You are on page 1of 71

คณิตศาสตร์ เพิ่มเติม ม.

3 เล่ ม2
บทที่ 3 วงกลม
วงกลม

คำว่ำวงกลมมำจำกภำษำกรี ก แปลว่ำ ”ห่วง”


หรื อ “วงแหวน”
ช่วง 1700 ปี ก่อนคริสตกำล มีกำรบันทึกในกระดำษ The Rhind Papyrusเกี่ยวกับ
กำรหำพื ้นที่ของวงกลม ซึง่ นำไปสูค่ ่ำ π

ช่วง 300 ปี ก่อนคริ สตกำลยูคลิดได้ อธิบำยถึงสมบติของวงกลม


เพลโต คือบุคคลที่ให้ คำนิยำมของวงกลม และวงกลมที่สมบูรณ์แบบ รวมถึง
อธิบำยควำม แตกต่ำงจำกรูป
เรขำคณิตอื่นๆ
ในปี 1880 Lindemann พิสจู น์ว่ำ π เป็ น Transcendental Number นัน่
คือ π ไม่ได้ เป็ นจำนวนที่มำจำกรำกของจำนวนตรรกยะ
“วงกลม” คืออะไร???
นิยำม รูปเรขำคณิตบนระนำบซึง่ แต่ละจุดบนรูปเรขำคณิตนี ้ อยู่ห่ำงจำก
จุดคงที่จดุ หนึง่ บนระนำบเดียวกันเป็ นระยะเท่ำกัน เรี ยกจุดคงที่นี ้ว่ำจุด
ศูนย์ กลาง เรี ยกระยะที่เท่ำกันนี ้ว่ำ รัศมีของวงกลม

 จำกรูป จุด O เป็ นจุดคงที่ เรี ยกจุด O ว่ำ จุดศูนย์กลำงของวงกลม จุด


E อยู่บนเส้ นรอบวงของวงกลม หรื อกล่ำวว่ำ จุด E อยู่บนวงกลม เรี ยก
̅̅̅̅
OE ว่ำ รัศมีของวงกลม
O
M N
 จุด M และจุด N อยู่บนวงกลม และ ̅̅̅̅̅
MN ผ่ำนจุดศูนย์กลำง O
เรี ยก ̅̅̅̅̅
MN ว่ำเส้ นผ่ำนศูนย์กลำงของวงกลม
 กำรเรี ยกชื่อของวงกลมเรี ยกตำมจุดศูนย์กลำง เช่น วงกลมที่มีจดุ O
เป็ นจุดศูนย์กลำง เรี ยกว่ำ วงกลม O
รัศมีของวงกลม หมำยถึง
_________________________________________
_________________________________________

วงกลมหนึ่งมีรัศมีเป็ นจำนวนมำกมำยนับไม่ถ้วน และรัศมีของวงกลมเดียวกัน


จะยำวเท่ำกันทุกเส้ น
วงกลมสองวงที่มีรัศมียำวเท่ำกัน สำมำรถเลื่อนให้ วงกลมสองวงนันทั ้ บกันได้
สนิท จึงกล่ำวได้ ว่ำ วงกลมสองวงทีม่ ีรศั มี ยาวเท่ากัน จะเท่ากันทุกประการ
นอกจำกที่กล่ำวมำข้ ำงต้ น ยังมีส่วนอื่นๆที่เกี่ยวกับวงกลม
 คอร์ ด คือ ส่วนของเส้ นตรงที่มีจดุ ปลำยทังสองอยู
้ ่บนวงกลมเดียวกัน
คอร์ ดแต่ละเส้ นจะแบ่งวงกลมออกเป็ นส่วนโค้ งสองส่วนโค้ ง
จำกรูป______เป็ น คอร์ ดของวงกลม O
เรี ยกส่วนโค้ ง ADB ว่ำ ส่วนโค้ งใหญ่ AB เขียนแทนด้ วย
สัญลักษณ์______
เรี ยกส่วนโค้ ง ACB ว่ำ _________ AB เขียนแทนด้ วย
สัญลักษณ์_____หรื อ____

เส้ นผ่ำนศูนย์กลำงของวงกลมเป็ นคอร์ ดที่ยำวที่สดุ ซึง่ แบ่งวงกลมออกเป็ นส่วน


โค้ งสองส่วนที่เท่ำกันทุกประกำร เรี ยกส่วนโค้ งแต่ละส่วนว่ำ ครึ่งวงกลม
A
B

บอกได้ ไหม???
1. ในวงกลมหนึง่ มีคอร์ ดได้ กี่เส้ น
2. รัศมีของวงกลมเป็ นเส้ นตัดวงกลมหรื อไม่ เพรำะเหตุใด
3. ในวงกลมวงหนึ่งมีเส้ นตัดวงกลมได้ กี่เส้ น
4. เส้ นตัดวงกลมผ่ำนจุดศูนย์กลำงได้ หรื อไม่
5. ในวงกลมวงหนึ่งมีเส้ นสัมผัสได้ กี่เส้ น
6. เส้ นสัมผัสวงกลมผ่ำนจุดศูนย์กลำงได้ หรื อไม่
จำกรูป จงบอกชื่อส่วนต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้ องกับวงกลม O ดังนี ้
1. เส้ นผ่ำนศูนย์กลำง
2. รัศมี
3. คอร์ ด
4.คอร์ ดที่ยำวที่สดุ
5. เส้ นสัมผัสวงกลม
6. เส้ นตัดวงกลม
7. ส่วนโค้ งที่เป็ นครึ่งวงกลม

ในทำงคณิตศำสตร์ ให้ ควำมหมำยของสิ่งที่เกี่ยวข้ องกับวงกลม ซึง่ ได้ แก่ มุมที่


จุดศูนย์ กลาง มุมในส่ วนโค้ งของวงกลม และมุมในครึ่ งวงกลม ไว้ ดงั นี ้
มุมที่จุดศูนย์ กลาง คือ มุมที่มีจดุ ศูนย์กลำงของวงกลมเป็ นจุดยอดมุมและ
แขนทังสองของมุ
้ มตัดวงกลม
̂ B และมุมกลับ AOB แต่ละมุมที่จดุ ศูนย์กลำงของวงกลม O ที่
จำกรูป AO
AÔ B รองรับด้ วย AB และมุมกลับ AOB รองรับด้ วย AXB

มุมในส่ วนโค้ งของวงกลม คือ มุมที่มีจดุ ยอดมุมอยู่บนวงกลม และแขนทัง้


สองของมุมตัดวงกลม
มุมในครึ่งวงกลม คือ มุมที่มีจดุ ยอดมุมอยู่บนวงกลม และแขนทังสองของ

มุมผ่ำนจุดปลำยทังสองของเส้
้ นผ่ำนศูนย์กลำงเส้ นหนึ่ง
จำกรูป
ยังบอกได้ ไหม???
จำกรูป จงบอกชื่อมุมแต่ละมุม และส่วนโค้ งแต่ละส่วนโค้ งที่เกี่ยวข้ องกับ
วงกลม O ดังนี ้

1. มุมที่จดุ ศูนย์กลำง
2. มุมในครึ่งวงกลม
3. มุมในส่วนโค้ งของวงกลม
4. ส่วนโค้ งที่รองรับมุมที่จดุ
ศูนย์กลำง
5. ส่วนโค้ งที่รองรับมุมในครึ่งวงกลม
6. ส่วนโค้ งที่รองรับมุมในส่วนโค้ งของวงกลม

มุมที่จุดศูนย์ กลาง
และมุมในส่ วน
โค้ งของวงกลม
มุมในครึ่งวงกลม
ให้ น้องๆทำกิจกรรมต่อไปนี ้
1.สร้ ำงวงกลมให้ มีรัศมีต่ำงๆกันอย่ำงน้ อย 3 วง
2. สร้ ำงมุมในครึ่งวงกลมของแต่ละวง
3. วัดขนำดของมุมในครึ่งวงกลมของแต่ละวง
4. น้ องๆคิดว่ำขนำดของมุมในครึ่งวงกลมใดๆจะเท่ำกับเท่ำใด
5. น้ องๆคำดกำรณ์ว่ำมุมในครึ่งวงกลมของวงกลมใดๆมีขนำด 90 องศำ หรื อ
หนึ่งมุมฉำกหรื อไม่

