Professional Documents
Culture Documents
รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์ โรงเรียนอนุบาลหนองใหญ่
รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์ โรงเรียนอนุบาลหนองใหญ่
รายงานผล
การจัดกิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
ตามโครงการบ้านนั กวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย
ปีการศึกษา 2563
โรงเรียนอนุบาลหนองใหญ่
สานั กงานเขตพื้นที่การศึ กษาประถมศึ กษาชลบุรี เขต 1
กระทรวงศึ กษาธิการ
รายงานผล
การจัดกิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
ตามโคงการบ้านนั กวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย
ปีการศึกษา 2563
โรงเรียนอนุบาลหนองใหญ่
สานั กงานเขตพื้นที่การศึ กษาประถมศึ กษาชลบุรี เขต 1
กระทรวงศึ กษาธิการ
คำนำ
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป็นการส่งเสริมทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย เป็นการตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของเด็กปฐมวัยกระตุ้น
ความสนใจใคร่รู้ ส่งเสริมให้เด็กเกิดกระบวนการเรียนรู้ คิดอย่างเป็นระบบและคิดอย่างมีเหตุผล
เกิดการเข้าใจมโนทัศน์และเข้าใจปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัว นำไปสู่ความสามารถในการ
สรุปข้อความรู้ได้ด้วยตนเองและการส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สามารถส่งเสริม
พัฒนาการทุกด้านของเด็กปฐมวัยให้เกิดขึ้นอย่างสมดุลและเต็มศักยภาพ
ขอขอบคุณผู้อำนวยการโรงเรียน คุณครูระดับชั้นปฐมวัยและเด็กปฐมวัยทุกคน ที่ร่วมจัด
กิจกรรมบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยในครั้งนี้จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
คณะครูปฐมวัย
โรงเรียนอนุบาลหนองใหญ่
สารบัญ
เรื่อง หน้า
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
- กิจกรรมที่ 1 จม/ลอย 1
- กิจกรรมที่ 2 ความลับของสีดำ 3
- กิจกรรมที่ 3 สนุกกับฟองสบู่ 5
- กิจกรรมที่ 4 หมุดลอยน้ำ 7
- กิจกรรมที่ 5 เมล็ดพืชเต้นระบำ 9
- กิจกรรมที่ 6 ลูกโป่งพองโต 11
- กิจกรรมที่ 7 ลมอ่อนๆพัดผ่านห้อง 13
- กิจกรรมที่ 8 สร้างอุปกรณ์ขยายภาพด้วยตนเอง 15
- กิจกรรมที่ 9 ทอร์นาโดในขวด 17
- กิจกรรมที่ 10 เสียงดังและเสียงเบา 19
- กิจกรรมที่ 11 ภาพพิกเซล 21
- กิจกรรมที่ 12 การจัดหมวดหมู่ 23
- กิจกรรมที่ 13 ภาพเคลื่อนไหว 25
- กิจกรรมที่ 14 แสงและภาพ 27
- กิจกรรมที่ 15 ภาพเคลื่อนไหวในแสงสีแดงและสีเขียว 29
- กิจกรรมที่ 16 ลูกข่างหลากสี 31
- กิจกรรมที่ 17 ไหลแรงหรือค่อย 33
- กิจกรรมที่ 18 กักน้ำไว้ได้ 35
- กิจกรรมที่ 19 การเผาไหม้ 37
- กิจกรรมที่ 20 อินดิเคเตอร์จากพืช 39
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 1 จม/ลอย เรื่อง น้ำและอากาศ
จุดประสงค์
1. เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองเพื่อพิสูจน์สมมุติฐานที่ตั้งไว้
2. เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูและเด็กร่วมสนทนาถึงประสบการณ์เดิมในการเห็นส่งที่จมและลอยน้ำได้
2. ครูและเด็กช่วยกันเตรียมทำกิจกรรมจม/ลอยโดยมีวัตถุเช่น ไม้บล็อกมีรู ปากกาเคมี ตัวต่อ ช้อน
พลาสติก ฝาขวดน้ำ ลูกบอลพลาสติก ลวดเสียบกระดาษ
3. ครูให้เด็กคาดคะเนว่าวัตถุที่ครูนำมา มีสิ่งไหนที่จมและลอยน้ำได้บ้าง
4. เด็กและครูร่วมกันทดลองกิจกรรมจม/ลอยโดยค่อยๆวางวัตถุทีละชิ้นลงไปในน้ำที่เตรียมไว้
5. เด็กๆ สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นและมีอะไรสามารถจมและลอยน้ำได้บ้าง
6. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลองพบว่าวัตถุที่จมน้ำมี ช้อนพลาสติกกับลวดเสียบกระดาษและ
วัตถุที่ลอยน้ำมี ไม้บล็อกมีรู ปากกาเคมี ตัวต่อ ฝาขวดน้ำ ลูกบอลพลาสติก วัตถุที่จมจะมีความหนาแน่น
มากกว่าน้ำจึงจมน้ำ..ส่วนวัตถุที่ลอยน้ำได้เพราะมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำจึงลอยน้ำได้
7. ให้เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1เด็กได้เรียนรู้ในเรื่องการจมและลอย..วัตถุที่จมจะมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำจึงจมน้ำ..
ส่วนวัตถุที่ลอยน้ำได้เพราะมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำจึงลอยน้ำได้
1.2เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือและทดลองด้วยตนเอง ได้เรียนรู้ในเรื่องการจมหรือ
ลอยว่า วัตถุที่จมน้ำจะมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำจึงจมน้ำได้..ส่วนวัตถุที่ลอยน้ำได้เพราะมีความหนาแน่น
น้อยกว่าน้ำจึงลอยน้ำได้ เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านภาษา ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ได้ในการทดลอง
ได้อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง นำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ
2.2 ด้านสังคม
- ทำงานร่วมกับเพื่อนได้
- สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพกฎ กติกาของห้องเรียนระหว่างปฏิบัติกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุกสนานในการทดลอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
- หยิบจับอุปกรณ์ต่างๆได้คล่องแคล่ว
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง จม/ลอย
เด็กๆทดลองกิจกรรม......จมหรือลอย ผลงานที่สาเร็จของเด็ก
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 2 ความลับของสีดำ เรื่อง น้ำ
จุดประสงค์
1.เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองเพื่อพิสูจน์สมมุติฐานที่ตั้งไว้
2.เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูและเด็กร่วมสนทนาถึงประสบการณ์เดิมในการระบายสีน้ำหลายๆสีเท่ากันเมื่อนำพู่กันไปจุ่มใน
น้ำน้ำจะเป็นสีดำ
2. ครูและเด็กช่วยกันเตรียมแผ่นกระดาษและสีน้ำ
3. ครูให้เด็กวาดภาพคนละ1ภาพในกระดาษ
4. ให้เด็กระบายสีน้ำของตนเองโดยให้เด็กล้างพู่กันก่อนเปลี่ยนสี
5. ระบายเสร็จ สังเกตน้ำในแก้วถามเด็กๆว่าน้ำในโหลแก้วเป็นสีอะไร
6. ครูใช้แจกกระดาษกรองให้เด็กคนละแผ่นแล้วให้เด็กวาดภาพด้วยสีดำ..เสร็จแล้วให้หยดน้ำเปล่าลง
บนภาพที่วาด..เด็กๆสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสีที่กระดาษกรอง
7. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลองพบว่าสีดำประกอบด้วยหลายๆสีรวมกันหรือผสมกัน
8. ให้เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กได้เรียนรู้ในเรื่องสีดำเกิดจากการวมตัวของสีมากกว่า 2 สีและไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่ม
สีเดียวกัน โดยสีที่สามารถละลายน้ำได้ดีจะแพร่ไปไกลได้จนถึงขอบกระดาษกรองส่วนสีที่ละลายน้ำได้ไม่ดีจะ
แพร่อยู่บริเวณตรงกลางเท่านั้น
1.2 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือและทดลองด้วยตนเอง เรียนรู้ในเรื่องสีดำเกิดจากการ
รวมตัวของสีมากกว่า 2 สี เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านภาษา ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ได้ในการทดลอง
