Professional Documents
Culture Documents
น้าน้าโลหะอลูมิเนียมจากเตาหลอมขนย้ายไปใช้งาน
ของโรงงานผลิตชินส่วนรถยนต์
โดย
นางสาวฐิติกร วณิชชยังกูร
วิทยานิพนธ์นีเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม ภาควิชาวิศวกรรมเคมี
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปีการศึกษา 2561
ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โดย
นางสาวฐิติกร วณิชชยังกูร
วิทยานิพนธ์นีเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม ภาควิชาวิศวกรรมเคมี
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปีการศึกษา 2561
ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
BY
หัวข้อวิทยานิพนธ์ การศึกษาการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม
จากกระบวนการน้าน้าโลหะอลูมิเนียมจากเตาหลอมขน
ย้ายไปใช้งานของโรงงานผลิตชินส่วนรถยนต์
ชื่อผู้เขียน นางสาวฐิติกร วณิชชยังกูร
ชื่อปริญญา วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชา/คณะ/มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม
คณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ รองศาสตราจารย์ ดร.มาลี สันติคุณาภรณ์
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
ABSTRACT
กิตติกรรมประกาศ
การจัดท้าวิทยานิพนธ์เรื่อง “การศึกษาการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมจาก
กระบวนการน้าน้าโลหะอลูมิเนียมจากเตาหลอมขนย้ายไปใช้งานของโรงงานผลิตชินส่วนรถยนต์”
ฉบับนีส้าเร็จลุล่วงได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความอนุเคราะห์ และการชีแนะอันเป็นประโยชน์จาก
คณาจารย์ทุกท่าน ผู้วิจัยขอขอบพระคุณ รองศาสตราจารย์ ดร.มาลี สันติคุณาภรณ์ อาจารย์ที่ปรึกษา
วิทยานิพนธ์เป็ น อย่ างสูง ที่ให้ความกรุณารับเป็นที่ปรึกษา และเสียสละเวลาในการให้ค้า ปรึ ก ษา
แนะน้า การด้าเนินงานวิจัยในทุกขันตอน ตลอดจนกรุณาตรวจสอบแก้ไขจนกระทั่งส้าเร็ จเป็นฉบับ
สมบู ร ณ์ ได้ ผู้ เขีย นขอขอบพระคุณ ผู้ ช่ ว ยศาสตราจารย์ ดร.พัช ราภรณ์ วุฒิ เจริญมงคล ประธาน
กรรมการสอบวิทยานิพนธ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ อัศวเทศานุภาพ และรองศาสตราจารย์
ดร.สกนธ์ คล่องบุญจิต ที่ให้ความกรุณาสละเวลามาเป็นคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ รวมทั งให้
ค้าแนะน้า และเสนอแนะแนวทางอันเป็นประโยชน์ ส้าหรับการท้าวิทยานิพนธ์ฉบับนี
ข้าพเจ้ าขอขอบคุณ คณะวิ ศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลั ยธรรมศาสตร์ ที่ได้มอบทุ น
สนับสนุนโครงการวิจัยเพื่อท้าวิทยานิพนธ์ฉบับนี และขอขอบคุณผู้จัดการโรงงาน ผู้จัดการแผนก
หัวหน้างาน และพนักงานทุกท่าน ของบริษัทผู้ผลิตชินส่วนรถยนต์แห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี ที่ให้
การสนับสนุนในการเก็บข้อมูลเพื่อน้ามาท้างานวิจัยฉบับนีเป็นอย่างดี ขอขอบคุณ คุณอภิเชษฐ์ ชนะ
ฤทธิ์ และบริษัท สหเศรษฐพันธ์ (1978) จ้ากัด ในการให้ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบเบ้ารับน้าโลหะ
การใช้ฉนวนที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในขันตอนการหลอมโลหะอลูมิเนียม ขอขอบพระคุณ
คุณพ่อ คุณแม่ ที่เป็นกาลังใจให้แก่ผู้เขียนมาโดยตลอด กราบขอบพระคุณครูอาจารย์ทุกท่านที่อบรม
สั่งสอน และถ่ายทอดวิชาความรู้ ให้แก่ผู้เขียน นอกจากนีขอขอบคุณ คุณขวัญมนัส มิตรสุพรรณ และ
เจ้าหน้าที่ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทุกท่านที่ให้ความ
ช่วยเหลือและให้ค้าแนะน้าในด้านต่าง ๆเป็นอย่างดีเสมอมา
นางสาวฐิติกร วณิชชยังกูร
สารบัญ
หน้า
บทคัดย่อภาษาไทย (1)
บทคัดย่อภาษาอังกฤษ (2)
กิตติกรรมประกาศ (3)
สารบัญตาราง (8)
สารบัญภาพ (9)
บทที่ 1 บทน้า 1
1.1 ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา 1
1.2 วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 3
1.3 ขอบเขตการศึกษา 4
1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 4
บทที่ 2 วรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 5
2.1 ที่มาและคุณสมบัติของอลูมิเนียม 5
2.2 อลูมิเนียม เกรด ADC 12 5
2.3 การหล่อแบบอลูมิเนียม (Aluminium casting) 6
2.4 เตาเผาหรือเตาหลอม 7
2.4.1 องค์ประกอบของระบบเตาหลอม 7
2.4.2 ลักษณะของเตาหลอม 8
2.4.2.1 เตาที่เปลวไฟสัมผัสโดยตรงกับโลหะ 8
2.4.2.2 เตาที่เปลวไฟไม่สัมผัสโดยตรงกับโลหะ 9
2.4.3 ขันตอนในการถ่ายเทความร้อนของการหลอมโลหะ 9
2.5 วัสดุทนความร้อนที่ใช้กับเตาหลอม 10
2.6 เบ้าเก็บน้าโลหะ (Transfer Ladle) 11
2.7 วิธีการก้าจัดหรือไล่ไฮโดรเจนในน้าโลหะอลูมิเนียม 12
2.8 การถ่ายเทความร้อน 13
2.8.1 การน้าความร้อน (Conduction Heat Transfer) 13
2.8.2 การพาความร้อน (Convection Heat Transfer) 14
2.8.3 การแผ่รังสีความร้อน (Radiation Heat Transfer) 15
2.8.4 การถ่ายเทความร้อนผ่านรางเทน้าโลหะอลูมิเนียม 15
2.9 ค่าความต้านทานความร้อน (Thermal resistance) 16
2.9.1 ค่าความต้านทานความร้อนผ่านแผ่นผนัง 16
2.9.2 การหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนผ่านแผ่นผนัง 17
2.9.3 การหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม 19
ผ่านฝาปิดด้านบน และด้านล่างของเบ้า
2.9.4 การหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนผ่านทรงกระบอก 21
2.9.5 การหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม 22
ผ่านผนังเบ้ารับน้าโลหะ
2.10 แก๊สธรรมชาติ 23
2.11 การค้านวณปริมาณการใช้แก๊สธรรมชาติ 23
2.12 พลังงานความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมแต่ละกระบวนการ 24
2.13 การค้านวณระยะเวลาการคืนทุนอย่างง่าย 25
2.14 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 25
บทที่ 3 วิธีการวิจัย 30
3.1 ขันตอนการศึกษา 30
3.1.1 การส้ารวจหน้างาน 30
3.1.2 การศึกษาขันตอนการหลอมน้าโลหะอลูมิเนียมและ 31
ขนย้ายไปยังจุดใช้งาน
3.1.3 การเก็บข้อมูล 32
3.1.4 การวิเคราะห์หาสาเหตุ 32
3.1.5 การเสนอแนวทางการปรับปรุงแก้ไข 33
3.2 อุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล 34
บทที่ 4 ผลการวิจัยและอภิปรายผล 36
4.1 ผลการส้ารวจหน้างาน 36
4.2 ผลการศึกษาขันตอน และการเก็บข้อมูล ของการหลอมน้า 37
โลหะอลูมิเนียมและขนย้ายไปยังจุดใช้งาน
4.3 การวิเคราะห์หาสาเหตุ 42
4.3.1 ขันตอนที่ 2: การปล่อยน้าโลหะอลูมิเนียมลงสู่เบ้ารับน้าโลหะ 42
4.3.2 ขันตอนที่ 3: กระบวนการ Rotary Degassing 43
4.3.3 ขันตอนที่ 4: การขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม 43
4.3.4 ขันตอนที่ 5: การเทน้าโลหะอลูมิเนียมลงเตาอุ่นท้ายเครื่องฉีด 46
4.4 เสนอแนวทางการปรับปรุงแก้ไข 48
4.4.1 แนวทางการแก้ไขเชิงการจัดการ 48
4.4.2 แนวทางการแก้ไขเชิงวิศวกรรม 51
4.5 การค้านวณค่าความร้อน ผลประหยัดพลังงาน และระยะเวลาคืนทุนของ 56
การด้าเนินการปรับปรุงแก้ไข
4.5.1 การออกแบบฝาปิดรางเท 56
4.5.2 การเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ 58
บทที่ 5 สรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ 62
รายการอ้างอิง 64
ภาคผนวก
ประวัติผู้เขียน 96
สารบัญตาราง
ตารางที่ หน้า
2.1 ส่วนผสมทางเคมีของอลูมิเนียมเกรด ADC12 ตาม JIS H5302 5
2.2 ค่าการน้าความร้อนของวัสดุทนความร้อนที่ใช้ในเตาหลอมอลูมิเนียม 10
4.1 การเปรียบเทียบอัตราการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม 40
4.2 แสดงข้อมูลขันตอน และอัตราการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม 41
4.3 ข้อมูลอุณหภูมิพืนผิวของเบ้ารับน้าโลหะ 45
4.4 ข้อมูลเวลาการด้าเนินการ Rotary Degassing และ ขันตอนขนย้ายน้า 46
โลหะอลูมิเนียม
4.5 สาเหตุที่ท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียความร้อนในแต่ละขันตอน 47
4.6 แนวทางในการปรับปรุงแก้ไขเชิงการจัดการ 48
4.7 สรุปข้อมูลแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขเชิงการจัดการ 50
4.8 แนวทางในการปรับปรุงแก้ไขเชิงวิศวกรรม 51
4.9 สรุปข้อมูลแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขเชิงวิศวกรรม 54
4.10 สรุปแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข สาเหตุของการสูญเสียความร้อนของน้า 55
โลหะอลูมิเนียม และข้อจ้ากัดของการปรับปรุงแก้ไข
4.11 ชนิดของฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ และค่าการน้าความร้อน 59
4.12 ค่าความร้อนที่ลดลงหลังการเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ 61
4.13 ค่าความร้อนที่สูญเสียของน้าโลหะอลูมิเนียมก่อนและหลัง การด้าเนินการ 61
ของ ทัง 2 มาตรการ
สารบัญภาพ
ภาพที่ หน้า
1.1 กราฟแสดงข้อมูลปริมาณการใช้แก๊สธรรมชาติในกระบวนการหลอม 3
อลูมิเนียมและอุ่นน้าโลหะอลูมิเนียม ปี 2560
2.1 แบบหล่อ 6
2.2 ชินงานยานยนต์อลูมิเนียม 6
2.3 เตาอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ 7
2.4 เตาหลอมแบบแนวนอน 8
2.5 เตาหลอมทรงหอคอย 8
2.6 เบ้าหลอมแบบ Crucible gas fired 9
2.7 การท้างานของ Crucible gas fired 9
2.8 ปริมาณพลังงานที่ใช้ในการท้าให้อุณหภูมิของชินโลหะเพิ่มขึน 10
และปริมาณพลังงานที่ใช้ในการหลอม
2.9 เบ้ารับน้าโลหะ 12
2.10 เครื่อง Rotary Degasser ที่ช่วยลดไฮโดรเจนในน้าโลหะอลูมิเนียม 13
2.11 Heat flow 16
2.12 Schematic for convection resistance at a surface. 17
2.13 The thermal resistance network for heat transfer through a 18
plane wall subjected to convection on both sides.
2.14 The thermal resistance network for heat transfer through a two- 19
layer plane wall subjected to convection on both sides.
2.15 การถ่ายเทความร้อนผ่านฝาปิดของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม 20
2.16 The thermal resistance network for a cylindrical shell subjected 22
to convection from both the inner and the outer sides.
