BE01 Power Plant Engineering สภา

24/8/2563 สภาวิศวกร
ข อ
สภาวิศวกร | Council of engineers
กร
วิชา : Power Plant Engineering
ิ ว
าวศ
เนือหาวิชา : 416 : 2 Economic Study of Power Plant
สภ
ข ้อที 1 :
Load-duration curve คืออะไร
ั
1 : กราฟแสดงค่าความต ้องการพลังไฟฟ้ าสูงสุดเป็ นรายชวโมง
2 : กราฟความต ้องการพลังไฟฟ้ าเฉลียเป็ นรายเดือน
ึ
3 : กราฟความต ้องการพลังไฟฟ้ ากับระยะเวลา ซงจะแสดงระยะเวลาความต ้องการทีพลังไฟฟ้ า
แต่ละค่า
4 : กราฟแสดงค่าพลังไฟฟ้ าทีโรงไฟฟ้ าผลิตได ้ในแต่ละชว่ งเวลา
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ค่า Load factor คือ
1 : อัตราสว่ นระหว่างค่าพลังไฟฟ้ าเฉลียกับค่าพลังไฟฟ้ าสูงสุดในระยะเวลาเดียวกัน
2 : ตัวประกอบปรับแก ้ค่าพลังไฟฟ้ าทีผู ้ใชต้ ้องการเพือให ้ได ้ค่าจริง
3 : ตัวประกอบทีแสดงถึงค่าพลังไฟฟ้ าทีโรงไฟฟ้ าผลิตได ้จริง
4 : อัตราสว่ นระหว่างค่าความต ้องการพลังไฟฟ้ าและค่าพลังไฟฟ้ าทีโรงไฟฟ้ าผลิตได ้
ต ้นทุนค่าไฟฟ้ าขึนกับจํานวน kWh ทีผลิตได ้ในแต่ละปี และ
1 : ราคาค่าก่อสร ้างโรงไฟฟ้ า
2 : ื
ค่าเชอเพลิ งของโรงไฟฟ้ าในแต่ละปี
3 : Operating cost ในแต่ละปี ของโรงไฟฟ้ า
4 : ถูกทุกข ้อ
ธิ
ในการคิดต ้นทุนค่าไฟฟ้ า ค่าใชจ่้ ายแปรผัน (Variable cost) ตัวหนึง คือ
สท
1 : ื
ค่าเสอมราคาของเครื องจักร และอุปกรณ์โรงไฟฟ้ า
ิ
2 : เงินเดือน ค่าจ ้างพนักงาน

วน
3 : ค่าประกัน
4 : ื
ค่าเชอเพลิ ง
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=54&aDb=0 1/91
ข อ
ื
ในการคิดคํานวณค่าเชอเพลิ ั ข ้อมูลจาก
งของโรงไฟฟ้ ามักอาศย
กร
1 : ขนาดโรงไฟฟ้ า
2 : Load-duration curve
ิ ว
3 : ค่าเฉลียของพลังไฟฟ้ าทีผลิตได ้
าวศ
4 : ระยะเวลาการเดินเครืองผลิตไฟฟ้ า
สภ
อัตราค่าไฟฟ้ ามี 2 สว่ น คือ ค่า Demand และค่าพลังงาน ค่า Demand กําหนดจากต ้นทุนด ้าน
ไหน
1 : ค่าใชจ่้ ายสว่ นทีคงที (Fixed costs) ในการ Operate โรงไฟฟ้ า
2 : ค่าใชจ่้ ายสว่ นทีแปรผัน (Variable costs)
3 : ค่าใชจ่้ ายทังหมดหักออกด ้วยค่าการบริหารจัดการ
4 : ค่าบริหารจัดการและค่าติดตังโรงไฟฟ้ า
โดยปกติจะกําหนดขนาดของโรงไฟฟ้ าเกินค่าความต ้องการสูงสุดไว ้เล็กน ้อย 15-20% เหตุผลที
ไม่เผือขนาดไว ้มากเพราะ
1 : ถ ้าเผือขนาดไว ้มาก สว่ นทีเกินจะไม่มโี อกาสใชงาน
้
2 : ทําให ้ Fixed cost สูง
3 : ต ้องเสยี ค่าซอ่ มบํารุงมากกว่าปกติ
4 : ทําให ้เสยี ค่าเชอเพลิ
ื งมากกว่าปกติ
เหตุผลทีค่าไฟชว่ ง Peak สูงกว่าชว่ ง Off-peak เพราะ
1 : รายได ้จากการขายไฟชว่ ง Off-peak มีคา่ น ้อย
2 : ประสท ิ ธิภาพของโรงไฟฟ้ าตําลงในชว่ ง Off-peak ทําให ้ต ้นทุนสูงขึน
3 : เป็ นไปตามกฎ Supply และ Demand ชว่ งไหนคนแย่งใชกั้ น ไฟก็มรี าคาแพง
4 : ชว่ ง Peak ต ้องใชเช
้ อเพลิ
ื งมาก ค่าไฟจึงแพง
ธิ
สท
ิ
ิ ธิภาพสูงสุด
ในการเดินเครืองผลิตไฟฟ้ าเพือรับ Base load มักเลือกชนิดโรงไฟฟ้ าทีมีประสท
วน
เพราะ
1 : Fixed cost คงทีตลอด
สง
2 : ผลิตไฟฟ้ าได ้มากทีสุด

3 : ต ้นทุนการผลิตไฟฟ้ ามีคา่ ตําสุด
ขอ
อ
4 : มีคา่ Heat rate สูง
ข
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 10 :
โรงไฟฟ้ า 4 แบบ ขนาดเท่ากัน เงินลงทุนก่อสร ้างโรงไฟฟ้ าชนิดใดมีจํานวนมากทีสุด
1 : โรงไฟฟ้ ากังหันก๊าซ
สภ
2 : โรงไฟฟ้ า Combined cycle
3 : โรงไฟฟ้ าถ่านหิน
4 : โรงไฟฟ้ าพลังนํ า
ข ้อที 11 :
Levelized electricity cost คือ
1 : ต ้นทุนการผลิตไฟฟ้ าในแต่ละปี
2 : เงินลงทุนสร ้างโรงไฟฟ้ า
3 : ต ้นทุนค่าไฟฟ้ าปรับเฉลียตลอดอายุโครงการ
4 : ค่าใชจ่้ ายในการผลิตไฟฟ้ าทังหมด
ข ้อที 12 :
ข ้อความต่อไปนี ข ้อใดผิด
1 : พืนทีภายใต ้ Load curve เป็ นค่า kWh ในชว่ งทีพิจารณา
2 : ้
ถ ้าเสนกราฟ ้
Load curve เป็ นเสนตรงอยู ใ่ นแนวนอน Load factor จะมีคา่ เท่ากับ 1
3 : ้ งงานไฟฟ้ า (kWh) เท่ากัน แต่คา่ kW สูงสุดอาจแตกต่างกันได ้
โรงงาน 2 แห่ง ใชพลั
4 : ้
ถ ้าเสนกราฟ Load curve มีลก ั ษณะสูงๆ ตําๆ มาก แสดงว่า Load factor มีคา่ สูง
ข ้อที 13 :
ระบุสาเหตุหลักของการเพิมอัตราค่าไฟฟ้ า
1 : เงินเดือนพนักงานเพิมขึน
2 : ค่าซอ่ มบํารุงรักษามากขึน
3 : ้
มีการใชไฟฟ้ ามากขึนและไฟฟ้ าสํารองลดลง
4 : ื
เชอเพลิ งมีราคาสูงขึน
ธิ
สท
ิ
วน
ข ้อที 14 :
้
โดยทัวไปจะวางแผนไม่ให ้ใชโรงไฟฟ้ าโรงเดียวในการรับโหลดทีมีคา่ สูงๆ ตําๆ ไม่คงที เหตุเพราะ
สง
ิ ธิภาพตํา ทําให ้ต ้นทุนค่าไฟฟ้ าแพง

1 : ประสท
2 : ควบคุมการเดินเครืองลําบาก มีปัญหามลพิษที Part load มาก
ขอ
อ
3 : เมือรับ Load ไกลๆ มีการสูญเสย ี ในสายสง่ สูง
ข
4 : เสยี เงินลงทุนมากโดยไม่จําเป็ น
กร
ิ ว
ข ้อที 15 :
าวศ
Operating cost ของโรงไฟฟ้ าชนิดใดต่อไปนี ทีมีคา่ ตําสุด
สภ
1 : โรงไฟฟ้ าพลังไอนํ า
ข ้อที 16 :
ต ้นทุนสว่ นทีเพิม (Incremental cost) ของโรงไฟฟ้ าชนิดใดต่อไปนี ทีมีคา่ ตําสุด
ข ้อที 17 :
ั
โรงไฟฟ้ าแห่งหนึง ขนาด 643.5 MW เดินเครืองปี ละ 8,760 ชวโมง โดยมีคา่ Heat rate 10,180
ื
kJ/kWh เมือเชอเพลิ งทีใชมี้ ราคา 50 บาท/GJ ค่าเชอเพลิ
ื งต่อปี จะเท่ากับ
1 : 2,869.3 ล ้านบาท/ปี
2 : 1,743.1 ล ้านบาท/ปี
3 : 3,107.1 ล ้านบาท/ปี
4 : 1,998.5 ล ้านบาท/ปี
ข ้อที 18 :
ื
ราคาเชอเพลิ ้
งทีใชในโรงไฟฟ้ าแห่งหนึง ปี แรกราคา 50 บาท/GJ ปี ท ี 2-5 เพิมปี ละ 5% จากค่า
ของปี กอ ื
่ นหน ้านี จงหาค่า Levelized cost ของเชอเพลิ งดังกล่าว ในระยะเวลา 5 ปี ข ้างต ้น เมือ
อัตราสว่ นลด = 4.5% ต่อปี
ธิ
1 : 51 บาท/GJ
สท
2 : 54.5 บาท/GJ
3 : 55.5 บาท/GJ
ิ
4 : 57.5 บาท/GJ
งวน
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 19 :
วิศวกรออกแบบโรงไฟฟ้ าแห่งหนึง พิจารณาจัดซอถ่ ื านหินจาก 4 ประเทศ คือ จีน ออสเตรเลีย
กร
อินโดนีเซย ี และไทย ซงมี
ึ ราคา 1,000, 1,500, 1,300 และ 1,100 บาท/ตัน ตามลําดับ สว่ นค่า
ความร ้อนมีคา่ 20, 22, 18 และ 15 MJ/kg ตามลําดับ ถ่านหินประเทศใดมีราคา (บาท/GJ) ตําสุด
ิ ว
1 : จีน
าวศ
2 : ี
อินโดนีเซย
3 : ออสเตรเลีย
4 : ไทย
สภ
ข ้อที 20 :
้ นลงทุนสร ้างโรงไฟฟ้ า 1,500 ล ้านบาท หลังจากเดินเครืองแล ้ว ได ้กําไรปี
โรงไฟฟ้ าแห่งหนึง ใชเงิ
ละ 150 ล ้านบาท จงหาอัตราผลตอบแทนภายใน เมือโรงไฟฟ้ ามีอายุการใชงาน ้ 20 ปี
1 : 10%
2 : 8.8%
3 : 8%
4 : 7.8%
ข ้อที 21 :
ชุดผลิตไฟฟ้ าขนาด 60 MW มีประสท ิ ธิภาพรวม 25% ถ่านหินทีใชมี้ คา่ ความร ้อน 24 MJ/kg จง
คํานวณหาปริมาณการใชถ่้ านหินเป็ น kg/kWh เมือ Load factor = 30% และ Maximum
demand = พิกด ั โรงไฟฟ้ า
1 : 0.5
2 : 0.6
3 : 0.7
4 : 0.8
ข ้อที 22 :
โรงไฟฟ้ าแห่งหนึงใชเงิ้ นลงทุนสร ้าง 65 ล ้านบาท โดยมีอายุการใชงาน
้ 15 ปี จงคํานวณหาจํานวน
ิ ดอายุการใช ้
เงินทีจะต ้องออมไว ้ในแต่ละปี เพือเปลียนอุปกรณ์เครืองจักรของโรงไฟฟ้ า เมือสนสุ
งาน กําหนดให ้อัตราดอกเบียและมูลค่าซากเป็ น 5% และ 5 ล ้านบาท ตามลําดับ ให ้ใชวิ้ ธค
ี ด
ิ ค่า
ื
เสอมราคาแบบเส ้
นตรง
1 : 11 ล ้านบาท/ปี
ธิ
สท
ิ
งวน
ส
ข ้อที 23 :
ขอ
อ
จงคํานวณหาต ้นทุนค่าไฟฟ้ าต่อ kWh จากข ้อมูลต่อไปนี ขนาดพิกด ั โรงไฟฟ้ า 150 MW เงินลงทุน
ข
ื
20,000 บาท/kW อัตราดอกเบียและค่าเสอมราคา 10% ของเงินลงทุน อัตราการใชเช ้ อเพลิ
ื ง 1.2
ื
kg/kWh ราคาเชอเพลิ ่ มบํารุง 400 ล ้านบาท/ปี
ง 800 บาท/ตัน เงินเดือน ค่าจ ้างและค่าซอ
กร
Maximum demand 120 MW และ Load factor 50% ให ้โรงไฟฟ้ านีทํางาน 8,760 ชวโมงต่ ั อปี
1 : 1.96 บาท/kWh
ิ ว
2 : 2.29 บาท/kWh
าวศ
3 : 1.21 บาท/kWh
4 : 2.87 บาท/kWh
สภ
ข ้อที 24 :
โรงไฟฟ้ าเครืองยนต์ดเี ซลแห่งหนึง ผลิตไฟฟ้ าได ้ 13.6656 ล ้าน kWh/ปี โดยมี Operating cost
้
6.2 ล ้านบาท/ปี เงินทีใชลงทุนสร ้างโรงไฟฟ้ า 110 ล ้านบาท จงคํานวณหาต ้นทุนค่าไฟฟ้ าเป็ น
บาท/kWh
1 : 0.29
2 : 0.45
3 : 0.87
4 : 1.34
ข ้อที 25 :
ค่าใชจ่้ ายประเภทใดต่อไปนี ทีไม่ใช ่ Fixed cost สําหรับโรงไฟฟ้ า
1 : ื
ค่าเสอมราคา
2 : ค่าดอกเบีย
3 : ค่าประกัน
4 : ค่านํ า
ข ้อที 26 :
โรงไฟฟ้ าแห่งหนึงมีคา่ Maximum demand 80 MW Load factor 40% จงคํานวณหาปริมาณ
ั
พลังงานไฟฟ้ าทีผลิตได ้ใน 1 ปี ถ ้าให ้โรงไฟฟ้ าทํางานปี ละ 8,760 ชวโมง
1 : 280 ล ้าน kWh/ปี
ธิ
สท
ิ
งวน
ข ้อที 27 :
โดยทัวไป อัตราค่าพลังงานไฟฟ้ าจะสะท ้อนค่าใชจ่้ ายประเภทใด
1 : Fixed Costs
ส
2 : Variable Costs
3 : Operating Costs
ขอ
อ
4 : เงินลงทุนสร ้างโรงไฟฟ้ า
ข
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 28 :
่ งสอน มีขนาด 2 MW จ่ายไฟให ้ผู ้ใชโดยมี
โรงไฟฟ้ าเครืองยนต์ดเี ซลทีแม่ฮอ ้ Maximum demand
1.4 MW และ Load factor 40% ถ ้าเงินลงทุนติดตังโรงไฟฟ้ า = 44 ล ้านบาท ค่าใชจ่้ ายในการ
ื
เดินเครือง รวมเชอเพลิ งและค่าซอ่ มบํารุง 4.2 ล ้านบาท/ปี และค่าเสอมราคา
ื 10% ต่อปี ของเงิน
สภ
ั
ลงทุน โรงไฟฟ้ าทํางานปี ละ 8,600 ชวโมง จงคํานวณหาต ้นทุนค่าไฟฟ้ าเป็ น บาท/kWh
1 : 1.13 บาท/kWh
2 : 1.44 บาท/kWh
3 : 1.79 บาท/kWh
4 : 2.12 บาท/kWh
ข ้อที 29 :
โรงไฟฟ้ าถ่านหินแห่งหนึง มี Capacity 60 MW ค่า Maximum load 50 MW โดยมี Load factor
60% จากการตรวจสอบ ได ้ว่า ต่อ 1 kWh ไฟฟ้ าทีผลิตได ้ใชถ่้ านหิน 1 kg เมือราคาถ่านหิน 2,000
บาท/ตัน สว่ นค่าใชจ่้ ายอืนปี ละ 80 ล ้านบาท ถ ้าหากขายไฟฟ้ าได ้ kWh ละ 2.5 บาท ผลต่าง
ั
ระหว่างค่าไฟฟ้ าขาย และต ้นทุน มีคา่ เท่าไร เมือให ้โรงไฟฟ้ าทํางานปี ละ 8,700 ชวโมง
1 : 0.12 บาท/kWh
2 : 0.19 บาท/kWh
3 : 0.58 บาท/kWh
4 : 0.87 บาท/kWh
ข ้อที 30 :
โรงไฟฟ้ าแห่งหนึงซอ ื Condenser ใหม่มาใชงาน ้ ึ ราคา 7.5 ล ้านบาท โดยคาดว่ามีอายุการใช ้
ซงมี
่ มบํารุงรักษาคิดเป็ นเงินปี ละ 1 แสนบาท สว่ นค่าเสอมราคา
งาน 10 ปี ถ ้าค่าซอ ื และค่าดอกเบีย มี
อัตรา 10% ของเงินลงทุน จงหาค่าใชจ่้ ายต่อปี
1 : 0.85 ล ้านบาท
2 : 0.75 ล ้านบาท
3 : 0.65 ล ้านบาท
4 : 0.55 ล ้านบาท
ธิ
สท
ข ้อที 31 :
ิ
โรงไฟฟ้ าแห่งหนึงเดินเครืองโดยมี Load factor 70% Capacity factor 50% Plant use factor
60% และค่า Maximum demand 20 MW โดยทํางานปี ละ 8,600 ชวโมง ั ถ ้าขายไฟได ้ kWh ละ
วน
1.80 บาท จงหารายได ้จากการขายไฟในแต่ละปี

1 : 217 ล ้านบาท
สง
2 : 341 ล ้านบาท
3 : 310 ล ้านบาท
ขอ
อ
4 : 154 ล ้านบาท
ข
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 32 :
ระบบผลิตไฟฟ้ าอาศย ั ความร ้อนแห่งหนึง มีขนาด 30 MW โดยมีประสทิ ธิภาพระบบ 24% ถ ้า
ถ่านหินทีใชมี้ คา่ ความร ้อน 28 MJ/kg และ Load factor 27% จงหาอัตราการใชเช ้ อเพลิ
ื งเป็ น kg
ต่อ 1 kWh ไฟฟ้ าทีผลิตได ้ สมมุตใิ ห ้ Maximum demand = ค่าพิกดั โรงไฟฟ้ า
สภ
1 : 0.87 kg/kWh
2 : 1.2 kg/kWh
3 : 0.54 kg/kWh
4 : 1 kg/kWh
ข ้อที 33 :
ระบบ Transmission และ Distribution ของโรงไฟฟ้ าแห่งหนึง มีราคาติดตังรวมทังหมด 4 ล ้าน
ื
บาท โดยมีคา่ ดอกเบีย ค่าประกัน ค่าเสอมราคา และภาษี 8% ของราคาติดตัง สําหรับค่าซอ
่ มบํารุง
มีคา่ ใชจ่้ าย 4 แสนบาท/ปี จงคํานวณหาค่าใชจ่้ ายต่อปี สําหรับระบบ Transmission และ
Distribution ข ้างต ้น
1 : 0.72 ล ้านบาท
2 : 0.48 ล ้านบาท
3 : 0.60 ล ้านบาท
4 : 0.84 ล ้านบาท
ข ้อที 34 :
Power plant แห่งหนึงมีขนาด 20 MW ราคาติดตังรวมทังหมด 25,000 บาท/kW ค่าใชจ่้ ายคงที
ในแต่ละปี คด ิ เป็ น 13% ของเงินลงทุน และเมือเดินเครืองที Full load ค่าใชจ่้ ายแปรผันในแต่ละปี
มีคา่ เป็ น 1.5 เท่าของค่าใชจ่้ ายคงที ถ ้าสมมุตใิ ห ้โรงไฟฟ้ าเดินเครืองทํางานที Full load ตลอด จง
คํานวณหาต ้นทุนค่าไฟฟ้ าเป็ น บาท/kWh เมือโรงไฟฟ้ าทํางาน 8,760 ชวโมงต่ ั อปี
1 : 1.13 บาท/kWh
2 : 1.89 บาท/kWh
3 : 0.93 บาท/kWh
4 : 0.81 บาท/kWh
ธิ
สท
ข ้อที 35 :
ิ
ในการออกแบบโรงไฟฟ้ า โดยทัวไปมักมีวต
ั ถุประสงค์เพือ
วน
1: ให ้ได ้โรงไฟฟ้ าทีมีประสทิ ธิภาพสูง

2: ให ้ได ้เครืองมือ อุปกรณ์ สภาวะการเดินเครือง และการควบคุม เพือให ้ได ้ต ้นทุนค่าไฟฟ้ าตํา
สุด
สง
3: ิ ธิภาพสูง ราคาไม่แพง
ให ้ได ้โรงไฟฟ้ าทีมีประสท
4: ให ้ได ้โรงไฟฟ้ าทีมีประสทิ ธิภาพสูง และปลดปล่อยมลพิษน ้อยสุด
ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 36 :
าวศ
ค่าใชจ่้ ายในการก่อสร ้างโรงไฟฟ้ า จะนํ ามาคิดเป็ น Annual cost หรือ Operating cost ประจําปี ได ้
ทังหมดหรือไม่ อย่างไร
1 : นํ ามาคิดทังหมด
สภ
2 : นํ ามาคิดเฉพาะค่าภาษี
3 : นํ ามาคิดเฉพาะค่าควบคุมงาน
4 : ื
นํ ามาคิดเฉพาะค่าเสอมราคา
ข ้อที 37 :
ค่าบริหารจัดการโรงไฟฟ้ า (Management cost) เป็ นค่าใชจ่้ ายสว่ นหนึงใน Annual cost หรือ
Operating cost ประจําปี โดยมากจะจัดค่าใชจ่้ ายสว่ นนีอยูใ่ นประเภท
1 : Fixed costs
2 : Variable cost
3 : Electricity cost
4 : Housekeeping cost
ข ้อที 38 :
้ นลงทุนก่อสร ้างสูง แต่คา่ ใชจ่้ ายในการเดินเครืองทํางานตํา
โรงไฟฟ้ าประเภทใดทีต ้องใชเงิ
4 : ั ดาปภายใน
โรงไฟฟ้ าเครืองยนต์สน
ข ้อที 39 :
โรงไฟฟ้ าประเภทใดต่อไปนี ทีมีต ้นทุนต่อหน่วยไฟฟ้ าทีผลิตได ้ตําสุด
1 : โรงไฟฟ้ าจากแกลบ
2 : โรงไฟฟ้ าจากกากอ ้อย
3 : โรงไฟฟ้ าใชก๊้ าซชวี มวลจากมูลสต
ั ว์
ธิ
4 : โรงไฟฟ้ าเซลแสงอาทิตย์
สท
ิ
วน
เนือหาวิชา : 417 : 3 Fuel & Combustions

