Professional Documents
Culture Documents
ใบกิจกรรมที่ 1.1
ค้นหาสาระน่ ารู้ของการวิจัย
คำชี้แจง หลังจากที่นกั ศึกษาได้ศกึ ษางานวิจยั ที่ตรงกับสาขา (ภาษาไทย 2 เรื่ อง ภาษาอังกฤษ 1 เรื่อง)
จงอธิบายลักษณะหรือองค์ประกอบที่สาคัญของศัพท์วิจยั ที่ได้จากการศึกษาต่อไปนี้
1. ชื่อเรื่ อง การพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนคาพื้นฐานภาษาไทย โดยใช้แบบฝึ กทักษะสาระการ
เรี ยนรู ้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 ปี พ.ศ. 2561
2. บทคัดย่อ
การทาวิจยั ในชั้นเรี ยน เรื่ อง การพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนคาพื้นฐานภาษาไทย โดยใช้
แบบฝึ กทักษะสาระการเรี ยนรู ้ภาษาไทย ของนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 มีวตั ถุประสงค์เพื่อ 1)
เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยนและความสามารถในการอ่านและเขียนคาพื้นฐาน ภาษาไทย ของ
นักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 2) เพื่อพัฒนาแบบฝึ กทักษะสาระภาษาไทย ให้มีประสิทธิภาพตาม
เกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็ นนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 ภาค
เรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2561 จานวน 16 คน เครื่ องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบฝึ ก
ทักษะเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนคาพื้นฐาน จานวน 6 แบบฝึ ก และแบบทดสอบวัดผล
สัมฤทธิ์ทางการเรี ยนแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จานวน 30 ข้อ แบบแผนการทดลอง ใช้
แบบกลุ่มเดียว (One Group Pre-test Post-test Design) สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละและค่า ส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1.การพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนคาพื้นฐานภาษาไทย โดยใช้แบบฝึ กทักษะสาระ การเรี ยนรู ้
ภาษาไทย ของนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 มีประสิทธิภาพ80.51./83.33 ซึ่งสูงกว่า เกณฑ์
มาตรฐานที่ต้งั ไว้ คือ 80/80
2. ผลที่เกิดกับนักเรี ยนหลังการพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนคาพื้นฐานภาษาไทย โดยใช้แบบ ฝึ ก
ทักษะสาระการเรี ยนรู ้ภาษาไทย ของนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 พบว่านักเรี ยนมีทกั ษะการอ่าน
และเขียนดีข้ นึ ซึ่งส่งผลให้นกั เรียนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยนด้านทักษะการอ่านและเขียนคาพื้นฐาน
สูงขึ้น มีคา่ เฉลี่ยร้อยละ 83.33
3. คาสาคัญ
-
4. ที่มาและความสาคัญ/หลักการและเหตุผล
ผูว้ ิจยั ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยพร้อมทั้งวัด
และ ประเมินผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยนของนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1โรงเรี ยนวัดบางน้าจื ํ ดพบว่า
นักเรี ยน มีปัญหาทางด้านการเขียนสะกดคาไม่ถูกต้องและอ่านไม่ออก ซึ่งข้อมูลการรายงานผลการ
ประเมิน ความสามารถด้านการอ่านออกเขียนได้ของผูเ้ รี ยน (Readimg Tast :RT) ชั้นประถมศึกษาปี
ที่ 1 โรงเรียนวัดบางน้าจื ํ ด ปี การศึกษา 2559- 2560 ในด้านการอ่านออกเสียง การอ่านรู ้เรื่ อง การ
เขียนคา คิดเป็ นร้อยละ 58.98 และ 62.42 ตามลาดับ(ฝ่ ายวิชาการโรงเรียนวัดบางน้าจื ํ ด: 2559 -2560)
และจาก การรายงานผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกเขียนได้ของผูเ้ รียน ปี การศึกษา
2560 โรงเรียนวัดบ่อมะปริ ง ด้านการเขียนคา นักเรี ยนควรได้รับการพัฒนาปรับปรุ ง
(ฝ่ ายวิชาการโรงเรียนวัดบ่อมะปริ ง 2560) และจากผลการอ่านออกเขียนได้ของนักเรี ยนที่กล่าวมาทา
ให้ผวู ้ ิจยั ทาวิจยั เกี่ยวกับเรื่ องการอ่านและการเขียนสะกดคา ซึ่งหากนักเรี ยนไม่ได้รับการส่งเสริ มการ
เขียนสะกดคาย่อมส่งผลให้อ่านไม่ออกตามมาด้วย สิ่งเหล่านี้เป็ นสาเหตุให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรี ยน
ของ นักเรี ยนต่าและการทีํ ่นกั เรี ยนอ่านไม่ออกเขียนสะกดคาไม่ถูกต้องยังมีผลกระทบต่อไปในการ
เรี ยนการ สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู ้อื่นอีกด้วย
ผูว้ ิจยั ได้คิดหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว จึงได้ศึกษาหานวัตกรรมทั้งเก่าและใหม่นามา