2.17 การถ่ายเทความร้อนผ่านผนังของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม 22
2.18 รูปร่างลักษณะของเตาหลอมอลูมิเนียม 26
2.19 การถ่ายเทความร้อนของผนังทนไฟแต่ละชันของเตาหลอม 26
2.20 อุณหภูมิของเตาตังแต่สถานะเริ่มให้ความร้อน 6 ชม. แรก จนถึงเตาที่ได้รับ 27
ความร้อนที่เวลา 14 วัน
บทที่ 1
บทน้า
1.1 ความเป็นมาและความส้าคัญของปัญหา
ส่งผลท้าให้ราคาของแก๊สธรรมชาติมีความผันผวน และส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนในภาคส่วน
ต่างๆ รวมไปถึงอุตสาหกรรมอลูมิเนียม ที่มีการใช้แก๊สธรรมชาติเป็นเชือเพลิงหลักของอุตสาหกรรม
จากข้อมูลแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมอลูมิเนียมที่ผลิตชินส่วนยานยนต์ที่สูงขึน
ในทุกปี ส่งผลต่อการใช้พลังงานจากแก๊สธรรมชาติมากขึนตามการเติบโตไปด้วย ด้วยเหตุผลทังหมด
เหล่านีจึงเป็นที่มาของการท้าวิจัยฉบับนี ซึ่งจะศึกษาหาแนวทางการลดการสูญเสียความร้อนของน้า
โลหะอลูมิเนียม โดยผลที่ได้ก็จะท้าให้สามารถลดการใช้ แก๊สธรรมชาติของอุตสาหกรรมอลูมิเนียมที่
ผลิตชินส่วนยานยนต์ลง และเป็นการใช้แก๊สธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย โดยไม่ท้าให้ก้าลัง
การผลิ ตลดลง และคุณสมบั ติของอลู มิเนี ยมที่ต้องน้าไปใช้งานเปลี่ยนแปลงไป การท้าวิจัยครั งนี
นอกจากจะเอือประโยชน์ในเรื่องของการลดต้นทุนทางด้านพลังงานต่อผู้ประกอบการแล้ว ยังส่งเสริม
ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ในด้านการลดใช้พลังงาน และลดการน้าเข้าแก๊สธรรมชาติอีกด้วย
งานวิจัยฉบับนีได้ท้าการเก็บข้อมูลจากโรงงานอุตสาหกรรมผลิตชินส่วนรถยนต์แห่งหนึ่ง
ในจังหวัดปทุมธานี โดยได้น้าปัญหาในเรื่องการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมของโรงงาน
มาท้าการศึกษาหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข โดยปัญหาที่พบอยู่ที่กระบวนการหลอมน้าโลหะอลูมิเนียม
และขนย้ายไปใช้งาน พบว่าอุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียมลดลง ท้าให้เมื่อน้าโลหะอลูมิเนียมไปถึงยัง
จุดที่ใช้งาน ไม่สามารถใช้งานได้ทันที จะต้องด้าเนินการอุ่นน้าโลหะอลูมิเนียมให้อุณหภูมิได้ตามความ
ต้องการของกระบวนการผลิ ตอีกครัง ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวท้าให้ทางโรงงานต้องใช้ปริมาณแก๊ส
ธรรมชาติที่เพิ่มขึน เพื่ออุ่นน้าโลหะอลูมิเนียม และยังก่อให้เกิดเวลาที่สูญเปล่าในกระบวนการผลิตอีก
ด้วย
การเก็บข้อมูลของปี 2560 พบว่ามีปริมาณการใช้แก๊สธรรมชาติทังหมดของกระบวนการ
ผลิ ตของโรงงานอยู่ ที่ 8,827,692 ลู กบาศก์เมตร และมีปริมาณการใช้ แ ก๊ส ธรรมชาติ ที่ ใช้อุ่น น้ า
โลหะอลูมิเนียม ที่เกิดจากปัญหาการสูญเสียความร้อนจากกระบวนการขนย้าย อยู่ที่ 1,254,826.06
ลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 14 รายละเอียดตามข้อมูลจากภาพที่ 1.1
ข้อมูลปริมาณการใช้แก๊สธรรมชาติปี 2560
ในกระบวนการหลอมอลูมิเนียม และอุ่นนา้ โลหะอลูมิเนียม
14% หลอมอลูมิเนียมที่โรงหลอม
(1,254,862.06 m3)
อุ่นน้าโลหะอลูมิเนียมท้ายเครื่องฉีด
30% 56% (Hold)
(4,908,368.60 m3)
(2,664,461.34 m3)
อุ่นน้าโลหะอลูมิเนียมท้ายเครื่องฉีด
เพื่อให้ได้อุณหภูมิตามความต้องการของ
กระบวนการ
ข้อมูลทังหมดเป็นที่มาของการท้าวิจัยฉบับนี ความคาดหวังที่จะได้รับจากการท้าวิจัย
คือ ทราบถึงปัจจัยที่ท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียความร้อน และหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขเพื่อท้า
ให้น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียความร้อนน้อยที่สุด
1.2 วัตถุประสงค์ของงานวิจัย
เพื่อศึกษาถึงสาเหตุ การสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมในขันตอนการขนย้าย
จากเตาหลอมไปที่เครื่องฉีด และเสนอแนวทางปรับปรุงแก้ไข
1.3 ขอบเขตการศึกษา
1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
บทที่ 2
วรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ทีม่ าและคุณสมบัติของอลูมิเนียม
อลูมิเนียมจัดเป็นธาตุที่พบมากเป็นอันดับสาม บนพืนผิวโลกรองลงมาจากออกซิเจน
และซิลิกอน แต่มากกว่าเหล็กและธาตุอื่นๆ โดยโลหะอลูมิเนียมจะมีสีขาวเงิน ไม่เป็นสนิม น้าหนักเบา
ความหนาแน่นต่้า น้าไฟฟ้าได้ดี สามารถขึนรูปได้ง่าย ไม่เป็นพิษ ต่อร่างกายมนุษย์ สะท้อนแสงได้ดี
และมีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อน
อลูมิเนียมบริสุทธิ์ มีคุณสมบัติต่างๆ ดังนี
- ค่าความหนาแน่น 2,699 kg/m3
- จุดหลอมเหลว 660.37 °C
- จุดเดือด 2,519 °C
- ค่าความร้อนแฝงของการหลอมเหลว (Latent Heat of Fusion) 386.9 kJ/kg
- ค่าการน้าความร้อน (Thermal Conductivity) 210 W/m-K
- ค่าความจุความร้อน (Specific Heat Capacity) 0.9 kJ/kg•°C
ตารางที่ 2.1
ส่วนผสมทางเคมีของอลูมิเนียมเกรด ADC12 ตาม JIS H5302
Chemical composition of ADC 12 alloy (mass fraction, %)
JIS symbol Cu Si Mg Zn Fe Mn Ni Sn
ADC 12 1.5-3.5 9.6-12.0 0.3 Max 1.0 Max 1.3 Max 0.5 Max 0.5 Max 0.2 Max
เตาเผาหรือเตาหลอม
2.4.1 องค์ประกอบของระบบเตาหลอม
เตาหลอมแต่ ล ะแบบมี โ ครงสร้ า งและการท้ า งานที่ แ ตกต่ า งกั น มาก แต่ เ มื่ อ
พิจารณาถึงองค์ประกอบพืนฐาน เตาอุตสาหกรรมจะมีองค์ประกอบหลัก 6 ส่วน คือ
- ฐานเตา เปลือกเตา เป็นโครงสร้างเพื่อยึดฉนวนความร้อน
- ฉนวนความร้อน ได้แก่ อิฐทนไฟ ปูนทนไฟ
- ห้องเผาไหม้
- ส่วนล้าเลียงชินงาน มีทังแบบต่อเนือ่ ง และแบบท้างานเป็นรอบ
- ส่วนควบคุม ท้าหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิ ความดัน และล้าเลียงชินงาน
- อุปกรณ์น้าความร้อนทิงกลับมาใช้
(กระทรวงพลังงาน, สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม, น.4)
2.4.2 ลักษณะของเตาหลอม
2.4.2.1 เตาที่เปลวไฟสัมผัสโดยตรงกับโลหะ เป็นเตาที่ เปลวไฟจากการสันดาป
สัมผัสโดยตรงกับโลหะในอ่างหลอม ได้แก่ เตาหลอมแบบนอน เตาหลอมทรงหอคอย ใช้หลอมโลหะ
ในปริมาณมาก ส่งถ่ายพลังงานความร้อนโดยการพาความร้อน และการแผ่รังสีความร้อน มีการแบ่ง
ส่วนของเตาออกเป็น 3 ส่วนประกอบด้วย ส่วนที่ใช้ในการอุ่นเศษโลหะร้อน (Preheat zone) ส่วน
หลอมละลายโลหะ (Melting zone) และส่ ว นควบคุ ม อุ ณ หภู มิ เ ทน้ าโลหะ (Holding zone) ใช้
เชือเพลิงแก๊สธรรมชาติ หรือน้ามัน
2.4.3 ขันตอนในการถ่ายเทความร้อนของการหลอมโลหะ
2.4.3.1 การถ่ายเทความร้อนภายในเตาไปยังพืนผิวของโลหะ จากการพาความ
ร้อน และการแผ่รังสีความร้อนซึ่งเกิดจากการเผาไหม้
2.4.3.2 การถ่ายเทความร้อนภายในชินโลหะ โดยการน้าความร้อนจากบริเวณ
พืนผิวเข้าไปภายใน ซึ่งจะขึนอยู่กับการน้าความร้อน และค่าความจุความร้อนของโลหะชนิดนันๆ
เวลาที่ใช้ในการหลอมขึนอยู่กับค่าสัมประสิทธ์การถ่ายเทความร้อน ขนาด และรูปร่างของชินงาน ใน
การที่จะท้าให้อุณหภูมิที่แกนกลางถึงจุดหลอมเหลว ทังนีปริมาณพลังงานที่ต้องใช้ในการหลอมโลหะ
วัสดุทนความร้อนที่ใช้กับเตาหลอม
ตารางที่ 2.2
ชนิดของวัสดุทนความร้อนที่ใช้กับเตาหลอม
ชนิดของ Thermal ชนิดของ Thermal
วัสดุทนความร้อน conductivity วัสดุทนความร้อน conductivity
(W/m.K) (W/m.K)
Asbestos Board 0.046 Alucast 35 0.9
Rock Woll Board 0.041 Curon 130 0.6
ตารางที่ 2.2
ชนิดของวัสดุทนความร้อนที่ใช้กับเตาหลอม (ต่อ)
ชนิดของ Thermal ชนิดของ Thermal
วัสดุทนความร้อน conductivity วัสดุทนความร้อน conductivity
(W/m.K) (W/m.K)
Hicast Extra 2.19 GI 26 0.34
Ceramic Fibre Blanket Kaowool 0.32 GI 23 0.24
Ceramic Fibre Paper 0.20 Golite 1.0.6 0.23
Superwool
Ceramic Fibre Board 1260 0.20 Supra 0.18
Calcium silicate board 0.14 Golite 90.L 0.15
SUPER-1100E
AK 85 MP 4.10 Rock wool HT 660 0.0914
AK 1.46 Calcon 1100 0.0935
CURAST 85 PD 1.21 Calcon Board 0.1090
หมายเหตุ. จาก การปรับปรุงการใช้พลังงานส้าหรับเตาหลอมอลูมิเนียมชนิดให้ความร้อนโดยอุปกรณ์
หัวพ่นไฟในกระบวนการหลอมอลูมิเนียมของโรงงานผลิตลวดอลูมิเนียม, โดย โฆษิต พุกะทรัพย์ และ
วิทยา ยงเจริญ, 2557, วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วิธีการก้าจัดหรือไล่ไฮโดรเจนในน้าโลหะอลูมิเนียม
การถ่ายเทความร้อน
ความร้อนเป็นรูปแบบพลังงานที่สามารถถ่ายโอนจากระบบหนึ่งไปสู่อีกระบบหนึ่งได้
โดยเป็นผลมาจากจุดสองจุดมีอุณหภูมิ ที่แตกต่างกัน ก็จะมีพลังงานถ่ายเทจากจุดที่มีอุณหภูมิสูงไปยัง
จุดที่มีอุณหภูมิต่้า โดยการถ่ายเทความร้อนมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ การน้าความร้อน การพาความ
ร้อน และการการแผ่รังสีความร้อน โดยมีรายละเอียดดังนี
dT
Q̇ cond = - kA (2.1)
dx
2.8.4 การถ่ายเทความร้อนผ่านรางเทน้าโลหะอลูมิเนียม
การถ่ายเทน้าโลหะจากเตาหลอมใหญ่ใส่เบ้ารับน้า มีการปล่อยน้าโลหะผ่านราง
เท เกิดการถ่ายเทความร้อนแบบการพาความร้อน และการแผ่รังสีความร้อน โดยสามารถพิจารณา
การถ่ายเทความร้อนดังกล่าวได้จากสมการที่ (2.5)
2.9.1 ค่าความต้านทานความร้อนผ่านแผ่นผนัง
ค่าความต้านทานความร้อนผ่านแผ่นผนัง แบ่งเป็นค่าความต้านทานการน้าความ
ร้อน และค่าความต้านทานการพาความร้อน
(T1 −T2 )
Q̇ cond,wall = kA (2.6)
L
(T1 −T2 )
Q̇ cond,wall = (2.7)
Rwall
L
จะได้ R wall = kA ซึ่งมีหน่วยเป็น (K/W)
(Ts −T )
Q̇ conv = (2.9)
Rconv
1
จะได้ R conv = ซึ่งมีหน่วยเป็น (K/W)
hA
2.9.2 การหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนผ่านแผ่นผนัง
การหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนผ่านแผ่นผนัง แบบ 1 ทิศทาง สภาวะคงตัว
โดยมีของไหล ไหลผ่านผิวทัง 2 ด้านของแผ่นผนัง โดย T∞1 > T∞2 ดังภาพที่ 2.13 ซึง่ ค่าอัตราการพา
ความร้อนด้านในของแผ่นผนัง ค่าอัตราการน้าความร้อนของแผ่นผนัง และค่าอัตราการพาความร้อน
ด้านนอกของแผ่นผนัง จะมีค่าเท่ากัน Q̇ conv,1 = Q̇ wall = Q̇ conv,2
ค่าความต้านทานความร้อนผ่านแผ่นผนัง แต่ละตัวต่อกันแบบอนุกรม โดยค่า
ความต้านทานความร้อนทังหมดจะมีค่าเท่ากับ ผลรวมของความต้านทานแต่ละตัว โดยอัตราการ
ถ่ายเทความร้อน จะมีค่าเท่ากับผลต่างของอุณหภูมิที่ผิว หารด้วยค่าความต้านทานความร้อนทังหมด
ดังนัน จะสามารถค้านวณหา อัตราการถ่ายเทความร้อนผ่านแผ่นผนั ง ได้จากสมการที่ (2.12) และ
สามารถหาค่าความต้านทานความร้อนผ่านแผ่นผนังทังหมด (Rtotal) ได้จากสมการที่ (2.13)
ภาพที่ 2.13 The thermal resistance network for heat transfer through a plane wall
subjected to convection on both sides.