สง
ขอ
ข อ
ข ้อที 40 :
้
เงือนไขการเขียนสมการเผาไหม ้ คือ ข ้างซายและข ้างขวาของสมการ จะต ้อง
กร
1 : มีมวลเท่ากัน
2 : มีปริมาตรเท่ากัน
ิ ว
3 : มีจํานวนโมลเท่ากัน
าวศ
4 : ถูกทัง 3 ข ้อ
สภ
ข ้อที 41 :
การวิเคราะห์องค์ประกอบของถ่านหินแบบ Proximate คือ
1 : ็ ต์สด
การหาเปอร์เซน ั สว่ นเชงิ มวลของธาตุแต่ละชนิดในถ่านหิน
2 : การหาเปอร์เซน็ ต์สด ั สว่ นเชงิ มวลขององค์ประกอบเฉพาะตัวทีสําคัญ 4 ตัว
3 : การหาเปอร์เซน ็ ต์สด ั สว่ นเชงิ มวลของธาตุแต่ละชนิดทีเป็ นองค์ประกอบ โดยไม่รวมความชน
ื
4 : การหาเปอร์เซน ็ ต์สด ั สว่ นเชงิ มวลขององค์ประกอบเฉพาะตัวทีสําคัญ โดยไม่รวมความชนื
ข ้อที 42 :
ื
ขีเถ ้า (Ash) ในเชอเพลิ
ง คือ
1 : สารประกอบทีเกิดจากปฏิกริ ย
ิ าการเผาไหม ้
2 : ื
องค์ประกอบของเชอเพลิ งทีไม่เผาไหม ้
3 : คาร์บอนทีเหลือจากการเผาไหม ้
4 : ื
สารประกอบในเชอเพลิ งทีเผาไหม ้ไม่หมด
ข ้อที 43 :
1 : 20 : 80
2 : 23.2 : 76.8
3 : 24.2 : 25.8
4 : 21 : 79
ธิ
สท
ข ้อที 44 :
ิ
ข ้อไหนเป็ นความหมายของอัตราสว่ นอากาศ (Air Ratio)

วน
1 : ็ ต์อากาศสว่ นเกินทีเข ้าเผาไหม ้

เปอร์เซน
2 : ้
ปริมาณอากาศทีใชเผาไหม ้ คิดเทียบเป็ นจํานวนเท่าของอากาศทฤษฎี
สง
3 : ปริมาณอากาศทีใชเผาไหม้ ื
้ต่อกิโลกรัมเชอเพลิ ง
4 : ปริมาณอากาศทีใชเผาไหม ้ ื
้ต่อ 1 ลูกบาศก์เมตรเชอเพลิ
ง
ขอ
อ
ข
กร
ข ้อที 45 :
ิ ว
ี เกิดจาก
ไอนํ าในไอเสย
าวศ
1 : ื
ความชนในอากาศที เข ้าเผาไหม ้
2 : ความชนในเช ื ื
อเพลิ ง
3 : นํ าทีเกิดจากปฏิกริ ย
ิ าการเผาไหม ้
สภ
ข ้อที 46 :
ื
Free Hydrogen ในเชอเพลิ
ง คือ
ั สว่ นโดยมวลของไฮโดรเจนในเชอเพลิ
1 : สด ื ง
2:
3 : ไฮโดรเจนทีเหลือจากการเผาไหม ้
4:
ข ้อที 47 :
เมือ h และ o เป็ นค่าร ้อยละเชงิ มวลของ H กับ O ในเชอเพลิ
ื ง ค่า Free Hydrogen คือ
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 48 :
ี หาได ้จาก
ค่า Enthalpy ของไอนํ าในไอเสย
ธิ
1 : ค่าอุณหภูมแ ิ ละความดันของไอเสย ี
สท
2 : อุณหภูมแ ิ ละความดันอิมตัวของไอนํ าในไอเสย ี

3 : อุณหภูมแ ี
ิ ละความดันย่อย (Partial Pressure) ของไอนํ าในไอเสย
ิ
4 : ไม่มขี ้อใดถูก
วน
สง
ขอ
ข อ
ข ้อที 49 :
ี มีอณ
ปกติจะระวังไม่ให ้ไอเสย ุ หภูมต
ิ ํากว่าค่าหนึง ค่าดังกล่าวขึนอยูก
่ บ
ั
กร
1 : ความดันของไอเสย ี
2 : ปริมาณไอนํ าในไอเสย ี
ิ ว
3 : อุณหภูมก ิ ารเผาไหม ้
าวศ
4 : ี
อุณหภูม ิ จุดนํ าค ้างของไอกรดในไอเสย
สภ
ข ้อที 50 :
1 : 10.7
2 : 10.9
3 : 11.1
4 : 15.67
ข ้อที 51 :
ในการเผาไหม ้ทีไม่มก ั ย์ ไม่ม ี
ี ารถ่ายเทความร ้อน และงานเข ้า-ออกระบบ และพลังงานจลน์และศก
การเปลียนแปลง อุณหภูมก ิ ารเผาไหม ้ทีได ้ คือ
1 : Maximum Theoretical Flame Temperature
2 : Adiabatic Flame Temperature
3 : Theoretical Flame Temperature
4 : Average Flame Temperature
ข ้อที 52 :
1 : 3.4 kg/kgmol
ธิ
2 : 41 kg/kgmol
สท
3 : 71 kg/kgmol
4 : 20 kg/kgmol
ิ
งวน
ส
ข ้อที 53 :
ขอ
อ
ื
ในการเผาไหม ้ก๊าซเชอเพลิ
งทีได ้จากการหมักมูลสุกรในเตาหม ้อไอนํ า ปั จจัยอะไรทีสมควร
ข
ระมัดระวัง ควบคุม
กร
1:
ิ ว
2:
าวศ
3:
4:
สภ
ข ้อที 54 :
ื
ในการเผาไหม ้เชอเพลิ ี ทีมีคา่ มากทีสุด คือ
งในหม ้อไอนํ า ความร ้อนสูญเสย
1 : ความร ้อนทีสูญเสย ี โดยการแผ่รังสจ
ี ากผิวผนังหม ้อไอนํ า
2 : ความร ้อนสูญเสยี ไปกับไอเสย ี
3 : ี
ความร ้อนสูญเสย เนืองจากการเกิด CO
4 : ความร ้อนสูญเสย ี เนืองจากความชนในเช
ื ื
อเพลิง
ข ้อที 55 :
ื
ในการเผาไหม ้เชอเพลิ ิ เห็นเป็ นควันขาวไหลออกปล่อง คือ
งในเตา สงที
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 56 :
ี ออกปล่อง โดยวิธธ
อัตราการระบายไอเสย ี รรมชาติ (Natural Draught) ขึนกับ
1 : ขนาดของพัดลมเป่ า/ดูด
2 : ความดันของก๊าซไอเสยี ในเตา
3 : ี
อุณหภูมไิ อเสย
4 : ี กับอากาศแวดล ้อม
ความแตกต่างระหว่างความหนาแน่นของก๊าซไอเสย
ธิ
สท
ิ
งวน
ข ้อที 57 :
นํ ามันชนิดหนึง มีองค์ประกอบรายธาตุคดิ เป็ นร ้อยละเชงิ มวลได ้ดังนี C = 84%, H = 10%, S =
3.2%, O = 1.6% ทีเหลือเป็ นขีเถ ้า อากาศทฤษฎี มีคา่ เท่าใด
ส
ื
1 : 12.8 kg/kg เชอเพลิ
ง
ขอ
อ
ื
2 : 15.1 kg/kg เชอเพลิ ง
ข
ื
ื
กร
ิ ว
ข ้อที 58 :าวศ
สภ
1 : 4.7%
2 : 11.1%
3 : 14.5%
4 : 17.8%
ข ้อที 59 :
1 : 15.1 %
2 : 14.8 %
3 : 13.2 %
4 : 11.2 %
ข ้อที 60 :
1 : 16.4 kg/kg mol

ธิ
2 : 28.0 kg/kg mol

สท
3 : 24 kg/kg mol
4 : 24.8 kg/kg mol
ิ
งวน
ส
ข ้อที 61 :
ขอ
อ
้ มาณอากาศสว่ นเกิน เพิมจาก 10% เป็ น 30%
ในการเผาไหม ้นํ ามันเตาในหม ้อไอนํ า ถ ้าใชปริ
ข
ี จะ
อุณหภูมไิ อเสย
กร
1 : เพิมขึน
2 : เท่าเดิม
3 : ลดลง
ิ ว
4 : อาจเป็ นไปได ้ทุกข ้อ
าวศ
สภ
ข ้อที 62 :
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 63 :
ื
ในการเผาไหม ้เชอเพลิ
งแข็ง ขีเถ ้าทีหลงเหลือจากการเผาไหม ้มักมีธาตุผสมอยูด
่ ้วย ธาตุนคื
ี อ
1 : C ทีเผาไหม ้ไม่หมด
2 : S ทีไม่เผาไหม ้
3 : Si ทีแยกตัวออกจากขีเถ ้า
4 : Mn ทีไม่เผาไหม ้
ข ้อที 64 :
ทําไมอุณหภูมจ
ิ ด ี (Flue Gases) จึงมีความสําคัญต่อ
ุ นํ าค ้าง (Dew Point Temperature) ในไอเสย
การทํางานของหม ้อไอนํ า
1 : เพราะเป็ นตัวกําหนดปริมาณไอนํ าในไอเสย ี
2 : ี
เพราะเป็ นตัวกําหนดว่าไอเสยทีเกิดขึนจะลอยตัวไหลออกปล่องได ้ดีหรือไม่
3 : เพราะเป็ นตัวกําหนดกําลังทีใชขั้ บพัดลมระบายไอเสย ี ให ้ไหลออกปล่องอย่างมีประสท
ิ ธิภาพ
4 : ี
เพราะเป็ นตัวกําหนดอุณหภูมไิ อเสยตําสุดเพือไม่ให ้เกิดฝนกรดในปล่อง
ธิ
สท
ิ
งวน
ข ้อที 65 :
ื
โดยทัวไปการซอ-ขายก๊
าซธรรมชาติ จะกระทําในหน่วยของ
1 : บาท/ลิตร
ส
2 : บาท/ลูกบาศก์เมตร์
3 : บาท/kg
ขอ
อ
4 : บาท/ล ้าน Btu
ข
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 66 :
ื
เชอเพลิ ่ นิดหนึงทีไม่ใชเ่ ชอเพลิ
งต่อไปนี มีอยูช ื งชวี มวล (Biomass) โปรดระบุ
1 : ไม ้ฟื น
ั ว์
สภ
2 : มูลสต
3 : ก๊าซชวี ภาพจากนํ าเสย
ี
4 : ถ่านโค ้ก
ข ้อที 67 :
ื
ไฮโดรเจนอิสระ (Free Hydrogen) ในเชอเพลิ
ง หมายถึง
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 68 :
1 : 50%
2 : 25%
3 : 40%
4 : 60%
ข ้อที 69 :
ธิ
เราสามารถกําจัด Volatile Matters จากถ่านหินได ้โดย

สท
1 : การล ้างด ้วยนํ า

ิ
2 : บดถ่านหินให ้มีขนาดเล็กลง
งวน
3 : การอัดให ้แน่นภายใต ้ความกดดัน

4 : การให ้ความร ้อน
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 70 :
ปั จจัยอะไร ทีไม่ชว่ ยสง่ เสริมการเผาไหม ้ทีดี
กร
1 : ื
Turbulent Mixing ระหว่างเชอเพลิ งกับอากาศ
2 : ื
เชอเพลิงและอากาศมีอณ ุ หภูมส ิ งู
ิ ว
3 : ใช ้ Flue Gas Recirculation สูงกว่า 20%
าวศ
4 : การเผาไหม ้ทีมีอากาศป้ อนเข ้าหลายทิศทาง
สภ
ข ้อที 71 :
การเผาไหม ้ถ่านหินในเตาหม ้อไอนํ า เตาชนิดใดทีใชถ่้ านหินบดขนาดเล็กสุด
1 : Fluidized Bed
2 : Cyclone
3 : Pulverized Coal
4 : Travelling Grate Stoker
ข ้อที 72 :
ข ้อได ้เปรียบของการใช ้ Pulverized Coal Combustion คือ
1 : ใชกั้ บถ่านหินได ้หลายชนิด
2 : ้
ใชอากาศส ว่ นเกินน ้อยลง
3 : ตอบสนองต่อการเปลียนแปลงค่า Load ได ้รวดเร็ว
ข ้อที 73 :
การติดไฟได ้เอง มักจะเกิดกับถ่านหินชนิดใด
1 : Anthracite
2 : Bituminous
3 : Sub-bituminous
4 : Lignite และ Sub-bituminous
ธิ
ข ้อที 74 :
สท
ึ นก๊าซเชอเพลิ
Coke-oven Gas ซงเป็ ื งชนิดหนึง ประกอบด ้วยก๊าซเหล่านีเป็ นสว่ นใหญ่
ิ
1:
งวน
2:
3:
ส
4:
ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 75 :
าวศ
ความร ้อนโดยประมาณของกากอ ้อย
1 : 10 MJ/kg
2 : 15 MJ/kg
สภ
3 : 20 MJ/kg
4 : 25 MJ/kg
ข ้อที 76 :
ื
Water Gas เป็ นก๊าซเชอเพลิ ึ
งชนิดหนึง ซงประกอบด ้วย
1:
2:
3:
4:
เนือหาวิชา : 418 : 4 Rankine Cycle Power Plant
ข ้อที 77 :
้ นฐานทาง Thermodynamic Cycle ใดในการคํานวณ Load,
โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนใชพื
Efficiency etc.
1 : Rankine Cycle
2 : Carnot Cycle
3 : Brayton Cycle
4 : Otto Cycle
ธิ
ข ้อที 78 :
ี ส และมีความดัน 100 kPa เรียกว่าอะไร
นํ าทีอุณหภูม ิ 30 องศาเซลเซย
สท
1 : Subcooled Water
ิ
2 : Saturated Water
งวน
3 : Saturated Steam
4 : Superheated Steam
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 79 :
ค่าใดทีหาไม่ได ้โดยตรงจาก T-S Diagram
กร
1 : Specific Volume
2 : Temperature
ิ ว
3 : Mass
าวศ
4 : Pressure
สภ
ข ้อที 80 :
นํ าจะเดือดทีความดันสูง หรือ ตํา เร็วกว่ากัน
1 : พร ้อมกัน
2 : ความดันสูง
3 : ความดันตํา
4 : ขึนอยูก
่ บ
ั มวลของนํ าอย่างเดียว
ข ้อที 81 :
กฎข ้อใดของ Thermodynamics ทีว่า ถ ้าอุณหภูม ิ จุด A เท่ากับ จุด B, และ อุณหภูม ิ จุด B
เท่ากับ จุด C แล ้ว ดังนัน อุณหภูม ิ จุด A จะเท่ากับ จุด C
1 : กฎข ้อที 0
ข ้อที 82 :
Thermal Power Plant ชว่ งใดใน Steam-Water Cycle ทีมีประสท
ิ ธิภาพตําสุด
1 : Boiler
2 : Turbine
3 : Condenser
4 : Pump
ธิ
สท
ข ้อที 83 :
จาก Steam-Water Cycle ชว่ งที Steam เข ้าสู่ Turbine แล ้วออกสู่ Condenser ตามทฤษฎี เราจะ
ิ
็ ต์
ยอมให ้มีเม็ดนํ า (Moisture) ได ้ประมาณกีเปอร์เซน
งวน
1 : 5%
2 : 8%
3 : 15 %
ส
4 : 20 %
ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 84 :
าวศ
ในชว่ งนํ าเปลียนสถานะจากนํ าเป็ นไอ มีคณ
ุ สมบัตใิ ดทีไม่เปลียนแปลง
1 : Enthalpy
2 : Temperature
สภ
3 : Specific Volume
4 : Entropy
ข ้อที 85 :
Specific Entropy มีหน่วยอย่างไร
1 : KJ / Kg
2 : KJ / Kg .K
3 : KJ / K
4 : KJ / Kg . s
ข ้อที 86 :
เราจะใชวิ้ ธก
ี ารใด เพือทีจะทําให ้ Steam ทีจะออกจาก Turbine มี Moisture Content ตํา
1 : Air-Preheat
2 : Reheat
3 : Regenerative
4 : High-Vacuum
ข ้อที 87 :
ในหม ้อไอนํ า (Boiler) มีการถ่ายเทความร ้อน (Heat Transfer)แบบไหนบ ้าง
1 : การแผ่รังส ี การพาความร ้อน
2 : การแผ่รังส ี การนํ าความร ้อน
3 : การนํ าความร ้อน การพาความร ้อน
4 : การแผ่รังส ี การนํ าความร ้อน การพาความร ้อน
ธิ
สท
ิ
งวน
ข ้อที 88 :
จุดวิกฤต (Critical Point) คืออะไร
1 : จุดทีนํ าไม่สามารถเปลียนสถานะเป็ นไอนํ าได ้
ส
2 : จุดทีไอนํ ามีอณ
ุ หภูมสิ งู สุด
3 : จุดทีไอนํ าและนํ ามีความหนาแน่นเท่ากัน
ขอ
อ
4 : จุดทีไอนํ าอิมตัว
ข
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 89 :
การเปลียนสถานะของนํ า 1 kg ทีอุณหภูม ิ 374.15 C และความดัน 221.2 bar ให ้กลายเป็ นไอ
นํ า(Steam) จะต ้องเพิมความร ้อนแฝง (Latent Heat) เท่าไร
สภ
1 : 0 kJ/kg
2 : 56 kJ/kg
3 : 206 kJ/kg
4 : 396 kJ/kg
ข ้อที 90 :
วันซ-ทรูน์ บอยเลอร์ (Once-Through Boiler) เป็ นหม ้อไอนํ าทีมีการไหลเวียนของนํ าแบบใด
1 : แบบบังคับให ้มีการไหลเวียน
2 : แบบควบคุมการไหลเวียนตลอดเวลา
3 : แบบไม่มกี ารไหลเวียนกลับ
4 : แบบการไหลเวียนแบบธรรมชาติ
ข ้อที 91 :
ความดันภายในเตา (Furnace) ของหม ้อไอนํ ามีคา่ เป็ นแบบใดได ้บ ้าง
1 : แบบความดันภายในเตาสูงกว่าบรรยากาศ และเท่ากับบรรยากาศ
2 : แบบความดันภายในเตาสูงกว่าบรรยากาศ และตํากว่าบรรยากาศ
3 : แบบความดันภายในเตาตํากว่าบรรยากาศ และเท่ากับบรรยากาศ
4 : แบบความดันภายในเตาสูงกว่าบรรยากาศ เท่ากับบรรยากาศ และตํากว่าบรรยากาศ
ข ้อที 92 :
ถ ้าเราต ้องการลดภาระสูงสุด (Full Load)ของหม ้อไอนํ า ให ้เหลือ 20% โดยไม่ต ้องดับหัวเผา
(Burner) ควรใช ้ หัวเผาทีมีเทิรนดาวท์ เรโช (Turn-Down Ratio) เท่าไร
1 : 5:1
2 : 4:1
ธิ
3 : 3:1
สท
4 : 2:1
ิ
วน
สง
ข ้อที 93 :
ขอ
อ
การขจัดขีเถ ้าแห ้ง (Dry Ash) ทีจับอยูท ี วภายนอกท่อผนังเตา (Water Wall Tube) นัน ปกติใช ้
่ ผิ
ข
อุปกรณ์ใด
กร
1 : รีแทรคเทเบิล ซูทโบลเวอร์ (Retractable Soot Blower)
2 : ลอง ซูทโบลเวอร์ (Long Soot Blower)
3 : ซอต้ ซูทโบลเวอร์ (Short Soot Blower)
ิ ว
4 : โรเตอรี ซูทโบลเวอร์ (Rotary Soot Blower)
าวศ
สภ
ข ้อที 94 :
ถ ้าป้ อนนํ าทีมีอณ ั
ุ หภูม ิ 80 C เข ้าหม ้อไอนํ าด ้วยอัตรา 45 ตัน/ชวโมง ้ อเพลิ
โดยใชเช ื งทีมีคา่ ความ
ร ้อน 20 MJ/kg ด ้วยอัตรา 8 ตัน/ชวโมง ั ทําให ้สามารถผลิตไอนํ าได ้ ตามอัตราข ้างต ้นทีความดัน
165 bar 500 C หม ้อไอนํ านีมีประสท ิ ธิภาพเท่าไร
1 : 89.7 %
2 : 83.1 %
3 : 87.5 %
4 : 86.4 %
ข ้อที 95 :
้
กังหันไอนํ า (Steam Turbine) แบบแรงดันตํา (Low Pressure Turbine) นันใชใบพั ด (Blade)
ชนิดใด
1 : อิมแพค เทอร์ไบน์ (Impact Turbine)
2 : อิมพัลส เทอร์ไบน์ (Impulse Turbine)
3 : แอคชน ั เทอร์ไบน์ (Action Turbine)
4 : รีแอคชนั เทอร์ไบน์ (Reaction Turbine)
ข ้อที 96 :
ขณะทีไอนํ าไหลผ่านใบพัด (Blade) ของกังหันไอนํ า (Steam Turbine) ความดันไอนํ ามีคา่ ลดลง
้
แบบขันบันไดจากแถว (Stage) แรก จนถึงแถวสุดท ้าย กังหันนันใชใบพั ด (Blade) ชนิดใด
1 : อิมแพค เทอร์ไบน์ (Impact Turbine)
2 : อิมพัลส เทอร์ไบน์ (Impulse Turbine)
3 : แอคชน ั เทอร์ไบน์ (Action Turbine)
4 : รีแอคชนั เทอร์ไบน์ (Reaction Turbine)
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 97 :
งวน
้
กังหันไอนํ า (Steam Turbine) แบบแรงดันสูง (High Pressure Turbine) นันใชใบพั ด (Blade)
ชนิดใด
1 : อิมแพค เทอร์ไบน์ (Impact Turbine) กับ แอคชน ั เทอร์ไบน์ (Action Turbine)
ส
2 : อิมพัลส เทอร์ไบน์ (Impulse Turbine) กับ รีแอคชน ั เทอร์ไบน์ (Reaction Turbine)

3 : แอคชน ั เทอร์ไบน์ (Action Turbine) กับ อิมพัลส เทอร์ไบน์ (Impulse Turbine)
ขอ
อ
ั เทอร์ไบน์ (Reaction Turbine) กับ แอคชน
4 : รีแอคชน ั เทอร์ไบน์ (Action Turbine)
ข
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 98 :
ั ความดันแตกต่างหรือความดัน
วีธใี ดทีทําให ้เกิดสมดุล (Balance) ในแนวแกนของกังหันโดยอาศย
ทีกระทําบนพืนทีทีแตกต่างกัน
1 : ใช ้ ทรัสแบริง (Thrust Bearing)
สภ
2 : ใช ้ เจอร์นัล แบริง (Journal Bearing)
3 : ใช ้ ดัมมี พีสตัน (Dummy Piston)
4 : ใช ้ กังหันแรงดันสูง (H. P. Turbine) และ กังหันแรงดันปานกลาง (I. P. Turbine) ประกอบ
อยูบ
่ นเพลาเดียวกัน
ข ้อที 99 :
เครืองควบแน่น (Condenser) ในข ้อใดทีชว่ ยให ้โรงไฟฟ้ าพลังไอนํ ามีประสท
ิ ธิภาพดีทสุ
ี ด
1 : ในเครืองควบแน่นมีความดันเท่าบรรยากาศ
2 : ในเครืองควบแน่นมีความดันมากกว่าบรรยากาศ
3 : ในเครืองควบแน่นมีความดันน ้อยกว่าบรรยากาศ
4 : ในเครืองควบแน่นมีความดันมากกว่าหรือเท่ากับบรรยากาศ
ข ้อที 100 :
การระบายความร ้อนจากนํ าหล่อเย็นทีไหลออกจากของเครืองควบแน่น (Condenser) แบบปิ ด วิธ ี
การแบบใดมีประสท ิ ธิภาพมากทีสุด
1 : หอระบายความร ้อนแบบเปี ยก (Wet-Cooling Tower)
2 : สระพ่นนํ า (Spray Pond)
3 : คลองพ่นนํ า (Spray Canal)
4 : ทะเลสาบเย็น (Cooling Lake)
ข ้อที 101 :
เครืองอุน่ นํ าป้ อนแบบเปิ ด (Open Feed Water Heater) ทําหน ้าทีอะไร
1 : เพิมความร ้อนให ้นํ าก่อนสง่ ไปยังเครืองอุน
่ นํ าแรงดันตํา (L.P. Heater)
ธิ
2 : เพิมความร ้อนให ้นํ าและแยกแกสออกก่อนสง่ ไปยังเครืองอุน ่ นํ าแรงดันตํา (L.P. Heater)

