You are on page 1of 78

คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เคมี
ตามผลการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ตารางธาตุ

1 18
IA VIIIA
1 โลหะ 2
H 2 อโลหะ 13 14 15 16 17 He
hydrogen helium
1.01 IIA IIIA IVA VA VIA VIIA 4.00
กึง่ โลหะ
3 4 5 6 7 8 9 10
Li Be B C N O F Ne
lithium beryllium boron carbon nitrogen oxygen fluorine neon
6.94 9.01 10.81 12.01 14.01 16.00 19.00 20.18
11 12 13 14 15 16 17 18
Na Mg 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 Al Si P S Cl Ar
sodium magnesium aluminium silicon phosphorus sulfur chlorine argon
22.99 24.30 IIIB IVB VB VIB VIIB VIIIB IB IIB 26.98 28.08 30.97 32.06 35.45 39.95
19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36
K Ca Sc Ti V Cr Mn Fe Co Ni Cu Zn Ga Ge As Se Br Kr
potassium calcium scandium titanium vanadium chromium manganese iron cobalt nickel copper zinc gallium germanium arsenic selenium bromine krypton
39.10 40.08 44.96 47.87 50.94 52.00 54.94 55.85 58.93 58.69 63.55 65.38 69.72 72.63 74.92 78.97 79.90 83.80
37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54
Rb Sr Y Zr Nb Mo Tc Ru Rh Pd Ag Cd In Sn Sb Te I Xe
rubidium strontium yttrium zirconium niobium molybdenum technetium ruthenium rhodium palladium silver cadmium indium tin antimony tellurium iodine xenon
85.47 87.62 88.91 91.22 92.91 95.95 101.07 102.91 106.42 107.87 112.41 114.82 118.71 121.76 127.60 126.90 131.29
55 56 57-71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86
Cs Ba lanthanoids
Hf Ta W Re Os Ir Pt Au Hg Tl Pb Bi Po At Rn
caesium barium hafnium tantalum tungsten rhenium osmium iridium platinum gold mercury thallium lead bismuth polonium astatine radon
132.91 137.33 178.49 180.95 183.84 186.21 190.23 192.22 195.08 196.97 200.59 204.38 207.20 208.98
87 88
*
89-103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 113 114 115 116 117 118
Fr Ra actinoids
Rf Db Sg Bh Hs Mt Ds Rg Cn Nh Fl Mc Lv Ts Og
francium radium rutherfordium dubnium seaborgium bohrium hassium meitnerium darmstadtium roentgenium copernicium nihonium flerovium moscovium livermorium tennessine oganesson
**
57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71
กลุมธาตุ La Ce Pr Nd Pm Sm Eu Gd Tb Dy Ho Er Tm Yb Lu
lanthanum cerium praseodymium neodymium promethium samarium europium gadolinium terbium dysprosium holmium erbium thulium ytterbium lutetium
*แลนทานอยด 138.91 140.12 140.91 144.24 150.36 151.96 157.25 158.93 162.50 164.93 167.26 168.93 173.05 174.97
89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103
กลุมธาตุ Ac
actinium
Th
thorium
Pa
protactinium
U
uranium
Np
neptunium
Pu
plutonium
Am
americium
Cm
curium
Bk
berkelium
Cf Es
californium einsteinium
Fm
fermium
Md No
mendelevium nobelium
Lr
lawrencium
**แอกทินอยด 232.04 231.04 238.03
คู่มือครู

รายวิชาเพิม
่ เติมวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี

เคมี
ชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ ๖ เล่ม ๖
ตามผลการเรียนรู้
กลุม
่ สาระการเรียนรูว้ ท
ิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

จัดทำาโดย
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ

ฉบับเผยแพร่ เมษายน ๒๕๖๓


คำานำา

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้รับมอบหมายจากกระทรวง


ศึ ก ษาธิ ก าร ในการพั ฒ นามาตรฐานและตั ว ชี้ วั ด ของหลั ก สู ต รกลุ่ ม สาระการเรี ย นรู้ ค ณิ ต ศาสตร์
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และยังมีบทบาทหน้าที่ในการรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดทำาหนังสือเรียน
คู่มือครู แบบฝึกทักษะ กิจกรรม และสื่อการเรียนรู้ ตลอดจนวิธีการจัดการเรียนรู้และการวัดและ
ประเมินผล เพือ
่ ให้การจัดการเรียนรูค
้ ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
คูม
่ อ
ื ครูรายวิชาเพิม
่ เติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ชัน
้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ เล่ม ๖ นี้ จัดทำา
ขึ้นเพื่อประกอบการใช้หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ชั้นมัธยมศึกษา
ปีท่ี ๖ เล่ม ๖ โดยครอบคลุมเนือ
้ หาตามผลการเรียนรูแ
้ ละสาระการเรียนรูเ้ พิม
่ เติม กลุม
่ สาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน
้ พืน
้ ฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในสาระเคมี โดยมีตารางวิเคราะห์ผลการเรียนรูแ
้ ละสาระการเรียนรูเ้ พิม
่ เติม เพือ

การจัดทำาหน่วยการเรียนรู้ในรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีแนวการจัดการเรียนรู้
การให้ความรูเ้ พิม
่ เติมทีจ
่ าำ เป็นสำาหรับครูผส
ู้ อน รวมทัง้ การเฉลยคำาถามและแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน
สสวท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือครูเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ และเป็นส่วนสำาคัญ
ในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิ บุคลากรทางการศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ ที่มี่ส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำาไว้
ณ โอกาสนี้

(ศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำานงค์)
ผู้อำานวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงศึกษาธิการ
คำาชี้แจง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้จด


ั ทำาตัวชีว้ ด
ั และสาระการเรียนรู้
แกนกลาง กลุม
่ สาระการเรียนรูว้ ท
ิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขัน
้ พืน
้ ฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยมีจด
ุ เน้นเพือ
่ ต้องการพัฒนาผูเ้ รียนให้มค
ี วามรู้
ความสามารถที่ทัดเทียมกับนานาชาติ ได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการ
ใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้และแก้ปัญหาที่หลากหลาย มีการทำากิจกรรมด้วยการลงมือปฏิบัติ
เพือ
่ ให้ผเู้ รียนได้ใช้ทก
ั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ซึง่ ในปีการศึกษา
๒๕๖๑ เป็นต้นไป โรงเรียนจะต้องใช้หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สสวท. ได้มก
ี ารจัดทำาหนังสือเรียนทีเ่ ป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตรเพือ
่ ให้
โรงเรียนได้ใช้สาำ หรับจัดการเรียนการสอนในชัน
้ เรียน และเพือ
่ ให้ครูผส
ู้ อนสามารถสอนและจัดกิจกรรม
ต่าง ๆ ตามหนังสือเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดทำาคู่มือครูสำาหรับใช้ประกอบหนังสือเรียน
ดังกล่าว
คูม
่ อ
ื ครูรายวิชาเพิม
่ เติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ชัน
้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ เล่ม ๖ นี้ ได้บอก
แนวการจัดการเรียนการสอนตามเนือ
้ หาในหนังสือเรียนประกอบด้วยเรือ
่ ง เคมีกบ
ั การแก้ปญ
ั หา ซึ่ง
ครูผู้สอนสามารถนำาไปใช้เป็นแนวทางในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ให้บรรลุจุดประสงค์ที่ตั้งไว้
โดยสามารถนำาไปจัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ด้ตามความเหมาะสมและความพร้อมของโรงเรียน ในการจัดทำา
คู่มือครูเล่มนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการอิสระ คณาจารย์ รวมทั้ง
ครูผส
ู้ อน นักวิชาการ จากทัง้ ภาครัฐและเอกชน จึงขอขอบคุณมา ณ ทีน
่ ้ี
สสวท. หวั ง เป็ น อย่ า งยิ่ ง ว่ า คู่ มื อ ครู ร ายวิ ช าเพิ่ ม เติ ม วิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี เคมี ชั้ น
มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ เล่ม ๖ นี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผส
ู้ อน และผูท
้ เ่ี กีย
่ วข้องทุกฝ่าย ทีจ
่ ะช่วยให้การจัดการ
ศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีข้อเสนอแนะใดที่จะทำาให้คู่มือครูเล่มนี้
มีความสมบูรณ์ยง่ิ ขึน
้ โปรดแจ้ง สสวท. ทราบด้วยจะขอบคุณยิง่

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงศึกษาธิการ
ข้อแนะนำาทั่วไปในการใช้คู่มือครู

วิทยาศาสตร์มีความเกี่ยวข้องกับทุกคนทั้งในชีวิตประจำาวันและการงานอาชีพต่าง ๆ รวมทั้งมี
บทบาทสำาคัญในการพัฒนาผลผลิตต่าง ๆ ทีใ่ ช้ในการอำานวยความสะดวกทัง้ ในชีวต
ิ และการทำางาน
นอกจากนีว้ ท
ิ ยาศาสตร์ยงั ช่วยพัฒนาวิธค
ี ด
ิ และทำาให้มท
ี ก
ั ษะทีจ
่ าำ เป็นในการตัดสินใจและแก้ปญ
ั หา
อย่างเป็นระบบ การจัดการเรียนรูเ้ พือ
่ ให้นก
ั เรียนมีความรูแ
้ ละทักษะทีส
่ าำ คัญตามเป้าหมายของ
การจัดการเรียนรูว้ ท
ิ ยาศาสตร์จงึ มีความสำาคัญยิง่ ซึง่ เป้าหมายของการจัดการเรียนรูว้ ท
ิ ยาศาสตร์
มีดังนี้

1. เพื่อให้เข้าใจหลักการและทฤษฎีที่เป็นพื้นฐานของวิชาวิทยาศาสตร์
2. เพื่อให้เกิดความเข้าใจในลักษณะ ขอบเขต และข้อจำากัดของวิทยาศาสตร์
3. เพื่อให้เกิดทักษะที่สาำ คัญในการศึกษาค้นคว้าและคิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
4. เพื่อพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจัดการ
ทักษะในการสื่อสารและความสามารถในการตัดสินใจ
5. เพื่ อ ให้ ต ระหนั ก ถึ ง ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งวิ ท ยาศาสตร์ เทคโนโลยี มวลมนุ ษ ย์ และ
สภาพแวดล้อม ในเชิงที่มีอิทธิพลและผลกระทบซึ่งกันและกัน
6. เพื่อนำาความรู้ความเข้าใจเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม
และการดำารงชีวิตอย่างมีคุณค่า
7. เพือ
่ ให้มจ
ี ต
ิ วิทยาศาสตร์ มีคณ
ุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยมในการใช้ความรูท
้ างวิทยาศาสตร์
อย่างสร้างสรรค์

คู่ มื อ ครู เ ป็ น เอกสารที่ จั ด ทำ า ขึ้ น ควบคู่ กั บ หนั ง สื อ เรี ย น สำ า หรั บ ให้ ค รู ไ ด้ ใ ช้ เ ป็ น แนวทาง
ในการจัดการเรียนรูเ้ พือ
่ ให้นก
ั เรียนได้รบ
ั ความรูแ
้ ละมีทก
ั ษะทีส
่ าำ คัญตามจุดประสงค์การเรียนรูใ้ น
หนังสือเรียน ซึ่งสอดคล้องกับตัวชี้วัดตามสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ รวมทั้งมี สื่อการเรียนรู้
ในเว็บไซต์ที่สามารถเชื่อมโยงได้จาก QR code หรือ URL ท่ีอยู่ประจำาแต่ละบท ซึ่งครูสามารถใช้
ส่งเสริมให้นักเรียนบรรลุเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้ อย่างไรก็ตามครูอาจ
พิจารณาดัดแปลงหรือเพิ่มเติมการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละห้องเรียนได้
โดยคู่มือครูมีองค์ประกอบหลักดังต่อไปนี้
ข้อแนะนำาทั่วไปในการใช้คู่มือครู

ผลการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้เป็นผลลัพธ์ที่ควรเกิดกับนักเรียนทั้งด้านความรู้และทักษะ ซึ่งช่วยให้ครูได้ทราบ
เป้าหมายของการจัดการเรียนรูใ้ นแต่ละเนือ
้ หาและออกแบบกิจกรรมการเรียนรูใ้ ห้สอดคล้องกับ
ผลการเรียนรู้ได้ ทั้งนี้ครูอาจเพิ่มเติมเนื้อหาหรือทักษะตามศักยภาพของนักเรียน รวมทั้งอาจ
สอดแทรกเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นได้้

การวิเคราะห์ผลการเรียนรู้
การวิเคราะห์ความรู้ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 และจิตวิทยา
ศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องในแต่ละผลการเรียนรู้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้

ผังมโนทัศน์
แผนภาพที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างความคิดหลัก ความคิดรอง และความคิดย่อย เพื่อช่วยให้
ครูเห็นความเชื่อมโยงของเนื้อหาภายในบทเรียน

สาระสำาคัญ
การสรุปเนื้อหาสำาคัญของบทเรียน เพื่อช่วยให้ครูเห็นกรอบเนื้อหาทั้งหมด รวมทั้งลำาดับของ
เนื้อหาในบทเรียนนั้น

เวลาที่ใช้
เวลาที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ซึ่งครูอาจดำาเนินการตามข้อเสนอแนะที่กำาหนดไว้ หรืออาจปรับ
เวลาได้ตามความเหมาะสมกับบริบทของแต่ละห้องเรียน

ความรู้ก่อนเรียน
คำ า สำ า คั ญ หรื อ ข้ อ ความที่ เ ป็ น ความรู้ พื้ น ฐาน ซึ่ ง นั ก เรี ย นควรมี ก่ อ นที่ จ ะเรี ย นรู้ เ นื้ อ หาใน
บทเรียนนั้น
ข้อแนะนำาทั่วไปในการใช้คู่มือครู

ตรวจสอบความรู้ก่อนเรียน
ชุดคำาถามและเฉลยทีใ่ ช้ในการตรวจสอบความรูก
้ อ
่ นเรียนตามทีร่ ะบุไว้ในหนังสือเรียน เพือ
่ ให้ครู
ได้ตรวจสอบและทบทวนความรู้ให้นักเรียนก่อนเริ่มกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในแต่ละบทเรียน

การจั ด การเรี ย นรู้ ใ นแต่ ล ะหั ว ข้ อ อาจมี อ งค์ ป ระกอบแตกต่ า งกั น โดยรายละเอี ย ดแต่ ล ะ
องค์ประกอบ เป็นดังนี้

• จุเป้ดาประสงค์ การเรียนรู้
หมายของการจัดการเรียนรู้ที่ต้องการให้นักเรียนเกิดความรู้ หรือทักษะหลังจากผ่าน
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในแต่ละหัวข้อ ซึ่งสามารถวัดและประเมินผลได้ ทั้งนี้ครูอาจตั้ง
จุดประสงค์เพิ่มเติมจากที่ให้ไว้ตามความเหมาะสมกับบริบทของแต่ละห้องเรียน

• ความเข้
เนือ
้ หาทีน
าใจคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น
่ ก
ั เรียนอาจเกิดความเข้าใจคลาดเคลือ
่ นทีพ
่ บบ่อย ซึง่ เป็นข้อมูลให้ครูได้พงึ ระวัง
หรืออาจเน้นย้าำ ในประเด็นดังกล่าวเพื่อป้องกันการเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้

• แนวการจั ดการเรียนรู้
แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ โดยมีการนำาเสนอทั้งใน
ส่วนของเนือ
้ หาและกิจกรรมเป็นขัน
้ ตอนอย่างละเอียด ทัง้ นีค
้ รูอาจปรับหรือเพิม
่ เติมกิจกรรมจาก
ที่ให้ไว้ตามความเหมาะสมกับบริบทของแต่ละห้องเรียน

กิจกรรม
การปฏิบัติที่ช่วยในการเรียนรู้เนื้อหาหรือฝึกฝนให้เกิดทักษะตามจุดประสงค์การเรียนรู้
ของบทเรียน โดยอาจเป็นการทดลอง การสาธิต การสืบค้นข้อมูล หรือกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งควรให้
นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง โดยองค์ประกอบของกิจกรรมมีรายละเอียดดังนี้
ข้อแนะนำาทั่วไปในการใช้คู่มือครู

- จุดประสงค์
เป้าหมายที่ต้องการให้นักเรียนเกิดความรู้หรือทักษะหลังจากผ่านกิจกรรมนั้น

- วัสดุและอุปกรณ์
รายการวัสดุ อุปกรณ์ หรือสารเคมี ที่ต้องใช้ในการทำากิจกรรม ซึ่งครูควรเตรียมให้เพียง
พอสำาหรับการจัดกิจกรรม

- การเตรียมล่วงหน้า
ข้ อ มู ล เกี่ ย วกั บ สิ่ ง ที่ ค รู ต้ อ งเตรี ย มล่ ว งหน้ า สำ า หรั บ การจั ด กิ จ กรรม เช่ น การเตรี ย ม
สารละลายที่มีความเข้มข้นต่าง ๆ การเตรียมตัวอย่างสิ่งมีชีวิต

- ข้อเสนอแนะสำาหรับครู
ข้อมูลทีใ่ ห้ครูแจ้งต่อนักเรียนให้ทราบถึงข้อควรระวัง ข้อควรปฏิบต
ั ิ หรือข้อมูลเพิม
่ เติมใน
การทำากิจกรรมนั้น ๆ

- ตัวอย่างผลการทำากิจกรรม
ตัวอย่างผลการทดลอง การสาธิต การสืบค้นข้อมูล หรือกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อให้ครูใช้เป็น
ข้อมูลสำาหรับตรวจสอบผลการทำากิจกรรมของนักเรียน

