป

“สวรรค์ !! นี่พวกเขาเพิ่งเริ่ มเท่านั้น แต่นี่ จู เทียนหมิง ก็ได้รับ


บาดเจ็บหนักไปแล้ว หวูฉ่ ิง เขาแข็งแกร่ งเกินไปแล้ว !!”

เมื่อ จู เทียนหมิง พุง่ ทะยานออกมาจากอาณาเขตภาพลวงตาของ


เกราะเต่าทมิฬนั้น ทุกคนก็สามารถมองเห็นลักษณะของเขาได้อย่าง
ชัดเจน

พวกเขาได้เห็นผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสาม ที่มีเลือดชโลมไปทัว่ ร่ างกาย


ของเขา อีกทั้งยังสู ญเสี ยใบหูไปหนึ่งข้าง มันทําให้พวกเขาต่างตกใจ
อย่างมาก ถึงแม้วา่ ทุกคนจะรู ้วา่ ชูเฟิ ง แข็งแกร่ ง แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า
เขาจะแข็งแกร่ งถึงขนาดนี้

“หึ เจ้าคิดว่าข้าจะแลกชีวติ กับเจ้า และข้าไม่สามารถหลบดาบของ


เจ้าได้เช่นนั้นรึ !!”

“ทีแรกข้าคิดว่ามีเพียงอํานาจพลังวิญญาณของเจ้าเท่านั้นที่อ่อนแอ
แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะโง่เขลาถึงเพียงนี้ คนเช่นเจ้าไม่สมควรที่จะบ่มเพาะ
พลังแม้แต่นอ้ ย !!” หลังจากใช้ขวานอสู รฟ้าฟันไปบนไหล่ของ จู
เทียนหมิง แล้วนั้น ชูเฟิ ง ก็ยนื มองเขาด้วยรอยยิม้ เยาะเย้ย

ก่อนหน้านี้น้ นั ชูเฟิ ง ได้แสร้งทําเป็ นแลกชีวติ กับเขา เพื่อล่อให้เขา


แลกชีวติ กลับมา โดยที่เมื่อเขาใช้พลังของทักษะเกราะเต่าทมิฬนั้น เขา
ย่อมสามารถป้องกันการโจมตีของ จู เทียนหมิง ได้อย่างแน่นอน และยัง
ทําให้ จู เทียนหมิง ตกอยูภ่ ายใต้ภาพลวงตา แม้จะเป็ นเพียงเวลาสั้นๆ ชู
เฟิ ง ก็ยงั ได้รับประโยชน์จากมัน

ข้อเท็จจริ งนี้แสดงให้เห็นว่า ชูเฟิ ง นั้นกล่าวได้อย่างถูกต้อง เพราะ


จู เทียนหมิง ที่ถูกครอบงําด้วยความโกรธนั้น แม้วา่ เขาจะเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อ
โลกวิญญาณ เขาก็ยงั ทําผิดพลาดอย่างร้ายแรง

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : ทักษะเร้นลับ สัตว์เทพตัวที่ 1 ออกมาแล้ว อยากรู ้วา่ เมื่อไหร่ จะ
ควบคุมได้จริ งๆสักที แบบว่า เรี ยกสัตว์เทพออกมาซัดกับคู่ต่อสู ไ้ รแบบ
นี้ ก็เห็นๆอยูว่ า่ พวกทักษะเร่ นลับมันมีชีวติ

B : ใจเยนๆของแบบนี้ตอ้ งค่อยๆเปนค่อยไป แค่น้ ีแม่งก็เก่ง ไม่รู้จะเก่ง


ยังไงล่ะ

C : ถุย้ ยยย กูเห็น ยังโดน มู่หรง ซุน ไล่กระทึบอยูเ่ ลย อย่าทํามาเปน


คุย!!!

A : แล้วต่อจากนั้น ชูเฟิ ง ก็ตามไปกระทึบคืนไง เจ็บแสบกว่าเยอะ!!!


บทที่ 668 – ผลการต่อสู ้

“หวูฉ่ ิง !! ข้า จู เทียนหมิง จะฉี กเจ้าเป็ นหมื่นๆ ชิ้น !!” หลังจาก


ได้รับความอัปยศต่อหน้าฝูงชนเช่นนี้ จู เทียนหมิง ก็ตะโกนออกมาเสี ยง
ดัง พร้อมกับหยิบยาขึ้นมาในฝ่ ามือ
ยาเม็ดนี้มีสีหมุนอยูร่ อบๆ มันถึงสามสี คือ สี ดาํ สี ขาว และสี ม่วง
อีกทั้งมันยังปลดปล่อยพลังแปลกๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง

“ยาต้องห้ามสามวิญญาณ !!” เมื่อทุกคนเห็นยานั้น ทุกนต่างตก


ตะลึงอย่างมาก ยาต้องห้ามนั้นจะแข็งแกร่ งตามสี ของมัน

ยักษ์ขาว-ดํา นั้นเป็ นยาต้องห้ามสองสี มันสามารถทําให้ขีดพลัง


ของผูเ้ ชี่ยวชาญจ้าวสงครามเพิม่ ขึ้นอย่างมาก แต่ในมือของ จู เทียนหมิง
ตอนนี้คือยาต้องห้ามสามสี หากเขากินมันเข้าไป พลังของเขาจะเพิ่มขึ้น
ถึงระดับสี่ ได้อย่างง่ายดาย

***** ฝุ่ บ *****


หลังจาก จู เทียนหมิง หยิบยาขึ้นมาแล้วนั้น เขาก็กินมันเข้าไป
ในทันที พลันออร่ าสี ดาํ สี ขาว และสี ม่วง ก็พวยพุง่ ออกมาจากร่ างกาย
ของเขาอย่างรุ นแรง

***** ฮู่วววววว ฮู่ววววววว *****

ออร่ าพลังทั้งสามสี น้ นั เปรี ยบได้กบั เปลวเพลิงที่บุกไหม้อยูภ่ ายใน


ร่ างกายของเขา ไม่เพียงแต่มนั ส่ งพลังมหาศาลออกมาเท่านั้น มันยัง
สามารถสมานบาดแผลของเขา ในตอนนี้ พลังของยาต้องห้ามสามสี ได้
ประจักษ์ต่อสายตาของทุกคน

“ท่านเจ้าวิหาร หวูห่ ยา !! นี่เป็ นเพียงการประลองของเด็กเท่านั้น


ไม่จาํ เป็ นต้องเข้าแลกด้วยชีวติ เช่นนี้ !!” แม่เฒ่า หวูก่ ง กล่าวเตือน หวู่
หยา

“มันเป็ นเพราะเจ้าเด็กเหลือขอ หวูฉ่ ิ ง ที่เรี ยกร้องให้เดิมพันด้วย


ชีวติ เช่นนี้ !!”

“ถ้าต้องการให้ขา้ หยุด เทียนหมิง นัน่ เท่ากับว่าข้าต้องยอมรับความ


พ่ายแพ้เช่นนั้นรึ !! ถ้าหาก หวูฉ่ ิ ง ไม่เลือกเดิมพันด้วยชีวติ เทียนหมิง ก็
ไม่จาํ เป็ นต้องแบกรับความกดดันเช่นนี้ !!” หวูห่ ยา กล่าวออกมาด้วย
ความเย็นชา พร้อมกับจ้องไปที่ แม่เฒ่า หวูก่ ง อย่างเย็นชา เพราะเขาไม่
ชอบที่นางกล่าวขึ้นในก่อนหน้านี้

“ใช่ !! นัน่ คือความจริ ง แต่ศิษย์ของท่านมีพลังถึงระดับสาม และคู่


ประลองของเขามีพลังเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น นี่กเ็ ท่ากับผูแ้ ข็งแกร่ ง
รังแกผูอ้ ่อนแอ แต่นี่เขากลับกินยาต้องห้ามสามวิญญาณไปอีก ถึงแม้วา่
เขาจะชนะ มันก็ไม่ใช่ชยั ชนะที่ควรจะภาคภูมิใจ !! รี บห้ามเขาเร็ วเข้า !!”
แม่เฒ่า หวูก่ ง กล่าวกระตุน้

“ผูช้ นะคือจ้าว ผูแ้ พ้คือโจร ยาต้องห้ามสามวิญญาณเป็ นของ


เทียนหมิง หาก หวูฉ่ ิง มี เขาก็สามารถใช้มนั ได้อย่างอิสระ !! อย่าว่าแต่
ิ ญาณ ข้าก็จะไม่ยงุ่
ยาต้องห้ามสามวิญญาณเลย แม้แต่ยาต้องห้ามสี่ วญ
เกี่ยวใดๆ แต่ขา้ เกรงว่าเขาจะไม่มีมนั มากกว่า !!” หวูห่ ยา กล่าวออกมา
อย่างเย็นชา ในตอนนี้เขาได้สูญเสี ยเหตุผลทั้งหมดในการเจรจาไปแล้ว

“เจ้า…… !!” แม่เฒ่า หวูก่ ง ไม่พอใจต่อ หวูห่ ยา อย่างมาก แต่


นางก็ไม่สามารถทําอะไรได้

“ทุกคน !! หวูฉ่ ิง ต้องการต่อสู โ้ ดยแลกชีวติ กับลูกศิษย์ของข้า ข้า


แนะนําว่าอย่าได้สอดมือเข้าไปยุง่ เด็ดขาด !!”
นอกจากเขาจะไม่หา้ ม จู เทียนหมิง ในการใช้ยาต้องห้าม เขายังลุก
ขึ้นและข่มขู่ไม่ให้ผใู ้ ดเข้าไปช่วยเหลือ ชูเฟิ ง

“ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ กระบี่ทะลายนภา !!”

ชูเฟิ ง สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของ จู เทียนหมิง มันดูคล้ายกับ


การกระทําของ จู ตี่กวง ในก่อนหน้านี้ แต่พลังที่แผ่กระจายออกมานั้น
แข็งแกร่ งผิดกันอย่างมาก

***** ฝุ่ บ *****


เมื่อเห็น จู เทียนหมิง กําลังจะใช้กระบี่ทะลายนภานั้น ชูเฟิ ง ไม่ได้
หลบหลีกแต่อย่างใด เขากลับพุง่ ทะยานไปในอากาศตรงเข้าหา จู
เทียนหมิง อย่างรวดเร็ ว

“หึ รู ้วา่ เทียนหมิง กําลังจะใช้กระบี่ทะลายนภาเลยต้องการจะหยุด


เขาเช่นนั้นรึ !! เจ้าปัญญาอ่อนหรื อเปล่า !! เจ้าคิดว่า เทียนหมิง มีพลัง
เท่ากับ ไต้กวง เช่นนั้นรึ !! ข้าจะบอกเจ้าให้เอาบุญ พลังของกระบี่
ทะลายนภาสามารถฆ่าเจ้าได้โดยเหลือซากแม้แต่นอ้ ย !!” ในเวลานัน่
เสี ยงตะโกนของ หวูห่ ยา ก็ดีงขึ้นมาจากด้านล่าง ด้วยนํ้าเสี ยงเย้ยหยัน

“หน้าด้านจริ งๆ !!” ชุน หวู่ และคนอื่นๆ ต่างกัดฟันด้วยความ


กราดเกรี้ ยว เมื่อพวกเขาได้เห็นการกระทําของ หวูห่ ยา แต่พวกเขาก็ไม่
สามารถทําอะไรได้ เพราะ หวูห่ ยา แข็งแกร่ งอย่างมาก และในตอนนี้
นายหญิง เพียวเมี้ยว ก็ไม่ได้อยูท่ ี่นี่ แม้วา่ พวกเขาจะโกรธแค้นมากเท่าไร
พวกเขาก็ไร้พลังที่จะสามารถทําอะะไรได้

“เข้ามา !! ให้ขา้ ได้เห็นความแข็งแกร่ งของกระบี่ทะลายนภาของ


เจ้า !!”

แม้วา่ หวูห่ ยา จะตะโกนเย้ยหยันออกมานั้น แต่ ชูเฟิ ง ก็ไม่ใส่ ใจเขา


แม้แต่นอ้ ย เขาไม่ได้ชลอความเร็ วลงแม้แต่นิดเดียว แต่กลับเพิ่มความเร็ ว
ขึ้น อีกทั้งยังกล่าวเย้ยหยัน จู เทียนหมิง ออกไป

พวกเขาทึกคนไม่ผใู ้ ดที่สามารถเข้าใจ ชูเฟิ ง ได้ พวกเขาต่างคิดว่า


ชูเฟิ ง ต้องการฆ่าตัวตาย ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะสังเกตว่าขวานอสู รฟ้า
ในมือของ ชูเฟิ ง ได้หาย และถูกแทนที่ดว้ ยพละงที่แข็งแกร่ งบนฝ่ ามือ
ของเขา
“ฮ่าๆ !! เจ้ากล้าดี หากเจ้าไม่ตอ้ งการมีชีวติ อยูต่ ่อ ข้าจะสงเคราะห์
เจ้าเอง !!”

หลังจาก จู เทียนหมิง กินยาต้องห้ามเข้าไปนั้น เขาก็เต็มไปด้วย


ความมัน่ ใจอย่างมาก เขาคิดเพียงแค่วา่ ชูเฟิ ง รนเข้ามาหาที่ตายเท่านั้น
เขาชี้ปลายดาบสี ทองของเขาเข้าหา ชูเฟิ ง พลันพลังงานมหาศาลก็พงุ่ ไป
ยัง ชูเฟิ ง มันมันยังไม่เป็ นรู ปร่ าง แต่มนั ก็คือทักษะ กระบี่ทะลาย
นภา อย่างแน่นอน

“ข้าจะให้เจ้าได้เห็นทักษะของข้า !!” ในเวลานั้น ชูเฟิ ง ยิม้ หยัน


ออกมา พร้อมกับปล่อยพลังในฝ่ ามืออกไป พลังเกิดเสี ยงคํารามดัง
กึกก้อง เส้นพลุงสี ดาํ พุง่ ออกจากฝ่ ามือของเขา มันคือทักษะ พยัฆค์ขาว
สังหาร
***** ตูม *****

ในขณะที่ ชูเฟิ ง และ จู เทียนหมิง เริ่ มเข้าใกล้กนั นั้น ทักษะกระบี่


ทะลายนภา และทักษะพยัฆค์ขาวสังการก็เข้าปะทะกันอย่างรุ นแรง

หลังจากการปะทะนั้น คลื่นพลังงานก็ระเบิดออกมาอย่างรุ นแรง


คลื่นพลังงานนั้นปกคลุมไปทัว่ ยอดหุบเขาอย่างรวดเร็ ว หากไม่มีเหล่าผู ้
อาวุโสป้องกันไว้ งานเลี้ยงคงจะพังพินาศย่อยยับ

ถึงแม้วา่ จะมีรูปแบบอํานาจพลังวิญญาณของเหล่าผูอ้ าวุโสป้องกัน


เอาไว้น้ นั ทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่รุนแรง แม้วา่ การต่อสู ข้ อง ชู
เฟิ ง และ จู เทียนหมิง จะไม่ใช่การต่อสู ข้ องผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสี่ แต่คลื่น
พลังที่ส่งออกมานัน่ ก็รุนแรงอย่างมาก

ในที่สุด คลื่นพลังงานที่ระเบิดออกมานั้นก็ค่อยหายไป ฝุ่ นควัน


ค่อยบางลงอย่างช้าๆ

เมื่อทุกอย่างกลับสู่ สภาพเดิมนั้น คนที่อยูบ่ นยอดเขาต่างพูดอะไร


ไม่ออก พวกเขาสามารถเห็นได้ชดั ว่า ชูเฟิ ง ยังคงยืนอยูบ่ นอากาศ เสื้ อผ้า
ของเขาถูกทําลาย ร่ างกายมีบาดแผลเล็กน้อย ใบหน้าของเขาขาวซี ด แต่
เขาก็ยงั คงยืนอยูบ่ นอากาศได้

แต่ทางด้าน จู เทียนหมิง นั้น ร่ างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล


และอาบไปด้วยเลือด ในตอนนี้ เขาได้ถูกจัดการโดย ชูเฟิ ง ผลการปะทะ
ในครั้งนี้ได้ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน
“ทักษะที่ หวูฉ่ ิง ใช้แข็งแกร่ งอย่างมาก มันน่านะเป็ นทักษะ
ต้องห้ามซินะ !!”

“มันไม่ใช่ทกั ษะต้องห้ามธรรมดา แต่มนั อาจจะเป็ นทักษะเร้นลับ


ในตํานาน !!”

“อะไรนะ !! ทักษะเร้นลับ !!”

“อืม……ไม่เพียงแค่น้ นั ทะกษะเกราะป้องกันที่เขาใช้ในก่อน
หน้านี้กบั จู เทียนหมิง ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็ นทักษะเร้นลับเช่นกัน !!”
ในขณะนั้น บางคนในพื้นที่รู้จกั ทักษะพยัฆค์ขาวสังหาร
“จริ งรึ !! ผูท้ ี่มีทกั ษะเร้นลับเพียงหนึ่งทักษะก็โดดเด่นอย่างมาก
แล้ว แต่เด็กคนนี้กลับมีถึงสองทักษะ !!”

“นี่หมายความว่าตระกูลของเขาไม่ธรรมดา และอาจารย์ของเขา
ย่อมจะแข็งแกร่ งอย่างมากแน่นอน !!”

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : เด๋ วได้รู้แน่ ว่าจารย์พี่เฟิ งเป็ นใคร!!!

B : เหยียบไว้ก่อน ลูกพี่ แค่ 2 ทักษะเร้นลับ ก็โวยวายแตกตื่น ยังมีอีก


1 นะพี่ ส่ วนอีก 1 ฝากไว้กบั อาจารย์

C : อย่าพล่ามเยอะ กูกาํ ลังมันส์


B : ลาบแซบ!!!

A : เด๋ วมืงได้แดก ลาบเลือด ให้ไวเลย

B : มืงเริ่ มคนแรกเลย กูวา่ จะเงียบไม่พดู ไรล่ะ


บทที่ 669 - หน้าด้าน ชิบหาย

“มันน่าเหลือเชื่อจริ งๆ ตอนนี้ขา้ นั้นอยากรู ้จริ งๆว่า อาจารย์ของ หวู่


ฉิง นั้นแข็งแกร่ งแค่ไหน ที่ถ่ายทอดความสามารถเช่นนี้ได้.”

“เอาชนะ ระดับ3 ในตอนที่อยูน่ ระดับ 1 เขาช่างเป็ นอัจฉริ ยะที่


เหลือเชื่อจริ งๆ ในอนาคตความสําเร็ จของเขามิอาจคาดเดาได้ และอีก
หลายปี ข้างหน้าอาจจะมีราชันย์สงครามเกิดขึ้นในภูมิภาคทะเล
ตะวันออกอีกคนก็เป็ นได้!”
หลังจากยืนยันว่า สิ่ งที่ชูเฟิ งใช้เป็ นทักษะเร้นลับ ที่แม้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญ
ระดับสู งก็ตอ้ งตกตะลึง ในสายตาพวกเขา ไม่เพียงรู ้สึกตกใจ แต่กม็ ี
ความชื่นชมแฝงอยูด่ ว้ ย เพราะ ทักษะเร้นลับนั้นราวกับเป็ นตํานาน มี
ใครบ้างจะไม่สนใจมัน

อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ได้แต่ชื่นชม และไม่มีใครคิดร้ายเลย ถ้าชูเฟิ งนั้น


ยังโดดเด่นเช่นนี้ แล้วอาจารย์ของเขาจะแข็งแกร่ งขนาดไหน

*โผ๊ละ* ในตอนนั้น ผูค้ นก็ได้ยนิ เสี ยงระเบิดดังมาจากท้องฟ้าและพุง่ ลง


สู่ ภูเขาลงบนโต๊ะ พลังที่แข็งแกร่ งนั้นทําให้โต๊ะที่อยูบ่ นยอดเขาแตกเป็ น
เสี่ ยงๆ

เมื่อเขามองดีดี ก็เห็นว่าเป็ นร่ างของจู เทียนหมิงที่บาดเจ็บสาหัส เขานั้น


ไม่เหลือพลังที่แม้จะยืนขึ้น และ เลือดนั้นไหลออกมาจากตัวเขาเต็มไป
หมดย้อมโต๊ะอาหารจนแดงฉาน

“ท่านพี่!” เมื่อเห็นสภาพของพีช่ ายของตน จู ตี่กวงก็รีบวิง่ เข้ามา


และหวังจะช่วย

*วูบ* ก่อนที่เขาจะได้เข้าไปถึงตัวนั้น ก็มีร่างของคนปรากฏราวกับ


สายฟ้าฟาด ร่ างนั้นไม่เพียงยืนอยูข่ า้ งจู เทียนหมิง แม้แต่เท้าของมันก็วาง
อยูบ่ นหัวของจู เทียนหมิง และคนคนนั้นก็คือชูเฟิ ง

“ไอ้สารเลว ออกห่างจากพี่ชายข้าเดี๋ยวนี้” เมื่อเห็นว่าชูเฟิ งกําลัง


เหยียบหัวพี่ชายตน จู ตี่กวง ก็พงุ่ เข้าไปด้วยความโกรธ
“ถอยไปซะ!.” ชูเฟิ งนั้น เพียงแค่พลังธรรมดาของเขาก็เหนือกว่า จู
ตี่กวงแล้ว เขาสะบัดแขนของเขาและนัน่ ทําให้จู ตี่กวง โดนแรงกระแทก
ลอยออกไป

“บัดซบ ข้าจะฆ่าเจ้า!” จู เทียนหมิง พูดขึ้นมา เมื่อได้ยนิ เสี ยงร้อง


ของน้องชายตน

แต่ก่อนที่เขาจะได้พดู ต่อชูเฟิ งก็เสริ มแรงไปที่เท้าและนัน่ ก็เกิดเสี ยงแตก


ดังเป๊ าะ ที่จมูกของจู เทียนหมิง

“อ๊ากกก~~~”
ความเจ็บปวดนัน่ ทําให้ จู เทียนหมิง ร้องดังลัน่ แต่กไ็ ม่ได้รับความเห็น
ใจจากชูเฟิ ง นอกจากนี้เขายังพูดอีกว่า “เจ้าจะให้ขา้ เป็ นคนลงมือ หรื อ
เจ้าจะลงมือด้วยตัวเอง”

“เขาไม่ได้คิดจะฆ่า จู เทียนหมิง จริ งๆใช่หรื อไม่” ผูค้ นต่างขนลุก


เมื่อเห็นการกระทําของชูเฟิ ง ซึ่ งพวกเขาไม่คิดว่าชูเฟิ งจะโหดเหี้ ยมถึง
ขนาดจะข้าศิษย์รักของ เจ้าวิหาร วูห่ ยา ต่อหน้าต่อตาเขา นัน่ มัน
เหมือนกับเขาไม่เห็นเจ้าวิหารวูห่ ยาอยูใ่ นสายตาเลย

“ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องเขาอีกครั้ง ข้าจะถลกหนังเจ้าออกมา!” เจ้า


วิหาร วูห่ ยา ไม่สามารถทนดูจู เทียนหมิงตายได้ เขาชี้หน้าชูเฟิ งและ
ตะโกนเสี ยงดังลัน่ ในเวลาเดียวกันเขาก็ระเบิดกลิ่นอายระดับสู งสุ ดของ
จ้าวสงครามออกมา
กลิ่นอายที่แข็งแกร่ งนัน่ ราวกับเป็ นพายุทาํ ให้ยอดเขาตกอยูใ่ นความ
วุน่ วาย คนรุ่ นเยาว์ที่ยงั แข็งแกร่ งไม่พอนั้นไม่สามารถต้านรับแรงดันนั้น
ไหวและไม่สามารถยืนอยูไ่ ด้ แม้แต่ชูเฟิ งก็ยงั ได้รับผลกระทบไม่นอ้ ย
เช่นกัน

แต่ใบหน้าของเขาก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เขาหัวเราะเสี ยงดังลัน่ และพูด


ว่า “ หื ม เจ้าวิหารวูห่ ยา ท่านเป็ นคนเช่นนี้สินะ ก่อนหน้านี้ ท่านบอกว่า
ข้าหวูฉ่ ิงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะได้รับป้ายสายหมอกและตอนนี้ขา้ ก็กาํ ลัง
จะเอาชนะศึกครั้งนี้แล้ว หรื อท่านจะกลับคําพูด ที่ศิษย์ของท่านเป็ นคน
ไร้ยางอายแบบนี้ นั้นคงเป็ นเพราะพวกเขาเรี ยนรู ้มาจากท่านสิ นะ.”

“เจ้าเด็กเหลือขอ อย่าคิดว่าคําพูดของเจ้าจะทําอะไรข้าได้ ถ้าเจ้า


กล้าแตะต้องเขาอีกครั้ง ข้าจะฆ่าเจ้า”
“อย่างไรก็ตาม ข้ายังเห็นแก่หน้าท่านหญิง เพียวเมี้ยวอยู่ ข้าจะให้
โอกาสเจ้า รี บถอยออกห่างเขาซะ ไม่ง้ นั อย่าหาว่าข้าไม่เตือน.”