สท
3 : เพิมความร ้อนให ้นํ าก่อนสง่ ไปยังเครืองอุน่ นํ าแรงดันตํา (L.P. Heater)

4 : เพิมความร ้อนให ้นํ าป้ อน, แยกแกสออกจากนํ าก่อนสง่ ไปยังปั มป้ อนหม ้อไอนํ า (Boiler
ิ
Feed Water Pump)

งวน
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 102 :
การสูญเสย ี ความร ้อนของไอนํ ามากทีสุดเกิด ณ ทีใด ในโรงไฟฟ้ าพลังไอนํ า
กร
1 : กังหันแรงดันสูง (H. P. Turbine)
2 : กังหันแรงดันปานกลาง (I. P. Turbine)
ิ ว
3 : กังหันแรงดันตํา (L. P. Turbine)
าวศ
4 : เครืองควบแน่น (Condenser)
สภ
ข ้อที 103 :
ี เร็ท (Heat Rate) 8,440 kJ ต่อ กิโลวัตต์ชวโมง
โรงไฟฟ้ าพลังไอนํ าแห่งหนึง มี ฮท ั โรงไฟฟ้ านีมี
ิ
ประสทธิภาพเท่าไร
1 : 40.5 %
2 : 42.6 %
3 : 48.5 %
4 : 50.5 %
ข ้อที 104 :
ข ้อใดไม่ใชก่ ารถ่ายเทความร ้อนในโรงไฟฟ้ าพลังความร ้อน
1 : Convection
2 : Conduction
3 : Connection
4 : Radiation
ข ้อที 105 :
ใน Heat Exchangers มีการถ่ายเทความร ้อนลักษณะใด
1 : การนํ าความร ้อนและการพาความร ้อน
2 : การนํ าความร ้อน และการแผ่รังสคี วามร ้อน
3 : การพาความร ้อน และการแผ่รังสค ี วามร ้อน
4 : การนํ าความร ้อน เพียงอย่างเดียว
ธิ
สท
ข ้อที 106 :
สว่ นประกอบทีสําคัญทีสุดใน Steam Cycle มีผลกระทบต่อ ค่า Heat Rate และชว่ ยให ้ไอนํ าทีออก
ิ
จาก Turbine ควบแน่นคืออุปกรณ์ชนิดใด

งวน
1 : Condensate
2 : Condenser
3 : Feed Water Heater
ส
4 : Deaerator
ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 107 :
าวศ
อุปกรณ์ทส ี ําคัญอย่างหนึงใน Steam Power Plant ทีชว่ ยเพิมประสท
ิ ธิภาพ, ความสามารถ, ความ
มันคง และกําจัดออกซเิ จน คือ
1 : Condensate
สภ
2 : Condenser
3 : Feed Water Heater
4 : Deaerator
ข ้อที 108 :
การถ่ายความร ้อนใน Condenser เป็ นการถ่ายเทความร ้อนแบบใด
1 : Convection
2 : Conduction
3 : Connection
4 : Radiation
ข ้อที 109 :
Heat Rate ของโรงไฟฟ้ าจะเปลียนแปลงอย่างไร ถ ้า Condenser Pressure สูงเกินกว่าค่าที
ออกแบบไว ้ 25 ม.ม.ปรอท
1 : Heat Rate เพิมขึน
2 : Heat Rate ลดลง
3 : Heat Rate ไม่เปลียนแปลง
4 : การเปลียนแปลงของ Heat Rate ไม่แน่นอน อาจจะเพิมขึนหรือลดลงก็ได ้
ข ้อที 110 :
้
การระบายความร ้อนออกจาก Condenser ในระบบของโรงไฟฟ้ าพลังไอนํ ามักใชอะไรเป็ นตัว
ระบายความร ้อน
1 : อากาศ
2 : นํ า
ธิ
3 : อากาศ และนํ า
สท
4 : เครืองทําความเย็น
ิ
งวน
ข ้อที 111 :
ส
อุปกรณ์ชนิดใดทีทําหน ้าทีดูดอากาศ และก๊าซทีไม่ควบแน่นออกจาก Condenser

ขอ
อ
1 : Centrifugal Pump
ข
2 : Gear pump
3 : Screw Pump
กร
4 : Vacuum (Liquid Ring) Pump
ิ ว
ข ้อที 112 :
าวศ
สภ
ข ้อใดไม่ใชอ่ งค์ประกอบทีมีผลกระทบกับ Heat Rate และ Reliability ของโรงไฟฟ้ า
1 : อากาศรัวเข ้าไปใน Condenser
2 : อัตราการการไหลของ Circulating Water ลดลง
3 : อัตราการการไหลของ Circulating Water เพิมขึน
4 : ท่อของ Condenser เกิด Fouling
ข ้อที 113 :
Valve ชนิดใดสามารถควบคุมอัตราการไหลได ้ดีทสุ
ี ด
1 : Butterfly Valve
2 : Globe Valve
3 : Ball Valve
4 : Plug Valve
ข ้อที 114 :
้
Gate Valve (เกทวาล์ว) ทุกตัวออกแบบมาเพือการใชงานในเป็ น
1 : Valve ตัดตอน (Isotating Valve)
2 : Valve ควบคุม (Control Valve)
3 : Valve กันกลับ (Check Valve)
4 : Valve ควบคุมความดันสูงสุด (Maximum Pressure Control Valve)
ข ้อที 115 :
Safety Valve (เซฟตีวาล์ว) มีลก
ั ษณะการทํางานอย่างไร
1 : เปิ ดทีค่าความดันสูงกว่าค่าทีกําหนด
ธิ
2 : เปิ ดตามสด ั สว่ นของค่าความดันทีสูงขึน

สท
3 : เปิ ดแบบทันทีทน ั ใด (Pop Action) เมือความดันขึนถึงค่าความดันทีกําหนด (Set Pressure)

ิ
4 : ปิ ดทีค่าความดันทีกําหนด (Set Pressure)

งวน
ส
ข ้อที 116 :
ขอ
อ
Safety Valve (เซฟตีวาล์ว) และ Relief Valve (รีลฟ
ี วาล์ว) มีลก ้
ั ษณะการใชงานแตกต่
างกัน
ข
อย่างไร
กร
1 : Safety Valve ้
ใชงานกั บระบบไอนํ า แต่ Relief Valve ใชกั้ บระบบอากาศ
2 : Safety Valve ้
ใชงานกั บระบบไอนํ า หรือก๊าซ แต่ Relief Valve ใชกั้ บระบบนํ า หรือนํ ามัน
3 : Safety Valve ใชงานกับระบบไอนํ า หรือนํ า แต่ Relief Valve ใชกั้ บทุกระบบ
้
ิ ว
4 : Safety Valve ใชงานกั ้ ้
บทุกระบบ แต่ Relief Valve ใชเฉพาะระบบไอนํ าเท่านัน
าวศ
สภ
ข ้อที 117 :
ปั มประเภทดูด-เหวียง (Non-Positive Displacement Pump) เป็ นปั มทีมีลก
ั ษณะการทํางานแบบ
ใด
1 : Hydrodynamic
2 : Hydrostatic
3 : Hydroforce
4 : Hydroturbine
ข ้อที 118 :
ปั มประเภทดูด-อัด (Positive Displacement Pump) เป็ นปั มทีมีลก
ั ษณะการทํางานแบบใด
1 : Hydrodynamic
2 : Hydrostatic
3 : Hydroforce
4 : Hydroturbine
ข ้อที 119 :
ิ ธิภาพ และความดัน
ปั มประเภทดูด-อัด (Positive Displacement Pump) ชนิดใดมีประสท
(Pressure) สูงทีสุด
1 : Gear Pumps (ปั มเฟื อง)
2 : Vane Pumps (ปั มเวน)
3 : Piston Pumps (ปั มลูกสูบ)
4 : Screw Pumps (ปั มสกรู)
ธิ
สท
ข ้อที 120 :
ปั ม (Pumps) ชนิดใดทีมีความสําคัญต่อสมรรถนะของโรงไฟฟ้ าน ้อยทีสุด
ิ
1 : Boiler Feed Pump

งวน
2 : Condensate Pump
3 : Circulating Water Pump
4 : Water Heating Pump
ส
ขอ
ข อ
กร
ข ้อที 121 :
จากปรากฏการณ์ทางพลศาสตร์ของของไหล ฟองอากาศทีเกิดขึนในของเหลวจะสลายตัวในเวลา
ิ ว
ต่อมาเมือเคลือนทีไปพบกับความดันทีสูงขึน ปรากฏการณ์ดงั กล่าว เรียกว่า
าวศ
1 : Turbulence
2 : Vapor Pocket
3 : Circulation
สภ
4 : Cavitation
ข ้อที 122 :
อุปกรณ์ทใชี กํ้ าจัดไอนํ า(Steam) ทีควบแน่น(Condensate) ออกจากท่อไอนํ า คือ
1 : Steam Trap
2 : Steam Trop
3 : Steam Heating
4 : Moisture Separator
เนือหาวิชา : 419 : 5 Gas Turbine & Combined Cycles Power Plant
ข ้อที 123 :
้
พลังงานทีใชในการขั
บเคลือนเพลาเพือหมุน Generator ของโรงไฟฟ้ า Gas Turbine มาจาก
อุปกรณ์ใด
1 : Electric Motor
2 : Compressor
3 : Turbine
4 : เครืองยนต์ดเี ซล
ข ้อที 124 :
อุปกรณ์ชนิดใดไม่ใช ่ อุปกรณ์ของโรงไฟฟ้ า Gas Turbine
1 : ห ้องเผาไหม ้ (Combustion Chamber)
2 : Compressor
ธิ
3 : Turbine
4 : Boiler
สท
ิ
งวน
ข ้อที 125 :
ส
ื
เชอเพลิ งชนิดใด ทีไม่สามารถใชกั้ บโรงไฟฟ้ า Gas Turbine ได ้
ขอ
อ
1 : นํ ามันดีเซล
ข
2 : ก๊าซธรรมชาติ
3 : Gasified Coal
กร
4 : นํ ามันดิบ
ิ ว
าวศ
ข ้อที 126 :
สภ
ื
โรงไฟฟ้ าประเภททีมีการเผาไหม ้เชอเพลิ ้
งชนิดใด ทีใชเวลาในการขึ
นรับ Load (นับตังแต่ Start
up จนสามารถจ่ายไฟฟ้ าได ้) น ้อยทีสุด
1 : โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนแบบ Boiler
2 : โรงไฟฟ้ า Gas Turbine
3 : โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนแบบ Stoker
4 : โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนแบบ Fluidized Bed
ข ้อที 127 :
ประสท ิ ธิภาพของโรงไฟฟ้ า Gas Turbine ขึนอยูก
่ บ
ั ข ้อใดมากทีสุด
1 : ประสทิ ธิภาพของ Compressor
2 : ประสท ิ ธิภาพของ Turbine
3 : ื
ปริมาณเชอเพลิ ง
4 : ประสท ิ ธิภาพของการเผาไหม ้
ข ้อที 128 :
อุณหภูมข ิ องอากาศอัดจะเพิมขึนเมือไหลผ่านห ้องเผาไหม ้ ค่าทีเพิมขึนไม่ขนอยู
ึ ก ่ บ
ั ตัวแปรข ้อใด
1 : ื
ปริมาณเชอเพลิ ง
2 : ปริมาณอากาศ
3 : อุณหภูมข ิ
ิ องสงแวดล ้อม
4 : ประสทิ ธิภาพของการเผาไหม ้
ข ้อที 129 :
้
การหล่อเย็น (Cooling) ใบพัดของ Turbine ใชสารชนิ
ดใด
ธิ
1 : ลมร ้อนจาก Compressor

สท
2 : ลมเย็นจากบรรยากาศก่อนเข ้า Compressor
ิ
3 : นํ า
4 : ไอนํ า
งวน
ส
ขอ
อ
ข
ข ้อที 130 :
การฉีดพ่นนํ าหรือไอนํ าเข ้าไปในห ้องเผาไหม ้ มีประโยชน์อย่างไร
กร
ิ ธิภาพในการเผาไหม ้
1 : เพือเพิมประสท
2 : เพือลดการเกิด NOx ในขณะเผาไหม ้
ิ ว
าวศ
3 : เพือเพิมอุณหภูมขิ องการเผาไหม ้
4 : เพือหล่อเย็นผนังห ้องเผาไหม ้
สภ
ข ้อที 131 :
้
Compressor ชนิดใดทีใชมากในโรงไฟฟ้ า Gas Turbine
1 : Compressor แบบ Screw (Screw Compressor)
2 : Compressor แบบหอยโข่ง (Centrifugal Compressor)
3 : Compressor แบบลูกสูบ (Displacement Compressor)
4 : Compressor แบบไหลตามแนวแกน (Axial Flow Compressor)
ข ้อที 132 :
้
ปริมาณอากาศทีใชในการหล่ อเย็นสว่ นห ้องเผาไหม ้ ซงจะทํ
ึ าให ้อุณหภูมข
ิ องก๊าซร ้อนลดลงถึง
้
ระดับเหมาะสมทีใบพัดของ Turbine ทนได ้ มีคา่ ประมาณกีเท่าของปริมาณอากาศทีใชในการเผา
ไหม ้สมบูรณ์
1 : 0.5 เท่า
2 : 2 เท่า
3 : 4 เท่า
4 : 10 เท่า
ข ้อที 133 :
โรงไฟฟ้ าประเภทใดมีต ้นทุนในการผลิตไฟฟ้ าต่อหน่วยมากทีสุด
1 : โรงไฟฟ้ าพลังนํ า (Hydro Power Plant)
2 : โรงไฟฟ้ า Gas Turbine (Gas Turbine Power Plant)
3 : โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนร่วม (Combined Cycle Power Plant)
4 : โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อน (Thermal Power Plant)
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 134 :
Control Mode ใด ทีมีเฉพาะในการควบคุมโรงไฟฟ้ า Gas Turbine
งวน
1 : Boiler Control
2 : Speed Control
3 : Load Control
ส
4 : Exhaust Temperature Control

ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 135 :
าวศ
้ นฐานทาง Thermodynamics Cycle ใดในการออกแบบ
โรงไฟฟ้ า Gas Turbine ใชพื
1 : Rankine Cycle
2 : Carnot Cycle
สภ
3 : Brayton Cycle
4 : Otto Cycle
ข ้อที 136 :
เหตุการณ์ใดทีไม่ทําให ้โรงไฟฟ้ า Gas Turbine Trip
1 : Loss of Flame
2 : High Vibration
3 : High Exhaust Temperature
4 : High Lube Oil Pressure
ข ้อที 137 :
ข ้อไหนอยูใ่ นระบบ Gas Turbine Support Systems
1 : ระบบการจัดการเพลิงสําหรับใชกั้ บแก๊สเทอร์ไบท์
2 : ระบบนํ ามันหล่อลืน
3 : ระบบจัดการขายไฟฟ้ า
4 : ระบบสง่ กําลังไฟฟ้ า
ข ้อที 138 :
วัตถุประสงค์ของ DC-auxiliary Lube Oil Pump คือ
1 : เพือป้ อน Lube Oil ในชว่ ง Start-up: Shut-down
2 : เพือป้ อน Lube Oil ในชว่ งทีความดันของ Lube Oil มีคา่ ลดลงตํากว่าพิกด
ั ปกติ
มาก[low,low]
3 : เพือป้ อน Lube Oil ในชว่ ง Normal Operation
4 : เพือป้ อน Lube Oil ให ้กับ Main Lube Oil Pump
ธิ
สท
ิ
งวน
ข ้อที 139 :
การใช ้ DC-Motor กับ Critical Auxiliaries ทําให ้สามารถเดิน Gas Turbine ในขณะทีไม่ม ี AC-
power ได ้ วิธป
ี ฏิบต
ั แ
ิ บบนีเรียกว่า
ส
1 : Quick start
ขอ
อ
2 : False start
ข
3 : Black start
4 : Slow start
กร
ิ ว
ความดันของ Lube Oil ที Bearing Header สามารถทีจะควบคุมไว ้ที 25-30 Psig ด ้วยอุปกรณ์
สภ
1 : Oil bypass valve
2 : Pressure relief valve
3 : False start drain valve
4 : Pressure regulating valve
ข ้อที 141 :
Hydraulic Oil ไม่นํามาใชกั้ บระบบ
1 : ขับ Fuel gas pressure control valve
2 : ขับ Fuel gas flow control valve
3 : ขับ Fuel oil bypass valve
4 : ขับ Oil relief valve
ข ้อที 142 :
Main Hydraulic Oil Pump ขับด ้วย Turbine Shaft ผ่าน Accessory Gear
ทําไมถึงต ้องมี Auxiliary Hydraulic Oil Pump ด ้วย
1 : ใชแทน้ ถ ้า Main Hydraulic Oil Pump เสย ี
2 : ่ ่
ชวยเพิมความดันของนํ ามันก่อนป้ อนเข ้าสู Main Hydraulic Oil Pump
3 : ชว่ ยดูดนํ ามันจากระบบ Lube Oil
4 : เพือเพิมความดันของนํ ามันให ้สูงพอทีจะใชขั้ บอุปกรณ์ทเกี
ี ยวข ้องในชว่ ง Start-up
ข ้อที 143 :
สามารถลดโอกาสการเกิด Surge หรือ Stall ขณะ Start-up/Shut-down เครือง Gas Turbine
โดยวิธ ี
ธิ
1 : เปิ ด Pressure Relief Valve

สท
2 : หรี Inlet Damper ของ HRSG

3 : เปิ ด Gas Bypass
ิ
4 : หรี Variable Inlet Guide Vanes และเปิ ด Air Bleed Valve

งวน
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 144 :
อุณหภูมข ิ ธิภาพของ Gas Turbine อย่างไร
ิ องอากาศมีผลกระทบต่อค่าประสท
กร
1 : อุณหภูมอ
ิ ากาศเพิมขึน ประสท ิ ธิภาพของ Gas Turbine เพิมขึน
2 : อุณหภูมอิ ากาศเพิมขึน ประสท ิ ธิภาพของ Gas Turbine ลดลง
ิ ว
3 : อุณหภูมอ ิ ากาศเพิมขึน ประสท ิ ธิภาพของ Gas Turbine เท่าเดิม
าวศ
4 : อุณหภูมอ ิ ากาศลดลง ประสทิ ธิภาพของ Gas Turbine ลดลง
สภ
ข ้อที 145 :
้ อการ
Intermediate Pressure Air ใชเพื
1 : ระบายความร ้อนของ Turbine Shell
2 : ระบายความร ้อนของ Exhaust Frame
3 : ระบายความร ้อนของ First Stage Stationary Blades
4 : ระบายความร ้อนที Bearing Seal
ข ้อที 146 :
Cooling Air ทีใชกั้ บ First Stage Turbine Blades เป็ น
1 : Low Pressure Air
2 : Intermediate Pressure Air
3 : High Pressure Air
4 : Air Discharge Pressure
ข ้อที 147 :
้ อ
Purge Air ใน Purge Air System ของ Gas Turbine ถูกใชเพื
1 : ื
ไล่เชอเพลิ
งทีอาจสะสมในห ้องเผาไหม ้ออก ก่อนการจุด burner
2 : ื
ไล่อากาศหรือเชอเพลิ งทีอาจรัวในห ้อง Accessory Gear
3 : Cleaning และ Cooling หัว Burner
4 : พ่นอากาศเข ้าห ้อง Load Gear
ธิ
ข ้อที 148 :
สท
หน ้าทีของ Variable Inlet Guide Vanes คือ

ิ
1 : จัดระเบียบอากาศทีไหลเข ้าสู่ Compressor เป็ น Laminar Flow

2 : ป้ องกันอากาศไหลย ้อนทาง
งวน
3 : ลดเสย ี ง
4 : ควบคุมปริมาณอากาศเข ้าสู่ Gas Turbine Compressor
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 149 :
กร
Fuel Gas Stop/Ratio Valve ขณะเดินเครืองปกติทําหน ้าที
1 : ควบคุมการไหลของ Fuel Gas
ิ ว
2 : ระบาย Fuel Gas ออกสูบ่ รรยากาศ
าวศ
3 : รักษาค่าความดันตกคร่อม Gas Flow Control Valve ให ้คงที
4 : เป็ น Stop Valve
สภ
ข ้อที 150 :
่ ต่ละ Annular Can Combustor ให ้เท่าๆกันใช ้
ในการป้ อน Liquid Fuel เข ้าสูแ
1 : การควบคุมความดันในท่อ Liquid Fuel ในแต่ละท่อทีจะเข ้า Combustors ให ้เท่ากัน
2 : Selector Valve Indicator
3 : Flow Divider Gear Pump
4 : Accessory Gear
ข ้อที 151 :
่ ต่ละ annular can combustor เท่าๆกันดูได ้จาก
การทีจะตรวจสอบว่า liquid fuel เข ้าสูแ
1 : Fuel pump discharge pressure
2 : Differential pressure ตกคร่อม filter
3 : Selector valve indicator
4 : Flow switch
ข ้อที 152 :
Flow divider gear pump ปกติสามารถหมุนได ้ด ้วย
1 : dc-motor
2 : ขับจาก turbine shaft
3 : ความดันของ fuel oil เอง
4 : AC-motor
ธิ
สท
ข ้อที 153 :
่ รรยากาศ กฎหมายกําหนดว่าจะต ้องควบคุมค่า
Exhaust gas ของ Gas Turbine ทีปล่อยออกสูบ
ิ
อะไรให ้ตํากว่ามาตรฐานทีกําหนด
งวน
1 : ความร ้อนของก๊าซทีทิง
2 : SOx, NOx
3 : ปริมาณไอนํ า
ส
4 : Excess Oxygen
ขอ
อ
ข
กร
ข ้อที 154 :
ิ ว
มีการพ่น Ammonia Vapor เข ้าทีก๊าซร ้อนทีออกจาก Gas Turbine เพือ
าวศ
1 : ลดปริมาณ NOx emission
2 : ลดอุณหภูม ิ
3 : ลดปริมาณ SOx emission
สภ
4 : ลดปริมาณฝุ่ นทีเกิดจากการเผาไหม ้
ข ้อที 155 :
การพ่นนํ าหรือไอนํ าเข ้าในห ้องเผาไหม ้มีวต
ั ถุประสงค์ทแท
ี ้จริงคือ
1 : เพือให ้เกิดการเผาไหม ้ทีไม่สมบูรณ์
2 : เพือให ้มีไอนํ าใน Exhaust Gas มากๆ
3 : ทําความสะอาดห ้องเผาไหม ้
4 : ลดปริมาณการเกิด NOx
ข ้อที 156 :
ิ เป็ นตัวบ่งบอกว่าการเผาไหม ้ไม่สมบูรณ์ คือ
สงที
1 : ปริมาณ CO ในก๊าซร ้อน
2 : ปริมาณ NOx emission ในก๊าซร ้อน
3 : ปริมาณ SOx emission ในก๊าซร ้อน
4 : อุณหภูมข
ิ อง Exhaust Gas
ข ้อที 157 :
Seal Oil System มีไว ้เพือ
1 : ป้ องกันไม่ให ้นํ ามันหล่อลืนรัวออกตามเพลา
2 : ่ รรยากาศ
ป้ องกันไม่ให ้ Hydrogen ภายใน Generatorรัวออกสูบ
3 : ื
ป้ องกันไม่ให ้ ความชนเข ้าสู่ Generator
4 : ป้ องกันไม่ให ้ ความชนเข ื ้าผสมกับ Lube Oil
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 158 :
งวน
ทีความดันบรรยากาศถ ้ามี Hydrogen 20-70%โดยปริมาตร กับอากาศ จะ