แก้ปัญหา จึงพบว่าการจัดกิจกรรมการเรี ยนการสอนภาษาไทย โดยใช้แบบฝึ กทักษะจะทาให้
สามารถ แก้ปัญหาดังกล่าวได้ ผูว้ ิจยั จึงได้ศึกษาแนวคิด ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแบบฝึ ก
ทักษะเพื่อพัฒนา ทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคาของนักเรี ยนและพัฒนาการเรี ยนการสอน
ภาษาไทยให้มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. คาถามการวิจยั
-
6. วัตถุประสงค์การวิจยั
1. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านและเขียนคาพื้นฐาน ภาษาไทย
ของนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
2. เพื่อพัฒนาแบบฝึ กทักษะสาระภาษาไทย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
7. สมมติฐานการวิจยั
นักเรี ยนได้รับการสอนโดยรู ปแบบการสอนเพื่อพัฒนาและส่งเสริ มทักษะการอ่านจับ
ใจความดดยใช้หนังสือการ์ตูน มีผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านจับใจความสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการสอน
แบบปกติ
8. ขอบเขตการวิจยั
ประชากร ที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 โรงเรี ยนวัดบ่อมะปริ ง
อาเภอท่าฉาง สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 ภาคเรี ยนที่ 2 ปี
การศึกษา 2561 จานวน 16 คน
ระยะเวลาในการศึกษา ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา คือ ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2561
จานวน 11 ชัว่ โมง ทั้งนี้ไม่รวมเวลาที่ใช้ในการทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน
เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู ้ภาษาไทย สาระ
การอ่านและการเขียนคาพื้นฐาน โดยใช้แบบฝึ กทักษะ จานวน 6 แบบฝึ ก
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 ภาคเรี ยนที่ 2 ปี
การศึกษา 2561 โรงเรี ยนวัดบ่อมะปริ ง สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 2 จานวน 16
คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
9. นิยามเชิงปฏิบตั ิการ/คาจากัดความ/นิยามศัพท์เฉพาะ
แบบฝึ กทักษะการอ่านและการเขียนคาพื้นฐาน หมายถึง แบบฝึ กทักษะการอ่านและ การ
เขียนคาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรี ยนรูภ้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 ที่ผวู ้ ิจยั สร้างขึ้นเพื่อใช้ ใน
การฝึ กปฏิบตั ิดา้ นการอ่านและการเขียน จานวน 6 แบบฝึ ก
ประสิทธิภาพของแบบฝึ ก หมายถึง แบบฝึ กทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคา กลุ่มสาระ
การเรี ยนรู ้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
80 ตัวแรก หมายถึง คะแนนเฉลี่ยร้อยละของนักเรียนที่ได้จากการทาแบบทดสอบ ท้าย
บทเรี ยนของแบบฝึ กทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคา กลุ่มสาระการเรี ยนรู ้ภาษาไทย ชั้น
ประถมศึกษาปี ที่ 1 ทุกชุด
80 ตัวหลัง หมายถึง คะแนนเฉลี่ยร้อยละที่ได้จากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยน
ด้านการอ่านและการเขียนสะกดคาหลังเรี ยน โดยใช้แบบฝึ กทักษะ กลุ่มสาระการเรี ยนรู ้ ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 ครบทุกชุด
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความรู ้ ความสามารถในการเรี ยนภาษาไทยของนักเรี ยน ที่
เรี ยนโดยใช้แบบฝึ กทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคา กลุ่มสาระการเรี ยนรูภ้ าษาไทย ชั้น
ประถมศึกษาปี ที่ 1 โดยวัดได้จากคะแนนการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรี ยนการอ่านและ การ
เขียนสะกดคา ที่ผรู ้ ายงานสร้างขึ้น
นักเรี ยนหมายถึง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 โรงเรียนวัดบ่อมะปริ ง สานักงานเขต พื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 ปี การศึกษา 2561 จานวน 16 คน
แบบทดสอบหมายถึง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยน เรื่ อง การอ่านและ การเขียน
สะกดคา ที่ผรู ้ ายงานสร้างขึ้น เพื่อทดสอบนักเรี ยนก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน
10. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
ได้แบบฝึ กทักษะการอ่านและเขียนคาพื้นฐานภาษาไทย ที่ผ่านการพัฒนาและหา
ประสิทธิภาพจากผูเ้ ชี่ยวชาญเรี ยบร้อยแล้ว
ตัวอย่างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยน