Professional Documents
Culture Documents
Teacher Script
คณิตศำสตร์ ม. 5
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5
ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ผู้เรียบเรียงคู่มือครู บรรณาธิการคู่มือครู
นางสาวจันทร์เพ็ญ ชุมคช นางสาวนุศรา ชมเชย
นางสาววลัยลักษณ์ เพ็ชรดี นางสาววรรณทัศน์ เลิศอภิสิทธิ
พิมพครั้งที่ 1
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ
รหัสสินคา 3546008
ค� ำ แนะน� ำ กำรใช้
คูม่ อื ครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ ม.5 เล่มนี ้ จัดท�าขึน้ ส�าหรับ
ให้ครูผสู้ อนใช้เป็นแนวทางวางแผนการจัดการเรียนการสอน เพือ่ พัฒนา
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการประกันคุณภาพผู้เรียนตามนโยบาย
ของส�านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
ประสิทธิภาพ
ิ่ม Teacher Guide Overview ช่วยให้เห็นภาพรวมของการ
เพ
จั ด การเรี ย นการสอนทั้ ง หมดของรายวิ ช าก่ อ นที่ จ ะลงมื อ
สอนจริง
ในโลกแห่งศตวรรษที่ 21
โซน 3
โซน 2
T4
1
กําหนดขอบเขตของปญหา
หน่วยกำรเรียนรู้ที่
2. ครูใหนักเรียนยกตัวอยางการใชเลขยกกําลัง ประกอบด้ ว ยแนวทางส� า หรั บ การจั ด กิ จ กรรมและ
ที่พบเห็นในชีวิตจริง
(แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย
ตามพื้นฐานความรู เชน การคํานวณดอกเบี้ย
เสนอแนะแนวข้อสอบ เพือ่ อ�านวยความสะดวกให้แก่ครูผสู้ อน
เลขยกก�ำลัง ทบตน การเพิ่มจํานวนของแบคทีเรีย)
หมายเหตุ : ครูอาจใหนักเรียนทําแบบทดสอบ
คาร์บอน-14 (C-14) เป็นธาตุกัมมันตรังสีที่
พบได้ในวัตถุต่าง ๆ เกือบทุกชนิดบนโลก ซึ่งมี
1 พื้นฐานกอนเรียน โดยการสแกน QR Code
ในหนังสือเรียน หนา 3
กิจกรรม 21st Century Skills
ประโยชน์ทางด้านธรณีวิทยา สามารถน�ามา
ค�านวณหาอายุของวัตถุโบราณ และอายุของ 2
กิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ประยุกต์ ใช้ความรู้ที่เรียนรู้มาสร้าง
ซากฟอสซิลต่าง ๆ ได้ โดยการใช้ค่าครึ่งชีวิต
ซึ่งค�านวณได้จากสูตร
N
ชิ้นงาน หรือท�ากิจกรรมรวบยอดเพื่อให้เกิดทักษะที่จ�าเป็น
Nเหลือ = เริ่มTต้น
2t 1
2
ข้อสอบเน้นการคิดแนว O-NET
จ�านวนตรรกยะ (ค 1.1 ม.5/1)
สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
Recall
• รากที่n ของจ�านวนจริง
เมื่อ n เป็นจ�านวนนับที่มากกว่า 1
• เลขยกก�าลังที่มีเลขชี้ก�าลัง
เป็นจ�านวนตรรกยะ
ตัวอย่างข้อสอบที่มุ่งเน้นการคิดวิเคราะห์ และสอดคล้องกับ
แนวข้อสอบ O-NET มีทั้งปรนัย-อัตนัย พร้อมเฉลยอย่าง
กิจกรรม 21st Century Skills นักเรียนควรรู ละเอียด
ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-5 คน รวมกันสืบคนจาก 1 ธาตุกัมมันตรังสี (r a dioa ctive element) หมายถึง ธาตุที่สามารถ
อิ น เทอร เ น็ ต ในหั ว ข อ “เลขยกกํ า ลั ง ที่ พ บเห็ น ในชี วิ ต จริ ง ” มา
กลุมละ 1 เรื่อง จากนั้นใหนักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอ
แผรังสีออกมาไดเองเนื่องดวยนิวเคลียสของอะตอมไมเสถียร และเปนธาตุที่มี
เลขอะตอมสูงกวา 82 กิจกรรมเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์
หนาชั้นเรียน โดยใชโปรแกรม Microsoft PowerPoint
หมายเหตุ : ครูควรจัดกลุมนักเรียนโดยคละความสามารถทาง
คณิตศาสตรของนักเรียน (ออน ปานกลาง และเกง) ใหอยูกลุม
2 คาครึ่งชีวิต (half life) หมายถึง ระยะเวลาที่ธาตุกัมมันตรังสีสลายตัว
จนเหลือครึ่งหนึ่งของปริมาณที่มีอยูเดิม ใชสัญลักษณเปน t1
2
กิจกรรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านคุณธรรม
เดียวกัน
จริยธรรม ค่านิยม ตามที่หลักสูตรก�าหนด
โซน 3
โซน 2
กิจกรรมท้าทาย
เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรม เพือ่ ต่อยอดส�าหรับนักเรียน
T5
ที่เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และต้องการท้าทายความสามารถใน
ระดับที่สูงขึ้น
กิจกรรมสร้างเสริม
เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมซ่อมเสริมส�าหรับนักเรียน
ที่ควรได้รับการพัฒนาการเรียนรู้
บูรณาการอาเซียน
ความรู้เสริมหรือการเชื่อมโยงในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาคม
อาเซียน
สื่อ Digital เฉลยละเอียด
แนะน�าแหล่งเรียนรู้และแหล่งค้นคว้าจากสื่อ Digital ต่าง ๆ
หนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ม.5
แนวทางการวัดและประเมินผล สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่
เสนอแนะแนวทางการบรรลุผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน www.aksorn.com
ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่หลักสูตรก�าหนด
ค� ำ อธิ บ ายรายวิ ช า
คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลาเรียน 80 ชั่วโมง/ปี
ตัวชี้วัด
ค 1.1 ม.5/1 เข้าใจความหมายและใช้สมบัติเกี่ยวกับการบวก การคูณ การเท่ากัน และการไม่เท่ากันของจ�ำนวนจริง
ในรูปกรณฑ์ และจ�ำนวนจริงในรูปเลขยกก�ำลังที่มีเลขชี้ก�ำลังเป็นจ�ำนวนตรรกยะ
ค 1.2 ม.5/1 ใช้ฟังก์ชันและกราฟของฟังก์ชันอธิบายสถานการณ์ที่ก�ำหนด
ค 1.2 ม.5/2 เข้าใจและน�ำความรู้เกี่ยวกับล�ำดับและอนุกรมไปใช้
ค 1.3 ม.5/1 เข้าใจและใช้ความรู้เกี่ยวกับดอกเบี้ยและมูลค่าของเงินในการแก้ปัญหา
รวม 4 ตัวชี้วัด
Pedagogy
คู่มือครู รายวิชาพื้นฐาน
คณิตศาสตร์ ม.5
รวมถึงสือ่ การเรียนรูร้ ายวิชาพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ ชัน้ ม.5 ผูจ้ ดั ท�ำได้ออกแบบการสอน
(Instructional Design) อันเป็นวิธีการจัดการเรียนรู้และเทคนิคการสอนที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและมีความหลากหลาย
ให้กับผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด รวมถึงสมรรถนะและคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ของผู้เรียนที่หลักสูตรก�ำหนดไว้ โดยครูสามารถน�ำไปใช้ส�ำหรับจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนได้อย่างเหมาะสม
ส�ำหรับ Pedagogy หลักที่นำ� มาใช้ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบด้วย
ขั้นการใช้ความรู้เดิมเชื่อมโยงความรู้ใหม่ ขั้นเข้าใจ
ขั้นรู้ ขั้นลงมือท�ำ
เลือกใช้เทคนิคการสอนทีห่ ลากหลายและเหมาะสมกับเรือ่ งทีเ่ รียน เช่น การใช้คำ� ถาม การใช้ตวั อย่างกระตุน้ ความคิด
การใช้แผนภาพ และการใช้สื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจ เพื่อส่งเสริมวิธีการสอนและรูปแบบการสอนให้มีประสิทธิภาพในการ
จัดการเรียนรู้ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข และสามารถฝึกฝนทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษ
ที่ 21 ได้
Teacher Guide Overview
คณิ ต ศาสตร์ ม.5
หน่วย
ตัวชี้วัด ทักษะที่ได้ เวลาที่ใช้ การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้
Chapter Teacher
Chapter Title Overview Script
หน่วยการเรียนรู้ท
ี่ 1 เลขยกก�ำลัง T2 -T3 T4 -T5
ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 T40 -T43
ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 T129 -T135
ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 T190 -T193
Chapter Teacher
Chapter Title Overview Script
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ดอกเบี้ยและมูลค่ำของเงิน T194-T195 T196-T197
ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 T224-T227
อภิธำนศัพท์ T230-T231
บรรณำนุกรม T232
Chapter Overview
แผนการจัด คุณลักษณะ
สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - หนังสือเรียน 1. บอกความหมาย แบบนิรนัย - ตรวจแบบฝึกทักษะ 1.1 - ทักษะการสังเกต 1. มีวินัย
เลขยกก�ำลัง รายวิชาพื้นฐาน ของเลขยกก�ำลัง (Deductive - ตรวจ Exercise 1.1 - ทักษะการระบุ 2. ใฝ่เรียนรู้
ที่มีเลขชี้กำ� ลัง คณิตศาสตร์ ม.5 ที่มีเลขชี้กำ� ลัง Method) - การน�ำเสนอผลงาน - ทักษะการ 3. มุ่งมั่น
เป็นจ�ำนวนเต็ม - แบบฝึกหัด เป็นจ�ำนวนเต็มได้ (K) - สังเกตพฤติกรรม เชื่อมโยง ในการท�ำงาน
รายวิชาพื้นฐาน 2. บอกสมบัติของ การท�ำงานรายบุคคล - ทักษะกระบวน
2 คณิตศาสตร์ ม.5 เลขยกก�ำลัง - สังเกตพฤติกรรม การคิดตัดสินใจ
ชั่วโมง ที่มีเลขชี้กำ� ลัง การท�ำงานกลุ่ม - ทักษะการ
เป็นจ�ำนวนเต็มได้ (K) - สังเกตความมีวินัย วิเคราะห์
3. หาค่าของเลขยกก�ำลัง ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ
ที่มีเลขชี้กำ� ลัง ท�ำงาน
เป็นจ�ำนวนเต็มได้ (K)
4. ใช้ความรู้ ทักษะ
และกระบวนการ
ทางคณิตศาสตร์
ในการแก้ปัญหา
ได้อย่างเหมาะสม (P)
5. รับผิดชอบต่อหน้าที่
ที่ได้รับมอบหมาย (A)
แผนฯ ที่ 2 - หนังสือเรียน 1. บอกความหมายของ Concept - ตรวจใบงานที่ 1.1 - ทักษะการสังเกต 1. มีวินัย
รากที่ n ของ รายวิชาพื้นฐาน รากที่ n ของจ�ำนวนจริง Based - ตรวจแบบฝึกทักษะ 1.2 - ทักษะการระบุ 2. ใฝ่เรียนรู้
จ�ำนวนจริง คณิตศาสตร์ ม.5 และค่าหลักของรากที่ n Teaching - การน�ำเสนอผลงาน - ทักษะการ 3. มุ่งมั่น
- แบบฝึกหัด ของจ�ำนวนจริงได้ (K) - สังเกตพฤติกรรม เชื่อมโยง ในการท�ำงาน
2 รายวิชาพื้นฐาน 2. บอกสมบัติของรากที่ n การท�ำงานรายบุคคล - ทักษะกระบวน
ชั่วโมง คณิตศาสตร์ ม.5 ของจ�ำนวนจริงได้ (K) - สังเกตพฤติกรรม การคิดตัดสินใจ
- ใบงานที่ 1.1 3. หารากที่ n ของ การท�ำงานกลุ่ม - ทักษะการ
จ�ำนวนจริง และค่าหลัก - สังเกตความมีวินัย วิเคราะห์
ของรากที่ n ของ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ
จ�ำนวนจริงได้ (K) ท�ำงาน
4. เขียนจ�ำนวนจริงให้อยู่
ในรูปอย่างง่ายโดยใช้
สมบัติของรากที่ n
ของจ�ำนวนจริงได้ (P)
5. สื่อสาร สื่อความหมาย
ทางคณิตศาสตร์ และ
น�ำเสนอเกี่ยวกับ
รากที่ n ของจ�ำนวนจริง
ได้ (P)
6. รับผิดชอบต่อหน้าที่
ที่ได้รับมอบหมาย (A)
T2
แผนการจัด คุณลักษณะ
สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 3 - หนังสือเรียน 1. บอกสมบัติของรากที่ n Concept - ตรวจแบบฝึกทักษะ 1.2 - ทักษะการสังเกต 1. มีวินัย
การหาผลบวก รายวิชาพื้นฐาน ของจ�ำนวนจริงได้ (K) Based - ตรวจ Exercise 1.2 - ทักษะการระบุ 2. ใฝ่เรียนรู้
ผลต่าง ผลคูณ คณิตศาสตร์ ม.5 2. หาผลบวก ผลต่าง Teaching - การน�ำเสนอผลงาน - ทักษะการ 3. มุ่งมั่น
และผลหารของ - แบบฝึกหัด ผลคูณ และผลหาร - สังเกตพฤติกรรม เชื่อมโยง ในการท�ำงาน
จ�ำนวนจริงที่อยู่ รายวิชาพื้นฐาน ของจ�ำนวนจริงที่อยู่ การท�ำงานรายบุคคล - ทักษะการน�ำ
ในรูปกรณฑ์ คณิตศาสตร์ ม.5 ในรูปกรณฑ์ได้ (K) - สังเกตพฤติกรรม ความรู้ไปใช้