1 : ง่ายทีจะเกิดการระเบิด
2 : ยากต่อการติดไฟ
ส
3 : เหมาะสมต่อการระบายความร ้อน
4 : ื
ป้ องกันความชนได ้ดี
ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 159 :
าวศ
วัตถุประสงค์ของการนํ า HRSG มารับ Exhaust Gas จาก Gas turbine ก็เพือ
1 : ผลิตไฟฟ้ า
2 : นํ าไปทําระบบนํ าเย็น
้ ตไอนํ า
สภ
3 : นํ าความร ้อนจํานวนมากทีอยูใ่ น Exhaust Gas มาใชผลิ
4 : ปรับสภาพ Exhaust Gas ให ้ดีขน ึ
ข ้อที 160 :
ปริมาณความร ้อนจาก Gas Turbine Exhaust Gas ทีจะถ่ายเทให ้กับนํ าและไอนํ าใน HRSG ขึนอยู่
กับ
1 : อุณหภูมอ
ิ ากาศ
2 : ื
ชนิดของเชอเพลิ ง
3 : ความดันบรรยากาศ
4 : Exhaust Gas Flow และ Exhaust Gas Temperature
ข ้อที 161 :
ไอนํ าเริมเกิดขึนในสว่ นใดของ HRSG
1 : Superheater section
2 : Economizer section
3 : Drum
4 : Evaporator section
ข ้อที 162 :
การวางชุดท่อ Tube banks ของ HRSG แบบ natural circulation จะจัดวาง Evaporator และ
Superheater ในแนวไหน
1 : Evaporator และ Superheater แนวนอน
2 : Evaporator และ Superheater แนวดิง
3 : Evaporatorแนวนอน, Superheater แนวดิง
ธิ
4 : Superheaterแนวนอน, Evaporator แนวดิง

สท
ิ
งวน
ข ้อที 163 :
การวางชุดท่อ Tube banks ของ HRSG แบบ forced circulation จะจัดวาง Evaporator และ
ส
Superheater ในแนวwso
ขอ
อ
1 : Evaporator และ Superheater แนวนอน
ข
2 : Evaporator และ Superheater แนวดิง
3 : Evaporatorแนวนอน, Superheaterแนวดิง
กร
4 : Superheaterแนวนอน,Evaporatorแนวดิง
ิ ว
าวศ
ข ้อที 164 :
สภ
อัตราการไหลเวียนของนํ าใน HRSG แบบ natural circulation ขึนอยูก
่ บ
ั
1 : pump
2 : นํ าขึนนํ าลง
3 : Exhaust gas flow และ exhaust gas temperature
4 : อุณหภูมต ิ ามฤดูกาล
ข ้อที 165 :
อัคราการไหลเวียนของนํ าใน HRSG แบบ forced circulation ขึนอยูก
่ บ
ั
1 : pump
2 : นํ าขึนนํ าลง
3 : Exhaust gas flow และ exhaust gas temperature
4 : อุณหภูมต ิ ามฤดูกาล
ข ้อที 166 :
มักใช ้ Gas Turbine Power Plant รับ
1 : Base Load
2 : Intermediate Load
3 : Peak Load
4 : Intermittent Load
ข ้อที 167 :
ิ ธิภาพขึนกับ
ใน Ideal Gas Turbine Cycle ค่าประสท
1 : อัตราสว่ นความดัน
ธิ
สท
2:
ิ างเข ้า Turbine และอัตราสว่ นความดัน
3 : อุณหภูมท
ิ
4 : อุณหภูมทิ างเข ้า Turbine อัตราสว่ นความดัน และอัตราสว่ นความร ้อนจําเพาะ

งวน
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 168 :
ู ต ้องสําหรับโรงไฟฟ้ า Gas Turbine
ข ้อใดทีเป็ นคํากล่าวทีไม่ถก
กร
1 : ก๊าซร ้อนทีออกจาก Gas Turbine มีอณ ุ หภูมสิ งู
2 : ค่าใชจ่้ ายในการติดตัง และระยะเวลาการติดตังตํา
ิ ว
3 : ตอบสนองต่อการเปลียนแปลงโหลดได ้รวดเร็ว
าวศ
4 : Work ทีใชขั้ บ Compressor มีคา่ ตํา เทียบกับปั มทํางานทีอัตราสว่ นความดันเท่ากัน
สภ
ข ้อที 169 :
โรงไฟฟ้ าทีใช ้ Gas Turbine ในประเทศไทย สว่ นใหญ่เป็ นแบบ
1 : Open Gas Turbine Cycle
2 : Open Gas Turbine Cycle โดยมี Intercooler
3 : Open Gas Turbine Cycle โดยมี Reheater
4 : ทีใชร่้ วมกับ Steam Cycle เป็ น Combined Cycle
ข ้อที 170 :
การใช ้ Intercooling ใน Gas Turbine Plant จะชว่ ยเพิม
1 : Net Work Output ของ Cycle
2 : Efficiency ของ Cycle
3 : อุณหภูมเิ ฉลียของการรับความร ้อน
4 : Efficiency ของ Compressor
ข ้อที 171 :
การใช ้ Recuperator ใน Gas Turbine Plant เพือ
1 : ลดปั ญหาการเกิด
2 : เพิม Work จาก Turbine

ิ ธิภาพของ Plant
3 : เพิมประสท
4 : ลดความดันทีทางออก Turbine
ธิ
สท
ข ้อที 172 :
ิ
เหตุทใชี ค่้ า Stagnation Pressure และ Temperature ในการคํานวณวิเคราะห์เกียวกับ Gas

Turbine เพราะ
งวน
1 : สะดวกและคํานวณได ้ง่ายมากกว่า
2 : ให ้ผลทีละเอียดถูกต ้องมากกว่า
3 : การวัดค่าต่างๆ กระทําได ้ง่ายมากกว่า
ส
4 : มีตารางคุณสมบัตท ิ สามารถอ่
ี านค่าได ้รวดเร็ว
ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 173 :
าวศ
สาเหตุท ี Gas Turbine Cycle ทีมี Reheater เหมาะกับการใช ้ Recuperator เพราะ
1 : ไอเสยี ทีไหลออกจาก turbine มีความดันสูงกว่ากรณีไม่ม ี reheater
2 : ไอเสย ี ทีไหลออกจาก turbine มีอณุ หภูมส
ิ งู กว่ากรณีไม่ม ี reheater
สภ
3 : จะได ้ค่า Thermal Ratio ของ Recuperator มากกว่า
4 : จะมีการสูญเสย ี ความร ้อนใน Recuperator น ้อยลง
ข ้อที 174 :
Gas Turbine Plant ทีมี 2 เพลา มีข ้อดีเทียบกับแบบเพลาเดียว คือ
1 : start เครืองได ้ง่ายกว่า
2 : ที part load, turbine มีประสทิ ธิภาพสูงกว่า
3 : ให ้งานได ้มากกว่า
4 : ลดการสูญเสย ี พลังงานได ้มากกว่า
ข ้อที 175 :
การลดอุณหภูมอิ ากาศทีทางเข ้า Compressor มีวต
ั ถุประสงค์เพือ
1 : เพิม Work Output
2 : ลดปั ญหาการเกิด
3 : เพิมประสท ิ ธิภาพ Compressor

4 : ป้ องกันการ Overheat ใบพัด Compressor
ข ้อที 176 :
การหล่อเย็นใบพัด Turbine (Blade Cooling) กระทําเพือ
1 : ให ้ได ้ Work Output มากขึน
2 : ลดปั ญหาการสก ึ กร่อนของใบพัดทีอุณหภูมสิ งู
3 : ให ้ได ้อายุการทํางานของใบพัดนานขึน
ธิ
4 : เพือให ้ได ้อุณหภูมส

ิ มําเสมอทัวใบพัดมากขึน
สท
ิ
งวน
ข ้อที 177 :
การฉีดนํ าเข ้าไปในห ้องเผาไหม ้ของโรงไฟฟ้ า Gas turbine ก็เพือ
ส
ิ ธิภาพของ Cycle
1 : เพิมประสท
ขอ
อ
2 : ลดปั ญหา Overheat ใบพัด Turbine
ข
3 : ลดการเกิด
กร
4 : ลดอุณหภูมผ
ิ นังห ้องเผาไหม ้
ิ ว
าวศ
สภ
ข ้อที 178 :
Combined Gas and Steam Turbine Cycle ดีกว่า Gas Turbine Cycle เพราะ
1 : ้ อเพลิ
ใชเช ื งได ้หลากหลายมากกว่า
2 : มีประสท ิ ธิภาพสูงกว่า
3 : ให ้ NOx น ้อยกว่า
4 : ใชเช้ อเพลิ
ื งน ้อยกว่า
ข ้อที 179 :
Combined Cycle แบบทีผลิตไอนํ าทีความดัน 2 ค่า ดีกว่าแบบทีผลิตค่าเดียว คือ
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 180 :
การใช ้ Supplementary Firing ใน Waste Heat Boiler ของ Combined Cycle ก็เพือ
1 : ทําให ้ได ้อัตราการผลิตไอนํ าสมําเสมอมากขึน
2 : ทําให ้ได ้อัตราการผลิตไอนํ าเพิมขึน
3 : ทําให ้ความดันของไอนํ าทีผลิตได ้สูงขึน
4 : ทําให ้ลดปั ญหาการเกิด NOx
ธิ
ข ้อที 181 :
โรงไฟฟ้ า Combined Cycle โดยทัวไปมักประกอบด ้วยจํานวน Gas Turbines กับ Steam
สท
Turbines ในอัตราสว่ น
ิ
1 : 1 : 1
งวน
2 : 2 : 1
3 : 3 : 1
4 : 4 : 1
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 182 :
กร
โรงไฟฟ้ า Combined Cycle แห่งหนึง ผลิตไฟฟ้ าได ้ 50 MW โดยมีประสท ิ ธิภาพ 45% ถ ้าเชอ ื
้ นก๊าซธรรมชาติ ราคา 200 บาท/GJ และโรงไฟฟ้ านีทํางานปี ละ 8,700 ชวโมง
เพลิงทีใชเป็ ั ต ้นทุน
ิ ว
ค่าไฟฟ้ าหน่วยละเท่าไร
1
2
3
:
:
:
าวศ
2.4
1.6
1.4
บาท/kWh
บาท/kWh
บาท/kWh
สภ
4 : 1.2 บาท/kWh
ข ้อที 183 :
โรงไฟฟ้ า Combined Cycle แห่งหนึง ตัว Steam Turbine ผลิตไฟฟ้ าได ้ 85 MW ตัว Gas
Turbine ผลิตได ้ 144 MW ถ ้าใชก๊้ าซธรรมชาติเป็ นเชอเพลิ
ื งด ้วยอัตรา 9.2 kg/s โดยมีคา่ ความ
ิ
ร ้อน 48 MJ/kg ค่าประสทธิภาพของโรงไฟฟ้ านีเป็ นเท่าใด
1 : 46%
2 : 46.5%
3 : 50.5%
4 : 51.9%
ข ้อที 184 :
Repowering คืออะไร
้
1 : การปรับปรุง Combined Cycle Plant ทีมีอายุการใชงานนาน ิ ธิภาพดีขน
ทําให ้ประสท ึ
2 : การปรับปรุงโรงไฟฟ้ า Gas Turbine เก่า ให ้ทํางานเป็ น Combined Cycle
3 : การปรับปรุงโรงไฟฟ้ า Steam Turbine เก่า ให ้ทํางานเป็ น Combined Cycle
4 : การปรับปรุงสมรรถนะของเครือข่ายการผลิตไฟฟ้ า โดยเพิม Combined Cycle เข ้าไปใน
เครือข่าย
ข ้อที 185 :
ที HRSG ของ Combined Cycle Plant, Pinch Points หมายถึงอะไร
1 : ค่าอุณหภูมคิ วามแตกต่างตําสุดระหว่างกระแสไอเสย ี กับ กระแสนํ า (ไอนํ า) ใน T-H
Diagram
ธิ
้ ณหภูมน
2 : จุดทีเสนอุ ิ ํ า (ไอนํ า) ใน T-H Diagram มีการเปลียนทิศทางจากแนวเดิม
้ ณหภูมไิ อเสย
3 : จุดทีเสนอุ ี ใน T-H Diagram มีการเปลียนทิศทางไปจากแนวเดิม
สท
4 : ค่าอุณหภูมค ิ วามแตกต่างมากสุดระหว่างกระแสไอเสย ี กับกระแสนํ า (ไอนํ า) ใน T-H

ิ
Diagram
งวน
ส
ข ้อที 186 :
ขอ
อ
ข ้อดีของ Closed-circuit gas turbine plant คือ
ข
1 : สามารถใชเช ้ อเพลิ
ื งเกรดตําได ้
กร
2 : ตอบสนองต่อการเปลียนแปลงค่า load ได ้ดีกว่า Open cycle
3 : ขนาดเล็กกว่า Open cycle ที Output เท่ากัน
4 : ้
ใชงานได ี ตราสว่ นอัดสูงๆ
้ดีทอั
ิ ว
าวศ
สภ
ข ้อที 187 :
ทําไมอุณหภูมสิ งู สุดใน Gas turbine plant ถูกจํากัดไว ้ทีประมาณ 900 C
1 : เพราะเป็ นอุณหภูมส ื
ิ งู สุดทีได ้จากการเผาไหม ้เชอเพลิ
ง
2 : เพราะวัสดุทใช ้ าสว่ นประกอบห ้องเผาไหม ้ และ turbine stage แรกทนอุณหภูมไิ ด ้
ี ทํ
ประมาณนัน
3 : เพราะ gas turbine ให ้ specific work สูงสุดทีอุณหภูมป ิ ระมาณนัน
4 : เพือไม่ให ้ NOx มีคา่ มากเกินไป
ข ้อที 188 :
ทําไม Gas turbine plant ทํางานทีอัตราสว่ นความดันตํากว่า Steam power plant มาก
1 : เพราะสารทํางานเป็ นอากาศไม่ใชนํ้ า
2 : เพราะประสท ิ ธิภาพ Plant มีคา่ สูงทีอัตราสว่ นความดันตํา
3 : เพราะ Specific output มีคา่ สูงสุดทีอัตราสว่ นความดันตํา
4 : เพราะทีอัตราสว่ นความดันตําๆ ใช ้ Regenerator ได ้ดี
ข ้อที 189 :
การใช ้ Two-shaft gas turbine ดีกว่า Single-shaft gas turbine อย่างไร
1 : ให ้ความยืดหยุน ่ ในการ Control
2 : ิ ธิภาพสูงที Part load
ให ้ประสท
ื งน ้อยกว่า
4 : สามารถเปลียนแปลงค่าความเร็วรอบของ Compressor ได ้กว ้างมากขึน
ข ้อที 190 :
ธิ
ใน Gas turbine plant แห่งหนึง มีอตั ราสว่ นอัด = 7 โดยใช ้ Compressor 2 Stages แบบมี
สท
Perfect intercooling ระหว่าง Stages ถ ้าความดันและอุณหภูมท ิ ทางเข

ี ้ามีคา่ เป็ น 1 bar, 27 C จง
หาอุณหภูมล ิ มอัดทีทางออก Stage ที 2 เมือสมมุตใิ ห ้กระบวนการอัดเป็ น Isentropic และ
ิ
อัตราสว่ นความร ้อนจําเพาะของอากาศ = 1.4

งวน
1 : 358.2 K
2 : 371.1 K
3 : 384.2 K
ส
4 : 396.1 K
ขอ
อ
ข
กร
ข ้อที 191 :
ิ ว
Gas turbine plant แห่งหนึง เป็ น Ideal open cycle ทํางานระหว่างความดัน 1 และ 6 bar โดยมี
าวศ
ื
อุณหภูมเิ ข ้า Compressor 300 K และเข ้า Turbine 1,023 K เชอเพลิ งทีใชมี้ คา่ ความร ้อน 41
MJ/kg จงคํานวณหาอัตราสว่ นอากาศ-เชอเพลิื ง กําหนดให ้อัตราสว่ นค่าความร ้อนจําเพาะ = 1.4
และค่าความร ้อนจําเพาะ = 1.005 kJ/kg K ตลอด
สภ
1 : 68.3
2 : 71.8
3 : 77.1
4 : 100.5
ข ้อที 192 :
1 : 4.01 %
2 : 23.8 %
3 : 26.8 %
4 : 21.7 %
ข ้อที 193 :
ลมอัดออกจาก Compressor ที 5 bar 500 K ไหลเข ้า Recuperator เพือรับความร ้อนจากไอเสย ี
ทีมีอณ
ุ หภูม ิ 686 K เมือความร ้อนจําเพาะทีความดันคงทีของไอเสย ี และอากาศมีคา่ 1.15 และ
1.005 kJ/kg K ตามลําดับ จงหาอุณหภูมล ิ มอัดทีออกจาก Recuperator กําหนดให ้ Recuperator
ื
effectiveness = 0.6 และให ้มวลเชอเพลิ งมีคา่ น ้อยกว่ามวลอากาศมาก
1 : 539.1 K
2 : 627.7 K
3 : 597.8 K
4 : 601.2 K
ธิ
สท
ิ
งวน
ข ้อที 194 :
ื
ทีห ้องเผาไหม ้โรงไฟฟ้ า Gas turbine แห่งหนึง ลมอัดไหลเข ้าที 506 K เผาไหม ้กับเชอเพลิ ง ซงึ
ี ทีจะไหลเข ้า Turbine เป็ น 1,002 K
มีคา่ ความร ้อน 41 MJ/kg ถ ้าต ้องการอุณหภูมไิ อเสย
ส
ขอ
อ
ิ ธิภาพการเผาไหม ้ 96% และความร ้อนจําเพาะของไอเสย
ประสท ี 1.15 kJ/kg K จงหาอัตราสว่ น
ข
ื
อากาศ-เชอเพลิง
กร
1 : 59.1
2 : 68.0
3 : 71.1
ิ ว
4 : 61.9
าวศ
สภ
ข ้อที 195 :
ใน Gas turbine plant แห่งหนึง มีขนาด 4 MW อัตราสว่ นอากาศ-เชอเพลิื ง = 80 : 1 อุณหภูม ิ
ทางเข ้าและทางออก Turbine = 1,000 K และ 703.7 K ตามลําดับ อากาศเข ้าและออก
Compressor ทีอุณหภูม ิ 300 และ 506 K ตามลําดับ เมือความร ้อนจําเพาะทีความดันคงทีของ
อากาศและไอเสย ี มีคา่ 1.005 และ 1.15 kJ/kg K ตามลําดับ จงหาอัตราการไหลของอากาศ เมือ
ประสท ิ ธิภาพการสง่ กําลัง และเครืองปั นไฟ มีคา่ 95 และ 82% ตามลําดับ
1 : 45.1 kg/s
2 : 38.2 kg/s
3 : 37.2 kg/s
4 : 28.1 kg/s
ข ้อที 196 :
ค่า Effectiveness ของ Recuperator คือ
1 : อัตราสว่ นระหว่างความร ้อนทีถ่ายเทจริง กับความร ้อนทีถ่ายเทตามทฤษฎี
2 : อัตราสว่ นระหว่างความร ้อนทีถ่ายเทจริง กับความร ้อนสูงสุดทางทฤษฎีทสามารถถ่
ี ายเทได ้
3 : อัตราสว่ นระหว่างความร ้อนทีเพิมขึนของกระแสอากาศ กับความร ้อนทีลดลงของกระแสไอ
ี
เสย
4 : อัตราสว่ นระหว่างความร ้อนทีเพิมขึนของกระแสอากาศ กับความร ้อนทีกระแสไอเสย ี ถ่ายเท
ให ้กรณีการขยายตัวใน Turbine เป็ นแบบ Isentropic
ข ้อที 197 :
ถ ้าต ้องการออกแบบ Gas turbine plant ให ้ได ้ Specific output สูงสุด อัตราสว่ นความดันจะต ้อง
เป็ น
ธิ
สท
ิ
งวน
1:
ส
2:
ขอ
ข อ
กร
3:
ิ ว
าวศ
4:
สภ
ข ้อที 198 :
Gas turbine cycle มี Recuperator แห่งหนึง ทํางานทีอัตราสว่ นความดันที Compressor = 5 : 1
โดยทีความดันเข ้า Compressor มีคา่ 1 bar ความดันตกของกระแสลมอัดใน Recuperator มีคา่
0.1 bar ความดันตกในห ้องเผาไหม ้ 0.05 bar และความดันตกของกระแสไอเสย ี ใน Recuperator
= 0.1 bar จงคํานวณหาอัตราสว่ นความดันที Turbine ทํางาน
1 : 4.86
2 : 4.66
3 : 4.41
4 : 4.23
ข ้อที 199 :
้
โรงไฟฟ้ า Gas turbine แห่งหนึง ผลิตไฟฟ้ าได ้ 1.6 MW โดยใชอากาศ ื
25 kg/s และเชอเพลิ
ง
770 kg/h จงคํานวณหาค่า Specific fuel consumption ของโรงไฟฟ้ านี
1 : 0.48 kg/kWh
2 : 0.34 kg/kWh
3 : 0.23 kg/kWh
4 : 0.56 kg/kWh
ข ้อที 200 :
ใน Gas turbine cycle แห่งหนึง Work ที Turbine ผลิตได ้ 260 kJ/kg Work ที Compressor
ต ้องการ 184 kJ/kg เมือ Mechanical และ Generator efficiency มีคา่ 90 และ 95% ตามลําดับ
จงคํานวณหากําลังสง่ ออกทีได ้ เมืออัตราการไหลของอากาศ มีคา่ 24.6 kg/s
1 : 1.4 MW
2 : 1.5 MW
3 : 1.6 MW
ธิ
4 : 1.7 MW
สท
ิ
งวน
ข ้อที 201 :
้ อเพลิ
ใน Gas turbine plant แห่งหนึง ใชเช ื ึ คา่ ความร ้อน 41.8 MJ/kg อัตราสว่ นอากาศ-เชอ
งซงมี ื
ส
เพลิง = 117 : 1 และกําลังสง่ ออก = 1.6 MW จงคํานวณหาค่า Overall efficiency ของ Plant นี
เมืออัตราการไหลของอากาศ = 25 kg/s
ขอ
อ
ข
1 : 15.7%
2 : 16.6%
กร
3 : 17.9%
4 : 18.8%
ิ ว
าวศ
สภ
ข ้อที 202 :
ิ งู มักใชวิ้ ธห
โรงไฟฟ้ า Gas turbine อุณหภูมส ี ล่อเย็น Turbine blades เพือความทนทาน การหล่อ
้
เย็นมักใชวิธ ี
1 : พ่นลมอัดไปที Hub ของ Turbine
2 : ้
ใชลมอั ดหล่อเย็นภายใน Blades
3 : ใชลมอั้ ด หล่อเย็นเฉพาะโคน Blades
4 : ใช ้ Water injection ทีห ้องเผาไหม ้ก่อนไหลผ่าน Turbine
ข ้อที 203 :
การปรับปรุง Steam power plant เก่าๆ ให ้เป็ น Combined cycle มาตรการนีเรียกว่า
1 : Re-engineering
2 : Re-structuring
3 : Revamping
4 : Repowering
ข ้อที 204 :
ใน Gas turbine plant แห่งหนึง ไอเสย ี ทีออกจาก Turbine มีอณ ้
ุ หภูม ิ 746 K ต ้องการใชไอเส ยี นี
อุน่ อากาศอัดทีออกจาก Compressor ซงมีอณ ึ ้ ึ
ุ หภูม ิ 517 K โดยใช Heat exchanger ซงสามารถ
ี กลับคืนมาได ้ 60% จงคํานวณหาอุณหภูมอ
นํ าความร ้อนทีมีให ้จากไอเสย ิ ากาศภายหลังทีได ้รับ
ความร ้อนจาก Heat exchanger
1 : 612.1 K
2 : 638.1 K
3 : 654.4 K
4 : 671.2 K
ธิ
สท
ข ้อที 205 :
ิ
ส งวน
ขอ
ข อ
กร
ิ ว
1 :
าวศ
0.19 kg/s
สภ
2 : 0.24 kg/s
3 : 0.31 kg/s
4 : 0.40 kg/s
เนือหาวิชา : 420 : 6 Cogeneration Power Plant
ข ้อที 206 :
โรงไฟฟ้ า Cogeneration คือ
1 : โรงไฟฟ้ าทีมีทงระบบผลิ
ั ตไฟฟ้ าและความร ้อน
้ อเพลิ
2 : โรงไฟฟ้ าทีผลิตไฟฟ้ าและความร ้อนจากเครืองต ้นกําลังชุดเดียวกัน โดยใชเช ื งจาก
แหล่งเดียวกัน
ี ร ้อนทีเกิดขึนไปผลิตไฟฟ้ าเพิม
3 : โรงไฟฟ้ าทีผลิตไฟฟ้ าแล ้วนํ าไอเสย
้
4 : โรงไฟฟ้ าทีใช 2 Power Cycles ทํางานควบกันแบบ Combined Cycle
ข ้อที 207 :
โรงไฟฟ้ า Cogeneration ทีเป็ นแบบ Topping Cycle คือ
้
1 : โรงไฟฟ้ าทีใชความร ื
้อนจากเชอเพลิ งผลิตไฟฟ้ าโดยใช ้ Power Cycle ก่อน หลังจากนันจึง
นํ าความร ้อนทีเหลือไปใชใน ้ Process
้
2 : โรงไฟฟ้ าทีใชความร ื
้อนจากเชอเพลิ ง สนองตอบต่อความต ้องการใน Process ก่อน หลัง
จากนันจึงนํ าความร ้อนทีเหลือไปผลิตไฟฟ้ า
3 : โรงไฟฟ้ าทีแบ่งความร ้อนจากเชอเพลิื งสว่ นหนึงไปผลิตไฟฟ้ าโดยใช ้ Power Cycle และอีก
่ ้
สวนหนึงใชไปใน Process
4 : โรงไฟฟ้ าทีใช ้ 2 Power Cycles ทํางานควบกัน (Binary Power Cycles)
ธิ
สท
ข ้อที 208 :
ิ
้
โรงไฟฟ้ า Cogeneration ทีใชมากในโรงงานอุ
ตสาหกรรม เป็ นแบบ
1 : Combined Cycle
งวน
2 : Gas Turbine Cogeneration

