Professional Documents
Culture Documents
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 2
บทที่ 2 การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ไขปัญหา
หัวข้อเนื้อหาประจำบท
1. ความหมายของการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
2. ประโยชน์ของการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
3. องค์ประกอบของการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
4. กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
5. แนวทางการพัฒนาความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
6. การจัดการเรียนรู้สู่การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
7. การคิดแก้ปัญหา
8. ประโยชน์ของความสามารถในการคิดแก้ปัญหา
9. องค์ประกอบของการคิดแก้ปัญหา
10. ขั้นตอนการคิดแก้ปัญหา
11. แนวทางการส่งเสริมให้นักเรียนคิดแก้ปัญหา
12.การฝึกทักษะการคิดแก้ปัญหา
13. การจัดการเรียนรู้สู่การคิดแก้ปัญหา
14. สรุป
15. กิจกรรมและแบบฝึกหัดท้ายบท
16. เอกสารอ้างอิง
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. อธิบายความหมายการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ไขปัญหาได้
2. อธิบายองค์ประกอบของการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ไขปัญหาได้
3. บอกประโยชน์ของการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ไขปัญหาได้
4. ประยุกต์ใช้การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ไขปัญหาได้
20
วิธีสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน
1. การบรรยาย
2. กิจกรรมระดมสมอง
3. การอภิปรายกลุ่ม
4. แบบฝึกหัดท้ายบท
สื่อการเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอน
2. แผ่นภาพเลื่อน (PowerPoint)
3. วีดีทัศน์ (Video)
4. กิจกรรมและแบบฝึกหัดท้ายบท
การวัดและการประเมินผล
1. สังเกตการมีส่วนร่วม
2. การอภิปรายและการนำเสนอหน้าชั้นเรียน
3. การทำกิจกรรมและแบบฝึกหัดท้ายบท
21
บทที่ 2
การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ไขปัญหา
อภิเดช โยชน์เยื้อน
ความหมายของการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ประโยชน์ของการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
องค์ประกอบของการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
นักการศึกษาหลายท่านได้อธิบายเกีย่ วกับองค์ประกอบของการคิดอย่างมีวิจารณญาณไว้ดังนี้
ชนาธิป พรกุล (2544 : 177-178) ได้กล่าวถึงองค์ประกอบของการคิดอย่างมีวิจารณญาณมี
4 องค์ประกอบ และในแต่ละองค์ประกอบจะมีทักษะที่สามารถนำมาใช้ในชั้นเรียน ได้แก่
1. การให้คำจำกัดความและการทำให้กระจ่าง ทักษะที่ฝึก ได้แก่ การระบุข้อสรุป การ
ระบุเหตุผลที่กล่าวถึง การระบุเหตุผลทีไ่ ม่ได้กล่าวถึง การเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่าง
การระบุและการจัดการกับสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องและการสรุปย่อ
23
กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
นักการศึกษาต่างก็ได้กล่าวถึงกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณไว้หลากหลาย ดังนี้
วั ต สั น และเกลเซอร์ (Watson-Glaser, 1964 : 24) ได้ ก ล่ า วถึ งกระบวนการคิ ด อย่ างมี
