กลุ่มเฟมินิสต์ที่ปัจจุบันเราเห็นกันอยู่นั้น บางคนอาจจะสงสัยหรือ ไม่ทราบว่าเฟมินิสม์คืออะไร?

ถ้าจะให้พวกเราเข้าใจกันง่ายๆเลย เฟมินิสม์คือกลุ่มที่มีอุดมการณ์ที่เรียกร้องสิทธิความเท่าเทียม
แก่สตรี ไม่ว่าะเรื่องการศึกษาหรือ การจ้างงาน
ปัจจุบันการเคลื่อนไหวของเฟมินิสม์ในไทย ก็จะมีให้เห็นกันทั่วไป ตามสื่อต่างๆ เช่น ข่าวสารจาก
โทรทัศน์ social media Facebook ig Twitter
การเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเฟมินิตม์ ไม่ว่าจะเป็น
-การทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย
-เฟมินิสม์กับการเรี่ยกร้องที่ไม่ใช่จำกัดอยู่แค่สิทธิสตรี
-กรอบแนวคิดชายเป็นใหญ่ แท้จริงแล้วกดขี่ทุกเพศ
-การเรียกร้องของกลุ่มเฟมินิสต์ในไทย ไม่ใช่เพื่อเพศใดเพศหนึ่ง
ทุกคนจะเห็นได้ว่าเฟมินิตม์ในตอนนี้ไม่เป็นเพียงการเรียกร้องสิทธิ ความเท่าเทียม ให้แก่สตรี
เท่านั้น แต่เป็นสิทธิ ความเท่าเทียม ของทุกเพศ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ชาย ผู้หญิง หรือ LGBTQ+ เป็นต้น
~แนวคิดแอนตี้เฟมินิสต์กับชายเป็นใหญ่
กระแสโจมตี "เฟมินิสต์" ที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ ฉายภาพให้เห็นชัดเจนว่า สังคมไทยยังคงเดิน
ย่ำอยู่บนความซ้อนทับ ในการยึดกรอบคิดกระแสหลักในการมองโลกอยู่

ระบบคิดแบบทวิลักษณ์ อำนาจนิยม และชายเป็น ใหญ่ ในไทยก็มีผู้ชายจำนวนมากและผู้หญิงจำนวนหนึ่งสมาทานความคิดชายเป็นใหญ่อยู่ ไม่น่า

แปลกใจที่จะมีผู้หญิงสมาทานความคิดแบบนี้เพราะประเด็นง่ายๆ อย่างการขลิบอวัยวะเพศ ที่ถูกมองว่าเป็นความรุนแรงทางเพศขั้นรุนแรงและเป็นการ
ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ หรือในประเด็นที่ผู้หญิงถูกห้ามว่า อย่าแต่งตัว โป๊ ให้อยู่กับเหย้าฝ้ากับเรือน เมื่อมีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งออกมาต่อสู้
เคลื่อนไหวจึงมีคนออกมาโจมตี เป็นลักษณะในประเทศไทยที่เมื่อมีคนตั้งคำถามถึงความบิดเบี้ยวของสังคม คนที่ได้ผลประโยชน์จากโครงสร้างนั้น รวม
ไปถึงคนที่เชื่อว่าอยู่อย่างนี้ดีแล้ว จะออกมาต่อต้านเพื่อรักษาสถานภาพทางสังคมของตนเองโดยเฉพาะผู้หญิงที่ออกมาเคลื่อนไหวในสังคมที่มองว่าผู้
หญิงต้องสยบยอม เมื่อไม่สยบยอมก็มักจะโดนด่าอย่างรุนแรง เพราะการยอมหรือไม่อบโต้เองก็เป็นสิ่งที่สังคมชายเป็นใหญ่สร้างเพื่อให้ผู้หญิงสยบยอม
ต่ออำนาจชายเป็นใหญ่
ปิตาธิปไตย ไม่เพียงกดทับแค่เพศใดเพศหนึ่ง แต่กดทับทุกเพศ ตัวอย่างเช่น toxic masculinity (ความเป็นชายที่เป็นพิษ) ที่กำหนดว่าต้องเป็นเช่นไรจึง
จะอยู่ในกรอบ ชายแท้,ลูกผู้ชาย ห้ามร้องไห้ ห้ามอ่อนแอ ห้ามทำตัวสำอาง ห้ามชอบอะไรมุ้งมิ้ง ไม่อย่างงั้นจะถูกสังคมชายเป็นใหญ่มองว่า "ไม่แมน"
ทั้งๆที่ความจริงแล้วผู้ชายก็ร้องไห้ได้ มีความอ่อนแอได้ ชอบของน่ารักๆได้ แต่งหน้าได้