3 : Steam Turbine Cogeneration
4 : Internal Combustion Engine Cogeneration
ส
ขอ
อ
ข
กร
ข ้อที 209 :
ิ ว
โรงไฟฟ้ า Cogeneration ชนิดใด ทีให ้ความร ้อนในปริมาณและอัตราพอๆ กับไฟฟ้ า
าวศ
3 : Combined Cycle
สภ
ข ้อที 210 :
Back Pressure Steam Turbine เป็ น Turbine แบบ
1 : มีความดันต ้านกลับ
2 : มีความดันทีทางออกตํากว่าความดันบรรยากาศ
3 : มีความดันต ้านการไหลของไอนํ า
4 : มีความดันทีทางออกเท่ากับ หรือสูงกว่าความดันบรรยากาศ
ข ้อที 211 :
้
Steam Turbine ทีมีไอนํ าไหลเข ้าหลายทางมักใชในระบบ Cogeneration แบบไหน
3 : Combined Cycle Cogeneration
ข ้อที 212 :
ระบบ Cogeneration ชนิดใดทีให ้ความร ้อนมากกว่าไฟฟ้ าเกิน 10 เท่า
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 213 :
งวน
สาเหตุทระบบ
ี ้
Cogeneration เป็ นทีนิยมใชในปั จจุบน
ั
1 : ให ้ความร ้อนและไอนํ าในขณะเดียวกัน
ื งได ้หลากหลายชนิด
ิ ธิภาพสูงกว่าโรงไฟฟ้ าธรรมดา
ส
3 : มีประสท
4 : ให ้ความยืดหยุน่ ในการควบคุมการเดินเครืองทํางาน
ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 214 :
าวศ
้
Steam Turbine ทีใชในระบบ Steam Turbine Cogeneration เป็ นแบบ
1 : Back-pressure Turbine
2 : Extraction Turbine
สภ
3 : Pass-out Turbine
ข ้อที 215 :
ิ ธิภาพลดลงมาก เมือเดินเครืองที Part Load
ระบบ Cogeneration ชนิดใดทีประสท
ข ้อที 216 :
้
โรงงานแห่งหนึงต ้องการความร ้อนและไฟฟ้ าอย่างละ 1 MW เท่ากัน ควรใชระบบ Cogeneration
ชนิดใด
ข ้อที 217 :
้ อ
โรงไฟฟ้ า Cogeneration แห่งหนึงผลิตไฟฟ้ าและความร ้อนได ้อย่างละ 1 MW เท่ากัน โดยใชเช ื
ิ
เพลิงด ้วยอัตรา 4 MW ประสทธิภาพของโรงไฟฟ้ านีมีคา่ เท่าใด
1 : 40%
2 : 45%
3 : 50%
ธิ
4 : 60%
สท
ิ
งวน
ข ้อที 218 :
โรงไฟฟ้ า Cogeneration แห่งหนึง ผลิตไฟฟ้ าได ้ 1 MW ความร ้อน 1 MW Heat to Power Ratio
ส
มีคา่ เท่าใด
ขอ
อ
1 : 1
ข
2 : 2
3 : 4
กร
4 : 6
ิ ว
ข ้อที 219 :
าวศ
สภ
ระบบ Cogeneration ชนิดใดทีสง่ ไอนํ าเข ้า Steam Turbine ที 2 ระดับความดัน
ข ้อที 220 :
ต ้นทุนค่าไฟฟ้ าทีผลิตจากระบบ Cogeneration คิดจาก
1 : Annual Operating Cost กับไฟฟ้ าและความร ้อนทีผลิตได ้
2 : Annual Operating Cost กับไฟฟ้ าทีผลิตได ้
3 : เงินลงทุนระบบ Cogeneration และไฟฟ้ าทีผลิตได ้
4 : เงินลงทุนระบบ Cogeneration, Annual Operating Cost และไฟฟ้ าทีผลิตได ้
ข ้อที 221 :
โรงไฟฟ้ า Gas Turbine Cogeneration ต่างจากโรงไฟฟ้ า Combined Cycle Cogeneration ตรง
ทีว่า
1 : โรงไฟฟ้ าชนิดแรก มี By-pass Stack
2 : โรงไฟฟ้ าชนิดหลัง มี Steam Turbine ด ้วย
3 : โรงไฟฟ้ าชนิดแรก ผลิตไอนํ าได ้ทีความดัน 2 ค่า
4 : โรงไฟฟ้ าชนิดหลังไม่ใช ้ Condenser
ข ้อที 222 :
ในประเทศไทย มีการนํ าความร ้อนจากหม ้อเผาปูนซเี มนต์มาผลิตไฟฟ้ าและความร ้อนใชในโรงงาน
้
ธิ
้
ระบบ Cogeneration ทีใชเป็ นแบบ
สท

ิ

งวน
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 223 :
้ คมอุตสาหกรรมสว่ นใหญ่เป็ นแบบ
โรงไฟฟ้ า Cogeneration ทีใชในนิ
กร
ิ ว
าวศ
สภ
ข ้อที 224 :
ื
เชอเพลิ ้ Internal Combustion Engine Cogeneration มักเป็ น
งทีใชใน
2 : นํ ามันเบนซน ิ
3 : นํ ามันดีเซล
4 : นํ ามันเตา
เนือหาวิชา : 421 : 7 Hydro Power Plant
ข ้อที 225 :
ั พลังงานชนิดใดในการผลิตไฟฟ้ า
โรงไฟฟ้ าพลังนํ าอาศย
1 : พลังงานจลน์
2 : ั ย์
พลังงานศก
3 : พลังงานความร ้อน
4 : พลังงานแสงอาทิตย์
ข ้อที 226 :
ตัวเขือน (Dam) มีหน ้าที
1 : ั ย์
สะสมพลังงานศก
2 : สะสมพลังงานจลน์
3 : สะสมพลังงานไฟฟ้ า
4 : สะสมพลังงานความร ้อน
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 227 :
ทางระบายนํ าล ้น (Spillway) มีหน ้าที
งวน
1 : ระบายนํ าเพือการชลประทาน
2 : ้
ระบายนํ าเพือเปลียนเสนทางเดิ นของแม่นําขณะก่อสร ้างเขือน
3 : ระบายนํ าเพือการผลิตไฟฟ้ า
ส
4 : ระบายนํ าเพือป้ องกันนํ าไหลผ่านตัวเขือน

ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 228 :
าวศ
เขือนขนาดใหญ่ในประเทศไทยทีทําด ้วยคอนกรีต มีแห่งเดียว คือ
1 : เขือนศรีนครินทร์
2 : เขือนสริ ก
ิ ติ ิ
สภ
3 : เขือนภูมพ ิ ล
4 : เขือนรัชชประภา
ข ้อที 229 :
ขันตอนการแปลงพลังงานของโรงไฟฟ้ าพลังนํ า คือ
1 : พลังงานกล -> พลังงานจลน์ -> พลังงานศก ั ย์
2 : ั
พลังงานศกย์ -> พลังงานจลน์ -> พลังงานกล
3 : พลังงานจลน์ -> พลังงานศก ั ย์ -> พลังงานกล
4 : พลังงานศก ั ย์ -> พลังงานกล -> พลังงานจลน์
ข ้อที 230 :
โดยทัวไปมักเดินเครืองโรงไฟฟ้ าพลังนํ ารับ Load รูปแบบใดมากทีสุด
1 : Base Load
2 : Light Load
3 : Peak Load
4 : Daily Load
ข ้อที 231 :
ิ ธิภาพของโรงไฟฟ้ าพลังนํ า คือ
สมการแสดงประสท
1:
2:
ธิ
3:
สท
4:
ิ
งวน
ส
ข ้อที 232 :
ขอ
อ
ิ ธิภาพของโรงไฟฟ้ าพลังนํ า มีคา่ ประมาณเท่าใด
ประสท
ข
1 : 0 – 25 %
กร
2 : 25 – 50 %
3 : 50 – 75 %
4 : 75 – 100 %
ิ ว
าวศ
สภ
ข ้อที 233 :
กังหันนํ า (Water Turbine) ทําหน ้าที
1 : ั ย์ เป็ น พลังงานจลน์
เปลียนพลังงานศก
2 : เปลียนพลังงานจลน์ เป็ น พลังงานกล
3 : เปลียนพลังงานกล เป็ น พลังงานไฟฟ้ า
4 : เปลียนพลังงานศกั ย์ เป็ น พลังงานกล
ข ้อที 234 :
อุปกรณ์ใดต่อไปนี ไม่เป็ นอุปกรณ์ทใช ้
ี แปลงพลั
งงานจากนํ าเป็ นไฟฟ้ า
1 : ท่อสง่ นํ า
2 : กังหันนํ า (Water Turbine)
3 : เครืองกําเนิดไฟฟ้ า (Electric Generator)
4 : หม ้อแปลงไฟฟ้ า (Transformer)
ข ้อที 235 :
อุปกรณ์ใดอยูใ่ น Main Water Flow Path
1 : Pressure Oil Supply
2 : Hydro Generator
3 : Transformer
4 : Guide Vane (Wicket Gate)
ข ้อที 236 :
อุปกรณ์ใดทําหน ้าทีควบคุมปริมาณนํ าทีไหลเข ้า Turbine
ธิ
1 : Intake Gate
สท
2 : Inlet Valve
ิ
3 : Guide Vane (Wicket Gate)

4 : Tailrace Gate
งวน
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 237 :
Hydro Generator ทําหน ้าที
กร
1 : ั ย์ เป็ น พลังงานไฟฟ้ า
เปลียนพลังงานศก
2 : เปลียนพลังงานจลน์ เป็ น พลังงานไฟฟ้ า
ิ ว
าวศ
4 : เปลียนพลังงานความร ้อน เป็ น พลังงานไฟฟ้ า
สภ
ข ้อที 238 :
ข ้อใดไม่ใชส่ ว่ นประกอบของเครืองกําเนิดไฟฟ้ า (Generator) ของโรงไฟฟ้ าพลังนํ า
1 : Rotor
2 : Stator
3 : Exciter
4 : Governor
ข ้อที 239 :
้
Generator ของโรงไฟฟ้ าพลังนํ า นิยมใชสารชนิ
ดใด ในการระบายความร ้อน
1 : ก๊าซไฮโดรเจน
2 : นํ าบริสท
ุ ธิ
3 : อากาศ
4 : ไม่จําเป็ นต ้องระบายความร ้อน
ข ้อที 240 :
ความเร็วรอบในการหมุนของเครืองกําเนิดไฟฟ้ าขึนอยูก
่ บ
ั
1 : ้
ปริมาณผู ้ใชไฟฟ้ า (Demand Load)
2 : ระดับความสูงของนํ า (Head)
3 : ระดับแรงดันไฟฟ้ าของระบบ (System Voltage)
4 : การควบคุมของ Governor
ธิ
ข ้อที 241 :
สท
้
โรงไฟฟ้ าพลังนํ าชนิดใดใชมากที
สุดในประเทศไทย
ิ
1 : ชนิด Vertical Turbine Generator

2 : ชนิด Horizontal Turbine Generator
งวน
3 : ชนิด Bulb Turbine

4 : ชนิด Impulse Turbine
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 242 :
กร
ข ้อใดไม่ใชช่ อของ
ื Water Turbine
1 : Runner Turbine
ิ ว
2 : Pelton Turbine
าวศ
3 : Francis Turbine
4 : Kaplan Turbine
สภ
ข ้อที 243 :
อุปกรณ์ใดของโรงไฟฟ้ าพลังนํ า ทีไม่ต ้องติดตังระบบหล่อเย็น เพือชว่ ยในการระบายความร ้อน
1 : Generator
2 : Turbine
3 : Thrust Bearing
4 : Guide Bearing
ข ้อที 244 :
โรงไฟฟ้ าพลังนํ าชนิดสูบกลับ หมายถึง โรงไฟฟ้ าที
1 : ้ งงานของนํ าในการสูบนํ ากลับ
ใชพลั
2 : ้ งงานความร ้อนในการสูบนํ ากลับ
ใชพลั
3 : ้ งงานไฟฟ้ าในการสูบนํ ากลับ
ใชพลั
4 : ใชพลั้ งงานแสงอาทิตย์ในการสูบนํ ากลับ
ข ้อที 245 :
ในโรงไฟฟ้ าพลังนํ าชนิดสูบกลับ ข ้อความใดไม่ถก
ู ต ้อง
1 : สามารถเปลียน Generator เป็ น Motor
2 : สามารถเปลียน Turbine เป็ น Pump
3 : ้ งงานไฟฟ้ าในการสูบกลับ
ใชพลั
4 : ้ งงานเพือสูบนํ ากลับน ้อยกว่าพลังงานทีได ้จากการผลิตไฟฟ้ า
การใชพลั
ธิ
สท
ข ้อที 246 :
สําหรับโรงไฟฟ้ าพลังนํ า ข ้อความใดถูกต ้อง
ิ
1 : สามารถเดินเป็ น Synchronous Motor ได ้ทุกโรง

งวน
2 : สามารถ รับ-จ่าย Reactive Load ได ้ทุกโรง

3 : สามารถสูบนํ ากลับได ้ทุกโรง
4 : ปกติเดินเครืองเพือจ่าย Base Load ทุกโรง
ส
ขอ
ข อ
กร
ข ้อที 247 :
โรงไฟฟ้ าพลังนํ าชนิดสูบกลับ ทีมีกําลังผลิตสูงสุดในประเทศไทย ติดตังอยูท
่ เขื
ี อนลําตะคอง มี
กําลังผลิตเท่าใด
ิ ว
าวศ
1 : Unit ละ 250 MW
สภ
ข ้อที 248 :
ระบบ Pressure Oil Supply System มีหน ้าที
1 : หล่อลืน Thrust และ Guide Bearing
2 : แลกเปลียนความร ้อนให ้กับ Thrust และ Guide Bearing
3 : สง่ กําลังเพือควบคุมปริมาณนํ าเข ้าสู่ Turbine
4 : ระบายความร ้อนให ้กับระบบ Brake
ข ้อที 249 :
ระบบ Pressure Oil Supply System ประกอบด ้วย
1 : Pressure Oil Tank
2 : Pressure Oil Pump
3 : Pressure Oil Tank และ Pressure Oil Pump
4 : Pressure Oil Tank และ Natural Oil Pump
ข ้อที 250 :
สําหรับระบบ Cooling Water System ข ้อใดถูกต ้อง
1 : เป็ นระบบทีใชนํ้ าแลกเปลียนความร ้อนกับนํ ามัน
2 : เป็ นระบบทีใชนํ้ าแลกเปลียนความร ้อนกับอากาศ
3 : เป็ นระบบทีใชนํ้ าระบายความร ้อนให ้กับอุปกรณ์โดยตรง
4 : เป็ นระบบทีใชนํ้ าแลกเปลียนความร ้อนกับนํ ามัน อากาศ และระบายความร ้อนโดยตรง
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 251 :
่ น ้าทีของระบบ Cooling Water System ใน Hydro Power Plant
ข ้อใดทีไม่ใชห
งวน
1 : แลกเปลียนความร ้อนให ้กับระบบหล่อลืน

2 : แลกเปลียนความร ้อน เพือระบายความร ้อนให ้กับ Generator
3 : ระบายความร ้อนให ้กับ Turbine Shaft Seal
ส
4 : ระบายความร ้อนโดยตรงให ้กับ Generator และ Turbine

ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 252 :
าวศ
ระบบ Cooling Water System ใน Hydro Power Plant ประกอบด ้วย
1 : Water Pump
2 : Water Strainer
สภ
3 : Water Tank
4 : Water Pump และ Water Tank
ข ้อที 253 :
ระบบ Lubrication System มีหน ้าที
1 : ระบายความร ้อน
2 : ั ผัสทีมีการเสย
หล่อลืนหน ้าสม ี ดส ี
3 : ระบายความร ้อนและหล่อลืนหน ้าสม ั ผัสทีมีการเสยี ดส ี
4 : แลกเปลียนความร ้อนกับอากาศและนํ า ไม่สม ั ผัสโดยตรงกับอุปกรณ์
ข ้อที 254 :
ระบบ Lubrication System มีหน ้าทีอะไร
1 : หล่อลืนให ้กับ Generator
2 : หล่อลืนให ้กับ Turbine
3 : หล่อลืนให ้กับ Bearing
4 : หล่อลืนให ้กับ Servo Motor
ข ้อที 255 :
ความเร็วรอบของ Turbine โรงไฟฟ้ าพลังนํ า สว่ นมากอยูร่ ะหว่าง
1 : น ้อยกว่า 100 RPM
2 : 100 – 1000 RPM
3 : 1000 – 2000 RPM
4 : มากกว่า 2000 RPM
ธิ
สท
ิ
งวน
ข ้อที 256 :
ถ ้า N = ความเร็วรอบในการหมุน f = ความถีของระบบ P = จํานวน Pole ของ Generator ข ้อใด
ถูกต ้อง
ส
1 : N = 120 f / P
2 : N = f / 120P
ขอ
อ
3 : N = 120P / f
ข
4 : N = P / 120f
กร
ิ ว
ข ้อที 257 :
าวศ
ระบบ Dewatering System มีไว ้สําหรับ
เติมนํ าเข ้าสู่ Draft Tube
สภ
1 :
2 : ยกระดับนํ าให ้สูงขึนบริเวณ Turbine เพือเริมเดินเครือง
3 : กดนํ าบริเวณ Turbine ให ้ตําลง เพือเริมเดินเครือง
4 : เติมนํ าในระบบ Cooling Water System ให ้มีนําอยูเ่ สมอ
ข ้อที 258 :
ขันตอนการเดินเครืองของโรงไฟฟ้ าพลังนํ า ข ้อใดถูกต ้อง
1 : เปิ ดนํ าเข ้าสู่ Turbine -> จ่ายกระแส Excite -> ขนานเครืองเข ้าระบบ
2 : จ่ายกระแส Excite -> ขนานเครืองเข ้า -> ระบบเปิ ดนํ าเข ้าสู่ Turbine
3 : จ่ายกระแส Excite -> ระบบเปิ ดนํ าเข ้าสู่ Turbine -> ขนานเครืองเข ้า
4 : ขนานเครืองเข ้าระบบ -> จ่ายกระแส Excite -> เปิ ดนํ าเข ้าสู่ Turbine
ข ้อที 259 :
ขันตอนการเดินเครืองเพือสูบนํ ากลับของโรงไฟฟ้ าพลังนํ า ข ้อใดถูกต ้อง
1 : สร ้างแรงดันนํ าเบืองต ้น -> เปิ ด Guide Vane -> สูบนํ ากลับเหนือเขือน
2 : เปิ ด Guide Vane -> สร ้างแรงดันนํ าเบืองต ้น -> สูบนํ ากลับเหนือเขือน
3 : สร ้างแรงดันนํ าเบืองต ้น -> เปิ ด Guide Vane -> สูบนํ ากลับท ้ายเขือน
4 : เปิ ด Guide Vane -> สร ้างแรงดันนํ าเบืองต ้น -> สูบนํ ากลับท ้ายเขือน
ข ้อที 260 :
ปริมาณนํ าในอ่างเก็บนํ า ขึนอยูก
่ บ
ั ปั จจัยข ้อใดมากทีสุด
1 : สภาพอากาศ
2 : ปริมาณนํ าฝน
3 : ปริมาณนํ ารัวไหล
ธิ
4 : ปริมาณนํ าฝน, ปริมาณนํ ารัวไหล และ สภาพอากาศ