พิสจู น์ มุมในครึ่งวงกลมมี
ขนาด 90 องศา หรื อหนึ่งมุม
ฉาก

กาหนดให้
̂C เป็ นมุมในครึ่งวงกลม
จุด O เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม และ AB
̂ C มีขนำด 90° หรื อหนึง่ มุมฉำก
ต้ องการพิสูจน์ AB

จำกกำรพิสจู น์ข้ำงต้ น ทำให้ ได้ ทฤษฎีบทเพื่อใช้ ในกำรอ้ ำงอิงให้ เหตุผลทำง


เรขำคณิตต่อไปนี ้
ทฤษฎีบท
“มุมในครึ่งวงกลมมีขนาด 90 องศาหรือหนึ่งมุมฉาก”
ตัวอย่ำงที่1
จำกรูป จุด O เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม 𝐴𝐶̂ 𝐵 เป็ นมุมในครึ่งวงกลม
และ𝐴𝑂̂𝐷 = 70° จงหำ
ขนำดของ𝐵𝐶̂ 𝑂 พร้ อม
แสดงเหตุผล
ให้ น้อง ๆ ทำแบบฝึ กหัดต่อไปนี ้
1. จำกรูป ̅̅̅̅
𝐴𝐵เป็ นเส้ นผ่ำนศูนย์กลำง
ของวงกลม O และ𝐵𝐴̂𝐶 = 65°
จงหำขนำดของ 𝐴𝐵̂𝐶

2. จำกรูป ̅̅̅̅
𝐴𝐵เป็ นเส้ นผ่ำน
ศูนย์กลำงของวงกลม O และ
𝐴𝐶̂ 𝑂 = 35° จงหำขนำดของ
𝑂𝐵̂ 𝐶

3. จำกรูป ̅̅̅̅
𝐴𝐵เป็ นเส้ นผ่ำน
ศูนย์กลำงของวงกลม
̅̅̅̅
𝐶𝐷 ⟘𝐴𝐵 ̅̅̅̅ และ 𝐵𝐴̂𝐶 =
37°จงหำขนำดของ 𝐵𝐶̂ 𝐷
แบบฝึ กหัด
1. จำกรูป จุดO เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม
𝐴𝐶̂ 𝐵 เป็ นมุมในครึ่งวงกลม 𝐵𝐴̂𝐶 = 18°
และ ̅̅̅̅
𝑂𝐷 ⫽ ̅̅̅̅ ̂𝑂
𝐵𝐶 จงหำขนำดของ 𝐴𝐷
พร้ อมแสดงเหตุผล

2. กำหนดให้ ̅̅̅̅
𝐴𝐶 และ ̅̅̅̅
𝐵𝐷 เป็ นเส้ นผ่ำน
ศูนย์กลำงของวงกลม จงพิสจู น์ว่ำ□ABCD
เป็ นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉำก

3. กำหนดให้ ̅̅̅̅
𝐴𝐶 เป็ นเส้ นผ่ำนศูนย์กลำง
ของวงกลม และ 𝐴𝐶̂ 𝐵 = 𝐴𝐶̂ 𝐷
จงพิสจู น์ว่ำ 𝐴𝐵 = 𝐴𝐷
มุมที่จุดศูนย์ กลาง
กำหนดให้ จดุ 𝑂เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลมที่มีรัศมีตำ่ งกันดังรูปต่อไปนี ้

จำกรูป 𝐴𝑂̂𝐵 เป็ นมุมที่จดุ ศูนย์กลำงและ 𝐴𝐶̂ 𝐵 เป็ นมุมในส่วนโค้ งของ


วงกลมที่ต่ำงรองรับด้ วยส่วนโค้ ง 𝐴𝐵 เดียวกัน
รูป ก และรูป ข 𝐴𝑂̂𝐵 และ 𝐴𝐶̂ 𝐵 ต่ำงรองรับด้ วย 𝐴𝐵 เดียวกัน
รูป ค มุมกลับ 𝐴𝑂𝐵 และ 𝐴𝐶̂ 𝐵 ต่ำงรองรับด้ วย 𝐴𝐷𝐵 เดียวกัน

ให้ น้อง ๆ ทำกิจกรรมต่อไปนี ้


1. สร้ ำงวงกลม 3 วงให้ มีรัศมีต่ำงกัน แล้ วสร้ ำงมุมที่จดุ ศูนย์กลำงและมุมใน
ส่วนโค้ งของวงกลมที่รองรับด้ วยส่วนโค้ งเดียวกัน
2. ตัดมุมที่จดุ ศูนย์กลำงของแต่ละวงกลมในข้ อ 1
3. พับครึ่งมุมแต่ละมุมในข้ อ 2 แล้ วเลื่อนมุมที่ได้ ไปทับมุมในส่วนโค้ งของ
วงกลมของแต่ละวงที่รองรับด้ วยส่วนโค้ งเดียวกัน น้ อง ๆ สำมำรถจัดมุมให้ ทบั
กันสนิทได้ หรื อไม่
4. จำกกิจกรรมในข้ อ 3 นักเรี ยนพบควำมสัมพันธ์ระหว่ำงขนำดของมุมที่จดุ
ศูนย์กลำงกับขนำดของมุมในส่วนโค้ งของวงกลมที่รองรับด้ วยส่วนโค้ ง
เดียวกันเป็ นอย่ำงไร
5. จำกรูป ก ให้ น้อง ๆ สร้ ำงมุมในส่วนโค้ ง
ของวงกลมที่รองรับด้ วย 𝐴𝐵
อีกสองมุม เช่น มุม AC1B และ มุม
AC2B ดังรูป

6. น้ อง ๆ ใช้ มมุ ที่พบั ได้ จำกรูป ก ในข้ อ 3 ไปทับ มุม AC1B และ มุม
AC2B จะสำมำรถเลื่อนให้ มมุ ทับกันสนิทได้ หรื อไม่
7. น้ อง ๆ ยังได้ ควำมสัมพันธ์เช่นเดียวกันกับข้ อ 4 หรื อไม่
8. ให้ น้อง ๆ ทำกิจกรรมเช่นเดียวกับข้ อ 5 และข้ อ 6 กับวงกลมรูป ข และรูป ค
ผลที่ได้ เป็ นอย่ำงไร
9. น้ อง ๆ คำดกำรณ์ว่ำในวงกลมเดียวกัน มุมทีจ่ ุดศูนย์กลาง จะมีขนาดเป็ น
สองเท่าของขนาดของมุมในส่วนโค้งของวงกลมทีร่ องรับด้วยส่วนโค้งเดียวกัน
หรื อไม่
ข้ อควำมคำดกำรณ์ของน้ อง ๆ ข้ ำงต้ นสำมำรถพิสจู น์ได้ ว่ำเป็ นจริ ง ซึง่ เป็ นไป
ตำม ทฤษฎีบทที่จะกล่ำวถึงต่อไปนี ้โดยไม่แสดงกำรพิสจู น์
ทฤษฎีบท
ในวงกลมเดียวกัน มุมที่จดุ ศูนย์กลำง จะมีขนำดเป็ นสองเท่ำของขนำดของมุม
ในส่วนโค้ งของวงกลมที่รองรับด้ วยส่วนโค้ งเดียวกัน
1. จำกรูป จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม และ 𝐴𝑂̂𝐵 = 90° จงหำ
ขนำดของ 𝐴𝐶̂ 𝐵
2. จำกรูป จุด 𝑂 เป็ นจุด
ศูนย์กลำงของวงกลม และ
𝑂𝐴̂𝐵 = 35° จงหำ
ขนำดของ 𝐴𝐶̂ 𝐵

3.