(T1 −T2 )
Q̇ = h1A (T∞1 – T1) = kA = h2A (T2– T∞2) (2.10)
L
T1 − T1 T1 − T2 T2 − T∞2
Q̇ = = = (2.11)
1/h1 A L/kA 1/h2 A
1 L 1
R total = h1 A
+ kA + h
2A
(2.13)
ภาพที่ 2.14 The thermal resistance network for heat transfer through a two-layer plane
wall subjected to convection on both sides.
T − T∞2
Q̇ = ∞1
R
(2.14)
total
1 L1 L2 1
R total =
h1 A
+
k1 A
+
k2 A
+
h2 A
(2.15)
ฝาปิด Q̇
T, 2
T3 ฉนวน
T2
น้าโลหะ T1 แต่ละชัน
อลูมิเนียม
T, 1
T1 T2 T3
T, 1 T, 2
Rcond, 1 Rcond, 2 Rcond, 3 Rconv
T − T∞2
Q̇ = ∞1
R
(2.16)
total
L1 L2 L3 1
R total =
k1 A
+
k2 A
+
k3 A
+
hA
(2.17)
การค้านวณหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนผ่านฉนวน 4 ชันสามารถค้านวณได้
จากสมการดังต่อไปนี
L1 L2 L3 L4 1
R total =
k1 A
+
k2 A
+
k3 A
+
k4 A
+
hA
(2.19)
2.9.4 การหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนผ่านทรงกระบอก
การถ่ายเทความร้อนที่มีลักษณะเป็นทรงกระบอก เช่น ท่อ เบ้ารับน้าโลหะ โดย
พิจารณาแบบสภาวะคงตัว ความร้อนจะถ่ายเทผ่ านทรงกระบอก ในทิศทางตังฉากกับพืนผิ ว ของ
ทรงกระบอก ท้าให้เกิดผลต่างของอุณหภูมิ ในทิศทางรัศมีของทรงกระบอก โดยที่อุณหภูมิภายใน
และภายนอกทรงกระบอกคงที่ สามารถหาค่าความต้านทานความร้อนของทรงกระบอก ได้จาก
สมการที่ (2.24) และหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนของทรงกระบอกผ่านผนัง 1 ชัน ได้จากสมการที่
(2.25)
dT
Q̇cond,cyl = −kA dr , A = 2πrL (2.21)
r2 Q̇cond,cyl T2
∫r1 A
dr = − ∫T1 kdT (2.22)
T −T
Q̇cond,cyl = 2πLk 1 𝑟2 2
ln( )
(2.23)
𝑟1
𝑟
T −T ln( 2 )
Q̇cond,cyl = 1R 2
cyl
, R cyl =
𝑟1
2πLk
(2.24)
T −T
Q̇ = ∞1R ∞2 (2.25)
total
r
1 ln(r2) 1
R total = (2πr1 L)h1
+ 2πLk
1
+ (2πr2 L)h2
(2.26)
ภาพที่ 2.16 The thermal resistance network for a cylindrical shell subjected to
convection from both the inner and the outer sides.
น้าโลหะ
อลูมิเนียม
𝑄̇
ฉนวนแต่ละชัน
น้าโลหะ
อลูมิเนียม
T1 T2 T3 T4
T, 1 T, 2
Rcond, 1 Rcond, 2 Rcond, 3 Rcond, 4 Rconv
T −T
Q̇ = ∞1R ∞2 (2.25)
total
r r r r
ln(r2) ln(r3) ln(r4) ln(r5) 1
R total = 2πLk + 2πLk + 2πLk + 2πLk4 + (2πr L)h
1 2 3
(2.26)
1 2 3 4 5
T∞1 − T∞2
Q̇ = r2 r3 r r
ln( ) ln( ) ln(r4 ) ln( 5 )
(2.27)
r1 r2 3 r4 1
+ + + +
2πLk1 2πLk2 2πLk3 2πLk4 (2πr5 L)h
แก๊สธรรมชาติ
การค้านวณปริมาณการใช้แก๊สธรรมชาติ
พลังงานความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมแต่ละกระบวนการ
การค้านวณพลังงานความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมแต่ละกระบวนการ คือเมื่อมวล
ของน้าโลหะอลูมิเนียม มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงจาก T1 เป็น T2 และความจุความร้อนจ้าเพาะของน้า
โลหะอลูมิเนียมมีค่าคงตัว พลังงานความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมได้รับเข้ามา หรือสูญเสียออกไป ของ
แต่ละกระบวนการ สามารถค้านวณได้จากสมการที่ (2.31)
การค้านวณระยะเวลาการคืนทุนอย่างง่าย
มูลค่าการลงทุน (บาท)
ระยะเวลาคืนทุนอย่างง่าย (ปี) = (2.32)
ค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้ต่อปี (บาท/ปี)
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 3
วิธีการวิจัย
3.1 ขันตอนการศึกษา
3.1.1 การส้ารวจหน้างาน
จากหัวข้อปัญหาของทางโรงงานที่มีการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม
ผู้ วิ จั ย ได้ ล งไปยั ง หน้ า งาน เพื่ อ ส้ า รวจขั นตอนการด้ า เนิ น งานทั งหมด ตั งแต่ ขั นตอนการหลอม
โลหะอลูมิเนียมที่เตาหลอมใหญ่ การปล่อยน้าโลหะอลูมิเนียม ไปจนถึงกระบวนการขนย้ายน้าโลหะไป
ใช้งานที่เครื่องฉีด โดยส้ารวจหน้างาน 3 ครังต่อสัปดาห์ เพื่อให้ผู้วิจัยสามารถเข้าใจกระบวนการ
ทังหมด และสามารถน้ามาเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์หาสาเหตุที่ท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียความ
ร้อนได้
3.1.2 การศึกษาขันตอนการหลอมน้าโลหะอลูมิเนียมและการขนย้ายไปยังจุดใช้งาน
เมื่อส้ ารวจหน้ างาน ท้าให้ ผู้ วิจัยทราบถึงรายละเอียดขันตอนการท้างานของ
กระบวนการหลอมน้าโลหะอลูมิเนียมจนไปถึงจุดใช้งาน โดยสามารถสรุปขันตอนการด้าเนินการได้ 5
ขันตอน ดังนี
- ขันตอนที่ 1 การหลอมอลูมิเนียม
การน้าอลูมิเนียมแท่งสถานะของแข็ง เข้าสู่เตาหลอม ใช้เวลาในการหลอม
ประมาณ 30 นาที จนได้อลูมิเนียมที่มีสถานะเป็นของเหลว มีอุณหภูมิ 740 °C
- ขันตอนที่ 2 การปล่อยน้าโลหะอลูมิเนียมลงสู่เบ้ารับน้าโลหะ
เมือ่ ในเตาหลอม หลอมอลูมิเนียมได้อุณหภูมิตามที่ต้องการแล้ว จะมีการปล่อย
น้าโลหะอลูมิเนียมที่ได้จากเตาหลอม ผ่านรางเท ลงสู่เบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียมจนเต็ม เพื่อใช้ในการ
ขนย้ายไปยังกระบวนการถัดไป
- ขันตอนที่ 4 การขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
การน้าน้าโลหะอลูมิเนียมที่อยู่ ในเบ้ารับน้าโลหะ ที่ผ่านกระบวนการ Rotary
Degassing แล้ว ท้าการขนย้ายไปยังท้ายเครื่องฉีดอลูมิเนียม โดยรถโฟล์คลิฟท์
- ขันตอนที่ 5 การเทน้าโลหะอลูมิเนียมลงในเตาอุ่น
การยกเบ้ารับน้าโลหะขึนโดยรถโฟล์คลิฟท์ และเทน้าโลหะอลูมิเนียมในเบ้ารับ
น้าโลหะลงในเตาอุ่นท้ายเครื่องฉีด
1.การหลอมอลูมิเนียม 2.การปล่อยน้าโลหะอลูมิเนียมลงสู่เบ้า
3.1.3 การเก็บข้อมูล
ด้าเนินการเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อน้ามาวิเคราะหาสาเหตุที่ท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียม
สูญเสียความร้อน โดยตรวจวัดอุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียม และระยะเวลาในการด้าเนินงานแต่ละ
ขันตอน รวมถึงวัดอุณหภูมิบรรยากาศโดยรอบเตาหลอม ท้าการตรวจวัด 5 ครังเพื่อหาค่าเฉลี่ย จาก
ข้อมูลดังกล่าวผู้วิจัยท้าการค้านวณหาอัตราการสูญเสียความร้อน และค้านวณพลังงานความร้อนที่
สูญเสียของน้าโลหะอลูมิเนียมในแต่ละขันตอน
3.1.4 การวิเคราะห์หาสาเหตุ
จากการเก็ บ ข้ อ มู ล ท้ า ให้ ท ราบถึ ง ข้ อ มู ล อุ ณ หภู มิ ข องน้ า โลหะอลู มิ เ นี ย ม
ระยะเวลาในทุกขันตอน อุณหภูมิบรรยากาศโดยรอบเตาหลอม รวมไปถึงข้อมูลอัตราการสูญเสียความ
ร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมในแต่ละขันตอน ซึ่งท้าให้ผู้วิจัยทราบว่า ขันตอนใดมีอัตราการสูญเสียความ
ร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมสูงสุด ขันตอนใดท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียมมีอุณหภูมิลดลงมากที่สุด จากนัน
ด้ า เนิ น การวิ เ คราะห์ ห าสาเหตุ ในรายละเอี ย ดของแต่ ล ะขั นตอน ว่ า มี ส าเหตุ ใ ดบ้ า งที่ ท้ า ให้ น้ า
การส้ารวจหน้างาน
การศึกษาขันตอนการหลอมน้าโลหะอลูมิเนียมและการขนย้ายไปยังจุดใช้งาน
การเก็บข้อมูล
การวิเคราะห์หาสาเหตุ
การเสนอแนวทางการปรับปรุงแก้ไข
3.2 อุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
3.2.1 เวลาการด้าเนินการของแต่ละขันตอนใช้นาฬิกาจับเวลา
3.2.2 อุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียมจากเตาหลอมใหญ่ ก่อนปล่อยลงสู่เบ้ารับ
น้าโลหะ และอุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียมหลังจากเทลงเตาอุ่นท้ายเครื่องฉีด ใช้เทอร์โมคัปเปอร์ที่
อยู่ในเตาหลอม อ่านค่าอุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียมจากจอ Monitor Digital
3.2.3 อุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิ เนียมในเบ้ารับน้าโลหะในแต่ละขันตอน เช่น
ขันตอนการปล่อยน้าโลหะอลูมิเนียมลงสู่เบ้า รับน้าโลหะจนเต็มเบ้า ขันตอนหลังผ่านกระบวนการ
Rotary Degassing จะวัดอุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียม โดยใช้เทอร์โมคัปเปอร์ ยี่ห้อ FLUKE รุ่น 51
(Technical spec: Range -200 °C ถึง 1,372 °C)
บทที่ 4
ผลการวิจัยและอภิปรายผล
บทนี จะกล่ า วถึ ง รายละเอี ย ดของการด้ า เนิ น การแต่ ล ะขั นตอนของงานวิ จั ย และ
ผลการวิจัยที่ได้ ซึ่งในบทนีจะท้าให้ทราบถึงสาเหตุทังหมดที่ท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียความร้อน
และเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงแก้ไขเพื่อลดการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม
4.1 ผลการส้ารวจหน้างาน
จากการศึกษาขันตอนการหลอมน้าโลหะอลู มิเนียมและการขนย้ายไปยังจุดใช้ ง าน
สามารถสรุปขันตอนการด้าเนินการได้ 5 ขันตอน มีผลการศึกษาและผลการเก็บข้อมูล ดังนี
- ขันตอนที่ 1: การหลอมอลูมิเนียม
น้าอลูมิเนียมแท่ง หลอมในเตาหลอมใหญ่ ให้ ได้อุณหภูมิตามมาตรฐาน จากการเก็บ
ข้อมูลอุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียมในเตาหลอมใหญ่มีอุณหภูมิเฉลี่ย 744 °C
- ขันตอนที่ 2: การปล่อยน้าโลหะอลูมิเนียมลงสู่เบ้ารับน้าโลหะ
เมื่ออุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียมในเตาหลอมใหญ่ ได้ตามมาตรฐาน จะท้าการเปิด
รู ร ะบายน้ าโลหะ น้ า โลหะอลู มิเนี ยมจะไหลผ่ านรางเท โดยรางเทมีลั กษณะเป็นรางเปิด เมื่อน้ า
โลหะอลูมิเนียมเต็มเบ้ารับน้าโลหะ จึงท้าการปิดรูระบายน้าโลหะ ใช้เวลาในการด้าเนินการ 5.88 นาที
อุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียม 714 °C ลดลง 30 °C จากขันตอนที่ 1 ดังนันอัตราการสูญเสียความ
ร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมเท่ากับ 5.10 °C/นาที และพลังงานความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสีย
เท่ากับ 27,445.50 kJ
- ขันตอนที่ 4: การขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
เมื่อน้าโลหะอลูมิเนียมในเบ้ารับน้าโลหะ ผ่านกระบวนการ Rotary Degassing แล้ว
พนักงานจะขนย้ายเบ้ารับน้าโดยรถโฟล์คลิฟท์ ไปท้ายเครื่องฉีด ใช้เวลาในการด้าเนินการ 2.21 นาที
อุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียม 692 °C ลดลง 6 °C จากขันตอนที่ 3 ดังนันอัตราการสูญเสียความ