3. เขียนแสดงขั้นตอน การท�ำงานกลุ่ม - ทักษะการ
2 การหาผลบวก ผลต่าง - สังเกตความมีวินัย วิเคราะห์
ชั่วโมง ผลคูณ และผลหาร ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ
ของจ�ำนวนจริงที่อยู่ ท�ำงาน
ในรูปกรณฑ์ได้ (P)
4. รับผิดชอบต่อหน้าที่
ที่ได้รับมอบหมาย (A)
แผนฯ ที่ 4 - หนังสือเรียน 1. บอกสมบัติของ Concept - ตรวจใบงานที่ 1.2 - ทักษะการสังเกต 1. มีวินัย
เลขยกก�ำลังที่มี รายวิชาพื้นฐาน เลขยกก�ำลังที่มี Based - ตรวจแบบฝึกทักษะ 1.3 - ทักษะการระบุ 2. ใฝ่เรียนรู้
เลขชี้ก�ำลังเป็น คณิตศาสตร์ ม.5 เลขชี้กำ� ลังเป็นจ�ำนวน Teaching - ตรวจ Exercise 1.3 - ทักษะการ 3. มุ่งมั่น
จ�ำนวนตรรกยะ - แบบฝึกหัด ตรรกยะและน�ำไปใช้ได้ - การน�ำเสนอผลงาน เชื่อมโยง ในการท�ำงาน
รายวิชาพื้นฐาน (K) - ตรวจแบบฝึกทักษะ - ทักษะการน�ำ
4 คณิตศาสตร์ ม.5 2. น�ำความรู้ เรื่อง สมบัติ ประจ�ำหน่วยการเรียนรู้ ความรู้ไปใช้
ชั่วโมง - ใบงานที่ 1.2 ของเลขยกก�ำลัง ที่ 1 - ทักษะการให้
ที่มีเลขชี้กำ� ลังเป็น - ตรวจผังมโนทัศน์ เหตุผล
จ�ำนวนตรรกยะไปใช้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 - ทักษะการ
ในการแก้โจทย์ปัญหาได้ เลขยกก�ำลัง วิเคราะห์
(K) - สังเกตพฤติกรรม
3. เขีียนจ�ำนวนที่อยู่ในรูป การท�ำงานรายบุคคล
เลขยกก�ำลังให้อยู่ในรูป - สังเกตพฤติกรรม
กรณฑ์ และเขียน การท�ำงานกลุ่ม
จ�ำนวนที่อยู่ในรูปกรณฑ์ - สังเกตความมีวินัย
ให้อยู่ในรูปเลขยกก�ำลัง ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ
ได้ (P) ท�ำงาน
4. เขียนแสดงขั้นตอน
การแก้สมการ
เลขยกก�ำลังได้ (P)
5. เขียนแสดงขั้นตอน
การแก้โจทย์ปัญหา
โดยใช้ความรู้ เรื่อง
สมบัติของเลขยกก�ำลัง
ที่มีเลขชี้กำ� ลังเป็น
จ�ำนวนตรรกยะได้ (P)
6. รับผิดชอบต่อหน้าที่
ที่ได้รับมอบหมาย (A)
T3
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
T4
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
1
กําหนดขอบเขตของปญหา
หน่วยกำรเรียนรู้ที่
2. ครูใหนักเรียนยกตัวอยางการใชเลขยกกําลัง
ที่พบเห็นในชีวิตจริง
(แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย
ตามพื้นฐานความรู เชน การคํานวณดอกเบี้ย
เลขยกก�ำลัง ทบตน การเพิ่มจํานวนของแบคทีเรีย)
หมายเหตุ : ครูอาจใหนักเรียนทําแบบทดสอบ
1 พื้นฐานกอนเรียน โดยการสแกน QR Code
คาร์บอน-14 (C-14) เป็นธาตุกัมมันตรังสีที่
พบได้ในวัตถุต่าง ๆ เกือบทุกชนิดบนโลก ซึ่งมี ในหนังสือเรียน หนา 3
ประโยชน์ทางด้านธรณีวิทยา สามารถน�ามา
ค�านวณหาอายุของวัตถุโบราณ และอายุของ 2
ซากฟอสซิลต่าง ๆ ได้ โดยการใช้ค่าครึ่งชีวิต
ซึ่งค�านวณได้จากสูตร
N
Nเหลือ = เริ่มTต้น
2t 1
2
ตัวชี้วัด
• เข้าใจความหมายและใช้สมบัติเกี่ยวกับการบวก การคูณ
การเท่ากัน และการไม่เท่ากันของจ�านวนจริงในรูปกรณฑ์
และจ�านวนจริงในรูปเลขยกก�าลังที่มีเลขชี้ก�าลังเป็น
จ�านวนตรรกยะ (ค 1.1 ม.5/1)
สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
Recall
• รากที่n ของจ�านวนจริง
เมื่อ n เป็นจ�านวนนับที่มากกว่า 1
• เลขยกก�าลังที่มีเลขชี้ก�าลัง
เป็นจ�านวนตรรกยะ
T5
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
กําหนดขอบเขตของปญหา
3. ครูทบทวนความรู เรื่อง เลขยกกําลังที่มีเลข
ชี้กําลังเปนจํานวนเต็ม โดยครูกลาววา จาก
1.1 เลขยกก�ำลังทีม่ เี ลขชีก้ ำ� ลังเป็นจ�ำนวนเต็ม
บทนิยาม เรียก an วา เลขยกกําลัง เรียก a (Integer Indice)
วา ฐาน และเรียก n วา เลขชี้กําลัง จากนั้น
ครูยกตัวอยางเพิ่มเติมบนกระดาน แลวถาม
ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น นักเรียนเคยศึกษาเรื่องเลขยกก�าลังที่มีเลขชี้ก�าลังเป็น
จ�านวนเต็มมาแล้ว ในหัวข้อนี้นักเรียนจะได้ทบทวนความรู้เรื่องเลขยกก�าลังที่มีเลขชี้ก�าลังเป็น
คําถามนักเรียน ดังนี้
จ�านวนเต็ม ซึ่งมีบทนิยามและสมบัติของเลขยกก�าลัง ดังต่อไปนี้
• 23 มีฐานและเลขชี้กําลังเปนเทาใด
(แนวตอบ มี 2 เปนฐาน และมี 3 เปนเลข บทนิยาม ก�ำหนด a เป็นจ�ำนวนจริง และ n เป็นจ�ำนวนเต็มบวก
ชี้กําลัง) an = a • a • a • ... • a
• 20 มีคาเทากับเทาใด n ตัว
a0 = 1 เมื่อ a ≠ 0
(แนวตอบ 1)
a-n = 1n เมื่อ a ≠ 0
• 12 เขียนใหอยูในรูปเลขยกกําลังไดอยางไร a
(แนวตอบ 2-1)
4. ครูกลาวถึงสมบัติของเลขยกกําลัง จากนั้น จากบทนิยาม เรียก an ว่า เลขยกก�าลัง
เขียนสมบัติของเลขยกกําลังบนกระดาน แลว เรียก a ว่า ฐาน
สุ ม นั ก เรี ย นออกมายกตั ว อย า งจํ า นวนเต็ ม และเรียก n ว่า เลขชี้ก�าลัง
ที่สอดคลองกับสมบัติของเลขยกกําลัง โดย
เลขยกก�าลังที่มีเลขชี้ก�าลังเป็นจ�านวนเต็มมีสมบัติ ดังนี้
นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ขึน้ อยูก บั
พื้นฐานความรู ดังนี้
สมบัติ ก�ำหนด a, b เป็นจ�ำนวนจริงที่ไม่เท่ำกับศูนย์ และ m, n เป็นจ�ำนวนเต็ม
• am • an = am + n
1) am • an = am + n
(แนวตอบ 3 5 • 3 4 = 3 5 + 4 = 39)
2) (am)n = amn
• (am)n = amn
3) (ab)n = anbn
(แนวตอบ (5 3)-4 = 5 3 (-4) = 5 -12)
×
n
4) (ba ) = an
n
• (ab)n = anbn b
m
(แนวตอบ (-3 × 2)4 = (-3)42 4) 5) a n = am - n
a
n n
• ( a ) = an
b b
2
(แนวตอบ ( 34 ) = 3 2 )
2
m
4
• a n = am - n
a
6 4
(แนวตอบ 5-2 = 5 6 - (-2) = 5 8)
5
T6
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
แสดงและอธิบายทฤษฎี หลักการ
ตัวอยางที่ 1 1. ครูอธิบายถึงการเขียนจํานวนในรูปอยางงาย
ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำย เมื่อ a, b และ c เป็นจ�ำนวนจริงที่ไม่เท่ำกับศูนย์ เปนการจัดรูปของผลลัพธทไี่ ดจากการดําเนิน-
-2 4 -1 -3 การของเลขยกกําลังใหอยูในรูปเลขยกกําลัง
1) (ab2c-1)2 2) (a b3 c2 ) ที่มีเลขชี้กําลังเปนจํานวนเต็มบวก และฐาน
ab
2 -3 4 -1 -5
3) (a c4 ) ( c3 4 )
-2 -1
4) a --22a -1+ 1 ที่ เ ป น จํ า นวนเดี ย วกั น จะมี แ ค นิ พ จน เ ดี ย ว
b ab a -a จากนั้นครูถามคําถามนักเรียน ดังนี้
2 -1 2
วิธีท�ำ 1) (ab c ) 2 2 2 -1 2
= a (b ) (c ) ATTENTION
• (a-4)2 เขียนใหอยูในรูปอยางงายไดอยางไร
รูปอย่างง่าย เป็นการจัดรูป
= a2b4c-2 ของผลลั พ ธ์ ที่ ไ ด้ จ ากการ (แนวตอบ 18 )
ด�าเนินการของเลขยกก�าลัง a
2 4
=a b2 ให้อยู่ในรูปเลขยกก�าลังที่ • 3-2 3 เขียนใหอยูในรูปอยางงายไดอยางไร
-2 4 -1 -3
c
มี เ ลขชี้ ก� า ลั ง เป็ น จ� า นวน (a )
2) (a b3 c2 ) = (a-2 - 3b4 - 2c-1)-3 เต็ ม บวก และฐานที่ เ ป็ น (แนวตอบ 3a 6)
ab
= (a-5b2c-1)-3 1 ย วกั น จะมี แ ค่2
จ� า นวนเดี
นิพจน์เดียว เช่น a-3 × a
• 1-1 4 • a-3 เขียนใหอยูในรูปอยางงาย
(a )
= (a-5)-3(b2)-3(c-1)-3 เขียนให้อยู่ในรูปอย่างง่าย ไดอยางไร
ได้เป็น 12 (แนวตอบ a -3 • a 4 = a)
a
= a15b-6c3
15 3 จากนั้นครูยกตัวอยางที่ 1 ในหนังสือเรียน
=a 6c หนา 5-6 บนกระดาน แลวครูและนักเรียน
b
2 -3 4 -1 -5 2 4 -3 4 -1 -5 รวมกันอภิปรายการเขียนจํานวนในแตละขอ
3) ( a c4 ) ( c3 4 ) =(a ) (c4 4 ) • 3(c-5 ) 4 -5 ใหอยูในรูปอยางงาย พรอมทั้งเปดโอกาสให
b ab (b ) (a ) (b )
8 -12 5
นักเรียนซักถามเมื่อเกิดขอสงสัย
=a c16 • -15c -20
b a b
8 + 15 -12 + 5
=a 16c- 20
b
23 -7
=a -4c
b
23 4
=a 7b
c
เลขยกก�าลัง 5
T7
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
แสดงและอธิบายทฤษฎี หลักการ
2. ครูใหนกั เรียนศึกษาตัวอยางที่ 2 ในหนังสือเรียน -2 -1 (a-2 - 2a-1 + 1)(a2)
4) a --2 2a -1+ 1 =
หน า 6 จากนั้ น ครู ถ ามคํ า ถามนั ก เรี ย นว า a -a (a-2 - a-1)(a2)
จากตัวอยางที่ 2 นักเรียนจะใชสมบัติของ -2 + 2 -1 + 2
=a -2 -+ 22a -1 + +2 a
2
T8
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
ตรวจสอบและสรุป
n
แบบฝึกทักษะ 1.1 • (ba ) มีคาเทากับเทาใด
n
(แนวตอบ an )
ระดับพื้นฐาน b
a m
1. ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำย เมื่อ a, b และ c เป็นจ�ำนวนจริงที่ไม่เท่ำกับศูนย์ • n มีคาเทากับเทาใด
a
1) 25 • 30 • 2-4
7 -1
2) 35 • 2-3 (แนวตอบ a m - n)
3 •2
7 -5
4
3) 32 • 128 -2 4) 275 • 81-2 ฝกปฏิบตั ิ
3 •9
2 4 -4 -2
5) a b a b 6) (ab-7c5a-4b11c-3)-1 1. ครูใหนักเรียนจับคูทํากิจกรรม โดยใชเทคนิค
-2 3 -3 -5 -4 คูคิด (Think Pair Share) ดังนี้
7) ( -2c -1 ) 8) (a -5b 6 ) • ใหนักเรียนแตละคนคิดคําตอบของตนเอง
ab ac
-3 -1 8 5 -1 4 -3 -2 -1
9) (a b2 2c ) ( a2 b-1 ) 10) b -2+ 4b -1+ 4 จากแบบฝ ก ทั ก ษะ 1.1 ในหนั ง สื อ เรี ย น
bc ac b + 2b หนา 7
2. ให้หำค่ำของเลขยกก�ำลังต่อไปนี้ • ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อน เพื่อแลกเปลี่ยน
1) 53 • 24 • 10-2 2) 492 • 272 • 21-5 คําตอบกัน สนทนาซักถามจนเปนที่เขาใจ
6 -4 7 -20
3) 16 • 256 -5 4) 125 • 35-5 รวมกัน
128 2401
• ครูสุมนักเรียนออกมานําเสนอคําตอบหนา
ระดับกลาง ชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกตอง
3. ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำย เมื่อ a, b และ c เป็นจ�ำนวนจริงที่ไม่เท่ำกับศูนย์ 2. ครูใหนักเรียนทํา Exercise 1.1 เปนการบาน
6 4 3 -3 -2 -1
1) a 4 - a 2 + a 2) a + 3a-3 + 3a -2
+1
a -a +a a +a ขัน้ ประเมิน
5 4 n+2 -1 3
3) (a + 1)4 (a -2 1) 4) (a +-3b)2 • ab cn - 2 1. ครูตรวจแบบฝกทักษะ 1.1
(a - 1) a b (a + b)
2. ครูตรวจ Exercise 1.1
ระดับท้าทาย
3. ครูประเมินการนําเสนอผลงาน
4. ให้พิจำรณำว่ำข้อควำมต่อไปนี้เป็นจริงหรือเท็จ เพรำะเหตุใด 4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล
1) am • an = am + n 5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม
m
2) a n = am - n 6. ครูสังเกตความมีวินัย ใฝเรียนรู
a
-n n มุงมั่นในการทํางาน
3) (ab) =(ba)
4) ถ้า ax > 1 และ 0 < a < 1 แล้ว x > 0
เลขยกก�าลัง 7
= 3 (3 (3 ( 19 ) ))
-3 -1 คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับ
ระดับคะแนน
การมี
การทางาน
การแสดง การยอมรับฟัง ส่วนร่วมใน รวม
ลาดับ ชื่อ – สกุล ตามที่ได้รับ ความมีน้าใจ
ความคิดเห็น คนอื่น การปรับปรุง 20
ที่ ของนักเรียน มอบหมาย
ผลงานกลุ่ม คะแนน
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
= 3 (3 ( 13 ) )
-3 -1
= 3 • 3-1 • 3-3
เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
= 3-3 เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
1
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
=
10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรับปรุง
27
ดังนั้น คําตอบ คือ ขอ 3.)
