Professional Documents
Culture Documents
เอกสารประกอบคูมือครู
วิชา กลุมสาระการเร�ยนรู้ ภาษาไทย
วรรณคดีและวรรณกรรม ม.3
ลักษณะเดน คูมือครู ฉบับนี้ สําหร
ับค รู
สวนเสริมด้านหน้า
การใชวฏั จักรการเรียนรู 5Es : กระบวนการพัฒนาศักยภาพการคิด
และการสรางองคความรู
การใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es : กระบวนการพัฒนาศักยภาพการคิด
และการสร้างองค์ความรู้
รูปแบบการสอนที่สัมพันธ์กับกระบวนการคิดและการท�างานของสมองของผู้เรียนที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย
ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ คือ วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es ซึ่งผู้จัดท�าคู่มือครูได้น�ามาใช้เป็นแนวทางออกแบบ
กิจกรรมการเรียนการสอนในคู่มือครูฉบับนี้ตามล�าดับขั้นตอนการเรียนรู้ ดังนี้
กระตุน้ ความสนใจ
Engage
• เป็นขั้นที่ผู้สอนน�ำเข้ำสู่
บทเรียน เพื่อกระตุ้น
ควำมสนใจของนักเรียน
ด้วยเรื่องรำว หรือ
ส�ารวจค้นหา
Explore
• เป็นขั้นที่ผู้สอนเปิด
โอกำสให้ผู้เรียนสังเกต
และร่วมมือกันส�ำรวจ
เพื่อให้เห็นปัญหำ
อธิบายความรู้
Explain
• เป็นขั้นที่ผู้สอนมี
ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน
เช่น ให้กำรแนะน�ำ
เทคนิควิธีกำรสอน
ขยายความเข้าใจ
• เป็นขั้นที่ผู้สอนได้ใช้
ทีช่ ่วยพัฒนำผู้เรียน
ตั้งค�ำถำมกระตุ้นให้คิด ให้น�ำควำมรู้ที่เกิดขึ้น
Expand
ตรวจสอบผล
• เป็นขั้นที่ผู้สอนประเมิน
มโนทัศน์ของผู้เรียน
โดยตรวจสอบจำก
ควำมคิดที่เปลี่ยนไป
Evaluate
ประกอบด้วย
1. กระตุ้นความสนใจ : Engage
เหตุกำรณ์ที่น่ำสนใจ รวมถึงวิธีกำรศึกษำ เพื่อให้ผู้เรียนได้ค้นหำ ไปคิดค้นต่อๆ ไป และควำมคิดรวบยอด
ค้นคว้ำข้อมูลควำมรู้ ค�ำตอบ เพือ่ พัฒนำทักษะ ที่เกิดขึ้นใหม่ ตรวจสอบ
• ใช้เทคนิควิธีกำรสอน
และค�ำถำมทบทวนควำมรู ้ ที่จะน�ำไปสู่ควำมเข้ำใจ • น�ำข้อมูลควำมรู้จำก กำรเรียนรู้และ ทักษะ กระบวนกำร
หรือประสบกำรณ์เดิม ประเด็นปัญหำนั้นๆ กำรศึกษำค้นคว้ำ กำรท�ำงำนร่วมกัน ปฏิบัติ กำรแก้ปัญหำ
เป็นกลุ่ม ระดมสมอง กำรตอบค�ำถำมรวบยอด
ของผู้เรียน เพื่อเชื่อมโยง • ให้นักเรียนท�ำควำม ในขัน้ ที ่ 2 มำวิเครำะห์
ผู้เรียนเข้ำสู่บทเรียนใหม่ เข้ำใจในประเด็นหัวข้อ แปลผล สรุปผล เพื่อคิดสร้ำงสรรค์ และกำรเคำรพควำมคิด
ร่วมกัน หรือยอมรับเหตุผล
• ช่วยให้นักเรียนสำมำรถ ที่จะศึกษำค้นคว้ำ • น�ำเสนอผลที่ได้ศึกษำ ของคนอื่นเพื่อกำร
สรุปประเด็นส�ำคัญที่เป็น อย่ำงถ่องแท้ • นักเรียนสำมำรถน�ำ
2. ส�ารวจค้นหา : Explore
ค้นคว้ำมำในรูปแบบ สร้ำงสรรค์ควำมรู้
หัวข้อกำรเรียนรู้ของ แล้วลงมือปฏิบตั ิ สำรสนเทศต่ำงๆ เช่น ควำมรู้ที่สร้ำงขึ้นใหม่
เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล ไปเชื่อมโยงกับ ร่วมกัน
บทเรียนได้ เขียนแผนภูมิ แผนผัง
ควำมรู้ แสดงมโนทัศน์ ประสบกำรณ์เดิม • นักเรียนสำมำรถ
• ส�ำรวจตรวจสอบ เขียนควำมเรียง โดยน�ำข้อสรุปที่ได้ไป ประเมินผลกำรเรียนรู้
อธิบำยในเหตุกำรณ์ ของตนเอง เพื่อสรุปผล
โดยวิธีกำรต่ำงๆ เช่น เขียนรำยงำน เป็นต้น
สัมภำษณ์ ทดลอง ต่ำงๆ หรือน�ำไปปฏิบัติ ว่ำนักเรียนมีควำมรู้
อ่ำนค้นคว้ำข้อมูล ในสถำนกำรณ์ใหม่ๆ อะไรเพิ่มขึ้นมำบ้ำง
ที่เกี่ยวข้องกับชีวิต มำกน้อยเพียงใด และ
จำกเอกสำร แหล่ง
3. อธิบายความรู้ : Explain
ข้อมูลต่ำงๆ จนได้ ประจ�ำวันของตนเอง จะน�ำควำมรู้เหล่ำนั้น
ข้อมูลควำมรู้ตำมที่ เพื่อขยำยควำมรู้ ไปประยุกต์ใช้ในกำร
ควำมเข้ำใจให้ เรียนรู้เรื่องอื่นๆ
ตั้งประเด็นศึกษำไว้
กว้ำงขวำงยิ่งขึ้น ได้อย่ำงไร
• นักเรียนจะเกิดเจตคติ
และเห็นคุณค่ำของ
ตนเองจำกผลกำร
เรียนรู้ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็น
4. ขยายความเข้าใจ : Expand
กำรเรียนรู้ที่มีควำมสุข
อย่ำงแท้จริง
อธิบายความรู
Engage
สํารวจคนหา
Explore
อธิบายความรู
Explain ขยายความเขาใจ
Expand
ตรวจสอบผล
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
กระตุนความสนใจ
Engage
สํารวจคนหา
Explore
อธิบายความรู
Explain ขยายความเขาใจ
Expand
ตรวจสอบผล
Evaluate
กระบวนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน เพื่อพัฒนาการคิดวิเคราะห์
๒๔๕๐
1. ใหนักเรียนศึกษาเสนเวลา และ
ช่วยเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้
๓
สุนทรภูไ ดรบั ความลําบากมาก
สันนิษฐานวาอยูในสมณเพศ
ถึงสองครั้ง กลาวคือ
มีชวงเวลาหนึ่งที่ละสมณเพศ
ออกมาทําการคาขายเล็กๆ
นอยๆ และขายฝปากเลี้ยงชีพ
มหากวีสี่แผนดิน จากบทประพันธตอไปนี้
สุนทรภูสิ้นชีวิตขณะอายุได ๖๙ ป
2. ครูสุมนักเรียนมาอธิบาย
พ.ศ. ๒๓๙๔-๒๔๑๑
“ฝายเงือกนํ้าคํานับอภิวาท
เสภาเรื่องพระราชพงศาวดาร
แผนดินรัชกาลที่ ๔
เหเรื่องพระอภัยมณี
ผลงานประพันธ
แตงตั้งเปนเจากรมอาลักษณ
พระบาทสมเด็จพระปนเกลา
เหเรื่องกากี
เหจับระบํา
ไปเปดประตูคูหาถาเขาเห็น ตายหรือเปนวาไมถูกเลยลูกแกว
เมื่อลาสิกขาบท สุนทรภูได
อภัยนุราช
อโนมานเคียงกันสีทันดร”
ขอมูลทั่วไป
ภายหลังไดสถาปนาเปน
กรมขุนอิศเรศรังสรรค
แมนสินสมุทรสุดสวาทพอคลาดแคลว ไมรอดแลวบิตุรงคก็คงตาย
เสนสัญลักษณ
สะทอนใหเห็นคุณคาดานสังคม
รับการอุปถัมภจาก
ฝายพระราชวังบวร
ขอสอบ ป 53
มีบรรดาศักดิ์เปน
ราว พ.ศ. ๒๓๙๔
พระสุนทรโวหาร
NET
พระโอรสรูแจงไมแคลงจิต รําคาญคิดเสียใจมิใครหาย และวิถีไทยอยางไร
เน�้อหาชวยครูเตรียมการสอน
ขอสอบออกเกี่ยวกับประวัติและ (แนวตอบ สะทอนใหเห็นความสําคัญ
ดวยแมกลับอัปลักษณเปนยักษราย ก็ฟูมฟายชลนาโศกาลัย
ผลงานของสุนทรภู โดยโจทยกําหนด ๒๓๙๔
ของการไหว เปนคุณคาทางวัฒนธรรม
ฝายเงือกนํ้านอนกลิ้งนิ่งสดับ กิตติศัพทสองแจงแถลงไข ของไทยและเปนมรดกของชาติ)
๒๔๐๐
พ.ศ. ๒๓๖๗-๒๓๙๔
การเขารับ ประวัติ
พระอักษรเจาฟาชายกลาง
รูภาษามนุษยแนในใจ จะกราบไหววอนวาใหปรานี
แผนดินรัชกาลที่ ๓
เปนพระอาจารยถวาย
๒๓๙๘
เพลงยาวถวายโอวาท
ราชการในสมัย ความเปนมา
ในราว พ.ศ. ๒๓๗๒
ในราว พ.ศ. ๒๓๖๙
พระโอรสในเจาฟา
และเจาฟาชายปว
คอยเขยื้อนเลื่อนลุกขึ้นทั้งเจ็บ ยังมึนเหน็บนอมประณตบทศรี
ไมปรากฏปที่แนชัด
สุนทรภูออกบวช
รัตนโกสินทร ในวัยเด็ก
กุณฑลทิพยวดี
ไมปรากฏปที่แนชัด
ตอนตน ๒๓๘๘-๒๓๙๒
พระผานเกลาเจาฟาในธาตรี ขาขอชีวิตไวอยาใหตาย
๒๓๘๓-๒๓๘๕
๒๓๘๔
๒๓๘๕
พระราชบุตรฉุดลากลําบากเหลือ ดังหนังเนื้อนี้จะแยกแตกสลาย เกร็ดแนะครู
สุนทรภู
๒๓๗๓
๒๓๗๒ ๒๓๘๐-๒๓๘๓ ทั้งลูกเตาเผาพงศก็พลัดพราย ยังแตกายเกือบจะดิ้นสิ้นชีวัน ครูเพิ่มเติมความรูความสําคัญของ
๒๓๖๙
๒๓๗๕ พระองคเลาเขาก็พาเอามาไว เศราพระทัยทุกขตรอมเหมือนหมอมฉัน การมี สั ม มาคารวะ การไหว ที่ มี
บทกลอน พระบาทสมเด็จ-
เกร็ดแนะครู
พระพุทธเลิศหลานภาลัย
ตําแหนงขุนสุนทรโวหาร
ตอนกําเนิด
แผนดินรัชกาลที่ ๒
พลายงาม
ในกรมพระอาลักษณ
๒๓๗๑
ในชีวิต นิราศพระบาท
โปรดใหรับราชการ
ซึ่งปากถํ้าทําลายลงเสียหมด ใหโอรสยกตั้งบังคูหา
นิราศวัดเจาฟา
นิราศอิเหนา
สุภาษิตสอนสตรี
พระไชยสุริยา
นิราศสุพรรณ
นิราศเมืองเพชร
มีชื่อเสียงทางดาน
รําพันพิลาป
นิราศพระประธม
ลักษณวงศ
สิงหไกรภพ
สวัสดิรักษา
เปนกวีที่ปรึกษา
พระอภัยมณี
ไมปรากฏปที่แนชัด
ขาเห็นอยางนางมารจะนานมา จะอาสาเกลี่ยทรายเสียใหดี โดยครูใหนักเรียนรวมกันสาธิตการ
แผนผังความคิดขางตน ควรเปน ๒๓๖๔ หนึ่งพวกพองของขาคณาญาติ ขอรองบาทบงกชบทศรี ไหวแบบตางๆ
ไมปรากฏปที่แนชัด
องคประกอบของเรื่องใด แมนประสงคสิ่งไรในนที ที่สิ่งมีจะเอามาสารพัน
๒๓๕๐
๒๓๕๙
สุนทรภู มหากวีสี่แผนดิน
1. ชีวประวัติของบุคคลสําคัญ
พ.ศ. ๒๓๒๕-๒๓๕๒
พระฟงเงือกพูดไดใหสงสาร จึงวาทานคิดนี้ดีขยัน
มีเหตุใหตองติดคุก
เพราะดื่มสุราและ
อาละวาด แตสุดทาย
ไดรับพระราชอภัยโทษ
เมื่อมีโอกาสไดถวาย
กลอนตองพระราชหฤทัย
พระอภัยมณี
แผนดินรัชกาลที่ ๑
ข้อสังเกต และแนวทางการจัดกิจกรรม
2. ชีวิตกวีเอก : สุนทรภู
อภัยโทษในป พ.ศ. ๒๓๔๙
นักเรียนควรรู
แตเมื่อกรมพระราชวังหลัง
นิราศเมืองแกลง
รูเจรจาสารพัดนาอัศจรรย อยูพูดกันอีกสักหนอยจึงคอยไป
สุนทรภูลอบรักกับแมจัน
เสด็จทิวงคตจึงไดรับการ
ทั้งสองจึงตองโทษจําคุก
นิราศพระบาท
เดือน ๘ ขึ้น ๑ คํ่า ปมะเมีย
ตรงกับวันที่ ๒๖ มิถุนายน
๒๓๒๙ ณ บริเวณดานเหนือ
3. บุคคลในประวัติศาสตรไทย
(สถานีรถไฟบางกอกนอย
รัชกาลที่ ๑ เมื่อวันจันทร
เราตรองตรึกนึกจะหนีนางผีเสื้อ แตใตเหนือไมรูแหงตําแหนงไหน
จุลศักราช ๑๑๔๘ หรือ
นางขาหลวงในวัง
โคบุตร
ของพระราชวังหลัง
ทานเจนทางกลางทะเลคะเนใจ ทํากระไรจึงจะพนทนทรมาน
(วิเคราะหคําตอบ เมื่อพิจารณาจาก แผนดิน เชน ธาษตรี ปฐพี ปฐวี ปถวี
ในปจจุบัน)
๒๓๕๐
แผนผั ง ความคิ ด ที่ โ จทย กํ า หนดจะ ๒๓๔๙ ฝายเงือกนํ้าคํานับอภิวาท ขาพระบาททราบสิ้นทุกถิ่นฐาน ปถพี ไผท พสุธา ภพ ภูวดล วสุธา
พบขอความที่ปรากฏในแผนผังเปน เมทินี เปนตน
เขาสูโลกของการประพันธ
อันนํ้านี้มีนามตามบุราณ อโนมานเคียงกันสีทันดร
มีความรูพอเปนเสมียน
แตภายหลังไดหันหนา
ชีปะขาว (ศรีสุดาราม)
๒๓๒๙
หนังสือกับพระที่วัด
เรื่องเกี่ยวกับชีวิตของสุนทรภู เพราะ
ชวงวัยเด็กไดเรียน
เปนเขตแควนแดนที่นางผีเสื้อ ขางฝายเหนือถึงมหิงษะสิงขร
อธิบายเพิ�มเติมให้นักเรียน
ว า เกี่ ย วกั บ ความเป น มาของชี วิ ต
กวีเอก : สุนทรภู ตอบขอ 2.) @
มุม IT
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติและผลงานของสุนทรภู ไดที่
http://www.rayong.go.th/redcross/data/history/history15.pdf
http://hilight.kapook.com/view/24209
32 คูมือครู
คูมือครู 39
@ มุม IT แนะน�าแหล่งค้นคว้าจากเว็บไซต์
สวนเสริมด้านท้าย
แบบทดสอบว�ชา
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3
ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม
2.
ชื่อโครงการ วรรณกรรมพื้นบาน
หลักการและเหตุผล
วรรณกรรมพื้นบานเปนสวนหนึ่งของการศึกษาวรรณคดีและวรรณกรรมไทย ในปจจุบันมีสื่อตางๆ มากมายในสังคม ทําใหสภาพสังคม
เปลี่ยนแปลงไป นักเรียนจึงสนใจวรรณกรรมพื้นบานนอยลง ดังนั้น เพื่อไมใหวรรณกรรมพื้นบานซึ่งเปนภูมิปญญาไทยที่มีคุณคาไดรับ
ความนิยมลดลง นักเรียนจึงควรศึกษาและรวบรวมวรรณกรรมพื้นบานเพื่อไมใหวรรณกรรมนี้สูญหายไปจากสังคมไทย
การเรียนรูสูบันได 5 ขั้น
วิเคราะห์มาตรฐานตัวชี้วัด เป็นตัวอย่างการจัดท�า
¤Ðá¹¹àµçÁ
2. ใหนักเรียนเลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงขอเดียว 40
3. วัตถุประสงคของโครงการ
1.
A
“งานประพันธที่มีรูปแบบเหมาะกับเนื้อหา มีศิลปะ
การประพันธชั้นสูงสามารถถายทอดอารมณ และ
4.
F
“วรรณคดีไทยคือกระจกเงาสะทอนสังคมในยุคนั้นๆ” ● 1.
2.
เพือ่ ใหนกั เรียนระบุปญ
หาทีว่ รรณกรรมพืน้ บานหายไปจากสังคมไทยได และเพือ่ รวบรวมวรรณกรรมพืน้ บานทีม่ ปี รากฏอยูใ นสังคมไทย
เพื่อใหนักเรียนมีการวางแผนปฏิบัติการในการจัดการศึกษา เพื่อรวบรวมวรรณกรรมพื้นบานไมใหสูญหายไปจากสังคมไทย
ขอใดสอดคลองกับคํากลาวนี้มากที่สุด 3. เพื่อใหนักเรียนตระหนักถึงคุณคาของวรรณกรรมพื้นบาน
แบบทดสอบ
จินตนาการของมนุษยเปนเรื่องราวที่นาสนใจได”
1. วรรณคดีไทยกลาวถึงประวัติของชนชาติไทย 4. เพื่อสงเสริมใหนักเรียนวางแผนการศึกษาวรรณกรรมพื้นบาน
แบบทดสอบ
โครงการบูรณาการ
4. ฉันทลักษณ F 1. ใหความเพลิดเพลิน
2. ใหความเขาใจในชีวิต 5. ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
2. “งานประพันธที่มีเนื้อหาพรรณนาถึงการเดินทาง 3. ใหแนวคิดและกลวิธีในการนําเสนอ
วิเคราะห์ระดับพฤติกรรม ในการน�าความรู้ที่เรียน
B และแสดงความรูสึกครํ่าครวญถึงนางอันเปนที่รัก 4. ใหประสบการณที่สามารถนําไปประยุกตใชได คําชีแ้ จง ใหนกั เรียนแบงกลุม เทาๆ กัน ใหแตละกลุม รวมกันประชาสัมพันธโครงการวรรณกรรมพืน้ บานในรูปแบบตางๆ โดยปฏิบตั ติ าม
ตลอดการเดินทาง” ขั้นตอน ดังนี้
6. ครืนครืนใชฟารอง เรียมครวญ ขั้นที่ 1 ตั้งประเด็นคําถาม
ขอความนี้เปนลักษณะของคําประพันธชนิดใด
1. ฉันท
E
บทประพันธในขอใดมีลักษณะการใชภาพพจน ตรงกับ
● นักเรียนแตละกลุม รวมกันวิเคราะหสาเหตุทวี่ รรณกรรมพืน้ บานสูญหายไปจากสังคมไทย เพือ่ กําหนดประเด็นในการศึกษา
คนควา และจัดทําขอมูลลงในหนังสือทํามือ วรรณกรรมพื้นบาน
2. ลิลิต บทประพันธขางตน
ขั้นที่ 2 สืบคนความรู
3. นิราศ 1. เสียงรํ่าไหสนั่นกอง กังวาน นักเรียนแตละกลุมศึกษาขอมูลความรูเกี่ยวกับวรรณกรรมพื้นบาน จากแหลงขอมูล เพื่อรวบรวมขอมูลสําหรับเผยแพร
การคิดที่สัมพันธ์กับ ไปประยุกต์ใช้
4. กาพย 2. เรียมรํ่านํ้าเนตรถวม ถึงพรหม ในหนังสือทํามือ วรรณกรรมพื้นบาน
3. การแบงประเภทของวรรณคดีตามลักษณะของเนือ้ หา 3. วังเอยวังเวง หงางเหงงยํ่าคํ่าระฆังขาน
4. แมวเอยแมวเหมียว รูปรางปราดเปรียวเปนนักหนา ขั้นที่ 3 สรุปองคความรู
B ขอใดกลาวถูกตอง นักเรียนแตละกลุม นําเสนอขอมูลที่ไดจากการศึกษามารวมกันคิดวิเคราะห สังเคราะหปญ
หาทีว่ รรณกรรมพืน้ บานสูญหายไป
1. โคลงโลกนิติจัดเปนวรรณคดีคําสอน 7. ขอใดใชภาพพจนแตกตางจากขออื่น จากสังคมไทย และสรุปเปนองคความรู พรอมเขียนวรรณกรรมพื้นบานที่ไดจากแหลงขอมูลที่ศึกษาลงในหนังสือทํามือ
2. ลิลิตนารายณสิบปางจัดเปนวรรณคดีการละคร E 1. ปลาทุกทุกขอกกรม เหมือนทุกขพี่ที่จากนาง วรรณกรรมพื้นบาน
3. ไตรภูมิพระรวงจัดเปนวรรณคดีเฉลิมพระเกียรติ 2. กระแหแหหางชาย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม
ขั้นที่ 4 การสื่อสารและนําเสนอ
4. เสภาพระราชพงศาวดารจัดเปนวรรณคดี 3. เพียนทองงามดั่งทอง ไมเหมือนนองหมตาดพราย
แบบทดสอบ
นักเรียนแตละกลุมตรวจสอบความถูกตองของการเขียนโครงการ วรรณกรรมพื้นบาน จากนั้นตัวแทนแตละกลุมนําเสนอ
ขนบธรรมเนียมประเพณี 4. ลูกผูชายลายมือนั้นคือยศ เจาจงอตสาหทาํ สมํา่ เสมียน ขอมูลหนาชั้นเรียน
ความรู ความจํา ความเขาใจ การนําไปใช การวิเคราะห การสังเคราะห การประเมินคา ขั้นที่ 5 บริการสังคมและสาธารณะ
A B C D E F นักเรียนแตละกลุมดําเนินการนําหนังสือทํามือ วรรณกรรมพื้นบาน ที่ทําเสร็จแลวแจกจายใหกับเพื่อนนักเรียนหองอื่น
หรือบุคลากรในโรงเรียน เพื่อเผยแพรความรูเกี่ยวกับวรรณกรรมพื้นบาน จากนั้นนําผลงานมาจัดแสดงในชั้นเรียน
โครงการวัดและประเมินผล (2)
(46)
มีเฉลยละเอียด
โครงการวัดและประเมินผล
เสริม 1
การใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es : กระบวนการพัฒนาศักยภาพการคิด
และการสร้างองค์ความรู้
รูปแบบการสอนที่สัมพันธ์กับกระบวนการคิดและการท�ำงานของสมองของผู้เรียนที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย
ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ คือ วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es ซึ่งผู้จัดท�ำคู่มือครูได้น�ำมาใช้เป็นแนวทางออกแบบ
กิจกรรมการเรียนการสอนในคู่มือครูฉบับนี้ตามล�ำดับขั้นตอนการเรียนรู้ ดังนี้
เสริม 2
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน
ภาษาไทย
วรรณคดีและวรรณกรรม ม.๓
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๓
กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ผูเรียบเรียง
นางฟองจันทร สุขยิ่ง
นางกัลยา สหชาติโกสีย
นายภาสกร เกิดออน
นางสาวระวีวรรณ อินทรประพันธ
นายศานติ ภักดีคํา
นายพอพล สุกใส
ผูตรวจ
นางจินตนา วีรเกียรติสุนทร
นางวรวรรณ คงมานุสรณ
นายศักดิ์ แวววิริยะ
บรรณาธิการ
นายเอกรินทร สี่มหาศาล
นางประนอม พงษเผือก
รหัสสินคา ๒๓๔๑๐๑๓
คณะผูจัดทําคูมือครู
¾ÔÁ¾¤ÃÑ駷Õè 11 • ประนอม พงษเผือก • พิมพรรณ เพ็ญศิริ
ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ 2341013 • สมปอง ประทีปชวง
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน
ภาษาไทย
วรรณคดีและวรรณกรรม ม.๓
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๓
กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
พิมพครั้งที่ ๑๘
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ
ISBN :
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
¤íÒá¹Ð¹íÒ㹡ÒÃ㪌˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹
หนังสือเรียน วรรณคดีและวรรณกรรมเลมนี้ เปนสื่อสําหรับใชประกอบการเรียนการสอนในรายวิชาพื้นฐาน
กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๓
เนื้อหาตรงตามสาระการเรียนรูแกนกลางขั้นพื้นฐาน อานทําความเขาใจงาย ใหทั้งความรูและชวยพัฒนาผูเรียน
ตามหลักสูตรและตัวชี้วัด เนื้อหาสาระแบงออกเปนหนวยการเรียนรูตามโครงสรางรายวิชา สะดวกแกการจัดการเรียน
การสอนและการวัดผลประเมินผล พรอมเสริมองคประกอบอื่นๆ ที่จะชวยทําใหผูเรียนไดรับความรูอยางมีประสิทธิภาพ
à¡ÃÔ¹è ¹íÒà¾×Íè ãˌࢌÒ㨶֧ÊÒÃÐÊíÒ¤ÑÞ
ã¹Ë¹‹Ç·Õè¨ÐàÃÕ¹
¨Ñ´¡ÅØ‹Áà¹×éÍËÒ໚¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ºÍ¡àÅ‹Òà¡ŒÒÊÔº ໚¹àÃ×èͧ¹‹ÒÃÙŒà¾ÔèÁàµÔÁ¨Ò¡à¹×éÍËÒ
Êдǡᡋ¡ÒèѴ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ â´ÂÁÕá·Ã¡à»š¹ÃÐÂÐæ
๑ ¤ÇÒÁ໚¹ÁÒ หมอมเจาอิศรญาณนิพนธเ
พลงยาว ºÍ¡àÅ‹Òà¡ŒÒÊÔº
างวา “เพลงยาวอิศรญาณ”
อิศรญาณภาษิต เรียกอีกอย ้น พรอมเสนอแนะแนวทางป
ฏิบัติตนแตไมถึง
คิดเห็นที่มีตอสังคมในยุคนั
ฉบับนี้ขึ้น เพื่อสะทอนความ คําสุภาษิต
ขั้นสอน คําสุภาษิต ซึง่ คนไทยสมยั เกาคิ
ดขึน้ ใช มีความหมายหลายปร
ตรงทีใ่ ชเขียน หรือพูดใหผฟ ู ง ผูอ า นคิดและรูค วามหมาย ะการแตกตางไปจากความหมาย
๒ »ÃÐÇѵԼٌᵋ§ นามเดิม)
เปรย ดูหมิ่น เปนถอยคําสามั
ญที่ใชป
สะกิดใจ ชวนคิด สุภาษิตไทยโบรา ระยคสั้นๆ แตความหมายลึกซึ้งคมคาย ไพเราะ เจ็บแสบ
เชน กลาวเขียนเพือ่ สอนใจ ชมเชย
เปรียบ
หมอมเจาอิศรญาณ (ไมทราบพระ ๓๐๐ - ๔๐๐ ปลงมาจนถึงสมัย
ณผูกขึ้นจากสิ่งแวดลอมความเป
ชาวตะวันตกเดินเรือสํารวจโลกม นอยูของผูคนตั้งแตชวงเวลา
ศเธอ กรมหลวง
เปนพระโอรสในพระเจาบรมวง พ.ศ. ๑๕๑๑ าถึงตะวันออกในสมัยอยุธยา
ราว
พระอง ค ท รงผนว ชที ่วัดบวร- ตัวอยางคําสุภาษิตของไทยสมั
มหิศวรินทรามเรศ สุภาษิตของไทยแทมาเกากอ
ยโบราณ ซึ่งเปน
า อิ สฺ ส รญาโณ มี น ไดถูกเปลี่ยนแปลง
นิ เ วศฯ ได พ ระนาม ฉายาว นําเอาชื่อของสินคาอันเปนพื
สมัยพระบาทสมเด็จ- ชของฝรั
ชาวไทย คําสุภาษิตที่วา “ฆาควายอย ่งนําเขามาขาย
พระชนมชีพอยูในชวงรัช าเสียดายเกลือ”
“เกลือ” เครื่องปรุงที่ใชสําหรั
พระจอมเกลาเจาอยูหัว ตากแห ง ไว เ ป น เสบี ย งกรั ง เก็
บหมักเนื้อหรือปลาสด
วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร บ ไว กิ น ได น านไม บู ด
๓ ÅѡɳФӻÃоѹ¸ นธประเภทกลอนเพลงยาว ซึ่งมีลักษณะบังคับเหมือน
ไม เ สี ย สุ ภ าษิ ต ข อ นี้ ผู รู ส มั ย
กิ น สิ น
คําวา “เกลือ” เปน “พริก” ฆาควายอย ค า ฝรั่ ง เปลี่ ย น
าเสียดายพริก”
าประพั
อิศรญาณภาษิตแตงดวยคํ
พริกในที่นี้อาจจะมาจากคําวา
พริกไทย ซึ่งเปนสินคา
วา เอย ดังนี้
ò
ดวยวรรครับและจบดวยคํา ของพวกโปตุเกส สเปน ตัดชื
่อออกเหลือแค “พริก”
กลอนสุภาพ แตจะขึ้นบทแรก คงจะตองการใหคลองกับวรรคที
อิศรญาณชาญกลอนอักษรสาร หนึ่งวา“รักหยอกจะเกรงอะไร
่เพิ่มขึ้นใหมอีกวรรค
หนวยที่ โดยตํานานศุภอรรถสวัสดี ปฏิทรรศน (paradox) เปนคํ
กับหยิก”
ากล
เทศนาคําไทยใหเปนทาน ... จนไมนาเปนไปได แตหากพิจารณาให าวที่ขัดแยงกันเองในคํากลาวนั้นหรือในสถานการณน
................................................
พระอภัยมณี ตอ ........................ ............ ............ ... ความจริงอีกดวย การใชปฏิท ลึกแลว คํากลาวหรือสถานกา
รณนั้นกลับเปนไปไดและเปน
ั้น
คําศัพท
ทร
ตแปลงเปนพระอิน
ครั้งที่ ๓ อินทรชิ ในครั้งนี้
เวหน ความหมาย
ารบกับพระลักษมณ ทองฟา
ขี่ชางเอราวัณออกม
ถ ู ก ศรพ รหม าสต ร ส ลบไป พร
อม สมรภูมิ
สนามรบ
ค�ำถำม ประจ�ำหน่วยกำรเรียนรู้
พระ ลั ก ษมณ วัณ หนุมาน สรอยสุมาลี
งเขาหักคอชางเอรา
พลวานร หนุมานตร เมือ่ หนุมาน
ดอกไม ๑. ช้างเอราวัณมีลักษณะอย่างไร ให้นักเรียนทดลองวาดภาพช้างเอราวัณตามจินตนาการของนักเรียน
นศรจนสลบไปและ สหัสนัยน
ถูกอินทรชิตตีดว ยคั บ
ั พระร าม พันตา หมายถึง ๒. โวหารที่มีความเด่นชัดที่สุดในวรรณคดีเรื่องนี้ คือ โวหารประเภทใด
งฟนขึ้น ประกอบก สัตภัณฑ พระอินทร ๓. เพราะเหตุใดอินทรชิตจึงต้องแปลงกายเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณเพื่อเป็นกลลวงฝ่ายพระราม
ตองกระแสลมพัดจึ านไปนํา
ูมิ พิเภกจึงใหหนุม ชื่อหมูเขา ๗ ชั้น ทั้งๆ ที่อินทรชิตมีความช�านาญในการรบอย่างยิ่ง
และพิเภกมายังสมรภ และไพรพลไดกลิ่น นะ เนมินธร วินัน
ที่ลอมรอบเขาพระสุ
เมรุ ไดแก ยุคนธร
พระล ก
ั ษมณ สุบรรณ ตกะ และอัสกัณ อิสินธร กรวิก สุท ๔. นักเรียนสรุปข้อคิดที่ได้รับจากเรื่องบทพากย์เอราวัณ
ยาที่เขาสรรพยา ภนิยาชุบศร ัส
๕. คุณค่าทางด้านใดของเรื่องบทพากย์เอราวัณที่มีความโดดเด่นมากที่สุด
จึงกลับไปตัง้ พิธกี มุ ครุฑ พาหนะของ
สนามรบ ยาจึงฟน อินทรชิต พระนารายณ
ถูกศรนาคบาศกลาง ษมณลางพิธีได
ภาพวาดพระลักษมณ ๓ เลม แตพระลัก
รํ่าลาลูกเมีย แลวออก
ครั้งที่ ๔ อินทรชิต นําพาน
ลงศรตัดคอ องคต
ไปรบ ก็ถูกพระรามแผ งแผลงศรไป
และพระรามจึงตอ
แวนฟาไปรองรับ ระสาท
ทั้งนี้เพราะพระพรหมป
ทําลายใหเปนจุณ องฤทธ ิ์ “ถา
อินทรชิตใหเรื
ศรนาคบาศและอวยพร วตก
งตาย ก็ ใ ห ต ายบน อากาศ ถาแมนหั อมรินทร
แมนตอ
ถึงดิน จงกลายเป น
ไฟกั ล ป เ ผาผล าญโลก”
อัปสร
พระอินทร กายม
ีสีเขียว เปนเทพส
ูงสุดบนสวรรคชั้น
ดาวดึงส
กิจกรรม สร้ำงสรรค์พัฒนำกำรเรียนรู้
นางฟา
รั้งที่ อารักษ ศกึ ษาบทพากย์โขนตอนอืน่ ๆ ทีน่ กั เรียนสนใจเปรียบเทียบกลวิธกี ารใช้ภาษาว่ามีความ
พของอินทรชิต ากกอนการออกรบในค กิจกรรมที่ ๑
ภาพวาดงานพระศ นเพียงบางสวนในฉ า และ
เทพารักษ เทวดาผู
สอดคล้องกับเนื้อหา ฉาก และอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครในเรื่องอย่างไร
ัณตอนที่นํามาศึกษาเป อินทเภรี พิทักษ
กษแปลงเปนเทวด
สําหรับบทพากยเอราว พระอินทร เหลายั นักเรียนอ่านบทพากย์เอราวัณในแบบท�านองเสนาะ ฝึกพากย์โขนแล้วลองสังเกต
ระเว ทของ พระอ ิศวรแปลงกายเปน ใ
ห ร ะวั ง ตั ว เพราะเห็นแปลก
กลองที่ใชตีใหสัญ
ญาณในกองทัพเวลา กิจกรรมที่ ๒
่ง ใช พ ือนพระลั ก ษมณ ออกศึกในสมัยโบรา
๓ ของอินทรชิต ซึ ินทร ถอย ใหหยุด เปน เปรียบเทียบว่าแบบใดเกิดรสความ รสค�าไพเราะกว่ากัน
าบนฟา หนุมานเต างเชื่อวาเปนพระอ อินทรชิต ตน ณ เชน ตีบอกให
นชางเอราวัณลอยม และไพรพลวานรต
การุณราชแปลงเป น แตพระลักษมณ ินทรชิตแผลงศร ยักษตนหนึ่งชื่อเดิ
ลวนมีอาวุธครบครั น เปนโอกาสใหอ มคือ รณพักตร เป
นโอรส
ามงามอยางเพลิดเพลิ
กับนางมณโฑ อิน
ที่บรรดาเทพเทวดา ทรชิต แปลวา รบชน ของทศกัณฐ
เทวด าเสด ็ จ มาจร ิงๆ จึงเผลอชมคว ะพระอินทร
และเหล า น ใหเห็นถึงความ
ไป นตภาพใหแกผูอา
พรหมาสตรจนสลบ นการใชคําสรางจิ
ี้มีความโดดเดนดา
เนื้อเรื่องในตอนน ามา
่งใหญของกองทัพทั
้งสองฝาย งไรก็ตามไดมีการนํ
สวยงามและความยิ รั บ อิ ท ธิ พ ลมาจ ากอินเดีย แตอยา สนใจและทรง
แมวาวรรณคดีเรื่อ
งรามเกียรติ์จะได ดีเรื่องนี้มีความนา เอราวัณ
ย จึงทําใหวรรณค
มและรสนิยมของคนไท
เปนเทพบุตรองค
กั บ วั ฒ นธรร หนึ่งจะเนรมิตเปน
ปรับปรุงให เ ข า ชางทรง เมื่อพระอ
ินทรเสด็จ
นถึงปจจุบัน
คุณคาสืบเนื่องมาจ
135
๑๑๖ ๑๒๕
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
สารบัญ
ตอนที่ ๕
วรรณคดีและวรรณกรรม
บทนํา (๑)
หนวยการเรียนรูที่ ๑ บทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก ๒
หนวยการเรียนรูที่ ๒ พระอภัยมณ� ตอนพระอภัยมณ�หน�นางผีเสื้อ ๓๐
หนวยการเรียนรูที่ ๓ พระบรมราโชวาท ๖๖
หนวยการเรียนรูที่ ๔ อิศรญาณภาษิต ๙๒
หนวยการเรียนรูที่ ๕ บทพากยเอราวัณ ๑๑๔
บทอาขยาน ๑๓๗
บรรณานุกรม ๑๔๐
กระตุน ความสนใจ
Engage สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain Expand Evaluate
เปาหมายการเรียนรู
บทนÓ • บอกความหมายความสําคัญของ
วรรณคดีและวรรณกรรมได
• อธิบายคุณคาของวรรณคดี
วรรณคดีเป็นผลงานการประพันธ์ทสี่ ร้างสรรค์ขนึ้ อย่างมีศลิ ปะและสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน
ซึง่ ศิลปะในวรรณคดีเกิดจากการเลือกใช้ถอ้ ยค�าส�านวนโวหารทีไ่ พเราะน่าฟัง อ่านแล้วเกิดอารมณ์สนุ ทรีย์ - ดานเนื้อหา
และให้แง่คิดจรรโลงใจ น�าไปใช้เป็นแบบอย่างในการด�ารงชีวิตประจ�าวัน ดังนั้น วรรณคดีจึงเป็นสิ่งที่ - ดานวรรณศิลป
อนุชนรุ่นหลังควรรักษาไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติและสมควรอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์เพื่อ
- ดานสังคมและวิถีไทย
• ขอคิดที่นําไปประยุกตใชในชีวิต
รับรู้ความงามของภาษาและข้อคิดต่างๆ
ประจําวัน
๑ ความหมายของวรรณคดีและวรรณกรรม
วรรณกรรม คืองานประพันธ์ทุกชนิดที่เป็นร้อยแก้วและร้อยกรอง เป็นงานเขียนทั่วไปโดย กระตุนความสนใจ
ไม่ ไ ด้ พิ จ ารณาประเมิ น ค่ า ว่ า เป็ น หนั ง สื อ ดี แต่ ง ดี ห รื อ ไม่ หรื อ เขี ย นขึ้ น เพื่ อ ความมุ ่ ง หมายใด
ครูนํานักเรียนสนทนาการเรียน
วรรณกรรมมักใช้กับงานเขียนร่วมสมัย รวมถึงบทเพลง บทภาพยนตร์ บทละครโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์
วรรณคดีและวรรณกรรมครูถาม
ค�าปราศรัย เทศนาและโปรแกรมคอมพิวเตอร์
นักเรียนวา
วรรณคดี คืองานประพันธ์ที่มีคุณค่าและมีวรรณศิลป์ มีศิลปะทางการประพันธ์อย่างสูง
• วรรณคดีและวรรณกรรมคือ
สามารถถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดและจินตนาการของมนุษย์ รวมทั้งบันทึกเรื่องราวชีวิตและ
อะไร
สังคมแต่ละยุคแต่ละสมัยไว้ วรรณคดีให้ประโยชน์ในการจรรโลงใจ ให้ความรู้ ให้คุณค่าทางอารมณ์ • นักเรียนเคยอานวรรณคดีเรื่อง
และปัญญา เป็นงานประพันธ์ที่ถือเป็นมรดกทางภาษาและภูมิปัญญาที่ได้รับการยกย่องผ่านกาลเวลา ใดบาง และชอบเรื่องใดมาก
เป็นระยะเวลานาน ที่สุด พรอมบอกเหตุผลที่ชอบ
การวิเคราะห์ คือการแยกแยะรายละเอียดออกเป็นส่วนๆ เพือ่ ศึกษาให้ถอ่ งแท้กา� หนดขอบเขต • นักเรียนรูจักวรรณคดีและ
สิ่งที่จะวิเคราะห์ให้ชัดเจนว่า จะวิเคราะห์อะไร มีจุดมุ่งหมายอย่างไร วิเคราะห์เพื่ออะไร ควรพิจารณา วรรณกรรมไทยเรื่องใดบาง
หลักความรูว้ า่ จะใช้หลักใดเป็นเครือ่ งมือในการวิเคราะห์ และต้องรูว้ า่ จะวิเคราะห์อย่างไร แล้วรายงาน
การวิเคราะห์ให้ชัดเจน เช่น วิเคราะห์บทละครร�า เรื่องสังข์ทอง โดยพิจารณารูปแบบว่าเป็นการ
ประพันธ์ประเภทใด เนื้อเรื่องเป็นอย่างไร ลักษณะนิสัยตัวละครตัวใดส�าคัญแก่เรื่อง กลอนดีหรือไม่
อย่างไร
การวิจารณ์ คือการใช้เหตุผลอธิบายหรือแสดงความ คิดเห็นต่อกลวิธี การแต่ง การใช้ภาษา
รูปแบบค�าประพันธ์ เนื้อหา แนวคิด แล้วพิจารณางานเขียนนั้นทั้งที่น�าเสนอโดยตรงและที่แฝงไว้ให้
ตีความและศึกษาบริบทต่างๆ ของงานเขียนนั้นๆ
๒ ความสÓคัญของวรรณคดี
วรรณคดีเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษสร้างไว้และตกทอดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
มีความนิยมฟัง อ่าน อ้างถึงหรือน�ามาเล่นเป็นมหรสพ วรรณคดีแทรกแนวคิดและปรัชญาชีวิตไว้ด้วย
กลวิธีอันแยบยล ท�าให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์สะเทือนใจและรู้สึกคล้อยตาม
(1)
คูมือครู (1)
สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ Explore Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Evaluate
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวรรณคดีไทย
๓.๓ วรรณคดีประวัตศิ าสตร์
ไดที่ http://www.st.ac.th/bhatips/ มีเนือ้ หาเกีย่ วกับการศึกสงคราม การ สดุดวี รี ชนทีก่ ล้าหาญและเล่าถึงเหตุการณ์สา� คัญทีเ่ กิดขึน้
tip_thaipoem_coner.html ในบ้านเมือง เช่น ศิลาจารึกพ่อขุนรามค�าแหงมหาราช ลิลิตยวนพ่าย ลิลิตตะเลงพ่าย เสภาพระราช-
พงศาวดาร โคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์ เป็นต้น
(2)
(2) คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนอธิบายเกี่ยวกับความรู
และประโยชนที่ไดรับจากการอาน
๓.๔ วรรณคดีขนบประเพณีและพิธกี รรม วรรณคดี
แบ่งเป็น ๒ ลักษณะ คือเป็นบทที่น�าไปใช้ในการประกอบพิธี มีเนื้อหาและการใช้ภาษาที่ (แนวตอบ วรรณคดีเปนหนังสือ
ไพเราะ สร้างอารมณ์ให้รสู้ กึ ถึงความศักดิส์ ทิ ธิข์ องพิธ ี เช่น กาพย์เห่เรือ ลิลติ โองการแช่งน�า้ ฉันท์ดษุ ฎี- ที่มีศิลปะในการนําเสนอ การอาน
สังเวยกล่อมช้าง มหาชาติกลอนเทศน์ หรืออีกลักษณะหนึ่ง คือเนื้อหาให้รายละเอียดเกี่ยวกับพิธีกรรม วรรณคดีจึงใหประโยชนหลายอยาง
และขนบธรรมเนียมประเพณีตา่ งๆ เช่น พระราชพิธสี บิ สองเดือน ลิลติ กระบวนแห่พระกฐินพยุหยาตรา เชน
โคลงพยุหยาตราเพชรพวง โคลงพระราชพิธีทวาทศมาส เป็นต้น • วรรณคดีเปนบันทึก
ประวัติศาสตร ในขณะที่อาน
๔ คุณค่าของวรรณคดี วรรณคดีผูอานจะไดความรู
ทางประวัติศาสตรดวย
หนังสือทีไ่ ด้รบั การยกย่องว่าเป็นวรรณคดีนนั้ ต้องเป็นหนังสือทีม่ ศี ลิ ปะในการน�าเสนอเรือ่ ง เลือก • วรรณคดีเปนแรงบันดาลใจ
ใช้ถอ้ ยค�าเพือ่ สือ่ จินตนาการ ความคิด ความเข้าใจ ความรูส้ กึ อารมณ์ได้อย่างงดงาม ท�าให้ผอู้ า่ นได้รบั ใหกับมนุษยในการสรางสรรค
ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน จรรโลงใจ สามารถยกระดับจิตใจ ไม่ชกั น�าให้ประพฤติในทางเสือ่ ม มีคณ ุ ค่า งานศิลปะแขนงอื่น เชน
ทั้งด้านเนื้อหา วรรณศิลป์ สังคมและข้อคิดต่างๆ ที่สามารถน�ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�าวัน สถาปตยกรรม จิตรกรรม
๔.๑ คุณค่าด้านเนือ้ หา ประติมากรรม เปนตน
• วรรณคดีทําใหผูอานไดรับความ
คุณค่าด้านเนือ้ หาช่วยให้เห็นความส�าคัญของการศึกษาวรรณคดีโดยอาศัยการด�าเนินเรือ่ งหรือ
สนุกสนานเพลิดเพลิน
แนวคิดเป็นเครือ่ งมือในการวิเคราะห์วรรณคดี เพือ่ ให้เกิดความเข้าใจทีล่ กึ ซึง้ การด�าเนินเรือ่ งในเนือ้ หา • วรรณคดียกระดับจิตใจผูอาน
เป็นส่วนทีท่ า� ให้ผอู้ า่ นเข้าใจเรือ่ งทัง้ หมด บอกได้วา่ ใครท�าอะไรทีไ่ หนและอย่างไร ตลอดจนได้สอดแทรก ใหสูงขึ้น ไมประพฤติในทางที่
แนวคิดและกลวิธีในการด�าเนินเรื่องให้ผู้อ่านได้ใช้มุมมองความคิดพิจารณาเรื่องนั้นๆ โดยผู้อ่านอาจมี เสื่อม เปนตน)
ทัศนะต่อเรื่องแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสนใจของผู้อ่าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่จะ
ท�าให้เกิดการพัฒนาความคิดและเสริมสร้างจินตนาการ ช่วยยกระดับความคิดและจิตใจของผู้อ่านให้
สูงขึ้น ขยายความเขาใจ
วรรณคดีของไทยที่มีความโดดเด่นทางด้านเนื้อหามีหลายเรื่อง เช่น เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ใหนักเรียนนิยามความหมาย
เป็นเรื่องราวการช่วงชิงความรักระหว่างชายสองหญิงหนึ่ง เป็นความรักที่อยู่ในกรอบประเพณี ซึ่ง วรรณคดีตามความเขาใจ
บีบคั้นผู้หญิงในสมัยนั้นไม่ให้มีทางเลือก ปมปัญหานี้ท�าให้เกิดพฤติกรรมต่างๆ ของตัวละครและการ • นักเรียนคิดวาวรรณคดีเกีย่ วของ
ด�าเนินเรื่อง เป็นการล�าดับเรื่องจากจุดเริ่มต้นของปมปัญหาไปสู่การคลี่คลายในตอนท้ายเรื่อง เมื่อ กับชีวิตนักเรียนอยางไรบาง
(แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย เชน
นางวันทองถูกประหารชีวิต
วรรณคดีทาํ ใหเกิดการแลกเปลีย่ น
เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ท�าให้เกิดส�านวนว่า นางวันทองสองใจ ซึ่งผู้พูดจะพูดถึงหญิงสาวที่ มุมมองความคิดเห็น และเปน
หลายใจจนน�าความเดือดร้อนมาสู่ตน ดังบทประพันธ์ที่ว่า บอเกิดแหงปญญาที่เราใชเปน
หลักในการเรียนรู)
• นักเรียนสามารถนําเอาคุณคา
(3) ดานเนื้อหาจากวรรณคดีไปใช
อยางไร
(แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย
ตามความคิดและประสบการณ
ของนักเรียน)
เกร็ดแนะครู
ครูควรเนนใหนกั เรียนเห็นคุณคาวรรณคดีไทย โดยใหนกั เรียนบอกความสําคัญของวรรณคดีไทย
ตามความเขาใจของนักเรียน ครูเพิ่มเติมความรูเกี่ยวกับความหมายของวรรณคดีตามบริบท
ของไทยวาหมายถึงหนังสือชั้นยอดที่แตงดีมีคุณคา มีความประณีต งดงาม เปนมรดกทาง
วรรณศิลปและภูมิปญญาที่ไดรับการยกยองมาเปนเวลานาน
คูมือครู (3)
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
นักเรียนควรรู
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว ทรงเปนกวีเอกที่มีพระปรีชาสามารถทั้งดานรอยแกวและรอยกรอง ทรงเปน
ทั้งจินตกวี สุตกวีซึ่งพระราชนิพนธตามเรื่องที่ไดสดับฟงมา เชน นิทราชาคริต และยังทรงเปนอรรถกวีพระราชนิพนธงาน
ตามความเปนจริง เชน โคลงสุภาษิตตางๆ เปนตนวา โคลงทศนฤทุมนาการ กิจ 10 ประการที่ผูประพฤติยังไมเคยเสียใจ
(4) คูมือครู
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
ขยายความเขาใจ
1. ใหนักเรียนยกตัวอยางบทประพันธ
จากวรรณคดีเรื่องใดก็ไดที่ทําให
๒) ได้รบั ประสบการณ์ กวีถา่ ยทอดประสบการณ์ทเี่ กิดจากการมองโลกอย่าง กว้างขวาง เกิดจินตภาพอยางชัดเจน พรอมทัง้
และลุม่ ลึก วรรณคดีและวรรณกรรมได้กลายเป็นประสบการณ์รว่ มระหว่างผูอ้ า่ นกับกวี ดังบทประพันธ์ อธิบายความหมายของบทประพันธ
นั้นดวย
ลูกเอ๋ยยังไม่เคยรู้รสร้าย ที่ความรักกลับกลายแล้วหน่ายหนี
(แนวตอบ
อันเจ็บปวดยวดยิ่งทุกสิ่งมี ไม่เท่าที่เจ็บช�้าระก�ารัก “รถเอยรถนิมิต
จะว่าเขาอื่นไกลไปไยเล่า ถึงแม่เจ้าพ่อก็ช�้าระก�าหนัก ชวลิตดั่งรถสุริยฉาน
ต้องทุกข์ยากมากมายมาหลายพัก จักแหล่นเลือดตาจะกระเด็น กงกําลวนแลวแกวประพาฬ
(ขุนช้างขุนแผน : พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) ดุมเพลาชัชวาลดวยเนาวรัตน”
(รามเกียรติ์)
จากบทประพันธ์ กวีถ่ายทอดประสบการณ์ว่าความเจ็บปวดทางกายใดๆ ที่ว่าทรมานก็ จากบทประพันธนี้จะเห็นภาพ
ยังไม่เท่าความเจ็บปวดจากความรักที่ไม่สมหวัง ดังประสบการณ์ที่พ่อแม่เคยพบและเจ็บปวดในหัวใจ ราชรถที่สวางเรืองรองเหมือน
แสนสาหัสประหนึ่งเลือดตาจะกระเด็น พระอาทิตย ลอเกวียนเปนสีแดง
ออนๆ แวววาว ดุมเพลาแพรวพราว
๓) เกิดจินตภาพ ผูอ้ า่ นเห็นคุณค่าความงดงามของวรรณคดีทา� ให้เกิดความประทับใจ
ไปดวยแกวทั้ง 9 ชนิด)
และรับรู้ความคิดที่แปลกใหม่ เป็นกระบวนการที่ให้รายละเอียดโดดเด่นและให้ผู้อ่านได้สร้างความคิด 2. ให นั ก เรี ย นแสดงความคิ ด เห็ น
ตาม ซึ่งขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละคน โดยให้ผู้อ่านเกิดความคิดจินตนาการกว้างไกลและประเทือง เกี่ยวกับ บทประพันธที่ยกมาเปน
ปัญญา ดังบทประพันธ์ ตัวอยางแลกเปลี่ยนกันในหอง
ช้างนิรมิตฤทธิแรงแข็งขัน เผือกผ่องผิวพรรณ
สีสังข์สะอาดโอฬาร์
สามสิบสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา เกร็ดแนะครู
ดังเพชรรัตน์รูจี ภาษาไทยเปนวรรณคดีทมี่ คี ติธรรม
(บทพากย์เอราวัณ : พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) ซึ่งมุงหมายจะสอนธรรมเรื่องใดเรื่อง
หนึ่ ง โดยตรงและโดยอ อ ม ครู ย ก
จากบทประพันธ์ผู้อ่านเกิดกระบวนการจินตภาพถึงช้างเอราวัณซึ่งเป็นช้างที่มีสีขาวเหมือน ตัวอยางใหนักเรียนเห็นไดชัดเจนวา
สีของสังข์ และมีเศียรจ�านวนมากถึง ๓๓ เศียร ในแต่ละเศียรมีงา ๗ กิ่งสวยงามเหมือนเพชร เป็น วรรณกรรมไทยทีเ่ ปนคติธรรมคําสอน
ภาพในความนึกคิดที่ยิ่งใหญ่งดงามตระการตา และรูจักกันดี เชน ไตรภูมิพระรวง
๔) พัฒนาจิตใจผู้อ่าน วรรณคดีต่างๆ มีเนื้อหาสาระ เรื่องราวสนุก อ่านแล้วสบายใจ สุภาษิตพระรวง ทศรถสอนพระราม
สามารถกล่อมเกลาจิตใจให้อ่อนโยน ให้ข้อคิดคติธรรม อีกทั้งสอนให้ประพฤติดี ประพฤติชอบ พาลี ส อนน อ ง กฤษณาสอนน อ ง
คําฉันท เปนตน
สร้างสรรค์จรรโลงใจให้เกิดก�าลังใจยามที่ท้อแท้
(5)
คูมือครู (5)
สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ Explore Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Evaluate
จากบทประพันธ์ กวีได้ให้แนวคิดแก่ผู้อ่านในการใช้ชีวิตแต่ละวันว่าเมื่อตายไปสิ่งที่
อธิบายความรู ยังเหลืออยู่มีเพียงความดีกับความชั่ว จงเร่งท�าความดีตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อตายไปจะได้มีคน
สงตัวแทนแตละกลุมนําเสนอการ ระลึกถึงในสิ่งที่เคยท�าไว้
ใชโวหารในการเขียนหนาชั้นเรียน ๔.๒ คุณค่าด้านวรรณศิลป์
และยกตัวอยางประกอบ วรรณคดีที่ได้รับการยกย่องว่าดีเด่นต้องมีกลวิธี การประพันธ์ที่ดีเยี่ยมและใช้ค�าเหมาะสม
กับลักษณะหน้าที่ของค�า ถูกต้องตรงความหมาย เหมาะสมกับเนื้อเรื่องและมีเสียงเสนาะ ซึ่งผู้อ่านจะ
ขยายความเขาใจ เกิดจินตนาการตามเนือ้ เรือ่ งได้จะต้องเข้าใจส�านวนโวหารและภาพพจน์ เสมือนได้ยนิ เสียง ได้เห็นภาพ
เกิดอารมณ์สะเทือนใจ มีความรู้สึกคล้อยตาม ดังนี้
1. ใหนักเรียนหาภาพที่นาสนใจมา
1 ภาพ ๑) การใช้โวหาร
2. ใหนักเรียนเขียนบรรยายภาพ โดย ๑.๑) บรรยายโวหาร เป็นการเล่าเรื่อง เล่าเหตุการณ์ที่มีเวลาและสถานที่ซึ่งแสดง
ใชโวหารตางๆ ในการบรรยายให ให้เห็นความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน การบรรยายมีจุดมุ่งหมายให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเรื่องราวนั้นๆ เกิดขึ้นและ
เหมาะสมกับภาพ ด�าเนินไปอย่างไร เรื่องราวดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจริงหรือเป็นเรื่องที่เกิดจากจินตนาการของกวีก็ได้ เช่น
(6)
(6) คูมือครู
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
ขยายความเขาใจ
1. ใหนกั เรียนยกตัวอยางการใชสาธก-
โวหารจากวรรณคดี เ รื่ อ งใดเรื่ อ ง
เล่าปจ งึ พิเคราะห์ดภู มู ฐิ านบ้านเรือน เห็นสะอาดสะอ้านชอบมาพากล แม้เทศกาล หนึ่ง
ร้อนก็มิได้ร้อนเพราะลมพัดมาได้ เมื่อถึงฤดูฝนก็เป็นที่ร่มปดหยาดฝนมิได้ถูกต้อง หน้าฤดู (แนวตอบ ยกตัวอยางสาธกโวหาร
หนาวเล่า ก็มิได้เย็นด้วยละอองน�้าค้าง สมควรเป็นที่อยู่ผู้มีสติปัญญาจริง มาจากเรื่องสามกก ตอนกวนอูไป
(สามก๊ก : เจ้าพระยาพระคลัง (หน)) รับราชการกับโจโฉ “เตียวเลี้ยว
จึงวามหาอุปราชไมแจงหรือ
๑.๓) เทศนาโวหาร คือโวหารที่มุ่งในการสั่งสอน โน้มน้าวจิตใจผู้อ่านให้คล้อยตาม
ในนิทานอิเยียงที่มีมาแตกอน...”
เช่น
เปนตอนที่โจโฉไมอาจยอมรับ
คนเราต้องเอาอย่างมด อย่าไปเอาอย่างหนอน เพราะมดนัน้ ถึงมันจะตัวเล็กนิดเดียว คําขอของกวนอูได เตียวเลี้ยวจึง
แต่ก็ขยันขันแข็ง สามารถลากเหยื่อชิ้นใหญ่ๆ ได้สบาย แต่ถึงกระนั้นมันก็กลับกินอาหาร ยกนิทานเกี่ยวกับความกตัญูขึ้น
แต่น้อยจนเอวคอดกิ่ว ผิดกับหนอนซึ่งเกียจคร้าน เอาแต่กินทั้งวัน โดยไม่ท�างานท�าการ สนับสนุน)
อะไร จนตัวอ้วนอุ้ยอ้าย ผลสุดท้ายก็กลายเป็นเหยื่ออันโอชะของนกของปลา 2. การอานวรรณคดีทาํ ใหไดรบั คุณคา
(ลอดลายมังกร : ประภัสสร เสวิกุล) ดานวรรณศิลปใหนักเรียนยก
ตัวอยางคําประพันธจากบทเรียนที่
๑.๔) สาธกโวหาร คือโวหารที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความชัดเจนด้วยการ ใหคณ ุ คาดานวรรณศิลป 1 ตัวอยาง
ยกตัวอย่างประกอบ เพื่ออธิบายสนับสนุนความ คิดเห็นให้น่าเชื่อถือ เรื่องที่ยกมานั้นอาจเป็นประวัติ พรอมอธิบายใหเขาใจ
บุคคล เหตุการณ์ส�าคัญหรือเรื่องนิทานต่างๆ ดังบทประพันธ์ (แนวตอบ
คดสิ่งอื่นหมื่นแสนแมนกําหนด
อ�านาจความสัตย์เป็นอ�านาจที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่เพียงแต่จับหัวใจคน แม้แต่สัตว์ก็ยังมี โกฏิลานคดซอนซับพอนับถวน
ความรูส้ กึ ในความสัตย์ซอื่ เมือ่ กวนอูตายแล้ว ม้าของกวนอูกไ็ ม่ยอมกินหญ้ากินน�า้ และตาย คดของคนลนลํ้าคดนํ้านวล
ตามเจ้าของไปในไม่ช้า ไม่ยอมให้หลังของมันสัมผัสกับผู้อื่นนอกจากนายของมัน เหลือกระบวนที่จะจับนับคดคอม
(สามก๊ก : เจ้าพระยาพระคลัง (หน)) (อิศรญาณภาษิต)
จากบทประพันธที่ยกมามีการ
๑.๕) อุปมาโวหาร คือโวหารเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหนึ่งเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ เลนคํา คําวา “คด” ทุกวรรคมี
มากขึ้น มักมีค�าว่า เปรี
เปรียบ ประดุจ ดุจ ดั่ง เหมือน ราวกับ ราวกับว่า เพียง เพี้ยงง ดังบทประพันธ์ ความไพเราะสัมผัสคลองจอง)
ความรักและความไว้ใจทั้งสองประการนี้ เปรียบได้ด้วยเสียงเพลงอันไพเราะ
แห่งพิณ ซึง่ เราทัง้ สองเป็นผูด้ ดี แม้พณ
ิ จะขาดสายก็ขนึ้ สายใหม่ได้ ส่วนเสียงเพลงอันไพเราะ
ก็ยังคงไพเราะอยู่อย่างเดิม จริงอยู่เสียงเพลงแห่งพิณเครื่องหนึ่ง ย่อมจะไม่เหมือนกัน นักเรียนควรรู
กับเสียงของพิณอีกเครื่องหนึ่ง เช่นพิณอันใหม่ของฉัน ย่อมมีเสียงหวานเพราะยิ่งกว่าพิณ สามกก เปนวรรณกรรมจีนอิง
อันเก่า อย่างไรก็ด ี เราทัง้ สองก็เป็นเหมือนดัง่ พิณ ทีม่ เี ทพเป็นผูด้ ดี กระท�า ให้เกิดเสียงหวาน ประวัติศาสตร เปนมรดกทางปญญา
เพราะขึ้นด้วยพิณนั้น ของปราชญตะวันออก แตงขึน้ ในสมัย
(กามนิต : เสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป (แปล)) ราชวงศ ห ยวน แปลเรี ย บเรี ย งเป น
(๗) ภาษาไทยโดยเจ า พระยาพระคลั ง
(หน)
นักเรียนควรรู
กามนิต ผูแตงเปนชาวเดนมารก เสฐียรโกเศศและนาคะประทีป (นามปากกา) เปนผูแปลเรื่อง
กามนิตเปนฉบับภาษาไทย และเปนหนังสือที่ไดรับการยกยองใหเปนหนังสือดี 100 เลมที่คนไทย
ควรอาน
คูมือครู (7)
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
ขยายความเขาใจ
ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อน นักเรียน
เลือกภาพพจนอุปมาหรืออุปลักษณ
บรรยายทาทางและลักษณะนิสัยของ
เพื่อนใหเห็นภาพ
(8) คูมือครู
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
ขยายความเขาใจ
ใหนักเรียนยกตัวอยางบทประพันธ
ที่ใชภาพพจนอติพจนจากวรรณคดี
ถึงทัพจรกาล่าส�านั้น พี่ไม่พรั่นให้มาสักสิบแสน ไทยเรื่องใดก็ได พรอมถอดคํา
จะหักโหมโจมตีให้แตกแตน พักเดียวก็จะแล่นเข้าป่าไป ประพันธ
(อิเหนา : พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย)
(แนวตอบ เชน
ท้าวกะหมังกุหนิงโอ้อวดกับอนุชาครั้งที่ท�าศึกชิงนางบุษบา ถึงความเก่งกาจของตน เรียมรํ่านํ้าเนตรถวม ถึงพรหม
อย่างเกินจริงว่าสามารถตีกองทัพศัตรูขนาดกองทัพสิบแสนคนหรือหนึ่งล้านคนได้โดยง่าย ปวงเทพเจาตกจม จอมมวย
พระสุเมรุเปอยเปนตม ทบทาว ลงนา
๒.๔) บุคคลวัต คือการกล่าวถึงสิ่งที่ไม่มีชีวิตจิตใจให้มีการกระท�าเหมือนมนุษย์
หากอกนิฏฐพรหมฉวย พี่ไวจึ่งคง
ดังบทประพันธ์
(ศรีปราชญ)
สัตภัณฑ์บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย จากบทประพันธ จะเห็นวากวีแสดง
ประนอมประนมชมชัย ความทุกขโศกแสนสาหัส การรองไห
(บทพากย์เอราวัณ : พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) มากจนนํ้าตาทวมถึงสวรรคชั้นพรหม
เขาพระสุเมรุกเ็ ปอ ยเปนตม ชาวสวรรค
จากบทประพันธ์ กวีได้สมมติให้ภูเขาสัตภัณฑ์ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุทั้ง ๗ ชั้น ตองพากันหนี)
แสดงกิริยาของมนุษย์ คืออาการพนมมือ
๒.๕) สัทพจน์ คือการใช้ค�าเลียนเสียงธรรมชาติ ดังบทประพันธ์
ดูเงียบเชียบเลียบรอบริมขอบรั้ว ไม่เห็นตัวท่านย่าน่าสงสัย เกร็ดแนะครู
ประตูหับยับยั้งยืนฟังไป เสียงแต่ไนออดแอดแรดแรแร
(ขุนช้างขุนแผน : ฉบับหอสมุดแห่งชาติ) ครูเพิ่มเติมความรูใหนักเรียนเกี่ยว
กับการใชภาพพจนปฏิปุจฉา คือการ
จากบทประพันธ์เป็นตอนที่พลายงามไปหาย่าทองประศรี พอไปถึงบ้าน กลับไม่ ใชคําถามโดยไมตองการคําตอบ เชน
เห็นใครได้ยินแต่เสียงออดแอดแรดแรแร ซึ่งกวีใช้ค�าเลียนเสียงเครื่องปั่นด้าย ท�าให้ผู้อ่านจินตภาพถึง “เห็นแกวแวววับที่จับจิต
กระบวนการปั่นด้ายเป็นไจแล้วใส่เข้าหลอด ไยไมคิดอาจเอื้อมใหเต็มที่
๓) การเล่นเสียง คือการเลือกสรรค�าที่มีเสียงสัมผัสกัน ได้แก่ การเล่นเสียงอักษร เมื่อไมเอื้อมจะไดอยางไรมี
อันมณีหรือจะโลดไปถึงมือ”
เสียงสระและเสียงวรรณยุกต์ เพื่อเพิ่มความไพเราะและแสดงความสามารถของกวีที่แม้จะเล่นเสียง
(ทาวแสนปม: รัชกาลที่ 6)
ของค�าแต่ยังคงความหมายไว้ได้ ดังบทประพันธ์
เสนาสูสู่สู้ ศรแผลง
ยิงค่ายหลายเมืองแยง แย่งแย้ง
รุกร้นร่นรนแรง ฤทธิ์รีบ
ลวงล่วงล้วงวังแว้ง รวบเร้าเอามา
(โคลงอักษรสามหมู่ : พระศรีมโหสถ)
(9)
คูมือครู (9)
สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ Explore Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Evaluate
(10)
(10) คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
1. ครูสุมนักเรียนมานําเสนอวรรณคดี
ที่ ส ะท อ นคุ ณ ค า ทางด า นสั ง คม
ถึงเกร็ดย่านบ้านมอญแต่ก่อนเก่า ผู้หญิงเกล้ามวยงามตามภาษา คานิยมความเชื่อและแนวทางการ
เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา ทั้งผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย ปฏิบัติตน
(นิราศภูเขาทอง : สุนทรภู่) 2. นักเรียนจดบันทึกทีน่ กั เรียนและครู
ชวยกันสรุป
โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า-
เจ้าอยู่หัว มีลักษณะชี้น�าสังคมให้พัฒนาเป็นกิจ ๑๐ ประการ ที่จะน�าพาผู้ปฏิบัติให้พ้นจากความ
ขยายความเขาใจ
เศร้าโศกเสียใจ ได้แก่ การท�าความดี การไม่พูดร้ายผู้อื่น การคิดก่อนพูด การฟังให้ดีก่อนการตัดสินใจ
การไม่พูดเวลามีอารมณ์โกรธ การกรุณาต่อคนที่อับจน การขอโทษเมื่อกระท�าผิด การมีความอดกลั้น ครูสนทนากับนักเรียนเรือ่ งวรรณคดี
การไม่ฟังค�าพูดไร้สาระและการไม่หลงเชื่อข่าวร้ายโดยจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน วาเปนวัฒนธรรมทางภาษาที่แสดง
ใหเห็นถึงความเจริญรุงเรืองในอดีต
๒) วรรณคดีสร้างส�านึกร่วมในความเป็นชาติ วรรณคดีเป็นสิง่ ผูกพันจิตใจของคนใน บอกเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตความเปน
ชาติให้ส�านึกว่าร่วมอยู่ในชาติเดียวกัน วรรณคดีจะเป็นสื่อกลางที่น�าไปสู่การรวมเป็นชาติ ซึ่งจะเป็น อยู ข นบธรรมเนี ย มประเพณี นอก
เครื่องผูกจิตใจคนในชาติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ดังเช่นบทประพันธ์ เหนือจากบทเรียนแลว ใหนักเรียน
ยกตัวอยางคําประพันธในวรรณคดี
ผู้บังคับการ นี่แน่ะ เอ็งอยากรอดตายไหม
เรื่องอื่นๆ คนละ 1 เรื่อง
อ้ายสี ก็แน่สิ เป็น ธรรมดา (แนวตอบ “เมืองสุโขทัยนี้ดี
ผู้บังคับการ ดีละ ถ้าเช่นนั้นบอกข้าทีหรือ ว่าก�าลังเสือป่าที่รักษาสะพานอยู่โน่นมีเท่าไร ในนํ้ามีปลาในนามีขาว” กลาวถึง
อ้ายสี อุวะ เรื่องอะไรจะไปบอกแก พิลึกแฮะอ้ายหมอนี่ สภาพบานเมืองในสมัยสุโขทัยวามี
ผู้บังคับการ (โกรธ) อ้ายนี่ไม่กลัวตายหรือ ความอุดมสมบูรณเปนอูขาวอูนํ้า
อ้ายสี ก็ไม่กลัวน่ะสิวะ กลัวกูมิมุดหัวหนีไปเสียแล้วหรือ แกไม่ต้องดูถูกคนไทยน่ะ (ศิลาจารึกพอขุนรามคําแหง))
ผู้บังคับการ อ้ายนี่พูดจาอวดดีจริง
(บทละครพูดเรื่องหัวใจนักรบ : พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
บทละครพูดเรื่องหัวใจนักรบนี้ เป็นตอนที่ผู้บังคับการฝ่ายศัตรูจับคนไทยคืออ้ายสีได้
แล้วพยายามคาดคั้นถามที่ตั้งกองทหารเสือป่าของไทย พระราชนิพนธ์เรื่องนี้ใช้ส�าหรับละครพูดและ
ตีพิมพ์เผยแพร่ส�าหรับอ่านด้วย ท�าให้ผู้อ่านได้คิดตระหนักในความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๔.๔ ข้อคิดทีส่ ามารถน�าไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจ�าวัน
การอ่านวรรณคดีผู้อ่านจะได้รับข้อคิดต่างๆ ที่สามารถน�าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�าวันได้
ไม่ว่าจะเป็นคติธรรม ค�าสอนต่างๆ โดยกวีน�าเสนอผ่านฉาก ตัวละครหรือบทสนทนา อันเป็นลักษณะ
เฉพาะของแต่ละเรื่อง เช่น
(11)
คูมือครู (11)
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Expand Evaluate
อันชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะท�าการสิ่งใดก็ไร้ผล
แม้นชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขอย่างไร
(บทละครเรื่องพระร่วง : พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
จากบทประพันธ์นี้ แสดงให้เห็นความส�าคัญของความสามัคคีของคนในชาติที่จะช่วย
ผลักดันให้เกิดประโยชน์สุขร่วมกัน หากความเป็นชาติดับสิ้นเพราะเสื่อมสามัคคีและความเห็นแก่ตัว
ก็ไม่มีผู้ใดจะอยู่เป็นสุขในชาติได้อีก
(12)
(12) คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนสรุปหลักการวิเคราะห
คุณคาวรรณคดีเปนแผนผังความคิด
อันสยามเปนบานเกิด เมืองนอน
ดุจบิดามารดร เปรียบได
เปนสุขสโมสร ทุกเมื่อ ขยายความเขาใจ
ยามศึกทุกขยากไร ปลาตเรนฤๅควร ใหนักเรียนนําวรรณคดีเรื่องที่
(ดุจบิดามารดร : สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจา กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี) นักเรียนสนใจมาเขียนแผนผังความคิด
โดยยึดตามหลักการวิเคราะหคุณคา
จากบทประพันธสะทอนวา ประเทศคือบานเกิดเมืองนอน เหมือนพอแมดูแลใหผูอาศัยไดสุข วรรณคดี
สบาย ดังนั้นเมื่อเกิดความทุกขยากขึ้นในสังคม คนในประเทศจึงตองรวมกันชวยเหลือ สามัคคีกัน ไม
หลบลี้หนีหายไป
๔) การปฏิบัติหนาที่ของตน ไมวาจะเปนหนาที่ใดก็ทําดวยความเต็มใจไมเกี่ยงงอน นักเรียนควรรู
เพื่อใหงานประสบความสําเร็จ ทั้งที่เปนหนาที่ตอตนเอง สังคมและประเทศชาติ ดังบทประพันธ
ปลาต อานวา ปะ - ลาด เปนคํากริยา
พลายแกวรับสั่งบังคมทูล ขอเดชะนเรนทรสูรโปรดเกศา แปลวา หนีไป
ชีวิตอยูใตพระบาทา ขออาสาพระองคผูทรงชัย
ตีทัพเชียงอินทรแลเชียงทอง ใหสมพระทัยปองใหจงได
ถาขาพุทธเจามิบรรลัย ก็มิไดยอทอตอณรงค
(ขุนชางขุนแผน : ฉบับหอสมุดแหงชาติ)
๕ ËÅÑ¡¡ÒÃÇÔà¤ÃÒÐˤس¤‹ÒÇÃó¤´Õ
การอานวรรณคดีนอกจากจะไดรับความรู ความเพลิดเพลินแลว ผูอานควรพยายามทําความ
เขาใจบทประพันธใหลึกซึ้ง รูจักวิเคราะหคุณคาของวรรณคดีทั้งคุณคาทางอารมณและคุณคาทาง
ความคิด ซึ่งมีหลักการวิเคราะห ดังนี้
(๑๓)
คูมือครู (13)
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Expand Evaluate
(14)
(14) คูมือครู
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
ขยายความเขาใจ
1. นักเรียนคิดวาวรรณคดีไทยเรื่อง
ที่นักเรียนชอบมากที่สุดมีคุณคา
๒) ความไพเราะอันเกิดจากรสความ พิจารณาได้จากการใช้ค�าที่มีความหมาย อยางไรบาง
กระชับ ชัดเจน และการใช้โวหารต่างๆ กวีถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างลึกซึ้ง กระแทกอารมณ์ 2. วรรณคดีไทยเรื่องที่ชอบที่สุดนําไป
กระเทือนจิตใจและกระทบความรู้สึก ประยุกตในชีวิตจริงอยางไรบาง
(แนวตอบ ตัวอยางเชน บทละครพูด
ไผ่ซออ้อเอียดเบียดออด ลมลอดไล่เลี้ยวเรียวไผ่ เรื่ อ งเห็ น แก ลู ก การเสี ย สละเพื่ อ
คนที่รักเปนการกระทําที่นายกยอง
ออดแอดแอดออดยอดไกว แพใบไล้น�้าล�าคลอง สามารถนํามาประยุกตใชในชีวติ ได
การรูจักเสียสละความสุขสวนตน
กระเพื่อมพลิ้วพลิ้วปลิวคว้าง เธอวางร่างปล่อยลอยล่อง
เพื่อผูอื่นจะไดอยูรวมกันไดอยางมี
บนแพใบไผ่ใยยอง แสงทองส่องทาบฉาบมา ความสุข)
(คําหยาด : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)
(15)
คูมือครู (15)
ตรวจสอบผล
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ Evaluate
Engage Explore Explain Expand
(16)
(16) คูมือครู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
ตอนที่ õ วรรณคดีและวรรณกรรม
คูมือครู 1
กระตุน ความสนใจ
Engage สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain Expand Evaluate
(หนาพิมพและตัวอักษรในกรอบนี้มีขนาดเล็กกวาฉบับนักเรียน 20%)
เปาหมายการเรียนรู
• สรุปเนื้อหาเรื่องเห็นแกลูก
• วิเคราะหวิถีไทยและคุณคาดาน
สังคมเรื่องเห็นแกลูก
• สรุปความรูและขอคิดนําไป
ประยุกตใชในชีวิตจริง
กระตุนความสนใจ
ใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นจาก
ภาพหนาหนวยการเรียนรู โดยครูตั้ง
คําถามกระตุนใหนักเรียนแสดงความ
คิดเห็น
• หญิงสาวที่นั่งอยูที่พื้นมีลักษณะ
อยางไร
• ชายคนที่นั่งบนเกาอี้นาจะเปน
ใคร สังเกตจากอะไร
• ชายที่ยืนอยูกําลังรูสึกอยางไร
ñ
• นักเรียนคิดวาตัวละครใด
ในภาพเปนเจาของบาน และ
ตัวละครตัวใดเปนแขก
หนวยที่
บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก
ตัวชี้วัด
■ สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทองถิ่นในระดับ
ที่ยากยิ่งขึ้น (ท ๕.๑ ม.๓/๑)
ล ะครพูดเปนบทละครที่แสดงโดย
■ วิเคราะหวิถีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อาน
ให ตั ว ละครสนทนาโต ต อบกั น เป น การ
(ท ๕.๑ ม.๓/๒) แสดงทีไ่ ดรบั อิทธิพลจากตะวันตก พระบาท-
■ สรุปความรูและขอคิดจากการอานเพื่อนําไปประยุกตใชในชีวิตจริง สมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัวโปรดเกลาฯ
(ท ๕.๑ ม.๓/๓)
ให ตั้ ง โรงละครขึ้ น ทั้ ง ทรงพระราชนิ พ นธ
บทละครเปนจํานวนมาก เนื่องจากละครพูด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
เปนการแสดงที่จําลองชีวิตจริง จึงสอดแทรก
■ วรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทองถิ่น เกี่ยวกับศาสนา
ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิตคําสอน เหตุการณในประวัติศาสตร แนวคิ ด คติเตือนใจไวดวย หากผูอานไดอานหรือ
บันเทิงคดี ชมอยางพินิจพิจารณาจะสามารถนําขอคิดมาปรับ
การวิเคราะหวิถีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรม
■
ใชในชีวิตประจําวันได
2 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Expand Evaluate
สํารวจคนหา
ใหนักเรียนสืบคนพระราชประวัติ
ของรัชกาลที่ 6 จากอินเทอรเน็ตหรือ
๑ ความเป็นมา แหลงเรียนรูอื่นๆ
ละครเป็นศิลปะการแสดงประเภทหนึ่งของไทย ซึ่งแบ่งได้หลายประเภท ได้แก่ ละครร�า • พระนามแฝงอื่นที่ทรงใชมีอะไร
ละครร้อง ละครพูด ฯลฯ ละครร�า เป็นการแสดงละครประกอบการร้องและร�า มีดนตรีประกอบ อีกบาง
ใช้ศิลปะการร้องและร�าตามแบบแผน ละครร้อง เป็นการแสดงที่ผู้แสดงต้องมีความสามารถในการ • พระนามแฝงแตละพระนามทรง
ขับร้องประกอบการแสดง ละครพูด เป็นการแสดงละครที่มีการจัดฉาก แสง สี เสียงให้เหมือน ใชในโอกาสใด ใหนักเรียนชวย
กันคนหาอยางนอย 5 พระนาม
ธรรมชาติ มีการพูดสนทนาโต้ตอบกัน ซึ่งในบทจะบอกด้วยว่าตัวละครต้องแสดงกิริยาอาการอย่างไร
( แนวตอบ อั ศ วพาหุ (บทความ
และพูดอย่างไร
ทางการเมื อ งและบทปลุ ก ใจ)
ละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รามจิ ต ติ (บทความเกี่ ย วกั บ
พระองค์ทรงใช้พระนามแฝงในบทพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ว่า พระขรรค์เพชร โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ ทหาร) พั น แหลม (บทความ
เป็นบทส�าหรับแสดงละครและใช้สา� หรับอ่านเพือ่ ความเพลิดเพลิน นอกจากนีย้ งั ทรงใช้การแสดงละคร เกี่ ย วกั บ ทหารเรื อ ) ศรี อ ยุ ธ ยา
เป็นสื่อช่วยกล่อมเกลาอบรมจิตใจของประชาชนและมีพระราชประสงค์เพื่อหาพระราชทรัพย์ส�าหรับ (บันเทิงคดีและสารคดีตางๆ ที่
สร้างสาธารณสมบัติของชาติ แปลจากตางประเทศ) นายแกว
ละครพูดนอกจากจะใช้เพื่อการแสดงแล้ว ยังสามารถใช้อ่านเพื่อความบันเทิง ซึ่งการอ่าน นายขวัญ (นิทานเรื่องเบ็ดเตล็ด
บทละครพูดต้องอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์และพิจารณาเพื่อให้เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของตัวละครที่ ตางๆ) พระขรรคเพชร
ต้องแสดงพฤติกรรมในลักษณะต่างๆ สิ่งที่ส�าคัญที่สุดของละครพูดคือบทสนทนาของตัวละครทุกตัว (บทละคร))
ที่จะน�าไปสู่ความหมายของการด�าเนินเรื่อง
อธิบายความรู
๒ ประวัติผู้แต่ง 1. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจา
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชโอรส อยูห วั ทีท่ รงไดรบั พระสมัญญาภิไชย
ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้า- ว า “สมเด็ จ พระมหาธี ร ราชเจ า ”
เจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ (สมเด็จ- หมายถึง ทรงเปนพระมหากษัตริย
พระนางเจ้ า เสาวภาผ่ อ งศรี ) ทรงพระราชสมภพเมื่ อ วั น ที่ ๑ นักปราชญผูยิ่งใหญ
มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๓ ตรงกับวันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้น ๒ ค�่า ปีมะโรง • ใหนักเรียนอภิปรายแสดงความ
ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ คิดเห็นวาพระองคทรงพระปรีชา
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มศึกษา สามารถอยางไร
ในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาได้เสด็จพระราชด�าเนินไปทรงศึกษาต่อ (แนวตอบ พระองคทรงพระปรีชา
สามารถดานภาษาและวรรณคดี
ณ ประเทศอังกฤษ โดยทรงเชี่ยวชาญวิชาทหาร วิชาพลเรือน
เป น พิ เ ศษ พระองค ท รงเป น
และภาษาฝรั่งเศส หลังจากนั้นได้เสด็จเข้าศึกษาที่โรงเรียน
อั จ ฉริ ย ะในด า นกวี นิ พ นธ แ ละ
นายร้อยทหารบกแซนด์เฮิสต์ เมื่อทรงส�าเร็จการศึกษาแล้ว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ดานการประพันธ ทรงพระราช
3 นิพนธบทประพันธตางๆ ทั้งรอย
แกวและรอยกรอง)
2. ใหนักเรียนยกตัวอยางบทประพันธ
ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา
(แนวตอบ นักเรียนยกตัวอยางไดหลากหลาย เชน เจาอยูห วั มา 1 ตัวอยาง พรอมทัง้ ให
“เห็นแกวแวววับที่จับจิต ใยไมคิดอาจเอื้อมใหถึงที่ เหตุผลที่ยกมา
เมื่อไมเอื้อมจะไดอยางไรมี อันมณีฤๅจะโลดไปถึงมือ
อันของสูงแมปองตองจิต ถาไมคิดปนปายจะไดฤๅ
มิใชของตลาดที่อาจซื้อ ฤๅแยงยื้อถือไดโดยไมยอม”
บทประพันธนี้ใชไดกับทุกคน แสดงแนวคิดวาของดีมีคา หรือสิ่งที่นักเรียนปรารถนาอาจเปนการศึกษา
เลาเรียนที่จะประสบความสําเร็จไดนั้น ตองมีความพยายามอยางมากจึงจะไดสิ่งเหลานั้นมา เปนตน) คูมือครู 3
@
4
ลงสมุด
Engage
มุม IT
อธิบายความรู
Ram6_1_History.htm
กระตุนความสนใจ
คูมือครู
พระราชกรณียกิจดานอักษร
2. ใหนักเรียนแสดงทรรศนะตอ
1. ใหนักเรียนจับคูเลือกพระราช
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระราช
นิพนธในรัชกาลที่ 6 เรื่องที่สนใจ
units/unit4/chapter4/chapter4-6/
sainampeung.ac.th/chalengsak/
ประวัติรัชกาลที่ 6 ไดที่ http//:www.
