Professional Documents
Culture Documents
การแปลงเชิงเส้น
Linear Transformation
3.1 การแปลงเชิงเส้น
บทนิยาม 3.1.1
ให้ และ เป็นปริภูมิเวกเตอร์เหนือฟีลด์ และ เป็นฟังก์ชัน
จะกล่าวว่า เป็นการแปลงเชิงเส้น (linear transformation) จาก ไปยัง ก็ต่อเมื่อ
(L1) ( ) ( ) ( ) สาหรับแต่ละเวกเตอร์
(L2) ( ) ( ) สาหรับแต่ละเวกเตอร์ และ สเกลาร์
ข้อตกลง
1. ถ้า เป็นการแปลงเชิงเส้นจาก ไปยัง จะเห็นว่า เป็นฟังก์ชันที่มี เป็นโดเมน (domain)
และ ( ) { ( ) } เป็น เรนจ์ (range) และจะกล่าวว่า ( ) เป็น ภาพ (image) ของเวกเตอร์
𝕍 𝕎
( )
( )
. เอกสารประกอบการสอน รายวิชา SC402101 พีชคณิตเชิงเส้น .
ทฤษฏีบท 3.1.1
ให้ และ เป็นปริภูมิเวกเตอร์เหนือฟีลด์ และ เป็นฟังก์ชัน จะได้ว่า
เป็นการแปลงเชิงเส้น จาก ไปยัง ก็ต่อเมื่อ
( ) ( ) ( )
สาหรับแต่ละเวกเตอร์ และ สเกลาร์
ทฤษฏีบท 3.1.2
ให้ และ เป็นปริภูมิเวกเตอร์เหนือฟีลด์ และ เป็นฟังก์ชัน จะได้ว่า
1. ถ้า เป็นการแปลงเชิงเส้น แล้ว ( )
2. ถ้า ( ) สาหรับทุก แล้ว เป็นการแปลงเชิงเส้น
Y Y
( )
( )
𝑋 X
(0 0) (0 0)
Y Y
(0 ) ( )
(0 ) ( )
X ( 0) X
(0 0) ( 0) (0 0)
Y Y
X X
(0 0) (0 0)
Y Y
( ) ( )
2 2
(0 0) X (0 0) X
Y Y
(0 ) ( )
(0 ) ( )
2 2 2
𝑋 𝑋
(0 0) ( 0) (0 0) ( 0)
2
Y Y
𝑋 X
(0 0) (0 0)
ดังนั้น เป็นการแปลงเชิงเส้นบน
หมายเหตุ 1. ในกรณีที่ ฟังก์ชัน จะเรียกว่าฟังก์ชันเอกลักษณ์
2. กรณี การแปลงเชิงเส้น กาหนดโดย ( ) จะเรียกว่า
การเปลี่ยนขนาด (dilation) ของ (ดู ตัวอย่าง 3.1.1)
3. กรณี 0 การแปลงเชิงเส้น กาหนดโดย ( ) จะเรียกว่า
การหดตัว (contraction) ของ (ดู ตัวอย่าง 3.1.2)
Y ( ) Y
(0 0) ( 0) 𝑋 (0 0) ( 0) X
ดังนั้น เป็นการแปลงเชิงเส้นบน
Y ( ) Y
(0 ) (0 𝑦)
(0 0) X (0 0) X
( )
(0 0 0) Y
( 0 0)
( 0)
X
Y Y (( 0)) ((0 )) ( )
((0 )) (0 2) (( 0) (0 )) ( 2)
(0 ) ( )
(( 0)) ( )
(0 0) ( 0) X (0 0) X
Y Y
( ) 2 (( )) (2 2) (2( )) ( 2)
X X
3.2 เมทริกซ์ของการแปลงเชิงเส้น
จาก ตัวอย่าง 3.1.11 การแปลงเชิงเส้นจาก ไปยัง ซึ่งกาหนดโดย
([ ]) [ ]
สาหรับทุกเวกเตอร์ [ ] สามารถเขียนในรูปเมทริกซ์ได้ดังนี้
