Professional Documents
Culture Documents
PAT2 (เคมี)
PAT2 (เคมี)
PAT2
I know you’ll made it through and reach our dreams. Just believe in yourself.
S
16
Sulfer
32.066
Ar
18
Argon
39.948
C
6
65
Carbon
12.011
Ti
22
Titanium
Dek
47.88
• ¥ 17. ในห้องปฏิบัติการมีสารละลาย HCl CaCl2 และ Na2CO3 ซึ่งเป็นสารละลายใส ไม่มีสี บรรจุอยู่ในขวด A B และ
ได้บันทึกผลที่ได้จากการสังเกตดังตาราง
สารละลายในขวด A B C
ข้อใดระบุชนิดของสารละลายในแต่ละขวดได้ถูกต้อง เพราะเหตุใด
nhsÉÑam= now
'
Ug 7- A +
Agt Hgt , ,
Pbt
nai ? Poi
-
I
-
-
2 + co so
,
-
OH
-
+
:
,
uniñwnu :
Uni
¥2:onuÑÑñ
no
1
18.บนฉลากบรรจุภัณฑ์สารเคมีจะมีสัญลักษณ์แสดงความเป็นอันตรายเพื่อความปลอดภัยในการจัดเก็บ การนําไป
ใช้ และการกําจัด โดยสัญลักษณ์แสดงความเป็นอันตรายี่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ GHS (Globally
Harmonized System of Classification and Labelling of Chemicals) ซึ่งมีตัวอย่างรูปสัญลักษณ์ดังนี้
รูปสัญลักษณ์ ประเภทความเป็นอันตราย
การกัดกร่อนโลหะ,
การกัดกร่อนผิวหนัง
การระคายเคืองต่อผิวหนัง,
การระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจหรืออาจทําให้ง่วงซึมมึนงง
สารไวไฟ,สารที่ลุกติดไฟได้เองในอากาศ
สารก่อมะเร็ง,
ความเป็นพิษต่อระบบอวัยวะเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจงจากการรับสัมผัส
ซํ้า
สารออกซิไดส์
ความเป็นพิษเฉียบพลันที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
2
สารเคมีชนิดหนึ่งมีจุดวาบไฟเท่ากับ 10 องศาเซลเซียส เมื่อสัมผัสผิวหนัง จะทําให้เกิดอาการระคายเคืองและถ้าได้รับ
อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทําให้เป็นหมันได้ ฉลากบรรจุภัณฑ์ของสารเคมีชนิดนี้ควรปรากฎรูปสัญลักษณ์แสดง
ความเป็นอันตรายใดบ้าง
1.
2.
3.
4.
÷
5.
✓ ✓
92 ✗
p
+
D
¥# y q
Tini
สมการที่ 2 238 U + 4820Ca ———> 301n + 286109Mt
→
92 at b =
Mtn
สมการที่ 3 238 U
92 + 48
20Ca ———> 1
0n + 285
111Rg 7+-1 =p +
of
สมการที่เสนอในข้อใดเขียนได้ถูกต้อง
1. สมการที่ 1 เท่านั้น
2. สมการที่ 2 เท่านั้น
3. สมการที่ 3 เท่านั้น
4. สมการที่ 1 และ 3
3
20.สาร A เมื่อได้รับความร้อน จะเกิดปฏิกิริยาสลายตัวได้แก๊สออกซิเจน ดังสมการเคมีต่อไปนี้
Admission
A(s) ——> B(s) + 3O2(g)
woosonvosonsiowinndyifui-wonssrvossisuoi.linV§Ñu ,
มวลรวมของบีกเกอร์และสารที่เหลืออยู่ในบีกเกอร์ (g)
อุณหภูมิ (K)
ที่เวลา 2 ชั่วโมง ที่เวลา 4 ชั่วโมง ที่เวลา 6 ชั่วโมง ที่เวลา 8 ชั่วโมง
V10
0.1
360 0.1 51.90 2=0.059 / hi .
51.80 51.70 51.60
0.3
380 0.3 51.70 2-
=
0.1521hr .
51.40 51.10 50.80
0.5
400 0.5 51.50 -2=0 .
-2521hr .
51.00 50.50 50.00
0.7
420 0.7 51.30 -2=0 -3521hr 50.60 49.90 49.20
.
1. 360
2. 380
3. 400
4. 420
5. 440
4
21.การกําจัดนิกเกิลออกจากนํ้าด้วยวิธีอิเล็กโทรลิซิสช่วงความเข้มข้น 0.01-10 ส่วนในล้านส่วนได้ผลดังกราฟ
ndrina
9% Ni
2%1
=
✗
2.95
" =
2.655
9.0%
Ni ludo =
=
2.95-2.655
0 .