ใบหน้าของเจ้าวิหารวูห่ ยาดําเทาอย่างกับเป็ นขี้เถ้า ในตอนนั้นเขาไม่


สนใจเรื่ องภาพลักษณ์ของเขา เขาสนแค่วา่ จะทําอย่างไรที่จะทําให้ชูเฟิ ง
ปล่อยจู เทียนหมิง เท่านั้น

“เจ้าวิหาร วูห่ ยา ท่านก็เป็ นเพียงแค่ศิษย์กบั อาจารย์ ท่านจะ


เดือดร้อนไปทําไม เมื่อตอนที่จูเทียนหมิง และศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ งได้เดินพัน
กัน ท่านไม่ยอมให้เขาหยุด และเมื่อจู เทียนหมิงใช้ยาต้องห้าม ท่านก็ไม่
ยอมห้ามเขา ในตอนนี้ ท่านยังต้องการหยุดศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ ง อย่างนั้นสิ นะ
ท่านยังมีความละอายอยูห่ รื อไม่” ในตอนนั้น ชุน หวู ก็ลุกขึ้นมาชี้หน้า
เจ้าวิหาร วูห่ ยา และพูดเสี ยดสี เขา
“เจ้าวิหาร วูห่ ยา ไม่ใช่วา่ ข้า เซี้ ย หยู ไม่เคารพท่าน แต่การกระทํา
ของท่านจะส่ งผลต่อสถานะของท่านอย่างมาก,” เซี้ย หยู พูดขึ้น

“ผูอ้ าวุโส วูห่ ยา ข้าขอให้ท่านลองคิดดูใหม่.” แม่แต่ ฉิ ว ชือ ก็พดู


ขึ้นมา

“หวู่ ฉิง เจ้ายังไม่หยุดอีกอย่างนั้นหรื อ ดูเหมือนเจ้าต้องการจะตาย


อย่างนั้นสิ นะ.” เจ้าวิหาร วูห่ ยาพูด จากนั้นเขาก็สะบัดแขนส่ งผลให้เกิด
คลื่นลมออกมา

*ฮึ่ม* ในตอนนั้น ชูเฟิ งก็รู้วา่ อันตรายใกล้เข้ามา เมื่อคลืนพลังนั้นใกล้จะ


กระทบกับตัวเขา เขารู ้สึกเหมือนมีภูเขากดร่ างเขาอยู่ เขารี บใช้ ทักษะ
เกราะเต่าดํา เพื่อป้องกันตัวเอง
*ตูม* อย่างไรก็ตาม พลังของเจ้าวิหาร วูห่ ยา นั้นแข็งแกร่ งมาก มันต่าง
กับระดับของชูเฟิ งอย่างเห็นได้ชดั คลื่นพลังนั้นทําให้ชูเฟิ งกระเด็น
ออกมา

“คุกเข่าซะ!!.” แต่มนั ก็ไม่จบแค่เพียงนั้น เมื่อชูเฟิ งลอยอยูบ่ น


ท้องฟ้า ฝ่ ามือเจ้าวิหารวูห่ ยา ก็กระแทกกับเขาดังเปรี้ ยง ทําให้ชูเฟิ งถูก
กระแทกลงมาสู่ ดิน

แม้จะมีเกราะเต่าดํา ป้องกันตัวอยูแ่ ต่กม็ ีเลือดไหลออกมาจากปากเขา


อย่างไรก็ตามเขารู ้วา่ เจ้าวิหารวูห่ ยา ยังไม่อยากฆ่าเขา การโจมตีน้ นั ทํา
ให้หน้าของชูเฟิ งดําราวกับขี้เถ้า และในสายตาของผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ
สู งสุ ดของเจ้าแห่งสงครามนั้น ผูท้ ี่อยูใ่ นระดับ 1 ก็ราวกับเป็ นมด.
“เจ้าวิหาร วูห่ ยา ท่านกําลังทําอะไรของท่าน” เมื่อเห็นเช่นนั้น ชุน
หวู่ และคนอื่นๆก็โกรธจัด

“หวูห่ ยา เจ้าเป็ นผูอ้ าวุโส ทําไมถึงยืน่ มือไปสอดเรื่ องของเด็กๆเล่า


เจ้าคิดว่าการกระทําเช่นนี้น้ นั มันดูดีมากหรื ออย่างไร,” แม่เฒ่า วูก่ ง พูด
ขึ้น

“แน่นอนว่าเจ้านั้นรักศิษย์ของเจ้า ดังนั้นเจ้าสามารถช่วยเหลือเขา
ได้ แต่ถึงยังไงเจ้าก็ไม่สมควรลงมือกับ หวูฉ่ ิ ง!.”

“ถูกต้อง ข้านั้นเคยเห็นคนหน้าหนา ไร้ยางอายมาก่อน แต่นี่เป็ น


ครั้งแรกที่ขา้ เห็นคนเช่นเจ้า.” การกระทําของ เจ้าวิหาร วูห่ ยา ทําให้ผคู ้ น
ต่างโกรธเป็ นอย่างมาก และเริ่ มด่าทอเขาด้วยถ้อยคํารุ นแรง
“พวกเจ้าทั้งหมดหุบปากซะ ถ้าใครกล้าพูดอีกข้าจะฆ่ามันซะ.” ใน
ตอนนั้น เจ้าวิหาร วูห่ ยาก็ตะโกนขึ้น ในเวลาเดียวกันฝ่ ามือของเขาก็เกิด
แสงขึ้นและมีดาบยาวปรากฏขึ้นในมือของเขา

ดาบยาวนั้นไม่ได้กว้างมากแต่มนั ก็ยาวมาก รู ปร่ างของมันงดงามนัก ตัว


ดาบมีสีทอง และ สัญลักษณ์ที่แสนวิเศษสลักอยูแ่ ม้แต่กลิ่นอายของมัน
นั้นแตกต่างจากยอดยุทธภัณฑ์ทวั่ ๆไป และ คล้ายกับ กระบี่ชมพูบุปผา
ของหย่าเฟยที่ใช้

หลังจาก ดาบยาวปรากฏขึ้น กลิ่นอายของเจ้าวิหาร วูห่ ยา ก็รุนแรงขึ้น


อย่ามาก เกิดพายุหมุนที่เปี่ ยมไปด้วยพลังโดยมีเขาเป็ นศูนย์กลาง แรง
กดดันที่น่าเกรงขามนี้กห็ อ้ มล้อมยอดเขาไว้หมดแล้ว
ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : ไงชอบมาจบค้างแบบนี้ทุกที แน่จริ งแถมอีกสิ วะ่ !!!

B : ใจเย็นๆ วันนี้ ทีมแปล ไปลงปุ๋ ยมา งานถึงมาช้ากว่าปกติ ให้แปล


ต่อ เห็นทีวา่ จะไม่ไหว

A : อ๊าก!!! แล้วใครจะมาช่วย ชูเฟิ ง อ่ะ ไต้ก๋ ู เพียวเมี้ยว ฉิ วซุ่ย หรื อไม่


แน่อาจจะเป็ น เสี่ ยวยู๋

B : ไต้ก๋ ู มาก็แย่พอล่ะ ถ้า เสี่ ยวยู๋ มาล่ะ เหี้ ยแน่ๆ


C : ก็รู้ๆกันอยู่ ว่า เสี่ ยวยู๋ เป็ นใคร ???

A4 : น้องไง!!!

C : น้อง แม่ มืงอ่ะดิ!!!

A4 : แรงอ่ะ!!!
บทที่ 670 - ไม่สามารถแตะได้แม่แต่ครั้งเดียว

“เจ้า…!!!”
เมื่อดาบยาวสี ทองปรากฏขึ้น ท่าทางของพวกผูอ้ าวุโสก็ตอ้ งเปลี่ยนไป

พวกเขารู ้วา่ ดาบที่อยูใ่ นมือเจ้าวิหาร วูห่ ยานั้น เป็ นอาวุธวิเศษ มันไม่ใช่


ยอดยุทธภัณฑ์แต่เป็ นยอดยุทธภัณฑ์แห่งราชันย์ไม่สมบูรณ์ ดาบตรา
ประทับมังกร

อย่างไรก็ตามแม้วา่ ระดับราชันย์ไม่สมบูรณ์น้ นั จะด้อยกว่ายอด


ยุทธภัณฑ์แห่งราชันย์ปกติทวั่ ไป แต่มนั ก็เหนือกว่ายอดยุทธภัณฑ์อย่าง
มาก นับว่าเป็ นสมบัติล้ าํ ค่าในภูมิภาคทะเลตะวันออกเลยก็ได้ ซึ่ งนั
เหนือกว่ายอดยุทธภัณฑ์อย่างมาก

ดาบตราประทับมังกรนี้ เป็ นสมบัติล้ าํ ค่าของ เจ้าวิหารวูห่ ยา หลังจากที่


ทุกคนเห็นว่าเขาหยิบมันออกมา ทุกคนต่างรู ้ทนั ทีวา่ เขาเอาจริ งเอาจัง
มากเรื่ องที่ตอ้ งการปกป้องลูกศิษย์ของเขา
ถ้าผูอ้ าวุโสที่อยูใ่ นงานยืน่ มือเข้าช่วย พวกเขาอาจจะเอาชนะ วูห่ ยาได้
แต่ในตอนนี้ตอนที่วหู่ ยาชักดาบออกมานั้นพวกเขาคิดว่าพวกเขาไม่
สามารถเอาชนะได้

แม้วา่ พวกเขาจะไม่ชอบการกระทําที่อุกอาจของวูห่ ยา และไม่พอใจที่วู่


หยาวางตัวเช่นนี้ แต่กไ็ ม่มีใครกล้าที่จะหยุดเขา

พวกชุน หวู นั้นก็ตอ้ งการจะช่วยชูเฟิ ง แต่ วูห่ ยา แข็งแกร่ งเกินไป พวก


เขาจึงคิดว่าตนไม่มีพลังพอที่จะเทียบได้ และไม่วา่ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนไหน
ในที่แห่งนี้น้ นั ก็ยงั ไม่อาจเทียบกับ วูห่ ยาได้
“หวูฉ่ ิง คุกเข่าและรับความผิดเสี ย บางทีขา้ อาจจะให้โอกาสเจ้า
ถ้าไม่ง้ นั แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้” เจ้าวิหารวูห่ ยา พูดขึ้น

“ดูเหมือนเจ้าจะประเมินตนสู งไปหน่อยนะ มาดูกนั ว่าวันนี้ใครจะ


สามารถช่วย หวูฉ่ ิงได้!!!.”

แต่ตอนนั้นก็มีเสี ยงดังราวกับฟ้าผ่าบนอากาศ และในเวลาเดียวกันก็มีร่าง


ร่ างหนึ่งดิ่งลงมาจากท้องฟ้าและยืนอยูห่ น้าชูเฟิ ง

เจ้าของร่ างนั้นคือ ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน หลังจากเธอปรากฏตัวขึ้น แรงกดดัน


ของเจ้าวิหารวูห่ ยา ก็ถูกบีบกลับไป
เมื่อฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน ปรากฏตัวขึ้น ทุกคนต่างก็ตกใจอย่างมาก เพราะนาง
นั้นราวกับนางฟ้าที่มาจุติลงบนโลกมนุษย์ ใบหน้าของนางนั้นงดงามหา
เปรี ยบได้ยาก

และที่สาํ คัญที่สุดกลิ่นอายของนางนั้น เหนือกกว่า วูห่ ยา โดยสมบูรณ์


พวกเขารู ้สึกว่านางนั้นต้องอยูใ่ นระดับราชันย์สงครามแน่นอน

“ท่านเป็ นใครกัน” หลังจาก ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยานปรากฏตัวขึ้น เจ้า


วิหารวูห่ ยา เดิมที่หยิง่ ยโสในก่อนหน้านี้กถ็ ามอย่างสุ ภาพ

ในตอนนั้น ผูค้ นต่างจับจ้องไปที่ ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยาน พวกเขาอยากรู ้วา่ เธอ


เป็ นใครมาจากไหน เพราะพวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคนคนนี้
“ข้าชื่อ ฉิวชุ่ย จากผาคนรัก,” ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยาน ตอบอย่างเย็นชา

“ข้าเคยได้ยนิ มาก่อนว่าผาคนรักนั้น เป็ นสถานที่ที่มีคนอยูใ่ น


จํานวนมากแม้ขา้ จะรู ้วา่ ในนั้นมีคนแข็งแกร่ งอยูแ่ ต่ขา้ ไม่เคยได้ยนิ ชื่อ
ของท่านหญิง ฉิวชุ่ย เลย.”

หลังจากได้ยนิ ว่า ฉิวชุ่ย ฟู่ หยานนั้น มาจากผาคนรัก วูห่ ยา ก็นึกขึ้นได้วา่


มีผเู ้ ชี่ยวชาญจํานวนมากหลบซ่อนตัวอยูใ่ นผาคนรัก และเขานั้นไม่เคย
ได้ยนิ ชื่อของ ท่านหญิง ฉิวชุ่ยมาก่อน

ดังนั้นเขาจึงคิดว่า ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน นั้นจะแข็งแกร่ งเพียงใด เขาคิดว่านาง


อยูใ่ นระดับสู งสุ ดของเจ้าแห่งสงครามเช่นเดียวกับเขา และเขาอาจจะใช้
ดาบตราบประทับมังกรล้มนางได้ "ท่านและข้านั้นไม่รู้จกั กันมาก่อน แต่
เมื่อท่านเป็ นสหายของท่านหญิงเพียวเมี้ยว ข้าขอเตือนให้ทนั อย่ายืน่ จมูก
เข้ามา.”

“ยืน่ จมูกอย่างนั้นหรื อ หวูฉ่ ิ ง เป็ นลูกศิษย์ของสหายข้า และตอนนี้


สหายข้านั้นไม่อยูท่ ี่นี่ เมื่อลูกศิษย์ของสหายถูกรังแก ข้าก็ตอ้ งยืนมือเข้า
ไปช่วย !” ฉิวชุ่ย ฟู่ หยานพูด ตอนนั้นดวงตาของเธอคมกริ บราวกับหอก
จ้องไปที่วหู่ ยา

เจ้าวิหารวูห่ ยา ดิ่งลงดินจนเกิดเสี ยงดัง ตูม้ พลังที่น่าเกรงขามนั้นทําให้


เขาจมลงดิน ในตอนนี้ใบหน้าของเขาซี ดขาว เหงื่อเย็นไหลท่วมตัว
ในตอนนี้เขารู ้สึกได้ถึงความเกรงกลัวแล้ว

“นี่มนั หรื อว่า นางคือผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ ราชันย์สงคราม”


เมื่อเห็นภาพนั้น ผูค้ นต่างตกใจ และเมื่อพวกเขามองย้อนไปที่ ฉิ วชุ่ย ฟู่ ห
ยาน ในสายตาพวกเขาก็เกิดความเคารพ

พวกเขาไม่รู้วา่ ฉิวชุ่ย ฟู่ หยานคือใคร แต่เมื่อเห็นว่านางสามารถทําให้ วู่


หยา จมลงดินได้ พวกเขาจึงรู ้ทนั ทีวา่ นางต้องอยูใ่ นระดับ 1 ราชันย์
สงครามเป็ นอย่างน้อย

วูห่ ยา ที่เป็ นจําเลยของการกระทํานั้น รู ้ตวั ทันทีวา่ แรงกดดันของนางนั้น


มากกว่าเขายิง่ นัก เป็ นสิ่ งที่เขาไม่สามารถต่อกรด้วยได้

“ทําไมเจ้าถึงคุกเข่าลงล่ะ ความโอหังก่อนหน้านี้ไปไหนหมด เจ้า


ไม่ได้พดู ว่า ถ้าใครกล้าพูดไร้สาระอีกแม้แต่คาํ เดียวข้าจะฆ่าทิ้งซะ และ
แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้ไม่ใช่หรื อ” ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยาน ยิม้ อย่างเย็นชา
สายตาของเธอมองไปที่ วูห่ ยา พร้อมกับเยาะเย้ย

และในตอนนั้น พื้นที่ยอดเขาก็ตกลงสู่ ความเงียบ จนได้ยนิ แม้กระทัง่


เสี ยงหัวใจเต้นและเสี ยงหายใจ

ไม่มีใครคิดว่าจะมีระดับราชันย์สงครามอยูใ่ นผาคนรัก

อย่างไรก็ตามพวกเขารู ้วา่ ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับราชันย์สงครามนั้น ไม่ปล่อย


ให้วหู่ ยา เหยียบหยาม หวูฉ่ ิงเปล่าๆแน่นอน พวกเขารู ้วา่ มันต้องมี
บางอย่างเกิดขึ้น พวกเขาจึงตั้งใจรอดู
และเป็ นเพราะการกระทําของ วูห่ ยา ก่อนหน้านี้ทาํ ให้พวกเขาโกรธมาก
ไม่มีใครพูดที่จะช่วยเขา ทุกคนต่างรอดูเขาโดนลงโทษ

“หวูฉ่ ิง ข้อตกลงก่อนที่เจ้าจะสู ก้ บั เขาคืออะไร” ฉิ วชุ่ย ฟู่ หยาน


หันไปถามชูเฟิ ง

“ผูอ้ าวุโส ฉิวชุ่ย ก่อนหน้านี้พวกข้าได้ตกลงกันไปว่าผูแ้ พ้ตอ้ ง


ยอมแลกด้วยชีวติ ,” ชูเฟิ ง พูด

“แล้วเจ้าจะรออะไรอีกเล่า รี บๆช่วยสงเคราะห์เขาซะทีสิ” ฉิวชุ่ย


ฟู่ หยาน พูด
“รับทราบ!.” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ชูเฟิ งก็ประสานมือ และเดินไปที่จู
เทียนหมิงอย่างไม่ลงั เล

เหตุผลที่ชูเฟิ งนั้น ไม่เกรงกลัวที่จะเดิมพันชีวติ ของเขากับจู เทียนหมิง


ต่อหน้าผูค้ นจํานวนมากนั้น

มันเป็ นเพราะหลังจากเอาชนะ จู ตี่กวงได้ เขาก็ได้รับข้อความจาก ฉิ วชุ่ย


ฟู่ หยาน

และนางได้กล่าวกับชูเฟิ งสั้นๆในตอนนั้นว่า “ต่อสู เ้ ป็ นตายกับเขาซะ ข้า


จะรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอง.”
เมื่อมี ฉิวชุ่ย ฟู่ หยาน คอยให้ทา้ ยอยู่ ชูเฟิ งจึงรู ้สึกมัน่ ใจมาก นัน่ เป็ น
เหตุผลที่เขากล้าลงมือ และเมินเฉยท่าทางของ วูห่ ยา

ในตอนนี้ ฉิวชุ่ย ฟู่ หยานได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว ชูเฟิ งนั้นไม่เหลือความ


กลัวใดๆเลย เขาสะบัดมือจากนั้นก็เกิดแสงที่มือเขาและกลายเป็ นขวาน
อสู รฟ้าอยูใ่ นมือของเขา

ในตอนนั้น จู เทียนหมิงรู ้วา่ หายนะจะมาถึงเขาแล้ว เขาใช้พลังทั้งหมด


และพยายามจะลุกขึ้น แต่ตอนที่เขาจะลุกขึ้นได้ชูเฟิ งก็ได้ปรากฏตัวต่อ
หน้าเขา และชูเฟิ งก็ได้เตะหน้าเขาไป 1 ดอก ทําให้เขาล้มลงไปอีกครั้ง

“หยุดนะ!” เมื่อเห็นชูเฟิ ง จะข้าศิษย์รักของเขาวูห่ ยา ก็ระเบิดเสี ยง


ออกมาใส่ ชูเฟิ ง
“บังอาจ!” อย่างไรก็ตามในตอนที่เขาตะโกนออกมา ฉิ วชุ่ย ฟู่ ห
ยานก็สะบัดมือของนาง และเกิดเสี ยงดังปั้ ง ทําให้ วูห่ ยา ลอยออกไป

เมื่อเขาตกสู่ พ้นื ดินนั้น ไม่เพียงมีแค่เลือดไหลออกมาจมูกและปาก


เท่านั้น ผูค้ นที่อยูร่ อบข้างต่างเห็นได้ชดั ว่ามีรอยมือแดงประทับอยูบ่ น
หน้าของเขา

ต่อหน้า ฉิวชุ่ย ฟู่ หยานนั้น วูห่ ยาไม่สามารถที่จะโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : ชะตากรรม พวกมันคงหนีไม่พน้ ความตายแล้วสิ นะ!!!

C : ก็ไม่แน่หรอกหว้า!!!

B : ไม่ตาย ก็ตอ้ งเอาของดีๆมาแลกอ่ะ แล้วอะไรที่มีค่าพอกับชีวติ พวก


นั้นล่ะ

A : ดาบตราประทับมังกร!!! จ้าวโอสถทิพย์!!! อื่นๆอีกเพียบ

B : ของแบบนั้นจะฆ่าทิ้งแล้วเอามาตอนไหนก็ได้!!! ขาสองข้าง แขน


สองข้าง เป็ นไง!!!
C : เอาไปทําขี้เกลืออะไร ไม่ใช้แขนฝังอัญมณี เทพ สักหน่อย!!!

A4 : จะรอดไม่รอด ก็ให้ผเู ้ ขียนละกันเนาะเป็ นคนตัดสิ น!!!


บทที่ 671 - คําเตือน

" หวูฉ่ ิง ลงมือ!! " ฉิวซุย่ ฟู่ หยาน ตะโกนเสียงดังหลังจากที่ซดั เจ้ า


วิหาร วูห่ ยา ปลิวไปด้ านข้ าง

" อย่า อย่า ได้ โปรด!!! " ได้ ยินแบบนัน้ เขาก็ลมื อาการบาดเจ็บของ
ตนเองไป, เจ้ าวิหาร วูห่ ยารี บเช็ดเลือดที่มมุ ปาก พร้ อมกับอ้ อนวอน
อย่างบ้ าคลัง่

แต่วา่ ทําไม ฉิวซุย่ ฟู่ หยาน ถึงได้ สนับสนุน ชูเฟิ ง, สิง่ ที่เกิดขึ ้นทําให้ เจ้ า
วิหารวูห่ ยามีปฏิกิริยาดัง่ เช่นปั จจุบนั ตอนนัน้ ชูเฟิ งยกขวานอสูรฟ้าใน
มือขึ ้น และกําลังจะผ่าลงที่ร่างของ จู เทียนหมิง ที่นอนกองที่พื ้น

" หวูฉ่ ิง!! ถ้ าเจ้ าอยากฆ่า ก็มาฆ่าข้ า! " อย่างไรก็ตาม เพื่อ


ช่วยชีวิต จู เทียนหมิง เจ้ าวิหาร วูห่ ย่า ถึงกับยอมเอาชีวติ เข้ าแลก ซึง่ นัน้
ไม่ใช่สงิ่ ที่ ชูเฟิ ง คาดไว้ เมื่อหันไปมองที่ใบหน้ าเขา นํ ้าตาของเขาก็ไหล
ลงใบหน้ าที่แก่ชรา นํ ้าตานันเป็
้ นนํ ้าตาที่ออกมาจากความรู้สกึ ที่แท้ จริ ง
ตอนนันเขาช่
้ างดูน่าสงสาร

" ฆ่าเจ้ า ? เจ้ าไม่ใช่คนที่มาเดิมพันกับข้ า ทําไมข้ าต้ องฆ่าเจ้ า


ไหนเจ้ าลองบอกเหตุผลดีๆมาสิ!!! " ชูเฟิ ง ไม่ได้ เคลือ่ นย้ ายออกไป แต่
เขาก็ไม่คดิ ว่า เจ้ าวิหาร วูห่ ยา ที่แสนจะน่ารังเกียจและหน้ าด้ านหน้ าทน
จะมีด้านที่ยอมเสียสละ ที่ขนาดยอมแลกชีวิตของตัวเองกับลูกศิษย์ของ
เขา
แต่ถงึ อย่างนัน้ ชูเฟิ ง ก็ไม่คิดจะปล่อย จู เทียนหมิง ไปง่ายๆ เพราะเขา
ได้ เห็นความน่ารังเกียจ ของอาจารยฺและสาวกทังสองของเขา
้ สภาพ
อนาถของพวกเขาในปั จจุบนั ก็อาจเป็ นแค่การเสแสร้ ง ถ้ าหากฉิวซุย่ ฟู่ ห
ยาน ไม่ก้าวออกมาทันเวลา คนที่จะตายคงจะหนีไม่พ้นตัวเขา

" เขาเป็ นลูกชายของข้ า เทียนหมิง และ ตี่กวง ทังคู


้ เ่ ป็ นลูกชาย
ของข้ า ความผิดของลูกก็เหมือนความผิดของพ่อแม่ ดังนัน้ อย่าฆ่า
เทียนหมิง เลย จะฆ่าก็มาฆ่าข้ า! " เจ้ าวิหาร วูห่ ย่า อ้ อนวอนจนท้ ายสุด
เขาก็ยอมแพ้ และบอกความจริ งกับ ชูเฟิ ง

" หาาาา ~~~~~ " และเมื่อคําพูดนันหลุ


้ ดออกมา ก็เกิดความ
วุน่ วายกับฝูงฝน
" อะไรนะ ? จู เทียนหมิง และ จู ตี่กวง แท้ จริ งเป็ นทายาทเจ้ า
วิหาร ลูกของท่าน วูห่ ย่า งันหรอ
้ ? "หลายคนแสดงออกถึงความ
ประหลาดใจ เพราะเป็ นครัง้ แรกที่พวกเขาได้ ยินว่านักบวชมีลกู , อีกทัง้
เขา ก็ยงั ไม่เคยแต่งงานและอยูม่ าเพียงลําพังโดยตลอด แล้ วเด็กที่เขา
ว่า จะมาจากไหนหรื อว่าเขาไปเอากับกระบอกไม้ ไผ่

" เท่าที่ข้าดู มันไม่น่าจะแปลกใจเลยแม้ แต่น้อย เขาให้


ความสําคัญกับ จู เทียนหมิง และ จู ตี่กวงคอยฝึ กฝน ฟูมฝัก และเขายัง
คอยพลักดันพวกเขาทังสอง
้ อีกทังยั
้ งมอบสิง่ ต่างๆให้ กบั ทังสอง
้ ดูจาก
เรื่ องทังหมดนี
้ ้ก็คงเป็ นเพราะทังสองนั
้ นเป็
้ นลูกชายแท้ ๆของเขา เขาจึง
ใส่ใจ เทียน หมิง และ ตี่กวง " มีคนที่ฉลาดๆอยูบ่ ้ างเมื่อมองภาพรวม
ของสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดได้ เช่นนัน้ พวกเขาก็ยิ่งมอง เจ้ า
วิหาร วูห่ ย่า ว่าเป็ นคนน่ารังเกียจ และน่าขยะแขยง
" อา . . .อา . . . .อาจารย์! คําพูดของท่านเป็ นเรื่ องจริ งงันหรอ

ท่านคือพ่อของเรา แต่ทา่ นบอกว่าพ่อของเราเสียไปนานแล้ ว "
[ T/N หลายคนอาจจะงง ว่าจริ งๆแล้ ว วูห่ ย่า เป็ นผู้ชายหรอ ช่ายคับ
วูห่ ย่าคือชายแท้ นักบวชดีๆ เจ้ าวิหาร หรื อ ไต้ ซอื แต่มีตําแหน่งเป็ น เจ้ า
อาวาส เราเลยใช้ เจ้ าวิหาร ไม่งนเราต้
ั้ องใช้ แม่ชี แต่หลายคนอาจจะ
สับสนกับแม่เฒ่า หวูก่ ง ซึง่ ผู้แปลบางท่านก็มนึ งงเช่นกัน แต่ให้ เข้ าใจ
ตรงกันว่า มันคือ ผู้ชาย ]

" ลูกข้ า ข้ าคือพ่อจริงๆของเจ้ า อย่างไรก็ตาม ข้ าก็ได้ โกหกและ


หลอกพวกเจ้ า เพราะข้ าอยากให้ พวกเจ้ าทังสองตั
้ งใจฝึ
้ กฝนและไม่หวัง
พึง่ พาข้ า ทังหมดนี
้ ้ข้ าก็ทําเพื่อประโยชน์ของเจ้ า "

