You are on page 1of 263

คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาอังกฤษ

WORLD CLUB 2
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่ างประเทศ
ตามหลักสู ตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551

ผู้เรียบเรียง ดร. ประไพพรรณ เอมชู สนั่น นันทธีโร พรทิพย์ สะอาดพรรค


ผู้ตรวจ ดร. อนันต์ ชัย พงศ์ สุวรรณ ดร. สมศักดิ์ แก้วนุช เอือ้ จิต ชูศรี
บรรณาธิการ รักษวรรณ หิรัญญะสิริ

คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาอังกฤษ


WORLD CLUB 2
2

ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5
กลุ่มสาระการเรี ยนรู้ ภาษาต่างประเทศ
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

ผู้เรียบเรียง ดร. ประไพพรรณ เอมชู สนั่น นันทธีโร พรทิพย์ สะอาดพรรค


ผู้ตรวจ ดร. อนันต์ ชัย พงศ์ สุวรรณ ดร. สมศักดิ์ แก้วนุช เอือ้ จิต ชูศรี
บรรณาธิการ รักษวรรณ หิรัญญะสิริ
พิมพ์ ที่ บริษัท โรงพิมพ์วฒ
ั นาพานิช จำกัด
31/1-2 ถนนมหาไชย เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทร. 02 222 9394 • 02 222 5371-2 FAX 02 225 6556 • 02 225 6557
email: info@wpp.co.th
นายเริ งชัย จงพิพฒั นสุ ข กรรมการผูจ้ ดั การ

สงวนลิขสิ ทธิ์ ตามกฎหมาย


ISBN

ชุ ดการเรียนการสอนรายวิชาพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ตามหลักสู ตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน


พุทธศักราช 2551 ชุ ด Postcard และ WORLD CLUB

ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 – 3
หนังสื อเรี ยน Postcards Students' Book 1 – 2 – 3 ชั้น ม. 1 – 2 – 3 Brian Abbs & others
แบบฝึ กหัด Postcards Workbook 1 – 2 – 3 ชั้น ม. 1 – 2 – 3 Brian Abbs & others
Audio CDs Postcards 1 – 2 – 3 ชั้น ม. 1 – 2 – 3 Brian Abbs & others
แผนการจัดการเรี ยนรู้ Postcards 1 – 2 – 3 ชั้น ม. 1 – 2 – 3 ญาณิ สา-วรรณกานต์-เตือนตา
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 – 6
หนังสื อเรี ยน World Club Students' Book 1 – 2 – 3 ชั้น ม. 4 – 5 – 6 Michael Harris & others
แบบฝึ กหัด World Club Activity Book 1 – 2 – 3 ชั้น ม. 4 – 5 – 6 Michael Harris & others
Audio CDs World Club 1 – 2 – 3 ชั้น ม. 4 – 5 – 6 Michael Harris & others
แผนการจัดการเรี ยนรู้ World Club 1 – 2 – 3 ชั้น ม. 4 – 5 – 6 ประไพพรรณ และคณะ

คำนำ
WORLD CLUB นี้เป็ นชุดการเรี ยนการสอนสาระการเรี ยนรู ้พ้ืนฐานภาษาอังกฤษตาม
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งบริ ษทั สำนักพิมพ์วฒั นาพานิช จำกัด ได้
ร่ วมมือกับ PEARSON EDUCATION INDOCHINA LTD. และ LONGMAN สำนักพิมพ์ผู ้
3

เชี่ยวชาญการพัฒนาสื่ อการเรี ยนรู ้ภาษาอังกฤษจัดทำขึ้น ชุดการเรี ยนการสอนสาระการเรี ยนรู ้


พื้นฐานภาษาอังกฤษ WORLD CLUB แต่ละชั้นประกอบด้วยสื่ อการเรี ยนรู ้ ดังต่อไปนี้
1. หนังสื อเรี ยน WORLD CLUB Students' Book 1-2-3
2. หนังสื อ WORLD CLUB Activity Book 1-2-3
3. Audio CDs WORLD CLUB 1-2-3
4. แผนการจัดการเรี ยนรู ้ WORLD CLUB 1-2-3
ชุดการเรี ยนการสอนภาษาอังกฤษชุดนี้ นำเสนอเนื้อหาที่สามารถนำไปใช้ในชีวิต
ประจำวันได้เป็ นอย่างดี มีกิจกรรมฝึ กทักษะทางภาษาอย่างหลากหลาย จึงเอื้อต่อการจัด
กิจกรรมเพื่อสร้าง
องค์ความรู ้ เนื้อเรื่ องที่น ำมาเป็ นบทอ่านเป็ นเรื่ องที่เกิดขึ้นจริ งและน่าสนใจสำหรับเยาวชน มี
เกม
เพลง และโครงงานสำหรับพัฒนาทักษะทางภาษา นอกจากนี้ ยงั มีเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรม
จากภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก สำหรับให้นกั เรี ยนได้ศึกษาด้วย
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ WORLD CLUB 2 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 นี้ คณะผูจ้ ดั ทำได้ใช้
หนังสื อ WORLD CLUB Teacher's Resource File ซึ่งเรี ยบเรี ยงโดย Michael Harris, David
Mower และ Mady Musiol เป็ นแนวทางในการจัดทำ สำหรับให้ผสู ้ อนใช้เป็ นคู่มือและ
แนวทางในการจัดการเรี ยนการสอนชุดการเรี ยนการสอนภาษาอังกฤษ WORLD CLUB 2
หวังเป็ นอย่างยิง่ ว่า ชุดการเรี ยนการสอนสาระการเรี ยนรู ้พ้ืนฐานภาษาอังกฤษ
WORLD CLUB 2ชุดนี้จะช่วยให้การจัดการเรี ยนการสอนเป็ นไปตามความมุ่งหมาย

บริษัท สำนักพิมพ์วฒ
ั นาพานิช จำกัด

สารบัญ
บทนำ ....................................................................................................................................1
ผังมโนทัศน์สาระการเรี ยนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 ..............
การวัดและการประเมินผล .................................................................................................... 21
ตารางวิเคราะห์มาตรฐานการเรี ยนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 ..23.
Module 1 Learning to Learn ...............................................................................................24.
Module 2 Module 1 Cities .................................................................................................... 41
Module 3 Module 2 Yesterday ............................................................................................ 73
Module 4 Module 3 Nature ................................................................................................106
4

Module 5 Module 4 Fantasy ...............................................................................................143


Module 6 Module 5 Sport ...................................................................................................178
Module 7 Module 6 Space ..................................................................................................214
Assessment ............................................................................................................................249
Task sheets............................................................................................................................257
เฉลย Assessment tasks .........................................................................................................268
Assessment tapescripts .........................................................................................................270
Oral Assessment .....................................................................................................................271
Language Work-out ................................................................................................................275
เฉลย Language Work-out .......................................................................................................287
เฉลย Activity Book Grammar File .........................................................................................289
1

บทนำ
หลักการทั่วไป
World Club เป็ นชุดการเรี ยนการสอนภาษาอังกฤษที่ออกแบบเพื่อนักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
โดยเฉพาะ ด้วยการนำข้อมูลย้อนกลับที่ได้รับจากครู ผสู้ อนวิชานี้ มาสร้างเป็ นฐานข้อมูลที่จะช่วยส่ งเสริ มให้
นักเรี ยนประสบความสำเร็ จจากการเรี ยนรู้ในสถานการณ์ที่ได้รับจากการเรี ยนในชั้นเรี ยน
1. เรื่องหลักและภาระงาน
แรงบันดาลใจและความสนใจสำหรับนักเรี ยนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ถือว่าเป็ นสิ่ งสำคัญอย่างยิง่
ในกระบวนการเรี ยนการสอน ด้วยสาเหตุดงั กล่าว หนังสื อเรี ยน World Club จึงมีเรื่ องหลักซึ่งได้รับการคัด
เลือกแล้วว่าอยูใ่ นความสนใจและเกี่ยวข้องกับบุคคลที่อยูใ่ นกลุ่มวัยนี้
โครงสร้างเรื่ องหลักของแต่ละหน่วยการเรี ยน เขียนขึ้นมาเพื่อพัฒนาไปสู่ กิจกรรมการพูดและกิจกรรมการ
เขียน หรื อโครงงาน ซึ่งจะช่วยให้นกั เรี ยนสามารถสื่ อสารกับโลกที่แท้จริ งได้อย่างกว้างขวาง และยังได้รับความรู้
ทางด้านเนื้ อหาสาระและทักษะทางภาษาตลอดหน่วยการเรี ยนอีกด้วย
2. แรงบันดาลใจ
การที่นกั เรี ยนรู้สึกสนุกสนานกับการเรี ยนภาษาอังกฤษถือว่ามีความสำคัญมาก หนังสื อเรี ยน World Club
จึงได้นำเรื่ องราวที่สนุกสนานมากมายมาให้นกั เรี ยนได้เรี ยน พร้อมทั้งเกมที่หลากหลาย เช่น เกมทายปัญหา เกม
ทางไวยากรณ์ และเกมความจำ รวมทั้งบทเพลงการแข่งขันตอบปัญหา เกมปริ ศนาอักษรไขว้ นอกจากนี้ ยงั มี
เกร็ ดความรู้ Did you know? ที่สอดแทรกไว้ในกรอบและในเรื่ องราวต่าง ๆ อีกด้วย นักเรี ยนมีโอกาสอย่างมาก
ที่จะใช้จินตนาการค้นคว้าสิ่ งที่อยูใ่ นโลก และสำคัญที่สุดคือ ได้น ำความรู้ภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตจริ งได้อย่าง
มีประสิ ทธิภาพ
ความหลากหลายเป็ นสิ่ งจำเป็ นเพื่อคงไว้ซ่ ึงความสนใจ ดังนั้นภายในหน่วยการเรี ยนแต่ละหน่วย เรื่ องหลัก
โดยรวมจึงมีหวั ข้อนำที่มีความหลากหลาย รู ปแบบของบทเรี ยนจะไม่ตายตัว และรู ปแบบของกิจกรรมที่หลาก
หลายได้ถูกนำมาใช้ในการเรี ยนโดยตลอด
3. การนำไปใช้ และการประยุกต์ ใช้
ลักษณะโครงสร้างทางภาษาในหนังสื อเรี ยนที่จดั ทำมีข้นั ตอนอย่างละเอียด สามารถนำโครงสร้างทางภาษา
และเนื้ อหาที่เป็ นประโยชน์ รวมทั้งแนวคิดต่าง ๆ ใน Activity Book, Language Work-out และคูม่ ือครู
รู ปแบบโครงสร้างของหลักสูตรสามารถปรับเปลี่ยนนำไปใช้ได้เป็ นอย่างดีกบั สภาพชั้นเรี ยนที่แตกต่างกัน เช่น
ความสามารถของนักเรี ยนที่ต่างกัน และชัว่ โมงการเรี ยนภาษาอังกฤษที่มากน้อยต่างกันในแต่ละสัปดาห์ เป็ นต้น
ตามลักษณะเฉพาะของหนังสื อเล่มนี้ ให้ครู สนับสนุนนักเรี ยนใช้สื่อการเรี ยนการสอนในชั้นเรี ยนเป็ นผลสำเร็ จ
– ให้นกั เรี ยนบรรลุตามผลการเรี ยนรู้ เพราะมีการวางโครงร่ างอย่างชัดเจนในคู่มือครู และหนังสื อเรี ยน
ในส่วนของ Lead-in
– บทเรี ยนมีความชัดเจน มีแรงบันดาลใจและสามารถนำไปปรับใช้ได้จริ ง
– มีกิจกรรมเพื่อการสื่ อสารที่สามารถนำไปใช้ได้ ทำให้นกั เรี ยนมีความมัน่ ใจมากขึ้น
– มีการเน้นความสำคัญเป็ นพิเศษในการเรี ยนคำศัพท์และการฝึ กฝนนักเรี ยน
– ในตอนท้ายของแต่ละหน่วยการเรี ยนรู้ มีการนำเสนอคำศัพท์และไวยากรณ์
– มีแบบฝึ กหัดเพื่อการทบทวนและกิจกรรมเพิม่ เติมในหนังสื อแบบฝึ กหัด (Activity Book) และมี
กิจกรรมการอ่านเสริ มในหนังสื อเรี ยน
– มีพจนานุกรมขนาดย่อ (Mini-dictionary) ในหนังสื อเรี ยน
– มีแบบฝึ กหัดในบทการใช้ภาษา โดยเฉพาะอยูใ่ นแผนการจัดการเรี ยนรู้ ซึ่งประกอบด้วยแบบฝึ กหัด
เพื่อการทบทวน กิจกรรมเสริ ม และกิจกรรมเพิ่มเติม
– มีเครื่ องมือการประเมินผลที่สมบูรณ์แบบและทันสมัย เพื่อช่วยให้ครู ได้น ำไปใช้ในการประเมินผล
ทักษะได้ครบทุกด้าน
2

– ส่ วนที่เป็ นแผนการจัดการเรี ยนรู้ได้ให้ค ำแนะนำสำหรับครู ในการใช้หนังสื อเพื่อประกอบการเรี ยน


การสอน สามารถนำไปประยุกต์ใช้กบั สภาพชั้นเรี ยนที่หลากหลายได้อย่างเหมาะสม
4. ไวยากรณ์
ชุดการเรี ยนการสอน World Club มีบทเรี ยนครึ่ งหนึ่งที่เน้นโครงสร้างทางไวยากรณ์ โดยมีบทเรี ยน
หลักภาษา (Language Focus) 2 ตอนในแต่ละหน่วยการเรี ยน ภาษาเป้ าหมายที่ก ำหนดไว้ในแต่ละตอนจะมี
การพิจารณาเลือกสรรอย่างเป็ นระบบ อาทิเช่น เรื่ องใหม่ ๆ จะถูกนำมาทดลองใช้ดูก่อน ลองนำเสนอและลองฝึ ก
ปฏิบตั ิ มีวิธีการนำเสนอที่หลากหลาย และตลอดเล่มจะมีการกระตุน้ ให้นกั เรี ยนนำภาษาไปใช้ดว้ ยตนเองได้ใน
ชีวิตจริ ง และเข้าใจในโครงสร้างทางไวยากรณ์ข้นั พื้นฐาน การนำเสนอคำศัพท์ทางไวยากรณ์จะจัดทำทีละขั้นตอน
เพื่อให้นกั เรี ยนได้รับความรู้ทางด้านคำศัพท์ไปด้วย
หนังสื อแต่ละเล่มจะเริ่ มต้นด้วยการทบทวนหลักภาษาและคำศัพท์ที่เรี ยนมาจากบทเรี ยนก่อน ๆ และ
โครงสร้างของหน่วยการเรี ยน โดยจะนำโครงสร้างทางภาษาทั้งเก่าและใหม่มาทบทวนและใช้ใหม่ ขณะเดียวกัน
ก็จะเน้นโครงสร้างใหม่ทีละน้อย
ในการสอนไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิง่ หัวข้อที่มกั จะสร้างปัญหาให้แก่นกั เรี ยนที่เรี ยนภาษาอังกฤษ จะมี
การวิเคราะห์เปรี ยบเทียบทางภาษาให้เห็นชัดเจนขึ้ น การตรวจแก้ไขสิ่ งที่นกั เรี ยนมักจะทำผิดเสมอ ๆ เป็ นกิจกรรม
ที่ครู จะต้องทำเป็ นประจำ
ในหนังสื อเล่มนี้มีกิจกรรมฝึ กการพูดและการเขียนที่จะสร้างเสริ มทักษะทางภาษาที่เรี ยนใหม่ให้เข้มข้นขึ้น
กิจกรรมการพูดและการเขียนในบทเรี ยนทักษะ จะเปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนใช้ภาษาในการสื่ อความหมายอย่างมาก
พอ ยิง่ ไปกว่านั้นยังมีการฝึ กแบบชี้นำเพิ่มเติมในหนังสื อแบบฝึ กหัด (Activity Book) ในกิจกรรมเสริ มทักษะ
(Consolidation) และแบบฝึ กหัดในบทการใช้ภาษา (Language Work-out) ในแผนการจัดการเรี ยนรู้อีกด้วย
แบบทดสอบตนเอง (Test Yourself) ในกิจกรรมเสริ มทักษะ (Consolidation) ซึ่งมีอยูใ่ นตอนท้ายของแต่ละ
หน่วยการเรี ยนนั้น จะมีเฉลยไว้ให้ผเู้ รี ยนได้ตรวจสอบด้วยตนเองว่าได้ผลเพียงใด
5. ทักษะต่ าง ๆ
ชุดการเรี ยนการสอน World Club นั้น ครึ่ งหนึ่งของบทเรี ยนจะเน้นการฝึ กทักษะต่าง ๆ เพื่อให้เกิด
ความคล่องอันเป็ นเป้ าหมายเบื้องต้น ทักษะทั้ง 4 นั้น จะได้รับการพัฒนาเป็ นระบบอย่างต่อเนื่องดังต่อไปนี้
การพูด
นักเรี ยนจะได้รับการกระตุน้ ให้พฒั นาทักษะการพูดโดยผ่านทางการทำกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้
จะทำให้นกั เรี ยนสามารถสื่ อสารอย่างอิสระ และช่วยพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรี ยนให้ดียิง่ ขึ้น เช่น
กิจกรรมเติมข้อมูลส่วนที่หายไป การแสดงบทบาทสมมติ การเล่นเกม การสำรวจ การใช้สถานการณ์จ ำลอง
การอภิปราย และการเล่าเรื่ องเป็ นกลุ่ม โดยเป้ าหมายที่สำคัญของการพัฒนาทักษะการพูดคือต้องการให้นกั เรี ยน
สามารถสื่ อสารได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ นักเรี ยนจะได้รับการช่วยเหลือและการแนะนำอย่างเพียงพอเพื่อให้
งานสำเร็ จบรรลุเป้ าหมาย การฝึ กกิจกรรมของนักเรี ยนจะช่วยทำให้นกั เรี ยนมีความเชื่อมัน่ และเห็นคุณค่าการ
สื่ อสารเป็ นสำคัญ ภาระงานด้านการพูดที่อยูท่ า้ ยบท (Final Speaking Tasks) ซึ่งมีอยูใ่ นตอนท้ายของหน่วย
การเรี ยนทุกหน่วย จะทำให้นกั เรี ยนมีโอกาสเข้าร่ วมกิจกรรมการสื่ อสารได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น แต่อยูใ่ น
ขอบเขตที่ก ำหนด
การออกเสี ยง
จัดสอนอย่างเป็ นระบบและเป็ นไปตามขั้นตอน เช่น การเน้นเสี ยงหนักและเสี ยงสูงต่ำในประโยค และ
ถ้ามีเสี ยงที่มีปัญหาสำหรับนักเรี ยน ก็จะมีการเปรี ยบเทียบความแตกต่างของเสี ยงในภาษาอังกฤษและใน
ภาษาไทยด้วย
การฟั ง
การเตรี ยมบทเรี ยนเพื่อฝึ กการฟังเป็ นไปตามขั้นตอนและพิถีพิถนั โดยมุ่งที่จะเป็ นแรงบันดาลใจให้
นักเรี ยนอยากฟังเพื่อจับใจความสำคัญหรื อเพื่อหาข้อมูลเฉพาะด้าน นักเรี ยนจึงต้องมุ่งฝึ กทักษะการฟังที่
แตกต่างกันในหลายรู ปแบบ เช่น ฟังรายการทางวิทยุในเรื่ องของบทสนทนา ฟังเกม และการสัมภาษณ์ กิจกรรม
3

การฝึ กผูเ้ รี ยนเป็ นการพัฒนาในเรื่ องความนึกคิดทั้งที่มีต่อเนื้อหาของบทเรี ยน ภาระงาน และนำเสนอกลยุทธ์ใน


การรับรู้เป็ นพื้นฐานอีกด้วย
การอ่ าน
การอ่านได้รับการพัฒนารู ปแบบเนื้ อหา ทักษะการอ่านเป็ นไปอย่างมีข้นั ตอน ด้วยกิจกรรมฝึ กการอ่าน
จับใจความ (skimming) และการอ่านกวาดสายตาเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ (scanning) และยังมุ่งเน้นการจัด
โครงสร้างของเนื้ อหาและวิธีการใหม่ ๆ ในการเรี ยนคำศัพท์ กิจกรรมการฝึ ก ทำให้นกั เรี ยนมีความเชื่อมัน่ และ
พัฒนากลยุทธ์ในการเรี ยนได้อย่างเป็ นระบบ
กิจกรรม Reading Club ซึ่งอยูต่ อนท้ายของหนังสื อเรี ยน เป็ นกิจกรรมการฝึ กการอ่านเพิ่มเติมให้
นักเรี ยน
กิจกรรม Time to Read ในหนังสื อแบบฝึ กหัด (Activity Book) ซึ่งมีอยูท่ ุกหน่วยการเรี ยน
จัดทำขึ้นมาเพื่อให้นกั เรี ยนได้น ำไวยากรณ์และคำศัพท์กลับมาใช้อีกเพื่อเสริ มทักษะให้เข้มข้นขึ้ น
การทำแบบฝึ กหัดเกี่ยวกับคำศัพท์มุ่งที่จะช่วยให้นกั เรี ยนเกิดความเข้าใจในการอ่านเนื้ อเรื่ องได้ดียงิ่ ขึ้น
และฝึ กให้คน้ หาคำศัพท์ใหม่ที่พบในเนื้ อเรื่ อง โดยใช้ Mini-dictionary ในการค้นหา
การเขียน
ในการพัฒนาทักษะการเขียนได้ใช้กิจกรรม 2 กิจกรรม กิจกรรมแรกคือ งานเขียนที่มีการชี้ แนะเพื่อ
ฝึ กทักษะเฉพาะด้าน และกิจกรรมที่สองคือ งานเขียนที่ฝึกทักษะการเขียนเพื่อการสื่ อสาร ซึ่งจะกว้างกว่าโดยให้
ทำในภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท (Final Writing Tasks) กิจกรรมการฝึ กนักเรี ยนเพื่อให้นกั เรี ยนได้รับ
ความช่วยเหลือเกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมาย และกระบวนการเขียนซึ่งได้จดั ทำอย่างมีข้นั ตอนและละเอียด
ภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท (Final Writing Tasks) และโครงงาน (Projects) จะเปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนได้
เขียนอย่างเสรี และใช้จินตนาการมากขึ้น
6. คำศัพท์
นักเรี ยนจะได้รับความช่วยเหลือมากพอสมควรในการเรี ยนคำศัพท์ คำศัพท์หลัก (Keywords) ที่อยูใ่ น
ขั้นการนำเข้าสู่ บทเรี ยน (Lead-in) ของแต่ละหน่วยการเรี ยนรู้น้ นั เป็ นการแนะนำให้รู้จกั คำศัพท์ที่จะเรี ยนใน
หน่วยการเรี ยนนั้น ๆ โดยนำเสนอคำศัพท์ที่สำคัญที่จะช่วยนักเรี ยนในการฟังและการอ่านเนื้ อเรื่ อง หรื อใช้ใน
ทักษะการพูดและการเขียน คำศัพท์หลักเหล่านี้จะถูกนำกลับไปใช้อีกในส่ วนของหนังสื อแบบฝึ กหัด และในส่ วน
ของกิจกรรมเสริ มทักษะ (Consolidation) ด้วย และ Keyword Check ซึ่งอยูใ่ นตอนท้ายของแต่ละหน่วยการเรี ยนรู้
จะมีรายการคำศัพท์ให้นกั เรี ยนได้ตรวจสอบในหน่วยการเรี ยน
ชุดการเรี ยนการสอน World Club ได้จดั คำศัพท์ไว้อย่างเป็ นระบบ ซึ่งความหมายของคำขึ้นอยูก่ บั
โครงสร้างทางภาษา ส่ วนโครงสร้างที่มีปัญหาจะนำมาอธิบายใน Language Focus (เช่นคำว่า used to
เป็ นต้น) ส่วนวลีและข้อความที่มีประโยชน์จะถูกนำไปฝึ กใช้ในหนังสื อแบบฝึ กหัด (Activity Book) และใน
Keyword Check
คำศัพท์ที่อยูใ่ นส่ วนของไวยากรณ์จะมีปรากฏอยูใ่ นกิจกรรมการฝึ กวลี การสร้างคำ สำนวน การใช้ค ำศัพท์
ร่ วมกับคำศัพท์อื่น คำผสม คำรากศัพท์เดียวกัน คำที่มีความหมายตรงข้าม คำที่มีเสี ยงเหมือนกัน คำที่ออกเสี ยง
เหมือนกันแต่ความหมายต่างกัน
การฝึ กกิจกรรมต่าง ๆ ยังช่วยพัฒนาความสามารถของนักเรี ยนในการเลือกสรร การจัดประเภท
การเรี ยน และการสะสมคำศัพท์ใหม่ นอกจากนี้ Module diary ยังช่วยให้นกั เรี ยนสามารถประเมินผลการเรี ยน
คำศัพท์ของนักเรี ยนในแต่ละหน่วย พจนานุกรมย่อเป็ นแหล่งค้นหาความหมายของคำศัพท์ดว้ ยตนเองที่มี
ประโยชน์สำหรับนักเรี ยนอีกด้วย
7. การฝึ กฝนนักเรียน
นักเรี ยนในวัยนี้ จะต้องเรี ยนต่อไปอีกนาน การฝึ กนักเรี ยนจึงถือว่ามีความสำคัญยิง่ ในการใช้หนังสื อ
World Club จะมีการวัดผลการเรี ยนและประเมินผลความก้าวหน้าของตนเอง
ในส่วนของ Learning to Learn เป็ นการเตรี ยมนักเรี ยนในการใช้สื่อการเรี ยน ช่วยพัฒนาความรู้ ช่วย
4

ให้นกั เรี ยนเกิดทักษะในการใช้ภาษาเพื่อการสื่ อสาร รวมถึงการใช้พจนานุกรม มีทกั ษะในเรื่ องคำศัพท์ สามารถ


ใช้อา้ งอิง บทเรี ยนแรกจะมุ่งส่ งเสริ มทักษะทั้งสี่ ดา้ น รวมทั้งกลยุทธ์ในการสื่ อสาร มีกิจกรรมเพิ่มเติมที่อยูใ่ น
กรอบสาระของหน่วยการเรี ยน
ในตอนท้ายของหน่วยการเรี ยน ในกิจกรรมเสริ มทักษะ (Consolidation) และแบบประเมินหน่วยการ
เรี ยน (Module Check) มีแบบทดสอบตนเอง (Test Yourself) และสมุดบันทึกประจำหน่วยการเรี ยน
(Module diary) ซึ่งจะช่วยให้นกั เรี ยนได้ประเมินผลการเรี ยนของตนเอง และช่วยให้เข้าใจปัญหาและหัวข้อเรื่ อง
ที่ได้เรี ยนมาแล้ว
กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้นกั เรี ยนมีความคล่องแคล่ว มีอิสระ และมีความรับผิดชอบต่อ
การเรี ยนของตนเองมากขึ้น
พจนานุกรมขนาดย่อ (Mini-dictionary) เป็ นเครื่ องมือที่มีประโยชน์ส ำหรับนักเรี ยนที่จะใช้เป็ นแหล่ง
เรี ยนรู้ค ำศัพท์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในขณะที่อ่านเนื้ อเรื่ องหรื อทำแบบฝึ กหัดไวยากรณ์ การฝึ กหัดใช้พจนานุกรม
อย่างสม่ำเสมอจะช่วยการฝึ กทักษะในด้านคำศัพท์อีกด้วย
8. ความหลากหลาย
World Club ได้นำเสนอความหลากหลายและความแปลกใหม่เป็ นแนวทางในการแสวงหาความรู้ดา้ น
ต่าง ๆ ให้แก่นกั เรี ยน ประการที่หนึ่งคือ มีความหลากหลายของหัวข้อต่าง ๆ ในรายวิชา ประการที่สองคือ ส่ งเสริ ม
ให้นกั เรี ยนที่เก่งและอ่อนมีโอกาสเรี ยนรู้อย่างเท่าเทียมกัน ด้วยการดึงวิชาความรู้จากประสบการณ์เดิมที่
ไม่เกี่ยวกับทักษะทางภาษามาบูรณาการเข้าด้วยกัน เช่น ความสามารถในการวาดภาพ ความสามารถในการคิด
อย่างมีเหตุผล และความสามารถในการตอบปัญหา เป็ นต้น การทำงานเป็ นคู่และเป็ นกลุ่มจะเป็ นแรงบันดาลใจ
ให้นกั เรี ยนที่มีความสามารถต่างกันสามารถทำงานร่ วมกันและเรี ยนรู้ซ่ ึงกันและกัน กิจกรรมทางภาษาและ
กิจกรรมการอ่าน มีการจัดทำเป็ นขั้นตอน ยืดหยุน่ ได้ตามความสามารถของแต่ละบุคคล กรอบประเมินผลคำศัพท์
(Keyword Check) และแบบทดสอบทางภาษา (Language Check) ในส่วนท้ายของหน่วยการเรี ยนทุกหน่วยใน
หนังสื อเรี ยน จะบ่งชี้ให้นกั เรี ยนเห็นว่า ยังมีจุดใดบ้างที่จะต้องเรี ยนซ้ำหรื อเรี ยนเพิ่มเติม ในแบบทดสอบตนเอง
(Test Yourself) ในกิจกรรมเสริ มทักษะ (Consolidation) และแบบประเมินหน่วยการเรี ยน (Module Check)
จะช่วยให้นกั เรี ยนได้ทราบความก้าวหน้าของตนเองในแต่ละด้าน รวมถึงเล็งเห็นความสำคัญของการมีทศั นคติ
ที่ดีต่อการเรี ยนภาษา
ยิง่ ไปกว่านั้น กิจกรรมเสริ ม แบบฝึ กหัดเพื่อการทบทวน และกิจกรรมเพิ่มเติม ยังมีแทรกอยูใ่ นหนังสื อ
แบบฝึ กหัด (Activity Book) ในส่ วนของบันทึกช่วยจำ และ Language Work-out ซึ่งเป็ นกิจกรรมที่มีไว้ให้ครู
เลือกนำมาใช้สอนเพิ่มเติมตามความจำเป็ นได้อย่างเหมาะสม
หนังสื อแบบฝึ กหั ด ประกอบด้วย
– แบบฝึ กหัดฝึ กภาษา (Language Practice) ฝึ กคำศัพท์ (Vocabulary) ฝึ กเครื่ องหมายวรรคตอน
(Punctuation) และฝึ กการสะกดคำ (Spelling) เหมาะสำหรับการฝึ กเสริ มทักษะในหนังสื อเรี ยน (Students’ Book)
– แบบฝึ กหัดเพื่อการทบทวน (Revision) นำเสนอกิจกรรม การนำภาษามาใช้ซ ้ำ ๆ อย่างเป็ นระบบ
และเพื่อการซ่อมเสริ มโครงสร้างประโยคพื้นฐาน ซึ่งนักเรี ยนเคยศึกษาผ่านมาแล้ว
– กิจกรรมเพิ่มเติม (Extension) จัดทำขึ้นมาเพื่อเป็ นแรงบันดาลใจและให้ความสนุกสนานแก่นกั เรี ยน
ที่ท ำงานเสร็ จเร็ ว กิจกรรมดังกล่าวประกอบด้วยการอ่าน การฟัง และการเล่นเกม กิจกรรมเหล่านี้มีให้นกั เรี ยน
ที่เก่งกว่าได้ท ำในขณะที่ครู ก ำลังช่วยเหลือนักเรี ยนที่อ่อนกว่าทำกิจกรรมเสริ ม หรื อทำแบบฝึ กหัดเพื่อการทบทวน
แผนการจัดการเรี ยนรู้
– ตอนท้ายของบทเรี ยนจะมีบนั ทึกช่วยจำสำหรับครู มีการเสนอแนะการจัดทำกิจกรรมเสริ มและกิจกรรม
เพิ่มเติมเกี่ยวกับบทเรี ยนนั้น ๆ ที่ครู สามารถกำหนดให้นกั เรี ยนทำตาม ทั้งนี้ข้ ึนอยูก่ บั ความสนใจของนักเรี ยน
ต่อหัวข้อเรื่ อง เวลาที่เหลือ และความต้องการในการฝึ กโครงสร้างภาษาหรื อคำศัพท์เพิ่มเติมของแต่ละบุคคล
– แบบฝึ กหัดในบทการใช้ภาษา (Language Work-out) เป็ นแบบฝึ กหัดเกี่ยวกับเรื่ องหลักซึ่งสามารถ
นำไปถ่ายเอกสารได้ และมีประโยชน์สำหรับนักเรี ยนที่ตอ้ งการทำแบบฝึ กหัดเสริ มจากบทเรี ยน หรื อใช้ช่วยซ่อม
5

เสริ มบางจุดหรื อต้องการทำแบบฝึ กหัดเสริ มเพื่อให้เก่งยิง่ ขึ้น


9. การปลูกฝังด้ านคุณธรรม จริยธรรม และค่ านิยม
Moral and Social Development
นักเรี ยนจะได้รับการสนับสนุนให้มีส่วนร่ วมในการปฏิบตั ิกิจกรรม เคารพความคิดเห็นของผูอ้ ื่น เป็ นคน
อ่อนน้อม ใช้ภาษาที่ถูกต้อง สุ ภาพ และมีมารยาท นอกจากนี้ ยงั ฝึ กให้นกั เรี ยนรู้จกั การแก้ปัญหากับเรื่ องต่อไปนี้
คือ ปัญหาในเมืองหลวง เช่น การเร่ ร่อน (จากเรื่ อง Cities) การจัดชุมนุมกันและการพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
ภายในชุมชน (จากเรื่ อง Nature) การทำงานเป็ นทีม (จากเรื่ อง Sport) การมีชีวิตในอาณานิคมอวกาศ (จาก
เรื่ อง Space)
Peace Studies
กระตุน้ ให้นกั เรี ยนมีความอดทนและเคารพความคิดเห็นของผูอ้ ื่น ให้ความร่ วมมือด้วยดีในการทำงานเป็ น
กลุ่มหรื อเป็ นคู่ ในเนื้ อหาได้ให้แง่คิดมุมมองในเรื่ องต่อไปนี้ดว้ ยคือ ปัญหาอาชญากรรมในเมือง (จากเรื่ อง
Cities) และประเพณีและวิถีชีวิตของวัฒนธรรมต่าง ๆ (จากเรื่ อง Cities, Sport, Fantasy)
Health and Sex Education
ชุดการเรี ยนการสอน World Club กระตุน้ ให้นกั เรี ยนสะท้อนผลกระทบอันเกิดจากการดำเนินวิถีชีวิตที่
แตกต่างกันในด้านสุ ขภาพ และฝึ กให้นกั เรี ยนได้คิดเกี่ยวกับเรื่ องพิษภัยอันตรายต่อสุ ขภาพที่มาจากมลภาวะและ
การจราจร (จากเรื่ อง Cities) สิ่ งแวดล้อมในการทำงาน (จากเรื่ อง Yesterday) ความสัมพันธ์โดยตรงระหว่าง
การกีฬากับสุ ขภาพ (จากเรื่ อง Sport)
Non-sexism
ครู จะต้องกระตุน้ ให้นกั เรี ยนทั้งชายและหญิงได้มีส่วนร่ วมในการปฏิบตั ิกิจกรรมอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่
แบ่งแยกความแตกต่างทางเพศ และครู ควรยกตัวอย่างเพื่อพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่ องนี้ เรื่ องที่ควรนำมาอภิปรายกัน
ได้แก่ บทบาทของสตรี ในประวัติศาสตร์ การกีฬาและการเดินทางท่องอวกาศ (จากเรื่ อง Yesterday, Sport และ
Space) เป็ นต้น
Protection of the Environment
ชุดการเรี ยนการสอนนี้ ประกอบด้วยเรื่ องต่าง ๆ ที่ส่งเสริ มให้นกั เรี ยนเห็นความสำคัญของสิ่ งแวดล้อม
ร่ วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ และคุม้ ครองสัตว์ (จากเรื่ อง Nature)
Consumer Education
นักเรี ยนสามารถแยกแยะและควบคุมสิ่ งที่นำมาบริ โภค โดยเน้นความจำเป็ นที่จะต้องใช้สินค้าบริ โภคและ
บริ การเพื่อสนองความต้องการ หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในสิ่ งที่ไม่จ ำเป็ น นักเรี ยนจะได้รับการกระตุน้ ให้พฒั นาทัศนคติ
เชิงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่ องการใช้เวลาว่างให้เป็ นประโยชน์ (จากเรื่ อง Fantasy)
Road Safety
ชุดการเรี ยนการสอนนี้ จะกระตุน้ ให้นกั เรี ยนเล็งเห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยบนท้องถนนและ
การขนส่ งสาธารณะ (จากเรื่ อง Cities, Nature)
10. การประเมินผลระหว่ างเรียน
การประเมินผลอย่างเป็ นระบบและต่อเนื่องจะช่วยให้ครู และนักเรี ยนสามารถตรวจสอบความก้าวหน้าทาง
การเรี ยนการสอนได้ตลอดเวลา มีขอ้ เสนอแนะในการใช้แบบประเมินผลทั้งที่เป็ นทางการและไม่เป็ นทางการ ใน
ด้านทักษะและความรู้ทางภาษา การประเมินผลทั้ง 2 ชนิดนี้ จะเชื่อมโยงกับการประเมินผลตนเองอย่างเป็ นระบบ
องค์ ประกอบของชุ ดการเรียนการสอน
สื่ อที่ใช้ในการเรี ยนการสอน ประกอบด้วย
– หนังสื อ World Club 2
– หนังสื อ World Club Activity Book 2
– แผนการจัดการเรี ยนรู้ World Club 2
– แผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง
6

โครงสร้ างหนังสือเรียน
หนังสื อเรี ยนประกอบด้วยหน่วยแนะนำการเรี ยน 1 หน่วย และหน่วยการเรี ยนรู้อีก 6 หน่วย ซึ่งแต่ละ
หน่วยจะเน้นเนื้ อหาที่เกี่ยวข้องกับชื่อเรื่ องนั้น ๆ หน่วยแนะนำการเรี ยนจะมีบทเรี ยนสั้น ๆ 5 บท ซึ่งจะช่วยให้
นักเรี ยนมีความรอบรู้อย่างกว้างขวางกับงานและกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีอยูใ่ นหนังสื อชุดนี้
โครงสร้ างหน่ วยการเรียนรู้ มีดงั นี้
– บทนำ (Lead-in) หัวข้อเรื่ องและคำศัพท์หลัก
– เนื้อหาแบ่งเป็ น 4 ส่วน คือ ใน 2 ส่ วนแรกเน้นการฝึ กทักษะ ส่ วนอีก 2 ส่วนจะเน้นหลักภาษา
และการฝึ กกิจกรรม ส่ วนการฝึ กทักษะความคล่องแคล่ว (Fluency) จะเป็ นการฝึ กเฉพาะทางด้านการอ่านและ
การฟัง และยังมีภาระงานด้านการพูดที่อยูท่ า้ ยบท (Final Speaking Task) และภาระงานด้านการเขียนที่อยู่
ท้ายบท (Final Writing Task) ด้วย
– กิจกรรมเสริ มทักษะ (Consolidation) เป็ นการฝึ กภาษาเพิ่มเติมเป็ นพิเศษ และมีแบบทดสอบตนเอง
(Test Yourself) อีกด้วย
– มีแบบประเมินผลหน่วยการเรี ยน (Module Check) และสมุดบันทึกประจำหน่วยการเรี ยน
(Module diary)
– มีกิจกรรมการอ่านเสริ ม (Extra Reading) และ Mini-dictionary อยูต่ อนท้ายของหนังสื อเรี ยน
โครงสร้ างบทเรียน
บทเรี ยนแต่ละบทมีเนื้ อหาเหมาะสมกับเวลาสำหรับการเรี ยนการสอนในชั้นเรี ยนโดยทัว่ ไป คือคาบละ
50 นาที โดยจะมีการเรี ยนครั้งละ 2 คาบ สัญลักษณ์ที่ใช้ในหนังสื อเรี ยน ประกอบด้วย

กิจกรรมการอ่าน

กิจกรรมการพูด

กิจกรรมการเขียน

กิจกรรมการฟังที่ใช้แผ่นซีดี/
แถบบันทึกเสี ยง

กิจกรรมการฝึ กนักเรี ยน
7

กิจกรรมที่เน้นคำศัพท์หลัก

กิจกรรมพัฒนาทักษะการใช้พจนานุกรม

รูปแบบการจัดการเรียนรู้
ในบทเรี ยนที่เน้นฝึ กทักษะจะไม่มีรูปแบบกิจกรรมที่แน่นอน และทักษะต่าง ๆ จะบูรณาการรวมเข้าไว้
ด้วยกัน โดยจะแบ่งเป็ นส่ วนทักษะการรับรู้ และทักษะในการแสดงออกส่ วนละเท่า ๆ กัน ซึ่งผูเ้ รี ยนจะได้ฝึก
ทักษะทางภาษาอย่างเต็มที่ และนำทักษะต่าง ๆ มาใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว
บทเรี ยนหลักภาษา (Language Focus) สอนหลังการเสนอโครงสร้างพื้นฐานทางภาษา กิจกรรม
อุ่นเครื่ องและฝึ กทักษะเริ่ มต้นบทเรี ยนด้วยการให้บริ บทเป็ นภาษาไทย ตามด้วยหลักภาษา ซึ่งนำเสนอหลักภาษา
ใหม่ ๆ และเปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนสร้างกฎไวยากรณ์ให้เสร็จสมบูรณ์ดว้ ยตนเองและลงท้ายด้วยกิจกรรมการฝึ ก
การเขียนและการพูด
การฝึ กทักษะความคล่ องแคล่ ว (Fluency) เริ่ มบทเรี ยนด้วยการให้ฟังหรื ออ่าน แล้วนำไปสู่การพูดและ
การเขียน
กิจกรรมเสริ มทักษะ (Consolidation) จะมีกิจกรรมฝึ กไวยากรณ์ กิจกรรมฝึ กคำศัพท์ กิจกรรมการ
ออกเสี ยง และตามด้วยแบบทดสอบตนเอง (Test Yourself)
แบบประเมินหน่ วยการเรี ยน (Module Check) จะรวมกรอบประเมินผลคำศัพท์ (Keyword Check)
และแบบทดสอบภาษา (Language Check) ไว้ดว้ ย
แผ่ นซีด/ี แถบบันทึกเสี ยง
เนื้อหาฝึ กทักษะการฟังและกิจกรรมการออกเสี ยงในหนังสื อเรี ยนและหนังสื อแบบฝึ กหัดจะมีรวมอยูใ่ น
แผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงทั้งหมด เพื่อใช้สอนในชั้นเรี ยน (มีสญ ั ลักษณ์บอกให้ใช้แผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง)
เนื้อเรื่ องที่นำมาเป็ นบทฝึ กฟังมีอยูใ่ นหนังสื อแผนการจัดการเรี ยนรู้ ภาระงานด้านการประเมินผลด้านการฟังมีอยู่
ในตอนท้ายของแผนการจัดการเรี ยนรู้
โครงสร้ างหนังสือแบบฝึ กหัด
หนังสื อแบบฝึ กหัดจะมีกิจกรรมเพื่อฝึ กโครงสร้างทางภาษาใหม่ ๆ เพิ่มเติมจากหนังสื อเรี ยน นอกจาก
จะนำโครงสร้างทางภาษาที่นกั เรี ยนเคยศึกษามาฝึ กซ้ำแล้ว ยังมีการพัฒนาทักษะเพิ่มเติมด้วย นอกจากนั้นยังมี
กิจกรรมการฝึ กนักเรี ยนและบทฝึ กที่สนุกสนาน
กิจกรรมต่าง ๆ แบ่งออกได้ดงั ต่อไปนี้
Language Practice: เป็ นบทฝึ กโครงสร้างใหม่ ๆ หลังจากเรี ยนหลักภาษาแล้ว บทฝึ กนี้ จะสัมพันธ์กบั
บทเรี ยนในหนังสื อแบบฝึ กหัด นอกจากนั้นยังมีแบบฝึ กหัดเพื่อฝึ กทักษะ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ถ้าโครงสร้าง
ไวยากรณ์ใหม่มีปัญหาหรื อยากสำหรับนักเรี ยน กิจกรรมการฝึ กโดยปกติแล้วจะมุ่งเน้นที่จุดที่ยากที่สุดของ
โครงสร้างใหม่ ในแง่ของการเปรี ยบเทียบของทั้ง 2 ภาษาแล้ว ครู ตอ้ งฝึ กจนแน่ใจว่านักเรี ยนเข้าใจดี และใช้ได้
อย่างคล่องแคล่วในทุกรู ปแบบ ลักษณะพิเศษของโครงสร้างจะแนะนำไว้ในหนังสื อเรี ยนแล้ว
Vocabulary: เป็ นกิจกรรมที่เน้นการฝึ กคำศัพท์ที่สำคัญจากหนังสื อเรี ยน (มีหลักการสร้างคำด้วย)
Spelling Corner: เป็ นกิจกรรมการฝึ กคำศัพท์อย่างเป็ นระบบแต่เน้นทางด้านการสะกดคำ
Reading: เป็ นการฝึ กการอ่านซึ่งมีอยูใ่ น Time to Read เป็ นกิจกรรมเสริ มทักษะการอ่านเพื่อความ
เข้าใจและเป็ นการฝึ กนำโครงสร้างและคำศัพท์เก่าและใหม่มาใช้
Revision: เป็ นการทบทวนภาษาซึ่งนักเรี ยนเคยศึกษามาแล้วเพื่อนำมาใช้ใหม่ ภาษาเป้ าหมายจะอยูใ่ นกรอบ
หรื อนำเสนอในรู ปตัวอย่าง แล้วมีกิจกรรมการฝึ กตามมา
8

Extension: เป็ นกิจกรรมเพิ่มเติมการอ่านและการฟัง หรื อเกมและปริ ศนาซึ่งจะมีในตอนท้ายของแต่ละ


หน่วยการเรี ยนในหนังสื อแบบฝึ กหัดเป็ นการนำเสนอกิจกรรมการเรี ยนการสอนพิเศษสำหรับนักเรี ยนที่ตอ้ งการ
ทำกิจกรรมเพิ่มเติม เนื้ อเรื่ องที่น ำมาเป็ นบทฝึ กฟังจะมีอยูใ่ นแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงการสอน เกมและกิจกรรมที่
สนุกสนานมีอยูต่ ลอดทั้งเล่มของหนังสื อแบบฝึ กหัด นอกจากนี้ ยงั มีปริ ศนาอักษรไขว้ เกมการสลับอักษร เกมลับ
สมอง ตารางคำศัพท์ เกมเล่นบนกระดาน บทขำขันและโคลงกลอนในหัวเรื่ อง Extra Time! ซึ่งอยูท่ า้ ยเล่มหนังสื อ
แบบฝึ กหัด
Punctuation: กิจกรรมที่เน้นการใช้เครื่ องหมายวรรคตอนและเกี่ยวโยงกับภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ย
บท (Final Writing Tasks) ได้แก่ การใช้เครื่ องหมาย commas (,) และการใช้อกั ษรตัวใหญ่ (capital letters)
เป็ นต้น
โครงสร้ างแผนการจัดการเรียนรู้
ในบทนำจะอธิบายวิธีสอนและหลักการของหนังสื อ World Club ตามด้วยคำแนะนำสำหรับครู ในการใช้
หนังสื อเพื่อประกอบการเรี ยนการสอน ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือแก่ครู ท้ งั ที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์
เกี่ยวกับแนวคิดดี ๆ ในการสอนและข้อเสนอแนะว่าจะแก้ปัญหาการสอนในชั้นเรี ยนอย่างไร
แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วยโครงสร้างดังต่อไปนี้
– ผลการเรี ยนรู้ที่คาดหวัง สาระการเรี ยนรู้ รู ปแบบกิจกรรมการเรี ยนรู้ การสร้างทัศนคติในการเรี ยนรู้
การปลูกฝังด้านคุณธรรม จริ ยธรรม และค่านิยม
– กิจกรรมการเรี ยนรู้
กิจกรรมการเรี ยนรู้จะระบุจุดมุ่งหมายและชนิดของกิจกรรมไว้อย่างชัดเจนในตอนเริ่ มต้นกิจกรรมทุก
กิจกรรม เช่น กิจกรรมฝึ กการอ่าน (กิจกรรมรายบุคคล) จะมีค ำแนะนำเป็ นลำดับขั้นตอนว่ากิจกรรมนั้น ๆ จะทำ
อย่างไรบ้าง นอกจากนี้ ยงั มีเกร็ ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่ให้ขอ้ มูลเพิม่ เติมเกี่ยวกับชื่อเรื่ อง อธิบายคำอ้างอิงใน
เนื้อเรื่ อง และให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมที่ควรรู้ ทุกบทเรี ยนจะจบลงด้วยกิจกรรมเสริ มหรื อกิจกรรม
เพิ่มเติมที่เป็ นกิจกรรมเลือก คำเฉลยของทั้งหนังสื อเรี ยนและหนังสื อแบบฝึ กหัดพร้อมบทพูดในแผ่นซีดีมีอยูใ่ น
แผนการจัดการเรี ยนรู้เล่มนี้ดว้ ย
– Module Check
การประเมินผล (Assessment) มีการประเมินผลอย่างเป็ นระบบต่อเนื่องที่สมั พันธ์โดยตรงกับหัวข้อ
เรื่ อง เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าทางการเรี ยนของนักเรี ยนตลอดปี การศึกษา แบบประเมินผลซึ่งสามารถถ่าย
เอกสารได้ ใช้ทดสอบทั้งความรู้ทางหลักภาษาและทักษะทางภาษา รวมทั้งทักษะการแสดงออกของนักเรี ยน จะมี
มาตรฐานในการประเมินตามรายละเอียดที่ให้ไว้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้มีประสิ ทธิภาพสูง การประเมิน
ทุกด้านใช้เวลาประมาณ 20 นาที
แบบฝึ กหั ดในบทการใช้ ภาษา (Language Work-out) จะมีกิจกรรมที่สามารถถ่ายเอกสารได้ ซึ่ง
จะสัมพันธ์กบั ภาษาและชื่อเรื่ องที่พบเห็นในแต่ละหน่วยการเรี ยน นับเป็ นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับครู เป็ น
การทำกิจกรรมทบทวนเพิม่ เติม เป็ นแบบฝึ กหัดเสริ มทักษะ และเป็ นสื่ อประกอบการสอน

คำแนะนำ 72 ประการในการใช้ หนังสื อ World Club เพือ่ ประกอบการเรียนการสอน


การเริ่มต้ น
1. จัดลำดับความสำคัญก่อนหลังขณะที่วางแผน ขณะที่วางแผนให้จดั ทำรายการสอนที่มีความสำคัญ
สำหรับนักเรี ยน พิจารณาและอ่านวัตถุประสงค์ที่อยูใ่ นส่ วนแรกของหน่วยการเรี ยน เลือกสิ่ งที่มีความสำคัญมาก
ที่สุด 3–4 อันดับแรก และเลือก 3–4 อันดับที่ไม่ค่อยมีความสำคัญ ถ้าไม่มีเวลามากพอก็อาจจะยกเลิกกิจกรรม
ที่มีความสำคัญน้อยออก
2. เลือกชื่อเรื่องที่น่าสนใจ ให้อ่านหน่วยการเรี ยนทั้งหมด แล้วเลือกเรื่ องที่น่าสนใจเป็ นพิเศษ ลองคิด
ดูวา่ จะเพิม่ เติมเนื้ อหาอะไรลงไปในหน่วยการเรี ยนได้หรื อไม่ ตัวอย่างเช่น อาจเติมข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ที่น่าสนใจ
ในท้องถิ่นของประเทศไทยลงไปในบทเรี ยน (จากเรื่ อง Nature) เพิ่มเติมเรื่ องผีของไทยที่รู้จกั เข้าไปในบทเรี ยน
9

(จากเรื่ อง Fantasy) และพูดคุยเกี่ยวกับกีฬาที่ชอบเล่นในบทเรี ยน (จากเรื่ อง Sport) เป็ นต้น


3. ตัดเนือ้ หาบางส่ วนทิง้ ไป เพือ่ ปรับเนือ้ หาให้ เหมาะสมกับนักเรียน โครงสร้างของหน่วยการเรี ยนนี้ มี
ความยืดหยุน่ พอสมควร บทเรี ยนบางบทครู อาจจะไม่ใช้สอนเลย แม้จะมีหลักภาษาที่น่าสนใจก็ตาม เพราะหลัก
สำคัญของภาษาจะมีการทบทวนและขยายความในระดับที่สูงขึ้ นต่อไป ต้องปรับสื่ อการสอนให้เข้ากับนักเรี ยน
และให้ถือว่าครู ไม่จ ำเป็ นต้องสอนบทเรี ยนทุกบทในหนังสื อ
4. เริ่มบทเรียนแต่ละบทด้ วยการอุ่นเครื่อง การอุ่นเครื่ องทำหน้าที่เป็ นการแนะนำชื่อเรื่ องและเป็ นกิจกรรม
การนำเข้าสู่ บทเรี ยน และยังเป็ นการสร้างความสนใจและความกระตือรื อร้นที่จะเรี ยนด้วย การอุ ่นเครื่ องจะมี
เฉพาะในแผนการจัดการเรี ยนรู้เท่านั้น ไม่มีในหนังสื อเรี ยน โดยมีลกั ษณะดังนี้ คือ เป็ นกิจกรรมการจับคู่ค ำศัพท์
การตั้งคำถามที่มุ่งความสนใจ กิจกรรมระดมสมองและคำถามเกี่ยวกับการทำนาย
5. ใช้ ภาษาท่ าทางเพือ่ เร้ าความสนใจ ในช่วง 5 นาทีแรกของการสอนถือว่ามีความสำคัญอย่างยิง่ ใน
การเร้าความสนใจของนักเรี ยน ถ้าครู ไม่แสดงความสนใจหรื อความกระตือรื อร้น นักเรี ยนก็จะไม่อยากเรี ยนโดย
อัตโนมัติ ให้ครู ใช้ภาษาท่าทางเพื่อเร้าความสนใจ เช่น แสดงท่าทางหรื อแสดงออกทางใบหน้า หรื อสบตากับ
นักเรี ยน ยืนตรงและมีท่าทางกระฉับกระเฉง หรื อเดินไปรอบ ๆ ชั้นเรี ยนและไม่ควรนัง่ สอน
การบริหารชั้นเรียน
6. สร้ างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ถ้าครู สามารถย้ายเครื่ องตกแต่งภายในชั้นเรี ยนได้ควรจะย้าย แต่
ต้องมีที่วา่ งเพื่อให้เดินรอบ ๆ ชั้นเรี ยนได้ ให้จดั โต๊ะนักเรี ยนเป็ นคู่ หรื อเป็ นกลุ่มละ 4 คน ก่อนอื่นครู ควรปรึ กษา
เพื่อนครู คนอื่น ๆ ด้วย
7. ครูต้องรู้จักชื่อนักเรียนให้ เร็วที่สุด โดยบอกให้นกั เรี ยนเขียนชื่อของตนลงในแผ่นกระดาษปิ ดหน้าอก
ในช่วงการเรี ยน 2–3 ครั้งแรกเท่านั้น เขียนแผนผังที่นงั่ ในชั้นเรี ยนพร้อมชื่อของแต่ละคนเพื่อช่วยให้จ ำชื่อได้ ถ้า
นักเรี ยนไม่รู้จกั กันให้เล่นเกมทายชื่อ โดยให้นกั เรี ยนคนแรกบอกชื่อนักเรี ยน 3 คน คนที่ 2 บอกชื่อ 6 คน
คนที่ 3 บอกชื่อ 9 คน (ให้เพิ่มขึ้นเรื่ อย ๆ จนครบทั้งชั้น โดยเพิม่ ทีละ 3 คน) ผูท้ ี่จ ำชื่อได้มากที่สุดจะเป็ นผูช้ นะ
8. ใช้ ภาษาอังกฤษในระหว่ างการเรียนการสอนในชั้นเรียน ให้ครู เขียนประโยคตัวอย่างที่สำคัญติดไว้
ที่ผนังชั้นเรี ยน ตรวจสอบและฝึ กภาษาที่ใช้ในชั้นเรี ยน เช่น ใช้วิธีเล่นเกมง่าย ๆ เช่น Simon says (ครู ออก
คำสัง่ นักเรี ยนปฏิบตั ิตาม)
9. แนะนำการทำงานเป็ นคู่และเป็ นกลุ่ม ถ้านักเรี ยนไม่คุน้ เคยกับการทำงานเป็ นกลุ่มหรื อเป็ นคู่ ให้
เริ่ มต้นจากทำงานเป็ นคู่ก่อน แล้วจึงฝึ กให้ท ำเป็ นกลุ่ม
10. หลีกเลีย่ งการเผชิญหน้ า ในการรักษาวินยั ในชั้นเรี ยนนั้น ขึ้นอยูก่ บั ลีลาและสภาพแวดล้อมของครู
แต่ละคน อย่างไรก็ตาม ถ้ามีปัญหาด้านวินยั เกิดขึ้น ครู ไม่ควรหยุดสอนเพื่อค้นหาปัญหาเพราะอาจเกิดการ
เผชิญหน้ากับนักเรี ยนได้ นักเรี ยนอาจจะกระตุน้ ให้มีการเผชิญหน้าเพิม่ ขึ้นเพราะพวกเขามีพรรคพวกมาก วิธีแก้
ปัญหาก็คือ เมื่อจบการเรี ยนการสอนแล้ว ให้เรี ยกนักเรี ยนที่มีปัญหาเข้ามาคุยเป็ นการส่ วนตัว ถ้าไม่ได้ผลให้ขอพบ
ผูป้ กครองหรื อขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าภาควิชาหรื อเพื่อนครู ดว้ ยกัน
11. ร่ วมกันเขียนข้ อตกลง ครู และนักเรี ยนควรจะร่ วมกันร่ างข้อตกลงขึ้นมาว่าจะประพฤติตนอย่างไรบ้าง
เช่น ครู อาจจะให้ท ำกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การเล่นเกมและการร้องเพลง ส่วนนักเรี ยนก็สญ ั ญาว่าจะประพฤติตน
เป็ นคนดีในชั้นเรี ยน จะตั้งใจทำการบ้าน เป็ นต้น แรกทีเดียวครู ให้นกั เรี ยนเขียนรายการว่านักเรี ยนต้องการให้ครู
และนักเรี ยนคนอื่น ๆ ทำอะไรบ้าง (โดยอาจให้เขียนเป็ นภาษาไทย) แล้วจึงเขียนฉบับร่ างบนกระดาน เมื่อทุกคน
เห็นด้วยตามข้อตกลงแล้วจึงเขียนลงในแผ่นกระดาษและให้ทุกคนลงลายมือชื่อ
กระบวนการเรียนรู้
12. กระตุ้นให้ แต่ ละคนตรวจสอบความก้าวหน้ าทางการเรียน ให้ใช้แบบประเมินผลตนเองขั้นต้น และ
สมุดบันทึกประจำหน่วยการเรี ยนซึ่งจะทำให้นกั เรี ยนคำนึงถึงความก้าวหน้าทางการเรี ยนของตนเองและทัศนคติ
ในเชิงบวกต่อการเรี ยน ซึ่งถือว่าเป็ นเรื่ องสำคัญเท่า ๆ กับการประเมินขั้นสุ ดท้าย สำหรับนักเรี ยนที่เรี ยนอ่อนกว่า
คนอื่น ครู ตอ้ งกระตุน้ ด้วยการบอกว่า ถ้าใช้ความพยายามมากขึ้น นักเรี ยนก็มีโอกาสสอบผ่านได้ สำหรับนักเรี ยน
ที่เรี ยนเก่ง ครู ตอ้ งชี้ให้เห็นว่า หากต้องการสอบผ่านและได้คะแนนดี ก็จะต้องใช้ความพยายามเช่นกัน
10

13. ให้ นักเรียนตระหนักถึงจุดเด่ นของตนเอง สติปัญญาเป็ นสิ่ งซึ่งแต่ละคนจะมีจุดเด่นและจุดด้อยไม่


เหมือนกัน นักเรี ยนบางคนอาจจะอ่อนทางด้านภาษาแต่ดีเยีย่ มทางด้านการทำงานร่ วมกับผูอ้ ื่น บางคนอาจจะเก่ง
ทางด้านการวาดรู ป การออกแบบ และสามารถสร้างโครงงานได้เก่ง คนอื่น ๆ อาจจะเก่งทางด้านตัวเลข (ทำกราฟ
และปริ ศนาตัวเลขได้เก่ง) ครู ตอ้ งบอกกับนักเรี ยนว่า ครู ถือว่ามีความสำคัญกว่าความสามารถทางภาษา
14. มุ่งเน้ นความสำเร็จ ด้านการแสดงออกคือทักษะในด้านการพูดและการเขียน ครู ตอ้ งมุ่งย้ำสิ่ งที่
นักเรี ยนสามารถทำได้สำเร็ จ มากกว่าความผิดที่นกั เรี ยนทำลงไป โดยเฉพาะอย่างยิง่ สำหรับนักเรี ยนที่ไม่เก่ง
การสื่ อสารโดยใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเรื่ องที่เสี่ ยงและยากลำบาก นักเรี ยนจะต้องได้รับการให้ก ำลังใจและคำชม
อย่างสม่ำเสมอเมื่อนักเรี ยนลองสื่ อสาร
15. ใช้ กจิ กรรมเสริมและกิจกรรมเพิม่ เติม หนังสื อชุดนี้ มีกิจกรรมเสริ มทักษะมากมายที่จะช่วยครู ได้อย่าง
หลากหลาย เช่น แบบฝึ กหัดเพื่อการทบทวนและกิจกรรมเพิ่มเติมในหนังสื อแบบฝึ กหัด (Activity Book) กิจกรรม
เสริ มทักษะและกิจกรรมเพิม่ เติมในแผนการจัดการเรี ยนรู้ แบบฝึ กหัดในบทการใช้ภาษา (Language Work-out) ซึ่ง
สามารถใช้ได้ท้ งั ในชั้นเรี ยนและทำเป็ นการบ้าน ในขณะที่นกั เรี ยนที่เรี ยนอ่อนกำลังทำแบบฝึ กหัดเพื่อการทบทวน
อยู่ คนอื่น ๆ จะให้ท ำกิจกรรมเพิม่ เติม
16. ให้ นักเรียนเป็ นผู้อ่านในชั้นเรียน ให้นกั เรี ยนอ่านหนังสื อในชั้นเรี ยนตามระดับความสามารถและ
ระดับความเร็ วที่ต่างกัน โดยใช้เวลาประมาณ 15–20 นาทีต่อสัปดาห์ ในขณะที่นกั เรี ยนอ่านหนังสื อ ครู เดินดู
รอบ ๆ ชั้นเรี ยน เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือและซักถามเกี่ยวกับสิ่ งที่นกั เรี ยนกำลังอ่าน
17. การให้ อ่านหรือฟังกิจกรรมแบบเปิ ด โดยที่จะไม่มีค ำตอบที่ถูกหรื อผิด แต่จะเปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยน
ได้แสดงความคิดเห็นหรื อปฏิกิริยาส่ วนตัวออกมาอย่างเสรี ครู ควรให้นกั เรี ยนได้ท ำกิจกรรมเช่นนี้ เพื่อให้นกั เรี ยน
ที่เรี ยนอ่อนก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้โดยไม่เป็ นคำตอบถูกหรื อผิด ตัวอย่างเช่น ถามนักเรี ยนว่าอยากไป
เที่ยวเมืองไหน ปารี สหรื อไคโร (ใน Lesson 2) นักเรี ยนชอบสัตว์ชนิดไหนมากที่สุด เพราะเหตุใด (ใน Lesson 14)
ไวยากรณ์
18. เริ่มต้ นจากสิ่ งที่นักเรียนทราบ ในตอนเริ่ มต้นการเรี ยนอาจดูเหมือนว่านักเรี ยนมีความรู้นอ้ ยมาก
อย่างไรก็ตาม Gattegno ได้ช้ ีแจงว่า ความจริ งแล้วนักเรี ยนรู้มากกว่าที่เขาคิดและรู้มากกว่าที่ครู คิดไว้มาก ครู
สามารถวัดความรู้ได้ดว้ ยการใช้แบบสอบถามที่อยูใ่ นแผนการจัดการเรี ยนรู้หน้า 21 แต่ควรระลึกไว้วา่ การเรี ยน
รู้เป็ นกระบวนการต่อเนื่อง และในบางครั้งนักเรี ยนจะสามารถจำสิ่ งที่เคยศึกษามาแล้วได้
19. จำไว้ ว่าการเรียนรู้ไม่ ใช่ กระบวนการที่เป็ นระเบียบเรียบร้ อย การเรี ยนรู้ไม่ใช่ส่ิ งที่ท ำได้อย่างเป็ น
ระเบียบเรี ยบร้อย แต่เป็ นการสะสมความรู้ทางภาษามากขึ้นเรื่ อย ๆ นักเรี ยนบางคนอาจจะเข้าใจหัวข้อสำคัญทาง
ภาษาได้แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ นอกจากนี้ บางคนอาจจะทำผิดเกี่ยวกับโครงสร้างทางไวยากรณ์บางจุดอยูเ่ สมอ
ทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่าง่ายแต่กไ็ ม่ง่าย เช่น การใช้เอกพจน์บุรุษที่ 3 เป็ นต้น อย่ามีความรู้สึกว่า ครู ยงั สอนเรื่ องอื่นไม่ได้
หากนักเรี ยนยังทำผิดในเรื่ องนี้ อยู่ ต้องถือว่าความผิดเป็ นส่ วนหนึ่งของกระบวนการเรี ยนรู้
20. อย่ าอธิบายทุกสิ่ งทุกอย่ าง ในหนังสื อเรี ยนจะมีตวั อย่างของสิ่ งที่นกั เรี ยนไม่เคยศึกษามาก่อน แต่อาจจะ
เคยได้พบในสถานการณ์จริ ง ดังนั้นจึงควรเน้นที่ความหมายจากการอ่านเนื้ อเรื่ องมากกว่า และแนะนำนักเรี ยนว่า
ไม่จ ำเป็ นต้องเข้าใจภาษาทั้งหมดจึงจะเข้าใจความหมายของเนื้ อเรื่ อง
21. ปล่อยให้ นักเรียนทำงานด้ วยตนเอง แทนที่จะอธิบายหลักไวยากรณ์ให้นกั เรี ยนฟัง ครู ควรจะเริ่ มต้น
ด้วยกิจกรรม “คิดหากฎเกณฑ์ทางไวยากรณ์” โดยให้นกั เรี ยนสรุ ปเป็ นกฎออกมาเอง ถ้านักเรี ยนยังมีปัญหา ครู จึง
ค่อยอธิบายให้ฟัง ครู ควรจะอธิบายกฎเกณฑ์ทางไวยากรณ์ในขณะที่นกั เรี ยนกำลังทำแบบฝึ กหัดเสริ มทักษะ
หรื อ Test Yourself เสร็จแล้ว
22. อย่ ากังวลว่ านักเรียนเคยทำมาก่อน แม้วา่ นักเรี ยนจะเคยทำแบบฝึ กหัดเกี่ยวกับหัวข้อไวยากรณ์
นั้น ๆ มาก่อน นักเรี ยนก็จะไม่จ ำเป็ นต้องทบทวนหลักไวยากรณ์เท่านั้น แต่พวกเขายังจำเป็ นจะต้องฝึ กใช้ภาษา
ในเนื้ อหาและชื่อเรื่ องต่าง ๆ กันอีกด้วย
23. ให้ คำนึงถึงไวยากรณ์ ทคี่ รูใช้ ให้คุยกับครู ภาษาไทยเพื่อจะได้ทราบว่านักเรี ยนมีปัญหาทางไวยากรณ์
ในด้านใด แนะให้นกั เรี ยนคำนึงถึงคำศัพท์ทางไวยากรณ์เบื้องต้นที่หนังสื อชุดนี้ ได้นำเสนอมาอย่างเป็ นระบบ เพื่อ
11

นักเรี ยนจะได้น ำโครงสร้างทางไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษไปเปรี ยบเทียบกับไวยากรณ์ของภาษาไทย เพื่อจะได้


เข้าใจว่าปัญหาอยูท่ ี่ใดในหนังสื อนี้ คำศัพท์ทางไวยากรณ์ในบทก่อน ๆ จะถูกนำมาฝึ กเสริ มทักษะอีกและนำเสนอ
คำศัพท์ใหม่อย่างเป็ นระบบ
24. เน้ นเรื่องความถูกต้ องในการเขียนและฝึ กการพูด Language Focus จะมีบทฝึ กการเขียนแบบ
ชี้นำและมีกิจกรรมฝึ กการพูดตามมา การตรวจคำตอบอาจตรวจเป็ นรายบุคคลหรื อตรวจพร้อมกันทั้งชั้นเรี ยน ควร
จะมีการเขียนคำตอบลงบนกิจกรรมเสริ มทักษะ ในระหว่างทำกิจกรรมฝึ กการพูด ครู ควรจะเดินไปรอบ ๆ
ชั้นเรี ยนเพื่อแก้ไขจุดที่ผดิ บางจุดของนักเรี ยนหรื อจดบันทึกข้อผิดพลาดไว้ แล้วนำมาแก้ไขตอนท้ายของกิจกรรม
คำศัพท์
25. การเรียนคำศัพท์ เป็ นเรื่องของแต่ ละบุคคล นักเรี ยนจะต้องเป็ นผูพ้ ิจารณาเองว่าคำใดมีความสำคัญ
ทั้งนี้ข้ ึนอยูก่ บั ความสนใจ วิถีชีวิต และความต้องการในอนาคตของแต่ละบุคคล แต่สิ่งสำคัญสำหรับการเรี ยนคำ
ศัพท์กค็ ือ สมุดคำศัพท์ ซึ่งนักเรี ยนต้องจัดทำตั้งแต่ตอนเริ่ มเรี ยน และนักเรี ยนจะเป็ นผูจ้ ดคำศัพท์ใหม่ลงไปด้วย
ตนเอง สมุดบันทึกประจำหน่วยการเรี ยนก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะนักเรี ยนจะต้องประเมินในหน่วยการเรี ยนที่
ผ่านมาว่านักเรี ยนได้เรี ยนคำศัพท์ไปแล้วกี่ค ำ เป็ นคำประเภทใดบ้าง
26. การรวบรวมหัวข้ อทางภาษาไว้ ด้วยกัน ถ้าไม่มีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างทางภาษา คำบางคำต้องถือ
ว่าเป็ นคำศัพท์ ครู บอกให้นกั เรี ยนเว้นที่วา่ งไว้ในสมุดคำศัพท์เพื่อจะได้เขียนข้อความที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่ องที่
เรี ยนลงไปด้วย เช่น ในหน่วยการเรี ยนที่ 4 เรื่ อง Fantasy พูดถึงการเชื้อเชิญและการให้ขอ้ เสนอแนะว่า Would you
like to come and see Alien on Wednesday afternoon? เป็ นต้น
27. ใช้ สมุดคำศัพท์ รวบรวมคำศัพท์ต่าง ๆ ไว้ ด้วยกัน เมื่อนักเรี ยนบางคนทำงานเสร็ จก่อนคนอื่น ๆ
ครู ควรมอบหมายให้จดคำศัพท์ใหม่ที่สำคัญลงในสมุดคำศัพท์ นักเรี ยนอาจจะใช้สมุดคำศัพท์น้ นั ทดสอบ
กันและกัน หรื อใช้เพื่อทบทวนคำศัพท์ในช่วงเวลาว่างในตอนท้ายของบทเรี ยน หรื อใช้สอดแทรกในกิจกรรม
28. การตรวจสมุดคำศัพท์ ครู ควรตรวจสมุดคำศัพท์ของนักเรี ยนเป็ นครั้งคราวและให้คะแนนด้วย ในการ
ประเมินควรคำนึงถึงเรื่ องการจัดอันดับคำศัพท์ การค้นหาที่ยากง่าย ข้อมูลที่เขียนลงไปมีการยกตัวอย่างประกอบ
ทำให้เดาความหมายของเนื้ อเรื่ องได้หรื อไม่ มีค ำศัพท์ท้ งั หมดเท่าไร และการสะกดคำศัพท์น้ นั ถูกต้องหรื อไม่
29. กระตุ้นให้ สร้ างคำศัพท์ ที่เป็ นหัวเรื่อง ในบทนำเข้าสู่เนื้อเรื่ องของแต่ละหน่วยการเรี ยนจะมีค ำศัพท์
หลักนำเสนอ แต่กใ็ ห้โอกาสนักเรี ยนเขียนคำศัพท์เพิม่ เติมตามหัวเรื่ อง โดยใช้โครงข่ายของคำ เช่น ในบทนำ
(Lead-in) ของหน่วยที่ 5 (เรื่ อง Sport) ให้นกั เรี ยนหาคำเกี่ยวกับหัวเรื่ องที่นกั เรี ยนรู้เขียนเพิ่มลงไป
30. สนับสนุนให้ นักเรียนใช้ Mini-dictionary พจนานุกรมย่อเป็ นเครื่ องมือสำคัญและจำเป็ นสำหรับ
นักเรี ยนเพื่อทำกิจกรรมหาคำศัพท์หลักในบทนำ (Lead-in) หรื อในบทเรี ยนของหน่วยการเรี ยนต่าง ๆ และใช้ใน
การอ่านเนื้ อเรื่ อง กิจกรรมนี้ ยงั ช่วยให้ครู มีโอกาสได้แนะนำนักเรี ยนเมื่อมีปัญหาในการอ่าน
31. การใช้ กรอบคำศัพท์ เพือ่ สร้ างความมั่นใจ กรอบคำศัพท์จดั ขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์ที่จะช่วยแนะนำ
นักเรี ยนทบทวนหรื อนำเสนอคำศัพท์หลักที่สมั พันธ์กบั หัวเรื่ องในบทเรี ยน หรื อมุ่งที่ค ำศัพท์หลักและคำศัพท์จาก
เนื้อเรื่ องที่ให้อ่าน
32. ใช้ กจิ กรรมการฝึ กเพือ่ ทำให้ การเรียนคำศัพท์ เป็ นระบบ การเรี ยนคำศัพท์น่าจะเป็ นเรื่ องที่น่าเบื่อหน่าย
สำหรับนักเรี ยน อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการฝึ กในหนังสื อแบบฝึ กหัดและ Consolidation มุ่งที่จะฝึ กการใช้ค ำศัพท์
อยูแ่ ล้ว ซึ่งจะช่วยให้นกั เรี ยนมองเห็นลู่ทางและสามารถเพิ่มคำศัพท์ได้มาก ลักษณะของคำศัพท์ที่ใช้สอนมีดงั นี้
– กลุ่มคำศัพท์เป็ นกลุ่มของคำที่สมั พันธ์กบั ชื่อเรื่ อง เช่น ให้บอกกลุ่มคำเกี่ยวกับการขนส่ งในหน่วย
การเรี ยนที่ 1 (เรื่ อง Cities) เป็ นต้น
– การเปลี่ยนหน้าที่ของคำหรื อการเพิ่มคำศัพท์ (affixes) โดยการเติมอุปสรรค (prefixes) และปัจจัย
(suffixes) เข้ากับรากศัพท์เพื่อให้ได้ค ำศัพท์ใหม่ข้ ึนมา
– คำผสม เป็ นการนำคำมาผสมกันเพื่อให้เกิดคำศัพท์ใหม่ข้ ึนมา เช่น acid rain หรื อ power station เป็ นต้น
– สำนวน เกิดจากการนำคำบุพบทมาเติมข้างหลังคำกริ ยาแล้วมีความหมายเปลี่ยนไป แบบฝึ กหัด
ในลักษณะนี้ จดั ทำขึ้นอย่างเป็ นระบบ และมีมากพอในแต่ละหน่วยการเรี ยน
12

– คำรากศัพท์เดียวกัน จะมีท้ งั คำที่มีรูปและความหมายเหมือนกันกับภาษาไทย และมีรูปเหมือนกัน


แต่มีความหมายต่างกัน ครู ควรนำคำเหล่านี้มาให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัด
– การจัดคำให้เข้ากัน เป็ นการนำคำมาผสมกันโดยทัว่ ๆ ไปนัน่ เอง เช่น make the dinner หรื อ
drive a car เป็ นต้น
– คำเหมือน / คำตรงข้าม ได้แก่ คำที่มีความหมายเหมือนกันหรื อตรงกันข้าม
– คำที่มีความหมายกว้าง อาจจะมีความหมายในเชิงบวกหรื อลบก็ได้ เช่น คำว่า magnificent และ
terrible เป็ นต้น
การออกเสี ยง
33. การแก้ปัญหาเสี ยงที่มีปัญหา เนื้อหาการออกเสี ยงในหนังสื อ World Club มุ่งไปที่เสี ยงที่มีปัญหา
สำหรับนักเรี ยนที่เรี ยนภาษาอังกฤษ โดยจัดไว้ในหมวดการออกเสี ยงของบทเรี ยน Consolidation อย่างไรก็ตาม
ปัญหาเกี่ยวกับเสี ยงจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในบทเรี ยนต่าง ๆ ถ้าครู เห็นว่านักเรี ยนมีปัญหาในการออกเสี ยง
ใดให้น ำมาฝึ กหลังทำกิจกรรมเสร็ จ ด้วยการเขียนตัวอย่างเสี ยงบนกระดาน โดยอาจเขียนเป็ นคำโดด ๆ เช่น
school/score Spain/Spanish หรื อเขียนเป็ นคำคู่ เช่น cat/cut, match/much เป็ นต้น ให้นกั เรี ยนยกตัวอย่างเพิม่ เติม
และจบลงด้วยการออกเสี ยงตามครู
34. เชื่อมการออกเสี ยงให้ สัมพันธ์ กบั การสะกด ในหนังสื อ World Club จะมุ่งเน้นการเชื่อมสัมพันธ์
ระหว่างการออกเสี ยงและการสะกด ด้วยเหตุน้ี จึงพยายามให้นกั เรี ยนคุน้ เคยกับการใช้สญ ั ลักษณ์ทางภาษาศาสตร์
(ดูในหนังสื อเรี ยนหน้า 112 และใน Mini-dictionary มีสญ ั ลักษณ์ทางภาษาศาสตร์ ) และนักเรี ยนจะสามารถ
นำไปใช้ในการออกเสี ยงคำสำคัญ ๆ ได้ ถ้าครู มีเวลาพอให้นกั เรี ยนเขียนสัญลักษณ์ลงในสมุดคำศัพท์ และบันทึก
ข้อมูลเกี่ยวกับเสี ยงต่าง ๆ ไว้ดว้ ย
35. เชื่อมสั มพันธ์ เสี ยงเน้ นหนักในคำกับการเรียนคำศัพท์ ในขณะที่นกั เรี ยนเขียนสัญลักษณ์ลงใน
คำศัพท์ใหม่ในสมุดคำศัพท์ ครู ควรจะให้นกั เรี ยนเขียนเครื่ องหมายเน้นหนักในคำลงไปด้วย นักเรี ยนจะสามารถ
ใช้ Mini-dictionary ในการตรวจสอบการเขียนเครื่ องหมายเน้นหนักในคำศัพท์ใหม่ ๆ ได้
36. ฝึ กการออกเสี ยงส่ วนปลีกย่ อยของคำเป็ นพิเศษ ลักษณะของการออกเสี ยงคำที่เชื่อมกันและแยกกัน
ให้เห็นความแตกต่างในการออกเสี ยงนั้นฝึ กได้ง่าย (ตัวอย่างเช่น Lesson 3 เรื่ องระดับเสี ยงที่สุภาพ Lesson 9
เรื่ องคำย่อ Lesson 18 เรื่ องพยางค์เด่น Lesson 27 เรื่ องระดับเสี ยงของประโยคคำถามแบบห้อยท้าย (question
tags)) การฝึ กควรฝึ กพร้อมกันทั้งชั้นเรี ยน และให้นกั เรี ยนทำเครื่ องหมายระดับเสี ยงขึ้นลง โดยใช้ตวั อย่างการ
ออกเสี ยงจากแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงเป็ นหลัก เพราะเสี ยงจะได้ไม่เพี้ยนเวลาฝึ กซ้ำ ๆ พยางค์เด่นและไม่เด่น
ภายในประโยคก็ฝึกได้ง่ายโดยการอ่านออกเสี ยงประโยคดัง ๆ และให้นกั เรี ยนมุ่งความสนใจไปที่ค ำศัพท์หลัก
เป็ นกลยุทธ์สำคัญในการฝึ กการฟังอย่างเข้ม และควรให้ความสำคัญต่อการออกเสี ยงคำที่เชื่อมต่อด้วย การให้
นักเรี ยนออกเสี ยงคำต่าง ๆ ในประโยคหรื อข้อความมีประโยชน์มุ่งความสนใจไปที่พยางค์ที่ไม่เด่น และการตัด
พยางค์หรื อสระออกจากคำ (การไม่ออกเสี ยงพยางค์ในคำ)
การพูด
37. สร้ างความเชื่อมั่น กิจกรรมการฝึ กนักเรี ยนในหน่วยการเรี ยนเริ่ มต้น (ดู Lesson B) จะสนับสนุน
ให้นกั เรี ยนระลึกถึงการใช้ภาษาอังกฤษในชั้นเรี ยน กลยุทธ์ในการสอนบางประการที่จะสามารถช่วยนักเรี ยนได้
ในหัวข้อ Module diary มีอยูต่ ลอดเล่ม จะช่วยส่ งเสริ มในการพูดและเน้นให้มีความรอบคอบในการพูดมากยิง่ ขึ้น
สำหรับการเริ่ มต้นควรให้นกั เรี ยนระลึกว่าการมีส่วนร่ วมและความพยายามมีความสำคัญมากที่สุด นักเรี ยนจะ
ต้องระลึกด้วยว่าการทำเช่นนั้นไม่จ ำเป็ นต้องทำเฉพาะการพูดคุยที่หน้าชั้นเรี ยนเท่านั้น สำหรับนักเรี ยนที่ข้ ีอายก็
สามารถมีส่วนร่ วมได้เป็ นอย่างดีดว้ ยการปฏิบตั ิกิจกรรมเป็ นคู่หรื อเป็ นกลุ่ม
38. เน้ นที่กลยุทธ์ กลยุทธ์ถือว่าเป็ นเรื่ องสำคัญและทำให้เห็นเด่นชัด เพราะมีความสำคัญยิง่ ที่จะเพิ่มความ
สามารถในการสื่ อสารด้วยปากเปล่าของนักเรี ยน กลยุทธ์ดงั กล่าว ได้แก่
– การใช้การแสดงออกด้วยท่าทางและใบหน้าเพื่อทำให้การสื่ อสารเด่นชัดขึ้น
– การคาดเดาว่าคนอื่นกำลังพูดอะไร
– กลยุทธ์ในการรี รอ และการใช้ค ำพูดต่อไปนี้แสดงว่ามีการรี รออยู่ เช่น well หรื อ you know
13

– กลยุทธ์ในการลดคำพูดลง เพื่อให้เนื้ อหาและข่าวสารง่ายขึ้นและการใช้ขอ้ มูลทางภาษาที่พอหาได้


ครู ควรนำกลยุทธ์ในการสื่ อสารที่เคยพบเห็นมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ที่มีประโยชน์มากในการพูดภาษา
อังกฤษ (ตัวอย่างเช่น เมื่อนึกคำศัพท์ไม่ออกแทนที่จะหยุดพูด ให้คิดหาทางอธิบายโดยใช้ค ำง่าย ๆ อธิบายแทน)
39. การผลักดันให้ นักเรียนใช้ ภาษาอังกฤษในชั้นเรียน ในข้อ 8 ได้กล่าวถึงการฝึ กใช้ภาษาอังกฤษใน
ชั้นเรี ยนและใช้ในตอนเริ่ มต้นบทเรี ยน การฝึ กเช่นนี้ควรทำไปตลอดการเรี ยน โดยการเขียนคำสัง่ ภาษาอังกฤษที่
ใช้บ่อย ๆ ประมาณ 10 ข้อ แล้วให้นกั เรี ยนเขียนคำแปลลงในสมุดคำศัพท์ของตนเอง
40. การใช้ ภาษาของนักเรียน (ภาษาไทย) ตามที่เห็นสมควร ถ้าคำพูดใดควรใช้ภาษาอังกฤษในชั้นเรี ยนก็
พยายามให้ใช้มากที่สุด แต่ในบางกรณี การใช้ภาษาไทยอธิบายจะมีผลดีกว่า ทำให้เข้าใจลึกซึ้ งขึ้น ใช้ในการอธิบาย
หลักไวยากรณ์เปรี ยบเทียบกับภาษาไทยหรื อใช้ในการอภิปรายปัญหาในการเรี ยน นอกจากนี้ ครู ควรยอมให้ใช้
ภาษาไทยเมื่อนักเรี ยนมีเรื่ องสำคัญและเร่ งด่วนที่จะต้องพูด อย่างไรก็ตาม เมื่อนักเรี ยนกำลังปฏิบตั ิกิจกรรมการพูด
ในชั้นเรี ยน ครู ควรกระตุน้ ให้นกั เรี ยนใช้ภาษาอังกฤษให้มากที่สุด โดยบอกว่าจะมีการประเมินผลด้วย
41. อย่ าแก้ไขข้ อผิดพลาดขณะที่นักเรียนกำลังพูด ในการเรี ยนเพื่อฝึ กทักษะ นักเรี ยนสามารถที่จะนำ
โครงร่ างภาษาที่เรี ยนในหลักภาษาของบทเรี ยนที่เรี ยนมาแล้วมาใช้ในสถานการณ์ใหม่ แต่เพื่อฝึ กควรเน้นที่ความ
คล่องแคล่วในการสื่ อสารมากกว่า หากนักเรี ยนพูดผิด แต่ไม่มีปัญหาในการสื่ อสาร ครู ควรจะฟังจนจบโดยที่ยงั
ไม่บอกให้แก้ไข หลังจากทำกิจกรรมเสร็จแล้ว จึงค่อยนำข้อผิดพลาดที่นกั เรี ยนพูดผิดมาแก้ไขให้ถูกต้อง โดย
ขณะที่นกั เรี ยนกำลังพูดอยูน่ ้ นั ครู ควรเดินไปรอบ ๆ ชั้นเรี ยน พร้อมกับจดบันทึกข้อผิดพลาดไว้ หรื อครู อาจ
จะใช้วิธีบนั ทึกแถบบันทึกเสี ยงไว้ขณะที่นกั เรี ยนกำลังพูด เมื่อพูดจบแล้วจึงเปิ ดแถบบันทึกเสี ยงและอธิบาย
เกี่ยวกับข้อผิดพลาดก็ได้
42. การสั งเกตการทำงานกลุ่ม ตามที่กล่าวไว้ในข้อ 9 ว่าการทำงานกลุ่มเป็ นเรื่ องยุง่ ยาก ดังนั้นครู ตอ้ ง
มัน่ ใจว่าการแบ่งเป็ นคู่หรื อเป็ นกลุ่มจะสามารถดำเนินกิจกรรมไปได้ดว้ ยดี โดยที่ไม่มีการระงับลงกลางคันเพราะ
คนใดคนหนึ่ง แทนที่จะแบ่งเป็ นคู่หรื อกลุ่มที่อ่อนหรื อเก่งควรจะแบ่งให้คนที่มีความสามารถต่างกันอยูใ่ นกลุ่ม
เดียวกัน นักเรี ยนจะได้พดู มากขึ้นและมีการสลับกันพูด และอย่าลืมให้นกั เรี ยนเปลี่ยนกลุ่มไปเรื่ อย ๆ
43. ให้ คะแนนในการพูด ถ้าครู ไม่ให้คะแนนในระหว่างการพูด นักเรี ยนจะรู้สึกว่าเสี ยเวลาเปล่า ในการ
ประเมินผลการพูดให้ดูจาก Oral Assessment
การฟัง
44. การทำให้ นักเรียนรู้ตัวตลอดเวลา Lesson D จะช่วยเตรี ยมนักเรี ยนเพื่อการฟังโดยให้นกั เรี ยนรู้ตวั
หรื อสำนึกตัวตลอดเวลาและสนใจที่จะนำกลยุทธ์สำคัญ ๆ มาใช้ นักเรี ยนจะต้องทราบว่าการฟังมีหลายรู ปแบบ
แตกต่างกันไป บางเรื่ องง่ายบางเรื่ องยาก นักเรี ยนจะต้องคิดว่าในขณะที่ฟังเป็ นภาษาไทยนักเรี ยนทำอย่างไร ดัง
นั้นในการฟังสำหรับวิชานี้ นักเรี ยนควรจะคิดถึงทั้งเนื้อหาที่ฟัง และกิจกรรมที่จะต้องทำใน Module diary ครู
ควรพูดเพิม่ เติมให้นกั เรี ยนฟังว่าเคยพบปัญหาเกี่ยวกับการฟังอย่างไรบ้าง และสามารถแก้ไขได้อย่างไร
45. สร้ างความเชื่อมั่นโดยใช้ กลยุทธ์ Lesson D จะนำเสนอกลยุทธ์ในการฟังที่สำคัญ ๆ ซึ่งจะมีในทุก
บท ครู ควรอธิบายให้นกั เรี ยนเข้าใจอย่างชัดเจน และให้บอกนักเรี ยนด้วยว่ากลยุทธ์ใด ๆ ก็ตาม มีประโยชน์ใน
การฟังทั้งนั้น กลยุทธ์ที่ใช้ในหนังสื อเล่มนี้ประกอบด้วย
– การให้คาดการณ์หรื อทำนายล่วงหน้าก่อนฟังว่าจะเป็ นเรื่ องเกี่ยวกับอะไร โดยใช้รูปภาพ หัวข้อข่าว
หรื อคำถามช่วย
– การทำให้เกิดความมัน่ ใจในตนเองก่อนให้ฟังใจความสำคัญและคำศัพท์ในชื่อเรื่ อง
– การอดทนฟังการพูดที่ไม่ชดั เจน โดยไม่ตื่นตกใจเมื่อฟังไม่รู้เรื่ อง
– การฟังเพื่อจับใจความสำคัญจะได้ความคิดเห็นอย่างกว้าง ๆ เกี่ยวกับเรื่ องที่จะฟัง
กลยุทธ์ที่สำคัญอย่างยิง่ ก็คือการอดทนฟังสิ่ งที่พดู กำกวม ครู ควรลดความตื่นตกใจของนักเรี ยนลงด้วย
การให้นกั เรี ยนคิดถึงสิ่ งที่ได้รับฟังมาเท่าที่เข้าใจ
46. ฝึ กให้ มากที่สุด นักเรี ยนจะสามารถปรับปรุ งการฟังให้ดีข้ึนได้กด็ ว้ ยการฝึ กฟังเท่านั้น นอกจากนั้น
การฟังถือว่าเป็ นเครื่ องมือสำคัญยิง่ ในการรับรู้ภาษาโดยทัว่ ไป ในหนังสื อชุดนี้ มีกิจกรรมให้ฝึกฟังมากมายและ
14

ยังมีสื่อการสอนฟังเสริ มคือแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง ซึ่งสามารถใช้สอนเชื่อมหนังสื อแบบฝึ กหัด ครู อาจจัด


กิจกรรมการฟังเสริ มด้วยการเล่าเรื่ องหรื อนิยายของครู และถ้าสามารถทำได้ ครู ควรจะให้มีการบันทึกวีดิทศั น์ไว้
ด้วย การอ่านข่าว อ่านบทพูดจากภาพยนตร์หรื อจากรายการโทรทัศน์ โทรทัศน์ผา่ นดาวเทียมและการฉายวีดิทศั น์
ถือว่าเป็ นแหล่งสำคัญในการฝึ กการฟังที่แท้จริ ง ซึ่งมีความทันสมัยและง่ายกว่าการบันทึกเสี ยงมาก
47. มุ่งที่ความสัมฤทธิ์ของงาน กิจกรรมการฟังได้จดั ทำไว้อย่างมีข้นั ตอน ทำให้นกั เรี ยนสามารถทำงาน
ได้สำเร็ จแม้จะฟังเรื่ องที่ยากก็ตาม ดังนั้นจึงไม่ท ำให้ความกระตือรื อร้นของนักเรี ยนลดลง นอกจากนี้ นกั เรี ยน
ยังจะได้เรี ยนรู้การพูดภาษาอังกฤษอย่างแท้จริ ง แม้วา่ จะไม่เข้าใจทั้งหมดก็ตาม มีการฝึ กแบบเข้มสำหรับกิจกรรม
การฟัง เพื่อให้เข้าใจลึกซึ้ งโดยการให้ฟังเรื่ องสั้น ๆ บางครั้งอาจจะให้ฟังเรื่ องที่ฟังไปแล้วเพื่อให้นกั เรี ยนได้ฟัง
เป็ นครั้งที่สอง การทำเช่นนี้กเ็ พื่อให้นกั เรี ยนเข้าใจเนื้ อหาลึกซึ้ งมากขึ้น หรื อเพื่อให้ฟังคำใดคำหนึ่งโดยเฉพาะ
กิจกรรมที่เข้มจะถูกนำมาใช้บ่อย ๆ ในบทเรี ยน Language Focus
48. ลองเล่าเรื่องหรือนิทาน ในแผนการจัดการเรี ยนรู้จะมีแนวคิดให้ครู เล่าเรื่ องมากมายเพื่อเป็ นการเสริ ม
หรื อใช้แทนการเปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง รวมถึงเป็ นการฟังที่สด ๆ ขั้นตอนการเล่าเรื่ องมีดงั นี้
1. ครู อ่านเรื่ องจากแผนการจัดการเรี ยนรู้ โดยจับใจความคร่ าว ๆ จนแน่ใจว่าเข้าใจเนื้ อเรื่ องดีแล้ว
2. ถ้าครู ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ ให้ฝึกมาก่อนที่บา้ น โดยฝึ กหน้ากระจก
3. ก่อนเล่าเรื่ อง ครู ควรให้นกั เรี ยนคาดเดาหรื อทำนายดูวา่ เป็ นเรื่ องเกี่ยวกับอะไร เมื่อแน่ใจว่านักเรี ยน
เข้าใจว่าจะฟังเรื่ องเกี่ยวกับอะไรแล้วจึงเริ่ มเล่า ถ้าเป็ นไปได้ควรจะให้นกั เรี ยนขยับเข้ามาใกล้ ๆ ครู โดยอาจจะให้
นัง่ เป็ นรู ปวงกลมเพื่อที่จะสามารถมองเห็นนักเรี ยนทุกคนได้
4. เล่าเรื่ องให้ฟังคล้าย ๆ กับการเล่าให้เพื่อนหรื อเด็ก ๆ ฟัง โดยใช้ลีลาของตนเอง และไม่ตอ้ ง
คำนึงถึงว่าจะเล่าได้แบบมืออาชีพหรื อไม่ ทุกคนสามารถเป็ นคนเล่าเรื่ องได้ดีท้ งั สิ้ น การใช้กิริยาอาการและท่าทาง
ประกอบจะทำให้นกั เรี ยนเข้าใจได้ง่ายขึ้นและสนุกสนานกว่า โดยไม่ตอ้ งกังวลว่าครู จะเล่าเรื่ องได้เรี ยงลำดับตาม
เนื้อเรื่ องหรื อไม่ ในการเล่าเรื่ องแต่ละครั้งจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปบ้าง
5. เมื่อเล่าเสร็ จ ให้ตรวจสอบกิจกรรมการฟังจากแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง
49. การประเมินผลการฟัง แม้วา่ นักเรี ยนจะรู้สึกกลัวที่จะทดสอบการฟัง ครู ตอ้ งเน้นให้นกั เรี ยนเข้าใจว่า
การทดสอบเหล่านี้จะทำให้นกั เรี ยนรับรู้ถึงความสำคัญของการฟัง และเป็ นการตรวจสอบการฟังของนักเรี ยน
ว่ามีความก้าวหน้าเพียงใด เมื่อนักเรี ยนทำกิจกรรม Module diary เสร็จแล้ว นักเรี ยนจะได้รับข้อมูลย้อนกลับ
เกี่ยวกับความก้าวหน้าและการประเมินเนื้ อเรื่ องที่นกั เรี ยนได้ฟังมา
การอ่าน
50. นักเรียนจะต้ องรู้ตัวตลอดว่ าอ่านอะไร Lesson C จะเน้นการอ่าน พัฒนากลยุทธ์ในการคาดคะเน
และการหาวิธีเรี ยนรู้ค ำศัพท์ใหม่ เช่น จากการคาดเดา การใช้พจนานุกรมและการข้ามคำศัพท์ค ำนั้นไป การรู้ตวั
เกี่ยวกับการอ่านและกลยุทธ์ในการอ่านจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปเรื่ อย ๆ ตลอดทั้งเล่ม โดยเฉพาะอย่าง
ยิง่ ใน Module diary ซึ่งนักเรี ยนจะต้องคิดย้อนกลับและประเมินสิ่ งที่ได้อ่านไปแล้ว ความจริ งแล้วเป็ นความคิด
ที่ดีที่จะประเมินเรื่ องที่อ่านไปแล้ว และควรจะประเมินในแง่ของความสนใจ ความยากง่าย และความเห็นเกี่ยว
กับวิธีเรี ยนคำศัพท์ของนักเรี ยน
51. สร้ างความสนใจก่อนการอ่าน ให้ดูกิจกรรมก่อนการอ่านในแผนการจัดการเรี ยนรู้และใน หนังสื อ
เรี ยนว่าควรทำอะไรบ้าง เพราะนักเรี ยนอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากครู ท้ งั คำศัพท์หลักและแรงบันดาลใจใน
การอ่าน กิจกรรมการคาดเดาและกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้นกั เรี ยนสนใจในชื่อเรื่ องที่ได้ออกแบบไว้ในหนังสื อนี้
แล้วแต่ยงั มีอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้นกั เรี ยนสนใจก็คือ ให้นกั เรี ยนลองตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่ องที่จะอ่านสัก 2–3 ข้อ
แล้วหาคำตอบจากเนื้ อเรื่ อง
52. ให้ นักเรียนมุ่งที่ความเข้ าใจเกีย่ วกับใจความสำคัญของเนือ้ เรื่องในกิจกรรมการอ่านอย่ างกว้ างขวาง
นักเรี ยนไม่จ ำเป็ นต้องเข้าใจความหมายของคำศัพท์ทุกคำที่อยูใ่ นเนื้ อเรื่ อง เพียงแต่หาใจความสำคัญกว้าง ๆ หรื อ
หาข้อมูลในบางจุดเท่านั้น เช่นเดียวกับกิจกรรมการฟัง การอ่านก็ได้รับการออกแบบมาอย่างเป็ นขั้นตอนและ
พิถีพิถนั เพื่อให้นกั เรี ยนสามารถเข้าใจได้ตามระดับของนักเรี ยน ด้วยการทำเช่นนี้ จะทำให้นกั เรี ยนมีความเชื่อมัน่
ในการอ่านเนื้ อเรื่ องจริ ง ๆ และสามารถเข้าใจคำศัพท์และโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่ยงั ไม่ได้เรี ยนได้ดว้ ย
15

53. ให้ ผู้เรียนนำ dictionary มา Mini-dictionary ไม่สามารถใช้ได้อย่างกว้างขวาง เพราะเป็ นเพียงการ


แนะนำการใช้ dictionary เท่านั้น จะใช้แทน dictionary ใหญ่ ๆ ไม่ได้ นักเรี ยนทุกคนจำเป็ นต้องมี dictionary
ของตนเอง (โดยเฉพาะอย่างยิง่ มีความจำเป็ นสำหรับกิจกรรมการเขียน) dictionary ปกอ่อนมีราคาที่ถูกและ
ถือได้สะดวกกว่า ครู ควรกระตุน้ ให้นกั เรี ยนนำมาใช้ในการเรี ยนด้วย
54. ไม่ จำเป็ นต้ องศึกษาคำศัพท์ ใหม่ ทุกคำ การศึกษาความหมายของคำศัพท์ใหม่ทุกคำเป็ นความเข้าใจ
ที่ผดิ เพราะในการอ่านระดับสูงแล้ว ไม่จ ำเป็ นต้องรู้ความหมายของคำศัพท์ทุกคำจึงจะเข้าใจเนื้ อเรื่ องหรื อ
แปลคำต่อคำได้ กิจกรรมคำศัพท์หลักหลังเนื้ อเรื่ องจะมุ่งเน้นไปที่ชุดคำศัพท์หรื อลักษณะสำคัญของคำศัพท์ และ
จะให้โอกาสเดาคำศัพท์จากบริ บทได้มากขึ้น
55. ให้ โอกาสนักเรียนได้ อ่านเป็ นการส่ วนตัว ในหนังสื อแบบฝึ กหัด (Activity Book) จะมีเนื้ อเรื่ อง
สั้น ๆ ให้นกั เรี ยนได้อ่านมากมาย โดยครู อาจจะมอบหมายให้ไปอ่านเอง ทั้งนี้รวมถึงคำศัพท์ในหน่วยการเรี ยนที่
4 เรื่ อง Fantasy ด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่ องที่น ำมาให้อ่านที่เตรี ยมมาอย่างรอบคอบแล้ว จะเป็ นแหล่งข้อมูลที่
ดีเยีย่ มและราคาถูกสำหรับนักเรี ยน นักเรี ยนควรจะเลือกเองว่าจะอ่านเรื่ องใด จะอ่านช้าหรื อเร็ วตามความสามารถ
ของตนเอง เมื่ออ่านจบแล้วให้เขียนบทวิจารณ์ส้ ัน ๆ เกี่ยวกับเนื้ อเรื่ อง เช่น เป็ นเรื่ องเกี่ยวกับอะไร นักเรี ยนชอบ
หรื อไม่ ทำไมจึงชอบหรื อไม่ชอบ ชอบตัวละครตัวไหนมากที่สุด ส่วนใดของเรื่ องที่ชอบที่สุด เป็ นต้น
การเขียน
56. แยกการเขียนเพือ่ การสื่ อสารออกจากการฝึ กการเขียน ทักษะการเขียนในหนังสื อ World Club นั้น
แยกอย่างเด่นชัดจากการฝึ กภาษาเขียน โดยดูได้จากหลักภาษา (Language Focus) และกิจกรรมเสริ มทักษะ
(Consolidation) ซึ่งมุ่งเน้นที่การเชื่อมประโยคและการใช้เครื่ องหมายวรรคตอน อย่างไรก็ตาม ภาระงานด้านการ
เขียนที่อยูท่ า้ ยบท (Final Writing Task) ของหน่วยการเรี ยนทุกหน่วย จะเน้นการเขียนเพื่อการสื่ อสารและการ
เขียนที่กว้างขวางกว่า และจำเป็ นต้องได้รับคำแนะนำจากครู เพิ่มเติม
57. ตั้งเกณฑ์ก่อนเริ่มต้ นเขียน ก่อนทำภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท (Final Writing Task) ครู
อาจทำได้ 2 วิธี คือ บอกให้นกั เรี ยนรู้วา่ ครู มีเกณฑ์ในการประเมินอย่างไรบ้าง หรื อครู อาจจะวางเกณฑ์ร่วมกับ
นักเรี ยนก็ได้ (เกณฑ์การประเมินมีอยูใ่ นส่ วนของ Assessment) ถือว่าเป็ นเรื่ องสำคัญยิง่ สำหรับนักเรี ยนที่จะยึด
เกณฑ์การประเมินตั้งแต่เริ่ มต้น โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อนักเรี ยนเห็นว่าความถูกต้องเป็ นสิ่ งสำคัญ ความสนใจ ความ
เกี่ยวเนื่อง การจัดรู ปแบบและการนำเสนอคือเกณฑ์สำคัญที่ครู จะต้องระลึกอยูเ่ สมอเช่นกัน
58. ให้ นักเรียนระลึกถึงกระบวนการเสมอ เมื่อนักเรี ยนเขียนเรื่ องที่ยาวขึ้น จำเป็ นต้องมีกระบวนการ
หรื อขั้นตอนที่จดั เรี ยงอย่างดี ครู ตอ้ งช่วยให้นกั เรี ยนเข้าใจว่าแต่ละขั้นตอนของกระบวนการเขียนนั้น ถ้านักเรี ยน
ปฏิบตั ิตามจะทำให้ผลงานเขียนดีข้ ึน ขั้นตอนบางขั้นตอนหรื อทั้งหมดต่อไปนี้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการ
เขียนได้ คือ คิดหาแนวคิดที่จะเขียน จดบันทึกลงไป (อาจทำเป็ นโครงร่ างของเรื่ องต่าง ๆ) วางแผนการเขียน
ย่อหน้า เริ่ มเขียนฉบับร่ าง ตรวจแก้ไขงานของตนเอง หรื อตรวจโครงร่ างของเพื่อน ๆ เขียนร่ างฉบับจริ ง นำ
ฉบับร่ างเปรี ยบเทียบกับของเพื่อน ๆ อ่านและวิจารณ์ผลงานของกันและกัน ในขณะที่นกั เรี ยนทำภาระงานด้าน
การเขียนที่อยูท่ า้ ยบท (Final Writing Task) ในชั้นเรี ยน ครู ควรจะตรวจสอบดูวา่ นักเรี ยนได้ท ำอะไรไปบ้าง
(เช่น จดบันทึก วางแผน เขียนฉบับร่ าง เป็ นต้น) แล้วจึงให้ท ำงานในลำดับขั้นต่อไป
59. ในการทำโครงงานควรให้ นักเรียนทำเป็ นคู่หรือกลุ่ม การทำเช่นนั้นนอกจากจะช่วยลดภาระ
การตรวจงานของครู แล้ว ยังเป็ นการเปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนที่เรี ยนอ่อนได้เรี ยนรู้จากคนที่เรี ยนดีกว่า และช่วยกัน
ผลิตผลงานออกมา รวมทั้งนักเรี ยนจะได้ประเมินผลความพยายามที่ใช้ในการจัดทำโครงงาน และครู เองก็จะได้รู้
ว่าการทำงานเป็ นกลุ่มโดยช่วยกันทำได้ผลดีเพียงใด
60. ให้ เวลานักเรียนทำงานในชั้นเรียน ส่วนมากครู มกั จะมอบหมายงานเขียนให้นกั เรี ยนไปทำเป็ นการบ้าน
อย่างไรก็ตาม การให้ภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท (Final Writing Task) ในชั้นเรี ยนเป็ นเรื่ องที่มีประโยชน์
มาก เพราะครู สามารถช่วยเหลือนักเรี ยนได้ถา้ นักเรี ยนมีปัญหา ข้อสำคัญครู ควรย้ำให้นกั เรี ยนทำตามลำดับขั้น
ต่าง ๆ ของการเขียน และครู คอยเดินตรวจงาน
61. ให้ ความมั่นใจแก่นักเรียนว่ ากิจกรรมหรือโครงงานได้ รับการตรวจสอบ เมื่อนักเรี ยนเขียนงานขั้น
16

สุ ดท้ายเสร็ จแล้ว ควรจะให้เพื่อน ๆ ในชั้นเรี ยนได้อ่านบ้าง แทนที่จะเป็ นเพียงงานที่เขียนเพื่อส่ งครู แล้วได้คะแนน


เท่านั้น ลำดับสุ ดท้ายของภาระงานด้านการเขียนก็บงั คับให้นกั เรี ยนทำเช่นนั้นอยูแ่ ล้ว ครู ควรเรี ยกให้นกั เรี ยนจาก
ห้องเรี ยนอื่น ๆ ที่อยูใ่ นระดับเดียวกันหรื อระดับต่ำกว่ามาอ่านงานเขียน แล้วแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงาน
ของนักเรี ยน
62. ให้ แรงจูงใจกับนักเรียนในการทำโครงงานที่อสิ ระมากขึน้ ในภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท จะมี
ข้อเสนอแนะในการทำโครงงานไว้ 3 ข้อ แต่นกั เรี ยนก็มีโอกาสอีกมากที่จะทำโครงงานที่มีความเกี่ยวข้องกับชื่อ
เรื่ องที่ให้มาและเป็ นที่สนใจของนักเรี ยน ตัวอย่างเช่น เรื่ อง Yesterday อาจจะเขียนเกี่ยวกับบุคคลมีชื่อเสี ยง
บุคคลในอดีต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทยในอดีต เรื่ อง Fantasy อาจจะเขียนเรื่ องที่แต่งขึ้นมา วาดภาพ
หรื อเขียนเรื่ องเกี่ยวกับสัตว์ประหลาด หรื อแสดงละคร เรื่ อง Space อาจจะออกแบบสถานีอวกาศ ค้นหาเรื่ อง
เกี่ยวกับการท่องอวกาศหรื อการเดินทางไปยังดาวดวงอื่น ๆ เป็ นต้น

ขั้นตอนการเขียนโครงงาน
1) อธิบายให้นกั เรี ยนทราบเกี่ยวกับตัวเลือกต่าง ๆ หรื อให้นกั เรี ยนแบ่งกลุ่มเลือกกันเองว่า จะทำ
โครงงานเกี่ยวกับเรื่ องใด (เช่น ผลิตรายการกีฬาทางโทรทัศน์ เป็ นต้น)
2) ให้นกั เรี ยนจัดทำ “แผนปฏิบตั ิการ” ที่ชดั เจนก่อนเริ่ มทำโครงงาน ซึ่งจะพูดถึงวัตถุประสงค์ของ
โครงงานอย่างชัดเจนและจะต้องมีการแบ่งงานระหว่างนักเรี ยนในกลุ่ม ถ้าโครงงานเกี่ยวกับการหาข้อมูล ควรระบุ
ให้ชดั เจนว่าจะให้ใครค้นหาเรื่ องอะไร
3) นักเรี ยนควรได้รับคำแนะนำว่านักเรี ยนจะหาข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลใด และด้วยวิธีการอย่างไร
และครู ควรจะเตือนให้น ำข้อมูลมาเฉพาะที่จ ำเป็ นเท่านั้น ถ้านักเรี ยนจะทำแผ่นป้ ายโฆษณา นิตยสารหรื อแผ่นพับ
ครู ควรหาวัสดุที่จ ำเป็ นมาให้ เช่น กระดาษ ปากกา สี กาว ไม้บรรทัด และกรรไกร ถ้านักเรี ยนจะจัดทำละครหรื อ
รายการโทรทัศน์ ควรให้เวลานักเรี ยนได้ฝึกซ้อมอย่างเพียงพอ
4) เมื่อทำโครงงานเสร็ จแล้วควรจัดแสดงผลงานที่หน้าชั้นเรี ยน สำหรับแผ่นป้ ายโฆษณาและแผ่นพับ
ควรให้นกั เรี ยนเขียนออกมาเป็ นแผ่นงาน เพื่อให้นกั เรี ยนคนอื่นทำขณะที่อ่านโครงงาน
5) ในลำดับสุ ดท้าย นักเรี ยนสามารถประเมินผลงานของตนเองและของกลุ่มอื่น ขณะที่ประเมิน
โครงงานถ้าจะให้ดีควรจะพิจารณาถึงความสนใจ การนำเสนอ และความถูกต้องทางภาษาด้วย ให้นกั เรี ยน
ประเมินการมีส่วนช่วยในโครงงาน พิจารณาเรื่ องการมีส่วนร่ วม ความพยายามและวิธีการทำงานร่ วมกับคนอื่น ๆ
ในกลุ่ม
การฝึ กนักเรียน
63. ให้ มองการฝึ กนักเรียนเป็ นการลงทุนระยะยาว การฝึ กนักเรี ยนถือว่าเป็ นเรื่ องสำคัญ สำหรับหนังสื อ
World Club จุดมุ่งหมายก็เพื่อให้นกั เรี ยนมีพฒั นาการในการสร้างแรงบันดาลใจและทักษะให้เป็ นนักเรี ยนที่มี
อิสระและคล่องแคล่วว่องไว จะต้องยอมรับว่ากระบวนการเรี ยนรู้เป็ นกระบวนการที่มีการเคลื่อนไหวอยูต่ ลอด
เวลา ดังนั้นนักเรี ยนจะต้องตัดสิ นใจและรับผิดชอบต่อตนเอง ไม่เพียงแต่คอยรับข้อมูลจากครู เพียงอย่างเดียว
เท่านั้น อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนี้จะไม่สามารถทำได้สำเร็ จในชัว่ ข้ามคืน แต่จะต้องดำเนินการฝึ กนักเรี ยนอย่างมี
ระบบต่อไปเป็ นระยะเวลาหลายเดือน จึงจะเห็นความก้าวหน้าเกี่ยวกับความสามารถของนักเรี ยนที่จะทำงานอย่าง
อิสระ
64. ให้ สร้ างพืน้ ฐานในการเรียนการสอนในช่ วงสองสั ปดาห์ แรก หน่วย Learning to Learn นั้นมุ่งที่
จะให้นกั เรี ยนมีทกั ษะพื้นฐานในการทำงานด้วยตนเองและเพื่อการสื่ อสารในชีวิตประจำวัน เมื่อเรี ยนจบหน่วย
การเรี ยนนี้ แล้ว นักเรี ยนสามารถทำสิ่ งต่อไปนี้ได้คือ
1. ใช้ภาษาอังกฤษในชั้นเรี ยนได้
2. จัดทำสมุดคำศัพท์อย่างเป็ นระเบียบ
3. รู้จกั วิธีการใช้พจนานุกรมขนาดย่อในตอนท้ายของหนังสื อเรี ยน
4. รู้จกั แนวทางของตนในการใช้หนังสื อเรี ยนและหนังสื อแบบฝึ กหัด
65. ให้ นักเรียนฝึ กใช้ dictionary เพิม่ เติม เพื่อให้นกั เรี ยนได้ฝึกใช้ Mini-dictionary พยายามให้
17

นักเรี ยนทำกิจกรรมต่อไปนี้ เช่น แบ่งผูเ้ รี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย แล้วให้เขียนคำศัพท์ใหม่จาก Mini-dictionary


ให้เป็ นประโยคบนกระดาน แล้วขีดเส้นใต้เฉพาะคำเป้ าหมายเท่านั้น ตัวอย่างเช่น The astronaut stayed in
the space station. กลุ่มใดหาความหมายพบก่อนและพูดบอกความหมายได้ถูกต้องจะได้รับ 1 คะแนน
66. ให้ เวลานักเรียนพอสมควรในการจัดระเบียบสมุดคำศัพท์ สมุดคำศัพท์เป็ นกุญแจอย่างหนึ่งในการนำ
ไป
สู่ความเป็ นอิสระ ให้ดู Teacher’s Notes Lesson C นักเรี ยนอาจจะเว้นที่วา่ งไว้ในหน้าแรกหรื อหน้าสุ ดท้าย
ของสมุดเพื่อจดคำศัพท์หรื อข้อความที่มีประโยชน์ลงไป เป็ นการทำสมุดคำศัพท์ส่วนตัวของนักเรี ยน
67. ให้ นักเรียนคำนึงถึงผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของหน่ วยการเรียน เมื่อเริ่ มต้นเรี ยนหน่วยการเรี ยนใน
แต่ละหน่วย ให้เน้นที่ผลการเรี ยนรู้ที่คาดหวังของหน่วยการเรี ยน ครู อาจให้นกั เรี ยนเลือกผลการเรี ยนรู้ที่คาดหวัง
ประมาณ 2–3 ข้อ ที่เห็นว่าสำคัญเป็ นอันดับแรก อาจเป็ นเพราะว่านักเรี ยนไม่เก่งในด้านนั้น หรื อเป็ นเพราะนัก
เรี ยนสนใจเพิม่ เติมเป็ นพิเศษก็ได้ เช่น อาจเลือกการพูดถึงกีฬาที่โปรดปรานหรื อการฟังคำวิจารณ์การกีฬาก็ได้
68. ใช้ เวลาในชั้นเรียนร่ วมกันอภิปราย Module diary ให้นกั เรี ยนได้ท ำแบบทดสอบ Test Yourself
และ Module diary แล้วร่ วมกันอภิปรายคำตอบของนักเรี ยนพร้อมกันทั้งชั้นเรี ยน หรื อจะให้ท ำเป็ นรายงานกลุ่ม
ส่ ง รวมถึงการให้นกั เรี ยนบันทึกสิ่ งที่ได้เรี ยนรู้เกี่ยวกับบทเรี ยน
หนังสื อแบบฝึ กหัด
69. ตรวจการบ้ านอย่ างเร็วที่สุด กิจกรรมต่าง ๆ ที่อยูใ่ นหนังสื อแบบฝึ กหัดอาจจะให้ท ำเป็ นการบ้านก็ได้
และควรตรวจในวันถัดไปในชั้นเรี ยน อย่างไรก็ตาม ควรจะตรวจอย่างเร็วที่สุดเพราะจะได้ไม่เสี ยเวลาในการเรี ยน
ยกเว้นแต่วา่ มีปัญหาเกิดขึ้นและจำเป็ นต้องอภิปรายเพื่อหาทางแก้ปัญหา เช่น ปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างของ
ประโยค เป็ นต้น มีวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้การตรวจเร็วขึ้นและเน้นนักเรี ยนเป็ นหลักก็คือ การเขียนคำตอบจาก
แผนการจัดการเรี ยนรู้ของครู ลงในแผ่นใส แล้วให้นกั เรี ยนตรวจคำตอบด้วยตนเอง
70. ใช้ หนังสื อแบบฝึ กหัดในการเพิม่ ความรู้ความเข้ าใจ ถ้าครู เห็นว่ามีเวลาว่างประมาณ 5 นาทีก่อนจบ
บทเรี ยน ครู อาจจะบอกให้นกั เรี ยนนำหนังสื อแบบฝึ กหัดขึ้นมาทำแบบฝึ กหัด และถ้าครู จะนำมาใช้ในตอนเริ่ มต้น
ของบทเรี ยนก็ได้หากเห็นว่ามีนกั เรี ยนมาสายหลายคน
71. ใช้ หนังสื อแบบฝึ กหัดเพือ่ ความหลากหลาย ครู อาจจะเห็นว่ามีนกั เรี ยนจำนวนหนึ่งซึ่งเรี ยนดีและ
สามารถปฏิบตั ิกิจกรรมได้เร็ วกว่าคนอื่น ๆ ครู อาจจะให้ท ำกิจกรรมเพิ่มเติมในหนังสื อแบบฝึ กหัด ในขณะที่
นักเรี ยนที่เรี ยนอ่อนยังคงปฏิบตั ิกิจกรรมอยู่ ครู อาจคัดเลือกกิจกรรมในหนังสื อแบบฝึ กหัดให้ผเู้ รี ยนทำเป็ นการ
บ้าน หรื อจะจัดหาเวลาพิเศษให้นกั เรี ยนทำงานด้วยตนเอง (ให้ดูในบทอ้างอิงแบบฝึ กหัดเพื่อการทบทวนและ
กิจกรรมเพิ่มเติมในข้อ 15 ของคำแนะนำที่อยูใ่ นแผนการจัดการเรี ยนรู้เล่มนี้ )
แผนการจัดการเรียนรู้
72. ครูสามารถเขียนความคิดเห็นของตนเองและสื่ อประกอบการสอนลงในหนังสื อเล่มนีไ้ ด้ แผนการ
จัดการเรี ยนรู้ชุดนี้ จะเป็ นแหล่งรวบรวมสื่ อเพื่อใช้ประกอบการสอนของครู ครู อาจจะเขียนบันทึกโดยย่อ งานที่
มอบหมายให้ท ำเป็ นการบ้าน และสิ่ งเตือนความจำต่าง ๆ เพื่อใช้ใน การเรี ยนการสอน
ในครั้งต่อไป Vocabulary

ฅ cities ฅ fantasy and the supernatural


ฅ adjectives ฅ films and cinema
ฅ phrasal verbs ฅ opposites
ฅ people in history and legend ฅ sports
ฅ wordbuilding ฅ adverbs of manner
ฅ sequence words ฅ sports equipment
ฅ jobs ฅ solar system
Contents Map ฅ seasons ฅ space travel
ฅ animals, their habitats and ฅ science-fiction
Characteristics ฅ horoscopes
ฅ ecology ฅ nouns
18

Reading

ฅ a tourist guide
ฅ a newspaper article
ฅ a brochure
ฅ a biography WORLD CLUB 2
ฅ a legend
ฅ extracts from history books
ฅ magazine articles
ฅ a leaflet
ฅ a letter to a newspaper Grammar
ฅ a diary
ฅ Object pronouns ฅ questions
ฅ two strange stories ฅ plans, intentions and arrangements
Supplements
ฅ a sports questionnaire ฅ the past simple (regular and irregular verbs)
ฅ a TV guide ฅ used to ฅ Assessment
ฅ comparative ฅ TaskandSheets
superlative adjectives
ฅ a student composition
Assessment
ฅ conditionlฅ (type 1) Tasks Answer Key
ฅ an extract from a science book
ฅ the past ฅsimpleAssessment
and theTapescripts
present perfect contrasted
Speaking
ฅ Oral Assessment
ฅ the past continuous
Listening ฅ Language Work-out
ฅ citiesฅ conditionl (type 2)
ฅ Language Work-out Answer Key
ฅ a radio quiz ฅ ฅ question
travelling in citiestags
ฅ Activity Book Grammar File Answer Key
ฅ people in a London tourist office ฅ ฅ predictions
famous – will, won’t, may, might
people in history
ฅ teenagers talking ฅ yourฅlifepresent simple passive
ฅ a song ฅ wildฅanimals
Test Yourself
ฅ people in history and legend ฅ ‘green’ issues
ฅ an interview ฅ magazine articles
ฅ a quiz ฅ a debate
ฅ a survey ฅ fantastic things
ฅ a radio interview ฅ films and going to the cinema
ฅ a wildlife quiz ฅ telling stories
ฅ dialogues ฅ sports
ฅ descriptions ฅ famous sports people
ฅ stories ฅ your favourite sport
ฅ TV commentaries ฅ space travel
ฅ a radio programme ฅ predictions for the future
19

Pronunciation
Writing
ฅ intonation in questions and answers
ฅ description of a city ฅ diary plans ฅ word stress
ฅ plans for the weekend ฅ story notes ฅ contractions
ฅ a tourist brochure ฅ the ending to a story ฅ the letter ‘i’
ฅ a list of teenage rights ฅ a school magazine article ฅ stress on key words
ฅ a biography ฅ predictions ฅ the letter ‘o’
ฅ descriptions of animals ฅ notes ฅ the letter ‘e’
ฅ a list of ‘green’ suggestions ฅ a horoscope ฅ intonation to express uncertainty
ฅ an ecological project ฅ the letter ‘a’
ฅ consonant clusters
20

ตารางวิเคราะห์ ความสอดคล้องของเนือ้ หาสาระกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั ช่ วงชั้น


กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่ างประเทศ หนังสื อเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาอังกฤษ WORLD CLUB 2 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5

สาระและมาตรฐาน ความสอดคล้องของเนื้ อหาสาระกับมาตรฐานการเรี ยนรู ้ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5


การเรี ยนรู ้/ ตัวชี้วดั
ช่วง ชั้น สาระที่1 สาระที่ 2 สาระที่ 3 สาระที่ 4
มฐ. ต 1.1 มฐ. ต 1.2 มฐ. ต 1.3 มฐ. ต 2.1 มฐ. ต 2.2 มฐ. ต 3.1 มฐ. ต 4.1 มฐ. ต 4.2
หน่วยการเรี ยนรู ้ 1 2 3 4 1 2 3 4 5 1 2 3 1 2 3 1 2 1 1 1 2
Learning to learn                     
Module 1 Cities                     
Module 2                     
Yesterday
Module 3 Nature                     
Module 4 Fantasy                     
Module 5 Sport                     
Module 6 Space                     
21

Learning to learn
ผังมโนทัศน์ เป้ าหมายการเรียนรู้ และขอบข่ ายภาระงาน เวลา 6 ชั่วโมง

ความรู้
Functions:
ฅRevising basic vocabulary and structures
ฅAsking the meaning of words in English
ฅAsking how to pronounce and spell words
in English
ฅRevising the present simple, present
continuous, past simple and future with
going to
Vocabulary:
ภาระงาน/ชิ้นงาน ฅ title, module, fantasy, space, nature,
1. จับคู่พดู คุย ฟังบทสนทนา และ yesterday, school, city, champion, star
ถาม-ตอบเกี่ยวกับหน่วยการเรี ยนรู้ Pronunciation:
ต่าง ๆ ที่มีในหนังสื อเรี ยน คำศัพท์ที่ ฅ Using the correct intonation in questions
เกี่ยวข้องกับชื่อหน่วยการเรี ยนรู้ ฅ Saying sentences with the appropriate
และคำศัพท์ที่เคยศึกษามาแล้ว rhythm
2. จับคู่พดู คุยเกี่ยวกับชีวิตของตนเอง
3. จับคู่สมั ภาษณ์เพื่อนโดยใช้
แบบสอบถามที่ก ำหนด
4. อ่านบทความและพูดคุยเกี่ยวกับ ทักษะ/กระบวนการ
ดารา นักแสดง หรื อนักร้องที่ 1. กระบวนการฟัง
ชื่นชอบ แล้วตอบคำถาม 2. กระบวนการพูด
5. ฟังและคาดเดาเกี่ยวกับชีวิตของ 3. กระบวนการอ่าน
บุคคลต่าง ๆ จากภาพที่ก ำหนด Learning to Learn 4. กระบวนการเขียน
6. เขียนจดหมายหาเพื่อนทางอีเมลโดย 5. กระบวนการคิด
ใช้รูปประโยคตาม Tense ที่ถูกต้อง 6. กระบวนการกลุ่ม
7. ปฏิบตั ิกิจกรรมประกอบการเรี ยนรู้ 7. การนำความรู้ไปปรับ
จากกิจกรรมที่ก ำหนด ใช้ในชีวิตประจำวัน
8. ปฏิบตั ิกิจกรรมประกอบการเรี ยนรู้ คุณธรรม จริยธรรม และค่ านิยม
จากแถบบันทึกเสี ยง/แผ่นซีดี 1. ความมีระเบียบวินยั
2. ความใฝ่ เรี ยนรู้
กรอบแนวคิดผังการออกแบบการจั ดการเรียนรู้
3. ความรับผิดชอบ
Learning to Learn
Learning to Learn
ขั้นที่ 1 ผลลัพธ์ ปลายทางที่ต้องการให้ เกิดขึน้ กับนักเรียน
ตัวชี้วดั ช่ วงชั้น
• อ่านออกเสี ยงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้องตามหลักการอ่าน
(ต 1.1 ม. 5/2)
22

• อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สมั พันธ์กบั สื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุ


และเขียนสื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ให้สมั พันธ์กบั ประโยคและข้อความที่ฟังหรื ออ่าน
(ต 1.1 ม. 5/3)
• จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุ ปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่ องที่เป็ น
สารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ (ต 1.1 ม. 5/4)
• สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่ องต่าง ๆ ใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/
เหตุการณ์ ประเด็นที่อยูใ่ นความสนใจของสังคม และสื่ อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/1)
• พูดและเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรี ยบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่ อง/
ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/4)
• พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่ องและประเด็นต่าง ๆ ที่อยูใ่ น
ความสนใจของสังคม (ต 1.3 ม. 5/1)
• พูดและเขียนสรุ ปใจความสำคัญ แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่ อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์ และ
สถานการณ์ตามความสนใจ (ต 1.3 ม. 5/2)
• เลือกใช้ภาษา น้ำเสี ยง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ตามมารยาท สังคม
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (ต 2.1 ม. 5/1)
• เข้าร่ วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม (ต 2.1 ม. 5/3)
• อธิบาย/เปรี ยบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุ ภาษิต และบท
กลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย (ต 2.2 ม. 5/1)
• ค้นคว้า/สื บค้น บันทึก สรุ ป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่น
จากแหล่งการเรี ยนรู ้ต่าง ๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน (ต 3.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จ ำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
(ต 4.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาต่างประเทศในการสื บค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุ ปความรู ้ /ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่ อและ
แหล่งการเรี ยนรู ้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ (ต 4.2 ม. 5/1)
• เผยแพร่ /ประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลข่าวสารของโรงเรี ยน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติเป็ นภาษาต่างประเทศ
(ต 4.2 ม. 5/2)

ความเข้ าใจที่คงทนของนักเรียน คำถามสำคัญที่ทำให้ เกิดความเข้ าใจที่คงทน


นักเรียนจะเข้ าใจว่ า ... - นักเรี ยนคิดว่าการดูภาพยนตร์ soundtracks มี
1. ความหมายของคำศัพท์และภาพประกอบ ช่วยให้ ประโยชน์ต่อการเรี ยนภาษาอังกฤษอย่างไรบ้าง
นักเรี ยนสามารถคาดเดาหัวข้อการอ่านและการ นักเรี ยนจะพูดให้เหตุผลเป็ นภาษาอังกฤษอย่างไร
ฟังได้ - สมมุติวา่ นักเรี ยนได้รับมอบหมายจากคุณครู ให้ไป
2. โครงสร้างประโยค Present simple, Present สัมภาษณ์ผทู ้ ี่สอบวิชาภาษาอังกฤษได้เป็ นอันดับที่ 1
continuous, Future และ Past simple ใช้บรรยาย ของโรงเรี ยน นักเรี ยนจะถามคำถามเป็ นภาษาอังกฤษ
ข้อมูลและเรื่ องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับตนเองขณะเขียน เพื่อใช้ในการสัมภาษณ์อะไรบ้าง
จดหมายหาเพื่อนทางอีเมลได้
ความรู้ ของนักเรียนที่นำไปสู่ ความเข้ าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนที่จะนำไปสู่ ความรู้ ที่
นักเรียนจะรู้ ว่า ... คงทน นักเรียนจะสามารถ...
23

1. คำศัพท์เกี่ยวกับชื่อหน่วยการเรี ยนรู ้ต่าง ๆ และคำ 1. รู ้ เข้าใจ และบอกคำศัพท์เกี่ยวกับชื่อหน่วยการเรี ยน


ศัพท์ที่เคยศึกษามาแล้ว เช่น title, module, fantasy, ต่าง ๆ ที่มีในหนังสื อเรี ยนและคำศัพท์ที่เคยศึกษามา
space, nature, yesterday, school, city, star, แล้วได้อย่างถูกต้อง
champion 2. รู ้ เข้าใจ และพูดบรรยาย ถามและตอบเกี่ยวกับความ
2. ประโยคที่ใช้ในการสอบถามและตอบเกี่ยวกับ หมายของคำศัพท์ วิธีการออกเสี ยงและ
ความหมายของคำศัพท์ วิธีการออกเสี ยงและการ การสะกดคำภาษาอังกฤษ การถามและตอบจากเรื่ อง
สะกดคำภาษาอังกฤษ การถามและตอบจากเรื่ อง การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนในบทเรี ยนได้
การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนในบทเรี ยน อย่างถูกต้อง
เช่น 3. รู ้ เข้าใจ และใช้กลวิธีการคาดเดาเรื่ องที่จะอ่านและ
What does ‘สมุดบันทึก’ mean in English? เรื่ องที่จะฟังได้อย่างถูกต้อง
In English that is notebook. 4. รู ้ เข้าใจ และเขียนประโยคบรรยายเกี่ยวกับตนเอง
How do you spell notebook? ในจดหมายอีเมลได้อย่างถูกต้อง
N-O-T-E-B-O-O-K.
Why do you think it’s important to study English?
I think it’s important for work. I want to be a
doctor.
3. กลวิธีการคาดเดาเรื่ องที่จะอ่านและเรื่ องที่จะฟัง
เช่น Look at the picture and title and guess what
the photo is about.
4. ประโยคที่ใช้เขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเองใน
จดหมายอีเมล เช่น
I am fourteen years old.
I am studying in Bangkok now.
I went to Japan last month.
ขั้นที่ 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งเป็ นหลักฐานที่แสดงว่ านักเรียนมีผลการเรียนรู้ ตามที่
กำหนดไว้ อย่ างแท้ จริง
1. ภาระงานที่นักเรียนต้ องปฏิบัติ
- ฝึ กจับคู่ชื่อหน่วยการเรี ยนรู ้ที่มีในหนังสื อเรี ยนกับภาพที่ก ำหนด
- ฝึ กตอบคำถามเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ที่ปรากฏในหนังสื อเรี ยน
- ฝึ กจับคู่ถามและตอบคำถามเกี่ยวกับหนังสื อเรี ยน
- ฝึ กคิดและจับคู่พดู บรรยายเกี่ยวกับชีวิตของตนเอง
- ฝึ กพูดสัมภาษณ์เพื่อนโดยใช้แบบสอบถามที่ก ำหนด
- ฝึ กฟังบทสนทนาเกี่ยวกับการออกเสี ยงและการสะกดคำศัพท์ และตอบคำถาม
- ฝึ กสะกดคำศัพท์เป็ นคู่โดยใช้ค ำถามในบทสนทนาประกอบ
- ฝึ กถาม-ตอบเกี่ยวกับดารา นักแสดง หรื อนักร้องที่เพื่อนชื่นชอบ
- ฝึ กอ่านบทความอย่างเร็ วตามขั้นตอนที่ก ำหนด เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ Juliette Binoche
- ฝึ กอ่านข้อความอีกครั้งและตอบคำถามที่ก ำหนด
- ฝึ กจัดทำสมุดคำศัพท์โดยเรี ยงลำดับคำตามตัวอักษร
- ฝึ กคาดเดาเรื่ องที่ฟังจากภาพ และตรวจการคาดเดาของตนเองจากการฟังแถบบันทึกเสี ยง/
24

แผ่นซีดี
- ฝึ กฟังบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับ Maureen และ Winston แล้วเติมข้อมูลลงในตารางให้ถูกต้อง
- ฝึ กจับคู่พดู คุยเกี่ยวกับชีวิตของเพื่อน แล้วเติมข้อมูลลงในตารางให้ถูกต้อง
- ฝึ กจดคำศัพท์ใหม่ลงในสมุดคำศัพท์ที่ตนเองได้จดั ทำไว้
- ฝึ กอ่านจดหมายอีเมล และค้นหาข้อมูลที่ก ำหนด
- ฝึ กอ่านจดหมายอีเมลที่ก ำหนดให้และแก้ไขข้อผิดพลาดที่เห็นให้ถูกต้อง
- ฝึ กศึกษาการใช้รูปประโยคต่าง ๆ ค้นหาตัวอย่างรู ปประโยคต่าง ๆ ที่ถูกต้องในจดหมายอีเมล
และตอบคำถาม
- ฝึ กเขียนจดหมายอีเมลเกี่ยวกับตนเองถึง Tjeerd
- ฝึ กอ่านจดหมายอีเมลเป็ นกลุ่ม และทายว่าจดหมายอีเมลฉบับที่อ่านขณะนั้นเป็ นของผูใ้ ด
- ฝึ กทำแบบฝึ กหัดเพิ่มเติมใน World Club Activity Book 2 : Learning to learn

2. วิธีการและเครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู ้


2.1 วิธีการประเมินผลการเรี ยนรู ้ 2.2 เครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู ้
1) การทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน 1) แบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน
2) การทดสอบทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน 2) แบบประเมินผลทักษะด้านการฟัง พูด
และเขียน อ่าน และเขียน
3) การประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น 3) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคล หรื อเป็ นกลุ่ม รายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม
4) การวัดและประเมินผลด้านคุณธรรม 4) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรี ยน
จริ ยธรรม และค่านิยม 5) แบบทดสอบประจำหน่วย
5) การวัดและประเมินผลด้านความรู ้โดย 6) แบบประเมินผลตนเองของนักเรี ยน
ใช้แบบทดสอบ
6) การประเมินผลตนเองของนักเรี ยน

3. สิ่งที่ม่ ุงประเมิน
3.1 ความเข้าใจ 6 ด้าน ได้แก่ การอธิบาย การชี้แจง การแปลความและตีความ การประยุกต์ใช้
ดัดแปลง และนำไปใช้ การมีมุมมองที่หลากหลาย การให้ความสำคัญในความรู ้สึกของผูอ้ ื่น และ
การรู ้จกั ตนเอง
3.2 สมรรถนะสำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการสื่ อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทกั ษะชีวิต และ
การใช้เทคโนโลยี
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริ ย์ ซื่อสัตย์สุจริ ต มีวินยั ใฝ่ ความรู ้ อยูอ่ ย่าง
พอเพียง มุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเป็ นไทย มีจิตสาธารณะ
25

ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 1 Learning to Learn เวลา 6 ชัว่ โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 1
สาระการเรียนรู้ ภาษาต่ างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5
Learning to Learn เวลา 6 ชั่วโมง

จุดประสงค์การ
 พูดคุย ฟังบทสนทนา และถาม-ตอบเกี่ยวกับหน่วยการเรี ยนรู้ต่าง ๆ ที่มีในหนังสื อเรี ยน คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ
ชื่อหน่วยการเรี ยนรู้ และคำศัพท์ที่เคยศึกษามาแล้วได้ (K, P)
 พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตของตนเองได้ (K, P)
 สัมภาษณ์เพื่อนโดยใช้แบบสอบถามที่ก ำหนดได้ (K, P)
 อ่านบทความและพูดคุยเกี่ยวกับดารา นักแสดง หรื อนักร้องที่ชื่นชอบ แล้วตอบคำถามได้ (K, P)
 ฟังและคาดเดาเกี่ยวกับชีวิตของบุคคลต่าง ๆ จากภาพที่ก ำหนดได้ (K, P)
 เขียนจดหมายหาเพื่อนทางอีเมลโดยใช้รูปประโยคตาม Tense ที่ถูกต้องได้ (K, P)
 ปฏิบตั ิกิจกรรมทางภาษาได้ (K, A, P)

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) และค่ านิยม (A) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)

 ประเมินการพูดคุย ฟังบท  ประเมินพฤติกรรมในการทำงาน  ประเมินพฤติกรรมในการทำงาน


สนทนา และถาม-ตอบเกี่ยวกับ เป็ นรายบุคคลในด้านความมีวินยั เป็ นรายบุคคลและเป็ นกลุ่มในด้าน
หน่วยการเรี ยนรู้ต่าง ๆ ที่มีใน ความใฝ่ เรี ยนรู้ ฯลฯ การสื่ อสาร การคิด การแก้ปัญหา
หนังสื อเรี ยน คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ  มีเจตคติที่ดีต่อการเรี ยนภาษา ฯลฯ
ชื่อหน่วยการเรี ยนรู้ และคำศัพท์ที่ อังกฤษ
26

เคยศึกษามาแล้ว
 ประเมินการพูดคุยเกี่ยวกับชีวิต
ของตนเอง
 ประเมินการสัมภาษณ์เพื่อนโดย
ใช้แบบสอบถามที่ก ำหนด
 อ่านบทความและพูดคุยเกี่ยวกับ
ดารา นักแสดง หรื อนักร้องที่ชื่น
ชอบ แล้วตอบคำถาม
 ประเมินการฟังและคาดเดาเกี่ยว
กับชีวิตของบุคคลต่าง ๆ จากภาพที่
กำหนด
 ประเมินการเขียนจดหมายหา
เพื่อนทางอีเมลโดยใช้รูปประโยค
ตาม Tense ที่ถูกต้อง
 ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคล เป็ นคู่ หรื อเป็ นกลุ่ม

เนือ้ หาทางภาษา
Functions: Revising basic vocabulary and structures; Asking the meaning of words in English;
Asking how to pronounce and spell words in English; Revising the present simple,
present continuous, past simple and future with going to
Vocabulary: title, module, fantasy, space, nature, yesterday, school, city, champion, star
Pronunciation: Using the correct intonation in questions; Saying sentences with the appropriate rhythm

สื่ อการเรียนรู้
หนังสื อเรี ยน World Club Students' Book 2
แบบฝึ กหัด World Club Activity Book 2
แผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง

แนวทางการบูรณาการ
ภาษาไทย  บอกความหมายของคำศัพท์และประโยค
สังคมศึกษา  เรี ยนรู้วฒั นธรรมการหาเพื่อนทางจดหมายอีเมล

คุณธรรม จริยธรรม และค่ านิยม


1. ความมีระเบียบวินยั
2. ความใฝ่ เรี ยนรู้
3. ความรับผิดชอบ
กิจกรรมการเรียนรู้ ครั้งที่ 1
A: Starting Off
27

กิจกรรมที่ 1: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ครู อธิบายความหมายของคำว่า title และ module จนนักเรี ยนเข้าใจ แล้วบอกให้นกั เรี ยนอ่านชื่อเรื่ อง
ของหน่วยการเรี ยนในหนังสื อเรี ยนหน้า 4 Exercise a และจับคู่กบั รู ปภาพ
- ครู เฉลยคำตอบและอธิบายคำศัพท์ใหม่จนนักเรี ยนเข้าใจ

เฉลย: Students’ Book ข้ อ a หน้ า 4


1 Sport 2 Fantasy 3 Cities 4 Space 5 Nature 6 Yesterday

กิจกรรม
ที่ 2: Reading
- ให้นกั เรี ยนแต่ละคู่อ่านคำถามใน Exercise b ในหนังสื อเรี ยนหน้า 4 แล้วอ่านจับใจความสำคัญ
- ครู ตรวจคำตอบด้วยการตอบปากเปล่าพร้อมกันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ b หน้ า 4


1 Six
2 Six (+ Lead-in + Module Check)
3 Language Check, Keyword Check and the Module diary
4 On page 68
5 It’s on questions
6 Juliette Binoche
กิจกรรมที่ 3: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนตั้งคำถามเกี่ยวกับหนังสื อ
เรี ยนมา 3 ข้อ
- ให้นกั เรี ยนจับคู่ผลัดกันถามและตอบคำถาม แล้วตรวจคำตอบจากหนังสื อเรี ยน
- ครู สุ่มให้นกั เรี ยนเป็ นรายบุคคลเป็ นผูถ้ ามคำถามกับนักเรี ยนทั้งชั้น (ครู อาจจัดให้เป็ นเกมก็ได้)
กิจกรรมที่ 4: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนพูดประโยคเกี่ยวกับชีวิตของตนเองคนละ 5 ประโยค โดยกำหนดให้ 4 ประโยคเป็ นจริ ง แต่ 1
ประโยคเป็ นเท็จ แล้วให้เพื่อนทายว่าประโยคใดเป็ นเท็จ

เฉลย: Activity Book (Lesson A) หน้ า 2


A open
B open
C 1 p. 7 2 p. 8 3 p. 10 4 p. 8 5 p. 9 6 p. 15 7 p. 15

กิจกรรมการเรียนรู้ ครั้งที่ 2
B: Speaking
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนอ่านแบบสอบถามในหนังสื อเรี ยนหน้า 5 เป็ นรายบุคคล
- ให้นกั เรี ยนพิจารณาแบบสอบถามแล้วลองตอบเป็ นตัวอย่างดู ครู อธิบายคำศัพท์ให้เข้าใจชัดเจน
- ครู แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ ให้สมั ภาษณ์เพื่อนคู่หูพร้อมกับจดบันทึกไว้
- ให้นกั เรี ยนอภิปรายความหมายของตัวเลือกโดยอาจใช้ภาษาไทยได้
กิจกรรมที่ 2: Listening (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ครู บอกนักเรี ยนว่า ครู จะเปิ ดแผ่นซีดีให้ฟังคำตอบทั้ง 8 ข้อ ให้นกั เรี ยนลองเดาว่าครู ควรจะถามว่าอย่างไร
28

- ครู เปิ ดแผ่นซีดีค ำตอบข้อ 1 ให้นกั เรี ยนฟัง แล้วยกตัวอย่างคำถาม คือ How do you spell
“dictionary”?
- ครู เปิ ดแผ่นซีดีอีก 1-2 ครั้งโดยหยุดชัว่ ขณะทุกคำตอบ เพื่อให้เวลานักเรี ยนเขียนคำถาม
- ครู เปิ ดแผ่นซีดีอีกครั้งพร้อมกับให้นกั เรี ยนตรวจสอบคำถาม

เฉลย:
TAPESCRIPT Students’ Book ข้ อ b หน้ า 5
1ListenHowtodoa you spellreplying
teacher dictionary? 5 HowWhat
to eight questions from students. do you
do pronounce cupboard?
you think the questions
2were?WhatWrite
is a pen
themfriend?
down. 6 What is a star?
3TEACHER:
What does1(word in Thai) mean in English?
D-I-C-T-I-O-N-A-R-Y. 7 How do you pronounce dictionary?
4NARRATOR:
How do you How spell do
notebook?
you spell dictionary? 2 Pen friend?8 Well
Howa do
penyou spell somebody
friend’s language? who you
writeletters to. Often people write to other people in different countries. Writing to a pen friend can be
good to practice your English. 3 In English that is… ‘notebook’. 4 N-O-T-E-B-O-O-K again N-O-T-
E-B-O-O-K. 5 Cupboard…not cup board but cupboard…repeat after me…cupboard. 6 Star? A star is
a famous actor or actress… or singer. Can you think of any stars from Hollywood? 7 Dictionary…
again…dictionary…repeat after me… dictionary. 8 L-A-N-G-U-A-G-E…yes U-A not U-E …
again… L-A-N-G-U-A-G-E.

กิจกรรมที่ 3: Speaking (กิจกรรมคู่)


- ครู แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ และอ่านตัวอย่างคำถามใน Exercise b พร้อมกับนักเรี ยนทั้งชั้น แล้วลองทำ
เป็ นตัวอย่างเพิม่ อีก 1 ข้อ
- ให้นกั เรี ยนดูที่ค ำศัพท์ในกรอบ Exercise c ในหนังสื อเรี ยนหน้า 5 แล้วถามคำถามให้เพื่อนตอบ
กิจกรรมที่ 4: Keywords (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำศัพท์และข้อความที่อยูใ่ นกรอบ Exercise d ในหนังสื อเรี ยนหน้า 5 แล้วทบทวนการใช้
sometimes และ often
- ครู ถามนักเรี ยนว่า นักเรี ยนเห็นหรื อได้ยนิ ภาษาอังกฤษจากที่ไหนบ้าง
- ให้นกั เรี ยนยืนขึ้นแล้วบอกเพื่อน ๆ ทั้งชั้น ครู กระตุน้ ให้นกั เรี ยนคนอื่น ๆ แสดงความเห็นว่าเห็นด้วย
หรื อไม่ โดยพูดว่า That’s right. หรื อ Me too.
Vocabulary Quiz
- ให้นกั เรี ยนคิดหาคำศัพท์ 20 คำจากที่เคยเรี ยนมาเมื่อปี ก่อน
29

- ให้นกั เรี ยนจับคู่กบั เพื่อน แล้วใช้ค ำถามจากกิจกรรมข้อ c ทดสอบคำศัพท์กนั และกัน

TAPESCRIPT
Activity Book, Learning to learn B, exercise E.
Listen to Aisha talking about her English and answer the questions in your book.
INTERVIEWER: Hello, Aisha. Can I ask you a couple of questions about your English?
AISHA: Yes, of course.
INTERVIEWER: Why do you think it’s important to study … to study English?
AISHA: Well … I think it’s important for work. You know I want to be a doctor.
INTERVIEWER: Mmm. And so when did you begin studying English?
AISHA: Oooh … I started studying English when I was at primary school. I was about eight or nine
… I suppose about three years ago.
INTERVIEWER: And do you … when you are in class … do you always speak English?
AISHA: Well, not always! But I usually speak English.
INTERVIEWER: And what about your vocabulary book – do you write all the new words in it?
AISHA: Er, all the words? No … not really. I only write down words that I think are important I
mean, that I think are important for me to learn. I don’t write down words I think aren’t very
important.
INTERVIEWER: And outside the class? How do you practise your English outside the class? I
mean, do
you read books or listen to songs or anything like that?
AISHA: Well, I listen to songs … I really like listening to pop songs in English. I think listening is
very important too.

เฉลย: Activity Book (Lesson B) หน้ า 3


A 2 mean 3 What 4 pronounce 5 How
B 2 What does this word mean? 3 How do you spell scissors?
4 What does this word mean in English?
C 1 language 2 pen friend 3 interview 4 different
5 homework 6 cupboard 7 speaking 8 foreign
D open
E (tapescript on page 20)
1 for work 4 no, only important words
2 when she was 8 or 9 / 3 years ago 5 she listens to songs
3 yes, usually 6 yes, she is enthusiastic

กิจกรรมการเรียนรู้ ครั้งที่ 3
30

Lesson C: Reading
Topic Focus
เนื้อเรื่ องเกี่ยวกับนักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศสชื่อ Juliette Binoche บทเรี ยนนี้ เป็ นการแนะนำในเรื่ องของการ
อ่านและการรวบรวมคำศัพท์ใหม่ ๆ นักเรี ยนจะต้องใช้กระบวนการอ่านที่หลากหลายเพื่อช่วยในการ
แบ่งแยกข้อความที่น่าเชื่อถือและข้อความที่แสดงความคิดเห็น และบทเรี ยนนี้ ยงั จะแสดงให้นกั เรี ยนเห็นด้วย
ว่าการจัดสมุดคำศัพท์ที่ดีควรทำอย่างไร
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมคู่)
- อธิบายความหมายของคำว่า Star (ดารา) ให้ชดั เจน ถามนักเรี ยนว่ารู้จกั ดาราคนใดบ้าง ให้บอก 2-3 ชื่อ
- นักเรี ยนเขียนชื่อดาราภาพยนตร์ที่นกั เรี ยนโปรดปรานลงไป นอกจากนั้นก็ให้เขียนดาราทางด้านกีฬาและ
นักร้องลงไปด้วย แล้วให้ตรวจสอบจากของเพื่อน ๆ โดยให้ใช้ค ำถามว่า “Who is your favorite…?”
กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพในหนังสื อเรี ยนหน้า 6 แล้วลองเดาดูวา่ เนื้ อหาจะเกี่ยวกับอะไร และได้มาจากไหน
(จากนิตยสารหรื อหนังสื อ)
- ให้นกั เรี ยนเขียนสิ่ งที่นกั เรี ยนทราบเกี่ยวกับหัวข้อ
กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- นักเรี ยนจำนวนมากอาจจะยังไม่เคยพัฒนาการอ่านจากการอ่านแบบกว้างเป็ นแบบเข้มข้น ครู ควรเน้นให้
นักเรี ยนเข้าใจถึงความสำคัญของการพัฒนาด้านนี้ มากกว่าการแปลคำต่อคำ
- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้ อเรื่ องในหนังสื อเรี ยนหน้า 6 อย่างเร็ ว แล้วให้หาข้อมูลเกี่ยวกับ Juliette Binoche
- ให้อ่านข้อมูลที่คาดว่าจะค้นพบออกมาดัง ๆ และอธิบายความหมายของคำว่า role (บทบาท) ด้วยถ้าจำเป็ น
ครู ท ำความเข้าใจกับนักเรี ยนว่า การอ่านเพื่อจับใจความแบบองค์รวมสำคัญกว่าการเข้าใจความหมายของ
คำศัพท์ทุกคำ
กิจกรรมที่ 4: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านข้อความในเนื้ อเรื่ องเป็ นครั้งที่ 2 เพื่อเจาะลึกเนื้ อหาให้มากขึ้น ครู ตอ้ งให้เวลานักเรี ยนมาก
พอที่จะหาคำตอบจากเนื้ อเรื่ อง แล้วจึงตรวจสอบพร้อมกันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ d หน้ า 6


1 At school.
2 In English films. Because her English wasn’t very good.
กิจกรรมที่ 5: Learning to learn
- ครู อา่ นคำชี้แจงใน Exercise e พร้อม ๆ กับนักเรี ยน
- ให้อ่านเนื้ อเรื่ องอีกครั้งแล้วเขียนคำศัพท์ลงไปตามคำสัง่
- ครู เขียนหัวเรื่ องต่อไปนี้ลงบนกระดาน คือ
Looked up Guessed Ignored
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำศัพท์ออกมาดัง ๆ แล้วให้เขียนลงไปใต้หวั เรื่ องที่เห็นว่าเหมาะสม แล้วร่ วมกันอภิปราย
ทั้งชั้นว่าทำไมจึงเลือกหัวเรื่ องนั้น โดยอาจพูดเป็ นภาษาไทย แล้วช่วยกันสรุ ปอีกครั้งว่าคำไหนควรจะอยู่
ใต้หวั ข้ออะไร
กิจกรรมที่ 6: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- นักเรี ยนจำเป็ นต้องใช้สมุดคำศัพท์ประกอบการเรี ยนในกิจกรรมนี้
- บอกนักเรี ยนว่าควรจะแบ่งสมุดออกเรี ยงตามลำดับตัวอักษร โดยแต่ละตัวอักษรใช้ 2 หน้า ยกเว้น อักษร K,
Q, U, V, X, Y, Z ซึ่งใช้หน้าเดียวก็พอ และในตอนท้ายของสมุด ควรจะว่างไว้เพื่อลงคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ
ชื่อเรื่ องนั้น ๆ
- ให้นกั เรี ยนเขียนคำศัพท์ใหม่ที่สำคัญจากบทเรี ยนนี้ โดยให้ระบุเรื่ องต่อไปนี้ดว้ ย คือประเภทของคำ เช่น
n./v./adj. เป็ นต้น คำจำกัดความหรื อคำแปล และตัวอย่างประโยค
31

- ครู บอกให้นกั เรี ยนทราบว่า ครู จะให้คะแนนสมุดคำศัพท์เป็ นระยะ ๆ โดยอาจจะวางเกณฑ์การให้คะแนน


เกี่ยวกับเรื่ องต่อไปนี้ คือ 1. การจัดรู ปแบบ 2. ความชัดเจนของตัวอย่าง 3. ความถูกต้องเกี่ยวกับการใช้
หลักไวยากรณ์และการสะกดคำ
4. เฉลย: Activity Book (Lesson C) หน้ า 4
D Hobbies:
เฉลย: ballet (Lesson
Activity Book / paintingC)/ tennis
หน้ า 4films
A Animals: 1 c bird2/ owla / cat3 / blion / dog / ant
B role: n. successful: adj. model: n. career: n. boarding school: n.

C 1 S 2B 3 I 4 R 5 D 6 F
7 A 8E 9 P 10 A 11 I 12 N
13 T 14 I 15 N 16 G 17 M 18 L
19 E 20 O 21 W 22 L 23 T 24 O
25 A 26 L 27 C 28 A 29 T 30 M
31 A 32 D 33 T 34 E 35 N 36 N
37 I 38 S 39 B 40 E 41 S 42 T
43 E 44 P 45 L 46 I 47 O 48 N

ความถูกต้องในการแปล

กิจกรรมการเรียนรู้ ครั้งที่ 4
D: Listening
หมายเหตุ: การฟังเป็ นปัญหาสำหรับนักเรี ยนจำนวนมาก และมักจะทำให้เกิดความเครี ยดและผิดหวังอย่าง
รุ นแรง ครู ควรจะให้ก ำลังใจว่า อย่างน้อยนักเรี ยนก็พอจะเข้าใจอยูบ่ า้ ง ให้พยายามต่อไป อย่าท้อถอยหรื อยอม
แพ้ (ดูค ำแนะนำในบทนำประกอบ)
กิจกรรมที่ 1: Learning to learn (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั แล้วเปิ ดหนังสื อเรี ยนหน้า 7 อ่านคำสัง่ ดัง ๆ ครู อ่านข้อความข้อที่ 1 ให้ฟังเป็ นตัวอย่าง
- ให้เวลานักเรี ยนแต่ละคู่อ่านข้อความและพิจารณาว่าเห็นด้วยกับข้อความนั้นหรื อไม่
- ให้นกั เรี ยนอภิปรายคำตอบพร้อมกันทั้งชั้นเรี ยน
กิจกรรมที่ 2: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนลองทายดูวา่ Maureen และ Winston อายุเท่าไหร่ และมาจากไหน
- ให้นกั เรี ยนดูตารางใน Exercise c ทางขวามือ เพื่อจะดูวา่ Maureen และ Winston จะพูดเรื่ องอะไร
32

- ครู เปิ ดแผ่นซีดี 1-2 ครั้ง เพื่อให้นกั เรี ยนตรวจสอบว่า การคาดเดาของนักเรี ยนถูกต้องหรื อไม่

TAPESCRIPT WINSTON: Fourteen. I was fourteen last week.


INTERVIEWER: Whatit time do you usually
Copy the table, listen again and complete for Maureen andgetWinston.
up?
WINSTON: About half past six, ‘cos we start school early.
Interview 1 INTERVIEWER: And when do you finish school?
INTERVIEWER: Maureen, can I ask you a couple of questions?
WINSTON: At two o’clock.
MAUREEN: Sure. INTERVIEWER: And what do you usually do after school?
INTERVIEWER: Where’re you from? Well, I do my homework. And then in the evenings I play cricket. I really love cricket!
WINSTON:
MAUREEN: Ireland…TheINTERVIEWER:
west. From a placeAnd
called
whatLimerick.
about the weekends?
INTERVIEWER: And how old are you?
WINSTON: Well, I often go to the beach with the family. I like swimming. And I play cricket on the
MAUREEN: Thirteen. Nearly fourteen.
beach!
INTERVIEWER: And at INTERVIEWER:
what time do you usually
Thanksgetvery
up?much, Winston.
MAUREEN: When I’ve gotWINSTON:
school… atThat’s
7 o’clock.
OK. Horrible, isn’t it?
INTERVIEWER: And when do you finish school?
MAUREEN: At half past three.
INTERVIEWER: And what do you usually do after school?
MAUREEN: After school? Well … I do my homework and I often read books.
INTERVIEWER: And at the weekends? What do you like doing then?
MAUREEN: Playing tennis. I really love tennis. And going to the cinema.
INTERVIEWER: OK. Thank you very much, Maureen.
MAUREEN: Not at all.
Interview 2
INTERVIEWER: Could I ask you some questions, Winston?
WINSTON: Go ahead!
INTERVIEWER: Where’re you from?
WINSTON: Jamaica…from Kingston…that’s the capital.
INTERVIEWER: And how old are you?
WINSTON: Fourteen. I was fourteen last week.
INTERVIEWER: What time do you usually get up?
WINSTON: About half past six, ‘cos we start school early.
INTERVIEWER: And when do you finish school?
WINSTON: At two o’clock.
INTERVIEWER: And what do you usually do after school?
WINSTON:
กิจกรรมที่ 3: Well, I do my
Listening (กิจhomework.
กรรมรายบุคAnd
คล)then in the evenings I play cricket. I really love cricket!
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกตารางในหนังสื อเรี ยนหน้า 7 ลงในสมุดพร้อมกับเติมข้อมูลให้สมบูรณ์
- ครู เปิ ดแผ่นซีดีให้นกั เรี ยนฟังโดยอาจจะเปิ ดมากกว่า 1 ครั้ง
- ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น
เฉลย: Students’ Book ข้ อ c หน้ า 7
Maureen gets up at 7’clock; finishes school at 3.30; at weekends plays tennis and goes to the cinema.
Winston finishes school at 2.00; after school does his homework and plays cricket.
กิจกรรมที่ 4: Speaking (กิจกรรมคู่)
- แบ่งนักเรี ยนเป็ นคู่ ๆ แล้วให้ถามและตอบคำถามเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวันของเพื่อน เช่น What
33

time do you get up? ครู สงั เกตการทำกิจกรรมของนักเรี ยน


- ให้นกั เรี ยน 2 - 3 คน ออกมารายงานข้อมูลให้เพื่อน ๆ ทั้งชั้นฟัง
กิจกรรมที่ 5: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเขียนคำศัพท์ใหม่ที่สำคัญในบทเรี ยนนี้ ลงในสมุดคำศัพท์
TAPESCRIPT
Activity Book, Learning to learn D, exercise C.
Listen to Aisha talking about her English. What mark does she give herself for these areas?
INTERVIEWER: Aisha – can you look at these areas? Can you give yourself a mark out of ten for each
area? You know … five is OK, four is not very good, three or two is terrible – and six or seven are good,
and eight or nine excellent.
AISHA: That’s difficult! Well … my writing is terrible – so for writing that’s a three! And my grammar
isn’t very good – so maybe a four.
INTERVIEWER: What about speaking?
AISHA: I think a seven. I like speaking. And a six for listening.
INTERVIEWER: What about speaking?
AISHA: I think a seven. I like speaking. And a six for listening.
INTERVIEWER: And reading?
AISHA: Oh, not very good … well I suppose OK – a five.
INTERVIEWER: And pronunciation?
AISHA: Pronunciation … I think it’s all right – a six. And for vocabulary – a seven. I’ve got quite a
good memory.
INTERVIEWER: Thank you very much, Aisha.
AISHA: Not at all.