วิจารณญาณว่าประกอบด้วย ทัศนคติ ความรู้ และทักษะในเรื่องต่อไปนี้
1. การอุปนัย
2. การระบุสมมติฐาน
3. การอุปมาน
4. การตีความ
5. การประเมินการอ้างเหตุผล
ดี ค าโรล (Decarole, 1973 : 67-69) กล่ า วว่ า กระบวนการคิ ด อย่ า งมี วิ จ ารณญาณ
ประกอบด้วย
25
แนวทางการพัฒนาความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
การจัดการเรียนรู้สู่การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
5. วิ จ ารณ์ นั ก เรี ย นวิ เคราะห์ เหตุ ก ารณ์ ห รื อ ข้ อ ความที่ เป็ น ข่ า วว่ า มี ห ลั ก ฐานใด
สนับสนุนควรเชื่อเพียงไร
6. สรุป นักเรียนสรุปผลอย่างตรงไปตรงมาตามหลักฐาน ข้อมูล คือ สมควรจะเชื่อข่าว
กินชาเขียวแล้วปวดท้องหรือไม่ มีเหตุผลสนับสนุนอย่างไร
30
ความหมายของการคิดแก้ปัญหา
นักการศึกษาหลายท่านได้ให้ความหมายของความสามารถในการคิดแก้ปัญหาดังนี้
เพียเจต์ (Piaget, 1962 : 120) ได้อธิบายถึงความสามารถในการคิดแก้ปัญหาตามทฤษฎี
ด้านพัฒนาการ เป็นความสามารถของเด็ กที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่ขั้นที่ 3 คือ เด็กที่มีอายุ 7-10 ปี จะ
เริ่มมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาแบบง่ายๆ ภายในขอบเขตจำกัด และเมื่อมีอายุ 11-15 ปี ซึ่ง
ระดับ พัฒ นาการอยู่ในขั้นที่ 4 เด็กจะมีความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผลดีขึ้น และสามารถคิด
แก้ปัญหาแบบซับซ้อนได้ สามารถเรียนรู้ในสิ่งที่เป็นนามธรรมชนิดสลับซับซ้อนได้
กาเย่ (Gagne´, 1970 : 62) อธิบายว่าการคิดแก้ปัญหาเป็นรูปแบบการเรียนรู้อย่างหนึ่ งที่
ต้องอาศัยการเรียนรู้ประเภทหลักการที่มีความเกี่ยวข้องกันตั้งแต่ สองประเภทขึ้นไป และใช้หลักการ
นั้นมาผสมผสานกันจนเป็นความสามารถชนิดใหม่ที่เรี ยกว่าความสามารถด้านการคิดแก้ปัญหา การ
เรียนรู้ประเภทนี้ต้องอาศั ยการเรียนรู้ป ระเภทความคิดรอบยอดเป็นพื้ นฐานของการเรียน เป็นการ
เรียนรู้ประเภทหนึ่งที่ต้องอาศัยความสามารถในการมองลักษณะร่วมของสิ่งเร้าทั้งหมด
กูด๊ (Good, 1973 : 518) อธิบายว่าการแก้ปัญหาเป็นแบบแผนหรือวิธีการซึ่งอยู่ในสภาวะที่
มีความยุ่งยากลำบาก หรืออยู่ในสภาวะที่พยายามตรวจข้อมูลที่ทำมาได้ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับปัญหา
มีการตั้งสมมติฐานและการตรวจสอบสมมติฐาน ภายใต้การควบคุมมีการเก็บข้อมูลจากการทดลอง
เพื่อหาความสัมพันธ์นั้นว่าจริงหรือไม่
ประโยชน์ของความสามารถในการคิดแก้ปัญหา
องค์ประกอบของการคิดแก้ปัญหา
นักการศึกษาหลายท่านได้กล่าวถึงองค์ประกอบของการคิดแก้ปัญหาไว้ดังนี้
มอร์ แกน (Morgan, 1978 : 154 – 155) สรุป ความสามารถในการแก้ ปั ญ หาของบุ คคล
ต่างกันเนื่องจากองค์ประกอบต่อไปนี้
1. สติปัญญา ผู้มีสติปัญญาดีจะคิดแก้ปัญหาได้ดี
2. แรงจูงใจ เป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดแนวทางในการคิดแก้ปัญหา
3. ความพร้ อ มในการแก้ ปั ญ หาใหม่ ๆ ความพร้ อ มในการแก้ ปั ญ หานั้ น เนื่ อ งจาก
ประสบการณ์ที่มีมาก่อน
4. การเลือกวิธีการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม
กรอสนิคเคลและบรูกเนอร์ (Grossnickle and Brueckner, 1959 : 310 – 311) กล่าวถึง
องค์ประกอบของกระบวนการแก้ปัญหา ดังนี้
1. ปัญหาต้องเกี่ยวข้องกับตัวเด็ก
2. เป็นปัญหาที่สามารถทำการแก้ไขได้
3. ปัญหานั้นอยู่ในขอบเขตที่ชัดเจนที่เด็กแต่ละคนสามารถเข้าใจได้
