Professional Documents
Culture Documents
วิธีดาเนินการวิจัย
การวิจ ัยครั้ งนี้ เป็ นการวิ จยั เพื่ อพัฒนาทักษะการเขี ยน เรื่ องการใช้แบบฝึ กพัฒนาทักษะ
การเขียนสะกดคาของนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 กลุ่มเครื อข่ายโรงเรี ยนทุ่งผึ้ง สานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 มีวตั ถุประสงค์เพื่อหาประสิ ทธิ ภาพของแบบฝึ กทักษะการเขียน
สะกดคาและเพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ ทางการเขียนของนักเรี ยนที่เรี ยนโดยการใช้แบบฝึ กทักษะการเขียน
สะกดคา ของนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 กลุ่มเครื อข่ายโรงเรี ยนทุ่งผึ้ง ผูว้ ิจยั ได้ดาเนิ นการตามลาดับ
ขั้นตอน ดังนี้
ประชากรและกลุ่มตัวอย่ าง
เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย
ได้ค่าประสิ ทธิ ภาพ เท่ากับ 85.83/89.63 (ภาคผนวก ข) ซึ่ งสู งกว่าเกณฑ์ที่กาหนด 80/80 จึงนาไปทดลอง
ใช้ในการวิจยั ต่อไป
1.5 ขั้นการประเมินผล
นาแบบฝึ กทักษะการเขียนสะกดคาที่มีประสิ ทธิ ภาพแล้ว ไปใช้กบั กลุ่มตัวอย่าง
จานวน 30 คน ซึ่ งได้มาโดยการสุ่ มแบบเจาะจง ต่อไป
2. การสร้ างแผนการจัดการเรี ยนรู้ กลุ่มสาระการเรี ยนรู้ ภาษาไทย โดยใช้ แบบฝึ กทักษะ
การเขียนสะกดคา ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5
2.1 ขั้นการวิเคราะห์
2.1.1 ศึกษารายละเอียดหลักสู ตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
หลักสู ตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรี ยนรู ้ ภาษาไทย ศึกษาตัวชี้ วดั และสาระการเรี ยนรู ้แกนกลางกลุ่ม
สาระการเรี ยนรู้ภาษาไทย ของสานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
2.1.2 วิเคราะห์ ตวั ชี้ วดั และสาระการเรี ยนรู ้ แกนกลางกลุ่ มสาระการเรี ยนรู ้
ภาษาไทยเพื่อเป็ นแนวทางในการกาหนดจุดประสงค์การเรี ยนรู ้
2.1.3 ศึกษาขั้นตอนการจัดทาแผนการจัดการเรี ยนรู ้ กลุ่มสาระการเรี ยนรู ้ภาษาไทย
2.2 ขั้นการออกแบบ
2.2.1 ศึกษาวิธีการสร้ างแผนการจัดการเรี ยนรู้ รวมทั้งองค์ประกอบของแผน
การจัดการเรี ยนรู ้ที่เหมาะสมกับผูเ้ รี ยนและกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้ภาษาไทย
2.2.2 ผูว้ ิจยั ออกแบบแผนการจัดการเรี ยนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคา
โดยใช้แบบฝึ กทักษะการเขียนสะกดคา ซึ่ งยึดตามลาดับความยากของแบบฝึ กแต่ละชุ ดที่ครอบคลุมคา
ที่นกั เรี ยนเขียนผิดและคานึงถึงความสอดคล้องกับหลักสู ตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551 และหลักสู ตรสถานศึกษา
2.2.3 ผูว้ จิ ยั สร้างแผนการจัดการเรี ยนรู้ 6 แผน 12 ชัว่ โมง ดังต่อไปนี้
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 1 การเขียนคาที่ประวิสรรชนีย ์
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 2 การเขียนคาที่ไม่ประวิสรรชนีย ์
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 3 การเขียนคาควบกล้ า
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 4 การเขียนคาอักษรนา
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 5 การเขียนคาที่มี รร (ร หัน)
แผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ 6 การเขียนคาที่มีตวั การันต์
65
2.3 ขั้นการพัฒนา
2.3.1 นาแผนการจัดการเรี ย นรู ้ ท้ งั 6 แผน ไปขอรับคาแนะนาจากอาจารย์
ที่ปรึ กษาวิทยานิ พนธ์หลักและอาจารย์ที่ปรึ กษาวิทยานิ พนธ์ร่วม จากนั้นทาการปรับแผนการจัดการ
เรี ยนรู ้ตามคาแนะนาของอาจารย์ท้ งั ความเหมาะสมด้านเวลา กิจกรรมการเรี ยนการสอน การใช้ภาษา
ในการเขียนแผนการจัดการเรี ยนรู้ การตั้งคาถามในกิจกรรมและใบงาน
2.3.2 นาแผนการจัดการเรี ยนรู้ที่ผวู้ ิจยั ปรับปรุ งแล้ว ไปเสนอต่อผูเ้ ชี่ ยวชาญทั้ง 3
ท่านเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ความเหมาะสม โดยออกแบบประเมินแผนการจัดการเรี ยนรู้ให้ครอบคลุม
เนื้ อหา กิจกรรม และการวัดผลและประเมินผลโดยใช้มาตรา การประเมิน (Rating Scale) 5 ระดับ
มีการให้คะแนน ดังนี้
คะแนน 5 หมายถึง เหมาะสมมากที่สุด
คะแนน 4 หมายถึง เหมาะสมมาก
คะแนน 3 หมายถึง เหมาะสมปานกลาง
คะแนน 2 หมายถึง เหมาะสมน้อย
คะแนน 1 หมายถึง เหมาะสมน้อยที่สุด
แล้วนาผลการประเมิ นไปหาค่ าเฉลี่ ย ( X ) และส่ วนเบี่ ยงเบนมาตรฐาน
(S.D.)โดยใช้เกณฑ์ ดังนี้
ค่าเฉลี่ย ความหมาย
4.51 - 5.00 เหมาะสมมากที่สุด
3.51 - 4.50 เหมาะสมมาก
2.51 – 3.50 เหมาะสมปานกลาง
1.51 – 2.50 เหมาะสมน้อย
1.00 – 1.50 เหมาะสมน้อยที่สุด
โดยมีเกณฑ์การยอมรับที่ระดับ 3.51 – 5.00 เป็ นเกณฑ์ตดั สิ นการผ่านให้
นาไปใช้ได้ ซึ่ งผลการประเมินของผูเ้ ชี่ ยวชาญทั้ง 3 ท่านได้ค่าเฉลี่ย 4.17 ส่ วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.43
อยูใ่ นระดับเหมาะสมมาก (ภาคผนวก ค)
2.3.3 นาแผนการจัดการเรี ยนรู้ มาปรับปรุ ง แก้ไขตามคาแนะนาของผูเ้ ชี่ ยวชาญ
ก่อนนาไปใช้
2.4. ขั้นการทดลองใช้
ผูว้ ิจยั นาแผนการจัดการเรี ยนรู้ ที่ปรับปรุ งแก้ไขเรี ยบร้ อยแล้วไปทดลองใช้ก ับ
นักเรี ยนกลุ่มใหญ่ ซึ่ งเป็ นนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยนบ้านทุ่งผึ้ง กลุ่มเครื อข่ายโรงเรี ยนทุ่ง
66
การเก็บรวบรวมข้ อมูล
การวิเคราะห์ ข้อมูล
X = ∑X
N
x x
2
S.D. = N
N
n n
IOC = ΣR
n
เมื่อ IOC แทน ดัชนีความสอดคล้อง
R แทน คะแนนของผูเ้ ชี่ยวชาญ
ΣR แทน ผลรวมคะแนนของผูเ้ ชี่ยวชาญแต่ละคน
n แทน จานวนผูเ้ ชี่ยวชาญ