295 ppm
( ( Ñm%Én )
0%2
Ni IUÑO 2.95×1%0 = 0.295
ppm
→
lñnmÑo )
พิจารณาการกําจัดนิกเกิลในนํ้า 3 วิธีดังนี้
วิธีใดสามารถกําจัดนิกเกิลให้มีความเข้มข้นเป็นไปตามเกณฑ์ของ US EPA
1. B เท่านั้น
2. C เท่านั้น
3. A และ B เท่านั้น
4. B และ C เท่านั้น
5. A B และ C
5
ข้อมูลต่อไปนี้ใช้ในการตอบคําถามข้อ 22 - 23
+ -
นํ้าบริสุทธิ์แตกตัวให้ไฮโดรเนียมไอออน (H3O ) และไฮดรอกไซด์ไอออน (OH ) ดังสมการเคมี ต่อไปนี้
+ -
2H₂O(l) ⇌ H3O (aq) + OH (aq) : Kw
-14
ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ค่าคงที่การแตกตัวของนํ้า (Kw) = 1.0 x 10 และ pKw ซึ่งเท่ากับ -log Kw จะมีค่า
เท่ากับ 14.00 แต่ถ้าทดลองที่อุณหภูมิอื่น ๆ ค่า K มีการเปลี่ยนแปลงดังกราฟ
§
"" "" → "" " "&
"
P
18! Troponin
h LT oia
led ÷ emo
22. ข้อใดถูกต้อง
1. ค่าคงที่การแตกตัวของนํ้าเท่ากับ [H3O+]²
2. การแตกตัวของนํ้าเป็นปฏิกิริยาคายความร้อน ✗
3. การเพิ่มอุณหภูมิทําให้การแตกตัวของนํ้าลดลง✗
5. การเพิ่มความดันให้กับระบบทําให้ระบบเกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกับการเพิ่มอุณหภูม✗
ิ
↳ now ñwowoñunñomnniw
23. จากค่าคงที่การแตกตัวของนํ้าและกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง pKw และอุณหภูมข
ิ ้อสรุปใดถูกต้อง
"
+
2. ที่อุณหภูมิ 30 °C นํ้าบริสุทธิ์จะมี [H3O ] เท่ากับ 1.0 x 10-¹⁴ โมลต่อลิตร ✗
-
3. ที่อุณหภูมิ 40 °C นํ้าบริสุทธิ์จะมี [OH ] เท่ากับ 1.0 × 10-⁷ โมลต่อลิตร
[ Ht ] 10-13.5
5. ที่อุณหภูมิ 60 °C นํ้าบริสุทธิ์จะมี pOH เท่ากับ 13.40
=
= 10-13.5/2
- 6 -75
=
go
6
24. บิวทาไดอีน (butadiene) สามารถเกิดปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์แบบเติมเป็นพอลินิวทาไดอีน
(polybutadiene) ได้ 2 รูปแบบ คือ
C C
4 C
= =
C =
c
+
d =
c
C -
( + C- -
C -
C = C
f- c- c- C -
-
C -
C -
C
-
-
C -
C -
)n
ถ้าพอลิเมอร์ทั้งสองชนิดมีมวลโมเลกุลใกล้เคียงกัน พอลิเมอร์ชนิดใดจะมีความเหนียวมากกว่ากันเพราะเหตุใด
1. พอลิเมอร์ A เพราะมีการเชื่อมขวางมากกว่าพอลิเมอร์ B
2. พอลิเมอร์ A เพราะมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลสูงกว่าพอลิเมอร์
3. พอลิเมอร์ B เพราะสามารถเรียงตัวชิดติดกันได้มากกว่าพอลิเมอร์ A
7
Mounir
25. กําหนดให้ ของเหลว A มีสีแดง สามารถเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันในอากาศได้เป็นของเหลว B ที่ไม่มีสี
โดยของเหลว A และ B ผสมเป็นเนื้อเดียวกันและของเหลวทั้งสองชนิดไม่ระเหย เมื่อเทของเหลว A ลงในบีก
เกอร์ และวางไว้ในห้องปฏิบัติการที่อุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 วัน จากนั้นวางไว้ภายใต้บรรยากาศ
ของแก๊สอาร์กอนที่อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 วัน แล้วจึงนําออกมาวางไว้ภายใต้บรรยากาศปกติที่
อุณหภูมิ 3 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 วัน
กราฟในข้อใดแสดงแนวโน้มความเข้มของสีแดงของสารละลายได้ถูกต้อง
8
26. กําหนดค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครึ่งเซลล์รีดักชันดังนี้
+0*7
1. Zn(s) mode cathoed
2. H₂(g)
-
3. H₂O(l) TI
-
µ
-19
4.O₂(g)
5. I₂(s)
27. เมื่อนําสารละลายสีส้มของ M(NO3)n ความเข้มข้น 2.0 โมลต่อลิตร ปริมาตร 100.0 มิลลิลิตร มาผสมกับ
สารละลาย NaCl ความเข้มข้น 2.5 โมลต่อลิตร ปริมาตร 400.0 มิลลิลิตร จะเกิดตะกอนสีเหลืองของ MCIa ใน
สารละลายไม่มีสีที่มีความเข้มข้นของ CI- เท่ากับ 0.4 โมลต่อลิตร โดยมีสมการไอออนิกสุทธิดังนี้
ข้อใดเป็นสูตรเอมพิริคัลของ MCln
1. MCI MCNO , )n -1
n NaCl → Manis )+nNa NO }
Cag ,
2. MCI₂ CV
Mol =
3. MCl3 1000 no / =
2-5×400
1000
2×100
4. MCI4 =
=
1 Mo /
1000
5. MCI5 Éiuño
not
-
=
0.2 a
M ( NO , ) n
: 0.2 MOI Mola -
= 0.4×500
1000
!