ได้อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง นำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ
2.2 ด้านสังคม
- ทำงานร่วมกับเพื่อนได้
- สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพกฎ กติกาของห้องเรียนระหว่างปฏิบัติกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุกสนานในการทดลอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
- หยิบจับอุปกรณ์ต่างๆได้คล่องแคล่ว
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง ความลับของสีดำ
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 3 สนุกกับฟองสบู่ เรือ่ ง น้ำ
จุดประสงค์
1. เด็กใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5ในการหาคำตอบได้
2. เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองเพื่อพิสูจน์สมมุติฐานที่ตั้งไว้
3. เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูและเด็กร่วมสนทนาถึงประสบการณ์เดิมที่เด็กๆเคยเห็นเวลาที่ช่วยคุณแม่ซักผ้า ล้างรถ ล้างจาน
จะเห็นฟองมีรูปร่างและสีอย่างไร
2. ให้เด็กทดลองเป่าลมโดยใช้หลอดเป่าลูกปิงปอง/สำลีก่อนแล้วมาทดลองเป่าน้ำในชาม
3. ครูให้เด็กเป่าน้ำที่ใส่น้ำยาล้างจานลงไป และอภิปรายว่าเกิดอะไรขึ้น
4. ถามเด็กว่าทำอย่างไรเราจะเป่าสบู่ให้มีขนาดใหญ่..โดยฝึกเด็กให้เป่าสั้นๆแต่แรงและเบาๆแต่ช้าๆ
สลับกัน(สังเกตว่าเด็กเป่าฟองได้หรือไม่
5. ครูถามเด็กฟองที่เป่ามีรูปร่างและสีอะไร
6. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลองพบว่าสารลดแรงตึงผิวสามารถทำให้เด็กๆเป่าน้ำเป็นฟองลอย
ในอากาศได้ฟองสบู่เป็นทรงกลมเสมอ และเมื่อแสงส่องผ่านฟองสบู่ๆจะเป็นสีรุ้ง
7. ให้เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5ในการหาคำตอบได้
1.2 เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองเพื่อพิสูจน์สมมุติฐานที่ตั้งไว้
1.3 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือและทดลองด้วยตนเอง เรียนรู้ในเรื่อง สนุกกับฟองสบู่
พบว่าสารลดแรงตึงผิวสามารถทำให้เด็กๆเป่าน้ำเป็นฟองลอยในอากาศได้ฟองสบู่เป็นทรงกลมเสมอ และเมื่อ
แสงส่องผ่านฟองสบู่ๆจะเป็นสีรุ้ง เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการ
ทดลองได้
- ด้านภาษา ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ได้ในการทดลอง
ได้อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง นำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ
2.2 ด้านสังคม
- ทำงานร่วมกับเพื่อนได้
- สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพกฎ กติกาของห้องเรียนระหว่างปฏิบัติกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุกสนานในการทดลอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
- หยิบจับอุปกรณ์ต่างๆได้คล่องแคล่ว
- วาดภาพลงในกระดาษได้ดีและชัดเจน
- เป่าน้ำยาล้างจานให้เป็นฟองได้
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง สนุกกับฟองสบู่
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 4 หมุดลอยน้ำ เรื่อง น้ำ
จุดประสงค์
1. เด็กใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5ในการหาคำตอบได้
2. เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองเพื่อพิสูจน์สมมุติฐานที่ตั้งไว้
3. เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูและเด็กร่วมสนทนาพูดคุยเกี่ยวกับแมลงที่สามารถเดินบนน้ำได้เด็กบางคนอาจสงสัยว่าทำไม
แมลงพวกนี้จึงไม่จมน้ำ
2. แบ่งเด็กออกเป็น4กลุ่มๆละเท่า ๆ กัน
3. เติมน้ำลงในกะละมังและให้เด็กเตรียมหมุดไว้คนละ 10 ตัว
4. แจกผ้าเช็ดมือให้กับเด็กทุกคน
5. ให้เด็กๆจับหมุดไว้และค่อยๆวางลงบนผิวน้ำ สังเกตว่ามันจะจมหรือลอย
6. จัดแข่งขันกันว่าถ้าใครวางได้โดยไม่จมจะได้รับรางวัล
7. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลองเรื่อง หมุดลอยน้ำพร้อมอธิบายการวางหมุดให้สามารถลอย
น้ำได้ โดยหมุดจะสามารถลอยน้ำได้ด้วยการวางอย่างเบามือโดยอาศัยแรงตึงผิวของน้ำ
8. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5ในการหาคำตอบได้
1.2 เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองเพื่อพิสูจน์สมมุติฐานที่ตั้งไว้ได้โดยการทดลองเรื่อง หมุด
ลอยน้ำ พร้อมอธิบายการวางหมุดให้สามารถลอยได้ โดยหมุดจะสามารถลอยน้ำได้ด้วยการวางอย่างเบามือโดย
อาศัยแรงตึงผิวของน้ำ
1.3 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือและทดลองด้วยตนเอง เรียนรู้ในเรื่อง หมุดลอยน้ำ
พร้อมอธิบายการวางหมุดให้สามารถลอยได้ โดยหมุดจะสามารถลอยน้ำได้ด้วยการวางอย่างเบามือโดยอาศัย
แรงตึงผิวของน้ำ เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านภาษา ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ได้ในการทดลอง
ได้อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง นำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ
2.2 ด้านสังคม
- ทำงานร่วมกับเพื่อนได้
- สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพกฎ กติกาของห้องเรียนระหว่างปฏิบัติกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุกสนานในการทดลอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
- หยิบจับอุปกรณ์ต่างๆได้คล่องแคล่ว
- วาดภาพลงในกระดาษได้ดีและชัดเจน
- เด็กสามารถจับหมุดไว้และค่อยๆวางบนผิวน้ำไม่ให้หมุดจมน้ำได้
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง หมุดลอยน้ำ
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 5 เมล็ดพืชเต้นระบำ เรือ่ ง แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กมีทักษะการสังเกตและเปรียบเทียบ
2. เพื่อให้เด็กเรียนรู้จักคุณสมบัติก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูและเด็กร่วมสนทนาพูดคุยเกี่ยวกับลักษณะของน้ำอัดลม
2. ครูอธิบายน้ำอัดลมเมื่อเขย่าจะมีฟองเพราะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
3. จากนั้นครูแนะนำอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมเมล็ดพืชเต้นระบำ
4. ครูใช้คำถามกระตุ้นเด็กเกี่ยวกับฟองที่อยู่ในน้ำอัดลมและน้ำโซดาดังนี้
- เด็กๆคิดว่าถ้าครูนำเมล็ดถั่วเขียวใส่ลงไปในแก้วน้ำเปล่า และแก้วน้ำโซดาจะเป็นอย่างไร
- ทำไมจึงคิดว่าเป็นเช่นนั้น
5. เด็กๆร่วมกันคาดคะเนการทดลองเมล็ดพืชเต้นระบำ
6. เด็กร่วมกันทำกิจกรรมโดยให้สังเกตผลการทดลองในน้ำเปล่าและน้ำโซดา
7. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสีแล้วนำเสนอผลงาน
8. เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมเมล็ดพืชเต้นระบำ
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตขณะทำกิจกรรม
1.2 เด็กเรียนรู้จักคุณสมบัติก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะมีน้ำหนักเบากว่าน้ำจึงเห็นฟองลอย
ขึ้นบนผิวน้ำ
1.3 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือและทดลองด้วยตนเอง เรียนรู้ในเรื่อง เมล็ดพืชเต้น