เจ้ าวิหาร วูห่ ย่า ปาดนํ ้าตาของเขา จากนันก็


้ คอ่ ยๆลุกขึ ้นยืน พร้ อมกับ
เดินไปหา ชูเฟิ ง เมื่อถึงระยะห่างจากชูเฟิ ง ประมาณ 10 เมตร เขาก็
คุกเข่ากับพื ้นพร้ อมกับเอาหัวโขกและพูดด้ วยสีหน้ าที่เต็มไปด้ วยความ
จริงใจ " ฆ่าข้ าเถิด พ่อคนนี ้ขอชดเชยความผิดทังหมดของลู
้ ก"

ตอนนัน้ ชูเฟิ ง ก็ขยับตัว แม้ วา่ เจ้ าวิหาร วูห่ ย่าและลูกชายของเขาจะ


ไม่ใช่คนดี แต่ความรู้สกึ ของพ่อและลูก ชูเฟิ งก็พอสัมผัสถึงมันได้ ดังนัน้
เขาจึงไม่ได้ ทําอะไรกับ จู เทียนหมิง จากนันก็
้ โยนสายตาไปยัง ฉิวซุย่
ฟู่ หยาน

ในตอนนัน้ ความพิโรธที่เคยพุง่ ออกมาจากสายตาอันแน่วแน่ของนาง


บัดนี ้เห็นได้ วา่ นางรู้สกึ ตกใจไม่น้อยที่คนน่ารังเกียจอย่างเจ้ าวิหาร วู่
หยาจะยอมแลกชีวิตของเขาเพื่อชีวิตของลูกชาย แต่ นางไม่ใช่คนที่จะ
ยอมกล่าวอะไรออกมาง่ายๆ ดังนัน้ นางจึงส่งข้ อความทางจิตกับ ชูเฟิ ง
ว่า " ถ้ า นอกจากชีวิตของเขา แล้ วเจ้ ายังมีอย่างอื่นที่ต้องการอีกไม๊ หาก
มีเจ้ าก็เลือกมาสิง่ หนึง่ ? "
" อาวุโส หากข้ าต้ องการเลือกบางอย่าง เพื่อแลกกับชีวิตของเขา
จากที่ข้าดู ดาบตราประทับมังกรก็ไม่เลวสักเท่าไหร่ " ชูเฟิ ง ตัดสินใจได้
ทันที เพราะเขาได้ ยินการสนทนาของฝูงชนมา และรู้สกึ ว่า ดาบตรา
ประทับมังกรไม่ใช่ของขี ้ๆ เขายังเห็นว่ามันไม่ใช่แค่ ยอดยุทธภัณฑ์ แต่
เป็ น ยอดยุทธภัณฑ์แห่งราชันย์ ไม่สมบูรณ์ [ T/N Incomplete
Royal Armament.ยอดยุทธภัณฑ์แห่งราชันย์ ไม่สมบูรณ์ จะ
ต่างกับ Royal Armament ยอดยุทธภัณฑ์แห่งราชันย์ นะคับ ไม่
มี Incomplete จะเป็ นของดีกว่า ส่วนขวานอสูรฟ้า จะเป็ น King
of elite armament คือ ระดับ ยอดยุทธภัณฑ์ แต่เป็ น ราชันย์
ในหมู่ ยอดยุทธภัณฑ์ คือ อาวุธที่ดีที่สดุ สุดในระดับ ยอดยุทธภัณฑ์ ซึง่
จะมีระดับ Normal elite Armament ไป elite
Armament ไป Master Armament ไป Royal
Armament ไป emperor Armament ไล่ตามลําดับที่เรา
เรี ยง หากยังสงสัย คลิก๊ หัวข้ อตัวละคร เราจะเขียนอธิบายไว้ ซึง่ ระดับ
Royal ขึ ้นไป มันจะเลือกผู้ใช้ และมอบพลังทังหมดให้
้ ผ้ มู นั เลือก แต่
ถ้ ามี incomplete จะไม่มีพลังขนาดนัน้ เพราะมันคล้ ายกับ ของ
เลียนแบบ นี ้ล่ะคับที่มนั ยุง่ ยาก ]

มันเป็ นอาวุธที่ดีกว่าขวานอสูรฟ้าของเขา แม้ วา่ ขวานอสูรฟ้าจะมี


ความสามารถพิเศษที่ใช้ ฝึกอํานาจพลังวิญญาณ แต่อํานาจของตัวพลัง
ทําลาย ยังค่อนข้ างจะห่างไกลจาก ดาบตราประทับมังกร ถ้ าเขาใช้ ดาบ
นี ้ในการต่อสู้ พลังของเขาคงจะเพิม่ ขึ ้นอย่างมาก

แม้วา่ ในด้านการต่อสู โ้ ดยพลังทําลาย ชูเฟิ ง จะมีทกั ษะเร้นลับ เขาก็ไม่


ค่อนอยากนํามันออกมาใช้สู้ หากไม่ใช่ช่วงเวลาสําคัญๆ เพราะทักษะ
เร้นลับมันควบคุมยากเกินไป และหากเขาเปิ ดเผยมันบ่อยๆแล้วมีคนจับ
ได้ ก็มีความเป็ นไปได้วา่ เขาจะถูกฆ่าเพื่อชิงมันไป

" ถึงแม้มนั จะไม่สมบูรณ์ และไม่ใช่ ยอดยุทธภัณฑ์แห่งราชันย์


โดยเนื้อแท้ แต่มนั ก็สร้างขึ้นโดยผูท้ ี่พลังวิญญาณในอาณาจักรราชันย์
สงคราม ซึ่งพลังของมันไม่ใช่อะไรที่เทียบเคียงกับ ยอดยุทธภัณฑ์ช้ นั สู ง
ซึ่งสิ่ งนี้มีค่ามากยิง่ กว่า และถ้ามีโอกาสที่จะเลือก ก็ควรเลือกสิ่ งที่ล้ าํ ค่า
ที่สุดของเจ้าวิหารวูห่ ย่า เจ้าหนุ่มสายตาเจ้านับว่าเฉี ยบแหลม "
หลังจากได้ยนิ คําพูดของ ชูเฟิ ง ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ยิม้ ให้เบาๆ โดยที่นาง
ไม่ได้ปฏิเสธคําขอ จากนั้นนางก็กล่าวกับเจ้าวิหารวูห่ ย่า " เห็นแก่เขาที่
เป็ นเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้าและเจ้าก็ยอมสละชีวติ เพือเขา ข้าจะให้
โอกาศเจ้า "

" มอบดาบตราประทับมังกรให้ หวูฉ่ ิ ง และขอโทษเขาซะ แล้วข้า


จะทําเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น! "
" อะไรนะ ? เจ้าต้องการให้อาจารย์มอบดาบตราประทับมังกร
ให้ง้ นั หรอ อย่าแม้แต่จะคิด! " จู ตี่กวง ตอบสนองก่อนที่เจ้าวิหาร วูห่ ย่า
จะได้พดู

" อาจารย์ขา้ กว่าจะได้ยอดยุทธภัณฑ์แห่งราชันย์ชิ้นนี้มา ต้อง


แลกกับสมบัตินบั ไม่ถว้ นและต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ถ้าจะมอบ
มันให้กบั เจ้า ต้องข้ามศพข้าไปก่อน ต่อให้ฆ่าข้าเจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้
ดาบตราประทับมังกรไป " ในเวลาเดียวกัน จู เทียนหมิง ที่กลัวตายก็
เรี ยกความกล้ากลับมา
" หุบปาก!!! " อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ เจ้าวิหารวูห่ ย่า ระเบิดเสี ยง
ตะโกนใส่ พวกเขาทั้งสอง จะนั้นก็ส่งดาบตราประทับมังกรให้ชูเฟิ งและ
กล่าว " สหายน้อย หวูฉ่ ิง เราและศิษย์ทาํ ผิดต่อเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็ น
คนใจกว้าง และให้โอกาสพวกเรา"

" ข้าหวังว่าท่านจะกลับตัวกลับใจ ไม่ใช่เอาแต่กลัน่ แกล้งรังแก


ผูอ้ ื่น โลกนี้มนั กว้างใหญ่ และไม่ใช่ท่านที่ยงิ่ ใหญ่ที่นี่ หากท่านยังทําตัว
อวดดี คนที่จะต้องเจอหายนะคงเป็ นตัวท่านเอง "
ชูเฟิ ง ยิม้ พร้อมกับรับดาบตราประทับมังกรมา เขาเห็นว่า เจ้าวิหาร
อาจจะไม่ยอมลามือ และยิง่ ไปกว่านั้น เขาสามารถบอกได้วา่ นี้เป็ นดาบ
ชั้นยอด สมกับที่เป็ น ยอดยุทธภัณฑ์แห่งราชันย์ ไม่สมบูรณ์ แน่นอนว่า
มันไม่ใช่สิ่งที่ ยอดยุทธภัณฑ์ จะเทียบได้

" หวูฉ่ ิง, ว่านชือ ไปกันเถอะ ที่งานเลี้ยงไม่มีไรล่ะ เราไปหา แม่


นาง เพียวเมี้ยวกัน " หลังจากที่ ชูเฟิ ง ได้รับดาบตราประทับมังกรมา ฉิ ว
ซุ่ย ฟู่ หยาน ก็หนั หลังกลับและจากไปพร้อมกับ ชูเฟิ ง และ เจียง วานชือ
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเมื่อนางกําลังจะก้าวเท้าออกจากทิศทางยอด
เขา ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ก็หนั หัวไปรอบๆ และกล่าวกับเจ้าวิหาร วูห่ ย่า " เจ้า
ควรจะดีใจ ที่คนปรากฏตัวมาวันนี้เป็ นข้า ไม่ใช่อาจารย์ของ หวูฉ่ ิ ง หาก
ดูจากการกระทําของเจ้า คงไม่ใช่เพียง วิหารของเจ้า แต่ทุกอย่างที่
เกี่ยวข้องกับเจ้าคงต้องถูกกําจัด!!!"
หลังจากทิ้งคําเหล่านั้นไว้เบื้องหลัง ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน ก็จากไป ในตอนนั้น
เจ้าวิหารวูห่ ย่า สี หน้าซีดเผือด ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หลังจากที่ได้รับประสบเหตุการณ์วนั นี้ เขาก็เชื่อหมดใจว่า ชูเฟิ ง มีที่มา
ที่ไป ที่ไม่ธรรมดา และยิง่ ไปกว่านั้น เขาก็รู้วา่ ชูเฟิ ง ไม่ใช่คนที่เขา
สมควรจะเข้าไปตอแย

ในความเป็ นจริ ง แม้แต่ทุกคนที่อยูใ่ นฉากนั้น ก็สามารถบอกได้เลยว่า


ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ไม่ได้ลอ้ เล่น
พวกเขายังบอกได้อีกว่า ฉิวซุ่ย ฟู่ หยาน ไม่ได้เตือนเฉพาะเจ้าวิหารวูห่ ย่า
ในเวลาเดียวกัน นางก็บอกกับทุกๆคน ด้วยคําเตือนที่สุดแสนจะน่า
หวาดหวัน่ ที่บอกเป็ นในๆว่า ชูเฟิ ง ไม่ใช่คนที่พวกเขาสมควรเจ้าเข้าไป
ยุง่ ไม่ง้ นั ผลลัพธ์ที่ตามมาคงไม่อาจคาดเดา หรื อพวกเขาอาจจะต้องเจอ
กับสิ่ งที่น่าหวาดกลัวที่สุด ในชีวติ

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : ทําไมนางถึงไม่บอก ชื่อ จารย์พี่เฟิ งไปล่ะ

B : บอกได้ไง ฉิว ซานเฟิ ง กําชับมาว่าห้ามบอก ขนาดคนของ พรรค


มารทลายราตรี ชูเฟิ งยังไม่บอกเลย ขนาดคนที่เป็ นศิษย์ของ ฟู่ เหลียน
เซิน มันยังไม่บอกเลย นอกจาก ตัว ฟู่ เหลียนเซิ น กับ ฉิ วซุ่ย ฟู่ หยาน
และ เพียวเมี้ยว ก็แทบจะไม่มีใครรู ้ ขนาด ไต้ก๋ ู ชูเฟิ ง ยังไม่บอกเลย ไม่
งั้น ไต้ก๋ ู คงเลิกอยากได้พี่เฟิ งเป็ นศิษย์ หรื อไม่แน่อาจจะอยากได้ยง่ิ
กว่าเดิม

A : พูดๆมา ก็อยากรู ้ล่ะ ว่าไต้ก๋ ู กับ ฉิ ว ซานเฟิ ง นี้จะถูกกัน หรื อ เป็ น


ศัตรู กนั แล้วใครกันแน่เก่งกว่า

B : ไม่รู้ดิ คงตีกนั แย่งศิษย์ล่ะมั้ง!!! ถึงตอนนั้นเราคงได้รู้ใครเก่งกว่า


ใคร ไม่ง้ นั ก็สงครามนํ้าลาย เพราะชูเฟิ งเองก็ชอบ ไต้ก๋ ู ไม่นอ้ ย เพราะ
เขาเทใจให้ ชูเฟิ ง เกิน 100 ขนาดชูเฟิ งปฏิเสธ ยังคอยช่วยเหลือ ชูเฟิ ง
อีกทั้ง ยังปฏิเสธแล้วปฏิเสธเล่า เค้ายังไม่โกรธ เสื อกอยากได้เป็ น ศิษย์
เข้าไปอีก คนเก่งๆแม่งชอบมีไรแปลกๆ แถวบ้านเราก็คงเรี ยกกัน คน
เพี้ยนๆ
บทที่ 672 - เพลงดาบตราประทับมังกร
หลังจากกลับมาถึงที่พกั ของเขา สิ่ งแรกที่ขเู ฟิ งทําคือใช้เนตรสวรรค์
ตรวจสอบ ยอดยุทธภัณฑ์แห่งราชันย์ ไม่สมบูรณ์ ที่เขาได้รับมากจากเจ้า
วิหารวูห่ ย่าอย่างละเอียด

“นี่คือ...?”

อย่างไรก็ตามบางสิ่ งที่ชูเฟิ งไม่คาดคิดเมื่อชูเฟิ งใช้เนตรสวรรค์ศึกษา


ว่า ยอดยุทธภัณฑ์แห่งราชันย์ ไม่สมบูรณ์ มันถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร
เขาพบว่าตราประทับบนดาบตราประทับมังกรมีการเปลี่ยนแปลงลางๆ
ภายใต้การมองเห็นของเนตรสวรรค์

“จริ งหรอนี่?! มันคือทักษะจริ งๆ!”


ท้ายที่สุดชูเฟิ งชูเฟิ งค้นพบว่ามีทกั ษะซ่อนเร้นอยูภ่ ายในตราประทับนัน่
นอกจากนี้ทกั ษะนั้นยังมีชื่อของมัน ‘เพลงดาบตราประทับมังกร’

เพลงดาบตราประทับมังกรนั้นพิเศษเป็ นอย่างมาก มากกว่าจะเรี ยกมันว่า


ทักษะเฉยๆ แต่มนั จะดีกว่าหากเรี ยกมันว่า ‘สุ ดยอดเพลงดาบ’ อย่างไรก็
ตามบางสิ่ งที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือความแข็งแกร่ งที่ทรงพลังของมัน
กล่าวได้วา่ มันเหนือชั้นกว่าทักษะระดับ 9 ทัว่ ๆไป และแน่นอนมันยัง
เทียบได้กบั ทักษะต้องห้ามอีกด้วย

แต่การที่จะใช้เพลงดาบตราประทับมังกรได้น้ นั ผูใ้ ช้ตอ้ งมี ‘ดาบตรา


ประทับมังกร’ กล่าวได้วา่ เพลงดาบนี้ถูกสร้างขึ้นนี้ สร้างขึ้นเฉพาะดาบ
ตราประทับมังกรเท่านั้น ดังนั้นถ้าชูเฟิ งต้องการศึกษาทักษะนี้ เรื่ องของ
ดาบตราประทับมังกร เขาก็ไม่อาจปล่อยผ่านมันไปได้
“นี่คือดาบตราประทับมังกรที่มีประวัติยาวนาน...ราวกับมันไม่ได้
ถูกสร้างขึ้นโดยคุนรุ่ นใหม่ ข้าสงสัยว่าเจ้าวิหารวูห่ ย่าอาจจะค้นพบเพลง
ดาบตราประทับมังกรที่ซ่อนอย่◌ูในดาบตราประทับมังกรนี่แล้วหรื อ
ยัง” ชูเฟิ งร่ าเริ งอย่างมากที่คน้ พบเพลงดาบนี้โดยไม่ได้ต้ งั ใจ

“เขายังไม่พบมันอย่างแน่นอน แม้วา่ เจ้าวิหารวูห่ ย่าดูเหมือนจะ


เข้าใจทักษะรู ปแบบวิญญาณที่พิเศษ แต่มนั จะเทียบกับเนตรสวรรค์ได้
อย่างไร?” ต้านต้านกล่าวด้วยความมัน่ ใจเป็ นอย่างมาก

“เหอะ! นัน่ ก็จริ ง ข้าไม่เห็นต้องสนใจเรื่ องนั้น เพราะตอนนี้ดาบ


ตราประทับมังกรเป็ นของข้า แน่นอน! เพลงดาบตราประทับมังกรเองก็
เป็ นของข้าด้วย”
เนื่องจากชูเฟิ งเองไม่ได้ฝึกทักษะใหม่ๆมาเป็ นเวลานานแล้ว ดังนั้นชูเฟิ ง
จึงเริ่ มฝึ กฝนเพลงดาบตราประทับมังการที่ได้มาจากดาบตราประทับ
มังกรโดยไม่หลับไม่นอนทันที ด้วยพรสวรรค์แห่งการบ่มเพาะที่เหนือ
ชั้นและความสามารถในการเรี ยนรู ้อนั ทรงพลัง ชูเฟิ งสามารถทําความ
เข้าใจเพลงดาบตราประทับมังกรได้ภายในเวลาสั้นๆเพียง 2 วันเท่านั้น

หลังจากไม่ได้นอนอยู่ 2 วันเต็มๆจากการที่เขาฝึ กฝนดาบ ชูเฟิ งเหนื่อย


ล้าเล็กน้อย.. ขณะที่ชูเฟิ งเพิ่งจะเข้าสู่ หว้ งนิทรา เขาก็ถูกปลุกให้ตื่นด้วย
เสี ยงเคาะประตูที่เร่ งร้อน

“อืมม….ใครหน่ะ? นี่มนั ยังเช้าอยูเ่ ลย..ทําไมเจ้าไม่ปล่อยให้ขา้


นอนต่อเล่า?” เมื่อชูเฟิ งตื่น เขาพบว่าคํ่าคืนได้ล่วงผ่านไปแล้ว...และ
ภายนอกก็ถูกแทนที่ดว้ ยแสงสว่าง อย่างไรก็ตามท้องฟ้าเพิ่งสว่าง ตัวเขา
เองก็ ‘เพิ่ง’ ได้นอนไปครู่ เดียว ดังนั้นชูเฟิ งจึงอารมณ์เสี ยอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อชูเฟิ งเตรี ยมจะเปิ ดประตูออกไปโวยวาย เขาก็ตอ้ งผงะ
ทันทีที่ชูเฟิ งเห็นคนที่ยนื อยูด่ า้ นหลังทางเข้าประตู เขาก็ตอ้ งเก็บความ
เกรี้ ยวกราดที่เขาเตรี ยมไว้เพือ่ โวยวายกลับมาทันที

ทันใดนั้นด้านนอกตําหนักของชูเฟิ ง มีสาวงามยืนอยู่ 4 คน พวกนางจะ


เป็ นใครไปไม่ได้นอกจาก ชุน หวู,่ เซี้ย หยู, ฉิวซือ, และตง เซวีย

สาวงามทั้ง 4 แต่งกายในรู ปแบบเดียวกันทั้งหมดแต่ต่างกันที่สีของ


กระโปรง ไม่เพียงพวกนางจะงดงาม แต่พวกนางยังเป็ นอาหารตาอีกด้วย

พวกนางเปรี ยบเสมือนดอกไม้ที่เบ่งบานในยาวเช้า มันทําให้ผคู ้ น


ปราถนาที่จะใกล้ชิดอย่างไม่รู้ตวั
แม้แต่ชูเฟิ งเองก็เบิกตากว้างในตอนนี้ อาการง่วงเหงาหาวนอนที่ยงั
วนเวียนเขาอยูก่ พ็ ลันหายไปจนหมดสิ้ นราวกับควันที่แผ่วเบา

“เจ้ายังนอนอยูอ่ ีกรึ ? นี่มนั กี่โมงกี่ยามแล้ว? เจ้าเป็ นหมูที่มี


รู ปร่ างเป็ นบุรุษอย่างแท้จริ ง!” นี่คือสิ่ งแรกที่ชุน หวูพ่ ดู นางเหลือบมอง
ชูเฟิ งด้วยรอยยิม้ พร้อมกับระบายความไม่พอใจของนางกับเสี ยง
โหวกเหวกโวยวายของชูเฟิ งในตําหนักเมื่อสักครู่

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง วันนี้เป็ นวันที่ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์


เปิ ด? แม้วา่ เวลาเปิ ดของมันยังไม่แน่นอน..แต่มนั จะดีกว่าถ้าเราไปที่
นัน่ แต่เช้า หรื อถ้าหากเจ้าพลาดมันคงเป็ นความอัปยศน่าดู” เซี้ย หยูพดู
“วันนี้เป็ นวันที่ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์เปิ ดรึ ?” ความ
แตกตื่นพุง่ เข้ามาหาชูเฟิ งเมื่อคําได้ยนิ คําเหล่านั้น ใน 2 วันที่ผา่ นมา เขา
ได้ฝึกเพลงดาบตราประทับมังกรอย่างหนัก และเขาล้วนลืมเลือน
เหตุการณ์สาํ คัญนี้

“ไ..ไอ..ไอ้...ไอ้บา้ !! เจ้าลืมวันที่ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์
เปิ ด! แล้วมันยังเปิ ดแค่ครั้งเดียวในรอบ 6 ปี เจ้าบ้าไปแล้วหรื อยังไง
?!” ชุน หวูถ่ ามขณะที่ทาํ หน้ามุ่ยเมื่อได้เห็นท่าทางของชูเฟิ ง

“เอ่อ….ข้า..” ชูเฟิ งไม่รู้วา่ จะตอบยังไงเพราะเขาลืมไปสนิทเลย

“โฮ้..ข้าได้ยนิ มาว่าศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ งเก็บตัวบ่มเพาะใน 2 วันที่ผา่ น


มา เป็ นธรรมดาที่จะลืมเลือนเวลาไปบ้าง” เซี้ย หยูกล่าวอย่างราบเรี ยบ
เพื่อช่วยให้ชูเฟิ งพ้นจากสถานะการณ์น้ ี ขณะที่สองสาวงาม ฉิ ว ซื อและ
ตง เซวีย ยืนอยูเ่ งียบๆโดยไม่เคลื่อนไหวพร้อมกับหัวเราะคิกคักขณะที่
มองดูการแสดงนี้

“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว งั้นก็ไปกันตอนนี้เลย วันนี้ทุกคนที่ได้รับ


ป้ายสายหมอกและผ่านการทดสอบจะปรากฏตัวขึ้น ข้าเองก็อยากจะ
เห็นความสามารถของพวกหยิง่ ยโสจากเกาะประหารว่าจะมีอะไรบ้าง”
ชุน หวูพ่ ดู พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

“หมู่เกาะประหาร..เหอะ ข้าสงสัยว่าคนที่ได้รับสมญานามอัจฉริ ยะ
อันดับ 1 ในภูมิภาคทะเลตะวันออกอย่าง มู่หรง ซุน จะมาหรื อไม่” ชู
เฟิ งพูด

“ดูเหมือนจะไม่เป็ นเช่นนั้น ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์จะ


เปิ ดเพียง 1 ครั้งในรอบ 6 ปี และทุกๆครั้งผูค้ นเพียง 100 คนเท่านั้น
ที่สามารถเข้าไปได้ นอกจากนั้น พวกที่อายุ 30 ปี หรื อมากกว่านั้น ไม่
สามารถเข้าไปได้ และมู่หรงซุนเองก็อายุ 30 ปี แล้ว ดังนั้นอาจารย์ขา้
จึงไม่ได้ส่งป้ายสายหมอกเพื่อเชิญเขามาที่นี่”

“ในอีกแง่นึง น้องสาวของเขา มู่หรง ว่าน และคู่หมัน่ ของเขา หย่า


เฟย พร้อมกับอัจฉริ ยะจํานวนมากจากหมูเ้ กาะประหารก็ได้รับป้ายสาย
หมอกแล้ว แล้วเรื่ องที่วา่ เขาจะมากับคู่หมัน่ ของเขาหรื อไม่น้ นั ข้าไม่อาจ
ทราบได้ แต่ถา้ เขามา มันก็ไร้ประโยชน์ที่คนอายุเช่นเขาจะสามารถเข้า
ไปในดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์”

“แต่สาํ หรับเขาเขาจะรู ้สึกอาจจะข่มขื่นเล็กน้อย ไม่วา่ เขาจะเข้าไป


หรื อไม่ เพราะที่ผา่ นมา คนที่ทาํ สถิติได้สูงสุ ดคือเขา ซึ่ งทําได้ 120
ตราประทับ ซึ่งนี่มนั น่าประทับใจอย่างมาก” เซี้ย หยูอธิบายอย่างใจเย็น
แต่เมื่อพูดถึงสถิติที่มู่หรง ซุนทําไว้ ความชื่นชนปรากฏขึ้นบนหน้าของ
นางโดยไม่ได้ต้ งั ใจ

“ด้วยตราประทับ 120 ชิ้น สามารถนําไปแลกเปลี่ยนเป็ นทักษะ


ต้องห้ามได้หรื อไม่? และข้าสงสัยว่ามันคือทักษะต้องห้ามชั้นพสุ ธา
หรื อไม่?” ชูเฟิ งถามด้วยความสงสัย

“แลกได้แน่ซะยิง่ กว่าแน่! ตราประทับ 100 ชิ้น เพียงพอ


สําหรับทักษะต้องห้าม แต่สาํ หรับทักษะต้องห้ามชั้นพสุ ธา… พูดตาม
ตรงเลยนะข้าเองก็ไม่รู้วา่ มันมีอยูจ่ ริ งหรื อไม่ ทุกๆสิ่ งในหุบสายหาย
หมอกดําเนินการด้วยตัวของมันเอง ไม่มีสิ่งใดที่เราสามารถควบคุมได้!”