Explore
สํารวจคนหา
๒๔๒๓
๒๔๓๕
เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๑
๒๔๕๓
๒๔๕๖
ครองราชยเปนรัชกาลที่ ๖ ทรงยกฐานะโรงเรียนมหาดเล็กหลวงใหเปน
๒๔๕๗
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว
๒๔๕๙จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย นับเปนมหาวิทยาลัย
ทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหสมเด็จเจาฟา แหงแรกของประเทศไทย
๒๔๓๖
Explain
พระจุลจอมเกลาเจาอยูหัวและ
สมเด็จพระนางเจาเสาวภาผองศรี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา-
ทรงเริ่มวิชาทหารที่โรงเรียน เจาอยูห วั สวรรคต สมเด็จพระเจา-
๒๔๔๐
๒๔๖๘
๒๔๓๑
สมเด็จเจาฟามหาวชิราวุธ
๒๔๔๒
กรมขุนเทพทวาราวดี (Aldershot) และทรงเขาประจําการที่กรมทหารราบ
เบาเดอรัม จากนั้นทรงเขาศึกษาที่วิทยาลัยไครสตเชิรช
Expand
มหาวิทยาลัยออกซฟอรด โดยทรงศึกษาวิชา
ประวัติศาสตร เศรษฐศาสตรและการปกครอง
ขยายความเขาใจ
๒๔๓๗
๒๔๕๕
๒๔๔๗
ทรงเปนผูสําเร็จราชการ การปกครอง
๒๔๕๔
แผนดิน เมื่อรัชกาลที่ ๕
๒๔๕๒
ขอมูลทั่วไป
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
1. ใหนักเรียนอธิบายขอความที่กลาว
วา
ทรงศึกษาวิชาประวัติศาสตร์และกฎหมายที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดด้วย เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสา- • บทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก
ขอมูลทั่วไป
คูมือครู 5
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
๔ เรื่องย่อ
ขยายความเขาใจ
บทละครพูดเรือ่ งเห็นแก่ลกู เป็นเรือ่ งของชายสองคน คือ นายล�า้ (ทิพเดชะ) และพระยาภักดี-
ใหนักเรียนลําดับเหตุการณจาก นฤนาถ ทั้งสองคนเคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน นายล�้าเคยรับราชการจนได้ต�าแหน่งทิพเดชะ ส่วน
เรื่องยอเปนแผนผังความคิด พระยาภักดีนฤนาถ มีต�าแหน่งหลวงก�าธร ทั้งสองคนหลงรักหญิงคนเดียวกันคือ แม่นวล ซึ่งนายล�้าได้
แต่งงานกับแม่นวลและมีบุตรสาวคนหนึ่งชื่อแม่ลออ แต่นายล�้าต้องโทษจ�าคุก ๑๐ ปี ฐานประพฤติ
ทุจริต ต่อมาแม่นวลเสียชีวิต ขณะนั้นแม่ลอออายุได้เพียง ๒ ปี พระยาภักดีนฤนาถจึงอุปการะแม่ลออ
นักเรียนควรรู โดยบอกเธอว่าบิดามารดาที่เสียชีวิตไปแล้วนั้นเป็นคนดี
บทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก เมื่อนายล�้าออกมาจากคุก เขาหมดหนทางท�ามาหากิน และได้ทราบว่าแม่ลออก�าลังจะเข้าพิธี
เปนเรื่องที่รัชกาลที่ 6 ทรงคิดสราง แต่งงานกับบุตรพระยารณชิตผู้ร�่ารวยจึงคิดจะมาพึ่งพา ส่วนพระยาภักดีนฤนาถแม้จะเป็นเพียงบิดา
โครงเรื่องขึ้นเองและมีบทละครพูด บุญธรรมแต่กร็ กั แม่ลออเหมือนลูกแท้ๆ ของตนจึงพยายามไม่ให้นายล�า้ เข้ามายุง่ เกีย่ วกับแม่ลออ เพราะ
เรือ่ งอืน่ ๆ เชน จัดการรับเสด็จขนมสม เกรงว่าแม่ลออจะถูกคนในสังคมรังเกียจ แต่เมื่อนายล�้า ได้พูดคุยกับแม่ลออและพบว่าเธอชื่นชมบิดา
กับนํ้ายา ผูรายแผลง เปนตน ที่แท้จริงว่าเป็นบุรุษผู้แสนดี น่าเคารพเลื่อมใส ความรู้สึกจึงเปลี่ยนไป เขาไม่อาจลบภาพพ่อที่แสนดี
ในใจของแม่ลออลงได้ ความเห็นแก่ตัวของนายล�้าจึงหมดไปและแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่เห็นแก่ลูก
อย่างจริงใจ นายล�า้ ไม่อาจแสดงตนเป็นพ่อทีแ่ ท้จริงของแม่ลออได้ เพราะปรารถนาให้แม่ลออมีความสุข
กับอนาคตวันข้างหน้า
๕ เนื้อเรื่อง
บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก
ตัวละคร พระยาภักดีนฤนาถ นายล�้า (ทิพเดชะ) อ้ายค�า (บ่าวพระยาภักดีนฤนาถ) แม่ลออ
ฉากห้องหนังสือ ในบ้านพระยาภักดีนฤนาถ มีประตูข้างซ้ายเข้าไปในห้องนอน ข้างขวาออก
ไปเฉลียงทางขึ้นลง หลังมีหน้าต่าง เครื่องประดับประดาไม่เป็นของมีราคาแต่ใช้ได้ดีๆ
พอเปิดม่าน อ้ายค�าพานายล�้า (ทิพเดชะ) เข้ามาทางประตูขวา นายล�้านั้นเป็นคนอายุราว ๔๐
แต่หน้าตาแก่ ผมหงอกหน้าย่นมาก แลจมูกออกจะแดงๆ เห็นได้ว่าเป็นคนกินเหล้าจัด แต่งกาย
ค่อนข้างจะปอนๆ แต่ยังเห็นได้ว่าได้เคยเป็นผู้ดีมาครั้งหนึ่งแล้ว
6 คูมือครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา
Engage Explore อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explain Expand Evaluate
กระตุนความสนใจ
ครูนําภาพการแสดงละครแตละ
ประเภทมาใหนักเรียนดู สนทนา
นายล�้า. : ก็แล้วเจ้าคุณเมื่อไหร่จะกลับ? ซักถาม
อ้ายค�า. : เห็นจะไม่ช้าแล้วครับ ท่านเคยกลับจากออฟฟิศราวบ่าย ๕ โมงทุกวัน. • ละครแตละประเภทแตกตางกัน
นายล�้า. : ถ้ายังงั้นฉันคอยอยู่ที่นี่ก็ได้. อยางไร (ละครรํา ละครรอง
อ้ายค�า. : ครับ. (ลงนั่งกับพื้นที่ริมประตูขวา.) ละครพูด)
• นักเรียนเคยดูละครพูดบางหรือ
นายล�้า. : (ดูอ้ายค�าแล้วจึงพูด.) แกไม่ต้องนั่งคอยอยู่กับฉันหรอก มีธุระอะไรก็ไปท�า
เสียเถอะ. ไม เรื่ อ งอะไร (ครู ใ ห นั ก เรี ย น
ที่เคยดูมาเลาประสบการณให
อ้ายค�า. : ครับ. (นั่งนิ่งไม่ลุกไป.) เพื่อนฟงหนาชั้นเรียน)
นายล�้า. : ฮือ! (มองดูอ้ายค�าครู่หนึ่งแล้วไปยืนมองดูอะไรเล่นที่หน้าต่างสักครู่หนึ่ง • ละครพูดมีลักษณะอยางไร
อ้ายค�าก็ยังนั่งนิ่งอยู่เฉยๆ จึงหันไปพูดอีก.) แกจะคอยอะไรอีกล่ะ? ( แนวตอบ เป น การแสดงที่ มี ก าร
อ้ายค�า. : เปล่าครับ. จั ด ฉาก แสง สี เสี ย ง ให เ หมื อ น
นายล�้า. : ถ้าจะต้องคอยอยู่เพราะฉันละก็ ฉันขอบอกว่าไม่จ�าเป็น แกจะไปก็ได้. ธรรมชาติ มีการพูดสนทนาโตตอบ
อ้ายค�า. : ครับ. (นั่งนิ่งไม่ลุกไป.)
กัน และครูแนะวาตัวละครแสดง
กิรยิ าอาการอยางไร และพูดอยางไร
นายล�้า. : (ดูอา้ ยค�าอีกครูห่ นึง่ แล้วก็หวั เราะ.) ฮะๆ ฮะๆ แกเห็นท่าทางฉันมันไม่ได้การ สิ่งสําคัญที่สุดของละครพูดคือบท
กระมัง แต่ที่จริงฉันน่ะเป็นผู้ดีเหมือนกัน มีตระกูลไม่ต�่าไม่เลวไปกว่าเจ้าคุณ สนทนาของตัวละครทุกตัว จะนํา
ภักดีเลย.
ไปสูการดําเนินเรื่อง)
อ้ายค�า. : (ออกไม่ใคร่เชื่อ.) ครับ.
นายล�้า. : ฮื่อ! แกไม่เชื่อ! ที่จริงแกก็ไม่น่าเชื่อ รูปร่างฉันมันโทรมเต็มที เครื่องแต่งตัว
หรือก็ปอนเต็มทียังงี้ แต่ฉันสาบานได้เทียวว่า ฉันจะไม่แตะต้องสิ่งของอะไร สํารวจคนหา
ของเจ้าคุณภักดีก่อนที่จะได้รับอนุญาต เข้าใจไหม? ใหนักเรียนสืบคนเนื้อหาบทละคร
อ้ายค�า. : ครับ. (นายล�้ามองดูอ้ายค�า เห็นจะไม่ไปแน่แล้วก็ถอนใจใหญ่ แล้วไปหยิบ เรือ่ งเห็นแกลกู จากแหลงเรียนรูต า งๆ
หนังสือเล่มหนึ่งมานั่งอ่านที่เก้าอี้ เงียบอยู่ครู่หนึ่ง.)
(พระยาภักดีนฤนาถเข้ามาทางประตูขวา พระยาภักดีอายุราวนายล�้าหรือจะ
แก่กว่านิดหน่อย กิริยาท่าทางเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ฝ่ายอ้ายค�า พอนายเข้ามา
ก็ยกมือไหว้ แล้วตั้งท่าจะพูด.)
พระยาภักดี. : อะไรวะ?
อ้ายค�า. : รับประทานโทษขอรับ! (บุ้ยปากไปทางนายล�้า.)
พระยาภักดี. : ใครวะ?
อ้ายค�า. : อ้างว่าเป็นเกลอเก่าของใต้เท้า ผมบอกว่าใต้เท้ายังไม่กลับจากออฟฟิศ ก็ไม่
ยอมไป เดินเรื่อยขึ้นมาที่นี่ว่าจะมาคอยพบใต้เท้า.
7
คูมือครู 7
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
8 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
ครู ใ ห นั ก เรี ย นศึ ก ษารู ป แบบการ
เขียน และอธิบายการใชเครื่องหมาย
นายล�้า. : ผมขึ้นไปอยู่พิษณุโลกครับ พอพ้นโทษแล้ว ผมก็เลยเปิดไปให้พ้นบางกอก วรรคตอนตางๆ ในบทละครพูด เรื่อง
จะอยู่ดูหน้าพวกพ้องยังไงได้.
เห็นแกลูก วามีลักษณะเดนอยางไร
พระยาภักดี. : ถูกแล้ว, ถูกแล้ว, ท�ามาหากินยังไงที่พิษณุโลก? ( แนวตอบ เป น การเขี ย นแบบบท
นายล�้า. : แต่แรก ผมพยายามหางานท�าทางเสมียนบาญชี ก็ไม่ส�าเร็จ. (หัวเราะ.) ละคร มี ว งเล็ บ แสดงอาการของตั ว
พระยาภักดี. : ฮือๆ! ในชั้นต้นๆ เห็นจะล�าบากจริง แล้วยังไงล่ะ? ละคร เขียนบทพูดสือ่ สารโดยไมมกี าร
บรรยาย และใชเครือ่ งหมายวรรคตอน
นายล�้า. : แล้วผมก็เข้าหุ้นค้าขายกับเจ๊กสองสามคนด้วยกัน.
แบบภาษาอังกฤษ)
พระยาภักดี. : แล้วเป็นยังไง?
นายล�้า. : ก็ดีหรอกครับ พอไถๆ ไปได้ ไม่สู้ฝืดเคืองนักแต่ภายหลังอ้ายผีโลภมันก็เข้า
ดลใจผมอีก.
พระยาภักดี. : เอ๊ะ! อะไร เล่นอย่างเก่าอีกหรือ?
เกร็ดแนะครู
นายล�้า. : เปล่าขอรับ อ้ายอย่างเก่าผมเข็ด, แต่ถึงจะไม่เข็ดมันก็ท�าอย่างเก่าอีกไม่ได้ การยื ม คํ า ภาษาอั ง กฤษมาใช ใ น
เพราะผมไม่ได้เป็นข้าราชการแล้วอย่างทีท่ า� ครัง้ ก่อน มันก็ไม่มโี อกาสอยูเ่ อง ภาษาไทย มักมีสาเหตุมาจากวิทยาการ
ถูกไหมล่ะครับ? ตางๆ ที่ไทยรับมา โดยนํามาทับศัพท
กรณีทคี่ าํ นัน้ ๆ เปนคําใหม และยังไมมี
พระยาภักดี. : ถูกแล้ว เป็นเคราะห์ดีของแกที่ไม่มีโอกาส.
คําศัพทบัญญัติใชในภาษาไทย เชน
นายล�้า. : ที่จริงถึงมีโอกาสผมก็ไม่เล่นอีก ผมก็แก่จนหัวหงอกแล้วต้องมีความคิดดีขึ้น offfiice = ออฟฟศ หมายถึง
กว่าแต่ก่อนสักหน่อย, การที่ผมท�าอย่างครั้งก่อนน่ะ ผลที่ได้มันไม่มีน�้าหนัก สํานักงาน ที่ทําการ
เท่าผลทีเ่ สียเลย, เพราะฉะนัน้ ผมจึงได้คดิ หาหนทางทีจ่ ะท�าการให้ได้ผลมากๆ soda = โซดา หมายถึง นํา้ ทีเ่ จือดวย
และให้มีทางล�าบากน้อยๆ.
โซเดียมไฮโดรเจนคารบอเนต นํ้าที่มี
พระยาภักดี. : ฮือ! แล้วก็ท�ายังไงล่ะ ฉันหวังใจว่าการที่ท�านั้นไม่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย, แกสคารบอนไดออกไซดละลายและ
แต่ที่จริงนี่ก็ไม่ต้องกล่าวเพราะถ้าผิดกฎหมายแกคงไม่มาเล่าให้ฉันฟัง. อัดไวในขวด
นายล�้า. : อ้อ! เจ้าคุณนีก่ ย็ งั ช่างพูดอยูเ่ หมือนหนุม่ ๆ น่ะเอง การทีผ่ มท�าน่ะ เป็นการค้าขาย clinic = คลินิก หมายถึง
ครับ. สถานพยาบาล
พระยาภักดี. : ค้าอะไร? night club = ไนตคลับ หมายถึง
นายล�้า. : ฝิ่น. สถานเริ ง รมย ที่ เ ป ด เวลากลางคื น
ขายอาหาร เครื่องดื่ม มีดนตรี และ
พระยาภักดี. : อือ! ได้ก�าไรดีหรือ? มักจัดใหมีการแสดงดวย
นายล�้า. : ฉิบหายหมดตัว.
พระยาภักดี. : อ้าว! ท�าไมยังงั้น?
นายล�้า. : เขาจับได้เสียน่ะซิ เคราะห์ดีที่ไม่ติดคุกเข้าไปด้วย. นักเรียนควรรู
9 ฝดเคือง เปนคําซอนเพือ่ ความหมาย
มีความหมายวาติดขัด มีไมสจู ะพรอม
ใชสอย
คูมือครู 9
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
10 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
จากบทประพันธในหนา 11 นี้
ใหนักเรียนอภิปรายรวมกัน ดังนี้
นายล�้า. : ผมจะพบสักทีได้ไหมครับ? • นักเรียนคิดวานายลํ้ามีลักษณะ
พระยาภักดี. : ฉันบอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสที่จะพบแม่ลออ. นิสัยอยางไร
นายล�้า. : นัยว่าน่ะ เจ้าคุณไม่เต็มใจให้ผมพบยังงั้นหรือ? (แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย
พระยาภักดี. : ถ้าจะให้ฉันตอบตามใจจริงก็ต้องตอบว่า ถ้าไม่พบได้ดีกว่า. เชน เปนคนโลภเห็นแกเงิน
เปนตน)
นายล�้า. : (ออกโกรธ.) ท�าไม? • บทพูดของพระยาภักดีเหมาะสม
พระยาภักดี. : จะให้ต้องอธิบายไปท�าไม แกควรจะเข้าใจได้เองดีเทียว. กับสถานการณหรือไม อยางไร
นายล�้า. : เข้าใจยังไง? (แนวตอบ เหมาะสม เพราะใน
พระยาภักดี. : จะให้ฉันพูดตามตรงอีกหรือ? สถานการณที่นายลํ้ากําลังโมโห
พระยาภักดีก็พูดโดยใชเหตุผล)
นายล�้า. : เชิญ.
พระยาภักดี. : ถ้าอย่างงั้นก็เอาซิ ที่ฉันไม่เต็มใจให้แกพบกับแม่ลออก็เพราะแม่ลออเป็นผู้ที่
ได้รบั การอบรมอันดี สมควรแก่ผมู้ ตี ระกูล, ควรหรือทีห่ ล่อนจะคบค้าสมาคม ขยายความเขาใจ
กับคน...เอ้อ... ใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น
นายล�้า. : คนขี้คุกขี้ตะรางอย่างผม ยังงั้นหรือ? • หากนักเรียนเปนคนที่อยูในสังคม
พระยาภักดี. : ฉันเสียใจ ที่แกมาบังคับให้ฉันต้องพูดให้ระคายหูแกเช่นนี้. สมัยรัชกาลที่ 6 นักเรียนจะใหอภัย
นายล�้า. : ท�าไมในโลกนี้มีผมคนเดียวหรือ ที่เคยติดคุก, คนอื่นที่เคยติดคุกแล้วมาเที่ยว และยอมรับคนที่เคยติดคุก
ลอยหน้าสมาคมอยู่ในหมู่ผู้ลากมากดี มีถมไปไม่ใช่หรือ? ติดตะรางอยางนายลํ้าหรือไม
เพราะเหตุใด
พระยาภักดี. : ทางทีจ่ ะต้องรับพระราชอาญามีหลายทาง บางคนก็พลาดอย่างโน้น บางคน (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับทัศนคติ
ก็พลาดอย่างนี้, ความผิดที่คนกระท�าก็มีหลายชั้น. ของนักเรียน แตครูควรแนะนําวา
นายล�้า. : ยังงั้นซิ ถึงการฉ้อโกงก็มีหลายชนิดหลายชั้นเหมือนกัน ถ้าไม่ยังงั้นคุณเอง การใหอภัยเปนสิ่งที่ควรทํา เพราะ
จะได้มาลอยหน้าเป็นพระยาอยู่หรือ? หากไมใหอภัยเขาก็จะไมมีโอกาส
พระยาภักดี. : ที่แกพูดเช่นนี้ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงหาว่าแกหมิ่นประมาทเขา แต่ฉันน่ะเป็นคน แกตัว และจะทําผิดซํ้าอีก)
ที่รู้จักแกมาช้านานแล้ว เพราะฉะนั้นพอจะให้อภัยได้.
นายล�้า. : ขอบพระเดชพระคุณ ผมเข้าใจดีแล้ว ถ้าฉ้อโกงเล็กน้อยจึง่ จะมีโทษ โกงให้เป็น
การใหญ่ไม่เป็นไร. นักเรียนควรรู
พระยาภักดี. : แกยังเข้าใจผิดอยู่มาก การที่คนได้รับพระราชอาญาคราวหนึ่งแล้ว ไม่ใช่ว่า
ลอยหนา เปนคําประสม คําวา
ใครๆ เขาจะพากันคอยตัดรอนไม่ให้มีการผงกหัวได้อีก ไม่ใช่เช่นนั้น ถ้าใคร
ลอย + หนา หมายความวา ทําหนาตา
ส�าแดงให้ปรากฏว่า รูส้ กึ เข็ดหลาบเกรงพระราชอาญา ละความประพฤติทชี่ วั่
ยักเยื้องกลอกไปกลอกมา
ประพฤติทางที่ดีแล้ว ก็คงจะต้องมีผู้รู้สึกสงสารสักคราวหนึ่ง.
11
คูมือครู 11
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
12 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
1. ใหนักเรียนยกสํานวนที่ปรากฏ
ในเรื่อง แลวอธิบายความหมาย
นายล�้า. : จริง, ผมมีความผิดที่ทิ้งแม่ลออไปเสียนาน นี่แม่ลออคงไม่รู้เลยละซิว่าผม (แนวตอบ เชน มีเหยามีเรือน
เป็นพ่อ เห็นจะนึกว่าเจ้าคุณเป็นพ่อกระมัง.
หมายถึง แตงงานแลว
พระยาภักดี. : เขารู้ว่าฉันเป็นแต่พ่อเลี้ยงเขา ฉันบอกว่าพ่อเขาตายเสียตั้งแต่เขายังเล็กๆ เจาบุญนายคุณ หมายถึง ผูม บี ญ
ุ คุณ
เขาก็เลยนับถือฉันเป็นพ่อ. หมาหัวเนา หมายถึง คนซึ่งเปนที่
นายล�้า. : ก็แม่เขาไม่บอกไม่เล่าอะไรให้ลูกเขารู้มั่งเลยหรือ? รังเกียจของคนอื่นจนไมสามารถ
พระยาภักดี. : เขาไม่ได้บอก. เขากับใครได คนที่ไมมีใครรักหรือ
นายล�้า. : ท�าไม? คบหา เปนตน)
2. ใหนักเรียนนําสํานวนที่พบในเรื่อง
พระยาภักดี. : แกไม่ควรจะต้องถามเลย แกรูอ้ ยูด่ ีแล้วว่า ตัง้ แต่แรกได้แม่นวลมาแล้ว แกไม่ เห็นแกลกู เขียนใสกระดาษเล็กๆ ครู
ได้ท�าให้เขาเป็นที่พอใจเลยสักขณะจิตเดียว. รวบรวมสํานวนของนักเรียนมาให
นายล�้า. : จริงซิ! นี่เจ้าคุณคงนึกละซิว่า ถ้าแม่นวลน่ะได้กะเจ้าคุณเสียจะดีกว่า. นักเรียนจับสลาก ถาจับไดสํานวน
พระยาภักดี. : ก็หรือมันไม่จริงเช่นนัน้ ล่ะ แม่นวลเลือกผัวผิดแท้ทเี ดียว เมือ่ จะตายหล่อนก็รสู้ กึ ใดใหอานและอธิบายความหมาย
จึงได้มอบแม่ลออไว้ให้เป็นลูกฉัน ขอให้ฉนั เลีย้ งดูให้เสมอลูกในไส้ฉนั เอง ฉัน ของสํานวนนั้นๆ
ก็ได้ตงั้ ใจทะนุถนอมแม่ลออเหมือนลูกในอกฉัน ฉันได้กระท�าหน้าทีพ่ อ่ ตลอดมา
โดยความเต็มใจจริงๆ, แม่ลออเองคงจะเป็นพยานว่าฉันไม่ได้กระท�าให้เสีย
วาจาที่ฉันให้ไว้แก่แม่นวลเลย. ขยายความเขาใจ
นายล�้า. : จริง ผมน่ะได้ประพฤติไม่ดี บกพร่องในหน้าที่บิดามาก, แต่ต่อไปผมจะตั้งใจ ครูและนักเรียนรวมกันยกตัวอยาง
ประพฤติให้สมควร. สํ า นวนที่ เ ปรี ย บเที ย บความรั ก ของ
พระยาภักดี. : ดูเกินเวลาเสียแล้ว แม่ลออก็จะมีเหย้ามีเรือนอยู่แล้ว. พอแมที่มีตอลูกในลักษณะเดียวกับ
ขอความทีว่ า “ขอใหฉนั เลีย้ งดูใหเสมอ
นายล�้า. : ผมไม่เห็นจะเกินเวลาไปเลย.
ลูกในไส ฉันเองก็ตั้งใจทะนุถนอม
พระยาภักดี. : แกคิดจะท�าอะไร? แมลออเหมือนลูกในอกฉัน”
นายล�้า. : ผมคิดว่า เป็นหน้าทีจ่ ะต้องมาอยูใ่ กล้ชดิ ลูกสาวผม เพือ่ จะได้ชว่ ยเหลือเจือจาน (แนวตอบ เชน รักลูกดังแกวตา
ในธุระต่างๆ ตามเวลาอันสมควร. ดวงใจ เปนตน)
พระยาภักดี. : ฉันบอกแล้วว่า เขาจะมีเหย้ามีเรือนอยู่แล้ว.
นายล�้า. : ทราบแล้ว, เมื่อยังอยู่ในบ้านเจ้าคุณผมก็วางใจได้ นี่จะแยกไปมีเหย้ามีเรือน
ของตัวเองแล้ว ผมจะต้องเข้ามาอยู่กับเขาเพื่อจะได้เป็นก�าลังแก่เขาบ้าง.
พระยาภักดี. : เอ๊ะ! แกนี่จะเป็นบ้าเสียแล้วกระมัง?
นายล�้า. : ท�าไม?
พระยาภักดี. : แกจะคิดไปอยู่กับลูกสาวยังงั้นยังไงได้.
13
คูมือครู 13
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
14 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
1. ใหนักเรียนศึกษาวิเคราะหและ
วิจารณลักษณะนิสัยของตัวละคร
พระยาภักดี. : ช่างฉันเถอะ ขอแต่ให้แกรับเงินร้อยชั่งแล้วก็ไปเสียให้พ้นเถอะ. ตอไปนี้
นายล�้า. : ถ้าหมดผมจะไปเอาที่ไหนอีกล่ะ? ผมไม่โง่นะเจ้าคุณ ถ้าให้ผมไปอยู่เสียกับ • พระยาภักดี
ลูกสาวผม เงินก็จะไม่เสียมาก. • นายลํ้า
พระยาภักดี. : เงินน่ะฉันไม่เสียดายหรอก ฉันเสียดายชื่อและเสียดายความสุขของแม่ลออ • แมลออ
มากกว่า. • อายคํา
นายล�้า. : คุณจะให้ผมขายลูกผมยังงั้นหรือ? แลวบันทึกความรูลงสมุด
พระยาภักดี. : จะเรียกว่ากระไรก็ตามใจเถอะ แต่ที่จริงฉันตั้งใจซื้อความสุขให้แก่แม่ลออ 2. ครูตรวจผลงานของนักเรียนแลว
เท่านั้น. คัดเลือกผลงานที่วิเคราะหวิจารณ
ไดดี มาเปนตัวอยาง 3 ชิ้น โดย
นายล�้า. : ที่คุณจะมาพรากพ่อกับลูกเสียเช่นนี้น่ะ คุณเห็นสมควรแล้วหรือ?
ใหนักเรียนเจาของชิ้นงานนําเสนอ
พระยาภักดี. : ฉันเห็นสมควรแล้ว ฉันจึงได้ประสงค์ที่จะท�า แม่ลออน่ะดีเกินที่จะเป็นลูกคน หนาชั้นเรียน
เช่นแก ยังไง! จะต้องการเงินเท่าไร ว่ามา! (ลุกขึ้นยืนจ้องนายล�้า.)
นายล�้า. : ผมไม่ต้องการเงินของคุณ ผมจะพบกับลูกผม.
พระยาภักดี. : ฉันไม่ยอมให้แกพบ จะเอาเงินเท่าไรจะให้. ขยายความเขาใจ
นายล�้า. : ผมไม่เอาเงินของคุณ. นักเรียนคิดวาตัวละครใดในเรื่อง
พระยาภักดี. : ถ้ายังงั้นก็ไปให้พ้นบ้านฉัน, ไป! ที่ ค วรนํ า เรื่ อ งการปฏิ บั ติ ต นมาเป น
ต น แบบในการดํ า เนิ น ชี วิ ต และตั ว
นายล�้า. : ผมไม่ไป, จะท�าไมผม? ละครตัวใดที่เราไมควรเอาแบบอยาง
พระยาภักดี. : นี่แน่, แกอย่ามาท�าอวดดีกับฉัน ไป! ใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น
นายล�้า. : ผมไม่ไป. (นั่งไขว่ห้างกระดิกขาเฉย.)
พระยาภักดี. : อย่าท�าให้เกิดเคืองมากขึ้นหน่อยเลย ประเดี
ประเดี๋ยวฉันจะเหนี่ยวใจไว้ไม่อยู่.
นายล�้า. : คุณจะท�าไมผม? นักเรียนควรรู
พระยาภักดี. : ฉันไม่อยากท�าอะไรแก แต่ถ้าแกไม่ไปล่ะก็... จะเหนี่ยวใจไวไมอยู หมายถึง
นายล�้า. : จะท�าไมผม แหม! ท�าเก่งจริงนะ เจ้าคุณน่ะแก่แล้วนะครับ จะประพฤติเป็น รั้งไว ดึงไวไมอยู
เด็กไปได้.
พระยาภักดี. : จริง, ฉันแก่จริง แต่ขอให้เข้าใจว่าแกสูฉ้ นั ไม่ได้นะ ฉันได้เปรียบแกมาก ก�าลัง
ฉันยังมีพอตัว ก�าลังแกน่ะมันอ่อนเสียแล้ว ฤทธิเ์ หล้ามันเข้าไปฆ่าก�าลังแกเสีย
หมดแล้ว.
นายล�้า. : (หัวเราะเยาะ.) ฮะๆ! ช่างพูดจริง ยังไม่เบาบางลงกว่าเมื่อหนุ่มๆ เลย.
พระยาภักดี. : (โกรธ.) ยังไง จะเอาเงินหรือจะเอาแส้ม้า?
15
คูมือครู 15
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
16 คูมือครู
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
ขยายความเขาใจ
“(ไหว) ดิฉันรับพรลวงหนาไวกอน.
คุณพอคะ ชวยพูดจาชวนคุณอาให
แม่ลออ. : ถ้ายังงัน้ ดิฉนั ก็ยงิ่ ดีใจมากขึน้ ทีไ่ ด้พบคุณ ก็คณ
ุ พ่อดิฉนั ทีต่ ายล่ะคะ รูจ้ กั ไหม?
อยู ร ดนํ้ า ดิ ฉั น หน อ ยนะคะ ดิ ฉั น จะ
(นายล�า้ พยักหน้า.) ถ้ายังงัน้ คุณก็ดกี ว่าดิฉนั ดิฉนั ไม่รจู้ กั เลย, เคยเห็นแต่รปู ที่
ในห้องคุณแม่ รูปร่างสูงๆ หน้าอกกว้าง ดิฉนั ช่างชอบหน้าเสียจริงๆ หน้าตาเป็น เขาในเรือนเสียทีละ คุณพอกับคุณอา
คนซื่อ ใจคอกว้างขวาง, ถ้าใครบอกดิฉันว่าเป็นคนไม่ดี ดิฉันไม่ยอมเชื่อเป็น คงอยากคุยกันอยางผูช ายๆ สนุกกวา.
อันขาดเทียว แต่ท่านก็เป็นคนดีจริงๆ อย่างที่ดิฉันนึกเดาเอาในใจ คุณพ่อนี่ (ออกไปทางประตูซาย)”
ก็ได้บอกดิฉันว่างั้น จริงไหมคะคุณพ่อ? (พระยาภักดีพยักหน้า.) • จากขอความขางตนสะทอน
คานิยมใด และมีขอคิดใดที่
นายล�้า. : ถ้าใครบอกหล่อนว่า พ่อหล่อนทีต่ ายน่ะเป็นคนไม่ดลี ะก็หล่อนเป็นไม่ยอมเชือ่
เลยเทียวหรือ? นักเรียนนําไปใชในชีวิตได
(แนวตอบ คานิยมการมี
แม่ลออ. : ดิฉันจะเชื่อยังไง ดูในรูปก็เห็นว่าเป็นคนดี. เออ! นี่คุณพ่อบอกแล้วหรือยัง สัมมาคารวะกับบุคคลทั่วไป
เรื่องดิฉันจะแต่งงาน?
และขอคิดที่นักเรียนนําไปใช
นายล�้า. : บอกแล้ว, ฉันยินดีด้วย. ในชีวิตประจําวัน คือ การมี
แม่ลออ. : คุณอาต้องมารดน�้าดิฉันนะคะ. สัมมาคารวะยอมเปนที่รักใคร
นายล�้า. : ฉัน- เอ้อ- ฉันจะต้องรีบกลับไปหัวเมือง. ของบุคคลทั่วไปและการรูจัก
แม่ลออ. : โธ่! จะอยู่รดน�้าดิฉันหน่อยไม่ได้เทียวหรือคะ? กาลเทศะ เมื่อมีผูใหญสนทนา
กันอยู ผูนอยควรหาโอกาส
นายล�้า. : ฉันจะขอตริตรองดูก่อน แต่ยังไงๆ ก็ดี ถึงฉันจะอยู่รดน�้าหล่อนไม่ได้ ฉันก็คง ปลีกตัวออกมาใหผูใหญได
ตั้งใจอวยพรให้หล่อนมีความสุข.
สนทนากันอยางอิสระ)
แม่ลออ. : (ไหว้.) ดิฉันรับพรล่วงหน้าไว้ก่อน. คุณพ่อคะ ช่วยพูดจาชวนคุณอาให้อยู่
รดน�้าดิฉันหน่อยนะคะ ดิฉันจะเข้าไปในเรือนเสียทีละ คุณพ่อกับคุณอาคง
อยากคุยกันอย่างผู้ชายๆ สนุกกว่า. (ออกไปทางประตูซ้าย.)
นายล�้า. : (นิง่ อยูค่ รูห่ นึง่ แล้วพูด เสียงออกเครือๆ.) เจ้าคุณขอรับ ใต้เท้าพูดถูก, เด็กคนนี้
ดี เ กิ น ที่ จ ะเป็ น ลู ก ผม ผมมั น เลวทรามเกิ น ที่ จ ะเป็ น พ่ อ เขา ผมพึ่ ง รู ้ สึ ก
ความจริงเดี๋ยวนี้เอง.
พระยาภักดี. : (ตบบ่านายล�้า.) พ่อล�้า!
นายล�้า. : หล่อนได้เขียนรูปพ่อของหล่อนขึ้นไว้ในใจเป็นคนดีไม่มีที่ติ ผมไม่ต้องการ
จะลบรูปนัน้ เสียเลย. (ถอดแหวนวงหนึง่ จากนิว้ .) นีแ่ น่ะครับ แหวนนีเ้ ป็นของ
แม่นวล ผมได้ติดไปด้วยสิ่งเดียวเท่านี้แหละ เจ้าคุณได้โปรดเมตตาผมสักที
พอถึงวันแต่งงานแม่ลออ เจ้าคุณได้โปรดให้แหวนนี้แก่เขา บอกว่าเป็นของ
รับไหว้ของผม ส่งมาแทนตัว.
พระยาภักดี. : (รับแหวน.) ได้ซิเพื่อนเอ๋ย ฉันจะจัดการตามแกสั่ง อย่าวิตกเลย.
นายล�้า. : แล้วผมขออะไรอีกอย่าง.
17
คูมือครู 17
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
18 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Expand Evaluate
สํารวจคนหา
ให นั ก เรี ย นรวบรวมคํ า ยื ม ภาษา
ตางประเทศที่เปนภาษาอังกฤษ เชน
๖ คÓศัพท์ คําวา “ออฟฟศ” มาอยางนอย 10 คํา
นักเรียนสามารถรวบรวมคําจากเรื่อง
ค�ำศัพท์ ควำมหมำย
และสืบคนจากแหลงเรียนรูอื่นๆ
กระแอม ท�าเสียงดัง ให้ผู้ฟังรู้สึกตัวว่ามีคนมา (แนวตอบ เชน คลินกิ ออฟฟศ แฟชัน่
เกล้ำผม มาจากค�าว่า เกล้ากระผม ค�าใช้แทนตัวผู้พูดที่เป็นเพศชาย พูดกับผู้ที่สูงกว่า เคานเตอร แท็กซี่ โซดา เปนตน)
ด้วยวัยและวุฒิหรือฐานะ
เกลอ เพื่อน
อธิบายความรู
ขยำย เปิดเผย
ใหนักเรียนอธิบายความหมายของ
ขอบพระเดชพระคุณ ขอบคุณ ใช้พูดกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้ที่อาวุโสกว่าทั้งด้านฐานะ ความรู้ คํายืมภาษาตางประเทศที่เปนภาษา
ยศศักดิ์ อังกฤษ จากที่รวบรวมมาอยางนอย
ขอรับผม มาจากค�าว่า ขอรับกระผม ปัจจุบันใช้ว่า ครับผม เป็นค�าตอบรับของเพศชาย คนละ 10 คํา ตามความเขาใจของ
เพศหญิงใช้ว่า เจ้าค่ะ นักเรียน
ครีมโซดำ น�้าหวานผสมโซดา (แนวตอบ ตัวอยางเชน
คลินิก หมายถึง สถานพยาบาล
ฉำย ถ่ายภาพ
ออฟฟศ หมายถึง สํานักงาน
ชั่ง มาตราเงินสมัยโบราณ ๑ ชั่งมีค่าเท่ากับ ๘๐ บาท แท็กซี่ หมายถึง รถโดยสารสวน
ช่ำงพูด พูดเก่ง มีคารมคมคาย บุคคล เปนตน)
เดียรฉำน สัตว์ชั้นต�่า
ตกรก อ่านว่า ตก - กะ - รก หมายถึง ตกนรก
@
ใต้เท้ำกรุณำ หรือค�าว่า ใต้เท้า เป็นสรรพนามบุรษุ ทีส่ อง แทนผูท้ เี่ ราพูดด้วยซึง่ สูงด้วยยศศักดิ์ มุม IT
โทรม ย�่าแย่ ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับคําศัพท
ในบทละครเรื่องเห็นแกลูกไดที่
บำงกอก ชื่อเดิมของกรุงเทพมหานคร
http://www.kruthai40.com/สื่อนํา
บำญชี บัญชี เรื่องออนไลน-วิจัยและพัฒนา
ปอนๆ ซอมซ่อ อัตคัด ขัดสน
ปั้นหนึ่ง ปึกหนึ่ง
เป็นโทษ ได้รับโทษ ติดคุก
ระหำย กระหาย
19
คูมือครู 19
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
20 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนนําเสนอกลวิธีการ
ประพันธ การสรางปมปญหาให
จากเนื้อหาตอนนี้เป็นจุดคลี่คลายของเรื่อง ปมปัญหาและความขัดแย้งระหว่างพระยาภักดี- ตัวละคร และจุดสูงสุดของเรื่องนี้
นฤนาถและนายล�า้ เข้มข้นมากขึน้ เรือ่ ยๆ และคลีค่ ลายลงเมือ่ นายล�า้ ได้รบั รูว้ า่ ตลอดระยะเวลาทีผ่ า่ นมา (climax) วามีลักษณะอยางไร
พ่อทีแ่ ท้จริงในความทรงจ�าของแม่ลออนัน้ เป็นคนดี น่าเคารพนับถือ โดยเธอเชือ่ จากการฟังค�าบอกเล่า บันทึกความรูลงสมุด
ของพระยาภักดีนฤนาถและจินตนาการจากรูปถ่ายที่อยู่ภายในห้องของแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว ความเห็น (แนวตอบ คําตอบหลากหลายตาม
แก่ตนเองของนายล�้าจึงได้แปรเปลี่ยนเป็นความเห็นแก่ลูก พื้นฐานความรูของนักเรียน ครูควร
การด�าเนินเรือ่ ง เริม่ เรือ่ งด้วยปมปัญหาของนายล�า้ เมือ่ นายล�า้ ออกจากคุกได้ไปประกอบอาชีพ ชีแ้ นะแนวทางและหลักการ ปมปญหา
ของเรื่องนี้อยูที่นายลํ้าเดือดรอนเรื่อง
ต่างๆ ที่ไม่สุจริตและไม่ประสบความส�าเร็จ จึงคิดมาพึ่งพาลูกสาวที่ก�าลังจะแต่งงานกับชายผู้มีฐานะดี
เงิ น จึ ง หวั ง พึ่ ง พาลู ก สาวที่ เ ป น ลู ก
ในขณะที่พระยาภักดีนฤนาถไม่ต้องการให้นายล�้าพบกับแม่ลออและแสดงตนว่าเป็นพ่อที่แท้จริง ด้วย บุญธรรมของผูมีฐานะ จุดสูงสุดของ
ความรักที่มีต่อลูกและเกรงว่าแม่ลออจะอับอายขายหน้าที่มีพ่อเป็นคนทุจริต เป็นคนคดโกง เป็นคน เรื่ อ งคื อ ตอนที่ น ายลํ้ า โต เ ถี ย งกั บ
ติดคุก ปมปัญหาท�าให้การด�าเนินเรื่องเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเมื่อนายล�้าดึงดันที่จะพบแม่ลออให้ได้ แต่ท้าย พระยาภักดีเรื่องแมลอออยางรุนแรง
ที่สุดแล้วกวีได้ค่อยๆ คลายปมปัญหานั้นลง โดยใช้วิธีให้ผู้อ่านเข้าใจเองจากบทสนทนาของตัวละคร พอมาถึงตอนที่แมลออเลาถึงพอที่แท
และจบลงด้วยดีโดยพ่อที่แท้จริงเห็นแก่ลูกมากกว่าเห็นแก่ตัว ซึ่งตามธรรมชาติของมนุษย์ส่วนใหญ่ จริงวาเปนคนดี ก็นาํ ไปสูก ารคลีค่ ลาย
มักเห็นแก่ตัว เพราะมีสัญชาตญาณของการเอาตัวรอด แต่เมื่อได้พบกับความรักอันบริสุทธิ์ ความ ปมป ญ หา จุ ด จบของเรื่ อ งนายลํ้ า
จริงใจของลูก ท�าให้พ่อที่ไม่เคยท�าดีเลยเกิดความละอายแก่ใจ เกิดความส�านึกผิดชอบชั่วดี เขาไม่อาจ ปดบังวาคนเปนพอที่แทจริงเพื่อเห็น
แกลูก)
ลบภาพพ่อทีแ่ สนดีไปจากใจของลูกได้ ในทีส่ ดุ จึงยอมมีชวี ติ ทีล่ า� บากต่อไปเพราะเห็นแก่ลกู ให้ลกู มีชวี ติ
ที่สุขสบาย ไม่เป็นที่รังเกียจของคนในสังคมดีกว่าที่จะให้ลูกรับรู้ความจริงอันปวดร้าว บทละครพูด
เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความรักของพ่อสองรูปแบบ คือ พ่อที่แท้จริงกับพ่อบุญธรรมแม้ไม่ใช่พ่อที่แท้จริง
หากได้เลี้ยงดูมาก็ย่อมรัก หวังดีต่อลูกและท�าทุกอย่างเพราะเห็นแก่ลูกมากกว่าเห็นแก่ตัว ส�าหรับ เกร็ดแนะครู
พ่อที่แท้จริงแม้จะเคยท�าตนไม่ดีมาก่อน แต่เมื่อพบความรักที่บริสุทธิ์จริงใจของลูกท�าให้ส�านึกและ ครู แ นะนํ า ว า ปมขั ด แย ง หรื อ ปม
เสียสละเพื่อลูก ปญหาคือการสรางความขัดแยงเพื่อ
ใหการดําเนินเรื่องไปถึงการคลี่คลาย
๗.๒ คุณค่าด้านวรรณศิลป์
ปม และจบเรื่องในที่สุด ปมขัดแยงมี
บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แม้ ไดหลายอยาง เชน ปมขัดแยงภายใน
เป็นเพียงบทละครสั้นๆ มีตัวละครเพียง ๔ ตัว แต่สามารถด�าเนินเรื่องได้ราบรื่น กระตุ้นความรู้สึกของ ใจของตั ว ละคร ปมขั ด แย ง ของตั ว
ผู้อ่านให้ติดตามเรื่องต่อไปจนกระทั่งเรื่องจบลงด้วยความสุขสมหวังของตัวละคร จากบทสนทนา ละครตั้งแตสองตัวขึ้นไป ปมขัดแยง
ของตัวละครภายในเรื่อง นอกจากจะท�าให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของกวีแล้ว ยัง ของตัวละครกับสังคมหรือสิง่ แวดลอม
ปรากฏคุณค่าในด้านวรรณศิลป์ ดังนี้ เปนตน จุดสูงสุดของเรื่องเปนสวนที่
๑) กำรใช้บทสนทนำที่เหมำะสมกับสถำนภำพของตัวละคร กวีสามารถสร้าง ปญหาของเรื่องถูกขมวดปมถึงขีดสุด
เปนสวนที่กระตุกใจผูอานถึงขีดสุด
บทสนทนาที่เหมาะสมกับสถานภาพของตัวละครที่กล่าวบทสนทนานั้น สถานภาพนี้ประกอบด้วย
กอ นเขา สูสวนคลายปมปญหาของ
21 เรื่อง และจบเรื่องในที่สุด
คูมือครู 21
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
22 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิด
เห็นในประเด็นตอไปนี้
นอกจากนั้นแล้วบทสนทนาของตัวละครยังช่วยแสดงให้เห็นความรู้สึกของตัวละคร • การใชถอยคําที่สื่อความหมาย
ที่เปลี่ยนแปลงไปตามเนื้อเรื่องได้อีกด้วย ดังเช่นเมื่อนายล�้ามีปากเสียงกับพระยาภักดีนฤนาถ นายล�้า ลึกซึ้ง สงผลตอผูอานอยางไร
จะใช้สรรพนามเรียกพระยาภักดีนฤนาถว่า “คุณ” ส่วนพระยาภักดีนฤนาถจะเรียกนายล�้าว่า “แก” (แนวตอบ การใชถอยคําที่สื่อ
แต่เมื่อเรื่องราวคลี่คลายลงโดยนายล�้าเปลี่ยนใจไม่มางานแต่งงานแล้ว บทสนทนาจึงใช้ค�าสรรพนาม ความหมายลึกซึ้ง จะทําให
เปลี่ยนแปลงไป ดังตัวอย่าง ผูอานเขาใจเรื่องราวและ
นายล�้า. : (นิง่ อยูค่ รูห่ นึง่ แล้วพูด เสียงออกเครือๆ.) เจ้าคุณขอรับ ใต้เท้าพูดถูก, เด็กคนนี้ พฤติกรรมของตัวละครไดดี
ดีเกินทีจ่ ะเป็นลูกผม ผมมันเลวทรามเกินทีจ่ ะเป็นพ่อเขา ผมพึง่ รูส้ กึ ความจริง ยิ่งขึ้น เชน คําวา “เหนี่ยวใจ”
เดี๋ยวนี้เอง. สื่อใหเห็นอารมณของตัวละคร
พระยาภักดี. : (ตบบ่านายล�้า.) พ่อล�้า! วาพยายามยับยั้งใจ ไมทํา
ความรุนแรงทั้งที่โกรธมาก)
จะเห็นได้ว่านายล�้ากลับมาเรียกพระยาภักดีนฤนาถอย่างยกย่องด้วยค�าว่า “เจ้าคุณ”
หรือ “ใต้เท้า” อีกครัง้ แสดงให้เห็นความรูส้ กึ ของนายล�า้ ว่าส�านึกผิดในความเห็นแก่ตวั ทีม่ อี ยูก่ อ่ นหน้านี้ ขยายความเขาใจ
ขณะที่พระยาภักดีนฤนาถก็เข้าใจความเปลี่ยนแปลงนั้น จึงเรียกนายล�้าด้วยค�าที่แสดงความเห็นใจ
และยกย่องว่า “พ่อล�้า”
1. ใหนักเรียนนําถอยคําที่สื่อ
ความหมายลึกซึ้งจากเนื้อเรื่อง
จากตัวอย่างที่ได้ยกมาแสดงให้เห็นว่าบทละครเรื่องนี้ใช้บทสนทนาที่สมจริงและช่วยสื่อ
มาแตงประโยคคนละ 1 ประโยค
ถึงลักษณะนิสัยซึ่งเป็นภูมิหลังของตัวละคร รวมถึงแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ท�าให้ผู้อ่าน
• (หนาตึง) ออ!
เข้าใจในเนื้อเรื่องได้อย่างแจ่มแจ้ง • ผงกหัว
๓) กำรใช้ถ้อยค�ำที่สื่อควำมหมำยลึกซึ้ง ในบทละครนี้มีการใช้ถ้อยค�าที่สั้นกระชับ • เหนี่ยวใจ
แต่กินความมาก สามารถสื่อความหมายได้ลึกซึ้ง ท�าให้ผู้อ่านหรือผู้ชมเข้าใจเรื่องราวได้ดียิ่งขึ้น ดัง ฯลฯ
ตัวอย่าง 2. จากนั้นใหนักเรียนมานําเสนอ
หนาชั้นเรียน แลวบันทึกประโยค
พระยาภักดี. : (หน้าตึง.) อ้อ!
ที่นักเรียนสนใจลงสมุดอยางนอย
บทบรรยายนี้ท�าให้ผู้อ่านเห็นลักษณะสีหน้าของพระยาภักดีนฤนาถว่าเป็นเช่นไร และ 5 ประโยค
ยังท�าให้เข้าใจความรู้สึกของตัวละครในขณะนั้นว่ามีความไม่พอใจอีกด้วย แม้ว่าจะใช้ถ้อยค�าในการ
บรรยายเพียงสั้นๆ ก็ตาม
การใช้ถ้อยค�าในบทสนทนา ดังตัวอย่าง
พระยาภักดี. : แกยังเข้าใจผิดอยู่มาก การที่คนได้รับพระราชอาญาคราวหนึ่งแล้ว ไม่ใช่ว่า
ใครๆ เขาจะพากันคอยตัดรอนไม่ให้มีการผงกหัวได้อีก...
คูมือครู 23
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
บทสนทนำข้ำงต้นเป็นตอนที่พระยำภักดีนฤนำถสั่งให้อ้ำยค�ำน�ำโซดำมำให้นำยล�้ำดื่ม
ขยายความเขาใจ ค�ำพูดของนำยล�้ำสื่อเป็นนัยให้ทรำบว่ำ สิ่งที่นำยล�้ำชอบดื่มก็คือสุรำ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมำโดยตรง
ให นั ก เรี ย นยกตั ว อย า งสํ า นวน ขณะทีบ่ ทสนทนำของพระยำภักดีนฤนำถก็สอื่ ให้ทรำบว่ำพระยำภักดีนฤนำถเข้ำใจสิง่ ทีน่ ำยล�ำ้ กล่ำวถึง
สุภาษิตไทยที่สะทอนคานิยมของคน แม้ไม่ได้กล่ำวอย่ำงตรงไปตรงมำ เพรำะพระยำภักดีนฤนำถเห็นหน้ำนำยล�้ำซึ่งแสดงถึงอำกำรของ
ไทย คนติดสุรำ
(แนวตอบ การตอนรับแขกของสังคม
๕) การใช้ส�านวน ในบทละครพูดเรื่องนี้พบส�ำนวนหลำยส�ำนวน ดังตัวอย่ำง
ไทย “อันธรรมเนียมไทยแทแตโบราณ
ใครมาถึงเรือนชานตองตอนรับ”) มีเหย้ำมีเรือน หมำยถึง แต่งงำน มีครอบครัว
เจ้ำบุญนำยคุณ หมำยถึง เคยท�ำบุญคุณแก่เขำไว้มำก
หมำหัวเน่ำ หมำยถึง คนที่ไม่มีใครคบค้ำสมำคมด้วย
24
24 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายวา
• ขนบธรรมเนียม และคานิยมที่
๗.๓ คุณค่าด้านสังคมและสะท้อนวิถไี ทย ปรากฏในเรื่องยังคงมีใหเห็นใน
บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ เป็นวรรณคดีที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา ปจจุบันหรือไม ใหนักเรียนรวมกัน
ที่สังคมไทยรับกระแสวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาปรับใช้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบทละครพูดเรื่อง ยกตัวอยาง
เห็นแก่ลูก ก็มิได้มุ่งสะท้อนสภาพสังคมเฉพาะด้าน แต่ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทาง (แนวตอบ ขนบธรรมเนียมทีย่ งั ปรากฏ
วัฒนธรรมทีไ่ ด้มกี ารน�ามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับธรรมเนียมไทย นอกจากนีย้ งั สะท้อนสภาพความเป็นจริง ในปจจุบัน เชน การตอนรับแขก
ของสังคมว่าไม่วา่ ยุคสมัยใดสังคมย่อมมีทงั้ ด้านมืดและด้านสว่าง คนดีและคนไม่ดยี อ่ มปะปนกัน สะท้อน อยางดี การพูดคุยสอบถามสารทุกข
ให้เห็นสภาพชีวิต ความคิด ความเชื่อ ความรู้ในสังคม ณ ช่วงเวลานั้น ดังนี้ สุกดิบ การใหโอกาสคนทีเ่ คยทําผิด
๑) ธรรมเนียมกำรต้อนรับแขก ทุกครอบครัวในสังคมไทยย่อมได้รับการปลูกฝัง แตกลับตัวเปนคนดี เปนตน และ
คานิยมที่คนไทยยังมีอยู คือ การ
จากคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เสมอว่า “เป็นธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ” การ
อบรมเลี้ยงดูบุตรหลานใหมีกิริยา
ต้อนรับแขกด้วยความเต็มใจและเลี้ยงรับรองอย่างดีที่สุดถือเป็นมารยาททางสังคมประการหนึ่ง และผู้
มารยาทดีและเชื่อฟงผูใหญ)
ที่ได้รับการต้อนรับย่อมประทับใจและกล่าวถึงในความมีน�้าใจของเจ้าบ้าน บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก • นักเรียนคิดวาธรรมเนียมและ
ได้สะท้อนให้เห็นธรรมเนียมดังกล่าวข้างต้นไว้ ดังตัวอย่าง คานิยมนั้นมีขอดีขอดอยอยางไร
นายล�้า. : แหม! วันนี้ร้อนจริง ท�าให้ระหายน�้าพิลึก. (แนวตอบ มีขอดี คือ ทําใหคงความ
พระยาภักดี. : (เรียก.) อ้ายค�า! ไปหาโซดามาถ้วยเถอะ. เปนไทยและวิถีชีวิตของคนไทยที่มี
นํ้าใจเอื้อเฟอเผื่อแผกัน)
นายล�้า. : โซดาเปล่าหรือครับ?
พระยาภักดี. : จะเอาครีมโซดาก็ได้ หรือน�้าแดง.
ขยายความเขาใจ
จากบทสนทนาได้สะท้อนให้เห็นธรรมเนียมในการต้อนรับแขกและในขณะเดียวกัน
นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น
ยังได้สะท้อนให้เห็นว่าเครื่องดื่มที่ใช้รับรองแขกของคนไทยได้เปลี่ยนแปลงไป แต่เดิมเครื่องดื่มส�าหรับ เกี่ยวกับคานิยมในสังคมไทย
รับรองแขก คือ น�า้ ฝน น�า้ สะอาด แต่จากเรือ่ งได้เปลีย่ นเครือ่ งดืม่ โดยใช้นา�้ ครีมโซดาคือน�า้ หวานสีเขียว • นั ก เรี ย นคิ ด ว า ค า นิ ย มที่ นั บ ถื อ
ผสมน�้าโซดา สะท้อนให้เห็นการรับวัฒนธรรมการดื่มน�้าหวานซึ่งเป็นเครื่องดื่มจากตะวันตก คนมีฐานะจากอดีตมาถึงปจจุบนั
๒) กำรก�ำหนดค่ำและรูปแบบของเงิน ในสมัยอดีตเงินตราไม่ใช่ตัวแปรส�าคัญใน นั้นเปลี่ยนแปลงหรือไมอยางไร
สังคม ในระบบเศรษฐกิจไทยจะใช้ระบบแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งกันและกัน ต่อมาเมื่อสังคมมีโครงสร้างที่ ( แนวตอบ ป จ จุ บั น ยั ง มี ค นบาง
ซับซ้อน มีระบบเศรษฐกิจทีช่ ดั เจนมากขึน้ ระบบเงินตราจึงเข้ามาเป็นสือ่ กลางในการซือ้ ขายแลกเปลีย่ น กลุมนิยมและนับถือคนมีฐานะ
บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก ได้สะท้อนระบบเศรษฐกิจที่มีการก� าหนดค่าของเงิน โดยมีมาตราการ อยู แตคนสวนใหญเปลี่ยนแปลง
แลกเปลีย่ นว่า ๑๐๐ สตางค์มคี า่ เท่ากับ ๑ บาท ๔ บาทเป็นหนึง่ ต�าลึง ๒๐ ต�าลึงเป็นหนึง่ ชัง่ ดังตัวอย่าง ทั ศ นคติ ม านิ ย มนั บ ถื อ และ
ยกย อ งคนที่ มี ค วามรู ความ
พระยาภักดี. : ก็จะพูดกันเสียตรงๆ เท่านัน้ ก็จะแล้วกัน เอาเถอะฉันให้แกเดีย๋ วนีก้ ไ็ ด้ เท่าไหร่ สามารถ มีความดี ความซื่อสัตย
ถึงจะพอ เอาไปสิบชั่งก่อนพอไหม? มากกวา)
นายล�้า. : ไม่รับประทาน.
25
B
B พื้นฐานอาชีพ
ครูควรเสนอแนะแนวทางการพัฒนาความรูท างภาษาจากการอานวรรณคดี และวรรณกรรมไทย
โดยเฉพาะความรูทางดานคําศัพทตางๆ ที่กวีเลือกใชหรือการสรางศัพทใหม นักเรียนจะมี
คลังศัพทกวางขึ้น และจะเปนประโยชนในการสรรคําเพื่อใชในการประพันธงานประเภทตางๆ
อยางสรางสรรค ฝกฝนสูเสนทางการเปนนักประพันธ
คูมือครู 25
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
26
26 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับคุณคาดานสังคมจาก
นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมการนับถือคนมีฐานะ บางคนเห็นคนอื่นมีฐานะ บทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก
มี เ งิ น ทอง มี ท รั พ ย์ สิ น มากมาย จึ ง อยากมี บ ้ า ง โดยการหาวิ ธี ร วยทางลั ด เช่ น เล่ น การพนั น • ในขอที่วา “แสดงใหเห็นถึง
ค้ายาเสพติด คดโกง ขโมย จี้ปล้นหรือใช้อ�านาจหน้าที่แสวงหาประโยชน์ส่วนตน ผู้ที่หาวิธีรวยทางลัด สัจธรรมของมนุษย” นักเรียน
เช่นนี้มักล้มเหลวในชีวิต ดังเช่นชีวิตของนายล�้า หากต้องการมีชีวิตที่เป็นสุข ควรขยันหมั่นเพียร ตั้งใจ เห็นดวยหรือไมอยางไร
ปฏิบัติหน้าที่ รู้จักความพอดี พอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อ หมั่นเก็บออม ก็จะพอมีพอกินและเจริญก้าวหน้าใน (แนวตอบ เห็นดวย เพราะเรื่องนี้
หน้าที่การงานตามอัตภาพ หากเรารู้จักพอเพียงก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างไม่ล�าบาก มีความสุขกาย แสดงให เ ห็ น ถึ ง ความเสี ย สละ
สบายใจ ไม่ต้องดิ้นรนฟุ้งเฟ้อท�าให้ติดหนี้สิน เป็นปัญหาที่กระทบต่อการด�าเนินชีวิตประจ�าวัน ของพอแมเพื่อลูกอยางเดนชัด
๔) แสดงให้เห็นถึงสัจธรรมของมนุษย์ มนุษย์ทุกคนย่อมเห็นแก่ตัวเป็นธรรมดา ซึ่ ง เป น สั จ ธรรมที่ ดี ง าม ลู ก จะ
แต่พ่อแม่ย่อมเห็นแก่ลูกมากกว่าตนเอง ต้องเสียสละทุกอย่างเพื่อลูก แม้กระทั่งนายล�้าเองที่จากลูก ระลึกถึงบุญคุณของพอแมเสมอ
เมื่อมีโอกาสก็ควรจะตอบแทน
ไปตั้งแต่แม่ลอออายุได้ ๒ ปี ยังต้องต่อสู้กับความรู้สึกเห็นแก่ตัวหรือเห็นแก่ลูกของตนเองและในที่สุด
พระคุณทาน)
อ�านาจฝ่ายสูงก็ชนะ นายล�้ายอมจากไปผจญกับความยากล�าบากเพราะเห็นแก่ลูกมากกว่า จึงเป็น
เรื่องที่น่ายกย่องที่เขาเคยท�าผิดแต่ก็ส�านึกตัวได้ ดังบทสนทนา
ขยายความเขาใจ
นายล�้า. : หล่อนได้เขียนรูปพ่อของหล่อนขึน้ ไว้ในใจเป็นคนดีไม่มที ตี่ ิ ผมไม่ตอ้ งการจะลบ
รูปนัน้ เสียเลย. (ถอดแหวนวงหนึง่ จากนิว้ .) นีแ่ น่ะครับ แหวนนีเ้ ป็นของแม่นวล ใหนักเรียนยกตัวอยางการเสียสละ
ผมได้ติดไปด้วยสิ่งเดียวเท่านี้แหละ เจ้าคุณได้โปรดเมตตาผมสักที พอถึงวัน ของคนในครอบครัว บรรยายลงใน
สมุดสงครู ความยาวอยางนอย
แต่งงานแม่ลออ เจ้าคุณได้โปรดให้แหวนนีแ้ ก่เขา บอกว่าเป็นของรับไหว้ของ
15 บรรทัด
ผม ส่งมาแทนตัว.
พระยาภักดี. : (รับแหวน.) ได้ซิเพื่อนเอ๋ย ฉันจะจัดการตามแกสั่ง อย่าวิตกเลย.
นายล�้า. : แล้วผมขออะไรอีกอย่าง. บูรณาการ
พระยาภักดี. : อะไร? ว่ามาเถอะ ฉันไม่ขัดเลย. เศรษฐกิจพอเพียง
นายล�้า. : อย่าได้บอกความจริงแก่แม่ลออเลย ให้เขาคงนับถือรูปผมอันเก่านั้น ว่าเป็น ให นั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายใน
พ่อเขา และให้นับถือตัวผมเป็นเหมือนอา. ประเด็นตอไปนี้ หากนักเรียนมีเพื่อน
หรื อ คนใกล ชิ ด ที่ มี อุ ป นิ สั ย หรื อ การ
พระยาภักดี. : เอาเถอะ, ฉันจะท�าตามแกประสงค์.