- อภิปรายและสรุปผล
ตัวอย่างข้อมูลที่ควรได้จากการอภิปรายและสรุปผลการทำากิจกรรม ซึ่งครูอาจใช้คำาถาม
ท้ายกิจกรรมหรือคำาถามเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้นักเรียนอภิปรายในประเด็นที่ต้องการ รวมทั้งช่วย
กระตุ้นให้นักเรียนช่วยกันคิดและอภิปรายถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำาให้ผลของกิจกรรมเป็นไปตามที่
คาดหวัง หรืออาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

นอกจากนี้อาจมีความรู้เพิ่มเติมสำาหรับครู เพื่อให้ครูมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ
เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ควรนำาไปเพิ่มเติมให้นักเรียน เพราะเป็นส่วนที่เสริมจากเนื้อหาที่มีในหนังสือเรียน
ข้อแนะนำาทั่วไปในการใช้คู่มือครู

• แนวการวั ดและประเมินผล
แนวการวัดและประเมินผลทีส
่ อดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ซึง่ ประเมินทัง้ ด้านความรู้
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 และจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียน
ทีค
่ วรเกิดขึน
้ หลังจากได้เรียนรูใ้ นแต่ละหัวข้อ ผลทีไ่ ด้จากการประเมินจะช่วยให้ครูทราบถึงความ
สำาเร็จของการจัดการเรียนรู้ รวมทั้งใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้
ให้เหมาะสมกับนักเรียน
เครื่ อ งมื อ วั ด และประเมิ น ผลมี อ ยู่ ห ลายรู ป แบบ เช่ น แบบทดสอบรู ป แบบต่ า ง ๆ
แบบประเมินทักษะ แบบประเมินคุณลักษณะด้านจิตวิทยาศาสตร์ ซึ่งครูอาจเลือกใช้เครื่องมือ
สำาหรับการวัดและประเมินผลจากเครื่องมือมาตรฐานที่มีผู้พัฒนาไว้แล้ว ดัดแปลงจากเครื่องมือ
ที่ ผู้ อื่ น ทำ า ไว้ แ ล้ ว หรื อ สร้ า งเครื่ อ งมื อ ใหม่ ขึ้ น เอง ตั ว อย่ า งของเครื่ อ งมื อ วั ด และประเมิ น ผล
ดังภาคผนวก

• เฉลยคำ าถาม
แนวคำาตอบของคำาถามระหว่างเรียนและคำาถามท้ายบทเรียนในหนังสือเรียน เพือ
่ ให้ครูใช้
เป็นข้อมูลในการตรวจสอบการตอบคำาถามของนักเรียน
- เฉลยคำาถามระหว่างเรียน
แนวคำาตอบของคำาถามระหว่างเรียนซึ่งมีทั้งคำาถามชวนคิด ตรวจสอบความเข้าใจ และ
แบบฝึกหัด ทัง้ นีค
้ รูควรใช้คาำ ถามระหว่างเรียนเพือ
่ ตรวจสอบความรูค
้ วามเข้าใจของนักเรียนก่อน
เริ่มเนื้อหาใหม่ เพื่อให้สามารถปรับการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมต่อไป

- เฉลยคำาถามท้ายบทเรียน
แนวคำาตอบของแบบฝึกหัดท้ายบท ซึ่งครูควรใช้คำาถามท้ายบทเรียนเพื่อตรวจสอบว่า
หลังจากเรียนจบบทเรียนแล้ว นักเรียนยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องใด เพื่อให้สามารถ
วางแผนการทบทวนหรือเน้นย้าำ เนื้อหาให้กับนักเรียนก่อนการทดสอบได้
สารบัญ

บทที่ เนื้อหา หน้า

14
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา 1
ผลการเรียนรู้ 1
การวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ 2
ผังมโนทัศน์ 5
สาระสำาคัญ 6
เวลาที่ใช้ 6
เฉลยตรวจสอบความรู้ก่อนเรียน 7
เคมีกับการแก้ปัญหา 14.1 บทนำา 8
14.2 การใช้ความรู้ทางเคมีในการแก้ปัญหา 8
14.3 การบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหา 19
14.4 การนำาเสนอผลงาน 29
14.5 การเข้าร่วมประชุมวิชาการ 39
สารบัญ

แนวทางการวัดและประเมินผล 46
ภาคผนวก

บรรณานุกรม 61
คณะกรรมการจัดทำาคู่มือครู 63
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
1

บทที่ 14

เคมีกับการแก้ปัญหา
ipst.me/10773

ผลการเรียนรู้

1. กำาหนดปัญหา และนำาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ที่
เกิดขึ้นในชีวิตประจำาวัน การประกอบอาชีพ หรืออุตสาหกรรม
2. แสดงหลักฐานถึงการบูรณาการความรูท
้ างเคมีรว่ มกับสาขาวิชาอืน
่ รวมทัง้ ทักษะกระบวนการ
ทางวิ ท ยาศาสตร์ห รือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเน้นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา
และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจ
3. นำาเสนอผลงานหรือชิน
้ งานทีไ่ ด้จากการแก้ปญ
ั หาในสถานการณ์หรือประเด็นทีส
่ นใจโดยใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ
4. แสดงหลักฐานการเข้าร่วมการสัมมนา การเข้าร่วมประชุมวิชาการ หรือการแสดงผลงาน
สิ่งประดิษฐ์ในงานนิทรรศการ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม

การวิเคราะห์ผลการเรียนรู้

ผลการเรียนรู้
1. กำาหนดปัญหา และนำาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์
ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำาวัน การประกอบอาชีพ หรืออุตสาหกรรม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ระบุปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ที่กำาหนด
2. ออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมีและวิธีการทางวิทยาศาสตร์

ทักษะกระบวนการ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 1 จิตวิทยาศาสตร์


ทางวิทยาศาสตร์
1. การตั้งสมมติฐาน 1. การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ 1. ความใจกว้าง
2. การกำาหนดและควบคุม และการแก้ปัญหา 2. การเห็นคุณค่าทาง
ตัวแปร 2. ความร่วมมือ การทำางาน วิทยาศาสตร์
3. การตีความหมายข้อมูล เป็นทีมและภาวะผู้นำา
และลงข้อสรุป 3. การสื่อสารสารสนเทศ
4. การกำาหนดนิยามเชิง และการรู้เท่าทันสื่อ
ปฏิบัติการ 4. การสร้างสรรค์และ
นวัตกรรม

ผลการเรียนรู้
2. แสดงหลั ก ฐานถึ ง การบู ร ณาการความรู้ ท างเคมี ร่ ว มกั บ สาขาวิ ช าอื่ น รวมทั้ ง ทั ก ษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเน้นการคิด
วิเคราะห์ การแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็น
ที่สนใจ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ใช้วธิ ก
ี ารทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมและการบูรณาการความรู้
ทางเคมีร่วมกับศาสตร์อื่น แก้ปัญหาสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจ
2. จัดทำารายงานการแก้ปัญหาโดยการบูรณาการความรู้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
3

ทักษะกระบวนการ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 1 จิตวิทยาศาสตร์


ทางวิทยาศาสตร์
1. การสังเกต 1. การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ 1. ความใจกว้าง
2. การวัด และการแก้ปัญหา 2. การเห็นคุณค่าทาง
3. การลงความเห็นจาก 2. ความร่วมมือ การทำางาน วิทยาศาสตร์
ข้อมูล เป็นทีมและภาวะผู้นำา
4. การทดลอง 3. การสื่อสารสารสนเทศ
5. การกำาหนดและควบคุม และการรู้เท่าทันสื่อ
ตัวแปร 4. การสร้างสรรค์และ
6. การตีความหมายข้อมูล นวัตกรรม
และลงข้อสรุป
7. การสร้างแบบจำาลอง

ผลการเรียนรู้
3. นำาเสนอผลงานหรือชิ้นงานที่ได้จากการแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจโดย
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นำาเสนอผลงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

ทักษะกระบวนการ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 1 จิตวิทยาศาสตร์


ทางวิทยาศาสตร์
1. การจัดกระทำาและสื่อ 1. การสื่อสารสารสนเทศ 1. ความใจกว้าง
ความหมายข้อมูล และการรูเ้ ท่าทันสือ

2. การสร้างแบบจำาลอง 2. ความร่วมมือ การทำางาน
เป็นทีมและภาวะผู้นำา
3. การสร้างสรรค์และ
นวัตกรรม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
4

ผลการเรียนรู้
4. แสดงหลักฐานการเข้าร่วมการสัมมนา การเข้าร่วมประชุมวิชาการ หรือการแสดงผลงาน
สิ่งประดิษฐ์ในงานนิทรรศการ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เข้าร่วมประชุมวิชาการในฐานะผู้ งั หรือผูน
้ าำ เสนอผลงาน
2. จัดทำารายงานสรุปการประชุมวิชาการ

ทักษะกระบวนการ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 1 จิตวิทยาศาสตร์


ทางวิทยาศาสตร์
- 1. การสือ
่ สารสารสนเทศ 1. ความใจกว้าง
และการรูเ้ ท่าทันสือ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
5

ผังมโนทัศน์
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา

ความรู้ทางเคมี ความรู้ในศาสตร์อื่น

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
วิธีการทางวิทยาศาสตร์
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม

การแก้ปัญหา

ผลงานหรือชิ้นงาน

การนำาเสนอผลงาน

การเข้าร่วมประชุมวิชาการ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม

สาระสำาคัญ

สถานการณ์บางสถานการณ์ในชีวิตประจำาวัน การประกอบอาชีพ หรือการพัฒนานวัตกรรม


สามารถนำาความรูท
้ างเคมีไปใช้ประโยชน์หรือแก้ปญ
ั หาได้ โดยอาศัยกระบวนการคิดและปฏิบต
ั อ
ิ ย่าง
เป็นระบบ
การศึ ก ษาและการแก้ ปั ญ หาในสถานการณ์ หรื อ ประเด็ น ที่ ส นใจทำ า ได้ โ ดยการบู ร ณาการ
ความรู้ทางเคมีร่วมกับวิทยาศาสตร์แขนงอื่น รวมทั้งคณิตศาสตร์ เทคโนโลยี โดยอาจใช้วิธีการ
ทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ที่เน้นการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา และ
ความคิดสร้างสรรค์อย่างมีขั้นตอน
การนำาเสนอผลงานหรือแสดงผลงาน ทำาให้ผู้นำาเสนอมีโอกาสเผยแพร่ผลงานและแลกเปลี่ยน
แนวคิด โดยผู้นำาเสนอจะได้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือประกอบการนำาเสนอ ซึ่งช่วยให้
การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเข้าร่วมสัมมนา ประชุมวิชาการ หรือนิทรรศการแสดงผลงาน ทำาให้ผู้เข้าร่วมงานมีโอกาส
แลกเปลี่ยนความคิดหรือแสดงทัศนคติซึ่งช่วยส่งเสริมให้พัฒนากระบวนการคิด ทักษะการสื่อสาร
ทักษะการใช้เทคโนโลยี เพื่อการค้นคว้าและการสื่อสาร

เวลาที่ใช้
บทนี้ควรใช้เวลาสอนประมา ชั่วโมง
14.1 บทนำา 2 ชั่วโมง
14.2 การใช้ความรู้ทางเคมีในการแก้ปัญหา 13 ชั่วโมง
14.3 การบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหา 3 ชั่วโมง
14.4 การนำาเสนอผลงาน 12 ชั่วโมง
14.5 การเข้าร่วมประชุมวิชาการ 3 ชั่วโมง
หมายเหตุ
เวลาที่ เ สนอไว้ สำ า หรั บ แต่ ล ะหั ว ข้ อ เป็ น เวลาที่ ใ ช้ ใ นการจั ด การเรี ย นรู้ ใ นห้ อ งเรี ย น
และเวลาที่ครูให้คำาปรึกษา โดยไม่รวมเวลาที่นักเรียนศึกษาหรือปฏิบัติด้วยตนเอง

ความรู้ก่อนเรียน

วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
7

ตรวจสอบความรู้ก่อนเรียน

1. ใส่ เ ครื่ อ งหมาย หน้ า ข้ อ ความที่ ถู ก ต้ อ ง และเครื่ อ งหมาย หน้ า ข้ อ ความที่


ไม่ถูกต้อง

….… 1.1 วิธีการทางวิทยาศาสตร์มีการใช้การทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐาน


. 1.2 ผลการทดลองจะต้องสอดคล้องกับสมมติฐาน
สมมติฐานเป็นการคาดคะเนผลทีอ
่ าจจะเกิดขึน
้ ซึง่ ผลการทดลองอาจสอดคล้อง
หรือไม่สอดคล้องกับสมมติฐานก็ได้
. 1.3 การเขียนสมมติฐานควรระบุตัวแปรต้นและตัวแปรตามให้ชัดเจน
. 1.4 นิยามเชิงปฏิบัติการช่วยในการกำาหนดวิธีและขอบเขตของการทดลอง
. 1.5 การเปลีย
่ นแปลงค่าของตัวแปรทีต
่ อ
้ งควบคุมให้คงทีไ่ ม่มผ
ี ลต่อค่าของตัวแปรตาม
การเปลีย
่ นแปลงค่าของตัวแปรทีต
่ อ
้ งควบคุมให้คงทีม
่ ผ
ี ลทำาให้คา่ ตัวแปรตามอาจ
เปลีย
่ นแปลงได้

2. พิจารณาสถานการณ์ต่อไปนี้

เมือ
่ ผสมสารละลาย กับสารละลาย จะมี องแกสเกิดขึน
้ ในการศึกษาอัตรา
การเกิดแกสของปฏิกิริยาดังกล่าว นักเรียนคนหนึ่งได้ทำาการทดลองดังนี้
1. ใส่สารละลาย .5 o L ปริมาตร 5 L ลงในหลอดทดลองที่ 1 และสารละลาย
.5 o L ปริมาตร 5 L ลงในหลอดทดลองที่ 2
2. เทสารละลายในหลอดทดลองที่ 1 ลงในหลอดทดลองที่ 2 ทีอ
่ ณ
ุ หภูมห
ิ อ
้ งและวัดอัตรา
การเกิดแกส
3. ทำาซ้าำ ข้อ 1 2 แต่กอ
่ นผสมให้นาำ หลอดทดลองทัง้ สองหลอดแช่ในน้าำ ร้อนทีอ
่ ณ
ุ หภูมิ
o
70 ประมาณ 2 นาที
o
4. ทำาซ้ำาข้อ 3 แต่แช่หลอดทดลองทั้งสองหลอดในน้ำาเย็นที่อุณหภูมิ 1 แทน
น้ำาร้อน

ตั้งสมมติฐาน ระบุตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรที่ต้องควบคุมให้คงที่ พร้อม


กำาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการของตัวแปรตาม โดยกรอกข้อมูลในกรอบที่กำาหนดให้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
8

ตัวอย่างคำาตอบ
สมมติฐาน
อุ ณหภูมิของสารตั้งต้นมีผลต่ออัตราการเกิดแกส
…………………………………………………………………………………………………………………………
หรื อ
…………………………………………………………………………………………………………………………
ถ้
าอุณหภูมข
ิ องสารตัง้ ต้นมีผลต่ออัตราการเกิดแกส ดังนัน
………………………………………………………………………………………………………………………… ้ สารตัง้ ต้นทีม
่ อ
ี ณ
ุ หภูมส
ิ งู
จะทำ าให้อัตราการเกิดแกสสูง
…………………………………………………………………………………………………………………………

ตัวแปร
ตัวแปรต้น อุณหภูมิของสารตั้งต้น
ตัวแปรตาม อัตราการเกิดแกส .
ตัวแปรที่ต้องควบคุมให้คงที่ ความเข้มข้นและปริมาตรของสารละลายแต่
.. ละชนิด
ขนาดของชุดอุปกรณ์การทดลอง ความดันขณะทำาการทดลอง
………………………………………………………………………………………………………………………...
…………………..……………………………………………………………………………………………………

นิยามเชิงป ิบัติการของตัวแปรตาม
อัตราการเกิดแกส คือ อัตราการเกิดแกสเฉลี่ย ซึ่งคำานวณจากปริมาตรของแกสที่
…………………………………………………………………………………………………………………………
เกิดขึ้นต่อช่วงเวลาที่กำาหนด โดยปริมาตรของแกสวัดด้วยวิธีการแทนที่น้ำา
…………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………

14.1 บทนำา
14. การใช้ความรู้ทางเคมีในการแก้ปัญหา
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ระบุปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ที่กำาหนด
2. ออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมีและวิธีการทางวิทยาศาสตร์

แนวการจัดการเรียนรู้
1. ครูแสดงรูปสิง่ ต่าง ๆ ทีอ
่ ยูร่ อบตัว เช่น อาหาร ยานพาหนะ ยา อุปกรณ์ไ า้ และชีใ้ ห้เห็นว่า
การคิดค้น ประดิษฐ์ หรือปรับปรุงสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น เกี่ยวข้องกับการใช้ความรู้ในวิชาเคมีทั้งสิ้น
จากนัน
้ ให้นักเรียนพิจารณารูป ตำาราฝนหลวงพระราชทาน แล้วใช้คำาถามนำาว่า การทำาฝนหลวงใช้
ความรู้วิชาเคมีเรื่องใด เพื่อนำาเข้าสู่การอธิบายการทำาฝนหลวง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
9

