You are on page 1of 9

ประเด็นสอบภาค ข.

วิชาการศึกษา ชุดที9 3
101.ข้อใดเป็ นความหมายของการศึกษา ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ก. กระบวนการทัCงมวลทีFมุ่งให้บุคคลเกิดการพัฒนาความสามารถทัศนคติ
ข. กระบวนการเรี ยนรู ้เพืFอความเจริ ญงอกงามของบุคคลและสังคม
ค. กระบวนการฝึ กอบรมจริ ยธรรมและการเสริ มสร้างสติปัญญา
ง. การเล่าเรี ยนการฝึ กอบรม
102.ข้อใดคือปรัชญาของการวัดผล
ก.ทดสอบเพืFอตัดสิ นได้-ตก
ข.ทดสอบเพืFอหาจุดบกพร่ อง
ค.ทดสอบเพืFอหาแนวทางแก้ไขป้องกันและพัฒนา
ง.ทดสอบเพืFอค้นและพัฒนาสมรรถนะของมนุษย์
103.เด็กเกิดมาเปรี ยบเสมือนผ้าขาว
ก.รุ สโซ
ข.ดิวอีC
ค.กาเย่
ง.เพียเจต์

104.ถ้าหลักสู ตรเปรี ยบเสมือนรถ แล้วจุดมุ่งหมายของหลักสู ตร เปรี ยบเสมือนอะไร


ก.ล้อ
ข.พวงมาลัย
ค.ตัวเครืF อง
ง.เข็มไมล์รถ
105.จิตวิทยา ตามความหมายเดิมเป็ นศาสตร์ทีFวา่ ด้วยเรืF องใด
ก.พฤติกรรม
ข.วิญญาณ
ค.การเรี ยนรู ้
ง.ถูกทุกข้อ
106.ข้อใดกล่าวความหมายของพฤติกรรมได้ถูกต้อง
ก.การกระทําทุกอย่างของมนุษย์ทีFกระทําไปโดยรู ้ตวั
ข.การกระทําทุกอย่างของมนุษย์ทีFกระทําไปโดยไม่รู้ตวั
ค.การกระทําทุกอย่างของมนุษย์ทีFกระทําไปโดยทีFผอู ้ ืFนสังเกตได้

ง.การกระทําทุกอย่างของมนุษย์ทีFกระทําไปโดยทีFผอู ้ ืFนสังเกตได้หรื อไม่กต็ าม


107.ข้อใดเป็ นการแสดงพฤติกรรมภายใน
ก.การนอน
ข.การไหลเวียนของโลหิ ต
ค.การจินตนาการ
ง.ถูกทัCง ข และ ค
108.ข้อใดเป็ นพฤติกรรมแบบโมลาร์ (Molar Behavior)
ก.การนอน
ข.การเต้นของหัวใจ
ค.การตัดสิ นใจ
ง.การเปลีFยนแปลงของร่ างกาย
109.ความแตกต่างระหว่างบุคคลมีสาเหตุมาจากข้อใดเป็ นสําคัญ
ก.พันธุกรรม
ข.สิF งแวดล้อม
ค.การได้เรี ยนรู ้
ง.ถูกทัCง ก และ ข

110.การหยังF เห็นเป็ นแนวคิดของผูใ้ ด


ก.เกสตอลต์
ข.โคห์เลอร์
ค.ฟาฟลอฟ
ง.สกินเนอร์
111.ข้อใดคือ วุฒิภาวะ
ก.กระบวนการเปลีFยนแปลงพฤติกรรมทีFเกิดขึCนตามธรรมชาติ
ข.กระบวนการเปลีFยนแปลงพฤติกรรมทีFเกิดขึCนจากการเรี ยนรู ้
ค.กระบวนการเปลีFยนแปลงพฤติกรรมความเคร่ งครัดระหว่างบุคคล จากสิF งแวดล้อม
ง.กระบวนการเปลีFยนแปลงพฤติกรรมเคร่ งครัดระหว่างบุคคล จากพฤติกรรม
112.การพัฒนาการ คือการเปลีFยนแปลงทีFมีผลมาจากข้อใด
ก.พันธุกรรมและสิF งแวดล้อม
ข.พันธุกรรมและวุฒิภาวะ
ค.พันธุกรรมและประสบการณ์