ดํ า รงชี วิ ต เช น เดี ย วกั บ “นายลํ้ า ”
นายล�้า. : ผมลาที พรุ่งนี้เช้าผมจะกลับพิษณุโลก. นั ก เรี ย นจะมี วิ ธีชี้ แ นะหรื อ ตั ก เตื อ น
อยางไร ใหผูนั้นสามารถดํารงตนอยู
จากบทสนทนา นายล�า้ ไม่สามารถจะเห็นแก่ประโยชน์สว่ นตนมากกว่าความรักอันบริสทุ ธิ์ ในสังคมโดยพึง่ พาตนเองไดอยางปกติ
ความเทิดทูนทีแ่ ม่ลออมีตอ่ เขาได้เลย พลังแห่งความดีและความรักท�าให้พอ่ คนหนึง่ ทีใ่ นครัง้ หนึง่ ไม่เคย และไมสรางความเดือดรอนใหผูอื่น
ได้ดูแลใกล้ชิดลูก กลับตัวกลับใจ สละความสุขสบายและผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อความสุขของลูก จากนัน้ ใหนกั เรียนรวมกันสรุปและครู
ชี้แนะเพิ่มเติม
27
คูมือครู 27
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand Evaluate
Engage Explore Explain
เกร็ดแนะครู
(แนวตอบ คําถามประจําหนวย
การเรียนรู
ค�ำถำม ประจ�ำหน่วยกำรเรียนรู้ 1. ระหวางนายลํ้ากับพระยาภักดี-
นฤนาถ ผูที่เห็นแกลูกมากกวา คือ
๑. นักเรียนอ่านบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก แล้วพิจารณาว่าระหว่างนายล�้ากับพระยาภักดีนฤนาถ นายลํ้า เพราะยอมมีชีวิตที่ลําบาก
ใครเห็นแก่ลูกมากกว่ากัน มีข้อความใดที่สนับสนุนความคิดเห็นของนักเรียน ให ลู ก มี ชี วิ ต ที่ สุ ข สบายไม เ ป น ที่
๒. เหตุใดนายล�้าจึงตัดสินใจลดละความเห็นแก่ตัว รังเกียจของคนในสังคม ดีกวาที่จะ
๓. บุคคลใดในบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูกที่เป็นคนฉลาดรอบคอบ มีวิจารณญาณรู้จักไตร่ตรอง ไม่เชื่อ ใหลูกรับรูความจริงอันปวดราว มี
คนง่ายๆ จงให้เหตุผลประกอบ ขอความที่สนับสนุนความคิดเห็น
๔. แม่ลออได้รบั การเลีย้ งดูจากพระยาภักดีนฤนาถอย่างไร เพราะเหตุใดพระยาภักดีนฤนาถจึงไม่ตอ้ งการ เปนคําพูดของนายลํ้า “เด็กคนนี้ดี
ให้นายล�้าแสดงตนว่าเป็นพ่อที่แท้จริงของแม่ลออ เกินทีจ่ ะเปนลูกผม ผมมันเลวทราม
๕. บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก ให้ข้อคิดและคติธรรมอย่างไร เกินทีจ่ ะเปนพอเขา ผมพึง่ รูส กึ ความ
จริงเดีย๋ วนีเ้ อง หลอนไดเขียนรูปพอ
ของหลอนขึ้นไวในใจเปนคนดีไมมี
ที่ติ ผมไมตองการจะลบรูปนั้นเสีย
เลย”
2. เหตุผลที่นายลํ้าตัดสินใจลดความ
เห็นแกตัว เพราะดวยความรักลูก
กิจกรรม สร้ำงสรรค์พัฒนำกำรเรียนรู้ ต อ งการให ลู ก มี ชี วิ ต ที่ ดี สุ ข สบาย
เปนทีย่ อมรับของสังคมทีเ่ ปนอยู ไม
กิจกรรมที่ ๑ พ่อแม่คู่หนึ่งล�าบากยากจนมากจ�าเป็นต้องยกลูกให้ผู้อื่น ต่อมาพ่อแม่ท�ามาหากิน
ตองการลบภาพที่อยูในใจแมลออ
ร�า่ รวยขึน้ ส่วนพ่อแม่บญุ ธรรมทีเ่ คยร�า่ รวยกลับยากจนลง พ่อแม่ทแี่ ท้จริงจึงมาขอรับ
ลูกกลับคืน ถ้านักเรียนเป็นเด็กคนนั้นจะตัดสินใจอย่างไร เพราะเหตุใด 3. บุคคลที่เปนคนฉลาดรอบคอบ มี
กิจกรรมที่ ๒ จากการแข่งขันกีฬาฟุตบอลโลก พบว่ามีการพนันบอลกันเป็นจ�านวนมาก ให้นกั เรียน วิจารณญาณ รูจักไตรตรองไมเชื่อ
แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า เหตุใดคนบางจ�าพวกจึงชอบเล่นการพนัน การพนัน คนงายๆ คือ อายคํา บาวของพระยา
ให้โทษอย่างไร ถ้าเพื่อนติดการพนันจะมีค�าแนะน�าเพื่อนอย่างไร ภักดีนฤนาถ เห็นนายลํ้าเขามามี
กิจกรรมที่ ๓ นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน แต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายในประเด็นต่อไปนี้ และ บุคลิกลักษณะไมนาไวใจจึงนั่งเฝา
บันทึกสรุปผลการอภิปรายส่งครู ไม ย อมลุ ก ออกไปไหนเลยจน
• อบายมุขคืออะไร ท�าไมจึงกล่าวว่าอบายมุขคือหนทางแห่งความหายนะ พระยาภักดีนฤนาถกลับมา
4. แมลออไดรับการเลี้ยงดูจากพระยา
ภักดีนฤนาถอยางดี อบรมใหเปน
คนดีมีกิริยาวาจาสุภาพเรียบรอย มี
มารยาทดีงาม เฉลียวฉลาด มีสมั มา-
คารวะ เป น ที่ ย อมรั บ ของสั ง คม
29 พระยาภักดีนฤนาถไมตองการให
นายลํ้ า แสดงตนว า เป น พ อ ที่ แ ท
จริงของแมลออ เพราะเกรงวานาย
ทองคําที่จะแตงงานกับแมลออจะ
หลักฐาน รังเกียจ ถาไมรังเกียจก็กลัววาคนอื่นจะรังเกียจไมมีใครจะมาคบคาสมาคมดวย
แสดงผลการเรียนรู 5. บทละครพู ดเรื่องเห็นแกลูกใหขอคิดคติธรรม คือ
• การใฝในอบายมุขนํามาซึ่งความเดือดรอน ครอบครัวมักแตกแยก
1. การเขียนเรื่องยอ • ครอบครัวมีความสําคัญตอโครงสรางของสังคมไทย ถาครอบครัวดีสังคมก็ดีดวย
2. การเขียนบทละครพูดโดยใชโครงเรื่องเดิม ผูเปนพอแมมีหนาที่ตองอุปถัมภเลี้ยงดู สั่งสอนอบรมบุตรใหเปนคนดีของสังคม)
3. การแตงคําขวัญจากขอคิดในเรื่อง
คูมือครู 29
กระตุน ความสนใจ
Engage สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain Expand Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
เปาหมายการเรียนรู
• สรุปเนื้อเรื่องยอ พระอภัยมณี
ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ
• วิเคราะหคุณคาดานสังคมและ
วิถีไทยในสมัยรัตนโกสินทร
ตอนตน
• บอกคุณคาดานวรรณศิลป
• สรุปความรูและขอคิดจากเรื่อง
ที่สามารถนําไปปรับใชในชีวิต
ประจําวันได
• ทองจําคําประพันธที่ไพเราะ
จากเรื่องได
กระตุนความสนใจ
ครูใหนักเรียนดูภาพหนาหนวย
โดยใชคําถามกระตุนใหนักเรียน
รวมกันแสดงความคิดเห็น
ò
• ในภาพหนาหนวยนี้มีตัวละคร
ใดบาง
• ภาพนี้สื่ออารมณและความรูสึก
อยางไร หนวยที่
• ทําไมพระอภัยมณีจึงตองหนี
นางผีเสื้อสมุทร พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนำงผีเสื้อ
• ถานักเรียนเปนนางเงือก จะชวย ตัวชี้วัด
พระอภัยมณีหรือไม เพราะเหตุใด ■ สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทองถิ่นในระดับที่ยากยิ่ง
ขึ้น (ท ๕.๑ ม.๓/๑)
นิ ท านคํ า กลอนเรื่ อ งพระอภั ย มณี
■ วิเคราะหวิถีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อาน
เปนจินตนิยายที่มีแนวคิดแปลกใหม โดย
(ท ๕.๑ ม.๓/๒) ได ป ระสมประสานเหตุ ก ารณ ใ นชี วิ ต จริ ง
■ สรุปความรูและขอคิดจากการอานเพื่อนําไปประยุกตใชในชีวิตจริง และจินตนาการมาเรียงรอยเปนเรื่องราวที่
(ท ๕.๑ ม.๓/๓)
■ ทองจําและบอกคุณคาบทอาขยานตามที่กําหนด (ท ๕.๑ ม.๓/๔) สนุกสนาน ใหขอ คิดคติธรรมในการดําเนินชีวติ
นิทานคํากลอนเรือ่ งพระอภัยมณีจงึ เปนผลงาน
สาระการเรียนรูแกนกลาง
อันยิ่งใหญที่ผูอานควรอานอยางพินิจพิจารณา
■ วรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทองถิ่นเกี่ยวกับศาสนา
ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิต คําสอน เหตุการณ เพื่อรับรูความงามทางภาษาและขอคิดที่สามารถ
ในประวัติศาสตร บันเทิงคดี นําไปประยุกตใชในชีวิตประจําวันของตนเอง
■ การวิเคราะหวิถีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรม
■ บทอาขยานและบทรอยกรองที่มีคุณคา
30 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Expand Evaluate
สํารวจคนหา
1. ครูสนทนากับนักเรียน “ใครมี
ความรูเรื่องพระอภัยมณีบาง”
๑ ความเป็นมา ขออาสาสมัครมาเลาหนาชั้นเรียน
นิ ท านค� า กลอนเรื่ อ งพระอภั ย มณี เ ป็ น วรรณคดี ที่ ไ ด้ รั บ การยกย่ อ งว่ า เป็ น ผลงานที่ ดี เ ด่ น 2. ใหนักเรียนสืบคนขอมูลความเปน
เรื่องหนึ่งของสุนทรภู่ ด้วยเหตุที่วรรณคดีเรื่องนี้มีความแตกต่างจากวรรณคดีเรื่องอื่นๆ แม้ว่าเนื้อหา มาเรื่องพระอภัยมณี เหตุใดเรื่อง
ตอนต้นของเรื่องจะยังคงรูปแบบตามขนบการแต่งวรรณกรรมจักรๆ วงศ์ๆ ทั่วไป กล่าวคือเรื่องจักรๆ พระอภัยมณีจึงไดรับการยกยอง
วงศ์ ๆ มั ก กล่ า วถึ ง ตั ว ละครเอกเป็ น โอรสกษั ต ริ ย ์ ต้ อ งไปเรี ย นศิ ล ปวิ ท ยากั บ ฤๅษี ห รื อ พราหมณ์ ใหเปนผลงานชิ้นเอกของสุนทรภู
ทิศาปาโมกข์แล้วจึงกลับบ้านเมือง ระหว่างนั้นตัวละครเอกหรือชายามักถูกยักษ์หรือโจรลักพาให้ 3. จัดทํารายงาน
พลัดพรากกัน ภายหลังจึงตามหากันจนพบ แต่นทิ านค�ากลอนเรือ่ งพระอภัยมณีของสุนทรภูต่ า่ งออกไป
คือเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นแนวคิดแปลกใหม่เกี่ยวกับตัวละคร ฉาก สถานที่และให้ความรู้ในเรื่อง
คติธรรมสอนใจในการด�าเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้พระอภัยมณียังถือว่าเป็น ตัวแทนโลกทัศน์ของ อธิบายความรู
สุนทรภูท่ มี่ ตี อ่ ชาวต่างชาติ โดยชาวสยามในสมัยนัน้ ส่วนใหญ่มมี มุ มองด้านลบต่อชาวต่างชาติ ด้วยมอง ใหนักเรียนนําเสนอการศึกษา
สาเหตุการเข้ามาว่าเพื่อแสวงหาและกอบโกยผลประโยชน์ทางทรัพยากร แต่สุนทรภู่มองในมุมกลับว่า คนควาเรือ่ ง พระอภัยมณี และเพือ่ นๆ
สยามก็น่าจะได้รับประโยชน์จากชาวต่างชาติเป็นต้นว่า วิทยาการด้านต่างๆ ในหองรวมกันอภิปรายการศึกษานั้น
ที่ส�าคัญคือสุนทรภู่ยังแสดงโลกทัศน์เกี่ยวกับสตรีที่แตกต่างจากโลกทัศน์ของคนในสังคม
ร่วมสมัยเดียวกัน เช่น ยกย่องสตรีที่มีปัญญาความรู้หรือสตรีที่มีภาวะผู้น�า โดยน�าเสนอผ่านพฤติกรรม
ของตัวละครสตรี
นักเรียนควรรู
๒ ประวัติผู้แต่ง สุนทรภู มีชวี ติ อยูใ นชวงสมัยรัชกาล
พระสุนทรโวหาร (ภู่) หรือสุนทรภู่เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๙ ตรงกับวันจันทร์ ที่ 1-4 แหงกรุงรัตนโกสินทร และแตง
ขึน้ ๑ ค�า่ เดือน ๘ ปีมะเมีย จุลศักราช ๑๑๔๘ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ารงราชานุภาพ นิทานคํากลอนเรื่อง พระอภัยมณีขึ้น
ทรงสันนิษฐานว่าบิดาเป็นชาวเมืองแกลง จังหวัดระยอง ส่วนมารดาเป็นชาวเมืองอืน่ ตัง้ แต่สนุ ทรภูเ่ กิด ในสมัยรัชกาลที่ 2 ขณะตองโทษจําคุก
บิดามารดาหย่ากัน บิดาออกบวชและไปจ�าพรรษา ณ วัดบ้านกร�า่ เมืองแกลง ส่วนมารดาได้เข้าถวายตัว เพราะถูกอุทธรณวา เมาสุราทํารายญาติ
เป็นข้าหลวงท�าหน้าทีเ่ ป็นนางนมพระธิดาในกรมพระราชวังหลัง สุนทรภูอ่ าศัยอยูใ่ นเรือนแพกับมารดา ผูใหญ จึงแตงนิทานคํากลอนเรื่องนี้
และได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลังตั้งแต่เด็ก เพื่อขายฝปากเลี้ยงชีพเพียงไมกี่ตอน
อาจกล่าวได้ว่าสุนทรภู่ได้จารึกชื่อของท่านไว้แก่บุคคลรุ่นหลังด้วยผลงาน จนมีผู้กล่าวว่า “ถ้า แลวมาแตงตอในสมัยรัชกาลที่ 3
และจะลองให้เลือกกวีไทยบรรดาที่มีชื่อเสียงปรากฏมาในพงศาวดารคัดเอาแต่ที่วิเศษสุดเพียง ๕ คน
ใครๆ เลือกก็เห็นจะเอาชื่อสุนทรภู่ไว้ในกวี ๕ คนนั้นด้วย” หรือแม้กระทั่งองค์การยูเนสโกก็ยกย่องให้
สุนทรภู่เป็นกวีเอกของโลกในฐานะผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวรรณกรรม
สุนทรภูค่ อื ผูท้ ใี่ ช้ชวี ติ อย่างแท้จริง ชีวติ ของสุนทรภูไ่ ด้สะท้อนให้เห็นสัจธรรมทีว่ า่ “ไม่มสี งิ่ ใดจีรงั
ยั่งยืน ยศอ�านาจวาสนาได้มาแล้วเสื่อมสูญไป” เมื่อแบ่งเวลาออกเป็น ๔ ช่วงรัชสมัย จะพบว่าจังหวะ
ชีวิตของสุนทรภู่มีสูงสุดและต�่าสุด ถึงแม้ชีวิตจะพบกับอุปสรรคแต่ท่าน กลับไม่เคยท้อถอย ยังคงสร้าง
ผลงานที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมตกทอดมาให้อนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และน�าข้อคิดที่แฝงอยู่ในผลงาน
ไปปรับใช้ในชีวิตประจ�าวัน ซึ่งชีวประวัติและผลงานของสุนทรภู่สามารถเขียนเป็นเส้นเวลาได้ ดังนี้
31
คูมือครู 31
ในชีวิต
จุดหักเห
32
ตอนตน
การเขารับ
รัตนโกสินทร
หนาชั้นเรียน
ราชการในสมัย
Engage
มหากวีสี่แผนดิน
อธิบายความรู
สุนทรภู
กระตุนความสนใจ
คูมือครู
องคประกอบของเรื่องใด
2. ชีวิตกวีเอก : สุนทรภู
2. ครูสุมนักเรียนมาอธิบาย
NET ขอสอบ ป 53
3. บุคคลในประวัติศาสตรไทย
4. วรรณคดีชิ้นเอกของสุนทรภู
ประวัติ
1. ใหนักเรียนศึกษาเสนเวลา และ
ในวัยเด็ก
ขอสอบออกเกี่ยวกับประวัติและ
แผนผังความคิดขางตน ควรเปน
พระอภัยมณี
อธิบายผลงานตางๆ ของสุนทรภู
ความเปนมา
ผลงานสําคัญ
นิราศพระบาท
ผลงานของสุนทรภู โดยโจทยกําหนด
พระอภัยมณี ซึ่งเปนขอความที่บงชี้
เขารับราชการในสมัยรัตนโกสินทร
Explore
สํารวจคนหา
สุนทรภู มหากวีสี่แผนดิน พ.ศ. ๒๓๒๕-๒๓๕๒ พ.ศ. ๒๓๕๒-๒๓๖๗ พ.ศ. ๒๓๖๗-๒๓๙๔ พ.ศ. ๒๓๙๔-๒๔๑๑
แผนดินรัชกาลที่ ๑ แผนดินรัชกาลที่ ๒ แผนดินรัชกาลที่ ๓ แผนดินรัชกาลที่ ๔
@
สุนทรภูเกิดในสมัย มีชื่อเสียงทางดาน สุนทรภูออกบวช เมื่อลาสิกขาบท สุนทรภูได
รัชกาลที่ ๑ เมื่อวันจันทร บทกลอน พระบาทสมเด็จ- ในราว พ.ศ. ๒๓๖๙ รับการอุปถัมภจาก
๒๓๙๔
๒๓๒๙
๒๓๖๙
๒๓๕๙
เดือน ๘ ขึ้น ๑ คํ่า ปมะเมีย พระพุทธเลิศหลานภาลัย กรมขุนอิศเรศรังสรรค
Explain
๒๓๗๒
อธิบายความรู
มุม IT
ของพระราชวังหลัง เปนกวีที่ปรึกษา และเจาฟาชายปว แตงตั้งเปนเจากรมอาลักษณ
(สถานีรถไฟบางกอกนอย พระราชทานบานพักให พระโอรสในเจาฟา ฝายพระราชวังบวร
ในปจจุบัน) ทีท่ า ชาง เมือ่ พ.ศ. ๒๓๕๙ กุณฑลทิพยวดี มีบรรดาศักดิ์เปน
ในราว พ.ศ. ๒๓๗๒ พระสุนทรโวหาร
นิราศพระบาท ขุนชางขุนแผน ราว พ.ศ. ๒๓๙๔
นิราศเมืองแกลง ตอนกําเนิด เพลงยาวถวายโอวาท
๒๓๕๐
๒๓๗๓
โคบุตร พลายงาม
ไมปรากฏปที่แนชัด
Expand
http://hilight.kapook.com/view/24209
ขยายความเขาใจ
๒๓๖๔
สวัสดิรักษา
๒๓๗๑
๒๓๙๘
๒๓๔๙
ชวงวัยเด็กไดเรียน สุนทรภูลอบรักกับแมจัน นิราศภูเขาทอง สุนทรภูสิ้นชีวิตขณะอายุได ๖๙ ป
หนังสือกับพระที่วัด นางขาหลวงในวัง ในราวป พ.ศ. ๒๓๙๘
๒๓๗๕
นิราศวัดเจาฟา
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติและผลงานของสุนทรภู ไดที่
ชีปะขาว (ศรีสุดาราม) ทั้งสองจึงตองโทษจําคุก
มีความรูพอเปนเสมียน แตเมื่อกรมพระราชวังหลัง นิราศอิเหนา เหเรื่องโคบุตร
Evaluate
แตภายหลังไดหันหนา เสด็จทิวงคตจึงไดรับการ
๒๓๘๐-๒๓๘๓
เหเรื่องกากี
สุภาษิตสอนสตรี
http://www.rayong.go.th/redcross/data/history/history15.pdf
เขาสูโลกของการประพันธ อภัยโทษในป พ.ศ. ๒๓๔๙
ตรวจสอบผล
เหจับระบํา
๒๓๘๓-๒๓๘๕
พระไชยสุริยา
ไมปรากฏปที่แนชัด
เหเรื่องพระอภัยมณี
๒๓๘๔
นิราศสุพรรณ เสภาเรื่องพระราชพงศาวดาร
มีเหตุใหตองติดคุก
ไมปรากฏปที่แนชัด
๒๓๘๕
เพราะดื่มสุราและ อภัยนุราช
อาละวาด แตสุดทาย รําพันพิลาป ชวงแผนดินรัชกาลที่ ๓
ไดรับพระราชอภัยโทษ นิราศพระประธม สุนทรภูไ ดรบั ความลําบากมาก
เมื่อมีโอกาสไดถวาย สันนิษฐานวาอยูในสมณเพศ
กลอนตองพระราชหฤทัย ลักษณวงศ ถึงสองครั้ง กลาวคือ
ไมปรากฏปที่แนชัด
สิงหไกรภพ
เสนสัญลักษณ มีชวงเวลาหนึ่งที่ละสมณเพศ
พระอภัยมณี ผลงานประพันธ ออกมาทําการคาขายเล็กๆ
๒๓๘๘-๒๓๙๒
อธิบายความรู
จากที่ นั ก เรี ย นได สื บ ค น ข อ มู ล
ประวั ติ แ ละผลงานของสุ น ทรภู ม า
ผลงานของสุนทรภู่สามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ ดังนี้ แลว ใหนักเรียนยกตัวอยางผลงาน
ประเภทนิรำศ บทประพันธของสุนทรภูป ระเภทนิราศ
•
นิราศเมืองแกลง ที่นาสนใจ มา 1 บท พรอมบอกที่มา
•
นิราศพระบาท และลั ก ษณะเด น ของบทประพั น ธ
•
นิราศภูเขาทอง ประกอบดวย เขียนบทประพันธทเี่ ลือก
•
นิราศวัดเจ้าฟ้า ลงในสมุด
•
นิราศอิเหนา (แนวตอบ ตัวอยางเชน
•
นิราศสุพรรณ “เจาของตาลรักหวานขึ้นปนตน
ระวังตนตีนมือระมัดมั่น
•
นิราศพระประธม
เหมือนคบคนคําหวานรําคาญครัน
•
นิราศเมืองเพชร
ถาพลั้งพลันเจ็บอกเหมือนตกตาล”
ประเภทนิทำน (นิราศพระบาท)
•
โคบุตร “ถึงบางพูดพูดดีเปนศรีศักดิ์
•
ลักษณวงศ์ มีคนรักรสถอยอรอยจิต
•
สิงหไกรภพ แมนพูดชั่วตัวตายทําลายมิตร
•
กาพย์พระไชยสุริยา จะชอบผิดในมนุษยเพราะพูดจา”
•
พระอภัยมณี ตัวอย่างผลงานของสุนทรภู่ (นิราศภูเขาทอง)
“กระแสชลวนเชี่ยวเรือเลี้ยวลด
•
บทละครเรื่องอภัยนุราช
ดูคอมคดขอบคุงคงคาไหล
ประเภทเบ็ดเตล็ด แตสาชลเจียวยังวนเปนวงไป
•
สวัสดิรักษา นี่หรือใจที่จะตรงอยาสงกา”
•
เพลงยาวถวายโอวาท (นิราศเมืองแกลง)
•
ร�าพันพิลาป (นักวิชาการบางท่านจัดไว้ในนิราศ) ลักษณะเดนของบทประพันธที่
•
เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนก�าเนิดพลายงาม ยกตัวอยางนี้ สามารถสื่อความและ
•
เสภาเรื่องพระราชพงศาวดาร ถายทอดความหมายไดอยางลึกซึ้ง
•
บทเห่กล่อมพระบรรทม นําไปใชในชีวิตประจําวันไดและมี
ความไพเราะในการเลนคํา)
ในบรรดาผลงานของสุนทรภู่ ผลงานประเภทนิราศเป็นผลงานที่แสดงตัวตนของสุนทรภู่ได้
อย่างแจ่มชัด วรรณคดีประเภทนิราศสะท้อนให้เห็นลักษณะนิสัยส่วนตัวของสุนทรภู่ที่ละเอียดอ่อน
เมื่อพบเห็นสถานที่ต่างๆ จะเกิดแรงบันดาลใจถ่ายทอดออกมาเป็นผลงาน เมื่อผู้อ่านได้อ่านนิราศของ
สุนทรภู่แล้วอาจรู้สึกได้ว่า “นิราศคือชีวิตของสุนทรภู่” ชีวิตที่ต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก น�ามา นักเรียนควรรู
ซึ่งความทุกข์ระทม การเดินทางของสุนทรภู่ที่ท�าให้เกิดผลงานสามารถสรุปเป็นแผนภาพได้ ดังนี้ กาพยพระไชยสุริยา เปนแบบเรียน
33 ตั้งแตสมัยรัชกาลที่ 3 จนถึงรัชกาล
ที่ 5 ปจจุบนั เปนบทสวดโอเอวหิ ารราย
อยูที่ศาลารายรอบพระอุโบสถ
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในชวง
เขาพรรษา
@
มุม IT
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวรรณคดีสโมสร ไดที่
http://www.identity.opm.go.th/doc/nis04441.PDF
คูมือครู 33
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
ผลงกาน เดินทาง
อธิบายความรู (ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
1. ใหนักเรียนจัดกลุม แตละกลุม
เลือกผลงานของสุนทรภูมากลุมละ นิ ร าศสุ พ รรณ จา การ
1 เรื่อง ‘ใครที่มีชูชู ชวยคํ้าคําโคลง’
2. สงตัวแทนกลุมมาอธิบายผลงาน นิราศเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งสุนทรภู
เดินทางไปเมืองสุพรรณบุรี ซึ่งใน
นิราศพระบาท
ของสุนทรภู พรอมยกตัวอยาง ชวงเวลานั้นรกรางและเปลี่ยว ‘โออาลัยใจหายไมวายหวง...ตามเสด็จ
บทประพันธที่เดนนําเสนอ มาก โดยออกเดินทางโดยเรือ โดยแดนแสนกันดาร นมัสการ
จากวั ด เทพธิ ด ารามไปตามคลอง รอยบาทพระศาสดา’
หนาชั้นเรียน มหานาค โดยมีนายพัดและนายตาบ สุนทรภูเดินทางไปสระบุรี เพราะ
3. นักเรียนและครูรวมกันคัดเลือก ซึง่ เปนบุตรชาย และผูต ดิ ตามรวมเดินทาง ตามเสด็จพระองคเจาปฐมวงศ
ไปดวย นิราศเรือ่ งนีเ้ ปนนิราศเรือ่ งเดียวของ ไปนมั ส การพระพุ ท ธบาทเมื่ อ
ผลงานมาจัดปายนิเทศ สุนทรภูที่แตงดวยโคลงสี่สุภาพ พ.ศ. 2350 ในฐานะมหาดเล็ก
นิราศเมืองเพชร
บูรณาการ ‘สํานวนนอกนํา้ เพชรแลวเข็ดเขา’ นิราศภูเขาทอง
เศรษฐกิจพอเพียง สุนทรภูแตงนิราศเรื่องนี้เพื่อไปทําธุระให
เจานายพระองคหนึ่ง และเปนนิราศเรื่อง ‘รับกฐินภิญโญโมทนา ชุลีลาลงเรือเหลืออาลัย’
สุดทายของสุนทรภู สมเด็จฯ กรมพระยาดํารงราชานุภาพทรงสันนิษฐานวา สุนทรภูแตงขณะบวชเปนภิกษุอยูที่
นักเรียนคิดวาหากนักเรียนตอง วัดราชบูรณะ และไดเดินทางไปอยุธยา
เดินทางไปจังหวัดระยองเชนเดียวกับ นิราศวัดเจาฟา
สุนทรภู นักเรียนจะเลือกเดินทาง ‘อันอินทรียวิบัติอนัตตา ที่ปาชานี่แหละเหมือนกับเรือนตาย ’
สุนทรภูแตงนิราศเรื่องนี้ขณะบวชเปนภิกษุและเดินทางไปวัดเจาฟาที่อยุธยา
โดยใชเสนทางใด จึงจะประหยัด
คาใชจายมากที่สุด ใหนักเรียน
เขียนวางแผนเสนทางการเดินทาง
ที่นักเรียนเลือก พรอมใหเหตุผล
‘ นิราศอิเหนา
และรําพันพิลาป
ประกอบใหชัดเจน ໚¹ÇÃó¤´Õ·íҹͧ¹ÔÃÒÈ นิราศอิเหนา รําพันพิลาป
·Õèᵡµ‹Ò§¨Ò¡¹ÔÃÒÈàÃ×èͧÍ×è¹æ ¢Í§Êع·ÃÀÙ‹
‘
à¾ÃÒÐÊع·ÃÀÙ‹ äÁ‹ ä´Œà´Ô¹·Ò§ä»Âѧʶҹ·Õèã´ จะสวดมนตตนถูกถึงผูกปลาย ‘เมื่อยามฝนนั้นวานึกนั่งตรึกตรอง
ᵋ 䴌㪌»ÃÐʺ¡Òó¡ÒÃà´Ô¹·Ò§ ก็กลับกลายเรือ่ งราวเปนกลาวกลอน ’ เดือนหงายสองแสงสวางดังกลางวัน ’
㹤ÃÑ駷Õ輋ҹÁҢͧµ¹ÁÒ㪌㹡Òà แตงขึ้นในสมัย ร.3 ซึ่งสุนทรภูเปนฆราวาส เรือ่ งนีเ้ ปนนิราศทีต่ งั้ ชือ่ ตางจากนิราศเรือ่ งอืน่ ๆ นิราศ
´íÒà¹Ô¹àÃ×èͧµÒÁẺ สมเด็จฯ กรมพระยาดํารงราชานุภาพทรงสันนิษฐาน เรื่องนี้สุนทรภูไดแตงขึ้นตามความฝนของทาน ขณะครองเพศ
©ºÑº¹ÔÃÒÈ
’ วา คงจะแตงถวายพระเจาบรมวงศเธอ พระองคเจา-
ลักขณานุคุณ ซึ่งสุนทรภูพึ่งพระบารมีอยู สุนทรภูนําเรื่อง
เปนสมณะจําพรรษา ณ วัดเทพธิดาราม ซึ่งทําใหผูอานได
ทราบถึงความเปนไปในชีวิตของสุนทรภู
อิเหนาตอนติดตามนางบุษบาเมื่อถูกลมหอบหายไปมาแตงเปนนิราศอิเหนา
34 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
1. ใหนักเรียนดูแผนผังลักษณะ
คําประพันธกลอนสุภาพ ครูและ
ส�าหรับกลอนนิทานเรื่องพระอภัยมณีนอกจากจะได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ ไปทั่วโลกแล้ว นักเรียนรวมกันอธิบายลักษณะ
ยังน�าไปสร้างเป็นละครพันทาง ภาพยนตร์และภาพยนตร์การ์ตูน เนื่องจากมีลีลากลอนที่ไพเราะ ฉันทลักษณของกลอนสุภาพ
เนื้อหาสนุกสนานและให้ข้อคิดคติธรรม สุนทรภู่ได้รับการยกย่องว่าเป็นกวีที่มีความสามารถในการ ครูเสริมเพิ่มเติมและใหนักเรียน
แต่งกลอน เพราะกลอนของท่านมีเอกลักษณ์เด่นด้วยสัมผัส ท่านจึงเป็นกวีเอกของไทยที่ได้รับการ จดบันทึกแผนผังลักษณะ
ยกย่องว่าเป็นกวีเอกของโลกจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United คําประพันธลงในสมุด
Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือองค์การยูเนสโก (UNESCO) แผนผังกลอนสุภาพ
ให้เป็นบุคคลส�าคัญของโลกด้านงานวรรณกรรม เมือ่ พ.ศ. ๒๕๒๙ ในโอกาสครบรอบ ๒๐๐ ปี ชาตกาล
๓ ลักษณะคÓประพันธ์
2. ใหนักเรียนแสดงความคิดเห็น
เรื่องพระอภัยมณีเป็นกลอนนิทานที่ประพันธ์ด้วยกลอนสุภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เรื่องพระอภัยมณีแตงดวย
ของสุนทรภู่ คือแต่ละวรรคจะมีสัมผัสใน ทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร ท�าให้ค�ากลอนมีความไพเราะ กลอนสุภาพ
ดังบทประพันธ์ (แนวตอบ คําตอบไมมีถูกหรือผิด
ครูควรแนะนําวา เห็นดวยเพราะ
พวกผีพรายสายสมุทรผุดขึ้นสิ้น บ้างแลบลิ้นเหลือกตาถลาถลัน การใชกลอนนิทานหรือกลอนสุภาพ
ในการเลาเรือ่ งจะชวยใหการดําเนิน
เสียงโครมครามตามคลื่นเป็นหมื่นพัน ทะเลลั่นดังจะล่มถล่มทลาย เรื่องมีความกระชับ ใชคํานอยแต
กิ น ความหมายมาก และมี ค วาม
สัมผัสสระในวรรคแรก (วรรคสดับ) คือ พราย-สาย สมุทร-ผุด สัมผัสอักษร คือ พวก-ผี-ผุด ไพเราะดวยสัมผัสสระและสัมผัส
สาย-สมุทร อักษร)
สัมผัสสระในวรรคสอง (วรรครับ) คือ ตา-ถลา สัมผัสอักษร คือ แลบ-ลิ้น-เหลือก ถลา-ถลัน
สัมผัสสระในวรรคสาม (วรรครอง) คือ คราม-ตาม คลื่น-หมื่น สัมผัสอักษร คือ โครม-คราม ขยายความเขาใจ
สัมผัสสระในวรรคสี่ (วรรคส่ง) คือ ล่ม-ถล่ม สัมผัสอักษร คือ เล-ลั่น-ล่ม ทะเล-ถล่ม-ทลาย
ใหนกั เรียนแตงกลอนสุภาพเกีย่ วกับ
จะเห็นว่ากลอนนิทานของสุนทรภู่แพรวพราวด้วยสัมผัสในทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร
โรงเรียนของเรา หรือครอบครัวของฉัน
จึงท�าให้กลอนมีความไพเราะจับใจผู้อ่าน และมีผู้กล่าวไว้ว่า “ในกระบวนแต่งกลอนสุภาพนั้น แต่ก่อน
จํานวน 2 บท สงครูผูสอน
มาไม่ได้ถอื เอาสัมผัสในเป็นส�าคัญ สุนทรภูเ่ ป็นผูเ้ ริม่ เล่นสัมผัสในขึน้ เป็นส�าคัญในกระบวนกลอน เลยถือ
เป็นแบบอย่างกันมาจนทุกวันนี้ นับว่าสุนทรภูเ่ ป็นผูช้ กั น�าให้กลอนสุภาพเพราะพริง้ ยิง่ ขึน้ อีกอย่างหนึง่ ...
ในบรรดาหนังสือบทกลอนทีส่ นุ ทรภูไ่ ด้แต่งไว้ ถ้าจะลองให้ชขี้ าดว่าเรือ่ งไหนเป็นดีกว่าเพือ่ น ก็นา่ จะยุติ
ต้องกันโดยมากว่า เรือ่ งพระอภัยมณีเป็นดีทสี่ ดุ เพราะเป็นหนังสือเรือ่ งยาว แต่งดีทงั้ กลอน ทัง้ ความคิด
ที่ผูกเรื่อง”
35
คูมือครู 35
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
36
36 คูมือครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู
Engage Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Expand Evaluate
กระตุนความสนใจ
ครูกระตุนความสนใจโดยให
นักเรียนจินตนาการตามบทประพันธ
พระอภัยมณีทรงแน่พระทัยรู้ว่านางผีเสื้อสมุทรตามมา ทรงเกรงว่าผู้อื่นจะได้รับอันตราย ตอไปนี้
จึงบอกเงือกให้ปล่อยพระองค์สิ้นพระชนม์เพียงผู้เดียว แต่สินสมุทรบอกให้เงือกพาพระบิดาล่วงหน้า ...ไมคลาดเคลือ่ นเหมือนองคพระทรงเดช
ไปก่อน แล้วจึงหลอกล่อนางผีเสื้อสมุทรให้ตามไปอีกทิศหนึ่ง จากนั้นสินสมุทรจึงแอบว่ายน�้าตาม แตดวงเนตรแดงดูดังสุริยฉาย
พระบิดาไป ครั้นนางผีเสื้อสมุทรรู้ตัวจึงติดตามไปอย่างไม่ลดละ พ่อแม่เงือกเห็นว่านางผีเสื้อสมุทรจะ ทรงกําลังดังพระยาคชาพลาย
ตามมาทันจึงให้ลูกสาวพาพระอภัยมณีรีบหนีไปโดยเร็ว ส่วนพ่อแม่เงือกยอมสละชีวิตโดยท�าทีอ่อนล้า มีเขี้ยวคลายชนนีมีศักดา
ยอมให้นางผีเสื้อสมุทรจับและหลอกลวงให้นางผีเสื้อสมุทรไปอีกทางหนึ่ง นางผีเสื้อสมุทรโกรธมากจึง ครูถามนักเรียนวา
ฆ่าพ่อแม่เงือกแล้วติดตามไปอีก จนกระทัง่ เงือกสาวพาพระอภัยมณีและสินสมุทรมาถึงเกาะแก้วพิสดาร • บทประพันธนกี้ อ ใหเกิดจินตภาพ
พระฤๅษีรไู้ ด้ดว้ ยฌานว่าจะมีผหู้ นีนางผีเสือ้ สมุทรมาพึง่ พา ท่านจึงคอยรับและร่ายมนตร์ปอ้ งกัน อะไรบาง
• จากจินตภาพนักเรียนคิดวา
ไม่ให้นางผีเสือ้ สมุทรเข้าใกล้เกาะ นางจึงอ้อนวอนให้พระอภัยมณีกลับมาอยูก่ บั นาง และด่าว่าเงือกสาว
เปนตัวละครใดในเรื่อง
ด้วยความหึงหวง พระฤๅษีเตือนให้นางกลับไปอยูท่ ถี่ า�้ ตามเดิม ด้วยความโกรธนางผีเสือ้ สมุทรจึงก้าวร้าว
กล่าวร้ายพระฤๅษี พระฤๅษีจึงเสกทรายขว้างไปท�าให้นางเจ็บปวดจ�าต้องหลบไป แต่ก็ยังวนเวียนอยู่
ไม่ห่างจากเกาะ สํารวจคนหา
เนือ้ หาทีผ่ เู้ รียนจะได้เรียนต่อไปนีเ้ ป็นรายละเอียดของเนือ้ เรือ่ งพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณี ใหนักเรียนศึกษาดูวามีตัวละคร
หนีนางผีเสื้อ เนื้อเรื่องมีความตื่นเต้น มีบทโศกเศร้าคร�่าครวญ บทโกรธ บทพรรณนา บทหึงหวง ใดบางในเรื่องพระอภัยมณี
บทเกรี้ยวกราด ครบทุกรส เป็นเรื่องราวที่สนุกสนานน่าติดตามจากหนังสือพระอภัยมณีฉบับสมบูรณ์ ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ
ส่วนที่ตัดตอนมาให้เรียนเป็นเนื้อหาตอนที่ ๙ ดังต่อไปนี้
๕ เนื้อเรื่อง อธิบายความรู
1. แบงนักเรียนเปนกลุม แตละกลุม
จะกล่าวกลับจับความไปตามเรื่อง ถึงบาทเบื้องปรเมศพระเชษฐา รวมกันคัดเลือกตัวละครสําคัญ
องค์อภัยมณีศรีโสภา ตกยากอยู่คูหามาช้านาน จากเรื่องพระอภัยมณี ไดแก
กับด้วยนางอสุรีนีรมิต เป็นคู่ชิดเชยชมสมสมาน • พระอภัยมณี
ต้องรักใคร่ไปตามยามกันดาร จนนางมารมีบุตรบุรุษชาย • นางผีเสื้อสมุทร
ไม่คลาดเคลื่อนเหมือนองค์พระทรงเดช แต่ดวงเนตรแดงดูดังสุริย์ฉาย • นางเงือก
ทรงก�าลังดังพระยาคชาพลาย มีเขี้ยวคล้ายชนนีมีศักดา • สินสมุทร
• พระฤๅษี
พระบิตุรงค์ทรงศักดิ์ก็รักใคร่ ด้วยเนื้อไขมิได้คิดริษยา
จากนัน้ สงตัวแทนจับสลากตัวละคร
เฝ้าเลี้ยงลูกผูกเปลแล้วเห่ช้า จนใหญ่กล้าอายุได้แปดปี
2. พิจารณารูปลักษณของตัวละครที่
จึงให้นามตามอย่างข้างมนุษย์ ชื่อสินสมุทรกุมารชาญชัยศรี
จับสลากได สงตัวแทนมานําเสนอ
ธ�ามรงค์ทรงมาค่าบุรี พระภูมีถอดผูกให้ลูกยา
เจียระบาดคาดองค์ก็ทรงเปลื้อง ให้เป็นเครื่องนุ่งห่มโอรสา
37 นักเรียนควรรู
สุริย มีความหมายวา พระอาทิตย
เชน ตะวัน ภากร ภาสกร ภาณุ ไถง รวิ
รวี รพิ รพี รังสิมา สุระ สุรยิ ะ สุรยี สุรยิ ง
นักเรียนควรรู สุริยา สุริยน สุริโย อังศุมาลี เปนตน
บุรี เปนคําในบทประพันธทมี่ คี วามหมายวา เมือง
เชน คําวา ธานี ธานิน ธานินทร นคร นคเรศ นครา
นัครา บุรินทร บุระ บุรี พารา สรุก เปนตน
คูมือครู 37
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
38
38 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
จากบทประพันธตอไปนี้
“ฝายเงือกนํ้าคํานับอภิวาท
แม่ของเจ้าเขาเป็นเชื้อผีเสื้อสมุทร ขึ้นไปฉุดฉวยบิดาลงมาได้ ขาพระบาททราบสิ้นทุกถิ่นฐาน
จึงก�าเนิดเกิดกายสายสุดใจ จนเจ้าได้แปดปีเข้านี่แล้ว อันนํ้านี้มีนามตามบุราณ
ไปเปิดประตูคูหาถ้าเขาเห็น ตายหรือเป็นว่าไม่ถูกเลยลูกแก้ว อโนมานเคียงกันสีทันดร”
แม้นสินสมุทรสุดสวาทพ่อคลาดแคล้ว ไม่รอดแล้วบิตุรงค์ก็คงตาย สะทอนใหเห็นคุณคาดานสังคม
พระโอรสรู้แจ้งไม่แคลงจิต ร�าคาญคิดเสียใจมิใคร่หาย และวิถีไทยอยางไร
ด้วยแม่กลับอัปลักษณ์เป็นยักษ์ร้าย ก็ฟูมฟายชลนาโศกาลัย (แนวตอบ สะทอนใหเห็นความสําคัญ
ของการไหว เปนคุณคาทางวัฒนธรรม
ฝ่ายเงือกน�้านอนกลิ้งนิ่งสดับ กิตติศัพท์สองแจ้งแถลงไข ของไทยและเปนมรดกของชาติ)
รู้ภาษามนุษย์แน่ในใจ จะกราบไหว้วอนว่าให้ปรานี
ค่อยเขยื้อนเลื่อนลุกขึ้นทั้งเจ็บ ยังมึนเหน็บน้อมประณตบทศรี
พระผ่านเกล้าเจ้าฟ้าในธาตรี ข้าขอชีวิตไว้อย่าให้ตาย
พระราชบุตรฉุดลากล�าบากเหลือ ดังหนังเนื้อนี้จะแยกแตกสลาย เกร็ดแนะครู
ทั้งลูกเต้าเผ่าพงศ์ก็พลัดพราย ยังแต่กายเกือบจะดิ้นสิ้นชีวัน ครูเพิ่มเติมความรูความสําคัญของ
พระองค์เล่าเขาก็พาเอามาไว้ เศร้าพระทัยทุกข์ตรอมเหมือนหม่อมฉัน การมี สั ม มาคารวะ การไหว ที่ มี
ขอพระองค์จงโปรดแก้โทษทัณฑ์ ช่วยผ่อนผันให้ตลอดรอดชีวา เอกลักษณในลักษณะตางๆ เชน การ
ซึ่งปากถ�้าท�าลายลงเสียหมด ให้โอรสยกตั้งบังคูหา ไหวญาติผูใหญ การไหวพระ เปนตน
ข้าเห็นอย่างนางมารจะนานมา จะอาสาเกลี่ยทรายเสียให้ดี โดยครูใหนักเรียนรวมกันสาธิตการ
หนึ่งพวกพ้องของข้าคณาญาติ ขอรองบาทบงกชบทศรี ไหวแบบตางๆ
แม้นประสงค์สิ่งไรในนที ที่สิ่งมีจะเอามาสารพัน
พระฟังเงือกพูดได้ให้สงสาร จึงว่าท่านคิดนี้ดีขยัน
รู้เจรจาสารพัดน่าอัศจรรย์ อยู่พูดกันอีกสักหน่อยจึงค่อยไป นักเรียนควรรู
เราตรองตรึกนึกจะหนีนางผีเสื้อ แต่ใต้เหนือไม่รู้แห่งต�าแหน่งไหน
ธาตรี เป น คํ า ที่ มี ค วามหมายว า
ท่านเจนทางกลางทะเลคะเนใจ ท�ากระไรจึงจะพ้นทนทรมาน
แผนดิน เชน ธาษตรี ปฐพี ปฐวี ปถวี
ฝ่ายเงือกน�้าค�านับอภิวาท ข้าพระบาททราบสิ้นทุกถิ่นฐาน ปถพี ไผท พสุธา ภพ ภูวดล วสุธา
อันน�้านี้มีนามตามบุราณ อโนมานเคียงกันสีทันดร เมทินี เปนตน
เป็นเขตแคว้นแดนที่นางผีเสื้อ ข้างฝ่ายเหนือถึงมหิงษะสิงขร
ข้างทิศใต้ไปจนเกาะแก้วมังกร หนทางจรเจ็ดเดือนไม่เคลื่อนคลา
ไปกลางย่านบ้านเรือนหามีไม่ สมุทรไทซึ้งซึกลึกนักหนา
แต่ส�าเภาชาวเกาะเมืองลังกา เขาแล่นมามีบ้างอยู่ลางปี
นักเรียนควรรู
ถ้าเสียเรือเหลือคนแล้วนางเงือก ขึ้นมาเลือกเอาไปชมประสมศรี ลางป เปนคําโบราณมักมีปรากฏใน
บทประพันธ ปจจุบันใชคําวา “บางป”
39
คูมือครู 39
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
40
40 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา
• ทําไมพระอภัยมณีตอ งหนีนางผีเสือ้
เห็นหินปิดเปิดประตูคูหากว้าง นิมิตอย่างนางมนุษย์เสนหา สมุ ท ร โดยศึ ก ษาตั้ ง แต ห น า 37
วรพักตร์นารีศรีโสภา ลีลามาเข้าในห้องเห็นสององค์ จนถึงหนา 41
วางลูกไม้ในห่อให้ลูกผัว ท้องของตัวเต็มท้องไม่ต้องประสงค์ ( แนวตอบ แสดงความคิ ด เห็ น ได
พระทรงเลือกลูกมะซางปรางมะยง ประทานองค์โอรสสู้อดออม หลากหลาย เชน นางผีเสื้อสมุทร
ครั้นพลบค�่าท�ารักนางยักษ์ร้าย ประคองกายกอดแอบแนบถนอม ลั ก พาตั ว พระอภั ย มณี ม าอยู ด ว ย
ชื่นแต่หน้าอารมณ์นั้นกรมกรอม แต่คิดอ่านหว่านล้อมจะล่อลวง กั ก ขั ง ไว ใ นถํ้ า และพระอภั ย มณี
ไม่เห็นช่องตรองตรึกนึกวิตก ทุกข์ในอกนั้นสักเท่าภูเขาหลวง ก็รูวานางผีเสื้อสมุทรเปนยักษจึง
พระกอดลูกน้อยประทับไว้กับทรวง ให้เหงาง่วงงีบหลับระงับไป อยากหนีไป ทั้งนี้ความแตกตางใน
ดานเชื้อพันธุและสิ่งแวดลอม การ
ฝ่ายผีเสื้อเมื่อจะจากพรากลูกผัว แต่พลิกตัวกลิ้งกลับไม่หลับใหล ดํารงชีวิตก็มีสวนใหพระอภัยมณี
ให้หมกมุ่นขุ่นคล�้าในน�้าใจ จนเสียงไก่แก้วขันสนั่นเนิน ตองการหนีไปจากนางผีเสือ้ สมุทร)
พอม่อยหลับกลับจิตนิมิตฝัน ว่าเทวัญอยู่ที่เกาะนั้นเหาะเหิน
มาสังหารผลาญถ�้าระย�าเยิน แกว่งพะเนินทุบนางแทบวางวาย
แล้วอารักษ์ควักล้วงเอาดวงเนตร ส�าแดงเดชเหาะกลับไปลับหาย
เกร็ดแนะครู
ทั้งกายสั่นพรั่นตัวด้วยกลัวตาย พอฟื้นกายก็พอแจ้งแสงตะวัน
จึงก้มกราบบาทบงสุ์พระทรงศักดิ์ แล้วนางยักษ์เล่าตามเนื้อความฝัน ครูชี้ใหนักเรียนเห็นคุณคาดาน
สังคมและสะทอนวิถีไทยเกี่ยวกับ
ไม่เคยเห็นเป็นวิบัติอัศจรรย์ เชิญทรงธรรม์ช่วยท�านายร้ายหรือดี
ความเชื่อเรื่องความฝนและโชคลาง
พระฟังนางพลางนึกคะนึงหมาย ซึ่งฝันร้ายก็เพราะจิตเราคิดหนี โดยเชื่อวา ความฝนเปนนิมิตที่อาจ
เห็นจะไปได้ตลอดรอดชีวี แต่นางผีเสื้อนั้นจะอันตราย จะบอกเหตุลวงหนาได จากนิทาน
พอได้ช่องลองลวงดูตามเล่ห์ สมคะเนจะได้ไปดังใจหมาย คํากลอนเรื่องพระอภัยมณี
จึงกล่าวแกล้งแสร้งเสเพทุบาย เจ้าฝันร้ายนักน้องต้องต�ารา ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ
อันเทวัญนั้นคือมัจจุราช จะหมายมาดเอาชีวิตริษยา
แล้วเสแสร้งแกล้งท�าบีบน�้าตา อนิจจาใจหายเจียวสายใจ
แม้นสิ้นสูญบุญนางในปางนี้ ไม่มีที่พึ่งพาจะอาศัย นักเรียนควรรู
จะกอดศพซบหน้าโศกาลัย ระก�าใจกว่าจะม้วยไปด้วยกัน
โสภา เปนคําที่มีความหมายวา
นึกจะใคร่สะเดาะพระเคราะห์เจ้า พอบรรเทาโทษาที่อาสัญ งาม เชน โสภณ วิไล ไฉไล ลาวัณย
เหมือนงอนง้อขอชีวิตแก่เทวัญ กลัวแต่ขวัญเนตรพี่จะมิท�า พะงา อะเคื้อ สิงคลิ้ง กลองแกลง
นางผีเสื้อเชื่อถือรื้อประณต พระทรงยศจงช่วยชุบอุปถัมภ์ แนงนอย
ตามต�าราสารพัดไม่ขัดค�า ช่วยแนะน�าอนุกูลอย่าสูญใจ
41
คูมือครู 41
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
42
42 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
ครูใหนักเรียนแบงกลุมวิเคราะห
บทประพันธหนา 43 โดยวิเคราะห
ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด ดังสุรางค์นางนาฏในวังหลวง คุ ณ ค า บทประพั น ธ ด า นสั ง คมและ
พระเพลินพิศคิดหมายเสียดายดวง แล้วหนักหน่วงนึกที่จะหนีไป วรรณศิ ล ป จากเรื่ อ งพระอภั ย มณี
จึงตรัสว่าตาเงือกมาคอยรับ ช่างสมกับวาจาจะหาไหน ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ พรอม
เราล่อลวงนางผีเสื้อก็เชื่อใจ เดี๋ยวนี้ไปแรมทางกลางอรัญ ยกตัวอยางบทประพันธ
ช่วยเมตตาพาตรงไปส่งที่ พระโยคีมีเวทวิเศษขยัน (แนวตอบ
กลางคงคาปลาร้ายก็หลายพรรณ จะป้องกันภัยพาลประการใด • คุณคาดานสังคม เชน คานิยม
ความมีสัมมาคารวะ คานิยม
เงือกผู้เฒ่าเคารพอภิวาท ขอรองบาทบริรักษ์จนตักษัย ความกตัญูรูคุณและการ
เสด็จขึ้นทรงบ่าจะพาไป พระหน่อไทให้ขี่ภริยา ตอบแทนพระคุณ ดังปรากฏ
อันอ�านาจชาติเชื้อผีเสื้อน�้า ปลาไม่กล�้ากรายกลัวทั่วทิศา ในบทประพันธ
ด้วยกลิ่นอายคล้ายท่านผู้มารดา เมื่อจับข้าข้าจึงอ่อนหย่อนก�าลัง “เงือกผูเฒาเคารพอภิวาท
สัตว์ในน�้าจ�าแพ้แก่ผีเสื้อ เปรียบเหมือนเนื้อเห็นพยัคฆ์ให้ชักหลัง ขอรองบาทบริรักษจนตักษัย
อย่าเกรงภัยในชลที่วนวัง ขึ้นนั่งยังบ่าข้าจะพาไป เสด็จขึ้นทรงบาจะพาไป
พระหนอไทใหขี่ภริยา”
พงศ์กษัตริย์ตรัสชวนสินสมุทร สอนให้บุตรขอสมาอัชฌาสัย • คุณคาดานวรรณศิลป เชน การ
พระทรงบ่าเงือกน�้างามวิไล พระหน่อไทขอสมาขึ้นบ่านาง เลือกใชคําประพันธไดเหมาะสม
เงือกประคองสององค์ลงจากฝั่ง มีก�าลังลีลาศค่อยวาดหาง กับเรื่องเลา การเลนคํา ทําให
ค่อยฟูฟ่องล่องน�้าไปท่ามกลาง ลูกสาวนางเงือกงามตามลีลา เกิดความไพเราะ เปนตน
พระโฉมยงองค์อภัยมณีนาถ เพลินประพาสพิศดูหมู่มัจฉา ดังปรากฏในบทประพันธ
“ฉนากอยูคูฉนากไมจากคู
เหล่าฉลามล้วนฉลามตามกันมา ค่อยเคลื่อนคลาคล้ายคล้ายในสายชล
ขึ้นฟองฟูพนฟองละอองฝน
ฉนากอยู่คู่ฉนากไม่จากคู่ ขึ้นฟ่องฟูพ่นฟองละอองฝน ฝูงพิมพาพาฝูงเขาแฝงวน
ฝูงพิมพาพาฝูงเข้าแฝงวน บ้างผุดพ่นฟองน�้าบ้างด�าจร บางผุดพนฟองนํ้าบางดําจร”)
กระโห้เรียงเคียงกระโห้ขึ้นโบกหาง ลอยสล้างกลางกระแสแลสลอน
มังกรเกี่ยวเลี้ยวลอดกอดมังกร ประชุมซ่อนแฝงชลขึ้นวนเวียน
ฝูงม้าน�้าท�าท่าเหมือนม้าเผ่น ขึ้นลอยเล่นเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน
ตะเพียนทองท่องน�้าน�าตะเพียน ดาษเดียรดูเพลินจนเกินมา เกร็ดแนะครู
เห็นละเมาะเกาะเขาเขียวชอุ่ม โขดตะคุ่มเคียงเคียงเรียงรุกขา ครูควรเสริมความรูในเรื่องคําพอง
จะเหลียวซ้ายสายสมุทรสุดสายตา จะแลขวาควันคลุ้มกลุ้มโพยม เสียง โดยยกตัวอยาง คําวา “ประพาส”
จะเหลียวดูสุริย์แสงเข้าแฝงเมฆ ให้วิเวกหวาดองค์พระทรงโฉม “ประภาษ” “ประพาต” ซึ่งทั้ง 3 คํา
ฟังส�าเนียงเสียงคลื่นดังครื้นโครม ยิ่งทุกข์โทมนัสในฤทัยทวี อ า นออกเสี ย งเหมื อ นกั น แต ค วาม
หมายตางกัน คือ ประพาส มีความ
43 หมายวา เที่ยวไป ประภาษ มีความ
หมายวา พูด ประพาต มีความหมาย
วา พัด กระพือ
คูมือครู 43
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
44 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
จากบทประพันธในหนา 45 นี้
ใหนักเรียนอภิปรายรวมกันวา
เสียแรงรักหนักหนาอุตส่าห์ถนอม สู้อดออมสารพัดไม่ขัดขืน • เหตุใดนางผีเสื้อสมุทร
ช่างกระไรใจจืดไม่ยืดยืน นางสะอื้นอ้าปากจนรากเรอ จึงคลุมคลั่ง
ด้วยแรงน้อยถอยทบสลบหลับ แล้วก็กลับพลิกฟื้นตื่นเผยอ (แนวตอบ เพราะนางผีเสื้อสมุทร
ร้องเรียกลูกผัวเฟือนเหมือนละเมอ ไม่เห็นเธอทอดกายดังวายปราณ จํ า ศี ล อดอาหารหลายวั น ทั้ ง
ระก�าอกหมกมุ่นหุนพิโรธ ก�าลังโกรธกลับแรงก�าแหงหาญ เหนื่อยทั้งหิวโซ พอกลับไปถํ้าก็
ประหลาดใจใครหนอมาก่อการ ช่างคิดอ่านเอาคู่ของกูไป พบวาสามีหนีไป จึงโกรธโมโห
ศิลานี้ที่มนุษย์จะเปิดนั้น สักหมื่นพันก็ไม่อาจจะหวาดไหว คลุมคลั่งดุรายอาละวาดไปทั่ว)
ยักขินีผีสางหรืออย่างไร มาพาไปไม่เกรงข่มเหงกู
พลางร�าพึงถึงจะไปไม่ไกลนัก จะตามหักคอกินเหมือนชิ้นหมู
โมโหหุนผลุนออกนอกประตู เที่ยวตามดูรอยลงในคงคา เกร็ดแนะครู
กระโดดโครมโถมว่ายสายสมุทร อุตลุดด�าด้นเที่ยวค้นหา ครูควรชี้แนะความรูเรื่อง “การ
ไม่เห็นผัวคว้าไปได้แต่ปลา ควักลูกตาสูบเลือดด้วยเดือดดาล สรางคําซอน” คําซอนประกอบดวย
ค่อยมีแรงแผลงฤทธิ์ค�ารนร้อง ตะโกนก้องเรียกหาโยธาหาญ คํามูลตั้งแตสองคําที่มีความหมาย
ฝ่ายปีศาจราชทูตภูตพรายพาล อลหม่านขึ้นมาหาในสาชล เหมือนกันหรือทํานองเดียวกัน
อสุรีผีเสื้อจึงซักถาม มึงอยู่ตามเขตแขวงทุกแห่งหน คําซอนสามารถแบงได 2 ชนิด คือ
เห็นมนุษย์นวลละอองทั้งสองคน มาในวนวังบ้างหรืออย่างไร • คําซอนเพื่อเสียง เชน เกะกะ
เดือดดาล แหงหน เงอะงะ
ฝ่ายพวกผีที่อยู่ทิศทักษิณ ครั้นได้ยินจึงแจ้งแถลงไข เปนตน
เห็นเงือกพามนุษย์รีบรุดไป ข้างทิศใต้แต่เมื่อคืนวานซืนนี้ • คําซอนเพื่อความหมาย เชน
ข้านึกร้ายหมายจะตามก็ขามเด็ก ด้วยลูกเล็กเหลือตัวไม่กลัวผี หนาตา ปากคอ ทองเที่ยว
เห็นจะไปได้ครันจนวันนี้ ด้วยท่วงทีรีบร้อนไม่นอนใจ เปนตน
นางผีเสื้อเหลือโกรธโลดทะลึ่ง โตดังหนึ่งยุคุนธร์ขุนไศล
ลุยทะเลโครมครามออกตามไป สมุทรไทแทบจะล่มถล่มทลาย
เหล่าละเมาะเกาะขวางหนทางยักษ์ ภูเขาหักหินหลุดทรุดสลาย
เสียงครึกครื้นคลื่นคลุ้มขึ้นกลุ้มกาย ผีเสื้อร้ายรีบรุดไม่หยุดยืน
ฝ่ายพระอภัยมณีซึ่งหนียักษ์ กับลูกรักเงือกน�้าไปตามคลื่น
บรรลุทางกลางชลาได้ห้าคืน เห็นทะมื่นมาข้างหลังดังสะเทือน
จึงถามเงือกว่าไฉนจึงไหวหวั่น สลาตันลมใหญ่ก็ไม่เหมือน
ไม่เห็นแสงสุริยันตะวันเดือน เป็นคลื่นเคลื่อนคลอนลั่นสนั่นดัง
45
คูมือครู 45
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
46
46 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนอานบทประพันธหนา
47 และรวมกันแสดงความคิดเห็นใน
ฝ่ายนางอสุรีผีเสื้อน�้า ได้ยินค�าโอรสนึกอดสู พฤติกรรมของตัวละคร “สินสมุทร”
เป็นห่วงผัวมัวแลชะแง้ดู ไม่เห็นอยู่ด้วยกันนี่ฉันใด (แนวตอบ สินสมุทรเปนตัวละครที่
หรือจวนตัวกลัวเมียไปเสียก่อน หรือซุ่มซ่อนอยู่เกาะละเมาะไหน ฉลาดมากแมอายุจะยังนอย ในขณะ
จ�าจะปลอบโดยดีแม้นมิไป จึงจะได้จับกุมตะลุมบอน เดียวกันก็เปนตัวละครทีน่ า เห็นใจมาก
จึงตอบโต้โป้ปดโอรสราช มิใช่ชาติยักษ์มารชาญสมร ที่ตองลวงแม เพื่อชวยพอใหหนีได
เจ้าแปลกหรือคือนี่แลมารดร เมื่อนั่งนอนอยู่ในถ�้าไม่จ�าแลง สําเร็จ)
ออกเดินทางอย่างนี้ต้องนิมิต รูปจึงผิดไปกว่าเก่าเจ้าจึงแหนง
ไม่ปิดง�าอ�าพรางอย่าคลางแคลง แม่แกล้งแปลงตัวตามเจ้างามมา
ไหนพ่อเจ้าเล่าแม่ไม่แลเห็น อย่าหลงเล่นจงไปอยู่ในคูหา
แต่จากอกหกวันแล้วขวัญตา ขอมารดาอุ้มหน่อยเถิดกลอยใจ นักเรียนควรรู
ฤทัย คําที่มีความหมายวา ใจ เชน
สินสมุทรฟังเสียงส�าเนียงแน่ รู้ว่าแม่มั่นคงไม่สงสัย
กมล โกมล มน มาน มนัส มานัส มโน
ดูรูปร่างอย่างเปรตสมเพชใจ ช่างกระไรราศีไม่มีงาม
หทัย หฤทัย ฤดี ดวงใจ เปนตน
กระนี้หรือพระบิดามิน่าหนี ทั้งท่วงทีไม่สุภาพท�าหยาบหยาม
จ�าจะบอกหลอกลวงหน่วงเนื้อความ อย่าให้ตามเข้าไปชิดพระบิดา
จึงเสแสร้งแกล้งว่าข้าไม่เชื่อ จะฉีกเนื้อกินเล่นเป็นภักษา
ถ้าเป็นแม่แน่กระนั้นจงกรุณา อย่าตามมามุ่งหมายให้วายปราณ
ด้วยองค์พระชนนีเป็นผีเสื้อ อันชาติเชื้ออยู่ถ�้าล�าละหาน
พระบิดรร้อนรนทนทรมาน เคยอยู่บ้านเมืองมนุษย์สุดสบาย
คิดถึงวงศ์พงศาคณาญาติ จึงสามารถมานี่ไม่หนีหาย
เห็นมารดาซ่อนตัวด้วยกลัวตาย ลูกจึงว่ายน�้าอยู่แต่ผู้เดียว
ประทานโทษโปรดปล่อยไปหน่อยเถิด ที่ละเมิดแม่คุณอย่าฉุนเฉียว
ลูกขอลาฝ่าธุลีสักปีเดียว ไปท่องเที่ยวหาประเทศเขตนคร
แม้นพบอาย่าปู่อยู่เป็นสุข บรรเทาทุกข์ภิญโญสโมสร
จึงจะชวนบิตุเรศเสด็จจร มาสถานมารดรไม่นอนใจ
อสุรีผีเสื้อไม่เชื่อถ้อย นึกว่าน้อยหรือตอแหลมาแก้ไข
แกล้งดับเดือดเงือดงดอดฤทัย ท�าปราศรัยเสียงหวานด้วยมารยา
ถ้าแม้นแม่แต่แรกรู้กระนี้ ชนนีก็จะได้ไม่เที่ยวหา
นี่นึกแหนงแคลงความจึงตามมา ไม่โกรธาทูนหัวอย่ากลัวเลย
จะไปไหนไม่ห้ามจะตามส่ง ไหนทรงฤทธิ์บิตุรงค์เล่าลูกเอ๋ย
แม่ขอพบพูดจาประสาเคย แล้วทรามเชยจึงค่อยพาบิดาไป
47
คูมือครู 47
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
48
48 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
1. ครูใหนักเรียนศึกษาบทประพันธ
จากหนา 49-50 อธิบายลักษณะของ
ด�าริพลางนางมารอ่านพระเวท ให้สองเนตรโชติช่วงดังดวงแก้ว เกาะแกวพิสดารตามบทประพันธ
แลเขม้นเห็นไปไวแววแวว อยู่โน่นแล้วลุยตามโครมครามไป วามีลักษณะอยางไร
หน่อนรินทร์สินสมุทรไม่หยุดยั้ง รีบมาทั้งคืนค�่าในน�้าไหล 2. ครู ข ออาสาสมั ค ร 2-3 คนมานํ า
จนแจ่มแจ้งสุริโยอโณทัย เห็นเงือกใหญ่ยายตายังล้านัก เสนอหนาชั้นเรียน
จึงว่ารีบถีบถอนไปก่อนท่าน โน่นนางมารหมุนไล่มาใกล้หนัก
แล้วว่ายรอคลอไปพอได้พัก พอนางยักษ์ทันโถมกระโจมมา
พระลูกหลบพบเงือกจะเสือกหนี เหยียบขยี้สองแขนแน่นหนักหนา เกร็ดแนะครู
ตะคอกถามตามโมโหที่โกรธา ไยมึงพาผัวพรากมาจากกู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่อง
เดี๋ยวนี้องค์พระอภัยอยู่ไหนเล่า ไม่บอกเราหรือกระไรท�าไขหู “คําพอง” ที่มีในบทประพันธ คําพอง
จะควักเอานัยนาออกมาดู ตะคอกขู่คุกถามค�ารามรน มี 2 ชนิด คือ คําพองรูปและคําพอง
ทั้งสองเงือกเสือกกายหมายไม่รอด ถึงม้วยมอดมิให้แจ้งแห่งนุสนธิ์ เสียง
จึงกล่าวแกล้งแสร้งเสด้วยเล่ห์กล เธออยู่บนเขาขวางริมทางมา คําพองรูป คือคําที่มีรูปเหมือนกัน
ข้าจะพาไปจับจงกลับหลัง ให้ได้ดังมุ่งมาดปรารถนา แตอานตางกัน เชน
• คําวา “เพลา”
ไม่เหมือนค�าร�าพันที่สัญญา จงเข่นฆ่าให้เราม้วยไปด้วยกัน
เพลา อานวา เพ-ลา
อสุรีผีเสื้อก็เชื่อถือ ยุดเอามือขวาซ้ายให้ผายผัน มีความหมายวา กาล คราว เวลา
เงือกก็พามาถึงได้ครึ่งวัน แกล้งร�าพันพูดล่อให้ต่อไป เพลา อานวา เพลา
นางผีเสื้อเบื่อหูรู้เท่าถึง จึงว่ามึงตอแหลมาแก้ไข มีความหมายวา แกนสําหรับสอด
มาถึงนี่ชี้โน่นเนื่องกันไป แกล้งจะให้ห่างผัวไม่กลัวกู ในดุมใหลอ หมุน เบาลง พอประมาณ
แล้วนางยักษ์หักขาฉีกสองแขน ไม่หายแค้นเคี้ยวกินสิ้นทั้งคู่ • คําวา “แหน”
แล้วกลับตามข้ามทางท้องสินธู ออกว่ายวู่แหวกน�้าด้วยก�าลัง แหน อานวา แหฺน (ห-นํา)
มีความหมายวา พืชชนิดหนึ่ง
ฝ่ายกุมารสินสมุทรไม่หยุดหย่อน ตามบิดรทันสมอารมณ์หวัง แหน อานวา แหนฺ ( น-สะกด)
จึงเล่าความตามติดไม่ปิดบัง พระทรงฟังลูกชายค่อยคลายใจ มีความหมายวา หวง ลอม รักษา
พอเห็นเงาเขาขวางอยู่กลางน�้า พิลึกล�้ากว่าคิรีที่ไหนไหน เปนตน
จึงถามนางเงือกน้อยกลอยฤทัย เกาะอะไรแก้วตาตรงหน้าเรา คําพองเสียง คือคําที่มีเสียงเหมือน
กันแตความหมายตางกัน เชน
นางเงือกน�้าบอกส�าคัญว่านั่นแล้ว คือเกาะแก้วพิสดารเป็นชานเขา
การ มีความหมายวา งาน,
พระฟังนางสร่างโศกค่อยบรรเทา จึงว่าเราเห็นจะรอดไม่วอดวาย
เรื่องที่ทํา
แล้วพิศดูภูผาศิลาเลื่อม ชะโงกเงื้อมน�้าวนชลสาย กาล มีความหมายวา เวลา
แลลิบลิบหลังคาศาลาราย มีเสาหงส์ธงปลายปลิวระยับ กานต มีความหมายวา เปนที่รัก
49 กานท มีความหมายวา บทกลอน
กาน มีความหมายวา ตัด ฟน
กาญจน มีความหมายวา ทอง
กาฬ มีความหมายวา รอยดํา
เปนตน
นักเรียนควรรู
หักขา นางยักษ “หักขา” เงือก จะผิดจากความเขาใจของคนทั่วไปและความในตอนอื่นที่วา
“พระอภัยภูมินทรกับสินสมุทร ชวยกันฉุดนางเงือกเสือกเขาฝง” เขาใจวาสุนทรภูอาจเผลอไป
แตในตอนหลังพระอินทรตัดหางใหและนางเงือกเดินได แสดงวามีขาจริงๆ
คูมือครู 49
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
50 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนยกตัวอยางคําอุทาน
เสริมบทจากวรรณคดีเรื่อง
เราลงเลขเสกท�าไว้ส�าเร็จ ดังเขื่อนเพชรภูตปีศาจไม่อาจใกล้ พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณี
มันอยู่แต่ห่างห่างช่างเป็นไร ท�าไม่ได้นัดดาเจ้าอย่ากลัว หนีนางผีเสื้อ มีคําใดบาง
ฝ่ายผีเสื้อเหลือโกรธโลดทะลึ่ง เสียงโผงผึงเผ่นโผนตะโกนผัว (แนวตอบ เชน คําวา เย็นยํ่า
เหตุไฉนไปนั่งก�าบังตัว เชิญทูนหัวเยี่ยมหน้ามาหาน้อง
เผนโผน)
นิจจาเอ๋ยเคยอยู่เป็นคู่ชื่น ทุกวันคืนค�่าเช้าไม่เศร้าหมอง
จนมีลูกปลูกเลี้ยงเคียงประคอง มิให้ข้องเคืองขัดพระอัชฌา ขยายความเขาใจ
อยู่ดีดีหนีเมียมาเสียได้ เสียน�้าใจน้องรักเป็นนักหนา นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น
จึงอุตส่าห์พยายามสู้ตามมา ขอเป็นข้าบาทบงสุ์พระทรงธรรม์ เกี่ ย วกั บ คํ า อุ ท านเสริ ม บทที่ ป รากฏ
พระเสด็จไปไหนจะไปด้วย เป็นเพื่อนม้วยภัสดาจนอาสัญ ในบทประพันธเรื่องพระอภัยมณี
ประทานโทษโปรดเลี้ยงแต่เพียงนั้น อย่าบากบั่นความรักน้องนักเลย • คําอุทานเสริมบทมีความสําคัญ
พระอภัยใจอ่อนถอนสะอื้น อุตส่าห์ฝืนพักตร์ว่านิจจาเอ๋ย
ตอคําประพันธอยางไรบาง
(แนวตอบ เพื่อลดความหวนของ
แม่ผีเสื้อเมื่อไม่เห็นในใจเลย พี่ไม่เคยอยู่ในถ�้าให้ร�าคาญ
คําและเพื่อใหสัมผัสคลองจอง
คิดถึงน้องสองชนกที่ปกเกล้า จะสร้อยเศร้าโศกาน่าสงสาร กัน)
ด้วยพลัดพรากจากมาเป็นช้านาน ไม่แจ้งการว่าข้างหลังเป็นอย่างไร
จึงจ�าร้างห่างห้องให้น้องโกรธ จงงดโทษพี่ยาอัชฌาสัย
แม้นไปได้ก็จะพาแก้วตาไป นี่จนใจเสียด้วยนางต่างตระกูล
พี่มนุษย์สุดสวาทเป็นชาติยักษ์ จงคิดหักความสวาทให้ขาดสูญ นักเรียนควรรู
กลับไปอยู่คูหาอย่าอาดูร จงเพิ่มพูนภาวนารักษาธรรม์ บากบั่น ในบทนี้หมายความวา
อย่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิตพิษฐาน หมายวิมานเมืองแมนแดนสวรรค์ “ตัดรอน”
จะเกิดไหนขอให้พบประสบกัน อย่าโศกศัลย์แคล้วคลาดเหมือนชาตินี้
พี่ขอบุตรสุดใจเอาไปด้วย เป็นเพื่อนม้วยเหมือนสุดามารศรี
ขอลาแก้วแววตาไปธานี อย่าราคีขุ่นข้องให้หมองมัว
ผีเสื้อน�้าซ�้าวอนด้วยอ่อนหวาน ไม่โปรดปรานอนุกูลเลยทูนหัว
ถ้าทิ้งไว้ไหนน้องจะครองตัว ทั้งจากผัวจากบุตรสุดอาลัย
มิขออยู่สู้ตายวายชีวิต ไม่เห็นจิตน้องรักจะตักษัย
เชิญพระองค์ลงมาชลาลัย เมียจะให้มนตร์เวทวิเศษครัน
แล้วร้องเรียกลูกยามาด้วยพ่อ แม่จะขออ�าลาเจ้าอาสัญ
อย่าสงสัยใจจริงทุกสิ่งอัน ไม่ร�าพันพูดลวงเจ้าดวงใจ
51
คูมือครู 51
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
52 คูมือครู
สํารวจคนหา
กระตุนความสนใจ Explore อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explain Expand Evaluate
สํารวจคนหา
ใหนักเรียนสรางเกม
ปริศนาอักษรไขว หรือเกมอื่นๆ
๖ คÓÈัพท์ ตามความสนใจของนักเรียน โดยใช
คําศัพทในบทเรียน
ค�ำศัพท์ ควำมหมำย
กระโจมโจน กระโจม หมายถึง โถมเข้าไป โจนหรือกระโจน หมายถึง กระโดดพุ่งเข้าไป
โดยเร็ว กระโจมโจน ใช้ค�าที่มีความหมายคล้ายกันมาซ้อนกัน หมายความว่า
โถมพุ่งเข้าใส่เต็มก�าลัง
นักเรียนควรรู
กุมภา เปนศัพทคํากลอนดังบท
กระโห้ ชื่อปลาน�้าจืดขนาดใหญ่ หัวโต เกล็ดใหญ่ ล�าตัว
ประพันธ “ตัวกูหลงอยูดวยกุมภา
ด้านหลังสีเทาด�า หางและครีบสีแดงคล�้าหรือสีส้ม
จะเสื่อมเสียวิชาที่เรียนรู” จากเรื่อง
มักพบในแม่น�้าขนาดใหญ่
ปลากระโห้ ไกรทอง
กำก สิง่ ทีเ่ หลือเมือ่ คัน้ หรือคัดเอาสิง่ ทีด่ อี อกไปแล้ว รูปก็กาก มีความหมายว่า รูปร่าง
ไม่เหลือสิ่งที่ดีเอาไว้เลย
กุมภำ จระเข้
ขุนไศล ภูเขาใหญ่
คล้ำยคล้ำย เคลื่อนไหวไปเรื่อย
53
คูมือครู 53
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
เกร็ดแนะครู เจียระบาด
ครูทบทวนความรูเกี่ยวกับคําศัพท ฉนำก ชือ่ ปลาทะเลขนาดใหญ่ เป็นปลากระดูกอ่อน มีเหงือก ๕ คูอ่ ยูใ่ ต้สว่ นหัว บริเวณ
โดยการตั้งคําถาม เชน ปลายสุดของหัวมีแผ่นกระดูกยื่นยาวมาก
• คําวา “ตักษัย” “บรรลัย” เฉโก คนฉลาดแกมโกง
มีความหมายวา “ตาย” ชีวัง เป็นค�าแผลงมาจากค�าว่า ชีวา เพื่อให้สัมผัสกับค�าว่า หลัง
และมีคําอะไรอีกบาง ซึก แทรกอยู่ ซึ้งเข้าไป
• คําทีเ่ ปนคําราชาศัพทมคี าํ ใดบาง
ตรีชำ ติเตียน ต�าหนิ กล่าวโทษ
ใหนักเรียนคนควาและบันทึก
ลงสมุด ตะโกรง ทะเยอทะยาน อยากได้ ตะกละตะกลาม
ตัดษัย มาจากค�าว่า ตักษัย หมายถึง ตาย เป็นการแปลงค�าให้สมั ผัสกับค�าว่า ประดิพทั ธ์
ถือเพทไสย มีความเชี่ยวชาญในเวทมนตร์คาถาอาคม ใช้เวทมนตร์คาถาท�าร้ายผู้อื่นหรือ
ป้องกันตนเอง
ทะมื่น ค�าเดียวกับค�าว่า ทะมึน หมายถึง สูง ใหญ่ ด�ามืดน่ากลัว มักใช้เป็นค�าซ้อนว่า
ด�าทะมึน
ทัณฑ์ การลงโทษ
ท�ำไขหู ท�าเป็นไม่ได้ยิน
ท�ำรัก แสร้งท�าทีว่ารักมาก
นำงมำรจะนำนมำ กว่านางยักษ์จะกลับมาก็คงอีกนาน
บรรลัย ตาย
บัลลังก์ แท่นหินที่ใช้เป็นที่นั่ง
บำกบั่น ในที่นี้หมายถึง ตัดรอน ในความว่า “ประทานโทษโปรดเลี้ยงแต่เพียงนั้น
อย่าบากบั่นความรักน้องนักเลย”
บ่ำยเบี่ยง หลีกเลี่ยง แต่ในที่นี้หมายถึง เวลาบ่ายคล้อย
ปรำนี เอ็นดู สงสาร
54
54 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
ให นั ก เรี ย นสั ง เกตคํ า ศั พ ท ใ นบท
เรี ย นว า คํ า ศั พ ท ใ นบทเรี ย นมี ก าร
ค�ำศัพท์ ควำมหมำย
แปลงเสียงหรือไม อยางไร
ปรำย ซัด หว่านให้กระจายออกไป (แนวตอบ มีการแปลงเสียง เชน ยืด
ปล�้ำ ต่อสู้ด้วยการกอดรัดฟัดเหวี่ยง คําไทยที่เปนเสียงสั้นใหเปนเสียงยาว
ปำกเปรำะ พูดว่าคนโดยไม่มีการไตร่ตรอง เพื่อสัมผัส เปนตนวา มนุษย เปน
มานุษย มรณะ เปน มรณา เปลี่ยน
ผนิด มาจากค�าว่า ผนึก คือ ปิดให้แน่น
มาตราตัวสะกดเพื่อสัมผัส เปนตนวา
พระธ�ำมรงค์ แหวน ธ�ามรงค์ทรงมาค่าบุรี หมายความว่า แหวนที่พระอภัยมณีสวมมามีค่า ตักษัย เปน ตัดษัย)
เทียบเท่าเมืองเมืองหนึ่ง
พะเนิน ค้อนขนาดใหญ่ใช้ตีเหล็กหรือทุบหิน
พิมพำ ชือ่ ปลาฉลามขนาดใหญ่ชนิดหนึง่ มีฟันใหญ่เป็นรูปสามเหลีย่ ม ขอบจักเป็นฟัน
เลื่อย พื้นล�าตัวเป็นครีบสีน�้าตาลหม่น ดุร้ายมาก เรียกเสือทะเลหรือฉลามเสือ เกร็ดแนะครู
พิษฐำน มาจากค�าว่า อธิษฐาน คือขอร้องอ้อนวอนต่อสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิ ์ ขอให้ชว่ ยดลบันดาล ครูเพิ่มเติมความรูเกี่ยวกับคําศัพท
ให้ประสบผลส�าเร็จสมดังปรารถนา ในบทเรียน คําวา ภักษาหาร ชลาลัย
เพลงศำสตรำ ลีลาท่าทางการต่อสู้ด้วยอาวุธต่างๆ ที่เกิดจากการสรางคําสมาสอยางมี
ภักษำหำร อาหารที่กินเป็นประจ�า สนธิ โดยครู ย กคํ า อื่ น ๆ ที่ มี วิ ธีก าร
สร า งคํ า อย า งเดี ย วกั น มาประกอบ
ภูเขำหลวง ภูเขาใหญ่
ความเขาใจ เชน
มหำชลำลัย มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ธน+อาคาร เปน ธนาคาร
มะยง มะปรางพันธุ์หนึ่ง รสเปรี้ยวๆ หวานๆ หรือเรียกว่า มะยงชิด วิทย+อาลัย เปน วิทยาลัย
มะซำง ผลไม้รสหวานเย็น มียางมาก คช+อินทร เปน คเชนทร
ราช+อุปโภค เปน ราชูปโภค
มังกร ชื่อปลาไหลทะเลชนิดหนึ่ง ล�าตัวยาวทรงกระบอก ส่วนหัวแบน ปากกว้าง
เปนตน
มำนุษย์ ยืดพยางค์จากค�าว่า มนุษย์
ยักคอท�ำท้อแท้ ท�าท่าออดอ้อน โดยการเอียงคอซบอกท�าท่าเหมือนไม่มีแรง
ยุคุนธร์ หรือยุคนธร เป็นชื่อเทือกเขาที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุอันเป็นที่ประทับของ
พระศิวะ ซึ่งมีทั้งหมด ๗ เทือกเขา เรียกว่า เขาสัตบริภัณฑ์ เทือกเขาทั้งเจ็ด
ได้แก่ เขายุคุนธรหรือยุคนธร อิสินธร กรวิก สุทัสนะ เนมินธร วินตกะ อัสกัณ
เขายุคุนธรเป็นเขาที่อยู่ใกล้เขาพระสุเมรุที่สุด มีความสูงครึ่งหนึ่งของเขา
พระสุเมรุ ซึ่งสูงถึง ๘๔,๐๐๐ โยชน์
ระลอก คลื่น
รุทร น่ากลัวยิ่ง
55
คูมือครู 55
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand Evaluate
Engage Explore Explain
56
56 คูมือครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู
Engage Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Expand Evaluate
กระตุนความสนใจ
ครูกระตุนนักเรียนโดยใชคําถาม
• นักเรียนคิดวาตัวละครตัวใด
๗ บทวิเคราะห์ นาเห็นใจที่สุด
๗.๑ คุณค่าด้านเนือ้ หา • ครูถามนักเรียนวาบทบาทของ
นิทานค�ากลอนเรื่องพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ นอกจากจะเป็นตอนที่ผู้อ่าน ตัวละครสามารถพบในชีวิตจริง
ได้รบั ความสนุกสนานเพลิดเพลินจากรสวรรณคดี การใช้ถอ้ ยค�าภาษาในการบรรยายทัง้ รสของภาพและ ไดหรือไม
รสของเสียงแล้ว บทประพันธ์ยังได้แฝงคุณค่าด้านเนื้อหาให้ผู้อ่านได้พิจารณาใคร่ครวญอย่างมีเหตุผล
วิเคราะห์แก่นของเนื้อหาเป็นเรื่องค�าสอนทางพุทธศาสนา การเห็นผิดเป็นชอบ การท�าอะไร สํารวจคนหา
ตามใจตนไม่ค�านึงถึงผลที่จะตามมา กวีสื่อแนวคิดนี้ผ่านตัวละคร คือ นางผีเสื้อสมุทร ซึ่งเป็นตัวอย่าง
ครูใหนักเรียนหาวาเหตุการณตอน
ของผู้ที่ถูกกิเลสตัณหาครอบง�า มีแต่ความโหดร้าย ความลุ่มหลง มัวเมาในความรัก ความหึงหวง ใดในเรื่องที่มีความโดดเดน
ไม่ได้สติ จนท�าให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสียหายไปด้วย เห็นได้จากที่พ่อแม่เงือกสละชีวติ ของตนเพื่อช่วยเหลือ • ดานเนื้อหา
พระอภัยมณี ท�าให้เงือกสาวสูญเสียครอบครัว สินสมุทรผู้เป็นลูกจ�าต้องหลอกล่อแม่ทั้งที่กลัว ส่วน • ดานวรรณศิลป
พระฤๅษีที่พยายามชี้แนะทางที่ถูกกลับถูกด่าให้เสียหาย ดังบทประพันธ์ที่ว่า • ดานสังคมและสะทอนวิถีไทย
นางผีเสื้อเหลือโกรธพิโรธร้อง มาตั้งซ่องศีลจะมีอยู่ที่ไหน
ช่างเฉโกโยคีหนีเขาใช้ ไม่อยู่ในศีลสัตย์มาตัดรอน อธิบายความรู
เขาว่ากันผัวเมียกับแม่ลูก ยื่นจมูกเข้ามาบ้างช่วยสั่งสอน ครูใหนักเรียนถอดคําประพันธ
แม้นคบคู่กูไว้มิให้นอน จะราญรอนรบเร้าเฝ้าตอแย บททีน่ กั เรียนประทับใจทีส่ ดุ พรอมทัง้
อธิ บ ายบทประพั น ธ ที่ มี คุ ณ ค า ด า น
จะเห็นว่านางผีเสื้อสมุทรปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกอยู่เหนือเหตุผล ระรานผู้ที่ปรารถนาดี ตางๆ ดังตอไปนี้
อย่างพระฤๅษีและว่าร้ายให้เงือกสาวเสียหาย ทั้งนี้เพราะนางผีเสื้อสมุทรไม่ยอมรับความจริงว่า • ดานเนื้อหา
พระอภัยมณีไม่ได้รกั ตน และความแตกต่างของทัง้ สองท�าให้พระอภัยมณีไม่มคี วามสุข แทนทีน่ างผีเสือ้ - • ดานวรรณศิลป
สมุทรจะยอมรับกลับดันทุรัง เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของตน เมื่อไม่สมหวังก็เป็นทุกข์ กวีได้ชี้ • ดานสังคมและสะทอนวิถีไทย
ให้เห็นความทุกข์ทรมานเพราะไม่รู้จักปล่อยวาง ลุ่มหลงมัวเมาในกิเลสตัณหา
ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อนี้ ผู้ประพันธ์ใช้ “การหลอกลวง” ในการด�าเนินเรื่องเริ่มตั้งแต่
ตอนที่พระอภัยมณีทรงวางแผนหนีนางผีเสื้อสมุทร ก็ต้องลวงให้นางไปจ�าศีล เมื่อนางผีเสื้อสมุทรตาม
มาพบสินสมุทร สินสมุทรก็พยายามถ่วงเวลาให้พระอภัยมณีทรงหนี ทั้งที่ตนก็ตกใจกลัวที่เห็นแม่
แปลงกายเป็นยักษ์ นางผีเสื้อสมุทรรู้ว่าลูกตกใจกลัวจึงแก้ต่างไปว่า
จึงตอบโต้โป้ปดโอรสราช มิใช่ชาติยักษ์มารชาญสมร
เจ้าแปลกหรือคือนี่แลมารดร เมื่อนั่งนอนอยู่ในถ�้าไม่จ�าแลง
57
คูมือครู 57
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
58 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ครูแบงกลุมใหนักเรียนคนควา
โวหารที่ไดจากเรื่องนี้ จากนั้น
จากบทประพันธ์ดังกล่าว กวีได้เลือกใช้ถ้อยค�าที่แสดงให้เห็นกิริยาอาการของนาง ยกตัวอยางบทประพันธประกอบ
ผีเสื้อสมุทร “โซเซา” แสดงอาการอ่อนแรง อ่อนล้า ใช้ค�าว่า “เซซังซวนทรง” แสดงให้ผู้อ่านเกิด และบอกวาเปนโวหารชนิดใด
จินตภาพอาการอ่อนล้าจนเซถลาแทบจะทรุดตัวลงของนางผีเสื้อสมุทร (แนวตอบ ตัวอยางบทประพันธ
นางผีเสื้อเหลือโกรธโลดทะลึ่ง โตดังหนึ่งยุคุนธร์ขุนไศล • การใชโวหารอุปมา เชน
ลุยทะเลโครมครามออกตามไป สมุทรไทแทบจะล่มถล่มทลาย “ไมคลาดเคลือ่ นเหมือนองคพระทรงเดช
เหล่าละเมาะเกาะขวางหนทางยักษ์ ภูเขาหักหินหลุดทรุดสลาย แตดวงเนตรแดงดูดังสุริยฉาย
เสียงครึกครื้นคลื่นคลุ้มขึ้นกลุ้มกาย ผีเสื้อร้ายรีบรุดไม่หยุดยืน ทรงกําลังดังพระยาคชาพลาย
มีเขี้ยวคลายชนนีมีศักดา”
จากบทประพันธ์ดงั กล่าว กวีเลือกใช้คา� “รีบรุดไม่หยุดยืน” เพือ่ ท�าให้ผอู้ า่ นเกิดจินตภาพ บทประพันธนี้แสดงใหผูอานเห็น
กิริยาและการเคลื่อนไหวของตัวละครที่รีบเร่งติดตามไปด้วยความโมโห ภาพของพระโอรสของพระอภัยมณี
กับนางผีเสื้อสมุทรที่มีตาสีแดง
๒) กำรใช้โวหำร นิทานค�ากลอนเรื่องพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ
เหมือนดั่งพระอาทิตย มีพละกําลัง
ผู้ประพันธ์เลือกใช้ส�านวนโวหารที่ให้ผู้อ่านเกิดจินตภาพได้ชัดเจน เช่น
มากเหมือนชางสาร และมีเขี้ยว
พระบิตุรงค์ทรงศักดิ์ก็รักใคร่ ด้วยเนื้อไขมิได้คิดริษยา เหมือนนางผีเสื้อสมุทร)
เฝ้าเลี้ยงลูกผูกเปลแล้วเห่ช้า จนใหญ่กล้าอายุได้แปดปี
จึงให้นามตามอย่างข้างมนุษย์ ชื่อสินสมุทรกุมารชาญชัยศรี
ธ�ามรงค์ทรงมาค่าบุรี พระภูมีถอดผูกให้ลูกยา ขยายความเขาใจ
เจียระบาดคาดองค์ก็ทรงเปลื้อง ให้เป็นเครื่องนุ่งห่มโอรสา ใหนักเรียนพิจารณาการใชถอยคํา
สอนให้เจ้าเป่าปี่มีวิชา เพลงศาสตราสารพัดหัดช�านาญ ในคําประพันธ
• คําที่มีเสียงเสนาะทําใหคํา
จากบทประพันธ์ข้างต้น กล่าวถึงสินสมุทรมีอายุ ๘ ปี พระอภัยมณีทรงตั้งชื่อพระโอรส ประพันธเกิดความไพเราะ
ตามอย่างมนุษย์แม้สินสมุทรจะมีแม่เป็นยักษ์ สินสมุทรสวมแหวนที่พระบิดาพระราชทาน เรียนวิชา ไดอยางไร พรอมยกตัวอยาง
เป่าปี่และเพลงอาวุธจากพระบิดา ประกอบ
(แนวตอบ มีการเลือกใชคําที่มี
พระโฉมยงองค์อภัยมณีนาถ เพลินประพาสพิศดูหมู่มัจฉา
เสียงเสนาะ มีสัมผัสนอกและ
เหล่าฉลามล้วนฉลามตามกันมา ค่อยเคลื่อนคลาคล้ายคล้ายในสายชล
สัมผัสในที่มีทั้งสัมผัสสระและ
ฉนากอยู่คู่ฉนากไม่จากคู่ ขึ้นฟ่องฟูพ่นฟองละอองฝน
สัมผัสอักษร ทําใหคําประพันธ
ฝูงพิมพาพาฝูงเข้าแฝงวน บ้างผุดพ่นฟองน�้าบ้างด�าจร
ไพเราะ ผูอานเกิดความซาบซึ้ง
กระโห้เรียงเคียงกระโห้ขึ้นโบกหาง ลอยสล้างกลางกระแสแลสลอน
ในคํากลอน และจากการใชคาํ ซํา้
มังกรเกี่ยวเลี้ยวลอดกอดมังกร ประชุมซ่อนแฝงชลขึ้นวนเวียน “ฉนากอยูคูฉนากไมจากคู
ฝูงม้าน�้าท�าท่าเหมือนม้าเผ่น ขึ้นลอยเล่นเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน ขึ้นฟองฟูพนฟองละอองฝน
ตะเพียนทองท่องน�้าน�าตะเพียน ดาษเดียรดูเพลินจนเกินมา ฝูงพิมพาพาฝูงเขาแฝงวน
บางผุดพนฟองนํ้าบางดําจร
59 กระโหเรียงเคียงกระโหขนึ้ โบกหาง
ลอยสลางกลางกระแสแลสลอน
มังกรเกี่ยวเลี้ยวลอดกอดมังกร
ประชุมซอนแฝงชลขึ้นวนเวียน”)
คูมือครู 59
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
60
60 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ครูใหนักเรียนอธิบายเรื่องลีลาการ
ประพันธ หรือสุนทรียลีลาในวรรณคดี
พงศ์กษัตริย์ทัศนานางเงือกน้อย ดูแช่มช้อยโฉมเฉลาทั้งเผ้าผม เรื่องพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณี
ประไพพักตร์ลักษณ์ล�้าล้วนข�าคม ทั้งเนื้อนมนวลเปล่งออกเต่งทรวง หนีนางผีเสื้อ
ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด ดังสุรางค์นางนาฏในวังหลวง (แนวตอบ พระอภัยมณี ตอนพระอภัย
พระเพลินพิศคิดหมายเสียดายดวง แล้วหนักหน่วงนึกที่จะหนีไป มณีหนีนางผีเสื้อ เดนทางลีลาแสดง
ความโกรธ คือ พิโรธวาทัง ขณะที่ดอย
นารีปราโมทย์ คือบทโอ้โลม เกี้ยวพาราสีหรือบทปลอบใจ ตอนพระอภัยมณีหนีได้ ทางลีลาแสดงความรัก บทเกี้ยว ทั้งนี้
ปลอบใจนางผีเสื้อสมุทร ดังบทประพันธ์ เพราะเปนตอนที่พระอภัยมณีหนีนาง
ผีเสื้อสมุทร)
พี่มนุษย์สุดสวาทเป็นชาติยักษ์ จงคิดหักความสวาทให้ขาดสูญ
กลับไปอยู่คูหาอย่าอาดูร จงเพิ่มพูนภาวนารักษาธรรม์
อย่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิตพิษฐาน หมายวิมานเมืองแมนแดนสวรรค์ ขยายความเขาใจ
จะเกิดไหนขอให้พบประสบกัน อย่าโศกศัลย์แคล้วคลาดเหมือนชาตินี้
1. ใหนักเรียนยกตัวอยางบทประพันธ
พิโรธวาทัง คือบทโกรธ ขัดเคือง ตัดพ้อ ต่อว่า ด่าทอ ตอนนางผีเสื้อสมุทรก้าวร้าว ที่มีลีลาการประพันธโดดเดน
นาประทับใจ จากวรรณคดีหรือ
พระฤๅษีและหึงนางเงือก ดังบทประพันธ์
วรรณกรรมไทยที่นักเรียนเคยอาน
นางผีเสื้อเหลือโกรธพิโรธร้อง มาตั้งซ่องศีลจะมีอยู่ที่ไหน มา 1 ตัวอยาง
ช่างเฉโกโยคีหนีเขาใช้ ไม่อยู่ในศีลสัตย์มาตัดรอน (แนวตอบ ตัวอยางลีลาการประพันธ
เขาว่ากันผัวเมียกับแม่ลูก ยื่นจมูกเข้ามาบ้างช่วยสั่งสอน สัลลาปงคพิสัย
แม้นคบคู่กูไว้มิให้นอน จะราญรอนรบเร้าเฝ้าตอแย “แตเชาเทาถึงเยน
แล้วชี้หน้าด่าอึงหึงนางเงือก ท�าซบเสือกสอพลออีตอแหล กลํ้ากลืนเขญเปนอาจิณ
เห็นผัวรักยักคอท�าท้อแท้ พ่อกับแม่มึงเข้าไปอยู่ในท้อง ชายใดในแผนดิน
ไมเหมือนพี่ที่ตรอมใจ”
สัลลาปังคพิสัย คือบทว้าเหว่ เงียบเหงา โศกเศร้า เสียใจ คร�่าครวญ เช่น ความเสียใจ บทเหครวญ: เจาฟาธรรมธิเบศร)
เมื่อนางผีเสื้อสมุทรกลับจากจ�าศีลแล้วพบว่าพระอภัยมณีหนีไป จึงคร�่าครวญร�่าไห้ ดังบทประพันธ์ 2. ครูสุมนักเรียน 4-5 คนมานําเสนอ
หน า ชั้ น เรี ย น ครู แ นะนั ก เรี ย นว า
ถึงประตูคูหาเห็นเปิดอยู่ เอ๊ะอกกูเกิดเข็ญเป็นไฉน ตั ว อย า งที่ นํ า มาเสนอนั้ น ถู ก ต อ ง
เข้าในห้องมองเขม้นไม่เห็นใคร ยิ่งตกใจเพียงจะดิ้นสิ้นชีวี หรือไม
แลดูปี่ที่เป่าเล่าก็หาย นางยักษ์ร้ายรู้ว่าพากันหนี
เสียน�้าใจในอารมณ์ไม่สมประดี สองมือตีอกตูมฟูมน�้าตา
ลงกลิ้งเกลือกเสือกกายร้องไห้โร่ เสียงโฮโฮดังก้องห้องคูหา
พระรูปหล่อพ่อคุณของเมียอา ควรหรือมาทิ้งขว้างหมองหมางเมีย
61
คูมือครู 61
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
62 คูมือครู
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
ขยายความเขาใจ
1. ใหนกั เรียนแลกเปลีย่ นความคิดเห็น
เกีย่ วกับคานิยมของสังคมไทยทีเ่ ด็ก
สามแพร่งที่คนไทยเชื่อว่าจะมีบรรดาภูตผีอาศัยอยู่ จึงมักน�าเครื่องเซ่นไปบูชา ซึ่งความเชื่อประการนี้ ตองเคารพผูใหญ
ได้ปรากฏในเรื่อง ดังบทประพันธ์ • ในฐานะที่นักเรียนเปนเด็ก
รุนใหมควรปฏิบัติตอผูใหญ
ฝ่ายปีศาจราชทูตภูตพรายพาล อลหม่านขึ้นมาหาในสาชล
อยางไรจึงจะเหมาะสม
อสุรีผีเสื้อจึงซักถาม มึงอยู่ตามเขตแขวงทุกแห่งหน
(แนวตอบ ไมมีผิดถูก แตครูควร
เห็นมนุษย์นวลละอองทั้งสองคน มาในวนวังบ้างหรืออย่างไร
แนะใหนกั เรียนเห็นวาการเคารพ
...
