Professional Documents
Culture Documents
เรื่อง
การพัฒนาการอ่านออกเสียงสะกดคาภาษาอังกฤษ (Phonics)
โดยใช้ แบบฝึ กทักษะ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6
โรงเรียนบ้ านนา้ แคม อาเภอท่ าลี่ จังหวัดเลย
สรียาภรณ์ นนทะปะ
คานา
บทคัดย่ อ
การวิ จ ัย ครั้ งนี้ มี ว ตั ถุ ป ระสงค์เ พื่ อ (1) ศึ ก ษาผลการพัฒ นาการทัก ษะอ่ า นออกเสี ย ง
สะกดคาภาษาอังกฤษของนักเรี ยน และ (2) ศึกษาวิธีการสร้างและหาประสิ ทธิ ภาพของแบบฝึ ก
ทั ก ษะการอ่ า นออกเสี ยงสะกดค าภาษาอั ง กฤษ ประชากรที่ ใ ช้ ใ นการวิ จ ัย คื อ นั ก เรี ยน
ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรี ยนบ้านน้ าแคม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1
ภาคเรี ยนที่ 1 ปี การศึกษา 2557 จานวน 40 คน และใช้วธิ ี การสุ่ มกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง
(Purposive Sampling) เนื่องจากมีนกั เรี ยนร้อยละ 90 ของนักเรี ยนทั้งชั้นเรี ยนอ่านออกเสี ยงสะกด
คาไม่ ได้ เครื่ องมื อที่ ใช้ในการเก็ บรวบรวมข้อมูล คื อแบบฝึ กทักษะการอ่ านออกเสี ยงสะกดค า
ภาษาอังกฤษที่ ผวู ้ ิจยั สร้ างขึ้ น การวิเคราะห์ขอ้ มูลเชิ งปริ มาณโดยใช้ค่าร้ อยละ (%) ค่าเฉลี่ ย (𝑥̅ )
ส่ วนเบี่ ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าทดสอบที (t – test) แบบ Dependent กรณี กลุ่ มตัวอย่าง
ไม่เป็ นอิสระแก่กนั และวิเคราะห์ขอ้ มูลเชิงคุณภาพด้วยการบรรยายเนื้อหา
ผลการวิจยั สรุ ปได้ดงั นี้
(1) ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยนด้านการอ่านออกเสี ยงสะกดคาภาษาอังกฤษหลังเรี ยนสู งกว่า
ก่อนเรี ยนอย่างมีนยั สาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมุติฐานที่ต้ งั ไว้
(2) แบบฝึ กทัก ษะการอ่ า นออกเสี ยงสะกดค าภาษาอัง กฤษที่ ผู ้วิ จ ัย สร้ า งขึ้ นมี ค่ า
ประสิ ทธิภาพตามเกณฑ์ E1/ E2 ร้อยละ 80/ 80 ซึ่งสามารถนาไปใช้ได้
(3) จากผลการสังเกต พบว่า มีปัญหาอุปสรรคมากมาย อันเนื่องมาจากนักเรี ยนส่ วนมาก
เป็ นกลุ่ มปานกลางและอ่อนที่ มี ปัจจัยอื่ นเข้ามาเกี่ ยวข้อง เช่ น ความรู ้ พ้ืนฐาน ระดับสติปัญญา
ความใฝ่ รู ้ ใฝ่ เรี ยน และเจตคติต่อการเรี ยนภาษาอังกฤษ ดังนั้นครู ตอ้ งใช้เวลาเพิ่มเติมในการสอน
ซ่ อมเสริ มนักเรี ยนรายบุคคล นอกจากนี้ นกั เรี ยนส่ วนมากยังขาดทักษะการออกเสี ยงพยัญชนะบาง
เสี ยงที่ไม่มีหรื อแตกต่างจากภาษาไทย และการออกเสี ยงพยัญชนะท้ายคา เนื่องจากความเคยชินใน
การใช้ภาษาแม่ ผูว้ ิจยั จึงเสนอแนะในการทาวิจยั ครั้งต่อไป เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสี ยงของ
นักเรี ยนให้ดีข้ ึน
ค
Abstract
The purposes of this research were (1) to learn how learning achievement on phonics
that the students can do, and (2) to learn how to create and develop the efficient Practical Book.
The population was 40 grade 6 students of Ban Namkhaem School in the first semester in academic
year 2014. 20 of them were purposively selected as the sample for this study because of disability
in phonics. Data were collected by Practical Book. The statistics used for the quantitative analysis
were percentage, mean, standard deviation and t-test. Qualitative data was analyzed under the
framework of students’ ability in reading and spelling words. The findings of the study were as
follows:
(1) The comparison of the learning achievement on phonics of grade 6 students showed
that their posttest scores were higher than their pretest scores at significant difference level of 0.05.
(2) The Practical Book was developed until it reached efficiency at 80 : 80 percentages.
(3) The problems gained from the observation are the failure of the most students. It
means that they lack of background knowledge, skills, diligence, and positive attitude in English.
Thus it suggested that teacher should give more time to practice them again and again until they
can read and spell words because it is the basic skill which help them to learn in the upper level.
Moreover, the most students cannot pronounce some consonant sounds and the final sounds
because of the mother tongue. So, teacher should continue developing them in these problem.
ง
กิตติกรรมประกาศ
สารบัญ
หน้ า
คานา ก
บทคัดย่อภาษาไทย ข
บทคัดย่อภาษาอังกฤษ ค
กิตติกรรมประกาศ ง
สารบัญ จ
สารบัญตาราง ช
สารบัญภาพประกอบ ซ
บทที่ 1 บทนา
1.1 ความเป็ นมาและความสาคัญของการวิจยั 1
1.2 วัตถุประสงค์การวิจยั 2
1.3 สมมุติฐานการวิจยั 2
1.4 ขอบเขตการวิจยั 2
1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ 3
1.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 3
บทที่ 3 วิธีดาเนินการวิจัย
3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 15
3.2 เครื่ องมือที่ใช้ในการศึกษา 15
3.3 การสร้างเครื่ องมือ 16
3.4 วิธีดาเนินการทดลองและการเก็บรวบรวมข้อมูล 16
3.5 การวิเคราะห์ขอ้ มูล 17
3.6 สถิติที่ใช้ในการวิจยั 17
บรรณานุกรม 29
ภาคผนวก ก 31
ภาคผนวก ข 40
ประวัติผ้ วู จิ ัย 75
ช
สารบัญตาราง
หน้ า
ตารางที่ 1
มาตรฐาน ต 1.1 6
ตารางที่ 2
ฐานกรณ์ที่เคลื่อนไหวได้และเคลื่อนไหวไม่ได้ 7
ตารางที่ 3
ค่า IOC ที่ประเมินโดยผูเ้ ชี่ยวชาญ 18
ตารางที่ 4
ข้อเสนอแนะในการปรับปรุ งแก้ไขแบบฝึ กทักษะโดยผูเ้ ชี่ยวชาญ 19
ตารางที่ 5
ค่าประสิ ทธิ ภาพของแบบฝึ กทักษะเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กาหนด 19
ตารางที่ ค่าเฉลี่ยและส่ วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยน
6 20
ท้ายบทเรี ยน
ตารางที่ 7 ค่าสถิติของผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยนก่อนเรี ยน – หลังเรี ยน 21
ตารางที่ 8 ผลการบันทึกการสังเกต 22
ซ
สารบัญภาพประกอบ
หน้ า
ภาพประกอบที่ 1 ตาแหน่งของอวัยวะในการออกเสี ยง 8
ภาพประกอบที่ 2 กรอบแนวคิดการวิจยั 14
1
บทที่ 1
บทนำ
1.2 สมมุติฐำนกำรวิจัย
1.2.1 นักเรี ยนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยนด้านการอ่านออกเสี ยงสะกดคาภาษาอังกฤษหลัง
เรี ยนสู งกว่าก่อนเรี ยนอย่างมีนยั สาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
1.2.2 แบบฝึ กทักษะมีประสิ ทธิภาพตามเกณฑ์ร้อยละ 80/80
1.3 ขอบเขตของกำรวิจัย
การวิจยั ครั้ งนี้ ผูว้ ิจยั พัฒนาทัก ษะการอ่ านออกเสี ย งสะกดค าภาษาอังกฤษที่เป็ นปั ญหา
สาหรับนักเรี ยน ซึ่ งมีขอบเขตของการศึกษา ดังนี้
1.3.1 ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ ำง
ประชากรที่ ใ ช้ใ นการวิจยั ครั้ งนี้ คื อ นักเรี ย นชั้นประถมศึ กษาปี ที่ 6 โรงเรี ย น
บ้านน้ าแคม อาเภอท่าลี่ จังหวัดเลย สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1 ภาคเรี ยนที่
1 ปี การศึกษา 2557 จานวน 40 คน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจยั ครั้งนี้ คือ นักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6/2 โรงเรี ยน
บ้านน้ าแคม อาเภอท่าลี่ จังหวัดเลย สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1 ภาคเรี ยนที่
1 ปี การศึกษา 2557 จานวน 20 คน โดยใช้วิธีการสุ่ มแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling)
เนื่องจากมีนกั เรี ยนร้อยละ 90 ของนักเรี ยนทั้งชั้นเรี ยนอ่านออกเสี ยงสะกดคาไม่ได้
1.3.2 ระยะเวลำ
ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจยั ได้แก่ ภาคเรี ยนที่ 1 ปี การศึกษา 2557
1.3.3 เนือ้ หำ
เนื้ อหาที่ใช้ในการวิจยั ได้แก่ คาศัพท์พ้ืนฐานระดับประถมศึกษา ส่ วนใหญ่เป็ น
คาที่มีจานวน 1-2 พยางค์ แต่ไม่เกิ น 4 พยางค์ เพื่อความสะดวกต่อการอ่านออกเสี ยงสะกดคา
สาหรับผูเ้ ริ่ มต้น
3
1.4 นิยำมศัพท์เฉพำะ
1.4.1 กำรอ่ ำนออกเสี ยงสะกดคำภำษำอังกฤษ หมายถึง การอ่านออกเสี ยงพยัญชนะ –
สระ การประสมคา และการอ่านออกเสี ยงคาให้ถูกต้องตามหลักการออกเสี ยงภาษาอังกฤษ ได้แก่
การออกเสี ยงพยัญชนะท้ายคา (final sound) และการลงเสี ยงเน้นหนักในคา (stress)
บทที่ 2
เอกสำรและงำนวิจัยทีเ่ กีย่ วข้ อง
2.1 หลั ก สู ตรแกนกลำงกำรศึ ก ษำขั้ นพื้ น ฐำน พุ ท ธศั ก รำช 2551 กลุ่ มสำระกำรเรี ย นรู้
ภำษำต่ ำงประเทศชั้นประถมศึกษำปี ที่ 6 (กระทรวงศึกษาธิการ, สพฐ., 2551: คานา -19)
สานัก งานคณะกรรมการการศึ ก ษาขั้นพื้นฐานได้พฒั นาหลักสู ตรให้มีค วามเหมาะสม
ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งเป้ าหมายในการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รี ยนและกระบวนการนาหลักสู ตรไปสู่ การปฏิบตั ิ
ในระดับเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา พร้อมทั้งได้จดั ทาสาระการเรี ยนรู ้ แกนกลางของกลุ่ม
สาระการเรี ยนรู้ 8 กลุ่มสาระในแต่ละระดับชั้น เพื่อให้เขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานระดับท้องถิ่น
และสถานศึกษาที่จดั การศึกษาขั้นพื้นฐานได้นาไปใช้เป็ นกรอบและทิศทางในการพัฒนาหลักสู ตร
และจัดการเรี ยนการสอน ซึ่ งในส่ วนของกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้ภาษาต่างประเทศ ได้กล่าวไว้ดงั นี้
2.1.2 คุณภำพผู้เรียน
จากหลัก สู ต รการศึ ก ษาขั้น พื้ น ฐาน พุ ท ธศัก ราช 2551 กลุ่ ม สาระการเรี ยนรู ้
ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 กาหนดคุณภาพผูเ้ รี ยนเมื่อจบชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 ใน
ด้านการออกเสี ยงไว้ดงั นี้
“... อ่ านออกเสี ยงประโยค ข้อความ นิ ท าน และบทกลอนสั้ น ๆ ถู ก ต้อ งตาม
หลักการอ่าน ... ”
ตำรำงที่ 2 ฐานกรณ์ที่เคลื่อนไหวได้และเคลื่อนไหวไม่ได้
ภาพประกอบที่ 1 ตาแหน่งของอวัยวะในการออกเสี ยง
ที่มา : กฤษณา ยอดมงคล (2553 : 7-12)
มาใช้วธิ ีเรี ยนแบบจาคาศัพท์เป็ นคาๆ ที่เรี ยกว่า Whole Language เพราะเร็ วกว่า โรงเรี ยนในประเทศ
ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็ นภาษาหลัก เช่ น สหรั ฐอเมริ กา อังกฤษ ออสเตรเลี ยจึ งเลิ กสอนโฟนิ คส์ ไป
ตามๆ กัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายสิ บปี กลับพบว่าความสามารถในการอ่านเขียนของประชาชน
ต่าลงเพราะคนเรานั้นจดจาคาศัพท์ได้จากัด และการไม่รู้หลักการสะกดนั้นก็ทาให้อ่านได้ไม่คล่อง
เมื่อเห็นคายากหรื อคาใหม่ที่ไม่คุน้ เคยก็ไม่อยากอ่านทาให้การอ่านค้นคว้าความรู ้ต่างๆ ลดลงตามไป
ด้วย จึงมีการฟื้ นฟูการเรี ยนโฟนิคส์อีกครั้ง เพื่อให้นกั เรี ยนเข้าใจหลักการอ่านเขียนอย่างแท้จริ ง
7. ควรมีรูปภาพประกอบที่สวยงามเหมาะสมกับวัยของเด็ก
8. ควรใช้ภาษาสั้นๆ ง่ายๆ ไม่วา่ จะเป็ นเนื้อหาหรื อคาสั่ง
9. ควรมีการทดลองใช้เพื่อหาข้อบกพร่ องต่าง ๆ ก่อนนาไปใช้จริ ง
10. ควรจัดทาเป็ นรู ปเล่มซึ่ งสามารถเก็บรักษาได้ง่ายและใช้ในทบทวน
2.6 กรอบแนวคิดกำรวิจัย
ผูว้ จิ ยั ได้กาหนดกรอบแนวคิดการวิจยั ดังนี้
ภาพประกอบที่ 2 กรอบแนวคิดการวิจยั
15
บทที่ 3
วิธีดำเนินกำรวิจัย
การด าเนิ น การวิ จ ัย เรื่ อ ง เรื่ อ งการพัฒ นาการอ่ า นออกเสี ย งสะกดค าภาษาอัง กฤษ
(Phonics) โดยใช้แบบฝึ กทักษะของนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรี ยนบ้านน้ าแคม อาเภอท่าลี่
จังหวัดเลย เพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรี ยนในฝัน ผูว้ จิ ยั ได้ดาเนินการตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
3.2 เครื่ องมือที่ใช้ในการศึกษา
3.3 การสร้างและหาคุณภาพเครื่ องมือ
