Professional Documents
Culture Documents
สระในภาษาไทย
สระในภาษาไทย
หลักภาษาไท
ย
อ ักขระวิธ ี ได ้แก่ อักษร แปลว่า ตัวหนังสือ
ลักษณะอก ั ษร
เสียงในภาษาไทย มีอยู่ ๓ อย่าง คือ
๑. เสียงแท ้ ได ้แก่ สระ
๒. เสียงแปร ได ้แก่ พยัญชนะ
๓. เสียงดนตรี ได ้แก่ วรรณยุกต ์
สระ
สระในภาษาไทย ประกอบด ้วยรูปสระ ๒๑ รูป และเสียงสระ ๓๒ เสียง
พยัญชนะ
รู ปพยัญชนะ มี ๔๔ ตัว คือ
๑. อกั ษรสู ง มี ๑๑ ตัว คือ ข ข ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห
๒. อก ั ษรกลาง มี ๙ ตัว ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ
๓. อก ั ษรตา ่ มี ๒๔ ตัว คือ
๓.๑ อักษรคู่ คือ อักษรต่าทีเป็
่ นคูก่ บ
ั อักษรสูง มี14 ตัว คือ ค ค ฆ ช ฌ ซ
ฑ ฒทธพภฟฮ
๓.๒ อักษรเดียว่ คือ
อักษรต่าทีไม่
่ มอี ก
ั ษรสูงเป็ นกัน มี 10 คือ ง ญ ณ น ม ย ร ล ว ฬ
ความรูเ้ พิม
่ เติม (อักษรสามหมู)่
อักษรกลาง 9 ตัว ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ
หลักการจา (ไก่ จิก เด็ก ตาย เด็ก ตาย ( ให้เข้าใจว่าเป็ น ฎ
ฏ) บน ปาก โอ่ง)
อักษรต่าเดีย่ ว 10 ตัว ง ญ น ย ณ ร ว ม ฬ ล
หลักการจา (งู ใหญ่ นอน อยู่ ณ ริม วัด โม ฬี
โลก)
่
คาเป็ น คือ พยางค ์ทีประสมกั ่ ตวั สะกด
บสระเสียงยาวในแม่ ก กา และพยางค ์ทีมี
ในแม่ กน กง กม เกย เกอว และสระ อา ไอ ใอ เอา
่
คาตาย คือ พยางค ์ทีประสมด ้
้วยสระเสียงสันในแม่ ก กา เช่น กะ กิ กุ กา แ
่
ละพยางค ์ทีมี
ตัวสะกดใน แม่ กก กด กบ แต่ยกเวน้ สระ อา ไอ ใอ เอา
สระในภาษาไทยมี ๒๑ รูป
รู ปสระ ่
ชือ รู ปสระ ่
ชือ
๑. ะ วิสรรชนี ย ์ ๑๒. ใ ไม้มว้ น
๒. อั ไม้หน
ั อากาศ ๑๓. ไ ไม้มลาย
๓. อ็ ไม้ไต่คู ้ ๑๔. โ ไม้โอ
๔. า ลากข ้าง ๑๕. อ ตัว ออ
๕. อิ พินทุ ์อิ ๑๖. ย ตัว ยอ
๖. ่่ ฝนทอง ๑๗. ว ตัว วอ
๗. อ นิ คหิตหรือหยาดน้าค ้าง ๑๘. ฤ ตัว รึ
๘. “ ฟันหนู ๑๙. ฤๅ ตัว รือ
๙. อุ ตีนเหยียด ๒๐. ฦ ตัว ลึ
๑๐. อู ตีนคู ้ ๒๑. ฦๅ ตัวลือ
๑๑. เ ไม้หน้า
ประเภทของสระ
่ มี 18 เสียง)
1. เสียงสระ (สระเดียว
้ (ร ัสสระ)
สระเสียงสัน สระเสียงยาว (ทีฆสระ)
/อะ/ /อา/
/อิ/ /อี/
/อึ/ /อือ/
/อุ/ /อู/
/เอะ/ /เอ/
/แอะ/ /แอ/
/เออะ/ /เออ/
/เอาะ/ /ออ/
/โอะ/ /โอ/
่
2. สระประสม (สระเลือน) ่ 2 เสียงมาประสมกัน ได ้แก่
คือ การนาเสียงสระเดียว
/อิ/ + /อะ/ = /เอียะ/ /อี/ + /อา/ = /เอีย/
/อึ/ + /อะ/ = /เอือะ/ /อือ/ + /อา/ = /เอือ/
/อุ/ + /อะ/ = /อวั ะ/ /อู/ + /อา/ = /อวั /
้ นหน่ วยเสียงเดียวกับเสียงยาว
หมายเหตุ ทางภาษาศาสตร ์ ถือว่า สระประสมเสียงสันเป็
จึงถือว่าสระประสม มี 3 เสียง คือ /เอีย/ /เอือ/ /อัว/
ข้อควรจา
อา ไอ ใอ เอา ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ
คาสนธิ คือ การต่อคาตังแต่ ้ สองคาขึนไปให
้ ิ เนื่ องกัน โดยมีการเพิมสระในแท
ต้ ด ่
รกระหว่าง
่ าเพือติ
คา หรือเพิมค ่ ดต่อกันให ้สนิ ท เช่น
ธนู + อาคม เป็ น ธันวาคม
มหา + อิสี เป็ น มเหสี
่
คามู ล คือ คาทีเราตั ้ นเฉพาะค
งขึ ้ าเดียว เช่น ชน ตัก คน วัด หัด ขึน้