สท
ิ
งวน
ข ้อที 261 :
ท่อสง่ นํ า (Power Conduit) ทําหน ้าที
ส
ั ย์ เป็ น พลังงานจลน์
1 : เปลียนพลังงานศก
ขอ
อ
2 : เปลียนพลังงานจลน์ เป็ น พลังงานกล
ข
4 : เปลียนพลังงานไฟฟ้ า เป็ น พลังงานจลน์
กร
ิ ว
ข ้อที 262 :าวศ ี ารจ่ายนํ าเข ้าสู่ Turbine ไม่เหมือนกับ ข ้ออืนๆ
โรงไฟฟ้ าพลังนํ าชนิดใดทีมีวธิ ก
สภ
1 : Francis Turbine
2 : Impulse Turbine
3 : Kaplan Turbine
4 : Bulb Turbine
ข ้อที 263 :
สําหรับโรงไฟฟ้ าพลังนํ า ข ้อใดผิด
1 : สามารถเดินเครือง หรือ หยุดเครืองได ้รวดเร็วกว่าโรงไฟฟ้ าอืน
2 : รักษาสภาวะแวดล ้อมเนืองจาก การเดินเครืองได ้ดีกว่าโรงไฟฟ้ าอืนๆ
3 : ิ ธิภาพดีทสุ
มีประสท ี ด เมือเทียบกับโรงไฟฟ้ าอืนๆ
4 : ้
รักษาสมดุลของธรรมชาติ ทําให ้มีนําใชตลอดปี
ข ้อที 264 :
Electro Hydraulic Governor (EHG.) มีหน ้าที
1 : ควบคุมปริมาณการจ่าย Load ทางด ้าน MW
2 : ควบคุมปริมาณการจ่าย Load ทางด ้าน MVAR
3 : ควบคุมปริมาณการจ่าย Load ทางด ้านทัง MW และ MVAR
4 : ไม่เกียวข ้องกับปริมาณ Load ทัง MW และ MVAR
ข ้อที 265 :
Automatic Voltage Regulator (AVR) มีหน ้าที
1 : ควบคุมปริมาณการจ่าย Load ทางด ้าน MW
2 : ควบคุมปริมาณการจ่าย Load ทางด ้าน MVAR
ธิ
3 : ควบคุมปริมาณการจ่าย Load ทางด ้านทัง MW และ MVAR

สท
4 : ไม่เกียวข ้องกับปริมาณ Load ทัง MW และ MVAR

ิ
งวน
ข ้อที 266 :
ส
เขือนใดเป็ น เขือนโรงไฟฟ้ าพลังนํ าขนาดใหญ่แห่งแรกในประเทศไทย

ขอ
อ
1 : เขือนภูมพ
ิ ล
ข
2 : เขือนศรีนครินทร์
3 : เขือนรัชชประภา
กร
4 : เขือนแม่งัดสมบูรณ์ชล
ิ ว
ข ้อที 267 :
าวศ
สภ
สถานทีตังของโรงไฟฟ้ าพลังนํ าในข ้อใดทีไม่ถก
ู ต ้อง
1 : เขือนศรีนครินทร์ ตังอยูท ่ ี จ.กาญจนบุรี
2 : เขือนภูมพ
ิ ล ตังอยูท
่ ี จ.ตาก
3 : เขือนรัชชประภา ตังอยูท ่ ี จ.อุตรดิตถ์
4 : เขือนแม่งัดสมบูรณ์ชล ตังอยูท ี งใหม่
่ ี จ.เชย
ข ้อที 268 :
Dynamic Brake คือ การ Brake เครืองด ้วยหลักการใด
1 : การ Brake เครืองด ้วย แรงต ้านทานการหมุนของนํ า
2 : การ Brake เครืองด ้วย วิธก
ี ารทางไฟฟ้ า
3 : การ Brake เครืองด ้วย วิธกี ารทางกล
4 : การ Brake เครืองด ้วย แรงเฉือย
ข ้อที 269 :
ข ้อใดถูกต ้อง ในเรืองทีเกียวกับ ระบบ Brake ในโรงไฟฟ้ าพลังนํ า
1 : จําเป็ นจะต ้องมี Friction Brake
2 : จําเป็ นจะต ้องมี Dynamic Brake
3 : จําเป็ นจะต ้องมีทงั Friction Brake และ Dynamic Brake
4 : เครืองสามารถหยุดได ้เองโดยไม่ต ้องอาศย ั วิธก
ี าร Brake ใดๆ
ข ้อที 270 :
Friction Brake จะทํางานด ้วยการสนับสนุน จากระบบใด
1 : Air Supply System
ธิ
2 : Water Supply System

สท
3 : Oil Supply System

ิ
4 : Grease Supply System

งวน
ส
ข ้อที 271 :
ขอ
อ
กังหันนํ าชนิดใด สามารถปรับมุม (องศา) ของใบพัดได ้
ข
1 : Impulse Turbine
กร
2 : Fransis Turbine
3 : Kaplan Turbine
4 : ไม่มก
ี งั หันนํ าชนิดทีสามารถปรับมุมของใบพัดได ้
ิ ว
าวศ
สภ
ข ้อที 272 :
ข ้อใดไม่ใชป่ ระโยชน์ของโรงไฟฟ้ าพลังนํ า
1 : ประหยัดการใชเช ้ อเพลิ
ื ง
2 : สามารถพัฒนาเป็ นแหล่งประมงสต ั ว์นําจืด
3 : เป็ นแหล่งนํ าเพือการชลประทาน
4 : ชว่ ยรักษาสภาวะแวดล ้อมโลก
ข ้อที 273 :
Generator โรงไฟฟ้ าพลังนํ าแห่งหนึง มีจํานวนขัว (Pole) ของ Stator เท่ากับ 40 ขัว จะต ้อง
ควบคุมความเร็วรอบในการหมุนเท่าใด จึงจะได ้ความถี 40 Hz
1 : 100 รอบ/นาที
เนือหาวิชา : 422 : 8 Nuclear Power Plant
ข ้อที 274 :
สําหรับปฏิกริ ย
ิ า Fission ทีเกิดขึนในโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ เหตุการณ์ใดไม่ได ้เกิดขึนหลังจาก
นิวเคลียสดูดกลืนนิวตรอน
1 : นิวเคลียสปล่อยนิวตรอน 2-3 ตัวโดยเฉลีย
2 : นิวเคลียสคายพลังงานประมาณ 200 MeV
3 : ึ นธาตุทต่
นิวเคลียสแตกตัวออกเป็ น 3 Fission fragments ซงเป็ ี างจากเดิม
4 : ทุกเหตุการณ์เกิดขึน
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 275 :
งวน
สว่ นประกอบทัวไปสําหรับปฏิกรณ์สว่ นใหญ่ คือ Moderator, Control rod และ Coolant ข ้อใดที
ไม่ถกู ต ้อง
1 : Moderator ทําให ้ Fission นิวตรอนมีพลังงานน ้อยลง เพือนิวตรอนเหล่านีจะมีโอกาสทําให ้
ส
เกิด Fission มากขึน

ขอ
อ
2 : Control rod คือวัสดุสําหรับดูดกลืนนิวตรอน ถูกใสเ่ ข ้าหรือดึงออกเพือควบคุมอัตราการเกิด
ข
Fission
3 : Coolant อาจจะเป็ นของเหลวหรือแก๊ส เคลือนทีภายในปฏิกรณ์เพือถ่ายเทความร ้อน
กร
ิ ว
ข ้อที 276 :
าวศ
สภ
หลักการทํางานของปฏิกรณ์ชนิดนีคือ พลังงานทีได ้จากปฏิกริ ย ิ า Fission ในรูปของความร ้อน จะ
ถ่ายให ้แก่นําทีไหลเวียนในปฏิกรณ์ภายใต ้ความดันทีสูงกว่าความดันบรรยากาศ และนํ าจะไหลผ่าน
Heat exchanger/Steam generator เพือผลิตไอนํ าใน Secondary loop นํ าไปขับเคลือน
Turbine ปฏิกรณ์ชนิดนีคือ
1 : Pressurized water reactor (PWR).
2 : Boiling water reactor (BWR).
3 : Pressurized heavy water reactor (PHWR).
4 : ผิดทุกข ้อ
ข ้อที 277 :
ปฏิกรณ์แบบ Pressurized water reactor (PWR) และแบบ Boiling water reactor (BWR) เป็ น
ปฏิกรณ์สองแบบทีใชกั้ นมากทีสุดในโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ทวโลก
ั ข ้อความในข ้อใดกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง
เกียวกับการทํางานของทังสองแบบ
1 : PWR ทําให ้นํ าในปฏิกรณ์เดือดเป็ นไอนํ าเพือนํ าไปขับเคลือน Turbine โดยตรง
2 : BWR มี 2 Coolant loops โดยทีไอนํ าจะเกิดใน Secondary loop เพือขับเคลือน Turbine
3 : นํ าใน Primary loop ของปฏิกรณ์ทงสองจะเดื
ั อดและเปลียนเป็ นไอนํ าเหมือนกัน เพียงแต่วา่
ความดันใน PWR จะสูงกว่าใน BWR
4 : ไม่ถกู ต ้องทุกข ้อ
ข ้อที 278 :
้ น Moderator ในปฏิกรณ์แบบ Pressurized heavy water reactor (PHWR).
วัสดุในข ้อใดถูกใชเป็
1 : Low pressurized water (H2O).
2 : High pressurized water (H2O).
3 : Heavy water (D2O).
4 : Liquid sodium.
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 279 :
ข ้อใดถูกต ้องเกียวกับปฏิกรณ์แบบ PWR
งวน
1 : Coolant ใน Primary loop ไหลผ่านปฏิกรณ์ภายใต ้ความดันทีสูงมาก

2 : Turbine จะถูกออกแบบให ้สามารถทนรังสไี ด ้สูง เนืองจากไอนํ ามีการปนเปื อน
3 : ื
สามารถทีจะเปลียนแท่งเชอเพลิงได ้โดยทีไม่ต ้องหยุดเดินเครืองปฏิกรณ์
ส
4 : ข ้อ 1 และ 3
ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 280 :
าวศ
สําหรับปฏิกรณ์แบบ BWR ข ้อความในข ้อใดถูกต ้อง
1 : Coolant ใน Primary loop ไหลผ่านปฏิกรณ์ภายใต ้ความดันทีสูงมาก
2 : Turbine จะถูกออกแบบให ้สามารถทนรังสไี ด ้สูง เนืองจากไอนํ ามีการปนเปื อน
ื
สภ
3 : สามารถทีจะเปลียนแท่งเชอเพลิงได ้โดยทีไม่ต ้องหยุดเดินเครืองปฏิกรณ์
4 : ข ้อ 1 และ 3
ข ้อที 281 :
ข ้อความข ้อใดต่อไปนีทีกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง เกียวกับโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์
1 : ไม่มกี ารปล่อย Greenhouse gases สูบ ่ รรยากาศในกระบวนการผลิตไฟฟ้ า
2 : ในปั จจุบน ั ได ้รับการออกแบบให ้สามารถเดินเครืองได ้นานถึงประมาณ 18 เดือน ก่อนทีจะ
ทําการเปลียนแท่งเชอเพลิ ื ง
3 : มี Capacity factor เฉลียสูงกว่า 90% (ใน USA) จึงเหมาะทีจะใชเป็ ้ น base-load
4 : ไม่มข ี ้อใดกล่าวไม่ถก ู ต ้อง
ข ้อที 282 :
Radioactive decay คือ ขบวนการซงึ _____
1 : นิวเคลียสทีไม่เสถียรปล่อยคลืนแม่เหล็กไฟฟ้ าหรืออนุภาค และกลายเป็ นนิวเคลียสทีเสถียร
2 : นิวเคลียสทีไม่เสถียรดูดกลืนคลืนแม่เหล็กไฟฟ้ าหรืออนุภาค และกลายเป็ นนิวเคลียสที
เสถียรมากขึน
3 : นิวเคลียสทีเสถียรปล่อยคลืนแม่เหล็กไฟฟ้ าหรืออนุภาค และกลายเป็ นนิวเคลียสทีไม่เสถียร
ข ้อที 283 :
เวลาครึงชวี ติ (t1/2) ของสารกัมมันตรังส ี คือเวลาทีทําให ้ครึงหนึงของจํานวนนิวเคลียสสลายตัว
และ ค่าคงทีของการสลายตัว (λ) คือ ความน่าจะเป็ นของการสลายตัวต่อหน่วยเวลา ซงทั ึ งสองมี
ความสม ั พันธ์กน
ั คือ (ตามสมการ) ข ้อใดทีไม่ถกู ต ้อง
ธิ
สท
1 : ไอโซโทปใดทีปล่อยรังสอ ี ย่างมาก (ค่าคงทีของการสลายตัวสูง) จะสลายตัวอย่างรวดเร็ว

ิ
2 : พลูโตเนียม-244 (เวลาครึงชวี ต ี ้อยมาก

ิ 80.8 ล ้านปี ) ปล่อยรังสน
ี ี ั
งวน
3 : ยูเรเนียม-233 (เวลาครึงชวต ิ 20.9 นาที) ปล่อยรังสอย่างมากในเวลาสนๆ

ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 284 :
Ionization คือกระบวนการแยกอิเลคตรอนจากอะตอม ทําให ้เกิดอนุภาค 2 อนุภาคทีมีประจุ อะไร
กร
ทีไม่ใช ่ Ionizing radiation
1 : รังส ี Gamma
ิ ว
2 : X-ray.
าวศ
3 : คลืนไมโครเวฟ
4 : อนุภาค Beta
สภ
ข ้อที 285 :
วิธกี ารใดทีไม่เหมาะสมสําหรับการป้ องกันรังส ี
1 : จํากัดเวลาทีได ้รับรังส ี
2 : ลดระยะห่างจากแหล่งกําเนิดรังส ี
3 : ้
ใชคอนกรี ตเพือป้ องกันรังส ี
4 : ทุกข ้อเหมาะสม
ข ้อที 286 :
Nuclear fuel cycle คือกระบวนการทางอุตสาหกรรมทีเกียวข ้องกับการผลิตไฟฟ้ าจากปฏิกริ ย
ิ า
นิวเคลียร์ ข ้อใดทีไม่ถก
ู ต ้อง
ี นิวเคลียร์
1 : Nuclear fuel cycle เริมต ้นจากการขุดยูเรเนียม และจบลงทีการกําจัดของเสย
2 : ยูเรเนียมไดออกไซด์ (UO2) ถูกเปลียนเป็ นยูเรเนียมเฮกซะฟลูออไรด์ (UF6) เนืองจาก
กระบวนการ enrichment ต ้องการยูเรเนียมในรูปของแก๊ส
3 : กระบวนการ enrichment เพิมสดั สว่ นโดยนํ าหนักของ U-235 เป็ น 3 - 5% สําหรับใชเป็
้ น
ื
เชอเพลิ งในโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์
ข ้อที 287 :
ข ้อใดไม่ใชข่ ้อพิจารณาโดยทัวไปสําหรับการแยกประเภทของเสย
ี ทีมีกม
ั มันตภาพรังส ี
1 : ระยะเวลาทีกัมมันตภาพรังสจ ี ากของเสยี อยูใ่ นระดับทีอันตราย
2 : ความเข ้มข ้นของสารกัมมันตภาพรังสข ี องของเสย ี
3 : ของเสย ี ทําให ้เกิดความร ้อนหรือไม่
4 : ทุกข ้อต ้องถูกพิจารณา
ธิ
สท
ิ
งวน
ข ้อที 288 :
ข ้อใดไม่ถก ี ทีมีกม
ู ต ้องเกียวกับของเสย ั มันตภาพรังสใี นระดับสูง (High level waste – HLW)
1 : HLW ปล่อยรังสม ี ากทีสุด แต่มป
ี ริมาณน ้อยทีสุด
ส
2 : HLW ถูกทําให ้เป็ นแท่งของแข็ง Borosilicate glass โดยกระบวนการ Vitrification

ขอ
อ
ื
3 : HLW รวมถึงแท่งเชอเพลิ ้ ้ว
งทีใชแล
ข
กร
ิ ว
ข ้อใดไม่ถกาวศ
ข ้อที 289 :
ี ทีมีสารกัมมันตภาพรังส ี
ู ต ้องเกียวกับการกําจัดของเสย
ี ทีมีกมั มันตภาพรังสใี นระดับตํา (LLW) และระดับกลาง (ILW) ทีมีอายุสนั สามารถที
สภ
1 : ของเสย
จะกําจัดร่วมกันได ้
2 : ของเสย ี ทีมีกมั มันตภาพรังสใี นระดับกลาง (ILW) ทีมีอายุยาว และระดับสูง (HLW) ต ้องนํ า
ไปเก็บทีแหล่งจัดเก็บถาวรลึกลงไปในชนหิ ั น
4 : ผิดทัง 2 ข ้อ
ข ้อที 290 :
สําหรับโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ Decommissioning คือ การกําจัดสารกัมมันตภาพรังสแ
ี ละการรือถอน
โรงไฟฟ้ า วิธก ่ างเลือกทีถูกแนะนํ าโดยทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA).
ี ารใดไม่ใชท
1 : เริมต ้นรือถอน หรือกําจัดสารกัมมันตภาพรังส ี ในเวลาอันสน ั ภายในไม่กเดื
ี อนหรือไม่กปีี
2 : เลือนการรือถอน หรือการกําจัดสารกัมมันตภาพรังส ี ออกไป 40 ถึง 60 ปี
ี เหลื
3 : ทําให ้โรงไฟฟ้ าอยูใ่ นสภาวะทีไม่จําเป็ นจะต ้องเคลือนย ้ายสารกัมมันตภาพรังสท ี ออยู่
ออกไป
4 : ทังหมดถูกแนะนํ าโดย IAEA
ข ้อที 291 :
ข ้อใดไม่ถก
ู ต ้องเกียวกับพลูโตเนียม
1 : พลูโตเนียมเป็ น By-product ของกระบวนการ Fission ในปฏิกรณ์นวิ เคลียร์
ื
2 : Reactor-grade พลูโตเนียม จาก Reprocessing แท่งเชอเพลิ ้ ้วของโรงไฟฟ้ า
งใชแล
นิวเคลียร์ถก ้ นเชอเพลิ
ู ใชเป็ ื งในเตาปฏิกรณ์
ื
3 : Reactor-grade พลูโตเนียม จาก Reprocessing แท่งเชอเพลิ งใชแล้ ้วของโรงไฟฟ้ า
นิวเคลียร์ถก ้ นอาวุธนิวเคลียร์
ู ใชเป็
ธิ
ข ้อที 292 :
สท
ในปฏิกรณ์นวิ เคลียร์ นิวตรอนเป็ นอนุภาคทีสําคัญทีสุด เพราะมันสามารถทีจะทําให ้เกิด Fission

ิ
ิ าลูกโซ่ (Chain reaction) โดยทัวไปเรามักจะกําหนด Generation ของนิวตรอนเริมต ้น

และปฏิกริ ย
จากการเกิดในปฏิกริ ย ิ า Fission จนกระทังตาย _____
งวน
1 : โดยถูกดูดกลืนภายในปฏิกรณ์
2 : โดยหลุดออกไปจากระบบ
3 : ในปฏิกริ ย
ิ า Fission
ส
ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 293 :
าวศ
ั สว่ นของจํานวนนิวตรอนใน Generation ใดๆ ต่อ
Multiplication factor (k) ถูกนิยามว่าเป็ นสด
จํานวนนิวตรอนใน Generation ก่อนหน ้านี ข ้อใดต่อไปนีไม่ถก ู ต ้อง
1 : ถ ้า k > 1 ปฏิกริ ย
ิ าลูกโซจ ่ ะเกิดขึนอย่างควบคุมไม่ได ้ ในขณะทีจํานวนนิวตรอนลดลงจาก
Generation สู่ Generation
สภ
2 : ถ ้า k < 1 ปฏิกริ ยิ าลูกโซจ ่ ะลดลง ในขณะทีจํานวนนิวตรอนใน Generation ถัดไป จะเพิม
มากขึน
3 : ถ ้า k = 1 ปฏิกริ ย ิ าลูกโซจ ่ ะไม่ขนกั
ึ บเวลา ในขณะทีจํานวนนิวตรอนใน Generation ต่อ
เนืองกันจะไม่เท่ากัน
ข ้อที 294 :
ในการป้ องกันรังสข ี องโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ บ่อยครังจะได ้ยินคําว่า ALARA นอกเหนือจากการ
ควบคุมรังสใี ห ้ตํากว่าเกณฑ์มาตรฐาน ALARA คืออะไร
1 : As Low As Reasonably Allowable.
2 : As Long As Reasonably Allowable.
3 : As Low As Reasonably Achievable.
4 : As Long As Reasonably Achievable.
ข ้อที 295 :
ู ต ้องเกียวกับกลยุทธ์ Defense in depth ทีถูกนํ ามาใชส้ ําหรับโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์
ข ้อใดไม่ถก
1 : ป้ องกันไม่ให ้เกิดอุบตั เิ หตุ โดยการป้ องกันไม่ให ้สภาวะของโรงไฟฟ้ าเบียงเบนไปจากสภาวะ
การทํางานปกติ
2 : จํากัดผลกระทบทีเป็ นไปได ้จากการเกิดอุบต ั เิ หตุ
3 : ในกรณีทอุ ี บต
ั เิ หตุเกิดขึน ป้ องกันไม่ให ้มันกลายเป็ นอุบต
ั เิ หตุทรุี นแรง
ข ้อที 296 :
ธิ
ข ้อใดไม่ใชช่ นส
ิ ว่ นหรืออุปกรณ์ทช
ี ว่ ยในการกักเก็บและควบคุมสารกัมมันตรังสใี นกรณีเกิดอุบต
ั เิ หตุ
ทังภายในและภายนอกโรงไฟฟ้ า
สท
1 : Fuel matrix.
ิ
2 : Fuel cladding.
งวน
3 : Containment system.
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 297 :
ถ ้าท่านยืนอยูใ่ นห ้องทีมีแหล่งกําเนิดอนุภาค/รังส ี 3 ชนิด คือ alpha particles, beta particles
กร
และ gamma rays ท่านคิดว่าควรจะยืนอยูท ่ ตํ
ี าแหน่งใดเพือให ้ได ้รับอันตรายน ้อยทีสุด
1 : อยูไ่ กลจาก alpha ให ้มากทีสุด
ิ ว
2 : อยูไ่ กลจาก beta ให ้มากทีสุด
าวศ
3 : อยูไ่ กลจาก gamma ให ้มากทีสุด
4 : อยูท ่ ไหนก็
ี ได ้ อันตรายเท่าๆกัน
สภ
ข ้อที 298 :
จงหาจํานวนนิวตรอน และโปรตอน สําหรับนิวเคลียสของ Li
1 : 4 นิวตรอน และ 3 โปรตอน
ข ้อที 299 :
ปฏิกริ ย ่ งว่างคือธาตุใด
ิ า Fission (ดังรูป) จงหาว่า Fission fragment ในชอ
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 300 :
ธิ
สท
ิ
ส งวน
ขอ
ข อ
กร
ิ ว
าวศ
สภ
1 : 95.105144 MeV
2 : 142.126786 MeV
3 : 183.599473 MeV
4 : 2062.722195 MeV
ข ้อที 301 :
1:
2:
3:
้ าอะไร
4 : ถูกทุกข ้อ แล ้วแต่วา่ จะนํ าไปใชทํ
ธิ
สท
ข ้อที 302 :
ิ
ส งวน
1 : 0.05 เท่า
ขอ
อ
2 : 20 เท่า
ข
3 : 235 เท่า
กร
ิ ว
ข ้อใดถูกต ้องสําหรับปฏิกรณ์แบบ PWR ?
สภ
1 : It has a primary cooling circuit flowing through the reactor core under very high
pressure.
2 : The turbine must be protected against radiation since the steam is contaminated.
3 : It can be refueled without shutting down by isolating individual pressure tubes
from the cooling circuit.
4 : Both 1 and 3.
เนือหาวิชา : 423 : 9 Control & Instrumentation of Power Plant
ข ้อที 304 :
Indicating Instrument หรือ Indicator คือ
1 : Bourdon Tube ใชวั้ ด Pressure
2 : ิ ว่ นทีใชวั้ ด โดยมี Transmitter ร่วมอยูด
ชนส ่ ้วยเพือจะได ้สง่ สญ
ั ญาณไปยัง Control Room
3 : อุปกรณ์ทบอกให
ี ้เราทราบว่าอะไร เกิดขึน เชน ่ Lamp ทีอยูใ่ กล ้ๆ Control Switch
4 : ระบบป้ องกันไม่ให ้อุปกรณ์เสย ี หาย
ข ้อที 305 :
วิธกี ารอ่าน Gauge ให ้ถูกต ้องควรทําดังนีคือ
้ นขยายสอ
1 : ใชแว่ ่ งเวลาอ่าน เพือให ้เห็นสเกลได ้ชด
ั และละเอียดขึน
2 : เคาะ Gauge ทีหน ้าปั ดเวลาอ่านด ้วยเพือให ้แน่ใจว่า จะไม่มค
ี วามผิดพลาดเนืองจากความ
ฝื ด
3 : อ่านหลายๆ ครัง แล ้วนํ าค่าทีอ่านได ้ทังหมดมาหาค่าเฉลียตามหลักทางวิชาสถิต ิ ท่านว่าค่า
เฉลียนันเป็ นค่าทีควรยอมรับ
4 : ยืนอ่านในตําแหน่งอันสมควร
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 306 :
ี
Bimetallic Thermometer แสดงค่าด ้วย Pointer ชสเกล ั หลักการ
โดยอาศย
งวน
1 : Bourdon Tube ยืดหด เนืองจากความดันของของเหลวทีอยูใ่ น Sensing Element ได ้รับ