ง.วุฒิภาวะและประสบการณ์
113.การแบ่งวัยการพัฒนาการวัยมารกอายุเท่าใด
ก.แรกเกิด – 7 เดือน
ข.แรกเกิด – 1 ปี
ค.แรกเกิด – 2 ปี
ง.แรกเกิด – 3 ปี
114.ข้อใดเป็ นความหมายของการแนะแนว
ก.การช่วยเหลือนักเรี ยนได้มีความรู ้ดีขC ึน
ข.การช่วยเหลือนักเรี ยนรู ้จกั ตนเองปรับเข้ากับสิF งแวดล้อมได้
ค.การช่วยเหลือให้นกั เรี ยนรู ้จกั ผ่อนคายอารมณ์
ง.การแก้ไขปั ญหาทุกอย่างให้นกั เรี ยน
115. หัวใจของการแนะแนวคือข้อใด
ก.การบริ การให้คาํ ปรึ กษา
ข.การบริ การข้อมูลเกีFยวกับเด็ก
ค.การบริ การจัดวางตัวบุคคล
ง.การบริ การสารสนเทศ

116.เป้าหมายของการแนะแนวคือข้อใด
ก.เด็กเข้าใจปั ญหาของตนเองทุกด้าน
ข.เด็กสามารถอยูใ่ นสังคมได้
ค.เด็กสามารถเลือกอาชีพได้
ง.เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้อย่างดีทุกด้าน
117.ข้อใดไม่ใช่ปรัชญาของการแนะแนว
ก.คนย่อมมีปัญญา
ข.คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ค.คนมีการเปลีFยนแปลงตลอดเวลา
ง.คนอยูใ่ นสังคมได้ตามความพอใจ
118.ข้อใดไม่ใช่หลักของการแนะแนว
ก.จัดให้เด็กทุกคน
ข.ยึดเด็กเป็ นศูนย์กลาง
ค.จัดให้เด็กทีFมีปัญหา

ง.จะบริ การอย่างต่อเนืFอง
119.ข้อใดคือปรัชญาของการวัดผล
ก.สอบเพืFอตัดสิ นได้-ตก
ข.สอบเพืFอค้นหาและพัฒนาสมรรถภาพของมนุษย์
ค.สอบเพืFอประเมินความสามารถการสอนของครู
ง.สอบเพืFอประเมินความสามารถการเรี ยนของผูเ้ รี ยน
120.ข้อใดกล่าวถึงการวัดและประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
ก.การวัดผลกับการประเมินผลเหมือนกัน
ข.การวัดผลมาก่อนการประเมินผล
ค.การประเมินผลมาก่อนการวัดผล
ง.การวัดผลและประเมินผลทําพร้อม ๆ กัน
121.ข้อใดคือการประเมินผล
ก.ครู ถงั สอบได้คะแนน 50 ข้อ
ข.ภาวะเศรษฐกิจปี นีCดูคล่องตัวคือดีขC ึนมาก
ค.รถยนต์คนั นีCรูปสวย ประหยัดนํCามัน ราคาถูก
ง.ครู แดงสู ง 180 เซนติเมตรส่ วนพรชัยสู ง 160 เซนติเมตร

122.การวัดผลต้องสอดคล้องกับข้อใดมากทีFสุด
ก.เนืCอหา
ข.กิจกรรม
ค.สืF อการเรี ยนการสอน
ง.จุดประสงค์
123.ข้อใดหมายถึงข้อสอบมีความเชืFอมันF
ก.มีความชัดเจนถูกต้องตามหลักวิชาการ
ข.สามารถแยกความแตกต่างของผูเ้ ข้าสอบได้
ค.เป็ นข้อสอบทีFสามารถบอกคนถูกมากหรื อถูกน้อย
ง.ให้ผลการวัดคงทีFไม่วา่ จะวัดกีFครัCงก็ตาม
124.เครืF องมือมีอาํ นาจการจําแนกนันF หมายถึงข้อใด
ก.เครืF องมือนัCนผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดีแล้ว
ข.เครืF องมือนัCนสามารถวัดสิF งทีFตอ้ งการวัดได้อย่างแท้จริ ง
ค.เครืF องมือนัCนมีจาํ นวนข้อสอบยากง่ายพอ ๆ กัน