สังคมชายเป็นใหญ่บอกเราว่า
- ผู้หญิงจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อเป็นในแบบที่สังคมกำหนด เช่น เรียบร้อย พูดเพราะ รักนวลสงวนตัว ไม่สูงเกินไป ไม่ฉลาด เกินไป ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่
- ผู้หญิงต้องทำงานบ้าน ต้องดูแลสามี ต้องเลี้ยงลูก ต้องเข้าครัว
- ผู้หญิงถูกมองเป็นวัตถุทางเพศ ถูกเอาคุณค่าไปผูกติดไว้กับพรมหจรรย์
- ผู้หญิงต้องแต่งตัวมิดชิด ไม่สามารถแต่งตัวตามใจได้ เพราะถ้า เกิดอะไรมิดีมิร้าย ผู้หญิงจะโดนโทษว่าไปอ่อยผู้กระทำเสมอ
- ผู้หญิงอ่อนแอกว่าผู้ชาย ไม่สามารถทำงานในสายงานบางอย่างได้ เช่น วิศวะ
- ผู้หญิงไม่ควรแสดงออกเรื่องเซ็กส์
- ผู้ชายต้องเข้มแข็ง ห้ามร้องห้ามแสดงความอ่อนแอเพราะ ขัดกับความเป็นลูกผู้ชาย
- ผู้ชายต้องเสียสละให้ผู้หญิง
- ผู้ชายห้ามใช้ของอะไรที่สื่อถึงความเป็นผู้หญิง ห้ามชอบสีชมพู ห้ามเล่นตุ๊กตา ห้ามแต่งหน้า ห้ามใส่กระโปรง
- ผู้ชายโดนลวนลามหรือข่มขืนเป็นเรื่องตลก ขำๆ
- LGBTQ โดนมองเป็นตัวตลก โดนใช้เป็นคำเหยียดเพศ
- LGBTQ ต้องพยายามมากกว่าคนที่มีเพศวิถีตรงตามเพศกำเนิด เพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเองให้มีที่ยืนในสังคม
- LGBTQ โดนลวนลามหรือข่มขืนเป็นเรื่องตลก ไม่ซีเรียส
เพื่อนๆคนได้ยินสิ่งที่เรากล่าวมาแล้วใช่มั้ยละคะ? อีกเรื่อง คือการแต่งกาย นี้มันสมัยไหนกันแล้วคะ? มีจะมา judge ว่าคุณต้องแต่ตัวแบบนี้ ต้องแต่ง
ตัวให้มิดชิด อย่าใส่เกาะอกนะ!! อย่าใส่สั้น มันจะเป็นอันตราย เราอาจจะถูกโดนฉุดไปล่วงละเมิดทางเพศก็ได้!! แน่นอนค่ะว่าใครๆก็ไม่อยากให้
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่สิทธิ! เสรีภาพในการแต่งตัวของเขา การแต่งกายไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตามแต่เราไม่ควรไปด่าไปว่าเขา ดังนั้นเราควรเคารพการ
แต่งตัวของกันและกัน มากกว่าจะโทษว่าเป็นเพราะเสื้อผ้าจึงทำให้เกิดอาชญากรรมทางเพศขึ้น เพราะคนผิดในเหตุอาชญากรรมทางเพศมีเพียงผู้
กระทำคนเดียวเท่านั้น
ส่วนเรื่องของการแต่งตัวไม่มิดชิด กับกลายเป็นว่า "เป็นผู้หญิงที่ดูไม่มีราคา " เมื่อผู้หญิง หรือ เจ้าตัวต้องการเปิดเผย หรือ โชว์สรีระร่างกาย พอความ
ชอบหรือความภูมิใจของตนเองก็แล้วแต่ มันก็จะมีวิจาร หรือกระแสตอบรับที่ด้านลบมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็น อ้วนจังเลยอ่า ผอมไปอ่า แห้งเลยใส่กางเกง
แล้วหลวมโคร่งเลย อุ้ยยขาใหญ่จังเลย เธอควรไปลดนะ กล้าใส่กางเกงขาสั้นได้ยังไง หื้ออไม้กระดานใส่เกาะอกแล้วแบนเลย ราบไปเลยไม่ควรใส่นะ
เอาจริงๆมันก็คือสิทธิของเขาค่ะ แล้วทำไมเราต้องไปตีค่าราคาของมนุษย์ ว่าใส่แบบนี้แล้วดูหมดราคา ไม่ต้องไปยุ่ง และการแต่งตัวในแบบที่ต้องการ
ควรเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ตามกรอบความเหมาะสม และไม่ควรมีใครถูกตีตราเพียงเพราะมีมาตรฐานทางสังคมหรือ มาตรฐานความสวยมาชี้ถูก
ชี้ผิด