([ ]) [ ][ ]
0
ดังนั้น สาหรับแต่ละ [ ] จะได้ว่า ( )
เมื่อ
[ ]
0
ในกรณีทั่วไป ถ้า เป็นการแปลงเชิงเส้น แล้วจะมีเมทริกซ์ มีอันดับ ที่ทาให้
( )
โดยที่
[ ] และ [ ]
จงหาเมทริกซ์ ที่ทาให้ ([ ]) [ ]
วิธีทา
([ ]) [ 2 ] สาหรับทุก [ ]
0
จงหาเมทริกซ์ ที่ทาให้ ([ ]) [ ]
วิธีทา
จงหาเมทริกซ์ ที่ทาให้ ([ ]) [ ]
วิธีทา พิจารณา
2
([ ]) [ ]
( ) (2) (0)
[ ]
( ) ( ) ( )
2 0
[ ][ ]
2 0
ดังนั้น [ ]
ให้ เป็นการแปลงเชิงเส้น
เราต้องการหาเมทริกซ์ เหนือฟีลด์ ที่มีขนาด ซึ่งมีสมบัติว่า
[ ( )] [ ] สาหรับทุก
เนื่องจาก ( ) ( ) ( )
ดังนั้น
( )
( )
( )
เมื่อ เป็นสเกลาร์
(สาหรับแต่ละ 2 จะมีสเกลาร์ เพียงชุดเดียวเท่านั้น)
ในกรณีทั่วไป สาหรับแต่ละ 2
( ) ∑
ดังนั้น
[ ( )] [ ]
ให้
[ ]
ต่อไปจะแสดงว่า
[ ( )] [ ]
สาหรับทุก
เมื่อ เป็นสเกลาร์
ดังนั้น [ ] [ ]
∑ ( )
∑ (∑ )
∑ (∑ )
∑ (∑ )
∑ (∑ )
(∑ ) (∑ ) (∑ )
ดังนั้น
[ ( )] ∑
∑
[ ]
[ ]
[ ][ ]
[ ]
ดังนั้น
[ ( )] [ ]
สาหรับทุก
ทฤษฎีบทต่อไปนี้ เป็นทฤษฎีที่สาคัญสาหรับการเรียนในรายวิชาพีชคณิตเชิงเส้น
ทฤษฎีบท 3.2.1 (Matrix representation theorem)
ให้ และ เป็นปริภูมิเวกเตอร์ ที่มีมิติ และ ตามลาดับ ให้ และ เป็นฐานหลักลาดับสาหรับ และ
ตามลาดับ ถ้า เป็นการแปลงเชิงเส้นจาก ไปยัง แล้วจะมีเมทริกซ์ ขนาด เพียงเมทริกซ์เดียว
เท่านั้นซึ่ง [ ( )] [ ] สาหรับทุก
ทฤษฎีบท 3.2.2 ให้ และ เป็นปริภูมิเวกเตอร์เหนือฟีลด์ ที่มีมิติ และ ตามลาดับ ให้ และ เป็น
ฐานหลักลาดับสาหรับ และ ตามลาดับ ถ้า เป็นเมทริกซ์ขนาด แล้วจะมีการแปลงเชิงเส้น จาก
ไปยัง เพียงการแปลงเชิงเส้นเดียวเท่านั้น ซึ่งมีสมบัติว่า [ ]
( )
[ ]
[ ]c [ ( )]
0 0
ตัวอย่าง 3.2.5 ให้ เป็นการแปลงเชิงเส้น และ ให้ [ ] เป็นเมทริกซ์ของการ
หมายเหตุ ให้
เป็นการแปลงเชิงเส้น
และ เป็นเมทริกซ์ของการแปลงเชิงเส้น เมื่อเทียบกับฐานหลักลาดับธรรมชาติ ไปยัง สาหรับ
และ ตามลาดับ
เรามีว่า
[ ( )] [ ]
สาหรับทุก แต่ [ ( )] ( ) และ [ ]
ดังนั้น
( )
สาหรับทุก
และเรียกเมทริกซ์ ว่าเมทริกซ์มาตรฐานของ (standard matrix representation of )
ข้อ 2.