ง.เครืF องมือนัCนสามารถแยกคนเก่งออกจากคนไม่เก่งได้
125.การทํางานของผูเ้ รี ยนได้จากข้อใด
ก.การเอาใจใส่ งาน
ข.ความประณี ตสวยงาม
ค.ความรวดเร็ วในการทํางาน
ง.ความถนัดในการทํางาน
126.ข้อใดเป็ นวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
ก.ให้เด็กเห็นคุณค่าของภาษาไทย
ข.ให้เด็กมีเจตคติทีFดีต่อสถานศึกษา
ค.ให้เด็กเขียนโครงการทีFเรี ยนได้
ง.ให้เด็กเข้าใจโครงสร้างและวิธีการ
127.ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการวัดและประเมินผลทีFมีต่อครู
ก.ปรับปรุ งเทคนิคการสอน
ข.ทราบผลการสอน
ค.ทราบว่าควรเริF มสอนอย่างไร
ง.ทราบว่าตนเองเก่งหรื ออ่อนวิชาใด

128.ผูจ้ ดั ทําหลักเกณฑ์และแนวปฏิบตั ิในการวัดและประเมินผลการเรี ยนของสถานศึกษา


ก.สถานศึกษา
ข.สํานักงานเขตพืCนทีFการศึกษา
ค.สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัCนพืCนฐาน
ง.กระทรวงศึกษาธิการ
129.ใครเป็ นผูใ้ ห้ความเห็นชอบระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลหลักสู ตรสถานศึกษา
ก.ผูอ้ าํ นวยการสถานศึกษา
ข.คณะกรรมการสถานศึกษา
ค.ผูอ้ าํ นวยการสํานักงานเขตพืCนทีFการศึกษา
ง.เลขาธิการสํานักงานเขตพืCนทีFการศึกษา
130.ใครเป็ นผูล้ งนามในระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลหลักสู ตรสถานศึกษา
ก.ผูอ้ าํ นวยการสถานศึกษา
ข.คณะกรรมการสถานศึกษา
ค.ผูอ้ าํ นวยการสํานักงานเขตพืCนทีFการศึกษา

ง.เลขาธิการสํานักงานเขตพืCนทีFการศึกษา
131.ใครเป็ นผูเ้ ห็นชอบหลักสู ตรสถานศึกษา
ก.ผูอ้ าํ นวยการสถานศึกษา
ข.คณะกรรมการสถานศึกษา
ค.ผูอ้ าํ นวยการสํานักงานเขตพืCนทีFการศึกษา
ง.เลขาธิการสํานักงานเขตพืCนทีFการศึกษา
132.เป็ นผูล้ งนามใน ปพ.2
ก.ผูอ้ าํ นวยการสถานศึกษา
ข.คณะกรรมการสถานศึกษา
ค.ผูอ้ าํ นวยการสํานักงานเขตพืCนทีFการศึกษา
ง.ข้อ ค ผิด
.133Authentic Assessment
ก.การประเมินด้วยแฟ้มสะสมผลงาน
ข.การประเมินผลสภาพจริ ง
ค.การประเมินการปฏิบตั ิ
ง.ถูกทุกข้อ

134.ข้อใดคือผลทีFเกิดกับผูเ้ รี ยนเมืFอผูส้ อนออกแบบเรี ยนรู ้โดยใช้ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา


ก.เกิดความคิดในการทํางานให้มีประสิ ทธิภาพ
ข.เกิดความคิดหาวิธีการแก้ปัญหาอย่างมีขC นั ตอน
ค.เกิดความคิดในการทํางานและแก้ปัญหาในงานทีFทาํ
ง.เกิดการวางแผนทํางานตามความสามารถของแต่ละบุคคล
135.การวิเคราะห์งาน การวาง แผนการปฏิบตั ิงาน และการประเมินผลงานจัดอยูใ่ นข้อใด
ก.ทักษะการจัดการ
ข.ทักษะกระบวนการทํางาน
ค.ทักษะแสวงหาความรู ้
ง.ทักษะการทํางานร่ วมกัน
136.หัวใจสําคัญของการพัฒนาผูเ้ รี ยนให้บรรลุตามมาตรฐานการเรี ยนรู ้คือสิF งใด
ก.ตัวชีCวดั
ข.การจัดหาสืF อการเรี ยนรู ้
ค.การวัดผลและประเมินผล