จำกรูป จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำง


ของวงกลม และ 𝐵𝐴̂𝐶 =
50° จงหำขนำดของ 𝑂𝐵̂𝐶
และขนำดของ
𝑂𝐶̂ 𝐵
4. จำกรูป จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม และ 𝐴𝐶̂ 𝐵 = 100° จง
หำขนำดของมุมต่อไปนี ้
1) มุมกลับ 𝐴𝑂𝐵
2) 𝐴𝑂̂𝐵
̂𝐵
3) 𝐴𝐷
4) 𝐴𝐶̂ 𝐵 + 𝐵𝐷
̂𝐴

5) 𝐶𝐴̂𝐷 + 𝐷𝐵̂𝐶

แบบฝึ กหัด
1. จำกรูป จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของ
วงกลม และ 𝐴𝑂̂𝐵 = 115° จงหำ
ขนำดของ 𝐴𝐶̂ 𝐵พร้ อมแสดงเหตุผล
2. จำกรูป จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม
จะกล่ำวว่ำ □𝐴𝐵𝐶𝐷 แนบในวงกลม 𝑂
เมื่อจุด 𝐴, 𝐵, 𝐶 และ 𝐷 อยู่บนวงกลม 𝑂 จง
พิสจู น์ทฤษฎีบทที่กล่ำวว่ำ ผลบวกของขนาดของ
มุมตรงข้ามของรู ปสีเ่ หลีย่ มทีแ่ นบในวงกลม
เท่ากับ 180 องศา

3. จำกรูป □𝐴𝐵𝐶𝐷 แนบในวงกลมและ 𝐵𝐶̂ 𝐸เป็ นมุมภำยในของ


□𝐴𝐵𝐶𝐷 ที่ได้ จำกกำรต่อ̅̅̅̅
𝐷𝐶 ไปทำงจุด 𝐶 จงพิสจู น์ว่ำ 𝐵𝐶̂ 𝐸 =
𝐵𝐴̂𝐷
มุมในส่ วนโค้ งของวงกลม
1. กำหนดให้ จดุ 𝑂 เป็ นจุด
ศูนย์กลำงของวงกลม
𝐴𝐵̂𝐶 และ 𝐴𝐷 ̂ 𝐶 เป็ น
มุมในส่วนโค้ งของวงกลมที่
รองรับด้ วย 𝐴𝐶 เดียวกัน
ลำก ̅̅̅̅
𝐴𝑂 และ ̅̅̅̅
𝐶𝑂

1) ขนำดของ 𝐴𝑂̂𝐶 เกี่ยวข้ องกับขนำดของ 𝐴𝐵̂ 𝐶 อย่ำงไร


2) ขนำดของ 𝐴𝑂̂𝐶 เกี่ยวข้ องกับขนำดของ 𝐴𝐷
̂ 𝐶 อย่ำงไร

3) ขนำดของ 𝐴𝐵̂𝐶 เกี่ยวข้ องกับขนำดของ 𝐴𝐷


̂ 𝐶 อย่ำงไร

4) น้ อง ๆ พบควำมสัมพันธ์ระหว่ำงมุมในส่วนโค้ งของวงกลมที่รองรับด้ วย
ส่วนโค้ งเดียวกันเป็ นอย่ำงไร
5) น้ อง ๆ คำดกำรณ์ว่ำ ในวงกลมเดียวกัน มุมในส่วนโค้งของวงกลมทีร่ องรับ
ด้วยส่วนโค้งเดียวกันจะมีขนาดเท่ากัน หรื อไม่
ทฤษฎีบท
ในวงกลมเดียวกัน มุมในส่วนโค้ งของวงกลมที่รองรับด้ วยส่วนโค้ งเดียวกันจะ
มีขนำดเท่ำกัน
1. จำกรูป ̅̅̅̅
𝐴𝐵 เป็ นเส้ นผ่ำน
ศูนย์กลำงของวงกลม 𝑂 และ
𝐵𝐴̂𝐶 = 28° จงหำขนำดของ
̂𝐶
𝐴𝐷

2. จำกรูป 𝐴𝐵̂𝐷 = 25°


และ 𝐵𝐷 ̂ 𝐶 = 50°
จงหำขนำดของ 𝐵𝑋̂𝐶
3. จำกรูป ∆ABC
เป็ นรูปสำมเหลี่ยมหน้ ำจัว่ ที่ 𝐴𝐵 =
𝐴𝐶 𝐵𝐴̂𝐶 = 64° และ ̅̅̅̅ 𝐵𝐷
แบ่งครึ่ง 𝐴𝐵̂ 𝐶 จงหำขนำดของ
𝐴𝐶̂ 𝐷

4. กำหนดให้ □𝐴𝐵𝐶𝐷 แนบใน


วงกลม 𝐴𝐵̂ 𝐷 = 55° 𝐶𝐴̂𝐷 =
50° และ 𝐵𝐷 ̂ 𝐶 = 22°
จงหำขนำดของ 𝐴𝐶̂ 𝐵
แบบฝึ กหัด
1. กำหนดให้ จดุ 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำง
ของวงกลม 𝐴𝐵̂𝐶 และ 𝐴𝐷 ̂ 𝐶 เป็ น
มุมในส่วนโค้ งของวงกลมที่รองนับด้ วย
𝐴𝐶 จงพิสจู น์ว่ำ 𝐴𝐵̂𝐶 = 𝐴𝐷 ̂𝐶

2. จำกรูป ̅̅̅̅
𝐴𝐵 ⫽ ̅̅̅̅
𝐶𝐷 𝐴𝐵̂𝐶 =
50° และ 𝐶𝐴̂𝐷 = 26° จงหำ
ขนำดของ 𝐵𝐴̂𝐶 พร้ อมแสดงเหตุผล
3. จำกรูป ̅̅̅̅
𝐴𝐷 แบ่งครึ่ง 𝐵𝐴̂𝐶 𝐴𝐶̂ 𝐵 =
68° และ 𝐴𝐷 ̂ 𝐶 = 40° จงหำขนำดของ
𝐵𝐶̂ 𝐷

4. กำหนดให้ 𝐴𝐵̂𝐶 และ 𝐴𝐷


̂ 𝐶 เป็ นส่วนโค้ งของวงกลมที่รองรับด้ วย
𝐴𝐶 ให้ 𝐴𝐷 และ 𝐵𝐶 ตัดกันที่จดุ 𝑋 จงพิสจู น์ว่ำ
1) ∆𝐴𝐵𝑋~∆𝐶𝐷𝑋
𝐵𝑋 𝐴𝑋
2) =
𝐷𝑋 𝐶𝑋
3) 𝐵𝑋 ∙ 𝐶𝑋 = 𝐷𝑋 ∙ 𝐴𝑋
มุมและส่ วนโค้ งที่รองรับมุม
1. กำหนดให้ จดุ 𝑂 และจุด 𝑅 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลมสองวงที่เท่ำกัน
ทุกประกำรและ 𝐴𝑂̂ 𝐵 = 𝑃𝑅̂𝑄 ดังรูป

P
Q

1) ให้ น้อง ๆ ใช้ กระดำษลอกลำยลอกรูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง 𝐴𝑂𝐵


2) เลื่อนรูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง 𝐴𝑂𝐵 ไปทับรูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง 𝑃𝑅𝑄
ให้ จดุ 𝑂 ทับจุด 𝑅 และให้ ̅̅̅̅
𝑂𝐴 ทับ ̅̅̅̅
𝑅𝑃 รูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ งทังสองจะ

ทับกันสนิทได้ หรื อไม่
3) 𝑚(𝐴𝐵) = 𝑚(𝑃𝑄) หรื อไม่
4) น้ อง ๆ พบควำมสัมพันธ์ระหว่ำงมุมที่จดุ ศูนย์กลำงกับส่วนโค้ งที่รองรับมุม
ที่จดุ ศูนย์กลำงเป็ นอย่ำงไร
5) น้ อง ๆ คำดกำรณ์ว่ำ ในวงกลมทีเ่ ท่ากันทุกประการ ถ้ามุมทีจ่ ดุ ศูนย์กลางมี
ขนาดเท่ากัน แล้วส่วนโค้งทีร่ องรับมุมทัง้ สองนัน้ จะยาวเท่ากัน หรื อไม่
2. กำหนดให้ จดุ 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลมและ 𝐴𝑂̂𝐵 = 𝐶𝑂̂𝐷
ดังรูป