ระบำเมื่อเทเมล็ดถั่วเขยาลงในแก้วน้ำที่มีโซดาจะพบว่าเมล็ดถั่วเขียวลอยขึ้นลงเคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็วโดย
จะเห็นว่าฟองดันเล็ดถั่วเขียวลอยขึ้นลงเมื่อฟองแตกเมล็ดพืชจะไม่เคลื่อนที่
- ด้านภาษา ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ได้ในการทดลอง
ได้อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง นำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ
2.2 ด้านสังคม
- ทำงานร่วมกับเพื่อนได้
- สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพกฎ กติกาของห้องเรียนระหว่างปฏิบัติกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุกสนานในการทดลอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
- หยิบจับอุปกรณ์ต่างๆได้คล่องแคล่ว
- วาดภาพลงในกระดาษได้ดีและชัดเจน
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง เมล็ดพืชเต้นระบำ
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 6 ลูกโป่งพองโต เรือ่ ง แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กมีทักษะการสังเกตและเปรียบเทียบ
2. เพื่อให้เด็กเรียนรู้จักคุณสมบัติของกรดมะนาวและเบกกิงโซดา
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูและเด็กร่วมสนทนาพูดคุยเกี่ยวกับเราจะสามารถเป่าลูกโป่งให้พองโตได้อย่างไร
2. ครูแนะนำอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมลูกโป่งพองโต
3. จากนั้นครูแนะนำอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมลูกโป่งพองโต
4. ครูใช้คำถามกระตุ้นเด็กเกี่ยวกับลูกโป่งพองโตดังนี้
- ครูใช้ค้ำถามกระตุ้น เราจะทำให้ลูกโป่งพองโตโดยไม่เป่าได้ด้วยวิธีใดบ้าง
เด็กๆร่วมตอบ : ใช้ที่สูบสูบลมเข้าไป
- ทำไมจึงคิดว่าเป็นเช่นนั้น
5. เด็กๆร่วมกันคาดคะเนการทดลองลูกโป่งพองโต
6. ครูและเด็กร่วมกันทำกิจกรรมลูกโป่งพองโตและให้สังเกตผลการทดลอง
7. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสีแล้วนำเสนอผลงาน
8. เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมลูกโป่งพองโต
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตขณะทำกิจกรรม
1.2 เด็กเรียนรู้จักคุณสมบัติของกรดมะนาวและเบกกิงโซดาจะมีรสเปรี้ยวเมื่อผสมกับน้ำจะ
เกิดฟองซึ่งเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
1.3 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือและทดลองด้วยตนเอง เรียนรู้ในเรื่อง ลูกโป่งพองโต
โดยเมื่อใส่สารต่างๆ เช่นใส่เบกกิงโซดา และกรดมะนาวซึ่งมีรสเปรี้ยวเมื่อผสมกับน้ำจะเกิดฟองซึ่งเป็นก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะดันให้ลูกโป่งพองโตได้
- ด้านภาษา ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ได้ในการทดลอง
ได้อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง นำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ
2.2 ด้านสังคม
- ทำงานร่วมกับเพื่อนได้
- สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพกฎ กติกาของห้องเรียนระหว่างปฏิบัติกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุกสนานในการทดลอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
- หยิบจับอุปกรณ์ต่างๆได้คล่องแคล่ว
- วาดภาพลงในกระดาษได้ดีและชัดเจน
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง ลูกโป่งพองโต
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 7 ลมอ่อนๆพัดผ่านห้อง เรื่อง อากาศ
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กมีทักษะการสังเกต
2. เพื่อให้เด็กเรียนรู้อากาศเคลื่อนไหวได้
3. เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องแรงลม
4. เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูและเด็กร่วมสนทนาพูดคุยเกี่ยวกับลมพัดเด็กเคยพบเห็นว่าเป็นอย่างไรบ้าง
2. ครูพาเด็กๆทำกิจกรรมลมอ่อนๆพัดผ่านห้องโดยให้เด็กพับกระดาษทำเป็นพัดเพื่อใช้สร้างลมอ่อนๆ
3. จากนั้นครูกระตุ้นโดยใช้คำถามถ้าเราจะทำลมอ่อนๆในห้องจะมีวิธีการอย่างไร
4. ครูนำกล่องนมที่เจาะรูแล้วใช้กระดาษติดขอบกระดาษเพื่อป้องกันไม่ให้ลมผ่านออกไปได้
5. ให้เด็ก2คนหันหน้าเข้าหากันแล้วให้เด็กคนหนึ่งใช้มือตีที่ด้านข้างให้เด็กอีกคนสังเกตว่าเกิดอะไร
ขึ้นกับตัวเขาบ้าง
6. จากนั้นครูจุดเทียนและวางกล่องนมด้านที่มีรูไปหาเทียน
7. เด็กใช้มือตีที่ลังนมแล้วสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นกับเทียน
8. เสร็จนำลูกบอลมาวางแล้วตีข้างกล่องสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกบอล
9. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตขณะทำกิจกรรม
1.2 เด็กเข้าใจอากาศเคลื่อนไหวได้เรียกว่าลม
1.3 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือและทดลองด้วยตนเอง เรียนรู้ในเรื่อง ลมคืออากาศ
เคลื่อนไหวได้ พลังลมทำให้วัตถุเคลื่อนที่ได้ลมจะแรงหรือเบาขึ้นอยู่กับแรงกระทำและระยะทางสามารถทำให้
เทียนดับได้
- ด้านภาษา ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ได้ในการทดลอง
ได้อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง นำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ
2.2 ด้านสังคม
- ทำงานร่วมกับเพื่อนได้
- สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพกฎ กติกาของห้องเรียนระหว่างปฏิบัติกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุกสนานในการทดลอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
- หยิบจับอุปกรณ์ต่างๆได้คล่องแคล่ว
- วาดภาพลงในกระดาษได้ดีและชัดเจน
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง ลมอ่อนๆพัดผ่านห้อง
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 8 สร้างอุปกรณ์ขยายภาพด้วยตนเอง เรือ่ ง แสงสีและการมองเห็น
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องคุณสมบัติของเลนส์นูน
2. เพื่อให้เด็กสร้างอุปกรณ์ขยายภาพด้วยตนเองได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูพาเด็กไปดูอ่างเลี้ยงปลาในสวนหย่อมหน้าอาคารเรียน ให้เด็กสังเกตว่าพบอะไรบ้าง
: เด็กๆ เห็นมี หยดน้ำบนใบบอน พอมองจะเห็นใบบอนชัดเจน
2. ครูชวนเด็กทดลองว่าถ้าเรามองภาพผ่านน้ำจะเป็นอย่างไร
3. ครูแนะนำวัสดุ อุปกรณ์ เช่น โหลแก้วใส่น้ำ ไม้บล็อก คทาดาว ฯลฯ
4. ครูชวนเด็กทำกิจกรรมโดยใช้คำถามกระตุ้น ดังนี้
- ถ้าเรามองวัสดุ อุปกรณ์ เช่นไม้บล็อก ที่หนีบผม คทาดาวผ่านน้ำจะเกิดอะไรขึ้น
5. ให้ตัวแทนเด็กออกมาทดลองทีละคน โดยหยิบไม้บล็อก ที่หนีบผม คทาลงไปในโหลแก้วที่มีน้ำ
จากนั้นสังเกตว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
6. ครูใช้ค้ำถามน้ำกิจกรรมดังนี้
- เราจะมีวิธีการมองภาพเล็กๆให้ชัดเจนได้อย่างไร
7. ให้เด็กออกมาทดลองตามวิธีการของตนเองทีละคนและช่วยกันสังเกตเช่น
- วางวัสดุอุปกรณ์ แล้วขยับขึ้น-ลง เลื่อนภาพเพื่อหาตำแหน่งที่มองเห็นภาพใหญ่ขึ้น