ง.การจัดการเรี ยนรู ้
137.การโน้มน้าวให้ผเู ้ รี ยนกระตือรื อร้น เป็ นการจัดการเรี ยนรู ้แบบทีFเน้นการปฏิบตั ิขC นั ตอนใด
ก.ขัCนศึกษา
ข.ขัCนนําเข้าสู่ บทเรี ยน
ค.ขัCนปฏิบตั ิ
ง.ขัCนสรุ ป
138.การประเมินผลการเรี ยนรู ้ตามสภาพจริ งข้อใดให้ประโยชน์สูงสุ ดแก่ผเู ้ รี ยน
ก.การประเมินการเรี ยนรู ้ก่อนเรี ยน
ข.การประเมินการเรี ยนรู ้ระหว่างเรี ยน
ค.การประเมินการเรี ยนรู ้หลังเรี ยน
ง.การประเมินเพืFอการวินิจฉัยข้อบกพร่ อง
139.การสอนแบบใดทีFทาํ ให้เด็กมีพฤติกรรมตอบสนองน้อยทีFสุด
ก.ครู บรรยาย
ข.ครู ให้เด็กค้นคว้า
ค.เด็กได้ปฏิบตั ิจริ ง
ง.ครู ใช้อุปกรณ์การสอน

140.การเตรี ยมการสอนทําเพืFออะไร
ก.ช่วยให้ครู เข้าใจในตัวเด็ก
ข.ช่วยครู สอนด้วยความมันF ใจและถูกต้อง
ค.ช่วยให้เด็กเกิดความสนุกสนานในบทเรี ยน
ง.ช่วยให้ผปู ้ กครองเกิดความเลืFอมใสในตัวครู
141.เด็กชายถังมีความอิจฉาริ ษยาโดยส่ วนใหญ่มกั มีสาเหตุมาจากอะไร
ก.ถูกเอารัดเอาเปรี ยบ
ข.ขาดความรักความอบอุ่นจากครอบครัว
ค.ขาดเพืFอนรัก
ง.ขาดความอบอุ่น
142.ตามปกติคนเรามีอะไรเป็ นเครืF องควบคุมบุคลิกภาพของตนเอง
ก.อารมณ์และสติปัญญา
ข.สติปัญญาและสภาพแวดล้อม
ค.สภาพสังคมและสภาพเศรษฐกิจ

ง.สภาพเศรษฐกิจและอารมณ์
143.ข้อใดคือปรัชญาของการวัดผลสอบ
ก.สอบเพืFอให้รู้วา่ ได้หรื อตกสอบ
ข.สอบเพืFอให้เด็กอยูใ่ นระดับใดของชัCน
ค.สอบเพืFอค้นหาเด็กทีFอ่อนทีFสุด
ง.สอบเพืFอค้นหาและพัฒนาสมรรถภาพของมนุษย์
144.ข้อใดไม่ใช่การประเมินผลเพืFอปรับปรุ งการเรี ยนการสอน
ก.การประเมินผลเมืFอปลายปี
ข.การประเมินก่อนเรี ยน
ค.การประเมินผลระหว่างเรี ยน
ง.การประเมินผลปลายภาคเรี ยน
145.ลักษณะการสอนทีFดีครู ควรคํานึงถึงข้อใด
ก.สอนจากนามธรรมไปหารู ปธรรม
ข.สอนจากง่ายไปยาก
ค.สอนทันทีทีFคู่พร้อม
ง.ครู -กระดานดํา-ชอล์ก
146.ห้องเรี ยนคุณภาพข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบ
ก.ครู ผนู ้ าํ การเปลีFยนแปลง
ข.การออกแบบการจัดการเรี ยนรู ้อิงมาตรฐาน (BWD)
ค.การใช้ ICT เพืFอการสอนและสนับสนุนการสอน
ง.การใช้สืFอคุณภาพในห้องเรี ยน
147.ข้อใดคือความหมายของคําว่า "สมศ"
.กสํานักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
ข.สํานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
ค.สํานักรับรองมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา
ง.สํานักงานรับรองมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา
148.ข้อใดไม่ใช่กระบวนการดําเนินงานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรี ยน
ก.การรู ้จกั นักเรี ยนเป็ นรายบุคคล
ข.การคัดกรองนักเรี ยน
ค.การส่ งนักเรี ยนไป-กลับ
ง.การป้องกันและแก้ไขปั ญหา การส่ งต่อ

149.ขอบข่ายการแนะแนวข้อใดไม่ใช่
ก.การแนะแนวการศึกษา
ข.การแนะแนวอาชีพ
ค.การแนะแนวส่ วนตัวและอาชีพ
ง.การแนะแนวด้านสิF งแวดล้อม
150.ข้อใดไม่ใช่กระบวนการประกันคุณภาพการศึกษา
ก.การควบคุมคุณภาพ
ข.การตรวจสอบคุณภาพ
ค.การประเมินคุณภาพ
ง.การกํากับดูแลคุณภาพโรงเรี ยน

You might also like