“ไม่ตอ้ งพูดถึงรู ปแบบสายหมอกนิรันดร์ ถ้าเราสามารถเปิ ดประตู


ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์เมื่อใดก็ได้ตามที่ปราถนา เช่นนั้นแล้ว
หุบเขาสายหมอกจะเพิ่มพูนความแข็งแกร่ งอย่างมหาศาลเลยหล่ะ” เซี้ย
หยูอธิบายด้วยรอยยิม้

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง เจ้าคงไม่ได้ตอ้ งการแลกตราประทับกับทักษะ


ต้องห้ามชั้นพสุ ธาใช่ม้ ยั ? ข้าไม่ได้ดูถูกเจ้านะ แต่ตราประทับใน
ดินแดนตราประทับนิรันดร์น้ นั ไม่ใช่วา่ จะได้รับง่ายๆ ทุกๆครั้งที่ดิน
แดนเปิ ดออกมีผคู ้ นว่า 100 คนเข้าไป อย่างไรก็ตามพวกเขาส่ วนใหญ่
สามารถเก็บตราประทับได้ค่อนข้างดี แต่กบั บางคนก็ไม่สามารถเก็บตรา
ประทับได้จนต้องกลับไปมือเปล่า”

“แต่คนอย่างมู่หรง ซุนนั้นโดดเด่นเป็ นอย่างมาก ตราประทับ


จํานวน 120 ดวง… แค่คิดถึงมันข้าก็ไม่อยากเชื่อแล้ว สมญานาม
อัจฉริ ยะอันดับ 1 แห่งภูมิภาคทะเลตะวันออกนับเป็ นอัจฉริ ยะของแท้
เลยทีเดียว”
หลังจากตง เซวียพูดเสร็ จ จากคําพูดของนางไม่เพียงบอกว่าตราประทับ
ในดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์น้ นั ได้รับยากมาก แต่ยงั ดูเหมือนนาง
จะชื่นชอบมู่หรง ซุนอยูไ่ ม่นอ้ ย

“เช่นนั้น จะเป็ นอย่างไรถ้าเขาทรงพลังมากกว่านี้? ไม่ใช่วา่ เขา


สารภาพอะไรกับศิษย์พี่ฉิว ซือในตอนท้ายรึ ?” ชุน หวูพ่ ดู ขั้นในตอน
นั้นทันที

ได้ยนิ คําพูดเหล่านั้น ใบหน้าเซี้ ย หยูแ่ ละตง เซวียเปลี่ยนแปลงทันที และ


พูดขึ้นโดยพร้อมเพียงกันว่า “น้องหวู่ เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“น้องหวู่ เจ้า...อย่าพูดสุ่ มสี่ สุ่มห้า” ในเวลาเดียว ใบหน้าที่งดงาม


ของฉิว ซือซีดขาวขณะที่นางดึงกระโปรงของชุน หวูล่ บั ๆ
“โอ้ย! ศิษย์พี่ฉิว ซือ เรื่ องอะไรที่จะไม่ให้ขา้ พูด? ไม่ใช่วา่ ท่าน
ปฏิเสธคําสารภาพรักของมู่หรง ซุนหรื อ?”

“ฮึ่ม... หลังจากดินแดนปิ ดลง เขาบอกกับท่านว่าห้ามบอกเรื่ องนี้


กับใคร จากที่ขา้ เห็น คนประเภทนี้เป็ นพวกกล้าทําแต่ไม่กล้ายอมรับ
และผลที่ตามมาไม่ต่างอะไรจากการเสแสร้ง” ชุน หวูพ่ ดู ในขณะที่ปาก
ของนางคดงอ………….
ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////A : พี่เฟิ งเข้าไปจะเป็ นไงบ้างนะ ???

B : อืม มันก็เข้าไปนัง่ คุยกับผูส้ ร้างดินแดนตราประทับนิรันดร์ หน้าตา


เฉยไง
A : ว่างมากเนอะ งี้จะได้ วิญญาณตราประทับมากี่ดวงกัน อีกอย่าง
ตราประทับดอกบัวอมตะฯก็หายากมาก แล้วพี่เฟิ งจะใจเยนไปไหน

B : ของแบบนั้น ผูส้ ื บทอดหรื อทาญาติผถู ้ ูกเลือกไม่ตอ้ งไปหา เด๋ วมัน


วิง่ มาหาเอง!!!

C : แล้วมืงจะสปอยทําหอยไร???

A : เอาน่าๆ!!!

B : กูกโ็ ม้ให้ มันฟังสบายใจไปงั้นแหละ!!!


A : ไอระยํา ซัม่ แม่!!!

B : จะบอกให้เรื่ องหนึ่ง เพราะกูชอบชื่อที่มืงด่า ว่าสถิติพี่เฟิ งทําได้คือ


เกิน ครึ่ ง หมื่น!!! แค่พนั สองก็มากกว่า มู่หรง ซุน 10 เท่าล่ะ แต่น้ ีเยอะ
กว่านั้นอีก

C : ไอ้โรคจิต!!! สักวันกูจะเย็บปากมืง
บทที่ 673 – ปกปิ ดความลับ

เมื่อได้ยนิ คํากล่าวของ ชุน หวู นั้น ทั้ง เซี๊ ยะ หยู และ ตง เซวีย ก็
ตกใจอย่างมาก พวกนางหันกลับมามองที่ ฉิ ว ซื อ และกล่าวถามออกมา
พร้อมกันว่า “ฉิว ซือ นี่เป็ นเรื่ องจริ งรึ !!”
ในขณะนั้น ใบหน้าของ ฉิ ว ซื อ เต็มไปด้วยความกังวล นางเหลือบ
มองไปที่ ชุน หวู ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า “เมื่อปี ที่แล้ว ชุน หวู ได้
ออกไปยังด้านนอก และนางก็ได้พบกับ มู่หรง ซุน !!” แม้วา่ ฉิ ว ซื อ จะ
ไม่ได้กล่าวออกมาตรงๆ แต่นางก็ยงั กล่าวเปรยออกมาแทนคํายืนยัน

***** ฮู่วววว *****

หลังจากที่ได้รับคํายืนยันนั้น เซี๊ ยะ หยู ก็ถอนหายใจออกมาด้วย


ความผ่อนคลาย ก่อนจะกล่าวว่า “มันจะดีกว่าถ้าพวกเรารู ้กนั เพียงแค่น้ ี
ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง ข้าขอให้เจ้าเก็บเรื่ องนี้ไว้เป็ นความลับ !!”

“ศิษย์พี่ ท่านไม่ตอ้ งกังวล ถึงข้าจะไม่ใช่คนดีนกั แต่ขา้ ก็รักษา


ความลับของผูอ้ ื่นอย่างดี !!” ชูเฟิ ง กล่าวตอบ พลางยิม้ บางๆ
“อืม ที่จริ งก็ยงั ไม่มีอะไรน่ากังวลนัก แต่ถา้ หากเรื่ องนี้ถูกแพร่ ง
พรายออกไป อาจมีบางคนที่ใช้เรื่ องนี้ เพื่อก่อให้เกิดความขัดแย้ง
ระหว่างหมู่เกาะประหารกับหุบเขาสายหมอก และหากเป็ นเช่นนั้น มัน
ย่อมไม่ดีอย่างแน่นอน !!” เซี๊ยะ หยู ไม่ได้กงั วลเกี่ยวกับ ชูเฟิ ง แต่นาง
ได้กล่าวอธิบายออกมาถึงเหตุผลที่ให้เก็บเรื่ องนี้ไว้เป็ นความลับ

หลังจากการนําทางของสี่ สาวงาม ชูเฟิ ง ก็ได้เดินทางมาถึงที่ยอด


เขา ด้านบนนั้นเป็ นที่พ้ืนที่ราบลาวกับลาน

บนพื้นที่แห่งนี้มีคนอยูเ่ พียงแค่ไม่มากนัก เพราะในวันนี้เป็ นการ


เปิ ดการประลองเพือ่ เข้าไปยังดินแดนตราประทับนิรันดร์ เหล่า
ผูเ้ ชี่ยวชาญอาวุโส จะได้รับอนุญาติให้ข้ ึนไปยังยอดหุบเขาสายหมอก
เพื่อเป็ นพยานในการประลอง ซึ่ งจะจัดขึ้นเพียงครั้งเดียวในทุกหกปี
เมื่อเทียบจํานวนคนของเหล่าผูอ้ าวุโส กับคนรุ่ นใหม่แล้วนั้น คน
รุ่ นใหม่ยงั มีอยูบ่ างตากว่ามาก มันเป็ นเพราะพื้นที่ของหุบเขาสายหมอก
หลายแห่งเป็ นพื้นที่ตอ้ งห้าม การจะเข้ามายังสถานที่แห่งนี้จึงเป็ นเรื่ อง
ยาก และผูท้ ี่มีคุณสมบัติเข้าสู่ ดินแดนตราประทับนิรันดร์ได้น้ นั ก็มีอยู่
น้อย จึงทําให้สถานที่แห่งนี้มีคนอยูเ่ พียงไม่กี่คนเท่านั้น

แม้วา่ จะมีคนอยูไ่ ม่มาก แต่ทุกคนล้วนเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ ง


ทั้งสิ้ น ผูท้ ี่มีพลังน้อยที่สุด อยูใ่ นระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม และสู งที่สุด
อยูใ่ นระดับสี่ ขั้นจ้าวสงคราม

“ดูซิ !! นัน่ มันสาวงามสี่ ฤดูที่เลื่องลือ !!”


“ว้าวววว !! พวกนางคือความภาคภูมิใจของหุบเขาสายหมอก !!
ไม่เพียงแต่ในด้านความงามของพวกนางเท่านั้น แม้แต่ในด้านความ
แข็งแกร่ ง พวกนางก็ยงั โดดเด่นอย่างมาก !!”

“แม่นางที่สวมกระโปรงสี เขียวนัน่ คงจะเป็ นแม่นาง ฉิ ว ซื อ ใช่


ไหม !? สมกับเป็ นหนึ่งในสามสาวงามแห่งเขตทะเลตะวันออก หาก
ผูใ้ ดได้แต่งานกับนางคงจะโชคดีไม่นอ้ ย ช่วงชีวติ ที่เหลือของเขา แม้
จะต้องตายก็คุม้ ค่าจริ งๆ”

“เจ้านี่มนั เพ้อฝันจริ งๆ !! ไม่ตอ้ งพูดถึงแม่นาง ฉิ ว ซื อ หากข้าได้


แต่งงานกับหนึ่งในแม่นางทั้งสามที่เหลือ ข้าก็ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อนาง
ได้ !!”
“พวกเจ้านี่บา้ กันจริ งๆ !! ทุกคนต่างก็รู้ดีวา่ ทําได้แค่ฝันเท่านั้น !!
พวกนางทั้งสี่ คนล้วนเป็ นที่ใฝ่ ฝันของเหล่าชายหนุ่มทั้งหมด!! พวกเราก็
ทําได้เพียงแค่มองเท่านั้นแหละ !!”

การปรากฏตัวของสี่ สาวงาม ทําให้ตกเป็ นจุดสนใจอย่างรวดเร็ ว ไม่


เว้นแม้แต่เหล่าอัจฉริ ยะที่แข็งแกร่ ง ก็ลว้ นจ้องมองมายังพวกนาง

“เดี๋ยวก่อน !! มีใครเดินมาพร้อมกับพวกนาง !?” ในเวลานั้น ก็มี


บางคนที่สงั เกตเห็น ชูเฟิ ง เดินมาพร้อมกับพวกนางทั้งสี่ คน และกําลัง
พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

เมื่อทุกคนเห็นแบบนี้น้ นั สายตาแห่งความเกลียดชัง และอิจฉาจาก


ทัว่ ทุกสารทิศต่างมุ่งตรงมายัง ชูเฟิ ง อย่างรวดเร็ ว
“นัน่ คือ หวูฉ่ ิง เขาคือคนที่ได้รับป้ายหมอกมาเป็ นกรณี พิเสษ เขามี
พลังเพียงระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงครามเท่านั้น แต่เขาก็แข็งแกร่ งอย่างมาก
!!” ชายหนุ่มผูห้ นึ่งกล่าวอธิบายออกมา เขามีพลังถึงระดับสอง และเข้า
ร่ วมงานเลี้ยงและได้รับการตรวจสอบจนได้รับป้ายมา

“ไม่วา่ เขาจะแข็งแกร่ งแค่ไหน เขาก็มีพลังเพียงแค่ระดับหนึ่ง


เท่านั้น เขาไม่น่าจะทําให้สาวงามทั้งสี่ ให้ความสนใจได้ ที่เป็ นเช่นนี้
เพราะเขาน่าจะคอยประจบพวกนางเสี ยมากกว่า !!” ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ
สอง ขั้นจ้าวสงครามกล่าวออกมาด้วยความหึ งหวง และไม่พอใจอย่าง
มาก

“พี่ใหญ่ ท่านไม่ควรกล่าวเช่นนั้น ท่านรู ้หรื อไม่ ว่าการทดสอบใน


ปี นี้ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันจากสี่ สิบคนเป็ น สี่ สิบเอ็ดคน !?”
ชายหนุ่มกล่าวถามด้วยรอยยิม้
“หรื อว่า…..เจ้ารู ้อะไรรึ !?” ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสอง กล่าวถาม
ด้วยความอยากรู ้อยากเห็น เพราะการที่เพิ่มผูท้ ี่ถูกตรวจสอบเข้ามาแบบนี้
ย่อมเป็ นที่สนใจของทุกคนอย่างมาก

“บังเอิญท่านอาจารย์ของข้าได้รับเชิญให้เข้าร่ วมงานเลี้ยง และใน


วันนั้น หวูฉ่ ิง ก็ได้เข้าร่ วมเช่นกัน” ชายหนุ่มกล่าว

“เกิดอะไรขึ้น !?” ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสองกล่าวถาม เพราะงานเลี้ยง


นั้น ผูท้ ี่สามารถเข้ารวมได้ยอ่ มไม่ธรรมดา ในเวลาเดียวกันนั้น แววตาที่
เขามองไปยังชายหนุ่มก็เต็มด้วยความเคารพ
“ท่านรู ้จกั เจ้าวิหาร หวูห่ ยา หรื อไม่ !?” ชายหนุ่มไม่ได้กล่าวตอบ
แต่เขากลับกล่าวถามออกมา

“แน่นอน ข้าเคยได้ยนิ ชื่อของท่านเจ้าวิหาร หวูห่ ยา เท่าที่ขา้ รู ้มา


เขาคือผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ ง และเป็ นหนึ่งในผูเ้ ชี่ยวชาญระดับชุดคลุมสี
ทองได้ก่อนที่กา้ วเข้าสู่ ข้นั ราชันย์สงคราม !!”

“ด้วยความแข็งแกร่ งของเขา และทักษะด้านเพลงดาบที่โดดเด่น


ของเขา ทําให้เขาแข็งแกร่ งที่สุดในขั้นจ้าวสงคราม และท่านอาจารย์ของ
ข้าก็แขนหักเพราะเขาเช่นกัน !!”

“แม้วา่ ท่านอาจารย์ของข้าจะแขนหักเพราะท่านเจ้าวิหาร หวูห่ ยา


แต่ท่านอาจารย์ของข้าก็ไม่ได้โกรธแค้นเขาแต่อย่างใด อีกทั้งท่านยังรู ้สึก
ว่า ท่านเจ้าวิหาร หวูห่ ยา เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามที่แข็งแกร่ งที่สุด
ในเขตทะเลตะวันออก !!” ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสอง กล่าวออกมาอย่าง
ภาคภูมิใจถึงความสําเร็ จของ หวูห่ ยา ราวกับว่าเขาเกี่ยวข้องกัน และเป็ น
สิ่ งที่มีเกียรติอย่างมากสําหรับเขาที่ได้เล่าเรื่ องนี้ออกมา

“เอาล่ะ ในงานเลี้ยงวันนั้น ท่านเจ้าวิหาร หวูห่ ยา ได้กล่าวว่า หวูฉ่ ิง


ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับป้ายสายหมอก !!”

“เพื่อเป็ นการพิสูจน์ตวั เองนั้น หวูฉ่ ิ ง ได้ทา้ ประลองกับศิษย์ท้ งั สอง


คนของท่านเจ้าวิหาร หวูห่ ยา โดยเดิมพันกันว่า ผูแ้ พ้จะต้องสละป้าย
หมอก และไม่เข้าสู่ ดินแดนตราประทับนิรันดร์ หลังจากนั้นภายใต้
สายตาของทุกคน หวูฉ่ ิง สามารถเอาชนะศิษย์ท้ งั สองคนของท่านเจ้าว
วิหาร หวูห่ ยา ได้ดว้ ยพลังเพียงระดับหนึ่ง และได้รับป้ายหมอกมาอย่าง
ชอบธรรม และยังได้เข้าสู่ ดินแดนตราประทับนิรันดร์ !!” ชายหนุ่ม
กล่าวออกมาอย่างจริ งจัง
“จริ งรึ !! ข้าเคยได้ยนิ มาว่าศิษย์รักของท่านเจ้าวิหาร หวูห่ ยา , จู
เทียนหมิง เป็ นถึงผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสาม ขั้นจ้าวสงคราม เขายังได้รับป้าย
หมอก…….เอ๊ะ !! ไม่จริ งใช่ไหม !? เจ้าจะบอกว่านอกจาก จู ตี่กวง
แม้แต่ จู เทียนหมิง ที่ได้รับป้ายหมอกมาโดยที่ไม่ตอ้ งตรวจสอบนั้น ได้
พ่ายแพ้ให้กบั หวูฉ่ ิง เช่นนั้นรึ !?” อยูๆ่ ใบหน้าของผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ
สองก็แสดงความเข้าใจออกมา แต่มนั ก็ถูกลบไปด้วยความตกตะลึง และ
ความไม่เชื่อในคํากล่าวเหล่านั้น

“เดี๋ยวก่อน !! ไม่เพียงแค่น้ นั !! อาจารย์ของ หวูฉ่ ิ ง ยังเป็ น


ผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ งและลึกลับ อีกทั้งเขายังได้รับการสนับสนุนจาก
ท่าน ฉิวซุ่ย ของผาคนรักอีกด้วย !!”

“เจ้าไม่รู้จกั ท่าน ฉิวซุ่ย ใช่หรื อไม่ !? คนทัว่ ไปจะไม่ค่อยรู ้จกั ท่าน


ฉิวซุ่ย มากนัก และมีคนอยูจ่ าํ นวนน้อยมากที่จะรู ้จกั กับท่าน แต่ขา้
สามารถบอกเจ้าได้เลยว่าท่าน ฉิ วซุ่ย คือผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงคราม
ในวันนั้น ท่านเกือบจะฆ่าท่านเจ้าวิหาร หวูห่ ยา เพียงเพราะเขากระทํา
การที่รุนแรงต่อ หวูฉ่ ิง แต่ดว้ ยทักษะดาบของท่านเจ้าวิหาร หวูห่ ยา เขา
จึงสามารถหลบหนีออกไปได้ !!”

“นอกจากนี้ ท่าน ฉิวซุ่ย ยังได้กล่าวเตือนทุกๆ คนเอาไว้วา่ อย่าได้


คิดร้ายต่อ หวูฉ่ ิง เพราะอาจารย์ของเขาสามารถฆ่าทุกคนได้ในพริ บตา
เท่านั้น และอาจารย์ของ หวูฉ่ ิง ก็แข็งแกร่ งกว่าท่าน ฉิ วซุ่ย มาก !!” ชาย
หนุ่มกล่าว

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : การเล่า วีรกรรมบทขี้ประติ๋ว จบไปอีก 1 ตอน รอออกจาก
ดินแดนตราประทับนิรันดร์ ก่อนเถอะตํานานบทใหม่จะถูกแผ่กระจาย
ไปทัว่ ทั้ง ทะเลตะวันออก
B : ไม่ใช่แค่น้ นั สาม ผูเ้ ชี่ยวชาญแนวหน้าของหมู่เกาะประหาร ที่มี
หย่า เฟย , มู่หรง ว่าน และ ชายอีกคน ก็ยงั โดนพี่เฟิ งอัด หนีกนั กระจุย
กระจาย ตอนแรกพวกมันทิ้งยันต์ระเบิดหวังฆ่า ชูเฟิ ง แต่ที่ไหนได้ ชูเฟิ ง
ไม่ตาย ตอนชูเฟิ งกลับออกมานี้ หน้าแต่ละคนซี ดเปนผี . . . . . .

A : ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับ 1 จ้าวสงคราม อัดพวก ระดับ 5 ระดับ 6 ได้


ด้วยงั้นหรอ!!!

B : มันจะยากอะไรล่ะ!!!
บทที่ 674 – จํากัดเวลาสิ บวัน

“น้องชาย เจ้าพูดจริ งรึ !! เจ้ารู ้ใช่ไหม ว่าเจ้าไม่สามารถโกหกเรื่ อง


เช่นนี้ได้ !!” ใบหน้าของผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสองเปลี่ยนเป็ นสี ขาวซี ด
คล้ายกับว่าเขากําลังหวาดกลัว

“มันเป็ นเรื่ องจริ ง หากเจ้าไม่เชื่อ ก็สามารถไปสอบถามทุกคนที่เข้า


ร่ วมในงานเลี้ยงคืนนั้นได้เลย !!” ชายหนุ่มกล่าวรับประกัน
***** เอื้อก !! *****

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับสอง ก็กลืนนํ้าลายอย่าง


ยากลําบาก เหงื่อเย็นไหลชุ่มบนใบหน้าของเขา ไม่หลงเหลือความ
เกลียดชังใดๆ ในขณะที่เขามองไปยัง ชูเฟิ ง เหลือไว้เพียงแค่ความกังวล
ในส่ วนลึกของหัวใจเขาเท่านั้น

ในความเป็ นจริ งนั้น เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงที่นี่เท่านั้น


เหล่าผูค้ นที่ได้เห็นการต่อสู ข้ อง ชูเฟิ ง ในวันนั้น ต่างแพร่ กระจายข่าวนี้
ออกไปอย่างรวดเร็ ว จึงทําให้ ชูเฟิ ง กลายเป็ นจุดสนใจของทุกๆ คน
ตัวตนของเขาก่อให้เกิดทั้งความอิจฉา และรวามหวาดกลัวในเวลา
เดียวกัน
ด้วยความสามารถของผูเ้ ชื่อมต่อโลกวิญญาณของ ชูเฟิ ง นั้น เขา
สามารถรับรู ้ได้ถึงการสนทนาของทุกคน และในขณะที่เขามาถึงยังพื้นที่
แห่งนี้ ทุกคนต่างมีท่าที่ที่ผดิ ปกติ ชูเฟิ ง จึงใช้อาํ นาจพลังวิญญาณของเขา
แผ่กระจายเพื่อตรวจสอบออกไป

ชูเฟิ ง เพียงยิม้ บางๆ ให้กบั พวกเขา ในทันทีที่เขารับรู ้ถึงการ


สนทนา และไม่ได้ใส่ ใจต่อพวกเขานัก แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงวันนั้น ทําให้ ชูเฟิ ง มีชื่อเสี ยงอย่างมาก

สําหรับเหตุน้ ียอ่ มก่อให้เกิดทั้งด้านดี และด้านร้าย มีท้ งั คนที่


หวาดกลัวเขา แงะคนที่คิดจะจัดการเขาในดินแดนตราประทับนิรันดร์
ถึงอย่างไรเรื่ องก็ได้เกิดขึ้นไปแล้ว ชูเฟิ ง จึงไม่ได้สนใจอีก เพราะ
อย่างไรก็ตาม ในโลกนี้ลว้ นมีแต่ความวุน่ วาย นอกจากจะมีผทู ้ ี่แข็งแกร่ ง
กว่าออกมา และทําให้มนั สงบลงเท่านั้น

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง ที่ทางเข้าดินแดนตราประทับนิรันดร์มีอยูส่ อง


ทาง ทางเหนื่อเพื่อเข้าไปเก็บรวบรวมตราประทับ และอีกทางหนึ่งมีไว้
สําหรับแลกทักษะต่อสู ”้

“ทางเข้าแรกจะเปิ ดในวันนี้ และจะปิ ดตัวลงในเวลาสองชัว่ โมง


ส่ วนทางเข้าที่สองจะเปิ ดทั้งวัน ในสิ บวันหลังจากวันนี้”

เซี๊ยะ หยู กล่าวพลางชี้ไปที่จุดศูนย์กลางของพื้นที่ ที่ตรงนั้นมีการ


ก่อตัวของรู ปแบบอํานาจพลังวิญญาณตั้งอยู่ มันดูคล้ายกับจะอ่อนแอ แต่
ชูเฟิ ง สามารถบอกได้ทนั ทีวา่ มันไม่ธรรมดาแม้แต่นอ้ ย
“นี่หมายความว่า หนึ่งคนสามารถอยูภ่ ายในดินแดนตราประทับนิ
รันดร์เพือ่ รวบรวมตราประทับได้สิบวัน หากภายในสิ บวันพวกเขาไม่
ออกมา พวกเขาก็จะพลาดโอกาสในการแลกตราประทับเช่นนั้นรึ !?”
ชูเฟิ ง กล่าวถาม

“อืม…ถูกต้อง !!” เซี๊ยะ หยู พยักหน้ารับ

“ศิษย์พี่ เซี๊ยะ หยู มันจะเป็ นไปได้ไหมว่า หาเข้าไปแล้วไม่ออกมา


ภายในสิ บว้น แต่ยงั คงอยูต่ ่อเพื่อเก็บรวบรวมตราประทับ และกลับ
ออกมาในอีกหกปี หลัง หากเป็ นเช่นนี้ ข้ามัน่ ใจว่าจะสามารถแลกเปลี่ยน
ทักษะการต่อสู ท้ ี่แข็งแกร่ งได้แน่นอน !!” ชูเฟิ ง กล่าวถามด้วยความ
สงสัย
“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้าคิดมากเกินไป มันเคยมีคนที่เคยลองมาก่อน
และมันคือการกระทําที่งี่เง่าอย่างมาก ภายในหกปี หลังจากนั้น พวกเขา
จะเหลือแม้แต่ซากใดๆ ภายในดินแดนตราประทับนิรันดร์ เจ้ารู ้หรื อไม่
ว่าทําไมจึงเป็ นเช่นนั้น !?” เซี๊ ยะ หยู กล่าว

“ไม่รู้ !!” ชูเฟิ ง ส่ ายศรี ษะ

“เพราะในดินแดนตราประทับนิรันดร์น้ นั อันตรายอย่างมาก ไม่มี


ผูใ้ ดที่สามารถอยูร่ อดได้ภายใต้สถานภาพเช่นนั้น แต่ภายในสิ บวันนี้มนั
จะเงียบสงบอย่างมาก แต่จงจําไว้วา่ ในความเงียบสงบ ก็ยงั มีอนั ตราย
แอบแฝงอยู่ !!”
“และภายในดินแดนตราประทับนิรันดร์จะไม่มีทางออก นี่จึงเป็ น
เหตุผลที่ตอ้ งพกยันต์นิรันดร์เข้าไปภายในดินแดนตราประทับนิรันดร์
!!”