8. ครูถามกระตุ้น เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น
9. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดวาดภาพ
10. เด็กออกมานำเสนอผลการทดลองให้เพื่อนฟัง
11. ครูและเด็กร่วมกันสรุปว่าน้ำเมื่อมีแสงผ่านจะทำให้สะท้อนและมองเห็นภาพมีขนาดใหญ่ขึ้น น้ำก็
มีลักษณะเหมือนเลนส์นูน มีจุดรวมแสงจึงทำให้มองเห็นภาพเล็กขยายใหญ่ขึ้นได้
ผลทีเ่ กิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตขณะทำกิจกรรม
1.2 เด็กเรียนรู้จักคุณสมบัติเด็กเรียนรู้เรื่องคุณสมบัติของเลนส์นูน รูปโค้งนูน จะเกิดการรวม
แสงทำให้เห็นภาพขยายใหญ่ขึ้น
1.3 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือและทดลองด้วยตนเอง เรียนรู้ในเรื่อง สร้างอุปกรณ์
ขยายภาพด้วยตนเองเด็กสามารถเชื่อมโยงเมื่อเรามองผ่านเนินน้ำจะทำหน้าที่เหมือนแว่นขยาย จะช่วยขยาย
ภาพให้เห็นชัดเจน มีขนาดใหญ่ขึ้น และนำภาพต่างๆ ในห้องที่อยากทดลอง เมื่อนำมามองผ่านเลนส์น้ำทำให้
เห็นภาพขยายใหญ่ขึ้นได้
- ด้านภาษา ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ได้ในการทดลอง
ได้อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง นำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ
2.2 ด้านสังคม
- ทำงานร่วมกับเพื่อนได้
- สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพกฎ กติกาของห้องเรียนระหว่างปฏิบัติกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุกสนานในการทดลอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
- หยิบจับอุปกรณ์ต่างๆได้คล่องแคล่ว
- วาดภาพลงในกระดาษได้ดีและชัดเจน
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง สร้างอุปกรณ์ขยายภาพด้วยตนเอง
เด็กๆทดลองกิจกรรม......สร้างอุปกรณ์
วัสดุอุปกรณ์ ที่ใช้ในการจัดกิจกรรม ขยายภาพด้วยตนเอง
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 9 ทอร์นาโดในขวด เรือ่ ง อากาศ
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กมีทักษะการสังเกตและเปรียบเทียบ
2. เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าอากาศต้องการที่อยู่แต่อากาศและน้ำไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูและเด็กร่วมสนทนาพูดคุยเกี่ยวกับเด็กๆเคยเห็นพายุหมุนหรือไม่
2. ครูและเด็กช่วยกันเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมทอร์นาโดในขวดและต่อขวดคือต่อข้อต่อเข้ากับ
ขวด 2 ขวดเข้าหากัน เด็กเติมน้ำใส่ขวด 1 ใบและเติมสีผสมอาหารลงไปเล็กน้อย หมุนข้อต่อติดแน่นกับขวดอีกใบ
3. จากนั้นครูให้เด็กคาดคะเนว่าถ้าเอาด้านขวดเปล่าพลิกลงข้างล่างจะเกิดอะไรขึ้น
4. ครูใช้คำถามกระตุ้นเด็กเกี่ยวกับทอร์นาโดในขวดดังนี้
- เด็กๆคิดว่าถ้าคว่ำขวดให้ด้านที่มีน้ำขึ้นข้างบนจะเกิดอะไรขึ้น
- ทำไมจึงคิดว่าเป็นเช่นนั้น
5. เด็กๆสังเกตการเปลี่ยนแปลงน้ำไหลสู่ข้างล่างมีลักษณะหมุนเหมือนพายุทอร์นาโด
6. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสีแล้วนำเสนอผลงาน
7. เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมทอร์นาโดในขวด
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตขณะทำกิจกรรม
1.2 เด็กเรียนรู้เรื่องทอร์นาโดในขวดว่าอากาศต้องการที่อยู่แต่อากาศและน้ำไม่สามารถอยู่
ด้วยกันได้ เรียนรู้ว่าอากาศจะเคลื่อนตัวสู่ด้านบนผ่านน้ำวนขึ้นไปเมื่อมีน้ำไหลลงมาแทนที่..เพราะอากาศ
ต้องการที่อยู่ไม่สามารถอยู่ร่วมกับน้ำได้จึงพยายามแวกน้ำขึ้นไปสู่ขวดด้านบนแทนน้ำ
1.3 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือและทดลองด้วยตนเอง เรียนรู้ในเรื่องทอร์นาโดในขวด
ว่าอากาศต้องการที่อยู่แต่อากาศและน้ำไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้
- ด้านภาษา ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ได้ในการทดลอง
ได้อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง นำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ
2.2 ด้านสังคม
- ทำงานร่วมกับเพื่อนได้
- สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพกฎ กติกาของห้องเรียนระหว่างปฏิบัติกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุกสนานในการทดลอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
- หยิบจับอุปกรณ์ต่างๆได้คล่องแคล่ว
- วาดภาพลงในกระดาษได้ดีและชัดเจน
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง ทอร์นาโดในขวด
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 10 เสียงดังและเสียงเบา เรือ่ ง เสียงและเสียงรบกวน
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กมีทักษะการสังเกตและเปรียบเทียบ
2. เพื่อให้เด็กเรียนรู้วิธีการควบคุมเสียงดังและเสียงเบาได้
3. เด็กๆสามารถแยกเสียงดังและเบาได้ด้วยวิธีการของตนเอง
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูและเด็กร่วมสนทนาพูดคุยเกี่ยวกับเสียงดังและเสียงเบา
2. ครูถามกระตุ้นความคิดเด็กเกี่ยวกับเสียงดังนี้
- เด็กๆคิดว่าเสียงเกิดขึ้นได้อย่างไร
- เสียงที่เราได้ยินเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
- เด็กๆมีวิธีควบคุมเสียงดังและเสียงเบาได้อย่างไร
3. จากนั้นครูตีกรับเป็นจังหวะให้เป็นเสียงดังและเสียงเบา เด็กๆเดินเร็วตามจังหวะเสียงดัง และเดิน
เบาตามจังหวะเสียงเบา
4. ครูแจกกรับให้เด็กๆทดลองตีกรับและหาวิธีควบคุมเสียงดังและเสียงเบาสลับกันได้ด้วยตนเอง
5. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสีแล้วนำเสนอผลงาน
6. เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมเสียงดังและเสียงเบาว่าถ้าเราตีกรับแรงๆก็จะเกดเสียงดัง แต่ถ้าเรา
ตีกรับเบาๆก็จะเกิดเสียงเบาโดยเราสามารถควบคุมเสียงดังและเสียงเบาได้ด้วยตนเอง
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตขณะทำกิจกรรม
1.2 เด็กเรียนรู้วิธีการควบคุมเสียงดังและเสียงเบาได้
1.3 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือและทดลองด้วยตนเอง เรียนรู้ในเรื่องวิธีการควบคุม
เสียงดังและเสียงเบาได้ สามารถแยกเสียงดังและเบาได้ด้วยวิธีการของตนเอง
- ด้านภาษา ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ได้ในการทดลอง
ได้อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง นำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ทดลอง ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองกับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นเช่นบอกวิธีการควบคุมเสียงดังและเสียงเบาและสามารถแยกเสียงดังและเบาได้ด้วยวิธีการของตนเอง
2.2 ด้านสังคม
- ทำงานร่วมกับเพื่อนได้
- สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพกฎ กติกาของห้องเรียนระหว่างปฏิบัติกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุกสนานในการทดลองด้วยการแสดงออกทางสีหน้ายิ้ม
แย้มแจ่มใส
2.4 ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
- หยิบจับอุปกรณ์ต่างๆได้คล่องแคล่ว
- วาดภาพลงในกระดาษได้ดีและชัดเจน