เฉลย: Activity Book (Lesson D) หน้ า 5


A open
B open
C (tapescript on page 20)
Speaking 7
Listening 6
Reading 5
Writing 3
Pronunciation 6
Vocabulary 7
Grammar 4
D open
34

กิจกรรมการเรียนรู้ ครั้งที่ 5
E: Writing
กิจกรรมที่ 1: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูจดหมายในหนังสื อเรี ยนหน้า 8 ครู บอกนักเรี ยนว่า จดหมายฉบับนี้ เป็ นจดหมายหามิตรทาง
จดหมาย และอธิบายความหมายของคำว่า pen friend (pen pal) หมายถึง เพื่อนทางจดหมาย (เป็ นบุคคลที่
เราเขียนจดหมายไปหาโดยมากมักจะอยูก่ นั คนละประเทศ และไม่เคยพบกันมาก่อน เขียนจดหมายคุยกัน
เป็ นงานอดิเรก บางคนต้องการฝึ กภาษาและต้องการรู้จกั กับเพื่อนต่างชาติ) ครู ตอ้ งแน่ใจว่านักเรี ยนเข้าใจ
คำศัพท์และคำพูดที่อยูใ่ นกรอบดีแล้ว
- ให้นกั เรี ยนอ่านจดหมายอย่างเร็ ว เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับ Tjeerd
- ให้นกั เรี ยนแต่ละคนออกมารายงานข้อมูลให้เพื่อน ๆ ฟัง
เฉลย: Students’ Book ข้ อ a หน้ า 8
age, family, holiday plans, hobbies

กิจกรรมที่ 2: Learning to Learn (กิจกรรมรายบุคคล)


- ครู ให้นกั เรี ยนดูความผิดของตัวอย่างในจดหมาย แล้วให้นกั เรี ยนหาที่ผดิ พลาดอีก 5 แห่งด้วยตัวเอง
- ครู แก้ไขข้อผิดพลาดให้เห็นชัดเจนพร้อมกับนักเรี ยนทั้งชั้น แล้วให้นกั เรี ยน 1 คนออกมาเขียนประโยคที่
ถูกต้องบนกระดาน

เฉลย: Students’ Book ข้ อ b หน้ า 8


2 started 3 is not living
4 want 5 I am going to/I’m going to

กิจกรรมที่ 3: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านจดหมายอีกครั้ง และให้หาตัวอย่างเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ tenses ที่เขียนไว้ในกิจกรรมเพิ่มเติม
- ให้นกั เรี ยนบอกว่า tense ใดนักเรี ยนมีปัญหามากที่สุด ให้บอกว่าเป็ นเพราะเหตุใด โดยพูดเป็ นภาษาไทย
แล้วให้เรี ยงลำดับความยากของ tense ต่าง ๆ ดู แล้วถามเพื่อน ๆ ดูวา่ เห็นด้วยหรื อไม่ (การทำเช่นนี้จะทำ
ให้ง่ายขึ้นสำหรับครู ในการเตรี ยมการสอนซ่อมเสริ มเกี่ยวกับการใช้ค ำกริ ยาได้ง่ายขึ้น)
กิจกรรมที่ 4: Writing (กิจกรรมรายบุคคล) A
- ให้นกั เรี ยนใช้ค ำศัพท์ต่าง ๆ ของ Exercise a ในหนังสื อเรี ยนหน้า 8 เขียนบันทึกโดยย่อเกี่ยวกับตนเอง
- ให้ตรวจสอบข้อผิดพลาดในบันทึกที่เขียน แล้วเขียนฉบับจริ งโดยไม่ตอ้ งใส่ ชื่อลงไป
กิจกรรมที่ 5: Speaking
- แบ่งนักเรี ยนกลุ่มละ 4-5 คน
- ให้นกั เรี ยนนำข้อความที่เขียนแล้วมาสลับกันแล้วแจกทุกคน
- ให้แต่ละคนอ่านข้อความที่ได้มาดัง ๆ ทีละคน แล้วให้ลองทายดูวา่ ใครเป็ นผูเ้ ขียน
กิจกรรมเพิม่ เติม
Personal information survey: Speaking
- ให้นกั เรี ยนคิดหาคำถาม 3 ข้อ ที่จะถามเพื่อน ๆ เกี่ยวกับชีวิต ครอบครัว งานอดิเรก ความใฝ่ ฝัน เป็ นต้น
เขียนประโยคคำถามทั้ง 3 ข้อ บนกระดาน
- ให้นกั เรี ยนเดินรอบห้องเพื่อหาคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้โดยครู ก ำหนดเวลาให้
- เมื่อทำกิจกรรมเสร็ จแล้ว ให้สรุ ปคำตอบออกมา โดยให้เพื่อน ๆ ช่วยกันแก้ไข แล้วเขียนลงบนกระดาน
ตัวอย่างเช่น Ten people like rock music. Four people want to become doctors. เป็ นต้น
35

เฉลย: Activity Book (Lesson E) หน้ า 6


A 2 I have got a brother and a sister …
3 My parents are…or My father is …
4 My mother works in …
5 I want to study …
6 My favorite hobby is …
B 2d 3b 4a
C open
D open
E open

บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้

1. ความสำเร็จในการจัดการเรียนรู ้
_______________________________________________
แนวทางการพัฒนา
________________________________________________________
2. ปั ญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู ้
____________________________________________
แนวทางแก ้ไข
__________________________________________________________
_
3. สงิ่ ทีไ่ ม่ได ้ปฏิบต
ั ต
ิ ามแผน
___________________________________________________
เหตุผล
__________________________________________________________
_____
4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู ้
_____________________________________________

ลงชอื่ __________________ ครูผู ้สอน


_________/ _________/ _________
Module 1 Cities
36

ผังมโนทัศน์ เป้ าหมายการเรียนรู้ และขอบข่ ายภาระงาน เวลา 12 ชั่วโมง

ความรู้
Reading:
ภาระงาน/ชิ้นงาน ฅ a tourist guides
1. ดูภาพและพูดคุยเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสี ย ฅ a newspaper article
ของเมืองใหญ่ ฅ a brochure
2. เขียนคำศัพท์ค ำใหม่ลงในสมุดคำศัพท์
3. Listening:
ฟังเกมทายปัญหาจากแถบบันทึกเสี ยง/แผ่น ฅ a radio quiz
ซีดี เลือกตอบว่าประโยคที่ก ำหนดให้ถูกหรื อ ฅ people in a London tourist office
ผิด และเขียนคำถามลงในช่องว่าง ฅ teenagers talking; a song
4. พูดถึงเมืองใหญ่ที่อยากไปเที่ยวให้เพื่อน ๆ Speaking:
ฟัง ฅ cities
5. อ่านโบรชัวร์แนะนำสถานที่ต่าง ๆ แล้ว ฅ travelling in cities
ตอบคำถาม Writing:
6. อ่านคำบรรยายเกี่ยวกับเมืองใหญ่ เลือก ฅ description of a city
เมืองใหญ่ 1 เมืองในประเทศของคุณ และ
ฅ plans for the weekend
เขียนบรรยายเมืองนั้นตามตัวอย่างคำบรรยาย
ฅ a tourist brochure
ที่อ่าน
7. อ่านข้อความจากสื่ อสิ่ งพิมพ์ต่าง ๆ แล้ว Grammar:
ตอบคำถาม ฅ Questions
8. ถาม-ตอบเกี่ยวกับการเดินทางไปโรงเรี ยน ฅ Plans, intentions and arrangements
ของเพื่อนเป็ นกลุ่มและพูดรายงานหน้า Vocabulary:
ชั้นเรี ยน ฅ cities
9. แสดงบทบาทสมมุติตามสถานการณ์ที่ ฅ adjectives
กำหนด ฅ Phrasal verbs
10. เขียนรายการกิจกรรมต่าง ๆ ที่วยั รุ่ นใน Pronunciation:
ละแวกบ้านทำพร้อมทั้งบอกชื่อ สถานที่ เวลา ฅ intonation in questions and answers
และวิธีการเดินทางไปยังสถานที่ที่ใช้ในการ ฅ Word stress
ทำกิจกรรมนั้น ๆ
11. เขียนประโยคแสดงกิจกรรมที่จะทำใน
วันหยุดสุ ดสัปดาห์หน้า 5 ประโยค
12. เขียนความตั้งใจที่จะทำบางสิ่ งบางอย่าง
ในปี การศึกษาหน้า 5 อย่าง
ทักษะ/กระบวนการ
13. อ่านโบชัวร์ท่องเที่ยวที่ก ำหนดและเขียน 1. กระบวนการฟัง
โบรชัวร์ท่องเที่ยวเมืองใหญ่ที่นกั เรี ยนรู ้จกั Cities 2. กระบวนการพูด
14. อ่านแบบสอบถามและผลัดกันพูด 3. กระบวนการอ่าน
ถาม-ตอบ 4. กระบวนการเขียน
15. ฟังการออกเสี ยงเน้นคำ (stress) ของคำ คุณธรรม จริยธรรม และค่ านิยม 5. กระบวนการคิด
คุณศัพท์ที่ก ำหนด ทำเครื่ องหมายแสดง
พยางค์ที่เน้นเสี ยง และพูดออกเสี ยง 1. ความมีระเบียบวินยั 6. กระบวนการกลุ่ม
กรอบแนวคิดผัง2.
การออกแบบการจั
ความใฝ่ เรี ยนรู้ ดการเรียนรู้ 7. การนำความรู้ไปปรับ
3. ความรั1บCities
ผิดชอบ ใช้ในชีวิตประจำวัน
Module
ขั้นที่ 1 ผลลัพธ์ ปลายทางที่ต้องการให้ เกิดขึน้ กับนักเรียน
ตัวชี้วดั ช่ วงชั้น
• อ่านออกเสี ยงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้องตามหลักการอ่าน
(ต 1.1 ม. 5/2) Learning to Learn
• อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สมั พันธ์กบั สื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุ
37

และเขียนสื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ให้สมั พันธ์กบั ประโยคและข้อความที่ฟังหรื ออ่าน (ต 1.1 ม. 5/3)
• จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุ ปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่ องที่เป็ น
สารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ (ต 1.1 ม. 5/4)
• สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่ องต่าง ๆ ใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์
ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยูใ่ นความสนใจของสังคม และสื่ อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/1)
• พูดและเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรี ยบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เรื่ อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/4)
• พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่ องและประเด็นต่าง ๆ ที่อยูใ่ น
ความสนใจของสังคม (ต 1.3 ม. 5/1)
• พูดและเขียนสรุ ปใจความสำคัญ แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่ อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์ และ
สถานการณ์ตามความสนใจ (ต 1.3 ม. 5/2)
• เลือกใช้ภาษา น้ำเสี ยง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ตามมารยาท สังคม
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (ต 2.1 ม. 5/1)
• เข้าร่ วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม (ต 2.1 ม. 5/3)
• อธิบาย/เปรี ยบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุ ภาษิต และ
บทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย (ต 2.2 ม. 5/1)
• ค้นคว้า/สื บค้น บันทึก สรุ ป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่น
จากแหล่งการเรี ยนรู ้ต่าง ๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน (ต 3.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จ ำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
(ต 4.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาต่างประเทศในการสื บค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุ ปความรู ้ /ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่ อและ
แหล่งการเรี ยนรู ้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ (ต 4.2 ม. 5/1)
• เผยแพร่ /ประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลข่าวสารของโรงเรี ยน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติเป็ นภาษาต่างประเทศ
(ต 4.2 ม. 5/2)

ความเข้ าใจที่คงทนของนักเรียน คำถามสำคัญที่ทำให้ เกิดความเข้ าใจที่คงทน


นักเรียนจะเข้ าใจว่ า... - สมมุติเพื่อนชาวต่างชาติของนักเรี ยนต้องการให้
1. คำกริ ยา infinitive ใช้เขียนบันทึกแผนการหรื อสิ่ ง นักเรี ยนพาไปเที่ยวชมสถานที่ที่น่าสนใจในกรุ งเทพฯ
ที่จะทำลงในสมุดบันทึกประจำวัน เช่น Monday: สัก 1 แห่ง นักเรี ยนคิดว่าจะไปที่ใดและจะพูดแนะนำ
visit uncle Paul เกี่ยวกับสถานที่แห่งนั้นเป็ นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
2. โครงสร้างประโยค Future simple tense รู ป be - นักเรี ยนต้องการบอกเพื่อนชาวต่างชาติวา่ การจราจร
going to ใช้เมื่อต้องการแสดงถึงสิ่ งที่ต้ งั ใจหรื อ ในกรุ งเทพฯ ติดขัดมาก รถไฟฟ้ าหรื อรถไฟใต้ดิน
แผนการล่วงหน้าที่จะทำในอนาคต เช่น I’m going สะดวกและรวดเร็ วกว่า แต่ค่าโดยสารแพง จะพูดเป็ น
to clean my room. It is in a terrible mess. ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
3. โครงสร้างประโยค Present continuous tense ใช้ - นักเรี ยนต้องการบอกเพื่อน ๆ ว่า เช้าวันเสาร์น้ ี
พูดถึงสิ่ งที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอัน นักเรี ยนจะต้องไปเรี ยนว่ายน้ำและจะไปทานข้าวมื้อ
ใกล้ เช่น Tonight I’m meeting Paul at 8 o’ clock. เที่ยงนอกบ้านกับคุณพ่อคุณแม่ จะพูดเป็ นภาษา
อังกฤษว่าอย่างไร
- How do you get to school? ใช้ท ำนองเสี ยงท้าย
38

ประโยคคำถามนี้วา่ อย่างไร
- Does Bangkok have a pollution problem? ใช้ท ำนอง
เสี ยงท้ายประโยคคำถามนี้วา่ อย่างไร
- คำว่า dangerous ลงน้ำหนักในคำว่าอย่างไร
- คำว่า exciting ลงน้ำหนักในคำว่าอย่างไร
ความรู้ ของนักเรียนที่นำไปสู่ ความเข้ าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนที่จะนำไปสู่ ความรู้ ที่
นักเรียนจะรู้ ว่า ... คงทน นักเรียนจะสามารถ ...
1. คำศัพท์หรื อคำพูดที่เกี่ยวข้องกับเมืองใหญ่ ได้แก่ 1. รู ้ เข้าใจ และบอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเมืองใหญ่
สถานที่ เช่น shop, park, restaurant, cinema, ได้แก่ สถานที่ พาหนะในการเดินทาง สิ่ งทัว่ ไป
museum, airport, cathedral, square พาหนะใน กิจกรรมยามว่าง คำพูดที่ใช้ร้องขอข้อมูลต่าง ๆ คำ
การเดินทาง เช่น bus, car, taxi, bicycle, train, plane, คุณศัพท์ และคำตรงข้ามได้อย่างถูกต้อง
underground สิ่ งทัว่ ไป เช่น traffic jam, pollution, 2. รู ้ เข้าใจ และพูดบรรยาย/ถาม-ตอบแสดง
crime, litter, building, mountain, sea ความคิดเห็นเกี่ยวกับเมืองต่าง ๆ ที่สำคัญหรื อมีชื่อ
กิจกรรมยามว่าง เช่น dancing, shopping, eating เสี ยง แผนการหรื อความตั้งใจที่จะทำในอนาคต การ
out, going to the cinema คำพูดที่ใช้ร้องขอข้อมูล พูดร้องขออย่างสุ ภาพได้อย่างถูกต้อง
ต่าง ๆ เช่น Excuse me?, Can you give me 3. รู ้ เข้าใจ และแต่งประโยคคำถามแบบ แบบ Yes/No
information about…, please?, What about…? คำ questions และแบบ Wh-questions ได้อย่างถูกต้อง
คุณศัพท์ เช่น impressive, fascinating, romantic, 4. รู ้ เข้าใจ และใช้ค ำกริ ยา Infinitive เขียนโน้ตบันทึก
wonderful, delicious, expensive คำตรงข้าม เช่น แผนการหรื อสิ่ งที่จะทำลงในสมุดบันทึกประจำวันได้
dangerous-safe, dirty-clean, noisy-quiet, อย่างถูกต้อง
ancient-modern 5. รู ้ เข้าใจ และใช้ Future simple tense รู ป be going
2. ประโยคที่ใช้พดู บรรยาย/ถามและตอบเกี่ยวกับ to เพื่อแสดงถึงสิ่ งที่ต้ งั ใจหรื อแผนการล่วงหน้าที่จะทำ
เมืองต่าง ๆ ที่สำคัญหรื อมีชื่อเสี ยง แผนการหรื อ ในอนาคตได้อย่างถูกต้อง
ความตั้งใจที่จะทำในอนาคต การร้องขอ เช่น 6. รู ้ เข้าใจ และใช้ Present continuous tense แสดงสิ่ ง
I’d like to visit New York. ที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้ได้
How long does it take you to get to school? อย่างถูกต้อง
I’m going to clean my room. 7. รู ้ เข้าใจ และใช้ท ำนองเสี ยงสูงท้ายประโยคคำถาม
I’m meeting Paul at 9.00. แบบ Yes/No questions และการร้องขอที่สุภาพ และ
Tuesday: meet Jan Wednesday: science test ใช้ท ำนองเสี ยงต่ำท้ายประโยคคำถามแบบ
Excuse me? Wh-questions ได้อย่างถูกต้อง
I’m sorry, just a moment, please. 8. รู ้ เข้าใจ และลงน้ำหนักคำคุณศัพท์ที่มีหลายพยางค์
3. การแต่งประโยคคำถามแบบ Yes/No questions ได้อย่างถูกต้อง
และแบบ Wh-questions ที่ถูกต้อง เช่น
Do you like big cities?
No, I don’t.
What is the capital of Germany?
Berlin.
4. การใช้ค ำกริ ยา Infinitive เขียนโน้ตบันทึก
แผนการหรื อสิ่ งที่จะทำลงในสมุดบันทึกประจำวัน
39

เช่น Tuesday: meet Jan


Wednesday: do science test
5. การใช้ Future simple tense รู ป be going to เพื่อ
แสดงถึงสิ่ งที่ต้ งั ใจหรื แผนการล่วงหน้าที่จะทำใน
อนาคต เช่น
I am going to study a lot this term.
He is going to save money for a new stereo.
6. การใช้ Present continuous tense แสดงถึงสิ่ งที่จะ
ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้ เช่น
I’m meeting Paul outside the cinema.
My sister is flying to England next week.
7. การใช้ท ำนองเสี ยงสูงท้ายประโยคคำถามแบบ
Yes/No questions และการร้องขอที่สุภาพ และใช้
ทำนองเสี ยงต่ำท้ายประโยคคำถามแบบ
Wh-questions เช่น
A: Excuse me?
B: I’m sorry, just a moment, please.
8. การลงน้ำหนักคำคุณศัพท์ที่มีหลายพยางค์ (ดู
ตัวอย่างจาก Consolidation: Pronunciation)
ขั้นที่ 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งเป็ นหลักฐานที่แสดงว่ านักเรียนมีผลการเรียนรู้ ตามที่
กำหนดไว้ อย่ างแท้ จริง
1. ภาระงานที่นักเรียนต้ องปฏิบัติ
- ฝึ กใช้พจนานุกรมค้นหาคำจัดความของคำศัพท์ที่ก ำหนด และดูวา่ คำศัพท์ใดมีความหมายเชิง
บวกหรื อเชิงลบต่อเมืองใหญ่
- ฝึ กจับคู่ดูภาพและพูดคุยเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสี ยของเมืองใหญ่
- ฝึ กเขียนคำศัพท์ค ำใหม่ลงในสมุดคำศัพท์
- ฝึ กจับคู่ภาพประกอบกับชื่อเมืองใหญ่ที่ก ำหนดให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กจับคู่ค ำศัพท์กบั คำจำกัดความที่ก ำหนดให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กฟังเกมทายปั ญหาจากแถบบันทึกเสี ยง/แผ่นซีดี และเลือกตอบว่าประโยคที่ก ำหนดให้ใน
แบบฝึ กหัดนั้นถูกหรื อผิด
- ฝึ กฟังเกมทายปั ญหาจากแถบบันทึกเสี ยง/แผ่นซีดีอีกครั้ง และลอกเลียนแบบคำถามเติมลงใน
ช่องว่างให้ถูกต้อง
- ฝึ กเขียนประโยคคำถามและเลือกจับคู่กบั ประโยคคำตอบให้ถูกต้อง
- ฝึ กฟังคำถาม 4 ข้อแรกในแบบฝึ กหัด D แล้วตอบคำถามให้ถูกต้อง
- ฝึ กตั้งคำถามและถามคำถามเป็ นคู่ โดยใช้ตวั แนะประกอบการถาม
- ฝึ กพูดชื่อเมืองที่ข้ ึนต้นด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวเดียวกันเป็ นกลุ่ม
- ฝึ กพูดเกี่ยวกับเมืองที่อยากไปเที่ยวให้เพื่อน ๆ ฟัง
- ฝึ กอ่านโบรชัวร์แนะนำสถานที่ต่าง ๆ และเลือกตอบว่าประโยคที่ก ำหนดให้ในแบบฝึ กหัดนั้น
ถูกหรื อผิด
40

- ฝึ กอ่านโบรชัวร์แนะนำสถานที่ต่าง ๆ อีกครั้งและเติมคำคุณศัพท์ลงในตารางให้ถูกต้อง
- ฝึ กใช้พจนานุกรมฉบับย่อท้ายเล่มของหนังสื อเรี ยนค้นหาคำจำกัดความของคำศัพท์ใหม่ เขียน
ลงในสมุดคำศัพท์ และตอบคำถามที่ก ำหนด
- ฝึ กอ่านประโยคเกี่ยวกับเมืองใหญ่และตอบว่า ประโยคนั้นมีความหมายบวก ลบ หรื อเป็ นกลาง
- ฝึ กอ่านคำบรรยายเกี่ยวกับเมืองใหญ่ เลือกเมืองใหญ่ 1 เมืองในประเทศของคุณ และเขียน
บรรยายเมืองนั้นตามคำบรรยายที่อ่าน
- ฝึ กอ่านคำบรรยายที่ตนเองเขียนให้เพื่อน ๆ ฟังและทายว่าเป็ นคำบรรยายของเมืองใหญ่เมืองใด
- ฝึ กตอบคำถามเกี่ยวกับสิ่ งพิมพ์ต่าง ๆ
- ฝึ กอ่านข้อความ ตอบคำถาม และจับคู่ขอ้ ความกับภาพให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กอ่านข้อความอีกครั้งและเติมคำลงในตารางให้ถูกต้อง
- ฝึ กพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับการเดินทางไปโรงเรี ยนของเพื่อนเป็ นกลุ่มและออกมาพูดรายงานหน้า
ชั้นเรี ยน
- ฝึ กเติมบทสนทนาเกี่ยวกับสำนักงานบริ การนักท่องเที่ยวประจำกรุ งลอนดอนให้ถูกต้องและฟัง
แถบบันทึกเสี ยง/แผ่นซีดีเพื่อตรวจคำตอบ
- ฝึ กพูดออกเสี ยงการขึ้นลงเสี ยงสู ง-ต่ำในประโยคตามแถบบันทึกเสี ยง/แผ่นซีดีที่ได้ฟัง
- ฝึ กแสดงบทบาทสมมุติตามสถานการณ์ที่ก ำหนด
- ฝึ กจับคู่ภาพประกอบกับคำศัพท์เกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ให้ถูกต้อง
- ฝึ กจับคู่เขียนรายการกิจกรรมต่าง ๆ ที่วยั รุ่ นในละแวกบ้านของนักเรี ยนทำพร้อมทั้งบอกชื่อ
สถานที่ เวลา และวิธีการเดินทางไปยังสถานที่ที่ใช้ในการทำกิจกรรมนั้น ๆ
- ฝึ กฟัง Kath และ Tim พูดเกี่ยวกับแผนการที่จะทำในวันหยุดสุ ดสัปดาห์และเติมคำลงในตาราง
บันทึกประจำวันให้ถูกต้อง
- ฝึ กจับคู่กฎไวยากรณ์กบั ตัวอย่างประโยคให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กเขียนประโยคแสดงกิจกรรมที่นกั เรี ยนจะทำในวันหยุดสุ ดสัปดาห์หน้า 5 ประโยค
- ฝึ กเขียนบันทึกประจำวันเกี่ยวกับกิจกรรมที่ท ำในวันหยุดสุ ดสัปดาห์น้ี โดยเขียนกิจกรรมผิดไว้
1 กิจกรรม
- ฝึ กพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับกิจกรรมที่ท ำในวันหยุดสุ ดสัปดาห์น้ี เป็ นคู่และค้นหากิจกรรมที่ผดิ
- ฝึ กใช้พจนานุกรมฉบับย่อท้ายเล่มของหนังสื อเรี ยนค้นหาการเน้นเสี ยงหนักของคำคุณศัพท์ที่
กำหนด
- ฝึ กอ่านคำแนะนำการฟังแถบบันทึกเสี ยงในชั้นเรี ยน
- ฝึ กดูภาพ ฟังการสนทนาระหว่าง Larry และ Jane และตอบคำถาม
- ฝึ กฟังการสนทนาระหว่าง Larry และ Jane อีกครั้งและเติมคำลงในตารางให้ถูกต้อง
- ฝึ กอ่านแบบสอบถามที่ก ำหนดและพูดถาม-ตอบแบบสอบถาม เพื่อค้นหาว่าคู่ของตนเป็ นคน
ชอบเมืองใหญ่หรื อชอบชนบท
- ฝึ กอ่านโบรชัวร์ท่องเที่ยวที่ก ำหนด ค้นหาว่าคำศัพท์เกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ปรากฏอยูใ่ นส่ วนใดของ
โบรชัวร์ และเขียนโบรชัวร์ท่องเที่ยวเมืองใหญ่ที่นกั เรี ยนรู ้จกั
- ฝึ กฟังเพลงและตอบว่าเมืองใดบ้างที่ถูกกล่าวถึงในบทเพลง
- ฝึ กพูดถาม-ตอบคำถามเป็ นกลุ่ม
- ฝึ กเรี ยงลำดับคำที่ก ำหนดให้เป็ นประโยคคำถามที่ถูกต้อง
- ฝึ กตั้งคำถามให้เหมาะสมกับคำตอบที่ก ำหนด
41

- ฝึ กเขียนความตั้งใจที่จะทำบางสิ่ งบางอย่างในปี การศึกษาหน้า 5 อย่าง


- ฝึ กเขียนบันทึกประจำวันย่อให้เป็ นประโยคที่สมบูรณ์
- ฝึ กดูโครงสร้างทางภาษาและเขียนสรุ ปหลักไวยากรณ์ลงในสมุด
- ฝึ กใช้พจนานุกรมฉบับย่อท้ายเล่มของหนังสื อเรี ยนค้นหาคำจำกัดความของคำศัพท์ที่ก ำหนด
เขียนลงในสมุดคำศัพท์ แล้วตอบคำถาม
- ฝึ กเติมคำกริ ยาที่ก ำหนดลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
- ฝึ กเล่นเกมความจำเป็ นกลุ่ม
- ฝึ กฟังการออกเสี ยงเน้นคำ (stress) ของคำคุณศัพท์ที่ก ำหนด ทำเครื่ องหมายแสดงพยางค์ที่เน้น
เสี ยง และพูดออกเสี ยงคำคุณศัพท์ในประโยคเป็ นคู่
- ฝึ กทำแบบฝึ กหัดเพิ่มเติมใน World Club Activity Book 2: Module 1 Cities
2. วิธีการและเครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้
2.1 วิธีการประเมินผลการเรี ยนรู ้ 2.2 เครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู ้
1) การทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน 1) แบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน
2) การทดสอบทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน 2) แบบประเมินผลทักษะด้านการฟัง พูด
และเขียน อ่าน และเขียน
3) การประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ นรายบุคคล 3) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น
หรื อเป็ นกลุ่ม รายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม
4) การวัดและประเมินผลด้านคุณธรรม 4) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรี ยน
จริ ยธรรม และค่านิยม 5) แบบทดสอบประจำหน่วย
5) การวัดและประเมินผลด้านความรู ้โดยใช้ 6) แบบประเมินผลตนเองของนักเรี ยน
แบบทดสอบ
6) การประเมินผลตนเองของนักเรี ยน

3. สิ่งที่ม่ ุงประเมิน
3.1 ความเข้าใจ 6 ด้าน ได้แก่ การอธิบาย การชี้แจง การแปลความและตีความ การประยุกต์ใช้ ดัดแปลง และ
นำไปใช้ การมีมุมมองที่หลากหลาย การให้ความสำคัญในความรู ้สึกของผูอ้ ื่น และการรู ้จกั ตนเอง
3.2 สมรรถนะสำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการสื่ อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทกั ษะชีวิต และ
การใช้เทคโนโลยี
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริ ย์ ซื่อสัตย์สุจริ ต มีวินยั ใฝ่ ความรู ้ อยูอ่ ย่างพอเพียง
มุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเป็ นไทย มีจิตสาธารณะ
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
42

แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 2 Lead-in เวลา 2 ชัว่ โมง


แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 3 City Quiz เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 4 Great Cities เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 5 Getting Around เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 6 Going out เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 7 Fluency เวลา 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 8 Consolidation เวลา 1 ชัว่ โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 2-8


สาระการเรียนรู้ ภาษาต่ างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5
Module 1 Cities เวลา 12 ชั่วโมง

จุดประสงค์การ
 ฟัง พูด อ่าน และเขียนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเมืองใหญ่ ได้แก่ สถานที่ พาหนะในการเดินทาง สิ่ งทัว่ ไป
กิจกรรมยามว่าง คำพูดที่ใช้ร้องขอข้อมูลต่าง ๆ คำคุณศัพท์ และคำตรงข้ามได้ (K, P)
 พูดบรรยาย/ถาม-ตอบแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเมืองต่าง ๆ ที่สำคัญหรื อมีชื่อเสี ยง แผนการหรื อความ
ตั้งใจที่จะทำในอนาคต การพูดร้องขออย่างสุ ภาพได้ (K, A, P)
 แต่งประโยคคำถามแบบ Yes/No questions และแบบ Wh-questions ได้(K, P)
 ใช้ค ำกริ ยา Infinitive เขียนบันทึกแผนการหรื อสิ่ งที่จะทำลงในสมุดบันทึกประจำวันได้ (K, A, P)
 ใช้ Future simple tense รู ป be going to แสดงถึงสิ่ งที่ต้ งั ใจหรื อแผนการล่วงหน้าที่จะทำในอนาคตได้
(K, A, P)
 ใช้ Present continuous tense แสดงสิ่ งที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้ได้ (K, A, P)
 ใช้ท ำนองเสี ยงสู งท้ายประโยคคำถามแบบ Yes/No questions และการร้องขอที่สุภาพ และใช้ท ำนอง
เสี ยงต่ำท้ายประโยคคำถามแบบ Wh-questions ได้ (K, P)
 ลงน้ำหนักคำคุณศัพท์ที่มีหลายพยางค์ได้ (K, P)
 แสดงบทบาทสมมุติและปฏิบตั ิกิจกรรมทางภาษาได้ (K, A, P)

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) และค่ านิยม (A) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)

 ประเมินการฟัง พูด อ่าน และ  ประเมินพฤติกรรมในการทำงาน  ประเมินพฤติกรรมในการทำงาน


เขียนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเมือง เป็ นรายบุคคลในด้านความมีวินยั เป็ นรายบุคคลและเป็ นกลุ่มในด้าน
ใหญ่ ได้แก่ สถานที่ พาหนะในการ ความใฝ่ เรี ยนรู้ ฯลฯ การสื่ อสาร การคิด การแก้ปัญหา
เดินทาง สิ่ งทัว่ ไป กิจกรรมยามว่าง  มีเจตคติที่ดีต่อการเรี ยนภาษา ฯลฯ
คำพูดที่ใช้ร้องขอข้อมูลต่าง ๆ คำ อังกฤษ
คุณศัพท์ และคำตรงข้าม
43

 ประเมินการพูดบรรยาย/
ถาม-ตอบแสดงความคิดเห็นเกี่ยว
กับเมืองต่าง ๆ ที่สำคัญหรื อมีชื่อ
เสี ยง แผนการหรื อความตั้งใจที่จะ
ทำในอนาคต การพูดร้องขออย่าง
สุ ภาพ
 ประเมินการแต่งประโยคคำถาม
แบบ Yes/No questions และแบบ
Wh-questions
 ประเมินการใช้ค ำกริ ยา Infinitive
เขียนบันทึกแผนการหรื อสิ่ งที่จะทำ
ลงในสมุดบันทึกประจำวัน
 ประเมินการใช้ Future simple
tense รู ป be going to แสดงถึงสิ่ งที่
ตั้งใจหรื แผนการล่วงหน้าที่จะทำใน
อนาคต
 ประเมินการใช้ Present
continuous tense แสดงสิ่ งที่จะต้อง
เกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอัน
ใกล้
 ประเมินการใช้ท ำนองเสี ยงสูง
ท้ายประโยคคำถามแบบ Yes/No
questions และการร้องขอที่สุภาพ
และใช้ท ำนองเสี ยงต่ำท้ายประโยค
คำถามแบบ Wh-questions
 ประเมินการ ลงน้ำหนักคำ
คุณศัพท์ที่มีหลายพยางค์
 ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคล เป็ นคู่ หรื อเป็ นกลุ่ม

เนือ้ หาทางภาษา
Reading: a tourist guides; a newspaper article; a brochure
Listening: a radio quiz; people in a London tourist office; teenagers talking; a song
Speaking: cities; travelling in cities
Writing: description of a city; plans for the weekend; a tourist brochure
Grammar: Questions; Plans, intentions and arrangements
Vocabulary: cities; adjectives; Phrasal verbs
Pronunciation: intonation in questions and answers; Word stress
สื่ อการเรียนรู้
หนังสื อเรี ยน World Club Students' Book 2
44

แบบฝึ กหัด World Club Activity Book 2: Module 1 cities


แผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง

แนวทางการบูรณาการ
ภาษาไทย  บอกความหมายของคำศัพท์และประโยค
ศิลปะ  แสดงบทบาทสมมุติ
สังคมศึกษาฯ  เรี ยนรู้ความแตกต่างทางสังคม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวทัว่ โลก

คุณธรรม จริยธรรม และค่ านิยม


1. ความมีระเบียบวินยั
2. ความใฝ่ เรี ยนรู้
3. ความรับผิดชอบ

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 2
Lead-in
Module Objectives
ครู อ่านและอธิบายวัตถุประสงค์ของหน่วยการเรี ยนให้นกั เรี ยนฟังจนเข้าใจว่าในงานสุ ดท้ายจะต้องมีการเตรี
ยมการล่วงหน้า จดรายชื่อวัสดุที่นกั เรี ยนจะต้องเริ่ มต้นสะสม เช่นไปรษณี ยบัตร แผ่นพับเก่า ๆ แผนที่และ
แผนงาน เป็ นต้น
กิจกรรมที่ 1: Learning to learn/Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนคิดหาชื่อเมืองที่มีชื่อเสี ยงในประเทศไทยและทัว่ โลก แล้วเขียนลงบนกระดาน
บอกลักษณะเด่นของเมืองใหญ่ ๆ ทัว่ โลก
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกคำศัพท์หลักในกรอบหนังสื อเรี ยนหน้า 9 เป็ นภาษาไทยลงในสมุด
แบบฝึ กหัด แล้วให้เขียนสัญลักษณ์ (+) หรื อ (-) ข้างหลังคำเพื่อแสดงว่ามีลกั ษณะในเชิงบวก
หรื อลบ โดยค้นหาคำศัพท์ได้จาก Mini-dictionary หน้า 101-110
- ครู ให้นกั เรี ยนอ่านออกเสี ยงคำศัพท์คนละคำ โดยให้ชูนิ้วหัวแม่มือขึ้นถ้ามีความหมายเชิง
บวกและคว่ำลงถ้าเป็ นเชิงลบ
กิจกรรมที่ 2: Speaking (กิจกรรมคู่)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ แล้วให้นกั เรี ยนดูรูปภาพทั้ง 3 รู ป ในหนังสื อเรี ยนหน้า 9
สักครู่ หนึ่ง
- ผลัดกันบรรยายข้อดีและข้อเสี ยของเมืองใหญ่ โดยใช้ค ำศัพท์และข้อความที่เพิ่งเรี ยนไป
กิจกรรมที่ 3: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเขียนคำศัพท์และข้อความใหม่ ๆ ลงในสมุดคำศัพท์

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 3
Lesson 1: City Quiz
กิจกรรมที่ 1: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู สอนการออกเสี ยงที่ถูกต้องสำหรับชื่อเมืองต่าง ๆ
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพในหนังสื อเรี ยนหน้า 10 แล้วจับคู่ภาพกับชื่อเมือง

เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 10


1 Venice /ven ก s/ 4 Seville /s ซ v ก l/
2 Istanbul /ก st ขืnb จ l/ 5 San Francisco /s ขืn
fr ขืns ก sk ซจ/
3 Rio de Janeiro/ri ซจ d ก d ฐขืni r ซจ/
45

กิจกรรมที่ 2: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนใช้ Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101-110 เพื่อค้นหาคำศัพท์ที่นกั เรี ยนไม่
รู้ความหมาย
- ให้จบั คู่ค ำศัพท์กบั ความหมาย โดยครู เฉลยพร้อมกันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 10


1 square 2 air pollution 3 continent
4 underground 5 island 6 bridge
กิจกรรมที่ 3: Listening (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ครู อ่านข้อความทีละข้อ และบอกให้นกั เรี ยนยกมือขึ้น ถ้านักเรี ยนเห็นว่าประโยคนั้นเป็ นจริ ง
- ครู เปิ ดแผ่นซีดีให้นกั เรี ยนฟัง เพื่อให้นกั เรี ยนตรวจคำตอบ

BOY:TAPESCRIPT
San Francisco, definitely.
PRESENTER:
Listen to theYes,
quizSanandFrancisco,
decide ifofthe course. Next. What
information is thebook
in your capital of Brazil?
is true Is it Rio do Janeiro, São
or false.
Paulo,PRESENTER:
or Brasilia? And now a round on ‘Cities’ for your team. A general question first. Do most people
GIRL: Weworld
in the knowlive
this inone. Brasilia.
cities?
PRESENTER:
GIRL: Yes,Yes, rightso.again, Brasilia, though both Rio and São Paulo are bigger. Next question. Which
I think
city isPRESENTER:
in two continents?
No, Mexico
I’m sorry,City?theyIstanbul?
don’t. AtOrtheTangier?
moment about 48% of the world’s population live in
BOY:cities.
Tangier?
Next question. Does Mexico City have an air pollution problem?
PRESENTER:
BOY: Yes, No,I’m I’m
suresorry,
it does.it’s Istanbul. Part of it is in Europe and the other part is in Asia. And finally
the last question. When
PRESENTER: Yes,wasit does,
the ‘Expo’ worldmodern
like most fair incities.
Seville? Wasquestion.
Next it 1990?How1992?many
or 1994?
islands are there in
GIRL: Er, we’re pretty sure it was in 1992.
Venice? Twenty? Fifty? Or over one hundred?
PRESENTER:
GIRL: SoundsYes,ridiculous,
1992. So that but,takes
over your team onto 22 points. Now…
one hundred?
PRESENTER: Yes, absolutely. There are, in fact, 118 islands in Venice. Next
question. Where is the Golden Gate Bridge? New York? San Francisco? Or Los Angeles?
Language Focus: Questions

กิจกรรมที่ 4: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)


- ก่อนให้ท ำแบบฝึ กหัด ครู ทบทวนเรื่ องการเรี ยงลำดับคำในประโยคคำถาม โดยทำพร้อมกัน
ทั้งชั้น
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำถามในกรอบ แล้วแต่งประโยคคำถามที่สมบูรณ์ลงในสมุด
กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมรายบุคคล/กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำบอกใบ้ แล้วเขียนเป็ นประโยคคำถาม
- เตือนความจำของนักเรี ยนว่า ถ้าคำตอบเริ่ มต้นว่า yes หรื อ no แสดงว่าไม่ใช่ค ำถามประเภทที่
ขึ้นต้นด้วย wh-
- ตรวจคำตอบบนกระดานพร้อมกันทั้งชั้น
เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 11
2 Where is… ? – e 6 Which city has got …? – a
3 Does…? – f 7 Do…? – c
4 What was…? – h 8 When was the …? – d
5 How many… ? – g
46

กิจกรรมที่ 6: Listening (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)


- ครู เปิ ดแผ่นซีดีและบอกนักเรี ยนว่า ให้ยกมือขึ้นเฉพาะประโยคที่ข้ ึนเสี ยงสูงท้ายประโยค
เท่านั้น
- ให้นกั เรี ยนฝึ กออกเสี ยงด้วยตัวเองสักครู่ แล้วจึงให้ออกเสี ยงประโยคคำถามประเภท yes/no
questions และคำถามที่ข้ ึนต้นด้วย wh- ดัง ๆ นักเรี ยนที่เหลือช่วยกันฟังว่าออกเสี ยงถูกหรื อ
ผิด

TAPESCRIPT
Listen to the first four questions from Exercise D.
Does the intonation go up or down? One.
1 Do most people in the world live in cities?
2 Does Mexico City have an air pollution problem?
3 How many island are there in Venice?
4 Where is the Golden Gate Bridge?

เฉลย: Students’ Book ข้ อ F หน้ า 11


1 up 2 up 3 down 4 down
กิจกรรมที่ 7: Speaking
(กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่เพื่อผลัดกันถาม - คำตอบ จากคำใบ้และคำตอบที่แต่ละคนมีอยู่
- ให้นกั เรี ยน A เปิ ดไปหน้า 93 ข้อ 1
- ให้นกั เรี ยน B เปิ ดไปหน้า 94 ข้อ 1
- ให้ลองถามตอบตามตัวอย่างก่อนที่จะให้นกั เรี ยนเริ่ มทำกิจกรรม
- ถ้านักเรี ยนตอบได้ถูกต้อง ได้รับ 1 คะแนน
- ครู คอยตรวจสอบการทำกิจกรรม
- หลังจากผลัดกันถามครบทุกข้อแล้ว ให้นกั เรี ยนแต่งคำถามเพิ่มเติมเพื่อถามเพื่อนคู่อื่น
กิจกรรมเสริม
Holiday plans: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั ลองจินตนาการถึงการไปเที่ยวยุโรป 1 สัปดาห์
- ให้นกั เรี ยนจดบันทึกลงไปว่านักเรี ยนจะไปที่ไหน วันใด ตัวอย่างเช่น 6th August – Budapest, 8 th
August – Prague
- จากนั้นให้นกั เรี ยนผลัดกันถามคำถาม เช่น When are you starting the tour? Where are you going first?
เฉลย: Activity Book (Lesson 1) หน้ า 7
A Positive: exciting, relaxing, beautiful, delicious, peaceful, friendly, romantic, magnificent
Negative: dirty, dangerous, nasty, boring, noisy, terrible, horrible
B 2 He is 41 (years old). 5 His favorite music is rock.
3 He is a teacher. 6 He doesn’t like techno music.
4 He works in a private school. 7 He wants to learn to play the electric guitar.
C On the Menu 3 History 1 Places to See 2
D 1 T 2 F 3 F
47

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 4
Lesson 2: Great Cities
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4 คน ครู อ่านคำชี้แจงเพื่ออธิบายเกี่ยวกับการเล่นเกม
- ถ้านักเรี ยนคนใดไม่สามารถนึกชื่อเมืองออก ให้ออกจากการเล่นเกม
กิจกรรมที่ 2: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ครู อ่านประโยคตัวอย่างในหนังสื อเรี ยนหน้า 12 แล้วถามนักเรี ยนว่า Which city would you like to visit?
- นักเรี ยนคนใดคนหนึ่งตอบ แล้วถามคนต่อไปด้วยคำถามเดียวกัน จนกระทัง่ ถามและตอบคำถามครบทุก
วัน
กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล) A
- ครู ให้เวลา 5 นาที เพื่ออ่านเนื้ อเรื่ อง แล้วตรวจสอบว่าประโยคทั้ง 6 ที่ให้มาถูกหรื อผิด โดย
สามารถหาคำศัพท์ได้จาก Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101-110
- ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น ถ้าคำตอบผิดให้ถามว่า มีนกั เรี ยนคนใดสามารถแก้ไขให้
ถูกต้องได้

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 13 A


1 T 2 T 3 F 4 T 5 T
6 F 7 T 8 F 9 F
กิจกรรมที่ 4: Reading / Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู อ่านประโยคตัวอย่างดัง ๆ และให้นกั เรี ยนคัดลอกตารางลงในสมุดแบบฝึ กหัด แล้วเติม
ช่องว่างให้สมบูรณ์
- ครู คดั ลอกตารางลงบนกระดาน แล้วให้นกั เรี ยน 1 คนทำหน้าที่เป็ นเลขานุการ เมื่อนักเรี ยน
คนใดคนหนึ่งพูดคำคุณศัพท์ออกมาดัง ๆ นักเรี ยนที่เป็ นเลขานุการ จะเขียนลงบนกระดาน
แล้วให้ทุกคนพิจารณาว่า เขียนลงถูกช่องหรื อไม่

เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 13


Cities: fascinating, busy, exciting, romantic, international
Buildings: magnificent, monumental, superb, historic, magnificent, excellent
Food: delicious, sweet, tasty, mouth-watering, poor quality, wonderful, traditional
- ครู บอก
นักเรี ยนว่า คำคุณศัพท์ในตารางอาจจะคล้ายกับของภาษาไทย แล้วอธิบายให้ฟังว่า
ภาษาในยุโรปหลายภาษามาจากภาษาละตินและกรี ก ดังนั้นจึงมีรากศัพท์ตวั เดียว ครู อาจจะ
ยกตัวอย่างสัก 1 หรื อ 2 ตัวอย่าง เช่นคำว่า monumental, historic เป็ นต้น
- บอกให้นกั เรี ยนขีดเส้นใต้ค ำคุณศัพท์ที่คล้ายกับภาษาไทย
กิจกรรมที่ 5: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- เมื่อนักเรี ยนค้นหาความหมายของคำศัพท์ใหม่แล้วให้เขียนลงในสมุดคำศัพท์ ครู บอก
นักเรี ยนว่าคำศัพท์ที่มีรากศัพท์ใกล้เคียงกับคำในภาษาอื่น จะช่วยทำให้คาดเดาความหมายได้
ดียงิ่ ขึ้น
กิจกรรมที่ 6: Speaking (กิจกรรมคู่/กิจกรรมกลุ่ม)
- ครู อ่านประโยคตัวอย่างดัง ๆ แล้วตรวจสอบดูวา่ นักเรี ยนเข้าใจหรื อไม่
- ให้นกั เรี ยนจับคู่อ่านประโยคทั้ง 9 แล้วให้จดั ประเภทลงในสมุดของตนเองว่าเป็ นเชิงบวก
48

(+) หรื อลบ (-) หรื อเป็ นได้ท้ งั บวกและลบ (+ -)


- ให้นกั เรี ยนสลับคู่กนั แล้วนำคำตอบมาเปรี ยบเทียบกันก่อนที่ครู จะเฉลยบนกระดาน

เฉลย: Students’ Book ข้ อ F หน้ า 13


1 (+ -) 2 (-) 3 (+ -) 4 (+) 5 (-)
6 (-) 7 (+) 8 (+ -) 9 (+)
กิจกรรมที่ 7: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู อ่านคำบรรยายเกี่ยวกับเมืองของอเมริ กาให้ท้ งั ชั้นฟัง แล้วให้ลองทายดูวา่ หมายถึงเมืองใด
(คำตอบคือ Los Angeles)
- ให้นกั เรี ยนเขียนคำบรรยายในลักษณะเดียวกัน โดยให้ใช้ค ำศัพท์ใหม่ให้มากที่สุด
กิจกรรมที่ 8: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ให้นกั เรี ยนแต่ละคนอ่านคำบรรยายเมืองที่เขียนเอาไว้
- ให้นกั เรี ยนทั้งชั้นเดาว่าหมายถึงเมืองใด โดยให้ทายหลังจากผูอ้ ่าน อ่านคำบรรยายจบแล้ว
กิจกรรมเสริม
My Town: Writing (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั เขียนโน้ตย่อเกี่ยวกับจังหวัดหรื อหมู่บา้ นของตนเอง
- ให้นกั เรี ยนเขียนเป็ น 2 ส่ วนคือ “places to see” และ “on the menu” บอกให้นกั เรี ยนคิดถึง
สถานที่และร้านอาหารที่ชาวต่างชาติจะเห็นว่าน่าสนใจ
- หลังจากการอภิปรายเกี่ยวกับโน้ตของนักเรี ยนแล้ว (ควรเขียนเป็ นภาษาอังกฤษ) บอกให้นกั เรี ยนเก็บไว้
เพื่อใช้ในการทำโครงงานในอนาคต

Activity Book, Lesson 2, exercise H.


Listen to the radio programme and circle the adjectives you hear.
What about somewhere different for this year’s summer holiday? You can leave the crowded beaches of
the Mediterranean and go somewhere more exotic.
Today we are going to look at holidays in Brazil. When people think of Rio de Janeiro they think of the
carnival. It is exciting, magical and romantic. But what about a holiday in Rio this July or August? It is
cooler than in February or March but still warm and often sunny.

Romantic Rio has everything: lovely beaches, delicious food and a fantastic atmosphere. The location of
Rio is extremely impressive, with mountains around it, like the famous Sugar Loaf Mountain.
You can spend the day on Copacabana Beach, or visit some of the old colonial buildings in Rio. Rio was
the capital of Brazil from 1763 until 1960, when Brasilia became the capital.
At night you can eat out in some wonderful restaurants and if you like dancing you can dance the samba
all night!
If you like sport, and in particular football, Rio is the place for you. You can play football on the beach
or visit the enormous Maracana football stadium, with a capacity of 200,000.
After a few days in Rio you can go south to the Iguazu Falls or north to the Amazon or the beautiful
beaches of …
49

เฉลย: Activity Book (Lesson 2) หน้ า 8-9


A 2 When did they build the Acropolis? 4 How do you get to the museum?
3 Which river is near London? 5 Is Liverpool near the sea?
B 1 What (c) 2 Where (a) 3 Does (e) 4 Which (b)
5 Do (g) 6 When (f) 7 How many (d)
C Open
D 2 We went to London last year. 4 She knows where John lives.
3 What is the capital of Canada?
เฉลย: Activity Book (Lesson 2) หน้ า 8-9
E 1 square 2 pollution 3 continent 4 underground 5 bridge, island
F 2 Yes, there is. / No, there isn’t. 5 Yes, it is. / No, it isn’t.
3 Yes, he does. / No, he doesn’t. 6 Yes, I would. / No, I wouldn’t
4 Yes, we do. / No, we don’t.
G 1 impressive 2 fascinating 3 exciting 4 ancient 5 magnificent
6 delicious 7 beautiful 8 prosperous 9 powerful 10 lovely
H (tapescript on page 20)
exciting, romantic, delicious, fantastic, impressive, wonderful, beautiful
I 1 F 2 F 3 F 4 F 5 T
J 1 f 2 e 3 a 4 c 5 h 6 d 7 b 8 g

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5
Lesson 3: Getting Around
Topic Focus
- ให้นกั เรี ยนอ่านชื่อเรื่ องคือ “Getting Around” แล้วอธิบายความหมายของชื่อเรื่ อง
(ความหมายคือเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง )
- ถามนักเรี ยนว่า เราจะเดินทางไปรอบเมืองได้ดว้ ยวิธีใดบ้าง ตัวอย่างเช่น รถโดยสารประจำ
ทางรถยนต์ส่วนตัว รถรับจ้าง รถจักรยาน รถไฟใต้ดิน เป็ นต้น
กิจกรรมที่ 1: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านดูเนื้ อหาแบบต่าง ๆ แล้วจัดเรี ยงลำดับตามระดับความยาก โดยเรี ยงลำดับ
เนื้อหาเป็ นภาษาไทยก่อน แล้วจึงเรี ยงลำดับเนื้ อหาเป็ นภาษาอังกฤษ
- อภิปรายคำตอบร่ วมกันทั้งชั้น
กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านดูเนื้ อหา แล้วบอกว่าเนื้ อหาเหล่านี้น่าจะได้มาจากไหน (จากหนังสื อพิมพ์)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่รูปการขนส่ งกับย่อหน้าบรรยาย โดยกำหนดเวลาให้ 2-3 นาที
- ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 14


A=3 B=2 C=4 D=5 E=1
50

กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนคัดลอกตารางลงในสมุดโน้ตของตนเอง
- ให้อ่านเนื้ อเรื่ องอีกครั้ง และกรอกข้อความลงในตารางให้สมบูรณ์ นักเรี ยนสามารถเปิ ดหา
คำศัพท์สำคัญจาก Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101-110 ได้ และควรจะเขียน
คำศัพท์ใหม่ที่สำคัญลงในสมุดคำศัพท์ดว้ ย
- ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 15


underground: advantages: avoid traffic jams / causes less pollution
disadvantages: can be very crowded
gondola: advantages: romantic
disadvantages: expensive / slow
bicycle: advantages: causes less pollution/good for you
disadvantages: dangerous breathing polluted air
กิจกรรมที่ 4: Speaking
(กิ จกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนอ่านประโยคตัวอย่าง ครู อธิบายความหมายของคำว่า on foot และวิธีการขนส่ ง
อื่น ๆ ให้นกั เรี ยนเข้าใจ ให้อ่านประโยคคำถามที่ 2 และข้อความ to take + เวลา (ใช้เวลา)
ครู อธิบายความหมายให้เข้าใจ และอภิบายวิธีใช้ค ำสรรพนาม it ในโครงสร้างของประโยค
ด้วย
- ตั้งคำถามนักเรี ยนสัก 1-2 คน ด้วยคำถามเดียวกัน เพื่อเป็ นการยกตัวอย่างเพิ่มเติม
- ครู อ่านคำถามและให้นกั เรี ยนอ่านตามพร้อมกันทั้งชั้น ถ้าออกเสี ยงสูงต่ำผิด ครู แก้ไขให้
ถูกต้อง
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4-5 คน แล้วให้ดูประโยคตัวอย่างที่ 2 ให้นกั เรี ยนส่ ง
ตัวแทน 1 คน ในแต่ละกลุ่มเขียนผลลงไปแล้วรายงานให้เพื่อน ๆ ทั้งชั้นฟัง
กิจกรรมที่ 5: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- การใช้ค ำว่า please และ thank you มีความสำคัญในทุกสถานการณ์โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อ
เป็ นสถานการณ์ที่เป็ นทางการหรื อเป็ นพิธีการ ก่อนให้นกั เรี ยนอ่านบทสนทนาครู ควรชี้ แจง
เรื่ องนี้ ให้นกั เรี ยนเข้าใจเสี ยก่อน
- ถามนักเรี ยนว่าในเมืองใหญ่ ๆ จะหาข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้จากที่ไหน (คำตอบ:
ปกติแล้วสามารถหาข้อมูลได้ที่ที่ส ำนักงานข้อมูลการท่องเที่ยว)
- บอกให้นกั เรี ยนอ่านบทสนทนา ครู อธิบายความหมายของคำศัพท์ใหม่ให้ชดั เจน แล้วให้
นักเรี ยนคาดเดาว่าคำที่ขาดหายไปคืออะไร
- ให้นกั เรี ยนเขียนหมายเลข 1 - 4 ลงในสมุดบันทึก
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี (อาจเปิ ดมากกว่า 1 ครั้งก็ได้) แล้วให้นกั เรี ยนเติมคำลงในช่องว่าง ตรวจ
คำตอบพร้อมกันทั้งชั้น
51

TAPESCRIPT
Listen and complete the dialogue.
GIRL: Excuse me? (rising intonation)
MAN: I’m sorry, just a moment, please. (falling intonation) Yes, can I help you? (rising intonation)
GIRL: Can you give me information about getting around London on the underground please?
(rising intonation)
MAN: Well, here’s a map showing the different lines. (falling intonation)
GIRL: Thank you. (falling intonation) What about tickets? (rising intonation) Are they expensive?
(rising intonation)
MAN: Mm. It depends on the distance. (falling intonation) But you can get a one-day travel card.
(falling intonation) They cost three pounds ninety. (falling intonation)
GIRL: Thanks very much. (falling intonation)

เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 15


1 can 2 around 3 map 4 tickets 5 cost

กิจกรรมที่ 6: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)


- ระดับเสี ยงสูงต่ำ คือ ปัญหาใหญ่สำหรับนักเรี ยนจำนวนมาก ในภาษาอังกฤษ การออกเสี ยง
สูงท้ายประโยคจะทำ
- ให้ค ำถามดูสุภาพขึ้น การออกเสี ยงราบเรี ยบเสมอกันของผูท้ ี่ไม่ใช่เจ้าของภาษา จะฟังดู
ยาบคายโดยไม่ได้ต้ งั ใจ ดังนั้นนักเรี ยนจึงจำเป็ นต้องรู้หลักการออกเสี ยงอย่างถูกวิธี โดย
การขึ้นเสี ยงสูงท้ายประโยคเมื่อขอสิ่ งของ ตรงกันข้ามกับคำถามที่ข้ ึนต้นด้วย wh- จะต้อง
ลงเสี ยงต่ำท้ายประโยค เพราะต้องการขอข้อมูลเท่านั้น (จาก Lesson 1 Exercise F)
52

- ให้นกั เรี ยนคัดลอกบทสนทนาลงในสมุดโน้ต


- ครู เปิ ดเทปแสดงตัวอย่างระดับเสี ยงสูงต่ำทั้ง 2 แบบ โดยให้นกั เรี ยนทำเครื่ องหมายที่ทา้ ย
ประโยคด้วย
- ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น ถ้าจะให้เข้าใจได้ชดั เจนขึ้น ครู ควรใช้มือแสดงประกอบว่า
เสี ยงสูงขึ้นหรื อต่ำลง

เฉลย: Students’ Book ข้ อ F หน้ า 15


Answers are given in the tapescript of exercise E.
กิจกรรมที่ 7: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ครู อธิบายการแสดงบทบาทสมมติให้นกั เรี ยนฟัง โดยนักเรี ยน A แสดงเป็ นนักท่องเที่ยว
นักเรี ยน B เป็ นเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานข้อมูลการท่องเที่ยว
- ให้นกั เรี ยนพิจารณาคำบอกบทการแสดงบทบาท และให้อ่านบทสนทนา Exercise E ในหน้า
15 อีกครั้งก่อนแสดงบทบาทตามสถานการณ์
- ให้นกั เรี ยนเปลี่ยนบทบาทกัน แล้วแสดงบทบาทอีกครั้ง
- ครู เดินดูนกั เรี ยนทำกิจกรรมรอบ ๆ ห้อง และบันทึกข้อผิดพลาดไว้ จากนั้นชี้แจงบนกระดาน
- แสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์ โดยใช้ภาษาที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่ เพื่อกระตุน้
นักเรี ยนให้กระฉับกระเฉงในการทำกิจกรรมร่ วมกันภายในชั้นเรี ยน
กิจกรรมเสริม
Forms of Transport: Writing (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั บอกให้นกั เรี ยนเขียนรู ปแบบการขนส่ งต่าง ๆ ในเขตที่อยูข่ องนักเรี ยน
แล้วให้ลองคิดหาข้อมูลของการขนส่ งแต่ละอย่างด้วย เช่น ราคา การบริ การที่เพียงพอ เวลา
มลภาวะ เป็ นต้น
- ให้นกั เรี ยนเลือกว่านักเรี ยนชอบการขนส่ งแบบไหนมากที่สุด แล้วเขียนประโยคสัก 2-3
ประโยคเกี่ยวกับรู ปแบบการขนส่ งนั้น ตัวอย่าง เช่น Buses are slow but they are cheap.
เป็ นต้น
- ให้นกั เรี ยนแต่ละคู่จดั ทำตารางใส่ขอ้ มูลลงไป โดยใช้หวั ข้อเรื่ องต่าง ๆ ตามที่ให้มาตาม
ข้างบน นักเรี ยนอาจจะใช้สญ ั ลักษณ์ดว้ ยหน้าคนยิม้ หรื อขมวดคิว้ เพื่อแสดงด้านบวกและลบ
ของรู ปแบบการขนส่ งแต่ละประเภท
- ครู สรุ ปกิจกรรมด้วยการจัดทำตารางขนาดใหญ่ใส่ ขอ้ มูลลงบนกระดาน เพื่อแสดงความเห็น
ของนักเรี ยนส่ วนใหญ่
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 3) หน้า 10
53

เฉลย: Activity Book (Lesson 3) หน้ า 10


A 1 Can 2 When 3 How 4 Do 5 what
B 1 bridge (not a form of transport) 4 Chile (not a continent)
2 dirty (not a positive adjective) 5 road (not water)
3 bridge (not a building)
C 1 to 2 on 3 off 4 past 5 off 6 at
7 left 8 to 9 right 10 through 11 over 12 in front of
D 2 Nothing (they are free)
3 No
4 On the top deck of the bus. You get a fantastic view of the city.

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 6
Lesson 4: Going Out
Topic Focus
ถามนักเรี ยนว่านักเรี ยนทำอะไรบ้างเมื่อออกไปข้างนอก ให้นกั เรี ยนพูดถึงกิจกรรมที่มกั จะทำในเวลาว่าง
กิจกรรมที่ 1: Keywords (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพกิจกรรมยามว่างในหนังสื อเรี ยนหน้า 15 แล้วบอกชื่อกิจกรรมที่เห็น
- ให้นกั เรี ยนจับคู่รูปภาพและกิจกรรมให้ถูกต้อง

เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 16


A going to the cinema B skateboarding C going to a match
D shopping E eating out F dancing

กิจกรรมที่ 2: Writing (กิจกรรมคู่)


- ให้นกั เรี ยนจับคู่เขียนรายการสิ่ งที่วยั รุ่ นมักจะปฏิบตั ิ ดูตวั อย่างในหนังสื อเรี ยนหน้า 16 ประกอบ
- ให้เวลารวบรวมข้อมูลประมาณ 5 นาที แล้วจึงให้นกั เรี ยน 1 - 2 คู่ ยกตัวอย่าง
กิจกรรมที่ 3: Listening (กิจกรรมรายบุคคล) A
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกลงในสมุดบันทึกประจำวันของ Kath และ Tim ในหนังสื อเรี ยนหน้า 17 ลงในสมุดแล้ว
ครู อธิบายความหมายของ a.m. และ p.m. ให้นกั เรี ยนฟังจนเข้าใจ
- ครู เปิ ดแผ่นซีดีให้นกั เรี ยนฟัง (อาจจะเปิ ดมากกว่า 1 ครั้งก็ได้) ให้นกั เรี ยนเติมคำหรื อวลีในช่องว่างให้
สมบูรณ์ แล้วจึงตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น
54

TAPESCRIPT
Listen to Kath and Tim talking about their plans for the weekend. Complete their diaries.
TIM: So what are you doing this weekend, Kath?
KATH: Well, this evening I’m going shopping with Christine.
TIM: Ugh… I hate shopping. Tonight I’m meeting Paul and we’re going to the cinema. It’s a new
horror film. It sounds great. And what about tomorrow?
KATH: In the morning I’m staying at home. I’m going to write some letters to some people I met
last summer in Greece. I haven’t written to them for ages.
TIM: Mmm.
KATH: Then I’m meeting some people and we’re going dancing.
TIM: Oh yeah? Who’s the lucky boy then, eh?
KATH: Quit it, Tim. It’s just a group of us. What about you?
TIM: Well, I’m going to clean my room. It’s in a terrible mess …my dad’s gonna kill me if I
don’t.Then we’re going to the football in the afternoon.
KATH: Oh no, how boring! And what about Sunday?
TIM: Well…, I’m going to the park in the morning. A group of us go out riding on our bikes
Sunday mornings and … oh no! I’ve just remembered…I’m going to study all afternoon, that
geography project for Monday.
KATH: I did that last night! On Sunday I’m going skating with Monica and then we’re all going to
visit my uncle. He’s flying to Los Angeles on Monday, ’cos he’s got a new job.
TIM: I’ve got to go. Here’s my bus. See you on Monday, Kath.
KATH: OK. See you. Tim!

Topic Focus: Plans, intentions, arrangements


เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 16
Kath Tim
Friday p.m. shopping horror film
with Christine with Paul
Saturday a.m. stay at home/ clean room
write letters
p.m. ncing football match
Sunday a.m. skating with cycling in park
Monica
p.m. sit uncle tudying geography

กิจกรรมที่ 4: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)


- ครู อธิบายความหมายของคำว่า plans (สิ่ งที่คุณต้องการทำในอนาคต) arrangements (สิ่ งที่จะต้องเกิดขึ้น
55

แน่นอนในอนาคต) และ intentions (สิ่ งที่คุณตั้งใจที่จะทำหรื อคิดว่าควรจะทำ)


- ให้นกั เรี ยนจับคู่กฎกับตัวอย่างในหนังสื อเรี ยนหน้า 17
- รวบรวมคำตอบจากนักเรี ยนทั้งชั้น แล้วอธิบายกฎให้ฟังและตรวจสอบความเข้าใจของนักเรี ยน

เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 17


1 c 2 a 3 b
กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเขียนประโยค 5 ประโยคเกี่ยวกับสิ่ งที่นกั เรี ยนอยากจะทำในวันหยุดสุ ดสัปดาห์หน้าโดยใช้
going to
- ครู เดินดูรอบ ๆ ห้องเพื่อตรวจคำตอบ ถ้านักเรี ยนมีปัญหา ให้ครู เขียนโครงสร้างการใช้ going to ลงบน
กระดาน โดยแยกส่วนประกอบของประโยคออกจากกันเป็ น I’m + going to + verb + object แล้วให้ทุก
คนทำเช่นเดียวกันลงในสมุด ครู ช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดของนักเรี ยน
กิจกรรมที่ 6: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู เขียนรู ปแบบสมุดบันทึกประจำวันสำหรับวันสุ ดสัปดาห์บนกระดานแล้วบอกให้นกั เรี ยน
คัดลอกลงสมุด นักเรี ยนจะต้องเขียนข้อมูลที่ผดิ พลาด 1 อย่างลงในแผน ซึ่งอาจเป็ นเรื่ อง
เกี่ยวกับคน เวลา หรื อสถานที่ เช่น I’m meeting Enrique Iglesias for lunch.

Friday p.m.
Saturday a.m.
p.m.
Sunday a.m.
p.m.

- ให้นกั เรี ยนใช้ประโยค 5 ประโยคที่เขียนใน Exercise E (ที่แต่งเอง) มาเติมลงในช่องว่าง ครู ย ้ำกับนักเรี ยน


ว่านักเรี ยนเขียนโน้ตย่อโดยใช้ present simple tense ได้
- ครู เดินดูรอบ ๆ ห้องเรี ยน พร้อมกับตรวจสอบผลงานนักเรี ยนด้วย
กิจกรรมที่ 7: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่ แล้วแลกสมุดบันทึกประจำวันกันอ่านก่อนเริ่ มทำแบบฝึ กหัด
- ให้นกั เรี ยนถามคำถามกันและกัน แล้วพยายามค้นหาความไม่ตรงกันหรื อขัดแย้งกันในการถามตอบ
หมายเหตุ: ครู ย ้ำกับนักเรี ยนว่า นักเรี ยนจะต้องเตรี ยมวัสดุ เพื่อจัดทำแผ่นพับสำหรับนักท่องเที่ยวในคราว
ต่อไป
กิจกรรมที่ 8: Dictionary Work
- ครู บอกนักเรี ยนว่า การใช้พจนานุกรมในหน่วยการเรี ยนทุกหน่วยจะช่วยให้นกั เรี ยนใช้พจนานุกรมได้
คล่องยิง่ ขึ้น โดยสามารถเปิ ดดู Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101–110 ได้
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำว่า famous และ dangerous พร้อมกัน แล้วทำเครื่ องหมายเน้นหนักให้นกั เรี ยนดู ให้
นักเรี ยนค้นจากพจนานุกรมว่าคำอื่น ๆ เน้นหนักตรงไหน และจัดหมวดหมู่ตามลักษณะการเน้นหนัก

เฉลย: Students’ Book ข้ อ H หน้ า 17


famous: crowded, modern, noisy dangerous: beautiful, colorful, natural
asleep: afraid exciting: delicious, impressive, romantic
56

กิจกรรมเสริม
World tour: Speaking and writing (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั แล้วให้นกั เรี ยนจินตนาการว่า นักเรี ยนมีเวลาหยุดพักผ่อน 6 เดือน นักเรี ยนจะไปเที่ยว
ที่ไหนบ้าง ให้เขียนรายชื่อประเทศและเมืองที่จะไป
- ให้นกั เรี ยนช่วยกันจำทำกำหนดการเดินทาง แล้วคำนวณดูวา่ จะพักที่ไหนกี่วนั บ้าง จะเดินทางอย่างไร
- ผลของการจัดทำกิจกรรมดังกล่าว อาจจะจัดทำในรู ปของตารางโดยมีหวั ข้อต่อไปนี้ คือ
Country / City / Means of transport / Language / Currency เป็ นต้น

เฉลย: Activity Book (Lesson 4) หน้ า 11-12


A 2 Sandra is going to arrive at school punctually.
3 Tom is going to stop smoking.
4 Patricia and Sara are going to be friends.
5 Alan is going to save money for a motorbike.
6 I am going to…
B 2 On Saturday Mary is taking her dog to the vet.
3 On Thursday I am meeting Dave outside the cinema.
4 On Wednesday night Rob is having a guitar lesson.
5 On Sunday Debbie and Claire are playing a tennis match.
C 2 am going to study 6 are going to revise
3 am meeting 7 am not going
4 are going 8 am going to be
5 is coming
D 1d 2 b 3 e 4 a 5 h
6c 7 j 8 f 9 g 10 i
E open
F 100% always 80% usually 60% often
30% sometimes 10% occasionally 0% never
G open
H 1T 2F 3 F 4 F 5 T

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 7
Lesson 5: Fluency
กิจกรรมที่ 1: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำแนะนำใน Exercise A ในหนังสื อเรี ยนหน้า 18
- ถ้านักเรี ยนไม่เข้าใจข้อใด ครู อธิบายจนเข้าใจ และให้ถามนักเรี ยนด้วยว่า นักเรี ยนเห็นด้วยหรื อไม่
- ถ้านักเรี ยนมีขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติมให้เสนอขึ้นมาได้ โดยอาจจะอภิปรายเป็ นภาษาไทย
กิจกรรมที่ 2: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพสถานที่ในหนังสื อเรี ยนหน้า 18 แล้วให้เดาว่า Larry และ Jane อาศัยอยูท่ ี่ไหน โดยให้
57

เขียนความคิดเห็นลงบนกระดาน
- ให้นกั เรี ยนฟังบทสนทนาจากแผ่นซีดีได้ (อาจเปิ ดมากกว่า 1 ครั้งก็ได้) ครู ให้ขอ้ คิดว่าในการฟังเที่ยวแรก
นักเรี ยนอาจจะไม่เข้าใจทั้งหมด

TAPESCRIPT
Listen to Larry and Jane and answer the questions in your book.
JANE: And er… where are you from?
LARRY: I’m from New York. Have you been there?
JANE: No, I haven’t …but that’s funny, you know… I’m from York.
LARRY: Hey, that’s weird… from old York! All those lovely historic buildings. I’d really love to
go there!
JANE: And so what’s New York like… I mean what’s it like to live in? I suppose there are lots of
fantastic shops and lots of things to do.
LARRY: Oh yeah, there are lots of great stores… but what I really love are the movies.
JANE: You mean films?
LARRY: That’s right. I go to the movies every week.
JANE: There aren’t many cinemas in York. I love dancing, but there aren’t many really good
discos for young people.
LARRY: No?
JANE: When I go out I normally go to parties in friends’ houses.
LARRY: Yeah? I really like to go out with my friends and have a hamburger or a hot dog
somewhere.
JANE: Well, I don’t eat out much, ’cos restaurants in York are expensive…but we occasionally go
out for a pizza. What about weekends… do you go away?
LARRY: We often go out to our cabin…that’s in the Adirondacks Mountains… That’s up-state
about a hundred miles from New York City. I really love fishing and swimming in the summer.
JANE: Oh, it sounds fantastic… we sometimes go out intothe country …I go walking for miles
with my dad. Sometimes we go swimming on the coast, but the water’s freezing.
LARRY: I bet!
JANE: One thing I really like is gymnastics… we’ve got a fantastic new sports hall near us. I do
gymnastics after school twice a week.
58

JANE: Oh, it sounds fantastic… we sometimes go out intothe country …I go walking for miles
with my dad. Sometimes we go swimming on the coast, but the water’s freezing.
LARRY: I bet!
JANE: One thing I really like is gymnastics… we’ve got a fantastic new sports hall near us. I do
gymnastics after school twice a week.
LARRY: Oh, I play basketball. After school I play a lot, I’m in the school team. And I sometimes
go running in the park Central Park.
JANE: Isn’t it dangerous in New York? All those things you see on TV…all that crime?
LARRY: It’s pretty bad. One thing I dislike is the noise…the traffic…and the pollution’s really
bad.
JANE: Oh, York’s really quiet and peaceful… too quiet for me… it gets boring.
LARRY: Hey, why don’t we change places? You live in New York and I’ll go and live in York!

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 18


Larry: New York Jane: York

กิจกรรมที่ 3: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนคัดลอกตารางในหนังสื อเรี ยนหน้า 18 ลงในสมุดและพยายามจำรายละเอียดจากบทสนทนา
- ครู เปิ ดบทสนทนาจากแผ่นซีดี (อาจเปิ ดมากกว่า 1 ครั้งก็ได้) แล้วตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้นเรี ยน
เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 18
Larry Jane
Going out films/movies dancing/discos
Eating out hot dog/ pizza
hamburger
At weekends fishing/ walking/swimming
swimming
After school basketball/ gymnastics
running

กิจกรรมที่ 4: Speaking (กิจกรรมคู่)


- ครู อ่านชื่อของแบบสอบถาม แล้วอธิบายความหมายของคำว่า ‘city slicker’ (หมายถึงบุคคลที่อาศัยอยูใ่ น
เมืองและไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับชีวิตในชนบท) และคำว่า ‘country cat’ (หมายถึงบุคคลที่มีความสุ ข
และอยูก่ บั บ้านในชนบท)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่ ผลัดกันถาม-ตอบคำถามพร้อมจดคำตอบลงในสมุด
- ให้นกั เรี ยนเขียนคำถามคล้าย ๆ กัน ให้คขู่ องตนเอง
- ให้นกั เรี ยนตรวจสอบคำตอบพร้อมทั้งเฉลยว่า นักเรี ยนแต่ละคนเป็ นคนประเภทใด
- ครู เดินไปรอบ ๆ ห้องเรี ยนเพื่อตรวจคำถาม และเขียนคำถามที่แปลกที่สุดลงบนกระดานอ่านดัง ๆ แล้วให้
59

นักเรี ยนให้สญ ั ญาณในการเลือกด้วยการยกมือขึ้น


กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่ท ำโครงงาน A
- ให้นกั เรี ยนอ่านแผ่นพับตัวอย่าง แล้วจับคู่ค ำศัพท์และหมวดหมู่ในแผ่นพับที่พดู ถึง ถ้านักเรี ยนไม่เข้าใจ
คำศัพท์ค ำใด ครู อธิบายให้ฟังจนเข้าใจ
- ให้พิจารณาขั้นตอนทั้ง 4 ที่ร่างไว้ในหนังสื อแบบเรี ยน โดยครู อธิบายขั้นตอนต่าง ๆ ให้นกั เรี ยนฟังทีละ
ขั้นตอน
- ให้นกั เรี ยนนำวัสดุที่นกั เรี ยนรวบรวมไว้ออกมา แล้วให้จดบันทึกข้อมูลที่นกั เรี ยนจะนำเสนอ (โดยอาจจะ
ได้มาจากความรู้ของนักเรี ยนหรื อแผ่นพับสำหรับนักท่องเที่ยว) และให้พิจารณาด้วยว่ารายละเอียดแต่ละ
อันควรจะจัดอยูภ่ ายใต้หวั ข้อใด
- นักเรี ยนไม่ควรคัดลอกหรื อแปลข้อมูลมาโดยตรง ครู ควรตรวจดูการจดบันทึกของนักเรี ยน
- ให้นกั เรี ยนแต่ละคู่อ่านและแก้ไขแผ่นพับของกันและกัน
- ให้นกั เรี ยนวางแผนการออกแบบของภาพวาด รู ปภาพ แผนที่ แผนงาน เป็ นต้น และแนบ เนื้ อหาที่ขดั เกลา
ครั้งสุ ดท้ายแล้วมาด้วย
- ให้นำแผ่นพับออกแสดง และให้นกั เรี ยนลงมติวา่ นักเรี ยนต้องการจะไปเที่ยวที่เมืองใดมากที่สุด
กิจกรรมที่ 6: Listening (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ครู พดู ชื่อเมืองแต่ละเมือง ให้นกั เรี ยนพูดตาม
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง (อาจเปิ ดมากกว่า 1 ครั้งก็ได้) ให้นกั เรี ยนยกมือเมื่อได้ยนิ ชื่อเมืองที่เขียน
ไว้ในรายการ
- ครู อาจให้นกั เรี ยนร้องเพลงไปพร้อมกับฟังแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง
Flagstaff, Arizona, don’t forget Winona,
Kingman, Bosca, San Bernardino…
TAPESCRIPT
If youListen
get hiptotothethissong.
kindWhich
of tip, of the places are mentioned?
ThenWell
you’llif take that California
you ever trip,west,
plan to motor
Get your
Takekicks
my way,on Route 66. that’s the best,
the highway
Get your kicks on Route 66.
เฉลย:Well
Students’ BookChicago
it goes from ข้ อ F หน้
to าLA
19
Chicago,
MoreLA,than SttwoLouis, Missouri,
thousand Oklahoma,
miles all the way, Amarillo, New Mexico
Get your kicks on Route 66.
Well it goes to St Louis, down to Missouri,
Oklahoma City looks oh so pretty,
You’ll see Amarillo,
Gallup, New Mexico,
Flagstaff, Arizona, don’t forget Winona,
Kingman, Bosca, San Bernardino…
กิจกรรมเสริม
Evaluation of written texts: Learning to learn (กิจกรรมกลุ่ม)
- กิจกรรมนี้ เป็ นกิจกรรมเสริ มของกระบวนการเขียนโครงร่ างที่นกั เรี ยนได้พิจารณาแล้วเพื่อจัดทำโครงงาน
โครงงานการเขียนครั้งสุ ดท้าย (Final Writing Task)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4 คน ให้นกั เรี ยนส่ งข้อเขียนฉบับจริ งให้คนอื่น ๆ ในกลุ่มอ่าน ซึ่ง
แต่ละคนจะให้คะแนน 1-5 โดยพิจารณาจากการนำเสนอ ความถูกต้องในการใช้ภาษา และความน่าสนใจ
60

- ครู ให้เกณฑ์ในการประเมินผล คือ 5 = ดีเยีย่ ม 4= ดีมาก 3 = เป็ นที่น่าพอใจ 2 = ไม่น่าพอใจ 1 = ไม่ดี ครู
เดินดูรอบห้องและพูดคุยเกี่ยวกับคะแนนที่นกั เรี ยนให้แก่คู่ของตนเอง (อาจ สนทนาเป็ นภาษาไทย)
- ให้นกั เรี ยนแสดงความเห็นเกี่ยวกับความสำคัญของความเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย ความชัดเจนของข้อเขียน
และอื่น ๆ ครู ให้ขอ้ คิดแก่นกั เรี ยนว่า ความคิดที่ดีที่สุดควรจะได้รับการถ่ายทอดอย่างสมดุลและเพียงพอ
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 5) หน้า 13

เฉลย: Activity Book (Lesson 5) หน้ า 13


A 1 e 2 a 3f 4c 5d 6 b
B 1 underground, bicycle, capital
2 mountain, island, building
3 pollution, cathedral, museum
C 1 busy 2 wonderful 3 great
4 magnificent 5 fascinating 6 impressive
D York, not New York
parties, not discos
pizza, not hamburger
walking, not fishing
sometimes goes swimming, not never
gymnastics, not basketball
New York, not York.
E Number 2 is false.

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 8
Lesson 6: Consolidation
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4-5 คน แล้วอ่านประโยคตัวอย่างใน Exercise A ในหนังสื อเรี ยน
หน้า 20
- ให้นกั เรี ยน 1 คน พูดคำตอบ ส่ วนคนอื่นๆให้ต้ งั คำถาม
- ให้ท้ งั กลุ่มพิจารณาว่าคำถามถูกต้องและเหมาะสมกับคำตอบหรื อไม่
กิจกรรมที่ 2: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนจัดเรี ยงคำที่ก ำหนดให้ในหนังสื อเรี ยนหน้า 20 ให้เป็ นประโยคที่ถูกต้อง แล้วเขียนลงในสมุด
เตือนความจำของนักเรี ยนว่าให้เขียนขึ้นต้นคำแรกในแต่ละประโยคด้วยอักษรตัวใหญ่ ตรวจคำตอบพร้อม
กันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 20


1 Which river is near Cairo? 4 How many people live in London?
2 What is the capital of Italy? 5 Do you go out at weekends?
3 Does Valencia have an underground? 6 When did they build the Eiffel Tower?
61

กิจกรรมที่ 3: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านคำตอบที่ก ำหนดให้ในหนังสื อเรี ยนหน้า 20 แล้วเขียนคำถามที่สมั พันธ์กบั คำตอบ
- ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น ให้นกั เรี ยน 1 คน เป็ นคนเขียนคำถามบนกระดาน และถ้าเป็ นไปได้ครู ควร
จะทบทวนโครงสร้างของประโยคคำถาม โดยดูตารางที่ 1 ใน Exercise F หน้า 20

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 20


1 When… 2 Do you… 3 Where… 4 Who… 5 Does… 6 How many…
กิจกรรมที่ 4: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเขียนสิ่ งที่นกั เรี ยนตั้งใจจะทำ 5 อย่างในปี การศึกษานี้ และเตือนความจำของนักเรี ยนด้วยว่า
การเขียนประโยคที่ใช้แสดงความตั้งใจนั้นจะต้องแสดงโดยใช้ขอ้ ความ going to
กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านโน้ตย่อที่ก ำหนดให้ในหนังสื อเรี ยนหน้า 20 แล้วเขียนเป็ นประโยคที่สมบูรณ์ตรวจคำตอบ
พร้อมกันทั้งชั้น
เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 20
1 My uncle is flying to London on Tuesday.
2 Ruth is meeting Alex outside school on Saturday night.
3 We are having a maths exam on Wednesday morning.
4 I’m starting a computer course on Monday.
กิจกรรมที5่ 6: Learning Sam and to learn
Dave(กิareจกรรมรายบุ คคล) talk on Friday night.
giving a history
- ให้นกั เรี ยนอ่านโครงสร้างของประโยคจาก Language Check หน้า 22
- ให้นกั เรี ยนเขียนกฎเกณฑ์ทางไวยากรณ์ของหน่วยการเรี ยนที่ 1 ลงในสมุดโน้ต
- ครู เตือนความจำว่าจะมีการตรวจประเมินสมุดโน้ตเป็ นครั้งคราว
Vocabulary
กิจกรรมที่ 7: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- บอกนักเรี ยนให้อ่านคำศัพท์ในรายการที่ให้มา แล้วบอกว่ามีความหมายเหมือนคำใดในภาษาไทย
- แล้วให้อ่านเนื้ อเรื่ องใน Lesson 2 และ 3 เพื่อหาคำศัพท์เพิ่มเติม
- ให้ตรวจสอบดูวา่ คำใดมีความหมายตรงกันทั้ง 2 ภาษา(เช่นคำทับศัพท์) และไม่ใช่ค ำที่เขียนและมีเสี ยง
เหมือนกัน แต่ความหมายต่างกัน
กิจกรรมที่ 8: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเลือกคำกริ ยา 1 คำจาก 4 คำ เพื่อทำให้ประโยคสมบูรณ์ ถามนักเรี ยนว่ามีค ำสำนวนอื่น ๆ ที่มี
คำ
ว่า get ที่นกั เรี ยนรู้จกั อีกหรื อไม่ ถ้ามีให้เขียนลงบนกระดาน
- ให้นกั เรี ยนยกตัวอย่างเป็ นประโยคต่าง ๆ

เฉลย: Students’ Book ข้ อ H หน้ า 21


1 get up 2 get around 3 get to 4 Get on
กิจกรรมที่ 9: Speaking
(กิจกรรมกลุ่ม)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มเล็ก ๆ อ่านตัวอย่างประโยคในหนังสื อเรี ยนหน้า 21 ครู อาจจะเปลี่ยนสถานที่
ที่เป็ นไปได้แทนคำว่า In my city เช่น in my class / on my desk / in the park เป็ นต้น พร้อมให้คะแนนกับ
ประโยคที่แต่ง
62

- นักเรี ยนจะเก็บแผ่นคะแนนไว้กไ็ ด้ แล้วบอกเพื่อน ๆ ประโยคของตนเองสามารถต่อได้ยาวขนาดไหน


กิจกรรมที่ 10: Speaking (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู แสดงให้นกั เรี ยนดูวา่ การออกเสี ยงเน้นหนักสามารถใช้กล่องสี่ เหลี่ยมเล็กและใหญ่แทนที่ได่อย่างไร
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกคำศัพท์ที่ก ำหนดให้ในหนังสื อเรี ยนหน้า 21 ลงในสมุด ครู พจิ ารณาตัวอย่างไปพร้อม
กับนักเรี ยน แล้วจึงเปิ ดแผ่นซีดี (อาจจะเปิ ดมากกว่า 1 ครั้งก็ด้) เพื่อให้นกั เรี ยนเขียนรู ปสี่ เหลี่ยมแสดง
การเน้นหนักกำกับในแต่ละคำ
- ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น
- ให้นกั เรี ยนทำงานเป็ นคู่ ๆ ฝึ กพูดคำศัพท์เพื่อสร้างเป็ นประโยคเกี่ยวกับสถานที่ที่นกั เรี ยนรู้จกั

TAPESCRIPT
Listen and mark the main stress.
impressive, wonderful, exciting, delicious, prosperous, powerful, historic, dangerous,
expensive, romantic, beautiful

Test Yourself
- แบบฝึ กหัดส่ วนนี้จะช่วยให้นกั เรี ยนสามารถทดสอบผลการเรี ยนจากหน่วยการเรี ยนที่ผา่ นมาด้วยตนเอง
สามารถบ่งชี้ปัญหาและแนวทางแก้ไขก่อนรับการประเมินอย่างเป็ นทางการต่อไป
- การตรวจและแก้ไขบททดสอบนี้ ครู อาจจะตรวจพร้อมกันทั้งชั้นหรื อให้นกั เรี ยนแลกเปลี่ยนสมุดกันแล้ว
แก้ไขให้กนั และกันก็ได้

เฉลย: Students’ Book (Test Yourself) หน้ า 21


A 1 How many islands are there in Amsterdam?
2 What is the capital of Turkey?
3 Where is the Acropolis?
4 Do they speak French in Belgium?
5 When was Bilbao founded?
6 Does Manchester have an underground?
7 Where is the Great Mosque Hassan II?
B open
C 1 On Saturday morning she is doing her English homework.
2 On Saturday afternoon she is going shopping with her mum.
3 On Saturday evening she is meeting George at 8 p.m. at the cinema.
4 On Sunday morning she is tidying her room.
5 On Sunday afternoon she is having lunch with Sam.
D 1 airport 2 go to/visit – map 3 jams 4 gallery

กิจกรรมเสริม
Sounds / Vocabulary: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู เลือกเสี ยง 2 เสี ยงที่นกั เรี ยนมีปัญหาในการออกเสี ยง แล้วให้นกั เรี ยนตรวจสอบสมุดคำศัพท์และหา
63

ตัวอย่าง
- ให้นกั เรี ยนยืนขึ้นทีละคนแล้วออกเสี ยงคำศัพท์ให้เพื่อน ๆ ในชั้นแก้ไขถ้าออกเสี ยงผิด
- ทำกิจกรรมนี้ ซ้ำบ่อย ๆ โดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Time to Read) หน้า 14 (Lesson 6) หน้า 15 และ (Extra
Time) หน้า 15

เฉลย: Activity Book (Time to Read) หน้ า 14


A 1 Bigger 2 To a villa outside the village.
B 1 attractive; 2 pretty; 3 trees; 4 food; 5 fresh; 6 sauces
C 1 For two weeks.
2 She’s going to collect her letters from the post office.
3 They are looking for grass for their goat.
4 Because it is now summer.
5 Because of the peace, the green trees and the smell of wild flowers in the air.