3.4 วิธีดาเนินการทดลองและการเก็บรวบรวมข้อมูล
3.5 การวิเคราะห์ขอ้ มูล
3.6 สถิติที่ใช้ในการวิจยั
3.1 ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ ำง
ประชากรที่ใช้ในการวิจยั ครั้งนี้ คือ นักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรี ยนบ้านน้ าแคม
อาเภอท่ า ลี่ จัง หวัด เลย ส านัก งานเขตพื้ น ที่ ก ารศึ ก ษาประถมศึ ก ษาเลยเขต 1 ภาคเรี ย นที่ 1 ปี
การศึกษา 2557 จานวน 40 คน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจยั ครั้งนี้ คือ นักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6/2 โรงเรี ยน บ้าน
น้ าแคม อาเภอท่าลี่ จังหวัดเลย สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1 ภาคเรี ยนที่ 1 ปี
การศึ ก ษา 2557 จ านวน 20 คน โดยใช้วิ ธี ก ารสุ่ ม แบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling)
เนื่องจากมีนกั เรี ยนร้อยละ 90 ของนักเรี ยนทั้งชั้นเรี ยนอ่านออกเสี ยงสะกดคาไม่ได้
บทที่ 4
ผลกำรวิเครำะห์ ข้อมูล
ที่ ข้ อเสนอแนะ
ตำรำงที่ 7 แสดงค่ า สถิ ติ ข องผลสั ม ฤทธิ์ ทางการเรี ย นด้า นการอ่ า นออกเสี ย งสะกดค าโดยใช้
แบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยนของนักเรี ยนกลุ่มตัวอย่าง
ประเด็นที่
ควำมสำเร็จ ปัญหำ / อุปสรรค ข้ อเสนอแนะ
สั งเกต
นักเรี ยนกลุ่มเก่งจาเสี ยง นักเรี ยนออกเสี ยง ควรทาวิจยั ในเรื่ องการ
พยัญชนะได้อย่างคล่องแคล่ว พยัญชนะบางเสี ยงที่ไม่มี ออกเสี ยงพยัญชนะที่
กำรอ่ำนออก
แต่นกั เรี ยนส่ วนมากที่เป็ น หรื อแตกต่างจาก เป็ นปัญหาสาหรับ
เสี ยงพยัญชนะ
กลุ่มปานกลางและอ่อนยัง ภาษาไทยไม่ชดั เจน เช่น นักเรี ยนโดยเฉพาะ
ภำษำอังกฤษ
ตะกุกตะกักและช้ามาก ต้อง /v/, /θ/, /ð/, /z/, /dʒ/, เพื่อการสื่ อสารที่มี
สอนซ่อมเสริ ม /ʃ/, /ʒ/, /g/, /r/ ประสิ ทธิภาพ
นักเรี ยนกลุ่มเก่งสามารถอ่าน นักเรี ยนบางส่ วนอ่านออก ครู ตอ้ งเน้นย้าซ้ าทวนให้
ออกเสี ยงสะกดคาได้อย่าง เสี ยงสะกดคาได้ชา้ นักเรี ยนอ่านออกเสี ยง
กำรอ่ำนออก
คล่องแคล่ว แต่นกั เรี ยนกลุ่ม เพราะปัจจัยหลายด้าน สะกดคาให้ได้ทุกคน
เสี ยงสะกดคำ
ปานกลางและอ่อนอ่านได้ชา้ นอกจากนี้ส่วนมากยังขาด และควรทาวิจยั ในเรื่ อง
จำกเสี ยงสระ
มาก บางคนอ่านไม่ได้ ต้อง ทักษะการออกเสี ยง การออกเสี ยงพยัญชนะ
แต่ ละชุ ด
สอนซ่อมเสริ มรายบุคคล พยัญชนะท้ายคา เพราะ ท้ายคา
เป็ นสิ่ งที่ไม่มีภาษาไทย
นักเรี ยนส่ วนมากออกเสี ยง นักเรี ยนส่ วนมากขาด ในแต่ละบทเรี ยน
เน้นหนักในคาจากตัวอย่างคา ความใฝ่ รู้ใฝ่ เรี ยน ครู ควรนานักเรี ยน
กำรออกเสี ยง ในแบบฝึ กทักษะได้ แต่ใน ไม่ศึกษาค้นคว้า อ่านออกเสี ยงคาศัพท์
เน้ นหนักในคำ คาอื่นๆ ต้องขึ้นอยูก่ บั ด้วยตนเอง ให้ชดั เจนและถูกต้อง
ประสบการณ์ และความใฝ่ รู้ เพื่อให้นกั เรี ยนได้นา
ใฝ่ เรี ยนของนักเรี ยน ไปใช้ในชีวติ ประจาวัน
นักเรี ยนกลุ่มเก่งเรี ยนรู ้ได้เร็ ว กระบวนการเรี ยนการ ครู ตอ้ งใช้เวลามากกว่า