1) ให้ น้อง ๆ ใช้ กระดำษลอกลำยลอกรูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง 𝐴𝑂𝐵


2) ให้ น้อง ๆ หมุนกระดำษลอกลำยโดยใช้ จดุ 𝑂 เป็ นจุดหมุน น้ อง ๆ จะ
สำมำรถหมุนให้ รูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง 𝐴𝑂𝐵 ไปทับรูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง
𝐶𝑂𝐷 สนิทได้ หรื อไม่
3) 𝑚(𝐴𝐵) = 𝑚(𝐶𝐷) หรื อไม่
4) น้ อง ๆ พบควำมสัมพันธ์ระหว่ำงมุมที่จดุ ศูนย์กลำงกับส่วนโค้ งที่รองรับมุม
ที่จดุ ศูนย์กลำงเป็ นอย่ำงไร
5) น้ อง ๆ คำดกำรณ์ว่ำ ในวงกลมวงเดียวกัน ถ้ามุมทีจ่ ุดศูนย์กลางมีขนาด
เท่ากัน แล้วส่วนโค้งทีร่ องรับมุมทัง้ สองนัน้ จะยาวเท่ากัน หรื อไม่
ทฤษฎีบท
ในวงกลมที่เท่ำกันทุกประกำรหรื อในวงกลมเดียวกัน ถ้ ำมุมที่จดุ ศูนย์กลำงมี
ขนำดเท่ำกัน แล้ วส่วนโค้ งที่รองรับมุมที่จดุ ศูนย์กลำงนันจะยำวเท่
้ ำกัน
3. ให้ น้อง ๆ ให้ ทฤษฎีบทข้ ำงต้ นตอบคำถำมต่อไปนี ้
1) กำหนดให้ จุด 𝑂 และจุด 𝑅
เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลมสองวงที่เท่ำกันทุกประกำร 𝐴𝐶̂ 𝐵 และ 𝐸𝐷
̂𝐹
เป็ นมุมในส่วนโค้ งของวงกลมที่มีขนำดเท่ำกัน ดังรูป

(1) ลำก ̅̅̅̅


𝐴𝑂, ̅̅̅̅
𝐵𝑂, ̅̅̅̅ 𝐹𝑅 น้ อง ๆ คิดว่ำ 𝐴𝑂̂𝐵 = 𝐸𝑅̂𝐹
𝐸𝑅 และ ̅̅̅̅
หรื อไม่
(2) 𝑚(𝐴𝐵) = 𝑚(𝐸𝐹 ) หรื อไม่
(3) น้ อง ๆ พบควำมสัมพันธ์ระหว่ำงมุมในส่วนโค้ งของวงกลมกับส่วนโค้ งที่
รองรับมุมนันเป็
้ นอย่ำงไร
(4) น้ อง ๆ คำดกำรณ์ว่ำ ในวงกลมทีเ่ ท่ากันทุกประการ ถ้ามุมในส่วนโค้งของ
วงกลมมีขนาดเท่ากัน แล้วส่วนโค้งทีร่ องรับมุมทัง้ สองนัน้ จะยาวเท่ากัน
หรื อไม่
(5) ให้ น้อง ๆ พิสจู น์ยืนยันว่ำข้ อควำมคำดกำรณ์ ในวงกลมทีเ่ ท่ากันทุก
ประการ ถ้ามุมในส่วนโค้งของวงกลมมีขนาดเท่ากัน แล้วส่วนโค้งทีร่ องรับมุม
ทัง้ สองนัน้ จะยาวเท่ากัน เป็ นจริ ง
2) กำหนดให้ จดุ 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม 𝐴𝐶̂ 𝐵 และ 𝐴𝐶̂ 𝐷 เป็ น
มุมในส่วนโค้ งของวงกลมที่มีขนำดเท่ำกัน จงพิสจู น์ว่ำ 𝑚(𝐴𝐵) =
𝑚(𝐴𝐷)
กำรพิสจู น์ที่ได้ นี ้เป็ นกำรพิสจู น์ว่ำ

ทฤษฎีบท

มุมและส่ วนโค้ งที่รองรับมุม (ต่ อ)


1. กำหนดให้ จดุ 𝑂 และจุด 𝑅 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลมสองวงที่เท่ำกัน
ทุกประกำรและ 𝑚(𝐴𝐵) = 𝑚(𝑃𝑄)

Q
P
1) ให้ น้อง ๆ ใช้ กระดำษลอกลำยลอกรูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง 𝐴𝑂𝐵
2) เลื่อนรูป สำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง 𝐴𝑂𝐵 ไปทับรูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง 𝑃𝑅𝑄
ให้ จดุ 𝑂 ทับจุด 𝑅 ̅̅̅̅
𝐴𝑂 ทับ ̅̅̅̅
𝑃𝑅 และให้ 𝐴𝐵 ทับ 𝑃𝑄 รูปสำมเหลี่ยม
ฐำนโค้ งทังสองจะทั
้ บกันได้ สนิทหรื อไม่
3) 𝐴𝑂̂𝐵 = 𝑃𝑅̂ 𝑄 หรื อไม่
4) น้ อง ๆ พบควำมสัมพันธ์ระหว่ำงส่วนโค้ งที่รองรับมุมกับมุมที่จดุ ศูนย์กลำง
เป็ นอย่ำงไร
5) น้ อง ๆ คำดกำรณ์ว่ำ ในวงกลมทีเ่ ท่ากันทุกประการ ถ้าส่วนโค้งยาวเท่ากัน
แล้วมุมทีจ่ ดุ ศูนย์กลางทีร่ องรับด้วยส่วนโค้งนัน้ จะมีขนาดเท่ากัน หรื อไม่
2. กำหนดให้ จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม และ 𝑚(𝐴𝐵) =
𝑚(𝐶𝐷) ดังรูป
1) ให้ น้อง ๆ ใช้ กระดำษลอกลำยลอกรูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง 𝐴𝑂𝐵
2) ให้ น้อง ๆ หมุนกระดำษลอกลำยโดยใช้ จดุ 𝑂 เป็ นจุดหมุน น้ อง ๆ จะ
สำมำรถหมุนให้ รูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง 𝐴𝑂𝐵 ไปทับรูปสำมเหลี่ยมฐำนโค้ ง
𝐶𝑂𝐷 สนิทได้ หรื อไม่
3) 𝐴𝑂̂𝐵 = 𝐶𝑂̂ 𝐷 หรื อไม่
4) น้ อง ๆ พบควำมสัมพันธ์ระหว่ำงส่วนโค้ งที่รองรับมุมกับมุมที่จดุ ศูนย์กลำง
เป็ นอย่ำงไร
5) น้ อง ๆ คำดกำรณ์ว่ำ ในวงกลมทีเ่ ท่ากันทุกประการ ถ้าส่วนโค้งยาวเท่ากัน
แล้วมุมทีจ่ ดุ ศูนย์กลางทีร่ องรับด้วยส่วนโค้งนัน้ จะมีขนาดเท่ากัน หรื อไม่
ทฤษฎีบท
3. ให้ น้อง ๆ ใช้ ทฤษฎีบทที่เรี ยนมำพิสจู น์ข้อควำมต่อไปนี ้
1) กำหนดให้ จุด 𝑂 และจุด 𝑅
เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลมสองวงที่เท่ำกันทุกประกำร และ 𝑚(𝐴𝐵) =
𝑚(𝐷𝐹 ) จงพิสจู น์ว่ำ 𝐴𝐶̂ 𝐵 = 𝐷𝐸̂ 𝐹

2) ให้ จดุ O เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม และ 𝑚(𝐴𝐵) = 𝑚(𝐴𝐶 )


จงพิสจู น์ว่ำ 𝐴𝐶̂ 𝐵 = 𝐴𝐵̂𝐶
ทฤษฎีบท

แบบฝึ กหัด
1. กำหนดให้ □𝐴𝐵𝐶𝐷 แนบในวงกลม 𝐵𝐴̂𝐷 = 98° และ
𝐴𝐷 ̂ 𝐶 = 85° จงหำขนำดของ 𝐴𝐵̂ 𝐶 และขนำดของ 𝐵𝐶̂ 𝐷
พร้ อมแสดงเหตุผล

2. จำกรูป กำหนดให้ 𝐴𝐶̂ 𝐵 = 25°


จงหำขนำดของ 𝐴𝐷 ̂ 𝐵 และ
ขนำดของ 𝐴𝐸̂ 𝐵 พร้ อมแสดงเหตุผล
3. จำกรูป กำหนดให้ 𝐵𝐴̂𝐶 = 𝐸𝐴̂𝐷 จงหำว่ำ 𝑚(𝐵𝐶 ) เท่ำกับควำม
ยำวของส่วนโค้ งใด เพรำะเหตุใด

4. จำกรูป □𝐴𝐵𝐶𝐷 แนบในวงกลม 𝑂 ̅̅̅̅


𝐴𝐶 เป็ นเส้ นผ่ำนศูนย์กลำง
𝐴𝐶̂ 𝐵 = 30° และ 𝐴𝐵̂𝐷 = 40° จงหำขนำดของ 𝐵𝐷 ̂𝐶
และขนำดของ 𝐶𝐴̂𝐷

5. จำกรูป กำหนดให้ ̅̅̅̅


𝐴𝐵 และ ̅̅̅̅
𝐶𝐷เป็ นเส้ นผ่ำนศูนย์กลำงของวงกลม
O 𝐴𝐵̂ 𝐷 = 47° จงหำขนำดของ 𝐴𝐷 ̂ 𝐶 และขนำดของ 𝐵𝐶̂ 𝐷
6. จำกรูป จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม ̅̅̅̅
𝐴𝐵 ⫽ ̅̅̅̅
𝐶𝐷 𝐴𝑂̂𝐵 =
130° และ 𝐶𝑂̂𝐷 = 90° จงหำขนำดของ 𝐴𝑂̂𝐶 และขนำดของ
𝐵𝑂̂𝐷

7. จำกรูป 𝑚(𝐴𝐷 ) = 𝑚(𝐵𝐶 ) จงพิสจู น์ว่ำ ̅̅̅̅


𝐴𝐵 ⫽ ̅̅̅̅
𝐶𝐷
8. จำกรูป ̅̅̅̅
𝐴𝐵 เป็ นเส้ นผ่ำนศูนย์กลำงของวงกลม 𝑚(𝐵𝐷) =
𝑚(𝐵𝐶 ) จงพิสจู น์ว่ำ ∆ADC เป็ นรูปสำมเหลี่ยมหน้ ำจัว่

9. จำกรูป ̅̅̅̅
𝐴𝐵 และ ̅̅̅̅
𝐶𝐷 เป็ นเส้ นผ่ำนศูนย์กลำงของวงกลม 𝑂 จุด 𝑋 เป็ น
จุดกึ่งกลำงของ 𝐴𝐷 จงพิสจู น์ว่ำ ∆𝐶𝑂𝑋 ≅ ∆𝐵𝑂𝑋
10. จำกรูป รูปดำวห้ ำแฉก
แนบในวงกลม 𝑂
จงใช้ สมบัติของวงกลมพิสจู น์
ว่ำ
𝐴̂ + 𝐵̂ + 𝐶̂ + 𝐷
̂ + 𝐸̂
= 180°
คอร์ ด
คอร์ ดและส่ วนโค้ งของวงกลม
1. กำหนดให้ จดุ 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม ̅̅̅̅
𝐴𝐵 และ ̅̅̅̅
𝐶𝐷 เป็ นคอร์ ด
ที่ยำวเท่ำกัน ลำก ̅̅̅̅
𝐴𝑂 , ̅̅̅̅
𝐵𝑂, ̅̅̅̅
𝐶𝑂 และ ̅̅̅̅
𝐷𝑂

1) ∆𝐴𝑂𝐵 ≅
∆𝐶𝑂𝐷 หรื อไม่ เพรำะ
เหตุใด
2) 𝐴𝑂̂𝐵 = 𝐶𝑂̂𝐷
หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
3) 𝑚(𝐴𝐵) =
𝑚(𝐶𝐷) หรื อไม่ เพรำะ
เหตุใด
4) 𝑚(𝐴𝐶𝐵) = 𝑚(𝐶𝐵𝐷) หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
2. กำหนดให้ จดุ 𝑂
เป็ นจุดศูนย์กลำงของ
วงกลม ̅̅̅̅
𝐴𝐵 และ ̅̅̅̅
𝐶𝐷
เป็ นคอร์ ดที่ทำให้
𝑚(𝐴𝐵) =
𝑚(𝐶𝐷) ลำก
̅̅̅̅
𝐴𝑂, ̅̅̅̅
𝐵𝑂, ̅̅̅̅
𝐶𝑂 และ
̅̅̅̅
𝐷𝑂

1) ∆𝐴𝑂𝐵 ≅ ∆𝐶𝑂𝐷 หรื อไม่ เพรำะเหตุใด


2) 𝐴𝑂̂𝐵 = 𝐶𝑂̂ 𝐷 หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
3) 𝐴𝐵 = 𝐶𝐷 หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
รูปหลายเหลี่ยมด้ านเท่ ามุมเท่ าแนบในวงกลม
1. กาหนดให้
จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม ̅̅̅̅
𝐴𝐶 เป็ นเส้ นผ่ำนศูนย์กลำงของวงกลม
𝑂
ต้ องการสร้ าง
รูปสี่เหลี่ยมจัตรุ ัสแนบในวงกลม 𝑂

1) เส้ นทแยงมุมของรู ปสี่เหลี่ยมจัตรุ ัสยำวเท่ำกันหรื อไม่


2) เส้ นทแยงมุมของรู ปสี่เหลี่ยมจัตรุ ัสตังฉำกกั
้ นและแบ่งครึ่งซึง่ กันและกัน
หรื อไม่
3) ให้ น้อง ๆ สร้ ำงรูปสี่เหลี่ยมจัตรุ ัสแนบในวงกลมโดยรูปสี่เหลี่ยมจัตรุ ัสมีเส้ น
ทแยงมุมเส้ นหนึ่งยำว 10 เซนติเมตร
2. กาหนดให้
จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม ̅̅̅̅
𝑂𝐴 เป็ นรัศมีของวงกลม
ต้ องการสร้ าง
รูปหกเหลี่ยมด้ ำนเท่ำมุมเท่ำแนบในวงกลม 𝑂

1) ถ้ ำต้ องกำรสร้ ำงรู ปสำมเหลี่ยมด้ ำนเท่ำแนบในวงกลม จะต้ องแบ่งมุมที่จดุ


ศูนย์กลำงของวงกลมออกเป็ นกี่มมุ และแต่ละมุมมีขนำดกี่องศำ
2) ถ้ ำต้ องกำรสร้ ำงรู ปแปดเหลี่ยมด้ ำนเท่ำมุมเท่ำแนบในวงกลม จะต้ องแบ่ง
มุมที่จดุ ศูนย์กลำงของวงกลมออกเป็ นกี่มมุ และแต่ละมุมมีขนำดกี่องศำ
3) ถ้ ำต้ องกำรสร้ ำงรู ปสิบสองเหลี่ยมด้ ำนเท่ำมุมเท่ำแนบในวงกลม จะต้ อง
แบ่งมุมที่จดุ ศูนย์กลำงของวงกลมออกเป็ นกี่มมุ และแต่ละมุมมีขนำดกี่องศำ
4) ถ้ ำต้ องกำรสร้ ำงรู ปสิบหกเหลี่ยมด้ ำนเท่ำมุมเท่ำแนบในวงกลม จะต้ องแบ่ง
มุมที่จดุ ศูนย์กลำงของวงกลมออกเป็ นกี่มมุ และแต่ละมุมมีขนำดกี่องศำ
แบบฝึ กหัด
1. จำกรูป 𝑚(𝐴𝐵) = 𝑚(𝐴𝐶) จงพิสจู น์ว่ำ ∆𝐴𝐵𝐶 เป็ นรูป
สำมเหลี่ยมหน้ ำจัว่