เฉลย: Activity Book (Lesson 6) หน้ า 15


A 1 How do you get to school?
2 Do you like big cities?
3 Is Milan near the sea?
4 How many people live in Tokyo?
5 Does Rio de Janeiro have a pollution problem?
B 1 I am going to study hard this term.
2 I am meeting Beatrice outside the cinema tonight.
3 My sister is flying to the USA next week.
4 He is going to work in a bank when he leaves school.
5 We are going to speak English more in class.
C 1 litter 2 traffic jam 3 noise 4 parks 5 shops
6 homeless 7 discos 8 crime 9 capital 10 world
64

Extra Time!
- ให้นกั เรี ยนเปิ ดหนังสื อหน้า 95 แล้วทำกิจกรรม Reading Club 1
เฉลย: Students’ Book (Reading Club 1) หน้ า 95
A advantages: paragraph 3
disadvantages: paragraph 2
basic information: paragraph 1
B Paragraph 1: location, population, weather,
Paragraph 2: food and restaurants
Paragraph 3: places to go, when to visit
C 1T 2 T 3F 4F 5T 6T

Module Check
Language Check and Keyword Check
- บอกนักเรี ยนว่าในตอนท้ายของหน่วยการเรี ยนทุกหน่วย จะมีการประเมินการใช้ภาษาและ
คำศัพท์หลักเพื่อทบทวนคำศัพท์และโครงสร้างของประโยคที่นกั เรี ยนได้เรี ยนมา ครู ตอ้ งย้ำ
ให้นกั เรี ยนกลับมาทบทวนบ่อย ๆ
Module Diary
- กระตุน้ ให้นกั เรี ยนสะท้อนผลการเรี ยนในหลาย ๆ ด้านโดยให้นกั เรี ยนคัดลอกลงในสมุด
และเติมคำลงในที่วา่ งให้สมบูรณ์ ครู ควรจะให้นกั เรี ยนส่ งสมุดเพื่อตรวจสอบสมุดบันทึก
ประจำวันของนักเรี ยนแต่ละคน เพื่อครู จะได้รู้ทศั นคติโดยทัว่ ไปและความก้าวหน้าของ
นักเรี ยนแต่ละคน

บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้

1. ความสำเร็จในการจัดการเรียนรู ้ ______________________________
_________________
แนวทางการพัฒนา
________________________________________________________
2. ปั ญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู ้ ___________________________
_________________
แนวทางแก ้ไข
__________________________________________________________
_
3. สงิ่ ทีไ่ ม่ได ้ปฏิบต
ั ต
ิ ามแผน __________________________________
_________________
65

Module 2 Yesterday
ผังมโนทัศน์ เป้ าหมายการเรียนรู้ และขอบข่ ายภาระงาน เวลา 12 ชั่วโมง

ความรู้
Reading:
- a biography - a legend
ภาระงาน/ชิ้นงาน - extracts from history books
1. อ่านช่วงเวลาชีวิตของบุคคล Listening:
หนึ่ง ปฏิบตั ิตามขั้นตอนในแบบ - people in history and legend
- an interview - a quiz
ฝึ กหัด E และเล่าช่วงเวลาชีวิต Speaking:
ของบุคคลนั้นให้คู่ของตนเองฟัง - famous people in history - your life
2. เล่าเรื่ องราวในอดีตของ Writing:
ตนเองให้เพื่อน ๆ ฟังตามหัวข้อที่ - a list of teenage rights
- a biography
กำหนด Grammar:
3. ถามเกี่ยวกับความทรงจำสมัย - Past simple (regular and irregular verbs)
เด็กของครู - used to
- Test Yourself
4. คิดและเขียนร่ างสิ ทธิของวัย Vocabulary:
รุ่ น 3 สิ ทธิเป็ นคู่ และอ่านให้ Yesterday
- people in history and legend
เพื่อน ๆ ฟัง - adjectives - wordbuilding
- sequence words - jobs
5. ทำแบบฝึ กหัดเพิม่ เติมใน Pronunciation:
World Club Activity Book 2: - contractions - the letter ‘i’
Module 2 Yesterday
66

ทักษะ/กระบวนการ
1. กระบวนการฟัง
2. กระบวนการพูด
3. กระบวนการอ่าน
4. กระบวนการเขียน
5. กระบวนการคิด
6. กระบวนการกลุ่ม
7. การนำความรู้ไปปรับ
ใช้ในชีวิตประจำวัน

คุณธรรม จริยธรรม และค่ านิยม


กรอบแนวคิดผังการออกแบบการจั
1. ความมีระเบียบวิดนการเรี
ยั ยนรู้
Module2.2:ความใฝ่ เรี ยนรู้
Yesterday
3. ความรับผิดชอบ Learning to Learn
67

ขั้นที่ 1 ผลลัพธ์ ปลายทางที่ต้องการให้ เกิดขึน้ กับนักเรียน


ตัวชี้วดั ช่ วงชั้น
• อ่านออกเสี ยงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้องตามหลักการอ่าน (ต 1.1
ม. 5/2)
• อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สมั พันธ์กบั สื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุและ
เขียนสื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ให้สมั พันธ์กบั ประโยคและข้อความที่ฟังหรื ออ่าน (ต 1.1 ม. 5/3)
• จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุ ปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่ องที่เป็ นสารคดี
และบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ (ต 1.1 ม. 5/4)
• สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่ องต่าง ๆ ใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/เหตุการณ์
ประเด็นที่อยูใ่ นความสนใจของสังคม และสื่ อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/1)
• พูดและเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรี ยบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เรื่ อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/4)
• พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่ องและประเด็นต่าง ๆ ที่อยูใ่ นความ
สนใจของสังคม (ต 1.3 ม. 5/1)
• พูดและเขียนสรุ ปใจความสำคัญ แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่ อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์ และสถานการณ์
ตามความสนใจ (ต 1.3 ม. 5/2)
• เลือกใช้ภาษา น้ำเสี ยง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ตามมารยาท สังคมและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (ต 2.1 ม. 5/1)
• เข้าร่ วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม (ต 2.1 ม. 5/3)
• อธิบาย/เปรี ยบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุ ภาษิต และบทกลอน
ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย (ต 2.2 ม. 5/1)
• ค้นคว้า/สื บค้น บันทึก สรุ ป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู้อื่น จากแหล่ง
การเรี ยนรู้ต่าง ๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน (ต 3.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จ ำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม (ต 4.1
ม. 5/1)
• ใช้ภาษาต่างประเทศในการสื บค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุ ปความรู้ /ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่ อและแหล่งการ
เรี ยนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ (ต 4.2 ม. 5/1)
• เผยแพร่ /ประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลข่าวสารของโรงเรี ยน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติเป็ นภาษาต่างประเทศ (ต 4.2
ม. 5/2)
ความเข้ าใจที่คงทนของนักเรียน คำถามสำคัญที่ทำให้ เกิดความเข้ าใจที่คงทน
นักเรียนจะเข้ าใจว่ า ... - นักเรี ยนต้องการบอกเพื่อนว่าสุ นทรภู่เป็ นบุคคลสำคัญ
1. เราใช้ Used to + คำกริ ยาช่องที่ 1 เมื่อต้องการพูดถึง ในประวัติศาสตร์ของไทยด้านวรรณคดี จะพูดเป็ นภาษา
เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เคยกระทำในอดีต แต่ปัจจุบนั ไม่ได้ อังกฤษว่าอย่างไร
กระทำแล้ว เช่น - นักเรี ยนต้องการเล่าถึงสิ่ งที่เคยทำเมื่อครั้งที่เรี ยนอยูช่ ้ นั
We used to have football matches. ประถมศึกษาให้เพื่อน ๆ ฟัง จะพูดเป็ นภาษาอังกฤษว่า
We didn’t use to play outside in the street. อย่างไร
Where did you use to live? - ยกตัวอย่างและออกเสี ยงคำศัพท์ที่มีตวั i เป็ นเสี ยง
2. เมื่อเราต้องการพูดถึงเหตุการณ์หรื อการกระทำที่เกิด /a ก/, /ก / และ /ช:/ เสี ยงละ 3 คำ
ขึ้นในอดีต และได้จบสิ้ นลงไปแล้วในอดีตเช่นกัน เรา
จะใช้รูปประโยค Simple past tense ซึ่งประกอบด้วย
Subject + คำกริ ยาช่องที่ 2 โดยปกติจะมีค ำบอกเวลาที่
แสดงอดีตรวมอยูด่ ว้ ย เช่น yesterday, last month, in
68

1962, ago, etc. การเติม ed ที่ค ำกริ ยาในรู ปประโยค


Simple past tense แบ่งออกเป็ น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
Regular verbs และ Irregular verbs
1. Regular verbs
- กริ ยาส่ วนใหญ่มีรูป Past tense ด้วยการเติม ed
เช่น walk – walked, reach – reached แต่มีค ำกริ ยาบาง
คำเติม ed โดยการเปลี่ยนแปลง ดังข้อสังเกตดังนี้ 1. คำ
กริ ยาซึ่งลงท้ายด้วย e อยูแ่ ล้ว คงเติมเฉพาะ d เช่น hope
– hoped, place – placed 2. กริ ยาซึ่งลงท้ายด้วย y
เปลี่ยน y เป็ น i แล้วเติม ed เช่น cry – cried, carry –
carried แต่ถา้ หน้า y เป็ นสระ (vowel) เติม ed ได้ โดย
ไม่ตอ้ งเปลี่ยนแปลง เช่น
play – played, enjoy – enjoyed 3. คำกริ ยาพยางค์เดียว
มีสระตัวเดียว ต้องเพิ่มตัวสะกดอีกตัวหนึ่งก่อนเติม ed
เช่น beg – begged, nod – nodded
4. คำสองพยางค์ซ่ ึงออกเสี ยงหนักที่พยางค์ทา้ ย มีสระ
ตัวเดียวและตัวสะกดตัวเดียว ต้องเพิ่มตัวสะกดก่อนเติม
ed เช่น concur – concurred, transfer – transferred 5. คำ
กริ ยาซึ่งลงท้ายด้วย l ตัวเดียว และมีสระพยางค์ทา้ ยตัว
เดียวต้องเพิม่ l ก่อนเติม ed เช่น travel – travelled,
control – controlled หมายเหตุ: ภาษาอังกฤษแบบ
อเมริ กนั ไม่ตอ้ งเพิ่ม l เช่น travel – traveled
2. Irregular verbs
- คำกริ ยาบางคำเมื่อเป็ นช่องที่ 2 จะเปลี่ยนรู ปโดย
ไม่ใช้หลักการเติม ed แต่เปลี่ยนรู ปไป
จากเดิม เช่น go – went, buy – bought

ความรู้ของนักเรียนที่นำไปสู่ ความเข้ าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนที่จะนำไปสู่ ความรู้ที่


นักเรียนจะรู้ว่า ... คงทน นักเรียนจะสามารถ ...
1. คำศัพท์หรื อคำพูดที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องราวในอดีต 1. รู้ เข้าใจ และบอกคำศัพท์หรื อคำพูดที่เกี่ยวข้องกับเรื่ อง
ได้แก่ อาชีพ เช่น nurse, miner, factory worker, farmer, ราวในอดีต ได้แก่ อาชีพ พาหนะในการเดินทาง คำ
doctor, teacher, scientist พาหนะใน คุณศัพท์/คำนาม คำกริ ยาคู่ คำพูดแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ
การเดินทาง เช่น car, motorbike, bicycle, train, bus, และวลีต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง
tram, plane, boat คำคุณศัพท์/คำนาม เช่น 2. รู้ เข้าใจ และพูดบรรยาย แสดงความคิดเห็น สอบถาม
free/freedom, brave/bravery, healthy/health, และตอบเกี่ยวกับเรื่ องราวในอดีตได้อย่างถูกต้อง
democratic/democracy, angry/anger, scientific/science 3. รู้ เข้าใจ และใช้ประโยค Past simple tense และกริ ยารู ป
คำกริ ยาคู่ เช่น go on, get up, come up to, come away, อดีตได้อย่างถูกต้อง
grow up, pull out คำพูดแสดงความคิดเห็น เช่น I think 4. รู้ เข้าใจ และใช้ used to ในการกล่าวถึงอุปนิสยั หรื อ
we should have…, We believe young people should การกระทำในอดีตได้อย่างถูกต้อง
have… วลีต่าง ๆ เช่น win a battle, go to school, have 5. รู้ เข้าใจ และออกเสี ยงรู ปย่อและรู ปคำที่มีการลงน้ำ
a meeting, get a job, do homework, make the lunch หนักไม่มาก (weak forms) ได้อย่างถูกต้อง
2. ประโยคที่ใช้พดู บรรยาย แสดงความคิดเห็น 6. รู้ เข้าใจ และออกเสี ยงคำศัพท์ที่มีตวั i เป็ นเสี ยง
69

สอบถามและตอบเกี่ยวกับเรื่ องราวในอดีต เช่น Amy /a ก/, /ก / และ /ช:/ เสี ยงละ 3 คำ ได้อย่างถูกต้อง
Johnson flew to Australia but she didn’t fly around the
world.
Young people should have free medical treatment
I think…
We believe…
3. การใช้ Past simple tense และกริ ยารู ปอดีตที่ถูกต้อง
เช่น
Amy was quite poor.
She repaired her aeroplane in India.
4. การใช้ used to เพื่อกล่าวถึงอุปนิสยั หรื อ
การกระทำในอดีตที่ถูกต้อง เช่น
They used to pay children very little.
We used to have football matches.
5. การออกเสี ยงรู ปย่อและรู ปคำที่มีการลงน้ำหนักไม่
มาก (weak forms) ที่ถูกต้อง (ฟังตัวอย่าง
การออกเสี ยงจาก Lesson 9 Memories กิจกรรม H หน้า
29)
6. การออกเสี ยงคำศัพท์ที่มีตวั i เป็ นเสี ยง /a ก/, /ก /
และ /ช:/ เสี ยงละ 3 คำ ที่ถูกต้อง เช่น
time /a ก/ big /ก / girl /ช:/
ขั้นที่ 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ซึ่งเป็ นหลักฐานที่แสดงว่ านักเรียนมีผลการเรียนรู้ตามที่
กำหนดไว้ อย่ างแท้ จริง
1. ภาระงานที่นักเรียนต้องปฏิบัติ
- ฝึ กหาคำจำกัดความของคำศัพท์ที่ก ำหนดจากภาพประกอบ
- ฝึ กวาดตารางที่ก ำหนดลงในสมุด และเติมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อในตารางทั้งในอดีตและปัจจุบนั
- ฝึ กเล่นเกมเป็ นคู่โดยผลัดกันพูดคำศัพท์ที่เขียนในตาราง
- ฝึ กอ่านบทความเกี่ยวกับช่วงชีวิตของ Mother Teresa และเขียนคำกริ ยารู ปอดีตลงในช่องว่าง
- ฝึ กอ่านบทความอีกครั้ง วาดตารางลงสมุด และเขียนวันที่และเหตุการณ์ในแต่ละช่วงชีวิตของ Mother
Teresa ลงในตาราง
- ฝึ กฟังเรื่ องราวช่วงชีวิตของผูส้ ร้างประวัติศาสตร์อีกคนหนึ่ง และเรี ยงลำดับคำกริ ยาที่ได้ยนิ
- ฝึ กฟังเรื่ องราวช่วงชีวิตของผูส้ ร้างประวัติศาสตร์อีกคนหนึ่งอีกครั้ง และเลือกตอบว่าประโยคใดถูก
หรื อประโยคใดผิด
- ฝึ กคิดถึงเรื่ องราวของบุคคลที่มีชื่อเสี ยงเป็ นรายบุคคล และเล่นเกมถาม-ตอบคำถามเป็ นกลุ่มเพื่อทายว่า
บุคคลที่มีชื่อเสี ยงคนนั้นเป็ นใคร
- ฝึ กจับคู่ภาพประกอบ ชื่อ และผลงานของบุคคลที่มีชื่อเสี ยงให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กแต่งประโยคเกี่ยวกับช่วงชีวิตของ Mother Teresa จากคำที่ก ำหนดเป็ นคู่ และผลัดกันตอบว่า
ประโยคนั้นเป็ นจริ งหรื อเท็จ
- ฝึ กอ่านย่อหน้าแรกในนิทานที่ก ำหนดอย่างเร็ ว และจับคู่ตวั ละครกับคำคุณศัพท์ให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กอ่านนิทานทั้งหมด และเรี ยงลำดับเหตุการณ์ให้ตรงกับนิทานที่ได้อ่าน
- ฝึ กฟังนิทานและเขียนคำที่ก ำหนดลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
- ฝึ กอ่านช่วงเวลาชีวิตของบุคคลหนึ่ง ทำตามขั้นตอนในแบบฝึ กหัด E และเล่าช่วงเวลาชีวิตของบุคคล
70

นั้นให้คู่ของตนเองฟัง
- ฝึ กเล่าเรื่ องราวในอดีตของตนเองให้เพื่อน ๆ ฟังตามหัวข้อที่ก ำหนด
- ฝึ กฟังบทสนทนาระหว่างหลานสาวกับคุณตาเกี่ยวกับความทรงจำสมัยเด็ก และคาดเดาว่าใครเป็ นผูพ้ ดู
ประโยคแต่ละประโยค
- ฝึ กอ่านประโยคในกรอบสี่ เหลี่ยม และตอบคำถาม
- ฝึ กนึกถึงความทรงจำสมัยเด็กตอนอายุ 5-6 ขวบ เปรี ยบเทียบกับเรื่ องราวปัจจุบนั และเขียนเป็ น
ประโยคที่ถูกต้อง
- ฝึ กเขียนประโยคคำถามถามคูข่ องตนเอง
- ฝึ กพูดถามและตอบคำถามที่ได้เขียนไว้ในแบบฝึ กหัด E เป็ นคู่
- ฝึ กถามคำถามครู เกี่ยวกับความทรงจำสมัยเด็ก
- ฝึ กฟังประโยค 6 ประโยคและตอบว่า แต่ละประโยคมีค ำคำศัพท์ท้ งั หมดกี่ค ำ
- ฝึ กตอบคำถามเป็ นคู่
- ฝึ กอ่านคำสัมภาษณ์ของเด็กช่วงปี ค.ศ. 1842 เกี่ยวกับงานที่ท ำและจับคู่ภาพประกอบกับคำสัมภาษณ์
ให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กตอบคำถามจากบทสัมภาษณ์ที่ได้อ่าน
- ฝึ กอ่านบทสัมภาษณ์อีกครั้ง และตอบคำถาม
- ฝึ กค้นหาคำกริ ยาในบทสัมภาษณ์ และจับคู่กบั คำจำกัดความที่ก ำหนดให้ถูกต้อง
- ฝึ กคิดและเขียนร่ างสิ ทธิของวัยรุ่ น 3 สิ ทธิเป็ นคู่ และอ่านให้เพื่อน ๆ ฟัง
- ฝึ กคิดชื่ออาชีพที่ผคู้ นทัว่ ไปในอดีตทำ 1 ชื่อ และผลัดกันถาม-ตอบคำถามเพื่อทายว่าอาชีพนั้นคืออาชีพ
ใดพร้อมกันทั้งชั้นเรี ยน
- ฝึ กใช้พจนานุกรมย่อ ค้นหา และเขียนคำจำกัดความของคำศัพท์ที่ขีดเส้นใต้ให้ถูกต้อง
- ฝึ กอ่านบทความและจดบันทึกย่อตามหัวข้อเกี่ยวกับ Aztecs และ The Vikings
- ฝึ กทำแบบฝึ กหัดเพิ่มเติมใน World Club Activity Book 2: Module 2 Yesterday
2. วิธีการและเครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้
2.1 วิธีการประเมินผลการเรี ยนรู้ 2.2 เครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู้
1) การทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน 1) แบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน
2) การทดสอบทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน 2) แบบประเมินผลทักษะด้านการฟัง พูด
และเขียน อ่าน และเขียน
3) การประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ นรายบุคคล 3) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น
หรื อเป็ นกลุ่ม รายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม
4) การวัดและประเมินผลด้านคุณธรรม 4) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรี ยน
จริ ยธรรม และค่านิยม 5) แบบทดสอบประจำหน่วย
5) การวัดและประเมินผลด้านความรู้โดยใช้ 6) แบบประเมินผลตนเองของนักเรี ยน
แบบทดสอบ
6) การประเมินผลตนเองของนักเรี ยน

3. สิ่ งที่มุ่งประเมิน
3.1 ความเข้าใจ 6 ด้าน ได้แก่ การอธิบาย การชี้แจง การแปลความและตีความ การประยุกต์ใช้ ดัดแปลง และ
นำไปใช้ การมีมุมมองที่หลากหลาย การให้ความสำคัญในความรู้สึกของผูอ้ ื่น และการรู้จกั ตนเอง
3.2 สมรรถนะสำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการสื่ อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทกั ษะชีวิต และ
71

การใช้เทคโนโลยี
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริ ย ์ ซื่อสัตย์สุจริ ต มีวินยั ใฝ่ ความรู้ อยูอ่ ย่างพอเพียง
มุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเป็ นไทย มีจิตสาธารณะ
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 9 Lead-in เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 10 History Maker เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 11 Legends เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 12 Memories เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 13 Hard Times เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 14 Fluency เวลา 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 15 Consolidation เวลา 1 ชัว่ โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 9-15


สาระการเรียนรู้ ภาษาต่ างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5
Module 2 Yesterday เวลา 12 ชั่วโมง

จุดประสงค์การ
เรียนรู ้
 ฟัง พูด อ่าน และเขียนคำศัพท์หรื อคำพูดที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องราวในอดีต ได้แก่ อาชีพ พาหนะใน
การเดินทาง คำคุณศัพท์/คำนาม คำกริ ยาคู่ คำพูดแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ และวลีต่าง ๆ ได้
(K, P)
 พูดบรรยาย แสดงความคิดเห็น สอบถามและตอบเกี่ยวกับเรื่ องราวในอดีตได้ (K, A, P)
 ใช้ประโยค Past simple tense และกริ ยารู ปอดีตได้ (K, P)
 ใช้ used to ในการกล่าวถึงอุปนิสยั หรื อการกระทำในอดีตได้ (K, P)
 ออกเสี ยงรู ปย่อและรู ปคำที่มีการลงน้ำหนักไม่มาก (weak forms) ได้ (K, P)
 ออกเสี ยงคำศัพท์ที่มีตวั i เป็ นเสี ยง ฒ a กฒ, ฒกฒ และ ฒช:ฒ ได้ (K, P)
 แสดงบทบาทสมมุติและปฏิบตั ิกิจกรรมทางภาษาได้ (K, A, P)

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
 ประเมินการฟัง พูด อ่าน  ประเมินพฤติกรรมใน  ประเมินพฤติกรรมใน
และเขียนคำศัพท์หรื อคำพูดที่ การทำงานเป็ นรายบุคคลใน การทำงานเป็ นรายบุคคลและ
เกี่ยวข้องกับเรื่ องราวในอดีต ด้านความมีวินยั ความใฝ่ เป็ นกลุ่มในด้านการสื่ อสาร
ได้แก่ อาชีพ พาหนะในการ เรี ยนรู ้ ฯลฯ การคิด การแก้ปัญหา ฯลฯ
72

เดินทาง คำคุณศัพท์/คำนาม คำ  มีเจตคติที่ดีต่อการเรี ยน


กริ ยาคู่ คำพูดแสดง ความ ภาษาอังกฤษ
คิดเห็นต่าง ๆ และวลี ต่าง ๆ
 ประเมินการพูดบรรยาย
แสดงความคิดเห็น สอบถาม
และตอบเกี่ยวกับเรื่ องราวใน
อดีต
 ประเมินการใช้ประโยค Past
simple tense และกริ ยารู ปอดีต
 ประเมินการใช้ used to ใน
การกล่าวถึงอุปนิสยั หรื อ
การกระทำในอดีต
 ประเมินการออกเสี ยงรู ปย่อ
และรู ปคำที่มีการลงน้ำหนักไม่
มาก (weak forms)
 ประเมินการออกเสี ยงคำ
ศัพท์ที่มีตวั i เป็ นเสี ยง
ฒ a กฒ, ฒกฒ และ
ฒช:ฒ ได้
 ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคล เป็ นคู่ หรื อเป็ น
กลุ่ม

เนือ้ หาทางภาษา

Reading: a biography; a legend; extracts from history books


Listening: people in history and legend; an interview; a quiz
Speaking: famous people in history; your life
Writing: a list of teenage rights; a biography
Grammar: Past simple (regular and irregular verbs); used to; Test Yourself
Vocabulary: people in history and legend; adjectives; wordbuilding; sequence words;
jobs
Pronunciation: contractions; the letter ‘i’

สื่ อการเรียนรู้
หนังสื อเรี ยน World Club Students' Book 2
แบบฝึ กหัด World Club Activity Book 2: Module 2 Yesterday
73

แผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง

แนวทางการบูรณาการ
ภาษาไทย  บอกความหมายของคำศัพท์และประโยคที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องราวในอดีต
ได้แก่ อาชีพ พาหนะในการเดินทาง คำคุณศัพท์/คำนาม คำกริ ยาคู่ คำพูด
แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ และวลีต่าง ๆ
ศิลปะ  แสดงบทบาทสมมุติ และดูภาพประกอบ
สังคมศึกษาฯ  ศึกษาถึงความสำคัญของบุคคลที่มีชื่อเสี ยงทางวิทยาศาสตร์และ
ประวัติศาสตร์ของเจ้าของภาษา
คุณธรรม จริยธรรม และค่ านิยม
1. ความมีระเบียบวินยั
2. ความใฝ่ เรี ยนรู้
3. ความรับผิดชอบ

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 9
Lead - in
Module Objectives
- ครู อา่ นและอธิบายวัตถุประสงค์ของหน่วยการเรี ยนรู ้ให้นกั เรี ยนเข้าใจและอธิ บายงานที่
นักเรี ยนต้องทำอย่างชัดเจนว่าโครงงานสุ ดท้ายจำเป็ นต้องมีการเตรี ยมการล่วงหน้า
กิจกรรมที่ 1: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพและคำศัพท์ในกรอบ Exercise a ในหนังสื อเรี ยนหน้า 23 ครู อธิ บาย
ความหมายของคำศัพท์ใหม่ให้นกั เรี ยนฟังแล้วหาสิ่ งที่อยูใ่ นรู ปภาพที่มีความหมายตรงกัน
กิจกรรมที่ 2: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกตารางในหนังสื อเรี ยนหน้า 23 ลงในสมุดโน้ต แล้วจึงหาคำมาเติมลงใน
ช่อง transport (การขนส่ ง) weapons (อาวุธ) และ jobs (งาน) จากอดีตจนถึงปั จจุบนั ครู
อาจจะสอนคำต่อไปนี้ล่วงหน้า ซึ่ งจะปรากฏในหน่วยการเรี ยนนี้ ดว้ ย คือ servant (คนใช้)
scientist (นักวิทยาศาสตร์ ) soldier (ทหาร)
กิจกรรมที่ 3: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคูผ่ ลัดกันพูดถึงสิ่ งต่าง ๆ ในตารางของตนเอง (Exercise b) เกมจะสิ้ นสุ ดเมื่อ
คำในรายการถูกพูดจนครบแล้ว
- ครู เขียนคำศัพท์ต่าง ๆ ลงบนกระดาน แล้วกระตุน้ ให้นกั เรี ยนคิดหาคำอื่น ๆ เพิ่มเติม
- ให้นกั เรี ยนเขียนคำศัพท์และข้อความใหม่ ๆ ลงในสมุดคำศัพท์
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 10
Lesson 7: History Maker
Topic Focus
74

- ภูมิหลัง: แม่ชีเทเรซ่า (เดิมชื่อ Agnes Bojaxhiu เป็ นชาวยูโกสลาฟจากสาธารณรัฐ


มาเซโดเนีย) ได้กลายเป็ นบุคคลสำคัญระดับโลกทางด้านศาสนา ผูอ้ ุทิศชีวิตให้แก่การดูแล
รักษาคนจนและคนจรจัด Amy Johnson เป็ นผูบ้ ุกเบิกทางด้านการบิน เธอเป็ นผูห้ ญิงคน
แรกที่บินเดี่ยวจากประเทศอังกฤษไปยังออสเตรเลีย ในปี 1930
- ครู เขียนคำว่า History Maker (ซึ่ งหมายถึง ผูส้ ร้างประวัติศาสตร์ ) ลงบนกระดาน ครู อธิ บายชื่อ
เรื่ อง แล้วบอกให้นกั เรี ยนบอกชื่อบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์พร้อมทั้งบอกว่ามีความสำคัญ
อย่างไร ควรปล่อยให้นกั เรี ยนอภิปรายกันเอง โดยครู มีหน้าที่คอยรับฟังคำตอบจากนักเรี ยน
เช่น Einstein – ทางวิทยาศาสตร์ Pelé – ทางกีฬา John Lennon – ทางด้านดนตรี Picasso –
ทางศิลปะ Henry Ford – ทางด้านการขนส่ ง
Language Focus: Past simple – irregular verbs
กิจกรรมที่ 1: Reading / Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพในหนังสื อเรี ยนหน้า 24 แล้วบรรยายสั้น ๆ ครู บอกนักเรี ยนว่า เนื้อ
เรื่ องเป็ นเรื่ องชีวิตของแม่ชีเทเรซ่า จากนั้นให้นกั เรี ยนเขียนหมายเลข 1-12 ลงในสมุด
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำกริ ยาที่ให้มาใน Exercise A ในหนังสื อเรี ยนหน้า 24 แล้วอ่านเนื้อเรื่ อง
และเขียนคำกริ ยาที่เห็นว่าเหมาะสมลงไปในช่องว่างโดยใช้กริ ยาในรู ปอดีต (กริ ยาช่อง 2)
- ครู ใช้ค ำศัพท์ค ำแรกเป็ นตัวอย่างอธิ บายให้เข้าใจ และย้ำให้นกั เรี ยนใช้ Mini-dictionary ใน
หนังสื อเรี ยนหน้า 101-110 เพื่อค้นหาความหมายของคำศัพท์ใหม่
- ตรวจคำตอบบนกระดานพร้อมกันทั้งชั้น
เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 24
1 was 2 joined 3 took 4 went 5 taught 6 decided
7 had to 8 became 9 spent 10 received 11 died 12 said
กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู อ่านตัวอย่างประโยค Agnes Bojaxhiu was born in 1910. ดัง ๆ แล้วให้เวลานักเรี ยนใน
การคัดลอกตารางใน Exercise B ในหนังสื อเรี ยนหน้า 24 ลงในสมุดและเติมคำลงใน
ช่องว่างให้สมบูรณ์ ครู ให้เวลานักเรี ยนสักครู่ เพื่อนำผลงานมาเปรี ยบเทียบกัน ครู คดั ลอก
ตารางลงบนกระดาน ช่วยกันหาคำตอบ แล้วเฉลยลงบนกระดาน

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 24


Date Event
1910 Agnes Bojaxhiu was born
1928 joined a religious group took the name ‘Teresa’ went to India
1931-1946 taught at a school
1946 decided to work with the poor of Calcutta
1979 received the Nobel Peace Prize
1997 died
75

กิจกรรมที่ 3: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพด้านซ้ายมือ ในหนังสื อเรี ยนหน้า 25 บอกนักเรี ยนว่า เอมี่ จอห์นสัน เป็ น
ผูห้ ญิงคนแรกที่บินเดี่ยวทางไกล
- ให้นกั เรี ยนฟังประวัติยอ่ ของเธอ บอกนักเรี ยนว่า คำกริ ยาที่จะได้ยนิ อยูใ่ นรู ป Past simple
Tense ให้นกั เรี ยนเขียนตัวเลข 1-7 ลงในสมุด แล้วเขียนคำกริ ยาลงไปตามลำดับที่นกั เรี ยนได้
ยินจากแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง ครู เปิ ดแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยง โดยอาจจะเปิ ดมากกว่า 1
ครั้ง แล้วตรวจคำตอบด้วยการตอบปากเปล่า

TAPESCRIPT
Listen to this story of another ‘History Maker’. Put the verbs in your book in the order
you hear them.
Amy Johnson – the first woman to fly to Australia.
Amy Johnson was born in Hull, England. She saw her first aeroplane at the cinema and
wanted to learn to fly. She was quite poor, so she had to work hard to save money. After
many lessons, she passed her flying exams and in 1930 started her solo flight to Australia.
She had never been abroad before, and, in fact, could only speak a little French. On the
way to Australia she had engine problems and had to do some repairs herself in India.
On one occasion she crashed in a jungle and met some wild looking tribesmen, who
helped her. Finally after nineteen days she arrived triumphantly in Australia.

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 25


1 see (saw) 2 want (wanted) 3 pass (passed)
4 start (started) 5 crash (crashed) 6 meet (met)
7 arrive (arrived)

กิจกรรมที่ 4: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)


- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงให้นกั เรี ยนฟังอีกครั้ง แล้วให้บอกว่าประโยคต่าง ๆ ที่
กำหนดไว้ใน Exercise D ในหนังสื อเรี ยนหน้า 25 นั้นถูกหรื อผิด ตรวจคำตอบด้วยการเฉลย
ปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 25
1T 2 F 3 F 4 T

กิจกรรมที่ 5: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม) A


- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย ให้นกั เรี ยนผลัดกันคิดชื่อบุคคลสำคัญ
76

- ให้นกั เรี ยนคนอื่น ๆ ตั้งคำถามประเภท yes/no ได้ไม่เกิน 10 คำถามเพื่อจะทายว่าบุคคล


ปริ ศนาที่ก ำหนดไว้เป็ นใคร
กิจกรรมที่ 6: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพในหนังสื อเรี ยนหน้า 25 แล้วจับคู่กบั ประโยคที่ตรงกัน
- รวบรวมคำตอบจากทั้งชั้น แล้วหาอาสาสมัครที่จะให้ขอ้ มูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคคลที่มี
ชื่อเสี ยงแต่ละคน

เฉลย: Students’ Book ข้ อ F หน้ า 25


i c4 ii b3 iii a1 iv d2
กิจกรรมที่ 7: Speaking (กิจกรรมคู่)
A - ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั ครู อธิบายให้ฟังว่า แต่ละคนจะมีรายชื่อคำบอกใบ้เพื่อตั้งคำถามและ
คำตอบคนละ 1 ชุด แล้วให้แต่ละผลัดกันถามคำถาม
- ให้นกั เรี ยน A เปิ ดหนังสื อไปที่หน้า 93 และทำข้อ 2 ให้นกั เรี ยน B เปิ ดหนังสื อไปที่หน้า 94
และทำข้อ 2 ครู ลองทำตัวอย่างให้ดูก่อน แล้วจึงให้นกั เรี ยนเริ่ มทำกิจกรรม
- ถ้านักเรี ยนคนใดตอบถูกต้องจะได้ 1 คะแนน
- ครู ตรวจสอบการทำกิจกรรมเพื่อจะดูวา่ นักเรี ยนตั้งคำถามถูกหรื อไม่ คำถามทั้งหมดจะเป็ น
คำถามที่ข้ ึนต้นด้วย Wh- ที่ไม่ใช้กริ ยาช่วย did (ในการถาม)
- เมื่อนักเรี ยนทำกิจกรรมเสร็ จแล้ว ให้ช่วยกันคิดหาคำถามเพิ่มเติมแล้วสลับถามเพื่อนคู่อื่น
กิจกรรมเสริม
Quiz: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ น 2 ทีม ให้นกั เรี ยนคิดหาคำถามเกี่ยวกับอดีต แล้วเขียนลงบนกระดาษ
พร้อมคำตอบ พับให้ดี ตัวอย่างคำถามเช่น What did Isaac Peral invent? (คำตอบคือเรื อ
ดำน้ำ: the submarine)
- ครู เก็บกระดาษจากนักเรี ยน แยกคำถามแต่ละทีมออกจากกัน วางบนโต๊ะครู ให้นกั เรี ยนผลัด
กันออกมาหยิบคำถามจากทีมของเขาแล้วอ่านดัง ๆ ถ้าทีมตรงข้ามสามารถตอบได้ถูกต้อง
จะได้ 1 คะแนน ถ้าตอบไม่ถูกจะเสี ย 1 คะแนน
77

เฉลย: Activity Book (Lesson 7) หน้ า 16-17


A 2 built 3 fell 4 felt 5 grew 6 heard
7 knew 8 met 9 paid 10 thought
B 1 fought, use 2 didn’t like, love 3 weren’t, watches
4 studied, speaks 5 helped, don’t usually like
C 1 went 2 crossed 3 saw 4 visited
5 arrived 6 met 7 gave 8 spent
9 was 10 had 11 ate 12 rode
D Transport: horse, train, car, boat
People : farmer, knight, scientist, miner
Weapons: sword, club, gun, spear
E 1c 2 e 3 b 4a 5 f 6 d
F 2 They didn’t ride motorbikes.
3 They didn’t play electronic games.
4 They didn’t listen to personal stereos (Walkmans).
5 They didn’t eat hamburgers.
6 They didn’t wear sunglasses/t-shirts.
7 They didn’t read newspapers.
G 1 F (she was 16 in 1955) 2 T 3T
4 F (she worked on her own) 5 F (more successful than ever)

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 11
Lesson 8: Legends
Topic Focus
- ถามนักเรี ยนว่า นักเรี ยนเคยได้ยนิ ตำนานเกี่ยวกับกษัตริ ยอ์ าร์เธอร์และอัศวินโต๊ะกลมหรื อไม่
ไม่วา่ คำตอบจะเป็ นอย่างไรก็ตาม ครู ตอ้ งอธิ บายให้นกั เรี ยนเข้าใจว่า เรื่ องนี้เป็ นนิยายปรัมปรา
ที่มีชื่อเสี ยงที่สุดของอังกฤษ ในยุคกลางเรื่ องนี้ ได้ถูกแต่งเป็ นทั้งนิยายและโคลงกลอนมากมาย
- บทเรี ยนนี้ จะเล่าเรื่ องคร่ าว ๆ จากชีวิตในวัยเด็กของกษัตริ ยอ์ าร์เธอร์จนกระทัง่ ได้เป็ นกษัตริ ย ์
ของประเทศอังกฤษด้วยการช่วยเหลือของพ่อมดเมอร์ลิน
กิจกรรมที่ 1: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำศัพท์ในกรอบ Exercise A ในหนังสื อเรี ยนหน้า 27 ไปพร้อมกับครู แล้วครู
อธิบายความหมายให้ฟังเฉพาะคำที่นกั เรี ยนไม่ทราบความหมาย
- ครู อ่านคำศัพท์แต่ละคำดัง ๆ ถ้านักเรี ยนเห็นว่าตรงกับรู ปภาพหน้า 26 ให้ยกมือขึ้น
78

กิจกรรมที่ 2: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านย่อหน้าแรกอย่างเร็ ว แล้วจับคู่ตวั ละครกับคำคุณศัพท์ในกรอบ Exercise B
ในหนังสื อเรี ยนหน้า 27 ครู ตอ้ งย้ำว่านักเรี ยนเข้าใจความหมายทุกคำ
กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องทั้งหมด แล้วเขียนประโยคต่าง ๆ ลงในสมุด โดยให้เรี ยงตามลำดับ
เหตุการณ์ ครู ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 27


1 Pendragon gave Arthur to Merlin. 4 The nobles had a meeting in London.
2 Arthur grew up with Kay. 5 Arthur pulled the sword out of the stone.
3 Pendragon died. 6 Arthur became king.

กิจกรรมที่ 4: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)


- ครู บอกนักเรี ยนว่า ครู จะเปิ ดแผ่นซี ดีให้ฟัง เพื่อให้นกั เรี ยนเติมคำลงในช่องว่างให้สมบูรณ์
แล้วบอกให้เขียนตัวเลข 1-12 ลงในสมุด
- อ่านคำศัพท์จากในกรอบ Exercise D ในหนังสื อเรี ยนหน้า 27 พร้อมกันทั้งชั้น ครู ถาม
นักเรี ยนว่านักเรี ยนเข้าใจความหมายหรื อไม่
- ครู เปิ ดแผ่นซีดีเป็ นครั้งที่ 2 เพื่อให้นกั เรี ยนเติมคำได้ถูกต้อง แต่ละคำใช้ได้มากกว่า 1 ครั้ง
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่าพร้อมกันทั้งชั้น
79

TAPESCRIPT
Listen to the story and put the words into the gaps.
The Sword in the Stone
Pendragon, a brave but bad king, fell in love with a noble’s wife. He decided to kill the
noble and then marry her. Sometime later, he and his wife had a baby son. Pendragon was
afraid the nobles would kill his son, so he gave him to Merlin, the wizard. Merlin was
clever and wise. He gave the baby to a knight. He didn’t say the baby was Pendragon’s
son. The knight called the baby Arthur. Arthur played with the knight’s son, Kay, and
they grew up to be strong and healthy young men.
After a few years, King Pendragon died. Nobody knew about Arthur, and all the nobles
wanted to be king. They fought for many years, and then one Christmas they
decided to have a meeting in London to select a new king. Before they had the meeting,
Merlin put a sword in a big stone next to the cathedral. He wrote a message on it: “The
person who pulls out this sword is the real King of England.”
Arthur and Kay went to London. Kay forgot his sword. Arthur went to look for it, but
before he could find it, he saw the sword in the stone. He thought it was Kay’s sword and
took it out!
When Kay saw the sword, he thought Arthur had stolen it, and immediately told Arthur to
put it back. Arthur put the sword back, and then Kay tried to pull it out, but he couldn’t.
Arthur immediately pulled it out again!
When the nobles heard about it, they didn’t believe it. After all this, Merlin explained that
Arthur was King Pendragon’s son, and Arthur became King of England.

เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 27


1 and then 2 later 3 After 4 and then
5 Before 6 before 7 When 8 immediately
9 and then 10 immediately 11 When 12 After

กิจกรรมที่ 5: Speaking (กิจกรรมคู่) A


- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั นักเรี ยน A เปิ ดหนังสื อไปที่หน้า 93 ข้อ 3 นักเรี ยน B เปิ ดไปหน้า 94
ข้อ 3 ให้นกั เรี ยนอ่านโน้ตย่อเกี่ยวกับ William Wallace และ Cleopatra โดยให้ใช้ Mini-
dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101-110 เพื่อค้นหาคำศัพท์ยาก
- ให้นกั เรี ยนฝึ กเล่าเรื่ องในอดีต
80

- ให้เล่าเรื่ องให้คู่ของตนเองฟัง โดยมองดูแผนภูมิแสดงช่วงเวลาไปด้วยเพื่อเตือนใจ


- ครู กระตุน้ ให้นกั เรี ยน 2 – 3 คนออกมาเล่าเรื่ องหน้าชั้นเรี ยน
กิจกรรมเสริม
Story – Telling: Listening (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
หมายเหตุ: ถ้าต้องการข้อมูลเพิม่ เติมเกี่ยวกับการเล่าเรื่ องให้ครู กลับไปอ่านคำแนะนำการใช้
หนังสื อชุด World Clud เพืเอใช้ประกอบการเรี ยนการสอนข้อที่ 48
- ครู บอกนักเรี ยนว่า ครู จะเปิ ดแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงเกี่ยวกับตำนานการสร้างกรุ งโรมให้
นักเรี ยนฟัง ครู สอนคำศัพท์ให้เข้าใจก่อน ครู เล่าเรื่ องโดยดูจากโน้ตย่อ แล้วตั้งคำถามเพื่อ
ทดสอบความเข้าใจของนักเรี ยน โน้ตย่อ คือ Romulus and Remus / twin baby boys /
grandfather King Numitor / king of Alba Longa in the centre of Italy / Amulius killed
Numitor / became king / threw the babies into the River Tiber to drown them / babies
floated to the bank of the river / a she-wolf found them / gave them her milk and
protected them / then a shepherd found the boys and adopted them / years later they
founded Rome on a hill / later Rome grew to six other hills near the Tiber
- ครู ถามคำถามให้นกั เรี ยนตอบสัก 2-3 คำถาม เพื่อทดสอบความรู ้ของนักเรี ยนเกี่ยวกับ
ประวัติศาสตร์ของชาวโรมัน เช่น ถามว่า Who was the first emperor? หรื อ When did the
Romans come to Spain?
เฉลย: Activity Book (Lesson 8) หน้ า 18
A 2 lived 3 looked after 4 attacked 5 killed
6 called 7 was 8 became 9 gave
10 robbed
B example answers (students may be able to justify others)
good (because she helped poor people),
brave (because she killed a wolf)
C 2 What did she look after? 3 What did she kill?
4 How did she kill the wolf? 5 Why did people call her
6 Who did she rob? ‘Loba’?
D 1 A 2 F 3 B
4 D 5 C 6 E

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 12
Lesson 9: Memories
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน) A
- ให้นกั เรี ยนคิดย้อนกลับไปถึงความทรงจำที่จ ำได้แรกสุ ดสมัยเด็ก ๆ แล้วเล่าให้เพื่อนใน
81

ชั้นฟัง จากนั้นคิดถึงเหตุการณ์เด่น ๆ 2-3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ (จะเป็ นเหตุการณ์


ในประเทศหรื อต่างประเทศก็ได้) แล้วถามนักเรี ยนว่า ช่วงนั้นนักเรี ยนทำอะไรอยู่
กิจกรรมที่ 2: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- บทพูดนี้ได้ดดั แปลงมาจากบทสัมภาษณ์ Les Hanlon ซึ่ งเป็ นพ่อตาของผูส้ มั ภาษณ์ลงในเทป
เป็ นการพูดถึงความยากลำบากของชีวิตในช่วง ค.ศ. 1920-39 Claire ซึ่ งเป็ นหลานสาวได้ถาม
ถึงความทรงจำเมื่อครั้งยังเป็ นเด็กของเขา
- ให้นกั เรี ยนอ่านแต่ละประโยคใน Exercise B หน้า 28 แล้วเดาว่าเป็ นคำพูดของ Les หรื อ Clai
ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงเพื่อตรวจสอบการคาดเดาว่าถูกหรื อไม่

TAPESCRIPT
CLAIRE: Oh, I remember when I was in Primary School we used to have a really strict
Listenteacher,
maths to Clairebuttalking
you’retoright,her it’s
grandfather,
much betterLesnow.Hanlon.
Er, nextWho says the
question. Didsentences
you havein
your book
much – Claire or Les?
free time?
CLAIRE: We’reWe
LES: Not really. doing
useda history
to haveproject
footballatmatches
school, grandad. Can I ask
and do boxing in theyouorphanage.
a few
questions? But you didn’t go out much.
CLAIRE:
LES: Oh,Of course
no, weyou can,use
didn’t Claire.
to play outside in the streets.
CLAIRE: What Mm, Iwas usedlifeto like
playwhen
outsideyouallwere a boy?
the time with my friends.
LES: YouWell,were
we were
lucky.very poor, and the houses were very small. In our house, there was
my older sister
CLAIRE: Did andyou myself,
ever haveand… a holiday?
CLAIRE: WhereWe
LES: Not really. didused
you use to gotodown
live? to the beach occasionally. But you couldn’t swim,
LES: It was
because of thea house right
oil from thenext
ships.to a church. I always remember that. And when I was
nine, both my
CLAIRE: Youparents died. Next question. What about your first job, grandad. How old
poor thing!
CLAIRE:
were you? So what happened then?
LES: Well, I left wentthein orphanage
to an orphanage. when I was thirteen…
What was it like in the orphanage?
CLAIRE: Thirteen!?
LES: I…yes,
used toandgetI got
up ata job
halfinpast
a bigsixhouse,
in the as
morning. Andservant.
a domestic I had to Imake
used the beds,allclean
to clean the
the rooms,
house things likeAnd
and furniture. that… they had a huge amount of coal, and I used to bring it up to the
CLAIRE:
kitchen, Soundsallhorrible!
because the fires What was your
were coal fires school
then. like? Were the teachers very strict?
LES: Oh yes,
CLAIRE: they like
Sounds werehard all very
work!strict. They
I used usedintoour
to help giveneighbor’s
us the cane.
shopNotonlike your but
Saturdays,
Iteachers today. it.
quite enjoyed
LES: No, this was real work, from half past six in the morning to eleven at night.
CLAIRE: Gosh. Didn’t you ever…

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 28


1 Les 2 Les 3 Claire 4 Claire 5 Les 6 Claire
82

Language Focus: Used to


กิจกรรมที่ 3: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านประโยคต่าง ๆ ในกรอบในหนังสื อเรี ยนหน้า 29 แล้วตอบคำตอบ
- รวบรวมคำตอบที่ถูกต้องแล้วเขียนลงบนกระดาน ครู ใช้ชอล์กสี หรื อปากกาไวท์บอร์ดสี
ต่าง ๆ เขียนเน้นข้อแตกต่างเพื่อให้เห็นเด่นชัดขึ้น
เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 29
1 In negatives and questions, we omit the ‘d’.
2 Used to refers to past habits.
3 I used to get up early means I normally did this in the past while I usually get up early
means I normally get up early now.

กิจกรรมที่ 4: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านชื่อเรื่ องทั้ง 4 จาก Exercise D ในหนังสื อเรี ยนหน้า 29 แล้วลองคิดถึงสิ่ งที่
นักเรี ยนเคยทำในอดีตแต่ไม่ท ำในปั จจุบนั หรื อสิ่ งที่ไม่ได้ท ำในอดีตแต่ท ำในปัจจุบนั
- ครู อา่ นและตรวจทานตัวอย่างพร้อมกันทั้งชั้น แล้วนักเรี ยนเขียนประโยค 4 ประโยคตาม
หัวข้อที่ก ำหนดให้
กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านประโยคโครงร่ าง แล้วเขียนออกมาเป็ นคำถามที่สมบูรณ์

เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 29


1 Did you use to have a lot of homework?
2 What time did you use to go to bed?
3 Which TV programmes did you use to watch?
4 Which sports or games did you use to play?
กิจกรรมที่ 6: Speaking
(กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั พิจารณาตัวอย่างบทสนทนาใน Exercise F ในหนังสื อเรี ยนหน้า 29 โดย
ให้นกั เรี ยน 1–2 คู่ ฝึ กแสดงบทสนทนา
- อธิบายให้นกั เรี ยนเข้าใจว่า นักเรี ยนจะต้องทำโน้ตย่อสั้น ๆ จากคำตอบของกันและกัน
- ครู ตรวจสอบว่านักเรี ยนใช้โครงสร้างของประโยคถูกหรื อไม่
กิจกรรมที่ 7: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน) A
- ให้นกั เรี ยนถามครู เกี่ยวกับชีวิตวัยเด็กของครู ครู ตอบสั้น ๆ
- ครู ใช้บทเรี ยนนี้ เป็ นโอกาสที่จะแก้ไขการใช้ used to ในประโยคคำถามผิด ๆ (ครู ควรเขียน
หลักการใช้ used to ไว้บนกระดานเพื่อเตือนความจำของนักเรี ยน)
กิจกรรมที่ 8: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนฟังแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงแล้วเขียนจำนวนคำในแต่ละประโยคลงไป (รู ปย่อ
83

ถือว่าเป็ น 2 คำ)
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงแล้วตรวจคำตอบ เปิ ดแผ่นซี ดีอีก 1 เที่ยว แล้วบอกให้นกั เรี ยน
อ่านประโยคต่าง ๆ ตามครู

TAPESCRIPT
เฉลย:
Listen Students’ Book ข้ อ HHow
to the six sentences. หน้many
า 29 words are in each sentence? Remember,
1contractions
seven 2 sixcount
3 nine
as two4 words.
six 5 ten 6 six
1 They used to give us the cane.
2 Where did you use to live?
3 I used to get up at half past six.
4 Did you have much free time?
5 We didn’t use to play outside in the streets.
6 Did you ever have a holiday?

กิจกรรมเสริม
Time references: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- บอกให้นกั เรี ยนเขียนคำที่กล่าวถึงเวลาลงในกระดาษ เช่น 1974, January, 11 o’clock เป็ นต้น
- ครู เก็บกระดาษของนักเรี ยนที่เขียนเสร็ จ แล้วแบ่งออกเป็ น 2 ทีม
- ให้นกั เรี ยนแต่ละทีมหยิบกระดาษออกมาแล้วแต่งเป็ นประโยคให้ถูกต้อง เช่น I never get up
at 11 o’clock. ถ้าแต่งได้ถูกต้อง ได้ 1 คะแนน
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 9) หน้า 19-20
เฉลย: Activity Book (Lesson 9) หน้ า 19-20
A 2 She used to watch cartoons but now she doesn’t.
3 She used to read comics but now she doesn’t.
4 She didn’t use to play chess but now she does.
5 She didn’t use to drink coffee but now she does.
D English
6 She didn’t use to speak 1 family but 2nowparents
she does. 3 sisters 4 house 5 teachers
B open 6 strict 7 holiday 8 car 9 steam 10 job
C 2 What time did youE use toWhere get updidinyou
the morning?
live?
3 What did you use to study at school?
What did you do/study at school?
4 Did you use to have a lot of homework?
5 Where did you use to go When
for yourdidholidays?
you leave school?
6 Did you use to have a lotWhat
of freewas your first job?
time?
F 2 can’t 3 didn’t 4 I’m 5 He’s 6 haven’t
G 2 To look for work. 3 Dirty and crowded.
4 Clean water and new medicines. 5 Factories and mines.
84

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 13
Lesson 10: Hard Times
หมายเหตุ: เนื้อเรื่ องในหนังสื อเรี ยนหน้า 30 ได้ถูกดัดแปลงมาจากบทสัมภาษณ์ที่เกิดขึ้นจริ งกับ
เด็กในประเทศอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 19 เด็ก ๆ พวกนี้ตอ้ งทำงานกันหลายชัว่ โมงในสภาพ
แวดล้อมที่เลวร้าย แต่รายได้น้ นั ต่ำมาก
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมคู่) A
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั ถามคำถามที่ก ำหนดให้ใน Exercise A ในหนังสื อเรี ยนหน้า 30
- เมื่อผลักดันถามจนครบแล้ว ให้ถามคำถามให้คนในชั้นเรี ยนตอบ ครู อนุญาตให้นกั เรี ยนใช้
ภาษาไทยในการอภิปรายเพื่อหาคำตอบที่น่าสนใจกว่า
กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู อธิบายให้นกั เรี ยนฟังว่า ในศตวรรษที่ 19 เด็ก ๆ จำนวนมากต้องทำงานในสภาพที่เลว
ร้าย เนื้อเรื่ องที่น ำมาให้อา่ นได้มาจากการสัมภาษณ์เด็กบางคนที่พดู ถึงงานที่เขาทำ
- ให้นกั เรี ยนดูภาพวาดทั้ง 3 ภาพในหนังสื อเรี ยนหน้า 30 และครู บรรยายสั้น ๆ ในแต่ละภาพ
เช่น In A, a girl is carrying a big bag of something; in B, a girl is washing up in a kitchen;
in C a boy is under a machine in a factory.
- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องอย่างรวดเร็ วแล้วจับคู่กบั รู ปภาพ (ยังไม่ควรให้ใช้ Mini-dictionary
ในขั้นนี้)

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 30


A. 2 B 3 C 1
กิจกรรมที่ 3:
Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำถาม 5 คำถามใน Exercise C หน้า 31 แล้วกลับไปอ่านเนื้อเรื่ องใน
หนังสื อเรี ยนหน้า 30 อีกครั้ง
- ให้เขียนคำตอบลงในสมุด อาจใช้ Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101–110 เพื่อ
ค้นหาความหมายของคำศัพท์ได้
85

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 31


1 Sixteen or seventeen hours a day. 4 Eighteen hours.
2 At twelve a.m. 5 Four: breakfast, dinner, tea and supper.
3 Seven stones.

กิจกรรมที่ 4: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม/กิจกรรมทั้งชั้นเรียน) A


- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อยหรื อจะอภิปรายคำถามกับทั้งชั้นก็ได้ ครู ตรวจสอบว่า
นักเรี ยนทุกคนเข้าใจหรื อไม่
- ครู เฝ้ าสังเกตการทำกิจกรรม คอยช่วยเหลือเกี่ยวกับคำศัพท์และข้อความที่นกั เรี ยนไม่เข้าใจ
- ให้นกั เรี ยน 1 คน ในแต่ละกลุ่มเขียนคำตอบสั้น ๆ เพื่อแสดงความรู ้สึกหรื อความเห็นของ
กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มออกไปรายงานคำตอบให้เพื่อน ๆ ฟัง ซึ่ งเรื่ องนี้ อาจนำไปสู่ การอภิปราย
โดยใช้ภาษาไทยอย่างสั้น ๆ
กิจกรรมที่ 5: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำกริ ยาและความหมายของคำทั้งหมด ซึ่ งคำกริ ยาแต่ละคำจะพบในเนื้ อ
เรื่ อง
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำจำกัดความ a-d และให้คิดหาคำตอบว่าคำไหนควรจะนำมาใช้แทนใน
เนื้อเรื่ องได้
- ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น
เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 31
1c 2 a 3d 4
b
กิจกรรมที่ 6: Writing (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั อ่านกฎบัตรสิ ทธิ ของวัยรุ่ น (Teenage Rights) Exercise F ในหนังสื อ
เรี ยนหน้า 31 ครู ทบโครงสร้างของประโยคที่มีกริ ยาช่วย should และ must
- ให้แต่ละคู่ร่างกฎบัตรสิ ทธิของวัยรุ่ นอย่างน้อย 3 ข้อ ซึ่ งอาจจะมีท้ งั แบบเอาจริ งเอาจัง หรื อ
ขบขัน หรื อผสมกันก็ได้ แล้วให้ตวั แทนแต่ละกลุ่มออกมาอ่านดัง ๆ ครู เลือกเฉพาะที่ดีที่สุด
ไว้ท ำเป็ นแผนภูมิเพื่อแสดงในชั้นเรี ยน
- เพื่อให้นกั เรี ยนได้ฝึกการใช้กริ ยาช่วยเพิ่มมากขึ้น ครู ให้นกั เรี ยนทั้งชั้นระดมสมองจนได้ขอ้
ปฏิบตั ิของวัยรุ่ น (Teenage Obligations) สัก 6 ข้อ
กิจกรรมที่ 7: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม) A
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4-5 คน แล้วอ่านคำถามตัวอย่าง
- ให้นกั เรี ยนผลัดกันคิดถึงงานที่คนทำกันในอดีต แล้วให้คนอื่น ๆ ถามคำถามไม่เกิน 10
คำถาม เพื่อจะได้รู้วา่ คืออาชีพใด คำตอบให้ตอบได้เพียง yes, no หรื อ sometimes เท่านั้น
กิจกรรมที่ 8: Dictionary work (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนค้นหาความหมายของคำ เช่น bright จาก Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า
101 - 110 บอกนักเรี ยนว่ามีความหมายได้ถึง 3 ความหมายที่ต่างกัน
86

- ให้นกั เรี ยนอ่านประโยคแรก แล้วให้เลือกความหมายของคำว่า bright ที่ตรงกับประโยคนั้น


ให้ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้นแล้วให้นกั เรี ยนหาความหมายในประโยคอื่น ๆ ด้วยตนเอง

เฉลย: Students’ Book ข้ อ H หน้ า 31


1 meaning 1 2 meaning 2 3 meaning 1
4 meaning 2 5 meaning 3 6 meaning 4
กิจกรรม
เสริม
Vocabulary: Writing (กิจกรรมคู่/กิจกรรมกลุ่ม)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่หรื อกลุ่ม ครู เขียนคำว่า Hard Times by Charles Dickens บน
กระดาน ครู อธิบายว่าชื่อนี้คือชื่อหนังสื อและผูแ้ ต่ง
- ให้แต่ละคู่หรื อกลุ่มลองสร้างคำจากตัวอักษรที่เป็ นชื่อหนังสื อและชื่อผูแ้ ต่ง ในการให้
คะแนน ให้ 1 คะแนน ต่อตัวอักษร 1 ตัว ในแต่ละคำ ตัวอย่าง เช่น hide = 4 คะแนน death =
5 คะแนน เป็ นต้น
- ครู ให้เวลาประมาณ 5 นาที แล้วจึงให้แต่ละกลุ่มส่ งอาสาสมัคร 1 คนออกมาเขียนบน
กระดาน และทำหน้าที่เลขานุการด้วยคือ ขณะที่นกั เรี ยนคนอื่น ๆ อ่านออกเสี ยงดัง ๆ เลขา
จะเป็ นผูร้ วมคะแนน

เฉลย: Activity Book (Lesson 10) หน้ า 21


A 2 The workers used to live in villages.
3 Where did the rich people use to live?
4 The rich people used to have big houses and servants.
5 They didn’t use to have electricity.
B 1 doctor 2 nurse 3 teacher 4 farmer 5 soldier
6 singer 7 servant 8 robber 9 sailor
C 2 She 3 them 4 they 5 them
6 he 7 we 8 him 9 I
D 1 F (she died when he was born)
2 F (she kept most of it for herself)
3 T
4 F (we know nothing of his mother)
5 T
87

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 14
Lesson 11: Fluency
กิจกรรมที่ 1: Reading (กิจกรรมคู่)
- กิจกรรมนี้จะให้ขอ้ มูลเพื่อทำแบบฝึ กหัดต่อไป ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั โดยนักเรี ยน A เปิ ดหน้า
93 ข้อ 4 นักเรี ยน B เปิ ดหน้า 94 ข้อ 4
- ครู อธิบายให้นกั เรี ยนเข้าใจว่า แต่ละคนจะต้องอ่านเนื้อเรื่ องและจดบันทึกเกี่ยวกับอารยธรรม
โดยใช้หวั เรื่ องจากแผนผังที่ให้มา นักเรี ยนไม่จ ำเป็ นต้องเขียนประโยคที่สมบูรณ์ เช่นเรื่ อง
food ให้เขียนเพียงแค่ meat หรื อ fish เท่านั้น
- นักเรี ยนสามารถใช้ Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101 – 110 เพื่อค้นหาความหมาย
ของคำศัพท์ได้และให้คดั ลอกคำศัพท์ใหม่ลงในสมุดคำศัพท์ของตนเอง
กิจกรรมที่ 2: Speaking (กิจกรรมคู่) A
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กบั คูเ่ ดิมที่ท ำกิจกรรมแรกด้วยกัน ครู อธิ บายให้ทราบว่า แต่ละคนในคู่น้ นั มี
ข้อมูลเกี่ยวกับอารยธรรมต่าง ๆ คนละอารยธรรม
- ให้นกั เรี ยนอ่านประโยคคำถามตัวอย่างในหนังสื อ สำหรับนักเรี ยนที่นกั เรี ยนค่อนข้างอ่อน
ครู อาจจะบอกให้นกั เรี ยนบอกรู ปแบบคำถามที่ถูกต้องทั้งหมดก่อน
- ให้นกั เรี ยนถามคำถามเพื่อถามถึงอารยธรรมของเพื่อนคู่หูและจดบันทึกไว้ ครู คอยสังเกต
การทำกิจกรรมด้วยการเดินไปรอบ ๆ ห้อง เพื่อตรวจสอบดูวา่ นักเรี ยนสามารถตั้งคำถามด้วย
past simple ได้ถูกต้องหรื อไม่
กิจกรรมที่ 3: Listening (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั ครู บอกนักเรี ยนว่าจะเปิ ดแผ่นซี ดีค ำถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ให้ฟัง
- เปิ ดแต่ละคำถามให้ฟัง 1 ครั้ง คู่ไหนยกมือก่อนและตอบได้ถูกต้อง ได้ 1 คะแนน
- ในแต่ละคู่ นักเรี ยนอาจจะต้องตั้งคำถามเชิงประวัติศาสตร์เพิ่มเติมเพื่อทดสอบคู่อื่น
- ให้นกั เรี ยนเขียนคำศัพท์และข้อความใหม่ลงในสมุดคำศัพท์

TAPESCRIPT
Write down the answers to these questions. Then check your answers with your
teacher.
Where did the Aztecs use to live?
Where were the 1996 Olympic Games?
Who won the Nobel Peace Prize in 1979 for her work in helping the poor?
Did the Vikings go to North America?
Which scientist discovered the element radium?
Who was the first president of a free and democratic South Africa?
Who was the first woman to fly solo to Australia?
Which ancient empire stretched from Colombia to Chile?
Name two jobs children used to do in 19th century Britain.
88

กิจกรรมที่ 4: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านขั้นตอนการปฏิบตั ิโครงงานทั้ง 4 ขั้นพร้อมกันทั้งชั้น หากนักเรี ยนมีขอ้ สงสัย
ครู อธิบายจนเข้าใจ จากนั้นให้นกั เรี ยนอ่านโครงร่ างชีวประวัติของ Albert Einstein แล้ว
เขียนร่ างครั้งที่ 1 (ตามขั้นตอนทั้ง 4) และแก้ไขร่ างครั้งแรก ให้ถูกต้อง (อาจให้ท ำเป็ นคู่ )
แล้วนำเสนอชีวประวัติฉบับจริ งเป็ น 3 ย่อหน้า
กิจกรรมที่ 5: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม) A
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 3 คน ให้นกั เรี ยนคิดหารายชื่อของบุคคลสำคัญที่
นักเรี ยนมีขอ้ มูลอยูบ่ า้ ง ไม่ตอ้ งกังวลเกี่ยวกับวัน เดือน ปี ที่แท้จริ ง
- ให้นกั เรี ยนเขียนแผนภูมิแสดงช่วงเวลา และเขียนบันทึกเกี่ยวกับชีวิตของบุคคลสำคัญที่เลือก
ไว้ ข้อมูลควรจะแบ่งออกเป็ น 3 ส่ วน ดังตัวอย่างในหนังสื อแบบเรี ยน
- ให้นกั เรี ยนแต่ละคนในกลุ่มเลือกช่วงหนึ่งของชีวิต แล้วฝึ กเล่าเรื่ องให้เพื่อนในกลุ่มฟัง ชื่อ
ของบุคคลสำคัญจะยังไม่กล่าวถึง
- เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว ให้ออกไปเล่าเรื่ องให้เพื่อนทั้งชั้นฟังและเพื่อน ๆ จะต้องเดาว่าบุคคล
สำคัญคนนั้นคือใคร ถ้าเวลามีไม่มาก อาจจะให้กลุ่มหนึ่งเล่าให้อีกกลุ่มหนึ่งฟังก็ได้
กิจกรรมเสริม

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 32


1 In Mexico 2 In Atlanta 3 Mother Teresa
4 Yes, they did 5 Marie Curie 6 Nelson Mandela
7 Amy Johnson 8 The empire of the Incas
9 Domestic servants / factory workers / chimney sweeps

Vocabulary: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนดัดลองตารางเช่นเดียวกันกับ Exercise b ในหนังสื อเรี ยนหน้า 23 ลงในสมุด
- ครู อาจจะให้นกั เรี ยนทำกิจกรรมนี้ ภายใน 5 นาที หรื อให้ท ำเป็ นการบ้าน โดยให้เขียนข้อ
หรื อแถวเพิ่มลงไปในตอนท้ายของหน่วยการเรี ยน ให้นกั เรี ยนนำคำศัพท์ใหม่มาใช้ร่วมกัน
กับเพื่อนร่ วมชั้น แล้วเขียนคำศัพท์และข้อความใหม่ลงในสมุดคำศัพท์
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 11) Exercise C.

TAPESCRIPT
Activity Book, Lesson 11, Exercise C หน้ า 22
Listen to the information about the ancient Chinese. Are these sentences true or
false?
The Chinese civilisation is older than any other civilisation in the world. It started
later than the Ancient Egyptian civilisation, but that finished a long time ago. The
Chinese civilisation has continued for over 4,000 years.
The Ancient Chinese believed the Earth was flat. They thought it was a big square
surrounded by sea, with China in the centre of the Earth. In fact, the Chinese word for
‘China’ means ‘Middle Earth’.
89

The Chinese have made many important discoveries and inventions. They discovered
how to make paper early in the second century, and printed books hundreds of years
before Europeans learned how to do it. They also invented paper money.
Over 3,000 years ago, the Chinese invented ‘picture writing’ which most modern
alphabets and writing systems are based on.
Another important invention was the magnetic compass, which made travelling much
easier. One great secret they knew was how to make silk – they discovered how to make
silk from silkworms.
One unusual thing is that there are not many old buildings in China. This in because
the Ancient Chinese made their houses of wood, not stone. In the south of China, many
people lived and worked on houseboats, and they built
hundreds of canals there. Many Chinese people continue this way of life today.

เฉลย: Activity Book (Lesson 11) หน้ า 22


A
C L U B E R I P M E
H A Z T E C S W
E S W O R D S E
S V I K I N G S S A
S S E B E E R P
T T T A O
T A O B M E A L E N
E N A P A
O M E L E T T E S
S L A E R E C
B Open
C 1 T 2 F (they believed it was flat)
3 F (they printed book hundreds of years later)
4 T 5T
90

เฉลย: Activity Book (Lesson 11) หน้ า 22


D 1 four thousand 2 Earth 3 century
4 invention 5 silk 6 wood, stone

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 15
Lesson 12: Consolidation
Grammar
กิจกรรมที่ 1: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องในหนังสื อเรี ยนหน้า 34 และนำคำในวงเล็บมาทำให้เป็ น Past
simple tense ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น และเฉลยบนกระดาน
เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 34
1 was 2 began 3 thought 4 were
5 said 6 told 7 reorganized 8 won
9 broke 10 saw 11 did not want 12 captured
13 killed 14 became 15 made

กิจกรรมที่ 2: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ศึกษาตัวอย่างประโยคใน Exercise b ในหนังสื อเรี ยนหน้า 34 แล้วให้นกั เรี ยนเขียนแต่ละ
ประโยคใหม่โดยใช้รูปแบบของ used to ให้ถูกต้องซึ่ งจะได้ขอ้ มูลที่ตรงกัน
- เมื่อนักเรี ยนเขียนเสร็ จแล้ว บอกให้นกั เรี ยน 1 หรื อ 2 คน ออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน
เพื่อจะได้สามารถตรวจแก้กนั ทั้งชั้น
เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 34
1 I didn’t use to like cheese when I was young.
2 I used to live in a small village before I came to the city.
3 She used to study hard last year but now she goes out every night.
4 That man used to be very poor many years ago.
5 Where did you use to go on holiday when you were young?

A
กิจกรรมที่ 3: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย ให้นกั เรี ยนจินตนาการว่าขณะนี้ปี 2050 แล้ว และนักเรี ยน
กำลังพูดถึงความจำของวัยรุ่ น
- ครู อา่ นตัวอย่างให้ฟัง A: When I was fifteen, I used to like techno music.
B: I didn’t, I used to like heavy metal.
แล้วให้ขอ้ เสนอแนะว่ามีเรื่ องที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต คือ friends, food, films เป็ นต้น ครู เฝ้ า
สังเกตการทำกิจกรรมเพื่อให้แน่ใจว่านักเรี ยนใช้ used to ได้ถูกต้อง
91

Vocabulary
กิจกรรมที่ 4: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดัดลองตารางในหนังสื อเรี ยนหน้า 34 ลงในสมุด ครู ตรวจแก้ค ำตอบพร้อมกัน
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 34
health/healthy; democracy/democratic; bravery/brave;
anger/angry; strength/strong

กิจกรรมที่ 5: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนนำคำกริ ยาในวงเล็บมาทำให้ถูกรู ปกาล แล้วเขียนคำที่ถูกต้องลงแทนคำที่เป็ น
ตัวเอน ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 34


1 comes up to 2 grew up 3 went on
กิจกรรมที่ 6:
Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนจับคูค่ ำกริ ยาและกรรม ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น เพื่อการฝึ กเพิ่มเติม ครู
อาจจะให้นกั เรี ยนหาคำที่เป็ นกรรมมาเพิ่ม 2 เท่าสำหรับคำกริ ยาแต่ละตัว

เฉลย: Students’ Book ข้ อ F หน้ า 35


1 c 2 b/e 3 a 4f 5 d 6
b
กิจกรรมที่ 7: Speaking
(กิจกรรมกลุ่ม)
- ให้นกั เรี ยนอ่านหน่วยการเรี ยนรู้ 2 หน่วยแรกของหนังสื อนี้ หรื อไม่กอ็ ่านสมุดคำศัพท์ แล้ว
หาคำศัพท์ 10 คำที่เพิ่งได้เรี ยนมา และเขียนคำศัพท์แต่ละคำเป็ นภาษาไทยลงในกระดาษ
และพับกระดาษ จากนั้นครู แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย ให้นกั เรี ยนนำกระดาษมาคละ
กันแล้วผลัดกันมาเลือกจับกระดาษ ถ้าได้ค ำที่นกั เรี ยนรู ้ความหมาย นักเรี ยนจะได้ 1 คะแนน
ถ้าตอบไม่ได้ให้ไปตรวจสอบในสมุดคำศัพท์ ถ้ายังไม่มีค ำศัพท์น้ นั ให้จดเพิ่มเติมลงไป
Pronunciation
กิจกรรมที่ 8: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- เขียนคำ 3 คำ จากหนังสื อแบบเรี ยนลงบนกระดาน จะใส่ เครื่ องหมายสัญลักษณ์เสี ยงลงไป
ด้วยก็ได้
- ครู สุ่มถามนักเรี ยนเพื่อออกเสี ยงคำ และตรวจสอบด้วยว่านักเรี ยนได้ยนิ ความแตกต่างของ
เสี ยงหรื อไม่
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกประโยคต่าง ๆ จาก Exercise H ในหนังสื อเรี ยนหน้า 35 ลงในสมุด และ
ให้เขียนตัวเลข 1, 2 และ 3 ตามการออกเสี ยงของอักษร i
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงเพื่อให้นกั เรี ยนตรวจคำตอบ แล้วบอกให้นกั เรี ยนยกตัวอย่าง
92

เพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเสี ยงแบบ 1, 2 หรื อ 3

TAPESCRIPT
Listen to the different ways you can pronounce the letter ‘i’.
Group 1 time Group 2 big Group 3 girl
Now listen and check your answers.
1 They didn’t find the rich girl.
2 First King Pendragon killed a noble.
3 Then his wife had a baby, Arthur.
4 After this, they gave him to Merlin, the wise wizard.

เฉลย: Students’ Book ข้ อ H หน้ า 35


1 didn’t (2) find (1) rich (2) girl (3)
2 First (3) King (2) killed (2)
3 his (2) wife (1)
4 this (2) him (2) Merlin (2) wise (1) wizard (2)
Test Yourself
- กิจกรรมส่ วนนี้จะช่วยให้นกั เรี ยนสามารถตรวจสอบการเรี ยนของตัวเอง และชี้ให้เห็น
ปัญหาทางการเรี ยนของนักเรี ยนในด้านต่าง ๆ
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำสัง่ แล้วเติมคำลงในช่องว่างในแบบทดสอบ ครู อาจจะให้ตรวจพร้อมกัน
ทั้งชั้นหรื อจะให้แลกเปลี่ยนสมุดเพื่อตรวจให้กนั และกัน

เฉลย: Students’ Book (Test Yourself) หน้ า 35


A 1 began 2 used to write 3 wrote 4 invented
5 grew 6 used to sail 7 did not use to sail 8 went
9 exchanged 10 did not use to pay 11 bought 12 died
13 put 14 made 15 understood
B 1 boats 2 horses, dragons 3 servants 4 scientist

กิจกรรมเสริม
The Letter i Speaking (กิจกรรมคู่/กิจกรรมกลุ่ม)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั หรื อแบ่งเป็ นกลุ่มย่อยพิจารณาบทเรี ยนที่นกั เรี ยนเพิ่งเรี ยนจบและให้
ออกเสี ยงคำที่มีอกั ษร i เขียนคำดังกล่าวบนกระดาน
- เมื่อรวบรวมได้ประมาณ 30 คำ บอกให้นกั เรี ยนแต่งเป็ นประโยคหรื อเขียนเป็ นบทสนทนา
ขนาดสั้น ๆ ใช้ค ำบนกระดานให้มากที่สุด
93

- ให้ตวั แทนของแต่ละคู่หรื อแต่ละกลุ่ม พูดประโยคที่แต่งแล้วดัง ๆ คู่ใดหรื อกลุ่มใดใช้ค ำมาก


ที่สุดเป็ นผูช้ นะ จากนั้นครู สรุ ปกิจกรรมด้วยการจัดเรี ยงลำดับคำบนกระดานเป็ นแถว ๆ ตาม
ลักษณะการออกเสี ยงตัวอักษร i ทั้ง 3 แบบว่าออกเสี ยงอย่างไร ครู สามารถทำกิจกรรมนี้ซ้ำ
สำหรับสระอื่นหรื อกลุ่มเสี ยงอื่น
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Time to Read) หน้า 23, Activity Book
(Lesson 12) หน้า 24 และ(Extra Time!) หน้า 24
Extra Time!
- ให้นกั เรี ยนเปิ ดหนังสื อเรี ยนหน้า 96 แล้วทำกิจกรรม Reading Club 2
เฉลย: Students’ Book (Reading Club 2) หน้ า 96
A 1: Paragraph C; 2: Paragraph A; 3: Paragraph D; 4: Paragraph B;
B 1 smallpox 2 country women who worked with cows
3 a disease from cows 4 vaccination
C 1 T 2 T 3 F
4 F 5 F 6 T

Module Check
Language Check and Keyword Check
- ย้ำเตือนนักเรี ยนว่ากิจกรรมการตรวจทานหลักภาษาและคำศัพท์หลักนี้ มีข้ ึนเพื่อช่วยให้
นักเรี ยนได้ทบทวนคำศัพท์และโครงสร้างของประโยคที่เรี ยนมาแล้ว ย้ำกับนักเรี ยนว่าให้
เฉลย: Activity Book (Lesson 12) หน้ า 24
A 1 developed 2 discovered 3 was
4 used to sail 5 won 6 conquered
7 travelled 8 came 9 fought
10 used to dance 11 said 12 was 12 was
13 didn’t vote 14 used to play 15 organised
B (There may be alternative answers)
1 weapons 2 century 3 mines 4 brave
5 job 6 strong/fit 7 strict 8 meal
9 famous/clever 10 ride
เฉลย: Activity Book (Extra Time!) หน้ า 24
Extra Time! example answers (a great variety is possible) transport, art, pot, pan, part,
port, ant, rot, trap, soap, sport, ran, rat, spot
94

กลับมาทบทวนหน้านี้ บ่อย ๆ
Module Diary
- กระตุน้ ให้นกั เรี ยนได้สะท้อนเกี่ยวกับการเรี ยนในหลาย ๆ ด้าน บอกให้นกั เรี ยนคัดลองลง
สมุดและเติมคำลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ทุกตอน ครู ควรจะเรี ยกตรวจเป็ นครั้งคราว เพื่อจะ
ได้รู้วา่ นักเรี ยนมีทศั นคติและความก้าวหน้าท่างการเรี ยนเป็ นอย่างไร

บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้

1. ความสำเร็ จในการจัดการเรี ยนรู ้ _________________________________________________


แนวทางการพัฒนา ___________________________________________________________
2. ปั ญหา/อุปสรรคในการจัดการเรี ยนรู ้ _____________________________________________
แนวทางแก้ไข _______________________________________________________________
3. สิ่ งที่ไม่ได้ปฏิบตั ิตามแผน _____________________________________________________
เหตุผล ____________________________________________________________________
4. การปรับปรุ งแผนการจัดการเรี ยนรู ้ ______________________________________________
ลงชื่อ __________________ ครู ผสู ้ อน
_________/ _________/ _________
95

Module 3: Nature
ผังมโนทัศน์ เป้ าหมายการเรียนรู้ และขอบข่ ายภาระงาน เวลา 12 ชั่วโมง

ความรู้
ภาระงาน/ชิ้นงาน Reading:
1. ใช้พจนานุกรมฉบับย่อค้นหา - magazine articles - a leaflet
ความหมายของคำศัพท์ที่พิมพ์ดว้ ย - a letter to a newspaper
ตัวเอนในแบบสอบถาม Listening:
2. จับคู่ถามและตอบคำถามเกี่ยว - a survey - a radio interview
กับประเทศของตนเอง - a wildlife quiz
3. เลือกสัตว์ 1 ชนิด เขียนคำ Speaking:
- wild animals - ‘green’ issues
บรรยายตามบทความที่อ่าน และจับ
- a debate
คู่ผลัดกันอ่านเพื่อทายว่าเป็ นสัตว์
Writing:
ชนิดใด - descriptions of animals
3. จับคู่ผลัดกันถาม-ตอบคำถาม - a list of ‘green’ suggestions
เกี่ยวกับสัตว์ที่ตนเลือก - an ecological project
4. พูดถาม-ตอบคำถามใน Grammar:
แบบสอบถามเป็ นคู่ เพื่อค้นหาว่าคู่ - Comparative and superlative adjectives
ของตนเป็ นนักสิ่ งแวดล้อมหรื อไม่ - Conditional (type 1)
5. เขียนวิธีที่ช่วยรักษาสิ่ งแวดล้อม - Test Yourself
ให้กบั โลก Vocabulary:
6. เขียนประโยคเงื่อนไขแบบแยก - seasons - animals
ส่ วนเงื่อนไขและผลลัพธ์ออกจาก - their habitats and characteristics
กันลงในแถบกระดาษ 5 ประโยค - ecology - wordbuilding
และผลัดกันจับคู่ประโยคทั้ง 2 ส่ วน Pronunciation: ทักษะ/กระบวนการ
- stress on key words - the letter ‘O’ 1. กระบวนการฟัง
ให้สมั พันธ์กนั เป็ นกลุ่ม
2. กระบวนการพูด
7. เขียนโครงการเกี่ยวกับปัญหาทาง 3. กระบวนการอ่าน
ระบบนิเวศในประเทศของตนเอง 4. กระบวนการเขียน
8. ทำโปสเตอร์หรื อนิตยสารเกี่ยว 5. กระบวนการคิด
กับ Nature Project เป็ นกลุ่ม 6. กระบวนการกลุ่ม
9. เขียนเหตุผลในการสนับสนุน Nature 7. การนำความรู้ไปปรับ
หรื อต่อต้าน แผนการ Takuana และ ใช้ในชีวิตประจำวัน
ออกมารายงานให้เพื่อน ๆ ฟัง คุณธรรม จริยธรรม และ ค่ า
10. ทำแบบฝึ กหัดเพิ่มเติมใน World นิยม
Club Activity Book 2: Module 3 1. ความมีระเบียบวินยั
กรอบแนวคิ
Nature ด ผัง การออกแบบการจั ด กิ
จ กรรมการเรี
2. ความใฝ่ยนรูเรี้ ยนรู้
Module 3: Nature 3. ความรับผิดชอบ
Learning to Learn
ขั้นที่ 1 ผลลัพธ์ ปลายทางที่ต้องการให้ เกิดขึน้ กับนักเรียน
ตัวชี้วดั ช่ วงชั้น
• อ่านออกเสี ยงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้องตามหลักการอ่าน
96

(ต 1.1 ม. 5/2)
• อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สมั พันธ์กบั สื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุ
และเขียนสื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ให้สมั พันธ์กบั ประโยคและข้อความที่ฟังหรื ออ่าน (ต 1.1 ม. 5/3)
• จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุ ปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่ องที่เป็ น
สารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ (ต 1.1 ม. 5/4)
• สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่ องต่าง ๆ ใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์
ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยูใ่ นความสนใจของสังคม และสื่ อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/1)
• พูดและเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรี ยบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เรื่ อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/4)
• พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่ องและประเด็นต่าง ๆ ที่อยูใ่ น
ความสนใจของสังคม (ต 1.3 ม. 5/1)
• พูดและเขียนสรุ ปใจความสำคัญ แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่ อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์ และ
สถานการณ์ตามความสนใจ (ต 1.3 ม. 5/2)
• เลือกใช้ภาษา น้ำเสี ยง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ตามมารยาท สังคม
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (ต 2.1 ม. 5/1)
• เข้าร่ วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม (ต 2.1 ม. 5/3)
• อธิบาย/เปรี ยบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุ ภาษิต และ
บทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย (ต 2.2 ม. 5/1)
• วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล (ต 2.2 ม. 5/2)
• ค้นคว้า/สื บค้น บันทึก สรุ ป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่น
จากแหล่งการเรี ยนรู ้ต่าง ๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน (ต 3.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จ ำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
(ต 4.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาต่างประเทศในการสื บค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุ ปความรู ้ /ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่ อและ
แหล่งการเรี ยนรู ้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ (ต 4.2 ม. 5/1)
• เผยแพร่ /ประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลข่าวสารของโรงเรี ยน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติเป็ นภาษาต่างประเทศ
(ต 4.2 ม. 5/2)
ความเข้ าใจที่คงทนของนักเรียน คำถามสำคัญที่ทำให้ เกิดความเข้ าใจที่คงทน
นักเรียนจะเข้ าใจว่ า... - นักเรี ยนจะบรรยายลักษณะเฉพาะและธรรมชาติ
1. คำคุณศัพท์แสดงการเปรี ยบเทียบมากกว่าหรื อ ความเป็ นอยูข่ องตะขาบให้เพื่อนฟัง เป็ นภาษาอังกฤษ
น้อยกว่ากัน (Comparative adjectives) โดยปกติเติม ว่าอย่างไร
er เข้าข้างท้ายคำคุณศัพท์ เช่น cold – colder แต่ถา้ - นักเรี ยนจะพูดแนะนำเพื่อน ๆ เกี่ยวกับการรักษาสิ่ ง
เป็ นคำคุณศัพท์ต้ งั แต่ 2 พยางค์ข้ ึนไป เติม more แวดล้อมในโรงเรี ยนเป็ นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
หน้าคำคุณศัพท์ เช่น selfish – more selfish, - Our plan is to develop the island slowly. ใน
beautiful – more beautiful นอกจากนี้ยงั มีค ำ ประโยคนี้มีการลงน้ำหนักเสี ยงที่ค ำใดบ้าง
คุณศัพท์บางคำที่เปลี่ยนรู ปไปจากเดิมเมื่อแสดงการ - เขียนและอ่านออกเสี ยงคำศัพท์ที่มีตวั o เป็ นเสี ยง
เปรี ยบเทียบ เช่น good – better – best, bad – worse เสี ยงละ 3 คำ
– worst วิธีใช้ค ำคุณศัพท์ข้ นั กว่า มีดงั นี้
97

(1) ใช้ประกอบหน้านาม (2) ใช้เป็ นส่ วนของกริ ยา.