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง เสียงดังและเสียงเบา
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 11 ภาพพิกเซล เรือ่ ง วิทยาการคำนวณ
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กมีทักษะการสังเกตรายละเอียดจากภาพเล็กไปสู่ภาพโดยรวม
2. เพื่อให้เด็กเรียนรู้การสร้างภาพ จากการนำชิ้นส่วนเล็กๆ มาต่อกัน
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์การทดลอง และให้เด็กดูภาพพิกเซลที่ขยายใหญ่ แล้วให้เด็ก ๆ ทายว่า
เป็นภาพของเพื่อนคนไหนในห้อง จากนั้นครูอธิบายว่า ภาพที่เราเห็นประกอบด้วยพิกเซลเล็กๆมากมายที่นำมา
ต่อกัน
2. จากนั้นให้เด็กๆ สร้างสรรค์ภาพอย่างอิสระโดยการวางตัวต่อ บล็อกสี่เหลี่ยม เป็นภาพร่วมกับเพื่อน
3. ครูนำกระดาษแม่แบบตารางที่มี 0 และ 1 เรียงกันอยู่อย่างยุ่งเหยิง โดยให้เด็กระบายสีเฉพาะช่องที่
มีตัวเลข 1 เท่านั้น เมื่อระบายเสร็จแล้วจะได้เป็นภาพอะไร
4. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพแล้วนำเสนอผลงาน
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตในการหาตัวเลข 1 แล้วระบายสี
1.2 เด็กสร้างภาพ จากการนำบล็อกไม้เล็กๆ หรือ ตัวต่อ มาต่อกันเป็นภาพ
1.3 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือทดลองด้วยตนเอง และพบว่า ภาพที่เราเห็นอยู่ทั่วไป
ล้วนเกิดจากกการรวมตัวกันของพกเซลเล็กๆ จำนวนมาก ยิ่งเราขยายใหญ่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะสามารถ
มองเห็นพิกเซลนั้นชัดเจน แต่รูปภาพที่เห็นไม่ชัดจะไม่ชัด แต่ถ้าพิกเซลเล็กๆที่เรียงกันมีขนาดเล็ก เรากลับ
มองเห็นภาพรวมได้ชัดเจนกว่า
- ด้านภาษา ใช้ทักษะการฟังในการปฏิบัติตามคำสั่ง ใช้คำพูดของตนเองบอก
รายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ในการทดลองได้ อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง การเขียนด้วยการวาด
ภาพสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม การคัดลอกข้อความ และนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ทดลอง ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองกับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กได้แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
- เด็กเคารพกติกาและข้อตกลงร่วมกันได้
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กสนใจและมีความสุขกับการทดลองวิทยาศาสตร์
- เด็กตื่นเต้นกับผลการทดลองที่ลงมือปฏิบัติ
- เด็กมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมการทดลอง
- เด็กเกิดความสนใจและอยากทดลองด้วยตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบ จับ และใช้อุปกรณ์การทดลองอย่างระมัดระวัง
- เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง ภาพพิกเซล
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 12 การจัดหมวดหมู่ เรื่อง คณิตศาสตร์
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
2. เพื่อให้เด็กเรียนรู้เรื่องการเปรียบเทียบ การแยกประเภท และการจัดหมวดหมู่ของสิ่งต่างๆ
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมการทดลองมาให้เด็กๆดู และบอกชื่ออุปกรณ์แต่ละชนิด
2. นำสีไม้ สีเทียน สีเมจิก ให้เด็ก ๆ แยกประเภทตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น สี ประเภท และเรียงลำดับ
ของสีไม้จากแท่งยาวไปสั้น
3. ประดิษฐ์เครื่องชั่งน้ำหนักจากไม้แขวนเสื้อ ให้เด็กนำสิ่งของในห้องมาเปรียบเทียบน้ำหนักบนมือว่า
ข้างไหนมีความรู้สึกหนักมากกว่ากัน และตรวจสอบด้วยเครื่องชั่งน้ำหนักจากไม้แขวนเสื้อ สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น
4. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสีแล้วนำเสนอผลงาน
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตสิ่งต่างๆ
1.2 เด็กรู้จักเปรียบเทียบ แยกประเภท และจัดหมวดหมู่ของสิ่งต่างๆ
1.3 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือทดลองด้วยตนเอง และพบว่า การจัดหมวดหมู่คือการจัด
สิ่งของที่มีลักษณะเหมือนกันให้อยู่กลุ่มเดียวกัน การชั่งน้ำหนักจากไม้แขวนเสื้อ สิ่งของที่มีน้ำหนักมากกว่าถ้วยก็
จะเอียงลง ส่วนสิ่งของที่มีน้ำหนักน้อยก็จะเอียงขึ้น
- ด้านภาษา ใช้ทักษะการฟังในการปฏิบัติตามคำสั่ง ใช้คำพูดของตนเองบอก
รายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ในการทดลองได้ อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง การเขียนด้วยการวาด
ภาพสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม การคัดลอกข้อความ และนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ทดลอง ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองกับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กได้แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
- เด็กเคารพกติกาและข้อตกลงร่วมกันได้
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กสนใจและมีความสุขกับการทดลองวิทยาศาสตร์
- เด็กตื่นเต้นกับผลการทดลองที่ลงมือปฏิบัติ
- เด็กมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมการทดลอง
- เด็กเกิดความสนใจและอยากทดลองด้วยตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบ จับ และใช้อุปกรณ์การทดลองอย่างระมัดระวัง
- เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง การจัดหมวดหมู่
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 13 ภาพเคลื่อนไหว เรื่อง แสงสีและการมองเห็น
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กเรียนรู้การมองเห็นภาพลวงตา
2. เพื่อให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูกระตุ้นความสนใจของเด็กด้วยคำถาม ว่าเด็กๆเคยดูการ์ตูนหรือแอนิเมชั่น แล้วรู้หรือไม่ว่า
การ์ตูนหรือแอนิเมชั่นเคลื่อนไหวได้อย่างไร
2. ครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมการทดลองมาให้เด็กๆดู บอกชื่ออุปกรณ์แต่ละชนิด และ
อธิบายขั้นตอนวิธีการทำกิจกรรม
3. ให้เด็กพับกระดาษ A4 ตามแนวยาว แล้วตัดออกเป็น 2 ชิ้น พับแบ่งครึ่งกระดาษเป็น 2 ส่วนขนาด
เท่าโปสการ์ด จากนั้นวางกระดาษที่พับแล้วให้ด้านที่เปิดปิดได้หันเข้าหาตัว
4. ให้เด็กวาดรูป ใกล้กับขอบของกระดาษแผ่นล่าง ว่าภาพลงบนกระดาษ แผ่นบนเช่นเดียวกับภาพ
เดิมแต่ให้แตกต่างกันเล็กน้อย ภาพบนกระดาษทั้งสองแผ่นควรอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน
5. ให้เด็กๆใช้ตะเกียบม้วนกระดาษแผ่นบนจนกระดาษโค้งงอ ขยับตะเกียบขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เพื่อ
เปิดปิดกระดาษแผ่นบนที่โค้งงอ สังเกตภาพทั้งสองแล้วอธิบายการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
6. เด็กนำเสนอผลงานและอภิปรายผลร่วมกัน
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตสิ่งต่างๆ
1.2 เด็กรู้จักวิธีการทำภาพเคลื่อนไหวด้วยตนเองอย่างง่ายๆ
1.3 เด็กสามารถสรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือทดลองด้วยตนเอง และพบว่า การที่ภาพมีการเปลี่ยนใน