ข้อ 3. หา [ ] จาก
0 ( ) 0 (0) [0 0 0 (0) [0 0
([ ]) [ ] [ ] ] ( )[ ] ]
0 0 0 0 0 0 0 0 0
0 0 0 (0) 0 (0) [0 0 0 (0) [0 0
([ ]) [ ] [ ] ] ( )[ ] ]
0 0 0 0 0 0 0 0 0
0 0 0 0 ( ) [0 0 0 0 0
([ ]) [ ] (0) [ ] ] (0) [ ] ( )[ ]
0 0 0 0 0 0 0
0 0 ( ) 0 (0) [0 0 0 0 0
([ ]) [ ] [ ] ] (0) [ ] ( )[ ]
0 0 0 0 0 0 0 0
ดังนั้น
0 0 0 0
[ ] [[ ([ ])] [ ([ ])] [ ([ ])] [ ([ ])] ]
0 0 0 0 0
0 0
0 0 0
[ ]
0 0
0 0
ข้อ 4. หา [ ] จาก
0 0 0 0 0
([ ]) [ ] (2) [ ] ( 2) [ ] ( )[ ] ( )[ ]
0 0 0 0 0 0 0 0
0 0 0 0 0 0 0
([ ]) [ ] ( )[ ] ( )[ ] ( )[ ] ( )[ ]
0 0 0 0 0 0 0 0
0 0 0 0 0 0 0
([ ]) [ ] ( )[ ] (2) [ ] (0) [ ] ( )[ ]
0 0 0 0 0 0
0 0 0 0 0 0
([ ]) [ ] (0) [ ] (0) [ ] (0) [ ] ( )[ ]
0 0 0 0 0 0 0
ดังนั้น
0 0 0 0
[ ] [[ ([ ])] [ ([ ])] [ ([ ])] [ ([ ])] ]
0 0 0 0 0
2 0
2 2 0
[ ]
0 0
ดังนั้น [ ] [ ]
0 0
เพราะฉะนั้น และ
ดังนั้น [ ] [ ]
สรุปได้ว่า เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง
𝕍 𝕎
( ) θ𝕎
([ ]) [ ] สาหรับทุก [ ]
จงหา ( )
วิธีทา
พิจารณา
( ) ( ) ( )
จะได้ว่า ( )
เพราะฉะนั้น ( ) เป็นปริภูมิย่อยของ
([ ]) [ ] สาหรับทุก [ ]
จงหา ( ) และ ( ( ))
วิธีทา
ทฤษฎีบทต่อไปนี้ กล่าวถึงเงื่อนไขจาเป็นและเพียงพอซึ่งทาให้การแปลงเชิงเส้นเป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง
ทฤษฎีบท 3.3.2 ให้ และ เป็นปริภูมิเวกเตอร์ และ เป็นการแปลงเชิงเส้น จะได้ว่า
เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง ก็ต่อเมื่อ ( ) { }
เนื่องจาก ( ) จะได้ว่า ( )
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ( ) { }
( ) สมมติให้ ( ) { }
ให้ ที่ทาให้ ( ) ( )
เพราะนั้น ( ) ( ) ( )
จากสมมติฐานจะได้ว่า ( ) { }
𝕎 ( )
พิสูจน์
(1) สมมติให้ เป็นปริภูมิย่อยของ
จะแสดงว่า ( ) เป็นปริภูมิย่อยของ เนื่องจาก และ ( )
จะได้ว่า ( ) นั่นคือ ( )
จากสมมติฐาน จะได้ว่า
พิจารณา ( ) ( ) ( ) ( )
ดังนั้น ( ) เป็นปริภูมิย่อยของ