2. ครูให้นก
ั เรียนศึกษาขัน
้ ตอนการทำาฝนหลวง จากข้อมูลและรูป 14.1 14.6 ตามรายละเอียด
ในหนังสือเรียน จากนัน
้ ร่วมกันอภิปรายโดยเน้นประเด็นการใช้ความรูท
้ างเคมีทเ่ี กีย
่ วข้องในขัน
้ ก่อกวน
ขั้นเลี้ยงให้อ้วน และขั้นโจมตี
3. ครูทบทวนความรูเ้ กีย
่ วกับขัน
้ ตอนในวิธก
ี ารทางวิทยาศาสตร์ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
โดยใช้รูป 14.7 ประกอบการอธิบาย โดยเน้นการอธิบายเกี่ยวกับการตั้งสมมติฐาน รวมทั้งทบทวน
ความหมายของตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรที่ต้องควบคุมให้คงที่
4. ครูให้ความรู้ว่า การระบุปัญหาหรือกำาหนดโจทย์วิจัยของนักวิทยาศาสตร์ต้องอาศัยข้อมูล
จากการสังเกต จากนั้นยกตัวอย่างการระบุปัญหาจากกรณีการทำาฝนหลวงซึ่งเป็นปัญหาที่มีตัวแปร
ที่เกี่ยวข้องหลายตัวแปร แล้วอธิบายให้เห็นความสำาคัญของการตั้งคำาถามและสมมติฐานย่อยเพื่อ
นำาไปสู่การกำาหนดตัวแปรในการทดลอง โดยให้นักเรียนพิจารณาข้อมูลในตาราง 14.1
5. ครูชใ้ี ห้เห็นว่า ตัวอย่างคำาถามในตาราง 14.1 เป็นคำาถามทีเ่ กีย
่ วข้องกับตัวแปรต้นซึง่ มีผลต่อ
ตัวแปรตามร่วมกันคือ การรวมตัวของเม ทีเ่ กิดเป็นฝนได้ และคำาถามเหล่านีช
้ ว่ ยกำาหนดขอบเขตของ
การทดลองที่จะใช้ตอบคำาถามหรือพิสูจน์สมมติฐานได้ชัดเจนขึ้น
6. ครูให้นักเรียนพิจารณาสถานการณ์ตัวอย่างซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับกลิ่นฉุนแอมโมเนียของ
ปาท่องโก จากนั้นให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างการระบุปัญหา การตั้งคำาถามและสมมติฐาน รวมทั้งการ
ออกแบบการทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐาน ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
7. ครูให้นักเรียนตอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจ

ตรวจสอบความเข้าใจ

หากต้องการทราบว่า อุณหภูมิของน้ำามันและระยะเวลาที่ใช้ในการทอดมีผลต่อกลิ่นและ
ความกรอบของปาท่องโกหรือไม่ สามารถตั้งคำาถามย่อย สมมติฐาน ระบุตัวแปรที่เกี่ยวข้อง
และออกแบบการทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐาน ได้อย่างไร
เมือ
่ พิจารณาสถานการณ์จากโจทย์ทก่ี าำ หนดให้พบว่า มีตวั แปรต้น 2 ตัวแปรคือ อุณหภูมข
ิ องน้าำ มัน
และระยะเวลาที่ใช้ในการทอด ซึ่งสามารถตั้งคำาถามและสมมติฐานย่อย ระบุตัวแปร และ
ออกแบบวิธก
ี ารตรวจสอบสมมติฐาน ได้ดงั นี้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
1

อุ หภูมิของน้าำ มัน
คำาถาม
อุณหภูมิของน้ำามัน ส่งผลต่อกลิ่นและความกรอบของปาท่องโกหรือไม่ อย่างไร

ตั้งสมมติฐาน
อุณหภูมิของน้ำามัน ส่งผลต่อกลิ่นและความกรอบของปาท่องโก

ระบุตัวแปร
ตัวแปรต้น อุณหภูมิของน้ำามัน
ตัวแปรตาม กลิ่นและความกรอบของปาท่องโก
ตัวแปรที่ต้องควบคุมให้คงที่ ปริมาณของส่วนประกอบที่ทำาปาท่องโก
วิธีผสมส่วนประกอบ
ชนิดและปริมาณของน้ำามันที่ใช้ทอด
ระยะเวลาที่ใช้ในการทอด
ผู้ทดสอบกลิ่นและความกรอบของปาท่องโก

ตรวจสอบสมมติฐาน
o
1. ทำาปาท่องโกและใช้อณ
ุ หภูมใิ นการทอด (19 2 ) ตามสูตรของร้านค้าจากสถานการณ์
ทีก
่ าำ หนดให้ เพือ
่ ใช้เป็นตัวเปรียบเทียบ
2. ทำาปาท่องโกตามสูตรของร้านค้าจากสถานการณ์ทก
่ี าำ หนดให้ แต่เปลีย
่ นอุณหภูมข
ิ องน้าำ มัน
o o
ที่ใช้ทอดอยู่ในช่วง 18 19 และ 2 21 C
3. เปรียบเทียบกลิ่นและความกรอบของปาท่องโกที่ได้ในข้อ 2 กับปาท่องโกในข้อ 1

ระยะเวลาที่ใช้ในการทอดปาท่องโก
คำาถาม
ระยะเวลาทีใ่ ช้ในการทอดปาท่องโก ส่งผลต่อกลิน
่ และความกรอบของปาท่องโกหรือไม่ อย่างไร

ตั้งสมมติฐาน
ระยะเวลาที่ใช้ในการทอดปาท่องโก ส่งผลต่อกลิ่นและความกรอบของปาท่องโก

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
11

กำาหนดตัวแปร
ตัวแปรต้น ระยะเวลาที่ใช้ในการทอดปาท่องโก
ตัวแปรตาม กลิ่นและความกรอบของปาท่องโก
ตัวแปรที่ต้องควบคุมให้คงที่ ปริมาณของส่วนประกอบที่ทำาปาท่องโก
วิธีผสมส่วนประกอบ
ชนิดและปริมาณของน้ำามันที่ใช้ทอด
อุณหภูมิของน้ำามัน
ผู้ทดสอบกลิ่นและความกรอบของปาท่องโก
ตรวจสอบสมมติฐาน
1. ทำ า ปาท่ อ งโกและใช้ เ วลาในการทอด (2 นาที ) ตามสู ต รของร้ า นค้ า จากสถานการณ์
ที่กำาหนดให้เพื่อใช้เป็นตัวเปรียบเทียบ
2. ทำาปาท่องโกตามสูตรของร้านค้าจากสถานการณ์ที่กำาหนดให้ แต่เปลี่ยนระยะเวลาที่ใช้ใน
การทอดปาท่องโก เป็น 1 นาที และ 3 นาที
3. เปรียบเทียบกลิ่นและความกรอบของปาท่องโกที่ได้ในข้อ 2 กับปาท่องโกในข้อ 1

8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหากลิ่นและความกรอบของ
ปาท่องโก เพื่อให้ได้ข้อสรุปตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
9. ครูให้นักเรียนทำากิจกรรม 14.1 การแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ความรู้
ทางเคมี

กิจกรรม 14.1 การแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ความรู้ทางเคมี

จุดประสงค์ของกิจกรรม
1. ระบุปัญหาจากสถานการณ์ที่กำาหนดให้
2. ตัง้ คำาถาม สมมติฐาน และระบุตวั แปรจากสถานการณ์ทก
่ ี าำ หนดให้โดยใช้ความรูท
้ างเคมี
3. ออกแบบวิธีการตรวจสอบสมมติฐาน
4. นำาเสนอแนวทางการแก้ปัญหา

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
1

เวลาที่ใช้ 1 ชั่วโมง
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำาหรับครู
1. การจัดแบ่งเวลาสำาหรับทำากิจกรรมและการติดตามการดำาเนินการของนักเรียน
อาจทำาได้ดังนี้

กิจกรรม เวลาที่ใช้ (ชั่วโมง)

1.1 ครู ใ ห้ นั ก เรี ย นระบุ ปั ญ หา และตั้ ง คำ า ถามจากสถานการณ์ 2


ทีเ่ ลือก โดยครูพิจารณาว่า ปัญหาและคำาถามสอดคล้องกับ
สถานการณ์ทก ่ี าำ หนดหรือไม่ จากนัน้ ให้นกั เรียนวิเคราะห์วา่
ต้องสืบค้นข้อมูลเรื่องใดบ้าง โดยครูอาจแนะนำาคำาสำาคัญ
สำาหรับสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม เช่น
สถานการ ์ 1
- การเกิดปฏิกิริยาของโอโซนกับ
- สารทำาโ ม ( o o e )
- สารทดแทน ( e ce e )
- การทดสอบสมบัติของโ มฉนวนความร้อน
( e co d c o e e e )
สถานการ ์
- ส่วนผสมในครีมกันแดด ( oc o c ee
ed e )
- สารป้องกันรังสี U (U o ec o )
- ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี U

1.2 ครู ใ ห้ นั ก เรี ย นแต่ ล ะกลุ่ ม นำ า ข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ จ ากการสื บ ค้ น มา 2


อภิปรายร่วมกันภายในกลุ่ม โดยครูให้คำาแนะนำาในกลุ่มที่มี
ข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือ

1.3 ครูให้นักเรียนตั้งสมมติฐาน ระบุตัวแปรต้น ตัวแปรตาม 2


และตัวแปรทีต ่ อ
้ งควบคุมให้คงที่ จากนัน
้ ครูควรวิเคราะห์วา่
สมมติฐาน และตัวแปรต่าง ๆ ที่นักเรียนกำาหนดขึ้นมีความ
สอดคล้องกันกับคำาถามและเป็นแนวทางนำาไปสูก ่ ารแก้ปญ
ั หา
ตามสถานการณ์หรือไม่

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
1

1.4 ครูให้นักเรียนออกแบบวิธีการตรวจสอบสมมติฐาน จากนั้น 2


ครูวิเคราะห์ว่า สอดคล้องกับสมมติฐานหรือไม่

1.5 ครูให้นักเรียนนำาเสนอและอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ 2
ในห้องเรียน

2. ครูอาจใช้เกณ ก
์ ารให้คะแนนในภาคผนวกเพือ
่ พิจารณาให้คะแนนนักเรียนระหว่าง
การทำากิจกรรม 14.1 ได้
ตัวอย่างผลการทำากิจกรรม
สถานการ ์ 1
นักเรียนเป็นพนักงานในโรงงานทำาโ มฉนวนความร้อนแห่งหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้
ปรับปรุงการผลิตโ มฉนวนความร้อนโดยใช้แกสชนิดอื่นแทน

ปัญหา
การใช้สาร ในการผลิตโ มฉนวนความร้อน ทำาให้เกิดช่องโหว่โอโซน

คำาถาม
แกสชนิดใดสามารถใช้แทนสาร ในอุตสาหกรรมทำาโ มฉนวนความร้อน

การสืบค้นข้อมูล
1. ปฏิกริ ย
ิ าการทำาลายชัน
้ โอโซนโดยสาร (c o o o oc o ) เช่น การทำาลาย
ชัน
้ โอโซนของ 3 ( c oo o oc o ) หรือ -11 หรือ eo -11 ดังสมการเคมี
รังสี U
3 2 (1)
3 2 (2)
2 (3)
(อะตอม เกิดจากการสลายพันธะของ 2 เมื่อได้รับรังสี U )

อะตอมทีเ่ กิดขึน
้ ในสมการเคมี (3) สามารถทำาปฏิกริ ย
ิ ากับ 3 โมเลกุลอืน
่ ๆ ได้อก

และปฏิกิริยาจะเกิดต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ นับจำานวนครั้งไม่ถ้วน

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
14

2. ตัวอย่างและสมบัติของ o e ที่ใช้แทน เช่น


- ( d oc o o o oc o ) ทำาปฏิกิริยากับ 3 ได้แต่มีผลกระทบ
ต่อบรรยากาศน้อยกว่า อย่างไรก็ตามในปัจจุบน
ั มีการรณรงค์ให้ลดการใช้
แกสชนิดนี้
- 2 ไม่ทำาปฏิกิริยากับ 3 ไม่ไวไ แต่เป็นแกสเรือนกระจก
- e e และ c c o e e ไม่ทาำ ปฏิกริ ย
ิ ากับ 3 แต่เป็นแกสเรือนกระจก
และเป็นแกสที่ไวไ
3. การทดสอบสมบัตข
ิ องโ มฉนวนความร้อน จะทดสอบค่าต่าง ๆ ตามมาตรฐานของ
e e d d d หรือ 59 5 โดยมีรายละเอียดดังนี้

ความหนา ความ ปริมา ความ การพองตัว ค่าความ


( ) หนาแน่น ความชื้น แขงแรงดัด เมื่อแช่น้ำา ต้านทาน
( ) ( ( ( ความร้อน
) ) (

) )
mm 3
% N/mm % m K/W
9 ไม่เกิน .35 5 13 2. ขึ้นไป ไม่เกิน 1 .163 ขึ้นไป
12 .2 6 ขึ้นไป
15 .267 ขึ้นไป
18 .327 ขึ้นไป

จากการสืบค้นข้อมูลจะเห็นว่า แกส 2 e e และ c c o e e ไม่ทำา


ปฏิกิริยากับ 3 แต่ 2 เป็นแกสที่ไม่ไวไ จึงอาจนำามาใช้ในการผลิตโ มฉนวนความร้อน
แทน ได้
หลังการสืบค้นข้อมูลอาจตั้งคำาถามย่อย ตั้งสมมติฐาน ระบุตัวแปร และออกแบบวิธี
ตรวจสอบสมมติฐานได้ เช่น

คำาถามย่อย
แกส 2 ปริมาณเท่าใดที่สามารถใช้ในการผลิตโ มฉนวนความร้อนให้มีสมบัติ
ใกล้เคียงกับที่ผลิตโดยใช้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
1

สมมติฐาน
ปริมาณของแกส 2 ทีใ่ ช้ในกระบวนการผลิตส่งผลต่อสมบัตข
ิ องโ มฉนวนความร้อน

ตัวแปร
ตัวแปรต้น ปริมาณของแกส 2 ที่ใช้ผลิตโ มฉนวนความร้อน

ตัวแปรตาม สมบัติของโ มฉนวนความร้อน


ตัวแปรที่ต้องควบคุมให้คงที่ วัสดุที่ใช้ทำาโ ม ความหนาของโ ม วิธีทดสอบโ ม

ตรวจสอบสมมติฐาน
1. ผลิตโ มฉนวนความร้อนโดยใช้แกส เพื่อใช้เป็นตัวเปรียบเทียบ
2. ผลิตโ มฉนวนความร้อนทีม ่ คี วามหนาเท่ากับโ มในข้อ 1 แต่ใช้แกส 2 ในปริมาณ
ต่าง ๆ กัน
3. ทดสอบสมบัติของโ มฉนวนความร้อนในด้านความหนาแน่น ปริมาณความชื้น
ความแข็งแรงดัด การพองตัวเมือ่ แช่นาำ ้ และค่าความต้านทานความร้อนของโ มในข้อ 1 และ 2
4. เปรียบเทียบสมบัติของโ มฉนวนความร้อนในข้อ 2 กับข้อ 1

สถานการ ์
นัก เรีย นเป็ น นักเคมีในบริษัทผลิตเครื่องสำาอางแห่งหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้ผลิต
ครีมกันแดดที่สามารถป้องรังสี U ได้

ปัญหา
การได้รับรังสี U ทำาให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนัง

คำาถาม
ครีมกันแดดที่ป้องกันรังสี U ควรมีส่วนผสมเป็นอย่างไร

การสืบค้นข้อมูล
1. องค์ประกอบในครีมกันแดด
ผลิตภัณ ์ครีมกันแดดชนิดหนึ่งมีส่วนประกอบ ดังแสดง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
1

สาร ร้อยละโดยมวล
L o 4.50
oco e 2.00
ce o o e e 3.00
e c cd 2.00
d e 7.00
e o e 3.00
ed e 71.60
o o o o 5.00
e o e 1.00
e e 0.30
o e 0.10
e co o 0.50

2. สารที่ทำาหน้าที่ป้องกันรังสี U ในครีมกันแดดมีหลายชนิด เช่น o o e


c oc e e c e e o e d e oe
d o de (หรื อ ( ) o de) c o de ซึ่งจากตารางองค์ประกอบของ
ครีมกันแดดในข้อ 1 จะพบว่า d e และ e o e ทำาหน้าที่เป็นสาร
ป้องกันรังสี

3. ประสิทธิภาพในการปกป้องรังสี U
ประสิทธิภาพในการปกป้องรังสี U จะแสดงอยู่ในรูปของค่า ( o ec o
c o ) ซึ่งคำานวณได้ดังนี้

เมื่อ แทน ปริมาณรังสี U ที่น้อยที่สุดที่ทำาให้ผิวหนังที่ทาครีมเกิดผื่นแดง


แทน ปริมาณรังสี U ที่น้อยที่สุดที่ทำาให้ผิวหนังที่ไม่ได้ทาครีมเกิดผื่นแดง
ค่า ที่แตกต่างกันจะมีประสิทธิภาพการกรองรังสี U ได้แตกต่างกัน ดังแสดง
ในตาราง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
1

ประสิทธิภาพ
การกรองรังสี
( )
15 93
30 97
50 98
100 99

องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ( ood d d o )
ได้กำาหนดให้ครีมกันแดดที่มี ต่ำากว่า 15 ต้องมีข้อความเตือนว่า สามารถปกป้อง
แดดเผาได้ แต่ไม่ป้องกันมะเร็งผิวหนัง

จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า มีสารหลายชนิดทีส่ ามารถป้องกันรังสี U ได้ หากต้องการ


พัฒนาสูตรครีมกันแดดที่มีอยู่แล้วในท้องตลาด อาจทำาได้โดยเปลี่ยนชนิดของสารป้องกัน
รังสี U เช่น เปลี่ยนมาใช้ c o de แทน ซึ่งเมื่อสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมพบว่ากระทรวง
สาธารณสุขกำาหนดให้มี c o de ในเครื่องสำาอางได้ไม่เกินร้อยละ 25 โดยมวล
หลังการสืบค้นข้อมูลอาจตั้งคำาถามย่อย ตั้งสมมติฐาน ระบุตัวแปร และออกแบบ
วิธีตรวจสอบสมมติฐานได้ เช่น

คำาถามย่อย
ควรใช้ c o de ในครีมกันแดด ปริมาณเท่าใด เพื่อแทน d e และ
e o e โดยยังสามารถป้องกันรังสี U ได้

สมมติฐาน
ปริมาณของ c o de ในครีมกันแดดมีผลต่อประสิทธิภาพการป้องกันรังสี U

ตัวแปร
ตัวแปรต้น ปริมาณ c o de
ตัวแปรตาม ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี U