(3) ใช้เปรี ยบเทียบของสองสิ่ ง ซึ่งต้องใช้ than ตาม
หลังเสมอ เช่น The centipede is thinner than the
snake.
2. คำคุณศัพท์แสดงการเปรี ยบเทียบความเป็ นที่สุด
(Superlative adjectives) โดยเติม est ท้ายคำ
คุณศัพท์ และเติม the หน้าคำ เช่น It is one of the
most beautiful birds there is.
3. If-sentence (conditional sentence หรื อประโยค
เงื่อนไข) คือประโยคที่มีขอ้ ความแสดงเงื่อนไขหรื อ
แสดงการสมมุติวา่ ถ้ามีเหตุอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ก็จะมี
ผลอีกอย่างหนึ่งตามมา โดยมี if เป็ นตัวเชื่อม
ประโยค ซึ่งแบ่งออกเป็ น 2 ส่ วน ได้แก่ ส่ วนที่เป็ น
เหตุ เรี ยกว่า if-clause หรื อ conditional clause และ
ส่ วนที่เป็ นผล เรี ยกว่า main clause การวางคำเชื่อม
(if) ไว้ตน้ ประโยค จะต้องมี comma คัน่ ประโยค if
ไว้ แต่ถา้ วาง if ไว้กลางประโยคไม่ตอ้ งมี comma
ประโยคเงื่อนไขแบ่งออกเป็ น 3 ชนิด คือ 1.
ประโยคเงื่อนไขที่เป็ นจริ งเสมอ (Factual
proposition) กล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตหรื อ
ปั จจุบนั แสดงเงื่อนไขที่น่าจะเป็ นไปได้ในส่ วนที่
เป็ นผลแสดงการกระทำหรื อข้อเท็จจริ งสามารถคาด
การณ์ได้ รู ปประโยคคือ 1. If + Simple present
tense, + Simple present tense หรื อ Simple future
tense หรื อ 2. Simple present tense + if + Simple
present tense หรื อ Simple future tense เช่น
If we don’t protect the Taku sloth, it will
disappear. 2. ประโยคเงื่อนไขที่เป็ นไปไม่ได้
(impossible proposition) หมายความว่า ไม่มีทางที่
เหตุเช่นนั้นจะเกิดขึ้นได้เป็ นเรื่ องสมมุติเท่านั้น รู ป
ประโยคคือ If + Simple past tense, + would + to
infinitive (คำกริ ยาช่องที่ 1) หรื อ would + to
infinitive (คำกริ ยาช่องที่ 1) + if + Simple past
tense หมายเหตุ: คำกริ ยาใน Simple past tense
ถ้าเป็ น verb to be จะใช้ were กับประธานทุกตัว
เช่น If I were a bird, I would be very happy.
3. ประโยคเงื่อนไขซึ่งตรงข้ามกับความจริ งที่เกิดขึ้น
แล้ว (fact-contrary proposition) หมายความว่า
เหตุเกิดขึ้นแล้ว แต่มาพูดสมมุติเสี ยใหม่ ตรงข้ามกับ
98

ความจริ งที่เกิดขึ้น รู ปประโยคคือ If + Past


perfect tense, would have + Past participle (คำ
กริ ยาช่องที่ 3) หรื อ would have + Past participle
(คำกริ ยาช่องที่ 3) + if + Past perfect tense เช่น I
wouldn’t have had an accident if I hadn’t
driven home yesterday.
ความรู้ ของนักเรียนที่นำไปสู่ ความเข้ าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนที่จะนำไปสู่ ความรู้ ที่
นักเรียนจะรู้ ว่า... คงทน นักเรียนจะสามารถ...
1. คำศัพท์หรื อคำพูดที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ได้แก่ 1. รู ้ เข้าใจ และบอกคำศัพท์หรื อคำพูดที่เกี่ยวข้องกับ
ฤดูกาล เช่น spring, summer, winter ธรรมชาติ ได้แก่ ฤดูกาล สัตว์ต่าง ๆ ที่อยูอ่ าศัย สภาพ
สัตว์ต่าง ๆ เช่น centipede, white shark, gorilla แวดล้อม คำพูดแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ได้อย่างถูก
humming bird, whale, hippopotamus, tiger, lynx, ต้อง
wild bear ที่อยูอ่ าศัย เช่น plains, forests, lakes, 2. รู ้ เข้าใจ พูดบรรยาย สอบถาม และตอบสิ่ งที่
rivers, mountains สภาพแวดล้อม เช่น wildlife, เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ สัตว์ป่า และการอนุรักษ์สิ่ง
recycling, acid rain, rain forest, ozone layer, waste แวดล้อมได้อย่างถูกต้อง
คำพูดแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ เช่น 3. รู ้ เข้าใจ และสร้างคำคุณศัพท์ข้ นั กว่าและขั้นสุ ด
I’m in favour of … (Comparatives and superlatives) ได้อย่างถูกต้อง
I’m against … 4. รู ้ เข้าใจ และใช้รูปกริ ยาในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1
I think we should … (Conditional sentences) ได้อย่างถูกต้อง
2. ประโยคที่ใช้พดู บรรยาย/สอบถามและตอบสิ่ งที่ 5. รู ้ เข้าใจ และลงน้ำหนักเสี ยงที่ค ำสำคัญในประโยค
เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ สัตว์ป่า และ ได้อย่างถูกต้อง
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น 6. รู ้ เข้าใจ และออกเสี ยงคำศัพท์ที่มี o เป็ นเสี ยง
Birds migrate in autumn. ได้อย่างถูกต้อง
It never rains in summer.
How big is it? What does it look like? How much
does it weigh?
Tigers can be up to 4 metres long and over a metre
high, weighing up to 225 kilos and they have
beautiful orange fur with black or brown stripes.
3. การสร้างคำคุณศัพท์ข้ นั กว่าและขั้นสุ ด
(Comparatives and superlatives) ที่ถูกต้อง เช่น
The centipede is thinner than the snake.
The biggest animal is the blue whale.
4. การใช้รูปกริ ยาในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1
(Conditional sentences) ที่ถูกต้อง เช่น
-If they develops the island, there will be better
school and hospitals
5. การลงน้ำหนักเสี ยงที่ค ำสำคัญในประโยคที่ถูก
ต้อง (ฟังตัวอย่างการออกเสี ยงใน Lesson 16 แบบ
99

ฝึ กหัดที่ F)
6. การออกเสี ยงคำศัพท์ที่มีตวั o เป็ นเสี ยง ฒฆฒ,
ฒฉฒ, ฒซจฒ ที่ถูกต้อง เช่น not ฒฆฒ, some
ฒฉฒ, so ฒซจฒ
ขั้นที่ 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งเป็ นหลักฐานที่แสดงว่ านักเรียนมีผลการเรียนรู้
ตามที่กำหนดไว้ อย่ างแท้ จริง
1. ภาระงานที่นักเรียนต้ องปฏิบัติ
- ฝึ กใช้พจนานุกรมฉบับย่อค้นหาความหมายของคำศัพท์ที่พิมพ์ดว้ ยตัวเอนในแบบสอบถาม
- ฝึ กจับคู่ถามและตอบคำถามเกี่ยวกับประเทศของตนเอง
- ฝึ กฟังบทคัดย่อจากแถบบันทึกเสี ยง/ซีดี และตอบคำถาม
- ฝึ กจับคู่ค ำคุณศัพท์กบั ภาพสัตว์ให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กอ่านข้อความเกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ และเลือกระบุชนิดของสัตว์ที่มีลกั ษณะตรงกับหัวข้อที่ก ำหนด
- ฝึ กดูกระบวนการชีวิตของตะขาบ และเขียนกระบวนการชีวิตของสัตว์ชนิดอื่น ๆ
- ฝึ กลอกตารางเกี่ยวกับคำคุณศัพท์ลงในสมุดแบบฝึ กหัด และเขียนคำคุณศัพท์ที่ก ำหนดตามตัวอย่างใน
ตาราง
- ฝึ กคาดเดาบทความที่อ่าน และเขียนคำคุณศัพท์ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
- ฝึ กเลือกชนิดของสัตว์ 1 ชนิด เขียนคำบรรยายตามบทความที่อ่าน และจับคู่อ่านให้คขู่ องตนฟังเพื่อทาย
ว่าเป็ นสัตว์ชนิดใด
- ฝึ กใช้พจนานุกรมฉบับย่อค้นหารู ปกริ ยาที่ถูกต้องเขียนลงในตาราง
- ฝึ กลอกตารางลงในสมุดแบบฝึ กหัด เขียนรายชื่อสัตว์ป่าที่ก ำลังสูญพันธุ์ อ่านย่อหน้าแรกของบทความ
และเขียนชื่อสัตว์ที่ก ำลังสูญพันธุ์เพิ่มเติม
- ฝึ กอ่านบทความอีกครั้ง และตอบคำถาม
- ฝึ กลอกประโยคลงในสมุดแบบฝึ กหัด และเขียนประโยคให้สมบูรณ์
- ฝึ กอ่านคำบรรยายเกี่ยวกับฮิปโปโปเตมัส ลอกคำบรรยายลงในสมุดแบบฝึ กหัด และเติมข้อมูลลงใน
ตารางให้สมบูรณ์
- ฝึ กเขียนคำบรรยายเกี่ยวกับกอริ ล่าและสุ นขั จิ้งจอก โดยใช้ขอ้ มูลที่ก ำหนดให้และใช้ค ำบรรยายเกี่ยวกับ
ฮิปโปโปเตมัสเป็ นตัวอย่างในการเขียน
- ฝึ กจับคู่ผลัดกันถาม-ตอบคำถามที่ก ำหนดเกี่ยวกับสัตว์ที่เลือก และเขียนตารางเช่นเดียวดับตารางใน
แบบฝึ กหัด D
- ฝึ กดูภาพประกอบ จับคู่กบั ประโยคคำถามให้สมั พันธ์กนั และช่วยกันตอบคำถามเป็ นคู่
- ฝึ กอ่านใบปลิวเกี่ยวกับการรักษาสิ่ งแวดล้อมเพื่อตรวจคำตอบ
- ฝึ กฟังการสัมภาษณ์ของ Alison จากแถบบันทึกเสี ยง/ซีดี และตอบคำถาม
- ฝึ กฟังการสัมภาษณ์ของ Alison จากแถบบันทึกเสี ยง/ซีดีอีกครั้ง และตอบคำถามในแบบสอบถาม
- ฝึ กพูดถาม-ตอบคำถามในแบบสอบถามเป็ นคู่ เพื่อค้นหาว่าคู่ของตนเป็ นนักสิ่ งแวดล้อมหรื อไม่
- ฝึ กเขียนวิธีที่ช่วยรักษาสิ่ งแวดล้อมให้กบั โลก
- ฝึ กฟังรายการวิทยุจากแถบบันทึกเสี ยง/ซีดี เปรี ยบเทียบภาพประกอบ 2 ภาพ ค้นหาความหมายของ
คำศัพท์ และตอบคำถาม
- ฝึ กฟังแถบบันทึกเสี ยง/ซีดีอีกครั้ง และจับคู่ประโยคข้อ 1-5 กับประโยคข้อ a-e ให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กดูประโยคเงื่อนไขใน Lesson 16 แบบฝึ กหัด C อีกครั้ง ตอบคำถาม และลอกตารางลงในสมุด
100

แบบฝึ กหัด
- ฝึ กเขียนประโยคเกี่ยวกับ Takuana โดยใช้ค ำที่ก ำหนดให้
- ฝึ กฟังแถบบันทึกเสี ยง/ซีดี เขียนคำสำคัญ ฟังแถบบันทึกเสี ยง/ซีดีอีกครั้ง และพูดออกเสี ยงตาม
- ฝึ กเขียนประโยคเงื่อนไขแบบแยกส่ วนเงื่อนไขและผลลัพธ์ออกจากกันลงในแถบกระดาษ 5 ประโยค
และผลัดกันจับคู่ประโยคทั้ง 2 ส่ วนให้สมั พันธ์กนั เป็ นกลุ่ม
- ฝึ กฟังคำบรรยายเกี่ยวกับสัตว์ชนิดต่าง ๆ จากแถบบันทึกเสี ยง/ซีดี จับคู่ค ำบรรยายให้สมั พันธ์กบั
ภาพประกอบที่ก ำหนด และตอบคำถาม
- ฝึ กจับคู่หวั ข้อที่ก ำหนดกับย่อหน้าแต่ละย่อหน้าในจดหมาย
- ฝึ กอ่านจดหมายอีกครั้ง และจับคู่สำนวนกับวิธีใช้
- ฝึ กเขียนโครงการเกี่ยวกับปั ญหาทางระบบนิ เวศในประเทศของตนเอง
- ฝึ กทำโปสเตอร์หรื อนิตยสารเกี่ยวกับ Nature Project เป็ นกลุ่ม
- ฝึ กตัดสิ นใจว่ากลุ่มของตนเองเป็ นฝ่ ายสนับสนุนหรื อต่อต้านแผนการ Takuana เขียนเหตุผลในการ
สนับสนุนหรื อต่อต้าน ออกมารายงานให้เพื่อน ๆ ฟัง และลงคะแนนเสี ยงยอมรับหรื อไม่ยอมรับ
แผนการนี้
- ฝึ กอ่านคำบรรยายสุ นขั ทั้ง 3 ชนิด และระบุชนิดของสุ นขั ทั้งสาม
- ฝึ กเรี ยงลำดับคำที่ก ำหนดให้เป็ นประโยค
- ฝึ กลอกตารางที่ก ำหนดใน Lesson 18 แบบฝึ กหัด C ลงในสมุดแบบฝึ กหัด และเติมคำลงในตารางให้
ถูกต้อง
- ฝึ กลอกคำที่ก ำหนดใน Lesson 18 แบบฝึ กหัด D ลงในสมุดแบบฝึ กหัด และเติมคำลงในช่องว่างให้
ถูกต้อง
- ฝึ กเขียนคำศัพท์เกี่ยวกับสัตว์ชนิดต่าง ๆ ต่อกันให้ได้ยาวเท่าที่เป็ นไปได้เป็ นคู่
- ฝึ กฟังวิธีการออกเสี ยงตัวอักษร ‘O’ จากแถบบันทึกเสี ยง/ซีดี และตอบคำถาม
- ฝึ กเขียนรู ปกริ ยาที่ถูกต้องลงในช่องว่าง
- ฝึ กเขียนประโยคให้สมบูรณ์
- ฝึ กอ่านบทความ Can we save the world? ใน Reading Club ในหนังสื อเรี ยน หน้า 97 ตอบคำถาม
เขียนคำศัพท์ให้สมั พันธ์กบั ความหมายที่ก ำหนด และเขียนคำศัพท์ที่อา้ งถึงจากบทความ
- ฝึ กทำแบบฝึ กหัดเพิ่มเติมใน World Club Activity Book 2: Module 3 Nature
2. วิธีการและเครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู ้
101

2.1 วิธีการประเมินผลการเรี ยนรู ้ 2.2 เครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู ้


1) การทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน 1) แบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน
2) การทดสอบทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน 2) แบบประเมินผลทักษะด้านการฟัง พูด
และเขียน อ่าน และเขียน
3) การประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น 3) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม รายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม
4) การวัดและประเมินผลด้านคุณธรรม 4) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรี ยน
จริ ยธรรม และค่านิยม 5) แบบทดสอบประจำหน่วย
5) การวัดและประเมินผลด้านความรู ้โดย 6) แบบประเมินผลตนเองของนักเรี ยน
ใช้แบบทดสอบ
6) การประเมินผลตนเองของนักเรี ยน

3. สิ่งที่ม่ ุงประเมิน
3.1 ความเข้าใจ 6 ด้าน ได้แก่ การอธิบาย การชี้แจง การแปลความและตีความ การประยุกต์ใช้
ดัดแปลง และนำไปใช้ การมีมุมมองที่หลากหลาย การให้ความสำคัญในความรู ้สึกของผูอ้ ื่น และ
การรู ้จกั ตนเอง
3.2 สมรรถนะสำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการสื่ อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทกั ษะชีวิต และ
การใช้เทคโนโลยี
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริ ย์ ซื่อสัตย์สุจริ ต มีวินยั ใฝ่ ความรู ้ อยูอ่ ย่าง
พอเพียง มุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเป็ นไทย มีจิตสาธารณะ
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 16 Lead-in เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 17 Wonder of Nature เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 18 Endangered Species เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 19 Your Planet Needs You เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 20 Takuana Island เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 21 Fluency เวลา 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 22 Consolidation เวลา 1 ชัว่ โมง
102

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 16-22


สาระการเรียนรู้ ภาษาต่ างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5
Module 3 Nature เวลา 12 ชั่วโมง

จุดประสงค์การ
เรียนรู ้
 ฟัง พูด อ่าน และเขียนคำศัพท์หรื อคำพูดที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ได้แก่ ฤดูกาล สัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่
อาศัย สภาพแวดล้อม คำพูดแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ได้ (K, P)
 พูดบรรยาย สอบถาม และตอบสิ่ งที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ สัตว์ป่า และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ได้ (K, A, P)
 สร้างคำคุณศัพท์ข้ นั กว่าและขั้นสุ ด (Comparatives and superlatives) ได้ (K, P)
 ใช้รูปกริ ยาในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 (Conditional sentences) ได้ (K, P)
 ลงน้ำหนักเสี ยงที่ค ำสำคัญในประโยคได้ (K, P)
 ออกเสี ยงคำศัพท์ที่มี O เป็ นเสี ยง ได้ (K, P)
 แสดงบทบาทสมมุติและปฏิบตั ิ กิจกรรมทางภาษาได้ (K, A, P)

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
 ประเมินการฟัง พูด อ่าน  ประเมินพฤติกรรมใน  ประเมินพฤติกรรมใน
และเขียนคำศัพท์หรื อคำพูด การทำงานเป็ นรายบุคคลใน การทำงานเป็ นรายบุคคล
ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ด้านความมีวินยั ความใฝ่ และเป็ นกลุ่มในด้าน
ได้แก่ ฤดูกาล สัตว์ต่าง ๆ เรี ยนรู ้ ฯลฯ การสื่ อสาร การคิด
ที่อยูอ่ าศัย สภาพแวดล้อม  มีเจตคติที่ดีต่อการเรี ยน การแก้ปัญหา ฯลฯ
คำพูดแสดงความคิดเห็น ภาษาอังกฤษ
ต่าง ๆ
 ประเมินการ พูดบรรยาย
สอบถาม และตอบสิ่ งที่
103

เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ
สัตว์ป่า และการอนุรักษ์
สิ่ งแวดล้อม
 ประเมินการสร้าง
คำคุณศัพท์ ขั้นกว่าและ
ขั้นสุ ด (Comparatives and

superlatives)
 ประเมินการใช้รูปกริ ยาใน
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1
(Conditional sentences)
 ประเมินการลงน้ำหนักเสี ยง
ที่ค ำสำคัญในประโยค
 ประเมินการออกเสี ยง
คำศัพท์ที่มี O เป็ นเสี ยง

 ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคล เป็ นคู่ หรื อเป็ น
กลุ่ม

เนือ้ หาทางภาษา
Reading: magazine articles; a leaflet; a letter to a newspaper
Listening: a survey; a radio interview; a wildlife quiz
Speaking: wild animal; ‘green’ issues; a debate
Writing: descriptions of animals; a list of ‘green’ suggestions; an ecological
project
Grammar: Comparative and superlative adjectives; Conditional (type 1); Test
Yourself
Vocabulary: seasons; animals; their habitats and characteristics; ecology;
wordbuilding
Pronunciation: stress on key words; the letter ‘O’

สื่ อการเรียนรู้
หนังสื อเรี ยน World Club Students' Book 2
แบบฝึ กหัด World Club Activity Book 2: Module 3 Nature
104

แผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง
แนวทางการบูรณาการ
ภาษาไทย  บอกความหมายของคำศัพท์และประโยคที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ
ได้แก่ ฤดูกาล สัตว์ต่าง ๆ ที่อยูอ่ าศัย สภาพแวดล้อม คำพูดแสดง
ความคิดเห็นต่าง ๆ
ศิลปะ  แสดงบทบาทสมมุติ และดูภาพประกอบ
สังคมศึกษา  เรี ยนรู ้และตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติ สัตว์ป่า และ
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
คุณธรรม จริยธรรม และค่ านิยม
1. ความมีระเบียบวินยั
2. ความใฝ่ เรี ยนรู้
3. ความรับผิดชอบ

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 16
Lead-in
Module Objectives
- ครู อ่านและอธิบายวัตถุประสงค์ของหน่วยการเรี ยนให้นกั เรี ยนฟัง จนแน่ใจว่านักเรี ยนเข้าใจ
ดีวา่ ภาระงานสุ ดท้ายจะต้องมีการเตรี ยมการล่วงหน้า
Topic Focus
- บทเรี ยนนี้จะแนะนำเรื่ องของธรรมชาติเป็ นหัวข้อหลัก และจะเน้นเรื่ องการปกป้ องสิ่ ง
แวดล้อมเป็ นสำคัญ
กิจกรรมที่ 1: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ทบทวนเรื่ องฤดูกาลและเดือนต่าง ๆ ของปี พร้อมกันทั้งชั้น แล้วให้นกั เรี ยนอ่านแบบสอบถาม
ในหนังสื อหน้า 37 ครู อาจจะแปลคำที่เป็ นตัวเอนให้ฟัง หรื อบอกให้ นักเรี ยนค้นหาความหมาย
จาก Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101-110

กิจกรรมที่ 2: Speaking (กิจกรรมคู่)


- ให้นกั เรี ยนจับคู่ อ่านประโยคตัวอย่างในหนังสื อเรี ยนหน้า 37 พร้อมกันทั้งชั้น
เรี ยน
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำถาม แล้วหาคำตอบที่เห็นชอบตรงกัน
- เฝ้ าสังเกตการทำกิจกรรมด้วยการเดินรอบ ๆ ห้อง เพื่อตรวจสอบว่านักเรี ยนใช้
present simple tense ได้ถูกต้องในการพูดถึงสถานการณ์ในท้องถิ่นของนักเรี ยน และอย่าลืม
เน้นเรื่ องการออกเสี ยง s ที่เติมหลังคำกริ ยา เมื่อประธานเป็ นเอกพจน์บุรุษที่ 3
กิจกรรมที่ 3: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- บอกนักเรี ยนว่าจะให้ฟังแผ่นซี ดีซ่ ึ งตัดตอนมาจากบทประพันธ์คลาสสิ ก
(Vivaldi’s Four Seasons) ครู เปิ ดให้ฟังสักครู่ แล้วถามว่านักเรี ยนพอจะจับใจความได้หรื อไม่
105

- ข้อความที่ตดั ตอนมาจะพูดถึงฤดูกาลต่าง ๆ ครู ให้นกั เรี ยนบอกทีละฤดู โดยครู


เฉลยไปด้วย (อาจใช้ภาษาไทยก็ได้) ตัวอย่างเช่น In ‘Spring’ the rhythm is light and happy.
TAPESCRIPT
NARRATOR: Listen to extracts from The Four Seasons by Vivaldi. Which seasons
are the extracts about?

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 37


1 Summer 2 Winter 3 Autumn 4 Spring

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 17
Lesson 13: Wonders of Nature
กิจกรรมที่ 1: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพในหนังสื อเรี ยนหน้า 38 แล้วให้บอกว่าเป็ นสัตว์อะไรบ้าง
- ย้ำให้นกั เรี ยนใช้ Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101-110
- ให้นกั เรี ยนจับคู่ค ำคุณศัพท์ในกรอบกับสัตว์ในรู ปภาพ
เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 38
centipede: strange/thin great white shark: deadly/dangerous
loris: slow/sleepy hummingbird: beautiful/delicate

กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล) A


- ให้นกั เรี ยนอ่านชื่อเรื่ อง Wonders of Nature ในหนังสื อเรี ยนหน้า 38 พร้อมกัน
ครู ซกั ถามนักเรี ยนว่าเข้าใจความหมายทั้งหมดหรื อไม่ ถ้าไม่เข้าใจ ครู อธิ บายให้ชดั เจน
- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องทั้งหมดเพื่อจับใจความคร่ าว ๆ
- ให้เวลา 2 นาทีเพื่ออ่านเนื้อเรื่ องอีกครั้งแล้วจับคู่กบั ชื่อเรื่ องที่ก ำหนดให้

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 38


Lots of legs – centipede Energy saver – loris
Nature’s helicopter – hummingbird Deadly assassin – great white shark
A กิจกรรม
ที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- บอกให้นกั เรี ยนดูผงั มโนทัศน์ เรื่ องตะขาบในหนังสื อเรี ยนหน้า 38 ย้ำให้
นักเรี ยนรู้วา่ การทำเช่นนี้เป็ นวิธีการหนึ่งในการจัดระบบข้อมูลที่ยดึ ข้อเท็จจริ งและคำศัพท์
- ให้นกั เรี ยนแต่ละคนทำผังมโนทัศน์ สำหรับสัตว์อื่นอีก 3 ชนิด
106

- เมื่อนักเรี ยนทำงานเสร็ จแล้ว ให้เปรี ยบเทียบกับของเพื่อน ๆ


- ตรวจคำตอบโดยให้นกั เรี ยนออกไปเขียนผังมโนทัศน์เครื อข่ายบนกระดาน
ครู ให้นกั เรี ยนส่ งสมุดโน้ต เพื่อแก้ไขและตรวจให้คะแนนเป็ นครั้งคราว

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 38


Loris: habitat – in rainforests of South Asia; size -small; colour – brown; food – insects,
plants and small birds
Great white shark: habitat – shallow water near beaches; size – up to six metres long: up
to 1800 kilos in weight; colour – white; food – (open).
Hummingbird: habitat – forests; size – tiny: smallest weighs two grams; colour – brightly
coloured; food – nectar of flowers.

Language Focus: Comparative and superlatives


- บทเรี ยนนี้จะแบ่งคำคุณศัพท์ออกเป็ น 3 ประเภท คือ สั้น ยาว และไม่เป็ นไปตามกฎ คุณศัพท์
สั้นมี 1 พยางค์และ 2 พยางค์ที่ลงท้ายด้วย y คุณศัพท์ยาวคือคำที่มี 2 พยางค์แต่ไม่ลงท้ายด้วย
y และที่มีมากกว่า 2 พยางค์ คุณศัพท์ไม่เป็ นไปตามกฎจะเปลี่ยนรู ปไปอย่างสิ้ นเชิงเมื่อสระมี
เสี ยงสั้นและมีพยัญชนะสะกดตัวเดียว ต้องเพิ่มตัวสะกดพยัญชนะอีก 1 ตัว ดังนั้น hot จึงเป็ น
hotter red เป็ น redder และ sad เป็ น sadder อย่างไรก็ตาม สระเสี ยงยาวแม้จะมีตวั สะกดเพียง
1 ตัว ก็ไม่เพิ่มตัวสะกดเข้าไปอีก
กิจกรรมที่ 4: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู อธิ บายให้เข้าใจถึงความแตกต่าง ระหว่างคุณศัพท์ส้ น ั ยาวและไม่เป็ นไปตามกฎ แล้วให้
พิจารณาคำคุณศัพท์ที่ให้มาในหนังสื อเรี ยนหน้า 39
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกกล่องข้อความใน Exercise D หน้า 39 และทำให้สมบูรณ์ตามตัวอย่าง
โดยทำลงในสมุด นักเรี ยนอาจจะกลับไปดูเนื้ อเรื่ องประกอบก็ได้ ตรวจพร้อมกันด้วยการ
เฉลยปากเปล่า
- เน้นย้ำให้นกั เรี ยนออกเสี ยง -er ในตำแหน่งท้ายคำด้วยเสี ยง schwa (เ-อะ)

เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 39


Short adj. Comparative Superlative
thin thinner the thinnest
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 39
big bigger the biggest
Irregular adjectives
small smaller the smallest
Short adj. Comparative Superlative
deadly deadlier the deadliest
good better the best
strange stranger the strangest
bad worse the worst
Long adjectives
dangerous more/less the most/least
dangerous dangerous
interesting more/less the most/least
interesting interesting
107

กิจกรรมที่ 5: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- บอกนักเรี ยนว่า นักเรี ยนจะต้องทายชื่อสัตว์ที่ครู บรรยายให้ฟัง
- ให้นกั เรี ยนเขียนตัวเลข 1-10 ลงในสมุด อ่านเนื้ อเรื่ องและเขียนคำคุณศัพท์ลงในช่องว่างให้
ถูกรู ปแบบ
- ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 39


The animal is a rhino:
1 smaller 2 bigger 3 largest 4 shorter
5 heavier 6 slower 7 faster 8 more dangerous
9 less dangerous 10 most delicate

กิจกรรมที่ 6: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)/Speaking (กิจกรรมคู่)


- ให้นกั เรี ยนเลือกสัตว์ 1 ชนิด แล้วเขียนคำบรรยายในลักษณะคล้าย ๆ กับ
ตัวอย่างใน Exercise E กัน ลงในสมุด
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำบรรยายของตนให้เพื่อนหรื อทั้งชั้นฟัง
กิจกรรมที่ 7: Dictionary work
- ให้นกั เรี ยนค้นหาคำว่า bite ใน Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101-110
ครู ช้ ีให้ดูวา่ จะหา Present participle และ Past simple จากที่ไหน (biting และ bit) แล้วบอกให้
นักเรี ยนค้นหาคำอื่น ๆ ในพจนานุกรมย่อยเพื่อเติมลงในช่องว่างให้สมบูรณ์
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 13) หน้า 26
108

เฉลย: Activity Book (Lesson 13) หน้ า 26


A 2 The white shark is more dangerous than the salmon.
3 The gorilla is more intelligent than the sloth.
4 The cheetah is faster than the lynx.
5 The whale is larger than the elephant.
6 The giraffe is taller than the rhino.
B 2 The pygmy shrew is the smallest animal in the world.
3 The Masai giraffe is the tallest animal in the world.
4 The cheetah is the fastest animal in the world.
5 The blue whale is the longest animal in the world.
C Open

C Open
D 2 slowest 3 less dangerous 4 best 5 sleepiest 6 faster
E polar bear – large/carnivorous – polar regions
loris – slow/sleepy – rainforests of South Asia
rhino – very large/heavy – plains Africa
hummingbird – beautiful/delicate – tropical rain forests
white shark – deadly/very aggressive – tropical seas
F 1 hotter thinner fatter redder
2 smaller darker older shorter
3 larger bluer braver wiser
4 heavier happier angrier healthier
G 2 lives 3 arrive 4 eat 5 fall 6 weighs
H 1 is false

เฉลย: Students’ Book ข้ อ G หน้ า 39


die – dying – died weigh – weighing – weighed
fall – falling – fell notice – noticing – noticed
beat – beating – beat smash – smashing – smashed
109

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 18
Lesson 14: Endangered Species
กิจกรรมที่ 1: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกตารางตามตัวอย่าง Exercise A ในหนังสื อเรี ยนหน้า 40
และเติมชื่อสัตว์ลงไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้อ่านชื่อสัตว์ดงั ๆ แล้วเขียนลงบนกระดาน
- ให้อ่านย่อหน้าแรกของบทความ แล้วเติมรายชื่อเพิ่มลงไปในตาราง
กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านบทความที่เหลือ แล้วตอบคำถาม ตรวจด้วยการเฉลยปากเปล่าพร้อมกันทั้งชั้น
เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 40
1 Up to 4 metres long and over a metre high.
2 Animals like wild pigs, deer and buffalo.
3 Between 5,000 and 7,000. กิจกรรมที่
4 By establishing national parks or reserves. 3:
5 Because of illegal hunting and because their habitat is disappearing. Keywords
( กิจกรรม
รายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเติมคำในช่องว่างของประโยคในหนังสื อเรี ยนหน้า 40 ให้สมบูรณ์โดยทำในสมุด
แล้วตรวจด้วยการตอบปากเปล่าพร้อมกันทั้งชั้น
เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 40
1 weigh 2 long 3 high 4 fur/stripes 5 hunt/eat

กิจกรรมที่ 4: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านเกี่ยวกับฮิปโปโปเตมัสในหนังสื อเรี ยนหน้า 41 ถ้าพบคำศัพท์
ที่ไม่คนุ ้ เคยให้ใช้ Mini–dictionary ในการค้นหาความหมาย
- หลังจากอ่านเสร็ จแล้ว ให้คดั ลอกตารางลงในสมุดและเติมคำให้สมบูรณ์
- ตรวจแก้แบบฝึ กหัดโดยให้นกั เรี ยนออกไปเติมตารางบนกระดานแล้วตรวจ
พร้อมกัน

เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 41


Size: about 150 cm high and nearly three and a half metres long; it weighs around
3,500 kilos
Physical characteristics: dark skin, a very big body, small ears and eyes
Food: grass, plants and fruit
Population: much smaller than before
110

กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนจับคู่ เพื่อทำกิจกรรมส่ วนที่ 2 โดยให้นกั เรี ยน A เปิ ดไปหน้า 93
อ่านข้อ 5 นักเรี ยน B เปิ ดไปหน้า 94 อ่านข้อ 5 ให้ใช้โน้ตย่อที่ให้มาเขียนคำบรรยาย เช่นเดียว
กับที่ท ำใน Exercise D
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกตารางตามใน Exercise D ลงในสมุด แต่ไม่ใส่ ขอ้ มูล
กิจกรรมที่ 6: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนถามและตอบคำถามที่ให้มาในหนังสื อแบบเรี ยน แล้วนำข้อมูลที่
เพื่อนให้มา เติมลงไปในตาราง
- นำคำตอบไปเปรี ยบเทียบกับเพื่อนคู่อื่น ๆ
กิจกรรมเสริม
Extinct creatures: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- บอกให้นกั เรี ยนอ่านกรอบ “Did you know?” ซึ่ งเกี่ยวกับสัตว์ที่สูญพันธุ์ไป
แล้วที่เป็ นที่รู้จกั ดี อย่าง นกโดโด (the dodo)
- ให้นกั เรี ยนช่วยกันคิด สร้างเรื่ องขึ้นมาหรื อค้นหาสัตว์ที่สูญพันธุ์ที่มีคนรู ้จกั
น้อย โดยเขียนข้อมูลบรรยายลงไปตามที่ตอ้ งการ
- ให้นกั เรี ยนนำสัตว์สูญพันธุ์ของนักเรี ยนออกแสดง แล้วครู คดั เลือกของผูท้ ี่
ทำได้ดีที่สุด จัดแสดงในห้องเรี ยน แล้วกระตุน้ ให้นกั เรี ยนคนอื่น ๆ ถามคำถามหรื อแสดง
ความเห็น
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 14) หน้า 27

เฉลย: Activity Book (Lesson 14) หน้ า 27


A 2 largest 3 bigger 4 closer 5 faster
B open
C teeth / hair / arm / face / eye / ear / head
D 2 How big are they? 5 How do they behave?
3 Which species is the biggest? 6 When are the young born?
4 How many are there now? 7 What do they eat?
E open

แผนการ
จัดการเรียนรู้ ที่ 19
Lesson 15: Your Planet Needs You
Topic Focus
- บอกนักเรี ยนทั้งชั้นให้ดูรูปภาพและใบปลิวในหน้าแรกของบทเรี ยน
- ระดมสมอง เพื่อค้นหาคำศัพท์จากรู ปภาพ แล้วเขียนคำต่อไปนี้บนกระดาน
คือ pollution, ozone layer, rain forest, recycle, air pollution
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมคู่)
111

- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพในหนังสื อเรี ยนหน้า 42 แล้วอ่านคำถามทั้งหมด ตรวจ


สอบคำศัพท์ที่มีปัญหา
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ และบอกให้นกั เรี ยนทำงานร่ วมกันเพื่อจับคู่ค ำถาม
กับรู ปภาพ
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า

เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 42


1F 2A 3E 4C 5D 6B

- ให้นกั เรี ยนตอบคำถาม และย้ำไม่ให้


นักเรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องใน Exercise B ในหนังสื อเรี ยนหน้า 42
- ให้นกั เรี ยนทั้งหมดช่วยกันเสนอแนะคำตอบที่น่าจะเป็ นไปได้ โดยยังไม่เฉลย
ว่าคำตอบถูกต้องหรื อไม่
เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 42
1 Glass, paper, cans and plastic
2 Pollution from factories and cars
3 The North Sea and the Mediterranean Sea
4 An area the size of England and Wales disappears every year
5 CFC aerosols
6 It is changing/getting warmer
กิจกรรมที่ 2:
Reading
(กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั อ่านเรื่ อง “Friends of the Earth” เพื่อตรวจสอบว่า นักเรี ยน
เดาคำตอบในคำถาม 6 ข้อ ในแบบฝึ กหัด A ได้ถูกต้องหรื อไม่
- ตรวจคำตอบด้วยการตอบปากเปล่าหรื อให้อาสาสมัครออกไปเขียนบน
กระดาน
กิจกรรมที่ 3: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- บอกนักเรี ยนว่า นักเรี ยนจะได้ฟังการสัมภาษณ์ระหว่างผูห้ ญิงชื่อ Alison และ
วัยรุ่ นอีก 2 คน นักเรี ยนจะต้องจดบันทึกทุกอย่างที่ Alison พูดถึง ซึ่ งเป็ นข้อมูลที่พบในเรื่ อง
“Friends of the Earth”ที่อยูใ่ นแบบฝึ กหัดที่ท ำมาแล้ว
- ให้เวลาอ่านเนื้อเรื่ องอีกครั้ง
- เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงให้นกั เรี ยนฟัง 1 ครั้ง
- ให้นกั เรี ยนตรวจแก้ค ำตอบเป็ นคู่ ๆ แล้วจึงตรวจอีกครั้งพร้อมกันทั้งชั้นเรี ยน
112

TAPESCRIPT
NARRATOR: Listen to the interview with Alison. Which of the problems in the leaflet
does she mention?
GIRL: Hello, Alison, we’re doing a survey of people at the school. Can you answer
some questions for us?
ALISON: What’s it about?
BOY: Well, it’s about how green you are, you know…about what you actually do to
protect the planet…
ALISON: OK…I think that’s very important.
GIRL: Right, let’s start. There are four questions. The first one is…er…What do you do to
ALISON: OK…I think that’s very important.
GIRL: Right, let’s start. There are four questions. The first one is…er…What do you do to
recycle things?
ALISON: Well, I collect all the old newspapers at home. I think paper is very important
because of the forests they are cutting down…you know the rain forests.
BOY: Exactly. And what about energy? You know…things like cars cause a lot of air
pollution and acid rain…er …so what do you do to save energy?
ALISON: I always turn the lights off at home… I mean when I don’t need them! And I
usually go to school by bicycle and not by car.
GIRL: Great! Well done, Alison! And the next one is this…What do you do to help
animals and wildlife?
ALISON: Well, I sometimes give money to campaigns. I gave some money to the Save the
Dolphins campaign… I think dolphins are really lovely. And in the winter, when it’s really
cold I feed the birds.
GIRL: The last question. Are you and your family green shoppers? I mean do you and your
family think about green issues when you go shopping?
ALISON: Oh, yes. We never buy aerosols with CFCs, because of the ozone layer. And…
oh yeah… and we always buy recycled writing paper.
GIRL: Well thanks a lot, Alison. That’s fantastic!
BOY: Yeah, you’re the best person we’ve talked to so far. Thanks.

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 43


recycling, rain forests, air pollution, ozone layer
113

กิจกรรมที่ 4: Listening (กิจกรรมรายบุคคล) A


- บอกให้นกั เรี ยนเขียนหมายเลข 1–4 ลงในสมุด
- ให้นกั เรี ยนอ่านแบบสอบถามในหนังสื อ ครู อธิ บายคำถามให้นกั เรี ยนเข้าใจ
และอธิบายคำว่า ‘green shopper’ หมายถึงคนที่ซ้ื อผลิตภัณฑ์ที่น ำกลับมาใช้ใหม่หรื อ
ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีอนั ตรายต่อสิ่ งแวดล้อม
- ครู เปิ ดแผ่นซีดีให้ฟังจนจบ และเปิ ดอีก 1 ครั้ง โดยหยุดชัว่ ขณะตามที่เห็นว่า
เหมาะสม
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 43
1 Collect newspapers / use recycled paper
2 Always turn the lights off at home / go to school by bicycle
3 Sometimes give money to campaigns
4 Yes, never buy aerosols with CFCs and always buy recycled paper
กิจกรรมที่ 5:
Speaking
(กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกแบบสอบถามในหนังสื อเรี ยนหน้า 43 ลงในสมุด เว้นที่วา่ ง
ไว้เพื่อเขียนคำตอบ
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั แล้วสัมภาษณ์กนั และกัน เพื่อตอบแบบสอบถาม
- ครู สงั เกตการทำกิจกรรม โดยแก้ไขคำถามให้นกั เรี ยนใช้ได้ถูกต้อง
- เมื่อทำแบบฝึ กหัดเสร็ จแล้ว ให้อาสาสมัครออกมาทำหน้าที่เลขานุการโดยการ
เขียนคำตอบลงบนกระดาน แล้วให้ท้ งั หมดลงมติเลือกความเห็นที่เห็นว่ามีประโยชน์และ
สร้างสรรค์ที่สุด
กิจกรรมที่ 6: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านรายการคำศัพท์ในหนังสื อเรี ยน Exercise หน้า 43 แล้วลองคิด
หาวิธีที่เป็ นไปได้ที่จะรักษาสิ่ งแวดล้อม
- ครู อ่านประโยคตัวอย่างพร้อมกับนักเรี ยน แล้วให้นกั เรี ยนคิดหาวิธีที่จะรักษา
สิ่ งแวดล้อมวิธีอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในหนังสื อ
- ครู ควรย้ำให้นกั เรี ยนใช้ Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101-110 เพื่อ
ค้นหาความหมายของคำและตรวจสอบการสะกด
- บอกให้นกั เรี ยนเก็บรายการคำศัพท์ เพื่อเอาไว้ใช้ในหน่วยการเรี ยนรู ้ต่อไป
กิจกรรมเสริม
Spelling: Writing (กิจกรรมกลุ่ม)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4-5 คน แต่ละกลุ่มจะต้องเตรี ยมคำ
ศัพท์มา 15-20 คำ โดยคำศัพท์แต่ละคำทั้งหมดจะต้องสะกดผิด
114

- ให้แต่ละกลุ่มนำรายการคำศัพท์ดงั กล่าวไปแลกเปลี่ยนกัน แข่งขันกันแก้ไขให้


ถูกต้อง ใครแก้ได้ถูกต้องทั้งหมดก่อนคือผูช้ นะ ในกรณี ที่ไม่แน่ใจ ให้ตรวจสอบจากหนังสื อ
แบบเรี ยนหรื อจาก Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101-110
เฉลย: Activity Book (Lesson 15) หน้ า 28
A 2 worst 3 worse 4 better 5 best
B One word: underground / greenhouse / newspaper / hummingbird
Two words: greenhouse effect / traffic jam / power station / acid rain
C 2 shouldn’t 3 should 4 shouldn’t 5 shouldn’t 6 should
E 1T 2T 3T 4F

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 20
Lesson 16: Takuana Island
กิจกรรมที่ 1: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านประโยคที่ก ำหนดให้จาก Exercise A ในหนังสื อเรี ยนหน้า 44
- ให้นกั เรี ยนยกมืออย่างเร็ วเพื่อตรวจสอบดูวา่ นักเรี ยนแต่ละคนมีพฤติกรรมทางการเรี ยนตรง
กับประโยคที่ให้มาในข้อใดและแต่ละประโยคแบ่งเป็ นนักเรี ยนกี่คน แล้วใช้ภาษาไทยใน
การอภิปรายว่าแต่ละคนจะช่วยให้การฟังง่ายขึ้นได้อย่างไร
กิจกรรมที่ 2: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- บอกนักเรี ยนว่า นักเรี ยนจะได้ฟังรายการวิทยุเกี่ยวกับเมืองตากัวนา ให้นกั เรี ยนดูภาพวาดทั้ง
2 ในหนังสื อเรี ยนหน้า 44 ตรวจสอบความหมายของคำศัพท์ใหม่วา่ เข้าใจหรื อไม่ แล้วให้
ทำนายว่าจะพูดถึงอะไร
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี (อาจจะมากกว่า 1 ครั้ง ก็ได้) แล้วบอกให้นกั เรี ยนยกมือเมื่อได้ยนิ หัวข้อของ
แต่
ละเรื่ องแต่ละเรื่ องที่ถูกกล่าวถึง
- ครู ถามคำถามนักเรี ยนเพื่อดูการตอบสนองของนักเรี ยน เช่น ถามนักเรี ยนว่า การนึกชื่อเรื่ อง
และการคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้า จะทำให้เข้าใจเนื้ อเรื่ องง่ายขึ้นหรื อไม่

TAPESCRIPT
NARRATOR: Listen and check your answers.
INTERVIEWER: Today in Worldwatch, to look at development plans for the Pacific
island of Takuana, we have Teresa Zimba…from the United Nations. Teresa can you tell
us something about Takuana?
TERESA: Well, Takuana is a small tropical island…it’s very beautiful, with rain forests,
marshes and mountains… and some very exotic species of animals and birds. For
example, the Taku hummingbird is a beautiful creature with lovely colours… and there is
also a strange lizard called the tuatara. Another unusual creature is the Taku bat, which
lives in the mountains. It is peculiar because it only has one tooth.
INTERVIEWER: And there are plans to develop the island. Why?
TERESA: Well, the island is desperately poor. So if they develop the island they will be
115

INTERVIEWER: And there are plans to develop the island. Why?


TERESA: Well, the island is desperately poor. So if they develop the island they will be
able to build hospitals and schools.
INTERVIEWER: And what exactly… what are the plans?
TERESA: Well, they have discovered large amounts of tin… in the mountains and there
is a plan to mine it and process it.
INTERVIEWER: What will happen to the island if they do that?
TERESA: A complete disaster. The development will destroy most of the rain forest…
and if they destroy the rain forest, the climate of the island will change and…species of
birds and animals will just disappear.

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 44


Subjects – birds and animals; factories and mines; destruction of rain forests; pollution;
the Taku language
Language Focus: Conditional sentences (1)
- ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 จะมีลกั ษณะคือ if + present simple สำหรับเงื่อนไข ส่ วนผลจะ
แสดงด้วย future tense (คือ will)
กิจกรรมที่ 3: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านทั้ง 2 ส่ วนของประโยคทั้งหมดแล้วจับคู่กนั
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี ให้นกั เรี ยนฟัง เปรี ยบเทียบกับประโยคที่นกั เรี ยนจับคู่ไว้โดย
ให้ท ำเป็ นคู่ ๆ
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 45


1c 2d 3b 4e 5a
กิจกรรมที่ 4: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกตาราง Exercise D ในหนังสื อเรี ยนหน้า 45 ลงในสมุด
- ให้อ่านประโยคใน Exercise C อีกครั้ง แล้วถามว่าในแต่ละส่ วนของประโยค
ใช้ tense อะไร และคำไหนใช้แสดงเงื่อนไข
- ให้นกั เรี ยนเขียนประโยคลงในตารางให้สมบูรณ์
- ให้นกั เรี ยน 1 คน เขียนประโยคลงในตารางบนกระดาน แล้วตรวจคำตอบ
พร้อมกันทั้ง
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 45 ชั้น
Condition introduced by if + present simple; consequence + future
116

กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ทบทวนประโยคตัวอย่างในหนังสื อเรี ยนหน้า 45 พร้อมกันทั้งชั้น
- ให้นกั เรี ยนนำคำที่ก ำหนดให้เขียนประโยดเกี่ยวกับตากัวนาให้ถูกต้องลงใน
สมุด
- ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 45


1 If they develop the island, there will be better schools and hospitals.
2 If there are more jobs, people will be more prosperous.
3 If they build more hospitals, people will be healthier.
4 If they make nature reserves, they will protect the wildlife.
5 If they build hotels, tourists will come to the island.
6 If they mine the tin, they will destroy the rain forests.
7 If they destroy the rain forest, the wildlife will disappear.
8 If they build factories, they will cause pollution.
กิจกรรม
ที่ 6:
Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนย้อนกลับไปดู Exercise A ในหนังสื อเรี ยนหน้า 44 และบอก
นักเรี ยนว่า นักเรี ยนจะฝึ กหัดวิธีการเรี ยนแบบที่ 4
- ให้นกั เรี ยนศึกษาตัวอย่าง แล้วครู ท ำประโยคที่สมบรู ณ์ให้ดู มุ่งความสนใจไป
ที่ค ำศัพท์หลัก
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงอีกครั้ง ให้หยุดชัว่ ขณะ ตามที่เห็นสมควร
แล้วตรวจคำตอบ
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงให้นกั เรี ยนฟังประโยค 6 ประโยค แล้วขีดเส้น
ใต้ค ำศัพท์หลัก

TAPESCRIPT
Listen to six sentences. Write down the most important words.
1 And if they destroy the rain forest, the climate of the island will change.
2 Well, if they build the factories, they’ll cause acid rain.
3 And if they build a new port, they’ll pollute the sea around the island.
4 And if thousands of people come to the island, the Taku language will disappear.
5 And has the United Nations got a development plan for the island?
6 Our plan is to develop the island slowly.
117

กิจกรรมที่ 7: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)/Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)


- ศึกษาตัวอย่างบทสนทนา Exercise G ในหนังสื อเรี ยนหน้า 45
- ให้นกั เรี ยนแต่ละคนเตรี ยมกระดาษแผ่นยาวเล็ก 10 แผ่น ให้คิดหาประโยค
เงื่อนไข แล้วเขียนคำบอกใบ้สำหรับเงื่อนไขไว้บนแผ่นหนึ่ง และผลไว้อีกแผ่นหนึ่ง เสร็ จแล้ว
พับเป็ นชิ้นเล็กๆ
- แบ่งนักเรี ยนเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน ให้ผสมกระดาษที่พบั ไว้ แล้วแยกเป็ น
เงื่อนไข 1 กอง และผล 1 กอง
- ให้นกั เรี ยนผลัดกันมาเลือกแผ่นกระดาษ คนละ 1 แผ่นจากแต่ละกอง ให้ท ำให้
เป็ นประโยคที่สมบูรณ์ ถ้าต่อกันแล้วไม่ได้ความหมาย เพื่อนจะบอกว่าไม่ถูก (no) ให้เขาลอง
เลือกอีก 2 แผ่น ถ้าประโยคเข้ากันได้และมีความหมายให้เพื่อนบอกว่าถูกต้อง (yes) แล้วทิ้ง
แผ่นกระดาษหงายไว้บนโต๊ะ
- ครู ตรวจดูวา่ นักเรี ยนใช้ tense ถูกต้องหรื อไม่
- เฉลย: Activityให้ นกั เรี(Lesson
Book ยนทำแบบฝึ 16) กหน้หัดาใน Activity Book (Lesson 16) หน้า 29–30
29-30
A 1 continues/will be 5 use/will help
is the ozone 2 cutlayer.
down/will change and the 6Arctic
In the Antarctic continue/will
there are kill
holes in the ozone layer,
Activity3Book TAPESCRIPT
goes up/will go up 7 do and
not stop/will
caused by CFCs which are chemicals in fridges aerosols. disappear
If we don’t stop using them
Activity4Book, do the Lesson
notozone
stop/will16, exercise
destroy G หน้ า 29–30.
8 us Listen
destroy/will lose a scientist
to talking about
we’ll
the destroy
future. layer which protects from dangerous rays from the sun.
BA: And open
how canproblems
we avoid all these problems?
Which of these
CB: Well,2weschool does
3 something she 4mention?
airport immediately mine Circle the ones you hear.
5change
hospital
A: What6dopower have to
you think do will happen to our planet to
in the nextour lifestyles.
fifty years? If we use less
energy, if…weI think station
recycle things and7 optimistic.
ifnature
we stop reserve
using CFCs8 we’ll
bird sanctuary
help to solve some of these
B: Well
Dproblems.2 a 3 d 4 c 5 b I’m not very
A:
E Why 3not? In Dublin it will rain and it will be cool.
B: Well,4theInfirst problem
Lisbon it willisbepopulation.
sunny andIfhot. the population of this planet continues to grow
at the same5 Inrate, there itwill
London willbebea rainy
disaster.
andMany
cool. more people won’t have enough food to
eat and they’ll destroyitmore
6 In Madrid will beforests
sunnytoand makehot.new farms. And if we cut down the forests
we’ll lose7 most
In Osloof the species
it will snowofandplants andbeanimals
it will cold. and we’ll change the world’s climate.
Also, if we8 Incontinue
Paris it towillburn
be enormous
cloudy andquantities
warm. of coal and oil we’ll
put
F more2carbon dioxide
The world in the air.will
temperature Thisgowillup.make the greenhouse effect worse and the
temperature of thespecies
3 Many planet ofwilldolphin
go up.will disappear.
A: Why 4is Pollution
that bad? Ifrom like cars
hot weather.
will get worse.
B: Well,5if Thethe temperature goes
North Sea will become up by aa fewdeaddegrees
sea. the ice in the arctic regions will melt
and the sea levelworld’s
6 The will godeserts
up. If thewillseagetlevel goes up by a few metres, most of the big
bigger.
cities in the world will
7 Doctors willbemake underadvances
water. in medicine.
A:
G Really? Problems mentioned (tapescript on page 21): population, disappearing forests,
the greenhouse effect, the sea level going up, the ozone layer
118

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 21
Lesson 17: Fluency
Topic Focus
- บทเรี ยนนี้ เป็ นบทเรี ยนที่ต่อเนื่องมาจากบทเรี ยนก่อน นักเรี ยนยังคงพัฒนาใน
ด้านการคำนึงถึงสิ่ งแวดล้อม เรี ยนประโยคเงื่อนไขต่อ
- บทเรี ยนนี้ยงั จะมุ่งไปที่การเขียนจดหมายภาษาอังกฤษอย่างเป็ นทางการตาม
สมัยนิยมอีกด้วย
กิจกรรมที่ 1: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูภาพวาดในหนังสื อเรี ยนหน้า 46 แล้วให้บอกว่าเป็ นสัตว์ชนิดใด
บ้าง
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี เพื่อให้นกั เรี ยนฟังและจับคู่ค ำบรรยายกับภาพวาดได้อย่าง
เหมาะสม
- ให้นกั เรี ยนเดาดูวา่ สัตว์ที่บรรยายไว้น้ นั มีชนิดใดบ้างที่ยงั มีอยู่ ในปัจจุบนั (แต่
ถูกเรี ยกด้วยชื่ออื่น)

TAPESCRIPT
Listen and see if you can guess which animal is described.
PRESENTER: Good evening and welcome to our nature quiz. Today we are looking at
the beautiful Pacific island of Taku, which is in danger because of plans to mine tin. If
you can answer these four questions correctly, you will get a free trip to Takuana for two
weeks. Telephone this number with your answer: 989 9955…989 9955. Remember, the
first five people to phone in with correct answers will get a free holiday to beautiful
Takuana! OK. Question number one. What is this animal?
MALE: This animal lives in caves in the western mountains of the island. It is very rare
and is in danger of extinction. It is about seven to ten centimetres long. It is one of the
strangest animals that exists, because it only has one tooth. It uses this tooth to bite into
fruit and then it drinks the juice. In the day this creature sleeps and at night it goes out to
look for food. It flies very well and has a very good sense of direction.
PRESENTER: Right. Easy, wasn’t it? Now question number two.
MALE: This animal is also in danger of extinction. It is a mammal and it lives off the
south coast of the island of Takuana. It is one of the smallest of its species – about a
metre long. It has a yellow head. It is an extremely intelligent creature – the one in Taku
Aquarium has a vocabulary of over six hundred words!
119

กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนจับคู่ชื่อเรื่ องกับย่อหน้าในหนังสื อเรี ยนหน้า 46 ครู ย ้ำเตือนว่าในขั้นนี้นกั เรี ยน
ต้องมุ่งจับที่ใจความสำคัญมากกว่าการเข้าใจทุกตัวอักษร
- เฉลยคำตอบด้วยการตอบปากเปล่า

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 46


Advantages of the plan: par. 2
Reasons for writing the letter: par.1
Public meeting: par 4
Pollution and conservation: par. 3

กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนจับคู่ขอ้ ความกับประโยคที่บ่งชี้วา่ ควรจะใช้ขอ้ ความแต่ละประเภทเมื่อใด ใน
รายการด้านขวามือ ตรวจคำตอบด้วยการตอบปากเปล่า

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 47 A


1 d 2 f 3 e 4 c 5 b 6 a
กิจกรรมที่ 4: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- เนื่องจากกิจกรรมนี้ จะเกี่ยวโยงไปถึงการบ้าน จึงควรจะแยกออกเป็ น 2 ตอน เช่นใช้ข้ นั ที่ 1
และ 2 เป็ นตอนที่ 1 ส่ วนขั้นที่ 3 และ 4 เป็ นตอนที่ 2 ครู ตอ้ งอธิ บายให้นกั เรี ยนเข้าใจว่า
นักเรี ยนจะรวบรวมข้อมูลเพื่อทำโครงงานเขียนเกี่ยวกับสิ่ งแวดล้อมที่สำคัญในท้องถิ่น
ของตน
- ขั้นตอนแรก ให้นกั เรี ยนนึกถึงปั ญหาในท้องถิ่นของตนก่อน
- ต่อจากนั้น ให้นกั เรี ยนรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปั ญหา เช่นอาจใช้วิธีสมั ภาษณ์ การค้นคว้าใน
ห้องสมุดท้องถิ่นหรื อหาข้อมูลจากสื่ อท้องถิ่น
- ให้นกั เรี ยนเขียนบันทึกเกี่ยวกับ 1) เหตุผลในการเขียน 2) ข้อมูลเกี่ยวกับปั ญหา 3)
ปฏิกิริยาของคนในท้องถิ่นต่อปั ญหา 4) แนวทางแก้ไขที่น่าเป็ นไปได้
- อันดับสุ ดท้าย ให้นกั เรี ยนนำบันทึกของตนเองมาใช้ในโครงงาน ตามรู ปแบบที่ได้พดู ถึงมา
แล้ว
- ครู อาจจะให้นกั เรี ยนส่ งโครงงานและให้คะแนน
กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมกลุ่ม)
- ให้นกั เรี ยนทำงานเป็ นกลุ่มย่อย เพื่อจัดทำป้ ายโฆษณาหรื อทำนิตยสารสำหรับแสดงใน
ชั้นเรี ยน
- ให้นกั เรี ยนรวบรวมผลการเขียนจากหน่วยการเรี ยน แล้วเลือกผลงานที่ดีที่สุดออกมา 1 ผล
งาน
120

- ให้นกั เรี ยนช่วยกันตกแต่งป้ ายพร้อมกับเพิ่มรู ปภาพ ภาพวาด สิ่ งของตกแต่งบางอย่าง เช่น


ใบไม้ ดอกไม้ เพื่อทำให้ป้ายโฆษณาน่าสนใจขึ้น
- ให้นกั เรี ยนจัดแสดงป้ ายโฆษณาให้เพื่อน ๆ ในชั้นเรี ยนดู
กิจกรรมที่ 6: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ น 6 กลุ่มย่อย ในแต่ละกลุ่มอาจมีจ ำนวนสมาชิกในกลุ่มไม่เท่ากัน
- ให้แต่ละกลุ่มเลือกทำหัวข้อที่ก ำหนดให้ในหนังสื อเรี ยนหน้า 47
- กำหนดบทบาทของแต่ละกลุ่ม และบอกให้นกั เรี ยนวางแผนการใช้ประโยคตามรู ปแบบที่
ใช้ในหนังสื อนี้
- นักเรี ยนแต่ละกลุ่มจะต้องตัดสิ นใจว่าเห็นด้วยกับแผนการนี้ หรื อไม่เห็นด้วย หากไม่เห็น
ด้วยให้คิดหาเหตุผลหรื อคิดหาแผนทางเลือกอื่น
- ครู เดินดูการปฏิบตั ิกิจกรรมรอบ ๆ ชั้นเรี ยน
- ส่ งตัวแทนแต่ละกลุ่มจะออกมารายงานหน้าชั้นเรี ยน และเขียนข้อสรุ ปของกลุ่มบนกระดาน
ให้เพื่อนในชั้นเรี ยนลงมติวา่ กลุ่มใดน่าเชื่อถือมากที่สุด และจะยอมรับหรื อปฏิเสธแผนงาน
นั้น ๆ
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Boo (Lesson 17) หน้า 31
121

Activity Book TAPESCRIPT:


Activity Book, Lesson 17, Exercise C.
Listen to the class debate. Complete the table with the advantages and
disadvantages of different kinds of energy.
TEACHER: Who are the group leaders? OK, can you start please?
STUDENT A: We’re in favour of nuclear power. Well, the first thing is pollution. We
think that nuclear power is cleaner, because it doesn’t cause air pollution and acid rain
and all those things. Coal and oil power stations are cheap, but they cause terrible air
pollution and acid rain. And they are bad for the greenhouse effect. Also in our opinion
nuclear power is safer than a lot of people say.
STUDENT B: I’m sorry. We don’t agree. We are against nuclear power. There have
been some terrible nuclear accidents. Don’t you remember Chernobyl? In our opinion, we
should close all nuclear power stations immediately.
STUDENT A: And how are you going to get electricity? Nuclear power provides clean
electricity.
STUDENT B: We don’t agree. What about nuclear waste? Nuclear waste can be
dangerous for thousands of years, and we don’t know where to put it.
STUDENT A: I think we’ll find a way to solve that problem. What about sending it into
space? Anyway how are you going to get energy?
STUDENT B: We think that we should use natural energy from the wind and the sun. It
is safer and cleaner than any other.
STUDENT A: But what about money? It costs a lot more, doesn’t it?
STUDENT B: It costs a little more, but in our opinion we should pay more to have a
cleaner planet.
TEACHER: Right. Very good. Thanks a lot. Now let’s have a class vote about it. Those
in favour of nuclear power…

เฉลย: Activity Boo (Lesson 17) หน้ า 31


A 1 I am writing 2 but 3 In my opinion
4 look forward to 5 Yours faithfully
B 99 Scarsdale Street,
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 22
Lesson 18: Consolidation
Grammar
กิจกรรมที่ 1: Reading/Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
122

- ครู บอกนักเรี ยนว่า นักเรี ยนจะต้องแก้ปัญหาแนวตรรกะ และหาชื่อของสุ นขั ทั้ง 3 ตัวใน


หนังสื อเรี ยน
- ให้นกั เรี ยนหาคำตอบแล้วตรวจสอบกับคู่ของตนเอง กระตุน้ ให้นกั เรี ยนจดโน้ตย่อราย
ละเอียดที่สำคัญ
- ครู เขียนปั ญหาที่พบขณะนักเรี ยนปฏิบตั ิกิจกรรมบนกระดาน และพิจารณาร่ วมกันทั้งชั้น
พร้อมทั้งอธิบายขั้นตอนในการแก้ปัญหา
เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 48
a Leif b Ivor c Colly

กิจกรรมที่ 2: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ครู อ่านประโยคตัวอย่างใน Exercise B ในหนังสื อเรี ยนหน้า 48 พร้อมกับนักเรี ยน
- ให้นกั เรี ยนเขียนเรี ยงลำดับที่ก ำหนดให้เป็ นประโยคที่ถูกต้องลงในสมุด
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 48


1 If we destroy more forests in Europe, the European brown bear will disappear.
2 If the world temperature goes up, some island in the Indian Ocean will disappear.
3 If we continue to use nuclear power, there will be another accident like Chernobyl.
4 If we do not recycle paper, we will destroy our forests.
5 Air pollution will get worse in our cities if we have more cars.

Vocabulary
กิจกรรมที่ 3: Keywords Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกตาราง Exercise C ในหนังสื อเรี ยนเรี ยนหน้า 48 ลงในสมุดแล้วเติมคำ
ลงในช่องว่างให้สมบูรณ์
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า ครู อาจจะให้นกั เรี ยนสะกดคำเพื่อทดสอบความรู ้
เกี่ยวกับตัวอักษรของนักเรี ยน

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 48


Nouns Adjectives
intelligence intelligent
length long
height high
extinction extinct
danger dangerous
pollution polluted
123

กิจกรรมที่ 4: Keywords Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนคัดลอกคำศัพท์ในหนังสื อเรี ยนหน้า 48 และเติมให้สมบูรณ์ลงในสมุด แล้วให้
นักเรี ยนบอกว่าแต่ละคำประกอบด้วย 1 หรื อ 2 ส่ วน
- ถ้านักเรี ยนสงสัย ครู บอกให้ตรวจสอบจากหนังสื อแบบเรี ยนหรื อจาก Mini–
dictionary ในหนังสอ ื เรียนหน ้า 101–110 ครู ตรวจคำตอบด้วยการตอบ
ปากเปล่าพร้อมกัน

เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 48


1 wildlife 2 acid rain 3 hummingbird
4 vampire bat 5 rain forest 6 ozone layer
7 stick insect 8 giant panda 9 newspaper
10 light bulb 11 carbon dioxide 12 power station

กิจกรรมที่ 5: Speaking Writing (กิจกรรมคู่)


- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั นำชื่อสัตว์มาต่อเป็ นลูกโซ่ อักษรตัวสุ ดท้ายของคำหนึ่งจะใช้เป็ น
อักษรตัวแรกของคำต่อไป เชน ่ zebrantelopelephantigerat
- ครู อ่านตัวอย่างให้นกั เรี ยนทั้งชั้นฟัง เมื่อเกมจบลง ให้นกั เรี ยน 2-3 คู่ ลองท่องจำคำศัพท์
ลูกโซ่ที่หน้าชั้นเรี ยน

Pronunciation
กิจกรรมที่ 6: Listening Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู เขียนคำศัพท์ 3 คำที่ประกอบดัวยตังอักษร ‘O’ บนกระดาน โดยนำมาจากในหนังสื อ
แบบเรี ยน ครู อาจจะเขียนสัญลักษณ์ทางเสี ยงลงไปด้วย
- ครู บอกให้นกั เรี ยนออกเสี ยงคำศัพท์ที่เขียนบนกระดาน แล้วตรวจสอบดูวา่ นักเรี ยน
สามารถแยกแยะความแตกต่างได้หรื อไม่
- ให้นกั เรี ยนเขียนคำศัพท์ 3 กลุ่มลงในสมุด แล้วนำคำแต่ละคำที่ก ำหนดให้ในหนังสื อ
เรี ยนหน้า 49 ใส่ ลงไปให้ถูกกลุ่ม เช่น long = Group 1
- ครู เปิ ดแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยง เพื่อให้นกั เรี ยนตรวจคำตอบ แล้วบอกให้นกั เรี ยนยก
ตัวอย่างเพิ่มเติมในแต่ละกลุ่ม
TAPESCRIPT
Listen to some of the different ways you can pronounce the letter o.
Group 1 not
Group 2 some
Group 3 so
Which group do these words belong to?
long / month / hot / does / grow / come / cold / forest / slow / one / over / orange / jobs
124

เฉลย: Students’ Book ข้ อ F หน้ า 49


Group 1: not, long, hot, forest, orange
Group 2: some, month, does, come, one, jobs
Group 3: so, grow, cold, slow, over

Test Yourself
- กิจกรรมส่ วนนี้ จะช่วยให้นกั เรี ยนสามารถตรวจสอบตัวเองเกี่ยวกับการเรี ยน และจะบ่ง
บอกได้วา่ นักเรี ยนมีปัญหาที่ตรงไหน
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำสัง่ และทำแบบทดสอบแต่ละตอนให้สมบูรณ์ ครู อาจจะให้ตรวจ
พร้อมกันทั้งชั้นหรื อให้นกั เรี ยนแลกเปลี่ยนสมุดเพื่อตรวจแก้ไขให้กนั และกัน แล้วรวม
คะแนนและประเมินผล
เฉลย: Students’ Book (Test Yourself) หน้ า 49
A 1 build 2 will have 3 is 4 will come 5 worse
6 build 7 will pollute 8 best 9 more important 10 older
11 are 12 will get 13 more dangerous 14 don’t protect
15 will become
B 1 forests 2 life 3 rain 4 papers 5 insect

กิจกรรมเสริม
Developing an island: Writing
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย และอธิ บายให้ทราบว่า แต่ละกลุ่มจะต้องวาดแผนผังของ
เกาะในจินตนาการ เมื่อทำเสร็ จแล้ว ให้วางแผนว่ามีวิธีจะพัฒนาเกาะได้อย่างไรบ้าง
- ครู รวบรวมแผนผังทั้งหมดแล้วแจกไปรอบ ๆ ห้อง ให้แต่ละกลุ่มเขียนประโยคเงื่อนไข
เกี่ยวกับผลที่ได้หากแผนการได้ลงมือทำ โดยเขียนมาเรี ยงลงมา 3 – 4 ประโยค
- ครู น ำแผนการและประโยคต่าง ๆ มาจัดแสดงหน้าชั้น
Half sentences and consequences: Writing
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั โดยที่แต่ละคู่เขียนครึ่ งแรกของประโยคเงื่อนไขลงในแผ่นกระดาษ
เล็ก ๆ ตัวอย่างเช่น:
o If we can recycle paper and cans…
o If we destroy the ozone layer…
o If the Takuana plan goes ahead…
- ครู เก็บกระดาษจากนักเรี ยน แล้วแบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน
- ครู บอกนักเรี ยนว่าครู จะอ่านครึ่ งแรกของประโยคดัง ๆ ให้นกั เรี ยนคิดหาประโยคครึ่ งหนึ่ง
ของ (ส่ วนแสดงผล) มาต่อให้ได้ใจความที่สมบูรณ์ ให้ยกมือขึ้นถ้าคิดหาคำตอบได้ ครู ให้
10 คะแนนสำหรับคำตอบที่ถูกต้องและเหมาะสม
125

- หากตะโกนให้ลงโทษปรับคะแนน และให้คะแนนโบนัสสำหรับคำตอบที่ดีที่สุด
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Time to Read) หน้า 32 และ(Lesson 18)
หน้า 33 และ Extra Time! หน้า 33
เฉลย: Activity Book (Extra Time!) หน้ า 33
เฉลย: Activity Book (Time to Read) หน้ า 32
1C 2D 3A 4B
A 1 Professor of engine technology.
2 Transport manager at Boston airport.
3 Aquazole.
B 1 cars and other vehicles 3 the French oil company
2 Professor Johnson 4 millions of people
C 1 They are simpler and use less fuel.
2 They are dirtier and gases from them produce air pollution.
3 It separated into oil and water after three months.
4 Yes, he does.
5 Walking or cycling more or using public transport more often.

เฉลย: Activity Book (Lesson 18) หน้ า 33


A 2 than 3 most delicate 4 thinner
5 less dangerous 6 How big 7 should
8 build, will be 9 build 10 will go up
B 2 long 3 high 4 dangerous
5 polluted 6 extinct
C 1 C 2 D 3 A 4 B

Extra Time!
- ให้นกั เรี ยนเปิ ดหนังสื อเรี ยนหน้า 97 แล้วทำกิจกรรม Reading Club 3
126

Mo
เฉลย: Students’ Book (Reading Club 3) หน้ า 97
Reading Club 3
A Paragraph 1: b
Paragraph 2: a
Paragraph 3: d
Paragraph 4: c
B 1 biodiversity 2 global warming
3 cloning 4 extinct
C 1 losing biodiversity 2 endangered species
3 cloning 4 endangered species

dule Check
Language Check and Keyword Check
- ย้ำเตือนนักเรี ยนว่า ในตอนท้ายของหน่วยการเรี ยนรู ้ทุกหน่วยจะมีการทบทวนหลักภาษา
และคำศัพท์หลัก เพื่อให้นกั เรี ยนทบทวนคำศัพท์และโครงสร้างของภาษาที่ได้เรี ยนมา
กระตุน้ ให้นกั เรี ยนกลับมาทบทวนดูบ่อย ๆ
Module Diary
- กระตุน้ ให้นกั เรี ยนได้สะท้อนเกี่ยวกับการเรี ยนในด้านต่างๆ บอกให้นกั เรี ยนคัดลอกเนื้ อหา
ใน Module Diary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 50 ลงสมุดและเติมคำลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ทุก
ตอน ครู ควรจะเรี ยกบันทึกประจำหน่วยการเรี ยนของนักเรี ยน มาตรวจและให้คะแนนและ
ได้รับรู้ทศั นคติและความก้าวหน้าของนักเรี ยนแต่ละคนดีข้ ึน

บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
127

1. ความสำเร็จในการจัดการเรียนรู ้
_______________________________________________
แนวทางการพัฒนา
________________________________________________________
2. ปั ญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู ้
____________________________________________
แนวทางแก ้ไข
__________________________________________________________
_
3. สงิ่ ทีไ่ ม่ได ้ปฏิบต ั ต
ิ ามแผน
___________________________________________________
เหตุผล
__________________________________________________________
_____
ภาระงาน/ชิ4.้นการปรั
งาน บปรุงแผนการจัดการเรียนรู ้
_____________________________________________
1. จับคู่ถามและตอบคำถามเกี ่ยวกับ
ภาพยนตร์ที่ดู ื่ __________________ ครูผู ้สอน
ลงชอ
2. วางแผนกิจกรรมที่จะทำใน _________/ _________/ _________
สัปดาห์หน้าลงในสมุดบันทึก
ประจำวัน โดยเฉพาะ 3 กิจกรรมที่
ทำบ่อย
3. จินตนาการว่าตนเองได้พกั อาศัย
อยูใ่ นบ้านผีสิง เขียนเหตุการณ์ 5
ความรู้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะอยูใ่ นบ้าน Reading:
หลังนั้น และจับคู่ผลัดกันสัมภาษณ์ - magazine articles - a diary
คู่ของตน - two strange stories
4. เล่าเรื่ องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น Listening:
- dialogues - descriptions
จริ งแต่กลับเกิดขึ้นจริ งให้เพื่อน ๆ - stories
Module 4: Fantasy
ฟัง
5. คิดถึงเหตุการณ์ที่ตนเองอยูใ่ น
Speaking:
- fantasy things - telling stories
อัผันงตราย
มโนทั อาจเป็ศนน์เหตุ
เป้ กาหมายการเรี
ารณ์จริ งหรื อ ยนรู้-Writing:
แfilms
ละขอบข่
and going toาthe
ยภาระงาน
cinema
เวลา 12 ชั่วโมง
เหตุการณ์สมมุติกไ็ ด้ และเขียนคำ - diary plans - story notes
ตอบของคำถาม - the ending to a story
6. เล่าเรื่ องราวของตนเป็ นกลุ่ม ช่วย Grammar:
- the past simple and present perfect contrasted
กันตัดสิ นว่าเรื่ องใดเป็ นเรื่ องจริ ง - the past continuous
และเลือก 1 เรื่ องออกมาเล่าให้เพื่อน - Test Yourself
ๆ ฟัง Vocabulary:
- fantasy and the supernatural
7. ทำแบบฝึ กหัดเพิ่มเติมใน World - films and cinema - opposites
Club Activity Book 2: Module 4 -sequence words - adjectives
Fantasy Pronunciation:
- the letter ‘e’
128

ทักษะ/กระบวนการ
1. กระบวนการฟัง
2. กระบวนการพูด
3. กระบวนการอ่าน
Fantasy 4. กระบวนการเขียน
5. กระบวนการคิด
6. กระบวนการกลุ่ม
คุณธรรม จริยธรรม และ ค่ า
7. การนำความรู้ไปปรับ
นิยม ใช้ในชีวิตประจำวัน
1. ความมีระเบียบวินยั
2. ความใฝ่ เรี ยนรู ้
กรอบแนวคิดผังการออกแบบการจั
3. ความรับผิดชอบดการเรียนรู้
Module 4: Fantasy
ขั้นที่ 1 ผลลัพธ์ ปลายทางที่ต้องการให้ เกิดขึน้ กับนักเรียน Learning to Learn
ตัวชี้วดั ช่ วงชั้น
• อ่านออกเสี ยงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้องตามหลัก
การอ่าน (ต 1.1 ม. 5/2)
• อธิ บายและเขียนประโยคและข้อความให้สมั พันธ์กบั สื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ที่อ่าน รวม
ทั้งระบุและเขียนสื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ให้สมั พันธ์กบั ประโยคและข้อความที่ฟังหรื ออ่าน
(ต 1.1 ม. 5/3)
• จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุ ปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่ อง
ที่เป็ นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ (ต 1.1 ม. 5/4)
• สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่ องต่าง ๆ ใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์
ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยูใ่ นความสนใจของสังคม และสื่ อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม (ต 1.2
ม. 5/1)
• พูดและเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มูล บรรยาย อธิ บาย เปรี ยบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
129

เรื่ อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/4)


• พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่ องและประเด็นต่าง ๆ ที่
อยูใ่ นความสนใจของสังคม (ต 1.3 ม. 5/1)
• พูดและเขียนสรุ ปใจความสำคัญ แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่ อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์ และ
สถานการณ์ตามความสนใจ (ต 1.3 ม. 5/2)
• เลือกใช้ภาษา น้ำเสี ยง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ตามมารยาท
สังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (ต 2.1 ม. 5/1)
• เข้าร่ วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม (ต 2.1 ม. 5/3)
• อธิ บาย/เปรี ยบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุ ภาษิต
และบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย (ต 2.2 ม. 5/1)
• วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล (ต 2.2 ม. 5/2)
• ค้นคว้า/สื บค้น บันทึก สรุ ป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้
อื่น จากแหล่งการเรี ยนรู้ต่าง ๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน (ต 3.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จ ำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยน สถานศึกษา ชุมชน และ
สังคม (ต 4.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาต่างประเทศในการสื บค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุ ปความรู ้ /ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่ อ
และแหล่งการเรี ยนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ (ต 4.2 ม. 5/1)
• เผยแพร่ /ประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลข่าวสารของโรงเรี ยน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติเป็ นภาษาต่าง
ประเทศ (ต 4.2 ม. 5/2)
ความเข้ าใจที่คงทนของนักเรียน คำถามสำคัญที่ทำให้ เกิดความเข้ าใจที่คงทน
นักเรียนจะเข้ าใจว่า... - สมมุติวา่ นักเรี ยนได้ไปชมพิธีกรรมในเทศกาล
1. Present perfect tense แตกต่างจาก Simple past กินเจที่จงั หวัดภูเก็ตมา นักเรี ยนจะเล่า
tense ดังนี้ ประสบการณ์เกี่ยวกับบุคคลที่มีพลังพิเศษเหล่า
Present perfect tense ใช้กบั นั้น ๆ ให้เพื่อน ๆ ฟังเป็ นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
(1) เหตุการณ์ยงั ไม่จบ เกิดในอดีต แต่ด ำเนิน - นักเรี ยนบอกเพื่อนว่า นักเรี ยนชอบดูภาพยนตร์
เรื่ อยมาจนถึงปัจจุบนั (2) มีค ำแสดงเวลา เช่น แนววิทยาศาสตร์และแนวผจญภัย แต่ไม่ชอบดู
since… บอกเวลาเริ่ มต้น, for… บอกระยะเวลา ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ จะพูดเป็ นภาษาอังกฤษ
นาน, so far this week, up to now บอกว่า ว่าอย่างไร
มาจนถึงปัจจุบนั (3) แสดงการเคยหรื อไม่เคย - ยกตัวอย่างและอ่านออกเสี ยงคำศัพท์ที่มี e เป็ น
เช่น ever, never เสี ยง และไม่ออกเสี ยง e อย่างน้อย
Simple Past Tense ใช้กบั เสี ยงละ 2 คำ
(1) เหตุการณ์เกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว
ในอดีต (2) มีค ำแสดงเวลาที่เป็ น past
เช่น ago, yesterday, last year, last week, in 1970
2. Past continuous tense หรื อ Past progressive
tense ใช้แสดงเหตุการณ์ที่ก ำลังเกิดขึ้น ณ ช่วง
130

เวลาหนึ่งในอดีต หรื อมีเหตุการณ์


2 เหตุการณ์ก ำลังเกิดขึ้นพร้อมกัน ณ ช่วงเวลา
หนึ่งในอดีต รู ปกริ ยาของ Past continuous คือ
was (were) + verb ing เช่น They were swimming
in the sea. ใช้กบั (1.) เหตุการณ์ที่ก ำลังเกิดขึ้น ณ
ช่วงเวลาหนึ่งในอดีต มักจะมีค ำที่บอกหรื อระบุ
ช่วงเวลาอย่างชัดเจน เช่น I was sitting at home
reading at this time yesterday. (2.) มีเหตุการณ์ 2
เหตุการณ์ก ำลังเกิดขึ้นพร้อมกัน ณ ช่วงเวลาหนึ่ง
ในอดีต ใช้ Past continuous tense ทั้งสอง
เหตุการณ์ โดยมี while เชื่อมเหตุการณ์ท้ งั สอง
เช่น While he was reading, I was writing a letter.
= I was writing a letter while he was reading.
(3.) เมื่อเหตุการณ์หนึ่งกำลังดำเนินอยูแ่ ละมีอีก
เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นแทรกเข้ามา เราใช้ Past
continuous tense สำหรับเหตุการณ์ที่ก ำลังดำเนิน
อยู่ และใช้ Simple past tense กับเหตุการณ์ที่เกิด
แทรกเข้ามาภายหลัง โดยมี when, while, as เชื่อม
เหตุการณ์ท้ งั สอง เช่น It rained when I was
walking home.
ความรู้ ของนักเรียนที่นำไปสู่ ความเข้ าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนที่จะนำไปสู่
นักเรียนจะรู้ว่า... ความรู้ที่คงทน นักเรียนจะสามารถ...
1. คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องราวหรื อสิ่ งที่น่า 1. รู ้ เข้าใจ และบอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่ อง
มหัศจรรย์ ความเชื่อต่าง ๆ ได้แก่ ราวหรื อสิ่ งที่น่ามหัศจรรย์ ความเชื่อต่าง ๆ ได้
สิ่ งน่ากลัว เช่น werewolf, vampire, ghost อย่างถูกต้อง
ภาพยนตร์ เช่น science fiction, horror, adventure 2. รู ้ เข้าใจ พูดบรรยาย/สอบถาม และตอบเกี่ยว
ที่อยูอ่ าศัย เช่น bedroom, bathroom, kitchen กับเรื่ องราวหรื อสิ่ งที่น่ามหัศจรรย์ ความเชื่อใน
ลักษณะทางกายภาพ เช่น square head, pointed เรื่ องต่าง ๆได้อย่างถูกต้อง
teeth, blue eyes, sharp claws, old-fashioned 3. รู ้ เข้าใจ และใช้รูป Past simple tense กับ
clothes Present perfect tense ได้อย่างถูกต้อง
คำคุณศัพท์ที่มีความหมายเหมือนกัน เช่น 4. รู ้ เข้าใจ และใช้รูป Past continuous tense กับ
curious/mysterious, huge/enormous, Past simple tense ได้อย่างถูกต้อง
frightened/afraid 5. รู ้ เข้าใจ และออกเสี ยงคำศัพท์ที่มี e เป็ นเสี ยง
คำคุณศัพท์ที่มีความหมายตรงข้ามกัน เช่น และไม่ออกเสี ยง e ได้อย่างถูกต้อง
soft-hard, bright-dark, modern-old-fashioned
คำกริ ยา เช่น move, lift, bend, touch, dream,
take out, turn into, find out
131

2. ประโยคที่ใช้พดู บรรยาย/สอบถามและตอบ
เกี่ยวกับเรื่ องราวหรื อสิ่ งที่น่ามหัศจรรย์ ความเชื่อ
ในเรื่ องต่าง ๆ เช่น
I saw a haunted house in an English village.
There have been many curious cases of
levitation.
I was having a bath when writing appeared on
the wall.
What do you think about ghost?
I’m sure they exist.
3. การใช้รูปประโยค Past simple tense กับ
Present perfect tense ที่ถูกต้อง เช่น
Have you ever seen that film? Yes, I have. I saw
it last night.
4. การใช้รูปประโยค Past continuous tense กับ
Past simple tense ที่ถูกต้อง เช่น
She was not listening when Sarah spoke.
What were you doing when you saw the face?
5. การออกเสี ยงคำศัพท์ที่มีตวั e เป็ นเสี ยง
และไม่ออกเสี ยง e ที่ถูกต้อง เช่น

(no sound)
ขั้นที่ 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งเป็ นหลักฐานที่แสดงว่ านักเรียนมีผลการเรียนรู้
ตามที่กำหนดไว้อย่างแท้ จริง
1. ภาระงานที่นักเรียนต้ องปฏิบัติ
- ฝึ กจับคู่ประโยคที่ก ำหนดให้สมั พันธ์กบั ภาพ
- ฝึ กใช้พจนานุกรมฉบับย่อค้นหาความหมายของคำศัพท์ที่ขีดเส้นใต้
- ฝึ กพูดถาม–ตอบเกี่ยวกับความเชื่อตามภาพประกอบเป็ นคู่ โดยใช้สำนวนที่ก ำหนดให้
- ฝึ กอ่านวลีที่ก ำหนดให้ และตอบคำถาม
- ฝึ กอ่านบทความ Special Powers จับคู่ยอ่ หน้ากับประสบการณ์ในแบบฝึ กหัด 19A อ่านบทความอีกครั้ง
และตอบว่าประโยคเป็ นจริ ง ประโยคใดเป็ นเท็จ
- ฝึ กดูประโยค ตอบว่าประโยคนั้นใช้ Tense ใด และตอบคำถาม
- ฝึ กมองหารู ปกริ ยาช่องที่ 3 ของคำกริ ยาที่ก ำหนด และตอบว่าคำกริ ยาคำใดบ้างที่ผนั รู ปกริ ยาช่องที่ 3 ไม่
ปกติ
- ฝึ กอ่านข้อความ และเขียนคำกริ ยาในวงเล็บในรู ป Past simple tense และ Present perfect tense ให้
ถูกต้อง
- ฝึ กเล่นเกม Telepathy Game เป็ นคู่
- ฝึ กคัดลอกตารางแบบฝึ กหัด 20 A ลงในสมุดแบบฝึ กหัด และเขียนรายการภาพยนตร์เพิ่มเติมลงในตาราง
132

- ฝึ กจับคู่ถามและตอบคำถามเกี่ยวกับภาพยนตร์ ที่คู่ดู
- ฝึ กฟังบทสนทนา 2 บทจากแผ่นซีดี และตอบคำถาม
- ฝึ กฟังบทสนทนาบทแรกจากแผ่นซีดีอีกครั้ง และเติมคำลงในช่องว่างให้สมบูรณ์
- ฝึ กวางแผนกิจกรรมที่จะทำในสัปดาห์หน้าลงในสมุดบันทึกประจำวัน โดยเฉพาะ 3 กิจกรรมที่ท ำบ่อย
- ฝึ กพูดชักชวนบุคคลอื่นไปดูภาพยนตร์กบั ตนเป็ นกลุ่ม และเขียนชื่อภาพยนตร์ที่จะไปดูลงในสมุด
บันทึกประจำวันตามตัวอย่าง
- ฝึ กดูแผนภาพ และตอบคำถาม
- ฝึ กอ่านบันทึกประจำวันที่ก ำหนด หาสาเหตุของการเป็ นบ้านผีสิง และเติมคำลงในบันทึกประจำวันให้
สมบูรณ์
- ฝึ กอ่านประโยคในบันทึกประจำวัน เรี ยงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตอบคำถาม
- ฝึ กลอกตารางลงในสมุดแบบฝึ กหัด และเขียนคำกริ ยารู ป Past continuous tense ให้ถูกต้อง
- ฝึ กเขียนประโยคปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่ องที่อ่านคนละ 5 ประโยค
- ฝึ กจินตนาการว่าตนเองได้พกั อาศัยอยูใ่ นบ้านผีสิง เขียนเหตุการณ์ 5 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะอยูใ่ นบ้าน
หลังนั้น และจับคู่ผลัดกันสัมภาษณ์คู่ของตน
- ฝึ กเล่าเรื่ องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริ งแต่กลับเกิดขึ้นจริ งให้เพื่อน ๆ ฟัง
- ฝึ กอ่านบทความ Miraculous survivors อีกครั้ง และตอบคำถาม
- ฝึ กอ่านบทความ Miraculous survivors อีกครั้ง และเรี ยงลำดับเหตุการณ์ให้ถูกต้อง
- ฝึ กเติมคำหรื อสำนวนที่ก ำหนดลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
- ฝึ กฟังบทความ Miraculous survivors จากแถบบันทึกเสี ยง และค้นหาข้อผิดพลาดในบทความ
- ฝึ กคิดถึงเหตุการณ์ที่ตนเองอยูใ่ นอันตราย อาจเป็ นเหตุการณ์จริ งหรื อเหตุการณ์สมมุติกไ็ ด้ และเขียน
คำตอบของคำถามที่ก ำหนด
- ฝึ กเล่าเรื่ องราวของตนเป็ นกลุ่ม ช่วยกันตัดสิ นว่าเรื่ องใดเป็ นเรื่ องจริ ง และเลือก 1 เรื่ องออกมาเล่าให้
เพื่อน ๆ ฟัง
- ฝึ กใช้พจนานุกรมฉบับย่อหาการสะกดคำศัพท์ที่ถูกต้องของคำศัพท์ที่ก ำหนดพร้อมทั้งระบุชนิดของคำ
- ฝึ กฟังการบรรยายจากแผ่นซีดี และตอบคำถาม
- ฝึ กอ่านเรื่ องราวที่น่ากลัวจากบทความ และจับคู่ชื่อเรื่ องกับย่อหน้าให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กจินตนาการว่าตนเองเป็ นบุคคลในบทความที่อ่าน และเขียนตอนจบของบทความ
- ฝึ กจับคู่พดู เรื่ องราวที่น่ากลัวของตนเองโดยใช้สำนวนจากขั้นที่ 2 ในแบบฝึ กหัด 23E จับกลุ่มเล่าเรื่ อง
ของตนเอง และเลือก 1 เรื่ องที่น่าสนใจออกมารายงานให้เพื่อน ๆ ฟัง
- ฝึ กฟังตอนจบของเรื่ องราวแต่ละเรื่ องในบทความจากแผ่นซีดี และตอบคำถาม
- ฝึ กอ่านข้อความที่ก ำหนด ตอบคำถาม และเขียนคำกริ ยาในวงเล็บให้อยูใ่ นรู ป Past simple tense หรื อ
Past continuous tense
- ฝึ กแก้ไขจุดที่ผดิ ในส่ วนที่ 2 ของข้อความให้ถูกต้อง
- ฝึ กเขียนบทกลอนให้อยูใ่ นรู ป Past participle
- ฝึ กจับคู่ค ำคุณศัพท์ที่มีความหมายตรงข้ามกัน
- ฝึ กเติมคำกริ ยาที่ก ำหนดลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
- ฝึ กเล่นเกมพูดคำศัพท์ที่ข้ ึนต้นด้วยตัวอักษรที่เลือกให้ได้มากที่สุดเป็ นกลุ่ม
- ฝึ กฟังวิธีการออกเสี ยงตัวอักษร e จากแผ่นซีดี ฟังการออกเสี ยงของคำศัพท์ที่ก ำหนด และเขียนคำศัพท์
ลงในกลุ่มที่ถูกต้อง พร้อมทั้งเขียนคำศัพท์เพิ่มเติมในแต่ละกลุ่ม
133

- ฝึ กอ่านบทความเกี่ยวกับ James Bartley ในกิจกรรม Reading Club 4 และเลือกชื่อเรื่ องที่เหมาะสมที่สุด


- ฝึ กอ่านบทความเกี่ยวกับ James Bartley อีกครั้ง และเรี ยงลำดับเหตุการณ์ให้ถูกต้อง
- ฝึ กเลือกคำหรื อวลีที่ก ำหนดเติมลงในช่องว่างแบบฝึ กหัด B ในกิจกรรม Reading Club 4 ให้ถูกต้อง
- ฝึ กทำแบบฝึ กหัดเพิ่มเติมใน World Club Activity Book 2: Module 4 Fantasy
2. วิธีการและเครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู ้
2.1 วิธีการประเมินผลการเรี ยนรู้ 2.2 เครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู ้
1) การทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน 1) แบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน
2) การทดสอบทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน 2) แบบประเมินผลทักษะด้านการฟัง พูด
และเขียน อ่าน และเขียน
3) การประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น 3) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม รายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม
4) การวัดและประเมินผลด้านคุณธรรม 4) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรี ยน
จริ ยธรรม และค่านิยม 5) แบบทดสอบประจำหน่วย
5) การวัดและประเมินผลด้านความรู ้โดย 6) แบบประเมินผลตนเองของนักเรี ยน
ใช้แบบทดสอบ
6) การประเมินผลตนเองของนักเรี ยน

3. สิ่ งทีม่ ่ ุงประเมิน


3.1 ความเข้าใจ 6 ด้าน ได้แก่ การอธิบาย การชี้แจง การแปลความและตีความ การประยุกต์ใช้
ดัดแปลง และ นำไปใช้ การมีมุมมองที่หลากหลาย การให้ความสำคัญในความรู ้สึกของผูอ้ ื่น และ
การรู ้จกั ตนเอง
3.2 สมรรถนะสำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการสื่ อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทกั ษะชีวิต และ
การใช้เทคโนโลยี
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริ ย ์ ซื่ อสัตย์สุจริ ต มีวนิ ยั ใฝ่ ความรู ้ อยูอ่ ย่าง
พอเพียง มุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเป็ นไทย มีจิตสาธารณะ
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 23 Lead-in เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 24 The Unexplained เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 25 Fantastic Films เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 26 Haunted House เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 27 Believe It Or Not เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 28 Fluency เวลา 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 29 Consolidation เวลา 1 ชัว่ โมง
134