อ่านได้ถูกต้องและคล่องแคล่ว สอนในชั้นเรี ยน เวลาที่กาหนดไว้ ดังนั้น
พฤติกรรม แต่นกั เรี ยนส่ วนมากที่เป็ น ตลอดจนการสอนซ่อม ในงานวิจยั
นักเรียน กลุ่มปานกลางและอ่อนต้อง เสริ มสาหรับนักเรี ยนที่ จึงต้องกาหนดเวลาแบบ
โดยรวม ใช้ความพยายามจึงสามารถ อ่านไม่ได้น้ นั ยืดหยุน่ ได้
อ่านได้ บางคนไม่ยอมรับรู ้ ต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก เพื่อให้เหมาะสมกับ
จนกว่าครู จะเน้นตัวต่อตัว บริ บทโรงเรี ยน
23
บทที่ 5
สรุปผลกำรวิจัย อภิปรำยผล และข้ อเสนอแนะ
5.2 สมมุติฐำนกำรวิจัย
5.2.1 นักเรี ยนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยนด้านการอ่านออกเสี ยงสะกดคาภาษาอังกฤษหลัง
เรี ยนสู งกว่าก่อนเรี ยนอย่างมีนยั สาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
5.2.2 แบบฝึ กทักษะมีประสิ ทธิภาพตามเกณฑ์ร้อยละ 80/80
5.4.4 ผลกำรบั น ทึ ก กำรสั ง เกตกำรจั ด กำรเรี ย นรู้ เรื่ อ งกำรอ่ ำ นออกเสี ย งสะกดค ำ
ภำษำอังกฤษโดยใช้ แบบฝึ กทักษะ ในกระบวนการเก็บข้อมูลวิจยั โดยการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง
ผูว้ จิ ยั ได้สังเกตและจดบันทึกการสังเกต สรุ ปได้ดงั นี้
ในการทดลองกับ กลุ่ ม ตัว อย่า งนั้น มี ปั ญ หาอุ ป สรรคมากมาย อัน เนื่ อ งมาจาก
นักเรี ย นส่ วนมากเป็ นกลุ่ มปานกลางและอ่อนที่ มีปั จจัยอื่ นเข้า มาเกี่ ย วข้อง เช่ น ความรู ้ พ้ืนฐาน
ระดับสติปัญญา ความใฝ่ รู ้ใฝ่ เรี ยน และเจตคติต่อการเรี ยนภาษาอังกฤษ ซึ่ งครู ตอ้ งใช้เวลาในการ
สอนซ่ อมเสริ มนักเรี ยนรายบุคคลค่อนข้างมาก การกาหนดเวลาที่ใช้ในการวิจยั จึงต้องกาหนดแบบ
ยืดหยุน่ ตามบริ บทของโรงเรี ยน นอกจากนี้ นกั เรี ยนส่ วนมากยังขาดทักษะการออกเสี ยงพยัญชนะ
บางเสี ยงที่ไม่มีหรื อแตกต่างจากภาษาไทย และการออกเสี ยงพยัญชนะท้ายคา เนื่องจากความเคย
ชิ นในการใช้ภาษาแม่ ผูว้ ิจยั จึงเสนอแนะในการทาวิจยั ครั้ งต่อไป เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออก
เสี ยงของนักเรี ยนให้ดีข้ ึน
5.5 อภิปรำยผลกำรวิจัย
ผลสั มฤทธิ์ทำงกำรเรี ยนด้ ำนกำรอ่ ำนออกเสี ยงสะกดคำภำษำอังกฤษ : ผลสั มฤทธิ์ก่อน
เรียน – หลังเรียน และท้ ำยบทเรียน หลังจากที่ทดสอบนักเรี ยนด้านการอ่านออกเสี ยงสะกดคาโดย
ใช้แบบทดสอบก่อนเรี ยน –หลังเรี ยนแล้ว ปรากฏผลดังนี้
หลังจากการจัดการเรี ยนรู ้โดยใช้แบบฝึ กทักษะในแต่ละบทเรี ยนและสอนซ่ อมเสริ มแล้ว
นักเรี ยนมีทกั ษะการอ่านออกเสี ยงสะกดคาภาษาอังกฤษที่ดีข้ ึน อีกทั้งเมื่อนาคะแนนทั้งสองส่ วนไป
หาค่าทดสอบที (t-test) แบบ Dependent กรณี กลุ่มตัวอย่างไม่เป็ นอิสระแก่กนั พบว่า ผลสัมฤทธิ์
ทางการเรี ยนด้านการอ่านออกเสี ยงสะกดคาภาษาอังกฤษหลังเรี ยนสู งกว่าก่อนเรี ยนอย่างมีนยั สาคัญ
27
5.6 ข้ อเสนอแนะในกำรทำวิจัย
5.6.1 ข้ อเสนอแนะทัว่ ไป
ด้านเนื้ อหา ครู สามารถปรับปรุ งและประยุกต์ใช้คาศัพท์ได้จากบทเรี ยนปกติ