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
1

ตัวแปรที่ต้องควบคุมให้คงที่ องค์ประกอบอื่น ๆ ในครีมกันแดด ยกเว้น d e


e o e และ ed e
คุณภาพของ c o de

นิยามเชิงป ิบัติการ
- ใช้ c o de แทนสัดส่วนของ d e e o e และ ed e
โดยสัดส่วนของปริมาณองค์ประกอบอื่นคงที่
- ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี U วัดจากค่า

ตรวจสอบสมมติฐาน
1. เตรียมครีมกันแดดตามสูตรที่มี d e และ e o e เพื่อใช้เป็น
ตัวเปรียบเทียบ
2. เตรี ย มครี ม กั น แดดตามสู ต รในข ้ อ 1 แต ่ ใช ้ c o de แทน d e
e o e และ ed e ในปริมาณร้อยละ 1 15 2 และ 25 โดยมวล ตามลำาดับ
3. หาค่า ของครีมกันแดดแต่ละสูตร

แนวทางการวัดและประเมินผล
1. ความรู้เกี่ยวกับวิธีการทางวิทยาศาสตร์ จากการอภิปรายและรายงานผลการทำากิจกรรม
2. ทักษะการตั้งสมมติฐาน การกำาหนดและควบคุมตัวแปร การกำาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป จากแบบประเมินระหว่างการทำากิจกรรมและรายงานผล
การทำากิจกรรม
3. ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา ความร่วมมือการทำางานเป็นทีมและ
ภาวะผู้นำา การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ และการสร้างสรรค์และนวัตกรรม จากแบบ
ประเมินระหว่างการทำากิจกรรมและรายงานผลการทำากิจกรรม
4. จิตวิทยาศาสตร์ด้านความใจกว้าง จากการอภิปราย
5. จิตวิทยาศาสตร์ด้านการเห็นคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ จากการอภิปรายและรายงานผล
การทำากิจกรรม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
1

14. การบูร าการความรู้ในการแก้ปัญหา


จุดประสงค์การเรียนรู้
ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมและการบูรณาการความรู้
ทางเคมีร่วมกับศาสตร์อื่น แก้ปัญหาสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจ

แนวการจัดการเรียนรู้
1. ครูให้ความรู้ว่า ในการแก้ปัญหานอกจากจะใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์แล้ว ยังสามารถ
ใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมได้อีกด้วย จากนั้นใช้คำาถามนำาว่า กระบวนการออกแบบเชิง
วิศวกรรมมีขั้นตอนแตกต่างจากวิธีการทางวิทยาศาสตร์หรือไม่ เพื่อนำาเข้าสู่กิจกรรม 14.2
2. ครูให้นักเรียนทำากิจกรรม 14.2 สายไ แป้งโดว์

กิจกรรม 14. สายไ แปงโดว์

จุดประสงค์ของกิจกรรม
1. สร้างสายไ แป้งโดว์เพื่อทำาให้หลอด L สว่าง ตามเงื่อนไขที่กำาหนด
2. นำาเสนอขั้นตอนการสร้างสายไ แป้งโดว์

เวลาที่ใช้ อภิปรายก่อนทำากิจกรรม 15 นาที


ทำากิจกรรม 3 นาที
อภิปรายหลังทำากิจกรรม 3 นาที
รวม 75 นาที

วัสดุ อุปกร ์ และสารเคมี

รายการ ปริมา ต่อกลุ่ม


สารเคมี
1. แป้งโดว์ 1 ก้อน (3 )
2. เกลือแกง 5
3. น้ำาตาลทราย 5
4. เบกกิ้งโซดา 5
5. น้ำากลั่น 3 L

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม

วัสดุและอุปกร ์
1. หลอด L ขนาดเล็ก (1.5 ) 2 หลอด
2. สายไ ที่ต่อกับคลิปปากจระเข้ 1 เส้น
3. ถ่านไ ฉาย 1.5 2 ก้อน ในรางถ่าน 1 ชุด
4. ภาชนะสำาหรับผสม 1 ใบ
5. ผังตำาแหน่งของหลอด L และรางถ่าน 1 แผ่น

การเตรียมล่วงหน้า
1. เตรียมแป้งโดว์ ดังนี้
- ชั่งแป้งสาลี 2 ตวงน้ำามันถั่วเหลือง 2 L และ น้ำากลั่น 1 L
- เติมน้ำามันถั่วเหลืองลงในแป้งสาลี ผสมให้เข้ากัน
- ค่อย ๆ เติมน้ำากลั่นลงไป และนวดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
(แป้งโดว์ที่เตรียมได้สามารถใช้ได้กับการทดลองของนักเรียนประมาณ 1 กลุ่ม)
2. ชั่งแป้งโดว์แบ่งให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 3

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำาหรับครู
1. ครูอธิบายเงือ
่ นไขเกีย
่ วกับความสว่างของหลอด L ว่า ควรเห็นจุดสว่างทัง้ ด้านบน
และด้านล่าง เมื่อมองจากด้านข้างของหลอด L ดังรูป 1 แต่หากมีจุดสว่างเฉพาะด้านล่าง
เมื่อสังเกตจากด้านข้างของหลอด L ดังรูป 2 ถือว่ายังไม่สว่าง

สว่าง ไม่สว่าง
รูป 1 รูป

2. เนื่องจากหลอด L แต่ละชนิด และแป้งโดว์แต่ละสูตร อาจให้ผลการทดลองที่


แตกต่างกัน ครูควรทำาการทดสอบก่อน เพื่อให้มั่นใจว่า หลอด L สว่างเมื่อต่อด้วยสายไ
ที่ต่อกับคลิปปากจระเข้แต่ไม่สว่างเมื่อต่อด้วยแป้งโดว์
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มไม่สามารถขอแป้งโดว์และสารเคมีทั้งหมดเพิ่มได้
4. ปริมาณสารเคมีที่นักเรียนแต่ละกลุ่มใช้ไป คำานวณได้จากปริมาณสารเคมีที่เหลือ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
1

5. แจ้งนักเรียนให้ระวังปริมาณน้ำาที่ใช้ในการละลายสารเคมี เพราะการใช้น้ำาปริมาณที่
มากเกินไปอาจทำาให้แป้งโดว์เหลวจนปันไม่ได้
6. นักเรียนบางกลุ่มอาจใช้สารเคมีมากเกินพอตั้งแต่การทดลองในครั้งแรกซึ่งสามารถ
ทำาให้หลอด L สว่างได้ แต่จะไม่ทราบปริมาณที่น้อยที่สุดที่ควรจะใช้ ดังนั้นครูควรสังเกต
และนำาข้อมูลเหล่านี้มาร่วมอภิปรายในประเด็นของการวางแผนที่จะนำาไปสู่วิธีการดำาเนินการ
ที่ให้ผลดีที่สุด
7. ครูควรกำาชับให้นก
ั เรียนบันทึกข้อมูลการดำาเนินการในข้อ 1 4 ก่อนลงมือดำาเนินการ

ตัวอย่างผลการทำากิจกรรม

การบันทึกข้อมูลการดำาเนินการ

1. เปรียบเทียบความสว่างของหลอด L เมื่อต่อวงจรไ ้าด้วยสายไ ที่ต่อกับคลิป


ปากจระเข้และแป้งโดว์

เมื่อต่อวงจรไ า้ ด้วยสายไ ที่ต่อกับคลิปปากจระเข้ หลอด L สว่าง


………………………………………………………………………………………………………………
ทั้งสองหลอด แต่เมื่อเปลี่ยนจากสายไ เป็นแป้งโดว์ หลอด L ไม่สว่าง
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………

2. ระบุปัญหาและเงื่อนไขในการแก้ปัญหา

ปัญหา หลอด L ไม่สว่าง เพราะแป้งโดว์ไม่นำาไ า้


………………………………………………………………………………………………………………
เงื่อนไขในการแก้ปัญหา
………………………………………………………………………………………………………………
- ทำาให้หลอด L จำานวน 2 หลอด สว่างโดยหลอด L และรางถ่าน
………………………………………………………………………………………………………………
วางตามตำาแหน่งที่กำาหนด
………………………………………………………………………………………………………………
- เลือกใช้สารเคมีที่กำาหนดให้เพียง 1 ชนิด เติมลงในแป้งโดว์
………………………………………………………………………………………………………………
- ดำาเนินการภายใน 3 นาที
………………………………………………………………………………………………………………
- ใช้สารเคมีในปริมาณที่น้อยที่สุด
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม

3. ระบุสารเคมีที่เลือกใช้เติมลงในแป้งโดว์ พร้อมอธิบายเหตุผล
เลื อ กใช้ เ กลื อ แกงละลายในน้ำ า แล้ ว เติ ม ลงในแป้ ง โดว์ เนื่ อ งจาก
………………………………………………………………………………………………………………
และ 3 เป็ น สารประกอบไอออนิ ก ที่ ล ะลายน้ำ า แล้ ว แตกตั ว ให้
………………………………………………………………………………………………………………
สารละลายอิเล็กโทรไลต์ซึ่งสามารถนำาไ ้าได้ แต่
……………………………………………………………………………………………………………… ที่แตกตัวให้
-
และ มีประจุต่อมวลของสารสูงกว่า
……………………………………………………………………………………………………………… 3 ที่ แ ตกตั ว ให้ และ
-
3 ดังนั้นจึงน่าจะใช้เกลือแกงในปริมาณที่น้อยกว่าเบกกิ้งโซดาในการทำา
………………………………………………………………………………………………………………
ให้ แ ป้ ง โดว์ นำ า ไ ้ า ส่ ว นน้ำ า ตาลทรายเมื่ อ ละลายน้ำ า แล้ ว ไม่ แ ตกตั ว ได้
…………………………………………………………………………………………………………......
สารละลายนอนอิเล็กโทรไลต์
…………………………………………………………………………………………………………......

4. ออกแบบขั้นตอนการดำาเนินการ
1. ละลายเกลือแกง .2 ในน้ำา 1 L
………………………………………………………………………………………………………………
2. เติ ม สารละลายเกลื อ แกงลงในก้ อ นแป้ ง โดว์ พร้ อ มกั บ นวดก้ อ นแป้ ง กั บ
………………………………………………………………………………………………………………
สารละ ลายเกลือแกงให้เข้ากันอย่างทัว่ ถึง แล้วปันแป้งโดว์เป็นเส้นยาว 18 c
………………………………………………………………………………………………………………
3. ต่อแ ป้งโดว์กบ
ั หลอด L ทัง้ สองหลอดและรางถ่านตามตำาแหน่งทีก
……………………………………………………………………………………………………………… ่ าำ หนด
สังเกตความสว่างของหลอด L
………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………......

5. ดำาเนินการตามขั้นตอนที่ได้ออกแบบไว้และระบุผลการดำาเนินการในครั้งแรก
การดำาเนินการครั้งแรกไม่สามารถทำาให้ L ทั้งสองหลอดสว่างได้
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………

6. ระบุวิธีการปรับปรุงแก้ไข หากไม่สามารถทำาให้หลอด L ทั้งสองหลอดสว่าง


ในครั้งแรกของการดำาเนินการ
เตรียมสารละลายเกลือแกง .2 ในน้ำา 1 L แล้วนำาไปนวดกับแป้งโดว์เพิ่ม
………………………………………………………………………………………………………………
โดยดำาเนินการซ้ำา 2 ครั้ง
………………………………………………………………………………………………………………

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา

7. สรุปวิธก
ี ารดำาเนินการและเสนอแนะวิธก
ี ารดำาเนินการทีใ่ ห้ผลดีขน
้ึ พร้อมวาดรูปการต่อ
วงจรไ า้ สำาหรับทดสอบความสว่างของหลอด L
วิธีดำาเนินการ คือ ละลายเกลือแกง .6 ในน้ำา 3 L นวดกับแป้งโดว์ให้
……………………………………………………………………………………………………………
เข้ากัน แล้วปันเป็นเส้นยาว 18 c และต่อเข้ากับหลอด L
……………………………………………………………………………………………………………. ทั้งสอง
หลอด และรางถ่านตามตำาแหน่งที่กำาหนด
…………………………………………………………………………………………………………….
สำ า หรั บ การดำ า เนิ น การครั้ ง ต่ อ ไปอาจปรั บ ปริ ม าณของน้ำ า ให้ เ หมาะสม
…………………………………………………………………………………………………………….
เพื่อให้ขึ้นรูปแป้งโดว์ได้ง่ายและนำาไ ้าได้ดี
…………………………………………………………………………………………………………….

รูปการต่อวงจร

แป้งโดว์ที่ผสมกับเกลือแกง .6
ปันเป็นเส้นยาว 18 c

อภิปรายผลการทำากิจกรรม
ในการสร้างสายไ แป้งโดว์มก
ี ารใช้ความรูเ้ กีย
่ วกับวิชาเคมีในเรือ
่ ง สารละลายอิเล็กโทรไลต์
การแตกตัวของสารเมือ
่ ละลายน้าำ และมวลต่อโมลของสาร เพือ
่ ใช้ในการเลือกสารทีค
่ าดว่าจะ
ใช้น้อยที่สุดในการทำาให้แป้งโดว์นำาไ ้า นอกจากนี้ยังมีการใช้ความรู้เกี่ยวกับการต่อวงจร
ไ า้ เพื่อทำาให้ครบวงจรและหลอด L สว่าง
จ า ก กิ จ ก ร ร ม ก า ร ส ร้ า ง ส า ย ไ แ ป้ ง โ ด ว์ มี ขั้ น ต อ น ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ หั ว ข้ อ ใ น
แบบบันทึกข้อมูลการดำาเนินการ คือ การระบุปัญหาและเงื่อนไข การรวบรวมความรู้ในการ
เลือกสารเคมีสำาหรับเติมลงในแป้งโดว์ การออกแบบขั้นตอนการดำาเนินการ การทดสอบ
ตามแผนที่วางไว้ การปรับปรุงการดำาเนินการ การสรุป และการเสนอแนะวิธีดำาเนินการ
แก้ปัญหา

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
4

สรุปผลการทำากิจกรรม
การแก้ปญ
ั หาหลอด L ไม่สว่าง จากการทีแ
่ ป้งโดว์ไม่นาำ ไ า้ ทำาได้โดยระบุปญ
ั หาและ
เงื่อนไข จากนั้นรวบรวมความรู้ในการเลือกสารเคมีสำาหรับเติมลงในแป้งโดว์แล้วออกแบบ
ขั้นตอนการดำาเนินการ ทดสอบตามแผนที่วางไว้ ปรับปรุงการดำาเนินการ สรุปและนำาเสนอ
วิธีดำาเนินการแก้ปัญหา

1 . ครูชี้ให้เห็นว่า การต่อวงจรไ ้าในกิจกรรม 14.2 เป็นแบบอนุกรม จากนัน


้ ให้ครูสาธิต
การใช้แป้งโดว์ที่นำาไ า้ มาต่อวงจรไ า้ แบบขนาน ดังรูป แล้วให้นักเรียนเปรียบเทียบความสว่าง
ของหลอด L

18 c

11. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า การต่อวงจรไ ้า


แบบขนานและอนุกรมมีผลต่อความสว่างของหลอด L โดยหากต่อหลอด L แบบขนานจะทำาให้
มีความสว่างมากกว่าการต่อแบบอนุกรม เนือ
่ งจากการต่อแบบขนานจะทำาให้หลอด L ทัง้ สองหลอด
มีความต่างศักย์เท่ากับความต่างศักย์ของแหล่งกำาเนิดไ ้า ส่วนการต่อแบบอนุกรม ความต่างศักย์
ของแหล่งกำาเนิดไ ้าจะถูกแบ่งออกให้แต่ละหลอด ทำาให้มีความสว่างน้อยลง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา

12. ครู ชี้ ใ ห้ เ ห็ น ว่ า การบู ร ณาความรู้ จ ากหลาย ๆ ศาสตร์ จะช่ ว ยให้ แ ก้ ปั ญ หาได้ อ ย่ า ง
มีประสิทธิภาพมากขึน
้ เช่น ในกิจกรรม 14.2 หากใช้ความรูเ้ รือ
่ ง การต่อวงจรไ า้ ร่วมกับความรูเ้ รือ
่ ง
สารละลายอิเล็กโทรไลต์ จะช่วยให้สามารถสร้างสายไ จากแป้งโดว์โดยใช้สารเคมีน้อยลงได้
13. ครูเชื่อมโยงขั้นตอนที่ได้ดำาเนินการในกิจกรรมกับการอธิบายรายละเอียดแต่ละขั้นตอน
ของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมตามรายละเอียดในหนังสือเรียน โดยใช้รูป 14.8 ประกอบ
การอธิิบาย
14. ครูให้ความรู้ว่า ในระหว่างการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมขั้นตอน
การดำาเนินงานสามารถสลับไปมาหรือย้อนกลับขัน
้ ตอนได้ และต้องใช้ทก
ั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ร่วมด้วย ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
15. ครูให้นักเรียนตอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจ

ตรวจสอบความเข้าใจ

วิธีการทางวิทยาศาสตร์และกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมมีส่วนของวัตถุประสงค์
และขั้นตอนที่เหมือนและต่างกันอย่างไร

วัตถุประสงค์
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ เป็นวิธีการที่ใช้ในการสร้างคำาอธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ
ในธรรมชาติ เพือ ่ ให้ได้ความรูพ
้ น
้ื ฐานทีส
่ ามารถนำามาใช้ในการแก้ปญ
ั หาหรือพัฒนานวัตกรรมได้
ส่ ว นกระบวนการออกแบบเชิ ง วิ ศ วกรรมส่ ว นใหญ่ เ ป็ น วิ ธี ก ารที่ ใ ช้ ใ นการแก้ ปั ญ หาหรื อ
พัฒนานวัตกรรมโดยเน้นการหาวิธีการที่ใช้ได้จริงภายใต้เงื่อนไข