T9
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
T10
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
3. ครู อ ธิ บ ายเพิ่ ม เติ ม ว า ในกรณี ทั่ ว ไปการหา
ในกรณีทั่วไป การหาค่ารากอันดับที่ต่าง ๆ ของจ�านวนจริงใด ๆ ได้มีการก�าหนดบทนิยามไว้
ดังนี้ ค า รากอั น ดั บ ที่ ต า งๆ ของจํ า นวนจริ ง ใดๆ
สามารถหาไดจากบทนิยาม ดังนี้
บทนิยาม ก�ำหนด x, y เป็นจ�ำนวนจริง และ n เป็นจ�ำนวนเต็มที่มำกกว่ำ 1 “กําหนด x, y เปนจํานวนจริง และ n เปน
y เป็นรำกที่ n ของ x ก็ต่อเมื่อ yn = x จํานวนเต็มที่มากกวา 1 y เปนรากที่ n ของ x
ก็ตอเมื่อ yn = x”
ตัวอยางที่ 3
4. ครูใหนกั เรียนศึกษาตัวอยางที่ 3 ในหนังสือเรียน
ให้หำค่ำของ หนา 9 จากนั้นครูอธิบายตัวอยางที่ 3 ซํ้า
1) รำกที่ 5 ของ -32 อีกครั้ง เพื่อใหนักเรียนเขาใจมากยิ่งขึ้น
2) รำกที่ 6 ของ 64
วิธีท�ำ 1) เนื่องจาก -32 = (-2)5 เขาใจ (Understanding)
ดังนั้น รากที่ 5 ของ -32 คือ -2 ครูใหนักเรียนทํา “ลองทําดู” ในหนังสือเรียน
2) เนื่องจาก 64 = 26 และ 64 = (-2)6 หนา 9 จากนั้นครูสุมนักเรียน 2 คน ออกมาเขียน
ดังนั้น รากที่ 6 ของ 64 คือ 2 และ -2 วิธีคิดบนกระดาน โดยครูตรวจสอบความถูกตอง
ลองทําดู
ให้หาค่าของ
ฝกทําตอ
1) รากที่ 5 ของ 243 แบบฝกทักษะ 1.2
2) รากที่ 6 ของ 729 ขอ 1(1)-(2)
2. คำหลักของรำกที ่ n ของจ�ำนวนจริง
(Principle nth Root of Real Numbers)
พิจารณาเลขยกก�าลังที่ก�าหนด
• (-4)3 = -64 รากที่สามของ -64 มีเพียงหนึ่งค่า คือ -4
เรียก -4 ว่าเป็นค่าหลักของรากที่สามของ -64
• (-2)4 = 16 และ 24 = 16 รากที่สี่ของ 16 มีสองค่า คือ -2 กับ 2
เรียก 2 ว่าเป็นค่าหลักของรากที่สี่ของ 16
• (-1)5 = -1 รากที่ห้าของ -1 มีเพียงหนึ่งค่า คือ -1
เรียก -1 ว่าเป็นค่าหลักของรากที่ห้าของ -1
เลขยกก�าลัง 9
T11
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
1. ครูเขียนโจทยบนกระดาน เชน
นักเรียนจะเห็นว่า ค่าหลักของรากที่ n ของจ�านวนจริงใด ๆ มีเพียงหนึ่งค่าเท่านั้น ซึ่งอาจจะ
1) รากที่ 3 ของ -64 คือ -4
เป็นจ�านวนบวกหรือจ�านวนลบ ดังบทนิยามต่อไปนี้
2) รากที่ 4 ของ 16 คือ -2 และ 2
3) รากที่ 5 ของ -1 คือ -1 บทนิยาม ให้ x และ y เป็นจ�ำนวนจริง และ n เป็นจ�ำนวนเต็มที่มำกกว่ำ 1 y เป็นค่ำหลักของรำกที่ n
แลวถามคําถาม ดังนี้ ของ x ที่เขียนแทนด้วย n x ก็ต่อเมื่อ
• ขอใดบางที่มีรากเปนอันดับคู และคําตอบ 1) y เป็นรำกที่ n ของ x
2) xy ≥ 0
ในแตละขอมีกี่คา
ส�ำหรับ n x อ่ำนว่ำ กรณฑ์ที่ n ของ x หรือ ค่ำหลักของรำกที่ n ของ x
(แนวตอบ ขอ 2) มีรากที่ 4 เปนรากอันดับคู
และมีคําตอบ 2 คา คือ -2 และ 2)
จากบทนิยามอาจกล่าวได้ว่า ถ้า y เป็นค่าหลักของรากที่ n ของ x แล้ว xy จะมีผลคูณ
• ขอใดบางที่มีรากเปนอันดับคี่ และคําตอบ
เป็นจ�านวนบวกหรือศูนย์
ในแตละขอมีกี่คา
(แนวตอบ ขอ 1) และขอ 3) มีรากที่ 3 และ เช่น ค่าหลักของรากที่ 3 ของ -8 คือ 3 -8 หรือ -2
รากที่ 5 เปนรากอันดับคี่ และมีคําตอบ เพราะว่า (-8) × (-2) > 0
เพียงคาเดียว คือ -4 และ -1 ตามลําดับ) ค่าหลักของรากที่ 4 ของ 81 คือ 4 81 หรือ 3
จากนั้ น ครู ส รุ ป ว า รากอั น ดั บ คู ที่ มี คํ า ตอบ เพราะว่า 81 × 3 > 0
สองคาจะมีคาหลักเพียงคาเดียวเทานั้น คือ ค่าหลักของรากที่ 5 ของ -15 คือ 5 -15
คาที่เปนบวก นั่นคือ คาหลักของรากที่ 4
เพราะว่า -15 × 5 -15 > 0
ของ 16 คือ 2 และรากอันดับคี่ที่มีคําตอบ
เพียงคาเดียว ซึ่งคําตอบที่ไดจะเปนคาหลัก ในกรณีทั่วไปมีข้อสรุปเกี่ยวกับค่าหลักของรากที่ n ของจ�านวนจริง x หรือ n x ดังนี้
ของราก นั่นคือ คาหลักของรากที่ 3 ของ -64 1. ถ้า x = 0 แล้ว n x = 0
คือ -4 และคาหลักของรากที่ 5 ของ -1 คือ -1 2. ถ้า x > 0 แล้ว n x เป็นจ�านวนจริงบวก
2. ครูใหนักเรียนเขียนบทนิยามคาหลักของราก 3. ถ้า x < 0 และ n เป็นจ�านวนคี่ แล้ว n x เป็นจ�านวนจริงลบ
ที่ n ลงในสมุด จากหนังสือเรียน หนา 10 แลว
ยกตัวอยางบนกระดาน เพื่อใหสอดคลองกับ ATTENTION
บทนิยามดังกลาว
1. สัญลักษณ์ เรียกว่า เครื่องหมายกรณฑ์ (radical sign)
3. ครูอธิบาย เรื่อง สัญลักษณของเครื่องหมาย
2. รากที่ n เมื่อ n เป็นจ�านวนเต็มที่มากกว่า 1 เขียนแทนด้วย n และเรียก n ว่า อันดับที่
กรณฑ ที่ ใ ช แ สดงอั น ดั บ รากของจํ า นวนจริ ง หรือดัชนี (index) ของกรณฑ์
จาก ATTENTION ในหนังสือเรียน หนา 10 3. กรณี กรณฑ์ที่ 2 (n = 2) เขียนแทนด้วย
10
T12
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
ตัวอยางที่ 4 4. ครูเขียนตัวอยางที่ 4 ในหนังสือเรียน หนา 11
ให้หำค่ำของ บนกระดาน และอธิบายวิธีทําอยางละเอียด
1) 4 16 2) 5 -243 เพื่อเนนยํ้าใหนักเรียนเขาใจ
วิธีท�ำ 1) เนื่องจาก 24 = 16 และ 2 × 16 > 0 เขาใจ (Understanding)
ดังนั้น 4 16 = 2 1. ครูใหนักเรียนจับคูทํา “ลองทําดู” ในหนังสือ-
2) เนื่องจาก (-3)5 = -243 และ (-3) × (-243) > 0 เรียน หนา 11 แลวตรวจสอบคําตอบกับคู
ดังนั้น 5 -243 = -3 ของตนเอง โดยครูตรวจสอบความถูกตอง
2. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกทักษะ 1.2 ขอ 1
ลองทําดู ในหนังสือเรียน หนา 21 เปนการบาน
ให้หาค่าของ ฝกทําตอ
รู (Knowing)
1) 4 625 32
2) 5 243 แบบฝกทักษะ 1.2
ขอ 1(3)-(6), 6 1. ครูเฉลยการบาน โดยสุมนักเรียนออกมาเขียน
วิ ธีทํ า บนกระดาน โดยครู ต รวจสอบความ
ตัวอยางที่ 5 ถูกตอง
ให้หำค่ำประมำณของ 3 63 2. ครูกลาวทบทวนเกีย่ วกับรากที่ n ของจํานวนจริง
วิธีท�ำ ขั้นที่ 1 หาจ�านวนเต็มที่ยกก�าลังสามแล้วใกล้เคียงกับ 63 มากที่สุด และคาหลักของรากที่ n ของจํานวนจริง ดังนี้
เนื่องจาก 33 < 63 < 43 - การหาคารากอันดับทีต่ า งๆ ของจํานวนจริง
3 27 = 3 และ 3 64 = 4 ใดๆ สามารถหาได จ ากบทนิ ย าม ดั ง นี้
ดังนั้น 3 63 มีค่าประมาณมากกว่า 3 แต่ไม่ถึง 4 กําหนด x, y เปนจํานวนจริง และ n เปน
ขั้นที่ 2 ประมาณค่าของ 3 63 จํานวนเต็มที่มากกวา 1 y เปนรากที่ n
พิจารณาจาก 3.1, 3.2, 3.3, ..., 3.9 จะได้ว่า (3.9)3 = 59.319 ของ x ก็ตอเมื่อ yn = x
ดังนั้น 3 63 มีค่าประมาณมากกว่า 3.9 แต่ไม่ถึง 4 - จํ า นวนจริ ง y เป น ค า หลั ก ของรากที่ n
พิจารณาจาก 3.91, 3.92, 3.93, ..., 3.99 ของ x เขียนแทนดวย n x ก็ตอเมื่อ y เปน
เนื่องจาก (3.95)3 ≈ 61.630 รากที่ n ของ x และ xy ≥ 0
(3.96)3 ≈ 62.099
เขาใจ (Understanding)
(3.97)3 ≈ 62.571
(3.98)3 ≈ 63.045 1. ครูใหนักเรียนสุมตัวเลขที่ยกกําลังสามแลว
ดังนั้น 3.98 เป็นค่าประมาณของ 3 63 ใกลเคียงกับ 63 มากทีส่ ดุ โดยตอบเปนทศนิยม
สองตําแหนง จากนั้นครูยกตัวอยางที่ 5 ใน
หนังสือเรียน หนา 11 บนกระดาน แลวอธิบาย
เลขยกก�าลัง 11
การหาคาประมาณของ 3 63 แตละขั้นตอน
อยางละเอียด
ขัน้ สอน
เขาใจ (Understanding)
2. ครูใหนักเรียนจับคูทํา “ลองทําดู” ในหนังสือ- ลองทําดู
ฝกทําตอ
เรียน หนา 12 และแบบฝกทักษะ 1.2 ขอ 2. ให้หาค่าประมาณของ 3 8.1 แบบฝกทักษะ 1.2 ขอ 2
ในหนังสือเรียน หนา 21 จากนั้นใหตรวจสอบ
คํ า ตอบกั บ คู ข องตนเอง โดยครู ต รวจสอบ
ความถูกตอง Journal Writing
3. ครูใหนักเรียนจับคูทํากิจกรรม โดยใชเทคนิค ตะวันแสดงวิธีหาค�าตอบจากตัวอย่างที่ 5 ดังนี้
คูคิด (Think Pair Share) ดังนี้ เนื่องจาก 3 27 = 3 และ 3 64 = 4
• ใหนักเรียนแตละคนคิดคําตอบของตนเอง ดังนั้น 3 63 มีค่าประมาณมากกว่า 3 แต่ไม่ถึง 4
3
กอน จากกิจกรรม Journal Writing ใน เนื่องจาก (3 +2 4) = (3.5)3 = 42.875
หนังสือเรียน หนา 12 ดังนั้น 3 63 มีค่าประมาณมากกว่า 3.5 แต่ไม่ถึง 4
• ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อน เพื่อแลกเปลี่ยน 3
เนื่องจาก (3.52+ 4) = (3.75)3 ≈ 52.734
คําตอบกัน สนทนาซักถามซึ่งกันและกัน
ดังนั้น 3 63 มีค่าประมาณมากกว่า 3.75 แต่ไม่ถึง 4
จนเปนที่เขาใจรวมกัน 3
เนื่องจาก (3.752 + 4) = (3.875)3 ≈ 58.186
• ครูสุมถามนักเรียน แลวใหนักเรียนรวมกัน
อภิปรายคําตอบ ดังนี้ ดังนั้น 3 63 มีค่าประมาณมากกว่า 3.875 แต่ไม่ถึง 4
3
- จากกิจกรรม Journal Writing วิธีการ เนื่องจาก ( 3.8752 + 4 ) = (3.9375)3 ≈ 61.047
หาคําตอบของตะวันมีการแบงชวงอยางไร ดังนั้น 3 63 มีค่าประมาณมากกว่า 3.9375 แต่ไม่ถึง 4
(แนวตอบ แบงชวงจํานวนที่พิจารณาออก 3
เนื่องจาก ( 3.93752 + 4 ) = (3.96875)3 ≈ 62.512
เปน 2 ชวง) ดังนั้น 3 63 มีค่าประมาณมากกว่า 3.96875 แต่ไม่ถึง 4
- นั ก เรี ย นคิ ด ว า วิ ธีใ ดที่ ใ ห คํ า ตอบที่ เ ร็ ว + 4 )3 = (3.984375)3 ≈ 63.253
เนื่องจาก ( 3.96875
กวากัน เพราะเหตุใด 2
(แนวตอบ วิธจี ากตัวอยางที่ 5 จะใหคาํ ตอบ ดังนั้น 3 63 มีค่าประมาณมากกว่า 3.96875 แต่ไม่ถึง 3.984375
3
ที่เร็วกวา เพราะมีการแบงชวงที่พิจารณา เนื่องจาก ( 3.96875 +2 3.984375 ) = (3.9765625)3 ≈ 62.882
มากกวา 2 ชวง) ดังนั้น 3.9765625 ≈ 3.98 เป็นค่าประมาณของ 3 63
นักเรียนเห็นด้วยกับวิธีการหาค�าตอบของตะวันหรือไม่ เพราะเหตุใด
4. ครูใหนักเรียนตรวจสอบคาประมาณของ 3 63
โดยใชเครื่องคิดเลขจาก IT CORNER
IT CORNER
นักเรียนสามารถใช้เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ตรวจสอบค่าประมาณ 3 63 โดยกดปุม
เฉลย Journal Writing 3 6 3 =
เห็นดวย เพราะเปนการหาคาประมาณทีม่ กี าร
12
แบงชวงจํานวนที่พิจารณาออกเปน 2 ชวง แตอาจ
จะไดผลลัพธที่ชากวาวิธีในตัวอยางที่ 5
T14
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
1. ครูใหนักเรียนศึกษากิจกรรม Investigation
Investigation
ในหนังสือเรียน หนา 13 แลวตอบคําถามจาก
ให้นักเรียนตอบค�ำถำมต่อไปนี้ กิจกรรม
1. ให้พิจารณาข้อความต่อไปนี้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ 2. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป ราย เพื่ อ ตอบ
1) 16 + 9 = 16 + 9 2) 16 - 9 = 16 - 9 คําถามจากกิจกรรม Investigation จนสามารถ
3) 16 × 9 = 16 × 9 4) 169 = 16 สรุปเปนสมบัติของรากที่ n ของจํานวนจริง
9
2. จากข้อ 1. ให้นักเรียนพิสูจน์ข้อความที่เป็นจริงส�าหรับกรณีจ�านวนจริงใด ๆ ใดๆ ในหนังสือเรียน หนา 13
3. ให้หาค่าของ a × a 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมบัติของรากที่ n
ของจํานวนจริง จาก ATTENTION ดังนี้
a+b a+ b
จาก Investigation นักเรียนสามารถสรุปเป็นสมบัติได้ ดังนี้ a-b a- b
สมบัติ ให้ a ≥ 0 และ b ≥ 0 จะได้ เมื่อ a และ b > 0
1. ab = a • b
ATTENTION เชน 4 + 5 4 + 5
กรณีที่ a = b จะได้ว่ำ a • a = a a+b ≠ a+ b 4. ครูถามคําถามวา นักเรียนสามารถยกตัวอยาง
หรือ ( a )2 = a2 = a a-b ≠ a- b ในกรณีที่ a + b = a + b ไดหรือไม
เมื่อ a และ b > 0 (แนวตอบ ได เชน ให a = 1 และ b = 0 จะได
2. ba = a เมื่อ b ≠ 0
b
1 + 0 = 1 + 0)
จากสมบัติข้างต้น สามารถน�ามาเขียนเป็นสมบัติของรากที่ n ในกรณีทั่วไปได้ ดังนี้
สมบัติ สมบัติของรากที่ n
ให้ a และ b เป็นจ�ำนวนจริงที่มีรำกที่ n และ n เป็นจ�ำนวนเต็มที่มำกกว่ำ 1
1. (n a )n = a เมื่อ n a เป็นจ�ำนวนจริง
a เมื่อ a ≥ 0
n n a เมื่อ a < 0 และ n เป็นจ�ำนวนคี่บวก
2. a =
∙a∙ เมื่อ a < 0 และ n เป็นจ�ำนวนคู่บวก
n
3. ab = n a • n b
n
4. n ba = n a เมื่อ b ≠ 0
b
เลขยกก�าลัง 13
เฉลย Investigation
ขอ 1. 1) เปนเท็จ เพราะ 16 + 9 16 + 9 ขอ 2.
25 4+3 จากขอ 3) ให a ≥ 0 และ b ≥ 0 จากขอ 4) ให a ≥ 0 และ b ≥ 0
5 7 จาก ab = a• b a a
จาก b = b
2) เปนเท็จ เพราะ 16 - 9 16 - 9 ( ab)2 = ( a • b)2 2 2
7 1 ab = ( a • b)( a • b) ( ba ) = ( ba )
3) เปนจริง เพราะ 16 × 9 = 16 × 9 ab = ( a • a )( b • b)
144 = 4 × 3 ab = a 2 • b2 a = a• a
b b b
12 = 12 ab = ab
a = a2
16 = 16 b 2
b
4) เปนจริง เพราะ 9 9 a a
b = b
(43) = 169
2
4 = 4 ขอ 3. เนื่องจาก a2 = a × a = ( a )2 = a
3 3 ดังนั้น a × a = a
T15
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
เขาใจ (Understanding)
1. ครูเขียนตัวอยางที่ 6 ในหนังสือเรียน หนา 14
นักเรียนสามารถน�าสมบัติของรากที่ n ไปใช้ในการจัดรูปของกรณฑ์ให้อยู่ในรูปอย่างง่าย
บนกระดาน แลวอธิบายวา ในแตละขอใช
ดังตัวอย่างต่อไปนี้
สมบัติของรากที่ n สมบัติใดในการหาคําตอบ
2. ครูใหนักเรียนทํา “ลองทําดู” ในหนังสือเรียน ตัวอยางที่ 6
หนา 14 และแบบฝกทักษะ 1.2 ขอ 3. ขอ 1)-3) ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำย
ในหนังสือเรียน หนา 22 แลวสุมนักเรียน 1) 2 • 8 2) 18
ออกมาเฉลยวิธีคิดบนกระดาน โดยครูและ 3) 3 81 • 4 81 4) 5 64 ÷ 5 2
นักเรียนรวมกันตรวจสอบความถูกตอง
วิธีท�ำ 1) 2 • 8 = 2 × 8 = 16 = 4
ลงมือทํา (Doing) 2) 18 = 9×2 = 9• 2 = 32
ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน โดย 3) 81 • 81 = 3 27 × 3 • 4 34
3 4
คละความสามารถทางคณิตศาสตร ทําใบงาน = 3 33 × 3 • 4 34
ที่ 1.1 เรื่อง รากที่ n ของจํานวนจริง แลวให = 33 3 × 3
ตรวจสอบคํ า ตอบของตนเองกั บ เพื่ อ นในกลุ ม = 93 3
จากนั้ น ให ส ง ตั ว แทนกลุ ม ออกมาแสดงวิ ธีคิ ด 4) 5 64 ÷ 5 2 = 5 32 × 2 ÷ 5 2
หน า ชั้ น เรี ย น โดยมี ค รู ค อยตรวจสอบความ = 5 25 × 2 ÷ 5 2
= 25 2 ÷ 5 2
ถูกตอง
= 2
ขัน้ สรุป
ลองทําดู
ครูใหนกั เรียนสรุปความรูร วบยอด เรือ่ ง รากที่ n
ของจํานวนจริง ลงในสมุด ให้เขียนจ�านวนต่อไปนี้ในรูปอย่างง่าย
ฝกทําตอ
1) 27 • 3 2) 12 แบบฝกทักษะ 1.2
5 3
3) 32 • 32 4) 4 10000 ÷ 3 1000
ขัน้ ประเมิน ขอ 3(1)-(3)
1. ครูตรวจใบงานที่ 1.1
2. ครูตรวจสอบแบบฝกทักษะ 1.2 3. กำรหำผลบวกและผลตำงของจ�ำนวนจริงทีอ่ ยูใ นรูปกรณฑ
3. ครูประเมินการนําเสนอผลงาน (Addition and Subtraction of Radicals)
4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล นักเรียนสามารถหาผลบวกและผลต่างของจ�านวนที่มีเครื่องหมายกรณฑ์อันดับเดียวกัน
5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม และมีจ�านวนภายในกรณฑ์เป็นจ�านวนเดียวกันได้ดังตัวอย่างต่อไปนี้
6. ครูสังเกตความมีวินัย ใฝเรียนรู
มุงมั่นในการทํางาน 14
3
49
คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับ
•
5
ระดับคะแนน
3
ลาดับ
ที่
ชื่อ – สกุล
ของนักเรียน
การแสดง การยอมรับฟัง
ความคิดเห็น คนอื่น
การทางาน
ตามที่ได้รับ
มอบหมาย
ความมีน้าใจ
การมี
ส่วนร่วมใน
การปรับปรุง
ผลงานกลุ่ม
รวม
20
คะแนน
7 5 7
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
= 4 • 5 • 3 49
7
3
ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
............/................./................