“ยันต์นิรันดร์คือเครื่ องมือที่ใช้นาํ พาออกจากดินแดนตราประทับนิ


รันดร์ แต่เพราะมันมีเพียงหนึ่งร้อยใบ และไม่สามาาถสร้างขึ้นมาได้อีก
นี่จึงทําให้สามารถมีผเู ้ ข้าไปในดินแดนตราประทับนิรันดร์ได้เพียงหนึ่ง
ร้อยคนเท่านั้น !!” เซี๊ยะ หยู อธิบาย

“มันเป็ นเช่นนี้นี่เอง ขอบคุณศิษย์พี่ เซี๊ ยะ หยู ที่ช้ ีแนะ !!” ในที่สุด


ชูเฟิ ง ก็เข้าใจถึงความเป็ นไปของ ดินแดนตราประทับนิรันดร์

“เพราะฉะนั้น ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง มันจะดีกว่าถ้าพวกเราไปพร้อมกัน !!


พวกเราจะได้ดูแลความปลอดภัยของเจ้าได้ !!” ชุน หวู กล่าว
“ใช่ !! ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง มันจะดีกว่าการไปคนเดียว หากเราไป
พร้อมกันทั้งห้าคน !!” ตง เซวีย และ เซี๊ ยะ หยู กล่าวออกมาพร้อมกัน
แม้ ฉิว ซือ จะไม่ได้กล่าวอะไรออกมา แต่นางก็ยมิ้ บางๆ แทนการชวน ชู
เฟิ ง ให้ไปพร้อมกัน

“ขอบคุณมาก ศิษย์พี่ !!” มันยากที่จะปฏิเสธความหวังดีเช่นนี้ ชู


เฟิ ง จึงไม่ได้กล่าวปฏิเสธพวกนาง และในความเป็ นจริ งนั้น ชูเฟิ ง ก็มี
ความคิดเห็นตรงกับพวกนาง เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

และในความเป็ นจริ งนั้น เหล่าผูค้ นของหมู่เกาะประหารที่อนั ตราย


ก็ยงั เข้าไปยังดินแดนตราประทับนิรันดร์ และแม้แต่ หยา เฟย ก็ยงั เข้าไป
ชูเฟิ ง ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะพบกับนางในนั้นหรื อไม่ หากพวกเขาพบนาง
เข้า แน่นอนเลยว่า จากความอํามหิ ตของนาง นางย่อมจะทําร้าย ชูเฟิ ง
อย่างแน่นอน

ถึงแม้วา่ จะมียนั ต์นิรันดร์ ที่สามารถส่ งตัวเขากลับออกมาได้ใน


เวลาคับขัน แต่หากเป็ นเช่นนั้น มันย่อมจะทําให้เขาพลาดโอกาสที่จะ
รวบรวมตราประทับ

ดังนั้น การเดินทางไปพร้อมกับสี่ สาวงามจึงเป็ นทางเลือกที่ดีที่สุด


โดยเฉพาะอย่างยิง่ ฉิว ซือ ที่มีความแข็งแกร่ งเทียบได้กบั หยา เฟย ที่มี
พลังถึงระดับห้า ขั้นจ้าวสงคราม หากเกิดการต่อสู ภ้ ายในดินแดนตรา
ประทับนิรันดร์น้ นั นางย่อมสามารถปกป้อง ชูเฟิ ง ได้อย่างแน่นอน

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง และท่านสุ ภาพสตรี มาทางนี้ !! ข้าจะแนะนํา


เพื่อที่ดีที่สุดของข้าให้รู้จกั !!”
“ฉิน ยู่ , หลาน ซี , หวาง หลง พวกเขาคือตัวแทนทั้งสามของศิษย์
จากสํานักสี่ คาบสมุทร แม้วา่ พวกเขาจะจบออกไปภายในปี หน้า แต่พวก
เขาคือศิษย์ที่แข็งแกร่ งที่สุดของสํานักสี่ คาบสมุทรในตอนนี้”

ในเวลานั้น เกา เฉียง ก็เดินเข้ามา พร้อมด้วยผูช้ ายสองคน และ


ผูห้ ญิงหนึ่งคนเดินตามมาที่ดา้ นหลัง ผูช้ ายที่หน้าตาหล่อเหลามีชื่อว่า
ฉิน ยู่ ผูช้ ายที่ร่างกายกํายําสู งใหญ่มีขื่อว่า หวาง หลง และหญิงสาวที่มี
รู ปร่ างเล็กมีชื่อว่า หลาน ซี

พวกเขาทั้งสามคนล้วนเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญในระดับสี่ ขั้นจ้าวสงคราม


แม้วา่ พวกเขาจะมีอายุใกล้เคียงสามสิ บ แต่ความแข็งแกร่ งของพวกเขาก็
ไม่สามารถที่จะมองข้ามไปได้
“ข้า หวูฉ่ ิง ยินดีที่ได้พบทุกๆ คน !!” ในตอนแรกที่ ชูเฟิ ง ได้มายัง
เขตทะเลตะวันออกนั้น เขาได้ไปยังสํานักสี่ คาบสมุทร อีกทั้ง จาง เทียนยี่
, เจียง หวูช่ าง , ซูรู่ และ ซูเหม่ย ก็ได้เข้าไปฝึ กฝนในสํานักสี่ คาบสมุทร
จึงเป็ นธรรมดาที่ ชูเฟิ ง จะรู ้สึกดีต่อผูท้ ี่มาจากสํานักสี่ คาบสมุทร

ในฐานะที่พวกเขาทั้งสามคนเป็ นศิษย์ของสํานักสี่ คาบสมุทร พวก


เขาได้รับการฝึ กฝนมากว่าสี่ ปี เพื่อให้ได้รับคุณสมบัติที่จะสามารถเข้าสู่
ดินแดนตราประทับนิรันดร์ได้

แต่ ชูเฟิ ง ได้ยนิ มาว่าคนจากหมู่เกาะประหารสามสิ บคน ได้รับป้าย


หมอก เพื่อเข้าสู่ ดินแดนตราประทับนิรันดร์ และผูท้ ี่อ่อนแอที่สุดในพวก
เขานั้น กลับมีพลังถึงระดับสี่ ขั้นจ้าวสงคราม
ดังนั้น เมื่อเปรี ยบเทียบระหว่างหมู่เกาะประหาร และสํานักสี่
คาบสมุทรที่มีตวั แทนมาเพียงสามคน อีกทั้งยังมีพลังเพียงระดับสี่ ขั้น
จ้าวสงครามนั้น มันทําให้เห็นถึงความแตกต่างของความแข็งแกร่ งของ
ทั้งสองอํานาจนี้อย่างชัดเจน

แต่กช็ ่วยไม่ได้ หากจะนําสํานักสี่ คาบสมุทรไปเปรี ยบเทียบกับขุม


พลังที่ยง่ิ ใหญ่อย่างหมู่เกาะประหาร มันจึงทําให้สาํ นักสี่ คาบสมุทรดู
อ่อนแอลงไปมาก

สําหรับ ฉิน ยู่ , หวาง หลง และ หลาน ซี นั้น พวกเขามีทศั นคติที่ดี
ต่อ ชูเฟิ ง อย่างมาก เพราะพวกเขาได้ฟัง เกา เฉี ยง เล่าถึงความสําเร็ จของ
ชูเฟิ ง ที่กล่าวบอกได้วา่ เขาคืออัจฉริ ยะที่หาได้ยาก ดังนั้น พวกเขาจึง
อยากเป็ นสหายกับ ชูเฟิ ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบการแสดงออกของ ชูเฟิ ง ที่มีต่อพวกเขาทั้ง
สี่ คนนั้น เหล่าสาวงามทั้งสี่ ต่างแสดงท่าทีที่เย็นชาออกมาต่อศิษย์ของ
สํานักสี่ คาบสมุทรอย่างเห็นได้ชดั

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////
A : ทั้ง 3 คนจากสํานักสี่ คาบสมุทรคนดีป่ะ ?!

B : หลาน ซี อ่ะ โอเค แต่อีกสองคนไม่ค่อย ยิง่ เป็ นไอ ฉิ น ยู่ ไอนี้ตวั


แสบเลย แม่งกะจะตีทา้ ยครัวชูเฟิ ง ตอนที่ไม่อยู่ แม่งก็ตาม จีบ ซูเหม่ย
ไม่ลามือ โดนพี่เฟิ งกระทึบ ซะยับ แต่เรื่ องนั้นมันต่อจากภาค ดินแดน
ตราประทับนิรันดร์ แต่ถา้ มันรู ้วา่ ชูเฟิ ง คือหวูฉ่ ิ ง มันคงไม่กล้ายุง่ แต่พี่
เฟิ งดันกลับไปสํานักด้วยใบหน้าเดิม เลยไม่มีใครรู ้

A : สลับไปสลับมาอยูน่ ้ นั แหละ!!!

B : มันทําเพราะมีเหตุผล ขนาดพวก จาง เทียนยี่ ยังไม่รู้เลย รู ้แต่


วีรกรรมของหวูฉ่ ิง ยิง่ เจียง หวูช่ าง นะคลัง่ ไคล้ หวูฉ่ ิ ง มากๆ!!! ชูเฟิ ง
แม่งได้แต่แอบขําในใจ แต่รายละเอียดมันมีมากกว่านั้นอีก ยังไงก็ตอ้ ง
ขอบคุณ ฉิน ยู่ ที่ทาํ ให้ พี่เฟิ ง และ ซูเหม่ย ได้กนั !!!

C : สารเลวมาก ฉิน ยู่ ให้เหม่ยเก็บซิ งไว้กด็ ีอยูแ่ ล้ว!!!


บทที่ 675 - การรวมตัวของชนชั้นสู ง

“ดูนน่ั นัน่ คนจากหมู่เกาะประหาร หว้า นางเป็ นใครกันนางช่าง


งดงามเหลือเกิน!”

“ถูกต้อง ความงามของนางอาจเทียบเท่า สาวงามสี่ ฤดูเลย ข้าไม่คิด


เลยว่าหมู่เกาะประหารจะมีสาวงามเช่นนาง!”

“เจ้าช่างโง่เขลายิง่ นัก หุบปากซะ นัน่ คือลูกสาวของผูน้ าํ หมู่เกาะ


ประหารและเป็ นน้องสาวของมู่หรง ซุน มู่หรง ว่าน ดูเหมือนเจ้าอยาก
ตายสิ นะที่พดู ถึงนางลับหลังเล่นเช่นนี้”

ในตอนนั้นก็เกิดความวุน่ วายขึ้นในที่แห่งนั้น บางคนมองไปที่กลุ่มสาว


ในที่แห่งนั้นและตัดสิ น ภาพลักษณ์ของพวกนาง และมีบางคนนั้นรู ้วา่
พวกนางคือคนของหมู่เกาะประหาร

ระดับการบ่มเพาะของคนในกลุ่มนั้นแข็งแกร่ งมาก ระดับน้อยสุ ดน่าจะ


อยูท่ ี่ระดับ 4 จ้าวแห่งสงคราม พวกนางอายุยงั ไม่มากนักและถูกนําโดย
คนที่อยูใ่ นระดับ 5 จ้าวแห่งสงคราม

ระดับ 5 จ้าวสงครามนั้นไม่เพียงจะมีพลังที่แข็งแกร่ ง รู ปลักษณ์ของเธอ


ยังโดดเด่นอีกด้วย เธอนั้นยังไม่เข้าสู่ วยั ชราและอายุยงั ไม่น่าจะเกิน 20
ปี และเมื่อมองไปที่ใบหน้าละอ่อนและบริ สุทธิ์น้ นั ผูค้ นต่างรู ้ดีวา่ เธอยัง
เยาว์วยั อยู่
นอกจากนี้ จากการเคารพและความเกรงกลัวของคนจากหมู่เกาะ
ประหารที่อยูข่ า้ งหลังนานนั้น ทําให้ชูเฟิ งรู ้วา่ นางคือ มู่หรง ว่าน

“นัน่ มัน คู่หมั้นของผูน้ าํ น้อยของหมู่เกาะประหาร 1 ใน 3 สาว


งามของภูมิภาค หย่า เฟยไม่ใช่หรื อ” ในเวลานั้น ภายในกลุ่มก็มีสาวงาม
ปรากฏขึ้นอีกคน และนัน่ เป็ นคนที่ชูเฟิ งคุน้ หน้าดี

ผูห้ ญิงคนหนึ่งที่มาด้วยความงามที่โดดเด่น ด้วยรู ปร่ างที่สง่างามและ


ใบหน้าที่งดงาม ทําให้เลือดกําเดาของพวกเขาไหลออกมา ในที่แห่งนี้มี
เพียงคนเดียวกับนั้นที่สามารถงดงามเทียบกับหย่า เฟย ได้ มีแค่ ฉิ ว ชือ
เท่านั้น
และด้านหลังของเธอนั้น ก็มีผเู ้ ชี่ยวชาญที่อยูใ่ นระดับ 4 จ้าวแห่ง
สงครามติดตามมา

“อาจพูดได้วา่ หย่า เฟย และ ฉิ ว ซื อ นั้นมี ชื่อเสี ยงในระดับเดียวกัน


วันนี้พวกเขาได้เห็นกับตาแล้ว พวกนางช่างโดดเด่นยิง่ นัก.” เมื่อเห็น
หย่า เฟย เกาเฉียง และคนอื่นๆ ก็พดู คุยกัน

“ข้าคิดว่าแม่นางฉิว ชือนั้นงดงามราวกับนํ้าแข็ง ส่ วน แม่นาง หยา


เฟย นั้นราวกับไฟ ที่ทาํ ให้เลือดเราเดือดปู้ดปู้ด และต้องการเข้าไปขาย
ขนมให้กบั นาง ฮ่าๆ.” หวัง หลง พูดขึ้น

“ฮึ่ม เธอก็แค่ผหู ้ ญิงจากซ่องคนหนึ่ง จะมาเทียบกับศิษย์พี่ ฉิ ว ชือ


ของข้าได้อย่างไร” ชุน หวู่ แค่นเสี ยงออกมาเมื่อได้ยนิ คําพูดของหวาง
หลง

“เอ๊ะ ฮี่ๆ แม่นาง ชุน หวู่ พูถูกแล้ว หย่า เฟย นั้นเทียบกับแม่นาง ฉิ ว


ชือ ไม่ได้หรอก ดูดีดีแล้ว แม่นาง ชุน หวู่ ยังงดงามกว่าเสี ยอีก!” หวาง
หลง พูด

“ฮึ่ม.” อย่างไรก็ตามต่อหน้าคนเช่นหวัง หลง ชุน หวู่ ก็แค่นเสี ยง


อีกครั้ง ความไม่พอใจในสายตาของเธอนั้นไม่ได้หายไป แต่มนั กลับ
เพิ่มขึ้น

แต่เมื่อนึกถึงความจริ งแล้ว ชุน หวูก่ ต็ อ้ งยอมรับว่าการปรากฏตัวของ


หย่า เฟย นั้นสร้างความวุน่ วาย และบดบังรัศมีของ มู่หรง ว่าน ซะมิด
นางนั้นช่างมีเสน่ห์อย่างยิง่ โดยเฉพาะระดับพลังของนางนั้นมีเหนือกว่า
ฉิว ชือ เสี ยอีก
ในตอนนั้น ผูค้ นก็เริ่ มเปรี ยบเทียบระหว่าง ฉิ ว ชือ และ หย่า เฟย แต่ไม่
ว่าผลลัพธ์จะเป็ นเช่นไรในสายตาพวกเขานั้นพวกงามก็เป็ นสาวงามที่
งามยิง่ อยูด่ ี

“มู่หรง ว่าน ดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกกับพี่สะใภ้เสี ยเท่าไหร่ นะ”


ในขณะที่ ผูค้ นโฟกัสไปที่หย่า เฟย และ ฉิ ว ชือ ชูเฟิ งก็มองไปที่ มู่หรง
ว่าน เขาเห็นว่านางมองมาที่หย่า เฟย ด้วยสายตารังเกียจ

“ข้าเคยได้ยนิ ว่า ทั้ง 2 นั้นมีปัญหากันมาก่อน และจากที่เห็นใน


วันนี้ข่าวลือนัน่ คงเป็ นจริ ง,” เซี้ย หยู พูดขึ้นด้วยรอยยิม้
“ดูนน่ั คนจากหมู่เกาะประหารกําลังมาอีก พวกเขาช่างน่าสนใจยิง่
นัก เห็นได้ชดั ว่าพวกเขามารวมตัวกันแต่ไม่ได้มาด้วยกัน.” ในตอนนั้น
ก็มีกลุ่มคนเดินขึ้นมาบนยอดเขาเพิ่ม

ในกลุ่มนั้นมีผคู ้ นอยูใ่ นกลุ่มหลายคน และนําโดย ชาย และ หญิง คู่หนึ่ง


ซึ่งมีระดับ 5 จ้าวแห่งสงคราม

“ชายคนนี้ ชื่อ ฉาน เฟิ ง เขาเป็ น บุตรของ ฉาน จิวเสี่ ยว ที่เป็ น นิ


รันดร์ ลําดับ 2 เขายังหนุ่มยิง่ นัก ในด้านของพลัง อาจเทียบเท่ากับ มู่
หรง ว่าน หรื อ หย่า เฟยได้เลย,” เซี่ ย หยู ส่ งสารทางจิตไปบอกพวกชู
เฟิ งและคนอื่นๆ

“ฉาน เฟิ ง อย่างนั้นหรื อ เขาช่างดูเป็ นคนที่โหดเหี้ ยมจริ งๆ"


หลังจากได้ยนิ คําพูดของ เซี้ ย หยู ชูเฟิ งก็พดู ขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางของคน
คนนั้น

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ งรู ้วา่ ความโหดเหี้ ยมของชายคนนี้ไม่ได้มาจากท่าทาง


แต่มนั มาจากกลิ่นอายบนตัวเขา ชูเฟิ ง ยังรู ้สึกอีกว่ามือของเขาต้องเปื้ อน
เลือดอย่างมาก และมีหลายชีวติ ที่ตายด้วยมือของ ฉาน เฟิ ง อาจเป็ นหมื่น
คนเลยก็เป็ นได้

หลังจาก ผูค้ นจากหมู่เกาะ ประการปรากฏตัวขึ้น บางคนก็มาเดี่ยวบาง


คนก็มาคู่บางคนก็มาเป็ นกลุ่ม แต่นอกเหนือจาก มู่ หรงว่าน ฉาน เฟิ ง
และ หย่า เฟย นั้นไม่มีใครโดดเด่นเลย

หลังจาก ผูค้ นจากหมู่เกาะประหารปรากฏตัวขึ้นครบ ก็เห็นได้ชดั ว่าพวก


เขาทุกคนนั้นมีคุณสมบัติที่จะได้เข้าร่ วม หมู่เกาะประหาร ชูเฟิ งนั้น
ต้องการความสงบ และรอคอยเวลาเปิ ด ดินแดนตราประทับนิรันดร์ แต่
เขาไม่สามารถทําอะไรเกี่ยวกับสายตาที่จอ้ งมายังเขาได้ แน่นอนว่าคือ
สายตาของ หย่า เฟย ไม่เพียงนางจะค้นพบเขา นางยังบอกให้คนในกลุ่ม
ให้รอแล้วก็เดินมาเขาอีกด้วย

“ดูนน่ั หย่า เฟย กําลังเดินมาทางนี้!”

“หว้า สาวงามคนนี้กาํ ลังเดินมาทางข้า!”

เมื่อเห็น หย่า เฟย เดินมาทางพวกเขา ผูค้ นที่อยูใ่ กล้กบั ชูเฟิ ง ก็สบั สน


อย่างมาก พวกเขาไม่คิดว่าทําไม หย่า เฟย ถึงเดินมา เพราะพวกเขานั้น
ไม่รู้จกั หย่า เฟย
ในที่สุดนั้น พวกเขาก็คิดว่าหย่า เฟย จะมาทักทาย ฉิ ว ชือ เพราะนางเป็ น
คนมีชื่อเสี ยงในระดับเดียวกัน จึงทําให้พวกเขาคิดว่าทั้งคู่เป็ นคู่แข่งกัน

อย่างไรก็ตามไม่มีใครคิดว่าเมื่อ หย่า เฟย เข้ามาใกล้แล้ว นางจะไม่ได้


เดินไปหา ฉิว ชือ แต่กบั เดินตามไปที่ชูเฟิ ง จากนั้นก็พดู พร้อมรอยยิม้ ว่า
“ พูดตามตรง ข้าไม่คิดว่าข้าจะเจอเจ้าที่นี่.”

“นั้นสิ ! ช่างบังเอิญเสี ยจริ ง!”ชูเฟิ ง พูดด้วยรอยยิม้ โดยท่าทางของ


เขาไม่ได้เปลี่ยนอะไร

“ดูเหมือนเจ้าจะได้รับสิ ทธิ์เข้าร่ วม ดินแดนประทับนิรันดร์ดว้ ยใช่


หรื อไม่ เจ้าคงผ่านงานเปิ ดม่านมาอย่างนั้นสิ นะ” หย่า เฟย ถามด้วย
รอยยิม้
“โอ้! โทษที เจ้ากล่าวผิดแล้วข้าได้สิทธิ์เข้าร่ วม เพราะป้ายสาย
หมอก!.” ชูเฟิ ง พูดพร้อมแสดงป้ายสายหมอกในมือของเขา

หลังจากเห็นป้ายในมือชูเฟิ ง นางก็ไม่ได้ตกใจและพูดว่า “ ข้าได้ยนิ ว่า


ดินแดนตราประทับนิรันดร์น้ นั อันตรายยิง่ นัก หลังจากเจ้าเข้าไป เจ้าต้อง
ระวังให้มากๆ!.” หลังจาก ทิ้งคําพูดเอาไว้นางก็หมุนตัวกลับแล้วเดิน
ออกไป

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : ใครกันแน่ฟร่ ะ ที่จะเจออันตราย!!!
B : เด๋ ว อีกไม่นาน พี่เฟิ ง เราก็ทุบ แล้วตุย้ ท้องล่ะ!!!

C : มันโหดขนาดนั้นเลย!!!

B : ขนาดนั้นเลยล่ะ!!! อย่าว่าแต่ หย่า เฟย เลย แม้แต่ ฉาน เฟิ ง กับ มู่
หรง ว่าน ยังจะโดน . . . . . .

C : ไอตรง หย่าเฟย กับ มู่หรง ว่าน กูไม่ติดใจ แต่ ฉาน เฟิ ง นี้ผชู ้ ายนะ
ไอเฟิ งมันยังเอาอีกอ่อ ?

A : เค้าหมายถึง โดนอัด หรื อ เปล่า ???


บทที่ 676 - -เข้าสู่ ดินแดนอมตะ

“ว้าว!!! น้องชาย หวูฉ่ ิง เจ้าช่างไม่ธรรมดาจริ งๆ เจ้ารู ้จกั หย่า เฟย


ด้วยอย่างนั้นหรื อ” หลังจาก หย่า เฟย เดินไป หวาง หลง ก็เดินเข้ามา
ด้วยความสนใจ

นัน่ เพราะหย่า เฟย นั้นยิม้ และมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน และท่าทาง


ของนางนั้นเหมือนพูดกับสหายเก่า และไม่มีเจตนาร้ายกับชูเฟิ ง

“โฮ่…” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นชูเฟิ งก็ยมิ้ แต่ไม่ได้ตอบไป เขารู ้สึกว่า


แม้ หวาง หลง จะมีระดับบ่มเพาะ แต่เขานั้นก็ไม่ค่อยฉลาดนัก ชูเฟิ งจึง
ไม่พดู อะไร

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง ดูเหมือนเจ้าจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับ หย่า


เฟย สิ นะ” เมื่อเห็นการโต้ตอบสนอง ตอนนั้น เซี้ย หยู ก็ส่งข้อความทาง
จิตมาถาม และในเวลาเดียวกัน ชุน หวู่ และคนอื่นก็เชนกัน.