ความร ้อนแล ้วขยายตัวสง่ ผ่าน Pressure นันมาตามท่อเล็กๆ
2 : โลหะเมือได ้รับความร ้อนแล ้วจะเกิดการขยายตัว
ส
ขอ
อ
ื
3 : โลหะต่างชนิดกันมาเชอมติดกันไว ้ เวลาได ้รับความร ้อนจะเกิดการขยายตัวไม่เท่ากัน ทําให ้
ข
เกิดการบิดตัว
ื
4 : โลหะต่างชนิดกันมาเชอมติดกันไว ้ เวลาได ้รับความร ้อนจะเกิดการหลอมเหลวไม่พร ้อมกัน
กร
ิ ว
ข ้อที 307 :าวศ ้ องมือวัดแบบไหนดีจาก 4 แบบ ข ้าง
ต ้องการวัด Pressure ทีมีคา่ ประมาณ 7 bar (g) ควรใชเครื
สภ
ล่างนี จึงจะสะดวกและให ้ค่าถูกต ้อง
1 : Thermocouple แบบ Chromel-Alumel, Type K
2 : Bourdon Tube Gauge
3 : ึ าให ้มีขนาดของ Column สนกว่
Manometer ปรอท ซงทํ ั า Manometer นํ า
4 : Diaphragm Gauge
ข ้อที 308 :
ข ้อดีของการใช ้ Thermowell ในการวัด Temperature ด ้วยแทนทีจะใช ้ Thermometer ตาม
ลําพังคือ
1 : ทําให ้เปลียน Thermometer ได ้ ในขณะทีมี Flow ใน Line
2 : ทําให ้วัดได ้ถูกต ้องแม่นยําขึน
3 : ทําให ้ค่าทีอ่านได ้เปลียนตามความเป็ นจริงเร็วขึน
4 : ทําให ้ Sensing Element สม ั ผัสกับสงที
ิ วัดได ้มากขึน
ข ้อที 309 :
ิ
เมือพบว่า Local Pressure Gauge อ่านเกิน Full Scale สงแรกที
ควรทําคือ
1 : ่ มมาจัดการเปลียน Gauge ใหม่
แจ ้งให ้หน่วยซอ
2 : เลิกใช ้ Gauge นัน โดยปิ ด Valve ใน Line ทีมาเข ้า Gauge
3 : หรี Valve ใน Line ทีมาเข ้า Gauge เพือให ้ Pressure ตกลง
4 : ไม่ต ้องทําอะไร เพราะผู ้ผลิตออกแบบมาย่อมแน่ใจว่าทนได ้
ข ้อที 310 :
ั ญาณมาตรฐานทางไฟฟ้ าของอุปกรณ์วด
สญ ั มีคา่ เท่ากับ
ธิ
1 : 0 – 20 mA DC
สท
2 : 4 – 20 mA DC
3 : 0 – 5 V DC
ิ
4 : 1 – 5 V DC
งวน
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 311 :
คุณสมบัตข ิ ้อใดของ Transmitter ทีแตกต่างจาก Transducer
กร
1 : แปลงสญ ั ญาณ
2 : ั ญาณ Output เป็ นสญ
สญ ั ญาณมาตรฐาน
ิ ว
3 : สง่ สญ
ั ญาณออกไปยังอุปกรณ์อนๆ
ื
าวศ
4 : ขยายสญ ั ญาณ
สภ
ข ้อที 312 :
Temperature Sensor ชนิดใดทีเหมาะสําหรับวัดสญ
ั ญาณทีมีการเปลียนแปลงตลอดเวลา เชน
่
อุณหภูมข ิ องไอนํ า
1 : Resistance Temperature Detector (RTD)
2 : Bimetallic Thermometer
3 : Thermocouple
4 : Filled Thermal System
ข ้อที 313 :
1 : Venturi
2 : Flow Nozzle
3 : Pitot Tube
4 : Orifice
ข ้อที 314 :
วิธใี ดคือวิธที นิ ้
ี ยมใชในการป้ องกัน Sensing Element ของ Pressure Gauge ทีวัดความดันของไอ
ั ผัสกับไอนํ า ทีมีอณ
นํ า ไม่ให ้สม ุ หภูมส
ิ งู มากๆ
1 : ใช ้ Air Cooler ทําให ้ไอนํ าเย็นลงก่อนทีจะเข ้าสู่ Pressure Gauge
2 : ใช ้ Seal Loop (คือ สว่ นของท่อนํ าไอนํ าทีขดเป็ นรูปวงกลม 540 องศา) ต่อไว ้ในท่อนํ าไอ
นํ าก่อนทีจะต่อเข ้า Pressure Gauge เพือให ้ไอนํ ากลันตัวเป็ นหยดนํ าค ้างอยูใ่ นท่อทีขดไว ้
ธิ
ทําให ้ไอนํ าเย็นตัวลงก่อน

3 : ใช ้ Diaphragm โลหะ ต่อกันไม่ให ้ไอนํ าเข ้าถึง Pressure Gauge แต่การเปลียนแปลงความ
สท
ดันรับรู ้ได ้โดย Diaphragm

ิ
4 : ใช ้ Needle Valve ต่อไว ้ในท่อนํ าไอนํ าก่อนทีจะต่อเข ้า Pressure Gauge เพือทําให ้

ของไหลเข ้าสู่ Pressure Gauge ได ้ชาลง ้ จะได ้เย็นลงก่อน
งวน
ส
ขอ
ขอ
ข ้อที 315 :
่ าเหตุโดยตรงในการ TRIP BOILER
สาเหตุใดไม่ใชส
กร
1 : DRUM LEVEL LOW
2 : DRUM LEVEL HIGH-HIGH
ิ ว
3 : AIR FLOW LOW
าวศ
4 : FUEL PRESSURE HIGH-HIGH
สภ
ข ้อที 316 :
ตามกฎ NFPA จะต ้องมีลมอย่างน ้อย กี % ของ Full Load ของ Boiler เพือจะทําให ้ Boiler
สามารถอยูไ่ ด ้ (Boiler ไม่ Trip)
1 : 10 %
2 : 15 %
3 : 20 %
4 : 25 %
ข ้อที 317 :
ตามกฎ NFPA จะต ้องมีลมอย่างน ้อย กี % ของ Full Load ของ Boiler เพือจะทําการ Purge
ื
Boiler (ไล่เชอเพลิ
งออกจากเตา)
1 : 15 %
2 : 20 %
3 : 30 %
4 : 40 %
ข ้อที 318 :
ตามกฎ NFPA จะต ้อง Purge Boiler อย่างน ้อย กีนาที
1 : 5 นาที
2 : 10 นาที
3 : 15 นาที
4 : 20 นาที
ธิ
สท
ข ้อที 319 :
ิ
FAN ตัวใดเป็ นตัวควบคุมปริมาณอากาศในการเผาไหม ้ใน Boiler

งวน
1 : IGNITER AIR BOOSTER FAN

2 : INDUCE DRAFT FAN
3 : FORCE DRAFT FAN
ส
4 : GAS RECIRCULATION FAN

ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 320 :
าวศ
FAN ตัวใดเป็ นตัวควบคุม Pressure ใน Boiler ทีเป็ นแบบ Negative Pressure (เตาลบ)
1 : IGNITER AIR BOOSTER FAN
2 : INDUCE DRAFT FAN
สภ
3 : FORCE DRAFT FAN
4 : GAS RECIRCULATION FAN
ข ้อที 321 :
PUMP ตัวใดเป็ นตัวควบคุมระดับนํ าใน DRUM
1 : CONDENSATE PUMP
2 : AUXILIARY PUMP
3 : BOILER FEED PUMP
4 : CIRCULATING WATER PUMP
ข ้อที 322 :
PUMP ตัวใดเป็ นตัวควบคุมระดับนํ าใน DEAERATOR (อุปกรณ์ไล่อากาศออกจากนํ าก่อนเข ้า
Boiler ของโรงไฟฟ้ าพลังความร ้อน)
1 : CONDENSATE PUMP
2 : AUXILIARY PUMP
3 : BOILER FEED PUMP
4 : CIRCULATING WATER PUMP
ข ้อที 323 :
้ อเพลิ
ในโรงไฟฟ้ าพลังความร ้อน Controller ตัวใดทีไม่ได ้ ควบคุมปริมาณการใชเช ื งเพือสร ้าง
พลังงานโดยตรงให ้กับ Boiler
1 : FUEL OIL CONTROLLER
2 : IGNITOR OIL CONTROLLER
3 : FUEL GAS CONTROLLER
ธิ
4 : WARM-UP OIL CONTROLLER

สท
ิ
งวน
ข ้อที 324 :
ระบบใด หรือ อุปกรณ์ใดทีไม่เกียวกับการควบคุมไม่ให ้ความดันของ Drum ใน Boiler สูงเกินไป
ส
1 : BOILER WATER CIRCULATING CONTROL

ขอ
อ
2 : SAFETY VALVE
ข
3 : FUEL CONTROL
4 : RELIEF VALVE
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 325 :
โดยทัวไป ระบบ Control ใดทีไม่ใชร่ ะบบ Control โดยตรง ต่อ Load ของ Steam Turbine ทีจ่าย
สภ
ออกสูร่ ะบบ
1 : FREQUENCY CONTROL
2 : FUEL CONTROL
3 : GOVERNOR CONTROL
4 : SPEED CONTROL
ข ้อที 326 :
การ START UP TURBINE เราควรอุน ่ Turbine เพือรอการขยายตัวทีความเร็วรอบประมาณ
มากกว่ากีเท่าของ Rated Speed เล็กน ้อย
1 : 1/10
2 : 1/5
3 : 2/3
4 : 2/7
ข ้อที 327 :
วัตถุทหมุ ่ Steam Turbine สว่ นใหญ่ จะมี Natural Frequency ทีประมาณกีเท่าของ
ี นได ้ เชน
Rated Speed (Node ที 1)
1 : 1/10
2 : 1/5
3 : 2/3
4 : 2/7
ข ้อที 328 :
ธิ
ื างกัน แต่ VALVE ตัวใดทีไม่ได ้ใช ้ Control

VALVE ทีเปิ ด-ปิ ด Steam เข ้า Turbine อาจมีชอต่
เพียงแต่เป็ น Protection
สท
1 : THROTTLE VALVE
ิ
2 : GOVERNING VALVE
งวน
3 : REHEATED STOP VALVE

4 : INTERCEPTOR VALVE
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 329 :
STEAM TURBINE ทีเป็ นแบบ CONDENSING TURBINE ค่าความดันใน Condenser ควรมีคา่
กร
1 : สูงกว่าความดันบรรยากาศ
2 : ตํากว่าความดันบรรยากาศ
ิ ว
3 : เท่ากับความดันบรรยากาศ
าวศ
4 : ขึนอยูก
่ บ ้
ั การใชงานของ Turbine
สภ
ข ้อที 330 :
ในการ Control Turbine Speed ปกติของโรงไฟฟ้ าพลังความร ้อน เราควรตัง Speed Droop ไว ้ที
ประมาณ กี % (ความเร็วในการเปลียนแปลง Load)
1 : 0%
2 : 5%
3 : 15 %
4 : 30 %
ข ้อที 331 :
ถ ้าเราตังอัตราการเปลียนแปลง Load (Speed Droop) ทีผิดไปจาก Specification โดยทีตังสูงกว่า
Spec. (โดยไม่ Over Limit) จะเกิดอะไรขึน
1 : ไม่มผ
ี ลใด ๆ
2 : อัตราการเปลียนแปลง Load เร็วขึน
3 : อัตราการเปลียนแปลง Load ชาขึ ้ น
4 : ขึนอยูก ั การใช ้ Load ของระบบ
่ บ
ข ้อที 332 :
่ าเหตุในการ Trip Steam Turbine
ข ้อใดทีไม่ใชส
1 : TURBINE VIBRATION HIGH
2 : CONDENSATE PUMP TRIP
3 : TURBINE LUBE OIL PRESS LOW
4 : CONDENSER VACUUM LOW
ธิ
สท
ข ้อที 333 :
ิ
ข ้อใดทีไม่ใช ่ สาเหตุททํ
ี าให ้ Thermal Stress ของ Steam Turbine สูงขึน
งวน
1 : LUBE OIL PRESSURE HIGH

2 : ลด Load เร็วเกินไป
3 : เพิม Load เร็วเกินไป
ส
4 : ไม่รอเวลาให ้ Turbine ขยายตัว

ขอ
ข อ
กร
ิ ว
ข ้อที 334 :
าวศ
ระบบ Control ของ Turbine มีหลายชนิด แล ้วแต่ผู ้ผลิต แต่ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช ่ ชอย่
ื อของระบบ
Turbine Control
1 : AGC
สภ
2 : EHG
3 : BCS
4 : EHC
ข ้อที 335 :
Thermal Plant ในประเทศไทย โดยปกติ ควร Control ให ้ Lube Oil Temperature สําหรับ
้
Steam Turbine ไว ้ทีประมาณ กีองศา C ขณะใชงาน Full Load
1 : 20
2 : 40
3 : 60
4 : 80
ข ้อที 336 :
สําหรับ Thermal Plant ทีมี Generator แบบ 2 Pole ค่า Speed ของ Steam Turbine ทีต่อตรง
กับ Generator แล ้วทําความถีเท่ากับ 50 Hz จะต ้องเป็ นเท่าไร
1 : 750 RPM
2 : 1500 RPM
3 : 3000 RPM
4 : 3600 RPM
ข ้อที 337 :
้
ระบบ Control ของโรงไฟฟ้ ายุคหลัง ทีมีการใชคอมพิ วเตอร์เข ้ามาชว่ ยนัน การ Control ของ
Turbine ทีเรียกว่า “Turbine Follow” หมายถึง ระบบ Control ของ Turbine จะควบคุม
Parameter อะไร เป็ นหลัก [First Priority]
ธิ
1 : STEAM TEMPERATURE
สท
2 : STEAM PRESSURE
3 : TURBINE LOAD
ิ
4 : FREQUENCY ของระบบ
งวน
ส
เนือหาวิชา : 424 : 10 Environment Aspects of Power Plant

ขอ
ข อ
ข ้อที 338 :
กร
ิ
โรงไฟฟ้ าต่อไปนี มีประเภทใดทีให ้ผลกระทบต่อสงแวดล ้อมน ้อยทีสุด
1 : โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนทีใชถ่้ านหินเป็ นเชอเพลิ
ื ง
ิ ว
2 : โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนทีใชนํ้ ามันเตาเป็ นเชอเพลิ
ื ง
าวศ
3 : โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนทีใชก๊้ าซธรรมชาติเป็ นเชอเพลิ
ื ง
4 : โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนทีใชช้ วี มวลเป็ นเชอเพลิ
ื ง
สภ
ข ้อที 339 :
โรงไฟฟ้ า Combined cycle ทีใชก๊้ าซธรรมชาติเป็ นเชอเพลิ
ื ง มักจะต ้องหาวิธค
ี วบคุมมลพิษชนิดใด
เป็ นพิเศษ
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 340 :
ระบุชนิดมลพิษทีสําคัญจากโรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนทีใชเช
้ อเพลิ
ื ง Fossil
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 341 :
ระบุชนิดมลพิษทีสําคัญทีปล่อยออกจากโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์
1 : ี ปล่
รังสท ี อยออก
2 : ื
กากเชอเพลิ งกัมมันตภาพ
3 : ความร ้อนทีปล่อยออก
ธิ
4 : ทัง 3 ตัว
สท
ิ
งวน
ข ้อที 342 :
ส
ขอ
อ
1 : ถ่านหิน
ข
2 : ถ่านหินและนํ ามัน
กร
4 : ชวี มวล
ิ ว
ข ้อที 343 :
าวศ
สภ
1 : Greenhouse effect
2 : ฝนกรด
3 : ก่อให ้เกิดปั ญหาต่อสุขภาพ
4 : ทัง 3 อย่าง
ข ้อที 344 :
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 345 :
1:
2:
3:
ธิ
4:
สท
ิ
งวน
ข ้อที 346 :
ส
ขอ
ข อ
กร
1 : ชนิดเดียว
2 : 2 ชนิด
ิ ว
3 : 3 ชนิด
าวศ
4 : 4 ชนิด
สภ
ข ้อที 347 :
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 348 :
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 349 :
อะไรทีไม่ใช ่ Particulate matter จากโรงไฟฟ้ าพลังความร ้อน
ธิ
1 : Unburnt carbon
สท
2 : Ash
3 : สารประกอบซล ั เฟต
ิ
4 : สารประกอบ CH
งวน
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 350 :
กร
ิ ว
1 : Flue gas recirculation
าวศ
2 : FGD
3 : Electrostatic precipitator
4 : ฉีดพ่นด ้วยไอนํ า
สภ
ข ้อที 351 :
1 : Flue gas recirculation

2 : FGD
4 : ฉีดพ่นด ้วยไอนํ า
ข ้อที 352 :
1 : ใช ้ Low-NOx burner
2 : ใชวิ้ ธฉ
ี ีดพ่นไอนํ าเข ้าไปในห ้องเผาไหม ้
3 : ้
ใชวิธฉ ี ีดพ่นนํ าเข ้าไปในห ้องเผาไหม ้
4 : ทัง 3 วิธข ี ้างต ้น
ข ้อที 353 :
ปั ญหาอะไรต่อไปนีทีไม่ได ้เกิดจาก NOx
1 : ปั ญหาการมองเห็น
2 : ปั ญหาต่อสุขภาพของมนุษย์
3 : ฝนกรด
ธิ
4 : ปั ญหาทัง 3 ข ้อ เกิดจาก NOx ทังนัน

สท
ิ
งวน
ข ้อที 354 :
วิธก ิ ธิภาพดีทสุ
ี ารลด Particulate matter ทีมีประสท ี ดในปั จจุบน
ั คือ
ส
1 : ใช ้ Cyclones
ขอ
อ
2 : ใช ้ Gravity settling chamber
ข
3 : ใช ้ Electrostatic precipitator
4 : ใช ้ Fabric (bag) filter
กร
ิ ว
Thermal pollution จากโรงไฟฟ้ า มักจะพิจารณาอะไรเป็ นหลัก
สภ
1 : ความร ้อนจากตัวโรงไฟฟ้ า
2 : ความร ้อนจากไอเสย ี ทีปล่อยออกปล่อง
3 : ความร ้อนจากนํ าหล่อเย็นทีระบายออก
4 : ความร ้อนทีระบายออกที Cooling tower
ข ้อที 356 :
ประเทศไทยมีมาตรฐานควบคุมปริมาณและอัตราการปลดปล่อยมลพิษจากโรงไฟฟ้ ากีชนิด
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 357 :
ในปั จจุบน ิ
ั การขออนุญาตตังโรงไฟฟ้ าขนาดเท่าใด ต ้องทํารายงานผลกระทบสงแวดล ้อม (EIA)
1 : 1 MW ขึนไป
ข ้อที 358 :
ิ ธิภาพสูงขึน จะทําให ้มลพิษทีปลดปล่อยจาก
การปรับปรุง Thermal power plants เพือให ้มีประสท
ธิ
โรงไฟฟ้ ามีปริมาณน ้อยลง เหตุเพราะ

สท
1 : อุณหภูมก ิ ารเผาไหม ้มีคา่ สูงขึน

ิ
ื งน ้อยลง
3 : ขีเถ ้ามีปริมาณน ้อยลง
งวน
4 : อากาศสว่ นเกินมีคา่ Optimum
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 359 :
อุปกรณ์ชนิดใดต่อไปนี ทีไม่คอ ้
่ ยใชในการกํ าจัด Particulates จากโรงไฟฟ้ าพลังความร ้อน
กร
1 : Cyclones
ิ ว
3 : Fabric filter
าวศ
4 : Wet scrubbers
สภ
ข ้อที 360 :
1 : 1 kg/s
2 : 0.5 kg/s
3 : 3 kg/s
4 : 0.1 kg/s
ข ้อที 361 :
นํ าหล่อเย็น Condenser ภายหลังรับความร ้อนมาแล ้ว จะต ้องปล่อยลงแหล่งนํ าธรรมชาติ โดยมี
อุณหภูมไิ ม่เกินทีกฎหมายกําหนด มักใชวิ้ ธใี ดในการลดอุณหภูมก
ิ อ
่ นปล่อยลงแหล่งนํ าธรรมชาติ
1 : ใช ้ Cooling tower ลดอุณหภูม ิ
2 : ใชฉี้ ดพ่นเป็ นฝอยละอองในอากาศ
3 : ให ้ไหลผ่านรางระบายแบบเปิ ดเป็ นระยะทางไกลๆ ก่อนปล่อย
4 : ให ้ไหลผ่านท่อเป็ นระยะทางไกลๆ ก่อนปล่อย
ข ้อที 362 :
ในการเผาไหม ้ถ่านหินทีมี % S สูงในเตาแบบ Fluidized bed มีสว่ นในการลดมลพิษชนิดใด
1 : ชว่ ยลด SOx
2 : ชว่ ยลด NOx
3 : ชว่ ยลด SOx และ NOx
4 : ชว่ ยลด Particulates
ธิ
สท
ิ
งวน
ข ้อที 363 :
ั สว่ นระหว่าง Bottom และ
ในการเผาไหม ้ถ่านหินบด (pulverized coal) ในโรงไฟฟ้ าพลังไอนํ า สด
Fly ash มีคา่ ประมาณเท่าใด
1 : 20 : 80
ส
2 : 80 : 20
ขอ
อ
3 : 30 : 70
ข
4 : 70 : 30
กร
ิ ว
ข ้อที 364 :
้ าวศ
การใชประโยชน์จาก Fly ash ทีสําคัญ คือ
้
สภ
1 : ใชถมที
2 : ใชปรั้ บสภาพดิน
3 : ใชเป็ ้ นสว่ นผสมทําพืนรองเท ้า
4 : ใชทํ ้ าคอนกรีต
ข ้อที 365 :
ั มักจะกําจัด Fly ash โดยใช ้
โรงไฟฟ้ าถ่านหินทีทันสมัยในปั จจุบน
1 : Cyclones
2 : Fabric filter
4 : Wet scrubbers
ข ้อที 366 :
้
ในสถานทีขาดแคลนนํ า มักใชระบบหล่ ั Cooling tower จุดอ่อนสําคัญของ
อเย็นแบบปิ ด โดยอาศย
วิธนี ี คือ
1 : ต ้องใช ้ Cooling tower ขนาดใหญ่มาก ใชพลั ้ งงานสูง
2 : Evaporation loss มีคา่ สูง ต ้องเติมนํ าชดเชยมาก
3 : ต ้องใชพื้ นทีบริเวณกว ้างขวาง
4 : เกิดหมอกในบางโอกาส ซงมี ึ ผลต่อสุขภาพ
ข ้อที 367 :
ั ว์ อย่างไร
NOx จากโรงไฟฟ้ า เป็ นภัยต่อมนุษย์และสต
1 : ทําให ้มีปัญหาต่อระบบหายใจ
2 : ทําให ้มีปัญหาต่อการมองเห็น
ธิ
3 : ทําให ้เลือดขาด Oxygen