ร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมเท่ากับ 2.71 °C/นาที และพลังงานความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสีย
เท่ากับ 5,489.10 kJ
- ขันตอนที่ 5: การเทน้าโลหะอลูมิเนียมลงในเตาอุ่น
เมื่อขนย้ายเบ้ารับน้าโลหะโดยรถโฟล์คลิฟท์ ไปท้ายเครื่องฉีดแล้ว รถโฟล์คลิฟท์จะยก
เบ้ารับน้าโลหะขึนเพื่อเทน้าโลหะให้ไหลผ่านรางเท ลงสู่เบ้าอุ่นน้าโลหะท้ายเครื่องฉีดจนเต็ม ใช้เวลา
ในการด้าเนินการ 3.17 นาที อุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียม 671 °C ลดลง 21 °C จากขันตอนที่ 4
ดังนันอัตราการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมเท่ากับ 3.17 °C/นาที และพลังงานความร้อน
ที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียเท่ากับ 19,211.85 kJ
โดยภาพรวมของขันตอนการด้าเนินการและผลการเก็บข้อมูลทังหมดสรุปไว้ ดังภาพที่
4.2 และตารางที่ 4.1
ตารางที่ 4.1
การเปรียบเทียบอัตราการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม
- - 1. ในเตาหลอมใหญ่ 744 - - - -
การปล่อยน้า
โลหะ 2. ในเบ้ารับน้า
อลูมิเนียม 5.88 โลหะ 714 30 5.10 -27,445.50 41
ลงสู่เบ้าจน อลูมิเนียม
เต็ม
3. ในเบ้าหลังผ่าน
กระบวนการ
8.82 กระบวนการ 16 1.81 -14,637.60
Rotary 698 22
Rotary
Degassing
Degassing
การขนย้ายน้า 4. ในเบ้าเมื่อขน
โลหะ 2.21 ย้ายไปถึงจุดใช้ 692 6 2.71 -5,489.10 8
อลูมิเนียม งาน
การเทน้า
โลหะ 5. ในเตาอุ่นท้าย
3.17 671 21 3.17 -19,211.85 29
อลูมิเนียมลง เครื่องฉีด
ในเตาอุ่น
จากข้อมูลการค้านวณอัตราการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมข้างต้น พบว่า
จุดที่ 2 ซึ่งเป็นขันตอนการปล่อยน้าโลหะอลูมิเนียมลงสู่เบ้าจนเต็ม มีอัตราการสูญเสียความร้อนมาก
ที่สุดเท่ากับ 5.10 °C/นาที และมีค่าพลังงานความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมที่สูญเสียมากที่สุดเท่ากับ
27,445.50 kJ รองลงมาคือจุดที่ 5 ขันตอนการเทน้าโลหะอลูมิเนียมลงในเตาอุ่นท้ายเครื่องฉีดมีอัตรา
การสูญเสียความร้อน 3.17 °C/นาที และมีค่าพลังงานความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมที่ 19,211.85
kJ รองลงมาคือจุดที่ 4 ขันตอนการขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม มีอัตราการสูญเสียความร้อน 2.71
°C/นาที และมีค่าพลั งงานความร้อนของน้าโลหะอลู มิเนียมเท่ากับ 5,489.10 kJ จุดที่มีอั ตราการ
สูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมน้อยที่สุดคือ จุดที่ 3 ซึ่งเป็นขันตอนกระบวนการ Rotary
Degassing มี อั ต ราการสู ญ เสี ย ความร้ อ น 1.81 °C/นาที และมี ค่ า พลั ง งานความร้ อ นของน้ า
โลหะอลูมิเนียมเท่ากับ 14,637.60 kJ
จากการค้านวณอัตราการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม ในแต่ละขันตอน
สามารถเรียงล้าดับจากมากไปน้อยได้ดังแสดงในตารางที่ 4.2
ตารางที่ 4.2
แสดงข้อมูลขันตอน และอัตราการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม
อัตราการสูญเสีย พลังงานความร้อน
ล้าดับ ความร้อนของน้า ของน้าโลหะ
ขันตอน
ที่ โลหะอลูมิเนียม อลูมิเนียม
(°C/นาที) ที่สูญเสีย (kJ)
ขันตอนที่ 2
1 5.10 27,445.50
การปล่อยนา้ โลหะอลูมิเนียมลงสู่เบ้าจนเต็ม
ขันตอนที่ 5
2 3.17 19,211.85
การเทน้าโลหะอลูมิเนียมลงเตาอุ่นท้ายเครื่องฉีด
ขันตอนที่ 4
3 2.71 5,489.10
การขนย้ายนา้ โลหะอลูมิเนียม
ขันตอนที่ 3
4 1.81 14,637.60
กระบวนการ Rotary Degassing
4.3 การวิเคราะห์หาสาเหตุ
การวิเคราะห์หาสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม ในแต่
ละขันตอน อธิบายรายละเอียดได้ดังต่อไปนี
Q loss
Q loss
24 เซนติเมตร
Q loss
1 4 9 14 16
8 11 17
3 5 10 12 18
1 4 9 14 16
2 7 13 15 19
3 5 10 12 18
20
2 7 13 15 19
6
20
ครังที่ 1 เมื่อเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียมรับน้าโลหะอลูมิเนียมจากเตาหลอมจนเต็ม
6
ครังที่ 1 เมื่อเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียมรับน้าโลหะอลูมิเนียมจากเตาหลอมจนเต็ม
1 7
8 11 14 18
1 7
2 4 5
8 1211 14 18
32 4 5 9 15 16 19
12
10
9 13 20
3 15 16 19
6
10 13 17 20
ตารางที่ 4.3
ข้อมูลอุณหภูมิพืนผิวของเบ้ารับน้าโลหะ
ต้าแหน่งที่วัด ผลการวัดอุณหภูมิของเบ้ารับน้า ผลการวัดอุณหภูมิของเบ้ารับน้า
อุณหภูมิ* โลหะครังที่ 1** (°C) โลหะครังที่ 2***(°C)
1 112.70 163.50
2 128.40 125.60
3 110.40 133.40
4 170.10 155.00
5 166.40 109.50
6 122.20 119.80
7 155.00 157.60
8 150.50 129.80
9 120.90 155.60
10 163.70 159.70
11 153.30 147.00
12 118.80 119.00
13 113.90 135.30
14 124.20 170.50
15 118.80 125.00
16 128.70 143.40
17 156.10 134.70
18 134.60 149.80
19 129.60 152.60
20 129.70 137.00
ค่าเฉลี่ย 135.37 141.19
ค่าเฉลี่ยที่แตกต่างกัน 5.82
*ต้าแหน่งที่ตรวจวัดอุณหภูมิบนเบ้ารับน้าโลหะ ตามภาพที่ 4.5
** เมื่อเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม รับน้าโลหะอลูมิเนียมจากเตาหลอมจนเต็ม
ตารางที่ 4.4
ข้อมูลเวลาการด้าเนินการ Rotary Degassing และ ขันตอนขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
ขันตอน เวลาการท้างาน (นาที)
กระบวนการ Rotary Degassing 8.82
การขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม 2.21
รวมเวลา 11.03
(2) ระยะทางการขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
ระยะทางการขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม พนักงานต้องขับรถโฟล์คลิฟท์เพื่อ
ท้าการขนย้ายเบ้ารับน้าโลหะไปยังจุดใช้งาน ตามเส้นทางที่ทางโรงงานก้าหนดไว้ ซึ่งมีระยะทางที่อ้อม
หากเปรียบเทียบเส้นทางจากระยะกระจัด
(3) ความเร็วของรถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้ในการขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
พนักงานสามารถขับรถโฟล์คลิฟท์ ในการขนย้ายเบ้ารับน้าโลหะไปยังจุดใช้
งานที่ความเร็วไม่เกิน 7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Q loss
จากการวิ เ คราะห์ ห าสาเหตุ ที่ ท้ า ให้ น้ า โลหะอลู มิ เ นี ย มสู ญ เสี ย ความร้ อ นได้
รวบรวมสาเหตุทังหมดและแสดงดังตารางที่ 4.5
ตารางที่ 4.5
สาเหตุที่ท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียความร้อนในแต่ละขันตอน
สาเหตุที่ท้าให้
ขันตอน
น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียความร้อน
ขันตอนที่ 2 - รางเทเป็นแบบเปิด
การปล่อยนา้ โลหะอลูมิเนียมลงสู่เบ้าจนเต็ม - มีระยะห่างระหว่างรางเทกับเบ้ารับน้าโลหะ
ขันตอนที่ 3
- การเปิดฝาเบ้ารับน้าโลหะขณะด้าเนินการ
กระบวนการ Rotary Degassing
- ประสิทธิภาพการเก็บความร้อนของฉนวนของเบ้า
รับน้าโลหะ
ขันตอนที่ 4
- ระยะทางการขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
การขนย้ายนา้ โลหะอลูมิเนียม
- ความเร็วของรถโฟล์คลิฟท์ ที่ใช้ในการขนย้ายน้า
โลหะอลูมิเนียม
ขันตอนที่ 5
- น้าโลหะอลูมิเนียมสัมผัสอากาศขณะเทลงเตาอุ่น
การเทน้าโลหะอลูมิเนียมลงเตาอุ่นท้ายเครื่องฉีด
4.4 การเสนอแนวทางการปรับปรุงแก้ไข
4.4.1 แนวทางการแก้ไขเชิงการจัดการ
แนวทางการแก้ ไขเชิงการจัดการ สามารถน้าไปปรับปรุงแก้ไขสาเหตุ ของการ
สูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมได้ดังตารางที่ 4.6 ดังนี
ตารางที่ 4.6
แนวทางในการปรับปรุงแก้ไขเชิงการจัดการ
สาเหตุของการสูญเสียความร้อน
แนวทางการปรับปรุงแก้ไขเชิงการจัดการ
ของน้าโลหะอลูมิเนียม
(1) ระยะห่างระหว่างรางเทกับเบ้ารับน้าโลหะ เพิ่มความสูงของพาเลทเหล็กเพื่อลดระยะห่าง
ก้าหนดเส้นทางการใช้รถโฟล์คลิฟท์ใหม่ให้มี
(2) ระยะทางการขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
ระยะทางสันที่สุด
(3) ความเร็วของรถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้ในการขน
เพิ่มความเร็วรถโฟล์คลิฟท์
ย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
รายละเอียดของการปรับปรุงแก้ไขเชิงการจัดการของแต่ละสาเหตุ และข้อจ้ากัด
ของการด้าเนินการปรับปรุงแก้ไขมีดังนี
(1) การสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมจากการมีระยะห่างระหว่าง
รางเทกับเบ้ารับน้าโลหะ
การปรั บ ปรุงแก้ไขคือ การด้าเนินการเปลี่ ยนขนาดอุปกรณ์ เสริมของการ
ท้างานคือ พาเลทเหล็ก ที่ใช้วางเบ้ารับน้าโลหะ ดังภาพที่ 4.7 ให้มีความสูงเพิ่มขึน เพื่อลดระยะห่าง
ของรางเทกับเบ้ารับน้าโลหะ ซึ่งจะท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียม แลกเปลี่ยนความร้อนกับอากาศได้ลดลง
พาเลทเหล็กที่ใช้วางเบ้ารับน้าโลหะ
(2) การสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมจากระยะทางการขนย้ายน้า
โลหะอลูมิเนียม
การด้าเนินการปรับปรุงแก้ไขคือ การก้าหนดเส้นทางการใช้รถโฟล์คลิฟท์
ใหม่ ให้มีระยะทางสันที่สุด จากเตาหลอมใหญ่ไปถึงจุดใช้งาน
แนวทางการปรั บ ปรุ ง แก้ ไ ขดั ง กล่ า ว มี ข้ อ จ้ า กั ด ที่ ไ ม่ ส ามารถด้ า เนิ น การ
ปรับปรุงแก้ไขได้ เนื่องจากเส้นทางของรถโฟล์ทลิฟท์ ถูกก้าหนดตามกฎความปลอดภัยของโรงงาน ที่
แยกเส้นทาง การเดินของพนักงาน กับเส้นทางการใช้ รถโฟล์คลิฟท์ไว้อย่างชัดเจน เพื่อลดการเกิด
อุบัติเหตุ ดังภาพที่ 4.8
(3) การสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมจากความเร็วของ
รถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้ในการขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
การด้าเนินการปรับปรุงแก้ไข คือการเพิ่มความเร็วของรถโฟล์คลิฟท์ในการ
ขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
แนวทางการปรั บ ปรุ ง แก้ ไ ขดั ง กล่ า ว มี ข้ อ จ้ า กั ด ที่ ไ ม่ ส ามารถด้ า เนิ น การ
ปรับปรุงแก้ไขได้ เนื่องจากความเร็วรถโฟล์ คลิ ฟท์ ถูกจ้ากัดที่ 7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นกฎความ