(2) เนื่องจาก ( ) ( ) และ เป็นปริภูมิย่อยของ จากข้อ (1)
จะได้ ( ) เป็นปริภูมิย่อยของ
([ ]) [ ] สาหรับทุก [ ]
3.4 ฟังก์ชันสมสัณฐาน
ให้ และ เป็นปริภูมิเวกเตอร์เหนือฟีลด์ ที่มีมิติ ถ้าพิจารณาโครงสร้างทางพีชคณิตของปริภูมิ
เวกเตอร์ และ ที่สอดคล้องกับสมบัติการคงสภาพ (preserve) ต่อไปนี้ สาหรับแต่ละ และ
เป็นเวกเตอร์ใน ที่สมนัยกับเวกเตอร์ และ ใน ตามลาดับ
1. ก็ต่อเมื่อ
2. ก็ต่อเมื่อ เมื่อ เป็นสเกลาร์ใดๆ
จากสมบัติดังกล่าว จะกล่าวได้ว่าปริภูมิเวกเตอร์ทั้งสองมีโครงสร้างทางพีชคณิตเหมือนกัน ถ้าปริภูมิเวกเตอร์ทั้งสอง
มีการสมนัยแบบหนึ่งต่อหนึ่ง (one-to-one correspondence) กล่าวคือสามารถหาฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่งจากปริภูมิ
เวกเตอร์ ไปทั่วถึง ได้ จากความเหมือนกันทางโครงสร้างทางพีชคณิตของปริภูมิเวกเตอร์ และ ทาให้
สามารถพิจารณาปริภูมิเวกเตอร์ทั้งสองเสมือนเป็นปริภูมิเวกเตอร์เดียวกันได้ ซึ่งพิจารณาได้จากบทนิยามต่อไปนี้
นั่นคือ ( ) ( ( )) 0
เพราะฉะนั้น เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง
จาก dimension theorem จะได้
( ) ( ) ( ) 2 0 2
นั่นคือ ( ) ( )
จะได้ว่า เป็นฟังก์ชันทั่วถึง
ดังนั้น เป็นฟังก์ชันสมสัณฐาน
( ) [ ] [ ]
จะแสดงว่า เป็นฟังก์ชันสมสัณฐานจาก ไป
( ) ( ( ) ( ))
(( ) ( ) ( ) )
[ ]
[ ] [ ]
( ) ( )
( ) ( )
ดังนั้น เป็นการแปลงเชิงเส้น
พิจารณา
∣ 0
∣
( ) { ∣∣ ( ) [ 0] }
∣
∣ 0
∣ 0
∣
{ ∣∣ ( ) [0] }
∣
∣ 0
∣ 0
∣
{ ∣∣ [ ] [0] }
∣
∣ 0
{ }
ดังนั้น เป็นฟังก์ชันสมสัณฐาน
นั่นคือ สมสัณฐานกับปริภูมิเวกเตอร์
[ ]
[ ] [ ]
[ ] [ ]
([ ]) ([ ])
ดังนั้น เป็นการแปลงเชิงเส้น
พิจารณา
( ) {[ ] ∣∣ ([ ]) 0}
∣
∣ 0
{[ ] ∣ [ ] [ 0] }
∣
∣ 0
0 0
{[ ]}
0 0
จะได้ว่า เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง
พิจารณา
( ) { ([ ]) ∣∣∣ [ ] }
∣
{ [ ] ∣∣ }
∣
0 0 ∣
{ [0] [ ] [0] ∣∣ }
0 0 ∣
0 0
{[0] [ ] [0]}
0 0
จะได้ว่า เป็นฟังก์ชันทั่วถึง
ดังนั้น เป็นฟังก์ชันสมสัณฐาน