= 20 7
ดังนั้น คําตอบ คือ ขอ 2.)
เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรับปรุง
T16
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
T17
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
1. ครูกลาววา นอกจากการหาผลบวกและผลตาง
4. กำรหำผลคูณและผลหำรของจ�ำนวนจริงทีอ่ ยูใ นรูปกรณฑ
ของจํานวนจริงที่อยูในรูปกรณฑแลว นักเรียน (Multiplication and Division of Radicals)
ยังสามารถหาผลคูณและผลหารของจํานวนจริง
กรณฑ์ที่จะน�ามาหาผลคูณและผลหาร จะต้องมีอันดับของกรณฑ์ที่เท่ากันก่อน โดยใช้สมบัติ
ที่อยูในรูปกรณฑได โดยมีเงื่อนไขวา จะตองมี
ของรากที่ n ดังตัวอย่างต่อไปนี้
อันดับของกรณฑท่ีเทากันกอน แลวใชสมบัติ
ตัวอยางที่ 8
ของรากที่ n จากนัน้ ครูยกตัวอยางบนกระดาน
แลวถามคําถาม ดังนี้ ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำย
• 2 • 4 • 8 กรณฑที่จะนํามาคูณกันมี 1) 2 • 3 • 6 2) 3 15 • 3 25 • 3 9
เครื่องหมายกรณฑอันดับเดียวกันหรือไม 3
3) 3-160
5
4) 5128
(แนวตอบ มีเครือ่ งหมายกรณฑอนั ดับเดียวกัน 20 4
คือ อันดับสอง) วิธีท�ำ 1) 2 • 3 • 6 = 2×3×6
3
• 625 3 กรณฑที่จะนํามาหารกันมี = 6×6
5 = 6
เครื่องหมายกรณฑอันดับเดียวกันหรือไม
2) 3 15 • 3 25 • 3 9 = 3 3 × 5 • 3 5 × 5 • 3 3 × 3
(แนวตอบ มีเครือ่ งหมายกรณฑอนั ดับเดียวกัน
= 3 5×5×5•3 3×3×3
คือ อันดับสาม)
= 5×3
2. ครูอธิบายเพิม่ เติมวา การหาผลคูณและผลหาร = 15
ของจํานวนจริงทีอ่ ยูใ นรูปกรณฑ สามารถหาคา
= 3 -160
3
ได โดยใชสมบัติของรากที่ n ดังนี้ ให a และ 3) 3-160 20
20
b เปนจํานวนจริงที่มีรากที่ n และ n เปน = 3 -8
จํานวนเต็มที่มากกวา 1 = -2
1. n ab = n a • n b
= 5 128
5
4) 5128 4
2. n
a = na เมื่อ b 0 4
b n b = 5 32
3. ครูสุมนักเรียนออกมาแสดงวิธีหาผลลัพธของ = 2
ตัวอยางขางตน
(แนวตอบ 2 • 4 • 8 = 2 × 4 × 8 ลองทําดู
= 2×2×2×2×2×2 = 8 ให้เขียนจ�านวนต่อไปนี้ในรูปอย่างง่าย
= 3 625
3
= 625 3 5 = 3 125 = 5) 1) 15 • 5 • 3 2) 3 6 • 3 4 • 3 9 ฝกทําตอ
5 3
3) 3 270
5
4) 2048 แบบฝกทักษะ 1.2
4. ครูใหนกั เรียนศึกษาตัวอยางที่ 8 ในหนังสือเรียน 10 52 ขอ 3(4)-(6)
16
หนา 16 จากนั้นครูอธิบายตัวอยางที่ 8 อีกครั้ง
เพื่อใหนักเรียนเขาใจมากยิ่งขึ้น
ขัน้ สอน
เขาใจ (Understanding)
ครูใหนักเรียนทํา “ลองทําดู” ในหนังสือเรียน
ตัวอยางที่ 9
หนา 16 และแบบฝกทักษะ 1.2 ขอ 3. 4)-6) แลว
ให้หำผลลัพธ์ของ PROBLEM ครูสุมนักเรียนออกมาเฉลยคําตอบบนกระดาน
SOLVING TIP
1) (3 + 2)(4 - 2) 2) ( 3 + 1)2 โดยครูตรวจสอบความถูกตอง
นักเรียนสามารถหาผลลัพธ์
วิธีท�ำ 1) (3 + 2)(4 - 2) = 12 - 3 2 + 4 2 - 2 โดยคูณตามลูกศร ดังรูป
รู (Knowing)
= 10 + 2
2) ( 3 + 1) 2
= 3+23+1 (3 + 2)(4 - 2) ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางที่ 9 ในหนังสือ-
= 4+23 เรียน หนา 17 จากนั้นสุมนักเรียนออกมาแสดง
วิธีหาผลลัพธในแตละขอ แลวครูอธิบายตัวอยาง
ลองทําดู ที่ 9 ซํ้าอีกครั้ง เพื่อใหนักเรียนเขาใจมากยิ่งขึ้น
ให้หาผลลัพธ์ของ เขาใจ (Understanding)
2 ฝกทําตอ
1) (7 + 2 3)(5 - 3) 2) (4 - 3 2) แบบฝกทักษะ 1.2 1. ครูใหนักเรียนจับคูแลวทํากิจกรรมดังนี้
3) (3 + 2 5)(3 - 2 5) 4) (3 6 + 4 2)2 ขอ 5(9)-(12) • ใหนักเรียนทํา “ลองทําดู” ในหนังสือเรียน
หนา 17 และแบบฝกทักษะ 2.1 ขอ 5. 9)-12)
Class Discussion ในหนังสือเรียน หนา 22
• ใหนกั เรียนทํากิจกรรม Class Discussion ใน
ให้นักเรียนจับคู่ แล้วช่วยกันตอบค�ำถำมต่อไปนี้
1. จากลองท�าดูใต้ตัวอย่างที่ 9 ข้อ 1), 2) และ 4) ผลคูณของจ�านวนอตรรกยะ 2 จ�านวน หนังสือเรียน หนา 17 แลวตอบคําถามจาก
เป็นจ�านวนอตรรกยะหรือไม่ และจากข้อ 3) ผลคูณของจ�านวนอตรรกยะ 2 จ�านวน กิจกรรมในแตละขอ
เป็นจ�านวนตรรกยะหรือไม่ และมีรูปแบบของผลคูณเป็นอย่างไร 2. ครูขออาสาสมัครนักเรียนออกมาแสดงวิธีการ
2. จากรูปแบบในข้อ 1. นักเรียนคิดว่าเงื่อนไขใดที่ท�าให้ผลคูณของจ�านวนอตรรกยะ หาผลลัพธของ “ลองทําดู” และแบบฝกทักษะ
2 จ�านวน เป็นจ�านวนตรรกยะ 2.1 ในแตละขอ จากนั้นครูสุมนักเรียนตอบ
คําถามกิจกรรม Class Discussion
จาก Class Discussion จะเห็นว่า ผลคูณของจ�านวนอตรรกยะ 2 จ�านวน ที่อยู่ในรูปการคูณ 3. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปกิจกรรมวา ผลคูณ
ของ (p + q a)(p - q a) จะได้ผลลัพธ์เป็นจ�านวนตรรกยะ ซึ่งจะเรียก p + q a ว่าเป็น สังยุค ของจํานวนอตรรกยะ 2 จํานวน ที่อยูในรูป
(conjugate) ของ p - q a และจะได้ว่า p - q a เป็นสังยุคของ p + q a ด้วย การคูณของ (p + q a)(p - q a ) จะได
ผลลัพธเปนจํานวนตรรกยะ ซึ่งเรียก p + q a
ให้ p, q และ a เป็นจ�านวนตรรกยะ โดยที่ a > 0 จะได้ว่า (p + q a) และ (p - q a)
วาเปน สังยุค ของ p - q a และจะไดวา
เป็นสังยุคซึ่งกันและกัน p - q a เปนสังยุคของ p + q a ดวย ดังนั้น
ATTENTION เมื่อ p, q และ a เปนจํานวนตรรกยะ โดยที่
จากสังยุคที่กล่าวมาข้างต้น ถ้า a = 0 แล้วจะได้จ�านวนตรรกยะ
a > 0 จะไดวา (p + q a) และ (p - q a )
จ�านวนเดียว คือ p นั่นคือ p + q 0 = p หรือ p - q 0 = p
เปนสังยุคซึ่งกันและกัน ถา a = 0 จะได
เลขยกก�าลัง 17 จํานวนตรรกยะจํานวนเดียวกัน คือ p นั่นคือ
p + q 0 = p หรือ p - q 0 = p
T19
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
1. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางที่ 10 ในหนังสือ-
จากที่กล่าวมาข้างต้น นักเรียนสามารถเขียนจ�านวนให้อยู่ในรูปที่ตัวส่วนไม่ติดกรณฑ์ได้
เรียน หนา 18 การเขียนจํานวนใหอยูในรูป
ดังตัวอย่างต่อไปนี้
อยางงายและตัวสวนไมติดกรณฑ โดยแนะนํา
ตัวอยางที่ 10
ใหนักเรียนดูกรอบ PROBLEM SOLVING TIP
เพื่อชวยในการทําโจทย ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำยและตัวส่วนไม่ติดกรณฑ์
2. ครูอธิบายตัวอยางที่ 11 บนกระดานอยาง 1) 6 2) 7
2 2+ 3
ละเอียด เพื่อใหนักเรียนเขาใจโจทยที่ตองใช วิธีท�ำ 1) 6 = 6• 2
2 2 2
สังยุคในการหาคําตอบ แลวสามารถใชสังยุค
ในการประยุกตใชกบั โจทยอนื่ ๆ ไดดงั ตัวอยาง = 622 = 3 2
ที่ 12-14 จากนั้นครูถามคําถามนักเรียนดังนี้ 2) 7 = 7 • 22 -- 33
2+ 3 2+ 3
• นักเรียนสามารถเขียน 12 ใหอยูในรูปที่ PROBLEM
3 = 7(2 - 3) SOLVING TIP
ตัวสวนไมติดกรณฑไดอยางไร 22 - ( 3)2
2 + 3 และ 2 - 3
(แนวตอบ 12 = 12 • 3 = 12 33 = 4 3 ) = 144 -- 73 3 เป็นสังยุคซึ่งกันและกัน
3 3 3
• สังยุคของ 5 + 3 เปนจํานวนใด = 14 - 7 3
(แนวตอบ สังยุคของ 5 + 3 คือ 5 - 3 )
ลองทําดู
• นักเรียนสามารถใชวิธีใดในการแยก
ตัวประกอบของ (3 - 5 )2 ให้เขียนจ�านวนต่อไปนี้ในรูปอย่างง่ายและตัวส่วนไม่ติดกรณฑ์ ฝกทําตอ
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
ลองทําดู 3. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางที่ 12 ในหนังสือ-
ฝกทําตอ
จัดรูป (2 + 5)2 + 8 ให้อยู่ในรูปของ a + b 5 แบบฝกทักษะ 1.2 ขอ 8
เรียน หนา 19 จากนั้นครูอธิบายอยางละเอียด
3- 5 อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเนนยํ้าใหนักเรียนเขาใจมาก
ยิ่งขึ้น
ตัวอยางที่ 12
4. ครูยกตัวอยางเพิม่ เติม โดยใหนกั เรียนแสดงวิธี
ก�ำหนดสมกำร x 12 = x 7 + 3 มีค�ำตอบของสมกำร คือ p +5 q หาคาของ y ที่ตัวสวนไมติดกรณฑ ดังนี้
เมื่อ p และ q เป็นจ�ำนวนเต็มใด ๆ ให้หำค่ำของ p และ q
• y 27 = y 6 + 3
วิธีท�ำ x 12 = x 7 + 3 (แนวตอบ y 27 = y 6 + 3
x 12 - x 7 = 3 y 27 - y 6 = 3
x ( 12 - 7) = 3 y( 27 - 6) = 3
x = 3 y = 3
12 - 7 27 - 6
x = 3 • 12 + 7 = 3 • 27 + 6
12 - 7 12 + 7
27 - 6 27 + 6
x = 3 ( 12 + 7)
= 3( 27 + 6)
( 12)2 - ( 7)2 ( 27)2 - ( 6)2
x = 3612+- 721 = 8127+- 618
x = 6 +5 21 = 9 +213 2 = 3 +7 2 )
ดังนั้น จะได้ p = 6 และ q = 21
เขาใจ (Understanding)
ลองทําดู 1. ครูใหนักเรียนจับคูทํากิจกรรม โดยใชเทคนิค
ก�าหนดสมการ x 8 = x 6 + 2 มีค�าตอบของสมการ คือ p + q ฝกทําตอ คูคิด (Think Pair Share) ดังนี้
เมื่อ p และ q เป็นจ�านวนเต็มใด ๆ ให้หาค่าของ p และ q แบบฝกทักษะ 1.2 ขอ 13 • ใหนักเรียนแตละคนคิดคําตอบของตนเอง
จาก “ลองทําดู” ในหนังสือเรียน หนา 18-19
ตัวอยางที่ 13 • ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อน เพื่อแลกเปลี่ยน
รูปสำมเหลีย่ มรูปหนึง่ มีพนื้ ที่ 3 - 2 ตำรำงเมตร มีควำมยำวฐำน คําตอบกัน สนทนาซักถามจนเปนที่เขาใจ
2 - 1 เมตร ให้หำควำมสูงของรูปสำมเหลีย่ มนี้ และตอบในรูป รวมกัน
ของ a + b 2 เมตร เมื่อ a และ b เป็นจ�ำนวนตรรกยะใด ๆ • ครูสุมนักเรียนออกมานําเสนอคําตอบหนา
2 - 1 ม. ชั้ น เรี ย น โดยครู แ ละนั ก เรี ย นในชั้ น เรี ย น
รวมกันตรวจสอบความถูกตอง
เลขยกก�าลัง 19
2. ครูใหนกั เรียนทําแบบฝกทักษะ 1.2 ในหนังสือ-
เรียน หนา 22-23 ขอ 7.-8. เปนการบาน
ขอสอบเนน การคิด
ให a เปนจํานวนจริง ซึ่ง a, a + 3 และ a + 5 เปนความยาวดานทั้งสามของรูปสามเหลี่ยมมุมฉากรูปหนึ่ง
พื้นที่ของรูปสามเหลี่ยมมุมฉากรูปนี้ เทากับขอใด
1. 15 + 7 5 ตารางหนวย 2. 15 + 3 5 ตารางหนวย 3. 10 + 3 5 ตารางหนวย 4. 15 + 5 ตารางหนวย
(เฉลยคําตอบ หาความยาวดานของรูปสามเหลี่ยมแตละดาน โดยใชทฤษฎีบทพีทาโกรัส
จะได (a + 5)2 = (a + 3)2 + a2
a2 + 10a + 25 = a2 + 6a + 9 + a2 a
2
a - 4a - 16 = 0 a+5
a = 2 25
±
เนื่องจากความยาวติดลบไมได ดังนั้น a = 2 + 2 5
จะได ความยาวแตละดานเทากับ 2 + 2 5, 5 + 2 5 และ 7 + 2 5 a+3
1
ดังนั้น พื้นที่ของรูปสามเหลี่ยมมุมฉากเทากับ 2 × (2 + 2 5) × (5 + 2 5)
= 12 × 2(1 + 5) × (5 + 2 5)
= (1 + 5)(5 + 2 5) = 15 + 7 5 ตารางหนวย
ดังนั้น คําตอบ คือ ขอ 1.)