ขัด
วรรณยุกต์
รู ปวรรณยุกต ์
่
เครืองหมายวรรณยุ กต ์ในภาษาไทย มี 4 รูป ดังนี ้
ไม้เอก (-่ ), ไม้โท (-้), ไม้ตรี (-๊ ) และ ไม้จต
ั วา (-๋ )
อย่างไรก็ตาม ในจารึกสมัยโบราณ
่
เช่น ศิลาจารึกพ่อขุนรามคาแหง มีเครืองหมายวรรณยุ กต ์เพียง 2 รูป คือ ไม้เอก (-่ )
และไม้โท (-๋ ) เช่น น๋ อง (น้อง), ห๋า (ห ้า)
การผันเสียงวรรณยุกต ์
่ ยงพยางค ์หนึ่ งในภาษาไทย สามารถผันได ้ 5 เสียงวรรณยุกต ์
โดยทัวไปเสี
่
แต่ในภาษาเขียน จะมีกฎเกณฑ ์การผันทีตายตัว ดังนี ้
หมู ่อ ักษร-คาเป็ นคาตาย เสียงสามัญ เสียงเอก เสียงโท เสียงตรี เสียงจัตวา
อักษรกลาง คาเป็ น กา ก่า ก ้า ก๊า ก๋า
้
อักษรกลาง คาตาย สระสัน - กะ ก ้ะ ก๊ะ ก๋ะ
อักษรกลาง คาตาย สระยาว - กาบ ก ้าบ ก๊าบ ก๋าบ
อักษรสูง คาเป็ น - ข่า ข ้า - ขา
้
อักษรสูง คาตาย สระสัน - ขะ ข ้ะ - -
อักษรสูง คาตาย สระยาว - ขาบ ข ้าบ - -
อักษรต่า คาเป็ น คา - ค่า ค ้า -
อักษรต่า คาตาย สระสัน ้ - - ค่ะ คะ ค๋ะ
อักษรต่า คาตาย สระยาว - - คาบ ค ้าบ ค๋าบ
คาตายของอักษรกลางและอักษรสูง
้
ไม่ว่าสระจะเป็ นเสียงสันหรือเสียงยาวก็ผน
ั วรรณยุกต ์ตามรูปแบบเดียวกัน
เว ้นแต่คาตายของอักษรต่า เมือเป็
่ นสระเสียงสันหรื
้ อเสียงยาวจะผันคนละแบบ
อักษรต่าและอักษรสูงไม่สามารถผันให ้ครบ 5 เสียงได ้
จึงมักจะใช ้อักษรเสียงเดียวกันจากอีกหมู่หนึ่ งมาใช ้เป็ นอักษรนา โดยมีอก
ั ษรสูงนา
่ นอักษรกลาง สามารถนา อักษร ย ได ้) เช่น นา หน่ า น่ า น้า หนา, มี
(ยกเว ้นอักษร อ ซึงเป็
หมี่ มี่ มี ้ หมี
การเขียนสะกด
คา
่
คาทีประวิสรรชนี ย ์ ข ้อสังเกตในการใช ้มีดงั นี ้
่
1.1 คาพยางค ์เดียวทีออกเสี ยง อะ จะประวิสรรชนี ย ์เสมอ เช่น กะ จะ ปะ ละ นะ
่
1.2 คาไทยแท ้ทีออกเสี ยง
้
อะ ทังพยางค ่ ้าหนักและไม่ลงน้าหนัก เมือเขี
์ทีลงน ่ ยนต ้องประวิสรรชนี ย ์
เช่น
มะม่วง มะดัน มะนาว มะขาม มะยม
ละมั่ง ละอง ตะกวด ตะขาบ กระจง
ตะกร ้า ตะโพน กระดาน กะดัง ชะลอม
่
1.3 คาทีมาจากภาษาบาลี สน ่
ั สกฤต คาพยางค ์ท ้ายของคาทีออกเสี
ยง อะ จะประวิ
สรรชนี ย ์ เช่น
ศิลปะ ศีรษะ ลักษณะ สาธารณะ สุขะ
่
1.4 คาทีมาจากภาษาสั ่
นสกฤต ทีพยางค ์หน้าออกเสียง กระ ตระ ประ จะต ้องประ
วิสรรชนี ย ์ แม้ว่า
่
พยางค ์ทีตามมาจะออกเสี ยงอย่างอักษรนา เช่น
กระ กระษัย กระษิร กระษาปณ์
ตระ ตระกูล ตระการ
ประ ประวัติ ประโยชน์ ประมาท ประกาศ
1.5 คาทีไทยร่ ับมาจากภาษาชวาและอ่านออกเสียง อะ ทีพยางค่ ์หน้า เช่น
มะเดหวี ประไหมสุหรี มะงุ มมะงาหรา
้
1.6 คาซาประเภทค ่ ้ในบทร ้อยกรอง เช่น
าอัพภาสทีใช
จะเจือย้ - เจือยเจื
้ ้
อย
วะวาว - วาววาว
คะคล ้าย - คล ้ายคล ้าย
่ มป
คาทีไม่ ี ระวิสรรชนี ย ์
่ มป
คาทีไม่ ่
ี ระวิสรรชนี ย ์ คือ คาทีประสมสระ อะ
เวลาอ่านออกเสียงคาทีไม่่ ประวิสรรชนี ย ์จะอ่านออกเสียง อะ กึงเสียง เช่น ขนุ น ฉลาม ถลา
เมล็ด สารพัด สมัย ถนน ตลก ตลิง ทนาย ทยอย สกัด สงบ สไบ ขโมย
แบบทดสอบ
1. คาเป็ น คือ
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………..