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม

ขั้นตอน
วิธก
ี ารทางวิทยาศาสตร์และกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมมีขน
้ ั ตอนทัง้ ส่วนทีเ่ หมือนกัน
และแตกต่างกัน ดังแผนภาพ

วิธีการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม

ตั้งคำาถามเพื่อ กำาหนดปัญหาและเงื่อนไข
ทำาความเข้าใจ จากปัญหาหรือความ
ใช้ความรู้และ
ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ต้องการ
รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ในธรรมชาติ

ออกแบบวิธีการและ วิเคราะห์ ทดสอบ ประเมิน และ


วิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผล
ลงมือดำาเนินการโดยใช้ ปรับปรุงวิธีการ
เพื่อสร้างคำาอธิบาย
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จนได้วิธีการที่เหมาะสม
หรือความรู้
ในการแก้ปัญหา

16. ครูชใ้ี ห้เห็นว่า ทัง้ วิธก


ี ารทางวิทยาศาสตร์และกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมส่วนใหญ่
ใช้ความรู้ในหลาย ๆ ศาสตร์บูรณาการร่วมกัน เพื่อให้เกิดความรู้ใหม่ สามารถแก้ปัญหาหรือสร้าง
นวัตกรรมได้
17. ครูให้นักเรียนทำากิจกรรม 14.3 การแก้ปัญหาโดยการบูรณาการความรู้

กิจกรรม 14. การแก้ปัญหาโดยการบูร าการความรู้

จุดประสงค์ของกิจกรรม
เลือกสถานการณ์ปัญหาหรือประเด็นที่สนใจและออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาโดยการ
บูรณาการความรู้ทางเคมีกับความรู้ในศาสตร์อื่น และใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวน
การออกแบบเชิงวิศวกรรม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา

เวลาที่ใช้ 23 ชั่วโมง

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำาหรับครู
1. ครูอาจแบ่งเวลาในการทำากิจกรรมของนักเรียน ดังนี้

กิจกรรม เวลาที่ใช้ (ชั่วโมง)

1.1 ครู ม อบหมายให้ นั ก เรี ย นสำ า รวจปั ญ หาที่ เ กิ ด ขึ้ น ใน 1


โรงเรียน ท้องถิน
่ จังหวัด ประเทศ หรือระดับโลกและ
สืบค้นข้อมูลประกอบ จากนัน
้ เลือกสถานการณ์ปญ
ั หา
โดยหากเน้นวิธก
ี ารทางวิทยาศาสตร์ควรมีการตัง้ คำาถาม
แต่หากเน้นกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมควร
ระบุปัญหาและเงื่อนไขให้ชัดเจน
1.2 ครูให้นักเรียนนำาเสนอสถานการณ์ปัญหาที่นักเรียน 3
สนใจจะแก้ไข พร้อมข้อมูลสนับสนุนเพื่อให้เห็นความ
สำาคัญของปัญหา และนำาเสนอคำาถามหรือปัญหาและ
เงื่อนไข ครูควรวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการตอบ
คำาถามหรือแก้ปัญหานั้น และครูมอบหมายให้นักเรียน
สืบค้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยครูอาจแนะนำาแหล่งสืบค้น
ข้อมูลเพิ่มเติม
1.3 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำาข้อมูลที่ได้จากการสืบค้น 3
มาอภิปรายร่วมกันภายในกลุม
่ โดยครูให้คาำ แนะนำาในกลุม

ที่มีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือ
1.4 ครูให้นก
ั เรียนกำาหนดวัตถุประสงค์ ขอบเขตของงานและ 2
ออกแบบวิ ธีดาำ เนิ นการหลังจากที่ ได้ข้อมูลเพียงพอแล้ว
- หากเน้นวิธีการทางวิทยาศาตร์ หลังจากตั้งคำาถาม
และสืบค้นข้อมูลแล้ว ให้นักเรียนตั้งสมมติฐาน
กำาหนดตัวแปร และออกแบบวิธกี ารตรวจสอบสมมติฐาน
- หากเน้นกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมหลังระบุ
ปัญหาและสืบค้นข้อมูลแล้ว ให้นักเรียนออกแบบ
วิธีการแก้ปัญหา

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม

1.5 ครูให้นักเรียนนำาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาที่ได้ 3
ออกแบบไว้
- หากเน้นวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ครูวิเคราะห์ว่า
สมมติฐาน และตัวแปรต่าง ๆ ที่นักเรียนกำาหนดขึ้น
มีความสอดคล้องกับคำาถามหรือไม่ วิธีการตรวจสอบ
สมมติฐานสอดคล้องกับสมมติฐานและเป็นแนวทาง
นำาไปสู่การตอบคำาถามได้หรือไม่ โดยครูอาจให้ข้อ
เสนอแนะเพิ่มเติมในการปรับปรุงแก้ไข
- หากเน้นกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
ครูวเิ คราะห์วา่ วิธก
ี ารแก้ปญ
ั หาทีน
่ ก
ั เรียนออกแบบไว้
สอดคล้ อ งกั บ ปั ญ หาและนำ า ไปสู่ แ นวทางการ
แก้ ปั ญ หาได้ ห รื อ ไม่ โดยครู อ าจให้ ข้ อ เสนอแนะ
เพิ่มเติมในการปรับปรุงแก้ไข
1.6 ครูให้นักเรียนดำาเนินการแก้ปัญหาตามที่ได้ออกแบบ 8
วิธก
ี ารไว้ โดยครูอาำ นวยความสะดวกเกีย
่ วกับอุปกรณ์
สารเคมี และสถานทีส
่ าำ หรับทำาปฏิบต
ั ก
ิ าร และคอยให้
คำาแนะนำา ปรึกษา รวมทั้งกระตุ้นให้นักเรียนใช้ทักษะ
กระบวนการทางวิ ท ยาศาสตร์ ร ะหว่ า งดำ า เนิ น การ
แก้ปญ
ั หา
1.7 ครูให้นักเรียนนำาผลการดำาเนินการมาปรึกษาหารือ 3
เพือ
่ ให้คาำ แนะนำาเกีย
่ วกับการสรุปผลการดำาเนินการ

2. ครูอาจบอกเกณ ์การให้คะแนนในภาคผนวก เพื่อให้นักเรียนใช้วางแผนในการทำา


กิจกรรม 14.3

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา

แนวทางการวัดและประเมินผล
1. ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม จากการอภิปราย
2. ทักษะการสังเกต การวัด การลงความเห็นจากข้อมูล การทดลอง การกำาหนดและควบคุม
ตัวแปร การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป การสร้างแบบจำาลอง จากแบบประเมินระหว่าง
การทำากิจกรรมและรายงานผลการทำากิจกรรม
3. ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา ความร่วมมือการทำางานเป็นทีมและ
ภาวะผู้นำา การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ และการสร้างสรรค์และนวัตกรรมจาก
แบบประเมินระหว่างการทำากิจกรรมและรายงานผลการทำากิจกรรม
4. จิตวิทยาศาสตร์ด้านความใจกว้าง จากการอภิปราย
5. จิตวิทยาศาสตร์ด้านการเห็นคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ จากการอภิปรายและรายงานผล
การทำากิจกรรม

14.4 การนำาเสนอผลงาน
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. จัดทำารายงานการแก้ปัญหาโดยการบูรณาการความรู้
2. นำาเสนอผลงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

แนวการจัดการเรียนรู้
1. ครู ใ ห้ นั ก เรี ย นยกตั ว อย่ า งรู ป แบบการนำ า เสนอหรื อ การเผยแพร่ ผ ลงานทางวิ ช าการ
แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า รูปแบบการนำาเสนอหรือเผยแพร่ผลงานทางวิชาการที่นิยม
คือ รายงาน โปสเตอร์ และการบรรยาย เพื่อนำาเข้าสู่การอธิบายรายละเอียดในแต่ละรูปแบบ
2. ครูอธิบายองค์ประกอบและการเขียนรายงาน ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน โดยอาจ
อธิบายเพิ่มเติมในบางประเด็น ดังนี้
- ในส่วนนำา ใช้รูป 14.9 ประกอบการอธิบายเกี่ยวกับบทคัดย่อ และชี้แจงเพิ่มเติมว่า
บทคัดย่อส่วนใหญ่มีความยาวประมาณ 1 หน้า
- ในส่วนเนื้อหา จำานวนบทในรายงานอาจมีมากกว่าหรือน้อยกว่า 5 บท ก็ได้ ขึ้นอยู่กับ
รายละเอียดของเนื้อหา เช่น อาจรวมทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องไว้ในบทนำาเป็น 1 บท ได้ ในส่วน
ของผลการดำาเนินการและการอภิปรายข้อมูล ถ้ามีข้อมูลจากการดำาเนินการทีม
่ ป
ี ระเด็นแตกต่างกัน
อาจเขียนแยกบทได้
3. ครูให้นักเรียนทำากิจกรรม 14.4 สืบค้นข้อมูลรูปแบบการเขียนบรรณานุกรม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม

กิจกรรม 14.4 สืบค้นข้อมูลรูปแบบการเขียนบรร านุกรม

จุดประสงค์ของกิจกรรม
นำาเสนอรูปแบบการเขียนบรรณานุกรม

เวลาที่ใช้ อภิปรายก่อนทำากิจกรรม 5 นาที


ทำากิจกรรม 4 นาที
อภิปรายหลังทำากิจกรรม 5 นาที
รวม 5 นาที

ข้อเสนอแนะสำาหรับครู
ครูควรให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลล่วงหน้า แล้วนำาสิ่งที่ได้จากการสืบค้นมาเสนอและ
ร่วมกันอภิปรายในห้องเรียน

ตัวอย่างผลการสืบค้น
( )
การอ้างอิงจากหนังสือ
ผู้แต่ง. (ปี). ชื่อเรื่อง. สถานที่พิมพ์ สำานักพิมพ์.
ตัวอย่าง
e e . . (2 9). e e o ec eo e
d e. e o c - .
การอ้างอิงจากบทความในวารสาร
ผู้แต่ง. (ปีที่พิมพ์). ชื่อบทความ. ชื่อวารสาร ปีที่(ฉบับที่) เลขหน้า.
ตัวอย่าง
. . . . (2 15).
c o o e e ( o e e L )e c
dc o o c d- e o . o o e c d
ce c Re e c 7(2) 275 28 .

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
1

การอ้างอิงจากเวบไ ต์
กรณีเว็บไซต์ของหน่วยงาน
ชื่อหน่วยงาน. (ปี). ชื่อเรื่อง. สืบค้นจาก URL
ตัวอย่าง
eU e o o o e . (2 18). e c
R e o Re c o . Re e ed o
c c. c.ed o e - ce e Re o ce
d de e 2 1 2R e 2 o 2 Re c o
c d R3 2- 8 c Q - 2 3
e L 7 L

( )
การอ้างอิงจากหนังสือ
ผู้แต่ง. ชื่อหนังสือ ครั้งที่พิมพ์ สำานักพิมพ์ สถานที่พิมพ์ ปีที่พิมพ์. เลขหน้า.
ตัวอย่าง
e e . . e e o ec eo e
d e 5 ed. c - e o 2 9 64-65.

การอ้างอิงจากบทความในวารสาร
ผู้แต่ง. ชื่อบทความ. ชื่อย่อวารสาร ปีที่พิมพ์ ปีที่ (ฉบับที่) เลขหน้า.
ตัวอย่าง
. . . . c o o
e e ( o e e L )e c dc o
o c d- e o . . e . . Re . 1 7 (2) 275
-28 .

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม

การอ้างอิงจากเวบไ ต์
ผู้แต่ง (ถ้ามี). ชื่อเรื่อง ปี. ชื่อเว็บไซต์หน่วยงาน. URL (เข้าถึงเมื่อ เดือน วัน ปี)
ตัวอย่าง
e c R e o Re c o 2 18. eU e o o o
e e e.
c c. c.ed o e - ce e Re o ce
d de e 2 1 2R e 2 o 2 Re c o
c d R3 2- 8 c Q - 2 3
e L 7 L . ( cce ed 23 2 18).

( )
การอ้างอิงจากหนังสือ
ผู้แต่ง. ชื่อหนังสือ. ครั้งที่พิมพ์. สถานที่พิมพ์ สำานักพิมพ์ ปีที่พิมพ์.
ตัวอย่าง
e e . e e o ec eo e d
e. 5 ed. e o c - 2 9.

การอ้างอิงจากบทความในวารสาร
ผู้แต่ง. ชื่อบทความ. ชื่อย่อวารสาร. ปีที่พิมพ์ ปีที่(ฉบับที่) เลขหน้า.
ตัวอย่าง
.
c o o e e ( o e e L )e c
dc o o c d- e o . . e . . Re .
2 15 7(2) 275-28 .

การอ้างอิงจากเวบไ ต์
กรณีเว็บไซต์ของหน่วยงาน
ชื่อเรื่อง. ชื่อเว็บไซต์หรือหน่วยงาน. URL. เข้าถึงเมื่อ เดือน วัน ปี.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
33

ตัวอย่าง
e c R e o Re c o . eU e o o o
e .
c c. c.ed o e - ce e Re o ce
d de e 2 1 2R e 2 o 2 Re c o
c d R3 2- 8 c Q - 2 3
e L 7 L . cce ed 23 2 18.

4. ครูอาจให้นักเรียนทำากิจกรรมเสนอแนะ เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษารูปแบบการอ้างอิงแบบ
แทรกในเนื้อหา

กิจกรรมเสนอแนะสำาหรับครู
เรื่อง สืบค้นข้อมูลวิธีการเขียนอ้างอิงแบบแทรกในเนื้อหา

จุดประสงค์ของกิจกรรม
นำาเสนอวิธีการเขียนอ้างอิงแบบแทรกในเนื้อหา

วิธีทำากิจกรรม
1. สืบค้นข้อมูลวิธีการเขียนอ้างอิงแบบแทรกในเนื้อหา
2. นำาเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในห้องเรียน

ตัวอย่างผลการทำากิจกรรม
การอ้างอิงแบบแทรกในเนือ
้ หาใช้กบ
ั ข้อความทีค
่ ด
ั ลอกหรือประมวลมา เช่น รูปแบบ
ใช้ ก ารอ้ า งอิ ง ระบบนาม-ปี ซึ่ ง ประกอบด้ ว ย ชื่ อ ผู้ แ ต่ ง ตามด้ ว ยปี ที่ พิ ม พ์ และ หรื อ
เลขหน้าไว้ในวงเล็บ โดยใช้เครื่องหมายจุลภาค ( ) คั่น ดังตัวอย่าง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
4

- กรณีไม่ระบุเ ลขหน้าใช้ในการอ้ างอิงที่เ ป็ นการสรุ ปเนื้ อหาหรื อแนวคิ ดทั้ งหมดของ


งานนั้น
การเปรี ย บเที ย บการหาปริ ม าณโบรอนระหว่ า งเทคนิ ค - และ -
ในเลือดของผู้ป่วยมะเร็งชนิด o o จำานวน 1 ราย ซึ่งรักษาด้วยวิธี
โดยใช้สารประกอบ - c o e เป็นแหล่งของโบรอน พบว่า ทั้งสองวิธีสามารถ
วิเคราะห์หาปริมาณโบรอนได้ดีไม่แตกต่างกัน โดยมีคา่ สัมประสิทธิสหสัมพันธ์เท่ากับ
.99 (L o 2 )

- กรณีที่เป็นการสรุปเนื้อหาบางส่วน ถอดความ หรือคัดลอกมา ให้ระบุเลขหน้าไว้ใน


วงเล็บด้วย

เซลล์มะเร็งในคนจะมีการสังเคราะห์และใช้กรดไขมันในปริมาณที่สูงกว่าเซลล์ปกติ
เพื่อนำาไปใช้ในการสร้าง o o d e e ( e 1996 . 745)

- กรณีได้อ้างชื่อผู้แต่งไว้ในเนื้อหาแล้วให้ใ ส่ ปี ที่พิ ม พ์ และ หรื อ เลขหน้ า ไว้ ใ นวงเล็บ

o และ o o ได้ปรับปรุงวิธีการสังเคราะห์สารประกอบ
โบรอนอนุพน ั ธ์ของแอลดีไ ด์และคีโทน โดยการเติมเตตระบิวทิลแอมโมเนียม ลูออไรด์
ทีอ
่ ณ
ุ หภูมห
ิ อ
้ ง ทำาให้ปฏิกริ ย
ิ าเกิดง่ายขึน
้ และใช้สภาวะไม่รน
ุ แรง (1998 . 1167-1171)

5. ครูอธิบายการนำาเสนอโปสเตอร์ ทั้งในส่วนของการจัดทำาและการพูดนำาเสนอโปสเตอร์
ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน โดยครูอาจอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบโปสเตอร์ที่นิยมใช้
ในการนำาเสนอในงานประชุมวิชาการ

6. ครูให้นักเรียนทำากิจกรรม 14.5 การจัดทำาและนำาเสนอข้อมูลในโปสเตอร์

กิจกรรม 14. การจัดทำาและนำาเสนอข้อมูลในโปสเตอร์

จุดประสงค์ของกิจกรรม
จัดทำาและนำาเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เหมาะสม
เวลาที่ใช้ อภิปรายก่อนทำากิจกรรม 1 นาที
ทำากิจกรรม 9 นาที
อภิปรายหลังทำากิจกรรม 2 นาที
รวม 12 นาที

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
35

ตัวอย่างผลการทำากิจกรรม
ชุดที่ 1 ข้อมูลการทดลองวัดความเข้มข้นของไอออนจากการแตกตัวของกรด

กรดไ โดรคลอริกและกรดไ โดร ลูออริก ความเข้มข้นเริ่มต้น 1. o L


กรดไ โดรคลอริกแตกตัวให้ไ โดรเจนไอออนและคลอไรด์ไอออน ความเข้มข้นอย่างละ
1. o L ส่วนกรดไ โดร ลูออริกแตกตัวให้ไ โดรเจนไอออน และ ลูออไรด์ไอออน
ความเข้มข้นอย่างละ . 4 o L

ข้อมูลดังกล่าวเป็นการเปรียบเทียบปริมาณของไอออนในกรด 2 ชนิด จึงอาจนำาเสนอใน


รูปแบบกรา แท่งได้ดังนี้
ความเข้มข้น ( )

--

ชนิดของกรด

กรา แสดงความเข้มข้นของไอออนในสารละลายกรดไ โดรคลอริกและ


กรดไ โดร ลูออริก เข้มข้น 1.