T21
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางที่ 13 ในหนังสือ-
วิธีท�ำ ให้รูปสามเหลี่ยมมีความสูง h เมตร
เรี ย น หน า 19-20 จากนั้ น ครู อ ธิ บ ายอย า ง
และพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม = 12 × ฐาน × สูง
ละเอียดอีกครั้ง เพื่อใหนักเรียนเขาใจมากยิ่งขึ้น
พรอมทั้งเปดโอกาสใหนักเรียนซักถามเมื่อเกิด 3 - 2 = 12 × ( 2 - 1) × h
ขอสงสัย 6 - 2 2 = ( 2 - 1) × h
h = 6-22
เขาใจ (Understanding) 2 -1
ครูใหนักเรียนจับคูทํา “ลองทําดู” ในหนังสือ- = 6-22• 2+1
2 -1 2 + 1
เรียน หนา 20 และแบบฝกทักษะ 1.2 ขอ 10. = 2 + 6 -2 2 42 - 2 2
6
หนา 23 เพื่อตรวจสอบความเขาใจของนักเรียน ( 2) - 1
แล ว ครู สุ ม นั ก เรี ย นออกมาเฉลยคํ า ตอบบน = 2 2+ -41 2
กระดาน โดยครูตรวจสอบความถูกตอง = 2+4 2
ดังนั้น รูปสามเหลี่ยมรูปนี้มีความสูง 2 + 4 2 เมตร
ลงมือทํา (Doing)
ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน คละ ลองทําดู
ความสามารถทางคณิตศาสตร แลวตอบคําถาม รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปหนึ่งมีพื้นที่ 7 - 3 ตารางเมตร
“Thinking Time” ในหนังสือเรียน หนา 20 จากนัน้ ถ้ารูปสีเ่ หลีย่ มรูปนีม้ ดี า้ นยาวเป็น 5 + 3 เมตร ให้หา ฝกทําตอ
ครูสมุ นักเรียนออกมานําเสนอคําตอบหนาชัน้ เรียน ด้านกว้างของรูปสี่เหลี่ยมรูปนี้ และตอบในรูปของ แบบฝกทักษะ 1.2
โดยครูตรวจสอบความถูกตอง a + b 3 เมตร เมือ่ a และ b เป็นจ�านวนตรรกยะใด ๆ 5 + 3 ม. ขอ 10, 14
Thinking Time
ให้นักเรียนตอบค�าถามต่อไปนี้
1. นักเรียนจะแก้สมการ x2 - 3x + 2 = 0 โดยใช้วิธีใด และค�าตอบที่ได้เป็นจ�านวนตรรกยะ
หรือจ�านวนอตรรกยะ
2. นักเรียนจะแก้สมการ x2 + 2x - 1 = 0 โดยใช้วิธีใด และค�าตอบที่ได้เป็นจ�านวนตรรกยะ
หรือจ�านวนอตรรกยะ
3. จากสูตรค�าตอบของสมการก�าลังสอง x = -b ± 2a b2 - 4ac ให้อธิบายว่าค�าตอบ
ของสมการที่ได้จะเป็นจ�านวนตรรกยะหรือจ�านวนอตรรกยะกรณีใด
4. ค�าตอบที่เป็นจ�านวนอตรรกยะทั้งสองค�าตอบของสมการจะเป็นสังยุคซึ่งกันและกันหรือไม่
เพราะเหตุใด
20
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
ตัวอยางที่ 14 1. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางที่ 14 ในหนังสือ-
ให้หำเซตค�ำตอบของสมกำร x2 + 3 = 2x เรียน หนา 21 จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมวา
ค า ของตั ว แปรที่ ไ ด จ ากการยกกํ า ลั ง สอง
วิธีท�ำ เนื่องจากสมการที่ก�าหนดมีอันดับกรณฑ์ คือ 2 จึงต้องน�าสมการมายกก�าลังสอง
บางคา อาจจะไมเปนคําตอบของสมการ ดังนัน้
จะได้ ( x2 + 3)2 = (2x)2
x2 + 3 = 4x2 จึงจําเปนตองตรวจคําตอบเสมอ
x2 - 1 = 0 2. ครูใหนักเรียนหาเซตคําตอบของสมการ
(x - 1)(x + 1) = 0 6x2 + 12 = 3x แลวถามคําถาม เพือ่ ตรวจสอบ
x = 1, -1 ความเขาใจของนักเรียน ดังนี้
ตรวจสอบค�าตอบของ x ใน x 2 + 3 = 2x โดยการแทนค่า x ด้วย 1 และ -1 ดังนี้ • 6x2 + 12 = 3x มีอันดับกรณฑ คือเทาใด
เมื่อ x = 1 จะได้ (1)2 + 3 = 2(1) (แนวตอบ อันดับกรณฑ คือ 2)
2 =2 • ( 6x2 + 12)2 = (3x)2 มีคาเทาใด
สมการเป็นจริง แสดงว่า 1 เป็นค�าตอบของสมการ ATTENTION (แนวตอบ 9x 2 - 6x 2 - 12 = 3x 2 - 12 = 0)
เมื่อ x = -1 จะได้ (-1)2 + 3 = 2(-1) ค่าของตัวแปรที่ได้จากการ • 3x2 - 12 = 0 สามารถแยกตัวประกอบได
ยกก�าลังสองบางค่าอาจจะ อยางไร แลว x มีคาเทาใด
2 = -2 ไม่เป็นค�าตอบของสมการ
สมการไม่เป็นจริง แสดงว่า -1 ไม่เป็นค�าตอบของสมการ ดังนั้น จึงจ�าเป็นต้อง (แนวตอบ 3x 2 - 12 = 3(x 2 - 4)
ดังนั้น เซตค�าตอบของสมการ คือ { 1 } ตรวจค�าตอบเสมอ = 3(x - 2)(x + 2)
แลว x มีคาเทากับ -2 และ 2)
ลองทําดู
ฝกทําตอ • เมื่อนําคา x = 2 ไปตรวจสอบคําตอบของ
ให้หาเซตค�าตอบของสมการ 40 - x2 = 3x แบบฝกทักษะ 1.2 ขอ 9 สมการ 6x2 + 12 = 3x จะเปนจริงหรือไม
(แนวตอบ สมการเปนจริง เพราะ
6(2) 2 + 12 = 3(2)
แบบฝึกทักษะ 1.2
24 + 12 = 6
ระดับพื้นฐาน 6 = 6)
1. ให้หำค่ำของ • เมื่อนําคา x = -2 ไปตรวจสอบคําตอบของ
1) รากที่ 4 ของ 2401 2) รากที่ 5 ของ -3125 สมการ 6x2 + 12 = 3x จะเปนจริงหรือไม
3) 4 1 4) 5 32 (แนวตอบ สมการไมเปนจริง เพราะ
5) 3 -125 6) 3 343 6(-2) 2 + 12 = 3(-2)
2. ให้หำค่ำประมำณของจ�ำนวนต่อไปนี้ 24 + 12 = -6
1) 3 28 2) 4 14 6 = -6)
3) 3 -124 4) 5 0.99 • เซตคําตอบของสมการ 6x2 + 12 = 3x คือ
เลขยกก�าลัง 21
เทาใด
(แนวตอบ { 2 })
หมายเหตุ : ครูควรใหนักเรียนเกงและนักเรียนออนจับคูกัน
T23
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
เขาใจ (Understanding)
1. ครูใหนักเรียนจับคูทํากิจกรรม โดยใชเทคนิค
คูคิด (Think Pair Share) ดังนี้ 3. ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำย
• ใหนักเรียนแตละคนคิดคําตอบของตนเอง 1) 2 • 32 2) 3 4 • 3 64
จาก “ลองทําดู” ในหนังสือเรียน หนา 21 3) 5 1024 ÷ 4 16 4) 4 2 • 4 4 • 4 32
และแบบฝกทักษะ 1.2 ขอ 9. ในหนังสือ- 5) 5 27 • 5 27 • 5 81 6) 4 5184 ÷ 4 4
เรียน หนา 23 4. ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำยและตัวส่วนไม่ติดกรณฑ์
• ใหนักเรียนแตละคูแลกเปลี่ยนคําตอบกัน 1) 3 2) 4
สนทนาซักถามจนเปนที่เขาใจรวมกัน 5 38
3) 7 4) 4
• ครูสุมนักเรียนออกมาแสดงวิธีการหาเซต 2+ 3 8-26
คําตอบของสมการบนกระดาน โดยครูและ 5. ให้หำผลลัพธ์ของ
นักเรียนในชั้นเรียนรวมกันตรวจสอบความ
1) 112 + 28 2) 48 + 12 - 27
ถูกตอง
3) 81x + 25x 4) 50x + 18x - 2x
2. ครูใหนักเรียนทํา Exercise 1.2 ในแบบฝกหัด
เปนการบาน 5) 3 250 - 3 2 6) 5 729 + 5 486
7) 240 - 12 • 45 8) 245 - 20
ลงมือทํา (Doing)
500
9) (5 + 2)(6 - 3 2) 10) (3 + 2 6)2
ครูใหนักเรียนทํากิจกรรม ดังนี้ 11) (9 - 2 5)(9 + 2 5) 12) (2 7 + 3 5)(2 7 - 3 5)
• ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน คละ
ความสามารถทางคณิตศาสตร ระดับกลาง
• ใหนักเรียนแตละกลุมชวยกันทําแบบฝก- 6. ให้หำค่ำของ
ทักษะ ในหนังสือเรียน หนา 23 ขอ 11.-14. 1
โดยที่สมาชิกทุกคนตองเขาใจวิธีทําในขอ
1) 3 0.001 2) 5 3125
นั้นๆ 7. ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำยและตัวส่วนไม่ติดกรณฑ์
• ครู สุ ม นั ก เรี ย นออกมาเฉลยคํ า ตอบบน 1) 5 2) 4
กระดาน โดยครูตรวจสอบความถูกตอง 43-2 26+7
3) 3 4) 8 - 4
25+8 25+3 25-3
3
5) + - 3 5 32 6) 4 - 18 +4
8 2 27 4 3
22
ขัน้ สรุป
ครูถามคําถามนักเรียน เพื่อสรุปความรู เรื่อง
การหาผลบวก ผลลบ ผลคูณ และผลหารของ
7) 2 ( 4 + 27 8) 6 ( 3 - 128
3 12 3 ) 2 8 3 ) จํานวนจริงที่อยูในรูปกรณฑ ดังนี้
4
9) 31 (32 - 3 2 ) 10) 4 2 (4 800 + 4 200) ให p, q และ a เปนจํานวนตรรกยะ โดยที่
2 4 32 50 a>0
2
8. ก�ำหนด h = 3 + 2 ให้หำค่ำของ hh -+ 21 และตอบในรูป p + q 2 โดยที่ p และ q • p a + q a เทากับเทาใด
เป็นจ�ำนวนเต็มใด ๆ (แนวตอบ (p + q) a )
9. ให้แก้สมกำรต่อไปนี้ • p a - q a เทากับเทาใด
1) 11x2 + 45 = 4x 2) 3x + 2 = 3x (แนวตอบ (p - q) a )
10. กรอบรูปสี่เหลี่ยมอันหนึ่งมีพื้นที่ด้ำนใน 24 ตำรำงฟุต • สามารถหาผลคูณและผลหารของ
ถ้ำด้ำนในของกรอบรูปสีเ่ หลีย่ มรูปนีม้ คี วำมกว้ำง 3 - 6 ฟุต จํานวนจริงที่อยูในรูปกรณฑไดอยางไร
ให้หำควำมยำวด้ำนในของกรอบรูปสีเ่ หลีย่ มนี้ และตอบในรูป 3- 6 (แนวตอบ กรณฑทนี่ าํ มาคูณและหาร จะตอง
a + b 6 ฟุต เมื่อ a และ b เป็นจ�ำนวนเต็มใด ๆ มีอันดับของกรณฑที่เทากัน โดยใชสมบัติ
รากที่ n)
ระดับท้าทาย • สังยุคของ p + q a เทากับเทาใด
11. ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำยและตัวส่วนไม่ติดกรณฑ์ (แนวตอบ p - q a )
1) 13 2 2) 3 + 5
( 3 + 4) ( 2 + 6)2 ( 2 - 6)2 ขัน้ ประเมิน
3) 3 2 - 6 4) 48 - 50 1. ครูตรวจแบบฝกทักษะ 1.2
6+32 27 - 8
2. ครูตรวจ Exercise 1.2
12. ก�ำหนด a = 1 และ b = 11 +- aa ให้หำค่ำต่อไปนี้ 3. ครูประเมินการนําเสนอผลงาน
2
1) b 2) b - 1b 4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล
5. ครูสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม
13. ให้แก้สมกำร x 7 = x 2 + 32 และตอบในรูป a + 5b 14 เมื่อ a และ b เป็นจ�ำนวนเต็ม
6. ครูสังเกตความมีวินัย ใฝเรียนรู
ใด ๆ
มุงมั่นในการทํางาน
14. กระป๋องทรงกระบอกมีปริมำตร (6 + 2 3)π ลูกบำศก์เซนติเมตร
มีรศั มีทฐี่ ำนยำว 1 + 3 เซนติเมตร ให้หำควำมสูงของทรงกระบอก h
และตอบในรูป a + b 3 เซนติเมตร เมื่อ a และ b เป็นจ�ำนวนเต็ม
ใด ๆ
เลขยกก�าลัง 23
การมี
การทางาน
การแสดง การยอมรับฟัง ส่วนร่วมใน รวม
ลาดับ ชื่อ – สกุล ตามที่ได้รับ ความมีน้าใจ
ความคิดเห็น คนอื่น การปรับปรุง 20
ที่ ของนักเรียน มอบหมาย
ผลงานกลุ่ม คะแนน
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
............/................./................
เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรับปรุง
T25
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
T26
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
ครูยกตัวอยางที่ 15 และอธิบายการหาคาของ
ตัวอยางที่ 15
เลขยกกํ
1 n
าลัง เพื่อใหสอดคลองกับบทนิยาม
ให้หำค่ำของเลขยกก�ำลังต่อไปนี้
1 1 a n = a จากนั้นครูยกตัวอยางเพิ่มเติมบน
1) 162 2) 27 - 3 กระดาน แลวใหนักเรียนหาคาของเลขยกกําลัง
1
วิธีท�ำ 1) 162 = 16 ตอไปนี้
=4 1
• 25 2 1
- 13
2) 27 = 1 1 (แนวตอบ 25 2 = 25 = 5)
273 1
= 31 • 64 3 1
27 (แนวตอบ 64 3 = 3 64 = 4)
1 1
=3 • -243 5 1
(แนวตอบ -243 5 = 5 -243 = -3)
ลองทําดู
เขาใจ (Understanding)
ให้หาค่าของเลขยกก�าลังต่อไปนี้ ฝกทําตอ
1) 362
1 1
2) 8- 3 3) (-125)- 3
1 แบบฝกทักษะ 1.3 ครูใหนักเรียนทํา “ลองทําดู” ในหนังสือเรียน
ขอ 3(1)-(4) หนา 25 จากนัน้ สุม นักเรียน 3 คน ออกมาเขียนวิธี
หาคาของเลขยกกําลังบนกระดาน เพื่อตรวจสอบ
Investigation
ความเขาใจของนักเรียน โดยครูตรวจสอบความ
ให้นักเรียนจับคู่ แล้วช่วยกันเติมค�ำตอบลงในช่องว่ำง และตอบค�ำถำมที่ก�ำหนด ถูกตอง
2 2× 1 2 1 ×2
1. 53 = 5 2. 53 = 5
1 1 รู (Knowing)
= (52) = (5 )2
1. ครูใหนักเรียนจับคูทํากิจกรรม Investigation
= 52 = ( 5 )2
2
3. นักเรียนคิดว่า การเขียน 53 ให้อยู่ในรูปกรณฑ์ ในข้อ 1. และ 2. มีความสัมพันธ์กันหรือไม่ และตอบคําถามจากกิจกรรม แลวแลกเปลี่ยน
อย่างไร คํ า ตอบกั น สนทนาซั ก ถามจนเป น ที่ เ ข า ใจ
ร ว มกั น จากนั้ น ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น
2
จาก Investigation จะเห็นว่า 53 สามารถเขียนให้อยู่ในรูปกรณฑ์ได้เป็น 3 52 หรือ ( 3 5 )2 อภิปราย แลวสรุปเปนกรณีทั่วไปเลขยกกําลัง
ส�าหรับในกรณีทั่วไปเลขยกก�าลังที่มีเลขชี้ก�าลังเป็นจ�านวนตรรกยะซึ่งมีบทนิยาม ดังนี้ ที่มีเลขชี้กําลังเปนจํานวนตรรกยะจนนําไปสู
บทนิยามที่วา “ถา a เปนจํานวนจริง m, n
บทนิยาม ถ้ำ a เป็นจ�ำนวนจริง m, n เป็นจ�ำนวนเต็มที่ n > 1 และ mn เป็นเศษส่วนอย่ำงต�่ำ เปนจํานวนเต็มที1่ n > 1 และ mn เปนเศษสวน
1
และ an เป็นจ�ำนวนจริง จะได้ว่ำ
m 1
a n = (a n)m = (n a )m
อยางตํ่า และ a n เปนจํานวนจริง จะไดวา
m 1 m 1
a n = (am) n = n a m a n = (an)m = ( n a )m
เลขยกก�าลัง 25 m 1
a n = (am)n = n am
จากนั้นครูสรุปจากบทนิยามวา ( n a )m = n am
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
2. ครูอธิบายความรูเ พิม่ เติมในกรอบ ATTENTION ATTENTION
m
วาจากบทนิยามของ a n ถา m < 0 แลว m
จากบทนิยามของ a n ถ้า m < 0 แล้ว a ต้องไม่เป็น 0 เช่น
-1 1
a จะตองไมเทากับ 0 เชน 0 5 = (0 5 )-1 = 0-1 ให้ a = 0, m = -1 และ n = 3
m -1 1
= 10 จะไมมีความหมายทางคณิตศาสตร จะได้ a n = 0 3 = (0 3)-1 = (0)-1 = 10
ซึ่ง 10 ไม่มีความหมายทางคณิตศาสตร์
3. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางที่ 16 ในหนังสือ-
เรียน หนา 26 จากนั้นครูยกตัวอยางเพิ่มเติม
ตัวอยางที่ 16
บนกระดาน แลวใหนักเรียนเขียนจํานวนที่อยู
ในรูปกรณฑใหอยูในรูปเลขยกกําลัง ดังนี้ ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกก�ำลัง
• 6 1) 5 2) 3 22 3) 4 165
1 1
(แนวตอบ เขียนในรูปเลขยกกําลังไดเปน 6 2 ) วิธีท�ำ 1) 5 เขียนในรูปเลขยกก�าลังได้เป็น 5 2
2
• 3 55 5 2) 3 22 เขียนในรูปเลขยกก�าลังได้เป็น 2 3
(แนวตอบ เขียนในรูปเลขยกกําลังไดเปน 5 3 ) 5
3) 4 165 เขียนในรูปเลขยกก�าลังได้เป็น 16 4
• 5 123
(แนวตอบ เขียนในรูปเลขยกกําลังไดเปน ลองทําดู
3
12 5 ) ฝกทําตอ
ให้เขียนจ�านวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกก�าลัง
4. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางที่ 17 ในหนังสือ- แบบฝกทักษะ 1.3
1) 7 2) 3 32 3) 4 245 ขอ 1(1)-(4)
เรียน หนา 26 จากนั้นครูยกตัวอยางเพิ่มเติม
บนกระดาน แลวใหนักเรียนเขียนจํานวนที่อยู
ตัวอยางที่ 17
ในรูปเลขยกกําลังใหอยูในรูปกรณฑ ดังนี้
1 ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปกรณฑ์
• 34 4 1 3 3
(แนวตอบ เขียนในรูปกรณฑไดเปน 4 34)
1) 48 3 2) (-32) 5 3) 15 2
3 1
• (-56) 5 วิธีท�ำ 1) 48 3 =3 48
3
(แนวตอบ เขียนในรูปกรณฑไดเปน 5 (-56) 3) 2) (-32) 5 = 5 (-32)3
5 3
• 11 2 3) 15 2 = 153 = ( 15 )3
(แนวตอบ เขียนในรูปกรณฑไดเปน
11 5 = ( 11) 5) ลองทําดู
เขาใจ (Understanding) ให้เขียนจ�านวนต่อไปนี้ในรูปกรณฑ์ ฝกทําตอ
1 3 3
1) 543 2) (-75)5 3) 392 แบบฝกทักษะ 1.3 ขอ 2
ครูใหนักเรียนทํา “ลองทําดู” ในหนังสือเรียน
หนา 26 และแบบฝกทักษะ 1.3 ขอ 1.-2. หนา
26
35 จากนั้นครูสุมนักเรียนออกมาเฉลยคําตอบบน
กระดาน โดยครูตรวจสอบความถูกตอง
T28
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
1. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางที่ 18 ในหนังสือ-
ตัวอยางที่ 18
เรียน หนา 27 แลวครูชี้แนะกรอบ PROBLEM
ให้หำค่ำของเลขยกก�ำลังต่อไปนี้
2 3 SOLVING TIP ในการชวยทําโจทยวา เลข
1) (-125)3 2) 325 ยก-กําลังทีม่ เี ลขชีก้ าํ ลังเปนจํานวนตรรกยะ ซึง่
2 1
วิธีท�ำ 1) (-125)3 = (-1253)2 ตั ว ส ว นของเลขชี้ กํ า ลั ง จะเป น ค า รากเสมอ
= (3 -125)2 จากนั้ น ครู เ ขี ย นแสดงวิ ธีทํ า อย า งละเอี ย ด
= (3 (-5)3 )2 บนกระดาน พรอมทั้งบอกวาขั้นตอนใดใช
= (-5)2 บทนิยามใด
= 25 2. ครูยกตัวอยางที่ 19 ในหนังสือเรียน หนา 27
3 1
2) 325 = (325)3 PROBLEM บนกระดาน และอธิบายขั้นตอนอยางละเอียด
= (5 32)3 SOLVING TIP จากนั้ น กล า วเพิ่ ม เติ ม ว า การเขี ย นจํ า นวน
2
= (5 25)3 (-125)3 ราก ที่ อ ยู ใ นรู ป กรณฑ ใ ห อ ยู ใ นรู ป เลขยกกํ า ลั ง
= 23 ตัวส่วนของเลขชี้ก�าลัง ซึ่ ง มี ฐ านของเลขยกกํ า ลั ง เป น ตั ว แปรจะใช
จะเป็นค่ารากเสมอ หลักการเดียวกันกับตัวอยางที่ 18 ที่มีฐาน
=8
ของเลขยกกําลังเปนตัวเลข
ลองทําดู
ฝกทําตอ
ให้หาค่าของเลขยกก�าลังต่อไปนี้ เขาใจ (Understanding)
2 2 แบบฝกทักษะ 1.3
1) 643 2) 32- 5 3) 100 1.5
ขอ 3(5)-(6) ครูใหนักเรียนจับคูทํา “ลองทําดู” ในหนังสือ-
เรียน หนา 27 แลวแลกเปลี่ยนความรู สนทนา
ตัวอยางที่ 19 ซักถามกัน จนเปนที่เขาใจรวมกัน จากนั้นครูสุม
ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกก�ำลัง เมื่อ x เป็นจ�ำนวนจริงบวก นักเรียนออกมาเฉลยคําตอบบนกระดาน โดยครู
1) 5 x3 2) 1-3 และนักเรียนในชั้นเรียนรวมกันตรวจสอบความ
x
3 ถูกตอง
3
วิธีท�ำ 1) 5 x = x5 2) 1-3 = 1- 3
x x2
3
= x2
ลองทําดู
ให้เขียนจ�านวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกก�าลัง เมื่อ x เป็นจ�านวนจริงบวก ฝกทําตอ
1) 3 x4 2) 5 1 -2 แบบฝกทักษะ 1.3
x ขอ 1(5)-(6)
เลขยกก�าลัง 27
T29
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
1. ครูใหนกั เรียนจับคูศ กึ ษากิจกรรม Thinking Time
Thinking Time
จากนั้นครูเฉลยคําตอบและสรุปวาสมบัติของ
เลขยกกําลังทีม่ เี ลขชีก้ าํ ลังเปนจํานวนตรรกยะ ให้นักเรียนเติมค�าตอบลงในช่องว่าง แล้วตอบค�าถามที่ก�าหนด
1. ให้ m, n เป็นจ�านวนตรรกยะ และ a, b เป็นจ�านวนจริงที่ไม่เท่ากับ 0 และ am, an, bn
จะมีสมบัตเิ หมือนกับเลขยกกําลังทีม่ เี ลขชีก้ าํ ลัง เป็นจ�านวนจริง จะได้ว่า
เปนจํานวนเต็ม สมบัติ 1 am • an =................................
2. ครูยกตัวอยางที่ 20 บนกระดาน และอธิบาย สมบัติ 2 a n
m
= ................................
วิ ธีทํ า แต ล ะขั้ น ตอน เพื่ อ ให ส อดคล อ งกั บ am n
สมบัติ 3 (a ) = ................................
สมบัติ 3 ของเลขยกกําลัง ในกิจกรรม n n
สมบัติ 4 a • b =................................
n
Thinking Time สมบัติ 5 an = ................................
b
2. จากสมบัติ 3 นักเรียนคิดว่า ถ้า a = 0 แล้วจะได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร
เฉลย Thinking Time 3. จากสมบัติ 5 นักเรียนคิดว่า ถ้า b = 0 แล้วจะได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร
4. ให้นักเรียนพิจารณาวิธีพิสูจน์ดัง1ต่อไปนี้
ขอ 1. ให m, n เปนจํานวนตรรกยะ และ a, b 1 = 1 = (-1) × (-1) = -1 • -1 = ( -1)2 = (-1)2 2 = -1
× 1
ทางคณิตศาสตร
ขอ 4. ขั้นตอน (-1) × (-1) = -1 • -1
28
ไมถูกตอง เพราะไมสามารถหาคา -1
ที่เปนจํานวนจริงได
T30
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
1 5 1 5 3. ครูใหนักเรียนจับคูศึกษาตัวอยางที่ 21 ใน
วิธีท�ำ 1) 322 • 86 = (25)2 • (23)6
5 15 หนั ง สื อ เรี ย น หน า 28-29 จากนั้ น ครู ถ าม
= 22 • 2 6
5 5 คําถาม ดังนี้
= 22 • 22 • จากตัวอยางที่ 21 ใชสมบัติเลขยกกําลังใด
5 5
= 22 + 2 ในการหาคําตอบ
= 25 (แนวตอบ สมบัติ (a m) n = a mn และสมบัติ
1 1 1 1
2) (93 • 816 )6 = [(32)3 • (34)6]6 a m • a n = a m + n)
2 4
= (33 • 36 )6 4. ครูยกตัวอยางที่ 22 ในหนังสือเรียน หนา 29
2 4
= (33 )6 • (36)6 บนกระดาน แลวถามคําถาม ดังนี้
= 34 • 34 • ขอ 1) ใชสมบัติเลขยกกําลังใดในการหา
= 34 + 4 คําตอบ
= 38 (แนวตอบ สมบัติ (a m) n = a mn และสมบัติ
a -1 = a1 )
ลองทําดู
• ขอ 2) ใชสมบัติเลขยกกําลังใดในการหา
ให้เขียนจ�านวนต่อไปนี้ในรูปอย่างง่าย ฝกทําตอ
1 3 1 3 แบบฝกทักษะ 1.3 ขอ 7
คําตอบ
1) 643 • 164 2) (273 • 2435 )3 (แนวตอบ สมบัติ (ab)n = a nbn
สมบัติ (a m) n = a mn
ตัวอยางที่ 22 m
สมบัติ a = a m - n และสมบัติ a -1 = 1 )ça
ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำย เมื่อ m และ n เป็นจ�ำนวนจริงบวก an
1 3 2
1) (m3 n-2)5 2) (mn) 3
3 12 เขาใจ (Understanding)
(m4 n3)
1 -2 3 1 3 -2 3
วิธีท�ำ 1) (m3 n )5 = (m3)5 (n )5 1. ครูใหนักเรียนจับคูทํา “ลองทําดู” ในหนังสือ-
1 6 เรียน หนา 28-30 แลวแลกเปลี่ยนความรูกัน
= m5 n- 5
1 สนทนาซักถามจนเปนที่เขาใจรวมกัน จากนั้น
=m65 ครูสมุ นักเรียนออกมาเฉลยคําตอบบนกระดาน
n5 โดยครู แ ละนั ก เรี ย นในชั้ น เรี ย นร ว มกั น
2 2 2
2) (mn)3 12
3
= m 3 n3
32 12
ตรวจสอบความถูกตอง
(m4 n3) (m4 ) (n3) 2. ครูใหนกั เรียนทําแบบฝกทักษะ 1.3 ขอ 3., 7.-11.