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 23-29


สาระการเรียนรู้ ภาษาต่ างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5
Module 4: Fantasy เวลา 12 ชั่วโมง

จุดประสงค์ การเรียนรู้

 ฟัง พูด อ่าน และเขียนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องราวหรื อสิ่ งที่น่ามหัศจรรย์ ความเชื่อต่าง ๆ ได้


(K, P)
 พูดบรรยาย/สอบถาม และตอบเกี่ยวกับเรื่ องราวหรื อสิ่ งที่น่ามหัศจรรย์ ความเชื่อในเรื่ องต่าง ๆได้
(K, A, P)
 ใช้รูป Past simple tense กับ Present perfect tense ได้ (K, P)
 ใช้รูป Past continuous tense กับ Past simple tense ได้ (K, P)
 ออกเสี ยงคำศัพท์ที่มี e เป็ นเสี ยง และไม่ออกเสี ยง e ได้ (K, P)
135

 แสดงบทบาทสมมุติและปฏิบตั ิกิจกรรมทางภาษาได้ (K, A, P)

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
 ประเมินการฟัง พูด อ่าน  ประเมินพฤติกรรมใน  ประเมินพฤติกรรมใน
และเขียนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ การทำงานเป็ นรายบุคคลใน การทำงานเป็ นรายบุคคลและ
เรื่ องราวหรื อสิ่ งที่น่ามหัศจรรย์ ด้านความมีวินยั ความใฝ่ เป็ นกลุ่มในด้านการสื่ อสาร
ความเชื่อต่าง ๆ เรี ยนรู ้ ฯลฯ การคิด การแก้ปัญหา ฯลฯ
 ประเมินการพูดบรรยาย/  มีเจตคติที่ดีต่อการเรี ยน
สอบถาม และตอบเกี่ยวกับ ภาษาอังกฤษ
เรื่ องราวหรื อสิ่ งที่น่ามหัศจรรย์
ความเชื่อในเรื่ องต่าง ๆได้
 ประเมินการใช้รูป Past
simple tense กับ Present
perfect tense
 ประเมินการใช้รูป Past
continuous tense กับ Past
simple tense
 ประเมินการออกเสี ยงคำ
ศัพท์ที่มี e เป็ น
และไม่ออกเสี ยง e
 ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคล เป็ นคู่ หรื อเป็ น
กลุ่ม

เนือ้ หาทางภาษา
Reading: magazine articles; a diary; two strange stories
Listening: dialogues; descriptions; stories
Speaking: fantasy things; telling stories; films and going to the cinema
Writing: diary plans; story notes; the ending to a story
Grammar: the past simple and present perfect contrasted; the past continuous; Test
Yourself
Vocabulary: fantasy and the supernatural; films and cinema; sequence words;
adjectives; opposites
Pronunciation: the letter ‘e’
136

สื่ อการเรียนรู้
หนังสื อเรี ยน World Club Students' Book 2
แบบฝึ กหัด World Club Activity Book 2: Module 4 Fantasy
แผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยง
แนวทางการบูรณาการ
ภาษาไทย  บอกความหมายของคำศัพท์และประโยคที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องราว
หรื อสิ่ งที่น่ามหัศจรรย์ ความเชื่อต่าง ๆ
ศิลปะ  แสดงบทบาทสมมุติ และดูภาพประกอบ
สังคมศึกษา  ศึกษาเรื่ องราวหรื อสิ่ งที่น่ามหัศจรรย์ ความเชื่อต่าง ๆ ของเจ้าของภาษา
คุณธรรม จริยธรรม และค่ านิยม
1. ความมีระเบียบวินยั
2. ความใฝ่ เรี ยนรู้
3. ความรับผิดชอบ
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 23
Lead-in
Module Objectives
- ครู อา่ นและอธิบายวัตถุประสงค์ของหน่วยการเรี ยนให้นกั เรี ยนฟังจนเข้าใจดีวา่ ภาระ
งานสุ ดท้ายจะต้องมีการเตรี ยมตัวล่วงหน้า
กิจกรรมที่ 1: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู และนักเรี ยนทั้งชั้นอ่านประโยคในหนังสื อเรี ยนหน้า 51 ต่าง ๆ ครู อธิ บายความหมาย
ของคำที่ขีดเส้นใต้ให้ฟังจนเข้าใจดี
- บอกให้นกั เรี ยนดูรูปภาพและจับคู่กบั ประโยคต่าง ๆ

เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 51


1C 2B 3D 4A

กิจกรรมที่ 2: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนค้นหาความหมายของคำศัพท์ที่ขีดเส้นใต้จาก Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยน
หน้า 101-110 และเขียนเพิ่มลงในสมุดคำศัพท์
กิจกรรมที่ 3: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ครู ร่วมกับนักเรี ยนทั้งชั้นพิจารณาคำถามและคำตอบที่น่าจะเป็ นไปได้
- ให้นกั เรี ยนทำงานเป็ นคู่ ๆ ค้นหาว่าคู่ของตนเชื่อในสิ่ งที่ได้กล่าวถึงใน Exercise a หรื อไม่
โดยใช้ตวั อย่างคำถามและคำขึ้นต้นคำตอบจาก Exercise c ในหนังสื อเรี ยนหน้า 51
137

- เมื่อปฏิบตั ิกิจกรรมเสร็ จแล้ว ครู ถามคำถามเดียวกันนี้กบั นักเรี ยนทั้งชั้น และบอกให้


นักเรี ยนยกมือขึ้น ถ้าคำตอบเป็ นเชิงบวกหรื อตอบรับ

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 24
Lesson 19: The Unexplained
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ทบทวนการใช้ค ำพูด I think ... / I’m sure ...
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั แล้วอ่านประโยคต่าง ๆ และให้บอกว่า นักเรี ยนคิดว่าการกระทำ
ต่าง ๆ เช่นนั้นจะทำได้จริ งหรื อไม่
- เมื่อปฏิบตั ิกิจกรรมเสร็ จแล้ว ครู อาจจะอ่านประโยคต่าง ๆ ดัง ๆ และบอกให้ยกมือขึ้น
เพื่อตรวจสอบดูวา่ จะมีนกั เรี ยนกี่คนยอมรับหรื อไม่ยอมรับว่าการกระทำนั้นๆ จะเป็ นไป
ได้
กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องและจับคู่ทุกย่อหน้ากับพลังที่กล่าวถึงใน Exercise A ครู ย ้ำเตือน
ว่าในขั้นนี้ ให้มุ่งอ่านเพื่อจับใจความสำคัญมากกว่าการเข้าใจคำศัพท์ทุกคำ

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 52


a 1 b 5 c 2 d 3 and 4

กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล) A


- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้ อเรื่ องอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ ให้ใช้ Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า
101–110 ได้ กำหนดให้อา่ นประโยคที่ให้มาแล้วพิจารณาว่าแต่ละประโยคถูกหรื อผิด
โดยดูจากเนื้ อเรื่ องประกอบ
- ตรวจสอบคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่าพร้อมกันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 53


1T 2F 3F 4T 5F
กิจกรรมที่ 4: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำคุณศัพท์ในกรอบในหนังสื อเรี ยนหน้า 53 และให้บอกว่ามีค ำใดบ้างที่
มีความหมายเหมือนกับคำคุณศัพท์ในภาษาไทย
- ถามนักเรี ยนว่าจะหาคำคุณศัพท์อื่น ๆ ที่ลงท้ายด้วย -al, -ing, -ble, -ious และ -ic เพิ่มเติม
อีกได้ไหม แล้วลองเปรี ยบเทียบว่าคำคุณศัพท์ลงท้ายด้วยคำเหล่านี้ในภาษาไทยจะลงท้าย
ด้วยคำใด
Language Focus
Present perfect tense and past simple tense
138

- เปรี ยบเทียบระหว่าง past simple tense กับ present perfect tense ว่าใช้ต่างกันอย่างไร
เป็ นเรื่ องที่นกั เรี ยนจำนวนมากตอบไม่ได้ ในที่น้ ีไม่สามารถเขียนอธิ บายความแตกต่าง
ระหว่าง tense ทั้งสองได้อย่างละเอียดได้ แต่กพ็ อจะอธิ บายเพียงคร่ าว ๆ ได้วา่ past
simple tense ใช้กบั เหตุการณ์ที่เสร็ จสิ้ นลงไปแล้วในอดีต แต่ present perfect tense ใช้กบั
เหตุการณ์ที่เกิดในอดีตและยังคงดำเนินมาจนถึงปั จจุบนั ดังนั้น ความแตกต่างจึงไม่ได้อยู่
ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อใด แต่อยูท่ ี่ความเห็นของผูพ้ ดู และเวลาที่อา้ งอิง
กิจกรรมที่ 5: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู ทบทวนการใช้ present perfect กับนักเรี ยนทั้งชั้น ครู ย ้ำถึงความแตกต่างระหว่างการ
ใช้ present perfect กับ past simple แล้วให้นกั เรี ยนอ่านประโยคในหนังสื อหน้า 53
- ครู ให้นกั เรี ยนบอกว่า แต่ละประโยคใช้ tense อะไร
- ครู ให้นกั เรี ยนอ่านคำถาม แล้วให้อภิปรายคำตอบโดยใช้ภาษาไทยได้
กิจกรรมที่ 6: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำกริ ยาในรู ปของ infinitive ในหนังสื อเรี ยนหน้า 53 และให้หาคำกริ ยา
ในรู ป past participle ในเนื้อเรื่ อง
- ตรวจสอบคำตอบด้วยการตอบปากเปล่า ให้นกั เรี ยนบอกด้วยว่าคำกริ ยาเป็ นแบบ regular
หรื อ irregular
เฉลย: Students’ Book ข้ อ F หน้ า 53
Regular: experienced walked
Irregular: been seen made written had
กิจกรรมที่ 7: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเขียนเลข 1–8 ลงในสมุด แล้วนำคำกริ ยาในวงเล็บมาทำเปลี่ยนเป็ น past
simple หรื อ present perfect ตามความเหมาะสม
- เมื่อทำแบบฝึ กหัดเสร็ จแล้ว ให้อาสาสมัครออกมาเขียนคำกริ ยาบนกระดาน และให้
นักเรี ยนบอกด้วยว่าเหตุใดจึงใช้ tense นั้น ๆ
- ย้ำเตือนนักเรี ยนว่า past simple ใช้กบั เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต เช่น
อาจระบุให้ชดั เจนว่า on the 5th of May หรื อ at seven o’clock หรื อระบุทางอ้อมว่า
yesterday หรื อ two hours ago จะบอกวัน เดือน ปี หรื อเวลาก็ได้ ส่ วน present perfect ใช้
พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตแต่ยงั มีผลมาจนถึงปั จจุบนั
เฉลย: Students’ Book ข้ อ G หน้ า 53
กิจ1กรรมที
have always been (กิจ5กรรมคู
่ 8: Speaking have ่ )had
A
2 have predicted 6 have dreamt
- ให้นกั เรี ยนเล่นเกมเป็ นคู่ ๆ นักเรี ยนคนหนึ่งเขียนเลข 1–10 ลงไป 5 ตัวเลข ให้อีก
3นักmade 7 dreamt
เรี ยนอีกคนเดาว่าเพื่อนเขี ยนเลขอะไร
4 have come 8 happened
- เมื่อทำกิจกรรมเสร็ จ นักเรี ยนจะเห็นว่านักเรี ยนทายถูกกี่ขอ้ ถ้าทายถูกมากกว่า 3 ข้อ
แสดงว่ามีความสารถในการใช้โทรจิตได้
กิจกรรมเสริม
139

Verb game: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)


- ครู เขียนข้อความต่อไปนี้ บนกระดาน
1 present perfect affirmative 4 past simple affirmative
2 present perfect negative 5 past simple negative
3 present perfect question 6 past simple question
- ครู อธิ บายว่าตัวเลขที่อยูบ่ นลูกเต๋ าเท่ากับตัวเลขหัวข้อประโยคที่อยูบ่ นกระดาน
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ น 2 ทีม ให้นกั เรี ยนคนแรกของทีม A พูดคำกริ ยาที่ไม่เป็ นไปตามกฎ
1 คำ ให้นกั เรี ยนคนแรกของทีม B โยนลูกเต๋ า แล้วพูดเป็ นประโยค โดยนำคำกริ ยาที่
นักเรี ยนคนแรกของทีม A เป็ นคนพูด ไปใช้ใน tense ตามที่โยนลูกเต๋ าได้ ตัวอย่างเช่น คำ
กริ ยา draw โยนลูกเต๋ าขึ้นแต้ม 3 ต้องพูดว่า Have you drawn a vampire?
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 19) หน้า 34 – 35

เฉลย: Activity Book (Lesson 19) หน้ า 34 – 35


A open
B 2 have they ever made prediction about the future?
3 Has he ever heard voices at night?
4 Have you ever felt nervous late at night?
5 Have the children ever read a ghost story?
6 Have you ever dreamt about the future?
C 2 heard 3 have been 4 wrote
5 have tried 6 asked 7 have believed
8 believed 9 have had 10 dreamt
D 2 firewalker 3 haunted 4 premonition
5 werewolf

เฉลย: Activity Book (Lesson 19) หน้ า 34 – 35


E 1 incredible 2 mysterious 3 strange
4 identical 5 telepathic
F 2 Have you read 3 has finished 4 have not done
5 Had she ever dreamt 6 have not seen
G 2 eaten3 drunk 4 read 5 seen 6 written
H open

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 25
Lesson 20: Fantastic Films
140

Topic Focus
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพในหนังสื อเรี ยนหน้า 54 แล้วพูดถึงภาพยนตร์แต่ละเรื่ อง โดยอาจพูด
เป็ นภาษาไทยก็ได้ ถ้ารู้จกั ผูอ้ ำนวยการสร้างก็สามารถพูดออกมาได้ รวมทั้งบรรยาย
ลักษณะของนักแสดงนำ (พระเอก นางเอก) และเล่าเรื่ องสั้น ๆ
กิจกรรมที่ 1: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกรายการในตารางลงในหนังสื อเรี ยนหน้า 54 ในสมุด พร้อมกับเขียน
ชื่อภาพยนตร์ที่นกั เรี ยนเคยดูมาแล้วเติมลงในตาราง
- ให้นกั เรี ยนเขียนดาว 3 หรื อ 2 หรื อ 1 ดวงลงข้าง ๆ ภาพยนตร์แต่ละเรื่ อง เพื่อแสดงให้
เห็นว่าภาพยนตร์เรื่ องนั้น ควรจะได้กี่ดวงตามความรู ้สึกของนักเรี ยน
กิจกรรมที่ 2: Speaking (กิจกรรมคู่) A
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ ร่ วมกันพิจารณาบทสนทนา แล้วฝึ กพูดกับนักเรี ยน 2-3 คู่ เป็ น
ตัวอย่าง
- ให้เพื่อนคู่ผลัดกันถาม คำถามเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่เคยไปดู ครู เดินดูรอบ ๆ ชั้นเรี ยนเพื่อ
ให้มนั่ ใจว่านักเรี ยนใช้ tense ได้ถูกต้องในการถามประสบการณ์ในอดีต
TAPESCRIPT
- ครู สรุ ปการปฏิบตั ิกิจกรรมด้วยการให้นกั เรี ยนตัดสิ นว่าภาพยนตร์เรื่ องใด คือภาพยนตร์ที่
Listen to the two dialogues. Answer these questions.
นักเรี ยนชื่นชอบมากที่สุด
Dialogue 1
กิจกรรมที่ 3: Listening (กิจกรรมรายบุคคล/กิจกรรมคู่)
SUE: I feel like going out this afternoon. Shall we go to theAcinema?
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำถามในหนังสื อเรี ยน หน้า 55
DAVE: There’s nothing good on at the moment.
- ครู เปิ ดแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงให้นกั เรี ยนฟังและจดคำตอบลงสมุด แล้วนำมาเปรี ยบเทียบ
SUE: Yes there is. Why don’t we go and see Gremlins? It’s a brilliant film. I really
คำตอบกันเป็ น คู่ ๆ
want to see it again.
- ครู เปิ ดแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงอีกครั้ง แล้วตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
DAVE: No, how about staying in and watching the football on television?
- ถ้ามีเวลาให้เปิ ดแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงอีกครั้ง และหยุดชัว่ ขณะเพื่อฟังคำตอบ
SUE: Oh no! Come on. Let’s go and see the film!
DAVE: OK, you win. But I’d rather watch the football.
Dialogue 2
RICHARD: Hello, Kate. Did you see that film on television last night?
KATE: You mean the science-fiction one about aliens?
RICHARD: Mmm.
KATE: Yeah, it was great. Do you like science-fiction films?
RICHARD: Yes, I do. There’s a film on ... on Thursday at the Odeon. It’s a real
classic ... it’s called Journey to the Centre of the Earth. Would you like to come
and see it?
KATE: Well, I’m very busy. You know we’ve got exams on Friday.
RICHARD: Come on! Don’t be boring. It’ll be really good.
KATE: Well, ... OK. Where shall we meet?
RICHARD: Let’s meet outside the cinema ... at five o’clock.
KATE: Right, see you then
141

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 55


1 Gremlins 3 Journey to the Centre of the Earth
2 Thursday 4 outside the cinema at 5 o’clock

กิจกรรมที่ 4: Listening (กิจกรรมรายบุคคล) A


- ทบทวนการใช้ค ำพูดในการให้ขอ้ เสนอแนะ คำชักชวน ได้แก่ Let’s ..., How
about ..., Shall we ..., Would you like to ...?
- ให้นกั เรี ยนดูหมายเลข 1–4 ในช่องว่าง อ่านบทสนทนาในใจ
- เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงฟังบทสนทนาแรก แล้วให้นกั เรี ยนเติมคำลงใน
ช่องว่างให้ถูกต้อง
- เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงซ้ำอีก 1 หรื อ 2 ครั้ง แล้วตรวจคำตอบด้วยการ
เฉลยปากเปล่า

เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 55


1 Shall 2 Why don’t we 3 how about 4 Let’s

กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนคัดลอกหน้าสมุดบันทึก Exercise E ในหนังสื อเรี ยนหน้า 55 ลงในสมุด
- ให้นกั เรี ยนเขียนสิ่ งที่นกั เรี ยนทำบ่อย ๆ ลงไป 3 อย่าง (โดยอาจทำเป็ นโน้ตย่อ)
ส่ วนอื่น ๆ ที่เหลือให้วา่ งไว้
กิจกรรมที่ 6: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม/ทั้งชั้นเรียน) A
- ครู และนักเรี ยนทั้งชั้นอ่านบทสนทนาในหนังสื อเรี ยนหน้า 55 แล้วให้นกั เรี ยน 2–3 คน
ออกมาแสดงบทบาทตามสนทนาหน้าชั้นเรี ยน
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน หรื อจะให้นกั เรี ยนเดินรอบ ๆ ชั้นเรี ยนแล้วพูด
กับเพื่อนคนใดคนหนึ่งก็ได้
142

- ให้นกั เรี ยนชวนกันไปดูภาพยนตร์ต่าง ๆ กัน เมื่อหาคนรับคำเชิญได้ ให้เขียนชื่อเพื่อน


พร้อมกับชื่อเรื่ องภาพยนตร์ที่จะไปดู และวันเวลาลงไปในสมุดบันทึกที่ท ำไว้ใน
Exercise E
- ครู ตอ้ งมัน่ ใจว่านักเรี ยนจะต้องตรวจดูสมุดบันทึกของตนองให้แน่ใจ ก่อนที่จะถามว่า
บ่ายหรื อเย็นวันนั้นว่างหรื อไม่
กิจกรรมเสริม
Fact or Fantasy ?: Writing (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ให้นกั เรี ยนอ่าน Factor Fantasy ในกรอบในหนังสื อเรี ยนหน้า 55 ครู ถามนักเรี ยนว่า
นักเรี ยนคิดว่าเป็ นเรื่ องจริ งหรื อเท็จ ครู ฟังคำตอบของนักเรี ยน 2–3 คำตอบแล้วจึงเฉลย (เ
ป็ นจริ ง–เป็ นข้อเท็จ)
- ครู ให้นกั เรี ยนเขียนประโยคที่มีลกั ษณะคล้ายกันนี้เพิ่มเติมอีก 2–3 ประโยค ครู อาจจะให้
ทำในชั้นเรี ยนหรื อทำเป็ นการบ้านก็ได้ ตัวอย่างประโยค Batman’s real name was Bruce
Wayne. He was a millionaire who lived in a mansion with a butler. Batman’s mission
was to fight crime in Gotham City. (answer: fact)
- ถ้าให้นกั เรี ยนทำที่บา้ น 2–3 นาทีแรกของการเรี ยนในชัว่ โมงต่อไป ให้นกั เรี ยนค้นหาว่า
ข้อความนั้นเป็ นจริ งหรื อเพ้อฝัน

Activity BookTAPESCRIPT:
Activity Book, Lesson 20, Exercise D.
Listen to the dialogue and check your answers to exercise C. Find three
differences between the written dialogue and the cassette.
STEVE: Alan? How about going out for a walk? I’m bored.
ALAN: We did that this morning. Anyway it’s raining.
STEVE: I know, would you like to go to the cinema?
ALAN: What’s on?
STEVE: There’s a film called Frankenstein 2000. Lucy says it’s really good.
ALAN: All right. I like horror films.
STEVE: Shall we go by bus or shall we walk? It starts at six.
ALAN: Let’s go by bus. I’m not walking anywhere
เฉลย: Activity Book (Lesson 20) หน้ า 36
A open
B science fiction: robot/computer/planet/alien
horror: vampire/werewolf/monster
historical: king/battle/sword
C 1 How about 4 shall we
2 would you like 5 Let’s
3 Shall we
D Frankenstein, not Romeo and Juliet horror, not romantic films. It starts at 6,
not 7.
E open
143

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 26
Lesson 21 Haunted House
หมายเหตุ: ในบทเรี ยนนี้ ให้นกั เรี ยนทำตัวเป็ นนักสื บ และให้หาว่าทำไมบ้านในนิยายจึง
เป็ นบ้านผีสิง และให้โอกาสนักเรี ยนได้เล่าเรื่ องที่น่ากลัว เรื่ องจริ งหรื ออิงนิยายโดยใช้ Past
simple tense และ Past continuous tenses
Topic Focus
- ครู วาดรู ปผีบนกระดานแล้วถามว่าเป็ นรู ปอะไร นักเรี ยนควรจะตอบพร้อมกันทันทีวา่
“ghost”
- คราวนี้ วาดภาพหรื อแสดงรู ปบ้านให้ดู ควรจะเป็ นบ้านเก่าและบอกลางสังหรณ์ ให้
นักเรี ยนบอกว่าผีกบั บ้านสัมพันธ์กนั อย่างไร นักเรี ยนควรจะตอบได้ทนั ทีวา่ ผีมกั จะสิ ง
อยูท่ ี่บา้ น ให้คน้ หาความจริ งเรื่ องนี้ ออกมาให้ได้ (ตัวอย่างเช่น They used to live
there.; They died there.; they killed somebody there. เป็ นต้น)
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน ครู อ่านคำถามดัง ๆ แล้วให้นกั เรี ยนอภิปราย
กันจนถึงขั้นได้ขอ้ สรุ ปว่าผีมีจริ งหรื อไม่
- ให้นกั เรี ยนเล่าประสบการณ์บา้ นผีสิงหรื อเรื่ องที่น่าตื่นเต้นที่เกิดกับตัวเองให้เพื่อน ๆ ฟัง
- ในตอนท้ายของการอภิปราย ให้แต่ละกลุ่มออกไปรายงานสั้น ๆ ให้เพื่อน ๆ ฟัง
กิจกรรมที่ 2: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม) A
- ให้นกั เรี ยนยังคงอยูใ่ นกลุ่มเดิม ร่ วมกันอภิปรายเกี่ยวกับแผนผังบ้าน แล้วลงมติวา่ สิ่ งที่
เกิดขึ้น 3 อย่าง สิ่ งไหนน่าตื่นตกใจที่สุด แล้วให้แต่ละกลุ่มออกมารายงานให้เพื่อน ๆ ฟัง
- ขณะที่นกั เรี ยนกำลังรายงาน ควรสอนประโยค past continuous ไปด้วย เช่นให้กลุ่มที่
หนึ่งพูดว่า “ Writing appeared on the wall.” ครู ควรจะถามคำถามว่า Oh, yes, and when
did this happen? นักเรี ยนควรจะตอบว่า “When Sarah was having a bath.”
กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- บอกให้นกั เรี ยนอ่านข้อความที่อยูใ่ นสมุดบันทึกอย่างเร็ ว แล้วให้ตอบคำถาม
What caused the haunting? โดยให้เวลาคิดพอสมควร
- ตรวจสอบคำตอบด้วยการตอบปากเปล่า

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 56


The director of the old poorhouse had gone mad and killed several of the poor
people in the building.

- จากนั้นให้นกั เรี ยนดูแผนผังของบ้าน พร้อมกับหาคำมาเติมลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ดว้ ย


คำศัพท์ที่ถูกต้อง
144

เฉลย: Students’
Language Bookcontinuous
Focus: Past ข้ อ C หน้ า และ
56 Past simple
กิจ1กรรมที
playing่ 4: 2Learning
wearing to3learn
having(กิจกรรมรายบุ
4 having ค5คล)
asking 6 making 7 reading
- อธิ บายให้นกั เรี ยนเข้าใจว่า เหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ในขณะที่เหตุการณ์อีกอย่างหนึ่ง
เกิดขึ้นมาก่อนแล้ว เช่น I was listening to the radio when the telephone rang.
- ให้นกั เรี ยนอ่านและพิจารณาประโยคต่าง ๆ ในหนังสื อเรี ยนหน้า 57 แล้วเรี ยงลำดับ
เหตุการณ์ให้ถูกต้อง
- ตรวจคำตอบโดยถามนักเรี ยนให้ทวั่ ทั้งชั้นเรี ยน แล้วเขียนคำตอบบนกระดาน
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 57
Correct order: b, c, a
Activity: past continuous
Action: past simple
Reaction: past simple
กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนพิจารณาตารางในส่ วนที่เติมสมบูรณ์แล้วในหนังสื อเรี ยนหน้า 57 ถ้ามีปัญหา
เกี่ยวกับคำศัพท์ ครู อธิบายให้นกั เรี ยนฟัง
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกตารางลงในสมุด และเติมที่วา่ งให้เต็มด้วยคำศัพท์ที่เห็นว่าเหมาะสม
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่าหรื อให้อาสาสมัครออกไปเขียนบนกระดาน

เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 57


Affirmative: was / were reading
Negative: was / were
Questions: was / were
กิจกรรมที่ 6: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู พิจารณาประโยคตัวอย่างพร้อมกับนักเรี ยน และย้ำเตือนให้นกั เรี ยนยึด
ตัวอย่างจากตารางใน Exercise E เพื่อดูความแตกต่างระหว่าง was และ were
- ให้นกั เรี ยนเขียนประโยคปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่ องที่เคยศึกษามา เมื่อปฏิบตั ิกิจกรรมเรี ยบร้อย
แล้วให้น ำไปเปรี ยบเทียบกับของเพื่อน
- ครู สุ่มนักเรี ยนให้แต่งประโยคปฏิเสธ
- ครู เขียนประโยคตัวอย่างสัก 2-3 ประโยคลงบนกระดาน แล้วอธิ บายข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยว
กับการใช้ tense ให้ถูกต้อง
กิจกรรมที่ 7: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ให้พิจารณาประโยคตัวอย่างในหนังสื อเรี ยนหน้า 57 และบอกให้นกั เรี ยนแต่งประโยคใน
ลักษณะคล้าย ๆ กันนี้
- ให้นกั เรี ยนจับคู่ผลัดกันบอกถึงสิ่ งที่เกิดขึ้นกับตนเองในบ้านผีสิงมา 5 อย่าง
- ครู ตรวจการทำกิจกรรม เพื่อให้แน่ใจได้วา่ นักเรี ยนใช้ tense ได้ถูกต้อง
145

กิจกรรมที่ 8: Speaking (กิจกรรมคู่) A


- นักเรี ยนยังคงจับคู่กบั เพื่อน
- ครู เขียนประโยคต่อไปนี้บนกระดาน: What happened? What were you doing when it
happened? What did you do?
- ครู เล่าให้นกั เรี ยนฟังว่า ครู เคยมีประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นในอดีต ให้นกั เรี ยนลองทายดูวา่
เป็ นอะไร ให้นกั เรี ยนถามพร้อมกันว่า What happened? แล้วครู กต็ อบตามที่เห็นว่าเหมาะ
สม
- ครู บอกให้ถามคำถามต่อไปโดยให้นกั เรี ยนถามพร้อมกันว่า What were you doing when
it happened? ครู ตอบคำถามนักเรี ยน
- ให้นกั เรี ยนถามคำถามต่อไปโดยให้ถามพร้อมกันว่า What did you do? ครู ตอบคำถาม
ถ้าเรี ยงลำดับคำตอบจะเป็ นดังนี้ I saw a white shape / I was walking home from work /
I screamed and ran all the way home.
- ให้นกั เรี ยนผลัดกันถามและตอบคำถาม ครู คอยตรวจดูการปฏิบตั ิ เพื่อให้แน่ใจว่านักเรี ยน
ใช้ tense ได้ถูกต้อง
กิจกรรมเสริม
Story telling: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรี ยน)
- ครู อธิ บายให้นกั เรี ยนฟังว่า ครู จะเล่านิทานให้ฟัง และเมื่อครู หยุด นักเรี ยนต้องถาม 1
คำถามเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
- ครู แต่งเรื่ องขึ้นมาหรื อจะใช้โครงร่ างที่ให้มาท้ายกิจกรรมนี้ กไ็ ด้
- ครู เล่าเรื่ อง หยุดเป็ นครั้งคราวในจุดที่เห็นว่านักเรี ยนน่าจะถามคำถามคล้าย ๆ กับที่เรี ยน
มาในหน่วยการเรี ยนนี้ อย่างไรก็ตาม อย่ายึดติดกับรู ปแบบคำถามที่ให้มาเท่านั้น ครู ตอ้ ง
ตอบทุกคำถาม
- โครงร่ างนิทาน
Holidays in country / no people for miles / alone one night / large footprint found
in garden / howls at night / sitting by swimming pool / large dog with luminous eyes
appears / run indoors / telephone rings / strange voice / try to escape / dog follows / run
down road / slip / dog attacks / shot rings out / dog disappears / man appears with rifle /
speak toActivity
เฉลย: him / realise
Book same eyes21)as หน้
(Lesson dog,า 37–38
etc.
- Aให้นกั open
เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 21) หน้า 37–38
B open
C 1 was doing 2 was walking / playing 3 was listening 4 were watching
D 2 looked at 3 threw 4 going into 5 got out of 6 went to
E open
F 2 The father is doing the washing up.
3 The girl is walking in the garden.
4 The boy is listening to the radio.
5 The family are watching the TV.
6 The family are leaving the house.
G number 4 is false
146

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 27
Lesson 22: Believe It Or Not?
หมายเหตุ: บทเรี ยนนี้ แสดงการใช้ past tense 3 รู ปแบบ เพื่อบรรยายเรื่ องจริ งเกี่ยวกับ
นักสำรวจชาวอังกฤษ คือ Sir Ernest Shackleton ผูซ้ ่ ึ งตกค้างอยูท่ ี่ทวีป
แอนตาร์กติกา พร้อมลูกเรื อ 27 คน เป็ นเวลาเกือบ 18 เดือน tense ที่ใช้ในการบรรยาย
เหตุการณ์ในอดีตมักจะใช้ past simple, past continuous และ past perfect ทั้งนี้ข้ ึนอยูก่ บั
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีล ำดับอย่างไรและผูบ้ รรยายต้องการวางเหตุการณ์อย่างไร นักเรี ยนจะ
ไม่ค่อยมีโอกาสใช้ past perfect ยกเว้นให้รับรู ้และเข้าใจการใช้ในเนื้ อเรื่ องนี้เท่านั้น
Topic Focus
- ถามนักเรี ยนว่า นักเรี ยนเคยได้ฟังเรื่ องแปลกประหลาดซึ่ งในตอนแรกนักเรี ยนจะไม่เชื่อ
แต่คน้ พบตอนหลังว่าเป็ นเรื่ องจริ ง
- ครู ให้นกั เรี ยนเล่าเรื่ อง 2 – 3 เรื่ อง แต่ถา้ นักเรี ยนไม่มีเรื่ องเล่า ครู ตอ้ งเล่าเอง
- ปฏิบตั ิกิจกรรมทั้งหมดกับนักเรี ยนทั้งชั้นเรี ยน
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ให้นกั เรี ยนคิดถึงเรื่ องที่นกั เรี ยนไม่เชื่อ แต่ตอนหลังค้นพบว่าเป็ นเรื่ องจริ ง
- ให้นกั เรี ยนเล่าเรื่ องให้ท้ งั ชั้นฟังและตอบคำถามที่เพื่อน ๆ ถาม
กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- อ่านคำถามที่ให้มาทั้งหมดในหนังสื อเรี ยนหน้า 59
- ให้นกั เรี ยนอ่านเรื่ องเล่าแล้วให้วิเคราะห์วา่ เป็ นเรื่ องจริ งหรื อไม่
- ครู ยอมรับฟังความคิดเห็นบางส่ วน แล้วจึงบอกนักเรี ยนว่าเรื่ องเล่านั้นมีส่วนเป็ นความ
จริ ง
กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้ อเรื่ องอีกครั้ง
- ให้นกั เรี ยนอ่านประโยคต่าง ๆ ในหนังสื อเรี ยน แล้วจัดเรี ยงลำดับใหม่
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 59


1c 2f 3d 4a 5e 6b

กิจกรรมที่ 4: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านคำศัพท์ในกรอบแล้วจับคู่กบั ประโยคใน Exercise C
147

- บอกให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดให้เสร็ จโดยทำลงในสมุด แล้วตรวจคำตอบด้วยการเฉลย


ปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 59
TAPESCRIPT
a unfortunately b later c after three weeks d while e then f on 21
NowNovember
listen to the correct version of the story. See how many factual mistakes
youกิจcan find่ 5:in Listening
กรรมที the story. (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู บYouอกนัare
กเรีgoing
ยนว่าเนืto้ อhear a very
เรื่ องที ่นกั เรีstrange
ยนอ่านนัstory,
้ น มีขbut
อ้ ผิitดพลาดจากความจริ
is true. It happenedงถึnearlyง 7 แห่ง เมื่อ
one hundred years ago during the First World War. British
เปรี ยบเทียบกับเรื่ องที่นกั เรี ยนจะได้ฟังจากแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยง explorer, Sir Ernest
Shackleton wanted
- ครู เปิ ดแผ่ นซีดี/toแถบบั
walkนacrossทึกเสี ยAntarctica,
งและบอกให้theนกั frozen
เรี ยนเขีcontinent
ยนข้อผิดatที่นtheกั เรีsouth
ยนได้ofยนิ ลงใน
the Earth.
สมุด He left England in the ship Endurance with a crew of 27 in July 1914.
Endurance
- เปิ ดแผ่reached
นซีดี/แถบบัSouth
นทึGeorgia
กเสี ยงอีกNovember 1914 and left again after three weeks.
ครั้งเพื่อตรวจคำตอบ
Then it disappeared and no one knew what had happened.
While they were sailing across the Weddell Sea, the weather got colder. In
January 1915, Endurance became trapped inside one and a half million square
kilometres of frozen sea. No one could escape. After 10 months Endurance began
to break up in the ice. The crew unloaded food, equipment and the three ship’s
lifeboats off the ship before it sank on 21 November. In less than a week life had
changed from the comfort of the ship to cold, wet, dangerous life sleeping on the
ice.
Shackleton thought they should wait where they were until the ice carried
them nearer to land. While they were moving slowly north, 1916 arrived but they
still hadn’t reached land. They finished their tea and coffee and they had to kill
birds and animals for food. Later they also shot their dogs. In March 1916 the ice
began to break up and they saw land at last. On April 5 they got into the three
lifeboats.
Unfortunately the sea and wind carried them into open water away from
the land. They were in freezing boats for a week before they could land at a place
called Elephant Island. The island was uninhabited and they could not stay there
because they would be too cold. However, the men were not strong enough to go
on after six months on the ice. Shackleton decided to take the five strongest men
and sail to South Georgia for help. South Georgia was the place from where
Endurance had left nearly eighteen months before. Shackleton and the men left on
24 April and reached South Georgia on 10 May, after a terrible journey of seven
hundred and fifty kilometres in an open boat through stormy seas and freezing
weather. And they still had to climb over a mountain 1,500 metres high and walk
across the island to get to the whaling factory!
148

At four in the afternoon on May 20th the manager was very surprised to see men
with thin faces and long hair walking across the snow to his factory. “Who are
you?” he asked, although he had met Shackleton before. My name is Shackleton,”
was the reply. Then Shackleton told the manager about the other men. Later a
whaling ship went to Elephant Island to collect the rest of the group. Shackleton
had not crossed Antarctica but he had brought out all the men alive from the
coldest and most dangerous place in the world.

เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 59


1 Endurance left with Shackleton and 27 men not 30 men
2 November not September
3 a million and a half square kilometres of frozen sea, not a million
4 food, equipment and three lifeboats
5 tea and coffee, not sugar and bread
6 dogs not horses
7 the five strongest men, not the four strongest men
8 seven hundred and fifty kilometres not one hundred
9 four not two
10 “My name is Shackleton”, not “We have met before”
กิจกรรมที่ 6: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนคิดถึงเหตุการณ์จริ ง (หรื อปั้ นเรื่ องขึ้นมาก็ได้) ว่านักเรี ยนเคยตกอยูใ่ นอันตราย
ที่ไหนแต่หนีรอดมาได้
- ให้นกั เรี ยนอ่านประโยคตัวอย่างในหนังสื อเรี ยนหน้า 59 แล้วครู อ่านพร้อมกับนักเรี ยน
ให้นกั เรี ยนเขียนข้อความคล้ายกับตัวอย่าง
- บอกให้นกั เรี ยนเขียนเรื่ องทั้งหมดเป็ นการบ้าน ครู ย ้ำเตือนให้นกั เรี ยนเขียงเรี ยงลำดับของ
tense ที่ได้เรี ยนในบทนี้ให้ถูกต้อง
149

กิจกรรมที่ 7: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม) A


- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน แล้วบอกให้นกั เรี ยนเล่าเรื่ องส่ วนตัวให้คนอื่น
ฟัง โดยใช้โน้ตย่อที่เตรี ยมมาใน Exercise F
- ให้แต่ละกลุ่มลงมติวา่ กลุ่มใดทำได้ดีที่สุด แล้วให้นกั เรี ยน 1 คนในกลุ่มนั้นออกมาเล่า
เรื่ องให้เพื่อน ๆ ทั้งหมดฟัง
กิจกรรมที่ 8: Dictionary work (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู บอกนักเรี ยนให้ใช้ Mini–dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101 – 110 เพื่อ
ค้นหาการสะกดคำว่า roughly กระตุน้ ให้นกั เรี ยนลองคิดว่าคำนี้สะกดอย่างไรก่อนเปิ ด
ค้นหา
- เมื่อนักเรี ยนค้นพบคำว่า roughly ให้เตือนนักเรี ยนด้วยว่าใน Mini–dictionary นั้น
จะบอกด้วยว่าเป็ นคำชนิดใด เช่น คำนาม กริ ยา คุณศัพท์ บุพบท หรื อกริ ยาวิเศษณ์
- ให้นกั เรี ยนค้นหาคำศัพท์อื่น ๆ ด้วยตนเอง

เฉลย: Students’ Book ข้ อ H หน้ า 59


1 roughly (adverb) 2 worldwide (adjective or adverb) 3 volunteer (noun or verb)
4 manufactured (past simple verb) 5 kingdom (noun) 6 establish (verb) 7 self
defence (adjective) 8 unconscious (adjective) 9 miraculously (adverb)
10 cosmonauts (noun)

กิจกรรมเสริม
Word ordering: Writing (กิจกรรมกลุ่ม)
- ก่อนเริ่ มบทเรี ยน ให้เลือกประโยคจากเนื้ อเรื่ องในบทที่ 22 มาสัก 4–5 ประโยค เขียนลง
บนแผ่นกระดาษด้วยคำศัพท์ที่ไม่เรี ยงลำดับ
- ครู เตรี ยมแผ่นกระดาษที่เขียนประโยคให้พอกับนักเรี ยนที่จะทำงานเป็ นกลุ่ม 3 – 4 กลุ่ม
- ให้นกั เรี ยนช่วยกันจัดอันดับประโยคต่าง ๆ ให้เร็ วที่สุด แล้วให้แลกเปลี่ยนแผ่นกระดาษ
นั้นกับเพื่อนกลุ่มอื่นทันทีที่เรี ยงประโยคเรี ยบร้อยแล้ว
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 22) หน้า 39

เฉลย: Activity Book (Lesson 22) หน้ า 39


A 2 They were living a cold, wet and dangerous life on the ice.
3 They were walking to the whaling factory.
4 Men with thin faces and long hair walking across the snow.
B 1a2c 3d 4e 5b
C 2 I was playing with my friends in the playground.
3 I fell and broke my leg.
4 The teacher took me to hospital.
5 After three months my leg was better.
D 2 suddenly 3 Then 4 Miraculously 5 Later 6 in the end
E open
150

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 28
Lesson 23: Fluency
กิจกรรมที่ 1: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนฟังแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงและพิจารณาว่าจะบรรยายเกี่ยวกับใครหรื ออะไร
- ครู เปิ ดแผ่นซี ดี แล้วเขียนคำตอบลงบนกระดาน

TAPESCRIPT
Listen to the descriptions. Who or what are they describing?
1. This man is very rich and aristocratic. He lives in an old castle in a place called
Transylvania, but sometimes visits other places. He is very elegant and wears old-
fashioned clothes. He sleeps in the day and lives in the night. He does not eat
normal food.
2. Many people say they have seen these things. They usually appear at night and
they are often very unhappy. They haunt old buildings like castles. They can walk
through walls and when people go near them they disappear.
3. These are people who are normal most of the time. But when there is a full moon
they change. Their hair grows and their face changes. They look like a kind of
animal, with sharp teeth. Then they often attack and kill people.
4. This creature is very famous. A scientist who lived in Germany made him in his
laboratory. He has a large head and he is very ugly. Sometimes he can become very
violent, but he is very unhappy and would like to be friendly.

เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 60


1 Vlad Dracula 2 Ghosts 3 Werewolves 4 Frankenstein’s monster
กิจกรรมที่ 2: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ ให้นกั เรี ยนเขียนคำตอบสำหรับคำถาม
ทุกคำถามในหนังสื อเรี ยนหน้า 60 ลงในสมุด ครู ตรวจด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 60
a Werewolves b Ghosts c Vlad Dracula d Frankenstein’s monster

กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านชื่อเรื่ องทุกชื่อในหนังสื อเรี ยนหน้า 60 แล้วจับคู่กบั ย่อหน้าใน
HORROR
STORY
151

- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 60
Escape from the Slothar = 3; A strange dream = 1; A mysterious house = 2;
Meeting the Hypnoth = 4
กิจกรรมที่ 4: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนจัดประเภทคำศัพท์ในหนังสื อเรี ยนหน้า 60 ลงในสมุด โดยแยกเป็ นศัพท์
ประเภทเชิงลบและประเภทบอกขนาด
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 60
a horrible, terrible, sinister
b enormous, tall, large, small, big
กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมรายบุคคล) A
- ให้นกั เรี ยนจินตนาการว่านักเรี ยนเป็ นบุคคลในเนื้ อเรื่ อง HORROR STORY แล้ว
ให้นกั เรี ยนคิดแต่งเรื่ องตอนจบเอง
- ครู อธิ บายขั้นตอนการเขียนจบของเรื่ อง 3 ขั้นตอนที่ก ำหนดให้ในหนังสื อเรี ยนหน้า 61 ถ้า
TAPESCRIPT
นักเรี ยนมีขอ้ สงสัยให้ครู อธิบายจนเข้าใจ พร้อมทั้งอธิ บายว่าการเขียนโน้ตย่อก่อนจะช่วย
Listen to another ending to the story. Answer these questions.
ให้การเขียนโครงร่ างทำได้ง่ายขึ้น และโครงร่ างฉบับสุ ดท้าย (final draft) ก็ยอ่ มดีกว่า
STORYTELLER: He was hypnotising us. I knew I had to do something. I took
ฉบับแรก (final draft)
out a mirror and put it in front of me. The Hypnoth started to hypnotise himself! He
- เมื่อเขียนโครงร่ างเรี ยบร้อยแล้ว ให้นกั เรี ยนแลกเปลี่ยนกับเพื่อนเพื่อตรวจแก้ไขก่อนการ
did not move. We were free! We walked for about five minutes and came to a door.
เขียนฉบับจริ ง
It was the laboratory. There were lots of strange machines and a big cage. In the
- ครู เก็บสมุดในตอนท้ายของการเรี ยน เพื่อตรวจแก้ไขงานเขียนของนักเรี น
cage five children were sleeping. Suddenly there was a bang.
Final Speaking Task: A Story
We couldn’t move. A man with long white hair stoodAin front of us. “Now I’ve got
กิจกรรมที่ 6: Speaking (กิจกรรมคู่/กิจกรรมกลุ่ม)
you. Two more specimens for my collection. Ha haaaa.” “ My name is Clawstein.
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กบั เพื่อนผลัดกันฝึ กการเล่าเรื่ อง บอกนักเรี ยนว่า ครู ไม่ให้อ่านเรื่ องให้เพื่อน
Dr Clawstein.” He put us in the cage with the children. “We must do something,”
ฟังแต่ให้เล่าเรื่ องจากความทรงจำ นักเรี ยนอาจจะใช้บนั ทึกย่อจากขั้นที่ 2 ของงานเขียนและ
said my brother. I tried to communicate with my parents by telepathy.
กระตุน้ ให้นกั เรี ยนใช้ค ำเชื่อม เช่น well ..., and then..., next..., suddenly..., เป็ นต้น
I concentrated and concentrated. Then I was tired and I went to sleep. Suddenly, I
กิจกรรมที่ 7: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
woke up!
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำถามในหนังสื อเรี ยนหน้า 62 ครู อธิ บายคำศัพท์และข้อความที่นกั เรี ยน
The Slothar was trying to get into the cage to kill us! It smashed the door open.
ไม่เข้าใจ
It got hold of my brother!
- บอกให้นกั เรี ยนเขียนหมายเลข 1–7 ลงในสมุด
I ran past the Slothar. In the middle of the laboratory there was a big computer. It
- ครู เปิ ดแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยง โดยอาจจะเปิ ดมากกว่า 1 ครั้ง แล้วให้นกั เรี ยนเขียน a, b
controlled all the creatures created by Clawstein. I pressed a red button that said
หรื อ c ลงข้างหลังตัวเลขให้ถูกต้อง
“Danger-self-destruct”. There was a loud explosion.
- ตรวจแบบฝึ กหัดด้วยการเฉลยปากเปล่า
The Slothar fell to the floor. My brother was frightened but OK. We took the
- ให้นกั เรี ยนบอกว่า นักเรี ยนชอบตอนจบของเรื่ องแบบใด และทำไม
children and started to run. In the passage other monsters were lying on the floor.
Finally, we got out into the garden.
152

Clawstein was trying to escape. But just at that moment three police cars arrived.
They surrounded Clawstein’s car and arrested him. My parents were in one of the
cars. I asked them “ Why are you here?” “Well, it’s curious,” my mum said. “I was
in the kitchen making supper when I had a strange feeling that I knew you were in
danger. I knew you were in this house so I called the police.” I looked at my
brother. We said nothing. Nobody would believe us if we told them, would they?
Activity Book TAPESCRIPT
เฉลย: Students’ Book ข้ อ G หน้ า 61
Activity
1b 2a Book, Lesson
3 b 23,4 bExercise
5 a D. 6 c 7a
Listen to this description of a werewolf. Which drawing is correct?
- ให้werewolf
The นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดand
is a strange ใน sinister
Activitycreature.
Book, Lesson
When 23
theหน้า 40is full normal
moon
people can change into this beast, which is half human, half wolf.
This werewolf is very tall and extremely strong. It has got exceptionally strong
arms and legs which are covered with thick hair, like that of wolves. It also has
very sharp claws which it uses to catch its victims with. The werewolf’s head is
quite small and most of its face is covered with thick hair like that on its body. It
has a flat nose and has horrible small eyes. Its teeth are pointed and it has a
revolting, long black tongue.
153

เฉลย: Activity Book (Lesson 23) หน้ า 40


A Slothar: thin hair / square head / long arms / large mouth / pointed teeth / sharp claws
Hypnoth: thin legs / big head / bright blue eyes / old-fashioned clothes / thin arms
B open
C The monster had an enormous body and a small square head. It made horrible
noises and it looked at us with bright red eyes. We decided to escape. We ran
down the dark passage. We came to a big cave. Suddenly, we saw the monster
in front of us. I took out a torch and shone it into the monster’s eyes. Then we
took a sword and killed the monster.
D drawing number 1
แผนการจั ดการเรียนรู้ ที่ 29
E open
Lesson 24: Consolidation
Topic Focus
- ครู ถามนักเรี ยนว่า นักเรี ยนชอบและสนุกกับส่ วนไหนของหน่วยการเรี ยนนี้ มากที่สุด
- ครู รับทราบความเห็นของนักเรี ยน แล้วถามต่อว่านักเรี ยนคิดว่าได้รับการเรี ยนรู ้อะไรบ้าง
จากหน่วยการเรี ยนนี้
- ครู เขียนคำตอบบนกระดาน
กิจกรรมที่ 1: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู ทบทวนความแตกต่างระหว่าง past simple tense กับ past continuous tense อย่างย่อ ๆ
- ให้นกั เรี ยนอ่านส่ วนแรกของเรื่ อง The Black Cat of Killakee ในหนังสื อเรี ยน
หน้า 62 ถ้าพบคำศัพท์ยากให้คน้ หาจาก Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101–110
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกข้อความลงในสมุด นำคำกริ ยาในวงเล็บมาเปลี่ยน tense ให้ถูกต้อง คือ
ใช้ past simple tense กับ past continuous tense
- ตรวจคำตอบบนกระดาน

เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 62


1 told 2 were painting 3 opened 4 saw 5 was wearing 6 standing 7 did
not see
กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
154

- ให้นกั เรี ยนอ่านส่ วนที่ 2 ของเรื่ อง The Black Cat of Killakee ในหนังสื อเรี ยน
หน้า 62 แล้วให้แยกคำพูดที่ผดิ ในเนื้ อเรื่ อง เขียนลงในสมุด แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 62


misterius = mysterious; at her = to her; heared = heard; runned = ran; door kitchen
= kitchen door; get there = got there; cat enormous black = enormous black cat;
was sat = was sitting; looking to = looking at; horible = horrible

กิจกรรมที่ 3: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนคัดลอกโคลงในหนังสื อเรี ยนหน้า 62 ลงในสมุดและเติมคำในช่องว่างให้
สมบูรณ์
- นักเรี ยนอาจจะฝึ กท่องจำโดยออกเสี ยงดัง ๆ เพื่อทบทวนการใช้ระดับเสี ยงขึ้ นลงที่ถูกต้อง

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 62


1 had 2 walked 3 seen 4 been

กิจกรรมที่ 4: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนจับคู่ระหว่างคำคุณศัพท์ในกรอบกับคำที่มีความหมายตรงกันข้ามในหนังสื อ
เรี ยนหน้า 62
- ตรวจแบบฝึ กหัดด้วยการเฉลยปากเปล่าและถามนักเรี ยนว่า นักเรี ยนรู ้จกั คำที่มีความหมาย
ตรงกันข้ามมากกว่านี้หรื อไม่ ถ้านักเรี ยนรู ้ให้พดู คำศัพท์น้ นั ๆ ออกมา แล้วให้เพื่อน ๆ หา
คำที่มีความหมายตรงกันข้าม
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 62
1 enormous 2 long 3 strange 4 common
5 thin 6 old-fashion 7 soft 8 small
9 unconscious 10 dark 11 poor 12 east

กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ครู อ่านคำกริ ยาที่ก ำหนดให้ในหนังสื อเรี ยนหน้า 62 แล้วตรวจสอบดูวา่ นักเรี ยนเข้าใจความ
หมายหรื อไม่
- ให้นกั เรี ยนนำคำกริ ยาดังกล่าวไปเติมลงในเนื้ อเรื่ องที่เขียนลงในสมุด
เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 62
1 found out 2 took out 3 keep out 4 turned into 5 got out 6 look back

กิจกรรมที่ 6: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)


155

- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย ให้นกั เรี ยนสุ่ มเลือกตัวอักษร 1 ตัว แล้วพยายามพูดคำศัพท์


ที่เริ่ มต้นด้วยตัวอักษรที่เลือกสลับกันไป ถ้านักเรี ยนคนใดไม่สามารถคิดคำศัพท์ได้ให้ออก
จากการเล่มเกม เช่น big, bus, bathroom
กิจกรรมที่ 7: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู เขียนศัพท์ 4 คำ ที่ประกอบด้วยอักษร e จาก Exercise G ในหนังสื อเรี ยนหน้า 63 บน
กระดาน โดยใช้สญ ั ลักษณ์แสดงเสี ยงทางภาษาประกอบคำศัพท์แต่ละคำด้วย
- สุ่ มเลือกนักเรี ยนให้ออกเสี ยงคำศัพท์เหล่านั้น และตรวจสอบดูวา่ เขาสามารถแยกความแตก
ต่างได้หรื อไม่
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกตัวอย่างลงในสมุด และให้เขียนคำศัพท์ที่นกั เรี ยนได้ยนิ จากแผ่น
ซีดี/แถบบันทึกเสี ยงจัดเข้าประเภทตามกลุ่มของเสี ยง
- ครู เปิ ดแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ตรวจคำตอบ แล้วบอกให้นกั เรี ยนยก
ตัวอย่างประโยคเพิ่มเติมตามแบบ 1, 2, 3 หรื อ 4

TAPESCRIPT
Listen to some of the different ways that you can pronounce the letter e.
Group 1 ever Group 2 later Group 3 he Group 4 walked
Listen to these words and put them in the correct group.
1 extra 2 other 3 bend 4 disaster
5 we 6 bigger
7 crossed 8 garden 9 smallest 10 she 11 bedroom 12 longer
เฉลย: Students’ Book ข้ อ G หน้ า 63
Group 1: ever, extra, bend, bedroom
Group 2: later, other, disaster, bigger, smallest, longer
Group 3: he, we, she
Group 4: walked, crossed, garden

Test Yourself
- กิจกรรมส่ วนนี้ จะช่วยให้นกั เรี ยนได้ตรวจสอบการเรี ยนของตนเองและจะชี้ให้เห็นถึง
ปัญหาทางการเรี ยนรู้ในด้านต่าง ๆ
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำชี้แจงและทำแบบทดสอบแต่ละตอนให้สมบูรณ์ ครู อาจจะตรวจพร้อม
กันทั้งชั้นเรี ยน หรื อจะให้นกั เรี ยนแลกเปลี่ยนสมุดเพื่อตรวจแก้ไขให้กนั และกัน
เฉลย: Activity Book (Test Yourself) หน้ า 63
A 1 have had 2 have seen 3 saw 4 happened
5 have imagined 6 was 7 described 8 understood
B 1 were visiting 2 were walking 3 heard 4 saw
5 were wearing 6 were singing 7 was
156

กิจกรรมเสริมและกิจกรรมเพิม่ เติม
Amazing but true!: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนปรึ กษาเพื่อนและหรื อครอบครัว (หรื อไปหาในห้องสมุดก็ได้) เพื่อหาเรื่ อง
แปลกประหลาดแต่เป็ นความจริ ง
- ให้นกั เรี ยนเขียนเรื่ องดังกล่าวสั้น ๆ โดยทำเป็ นการบ้าน
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Time to Read) หน ้า 41,
(Test Yourself) หน ้า 42
และ (Extra Time!) หน ้า 42
เฉลย: Activity Book (Time to Read) หน้ า 41
A 1 d; 2 e; 3 f; 4 a; 5 b; 6 c
B 1 b; 2 b; 3 a; 4 b; 5 a
C 1 a ledge, a narrow shelf of rock, high above the valley floor in a
difficult and dangerous position 2 Baby was very big and very angry
3 He put the material over the dog’s head, picked him up under one
arm and climbed off the ledge.

Activity Book (Test Yourself) หน้ า 42


A 2 were you doing 3 have been 4 Have you ever
5 you were
6 going to 7 hasn’t been 8 were watching, saw
9 like to come 10 there have been
B 1 kitchen / horrible 2 enormous / sharp 3 sure / think
4 afraid / haunted 5 pointed / old-fashioned

เฉลย: Activity Book (Extra Time!) หน้ า 42

เฉลย:Time!
Extra Students’ Book (Reading Club 4) หน้ า 98
- Reading
ให้นกั เรี ยClub 4 งสื อเรี ยนหน้า 98 แล้วทำกิจกรรม Reading Club 4
นเปิ ดหนั
A A Miraculous Escape
B c = 1; f = 2; d = 3; a = 4; e = 5; b = 6
C a later b in the end c on the 25th of August
d miraculously e when f suddenly
157

Module Check
Language Check and Keyword Check
- ครู บอกนักเรี ยนว่าในตอนท้ายของหน่วยการเรี ยนรู ้ทุกหน่วย จะมีการทบทวนภาษาและคำ
ศัพท์หลักเพื่อให้นกั เรี ยนได้ทบทวนคำศัพท์และโครงสร้างทางภาษาที่ได้เรี ยนมา ครู ตอ้ งย้ำ
ให้นกั เรี ยนกลับไปทบทวนบ่อย ๆ
Module Diary
- สมุดบันทึกนี้ ควรจะสะท้อนผลการเรี ยนของนักเรี ยนในหลาย ๆ ด้าน ให้นกั เรี ยนคัดลอก
ลงในสมุดแล้วทำให้เสร็ จทุกส่ วน ครู ควรให้นกั เรี ยนส่ งงานส่ วนนี้ เพื่อครู จะได้รับรู ้ถึง
ทัศนคติของนักเรี ยน รวมถึงความก้าวหน้าทางการเรี ยนด้วย
ภาระงาน/ชิ้นงาน
1. จับคู่ผบัลันดกัทึนกถามและตอบเกี
หลังการจัด่ยการเรี วกับ ยนรู้
สถานการณ์ที่ก ำหนด
2. พูดบรรยายถึงนักกีฬาที่ตนเอง
อยากจะเป็ น
3. จับคู่ผลัดกั1. ความสำเร็่ยจวกั
นถามและตอบเกี บ
ในการจั ดการเรียนรู ้
นักกีฬาและที________________________________________________
มที่เก่งที่สุดในปัจจุบนั
4. จับกลุ่มผลัดกันแนวทางการพั
พูดประโยค ฒนา ความรู้
บรรยายนักกี________________________________________________________
ฬาหรื อทีมกีฬา และเดา Reading:
ว่าเป็ นนักกีฬาคนใดหรื
2. ปั ญหา/อุ อทีมกีป ฬาใด
สรรคในการจัด-การเรี ยนรู ้ - a magazine articles
a sports questionnaire
5. พูดบรรยายเกี _____________________________________________
่ยวกับการดูรายการ - a TV guide - a student composition
Listening:
กีฬาทางโทรทัศน์แนวทางแก ของตนเอง ้ไข - teenagers talking - an interview
__________________________________________________________
6. อ่านโฆษณารายการกีฬาทาง - TV commentaries
_
โทรทัศน์ ตอบคำถาม และพูดบรรยาย Speaking:
Module 5: Sport 3. ส
ถึงรายการกีฬาที่ตนเองอยากชม่
ง ิ ทีไ่ ม่
ไ ด ้ปฏิบ ต
ั ต
ิ ามแผน - sports
- your
____________________________________________________
7. เขียนบทความเกี ่ยวกับกีฬาที่
favourite sport
- famous sports people

ผั ง มโนทั ศ น์ เ ป้
เหตุ
ชื่นชอบสำหรับลงตีพิมพ์ในนิตยสาร าหมายการเรี
ผล ย นรู
้ และขอบข่
Writing:
ายภาระงาน
- a school magazine article
__________________________________________________________
ของโรงเรี ยน______ Grammar: เวลา 12 ชั่วโมง
- conditional (type 2) - question tags
8. พูดบรรยายเกี 4. ่ยการปรั
วกับกีฬาที ่ชื่นชอบ
บปรุ งแผนการจัดการเรี ยนรู ้
- Test Yourself
9. จับคู่ผลัดกั______________________________________________
นถาม–ตอบเกี่ยวกับ Vocabulary:
ข้อมูลส่ วนตัวคนละ 5 ประโยค - sports - adverbs of manner
- sport equipment
10. ทำแบบฝึ กหัดเพิ่มเติมใน World ลงชอ
Pronunciation:
ื่ __________________ ครูผู ้สอน
Club Activity Book 2: Module 5 - contractions _________/ _________/ _________
Sport - intonation to express uncertainty
- the letter ‘a’
158

ทักษะ/กระบวนการ
1. กระบวนการฟัง
2. กระบวนการพูด
3. กระบวนการอ่าน
4. กระบวนการเขียน
Sport 5. กระบวนการคิด
6. กระบวนการกลุ่ม
7. การนำความรู้ไปปรับ
คุณธรรม จริยธรรม และ ค่ า ใช้ในชีวิตประจำวัน
นิยม
1. ความมีระเบียบวินยั
กรอบแนวคิดผังการออกแบบการจั ดการเรี
2. ความใฝ่ เรี ยนรู ้ ยนรู้
Module3.5:ความรั
Sportบผิดชอบ
ขั้นที่ 1 ผลลัพธ์ ปลายทางที่ต้องการให้ เกิดขึน้ กับนักเรียน Learning to Learn
ตัวชี้วดั ช่ วงชั้น
• อ่านออกเสี ยงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้องตามหลักการอ่าน
(ต 1.1 ม. 5/2)
• อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สมั พันธ์กบั สื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุ
และเขียนสื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ให้สมั พันธ์กบั ประโยคและข้อความที่ฟังหรื ออ่าน (ต 1.1 ม. 5/3)
• จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุ ปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่ องที่เป็ น
สารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ (ต 1.1 ม. 5/4)
• สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่ องต่าง ๆ ใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์
ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยูใ่ นความสนใจของสังคม และสื่ อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/1)
• พูดและเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรี ยบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เรื่ อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/4)
• พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่ องและประเด็นต่าง ๆ ที่อยูใ่ น
159

ความสนใจของสังคม (ต 1.3 ม. 5/1)


• พูดและเขียนสรุ ปใจความสำคัญ แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่ อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์ และ
สถานการณ์ตามความสนใจ (ต 1.3 ม. 5/2)
• เลือกใช้ภาษา น้ำเสี ยง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ตามมารยาทสังคม
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (ต 2.1 ม. 5/1)
• เข้าร่ วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม (ต 2.1 ม. 5/3)
• อธิบาย/เปรี ยบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุ ภาษิต และ
บทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย (ต 2.2 ม. 5/1)
• วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล (ต 2.2 ม. 5/2)
• ค้นคว้า/สื บค้น บันทึก สรุ ป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่น
จากแหล่งการเรี ยนรู ้ต่าง ๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน (ต 3.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จ ำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
(ต 4.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาต่างประเทศในการสื บค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุ ปความรู ้ /ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่ อและ
แหล่งการเรี ยนรู ้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ (ต 4.2 ม. 5/1)
• เผยแพร่ /ประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลข่าวสารของโรงเรี ยน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติเป็ นภาษาต่างประเทศ
(ต 4.2 ม. 5/2)
ความเข้ าใจที่คงทนของนักเรียน คำถามสำคัญที่ทำให้ เกิดความเข้ าใจที่คงทน
นักเรียนจะเข้ าใจว่ า ... - สมมุติวา่ นักเรี ยนได้รับมอบหมายให้เป็ นตัวแทนไป
1. If-sentence (หรื อ conditional sentence หรื อ สัมภาษณ์แทมมารี น ธนสุ กาญจน์ นักเทนนิสหญิงที่
ประโยคเงื่อนไข) คือ ประโยคที่มีขอ้ ความแสดง มีชื่อเสี ยงของไทย นักเรี ยนคิดว่าจะถามคำถามเป็ น
เงื่อนไขหรื อแสดงการสมมุติวา่ ถ้ามีเหตุอย่าง ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
หนึ่งเกิดขึ้น ก็จะมีผลอีกอย่างหนึ่งตามมา โดยมี - นักเรี ยนโทรศัพท์ไปบอกเพื่อนว่า คืนพรุ่ งนี้จะมี
if เป็ นตัวเชื่อมประโยค ซึ่ งแบ่งออกเป็ น 2 ส่ วน การแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษระหว่างทีมลิเวอร์พลู กับ
คือ ส่ วนที่เป็ นเหตุ เรี ยกว่า if-clause หรื อ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทางโทรทัศน์ช่อง 3 เวลาตี 1
conditional clause และส่ วนที่เป็ นผล เรี ยกว่า จะพูดเป็ นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
- He won, didn’t he? อ่านออกเสี ยงประโยคว่าอย่างไร
main clause เช่น
- Your full name’s Christine Corkhill, isn’t it? อ่าน
If water boils, it changes into steam. ออกเสี ยงประโยคว่าอย่างไร
He would be in time if he hurried. - ยกตัวอย่างและอ่านออกเสี ยงคำศัพท์ที่มี a เป็ นเสี ยง
สังเกตว่า ถ้าวางคำเชื่อม (if) ไว้ตน้ ประโยคจะ เสี ยงละ 3 คำ
ต้องมี comma คัน่ ประโยค if ไว้ แต่ถา้ วาง if ไว้
กลางประโยคจะไม่ตอ้ งมี comma ประโยค
เงื่อนไขแบ่งเป็ น 3 ชนิด คือ 1. เงื่อนไขที่เป็ นจริ ง
เสมอ หมายความว่า ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นดังเช่นที่อา้ ง
แล้ว ก็จะมีผลดังเช่นว่านั้นเสมอ รู ปประโยค คือ
If + Present simple tense, + Present simple
tense หรื อ Future simple tense หรื อ Present
160

simple tense + if + Present simple tense หรื อ


Future simple tense เช่น If water boils, it
changes into steam. 2. เงื่อนไขที่เป็ นไปไม่ได้
หมายความว่า ไม่มีทางที่เหตุเช่นนั้นจะเกิดขึ้น
ได้เลย เป็ นเรื่ องสมมุติเท่านั้น รู ปประโยค คือ
If + Past simple tense, + would + to infinitive
(คำกริ ยาช่องที่ 1) หรื อ would + to infinitive (คำ
กริ ยาช่องที่ 1) + if + Past simple tense เช่น If
she left tomorrow, she would reach New York
City on Sunday. หมายเหตุ: คำกริ ยาใน Past
simple tense ถ้าเป็ น verb to be จะใช้ were กับ
ประธานทุกตัว 3. เงื่อนไขซึ่ งตรงข้ามกับความ
จริ งที่เกิดขึ้นแล้ว หมายความว่า เหตุเกิดขึ้นแล้ว
แต่มาพูดสมมุติเสี ยใหม่ ตรงข้ามกับ ความจริ ง
ที่เกิดขึ้น รู ปประโยค คือ If + Past perfect tense,
would have + Past participle (คำกริ ยาช่องที่ 3)
หรื อ would have + Past participle (คำกริ ยาช่อง
ที่ 3) + if + Past perfect tense เช่น I wouldn’t
have had an accident if I hadn’t driven home
yesterday.
2. Tag questions คือประโยคชนิดหนึ่งซึ่ ง
ประกอบด้วย 2 ส่ วน ส่ วนแรกเป็ นคำกล่าวเรี ยก
ว่า ส่ วนหัว (head) ประโยคคำกล่าวอาจเป็ นบอก
เล่าหรื อปฏิเสธ ส่ วนหลังเป็ นคำถาม เรี ยกว่า
ส่ วนหาง (tag) ประโยคคำถามอาจเป็ นคำถาม
ธรรมดาหรื อคำถามปฏิเสธซึ่ งจะต้องตรงข้ามกับ
ประโยคคำกล่าวส่ วนแรก ประโยคทั้งสองส่ วน
นี้แยกกันด้วยเครื่ องหมาย comma (,) ถ้าส่ วน
แรกเป็ นคำกล่าวบอกเล่า ส่ วนหลังจะเป็ นคำถาม
ปฏิเสธ เช่น She is beautiful, isn’t she? แต่ถา้
ส่ วนแรกเป็ นคำกล่าวปฏิเสธ ส่ วนหลังจะเป็ น
คำถามธรรมดา เช่น She isn’t beautiful, is she?
หมายเหตุ: ข้อความในส่ วนแรกจะเป็ นบอกเล่า
หรื อปฏิเสธนั้นขึ้นอยูก่ บั ความแน่ใจของผูพ้ ดู ถ้า
ส่ วนแรกเป็ นบอกเล่าแสดงว่าผูพ้ ดู นั้นมี
ความแน่ใจ แต่ถา้ ส่ วนแรกเป็ นปฏิเสธแสดงว่า
ผูพ้ ดู มีความไม่แน่ใจ
161

คำกริ ยาใน tag questions มีดงั นี้


1. ถ้าในส่ วนแรกมีค ำกริ ยาช่วย เช่น is, am, are,
have, has, will, can, must, may หรื อ should ให้
ใช้ค ำกริ ยาช่วยนั้น ๆ ในส่ วนหลัง เช่น He will
be here, won’t he?
2. ถ้าในส่ วนแรกไม่มีค ำกริ ยาช่วย ให้ใช้ verb to
do (do, does, did) มาช่วยในส่ วนหลัง (ถ้าเป็ น
Present ใช้ does หรื อ do ถ้าเป็ น Past ใช้ did)
เช่น They go to school every day, don’t they?
3. adverb บางคำมีลกั ษณะเป็ นปฏิเสธในตัวอยู่
แล้ว ฉะนั้นส่ วนหลังจึงเป็ นบอกเล่า เช่น Tom
never goes to work late, does he?
4. รู ปปฏิเสธของ I am ในส่ วนหลังใช้ aren’t I
เช่น I am a student, aren’t I?
5. ส่ วนหลังของประโยคที่ข้ ึนต้นด้วย Let’s ที่
เป็ นการเชิญชวน คือ shall we เช่น Let’s go to
the concert, shall we?
6. ส่ วนหลังของประโยคที่ข้ ึนต้นด้วย Let ที่
เป็ นการขออนุญาต เช่น Let me, Let him, Let
her ใช้ will you? เช่น Let me go with you, will
you?
7. ส่ วนหลังของประโยคอุทาน ใช้เป็ นรู ปปฏิเสธ
เช่น What a pretty girl, isn’t she?
8. ถ้าในส่ วนหัวมี this หรื อ that ส่ วนหลังจะใช้
is it หรื อ isn’t it เช่น This is your cat, isn’t it?
9. ถ้าในส่ วนหัวมี these หรื อ those ส่ วนหลังจะ
ใช้ are they หรื อ aren’t they เช่น These are your
houses, aren’t they?
10. ถ้าในส่ วนหลังมี there is, there are, there
was หรื อ there were ส่ วนหลังจะใช้ isn’t
there, aren’t there, wasn’t there หรื อ weren’t
there ตามลำดับ เช่น There is a glass of water
on the table, isn’t there?
11. ถ้าส่ วนหัวใช้ค ำกริ ยา would like/’d like
หรื อ would rather/’d rather ในส่ วนหลังจะใช้
wouldn’t เช่น He would rather leave here,
wouldn’t he?
162

12. ถ้าส่ วนหัวใช้ค ำกริ ยา had better หรื อ ’d


better ในส่ วนหลังจะใช้ hadn’t เช่น She had
better finish her work today, hadn’t she?
ความรู้ ของนักเรียนที่นำไปสู่ ความเข้ าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนที่จะนำไปสู่ ความรู้ ที่
นักเรียนจะรู้ ว่า ... คงทน นักเรียนจะสามารถ ...
1. คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา ได้แก่ 1. รู ้ เข้าใจ และบอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาได้
กีฬาต่าง ๆ เช่น volleyball, rugby, tennis 2. รู ้ เข้าใจ พูดบรรยาย/สอบถาม และแสดง
ผูเ้ ล่นกีฬา เช่น tennis player, cyclist, swimmer, ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับกีฬาได้อย่างถูกต้อง
การเล่นกีฬา เช่น go (swimming, windsurfing, 3. รู ้ เข้าใจ และใช้รูปกริ ยาในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2
horse riding, skating), do (athletics, karate, judo), (Conditional sentences 2) ได้อย่างถูกต้อง
play (football, hockey, rugby, tennis, basketball) 4. รู ้ เข้าใจ และใช้ประโยคคำถามแบบ Question tags
คำกริ ยา เช่น grow up, take on, come back, look for ได้อย่างถูกต้อง
2. ประโยคที่ใช้พดู บรรยาย/สอบถามและแสดง 5. รู ้ เข้าใจ และใช้ท ำนองเสี ยงกับประโยคคำถามแบบ
ความคิดเห็นเรื่ องที่เกี่ยวข้องกับกีฬา เช่น Question tags ได้อย่างถูกต้อง
If I didn’t have a lot of homework, I’d go out. 6. รู ้ เข้าใจ และออกเสี ยงคำศัพท์ที่มี a เป็ นเสี ยง
You don’t like sports, do you? ได้อย่างถูกต้อง
I never watch athletics on TV.
3. การใช้รูปกริ ยาในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2
(Conditional sentences 2) ที่ถูกต้อง เช่น
If I didn’t have a lot of homework, I’d go out.
What would you do if the World Cup Final was on
TV?
4. การใช้ประโยคคำถามแบบ Question tags ที่ถูก
ต้อง เช่น
He likes rugby, doesn’t he?
She was in the team, wasn’t she?
5. การใช้ท ำนองเสี ยงกับประโยคคำถามแบบ
Question tags ที่ถูกต้อง (ฟังการออกเสี ยงที่ถูกต้อง
จากแผ่นซีดีใน Lesson 27 แบบฝึ กหัด C)
6. การออกเสี ยงคำศัพท์ที่มีตวั a เป็ นเสี ยง
ที่ถูกต้อง เช่น
Group 1 take
Group 2 match
Group 3 call
ขั้นที่ 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งเป็ นหลักฐานที่แสดงว่ านักเรียนมีผลการเรียนรู้ ตามที่
กำหนดไว้ อย่ างแท้ จริง
1. ภาระงานที่นักเรียนต้ องปฏิบัติ
- ฝึ กดูภาพ ระบุค ำศัพท์ที่ตรงกับภาพ จับคู่คดั ลอกตารางคำศัพท์เกี่ยวกับกีฬา และแยกแยะคำศัพท์
ออกเป็ นหมวดหมู่
163

- ฝึ กจับคู่ผลัดกันถามและตอบคำถาม เพื่อค้นหาว่าคู่ของตนชอบกีฬาใด
- ฝึ กอ่านและตอบแบบสอบถามที่ก ำหนด
- ฝึ กจับคู่ผลัดกันสัมภาษณ์ขอ้ มูลในแบบสอบถามและคะแนนของคู่ตนเอง
- ฝึ กฟังคำตอบของ Sheila และ Alan จากแผ่นซีดี เขียนคำตอบ และคำนวณคะแนนของทั้งสองคน
- ฝึ กฟังแผ่นซีดีอีกครั้ง และจับคู่ประโยคทั้งสองส่ วนให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กอ่านประโยคในกรอบสี่ เหลี่ยม และตอบคำถาม
- ฝึ กจับคู่ผลัดกันถามและตอบเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ก ำหนด
- ฝึ กฟังประโยคจากแผ่นซีดี เขียน และนับจำนวนคำในประโยค
- ฝึ กจับคู่ชื่อนักกีฬากับภาพประกอบให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กพูดถึงนักกีฬาที่ตนเองอยากจะเป็ นให้เพื่อน ๆ ฟัง
- ฝึ กจับคู่ผลัดกันถามและตอบเกี่ยวกับนักกีฬาและทีมที่เก่งที่สุดในปั จจุบนั และออกมาพูดให้เพื่อน ๆ ฟัง
- ฝึ กอ่านบทความเกี่ยวกับ Dennis Bergkamp คัดลอกช่วงเวลาลงในสมุดแบบฝึ กหัด เติมช่วงเวลาที่ขาด
หายไป และตอบคำถาม
- ฝึ กเลือกคำจำกัดความที่ถูกต้องตามบทความที่อ่าน
- ฝึ กมองหาคำศัพท์ที่มีค ำจำกัดความว่า “ดีมาก” ในบทความที่อ่าน
- ฝึ กจับกลุ่มผลัดกันพูดประโยคบรรยายนักกีฬาหรื อทีม และเดาว่าเป็ นนักกีฬาคนใดหรื อทีมใด
- ฝึ กดูภาพ อ่านคำบรรยายใต้ภาพ และตอบคำถาม
- ฝึ กคัดลอกแบบฟอร์มใบสมัครสมาชิกลงในสมุดแบบฝึ กหัด ฟังบทสนทนาจากแผ่นซีดี และ เขียน
ข้อมูลที่ขาดหายไปให้สมบูรณ์
- ฝึ กฟังแผ่นซีดีอีกครั้ง จับคู่ส่วนประโยคกับส่ วน Question tag ให้สมั พันธ์กนั เขียนกฎให้สมบูรณ์ และ
ลอกใส่ สมุดแบบฝึ กหัด
- ฝึ กเขียน Question tag ที่ถูกต้องลงในช่องว่างที่ก ำหนด
- ฝึ กฟังคำถามจากแผ่นซีดี และตอบคำถาม
- ฝึ กจินตนาการถึงการสมัครเป็ นสมาชิกสโมสรกีฬาแห่งหนึ่ง คัดลอกแบบฟอร์มใบสมัครลงในสมุด
แบบฝึ กหัด กรอกข้อมูลของตนเอง ให้ขอ้ มูลกับเพื่อน และจับคู่ผลัดกันถาม – ตอบเพื่อตรวจสอบความ
ถูกต้อง
- ฝึ กจับคู่ช่วยกันแต่งประโยค Question tag โดยนักเรี ยน A แต่งในส่ วนประโยค และนักเรี ยน B แต่งใน
ส่ วน Question tag
- ฝึ กใช้พจนานุกรมฉบับย่อเลือกคำศัพท์ที่ถูกต้อง
- ฝึ กพูดบรรยายเกี่ยวกับการดูรายการกีฬาทางโทรทัศน์ของตนเองให้เพื่อน ๆ ฟัง
- ฝึ กอ่านโฆษณารายการกีฬาทางโทรทัศน์ ตอบคำถาม และพูดบรรยายถึงรายการกีฬาที่ตนเองอยากชม
- ฝึ กอ่านเวลาของรายการกีฬาต่าง ๆ และตอบคำถาม
- ฝึ กฟังการบรรยายเกี่ยวกับรายการกีฬาทางโทรทัศน์ และตอบคำถาม
- ฝึ กฟังแผ่นซีดีอีกครั้ง และเขียนคำกริ ยาวิเศษณ์ตามที่ได้ยนิ
- ฝึ กเติมคำกริ ยาวิเศษณ์ที่ก ำหนดลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
- ฝึ กจับกลุ่มเล่นเกม Adverb Game
- ฝึ กจับคู่ค ำศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬากับตัวเลขในภาพประกอบให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กอ่านบทความในนิตยสารของโรงเรี ยน และตอบคำถาม
- ฝึ กเขียนบทความเกี่ยวกับกีฬาที่ชื่นชอบสำหรับลงตีพิมพ์ในนิตยสารของโรงเรี ยน
164

- ฝึ กพูดบรรยายเกี่ยวกับกีฬาที่ชื่นชอบให้เพื่อน ๆ ฟัง
- ฝึ กเขียนรู ปกริ ยาที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
- ฝึ กจับกลุ่มผลัดกันพูดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่เป็ นจริ ง
- ฝึ กเขียนส่ วนที่เป็ น Question tag ที่ถูกต้องลงในประโยคที่ก ำหนด
- ฝึ กจับคู่ผลัดกันถาม – ตอบเกี่ยวกับข้อมูลส่ วนตัวคนละ 5 ประโยค
- ฝึ กเขียนคำกริ ยาวิเศษณ์ที่ถูกต้องจากคำคุณศัพท์ที่ก ำหนด
- ฝึ กอ่านประโยคที่ก ำหนด เขียนคำกริ ยาที่ถูกต้อง และเขียน 5 ประโยคเกี่ยวกับข้อมูลส่ วนตัวและกีฬา
- ฝึ กเลือกกีฬา 1 ชนิด จับกลุ่มผลัดกันถามคำถาม Yes/No 10 คำถาม เพื่อคาดเดาว่ากีฬานั้นคือกีฬาใด
- ฝึ กเขียนรู ปกริ ยาที่ถูกต้องลงในช่องว่าง
- ฝึ กฟังแผ่นซีดีการออกเสี ยงตัวอักษร a ในแบบต่าง ๆ และจัดกลุ่มคำศัพท์ที่ก ำหนดตามรู ปแบบ
การออกเสี ยงที่ได้ฟัง
- ฝึ กอ่านบทสนทนา และเขียนประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 และ Question tag ให้ถูกต้อง
- ฝึ กอ่านบทความในกิจกรรม Reading Club 5 และเลือกชื่อบทความที่เหมาะสมที่สุด
- ฝึ กคัดลอกตารางลงในสมุดแบบฝึ กหัด และเขียนคำศัพท์ลงในตารางให้สมบูรณ์
- ฝึ กเขียนว่าประโยคที่ก ำหนดให้อยูใ่ นย่อหน้าใด
- ฝึ กเลือกประโยคที่ถูกต้องที่สุดเติมลงในประโยคให้สมบูรณ์
- ฝึ กทำแบบฝึ กหัดเพิ่มเติมใน World Club Activity Book 2: Module 5 Spor
2. วิธีการและเครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู ้
2.1 วิธีการประเมินผลการเรี ยนรู ้ 2.2 เครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู ้
1) การทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน 1) แบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน
2) การทดสอบทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน 2) แบบประเมินผลทักษะด้านการฟัง พูด
และเขียน อ่าน และเขียน
3) การประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น 3) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม รายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม

4) การวัดและประเมินผลด้านคุณธรรม 4) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรี ยน
จริ ยธรรม และค่านิยม 5) แบบทดสอบประจำหน่วย
5) การวัดและประเมินผลด้านความรู ้โดย 6) แบบประเมินผลตนเองของนักเรี ยน
ใช้แบบทดสอบ
6) การประเมินผลตนเองของนักเรี ยน

3. สิ่งที่ม่ ุงประเมิน
3.1 ความเข้าใจ 6 ด้าน ได้แก่ การอธิบาย การชี้แจง การแปลความและตีความ การประยุกต์ใช้
ดัดแปลง และ นำไปใช้ การมีมุมมองที่หลากหลาย การให้ความสำคัญในความรู ้สึกของผูอ้ ื่น และ
การรู ้จกั ตนเอง
3.2 สมรรถนะสำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการสื่ อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทกั ษะชีวิต และ
การใช้เทคโนโลยี
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริ ย์ ซื่อสัตย์สุจริ ต มีวินยั ใฝ่ ความรู ้ อยูอ่ ย่าง
พอเพียง มุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเป็ นไทย มีจิตสาธารณะ
165

ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 30 Lead-in เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 31 How Sporty Are You? เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 32 Champions เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 33 Wacky Sports เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 34 Armchair Sport เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 35 Fluency เวลา 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ 36 Consolidation เวลา 1 ชัว่ โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 30-36


สาระการเรียนรู้ ภาษาต่ างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5
Module 5 Sport เวลา 12 ชั่วโมง

จุดประสงค์การ
เรียนรู ้
 ฟัง พูด อ่าน และเขียนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาได้ (K, P)
 พูดบรรยาย/สอบถาม และแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับกีฬาได้ (K, A, P)
 ใช้รูปกริ ยาในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 (Conditional sentences 2) ได้ (K, P)
 ใช้ประโยคคำถามแบบ Question tags ได้ (K, P)
 ใช้ท ำนองเสี ยงกับประโยคคำถามแบบ Question tags ได้ (K, P)
 ออกเสี ยงคำศัพท์ที่มี a เป็ นเสี ยง ได้(K, P)
 แสดงบทบาทสมมุติและปฏิบตั ิกิจกรรมทางภาษาได้ (K, A, P)

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
166

ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
 ประเมินการฟัง พูด อ่าน  ประเมินพฤติกรรมใน  ประเมินพฤติกรรมใน
และเขียนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ การทำงานเป็ นรายบุคคลใน การทำงานเป็ นรายบุคคลและ
กีฬา ด้านความมีวินยั ความใฝ่ เป็ นกลุ่มในด้านการสื่ อสาร
 ประเมินการพูดบรรยาย/ เรี ยนรู ้ ฯลฯ การคิด การแก้ปัญหา ฯลฯ
สอบถาม และแสดง  มีเจตคติที่ดีต่อการเรี ยน
ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับกีฬา ภาษาอังกฤษ
 ประเมินการใช้รูปกริ ยาใน
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2
(Conditional sentences 2)
 ประเมินการใช้ประโยค
คำถามแบบ Question tags
 ประเมินการใช้ท ำนองเสี ยง
กับประโยคคำถามแบบ
Question tags
 ประเมินการออกเสี ยง
คำศัพท์ที่มี a เป็ นเสี ยง

 ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคล เป็ นคู่ หรื อเป็ น
กลุ่ม
เนือ้ หาทางภาษา
Reading: a sports questionnaire; a magazine articles; a TV guide; a student
composition
Listening: teenagers talking; an interview; TV commentaries
Speaking: sports; famous sports people; your favourite sport
Writing: a school magazine article
Grammar: conditional (type 2); question tags; Test Yourself
Vocabulary: sports; adverbs of manner; sport equipment
Pronunciation: contractions; intonation to express uncertainty; the letter ‘a’

สื่ อการเรียนรู้
หนังสื อเรี ยน World Club Students' Book 2
แบบฝึ กหัด World Club Activity Book 2: Module 5 Sport
167

แผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง
แนวทางการบูรณาการ
ภาษาไทย  บอกความหมายของคำศัพท์และประโยคที่เกี่ยวข้องกับกีฬา
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 และประโยคคำถามแบบ Question tags
ศิลปะ  แสดงบทบาทสมมุติ และดูภาพประกอบ
พลศึกษาและสุ ขศึกษา  เรี ยนรู้วฒั นธรรมด้านกีฬาของเจ้าของภาษาและเปรี ยบเทียบกับ
วัฒนธรรมด้านกีฬาของไทย
คุณธรรม จริยธรรม และค่ านิยม
1. ความมีระเบียบวินยั
2. ความใฝ่ เรี ยนรู้
3. ความรับผิดชอบ
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 30
Lead – in
Module Objective
- ครู อ่านและอธิบายวัตถุประสงค์ของหน่วยการเรี ยนให้นกั เรี ยนฟังจนแน่ใจว่านักเรี ยน
เข้าใจดีวา่ ภาระงานสุ ดท้ายจะต้องมีการเตรี ยมการล่วงหน้า
กิจกรรมที่ 1: Keyword (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพกีฬาประเภทต่าง ๆ 4 รู ปและผังที่ก ำหนดให้ในหนังสื อหน้า 65 แล้ว
จับคู่รูปภาพกับกีฬา ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า

เฉลย: Students; Book ข้ อ A หน้ า 65


hang gliding gymnastics rugby windsurfing

- อธิบายให้นกั เรี ยนเข้าใจว่า การจัดทำผังกีฬานั้นจะพิจารณาลักษณะการเล่นกีฬา เช่น กีฬา


ทางน้ำ กีฬาผจญภัย กีฬาที่เล่นด้วยลูกบอล หรื อกีฬาประเภทอื่น ๆ และจัดประเภทแยกย่อย
ออกเป็ นเล่นคนเดียว เป็ นคู่ หรื อเป็ นทีม
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกผังที่ก ำหนดลงในสมุด แล้วแยกประเภทกีฬาในกรอบลงภายใต้หวั ข้อที่
เห็นว่าเหมาะสม ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับคำศัพท์ครู อธิ บายให้เข้าใจ
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่าและให้อาสาสมัครออกไปเขียนบนกระดาน
กิจกรรมที่ 2: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ครู ให้นกั เรี ยนพิจารณาคำถามและคำตอบตามตัวอย่างที่ก ำหนดให้
A: Which sports have you played?
B: I’ve played football, basketball and tennis.
- ให้นกั เรี ยนทำงานเป็ นคู่และใช้ค ำศัพท์ในกรอบถามเพื่อนเพื่อจะได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติม
- เมื่อนักเรี ยนปฏิบตั ิกิจกรรมเสร็ จแล้ว ใช้ค ำถามเดียวกันนี้ถามเพื่อนคนอื่นในชั้นเรี ยน
168

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 31
Lesson 25: How Sporty Are You?
กิจกรรมที่ 1: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านแบบสอบถามในหนังสื อเรี ยนหน้า 66 แล้วตอบคำถามลงในสมุด โดยยังไม่
ต้องตรวจคะแนน
กิจกรรมที่ 2: Speaking (กิจกรรมคู่)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ แล้วให้แต่ละคู่ผลัดกันสัมภาษณ์โดยใช้ค ำถามจากแบบสอบถาม
ในหนังสื อหน้า 66
- นักเรี ยนควรจะคำนวณคะแนนของเพื่อนออกมา โดยใช้เกณฑ์ที่อยูด่ า้ นล่างแบบสอบถาม
กิจกรรมที่ 3: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู บอกนักเรี ยนว่าจะให้ฟังแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงเกี่ยวกับ Sheila และ Alan ซึ่ งทั้ง 2 คน
นี้จะตอบแบบสอบถามเดียวกัน
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงในขณะเดียวกันให้นกั เรี ยนจดบันทึกเกี่ยวกับคำตอบของ
SHEILA:
Sheila และ YouAlan neverแล้know. Question three. TheเปิOlympics
วคำนวณคะแนนออกมา ดโอกาสให้areนกั taking place
เรี ยนเปรี onยthe
ยบเที other บ
บคำตอบกั
sideเพืof่อนtheๆ world. Do you a) stay up all night to watch everything? b) read the results in
the morning newspaper? or c) yawn when friends talk about it? For me, definitely ‘a’, I
TAPESCRIPT
would stay up and watch everything. What about you?
ListenEr,
ALAN: to Sheila
if they wereand Alan.
on theWrite
other down
side oftheir answers
the world, I’d toreadthethequestionnaire
results in the and
calculate
morning theirI’mpoints.
paper. quite interested, I suppose.
SHEILA:Next
SHEILA: Hey,question.
Alan. Come Yourovernewand look atorthis.
boyfriend It’s a questionnaire
girlfriend wants to playabout tennissport.
on Let’s
do it. Do you a) agree immediately and practise every day? b) go, but say you’re
Saturday.
notALAN:
very good? Leave or c)mesayalone.
you’reI’mnotbusy with this
interested andprogram.
suggest going to the cinema?
SHEILA:
ALAN: Well, ifCome on, justtofive
she wanted playminutes,
tennis, then you canpractise
I wouldn’t go backevery to your
day,computer.
but I’d go,
ALAN:
yea, sure. AndOh,you? all right.
SHEILA:TheOK,same
SHEILA: firstforquestion,
me, ‘b’.It’s a cold,5.wetTheSunday
Question sportsafternoon. Do youtoa)the
teacher is talking go class
out and
playorganising
about a game? b)awatch sportssport
day. on
DoTV? you or
a) c) read a book?
volunteer for every event? b) choose one
ALAN:
event you’dGolikeouttoand playora c)game?
be in? hide No way!a big
behind If itstudent?
was cold and wet I’d probably stay in
and read
ALAN: a book.
Hide, definitely hide!
SHEILA:Yea,
SHEILA: Er, best
I think
thingI’dforrelax
you,and watchuseless!
you’re the sportMe,onI’dTV. Question
choose two. The
one event World
I’d like to
beCupin. So,Final
‘c’isforonyou,
TV.‘b’ Doforyoume.a) watch
Now, lastthe match?
question.b)Yourstudysports
and listen
teacherto the matchyou
chooses on the
to radio?
run inorthec) 1500
go to metres
your bedroom
race. Ha,and play onthat!
imagine yourDocomputer?
you a) practiseWell,running
I know what
for a you
would
week do! the
before You’d race?go tob) your
just dobedroom
your bestwithandyour
notcomputer.
worry about winning? c) phone the
ALAN:
school Exactly,
on the day and muchsaymore
you areinteresting.
ill?
SHEILA:
ALAN: Mm,For me,sports
if the it depends.
teacherIfchose
Englandme,was playing,
he would be I’d watch
crazy! Er,the match. I’d phone
I suppose
andALAN:
say I was Huh,ill.they’d never get to a final!
SHEILA: I knew you would say that. Me, I would do my best and not worry about
winning. Right, let’s look at the points…
169

เฉลย : Students’ Book ข้ อ C หน้ า 66


ALAN: 1 c 2 c 3 b 4 b 5 c 6 c (6 points)
SHEILA: 1 b 2 a 3 a 4 b 5 b 6 b (22 points)
- ครู เปิ ดแผ่นซีดีอีกครั้งหนึ่ง แล้วตรวจคำตอบ

Language Focus: Conditional 2


- ลักษณะของประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 คือ If + past simple tense สำหรับเงื่อนไข และ
would + infinitive สำหรับผล ตัวอย่าง If I had money, I would buy a horse. จะใช้
If/could + infinitive แทนก็ได้ เช่น If I could understand him, I would try to help. ถ้า verb
to be อยูใ่ นรู ป past simple tense ของอนุประโยคเงื่อนไขจะใช้ were สำหรับทุกบุรุษ
อย่างไรก็ตาม มีเจ้าของภาษาบางคนใช้ was สำหรับบุรุษที่ 1 และ 3 เอกพจน์ ปัญหาที่อาจ
จะเกิดขึ้นได้ในการแต่งประโยคเงื่อนไขที่ใช้ tense นี้กค็ ือ
170

a. นักเรี ยนมักจะแต่งประโยคที่แสดงเงื่อนไขซ้อนกัน 2 ประโยค เช่น If I would run


better, I would take part in the race.
b. นักเรี ยนมักจะแต่งประโยคที่เรี ยงลำดับ tense ในแต่ละประโยคสลับกันเสมอ เช่น
If I would run better, I took part in the race.
c. นักเรี ยนมักจะแต่งประโยคใช้ present simple tense เป็ นประโยคเงื่อนไขเสมอ เช่น
If I run better, I would take part in the race.
กิจกรรมที่ 4: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเขียนหมายเลข 1–5 ในสมุด แล้วอ่านข้อความทั้ง 2 ส่ วนของประโยคใน
หนังสื อครู อาจทำข้อ 1 ให้ดูเป็ นตัวอย่าง
- ให้นกั เรี ยนฟังบทสนทนาในแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงระหว่าง Sheila และ Alan อีก
ครั้ง แล้วให้จบั คู่โดยเริ่ มต้นประโยคด้วยตัวเลข ตามด้วยตัวอักษร
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย : Students’ Book ข้ อ D หน้ า 67
1c 2a 3e 4b 5d

กิจกรรมที่ 5: Learning to Learn (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านประโยคในกรอบ Exercise E ในหนังสอ ื เรียนหน ้า 67 แล้ว
บอกว่าสถานการณ์เป็ นจริ งหรื อเป็ นสมสุ ติข้ ึน นักเรี ยนควรจะเข้าใจว่าแต่ละประโยคเป็ น
เรื่ องที่สมมุติข้ ึนเท่านั้น ประโยคเงื่อนไขที่มีใจความบอกถึงเหตุการณ์สมมุติจะเรี ยกว่า
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 ( Imaginary conditional) แล ้วถามนักเรียนว่า
ประโยคเงื่อนไขเช่นนี้ใช้ tense ใด นักเรี ยนควรสังเกตและบอกได้วา่ เป็ น tense ใดโค
ยอ่านจากคำอธิบายและแบบฝึ กหัดที่ผา่ นมา

เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 67


The situations are all imaginary
Condition: past simple or continuous
Consequence: conditional (would + verb)

กิจกรรมที่ 6: Speaking (กิจกรรมคู่)


- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ พิจารณาตัวอย่าง โดยมุ่งที่รูปแบบการตอบและ tense ที่ใช้
- ให้นกั เรี ยนผลัดกันถามคำถามคล้ายโดยใช้ tense เดียวกันสำหรับสถานการณ์ 2 – 5 ใน
ื เรียนหน ้า 67
Exercise F ในหนังสอ
- ครู ตรวจสอบดูวา่ นักเรี ยนใช้ tense ได้ถูกต้องสำหรับประโยคเงื่อนไขและประโยคผลหรื อ
ไม่ แล้วตรวจคำตอบบนกระดาน
กิจกรรมที่ 7: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
171

- ให้นกั เรี ยนฟังแผ่นซีดีและเขียนประโยคทุกประโยคตามที่ได้ยนิ


- ให้นกั เรี ยนนับจำนวนคำในแต่ละประโยค ย้ำกับนักเรี ยนว่ารู ปย่อ เช่น I’d ให้ถือเป็ น 2 คำ
- ตรวจคำตอบพร้อมกันทั้งชั้น

TAPESCRIPT
Listen to the sentences and write them down.
How many words are in each sentence?
1 If I had enough money, I’d go to the match. 4 If didn’t feel ill, I’d go out.
2 If you went, you’d enjoy it. 5 He’d fall if he went climbing.
3 You’d win if you tried harder.