ชุดที่ ข้อมูลการทดลองหาปริมาตรของแกสไ โดรเจน . 2 โมล ที่อุณหภูมิตา่ ง ๆ ณ


ความดัน 1 บรรยากาศ

อุ หภูมิ ( ) ปริมาตร ( )
-100 30
-50 36
0 45
50 55
100 61

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม

เพื่อให้สามารถเห็นแนวโน้มของข้อมูลดังกล่าว จึงอาจนำาเสนอในรูปแบบกรา เส้นได้


ดังนี้
ปริมาตร ( L)
70

60

50

40

30

20

10

-150 -100 -50 0 50 100 150


อุณหภูมิ (o )

กรา แสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตรกับอุ หภูมข


ิ องแกสไ โดรเจน

ชุดที่ ข้อมูลวิธีการทดลองศึกษาผลของความเข้มข้นของสารต่อภาวะสมดุล

วิธีทดลอง
1. ใส่นาำ้ ดอกอัญชันในหลอดทดลอง 3 หลอด หลอดละ 1. L จากนัน
้ เติม C
. 2 o L หลอดละ 5 หยด
2. เติมสารละลายลงในหลอดทดลองในข้อ 1 ดังนี้
หลอดที่ 1 เติมน้ำากลั่น 5 หยด ผสมให้เข้ากัน แล้วบันทึกสี
หลอดที่ 2 เติม . 2 o L 5 หยด ผสมให้เข้ากัน แล้วบันทึกสี
หลอดที่ 3 เติม . 2 o L 5 หยด ผสมให้เข้ากัน แล้วบันทึกสี
เปรียบเทียบสีของสารละลายหลอดที่ 2 และ 3 กับหลอดที่ 1
3. สังเกตสีของสารละลายทั้ง 3 หลอดอีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไป 1 นาที

เพื่อให้สามารถเห็นลำาดับขั้นตอนของการทดลองได้งา่ ยขึ้น จึงอาจนำาเสนอวิธีทดลอง


ในรูปแบบแผนภาพได้ดังนี้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
37

7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการนำาเสนอด้วยการบรรยายทั้งในส่วนของการ
จัดเตรียมเนือ
้ หาและสือ
่ ประกอบ รวมทัง้ การพูดนำาเสนอ เพือ
่ ให้ได้ขอ
้ สรุปตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
โดยในส่วนของการเตรียมสไลด์ ครูอาจใช้รป
ู 14.1 เพือ
่ ให้นก
ั เรียนพิจารณาตัวอย่างสไลด์ที่เหมาะสม
และไม่เหมาะสม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
38

8. ครูให้นักเรียนทำากิจกรรม 14.6 การนำาเสนอผลงานจากกิจกรรม 14.3

กิจกรรม 14. การนำาเสนอผลงานจากกิจกรรม 14.

จุดประสงค์ของกิจกรรม
1. จัดทำารายงาน
2. จัดทำาสื่อประกอบการนำาเสนอผลงานหรือชิ้นงานในรูปแบบโปสเตอร์หรือสไลด์
ประกอบการบรรยาย
3. นำาเสนอผลงานในรูปแบบของโปสเตอร์หรือการบรรยาย

เวลาที่ใช้ 8 ชั่วโมง

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำาหรับครู
1. ครูอาจแบ่งเวลาในการทำากิจกรรมดังนี้

กิจกรรม เวลาที่ใช้ (ชั่วโมง)


1.1 ครูให้คำาปรึกษาเกี่ยวกับการเขียนรายงานของนักเรียน 2
1.2 ครู แ จ้ ง ข้ อ กำ า หนดเกี่ ย วกั บ ขนาดและรู ป แบบของ 3
โปสเตอร์ และระยะเวลาในการบรรยาย แล้วให้นก
ั เรียน
จัดทำาโปสเตอร์หรือสไลด์ประกอบการบรรยายเพือ
่ ใช้
ในการนำาเสนอผลงาน
1.3 ครูให้นักเรียนนำาเสนอผลงาน และแลกเปลี่ยนความรู้ 3

2. ครูอาจบอกเกณ ์การให้คะแนน เพื่อให้นักเรียนใช้วางแผนในการจัดทำารายงาน


และการนำาเสนอผลงานในรูปแบบของโปสเตอร์หรือการบรรยาย ดังตัวอย่างในภาคผนวก

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
39

แนวทางการวัดและประเมินผล
1. ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบและวิธีการนำาเสนอผลงาน จากการอภิปราย
2. ทักษะการจัดกระทำาและสื่อความหมายข้อมูล และการสร้างแบบจำาลอง จากรายงาน
ผลการทำากิจกรรม และการนำาเสนอผลงาน
3. ทักษะการสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ ความร่วมมือ การทำางานเป็นทีมและ
ภาวะผู้นำา และการสร้างสรรค์และนวัตกรรม จากการนำาเสนอผลงาน
4. จิตวิทยาศาสตร์ดา้ นความใจกว้าง จากการอภิปราย

14. การเข้าร่วมประชุมวิชาการ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เข้าร่วมประชุมวิชาการในฐานะผู้ ังหรือผู้นำาเสนอผลงาน
2. จัดทำารายงานสรุปการประชุมวิชาการ

แนวการจัดการเรียนรู้
1. ครูอธิบายถึงรูปแบบและความสำาคัญของการประชุมวิชาการ ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
2. ครูให้นักเรียนทำากิจกรรม 14.7 สืบค้นข้อมูลงานประชุมวิชาการ

กิจกรรม 14. สืบค้นข้อมูลงานประชุมวิชาการ

จุดประสงค์ของกิจกรรม
สืบค้นข้อมูลงานประชุมวิชาการทางเคมี วิทยาศาสตร์ หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

เวลาที่ใช้ อภิปรายก่อนทำากิจกรรม 5 นาที


ทำากิจกรรม 4 นาที
อภิปรายหลังทำากิจกรรม 5 นาที
รวม 5 นาที

ข้อเสนอแนะสำาหรับครู
ครูควรให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลล่วงหน้า แล้วนำาเสนอสิ่งที่ได้จากการสืบค้นในห้องเรียน

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
4

ตัวอย่างผลการสืบค้น
ตัวอย่าง 1
ชื่องานประชุม
การประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเยาวชน ครั้งที่ 13 (วทท. ครั้งที่ 13)
( e 13 o e e ce o c e ce d ec oo o o )

ชื่อหัวข้อหลัก ( )
นวัตกรรมสร้างสรรค์สู่การอนุรักษ์อย่างยั่งยืน

ช่วงเวลาที่จัดงาน
วันที่ 16 17 กรกฎาคม 2561

สถานที่จัดงาน
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพมหานคร

หน่วยงานหลักที่จัด
- สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
- มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
- จุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
- สำานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
- สำานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

รูปแบบของกิจกรรม
- การนำาเสนอผลงานการวิจย
ั ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ในรูปแบบ
ของการบรรยายและโปสเตอร์ในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา
- การบรรยายและการอบรมเชิงปฏิบัติการ จากผู้ทรงคุณวุฒิ
- การแนะนำาแนวทางการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
41

ตัวอย่าง
ชื่องานประชุม
การประชุมวิชาการประจำาปี สวทช. ครั้งที่ 15
(15 o e e ce 2 19)

ชื่อหัวข้อหลัก ( )
เศรษฐกิจแห่งอนาคตไทย ก้าวไกลด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม

ช่วงเวลาที่จัดงาน
วันที่ 25 28 มีนาคม 2562

สถานที่จัดงาน
อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี

หน่วยงานหลักที่จัด
สำานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

รูปแบบของกิจกรรม
- การสัมมนาวิชาการ
นำาเสนอความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจยุคใหม่
- การแสดงนิทรรศการ
การแสดงผลงานวิจย
ั ของ สวทช. ภาคีเครือข่ายภาครัฐ และภาคเอกชน เน้นกลุม
่ เทคโนโลยี
เช่น oc e c ec o c e ood eed co ece c e e
ec o ed c e
- การเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการวิจัยและทดสอบ
- กิจกรรมวิทยาศาสตร์สาำ หรับเยาวชน เน้นพัฒนากระบวนการคิดภายใต้แนวคิดวิทย์คศ
ู่ ล
ิ ป

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
4

ตัวอย่าง
ชื่องานประชุม
การประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 21
( o c e ce o e o 2 19 2 19)

ชื่อหัวข้อหลัก ( )

ช่วงเวลาที่จัดงาน

ลงทะเบียนผู้เข้าแข่งขัน 25 กรกฎาคม 2561


รับสมัครข้อเสนอโครงงาน 1 กันยายน 2561
ประกาศผลรอบข้อเสนอโครงงาน 19 ตุลาคม 2561
พิธีมอบทุนและจัดค่ายโครงงาน พฤศจิกายน 2561
ระยะเวลาพั นาโครงงาน พฤศจิกายน 2561 มกราคม 2562
กำาหนดส่งมอบผลงาน 15 มกราคม 2562
ตรวจประเมินผลงานรอบ 15 31 มกราคม 2562
ประกาศผลโครงงานที่ผ่านการพิจาร า ปลายเดือน มกราคม 2562
และโครงงานที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ
การประกวดรอบชิงชนะเลิศ 12 15 มีนาคม 2562
ร่วมงาน 12 17 พฤษภาคม 2562
( 1 )

สถานที่จัดงาน
การประกวดรอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นภายในงานมหกรรมประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศ
แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ณ ไอส์แลนด์ อลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าแ ชั่นไอส์แลนด์
ถนนรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพ

หน่วยงานหลักที่จัด
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ( )

รูปแบบของกิจกรรม
เป็นการประกวดโครงงานของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 6 ในสาขาดังต่อไปนี้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา
4

1. คอมพิวเตอร์
2. คณิตศาสตร์
3. เคมี
4. ชีววิทยา
5. ิสิกส์ พลังงาน และดาราศาสตร์
6. วัสดุศาสตร์
7. วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
8. วิศวกรรมศาสตร์
โครงงานทีไ่ ด้รบ
ั รางวัลชนะเลิศหรือได้รบ
ั การคัดเลือกให้เป็นผูแ
้ ทนประเทศไทย จะได้เข้าร่วม
ประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติในงาน e e o c e ce d
ee ( e ) ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

3. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับบทบาทในฐานะผู้ ังและผู้นำาเสนอในงานประชุม
วิชาการ โดยครูอาจให้นักเรียนเขียนข้อควรปฏิบัติในฐานะผู้ ังและผู้นำาเสนอที่ดี อย่างละ 1 ข้อ
ลงในกระดาษ ร่วมกันจัดหมวดหมู่ แล้วอภิปรายเพือ ่ นำาไปสูข
่ อ
้ สรุปและเปรียบเทียบกับบทบาทในฐานะ
ผู้ ังและผู้นำาเสนอ ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
4. ครูอาจยกตัวอย่างคำาถามที่ไม่เหมาะสมในฐานะผู้ ังเพิ่มเติม ดังตัวอย่างต่อไปนี้
- คำาถามไม่ชด ั เจน ไม่เฉพาะเจาะจง หรือกว้างเกินไป เช่น ทำาเรือ
่ งนีไ้ ปทำาไม สรุปทัง้ หมด
ให้ งั อีกครั้งได้หรือไม่

หากไม่เข้าใจส่วนใดควรใช้คำาถามที่มีความชัดเจนและเจาะจงมากขึ้น เช่น
เพราะเหตุใดจึงต้องทำาการทดลองในส่วน .

- คำาถามนอกเรื่อง เช่น ในงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการหาประสิทธิภาพที่กรองน้ำาจาก


เปลือกส้ม กล้วย เงาะ และมังคุด แต่ใช้คาำ ถามว่า ถ้าใช้เปลือกทุเรียนหรือเปลือกส้มโอจะดีกว่าหรือไม่

หากต้องการทราบข้อมูลในส่วนทีไ่ ม่ได้ดาำ เนินการแต่เชือ


่ มโยงกับสิง่ ทีท
่ าำ ได้ ควรมีสมมติฐาน
หรือเหตุผลสนับสนุนประกอบคำาถาม

- คำาถามดูหมิ่น เช่น งานนี้ลอกใครมาหรือเปล่า งานนี้ทำาเองหรือเปล่า

หากสงสั ย ว่ า งานนี้ อ าจมี ค วามซ้ำ า ซ้ อ นกั บ งานอื่ น หรื อ งานบางส่ ว นอาจไม่ ไ ด้ ทำ า ขึ้ น เอง
ควรใช้คาำ ถามว่า ผลงานนีม ้ ส
ี ว่ นใดทีใ่ หม่หรือไม่ซาำ้ ซ้อนกับงานอืน
่ หรือ ผูน
้ าำ เสนอมีสว่ นร่วม
ในการดำาเนินการส่วนใดบ้าง
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 14 เคมีกับการแก้ปัญหา เคมี เล่ม
44

5. ครูอธิบายการเขียนรายงานการเข้าร่วมการประชุมวิชาการ ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
6. ครูให้นักเรียนทำากิจกรรม 14.8 การเข้าร่วมและการสรุปรายงานการเข้าประชุมวิชาการ

กิจกรรม 14. การเข้าร่วมและการสรุปรายงานการเข้าประชุมวิชาการ

จุดประสงค์ของกิจกรรม
1. เข้าร่วมการประชุมวิชาการ
2. จัดทำาสรุปรายงานการเข้าร่วมประชุมวิชาการ

เวลาที่ใช้ 2 ชั่วโมง

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำาหรับครู
1. ครูแนะนำาให้นักเรียนเข้าร่วมประชุมวิชาการที่จัดขึ้นโดยหน่วยงานต่าง ๆ หรือ
ครูจด
ั การประชุมวิชาการในระดับชัน
้ เรียน โรงเรียน หรือกลุม
่ โรงเรียน เพือ
่ ให้นก
ั เรียนทุกคน
ได้มีประสบการณ์การเข้าร่วมประชุมวิชาการ
2. เวลา 2 ชัว่ โมงทีก
่ าำ หนดให้ เป็นเวลาสำาหรับการอภิปรายสรุประหว่างครูกบ
ั นักเรียน
ไม่รวมเวลาการเข้าร่วมประชุมวิชาการ
3. ครูอาจใช้เกณ ์การให้คะแนนในภาคผนวกเพื่อพิจารณาให้คะแนนนักเรียนในการ
เข้าร่วมประชุม และรายงานการเข้าร่วมประชุมได้

แนวทางการวัดและประเมินผล
1. ความรู้เกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติในการเข้าร่วมประชุมวิชาการ จากการอภิปราย
2. จิ ต วิ ท ยาศาสตร์ ด้ า นการเห็ น คุ ณ ค่ า ทางวิ ท ยาศาสตร์ แ ละความสนใจในวิ ท ยาศาสตร์
จากรายงานผลการสืบค้นและรายงานผลการเข้าร่วมประชุมวิชาการ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม ภาคผนวก
45

ภาคผนวก

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภาคผนวก เคมี เล่ม
46

แนวทางการวัดและประเมินผล

หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 6 นี้


เน้นการจัดการเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะที่สำาคัญที่สามารถใช้ในการแก้ปัญหาได้ ดังนั้นการวัด
และประเมินผลจึงเน้นการประเมินด้านทักษะ ซึ่งสามารถพิจารณาการประเมินในภาพรวม ได้ดัง
ตัวอย่าง

ผลการเรียนรู้ รายการที่ควรใช้ประเมิน

กำาหนดปัญหา และนำาเสนอแนวทางการแก้ปัญหา - แบบประเมินระหว่างการทำากิจกรรม 14.1


โดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น - รายงานผลการทำากิจกรรม 14.1
ใ น ชี วิ ต ประจำ า วั น การประกอบอาชี พ หรื อ
อุตสาหกรรม

แสดงหลั ก ฐานถึ ง การบู ร ณาการความรู้ ท างเคมี - แบบประเมินระหว่างการทำากิจกรรม 14.2


ร่วมกั บ สาขาวิ ช าอื่ น รวมทั้ ง ทั ก ษะกระบวนการ - รายงานผลการทำากิจกรรม 14.2
ทางวิ ท ยาศาสตร์ ห รื อ กระบวนการออกแบบเชิ ง - แบบประเมินระหว่างการทำากิจกรรม 14.3
วิศวกรรม โดยเน้นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปญ
ั หา - รายงานผลการทำากิจกรรม 14.3
แ ล ะ ค ว า ม คิ ด ส ร้ า ง ส ร ร ค์ เ พื่ อ แ ก้ ปั ญ ห า ใ น
สถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจ

นำาเสนอผลงานหรือชิ้นงานที่ได้จากการแก้ปัญหา - รายงานผลการทำากิจกรรม 14.5


่ นใจโดยใช้เทคโนโลยี - โปสเตอร์หรือสไลด์ประกอบการบรรยาย
ในสถานการณ์หรือประเด็นทีส
สารสนเทศ ผลการทำากิจกรรม 14.3
- การพูดนำาเสนอผลการทำากิจกรรม 14.3

แสดงหลักฐานการเข้าร่วมการสัมมนา การเข้าร่วม - รายงานผลการสืบค้นจากกิจกรรม 14.7


ประชุมวิชาการ หรือการแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์ - รายงานผลการเข้าร่วมประชุมวิชาการ
ในงานนิทรรศการ จากกิจกรรม 14.8