ผูใหญเปนสิ่งที่ดี เชน ถาหาก
นั ก เรี ย นไม เ ห็ น ด ว ยในคํ า สอน
๔) ค่ำนิยมของสังคมไทยที่เด็กต้องเคำรพผู้ใหญ่ สังคมไทยเป็นสังคมที่พึ่งพา
ใหถามอยางมีมารยาท ผูใ หญจะ
อาศัยกัน มีความผูกพันกตัญญูรู้คุณและจะให้ความเคารพผู้ใหญ่ เมื่อได้กระท�าสิ่งใดที่ถือว่าเป็นการ เอ็นดูและตอบคําถามที่นักเรียน
ล่วงเกินควรที่จะกล่าวขอโทษ ไม่ควรกระท�าสิ่งใดที่เป็นการล่วงเกิน ซึ่งค่านิยมประการนี้ได้ปรากฏใน ของใจ ซึ่งจะเปนประโยชนแก
เรื่อง ดังบทประพันธ์ นักเรียนเอง)
พงศ์กษัตริย์ตรัสชวนสินสมุทร สอนให้บุตรขอสมาอัชฌาสัย
2. ใหนักเรียนยกสํานวนสุภาษิตไทย
เกี่ยวกับเด็กควรเคารพผูใหญ
พระทรงบ่าเงือกน�้างามวิไล พระหน่อไทขอสมาขึ้นบ่านาง
พรอมอธิบายความหมายตาม
ความเขาใจของนักเรียน
๗.๔ ข้อคิดทีส่ ามารถน�าไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจ�าวัน (แนวตอบ เชน เดินตามหลังผูใหญ
นิทานค�ากลอนเรือ่ งพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสือ้ เป็นนิทานค�ากลอนทีส่ นุกสนาน หมาไมกัด อาบนํ้ารอนมากอน
ชวนให้ติดตาม ในขณะที่ผู้อ่านเพลิดเพลินกับเรื่องราว กวียังได้สอดแทรกแนวคิดหรือข้อคิดที่สามารถ เปนตน)
น�าไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจ�าวันได้ ดังนี้
๑) ควำมมีนำ�้ ใจและเสียสละให้ผอู้ นื่ เป็นสิง่ ควรท�ำ ตัวละครในเรือ่ งต่างแสดงความ
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน�้าใจต่อกัน เห็นใจในความทุกข์ของเพื่อนมนุษย์ ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข เช่น เกร็ดแนะครู
พระอภัยมณีทรงมีพระด�าริที่จะเสียสละพระชนม์ชีพเพื่อให้ทุกคนรอด สินสมุทรเสี่ยงภัยล่อหลอก
มารดาให้เข้าใจผิดว่าพระบิดายังอยู่กับตน ให้มารดาพะวงค้นหาเพื่อให้พระบิดาหนีไป ส่วนครอบครัว ครูใหแนวคิดเกี่ยวกับความเชื่อ
เรื่องเทพยดาที่สิงสถิตอยูตามสถานที่
เงือกยอมเสียสละชีวิตเพื่อให้คนอื่นๆ รอด ทุกคนแสดงน�้าใจต่อกันช่วยเหลือกัน
ตางๆ โดยนักเรียนรวมกันแสดง
๒) ชีวิตคู่ที่ไม่ได้เกิดจำกควำมรักไม่ได้เกิดจำกควำมเต็มใจย่อมไม่ยั่งยืน นิทาน ความคิดเห็นวา ในปจจุบันความเชื่อ
ค�ากลอนเรื่องพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ ได้สะท้อนแนวคิดด้านความรัก คือชีวิตคู่ที่ เรื่องเทพยดายังคงมีอยูหรือไม
เกิดขึ้นจากความไม่เต็มใจย่อมไม่มีความยืนยาวหรือมั่นคง เหมือนดังที่พระอภัยมณีทรงไม่เคยรัก ครูควรชี้แนะใหเห็นเรื่องความเชื่อ
นางผีเสื้อสมุทรเลย เพราะทรงถูกนางผีเสื้อสมุทรลักพาพระองค์มาไว้ที่ถ�้า ทั้งนี้พระอภัยมณีทรงไม่มี นี้อยางมีเหตุมีผล เพื่อใหนักเรียน
ทางเลือกจึงจ�าพระทัยยอมใช้ชีวิตกับนาง แต่แล้วชีวิตคู่ก็มาถึงจุดแตกหัก เมื่อพระอภัยมณีมีโอกาสหนี เขาใจและรูจักคิดวิเคราะหอยางมี
นางผีเสื้อสมุทรพร้อมกับพระโอรส โดยความช่วยเหลือของครอบครัวเงือก วิจารณญาณ
63
คูมือครู 63
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand Evaluate
Engage Explore Explain
เกร็ดแนะครู
ครูชี้แนะการนําขอคิดจากเรื่องไปใชในชีวิตประจําวัน โดยใหนักเรียนที่เคยมีประสบการณ
เหมือนขอคิดในเรื่องนี้มาเลาประสบการณ และใหเพื่อนๆ ในหองชวยกันคิดวาจะนําขอคิด
จากเรื่องพระอภัยมณีไปใชในชีวิตใหเกิดประโยชนแกตัวเองอยางไร
64 คูมือครู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
เกร็ดแนะครู
(แนวตอบ คําถามประจําหนวย
การเรียนรู
ค�ำถำม ประจ�ำหน่วยกำรเรียนรู้ 1. สุนทรภูใชความรูจากการอาน
การฟง การไดพบปะสนทนากับ
๑. นักเรียนคิดว่ำในนิทำนค�ำกลอนเรื่องพระอภัยมณี สุนทรภู่ได้สอดแทรกชีวิต ประสบกำรณ์ส่วนตัว ผูคนชาติตางๆ ซึ่งในสมัยนั้นได
ของตนเองไว้อย่ำงไรบ้ำง จงยกตัวอย่ำงประกอบพร้อมอธิบำยให้เข้ำใจ มีชาวตางชาติเขามาเพื่อติดตอ
๒. จำกนิทำนค�ำกลอนเรื่องพระอภัยมณี แสดงให้เห็นว่ำสุนทรภู่เป็นกวีผู้มีควำมสำมำรถในกำรใช้ การคา สงผลใหเกิดการสราง
จินตนำกำรแต่งร้อยกรองอย่ำงไร จงอธิบำยและยกตัวอย่ำงประกอบให้เห็นจริง จินตนาการแนวคิดใหมแปลกไป
๓. พระอภัยมณีและคณะวำงแผนกำรหนีนำงผีเสื้อสมุทรอย่ำงไร จากเรื่องเดิม ดังบทประพันธ
๔. จำกเนื้อหำตอนนี้พระอภัยมณีท�ำอย่ำงไรที่ท�ำให้นำงผีเสื้อสมุทรออกติดตำมตนเองและลูกได้ล่ำช้ำลง “พวกเรือแตกแขกฝรัง่ แลอังกฤษ
จงอธิบำยและยกตัวอย่ำงค�ำประพันธ์ ขึ้นเปนศิษยอยูสํานักนั้นหนักหนา
๕. ทกี่ ล่ำวว่ำสุนทรภูม่ ลี ลี ำกำรแต่งกลอนทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ของตนคือมีสมั ผัสในแพรวพรำว จงอธิบำยและ
ดวยโยคีมีมนตรดลวิชา
ยกตัวอย่ำงค�ำประพันธ์ประกอบ โดยชี้ให้เห็นว่ำสัมผัสอย่ำงไร
ปราบบรรดาภูตพรายไมกรายไป”
2. สุนทรภูสรางเรื่องจากจินตนาการ
ตามสภาพความจริงมีแนวคิด
แปลกใหมตางไปจากเดิมที่ตัวเอก
เปนนักรบ ใหตัวเอกเปนนักดนตรี
กิจกรรม สร้ำงสรรค์พัฒนำกำรเรียนรู้
และจินตนาการสถานที่ตางๆ โดย
นําความรูจากการอาน การฟง
มาสรางเรื่อง
กิจกรรมที่ ๑ นักเรียนรวบรวมค�ำที่เล่นเสียงพยัญชนะและกำรใช้ค�ำที่ให้เห็นภำพพจน์ในเรื่อง
3. พระอภัยมณีขอรองใหเงือกเฒาพา
พระอภัยมณี
กิจกรรมที่ ๒ นกั เรียนบรรยำยลักษณะพ่อแม่ในอุดมคติของนักเรียน หรือลักษณะพ่อแม่ตำมแนวคิด หนีนางผีเสือ้ สมุทร พอเงือกแมเงือก
ในพระพุทธศำสนำว่ำควรมีลักษณะอย่ำงไร จงเขียนบรรยำยให้เข้ำใจ และลูกสาวนัดหมายจะพาพระอภัย-
มณี ห นี ไ ปอยู ที่ เ กาะแก ว พิ ส ดาร
โดยหลอกลวงนางผีเสือ้ สมุทรใหไป
ถือศีลอดอาหารเปนเวลาสามวัน
เมื่อนางกลับมาไมพบพระอภัยมณี
จึ ง ออกตามหา ระหว า งทางพ อ
แมเงือกไดลวงนางยักษไปอีกทาง
นางโกรธจึ ง ฆ า พ อ แม เ งื อ กตาย
ส ว นนางเงื อ กพาพระอภั ย มณี ม า
ถึงเกาะแกวพิสดารและสินสมุทร
ก็ตามมาดวย
65 4. พระอภัยมณีไดออกอุบายลวงให
นางผีเสื้อสมุทรสะเดาะเคราะห
โดยไปถือศีลอดอาหารคนเดียวที่
ชายเขาเปนเวลาสามวันสามคืน
หลักฐาน 5. สุนทรภูมีลีลาการแตงกลอนที่เปนเอกลักษณของตน คือ มีสัมผัสในแพรวพราว ทุกวรรค
แสดงผลการเรียนรู มีสัมผัสในตั้งแต 2 ตําแหนงขึ้นไป ทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร เชน
“ยิ่งปลอบโยนโอนออนยิ่งหลอนหลอก แมนไมบอกโดยดีจะตีถาม
1. การเขียนสรุปเรื่องยอ โดยใชแผนผังความคิด พลางโผโผนโจนโจมเสียงโครมคราม เขาไลตามคลุกคลีตีไปพลาง”
2. การแตงกลอนสุภาพ
3. บันทึกขอคิดจากเรื่องที่นําไปใชในชีวิตจริงลงสมุด
4. ทองจําบทอาขยานตามที่กําหนด
คูมือครู 65
กระตุน ความสนใจ
Engage สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain Expand Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
เปาหมายการเรียนรู
• สรุปเนื้อหาเรื่องพระบรมราโชวาท
• วิเคราะหวิถีไทยและคุณคา
วรรณคดีเรื่องพระบรมราโชวาท
• สรุปความรูและขอคิดที่นําไป
ประยุกตใชในชีวิตจริง
กระตุนความสนใจ
ครูถามนักเรียนวาเคยฟงหรืออาน
พระบรมราโชวาทบางหรือไม
ใหนักเรียนที่เคยอานหรือฟงออกมา
เลาประสบการณในหัวขอตอไปนี้
• ใครเปนผูก ลาวพระบรมราโชวาท
• พระบรมราโชวาทนี้
พระราชทานเนื่องในโอกาสใด
• เมื่อนักเรียนฟงหรืออานแลว
มีความรูสึกอยางไร
ó
• นักเรียนนําพระบรมราโชวาท
มาปรับใชไดหรือไม อยางไร
หน่วยที่
พระบรมรำโชวำท
ตัวชี้วัด
■ สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทองถิ่นในระดับที่
ยากขึ้น (ท ๕.๑ ม.๓/๑)
พระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จ
■ วิเคราะหวิถีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อาน
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั คือบทพระราช-
(ท ๕.๑ ม.๓/๒) นิพนธที่ทรงคุณค่า ส�าหรับใช้สอนบุคคล
■ สรุปความรูและขอคิดจากการอานเพื่อนําไปประยุกตใชในชีวิตจริง ทุกเพศทุกวัย ทั้งผู้เป็นบิดามารดาและผู้ที่อยู่
(ท ๕.๑ ม.๓/๓)
ในวัยศึกษาเล่าเรียน พระองคทรงใช้ภาษาที่
สื่อความเข้าใจ ง่าย มีกลวิธี การอธิบายโน้มน้าว
สำระกำรเรียนรูแกนกลำง
ด้วยเหตุผล เพื่อให้ผู้อ่านปฏิบัติตาม พระบรม-
■ วรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทองถิ่นเกี่ยวกับศาสนา
ประเพณี ราโชวาทจึงเป็นวรรณกรรมค�าสอนทีเ่ ป็นประโยชน
■ การวิเคราะหวิถีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรม ต่อผูอ้ า่ น เพราะสามารถน�าข้อคิดต่างๆ ไปประยุกต
ใช้ในชีวิตประจ�าวัน
66 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Expand Evaluate
สํารวจคนหา
ครูแบงกลุมนักเรียนสืบคนประวัติ
พระราชโอรสทัง้ 4 พระองค และแตละ
๑ ความเป็นมา พระองคดํารงพระอิสริยยศใดบาง
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระราชนิพนธ์พระบรมราโชวาท (แนวตอบ
เมือ่ พ.ศ. ๒๔๒๘ เพือ่ พระราชทานแก่พระเจ้าลูกยาเธอทัง้ ๔ พระองค์ทเี่ สด็จไปทรงศึกษาต่อต่างประเทศ • กรมพระจันทบุรีนฤนาถ
เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ทรงดํารงตําแหนงเสนาบดี
กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ
• กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์
ทรงดํารงตําแหนงเสนาบดี
กระทรวงยุติธรรม
• กรมหลวงปราจิณกิติบดี
ทรงรับราชการราชเลขาธิการ
ในรัชกาลที่ 5
• กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช
ทรงดํารงตําแหนงเสนาบดี
กระทรวงกลาโหม)
อธิบายความรู
ให นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ ม ช ว ยกั น
เรียบเรียงพระราชประวัติของพระ-
ราชโอรสพระองคใดพระองคหนึ่งใน
4 พระองค ใหจับสลากหรือเรียงตาม
ลําดับเลขที่ กําหนดขนาดความยาว
1 หน า กระดาษ พร อ มทั้ ง ใช ภ าพ
ประกอบการอธิบาย
๑. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม (ยืนด้านหน้า)
๒. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ (นั่งด้านซ้าย)
๓. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ (นั่งด้านขวา)
๔. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช (ยืนด้านขวา)
นักเรียนควรรู
พระบาทสมเด็ จ พระจุ ล จอมเกล้ า เจ้ า อยู ่ หั ว ทรงห่ ว งใยในเรื่ อ งการปฏิ บั ติ พ ระองค์ ข อง พระบรมราโชวาท เปนการสรางคํา
พระราชโอรสโดยทรงอบรมมิให้ประพฤติพระองค์อวดอ้างว่าทรงเป็นชนชัน้ เจ้านาย ให้มคี วามอ่อนน้อม โดยวิธีสมาส คือ พระบรม+ราโชวาท
ใฝ่พระทัยในการศึกษา ใช้สอยพระราชทรัพย์อย่างประหยัด จึงนับได้วา่ พระบรมราโชวาทในพระบาท- และโดยวิ ธีส มาสอย า งมี ส นธิ ใ นคํ า
สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั เสมือนตัวแทนค�าสอนของบิดาทีม่ คี วามปรารถนา ดแี ละห่วงใยต่อบุตร ราโชวาท คือ ราช+โอวาท
67
คูมือครู 67
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Expand Evaluate
68
68 คูมือครู
พระราชประวัติ ในรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัว เกิดวิกฤตการณ ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๖) ประเทศ
๒๔๑๐
๒๔๓๖
โปรดเกลาฯ ใหเลื่อนชั้นเปนสมเด็จพระเจา- จักรวรรดิฝรั่งเศสใชเรือรบตีฝาแนวปองกันของไทย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว ลูกยาเธอ เจาฟาฯ กรมขุนพินิตประชานาถ ที่ปากนํ้า และไดประกาศปดอาวไทยจนกวาไทยจะยอม
ทรงเปนพระราชโอรสองคใหญในพระบาท- ทรงกํากับราชการกรมมหาดเล็ก ทําตามขอเสนอ ในที่สุดไทยตองยินยอม สวนอังกฤษก็ได
สมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัว กรมพระคลังมหาสมบัติและกรมทหารบก ดินแดนฝงตะวันตกของแมนํ้าสาละวินและ ๔ หัวเมือง
และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี วังหนา ในป พ.ศ. ๒๔๑๐ มลายู พระองคทรงแกไขปญหาดวยการเจรจากับผูนํา
(หมอมเจาหญิงรําเพย) เสด็จพระราชสมภพ ประเทศตางๆ ในยุโรปเพื่อใหรับรองการเปนเอกราชของ
เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๓๙๖ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว ประเทศไทย และเจรจากับประเทศผูคุกคามโดยตรงเพื่อ
เสด็จขึ้นครองราชยดวยพระองคเองในเดือน ใหเขาใจวาไทยตองการเปนมิตร
พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๑๖ ไดทรงดําเนินการปฏิรูป
ประเทศโดยมีจุดมุงหมายเพื่อใหไทยสามารถรักษา การปฏิรูปประเทศในระยะที่สอง ทรงปฏิรูปการปกครอง
เอกราชไวไดและมีความเจริญทันสมัย ทั้งสวนกลางและสวนภูมิภาค โดยจัดตั้งกระทรวงตางๆ
และมีการจัดตั้งมณฑลเทศาภิบาลเพื่อปกครองหัวเมือง
อยางใกลชิด โดยรวมอํานาจเขาสูศูนยกลาง การปฏิรูป
กฎหมายและการศาลเพื่อใหมีความยุติธรรมและทันสมัย
๒๔๑๖
ใน พ.ศ. ๒๔๑๗ เกิดวิกฤตการณวังหนา ปฏิรูปการคมนาคมเพื่อประโยชนทางดานการเมืองและ
Engage
๒๓๙๖
แตเหตุการณสงบลงภายในระยะเวลาอันสั้น
๒๔๑๗
เศรษฐกิจ รวมถึงการดําเนินการเพื่อจํากัดขอบเขตการ
๒๔๔๐
ใชสิทธิสภาพนอกอาณาเขต
กระตุนความสนใจ
๒๔๒๐
๒๔๕๓
๒๔๐๙ การปฏิรูปประเทศในระยะแรกที่พระองคยังไมทรงมีพระราช-
อํานาจสมบูรณ โดยทรงปฏิรปู ดานการเงินโดยทรงตัง้ หอรัษฎา-
กรพิพัฒนเพื่อเรงรัดการเก็บภาษี ตั้งสภาที่ปรึกษา ๒ สภา คือ
Explore
สภาที่ปรึกษาราชการแผนดินและสภาที่ปรึกษาในพระองค
สํารวจคนหา
การยกเลิกระบบทาสและไพรและทรงปฏิรูปการศึกษา
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัวทรงพระผนวช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว
เปนสามเณรตามราชประเพณี เปนเวลา ๖ เดือน เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.
ใน พ.ศ. ๒๔๐๙ ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ในระหวางนี้ได พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัวเสด็จขึ้นครองราชย ๒๔๕๓ ในปจจุบันวันคลายวันสวรรคตของ
โดยเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัวไป เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๑๑ ขณะทรงมีพระชนมพรรษา พระองคถือเปนวันปยมหาราชที่ชาวไทย
หัวเมืองฝายเหนือถึงเมืองพิษณุโลก เมื่อทรงลาพระผนวช ไดเพียง ๑๕ พรรษา พระบรมวงศานุวงศและขุนนางชั้นผูใหญ ตางนอมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัวทรงกวดขัน จึงดําเนินการประชุมและที่ประชุมมีมติเห็นชอบใหเจาพระยา- ของพระองค และนําพวงมาลาไปสักการะ
Explain
๒๔๑๑
มีพระชนมพรรษา ๒๐ พรรษา
อธิบายความรู
เสนสัญลักษณ
ขอมูลทั่วไป
การปฏิรูปในช่
ในชวงส�
งมีาพเร็ระราชอํ
จราชการแผ่
านาจ นดิน
การปฏิรูปในช่
ในชวงมี
งสํพ จราชการแผ
าเร็ระราชอ� านาจ นดิน
Expand
ไปอยู
ขยายความเขาใจ
รัชกาลที่ 5
คูมือครู
อธิบายความรู
Evaluate
รัชกาลที่ 5 จึงไดรับการ
นักเรียนควรรู
69
พระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว
ตรวจสอบผล
• เพราะเหตุใดพระบาทสมเด็จ
เยี่ยมเยียนราษฎรถึงบานชอง
หรือพระราชกรณียกิจที่สําคัญของ
(แนวตอบ พระองคทรงเสด็จไป
กับราษฎรในชนบทหลายคน โดย
ดุจไปหามิตรและทรงรูจ กั คุน เคย
ประเทศตนใหมีสิทธิเหนือดินแดนที่
หนึ่งบังคับบุคคลที่เปนพลเมืองของ
พิเศษที่จะใชกฎหมายของประเทศ
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
70
70 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีกวีหลายทาน
ที่มีความสามารถในการประพันธ
“ขอจดหมายค�าสั่งตามความประสงค์ให้แก่ลูก บรรดาซึ่งจะให้ออกไปเรียนหนังสือ ใหนักเรียนจับคูกันยกตัวอยาง
ในประเทศยุโรป จงประพฤติตามโอวาทที่จะกล่าวต่อไปนี้...” งานประพันธ 1 ตัวอยาง ที่เปนเรื่อง
ในสมัยรัชกาลที่ 5 และมีลักษณะ
เมือ่ มีรบั สัง่ ให้ปฏิบตั ติ าม ทรงชีแ้ จงเหตุผลทีห่ นักแน่นและชัดเจนทีพ่ ระราชโอรสต้องทรงปฏิบตั ิ คําประพันธเปนรอยแกว
ตามค�าสั่งนั้น ดังข้อความ • งานประพันธที่ยกมานั้นเปนของ
ใคร และมีลักษณะเดนอะไรบาง
“...แต่เห็นว่าซึ่งจะเป็นยศเจ้าไปนั้นไม่เป็นประโยชน์อันใดแก่ตัวนัก ด้วยธรรมดา (แนวตอบ งานประพันธของ
เจ้านายฝ่ายเขามีนอ้ ย เจ้านายฝ่ายเรามีมาก ข้างฝ่ายเขามีนอ้ ยตัวก็ยกย่องท�านุบา� รุงกันใหญ่โต ก.ศ.ร. กุหลาบ ลักษณะเดน
ของงานสะทอนใหเห็นความคิด
มาก กว่าเรา ฝ่ายเราจะไปมียศเสมออยู่กับเขา แต่ความบริบูรณ์และยศศักดิ์ไม่เต็มที่เหมือน
ทางการเมืองวาการปกครองที่ดี
อย่างเขาก็จะเป็นทีน่ อ้ ยหน้าและเห็นเป็นเจ้านายเมืองไทยเลวไป และถ้าเป็นเจ้านายแล้ว ต้อง
นั้น คือการนําหลักคําสอนของ
รักษายศศักดิ์ในกิจการทั้งปวงที่จะท�าทุกอย่างเป็นเครื่องล่อตาล่อหูคนทั้งปวงที่จะให้พอใจดู พระพุทธศาสนามาเปนหลัก
พอใจฟัง จะท�าอันใดก็ต้องระวังตัวไปทุกอย่าง ที่สุดจนจะซื้อจ่ายอันใดก็แพง กว่าคนสามัญ ในการปกครองและการบริหาร
เพราะเขาถือว่ามั่งมี เป็นการเปลืองทรัพย์ในที่ไม่ควรจะเปลือง เพราะเหตุว่าถึงจะเป็นเจ้า ราชการทุกระดับ)
ก็ดีเป็นไพร่ก็ดี เมื่ออยู่ในประเทศมิใช่บ้านเมืองของตัว ก็ไม่มีอ�านาจที่จะท�าฤทธิ์เดชอันใด
ไปผิดกับคนสามัญได้...”
ขยายความเขาใจ
จากตัวอย่าง ทรงให้เหตุผลที่มีความน่าเชื่อถือและหนักแน่นแก่พระราชโอรส จึงท�าให้ผู้อ่าน จากเนื้อความพระบรมราโชวาทใน
เรื่องการใชจายที่วา “...แตพอเขาเปน
มีความเห็นชอบและยินดีที่จะปฏิบัติตาม
ขุนนางเขายังใชกันไดไมวาไรกัน ถา
ส่วนตอนใดที่เป็นค�าสอนทรงใช้วิธีโน้มน้าวให้ผู้ฟังค�าสอนเกิดความคล้อยตาม โดยทรงยกให้
คิดดังนั้นคาดดังนั้นเปนผิดแททีเดียว
เห็นทั้งข้อดีและข้อเสียของการเชื่อฟังหรือไม่เชื่อฟังในค�าสั่งสอน ดังข้อความ พอรักลูกจริงแตไมรักลูกอยางชนิด
นั้นเลย...” ใหนักเรียนชวยกันตอบ
“...ขอบอกเสียให้รู้แต่ต้นมือว่าถ้าผู้ใดไปเป็นหนี้มาจะไม่ยอมใช้หนี้ให้เลย หรือถ้า คําถามตอไปนี้
เป็นการจ�าเป็นจะต้องใช้ จะไม่ใช้เปล่าโดยไม่มีโทษแก่ตัวเลย พึงรู้เถิดว่าต้องใช้หนี้เมื่อใด • จากเนื้อความที่ยกมาในขางตน
ก็จะต้องรับโทษเมื่อนั้นพร้อมกัน อย่าเชื่อถ้อยค�าผู้ใด หรืออย่าหมายใจว่าโดยจะใช้สุรุ่ยสุร่าย หมายความวาอยางไร
ไปเหมือน อย่างเช่นคนเขาไปแต่ก่อนๆ แต่พ่อเขาเป็นขุนนางเขายังใช้กันได้ไม่ว่าไรกัน ถ้าคิด ( แนวตอบ เปนความรักลูกที่ผิด
ดังนั้นคาดดังนั้นเป็นผิดแท้ทีเดียว พ่อรักลูกจริง แต่ไม่รักลูกอย่างชนิดนั้นเลย เพราะรู้เป็น การตามใจลู ก เพราะเห็ น แก
แน่ว่าถ้าจะรักอย่างนั้นตามใจอย่างนั้น จะไม่เป็นการมีคุณอันใดแก่ตัวลูกผู้ได้รับความรัก ความสุขสบายของลูกนั้น ไมใช
นั้นเลย...” ความรักที่แทจริง การตามใจลูก
เรือ่ งการใชจา ยจะทําใหลกู มีนสิ ยั
ใชจายสิ้นเปลือง สุรุยสุราย เปน
71 เหตุใหในอนาคตลูกตองลําบาก
ขัดสน)
คูมือครู 71
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
@
มุม IT
ศึ ก ษาเพิ่ ม เติ ม เกี่ ย วกั บ พระบรม-
ราโชวาทรัชกาลที่ 5 เพิ่มเติม ไดที่
http://www.oknation.net/blog/
patijjachon/2008/07/27/entry-1
72 คูมือครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู
Engage Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Expand Evaluate
กระตุนความสนใจ
ครูชวนนักเรียนดูพระบรมราโชวาท
ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา-
๕ เนื้อเรื่อง เจาอยูหัว และใหนักเรียนแสดงความ
พระบรมราโชวาท คิดเห็น
ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว • พระบรมราโชวาทมีความสําคัญ
ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๘ อยางไร
• พระบรมราโชวาทพระราชทาน
ขอจดหมายค�าสั่งตามความประสงค์ให้แก่ลูก บรรดาซึ่งจะให้ออกไปเรียนหนังสือในประเทศ แกผูใดบาง
ยุโรป จงประพฤติตามโอวาทที่จะกล่าวต่อไปนี้
๑. การซึ่งจะให้ออกไปเรียนครั้งนี้ มีความประสงค์มุ่งหมายแต่จะให้ได้วิชาความรู้อย่างเดียว สํารวจคนหา
ไม่มั่นหมายจะให้เป็นเกียรติยศชื่อเสียงอย่างหนึ่งอย่างใดในชั้นซึ่งยังเป็นผู้เรียนวิชาอยู่นี้เลย เพราะ
ใหนักเรียนคนควาเนื้อเรื่อง
ฉะนัน้ ทีจ่ ะไปครัง้ นี้ อย่าให้ไว้ยศว่าเป็นเจ้า ให้ถอื เอาบรรดาศักดิเ์ สมอลูกผูม้ ตี ระกูลในกรุงสยาม คืออย่า พระบรมราโชวาทในรัชกาลที่ 5
ให้ใช้ฮสิ รอแยลไฮเนสปรินซ์น�าหน้าชือ่ ให้ใช้แต่ชอื่ เดิมของตัวเฉยๆ เมือ่ ผูอ้ นื่ เขาจะเติมหน้าชือ่ หรือจะ
เติมท้ายชือ่ ตามธรรมเนียมอังกฤษ เป็นมิสเตอร์หรือเอสไควร์กตามที ็ เถิด อย่าคัดค้านเขาเลย แต่ไม่ตอ้ ง
ใช้คา� ว่านายตามอย่างไทย ซึง่ เป็นค�าน�าของชือ่ ลูกขุนนางทีเ่ คยใช้แทนมิสเตอร์ เมือ่ เรียกชือ่ ไทยในภาษา อธิบายความรู
อังกฤษบ่อยๆ เพราะว่าเป็นภาษาไทยซึ่งจะท�าให้เป็นที่ฟังขัดๆ หูไป 1. ใหนักเรียนจัดกลุมอภิปราย
ขออธิบายความประสงค์ข้อนี้ให้ชัดว่า เหตุใดจึงได้ไม่ให้ไปเป็นยศเจ้าเหมือนอาของตัวที่เคย พระบรมราโชวาทในรัชกาลที่ 5
ไปแต่ก่อน ความประสงค์ข้อนี้ ใช่ว่าจะเกิดขึ้นเพราะไม่มีความเมตตากรุณา หรือจะปิดบังซ่อนเร้น ที่ศึกษาคนหามากลุมละ 1 ขอ
ไม่ให้รู้ว่าเป็นลูกอย่างนั้นเลย พ่อคงรับว่าเป็นลูก และมีความเมตตากรุณาตามธรรมดาที่บิดาจะกรุณา 2. สงตัวแทนนําเสนอหนาชั้นเรียน
ต่อบุตร แต่เห็นว่าซึ่งจะเป็นยศเจ้าไปนั้นไม่เป็นประโยชน์อันใดแก่ตัวนัก ด้วยธรรมดาเจ้านายฝ่ายเขา แลวบันทึกความรูลงสมุด
มีน้อย เจ้านายฝ่ายเรามีมาก ข้างฝ่ายเขามีน้อยตัวก็ยกย่องท�านุบ�ารุงกันใหญ่โตมาก กว่าเรา ฝ่ายเรา
จะไปมียศเสมออยู่กับเขา แต่ความบริบูรณ์และยศศักดิ์ไม่เต็มที่เหมือน อย่างเขาก็จะเป็นที่น้อยหน้า
และเห็นเป็นเจ้านายเมืองไทยเลวไป และถ้าเป็นเจ้านายแล้ว ต้องรักษายศศักดิใ์ นกิจการทัง้ ปวงทีจ่ ะท�า นักเรียนควรรู
ทุกอย่างเป็นเครื่องล่อตาล่อหูคนทั้งปวงที่จะให้พอใจดูพอใจฟัง จะท�าอันใดก็ต้องระวังตัวไปทุกอย่าง นอยหนา หมายถึง ไมเทียมหนา
ที่สุดจนจะซื้อจ่ายอันใดก็แพง กว่าคนสามัญ เพราะเขาถือว่ามั่งมี เป็นการเปลืองทรัพย์ในที่ไม่ควรจะ มีความภาคภูมิใจไมเทากับผูอื่น
เปลือง เพราะเหตุว่าถึงจะเป็นเจ้าก็ดีเป็นไพร่ก็ดี เมื่ออยู่ในประเทศมิใช่บ้านเมืองของตัว ก็ไม่มีอ�านาจ
ที่จะท�าฤทธิ์เดชอันใดไปผิดกับคนสามัญได้ จะมีประโยชน์อยู่นิดหนึ่งแต่เพียงเข้าที่ประชุมสูงๆ ได้ แต่
ถ้าเป็นลูกผู้มีตระกูลก็จะเข้าที่ประชุมสูงๆ ได้เท่ากันกับเป็นเจ้านั่นเอง เพราะฉะนั้นจึงขอห้ามเสียว่า
อย่าให้ไปอวดอ้างเอง หรืออย่าให้คนใช้สอยอวดอ้างว่าเป็นเจ้านายอันใด จงประพฤติให้ถูกตามค�าสั่งนี้
นักเรียนควรรู
๒. เงินค่าที่จะใช้สอยในการเล่าเรียนกินอยู่นุ่งห่มทั้งปวงนั้น จะใช้เงินพระคลังข้างที่คือเงิน เงินพระคลังขางที่ หมายถึง เงิน
ที่เป็นส่วนสิทธิ์ขาดแก่ตัวพ่อเอง ไม่ใช้เงินที่ส�าหรับจ่ายราชการแผ่นดิน เงินรายนี้ได้ฝากไว้ที่แบงก์ ซึ่ง แผนดินสวนที่ถวายพระมหากษัตริย
เพื่อทรงใชในพระราชกิจตางๆ
73
คูมือครู 73
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
74 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนศึกษาความรูเรื่อง
คําซอน พรอมยกตัวอยางประกอบ
ท�าราชการมีชื่อเสียงดี ก็อาศัยได้แต่สติปัญญาความรู้และความเพียรของตัว เพราะฉะนั้นจงอุตสาหะ จากเรื่อง แลวนําเสนอหนาชั้นเรียน
เล่าเรียนโดยความเพียรอย่างยิ่ง เพื่อจะได้มีโอกาสที่จะท�าการให้เป็นคุณแก่บ้านเมืองของตน และโลก (แนวตอบ คําซอนเปนคําประเภท
ที่ตัวได้มาเกิด ถ้าจะถือว่าเกิดมาเป็นเจ้านายแล้วนิ่งๆ อยู่จนตลอดชีวิตก็เป็นสบายดังนั้น จะไม่ผิด หนึ่ ง ที่ เ กิ ด จากการนํ า คํ า สองคํ า มา
อันใดกับสัตว์ดริ จั ฉานอย่างเลวนัก สัตว์ดริ จั ฉานมันเกิดมากินๆ นอนๆ แล้วก็ตาย แต่สตั ว์บางอย่างยังมี ซอนกัน เดิมมักใชคําที่มีความหมาย
หนังมีเขามีกระดูกเป็นประโยชน์ได้บา้ ง แต่ถา้ คนประพฤติอย่างเช่นสัตว์ดริ จั ฉานแล้ว จะไม่มปี ระโยชน์ เหมื อ นกั น หรื อ คล า ยกั น เช น บ า น
อันใดยิ่งกว่าสัตว์ดิรัจฉานบางพวกไปอีก เพราะฉะนั้นจงอุตสาหะที่จะเรียนวิชาเข้ามาเป็นก�าลังที่จะท�า เรื อ น ทรั พ ย สิ น เป น ต น ต อ มาจึ ง
ตัวให้ดกี ว่าสัตว์ดริ จั ฉานให้จงได้ จึงจะนับว่าเป็นการได้สนองคุณพ่อซึง่ ได้คดิ ท�านุบา� รุงเพือ่ จะให้ดตี งั้ แต่ นํ า คํ า ที่ มี ค วามหมายตรงข า มกั น
เกิดมา มาซ อ นกั น เช น หน า หลั ง ดํ า ขาว
ผิดชอบ ชั่วดี เปนตน คําซอนแบงออก
๔. อย่าได้ถือตัวว่า ตัวเป็นลูกเจ้าแผ่นดิน พ่อมีอ�านาจยิ่งใหญ่อยู่ในบ้านเมือง ถึงจะเกะกะไม่
เปน 2 ชนิด คือ คําซอนเพื่อความ
กลัวเกรงคุมเหงผู้ใด เขาก็คงจะมีความเกรงใจพ่อ ไม่ต่อสู้หรือไม่อาจฟ้องร้องว่ากล่าว การซึ่งเชื่อใจ
หมาย และคําซอนเพื่อเสียง คําซอน
ดังนั้นเป็นการผิดแท้ทีเดียว เพราะความปรารถนาของพ่อไม่อยากจะให้ลูกมีอ�านาจที่จะเกะกะ เพื่อเสียง เชน เกะกะ เปนตน คําซอน
อย่างนั้นเลย เพราะรู้เป็นแน่ว่าเมื่อรักลูกเกินไป ปล่อยให้ไม่กลัวใครและประพฤติการชั่วเช่นนั้น คงจะ เพื่อความหมาย เชน กลัวเกรง ยั่งยืน
เป็นโทษแก่ตัวลูกนั้นเองทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพราะฉะนั้นจงรู้เถิดว่าถ้าเมื่อได้ท�าความผิดเมื่อใด ยืดยาว เปนตน)
จะได้รับโทษโดยทันที การที่มีพ่อเป็นเจ้าแผ่นดินนั้นจะไม่เป็นการช่วยเหลืออุดหนุนแก้ไขอันใดได้เลย
อีกประการหนึ่ง ชีวิตสังขารของมนุษย์ไม่ยั่งยืนยืดยาวเหมือนเหล็กเหมือนศิลา ถึงโดยว่าจะมีพ่ออยู่
ในขณะหนึ่ง ก็คงจะมีเวลาที่ไม่มีได้ขณะหนึ่งเป็นแน่แท้ ถ้าประพฤติความชั่วเสียแต่ในเวลามีพ่ออยู่ ขยายความเขาใจ
แล้ว โดยจะปิดบังซ่อนเร้นอยู่ได้ด้วยอย่างหนึ่งอย่างใด เวลาไม่มีพ่อ ความชั่วนั้นคงจะปรากฏเป็นโทษ ใหนักเรียนนําคําซอนจากเรื่อง
ติดตัวเหมือนเงาตามหลังอยูไ่ ม่ขาด เพราะฉะนัน้ จงเป็นคนอ่อนน้อม ว่าง่ายสอนง่ายอย่าให้เป็นทิฐมิ านะ พระบรมราโชวาทมาสรางประโยค
ไปในทางที่ผิด จงประพฤติตัวหันมาทางที่ชอบที่ถูกอยู่เสมอเป็นนิจเถิด จงละเว้นเวลาที่ชั่วซึ่งรู้ได้เอง 3 ประโยค
แก่ตัวหรือมีผู้ตักเตือนแนะน�าให้รู้แล้ว อย่าให้ล่วงให้เป็นไปได้เลยเป็นอันขาด
๕. เงินทองที่จะใช้สอยในค่ากินอยู่ นุ่งห่มหรือใช้สอยเบ็ดเสร็จทั้งปวงจงเขม็ดแขม่ใช้แต่เพียง
พอที่อนุญาตให้ใช้ อย่าท�าใจโตมือโตสุรุ่ยสุร่ายโดยถือตัวว่าเป็นเจ้านายมั่งมีมาก หรือถือว่าพ่อเป็น เกร็ดแนะครู
เจ้าแผ่นดินมีเงินทองถมไป ขอบอกเสียให้รู้แต่ต้นมือว่าถ้าผู้ใดไปเป็นหนี้มาจะไม่ยอมใช้หนี้ให้เลย หรือ ครูเพิ่มเติมความรูเกี่ยวกับ
ถ้าเป็นการจ�าเป็นต้องใช้ จะไม่ใช้เปล่าโดยไม่มีโทษแก่ตัวเลย พึงรู้เถิดว่าต้องใช้หนี้เมื่อใด ก็จะต้อง คําประสมอื่นๆ ที่ขึ้นตนดวยคําวา
รับโทษเมือ่ นัน้ พร้อมกัน อย่าเชือ่ ถ้อยค�าผูใ้ ด หรืออย่าหมายใจว่าโดยจะใช้สรุ ยุ่ สุรา่ ยไปเหมือนอย่างเช่น “ตน” เชน ตนขั้ว ตนคิด ตนฉบับ
คนเขาไปแต่ก่อนๆ แต่พ่อเขาเป็นขุนนางเขายังใช้กันได้ไม่ว่าไรกัน ถ้าคิดดังนั้นคาดดังนั้นเป็นผิดแท้ ตนตอ ตนทาง ตนแบบ ตนทุน ตนนํ้า
ทีเดียว พ่อรักลูกจริง แต่ไม่รักลูกอย่างชนิดนั้นเลย เพราะรู้เป็นแน่ว่าถ้าจะรักอย่างนั้นตามใจอย่างนั้น ตนเสียง ตนหอง ตนเรื่อง เปนตน
จะไม่เป็นการมีคุณอันใดแก่ตัวลูกผู้ได้รับความรักนั้นเลย เพราะจะเป็นผู้ไม่ได้วิชาที่ปรารถนาจะให้ได้
จะไปได้แต่วชิ าทีจ่ ะท�าให้เสียชือ่ เสียงและได้ความร้อนใจอยูเ่ ป็นนิจ จงนึกไว้ให้เสมอว่าเงินทองทีแ่ ลเห็น
75
นักเรียนควรรู
ตนมือ หมายถึง ตั้งแตแรก เริ่มแรก
ตนมือ เปนการสรางคําโดยวิธีประสม
คํา นอกจากนีย้ งั มีคาํ ประสมอีกหลาย
คําที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตน”
คูมือครู 75
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
76
76 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
นั ก เรี ย นร ว มกั น อธิ บ ายจากเนื้ อ
ความที่ ว า “...ขอบั ง คั บ ว า ให เ ขี ย น
ต้องเรียนให้รใู้ ห้ได้จริงๆ เป็นชัน้ ต้น แต่วชิ าอืน่ ๆ ทีจ่ ะเรียนต่อไป ให้เป็นวิชาช�านาญวิเศษในกิจการข้าง หนังสือถึงพอทุกคนอยางนอยเดือน
วิชานัน้ จะตัดสินเป็นแน่นอนว่าให้เรียนสิง่ ใดในเวลานีก้ ย็ งั ไม่ควร จะต้องไว้เป็นค�าสัง่ ต่อภายหลัง เมือ่ รู้ ละฉบับ...ใหเขียนภาษาอืน่ นัน้ มาฉบับ
วิชาชั้นต้นพอสมควรแล้ว แต่บัดนี้จะขอตักเตือนอย่างหนึ่งก่อนว่า ซึ่งให้ออกไปเรียนภาษาวิชาการใน หนึง่ ใหเขียนคําแปลเปนภาษาไทยอีก
ประเทศยุโรปนัน้ ใช่วา่ จะต้องการเอามาใช้แต่เฉพาะภาษาฝรัง่ หรืออย่างฝรัง่ นัน้ อย่างเดียว ภาษาไทยและ ฉบับหนึ่งติดกันอยาใหขาด”
หนังสือไทยซึง่ เป็นภาษาของตัวหนังสือของตัว คงจะต้องใช้อยูเ่ ป็นนิจ จงเข้าใจว่าภาษาต่างประเทศนัน้ • เพราะเหตุใด ร.5 จึงทรงสั่งสอน
เป็นแต่พนื้ ของความรู้ เพราะวิชาความรูใ้ นหนังสือไทยทีม่ ผี แู้ ต่งไว้นนั้ เป็นแต่ของเก่าๆ มีนอ้ ย เพราะมิได้ พระเจาลูกยาเธอดังขอความที่
สมาคมกับชาติอื่นช้านานเหมือนวิชาการในประเทศยุโรปที่ได้สอบสวนซึ่งกันและกันจนเจริญรุ่งเรือง ยกมา
มากแล้วนั้น ฝ่ายหนังสือไทยจึงไม่พอที่จะเล่าเรียน จึงต้องไปเรียนภาษาอื่นเพื่อจะได้เรียนวิชาให้ (แนวตอบ เพราะพระองคมี
พระประสงคใหเรียนวิชาอื่นให
กว้างขวางออก แล้วจะเอากลับลงมาใช้เป็นภาษาไทยทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นจะทิ้งภาษาของตัวให้ลืม
กวางขวางแลวสามารถแปลมา
ถ้อยค�าที่จะพูดให้สมควรเสีย หรือจะลืมวิธีเขียนหนังสือไทยที่ตัวได้ฝกหัดแล้วเสียนั้นไม่ได้เลย ถ้ารู้แต่
ใชเปนภาษาไทย ใหเปนแหลง
ภาษาต่างประเทศ ไม่รเู้ ขียนอ่านแปลลงเป็นภาษาไทยได้กไ็ ม่เป็นประโยชน์อนั ใด ถ้าอย่างนัน้ หาจ้างแต่ ศึกษาความรู ดวยวิชาการของ
ฝรั่งมาใช้เท่าไรๆ ก็ได้ ที่ต้องการนั้นต้องให้กลับแปลภาษาต่างประเทศลงเป็นภาษาไทยได้ แปลภาษา ไทยเรายังไมพอสําหรับเลาเรียน)
ไทย ออกเป็นภาษาต่างประเทศได้จึงจะนับว่าเป็นประโยชน์ อย่าตื่นตัวเองว่าได้ไปร�่าเรียนภาษาฝรั่ง
แล้วลืมภาษาไทย กลับเห็นเป็นการเกการกี๋ อย่างเช่นนักเรียนบางคนมักจะเห็นผิดไปดังนั้น แต่ที่จริง
เป็นการเสียที่ควรจะติเตียนแท้ทีเดียว เพราะเหตุฉะนั้นในเวลาที่ออกไปเรียนวิชาอยู่ ขอบังคับว่าให้ ขยายความเขาใจ
เขียนหนังสือถึงพ่อทุกคน อย่างน้อยเดือนละฉบับ เมื่อเวลายังเขียนหนังสืออังกฤษไม่ได้ ก็ให้เขียนมา นักเรียนแสดงความคิดเห็น
เป็นหนังสือไทย ถ้าเขียนหนังสืออังกฤษหรือภาษา • เมื่อนักเรียนอานพระบรมราโชวาท
หนึ่งภาษาใดได้ ให้เขียนภาษาอื่นนั้นมาฉบับหนึ่ง ขอ 6 แลว นักเรียนมีวิธีการ
ให้เขียนค�าแปลเป็นภาษาไทยอีกฉบับหนึ่ง ติดกัน อนุรักษภาษาไทยอยางไร
(แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย เชน
มาอย่าให้ขาด เพราะเหตุทลี่ กู ยังเป็นเด็กไม่ได้เรียน
การใชภาษาไทยใหถกู หลัก การพูด
ภาษาไทยแน่นอนมัน่ คง ก็ให้อาศัยไต่ถามครูไทยที่
ใหเหมาะสมกับโอกาส เปนตน)
ออกไปอยูด่ ว้ ยหรือค้นดูตามหนังสือภาษาไทยซึง่ ได้
จัดออกไปให้ด้วย คงจะพอหาถ้อยค�าที่จะใช้แปล
ออกเป็นภาษาไทยได้ แต่หนังสือไทยทีจ่ ะเป็นก�าลัง
ช่วยอย่างนี้ยังมีน้อยจริง เมื่อเขียนเข้ามาค�าใด นักเรียนควรรู
ผิด จะติเตียนออกไปแล้วจงจ�าไว้ใช้ให้ถูกต่อไป เปนการเกการกี๋ หมายถึง เปนเรื่อง
ภายหน้า อย่าให้มีความกลัวความกระดากว่าจะ โกทันสมัย
ผิด ให้ท�าตามที่เต็มความอุตสาหะความแน่ใจว่า
กรมหมืน่ เทวะวงศ์วโรปการ ผูท้ า� หน้าทีเ่ ป็นธุระจัดการดูแล เป็นถูกแล้ว เมื่อผิดก็แก้ไปไม่เสียหายอันใด
การศึกษาในต่างประเทศของพระราชโอรสในรัชกาลที่ ๕
77
คูมือครู 77
สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ Explore Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Evaluate
78 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนรวมกันแสดงความ
คิดเห็นเกี่ยวกับการใชคําทับศัพท
ค�าศัพท์ ความหมาย
• เหตุใดจึงปรากฏการใชคํายืม
เบี้ยหวัด เงินที่มีก�าหนดจ่ายเป็นรายปีให้แก่พระบรมวงศานุวงศ์หรือข้าราชบริพาร จาก ภาษาอังกฤษในพระบรม-
เงิ น งบประมาณรายจ่ า ยหมวดเงิ น อุ ด หนุ น ของส� า นั ก พระราชวั ง ในที่ นี้ ราโชวาท และหากปรากฏการใช
หมายถึง เงินที่พระราชทานเป็นงวดให้แก่เจ้านายหรือผู้ที่รับราชการสนอง
จะสงผลตอภาษาไทยอยางไรบาง
พระเดชพระคุณ
(แนวตอบ เพราะไทยติดตอกับ
แบงก์ มาจากค�าว่า Bank หมายถึงธนาคาร
ชาติตะวันตก และไทยไดรับ
ปฏิญาณ ให้ค�ามั่นสัญญา โดยมากมักเป็นไปตามแบบพิธี อิทธิพลมาหลายดาน โดยเฉพาะ
ปอนด์ ชื่อหน่วยเงินตราของอังกฤษเท่ากับ ๑๐๐ เพนซ์ หรือเรียกว่า ปอนด์สเตอร์ลิง ด า นการศึ ก ษา ความรู ซึ่ ง เป น
เป็นธุระ ถือเป็นเรื่องที่ตนควรท�าให้ วิทยาการใหมๆ ทีน่ าํ มาใชพฒ ั นา
ประเทศ ดังนั้นจึงปรากฏ
พระคลังข้างที่ ส่วนราชการซึ่งมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และพระบรมวง-
ศานุวงศ์ตามที่ได้รับมอบหมาย
คําภาษาอังกฤษ ซึ่งสงผลใหเกิด
การเปลี่ยนแปลงภาษาภายนอก
ฟุ้งซ่าน ในที่นี้หมายความว่า มากเกินไป ในความว่า “อย่าท�าอวดมั่งอวดมีท�า
คื อ อิ ท ธิ พ ลจากต า งประเทศ
เทียบเทียมเขาให้ฟุ้งซ่าน”
ทํ า ให คํ า ที่ ใ ช ใ นภาษาไทยเพิ่ ม
มลทิน ความมัวหมอง ความด่างพร้อย ความไม่บริสุทธิ์ ขึ้ น และต อ มาจึ ง ได พ ยายาม
มิสเตอร์ มาจากค�าว่า Mister ใช้เป็นค�าน�าหน้าบุรุษ บัญญัติคําภาษาอังกฤษนี้ใหเปน
รับปฏิญาณ รับปาก คําภาษาไทย หรือใชทับศัพท)
ราชทูต ผู้น�าพระราชสาส์นไปประเทศอื่น ผู้แทนชาติในประเทศอื่น ต�าแหน่งผู้แทนรัฐ
ถัดจากอัครราชทูต
ขยายความเขาใจ
เลือกฟั้น เลือกเฟ้น หมายความว่า คัดเอาแต่ที่ดี
1. ครูใหนักเรียนรวบรวมคําศัพท
วิชาหนังสือ วิชาด้านภาษา
จากเรื่องเพิ่มเติม แลวอธิบาย
สังขาร ร่างกาย ตัวตน สิ่งที่ประกอบขึ้นเป็นร่างกาย ความหมาย บันทึกความรูลงสมุด
สุรุ่ยสุร่าย จับจ่ายโดยไม่ค�านึงถึงความสิ้นเปลือง 2. ครูนําคําศัพทที่นักเรียนรวบรวมมา
อาของเจ้า กรมหมื่นเทวะวงศ์วโรปการ (พระอนุชาในรัชกาลที่ ๕) ทําสลากใหนกั เรียนจับ เมือ่ นักเรียน
เอสไควร์ มาจากค�าว่า Esquire เป็นค�าใช้เขียนหลังชื่อผู้ชายอังกฤษ แสดงว่าเป็นผู้มี
จับไดคําใดแลวใหนักเรียนแตง
อันจะกินหรือผู้อยู่ในตระกูลคหบดี ประโยคจากคําศัพท พรอมอธิบาย
ความหมาย
ฮิสรอแยลไฮเนสปรินซ์ มาจาก His Royal Highness Prince เป็นค�าน�าหน้าเจ้านายในพระราชวงศ์
อังกฤษ คือพระราชโอรสและพระราชนัดดา (ถ้าเป็นพระราชธิดาใช้ Her Royal
Highness Princess) และยังใช้น�าหน้าพระนามพระราชโอรสองค์ใหญ่ของ
รัชทายาท
เกร็ดแนะครู
79 ครูแนะนักเรียนทํากิจกรรม โดยให
นักเรียนยกตัวอยางคําทับศัพทที่เปน
คํ า วิ ช าการแขนงต า งๆ เช น แขนง
ดาราศาสตร ไดแกคําวา กาแล็กซี่
เนปจูน แขนงชีววิทยา ไดแกคําวา
เซลล โครโมโซม เปนตน
คูมือครู 79
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
80 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนกั เรียนรวมกันอภิปรายขอดีของ
การใชภาษาแสดงความเปนเหตุเปน
๗.๒ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ผลชัดเจน ในเรื่องพระบรมราโชวาท
พระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือวรรณกรรมค�าสอนที่ (แนวตอบ ทําใหผูอานเขาใจเนื้อหา
สามารถอ่านเพือ่ รับรูส้ ารได้โดยง่าย เนือ่ งด้วยพระองค์ทรงใช้ภาษาทีเ่ ข้าใจ งา่ ยเพือ่ การถ่ายทอดความคิด ไดเปนอยางดี และลําดับความคิด
และความรู้สึกของพ่อที่มีต่อลูก ต้องการให้ลูกเชื่อฟังและปฏิบัติตามค�าสอน คุณค่าด้านวรรณศิลป์ใน ตามเรื่องราวได ทําใหการสั่งสอน
พระบรมราโชวาทปรากฏ ดังนี้ เรื่องสําคัญตางๆ เปนเรื่องเขาใจงาย
และจําไปปฏิบัติไดจริงๆ)
๑) การใช้ถ้อยค�าที่แตกต่างจากปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นลักษณะการใช้ภาษาใน
สมัยนั้น เช่น
ขยายความเขาใจ
การเก๋การกี๋ ปัจจุบันใช้ โก้เก๋ (มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า โกแก็ต)
1. ครูใหนักเรียนเขียนความเรียงเรื่อง
เขม็ดแขม่ ปัจจุบันใช้ กระเหม็ดกระแหม่
ที่นาสนใจคนละ 10 บรรทัด โดยใช
ใจโตมือโต ปัจจุบันใช้ หน้าใหญ่ใจโต
ภาษาแสดงความเปนเหตุเปนผล
ว่าง่ายสอนง่าย ปัจจุบันใช้ ว่านอนสอนง่าย การลําดับเรื่องราวเขาใจงาย
2. ครูสุมใหนักเรียน 3 คน มานําเสนอ
๒) การใช้คา� ซ้อน พระบรมราโชวาทในรัชกาลที ่ ๕ ได้ปรากฏการใช้คา� ซ้อนในลักษณะ หนาชั้นเรียน
ต่างๆ ที่สะท้อนการพูดสื่อสารของคนสมัยนั้นที่นิยมใช้ค�าคล้องจองในการสนทนา เช่น ค�าซ้อนที่เกิด
จากการน�าค�าที่มีความหมายเหมือนกันมาซ้อนเข้าคู่กัน ท�าให้ความหมายเด่นชัดยิ่งขึ้น
ทรัพย์สินเงินทอง ปิดบังซ่อนเร้น ฟ้องร้องว่ากล่าว
ฤทธิ์เดช บ้านเรือน
๓) การใช้ภาษาแสดงความเป็นเหตุเป็นผลชัดเจน พระบรมราโชวาทเป็นพระราช-
นิพนธ์ที่ใช้ภาษาและลีลาการเขียนที่ท�าให้ผู้อ่านเข้าใจในความรู้ ความคิดเรื่องต่างๆ ได้กระจ่างแจ้ง
เหมาะส�าหรับผู้ที่อยู่ในวัยเรียนจะปฏิบัติตาม
“...ขออธิบายความประสงค์ข้อนี้ให้ชัดว่า เหตุใดจึงได้ไม่ให้ไปเป็นยศเจ้าเหมือนอา
ของตัวที่เคยไปแต่ก่อน ความประสงค์ข้อนี้ ใช่ว่าจะเกิดขึ้นเพราะไม่มีความเมตตากรุณา...
ด้วยธรรมดาเจ้านายฝ่ายเขามีน้อย เจ้านายฝ่ายเรามีมาก ข้างฝ่ายเขามีน้อยตัวก็ยกย่อง
ท�านุบา� รุงกันใหญ่โตมากกว่าเรา...”
81
คูมือครู 81
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
“...จงอุตสาหะพากเพียรเรียนวิชาให้รู้มา ได้ช่วยก�าลังพ่อเป็นที่ชื่นชมยินดีสมกับที่มี
ขยายความเขาใจ
ความรักนั้นเถิด”
นักเรียนวิเคราะหวิจารณเปรียบ-
เทียบการเขียนจดหมายกับการสือ่ สาร จากข้อความดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีความรักและ
ชองทางอืน่ เชน โทรศัพท อินเทอรเน็ต เมตตาพระราชโอรสในพระองค์เป็นอย่างมาก ทรงสอนให้ลูกรู้ว่าความรักของพระองค์คือการ “ให้”
เปนตน วามีขอดีขอเสียดานการใช ลูกทุกคนมีความรู้และมีความประพฤติที่ดีงาม
ภาษาแตกตางกันอยางไร
(แนวตอบ ปจจุบันการใชโทรศัพท “...ซึง่ จะได้มคี �าสัง่ ให้ราชทูตจ่ายเป็นเงินส�าหรับเรียนวิชาชัน้ ต้น ๕ ปี ปีละ ๓๒๐ ปอนด์
และอินเทอรเน็ตทําใหการติดตอกัน เงิน ๑,๖๐๐ ปอนด์ ส�าหรับเรียนวิชาชัน้ หลังอีก ๕ ปี ปีละ ๔๐๐ ปอนด์ เงิน ๒,๐๐๐ ปอนด์
เปนไปอยางรวดเร็วทันใจ สามารถ รวมเป็นคนละ ๓,๖๐๐ ปอนด์ จะได้รู้วิชาเสร็จสิ้นอย่างช้าใน ๑๐ ปี แต่เงินนี้ฝากไว้ในแบงก์
โตตอบกันไดทันที ภาษาที่ใชมักพบ
คงจะมี ดอกเบี้ยมากขึ้น เหลือการเล่าเรียนแล้วจะได้ใช้ประโยชน์ของตัวเองตามชอบใจ
คําสแลง เพราะความเรงดวน สะดวก
เป็นส่วนยกให้...”
ปากสะดวกคํ า ในขณะที่ ก ารเขี ย น
จดหมายแมจะติดตอสือ่ สารไดชา กวา
จากข้อความนี ้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ทรงมีความรักในพระราชโอรส
แตมีคุณคาทางภาษามากกวา กลาว
คื อ ภาษาที่ ใ ช ใ นจดหมายผ า นการ โดยทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สนับสนุนการศึกษา นอกจากจะพระราชทานเงินส�าหรับ
กลั่นกรองเลือกสรรคํา จึงมีทั้งคุณคา ค่าเล่าเรียนโดยฝากไว้ให้ทธี่ นาคารเพือ่ ความมัน่ คงและได้รบั ดอกเบีย้ แล้ว ยังทรงยกส่วนทีเ่ ป็นดอกเบีย้
ทางความคิดและจิตใจ) จากธนาคารให้แก่พระราชโอรสอีกด้วย จึงแสดงถึงความรอบคอบในการใช้จ่ายพระราชทรัพย์อย่าง
ระมัดระวัง และพระราชโอรสต้องใช้พระราชทรัพย์นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการศึกษาเล่าเรียน เพื่อ
กลับมาท�าประโยชน์แก่ประเทศชาติ
82
82 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นวา
• การใชภาษาในเรื่องพระบรม-
๕) การใช้ภาษาเพื่อสื่อความอย่างตรงไปตรงมา พระบรมราโชวาทในพระบาท- ราโชวาทมีลักษณะอยางไร
สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ทรงมีพระราชประสงค์เพือ่ ใช้เป็นเครือ่ งมือส�าหรับอบรมพระราชโอรส (แนวตอบ การใชภาษามีความ
ที่เสด็จไปทรงศึกษาต่างประเทศ แต่พระองค์มิได้ทรงใช้ค�าราชาศัพท์หรือศัพท์สูงที่ยากเกินไป ทรงใช้ เหมาะสม เพราะพระบรมราโชวาท
ถ้อยค�าและภาษาที่ธรรมดา สื่อความอย่างตรงไปตรงมาเหมือนบิดาสนทนากับบุตร ดังข้อความ เปนการใหโอวาททีผ่ อู า นประชาชน
ทุกระดับชั้นสามารถนําไปปฏิบัติ
“...การซึ่งใช้เงินพระคลังข้างที่ไม่ใช้เงินแผ่นดินอย่างเช่นเคยจ่ายให้เจ้านายและบุตร ใชได แมจุดประสงคของพระบรม-
ข้าราชการไปเล่าเรียนแต่ก่อนนั้น เพราะเห็นว่าพ่อมีลูกมากด้วยกัน การซึ่งให้มีโอกาสและให้ ราโชวาทนีม้ ไี วสาํ หรับพระราชโอรส
ทุนทรัพย์ซึ่งจะได้เล่าเรียนวิชานี้ เป็นทรัพย์มรดกอันประเสริฐดีกว่าทรัพย์สินเงินทองอื่นๆ แตเนื้อเรื่องมีประโยชนกับทุกคน
ด้วยเป็นของติดตัวอยู่ได้ ไม่มีอันตรายที่จะเสื่อมสูญ ลูกคนใดที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดก็ดี เพราะภาษาเขาใจงายตรงไป
หรือไม่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดก็ดี ก็จะต้องส่งไปเรียนวิชาทุกคนตลอดโอกาสที่จะเป็นไปได้ ตรงมา)
เหมือนหนึ่งได้แบ่งทรัพย์มรดกให้แก่ลูกเสมอๆ กันทุกคน...”
ขยายความเขาใจ
จากข้อความข้างต้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้ภาษาเรียบง่าย
สื่อความอย่างตรงไปตรงมาว่าพระองค์มีพระราชโอรสมาก การสนับสนุนด้านการศึกษานับเป็นการ ใหนักเรียนเชื่อมโยงความคิด
ให้ทรัพย์มรดกแก่ลูก ไม่ว่าผู้นั้นจะเฉลียวฉลาดหรือไม่ก็ตาม พระองค์จะทรงให้การสนับสนุนให้โอกาส เกี่ยวกับการใชภาษาเพื่อสื่อความ
ทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน
อยางตรงไปตรงมา โดยยกตัวอยางที่
นักเรียนเคยพบในชีวิตประจําวัน
“...ส่วนเงินทีพ่ อ่ ได้หรือลูกได้เพราะพ่อนัน้ ก็เพราะอาศัยทีพ่ อ่ เป็นผูท้ า� นุบา� รุงรักษาบ้าน มาคนละ 1 ตัวอยาง
เมือง และราษฎรผูเ้ จ้าของทรัพย์นนั้ ก็เฉลีย่ เรีย่ ไรกันมาให้ เพือ่ จะให้เป็นก�าลังทีจ่ ะหาความสุข (แนวตอบ เชน การใชภาษาในการ
คุม้ กับค่าทีเ่ หน็ดเหนือ่ ย ทีต่ อ้ งรับการในต�าแหน่งอันสูงคือเป็นผูร้ กั ษาความสุขของเขาทัง้ ปวง อานขาว ซึ่งจะแตกตางจากการ
เลาขาว คือไปชี้นําความคิดของ
เงินนัน้ ไม่ควรจะน�ามาจ�าหน่ายในการทีไ่ ม่เป็นประโยชน์ไม่เป็นเรือ่ ง และเป็นการไม่มคี ณ ุ กลับ
ผูฟง ในขณะที่การอานขาวจะบอก
ให้โทษแก่ตัว ต้องใช้แต่ในการจ�าเป็นที่จะต้องใช้ ซึ่งจะเป็นการมีคุณประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น
รายละเอียดขอเท็จจริงอยางตรงไป
ในทางชอบธรรม...” ตรงมา)
จากข้อความดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ทรงใช้ถอ้ ยค�าอย่างถ่อม
พระองค์ว่า “พระราชทรัพย์” ของพระองค์นั้นได้มาจาก “ราษฎรผู้เป็นเจ้าของทรัพย์นั้นก็เฉลี่ยเรี่ยไร
กันมาให้” เพื่อตอบแทนที่พระองค์ทรงเป็น “ผู้รักษาความสุขของเขาทั้งปวง” ด้วยเหตุนี้จึงทรงสอน
พระราชโอรสว่า “เงินนั้นไม่ควรจะน�ามาจ�าหน่ายในการที่ไม่เป็นประโยชน์ไม่เป็นเรื่อง” แม้จะเป็นเงิน
ที่เป็นสิทธิ์ขาดของพระองค์แล้วก็ตาม
83
คูมือครู 83
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
84
84 คูมือครู
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
ขยายความเขาใจ
ใหนักเรียนอภิปรายวา การสง
พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 เสด็จไป
จากข้ อ ความดั ง กล่ า ว พระบาทสมเด็ จ พระจุ ล จอมเกล้ า เจ้ า อยู ่ หั ว ทรงใช้ ภ าษาที่ ทรงศึกษา ณ ตางประเทศ หรือการสง
เหมาะสมกับการสั่งสอนพระราชโอรสในเรื่องการท�าตนให้เป็นประโยชน์ โดยทรงกล่าวให้เห็นชัดเจน นักเรียนไทยไปศึกษาตางประเทศมี
ว่า สัตว์บางจ�าพวกเกิดมาแล้วตาย แต่ยังมีสัตว์บางจ�าพวกที่เมื่อตายไปแล้วยังทิ้งบางส่วนไว้เพื่อยัง ผลอยางไรตอการพัฒนาประเทศไทย
ประโยชน์ให้เกิดแก่มนุษย์ ตัวอย่างที่พระองค์ทรงชี้แจงให้เห็นเป็นสัจธรรมของชีวิต เมื่อได้อ่าน คานิยมและวัฒนธรรมไทยในยุคตอๆ
จะรู้สึกถูกกระตุ้นเตือนและหันกลับมาส�ารวจตนเองว่าได้เคยท�าประโยชน์ให้เกิดแล้วบ้างหรือยัง และ มา
ถ้ายังไม่ได้ท�าเช่นนั้น ตนเองจะไม่ต่างอะไรจากสัตว์เดรัจฉานบางจ�าพวกที่ตายแล้วไม่มีประโยชน์ ( แนวตอบ มี ค วามสํ า คั ญ ต อ การ
อันใดนับเป็นการใช้ภาษาเพื่อสั่งสอนได้กระชับ ชัดเจน ทรงใช้การเปรียบเทียบเพื่อให้เข้าใจสัจธรรม พัฒนาประเทศในหลายดาน ทั้งการ
ที่เป็นนามธรรมให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนได้ทันทีและตระหนักในค�าสอนยิ่งขึ้น สาธารณูปโภค การศึกษา การเมือง
การปกครอง และสงผลใหเกิดการรับ
๗.๓ คุณค่าด้านสังคมและสะท้อนวิถไี ทย
วัฒนธรรมตะวันตก เชน การเตนรํา
วรรณคดีและวรรณกรรมทุกเรื่องเมื่อเกิดขึ้นในสมัยใดย่อมมีส่วนในการสะท้อนสภาพสังคม ณ การเลิกกินหมาก การแตงกายตาม
ช่วงเวลานั้น พระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สะท้อนสภาพสังคมใน ตะวันตก เปนตน)
สมัยรัชกาลที่ ๕ ดังต่อไปนี้
๑) ระบบบริหารราชการแผ่นดินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชส�านัก ก�าหนด
ให้มี “เงินพระคลังข้างที่” ซึ่งเป็นเงินใช้สอยส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ดังข้อความ
นักเรียนควรรู
“...อีกประการหนึ่งเล่า ถึงว่าเงินพระคลังข้างที่นั้นเองก็เป็นส่วนหนึ่งในแผ่นดินเหมือน แตยงั มีสตั วบางจําพวกทีเ่ มือ่ ตายไป
กัน เว้นแต่เป็นส่วนทีย่ กให้แก่พอ่ ใช้สอยในการส่วนตัว มีทา� การกุศลและสงเคราะห์บตุ รภรรยา แลวยังทิ้งบางสวนไวเพื่อยังประโยชน
เป็นต้น...” ใหเกิดขึ้นแกมนุษย เปนแนวคําสอน
ที่ตรงกับคําประพันธในโคลงโลกนิติ
๒) ค่านิยมการส่งบุตรหลานไปศึกษาต่างประเทศ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นสมัยที่ ที่วา
ประเทศไทยตืน่ ตัวในการติดต่อกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกับยุโรปซึง่ มีความเจริญในทุกด้าน บรรดาผูม้ ี “โคควายวายชีพได เขาหนัง
ฐานะหรือขุนนางจึงนิยมส่งบุตรหลานไปเล่าเรียนยังต่างประเทศ เปนสิ่งเปนอันยัง อยูไซร
คนเด็ดดับสูญสัง- ขารราง
“...เพราะวิชาความรู้ในหนังสือไทยที่มีผู้แต่งไว้นั้นเป็นแต่ของเก่าๆ มีน้อย เพราะมิได้ เปนชื่อเปนเสียงได แตรายกับดี”
สมาคมกับชาติอื่นช้านานเหมือนวิชาการในประเทศยุโรปที่ได้สอบสวนซึ่งกันและกันจนเจริญ
รุ่งเรืองมากแล้วนั้น ฝ่ายหนังสือไทยจึงไม่พอที่จะเล่าเรียน จึงต้องไปเรียนภาษาอื่นเพื่อจะได้
เรียนวิชาให้กว้างขวางออก...”