2. จำกรูป จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม 𝑚(𝐴𝐵) = 𝑚(𝐵𝐶 )


และ 𝐴𝐵̂ 𝐷 = 𝐶𝐵̂𝐸 จงพิสจู น์ว่ำ 𝐵𝐷 = 𝐵𝐸
3. จงสร้ ำงรูปสำมเหลี่ยมด้ ำนเท่ำแนบในวงกลม

4. จงสร้ ำงรูปแปดเหลี่ยมด้ ำนเท่ำมุมเท่ำแนบในวงกลม

5. จงสร้ ำงรูปสิบสองเหลี่ยมด้ ำนเท่ำมุมเท่ำแนบในวงกลม


คอร์ ดกับจุดศูนย์ กลางของวงกลม
1. กำหนดให้ จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม ̅̅̅̅
𝑂𝑋 ตังฉำกกั
้ บคอร์ ด
𝐴𝐵 ที่จดุ 𝑋 จงพิสจู น์ว่ำ ̅̅̅̅
𝑂𝑋 แบ่งครึ่ง ̅̅̅̅
𝐴𝐵

2. กำหนดให้ จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม ̅̅̅̅


𝑂𝑋 ตังฉำกกั
้ บคอร์ ด
𝐴𝐵 ที่จดุ 𝑋 จงพิสจู น์ว่ำ ̅̅̅̅
𝑂𝑋 ตังฉำกกั
้ บ ̅̅̅̅
𝐴𝐵
ทฤษฎี บท
ส่วนของเส้นตรงซึ่งผ่านจุดศูนย์ กลางของวงกลมและตัดคอร์ ดทีไ่ ม่ใช่เส้นผ่าน
ศูนย์ กลาง จะมีสมบัติดงั นี ้
1. ถ้าส่วนของเส้นตรงตัง้ ฉากกับคอร์ ด แล้วส่วนของเส้นตรงนีจ้ ะแบ่งครึ่ ง
คอร์ ด
2. ถ้าส่วนของเส้นตรงบ่งครึ่ งคอร์ ด แล้วส่วนของเส้นตรงนัน้ จะตัง้ ฉากกับ
คอร์ ด
1. วงกลมวงหนึ่งมีรัศมี 10 เซนติเมตร ̅̅̅̅
𝐴𝐵 เป็ นคอร์ ดที่อยู่ห่ำงจำกจุด
ศูนย์กลำง 6 เซนติเมตร จงหำควำมยำวของ ̅̅̅̅𝐴𝐵

2. คอร์ ดของวงกลมวงหนึ่งยำว 24 เซนติเมตร อยู่ห่ำงจำกจุดศูนย์กลำง 5


เซนติเมตร จงหำรัศมีของวงกลมนี ้
3. ̅̅̅̅
𝐴𝐵 เป็ นคอร์ ดของวงกลมวงหนึ่งยำว 10.4 เซนติเมตร ถ้ ำวงกลมวงนี ้มี
รัศมี 6.5 เซนติเมตร แล้ วคอร์ ด 𝐴𝐵 อยู่ห่ำงจำกจุดศูนย์กลำงเท่ำไร

4. ตุ๊กแกตัวหนึ่งเกำะอยู่ที่ขอบแผ่นไม้ ตรงจุดกึ่งกลำงของขอบซึง่ เป็ นคอร์ ด


ของวงล้ อไม้ อนั หนึ่งที่มีรัศมียำว 29 นิ ้ว ถ้ ำคอร์ ดของวงล้ อมยำว 40 นิ ้ว จงหำ
ว่ำ
1) ตุ๊กแกอยู่ห่ำงจำกจุดศูนย์กลำงของวงล้ อกี่นิ ้ว
2) เมื่อวงล้ อหมุนไป ถ้ ำตุ๊กแกเกำะอยู่ที่ตำแหน่งเดิมเสมอ เส้ นทำงที่ต๊ กุ แก
เคลื่อนตำมไปมีลกั ษณะเป็ นอย่ำงไร
จงพิสูจน์
ทฤษฎี บท
เส้นตรงทีต่ งั้ ฉากและแบ่งครึ่ งคอร์ ดของวงกลม จะผ่านจุดศูนย์ กลางของ
วงกลมนัน้

หาจุดศูนย์ กลาง
กาหนดให้
̅̅̅̅
𝐴𝐵 และ ̅̅̅̅
𝐶𝐷 เป็ นคอร์ ดที่ไม่ขนำนกันของวงกลมวงหนึ่ง
ต้ องการสร้ าง
สร้ ำงเพื่อหำจุดศูนย์กลำงของวงกลมวงนี ้
1. กำหนดให้ ̅̅̅̅
𝐴𝐵 และ ̅̅̅̅
𝐵𝐶 เป็ นคอร์ ดของวงกลม จงหำจุดศูนย์กลำงของ
วงกลมวงนี ้

2. ในกำรสร้ ำงคอร์ ดสองคอร์ ดเพื่อหำจุดศูนย์กลำงของวงกลม เพรำะเหตุใด


จึงต้ องกำหนดว่ำ คอร์ ดทังสองนั
้ นต้
้ องไม่ขนำนกัน จงอธิบำย
วงกลมผ่ านจุดที่กาหนด
1. มี วงกลมจานวนนับไม่ถว้ นทีผ่ ่านจุดจุดหนึ่งทีก่ าหนดให้
2. มีวงกลมจานวนนับไม่ถว้ นทีผ่ ่านจุดสองจุดทีก่ าหนดให้ โดยวงกลม
เหล่านัน้ มีจดุ ศูนย์ กลางอยู่บนเส้นตรงทีต่ งั้ ฉากและแบ่งครึ่ งส่วนของ
เส้นตรงทีม่ ีจุดสองจุดนัน้ เป็ นจุดปลาย
3. มีวงกลมเพียงวงเดียวเท่านัน้ ทีผ่ ่านจุดสามจุดซึ่งไม่อยู่บนเส้นตรง
เดียวกัน
4. ไม่สามารถสร้างวงกลมให้ผ่านจุดสามจุดทีอ่ ยู่บนเส้นตรงเดียวกันได้
5. ไม่สามารถสร้างวงกลมให้ผ่านจุดสีจ่ ดุ ทีไ่ ม่มีสามจุดใด ๆ อยู่บน
เส้นตรงเดียวกันได้เสมอไป
จุดศูนย์ กลางวงล้ อม
กำหนดให้ ∆𝐴𝐵𝐶 เป็ นรูปสำมเหลี่ยมใด ๆ จงสร้ ำงวงกลมล้ อม ∆𝐴𝐵𝐶

รูปสี่เหลี่ยมแนบในวงกลม
ทฤษฎี บท
ถ้ารู ปสีเ่ หลีย่ มใด ๆ มีผลบวกของขนาดของมุมตรงข้ามเท่ากับสองมุมฉาก
แล้วรู ปสีเ่ หลีย่ มนัน้ แนบในวงกลมวงหนึ่งได้
แบบฝึ กหัด
1. กำหนดให้ ∆𝐴𝐵𝐶 เป็ นรูปสำมเหลี่ยมใด ๆ จงสร้ ำง วงกลมผ่ำนจุด
𝐴, 𝐵 และ 𝐶