อัตราที่เร็วกว่าความสามารถที่ตาของเราจะรับรู้ได้ทำให้เรามองเห็นภาพนิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเสมือนเป็น
ภาพเคลื่อนไหว และภาพที่ต่อกันนั้นมีลักษณะแตกต่างกันเล็กน้อยภาพเหล่านี้จะเคลื่อนที่ต่อเนื่องอย่างรวดเร็วทำ
ให้ตาของเราไม่เห็นว่าเป็นภาพนิ่งสมองจึงแปลผลเป็นภาพเคลื่อนไหวในที่สุด
- ด้านภาษา ใช้ทักษะการฟังในการปฏิบัติตามคำสั่ง ใช้คำพูดของตนเองบอก
รายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ในการทดลองได้ อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง การเขียนด้วยการวาด
ภาพสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม การคัดลอกข้อความ และนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ทดลอง ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองกับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กได้แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
- เด็กเคารพกติกาและข้อตกลงร่วมกันได้
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กสนใจและมีความสุขกับการทดลองวิทยาศาสตร์
- เด็กตื่นเต้นกับผลการทดลองที่ลงมือปฏิบัติ
- เด็กมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมการทดลอง
- เด็กเกิดความสนใจและอยากทดลองด้วยตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบ จับ และใช้อุปกรณ์การทดลองอย่างระมัดระวัง
- เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง ภาพเคลื่อนไหว
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 14 แสงและภาพ เรื่อง แสงสีและการมองเห็น
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กเรียนรู้การดูดกลืนแสง
2. เพื่อให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. เด็กและครูร่วมกันสนทนาและสอบถามประสบการณ์เดิม เรื่อง แสง
2. ครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมการทดลองมาให้เด็กๆดู บอกชื่ออุปกรณ์แต่ละชนิด และ
อธิบายขั้นตอนวิธีการทำกิจกรรม
3. ครูแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่ม ให้เด็กตัดกระดาษเป็นรูปวงกลมและด้ามไฟฉาย นำมาประกอบเป็นไฟ
ฉาย
4. ให้เด็กๆช่วยกันวาดภาพ โดยใช้ปากกาเคมีวาดลงบนแผ่นพลาสติกใส เมื่อวาดเสร็จแล้ว นำแผ่นใส
มาวางบนกระดาษสีขาว เด็กอธิบายสิ่งที่เห็นบนภาพ แล้วนำกระดาษสีดำมาสอดเข้าไปในภาพ เด็กๆสังเกต
และสนทนาร่วมกันว่าภาพวาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
5. จากนั้นให้เด็กๆนำไฟฉายกระดาษของตนเองสอดเข้าไประหว่างแผ่นใสกับกระดาษสีดำ ขยับไฟ
ฉายไปมา เด็ก ๆ สังเกตเห็นอะไร ภาพกลับชัดเหมือนเดิมหรือไม่
6. เด็กนำเสนอผลงานและอภิปรายผลร่วมกัน
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตสิ่งต่างๆ
1.2 เด็กรู้จักการดูดกลืนแสง ถ้าวัตถุดูดกลืนแสงมาก เราจะมองเห็นเป็นสีดำ เพราะแสงที่ตก
กระทบบนวัตถุไม่สะท้อนมายังตาเรา
1.3 เด็กสามารถสรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือทดลองด้วยตนเอง และพบว่า เมื่อไม่มีแสงเราจะมองไม่
เห็นสิ่งต่างๆในที่ที่มีแสงน้อย เช่น ตอนพลบค่ำหรือในห้องมืด เราจะมองไม่เห็นสีสัน แต่จะมองเห็นสิ่งต่างๆเป็นสี
น้ำตาลเทา และถ้ามีแสงส่องมามีสีสันก็จะเด่นชัดขึ้น การมองเห็นสีจึงขึ้นอยู่กับความสว่าง
- ด้านภาษา ใช้ทักษะการฟังในการปฏิบัติตามคำสั่ง ใช้คำพูดของตนเองบอก
รายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ในการทดลองได้ อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง การเขียนด้วยการวาด
ภาพสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม การคัดลอกข้อความ และนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ทดลอง ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองกับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กได้แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
- เด็กเคารพกติกาและข้อตกลงร่วมกันได้
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กสนใจและมีความสุขกับการทดลองวิทยาศาสตร์
- เด็กตื่นเต้นกับผลการทดลองที่ลงมือปฏิบัติ
- เด็กมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมการทดลอง
- เด็กเกิดความสนใจและอยากทดลองด้วยตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบ จับ และใช้อุปกรณ์การทดลองอย่างระมัดระวัง
- เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง แสงและภาพ
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 15 ภาพเคลื่อนไหวในแสงสีแดงและสีเขียว
เรื่อง แสงสีและการมองเห็น
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กเรียนรู้การดูดกลืนแสง
2. เพื่อให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. เด็กและครูร่วมกันสนทนาว่า เด็กๆ เคยดูหนังสามมิติหรือไม่ เวลาดูหนังสามมิติ เราต้องใช้อะไรดู
2. ครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมการทดลองมาให้เด็กๆดู บอกชื่ออุปกรณ์แต่ละชนิด และ
อธิบายขั้นตอนวิธีการทำกิจกรรม
3. เด็กและครูร่วมกันทดสอบเปรียบเทียบสีของสีเทียน และกระดาษว่าวที่ใช้ให้กลมกลืนกัน แล้วนำ
กระดาษว่าวสีแดงและสีเขียวมาติดให้ชิดกัน
4. ให้เด็กๆ วาดภาพ ตามจินตนาการ ด้วยสีเทียน โดยใช้สีแดงและสีเขียวในการวาดภาพระบายสีด้วย
5. จากนั้นให้เด็กๆนำกระดาษว่าวสีเขียวแดงที่ติดกันไว้มาวางบนภาพ และเลื่อนไปมาในแนวตั้งหรือ
แนวนอน และให้เด็กสังเกตภาพที่เกิดขึ้น
6. เด็กนำเสนอผลงานและอภิปรายผลร่วมกัน
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตสิ่งต่างๆ
1.2 เด็กรู้จักการดูดกลืนแสง ว่า กระดาษว่าวสีเขียวดูดแสงที่มีสีแดงไว้ทั้งหมด เราจึงมองเห็น
เส้นสีแดงผ่านกระดาษว่าวสีเขียวเป็นสีดำ ในทำนองเดียวกัน ถ้าเรามองเส้นสีเขียวผ่านกระดาษว่าวสีแดงเรา
จะเห็นเส้นสีเขียวเป็นสีดำเพราะกระดาษว่าวสีแดงดูดกลือนแสงสีเขียวไว้
1.3 เด็กสามารถสรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือทดลองด้วยตนเอง และพบว่า ตาของเรามองเห็นแสงสี
ต่างๆ ได้ตามธรรมชาติ แต่เมื่อเรามองผ่านกระดาษว่าว สีของสิ่งต่างๆ จะดูดกลืนไว้ก่อนจะมาถึงตาเรา
- ด้านภาษา ใช้ทักษะการฟังในการปฏิบัติตามคำสั่ง ใช้คำพูดของตนเองบอก
รายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ในการทดลองได้ อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง การเขียนด้วยการวาด
ภาพสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม การคัดลอกข้อความ และนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ทดลอง ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองกับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กได้แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
- เด็กเคารพกติกาและข้อตกลงร่วมกันได้
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กสนใจและมีความสุขกับการทดลองวิทยาศาสตร์