คูมือครู 85
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
จากข้อความนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอบรมพระราชโอรส
ของพระองค์ให้ทรงวางพระองค์อย่างเหมาะสม ไม่อวดอ้างความเป็นเจ้า เพราะย่อมเป็นดาบสองคม
ถ้าผู้เป็นลูกวางตนเหมาะสมย่อมได้รับค�าชม แต่ถ้าวางตนไม่เหมาะสมย่อมเสื่อมเสียถึงวงศ์ตระกูล
86
86 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
1. ใหนักเรียนอภิปรายขอความที่วา
“...จะรับราชการในตําแหนงตํ่าๆ
๒) การรู้จักใช้จ่ายเงิน ใช้จ่ายเงินในเรื่องที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช้เงินเกินความจ�าเป็น ซึ่งเปนกระไดขั้นแรก คือเปนนาย
จนก่อให้เกิดหนี้สินสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น รองหุมแพรมหาดเล็กเปนตน ก็ไม
ไดเสียแลว...”
“...เงินนัน้ ไม่ควรจะน�ามาจ�าหน่ายในการทีไ่ ม่เป็นประโยชน์ไม่เป็นเรือ่ ง และเป็นการไม่มี
• ขอความนี้สะทอนใหเห็น
คุณกลับให้โทษแก่ตัว ต้องใช้แต่ในการจ�าเป็นที่จะต้องใช้ ซึ่งจะเป็นการมีคุณประโยชน์แก่ตน ทัศนคติของผูเขียนอยางไร
และผู้อื่นในทางชอบธรรม ซึ่งจะเอาไปกอบโกยใช้หนี้ให้แก่ลูกผู้ท�าความชั่วจนเสียทรัพย์ไป (แนวตอบ ครูแนะนํานักเรียนวา
นั้นสมควรอยู่หรือ เพราะฉะนั้นจึงต้องว่าไม่ยอมที่จะใช้หนี้ให้ โดยว่าจะต้องใช้ให้ก็จะต้อง การทํางานใดๆ ก็ตามตองเกิด
มีโทษเป็นประกัน มั่นใจว่าจะไม่ต้องใช้อีก เพราะจะเข็ดหลาบในโทษที่ท�านั้นจึงจะยอมใช้ การเรียนรูงานขั้นที่ตํ่าที่สุดกอน
ให้ได้ ใช้ให้เพราะจะไม่ให้ทรัพย์ผู้อื่นสูญเสียเท่านั้น ใช่จะใช้ให้โดยความรักใคร่อย่างบิดา เพื่อเปนการสรางความเขาใจ
ให้บุตรเมื่อมีความยินดีต่อความประพฤติของบุตรนั้นเลย เพราะฉะนั้นจงจ�าไว้ ตั้งใจอยู่ให้ หากเปนลูกเจาลูกนายก็ไมอาจ
เสมอว่าตัวเป็นคนจน มีเงินใช้เฉพาะแต่ที่จะรักษาความสุขของตัวพอสมควรเท่านั้น ไม่มั่งมี ทํางานตําแหนงตํ่า ซึ่งถือวา
เหมือนใครๆ อื่น...” เปนการสรางพื้นฐานได เมื่อไป
รับตําแหนงสูงก็อาจทํางานได
จากข้ อ ความสะท้ อ นให้ เ ห็ น ว่ า พระบาทสมเด็ จ พระจุ ล จอมเกล้ า เจ้ า อยู ่ หั ว ทรงตั้ ง ไมดีเทาที่ควรเพราะขาดพื้นฐาน
พระราชหฤทัยที่จะสั่งสอนให้พระราชโอรสของพระองค์ใช้จ่ายพระราชทรัพย์อย่างประหยัดและ นั่นเอง)
2. ใหนกั เรียนอภิปรายวา เพราะเหตุใด
รู้คุณค่า ให้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงตามก�าลังทรัพย์ของตนเอง ไม่ฟุ้งเฟ้อสุรุ่ยสุร่าย
รั ช กาลที่ 5 จึ ง ทรงมี พ ระบรม-
๓) การมีความมานะอุตสาหะตัง้ ใจให้ประสบความส�าเร็จในหน้าทีก่ ารงาน ควร ราโชวาทวา “...จงเขม็ดแขมใชแต
กระท�าด้วยความรูค้ วามสามารถของตนเอง ไม่อาศัยความช่วยเหลือจากผู้อื่น หรือใช้ยศถาบรรดาศักดิ์ เพียงพอที่อนุญาตใหใช อยาทําใจ
เพื่อให้ประสบความส�าเร็จในหน้าที่การงาน ดังข้อความ โตมือโตสุรยุ สุรา ย โดยถือตัววาเปน
เจามั่งมีมาก...”
“...จงรู้สึกตัวเป็นนิจเถิดว่า เกิดมาเป็นเจ้านายมียศบรรดาศักดิ์มากจริงอยู่ แต่ไม่ ( แนวตอบ ครู แ นะนํ า นั ก เรี ย นว า
เป็นการจ�าเป็นเลยที่ผู้ใดเป็นเจ้าแผ่นดินขึ้น จะต้องใช้ราชการอันเป็นช่องที่จะหาเกียรติยศ รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชประสงค
ชื่อเสียงและทรัพย์สมบัติ ถ้าจะว่าตามการซึ่งเป็นมาแต่ก่อน เจ้านายซึ่งจะหาช่องท�าราชการ ใหพระราชโอรสทรงรูจักประหยัด
ได้ยากกว่าลูกขุนนางเพราะเหตุทเี่ ป็นผูม้ วี าสนาบรรดาศักดิม์ าก จะรับราชการในต�าแหน่งต�า่ ๆ เห็นคาของเงินจนเปนนิสัย แมกลับ
ซึ่งเป็นกระไดขั้นแรก คือเป็นนายรองหุ้มแพรมหาดเล็ก เป็นต้น ก็ไม่ได้เสียแล้ว จะไปแต่งตั้ง มาบริหารราชการบานเมืองแลวก็
ให้วา่ การใหญ่โตสมแก่ยศศักดิ์ เมือ่ ไม่มวี ชิ าความรูแ้ ละสติปญ
ั ญาพอทีจ่ ะท�าการในต�าแหน่งนัน้ ตองใชจายเงินหลวงอยางรอบคอบ
ไปได้ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นเจ้านายจะเป็นผู้ได้ท�าราชการมีชื่อเสียงดี ก็อาศัยได้แต่สติ ไมสุรุยสุรายเชนกัน)
ปัญญาความรูแ้ ละความเพียรของตัว เพราะฉะนัน้ จงอุตสาหะเล่าเรียนโดยความเพียรอย่างยิง่
เพื่อจะได้มีโอกาสที่จะท�าการให้เป็นคุณแก่บ้านเมืองของตน และโลกที่ตัวได้มาเกิด...” ขยายความเขาใจ
ใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นวา
87 • การรับราชการหรือการทํางาน
ในตําแหนงหนาที่ตางๆ ในอดีต
สะทอนใหเห็นคานิยมหรือ
วัฒนธรรมใด
(แนวตอบ การทํางานตางๆ หรือการรับราชการมักมาจาก
การฝากเขาทํางาน หรือการใชเสนสาย สะทอนใหเห็น
คานิยมเรื่องระบบอุปถัมภ การชวยเหลือพวกพองของ
ตนเองมากกวาการพิจารณาความรูความสามารถ)
คูมือครู 87
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
88
88 คูมือครู
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
ขยายความเขาใจ
ใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นวา
• การเรียนภาษาตางประเทศและ
๖) ให้รู้จักอ่อนน้อมต่อบุคคลทั่วไป และไม่ประพฤติชั่ว เมื่อมีผู้ตักเตือนให้หยุดคิด ตองใชภาษาไทยควบคูกันให
ทบทวน ไม่หลงทะนงตนว่าเก่งหรือมีอ�านาจ ถูกตองดังที่ปรากฏในพระบรม-
ราโชวาท มีความสําคัญตอการ
“...เพราะฉะนั
...เพราะฉะนั้นจงเป็นคนอ่อนน้อม ว่าง่ายสอนง่ายอย่าให้เป็นทิฐิมานะไปในทางที่ผิด ศึกษาและการพัฒนาวิทยาการ
จงประพฤติตัวหันมาทางที่ชอบที่ถูกอยู่เสมอเป็นนิจเถิด จงละเว้นเวลาที่ชั่วซึ่งรู้ได้เองแก่ตัว ในประเทศไทยอยางไร
หรือมีผู้ตักเตือนแนะน�าให้รู้แล้ว อย่าให้ล่วงให้เป็นไปได้เลยเป็นอันขาด...” (แนวตอบ ในอดีตวิทยาการตางๆ ใน
กลุม ประเทศตะวันตกมีความเจริญ
จากข้อความนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานข้อคิด ซึ่ง กาวหนามาก ตําราความรูต า งๆ จึง
สามารถน�ามาปรับใช้กับชีวิตประจ�าวันได้ เพราะสังคมไทยเป็นสังคมระบบอาวุโส ผู้น้อยต้องให้ความ เปนภาษาของประเทศทางตะวันตก
เคารพเชื่อฟังและมีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ ถ้านักเรียนสามารถปฏิบัติตามข้อคิดดังกล่าวได้ ย่อม อยู่ใน การทีพ่ ระราชโอรสมีความรอบรูท งั้
สังคมได้อย่างมีความสุข ภาษาตะวันตกและภาษาไทยอยาง
ดีแลว เมื่อเสด็จกลับมาพัฒนาบาน
๗) ให้เห็นความส�าคัญของการเรียนภาษา ต้องรู้ภาษาต่างประเทศอย่างน้อย เมื อ งก็ จ ะทรงถ า ยทอดความรู ที่
สามภาษา โดยที่ไม่ทอดทิ้งหรือละเลยภาษาไทย พระองค์ทรงตระหนักว่าการรู้ภาษาของตะวันตก พระองค ท รงศึ ก ษาแก ค นไทยให
จะเป็นประโยชน์ คือช่วยในการศึกษาวิทยาการและน�ามาใช้ในการพัฒนาประเทศ แต่พระองค์ทรง เขาใจไดโดยงาย ไมเกิดการเขาใจ
ก�าชับให้ใช้ภาษาไทย อยู่เสมอไม่ลืมหรือเห็นความส�าคัญของภาษาอื่นมาก กว่าภาษาไทย ดังข้อความ ผิด รวมทั้งทําใหพระราชโอรสทรง
ไมลมื ภาษาไทยซึง่ เปนภาษาแมของ
“...ภาษาไทยและหนังสือไทยซึง่ เป็นภาษาของตัวหนังสือของตัว คงจะต้องใช้อยูเ่ ป็นนิจ พระองคดวย)
จงเข้าใจว่าภาษาต่างประเทศนั้นเป็นแต่พื้นของความรู้ เพราะวิชาความรู้ในหนังสือไทยที่มี
ผู้แต่งไว้นั้นเป็นแต่ของเก่าๆ มีน้อย เพราะมิได้สมาคมกับชาติอื่นช้านานเหมือนวิชาการใน
ประเทศยุโรปทีไ่ ด้สอบสวนซึง่ กันและกันจนเจริญรุง่ เรืองมากแล้วนัน้ ฝ่ายหนังสือไทยจึงไม่พอ
ทีจ่ ะเล่าเรียน จึงต้องไปเรียนภาษาอืน่ เพือ่ จะได้เรียนวิชาให้กว้างขวางออก แล้วจะเอากลับลง
มาใช้เป็นภาษาไทยทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นจะทิ้งภาษาของตัวให้ลืมถ้อยค�าที่จะพูดให้สมควรเสีย
หรือจะลืมวิธีเขียนหนังสือไทยที่ตัวได้ฝึกหัดแล้วเสียนั้นไม่ได้เลย ถ้ารู้แต่ภาษาต่างประเทศ
ไม่รู้เขียนอ่านแปลลงเป็นภาษาไทยได้ก็ไม่เป็นประโยชน์อันใด...”
จากข้อความจะเห็นได้ว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึง
ความส�าคัญของการศึกษาภาษาของตะวันตกและภาษาไทย คือรู้ภาษาตะวันตกเพื่อศึกษาศิลปวิทยา
มาพัฒนาประเทศ และติดต่อกับต่างชาติได้ในอนาคต รวมทั้งต้องรู้ภาษาไทยเพื่อจะสามารถน�าความรู้
ที่ได้ศึกษาจากตะวันตกมาถ่ายทอดให้ข้าราชการไทยได้อย่างเข้าใจตรงกัน เพื่อพัฒนาประเทศจาก
วิทยาการที่พระราชโอรสทรงเรียนรู้
89
คูมือครู 89
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand Evaluate
Engage Explore Explain
90 คูมือครู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
เกร็ดแนะครู
(แนวตอบ คําถามประจําหนวย
การเรียนรู
ค�ำถำม ประจ�ำหน่วยกำรเรียนรู้ 1. การนําขอคิดที่ไดรับจากพระบรม-
ราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระ-
๑. นกั เรียนจะน�าข้อคิดทีไ่ ด้รบั จากพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ไปปรับ จุลจอมเกลาเจาอยูหัวไปปรับใชใน
ใช้ในชีวิตประจ�าวันได้อย่างไรบ้าง จงอธิบายมา ๓ ข้อ วิถีชีวิตไดดังนี้
๒. อ่านบทประพันธ์ “มรดกล�้าค่า” แล้วแสดงความคิดเห็นว่านักเรียนเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร • การรูจักใชจายเงินใหคุมคา รูจัก
“มรดกล�้ำค่ำ” ประหยัดใชในสิ่งที่จําเปนเทานั้น
คือให้วิชา ติดกายาไป สร้างปัญญาสร้างตน ไมฟุมเฟอย นําเงินไปใชเฉพาะ
โจรปล้นไม่ได้ เครื่องมือยิ่งใหญ่ สร้างชาติให้พัฒนา ที่เกิดประโยชนทั้งดานการเรียน
๓. คา่ นิยมใดในพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ทีย่ งั ปรากฏให้เห็นในสังคม และสุขภาพเทานั้น
ปัจจุบัน ยกตัวอย่างประกอบ ๓ ข้อ
• การเป น คนอ อ นน อ มต อ บุ ค คล
๔. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสั่งสอนพระราชโอรสให้บ�าเพ็ญประโยชน์ต่อบ้านเมือง
ทัว่ ไป ผูท มี่ คี วามออนนอมจะเปน
อย่างไร เรียบเรียงเป็นถ้อยค�าส�านวนของนักเรียน
๕. นกั เรียนคิดว่าการรูจ้ กั ตอบแทนซึง่ เป็นวิถใี นสังคมไทยยังมีความจ�าเป็นในสังคมปัจจุบนั หรือไม่ อย่างไร
ที่รักของผูพบเห็น
• ใหความสําคัญกับการเรียนภาษา
โดยเฉพาะการใชภาษาไทย
ตองใชใหถกู ตองเพราะเปนภาษา
ประจําชาติ
กิจกรรม สร้ำงสรรค์พัฒนำกำรเรียนรู้
2. เห็นดวยกับ “มรดกลํ้าคา” วาวิชา
ความรูมีความสําคัญ ทําใหเกิด
กิจกรรมที่ ๑ น ักเรียนศึกษาค้นคว้าลักษณะการศึกษาของประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕ ว่าเป็น
อย่างไร ปญญาและใชประกอบอาชีพ วิชา
กิจกรรมที่ ๒ นักเรียนศึกษาค้นคว้าพระราชกรณียกิจที่ส�าคัญในรัชกาลที่ ๕ ที่มีคุณูปการส่งผลต่อ ความรูติดตัวโจรปลนแยงไปไมได
ประชาชนชาวไทยและสังคมไทยในปัจจุบนั จากนัน้ จัดป้ายนิเทศภายในห้องเรียนหรือ เปนเครื่องมือที่ทําใหประเทศชาติ
ของโรงเรียน เจริญ
3. คานิยมในพระบรมราโชวาทใน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา
เจาอยูห วั ทีย่ งั ปรากฏในปจจุบนั
เชน ความเพียร ความอดทน
การใชภาษา
4. ทรงสั่งสอนใหพระราชโอรสตั้งใจ
ศึกษาหาความรูเพื่อที่จะนําความ
รูมาพัฒนาปรับปรุงบานเมืองให
เจริญกาวหนาทัดเทียมกับนานา
91 ประเทศ
5. ยังมีความจําเปนในสังคมไทย
ปจจุบนั เพราะสังคมไทยเปนสังคม
เกือ้ กูลกัน พึง่ พาอาศัยซึง่ กันและกัน
หลักฐาน การรูจักตอบแทนเปนวิถีที่จะทําให
แสดงผลการเรียนรู คนในสั ง คมไทยอยู ร ว มกั น อย า ง
ปกติสุข)
1. การจัดทําปายนิเทศพระราชประวัติที่เปน
พระปรีชาสามารถดานอักษรศาสตร
2. บันทึกสรุปใจความสําคัญของเรื่อง
3. การแตงคําขวัญจากขอคิดในเรื่อง คูมือครู 91
กระตุน ความสนใจ
Engage สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain Expand Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
เปาหมายการเรียนรู
• สรุปเนื้อหาเรื่องอิศรญาณภาษิต
• วิเคราะหวิถีไทยและคุณคาจาก
วรรณคดีเรื่องอิศรญาณภาษิต
• สรุปความรูและขอคิดนําไป
ประยุกตใชในชีวิตจริง
• ทองจําและบอกคุณคาบทอาขยาน
ตามที่กําหนด
กระตุนความสนใจ
1. ใหนักเรียนบอกสํานวนสุภาษิต
คําพังเพยจากภาพหนาหนวย (เชน
ฆ า ควายเสี ย ดายพริ ก นํ้ า พึ่ ง เรื อ
เสื อ พึ่ ง ป า เดิ น ตามรอยผู ใ หญ
หมาไมกัด วานรไดแกว อยาแหย
เสือหลับ)
2. ครูถามนักเรียนวา
ô
• สํานวนสุภาษิตและคําพังเพย
ที่ยกมามีความหมายอยางไร
• นักเรียนรูจักสํานวนสุภาษิต
และคําพังเพยอะไรอีกบาง หนวยที่
อิศรญำณภำษิต
ตัวชี้วัด
■ สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทองถิ่นในระดับที่ยากขึ้น
(ท ๕.๑ ม.๓/๑)
ว รรณคดีประเภทคําสอน คือ วรรณคดี
■ วิเคราะหวิถีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อาน
ที่ เ รี ย บเรี ย งแนวคิ ด ข อ ควรปฏิ บั ติ ห รื อ
(ท ๕.๑ ม.๓/๒) ขอคําสอน วัตถุประสงคเพือ่ สรางความสงบ
■ สรุปความรูและขอคิดจากการอานเพื่อนําไปประยุกตใชในชีวิตจริง เรียบรอยในสังคม รวมถึงสอนหลักธรรม
(ท ๕.๑ ม.๓/๓)
■ ทองจําและบอกคุณคาบทอาขยานตามที่กําหนด (ท ๕.๑ ม.๓/๔) อันควรปฏิบัติ ทั้งนี้ผูฟงหรือผูอานอาจตีความ
คํ า สอนแตกต า งกั น ตามพื้ น ฐานความรู แ ละ
สาระการเรียนรูแกนกลาง
ประสบการณ การอานวรรณคดีประเภทคําสอน
■ วรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทองถิ่นเกี่ยวกับศาสนา
ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิต คําสอน เหตุการณ จึงตองอานอยางพินจิ พิเคราะห ตีความ แปลความ
ในประวัติศาสตร บันเทิงคดี เพื่อนําขอคิดมาปรับใชในชีวิตประจําวัน
■ การวิเคราะหวิถีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรม
■ บทอาขยานและบทรอยกรองที่มีคุณคา
92 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Expand Evaluate
สํารวจคนหา
1. ใหนักเรียนชวยกันสืบคนประวัติ
ความเป น มาของเรื่ อ งอิ ศ รญาณ
๑ ความเป็นมา ภาษิตและพระประวัติของหมอม
อิศรญาณภาษิต เรียกอีกอย่างว่า “เพลงยาวอิศรญาณ” หม่อมเจ้าอิศรญาณนิพนธ์เพลงยาว เจาอิศรญาณเพิม่ เติม และนําความ
ฉบับนี้ขึ้น เพื่อสะท้อนความคิดเห็นที่มีต่อสังคมในยุคนั้น พร้อมเสนอแนะแนวทางปฏิบัติตนแต่ไม่ถึง รูที่สืบคนมาแลกเปลี่ยนเรียนรูกัน
ขั้นสอน ภายในหองเรียน แลวบันทึกความ
รูลงสมุด
๒ ประวัติผู้แต่ง 2. ใหนักเรียนแบงกลุมสืบคนความรู
เกี่ยวกับสํานวน สุภาษิต คําพังเพย
หม่อมเจ้าอิศรญาณ (ไม่ทราบพระนามเดิม) บันทึกความรูลงสมุด
เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวง
มหิศวรินทรามเรศ พระองค์ทรงผนวชที่วัดบวร-
นิ เ วศฯ ได้ พ ระนามฉายาว่ า อิ สฺ ส รญาโณ มี อธิบายความรู
พระชนม์ชีพอยู่ในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จ- ใหนักเรียนอธิบายความหมาย
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สํานวน สุภาษิต คําพังเพย วาแตกตาง
กันอยางไร
๓ ลักษณะคÓประพันธ์ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
(แนวตอบ สํานวนมีหลายความหมาย
ในที่ นี้ ห มายถึ ง เฉพาะถ อ ยคํ า ที่ มี
อิศรญาณภาษิตแต่งด้วยค�าประพันธ์ประเภทกลอนเพลงยาว ซึ่งมีลักษณะบังคับเหมือน
ความหมายไม ต รงตามตั ว อั ก ษร
เอย ดังนี้
กลอนสุภาพ แต่จะขึ้นบทแรกด้วยวรรครับและจบด้วยค�าว่า เอย ดั สวนคําพังเพยมีความหมายลึกซึ้ง
อิศรญาณชาญกลอนอักษรสาร กวาสํานวนคือมีลักษณะติชมสวน
เทศนาค�าไทยให้เป็นทาน โดยต�านานศุภอรรถสวัสดี สุภาษิตมีลักษณะ 2 ประการ คือ
เปนขอความสั้นๆ แตกินความ
................................................... ...................................................
ลึกซึ้ง และเปนคําสอน)
แสนประเสริฐเลิศภพจบธาตรี ยังจรลีเข้าสู่นิพพานเอยฯ
๔ เรื่องย่อ นักเรียนควรรู
อิศรญาณภาษิตมีเนื้อหาเชิงสั่งสอนแบบเตือนสติและแนะน�าเกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติตน เอย เปนคําบังคับลงทายใน
ให้เป็นที่พอใจของผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีอ�านาจมากกว่า สอนว่าควรจะปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะอยู่ใน “กลอนดอกสรอย” และ “กลอนสักวา”
สังคมได้อย่างสงบสุข ท�าอย่างไรจึงจะประสบความส�าเร็จสมหวัง บางตอนเน้นเรื่องการเห็นคุณค่า
และความส�าคัญของผู้อื่นโดยไม่สบประมาทหรือดูแคลนผู้อื่น โดยทั้งนี้การสอนบางครั้งอาจเป็นการ
กล่าวตรงๆ หรือใช้ถ้อยค�าเชิงประชดประชัน
93
คูมือครู 93
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
Engage Explore Explain Expand ตรวจสอบผล
Evaluate
อธิบายความรู
ครูแบงนักเรียนออกเปน 5 กลุม
ศึกษาหัวขอการเรียนรู ดังนี้
จ�าไว้ทุกสิ่งจริงหรือเท็จ พริกไทยเม็ดนิดเดียวเคี้ยวยังร้อน ใหนักเรียนแตละกลุมเลือกสุภาษิต
เกิดเป็นคนเชิงดูให้รู้เท่า ใจของเราไม่สอนใจใครจะสอน อิศรญาณบทที่ชอบมาเปนหัวขอแจง
อยากใช้เขาเราต้องก้มประนมกร ใครเลยห่อนจะว่าตัวเป็นวัวมอ ให ค รู ท ราบหั ว ข อ แล ว ค น คว า หา
เป็นบ้าจี้นิยมชมว่าเอก คนโหยกเหยกรักษายากล�าบากหมอ คําสอนในลักษณะเดียวกันกับสุภาษิต
อันยศศักดิ์มิใช่เหล้าเมาแต่พอ ถ้าเขายอเหมือนอย่างเกาให้เราคัน ที่นักเรียนชอบพรอมยกตัวอยาง
บ้างโลดเล่นเต้นร�าท�าเป็นเจ้า เป็นไรเขาไม่จับผิดคิดดูขัน (แนวตอบ เชน
“อยาคบมิตรจิตพาลสันดานชั่ว
ผีมันหลอกช่างผีตามทีมัน คนเหมือนกันหลอกกันเองกลัวเกรงนัก
จะพาตัวใหเสื่อมที่เลื่อมใส
สูงอย่าให้สูงกว่าฐานนานไปล้ม จะเรียนคมเรียนเถิดอย่าเปิดฝัก คบนักปราชญนั่นแหละดีมีกําไร
คนสามขามีปัญญาหาไว้ทัก ที่ไหนหลักแหลมค�าจงจ�าเอา ทานยอมใหความสบายหลายประตู”
เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด ไปพูดขัดเขาท�าไมขัดใจเขา
คําสอนในลักษณะเดียวกันในโคลง
ใครท�าตึงแล้วหย่อนผ่อนลงเอา นักเลงเก่าเขาไม่หาญราญนักเลง โลกนิติ เรื่องการคบเพื่อน ดังวา
เป็นผู้หญิงแม่หม้ายที่ไร้ผัว ชายมักยั่วท�าเลียบเทียบข่มเหง “ปลาราพันหอดวย ใบคา
ไฟไหม้ยังไม่เหมือนคนที่จนเอง ท�าอวดเก่งกับขื่อคาว่ากระไร ใบก็เหม็นคาวปลา คละคลุง
อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว คือคนหมูไปหา คบเพื่อน พาลนา
จงฟังหูไว้หูคอยดูไป เชื่อน�้าใจดีกว่าอย่าเชื่อยุ ไดแตรายรายฟุง เฟองใหเสียพงศ”
หญิงเรียกแม่ชายเรียกพ่อยอไว้ใช้ มันชอบใจข้างปลอบไม่ชอบดุ หรือ
ที่ห่างปิดที่ชิดไชให้ทะลุ คนจักษุเหล่หลิ่วไพล่พลิ้วพลิก “คดสิ่งอื่นหมื่นแสนแมนกําหนด
เอาปลาหมอเป็นครูดูปลาหมอ บนบกหนออุตส่าห์เสือกกระเดือกกระดิก โกฏิลานคดซอนซับพอนับถวน
คดของคนลนลํ้าคดนํ้านวล
เขาย่อมว่าฆ่าควายเสียดายพริก รักหยอกหยิกยับทั้งตัวอย่ากลัวเล็บ
เหลือกระบวนที่จะจับนับคดคอม”
มิใช่เนื้อเอาเป็นเนื้อก็เหลือปล�้า แต่หนามต�าเข้าสักนิดกรีดยังเจ็บ
อันโลภลาภบาปหนาตัณหาเย็บ เมียรู้เก็บผัวรู้ท�าพาจ�าเริญ คําสอนในลักษณะเดียวกันที่สอน
เกี่ยวกับไมใหไวใจใครในเรื่องพระ-
ถึงรู้จริงนิ่งไว้อย่าไขรู้ เต็มที่ครู่เดียวเท่านั้นเขาสรรเสริญ
อภัยมณีของสุนทรภูที่พระฤๅษีสอน
ไม่ควรก�้าเกินหน้าก็อย่าเกิน อย่าเพลิดเพลินคนชังนักคนรักน้อย สินสมุทรวา
วาสนาไม่คู่เคียงเถียงเขายาก ถึงมีปากมีเสียเปล่าเหมือนเต่าหอย
“แลวสอนวาอยาไวใจมนุษย
ผีเรือนตัวไม่ดีผีอื่นพลอย พูดพล่อยพล่อยไม่ดีปากขี้ริ้ว
มันแสนสุดลึกลํ้าเหลือกําหนด
แต่ไม้ไผ่อันหนึ่งตันอันหนึ่งแขวะ สีแหยะแหยะตอกตะบันเป็นควันฉิว ถึงเถาวัลยพันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ช้างถีบอย่าว่าเล่นกระเด็นปลิว แรงหรือหิวชั่งใจดูจะสู้ช้าง ก็ไมคดเหมือนหนึ่งในนํ้าใจคน”
ล้องูเห่าเล่นก็ได้ใจกล้ากล้า แต่ว่าอย่ายักเยื้องเข้าเบื้องหาง
95
ขยายความเขาใจ
ให นั ก เรี ย นนํ า สํ า นวนสุ ภ าษิ ต ที่
ชืน่ ชอบมาเปนหัวขอเขียนเรือ่ งสอนใจ
ความยาว 15 บรรทัด แลวออกมาเลา
หนาชั้นเรียนใหครูและเพื่อนๆ ฟง
นักเรียนควรรู เกร็ดแนะครู
แปดศอก เทียบไดกับ ครูชวนนักเรียนสังเกตวา อิศรญาณภาษิต มีลกั ษณะการใชคาํ ตายทาย
8 เมตร วรรค ทําใหเกิดเสียงกระตุกชะงัก เกิดเสียงกระแทกกระทั้นมากขึ้น เชน
หญิงเรียกแมชายเรียกพอยอไวใช มันชอบใจขางปลอบไมชอบดุ
ที่หางปดที่ชิดไชใหทะลุ คนจักษุเหลหลิ่วไพลพลิ้วพลิก
คูมือครู 95
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
96 คูมือครู
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนศึกษาเรื่องภาพพจน
แลวตอบคําถาม
จังแต่ปากใจยังไม่จังใจ ต่อเมื่อไรสังเวชจิตอนิจจัง • คําประพันธที่ปรากฏในเรื่อง
หลงโลภลาภบาปก็รู้อยู่ว่าบาป กิเลสหยาบยังไม่สุขย่อมทุกขัง มีภาพพจนใดบาง ยกตัวอยาง
ตัณหาหากชักน�าให้ก�าบัง เอาธรรมตั้งข่มกดให้ปลดร้อน ประกอบ
คนศรัทธาว่าง่ายสบายจิต ไม่เบือนบิดเร่งท�าตามค�าสอน (แนวตอบ ตัวอยางเชน การใช
คนที่ไม่ศรัทธาอุราคลอน โง่แล้วงอนถึงไม่ฟังก็ยังดึง ภาพพจนอุปมา เชน “โทษสัก
หาเงินติดไถ้ไว้อย่าให้ขาด ต�าลึงบาทหาไม่คล่องเพียงสองสลึง เทาหัวเหาเล็กเทาเล็น” การใช
ภาพพจน อุปลักษณ เชน
ชาติตะปูชาติแข็งต้องแทงตรึง ชาติขี้ผึ้งชาติอ่อนร้อนละลาย
“อาวุธปากกลาวดีมีคนเกรง”
ของสิ่งใดสงสัยให้พิสูจน์ ไม่แกล้งพูดธาตุทั้งสี่ดีใจหาย เปรียบเทียบวาปากเปนอาวุธ)
ดูดินน�้าลมไฟให้แยบคาย ไล่ระบายเท็จก็แปรแท้ไม่จร
ปลาร้าเค็มพริกเทศเผ็ดไฉน เอออะไรดูเถิดยังเกิดหนอน
กลับฟอนฟันพริกปลาร้าสถาพร ทั้งเค็มร้อนไม่ถึงกรรมเป็นธรรมา
พูดโกหกแต่แยบคายอุบายปด คนทั้งหมดนั่งฟังไม่กังขา
นักเรียนควรรู
ที่พูดซื่อถือแท้แน่เจรจา เขาก็ว่าพูดปดทุกบทไป ไถ หมายถึง ถุงยาวขนาดใหญหรือ
เป็นเจ้านายผู้ดีมีวาสนา เอาพ่อตาลงข้างล่างใช้ต่างไพร่ เล็กสําหรับใสเงินหรือสิง่ ของ โดยมาก
ใชคาดเอว
มีเมียน้อยหลักแหลมก็แถมใช้ ลูกเขยจนแล้วก็ใส่คอเป็นเอ็น
คุณกับโทษสองแบ่งแรงข้างไหน คุณถึงใหญ่ให้ผลคนไม่เห็น
โทษสักเท่าหัวเหาเล็กเท่าเล็น ให้ผลเห็นแผ่ซ่านทั่วบ้านเมือง
น�้าใจเอยเห็นกรรมไม่ท�าชั่ว บวชตั้งตัวตั้งใจบวชได้เรื่อง นักเรียนควรรู
บวชหลบราชการหนักบวชยักเยื้อง บวชหาเฟื้องหาไพบวชไม่ตรง อินทรีย หมายถึง รางกายและจิตใจ
หลายต�าบลหลายแห่งแขวงป่าช้า อศุภพาเกิดพินิจพิศวง สิ่งมีชีวิต เปนคําพองเสียงกับ อินทรี
ป่าช้าใหญ่คือเตาไฟไยมิปลง สังเวชลงว่าเผาผีทุกวี่วัน ซึ่งเปนชื่อของนกและปลาทะเล คํา
สัตว์ผอมฤษีพีนี้สองสิ่ง สามผู้หญิงรูปดีไม่มีถัน พองเสียงคือคําที่ออกเสียงเหมือนกัน
กับคนจนแต่งอินทรีย์นี้อีกอัน สี่ด้วยกันดูเป็นเห็นไม่งาม อาจเขียนเหมือนหรือตางกันก็ได แต
ทั้งสองคํามีความหมายตางกัน
บรรพชาสามปางนางสามผัว ข้าเก่าชั่วเมียชังเขายังห้าม
มักเกิดเงี่ยงเกี่ยงแง่แส่หาความ กาลีลามหยาบช้าอุลามก
เคหฐานหยาบช้าหาสะอาด มูลฝอยใบไม้ใช่ญาติอย่ามุ่นหมก
อย่าเข้าท�าส�่าสมนิยมรก ไฟจะตกลามไหม้ไม่ได้การ นักเรียนควรรู
กิ่งไม้เรียวหนามหนาศิลาหัก เห็นเสียบปักอยู่ที่ทางกลางสถาน บรรพชาสามปาง คือ ชายสามโบสถ
เปนสํานวนหมายถึง ผูที่บวชแลวสึก
97 ถึง 3 หน ใชพูดเปนเชิงตําหนิวาเปน
คนที่ไมนาคบ
คูมือครู 97
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ครูใหนักเรียนอธิบายบทประพันธ
ดังตอไปนี้
อื่นอื่นนั้นยกไว้ในส�าคัญ กับอีกอันปฏิบัติไม่ขัดเรา “อีกขอหนึ่งเมืองเราชาวมนุษย
คนมียศรูปสวยทั้งรวยทรัพย์ เสน่ห์บทนี้ปับขลังจริงเจ้า ยอมวาพุทธกับไสยตั้งใจวา
สาวสาวเห็นหมดหน้าถ้าจะเอา ไม่ต้องเป่าเสกคาถาก็มาเจียว ถอยทีถอยอาศัยกันไปมา
คนแก่มีสี่ประการโบราณว่า แก่ธรรมาพิสมัยใจแห้งเหี่ยว ทั้งเจรจารําคาญหูดูไมงาม
แก่ยศแก่วาสนาปัญญาเปรียว แต่แก่แดดอย่างเดียวแก่เกเร พุทธแปลวาพระเจาทานกลาวแก
ความรู้ท่วมหัวตัวไม่รอด เป็นค�าสอดของคนเกเรเกเส ไสยนั้นแปลวาผีนี้ไดถาม
ผิดหรือถูกไมตรึกตราเจรจาตาม
เรียนวิชาไม่แม่นย�าคะน�้าคะเน ไปเที่ยวเตร่ประกอบชั่วตัวจึงจน
มีเนื้อความในคัมภีรบาลีใด”
ทะเลน้อยเท่ารอยโคโผไม่ได้ โดยว่าใจยังก�าหนัดขัดมรรคผล (แนวตอบ บทประพันธนี้สะทอน
หญิงขมิ้นชายปูนประมูลปน ไหนจะพ้นทะเลแดงต�าแหน่งเนื้อ ใหเห็นทัศนคติของกวีวา พระพุทธ-
จิ้งจกเรียกจระเข้บกยกขึ้นท้า แมวตัวเล็กเขาก็ว่าเป็นอาเสือ ศาสนาไมมีคําสอนเรื่องไสยศาสตร
แมวเป็นอาของพยัคฆ์ชักว่านเครือ ไม่น่าเชื่อหลานอะไรใหญ่กว่าอา มาปะปนแตอยางใด)
อีกข้อหนึ่งเมืองเราชาวมนุษย์ ย่อมว่าพุทธกับไสยตั้งใจว่า
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไปมา ทั้งเจรจาร�าคาญหูดูไม่งาม
ขยายความเขาใจ
พุทธแปลว่าพระเจ้าท่านกล่าวแก้ ไสยนั้นแปลว่าผีนี้ได้ถาม
ผิดหรือถูกไม่ตรึกตราเจรจาตาม มีเนื้อความในคัมภีร์บาลีใด ใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นวา
• ปจจุบน ั มีความเชือ่ เรือ่ งไสยศาสตร
ว่าพระพุทธองค์ไปอาศัยผี ผีไปพึ่งบารมีที่ตรงไหน
ปะปนอยูในสังคมไทยหรือไม
ถ้อยทีถ้อยพึ่งกันนั้นอย่างไร ครั้นว่าไล่เข้าก็ซัดลัทธิแรง อยางไร
เป็นวาจากรรมเปล่าไม่เข้าข้อ รู้แล้วก็นิ่งไว้อย่าได้แถลง (แนวตอบ อาจจะมีหรือไมมีก็ได
แม้พลั้งปากเสียศีลพลาดตีนแพลง มักระแวงข้างเป็นโทษประโยชน์น้อย ถาตอบวามี เชน การสะเดาะเคราะห
หนึ่งนักปราชญ์ผู้เขลากล่าวก�าเนิด ว่ากระต่ายไปเกิดเป็นหิ่งห้อย 9 วัด การใชผาเจ็ดสีเจ็ดศอก
เพราะอย่างนั้นรัศมีสีจึงย้อย แล้วอย่าพลอยพูดไถลเหมือนไม้ลิด ผูกตนไมทเี่ ชือ่ วามีผอี ารักษ เปนตน)
จะคบมิตรสนิทนักมักเป็นโทษ เกิดขึ้งโกรธต่างต่างเพราะวางจิต
ทันระวังตัวที่ไหนไม่ทันคิด เหตุสักนิดแล้วก็ได้ขัดใจกัน
ประพฤติดีฝีปากข้างถากถาง คือเห็นทางห้ามรักให้ชักสั้น เกร็ดแนะครู
ฉุกละหุกคลุกคลีถึงตีรัน อ้ายรู้มากนี่แลมันเป็นต้นเดิม
ครูแนะความรูนักเรียนโดยยก
เจ้าท่านเกลียดอย่าเกลียดแทนองค์เจ้า เอ็นดูเหล่าผู้ผิดอย่าคิดเสริม บทประพันธวา
กริ้วสิ่งไรช่วยแซมค่อยแต้มเติม ผู้ผิดเพิ่มพูดผิดใช่กิจเอง “คนแกมีสี่ประการโบราณวา
ผมยาวยุ่งทิ้งไว้ไม่สางหวี สิ้นที่พึ่งแล้วจึงมีคนข่มเหง แกธรรมาพิสมัยใจแหงเหี่ยว
แกยศแกวาสนาปญญาเปรียว
99 แตแกแดดอยางเดียวแกเกเร”
บทประพันธนสี้ ะทอนใหเห็นคานิยม
ในสังคมวา คนควรแกดวย 4 ประการ
คือ แกธรรม แกยศ แกวาสนา และ
แก ป ญ ญา แก ใ นที่ นี้ มี ค วามหมาย
นักเรียนควรรู โดยนัยวา จัดเจน หนัก หรือยิ่งไปใน
ทางนั้น
พลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกตนไม เปนสํานวน หมายถึง พูดหรือทําอะไร
โดยไมระมัดระวังยอมเกิดความเสียหาย
คูมือครู 99
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
ขยายความเขาใจ
1. ใหนักเรียนยกคําประพันธจากเรื่อง
อิศรญาณภาษิตมาเปรียบเทียบ
คานิยมและความเชื่อในสังคมไทย
การรู้จักช่วยเหลือและเกื้อกูลกันเป็นคุณธรรมที่ช่วยค�้าจุนโลก
• คานิยมและความเชื่อของคน
ในสมัยกอนเหมือนหรือตาง 100
จากสังคมสมัยนี้อยางไร
2. นําเสนอหนาชั้นเรียนใหครูและ
เพื่อนฟง
นักเรียนควรรู นักเรียนควรรู
โครงคราง หมายถึง ใหญโต เรอรา ไมกะทัดรัด พระชินศรี หมายถึง พระพุทธเจา
100 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ Explore Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Evaluate
สํารวจคนหา
1. ใหนกั เรียนรวบรวมคําศัพทเพิม่ เติม
จากเรื่อง โดยครูและนักเรียนชวย
๖ คÓศัพท์ กันแปลความหมาย แลวนักเรียน
ค�าศัพท์ ความหมาย
บันทึกคําศัพทลงสมุด
2. ใหนักเรียนรวบรวมคําไวพจนที่
กระชุ่มกระชวย อาการกระปรี้กระเปร่า ปรากฏในเรื่อง แลวบันทึกไวเปน
กิเลส เครื่องท�าใจให้เศร้าหมอง หมวดหมูลงสมุด
กุศล สิ่งที่ดี ที่ชอบ บุญ 3. ใหนักเรียนรวบรวมคําศัพทในเรื่อง
ขื่อคา เครื่องจองจ�านักโทษ อิศรญาณภาษิตที่มีความหมาย
แขวะ เอาสิ่งของมีคมแขวะคว้านให้กว้าง ในที่นี้หมายถึง ไม้ไผ่เจาะรู โดยนัย บันทึกลงสมุด
คนที่จนเอง คนที่ท�าตัวเองให้ยากจน
คนโหยกเหยก คนไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว อธิบายความรู
คิดค�านวณ คิดใคร่ครวญถึงผลที่จะตามมา
จากการรวบรวมคําศัพทใหนกั เรียน
ใครเลยห่อนจะว่าตัวเป็นวัวมอ ไม่มีใครที่จะคิดว่าตนเป็นวัวให้คนอื่นใช้งาน วัวมอ หมายถึง วัวตัวผู้ อธิบายคําทีม่ คี วามหมายโดยนัย
จริตเขลา ความประพฤติหรือกิริยาอาการที่ไม่ฉลาด (แนวตอบ เชน ตอหลัก หมายถึง สิง่ ที่
จักษุเหล่ ตาเข มองไม่ตรง ไมมีความหมาย ปลายมือ หมายถึง
ฉล�่าฉลาย แตก ท�าลาย พัง ทลาย สลาย ในภายหลัง วัวมอ หมายถึง ใหคนอื่น
ชลาสินธุ์ ห้วงน�้าใหญ่ ทะเล มหาสมุทร ใชงาน เอาหลังตากแดด หมายถึง
ตะบัน ทิ่มหรือแทงกดลงไป
กมหนาทํางานหนักแบบชาวนาทําให
หลังถูกแดดตลอดเวลา)
ตัณหา ความทะยานอยาก
ต�านาน ในที่นี้หมายถึง ค�าโบราณ
ไถ้ ถุงผ้าส�าหรับใส่เงินหรือสิ่งของ ขยายความเขาใจ
ให นั ก เรี ย นแต ง คํ า ประพั น ธ โ ดย
เลือกลักษณะคําประพันธที่นักเรียน
ถนัดมาแตงอยางนอย 1 บท เนื้อหา
ไถ้หรือย่าม ทีแ่ ตงกระตุน ใหเกิดคุณธรรมในสังคม
ท�าเป็นเจ้า ท�าทีว่าถูกเจ้าเข้าสิง ในความว่า “บ้างโลดเล่นเต้นร�าท�าเป็นเจ้า”
และใชคาํ ศัพททไี่ ดเรียนรูใ นอิศรญาณ
ภาษิตประกอบ
ท�าเลียบ พูดจาแทะโลม
(แนวตอบ “จิตมนุษยนั้นไซร
ธาตรี แผ่นดิน โลก จองจําไวใตขื่อคา
นิพพาน ตาย (ใช้กับพระอรหันต์) กิเลสหอหุมหนา
บ้าจี้ ในที่นี้หมายถึง บ้ายอ หากุศลผลไมมี”
101 ใชกาพยยานี 11 ในการแตงมี
คําศัพทวา ขื่อคา กิเลสและกุศล)
คูมือครู 101
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
102
102 คูมือครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู
Engage Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Expand Evaluate
กระตุนความสนใจ
ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับ
สํานวนสุภาษิตไทย
๗ บทวิเคราะห์ • นักเรียนชอบสํานวนสุภาษิตไทย
๗.๑ คุณค่าด้านเนือ้ หา ใดมากที่สุด เพราะเหตุใด
อิศรญาณภาษิต มุง่ ให้ขอ้ คิดคติสอนใจผูค้ นในสมัยก่อน โดยค�าสอนนีแ้ สดงให้เห็นความจัดเจน • สํานวนสุภาษิตไทยใดบาง
โลกของกวี การถ่ายทอดความคิด ความเชื่อและวิถีการปฏิบัติตนให้ดีงาม เพื่อให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นใน มีคําที่เกี่ยวกับสัตว
สังคมได้อย่างปกติสุข ซึ่งค�าสอนดังกล่าวยังคงน�ามาใช้ในสังคมไทยปัจจุบันได้เป็นอย่างดี (แนวตอบ เชน คางคกขึ้นวอ
ชางตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปด
เนื้อหาอิศรญาณภาษิตมีคุณค่าในเชิงค�าสอน ว่าควรท�าอย่างไรจึงจะอยู่ในสังคมได้ ไม่เป็นภัย
เขียนเสือใหวัวกลัว เปนตน)
แก่ตนเองและผู้อื่น โดยการสอนทั้งแบบประชดประชัน เหน็บแนมและบอกกล่าวโดยตรง ใช้ภาษาที่
เข้าใจง่าย
วรรณกรรมค�าสอน จะมีคุณค่าด้านเนื้อหาที่มุ่งเน้นไปในทิศทางเดียวกัน คือมุ่งเน้นสอนบุคคล สํารวจคนหา
ในเรื่องต่างๆ ซึ่งกวีจะมีวัตถุประสงค์ในการสอนว่าจะสอนบุคคลประเภทใด เช่น สอนเด็ก สอนผู้ใหญ่ ใหนักเรียนศึกษาวรรณศิลปที่
สอนบุรษุ สอนสตรีและสอนในเรือ่ งใด วรรณกรรมค�าสอนจะเน้นสอนในสิง่ ทีท่ า� ให้ผอู้ า่ นได้รบั ประโยชน์ ปรากฏในเรื่องอิศรญาณภาษิต
และเกี่ยวข้องกับการด�าเนินชีวิตประจ�าวันในด้านต่างๆ เช่น สอนเด็กจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการให้เห็น • เรื่องอิศรญาณภาษิต
ความส�าคัญของการศึกษา ให้ขยันหมัน่ เพียร สอนข้าราชการจะมีเนือ้ หาเกีย่ วกับแนวทางการปฏิบตั ติ น มีวรรณศิลปอะไรบาง
ให้รับราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก สอนสตรีจะมีเนื้อหา (แนวตอบ การใชภาพพจนอุปมา
เกี่ยวข้องกับการประพฤติตนเป็นกุลสตรีที่ดี และภาพพจนอุปลักษณ
อิศรญาณภาษิตจัดเป็นวรรณกรรมค�าสอนทีก่ วีมวี ตั ถุประสงค์เพือ่ สัง่ สอนและให้แนวทาง ข้อคิด การใชสํานวน การใชโวหาร
เปรียบเทียบ)
ต่างๆ ในการอยูร่ ว่ มกับผูอ้ นื่ ในสังคม คุณค่าด้านเนือ้ หาของอิศรญาณภาษิตเป็นประโยชน์สา� หรับผูอ้ า่ น
เนื่องด้วยกวีได้น�าประเด็นในเรื่องต่างๆ มาสั่งสอนได้อย่างชัดเจนและสามารถน�าไปประยุกต์ใช้ในชีวิต
ประจ�าวันได้ ผู้อ่านที่ดีจึงควรอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์ พิจารณาเพื่อสังเคราะห์เนื้อหาที่ได้อ่าน อธิบายความรู
๗.๒ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ใหนักเรียนนําวรรณศิลป
อิศรญาณภาษิตเป็นวรรณกรรมค�าสอนที่กวีมีจุดมุ่งหมายเพื่อสั่งสอนเตือนใจให้มนุษย์มีสติ ที่ปรากฏในเรื่องมาอธิบาย
คิดไตร่ตรองก่อนที่จะลงมือท�าสิ่งใด ซึ่งเป็นค�าสอนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตนต่อผู้อื่นในสังคมเพื่อให้อยู่ • วรรณศิลปที่พบสงผลตอเรื่อง
ร่วมกันได้อย่างมีความสุข จากเรื่องปรากฏการใช้ส�านวนไทยหลายส�านวน ท�าให้บทประพันธ์มีความ อยางไร พรอมยกตัวอยาง
ประกอบ
โดดเด่น กวีสามารถใช้ส�านวนภาษาได้คมคาย การน�าส�านวนมาใช้มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ดังเช่น
(แนวตอบ วรรณศิลปที่พบ ไดแก
บทประพันธ์ การใชภาพพจนอุปมา เชน
วาสนาไม่คู่เคียงเถียงเขายาก ถึงมีปากมีเสียเปล่าเหมือนเต่าหอย “โทษสักเทาหัวเหาเล็กเทาเล็น”
ผีเรือนตัวไม่ดีผีอื่นพลอย พูดพล่อยพล่อยไม่ดีปากขี้ริ้ว การใชภาพพจนอุปลักษณ เชน
“อาวุธปากกลาวดีมีคนเกรง”
เปรียบปากเปนอาวุธที่ทําใหคน
103 เกรงกลัวได และการใชสํานวน
เชน “จงฟงหูไวหูคอยดูไป”
ทําใหผูอานเขาใจความหมาย
ที่กวีตองการสื่อได โดยไมตอง
อธิบายมาก)
คูมือครู 103
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
104 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายวา
การใชโวหารเปรียบเทียบของกวีมี
๒) การเล่นเสียง อิศรญาณภาษิตเป็นวรรณกรรมที่มีความถึงพร้อมในด้านวรรณศิลป์ ลักษณะที่โดดเดนอยางไร
ดีเด่นในโวหารเปรียบเทียบ รวมทัง้ กวีเลือกใช้ถอ้ ยค�าให้เกิดสัมผัสคล้องจองภายในวรรคจึงท�าให้มคี วาม (แนวตอบ กวีใชการเปรียบเทียบ
ไพเราะและจดจ�าได้ง่าย ดังบทประพันธ์ อยางสัน้ ๆ ตรงไปตรงมา ทําใหเห็น
ภาพชัดเจน เชน โทษสักเทาหัวเหา
อันความเรื่องเดียวกันส�าคัญกล่าว พูดไม่ดีแล้วก็เปล่าไม่แข็งเข้ม เล็กเทาเล็น ใหผลเห็นแผซานทั่ว
บานเมือง)
ข้าวต้มร้อนอย่ากระโจมค่อยโลมเล็ม วิสัยเข็มเล่มน้อยร้อยช้าช้า
2. ใหนักเรียนอธิบายการเลนเสียงวา
ถึงโปร่งปรุในอุบายเป็นชายชาติ แม้หลงมาตุคามขาดศาสนา การเลนเสียงทําใหคําประพันธ
ไพเราะไดอยางไร
อันความหลงแม้ไม่ปลงสังขารา แต่ทว่ารู้บ้างค่อยบางเบา (แนวตอบ การเลนเสียงทําให
คําประพันธมีจังหวะลีลาชวยให
จากบทประพันธ์ ปรากฏสัมผัสภายในวรรคทัง้ สัมผัสสระ ได้แก่ กัน - (ส�า)คัญ โจม - โลม ไพเราะลื่นไหลและมีความหมาย
เข็ม - เล่ม น้อย - ร้อย ปรุ - อุ(บาย) (อุ)บาย - ชาย ขาด - ศาส(นา) หลง - ปลง (สัง)ขา - รา และ ประทับใจ กินใจยิ่งขึ้น)
สัมผัสอักษร ค�าที่ใช้พยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน อาจเป็นพยัญชนะเดียวกันหรือพยัญชนะที่มีเสียงสูงต�่า
เข้าคู่กันได้ หรือพยัญชนะควบกล�้าชุดเดียวกัน ได้แก่ แข็ง - เข้ม โลม - เล็ม โปร่ง - ปรุ ชาย - ชาติ ขยายความเขาใจ
คาม - ขาด แม้ - มา(ตุคาม) แม้ - ไม่ บ้าง - บาง - เบา
ใหนกั เรียนยกบทประพันธจากเรือ่ ง
๓) การใช้สา� นวน เป็นลักษณะเด่นทางวรรณศิลป์ คือมีการใช้สา� นวนไทยหลายส�านวน อิศรญาณภาษิตที่มีการใชสัมผัสโดด
มาร้อยเรียง ท�าให้ภาษามีความคมคายและมีความหมายลึกซึ้งกินใจ ท�าให้ผู้อ่านเข้าใจได้โดยไม่ต้อง เดน
อธิบายความมาก โดยเฉพาะการใช้ส�านวนไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับการด�าเนินชีวิตของคนในสังคม • บทประพันธที่ยกมานั้น
สมัยนั้น มีทั้งส�านวนเปรียบเปรย เหน็บแนมหรือประชดประชัน ตัวอย่างเช่น มีคําสัมผัสแบบใด
• ชายข้าวเปลือก หญิงข้าวสาร ผู้หญิงมักเสียเปรียบผู้ชาย คือ ข้าวสารงอกใหม่ (แนวตอบ อาจมีไดทั้งสัมผัส
ไม่ได้เหมือนข้าวเปลือก อักษร สระ และวรรณยุกต หรือ
• น�้าพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า คนเราจ�าเป็นต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน มีอยางใดอยางหนึ่ง)
• ฆ่าควายเสียดายพริก ท�าการใหญ่แต่กลัวหมดเปลืองจึงท�าให้เสียงาน • คําสัมผัสในบทประพันธนั้น
• เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด ประพฤติตามผู้มีประสบการณ์ย่อมปลอดภัย สงผลตอเรื่องอยางไร
(แนวตอบ จากเรื่องมีการเลน
• ผีซ�้าด�้าพลอย ถูกซ�า้ เติมเมือ่ พลาดพลัง้ หรือเมือ่ คราวเคราะห์รา้ ย
สัมผัสในอยางแพรวพราว
• เรือใหญ่คับคลอง คนที่เคยเป็นใหญ่เมื่อหมดอ�านาจหรือตกต�่าลง
ทุกวรรค ทั้งสัมผัสอักษรและ
ก็วางตัวอย่างคนธรรมดาไม่ได้ สัมผัสสระ การใชเสียงสัมผัสใน
• กินข้าวต้มกระโจมกลาง อย่าใจร้อนผลีผลาม เพราะจะท�าให้พลาดพลั้ง ชวยใหกลอนเกิดเสียงเสนาะรอย
เสียงานได้ เรียงรื่นหู เชน
105 “อิศรญาณชาญกลอนอักษรสาร
เทศนาคําไทยใหเปนทาน”
โดยตํานานศุภอรรถสวัสดี)
เกร็ดแนะครู
ครูแนะการเลนคํา จากบทประพันธในเรื่องอิศรญาณภาษิต ครูยกบทประพันธ
ที่มีการเลนคําวา “ดู” เปนการเนนความหมายใหหนักแนนขึ้น เชน
“ดูตระกูลกิริยาดูอากัป ดูทิศจับเอาที่ผลตนพฤกษา
ดูฉลาดเลาก็เห็นที่เจรจา ดูคงคาก็พึงหมายสายอุบล”
คูมือครู 105
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
106 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
1. ครูใหนักเรียนจัดกลุมเพื่อจับสลาก
ประเด็นตางๆ ตอไปนี้
๓) สอนให้รู้จักประมาณตน ไม่ท�าอะไรเกินก�าลังและฐานะของตน ดังบทประพันธ์ • การรูจักประมาณตน
• การรูจักขยันหมั่นเพียร
สูงอย่าให้สูงกว่าฐานนานไปล้ม จะเรียนคมเรียนเถิดอย่าเปิดฝัก
• การอยูรวมกันของคนในสังคม
• การทําบุญทําทานตามกําลัง
บทประพันธ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การท�าสิ่งใดควรให้รู้จักพอดี พอประมาณ ไม่มาก
ทรัพยของตน
เกินก�าลังความสามารถของตน และเมื่อเรียนรู้สิ่งใดแล้วอย่าอวดรู้จนเกินงาม
2. ใหนักเรียนแตละกลุมอภิปราย
๔) สอนให้รู้จักขยันหมั่นเพียร การท�าสิ่งใดควรหมั่นท�าอยู่เสมอ ดังบทประพันธ์ ตอบคําถามดังนี้
• นักเรียนมีแนวทางในการปฏิบัติ
เอาหลังตากแดดเป็นนิจคิดค�านวณ รู้ถี่ถ้วนจึงสบายเมื่อปลายมือ
ตามประเด็นที่จับสลากอยางไร
(แนวตอบ เชน การขยันหมั่นเพียร
บทประพันธ์ข้างต้นหมายถึง การท�างานด้วยความขยัน อดทนท�างาน แม้ว่างานที่ท�าจะ
ในหนาที่ที่ตองรับผิดชอบ โดย
เหน็ดเหนื่อยและล�าบาก แต่สุดท้ายก็จะได้อยู่อย่างสุขสบายในอนาคต การนําหลักพระพุทธศาสนา
๕) สอนการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม ต้องรู้จักพึ่งพาอาศัยกัน ควรรักและเห็นใจ อิทธิบาท 4 อันไดแก ฉันทะ
ซึ่งกันและกัน ดังบทประพันธ์ ความพอใจ วิริยะ ความเพียร
จิตตะ ความเอาใจใส วิมังสา
............................................... น�้าพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย การสอดสองดูแลติดตามมาเปน
เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจ รักกันไว้ดีกว่าชังระวังการ หลักคิดและปฏิบัติ เปนตน)
ผู้ใดดีดีต่ออย่าก่อกิจ ผู้ใดผิดผ่อนพักอย่างหักหาญ
คูมือครู 107
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
คนสามขามีปัญญาหาไว้ทัก ที่ไหนหลักแหลมค�าจงจ�าเอา
เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด ...............................................