ปลอดภัยของโรงงาน
จากการพิจารณาการด้าเนินการปรับปรุงแก้ไขเชิงการจัดการและข้อจ้ากัดของการ
ด้าเนินการสามารถสรุปข้อมูลได้ดังตารางที่ 4.7
ตารางที่ 4.7
สรุปข้อมูลแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขเชิงการจัดการ
แนวทางการปรับปรุงแก้ไขเชิงการจัดการ ข้อจ้ากัดในการปรับปรุงแก้ไข
เพิ่มความสูงของพาเลทเหล็กเพื่อลดระยะห่าง ความปลอดภัยในการท้างาน
ก้าหนดเส้นทางการใช้รถโฟล์คลิฟท์ใหม่ให้มี
ปฎิบัติตามกฎความปลอดภัยของโรงงาน
ระยะทางสันที่สุด
เพิ่มความเร็วรถโฟล์คลิฟท์ ปฎิบัติตามกฎความปลอดภัยของโรงงาน
4.4.2 แนวทางการแก้ไขเชิงวิศวกรรม
แนวทางการแก้ไขเชิง วิศวกรรม สามารถน้าไปปรับปรุงแก้ไข สาเหตุของการ
สูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมได้ดังตารางที่ 4.8 ดังนี
ตารางที่ 4.8
แนวทางในการปรับปรุงแก้ไขเชิงวิศวกรรม
สาเหตุของการสูญเสียความร้อน
แนวทางการปรับปรุงแก้ไขเชิงวิศวกรรม
ของน้าโลหะอลูมิเนียม
ออกแบบท่อปิดระหว่าง ระยะห่างรางเทกับ
(1) ระยะห่างระหว่างรางเทกับเบ้ารับน้าโลหะ
เบ้ารับน้าโลหะ
(2) รางเทเป็นแบบเปิด ออกแบบฝาปิดรางเท
(3) การเปิดฝาเบ้ารับน้าโลหะขณะด้าเนินการ ออกแบบก้านหัวปั่นให้มีฝาติดไว้อยู่ด้านบน
Rotary Degassing เพื่อให้ฝาปิดเบ้ารับน้าขณะด้าเนินการ
(4) ประสิทธิภาพการเก็บความร้อนของฉนวนของ ปรับเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าให้มีค่า
เบ้ารับน้าโลหะ สัมประสิทธิ์การน้าความร้อนที่น้อยลง
ออกแบบระบบปิดในการเทน้า
(5) น้าโลหะอลูมิเนียมสัมผัสอากาศขณะเทลงเตาอุ่น
โลหะอลูมิเนียม
รายละเอียดของการปรับปรุงแก้ไขเชิงวิศวกรรมของแต่ละสาเหตุ และข้อจ้ากัด
ของการด้าเนินการปรับปรุงแก้ไขมีดังนี
(1) การสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมจากการมีระยะห่างระหว่าง
รางเทกับเบ้ารับน้าโลหะ
การด้าเนินการปรับปรุงแก้ไข คือการออกแบบท่อปิด ระหว่างระยะห่างของ
รางเทกับเบ้ารับน้าโลหะ เพื่อไม่ให้น้าโลหะอลูมิเนียมแลกเปลี่ยนความร้อนกับอากาศ
แนวทางการปรั บ ปรุ ง แก้ ไ ขดั ง กล่ า ว มี ข้ อ จ้ า กั ด ที่ ไ ม่ ส ามารถด้ า เนิ น การ
ปรับปรุงแก้ไขได้ เนื่องจากการด้าเนินการขนย้ายเบ้า รับน้าโลหะ เข้าไปรับน้าโลหะจะต้องมีระยะห่าง
เมื่อท้าท่อ ปิ ด พนั กงานจะกะระยะได้ ล้ า บากขึน เป็นขันตอนการท้า งานที่ ไม่ ปลอดภัย อาจเกิ ด
อุบัติเหตุ เบ้ารับน้ากระแทกกับท่อที่ติดตัง และท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียมรั่วไหล เกิดเพลิงไหม้ได้
(2) การสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมจากรางเทแบบเปิด
การด้าเนินการปรับปรุงแก้ไข คือการออกแบบท้าฝาปิดรางเท เลือกใช้วัสดุ
ทนความร้อนที่เหมาะสม โดยการออกแบบต้องค้านึงถึงความสะดวกในการบ้ารุงรักษารางเทด้วย
แนวทางการปรับปรุงแก้ไขดังกล่าว ไม่มีข้อจ้ากัดในการปรับปรุงแก้ไข
ฝาปิดรางเท ฝาปิดรางเท
รางเท
น้าโลหะอลูมเิ นียม
(3) การสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมจากประสิทธิภาพการเก็บ
ความร้อนของเบ้ารับน้าที่ใช้ในการขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
การด้าเนินการปรับปรุงแก้ไข คือการปรับเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าให้มีค่า
สั ม ประสิ ท ธิ์ ก ารน้ า ความร้ อ นให้ น้ อ ยลง เพื่ อ ให้ เ บ้ า รั บ น้ า โลหะ สามารถรั ก ษาอุ ณ หภู มิ ข องน้ า
โลหะอลูมิเนียมไว้ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางการปรับปรุงแก้ไขดังกล่าว ไม่มีข้อจ้ากัดในการปรับปรุงแก้ไข
(4) การสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมจากการเปิดฝาเบ้ารับน้า
ขณะด้าเนินการของกระบวนการ Rotary Degassing
การด้าเนินการปรับปรุงแก้ไข คือการออกแบบให้ก้านหัวปั่น ให้มีฝาติดอยู่
ด้านบน โดยระยะห่างของหัวปั่นและฝา จะต้องออกแบบให้พอดีกับระยะที่หัวปั่นจะจุ่มลงในน้าโลหะ
เพื่อให้ฝาปิดพอดี กับปากของเบ้ารับน้าโลหะ ดังภาพที่ 4.10 โดยฝาปิดต้องท้าจากฉนวนกันความ
ร้อน และมีน้าหนักเบา
แนวทางการปรั บ ปรุ ง แก้ ไ ขดั ง กล่ า ว มี ข้ อ จ้ า กั ด ในการปรั บ ปรุ ง แก้ ไ ข
กระบวนการดังกล่าวถูกออกแบบให้ด้า เนินการโดยให้มีอากาศไหลผ่านน้าโลหะอลูมิเนียม เพื่อให้
กระบวนการ Rotary Degassing มีประสิทธิภาพ
แบบจ้าลองฝาปิด
แบบจ้าลองฝาปิด
กระจกที่ใช้มองปริมาณน้าในเตาอุน่
รางเทรับน้าโลหะจากเบ้ารับน้าสูเ่ ตาอุ่น
ง
จากการพิจารณาการด้าเนินการปรับปรุงแก้ไขเชิงวิศวกรรม และข้อจ้ากัดของ
การด้าเนินการสามารถสรุปข้อมูลได้ดังตารางที่ 4.9
ตารางที่ 4.9
สรุปข้อมูลแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขเชิงวิศวกรรม
แนวทางการปรับปรุงแก้ไขเชิงวิศวกรรม ข้อจ้ากัดในการปรับปรุงแก้ไข
ออกแบบท่อปิดระหว่างระยะห่างรางเทกับเบ้ารับน้า
ความปลอดภัยในการท้างาน
โลหะ
ออกแบบฝาปิดรางเท -
ออกแบบก้านหัวปั่นให้มีฝาติดไว้อยู่ด้านบน ส่งผลต่อประสิทธิภาพของ
เพื่อให้ฝาปิดเบ้ารับน้าโลหะขณะด้าเนินการ กระบวนการ Rotary Degassing
ปรับเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าให้มีค่าสัมประสิทธิ์การ
-
น้าความร้อนที่น้อยลง
ส่งผลต่อทัศนวิสัย และความ
ออกแบบระบบปิดในการเทน้าโลหะอลูมิเนียม
ปลอดภัยในการท้างาน
จากสาเหตุของการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม และแนวทางการ
ปรับปรุงแก้ไข รวมทังข้อจ้ากัดในการด้าเนินการทังหมด ได้สรุปไว้ในตารางที่ 4.10
ตารางที่ 4.10
สรุ ป แนวทางในการปรับ ปรุงแก้ไข สาเหตุของการสู ญเสียความร้อนของน้าโลหะอลู มิเนียม และ
ข้อจ้ากัดของการปรับปรุงแก้ไข
สาเหตุของการสูญเสีย แนวทางในการปรับปรุงแก้ไข
ข้อจ้ากัดในการ
ความร้อนของน้า
เชิงการจัดการ เชิงวิศวกรรม ปรับปรุงแก้ไข
โลหะอลูมิเนียม
ออกแบบท่อปิดระหว่าง
ระยะห่างระหว่างรางเท เพิ่มความสูงของพาเลท ความปลอดภัยใน
ระยะห่างรางเทกับเบ้ารับ
กับเบ้ารับน้าโลหะ เหล็ก การท้างาน
น้าโลหะ
ก้าหนดเส้นทางการใช้รถ
ระยะทางการขนย้ายน้า
โฟล์คลิฟท์ให้มีระยะทางสัน - ปฎิบัตติ ามกฎความ
โลหะอลูมิเนียม
ทีส่ ดุ ปลอดภัยของ
ความเร็วของรถ โรงงาน
โฟล์คลิฟท์ที่ใช้ในการขน เพิ่มความเร็วรถโฟล์คลิฟท์ -
ย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม
รางเทเป็นแบบเปิด - ออกแบบฝาปิดรางเท -
4.5.1 การออกแบบฝาปิดรางเท
(1) ความร้อนที่สูญเสียก่อนการปรับปรุงแก้ไข
จากสภาพรางเทที่ไม่มีฝาปิด ขณะปล่อยน้าโลหะอลูมิเนียม ลงไปยังเบ้ารับ
น้าโลหะ ท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียมที่ไหลผ่านรางเท สัมผัสกับอากาศโดยตรง เกิดการถ่ายเทความร้อน
แบบการพาความร้ อ น และการแผ่ รั ง สี ค วามร้ อ น ผู้ วิ จั ย ท้ า การเก็ บ ข้ อ มู ล อุ ณ หภู มิ ข องน้ า
โลหะอลูมิเนียมเท่ากับ 740 °C และอุณหภูมิบรรยากาศ 35 °C จากนัน ค้านวณค่าการถ่ายเทความ
ร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมผ่านรางเท ตามสมการที่ (2.5) พบว่าความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสีย
ผ่านรางเททังหมดเท่ากับ 1,229.84 W
(2) วิธีการด้าเนินการปรับปรุงแก้ไข
ฝาปิดรางเทถูกออกแบบเพื่อป้องกันไม่ให้ น้าโลหะอลูมิเนียมเกิดการถ่ายเท
ความร้อน วัสดุที่น้ามาท้าเป็นที่ปิดรางเท ควรมีคุณสมบัติเบา และทนความร้อนสูง วัสดุที่คัดเลือกมา
เพื่อท้าการศึกษาวิจัยในครังนี คือ ฉนวน Skamol SUPER-1100 E ซึ่งเป็นแคลเซียมซิลิเกตบอร์ด มี
คุณสมบัติ คือ น้าหนักเบา ความแข็งแรงเชิงกลสูง และทนความร้อนได้ดี บอร์ดชนิดนีถูกออกแบบมา
ส้ า หรั บ อุ ณ หภู มิ สู ง สุ ด ที่ 1,100 °C และสามารถใช้ เ ป็ น ฉนวนในอุ ต สาหกรรมที่ ห ลากหลาย เช่น
อลูมิเนียม ซีเมนต์ แก้ว ปิโตรเคมี รวมถึงใช้ เป็นฝาปิดเตาหลอม โดยบอร์ดมีค่าสัมประสิทธิ์การน้า
ความร้อนที่ 800 °C เท่ากับ 0.14 W/m.K
ฝาปิดรางเทใช้บอร์ดฉนวนที่มีขนาด ความกว้าง 26 เซนติเมตร ความยาว
85 เซนติเมตร และความหนา 5 เซนติเมตร จ้านวน 2 ชิน ใช้ปิดรางเทต่อกัน โดยออกแบบให้มีที่จับ
ด้านบนเพื่อให้สามารถเปิดปิดได้ สะดวกต่อการบ้ารุงรักษารางเท เมื่อค้านวณค่าปริมาณความร้อนที่
สูญเสียหลังการปรับปรุง ตามสมการ การหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนผ่ านแผ่นผนัง สมการที่
(2.12) พบว่า โดยการถ่ายเทความร้อนหลั งปรั บปรุ ง จะได้ ค่า ความร้อนที่สู ญ เสี ยทังหมดเท่ า กั บ
128.83 W
(3) ผลที่ได้หลังการปรับปรุงแก้ไข
หลังจากการด้าเนินการปรับปรุงแก้ไขรางเทโดยท้าแผ่นบอร์ดฉนวน ปิดราง
เท ช่วยลดการสูญเสียความร้อนลงได้จาก 1,229.84 W เป็น 128.83 ดังนันปริมาณการสูญเสียความ
ร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมที่ไหลผ่านรางเทลดลงเท่ากับ 1,101 W
จากปริมาณการสูญเสีย ความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมที่ลดลง หลังการ
ปรับปรุงแก้ไข ช่วยประหยัดค่าแก๊สธรรมชาติได้ 38,615.38 บาทต่อปี โดยการด้าเนินการมาตรการ
ปิดฝารางเท ใช้เงินลงทุนในการปรับปรุง 4,050 บาท ดังนันระยะเวลาคืนทุนของการด้าเนิน การ
มาตรการปิดฝารางเทจะเท่ากับ 0.10 ปี
4.5.2 การเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ
(1) ความร้อนที่สูญเสียก่อนการปรับปรุงแก้ไข
จากข้อมูลของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม จากภาพที่ 4.13 เป็นแบบของเบ้า
รับน้าโลหะปัจจุบันที่ทางโรงงานใช้งาน ซึ่งอธิบายถึง ขนาดของเบ้า ชนิด และความหนาของฉนวนแต่
ละชัน โดยค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของฉนวน แสดงดังตารางที่ 4.11
100 mm (ฝาปิดเบ้า)
830 mm
880 mm
น้าโลหะอลูมิเนียม
1,100 mm
ภาพที่ 4.15 แบบเบ้ารับน้าโลหะแสดงฉนวนแต่ละชัน
ตารางที่ 4.11
ชนิดของฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ และค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อน
ค่าสัมประสิทธิ์ ความหนาของฉนวน
การน้าความ แต่ละด้านของเบ้า (มิลลิเมตร)
ชนิดของฉนวน
ร้อน (k) ผนัง ด้านล่าง