4. เด็กจะเสนอวิธีแก้ปญ ั หาที่เป็นไปได้
5. เด็กได้รับการแนะนำจากครูในการวางแผนการแก้ปั ญหา การเก็บรวบรวมข้อมูล
และการประเมินผล
33
6. นำวิธีการต่างๆ มาใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
7. เด็กจะนำกระบวนการแก้ปั ญหาที่วางแผนไว้แล้วนั้ นมาใช้ในสถานการณ์ที่เป็นต้น
กำเนิดของปัญหาที่เกิดขึ้น
8. สรุปการแก้ปัญหา
รุ่งชีวา สุขดี (2531 : 35 อ้างถึงใน สุคนธ์ สิ นธพานนท์ และคณะ 2555 : 140) กล่ าวว่า
ความสามารถในการคิดแก้ปัญหาเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ต้องฝึกฝนอยู่เสมอ และความสามารถในการ
คิดแก้ปัญหาของแต่ละบุคคลยังขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆ ด้านด้วยกัน คือ
1. ประสบการณ์ของแต่ละบุคคลหรือความรู้เดิม
2. วุฒิภาวะของสมองและความสามารถทางสติปัญญา
3. สภาพการณ์ที่แตกต่างกัน
4. กิจกรรมและความสนใจของแต่ละคนที่มีต่อปัญหาหนึ่ง
5. ความสามารถในการมองเห็นลักษณะร่วมกันของสิ่งเร้าทั้งหมด
สรุปได้ว่าองค์ประกอบสำคัญของกระบวนการแก้ปัญหา จะต้องคำนึงถึงนักเรียนเป็นสำคัญ
โดยพิ จ ารณาจากเรื่อ งที่ เกี่ย วข้ องกั บ ตัว นั ก เรียน อยู่ในขอบเขตความสามารถทางสติปั ญ ญาของ
นักเรียน มีกิจกรรมหรือสิ่งเร้าให้นักเรียนมองเห็นปัญหา ครูแนะนำวิธีการการวางแผนแก้ปัญหา เก็บ
รวบรวมข้ อ มู ล และการประเมิ น ผลให้ นั ก เรีย นเข้ า ใจ ส่ งผลให้ นั ก เรีย นสามารถดำเนิ น การตาม
กระบวนการแก้ปัญหา จนกระทั่งสรุปผลการแก้ปัญหาได้
ขั้นตอนการคิดแก้ปัญหา
แนวทางการส่งเสริมให้นักเรียนคิดแก้ปัญหา
1. ฝึกให้นักเรียนได้ทำงานหรือทำกิจกรรมอยู่เสมอ การทำงานหรือทำกิจกรรมจะช่วยสร้าง
ประสบการณ์เพิ่มขึ้น และจะมีหนทางในการคิดแก้ปัญหามากขึ้น
2. ฝึกให้นักเรียนได้เรียนรู้ จากการปฏิบัติจริง เมื่อครูได้ ให้ความรู้แก่นักเรียนแล้ ว ควรได้
ทดลองปฏิบัติจริง หรือถ้าเรื่องนั้นไม่สามารถปฏิบัติได้ก็อาจให้แก้ปัญหาโดยการทดสอบความรู้นั้นด้วย
การค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เป็นการฝึกให้นักเรียนคิดแก้ปัญหา
3. ฝึกให้นักเรียน เป็นผู้มีเหตุผล ให้มคี วามเชื่อมั่น
4. ฝึกให้นักเรียนรู้จักวิจารณ์ กำหนดวิธีการคิดแก้ปัญหาด้วยการวิเคราะห์วิจารณ์ปัญหา
โดยกำหนดวิธีการวิเคราะห์ วิ จ ารณ์ ออกเป็ นขั้ นๆ ได้แก่ การกำหนดปั ญ หา รวบรวมข้อ เท็ จจริง
ตั้งสมมติฐาน ทดสอบสมมติฐาน ประเมินผล
5. ฝึกให้นักเรียนรู้จักการวิเคราะห์ – สังเคราะห์ และฝึกให้รู้จักออกความคิดเห็น การฝึกให้
นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นอยู่เสมอ จะช่วยให้นักเรียนได้ฝึกการใช้ความคิดของตนเอง แต่ครูจะต้อง
ช่วยเหลืออยู่เสมอ เพราะนักเรียนอาจแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ได้
36
การฝึกทักษะการคิดแก้ปัญหา
การจัดการเรียนรู้สู่การคิดแก้ปัญหา
เมื่อครูผู้สอนได้ศึกษาวิธีการและกระบวนการฝึก ให้นักเรียนรู้จักคิดแก้ปัญหาและมีความ
เข้าใจดีแล้วก็สามารถนำไปจัดการเรียนรู้ เพื่อฝึกให้นักเรียนรู้จักคิดแก้ปัญหา ซึ่งขั้นตอนการจัดการ
37
ในขั้ น นี้ ครู จ ะนำสถานการณ์ ในแบบฝึ กที่ ค รูเตรียมมาให้ นั ก เรีย นพิ จารณาว่ามี
ปั ญ หาสำคั ญ คื อ อะไร หรื อ ครู จ ะนำข่ าว บทความมาให้ นั ก เรีย นพิ จ ารณาสภาพปั ญ หาก็ ได้ เช่ น