“มันมีบางอย่างเกิดขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่มีค่าพอที่จะพูดถึงมันหรอก.”
แน่นอน ว่าชูเฟิ งไม่ได้บอกพวกนางไป เพราะชูเฟิ งยังไม่เชื่อใจพวกนาง
อย่างจริ งจัง

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง เลิกคิดเยอะแล้วตามพวกเราไปในดินแดนตรา


ประทับนิรันด์เถิด แล้วทุกสิ่ งจะดีข้ ึน ถ้าเจ้ามากับเรา ก็ไม่ตอ้ งกังวลว่า
ใครจะกล้าทําอะไรเจ้า เพราะที่นี่น้ นั คือหุบเขาสายหมอก.” ชุน หวู่ ส่ ง
ข้อความทางจิตไปหาชูเฟิ ง

*หึ่ ม หึ่ ม หึ่ ม*


ในตอนนั้นก็เกิดเสี ยงดังก้องที่ศูนย์กลางสถานที่น้ นั และยอดของภูเขา
ลุกนี้เริ่ มที่จะสัน่ ไหวผูค้ นนั้นต่างเห็นว่ามีบางอย่างกําลังปรากฏตัวขึ้น
และต่อมานั้นพวกเขาก็รู้ทนั ทีวา่ มันคือ ประตู นัน่ เอง

ประตูสูงกว่า 100 เมตร มีแสงระยิบระยับทัว่ ทุกที่ มันช่างยิง่ ใหญ่และ


น่าเกรงขามนัก ในตอนนั้น ประตูกเ็ ริ่ มเปิ ดขึ้นอย่างช้าๆ และมีหมอก
หลากสี ปรากฏขึ้นรอบๆประตู

และเมื่อมองผ่านไปนั้น ผูค้ นต่างได้เห็น ด้านในประตูมนั มี ยอดเขาที่สูง


เสี ยดฟ้า นกกระเรี ยนที่กาํ ลังบินอยู่ และแม้กระทัง่ นํ้าตก เห็นได้ชดั ว่า
มันไม่ได้เป็ นเพียงโลกที่แยกออกมา แต่มนั เป็ นดินแดนอมตะ
“ดินแดนตราประทับนิรันดร์ นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวยุทธ ต่างรอ
คอย และในที่สุดข้าก็ได้โอกาสที่จะเข้าไปในที่แห่ง นั้น หว่ะฮ่าๆ!!!
…”

ในตอนนั้นก็มีเสี ยงหัวเราะดังขึ้น และปรากฏร่ าง หญิงชราบินมาจาก


ยอดเขาและพุง่ ตรงไปยังจุดศูนย์กลางของสถานที่แห่งนั้น และเมื่อมอง
ไปที่เสื้ อผ้าของหญิงชรานัน่ ผูค้ นก็นึกออกทันทีวา่ นางนั้นเป็ น 1 ใน ผู ้
พิทกั ษ์ของหุบเขาสายหมอก

“นาง พูดอะไรกัน ดินแดนตราประทับนิรันดร์ คือ ดินแดนศักดิ์


ของชาวยุทธ อย่างนั้นหรื อ” เมื่อได้ยนิ คําพูดนั้น ผูค้ นต่างตกใจและยาก
ที่จะเชื่อ

อย่างไรก็ตาม หญิงชราคนนั้นก็ตะโกนว่า “ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้า


มาแล้ว!” แล้วก็บินตรงไปยังประตูนนั่

*ตูม*

แต่เมื่อหญิงชราแตะโดน หมอกหลากสี ก็เกิดเสี ยงระเบิดดังตูม้ และ


หมอกสี โลหิ ตก็ ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคน

“สวรรค์ คนคนนั้นทําอะไรกัน ดูเหมือนว่านางกําลังรนหาที่ตาย มี


เพียงผูท้ ี่มีอายุนอ้ ยกว่า 30 ปี เท่านั้นถึงเข้าไปได้ ถ้าฝ่ าฝื นก็เท่ากับ
ตาย!” เมื่อเห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างเข้าใจในทันที

“อ่า ดูเหมือนจะมีคนที่ไม่ตอ้ งการมีชีวติ อยูอ่ ย่างนั้นสิ นะ.” ใน


ตอนนั้น เซี่ย หยู ก็สายหน้า

“ศิษย์พี่ เซี่ย หยู เกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่วา่ คนคนนั้นก็มาจากหุบเขาสาย


หมอกอย่างนั้นหรื อ หญิงชราคนนั้นน่ะรู ้วา่ ไม่สามารถเข้าร่ วมดินแดน
ตราประทับนิรันดร์ได้เหตุใดถึงทําเช่นนั้นเล่า” ชูเฟิ ง ถาม

“พูดตามตรง มีบางคนคิดว่า ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์น้ นั


คือทางเข้า สู่ แดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวยุทธ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดหาทางมาที่
หุบเขาสายหมอก และเมื่อประตูดินแดนตราประทับนิรันดร์ปรากฏขึ้น
พวกเขาก็จะพุง่ เข้ามาโดยไม่คิดชีวติ ,” เซี่ ย หยู อธิบาย

“ดังนั้นหมายความว่า ท่านรู ้วา่ นางต้องตายตั้งแต่แรกแล้ว ทําไม


ถึงไม่หา้ มนาง” ชูเฟิ งสงสัย เพราะระดับของหญิงชรานั้นไม่สูงมาก
ดังนั้น เซี่ย หยูที่ระดับสู งกว่าควรจะหยุดได้
“เรื่ องแบบนี้เกิดขึ้นเป็ นปกติ มันไม่มีทางหยุดได้หรอก พวกเขา
มักคิดว่าตนนั้นถูกเสมอไม่วา่ คนอื่นจะพูดเช่นไร พวกเขาก็ไม่เชื่อ และ
ข้าเกรงว่าแม้กระทัง่ พวกเขาตายไปก็จะยังคิดว่าดินแดนตราประทับนิ
รันดร์คือ ทางเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์”

“ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะหยุดพวกเขา มันคงดีกว่าถ้าปล่อยให้
พวกเขาได้ตายไป อย่างน้อยก็เป็ นบทเรี ยนให้กบั คนในอนาคต” เซี่ ย หยู
พูด

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นชูเฟิ งจึงเข้าใจทันที บางทีท่านหญิงเพียวเมี้ยว ก็คงทํา


เช่นเดียวกัน เพราะนางไม่ตอ้ งการปล่อยให้คนมาที่หุบเขาสายหมอกเพื่อ
เป้าหมายประหลาดๆนี้
“เด็กน้อยจากภูมิภาคทะเลตันออกเอ๋ ย ประตูสู่ดินแดนตราประทับ
นิรันดร์ ได้เปิ ดขึ้นแล้ว พวกเจ้าพร้อมแล้วหรื อยัง”

ในตอนนั้นก็มีเสี ยงดังขึ้น เมื่อมองไปที่ตน้ เสี ยง ทุกคนก็เห็นร่ างๆหนึ่ง


ยืนอยูเ่ หนือประตู และเจ้าของร่ างนั้นก็คือ ท่านหญิง เพียวเมี้ยว

*วูบ* หลังจากท่านหญิงเพียวเมี้ยวปรากฏตัวขึ้น นางก็สะบัดแขนของ


ตน และนัน่ ทําให้เกิดเส้นแสงกว่าหลายร้อยเส้นพุง่ ตรงไปที่ คนรุ่ นเยาว์

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง รี บคว้ามันไว้เร็ วเข้ามันคือ ยันต์นิรันดร์.” เซี่ ย


หยู รี บเตือน ชูเฟิ ง และในเวลาเดียวกัน เธอและเหล่าพี่นอ้ งก็รีบไป
คว้าแส้นแสงนัน่ เช่นกัน.
ชูเฟิ งไม่รอช้า เขารี บทําตามพวกนาง

*ฉึบ ~~*

หลังจากเส้นแสงนั้นได้เข้ามาสู่ มือเขา เขาก็รู้สึกได้ถึงความอุ่นจากมัน


และจากนั้นในเวลาสั้นๆ มันก็หายไป เมื่อชูเฟิ งแบมือของเขาออกมาเขา
ก็พบ สัญลักษณ์บนฝ่ ามือของเขา นอกจากนี้มนั ก็สนั่ ราวกับมีชีวติ

“มันคือยันต์นิรันดร์ที่ใช้เพื่อหลบหนีจาก ดินแดนตราประทับนิ
รันดร์ เมื่อเจ้าพบกับความอันตราย หรื อต้องการออกจากที่นนั่ เจ้าแค่ถ่าย
พลังไปที่มนั มันก็จะย้ายเจ้าออกมาจากที่นน่ั และมาที่นี่ได้"
“ท้ายที่สุดข้าขอเตือนเจ้า ว่าดินแดนตราประทับนิรันดร์เปิ ดขึ้น
เพียง 10 วัน ภายใน 10 วันเจ้าต้องออกมามิเช่นนั้นเจ้าจะต้องพบกับ
ความตายอย่างแน่นอน”

“ไปซะ! ไปสร้างปาฏิหาริ ยด์ ว้ ยมือเจ้า เจ้าจะได้รับทักษะสุ ดยอดมา


หรื อไม่ ไปแสดงพลังของเจ้าให้มนั เห็นซะ และทําให้มนั ยอมรับเจ้า
ซะ.” ท่านหญิง เพียวเมี้ยว พูดปลุกกําลังใจ

หลังจากเธอพูดจบแล้ว เกือบทุกคนที่มี ยันต์นิรันดร์อยูใ่ นเมืองก็รีบบิน


พุง่ ตรงไปสู่ ประตูทนั ที
“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง จับมือข้าไว้ มิฉะนั้นหลังจากเข้าไปแล้วพวกเรา
จะถูกจับแยกโดยรู ปแบบวิญญาณ,” ชุน หวู่ พูดบอกชูเฟิ ง

เมื่อเขามองกลับไป เขาก็เห็นว่า ทั้ง 4 นั้นกําลังจับมือกันอยู่ และชุน หวู่


ก็ยนื มือที่ขาวเนียนของนางมีให้เขา

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิ ง ก็ยมิ้ และไม่รอช้าเขารี บยืน่ แขนออกไปจับมือที่


ของ ชุน หวู่ จากนั้นก็พงุ่ เข้าไปยังประตูพร้อมกับทั้ง 4 ท่ามกลางสายตา
คนจํานวนมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อชูเฟิ งและคนอื่นๆเข้าไปแล้ว ด้านหลังก็มีหย่า เฟย ที่


กําลังจับมือกับลูกน้องอยู่ นางไม่รีบที่จะเข้าไปนางบอกจนกระทัง่ ชูเฟิ ง
ได้หายไปและพูดด้วยเสี่ ยวตํ่าว่า “ เจ้าสารเลวนัน่ อย่าคิดว่าสิ่ งนั้นจะ
สร้างความกลัวให้แก่ขา้ ได้ เจ้าก็ทาํ ได้แค่ตามก้น หญิงสาวเท่านั้น ถ้าเจ้า
พบข้าเพียงลําพังข้าจะสอนให้เจ้ารู ้ถึงความตาย.”

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
B : เด็กหน้อเด็ก ขนาดปู่ นาง ยังไม่กล้าทําไร ชูเฟิ ง แล้วนางคิดยังไง
กล้า เมินคําขู่ ของเสี่ ยวยู่ เด๋ ว ก็โดนดีแล้วจะหาว่าไม่เตือน!!!

A : เห็นว่า พี่เฟิ ง จัดซะอ่วมเลยหนิ!!!


บทที่ 677 - เนตรสวรรค์สาํ แดงเดช

เมื่อชูเฟิ งผ่านประตูเข้ามา เขารู ้สึกว่าดวงตาของเขาพร่ ามัว และเมื่อการ


มองเห็นของเขากลับมาเป็ นปกติ เขาก็ได้มาอยูต่ ่างโลกแล้ว
มันไม่ได้สวยงามดังเช่นอาณาจักรแห่งนิรันดร์ก่อนหน่านี้ แต่มนั เป็ น
เทือกเขาทอดยาวต่อกัน ราวกับว่าระยะทางของมันไม่มีสิ้นสุ ดแม้แต่
จุดสิ้ นสุ ดก็ยงั ไม่อาจมองเห็น นอกจากนี้หุบเขานัน่ เก่าแก่เป็ นอย่างมาก
มันไม่มียอดเขาแต่มนั ประกอบได้ดว้ ยเนินเขาบนเนินเขาที่เปลือยเปล่า

จริ งๆแล้วพวกมันเป็ นเนินเขา เนินเขาหิ นดูคล้ายกับขนมปั งนึ่ง พวกมัน


ไม่มีแม้แต่วชั พืช นอกจากนี้สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดอยูภ่ ายในหุบคือ
ลมกรรโชกแรงที่ปรากฏเป็ นบางครั้ง ภายในลมแรงมีจุดด่างๆของทราย
มันช่างแปลกประหลาดเป็ นอย่างมาก

“นี่คือดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์รึ?” ชูเฟิ งรู ้สึกว่ามันแปลก


มาก ทําอย่างไรมันถึงจะดูเหมือนดินแดนแห่งนิรันดร์? มันเป็ นสถานที่
เปล่าเปลี่ยวที่ไม่สามารถเปล่าเปลี่ยวไปกว่านี้อีกแล้ว
“นี่คือดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์จริ ง ภาพที่เราเห็นภายนอก
นี้ไม่ต่างอะไรกับภาพลวงตา” เซี้ย หยูอธิบาย

“ถ้าเช่นนั้น ทําอย่างไรเราถึงจะได้วญ
ิ ญาณตราประทับหล่ะ?” ชู
เฟิ งได้กระจายอํานาจวิญญาณของเขาออกไปตวจสอบ แต่กลับไม่พบ
อะไรนอกจากเนินเขาเปลือยเปล่าและจุดด่างทรายแปลกๆของพายุ ไม่มี
แม้แต่ผมเส้นเดียว

“ถ้าวิญญาณตราประทับมันง่ายที่จะหาพบ เช่นนั้นแล้วมันคงจะ
ไม่ใช่วญ
ิ ญาณตราประทับแล้ว.. แค่มากับพวกเรา” เซี้ย หยูยมิ้ บางๆ
พร้อมกับพุง่ ไปในอากาศ ชุน หวูแ่ ละคนอื่นๆรี บตามไปอย่างใกล้ชิด
พวกนางทั้ง 4 คนเติบโตขึ้นมาในหุบเขาสายหมอก ซึ่ งส่ วนใหญ่แล้ว
ไม่มีใครจะรู ้จกั ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์ดีไปกว่าพวกนาง ดังนั้น
ชูเฟิ งจึงไม่ได้เอ่ยคัดค้านอะไรพร้อมตามพวกนางทั้ง 4 ไป เมื่อบินขึ้น
ไปด้านบน ดูเหมือนเทือกเขาพวกนี้ราวกับไร้ขอบเขตและไม่มีสิ้นสุ ด

ในการเดินทางด้วยวิธีเหาะของพวกเขา พวกเขาได้พบกับคนอื่นๆ ชูเฟิ ง


สังเกตุเห็นความสับสนบนใบหน้าของพวกเขา การที่ได้อยูใ่ น
สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ที่ไม่เห็นแม้ต่อร่ องรอยของวิญญาณตราประทับ
ทุกๆคนย่อมรู ้สึกถึงความกดดัน จากทั้งหมดที่กล่าวมา มันไม่ใช่เรื่ อง
ง่ายเลยในการเข้ามาที่ดินแดนตราประทับนิรันดร์ ไม่มีใครสักคนที่
ต้องการกลับออกไปมือเปล่า

ดังนั้นในสถานะการณ์เช่นนี้ ผูค้ นที่เห็นการกระทําชูเฟิ งและคนอื่นๆ


เปรี ยบเสมือนกับผูช้ ่วยเหลือชีวติ คนเหล่านั้นต้องการร่ วมทางไปกับ
พวกเขา แต่เซี้ย หยูและอื่นๆไม่อนุญาติ

ขณะที่พวกเขาค้นหาอย่างมืดบอด ภายในทรายสี เหลืองที่พดั ผ่าน ชูเฟิ ง


และคนอื่นๆพลันพบสัญลักษณ์แปลกๆ มันใหญ่กว่านกพิราบโตเต็มวัย
และมันมีปีกคู่งามสี ทองอร่ าม มันบินอยูใ่ นพายุทราย มันช่างพริ้ วไหว
และความเร็ วของมันก็รวดเร็ วเป็ นอย่างมากด้วย

“มันคือวิญญาณตราประทับ! เร็ วเข้า!” เมื่อเห็นมัน ตาของเซี้ย หยู


และคนอื่นๆสาดประกาย ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาทั้ง 4 มุงหน้า
ออกไปในเวลาเดียวกันเพื่อปิ ดผนึกทางหลบหนีของวิญญาณตรา
ประทับ พวกเขาก็จะสามารถจับวิญญาณตราประทับได้อย่างง่ายดาย

“ศิษย์พี่เซี้ย หยู พวกเราทั้ง 5 คนจะแบ่งคนละเท่าๆกัน ส่ วนนี่!


ท่านรับวิญญาณตราประทับชิ้นแรกไป” ชุน หวู,่ ตง เซวีย, และฉิ ว ซื
อกล่าวในเวลาเดียวกันหลังจากที่จบั วิญญาณตราประทับได้

“อื้ม แน่นอน” เซี้ย หยูไม่ได้ปฏิเสธความคิดนี้ นางใช้มือความจับ


วิญญาณตราประทับและกํามันไว้เบาๆ ประกายแสงในฝ่ ามือของนางได้
ไหลเข้าไปในร่ างกาย ในที่สุดแสงวิญญาณตราประทับที่อยูใ่ นมือนางก็
ดับลง

“ดูนน่ั สําเร็ จแล้ว!” หลังจากนั้นเซี้ย หยูดึงแขนเสื้ อขึ้นเผยให้เห็น


แขนขาวราวหิ มะของนาง ทันใดนั้น ชูเฟิ งและคนอื่นๆมองเห็นตรา
ประทับสี ทองขนาดเล็กปรากฏบนแขนของนาง สิ่ งนั้นได้ประทับลงไป
บนแขนของนาง

หลังจากทําสําเร็ จในครั้งแรก เซี้ ย หยูและคนอื่นๆก็ร่าเริ ง คนทั้ง 4 ใน


กลุ่มของชูเฟิ งได้เตรี ยมการเสร็ จเรี ยบร้อยแล้ว และพวกเขาเริ่ มออก
ค้นหาวิญญาณตราประทับกันต่อทันที ทันทีที่พวกเขาพบวิญญาณตรา
ประทับ พวกเขาจะจับมันโดยใช้ทกั ษะที่รวดเร็ วราวกับสายฟ้า

วิญญาณตราประทับที่จบั ได้ถูกแบ่งออกให้พวกเขาเท่าๆกัน แม้วา่ ไม่ได้


ใช้ความพยายามมากนัก แต่ชูเฟิ งยังได้รับส่ วนแบ่งด้วย นอกจากนี้สาวๆ
ทั้ง 4 คนก็ยงั ไม่คดั ค้านสักคํา กลับกันพวกนางรู ้สึกว่านี้มนั ก็สมควร
แล้ว

ชูเฟิ งและคนอื่นๆใช้เวลาค้นหากันแทบจะทั้งวันทั้งคืน อย่างไรก็ตาม


เช่นเดียวกับสี สนั ของยามคํ่าคืนกําลังจะจางหายไป เซี้ ย หยูและคนอื่นๆ
ตัดสอนใจที่จะพักผ่อนสักเล็กน้อยก่อนจะถึงตอนกลางวันจึงค่อยเริ่ ม
ค้นหาต่อ
เมื่อเห็นสาวงามทั้ง 4 หลับอยูข่ า้ งๆชูเฟิ งและเขาเองก็มองไปที่วญ
ิ ญาณ
ตราประทับทั้ง 2 ที่ประทับอยูบ่ นแขนของเขา ชูเฟิ งจึงยังไม่ได้นอน
ในตอนนี้

ในช่วงเวลากลางวัน ทั้ง 5 ตนจับวิญญาณตราประทับได้ท้ งั หมด 10


ชิ้น และแบ่งมันให้ทุกๆคนๆละ2 ชิ้น ประมาณ 10 วันผ่านไป พวก
ของชูเฟิ งแต่ละคนสามารถหาวิญญาณตราประทับได้คนละ 20 ชิ้น
ผลลัพธ์ที่ได่น้ นั ถือว่าไม่เลวนัก แต่มนั ยังไม่ใช่สิ่งที่ชูเฟิ งปราถนา

“เฮ้..เห็นได้ชดั ว่าสาวๆพวกนี้เห็นศักยภาพของเจ้า ดังนั้นพวกนาง


จึงเต็มใจเสี ยสละผลประโยชน์เพื่อพาเจ้ามาที่นี่และเพื่อเพลิดเพลินไป
กับการเกี่ยวเกี่ยวของพวกนาง”
“ตอนนี้ วิญญาณตราประทับที่เจ้าได้มาฟรี ๆมันก็เท่ากันกับของ
พวกนาง ข้าเดาว่าเจ้าคงไม่คิดที่ปล่อยให้มนั เป็ นแบบนี้ต่อไปใช่ม้ ยั ?”
ทันใดนั้น เสี ยงหวานของต้านต้านก็ดงั เข้ามาในหัวของชูเฟิ ง

“ต้านต้าน เจ้าเห็นต้นกําเนิดของวิญญาณตราประทับพวกนี้
หรื อไม่?” ชูเฟิ งถามอย่างรี บร้อน เนื่องจากความรู ้ของต้านต้าน
กว้างขวางกว่าชูเฟิ ง และแม้วา่ นางมาจากโลกวิญญาณอสู รฟ้าแต่นางก็รู้
ในหลายๆสิ่ งที่ชูเฟิ งไม่รู้

“ข้าไม่เห็น แต่เจ้าสามารถใช้เนตรสวรรค์ของเจ้าลองดูกฌได้
แม้วา่ เนตรสวรรค์จะเป็ นทักษะของผูเ้ ชื่อมต่อฯ แต่มนั ก็แตกต่างจาก
อํานาจวิญญาณ บางทีมนั อาจจะพบเจออะไรบ้างก็ได้” ต้านต้านกล่าว
“นัน่ สิ นะ! เนตรสวรรค์! ข้าลืมไปได้ยงั ไงเนี่ย?” ทางออก
เปิ ดเผยต่อชูเฟิ งเมื่อได้ยนิ คําพูดของต้านต้าน หลังจากเข้ามาในดินแดน
แห่งตราประทับนิรันดร์ เขาใช้เพียงอํานาจวิญญาณของเขาเพื่อตรวจ
ดินแดนแห่งนี้ แต่มนั ก็ไม่พบอไร

ดังนั้น จิตใต้สาํ นึกของชูเฟิ งรู ้สึกว่าไม่มีขอ้ ได้เปรี ยบของการเป็ นผู ้


เชื่อมต่อฯในดินแดตราประทับนิรันดร์แห่งนี้ ซึ่ งมันทําให้ชูเฟิ งลืมเนตร
สวรรค์ของเขาไป

หลังจากได้ตา้ นต้านเตือนความจํา ชูเฟิ งไม่รอช้าและไม่กงั วลว่า เนตร


สวรรค์ของเขาจะได้ผลหรื อไม่ อย่างน้อยๆก็ขอให้เขาได้ลองทําดู

ในดินแดนแห่งตราประทับ ระหว่างแต่ละวัน พระอาทิตย์จะสาดแสงไป


ทัว่ ทุกที่ แต่ในความมืดไม่มีแม้แต่แสงจันทร์หรื อดวงดาวที่มองเห็นได้
กล่าวได้วา่ มันช่าง ‘มืดมิด’ แต่เมื่อชูเฟิ งใช้เนตรสวรรค์ ตาของเขาก็
สว่างขึ้น ทุกสิ่ งทุกอย่างที่ชูเฟิ งมองเห็นล้วนไม่ต่างจากเมื่อตอนกลางวัน

หลังจากพบรายละเอียด ชูเฟิ งตกใจและมีความสุ ขมากที่ได้พบว่าใกล้กบั


หัวภูเขา มีรูปแบบที่เป็ นสัญลักษณ์ขนาดเล็ก แม้มนั จะเบาบางเป็ นอย่าง
มาก แต่มนั ก็มีแสงวิบวับออกมาแสดงให้เห็นถึงความคงอยู่ มันคือก่อตัว
แน่นอน

ทันใดนั้น ชูเฟิ งใช้เนตรสวรรค์มองลงไปข้างล่าง เขากลับพบว่าการก่อ


ตัวนั้นพลันหายไป และเมื่อเขาใช้เนตรสวรรค์อีกครั้งการก่อตัวนั้นก็
ปรากฏขึ้นมาใหม่

ชูเฟิ งเดินตรงไปที่การก่อตัวนั้นอย่างระมัดระวังพร้อมกับใช้อาํ นาจ


วิญญาณตรวจสอบมันไปด้วย เขาไม่รู้สึกว่ามันแตกต่างกับสิ่ งรอบข้าง
ราวกับว่ามันเป็ นเพียงก้อนหิ นธรรมดา อย่างไรก็ตามเมื่อเขาใช้เนตร
สวรรค์ตรวจสอบมัน เขาพบว่ามันเป็ นเหมือนกับการก่อตัวที่มีชีวติ
แน่นอน! เพียงใช้เนตรสวรรค์เท่านั้นเขาจึงสามารถมองเห็นสิ่ งนี้ได้

“ชูเฟิ ง ลองวางรู ปแบบปิ ดผนึกดู ด้วยเหตุผลบางอย่างข้าคิดว่า


เป็ นไปได้มากว่าสิ่ งที่อยูใ่ นนั้นจะเป็ นวิญญาณตราประทับ” ต้านต้าน
เตือน

“อื้ม” ชูเฟิ งเชื่อต้านต้านเพราะเขาเองก็คิดเช่นเดียวกัน ชูเฟิ งปล่อย


รู ปแแบบปิ ดผนึกครอบคลุมรอบๆตัวเขาเป็ นอย่างแรก จากนั้นเขาจึงวาง
รู ปแบบปิ ดผนึกซํ้าอีกที

“ผนึก!” หลังจากรู ปแบบเปิ ดผนึกทํางาน การก่อตัวของสัญลักษณ์


เกิดการเปลี่ยนรู ปแบบอย่างรวดเร็ ว ท้ายที่สุดมันได้เปลี่ยนรู ปร่ างไปเป็ น
วิญญาณตราประทับ!! นอกจากนั้น มันยังต้องการบินออกมาจากหิ นเพื่อ
หลบหนี…..

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : ไอ้โง่ เฟิ ง ตั้งนาน ไมไม่ยอมใช้เนตรสวรรค์ล่ะ!!!

B : ใจเย็นๆ ต่อจากนี้แหละ เริ่ มการเก็บเกี่ยวของจริ ง!!!

A : แล้ว ชูเฟิ ง จะช่วยพวกนางทั้ง 4 ป่ ะ

B : ชูเฟิ ง อยากช่วยนะ ชวนแล้วด้วย แต่โดนว่า!!! อีกทั้งยังโดนไล่


ออกจากกลุ่มเพราะหาว่าเป็ นตัวถ่วง หรื อ กาฝาก ไรทํานองนี้ พี่เฟิ ง เลย
ขอตัวลา!!!
A : งี้กร็ วบคนเดียวเลยดิ!!!

B : แน่นอน ดิ พวกนางนั้นแหละ ที่เป็ น ตัวถ่วง ชูเฟิ ง แต่มี 1 ใน 4


สาวงาม เลือกที่จะเชื่อ ชูเฟิ ง

A : งี้พี่เฟิ งทําไงอ่ะ

B : จะทําไงล่ะ อยากไปก็พาไปไง!!! นางคนนั้น ยังได้ไรดีๆอีก


มากมาย จนขนาดที่ทาํ ลาย สถิติ มู่หรง ซุน แต่ สถิติพี่เฟิ ง มันโหด ไป
ชาติน้ ีคงเป็ นชื่อของมันที่ถูกจารึ กโดยไม่มีใครทําลายได้อีกแล้ว

C : ไม่มีใครทําลายได้ เพราะหายนะ ต้องบังเกิดกับสถานที่แห่ง


นั้นอ่ะดิ!!!

B:.............
บทที่ 678 - แสดงสันดาน

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิ ง ได้เตรี ยมความพร้อมเพื่อไม่ให้มนั หลบหนี


เอาไว้แล้ว เขารี บใช้รูปแบบอํานาจพลังวิญญาณขนาดเล็กออกไป เพื่อ
ปิ ดกันทางหลบหนีของมัน มันไม่พยายามดิ้นรนแม้แต่นอ้ ย และลอยเข้า
สู่ มือของ ชูเฟิ ง อย่างง่ายดาย

***** พรึ่ บ *****

หลังจากลอยเข้าสู่ มือของ ชูเฟิ ง นั้น มันก็เปล่งแสงและไหนเข้าสู่


ร่ างกายของ ชูเฟิ ง สุ ดท้ายก็มาปรากฏอยูบ่ นแขนของเขา

เมื่อเขามองไปที่แขนของตัวเองนั้น เขารู ้สึกดีใจอย่างมาก เพราะ


ในตอนนี้ จากเลขสองบนแขนของเขา ได้เปลี่ยนไปเป็ นเลขสามเป็ นที่
เรี ยบร้อย

“ไม่คิดเลยว่าเนตรสวรรค์จะสามารถค้นหาพวกมันได้ !!”

ในตอนนี้ ชูเฟิ ง รู ้สึกมีความสุ ขอย่างมาก เพราะเขาได้คน้ พบวิธี


ค้นหาวิญญาณตราประทับ ด้วยขนาดของดินแดนตราประทับนิรันดร์ที่
มีขนาดใหญ่เช่นนี้ มันย่อมมีวญ
ิ ญาณตราประทับให้เขาค้นหาอีกมาก

นอกจากนี้ เขายังรุ ้สึกว่าอํานาจพลังวิญญาณใช้ไม่ได้ผล ดังนั้น เขา


จึงเป็ นเพียงคนเดียวที่มีวธิ ีการค้นหาวิญญาณตราประทับ เปรี ยบได้กบั
‘ปลากระดี่ได้น้ าํ ’ อย่างไรอย่างนั้น เพราะเขาสามารถเก็บเกี่ยววิญญาณ
ตราประทับได้อีกมาก
หลังจากที่เขาใช้เนตรสวรรค์ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ และไม่พบ
วิญญาณตราประทับอันอื่นๆ ในบริ เวณใกล้เคียงนั้น เขาก็กลับมาที่ เซี๊ ยะ
หยู และคนอื่นๆ อย่างรวดเร็ ว เขาไม่ได้รบกวนคนอื่น เพียงแค่หลับตา
ลง และพักผ่อน

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง ตื่นเร็ ว !! พวกเรามีเวลาแค่สิบวันในการค้นหา


วิญญาณตราประทับนะ นี่กผ็ า่ นไปแล้ววันหนึ่ง ตื่นเร็ วเจ้าหมูข้ ีเกียจ !!”
ชูเฟิ ง ได้ยนิ เสี ยงของ ชุน หวู ดังขึ้นมา อีกทั้งเขายังรู ้สึกปวดไปที่ใบหู
ของเขา

เมื่อเขาลืมตาขึ้น เขาก็พบว่า ชุน หวู กําลังใช้มือที่ขาวบริ สุทธิ์ของ


นางบิดหูของเขาอยู่ ส่ วน เซี๊ยะ หยู , ตง เซวีย และ ฉิ ว ซื อ ได้ตื่นขึ้น
มาแล้ว และกําลังเตรี ยมอาหารกันอยู่ เมื่อพวกนางเห็นอาการมึนงงของ
เขา พวกนางก็พากันหัวเราะคิกคักออกมา
ชูเฟิ ง ลุกขึ้นและมองออกไปยังขอบฟ้า เขาพบว่ามันยังไม่สว่าง
มาก จากการประมาณของเขานั้น เขาน่าจะได้นอนไปเพียงแค่ชวั่ โมง
กว่าๆ เท่านั้น

แต่มนั ก็ไม่มีผลอะไรต่อเขา แม้วา่ เขาจะไม่ได้พกั ผ่อนหลายวัน


ติดต่อกัน เขาจะมีอาการเพียงเหม่อลอยบ้างเท่านั้น ดังนั้น การพักผ่อน
เพียงชัว่ โมงกว่าๆ จึงทําให้เขาฟื้ นฟูพลังมาได้มาก

“ไปกันเถอะ!! ตั้งแต่วนั นี้ไป ข้ามัน่ ใจว่าพวกเราต้องพบพวกมัน


มากขึ้นแน่ๆ พวกมันหลบซ่อนตัวอยูภ่ ายในกระแสลม ถ้าพวกเรา
ต้องการเก็บเกี่ยวมันให้ได้มากๆ พวกเราต้องขยันกว่าคนอื่นๆ !!”
หลังจากทานอารหารกันเสร็ จนั้น เซี๊ ยะ หยู และคนอื่นๆ ก็ทะยานขึ้นไป
ในอากาศ เพื่อเตรี ยมตัวออกค้นหาวิญญาณตราประทับ
“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง ขึ้นมาสู งกว่านี้ วิญญาณตราประทับมันจะอยูใ่ น
กระแสลมสู ง พวกมันไม่ซ่อนตัวในกระแสลมตํ่าเช่นนั้นหรอก !!” ตง
เซว่ กล่าวเตือน เมื่อเห็นว่า ชูเฟิ ง ลอยอยูใ่ นกระแสลมตํ่า

“ศิษย์พี่ ข้าบอกตามตรง เมื่อคืนข้าได้พบกับวิธีการค้นหาวิญญาณ


ตราประทับ ศิษย์ตามข้ามา พวกท่านจะได้รับพวกมันมากขึ้น !!” ชูเฟิ ง
กล่าวด้วยรอยยิม้

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง ไม่ตลกเลยนะ ท่านอาจารย์บอกว่าวิญญาณตรา


ประทับจะอยูใ่ นอากาศสู ง ดังนั้น พวกเราจะสามารถพบมันได้ใน
ท้องฟ้าข้างบน หากเจ้าค่นหาในอากาศด้านล่างเช่นนั้น เจ้าจะไม่พบพวก
มัน !!” ตง เซว่ กล่าวด้วยรอยยิม้ แต่น้ าํ เสี ยงของนางเต็มไปด้วยความเย้ย
หยัน
“ศิษย์พี่ หากท่านไม่เชื่อข้าก็ไม่เป็ นไร แต่ท่านดูนี่ก่อน !!” ชูเฟิ ง
ไม่อยากเถียงกับนาง เขาเปิ ดแขนของเขาออก และกล่าวไปทางสี่ สาว

ความจริ งนั้น ชูเฟิ ง สามารถออกค้นหาวิญญาณตราประทับได้ดว้ ย


ตัวคนเดียว และเขาก็ไม่จาํ เป็ นต้องแบ่งวิญญาณตราประทับให้แก่ผอู ้ ื่น
แต่อย่างใด

แต่เพราะ เซี๊ยะ หยู และคนอื่นๆ ต่างไม่เคยทอดทิ้งเขา และยังให้


ความช่วยเหลือต่อเขาเป็ นอย่างดี และภายในใจของเขานั้น มิตรภาพ
ยังคงสําคัญยิง่ กว่าผลประโยชน์

ด้วยเหตุผลนี้ เขาจึงไม่อยากปกปิ ดวิธีคน้ หาที่เป็ นเอกลักษณ์ของ


เขา และแบ่งวิญญาณตราประทับให้แก่ทุกๆ คนอย่างเท่าเทียม

“จริ งเหรอเนี่ย!! ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง เมื่อคืนเจ้าได้จบั พวกมันมาได้


เหรอ !?” หลังจากเห็นตัวเลขบนแขนของ ชูเฟิ ง นั้น ทั้งสี่ สาวงามต่าง
ตกใจอย่างมาก

“ศิษย์พี่ ข้าจับมันได้ตวั คนเดียวเมื่อคืนนี้ และวิธีการที่ขา้ ใช้ ก็


แตกต่างจากที่พวกท่านใช้อย่างมาก แต่ขา้ คิดว่ามันจะได้ผลมากกว่า
วิธีการของพวกท่าน !!” ชูเฟิ ง กล่าวพลางยิม้ บางๆ

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้าควรหยุดเล่นตลกได้แล้ว ตราสงครามพวกมัน


มีไหวพริ บสู งมาก แม้แต่พวกเราทั้งสี่ คนยังต้องร่ วมมือกันเพื่อจะจับมัน
เป็ นไปไม่ได้เลยที่คนๆ เดียวจะสามารถจับมันได้ นอกจากว่าเจ้าจะโชค
ดี !!” ตง เซวีย ยังคงไม่เชื่อ ชูเฟิ ง และคิดว่าเขาคงจะโชคดีจบั มันมาได้
เท่านั้น

“ศิษย์พี่ ตง เซวีย กล่าวได้ถูกต้อง พวกมันมีความฉลาดมาก หาก


พบพวกมันในอากาศ ท่านจะต้องปิ ดผนึกพวกมันถึงสี่ ดา้ น และยิง่ คน
จํานวนมาก ยิง่ ทําให้ประสบผลสําเร็ จได้ง่าย”

“แต่ถา้ เรารู ้วา่ มันอยูต่ รงไหน พวกเราก็แค่วางรู ปแบบอํานาจพลัง


วิญญาณเอาไว้ และล่อให้มนั ออกมา มันก็จะไม่สามารถหนีไปไหนได้
!!” ชูเฟิ ง กล่าวด้วยรอยยิม้

“โฮะ !! ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้าจะบอกว่าเจ้าสามารถระบุตาํ แหน่งของ


พวกมันได้เช่นนั้นรึ !!” ตง เซวีย กล่าวพลางจ้องไปที่ ชูเฟิ ง ด้วยความ
เยาะเย้ย
“เพียงแค่คาํ พูด ท่านคงจะไม่เชื่อข้า ถูกต้องแล้วที่ศิษย์พี่ ตง เซวีย
จะยังไม่เชื่อข้า หากท่านเห็นวิธีการของข้า ท่านจะเข้าใจ !!” ชูเฟิ ง กล่าว
พลางยิม้ บางๆ

“ตอนนี้พวกเราไม่มีเวลามาดูปาฮี่! เรามีเวลาแค่สิบวันในการ
ค้นหาเท่านั้น พวกเราไม่มีเวลาให้เจ้าแสดงวิธีการของเจ้าหรอก !!” ตง
เซวีย กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ ในตอนนี้นางกําลังร้อนรนอย่าง
มาก

จากมุมมองของนางนั้น อํานาจพลังวิญญาณ และรู ปแบบอํานาจ


พลังวิญญาณ ไม่มีผลต่อวิญญาณตราประทับ และมองจาก
ความสามารถของ ชูเฟิ ง นั้น ตราหนึ่งในสามบนแขนของเขาน่าจะได้รับ
มาเพราะโชคช่วย ดังนั้น นางจึงคิดว่า ชูเฟิ ง กําลังโกหกอยู่
“วิญญาณตราประทับบนแขนของข้าสามารถพิสูจน์ทุกอย่างได้ ถ้า
หากท่านไม่เชื่อข้าก็ไม่เป็ นไร ข้าจะออกค้นหาพวกมันด้วยวิธีการของข้า
!!” ชูเฟิ ง กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ ต่อความแคลงใจของ ตง เซวีย

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวว่าเจ้าจะแยกจากกลุ่มไปงั้นรึ !!


เจ้าอย่าลืมว่าวิญญาณตราประทับบนแขนของเจ้าสองอัน เจ้าได้รับมันมา
เพราะพวกเรา!! หากเจ้าไม่มีพวกเรา เจ้าจะไม่ได้รับมันไปแม้แต่อนั เดียว
!!”

สี หน้าของ ตง เซวีย เปลี่ยแปลงไปอย่างมาก หลังจากได้ยนิ คํา


กล่าวของ ชูเฟิ ง ใบหน้าของนางที่เคยเปี่ ยมไปด้วยความเมตตา ในตอนนี้
กลับเต็มไปด้วยความโกรธเคือง เห็นได้ชดั ว่านางเอาแต่ใจไม่นอ้ ย

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
A : อย่าไปสนใจแม่ง ออกไปคนเดียวแม่ง!!!

B : ไปอยูแ่ ล้ว เด๋ วพี่เฟิ งเจอไรดีๆ อย่ามาอิจฉาทีหลังอ่ะ!!!

C : อีพวก ผูห้ ญิง เห็นแก่ตวั !!! ใจแคบ!!! ไม่รู้จกั ความเชื่อใจ เชื่อมัน่


แต่พลังของตัวเอง!!! สมควรโดนจัด สักดอก!!!

A : เออ!!! วันนี้พดู ดีเว้ย!!!

C : กูอยากให้มนั มีฉากอย่างว่า ก็เท่านั้น!!!

B : สารเลว!!!
บทที่ 679 – ทางใครทางมัน

“ศิษย์พี่ ตง เซวีย ท่านทําอะไร !! ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง เพียงแสดง


ความคิดออกมาเพือ่ ผลประโยชน์ของพวกเรา!! ไม่วา่ มันจะสําเร็ จ
หรื อไม่ ทําไมไม่ให้เขาลองทําดูก่อน !!” ในขณะนั้น ชุน หวู ก็กล่าว
ตําหนิ ตง เซวีย ออกมา

“มันเป็ นเพราะข้าใจร้าย หรื อเป็ นเพราะเขาขาดจิตสํานึกกันแน่!!


หากพวกเราไปกันสี่ คน ข้ามัน่ ใจว่าพวกเราได้รับพวกมันมากกว่า !!”

“ในตอนนี้ คนที่สามารถหามันได้กม็ ีเพียงพวกเรา แต่นี่เขายังกล้า


มาพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้าคิดว่าข้ากลัวที่จะต้องแยกกับเขาเช่นนั้นรึ !!”

“ชุน หวู ถ้าเจ้าไม่แสดงความคิดเห็นให้พาเขามา ข้าก็ไม่คิดที่จะพา


ปลิงไร้ประโยชน์เช่นนี้มาด้วยหรอก!! แม้วา่ เขาจะมีรูปแบบอํานาจพลัง
วิญญาณที่แข็งแกร่ ง แต่ในตอนนี้มนั ก็ไร้ประโยชน์ !!” ตง เซวีย กล่าว
ออกมาอย่างรุ นแรง นางไม่ตอ้ งการแบ่งวิญญาณตราประทับให้แก่ ชูเฟิ ง
ตั้งแต่แรก
ในขณะนั้น ใบหน้าของ ชูเฟิ ง ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาเพิ่งได้รู้
ความคิดของคนอื่นๆ ในตอนแรกเขาคิดว่าพวกนางเต็มใจจะช่วยเหลือ
เขา แต่ในตอนนี้ อย่างน้อยก็มี ตง เซวีย ที่ไม่เคยคิดที่จะช่วยเหลือเขา
และเห็นเขาเป็ นเพียงแค่ปลิงไร้ประโยชน์เท่านั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่
นางจะระบายความโกรธใส่ เขาในตอนนี้ เพราะนางไม่ชอบเขามาตั้งแต่
แรก

สิ่ งที่ ชูเฟิ ง ไม่อาจยอมรับได้มากที่สุดคือ ความตั้งใจ ที่ทุกอย่าง


เกิดขึ้นเป็ นเพราะการชักจูงของ ชุน หวู แต่ในตอนนี้ ความรู ้สึกดีๆ ที่เขา
มีต่อ ตง เซวีย ได้หายวับไปราวกับควัน

“ศิษย์พี่ ตง เซวีย ท่านเข้าใจผิดแล้ว วันนั้น…….ข้าแค่เสนอ


ความคิดเห็นชวน ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง มากับพวกเรา ข้าไม่เคยขอร้องคนอื่น
ทุกคนต่างยอมรับเขากันเองทั้งนั้น !!”
“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ความคิดของท่าน ท่านเห็นว่าศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง มี
ความสามารถด้านอํานาจพลังวิญญาณ ท่านจึงไม่แย้งในตอนที่เขามากับ
เรา เพราะท่านหวังที่จะได้รับผลประโยชน์มากขึ้น !!”

“ยังไงก็ตาม หลังนั้น ท่านก็พบว่าอํานาจพลังวิญญาณไม่สามารถ


ใช้ได้กบั พวกมัน และการที่พวกเราจับมันได้ เป็ นไปตามที่ท่านอาจารย์
บอกเสี ยมากกว่า ทุกคนต่างก็รู้วา่ ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง หมดประโยชน์ ท่าน
ถึงได้กล่าวออกมาเช่นนี้ !! หากวันหน้าข้าหมดประโยชน์ต่อท่าน ท่านก็
จะมองว่าข้าเป็ นภาระเช่นกันใช่ไหม !?” ชุน หวู กล่าวออกมาอย่าง
รุ นแรง

“ชุน หวู นี่คือนํ้าเสี ยงที่เจ้าควรใช้พดู กับศิษย์พี่ของเจ้างั้นรึ !!” ตง


เซวีย กล่าวตําหนิออกมา
“หยุด ชุน หวู !! ทําไมเจ้าถึงได้กล่าวหยาบคายออกมาเช่นนี้ !!”
ในเวลานั้น เซียะ หยู ก็กล่าวห้าม ชุน หวู

ในตอนนั้น ฉิว ซือ เต็มไปด้วยความอึดอัดใจ นางกล่าวออกมาเบา


ว่า “ศิษย์พี่ ตง เซวีย ศิษย์นอ้ ง ชุน หวู อย่าเถียงกันเลย !!”

“ฮ่าๆๆ!!” ในขณะนั้น ชูเฟิ ง ก็หวั เราออกมา และกุมมือขึ้นคาราวะ


พร้อมกล่าวออกมาว่า “ศิษย์พี่ ข้า หวูฉ่ ิ ง ขอขอบคุณสําหรับความ
ช่วยเหลือของพวกท่าน ในอนาคต ข้าจะต้องตอบแทนพวกท่านอย่าง
แน่นอน !!”
“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง อย่าได้พดู แบบนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ควรพูดถึงเรื่ อง
การตอบแทน !! หากเจ้ายืนยันที่จะตอบแทน ควรเป็ นข้าที่จะต้องตอบ
แทนเจ้า หากวันนั้นไม่ได้ความช่วยเหลือของเจ้า อํานาจพลังวิญญาณ
ของข้าคงจะสู ญหายไปแล้ว ไม่แข็งแรงจนถึงทุกวันนี้!!” ฉิ ว ซื อ กล่าว
ออกมาด้วยความละอายใจ

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง เจ้าอย่าเพิ่งโกรธ แม้วา่ ตง เซวีย จะพูดเกินไปบ้าง


แต่จริ งๆ นางก็ไม่ได้มีเจตนาร้าย !!” เซี๊ ยะ หยู กล่าวออกมา แต่เห็นได้
ชัดว่านางก็ยงี คงเข้าข้าง ตง เซวีย

ในเวลานี้น แม้วา่ การแสดงออกของ เซี๊ ยะ หยู จะไม่ชดั เจน แต่ ชู


เฟิ ง ก็สมั ผัสได่วา่ เมื่อพวกนางทั้งสองคนเจอผลประโยชน์ พวกนางจะ
เปลี่ยนไปอย่างมาก
ชูเฟิ ง ไม่มีความจําเป็ นใดๆ ที่จะต้องกล่าวอะไรออกมากับคนเช่นนี้
อีก เขาผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา และกล่าวว่า “ศิษย์พี่ เซี๊ ยะ หยู
ท่านไม่ตอ้ งกล่าวอะไรทั้งนั้น ข้าเข้าใจถึงความคิดของท่านดี แต่ขา้ หวู่
ฉิง ไม่ตอ้ งการที่เป็ นปลิง หรื อภาระของผูใ้ ด ข้าขอตัวลา !!”

หลังจากที่กล่าวจบนั้น ชูเฟิ ง ก็พงุ่ ทะยานออกมาในอากาศ โดยที่


เขาไม่สนใจว่าจะพบกับ หย่า เฟย หรื อไม่ เพราะในตอนนี้ เขาไม่อยาก
ทนอยูเ่ บื้องหลังผูใ้ ด ด้วยความอึดอัดใจ

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง รอข้าก่อน !!” ในขณะที่ ชูเฟิ ง ทะยานออกมา


ไกลนั้น เขาก็ได้ยนิ เสี ยงของ ชุน หวู ดังมาจากด้านหลัง เขาจึงหัน
กลับไปมองดูวา่ ใช่ ชุน หวู ที่ตามเขามาหรื อไม่

“ศิษย์พี่ ชุน หวู ท่านมาทําไม !?” เมื่อเขาเห็น ชุน หวู นั้น ชูเฟิ ง ก็
รู ้สึกประหลาดใจอย่างมาก

“ข้าคิดว่าศิษย์พี่ ตง เซวีย และคนอื่นๆ กําลังทําในสิ่ งที่ผดิ พลาด ข้า


จึงคิดว่าทําตามเจ้าจะดีกว่า” ชุน หวู กล่าวพลางยิม้ บางๆ

“ศิษย์พี่ ชุน หวู ท่านไม่กลัวา่ ข้าจะโกหก และไม่สามารถจับ


วิญญาณตราประทับได้เลยเช่นนั้นรึ !!” ชูเฟิ ง กล่าวพลางหัวเราะเบาๆ

“เช่นนั้นรึ !! เจ้าคิดว่าข้าจะไม่สามารถทําอะไรได้เลยรึ เมื่อแยก


ออกมาจากพวกเขาทั้งสามคน !!” ในขณะนั้น ชุน หวู กล่าวออกมาด้วย
ความมัน่ ใจ นางขยับเข้ามาใกล้ ชูเฟิ ง และกระซิ บไปที่หูของเขาว่า
“ศิษย์นอ้ ง ข้าจะบอกอะไรให้ฟัง ข้ามีผตู ้ ิดตามเป็ นผูเ้ ชื่อมต่อโลก
วิญญาณห้าคน และทั้งห้าคนก็เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามทั้งหมด
!!”
“แม้วา่ การบ่มเพาะพลังของข้า จะห่างจากพวกเขาทั้งสามคน แต่
ด้วยผูต้ ิดตามของข้า พวกเขาสามารถจับวิญญาณตราประทับได้โดยที่เจ้า
ไม่ตอ้ งทําอะไรเลย !!”

“ไม่ตอ้ งห่วง มากับข้าศิษย์พี่ ชุน หวู ของเจ้า ข้ารับรองว่าเจ้าจะไม่


กลับมือเปล่าอย่างแน่นอน แม้วา่ จะไม่อาจได้ทกั ษะต้องห้าม แต่อย่าง
น้อยพวกเราก็ตอ้ งได้รับทักษะระดับเก้า !! เจ้ารู ้หรื อเปล่า ว่าทักษะใน
ดินแดนตราประทับนิรันดร์ ล้วนเป็ นทักษะที่มาจากยุคโบราณ พลังของ
ทักษะระดับเก้าของยุคโบราณ เป็ นสิ่ งที่ทกั ษะระดับเก้าของยุคนี้ไม่
สามารถเทียบเคียงได้ !!” ชุน หวู กล่าวรับรองออกมา พร้อมกับตบไปที่
หน้าอกของตัวเองอย่างมัน่ ใจ

เมื่อเห็น ชุน หวู แสดงออกมาเช่นนั้น ชูเฟิ ง ก็ไม่สามารถกล่าว


อะไรออกมาได้ เขารู ้สึกอบอุ่นภายในหัวใจของเขา เขารู ้สึกได้วา่ ชุน หวู
แตกต่างจากคนอื่นๆ นางจริ งใจที่จะช่วยเหลือเขา

ทันทีน้ นั ชูเฟิ ง รู ้สึกว่า ชุน หวู คือสหายที่แท้จริ ง ถึงอย่างไร หัวใจ


ของมนุษย์กเ็ กิดขึ้นจากเลือดเนื้อ ไม่ได้เกิดจากก้อนหิ น ดังนั้น จึงทําให้
ผูค้ นไม่ไร้หวั ใจ และคนเช่น ชูเฟิ ง เป็ นคนที่เชื่อถือในมิตรภาพ หากคน
อื่นคาราวะเขาหนึ่งครั้ง เขาจะคาราวะตอบสิ บครั้ง หากผูอ้ ื่นให้น้ าํ เขา
หนึ่งหยด เขาจะมอบคืนด้วยแม่น้ าํ ทั้งสาย

ดังนั้น ชูเฟิ ง จึงตั้งใจไว้แล้วว่า เขาจะแบ่งวิญญาณตราประทับให้


ชุน หวู อย่างเท่าเทียม และในอนาคต หากนางมีปัญหา เขาก็จะช่วยเหลือ
นางอย่างไม่ลงั เล

ในจุดที่พวกเขาเถียงกันก่อนหน้านี้ เซี๊ ยะ หยู และคนอื่นๆ ยังคงยืน


นิ่งอยูท่ ี่เดิม ฉิว ซือ มองไปยังทิศทางที่ ชุน หวู พุง่ ทะยานจากไป พลาง
ขมวดคิว้ ขึ้น จากนั้นนางก็กล่าวออกมาว่า “ศิษย์พี่ เซี๊ยะ หยู , ศิษย์พี่ ตง
เซวีย พวกเราจะปล่อยให้พวกเขาทั้งสองคนจากไปเช่นนี้รึ !!”

ReaDMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
B : แม่นางทั้ง 3 พวกเจ้าติดสิ นใจผิดอย่างมหันต์ ที่แสดงธาตุแท้
ออกมา รอดูเถิด หลังจากนี้ 9 วัน พวกท่านจะต้องนํ้าตาตก!!!

A : วิญญาณตราประทับครึ่ งหมื่น นี้ได้ไรบ้าง ?

B : ทักษะต้องห้าม ชั้นพสุ ธา คงไม่ใช่เรื่ องไกลเกินเอื้อม ดีไม่ดี อาจ


ได้ ชั้น นภา หรื อ ชั้นสวรรค์ แต่ผทู ้ ี่ได้ลาํ ดับ 1 จะได้ ของแถมที่สุดยอด
มากๆ ตอนนั้น แค่ ตัวเลข 200 คนก็แทบจะช็อคกันล่ะ ขนาดพวก
หย่า เฟย ยังร้อยต้นๆ แต่พี่เฟิ งเรานี้ได้ จํานวนขนาดนั้น เผลอๆ อาจจะ
เป็ นของที่ดูที่สุดเลยก็ได้ แต่ทกั ษะต้องห้าม ใช้วา่ จะเข้าใจได้ง่ายๆ มีแต่
จาง เทียนยี่ ที่เข้าใจได้รวดเร็ ว เพราะเขามีพ้ืนฐานของทักษะลับต้องห้าม
ชูเฟิ ง จึงไปขอดู ทักษะลับต้องห้าม

A : แล้ว จาง เทียนยีใ่ ห้ดูป่ะ ?!

B : พี่นอ้ งกัน มีหรื อจะไม่ให้ ถามไรโง่ๆ!!!


บทที่ 680 - แบ่งปันแก่กนั และกัน

“มันค่อนข้างดีสาํ หรับศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ งที่จากไป จริ งๆแล้วศิษย์นอ้ ง


ตง เซวียก็ไม่ได้หา้ มเขา ซึ่งข้าเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน ทุกๆ 6 ปี
ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์น้ ีเปิ ดเพียง 1 ครั้งใน ข้าเองก็ไม่อยาก
ล่าช้าเพราะเขา”

“ แต่ชุน หวู่ นางก็ด้ือรั้นแบบนั้น อย่างไรก็ตามเมื่อนางเลือก


เส้นทางนั้น นางก็ไม่สามารถตําหนิผอู ้ ื่นได้ นางอาจจะไม่ประสบ
ความสําเร็ จได้ หากไม่ได้ความช่วยเหลือจากพวกเรา ”
“เวลาที่ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์ได้ปิดลง และนางคงจะ
แลกเปลี่ยนทักษะระดับตํ่า ก็ปล่อยให้นางรู ้สึกเสี ยใจไปเถอะ” ใบหน้า
ของเซี้ย หยูไม่มีแม้แต่รอยยิม้ ใบหน้าของตง เซวียเองก็เช่นกัน ซึ่ งมัน
อาจจะน่ากลัวอย่างมาก

“แต่ความอันตรายของดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์เป็ นสิ่ งที่


ไม่สามารถคาดเดาได้ และศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ ง เองก็มีความขัดแย้งบางอย่าง
กับหย่าเฟย จะไม่ดีกว่าหรื อถ้าพวกเขาทั้งสองจะ…?” ฉิว ซือกล่าว
ด้วยความกังวลเล็กน้อย

“ข้าได้กล่าวไปแล้ว ศิษย์นอ้ งฉิ วซื อเจ้ามีนิสยั ที่คาํ นึงถึงผูอ้ ื่นมาก


เกินไป แต่มีผใู ้ ดบ้างที่คาํ นึงถึงเจ้า? อย่าลืมว่าในโลกของผูบ้ ่มเพาะเป็ น
ที่ที่ผแู ้ ข็งแกร่ งเข่มเหงผูอ้ ่อนแอ ถ้าเจ้ายังเป็ นเช่นนี้ ข้ากังวลว่าเจ้าจะถูก
ขายออกไปให้ใครสักคนในวันนึง” ตง เซวียกล่าวอย่างไม่พอใจ
เล็กน้อย

“ก็ได้ ก็ได้ อย่าเถียงกันเพราะหวูฉ่ ิ งเลย แม้วา่ พวกเราจะไม่มีเขา


เป็ นตัวถ่วง พวกเราก็ยงั ต้องรักษาเวลา ฉิ ว ซื อเจ้าคงไม่ตอ้ งการได้รับ
ตราประทับน้อยกว่าหย่าเฟยในตอนนี้ใช่ม้ ยั ?” เซี้ยหยู๋ถามฉิ วซื อ

“ข้า...” ฉิว ซือไม่ได้ตอบ แต่ท่าทางกลับเป็ นคําตอบให้กบั เซี้ ยหยู๋

“งั้น...เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว รี บไปกันเถอะ” ขณะที่เซี้ ย หยูพ่ ดู เสร็ จ


นางก็ได้เหาะไปยังสถานที่ห่างไกลแล้ว ขณะที่ตง เซวียรี บติดตามไป
อย่างรวดเร็ ว
เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉิว ซือขดปากเล็กน้อยพร้อมกับลังเลอยูช่ ว่ั ครู่ อย่างไรก็
ตามนางเหาะตามไปทั้งสองคนไปในทันที

ในเวลาเดียว ชูเฟิ งและชุน หวูร่ ่ อนตํ่าลงจากฟ้าสู่ ดา้ นบนของเนินเขา


เปลือยเปล่า

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง ทําไมเจ้าถึงลงมาที่นี่? ตราประทับไม่สามารถ


พบได้ที่เทือกเขาพวกนี้นะ” เมื่อเห็นสายตาของหวูฉ่ ิ งจ้องมองไปยังเนิน
เขาเล็กที่เปลือยเปล่าด้วยใบที่เต็มไปด้วยความสุ ขเป็ นอย่างมาก ชุนหวู่
จึงรู ้สึกสงสัยเป็ นอย่างมาก

“ชู่ว..!” ชูเฟิ งทําท่าทางเป็ นนัยให้นางเงียบ จากนั้นเขาได้เปิ ด


รู ปแบบปิ ดผนึก และหลังจากนั้นไม่นานเขาเริ่ มวางรู ปแบบเปิ ดผนึกด้วย
สุ ดยอดทักษะ
ในครั้งแรก ชุน หวูท่ าํ ตาปริ บๆเมื่อมองไปยังการกระทําของชูเฟิ ง
ดวงตาของนางเต็มไปด้วยตกใจและเปลี่ยนเป็ นสับสนมากขึ้น เนื่องจาก
นางไม่อาจเข้าใจเลยว่าชูเฟิ งกําลังอะไร ถ้านางไม่คุน้ เคยกับเขาและมอง
สิ่ งที่คนๆนี้กาํ ลังทําบางอย่างบนเนินเขาหัวโล้น นางต้องคิดว่าคนๆนี้
ต้องโรคจิตแน่ๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากชูเฟิ งปลดปล่อยรู ปแบบอํานาจวิญญาณด้วย


ความเร็ วดุจสายฟ้าพร้อมกับตะโกนเบาๆว่า “ผนึก….!!!”

ด้วยเสี ยงราวกับเฆี่ยนแส้ เสี ยงสี ทองพุง่ ออกมาจากรู ปแบบด้วยเสี ยง


‘ปัง’ พวกมันพุง่ ชนเข้ากับรู ปแบบปิ ดผนึก
“สวรรค์ น..น..นี่..นี่คือวิญญาณตราประทับจริ งๆ! เป็ นไปได้
อย่างไร? พวกมันมาจากไหน?” ทันใดนั้น ชุนหวูม่ ึนงงเนื่องจากนาง
เห็นว่าวัตถุที่พงุ่ ชนกับรู ปแบบปิ ดผนึกคือ ‘วิญญาณตราประทับ’

แต่ที่แห่งนี้ถูกปิ ดผนึกไว้ ดังนั้นตราประทับพวกนี้จะมาจากไหน? นึก


ย้อนกลับไปขณะที่พวกมันพุง่ ออก ดวงตาของชุน หวูส่ ว่างวาบขึ้นทันที
ขึ้นทันที ไม่นานหลังจากนั้น นางเบนสายตาไปยังเนินเขาเปลื่อยเปล่าที่
ซึ่งชูเฟิ งได้วางรู ปแบบเปิ ดผนึกไว้ นางถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วย
ความตกใจ “ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง เจ้าคงไม่ได้บงั คับให้วญ
ิ ญาณตราประทับ
พวกนี้ออกมาจากเนินเขาใช่ม้ ยั ?”

“ศิษย์พี่ชุน หวู่ ท่านช่างฉลาดยิง่ นัก มันเป็ นแบบนั้นแน่นอน ข้า


เห็นในสิ่ งที่คนอื่นไม่สามารถเห็นได้ และนี่มนั ดูเหมือนเนินเขาขนาด
เล็กธรรมดา แต่ในความเป็ นจริ งนี่คือสถานที่ๆวิญญาณตราประทับอาศัย
อยู่ นัน่ ยังเป็ นเหตุผลว่าทําไมข้าถึงบินตํ่าและได้สอดส่ ายสายตามองที่
เทือกเขาข้างล่างนี้” ชูเฟิ งอธิบายด้วยรอยยิม้ ในเวลาเดียวกันเขายัง
สะกดรู ปแบบปิ ดผนึกเพื่อบังคับให้วญ
ิ ญาณตราประทับออกมาก่อนที่
ชุนหวูจ่ ะถาม และเขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ศิษย์พี่ชุน หวู่ ข้าได้ตราประทับ
มาครั้งที่สามแล้ว….ส่ วนครั้งนี้เพื่อท่าน”

“ให้ขา้ ..จริ งรึ ? แต่นี่….” เมื่อเห็นว่าชูเฟิ งวางแผนจะมอบ


วิญญาณตราประทับให้แก่นาง ชุนหวูท่ ้ งั ตกใจและมีความสุ ข อย่างไรก็
ตามนางยังคงอึดอัดใจอยูเ่ ล็กน้อย

“ศิษย์พี่ชุน หวู่ ข้าเดาว่าถ้าท่านมีทกั ษะมากพอ ท่านก็จะสามารถ


ทําเช่นเดียวกันกับข้าได้แน่นอน ตอนนี้ขา้ และท่านเดินทางร่ วมกัน
ดังนั้นนี่คือเหตุผลที่เราจะแบ่งปั นทั้งสมบัติและความยากลําบากเมื่อเรา
ประสบ”
เมื่อชูเฟิ งยืนยันเช่นนั้น ชุน หวูไ่ ม่สามารถปฏิเสธได้และทําได้เพียงอ้า
แขนของนางออกและจับวิญญาณตราประทับเหล่านั้น พร้อมกับส่ งพวก
มันเข้าไปในแขนของนาง

เมื่อเห็นตราประทับครั้งที่ 3 ปรากฏขึ้นบนแขนที่ขาวราวหิ มะของนาง


หัวใจของชุน หวูซ่ บั ซ้อนเป็ นอย่างมาก อย่างไรก็ตามนางสามารถยืนยัน
ได้วา่ การที่นางเลือกมากับชูเฟิ งนั้นเป็ นการตัดสิ นใจที่ถูกต้องเป็ นอย่าง
มาก ดูเหมือนนางจะสามารถเห็นผลลัพธ์การเก็บเกี่ยวของนางตลอดจน
ใบหน้าตกใจไม่รู้จบของศิษย์พี่ท้ งั 3 ของนางเมื่อดินแดนแห่งตรา
ประทับนิรันดร์ได้ปิดลง

แน่นอนชูเฟิ งไม่ได้ทาํ ให้ชุน หวูผ่ ดิ หวัง ขณะที่ทุกคนกําลังค้นหาและ


ต่อสู ก้ บั วิญญาณตราประทับในอากาศ มีเพียงชูเฟิ งและชุน หวูเ่ ท่านั้นที่
ค้นหาอยูด่ า้ นบนเทือกเขา นอกจากนั้นการเก็บเกี่ยวของพวกเขาทําให้
ชุน หวูป่ ระหลาดใจและมีความสุ ขอย่างยิง่

ในวันที่ 8 ตั้งแต่ดินแดนแห่งตราประทับนิรัดร์เปิ ดออก ปรากฏ


วิญญาณตราประทับ 80 ดวงอยูบ่ นแขนของนาง การเก็บเกี่ยวเช่นนี้
เป็ นสิ่ งที่นางไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการมาก่อน ก่อนที่จะเข้ามา การเก็บ
เกี่ยวที่ดีที่สุดที่นางคาดไว้คือไม่มากไปกว่า 50 ดวง

แต่ตอนนี้การเข้าสู่ ดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์ยงั ไม่สิ้นสุ ดลง แต่ที่


นางได้รับ...เกินกว่าที่คาดไว้มากมายนัก นอกจากความรู ้สึกตื่นเต้นและ
มีความสุ ข คือความรู ้สึกชื่นชมที่มีต่อชูเฟิ งมากขึ้นเนื่องจากเขาพิเศษ
อย่างมาก ดังนั้นความพืเศษของเขากําลังจะทะลุเกินกว่าสิ่ งที่นาง
สามารถคิดได้

“ศิษย์พี่ชุน หวู่ ท่านกําลังคิดอะไรอยู?


่ วิญญาณตราประทับนี่
เป็ นของท่าน” ชูเฟิ งชี้ไปที่วญ
ิ ญาณตราประทับที่เขาเพิ่งจะบังคับให้มนั
ออกมา และปิ ดผนึกมันไว้ในรู ปแบบวิญญาณในตอนนี้

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง ข้าไม่ตอ้ งการมัน กี่วนั แล้วที่เจ้าคอยแบ่งมัน


ให้กบั ข้า ที่ขา้ มีท้ งั หมดเพราะว่าเจ้า...ข้าถึงสามารถได้รับวิญญาณตรา
ประทับมากมายเช่นนี้ สําหรับข้า..นี่กเ็ พียงพอแล้ว”

“เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องวิญญาณแบ่งตราประทับที่เจ้าหาได้ในตอนนี้


กับข้า จงใช้มนั เพื่อตัวเจ้าเอง ด้วยวิญญาณตราประทับพวกนั้น ไม่เพียง
เจ้าสามารถแลกเปลี่ยนพวกมันกับทักษะต้องห้าม เจ้ายังมีโอกาสที่จะ
ทําลายสถิติของมู่หรงซุน” ชุนหวูแ่ นะนํา

“โอ้...” อย่างไรก็ตามชูเฟิ งเพียงยิม้ บางๆหลังจากที่ได้ยนิ คํากล่าว


ของชุน หวูพ่ ร้อมกับกล่าวว่า “มันไม่ง่ายเลยที่จะทําลายสถิติของเขา แต่
นัน่ ก็เป็ นสิ่ งที่ขา้ ปราถนาจะทํา”

“ตอนนี้ ต้องเพียงต้องการทําสิ่ งหนึ่ง...คือแบ่งปันวิญญาณตรา


ประทับทั้งหมดที่อยูภ่ ายดินแดนแห่งตราประทับนิรันดร์กบั ท่าน ข้าได้
กล่าวไปแล้วว่าเราจะแบ่งปันทั้งสมบัติและความยากลําบาก ท่านได้ทาํ
ในส่ วนของท่านแล้วคือ ‘ความยากลําบาก’ ดังนั้นข้าก็ตอ้ งทําในส่ วน
ของข้าคือ ‘สมบัติ’ ”

“ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิง เจ้า...” หลังจากได้ยนิ คํากล่าวของชูเฟิ ง แม้หวั ใจ


ของนางจะอบอุ่น แต่มนั ก็เจ็บปวดในเวลาเดียวกัน ดวงตาคู่งามของนาง
พร่ ามัวเล็กน้อยขณะที่มนั ระยิบระยับแพรวพราว นางกล่าวทั้งตา

* ฮึ่ม * ทันใดนั้น วิญญาณตราประทับได้ถูกชูเฟิ งบังคับให้ออกมา


ก่อนที่ชุนหวูจ่ ะกล่าว และชูเฟิ งกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า “ศิษย์พี่ชุนหวู่
ทักษะต้องห้ามคือเป้าหมายที่แท้จริ งของข้า แต่เป้าหมายของข้าคือเราทั้ง
คู่ตอ้ งได้รับทักษะต้องห้าม ท่านต้องช่วยข้าทําให้มนั สําเร็ จ!”

เมื่อนางมองไปยังชูเฟิ งที่กาํ ลังยิม้ อย่างเปล่งประกายตลอดจนสายตาที่


จริ งใจของเขา ชุน หวุไ่ ม่สามารถหาเหตุผลที่จะปฏิเสธได้ นางทําได้
เพียงเช็ดนํ้าตาที่หางตาของนาง ยกมุมนางของนางขึ้นพร้อมกับรอยยิม้ ที่
แสนหวาน นางพยักหน้าและกล่าวว่า “อืม..”

ReadMGA
///////////////////////////////////////////////////////////////////
///////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////
B : เด๋ วได้เจอของดีเร็ วๆนี้แหละ แต่พวกกาฝากรอแย่งของชาวบ้าน
มันเยอะ แต่ผทู ้ ี่คน้ พบก็คือผูถ้ ูกเลือก ใครจะเข้าไปก็มีแต่จะเดือดร้อน
เพราะโดนส้นตีนพี่เฟิ งซะเปล่าๆ!!!
A : เจออะไร ???

C : พ่อ!!!

A : จริ งดิ!!! จะเจอไว้ขนาดนั้นเชียว

C : เจอพ่อมืงอ่ะ!!!
บทที่ 681 - สุ ดเขตแดน

นัน่ เป็ นเพราะความใจดีของชูเฟิ ง ชุน หวู่ จึงได้รับการแบ่ง วิญญาณตรา


ประทับกับเขา
เพราะเวลามีจาํ กัดพวกเขาจึงต้องเข้มงวดเรื่ องเวลามาก แม้กระทัง่ เวลา
กินและเวลานอน พวกเขานั้นค้นหา วิญญาณตราประทับแทบไม่ได้พกั
ไม่ได้ผอ่ นเลย

เป็ นเช่นนั้นจนกระทัง่ วันที่ 8 ชูเฟิ ง และชุน หวูท่ ้ งั คู่น้ นั มีวญ


ิ ญาณตรา
ประทับ 90 อัน ถ้าได้ร้อยอันก่อนจะออกจากที่นี่มนั ก็คงไม่มีปัญหา
ใดๆ

ถึงเป็ นเช่นนั้นชูเฟิ งก็ไม่ได้มีความสุ ขกับมันนั้น เหตุผลที่เขาเข้ามาที่นี่


ไม่ได้มาเพื่อล่าวิญญาณตราประทับ แต่มนั เป็ นการหา ตราประทับ
ดอกบัวนิรันดร์ญ.

อย่างไรก็ตาม เวลานั้นได้ผา่ นไป 8 วันแล้ว ชูเฟิ งก็ได้เดินไปทัว่ ไม่วา่


จะท้องฟ้า หรื อบนพื้นดิน เขาก็ไม่พบวีแ่ ววของดอกบัวนั้นเลย นัน่ ทําให้
ชูเฟิ งผิดหวังมาก เขากังวลจนแสดงออกมาทางใบหน้าของเขา

เขานั้นอดที่จะโทษตัวเองไม่ได้ หากเขาหาตราประทับดอกบัวนิรันดร์ฯ
ไม่เจอ เขาก็ไม่สามารถช่วยชีวติ หยวน รู่ วได้

“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง อย่ากังวลไปเลย ถ้ามันไม่ได้อยูท่ ี่จุดศูนย์กลาง


มันก็ตอ้ งอยูแ่ ถวๆสุ ดเขตแดนนัน่ แหละ “ ชุน หวู่ พูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทาง
ของชูเฟิ ง

“สุ ดเขตแดนอย่างนั้นหรื อ “ ชูเฟิ งรู ้สึกตกใจอย่างมากเขาเดินทาง


มาหลายวัน และ เขาก็รู้สึกว่าที่แห่งนี้น้ นั มีพ้นื ที่ไม่จาํ กัด แล้วมันจะมีสุด
เขตแดนได้อย่างไร
“ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิง อย่าลืมเรื่ องรู ปแบบของหุบเขาสายหมอกสิ ข้า
ว่าดินแดนตราประทับนิรันดร์กถ็ ูกสร้างจากรู ปแบบเหมือนกันแหละ ไม่
ว่ามันจะใหญ่เพียงใดมันก็ยอ่ มมีที่สิ้นสุ ด”

“ทุกคนต่างรู ้สึกว่ามันไร้ขอบเขต แต่นน่ั เป็ นเพียงแค่ภาพลวงตา


เป็ นเพราะดินแดนตราประทับนิรันดร์น้ นั กว้างใหญ่มากจนทําให้พวก
เขารู ้สึกเช่นนั้น”

“มันเหมือนกับว่าพวกเรานั้นได้เดินวนเป็ นวงกลม ที่พวกเราไม่


รู ้สึกว่าได้ผา่ นพื้นที่น้ นั ไปแล้ว แต่รู้สึกเหมือนกับว่าเรามาเป็ นครั้งแรก
นัน่ เป็ นเพราะ ดินแดนประทับนิรันดร์น้ นั จะเปลี่ยนรู ปแบบไปเรื่ อยๆ
นัน่ เป็ นเหตุผลที่ขา้ บอกว่าเราเดินวนไปวนมา,” ชุน หวู่ อธิบาย (T/N
คล้ายๆกับ the maze runner อะครับ ที่มนั มีกลไกด้านใน
และมันจะเปลี่ยนไปเรื่ อยๆ)
“ไม่แปลกใจเลยจริ งๆ” เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นชูเฟิ งก็ได้รู้ความจริ ง

ความจริ งแล้วในตอนที่เขาบินขึ้นสู งนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงบุคคล 100


คนที่เข้ามาในที่น้ ี 100 คนนั้น เป็ นล้วนเป็ นผูถ้ ูกเลือกทั้งสิ้ นที่และอยู่
กระจัดกระจายคนละทิศคนละทางในพื้นที่กว้าง มันจะเป็ นไปได้
หรื อไม่วา่ จะมีโอกาสพบคนนอกเหนือจากนี้

แต่เขาไม่สามารถหาความคล้ายกันจากสถานที่ที่เขาเดินผ่านได้ มันดู
เหมือนที่แห่งใหม่และรอบด้านนั้นไม่เหมือนเดิม มันทําให้เขารู ้สึกว่า
ก่อนหน้านี้น้ นั บางทีเขาอาจจะคิดมากไป
เมื่อเป็ นเช่นนั้นสิ่ งที่เขาอยากรู ้กถ็ ูกต้องทันที พวกเขานั้นเดินกันเป็ น
วงกลมจริ งๆ อย่างไรก็ตาม ดินแดนตราประทับนิรันดร์น้ นั ลึกลํ้ามาก ชู
เฟิ งไม่สามารถมองเห็นมันทั้งหมด

“ศิษย์พี่ ชุน หวู ในดินแดนตราประทับนิรันดร์น้ นั พลังวิญญาณ


นั้นไร้ประโยชน์และไม่มีทางที่จะหาทางพบ ท่านรู ้วธิ ีไปยังสุ ดเขตแดน
ของดินแดนตราประทับนิรันดร์หรื อไม่” ชูเฟิ ง ถาม

“นี่ ... อาจารย์ของข้าได้บอกไว้วา่ การไปยังสุ ดเขตแดนนั้นต้อง


ขึ้นอยูก่ บั โชคและโอกาส และที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยความอันตรายอย่าง
มาก แต่นางก็ไม่ได้บอกข้าถึงวิธีที่จะเข้าไป “

“ไอ้หยา ท่านอาจารย์ชอบเล่นสนุกอยูเ่ รื่ อย ตอนแรกก็แผนที่นน่ั


นางบอกเพียงว่ามันจะช่วยยกระดับพลังวิญญาณให้พวกเรา แต่นาง
ไม่ได้บอกว่าต้องทํายังไงและให้พวกเราคิดกันเอาเอง.”

ชุน หวู รู ้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะนางต้องการช่วยชูเฟิ งแต่ไม่รู้จะ


ช่วยยังไง เพราะในที่แห่งนี้ อํานาจพลังวิญญาณนั้นไร้ประโยชน์

“ข้ามีวธิ ีอยู่ ด้วยลางสังหรณ์ของพวกเรานั้นมันคงจะมัว่ ซัว่ และ


หาทางไม่เจอ แต่ถา้ ใช้เข็มทิศโลกวิญญาณบางที มันอาจจะเป็ นไปได้”
ชูเฟิ ง พูด

“เข็มทิศโลกวิญญาณอย่างนั้นหรื อ ศิษย์นอ้ งหวูฉ่ ิ ง ที่แห่งนี้น้ นั


อํานาจพลังวิญญาณนั้นไร้ประโยชน์แล้วมันจะใช้ได้อย่างไร” ชุน หวู
พูด
“เราจะรู ้กต็ ่อเมื่อลองทดลองดูเท่านั้น.” ชูเฟิ งพูดพร้อมยิม้ บางๆ
จากนั้นเขาก็เริ่ มอัดพลังวิญญาณลงไปที่เข็มทิศโลกวิญญาณ

เข็มทิศโลกวิญญาณนั้นสามารถบอกได้แม้กระทัง่ อันตรายแล้ว
นับประสาอะไรกับเรื่ องทิศทาง ดังนั้นเมื่อชูเฟิ งได้ถ่ายพลังลงสู่ มนั แล้ว
ทิศทางทั้ง 4 ก็ปรากฏขึ้นบนเข็มทิศ

“มะ มันทํางานจริ งด้วย” เมื่อเห็นว่าเข็มทิศทํางานและบ่งบอกถึง


ทิศทาง ชุน หวู่ ก็เกิดความสงสัยอย่างหนัก เพราะ ดินแดนตราประทับนิ
รันดร์น้ นั เป็ นรู ปแบบวิญญาณที่แข็งแกร่ งและมีมาตั้งแต่ยคุ โบราณแต่
กับใช้เข็มทิศโลกวิญญาณในการบอกทิศทางได้

“ฮ่าฮ่า เป็ นอย่างที่ขา้ บอกเลย พวกเราจะรู ้กต็ ่อเมื่อพวกเราลอง


มัน.” ชูเฟิ ง หัวเราะแล้วเริ่ มเดินไปตามทางที่เข็มทิศชี้

“อ๋ า.” เมื่อเห็นเช่นนั้นชุน หวู ก็รู้สึกอึดอัด เธอคิดว่ามันไม่น่าจะ


ทําได้ แต่เธอก็ยงั บินตามชูเฟิ งไป

ทั้ง 2 ได้บินมาในระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 2 ชัว่ โมง ด้านหน้าพวกเขา


ก็ปรากฏพื้นที่กว้างและมีภูเขาที่ยาวไม่สิ้นสุ ดอยู่ และมันเต็มไปด้วย
หมอก

หมอกนั้นมีสีทอง และปกคลุมทัว่ ท้องฟ้าและพื้นดิน ภาพตรงหน้าพวก


เขานี้ หากมองมาจากที่ไกลๆ ก็คงคิดว่าเป็ นรู ปแบบวิญญาณที่ใช้ผนึก
โลกส่ วนนี้เอาไว้.
“สวรรค์ มันสําเร็ จจริ งๆ ศิษย์นอ้ ง หวูฉ่ ิ ง เจ้าช่างฉลาดยิง่ นัก ที่ใช้
เข็มทิศโลกวิญญาณ.”

เมื่อมาถึงจุดนี้ชุน หวู ตื่นเต้นมาก เพราะเธอได้ใช้วธิ ีหลากหลายวิธีเพื่อ


ตามหามันแต่มนั ก็ไร้ประโยชน์ เธอไม่คิดเลยว่าวิธีที่พ้นื ฐานมากๆ อย่าง
การใช้เข็มทิศแบบชูเฟิ งมันจะสําเร็ จ

“ฮี่ฮี่ บางที สามัญก็คือที่สุด ไปกันเถอะศิษย์พี่ชุน หวู พวกเราไปดู


สุ ดเขตแดนของดินแดนตราประทับนิรันดร์กนั .”

หลังจากชูเฟิ ง พูดจบ เขาก็วงิ่ เข้าไปยังหมอกสี ทอง ชูเฟิ งนั้นไม่มีความ


สนใจในเรื่ องปราก

You might also like