108
108 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนชวยกันวิเคราะหวา
ทําไมคนไทยนิยมใชสํานวนสุภาษิต
กวีได้แสดงทัศนะไว้ในบทประพันธ์เพื่อสั่งสอน ให้แนวคิดและข้อคิดเกี่ยวกับการวางตน คําพังเพยกันมาก แลวบันทึกความรู
ในสังคม โดยเริ่มจากการหาความรู้ให้แก่ตน การเข้าสังคมให้รู้จักเลือกคบคนที่มีปัญญามีความรู้ ลงสมุด
เพราะการคบบัณฑิตจะน�าพาไปในทางทีด่ งี าม โดยกวีเรียกบุคคลทีม่ ปี ญ
ั ญาหรือเป็นผูใ้ หญ่วา่ คนสามขา (แนวตอบ เพราะ 1. ใชเปนเครื่อง
ซึ่งเป็นภาพของคนถือไม้เท้า อีกประการหนึ่งคือการพูดจาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น ไม่ควรพูด อบรมสั่งสอน 2. สะทอนใหเห็นสภาพ
ขัดคอหรือขัดใจ หรือถ้าหากระหว่างการสนทนาเกิดเหตุการณ์ไม่พอใจในค�าพูดของกันและกันควรทีจ่ ะ การดําเนินชีวิตความเปนอยูของคน
ท�าให้สถานการณ์คลี่คลายลง ไม่ควรมีความบาดหมางกัน สมั ย นั้ น ทั้ ง ด า นสั ง คม การศึ ก ษา
เปนตน 3. สะทอนใหเห็นความเชื่อ
๔) การมีสติ จิตใจหนักแน่น ไม่หลงเชือ่ ค�าพูดยุยง ให้รจู้ กั คิดไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน
ความคิด วิสัยทัศนของคนสมัยกอน
ที่จะมีความเห็นคล้อยตามค�าพูดของผู้อื่น ดังบทประพันธ์
4. ใชภาษาไดดี ใชคาํ นอยแตกนิ ความ
อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว มาก ผูฟงสามารถเขาใจไดทันที)
จงฟังหูไว้หูคอยดูไป เชื่อน�้าใจดีกว่าอย่าเชื่อยุ
ขยายความเขาใจ
จากบทประพันธ์ดงั กล่าว กวีได้แสดงข้อคิดประการส�าคัญของการฟัง คือให้มสี ติ ให้รจู้ กั
ฟังหูไว้หู ไม่เชื่อค�าพูดของผู้ใดง่ายๆ และที่ส�าคัญต้องไม่หลงไปกับค�าพูดยุยงซึ่งเป็นการฟังที่ไม่เกิด 1. ครูใหนักเรียนแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับสํานวนสุภาษิตในเรื่องการ
ประโยชน์ตอ่ ผูฟ้ งั โดยน�าลักษณะการฟังดังกล่าวเปรียบเทียบกับเสาทีท่ า� ขึน้ จากหินแม้จะตอกลึกลงไป
ฟงอยางมีสติ
ในดินแล้ว แต่ถา้ มีคนมาจับหรือผลักหลายๆ ครัง้ ก็อาจสัน่ คลอนหรือไหวเอนได้ เหมือนกับการฟังค�าพูด
• นักเรียนสามารถนําขอคิด
ยุยงเมื่อฟังหลายครั้งก็อาจหลงเชื่อหรือหวั่นไหวไปกับค�าพูดเหล่านั้น เกี่ยวกับการฟงไปใชในชีวิต
๕) การรับราชการ โดยสอนการปฏิบัติตนของผู้ที่ท�างานใกล้ชิดผู้ที่มีอ�านาจ ดัง ประจําวันไดอยางไร
บทประพันธ์ (แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย
การฟงเปนสิง่ สําคัญมาก หากฟง
เป็นข้าเฝ้าเหล่าเสวกามาตย์ ยิ่งกว่าทาสทาสาค่าสินไถ่ ไมเขาใจหรือตีความผิดอาจ
อย่าใช้ชิดอย่าให้ห่างเป็นกลางไว้ ฝ่ายข้างในอย่าน�าออกนอกอย่าแจง ทําใหเสียโอกาสได เชน ฟงครู
สอนบางไมฟงบาง เมื่อถึงเวลา
จากบทประพันธ์สะท้อนข้อคิดประการส�าคัญส�าหรับผู้รับราชการที่จะต้องรู้จักคิด สอบก็ทําขอสอบไมได เปนตน)
ใคร่ครวญ ไตร่ตรอง ความในไม่น�าออก ความนอกไม่น�าเข้า เพราะจะท�าให้เกิดความเดือดร้อน 2. ครูชวนนักเรียนยกตัวอยางสํานวน
๖) การรู้จักใช้จ่าย สังคมมนุษย์ได้เปลี่ยนจากโครงสร้างพื้นฐานที่เคยเป็นระบบ สุภาษิตที่ใชในปจจุบันเกี่ยวกับการ
แลกเปลี่ยนสินค้ามาเป็นระบบเงินตราที่มีบทบาทส�าคัญทางเศรษฐกิจ อิศรญาณภาษิตได้ให้ข้อคิด ฟงและการรับราชการ พรอมบอก
ประการหนึ่งที่ให้มนุษย์รู้จักการออม ดังบทประพันธ์ ความหมาย
(แนวตอบ การฟง เชน ฟงไมไดศัพท
หาเงินติดไถ้ไว้อย่าให้ขาด ต�าลึงบาทหาไม่คล่องเพียงสองสลึง จั บ ไปกระเดี ย ด เป น ต น การรั บ
ราชการ เชน ซื่อกินไมหมดคดกิน
109 ไมนาน เปนตน)
คูมือครู 109
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
ดูตระกูลกิริยาดูอากัป ดูทิศจับเอาที่ผลต้นพฤกษา
นักเรียนควรรู ดูฉลาดเล่าก็เห็นที่เจรจา ดูคงคาก็พึงหมายสายอุบล
การคบมิตร เปนขอคิดเตือนใจที่
ปรากฏในโคลงโลกนิติดวยเชนกัน จากบทประพันธ์ข้างต้นการเลือกคบคนหากพิจารณาจากกิริยามารยาท ก็จะรู้ว่า
ดังวา มาจากชาติตระกูลที่อบรมสั่งสอนดีหรือไม่ ถ้าจะดูว่าเป็นคนมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดดูจากค�าพูด
ปลาราพันหอดวย ใบคา ถ้าอยากจะรู้ว่าแม่น�้ามีความลึกตื้นดูได้จากความยาวของก้านบัว
ใบก็เหม็นคาวปลา คละคลุง
คือคนหมูไปหา คบเพื่อน พาลนา ๘) ความสามัคคี ความสามัคคียงั คงความส�าคัญและเป็นธรรมะทีจ่ า� เป็นในการท�างาน
ไดแตรายรายฟุง เฟองใหเสียพงศ ร่วมกัน และยังท�าให้ประเทศชาติยงั ธ�ารงอยูไ่ ด้ อิศรญาณภาษิตให้ขอ้ คิดเกีย่ วกับคุณค่าของความสามัคคี
ใบพอพันหอหุม กฤษณา โดยยกนิทานเกี่ยวกับนกกระจาบมาเป็นตัวอย่าง ดังบทประพันธ์
หอมระรวยรสพา เพริศดวย
คือคนเสพเสนหา นักปราชญ นกกระจาบเดิมหนักหนามากกว่าแสน ไม่เดือดแค้นสามัคคีย่อมมีผล
ความสุขซาบฤๅมวย ดุจไมกลิ่นหอม ครั้นภายหลังอวดก�าลังต่างถือตน พรานก็ขนกระหน�่ามาพากันตาย
จากบทประพันธ์ได้ให้ข้อคิดประการส�าคัญ คือไม่ว่าที่ใดก็ตามถ้ามีความสามัคคีที่นั่น
ย่อมด�ารงอยู่ได้ แต่ถ้าเมื่อใดขาดความสามัคคีก็จะท�าให้ทุกอย่างเสื่อมสูญเหมือนดังฝูงนกกระจาบที่
ต้องตายเนื่องด้วยแตกความสามัคคี
110
110 คูมือครู
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
ขยายความเขาใจ
1. ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายแสดง
ความคิดเห็นเกี่ยวกับสุภาษิตไทย
๙) ท�าดีได้ดี ท�าชัว่ ได้ชวั่ สังคมไทยเป็นสังคมทีผ่ กู พันอยูก่ บั พระพุทธศาสนา ซึง่ มีสว่ น • สุภาษิต “ทําดีไดดี ทําชั่วไดชั่ว”
ในการกล่อมเกลาจิตใจและพฤติกรรมของมนุษย์ให้อยูใ่ นครรลองของความดี อิศรญาณภาษิตได้สะท้อน ยังใชในปจจุบันไดหรือไม
ข้อคิดประการส�าคัญที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา ดังบทประพันธ์ อยางไร
(แนวตอบ ไดหรือไมไดขึ้นอยูกับ
ถ้าท�าดีก็จะดีเป็นศรีศักดิ์ ถ้าท�าชั่วชั่วจักตามสนอง เหตุผลของนักเรียน แตครูควร
แนะนําวาสุภาษิตนี้สอนใหเรา
จากบทประพันธ์ได้สะท้อนข้อคิดที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา คือ ท�าดีได้ดี ทําดี เปนคนดีเพื่อเราจะอยูรวม
ท�าชั่วได้ชั่ว ตรงกับพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “กมฺมุนา วตฺตตี โลโก” สัตวโลกย่อมเป็นไปตามกรรม กันอยางสงบสุขเพราะทุกคนเปน
หมายความว่า ผู้ใดกระท�าสิ่งใดไว้ย่อมได้รับสิ่งนั้นเป็นการตอบแทน คนดีไมเบียดเบียนกัน)
๑๐) ให้รู้จักตนเอง การที่มนุษย์จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างสงบสุข นอกจากการรู้จัก 2. จากบทประพันธ
บุคคลอื่นแล้วที่ส�าคัญต้องรู้จักจิตใจของตนเอง ดังบทประพันธ์ “นกกระจาบเดิมหนักหนามากกวาแสน
ไมเดือดแคนสามัคคียอมมีผล
เกิดเป็นคนเชิงดูให้รู้เท่า ใจของเราไม่สอนใจใครจะสอน ครั้นภายหลังอวดกําลังตางถือตน
พรานก็ขนกระหนํ่ามาพากันตาย”
จากบทประพันธ์ดงั กล่าว กวีได้แสดงทัศนะทีเ่ ป็นข้อคิดเตือนใจให้แก่ผอู้ า่ นกลับมาส�ารวจ จากขอความที่ยกตัวอยางมา
ตนเองว่า ความรู้บางประการอาจมีครูอาจารย์สอนได้ แต่ในบางเรื่องตนเองจะเป็นผู้สอนตนเองได้ดี สะทอนใหเห็นความสําคัญของ
ที่สุด ความสามัคคี ใหนักเรียนชวยกัน
ยกตัวอยางวามีวรรณคดี
การอ่านวรรณคดีประเภทคÓสอน ผู้อ่านอาจไม่รู้สึกว่าตนกÓลังได้รับการสั่งสอน วรรณกรรม หรือนิทานเรื่องใดอีก
โดยตรง เพราะความเพลิดเพลินในสÓนวนโวหาร ประโยชน์สงู สุดของการอ่านอิศรญาณ- ที่เนนเรื่องความสามัคคี
ภาษิต คือการได้คติเตือนใจ ได้แนวทางสำาหรับการประพฤติปฏิบตั ติ นเพือ่ ให้อยูใ่ นสังคม (แนวตอบ เชน เรื่องสามัคคีเภท-
ได้อย่างมีความสุข สิ่งที่สÓคัญที่สุดคือสัจธรรมคÓสอนในเรื่องเป็นความจริงที่สามารถ คําฉันท)
้ ๆ แต่กใ็ ห้ประโยชน์แก่ผอู้ า่ นอย่างมหาศาล ถ้าผูอ้ า่ น
พิสจู น์ได้ แม้วา่ จะเป็นเพียงเรือ่ งสัน
นำามาปฏิบัติในชีวิตประจÓวัน
เกร็ดแนะครู
ครู แ นะให นั ก เรี ย นนํ า ข อ คิ ด ที่ ไ ด
จากเรื่องอิศรญาณภาษิตไปปรับใช
ในชีวิตจริง ครูชี้ใหเห็นผลที่เกิดจาก
การปฏิบัติตาม โดยยกตัวอยางจาก
สถานการณจริงประกอบการชี้แนะ
เพื่อใหนักเรียนเห็นภาพและแนะแนว
111 ทางในการนําไปปฏิบัติ
คูมือครู 111
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand Evaluate
Engage Explore Explain
112
112 คูมือครู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
เกร็ดแนะครู
(แนวตอบ คําถามประจําหนวย
การเรียนรู
ค�ำถำม ประจ�ำหน่วยกำรเรียนรู้ 1. ไดอานวรรณคดีคําสอนเรื่อง
โคลงโลกนิติ สุภาษิตพระรวง
๑. นักเรียนได้อ่านวรรณคดีค�าสอนเรื่องอื่นหรือไม่ อะไรบ้าง และประทับใจตอนใด จงอธิบาย พร้อม สุภาษิตสอนหญิง
ยกตัวอย่างบทประพันธ์ประกอบ ตัวอยางโคลงโลกนิติ
๒. ให้นักเรียนศึกษานิทานเรื่อง “นกกระจาบ” แล้วให้ยกตัวอย่างค�าประพันธ์และบอกคุณค่าที่ได้รับ คนใดละพอทั้ง มารดา
๓. ให้นักเรียนเลือกค�าสอนที่ประทับใจที่น�าไปใช้ในชีวิตประจ�าวันจากอิศรญาณภาษิต พร้อมอธิบาย อันทุพลชรา- ภาพแลว
ความหมาย ๕ ข้อ ขับไลไปมีปรา- นีเนตร
๔. “ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า น�้าพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย” จากค�าประพันธ์ที่ยกมานี้ คนดั่งนี้ฤๅแคลว คลาดพนภัยยัน
นักเรียนได้ข้อคิดอะไร และนักเรียนสามารถน�าข้อคิดที่ได้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร 2. เคยฟง
๕. “เอาหลังตากแดดเป็นนิจคิดค�านวณ รู้ถี่ถ้วนจึงสบายเมื่อปลายมือ” มีความหมายว่าอย่างไร สะท้อน
“นกกระจาบเดิมหนักมากกวาแสน
ให้เห็นวิถีชีวิตของคนในสังคมไทยอย่างไร
ไมเดือดแคนสามัคคียอมมีผล
ครั้นภายหลังอวดกําลังตางถือตน
พรานก็ขนกระหนํ่ามาพากันตาย”
จากขอความที่ยกตัวอยางมา
สะทอนใหเห็นความสําคัญของ
ความสามัคคี
กิจกรรม สร้ำงสรรค์พัฒนำกำรเรียนรู้ 3. คําสอนจากอิศรญาณภาษิต
ที่ควรนําไปใชในชีวิตประจําวัน
กิจกรรมที่ ๑ นกั เรียนจัดกลุม่ กลุม่ ละ ๕ คน ช่วยกันหาค�าภาษิตในปัจจุบนั ทีม่ ที มี่ าจากอิศรญาณ-
ยกตัวอยาง 5 ขอความ ดังนี้
ภาษิต เช่น กินข้าวต้มกระโจมกลาง วานรได้แก้ว ฯลฯ มารวบรวม พร้อมวาดภาพ
• ชายขาวเปลือกหญิงขาวสาร
ประกอบแล้วน�าไปจัดแสดงที่ป้ายนิเทศของห้องเรียน
กิจกรรมที่ ๒ นักเรียนเลือกค�าสอนในอิศรญาณภาษิตที่คิดว่าสามารถน�ามาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิต โบราณวา นํ้าพึ่งเรือเสือพึ่งปา
ประจ�าวันเลือกมา ๓ ข้อ และชี้แจงว่าจะน�าค�าสอนนั้นมาใช้ได้อย่างไร อัชฌาสัย
• อันเสาหินแปดศอกตอกเปนหลัก
ไปมาผลักบอยเขาเสายังไหว
• จงฟงหูไวหูคอยดูไป
เชื่อนํ้าใจดีกวาอยาเชื่อยุ
• สูงอยาใหสูงกวาฐานนานไปลม
จะเรียนคมเรียนเถิดอยาเปดฝก
• คนสามขามีปญญาหาไวทัก
ที่ไหนหลักแหลมคําจงจําเอา
4. จากคําประพันธสามารถนําไปใช
113 ประโยชนในเรื่องการรูจักวางตัวให
เหมาะสม และการอยูรวมกับผูอื่น
ในสังคมอยางมีความสุข
5. ความหมายวาลําบากในตอนแรก
หลักฐาน แตจะสบายในตอนทาย สะทอน
แสดงผลการเรียนรู ใหเห็นความอดทนสูงาน ซึ่งเปน
ขอคิดเกี่ยวกับการทํางานของ
1. การเขียนสรุปเรื่องยอ คนสมัยกอนที่นํามาปรับใชไดใน
2. การเขียนความเรียงจากสํานวนสุภาษิต ปจจุบัน)
3. บันทึกตัวอยางสํานวนสุภาษิตจากเรื่องที่เขากับสถานการณในปจจุบัน
4. ทองจําบทอาขยานตามที่กําหนด
คูมือครู 113
กระตุน ความสนใจ
Engage สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain Expand Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
เปาหมายการเรียนรู
• สรุปเนื้อหาเรื่องบทพากยเอราวัณ
• วิเคราะหวิถีไทยและคุณคา
วรรณคดีเรื่องบทพากยเอราวัณ
• สรุปความรูและขอคิดที่นําไป
ประยุกตใชในชีวิตจริง
• ทองจําและบอกคุณคาบทอาขยาน
ตามที่กําหนด
กระตุนความสนใจ
ครูนําสนทนาและถามนักเรียน
• นักเรียนรูจักชางเอราวัณหรือไม
• นักเรียนรูจักชางเอราวัณจาก
ที่ไหน
• ชางเอราวัณมีลักษณะพิเศษ
อยางไร
• ใครเปนผูทรงชางเอราวัณ
หนวยที่ õ
บทพำกย์เอรำวัณ
ตัวชี้วัด
■ สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทองถิ่นในระดับที่ยากขึ้น
(ท ๕.๑ ม.๓/๑)
บ ทพากยเอราวัณเปนตอนหนึ่งใน
■ วิเคราะหวิถีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อาน
วรรณคดี เ รื่ อ งรามเกี ย รติ์ ที่ ใ ช สํ า หรั บ
(ท ๕.๑ ม.๓/๒) ประกอบการแสดงมหรสพ โดดเด น ทาง
■ สรุปความรูและขอคิดจากการอานเพื่อนําไปประยุกตใชในชีวิตจริง ดานวรรณศิลป การใชถอยคําเพื่อพรรณนา
(ท ๕.๑ ม.๓/๓)
■ ทองจําและบอกคุณคาบทอาขยานตามที่กําหนด (ท ๕.๑ ม.๓/๔) ตัวละคร และฉากในทองเรื่องซึ่งทําใหผูอาน
เกิดจินตภาพ นอกจากนี้ยังปรากฏคุณคาใน
สาระการเรียนรูแกนกลาง
ดานตางๆ เชน คุณคาดานเนื้อหา ดานสังคม
■ วรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทองถิ่นเกี่ยวกับศาสนา
ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิต คําสอน เหตุการณในประวัติศาสตร และวิ ถีไทย และใหขอคิด ผูอานควรอานอยาง
บันเทิงคดี พินจิ พิจารณาเพือ่ สังเคราะหขอ คิดตางๆ ทีจ่ ะนําไป
การวิเคราะหวิถีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรม
■
■ บทอาขยานและบทรอยกรองที่มีคุณคา
ประยุกตใชในชีวิตประจําวัน
114 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ Explore Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Evaluate
สํารวจคนหา
1. แบงกลุมนักเรียนสืบคนพระราช-
ประวัติและผลงานในพระบาท-
๑ ความเป็นมา สมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัย
บทพากย์เอราวัณเป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ใช้สา� หรับ โดยเนนพระปรีชาสามารถดาน
เล่นโขน จัดพิมพ์รวมอยู่ในรามเกียรติ์ค�าพากย์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. การประพันธ จากแหลงเรียนรู
๒๔๖๑ ณ โรงพิมพ์ไท ถนนรองเมือง กรุงเทพฯ ตางๆ เชน หองสมุดโรงเรียน
คณะอนุกรรมการจัดท�าเอกสารและบทความสดุดีบุคคลส�าคัญ ในคณะกรรมการเอกลักษณ์ หนังสือ อินเทอรเน็ต เปนตน
ของชาติ ได้น�ามาจัดพิมพ์ขึ้นใหม่เพื่อเป็นการอนุรักษ์วรรณกรรมเก่าและหายาก สืบอายุวรรณกรรม
2. ใหนักเรียนสืบคนประวัติความ
เปนมาของพระราชนิพนธบทพากย
โดยน�ามาพิมพ์เป็นหนังสือใหม่ชื่อ กาพยคดี ประกอบด้วยเรื่อง
เอราวัณ แลวบันทึกความรูลงสมุด
๑. พิชัยสงครามค�าฉันท์
๒. ต�าราช้างค�าฉันท์
๓. บุณโณวาทค�าฉันท์ อธิบายความรู
๔. รามเกียรติ์ค�าพากย์ จากคํากลาวที่วา “ในรัชสมัยพระ-
๕. ล�าดับกษัตริย์ค�าฉันท์ บาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัย
ตอนที่น�ามาให้ศึกษานี้คัดมาจากเรื่องรามเกียรติ์ค�าพากย์ อยู่ในหน้า ๑๓๑-๑๓๓ ของหนังสือ เป น ยุ ค ทองแห ง วรรณกรรมและ
กาพยคดี มีจา� นวนกาพย์ฉบัง ๑๗ บท ใช้ตวั สะกดทีเ่ ป็นปัจจุบนั แต่ได้ทา� เชิงอรรถบอกไว้วา่ ต้นฉบับเดิม ศิลปกรรม” ใหนกั เรียนหาขอสนับสนุน
สะกดอย่างไร คํากลาวนี้
(แนวตอบ ขอสนับสนุน คือ พระบาท-
๒ ประวัติผู้แต่ง สมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัย
พระองคทรงเชี่ยวชาญดาน
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระนาม อักษรศาสตรอยางยิ่ง พระองคทรง
เดิมว่า ฉิม เป็นพระราชโอรสล�าดับที ่ ๔ ในพระบาทสมเด็จ- พระราชนิพนธเองจํานวนมาก
พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที ่ ๑) ทรงพระราช- มีความประณีต งดงาม พระองค
สมภพเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ เมื่อสมเด็จ- ทรงมีพระอัจฉริยภาพทั้งทางดาน
พระบรมชนกนาถปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งกรุง วรรณศิลปและสถาปตยศิลป และ
รัตนโกสินทร์ใน พ.ศ. ๒๓๒๕ พระองค์ทรงได้รบั การสถาปนา โปรดเกลาฯ ใหประชุมกวีรวมกันแตง
วรรณคดีประเภทตางๆ มากมาย
เป็นเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร พระบาทสมเด็จพระพุทธ-
กวีที่มีความสามารถ เชน สุนทรภู)
เลิศหล้านภาลัยเสด็จขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. ๒๓๕๒ เสด็จ-
สวรรคตเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๗ ครองสิริราชสมบัติเป็นเวลา
๑๕ ปี ขยายความเขาใจ
ใหนักเรียนยกตัวอยางคําประพันธ
พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย
จากพระราชนิพนธในพระบาทสมเด็จ-
115 พระพุทธเลิศหลานภาลัย 3 ตัวอยาง
(แนวตอบ 1. บทละครเรื่องอิเหนา
“นางนวลจับนางนวลนอน
เหมือนพี่แนบนวลสมรจินตะหรา
2. บทละครเรื่องรามเกียรติ์ จากพรากจับจากจํานรรจา
“อันคําบุราณกลาวไว อยาใหหลงกลทั้งสี่ เหมือนจากนางสการะวาตี”
คือรูปรสวาจาพาที ดุริยางคดนตรีนี้หามนัก”
3. กาพยเหชมเครื่องคาวหวาน
“มัสมั่นแกงแกวตา หอมยี่หรารสรอนแรง
ชายใดไดกลืนแกง แรงอยากใหใฝฝนหา”)
คูมือครู 115
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
116
เกร็ดแนะครู
ครูชี้ใหนักเรียนเห็นวาในสมัยรัชกาลที่ 2 เปนยุคทองแหงวรรณกรรม ศิลปกรรมนั้น เพราะเปน
สมัยที่บานเมืองสงบ จึงทรงมุงทํานุบํารุงบานเมืองอยางเต็มที่ เพื่อบํารุงขวัญของประชาชน
116 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนศึกษาฉันทลักษณของ
กาพย ฉ บั ง 16 แล ว ส ง ตั ว แทนมา
๓ ลักษณะคÓประพันธ์ อธิบายแสดงความเขาใจหนาชัน้ เรียน
บทพากย์เอราวัณ ใช้ค�าประพันธ์ประเภทกาพย์ฉบัง ๑๖ ซึ่งมีลักษณะดังนี้ โดยยกตัวอยางกาพยฉบัง 16 จาก
๑ บท มี ๑๖ ค�า แบ่งเป็น ๓ วรรค วรรคแรกมีจ�านวน ๖ ค�า วรรคที่ ๒ มี ๔ ค�า วรรค หนังสือเรียน 1 บท
สุดท้ายมี ๖ ค�า (แนวตอบ
สัมผัสบังคับ ได้แก่ ค�าสุดท้ายของวรรคแรก สัมผัสกับค�าสุดท้ายของวรรคที่ ๒ สัมผัสระหว่าง สามสิบสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา
ดังเพชรรัตนรูจี
บท คือค�าสุดท้ายของบทแรกสัมผัสกับค�าสุดท้ายของวรรคแรกในบทต่อไป
ครูและนักเรียนรวมกันอธิบาย
แผนผัง กาพย์ฉบัง ๑๖
ลักษณะฉันทลักษณของกาพยฉบัง
16 พรอมทั้งจดบันทึกลงสมุด)
(บทที่ ๑)
ขยายความเขาใจ
(บทที่ ๒)
ใหนักเรียนชวยกันแตงกาพยฉบัง
16 บรรยายธรรมชาติยามเชาโดยดู
จากตัวอยางในเรื่องแตงจํานวน 2 บท
แลวอานเปนทํานองเสนาะพรอมกัน
๔ เรื่องย่อ
บทพากย์เอราวัณเป็นเนื้อเรื่องตอนหนึ่งในรามเกียรติ์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับอินทรชิตซึ่งเป็นโอรส
ของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ ชื่อเดิมว่า “รณพักตร์”
รณพักตร์ได้ศึกษาศิลปวิทยากับพระฤๅษีโคบุตร บ�าเพ็ญตบะภาวนามนต์อยู่นานถึง ๗ ปี จึงได้
เกร็ดแนะครู
ศร ๓ เล่ม จากพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามองค์ คือ ศรพรหมาสตร์จากพระอิศวร ศรนาคบาศจากพระพรหม ครูเลาใหนักเรียนฟงเกี่ยวกับโขน
และศรวิษณุปาณัมจากพระนารายณ์ เมือ่ ไปรบกับพระอินทร์ได้รบั ชัยชนะและได้จกั รแก้วของพระอินทร์ คือ การแสดงอยางหนึ่งคลายละครรํา
กลับมายังกรุงลงกา ทศกัณฐ์ทรงพอพระทัยจึงพระราชทานพระนามใหม่แก่รณพักตร์ว่า “อิ “อินทรชิต”
โดยผูแสดงสวมหัวจําลองตางๆ
ที่เรียกวา หัวโขน เลนเฉพาะเรื่อง
ในเรื่องรามเกียรติ์ซึ่งเป็นสงครามแย่งชิงนางสีดา ทศกัณฐ์ทรงให้พระญาติวงศ์พงศาออกรบ
รามเกียรติ์ การแสดงโขนมีทารํา
แต่กลับพ่ายแพ้หมด จึงโปรดให้อินทรชิตออกรบถึง ๔ ครั้ง ที่ออนชอยงดงาม ถือวาโขนเปนการ
ครั้งแรก อินทรชิตถูกศรพลายวาตของพระลักษมณ์ต้องหนีกลับเข้าเมือง อินทรชิตจึงท�าพิธี แสดงนาฏศิลปชั้นสูง
ชุบศรนาคบาศ ระหว่างท�าพิธีมังกรกัณฐ์ได้ออกรบแทนอินทรชิตแล้วถูกพระรามแผลงศรพรหมาสตร์
ต้องมังกรกัณฐ์
ครัง้ ที่ ๒ อินทรชิตรบกับพระลักษมณ์ แผลงศรนาคบาศถูกพระลักษมณ์และพลวานร พระราม
ต้องใช้วิธีเรียกครุฑมาจิกนาค อินทรชิตจึงท�าพิธีชุบศรพรหมาสตร์แต่ไม่ส�าเร็จ นักเรียนควรรู
อินทรชิต แปลวา ผูชนะพระอินทร
117
คูมือครู 117
อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
118
118 คูมือครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู
Engage Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Expand Evaluate
กระตุนความสนใจ
ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับ
บทพากยเอราวัณ ครูถามนักเรียนวา
๕ เนื้อเรื่อง • ใครบางที่เคยชมการแสดงที่ใช
บทพากย และชมเรื่องอะไร
บทพากย์เอราวัณ • นักเรียนคิดวาบทพากยจะใช
อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมือนองค์อมรินทร์ ประกอบการแสดงอยางไร
ทรงคชเอราวัณ๑
ช้างนิรมิตฤทธิแรงแข็งขัน เผือกผ่องผิวพรรณ สํารวจคนหา
สีสังข์สะอาดโอฬาร์
1. ใหนักเรียนคนควาลักษณะ
สามสิบสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา ชางเอราวัณตามบทประพันธ
ดังเพชรรัตน์รูจี 2. บันทึกลักษณะชางเอราวัณที่
งาหนึ่งเจ็ดโบกขรณี สระหนึ่งย่อมมี เรียบเรียงแลวลงสมุด
เจ็ดกออุบลบันดาล
กอหนึ่งเจ็ดดอกดวงมาลย์ ดอกหนึ่งแบ่งบาน อธิบายความรู
มีกลีบได้เจ็ดกลีบผกา
1. ใหถอดคําประพันธหนา 119
กลีบหนึ่งมีเทพธิดา เจ็ดองค์โสภา
บันทึกลงสมุด
แน่งน้อยล�าเพานงพาล
2. ใหนักเรียนจัดกลุม 5-6 คน ทองจํา
นางหนึ่งย่อมมีบริวาร อีกเจ็ดเยาวมาลย์ บทประพันธหนา 119 แลวทองให
ล้วนรูปนิรมิตมายา๒ ครูฟง
จับระบ�าร�าร่ายส่ายหา ช�าเลืองหางตา
ท�าทีดังเทพอัปสร๓
มีวิมานแก้วงามบวร ทุกเกศกุญชร เกร็ดแนะครู
ดังเวไชยันต์อมรินทร์
ครูชี้ใหนักเรียนเห็นการพรรณนา
เครื่องประดับเก้าแก้วโกมิน ซองหางกระวิน๔ ลักษณะของชางเอราวัณในเรื่อง
สร้อยสายชนักถักทอง สะทอนใหเห็นความยิ่งใหญโอฬาร
ตาข่ายเพชรรัตน์ร้อยกรอง ผ้าทิพย์ปกตระพอง เพราะแตละสวนของชางเอราวัณยังมี
ห้อยพู่ทุกหูคชสาร รายละเอียดที่สวยงามวิจิตร แตแฝง
ไปดวยความยิ่งใหญอลังการ เปนชาง
๑
ฉบับหอสมุดวชิรญาณ เขียน เอราวรรณ ทรงที่ควรคูกับบารมีของพระอินทร
๒
ฉบับหอสมุดวชิรญาณ เขียน นิมิตมารยา
๓
ฉบับหอสมุดวชิรญาณ เขียน อับศร
๔
ฉบับหอสมุดวชิรญาณ เขียน กระวิล
นักเรียนควรรู
119 โอฬาร หรือโอฬาร หมายถึง
ใหญโต ยิ่งใหญ
นักเรียนควรรู นักเรียนควรรู
ตระพอง หรือกระพอง หมายถึง โบกขรณี หมายถึง สระบัว
สวนที่นูนเปนปุม 2 ขางศีรษะชาง
คูมือครู 119
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
120 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ Explore Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Evaluate
สํารวจคนหา
ใหนักเรียนศึกษาคนควาลักษณะ
นิสยั ของตัวละครในบทพากยเอราวัณ
จับฟ้าอากาศแลเหลือง ธิบดินทร์เธอบรรเทือง จากหนังสือเรียนและแหลงการเรียนรู
บรรทมฟื้นจากไสยา
ตางๆ
ฯ เจรจา ฯ
เสด็จทรงรถแก้วโกสีย์ ไพโรจน์รูจี
จะแข่งซึ่งแสงสุริย์ใส อธิบายความรู
เทียมสินธพอาชาไนย เริงร้องถวายชัย นักเรียนนําเสนอผลการวิเคราะห
ชันหูระเหิดหฤหรรษ์ วิจารณลักษณะนิสัยของตัวละคร
มาตลีสารถีเทวัญ กรกุมพระขรรค์ ดังนี้
ขับรถมากลางจัตุรงค์ • อินทรชิต
เพลารอยพลอยประดับดุมวง กึกก้องก�ากง • พระลักษมณ
กระทบกระทั่งธรณี • สุครีพ
พรอมยกตัวอยางจากเรือ่ งประกอบ
มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี
ใหเห็นเดนชัด แลวบันทึกความรู
กบี่ระบายโบกลม
ลงสมุด
อึงอินทเภรีตีระงม แตรสังข์เสียงประสม
ประสานเสนาะในไพร
เสียงพลโห่ร้องเอาชัย เลื่อนลั่นสนั่นใน ขยายความเขาใจ
พิภพเพียงท�าลาย นักเรียนพิจารณาลักษณะนิสัยของ
สัตภัณฑ์บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย ตัวละคร และนําเสนอหนาชั้นเรียน
ประนอมประนมชมชัย • ในบทพากยเอราวัณตัวละคร
พสุธาอากาศหวาดไหว เนื้อนกตกใจ ตัวใดที่ควรนํามาเปนแบบอยาง
ซุกซ่อนประหวั่นขวัญหนี ในการปฏิบัติตน เพราะเหตุใด
ลูกครุฑพลัดตกฉิมพลี หัสดินอินทรี (แนวตอบ นักเรียนตอบได
คาบช้างก็วางไอยรา หลากหลาย ขึ้นอยูกับเหตุผล
ของนักเรียน)
วานรส�าแดงเดชา หักถอนพฤกษา
ถือต่างอาวุธยุทธยง
ไม้ไหล้ยูงยางกลางดง แหลกลู่ล้มลง
ละเอียดด้วยฤทธิโยธี นักเรียนควรรู
อากาศบดบังสุริย์ศรี เทวัญจันทรี พัชนี หมายถึง พัด
ทุกชั้นอ�านวยอวยชัย
121 นักเรียนควรรู
สัตภัณฑบรรพต คือเขาสัตบริภณ ั ฑ
หรือเขาสัตภัณฑ ตามคติความเชื่อ
ทีไ่ ทยรับมาจากอินเดียเปนภูเขาทีล่ อ มเปนวงกลมรอบเขาพระสุเมรุ
นักเรียนควรรู เปนชั้นๆ รวม 7 ชั้น สูงลดหลั่นกันลงมาตามลําดับ ชื่อภูเขาชั้นใน
มยุรฉัตร คือ พนมหางนกยูง หรือเครื่องกั้นบังเปน ที่สุดจากเขาพระสุเมรุออกมา คือ ยุคนธร อิสินธร กรวิก สุทัสนะ
ชั้นๆ ทําดวยหางนกยูง เปนเครื่องสูงใชในงานพิธี เนมินธร วินตกะ อัสกัณ ระหวางภูเขาแตละชั้นมีทะเลสีทันดรคั่น
โสกันต (พิธโี กนจุกพระบรมวงศชนั้ พระองคเจาขึน้ ไป)
คูมือครู 121
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
นักเรียนควรรู 122
เกร็ดแนะครู
นักเรียนควรรู ครูเพิ่มเติมความรูใหนักเรียนจากบทประพันธ “อินทรชิตสถิตเหนือเอรา วัณทอดทัศนา
เห็นองคพระลักษมณฤทธิรงค” คําวา “เอราวัณ” ที่เขียนแยกกันอยูคนละวรรคนั้น ถือวาเปน
ไพรี หมายถึง ขาศึก ศัตรู
คําโทษ เรียกวา คํายัติภังค คือ คําไมหมดตรงที่กําหนดไวตามฉันทลักษณ แตเลยไปวรรคหลัง
อาจมีหรือไมมีเครื่องหมายยัติภังคคั่นก็ได
122 คูมือครู
สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ Explore Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Evaluate
สํารวจคนหา
ใหนักเรียนคนหาศัพทที่ควรรู
เพิ่มเติมจากบทพากยเอราวัณ
ทูนเหนือเศียรเกล้ายักษา หมายองค์พระอนุชา
ก็แผลงส�าแดงฤทธิรณ
อากาศก้องโกลาหล โลกลั่นอึงอล อธิบายความรู
อ�านาจสะท้านธรณี 1. ใหนักเรียนเลือกคําศัพทจากบท
ศรเต็มไปทั่วราศี ต้ององค์อินทรีย์ เรียนคนละ 5 คํา บันทึกลงสมุด
พระลักษมณ์ก็กลิ้งกลางพล 2. แลกสมุดกับเพื่อน แลวเขียน
ฯ เจรจา อินทรชิตกลับทัพ ฯ อธิบายความหมายของคําศัพท
ฯลฯ ที่เพื่อนเลือก
ขยายความเขาใจ
๖ คÓศัพท์ ใหนําคําศัพทที่นักเรียนเลือกมา
แตงเปนคําคลองจองตอกันกับเพื่อน
ค�าศัพท์ ความหมาย
กง ส่วนที่เป็นวงรอบของล้อรถ “กงรถไม่จดธรณินทร์” หมายความว่า ลอยเลื่อน
ไปในอากาศ ล้อรถไม่สัมผัสกับพื้นดิน
กบี่ ลิง ในที่นี้คือ พลวานรในกองทัพของพระราม
นักเรียนควรรู
อึงอล หมายถึง เซ็งแซ
กระวิน ห่วงที่เกี่ยวกันส�าหรับ
โยงสัปคับช้าง
(ที่นั่งบนหลังช้าง)
กายิน กาย
กินนร เป็นอมนุษย์ที่มีรูปร่างครึ่งคนครึ่งนก ถ้าเป็นหญิงเรียกว่า กินรี
กุญชร ช้าง
เก้าแก้ว นพรัตน์ คือ แก้วเก้าอย่าง ได้แก่ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิล
มุกดา เพทายและไพฑูรย์
123
@
มุม IT
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ หองที่ 76
ตอนอินทรชิตออกศึกและแปลงกายเปนพระอินทร
http://www.era.su.ac.th/Marad/prasri/index.html
คูมือครู 123
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
ขยายความเขาใจ
1. ใหนักเรียนใชจินตนาการวาดภาพ
ประกอบคําศัพทที่นักเรียนคิดวา
นาสนใจที่สุด คนธรรพ์ ชาวสวรรค์พวกหนึ่ง เป็นบริวารท้าวธตรฐ มีความช�านาญในวิชาดนตรีและ
2. ใหนักเรียนเขียนพรรณนาภาพวาด ขับร้อง
ความยาว 5 บรรทัด จันทรี พระจันทร์ ซึ่งเป็นเทพองค์หนึ่ง ในที่นี้ใช้ จันทรี เพื่อรับสัมผัสกับ “สุรีย์ศรี”
จับระบ�า เริ่มฟ้อนร�า
ฉิมพลี ต้นงิ้ว ตามเรื่องเล่าจากไตรภูมิพระร่วง ที่เชิงเขาพระสุเมรุ มีป่าต้นงิ้วอยู่รอบ
นักเรียนควรรู สระฉิมพลี เป็นที่อาศัยของฝูงครุฑทั้งหลาย
คนธรรพ ทั้งหมดเปนเพศชาย ชนัก เครื่องผูกคอช้าง ท�าด้วยเชือกเป็นปมหรือห่วงห้อยพาดลงมา เพื่อให้คนที่ขี่คอ
คูกับนางอัปสรซึ่งเปนเพศหญิง ใช้หัวแม่เท้าคีบกันตก
และเปนชาวสวรรคเชนกัน ในตํานาน ซองหาง เครื่องคล้องโคนหางช้าง
พระพุทธศาสนากลาววาคนธรรพ
ดวงมาลย์ ดอกไม้
เกิดจากตนไมที่มีกลิ่นหอม
ตระพอง ส่วนที่นูนเป็นปุ่ม ๒ ข้างที่ศีรษะช้าง
ตาข่ายเพชรรัตน์ ตาข่ายร้อยโดยเพชรส�าหรับแต่งหัวช้าง
โตมร อาวุธส�าหรับซัด หอกซัด
สามง่ามที่มีปลอกรูป
เป็นใบโพสวมอยู่
ถา ถลา โผลง
124
124 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
1. ใหนักเรียนรวบรวมคําศัพทใน
บทประพันธตอนที่อินทรชิตกําลัง
ค�าศัพท์ ความหมาย
แปลงกายเปนพระอินทร
เทพอัปสร นางฟ้า 2. นักเรียนชวยกันหาความหมายของ
ธรณินทร์ ตามศัพท์แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ค�าว่า ธรณี (แผ่นดิน) สมาสกับค�าว่า คําศัพทที่รวบรวมมา จากนั้นถอด
อินทร์ (ผู้เป็นใหญ่) ค�าว่าธรณินทร์ในที่นี้ใช้เพื่อความไพเราะของบทประพันธ์ คํ า ประพั น ธ บ ทที่ อิ น ทรชิ ต แปลง
มีความหมายอย่างเดียวกับธรณี หมายถึง แผ่นดิน กาย
ธิบดินทร์ คือ อธิบดินทร์ พระราชาผู้เป็นใหญ่ หมายถึง พระราม
นงพาล นางรุ่นสาว ขยายความเขาใจ
นิมิต สร้าง แปลง ท�า ใหนักเรียนเลือกคําศัพทที่นักเรียน
บรรเทือง ประเทือง ท�าให้ดีขึ้น ในที่นี้หมายถึง ตื่นขึ้น สนใจนํามาสรางประโยคจํานวน
5 ประโยค
บิดเบือนกายิน แปลงกาย
โบกขรณี สระบัว
ผกา ดอกไม้ ในที่นี้คือ ดอกบัว นักเรียนควรรู
ผ้าทิพย์ ปกติหมายถึง ผ้าที่ห้อยหน้าฐานพระพุทธรูปหรือหน้าราชอาสน์หรือพนัก พรหมาสตร อานวา พรม-มาด
พลับพลา ในที่นี้คือผ้าที่คลุมตระพองช้างเพื่อตกแต่งให้สวยงาม เปนการสรางคําแบบสมาสอยาง
พรหมาสตร์ ศรที่พระอิศวรประทานให้รณพักตร์ซึ่งต่อมาคืออินทรชิต (ศรที่พระรามได้จาก มีสนธิ (พรหม + ศัสตรา) ศัตรา
ฤษีวศิ วามิตรก็ชอื่ พรหมาสตร์ ทีช่ อื่ ซ�า้ กันเช่นนี ้ เพราะพรหมาสตร์เป็นชือ่ มนตร์ มีความหมายวา อาวุธ
ที่ใช้ชุบศรเมื่อชุบแล้ว ศรนั้นจึงเรียกว่า ศรพรหมาสตร์)
พระจักรี ผู้ถือจักร คือ พระนารายณ์ ในที่นี้หมายถึง พระรามผู้เป็นอวตารปางหนึ่งของ
พระนารายณ์
พระลักษมณ์ พระอนุชาต่างพระมารดาของพระราม เป็นโอรสนางสมุทรชา เมือ่ พระนารายณ์
อวตารลงมาเป็นพระราม สังข์ซึ่งเป็นเทพอาวุธของพระนารายณ์และพญานาค
ซึ่งเป็นบัลลังก์ของพระนารายณ์ก็ลงมาเกิดเป็นพระลักษมณ์คู่บุญของพระราม
พระสุริย์ศรี พระอาทิตย์
พัดโบก เครือ่ งสูงชนิดหนึง่ แสดงถึงอิสริยยศ เป็นพัดส�าหรับโบกลมถวายพระมหากษัตริย์
ซึ่งประทับ ณ ที่สูง
พานรินทร์ ในที่นี้ใช้เพื่อความไพเราะของบทประพันธ์ มีความหมายอย่างเดียวกับพานร
หมายถึง พลวานรในกองทัพพระราม
125
คูมือครู 125
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
126 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
1. นักเรียนชวยกันรวบรวมคําที่แสดง
อาการเคลื่อนไหว นําเสนอหนา
ค�าศัพท์ ความหมาย
ชั้นเรียนคนละ 1 คําพรอมอธิบาย
เวหน ท้องฟ้า ความหมาย
สมรภูมิ สนามรบ 2. บันทึกคําศัพทที่นักเรียนและเพื่อน
นําเสนอลงสมุดของนักเรียน
สร้อยสุมาลี ดอกไม้
สหัสนัยน์ พันตา หมายถึง พระอินทร์
ขยายความเขาใจ
สัตภัณฑ์ ชื่อหมู่เขา ๗ ชั้น ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ ได้แก่ ยุคนธร อิสินธร กรวิก
สุทัสนะ เนมินธร วินตกะ และอัสกัณ ใหนักเรียนจับคูนําคําศัพทที่แสดง
สุบรรณ ครุฑ เป็นพาหนะของพระนารายณ์ การเคลื่อนไหว 1 คํา มาแตงบท
ประพันธตามความสนใจของ
นักเรียน 1 บท
นักเรียนควรรู
ครุ ฑ มี ฉ ายานามหลายชื่ อ แต ที่
รูจักกันมากคือ “เวนไตย” (เวนเตยะ)
อมรินทร์ พระอินทร์ กายมีสีเขียว เป็นเทพสูงสุดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แปลว า ลู ก นางวิ น ตา เป น ชื่ อ เรี ย ก
อัปสร นางฟ้า พญาครุฑในนิทานเรื่องกากีคํากลอน
ชื่อ “สุบรรณ” แปลวาผูมีขนสีทอง
อารักษ์ เทพารักษ์ เทวดาผู้พิทักษ์
งามรุงเรือง และ “วิษณุรถ” แปลวา
อินทเภรี กลองที่ใช้ตีให้สัญญาณในกองทัพเวลาออกศึกในสมัยโบราณ เช่น ตีบอกให้ พาหนะของพระวิษณุ
ถอย ให้หยุด เป็นต้น
อินทรชิต ยักษ์ตนหนึ่งชื่อเดิมคือ รณพักตร์ เป็นโอรสของทศกัณฐ์
กับนางมณโฑ อินทรชิต แปลว่า รบชนะพระอินทร์
127
คูมือครู 127
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
Engage Explore Explain Expand ตรวจสอบผล
Evaluate
ขยายความเขาใจ
ใหนักเรียนเลือกบทประพันธตอน
ที่ นั ก เรี ย นประทั บ ใจจากบทพากย
เอราวัณ พรอมอธิบายเหตุผล
แลววาดภาพตามจินตนาการ
128 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนตอบคําถามเกี่ยวกับ
การใชโวหารในบทพากยเอราวัณ
๑) การใช้โวหาร ความโดดเด่นด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีทุกเรื่อง นอกจากการ ดังตอไปนี้
เลือกใช้ถ้อยค�าเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกแล้ว กวียังใช้ถ้อยค�าเพื่อสร้างจินตภาพหรือสร้างภาพ • การใชโวหารพรรณนามีความ
ให้เกิดขึ้นแก่ผู้อ่านอีกด้วย ซึ่งบทพากย์เอราวัณกวีได้เลือกใช้ถ้อยค�าเพื่อสร้างภาพโดยพรรณนาโวหาร เหมาะสมกับการดําเนินเรื่อง
ให้เห็นภาพของช้างเอราวัณ ดังบทประพันธ์ อยางไร
(แนวตอบ การพรรณนาทําใหการ
ช้างนิรมิตฤทธิแรงแข็งขัน เผือกผ่องผิวพรรณ ดําเนินเรื่องมีความชัดเจน ผูอาน
สีสังข์สะอาดโอฬาร์ เกิดจิตนภาพคลอยตาม)
สามสิบสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา
ดังเพชรรัตน์รูจี
ขยายความเขาใจ
งาหนึ่งเจ็ดโบกขรณี สระหนึ่งย่อมมี
เจ็ดกออุบลบันดาล 1. ใหนักเรียนเลือกบทประพันธที่
กอหนึ่งเจ็ดดอกดวงมาลย์ ดอกหนึ่งแบ่งบาน นักเรียนประทับใจ แลววิเคราะห
มีกลีบได้เจ็ดกลีบผกา วามีวรรณศิลปอยางไร
2. ครูสุมนักเรียนออกมานําเสนอ
กลีบหนึ่งมีเทพธิดา เจ็ดองค์โสภา
หนาชั้นเรียน
แน่งน้อยล�าเพานงพาล
นางหนึ่งย่อมมีบริวาร อีกเจ็ดเยาวมาลย์
ล้วนรูปนิรมิตมายา
จับระบ�าร�าร่ายส่ายหา ช�าเลืองหางตา เกร็ดแนะครู
ท�าทีดังเทพอัปสร ครูบูรณาการความรูกับวิชา
มีวิมานแก้วงามบวร ทุกเกศกุญชร คณิตศาสตร จากบทพรรณนาราย
ดังเวไชยันต์อมรินทร์ ละเอียดของชางเอราวัณเศียรหนึ่ง
มี 7 งา งาหนึ่งมี 7 สระ สระหนึ่งมี
จากบทประพันธ์กวีใช้ถ้อยค�าพรรณนาให้เห็นภาพของช้างเอราวัณที่มีกายสีขาวเหมือน กอบัว 7 กอ กอหนึ่งมีดอกบัว 7 ดอก
สีสังข์ มีเศียรงามถึง ๓๓ เศียร โดยแต่ละเศียรมีงา ๗ กิ่งที่มีความสวยงามแวววาวเหมือนเพชร ดอกหนึ่งมี 7 กลีบ กลีบหนึ่งมีนางฟา
ที่งาแต่ละกิ่งมีสระบัว ๗ สระ แต่ละสระมีกอบัว ๗ กอ แต่ละกอมีดอกบัว ๗ ดอก แต่ละดอกมีกลีบ รายรําอยู 7 องค แตละองคมีบริวาร
บัวบาน ๗ กลีบ แต่ละกลีบมีนางฟ้าหรือนางอัปสรรูปงาม ๗ องค์ แต่ละองค์มีบริวารที่เป็นหญิงงาม เปนหญิงงาม 7 คน ใหนักเรียนคิดหา
๗ นาง แสดงอากัปกิรยิ าร่ายร�าด้วยท่าทางเหมือนนางฟ้า ทีเ่ ศียรช้างทุกเศียรมีบษุ บกวิมานงดงามราวกับ คําตอบ คํานวณหญิงงามมีจํานวน
3,882,417 องค
วิมานเวไชยันต์ของพระอินทร์
นอกจากนี้ ยังปรากฏบทพรรณนาที่สร้างจินตภาพให้เกิดขึ้นแก่ผู้อ่าน เมื่อได้อ่านมาถึง
ตอนที่อินทรชิตจะยกกองทัพไปรบกับพระราม ดังบทประพันธ์
129
คูมือครู 129
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
130 คูมือครู
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
ขยายความเขาใจ
ใหนกั เรียนเขียนความเรียงพรรณนา
ถึงชางเอราวัณตามจินตภาพของ
เดือนดาวดับเศร้าแสงใส สร่างแสงอโณทัย นักเรียน ความยาว 10 บรรทัด
ก็ผ่านพยับรองเรือง
จับฟ้าอากาศแลเหลือง ธิบดินทร์เธอบรรเทือง
บรรทมฟื้นจากไสยา
ฯ เจรจา ฯ เกร็ดแนะครู
ครูชใี้ หนกั เรียนเห็นวา วรรณคดีไทย
จากบทประพันธ์นี้ กวีเลือกใช้ถ้อยค�าเพื่อสร้างภาพในจินตนาการของผู้อ่าน พรรณนา ตั้งแตยุครัชกาลที่ 2 ซึ่งมีสุนทรภูเปน
ให้เห็นบรรยากาศยามเช้าเมื่อพระรามตื่นจากบรรทมได้ทอดพระเนตรธรรมชาติยามเช้า แมลงและ กวีเอกประจํารัชสมัย นิยมใชกลอน
ผึ้งออกหาอาหาร นกนานาชนิดที่ส่งเสียงร้องก้องแนวป่า ทั้งเดือนและดวงดาวต่างดับแสงลงเมื่อ สุภาพประพันธรอยกรอง และนิยมใช
แสงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า สัมผัสในอยางนอย 1 คูในวรรค เมื่อ
ส่ ว นบทพรรณนากองทั พ ของพระรามยั ง ได้ ส ร้ า งจิ น ตภาพความคึ ก คั ก ของการจั ด ประพันธรอ ยกรองดวยฉันทลักษณอนื่
กระบวนทัพ มีการใช้ค�าขยายให้เกิดความโอ่อ่างดงาม กวีจงึ ยังนิยมใหมเี สียงสัมผัสในภายใน
วรรคดวยเสมอ
อึงอินทเภรีตีระงม แตรสังข์เสียงประสม
ประสานเสนาะในไพร
เสียงพลโห่ร้องเอาชัย
พิภพเพียงท�าลาย
เลื่อนลั่นสนั่นใน นักเรียนควรรู
สัตภัณฑ์บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย
ฉิมพลี หรือสิมพลี สันนิษฐานวา
ประนอมประนมชมชัย น า จะปรากฏในวรรณคดี ไ ทยเป น
ครั้งแรกในไตรภูมิพระรวง ที่กลาววา
พสุธาอากาศหวาดไหว เนื้อนกตกใจ โลหสิมพลีนรก เปนนรกบาวคํารบ 15
ซุกซ่อนประหวั่นขวัญหนี ทางนรกใหญที่ชื่อสัญชีพนรก ตอมา
ลูกครุฑพลัดตกฉิมพลี หัสดินอินทรี “สิมพลี” ปรากฏในกากีกลอนสุภาพ
คาบช้างก็วางไอยรา ของเจาพระยาพระคลัง (หน) กลาวถึง
วานรส�าแดงเดชา หักถอนพฤกษา สิมพลีวา เปนวิมานทีอ่ ยูข องพญาครุฑ
ถือต่างอาวุธยุทธยง และเปนทีค่ บชูส ชู ายของนางกากีและ
นาฏกุเวรคนธรรพ ที่มาของชื่อวิมาน
จากบทประพันธ์นี้ได้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของกองทัพของพระราม รวมถึงบุญ- สิมพลีนี้ คงเพราะตองการแนะวาผูที่
ญาธิการของพระองค์ ซึ่งความยิ่งใหญ่และเสียงโห่ร้องเอาฤกษ์เอาชัยในครั้งนี้สร้างความอกสั่นขวัญ ประพฤติผิดในกามจะตองตายไปตก
หายให้กับบรรดาสัตว์ป่าและนกนานาชนิด แม้กระทั่งนกหัสดีลิงค์ที่ก�าลังคาบช้างอยู่ยังตกใจจนปล่อย อยูในโลหสิมพลีนรก ดังนั้น “สิมพลี”
ช้างออกจากปาก พลทหารวานรต่างพากันฮึกเหิมหักโค่นต้นไม้มาเป็นอาวุธพร้อมรบ จึงเปนทัง้ ชือ่ นรกและวิมานในดินแดน
ที่หางไกลมนุษย
131
คูมือครู 131
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
132 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
อธิบายความรู
ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา
• ในสังคมไทยมีความเชื่อหรือ
“ช้างนิมิตฤทธิแรงแข็งขัน” ทัศนคติอยางไรตอชางเอราวัณ
เสียงสัมผัสใน คือ มิตร - ฤทธิ์ (สัมผัสสระ) ฤทธิ - แรง (สัมผัสอักษร) (แนวตอบ คนไทยมีคานิยมยกยอง
ชาง เพราะเปนสัตวใหญมีพลัง
๗.๓ คุณค่าด้านสังคมและสะท้อนวิถไี ทย เปนสัญลักษณของชาติ และถือวา
บทพากย์เอราวัณเป็นวรรณคดีที่นับได้ว่ามีความโดดเด่นทางด้านวรรณศิลป์อย่างเด่นชัด ชางเปนสัตวคบู ารมีของกษัตริยไ ทย
และในขณะเดียวกันยังได้สะท้อนให้เห็นสภาพสังคมของสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ดังต่อไปนี้ คนไทยสวนหนึ่งใหความเคารพ
๑) ความเชื่อในเรื่องเทพเจ้า ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เพราะเนื้อหาและเรื่องราว ชางเอราวัณ โดยปรากฏใหเห็น
วามีการสรางรูปเคารพชางเอราวัณ
ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับพระอิศวร พระพรหม พระนารายณ์ พระอินทร์ บทพากย์เอราวัณได้สะท้อน
หรื อ สถาป ต ยกรรมที่ เ ป น รู ป ช า ง
ให้เห็นว่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าวหรือก่อนหน้านั้น ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูได้เข้ามามีอิทธิพลต่อความ เอราวัณดวย)
คิดความเชื่อของสังคมไทย จนกระทั่งสะท้อนออกมาในรูปแบบของศิลปกรรม นาฏศิลป์ วรรณกรรม
๒) ความเชื่อในเรื่องโชคลาง ในบทพากย์เอราวัณ ซึ่งมีเนื้อหาพรรณนาให้เห็นภาพ
กองทัพของอินทรชิตและพระลักษมณ์ทพี่ ร้อมสูร้ บกัน ได้สะท้อนให้เห็นความเชือ่ บางประการทีม่ คี วาม ขยายความเขาใจ
เกี่ยวโยงกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดู กล่าวคือ เมื่อกองทัพของพระลักษมณ์พร้อมที่จะสู้รบกับกองทัพ ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายวา
ของอินทรชิตได้มีการเป่าแตรและสังข์ พร้อมกับที่ทหารหาญโห่ร้องเอาชัย ดังบทประพันธ์ • ปจจุบันในสังคมไทยยังปรากฏ
ความเชื่อเรื่องเทพเจาอยูหรือไม
อึงอินทเภรีตีระงม แตรสังข์เสียงประสม สังเกตจากอะไร
ประสานเสนาะในไพร (แนวตอบ ยังปรากฏความเชื่อเรื่อง
เสียงพลโห่ร้องเอาชัย เลื่อนลั่นสนั่นใน เทพเจาอยู สังเกตไดจากรูปเคารพ
พิภพเพียงท�าลาย เทวรูปทีป่ ระดิษฐานอยูต ามสถานที่
ตางๆ)
จากบทประพันธ์กองทัพของพระลักษมณ์ได้มี
การเป่าแตรและสังข์ก่อนออกทัพ ซึ่งธรรมเนียมนิยมนี้ได้มา
จากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู กล่าวคือ ตามวรรณคดีกล่าวไว้ว่า
พระอินทร์เป่าสังข์ปลุกพระนารายณ์ให้ตื่นจากบรรทมสินธุ์
ในสะดือทะเลเพื่อขึ้นมาปราบยุคเข็ญในโลก สังข์ตามลัทธิ
พราหมณ์ถือว่าเป็นมงคล ๓ ประการ คือ สังข์ถือก�ำเนิดจำก
พระพรหม ท้องสังข์เคยเป็นที่ซอนคัมภีร์พระเวท เพรำะใน
ครั้งหนึ่งขณะที่พระพรหมลงสรงน�้ำในพระมหำสุมทร ได้น�ำ
คัมภีร์พระเวทไปวำงไว้ที่ริมฝง สังขรอสูรคิดแกล้งพระพรหม
จึงกลืนคัมภีร์พระเวทลงไป เมื่อพระพรหมขึ้นมำจำกสรงน�้ำ พรำหมณ์หลวงผู้ท�ำพิธีในรำชส�ำนัก
133
คูมือครู 133
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
134
134 คูมือครู
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู Expand Evaluate
Engage Explore Explain
ขยายความเขาใจ
นั ก เรี ย นนํ า ข อ คิ ด จากบทพากย
เอราวัณไปประยุกตใชในชีวิตประจํา
เมื่อนั้นอินทรชิตยักษี ตรัสสั่งเสนี วันไดในเรื่องใดบาง บันทึกลงสมุด
ให้จับระบ�าร�าถวาย (แนวตอบ
ให้องค์อนุชานารายณ์ เคลิบเคลิ้มวรกาย 1. เมือ่ นอยใหเรียนวิชา สะทอนจาก
จะแผลงซึ่งศัสตรศรพล อินทรชิตในวัยเยาว ไดศกึ ษาวิชา
ฯ เจรจา ฯ ตางๆ จนมีความสามารถ ชีวิต
อินทรชิตสถิตเหนือเอรา วัณทอดทัศนา ประจําวันของเราควรหมัน่ ฝกฝน
เห็นองค์พระลักษมณ์ฤทธิรงค์ ใฝรูใฝเรียน
... 2. ควรใชชีวิตอยางมีสติ รอบคอบ
ศรเต็มไปทั่วราศี ต้ององค์อินทรีย์ พิจารณาสิง่ ตางๆ อยางไตรตรอง
พระลักษมณ์ก็กลิ้งกลางพล ไมหลงเชือ่ อะไรงายๆ
ฯ เจรจา อินทรชิตกลับทัพ ฯ 3. ผูที่มีอํานาจควรใชอํานาจ
ฯลฯ ในทางที่ถูกที่ควร ไมนําไปใช
ในทางที่ผิด)
หากน�ามาเปรียบเทียบกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่มากมายด้วยสิ่งอันล่อตาล่อใจ จะท�า
ให้ได้แง่คิดว่าควรใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง มีสติ หากไม่มีสติในการใช้ชีวิตแล้วจะเกิดความสูญเสีย ตรวจสอบผล
๕) สงครามคือความสูญเสีย บทพากย์เอราวัณได้น�าเนื้อเรื่องมาจากรามเกียรติ์ ซึ่ง 1. ครูสุมตัวอยางนักเรียนแตละคน
เป็นเรื่องราวการท�าสงครามระหว่างมนุษย์และยักษ์โดยมีสาเหตุมาจากการแย่งชิงนางสีดา สงคราม ในหองเรียนสรุปเรื่องยอวา ใคร
เกิดขึ้นบ่อยครั้งและในทุกครั้งก็ได้สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้น เช่น หลังจากที่กุมภกรรณอนุชาของ ทําอะไร ที่ไหน เมื่อไร อยางไร
ทศกัณฐ์ถกู สังหารไปแล้ว อินทรชิตจึงอาสาออกรบซึง่ สงครามในครัง้ นีพ้ ระลักษมณ์ตอ้ งศรของอินทรชิต แลวเขียนลงในสมุด
แต่ฝ่ายพระรามก็สามารถแก้พิษศรได้ เมื่ออินทรชิตออกรบอีกครั้งจึงถูกสังหาร จะเห็นว่าสงคราม 2. นักเรียนยกคําประพันธที่ใหคุณคา
ไม่ได้ท�าให้ใครได้รับประโยชน์ แม้กระทั่งผู้ก่อสงคราม ดังนั้นเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ไม่ควรใช้ก�าลัง ดานวรรณศิลปและสังคม
ห�้าหั่นกันแต่ควรใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา 3. นักเรียนทองจําบทอาขยาน
ตามที่กําหนด
บทพากย์เอราวัณ เป็นบทพระราชนิพนธ์ที่เลือกลักษณะคÓประพันธ์ได้เหมาะสม 4. นักเรียนบอกขอคิดที่สามารถนําไป
กับเนือ้ หา กล่าวคือ ใช้กาพย์ฉบัง ๑๖ สÓหรับพรรณนาเรือ่ งราวทีก่ ระชับรวดเร็ว เช่น การ ปรับใชไดในชีวิตจริง
เดินทาง การรบ (ฉบัง หมายถึง การต่อสู้) อีกประการหนึ่ง คือกาพย์ฉบังมีฉันทลักษณ์ 5. นักเรียนตอบคําถามประจําหนวย
ไม่ยาวนักซึ่งเหมาะสÓหรับผู้อ่านจะได้ลองฝึกพากย์ตามบท มีคุณค่าทางวรรณศิลป์ด้วย การเรียนรู
การใช้คÓที่เหมาะสมจนสามารถจดจÓกันได้โดยทั่วไป เหมาะสมสÓหรับเป็นบทพากย์
ในการแสดงโขนที่จะทÓให้ผู้ชมได้รับอรรถรส ความสนุกสนาน ชื่นชมความงามของ
ท่าทางร่ายรÓ ความอลังการของฉาก ทÓให้เกิดจินตนาการ เกิดความประทับใจในศิลป-
วัฒนธรรมที่ควรส่งเสริมและอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกของชาติสืบไป
เกร็ดแนะครู
135 จากบทพากยเอราวัณ ปรากฏคํายืม
ที่เปนภาษาเขมร ไดแก คําวา ตรัส
ถวาย อํ า นาจ ครู ช วนนั ก เรี ย นหา
คําศัพททเี่ ปนคํายืมภาษาเขมรทีใ่ ชใน
ภาษาไทย เชน เสด็จ ตําบล บํานาญ
บําเหน็จ เปนตน
คูมือครู 135
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
เกร็ดแนะครู
(แนวตอบ คําถามประจําหนวย
การเรียนรู
1. ชางเอราวัณมีลักษณะกายสีขาว ค�ำถำม ประจ�ำหน่วยกำรเรียนรู้
เหมือนสีสงั ข มีเศียรงามทัง้ 33 เศียร
โดยแตละเศียรมีงา 7 กิ่ง แตละกิ่ง ๑. ในจินตนาการของนักเรียน ช้างเอราวัณมีลักษณะอย่างไร ให้วาดภาพประกอบ
มีสระบัว 7 สระ แตละสระมีกอบัว ๒. บทประพันธ์ใดที่นักเรียนคิดว่ามีความไพเราะมากที่สุด เพราะเหตุใด
7 กอ แตละกอมีดอกบัว 7 ดอก แตละ ๓. ข้อคิดที่ได้รับจากบทพากย์เอราวัณเกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง
ดอกมีกลีบบัวบาน 7 กลีบ แตละกลีบ ๔. คุณค่าทางด้านใดของบทพากย์เอราวัณที่มีความโดดเด่นมากที่สุด
มีนางฟา 7 องค แตละองคมีบริวาร ๕. บทพากย์เอราวัณได้สะท้อนให้เห็นคุณค่าด้านสังคมและวิถีไทยเกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง
เปนหญิงงาม 7 นาง ที่เศียรชางทุก
เศียรมีบุษบกวิมาน
2. คําตอบขึ้นอยูกับความคิดของ
นักเรียน
3. ขอคิดที่ไดรับจากเรื่อง
1. สงครามทําใหเกิดความ
สูญเสียทั้ง 2 ฝาย
2. เมื่อนอยใหเรียนวิชา
3. การใหอํานาจแกบุคคลใด
ควรไตรตรองใหดี กิจกรรม สร้ำงสรรค์พัฒนำกำรเรียนรู้
4. เมื่อมีอํานาจควรใชในทางที่ถูก
กิจกรรมที่ ๑ ศกึ ษาบทพากย์โขนตอนอืน่ ๆ ทีน่ กั เรียนสนใจเปรียบเทียบกลวิธกี ารใช้ภาษาว่ามีความ
ที่ควร สอดคล้องกับเนื้อหา ฉาก และอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครในเรื่องอย่างไร
4. คุณคาดานวรรณศิลป เพราะสะทอน กิจกรรมที่ ๒ นักเรียนอ่านบทพากย์เอราวัณในแบบท�านองเสนาะ ฝึกพากย์โขนแล้วลองสังเกต
ใหเห็นการสรรคําของกวี มีการใช เปรียบเทียบว่าแบบใดเกิดรสความ รสค�าไพเราะกว่ากัน
โวหารคมคาย ใชภาพพจนใหเห็น
ชัดเจน และมีการเลนสัมผัส ทั้ง
สัมผัสสระและสัมผัสอักษรใหเกิด
ความไพเราะ และเห็นการ
เคลื่อนไหวของตัวละครเดนชัด
5. สะทอนใหเห็นความเชือ่ ของคนไทย
ในเรื่องเทพเจา โชคลาง ศาสนา
เปนตน)
136
หลักฐาน
แสดงผลการเรียนรู
1. การสรุปเรื่องยอเปนแผนผัง
ความคิด
2. ตัวอยางคําประพันธที่มีคุณคา
ดานวรรณศิลปและสังคม
3. ทองจําบทประพันธตามที่กําหนด
136 คูมือครู
กระตุน ความสนใจ
Engage สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain Expand Evaluate
เปาหมายการเรียนรู
ทองจําบทอาขยานและบอกคุณคา
บทอาขยาน บทอาขยานที่กําหนด
๑ การท่องจÓบทอาขยาน กระตุนความสนใจ
ค�ำว่ำ อาขยาน (อำ - ขะ - หฺยำน) ตำมควำมหมำยจำกพจนำนุกรมฉบับรำชบัณฑิตยสถำน
พุทธศักรำช ๒๕๕๔ หมำยถึง บทท่องจ�ำ กำรเล่ำ กำรบอก กำรสวด เรื่อง นิทำน ครูสนทนาเกี่ยวกับการทองบท
อาขยานดวยคําถาม
ตั้งแต่พุทธศักรำช ๒๕๔๒ เป็นต้นมำ กระทรวงศึกษำธิกำรได้ก�ำหนดให้มีกำรท่องบทอำขยำน
• นักเรียนเคยทองบทอาขยาน
ในสถำนศึกษำขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนมีโอกำสท่องจ�ำบทร้อยกรองที่มีควำมไพเรำะ ให้คติสอนใจ
เรื่องใดบาง นักเรียนจําได
ซึ่งเป็นกำรส่งเสริมให้นักเรียนเกิดควำมซำบซึ้ง เห็นควำมงดงำมทำงภำษำและเห็นคุณค่ำของภำษำ หรือไม
และวรรณคดีไทยที่เป็นเอกลักษณ์และมรดกทำงวัฒนธรรมของชำติควรค่ำแก่กำรรักษำและสืบสำน • บทขยานใดที่นักเรียนชื่นชอบ
ให้คงอยู่ตลอดไป รวมทั้งยังช่วยกล่อมเกลำจิตใจให้น�ำไปสู่กำรด�ำเนินชีวิตที่ดีงำมอีกด้วย ประทับใจที่สุด พรอมใหเหตุผล
หลักการในการอ่านบทอาขยาน • นักเรียนชวยกันตอบวา
กำรอ่ำนบทอำขยำนส่วนใหญ่เป็นกำรอ่ำนออกเสียง คือ ผู้อ่ำนเปล่งเสียงออกมำดังๆ ในขณะ ทําอยางไรจึงจะอาน
ที่ใช้สำยตำกวำดไปตำมตัวอักษร ยึดหลักกำรอ่ำนออกเสียงเหมือนหลักกำรอ่ำนทั่วไป เพื่อให้กำรอ่ำน บทอาขยานไดไพเราะ
ออกเสียงมีประสิทธิภำพควรฝึกฝน ดังนี้
๑. กวำดสำยตำจำกค�ำต้นวรรคไปยังท้ำยวรรค และเคลือ่ นสำยตำไปยังวรรคถัดไปอย่ำงรวดเร็ว
โดยไม่ต้องส่ำยหน้ำ
๒. ฝึกเปล่งเสียงให้ดังพอประมำณโดยพิจำรณำถึงกลุ่มผู้ฟังและสถำนที่ แต่ไม่ตะโกน ควร
บังคับเสียง เน้นเสียง ปรับระดับเสียงสูง-ต�่ำ ให้สอดคล้องกับจังหวะ ลีลำ ท่วงท�ำนองและควำมหมำย
ของเนื้อหำที่อ่ำน
๓. อ่ำนด้วยเสียงที่ชัดเจน แจ่มใส ไพเรำะ มีกระแสเสียงเดียว ไม่แตกพร่ำ เปล่งเสียงจำก
ล�ำคอโดยตรงด้วยควำมมั่นใจ
๔. ควรทรงตัวและรักษำอำกัปกิรยิ ำให้ถกู วิธ ี จะช่วยให้ระบบกล้ำมเนือ้ ต่ำงๆ ท�ำงำนประสำนกัน
ท�ำให้เปล่งเสียงได้ดี มีท่วงท่ำน่ำเชื่อถือ ลักษณะกำรทรงตัวที่ถูกวิธีคือ ไม่ว่ำจะยืนหรือนั่งอ่ำน ล�ำตัว
ต้องตั้งตรงและอยู่ในอำกำรสมดุล ควรถือบทหรือหนังสือห่ำงจำกสำยตำประมำณหนึ่งฟุต ขณะอ่ำน
พยำยำมให้ล�ำคอตั้งตรง เงยหน้ำเล็กน้อย สบตำกับผู้ฟังเป็นระยะๆ
๕. อ่ำนออกเสียงให้ถูกอักขรวิธีหรือควำมนิยม และต้องเข้ำใจเนื้อหำของบทอำขยำน
๖. อ่ำนออกเสียง ร ล ค�ำควบกล�้ำให้ถูกต้องชัดเจน
๗. อ่ำนให้ถูกจังหวะและวรรคตอน
๘. พยำยำมอ่ำนให้ได้อำรมณ์และควำมรู้สึกตำมเนื้อหำ
137
คูมือครู 137
สํารวจคนหา อธิบายความรู
กระตุนความสนใจ Explore Explain ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Expand Evaluate
บทพากย์เอราวัณ
อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมือนองค์อมรินทร์
เกร็ดแนะครู ทรงคชเอราวัณ
ครูใหนกั เรียนมีสว นรวมในการทอง ช้างนิรมิตฤทธิแรงแข็งขัน เผือกผ่องผิวพรรณ
จําบทรอยกรองทีเ่ กิดจากความซาบซึง้ สีสังข์สะอาดโอฬาร์
โดยเลือกบทประพันธตอนใดเรื่องใด สามสิบสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา
ก็ไดที่ชอบมาอานใหครูและเพื่อนๆ ดังเพชรรัตน์รูจี
ฟงหนาชั้นเรียน งาหนึ่งเจ็ดโบกขรณี สระหนึ่งย่อมมี
เจ็ดกออุบลบันดาล
กอหนึ่งเจ็ดดอกดวงมาลย์ ดอกหนึ่งแบ่งบาน
มีกลีบได้เจ็ดกลีบผกา
กลีบหนึ่งมีเทพธิดา เจ็ดองค์โสภา
แน่งน้อยล�าเพานงพาล
นางหนึ่งย่อมมีบริวาร อีกเจ็ดเยาวมาลย์
ล้วนรูปนิรมิตมารยา
จับระบ�าร�าร่ายส่ายหา ช�าเลืองหางตา
ท�าทีดังเทพอัปสร
มีวิมานแก้วงามบวร ทุกเกศกุญชร
ดังเวไชยันต์อมรินทร์
138
138 คูมือครู
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา Explain Expand Evaluate
Engage Explore
อธิบายความรู
นักเรียนคิดวาบทประพันธ
พระอภั ย มณี ตอนพระอภั ย มณี ห นี
๒.๒ บทอาขยานเลือก นางผีเสือ้ ทีย่ กมาเปนบทอาขยานเลือก
มี ลั ก ษณะเด น ที่ เ หมาะสํ า หรั บ การ
พระอภัยมณี ทองจําอยางไร
ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ (แนวตอบ บทที่คัดเลือกมาเปนบท
พระโฉมยงองค์อภัยมณีนาถ เพลินประพาสพิศดูหมู่มัจฉา พรรณนาฉากมหาสมุทรที่มีสิ่งมีชีวิต
เหล่าฉลามล้วนฉลามตามกันมา ค่อยเคลื่อนคลาคล้ายคล้ายในสายชล หลายชนิดแสดงกิริยาอาการตางๆ
ฉนากอยู่คู่ฉนากไม่จากคู่ ขึ้นฟ่องฟูพ่นฟองละอองฝน ที่ น า เพลิ ด เพลิ น และพรรณนาให
เห็นภาพรอบเกาะ เปนบทประพันธ
ฝูงพิมพาพาฝูงเข้าแฝงวน บ้างผุดพ่นฟองน�้าบ้างด�าจร
ที่มีความเดนทางดานวรรณศิลป กวี
กระโห้เรียงเคียงกระโห้ขึ้นโบกหาง ลอยสล้างกลางกระแสแลสลอน
เลื อ กสรรถ อ ยคํ า ที่ ไ พเราะเสนาะหู
มังกรเกี่ยวเลี้ยวลอดกอดมังกร ประชุมซ่อนแฝงชลขึ้นวนเวียน เลนเสียงสัมผัสคลองจอง ทําใหงาย
ฝูงม้าน�้าท�าท่าเหมือนม้าเผ่น ขึ้นลอยเล่นเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน ตอการทองจํา เกิดเสียงไพเราะจาก
ตะเพียนทองท่องน�้าน�าตะเพียน ดาษเดียรดูเพลินจนเกินมา รสคํา ซาบซึ้งในรสความ และเขาถึง
เห็นละเมาะเกาะเขาเขียวชอุ่ม โขดตะคุ่มเคียงเคียงเรียงรุกขา อารมณของตัวละครเอกอยาง
จะเหลียวซ้ายสายสมุทรสุดสายตา จะแลขวาควันคลุ้มกลุ้มโพยม พระอภัยมณี)
จะเหลียวดูสุริย์แสงเข้าแฝงเมฆ ให้วิเวกหวาดองค์พระทรงโฉม
ฟังส�าเนียงเสียงคลื่นดังครื้นโครม ยิ่งทุกข์โทมนัสในฤทัยทวี
ขยายความเขาใจ
นักเรียน อานและทองจํา
การท่องจ�าบทอาขยาน นับได้ว่ามีส่วนส�าคัญที่ช่วยกระตุ้นการเรียนการสอนภาษาไทยเป็น บทอาขยานเลือก พระอภัยมณีตอน
อย่างยิ่ง เพราะการท่องจ�าบทอาขยานจะท�าให้นักเรียนได้รับรู้ถึงความไพเราะของบทประพันธ์ สัมผัส พระอภั ย มณี ห นี น างผี เ สื้ อ แล ว ให
ที่คล้องจองกันอย่างลงตัว รวมถึงการได้ข้อคิดคติสอนใจจากบทอาขยานต่างๆ ที่ได้น�ามาท่อง ทั้งนี้ นั ก เรี ย นบรรยายอารมณ ค วามรู สึ ก
บทอาขยานโดยส่วนใหญ่ทคี่ ดั เลือกให้นกั เรียนท่องจ�าล้วนมีความโดดเด่นทัง้ ด้านวรรณศิลป์และเนือ้ หา ของพระอภั ย มณี ต ามบทประพั น ธ
ซึ่งนักเรียนจะได้รับรู้ถึงคุณค่าของบทประพันธ์ด้วยการท่องจ�า และชวยกันตอบคําถาม
( แนวตอบ พระอภั ย มณี กํ า ลั ง รู สึ ก
เปลาเปลี่ยว หวั่นใจ ทุกขใจ ดังวา
“ใหวิเวกหวาดองคพระทรงโฉม...ยิ่ง
ทุกขโทมนัสในฤทัยทวี”)
• ในบทอาขยานที่เลือกมีสิ่งมีชีวิต
อะไรบาง
(แนวตอบ ฉลาม ฉนาก พิมพา
ปลากระโห มังกร มานํ้า
139 ตะเพียนทอง)
ตรวจสอบผล
หลักฐาน 1. นักเรียนทองบทอาขยานหลัก
แสดงผลการเรียนรู ตามที่กําหนด
2. นักเรียนเลือกทองคําประพันธ
1. ทองจําบทอาขยานหลัก
ที่ชอบ พรอมทั้งบอกเหตุผล
2. ถอดคําประพันธบทอาขยานหลัก
คูมือครู 139
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
บรรณานุกรม
กระแสร์ มาลยาภรณ์. (๒๕๑๖). วรรณคดีเปรียบเทียบเบื้องต้น. กรุงเทพฯ : โรงเรียนสตรีเนติศึกษา แผนกการพิมพ์.
กริสโวลด์, เอ.บี. (๒๕๐๘). พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้ากรุงสยาม. แปลจาก King Mongkut of Siam โดย
ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. (๑๕๑๔). พระบรมราโชวาทในรัชกาลที่ ๕ พระราชทานแด่พระเจ้า-
ลูกยาเธอ. พระนคร : โรงพิมพ์บรรณาคาร.
ฐะปะนีย์ นาครทรรพ และคณะ. (๒๕๕๓). ภาษาไทย ม.๒. พิมพ์ครั้งที่ ๑๙. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์.
ด�ารงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. (๒๕๑๖). ชีวิตและผลงานของสุนทรภู่. พิมพ์ครั้งที่ ๕.
พระนคร : บรรณศิลป์.
ต�ารา ณ เมืองใต้ (นามแฝง). (๒๕๑๕). ภาษาและวรรณคดี. กรุงเทพฯ : บ�ารุงสาส์น.
บุญเหลือ เทพยสุวรรณ. (๒๕๑๑). แนะแนวทางการเรียนวรรณกรรมวิจักษ์และวรรณคดีวิจารณ์. นครปฐม :
คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ประสิทธิ์ กาพย์กลอน. (๒๕๒๓). แนวทางการศึกษาวรรณคดี ภาษากวี การวิจักษณ์ และการวิจารณ์. กรุงเทพฯ :
ไทยวัฒนาพานิช.
เปลื้อง ณ นคร. (๒๕๐๖). ประวัติวรรณคดีส�าหรับนักศึกษา. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.
. (๒๕๐๙). เล่าเรื่อง พระอภัยมณีค�ากลอน วรรณกรรมเอกของสุนทรภู่. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์วัฒนาพานิช.
ไพรถ เลิศพิริยกมล. (๒๕๔๒). วรรณกรรมปัจจุบัน. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช.
มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. (๒๕๐๓). บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์รัชดารมภ์.
มณีปิ่น พรหมสุทธิรักษ์. (๒๕๓๕). ลักษณะของวรรณคดีไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
เยาวลักษณ์ ชาติสุขศิริเดช และบุญลักษณ์ เอี่ยมส�าอางค์. (๒๕๕๓). เรียงถ้อยร้อยกรอง. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ :
อักษรเจริญทัศน์.
ราชบัณฑิตยสถาน. (๒๕๔๖). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช ๒๕๔๒. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์
พับลิเคชั่นส์.
. (๒๕๕๐). พจนานุกรมศัพท์วรรณกรรมไทย ภาคฉันทลักษณ์. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน.
. (๒๕๔๗). ใต้รม่ พระบารมีจกั รีนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช. กรุงเทพฯ : คณะบรรณาธิการจัดท�าสารานุกรม
ประวัติศาสตร์ไทย.
วัชรี รมยะนันทน์. (๒๕๓๘). วิวัฒนาการวรรณคดีไทย. กรุงเทพฯ : โครงการต�าราคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
วิญญู บุญยงค์. (๒๕๔๒). ยักษ์ในรามเกียรติ์. กรุงเทพฯ : เวิลด์มีเดีย ๒๐๒๐.
ศิลปากร, กรม. (๒๕๔๘). สุภาษิตพระร่วง และสุภาษิตอิศรญาณ. พิมพ์ครั้งที่ ๑๑. กรุงเทพฯ : องค์การค้าคุรุสภา.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. (๒๕๔๔). อ่านอย่างไรให้ได้รส. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
ส�านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (๒๕๕๒). วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒. พิมพ์ครั้งที่ ๘.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว.
. (๒๕๔๘). แนวการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรม เล่ม ๓. กรุงเทพฯ : สถาบันภาษาไทย ส�านักวิชาการ
และมาตรฐานการศึกษา ส�านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
. (๒๕๔๘). บทอาขยานภาษาไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
ส�านักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ. (๒๕๓๗). ราชาศัพท์. กรุงเทพฯ : ฉลองรัตน์.