- เด็กตื่นเต้นกับผลการทดลองที่ลงมือปฏิบัติ
- เด็กมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมการทดลอง
- เด็กเกิดความสนใจและอยากทดลองด้วยตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบ จับ และใช้อุปกรณ์การทดลองอย่างระมัดระวัง
- เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง ภาพเคลื่อนไหวในแสงสีแดงและสีเขียว
เด็กๆทดลองกิจกรรม......ภาพเคลื่อนไหวใน
วัสดุอุปกรณ์ ที่ใช้ในการจัดกิจกรรม แสงสี แดงและสี เขียว
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 16 ลูกข่างหลากสี เรื่อง แสงสีและการมองเห็น
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กเรียนรู้การตอบสนองในการรับภาพ
2. เพื่อให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการหมุนของสิ่งต่างๆ ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นสีต่างๆ ได้
ชัดเจน เช่น ล้อรถที่กำลังแล่นอยู่ การหมุนของใบพัดพัดลม
2. ครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมการทดลองมาให้เด็กๆดู บอกชื่ออุปกรณ์แต่ละชนิด และ
อธิบายขั้นตอนวิธีการทำกิจกรรม
3. ให้เด็กทำลูกข่าง โดยใช้แผ่นซีดี เด็กๆ ระบายสีตกแต่งตามจินตนาการลงบนแผ่นกระดาษวงกลม
ใช้กาวติดแผ่นซีดีกับแผ่นกระดาษที่ระบายสีแล้ว เจาะรูบนกระดาษให้ตรงกับตำแหน่งรูของแผ่นซีดี วาง
ลูกแก้วบนรูแผ่นซีดี ยึดให้แน่นด้วยดินน้ำมัน
4. เด็กๆหมุนลูกข่างแผ่นซีดีบนพื้น สังเกตลายสีของลูกข่างเปลี่ยนแปลงอย่างไร
5. เด็กนำเสนอผลงานและอภิปรายผลร่วมกัน
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตสิ่งต่างๆ
1.2 เด็กรู้จักการมองเห็นและภาพลวงตา เมื่อลูกข่างแผ่นซีดีหมุนเร็วๆ ตาของเราจะไม่
สามารถแยกแยะลวดลายหรือสีสันของลูกข่างได้ แต่จะเห็นแถบสีบนลูกข่างที่มีลวดลายสีขาวดำหรือสีที่ผสม
กันได้
1.3 เด็กสามารถสรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือทดลองด้วยตนเอง และพบว่า สีหลากหลายสีที่เคลื่อนไหว
และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตาเราไม่สามารถแยกสีต่าง ๆ ได้ทัน จึงเห็นสีต่าง ๆ ผสมเป็นสีเดียวกัน
- ด้านภาษา ใช้ทักษะการฟังในการปฏิบัติตามคำสั่ง ใช้คำพูดของตนเองบอก
รายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ในการทดลองได้ อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง การเขียนด้วยการวาด
ภาพสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม การคัดลอกข้อความ และนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ทดลอง ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองกับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กได้แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
- เด็กเคารพกติกาและข้อตกลงร่วมกันได้
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กสนใจและมีความสุขกับการทดลองวิทยาศาสตร์
- เด็กตื่นเต้นกับผลการทดลองที่ลงมือปฏิบัติ
- เด็กมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมการทดลอง
- เด็กเกิดความสนใจและอยากทดลองด้วยตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบ จับ และใช้อุปกรณ์การทดลองอย่างระมัดระวัง
- เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง ลูกข่างหลากสี
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 17 ไหลแรงหรือค่อย เรือ่ ง น้ำ
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าน้ำมีแรงดัน
2. เพื่อให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น เวลาเด็กเปิดน้ำจากก๊อก น้ำจะ
ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ
2. ครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมการทดลองมาให้เด็กๆดู บอกชื่ออุปกรณ์แต่ละชนิด และ
อธิบายขั้นตอนวิธีการทำกิจกรรม
3. ครูแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มทำการเจาะรูขวดน้ำทั้งหมด 3 รู ให้มีระยะห่างกันใช้ปากกา
เมจิกระบายสีบริเวณเพื่อให้เห็นง่ายๆ ทำการปิดเทปใสทับรูที่เจาะทั้งหมด เติมน้ำให้เต็มขวด ให้เด็กๆ คาดเดา
คำตอบว่า รูใดที่น้ำไหลแรงที่สุด
4. แต่ละกลุ่มดึงเทปใสออก เด็กๆ สังเกตการไหลของน้ำว่ารูใดไหลแรงที่สุด ตรงกับคำตอบที่เด็กเดา
ไว้หรือไม่
5. เด็กนำเสนอผลการทดลองและและวาดภาพบันทึกผลการทดลอง
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตสิ่งต่างๆ
1.2 เด็กเรียนรู้ว่าน้ำมีแรงดัน ระดับความดันของน้ำยิ่งลึกจะมีแรงดันมาก
1.3 เด็กสามารถสรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือทดลองด้วยตนเอง และพบว่า รูที่เจาะใกล้ก้นขวด น้ำไหล
แรงที่สุด เพราะบริเวณน้ำลึกจะมีความดันมากกว่าที่น้ำตื้น การไหลของน้ำจะเกิดขึ้นได้จะต้องมีอากาศเข้าไปแทนที่
- ด้านภาษา ใช้ทักษะการฟังในการปฏิบัติตามคำสั่ง ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียด
ของวัสดุอุปกรณ์ในการทดลองได้ อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง การเขียนด้วยการวาดภาพสิ่งที่ได้เรียนรู้
จากกิจกรรม การคัดลอกข้อความ และนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ทดลอง ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองกับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กได้แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
- เด็กเคารพกติกาและข้อตกลงร่วมกันได้
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กสนใจและมีความสุขกับการทดลองวิทยาศาสตร์
- เด็กตื่นเต้นกับผลการทดลองที่ลงมือปฏิบัติ
- เด็กมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมการทดลอง
- เด็กเกิดความสนใจและอยากทดลองด้วยตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบ จับ และใช้อุปกรณ์การทดลองอย่างระมัดระวัง
- เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง ไหลแรงหรือค่อย
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 18 กักน้ำไว้ได้ เรื่อง อากาศ
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าอากาศมีน้ำหนักและอากาศมีแรงดัน
2. เพื่อให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับ สิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น เวลาขึ้นลิฟต์รู้สึกอย่างไร
อากาศมีอยู่รอบตัว
2. ครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมการทดลองมาให้เด็กๆดู บอกชื่ออุปกรณ์แต่ละชนิด และ
อธิบายขั้นตอนวิธีการทำกิจกรรม
3. เด็กทำการทดลองโดยใช้ภาชนะขนาดใหญ่รอง ให้เด็กๆ นำหลอดจุ่มไปในแก้วน้ำแล้วเอานิ้วปิดรูที่
ด้านบนของหลอด เด็กคาดเดาว่าเมื่อยกหลอกขึ้นจากแก้วจะเกิดอะไรขึ้น
4. เด็กๆใช้ฟิวเจอร์บอร์ดปิดปากแก้วน้ำที่ใส่น้ำไว้ให้สนิท ใช้มือกดกระดาษให้ติดปากแก้วให้แน่น ถาม
เด็กๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจับแก้วคว่ำลง เด็กสังเกตการทดลอง
5. เด็กนำเสนอผลการทดลองและและวาดภาพบันทึกผลการทดลอง
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตสิ่งต่างๆ