2. คณะกรรมกำรขององค์กรบริ หำรส่วนตำบลแห่งหนึ่ง ต้ องกำรสร้ ำงตลำด


สดแห่งใหม่ให้ อยู่ห่ำงจำกโรงเรี ยน โรงพยำบำลและท่ำรถประจำทำง ซึง่ อยู่
บนถนนคนละสำยเป็ นระยะทำงเท่ำ ๆ กัน จงหำตำแหน่งที่สร้ ำงตลำดสดแห่ง
นี ้
3. นักโบรำณคดีคนหนึ่งพบชิ ้นส่วนของจำนกระเบื ้องเก่ำแก่ใบหนึง่ ในบริ เวณ
ปรำสำทร้ ำงมีลกั ษณะดังรูป เขำต้ องกำรทรำบควำมยำวของเส้ นรอบจำนใบนี ้
เขำจะหำได้ อย่ำงไร

4. กำหนดให้ ∆𝐴𝐵𝐶 เป็ นรูปสำมเหลี่ยมมุมแหลม ̅̅̅̅


𝐴𝐷 และ ̅̅̅̅
𝐵𝐸
เป็ นส่วนสูงของ∆𝐴𝐵𝐶 และตัดกันที่จดุ 𝑂 จงพิสจู น์ว่ำ □𝑂𝐷𝐶𝐸 แนบ
ในวงกลมได้
5. จำกรูป □𝐴𝐵𝐶𝐷 มี 𝐴𝐵 = 𝐴𝐷, 𝐷𝐵 = 𝐷𝐶 และ 𝐷𝐵̂𝐶 =
2(𝐴𝐵̂𝐷) จงพิสจู น์ว่ำ □𝐴𝐵𝐶𝐷 แนบในวงกลมได้

คอร์ ดที่ยาวเท่ ากัน


1. กำหนดให้ จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม ̅̅̅̅
𝐴𝐵 และ ̅̅̅̅𝐶𝐷 เป็ นคอร์ ด
ที่ยำวเท่ำกัน ̅̅̅̅
𝑂𝐸 ⟘ ̅̅̅̅
𝐴𝐵 ที่จดุ 𝐸 และ ̅̅̅̅
𝑂𝐹 ⟘ ̅̅̅̅
𝐶𝐷 ที่จดุ 𝐹 ลำก
̅̅̅̅
𝑂𝐵 และ ̅̅̅̅
𝑂𝐶
1) 𝐴𝐸 = 𝐵𝐸 และ 𝐷𝐹 = 𝐶𝐹 หรื อไม่เพรำะเหตุใด
𝐴𝐵 𝐶𝐷
2) 𝐵𝐸 = และ 𝐶𝐹 = หรื อไม่
2 2
3) 𝐵𝐸 = 𝐶𝐹 หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
4) ∆OEB ≅ ∆OFC หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
5) 𝑂𝐸 = 𝑂𝐹 หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
6) คอร์ ด 𝐴𝐵 และคอร์ ด 𝐶𝐷 อยู่ห่ำงจำกจุดศูนย์กลำงเท่ำกันหรื อไม่
7) น้ อง ๆ คิดว่ำ ในวงกลมใด ๆ คอร์ ดทีย่ าวเท่ากัน จะอยู่ห่างจากจุด
ศูนย์ กลางของวงกลมเท่ากัน หรื อไม่

2. กำหนดให้ จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม ̅̅̅̅


𝐴𝐵 และ ̅̅̅̅
𝐶𝐷 เป็ นคอร์ ด
̅̅̅̅
𝑂𝐸 ⟘ ̅̅̅̅
𝐴𝐵 ที่จดุ 𝐸 และ ̅̅̅̅
𝑂𝐹 ⟘ ̅̅̅̅
𝐶𝐷 ที่จดุ 𝐹 และให้ 𝑂𝐸 = 𝑂𝐹
ลำก ̅̅̅̅
𝑂𝐵 และ ̅̅̅̅
𝑂𝐶
1) ∆OEB ≅ ∆OFC หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
2) 𝐵𝐸 = 𝐶𝐹 หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
3) 2(𝐵𝐸) = 2(𝐶𝐹) หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
4) 2(𝐵𝐸) = 𝐴𝐵 หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
5) 2(𝐶𝐹) = 𝐶𝐷 หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
6) 𝐴𝐵 = 𝐶𝐷 หรื อไม่ เพรำะเหตุใด
7) น้ อง ๆ คิดว่ำ ในวงกลมใด ๆ คอร์ ดทีอ่ ยู่ห่างจากจุดศูนย์ กลางของ
วงกลมเท่ากันจะยาวเท่ากัน หรื อไม่
ทฤษฎี บท
1. ในวงกลมเดียวกัน คอร์ ดสองเส้นยาวเท่ากัน ก็ต่อเมือ่ คอร์ ดทัง้ สองอยู่ห่าง
จากจุดศูนย์กลางของวงกลมเป็ นระยะเท่ากัน
แบบฝึ กหัด
1. จำกรูป จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม 𝐴𝐶 = 18 เซนติเมตร
𝐵𝐶 = 6 เซนติเมตร และ 𝑂𝐶 = 13 เซนติเมตร จงหำว่ำ ̅̅̅̅ 𝐴𝐵
อยู่ห่ำงจำกจุด 𝑂 กี่เซนติเมตร
2. กำหนดให้ จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม ̅̅̅̅
𝑂𝐷 ตังฉำกกั
้ บคอร์ ด
𝐴𝐵 ต่อ ̅̅̅̅
𝐷𝑂 ไปตัดวงกลมที่จดุ 𝐶 ลำก ̅̅̅̅ 𝐴𝐶 และ ̅̅̅̅
𝐵𝐶 จงพิสจู น์ว่ำ
̅̅̅̅
𝐴𝐶 และ ̅̅̅̅
𝐵𝐶 อยู่ห่ำงจำกจุด 𝑂 เท่ำกัน

3. จำกรูป จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลม ̅̅̅̅


𝐴𝐵 และ ̅̅̅̅
𝐶𝐷 เป็ นคอร์ ดที่
ยำวเท่ำกัน และตัดกันที่จดุ 𝑃 ลำก ̅̅̅̅
𝑂𝐸 และ ̅̅̅̅ บ ̅̅̅̅
𝑂𝐹 ตังฉำกกั
้ 𝐴𝐵 และ
̅̅̅̅
𝐶𝐷 ที่จดุ 𝐸 และจุด 𝐹 ตำมลำดับ จงพิสจู น์ว่ำ 𝐵𝑃 = 𝐷𝑃
เส้ น
สัมผัส
วงกลม

เส้ นสัมผัสวงกลมและรัศมี
เส้นสัมผัสวงกลม จะตัง้ ฉากกับรัศมีของวงกลมทีจ่ ุดสัมผัส
พิจำรณำกำรพิสจู น์
ทฤษฎี บท
เส้นสัมผัสวงกลม จะตัง้ ฉากกับรัศมีของวงกลมทีจ่ ุดสัมผัส
และบทกลับของทฤษฎีบทนี ้ก็เป็ นจริ ง

เส้ นสัมผัสวงกลมและรัศมี (ต่ อ)


1. กำรสร้ ำงเส้ นสัมผัสวงกลมที่จดุ จุดหนึ่งที่กำหนดให้ บนวงกลม
2. กำรสร้ ำงเส้ นสัมผัสวงกลมจำกจุดจุดหนึง่ ภำยนอกวงกลม

พิจำรณำกำรพิสจู น์
ทฤษฎี บท
ส่วนของเส้นตรงทีล่ ากจากจุด ๆ หนึ่งภายนอกวงกลมมาสัมผัสวงกลมวง
เดียวกัน จะยาวเท่ากันและมีได้สองเส้น
แบบฝึ กหัด
1. กำหนดให้ จุด 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลมที่มีรัศมี 8 เซนติเมตร
̅̅̅̅
𝐴𝐵 สัมผัสวงกลม 𝑂 ที่จดุ 𝐴 และยำว 15 เซนติเมตร จุด 𝐵
อยู่ห่ำงจำกจุด 𝑂 กี่เซนติเมตร