สท
ิ
วน
สง
ข ้อที 368 :
การลด NOx จากโรงไฟฟ้ าถ่านหิน มักใชวิ้ ธใี ด
ขอ
อ
ข
2 : ใช ้ Bag filter
3 : ใช ้ Flue gas recirculation
กร
4 : ใช ้ FGD
ิ ว
ข ้อที 369 :
าวศ
สภ
วิธกี ารลด SOx จากโรงไฟฟ้ าถ่านหิน มักใชวิ้ ธอ
ี ะไร
2 : ใช ้ Cyclones
3 : ช ้ Flue gas recirculation
4 : ใช ้ FGD
ข ้อที 370 :
ี งดังมากทีสุดเวลาเดินเครือง
อุปกรณ์โรงไฟฟ้ าพลังไอนํ าชนิดใด ทีมีเสย
1 : ชุด Turbine – เครืองปั นไฟ
2 : ID และ FD fans
3 : Power transformer
4 : ปั ม
ข ้อที 371 :
ื
เมือเปรียบเทียบความร ้อน จากเชอเพลิ งเป็ น 100% โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนธรรมดาจะสง่ ความ
ิ
ร ้อนกลับไปให ้สงแวดล ้อมประมาณร ้อยละเท่าไร
1 : ร ้อยละ 70
2 : ร ้อยละ 50
3 : ร ้อยละ 60
4 : ร ้อยละ 40
ข ้อที 372 :
ปั ญหาสําคัญ ทีเกิดจากโรงไฟฟ้ า Combined cycle ทีใชก๊้ าซธรรมชาติเป็ นเชอเพลิ
ื งในปั จจุบน
ั คือ
ธิ
1 : ปล่อย NOx เกินมาตรฐาน

สท
2 : การเกิดฝนกรดในปล่อง
ิ
3 : ใชนํ้ ามาก
4 : ี งดังเกินมาตรฐาน
เสย
งวน
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 373 :
้ องสูงทีสุด
โรงไฟฟ้ าชนิดใดต่อไปนี ทีใชปล่
กร
ิ ว
3 : โรงไฟฟ้ า Gas turbine
าวศ
4 : โรงไฟฟ้ า Hybrid
สภ
ข ้อที 374 :
เหตุผลในการเลือกตังโรงไฟฟ้ าถ่านหินติดชายฝั งทะเล คือ
1 : ขนสง่ ถ่านหินจากต่างประเทศได ้สะดวก
2 : อาศยั นํ าทะเลในการหล่อเย็น Condenser
3 : มลพิษสว่ นใหญ่จะตกทะเลไปหมด
ข ้อที 375 :
มีการเสนอให ้ตังโรงไฟฟ้ าในทะเล จะได ้ลดปั ญหามลพิษทีมีตอ ิ ชวี ต
่ สงมี ิ ปั ญหาสําคัญทีแนวทางนี
ไม่ได ้รับการพิจารณา คือ
1 : Stability ของโรงไฟฟ้ า
2 : ค่าใชจ่้ ายในการออกแบบ ก่อสร ้าง
3 : ปั ญหาแผ่นดินไหวและสน ึ ามิ
4 : ปั ญหาลมพายุ
ข ้อที 376 :
การทีมีการสร ้างปล่องสูงๆ ในโรงไฟฟ้ าบางประเภทนัน วัตถุประสงค์สําคัญก็เพือ
1 : ลดอุณหภูมข ี ปริมาณการปลดปล่อยมลพิษจะได ้น ้อยลง
ิ องไอเสย
2 : จะได ้มีแรงดูดสารมลพิษให ้ออกปล่องได ้มากขึน
3 : จะได ้กระจายสารมลพิษออกไปได ้กว ้างไกลมากขึน
4 : ิ ว่ นลดแรงกระทําต่อปล่องได ้มากยิงขึน
เพือให ้สามารถติดตังชนส
ธิ
สท
ข ้อที 377 :
อะไรเป็ นมลพิษตัวสําคัญทีปลดปล่อยจากโรงไฟฟ้ าชวี มวล
ิ
1 : NOx
วน
2 : SOx
3 : Particulates
สง
4 : CO
ขอ
อ
ข
กร
เนือหาวิชา : 425 : 11 Steam Power Plant
ิ ว
าวศ
ข ้อที 378 :
เรือ 2 ลํา ขับเคลือนด ้วย Steam turbine power plant ทีเหมือนกันทุกประการ ลําหนึงปฏิบตั งิ าน
ในเขตร ้อนแถวมหาสมุทรอินเดีย อีกลําหนึงปฏิบตั งิ านในเขตหนาวแถวทะเลเหนือ ประสท ิ ธิภาพ
สภ
ของเรือลําไหนจะสูงกว่ากัน
1 : เรือทีทํางานในเขตหนาว
2 : เรือทีทํางานในเขตร ้อน
3 : ประสท ิ ธิภาพไม่ตา่ งกัน
4 : เอาแน่ไม่ได ้
ข ้อที 379 :
ประสท ิ ธิภาพของ Rankine cycle จะสูงขึนเมือ
1 : เพิมความดันใน Condenser
2 : เพิมอุณหภูมใิ น Condenser
3 : เพิมความดันใน Boiler
4 : ลดอุณหภูมไิ อนํ า
ข ้อที 380 :
ี ส ในขณะทีนํ าทีใชหล่
อุณหภูมเิ ผาไหม ้ในเตา Boiler แห่งหนึง มีคา่ 1,100 องศาเซลเซย ้ อเย็น
Condenser มีอณ ี
ุ หภูม ิ 30 องศาเซลเซยส ในทางทฤษฎี โรงไฟฟ้ าทีทํางานระหว่างค่าอุณหภูมทิ งั
ิ ธิภาพสูงสุดได ้เท่าไร
2 ข ้างต ้น จะมีประสท
1 : 46 %
2 : 78 %
3 : 81 %
4 : 56 %
ข ้อที 381 :
Steam generator คือ
ธิ
1 : Boiler
สท
2 : Boiler กับ Superheater และ Reheater

ิ
3 : คําตอบในข ้อ ข. บวกกับ Economizer และ Air Preheater

งวน
ื
4 : คําตอบในข ้อ ค. บวกกับ ระบบป้ อนเชอเพลิ
ง ระบบกําจัดขีเถ ้า ปล่อง และอุปกรณ์กําจัดฝุ่ น
ทีปล่อยออกปล่อง
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 382 :
้
Boiler ทีใชในงานผลิ
ตไฟฟ้ ามักเป็ นแบบ
กร
1 : Fired-tube
2 : Water-tube
ิ ว
3 : Package
าวศ
4 : Once-through
สภ
ข ้อที 383 :
การเพิม Work output จาก Rankine cycle กระทําได ้โดย
1 : เพิมความดันใน boiler
2 : เพิมอุณหภูมไิ อนํ า
3 : ใช ้ Reheater
ข ้อที 384 :
ี มากทีสุด เป็ นการสูญเสย
ใน Steam power plants พลังงานทีสูญเสย ี
1 : ไปกับไอเสย ี ออกปล่อง
2 : ไปกับนํ าหล่อเย็น Condenser
3 : ไปกับนํ า Blow down ที Boiler
4 : จากการพา และแผ่รังสท ี ผิ
ี ว Boiler
ข ้อที 385 :
% การ Blow down ใน Boiler มีคา่ เท่ากับ
1 : ค่าร ้อยละของปริมาณนํ า Blow down เทียบกับปริมาณนํ าชดเชย
2 : ค่าร ้อยละของปริมาณนํ า Blow down เทียบกับปริมาณนํ าป้ อน boiler
3 : ค่าร ้อยละของปริมาณนํ า Blow down เทียบกับปริมาณไอนํ าทีผลิตได ้
4 : ค่าร ้อยละของปริมาณนํ า Blow down เทียบกับปริมาณ Condensate กลับ
ธิ
ข ้อที 386 :
สท
ี ใช ้ Fired-tube boiler ในโรงไฟฟ้ าพลังไอนํ าเพราะ

เหตุทไม่
ิ
1 : เกิด Foaming มาก

2 : เกิด Priming มาก
งวน
3 : ให ้ความดันตําเกินไป ทําให ้ผลิตไฟฟ้ าได ้น ้อย

4 : ไม่สามารถให ้ไอนํ า Superheated ได ้
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 387 :
กร
โดยทัวไป Economizer จะติดตังอยู่
1 : หลัง Feedwater heater ความดันสูง
ิ ว
2 : ก่อน Feedwater heater ความดันตํา
าวศ
3 : ระหว่าง Superheater กับ Reheater
4 : หลัง Air preheater
สภ
ข ้อที 388 :
ใน Steam power plant ถ ้าอุณหภูมไิ อนํ าทีทางเข ้า Turbine ลดลง
1 : ประสท ิ ธิภาพของ Plant จะสูงขึน
2 : Plant heatrate จะสูงขึน
3 : ไอนํ าทีทางออก Turbine จะแห ้งขึน
4 : ความร ้อนทีระบายให ้นํ าหล่อเย็นใน Condenser จะมากขึน
ข ้อที 389 :
การใช ้ Reheating ใน Steam power plant จะทําให ้ประสท
ิ ธิภาพ Plant สูงขึน
1 : ทุกกรณี
2 : เมือความดันของการ Reheat สูงกว่า 15% ของความดัน Boiler
3 : เมือความดันของการ Reheat มีคา่ มากกว่า 20% ของความดัน Boiler โดยประมาณ
4 : เมือ Reheat ทีตําแหน่งทีมี Dryness fraction มากกว่า 0.85
ข ้อที 390 :
การใช ้ Feed heaters ใน Steam power plant ชว่ ยทําให ้ประสท
ิ ธิภาพของ Plant มีคา่ สูงขึน
เหตุผลคือ
1 : เพิมงานจาก Turbine ให ้มากขึน
2 : ชว่ ยเพิมประสทิ ธิภาพ Turbine
3 : ชว่ ยให ้ใชงานขั
้ บปั มน ้อยลง
4 : ชว่ ยเพิมอุณหภูมเิ ฉลียของการรับความร ้อนใน Boiler
ธิ
สท
ข ้อที 391 :
ิ
ค่า Terminal temperature difference ใน Feed heater หมายถึง อุณหภูมค

ิ วามแตกต่างระหว่าง
วน
1 : อุณหภูมไิ อนํ าเข ้า และอุณหภูมน

ิ ํ าป้ อนเข ้า
2 : อุณหภูมอ ิ มตั
ิ วของกระแสไอนํ า กับอุณหภูมน ิ ํ าป้ อนเข ้า
สง
3 : อุณหภูมไิ อนํ าออกของกระแสไอนํ า กับอุณหภูมน ิ ํ าป้ อนเข ้า

4 : อุณหภูมอ ิ มตั
ิ วของกระแสไอนํ า กับอุณหภูมน ิ ํ าป้ อนออก
ขอ
อ
ข
กร
ข ้อที 392 :
ิ ว
ั Supercritical cycle ดังเชน
โรงไฟฟ้ าพลังไอนํ าทีทํางานโดยอาศย ่ โรงไฟฟ้ าราชบุรี ใช ้ Boiler
าวศ
แบบ
1 : Water-tubed
2 : Fired-tube
สภ
3 : Once-through
4 : Fluidized bed
ข ้อที 393 :
ไอนํ า 40 bar 500 องศาเซลเซยี ส อัตราการไหล 0.03 kg/s ไหลผ่าน Throttle valve โดยไม่ม ี
ี ส ซงึ
Heat loss ถึงความดัน 25 bar หลังจากนันไหลเข ้าผสมกับไอนํ า 25 bar 250 องศาเซลเซย
ไหลด ้วยอัตรา 2.54 kg/s โดยไม่ม ี Heat loss ไอนํ าหลังการผสมมี Enthalpy เท่าใด
1 : 2,777.5 kJ/kg
2 : 2,887.5 kJ/kg
3 : 2,897.5 kJ/kg
4 : 2,997.5 kJ/kg
ข ้อที 394 :
ไอนํ าไหลเข ้า Turbine ที 30 bar 400 องศาเซลเซย ี ส แล ้วไหลออกที 0.1 bar ค่า Dryness
fraction ทีทางออก เป็ นเท่าใด ถ ้าการขยายตัวเป็ นแบบ Isentropic
1 : 0.75
2 : 0.81
3 : 0.84
4 : 0.91
ข ้อที 395 :
ในโรงไฟฟ้ าพลังไอนํ าแห่งหนึง ไอนํ าอิมตัวที 40 bar ไหลเข ้า Turbine แล ้วไหลออกเข ้าสู่
ิ ธิภาพ
Condenser ทีความดัน 0.035 bar ถ ้าให ้เป็ น Ideal process ทังหมด โรงไฟฟ้ านีมีประสท
เท่าใด
ธิ
1 : 40.6 %
สท
2 : 38.6 %
3 : 36.6 %
ิ
4 : 34.6 %
งวน
ส
ขอ
ข อ
ข ้อที 396 :
ในโรงไฟฟ้ าพลังไอนํ าแห่งหนึง ไอนํ าออกจาก Boiler ที 40 bar 350 องศาเซลเซย ี ส แล ้วขยาย
กร
ตัวแบบ Isentropic ใน Turbine จนถึงความดัน 0.035 bar ใน Condenser ถ ้าให ้นํ าหล่อเย็นไหล
เข ้า Condenser ที 28 องศาเซลเซย ี ส แล ้วไหลออกที 33.5 องศาเซลเซย
ี ส อัตราสว่ นเชงิ มวล
ิ ว
ระหว่างนํ าหล่อเย็นกับไอนํ าที Condenser มีคา่ เท่าใด
าวศ
1 : 18.7 kg/kg ไอนํ า
สภ
ข ้อที 397 :
โรงไฟฟ้ าพลังไอนํ าแห่งหนึง ใชนํ้ ามันเตาเป็ นเชอเพลิ
ื ง Boiler ผลิตไอนํ าที 150 bar 550 องศา
เซลเซย ี ส ซงจะขยายตั
ึ วใน Turbine โดยมีคา่ Isentropic efficiency 88% แล ้วไหลเข ้า
Condenser ซงทํ ึ างานที 0.12 bar เมือไฟฟ้ าทีผลิตได ้ มีอต
ั รา 100 MW จงคํานวณหาอัตราการ
ไหลของไอนํ า ไม่ต ้องคิด Pump work
1 : 101.2 kg/s
2 : 83.4 kg/s
3 : 93.4 kg/s
4 : 78.4 kg/s
ข ้อที 398 :
Turbine ชนิดใด ทีสามารถระบายไอนํ าออกเพือนํ าไปใชอุ้ น
่ นํ าป้ อนใน Feed heater
1 : Pass-out
2 : Bleed-out
3 : Extraction
ข ้อที 399 :
โรงไฟฟ้ าพลังความร ้อนแห่งหนึง มีคา่ Heat rate 15,000 kJ/kWh ถ ้าไฟฟ้ าทีผลิตได ้มีคา่ 50
MW และเชอเพลิื ้ นถ่านหิน ซงมี
งทีใชเป็ ึ คา่ ความร ้อน 25 MJ/kg จงคํานวณหาอัตราการใชเช ้ อ
ื
เพลิง
1 : 30 ตัน/h
ธิ
2 : 80 ตัน/h
สท
3 : 60 ตัน/h
ิ
4 : 40 ตัน/h
งวน
ส
ข ้อที 400 :
ขอ
อ
้ ตไอนํ า 8 kg/s ที 80 bar
Steam power plant แห่งหนึง ผลิตไฟฟ้ าได ้ 5 MW Boiler ทีใชผลิ
ข
500 C จากนํ าป้ อนอุณหภูม ิ 50 C จงคํานวณหาค่า Heat rate ของโรงไฟฟ้ านีเป็ น kJ/kWh ไม่
ต ้องคิด Pump work
กร
1 : 12,453.1 kJ/kWh
2 : 13,847.3 kJ/kWh
ิ ว
3 : 15,847.6 kJ/kWh
าวศ
4 : 18,366.9 kJ/kWh
สภ
ข ้อที 401 :
ึ คา่ Enthalpy 605 kJ/kg ใน Feed heater
ไอนํ าอิมตัวที 6 bar ผสมกับนํ าทีความดันเดียวกัน ซงมี
แบบผสม ทําให ้นํ าร ้อนทีไหลออกจาก Heater เป็ นนํ าอิมตัวพอดี และมีความดัน 5.95 bar จง
คํานวณหามวลของไอนํ าทีไหลเข ้า Heater ต่อ kg นํ าร ้อนทีไหลออก
1 : 0.27 kg/kg
2 : 0.03 kg/kg
3 : 0.06 kg/kg
4 : 0.09 kg/kg
ข ้อที 402 :
ใน De Laval turbine stage หนึง Isentropic enthalpy drop ใน Nozzle มีคา่ 185 kJ/kgไอนํ า
แต่เนืองจากแรงเสย ี ดทาน ค่า Enthalpy drop จริง ใน Nozzle มีคา่ เป็ น 90% ของค่า Isentropic
ข ้างต ้น ถ ้าให ้มุมของ Nozzle = 20 องศา และความเร็วของไอนํ าทีทางเข ้า Nozzle มีคา่ 30 m/s
จงคํานวณหาความเร็วของไอนํ า ทีทางออกของ Nozzle
1 : 577.8 m/s
2 : 412.0 m/s
3 : 384.7 m/s
4 : 298.1 m/s
สภาวิศวกร 487/1 ซอย รามคําแหง 39 (เทพลีลา 1) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

10310 สายด่วน 1303 โทรสาร 02-935-6695
ิ ธิ 2555 สภาวิศวกร : ติดต่อสภาวิศวกร | Contact
@ สงวนลิขสท

BE01 Power Plant Engineering สภา

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

BE01 Power Plant Engineering สภา

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

24/8/2563 สภาวิศวกร

2 : เงินเดือน ค่าจ ้างพนักงาน

2 : ผลิตไฟฟ้ าได ้มากทีสุด

ิ ธิภาพตํา ทําให ้ต ้นทุนค่าไฟฟ้ าแพง

1.80 บาท จงหารายได ้จากการขายไฟในแต่ละปี

1: ให ้ได ้โรงไฟฟ้ าทีมีประสทิ ธิภาพสูง

เนือหาวิชา : 417 : 3 Fuel & Combustions

ข ้อไหนเป็ นความหมายของอัตราสว่ นอากาศ (Air Ratio)

1 : ็ ต์อากาศสว่ นเกินทีเข ้าเผาไหม ้

2 : อุณหภูมแ ิ ละความดันอิมตัวของไอนํ าในไอเสย ี

1 : 16.4 kg/kg mol

2 : 28.0 kg/kg mol

เราสามารถกําจัด Volatile Matters จากถ่านหินได ้โดย

1 : การล ้างด ้วยนํ า

3 : การอัดให ้แน่นภายใต ้ความกดดัน

เนือหาวิชา : 418 : 4 Rankine Cycle Power Plant

2 : อิมพัลส เทอร์ไบน์ (Impulse Turbine) กับ รีแอคชน ั เทอร์ไบน์ (Reaction Turbine)

2 : เพิมความร ้อนให ้นํ าและแยกแกสออกก่อนสง่ ไปยังเครืองอุน ่ นํ าแรงดันตํา (L.P. Heater)

3 : เพิมความร ้อนให ้นํ าก่อนสง่ ไปยังเครืองอุน่ นํ าแรงดันตํา (L.P. Heater)

Feed Water Pump)

จาก Turbine ควบแน่นคืออุปกรณ์ชนิดใด

อุปกรณ์ชนิดใดทีทําหน ้าทีดูดอากาศ และก๊าซทีไม่ควบแน่นออกจาก Condenser

2 : เปิ ดตามสด ั สว่ นของค่าความดันทีสูงขึน

3 : เปิ ดแบบทันทีทน ั ใด (Pop Action) เมือความดันขึนถึงค่าความดันทีกําหนด (Set Pressure)

4 : ปิ ดทีค่าความดันทีกําหนด (Set Pressure)

1 : Boiler Feed Pump

เนือหาวิชา : 419 : 5 Gas Turbine & Combined Cycles Power Plant

1 : ลมร ้อนจาก Compressor

4 : Exhaust Temperature Control

1 : เปิ ด Pressure Relief Valve

2 : หรี Inlet Damper ของ HRSG

4 : หรี Variable Inlet Guide Vanes และเปิ ด Air Bleed Valve

หน ้าทีของ Variable Inlet Guide Vanes คือ

1 : จัดระเบียบอากาศทีไหลเข ้าสู่ Compressor เป็ น Laminar Flow

ทีความดันบรรยากาศถ ้ามี Hydrogen 20-70%โดยปริมาตร กับอากาศ จะ

4 : Superheaterแนวนอน, Evaporator แนวดิง

4 : อุณหภูมทิ างเข ้า Turbine อัตราสว่ นความดัน และอัตราสว่ นความร ้อนจําเพาะ

2 : เพิม Work จาก Turbine

เหตุทใชี ค่้ า Stagnation Pressure และ Temperature ในการคํานวณวิเคราะห์เกียวกับ Gas

3 : เพิมประสท ิ ธิภาพ Compressor

4 : เพือให ้ได ้อุณหภูมส

4 : ค่าอุณหภูมค ิ วามแตกต่างมากสุดระหว่างกระแสไอเสย ี กับกระแสนํ า (ไอนํ า) ใน T-H

Perfect intercooling ระหว่าง Stages ถ ้าความดันและอุณหภูมท ิ ทางเข

อัตราสว่ นความร ้อนจําเพาะของอากาศ = 1.4

เนือหาวิชา : 420 : 6 Cogeneration Power Plant

2 : Gas Turbine Cogeneration

1 : Internal Combustion Engine Cogeneration

2 : Gas Turbine Cogeneration

4 : Steam Turbine Cogeneration

เนือหาวิชา : 421 : 7 Hydro Power Plant

4 : ระบายนํ าเพือป้ องกันนํ าไหลผ่านตัวเขือน

3 : Guide Vane (Wicket Gate)

1 : ชนิด Vertical Turbine Generator

3 : ชนิด Bulb Turbine

1 : สามารถเดินเป็ น Synchronous Motor ได ้ทุกโรง

2 : สามารถ รับ-จ่าย Reactive Load ได ้ทุกโรง

1 : แลกเปลียนความร ้อนให ้กับระบบหล่อลืน

4 : ระบายความร ้อนโดยตรงให ้กับ Generator และ Turbine

4 : ปริมาณนํ าฝน, ปริมาณนํ ารัวไหล และ สภาพอากาศ

3 : ควบคุมปริมาณการจ่าย Load ทางด ้านทัง MW และ MVAR

4 : ไม่เกียวข ้องกับปริมาณ Load ทัง MW และ MVAR

เขือนใดเป็ น เขือนโรงไฟฟ้ าพลังนํ าขนาดใหญ่แห่งแรกในประเทศไทย

2 : Water Supply System

3 : Oil Supply System