ฝาปิด
(W/m.K) รอบด้าน ของเบ้า
Hicast Extra at 600 °C 2.19 69 75 75
C/F Blanket Kaowool at
0.32 25 50 -
750 °C (Density 48 kg/m3)
C/F Paper Superwool 607
0.20 - 4 4
at 800 °C
C/F Board 1260 0.20 - - 25
Steel 50.2 6 6 6
- ด้านบนที่เป็นฝาปิดของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
การค้านวณการสูญเสียความร้อนผ่านฝาปิดเบ้ารับน้าโลหะอลู มิเนียมด้านบน
ค้านวณจาก กระบวนการที่มีน้าโลหะอลูมิเนียมเต็มเบ้า โดยค้านวณค่าการถ่ายเทความร้อนของน้า
โลหะอลูมิเนียม ตามสมการที่ (2.18) พบว่า ค่าความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียผ่านฝาปิดของ
เบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียมทังหมด เท่ากับ 601.30 W
- ผนังรอบด้านของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
การค้ า นวณการสู ญ เสี ย ความร้ อ นผ่ า นผนั ง รอบด้ า นของเบ้ า รั บ น้ า
โลหะอลู มิ เ นี ย ม ซึ่ ง มี ลั ก ษณะเป็ น ทรงกระบอก จะค้ า นวณค่ า การถ่ า ยเทความร้ อ นของน้ า
- ด้านล่างของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
การค้านวณการสูญเสียความร้อนผ่านด้านล่าง ของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
สามารถค้านวณได้จาก สมการการหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนผ่านฉนวน 4 ชัน จากสมการที่
(2.20) พบว่าความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสีย ผ่านด้านล่างของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียมทังหมด
เท่ากับ 539.75 W
(2) วิธีการด้าเนินการปรับปรุงแก้ไข
เปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ โดยการคัดเลือกฉนวนที่มีค่า สัมประสิทธิ์
การน้าความร้อนที่น้อยลงกว่าฉนวนปัจจุบัน วัสดุฉนวนที่งานวิจัยได้น้ามาศึกษา คือฉนวนชัน C/F
Blanket Kaowool เดิม มีค่าความหนาแน่น 48 kg/m3 เมื่อเปลี่ยน ค่าความหนาแน่นจะเป็น 160
kg/m3 ซึ่งท้าให้ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อน เดิม มีค่า 0.32 W/m.K ลดลงเหลือ 0.145 W/m.K
โดยฉนวนชนิดนี ประกอบอยู่ในส่วนของ ด้านบนที่เป็นฝาปิดของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม และ ผนัง
รอบด้านของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
จากข้ อ มู ล ค่ า สั ม ประสิ ท ธิ์ ก ารน้ า ความร้ อ นของฉนวนชั น C/F Blanket
Kaowool ที่ลดลง ท้าการค้านวณการสูญเสียความร้อนหลังการปรับปรุง จะได้ค่าความร้อนที่สูญเสีย
จาก ด้านบนที่เป็นฝาปิดของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม เท่ากับ 521.03 W และจากผนังรอบด้านของ
เบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียมเท่ากับ 2,217.50 W
(3) ผลที่ได้หลังการปรับปรุงแก้ไข
หลั ง จากการด้ า เนิ น การปรั บ ปรุ ง แก้ ไ ขปรั บ เปลี่ ย นฉนวนของเบ้ า รั บ น้ า
โลหะอลู มิเนี ย ม ช่ว ยลดการสู ญเสี ยความร้ อนลงได้ จาก 3,972.58 W เป็น 3,278.28 W ดังนัน
ปริมาณการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมที่สูญเสีย ผ่านพืนผิวของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
ลดลงเท่ากับ 694.30 W รายละเอียดแสดงดังตารางที่ 4.12
จากปริมาณการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมที่ลดลง หลังการ
ปรับปรุงแก้ไข ช่วยประหยัดค่าแก๊สธรรมชาติไ ด้ 24,351.19 บาทต่อปี โดยการด้าเนินการมาตรการ
ปรับเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ ใช้เงินลงทุนในการปรับปรุง 12,000 บาท ดังนันระยะเวลาคืน
ทุนของการด้าเนินการมาตรการปรับเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะจะเท่ากับ 0.49 ปี
ตารางที่ 4.12
ค่าความร้อนที่ลดลงหลังการเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ
ค่าความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม (W)
ความร้อนที่สูญเสียผ่านพืนผิว แต่ละส่วนของ
ก่อนการ หลังการ ค่าความร้อน
เบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
ปรับปรุง ปรับปรุง ที่ลดลง
ด้านบนที่เป็นฝาปิด 601.30 521.03 80.27
ผนังรอบด้าน 2,831.53 2,217.50 614.03
ผลรวมของค่าความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียมที่ลดลง 694.30
จากการประเมินการลดการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม หลังจาก
ด้าเนิ น การ ทัง 2 มาตรการ พบว่า สามารถช่ว ยลดการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลู มิเนียม
ทังหมดจากเดิม 5,202.42 W เหลือ 3,407.11 W ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 35 ดังแสดงในตารางที่ 4.13 และ
สามารถช่วยประหยัดค่าแก๊สธรรมชาติได้ 62,966.56 บาทต่อปี โดยการปรับปรุงแก้ไขทัง 2 มาตรการ
ใช้เงินลงทุนรวม 16,050 บาท ดังนันระยะเวลาคืนทุน เมื่อด้าเนินการทัง 2 มาตรการ จะเท่ากับ 0.25
ปี
ตารางที่ 4.13
ค่าความร้อนที่สูญเสียของน้าโลหะอลูมิเนียม ก่อนและหลังการด้าเนินการของทัง 2 มาตรการ
ค่าความร้อนสูญเสียที่ได้จากการค้านวณ (W)
มาตรการ ก่อนการ หลังการ ค่าความร้อนสูญเสีย
ปรับปรุง ปรับปรุง ที่ลดลง
การออกแบบฝาปิดรางเท 1,229.84 128.83 1,101.00
การปรับเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ 3,972.58 3,278.28 694.30
ผลรวม 5,202.42 3,407.11 1,795.30
บทที่ 5
สรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ
จากปัญหาอุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียมลดลงจากขันตอนการหลอม และขนย้ายไป
ยังจุดใช้งาน จุดเริ่มต้นที่เตาหลอม น้าโลหะอลูมิเนียมมีอุณหภูมิ 740 °C เมื่อผ่านขันตอนต่างๆจนไป
ถึงจุดใช้งาน ที่ท้ายเครื่องฉีด น้าโลหะอลูมิเนียมมีอุณหภูมิล ดลง 70 °C เหลือ 670 °C ดังนันทาง
โรงงานจึงต้องอุ่นน้าโลหะโดยใช้แก๊สธรรมชาติ ให้ได้อุณหภูมิตามมาตรฐาน ที่จะน้าน้าโลหะไปใช้ใน
การฉีดขึนรู ป ชินงานได้อีกครั ง ส่ งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิ ตของทางโรงงาน ที่มาจากค่าแก๊ส
ธรรมชาติ อีกทังยังเกิดเวลาสูญเปล่าในการท้างานอีกด้วย จากการด้าเนินการวิจัยและเก็บข้ อมูล
พบว่ า ขั นตอนที่ ท้ า ให้ น้ า โลหะอลู มิ เ นี ย มสู ญ เสี ย ความร้ อ นมากที่ สุ ด คื อ ขั นตอนการปล่ อ ยน้ า
โลหะอลูมิเนียมลงสู่เบ้ารับน้าโลหะ น้าโลหะอลูมิเนียมมีอุณหภูมิลดลงจากขันตอนดังกล่าว 30 °C
หรือประมาณร้อยละ 43 ของอุณหภูมิน้าโลหะอลูมิเนียมที่ลดลงทังหมดของกระบวนการ ดังนันผู้วิจัย
จึงได้ท้าการวิเคราะห์หาสาเหตุ พบว่าการถ่ายเทน้าโลหะอลูมิเนียมลงสู่เบ้ารับน้าโลหะนัน จะถ่ายเท
ผ่านรางเทแบบเปิด ท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียมแลกเปลี่ยนความร้อนกับอากาศได้ ดังนันผู้วิจัยจึงเสนอ
มาตรการปรับปรุงแก้ไข การออกแบบฝาปิดรางเท วัสดุท้าจากฉนวนกันความร้อน เป็นแผ่นแคลเซียม
ซิลิเกตบอร์ด จากการด้าเนินการ สามารถลดการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม ลงจากเดิม
ได้ 1,101 W และอุปกรณ์ส้าคัญที่ทางโรงงานใช้ในการขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม คือเบ้ารับน้าโลหะ
จากการเก็บข้อมูลพบว่า มีการถ่ายเทความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม ผ่านพืนผิวของเบ้ารับน้าโลหะ
ได้ ผู้ วิ จั ย จึ ง เสนอมาตรการ การเปลี่ ย นฉนวนของเบ้ า รั บ น้ า โลหะ ในส่ ว นฉนวน C/F Blanket
Kaowool ให้มีความหนาแน่นเพิ่มขึน โดยการเปลี่ยนจะท้าให้ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนลดลง
จากการด้าเนิ น การ สามารถช่ว ยลดการสู ญเสี ยความร้อนของน้าโลหะอลู มิ เนียม ลงจากเดิม ได้
694.30 W
ผลการด้าเนินการทัง 2 มาตรการ ช่วยลดการสูญเสียความร้อนของน้าโลหะอลูมิเนียม
ทั งหมดจากเดิ ม 5,202.42 W เหลื อ 3,407.11 W ซึ่ ง คิ ด เป็ น ร้ อ ยละ 35 โดยสามารถลดค่ า แก๊ ส
ธรรมชาติลงได้ 62,966.56 บาท/ปี การด้าเนินการทัง 2 มาตรการใช้เงินลงทุน 16,050 บาท ดังนัน
ระยะเวลาคืนทุนจะเท่ากับ 0.25 ปี
ข้อเสนอแนะ
ผลการวิจัยพบว่า สาเหตุหลักที่ท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียความร้อนมาจากการ
ด้าเนินการต่างๆ ที่ท้าให้น้าโลหะอลูมิเนียมถ่ายเทความร้อนกับอากาศโดยตรง ดังนั นผู้วิจัยจึงขอ
เสนอแนะแนวทางการรักษาอุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียมดังนี
(1) การออกแบบกระบวนการหลอมน้าโลหะอลูมิเนียม และการขนย้ายไปใช้งาน ควร
ออกแบบ เป็นระบบปิดของการขนย้ายน้าโลหะทังระบบ เช่น ออกแบบราง ที่ให้น้าโลหะสามารถไหล
ได้ตังแต่เตาหลอมใหญ่ไปจนถึงจุดใช้งาน
(2) การวางแผนผังของโรงงาน ควรมีการวางเส้นทางการขนย้ายน้าโลหะอลูมิเนียม ให้
มีระยะทางสันที่สุด ระหว่างเตาหลอมใหญ่ไปจนถึงจุดใช้งาน
(3) การเลือกวัสดุที่น้ามาใช้เป็นฉนวนกันความร้อนของอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในขันตอน
การถ่ายเท หรื อการขนย้ ายน้ าโลหะ ควรเลื อกให้ มีค่าสั มประสิ ทธิ์การน้าความร้อน และขนาดที่
เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนได้มีประสิทธิภาพ
โดยจากข้อเสนอแนะดังกล่ าวหากทางโรงงาน น้าไปด้าเนินการเป็นแนวทางในการ
ออกแบบกระบวนการตังแต่เริ่มต้น ทางโรงงานจะสามารถรักษาอุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียม ให้
เป็นไปตามที่ต้องการได้ และช่วยลดปริมาณการใช้แก๊สธรรมชาติ ในการอุ่นน้าโลหะอลูมิเนียมก่อน
การใช้งานลง ตลอดจนช่วยลดระยะเวลาการท้างาน
รายการอ้างอิง
หนังสือและบทความในหนังสือ
วิทยานิพนธ์
สื่ออิเล็กทรอนิกส์
ภาคผนวก ก
ค่าสัมประสิทธิ์การพาความร้อน,การน้าความร้อน และการแผ่รังสีที่พืนผิว
ตารางที่ ก-1
ค่าสัมประสิทธิ์การพาความร้อนรูปแบบต่างๆ (Typical values of convection heat transfer
coefficient (h) )
หมายเหตุ. จาก Heat and Mass Transfer Fundamentals and Applications.4th ed. (p. 26),
by Yunus A. Cengel, 2011, New York: McGRAW-HILL.
ตารางที่ ก-2
ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนตามสถานะ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส ตามอุณหภูมิต่างๆ (The
variation of the thermal conductivity of various solids,liquids,and gases with the
temperature (k) )
หมายเหตุ. จาก Heat and Mass Transfer Fundamentals and Applications.4th ed.
(p. 23), by Yunus A. Cengel, 2011, New York: McGRAW-HILL.
ตารางที่ ก-3
ค่าการแผ่รังสีที่พืนผิวแบบต่าง ๆ (Emissivity of Surfaces Metal (ε))
หมายเหตุ. จาก Heat and Mass Transfer Fundamentals and Applications.4th ed.
(p. 888), by Yunus A. Cengel, 2011, New York: McGRAW-HILL.
ตารางที่ ก-4
ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของฉนวน Skamol SUPER-1100 E Calcium silicate board
ตารางที่ ก-5
ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของ Tri-Mor Hicast Extra
ตารางที่ ก-6
ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของ Ceramics Fiber Blanket Kaowool
ตารางที่ ก-7
ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของ Ceramics Fiber Superwool 607
ตารางที่ 7
ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของ Ceramics Fiber Superwool 607(ต่อ)
ตารางที่ ก-8
ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของ Ceramics Fiber 1260
ตารางที่ ก-8
ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของ Ceramics Fiber 1260 (ต่อ)
ภาคผนวก ข
การค้านวณหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อน
1.การค้านวณหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนของรางเท
1.1 ก่อนการปรับปรุงแก้ไข
การปล่อยน้าโลหะผ่านรางเท น้าโลหะจะสัมผัสกับอากาศ มีการถ่ายเทความร้อน
แบบการพาความร้อน และการแผ่รังสีความร้อน สามารถค้านวณหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนของ
รางเทได้จากสมการที่ (2.5) ดังนี
โดยค่าตัวแปรต่างๆที่ใช้ในการค้านวณมีค่าดังนี
• ค่า h คือ ค่าสัมประสิทธิ์การพาความร้อน โดยสภาพอากาศรอบๆรางเทที่เป็นตัวพาความร้อน
เป็นของไหลที่เป็นอากาศตามธรรมชาติ ดังนัน ค่า h จึงเป็นแบบ Free convection of gas โดยมีค่า
เท่ากับ 2 W/m2.K
• ค่า A คือ พืนที่ของรางเทที่น้าโลหะอลูมิเนียมไหลผ่าน ความกว้างคูณกับความยาวของรางเทที่
น้าโลหะอลูมิเนียมไหลผ่าน มีค่าเท่ากับ 0.15 x 1.65 = 0.248 m2
• ค่ า Ts คื อ อุ ณ หภู มิ ข องน้ า โลหะอลู มิ เ นี ย ม ท้ า การวั ด อุ ณ หภู มิ จ าก Thermo Couple ในเตา
หลอมใหญ่ ก่อนปล่อยน้าโลหะอลูมิเนียมลงสู่รางเท อ่านค่าจากจอ Monitor Digital ได้อุณหภูมิที่
740 °C หรือเท่ากับ 1,013 K
• ค่า T∞ และ Tsurr คือ อุณหภูมิสภาพแวดล้อมรอบๆรางเท ท้าการวัดโดย Hygro-Thermometer
ได้ 35 °C หรือเท่ากับ 308 K
• ค่า ε คือ ค่า Emissivity ผิวของน้าโลหะอลูมิเนียมที่อุณหภูมิ 300-900 K มีค่า Emissivity
0.04-0.06 โดยจากอุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิ เนียมเท่ากับ 1,013 K ดังนันใช้ค่า Emissivity เท่ากับ
0.06 ในการค้านวณครังนี
• σ คือ ค่าคงที่สเตฟาน-โบลต์ซมันน์ มีค่าเท่ากับ 5.67 x 10-8 (W/m2.K4)
ดังนันปริมาณความร้อนที่สูญเสียไปเท่ากับ
Q̇ loss, total = hA (Ts – T∞) + εσA (T4s – T4surr)
Q̇ loss, total = (2 W/m2.K) (0.248 m2) (1,013 -308) K
+ (0.06) (5.67 x 10-8 W/m2. K4) (0.248 m2) (1,013-308) K
= 1,229.84 W
1.2 หลังการปรับปรุงแก้ไข
รางเทถูกออกแบบให้ฝาปิดรางเท โดยใช้วัสดุคือ ฉนวน Skamol SUPER-1100 E
มีค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อน (k) ที่ 800 °C เท่ากับ 0.14 W/m.K ดังนัน จึงมีการถ่ายเทความ
ร้อนผ่านแผ่นผนัง โดยเมื่อน้าฝามาปิดรางเท จะท้าให้เกิดค่าความต้านทานความร้อนเกิดขึน โดยจะ
เป็นค่า R รูปแบบของการพา และการน้าความร้ อน สามารถค้านวณได้จากสมการที่ (2.12) และ
(2.13) ดังนี
Q̇
Wall (Insulation)
T, 1 T1 T2 T, 2
1 𝐿 1
R conv, 1 = R wall= R conv, 2 =
ℎ𝐴 𝑘𝐴 ℎ𝐴
T∞1 − T∞2 T −T
Q̇ = = 1 ∞1 L ∞21
Rtotal + +
h1 A kA h2 A
ดังนันปริมาณความร้อนที่สูญเสียไปเท่ากับ
(740 − 35)°C
Q̇ = 1 0.05 m. 1
+ +
(2W/m2 .K)(0.248 m2 ) (0.14 W/m.K)(0.248 m2 ) (2W/m2 .K)(0.248 m2 )
= 128.83 W
2.การค้านวณหาค่าอัตราการถ่ายเทความร้อนของฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ
2.1 ก่อนการปรับปรุงแก้ไข
2.1.1 ด้านบนที่เป็นฝาปิดของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
เกิดการถ่ายเทความร้อนผ่านฝาปิด โดยฝาปิดท้าให้มีค่าความต้านทาน
ความร้อน เกิดขึน เป็นค่า R รูปแบบของการพา และการน้าความร้อน ท้าการค้านวณหาค่าความร้อน
ที่สูญเสียผ่านพืนผิว ของแต่ละด้านของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม โดยสามารถค้านวณได้จากสมการ
(2.18) ดังนี
100 mm Q̇ T, 2 = 35 °C
(ฝาปิด) T3 6 mm
830 mm T2 100 mm
880 T1 25 mm
น้าโลหะอลูมิเนียม 69 mm (ฝาปิด)
mm T, 1 = 714 °C
830 mm
1100 mm T1 T2 T3
T , 1 T , 2
Rcond, 1 Rcond, 2 Rcond, 3 Rconv
โดย ค่าตัวแปรต่างๆที่ใช้ในการค้านวณมีค่าดังนี
• ค่า T∞,1 คือ อุณหภูมิของน้าโลหะอลูมิเนียม 714 °C
• ค่า T∞,2 คือ อุณหภูมิสภาพแวดล้อมรอบๆ 35 °C
• ค่า L1 คือ ค่าความหนาของ Hicast Extra มีค่าเท่ากับ 69 mm. หรือเท่ากับ 0.069 m.
• ค่า L2 คือ ค่าความหนาของ C/F Blanket Kaowool มีค่าเท่ากับ 25 mm.
หรือเท่ากับ 0.025 m.
• ค่า L3 คือ ค่าความหนาของ Steel มีค่าเท่ากับ 6 mm. หรือเท่ากับ 0.006 m.
• ค่า k1 คือ ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของ Hicast Extra ค่าเท่ากับ 2.19 W/m.K
• ค่า k2 คื อ ค่ า สั ม ประสิ ท ธิ์ ก ารน้ า ความร้ อ นของ C/F Blanket Kaowool ค่ า เท่ า กั บ 0.32
W/m. K
• ค่า k3 คือ ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของ Steel ค่าเท่ากับ 50.2 W/m.K
• ค่า A คือ พืนที่ฝาบิดในส่วนที่สัมผัสกับน้าโลหะอลูมิเนียม ซึ่งมีลักษณะเป็นวงกลม ดังนันค่า
จึงได้จากสูตรพืนที่วงกลม คือ A = r2 โดยเส้นผ่าศูนย์ของเบ้าในส่วนที่สัมผัสน้าโลหะอลูมิเนียมมี
ความยาว 830 mm. ดังนัน ค่ารัศมี (r) จึงมีค่า 415 mm. ดังนันค่า A จะเท่ากับ
3.14 x 0.4152 = 0.54 m2
ดังนันปริมาณความร้อนที่สูญเสียผ่านฝาปิดเท่ากับ
(714 − 35)°C
Q̇ =
0.069 m 0.025 m. 0.006 m. 1
+ + +
(2.19W/m. K)(0.54 m2 ) (0.32 W/m. K)(0.54 m2 ) (50.2 W/m. K)(0.54 m2 ) (2W/m. K)(0.54 m2 )
= 601.30 W
2.1.2 ผนังรอบด้านของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
การค้ า นวณการสู ญ เสี ย ความร้ อ นผ่ า นผนั ง รอบด้ า นของเบ้ า รั บ น้ า
โลหะอลูมิเนียม ซึ่งมีลักษณะเป็นทรงกระบอก จึงจะคิดค่าความต้านทานของการน้าความร้อนแบบ
ทรงกระบอก ตามสมการ (2.27) ดังนี
830 mm.
880
น้าโลหะอลูมิเนียม Q̇
mm.
1100 mm
75 mm. 50 mm. 4 mm. 6 mm.
น้าโลหะ
อลูมิเนียม
T1 T2 T3 T4
T, 1 T , 2
Rcond, 1 Rcond, 2 Rcond, 3 Rcond, 4 Rconv
T −T T∞1 − T∞2
Q̇ = ∞1 ∞2 = r r r r
ln( 2 ) ln( 3 ) ln(r4 ) ln( 5 )
Rtotal r1 r2 r4 1
+ + 3 + +
2πLk1 2πLk2 2πLk3 2πLk4 (2πr5 L)h
โดย ค่าตัวแปรต่างๆที่ใช้ในการค้านวณมีค่าดังนี
• ค่า r1 คือ ค่ารัศมีของเบ้าใส่น้าโลหะอลูมิเนียมมีค่าเท่ากับ 415 mm. หรือเท่ากับ 0.415 m.
• ค่า r2 คือ ค่ารัศมีของเบ้าใส่น้าโลหะอลูมิเนียมบวกกับความหนาของผนัง Hicast Extra 75 mm.
ดังนันค่า r2 มีค่า 490 mm. หรือเท่ากับ 0.49 m.