2. จำกรูป ⃡𝐴𝐵 สัมผัสวงกลม 𝑂 ที่จดุ 𝐴 และ 𝐵𝐴̂𝐶 = 52°


จงหำขนำดของ 𝐴𝑂̂ 𝐶

3. จำกรูป ⃡𝐵𝐶 สัมผัสวงกลม 𝑂 ที่จดุ 𝐵 และ 𝐴𝑂̂𝐵 = 100°


จงหำขนำดของ 𝐴𝐵̂𝐶
4. จำกรูป ̅̅̅̅
𝐴𝐵 เป็ นเส้ นผ่ำนศูนย์กลำงของวงกลม 𝑂 ⃡𝐵𝐶
สัมผัสวงกลมที่จดุ 𝐵 และ 𝐵𝑂̂𝐷 = 70° จงหำขนำดของ 𝐴𝐶̂ 𝐵

5. จำกรูป 𝑃𝐴 และ 𝑃𝐵 สัมผัสวงกลม 𝑂 ที่จดุ 𝐴 และจุด 𝐵 ตำมลำดับ


และมุมกลับ 𝐴𝑂𝐵 = 220° จงหำขนำดของ 𝐴𝑃̂𝐵
วงกลมแนบในรูปสามเหลี่ยม
จำกรูป ∆𝐴𝐵𝐶 เป็ นรูปสำมเหลี่ยมใด ๆ จุด 𝑂
เป็ นจุดศูนย์กลำงของวงกลมที่มี ̅̅̅̅
𝐴𝐵 , ̅̅̅̅
𝐵𝐶 และ ̅̅̅̅
𝐶𝐴 สัมผัสวงกลมที่จดุ
𝐷, 𝐸 และ 𝐹 ตำมลำดับ กล่ำวว่ำ วงกลม 𝑂 แนบใน ∆𝐴𝐵𝐶

กาหนดให้
∆𝐴𝐵𝐶 เป็ นรูปสำมเหลี่ยมใดๆ
ต้ องการสร้ าง
วงกลมวงหนึ่งแนบใน ∆𝐴𝐵𝐶
แบบฝึ กหัด
1. กำหนดให้ ∆𝑃𝑄𝑅 เป็ นรูปสำมเหลี่ยมหน้ ำจัว่ จงสร้ ำงวงกลม 𝑂 แนบใน
∆𝑃𝑄𝑅

2. จำกรูป ∆𝐴𝐵𝐶 เป็ นรูปสำมเหลี่ยมมุมฉำก มีด้ำนยำว 6, 8 และ 10


เซนติเมตร จงสร้ ำง วงกลม 𝑂 แนบใน ∆𝐴𝐵𝐶
แล้ วหำควำมยำวของรัศมีของวงกลม 𝑂
เส้ นสัมผัสและคอร์ ด

ทฤษฎี บท
มุมทีเ่ กิ ดจากคอร์ ดและเส้นสัมผัสของวงกลมทีจ่ ดุ สัมผัสจะมี ขนาดเท่ากับ
ขนาดของมุมในส่วนโค้งของวงกลมทีอ่ ยู่ตรงข้ามกับคอร์ ดนัน้
แบบฝึ กหัด

1. จำกรูป ⃡𝐷𝐸 เป็ นเส้ นสัมผัสวงกลมที่จดุ 𝐵 𝐶𝐵̂ 𝐸 = 65° และ


𝐴𝐵̂ 𝐷 = 80° จงหำขนำดของ 𝐵𝐴̂𝐶 และขนำดของ 𝐴𝐶̂ 𝐵
2. จำกรูป 𝐴𝐵 และ 𝐴𝐶 สัมผัสวงกลมที่จดุ 𝐵 และจุด 𝐶 ตำมลำดับ และ
𝐵𝐷 ̂ 𝐶 = 68° จงหำขนำดของ 𝐵𝐴̂𝐶

3. จำกรูป ⃡𝑋𝑌 และ ⃡𝑃𝑄 เป็ นเส้ นสัมผัสวงกลมที่จดุ 𝐴 และจุด 𝐶


ตำมลำดับ 𝐵𝐴̂𝑌 = 10° 𝐷𝐴̂𝑋 = 28° และ 𝐵𝐶̂ 𝑄 = 45° จง
̂ 𝐶 ขนำดของ 𝐴𝐵̂ 𝐶 และขนำดของ 𝐷𝐶̂ 𝐵
หำขนำดของ 𝐴𝐷
4. จำกรูป วงกลม 𝑂 แนบในรูปสำมเหลี่ยมมุมฉำก 𝐴𝐵𝐶 มี 𝐴𝐵 =
20 หน่วย 𝐵𝐶 = 29 หน่วย และ 𝐶𝐴 = 21 หน่วย จงหำควำมยำว
ของรัศมีของวงกลม

5. จำกรูป วงกลม 𝑂 แนบใน □𝐴𝐵𝐶𝐷 ถ้ ำ 𝐴𝐵 = 14 เซนติเมตร


𝐶𝐷 = 8 เซนติเมตร และ 𝐴𝐷 = 5 เซนติเมตร จงหำควำมยำวของ
̅̅̅̅
𝐵𝐶
6. กำหนดให้ วงกลม 𝑂 แนบในรูปสำมเหลี่ยมหน้ ำจัว่ 𝐴𝐵𝐶 ที่มี 𝐴𝐵 =
𝐴𝐶 = 12 และ 𝐵𝐶 = 8 เซนติเมตร จงหำควำมยำวของรัศมีของ
วงกลม

ไกลแค่ ไหน
ให้ จดุ 𝑂 เป็ นจุดศูนย์กลำงของโลก จุด 𝐴 อยู่สงู จำกพื ้นผิวโลก ℎ เมตร
⃡𝐴𝐵 เป็ นระดับสำยตำ และ ̅̅̅̅
𝐴𝐵 ยำว 𝑑 เมตร ̅̅̅̅
𝑂𝐵 ยำว 𝑟 เมตร
1. ชำยคนหนึ่งยืนอยู่บนภูกระดึง ณ ตำแหน่งที่สงู จำกระดับน ้ำทะเลประมำณ
1,000 เมตร และมองเห็นบึงใหญ่ที่ขอบฟ้ำ ซึง่ อยู่ห่ำงจำกฐำนของภูกระดึง
112 กิโลเมตร ถ้ ำเขำใช้ ระยะตำมเส้ นระดับสำยตำ เท่ำกับ 112 กิโลเมตร ชำย
คนนี ้ประมำณควำมยำวรัศมีของโลกได้ เท่ำไร

2. จำกรูป น้ อง ๆ จะเห็นว่ำ ̅̅̅̅


𝐴𝐵 ยำวกว่ำ ̅̅̅̅
𝐵𝐶 ถ้ ำใช้ ควำมยำวจริ ง ๆ ของ
̅̅̅̅
𝐴𝐵 น้ อง ๆ คิดว่ำรัศมีของโลกยำวมำกกว่ำหรื อน้ อยกว่ำคำตอบที่ได้ ในข้ อ
1. จงอธิบำย
3. สูตรดังกล่ำวข้ ำงต้ น สำมำรถนำมำใช้ ประมำณระยะจำกที่สงู ไปยังขอบฟ้ำ
ได้ เมื่อทรำบควำมยำวของรัศมีของโลกซึง่ ยำวประมำณ 6,400 กิโลเมตร

1) จำกหน้ ำผำสูง 100 เมตร มองดูทะเล ระยะทำงจำกบนหน้ ำผำถึงขอบฟ้ำ


ยำวเท่ำไร
2) เครื่ องบินลำหนึ่งอยู่สงู 9,000 เมตร เมื่อมองดูขอบฟ้ำจำกหน้ ำต่ำงของ
เครื่ องบินจะเห็นขอบฟ้ำอยู่ไกลเท่ำไร
3) น้ อง ๆ คิดว่ำถ้ ำเรำอยู่สงู จำกพื ้นผิวโลกมำกขึ ้น ระยะที่มองเห็นขอบฟ้ำจะ
เป็ นอย่ำงไร จงอธิบำย

You might also like