ผลิตภัณฑ์ของตำบลไม่เป็นที่นิยมของตลาด
2. ขั้นวิเคราะห์ปัญหา เป็นการพิจารณาว่าสิ่งใดบ้างเป็นสาเหตุที่สำคัญของปัญหา
ครูจะฝึกนักเรียนให้วิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาที่ผ ลิตภัณฑ์ของตำบลไม่เป็นที่
นิยมของตลาดว่า มีสาเหตุอะไรบ้ าง โดยมี การแยกแยะหาส่วนประกอบของปัญ หา สิ่งที่ ทำให้ เกิด
ปัญหา และตัดประเด็นที่ไม่ใช่ปัญหาออก จนได้ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร เช่น สรุปได้ว่าสาเหตุจากขาด
การประชาสัมพันธ์
3. ขั้นเสนอแนวทางแก้ปัญหา
เมื่อหาสาเหตุที่แท้ จริ งแล้ว ก็รวบรวมข้อมูล ความรู้ต่างๆ เพื่อเป็ นแนวทางการ
แก้ปัญหา และตัดสินใจว่าแนวทางที่แท้ จริงควรใช้วิธีการใด กล่าวคือ มีการสร้างสมมติฐานเพื่อเป็น
ประเด็นหรือแนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยกำหนดว่าการใช้แผ่นโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์
ตำบลจะช่วยให้คนรู้จักและสนใจซื้อผลิตภัณฑ์มากขึ้น
4. ขั้นตรวจสอบผล
เมื่อมี การแก้ ไขปั ญ หาตามแนวทางที่ กำหนดแล้ ว ก็ต้อ งตรวจสอบผลที่ได้รับว่า
ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องก็สามารถเสนอวิธีแก้ปัญหาใหม่ จนกว่าจะได้วิธีการที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งในขั้น
นี้ นั ก เรี ย นอาจทำโครงงานเกี่ ย วกั บ การผลิ ต โปสเตอร์ ประชาสั ม พั น ธ์ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ต ำบลก็ ได้ เป็ น
ภาคปฏิบัติ เพื่อได้ผลการดำเนินงานว่าเป็นไปตามสมมติฐานหรือไม่ หรือนักเรียนอาจจะปฏิบัติจริง
ตามแนวทางที่กำหนดไว้ในขั้นที่ 3
5. ขัน้ การนำไปประยุกต์ใหม่
เมื่อนักเรียนสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้แ ล้วก็สามารถ
เสนอวิธีการนำไปประยุกต์ในเหตุการณ์อื่นๆ อีก
สรุป
การคิ ดอย่ างมี วิจ ารณญาณ คือ กระบวนการคิ ดที่ใช้เหตุผ ลโดยมีการศึกษาข้อ เท็จจริง
หลักฐาน และข้อมูลต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ แล้วนำมาพิจารณาวิเคราะห์อย่างสมเหตุสมผล
ก่อนตัดสินใจว่าสิ่งใดควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อ การคิดอย่างมีวิจารณญาณมีองค์ประกอบด้วย การทำ
ความเข้าใจกับประเด็นปัญหา คำถาม หรือสถานการณ์ที่พบ แล้วมีการรวบรวมข้อมูลหรือ หาข้อมูลที่
เกี่ยวข้อง โดยการพิจารณาว่าข้อมูลใดมีเหตุผลน่าเชื่อถือหรือไม่น่าเชื่อถือ แล้วจึงสรุปเพื่อตัดสินใจ
39
กิจกรรมและแบบฝึกหัดท้ายบท
กิจกรรม
1. ให้นักศึกษาอภิปรายกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ไขปัญหา
2. ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มวิเคราะห์แนวทางการจัดการเรียนรู้สู่การคิดอย่างมี
วิจารณญาณและการแก้ไขปัญหา
แบบฝึกหัดท้ายบท
จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. จงอธิบายความหมายของการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ไขปัญหา
2. จงอธิบายกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณตามแนวคิดของนักการศึกษามา 1 แนวทาง
3. จงอธิบายการจัดการเรียนรู้สู่การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
4. จงอธิบายขั้นตอนการคิดแก้ปัญหาและแนวทางส่งเสริมให้นักเรียนคิดแก้ปัญหา
5. จงอธิบายการจัดการเรียนรู้ให้คิดแก้ปัญหาตามขั้นตอนการคิดแก้ปัญหาของบลูม (Bloom)
40
เอกสารอ้างอิง