หรื อแหล่งการเรี ยนรู ้อื่นๆ ที่เหมาะสมกับระดับชั้นของนักเรี ยนได้อย่างหลากหลาย
รู ปแบบของแบบฝึ กทักษะ ครู สามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายวิธี เช่น ฉาย
บนโปรเจ็คเตอร์ หรื อเพิ่มลูกเล่นอื่น เช่น แทรกไฟล์เสี ยง เป็ นต้น
การอ่ า นออกเสี ย งสะกดค าเป็ นทัก ษะพื้ น ฐานที่ ส าคัญ ที่ สุ ด ในการอ่ า นใน
ระดับสู ง ดังนั้นเมื่อจัดกิ จกรรมการเรี ยนรู ้ และทดสอบไปแล้ว แต่นกั เรี ยนยังอ่านไม่ได้ ครู ควร
อดทนกับการสอนซ่ อมเสริ มนักเรี ยนรายบุคคล โดยอาจจะใช้เวลามากหรื อน้อยแตกต่างกันไปใน
แต่ละบริ บทโรงเรี ยน
28
บรรณำนุกรม
30
บรรณำนุกรม
ภำคผนวก ก
ข้ อเสนอแนะ
1. ควรศึกษาเสี ยงและตัวอย่างคาของแต่ละเสี ยงให้ถูกต้อง
2. ควรแยกหัวข้อให้ชดั เจนและถูกต้องเหมาะสม เช่น แยกเสี ยงพยัญชนะเดี่ยวและพยัญชนะ
ควบกล้ า แยกเสี ยงสระเดี่ยวและสระผสม เป็ นต้น
3. เสี ยงสระผสมควรเขียนเสี ยงสระให้ชดั เจน เช่น อีเออะ หรื อ เอีย /Iə/
33
ประเด็นที่
ควำมสำเร็จ ปัญหำ / อุปสรรค ข้ อเสนอแนะ
สั งเกต
นักเรี ยนกลุ่มเก่งจาเสี ยง นักเรี ยนออกเสี ยง ควรทาวิจยั ในเรื่ องการ
พยัญชนะได้อย่างคล่องแคล่ว พยัญชนะบางเสี ยงที่ไม่มี ออกเสี ยงพยัญชนะที่
กำรอ่ำนออก
แต่นกั เรี ยนส่ วนมากที่เป็ นกลุ่ม หรื อแตกต่างจาก เป็ นปัญหาสาหรับ
เสี ยงพยัญชนะ
ปานกลางและอ่อนยัง ภาษาไทยไม่ชดั เจน เช่น นักเรี ยนโดยเฉพาะ
ภำษำอังกฤษ
ตะกุกตะกักและช้ามาก ต้อง /v/, /θ/, /ð/, /z/, /dʒ/, เพื่อการสื่ อสารที่มี
สอนซ่อมเสริ ม /ʃ/, /ʒ/, /g/, /r/ ประสิ ทธิภาพ
นักเรี ยนกลุ่มเก่งสามารถอ่าน นักเรี ยนบางส่ วนอ่านออก ครู ตอ้ งเน้นย้าซ้ าทวน
ออกเสี ยงสะกดคาได้อย่าง เสี ยงสะกดคาได้ชา้ ให้นกั เรี ยนอ่านออก
กำรอ่ำนออก
คล่องแคล่ว แต่นกั เรี ยนกลุ่ม เพราะปัจจัยหลายด้าน เสี ยงสะกดคาให้ได้ทุก
เสี ยงสะกดคำ
ปานกลางและอ่อนอ่านได้ชา้ นอกจากนี้ส่วนมากยังขาด คน
จำกเสี ยงสระ
มาก บางคนอ่านไม่ได้ ต้อง ทักษะการออกเสี ยง และควรทาวิจยั ใน
แต่ ละชุ ด
สอนซ่อมเสริ มรายบุคคล พยัญชนะท้ายคา เพราะ เรื่ องการออกเสี ยง
เป็ นสิ่ งที่ไม่มีภาษาไทย พยัญชนะท้ายคา
นักเรี ยนส่ วนมากออกเสี ยง นักเรี ยนส่ วนมากขาด ในแต่ละบทเรี ยน
เน้นหนักในคาจากตัวอย่างคา ความใฝ่ รู้ใฝ่ เรี ยน ครู ควรนานักเรี ยน
กำรออกเสี ยง ในแบบฝึ กทักษะได้ แต่ในคา ไม่ศึกษาค้นคว้า อ่านออกเสี ยงคาศัพท์
เน้ นหนักในคำ อื่นๆ ต้องขึ้นอยูก่ บั ด้วยตนเอง ให้ชดั เจนและถูกต้อง
ประสบการณ์ และความใฝ่ รู้ เพื่อให้นกั เรี ยนได้นา
ใฝ่ เรี ยนของนักเรี ยน ไปใช้ในชีวติ ประจาวัน
นักเรี ยนกลุ่มเก่งเรี ยนรู ้ได้เร็ ว กระบวนการเรี ยนการ ครู ตอ้ งใช้เวลามากกว่า
อ่านได้ถูกต้องและคล่องแคล่ว สอนในชั้นเรี ยน เวลาที่กาหนดไว้
พฤติกรรม แต่นกั เรี ยนส่ วนมากที่เป็ นกลุ่ม ตลอดจนการสอนซ่อม ดังนั้นในงานวิจยั