2 2
= m33 n23 ในหนังสือเรียน หนา 35-36 เปนการบาน
m2 n3
เลขยกก�าลัง 29
T31
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
1. ครู ย กตั ว อย า งสมการของเลขยกกํ า ลั ง บน 2 3 2 2
= m3 - 2 n3 - 3
กระดาน แลวถามคําถามนักเรียน ดังนี้ 5
• 3x = 35 แลว x มีคาเทากับเทาใด = m- 6
(แนวตอบ x มีคาเทากับ 5) = 15
m6
• 2y = 28 แลว y มีคาเทากับเทาใด
(แนวตอบ y มีคาเทากับ 8) ลองทําดู
2. ครูอธิบายวา สมการเลขยกกําลังดังกลาวใช ให้เขียนจ�านวนแต่ละข้อต่อไปนี้ในรูปอย่างง่าย เมื่อ m และ n เป็นจ�านวนจริงบวก
หลักการเทียบสมการทัง้ สองขาง โดยพิจารณา 1 -1 -1 ฝกทําตอ
ฐานและเลขชี้กําลัง ถาฐานทั้งสองขางเทากัน 1) (m-3 n5)- 3 2) m2 3 -n1 4-2 แบบฝกทักษะ 1.3
(m n 3)
แลวเลขชี้กําลังจะตองเทากันดวย ซึ่งในกรณี ขอ 8, 11
ทัว่ ไป การแกสมการเลขยกกําลังสามารถทําได
โดยเปลี่ยนฐานของเลขชี้กําลังทั้งสองขางให สมกำรเลขยกก�ำลัง
เทากัน ดังนี้ ถา ax = an แลว x = n เมื่อ ในกรณีทั่วไป การแก้สมการเลขยกก�าลังสามารถท�าได้โดยเปลี่ยนฐานของเลขยกก�าลังให้
a, n เปนจํานวนจริง โดยที่ a > 0 และ a 1 เท่ากัน ดังนี้
3. ครูยกตัวอยางที่ 23 ในหนังสือเรียน หนา 30
ถ้า ax = an แล้ว x = n เมื่อ a, n เป็นจ�านวนจริง โดยที่ a > 0 และ a ≠ 1
บนกระดาน แลวครูกลาววา นักเรียนสามารถ
จัดฐานใหเทากัน โดยใชวธิ กี ารแยกตัวประกอบ
ตัวอยางที่ 23
แลวเขียนใหอยูในรูปเลขยกกําลัง ดังนี้
- ขอ 1) นั ก เรี ย นสามารถจั ด 128 ให เ ป น ให้หำค่ำ x จำกสมกำรต่อไปนี้
ฐาน 2 นั่นคือ 128 = 27 1) 2x = 128 1
2) 9x = 243 3) ( 49 )2x = 729
64
- ขอ 2) นักเรียนไมสามารถจัด 243 ใหเปน วิธีท�ำ 1) จาก 2x = 128
ฐาน 9 ได แตสามารถจัด 243 และ 2 x = 27
9 ใหเปนฐาน 3 ได จะได้ x =7
นั่นคือ 9 = 32 และ 243 = 35 2) จาก 9x = 2431
- ขอ 3) กรณีที่ฐานเปนเศษสวน นักเรียนจะ 32x = 15
ตองจัดฐานทั้งตัวเศษและตัวสวนที่ 3
มีเลขชี้กําลังเทากัน และสามารถจัด 32x = 3-5
64 4 จะได้ 2x = -5
729 ใหเปนฐาน 9
64 = 4 3
หรือ x = - 52
นั่นคือ 729 (9)
30
ขัน้ สอน
เขาใจ (Understanding)
1. ครูใหนักเรียนทํา “ลองทําดู” ในหนังสือเรียน
( 49 ) 64
2x
3) จาก = 729
หนา 31 และใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง เลขยกกําลังทีม่ ี
[( 23 ) ] = ( 23 )6
2 2x
เลขชี้กําลังเปนจํานวนตรรกยะ เปนรายบุคคล
แลวสุม นักเรียนออกมาเฉลยวิธคี ดิ บนกระดาน
( 23 ) = ( 23 )6
4x
โดยครูตรวจสอบความถูกตอง
จะได้ 4x =6 2. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน คละ
หรือ x = 32 ความสามารถทางคณิตศาสตร แลวทํากิจกรรม
ดังนี้
ลองทําดู • ใหนกั เรียนแตละกลุม ศึกษากิจกรรม Journal
ให้หาค่า x จากสมการต่อไปนี้ Writing แลวตอบคําถามจากกิจกรรม
1) 5x = 625 2) 49x = 343 1 • ให นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ ม ร ว มกั น อภิ ป ราย
ฝกทําตอ พรอมทั้งยกตัวอยางประกอบจากคําถาม
3) ( 94 )3x = 2187
128 4) ( 52 )x = 0.16 แบบฝกทักษะ 1.3
ทั้งสองขอ
ขอ 4
• นักเรียนรวมกันสรุปกิจกรรม
Journal Writing
Journal Writing 3. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกทักษะ 1.3 ขอ 4. ใน
1. นักเรียนได้ศึกษามาแล้วว่า ถ้า ax = an แล้ว x = n เมื่อ a, n เป็นจ�านวนจริง โดยที่ หนังสือเรียน หนา 35 ลงในสมุด เพือ่ ตรวจสอบ
a > 0 และ a ≠ 1 ส�าหรับกรณี ax = an เมื่อ a = 0 หรือ a = 1 นักเรียนคิดว่า x = n หรือไม่ ความเขาใจ
ถ้าไม่ ให้ยกตัวอย่างประกอบ
2. ก�าหนด a > 0 และ x เป็นจ�านวนจริงใด ๆ นักเรียนคิดว่า ax มีค่าเป็น 0 หรือจ�านวน
เฉลย Journal Writing
จริงลบหรือไม่ ให้ยกตัวอย่างประกอบ
ขอ 1. ถา a = 0 หรือ a = 1 จะไดวา x
ไมจําเปนตองเทากับ n
จาก Journal Writing จะเห็นว่า ถ้าฐานของเลขยกก�าลังมีค่าเป็นจ�านวนจริงบวก แล้วค่าของ เชน ให x = 2, n = 11
เลขยกก�าลังจะมีค่าเป็นจ�านวนจริงบวกด้วย ซึ่งสามารถเขียนในรูปกรณีทั่วไปได้ ดังนี้ จะไดวา 0 2 = 0 11 = 0 แต 2 11
ให x = 5, n = 7
ถ้า a > 0 แล้ว ax > 0 เมื่อ x เป็นจ�านวนจริงใด ๆ จะไดวา 15 = 17 = 1 แต 5 7
ขอ 2. ให a > 0 และ x เปนจํานวนจริงใดๆ
จะได ax เปนจํานวนจริงบวกเสมอ
ดังนั้น ax มีคาไมเทากับ 0 หรือ ax ไมเปน
เลขยกก�าลัง 31 จํานวนจริงลบ เชน a = 12 และ x = 2
2
จะได ax = ( 12 ) = 14 > 0
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน คละ
นักเรียนสามารถค�านวณหาค่าต่าง ๆ ของเลขยกก�าลัง โดยใช้เครือ่ งคิดเลขวิทยาศาสตร์ ดังรูป
ความสามารถทางคณิตศาสตร แลวทํากิจกรรม
1
ตอไปนี้
• ใหแตละกลุมนําเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร ส่วนประกอบหลักบนเครื่องคิดเลข
1. หน้าจอแสดงผลการท�างาน
มากลุมละ 1 เครื่อง ใชรุนเดียวกัน ดังรูป
2. ปุมเปดเครื่อง
ในหนังสือเรียน หนา 32 หรือรุนที่ใกลเคียง 3. ปุม MODE/SETUP ใช้ส�าหรับเลือก
กัน โหมดหรือตั้งค่าเครื่อง
• ครูอธิบายสวนประกอบตางๆ บนเครื่อง 4 2 4. ปุม SHIFT ส�าหรับเรียกใช้ค�าสั่ง
คิดเลขและกลาววาเครือ่ งคิดเลขวิทยาศาสตร 5 3
ที่เป็นสีเหลือง แล้วตามด้วยปุมค�าสั่ง
ถายี่หอหรือรุนที่ตางกัน จะมีปุมคํานวณ นั้น ๆ
7 6 5. ปุม ALPHA ส�าหรับเรียกใช้ค�าสั่ง
และวิธีการใชแตกตางกัน ใหนักเรียนดูใน ที่เป็นตัวอักษรสีแดง แล้วตามด้วย
กรอบ INFORMATION ปุมค�าสั่งนั้น ๆ
• ใหนกั เรียนแตละกลุม ฝกกดปุม เครือ่ งคิดเลข 8
6. ปุมควบคุมทิศทาง ใช้เลื่อนดูค�าตอบ
วิทยาศาสตร โดยครูใชตัวอยางที่ 24 ใน หรือแก้ไขการค�านวณ
หนังสือเรียน หนา 32 สอนกดปุมเครื่อง 7. ปุมฟังก์ชันและสูตรการค�านวณ
คิดเลข ซึ่งใหสมาชิกในกลุมฝกทําขอละ 8. ปุม ตัวเลข/เครือ่ งหมายการด�าเนินการ
1 คน จนครบทั้ง 4 ขอ
ตัวอยางที่ 24
ให้หำค่ำของจ�ำนวนต่อไปนี้ โดยใช้เครื่องคิดเลข
1) 314 2) 2 -4 6
INFORMATION
3) 3 71 4) 4 8
เครื่ อ งคิ ด เลขวิ ท ยาศาสตร์
วิธีท�ำ 1) 3 14 ที่ยี่ห้อหรือรุ่นต่างกัน จะมี
ปุมค�านวณ และวิธีการใช้ท่ี
กดปุม 3 x 1 4 = แตกต่างกัน เช่น 23 สามารถ
จะปรากฏผลลัพธ์ 4782969 กดปุม บนเครือ่ งคิดเลขได้เป็น
2 x 3 =
หรือ 2 ∧ 3 =
หรือ 2 xy 3 =
32
T34
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
เขาใจ (Understanding)
1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมทํา “ลองทําดู” ใน
2) 2 -4 6
หนังสือเรียน หนา 33 โดยใชเครื่องคิดเลข
กดปุม ( 2 - 6 ) ÷ 4 =
แลวเขียนคําตอบที่ไดลงในกระดาษ A4 เมื่อ
จะปรากฏผลลัพธ์ -0.1123724357 แต ล ะกลุ ม เสร็ จ แล ว ให นํ า คํ า ตอบที่ ไ ด ม า
3) 3 71 ตรวจสอบกั บ กลุ ม อื่ น ๆ โดยครู ต รวจสอบ
กดปุม SHIFT 7 1 = ATTENTION ความถูกตอง
3 เป็นค�าสั่งที่เป็น
จะปรากฏผลลัพธ์ 4.140817749 2. ครู ใ ห นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ ม ทํ า แบบฝ ก ทั ก ษะ
สีเหลือง ดังนัน้ ในการเรียก 1.3 ขอ 5 ในหนังสือเรียน หนา 35 จากนั้น
4) 4 8
ใช้จะต้องกดปุม SHIFT ครู สุ ม นั ก เรี ย นออกมาเฉลยคํ า ตอบหน า -
กดปุม SHIFT x 4 8 =
▲
ตัวอยางที่ 25
1
กำรเคลื่อนที่ของอนุภำคหนึ่งมีควำมสัมพันธ์ระหว่ำงระยะทำง
ในแนวรำบและควำมสูงในแนวดิ่ง ซึ่งค�ำนวณได้จำกสูตร
h = 0.3 d + 1 h
เมื่อ h แทนควำมสูงจำกพื้นดินมีหน่วยเป็นเมตร
d แทนระยะทำงในแนวรำบมี d
2 หน่วยเป็นเมตร
ถ้ำอนุภำคนีเ้ คลือ่ นทีใ่ นแนวรำบเป็นระยะทำง 5.25 เมตร ให้หำควำมสูงของอนุภำคนีจ้ ำกพืน้ ดิน
วิธีท�ำ เนื่องจาก h = 0.3 d + 1
จะได้ h = 0.3 5.25 + 1
= 0.3 6.25
= 0.3(2.5)
= 0.75
ดังนั้น อนุภาคนี้จะสูงจากพื้นดินในแนวดิ่งเป็นระยะทาง 0.75 เมตร
เลขยกก�าลัง 33
T35
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
รู (Knowing)
1. ครูอธิบายวา เรื่อง เลขยกกําลัง สามารถนําไป
ลองทําดู
ใชกับโจทยปญหาตางๆ ได เชน การเคลื่อนที่
ตางๆ การคํานวณดอกเบี้ยทบตน จากนั้น วัตถุชนิดหนึ่งมีน�้าหนัก (m) เป็นกรัม แปรผันตามความยาวของวัตถุ (x) เป็นเซนติเมตร
ครูยกตัวอยางที่ 25 และ 26 บนกระดาน ที่สามารถค�านวณได้จากสูตร m = 45 5 11x + 1 ให้หาน�้าหนักของ ฝกทําตอ
และอธิบายวิธีคิดอยางละเอียด วัตถุชนิดนี้ เมื่อก�าหนดความยาวของวัตถุเท่ากับ 22 เซนติเมตร แบบฝกทักษะ 1.3
ขอ 6, 12
2. ครูถามคําถาม เพื่อตรวจสอบความเขาใจของ
ตัวอยางที่ 26
นักเรียน ดังนี้
• จากตัวอยางที่ 25 ใชบทนิยามใดในการแก นิธิศฝำกเงินไว้กับธนำคำรแห่งหนึ่งโดยมีข้อตกลงว่ำ ถ้ำฝำกเงินจ�ำนวน 500,000 บำท
ปญหา ธนำคำรให้ดอกเบี้ย 3% ต่อปี ถ้ำนิธิศฝำกเงินโดยไม่มีกำรถอนเงินจนครบ 7 ปี 6 เดือน
อยำกทรำบว่ำนิธิศจะได้รับเงินทั้งหมดเท่ำใด โดยก�ำหนดให้
( แนวตอบ ใช บ ทนิ ย ามที่ ว า ถ า a เป น
จํานวนจริง n เปนจํานวนเต็ มที่มากกวา 1 A = P(1 + r)t
1 n
และ a มีรากที่ n แลว a n = a ) เมื่อ A แทนจ�ำนวนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย
• จากตัวอยางที่ 26 ใชบทนิยามใดในการ P แทนเงินต้น
แกปญหา r แทนอัตรำดอกเบี้ยต่อปี
t แทนจ�ำนวนปีที่ฝำก
( แนวตอบ ใช บ ทนิ ย ามที่ ว า ถ า a เป น
จํานวนจริง m, n เปนจํานวนเต็มที่ n1 > 1 วิธีท�ำ เนื่องจาก A = P(1 + r)t
และ mn เปนเศษสวนอย m
างตํ่า1และ a n เปน P = 500,000
3 = 0.03
จํานวนจริง จะไดวา a n = (a n )m = ( n a )m) r = 100
t = 7.5 = 152
15
เขาใจ (Understanding) จะได้ A = 500,000(1 + 0.03) 2
1. ครูใหนักเรียนทํา “ลองทําดู” ในหนังสือเรียน = 500,000( 1.03)15
≈ 500,000(1.24819)
หนา 34 ลงในสมุด เปนรายบุคคล เมื่อทํา
= 624,095
เสร็ จ แล ว ให ต รวจสอบคํ า ตอบ โดยการใช
ดังนั้น นิธิศจะได้รับเงินทั้งหมดประมาณ 624,095 บาท
เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร โดยใหนักเรียน
นําสงครูตรวจสอบความถูกตองอีกครั้ง ลองทําดู
สมชายฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งโดยมีข้อตกลงว่า ถ้าฝากเงินกับธนาคาร
2,000,000 บาท ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยให้ 2.5% ต่อป ถ้าสมชายฝากเงิน ฝกทําตอ
โดยไม่มีการถอนเงินจนครบ 5 ป 6 เดือน อยากทราบว่าสมชายจะได้รับ แบบฝกทักษะ 1.3
เงินทั้งหมดเท่าใด ขอ 9, 10
34
T36
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
เขาใจ (Understanding)
2. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมตอไปนี้
แบบฝึกทักษะ 1.3
• ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน คละ
ระดับพื้นฐาน ความสามารถทางคณิตศาสตร
1. ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกก�ำลัง • ใหนักเรียนแตละกลุมทําแบบฝกทักษะ ใน
1) 10 2) 3 52 หนังสือเรียน หนา 35 ขอ 6. และใหนักเรียน
6 สืบคนโจทยปญหาที่เกี่ยวกับเลขยกกําลัง
3) 255 4) 8 1217
5 1 เมื่อ x > 0 หรือรากที่ n ของจํานวนจริงทางอินเทอรเน็ต
5) 4 x เมื่อ x > 0 6) 6x มากลุมละ 1 ขอ แลวแสดงวิธีทําอยาง
2. ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปกรณฑ์ ละเอียด
2 3
1) 243 2) (-30)5 • ครูสมุ นักเรียนออกมาแสดงวิธที าํ บนกระดาน
4 5
3) 813 4) ( 23 )4 โดยครูตรวจสอบความถูกตอง
3. ให้หำค่ำของเลขยกก�ำลังต่อไปนี้
1 1
1) 812 2) 512- 3
- 13 1
3) -216 4) 10245
- 53 2
5) 8 6) (-1000)3
12 1
7) [(256) ] 8 8) [(10000)4]3
4. ให้หำค่ำ x จำกสมกำรต่อไปนี้
1) 11x = 1331 2) 4x = 128 1
( 23 ) = 81
x x+2
3) 10 = 0.01 4) 16
5. ให้หำค่ำของจ�ำนวนต่อไปนี้ โดยใช้เครื่องคิดเลข
1) 510 2) 31 + 13
6
3) 3 704 4 22.2
4)
5) 5 -244 6) 96
3 99
T37
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
เขาใจ (Understanding)
3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมชวยกันทําแบบฝก-
ทักษะ 1.3 ขอ 7-10 ในหนังสือเรียน หนา 36 ระดับกลาง
ลงในสมุด จากนั้นครูสุมนักเรียนออกมาเฉลย 7. ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำย
คําตอบหนาชั้นเรียน โดยครูและนักเรียนใน 1 1 2
1) 543 • 322 • 813
1 31 1
2) (272 • 244)3 • (93 • 182)2
11
ชั้นเรียนรวมกันตรวจสอบความถูกตอง 1 1 2 1 1 1 1
( )
3 2
4. ครูใหนักเรียนทํา Exercise 1.3 เปนการบาน 3) 122 • 36 1
3
4) (102 • 153)1 • (451 36• 502)
966 (606 • 303)
ลงมือทํา (Doing) 8. ให้เขียนจ�ำนวนต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำย เมื่อ x และ y เป็นจ�ำนวนจริงบวก
ครูใหนักเรียนจับคูทํากิจกรรม โดยใชเทคนิค 4 1 1 -3
1) x5 -• 2x2 2) y10 -• 1y 2
คูคิด (Think Pair Share) ดังนี้ x5 y5
• ใหนักเรียนแตละคนคิดคําตอบของตนเอง 3) (x-3 y4)- 2
1 2 43
4) (x3 y- 5)2
จากแบบฝ ก ทั ก ษะ 1.3 ในหนั ง สื อ เรี ย น 1 1 3 4 2
5) (x-2 y3)3 (x4 y-5)2 6) (x-3 y5)-2(x5 y- 5)5
หนา 36 ขอ 11.-12.