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม ภาคผนวก
47

ตัวอย่างเก ์การให้คะแนน

1. เกณ ์การให้คะแนนสำาหรับแบบประเมินระหว่างการทำากิจกรรม 14.1 การแก้ปัญหาด้วย


วิธีการทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ความรู้ทางเคมี

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ

การกำาหนดปัญหา และ กำาหนดปัญหาได้ชัดเจน ตั้งคำาถามได้ ดี


ตั้งคำาถาม คำาถามย่อย สอดคล้องกับสถานการณ์ทก
ี่ าำ หนดให้
และคำาถามหรือคำาถามย่อยช่วยกำาหนด
ขอบเขตของการออกแบบวิ ธี ก าร
แก้ปัญหา

กำาหนดปัญหาได้ชด
ั เจน แต่ตง้ั คำาถาม พอใช้
ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ทก
่ี าำ หนดให้
และคำ า ถามหรื อ คำ า ถามย่ อ ยไม่ ช่ ว ย
กำ า หนดขอบเขตของการออกแบบ
วิธีการแก้ปัญหา
กำาหนดปัญหาได้ไม่ชด
ั เจน และตัง้ คำาถาม ต้องปรับปรุง
ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ทก
่ี าำ หนดให้
และคำาถามหรื อ คำ าถามย่อยไม่ช่วย
กำ า หนดขอบเขตของการออกแบบ
วิธีการแก้ปัญหา
การสืบค้นและศึกษาข้อมูล มีการศึกษาค้นคว้าความรูท
้ างเคมีและ ดี
ที่เกี่ยวข้องกับปัญหา ความรูห
้ รือข้อเท็จจริงอืน
่ ๆทีเ่ กีย
่ วข้อง
กับปัญหาและเพียงพอในการแก้ปญ
ั หา
มีการศึกษาค้นคว้าความรูท
้ างเคมีและ พอใช้
ความรูห
้ รือข้อเท็จจริงอืน
่ ๆทีเ่ กีย
่ วข้อง
กับปัญหาแต่ไม่เพียงพอในการแก้ปญ
ั หา
มีการศึกษาค้นคว้าความรูท
้ างเคมีและ ต้องปรับปรุง
ความรูห
้ รือข้อเท็จจริงอืน
่ ๆทีไ่ ม่เกีย
่ วข้อง
กับปัญหาเป็นส่วนใหญ่

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภาคผนวก เคมี เล่ม
48

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ

การตั้งสมมติฐานและการ ตั้ ง สมมติ ฐ านสอดคล้ อ งกั บ คำ า ถาม ดี


ระบุตัวแปร และระบุตัวแปรได้ถูกต้อง

ตั้ ง สมมติ ฐ านสอดคล้ อ งกั บ คำ า ถาม พอใช้


แต่ระบุตัวแปรได้ไม่ถูกต้อง

ตั้งสมมติฐานไม่สอดคล้องกับคำาถาม ต้องปรับปรุง
และระบุตัวแปรได้ไม่ถูกต้อง

ก า ร อ อ ก แ บ บ วิ ธี ก า ร วิธก
ี ารตรวจสอบสมมติฐานสอดคล้อง ดี
ตรวจสอบสมมติฐาน กับสมมติฐานทีต
่ ง้ั ไว้ และวิธด
ี าำ เนินการ
เป็นลำาดับขั้นตอน

วิธก
ี ารตรวจสอบสมมติฐานสอดคล้อง พอใช้
กับสมมติฐานที่ต้งั ไว้ แต่วิธีดำาเนินการ
ไม่เป็นลำาดับขั้นตอน
วิธก
ี ารตรวจสอบสมมติฐานไม่สอดคล้อง ต้องปรับปรุง
กับสมมติฐานทีต
่ ง้ั ไว้ และวิธด
ี าำ เนินการ
ไม่เป็นลำาดับขั้นตอน
การนำาเสนอและอภิปราย นำาเสนอผลการทำากิจกรรมได้ชัดเจน ดี
เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ใน เป็นลำาดับขั้นตอน และมีส่วนร่วมใน
ห้องเรียน การอภิ ป รายแลกเปลี่ ย นความรู้ ใ น
ห้องเรียน
นำาเสนอผลการทำากิจกรรมได้ชัดเจน พอใช้
เป็นลำาดับขั้นตอน แต่ไม่มีส่วนร่วมใน
การอภิ ป รายแลกเปลี่ ย นความรู้ ใ น
ห้องเรียน
นำาเสนอผลการทำากิจกรรมไม่ชัดเจน ต้องปรับปรุง
ไม่เป็นลำาดับขัน
้ ตอน และไม่มส
ี ว่ นร่วม
ในการอภิ ป รายแลกเปลี่ ย นความรู้
ในห้องเรียน
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม ภาคผนวก
49

2. เกณ ์การให้คะแนนสำาหรับรายงานผลการทำากิจกรรม 14.1 การแก้ปัญหาด้วยวิธีการทาง


วิทยาศาสตร์โดยใช้ความรู้ทางเคมีี

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ

องค์ประกอบและเนื้อหา รายงานข้อมูลครบตามหัวข้อทีก
่ าำ หนด ดี
ของรายงาน และหั ว ข้ อ รายงานมี ป ระเด็ น สำ า คั ญ
ครบถ้วน
รายงานข้อมูลครบตามหัวข้อทีก
่ าำ หนด พอใช้
แต่บางหัวข้อขาดประเด็นสำาคัญ

รายงานข้อมูลไม่ครบตามหัวข้อทีก
่ าำ หนด ต้องปรับปรุง
และหั ว ข้ อ รายงานส่ ว นใหญ่ ข าด
ประเด็นสำาคัญ
การใช้ภาษา ใช้ ภ าษาที่ เ ข้ า ใจง่ า ยและส่ ว นใหญ่ ดี
สะกดคำาได้ถก
ู ต้อง

ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย แต่สะกดคำาผิด พอใช้


เป็นส่วนใหญ่

ใช้ภาษาทีเ่ ข้าใจยาก วกวน และสะกดคำา ต้องปรับปรุง


ผิดเป็นส่วนใหญ่
การส่งรายงาน ส่งทันตามกำาหนดเวลา ดี
ส่งไม่ทน
ั ตามกำาหนดเวลา ต้องปรับปรุง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภาคผนวก เคมี เล่ม
50

3. เกณ ก
์ ารให้คะแนนสำาหรับแบบประเมินระหว่างการทำากิจกรรม 14.2 การสร้างสายไ แป้งโดว์

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


การระบุปญ
ั หาและเงือ
่ นไข ระบุปญ
ั หาได้ชด
ั เจนและระบุเงือ
่ นไข ดี
ในการแก้ปัญหา ได้ครบถ้วน
ระบุปญ
ั หาได้ชด
ั เจนแต่ระบุเงือ
่ นไขไม่ พอใช้
ครบถ้วน
ระบุปญ
ั หาไม่ชด
ั เจนและระบุเงือ
่ นไข ต้องปรับปรุง
ไม่ครบถ้วน
การอธิบายเหตุผลในการ อ ธิ บ า ย เ ห ตุ ผ ล ไ ด้ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ดี
เลือกสารเคมีเติมลงใน การเลือกสารเคมี
แป้งโดว์ อ ธิ บ า ย เ ห ตุ ผ ล ไ ด้ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ พอใช้
การเลือกสารเคมีบางส่วน
อ ธิ บ า ย เ ห ตุ ผ ล ไ ม่ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ต้องปรับปรุง
การเลือกสารเคมี
การออกแบบขัน
้ ตอนการ วิธีดำาเนินการเป็นลำาดับขั้นตอน และ ดี
ดำาเนินการ การอธิบายวิธีดำาเนินการชัดเจน
วิธีดำาเนินการเป็นลำาดับขั้นตอน แต่ พอใช้
การอธิบายวิธีดาำ เนินการไม่ชัดเจน
วิธด
ี าำ เนินการไม่เป็นลำาดับขัน
้ ตอน และ ต้องปรับปรุง
การอธิบายวิธีดำาเนินการไม่ชัดเจน
การดำาเนินการสร้าง สร้างสายไ แป้งโดว์ตามวิธด
ี าำ เนินการ ดี
สายไ แป้งโดว์ ที่ออกแบบไว้
สร้างสายไ แป้งโดว์โดยไม่ดาำ เนินการ ต้องปรับปรุง
ตามวิธีดาำ เนินการที่ออกแบบไว้
การนำาเสนอขั้นตอน นำาเสนอผลการทำากิจกรรมได้ชัดเจน ดี
การสร้างสายไ แป้งโดว์ เป็นลำาดับขั้นตอน
นำาเสนอผลการทำากิจกรรมได้ไม่ชด
ั เจน ต้องปรับปรุง
ไม่เป็นลำาดับขั้นตอน

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม ภาคผนวก
51

4. เกณ ์การให้คะแนนสำาหรับรายงานผลการทำากิจกรรม 14.2 สายไ แป้งโดว์

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


องค์ประกอบและเนื้อหา รายงานข้อมูลครบตามหัวข้อทีก
่ าำ หนด ดี
ของรายงาน และหั ว ข้ อ รายงานมี ป ระเด็ น สำ า คั ญ
ครบถ้วน
รายงานข้อมูลครบตามหัวข้อทีก
่ าำ หนด พอใช้
แต่บางหัวข้อขาดประเด็นสำาคัญ
รายงานข้ อ มู ล ไม่ ค รบตามหั ว ข้ อ ต้องปรับปรุง
ที่กาำ หนดและหัวข้อรายงานส่วนใหญ่
ขาดประเด็นสำาคัญ
การส่งรายงาน ส่งทันตามกำาหนดเวลา ดี
ส่งไม่ทน
ั ตามกำาหนดเวลา ต้องปรับปรุง

5. เกณ ์การให้คะแนนสำาหรับแบบประเมินระหว่างการทำากิจกรรม 14.3 การแก้ปัญหาโดย


การบูรณาการความรู้

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


การสำารวจปัญหาและการ มีขอ
้ มูลจากการสำารวจสนับสนุนให้เห็น ดี
ตั้งคำาถาม การระบุปัญหา ความสำาคัญของปัญหา และตัง้ คำาถาม
ระบุปญ
ั หาได้สอดคล้องกับสถานการณ์
ปัญหา
มีขอ
้ มูลจากการสำารวจสนับสนุนให้เห็น พอใช้
ความสำาคัญของปัญหา แต่ตง้ั คำาถาม
ระบุปญ
ั หาไม่สอดคล้องกับสถานการณ์
ปัญหา
ไม่มข
ี อ
้ มูลจากการสำารวจสนับสนุนให้ ต้องปรับปรุง
เ ห็ น ค ว า ม สำ า คั ญ ข อ ง ปั ญ ห า แ ล ะ
ตัง้ คำาถาม ระบุปญ
ั หาไม่สอดคล้องกับ
สถานการณ์ปญ
ั หา

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภาคผนวก เคมี เล่ม
52

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ

การสืบค้นและศึกษา มีการศึกษาค้นคว้าความรูท
้ างเคมีและ ดี
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ความรูห
้ รือข้อเท็จจริงอืน
่ ๆ ทีเ่ กีย
่ วข้อง
ปัญหา กับปัญหาและเพียงพอในการแก้ปญ
ั หา

มีการศึกษาค้นคว้าความรูท
้ างเคมีและ พอใช้
ความรูห
้ รือข้อเท็จจริงอืน
่ ๆ ทีเ่ กีย
่ วข้อง
กับปัญหาแต่ไม่เพียงพอในการแก้ปญ
ั หา
มีการศึกษาค้นคว้าความรูท
้ างเคมีและ ต้องปรับปรุง
ความรูห
้ รือข้อเท็จจริงอืน
่ ๆ ทีไ่ ม่เกีย่ วข้อง
กับปัญหาเป็นส่วนใหญ่
การกำาหนดวัตถุประสงค์ กำาหนดวัตถุประสงค์ได้สอดคล้องกับ ดี
และขอบเขตของงาน คำาถาม ปัญหา และขอบเขตของงาน
สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
กำาหนดวัตถุประสงค์ได้สอดคล้องกับ พอใช้
คำาถาม ปัญหา แต่ขอบเขตของงานไม่
สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
กำาหนดวัตถุประสงค์ไม่สอดคล้องกับ ต้องปรับปรุง
คำาถาม ปัญหา และขอบเขตของงาน
ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
การออกแบบ วิธด
ี าำ เนินการสอดคล้องและครอบคลุม ดี
วิธีดำาเนินการแก้ปัญหา กับวัตถุประสงค์และขอบเขตของงาน
และเป็นแนวทางทีน
่ าำ ไปสูก่ ารแก้ปญ
ั หาได้
วิธด
ี าำ เนินการสอดคล้องแต่ไม่ครอบคลุม พอใช้
วั ต ถุ ป ระสงค์ แ ละขอบเขตของงาน
ทัง้ หมด และเป็นแนวทางทีน
่ าำ ไปสูก
่ าร
แก้ปญ
ั หาได้

วิธด
ี าำ เนินการไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ต้องปรับปรุง
และขอบเขตของงาน และไม่ ใ ช่
แนวทางทีน
่ าำ ไปสูก
่ ารแก้ปญ
ั หาได้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม ภาคผนวก
53

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ

การดำาเนินการแก้ปญ
ั หา ดำาเนินการแก้ปญ
ั หาตามทีไ่ ด้ออกแบบ ดี
วิธีการไว้ และใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ
ในการดำาเนินการได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ดำาเนินการแก้ปญ
ั หาตามทีไ่ ด้ออกแบบ พอใช้
วิ ธีก ารไว้ แต่ ใ ช้ อุ ป กรณ์ เครื่อ งมื อ
ในการดำาเนินการไม่ถูกต้องเหมาะสม
ดำาเนินการแก้ปญ
ั หาโดยไม่เป็นไปตาม ต้องปรับปรุง
ขั้นตอนที่ได้ออกแบบวิธีการไว้และใช้
อุปกรณ์ เครื่องมือในการดำาเนินการ
ไม่ถก
ู ต้องเหมาะสม

6. เกณ ์การให้คะแนนสำาหรับรายงานผลการทำากิจกรรม 14.3 (รายงานผลการทำากิจกรรม


14.3 เป็นกิจกรรมที่ดาำ เนินการในกิจกรรม 14.6)

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


องค์ประกอบและความ รายงานข้อมูลครบตามหัวข้อทีก
่ าำ หนด ดี
เรียบร้อยของรายงาน และเล่มรายงานเรียบร้อย
รายงานข้อมูลครบตามหัวข้อทีก
่ าำ หนด พอใช้
แต่เล่มรายงานไม่เรียบร้อย

รายงานข้อมูลไม่ครบตามหัวข้อทีก
่ าำ หนด ต้องปรับปรุง
และเล่มรายงานไม่เรียบร้อย
บทคัดย่อ แสดงภาพรวมของงาน และเขียนเป็น ดี
ลำาดับทีท
่ าำ ให้เข้าใจได้งา่ ย
แสดงภาพรวมของงานแต่การเขียน พอใช้
วกวนอ่านเข้าใจได้ยาก
ไม่แสดงภาพรวมของงานและการเขียน ต้องปรับปรุง
วกวน อ่านเข้าใจได้ยาก

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภาคผนวก เคมี เล่ม
54

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ

บทนำาและทฤษฎีหรือ บทนำาแสดงให้เห็นความเป็นมาและ ดี
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ความสำาคัญของปัญหา และทฤษฎีหรือ
งานวิจย
ั ทีเ่ กีย
่ วข้องส่วนใหญ่เป็นข้อมูล
ทีส
่ อดคล้องกับงานทีท
่ าำ
บทนำาไม่แสดงให้เห็นความเป็นมาและ พอใช้
ความสำาคัญของปัญหา แต่ทฤษฎีหรือ
งานวิจย
ั ทีเ่ กีย
่ วข้องส่วนใหญ่เป็นข้อมูล
ทีส
่ อดคล้องกับงานทีท
่ าำ
หรือ
บทนำาแสดงให้เห็นความเป็นมาและ
ความสำาคัญของปัญหา แต่ทฤษฎีหรือ
งานวิจย
ั ทีเ่ กีย
่ วข้องส่วนใหญ่เป็นข้อมูล
ทีไ่ ม่สอดคล้องกับงานทีท
่ าำ
บทนำาไม่แสดงให้เห็นความเป็นมาและ ต้องปรับปรุง
ความสำ า คั ญ ของปั ญ หา และทฤษฎี
หรืองานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็น
ข้ อ มู ล ที่ ไ ม่ ส อดคล้ อ งกั บ งานที่ ทำ า

วิธีดำาเนินการ วิธก
ี ารทดลองหรือวิธก
ี ารแก้ปญ
ั หาเป็น ดี
ลำ า ดั บ ขั้ น ตอนชั ด เจน และให้ ข้ อ มู ล
เกี่ ย วกั บ อุ ป กรณ์ แ ละเครื่ อ งมื อ ที่ ใ ช้
ครบถ้วน

วิธก
ี ารทดลองหรือวิธก
ี ารแก้ปญ
ั หาเป็น พอใช้
ลำ า ดั บ ขั้น ตอน แต่ ใ ห้ ข้อ มู ล เกี่ย วกั บ
อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ไม่ครบถ้วน

วิ ธีก ารทดลองหรื อ วิ ธีก ารแก้ ปัญ หา ต้องปรับปรุง


ไม่เป็นลำาดับขั้นตอน และไม่ให้ข้อมูล
เกี่ย วกั บ อุ ป กรณ์ แ ละเครื่ อ งมื อ ที่ ใ ช้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม ภาคผนวก
55

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


ผ ล ก า ร ดำ า เ นิ น ก า ร แ ล ะ มีการจัดกระทำาข้อมูล และวิเคราะห์และ ดี
การอภิปรายข้อมูล อภิปรายผลการดำาเนินการสอดคล้อง
กับวัตถุประสงค์
มีการจัดกระทำาข้อมูล แต่วเิ คราะห์และ พอใช้
อภิปรายผลการดำาเนินการไม่สอดคล้อง
กับวัตถุประสงค์
หรือ
วิเคราะห์และอภิปรายผลการดำาเนินการ
ได้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ แต่ไม่มี
การจัดกระทำาข้อมูล