สิทธา พินิจภูวดล. (๒๕๓๕). วรรณคดีวิจารณ์. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
140
140 คูมือครู
แบบทดสอบอิงมาตรฐาน
เนนการคิด
การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีจุดมุงหมายเพื่อใหผูเรียนอานออก เขียนได คิดคํานวณเปน มุงใหเกิดทักษะการเรียนรูตลอดชีวิต
เตรียมตัวเปนพลเมืองที่มีคุณภาพ และมีความสามารถในการแขงขันไดในอนาคต การจัดการเรียนรูที่สอดคลองกับจุดมุงหมายดังกลาว
จึงควรใหผูเรียนฝกฝนการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิตจริง สามารถคิดวิเคราะหและแกปญหาได ดังนั้นเพื่อเปนการเตรียมความพรอม
ของผูเรียน ทางโครงการวัดและประเมินผล บริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด จึงไดจัดทําแบบทดสอบอิงมาตรฐาน เนนการคิด
โดยดําเนินการวิเคราะหสาระการเรียนรูที่สําคัญตามที่ระบุไวในมาตรฐานและตัวชี้วัดชั้นป แลวนํามากําหนดเปนระดับพฤติกรรมการคิด
เพื่อสรางแบบทดสอบที่มีคุณสมบัติ ดังน�้
1 วัดผลการเรียนรู 2 เนนใหผูเรียนเกิดการคิด ผูสอนสามารถนําแบบทดสอบน�้ไปใชเปนเครื่องมือวัด
และประเมินผล รวมทั้งเปนเครื่องบงชี้ความสําเร็จและรายงาน
คุณภาพของผูเรียนแตละคน เพื่อเปนการเตรียมความพรอม
ของนักเรียนใหมีความสามารถในดานการใชภาษา ดานการ
คิดคํานวณ และดานเหตุผล สําหรับรองรับการประเมินผลผูเ รียน
ที่สอดคลองกับมาตรฐาน ตามระดับพฤติกรรมการคิด ในระดับประเทศ (NT) และระดับนานาชาติ (PISA) ตอไป
ตัวชี้วัดชั้นปทุกขอ ที่ระบุไวในตัวชี้วัด
แบบทดสอบ
แบบทดสอบอิงมาตรฐาน เนนการคิด ที่จัดทําโดย โครงการวัดและประเมินผล บริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด ประกอบดวย
แบบทดสอบประจําภาคเรียนที่ 1 และแบบทดสอบประจําภาคเรียนที่ 2 ซึ�งแตละภาคเรียนจะมีแบบทดสอบ 2 ชุด แตละชุดมีทั้ง
แบบทดสอบปรนัย และแบบทดสอบอัตนัย โดยวิเคราะหมาตรฐานตัวชี้วัด และระดับพฤติกรรมการคิดที่สัมพันธกับแบบทดสอบไวอยาง
ชัดเจน เพื่อใหผูสอนนําไปใชเปนเครื่องมือวัดและประเมินผลผูเรียนไดอยางมีประสิทธิภาพ
โครงการบูรณาการ
ตารางวิเคราะหแบบทดสอบ ภาคเรียนที่ 1
ตารางวิเคราะหมาตรฐานตัวชี้วัด ตารางวิเคราะหระดับพฤติกรรมการคิด
ระดับ ขอของแบบทดสอบที่สัมพันธกับ
ชุดที่ มาตรฐาน ตัวชี้วัด ขอของแบบทดสอบที่สัมพันธกับตัวชี้วัด พฤติกรรม ระดับพฤติกรรมการคิด รวม
การคิด
1 1 - 3, 9 - 13, 23 - 27 A ความรู ความจํา 1, 9, 14, 23 - 24 5
2 4 - 5, 14 - 18, 28 - 33 B ความเขาใจ 2, 10 - 11, 25 4
1 ท 5.1
3
4
6 - 7, 19 - 22, 34 - 35
8, 36 - 40
C การนําไปใช
D การวิเคราะห
3, 15, 19, 26, 28
8, 16 - 17, 27, 29 - 31, 34, 36 - 37
5
10
E การสังเคราะห 6 - 7, 18, 20 - 21, 32 - 33, 38 8
F การประเมินคา 4 - 5, 12 - 13, 22, 35, 39 - 40 8
1 1 - 2, 9 - 11, 23 - 26 A ความรู ความจํา 9 1
2 3 - 4, 12 - 16, 27 - 30 B ความเขาใจ 1, 10 - 12, 27, 31, 36 7
2 ท 5.1
3
4
5 - 8, 17 - 22, 31 - 35
36 - 40
C การนําไปใช
D การวิเคราะห
2 - 3, 17, 23, 32, 37 - 38
5 - 6, 13 - 14, 18, 28 - 29, 33, 39 - 40
7
10
E การสังเคราะห 7, 15, 19, 24, 30, 34 6
F การประเมินคา 4, 8, 16, 20 - 22, 25 - 26, 35 9
(1) โครงการวัดและประเมินผล
แบบทดสอบว�ชา ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ภาคเร�ยนที่ 1 ¤Ðá¹¹·Õè ä´Œ
ชุดที่ 1
¤Ðá¹¹ÃÇÁ
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3 50
จินตนาการของมนุษยเปนเรื่องราวที่นาสนใจได”
1. วรรณคดีไทยกลาวถึงประวัติของชนชาติไทย
ขอความนี้เปนลักษณะของคําในขอใด 2. วรรณคดีไทยกลาวถึงประวัติของกวีแตละสมัย
1. วรรณคดี 3. วรรณคดีไทยกลาวถึงความคิดเห็นของคนไทย
2. วรรณศิลป 4. วรรณคดีไทยกลาวถึงสภาพสังคมและวัฒนธรรมในอดีต
3. วรรณกรรม 5. วรรณคดีใหคุณคาทางดานสังคมอยางไร
โครงการบูรณาการ
4. ฉันทลักษณ F 1. ใหความเพลิดเพลิน
2. ใหความเขาใจในชีวิต
2. “งานประพันธที่มีเนื้อหาพรรณนาถึงการเดินทาง 3. ใหแนวคิดและกลวิธีในการนําเสนอ
B และแสดงความรูสึกครํ่าครวญถึงนางอันเปนที่รัก 4. ใหประสบการณที่สามารถนําไปประยุกตใชได
ตลอดการเดินทาง”
6. ครืนครืนใชฟารอง เรียมครวญ
ขอความนี้เปนลักษณะของคําประพันธชนิดใด E
1. ฉันท บทประพันธในขอใดมีลักษณะการใชภาพพจน ตรงกับ
2. ลิลิต บทประพันธขางตน
3. นิราศ 1. เสียงรํ่าไหสนั่นกอง กังวาน
4. กาพย 2. เรียมรํ่านํ้าเนตรถวม ถึงพรหม
3. การแบงประเภทของวรรณคดีตามลักษณะของเนือ้ หา 3. วังเอยวังเวง หงางเหงงยํ่าคํ่าระฆังขาน
B ขอใดกลาวถูกตอง 4. แมวเอยแมวเหมียว รูปรางปราดเปรียวเปนนักหนา
1. โคลงโลกนิติจัดเปนวรรณคดีคําสอน 7. ขอใดใชภาพพจนแตกตางจากขออื่น
2. ลิลิตนารายณสิบปางจัดเปนวรรณคดีการละคร E 1. ปลาทุกทุกขอกกรม เหมือนทุกขพี่ที่จากนาง
3. ไตรภูมิพระรวงจัดเปนวรรณคดีเฉลิมพระเกียรติ 2. กระแหแหหางชาย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม
4. เสภาพระราชพงศาวดารจัดเปนวรรณคดี 3. เพียนทองงามดั่งทอง ไมเหมือนนองหมตาดพราย
ขนบธรรมเนียมประเพณี 4. ลูกผูชายลายมือนั้นคือยศ เจาจงอตสาหทาํ สมํา่ เสมียน
ความรู ความจํา ความเขาใจ การนําไปใช การวิเคราะห การสังเคราะห การประเมินคา
A B C D E F
โครงการวัดและประเมินผล (2)
8. ดูหนูสูรูงู งูสุดสูหนูสูงู 13. พระยาภักดีเสนอเ
สนอเงินจํานวนหนึ่งรอยชั่งใหแกนายลํ้า
D หนูงูสูดูอยู รูปงูทูหนูมูทู F เพื่อไมใหนายลํ้ามาแสดงตนวาเปนพอของแมลออ
จากการกระทํานีแ้ สดงใหเห็นวาพระยาภักดีมลี กั ษณะนิสยั
บทประพันธขางตนมีความดีเดนทางดานวรรณศิลป อยางไร
อยางไร 1. ดูถูกคนยากจน
1. มีการเลนคํา 2. โออวดความรํ่ารวย
2. มีการเลนเสียงสระ 3. มีความรักและหวังดีตอลูก
3. มีการเลนเสียงพยัญชนะ 4. มีนํ้าใจชอบชวยเหลือคนยากจน
4. มีการเลนเสียงวรรณยุกต 14. ในบทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก สํานวนภาษาใดที่ไมนิยม
9. นายลํ้ามอบสิ่งใดเปนของขวัญวันแตงงานแกแมลออ A ใชในปจจุบัน
A 1. สรอยของแมนวลที่นายลํ้าซื้อให 1. คุณจะใหผมขายลูกผมยังงั้นหรือ
2. แหวนรักของนายลํ้าที่ใสมาตั้งแตยังหนุม 2. แมลออก็จะมีเหยามีเรือนอยูแลว
3. สรอยที่แมนวลซื้อใหนายลํ้ากอนเสียชีวิต 3. ก็แนละ ไมมีเงินก็อดตายเทานั้นเอง
4. แหวนของแมนวลที่นายลํ้าเก็บไวดูตางหนา 4. แกไดพยายามที่จะสําแดงใหปรากฏอยางไรบาง
15. รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชนิพนธบทละครพูดไวเปน
แบบทดสอบ
10. “ไมใชวาใครๆ เขาจะพากันคอยตัดรอนไมใหมีการ C จํานวนมาก แตบทละครพูดเรือ่ งเห็นแกลกู มีลกั ษณะพิเศษที่
B ผงกหัวไดอีก” ตางจากบทละครพูดเรื่องอื่นๆ อยางไร
1. เปนละครพูดที่มีองกเดียวและฉากเดียว
คําวา “ผงกหัว” ในบทสนทนานี้มีความหมายโดยนัยวา 2. เปนละครพูดที่มีขนาดยาวกวาละครพูดเรื่องอื่นๆ
อยางไร 3. เปนละครพูดที่ไมมีเคาโครงเรื่องมาจากตางประเทศ
โครงการบูรณาการ
1. พยักหนา 4. เปนละครพูดที่มุงแสดงคุณธรรมใหคนทั่วไปไดยึดถือ
2. กมศีรษะเบาๆ และปฏิบัติตาม
3. กลับตัวกลับใจ 16. จากบทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก นักเรียนคิดวาลักษณะ
4. ยอมรับความผิด D ของตัวละครใดที่มีพฤติกรรมสอดคลองกับชื่อเรื่อง
11. ขอใดเปนสาเหตุสําคัญที่ทําใหนายลํ้ามาแสดงตัวในบาน 1. นายลํ้า 2. อายคํา
B ของพระยาภักดี 3. แมลออ 4. พระยาภักดี
1. เพราะไมมีทางทํามาหากิน 17. จากบทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก การที่นายลํ้ายอมกลับ
2. เพราะตั้งใจจะมาพึ่งพาลูกสาว D โดยไมเปดเผยตัวใหแมลออรู เพราะสาเหตุใดเปนสําคัญ
3. เพราะเปนหวงลูกสาวที่กําลังจะแตงงาน 1. เพื่อพิสูจนความเปนชายชาตรี
4. เพราะตองการแสดงความรักของพอที่มีตอลูก 2. เพื่อใหแมลออมีชีวิตที่สุขสบาย
3. เพื่อแสดงใหเห็นวาตนมีศักดิ์ศรี
12. “ดิฉันจะเขาไปในเรือนเสียทีคะ คุณพอกับคุณอา 4. เพื่อตองการเอาชนะคําสบประมาทของพระยาภักดี
F คงอยากคุยกันอยางผูชายๆ สนุกกวา” 18. ในบทละครพูดเรือ่ งเห็นแกลกู จากคํากลาวของอายคําทีว่ า
E “ผมบอกวาใตเทายังไมกลับจากออฟฟศ ก็ไมยอมไป”
จากบทสนทนานี้แสดงวาแมลออเปนคนเชนไร สะทอนลักษณะการใชภาษาในสมัยนั้นอยางไร
1. เปนคนขี้อาย 1. ภาษาแสดงความเจริญทางวัฒนธรรม
2. เปนคนรูจักกาลเทศะ 2. คนรับใชใชภาษาระดับเดียวกับเจานาย
3. เปนคนสุภาพออนหวาน 3. ภาษาตางประเทศมีใชในภาษาพูดของคนไทย
4. เปนคนไมกลาสูหนาคน 4. คนทุกชนชั้นมีความรูทางดานภาษาตางประเทศ
(3) โครงการวัดและประเมินผล
19. ในบทละค
ในบทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก บทสนทนาในขอใด 25. คําศัพทในข
นขอใดมีความหมายตางจากขออื่น
C แสดงความคิดที่นายกยองของพระยาภักดี B 1. ชลาลัย ชลธี
1. แกรับเงินรอยชั่งแลวรีบไปเสียเถอะ 2. คงคา นที
2. ก็ถาพูดกันดีๆ ไมชอบก็ตองพูดกันอยางเดียรฉาน 3. สายชล วารี
3. แกสูฉันไมไดหรอก ฤทธิ์เหลามันฆากําลังแก 4. นภาพร อัมพร
เสียหมดแลว 26. วรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีมีลักษณะที่แตกตางจาก
4. เงินนะไมเสียดายหรอก ฉันเสียดายชื่อและความสุข C วรรณคดีเรื่องอื่นอยางไร
ของแมลออ 1. ตัวเอกมีภรรยาหลายคน
20. “นํ้าเหลืองๆ ไมมีหรือครับ มันคอยชื่นอกชื่นใจ 2. ตัวเอกมักถูกยักษหรือโจรลักพาไป
E หนอยหนึ่ง?” 3. แสดงแนวคิดที่แปลกใหมของตัวละคร
4. ตัวเอกเปนโอรสกษัตริยตองไปเรียนวิชาตางๆ
จากบทสนทนานี้ จัดเปนบทสนทนาทีเ่ หมาะสมกับตัวละคร 27. ผลงานที่แสดงประวัติชีวิตของสุนทรภูไดชัดเจนที่สุดคือ
ในดานใด D ผลงานประเภทใด
1. บทสนทนาที่เหมาะสมกับนิสัยตัวละคร 1. นิราศ
2. บทสนทนาที่เหมาะสมกับอายุตัวละคร 2. นิทาน
แบบทดสอบ
3. บทสนทนาที่เหมาะสมกับฐานะตัวละคร 3. บทละคร
4. บทสนทนาที่เหมาะสมกับสถานภาพตัวละคร 4. บทเสภา
21. ใจความสําคัญของบทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก คือขอใด 28. นิราศสุพรรณมีลักษณะพิเศษแตกตางจากนิราศเรื่องอื่น
E 1. คนเปนพอไมควรทําลายลูก C ของสุนทรภูในขอใด
2. จิตผองใสนํามาซึ่งความสุข
3. พอในอุดมคติของลูกทุกคน 1. ที่มาของเรื่อง
โครงการบูรณาการ
4. จิตใจที่บริสุทธิ์ของพอที่มีตอลูก 2. เนื้อหาของเรื่อง
22. บทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก แสดงแนวคิดสําคัญในขอใด 3. ลักษณะคําประพันธ
F เดนชัดที่สุด 4. จุดมุงหมายในการแตง
1. ความหวงใยของพอที่มีตอลูก 29. ลักษณะคําประพันธของสุนทรภูม ลี กั ษณะพิเศษซึง่ แตกตาง
2. ความเสียสละของพอที่มีตอลูก D จากคําประพันธของกวีทานอื่นอยางไร
3. ความปรารถนาดีของพอที่มีตอลูก 1. แสดงแนวคิดของผูแตงชัดเจน
4. ความรักที่ยิ่งใหญของพอที่มีตอลูก 2. เครงครัดเรื่องคําและความหมาย
23. สุนทรภูแตงนิทานคํากลอนเรื่องพระอภัยมณี 3. มีความไพเราะในรสคําและรสความ
A โดยใชเคาโครงจากแหลงใด 4. มีสัมผัสในทุกวรรคทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร
1. นิทานชาดก 2. นิทานมุขปาฐะ 30. จากเรื่องพระอภัยมณี บทประพันธในขอใดตอไปนี้
3. นิทานสุภาษิต 4. จินตนาการของทานเอง D ไมได สะทอนความเชื่อของคนไทย
1. พอมอยหลับกลับจิตนิมิตฝน
24. พระยินดีชี้บอกสินสมุทร วาเทวัญที่เกาะนั้นเหาะเหิน
A โนนแนกุฏิ์มุงกระเบื้องเหลืองสลับ
2. ดวยโยคีมีมนตดลวิชา
คําวา “กุฏิ์” ในคําประพันธขางตน หมายถึงขอใด ปราบบรรดาภูติพรายไมกรายไป
1. ศาลาวัด 3. นึกจะใครสะเดาะพระเคราะหเจา
2. ที่อยูของนักบวช พอบรรเทาโทษาที่อาสัญ
3. บานพักของโยคีบนภูเขา 4. เจียระบาดคาดองคก็ทรงเปลื้อง
4. ศาลาสรางเปนหลังเรียงกันเปนแนวรอบโบสถ ใหเปนเครื่องนุงหมโอรสา
โครงการวัดและประเมินผล (4)
31. จึงบัญชาวาเจาสินสมุทร 37. พอมอยหลับกลับจิตนิมิตฝน
D ไปชวยฉุดศิลาใหญใหขึ้นเขา D วาเทวัญอยูที่เกาะนั้นเหาะเหิน
ขอสมาตาปูอยาดูเบา มาสังหารผลาญถํ้าระยําเยิน
ชวยอุมเอาแกออกไปใหสบาย แกวงพะเนินทุบนางแทบวางวาย
คําประพันธขางตนสะทอนวัฒนธรรมไทยในเรื่องใด ความฝนของนางผีเสื้อสมุทรในคําประพันธขางตน
1. ความมีนํ้าใจ เปนความฝนลักษณะใด
2. ความออนโยน 1. บุรพนิมิต
3. ความกตัญูกตเวที 2. จิตนิวรณ
4. การมีสัมมาคารวะตอผูใหญ 3. เทพสังหรณ
32. เหตุใดจึงมีคํากลาววา “สุนทรภูคือผูใชชีวิตอยางแทจริง” 4. ธาตุโขภะ
E 1. สุนทรภูสรางผลงานใหคนรุนหลังไดเรียนรู
2. ชีวิตของสุนทรภูมีอุปสรรคแตทานกลับไมทอถอย 38. พระโฉมยงองคอภัยมณีนาถ
3. ชีวติ ของสุนทรภูม ตี งั้ แตรงุ เรืองสูงสุดจนถึงขัน้ ตกตํา่ สุด E เพลินประพาสพิศดูหมูมัจฉา
4. ทุกขอที่กลาวมาถูกตอง
33. เพราะเหตุใดเรือ่ งพระอภัยมณีจงึ ถือเปนวรรณคดีเรือ่ งเดน บทประพันธนมี้ คี าํ ยืมทีเ่ ปนทัง้ ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต
แบบทดสอบ
E และไดรับความนิยมมากของสุนทรภู กี่คํา
1. กลอนไพเราะ เนื้อเรื่องดี แทรกประสบการณ 1. 1 คํา
2. ภาษาเขาใจงาย ไมใชศัพทสูง แฝงคติเตือนใจ 2. 2 คํา
3. กลอนไพเราะ เนื้อเรื่องสนุก จินตนาการแปลกใหม 3. 3 คํา
4. ผูกเรื่องขึ้นเองจากจินตนาการ เนื้อเรื่องสนุกตื่นเตน 4. 4 คํา
โครงการบูรณาการ
34. จากเรื่องพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ 39. บทกลอนในขอใดใชกลวิธีการประพันธแตกตางขออื่น
D ตัวละครใดเปนตัวอยางในเรื่องการรักษาความสัตย F 1. ฉนากอยูคูฉนากไมจากคู
1. พระโยคี 2. เงือกนํ้า ขึ้นฟองฟูพนฟองละอองฝน
3. สินสมุทร 4. พระอภัยมณี 2. ฝูงพิมพาพาฝูงเขาแฝงวน
35. ขอใดเปนแนวคิดสําคัญของเรื่องพระอภัยมณี บางผุดพนฟองนํ้าบางดําจร
F ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ 3. กระโหเรียงเคียงกระโหขึ้นโบกหาง
1. ความรักชนะทุกอยาง ลอยสลางกลางกระแสแลสลอน
2. ความรักกอใหเกิดทุกข 4. เหลาฉลามลวนฉลามตามกันมา
3. ความรักคือการเสียสละ คอยเคลื่อนคลาคลายคลายในสายชล
4. ความรักแบบไมเต็มใจยอมไมยั่งยืน
36. จากเรื่องพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ 40. จะเหลียวดูสุริยแสงเขาแฝงเมฆ
D คําประพันธในขอใดมิไดสะทอนความเชื่อของคนไทย F ใหวิเวกหวาดองคพระทรงโฉม
1. ทั้งนี้เพราะเคราะหกรรมทําใหวุน ฟงสําเนียงเสียงคลื่นดังครื้นโครม
จึงสิ้นบุญวาสนานิจจาเอย ยิ่งทุกข โทมนัสในฤทัยทวี
2. อยาฆาสัตวตัดชีวิตพิษฐาน
หมายวิมานเมืองแมนแดนสวรรค คําประพันธขา งตนแสดงบุคลิกลักษณะใดของพระอภัยมณี
3. เราลงเลขเสกทําไวสําเร็จ 1. หวาดกลัว ขี้ขลาด
ดังเขื่อนเพชรภูตปศาจไมอาจใกล 2. ออนแอ วิตกกังวล
4. ดวยองคพระชนนีเปนผีเสื้อ 3. หวาดกลัว ทุกขใจ
อันชาติเชื้ออยูถํ้าลําละหาร 4. ออนแอ ขาดความมั่นใจ
(5) โครงการวัดและประเมินผล
ตอนที่ 2 ตอบคําถามใหถูกตอง จํานวน 3 ขอ 10 คะแนน ¤Ðá¹¹·Õè ä´Œ
¤Ðá¹¹àµçÁ
10
1. เพราะเหตุใดวรรณคดีไทยสวนใหญจึงเปนผลงานการประพันธของผูประพันธชาย (3 คะแนน)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แบบทดสอบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
โครงการบูรณาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
โครงการวัดและประเมินผล (6)
แบบทดสอบว�ชา ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ภาคเร�ยนที่ 1 ¤Ðá¹¹·Õè ä´Œ
ชุดที่ 2
¤Ðá¹¹ÃÇÁ
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3 50
1. “การใชเหตุผลอธิบายแสดงความคิดเห็นตอเนื้อหา 5. วรรณ
วรรณคดีเรื่องใดแสดงแนวคิดที่วา “ธรรมะยอมชนะ
B รูปแบบคําประพันธของวรรณคดีและวรรณกรรม” D อธรรม”
แบบทดสอบ
1. รามเกียรติ์
คํากลาวนี้มีความหมายตรงกับขอใดมากที่สุด 2. พระอภัยมณี
1. การวิจารณวรรณคดี 3. ขุนชางขุนแผน
2. การวิพากษวรรณคดี 4. พระราชพิธีสิบสองเดือน
3. การวิเคราะหวรรณคดี 6. บทประพันธในขอใดมีวรรณศิลปดานการเลนเสียง
D พยัญชนะเดนชัดที่สุด
โครงการบูรณาการ
4. การสังเคราะหวรรณคดี
2. ขอใดไมใชคุณสมบัติของวรรณคดี 1. เห็นหรุมรุมทรวงเศรา รุมรุมเราคือไฟฟอน
C 1. เปนสิ่งที่สรางขึ้นใหม 2. เทโพพื้นเนื้อทอง เปนมันยองลองลอยมัน
2. เปนมรดกทางวัฒนธรรม 3. นวลจันทรเปนนวลจริง เจางามพริ้งยิ่งนวลปลา
3. มีคุณคาควรแกการจดจํา 4. ทองหยอดทอดสนิท ทองมวนมิดคิดความหลัง
4. มีการสืบทอดกันมายาวนาน 7. บทประพันธในขอใดใหจินตภาพตางจากขออื่น
E 1. เสนาะเสียงสังคีตประณีตฉํ่า
3. คําในขอใดมีความหมายเหมือนกันทุกคํา
C 1. รัชนี ศศิธร โสม 2. ทั้งทุมตํ่ารํ่าเรื่อยจะเจื้อยแจว
3. วะแววเพียงเสียงพอซอสายเอก
2. วารี ธารา นภาพร 4. ประกายพรึกกะพริบพลิ้วพนทิวไม
3. พสุธา ธาตรี สายชล 8. ขอใดกลาวไมถูกตอง
4. กัญญา นงราม คัคนานต F 1. บันทึกประจําวันจัดเปนวรรณกรรมชนิดหนึ่ง
4. คุณคาที่สําคัญที่สุดของวรรณคดีคือคุณคาทางดานใด 2. เพลงพื้นบานไทยเปนวรรณกรรมที่ควรอนุรักษ ไว
F 1. คุณคาทางดานสังคม 3. คุณคาทางวรรณศิลปของวรรณกรรมคือชวยจรรโลงใจ
2. คุณคาทางดานความรู ผูอาน
3. คุณคาทางดานความคิดและอารมณ 4. รูปแบบของงานเขียนเชิงสรางสรรค ไมจําเปนตอง
4. คุณคาทางดานขนบธรรมเนียมประเพณี สอดคลองกับเนื้อหา
ความรู ความจํา ความเขาใจ การนําไปใช การวิเคราะห การสังเคราะห การประเมินคา
A B C D E F
(7) โครงการวัดและประเมินผล
9. “หลอนไดเขียนรูปพอของหลอนขึน้ ไวในใจเปนคนดี 15. ขอใดแสดงวัฒนธรร นธรรมไทยที่ปรากฏในบทละครพูด
A ไมมีที่ติ ผมไมตองการลบรูปนั้นเสียเลย” E เรือ่ งเห็นแกลูกเดนชัดที่สุด
1. การจัดพิธีแตงงาน
ผูกลาวขอความนี้คือใคร 2. การตอนรับผูมาเยือน
1. นายทองคํา 3. การแบงชนชั้นในสังคม
2. เจาคุณรณชิต 4. การเคารพนับถือผูอาวุโส
3. นายลํ้า ทิพเดชะ 16. คําพูดของตัวละครในขอใดที่สอดคลองกับชื่อของ
4. พระยาภักดีนฤนาถ F บทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก
10. วรรณคดีประเภทบทละครพูดมีลกั ษณะเดนในขอใดมากทีส่ ดุ 1. หลอนไดเขียนรูปพอของหลอนขึ้นในใจเปนคนดี
B 1. ฉากดี มีตัวละครมาก ไมมีที่ติ
2. ใหขอคิดในการดําเนินชีวิต 2. เด็กคนนี้ดีเกินที่จะเปนลูกของผม ผมมันเลวทราม
3. มีบทรักโศก ใหอารมณสะเทือนใจ เกินที่จะเปนพอของเขา
4. เรื่องสนุก คําพูดของตัวละครคมคายใหแงคิด 3. อยาไดบอกความจริงแกแมลออเลย ใหเขานับถือ
รูปผมอันเกานั้นวาเปนพอของเขา
11. “ฉันหมายจะกลับมาใหทันคุณพอกลับทีเดียว” 4. พอถึงวันแตงงานของแมลออเจาคุณไดโปรดใหแหวน
B แกเขา บอกวาเปนของรับไหวของผม
แบบทดสอบ
B เพราะเหตุใด 4. การเรียงลําดับคําเขาประโยค
1. นายลํ้ามีอาการมึนเมา 18. เมื่อนายลํ้ามาพบพระยาภักดี และแสดงความประสงค
2. นายลํ้ามีกิริยาทาทางนากลัว D จะขอพบแมลออในทันที การกระทําเชนนี้แสดงใหเห็นวา
3. นายลํ้าแตงกายคอนขางจะปอนๆ นายลํ้ามีลักษณะที่ไมควรนําเปนแบบอยางในขอใด
4. นายลํ้าหนาแก ผมหงอก หนายน 1. ความเห็นแกตัว
2. ความโกรธเคือง
13. “เครื่องประดับประดาไมเปนของมีคาแตใชไดดี” 3. ความใจรอน ไมรอบคอบ
D 4. ความรักตนเอง ไมกลัวใคร
จากขอความขางตนแสดงวาผูพูดเปนคนมีลักษณะนิสัย 19. ลักษณะนิสัยของแมลออในขอใดที่ควรนํามาเปน
อยางไร E แบบอยางมากที่สุด
1. สมถะ 2. ยากจน 1. การมีวาจาที่สุภาพ
3. ไมฟุมเฟอย 4. ตระหนี่ถี่เหนียว 2. การมีนํ้าใจตอผูอื่น
3. การเคารพนับถือผูใหญ
14. “ถึงการฉอโกงก็มีหลายชนิดหลายชั้นเหมือนกัน 4. การกตัญูตอผูมีพระคุณ
D ถาไมยั งงั้ น คุ ณ เองจะได ม าลอยหน า เปนพระยา 20. จากบทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก การที่นายลํ้าตองเปน
อยูหรือ” F ฝายยอมจากไปแสดงใหเห็นวานายลํ้าพายแพตอสิ่งใด
1. แพภัยตนเอง
จากบทสนทนานี้ แสดงวาผูพูดเปนคนเชนไร 2. แพความดีของแมลออ
1. พูดปด 2. พูดโออวด 3. แพความดีของพระยาภักดี
3. พูดเพอเจอ 4. พูดสอเสียด 4. แพคุณธรรมประจําใจตนเอง
โครงการวัดและประเมินผล (8)
21. บทบรรยายที่มีในบทละครพูดมีประโยชนตอเนือ้ เรื่อง 27. เหลาฉลามลวนฉลามตามกันมา
F ของบทละครอยางไร B นคลาคลายคลายในสายชล
คอยเคลื่อนคลา
1. เสริมความเขาใจ 2. เสริมบทสนทนา
3. เชื่อมบทสนทนา 4. กํากับบทใหตวั ละครแสดง จากบทประพันธนี้ คําวา “คลายคลาย” มีความหมาย
22. บทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก ใหประโยชนในขอใด ตรงกับขอใด
F มากที่สุด 1. เกือบเหมือนกัน
1. ใหความสนุกสนานเพลิดเพลิน 2. จําไดอยางลางเลือน
2. ใหขอคิดคติธรรมในการดําเนินชีวิต 3. เคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ
3. ใหความรูในการประกอบอาชีพสุจริต 4. วายไปมาเปนจํานวนมาก
4. ใหความรูเกี่ยวกับลักษณะของวรรณคดีการละคร 28. ขอใดมีภาพพจนทั้งอุปมาและอติพจน
D 1. โกรธตวาดแผดเสียงสําเนียงดัง
23. คิดถึงนองสองชนกที่ปกเกลา นอยหรือยังโหยกเหยกเด็กเกเร
C จะสรอยเศราโศกานาสงสาร 2. อสุรีผีเสื้อเหลือจะอด
บทประพันธขางตน คําวา “นอง” หมายถึงตัวละครใด แคนโอรสราวกับไฟไหมมังสา
3. ขาจะพาไปจับจงกลับหลัง
แบบทดสอบ
1. นางเงือก 2. ศรีสุวรรณ
3. นางผีเสื้อสมุทร 4. นางสุวรรณมาลี ใหไดดังมุงมาดปรารถนา
24. เพราะเหตุใดผูอานเรื่องพระอภัยมณีจึงจําบทกลอน 4. ไมพบเห็นเปนเพลาเขาราตรี
E ที่เปนขอคิดคําสอนไดหลายตอน อสุรีเหลือแคนแนนอุรา
1. เพราะผูอานเคารพและชื่นชมสุนทรภู 29. คํากลอนในขอใดเปนลักษณะคติชาวบานคือผัวเมีย
2. เพราะมีการบังคับใหทองเปนบทอาขยาน D ตองรวมทุกขรวมสุขดวยกัน
โครงการบูรณาการ
3. เพราะถอยคําเปนคําสอนที่ตองตีความมาก 1. อยูดีดีหนีเมียมาเสียได
4. เพราะทั้งรสคําและรสความมีความไพเราะ เสียนํ้าใจนองรักเปนหนักหนา
และความหมายดี 2. พระเสด็จไปไหนจะไปดวย
25. การที่ปของพระอภัยมณี เปนเครื่องดนตรีชิ้นสําคัญ เปนเพื่อนมวยภัสดาจนอาสัญ
F ที่ชวยในการคลี่คลายแกไขปญหาในเรื่อง ดังนั้น 3. พี่มนุษยสุดสวาทเปนชาติยักษ
เพลงปของพระอภัยมณีจึงถือเปนสัญลักษณที่เทียบได จงคิดหักความสวาทใหขาดสูญ
กับสิ่งใด 4. จงตัดบวงหวงใยอาลัยลาญ
1. พลังอํานาจ 2. ความเปนศิลปน อยาปองผลาญลูกผัวของตัวเลย
3. ถอยคําหรือคําพูด 4. ความรูสึกออนไหว 30. บทประพันธในขอใดแสดงธรรมเนียมการประพฤติ
E อยางไทย
26. จะไปไหนไมพนผีเสื้อนํ้า
F 1. พงศกษัตริยตรัสชวนสินสมุทร
วิบากกรรมก็จะสูอยูเปนผี
สอนใหบุตรขอสมาอัชฌาสัย
ทานสงเราเขาที่เกาะละเมาะนี้
2. พงศกษัตริยทัศนานางเงือกนอย
แลวรีบหนีไปในนํ้าแตลําพัง
ดูแชมชอยโฉมเฉลาทั้งเผาผม
จากบทประพันธนี้การกระทําของพระอภัยมณีแสดงให 3. พระโฉมยงองคอภัยมณีนาถ
เห็นถึงคุณธรรมในขอใดชัดเจนที่สุด เพลินประพาสพิศดูหมูมัจฉา
1. กลาหาญ 2. เสียสละ 4. ฝายองคพระอภัยวิไลโฉม
3. กตัญู 4. เห็นอกเห็นใจผูอื่น ปลอบประโลมลูกชายจะผายผัน
(9) โครงการวัดและประเมินผล
31. บทประพันธในนขอใดมีชื่อเทือกเขาที่ลอมรอบเขา 36. กระทรวงศึกษาธิการกําหนดใหมีการทองบทอายาน
B พระสุเมรุ B โดยมีจุดมุงหมายในขอใด
1. อันถํ้านี้มีนามตามบุราณ 1. เพื่อใหนักเรียนออกเสียงภาษาไทยไดถูกตอง
อโนมานเคียงกันสีทันดร 2. เพื่อฝกใหนักเรียนเปนผูมีความมั่นใจในตนเอง
2. นางผีเสื้อเหลือโกรธโลดทะลึ่ง 3. เพือ่ ใหสอดคลองตามหลักสูตรการศึกษาปพุทธศักราช
โตดั่งหนึ่งยุคุนธรขุนไศล 2542
4. เพื่อใหนักเรียนเกิดความซาบซึ้งเห็นความงดงาม
3. แลวขึ้นยืนชะโงกโยกสิงขร ทางภาษาและเห็นคุณคาของวรรณคดีไทย
จนโคลงคลอนเคลื่อนดังทั้งภูเขา 37. ขอใดกลาววไม ถูกตองเกี่ยวกับบทอาขยาน
4. เปนเขตแควนแดนที่นางผีเสื้อ C 1. บทอาขยานทุกบทจะตองอานออกเสียง
ขางฝายเหนือถึงมหิงษะสิงขร 2. บทอาขยานจะเปนบทรอยกรองหรือบทรอยแกวก็ได
32. นางผีเสื้อสมุทร นางเงือก และพระฤๅษี ตัวละคร 3. บทอาขยานจะตองมีความไพเราะ และมีเนื้อหา
C ทั้ง 3 ตัว มีลักษณนามเรียงตามลําดับตรงกับขอใด ใหคติสอนใจ
1. ตัว ตัว ตน 4. เวลาอานบทอาขยานจะตองอานตัว ร, ล ควบกลํ้า
2. ตน ตัว ตน ใหถูกตองชัดเจน
แบบทดสอบ
3. ตน ตน ตน 38. จะเหลียวซายสายสมุทรสุดสายตา
4. ตัว ตัว ตัว C จะแลขวาควันคลุมกลุมโพยม
33. บทประพันธในขอใดแสดงความรักอันลึกซึ้งระหวาง
D ชายหญิง จากบทประพันธคําที่ขีดเสนใตมีความหมายเหมือนกับ
1. เสียแรงรักหนักหนาอุตสาหถนอม ขอใด
โครงการบูรณาการ
โครงการวัดและประเมินผล (10)
ตอนที่ 2 ตอบคําถามใหถูกตอง จํานวน 3 ขอ 10 คะแนน ¤Ðá¹¹·Õè ä´Œ
¤Ðá¹¹àµçÁ
10
1. ภาษาที่ใชในวรรณคดีมีลักษณะแตกตางจากภาษาที่ใชสื่อสารกันในปจจุบันอยางไร (3 คะแนน)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แบบทดสอบ
2. เพราะเหตุใดจึงมีคํากลาววา “ในชวงรัชกาลที่ 6 เปนยุคทองแหงการเขียนบทละครพูด” (3 คะแนน)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
โครงการบูรณาการ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
(11) โครงการวัดและประเมินผล
เฉลยแบบทดสอบ ภาคเร�ยนที่ 1
ชุดที่ 1
ตอนที่ 1
1. ตอบ ขอ 1. วรรณคดี
วรรณคดี หมายถึง งานประพันธที่มีรูปแบบเหมาะกับเนื้อหา มีศิลปะการประพันธชั้นสูงสามารถถายทอด
อารมณและจินตนาการของมนุษยเปนเรื่องราวที่นาสนใจได
ขอ 2. วรรณศิลป หมายถึง ศิลปะในการแตงหนังสือ การรูจักตกแตงถอยคําใหไพเราะสละสลวย และทําให
ผูอานเกิดความสะเทือนอารมณ
ขอ 3. วรรณกรรม หมายถึง งานประพันธทุกชนิดทั้งรอยแกวและรอยกรอง
ขอ 4. ฉันทลักษณ หมายถึง ลักษณะบังคับของการแตงคําประพันธ ไทย
2. ตอบ ขอ 3. นิราศ
นิราศ หมายถึง งานประพันธที่มีเนื้อหาในเชิงพรรณนาถึงการเดินทางเปนหลัก มักกลาวถึงเสนทางการ
เดินทาง และบอกเลาสิ่งที่พบเห็นระหวางการเดินทาง ขณะเดียวกันก็มักสอดแทรกความรูสึกครํ่าครวญถึง
นางอันเปนที่รักดวย
แบบทดสอบ
โครงการวัดและประเมินผล (12)
6. ตอบ ขอ 3. วังเอยวังเวง หงางเหงงยํ่าคํ่าระฆังขาน
คําวา “หงางเหงง” เปนคําสัทพจน ซึ่งหมายถึง คําเลียนเสียงธรรมชาติ คือ เลียนเสียงระฆัง ซึ่งตรงกับ
คําประพันธขางตนที่มีการใชคําสัทพจน คือ “ครืนครืน”
สวนในขอ 1., 2. และ 4. นั้นไมปรากฏการใชคําสัทพจนดังกลาว
7. ตอบ ขอ 4. ลูกผูชายลายมือนั้นคือยศ เจาจงอตสาหทําสมํ่าเสมียน
บทประพันธนี้ใชภาพพจนอุปลักษณ คือ การเปรียบสิ่งหนึ่งเปนอีกสิ่งหนึ่ง โดยมักใชคําวา “เปน” หรือ “คือ”
ขอ 1. ปลาทุกทุกขอกกรม เหมือนทุกขพี่ที่จากนาง
ขอ 2. กระแหแหหางชาย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม
ขอ 3. เพียนทองงามดั่งทอง ไมเหมือนนองหมตาดพราย
ทั้ง 3 ขอนี้ใชภาพพจนอุปมา คือ การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งใหคลายหรือเหมือนกับอีกสิ่งหนึ่ง โดยมักใชคําวา
“เหมือน” หรือ “ดั่ง”
8. ตอบ ขอ 2. มีการเลนเสียงสระ
การเลนเสียงสระ หมายถึง คําประพันธที่มีเสียงคลองจองกันดวยเสียงสระ โดยในบทประพันธนี้เปน
กาพยยานี 11 ที่มีการเลนเสียงสระอู สังเกตจากมีคําที่ประสมดวยสระ อู และไมมีเสียงพยัญชนะสะกดถึง
9 คํา ไดแก ดู หนู สู รู งู สู อยู ทู และมูทู
แบบทดสอบ
ขอ 1. การเลนคํา หมายถึง การใชคําคําเดียวกันซํ้าในคําประพันธ แตความหมายของคําจะแตกตางกันไป
ขอ 3. การเลนเสียงพยัญชนะ หมายถึง คําประพันธที่มีเสียงคลองจองกันดวยเสียงพยัญชนะตน
ขอ 4. การเลนเสียงวรรณยุกต หมายถึง การใชเสียงวรรณยุกตทแี่ ตกตางกัน ในคําทีม่ พี ยัญชนะตน สระ และ
พยัญชนะสะกดเหมือนกัน โดยไลเรียงไปตามระดับเสียงวรรณยุกต
9. ตอบ ขอ 4. แหวนของแมนวลที่นายลํ้าเก็บไวดูตางหนา
โครงการบูรณาการ
นายลํ้ามอบแหวนของแมนวลเพื่อเปนของขวัญรับไหววันแตงงานแมลออ ดังคําพูดของนายลํ้าที่วา
“นีแ่ นะครับ แหวนนีเ้ ปนของแมนวล ผมไดตดิ ไปดวยสิง่ เดียวเทานีแ้ หละ… พอถึงวันแตงงานแมลออ เจาคุณ
ไดโปรดใหแหวนนี้แกเขา”
10. ตอบ ขอ 3. กลับตัวกลับใจ
เนื้อเรื่องในตอนนี้พระยาภักดีมีจุดประสงคจะบอกแกนายลํ้าวาคนที่เคยไดรับพระราชอาญานั้น ไมใชวาใคร
จะพากันตัดรอนไมใหความชวยเหลือ ตรงกันขามคนผูนั้นกลับมีโอกาสกลับตัวกลับใจ ทํามาหากินอยาง
สุจริตตอไปได
11. ตอบ ขอ 2. เพราะตั้งใจจะมาพึ่งพาลูกสาว
สังเกตจากคําพูดของนายลํา้ ทีว่ า “ผูท จี่ ะมาเปนลูกเขยของผมนะ เขาก็มงั่ มีพออยูไ มใชหรือ เขาจะเลีย้ งผมไว
สักคนไมไดเชียวหรือ” คําพูดดังกลาวนี้ แสดงใหเห็นวานายลํา้ มาหาพระยาภักดีเพราะมีเจตนาทีจ่ ะมาพึง่ พา
แมลออใหชวยเลี้ยงดูตนเองซึ่งกําลังตกอับ
12. ตอบ ขอ 2. เปนคนรูจักกาลเทศะ
แมลออเห็นวานายลํ้ากับพระยาภักดีไมไดพบกันนาน คงอยากคุยกันตามประสาคนวัยเดียวกันมากกวา
13. ตอบ ขอ 3. มีความรักและหวังดีตอลูก
พระยาภักดีเกรงวานายลํ้าจะบอกความจริงกับแมลออวานายลํ้าเปนพอที่แทจริงของแมลออ พระยาภักดี
จึงเสนอเงินจํานวนหนึ่งรอยชั่งใหนายลํ้าเพื่อเปนขอแลกเปลี่ยน ซึ่งการกระทํานี้แสดงใหเห็นวาพระยาภักดี
มีความรักและความหวังดีตอแมลอออยางแทจริง
14. ตอบ ขอ 4. แกไดพยายามที่จะสําแดงใหปรากฏอยางไรบาง
สํานวน “สําแดงใหปรากฏ” เปนสํานวนภาษาที่ไมนยิ มใชในปจจุบนั โดยปจจุบนั นิยมใชคาํ วา “แสดงออก” แทน
(13) โครงการวัดและประเมินผล
15. ตอบ ขอ 3. เปนละครพูดที่ไมมีเคาโครงเรื่องมาจากตางประเทศ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัวทรงพระราชนิพนธบทละครพูดเรื่องเห็นแกลูกขึ้นเอง โดยมิได
แปลหรือดัดแปลงมาจากบทละครตางประเทศเหมือนบทละครพูดเรื่องอื่นๆ
16. ตอบ ขอ 1. นายลํ้า
วรรณคดีเรื่องนี้แสดงใหเห็นถึงคุณธรรมความรักอันยิ่งใหญของพอที่มีตอลูก คือ ความรักและความเสียสละ
ที่นายลํ้ามีใหแมลออ ซึ่งเปนพฤติกรรมที่สัมพันธกับชื่อเรื่องของบทละครพูด คือ “เห็นแกลูก”
17. ตอบ ขอ 2. เพื่อใหแมลออมีชีวิตที่สุขสบาย
ขอนี้ไดสะทอนคานิยมของคนไทยที่นับถือรูปสมบัติภายนอก เพราะถาทุกคนทราบวาแมลออมีพอเปน
คนไมดี ทุกคนคงไมยกยองใหเกียรติและอาจพากันรังเกียจแมลออได
18. ตอบ ขอ 3. ภาษาตางประเทศมีใชในภาษาพูดของคนไทย
ในสมัยรัชกาลที่ 6 คนไทยนิยมเดินทางไปศึกษายังตางประเทศมากขึ้น ทําใหมีการนําเอาภาษาอังกฤษ
ซึ่งเปนภาษากลางในการสื่อสารมาใชในภาษาพูดมากขึ้น จนมีคํากลาวที่วา “พูดไทยคําอังกฤษคํา”
19. ตอบ ขอ 4. เงินนะไมเสียดายหรอก ฉันเสียดายชื่อและความสุขของแมลออ
บทสนทนานี้เปนการแสดงความรักและความหวังดีอยางแทจริงของพระยาภักดีที่มีตอแมลออ ถึงขนาด
แบบทดสอบ
ยอมสละทรัพยสินสวนตัวเปนจํานวนมากใหแกนายลํ้า เพื่อแลกกับความสุขของแมลออ
20. ตอบ ขอ 1. บทสนทนาที่เหมาะสมกับนิสัยตัวละคร
คําวา “นํ้าเหลืองๆ” ในขอความนี้ หมายถึง สุรา ซึ่งแสดงใหเห็นถึงลักษณะนิสัยของนายลํ้าที่เปนคนติดสุรา
21. ตอบ ขอ 4. จิตใจที่บริสุทธิ์ของพอที่มีตอลูก
ใจความสําคัญของเรือ่ ง หมายถึง ทัศนะหรือเจตนารมณทกี่ วีตอ งการนําเสนอตอผูอ า นโดยแฝงอยูในเนือ้ หา
โครงการบูรณาการ
ของเรือ่ ง ซึง่ ในเรือ่ งนีท้ งั้ พระยาภักดีและนายลํา้ ตางก็มคี วามรักทีบ่ ริสทุ ธิต์ อ แมลออ และดวยความรักทีบ่ ริสทุ ธิ์
ของทั้งสองคนนี้ก็ทําใหเรื่องราวจบลงอยางมีความสุข
22. ตอบ ขอ 4. ความรักที่ยิ่งใหญของพอที่มีตอลูก
นายลํา้ รักแมลออมากจึงยอมทีจ่ ะไมเปดเผยวาตนเปนพอทีแ่ ทจริงของแมลออ เพราะเกรงวาแมลออจะเสียใจ
และผิดหวังกับภาพพอที่แมลออเคยวาดไวในใจ
23. ตอบ ขอ 4. จินตนาการของทานเอง
วรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีนี้มีความดีเดนอยางมากในดานจินตนาการของผูแตง คือ ทานสุนทรภู ตัวอยาง
เชน ปรากฏตัวละครอมนุษยมากมายทั้งเงือก ยักษ ผีดิบ รวมไปถึงอาวุธที่ใชในเรื่องก็เปนของแปลกใหม
เชน ตราราหู สายกวิน ทุรัน ซึ่งสิ่งตางๆ เหลานี้แสดงใหเห็นถึงอัจฉริยภาพ
24. ตอบ ขอ 2. ที่อยูของนักบวช
บทประพันธนี้กลาวถึงตอนที่พระอภัยมณีเกาะหลังนางเงือกมาจนถึงเกาะแกวพิสดารแลวเห็นที่อยูของ
นักบวช คือ พระฤๅษี จึงชี้บอกสินสมุทรผูเปนบุตรชาย
25. ตอบ ขอ 4. นภาพร อัมพร
นภาพรและอัมพร หมายถึง ทองฟา
ขอ 1. ชลาลัย ชลธี
ขอ 2. คงคา นที
ขอ 3. สายชล วารี
คําศัพททั้ง 3 ขอนี้ มีความหมายวา แมนํ้าหรือสายนํ้า
โครงการวัดและประเมินผล (14)
26. ตอบ ขอ 3. แสดงแนวคิดที่แปลกใหมของตัวละคร
เรื่องพระอภัยมณีไดแสดงแนวคิดที่แปลกใหมของตัวละคร เชน การมีภรรยาเปนชาวตางชาติ (นางละเวง)
การยกยองสตรีใหเปนผูนําในสังคม และตัวละครเอกของเรื่องมีความสามารถทางดานดนตรี คือ การเปาป
เปนตน
27. ตอบ ขอ 1. นิราศ
นิราศของสุนทรภูเปนการนําเอาวิธีการแตงกลอนเพลงยาวมาปรับปรุง และเพิ่มเติมวิธีการบรรยาย
และพรรณนาสถานที่ที่เดินทางผาน พรอมทั้งสอดแทรกบทครํ่าครวญอาลัยถึงนางอันเปนที่รัก โดยนิราศ
ของสุนทรภูในแตละเรือ่ ง จะบอกเลาประวัตชิ วี ติ ของทานทัง้ ตอนรุง เรือง ตอนมีความรัก กระทัง่ ถึงตอนตกอับ
จนมีคํากลาววา “นิราศคือชีวิตของสุนทรภู”
28. ตอบ ขอ 3. ลักษณะคําประพันธ
วรรณคดีเรื่องนิราศสุพรรณแตงดวยคําประพันธประเภทโคลงสี่สุภาพ เนื่องจากเหตุผลที่วาสุนทรภูตองการ
ใหผอู า นทราบวาทานมีความสามารถแตงโคลงสีส่ ภุ าพไดและตองการใหมผี ลงานประเภทโคลงปรากฏอยูด ว ย
สวนนิราศอีก 8 เรื่องของทานนั้น ใชคําประพันธประเภทกลอนนิราศ คือ มีลักษณะคลายคลึงกับกลอน
สุภาพ แตจะเริ่มดวยวรรครับ และวรรคสุดทายจะลงทายดวยคําวา เอย
29. ตอบ ขอ 4. มีสัมผัสในทุกวรรคทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร
แบบทดสอบ
ในเรือ่ งสัมผัสในนีส้ นุ ทรภูเ ปนผูร เิ ริม่ ขึน้ ทัง้ สัมผัสสระและสัมผัสพยัญชนะจนถือเปนแบบอยางในการพิจารณา
กลอนที่ไพเราะมาจนปจจุบัน
30. ตอบ ขอ 4. เจียระบาดคาดองคก็ทรงเปลื้อง ใหเปนเครื่องนุงหมโอรสา
ขอนี้เปนการบรรยายการแตงกายของตัวละคร มิไดมีเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อของคนไทย
ขอ 1. พอมอยหลับกลับจิตนิมิตฝน วาเทวัญที่เกาะนั้นเหาะเหิน
โครงการบูรณาการ
สะทอนความเชื่อของคนไทยในเรื่องการทํานายความฝนและโชคลาง
ขอ 2. ดวยโยคีมีมนตดลวิชา ปราบบรรดาภูตพรายใหกรายไป
สะทอนความเชื่อของคนไทยในเรื่องวิชาอาคมที่สามารถปราบภูตผีปศาจได
ขอ 3. นึกจะใครสะเดาะพระเคราะหเจา พอบรรเทาโทษาที่อาสัญ
สะทอนความเชื่อของคนไทยในเรื่องการสะเดาะเคราะห
31. ตอบ ขอ 4. การมีสัมมาคารวะตอผูใหญ
บทประพันธนี้เปนตอนที่พระอภัยมณีสั่งสินสมุทรซึ่งเปนเด็กใหขอโทษ (ขอสมา) เงือกพอเงือกแมซึ่งเปน
ผูอาวุโสกวากอนที่จะชวยอุมออกไป
32. ตอบ ขอ 4. ทุกขอที่กลาวมาถูกตอง
เพราะสุนทรภูนั้นทานเกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 เจริญกาวหนาในสมัยรัชกาลที่ 2 และมีชีวิตที่ตกอับในสมัย
รัชกาลที่ 3 แตสุนทรภูก็ยังแตงวรรณคดีอีกหลายเรื่อง ซึ่งเปนผลงานใหชนรุนหลังไดศึกษา
33. ตอบ ขอ 3. กลอนไพเราะ เนื้อเรื่องสนุก จินตนาการแปลกใหม
เรื่องพระอภัยมณีมีบทกลอนที่ ไพเราะ มีสัมผัสในแพรวพราวทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร มีเนื้อหา
แปลกใหมสนุกสนาน ประกอบกับจินตนาการอันกาวหนาของกวีที่ไดสรางสรรคตัวละครและองคประกอบ
ตางๆ ของเรื่องใหผสมผสานกันอยางลึกซึ้งกลมกลืน
34. ตอบ ขอ 2. เงือกนํ้า
ตามเนื้อเรื่อง พระอภัยมณีไดชวยชีวิตเงือกนํ้าไว เงือกนํ้าจึงสัญญาวาจะชวยเหลือพระอภัยมณีใหหนี
จากนางผีเสื้อสมุทร โดยยอมสละชีวิตเพื่อหลอกลอนางผีเสื้อสมุทรไว เพื่อใหสินสมุทรและนางเงือกพา
พระอภัยมณีหนีไปยังเกาะแกวพิสดารได
(15) โครงการวัดและประเมินผล
35. ตอบ ขอ 4. ความรักแบบไมเต็มใจยอมไมยั่งยืน
ตามเนือ้ เรือ่ ง ตัวเอกของเรือ่ ง คือ พระอภัยมณีไมไดมคี วามรักความเสนหาในตัวนางผีเสือ้ สมุทรเลยตัง้ แตตน
แตตองมาใชชีวิตคูรวมกันก็เปนเพราะถูกบังคับลักพามา ภายหลังจึงคิดหนี กระทั่งนํามาซึ่งความตายของ
นางผีเสื้อสมุทร จากเพลงปของพระอภัยมณีเอง
36. ตอบ ขอ 4. ดวยองคพระชนนีเปนผีเสื้อ อันชาติเชื้ออยูถํ้าลําละหาร
กลอนบทนี้มีเนื้อหาวา สินสมุทรกลาวถึงนางผีเสื้อสมุทรวามิใชมนุษยตองอยูตามถํ้า ซึ่งมิไดสะทอน
ความเชื่อแตอยางใด
ขอ 1. ทั้งนี้เพราะเคราะหกรรมทําใหวุน จึงสิ้นบุญวาสนานิจจาเอย
สะทอนความเชื่อของคนไทยในเรื่องเคราะหกรรมและบุญวาสนาที่ไดกระทํามา
ขอ 2. อยาฆาสัตวตัดชีวิตพิษฐาน หมายวิมานเมืองแมนแดนสวรรค
สะทอนความเชื่อของคนไทยในเรื่องนรกสวรรคและผลกรรมจากการฆาสัตว
ขอ 3. เราลงเลขเสกทําไวสําเร็จ ดังเขื่อนเพชรภูตปศาจไมอาจใกล
สะทอนความเชื่อของคนไทยในเรื่องไสยศาสตรการลงอาคมปองกันภูตผีปศาจ
37. ตอบ ขอ 2. จิตนิวรณ
จิตนิวรณ คือ ความฝนที่เกิดจากอารมณผูกพันหรือการฝกใฝจดจอกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง รวมไปถึงเรื่องที่พบเห็น
แบบทดสอบ
ขอ 4. ธาตุโขภะ คือ ความฝนทีเ่ กิดเพราะธาตุพกิ าร คือ กายไมปกติ เชน กินมาก นอนมาก ความฝนลักษณะนี้
เปนฝนที่ไรสาระไมมีมูลความจริง ไมใหประโยชน ซึ่งโดยมากจะเปนความฝนไมคอยดี
ซึ่งจากบทกลอนนี้ยังใหคุณคาในดานสะทอนความเชื่อเรื่องความฝนและโชคลางของคนไทยอีกดวย
38. ตอบ ขอ 2. 3 คํา
บทประพันธนี้มีคํายืมที่มาจากภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตใชรวมกัน 3 คํา ไดแก องค อภัย และนาถ
39. ตอบ ขอ 2. ฝูงพิมพาพาฝูงเขาแฝงวน บางผุดพนฟองนํ้าบางดําจร
ขอ 1., 3. และ 4. ใชกลวิธีการประพันธแบบซํ้าคํา คือ
ขอ 1. ซํ้าคําวา ฉนาก
ขอ 3. ซํ้าคําวา กระโห
ขอ 4. ซํ้าคําวา ฉลาม
ซึ่งกลวิธีการแตงแบบซํ้าคําเชนนี้ ถือวามีความดีเดนดานวรรณศิลปคือความประณีตในการเลือกสรรถอยคํา
อันแสดงใหเห็นถึงอัจฉริยภาพทางภาษาของกวี
40. ตอบ ขอ 3. หวาดกลัว ทุกขใจ
สังเกตจากขอความที่วา “หวาดองคพระทรงโฉม” และ “ทุกขโทมนัสในฤทัยทวี” ซึ่งเปนตอนที่กลาวถึง
พระอภัยมณีกับนางเงือกกําลังหนีนางผีเสื้อสมุทร โดยบรรยายวาพระอภัยมณีมองเห็นแตมหาสมุทร
กวางใหญสุดสายตา บรรยากาศรอบตัวก็มืดมัว พระอาทิตยถูกบดบังดวยกลุมเมฆ และคลื่นลมมีความ
รุนแรง พระองคจึงทรงมีความรูสึกหวาดกลัวและทุกขใจ
โครงการวัดและประเมินผล (16)
ตอนที่ 2
1. แนวตอบ ประการแรก ขนบธรรมเนียมประเพณีสมัยกอนสอนใหผูหญิงรูจักสงบเสงี่ยม จนมีการกีดกันการศึกษา
เลาเรียนทางหนังสือเพราะถือวาเปนเรื่องและหนาที่ของผูชาย ซึ่งจะเปนผูนําของครอบครัว ถึงกับกลาววา
ผูห ญิงเปนเพียงชางเทาหลังทีม่ หี นาทีป่ ฏิบตั ติ ามแตเพียงประการเดียว นอกจากนีก้ ารศึกษาเลาเรียนหนังสือ
ถาไมอยูในรั้วในวังแลวสถานที่แหงเดียวที่สอนหนังสือก็คือวัด การที่ผูหญิงเขาไปคลุกคลีในวัดเปนการ
ไมเหมาะสมจึงเทากับเปดโอกาสใหผูชายเทานั้น เพราะถือวาเปนผูมีโอกาสบวชเรียน
ประการที่สอง เรื่องในวรรณคดียังเปนเรื่องของศาสนาและความรัก สมัยนั้นเห็นวาไมสมควรที่ผูหญิง
จะเขียนถึงหรือใหความสนใจ เรื่องศาสนาเปนเรื่องของผูชาย สวนเรื่องรักๆ ใครๆ ก็เปนเรื่องที่ผูชายเทานั้น
ที่จะแสดงออกได ผูหญิงไดรับการสั่งสอนใหรูจักปกปดสงบเสงี่ยม ดังเชนในสุภาษิตสอนหญิงที่สอนเรื่องนี้
ไววา
อันที่จริงหญิงชายยอมหมายรัก มิใชจักตัดทางที่สรางสม
แมนจักรักรักไวในอารมณ อยารักชมนอกหนาเปนราคี
2. แนวตอบ จากบทละครพูดเรือ่ งเห็นแกลกู ไดแสดงสัจธรรมของมนุษย อันไดแก มนุษยทกุ คนยอมมีความเห็นแกตนเอง
รักตนเอง และยึดถือตนเองเปนทีต่ งั้ แตเหนือสิง่ อืน่ ใดคนทีเ่ ปนพอแมยอ มเห็นแกลกู มากกวาตนเอง ตองรัก
แบบทดสอบ
และเสียสละทุกอยางเพื่อลูก ดังเชน นายลํ้า ตัวละครเอกในบทละครพูดเรื่องนี้ ที่มีนิสัยเห็นแกตนเอง
โดยที่แตเดิมตั้งใจจะมาแสดงตนวาเปนพอที่แทจริงของแมลออเพื่อหวังใหแมลออเลี้ยงดูยามตกอับ แตเมื่อ
ไดพบและสนทนากับแมลออแลว นายลํ้ากลับตองเปลี่ยนความคิดดวยความที่เห็นแกลูกจึงไมเปดเผยวา
ตนเองเปนใคร ดังบทสนทนาระหวางนายลํ้ากับพระยาภักดีที่วา “หลอนไดเขียนรูปพอของหลอนขึน้ ไวในใจ
วาเปนคนดีอยางไมมีที่ติ ผมไมตองการลบรูปนั้นเสียเลย” การกระทําเชนนี้ของนายลํ้า จึงนับเปนเรื่องที่
โครงการบูรณาการ
นายกยองสอดคลองกับหลักสัจธรรมและชื่อเรื่องของบทละครพูด คือ “เห็นแกลูก”
3. แนวตอบ ตัวละครที่นาเห็นใจมากที่สุด คือ สินสมุทร เพราะ
ประการแรก สินสมุทรเปนบุตรทีม่ ารดาไมรกั กลาวคือ สินสมุทรเปนบุตรของพระอภัยมณีกบั นางผีเสือ้ สมุทร
แตในเนื้อเรื่องกลาววานางผีเสื้อสมุทรรักพระอภัยมณีมาก แตกลับไมรักไมเอาใจใสสินสมุทรผูเปนบุตรชาย
มากนัก อีกทั้งยังดุวาและเฆี่ยนตีสินสมุทรอยูบอยครั้ง จนสินสมุทรมีความรูสึกกลัวมากกวาที่จะเคารพรัก
มารดา ดังคําประพันธที่วา
จึงกราบกรานมารดาแลววาไป จะเขาใกลทูนหัวลูกกลัวนัก
เมื่อวานนี้ตีขานอยไปหรือ ระบมมือเหมือนกระดูกลูกจะหัก
และ
ฝายกุมารสินสมุทรสุดสวาท ไมหางบาทบิดาอัชฌาสัย
ความรักพอยิ่งกวาแมมาแตไร ดวยมิไดขูเข็ญเชนมารดา
ประการที่สอง สินสมุทรเกิดความลําบากใจเมื่อตองเลือกระหวางบิดากับมารดา กลาวคือ สินสมุทรมีความ
รูสึกลําบากใจมากที่ตองเลือกระหวางบิดากับมารดาวาตนจะเลือกอยูกับผูใด โดยในเนื้อเรื่องกลาวถึงความ
รูสึกของสินสมุทรวารักพระอภัยมณีผูเปนบิดามากและอยากชวยเหลือใหหนีจากนางผีเสื้อสมุทรเพื่อกลับ
ไปหาญาติพี่นอง แตอีกใจสินสมุทรก็มีความเห็นใจนางผีเสื้อสมุทรผูเปนมารดามากเชนกัน ดังนั้นสินสมุทร
จึงถือเปนตัวละครที่นาเห็นใจมากที่สุดในเนื้อเรื่องตอนนี้
(17) โครงการวัดและประเมินผล
เฉลยแบบทดสอบ ภาคเร�ยนที่ 1
ชุดที่ 2
ตอนที่ 1
1. ตอบ ขอ 1. การวิจารณวรรณคดี
การวิจารณวรรณคดี หมายถึง การใชเหตุผลอธิบาย หรือแสดงความคิดเห็นตอกลวิธีการแตง การใชภาษา
รูปแบบคําประพันธ เนื้อหา หรือแนวคิด เปนตน
ขอ 2. การวิพากษวรรณคดี หมายถึง การแสดงความรูสึกอยางมีเหตุผลวาชอบหรือไมชอบวรรณคดีเรื่อง
นั้นๆ เพราะอะไร
ขอ 3. การวิเคราะหวรรณคดี หมายถึง การแยกแยะรายละเอียดของวรรณคดีออกเปนสวนๆ เพื่อศึกษา
ใหถองแท
ขอ 4. การสังเคราะหวรรณคดี หมายถึง การรวบรวมรายละเอียดของวรรณคดีเพื่อศึกษาอยางเปนระบบ
2. ตอบ ขอ 1. เปนสิ่งที่สรางขึ้นใหม
วรรณคดีคือหนังสือที่ไดรับการยกยองวาแตงดี เปนมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน มีขึ้น
แบบทดสอบ
ตั้งแตสมัยสุโขทัยเรื่อยมาจนสิ้นสุดในสมัยรัชกาลที่ 6
3. ตอบ ขอ 1. รัชนี ศศิธร โสม
ในขอนี้ทั้งสามคํามีความหมายเหมือนกัน คือ ดวงจันทร
ขอ 2. วารี และ ธารา หมายถึง นํ้า สวน นภาพร หมายถึง ทองฟา
ขอ 3. พสุธา และ ธาตรี หมายถึง แผนดิน สวน สายชล หมายถึง นํ้า
โครงการบูรณาการ
ขอ 4. กัญญา และ นงราม หมายถึง หญิงสาวหรือสาวงาม สวน คัคนานต หมายถึง ทองฟา
4. ตอบ ขอ 3. คุณคาทางดานความคิดและอารมณ
การศึกษาวรรณคดีนั้นยอมไดรับคุณคาทั้งทางดานความรู ความคิด และคุณคาทางดานอารมณ คือ ทัศนะ
ของกวีที่สรางสรรคงานใหกระทบใจผูอานจนมีอารมณรวมไปกับงานชิ้นนั้นๆ
5. ตอบ ขอ 1. รามเกียรติ์
วรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์กลาวถึงการที่พระรามซึ่งเปนมนุษยสามารถใชความดีและความสามารถเอาชนะ
ทศกัณฐซึ่งเปนยักษที่มีอํานาจและพละกําลังมากได
6. ตอบ ขอ 1. เห็นหรุมรุมทรวงเศรา รุมรุมเราคือไฟฟอน
บทประพันธนี้มีเสียงพยัญชนะ /ร/ ซํ้ากัน 5 คํา คือ หรุม รุม รุม รุม เรา
มีเสียงพยัญชนะ /ซ/ ซํ้ากัน 2 คํา คือ ทรวง เศรา
มีสียงพยัญชนะ /ฟ/ ซํ้ากัน 2 คํา คือ ไฟ ฟอน
7. ตอบ ขอ 4. ประกายพรึกกะพริบพลิ้วพนทิวไม
บทประพันธนเี้ ปนจินตภาพที่ไดจากการมองเห็น สวนขอ 1., 2. และ 3. เปนจินตภาพที่ไดจากการไดยินเสียง
สังเกตจากคําวา “เสนาะเสียง” “ทุมตํ่า” และ “แววเพียงเสียง” ตามลําดับ
8. ตอบ ขอ 4. รูปแบบของงานเขียนเชิงสรางสรรค ไมจําเปนตองสอดคลองกับเนื้อหา
คุณคาของวรรณคดีและวรรณกรรมเชิงสรางสรรคนั้น จะเกิดขึ้นไดก็ตองมีรูปแบบที่สอดคลองกับเนื้อหา
เปนสําคัญ
โครงการวัดและประเมินผล (18)
9. ตอบ ขอ 3. นายลํ้า ทิพเดชะ
นายลํ้า ทิพเดชะ เปนผูกลาวในตอนที่แมลออออกมาพบแลวสนทนากับนายลํ้าวาบุคลิกลักษณะของพอที่
แมลออคิด คือ เปนคนซื่อ ใจคอกวางขวาง
10. ตอบ ขอ 4. เรื่องสนุก คําพูดของตัวละครคมคายใหแงคิด
บทละครพูดจะมีลักษณะคลายเรื่องสั้น คือ มีการเปดเรื่อง ดําเนินเรื่อง คลี่คลาย และจุดจบของเรื่อง ดังนั้น
บทละครพูดจึงมีภาษาที่ลึกซึ้งคมคายใหแงคิด ซึ่งสิ่งเหลานี้สงผลใหเนื้อเรื่องมีความนาสนใจ นาติดตาม
11. ตอบ ขอ 1. ตั้งใจ
คําเต็มของคําวา “หมาย” ในที่นี้คือ “หมายใจ” ซึ่งเปนสํานวนภาษาในสมัยรัชกาลที่ 6 โดยมีความหมาย
ตรงกับความหมายในปจจุบันวา “ตั้งใจ”
12. ตอบ ขอ 3. นายลํ้าแตงกายคอนขางจะปอนๆ
ขอนี้สะทอนคานิยมในสังคมสมัยนั้นที่วา บุคลิกการแตงกายเปนสิ่งแรกที่คนจะมองเห็นและเปนสิ่งซึ่งแสดง
ถึงบุคลิกลักษณะของคนผูนั้น ดังนั้นอายคําจึงไมไวใจนายลํ้าที่แตงตัวปอนๆ หรือแตงตัวไมดี
13. ตอบ ขอ 3. ไมฟุมเฟอย
จากขอความขางตนเปนคําพูดของพระยาภักดีซึ่งเปนผูมียศถาบรรดาศักดิ์และมีฐานะดี แตกลับใชของใช
แบบทดสอบ
หรือเครื่องประดับที่เปนของไมคอยมีราคาสูง สิ่งนี้ยอมแสดงใหเห็นวาพระยาภักดีเปนคนไมฟุมเฟอย
14. ตอบ ขอ 4. พูดสอเสียด
จากบทสนทนาขางตนเปนบทสนทนาระหวางนายลํา้ กับพระยาภักดี ซึง่ นายลํา้ พูดโดยมีเจตนาประชดประชัน
สอเสียดใหผูฟงรูสึกไมพอใจและทําใหผูฟงเสื่อมเสียชื่อเสียง
15. ตอบ ขอ 2. การตอนรับผูมาเยือน
โครงการบูรณาการ
เนื้อเรื่องกลาวถึง อายคําคนรับใชของพระยาภักดีออกมาตอนรับนายลํ้าผูเปนแขก และดูแลเชิญใหนั่ง
พรอมทั้งหานํ้าดื่มมาให กอนที่พระยาภักดีจะออกมาพบ
16. ตอบ ขอ 3. อยาไดบอกความจริงแกแมลออเลย ใหเขานับถือรูปผมอันเกานั้นวาเปนพอของเขา
บทสนทนานี้แสดงใหเห็นวานายลํ้าไมตองการบอกความจริงแกแมลออวาตนเปนพอ เพราะคิดวาตนเอง
ไมดีพอที่จะเปนพอของแมลออและอาจทําใหแมลออเสียเกียรติและอับอายได
17. ตอบ ขอ 2. การใชคําสรรพนาม
บทละครพูดเรื่องเห็นแกลูก มีลักษณะการใชคําสรรพนามที่แตกตางจากปจจุบันมาก เชนคําวา ใตเทา
เกลาผม เจาคุณ เปนตน
18. ตอบ ขอ 1. ความเห็นแกตัว
การที่นายลํ้าตองการพบแมลออทันทีนั้น มีเหตุผลเนื่องมาจากตองการมาพึ่งพาลูกสาว เพราะหมดทาง
ทํามาหากินแลว
19. ตอบ ขอ 4. การกตัญูตอผูมีพระคุณ
สังเกตจากบทสนทนาที่วา “ถาใครบอกดิฉันวาเปนคนไมดี ดิฉันไมยอมเชื่อเปนอันขาดเทียว บทสนทนา
ดังกลาวแสดงใหเห็นถึงความกตัญูของแมลออที่มีตอพอ เพราะแมจะไมเคยพบหนาพอที่แทจริงเลย
แตแมลออก็ยังรักและเคารพพออยูเสมอ
20. ตอบ ขอ 4. แพคุณธรรมประจําใจตนเอง
นายลํ้าพายแพตอคุณธรรมประจําใจของตนเอง คือ ความไมเห็นแกตัว คุณธรรมของความเปนพอที่รัก
และหวังดีตอลูกอยางแทจริง
(19) โครงการวัดและประเมินผล
21. ตอบ ขอ 4. กํากับบทใหตัวละครแสดง
บทละครพูดของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัวนั้น จะมีการบรรยายกิริยาทาทางของตัวละคร
แตละตัวไวอยางละเอียด โดยมีวัตถุประสงคเพื่อชวยใหนักแสดงไดแสดงตามบทบาทใหสมบทบาทยิ่งขึ้น
22. ตอบ ขอ 2. ใหขอคิดคติธรรมในการดําเนินชีวิต
บทละครพูดเรื่องเห็นแกลูกนี้ นอกจากใหความสนุกสนานเพลิดเพลินแลว ประโยชนประการสําคัญ คือ
ใหขอ คิดและคติธรรมในการดําเนินชีวติ เพราะเปนการสะทอนคุณธรรมในขอความไมเห็นแกตวั อันเกิดจาก
ความรักที่ยิ่งใหญของพอที่มีตอลูก
23. ตอบ ขอ 2. ศรีสุวรรณ
บทประพันธนเี้ ปนตอนทีพ่ ระอภัยมณีออ นวอนตอนางผีเสือ้ สมุทรวาพระองคพลัดพรากจากนอง (ศรีสวุ รรณ)
และพระบิดาพระมารดามานาน อยากจะกลับไปหา ขอใหนางผีเสื้อสมุทรเห็นใจและอยาโกรธเลย
24. ตอบ ขอ 4. เพราะทั้งรสคําและรสความมีความไพเราะและความหมายดี
ผลงานของสุนทรภูม กั เปนทีจ่ ดจําของผูอ า นมากมาย เพราะมีความดีเดนทัง้ ทางดานวรรณศิลปและทางดาน
เนื้อหาสาระ ขอคิดสอนใจ เชน ไมเมาเหลาแลวแตเรายังเมารัก มีสลึงพึงบรรจบใหครบบาท ถึงบางพูด
พูดดีเปนศรีศักดิ์ เปนตน
25. ตอบ ขอ 3. ถอยคําหรือคําพูด
แบบทดสอบ
จากเนื้อเรื่อง เพลงปของพระอภัยมณีมีบทบาทที่สําคัญมากตั้งแตตอนตนเรื่องอันเปนชนวนของเรื่องราว
ทั้งหมด คือ การที่นางผีเสื้อสมุทรไดยินเพลงปของพระอภัยมณี จึงตามเสียงมาจนพบและเกิดความรูสึก
รักใคร จึงลักพาพระอภัยมณีมาเปนสามีของนาง และในตอนทายของตอนนี้คือ กลาวถึง พระอภัยมณี
หนีนางผีเสือ้ สมุทร มายังเกาะแกวพิสดาร แลวตัดสินใจบรรเลงเพลงป อันเปนเหตุใหนางผีเสือ้ สมุทรสิน้ ชีวติ
จากเนือ้ เรือ่ งดังกลาวนีแ้ สดงใหเห็นวา เพลงปข องพระอภัยมณีจะถูกใชเพือ่ ประโยชนในดานการเปนตัวแปร
ใหเกิดเหตุการณตางๆ และเปนตัวชวยคลี่คลายปญหา ดังนั้นเพลงปของพระองคจึงเปรียบไดกับถอยคํา
โครงการบูรณาการ
โครงการวัดและประเมินผล (20)
31. ตอบ ขอ 2. นางผีเสื้อเหลือโกรธโลดทะลึ่ง โตดั่งหนึ่งยุคุนธรขุนไศล
ยุคุนธรหรือยุคนธรเปนหนึ่งในเทือกเขาที่ลอมรอบเขาพระสุเมรุ ซึ่งมีทั้งหมด 7 เทือกเขา ไดแก ยุคนธร
อิสินธร กรวิก สุทัสนะ เนมินธร วินตกะ และอัสกัณ เรียกรวมวา เขาสัตบริภัณฑ
32. ตอบ ขอ 3. ตน ตน ตน
ภาษาไทยกําหนดลักษณนามของคํานามพวกอมนุษยใหใชวา “ตน”
33. ตอบ ขอ 4. จะเกิดไหนขอใหไดประสบกัน อยาโศกศัลยแคลวคลาดเหมือนชาตินี้
คําประพันธบทนี้เปนตอนที่พระอภัยมณีกลาวเสแสรงวารักนางผีเสื้อสมุทรมาก
34. ตอบ ขอ 3. รําคาญคิดเสียใจไมใครหาย
ไมปรากฏคํายืมภาษาบาลีและสันสกฤตเลย
ขอ 1. ปรากฏคําวา “ชลนา” เปนภาษาบาลี-สันสกฤต คําวา “โศกาลัย” เปนภาษาสันสกฤต
ขอ 2. ปรากฏคําวา “พระ” เปนภาษาสันสกฤต คําวา “โอรส” และ “จิต” เปนภาษาบาลี
ขอ 4. ปรากฏคําวา “โอรส” เปนภาษาบาลี คําวา “ยักษ” เปนภาษาสันสกฤต
35. ตอบ ขอ 3. พระลูกใหบิตุรงคทรงเสวย
ขอนี้อานตามหลักการอานเรียงพยางค คือ อานวา บิ-ตุ-รง
สวนขอ 1., 2. และ 4. นั้น อานตามหลักการประพันธ คือ อานเนื่องสัมผัสกัน ดังนี้
แบบทดสอบ
ขอ 1. กรุณา อานวา กะ-รุน-นา เพื่อใหสัมผัสกับ “คุณ”
ขอ 2. อภิวาท อานวา อบ-พิ-วาด เพื่อใหสัมผัสกับ “เคารพ”
ขอ 4. อภิวาท อานวา อับ-พิ-วาด เพื่อใหสัมผัสกับ “คํานับ”
36. ตอบ ขอ 4. เพื่อใหนักเรียนเกิดความซาบซึ้งเห็นความงดงามทางภาษาและเห็นคุณคาของวรรณคดีไทย
ตั้งแตปพุทธศักราช 2542 เปนตนมา กระทรวงศึกษาธิการไดกําหนดใหมีการทองบทอาขยานใน
โครงการบูรณาการ
สถานศึกษาขึ้น โดยมีจุดมุงหมายดังกลาวขางตน
37. ตอบ ขอ 2. บทอาขยานจะเปนบทรอยกรองหรือบทรอยแกวก็ได
ขอความนี้ไมถูกตอง เพราะบทอาขยานหรือบททองจํานั้นจะตองมีลักษณะคําประพันธประเภทรอยกรอง
เทานั้น เนื่องจากจุดมุงหมายของการทองจําบทอาขยาน คือ ใชเพื่อฝกอานทํานองเสนาะ
38. ตอบ ขอ 3. คัคนานต
คัคนานต หมายถึง ทองฟา ซึ่งมีความหมายเดียวกับ โพยม ที่แปลวา ทองฟา เชนกัน
ขอ 1. รัชนี ขอ 2. ศศิธร และขอ 4. โคมรัตติกาล หมายถึง ดวงจันทร
39. ตอบ ขอ 1. เสาวรจนี
เสาวรจนี คือ บทชมโฉมหรือชมความงามของธรรมชาติ จากบทประพันธเปนตอนที่พระอภัยมณีกลาวชม
ปลาในขณะเดินทางไปเกาะแกวพิสดาร
ขอ 2. นารีปราโมทย คือ บทเกี้ยวพาราสี
ขอ 3. พิโรธวาทัง คือ บทโกรธ ขัดเคือง ตัดพอ
ขอ 4. สัลลาปงคพิสัย คือ บทโศกเศรา เสียใจ ครํ่าครวญ
40. ตอบ ขอ 1. วรรคที่ 1
วรรคที่ 1 มีการเลนเสียงพยัญชนะ คือ เสียง /s/ 5 คํา ไดแก ซาย สาย สมุทร สุด สาย
ขอ 2. วรรคที่ 2 มีการเลนเสียงพยัญชนะ คือ เสียง /kh/ 3 คํา ไดแก ขวา ควัน คลุม
ขอ 3. วรรคที่ 3 มีการเลนเสียงพยัญชนะ คือ เสียง /s/ 2 คํา ไดแก สุ(ริย) แสง
ขอ 4. วรรคที่ 4 มีการเลนเสียงพยัญชนะ คือ เสียง /w/ 3 คํา ไดแก วิ เวก หวาด
(21) โครงการวัดและประเมินผล
ตอนที่ 2
1. แนวตอบ ภาษาที่ใชในวรรณคดีเปนภาษาที่แสดงความงามผานทางถอยคํา และความหมายของถอยคําที่เกิดจาก
ความรูสึกนึกคิดอันละเอียดออนแตลึกซึ้งกวางไกล ภาษาของวรรณคดีเปนภาษาที่ไดรับการกลั่นกรองแลว
ซึ่งในบางครั้งนักประพันธอาจจะไมใชภาษาที่ใชกันอยูในชีวิตประจําวันแตเลือกเฟนถอยคําสํานวนเพื่อให
เกิดความไพเราะ หรือเพื่อแสดงออกซึ่งความรูสึกนึกคิดและอารมณของตน จึงตองสรางสรรควรรณคดี
ดวยภาษาที่มีลักษณะและคุณคาทางสุนทรียะ ผูอานจึงจําเปนตองใชความรูความสามารถในทางภาษาและ
วิจารณญาณพอสมควร จึงจะเขาใจวรรณคดีเรื่องนั้นๆ ได ภาษาที่ใชในทางวรรณคดีจึงเปนภาษาพิเศษ
กวาภาษาธรรมดาที่ใชสื่อสารกันในปจจุบัน ซึ่งเปนเพียงเครื่องสื่อความหมายใหเขาใจของมนุษย ดังนั้น
การศึกษาวรรณคดีใหเขาใจลึกซึ้งจึงอยูที่ความเขาใจในภาษาของวรรณคดีเปนสําคัญ
2. แนวตอบ ในชวงสมัยรัชกาลที่ 6 ตางเปนที่ยอมรับกันทั่วไปวา การเขียนบทละครพูดในยุคนี้ดีทั้งในดานปริมาณ
และคุณภาพ เพราะการเขียนบทละครพูดของยุคนี้ไมไดมุงเขียนเพื่อใชแสดงละครเวทีแตเพียงอยางเดียว
เทานั้น หากแตเขียนเพื่อใหเปนวรรณกรรมสําหรับอานดวย ในยุคนี้จึงมีการพิมพตนฉบับวรรณกรรม
บทละครออกแพรหลาย และมีตนฉบับสืบตอมาจนถึงยุคปจจุบัน ซึ่งตางไปจากการเขียนบทละครในสมัย
ตอมา เพราะการเขียนบทละครในชวงหลังจากรัชกาลที่ 6 เปนตนมาแลว มักเขียนเพือ่ ใชแสดงละครแตเพียง
แบบทดสอบ
พระโฉมยงองคอภัยมณีนาถ เพลินประพาสพิศดูหมูมัจฉา
เหลาฉลามลวนฉลามตามกันมา คอยเคลื่อนคลาคลายคลายในสายชล
ฉนากอยูคูฉนากไมจากคู ขึ้นฟองฟูพนฟองละอองฝน
ฝูงพิมพาพาฝูงเขาแฝงวน บางผุดพนฟองนํ้าบางดําจร
กระโหเรียงเคียงกระโหขึ้นโบกหาง ลอยสลางกลางกระแสแลสลอน
มังกรเกี่ยวเลี้ยวลอดกอดมังกร ประชุมซอนแฝงชลขึ้นวนเวียน
ฝูงมานํ้าทําทาเหมือนมาเผน ขึ้นลอยเลนเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน
ตะเพียนทองทองนํ้านําตะเพียน ดาษเดียรดูเพลินจนเกินมา
เหตุผลทีช่ นื่ ชอบคําประพันธบทนี้ เพราะเปนบททีม่ คี วามดีเดนทางดานวรรณศิลปในการใชคาํ กลาวคือ
มีการซํ้าคําเพื่อใหเกิดความไพเราะ สังเกตไดจากเกือบทุกวรรคของคําประพันธนี้ กวีจะใชคําที่เปนชื่อปลา
ซํ้ากัน เชน ฉลาม-ฉลาม ฉนาก-ฉนาก กระโห-กระโห โดยคําประพันธที่มีกลวิธีการใชคําซํ้าเชนนี้