-1 -1 -2 2 - 1
• ใหนักเรียนแตละคูแลกเปลี่ยนคําตอบกัน 7) x2 3 -y1 4-2 8) ( x25y ) 2
สนทนาซักถามจนเปนที่เขาใจรวมกัน (x y 3)
1 1 1
• ครูสมุ นักเรียนออกมาแสดงวิธกี ารหาคําตอบ 9) (4x4 y)2 ÷ 2x3 y- 2 10) (x3 y- 4)4 ÷ 5 32x4 y-8
บนกระดาน โดยครูและนักเรียนในชั้นเรียน 9. วิทยำฝำกเงินกับธนำคำรแห่งหนึ่งจ�ำนวน 5,000 บำท ถ้ำเขำไปปิดบัญชีกับธนำคำรเมื่อฝำก
รวมกันตรวจสอบความถูกตอง ครบเป็น1เวลำ 5 ปี 6 เดือน จะได้รับเงินทั้งหมด 5,800 บำท อยำกทรำบว่ำธนำคำรจะให้
ดอกเบี้ยในอัตรำปีร ละเท่ำใด
2
10. วิโรจน์กู้เงินจจำกธนำคำรมำจ�ำนวนหนึ่ง โดยจะต้องจ่ำยดอกเบี้ยเงินกู้ 4.2% ต่อปี ถ้ำวิโรจน์
ต้องจ่ำยเงินทั้งหมดจ�ำนวน 62,225 บำท เมื่อครบก�ำหนด 3 ปี 6 เดือน ให้หำว่ำวิโรจน์
กู้เงินมำจ�ำนวนเท่ำใด
ระดับท้าทาย
11. ให้เขียนจ�ำนวนแต่ละข้อต่อไปนี้ในรูปอย่ำงง่ำย เมื่อ a, b, c และ d เป็นจ�ำนวนจริงบวก
-4 1 1 3 5 2 - 1 -4 2 1 -4 3 -1 2 13
( )(
1) a- 2 b-13 c21 a 1b34c 32
a 3 b c6 a3 b5 c5 ) (8a 3 b4 c 5 )
2) 64a- 13 b52 c- 33 ÷ ( 8ab
a bc
c
-2 3 6)
n n n n+3
2 c3 d bn+2
3) ab
bc × cd2n ÷ cn+3 เมื่อ n > 0 4) (a + 2b)2 ÷ (a +abcb) 2 เมื่อ n > 0
bc
36
T38
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
1. ครูถามคําถามนักเรียน เพื่อสรุปความรู เรื่อง
เลขยกกําลังทีม่ เี ลขชีก้ าํ ลังเปนจํานวนตรรกยะ
1 2 • นักเรียนสามารถเขียน รากที่ 2 ของ 25 ใน
12. ลูกบำศก์
ศก์หนึ่งมีปริมำตร a ลูกบบำศก์หน่วย ดังรูป
3 รูปเลขชี้กําลังไดอยา1 งไร
วของเส้นทแยงมุม d โดยตอบในรูปของ a
ให้หำควำมยำวของเส้
(แนวตอบ 25 = 25 2 ) 2
• นักเรียนสามารถเขียน (-64) 3 ในรูปกรณฑ
ไดอยางไร 2
(แนวตอบ (-64) 3 = ( 3 -64)2)
d • นักเรียนสามารถหาคาหลักของรากที่ (-27)
ของ 3 ไดอยางไร
(แนวตอบ คาหลั1 กของรากที่ (-27) ของ 3
จะไดวา [(-27) 3 ] 3 = -27)
• นักเรียนสามารถแกสมการ 32x - 2 = 272
3
Self-Check ไดหรือไม อยางไร
( แนวตอบ สามารถแก ส มการได โดยทํ า
หลังจำกเรียนจบหน่วยแล้ว ให้นักเรียนบอกสัญลักษณ์ที่ตรงกับระดับควำมสำมำรถของตนเอง ฐานทั้งสองขางของสมการใหเทากัน แลว
ดี พอใช้ ควรปรับปรุง เลขชี้กําลังจะเทากัน
จะได 3 2x - 2 = 27 2
1. สามารถหารากที่ n ของจ�านวนจริงใด ๆ ได้ 3 2x - 2 = (33) 2
2. สามารถหาค่าหลักรากที่ n ของจ�านวนจริงใด ๆ ได้ 3 2x - 2 = 36
3. สามารถหาผลบวกและผลต่างของจ�านวนจริงที่อยู่ใน 2x - 2 = 6
รูปกรณฑ์ ได้ x = 4)
4. สามารถหาผลคูณและผลหารของจ�านวนจริงที่อยู่ใน • คาของ x จากสมการ 3x = 21x เปนเทาใด
รูปกรณฑ์ ได้ (แนวตอบ x = 0)
5. สามารถหาค่าของเลขยกก�าลังได้
6. สามารถแก้สมการเลขยกก�าลังได้
7. สามารถค�านวณหาค่าต่าง ๆ ของเลขยกก�าลัง โดยใช้
เครื่องคิดเลขได้
8. สามารถแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเลขยกก�าลังได้
เลขยกก�าลัง 37
T39
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
2. ครูใหนกั เรียนแตละคนอาน “สรุปแนวคิดหลัก”
ในหนังสือเรียน หนา 38-39 สรุปแนวคิดหลัก
3. ครูถามคําถาม เพื่อสรุปความรูรวบยอดของ
นักเรียน ดังนี้ เลขยกก�ำลัง
• เลขยกกําลัง มีความหมายวาอยางไร
(แนวตอบ เลขยกกําลัง หมายถึง การคูณ 1. ก�าหนด a เป็นจ�านวนจริง และ n เป็นจ�านวนเต็มบวก
จํานวนนั้นซํ้าๆ กัน) an = a • a • a • ... • a
• “3 ยกกําลัง 5” มีความหมายวาอยางไร n ตัว
(แนวตอบ 3 5 = 3 × 3 × 3 × 3 × 3 ) 0
a = 1 เมื่อ a ≠ 0
5 ตัว a-n = 1n เมื่อ a ≠ 0
• คาหลักของรากที่ 5 ของ 12 เขียนในรูป a
n x และอานไดอยางไร 2. ก�าหนด x, y เป็นจ�านวนจริง และ n เป็นจ�านวนเต็มที่มากกว่า 1
y เป็นรากที่ n ของ x ก็ต่อเมื่อ yn = x
(แนวตอบ เขียนแทนดวย 5 12 อานวา กรณฑ
ที่ 5 ของ 12) 3. ค่าหลักของรากที่ n ของ x เขียนแทนด้วย n x อ่านว่า กรณฑ์ที่ n ของ x
• ให a เปนจํานวนจริง ที่มีรากที่ n เมื่อ n 4. ให้ x และ y เป็นจ�านวนจริง และ n เป็นจ�านวนเต็มที่มากกว่า 1 y เป็นค่าหลักของรากที่ n
ของ x เขียนแทนด้วย n x ก็ต่อเมื่อ y เป็นรากที่ n ของ x และ xy ≥ 0
เปนจํานวนเต็มที่มากกวา 1 แลวคาของ
n a เปนจํานวนจริงลบเมื่อใด 5. สมบัติของรากที่ n
ให้ a และ b เป็นจ�านวนจริงที่มีรากที่ n เมื่อ n เป็นจ�านวนเต็มที่มากกว่า 1
(แนวตอบ n a เปนจํานวนจริงลบ เมื่อ a < 0
และ n = 3, 5, 7, 9, …) 1) ( n a )n = a เมื่อ n a เป็นจ�านวนจริง
• การหาผลบวกและผลตางของจํานวนที่มี a เมื่อ a ≥ 0
n
2) a = n
เครื่องหมายกรณฑอันดับเดียวกันสามารถ a เมื่อ a < 0 และ n เป็นจ�านวนคี่บวก
∙ a ∙ เมื่อ a < 0 และ n เป็นจ�านวนคู่บวก
ทําไดอยางไร
( แนวตอบ การหาผลบวกและผลต า งของ 3) n ab = n a • n b
n
จํานวนทีม่ เี ครือ่ งหมายกรณฑอนั ดับเดียวกัน 4) n ab = n ab เมื่อ b ≠ 0
จะตองมีจํานวนภายในกรณฑเปนจํานวน
เดียวกัน แลวใชสมบัติการแจกแจงในการ 6. การหาผลบวกและผลต่างของจ�านวนที่มีเครื่องหมายกรณฑ์อันดับเดียวกัน จะต้องมีจ�านวน
ภายในกรณฑ์เป็นจ�านวนเดียวกัน เช่น
ดึงตัวรวม จากนั้นนําตัวรวมมาบวกหรือ
ลบกัน) p n a + q n a = (p + q) n a
p n a - q n a = (p - q) n a
38
ขัน้ สรุป
• การหาผลคู ณ และผลหารของจํ า นวนที่ มี
เครื่องหมายกรณฑสามารถทําไดอยางไร
7. การหาผลคูณและผลหารของจ�านวนที่มีเครื่องหมายกรณฑ์อันดับเดียวกัน จะต้องมีอันดับ ( แนวตอบ การหาผลคู ณ และผลหารของ
ของกรณฑ์ที่เท่ากัน จํานวนที่มีเครื่องหมายกรณฑตองมีอันดับ
8. (p + q a ) และ (p - q a ) เป็นสังยุคซึ่งกันและกัน โดยที่ p, q และ a เป็นจ�านวนตรรกยะ ของกรณฑเทากัน แลวใชสมบัตขิ องรากที่ n)
และ a > 0 • นักเรียนสามารถทําให 2 เปน
2+ 3
จํานวนเต็มไดอยางไร
9. ถ้า a เป็นจ�านวนจริง n เป็นจ�านวนเต็มที่มากกว่า 1 และ a มีรากที่ n
(แนวตอบ นําสังยุคของ 2 + 3 คูณทั้ง
1
an = n a ตัวเศษและตัวสวน และสังยุคของ 2 + 3
คือ 2 - 3)
10. ถ้า a เป็1 นจ�านวนจริง m, n เป็นจ�านวนเต็มที่ n > 1 และ mn เป็นเศษส่วนอย่างต�่า • ถา a เปนจํานวนจริง m, n เปนจํานวนเต็ม
และ an เป็นจ�านวนจริง จะได้ว่า ที1่ n > 1 และ mn เปนเศษสวนอยางตํ่า และ
m 1 a n เปนจํานวนจริง แลว ( n a )m = n am
a n = (an )m = ( n a )m
m 1 หรือไม เพราะเหตุใด
a n = (am)n = n a m (แนวตอบ เทากัน เพราะ
( n a )m = n am
11. การแก้สมการเลขยกก�าลังสามารถท�าได้โดยเปลี่ยนฐานของเลขยกก�าลังให้เท่ากัน 1 1
นั่นคือ (a n)m = (am) n
m m
ถ้า ax = an แล้ว x = n a n = a n)
• การแกสมการเลขยกกําลังสามารถทําได
เมื่อ a, n เป็นจ�านวนจริง โดยที่ a > 0 และ a ≠ 1
อยางไร
12. สมบัติของเลขยกก�าลัง (แนวตอบ สามารถทําไดโดยเปลี่ยนฐานของ
ให้ m, n เป็นจ�านวนตรรกยะ และ a, b เป็นจ�านวนจริงที่ไม่เท่ากับ 0 และ am, an และ bn เลขยกกําลังใหเทากัน)
เป็นจ�านวนจริง จะได้ว่า
1) am • an = am + n
m
2) a n = am - n
am n
3) (a ) = amn
4) an • bn = (ab)n
n
5) an = ( ab )n
b
เลขยกก�าลัง 39
T41
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
• (-53) • 54 เปนเลขยกกําลังที่มีฐานเดียวกัน
หรือไม เปลีย่ นใหเปนฐานเดียวกันไดหรือไม
และไดผลคูณเทากับเทาไร
แบบฝึกทักษะประจ�ำหน่วยกำรเรียนรูท้ ่ี 1
(แนวตอบ ไมเปนเลขยกกําลังทีม่ ฐี านเดียวกัน ให้นักเรียนตอบค�ำถำมต่อไปนี้
ค�ำชี้แจง :
สามารถเปลีย่ นใหเปนฐานเดียวกันไดและได
1. ให้หาค่าของ
ผลคูณเทากับ -5 3• 5 4 = -57)
1) 4 10000 2) 3 -216
• การหารเลขยกกําลังที่มีฐานเดียวกันและ 3
ฐานไม เ ท า กั บ ศู น ย มี เ ลขชี้ กํ า ลั ง เป น 3) 161.5 4) 1024- 5
m
จํานวนเต็มบวก ในรูป a n สามารถแยกได 2. ให้ประมาณค่า 5 1022
a
กี่ ก รณี อ ะไรบ า ง พร อ มทั้ ง ยกตั ว อย า ง 3. ให้หาค่าของจ�านวนต่อไปนี้ โดยใช้เครือ่ งคิดเลข
ประกอบ + 3 10
1) 416 - 216 2) 10 10
(แนวตอบ สามารถแยกได 3 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 1 เมื่อ m > n 3) 3π - 4 18 4) (1 + 5 5 )2
เชน ให m = 5 และ n = 2 4. ก�าหนดสมการ p + q 7 = 5 2 เมื่อ p และ q เป็นจ�านวนตรรกยะใด ๆ
m 5 (3 - 7 )
จะได a n = 3 2 = 3 5 - 2 = 3 3 > 0 ให้หาค่าของ p และ q
a 3
กรณีที่ 2 เมื่อ m = n 5. ก�าหนดสมการ x 5 = 27 - x 3 มีค�าตอบของสมการ คือ a + 2b 15
เชน ให m = 5 และ n = 5 เมื่อ a และ b เป็นจ�านวนเต็มใด ๆ ให้หาค่าของ a และ b
m 5
จะได a n = 3 5 = 3 5 - 5 = 3 0 = 1 6. ทรงกระบอกตรงมีปริมาตร 8 + 3 6 ลูกบาศก์เซนติเมตร
a 3 มีพื้นที่ฐานเท่ากับ 1 + 6 ตารางเซนติเมตร ให้หาความสูง
กรณีที่ 3 เมื่อ m < n h
ของทรงกระบอกนี้ และตอบในรูป p + q 6 เซนติเมตร เมื่อ
เชน ให m = 3 และ n = 5 p และ q เป็นจ�านวนตรรกยะใด ๆ
m 3
จะได a n = 3 5 = 3 3 - 5 = 3 -2
a 3
= 12 < 0) 7. ให้เขียนจ�านวนต่อไปนี้ในรูปอย่างง่าย เมื่อ x และ y เป็นจ�านวนจริงบวก
3 1) ( x3 )-4 2) 3 ÷ x-3
4. ครูใหนกั เรียนเขียนผังมโนทัศน หนวยการเรียน
27x 3 23 16x -4y-2 14
รูที่ 1 เลขยกกําลัง ลงในกระดาษ A4 3) ( 6 ) 4) ( 6 )
8y 81y
1 -3 4 -4 12 25
5) ( x-61y 41 ) 6) ( 32x y
243x )
x 3 y4
40
ขัน้ สรุป
5. ครูใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 3 กลุม แลว
3 2 4 2
ทํากิจกรรม ดังนี้
7) 5 x3 • 3 8x 8) (x-3 y5)- 3 (x5 y- 3)3 • ให นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ ม ทํ า แบบฝ ก ทั ก ษะ
2 2
- ประจําหนวยการเรียนรูที่ 1 โดยการแบงขอ
9) x23 y- 15-2
1
10) (x- 3 y2)5 • 3 27x-3y2
(x y 5) ดังนี้
กลุมที่ 1 ทําขอ 1, 4, 7, 10
8. ให้หาค่าของ กลุมที่ 2 ทําขอ 2, 5, 8, 11
1) 5 + 20 + 45 2) 2 27 - 12 + 3 75 กลุมที่ 3 ทําขอ 3, 6, 9, 12
3) 3 ( 98 - 32 ) 4) 3 20 • 3 50 + 5 16 • 5 2 • ใหนักเรียนแตละกลุมชวยกันทําแบบฝก-
2
5) ( 7 - 3 )( 7 + 3 ) 6) (2 3 + 3 2 )(2 3 - 3 2 ) ทักษะประจําหนวยการเรียนรูที่ 1 โดยเขียน
วิธีคิดลงในกระดาษ A4 จากนั้นครูคอย
7) ( 5 - 2 )2 8) (2 7 - 10 )2
ตรวจสอบความถูกตองในแตละกลุมและ
9. ให้หาค่า x จากสมการต่อไปนี้ แนะแนวคิดในขอนั้นๆ
1) 4-6 • 4x = 1 2) 512 ÷ 5x = 25 • ใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนออกมาเฉลย
3) 16x = 8 4) 2018x = 1 วิธีคิด พรอมอธิบายแนวคิดของกลุมตัวเอง
x-2 x-6 หนาชั้นเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความ
5) 1010 = 0.0001 6) 2 2 = 29 ถูกตอง
10. ถ้า x-3 = 7 แล้ว x3 มีค่าเท่าใด
ขัน้ ประเมิน
11. ถ้า ( 2 - 1 )x = ( 2 + 1 )2 แล้ว x + 1 มีค่าเท่าใด 1. ครูตรวจใบงานที่ 1.2
2. ครูตรวจแบบฝกทักษะ 1.3
12. พีระมิดฐานสีเ่ หลีย่ มจัตรุ สั มีปริมาตร 27 ลูกบาศก์เซนติเมตร และมีความสูงเป็น 3 เท่าของ 3. ครูตรวจ Exercise 1.3
ความยาวของฐานแต่ละด้าน ให้หาความยาวรอบฐานของพีระมิด 4. ครูตรวจแบบฝกทักษะประจําหนวยการเรียนรู
ที่ 1
5. ครูตรวจผังมโนทัศน หนวยการเรียนรูที่ 1
เลขยกกําลัง
6. ครูประเมินการนําเสนอผลงาน
7. ครูสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล
8. ครูสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม
9. ครูสังเกตความมีวินัย ใฝเรียนรู
เลขยกก�าลัง 41 มุงมั่นในการทํางาน
= 8 (ab)8
คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน
ระดับคะแนน
ลาดับที่ รายการประเมิน
4 3 2 1
1 การแสดงความคิดเห็น
= ab
2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
3 การทางานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
4 ความมีน้าใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
= (-1)(2) ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
.............../................./................
= -2 เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้
ให้
ให้
ให้
4
3
2
คะแนน
คะแนน
คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
= 2 ช่วงคะแนน
18-20
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ระดับคุณภาพ
ดีมาก
14-17 ดี
T43