"
M 0.2 MOI =
0.2 Mol
9
28. อินดิเคเตอร์กรด-เบสชนิดหนึ่งแตกตัวในนํ้าได้ดังนี้
IUD
alcohol is
อินดิเคเตอร์นี้เหมาะสมกับการไทเทรดสารละลายกรดและเบสในข้อใด และที่จุดยุติจะมีการเปลี่ยนสีอย่างไร
of I+
= Into +
Hzo
'
an -11in =
non
line dob =
nsainoo
down Ñ =
Ivs in Ño
dow dow gentle =
10
29. เมื่อนําขวดก้นกลมปริมาตร 1 ลิตร ซึ่งบรรจุสาร A และภายในเป็นสุญญากาศไปต่อกับลูกโป่ง แล้วให้ความร้อน
กับขวดก้นกลม สาร A จะสลายตัวให้แก๊สออกซิเจน ดังภาพ
กําหนดให้ แก๊สออกซิเจนมีสมบัติเป็นไปตามกฎแก๊สอุดมคติ
ของแข็งที่อยู่ในขวดก้นกลมมีปริมาตรน้อยมาก
มวลต่อโมลของอะตอมออกซิเจนเท่ากับ 16 กรัมต่อโมล
R คือ ค่าคงตัวของแก๊ส ดมคติ มีหน่วยเป็น L • atm •mol-¹ • K-¹
1. 1/(50R)
2. 1/(40R) PV =
NRT
3. 2/(5R) n=¥ ,
4. 4/(5R)
E. =
¥
5. 16/(25R) ,
g-
-
1¥
,
✗ m
2141
g
=
✗ 32
12140cg
=
¥
11
30. พิจารณาสมการเคมีต่อไปนี้
P(g) + Q(g) ⇌ 3R(g)
1. นําภาชนะไปแช่เย็น เพราะเป็นปฏิกิริยาแบบดูดพลังงาน
2. เติมตัวเร่งปฏิกิริยา เพราะทําให้พลังงานก่อกัมมันต์ลดลง
3. ลดปริมาตรของภาชนะ เพราะทําให้ความดันรวมของระบบเพิ่มขึ้น
5. เติมแก๊สฮีเลียมเข้าไปในภาชนะ เพราะทําให้จํานวนโมลรวมของแก๊สเพิ่มขึ้น
31. พิจารณามการเคมีต่อไปนี้
A(g) + B(g) → C(g)
1. ชั่งมวลของกระบอกสูบก่อนและหลังทําปฏิกิริยา
2. จับเวลาที่ใช้ทําปฏิกิริยาจนไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
3. วัดปริมาตรของแก๊สภายในกระบอกสูบหลังทําปฏิกิริยา
4. วัดอุณหภูมิของแก๊สภายในกระบอกสูบหลังท่าปฏิกิริยา
5. วัดความดันของแก๊สภายในกระบอกสูบหลังทําปฏิกิริยา
WOWS mood
Toooo :wwwIm= ✗ 100
hroññnisonsñ
12
32. ปฏิกิริยารีดักชันของแก๊สออกซิเจนเป็นดังนี้
1. เพิ่มขึ้น เพราะค่าศักย์ไฟฟ้ารีดักชันสูงขึ้น
2. เพิ่มขึ้น เพราะค่าศักย์ไฟฟ้าดักชั่นตํ่าลง
3. ลดลง เพราะค่าศักย์ไฟฟ้ารีดักชันสูงขึ้น
5. ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะความสามารถในการเป็นตัวออกซิไดส์ไม่ขึ้นอยู่กับค่า pH
13