2. คาตาย คือ
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………..
๓. อก
ั ษรควบ คือ
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………..
๔. อ ักษรนา คือ
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………..
่ าหนดให้ตอ
๕. คาทีก ่ ไปนี ้คาใดเขียนถู กต้อง
1. ก. กฎหมาย ข. กฏหมาย 2. ก. แกงบวด ข.
แกงบวช
3. ก. โจทย ์จรรย ์ ข. โจษจัน 4. ก.ทรหด ข. ทระหด
5. ก. บอระเพ็ด ข. บรเพชร 6. ก. ผาสุข ข. ผาสุก
7. ก. ฟุตบอล ข. ฟุตบอลล ์ 8. ก. สังเกตุ ข. สังเกต
9. ก. อานิ สสงฆ ์ ข. อานิ สงส ์ 10. ก. ปรากฏ ข.
ปรากฎ
่ าหนดให้อย่างถู กต้อง
๖. ให้เขียนสะกดคาทีก
1. อา-มะ-พาด เขียน …………….… 2. สา-พาด เขียน
……..……………
3. จุน-ละ-ทัด เขียน ……………..… 4. ทุบ-พน-ละ-พาบ เขียน
……………..……
5. อุ-ปัด-ชา เขียน ……………..… 6. กา-ละ-สะ-หมัย เขียน
………………..…
7. คุน-นะ-วุด-ทิ เขียน ……………..… 8. ชุก-กะ-ชี เขียน
…………………
9. ผะ-รุด-สะ-วาด เขียน ………………. 10. บุน-ดะ-ริก เขียน
……………….…
่ าหนดให้ เขียนลงในกลุ่มให้ถูกต้อง
๗. จงนาคาทีก
กว ้างขวาง ทรุดโทรม ความรู ้ สร ้อยคอ
เพลิดเพลิน เศร ้าโศก ก่อสร ้าง ขวนขวาย
จริงใจ ตราด พุทรา ขวัญใจ
ควาญช ้าง ทร ัพย ์สิน เศรษฐี ตลาดนัด
ส่งเสริม ่
ขาดแคลน กลันกรอง ทรวดทรง
คาควบแท้ คาควบไม่แท้
๘. จงเลือกสานวนทีก ่ าหนดให้ เติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
เข ้าหูซ ้ายทะลุหูขวา ้
ซือควายหน้ ้ า้ หน้าหนาว
านา ซือผ
กบในกะลาครอบ
ปั้นน้าเป็ นตัว มือไม่พายเอาเท ้าราน้า ปากปราศร ัย
น้าใจเชือดคอ
ขวานผ่าซาก ผักบุ ้งโหรงเหรงน้าลดต่อผุด ลูกไก่ในกามือ
น้าท่วมทุง่
๑. พูดดีแต่ใจคิดร ้าย
…………………………………………………………………………
๒. แสร ้งทาเรืองไม่ ่ จริงให ้เป็ นจริง
…………………………………………………………………………
้
๓. ซือของไม่ ถูกต ้องตามกาลเวลา
…………………………………………………………………………
๔. ประกาศไม่ยอมคบค ้าสมาคมด ้วยไม่รว่ มงานด ้วย
…………………………………………………………………………
๕. พูดตรงเกินไปโดยไม่เลือกกาลเทศะและบุคคล
…………………………………………………………………………
่
๖. เมือหมดอ านาจความชัวที ่ ท ่ าไว ้ก็ปรากฏ
…………………………………………………………………………
๗. การทีเข ่ ้าไปขัดขวางผลประโยชน์
…………………………………………………………………………
่ี
๘. ผูท้ ตกอยู ่ี มท
่ใต ้อานาจ ผูท้ ไม่ ี างต่อสู ้
…………………………………………………………………………
้
๙. พูดมากแต่ได ้เนื อหาสาระน้ อย
…………………………………………………………………………
๑๐. บอกหรือสอนไม่ได ้ผล
…………………………………………………………………………