1.2 เด็กรู้ว่า น้ำถูกกักไว้ในแก้วได้ เพราะแรงดันอากาศภายนอกแก้วออกแรงดันกับกระดาษ
ที่ปิดปากแก้วอยู่ตลอดเวลา
1.3 เด็กสามารถสรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือทดลองด้วยตนเอง และพบว่า เมื่อเอากระดาษปิดปาก
แก้ว แล้วคว่ำแก้วลง น้ำไม่ไหลออกจากแก้วเพราะภายนอกแก้วมีแรงดันอากาศมากกว่าภายในแก้ว น้ำจึงถูก
กักอยู่ในแก้วได้
- ด้านภาษา ใช้ทักษะการฟังในการปฏิบัติตามคำสั่ง ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุ
อุปกรณ์ในการทดลองได้ อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง การเขียนด้วยการวาดภาพสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก
กิจกรรม การคัดลอกข้อความ และนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ทดลอง ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองกับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กได้แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
- เด็กเคารพกติกาและข้อตกลงร่วมกันได้
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กสนใจและมีความสุขกับการทดลองวิทยาศาสตร์
- เด็กตื่นเต้นกับผลการทดลองที่ลงมือปฏิบัติ
- เด็กมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมการทดลอง
- เด็กเกิดความสนใจและอยากทดลองด้วยตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบ จับ และใช้อุปกรณ์การทดลองอย่างระมัดระวัง
- เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง กักน้ำไว้ได้
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 19 การเผาไหม้ เรือ่ ง แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าขนาดของแก้วมีผลต่อระยะเวลาการเผาไหม้ของเทียนในแก้ว
2. เพื่อให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับ สิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น เวลาขึ้นลิฟต์รู้สึกอย่างไร
อากาศมีอยู่รอบตัว
2. ครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมการทดลองมาให้เด็กๆดู บอกชื่ออุปกรณ์แต่ละชนิด และ
อธิบายขั้นตอนวิธีการทำกิจกรรม
3. ให้เด็กเทน้ำใส่แก้วทั้งสองใบให้เต็ม แล้วเทใส่กระบอกตวงเพื่อเปรียบเทียบปริมาตรของแก้วแต่ละใบ
4. ให้เด็กนำเทียนถ้วยขนาดเท่ากัน 2 อัน วางไว้บนจานกระเบื้อง จุดเทียนและให้เด็กนำแก้วที่มีขนาด
ต่างกันมาครอบเทียนให้พร้อมกัน ให้เด็กๆทายและสังเกตว่าแก้วใบไหนไฟดับก่อน
5. เด็กนำเสนอผลการทดลองและและวาดภาพบันทึกผลการทดลอง
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตสิ่งต่างๆ
1.2 เด็กเรียนรู้ว่าขนาดของแก้วมีผลต่อระยะเวลาการเผาไหม้ของเทียนในแก้ว
1.3 เด็กสามารถสรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือทดลองด้วยตนเอง และพบว่า ในแก้วมีอากาศเมื่อเอาแก้ว
ครอบเทียน เทียนจะค่อยๆดับลง แก้วที่มีขนาดเล็กกว่าเทียนจะดับก่อนแก้วที่มีขนาดใหญ่กว่า เพราะในแก้วไม่มี
ก๊าซออกซิเจนสำหรับการเผาไหม้
- ด้านภาษา ใช้ทักษะการฟังในการปฏิบัติตามคำสั่ง ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุ
อุปกรณ์ในการทดลองได้ อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง การเขียนด้วยการวาดภาพสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก
กิจกรรม การคัดลอกข้อความ และนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ทดลอง ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองกับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กได้แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
- เด็กเคารพกติกาและข้อตกลงร่วมกันได้
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กสนใจและมีความสุขกับการทดลองวิทยาศาสตร์
- เด็กตื่นเต้นกับผลการทดลองที่ลงมือปฏิบัติ
- เด็กมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมการทดลอง
- เด็กเกิดความสนใจและอยากทดลองด้วยตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบ จับ และใช้อุปกรณ์การทดลองอย่างระมัดระวัง
- เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง การเผาไหม้
กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์
การทดลองที่ 20 อินดิเคเตอร์จากพืช เรือ่ ง แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าอินดิเคเตอร์จากพืชสามารถทดสอบความเป็นกรดได้
2. เพื่อให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับ สิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น เวลาขึ้นลิฟต์รู้สึกอย่างไร
อากาศมีอยู่รอบตัว
2. ครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมการทดลองมาให้เด็กๆดู บอกชื่ออุปกรณ์แต่ละชนิด และ
อธิบายขั้นตอนวิธีการทำกิจกรรม
3. ให้เด็กสังเกตและอธิบายลักษณะของกะหล่ำปลีม่วง
4. ให้เด็กนำกะหล่ำปลีม่วงที่หั่นซอย ใส่ในแก้วน้ำเย็น และใส่ในแก้น้ำร้อน เด็ก ๆ สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น
5. เด็กนำเสนอผลการทดลองและและวาดภาพบันทึกผลการทดลอง
ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์
1.1 เด็กมีทักษะการสังเกตสิ่งต่างๆ
1.2 เด็กเรียนรู้ว่าอินดิเคเตอร์จากพืชสามารถทดสอบความเป็นกรดได้
1.3 เด็กสามารถสรุปผลการทดลองและนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- ด้านการเรียนรู้ เด็กได้ลงมือทดลองด้วยตนเอง และน้ำร้อนสามารถสกัดน้ำกะหล่ำปลี
ได้ดีกว่าน้ำเย็น และเมื่อนำน้ำมะนาว น้ำส้มสายชู และน้ำโซดาลงในน้ำกะหล่ำปลีม่วง น้ำกะหล่ำปลีม่วงจะ
เปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อมีความเป็นกรดมาก
- ด้านภาษา ใช้ทักษะการฟังในการปฏิบัติตามคำสั่ง ใช้คำพูดของตนเองบอกรายละเอียดของวัสดุ
อุปกรณ์ในการทดลองได้ อธิบายในสิ่งที่สังเกตเห็นจากการทดลอง การเขียนด้วยการวาดภาพสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก
กิจกรรม การคัดลอกข้อความ และนำเสนอผลการทดลองได้
- ด้านสติปัญญา คิดและรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย เกิดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์เช่นสังเกต คาดคะเน เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ทดลอง ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองกับสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กได้แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
- เด็กเคารพกติกาและข้อตกลงร่วมกันได้
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กสนใจและมีความสุขกับการทดลองวิทยาศาสตร์
- เด็กตื่นเต้นกับผลการทดลองที่ลงมือปฏิบัติ
- เด็กมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมการทดลอง
- เด็กเกิดความสนใจและอยากทดลองด้วยตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบ จับ และใช้อุปกรณ์การทดลองอย่างระมัดระวัง
- เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต
ภาพการดำเนินกิจกรรมการทดลองเรื่อง อินดิเคเตอร์จากพืช