• ค่า r3 คือ ค่ารัศมีของเบ้าใส่น้าโลหะอลูมิเนียมบวกกับความหนาของผนัง Hicast Extra และบวก
กับความหนาของผนัง C/F Blanket Kaowool ที่มีค่าเท่ากับ 50 mm. ดังนันค่า r3 มีค่า 540 mm.
หรือเท่ากับ 0.54 m.
• ค่า r4 คือ ค่ารัศมีของเบ้าใส่น้าโลหะอลูมิเนียมบวกกับความหนาของผนัง Hicast Extra บวกกับ
ความหนาของผนั ง C/F Blanket Kaowool และบวกกั บ กั บ ความหนาของผนั ง C/F Paper
Superwool 607 ที่มีค่าเท่ากับ 4 mm. ดังนันค่า r4 มีค่า 544 mm. หรือเท่ากับ 0.544 m.
ดังนันปริมาณความร้อนที่สูญเสียผ่านผนังรอบด้านของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียมเท่ากับ
ค้านวณหาค่า R total
r r r r
ln(r2) ln(r3) ln(r4) ln(r5)
R total =
2πLk1
1 + 2πLk2 + 2πLk3 + 2πLk4 + (2πr1 L)h
2 3 4 5
0.55m
ln( ) 1
+ 0.544m +
W W
2 (50.2 m . K) 0.88m (2 2 . K) 3.04m2
m
2.1.3 ด้านล่างของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
สามารถค้านวณการถ่ายเทความร้อนผ่านด้านล่างของเบ้ารับน้าโลหะได้
จากสมการที่ (2.20) ดังนี
830 mm
T, 1 = 714 C
T1 75 mm
830 mm T2 25 mm
880 T3 4 mm
T4 6 mm
น้าโลหะอลูมิเนียม mm
𝑄̇ T, 2 = 35 C
T1 T2 T3 T4
T, 1 T, 2
1,100 mm Rcond, 1 Rcond, 2 Rcond, 3 Rcond, 4 Rconv
โดย ค่าตัวแปรต่างๆที่ใช้ในการค้านวณมีค่าดังนี
• ค่า L1 คือ ค่าความหนาของ Hicast Extra มีค่าเท่ากับ 75 mm. หรือเท่ากับ 0.075 m.
• ค่า L2 คือ ค่าความหนาของ C/F Board 1260 มีค่าเท่ากับ 25 mm. หรือเท่ากับ 0.025 m.
• ค่า L3 คือ ค่าความหนาของ C/F Paper Superwool 607 มีค่าเท่ากับ 4 mm. หรือเท่ากับ
0.004 m.
• ค่า L4 คือ ค่าความหนาของ Steel มีค่าเท่ากับ 6 mm. หรือเท่ากับ 0.006 m.
• ค่า k1 คือ ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของ Hicast Extra ค่าเท่ากับ 2.19 W/m.K
• ค่า k2 คือ ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของ C/F Board 1260 มีค่าเท่ากับ 0.2 W/m.K
• ค่า k3 คือ ค่าสัมประสิทธิ์การน้าความร้อนของ C/F Paper Superwool 607
ดังนันปริมาณความร้อนที่สูญเสียผ่านด้านล่างของเบ้ารับน้าโลหะเท่ากับ
Q̇ =
(740 − 35)°C
0.075 m 0.025 m. 0.004 m. 0.006 m. 1
2.19W + W + W + 2 + 2 2
( .K)(0.54 m2 ) (0.2 .K)(0.54 m2 ) (0.2 .K)(0.54 m2 ) (50.2 W/m.K)(0.54 m ) (2W/m .K)(0.54 m )
m m m
= 539.75 W
2.2 หลังการปรับปรุงแก้ไข
ท้ า การปรั บ เปลี่ ย นฉนวน ชั นของ C/F Blanket Kaowool Blanket ให้ มี ค่ า
สัมประสิทธิ์การน้าความร้อน 0.145 W/m.K ซึ่งฉนวนชนิดนีมีใช้อยู่ทังในส่วนของ (1) ด้านบนที่เป็น
ฝาปิดของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม และ (2) ผนังรอบด้านของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม เมื่อท้าการ
ปรับเปลี่ยนฉนวน และท้าการค้านวณปริมาณความร้อนที่สูญเสียหลังการปรับปรุงแก้ไข ได้ค่าดังนี
(1) ปริมาณความร้อนที่สูญเสียผ่านด้านบนที่เป็นฝาปิดของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
Q̇ =
(714 − 35)°C
0.069 m 0.025 m. 0.006 m. 1
+ + +
(2.19W/m. K)(0.54 m2 ) (0.145 W/m. K)(0.54 m2 ) (50.2 W/m. K)(0.54 m2 ) (2W/m. K)(0.54 m2 )
= 521.03 W
(2) ปริมาณความร้อนที่สูญเสียผ่านผนังรอบด้านของเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม
0.55m
ln( ) 1
+ 0.544m +
W W
2 (50.2 . K) 0.88m (2 2 . K) 3.04m2
m m
ภาคผนวก ค
การค้านวณหาค่าพลังงานความร้อน
1. การค้านวณหาค่าพลังงานความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียในแต่ละขันตอน
Q = mcp (T2-T1)
ค่ า พลั ง งานความร้ อ นที ค้ า นวณได้ มี ค่ า เป็ น ลบแสดงว่ า จากขั นตอนดั ง กล่ า วน้ า
โลหะอลูมิเนียมเกิดการสูญเสียความร้อนเกิดขึนโดยมีค่าเท่ากับ 27,445.5 kJ
2. การค้านวณหาค่าพลังงานความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียทังหมด
การค้านวณหาค่าพลังงานความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียทังหมด ตังแต่ขันตอนที่
1 ถึงขึนตอนที่ 5 ค้านวณได้ดังนี ในขันตอนที่ 1 น้าโลหะอลูมิเนียมในเตาหลอมใหญ่เริ่มต้นมีอุณหภูมิ
744 °C และในขันตอนที่ 5 น้าโลหะอลูมิเนียมในเตาอุ่นท้ายเครื่องฉีดมีอุณหภูมิ 671 °C ดังนันค่า
พลังงานความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียทังหมดเท่ากับ
3. การค้านวณร้อยละของพลังงานความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสีย
ดังนันสรุปได้ว่าร้อยละของพลังงานความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียในขันตอนที่ 1
ถึง ขันตอนที่ 2 เมื่อเทียบกับค่าพลังงานความร้อนที่น้าโลหะอลูมิเนียมสูญเสียความร้อนทังหมด มีค่า
เท่ากับ ร้อยละ 41
ภาคผนวก ง
การค้านวณหาผลประหยัดของแก๊สธรรมชาติหลังการด้าเนินการแก้ไขปรับปรุง
และระยะเวลาคืนทุน
โดยการค้านวณหาผลประหยัดของแก๊สธรรมชาติหลังการด้าเนินการแก้ไขปรับปรุง
และระยะเวลาคืนทุน จะต้องประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี
1. มูลค่าแก๊สธรรมชาติของทางโรงงาน
ข้ อ มู ล ที่ ใ ช้ ใ นการค้ า นวณต่ อ ไปนี มาจากข้ อ มู ล ตั ว อย่ า งของปริ ม าณการใช้ แ ก๊ ส
ธรรมชาติจริงเดือนนึงของทางโรงงานโดยข้อมูล มาจากใบแจ้งหนี ของบริษัท ปตท.จ้าหน่ายแก๊ส
ธรรมชาติ จ้ากัด ซึ่งมีข้อมูลดังนี
ปริมาณการใช้งานแก๊ส 742,246 SCM
ค่าความร้อนของแก๊ส 979.889 BTU/SCF
ปริมาณแก๊สอิ่มตัว 26,675,496.55 SCF
พลังงานความร้อน 26,139.03 MMBTU
โดยรายการค่าใช้จ่ายมีดังตารางที่ ง.1
ตารางที่ ง.1
รายการค่าใช้จ่ายของการใช้แก๊สธรรมชาติ
รายการ ปริมาณ/หน่วย ราคา (บาท) จ้านวนเงิน (บาท)
ค่าใช้ท่อ 1 798,645.10 798,645.10
ค่าแก๊สธรรมชาติ 5,000 343.09 1,715,450.00
ส้าหรับ 5,000 ล้านบีทียูแรก
(0 – 5,000 MMBTU)
5,001- 10,000 MMBTU 5,000 320.68 1,603,400.00
10,001- 50,000 MMBTU 16,139.03 308.61 4,980,666.05
มูลค่าไม่รวมภาษี 9,098,161.15
ภาษีมูลค่าเพิ่ม 636,871.28
รวมเป็นเงิน 9,735,032.43
มู ล ค่ า ราคาค่ า แก๊ ส ธรรมชาติ ที่ ท างโรงงานต้ อ งจ่ า ยต่ อ หน่ ว ยพลั ง งานความร้ อ น
(MMBTU) คือ ราคาค่าแก๊สธรรมชาติตามรายการทังหมด (บาท) ÷พลังงานความร้อน (MMBTU)
= 9,735,032.43 บาท ÷ 26,139.03 MMBTU
= 372.43 บาท/MMBTU หรือ เท่ากับ 0.000372 บาท/BTU
2. เงินลงทุนการจัดท้าฝาปิดรางเท และเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ
รายละเอียดเงินลงทุนในการจัดท้าฝาปิดรางเทมีดังนี
- ค่าแผ่นฉนวนแคลเซียมซิลิเกตบอร์ด 1,200 บาท
- ค่าจัดส่ง 2,000 บาท
- ค่าที่จับ 500 บาท
- ค่าแรง 350 บาท
รวมมูลค่า 4,050 บาท
รายละเอียดเงินลงทุนเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะมีดังนี
โดยวิเคราะห์จากราคาความแตกต่างของเบ้ารับน้าโลหะที่มีฉนวนแบบเดิม และฉนวนแบบ
ใหม่
- ราคาเบ้ารับน้าที่มีฉนวนชัน Ceramic fibre Blanket 48 kg/m3 มีราคา 326,000 บาท
- ราคาเบ้ารับน้าที่มีฉนวนชัน Ceramic fibre Blanket 160 kg/m3 มีราคา 338,000 บาท
เงินลงทุนในการเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้า คือ 338,000 – 326,000 = 12,000 บาท
ดังนันจึงสามารถสรุปได้ว่าเงินลงทุนในการจัดท้าฝาปิดรางคือ 4,050 บาท และเงินลงทุนใน
การเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะคือ 12,000 บาท รวมเงินลงทุนในการด้าเนินการแก้ไขปรับปรุง
ทัง 2 มาตรการรวมทังสิน 16,050 บาท
ผลประหยัดของการออกแบบฝาปิดรางเท
จากข้อมูลการด้าเนินการมาตรการดังกล่าวสามารถลดการสูญเสียความร้อนได้ 1,101
วัตต์ ซึ่งจะท้าให้สามารถประหยัดการใช้แก๊สธรรมชาติไปได้จากการค้านวณดังต่อไปนี
ผลประหยัดค่าความร้อนต่อปี
คือ ความร้อนที่ประหยัดได้ (วัตต์) X ระยะเวลาการท้างานของเตาหลอม (วินาที/ปี)
= 1,101 X 29,808,000 =32,818,608 กิโลจูล/ปี
โดยพลังงานความร้อนที่สูญเสียของเตาหลอมคือ 70 % ดังนันพลังงานที่ต้องใช้จริงจึง
เท่ากับความร้อนที่ประหยัดได้ต่อปี ÷ (1-0.7)
= 32,818,608÷ (1-0.7) = 109,395,360 กิโลจูล/ปี
ผลประหยัดของการเปลี่ยนฉนวนของเบ้ารับน้าโลหะ
จากข้อมูลการด้าเนินการมาตรการดังกล่าวสามารถลดการสูญเสียความร้อนได้ 694.30
วัตต์ ซึ่งจะท้าให้สามารถประหยัดการใช้แก๊สธรรมชาติไปได้จากการค้านวณดังต่อไปนี
ผลประหยัดพลังงานความร้อนต่อปี
คือ ความร้อนที่ประหยัดได้ (วัตต์) X ระยะเวลาการท้างานของเตาหลอม (วินาที/ปี)
= 694.30 X 29,808,000 =20,695,694.40 กิโลจูล/ปี
โดยพลังงานความร้อนที่สูญเสียของเตาหลอมคือ 70 % ดังนันพลังงานที่ต้องใช้จริงจึง
เท่ากับพลังงานความร้อนที่ประหยัดได้ต่อปี ÷ (1-0.7)
= 20,695,694.40 ÷ (1-0.7) = 68,985,648 กิโลจูล/ปี
ภาคผนวก จ
ราคาแผ่นฉนวนแคลเซียมซิลิเกตบอร์ด และราคาเบ้ารับน้าโลหะอลูมิเนียม ก่อน-หลัง
การเปลี่ยนฉนวน
ราคาแผ่นฉนวนแคลเซียมซิลิเกตบอร์ด
ประวัติผู้เขียน
ผลงานทางวิชาการ