เฉลย: Students’ Book ข้ อ G หน้ า 67


1=11 2=7 3=7 4=10 5=7

เฉลย: Activity Book (Lesson 25) หน้ า 43


A 1 knew, would tell 2 didn’t have, would walk 3 worked, would get
4 didn’t talk, would learn
B 2 Where would you go if you could travel anywhere?
3 What would you do if you met the Hypnoth?
4 What would you do if you were invisible?
5 How would you feel if your favourite team selected you?
6 What would say if you saw somebody dropping litter in the street?
C 2 athletics (no ball) 3 cycling (not in water) 4 rugby (shape of ball) or
golf (not a team game)
D 2 karate 3 rugby 4 gymnastics 5 volleyball 6 swimming
E 1 How many 2 any 3 How much 4 some, a lot 5 a bit/a lot

กิจกรรมเสริม
Timetables: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนทำงานเป็ นรายบุคคลและออกแบบตารางเรี ยนฉบับสมบูรณ์ ตามความคิดของ
นักเรี ยน
- ให้นกั เรี ยนอภิปรายตารางเรี ยนของเขาเป็ นกลุ่มหรื ออภิปรายทั้งชั้น โดยใช้ประโยคเงื่อนไข
เช่น I wouldn’t do Maths ever!
172

I would have art on Friday afternoons.

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 32
Lesson 26: Champion
Topic Focus
- แชมเปี ยนที่พดู ถึงในบทเรี ยนนี้ ควรเป็ นผูท้ ี่รู้จกั กันดี ตัวอย่าง เช่น Michael Jordan
เป็ นนักบาสเกตบอลผูย้ ิง่ ใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในวงการบาสเกตบอล Martina Hingis
เริ่ มมีชื่อเสี ยงเมื่ออายุ 16 ปี และได้กลายเป็ นนักเทนนิสหญิงอันอับ 1 ของโลกในเวลาอัน
รวดเร็ ว Michelle Akers เป็ นผูท้ ำคะแนนนำในสหรัฐอเมริ กาในฐานะเป็ นนักฟุตบอลหญิง
ระดับ แชมป์ โลก Michael Johnson เป็ นนักวิ่งผูย้ งิ่ ใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง และ
Dennis Bergkamp เป็ นนักฟุตบอลผูย้ ิง่ ใหญ่ที่สุดในยุคนี้ เป็ นต้น
กิจกรรมที่ 1: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปนักกีฬาที่มีชื่อเสี ยง 4 คน และอ่านคำบรรยายใต้ภาพในหนังสื อเรี ยนหน้า 68
- ให้อ่านชื่อบุคคลทั้ง 4 และจับคู่กบั รู ปภาพให้ถูกต้อง แล้วตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปาก
เปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 68
1 Michelle Akers 2 Michael Jordan 3 Martina Hingis 4 Michael Johnson

กิจกรรมที่ 2: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)


- ให้นกั เรี ยนคิดถึงกีฬาที่นกั เรี ยนโปรดปรานและนักกีฬาที่นกั เรี ยนชื่นชอบ
- ครู ฝึกพูดส่ วนแรกของประโยคพร้อมกับนักเรี ยน 2–3 ครั้ง เช่น If I could be a champion,

- ครู สุ่มเรี ยกนักเรี ยนให้ช่วยแต่งประโยคให้สมบูรณ์ จากนั้นให้นกั เรี ยนผลัดกันรี ยกเพื่อนคน
อื่น ๆ ลองแต่งประโยคจนครบทุกคน พยายามทำให้จงั หวะในการออกเสี ยงพูดฟังดูมีชีวิต
ชีวา
กิจกรรมที่ 3: Speaking (กิจกรรมคู่)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ หรื อกลุ่มย่อย แล้วอ่านประโยคตัวอย่างพร้อมกับนักเรี ยน
- ให้นกั เรี ยนย้อนกลับไป Lead – in ในหนังสื อเรี ยนหน้า 65 อีกครั้ง เพื่อจับใจความสำคัญ
- ให้เวลาประมาณ 5 นาที สำหรับกิจกรรมส่ วนนี้
- เมื่อนักเรี ยนปฏิบตั ิกิจกรรมเสร็ จแล้ว ให้ยนื ขึ้นทีละคน และบอกให้ท้ งั ชั้นทราบถึงสิ่ งหนึ่ง
ที่เกี่ยวกับคูข่ องตน เช่น Maria thinks Victor is the best footballer. ครู ย ้ำ
ให้ออกเสี ยง s ท้ายคำให้ถูกต้อง เช่นในคำว่า thinks เป็ นต้น
กิจกรรมที่ 4: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ถามนักเรี ยนว่ารู้จกั Dennis Bergkamp ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพหรื อไม่ และบอก
ว่านักเรี ยนจะได้อ่านข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับนักฟุตบอลคนนี้
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกเส้นช่วงเวลาลงในหนังสื อเรี ยนหน้า 69 ลงในสมุด
173

- ให้อ่านเนื้อเรื่ องในหนังสื อเรี ยนหน้า 69 อย่างรวดเร็ ว เพื่อหาข้อมูลที่จะเติมลงในเส้นช่วง


เวลาให้สมบูรณ์ และเตือนให้จดบันทึกไปด้วย
- ครู ตรวจสอบการทำกิจกรรมและให้นกั เรี ยนที่มีปัญหาทางคำศัพท์คน้ หาความหมายจาก
Mini–dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101–110
- เมื่อนักเรี ยนทำกิจกรรมเสร็ จแล้ว ให้ตรวจสอบคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า และให้อาสา
สมัครออกไปเขียนคำตอบบนกระดาน
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 69
1กิจwas born่ 5:2Writing
กรรมที made his(กิdebut for Ajaxคfirst
จกรรมรายบุ คล) team 3 was top scorer in Holland
4- บอกให้
left Ajaxนกัand
เรี ยjoined Inter Milan
นอ่านคำถามข้ 5 moved to Arsenal.
อ 1–4 Exercise E ในหนังสื อเรี ยนหน้า 69
- บอกให้นกั เรี ยนอ่านบทความเกี่ยวกับ Dennis Bergkamp อีกครั้งหนึ่ง ให้หาคำ
ตอบสำหรับคำถามแล้วเขียนลงในสมุด
- ตรวจคำตอบด้วยการตอบปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 69
1 In Amsterdam. 2 In 1992.
3 In 1994. 4 Because he did not like the defensive style of Italian football.
กิจกรรมที่ 6 Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูค ำกริ ยา 4 คำ และคำจำกัดความใน Exercise F ในหนังสื อเรี ยนหน้า 69
คำกริ ยาเหล่านี้ปรากฏอยูใ่ นเนื้อเรื่ องเกี่ยวกับ Dennis Bergkamp และมีค ำจำกัดความ
เพียงข้อเดียวถูกต้องตามเนื้ อเรื่ อง
- ครู อ่านข้อแรกพร้อมกับนักเรี ยนเพื่อเป็ นตัวอย่าง ให้บอกว่าคำกริ ยาอยูท่ ี่ใดในเนื้ อเรื่ อง
แล้วค้นหาความหมายจากเนื้ อเรื่ อง
- ให้เวลาพอสมควรในการทำงาน แล้วตรวจสอบคำตอบ
เฉลย: Students’ Book ข้ อ F หน้ า 69
1b 2b 3b 4b

กิจกรรมที่ 7: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องในหนังสื อเรี ยนหน้า 69 อีกครั้ง และหาคำ 5 คำที่มีความหมายว่า
ดีมาก แล้วเขียนลงในสมุด
- ตรวจแก้ค ำตอบด้วยการตอบปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ G หน้ า 69
talented, special, incredible, successful, superb

กิจกรรมที่ 8: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)


174

- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน แล้วอ่านประโยคตัวอย่างใน Exercise H


ใน
หนังสื อเรี ยนหน้า 69
- ให้นกั เรี ยนผลัดกันคิดหาประโยคเกี่ยวกับแชมเปี ยนและทีม แล้วให้ผเู ้ ล่นคนอื่น ๆ ถาม
คำถามสูงสุ ดไม่เกิน 6 คำถาม เพื่อจะค้นหาคำตอบว่าผูท้ ี่ถูกพูดถึงคือใคร คำตอบให้ตอบ
เพียง yes หรื อ no หรื อ sometimes เท่านั้น
กิจกรรมเสริม
True/False: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเขียนประโยคคนละ 1 ประโยคลงในกระดาษ โดยเขียนชื่อกีฬา พร้อมคำ
แนะนำที่ดีและไม่ดีเกี่ยวกับสิ่ งที่จะทำก่อนเริ่ มทำกิจกรรมนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น
You must drink some cold water before running.
You should wear comfortable shoes before walking. เป็ นต้น
- ครู เก็บกระดาษจากนักเรี ยน แล้วอ่านดัง ๆ ให้นกั เรี ยนทั้งชั้นบอกว่าประโยคที่เขียนมา
นั้นถูกหรื อผิด
Mime game: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ น 4 กลุ่ม ให้นกั เรี ยนแสดงท่าทางเลียนแบบการเล่นกีฬาประเภทต่าง ๆ
และผลัดกันแสดงท่าทางเพื่อให้สมาชิกคนอื่น ๆ ในกลุ่มทาย
- เมื่อนักเรี ยนรู้วา่ เพื่อนกำลังแสดงท่าทางอะไร จะต้องตรวจสอบข้อมูลด้วยการตั้งคำถาม
โดยใช้ Question tag ตัวอย่างเช่น A: You’re throwing a ball, aren’t you?
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 26) หน้า 44
เฉลย: Activity Book (Lesson 26) หน้ า 44
A open
B 1 came back, went on
2 grew up
3 looking for, found out
C 1 on 18th October 2 in Czechoslovakia 3 in 1966 4 At the age of
5 in 1975 6 in the summer 7 from 1982 8 until 1987
D1T 2 F (1956-75) 3T 4 F (1982-87) 5 T

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 33
Lesson 27: Wacky Sports
Topic Focus
- ก่อนเริ่ มบทเรี ยน ครู อธิบายความหมายของคำว่า wacky (แปลกประหลาด, เพี้ยน, ไร้
เหตุผล) แล้วถามนักเรี ยนว่ารู้จกั กีฬาประเภท wacky sports อื่น ๆ บ้างไหม
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมรายบุคคล)
175

- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพและอ่านคำบรรยายใต้ภาพใน Exercise A ในหนังสอ ื เรียน


หน ้า 70 ครู ช่วยอธิ บายคำศัพท์
- หาอาสาสมัครออกมาพูดหน้าชั้นเรี ยนว่า อยากลองเล่นกีฬาชนิดใด พร้อมทั้งบอกเหตุผล
ว่าเหตุใดจึงอยากลองเล่นกีฬาประเภทนี้
กิจกรรมที่ 2: Listening (กิจกรรมรายบุคคล) A
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกแบบฟอร์มใบสมัครสมาชิกของชมรม ในหนังสอ ื เรียนหน ้า
70 ลงในสมุด
- บอกให้นกั เรี ยนฟังแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงและกรอกแบบฟอร์มใบสมัคร
- ครู ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า แล้วให้นกั เรี ยนออกมาเขียนบนกระดาน
TAPESCRIPT
Listen to the conversation and complete the form.
MAN: OK, can I go through the form with you and have a chat about it?
GIRL: Yes, sure.
MAN: Right. Your full name’s Christine Corkhill, isn’t it?(falling)
GIRL: That’s right.
MAN: Ah, you aren’t Colin’s sister, are you? (rising)
GIRL: Yes, I am.
MAN: He was in the skateboarding final at the weekend. He won, didn’t he?
(rising)
GIRL: Yes, he never stops talking about it.
MAN: And your address, er , you don’t live near here, do you? (falling)
GIRL: No, there isn’t a club like this near us.
MAN: And, er, date of birth, 21st of March 1986, so you’re under sixteen aren’t
you? (falling)
GIRL: Yes.
MAN: So that means you get junior membership – it’s cheaper. And you want to
do bungee jumping and skateboarding, don’t you? (falling)
GIRL: No, snowboarding, not skateboarding!
MAN: Oh yes, snowboarding, right, that’s good fun. Now, you want coaching
sessions in snowboarding, so that means we’ll have to organise those
classes for…

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 70


1 Date of birth: 21st of March 1986
2 Sports: bungee jumping and snowboarding
3 Coaching sessions: snowboarding
176

Language Focus: Question tags


- ประโยคบอกเล่าจะมี Question tags เป็ นปฏิเสธ แต่ประโยคปฏิเสธจะมีค ำถามห้อยท้าย
เป็ นบอกเล่าปัญหาที่มกั เกิดขึ้นก็คือ
1) นักเรี ยนเรี ยนรู ปแบบหนึ่งแล้วมักเอาไปใช้กบั แบบอื่นด้วย (เช่น เมื่อเรี ยนการใช้ isn’t it?
ก็จะนำไปใช้กบั ทุกกรณี )
2) นักเรี ยนมักจะเอาคำกริ ยาใน Question tags (เช่น You saw the match yesterday,
didn’t
see?)
3) นักเรี ยนมักจะใช้ tag ปฏิเสธกับประโยคปฏิเสธ และ tag บอกเล่ากับประโยคบอกเล่า
4) นักเรี ยนมักจะเอาคำนามมาไว้ที่ tag (เช่น My mother joined the sports club, didn’t
my mother?)
กิจกรรมที่ 3: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านส่ วนประโยคและส่ วน question tags ในหนังสื อเรี ยนหน้า 71
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง นักเรี ยนนำประโยคทั้ง 2 ส่ วนมาต่อกันให้สมบูรณ์
- ตรวจสอบด้วยการเฉลยปากเปล่า ครู อ่านส่ วนแรกแล้วให้นกั เรี ยนพูด question tags
พร้อมกัน
- ลองถามนักเรี ยนว่า นักเรี ยนจะบอกได้ไหมว่า question tags เติมเข้ามาเพื่ออะไร (คำตอบ
คือ เพื่อตรวจสอบว่าที่พดู ไปนั้นถูกต้องไหมหรื อสิ่ งต่าง ๆ เป็ นไปอย่างนั้นหรื อไม่
เป็ นต้น)
- ให้พิจารณาแบบฝึ กหัดอีกครั้ง แล้วถามนักเรี ยนว่า นักเรี ยนดูออกไหมว่า ใช้ question
tags แบบใด
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกและเติมกฎทางไวยากรณ์ให้สมบูรณ์ลงในสมุด จากนั้นให้อาสาสมัคร
ออกไปอ่านคำตอบดัง ๆ ให้เพื่อนฟัง
กิจกรรมที่ 4: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเติม question tags ที่ทา้ ยแต่ละประโยคให้ถูกต้องลงในสมุด
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า ขณะที่นกั เรี ยนอ่านประโยคคำตอบให้บอกกฎทาง
ไวยากรณ์ดว้ ย
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 71
1 doesn’t she? 2 isn’t he? 3 did they? 4 can he? 5 weren’t you? 6 has he?

กิจกรรมที่ 5: Listening (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)


- ครู สาธิตการออกเสี ยงระดับขึ้นสู งและลงต่ำให้ดู และตรวจสอบว่านักเรี ยนได้ยนิ ความ
แตกต่างหรื อไม่ โดยยกตัวอย่างการออกเสี ยงทั้ง 2 ตัวอย่าง ให้นกั เรี ยนฟังเป็ นการเปรี ยบ
เทียบ c]h;ให้นกั เรี ยนออกเสี ยงตามครู พร้อมกัน ครู พดู ให้ชดั เจนหรื ออธิ บายให้ฟังว่า
question tags ทำหน้าที่ 2 ประการ คือ 1) เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เรารู ้แล้วว่าจริ งหรื อไม่
177

โดยใช้ระดับเสี ยงลงต่ำ 2) เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เราไม่ค่อยแน่ใจจึงใช้ระดับเสี ยงขึ้นสู ง


ตอนท้าย
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง แล้วให้นกั เรี ยนบอกว่า question tag แต่ละข้อต้องการใช้
การออกเสี ยงแบบใด จากนั้นครู ตรวจสอบคำตอบโดยเปิ ดแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงให้
นักเรี ยนฟังทีละประโยค แล้วให้นกั เรี ยนพูดตาม

TAPESCRIPT/Answers:
Listen and repeat examples of people checking information.
1 Your full name’s Christine Corkhill, isn’t it? (falling)
2 Ah, you aren’t Colin’s sister, are you? (rising)
3 He won, didn’t he? (rising)
4 And your address, er, you don’t live near here, do you? (falling)
5 So you’re under sixteen, aren’t you?(falling)
6 And you want to do bungee jumping and skateboarding, don’t you? (falling)

กิจกรรมที่ 6: Speaking (กิจกรรมคู่)


- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ ให้นกั เรี ยนคัดลอกใบสมัครชมรม The Wacky Zone
จาก Exercise B อีกครั้ง โดยเติมรายละเอียดของตนเองลงไป
- ให้แต่ละคู่แลกเปลี่ยนใบสมัครโดยผลัดกันเป็ นผูส้ มัครและผูจ้ ดั การชมรมกีฬา
- ผูจ้ ดั การตรวจข้อมูลทุกข้อโดยใช้ Question tags และผูส้ มัครตอบคำถามโดยใช้ค ำตอบ
แบบสั้น
- ครู ตรวจสอบการปฏิบตั ิกิจกรรมรอบ ๆ ชั้นเรี ยน เพื่อดูวา่ นักเรี ยนใช้ Question tags ถูก
ต้องหรื อไม่
กิจกรรมที่ 7: Dictionary Work (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนช่วยกันคิดประโยคบอกเล่า 6 ประโยคไม่ใช้ Question tags
- ดูตวั อย่างประโยคจาก Exercise G ในหนังสื อเรี ยนหน้า 71 ครู สาธิ ตตัวอย่างกับนักเรี ยน
1 คน
A: You don’t like football ...
B: ... do you?
B: Last week she joined the club ...
C: ... didn’t she?
- ผลัดกันพูดประโยค โดยเริ่ มจากประโยคบอกเล่า จากนั้นจึงให้เพื่อนเสริ มประโยคคำถาม
แบบ Question tags ให ้ถูกต ้อง
กิจกรรมที่ 8: Dictionary Work (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนค้นหาคำศัพท์ brave และ bravery ใน Mini–dictionary ในหนังสื อ
เรี ยนหน้า 101–110
ครู ช้ ีแจงให้ชดั เจนว่าคำแรกเป็ นคำศัพท์ ส่ วนคำที่ 2 เป็ นคำนาม ครู ถามนักเรี ยนว่า ข้อ 1
ต้องการคำประโยคใด เมื่อทุกคนเข้าใจกิจกรรมแล้ว ให้นกั เรี ยนปฏิบตั ิกิจกรรมด้วยตนเอง
178

เฉลย: Students’ Book ข้ อ H หน้ า 71


1 bravery (noun) 2 deadly (adjective) 3 survivors (noun)
4 development (noun) 5 healthy (adjective) 6 lose (verb – infinitive form)
7 noises (noun) 8 childhood (noun)
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 27) หน้า 45
Activity BookTAPESCRIPT:
Activity Book, Lesson 27, ข้ อ E หน้ า 45
Listen to the description of an unusual sport and correct the notes.
I’m going to talk about a very unusual sport called cycle ball. Not many people play it,
but it’s very good fun.
You play it on a small indoor football field. In each team there are only two players. To
play you need a good bicycle, a football and two goals – the same as in football – but
you move the ball with the front wheel of your bicycle. The winners are the team that
scores the most goals. The game lasts for half an hour. The best players come from
Germany, Austria and Czechoslovakia.
เฉลย: Activity Book (Lesson 27) หน้ า 45
A 2 doesn’t she? 3 isn’t it? 4 hasn’t it? 5 can’t you? 6 wasn’t she? 7 didn’t he?
8 aren’t there?
B 2 is 3 went 4 doesn’t like 5 didn’t win 6 tries 7 was 8 weren’t
C Positive: incredible, superb, spectacular, brilliant, special
Negative: awful, terrible, weak
D 1can, can’t , can, mustn’t
2have to, has to, mustn’t
E Place – small football field
Number in team – two
Length of game – half an hour
Best players – from Germany, Austria and Czechoslovakia.

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 34
Lesson 28: Armchair Sport
Topic Focus
- ถามนักเรี ยนว่า armchair sport หมายถึงอะไร ถ้าตอบไม่ได้ ครู อธิ บายให้ฟัง (คำตอบคือ
การดูรายการกีฬาทางโทรทัศน์เป็ นเวลานานหลายชัว่ โมง)
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
179

- ถามนักเรี ยนว่า มีใครดูรายการกีฬาทางโทรทัศน์หรื อไม่ ถ้าดูให้ถามว่ารายกายที่


โปรดปรานคือรายการใด ครู เขียนคำตอบลงบนกระดาน
- ถามนักเรี ยนทั้งชั้นว่า กีฬาที่โปรดปรานของนักเรี ยนคืออะไร แล้วเขียนรายการลงไปเพิ่ม
เติม
- ให้นกั เรี ยนแยกประเภทกีฬา เรี ยงตามลำดับความชอบ
กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านโปรแกรมโทรทัศน์ในหนังสื อเรี ยนหน้า 72 และหาข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล
4 คนที่กล่าวถึงใน Exercise B ข้อ 1–4
- จับคู่บุคคลทั้ง 4 ให้ตรงกับรายการโทรทัศน์ และตรวจสอบคำตอบด้วยการเฉลยปาก
เปล่าพร้อมกันทั้งชั้น
เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 73
1 ITV 6.35: Golf 3 BBC1 2.00: The Clothes Show
- ให้นกั เรี ยนอ่านรายการโทรทัศน์อีกครั้ง แล้วให้เลือกว่า 2 รายการที่อยากดูคืออะไร
2 Channel 4 4.40: Scottish Eye 4 BBC2 3.15: Way West
กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูตารางเวลาของรายการ แล้วดูวา่ แต่ละข้อมีความเป็ นไปได้หรื อไม่
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่าพร้อมกันทั้งชั้น
TAPESCRIPT:
เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 73
Which
1 impossible of the events in the TV Guide are they describing?
2 possible 3 impossible
Commentator 1:
กิจGabriela
กรรมที่ 4: Sabatini slowly
Listening (กิจwalks over toคคล)
กรรมรายบุ serve .... she bounces the ball nervously. This is
- aให้vital
นกั เรีpoint
ยนฟัfor her .... she ฬcan’t
งคำบรรยายกี afford to lose
าจากรายการแข่ งขันthis
กีฬservice
า 2 เหตุgame.
การณ์ทShe serves....
นจากแผ่a นstrong
ี่ต่างกั ซี ดี
backhand return from Sanchez ... Sabatini
ย้ำเตือนนักเรี ยนว่า นักเรี ยนไม่จ ำเป็ นต้องเข้าใจทั้งหมดvolleys hard and quickly moves up to the net
- ...เปิ Sanchez
ดแผ่นซีดtries to lob
ี/แถบบั นทึก...เสีaยforehand smashดมากกว่
ง โดยอาจจะเปิ from Sabatini
า 1 ครั้ง...แล้
butวตรวจคำตอบด้
Sanchez runs วยการ
desperately
เฉลยปากเปล่...าshe returns it and it’s no ... yes ... it’s out … that was nearly in .... very
nearly. So Sabatini’s held that vital service game ... she’s fighting bravely ... but she’s
got a long way to go.
Commentator 2:
Here at Old Trafford the second half is about to start. The players are slowly walking
out on to the pitch ... and there’s still no score. United has clearly dominated the first
half.. but haven’t been able to get through this rough Liverpool defence. United nearly
scored in the twenty-second minute when Robson headed on to the post. Liverpool had
a disappointing first half and created very few chances. And the whistle goes ... Jones
has it ... he pushes the ball calmly out to Barnes ... Barnes goes forward … and that’s a
long curling pass ... Rush is onto it ... and it’s a goal! What a goal! What a goal! Rush
took the ball just outside the area ... turned beautifully and drove the ball into the left-
hand corner completely wrong footing the United defense … so that’s Manchester
United nil Liverpool 1 ... and suddenly the game’s come to life.
180

เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 73


1 tennis 2 football

กิจกรรมที่ 5: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- ครู อธิบายให้นกั เรี ยนเข้าใจว่า คำกริ ยาวิเศษณ์ใช้ตอบคำถาม how ว่าคนทำสิ่ งต่าง ๆ
อย่างไร โดยเปลี่ยนจากคำคุณศัพท์ (ด้วยการเติม ly) ดังตัวอย่างเช่น bad/badly,
slow/slowly, usual/usually เป็ นต้น ครู ช้ ีให้เห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้น เช่น ถ้าลงท้ายด้วย
l จะเติม l อีก 1 ตัว เช่น usual เป็ น usually ถ้า y ตามหลังพยัญชนะให้เปลี่ยน y เป็ น i เช่น
noisy เป็ น noisily
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำกริ ยาวิเศษณ์ที่ก ำหนดให้ใน Exercise E ในหนังสื อเรี ยนหน้า
73 นักเรี ยนไม่จ ำเป็ นต้องรู้จกั ความหมายทั้งหมด
- ให้นกั เรี ยนฟังคำบรรยายกีฬาทั้ง 2 อีกครั้งหนึ่ง และให้เขียนคำกริ ยาวิเศษณ์ที่นกั เรี ยน
ได้ยนิ ลงในสมุด
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง ให้นกั เรี ยนนำคำกริ ยาวิเศษณ์ที่จดไว้เปรี ยบเทียบกับคำ
ตอบของเพื่อน แล้วตรวจสอบคำตอบ
เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 73
slowly, nervously, hard, quickly, desperately, nearly, bravely, clearly, calmly,
beautifully, completely, suddenly
- ให้นกั เรี ยนพิจารณาคำกริ ยาวิเศษณ์ท้ งั หมด ถ้าไม่เข้าใจความหมายครู อธิ บายให้ฟัง
- คราวนี้ให้นกั เรี ยนบอกว่าคำใดเป็ นคำกริ ยาวิเศษณ์แสดงความถี่ของการกระทำบ้าง
เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 73
never, usually, occasionally, often

กิจกรรมที่ 6: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- บอกให้นกั เรี ยนคัดลอกหมายเลข 1–8 ลงในสมุดแล้วนำคำกริ ยาวิเศษณ์ที่ก ำหนดให้ใน
หนังสื อเรี ยนหน้า 73 มาเติมลงไปในช่องว่างให้สมบูรณ์ แต่ละคำควรใช้เพียงครั้งเดียว
และเติมได้ครบพอดี
181

- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ F หน้ า 73
กิจกรรมที่ 7: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)
1 always 2 never 3 slowly 4 nervously 5 fast 6 gradually 7 happily 8 sadly
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย นักเรี ยน 1 คนในกลุ่มจะต้องเลือกคำกริ ยาวิเศษณ์มา 1 คำ
แล้วแสดงท่าทางใบ้ตามคำกริ ยาวิเศษณ์น้ นั ให้เพื่อน ๆ ทาย
- ให้เวลานักเรี ยนเขียนคำกริ ยาวิเศษณ์ 3–4 คำ ที่คิดว่าจะแสดงท่าใบ้ได้ เช่น stand up
slowly /nervously/ quickly เป็ นต้น
- ครู สรุ ปกิจกรรมโดยให้อาสาสมัครบางคนออกมาแสดงท่าใบ้ที่หน้าห้องเรี ยน
กิจกรรมเสริม
Word stress: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเขียนคำกริ ยาวิเศษณ์ที่นกั เรี ยนพบในหน่วยการเรี ยนมาตั้งแต่ตน้ จนถึงขณะนี้
แล้วทำเครื่ องหมายเน้นหนักด้วยการใช้สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แสดงการเน้นหนักตามที่อธิ บาย
ไว้ใน Module 1, Lesson 6 และจับคู่ทดสอบกันและกัน
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 28) หน้า 46
Activity Book TAPESCRIPT:
Activity Book, Lesson 28, ข้ อ D หน้ า 46
You are going to listen to the commentary on a horse race. Which horse do you think
will win? And here we are at Newmarket for the four o’clock race. And the jockeys are
waiting nervously for the start. And they’re off! They’ve started. And Pendragon has
started fantastically. Pendragon in front, then comes Lucky Lenny, then it’s
Hummingbird, then it’s Red Rainbow. And Red Rainbow is going badly and she’s
stopped. And Red Rainbow is out of the race! And it’s still Pendragon in front. But
Hummingbird is coming up really fast. Jane Waters, on Hummingbird, is riding very
well. Hummingbird is finishing fast, but Pendragon’s just in front. Yes, it’s Pendragon!
Pendragon does it! Pendragon first, Hummingbird second, Lucky Lenny third. And
what a race! Pendragon’s done it again!

เฉลย: Activity Book (Lesson 28) หน้ า 46


A 2 The match was exciting, wasn’t it? 5 It doesn’t look very nice, does it?
3 The goalkeeper isn’t very good, is he? 6 United didn’t win, did they?
4 She tries hard, doesn’t she?
B (example answers)
Sport–Estudio Estadio; News–Telediario; Cartoons–Los Picapiedras; Comedy–Martes
y Trece; Documentary–El Mundo Maravilloso de Jacques Cousteau;
Game show–Maridos y Mujeres; Series –Calle Nueva
C 1b 2 a 3f 4c 5d 6e
D The winner is Pendragon.
E 2 fantastically 3 badly 4 very well 5 fast
182

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 35
Lesson 26: Fluency
กิจกรรมที่ 1: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพและคำศัพท์ในกรอบในหนังสื อเรี ยนหน้า 74 แล้วจับคู่ค ำศัพท์กบั
ตัวเลขในรู ปภาพให้ถูกต้อง
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่าพร้อมกันทั้งชั้นเรี ยน

เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 74


1 skateboard 2 helmet 3 pads 4 trainers 5 umpire 6 court 7 skirt 8 racket
9 net 10 referee 11 shorts 12 boots 13 ball 14 skis 15 sticks 16 bat 17 skates
18 club

กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านคำถามแล้วอ่านบทความในหนังสื อเรี ยนหน้า 74
- ถ้าไม่เข้าใจคำศัพท์ให้คน้ จาก Mini–dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101–110 แล้วตอบ
คำถามในสมุด
- ตรวจแบบฝึ กหัดด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 74
1 Because her mother thought it was a good idea for girls to learn self-defense.
2 Because she has met a lot of new friends there.
3 Because it shows how good you are.
4 A Dan.
5 Twice a week.
กิจกรรมที่ 3: Writing (กิจกรรมรายบุคคล) A
- บอกนักเรี ยนว่า นักเรี ยนจะต้องเขียนบทความเกี่ยวกับกีฬาลงในนิตยสารของโรงเรี ยน
ถ้ามีนิตยสารของโรงเรี ยนจริ ง ให้นกั เรี ยนช่วยกันคัดเลือกบทความที่ดีที่สุด 3 เรื่ อง เพื่อ
ส่ งตีพิมพ์
- ครู อธิบายขั้นตอนการเขียนบทความทั้ง 4 ขั้นตอนในหนังสื อเรี ยน 75 ถ้านักเรี ยนมีปัญหา
ให้ถามครู ครู บอกนักเรี ยนว่าการเขียนร่ างครั้งแรกจากโน้ตย่อทำได้ง่ายกว่า ดังนั้นร่ าง
ฉบับสุ ดท้ายจึงดีกว่าร่ างฉบับครั้งแรก
- ครู ตรวจสอบการปฏิบตั ิกิจกรรมด้วยการเดินดูรอบ ๆ ชั้นเรี ยน เพื่อให้แน่ใจได้วา่ นักเรี ยน
ทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ถ้าไม่แน่ใจคำศัพท์ค ำใดให้คน้ จาก Mini–dictionary ใน
หนังสื อเรี ยนหน้า 101–110 ครู คอยช่วยเหลือหากนักเรี ยนมีปัญหาระหว่างการปฏิบตั ิ
กิจกรรม
183

- เมื่อนักเรี ยนเขียนโครงร่ างเสร็ จแล้ว ให้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนเพื่อตรวจแก้ไขก่อนการ


เขียนฉบับจริ ง
- ให้นกั เรี ยนนำเสนอบทความ รวมถึงรู ปภาพ ภาพวาด และตารางประกอบตามที่เห็นว่า
เหมาะสม และจัดแสดงบทความในชั้นเรี ยนเพื่อให้เพื่อน ๆ อ่านและลงมติวา่ ผลงานชิ้น
ใดเหมาะสมสำหรับการตีพิมพ์
กิจกรรมที่ 4: Speaking (กิจกรรมคู่/กิจกรรมทั้งชั้นเรียน) A
- ครู บอกนักเรี ยนว่า นักเรี ยนจะต้องพูดหน้าชั้นให้เพื่อน ๆ ฟังว่านักเรี ยนชอบกีฬาใด
- ให้นกั เรี ยนพิจารณา 3 ขั้นตอนที่ร่างไว้ในหนังสื อเรี ยนหน้า 75 พร้อมกับครู ถ้าไม่เข้าใจ
ขั้นตอนใด ครู อธิบายให้ฟัง และอธิ บายให้นกั เรี ยนฟังด้วยว่าจดโน้ตย่อได้
- ให้เตรี ยมและฝึ กการพูดจากที่บา้ น บอกนักเรี ยนว่ามีเวลาพูดเพียง 3 นาที และย้ำให้
นักเรี ยนนำสิ่ งที่จะใช้ประกอบการพูดมาด้วย เช่น เครื่ องมือ เหรี ยญ รู ปภาพ เพื่อทำให้
การพูดมีชีวิตชีวาขึ้นและน่าสนใจ
กิจกรรมเสริม
Story telling: Listening (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ให้นกั เรี ยนใช้โครงเรื่ องข้างล่างนี้เพื่อเล่าเรื่ องของ Walraven the Westcastle Winger โดย
ให้เขียนชื่อของ Walraven ชื่อสโมสรคือ Westcastle และตำแหน่งของเขา คือ Winger
บนกระดาน
- เมื่อเล่าเรื่ องจบแล้ว ครู ให้นกั เรี ยนเสนอความเห็นว่าทำอย่างไร Walraven จึงมีความ
ก้าวหน้าในอาชีพ โครงเรื่ อง: Walraven young boy in small village / plays football with
friends / Westcastle manager on holiday in village / realises that Walraven is very
talented / persuades parents to let him sign contract / takes him to Westcastle / fans
very excited / first game a disaster, cannot control ball / fans angry / Walraven returns
home very sad / manager explains disastrous start to parents / Walraven was not
allowed to play in bare feet instead of football boots / Walraven returns to Westcastle
and helps win the National League Cup by scoring three goals.
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 29) หน้า 47
184

เฉลย: Activity Book (Lesson 29) หน้ า 47


A 1 hockey 2 table tennis 3 volleyball 4 swimming
5 long jump 6 gymnastics 7 canoeing 8 basketball
(key word: Olympics)
B 1 socks 2 shorts 3 boots 4 trainers 5 track suit 6 shirt
C 1 Miguel’s favourite team is Manchester United.
2 Those trainers are Monica’s.
3 Tom’s father plays golf.
4 This is Mary’s sister.
5 The children’s sports shirts are new.
6 Are these skis yours? (no apostrophes)
D 1 F (he was 13 ‘three years ago’)
2T
3 F (‘trainers are OK’)
4 F (‘fewer shots than your opponent’)
5T

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 36
Lesson 30: Consolidation
กิจกรรมที่ 1: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนนำคำกริ ยาในวงเล็บในหนังสื อเรี ยนหน้า 76 เติมลงในช่องว่างให้ถูก tense
กิจกรรมนี้อาจทำให้นกั เรี ยนบางคนมีความสับสน ดังนั้นครู ควรหาอาสาสมัครออกมา
เขียนประโยคบนกระดาน
เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 76
1 didn’t argue/wouldn’t get 2 ’d buy/had
3 were/would…like 4 didn’t smoke/’d be
5 ’d lose/didn’t have

กิจกรรมที่ 2: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)


- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน และอธิ บายวิธีการเล่นเกมให้ฟัง นักเรี ยน 1
คน จะต้องจินตนาสถานการณ์ 1 สถานการณ์ แล้วเล่าให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มฟัง นักเรี ยนคน
อื่น ๆ จะเขียนประโยคเพิ่มเติมเพื่อทำให้เป็ นลูกโซ่
185

- ครู อ่านประโยคตัวอย่างพร้อมกับนักเรี ยนทั้งชั้น


- เพื่อให้กลุ่มต่าง ๆ เริ่ มต้นได้ง่ายขึ้น ครู ควรเขียนประโยคส่ วนที่เป็ นเงื่อนไขลงไปบน
กระดาน แล้วให้นกั เรี ยนเติมส่ วนที่ยงั ขาด เช่น If I lived on a desert island…
- เพื่อให้นกั เรี ยนได้ฝึกการเขียนมากขึ้น ครู อาจจะบอกให้นกั เรี ยนเขียนประโยคลูกโซ่ 1
ประโยคลงในสมุดของตนเอง
กิจกรรมที่ 3: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู ทบทวนหลักการใช้ question tags อย่างเร็ ว
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกประโยคต่าง ๆ ใน Exercise C ในหนังสื อเรี ยนหน้า 76 ลงใน
สมุด พร้อมกับเติม Question tags ลงไป
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 76
2 wasn’t he? 3 doesn’t she? 4 do I? 5 have they? 6 didn’t he?
กิจกรรมที่ 4: Speaking (กิจกรรมคู่)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ แล้วผลัดกันตรวจสอบข้อมูลของคู่ของตนโดยถามคำถาม 5
คำถาม เช่น You’ve got two brothers, haven’t you?
- ย้ำเตือนให้นกั เรี ยนออกเสี ยงระดับต่ำในท้ายประโยค Question tags ถ้าเป็ นการตรวจสอบ
ข้อมูลที่รู้ดีอยูแ่ ล้ว แต่ถา้ เป็ นข้อมูลที่ไม่แน่ใจให้ข้ ึนเสี ยงสู ง
Vocabulary
กิจกรรมที่ 5: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกคำคุณศัพท์จากกรอบ Exercise E ในหนังสื อเรี ยนหน้า 76 ลงใน
สมุด แล้วเปลี่ยนเป็ นคำกริ ยาวิเศษณ์
- ตรวจแบบฝึ กหัดบนกระดาน ให้นกั เรี ยนชี้ ให้เห็นว่าตอนท้ายของคำคุณศัพท์บางตัวต้อง
เพิ่มพยัญชนะท้ายเข้าไปอีก 1 ตัวก่อนทำให้เป็ นคำกริ ยาวิเศษณ์ เช่น beautiful
beautifully
เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 76
slowly happily hard angrily well bravely beautifully fast

กิจกรรมที่ 6: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่าน 3 ประโยคพร้อมกับคำถามกำหนดให้ในหนังสื อเรี ยนหน้า 76 ครู อาจจะ
ฝึ กให้นกั เรี ยนตอบปากเปล่าจนคล่องก่อนจึงให้เขียนลงในสมุด
- เมื่อนักเรี ยนตอบคำถามเรี ยบร้อยแล้ว ให้นกั เรี ยนเขียน 5 ประโยคเกี่ยวกับตัวนักเรี ยนเอง
และกีฬาที่ชื่นชอบ ครู สุ่มให้นกั เรี ยนอ่าน 1 หรื อ 2 ประโยคให้เพื่อนทั้งชั้นเรี ยนฟัง
เฉลย: Students’ Book ข้ อ F หน้ า 76
a play b go c do
186

กิจรรมที่ 7: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)


- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน ให้อา่ นตัวอย่างประโยคคำถามในหนังสื อ
เรี ยนหน้า 76
- ให้นกั เรี ยนผลัดกันนึกประเภทของกีฬาและให้คนอื่น ๆ ถามคำถามอย่างน้อยที่สุด 10
คำถาม เพื่อจะทายว่าคือกีฬาประเภทอะไร ให้ผทู ้ ี่ตอบคำถามตอบให้ตอบเฉพาะ yes หรื อ
no เท่านั้น
กิจกรรมที่ 8: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเขียนหมายเลข 1–7 ลงไปในสมุด แล้วนำคำกริ ยาที่ก ำหนดในหนังสื อเรี ยน
หน้า 77 เติมลงไปในช่องว่างให้ถูกต้อง
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า และหาอาสาสมัคร 1 คนออกไปเขียนคำกริ ยาแต่ละ
คำบนกระดาน แล้วอ่านเนื้อเรื่ องทั้งหมดพร้อมกันดัง ๆ อีกครั้ง

เฉลย: Students’ Book ข้ อ H หน้ า 77


1 grew up 2 go out 3 looking for 4 found out 5 came back 6 take...on 7 went on

กิจกรรมที่ 9: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)


- ครู เขียนคำศัพท์ 3 คำที่ประกอบด้วยตัวอักษร a จากหนังสื อเรี ยนหน้า 77 บนกระดาน
โดยเขียนสัญลักษณ์แสดงทางภาษาประกอบด้วย
- สุ่ มเรี ยกนักเรี ยนออกเสี ยงคำเหล่านั้น และตรวจสอบดูวา่ นักเรี ยนสามารถแยกแยะความ
แตกต่างได้หรื อไม่
- บอกให้นกั เรี ยนเขียนคำศัพท์แยกเป็ น 3 กลุ่ม ลงในสมุด แล้วเขียนแต่ละคำลงให้ถูกกลุ่ม
ตามที่ได้ฟังจากแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงอีกครั้ง ให้นกั เรี ยนตรวจคำตอบ และยกตัวอย่างแบบที่ 1,
2 และ 3
TAPESCRIPT
Listen to the different ways you can pronounce the letter a.
Group 1 take
Group 2 match
Group 3 call
Now listen and put these words into correct group.
football / athletics / skates / water / play / walk / race/ fall / champion / almost /
famous / game
เฉลย: Students’ Book ข้ อ I หน้ า 77
Group 1: take, skates, play, race, famous, game
Group 2: match, athletics, champion
Group 3: call, football, water, walk, fall, almost
187

Test Yourself
- กิจกรรมนี้ช่วยให้นกั เรี ยนได้ตรวจสอบการเรี ยนรู ้ของตนเอง จากหน่วยนี้และหน่วยที่
เรี ยนที่ผา่ นมา ด้วยวิธีน้ ีจะชี้ให้เห็นถึงปั ญหาทางการเรี ยนของนักเรี ยนในด้านต่าง ๆ เพื่อ
ให้นกั เรี ยนได้กลับไปทบทวนอย่างละเอียดก่อนที่จะได้รับการประเมินอย่างเป็ นทางการ
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำสัง่ และทำแบบทดสอบแต่ละตอนให้สมบูรณ์ ครู อาจจะตรวจพร้อมกัน
ทั้งชั้นเรี ยน หรื อให้นกั เรี ยนแลกเปลี่ยนสมุดเพื่อตรวจแก้ไขให้กนั และกัน แล้วรวม
คะแนนและประเมินผล
เฉลย: Students’ Book (Test Yourself) หน้ า 77
A 1 isn’t it 2 could 3’d like 4 have we 5 gave 6 wouldn’t lose 7 wouldn’t we
8 does it 9 doesn’t it 10 had 11 would finish 12 can you 13 did 14 would make
15 would get

กิจกรรมเสริม
Word stress: Speaking (กิจกรรมคู่)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ ให้นกั เรี ยนพิจารณาดูชื่อกีฬาในหน่วยการเรี ยน แล้วให้บอกว่า
จะเน้นหนักที่พยางค์ไหนของแต่ละคำ
- ให้อาสาสมัครออกมาเขียนชื่อกีฬาที่เพื่อน ๆ พูดออกมา
- ให้นกั เรี ยนออกไปที่กระดานทีละคน แล้วให้วงกลมพยางค์ที่ออกเสี ยงเน้นหนักในแต่ละ
คำ และให้ทุกคนในชั้นออกเสี ยงตาม
เฉลย: Activity Book (Time to Read ) หน้ า 48
A 1 b; 2 d; 3 e; 4 a; 5 c
B 1 T; 2 T; 3 F; 4 F; 5 F; 6 T; 7 F; 8 F
C Students’ own answers
เฉลย: Students’ Book (Test Yourself) หน้ า 49
A 1 selected; would be 3 would you do; won
2 would play; practiced 4 sold; would get; would be able
B 1 didn’t they? 4 does she?
2 isn’t she? 5 don’t you?
3 is he? 6 did they?
C 1 match 2 referee 3 team 4 score 5 spectacular

Extra Time!
- ให้เฉลย:
นกั เรี ยStudents’
นเปิ ดหนังBook
สื อเรี ย(Reading
นหน้า 99club
แล้วทำกิ จกรรม
5) หน้ า 99 Reading Club 5
A The Disadvantages of Meat
B 1 lamb/ chicken 2 sheep / rabbits 3 grain 4 wild animals
C a Paragraph 3 b Paragraph 2 c Paragraph 5 d Paragraph 4
D 1 – stopped eating meat
188

Module Check
Language Check and Keyword Check
- ย้ำเตือนนักเรี ยนว่าการตรวจสอบหลักภาษาและคำศัพท์หลักนี้ จัดเพื่อช่วยให้นกั เรี ยนได้
ทบทวนคำศัพท์และโครงสร้างของประโยคที่ได้เรี ยนไปแล้ว และควรชักชวนให้
นักเรี ยนกลับมาทบทวนส่ วนนี้บ่อย ๆ
Module Diary
- Module Diary กระตุน้ ให้นกั เรี ยนสะท้อนผลการเรี ยนในด้านต่าง ๆ คัดลอกลงไปใน
สมุดและเติมคำลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ทุกส่ วน ถ้าจะให้ดีครู ควรจะเรี ยกเก็บสมุดเพื่อ
นำไปตรวจสอบสมุดบันทึกของนักเรี ยนแต่ละคน เพื่อจะได้รับรู ้ถึงแนวคิดจากทัศนคติ
ทัว่ ๆ ไปของนักเรี ยนและความก้าวหน้าทางการเรี ยนของนักเรี ยนแต่ละคน

บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้

1. ความสำเร็จในการจัดการเรียนรู ้
________________________________________________
แนวทางการพัฒนา
________________________________________________________
2. ปั ญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู ้
_____________________________________________
แนวทางแก ้ไข
__________________________________________________________
_
3. สงิ่ ทีไ่ ม่ได ้ปฏิบต
ั ต
ิ ามแผน
____________________________________________________
เหตุผล
__________________________________________________________
______
4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู ้
______________________________________________

ลงชอื่ __________________ ครูผู ้สอน


_________/ _________/ _________
189

Module 6: Space
ผังมโนทัศน์ เป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ ายภาระงาน เวลา 12 ชั่วโมง

ความรู้
Reading:
- an extract from a science book
- a student composition - magazine
articles
Listening:
ภาระงาน/ชิ้นงาน - a radio interview - a radio programme
1. พูดบรรยายความต้องการหรื อไม่ - a song
ต้องการไปในอวกาศพร้อมทั้งให้ Speaking:
เหตุผลประกอบ - space travel - predictions for the
2. ใช้แนวคิดที่ก ำหนดเขียนเป็ น future
ประโยคเกี่ยวกับสิ่ งที่จะเกิดขึ้นใน Writing:
- predictions - notes
ช่วงชีวิตของตนเอง - a horoscope
3. พูดถาม–ตอบเกี่ยวกับอนาคตเป็ น Grammar:
คู่ - predictions: will, won’t, may, might
4. คำนวณอายุบนโลกและดาว - Present simple passive - Test Yourself
อังคารของบุคคลต่าง ๆ ตามคำถาม Vocabulary:
ที่ก ำหนด และตอบคำถาม - solar system - space travel
- science-fiction - horoscopes
5. ลอกตารางและข้อมูลที่ก ำหนดลง - nouns - wordbuilding
ในสมุดแบบฝึ กหัด และจับคู่ผลัด Pronunciation:
กันถาม–ตอบเกี่ยวกับดาวเคราะห์ - consonant clusters
ของตนเอง
ทักษะ/กระบวนการ
6. เขียนบันทึกเกี่ยวกับหน้าที่สำรวจ 1. กระบวนการฟัง
ดาวเคราะห์ของตนเองในอวกาศ 2. กระบวนการพูด
จากบทที่ 32 ตามตัวอย่าง 3. กระบวนการอ่าน
7. จับคู่ผลัดกันค้นหาหน้าที่สำรวจ 4. กระบวนการเขียน
ดาวเคราะห์ในอวกาศของคู่ตนเอง 5. กระบวนการคิด
8. เขียนคำทำนายราศีตามขั้นตอนที่ Space 6. กระบวนการกลุ่ม
กำหนด 7. การนำความรู้ไปปรับ
9. ทำแบบฝึ กหัดเพิ่มเติมใน World ใช้ในชีวิตประจำวัน
คุณธรรม จริยธรรม และ ค่ า
Club Activity Book 2: Module 6 นิยม
Space
1. ความมีระเบียบวินยั
2. ความใฝ่ เรี ยนรู ้
3. ความรับผิดชอบ
Learning to Learn
190

กรอบแนวคิดผังการออกแบบการจัดการเรียนรู้
Module 6: Space
ขั้นที่ 1 ผลลัพธ์ ปลายทางที่ต้องการให้ เกิดขึน้ กับนักเรียน
ตัวชี้วดั ช่ วงชั้น
• อ่านออกเสี ยงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้องตามหลัก
การอ่าน (ต 1.1 ม. 5/2)
• อธิ บายและเขียนประโยคและข้อความให้สมั พันธ์กบั สื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ที่อ่าน รวม
ทั้งระบุและเขียนสื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยงรู ปแบบต่าง ๆ ให้สมั พันธ์กบั ประโยคและข้อความที่ฟังหรื ออ่าน
(ต 1.1 ม. 5/3)
• จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุ ปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่ อง
ที่เป็ นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ (ต 1.1 ม. 5/4)
• สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่ องต่าง ๆ ใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์
ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยูใ่ นความสนใจของสังคม และสื่ อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม (ต 1.2
ม. 5/1)
• พูดและเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มูล บรรยาย อธิ บาย เปรี ยบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เรื่ อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม (ต 1.2 ม. 5/4)
• พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่ องและประเด็นต่าง ๆ ที่
อยูใ่ นความสนใจของสังคม (ต 1.3 ม. 5/1)
• พูดและเขียนสรุ ปใจความสำคัญ แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่ อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์ และ
สถานการณ์ตามความสนใจ (ต 1.3 ม. 5/2)
• เลือกใช้ภาษา น้ำเสี ยง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ตามมารยาท
สังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (ต 2.1 ม. 5/1)
• เข้าร่ วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม (ต 2.1 ม. 5/3)
• อธิ บาย/เปรี ยบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุ ภาษิต
และบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย (ต 2.2 ม. 5/1)
• วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล (ต 2.2 ม. 5/2)
• ค้นคว้า/สื บค้น บันทึก สรุ ป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้
อื่น จากแหล่งการเรี ยนรู้ต่าง ๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน (ต 3.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จ ำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยน สถานศึกษา ชุมชน และ
สังคม (ต 4.1 ม. 5/1)
• ใช้ภาษาต่างประเทศในการสื บค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุ ปความรู ้ /ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่ อ
และแหล่งการเรี ยนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ (ต 4.2 ม. 5/1)
• เผยแพร่ /ประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลข่าวสารของโรงเรี ยน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติเป็ นภาษาต่าง
ประเทศ (ต 4.2 ม. 5/2)
ความเข้ าใจที่คงทนของนักเรียน คำถามสำคัญทีท่ ำให้ เกิดความเข้ าใจที่คงทน
191

นักเรียนจะเข้ าใจว่า... - นักเรี ยนจะอธิ บายลักษณะที่แตกต่างระหว่าง


1. ใช้ will/shall กับเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ให้เพื่อน ๆ ฟังเป็ นภาษา
รู ปกริ ยาประกอบด้วย will/shall + คำกริ ยาช่องที่ อังกฤษว่าอย่างไร
1 เช่น I think the weather will be nice later. - He won, didn’t he? อ่านออกเสี ยงประโยคว่า
2. ประโยคที่มีประธานเป็ นผูแ้ สดงอาการหรื อ อย่างไร
แสดงการกระทำเรี ยกว่ามีกริ ยาเป็ น Active voice - ยกตัวอย่างและอ่านออกเสี ยงคำศัพท์ยากในบท
รู ปกริ ยาของ Active ประกอบด้วย verb + object เรี ยนนี้มา 5 คำ
ส่ วนประโยคที่มีประธานเป็ นผูถ้ ูกแสดงอาการ
หรื อถูกแสดงการกระทำนั้น ๆ เรี ยกว่ามีกริ ยา
เป็ น Passive voice รู ปกริ ยาของ Passive
ประกอบด้วย verb to be + verb 3 (past
participle) ประโยคทั้ง 2 แบบนี้มีความหมาย
เหมือนกัน แต่วิธีเขียนประโยคต่างกัน
หลักทัว่ ไปในการเปลี่ยน active เป็ น passive คือ
1. เปลี่ยนตำแหน่ง Subject และ Object
2. เปลี่ยนคำกริ ยาเดิมเป็ นคำกริ ยาช่องที่ 3 (Past
participle)
3. ใช้ verb to be นำหน้าคำกริ ยาช่องที่ 3 โดยใช้
Tense เดียวกับคำกริ ยาเดิม
4. Object ของประโยค Passive จะอยูห่ ลังคำ
บุพบท by เช่น
She sings a song. (Active)
A song is sung by her. (Passive)
หมายเหตุ: Tense ที่ไม่นิยมทำเป็ นประโยค
Passive คือ Present perfect continuous, Past
perfect continuous, Future perfect และ Future
perfect continuous เนื่องจากทำให้ขอ้ ความใน
ประโยคยาวเกินไป
หลักการเปลี่ยนประโยคปฏิเสธและประโยค
คำถาม Active เป็ น Passive คือ
1. ประโยค Active voice ชนิดบอกเล่าแปลงเป็ น
ประโยค Passive voice ชนิดปฏิเสธได้โดยแปลง
ประโยค Active ให้เป็ น Passive ชนิดบอกเล่า
เสี ยก่อน แล้วจึงเติม not หลัง verb to be เช่น
A letter is not written by her.
2. ประโยค Active voice ชนิดปฏิเสธแปลงเป็ น
Passive voice ได้โดยแปลงคำกริ ยาช่วยให้เป็ น
192

verb to be (ใช้ verb to be ให้ตรงตาม Tense ของ


ประโยค Active voice เดิม) ส่ วนคำ not คงไว้
ตามเดิม เช่น
He does not like her.
She is not liked by him.
ประโยคบอกเล่าชนิด Active voice แปลงให้เป็ น
ประโยค Passive voice ชนิดคำถามได้ดงั นี้
1. แปลงประโยค Active voice ชนิดบอกเล่าให้
เป็ นประโยค Passive voice ชนิดบอกเล่าตาม
แบบที่ท ำมาแล้ว
2. นำ verb to be หรื อคำกริ ยาช่วยอื่น ๆ ของ
ประโยค Passive voice ขึ้นมาไว้หน้าประโยค
เช่น
She ate a mango.
A mango was eaten by her.
Was a mango eaten by her?
ถ้าประโยค Active voice เป็ นคำถามอยูแ่ ล้ว
แปลงเป็ น Passive voice ชนิดคำถามได้เลย
โดย 1. เปลี่ยนประโยค Active คำถามเป็ น
ประโยคบอกเล่า
2. เปลี่ยนประโยคบอกเล่านั้นให้เป็ นประโยค
Passive
3. เปลี่ยนประโยค Passive (คือประโยคที่ท ำได้
ในข้อ 2) นั้นให้เป็ นคำถาม เช่น
Did you write this letter?
You wrote this letter.
This letter was written by you.
Was this letter written by you?
ความรู้ ของนักเรียนที่นำไปสู่ ความเข้ าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนที่จะนำไปสู่
นักเรียนจะรู้ว่า ... ความรู้ ที่คงทน นักเรียนจะสามารถ ...
1. คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ ได้แก่ 1. รู ้ เข้าใจ และบอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ
ดาราศาสตร์ เช่น planet, galaxy, solar system, ได้อย่างถูกต้อง
universe, moon, sun, orbit การบินในอวกาศ 2. รู ้ เข้าใจ อธิ บาย ถามและตอบเกี่ยวกับเรื่ องราวที่
เช่น space station, rocket, space capsule, zero อาจเป็ นไปได้ในอนาคต อวกาศ และระบบสุ ริยะ
gravity, oxygen generator บุคลิกลักษณะ เช่น จักรวาลได้อย่างถูกต้อง
enthusiastic, dynamic, practical, reserved, 3. รู ้ เข้าใจ และใช้ will, may, might และ won’t ใน
rational, emotional, logical, creative, passionate ประโยคการทำนายเรื่ องราวเกี่ยวกับอนาคตได้
193

2. ประโยคที่ใช้พดู บรรยาย ถาม และตอบเกี่ยว อย่างถูกต้อง


กับเรื่ องราวที่อาจเป็ นไปได้ในอนาคต อวกาศ 4. รู ้ เข้าใจ และใช้รูปประโยคแบบ Passive ของ
และระบบสุ ริยะจักรวาล เช่น Present simple tense ได้อย่างถูกต้อง
There will be further space exploration in the 5. รู ้ เข้าใจ และอ่านออกเสี ยงคำศัพท์ยากตามที่
future. กำหนดได้อย่างถูกต้อง
We may use suspended animation in space
travel.
How big/far/long is it?
How many moons has it got?
Everything is recycled and noting is wasted.
3. การใช้ will, may, might และ won’t ใน
ประโยคการทำนายเรื่ องราวเกี่ยวกับอนาคตที่ถูก
ต้อง เช่น
We won’t be able to live on the Sun’s surface.
We may travel to other planets in the future.
4. การใช้รูปประโยคแบบ Passive ของ Present
simple tense ที่ถูกต้อง เช่น
Our food is grown in the colony.
Spaceships are manufactures by robots.
5. การอ่านออกเสี ยงคำศัพท์ยากที่ถูกต้อง (ดู
ตัวอย่างคำศัพท์ใน Lesson 36 แบบฝึ กหัด H)
ขั้นที่ 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งเป็ นหลักฐานที่แสดงว่ านักเรียนมีผลการเรียนรู้
ตามที่กำหนดไว้อย่างแท้ จริง
1. ภาระงานที่นักเรียนต้ องปฏิบัติ
- ฝึ กจับคูค่ ำศัพท์ที่พิมพ์ดว้ ยตัวเอนกับภาพให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กอ่านประโยคที่ก ำหนด และตอบว่าประโยคเหล่านั้นจริ งหรื อเท็จ
- ฝึ กพูดบรรยายความต้องการหรื อไม่ตอ้ งการไปในอวกาศ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ
- ฝึ กจับคู่ภาพประกอบกับคำบรรยายใต้ภาพที่ก ำหนดให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กจับกลุ่มตอบว่าคำบรรยายใต้ภาพที่ก ำหนดเป็ นไปได้ในปั จจุบนั หรื ออาจจะเป็ นไปได้ใน
อนาคต
- ฝึ กฟังแผ่นซีดี และตอบคำถาม
- ฝึ กฟังแผ่นซีดีอีกครั้ง และเขียนคำกริ ยาที่ก ำหนดลงในคำตอบของ Dr. Lanfear ให้สมบูรณ์
- ฝึ กดูกรอบสี่ เหลี่ยมที่ก ำหนด และตอบคำถาม
- ฝึ กใช้แนวคิดที่ก ำหนดเขียนเป็ นประโยคเกี่ยวกับสิ่ งที่จะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของตนเอง
- ฝึ กพูดถาม–ตอบเกี่ยวกับอนาคตเป็ นคู่
- ฝึ กใช้พจนานุกรมฉบับย่อค้นหาคำคุณศัพท์ข้ นั ปกติ ขั้นกว่า และขั้นสุ ดเติมลงในตารางให้ถูกต้อง
- ฝึ กจับคูค่ ำศัพท์เกี่ยวกับดาวเคราะห์ต่าง ๆ กับตัวอักษรใต้ภาพให้สมั พันธ์กนั และอ่านข้อความ
194

เพื่อตรวจคำตอบ
- ฝึ กจับคู่ยอ่ หน้าแต่ละย่อหน้าให้สมั พันธ์กบั ชื่อหัวข้อเรื่ องที่ก ำหนด และตอบคำถาม
- ฝึ กค้นหาคำศัพท์ในข้อความซึ่ งมีความหมายสอดคล้องกับความหมายที่ก ำหนด
- ฝึ กคำนวณอายุบนโลกและดาวอังคารของบุคคลต่าง ๆ ตามคำถามที่ก ำหนด และตอบคำถาม
- ฝึ กคัดลอกตารางและข้อมูลที่ก ำหนดลงในสมุดแบบฝึ กหัด และจับคู่ผลัดกันถาม–ตอบเกี่ยวกับ
ดาวเคราะห์ของตนเอง
- ฝึ กอ่านข้อความบรรยายเกี่ยวกับ Space Colony และจดบันทึกรายละเอียดตามหัวข้อที่ก ำหนด
- ฝึ กอ่านประโยคที่ก ำหนดให้ และตอบคำถาม
- ฝึ กเปลี่ยนประโยคที่ประธานเป็ นผูก้ ระทำ (Active) เป็ นประโยคที่ประธานเป็ นผูถ้ ูกกระทำ
(Passive)
- ฝึ กจับกลุ่มเล่นเกมที่ก ำหนดให้
- ฝึ กตอบคำถามเกี่ยวกับสิ่ งที่อยากจะทำและโอกาสที่จะทำสิ่ งนั้น
- ฝึ กอ่านและค้นหาว่าปัญหาใดเป็ นปั ญหาที่สำคัญสำหรับนักบินอวกาศของรัสเซี ย
- ฝึ กอ่านบทความเกี่ยวกับนักบินอวกาศของรัสเซี ยอีกครั้ง และตอบคำถาม
- ฝึ กตอบว่าข้อเท็จจริ งเกี่ยวกับอวกาศที่ก ำหนดให้เป็ นจริ งหรื อเท็จ และฟังรายการวิทยุจากแผ่นซี ดี
เพื่อตรวจคำตอบ
- ฝึ กเขียนบันทึกเกี่ยวกับหน้าที่สำรวจดาวเคราะห์ของตนเองในอวกาศจากบทที่ 32 ตามตัวอย่างที่
กำหนดให้
- ฝึ กจับคูผ่ ลัดกันค้นหาหน้าที่สำรวจดาวเคราะห์ในอวกาศของคู่ตนเอง
- ฝึ กอ่านข้อความเกี่ยวกับธาตุท้ งั 4 และเลือกว่าตนเองเหมาะสมกับธาตุใด
- ฝึ กอ่านข้อความเกี่ยวกับธาตุท้ งั 4 อีกครั้ง ค้นหาคำคุณศัพท์บรรยายลักษณะนิสยั และเขียนลงใน
สมุดแบบฝึ กหัด
- ฝึ กอ่านคำบรรยายลักษณะของบุคคลต่าง ๆ และตอบว่าบุคคลแต่ละคนเหมาะกับธาตุใด
- ฝึ กจับคูผ่ ลัดกันถาม–ตอบคำถามในแบบสอบถาม และพูดรายงานให้เพื่อน ๆ ฟัง
- ฝึ กดูภาพดวงดาว และตอบว่าราศีของตนเองคือราศีใด
- ฝึ กอ่านคำทำนายราศี และจับคูค่ ำศัพท์ที่ก ำหนดกับคำทำนายให้สมั พันธ์กนั
- ฝึ กเขียนคำทำนายราศีตามขั้นตอนที่ก ำหนด
- ฝึ กฟังเพลง Rocket Man จากแผ่นซี ดี และเลือกคำตอบที่ถูกต้อง
- ฝึ กเลือกคำกริ ยาที่ก ำหนดเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
- ฝึ กเล่นเกม Prediction Game
- ฝึ กเลือกคำศัพท์ที่ก ำหนดเติมลงในประโยคให้สมบูรณ์
- ฝึ กเปลี่ยนคำนามที่ก ำหนดให้เป็ นคำคุณศัพท์และคำกริ ยาวิเศษณ์ที่ถูกต้อง
- ฝึ กจับคูค่ น้ หาคำศัพท์ 10 คำที่คิดว่าออกเสี ยงยาก อ่านออกเสี ยงคำศัพท์เหล่านั้นให้เพื่อน ๆ ฟัง
เพื่อค้นหาคำศัพท์ 10 คำที่นกั เรี ยนทั้งชั้นคิดว่าออกเสี ยงยากที่สุด และฝึ กออกเสี ยงคำศัพท์
เหล่านั้นพร้อมกัน
- ฝึ กดูค ำศัพท์ที่ก ำหนด อ่านออกเสี ยง ฟังการออกเสี ยงที่ถูกต้องจากแผ่นซี ดี และพูดออกเสี ยงตาม
แผ่นซีดี
195

- ฝึ กเขียนคำกริ ยาในวงเล็บให้อยูใ่ นรู ปกริ ยา Passive ที่ถูกต้องลงในรายงานเกี่ยวกับโลกของมนุษย์


ต่างดาว
- ฝึ กอ่านบทความ Exploring Mars ในกิจกรรม Reading Club 6 และค้นหาว่าย่อหน้าใดตรงกับ
ข้อมูลที่ก ำหนดให้
- ฝึ กอ่านบทความ Exploring Mars ในกิจกรรม Reading Club 6 และเขียนประโยคคำถามสำหรับ
คำตอบที่ก ำหนดให้
- ฝึ กอ่านบทความ Exploring Mars ในกิจกรรม Reading Club 6 และตอบคำถาม
- ฝึ กทำแบบฝึ กหัดเพิ่มเติมใน World Club Activity Book 2: Module 6 Space
2. วิธีการและเครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู ้
2.1 วิธีการประเมินผลการเรี ยนรู้ 2.2 เครื่ องมือประเมินผลการเรี ยนรู ้
1) การทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน 1) แบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน
2) การทดสอบทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน 2) แบบประเมินผลทักษะด้านการฟัง พูด
และเขียน อ่าน และเขียน
3) การประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น 3) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม รายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม
4) การวัดและประเมินผลด้านคุณธรรม 4) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรี ยน
จริ ยธรรม และค่านิยม 5) แบบทดสอบประจำหน่วย
5) การวัดและประเมินผลด้านความรู ้โดย 6) แบบประเมินผลตนเองของนักเรี ยน
ใช้แบบทดสอบ
6) การประเมินผลตนเองของนักเรี ยน

3. สิ่ งทีม่ ่ ุงประเมิน


3.1 ความเข้าใจ 6 ด้าน ได้แก่ การอธิบาย การชี้แจง การแปลความและตีความ การประยุกต์ใช้
ดัดแปลง และ นำไปใช้ การมีมุมมองที่หลากหลาย การให้ความสำคัญในความรู ้สึกของผูอ้ ื่น และ
การรู ้จกั ตนเอง
3.2 สมรรถนะสำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการสื่ อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทกั ษะชีวิต และ
การใช้เทคโนโลยี
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริ ย ์ ซื่ อสัตย์สุจริ ต มีวนิ ยั ใฝ่ ความรู ้ อยูอ่ ย่าง
พอเพียง มุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเป็ นไทย มีจิตสาธารณะ
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
196

แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 37 Lead-in เวลา 2 ชัว่ โมง


แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 38 Science Fact or Fiction เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 39 Our Solar System เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 40 A Space Colony เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 41 Startrekking เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 42 Fluency เวลา 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 43 Consolidation เวลา 1 ชัว่ โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 37-43


สาระการเรียนรู้ ภาษาต่ างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5
Module 6 Space เวลา 12 ชั่วโมง

จุดประสงค์การ
เรียนรู ้
 ฟัง พูด อ่าน และเขียนคำศัพท์อ่านออกเสี ยงคำศัพท์ยากตามที่ก ำหนดได้ (K, P)
 อธิ บาย ถามและตอบเกี่ยวกับเรื่ องราวที่อาจเป็ นไปได้ในอนาคต อวกาศ และระบบสุ ริยะ
จักรวาลได้ (K, A, P)
 ใช้ will, may, might และ won’t ในประโยคการทำนายเรื่ องราวเกี่ยวกับอนาคตได้ (K, P)
 ใช้รูปประโยคแบบ Passive ของ Present simple tense ได้ (K, P)
 อ่านออกเสี ยงคำศัพท์ยากตามที่ก ำหนดได้ (K, P)
 แสดงบทบาทสมมุติและปฏิบตั ิกิจกรรมทางภาษาได้ (K, A, P)

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
 ประเมินการฟัง พูด อ่าน  ประเมินพฤติกรรมใน  ประเมินพฤติกรรมใน
และเขียนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ การทำงานเป็ นรายบุคคลใน การทำงานเป็ นรายบุคคลและ
อวกาศ ด้านความมีวินยั ความใฝ่ เป็ นกลุ่มในด้านการสื่ อสาร
 ประเมินการอธิ บาย ถามและ เรี ยนรู ้ ฯลฯ การคิด การแก้ปัญหา ฯลฯ
ตอบเกี่ยวกับเรื่ องราวที่อาจเป็ น  มีเจตคติที่ดีต่อการเรี ยน
ไปได้ในอนาคต อวกาศ และ ภาษาอังกฤษ
ระบบสุ ริยะจักรวาล
197

 ประเมินการใช้ will, may,


might และ won’t ในประโยค
การทำนายเรื่ องราวเกี่ยวกับ
อนาคต
 ประเมินการใช้รูปประโยค
แบบ Passive ของ Present
simple tense
 ประเมินการอ่านออกเสี ยงคำ
ศัพท์ยากตามที่ก ำหนด
 ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็ น
รายบุคคล เป็ นคู่ หรื อเป็ น
กลุ่ม

เนือ้ หาทางภาษา
Reading: an extract from a science book ; a student composition; magazine articles
Listening: a radio interview; a radio programme; a song
Speaking: space travel; predictions for the future
Writing: predictions; notes; a horoscope
Grammar: predictions: will, won’t, may, might; Present simple passive; Test Yourself
Vocabulary: solar system; space travel; science-fiction; horoscopes; nouns; wordbuilding
Pronunciation: consonant clusters

สื่ อการเรียนรู้
หนังสื อเรี ยน World Club Students' Book 2
แบบฝึ กหัด World Club Activity Book 2: Module 6 Space
แผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยง
แนวทางการบูรณาการ
ภาษาไทย  บอกความหมายของคำศัพท์และประโยคเกี่ยวกับเรื่ องราวที่อาจเป็ นไปได้
ในอนาคต อวกาศ และระบบสุ ริยะจักรวาล
ศิลปะ  แสดงบทบาทสมมุติ ร้องเพลง และดูภาพประกอบ
สังคมศึกษา  ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอวกาศ ระบบสุ ริยะจักรวาล และความก้าวหน้าทาง
เทคโนโลยีท้ งั ในปั จจุบนั และในอนาคต
คุณธรรม จริยธรรม และค่ านิยม

1. ความมีระเบียบวินยั
198

2. ความใฝ่ เรี ยนรู้


3. ความรับผิดชอบ

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 37
Lead–in
Module Objectives
- ครู อ่านและอธิบายวัตถุประสงค์ของหน่วยการเรี ยนให้นกั เรี ยนฟังจนเข้าใจว่าภาระงาน
สุ ดท้ายจะต้องมีการเตรี ยมการล่วงหน้า
กิจกรรมที่ 1: Keywords (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพในหนังสื อเรี ยนหน้า 99 แล้วจับคู่ค ำศัพท์ตวั เอนกับวัตถุที่นกั เรี ยนมอง
เห็น
- กระตุน้ ให้นกั เรี ยนหาคำที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 79
Planet, spacesuit, cosmonaut/astronaut, stars, space station

กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านข้อความในกรอบข้อ a หน้า 79 ทีละประโยค แล้วให้ยกมือขึ้นถ้าคิดว่า
ประโยคนั้นเป็ นจริ ง ครู ให้คะแนนบนกระดาน
- เมื่อนักเรี ยนทำกิจกรรมเสร็ จแล้ว ให้ตรวจคำตอบพร้อมกันในหนังสื อเรี ยนหน้า 111
กิจกรรมที่ 3: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ให้นกั เรี ยนคิดหาเหตุผลที่ตอ้ งการหรื อไม่ตอ้ งการท่องอวกาศ ให้อ่านประโยคตัวอย่างพร้อม
กันทั้งชั้น I’d like to go into space because it would be great to look
down at the world. แล้วจึงฝึ กการพูดส่ วนแรกหลาย ๆ ครั้ง เช่น I’d like to go into
space because ...
- ครู ช้ ีไปที่นกั เรี ยน 1 คน ให้นกั เรี ยนคนนั้นพูดประโยคในส่ วนแรก แล้วให้นกั เรี ยนคนเดิมชี้
ต่อไปยังเพื่อนเพื่อพูดต่อประโยคให้จบ ใช้วธิ ี การเช่นนี้ไปจนกระทัง่ ทุกคนได้พดู ประโยค
พยายามทำให้จงั หวะการพูดมีชีวิตชีวาเป็ นธรรมชาติ

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 38
Lesson 31: Science Fact or Fiction?
กิจกรรมที่ 1: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู ถามนักเรี ยนทั้งชั้นว่า มีใครได้เคยชมภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์บา้ ง ถ้ามีนกั เรี ยนเคยดู
ให้บอกสิ่ งต่าง ๆ ที่ประกอบอยูใ่ นเรื่ องประเภทนี้
- ให้นกั เรี ยนดูภาพต่าง ๆ ในหนังสื อเรี ยนหน้า 80 อ่านคำบรรยายทั้ง 5 ข้อ แล้วให้จบั คูค่ ำ
บรรยายกับรู ปภาพให้ถูกต้อง
199

เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 80


1. Land on another planet 4. Use suspended animation
2. Travel at the speed of light 5. Build a space colony
3. Meet aliens
TAPESCRIPT: TAPESCRIPT
Listen to Dr. Edith Lanfear, a scientist, talking about ideas in science fiction. In what
กิจorder
กรรมทีdoes she mention
่ 2: Speaking (กิจthe ideas่ มin) exercise A?
กรรมกลุ
- INTERVIEWER:Good
แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มevening. กลุ่มละ I’m 4–5 veryให้นกpleased
ั เรี ยนแต่toลhave
ะกลุ่มonคิดthe programme
ตัวอย่างเหตุการณ์ tonight,
ที่อาจเกิ Drด
Edith Lanfear,เช่anนexpert
ขึ้นในอนาคต We thinkon spacewe technology.
will meet She’s aliens.
going to tell
We us think
just howwe muchcan
scientific
land onfactanother there is inplanet
science fiction.
now.
DR. LANFEAR: Good evening.
- ให้แต่ละกลุ่มร่ วมกันอภิปรายว่า มีอะไรที่อาจเป็ นไปได้ในปัจจุบนั ให้ใช้ค ำว่า can เหมือนกับ
INTERVIEWER:Good evening. Well, one popular theme in science fiction books and
ประโยคตัวอย่างที่ 2 และอะไรที่คิดว่าจะเป็ นไปได้บา้ งในอนาคต ให้ใช้ค ำว่า will ดังตัวอย่าง
films is contacting alien life forms. Do you think we will ever meet aliens?
ประโยคตั
DR. LANFEAR:วอย่างอีกThis
1 ประโยค
is difficult to answer. The universe is so big, and it’s hard to
- imagine
ให้แต่ละกลุ we,่มhumans,
ออกมารายงานหน้
are the onlyาชัlife ้ นเรี inยนit,โดยใช้ ประโยคที
so, well, there’s่มaี will 1 ประโยค
possibility. Weและใช้
may meet ประโยค
มี canone
some 1 ประโยค
day, but I doubt we will for a very long time.
กิจINTERVIEWER:And
กรรมที่ 3: Listening (กิwhat จกรรมรายบุ
about space คคล)travel in general? Do you think, for example, we
- will
บอกนั land
กเรีonยนว่another
านักเรีplanet?
ยนจะได้ฟังแผ่นซี ดีการสัมภาษณ์ Dr. Edith Lanfear ซึ่ งเป็ นนัก
DR. LAMFEAR:
วิทยาศาสตร์ Oh yes,
อธิบายให้ นกั เรีweยนเข้
certainly
าใจว่า will, เธอกำลัbutงอ้again
างอิงnot for aดใน
ความคิ longExercise
time. A
- INTERVIEWER:And
ให้นกั เรี ยนอ่านคำบรรยายอี whatกครั about
้ ง แล้living in space? We’ve
วคัดลอกลงในสมุ ด already built space stations
- which
ให้นกั เรีorbit
ยนเปิtheดหนั
Earth,
งสื อbut
เรี ยdo
นหน้ youา 80think
ฟังwe แผ่นwill
ซี ดี/build
แถบบัspace
นทึกเสีcolonies, wholeนทึcities
ยง และจดบั กสิ่ งทีin่ Dr.
space?
DR. LANFEAR: It sounds unlikely, but yes, I’m sure we will one day. In fact, scientists
Edith Lanfear พูดถึงลงไปตามลำดับ แล้วนำคำตอบไปเปรี ยนเทียบกับของเพื่อน ๆ ในชั้น
from NASA have already designed a colony.
เรี ยน
INTERVIEWER:So that’s a fact. Now back to fiction, maybe. Another feature in science-
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่าและให้อาสาสมัคร 1 คนออกไปเขียนบนกระดาน
fiction books and films is that rockets will travel great distances to other star systems, but to
TATPESC
do that we must travel at great speeds. Do you think we will ever travel at the speed of
light, that is 300,000 kilometres per second?
DR. LANFEAR: Oh no, we won’t. It’s quite impossible. We couldn’t and therefore to
travel great distances we will have to think of ways.
INTERVIEWER:Do you think we will ever use suspended animation?
DR. LANFEAR: Well, we have made some progress with this idea. We have frozen dead
bodies, but the idea that we might freeze living people who wake up at some future time is
still in its early stages. We might one day.
INTERVIEWER:Dr. Lanfear, thank you very much.
DR. LANFEAR: Thank you.
RIPT
200

เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 80


1. Meet aliens 2. Land on another planet 3. Build a space colony
4. Travel at the speed of light 5. Use suspended animation

Language Focus: Talking about predictions


- ในการทำนายเรื่ องในอนาคต คำที่ถูกใช้ในประโยค ได้แก่
will ใช้ในการทำนายอย่างเชื่อมัน่ ว่าจะเกิดขึ้น
won’t ใช้ในการทำนายอย่างเชื่อมัน่ ว่าจะไม่เกิดขึ้น
may/might ใช้กบั การทำนายที่ไม่แน่ใจ (การใช้ might แสดงว่ามีความไม่แน่ใจมากกว่า
may)
กิจกรรมที่ 4: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนเปิ ดหนังสื อเรี ยนหน้า 81 และฟังแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงการสัมภาษณ์ Dr.
Edith Lanfear อีกครั้ง แล้วครู บอกนักเรี ยนว่า เธอแน่ใจเฉพาะบางเรื่ องและบางเรื่ องก็ไม่
แน่ใจ
- ให้นกั เรี ยนอ่านบทสนทนาจนจบอย่างเร็ ว แล้วเขียนคำศัพท์เติมลงในช่องว่างตามหมายเลข
1–5 ลงในสมุดให้ถูกต้อง
- ครู เปิ ดแผ่นซีดี/แถบบันทึกเสี ยงให้ฟังอีกครั้ง แล้วตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 81
1. may 2. will 3. will 4. won’t 5. might
201

กิจกรรมที่ 5: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านคำในกรอบ Exercise E ในหนังสื อเรี ยนหน้า 81 ครู อธิ บายว่า คำดังกล่าว
เป็ นคำที่ Dr Lanfear พูดแสดงความมัน่ ใจและไม่มนั่ ใจในการทำนายอนาคตของเธอ
- ให้นกั เรี ยนย้อนกลับไปดูอีกส่ วนหนึ่งของการสัมภาษณ์ในกิจกรรมข้อ D
- ให้นกั เรี ยนพิจารณาคำถามทั้ง 2 ข้อ แล้วตอบคำถาม ครู ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
- ถ้ามีขอ้ สงสัยเกี่ยวกับการใช้ may และ might ให้ครู ยกตัวอย่างให้ดูเพิ่มเติมอีก 2–3 ตัวอย่าง
จะทำให้เข้าใจมากขึ้น
เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 81
1a will 1b won’t 1c may/might 2. might

กิจกรรมที่ 6: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ครู อธิบายให้นกั เรี ยนเข้าใจว่า นักเรี ยนจะต้องเขียนเรื่ องเกี่ยวกับสิ่ งที่คิดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง
ชีวิตของตนเอง โดยใช้ค ำจาก Exercise E
- ให้นกั เรี ยนอ่านตัวอย่างพร้อมกัน ครู สุ่มถามนักเรี ยน 1–2 คน ว่าจะเลือกใช้ค ำใด
- บอกนักเรี ยนว่า นักเรี ยนจะต้องทดลองเขียนประโยค แล้วเขียนประโยคเพิ่มเติมอีก 2–3 ข้อ
- ถ้าหากยังมีเวลาพอในตอนท้ายชัว่ โมง ให้นกั เรี ยนแต่ละคนพูดประโยคที่ได้เขียนไว้มาคนละ
1 ประโยค หรื อโดยการสุ่ มนักเรี ยนให้พดู ประโยคก็ได้
กิจกรรมที่ 7: Speaking (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนจับคู่กนั ถามและตอบคำถามเกี่ยวกับอนาคต
- ครู อ่านประโยคตัวอย่างพร้อมกับอาสาสมัคร 1 คน แล้วบอกให้คนอื่น ๆ ทำในลักษณะ
เดียวกัน
- ครู ตรวจสอบกิจกรรมด้วยการเดินดูรอบ ๆ ห้องเพื่อฟังแต่ละคู่สนทนากัน และครู ตรวจสอบ
ด้วยว่า นักเรี ยนใช้ภาษาได้ถูกต้องหรื อไม่
กิจกรรมที่ 8: Dictionary work (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู บอกนักเรี ยนว่า นักเรี ยนจะหารู ปการเปรี ยบเทียบขั้นกว่าและขั้นสุ ดของคำคุณศัพท์ที่ไม่
เป็ นไปตามกฎได้จากพจนานุกรม ให้นกั เรี ยนปฏิบตั ิกิจกรรมใน Exercise H ในหนังสื อ
เฉลย: Students’ Book ข้ อ H หน้ า 81
เรี ยนหน้า 81 โดยใช้ Mini-dictionary ในหนังสื อเรี ยนหน้า 101–110
202

กิจกรรมเสริม (กิจกรรมกลุ่ม)
Nouns, Adjectives, Adverbs: Speaking
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ให้คนที่ 1 คิดหาคำนาม คนที่ 2 หาคำคุณศัพท์ และ
คนที่ 3 หาคำกริ ยาวิเศษณ์
- แล้วสลับให้คนที่ 2 คิดหาคำนาม คนที่ 3 คิดคำคุณศัพท์ และคนที่ 1 คิดคำกริ ยาวิเศษณ์
- ครู อาจจะบอกให้นกั เรี ยนส่ งตัวแทนกลุ่ม 1 คน ออกมาเขียนคำศัพท์บนกระดาน แล้วช่วยคำที่
เป็ นคำนาม คำคุณศัพท์ และคำกริ ยาวิเศษณ์ของคำเหล่านั้น ในกรณี น้ ี เพื่อนในชั้นเรี ยนที่
เหลืออาจจะช่วยก็ได้ถา้ นักเรี ยนติดขัด หรื อมีขอ้ สงสัย
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 31) หน้า 50
เฉลย: Activity Book (Lesson 31) หน้ า 50
A 2 We might meet aliens by 2025.
3 We may build a space colony on Mars.
4 We won’t travel at the speed of light.
5 We will discover new planets.
B open
C 2 solar system 3 moon 4 space colony 5 speed of light 6 spacesuit
D open
E open

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 39
Lesson: Our Solar System
Topic Focus
- ก่อนที่จะให้นกั เรี ยนเปิ ดหนังสื อเรี ยน ครู ถามว่า นักเรี ยนทราบหรื อไม่วา่ ระบบสุ ริยะคืออะไร
ครู รับฟังคำตอบ 2–3 คำตอบ แล้วตรวจสอบว่านักเรี ยนทราบหรื อไม่วา่ มีดาวเคราะห์กี่ดวง
- บอกนักเรี ยนว่าในบทเรี ยนนี้ นักเรี ยนจะได้คน้ พบสิ่ งต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับระบบสุ ริยะ รวม
ถึงวิธีการที่น่าสนใจในการคำนวณอายุของดาวเคราะห์ดวงอื่นด้วย
กิจกรรมที่ 1: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนดูรูปภาพของระบบสุ ริยะในหนังสื อเรี ยนหน้า 82 แล้วอ่านชื่อของดาวเคราะห์
พร้อมกับครู เพื่อแก้ปัญหาการออกเสี ยงผิด
203

- ให้นกั เรี ยนเขียนตัวอักษร A–G ลงในสมุด ให้ดูแผนผังของระบบสุ ริยะอีก แล้วให้จบั คู่


ระหว่างรายชื่อของดาวเคราะห์กบั ดาวเคราะห์ที่ปรากฏในแผนผัง (มีดาวยูเรนัสและเนปจูน
เพื่อช่วยหาอยูแ่ ล้ว)
- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องอย่างเร็ ว เพื่อตรวจสอบว่านักเรี ยนทำถูกหรื อไม่ ครู ตรวจคำตอบด้วย
การเฉลยปากเปล่า

เฉลย: Students’ Book ข้ อ A หน้ า 82


A Mercury B Venus C Earth D Mars E Jupiter F Saturn G Pluto

กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านชื่อเรื่ องทั้ง 3 ชื่อ ครู อธิ บายให้ฟังว่าคำว่า inner และ outer หมายถึงตำแหน่ง
ของดาวเคราะห์วา่ อยูใ่ กล้หรื อไกลจากดวงอาทิตย์
- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องในหนังสื อเรี ยนหน้า 82 อย่างเร็ ว แล้วจับคู่ชื่อเรื่ องกับย่อหน้า
- กำหนดเวลาให้นกั เรี ยนปฏิบตั ิกิจกรรม แล้วตรวจสอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 82
The Universe: paragraph 1
The Inner Planets: paragraph 2
The Outer Planets: paragraph 3

กิจกรรมที่ 3 : Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านคำถาม 8 คำถามในหนังสื อเรี ยนหน้า 82 แล้วอ่านเนื้อเรื่ องอย่างละเอียดอีก
ครั้งเพื่อหาคำตอบ
- ให้น ำคำตอบของแต่ละคู่มาเปรี ยบเทียบกัน แล้วช่วยกันแก้ไขข้อผิดพลาดโดยตรวจจาก
เนื้อเรื่ อง จากนั้นครู ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า และให้อาสาสมัครออกไปเขียนคำ
ตอบบนกระดาน
เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 83
1 The Milky Way 2 6000 C 3 88 days 4 About 500 C 5 In 1976 6 Because there is
frozen water there. 7 There may be water on it. 8 248 Earth years

กิจกรรมที่ 4: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านประโยคทั้ง 4 ประโยค ในหนังสื อเรี ยนหน้า 83
- อธิบายให้นกั เรี ยนฟังว่า นักเรี ยนจะต้องกลับไปอ่านเนื้อเรื่ องอีกครั้ง เพื่อหาคำศัพท์อื่นซึ่ งมี
ความหมายเหมือนกัน ครู ท ำข้อแรกพร้อมนักเรี ยนเพื่อเป็ นตัวอย่าง และตรวจคำตอบด้วยการ
เฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 84
1 planet 2 atmosphere 3 galaxy 4 orbits
204

กิจกรรมที่ 5: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)


- เครื่ องคิดเลขจะมีประโยชน์มากในการทำกิจกรรมนี้
- ครู อธิบายพร้อมกับเขียนบนกระดานว่า โลกใช้เวลาเดินทาง 365.25 วัน ดังนั้นในบางปี จึง
ต้องมีการเพิ่มวันขึ้นอีก 1 วันในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้เดือนกุมภาพันธ์บางปี มี 29 วัน ปี ที่
เดือนกุภาพันธ์มี 29 วัน เรี ยกว่า ปี อธิ กสุ รทิน ซึ่ งทุก ๆ 4 ปี จะมีวนั เพิ่มขึ้น 1 วันในเดือน
กุมภาพันธ์ ทำให้ปีนั้นมี 366 วัน ถ้าในขณะนี้ นกั เรี ยนอายุ 10 ปี อีก 365 วัน นักเรี ยนจะมีอายุ
11 ปี
If you are ten:
Ten Earth years = 10 ĭ 365 = 3650 days
One Mercury year = 88 days
So, 3650 Į 88 = 41: You’re about 41 Mercury years old!
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม แล้วอ่านประโยคตัวอย่างบนกระดาน
- ให้นกั เรี ยนคำนวณอายุของเขาเองโดยใช้เครื่ องคิดเลข และให้ค ำนวณอายุบุคคลในครอบครัว
ด้วย ถ้าสมมุติวา่ อยูท่ ี่ดาวพุธ สำหรับนักเรี ยนที่ชอบการคำนวณและทำเสร็ จก่อนคนอื่น อาจ
จะให้ค ำนวณอายุที่ดาวพลูโตว่าจะมีอายุเท่าใด
- ครู ตรวจสอบการทำกิจกรรม เพื่อให้แน่ใจว่านักเรี ยนใช้ภาษาได้ถูกต้อง จากนั้นครู ให้
ตัวแทน 2–3 คน โดยสุ่ มจากนักเรี ยนทั้งชั้นเรี ยน ตอบคำถาม
กิจกรรมที่ 6: Writing (กิจกรรมรายบุคคล) /Speaking (กิจกรรมคู่)
- บอกให้นกั เรี ยนอ่านตารางเกี่ยวกับดาว Ariel ในหนังสื อเรี ยนหน้า 83 ให้เน้นที่ลกั ษณะของ
ข้อมูลที่ก ำหนดให้
- บอกให้นกั เรี ยนคัดลอกตารางลงในสมุด ปล่อยที่วา่ งไว้สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์ดวง
ใหม่
- ให้เติมข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์ลงไป
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ ผลัดกันสัมภาษณ์คู่ของตนเอง เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์
ดวงใหม่โดยใช้ค ำถามในลักษณะเดียวกับคำถามที่ก ำหนดให้
- ครู อ่านคำถาม 1–2 คำถาม และตอบพร้อมกับนักเรี ยนทั้งชั้นเรี ยน
- ครู ตรวจสอบปฏิบตั ิกิจกรรมเพื่อให้แน่ใจว่านักเรี ยนใช้ค ำถามได้ถูกต้อง และถ้ามีเวลาพอให้
นักเรี ยนผลัดกันสัมภาษณ์ 1–2 เที่ยว
กิจActivity
กรรมเสริBook ม TAPESCRIPT::
TheActivity
Solar Book,
System:Lesson
Writing32, (กิ
Exercise
จกรรมกลุD. ่ ม)
- Aแบ่spaceship from Earth
งนักเรี ยนออกเป็ นกลุis่ม orbiting a newคนplanet.
กลุ่มละ 4–5 ให้นกั Listen to the computer
เรี ยนทำงานร่ วมกันเพื่อgiving information
จัดทำแผนภู มิของ
about
ระบบสุtheริยplanet
ะติดผนัand
งห้write
อง โดยปิ notes.
ดป้ ายชื่อดาวเคราะห์แต่ละดวงพร้อมกับข้อมูลที่นกั เรี ยนรู ้หรื อ
Atmosphere:
หามาได้ เช่น ขนาด จำนวนดวงจันทร์butระยะทางจากดวงอาทิ
There is some oxygen, less than on Earth. There
ตย์ เป็ นareต้นsome water clouds
- and
ให้นsome clouds withกหัa ดlotในofActivity
กั เรี ยนทำแบบฝึ acid. There
Book,is acid
Lessonrain.32, Exercise D. หน้า 51
Temperature: The temperature of the surface goes from -10 C to + 60 C.
Sea: 50 per cent of the planet is water.
Plant life: There are some large green areas on the planet.
Other features: There are some mountains, rivers and lakes. There are also some large dry
areas. There are some lines which could be roads or canals.
205

เฉลย: Activity Book (Lesson 32) หน้ า 51


A open
B 1 temperature/surface
2 orbits
3 rings
4 planets
C 2 How long is a year on Mercury?
3 How far is it to the star Proxima Centauri.
4 How many planets are there in the solar system?
5 How far away is Barnard’s Star?
D temperature: -10 to 60 C
sea: 50% of planet
plant life: large green areas
other features: mountains, rivers and lakes; large, dry areas; lines like canals or roads

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 40
Lesson 33: A Space Colony
กิจกรรมที่ 1: Reading/Writing (กิจกรรมรายบุคคล) A
- บอกนักเรี ยนว่าในบทเรี ยนนี้ นักเรี ยนจะได้คน้ หาเกี่ยวกับอาณานิคมในอวกาศ
- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องและจดโน้ตย่อเกี่ยวกับหัวข้อเรื่ องที่ก ำหนดให้ แล้วพิจารณาตัวอย่าง
ก่อนเริ่ มปฏิบตั ิกิจกรรม ครู ตรวจสอบการปฏิบตั ิกิจกรรมและช่วยเหลือถ้านักเรี ยนมีปัญหา
- เมื่อนักเรี ยนปฏิบตั ิกิจกรรมเสร็ จแล้ว ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า แล้วให้อาสาสมัคร
ออกไปเขียนคำตอบบนกระดาน
- ครู อาจจะแบ่งกระดานเป็ น 2 ช่องในแนวตั้ง และแบ่งนักเรี ยนเป็ น 2 กลุ่ม ให้นกั เรี ยนสัก 2–3
คน จากแต่
เฉลย: ละกลุ่มBook
Students’ ออกมาทำการตรวจคำตอบและเขี
ข้ อ A หน้ า 84 ยนคำตอบของกลุ่มตนลงบนกระดานใน
ช่องของตนmonorail / rockets
Transport:
Sports: space volleyball/swimming/ surfing
Food: all kinds of vegetables
Industry: special farms/different factories to manufacture everything from telephones to
toothpaste/ repair of rockets / recycling centres
206

Language Focus: Present simple passive


- ประโยค active (ประธาน + กริ ยา + กรรม) สามารถเปลี่ยนให้เป็ นประโยค passive ในรู ป
ของ กรรม + to be + กริ ยาช่อง 3 + (by + ผูก้ ระทำ) passive voice มีใช้มากในภาษาอังกฤษ
และได้สร้างปัญหาให้แก่ผเู้ รี ยนที่ภาษาแม่ของเขาไม่ได้ใช้รูปแบบนี้
- ปัญหาสำคัญประการหนึ่งก็คือ ควรจะพิจารณาว่าจะใส่ ผกู ้ ระทำลงไปหรื อไม่ (ส่ วนที่ข้ ึนต้น
ด้วย by) สำหรับกฎกว้าง ๆ ผูก้ ระทำจะไม่ใส่ ลงไปถ้าเห็นว่าไม่มีความสำคัญในการสื่ อสาร
ถ้าเห็นว่าการกระทำหรื อประธานสำคัญที่สุด หรื อถ้าเห็นว่าเป็ นที่ทราบกันอยูแ่ ล้วว่าผูก้ ระทำ
คืออะไรหรื อใคร
กิจกรรมที่ 2: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านประโยคในกรอบที่ก ำหนดให้ในหนังสื อเรี ยนหน้า 85 แล้วให้หาประธานใน
แต่ละประโยค ครู แก้ไขคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
- ให้นกั เรี ยนหาคำกริ ยาแต่ละประโยค ครู ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่าแล้วเขียนลงบน
กระดาน
กิจกรรมที่ 3: Learning to learn (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู ถามนักเรี ยนด้วยคำถามแรก คือ What are the two parts of the passive verb? (คำกริ ยาแบบ
passive มี 2 ส่ วน คืออะไรบ้าง) ครู แก้ไขคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า โดยใช้ตวั อย่างแสดง
ให้ดู
- ให้นกั เรี ยนคิดหาคำตอบสำหรับคำถามข้อ 2 และ 3 โดยคำนึงถึงผูก้ ระทำเป็ นสำคัญ
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า และอธิ บายเพิ่มเติมถ้านักเรี ยนไม่เข้าใจ
เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 85
Subjects: 1 They 2 Everything 3 Rockets 4 Minerals
Verbs: 1 recycle 2 is recycled 3 bring 4 are brought
1 A form of the verb to be plus a past participle.
2 No, we don’t know who recycles everything; the important fact is that things are recycled.
3 Yes, we know what brings minerals from the Moon (rockets); both minerals and rockets
are important to us here.

กิจกรรมที่ 4: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนย้อนกลับไปอ่านประโยคกรอบ Language Focus กิจกรรมข้อ B อีกครั้ง และกลับ
มาอ่านประโยคทั้ง 7 ข้อในกิจกรรมนี้
- ให้นกั เรี ยนเปลี่ยนประโยคให้เป็ น Passive voice โดยปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง
207

- ถ้าจำเป็ นอาจจะทำข้อ 1 ให้ดูเป็ นตัวอย่าง ให้เวลานักเรี ยนได้เขียนประโยคใหม่ แล้วนำไป


เปรี ยบเทียบกับของเพื่อน ๆ
- ครู ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า และให้อาสาสมัครออกไปเขียนบนกระดาน
- ขณะที่ตรวจคำตอบ ให้ครู ถามนักเรี ยนว่า ประโยคไหนต้องมีผกู ้ ระทำ ประโยคไหนไม่ตอ้ งมี
ให้นกั เรี ยนให้เหตุผลประกอบ

เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 85


2 Sunlight is directed on to the wheel by mirrors.
3 Space volleyball is played in the sports centre.
4 Everything is manufactured here.
5 Vegetables are grown on special farms.
6 Rockets are repaired in the factory.
7 The spaceport is connected with the wheel by monorails.

กิจกรรมที่ 5: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม) A


- ในการทำกิจกรรมนี้ ครู ตอ้ งเตรี ยมลูกเต๋ าและแผ่นพลาสติกที่ใช้เล่นเกม แล้วบอกให้นกั เรี ยน
อ่านแผ่นเล่นเกมเรื่ องอาณานิคมในอวกาศ และให้นกั เรี ยนอ่านกฎการเล่นเกม ครู แสดงการ
เล่นให้ดูเป็ นตัวอย่างให้ท้ งั ชั้นดู จนแน่ใจว่าทุกคนเข้าใจการเล่นเกม
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม ๆ แล้วเริ่ มเล่นเกม ครู ตรวจสอบกิจกรรมด้วยการฟังแต่ละกลุ่ม
และต้องแน่ใจว่าแต่ละกลุ่มใช้รูปแบบ passive voice ได้ถูกต้อง (ถ้าทำผิดไม่ได้คะแนน)
กลุ่มใดมีปัญหาครู ควรช่วยเหลือ
- ให้นกั เรี ยนมีเวลาพอที่จะเล่นเกมจนจบ แล้วคอยดูวา่ ใครคือผูช้ นะในแต่ละกลุ่ม
กิจกรรมเสริม
Passive: Writing (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนคิดถึงสถานที่สาธารณะ 5 แห่งในเมืองที่นกั เรี ยนอยู่ แล้วเขียนชื่อลงในแผ่น
กระดาษ
- Activity
ให้ยนื่ กระดาษแผ่ นนั้นให้เพื่อนเขียนประโยค passive 2 ประโยคเกี่ยวกับสถานที่น้ นั ประโยค
Book TAPESCRIPT
แรกเป็ นบอกเล่
Activity Book, าLesson
ประโยคที33, ่ Exercise
2 เป็ นปฏิExtra
เสธ ตัวTime.
อย่างเช่น Library–Books are borrowed. Books
are nottobought
Listen fromanda library.
the text answer the questions.
- The
ให้นDogon
กั เรี ยนอ่tribe,
านประโยคที
who live่เขาแต่
southงofดังthe
ๆ ให้ เพื่อนฟั
Sahara ง เพื่อknow
desert, ให้เพื่อa นช่
lot วabout
ยกันแก้
ourไขและตรวจสอบ
galaxy. What is
ให้ถูกต้อง is that they have known about is since ancient times. For centuries they have
surprising
- known
ให้นกั เรีabout
ยนทำแบบฝึ
Saturn’กrings
หัดในandActivity Book
Jupiter’s (Lesson
Moons 33)areหน้impossible
which า 52 to see without a
telescope!
Sirius is the brightest star in the sky. In 1862, scientists discovered Sirius B, a tiny star
which moves around it. It is so small that scientists could not take a photograph of it until
1970. However, the Dogons knew all about it hundreds of years ago. They knew that it is
white, that it is extremely heavy and that it orbits Sirius once every 50 years.
How do the Dogons know so much? They say that visitors from another planet landed on
Earth a long time ago and told them.
208

เฉลย: Activity Book (Lesson 33) หน้ า 52


A 2 The equipment is kept in the lockers.
3 The air is cleaned by a machine.
4 Energy is collected by solar panels.
5 The spacesuits are kept near the door.
6 Oxygen and water are kept in containers.
B 2 sports centre 3 monorail 4 space colony 5 recycling plant
6 volleyball
C 2 is 3 were 4 will be 5 was
D 1 south of the Sahara desert 2 Sirius 3 1862

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 41
Lesson 34: Star trekking
กิจกรรมที่ 1: Speaking (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ถามนักเรี ยนสัก 2–3 คนว่าเขาสนใจกิจกรรมในอวกาศหรื อไม่ หากนักเรี ยนสนใจ ให้ถามว่า
กิจกรรมในข้อใดจากรายการที่ก ำหนดให้ใน Exercise A ทีอ่ ยากจะลองทำดู ครู เขียนคำ
ตอบบนกระดาน แล้วถามนักเรี ยนทั้งชั้นว่าเห็นด้วยกับคำตอบของเพื่อนหรื อไม่ ถ้าไม่เห็น
ด้วยครู ถามว่ากิจกรรมใดที่นกั เรี ยนชอบที่สุด ให้นกั เรี ยนเขียนราบการกิจกรรมเรี ยงลำดับ
ความชอบบนกระดาน ครู ถามว่า นักเรี ยนคิดว่าจะได้ท ำสิ่ งเหล่านั้นในอนาคตหรื อไม่
กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอ่านบทความเรื่ อง Cosmonaut for a Day! ในหนังสื อเรี ยนหน้า 86 อย่าง
เร็ วเพื่อหาคำตอบสำหรับคำถาม Which of the things below do you think
is the biggest problem for cosmonauts? จากนั้นครู ตรวจคำตอบด้วยการ
เฉลยปากเปล่าพร้อมกันทั้งชั้น

เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 86


re-entering the atmosphere

กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


209

- ให้นกั เรี ยนอ่านบทความในหนังสื อเรี ยนหน้า 86 อีกครั้ง แล้วตอบคำถามทั้ง 5 คำถามในแบบ


ฝึ กหัดนี้ อาจจะให้ตอบปากเปล่าหรื อเขียนก็ได้
เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 87
1 To practise space flight.
2 The situation there is 90% similar to zero gravity.
3 To walk in space.
4 To prepare cosmonauts for visits to the MIR space station.
5 In a Russian aeroplane.
กิจกรรมที่ 4: Listening (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู อ่านประโยคแต่ละประโยค Exercise D ในหนังสื อเรี ยนหน้า 87 ดัง ๆ และบอกให้
นักเรี ยนยกมือขึ้นถ้าเขาคิดว่าข้อความนี้เป็ นความจริ ง ครู อาจจะบันทึกคะแนนลงบนกระดาน
- ครู เปิ ดแผ่นซีดีให้นกั เรี ยนตรวจคำตอบ
TAPESCRIPT:
Listen to the radio programme and check your answers.
PRESENTER: Hello and welcome to Science Now. Today we’re going to look at space
exploration. In the studio is Dr. Mark Taylor from Southampton University.
SCIENTIST: Hello.
PRESENTER: Dr. Taylor, before we start talking about the future, can you tell us
something about the history of space exploration?
SCIENTIST: Well, the ‘space race’ started in the 19850s – between the United States and
Russia. Russia sent the first satellite into space on the 4 th of October 1957 and the first
living creature into space on the 3rd of November 1957 – it was a dog called Laika. She was
the first creature to die in space. The Russians were the first to send people into space too.
The cosmonaut Pavel Belyayvew was going to go, but he broke his leg. So the first man in
space was Yuri Gagarin on the 12th of April 1961. The first American in space was Alan
Shepard, three weeks after Gagarin. The first woman in space was Valentina Tereshkova on
the 16th of June 1963. The first American woman was Sally Ride in 1983, twenty years
later. On the 20th of July 1969, the American, Neil Armstrong became the first man on the
moon. The first space station was the American Skylab in the 1970s – but it was not a great
success. The Russian MIR station has been more successful and has taught us a lot about
living conditions in space. Both the Americans and Russians have sent out space probes,
space ships with no people on them. These have explored other planets and have even left
the solar system. In 1997 an American space probe, called the Mars Pathfinder, landed on
the surface of Mars to explore it.
PRESENTER: And what about the future?
SCIENTIST: Well, a new international space station is planned and the Russians are
planning interplanetary exploration – they hope to send people to Mars in about 2020 – the
journey there and back will take over three years!
210

เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 87


1F 2 T 3F 4F 5F 6T 7T

กิจกรรมที่ 5: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)


- บอกนักเรี ยนว่าให้เขียนแผนการท่องอวกาศเพื่อสำรวจดาวเคราะห์ที่คิดขึ้นเองใน Lesson
32 Exercise F ในหนังสื อเรี ยนหน้า 86
- ให้นกั เรี ยนตั้งชื่อการท่องอวกาศครั้งนี้ และจัดทำโน้ตย่อเกี่ยวกับดาวเคราะหื ที่คิดขึ้นตาม
ตัวอย่างหน้า 87 แล้วกรอกข้อความให้สมบูรณ์ โดยไม่ให้ลอกข้อความจาก Mission Icarus
กิจกรรมที่ 6: Speaking (กิจกรรมคู่)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ ให้นกั เรี ยนสัมภาษณ์เพื่อนเกี่ยวกับการท่องอวกาศ
- ให้ 2–3 คู่รายงานให้เพื่อนทั้งชั้นฟัง และเขียนโครงร่ างลักษณะสำคัญ ๆ ของการท่องอวกาศ
ครั้งนี้
กิจกรรมเสริม
A poster: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- เขียนบันทึกจากบันทึกย่อจาก Exercise E เขียนป้ ายโปสเตอร์เล็ก ๆ เกี่ยวกับดาวเคราะห์
ที่เราสมมุติข้ ึนมา แล้วเขียนข้อมูลเพิม่ เติมลงไป เช่น บรรยากาศ อุณหภูมิ ใครอาศัยอยู่
เป็ นต้น ให้วาดรู ปภาพประกอบเพื่อให้เห็นภาพชัดเจน
Anagrams: Writing (กิจกรรมคู่)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ คือนักเรี ยน A และนักเรี ยน B ครู ยกตัวอย่างการสลับตัวอักษรให้
นักเรี ยนดู เช่น NEGHILS สำหรับคำว่า ENGLISH
- ครู เลือกชุดคำศัพท์มา 2 ชุด ตัวอย่างเช่น space และ travel นักเรี ยน A เขียนสลับตัวอักษรของ
คำซึ่ งเกี่ยวกับชุดที่ 1 และนักเรี ยน B ทำเช่นเดียวกับกับชุดที่ 2 ให้ท้ งั สองคนเขียนจำนวนคำ
ศัพท์ที่เท่ากันเมื่อทำกิจกรรมเสร็ จแล้ว ให้น ำรายชื่อชุดคำศัพท์แลกเปลี่ยนกัน เพื่อเรี ยงคำ
ศัพท์ให้ถูกต้อง นักเรี ยนคนใดเรี ยงคำศัพท์เสร็ จก่อนจะเป็ นผูช้ นะ
- ให้นกั เรี ยนทำแบบฝึ กหัดใน Activity Book (Lesson 34) หน้า 53
เฉลย: Activity Book (Lesson 34) หน้ า 53
A 2 are organised 3 is simulated 4 are practised 5 is used
B 1 fit 2 got 3 get ready 4 took 5 get 6 landed
C 2 There may be mechanical problems.
3 We are going to establish a colony.
4 There will be no food or people on the planet.
5 We are going to extract minerals.
6 We might find aliens.
7 Children might be born in a colony.
D open
211

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 42
Lesson 36: Fluency
กิจกรรมที่ 1: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนอธิบายความแตกต่างระหว่างคำว่า astronomy และ astrology โดยอาจอธิ บายเป็ น
ภาษาไทยก็ได้ (คำตอบคือ astronomy เป็ นวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ ส่ วน
astrology ศึกษาอิทธิพลของดาวเหล่านั้นที่มีต่อมนุษย์)
- บอกให้นกั เรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องทั้ง 4 เรื่ อง ครู อธิ บายให้ทราบว่าแต่ละเรื่ องเขียนบรรยายใน
แต่ละธาตุ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) ครู อธิบายว่าธาตุเหล่านี้สะท้อนออกมาเป็ นบุคลิกลักษณะของเรา
- ให้นกั เรี ยนอ่านเนื้อเรื่ องและให้บอกว่าอันไหนบรรยายบุคลิกลักษณะของตนเอง
- ครู บอกให้นกั เรี ยนยกมือเมื่อครู พดู ตรงกับธาตุของเขาคือ ธาตุไฟ น้ำ ลม และดิน และให้ถาม
ด้วยว่ามีใครไม่แน่ใจว่าจะตรงกับธาตุใด
กิจกรรมที่ 2: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนคิดหาคำคุณศัพท์ที่บรรยายบุคลิกลักษณะ บอกให้อ่านเนื้อเรื่ องอีกครั้ง แล้วหาคำ
คุณศัพท์ 5 คำจากเนื้อเรื่ อง
- ให้นกั เรี ยนอ่านตัวอย่างคำว่า creative พร้อมกันหรื อคิดหาคำคุณศัพท์ข้ ึนมาเอง เช่น I
have a fiery personality. That means I get angry easily. แล้วจดบันทึกคำคุณศัพท์ใหม่ ๆ ใน
สมุด
เฉลย: Students’ Book ข้ อ B หน้ า 88
creative, dynamic, enthusiastic, energetic, emotional, passionate, rational, logical, practical

กิจกรรมที่ 3: Reading (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนอ่านคำบรรยายเกี่ยวกับบุคคล 5 คนในหนังสื อ แล้วให้บอกว่าแต่ละคนเป็ นธาตุใด
ข้อ 1 ครู ท ำพร้อมกับนักเรี ยนเพื่อเป็ นตัวอย่าง
- ตรวจคำตอบด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ C หน้ า 88
1 Paul – Earth 2 Robert – Fire 3 Christine – Water 4 Sarah – Earth 5 Charlotte – Air

กิจกรรมที่ 4: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)/ Speaking (กิจกรรมคู่)


- ให้นกั เรี ยนอ่านใบสมัครเป็ นนักบินอวกาศ แล้วเขียนคำตอบลงในสมุด ถ้าจำเป็ นครู ช่วย
อธิบายคำศัพท์และโครงสร้างของประโยค
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ ให้นกั เรี ยนถามกันและกันด้วยประโยคคำถามในแบบฟอร์ม แล้ว
เขียนคำตอบ ครู ตรวจสอบกิจกรรมด้วยการเดินดูรอบ ๆ ห้อง ต้องมัน่ ใจว่านักเรี ยนใช้
212

โครงสร้างของประโยคได้ถูกต้อง แล้วอภิปรายคำตอบสำหรับคำถาม 2 ข้อสุ ดท้าย ครู ถาม


นักเรี ยนสัก 2-3 คู่วา่ คู่ของตนจะเป็ นนักบินอวกาศได้ดีหรื อไม่ เพราะเหตุใด
กิจกรรมที่ 5: Pronunciation (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- บอกให้นกั เรี ยนดูรูปดาวฤกษ์และอ่านชื่อกลุ่มดาวฤกษ์พร้อมกับนักเรี ยน ฝึ กออกเสี ยงให้ถูก
ต้อง ให้นกั เรี ยนหาสัญลักษณ์ของดาวเหล่านั้น
กิจกรรมที่ 6: Reading (กิจกรรมคู่)
- ให้นกั เรี ยนอ่านคำทำนายชะตาแล้วจับคู่ชื่อเรื่ องกับคำทำนายที่ตรงกัน ให้มุ่งความสนใจไปที่
การใช้ค ำกริ ยาช่วยต่าง ๆ กัน เพื่อแสดงความแน่นอนและความเป็ นไปได้
- ครู ตรวจด้วยการเฉลยปากเปล่า

เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 79


1 family 2 friend 3 love 4 money
กิจกรรมที่ 7: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ครู อธิบายให้ฟังว่า นักเรี ยนจะได้เขียนคำทำนายชะตาชีวิตสำหรับ 1 ราศี โดยอาจจะเขียนราศี
ของตนเองหรื อของเพื่อนก็ได้
- งานของนักเรี ยนจะแบ่งเป็ น 4 ขั้นตอน ให้อ่านจนจบแล้วอธิ บายแต่ละขั้น ดังนี้
- ขั้นแรก ให้เลือก 1 ราศี แล้วเขียนโน้ตย่อคำทำนายของเขาเกี่ยวกับครอบครัว เพื่อน ความรัก
และเงิน
- ขั้นต่อไป ใช้โน้ตย่อเขียนเป็ นคำทำนายออกมา ครู ตอ้ งย้ำเตือนให้นกั เรี ยนใช้ค ำกริ ยาช่วยต่อ
ไปนี้คือ will / won’t / may / might
- ครู ตรวจสอบการทำกิจกรรมด้วยการเดินดูรอบ ๆ ห้องเรี ยน เพื่อตรวจดูวา่ นักเรี ยนทำตามขั้น
ตอนต่าง ๆ หรื อไม่ เตือนให้นกั เรี ยนค้นคำศัพท์จากพจนานุกรมย่อยถ้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับคำ
ศัพท์ ตรงไหนนักเรี ยนมีปัญหาครู ตอ้ งช่วยแก้
- เมื่อนักเรี ยนทำกิจกรรมเสร็ จแล้ว ให้ส่งผลงานให้เพื่อนคู่หูตรวจแก้ไข ก่อนการเขียนฉบับ
จริ ง
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกคำทำนายชะตาชีวิต และตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ของราศีที่นกั เรี ยนเลือกไว้
แล้ว
- จัดแสดงผลงานของนักเรี ยนไว้รอบห้องเรี ยน เพื่อให้คนอื่น ๆ มาอ่าน แล้วครู จดั เก็บคำ
ทำนายไว้เรี ยงตามลำดับเพื่อให้คะแนนต่อไป
กิจTAPESCRIPT
กรรมที่ 8: Listening (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- Listen
ให้นกั เรีtoยนอ่
theาsong
นคำถาม ครู เปิMan
Rocket ดเทปanswer
(อาจจะมากกว่ า 1 รอบก็
the questions ได้) ให้
in your นกั เรี ยนเลือกคำตอบที่ถูก
book.
ที่สุดpacked
She ในแต่ลmy ะข้อbags last night pre-flight
- Zero
ครู ตรวจแก้ ดว้ ยการตอบปากเปล่
hour nine a.m. า ถ้านักเรี ยนจะร้องเพลงตามไปด้วยก็ท ำได้
And I’m gonna be as high as a kite by then
I miss the earth so much I miss my wife
It’s lonely out in space
On such a timeless flight
And I think it’s gonna be a long long time
Till touchdown brings me round again to find
213

I’m not the man they think I am at home


Oh no no no I’m a rocket man
Rocket man burning out his fuse up here alone
Mars ain’t the kind of place to raise your kids
In fact it’s cold as hell
And there’s no one there to raise them if you did
And all this science I don’t understand
It’s just my job five days a week
A rocket man, a rocket man
And I think it’s gonna be a long long time...
เฉลย: Students’ Book ข้ อ H หน้ า 89
1b 2c 3a 4c
กิจกรรมเสริม
Predictions: Writing/Speaking (กิจกรรมคู่)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นคู่ ๆ
- ให้แต่ละคนเขียนคำทำนายชะตาชีวิตเกี่ยวกับความรัก ครอบครัว เพื่อนและเงิน สำหรับ
สัปดาห์หน้าลงบนกระดาษ พับอย่างดีแล้วส่ งให้เพื่อนคู่หู ห้ามอ่านจนกว่าโรงเรี ยนจะเลิก
- ให้นกั เรี ยนทำเครื่ องหมายถูกหรื อกากบาทหลังคำทำนายแต่ละข้อ ทั้งนี้ข้ ึนอยูก่ บั ว่าคำทำนาย
เป็ นจริ งหรื อไม่ตามเวลาที่ก ำหนดไว้
- ปล่อยให้นกั เรี ยนได้อภิปรายผลการทำนายของเพื่อน โดยทำเป็ นกลุ่มหรื อทั้งชั้น หลังจาก
เวลานั้นได้ผา่ นไปแล้ว (เช่น หลังจาก 1 สัปดาห์)
Activity Book TAPESCRIPT
Activity Book, Lesson 35, Exercise E.
Listen to an astrologer and match his descriptions to the people in your book.
FEMALE 1: ... really. And you often do things without thinking carefully about them. You
get excited and do things in a hurry. This means that you ...
FEMALE 2: ... and security. You are, in fact, a very practical person and you like doing
jobs yourself, particularly in the home. You like comfort and material things, e.g. ...
214

FEMALE 3: ... like that. You are a very logical person indeed, and you are also very good
at expressing all your ideas to other people. Also ...
FEMALE 4: ... of energy. Really you are a very creative and energetic person! You are a
natural artist and probably do something creative in your free time, maybe painting or
music. I suppose ...

เฉลย: Activity Book (Lesson 35) หน้ า 54


A 3 creative 4 logical 5 energetic 6 practical 7 dynamic 8 emotional
B Fire c Water d Air b Earth a
C 2 Libra 3 Leo 4 Cancer 5 Gemini 6 Scorpio 7 Aquarius 8 Virgo
9 Sagittarius 10 Aries 11 Pisces 12 Capricorn
D 2 Ian is enthusiastic, emotional and energetic.
3 Sandra is creative, energetic and logical.
4 Paul is dynamic, passionate and emotional.
E Debbie 2 Eric 4 Linda 3 Bob 1

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 43
Lesson 36: Consolidation
กิจกรรมที่ 1: Writing (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกประโยคลงสมุดและเติมช่องว่างให้สมบูรณ์
- ครู ตรวจแบบฝึ กหัดด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย : Students’ Book ข้ อ A หน้ า 90
1 will 2 won’t 3 may/might 4 might/may 5 won’t 6 will

กิจกรรมที่ 2: Speaking (กิจกรรมคู่)


- ให้นกั เรี ยนทำงานเป็ นคู่ ให้คนหนึ่งทำนายในแง่ดีโดยใช้ค ำว่า will แต่เพื่อนอีกคนหนึ่ง
ทำนายในแง่ร้าย
- ให้อาสาสมัครออกมาทำนายเป็ นตัวอย่าง โดยเน้นที่ tense และวิธีใช้ tense
กิจเฉลย:
กรรมที ่ 3: Writing
Students’ (กิจข้กรรมรายบุ
Book อ C หน้ า 90คคล)
- 1ให้Rockets
นกั เรี ยนเขี
areยlaunched
นประโยคfrom Passive
CapeทีCanaveral.
่มีความหมายตรงกับ Active และย้ำเตือนว่าผูก้ ระทำอาจ
2จะไม่
Visitsพดู are
ถึงก็organised
ได้ to Russia’s Star City.
3 Zero gravity conditions are practised underwater.
4 Oxygen is recycled with a generator on space stations.
5 Venus is covered by thick clouds.
6 The Sun is orbited by Mercury every eighty-eight days.
215

กิจกรรมที่ 4: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนเติมคำลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ โดยเขียนลงในสมุด ตรวจแบบฝึ กหัดด้วยการ
เฉลยปากเปล่า

เฉลย: Students’ Book ข้ อ D หน้ า 90


1 planet 2 galaxies 3 orbits 4 gravity 5 station
กิจกรรมที่ 5: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)
- ให้นกั เรี ยนคัดลอกตารางลงในสมุด และทำงานด้วยตนเอง
เฉลย: Students’ Book ข้ อ E หน้ า 90
noun adjective adverb
mystery mysterious mysteriously
beauty beautiful beautifully
possibility possible possibly
emotion emotional emotionally
energy energetic energetically
logic logical logically
enthusiasm enthusiastic enthusiastically
creativity creative creatively

กิจกรรมที่ 6: Keywords (กิจกรรมรายบุคคล)


- ให้นกั เรี ยนเติมคำลงในช่องว่าง
- ตรวจด้วยการเฉลยปากเปล่า
เฉลย: Students’ Book ข้ อ F หน้ า 91
1 at 2 round 3 away 4 over down

กิจกรรมที่ 7: Learning to learn (กิจกรรมคู่)


- ให้แต่ละคู่อ่านสมุดคำศัพท์แล้วให้เขียนคำที่เขาคิดว่าออกเสี ยงยาก 10 คำ
216

- ครู ก ำหนดเวลาให้ท ำกิจกรรม แล้วให้แต่ละคู่อ่านคำที่เขาจดมาให้ท้ งั ชั้นฟัง ให้อาสาสมัคร


เขียนคำที่อ่านยากมากและพบบ่อยที่สุดลงบนกระดาน
- ให้เขียนรายการคำศัพท์ที่ออกเสี ยงยากที่สุดชุดใหม่ 10 คำ แล้วให้นกั เรี ยนฝึ กออกเสี ยง
พร้อมกัน
กิจกรรมที่ 8: Listening (กิจกรรมทั้งชั้นเรียน)
- ให้นกั เรี ยนฝึ กพูดคำศัพท์ 4 ชุด
- ครู เปิ ดเทปให้นกั เรี ยนพูดตาม
- เรี ยกให้พดู ตามด้วยการสุ่ ม
Test Yourself
- ให้นกั เรี ยนทำข้อสอบแต่ละชุดให้เสร็ จสมบูรณ์
เฉลย: Students’ Book (Test Yourself) หน้ า 91
A 1 are used 2 is occupied 3 is brought 4 is manufactured 5 is recycled
6 are recycled 7 are wasted 8 are polluted
B 1 may 2 won’t 3 may 4 might 5 will 6 will 7 won’t
Extra Time!
- ให้นกั เรี ยนเปิ ดหนังสื อเรี ยนหน้า 100 แล้วทำกิจกรรม Reading Club 6

เฉลย: Students’ Book (Reading Club 6) หน้ า 100


A Paragraph A: 4, 5, 8 Paragraph C: 1,6,7
Paragraph B: 2 Paragraph D: 3
B 1 When will the population of Earth reach eight billion?
2 Why might people go to live on other planets?
3 Who is planning to send more space probes to explore Mars?
4 How long did it take signals from the Pathfinder space probe to travel to and from
Earth?
5 What will the unmanned space probes produce?
C 1 space travel over long distances is difficult and dangerous; it takes a long time
2 it takes a long time to send signals to the probes to control them; they do not have a lot
of energy to send information back.
3 they will help scientists to send and receive signals from the exploration probes more
easily; cameras on the satellites will photograph Mars and enable scientists to make
better maps; they will help NASA bring rock back from Mars.
217

กิจกรรมเสริม
Evaluation of the course: Speaking (กิจกรรมกลุ่ม)
- แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม ให้นกั เรี ยนอภิปรายเรื่ องเกี่ยวกับบทเรี ยนในด้านต่อไปนี้
ประเด็นที่ดีที่สุด/แย่ที่สุด
กิจกรรมที่ชอบที่สุด/ที่ไม่ชอบ
เรื่ องที่ยากที่สุด/ง่ายที่สุด
หรื อเรื่ องที่นกั เรี ยนมีความรู้สึกว่า นักเรี ยนได้รับการปรับปรุ งให้ดีข้ึน นักเรี ยนจะทำให้ดีข้ ึน
ได้อย่างไร
- ถ้าจะให้ดีควรจะจดบันทึกลงไปด้วย และมองหาแนวทางที่จะทำให้กิจกรรมดีข้ ึนในปี ต่อไป
โดยอาจจะมีการลงมติ

Activity Book TAPESCRIPT


Activity Book, Lesson 36, Exercise D.
Pat, Dave and Charles went on a holiday to the moon. Match the sound of the letter a in
their names to the words below to complete the information about them.
Pat is a banker. She’s a dynamic person whose interest is athletics. Her favourite food is
hamburgers.
Dave is a baker. He’s a creative person whose interest is skating. His favourite food is
cakes.
Charles is an architect. He’s a calm person whose interest is gardening. His favourite food
is tomatoes.
เฉลย: Activity Book (Test Yourself) หน้ า 56
เฉลย: Activity2 might
A 1 won’t Book (Time to Read4 )will
3 will/won’t หน้ า5 55
won’t 6 will
A BParagraph
1 Cars areA-2;
madeParagraph C-3; Paragraph D-3
by robots.
B 1D;2 Paper
2 C; 3and
A; 4glass
B are recycled.
C 1 prediction;
3 English is2 taught
lunar; by
3 tourists; 4 atmosphere; 5 exploration
Mr Macerola.
4 Oranges are grown on that farm.
5 English and French are spoken in Canada.
6 Football is played at our school.
7 Scientific experiments are done on the space station.
8 Televisions and videos are manufactured by Sony.
C 1 enthusiastic 2 emotional 3 energetic 4 practical 5 logical
218

เฉลย: Activity Book (Extra Time!) หน้ า 56


Pat: banker / dynamic / athletics / hamburgers
Module
Dave: Checkbaker / creative / skating / cakes
Language
Charles: Checkarchitect
and Keyword
/ calm / Check
gardening / tomatoes
- ย้ำเตือนนักเรี ยนว่าการตรวจสอบหลักภาษาและคำศัพท์หลักนี้ จัดเพื่อช่วยให้นกั เรี ยนได้
ทบทวนคำศัพท์และโครงสร้างของประโยคที่ได้เรี ยนไปแล้ว ควรชักชวนให้นกั เรี ยนกลับ
มาทบทวนส่ วนนี้บ่อย ๆ
Module Diary
- ให้นกั เรี ยนตอบคำถามเหล่านี้ แล้วบอกให้ท ำแบบประเมินตนเองในตอนปลายภาคการศึกษา
ที่ 2 ซึ่ งอยูใ่ นหนังสื อเรี ยนหน้า 111

บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้

1. ความสำเร็จในการจัดการเรียนรู ้
_______________________________________________
แนวทางการพัฒนา
_______________________________________________________
2. ปั ญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู ้
____________________________________________
แนวทางแก ้ไข
__________________________________________________________
_
3. สงิ่ ทีไ่ ม่ได ้ปฏิบต
ั ต
ิ ามแผน
___________________________________________________
เหตุผล
__________________________________________________________
_____
4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู ้
_____________________________________________

ื่ __________________
ลงชอ
ครูผู ้สอน
_________/ _________/ _________
219
220

คำนำ
ในหนังสื อ World Club จะมีค ำชี้แจงเกี่ยวกับการประเมินผลไว้อย่างละเอียด ดังต่อไปนี้
– มีค ำแนะนำเกี่ยวกับการประเมินผลอย่างไม่เป็ นทางการว่าจะทำได้เมื่อใด อย่างไร (การประเมินผล
อย่างไม่เป็ นทางการ หมายถึง การให้คะแนนและการแก้ไขงานที่ท ำในชั้นเรี ยนและทำเป็ นการบ้าน)
กิจกรรมใดที่สมควรจัดทำจะมีเครื่ องหมาย A ไว้ในหนังสื อคู่มือครู (Teacher’s Notes) กิจกรรม
ดังกล่าวจะรวมไปถึงโครงงาน ซึ่ งถือว่าเป็ นกิจกรรมที่มีคุณค่าสำหรับการประเมินผล เนื่องจากใน
โครงงานนั้นจะรวมเอาทักษะมากกว่าหนึ่งทักษะมาใช้ และยังเป็ นโอกาสพัฒนาทัศนคติเชิงบวกต่อ
การทำงานเป็ นหมู่คณะ และทำให้มีความเชื่อมัน่ ในตนเอง เป็ นต้น
– มีค ำแนะนำในการกระตุน้ ให้นกั เรี ยนได้ประเมินผลตนเอง ซึ่ งถือว่าเป็ นเรื่ องที่เกี่ยวข้องอย่างแนบแน่นกับการ
เรี ยนวิชานี้
– มีแบบประเมินผลอย่างเป็ นทางการประกอบด้วยภาระงาน 12 เรื่ อง ครอบคลุมการประเมินทั้งทักษะและความ
สามารถทางภาษา ภาระงานประเมินดังกล่าวเป็ นข้อสอบสั้น ๆ แต่กเ็ ชื่อมสัมพันธ์กบั เนื้อหาที่เรี ยนอย่างเต็มที่ และ
จะถูกเสริ มให้สมบูรณ์ดว้ ยการประเมินผลการพูดอย่างเป็ นทางการซึ่ งจัดทำในตอนปลายปี ข้อสอบที่ใช้ประเมินผล
สามารถถ่ายเอกสารมาให้นกั เรี ยนทำได้
เกณฑ์ การประเมินผล
นักเรี ยนควรได้รับการประเมินผลตามความสามารถที่ท ำในสิ่ งต่อไปนี้
1. พูดให้ขอ้ มูลต่อหน้าครู ท้ งั ในเรื่ องเฉพาะด้านและเรื่ องทัว่ ไปเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของนักเรี ยน และเรื่ องเกี่ยวกับ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
2. พูดบันทึกแถบบันทึกเสี ยงให้ขอ้ มูลทั้งในเรื่ องเฉพาะด้านและเรื่ องทัว่ ไปเกี่ยวกับหัวข้อ ซึ่ งไม่ตอ้ งใช้ความรู ้
เฉพาะด้าน
3. เข้าร่ วมในการสนทนาสั้น ๆ ได้ โดยใช้ยทุ ธวิธีที่เหมาะสมในการเริ่ มต้นการสนทนา ดำเนินการสนทนา
ต่อเนื่องไปเรื่ อย ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ก ำหนดให้และเป็ นไปตามจุดมุ่งหมายที่วางไว้
4. พูดให้ขอ้ มูลทั้งในเรื่ องเฉพาะด้านและเรื่ องทัว่ ๆ ไป หลังจากการอ่านข้อความง่าย ๆ ในเชิงพรรณนา เชิงบรรยาย
เชิงโต้แย้ง และเชิงอธิบาย โดยสามารถแยกข้อเท็จจริ งออกจากความคิดเห็น และสามารถบ่งชี้ได้วา่ ผูเ้ ขียนนำเสนอ
ข้อโต้แย้งอย่างเหมาะสมได้อย่างไร
5. อ่านเนื้อเรื่ องที่ได้จดั ลำดับความยากง่ายตามระดับความสามารถ และความสนใจของนักเรี ยน ด้วยการใช้
พจนานุกรม (Dictionary) อย่างถูกต้อง และสามารถแสดงความสามารถในการเข้าใจเนื้ อเรื่ องด้วยการทำข้อทดสอบ
เกี่ยวกับเรื่ องที่อ่าน
6. เขียนเรื่ องต่าง ๆ ได้หลากหลาย โดยใช้ความสามารถทางภาษาเขียน ได้แก่ การเขียนประโยคชนิดต่าง ๆ ได้ถูก
หลักไวยากรณ์ และสามารถใช้ค ำเชื่อมได้ถูกต้อง เป็ นต้น รวมถึงสามารถประสานความคิดได้อย่างกลมกลืนด้วย
7. ใช้ความรู ้เกี่ยวกับระบบทางภาษาที่ได้เรี ยนมา เป็ นเครื่ องมือในการควบคุมและแก้ไขการใช้ภาษาของตนได้
อย่างถูกต้องและใช้เป็ นแหล่งข้อมูลในการปรับปรุ งการใช้ภาษาของผูอ้ ื่นให้ถูกต้องได้
8. มีความมานะพากเพียร เพื่อให้เข้าใจยุทธวิธีในการสื่ อสารเมื่อเผชิญหน้ากับผูอ้ ื่น จนสามารถเอาชนะปั ญหาเกี่ยว
กับความเข้าใจและการสื่ อสารกับผูอ้ ื่นได้
221

9. เข้าใจและบ่งชี้วฒั นธรรมของเจ้าของภาษาที่ปรากฏในเนื้ อเรื่ องที่อ่านได้ ด้วยการใช้ความสามารถทางภาษาและที่


ไม่เกี่ยวกับภาษาช่วยให้เข้าใจได้
การประเมินผลนักเรียนที่มคี วามสามารถหลากหลาย
ครู จ ำนวนมากจะรู้ดีวา่ นักเรี ยนของตนมีความสามารถหลากหลาย (ไม่เท่ากัน) ในการประเมินผล ครู จะต้องนำเรื่ อง
นี้ไปประกอบการพิจารณาด้วย แม้ในหลักสูตรจะตั้งจุดประสงค์ของการเรี ยนขั้นต่ำไว้มากมาย แต่ครู จะต้องยืดหยุน่
ในการประเมินผลนักเรี ยนที่มีความสามารถต่างกันดังกล่าว ถ้าครู ไม่ยดื หยุน่ และใช้เกณฑ์การประเมินแบบได้/ตก
อย่างเคร่ งครัด นักเรี ยนที่เรี ยนอ่อนจะต้องมีความท้อแท้และนักเรี ยนที่เรี ยนเก่งก็จะทระนงตน คิดว่าใช้
ความพยายามเพียงน้อยนิดก็สามารถสอบผ่านได้ โดยจะเรี ยนเพียงเพื่อสอบผ่านเท่านั้น เป็ นการเรี ยนที่เสี ยเวลาโดย
เปล่าประโยชน์
แนวทางที่น่าจะเป็ นไปได้ในการประเมินผล โดยคำนึงถึงความสามารถที่ต่างกันหลากหลาย สามารถทำได้ดงั ต่อไป
นี้
– เฉลี่ยคะแนนประเมินแบบเป็ นทางการและไม่เป็ นทางการให้เท่ากัน คืออย่างละ 50% ได้แก่ 50% สำหรับคะแนน
การสอบ และ 50% สำหรับคะแนนในการปฏิบตั ิกิจกรรมการเรี ยนในชั้นเรี ยนและทำเป็ นการบ้าน หมายถึงว่า
นักเรี ยนที่เรี ยนอ่อนแต่มีความพยายามทำงานให้กา้ วหน้าสามารถสอบผ่านได้ แม้วา่ คะแนนการสอบต่าง ๆ จะไม่ดี
นักก็ตาม และในทำนองเดียวกัน สำหรับนักเรี ยนที่เรี ยนเก่ง ก็จะหนีเรี ยนหรื อไม่ท ำกิจกรรมไม่ได้เช่นกัน
– ให้คะแนนทั้งเป็ นกลุ่มและเป็ นรายบุคคลเท่า ๆ กัน เมื่อประเมินคะแนนสอบข้อเขียนปลายภาคโครงงานหรื อ
ภาระงานที่ให้ท ำเป็ นกลุ่มหรื อเป็ นคู่ ควรประเมินโดยให้คะแนนเท่ากัน แม้วา่ แต่ละคนจะช่วยงานกลุ่มตามความ
สามารถที่ไม่เท่ากันก็ตาม ข้อสำคัญครู ตอ้ งคอยดูแลการทำงานกลุ่มให้ทุกคนช่วยเหลือกัน มิใช่ปล่อยให้นกั เรี ยน
เพียง 1 คน หรื อ 2 คนเท่านั้นที่ท ำงาน วิธีที่จะตรวจสอบได้กค็ ือ ให้ทุกคนในแต่ละกลุ่มประเมินการทำงานของกัน
และกัน
– ครู ควรมีคะแนนทัศนคติซ่ ึ งได้แก่ ความมานะพยายาม การมีส่วนร่ วม การให้ความร่ วมมือในการปฏิบตั ิกิจกรรม
ในชั้นเรี ยน ประกอบการประเมินทัว่ ๆ ไปทั้งการประเมินประจำภาคเรี ยนหรื อประจำปี รวมถึงการให้ท ำภาคปฏิบตั ิ
อื่น ๆ ด้วย
– การใช้ขอ้ ทดสอบที่เรี ยงลำดับความยากง่าย โดยเริ่ มต้นจากเรื่ องง่าย ๆ แล้วค่อยยากขึ้นตามลำดับ
นัน่ หมายถึงว่า นักเรี ยนที่เรี ยนอ่อนก็มีโอกาสสอบผ่าน ในขณะที่นกั เรี ยนที่เรี ยนเก่งจะต้องใช้ความพยายามอย่าง
เต็มที่จึงจะได้คะแนนดี ซึ่ งแบบทดสอบในหนังสื อชุดนี้ ยดึ หลักการดังกล่าว
– การนำแบบประเมินผลตนเองมาใช้จะทำให้นกั เรี ยนรู ้สึกว่าการประเมินผลเป็ นเรื่ องส่ วนตัวของแต่ละคนที่จะต้อง
พิจารณาว่าตนเองมีความก้าวหน้าทางการเรี ยนเพียงใด และตนเองมีปัญหาหรื อไม่เข้าใจในเรื่ องใดบ้าง
การประเมินผลอย่างไม่ เป็ นทางการ
ครู แต่ละคนจะมีวิธีการประเมินผลอย่างไม่เป็ นทางการต่าง ๆ กัน อย่างไรก็ตาม ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการ
ประเมินผลอย่างไม่เป็ นทางการว่าจะทำเมื่อไร อย่างไร โดยกระทำไปเรื่ อย ๆ ตลอดหลักสู ตรของการใช้หนังสื อชุด
นี้ ได้แก่
Learning to Learn
Lesson E การประเมินผลการเขียน ได้แก่ Exercise d ให้นกั เรี ยนส่ ง e-mail หาเพื่อน จากนั้นแลก
เปลี่ยนกันอ่านใน Exercise e ให้คะแนน 20 คะแนน โดยใช้เกณฑ์ในการประเมินดังนี้
10 คะแนน สำหรับเนื้อความใน e-mail ความตรงประเด็นและความน่าสนใจ
222

10 คะแนน สำหรับความถูกต้องในการใช้ภาษาโดยเฉพาะการใช้ tense การสะกดคำ การใช้ค ำศัพท์และไวยากรณ์


การประเมินสมุดคำศัพท์ (Vocabulary books) ในตอนปลายภาคเรี ยน ครู ให้นกั เรี ยนส่ งสมุดคำศัพท์ แล้วครู ให้
คะแนน 10 คะแนน โดยพิจารณาจากการนำเสนอและการจัดรู ปแบบ
Module 1: Cities
Lesson 2 การประเมินผลการอ่าน จาก Exercises C และ D ครู /นักเรี ยนเป็ นผูใ้ ห้คะแนน
Lesson 4 การประเมินผลการฟัง จาก Exercise C ใช้ตารางสี่ เหลี่ยมจาก Teacher’s Notes ประกอบ
การแก้ค ำตอบของนักเรี ยนให้ถูกต้อง หรื อครู จะเขียนคำตอบลงบนกระดาน แล้วให้นกั เรี ยนแก้ไขให้กนั และกัน
ก็ได้
Lesson 5 การประเมินผลการเขียน ภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท โดยครู จะต้องแจ้งให้นกั เรี ยนทราบตั้งแต่เริ่ ม
ต้นการเรี ยนว่า ในการประเมินผลจะใช้เกณฑ์ในการประเมิน ดังนี้
5 คะแนน สำหรับการนำเสนอ
5 คะแนน สำหรับเนื้อหาโดยดูวา่ ข้อมูลน่าสนใจเพียงใด
5 คะแนน สำหรับความถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิง่ การทำผิดในเรื่ องง่าย ๆ จนทำให้อ่านเข้าใจยาก
Module 2: Yesterday
การประเมินผลการพูด ครู แจ้งให้นกั เรี ยนทราบว่าครู จะให้คะแนนการพูดในหน่วยการเรี ยนนี้ ตลอดเวลา อีกวิธีหนึ่ง
คือ การสังเกตและประเมินผลนักเรี ยน 4 หรื อ 5 คน ในระหว่างการปฏิบตั ิกิจกรรมการพูดในหน่วยการเรี ยนนี้ ครู
บอกนักเรี ยนว่าครู จะใช้เกณฑ์ในการประเมินดังนี้
5 คะแนน สำหรับความคล่องแคล่วในการพูดรวมถึงเนื้ อหา
5 คะแนน สำหรับความถูกต้องในการใช้ไวยากรณ์ คำศัพท์ และการออกเสี ยง
Lesson 11 การประเมินผลการเขียน โดยใช้เกณฑ์ในการประเมินภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท ดังนี้
5 คะแนน สำหรับการจัดรู ปแบบและการวางแผนการเขียน
5 คะแนน สำหรับความถูกต้องและการเชื่อมโยงใจความ
การประเมินผลการพูด ในการประเมินภาระงานด้านการพูดที่อยูท่ า้ ยบทอย่างไม่เป็ นทางการ โดยให้นกั เรี ยนนำ
เสนอเรื่ องราวเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของพวกเขาเองเป็ นกลุ่มให้เพื่อน ๆ ฟังหน้าชั้นเรี ยน ในขณะที่กลุ่มอื่นกำลัง
นำเสนอนั้น ให้นกั เรี ยนคนอื่น ๆ กรอกแบบฟอร์มที่แต่ละกลุ่มจัดทำขึ้นมา เช่น เขียนเส้นบ่งเวลาลงบนกระดาน
โดยเขียนวันเดือนปี สำคัญ ๆ ลงไปด้วย แล้วจึงให้นกั เรี ยนฟังการเล่าเรื่ อง และกรอกข้อมูลลงไปให้สมั พันธ์กบั วัน
เดือนปี ที่ให้ไว้
Lesson 12 การประเมินสมุดคำศัพท์ (Vocabulary books) ให้คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยดูจากการ
จัดรู ปแบบและเนื้ อหา นอกจากการให้คะแนนดังกล่าวแล้ว สมุดคำศัพท์ยงั ช่วยให้ครู ได้ประเมินผลทัศนคติของ
นักเรี ยนที่มีต่อบทเรี ยนในช่วงสัปดาห์หรื อภาคเรี ยนที่ผา่ นมา โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในด้านการใช้ความพยายามและ
การจัดรู ปแบบของสมุดคำศัพท์ การประเมินทัศนคติ ครู สามารถประเมินทัศนคติของนักเรี ยนได้หลังจากที่เรี ยน
ผ่านไปแล้ว 2 หน่วยการเรี ยน โดยตรวจสมุดคำศัพท์ สมุดบันทึกประจำหน่วยการเรี ยน การบ้าน และการมีส่วนร่ วม
ในชั้นเรี ยนโดยใช้เกณฑ์ในการประเมิน ดังนี้
5 คะแนน สำหรับความสนใจและความเพียรพยายาม (ทั้งทำการบ้านและทำงานในชั้นเรี ยน)
5 คะแนน สำหรับความสามารถในการจัดระบบระเบียบ และการทำงานด้วยตนเอง
5 คะแนน สำหรับความสามารถในการทำงานร่ วมกับผูอ้ ื่น
Module 3: Nature
223

Lesson 13 การประเมินผลการอ่าน จาก Exercises B และ C โดยใช้เกณฑ์ในการประเมิน ดังนี้


10 คะแนน สำหรับการทำเครื อข่ายโน้ตย่อ โดยพิจารณาจากจำนวนของข้อมูลที่ถูกต้อง การนำเสนอและการใช้โน้ต
ย่อแทนการเขียนเป็ นประโยคที่สมบูรณ์
Lesson 15 การประเมินผลการอ่าน จาก Exercise D
Lesson 17 การประเมินผลการเขียน ในการประเมินภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท โดยประเมินการทำโครง
งานเป็ นรายบุคคล เป็ นคูห่ รื อเป็ นกลุ่ม โดยใช้เกณฑ์ในการประเมิน ดังนี้
5 คะแนน สำหรับเนื้อหาที่ขอ้ มูลตรงประเด็นและน่าสนใจ
5 คะแนน สำหรับการจัดระบบการเขียน ได้แก่ การดำเนินเรื่ อง การใช้ยอ่ หน้า และการปฏิบตั ิตาม
รู ปแบบของโครงงาน
5 คะแนน สำหรับความถูกต้องในการสะกดคำ ไวยากรณ์ และการใช้ค ำศัพท์
Module 4: Fantasy
การประเมินผลการพูด (ดูจากหมายเหตุของ Module 2, Speaking)
Lesson 19 การประเมินผลการอ่าน จาก Exercises B และ C
Lesson 20 การประเมินผลการฟัง จาก Exercises C และ D
Lesson 23 การประเมินผลการเขียน การประเมินภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท โดยใช้เกณฑ์ในการประเมิน
ดังนี้
5 คะแนน สำหรับเนื้อหาที่แปลกใหม่ โดยดูวา่ เรื่ องที่แต่งเป็ นเรื่ องที่จบลงอย่างริ เริ่ มสร้างสรรค์และมีการใช้
จินตนาการ
5 คะแนน สำหรับความถูกต้องในเรื่ องการสะกดคำ ไวยากรณ์ และคำศัพท์
การประเมินผลการพูด การประเมินภาระงานด้านการพูดที่อยูท่ า้ ยบท โดยให้นกั เรี ยนออกมาเล่าเรื่ องเป็ นกลุ่มให้
เพื่อน ๆ ฟัง ในขณะที่ฟังเล่าเรื่ องอยูน่ ้ นั ให้นกั เรี ยนทั้งชั้นเรี ยนให้คะแนนกลุ่มที่ก ำลังเล่าเรื่ องไปด้วยโดยใช้เกณฑ์
ในการประเมิน ดังนี้
5 คะแนน สำหรับความน่าสนใจ
5 คะแนน สำหรับการเล่าเรื่ อง
หลังจากแต่ละกลุ่มนำเสนอเสร็ จสิ้ นลง ให้กลุ่มอื่น ๆ ให้คะแนนแล้วให้นกั เรี ยน 1 คนในแต่ละกลุ่ม
ชูป้ายคะแนน (1–10 คะแนน) เมื่อเฉลี่ยทุกกลุ่มแล้ว เขียนคะแนนลงบนกระดาน
การประเมินทัศนคติ หลังจากเรี ยน Module 3 และ Module 4 จบแล้ว ครู อาจจะประเมินทัศนคติของ
นักเรี ยน (ดูหมายเหตุ Lesson 12)
Module 5: Sport
Lesson 26 การประเมินผลการอ่าน จาก Exercises D, E และ F
Lesson 27 การประเมินผลการฟัง จาก Exercise B
Lesson 29 การประเมินผลการเขียน ให้คะแนนการประเมินภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท โดย
ใช้เกณฑ์ในการประเมินดังนี้
5 คะแนน สำหรับเนื้อหา โดยดูจากความสนใจและความแปลกใหม่
5 คะแนน สำหรับความถูกต้องของการสะกดคำ ไวยากรณ์ และคำศัพท์
การประเมินผลการพูด จากการประเมินภาระงานด้านการพูดที่อยูท่ า้ ยบท (ดู Lesson 23)
Module 6: Space
224

การประเมินผลการพูด (ดูหมายเหตุจาก Module 2)


Lesson 33 การประเมินผลการอ่าน จาก Exercise A ให้นกั เรี ยนส่ งโน้ตย่อ แล้วครู ประเมินผลจาก
คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยดูจากข้อมูล การใช้รูปแบบการโน้ตย่อ และการนำเสนอ
Lesson 34 การประเมินผลการฟัง จาก Exercise D
Lesson 35 การประเมินผลการเขียน ภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท ใช้เกณฑ์ในการประเมิน ดังนี้
5 คะแนน สำหรับเนื้อหาที่น่าสนใจและมีอารมณ์ขนั
5 คะแนน สำหรับการเชื่อมโยงใจความ โดยดูจากการใช้ขอ้ ความเชื่อมประโยค
5 คะแนน สำหรับความถูกต้องของการสะกดคำ ไวยากรณ์ และคำศัพท์
Lesson 36 การประเมินผลจากสมุดคำศัพท์ ครู น ำสมุดคำศัพท์มาประเมินโดยตรวจสอบจากจำนวน
ของคำศัพท์ที่มีอยูแ่ ละการจัดรู ปแบบของสมุด
การประเมินทัศนคติ: การประเมินด้านทัศนคติ ควรประเมินหลังจากการเรี ยนการสอนจบทุก ๆ 2
หน่วยการเรี ยน แล้วนำผลการประเมินทั้งหมดมาประเมินผลตลอดปี (ดูจาก Lesson 12 และ 23)
แผนการจัดการเรี ยนรู้ภาษาอังกฤษ World Club 2
การประเมินตนเอง
การที่จะพิจารณาว่าการประเมินตนเองมีความสำคัญมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยูก่ บั ครู แต่ละคน อย่างไรก็ตามการ
ประเมินผลตนเองก็ถือว่ามีความสำคัญมากต่อการพัฒนานักเรี ยน การจูงใจให้นกั เรี ยนคำนึงถึงความก้าวหน้า
ทางการเรี ยนและปัญหาของตนเอง แทนที่จะปล่อยให้ท้ งั หมดเป็ นหน้าที่ของครู เพียงผูเ้ ดียว นอกจากนั้นการ
ประเมินผลตนเองยังจะให้ขอ้ มูลที่มีค่าแก่ครู และทำให้เกิดการประเมินผลส่ วนหนึ่งของการประเมินผลทั้งระบบ
คำแนะนำในการประเมินผลตนเอง
1. การประเมินผลเพือ่ การวินิจฉัย (Diagnosis)
ก่อนเริ่ มต้นการเรี ยน ครู ควรจะให้นกั เรี ยนตอบแบบสอบถามที่เป็ นภาษาไทย เพื่อสำรวจประสบการณ์การเรี ยน
ภาษาอังกฤษของนักเรี ยน แบบสอบถามจากหน้า 21 ของหนังสื อคู่มือครู สามารถนำไปถ่ายเอกสารมาใช้สำรวจได้
นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมการประเมินผลตนเองก่อนเริ่ มต้นการเรี ยนในหนังสื อแบบฝึ กหัด (Activity Book) Lesson
B Exercise D ใช้ประเมินผลการพูด Lesson D Exercise A ใช้ประเมินผลการฟัง Lesson D Exercise D ใช้ประเมิน
ความรู ้ทวั่ ๆ ไปของนักเรี ยน
2. แบบทดสอบตนเอง (Test Yourself)
ในตอนท้ายของแต่ละหน่วยการเรี ยน จะมีแบบทดสอบตนเอง (Test Yourself) ทั้งในหนังสื อเรี ยน
และหนังสื อแบบฝึ กหัดไว้ให้ เพื่อช่วยให้นกั เรี ยนสามารถตรวจสอบการเรี ยนรู ้ของตนเองในแต่ละหน่วยการเรี ยน
ทั้งในด้านโครงสร้างของประโยคและคำศัพท์ ด้วยวิธีการนี้ จะชี้ให้เห็นถึงปั ญหาทางการเรี ยนของนักเรี ยนในด้าน
ต่าง ๆ เพื่อให้นกั เรี ยนได้กลับไปทบทวนอย่างละเอียด เมื่อปฏิบตั ิกิจกรรมนี้เรี ยบร้อยแล้ว ครู อาจจะอธิ บาย
โครงสร้างของประโยคที่นกั เรี ยนยังไม่เข้าใจให้เข้าใจดียิง่ ขึ้น และอาจจะให้ท ำแบบฝึ กหัดในบทการใช้ภาษาเพื่อ
เน้นย้ำให้จ ำได้แม่นยำขึ้น (ดูจาก Language Work-out) เมื่อนักเรี ยนได้ท ำแบบทดสอบตนเองแล้ว นักเรี ยนจะ
สามารถทำแบบทดสอบไวยากรณ์ในส่ วนของ Assessment tasks ได้
3. การจัดทำสมุดบันทึกประจำหน่ วยการเรียน (Module Diary)
การให้นกั เรี ยนจัดทำสมุดบันทึกประจำหน่วยการเรี ยน ก็เพื่อจะกระตุน้ ให้นกั เรี ยนได้สะท้อนกลับในหลายด้านของ
การเรี ยนภาษาของตนเองเมื่อเรี ยนจบแต่ละหน่วยการเรี ยน และจะเป็ นการประเมินผลบทเรี ยนต่าง ๆ ไปด้วย ครู
ควรจะให้เวลานักเรี ยนพอสมควรที่จะจัดทำสมุดบันทึกประจำหน่วยการเรี ยนให้สมบูรณ์ลงในสมุดของนักเรี ยน
225

แล้วจึงนำผลการเรี ยนมาอภิปรายกันโดยใช้ภาษาไทย นักเรี ยนอาจจะเก็บสมุดบันทึกประจำหน่วยการเรี ยนนี้ ไว้ เพื่อ


นำมาใช้ในโอกาสต่อไป (ดูจาก End-of-year-Assessment ในหนังสื อเรี ยนของนักเรี ยน)
4. แฟ้ มเอกสาร (Portfolios)
แฟ้ มเอกสารเป็ นการเก็บรวบรวมผลงานของนักเรี ยนตลอดปี การศึกษา แฟ้ มเอกสารนี้ จะมีประโยชน์สำหรับ
นักเรี ยนในการประเมินผลตนเองตอนปลายภาคหรื อปลายปี ในแฟ้ มเอกสารนี้ นกั เรี ยนควรจะบรรจุเรื่ องต่อไปนี้
1. ภาระงานด้านการเขียนที่อยูท่ า้ ยบท (ถ่ายเอกสารถ้าทำเป็ นกลุ่ม)
2. ตัวอย่างแบบทดสอบ 3–4 ตัวอย่าง
3. สมุดคำศัพท์
4. สมุดบันทึกประจำหน่วยการเรี ยน
สิ่ งต่าง ๆ เหล่านี้ควรจะเก็บไว้ในแฟ้ มเอกสาร โดยครู หรื อนักเรี ยนเป็ นผูเ้ ก็บ ข้อมูลเหล่านี้จะมี
ประโยชน์เมื่อครู คุยกับผูป้ กครอง เพื่อชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางการเรี ยนของนักเรี ยน
5. การประเมินปลายภาค (End of term)
หลังจากให้นกั เรี ยนประเมินผลตนเองจากการทำแบบทดสอบตนเอง (Test Yourself) และจาก
การจัดทำสมุดบันทึกประจำหน่วยการเรี ยนแล้ว ครู อาจจะให้นกั เรี ยนประเมินผลการเรี ยนของตนทั้งภาคเรี ยนที่ผา่ น
มาว่าก้าวหน้าเพียงใด โดยใช้แฟ้ มเอกสารประกอบการพิจารณา ครู อาจจะถ่ายเอกสารสมุดรายงานของนักเรี ยนที่
โรงเรี ยนใช้ให้นกั เรี ยนลองกรอกข้อมูลดู จากนั้นครู ประเมินด้วยตัวครู เอง โดยดูจากผลการประเมินทั้งแบบเป็ น
ทางการและไม่เป็ นทางการ โดยเรี ยกนักเรี ยนเข้ามาพูดคุยทีละคน
การประเมินผลอย่างเป็ นทางการ
การประเมินผลอย่างเป็ นทางการจะประเมินทั้งทางด้านทักษะและความรู ้ที่ได้รับทางภาษา ซึ่ งแบบ
ประเมินผลนี้ จะรวมอยูใ่ นบทเรี ยนอย่างสมบูรณ์ แต่จะแยกในส่ วนของการประเมินผลการพูดที่ไว้ใช้ในการ
ประเมินผลปลายปี การประเมินผลดังกล่าวจะใช้ประเมินตามที่ก ำหนดไว้ในบทเรี ยนต่าง ๆ ดังนี้
การทดสอบครั้งที่ 1 ทดสอบการอ่าน หลังจาก Lesson 5
การทดสอบครั้งที่ 2 ทดสอบการฟัง หลังจาก Lesson 5
การทดสอบครั้งที่ 3 ทดสอบการเขียน หลังจาก Lesson 11
การทดสอบครั้งที่ 4 ทดสอบไวยากรณ์/คำศัพท์ หลังจาก Lesson 12
การทดสอบครั้งที่ 5 ทดสอบการอ่าน หลังจาก Lesson 17
การทดสอบครั้งที่ 6 ทดสอบการฟัง หลังจาก Lesson 17
การทดสอบครั้งที่ 7 ทดสอบการเขียน หลังจาก Lesson 23
การทดสอบครั้งที่ 8 ทดสอบไวยากรณ์/คำศัพท์ หลังจาก Lesson 24
การทดสอบครั้งที่ 9 ทดสอบการอ่าน หลังจาก Lesson 29
การทดสอบครั้งที่ 10 ทดสอบการฟัง หลังจาก Lesson 29
การทดสอบครั้งที่ 11 ทดสอบการเขียน หลังจาก Lesson 35
การทดสอบครั้งที่ 12 ทดสอบไวยากรณ์/คำศัพท์ หลังจาก Lesson 36
ครู สามารถถ่ายเอกสารข้อสอบประเมินผลได้จากในหนังสื อคู่มือครู เล่มนี้
การบริหารจัดการการประเมินผล
1. ข้อสอบทั้งหมดนี้ใช้วดั ความก้าวหน้าทางการเรี ยนในเชิงสร้างสรรค์มากกว่าจะใช้เป็ นการลงโทษหรื อตัดสิ น
ได้/ตก
226

2. การประเมินผลควรจะสัมพันธ์กบั การทบทวนบทเรี ยน และกิจกรรมการประเมินผลตนเอง ข้อสอบต่าง ๆ ควรได้


รับการปรับปรุ งแก้ไข และกิจกรรมการทดสอบตนเอง (Test Yourself) ควรให้ท ำก่อนการประเมินผล
3. การบริ หารการทดสอบควรทำอย่างเป็ นทางการ นักเรี ยนจะต้องทำข้อสอบด้วยตนเองอย่างเข้มงวด
4. ก่อนทำข้อสอบ ครู อธิบายวิธีท ำหรื อคำสัง่ จนนักเรี ยนเข้าใจดี
5. นักเรี ยนสามารถใช้พจนานุกรมได้
6. เปิ ดแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงการฟังอย่างน้อย 2 ครั้ง
7. เวลาที่ใช้ในการทดสอบอาจจะไม่เท่ากัน แต่กอ็ ยูใ่ นช่วง 10–30 นาที ถ้านักเรี ยนทำไม่ทนั ควรขยายเวลาในการ
ทำให้นกั เรี ยน
8. ครู ควรจะวางเกณฑ์การให้คะแนนข้อเขียนและคำเฉลยของข้อสอบแบบเลือกตอบไว้ (อย่าหักคะแนนการใช้
ภาษาหรื อไวยากรณ์สำหรับข้อทดสอบการอ่านและการฟัง)
9. นักเรี ยนส่ วนใหญ่ควรจะได้คะแนนเฉลี่ยมากกว่า 50% สำหรับการทดสอบทั้งหมด
10. ครู ควรเฉลยข้อสอบให้นกั เรี ยนรู้วา่ นักเรี ยนทำผิดตรงจุดใด
11. ครู ควรพูดคุยกับนักเรี ยนที่มีปัญหาเป็ นรายบุคคล และชี้ ให้นกั เรี ยนเห็นความแตกต่างระหว่างการประเมินผล
ของครู กบั การประเมินผลตนเองของนักเรี ยนต่างกันอย่างไร
12. แผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงที่ใช้ในการทดสอบการฟัง มีอยูใ่ นแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงม้วนที่ 2 แผ่นที่2 ส่ วนบท
พูดในแผ่นซี ดี/แถบบันทึกเสี ยงดูได้ที่หน้า 225
227
228
229
230
231
232
233
234
235
236
237
238
239
240
241
242
243
244
245
246
247
248
249
250
251
252
253
254
255
256
257
258
259

You might also like