แสดงใหเห็นถึงความสามารถในการเลือกสรรคําของกวีคือสุนทรภูไดอยางชัดเจน
โครงการวัดและประเมินผล (22)
ตารางวิเคราะหแบบทดสอบ ภาคเรียนที่ 2
ตารางวิเคราะหมาตรฐานตัวชี้วัด ตารางวิเคราะหระดับพฤติกรรมการคิด
ระดับ ขอของแบบทดสอบที่สัมพันธกับ
ชุดที่ มาตรฐาน ตัวชี้วัด ขอของแบบทดสอบที่สัมพันธกับตัวชี้วัด พฤติกรรม ระดับพฤติกรรมการคิด รวม
การคิด
1 1 - 3, 5, 13 - 15, 26, 28 - 29 A ความรู ความจํา - -
2 4, 6 - 9, 16 - 19, 30 - 33 B ความเขาใจ 1, 2, 13, 24, 28, 30 6
1 ท 5.1
3
4
10 - 12, 20 - 23, 34 - 37
24 - 25, 27, 38 - 40
C การนําไปใช
D การวิเคราะห
3 - 4, 10, 16 - 18, 25 - 26, 31 - 32, 34
5 - 7, 19 - 22, 29, 35 - 36, 38
11
11
E การสังเคราะห 8, 11, 14, 23, 37, 39 6
F การประเมินคา 9, 12, 15, 27, 33, 40 6
1 1 - 5, 15 - 17, 28 - 30 A ความรู ความจํา - -
2 6 - 10, 18 - 21, 31 - 33 B ความเขาใจ 1 - 2, 6 - 7, 18, 22, 28 - 29 8
2 ท 5.1
3
4
11 - 14, 22 - 24, 34 - 37
25 - 27, 38 - 40
C การนําไปใช
D การวิเคราะห
3 - 4, 8, 15 - 16, 19, 31, 34, 38
5, 9, 11 - 12, 17, 20, 25, 30, 32 - 33
9
10
E การสังเคราะห 10, 23, 26 - 27, 35 - 36, 39 7
แบบทดสอบ
F การประเมินคา 13 - 14, 21, 24, 37, 40 6
โครงการบูรณาการ
(23) โครงการวัดและประเมินผล
แบบทดสอบว�ชา ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ภาคเร�ยนที่ 2 ¤Ðá¹¹·Õè ä´Œ
ชุดที่ 1
¤Ðá¹¹ÃÇÁ
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3 50
1. ขอใด
ใดไมใช พระนามของพระเจาลูกยาเธอที่ทรงไป 5. เพราะเหตุใดพดพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว
B ศึกษาตอยังตางประเทศในเรื่องพระบรมราโชวาท D จึงทรงใชเงินพระคลังขางที่ เปนคาใชจายในการศึกษา
แบบทดสอบ
1. รอยแกวเชิงสาธกโวหาร คาใชจายเพื่อการศึกษาของพระโอรส
2. รอยแกวเชิงเทศนาโวหาร 6. พระบรมราโชวาทผลงานพระราชนิพนธในพระบาทสมเด็จ
3. รอยแกวเชิงบรรยายโวหาร D พระจุลจอมเกลาเจาอยูห วั นีเ้ หมาะสมทีจ่ ะใชสงั่ สอนบุคคล
4. รอยแกวเชิงพรรณนาโวหาร ในสถานภาพใดมากที่สุด
1. ประชาชนทั่วประเทศ
3. ขอใดเปนพระราชกรณียกิจที่สําคัญที่สุดของพระบาท- 2. บุคคลที่กําลังสําเร็จการศึกษา
C สมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว 3. บุคคลที่ตองการประกอบอาชีพ
1. ทรงกอตั้งโบราณคดีสโมสร 4. บุคคลที่อยูในวัยศึกษาเลาเรียน
2. ทรงพระราชนิพนธพระราชหัตถเลขา 7. คําสอนในพระบรมราโชวาทในขอใดมีแนวคิดที่แตกตาง
3. ทรงกอตั้งโรงเรียนพระตําหนักสวนกุหลาบ D จากขออื่น
4. ทรงประกาศเลิกทาสโดยปราศจากเหตุการณวุนวาย 1. จงเปนคนออนนอมวานอนสอนงาย
4. สํานวนสุภาษิตในขอใดไมสอดคลองสัมพันธกับเรื่อง 2. จงประพฤติตัวหันมาทางที่ชอบที่ถูกอยูเสมอ
C พระบรมราโชวาท เปนนิจเถิด
1. นํ้าลดตอผุด 3. จงละเวนเวลาที่ชั่วซึ่งรูไดเองแกตัว หรือผูตักเตือน
2. รักวัวใหผูก รักลูกใหตี แนะนําใหอยูแลว
3. อยาไวใจทาง อยาวางใจคน 4. จงอุตสาหะที่จะเรียนวิชาเขาเปนกําลังที่จะทําตัว
4. มีวิชาเหมือนมีทรัพยอยูนับแสน ใหดีกวาสัตวเดรัจฉาน
ความรู ความจํา ความเขาใจ การนําไปใช การวิเคราะห การสังเคราะห การประเมินคา
A B C D E F
โครงการวัดและประเมินผล (24)
8. ขอใดแสดงใหเห็นถึงพระปรีชาญาณในดานวิสัยทัศน 13. วรรณคดีเรื่องงอิศรญาณภาษิตมีลักษณะสอดคลองกับ
E เรือ่ งการพัฒนาบานเมืองของพระบาทสมเด็จ B วรรณคดีในขอใด
พระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว 1. สวัสดิรักษา
1. ทรงเห็นความสําคัญของภาษาไทย 2. ไตรภูมิพระรวง
2. ทรงแยกเงินสวนพระองคออกจากเงินแผนดิน 3. เสภาพระราชพงศาวดาร
3. ทรงจํากัดสิทธิของเจานายไวเสมอกับราษฎรทั่วไป
4. ทรงสงคนไทยไปศึกษาวิชาการยังประเทศยุโรป 4. โคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณมหาราช
เพื่อกลับมารับราชการ 14. บทประพันธในขอใดไมมีนํ้าเสียงประชดประชันผูมีอํานาจ
9. เรื่องพระบรมราโชวาทนี้มีประโยชนตอบุคคลใดมากที่สุด E ในสังคม
F 1. ผูที่เขารับราชการ 1. คอยดําเนินตามไตผูไปหนา
2. ชนชั้นสูงในสังคมไทย 2. พอแมเลี้ยงปดปกเปนกกกอ
3. ทุกคนที่ประพฤติตาม 3. เดินตามรอยผูใหญหมาไมกัด
4. ผูที่กําลังจะไปศึกษาตอตางประเทศ 4. ของสิ่งใดเจาวางามตองตามเจา
10. จากเรือ่ งพระบรมราโชวาทคําทับศัพทในขอใดทีไ่ มนยิ มใช
C ในปจจุบัน 15. ลองูเหาก็ไดใจกลากลา
1. แบงก 2. ปอนด F แตวาอยายักเยื้องเขาเบื้องหาง
แบบทดสอบ
3. มิสเตอร 4. เอสไควร ตองวองไวในทํานองคลองทาทาง
11. “สัตวดิรัจฉานมันเกิดมากินๆ นอนๆ แลวก็ตาย ตบหัวผางเดียวมวนจึงควรลอ
E แตสัตวบางอยางยังมีเขามีกระดูก เปนประโยชน บทประพันธในอิศรญาณภาษิตบทนี้เตือนใจเกี่ยวกับ
ไดบาง” เรื่องใด
โครงการบูรณาการ
พระบรมราโชวาทตอนนี้สอดคลองกับบทประพันธ 1. การประเมินกําลังของศัตรู
ในขอใด 2. การวางตัวของผูนอยตอผูใหญ
1. รูนอยวามากรู เริงใจ 3. การประกอบอาชีพที่เปนอันตราย
กลกบเกิดอยูใน สระจอย 4. การลอเลียนกับสิ่งที่เปนอันตรายอยางงูเหา
2. หามเพลิงไวอยาให มีควัน 16. บทประพันธในขอใดมีความหมายสอดคลองกับสํานวน
หามสุริยแสงจันทร สองไซร C “คมในฝก”
3. พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง 1. อันเสาหินแปดศอกตอกเปนหลัก
โททนตเสนงคง สําคัญหมายในกายมี
4. อันดีชั่วตัวตายเมื่อภายหลัง ไปมาผลักบอยเขาเสายังไหว
ชื่อก็ยังยืนอยูมิรูหาย 2. คอยดําเนินตามไตผูไปหนา
เหมือนดวงตาตอกประทับติดกับกาย ใจความวาผูมีคุณอยาหุนหวน
เปนเครื่องหมายบอกทั่วทุกตัวคน 3. สูงอยาสูงกวาฐานนานไปลม
12. พระบรมราโชวาทในขอใดที่สามารถใชเปนแนวทาง จะเรียนคมเรียนเถิดอยาเปดฝก
F ในการแกปญหาไดจนถึงปจจุบัน 4. ถึงบุญมีไมประกอบชอบไมได
1. จงรูไวเถิดวาทําผิดเมื่อใดจะไดรับโทษทันที ตองอาศัยคิดดีจึงมีผล
2. พึงรูวาตองใชหนี้เมื่อใด ก็ตองรับโทษเมื่อนั้น
พรอมกัน 17. อันเพชรดีมีคาราคายิ่ง สงใหลิงจะรูคาราคาหรือ
3. ไปอยูโรงเรียนใดก็ประพฤติตนใหเรียบรอย C
ตามแบบอยางที่เขาตั้งลงไว บทประพันธขางตนไม สัมพันธกับสํานวนในขอใด
4. การไปเรียนครั้งนี้มุงหมายใหไปเรียนวิชาอยางเดียว 1. ไกไดพลอย 2. วานรไดแกว
ไมมั่นหมายใหมีเกียรติยศชื่อเสียง 3. กิ้งกาไดทอง 4. ตาบอดไดแวน
(25) โครงการวัดและประเมินผล
18. บทประพันธจากวรรณคดีเรื่องงอิศรญาณภาษิต 23. อันเสาหินแปดศอกตอกเปนหลัก
C ไมสอดคลองกับสํานวนในขอใด E ไปมาผลักบอยเขาเสายังไหว
1. นํ้าพึ่งเรือเสือพึ่งปา
2. ฆาควายเสียดายพริก บทประพันธขางตนมีความหมายตรงกับขอใดตอไปนี้
3. เดินตามผูใหญหมาไมกัด 1. หนึ่งอยาไวใจทะเลทุกเวลา
4. ไปเห็นนํ้าตัดกระบอก ไปเห็นกระรอกโกงหนาไม สองสัตวเขี้ยวเล็บงาอยาไวใจ
2. อันออยตาลหวานลิ้นแลวสิ้นซาก
19. อยาคบมิตรจิตพาลสันดานชั่ว แตลมปากหวานหูมิรูหาย
D จะพาตัวใหเสื่อมที่เลื่อมใส 3. เกิดเปนคนอยาเห็นแกตนแหละดี
คบนักปราชญนั่นแหละดีมีกําไร ถึงจะมีรํ่ารวยสุขสันต
ทานยอมไดความสบายหลายประตู 4. นํ้าหยดลงหินทุกวันหินมันยังกรอน
แตหัวใจออนออนของเธอทําดวยอะไร
บทประพันธนี้ใหแงคิดตรงกับขอใด
1. การวางตัว 2. การคบมิตร 24. อยานอนเปลาเอากระจกยกออกมา
3. การแสวงหาความรู 4. การพึ่งพาตนเอง B สองดูหนาเสียทีหนึ่งแลวจึงนอน
แบบทดสอบ
โครงการวัดและประเมินผล (26)
27. บทประพันธในขอใดไมมีนํ้าเสียงเสียดสีประชดประชัน 33. บทประพันธในขอใดมีความดีเดนในดานสัมผัสอักษร
F 1. ชายขาวเปลือกหญิงขาวสารโบราณวา F หรือสัมผัสพยัญชนะมากที่สุด
นํ้าพึ่งเรือเสือพึ่งปาอัชฌาสัย 1. สัตภัณฑบรรพตทั้งหลาย ออนเอียงเพียงปลาย
2. ของสิ่งใดเจาวางามตองตามเจา ประนอมประนมชมชัย
ใครเลยเลาจะไมงามตามเสด็จ 2. พสุธาอากาศหวาดไหว เนื้อนกตกใจ
3. เดินตามรอยผูใหญหมาไมกัด
ซุกซอนประหวั่นขวัญหนี
ไปพูดขัดเขาทําไมขัดใจเขา
4. วาสนาไมคูเคียงเถียงเขายาก 3. ลูกครุฑพลัดตกฉิมพลี หัสดินอินทรี
ถึงมีปากมีเสียเปลาเหมือนเตาหอย คาบชางก็วางไอยรา
28. ขอใดกลาวไมถูกตอง 4. วานรแผลงฤทธิ์เดชา หักถอนพฤกษา
B 1. บทพากยเอราวัณเปนพระราชนิพนธในรัชกาลที่ 1 ถือตางอาวุธยุทธยง
2. บทพากยเอราวัณมาจากรามเกียรติ์ตอนศึกอินทรชิต 34. บทพากยเอราวัณมีคุณคาทางวรรณศิลปขอใดเดนชัด
3. บทพากยเอราวัณใชลักษณะคําประพันธประเภท C ที่สุด
กาพยขับไม 1. การใชสาธกโวหาร
4. บทพากยเอราวัณนี้ เปนตอนที่อินทรชิตแผลงศร 2. การใชอุปมาโวหาร
แบบทดสอบ
พรหมมาสตร 3. การใชเทศนาโวหาร
29. คําประพันธในขอใด ใดไมใช ลักษณะคําประพันธที่ปรากฏ 4. การใชพรรณนาโวหาร
D ในบทพากยเอราวัณ
1. สามสิบสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา 35. บทพากยเอราวัณ มีลักษณะการประพันธที่มีความ
ดังเพชรรัตนรูจี D โดดเดนในดานใด
2. เขาสูงฝูงหงสลงเรียง เริงรองซองเสียง 1. การใชภาษาสวยงามในการเลาเรือ่ งหรือการดําเนินเรือ่ ง
โครงการบูรณาการ
สําเนียงนาฟงวังเวง 2. การใชภาษาในการถายทอดความรูสึกนึกคิด
3. ธรรมะคือคุณากร สวนชอบสาทร ของตัวละคร
ดุจดวงประทีปชัชวาล 3. การใชภาษาที่มีความหมายลึกซึ้งในการบรรยายเรื่อง
4. วันนั้นจันทร มีดารากร เปนบริวาร ที่มีความยิ่งใหญอลังการ
30. บทประพันธในขอใดมิไดมีความหมายกลาวถึงพระอินทร 4. การใชภาษาแสดงใหเห็นลีลาการเคลื่อนไหว
B 1. เหมือนองคอมรินทร ของตัวละครและรายละเอียดของฉาก
2. เสด็จทรงรถแกวโกสีย 36. คําที่ขีดเสนใตในขอใดเปนคํายืมที่มีที่มาจากภาษา
3. เรงพลโยธาพานรินทร D ตางประเทศแตกตางจากขออื่น
4. เหตุไฉนสหัสนัยนเสด็จผล
1. ทัพหนาอารักษ
31. สัตภัณฑบรรพตทั้งหลาย ออนเอียงเพียงปลาย 2. ทัพหลังสุบรรณ
C 3. ยังมีโยธาจตุรงค
ขอใดไมเกี่ยวของกับคําที่ขีดเสนใตในคําประพันธขางตน 4. ปกซายภาษิตวิทยา
1. ยุคนธร อิสินธร 2. กรวิก สุทัสนะ
3. เนมินธร วินตกะ 4. โกสีย เวไชยันต 37. คําศัพทในบทพากยเอราวัณขอใดมีการสรางคําตางจาก
32. คําที่ขีดเสนใตขอใดมีความหมายตางจากขออื่นๆ E ขออื่น
C 1. ทัพหลังสุบรรณ 1. เทพอัปสร
2. เปนเทพไทเทวัญ 2. ธรณินทร
3. เปนเทพบุตรครวญ 3. ธิบดินทร
4. ทัพหนาอารักษไพรสัณฑ 4. พานรินทร
(27) โครงการวัดและประเมินผล
38. อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมือนองคอมรินทร 40. ขอใดแบงวรรคในการอานคําประพันธประเภทรอยกรอง
D ทรงคชเอราวัณ F ไมถูกตอง
1. อินทรชิต / บิดเบือน / กายิน
คําวา “อมรินทร” เปนการสรางคําสมาสแบบมีสนธิ เหมือนองค / อมรินทร
ขอใดแยกคําศัพทไดถูกตอง 2. พระโฉมยง / องคอภัย / มณีนาถ
1. อ + มรินฺทฺร เพลินประพาส / พิศดู / หมูมัจฉา
2. อมร + อินฺทฺร 3. เหลาฉลาม / ลวนฉลาม / ตามกันมา
3. อ + มร + อินฺทฺร คอยเคลื่อนคลา / คลายคลาย / ในสายชล
4. อ + มรินฺ + อินฺทฺร 4. สิบดี / ก็ไมถึงกับ / กึ่งพาล
39. อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมือนองคอมรินทร เปนชายชาญ / อยาเพอคาด / ประมาทชาย
E ทรงคชเอราวัณ
ขอใดกลาวสรุปความจากบทประพันธนี้ไดถูกตองที่สุด
1. รณพักตรแปลงกายเปนพระอินทรทรงชาง
ชื่อเอราวัณ
แบบทดสอบ
2. รณพักตรเปลี่ยนแปลงรางกายใหเหมือนพระอินทร
ทรงชางชื่อเอราวัณ
3. อินทรชิตรับพรจากพระอิศวรไดแปลงกาย
เปนพระอินทรทรงชางเอราวัณ
4. อินทรชิตไดรับพระเวทจากพระอิศวรแปลงกาย
โครงการบูรณาการ
เปนพระอินทรทรงชางชื่อเอราวัณ
โครงการวัดและประเมินผล (28)
ตอนที่ 2 ตอบคําถามใหถูกตอง จํานวน 3 ขอ 10 คะแนน ¤Ðá¹¹·Õè ä´Œ
¤Ðá¹¹àµçÁ
10
1. ผูที่มีฐานะดีในสังคมจะมีวิธีสั่งสอนบุตรธิดาอยางไรจึงจะสอดคลองกับพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา
เจาอยูหัว (3 คะแนน)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แบบทดสอบ
2. เนื้อหาของอิศรญาณภาษิตตอนใดที่สามารถนําไปใชในการพัฒนาตนเองได ยกตัวอยางพรอมเหตุผลประกอบใหชัดเจน
(3 คะแนน)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
โครงการบูรณาการ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
(29) โครงการวัดและประเมินผล
แบบทดสอบว�ชา ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ภาคเร�ยนที่ 2 ¤Ðá¹¹·Õè ä´Œ
ชุดที่ 2
¤Ðá¹¹ÃÇÁ
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3 50
1. ขอใด
ใดไมใช เนือ้ ความในพระบรมราโชวาท 4. “กลับเห็นเปนการเกการกี๋อยางเชนนักเรียนบางคน
B 1. ใหรูจักการวางตน C มักจะเห็นผิดไปดังนั้น”
แบบทดสอบ
2. ใหรูจักรักษาชื่อเสียงวงศตระกูล
3. ใหรูจักการเขาสังคมอยางตะวันตก ขอความนี้สอดคลองกับหลักคําสอนในขอใด
4. ใหเห็นความสําคัญของภาษาอื่น แตไมทิ้งภาษาไทย 1. การวางตน
2. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว ทรงพระราช- 2. การตั้งใจศึกษาเลาเรียน
B นิพนธพระบรมราโชวาทโดยมีจุดมุงหมายใด 3. การใชพระราชทรัพยใหเปนประโยชน
โครงการบูรณาการ
1. เพื่อพระราชทานแกประชาชนทั้งประเทศ 4. การเห็นความสําคัญและไมละทิ้งภาษาไทย
2. เพื่อพระราชทานแกพระราชวงศบางพระองค 5. คนไทยทีไ่ ปศึกษาตอยังตางประเทศนัน้ ควรตองรูภ าษาไทย
3. เพื่อพระราชทานแกนักเรียนทุนเลาเรียนหลวง D ใหแตกฉานเพราะเหตุใด
4. เพื่อพระราชทานแกพระเจาลูกยาเธอทั้งสี่พระองค 1. เพื่อรักษาความเปนคนไทยไว
ที่จะเสด็จไปศึกษาตอยังตางประเทศ 2. เพื่อเปนพื้นฐานในการศึกษาภาษาอื่นๆ
3. เพื่อนําความรูจากตางประเทศมาใชใหเกิดประโยชน
3. “ภาษาไทยและหนังสือไทยซึ่งเปนภาษาของตัว 4. เพื่อแปลตําราวิชาการที่แตงดวยภาษาตางประเทศ
C หนังสือของตัว คงจะตองใชอยูเปนนิจ” ออกเปนภาษาไทยที่ดี
จากขอความตอนนี้ ขยายความไดวาอยางไร 6. “จะใชเงินพระคลังขางที่ คือเงินที่เปนสวนสิทธิ์ขาด
1. ภาษาไทยมีความสําคัญกวาภาษาอื่นๆ B แกตัวพอเอง” คําที่ขีดเสนใตหมายความวาอยางไร
2. ภาษาไทยเปนภาษาประจําชาติที่จําเปนตองศึกษา 1. เงินของแผนดิน
3. แมจะศึกษาภาษาอื่นๆ ก็จะตองใชภาษาไทย 2. เงินที่จายเบี้ยหวัดกลางป
ใหกวางขวางออกไป 3. เงินที่กําหนดจายเปนรายปใหแกพระบรมวงศานุวงศ
4. ไมวาจะเปนชนชาติใด ก็ควรศึกษาภาษาประจําชาติ 4. เงินสวนที่ถวายพระมหากษัตริยเพื่อทรงใช
ของตนใหเขาใจอยางถองแท ในพระราชกิจตางๆ
ความรู ความจํา ความเขาใจ การนําไปใช การวิเคราะห การสังเคราะห การประเมินคา
A B C D E F
โครงการวัดและประเมินผล (30)
7. ขอกําหนดทีพ่ ระบาท
ระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูห วั ทรง 12. พระบรมร
พระบรมราโชวาทขอใดมีแงคิดตางจากขออื่น
B กําหนดใหพระราชโอรสปฏิบตั เิ ปนประจําทุกเดือนคือขอใด D 1. จงอุตสาหะเลาเรียนดวยความเพียรอยางยิ่ง
1. เลาประสบการณ 2. อยาไปอวดมั่งอวดมี ทําเทียบเทียมเขาใหฟุงซาน
2. รายงานผลการเรียน เปนอันขาด
3. เขียนจดหมายถึงพอ 3. อยาทํามือโตใจโตสุรุยสุรายโดยถือตัววาเปนเจานาย
4. ตั้งใจศึกษาเลาเรียน มั่งมีมาก
4. จงจําไวตั้งใจอยูใหเสมอวาตองเปนคนจน มีเงินใช
8. “ทีต่ อ งการนัน้ ตองการใหกลับแปลภาษาตางประเทศ เฉพาะจะรักษาความสุขของตัวพอสมควรเทานั้น
C ลงเปนภาษาไทยได แปลภาษาไทยออกเปนภาษา 13. พระบรมราโชวาทใหขอคิดใดที่เปนประโยชนตอชาติ
ตางประเทศไดจึงจะนับวาเปนประโยชน” F บานเมืองมากที่สุด
1. การศึกษาเลาเรียนเปนสิ่งที่สําคัญที่สุด
ขอความขางตนมีความหมายตรงกับคําราชาศัพทในขอใด 2. ความประหยัดเปนสิ่งจําเปนและมีคุณประโยชน
1. พระราชดําริ 2. พระราชดํารัส 3. การเปนคนออนนอมยอมมีคนยกยองสรรเสริญ
3. พระราชประสงค 4. พระราชปณิธาน 4. คนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ไมควรวางตัวเหนือคนอื่น
14. นักเรียนคิดวาพระบรมราโชวาทขอใดสําคัญตอตนเอง
9. “เจ า เกิ ด มาเป น เจ า นายมี ย ศถาบรรดาศั ก ดิ์ ม าก F มากที่สุด
แบบทดสอบ
D จริงอยู แตไมเปนการจําเปนเลยที่ผูเปนเจาแผนดิน 1. ประพฤติตนใหอยูในกรอบประเพณีอันดีงาม
จะตองใชราชการอันเปนชองทางที่จะหาเกียรติยศ 2. ปฏิบัติตนเปนผูสุภาพออนนอม ไมมีทิฐิมานะ
ชื่อเสียงและทรัพยสมบัติ” 3. ใชวิชาความรูอันเปนทรัพยมรดกซึ่งเปนสมบัติติดตัว
4. ตองศึกษาใหจบดวยความตั้งใจและนําความรู
พระบรมราโชวาทที่ยกมานี้ เนนคุณธรรมขอใดมากที่สุด มาพัฒนาตนเองและประเทศชาติ
1. ความเมตตา 2. ความซื่อสัตย
โครงการบูรณาการ
3. ความกตัญู 4. การรับราชการ 15. ของสิ่งใดเจาวางามตองตามเจา
10. คําสอนในพระบรมราโชวาทขอใดมีลักษณะเปน C
บทประพันธจากวรรณคดีเรื่องอิศรญาณภาษิตวรรคนี้
E พระราชดําริมากกวาพระราชดํารัสสั่ง มีความหมายสอดคลองกับขอใดมากที่สุด
1. ขอบังคับวาตองเขียนจดหมายถึงพอทุกคน 1. เธอคิดวาสิ่งใดดีก็ตามใจเธอ
อยางนอยเดือนละฉบับ 2. นองคิดวาสิ่งใดงาม พี่ก็เห็นงามดวย
2. เมื่อไปอยูโรงเรียนแหงใดจงประพฤติการใหเรียบรอย 3. เจานายวาอะไรดี ลูกนองควรเห็นดีดวย
ตามแบบอยางซึ่งเขาตั้งลงไว 4. พระมหากษัตริยคิดวาสิ่งใดถูกตอง เราก็ควรเห็นวา
3. ถาจะใชเงินแผนดินสําหรับใหไปเลาเรียนแกผูซึ่ง ถูกตองดวย
ไมมสี ติปญ ญาเฉลียวฉลาดก็จะเปนการเปลาประโยชน
4. จงตั้งใจเสมอวาตัวเปนคนจน ไมมั่งมีเหมือนคนอื่น 16. เห็นตอหลักปกขวางหนทางอยู
อยาอวดมั่งอวดมีทําเทียบเทียมเขาใหฟุงซาน C พิเคราะหดูควรทิ้งแลวจึงถอน
เปนอันขาด เห็นเต็มตาแลวอยาอยากทําปากบอน
ใดไมได สะทอนสภาพสังคมไทยในสมัยรัชกาลที่ 5
11. ขอใด ตรองเสียกอนจึงคอยทํากรรมทั้งมวล
D ที่ปรากฏอยูในพระบรมราโชวาท บทประพันธขางตนสอนเกี่ยวกับเรื่องใด
1. ความสัมพันธกับตางประเทศ 1. ใหกลาหาญที่จะตอสูกับผูที่ขัดขวางการทํางาน
2. คานิยมการสงบุตรหลานไปศึกษาตอตางประเทศ 2. ใหรูจักทําความสะอาดหนทางสัญจรใหเรียบรอย
3. การเตรียมความพรอมเพื่อรับอารยธรรมตะวันตก 3. ใหรจู กั คิดใครครวญ ไตรตรองกอนทีจ่ ะพูดหรือทําสิง่ ใด
4. ระบบบริหารราชการแผนดินที่เกี่ยวของกับ 4. ใหพิจารณาวาควรจะกลาวหาผูอื่นโดยไมมีความผิด
พระราชสํานัก หรือไม
(31) โครงการวัดและประเมินผล
17. ขอใด
ใดไมใช กลวิธที หี่ มอมเจาอิศรญาณทรงใชในการนิพนธ 22. แมพลั้งปากเสียศีลพลาดตีนแพลง
D วรรณคดีเรื่องอิศรญาณภาษิต B มีระแวงขางโทษประโยชนนอย
1. สั่งสอนดวยการกลาวตรงๆ
2. ใชคําเสียดสีประชดประชัน บทประพันธนี้ตรงกับสุภาษิตในขอใด
3. โนมนาวเพื่อความจรรโลงใจ 1. พลั้งปากเสียศีล อยาหมิ่นคนจน
2. พลั้งปากเสียศีล พลั้งจิตเสียธรรม
4. ยกโวหารอุปมาขึ้นมาเปรียบเทียบ
3. พลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกตนไม
18. สํานวนไทยในขอใด ใดไม ตรงกับคํากลอนในอิศรญาณภาษิต
4. พลั้งปากเสียศีล พลั้งพลาดเสียคน
B 1. ผีเรือนตัวไมดีผีอื่นพลอย - ผีซํ้าดํ้าพลอย
2. จะเรียนคมเรียนเถิดอยาเปดฝก - คมในฝก 23. สําหรับคนเจือจิตจริตเขลา
3. ถึงมีปากมีเสียเปลาเหมือนเตาหอย - ปากหอยปากปู E ดวยมัวเมาโมหมากในซากผี
4. อยาเพลิดเพลินคนชังนักคนรักนอย - คนรักเทาผืนหนัง ตองหามามโนมัยใหญยาวรี
คนชังเทาผืนเสื่อ สําหรับขี่เปนมาอาชาไนย
19. คนสามขามีปญญาหาไวทัก คําที่ขีดเสนใตใชเปรียบเทียบแทนสิ่งใด
C 1. ใจที่รูเทาทันกิเลส
แบบทดสอบ
4. คําเปรียบเทียบวาเกงเกินคน 1. การมีสติ
2. การคบมิตร
20. ถึงรูจริงนิ่งไวอยาไขรู 3. การมีความสามัคคี
D 4. การมีความกตัญูกตเวที
กลอนอิศรญาณภาษิตวรรคนี้ เปนคําสอนใหประพฤติตน
อยางไร 25. ขอใดใดไมใช คําสอนเกี่ยวกับการคบมิตร
1. สอนใหรูจริง ไมโออวด D 1. เราก็จิตคิดดูเลาเขาก็ใจ
2. สอนใหรูจักคิดใครครวญ รักกันไวดีกวาชังระวังการ
3. สอนใหตั้งใจศึกษาหาความรู 2. ผูใดดีดีตออยากอกิจ
4. สอนใหเปนคนมีปญญา แตไมอวดรู ผูใดผิดผอนพักอยาหักหาญ
3. ตอผูดีมีปญญาจึงหารือ
21. ถึงบุญมีไมประกอบชอบไมได ใหเขาลือเสียวาชายนี้ขายเพชร
D ตองอาศัยคิดดีจึงมีผล 4. รักสั้นนั้นใหรูอยูเพียงสั้น
รักยาวนั้นอยาใหเยิ่นเกินกฎหมาย
บทประพันธนี้มีความหมายสอดคลองกับขอใด 26. แนวปฏิบตั ใิ นอิศรญาณภาษิตขอใดทีย่ งั ใชไดจนถึงปจจุบนั
1. พูดดี ทําดี คิดดี E 1. รักสั้นใหรูอยูเพียงสั้น
2. ทําดี คิดดี ผลดี 2. หญิงเรียกแมชายเรียกพอยอไวใช
3. บุญดี พูดดี คิดดี 3. อยานอนเปลาเอากระจกยกออกมา
4. บุญดี ทําชอบดี ผลดี 4. ชายชาวเปลือกหญิงขาวสารโบราณวา
โครงการวัดและประเมินผล (32)
27. บทประพันธในขอใดตอไปนี้ไมมี คํายืมภาษาตางประเทศ 33. บทประพันธในขอใดกลาวถึงความยิ่งใหญของกองทัพ
E ปรากฏอยูเ ลย D พระรามไดถูกตองที่สุด
1. อยาดูถูกบุญกรรมวาทํานอย 1. เพลารอยพลอยประดับดุมวง กึกกองกํากง
2. สองดูหนาเสียทีหนึ่งแลวจึงนอน กระทบกระทั่งธรณี
3. สําหรับขี่เปนมาอาชาไนย 2. พสุธาอากาศหวาดไหว เนื้อนกตกใจ
4. อยานอนเปลาเอากระจกยกออกมา ซุกซอนประหวั่นขวัญหนี
3. เสียงพลโหรองเอาชัย เลื่อนลั่นสนั่นใน
28. ศรเต็มไปทั่วราศี ตององคอินทรีย พิภพเพียงทําลาย
B พระลักษมณก็กลิ้งกลางพล 4. บรรดาโยธาจตุรงค เปลี่ยนแปลงกายคง
เปนเทพไทเทวัญ
จากบทประพันธขางตนคําวา “ศร” ในที่นี้มีความหมาย
ตรงกับขอใด 34. สัตภัณฑบรรพตทั้งหลาย ออนเอียงเพียงปลาย
1. ศรนาคบาศ C ประนอมประนมชมชัย
2. ศรนารายณ
3. ศรอินทรชิต บทประพันธนี้ปรากฏภาพพจนตรงกับขอใด
แบบทดสอบ
4. ศรพรหมาสตร 1. ภาพพจนอธิพจน
29. บทพากยเอราวัณบรรยายเหตุการณจากบทละคร 2. ภาพพจนบุคคลวัต
B เรื่องรามเกียรติ์ตอนใด 3. ภาพพจนอุปลักษณ
1. ศึกไมยราพ 2. ศึกกุมภกรรณ 4. ภาพพจนสัญลักษณ
3. ศึกอินทรชิต 4. ศึกนางสีดา 35. การที่อินทรชิตไดรับศรแลวแผลงไปยังพระลักษมณ
E
โครงการบูรณาการ
30. บทประพันธในขอใดไมแสดงโวหารภาพพจน จนลมลงนั้น สะทอนแงคิดขอใดชัดเจนที่สุด
D 1. ลูกครุฑพลัดตกฉิมพลี หัสดินอินทรี 1. การใชชีวิตอยางมีสติ
คาบชางก็วางไอยรา 2. สงครามคือความสูญเสีย
2. เสียงพลโหรองเอาชัย เลื่อนลั่นสนั่นใน 3. ความกตัญูคือเครื่องหมายของคนดี
พิภพเพียงทําลาย 4. การใหอํานาจแกบุคคลใดควรไตรตรองใหดี
3. สัตภัณฑบรรพตทั้งหลาย ออนเอียงเพียงพลาย 36. วรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ มีกลวิธีการประพันธอยางไร
E 1. แตงเปนบทละครตั้งแตตนจนจบ
ประนอมประนมชมชัย
4. อึงอินทเภรีตีระงม แตรสังขเสียงประสม 2. คัดเลือกบางตอนมาแตงบทละคร
3. กษัตริยและกวีทั้งหลายชวยกันแตงบางตอน
ประสานเสนาะในไพร
4. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลก
31. ใดมิได หมายถึงพระอินทร
คําศัพทในขอใด
C ทรงพระราชนิพนธเพียงพระองคเดียว
1. โกสีย 2. สหัสนัยน
37. จากวรรณคดีเรื่องบทพากยเอราวัณ ไดแสดงคุณคา
3. อมรินทร 4. เวไชยันต F ของวรรณคดีในขอใดเดนชัดที่สุด
32. ทรงเครื่องศัสตราแยงยล ฤๅจะกลับเปนกล 1. ชี้ใหเห็นบาปบุญคุณโทษ
D ไปเขาดวยราพณอาธรรม 2. แสดงบุญญาธิการของรัชกาลที่ 1
3. แสดงใหเห็นวาความสงบของบานเมือง
บทประพันธนเี้ ปนคํากลาวของตัวละครใดในเรือ่ งรามเกียรติ์ จะสงผลใหวรรณคดีรุงเรือง
1. สุครีพ 2. ทศกัณฐ 4. เปนตนแบบทางดานกลวิธีการประพันธ
3. อินทรชิต 4. พระอินทร ใหแกวรรณคดีในยุคหลัง
(33) โครงการวัดและประเมินผล
38. อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมือนองคอมรินทร 40. คําประพันธในขอใดมีความดีเดนดานการสรรคํามากที่สุด
C ทรงคชเอราวัณ F 1. กลีบหนึ่งมีเทพธิดา เจ็ดองคโสภา
แนงนอยลําเพานงพาล
จากบทประพันธขางตน ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับ 2. งาหนึ่งเจ็ดโบกขรณี สระหนึ่งยอมมี
อินทรชิต เจ็ดกออุบลบันดาล
1. อินทรชิตทรงชางชื่อเอราวัณ 3. นางหนึ่งยอมมีบริวาร อีกเจ็ดเยาวมาลย
2. อินทรชิตหมายถึงชนะพระอินทร ลวนรูปนิรมิตมายา
3. อินทรชิตเปนโอรสของทศกัณฐกับนางสวาหะ 4. กอหนึ่งเจ็ดดอกเยาวมาลย ดอกหนึ่งเบงบาน
4. พระอิศวรประทานพรใหแปลงเปนพระอินทร ได มีไดเจ็ดกลิ่นผกา
39. มีวิมานแกวบวร ทุกเกศกุญชร
E ดังเวไชยันตอมรินทร
ลักษณะคําประพันธขางตนตรงกับคําประพันธในขอใด
1. พวกหนูนักเรียนทั้งหลาย อยานอนตื่นสาย
เปนเด็กเกียจคราน
แบบทดสอบ
2. พวกเรานักเรียนทั้งหลาย อยานิ่งดูดาย
ฝกฝนอานเขียนคําไทย
3. หญิงไมอยากมีสามี หาในโลกนี้หาไหน
อันพวงบุปผามาลัย
4. คืนนั้นจันทรานี้ เปลงแสงแรงไกล
โครงการบูรณาการ
ไปยังพื้นโลกงดงาม
โครงการวัดและประเมินผล (34)
ตอนที่ 2 ตอบคําถามใหถูกตอง จํานวน 3 ขอ 10 คะแนน ¤Ðá¹¹·Õè ä´Œ
¤Ðá¹¹àµçÁ
10
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
แบบทดสอบ
2. ใหรวบรวมประเด็นคําสอนทีน่ า สนใจจากวรรณคดีเรือ่ งอิศรญาณภาษิต พรอมทัง้ อธิบายความหมายของคําสอนนัน้ ตามความ
เขาใจของนักเรียน โดยเลือกมา 4 คําสอน (3 คะแนน)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
โครงการบูรณาการ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
(35) โครงการวัดและประเมินผล
เฉลยแบบทดสอบ ภาคเร�ยนที่ 2
ชุดที่ 1
ตอนที่ 1
1. ตอบ ขอ 4. พระเจาลูกยาเธอ พระองคเจาอาภากรเกียรติวงศ
พระเจาบรมวงศเธอ พระองคเจาอาภากรเกียรติวงศ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ไมไดเสด็จไปในการ
นี้ดวย โดยในเนื้อหาของพระบรมราโชวาท รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชนิพนธเพื่อพระราชทานแกพระเจา
ลูกยาเธอทั้ง 4 พระองค ไดแก พระเจาลูกยาเธอ พระองคเจารพีพัฒนศักดิ์ พระเจาลูกยาเธอ พระองคเจา
ประวิตรวัฒโนดม พระเจาลูกยาเธอ พระองคเจาจิรประวัติวรเดช และพระเจาลูกยาเธอ พระองคเจา
กิติยากรวรลักษณ
2. ตอบ ขอ 2. เปนรอยแกวเชิงเทศนาโวหาร
เรื่องพระบรมราโชวาทนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว มีพระราชประสงคที่จะสั่งสอนให
พระราชโอรสเห็นความสําคัญของการที่พระองคทรงสงพระราชโอรสไปศึกษาเลาเรียนยังตางประเทศ
จึงตองประพฤติตนใหดีงามและใชเงินอยางประหยัด
แบบทดสอบ
โครงการวัดและประเมินผล (36)
9. ตอบ ขอ 3. ทุกคนที่ประพฤติตาม
เรื่องพระบรมราโชวาทนี้มีลักษณะเปนวรรณกรรมคําสอนที่มุงใหผูอานไดรับความรูและนําความรูที่ไดนั้น
ไปพัฒนาตนเองใหเกิดประโยชน
10. ตอบ ขอ 4. เอสไควร
เอสไควร มาจากคําวา Esquire เปนคําใชเขียนหลังชื่อของเพศชายในประเทศอังกฤษ ซึ่งแสดงวาเปนผูมี
ฐานะดี
11. ตอบ ขอ 3. พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนตเสนงคง สําคัญหมายในกายมี
บทประพันธขา งตน มีความหมายวา โค กระบือ และชางทีต่ ายไปแลว แตเขาและงาก็ยงั มีประโยชนตอ มนุษย
ซึ่งเนื้อความนี้ตรงกับพระบรมราโชวาทที่ยกมา
12. ตอบ ขอ 3. ไปอยูโรงเรียนใดก็ประพฤติตนใหเรียบรอยตามแบบอยางที่เขาตั้งลงไว
ขอนี้เปนคําสั่งสอนที่สามารถนําไปสั่งสอนนักเรียนไมใหประพฤติตนผิดระเบียบวินัยของโรงเรียนได
13. ตอบ ขอ 1. สวัสดิรักษา
แบบทดสอบ
วรรณคดีเรื่องอิศรญาณภาษิตและเรื่องสวัสดิรักษา เปนวรรณคดีคําสอนที่มีเนื้อหามุงสอนใหขอคิดคติ
สอนใจผูคนในสมัยกอน มีขอคิดเกี่ยวกับการดําเนินชีวิต การปฏิบัติตนในดานตางๆ เชน สอนใหมีปญญา
ไมโออวด และรูจักคิดไตรตรองกอนทําสิ่งใด เปนตน
14. ตอบ ขอ 2. พอแมเลี้ยงปดปกเปนกกกอ
บทประพันธนี้ไมมีลักษณะประชดประชัน เพราะมีเนื้อความกลาวถึง พอแมที่เลี้ยงลูกแลวตามใจหรือ
โครงการบูรณาการ
ทะนุถนอมมากไป ลูกจึงชวยเหลือตนเองไมไดเมื่อเปนผูใหญ สวนขอ 1., 3. และ 4. กลาวถึงการที่ผูนอย
จะตองเชื่อฟงและปฏิบัติตามผูใหญเสมอ
15. ตอบ ขอ 1. การประเมินกําลังของศัตรู
บทประพันธนี้มีจุดประสงคเพื่อเตือนใจใหผูอานระวังตัว และประเมินสถานการณกอนคิดตอสูกับคูตอสู
ที่มีความสามารถมากกวา
16. ตอบ ขอ 3. สูงอยาสูงกวาฐานนานไปลม จะเรียนคมเรียนเถิดอยาเปดฝก
บทประพันธนี้ หมายถึง การสรางสิ่งกอสรางอยาสรางสูงกวาฐานอาจเสียหาย คือ สอนใหรูจักประมาณตน
และควรเรียนรูใหมาก แตอยาอวดรู
17. ตอบ ขอ 3. กิ้งกาไดทอง
สํานวน กิ้งกาไดทอง มีความหมายวา คนที่มีลาภยศ แลวลืมฐานะของตนเอง สวนขอ 1., 2. และ 4.
มีความหมายวาไดสิ่งของมาแตไมรูคุณคาหรือใชประโยชน ไมได
18. ตอบ ขอ 4. ไปเห็นนํ้าตัดกระบอก ไปเห็นกระรอกโกงหนาไม
สํานวนนี้ไมปรากฏในเนือ้ เรือ่ งอิศรญาณภาษิต ในอิศรญาณภาษิตเปนสุภาษิตทีม่ งุ สอนแบบเตือนสติ แนะนํา
การประพฤติตนใหเปนที่พอใจของผูอื่น เชน คบคนใหดูหนา ซื้อผาใหดูเนื้อ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสีย
ตําลึงทอง วานรไดแกว นํ้าพึ่งเรือเสือพึ่งปา เปนตน
สวนสํานวน ไปเห็นนํ้าตัดกระบอก ไปเห็นกระรอกโกงหนาไม มีความหมายวา ดวนทําไปกอนทั้งๆ ที่ยัง
ไมถึงเวลา ซึ่งเปนสํานวนที่ไมปรากฏในเรื่องนี้
(37) โครงการวัดและประเมินผล
19. ตอบ ขอ 2. การคบมิตร
บทประพันธนี้มีความหมายวา ถาจะคบเพื่อน ไมควรคบคนนิสัยไมดี เพราะเราจะพลอยเสียชื่อเสียงไปดวย
ควรคบกับผูรูหรือนักปราชญ เพราะจะทําใหเรารุงเรืองและเจริญกาวหนา
20. ตอบ ขอ 1. การสรรคํา
การสรรคํา คือ การเลือกใชถอยคําใหเหมาะกับงานประพันธ ดังเชนบทประพันธนี้ มีความดีเดนทั้งในดาน
สัมผัสสระและสัมผัสพยัญชนะ ที่เปนสัมผัสในซึ่งมีทุกวรรค และซํ้าคําวา “ก็” ทุกวรรคเพื่อเนนความหมาย
ของความชราวามีลักษณะอยางไร
21. ตอบ ขอ 3. การจะทําสิ่งใดควรคิดใหรอบคอบเสียกอน
อิศรญาณภาษิตจัดเปนวรรณกรรมคําสอนที่มุงสั่งสอนใหแนวทาง ขอคิดตางๆ ในการอยูรวมกันกับผูอื่น
ในสังคม เตือนสติมนุษย ใหรูจักคิดไตรตรองเสียกอนลงมือทําสิ่งใด โดยใชการยกสํานวนมาเปรียบเทียบ
อยางคมคายและนาสนใจ
22. ตอบ ขอ 4. ใหความสําคัญกับผูใหญ
คําวา ผูไปหนา หมายถึง คนที่เกิดกอนหรือผูใหญ ยอมมีความรูและมีประสบการณมากกวา เราจึงตอง
เชื่อฟงและตองกตัญูตอผูมีพระคุณ
แบบทดสอบ
โครงการวัดและประเมินผล (38)
29. ตอบ ขอ 4. วันนั้นจันทร มีดารากร เปนบริวาร
บทประพันธนี้ใชคําประพันธประเภทกาพยสุรางคนางค 28 สวนขอ 1., 2. และ 3. เปนกาพยฉบัง 16 ซึ่งมี
ลักษณะ คือ กาพย 1 บทมี 16 คํา แบงเปน 3 วรรค วรรคแรกมี 6 คํา วรรคที่สองมี 4 คํา และวรรคสุดทาย
มี 6 คํา ซึ่งเปนลักษณะคําประพันธที่ใชแตงบทพากยเอราวัณ
30. ตอบ ขอ 3. เรงพลโยธาพานรินทร
กาพยวรรคนี้ กลาวถึงการยกทัพของพลวานรในกองทัพพระราม คําวา “พานรินทร” เปนศัพทที่ใช
เพื่อความไพเราะ และใหประโยชนทางดานการเอื้อสัมผัส ซึ่งมาจากคําวา วานร → พานร → พานรินทร
สวนขอ 1., 2. และ 4. คําวา อมรินทร โกสีย และ สหัสนัยน ทั้งสามคํานี้ แปลวา พระอินทรทั้งสิ้น
31. ตอบ ขอ 4. โกสีย เวไชยันต
โกสีย หมายถึง พระอินทร เวไชยันต หมายถึง วิมานหรือที่ประทับของพระอินทร สวน ยุคนธร อิสินธร
กรวิก สุทัสนะ เนมินธร และวินกตะ คือ ชื่อภูเขาที่ลอมรอบเขาพระสุเมรุมี 7 ชั้น
32. ตอบ ขอ 1. ทัพหลังสุบรรณ
สุบรรณ หมายถึง ครุฑ ซึ่งเปนพาหนะของพระนารายณ
สวนเทพบุตร เทพไท และอารักษ มีความหมายคลายกัน คือ เทวดาหรือเทวดาผูพิทักษ
33. ตอบ ขอ 2. พสุธาอากาศหวาดไหว เนื้อนกตกใจ
แบบทดสอบ
ซุกซอนประหวั่นขวัญหนี
กาพยฉบัง 16 บทนี้มีความดีเดนดานสัมผัสอักษร คือ มีสัมผัสอักษรทุกวรรค ไดแก คําวา หวาดไหว,
เนื้อนก, ซุกซอน สวนในขออื่นๆ มีเสียงสัมผัสอักษรเพียงบางวรรคเทานั้น
34. ตอบ ขอ 4. การใชพรรณนาโวหาร
บทพากยเอราวัณนั้นมุงเนนการพรรณนาภาพชางเอราวัณอยางละเอียด และพรรณนาการเคลื่อนไหว
โครงการบูรณาการ
จนผูอานเกิดจินตนาการตาม อีกทั้งยังเนนรายละเอียดของฉากมากกวาการเลาเรื่องหรือการดําเนินเรื่อง
วรรณคดีเรื่องนี้จึงนับเปนวรรณคดีที่มีการพรรณนาที่ดีเดนเรื่องหนึ่ง
35. ตอบ ขอ 4. การใชภาษาแสดงใหเห็นลีลาการเคลื่อนไหวของตัวละครและรายละเอียดของฉาก
บทพากยเอราวัณจะมีบทบรรยายลักษณะชางเอราวัณซึ่งเปนชางทรงของพระอินทร ที่บรรยายโดยให
รายละเอียดทําใหเห็นภาพชัดเจนดังคําประพันธที่วา
ชางนิรมิตฤทธิแรงแข็งขัน เผือกผองผิวพรรณ
สีสังขสะอาดโอฬาร
สามสิบสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา
ดังเพชรรัตนรูจี
36. ตอบ ขอ 3. ยังมีโยธาจตุรงค
คําวา จาตุรงค เปนคํายืมภาษาบาลี โดยสังเกตจากพยัญชนะวรรค คือ สะกดดวยพยัญชนะวรรค ก
แถวที่ 5 คือ ง แลวตามดวยพยัญชนะวรรคเดียวกันแถวที่ 3 คือ ค
ขอ 1. และ ขอ 4. อารักษและภาษิต เปนภาษาสันสกฤต สังเกตจากตัว ษ
ขอ 2. สุบรรณ เปนภาษาสันสกฤต สังเกตจากตัว รร (ร หัน)
37. ตอบ ขอ 1. เทพอัปสร
เทพอัปสร เปนการสรางคําแบบคําสมาส คือ นําคํามาเขียนเรียงกันแลวอานออกเสียงตอเนื่องกัน มาจาก
เทพ + อัปสร = เทพอัปสร
สวน ธรณินทร เปนคําสมาสแบบกลมกลืนเสียงมาจาก ธรณี + อินฺทฺร = ธรณินทร
ธิบดินทร เปนคําสมาสแบบกลมกลืนเสียงมาจาก ธิบดี + อินฺทฺร = ธิบดินทร
พานรินทร เปนคําสมาสแบบกลมกลืนเสียงมาจาก พานร + อินฺทฺร = พานรินทร
(39) โครงการวัดและประเมินผล
38. ตอบ ขอ 2. อมร + อินฺทฺร
อมร หมายถึง ผูไมตายหรือเทวดา
อินฺทฺร หมายถึง ผูเปนใหญหรือชื่อเทวราชผูเปนใหญในสวรรคชั้นดาวดึงส
ดังนั้น “อมรินทร” จึงเปนคําเรียกที่หมายถึง พระอินทร
39. ตอบ ขอ 4. อินทรชิตไดรับพระเวทจากพระอิศวรแปลงกายเปนพระอินทร ทรงชางชื่อเอราวัณ
อินทรชิตเดิมชื่อรณพักตร ไดเรียนศิลปวิทยากับฤๅษีโคบุตร เมื่อไปรบกับพระอินทรแลวไดรับชัยชนะ
ทศกัณฐจึงประทานชื่อใหมวาอินทรชิต
40. ตอบ ขอ 4. สิบดี / ก็ไมถึงกับ / กึ่งพาล เปนชายชาญ / อยาเพอคาด / ประมาทชาย
บทประพันธนี้มีลักษณะคําประพันธประเภทกลอนสุภาพซึ่งควรแบงวรรค ดังนี้
สิบดีก็ / ไมถึง / กับกึ่งพาล เปนชายชาญ / อยาเพอคาด / ประมาทชาย
ซึ่งตรงตามแผนผังฉันทลักษณของกลอนสุภาพ ดังนี้
ooo/oo/ooo ooo/oo/ooo
ตอนที่ 2
แบบทดสอบ
1. แนวตอบ ผูที่มีฐานะดีในสังคมควรมีวิธีสั่งสอนบุตรธิดาใหสอดคลองกับพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกลาเจาอยูหัว ดังนี้
1. ไมใหอวดตัววาฐานะดี แลวขมเหงหรือดูถูกผูอื่น
2. ไมใชจายเงินฟุมเฟอย
โครงการบูรณาการ
โครงการวัดและประเมินผล (40)
เฉลยแบบทดสอบ ภาคเร�ยนที่ 2
ชุดที่ 2
ตอนที่ 1
1. ตอบ ขอ 3. ใหรูจักการเขาสังคมอยางตะวันตก
ขอนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว ไมทรงเห็นวาสําคัญ เพราะพระองคตองการใหแสวงหาวิชา
ความรูเพียงประการเดียวเทานั้น
2. ตอบ ขอ 4. เพื่อพระราชทานแกพระเจาลูกยาเธอทั้งสี่พระองคที่จะเสด็จไปศึกษาตอยังตางประเทศ
พระบรมราโชวาทนีเ้ ปนแนวทางพระราชดําริทพี่ ระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูห วั ทรงคํานึงถึงประโยชน
ของประเทศชาติวาพระราชโอรสทั้งสี่พระองคจะไดนําความรูมาพัฒนาประเทศไทย
3. ตอบ ขอ 3. แมจะศึกษาภาษาอื่นๆ ก็จะตองใชภาษาไทยใหกวางขวางออกไป
ขอความตอนนีเ้ ปนพระราชดํารัสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูห วั ซึง่ ทรงตระหนักถึงความสําคัญ
ของการศึกษาทั้งภาษาของชาติตะวันตกและภาษาไทย
4. ตอบ ขอ 4. การเห็นความสําคัญและไมละทิ้งภาษาไทย
แบบทดสอบ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัวมีพระราชประสงค ใหเรียนภาษาตางประเทศ แตตองไมลืม
ภาษาไทยเหมือนนักเรียนคนอื่นๆ
5. ตอบ ขอ 4. เพื่อแปลตําราวิชาการที่แตงดวยภาษาตางประเทศออกเปนภาษาไทยที่ดี
ในพระบรมราโชวาทขอ 6 ไดกลาวถึงการแปลภาษาวา ตําราที่ใชอยูมีนอยเกินไป ควรมีการแปลตํารา
ตางประเทศเปนภาษาไทยไวจะเปนการดี
โครงการบูรณาการ
6. ตอบ ขอ 4. เงินสวนที่ถวายพระมหากษัตริยเพื่อทรงใชในพระราชกิจตางๆ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัวทรงตัดสินพระทัยที่จะใชเงินสวนพระองคเปนคาใชจายในการ
สงพระราชโอรสไปศึกษาตอยังตางประเทศ ดวยเพราะพระองคทรงเห็นวา พระองคเองมีพระราชโอรสมาก
ถาทรงใชเงินแผนดินเปนคาใชจายในการศึกษาเลาเรียน แลวพระราชโอรสกลับมาไมไดทําประโยชนใหคุม
กับเงินนั้นก็จะไดรับคําติเตียนได
7. ตอบ ขอ 3. เขียนจดหมายถึงพอ
ขอกําหนดทีพ่ ระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูห วั ทรงกําหนดใหพระราชโอรสปฏิบตั เิ ปนประจําทุกเดือน
คือ การเขียนจดหมายถึงพอ ดังความวา “ขอบังคับวาใหเขียนหนังสือถึงพอทุกคนอยางนอยเดือนละฉบับ”
8. ตอบ ขอ 3. พระราชประสงค
พระราชประสงค มีความหมายวา ความมุงหวัง ความตั้งใจ ของพระเจาแผนดิน จากขอความขางตน
เปนพระราชประสงคของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว มีใจความวา พระองคตองการให
พระราชโอรสมีความรูค วามสามารถในการแปลภาษาตางประเทศเปนภาษาไทย และยังตองมีความสามารถ
แปลภาษาไทยเปนภาษาตางประเทศไดอีกดวย
9. ตอบ ขอ 2. ความซื่อสัตย
พระบรมราโชวาทที่ยกมานี้ หมายถึง การไมนําตําแหนงหรือยศไปทําใหตนเองเจริญกาวหนา ควรปฏิบัติ
ดวยความซื่อสัตยสุจริต
10. ตอบ ขอ 3. ถาจะใชเงินแผนดินสําหรับใหไปเลาเรียนแกผูซึ่งไมมีสติปญญาเฉลียวฉลาด ก็จะเปนการเปลาประโยชน
ขอนี้เปนการแสดงความคิดเห็น สวนขอ 1., 2. และ 4. นั้น เปนพระบรมราโชวาทในเชิงคําสั่ง สังเกตจาก
คําวา “ขอบังคับ” และ “จง” ตามลําดับ
(41) โครงการวัดและประเมินผล
11. ตอบ ขอ 3. การเตรียมความพรอมเพื่อรับอารยธรรมทางตะวันตก
ขอนี้มิไดปรากฏอยูในเรื่องพระบรมราโชวาท เหตุเพราะรัชกาลที่ 5 ทรงเนนการนําความรูมาพัฒนาชาติ
บานเมืองเปนประการสําคัญ
12. ตอบ ขอ 1. จงอุตสาหะเลาเรียนดวยความเพียรอยางยิ่ง
ขอนี้เปนคําสอนที่ใหแงคิดเกี่ยวกับการศึกษาเลาเรียน สวนในขอ 1., 2. และ 4. เปนคําสอนในเรื่องความ
ประหยัด สอนใหรูจักใชเงินอยางรูคุณคาของเงิน
13. ตอบ ขอ 1. การศึกษาเลาเรียนเปนสิ่งที่สําคัญที่สุด
ขอนี้ตรงกับพระบรมราโชวาทที่วา “จงตั้งใจพากเพียรใหมีความรูเพื่อกลับมาชวยพอ เปนที่ชื่นชมยินดี
สมกับที่มีความรักนั้นเถิด” เพราะการศึกษาเลาเรียนดวยความตั้งใจนั้นจะสามารถนําความรูกลับมาพัฒนา
ประเทศได
14. ตอบ ขอ 4. ตองศึกษาใหจบดวยความตั้งใจ และนําความรูมาพัฒนาตนเองและประเทศชาติ
ขอนี้คือ จุดมุงหมายของการศึกษา คือ ตองพัฒนาตนเอง พัฒนาสังคม และพัฒนาประเทศชาติ
15. ตอบ ขอ 4. พระมหากษัตริยคิดวาสิ่งใดถูกตอง เราก็ควรเห็นวาถูกตองดวย
เนื้อความทั้งหมดของกลอนบทนี้คือ
แบบทดสอบ
ของสิ่งใดเจาวางามตองตามเจา ใครเลยเลาจะไมงามตามเสด็จ
จําไวทุกสิ่งจริงหรือเท็จ พริกไทยเม็ดนิดเดียวเคี้ยวยังรอน
ซึ่งมีใจความวา เมื่อพระเจาแผนดินวาสิ่งใดถูกสิ่งใดควร เราซึ่งเปนราษฎรหรือขาแผนดินตองเห็นตามดวย
16. ตอบ ขอ 3. ใหรูจักคิดใครครวญ ไตรตรองกอนที่จะพูดหรือทําสิ่งใด
บทประพันธนเี้ ปนการเปรียบเทียบวา เมือ่ เห็นตอเสาปกขวางอยูค วรดูใหดกี อ นจะถอน และตองคิดใหรอบคอบ
โครงการบูรณาการ
เสียกอนจึงพูดออกไป
17. ตอบ ขอ 3. โนมนาวเพื่อความจรรโลงใจ
หมอมเจาอิศรญาณทรงนิพนธวรรณคดีเรื่องอิศรญาณภาษิต ดวยความนอยพระทัย เพราะมีคนตําหนิ
เนื้อหาของวรรณคดีเรื่องนี้จึงแฝงไวดวยนํ้าเสียงเสียดสีประชดประชัน อีกทั้งยังทรงใชถอยคําเปรียบเทียบ
ไดอยางลึกซึ้ง คมคายอีกดวย
18. ตอบ ขอ 3. ถึงมีปากมีเสียเปลาเหมือนเตาหอย - ปากหอยปากปู
กลอนวรรคนี้ไมตรงกับคําสอนในอิศรญาณภาษิต เนื้อความทั้งหมด คือ “วาสนาไมคูเคียงเถียงเขายาก
ถึงมีปากมีเสียเปลาเหมือนเตาหอย” มีความหมายวา ควรสงบปากสงบคําหรือไมควรพูดมาก
19. ตอบ ขอ 3. คนที่มีประสบการณมาก
ในบทประพันธนี้ คําวา “คนสามขา” มีความหมายวา ผูใ หญหรือผูท มี่ อี ายุมาก ยอมมีความรูแ ละประสบการณ
มาก ดังนั้น ผูใหญพูดอะไรก็ควรเชื่อฟง ซึ่งตรงกับสุภาษิตที่วา “เดินตามผูใหญหมาไมกัด”
20. ตอบ ขอ 1. สอนใหรูจริง ไมโออวด
ขอนี้ตรงกับบทกลอนที่วา “ถึงรูจริงนิ่งไวอยาไขรู เต็มที่ครูเดียวเทานั้นเขาสรรเสริญ” นั่นคือ มีความรูใน
เรื่องใดเรื่องหนึ่งอยางลึกซึ้ง แตไมควรพูดจาโออวด เพราะในไมชาผูอื่นจะยกยองสรรเสริญเอง
21. ตอบ ขอ 2. ทําดี คิดดี ผลดี
ขอนี้ตรงกับความหมายในกลอนที่วา ถึงมีบุญ ถาไมทําดีนั้นไมได จะตองทําดีคิดดีจึงจะไดผลตอบแทนดี
22. ตอบ ขอ 3. พลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกตนไม
สํานวนนี้มีความหมายวา จะพูดหรือทําอะไรควรคิดใหรอบคอบ ถาไมระมัดระวังอาจเกิดผลรายกับตนเอง
โครงการวัดและประเมินผล (42)
23. ตอบ ขอ 1. ใจที่รูเทาทันกิเลส
คํากลอนนี้มีสาระใจความกลาวถึงการทําใจเปนนายบังคับตนเองใหอยูเหนือกิเลส
24. ตอบ ขอ 3. การมีความสามัคคี
นิทานเรื่องนกกระจาบ มีเนื้อหากลาวถึงนกกระจาบที่มีความสามัคคีกันยอมชวยเหลือเกื้อกูลกันใหรอดพน
จากอันตรายได แตภายหลังนกกระจาบแตกความสามัคคี เยอหยิ่ง ถือตนวาเกง สุดทายจึงถูกนายพราน
ฆาตาย
25. ตอบ ขอ 3. ตอผูดีมีปญญาจึงหารือ ใหเขาลือเสียวาชายนี้ขายเพชร
บทประพันธนี้ หมายถึง คนที่มีปญญาเทานั้นที่เราควรจะไปขอความชวยเหลือหรือปรึกษาหารือ สวนขอ 1.,
2. และ 4. เปนบทประพันธที่สอนเรื่องการคบมิตร
26. ตอบ ขอ 2. หญิงเรียกแมชายเรียกพอยอไวใช
ขอนี้ หมายถึง เมื่อจะขอความชวยเหลือใคร ควรพูดจาใหไพเราะ เขาจะไดเต็มใจชวยเหลือ
27. ตอบ ขอ 2. สองดูหนาเสียทีหนึ่งแลวจึงนอน
บทประพันธในขอนี้ใชคําภาษาไทยแททั้งหมด
ขอ 1 บุญกรรม เปนภาษาบาลีสันสกฤต
แบบทดสอบ
ขอ 3 อาชาไนย เปนภาษาบาลีสันสกฤต
ขอ 4 กระจก เปนภาษาบาลีสันสกฤต
28. ตอบ ขอ 4. ศรพรหมาสตร
ศรพรหมาสตร เปนชื่อศรที่อินทรชิตแผลงตองพระลักษมณจนลมลง ศรพรหมาสตรนี้เปนศรที่พระอิศวร
ประทานใหรณพักตร ซึ่งตอมาเปลี่ยนชื่อเปนอินทรชิต
โครงการบูรณาการ
29. ตอบ ขอ 3. ศึกอินทรชิต
บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต มีเนื้อหาวาดวยเรื่องตอนอินทรชิตประทับบนหลังชางเอราวัณ
แปลงกายและแปลงทัพเปนทัพของพระอินทร ใชศรพรหมาสตรแผลงไปสังหารพระลักษมณ
30. ตอบ ขอ 4. อึงอินทเภรีตีระงม แตรสังขเสียงประสม
ประสานเสนาะในไพร
บทประพันธนี้เปนการพรรณนาใหเห็นภาพการเคลื่อนทัพที่มีเสียงกลองดัง เสียงแตร เสียงสังข ดังกอง
ไปทั่วทั้งปา
สวน ขอ 1., และขอ 2. เปนอติพจน คือ การกลาวเกินจริง
ขอ 3. เปนบุคคลวัต คือ การสมมติใหสิ่งไมมีชีวิตแสดงอากัปกิริยาเหมือนสิ่งมีชีวิต
31. ตอบ ขอ 4. เวไชยันต หรือเวชยันต
ขอนี้ หมายถึง วิมานหรือรถทรงของพระอินทร
สวน โกสีย สหัสนัยน และอมรินทร ทั้ง 3 คํานี้ หมายถึง พระอินทร
32. ตอบ ขอ 1. สุครีพ
บทประพันธนี้เปนตอนที่พระลักษมณผูเปนพระอนุชาของพระรามทรงถามสุครีพ เพราะเห็นพระอินทร
ยกกองทัพมา สุครีพจึงทูลวา เปนกองทัพของอินทรชิตซึ่งใชกลอุบายจําแลงกายเปนพระอินทร
33. ตอบ ขอ 3. เสียงพลโหรองเอาชัย เลื่อนลั่นสนั่นใน
พิภพเพียงทําลาย
บทประพันธนี้ หมายถึง เสียงกองทัพที่มีทหารโหรองเอาฤกษเอาชัย มีเสียงดังเหมือนกับแผนดินจะ
ถลมทลาย แสดงถึงความยิ่งใหญของกองทัพพระราม
(43) โครงการวัดและประเมินผล
34. ตอบ ขอ 1. ภาพพจนอธิพจน
ภาพพจนอธิพจนหรืออติพจน หมายถึง การกลาวเกินจริง ซึง่ จากบทประพันธขา งตนมีเนือ้ หาทีเ่ ปนการกลาว
เกินจริงวา ภูเขาใหญนอยเอนตัวลงเหมือนกําลังพนมมือไหวกองทัพของพระอินทรแปลง
35. ตอบ ขอ 4. การใหอํานาจแกบุคคลใดควรไตรตรองใหดี
ขอนี้ หมายถึง การทีอ่ นิ ทรชิตไดรบั พรจากพระอิศวร และไดศรพรหมาสตรมาแลวใชทาํ ลายฝายพระลักษมณ
นั้น เปนสิ่งที่ไมควรเกิดขึ้น
36. ตอบ ขอ 2. คัดเลือกบางตอนมาแตงบทละคร
รามเกียรติ์นั้นมาจากวรรณคดีอินเดียชื่อ รามายณะ ซึ่งมีเนื้อเรื่องยาวและพิสดารมาก กวีไทยนํามาแตง
เพียงบางตอนที่เห็นวาสําคัญและนาสนใจ โดยมีจุดมุงหมายเพื่อแสดงบุญญาธิการของกษัตริย
37. ตอบ ขอ 3. แสดงใหเห็นวาความสงบของบานเมือง จะสงผลใหวรรณคดีรุงเรือง
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัยทรงพระราชนิพนธบทพากยเอราวัณขึน้ เพือ่ ใชแสดงโขน ซึง่ วรรณคดี
เรื่องนี้ประพันธขึ้นในสมัยรัตนโกสินทรตอนตน เปนชวงที่บานเมืองมีแตความสงบสุข ปราศจากศึกสงคราม
ซึ่งสะทอนใหเห็นวาหากบานเมืองมีความสงบ ประชาชนอยูกันอยางมีความสุข ก็จะเปนแรงผลักดันให
สามารถสรางสรรควรรณกรรมที่ทรงคุณคาได
แบบทดสอบ
ฝกฝนอานเขียนคําไทย
ขอนี้ตรงกับลักษณะบังคับของกาพยฉบัง 16 คือ
oooooo oooo
oooooo
สวน ขอ 1. ไมถูกตอง เพราะวรรคสุดทาย มี 4 คํา
ขอ 3. ใชฉันทลักษณประเภทกลอนหก
ขอ 4. ใชสัมผัสไมถูกตองตรงตามฉันทลักษณ
40. ตอบ ขอ 1. กลีบหนึ่งมีเทพธิดา เจ็ดองคโสภา
แนงนอยลําเภานงพาล
บทประพันธนี้มีความดีเดนดานการสรรคํา โดยมีคําไวพจนที่แปลวา หญิงงาม 4 คํา ไดแก คําวา โสภา
แนงนอย ลําเภา และนงพาล
โครงการวัดและประเมินผล (44)
ตอนที่ 2
1. แนวตอบ คานิยมทีป่ รากฏในเรือ่ งพระบรมราโชวาททีป่ จ จุบนั ยังคงใชอยู คือ การสงบุตรหลานไปศึกษาตอยังตางประเทศ
ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ 5 เปนสมัยที่ประเทศไทยตื่นตัวกับการติดตอกับชาวตางชาติมาก โดยเฉพาะทางยุโรป
ซึ่งมีความเจริญในทุกๆ ดาน ผูมีฐานะดีหรือขุนนางจึงนิยมสงบุตรหลานไปเลาเรียนยังตางประเทศ สวนใน
ปจจุบันคนไทยก็ยังมีคานิยมของการทํางานวาจะตองจบมาจากตางประเทศ จึงจะมีความรู ความสามารถ
และมีคุณภาพ ผูปกครองจึงนิยมสงบุตรหลานไปเรียนตอตางประเทศ
2. แนวตอบ ตัวอยางคําสอนที่นาสนใจจากวรรณคดีเรื่อง อิศรญาณภาษิต เชน
- ใครเลยหอนจะวาตัวเปนวัวมอ หมายถึง ไมมีใครที่คิดอยากเปนวัวใหคนอื่นใชงาน
- เอาหลังตากแดดเปนนิจ หมายถึง ตองขยันทํางานอยูเสมอๆ
- อยากใชเขาเราตองกมประนมกร หมายถึง เมื่อจะขอความชวยเหลือจากใคร ตองรูจักออนนอมถอมตน
- เดินตามผูใหญหมาไมกัด หมายถึง ควรประพฤติปฏิบัติตามแนวทางที่ผูใหญทํามากอนแลว
3. แนวตอบ ลมหวนอวลกลิ่นมาลา เฟองฟุงวนา
นิวาสแถวแนวคง
แบบทดสอบ
ผึ้งภูหมูคณาเหมหงส รอนราถลาลง
แทรกไซในสรอยสุมาลี
เหตุผลที่เลือกยกตัวอยางบทประพันธนี้ เพราะเปนบทประพันธที่มีความดีเดนทางดานวรรณศิลป ดังนี้
1. มีการพรรณนาธรรมชาติใหผูอานไดรับความรูสึกถึงลมที่พัดมาเบาๆ มีกลิ่นหอมของดอกไม และภาพ
หมูผึ้งที่หาความหวานจากเกสรดอกไม
2. มีการใชคําสัมผัสในที่เปนสัมผัสสระเกือบทุกวรรค ไดแก หวน-อวล, แถว-แนว, ภู-หมู, รา-ถลา และ
โครงการบูรณาการ
ไซ-ใน
3. มีคําแสดงถึงอากัปกิริยาทาทางตางๆ ซึ่งกอใหเกิดจินตภาพ เชน รอน ถลาลง แทรกไซ เปนตน
(45) โครงการวัดและประเมินผล
โครงการบูรณาการ
การเร�ยนรูสูบันได 5 ขั้น
1. ชื่อโครงการ วรรณกรรมพื้นบาน
2. หลักการและเหตุผล
วรรณกรรมพื้นบานเปนสวนหนึ่งของการศึกษาวรรณคดีและวรรณกรรมไทย ในปจจุบันมีสื่อตางๆ มากมายในสังคม ทําใหสภาพสังคม
เปลี่ยนแปลงไป นักเรียนจึงสนใจวรรณกรรมพื้นบานนอยลง ดังนั้น เพื่อไมใหวรรณกรรมพื้นบานซึ่งเปนภูมิปญญาไทยที่มีคุณคาไดรับ
ความนิยมลดลง นักเรียนจึงควรศึกษาและรวบรวมวรรณกรรมพื้นบานเพื่อไมใหวรรณกรรมนี้สูญหายไปจากสังคมไทย
3. วัตถุประสงคของโครงการ
1. เพือ่ ใหนกั เรียนระบุปญ หาทีว่ รรณกรรมพืน้ บานหายไปจากสังคมไทยได และเพือ่ รวบรวมวรรณกรรมพืน้ บานทีม่ ปี รากฏอยูใ นสังคมไทย
2. เพื่อใหนักเรียนมีการวางแผนปฏิบัติการในการจัดการศึกษา เพื่อรวบรวมวรรณกรรมพื้นบานไมใหสูญหายไปจากสังคมไทย
3. เพื่อใหนักเรียนตระหนักถึงคุณคาของวรรณกรรมพื้นบาน
4. เพื่อสงเสริมใหนักเรียนวางแผนการศึกษาวรรณกรรมพื้นบาน
แบบทดสอบ
5. เพื่อใหนักเรียนเผยแพรความรูเรื่องวรรณกรรมพื้นบานที่นักเรียนนํามาศึกษา
4. เปาหมาย
ผูเขารวมโครงการหรือนักเรียนรูจักและเห็นคุณคาของวรรณกรรมพื้นบานมากขึ้น
โครงการบูรณาการ
5. ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
คําชีแ้ จง ใหนกั เรียนแบงกลุม เทาๆ กัน ใหแตละกลุม รวมกันประชาสัมพันธโครงการวรรณกรรมพืน้ บานในรูปแบบตางๆ โดยปฏิบตั ติ าม
ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 ตั้งประเด็นคําถาม
นักเรียนแตละกลุม รวมกันวิเคราะหสาเหตุทวี่ รรณกรรมพืน้ บานสูญหายไปจากสังคมไทย เพือ่ กําหนดประเด็นในการศึกษา
คนควา และจัดทําขอมูลลงในหนังสือทํามือ วรรณกรรมพื้นบาน
ขั้นที่ 2 สืบคนความรู
นักเรียนแตละกลุมศึกษาขอมูลความรูเกี่ยวกับวรรณกรรมพื้นบาน จากแหลงขอมูล เพื่อรวบรวมขอมูลสําหรับเผยแพร
ในหนังสือทํามือ วรรณกรรมพื้นบาน
ขั้นที่ 3 สรุปองคความรู
นักเรียนแตละกลุม นําเสนอขอมูลที่ไดจากการศึกษามารวมกันคิดวิเคราะห สังเคราะหปญ หาทีว่ รรณกรรมพืน้ บานสูญหายไป
จากสังคมไทย และสรุปเปนองคความรู พรอมเขียนวรรณกรรมพื้นบานที่ไดจากแหลงขอมูลที่ศึกษาลงในหนังสือทํามือ
วรรณกรรมพื้นบาน
ขั้นที่ 4 การสื่อสารและนําเสนอ
นักเรียนแตละกลุมตรวจสอบความถูกตองของการเขียนโครงการ วรรณกรรมพื้นบาน จากนั้นตัวแทนแตละกลุมนําเสนอ
ขอมูลหนาชั้นเรียน
ขั้นที่ 5 บริการสังคมและสาธารณะ
นักเรียนแตละกลุมดําเนินการนําหนังสือทํามือ วรรณกรรมพื้นบาน ที่ทําเสร็จแลวแจกจายใหกับเพื่อนนักเรียนหองอื่น
หรือบุคลากรในโรงเรียน เพื่อเผยแพรความรูเกี่ยวกับวรรณกรรมพื้นบาน จากนั้นนําผลงานมาจัดแสดงในชั้นเรียน
โครงการวัดและประเมินผล (46)
แบบประเมินคุณภาพการจัดทําโครงการ
ประเด็น ระดับคุณภาพ
การประเมิน ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช (2) ปรับปรุง (1)
ตั้งประเด็นคําถามในเรื่อง ตั้งประเด็นคําถามในเรื่อง ตั้งประเด็นคําถามในเรื่อง ใชคําถามที่ครูชี้แนะ
ที่สนใจไดดวยตนเอง ที่สนใจ โดยมีครูคอยชี้แนะ ที่สนใจ โดยมีีครูคอยชี้แนะ มากําหนดประเด็นคําถาม
ขอบขายประเด็นคําถาม ขอบขายประเด็นคําถาม ขอบขายประเด็นคําถาม
1. ชัดเจน ครอบคลุมขอมูล ชัดเจน ครอบคลุมขอมูล ชัดเจน แตยังไมครอบคลุม
การตั้งประเด็น ที่เกี่ยวของกับตนเอง ที่เกี่ยวของกับตนเอง ขอมูลที่เกี่ยวของกับตนเอง
คําถาม เชื่อมโยงกับชุมชน เชื่อมโยงกับชุมชน มีความ เชื่อมโยงกับชุมชน
มีความแปลกใหมและ เปนไปไดในการแสวงหา
สรางสรรค มีความเปน คําตอบ
ไปไดในการแสวงหาคําตอบ
วางแผนสืบคนขอมูล วางแผนสืบคนขอมูล วางแผนสืบคนขอมูล ไมมีการวางแผนหรือมีการ
ชัดเจน และปฏิบัติได ชัดเจน และปฏิบัติได ชัดเจน และปฏิบัติได วางแผน แตไมสามารถ
แบบทดสอบ
2. ศึกษาคนควาความรูจาก ศึกษาคนควาหาความรู ศึกษาคนควาหาความรู นําไปปฏิบัติจริงได
การสืบคนความรู แหลงเรียนรูหลากหลาย จากแหลงเรียนรู จากแหลงเรียนรู ศึกษาคนควาหาความรู
มีการบันทึกขอมูลที่ หลากหลาย ไมหลากหลาย จากแหลงเรียนรู
เหมาะสม ไมหลากหลาย
วิเคราะหขอมูลโดยใช วิเคราะหขอมูลโดยใช วิเคราะหขอมูลโดยใช ไมมีการวิเคราะหขอมูล
โครงการบูรณาการ
วิธีการที่เหมาะสม วิธีการที่เหมาะสม วิธีการที่เหมาะสม หรือวิเคราะหขอมูล
สังเคราะหและสรุป สังเคราะหและสรุป สังเคราะหและสรุป ไมถูกตอง สังเคราะหและ
3. องคความรูไดอยางชัดเจน
มีการอภิปรายผลเชื่อมโยง
องคความรูไดอยางชัดเจน
มีการอภิปรายผลเชื่อมโยง
องคความรูไดอยางชัดเจน สรุปองคความรูไดไมชัดเจน
มีการอภิปรายผลเชื่อมโยง ไมมีการนําองคความรู
การสรุป
องคความรู ความรูอยางสมเหตุสมผล ความรู นําองคความรูที่ได ความรูยังไมชัดเจน ไปเสนอแนวคิด วิธีการ
และนําองคความรูที่ไดไป ไปเสนอแนวคิดวิธีการ นําองคความรูที่ไดไปเสนอ แกปญหา
เสนอแนวคิดวิธีการ แกปญหาได แตยังไมเปน วิธีการแกปญหาได
แกปญหาอยางเปนระบบ ระบบ แตยังไมเปนระบบ
เรียบเรียงและถายทอด เรียบเรียงและถายทอด เรียบเรียงและถายทอด เรียบเรียงและถายทอด
ความคิดจากการศึกษา ความคิดจากการศึกษา ความคิดจากการศึกษาได ความคิดจากการศึกษาได
4. คนควาไดอยางชัดเจน คนควาไดอยางชัดเจน ไมคอยเปนระบบ นําเสนอ ไมเปนระบบ นําเสนอ
การสื่อสาร เปนระบบ นําเสนอผลงาน เปนระบบ นําเสนอผลงาน ผลงานโดยใชสื่อประกอบ ผลงานโดยไมใชสื่อ
และการนําเสนอ โดยใชสื่อที่หลากหลาย โดยใชสื่อประกอบรูปแบบ รูปแบบ ประกอบ
อยางเหมาะสม
นําความรูจากการศึกษา นําความรูจากการศึกษา นําความรูจากการศึกษา ไมไดนําความรูจากการ
คนควาไปประยุกตใช คนควาไปประยุกตใชใน คนควาไปประยุกตใชใน ศึกษาคนควาไปประยุกต
5. ในกิจกรรมที่สรางสรรค กิจกรรมที่สรางสรรคเปน กิจกรรมที่สรางสรรค ใชในกิจกรรมที่สรางสรรค
การนําความรูไปใช เปนประโยชนตอโรงเรียน ประโยชนตอโรงเรียน ที่เปนประโยชนตอโรงเรียน ที่เปนประโยชน
และบริการ และชุมชน เผยแพรความรู และชุมชน เผยแพรความรู และเผยแพรความรู
สาธารณะ และประสบการณจากการ และประสบการณจากการ และประสบการณจากการ
ปฏิบัติผานสื่อหลากหลาย ปฏิบัติผานสื่อรูปแบบใด ปฏิบัติผานสื่อรูปแบบใด
รูปแบบ รูปแบบหนึ�ง รูปแบบหนึ�ง
(47) โครงการวัดและประเมินผล
แบบประเมินทักษะแหงศตวรรษที่ 21
คําชี้แจง : ใหผูสอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวางการปฏิบัติกิจกรรม แลวขีด ✓ลงในชองวางที่ตรงกับระดับคะแนน
ทักษะแหง รายการประเมิน ระดับคะแนน
ศตวรรษที่ 21 3 2 1
1.1 ความสามารถในการอาน
• สรุปจับใจความสําคัญของขอมูลที่อานไดครบถวน ตรงประเด็น
1. 1.2 ความสามารถในการคิดวิเคราะห
ทักษะการเรียนรู • คิดอยางมีระบบ โดยใชแหลงขอมูลและสรุปประเด็นสําคัญได
และพัฒนา • วิเคราะหขอมูล จําแนกขอมูล และแสดงการคิดเพื่อคนหาคําตอบ
ตนเอง 1.3 ความสามารถในการเขียน
• เขียนสื่อความหมายไดชัดเจน ถูกตอง
• เขียนถูกตองตามรูปแบบการเขียน และสรุปองคความรูอยางมีขั้นตอน
2.1 ความยืดหยุน และการปรับตัว
• ปรับตัวเขากับบทบาทที่แตกตาง งานที่ไดรับมอบหมาย กําหนดการที่เปลี่ยนไป
• นําผลลัพธที่เกิดขึ้น มาใชประโยชนไดอยางไดผล
2.2 การริเริ่ม และเปนตัวของตัวเอง
• กําหนดเปาหมายโดยมีเกณฑความสําเร็จที่จับตองได และที่จับตองไมได
แบบทดสอบ
• ใชเวลา และจัดการภาระงานอยางมีประสิทธิภาพ
2. • ทํางานสําเร็จไดดวยตนเอง โดยกําหนดงาน ติดตามผลงาน และลําดับความสําคัญของงาน
ทักษะชีวิต 2.3 ทักษะทางสังคม และความเขาใจความตางทางวัฒนธรรม
และการทํางาน • เคารพความแตกตางทางวัฒนธรรม และการทํางานรวมกับคนที่มีพื้นฐานแตกตางกันได
2.4 เปนผูผลิตและผูรับผิดชอบตอผลงาน
โครงการบูรณาการ
โครงการวัดและประเมินผล (48)