ไม่มก
ี ารจัดกระทำาข้อมูล และวิเคราะห์ ต้องปรับปรุง
แ ล ะ อ ภิ ป ร า ย ผ ล ก า ร ดำ า เ นิ น ก า ร
ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์

การสรุปผล สรุ ป ผลดำ า เนิ น การสอดคล้ อ งและ ดี


ครอบคลุมวัตถุประสงค์ทง้ั หมด
สรุปผลดำาเนินการสอดคล้องแต่ไม่ พอใช้
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ทั้งหมด

สรุ ป ผลดำ า เนิ น การไม่ ส อดคล้ อ งกั บ ต้องปรับปรุง


วัตถุประสงค์ หรือไม่มก
ี ารสรุปผล
การส่งรายงาน ส่งทันตามกำาหนดเวลา ดี
ส่งไม่ทน
ั ตามกำาหนดเวลา ต้องปรับปรุง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภาคผนวก เคมี เล่ม
56

7. เกณ ์การให้คะแนนสำาหรับรายงานผลการทำากิจกรรม 14.5 การจัดทำาและนำาเสนอข้อมูล


ในโปสเตอร์

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


เนื้อหาของรายงาน มีข้อมูลที่ผ่านการจัดกระทำาให้อยู่ใน ดี
รูปแบบทีเ่ หมาะสมครบ 3 ชุด
มีข้อมูลที่ผ่านการจัดกระทำาให้อยู่ใน พอใช้
รูปแบบทีเ่ หมาะสม 2 ชุด

มี ข้อ มู ล ที่ผ่า นการจั ด กระทำ า ให้ อ ยู่ใ น ต้องปรับปรุง


รูปแบบทีเ่ หมาะสม 1 ชุด หรือไม่มเี ลย
การส่งรายงาน ส่งทันตามกำาหนดเวลา ดี
ส่งไม่ทน
ั ตามกำาหนดเวลา ต้องปรับปรุง

8. เกณ ก
์ ารให้คะแนนโปสเตอร์นาำ เสนอผลงานจากกิจกรรม 14.3 (โปสเตอร์นาำ เสนอผลงาน
จากกิจกรรม 14.3 เป็นกิจกรรมที่ดำาเนินการในกิจกรรม 14.6)

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


ขนาดและองค์ประกอบ ขนาดโปสเตอร์เป็นไปตามที่กำาหนด ดี
ของโปสเตอร์ และมีขอ
้ มูลครบตามหัวข้อทีก
่ าำ หนด

ขนาดโปสเตอร์เป็นไปตามทีก
่ าำ หนด แต่ พอใช้
มี ข้ อ มู ล ไม่ ค รบตามหั ว ข้ อ ที่ กำ า หนด
หรือ
มีข้อมูลครบตามหัวข้อที่กำาหนด แต่
ขนาดโปสเตอร์ไม่เป็นไปตามทีก
่ าำ หนด

ขนาดโปสเตอร์ไม่เป็นไปตามทีก
่ าำ หนด ต้องปรับปรุง
และมีขอ
้ มูลไม่ครบตามหัวข้อทีก
่ าำ หนด

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม ภาคผนวก
57

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


เนื้อหาในโปสเตอร์ เนื้ อ หาส่ ว นใหญ่ มี ค วามถู ก ต้ อ งและ ดี
สมบูรณ์

เนื้ อ หาส่ ว นใหญ่ มี ค วามถู ก ต้ อ งแต่ พอใช้


ไม่สมบูรณ์

เนือ
้ หาส่วนใหญ่ไม่ถก
ู ต้องและไม่สมบูรณ์ ต้องปรับปรุง

การใช้ภาษา ใช้ ภ าษาที่ เ ข้ า ใจง่ า ยและส่ ว นใหญ่ ดี


สะกดคำาได้ถก
ู ต้อง
ใช้ ภ าษาที่ เ ข้ า ใจง่ า ยแต่ ส่ ว นใหญ่ พอใช้
สะกดคำาไม่ถก
ู ต้อง
ใช้ภาษาทีเ่ ข้าใจยาก วกวน และส่วนใหญ่ ต้องปรับปรุง
สะกดคำาไม่ถูกต้อง
การส่งโปสเตอร์ ส่งทันตามกำาหนดเวลา ดี
ส่งไม่ทน
ั ตามกำาหนดเวลา ต้องปรับปรุง

9. เกณ ์การให้คะแนนสไลด์ประกอบการบรรยายผลงานจากกิจกรรม 14.3 (สไลด์ประกอบ


การบรรยายผลงานจากกิจกรรม 14.3 เป็นกิจกรรมที่ดำาเนินการในกิจกรรม 14.6)

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


เนื้อหาในสไลด์ แสดงประเด็นสำาคัญครบถ้วน และเนือ
้ หา ดี
ส่วนใหญ่มค
ี วามถูกต้อง

แสดงประเด็ น สำ า คั ญ ไม่ ค รบถ้ ว นแต่ พอใช้


เนื้อหาส่วนใหญ่มีความถูกต้อง

แสดงประเด็ น สำ า คั ญ ไม่ ค รบถ้ ว นและ ต้องปรับปรุง


เนื้อหาส่วนใหญ่ไม่ถูกต้อง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภาคผนวก เคมี เล่ม
58

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


การใช้ภาษา ใช้ ภ าษาที่ เ ข้ า ใจง่ า ย และส่ ว นใหญ่ ดี
สะกดคำาได้ถูกต้อง
ใช้ ภ าษาที่เ ข้ า ใจง่ า ย แต่ ส ะกดคำ า ผิ ด พอใช้
เป็นส่วนใหญ่
ใช้ภาษาทีเ่ ข้าใจยาก วกวน และสะกดคำา ต้องปรับปรุง
ผิดเป็นส่วนใหญ่
การออกแบบสไลด์ ใ ช้ ข น า ด แ ล ะ รู ป แ บ บ ตั ว อั ก ษ ร ที่ ดี
เหมาะสม จัดวางข้อความและภาพใน
สไลด์ได้เหมาะสมทำาความเข้าใจได้งา่ ย
ใ ช้ ข น า ด แ ล ะ รู ป แ บ บ ตั ว อั ก ษ ร ที่ พอใช้
เหมาะสม แต่จด
ั วางข้อความและภาพ
ในสไลด์ไม่เหมาะสมทำาความเข้าใจได้ยาก
ใช้ ข นาดและรู ป แบบตั ว อั ก ษรที่ ไ ม่ ต้องปรับปรุง
เหมาะสม จัดวางข้อความและภาพใน
สไลด์ไม่เหมาะสมทำาความเข้าใจได้ยาก
การส่งสไลด์ ส่งทันตามกำาหนดเวลา ดี
ส่งไม่ทน
ั ตามกำาหนดเวลา ต้องปรับปรุง

1 . เกณ ์การให้คะแนนการพูดนำาเสนอผลการทำากิจกรรม 14.3

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


ลักษณะการพูดและ พู ด จากความเข้ า ใจโดยไม่ อ่า นสไลด์ ดี
ท่าทางในการพูด โปสเตอร์ สบตาผู้ ัง และใช้ท่าทาง
ประกอบการบรรยายทีเ่ หมาะสม
พู ด จากความเข้ า ใจโดยไม่ อ่า นสไลด์ พอใช้
โปสเตอร์ สบตาผู้ ั ง แต่ ใ ช้ ท่า ทาง
ประกอบการบรรยายไม่เหมาะสม
อ่ า นสไลด์ โปสเตอร์ ไม่ ส บตาผู้ ั ง ต้องปรับปรุง
และใช้ ท่า ทางประกอบการบรรยาย
ไม่เหมาะสม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม ภาคผนวก
59

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


การออกเสียง ออกเสียงได้ชัดเจน เว้นวรรคตอนและ ดี
จังหวะได้เหมาะสม
ออกเสียงได้ชด
ั เจน แต่เว้นวรรคตอนและ พอใช้
จังหวะไม่เหมาะสม
ออกเสียงไม่ชด
ั เจน เว้นวรรคตอนและ ต้องปรับปรุง
จังหวะไม่เหมาะสม
ระยะเวลา พูดอยูใ่ นเวลาทีก
่ าำ หนด ดี
พูดเกินเวลาทีก
่ าำ หนด ต้องปรับปรุง
การแต่งกาย แต่งกายสุภาพ เหมาะสมกับกาลเทศะ ดี
แต่ ง กายไม่ สุ ภ าพ ไม่ เ หมาะสมกั บ ต้องปรับปรุง
กาลเทศะ

11. เกณ ก
์ ารให้คะแนนรายงานผลการสืบค้นจากกิจกรรม 14.7 สืบค้นข้อมูลงานประชุมวิชาการ

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


เนื้อหาของรายงาน มีขอ
้ มูลงานประชุมวิชาการอย่างน้อย 2 ดี
การประชุม และมีเนือ
้ หาครบตามหัวข้อ
ทีก
่ าำ หนด
มีขอ
้ มูลงานประชุมวิชาการอย่างน้อย 2 พอใช้
การประชุม แต่มเี นือ
้ หาไม่ครบตามหัวข้อ
ทีก
่ าำ หนด
มีขอ
้ มูลงานประชุมวิชาการเพียง 1 การ ต้องปรับปรุง
ป ร ะชุ ม แ ล ะมี เนื้ อ หา ไม่ ค ร บตา ม
หัวข้อที่กำาหนด

การส่งรายงาน ส่งทันตามกำาหนดเวลา ดี
ส่งไม่ทน
ั ตามกำาหนดเวลา ต้องปรับปรุง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภาคผนวก เคมี เล่ม
60

12. เกณ ์การให้คะแนนรายงานผลการเข้าร่วมประชุมวิชาการจากกิจกรรม 14.8 การเข้าร่วม


และการสรุปรายงานการเข้าประชุมวิชาการ

สิ่งที่ต้องการประเมิน เก ์การประเมิน ระดับคุ ภาพ


องค์ประกอบและเนื้อหา รายงานข้อมูลครบตามหัวข้อที่กำาหนด ดี
ของรายงาน และหั ว ข้ อ รายงานมี ป ระเด็ น สำ า คั ญ
ครบถ้วน
รายงานข้อมูลครบตามหัวข้อที่กำาหนด พอใช้
แต่บางหัวข้อขาดประเด็นสำาคัญ
รายงานข้อมูลไม่ครบตามหัวข้อทีก
่ าำ หนด ต้องปรับปรุง
และหั ว ข้ อ รายงานส่ ว นใหญ่ ข าด
ประเด็นสำาคัญ
การส่งรายงาน ส่งทันตามกำาหนดเวลา ดี
ส่งไม่ทน
ั ตามกำาหนดเวลา ต้องปรับปรุง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม บรร านุกรม
61

บรร านุกรม

กรมฝนหลวงและการบินเกษตร. (256 ). นหลวงศาสตร์พระราชา การถอดบทเรียนการป บ


ิ ต
ั ก
ิ าร
นหลวง. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2562 จาก o . o. o o d
c de c R 256 . d.
กระทรวงสาธารณสุข. (256 ). ประกาศกระทรวงสาธาร สุข เรื่อง กำาหนดสารปองกันแสงแดด
ที่อาจใช้เปนส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำาอาง พ.ศ. ๒๕๖๐. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน
2562 จาก .d . o . o. e o e c.
ศาสตราจารย์ พญ.จริยา เลิศอรร ยมณี. (2562). เทคนิคการนำาเสนอที่ดี (Good Presentation).
เวชบันทึกศิริราช. มกราคม-เมษายน 2552. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2562 จาก
.c- o.o de . ed c e do o d.
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2562). เทคนิคการนำาเสนอผลงานวิจัย. สืบค้นเมื่อ
18 กรกฎาคม 2562 จาก ee . . c. e e c - e odo o
e e o 2 ec e. d .
รองศาสตราจารย์นภาลัย สุวรรณธาดา รองศาสตราจารย์ธิดา โมสิกรัตน์ และ ศาสตราจารย์
ดร.สุมาลี สังข์ศรี. (2553). การเขียนผลงานวิชาการและบทความ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพ
ห้างหุ้นส่วนจำากัดภาพพิมพ์.
รองศาสตราจารย์ ดร.ภาวิณี ศรีสุขวัฒนานันท์. (2562). การนำาเสนอผลงานวิจัยอย่างมี
ประสิทธิภาพ. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2562 จาก c. c . o. e d
e c e e d. d 11 3.
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ. (2562). การประกวดโครงงานของนัก
วิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 1. สืบค้นเมื่อ 2 กันยายน 2562 จาก c. ec ec.
o. c21 1.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2562). การประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีเพือ
่ เยาวชน ครัง้ ที่ 1 . สืบค้นเมือ
่ 19 กันยายน 2562 จาก d ce e .o
4 o .
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2562). หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพ โรงพิมพ์แห่งจุ าลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
สำานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2562). การประชุมวิชาการประจำาปี สวทช.
ครั้งที่ 1 . สืบค้นเมื่อ 19 กันยายน 2562 จาก . d .o . c 2 19 .

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บรร านุกรม เคมี เล่ม
62

พญ.สุธาพร ล้าำ เลิศกุล. (2561). พูดด้วยภาพ พรีเ นต์อย่างไรให้ถูกใจคน ัง .


กรุงเทพ บริษัท ปัญญามิตร การพิมพ์ จำากัด.
o co d U e . (2 14). ( )
1 . Re e ed e e e 2 2 19 o . c -
.ed -co e o d c o - e de- o- - -o - e. d .
ec e. (2 19). . Re e ed e 28 2 19 o
.e ec e.co e o e c e -e ec - o o -o -o o e- e -de e o .
.
e . . Le . . . (2 6). 14 .
Re e ed e e e 17 2 19 o . c .o do d 1 .1 21 -
2 6- .c 14.
e e d d oc o . (2 3). .
Re e ed e e e 9 2 19 o c e.o de . .59 5.e.2 3
ode 2 .
. . (2 2). . Re e ed 19 2 19
o oo . oo e.co. .
U. . ood d d o . (2 19). 1.
Re e ed e e e 18 2 19 o . cce d .d . o c
cd c doc c c R e c .c 2 1.327.
U L de e e ce e ( )L d Le e ce . (2 15).
. Re e e c e. Re e ed e e e 18 2 19 o
de . e . . c. oc e de 2 15. d .
U ed e o e o ec o e c .
. Re e ed e 28 2 19 o .e . o
o o e- e - o ec o e - d-e o e -e ec -o o e- e -de e o .

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เคมี เล่ม ค ะกรรมการจัดทำาคู่มือครู
63

ค ะกรรมการจัดทำาคู่มือครู รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี เล่ม


ตามผลการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. )
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 1

ค ะที่ปรึกษา
ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจาำ นงค์ ผู้อำานวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี
ดร.วนิดา ธนประโยชน์ศักดิ ผู้ช่วยผู้อำานวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี

ค ะผู้จัดทำาคู่มือครู รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี


ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ เล่ม

ศ.ดร.มงคล สุขวัฒนาสินิทธิ จุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย


นายณรงค์ศิลป ธูปพนม ผู้เชี่ยวชาญพิเศษอาวุโส
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ผศ.ดร.จินดา แต้มบรรจง ผู้ชำานาญ
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นางสาวศศินี อังกานนท์ ผู้ชำานาญ
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นางกมลวรรณ เกียรติกวินกุล ผู้ชำานาญ สาขาเคมีและชีววิทยา
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นางสุทธาทิพย์ หวังอำานวยพร ผู้ชำานาญ สาขาเคมีและชีววิทยา
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นางสาวศิริรัตน์ พริกสี ผู้ชำานาญ สาขาเคมีและชีววิทยา
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดร.สนธิ พลชัยยา ผู้ชำานาญ สาขาเคมีและชีววิทยา
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดร.วัชระ เตียทะสินธ์ นักวิชาการ สาขาเคมีและชีววิทยา
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค ะกรรมการจัดทำาคู่มือครู เคมี เล่ม
64

ค ะผู้ร่วมพิจาร าคู่มือครู รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี


ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ เล่ม (ฉบับร่าง)
ศ.ดร.มงคล สุขวัฒนาสินิทธิ จุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผศ.ดร.จรรยา ดาสา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
นางสาวมุทิตา กกแก้ว โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา กรุงเทพมหานคร
นางรัตนาพรรณ อุตมีมั่ง โรงเรียนศรีสวัสดิวิทยาคาร จ.น่าน
นางปิยพร ณ ลำาปาง โรงเรียนดำารงราษฎร์สงเคราะห์ จ.เชียงราย
นายสุธี ผลดี โรงเรียนศรีบุณยานนท์ จ.นนทบุรี
นายธีรพล ชนะภัย โรงเรียนสตรีทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
นายประเสริฐ ทรัพย์มาก โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย จ.นครปฐม
นางสาวณัฏฐิกา งามกิจภิญโญ นักวิชาการอาวุโส สาขาเคมีและชีววิทยา
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดร.ปุณิกา พระพุทธคุณ นักวิชาการ สาขาเคมีและชีววิทยา
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นายกฤชพล นิตินัยวินิจ นักวิชาการ สาขาเคมีและชีววิทยา
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค ะบรร าธิการ
ศ.ดร.มงคล สุขวัฒนาสินิทธิ จุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รศ.ดร.ชาตรี ฝ่ายคำาตา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ผศ.ดร.จรรยา ดาสา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
นายณรงค์ศิลป ธูปพนม ผู้เชี่ยวชาญพิเศษอาวุโส
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ผศ.ดร.จินดา แต้มบรรจง ผู้ชาำ นาญ
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นางกมลวรรณ เกียรติกวินกุล ผู้ชาำ นาญ สาขาเคมีและชีววิทยา
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สถาบน
ั สง่เสรมิ การสอนวท
ิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
กระทรวงศก ึ ษาธกิ าร

You might also like