นักเรียน ปานกลางและอ่อนต้องใช้ เสริ มสาหรับนักเรี ยนที่ จึงต้องกาหนดเวลา
โดยรวม ความพยายามจึงสามารถอ่าน อ่านไม่ได้น้ นั แบบยืดหยุน่ ได้
ได้ บางคนไม่ยอมรับรู ้ ต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก เพื่อให้เหมาะสมกับ
จนกว่าครู จะเน้นตัวต่อตัว บริ บทโรงเรี ยน
38
ภำคผนวก ข
1
คาชี้แจงและวิธีการสอนสาหรับครู ผู้สอน
b พยัญชนะคล้ำยเสี ยง บ /b/
c พยัญชนะคล้ำยเสี ยง ค /k/
พยัญชนะคล้ำยเสี ยง ซ /s/
d พยัญชนะคล้ำยเสี ยง ด /d/
dog deer dad
g พยัญชนะคล้ำยเสี ยง ก / g/
giant giraffe
พยัญชนะคล้ำยเสี ยง ค /k/
k
l พยัญชนะคล้ำยเสี ยง ล /l /
n พยัญชนะคล้ำยเสี ยง น / n/
p พยัญชนะคล้ำยเสี ยง พ /p/
s พยัญชนะคล้ำยเสี ยง ซ, ส, ศ, ษ /s/
เป้ นพยัญชนะนำหน้ำพยัญชนะอื่นๆ
w พยัญชนะคล้ำยเสี ยง ว /w/
พยัญชนะคล้ำยเสี ยง ซ, ส, ศ, ษ /s/
Xerox xylophone
y พยัญชนะคล้ำยเสี ยง ย / j/
ph พยัญชนะคล้ำยเสี ยง ฟ / f/
phone photo (รู ปถ่ำย) dolphin
1. g 11. r 21. f
2. y 12. sn 22. p
3. ng 13. c 23. ph
4. l 14. ch 24. v
5. fr 15. t 25. bl
6. b 16. th 26. k
7. s 17. m 27. st
8. sh 18. n 28. d
9. j 19. h 29. z
10. w 20. x 30. q
เสียงสระผสม
เสียงสระเดีย่ ว
เสียงสระผสม
อีเออะ
ear (หู) hear (ได้ยน
ิ ) deer
หรื อ เอีย /Iə/
อาอิ
eye
หรื อ อาย /aI/
เสียงสระเดีย่ ว
เสียงสระผสม
อาอิ
ice five 5 kite
หรื อ อาย /aI/
เสียงสระผสม
อาอุ
cow owl down
หรื อ อาว /aƱ/
เออะอุ
bow cold go (ไป)
หรื อ โอ /əƱ/
เสียงสระเดีย่ ว
เสียงสระผสม
อุเออะ pure (บริ สุทธิ์ ) cure (บำบัด, รักษำ) lure (เหยือ่ ล่อ)
หรื อ อุว /Ʊə/
เสียงสระเดีย่ ว
เสียงสระผสม
อาอิ
shy my (ของฉัน) bye
หรื อ อาย /aI/
อออิ
toy joy soy
หรื อ ออย /ɔI/
'ruler tech'nology
ba'nana s'tudent
เฉลีย่
เฉลีย่
กำรอ่ำนออกเสี ยงพยัญชนะ
ภำษำอังกฤษ
กำรอ่ำนออกเสี ยงสะกดคำ
จำกเสี ยงสระแต่ละชุด
กำรออกเสี ยง
เน้นหนักในคำ
พฤติกรรมนักเรี ยนโดยรวม
รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวิจัย
74
รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวิจัย
นางสาววิจิตรา บุษบา
วุฒิการศึกษา วุฒิการศึกษา ค.ม. (นิเทศการศึกษาและพัฒนาหลักสู ตร)
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชานาญการพิเศษ โรงเรี ยนบ้านหนองหญ้าไซ อาเภอเมือง
จังหวัดเลย สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1
นางเยาวภา พิลาคุณ
วุฒิการศึกษา ศศ.ม. (ภาษาอังกฤษ)
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชานาญการพิเศษ โรงเรี ยนชุมชนบ้านปากห้วย อาเภอท่าลี่
จังหวัดเลย สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1
นางสาวดวงสุ ดา สุ ปมา
วุฒิการศึกษา ศศ.ม. (ภาษาอังกฤษ)
ตาแหน่ง ครู โรงเรี ยนเลยพิทยาคม อาเภอเมือง จังหวัดเลย สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษาเขต 19
75
ประวัติผู้วจิ ัย