You are on page 1of 22

ชื่อ: ศิกวัช สุขุมอำนวยชัย

ชื่อเล่น: ไอซ์
อำยุ: 25
ประวัติกำรศึกษำ:
- ป.ตรี วิศวกรรมศำสตร์โยธำ มหิดล
- ป.โท วิศวกรรมระบบขนส่งทำงรำง มหิดล (อินเตอร์)
ทำงำน:
- วิศวะระบบขนส่งและจรำจร (PSK Consultant)
ประสบกำรณ์สอน: 6 ปี
วิชำที่สอน:
- วิทย์ฯ - ฟิสิกส์
- คณิตฯ - แคลคูลัส
✓ ติวโจทย์ PAT3 ข้อสอบเก่ำ ปี 62, 63, 64
✓ สถิติแต่ละเรื่องที่ออกสอบในแต่ละปี
✓ ทวนเนื้อหำที่สำคัญ สูตรลัด วิธีลัด
✓ สอบถำมได้ตลอดกำรสอนเพื่อควำมเข้ำใจ
✓ สอนสด แบบบันทึก VDO สำมำรถนำกลับมำทบทวนได้ตำมต้องกำร
✓ มีแบบฝึกหัดให้ทำก่อนเรียน
✓ เนื้อหำ
- ฟิสิกส์ คณิต เคมี
- กำรเขียนแบบทำงวิศวกรรม
- ควำมรู้ทั่วไปทำงวิศวกรรม
4

1. ลูกบอลมวล 1 กิโลกรัม ถูกเตะดังรูป ถ้ำขณะนั้นมีกระแสลมพัดต้ำนลูกบอลในแนวรำบอย่ำงสม่ำเสมอเป็นแรง


ขนำดคงที่ 5 นิวตัน อยำกทรำบว่ำ ระยะไกลสุดที่ลูกบอลเคลื่อนที่ได้ในแนวรำบขณะที่มีกระแสลมพัดกับขณะที่
ไม่มีกระแสลมพัด แตกต่ำงกันกี่เมตร (กำหนดให้ g = 10 m/s2)
1. 2 m 2. 5 m 3. 10 m 4. 12 m 5. 15 m

F=5N
10 m/s

45 ’
6

2. จงคำนวณหำควำมยำวที่เพิ่มขึ้นของลวดซึ่งผูกติดกับลูกตุ้มที่หนัก 60 kg ในขณะที่แขวนอยู่นิ่ง ๆ และในขณะที่


ก ำลั ง แกว่ ง ผ่ ำ นำจุ ด ต่ ำสุ ด เมื่ อ ลวดเหล็ ก มี ค่ ำ มอดู ลั ส ยั ง 2x1010 N/𝑚2 และพื้ น ที่ น้ ำ ตั ด เท่ ำ กั บ 3x10−6 𝑚2
(กำหนดให้ควำมเร็วของลูกตุ้มที่จุดต่ำสุดเท่ำกับ 20 m/s
1. 0.4 m 2. 0.5 m 3. 0.6 m 4. 0.7 m 5. 0.8 m

L=1 m

60 kg
6

3. กำหนดให้ควำมต้ำนทำนของตัวต้ำนทำน R = 2  และแรงเคลื่อนไฟฟ้ำเท่ำกับ 200 V จงหำค่ำของ


กระแสไฟฟ้ำที่ผ่ำนจุด A, E
1. 5 A 2. 10 A 3. 12 A 4. 15 A 5. ไม่มีกระแสไฟฟ้ำไหลผ่ำนเส้นทำง AE

R C R
B D

R R

E
A
7

4. ตอนแรกบรรจุน้ำลงในหลอกแก้วรูปตัวยูที่มีขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำง 1 cm เท่ำกันตลอดทั้งหลอด ตอนหลัง


นำน้ำมันที่มีควำมหนำแน่น 0.8x10^3 kg/m^3 เติมลงไป ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นจำกเดิมจงหำปริมำตรของ
น้ำมันที่เติมลงไป
1. 7.85 cm^2 2. 8.05 cm^2 3. 9.80 cm^2 4. 10.00 cm^2 5. 11.70 cm^2
7

5. ขวดน้ำหอมมีระดับน้ำหอมสูงจำกหลอดฉีด 10cm จงหำควำมดันเกจภำยในขวดที่ต้องใช้เพื่อให้น้ำหอมที่ฉีด


ออกมำมีควำมเร็ว 30 m/s (กำหนดให้ควำมหนำแน่นของน้ำหอมเท่ำกับน้ำหรือเท่ำกับ 10^3 kg/m^3)
1. 1.5x10^5 N/m^2 2. 2.5x10^5 N/m^2 3. 4.5x10^5 N/m^2 4. 6.5x10^5 N/m^2 5. 8.5x10^5 N/m^2
8

6. จงคำนวณหำพลังงำนควำมร้อนที่ใช้ในกำรเปลี่ยนน้ำแข็ง 10 g ที่มีอุณหภูมิ -5 องศำเซลเซียส ไปเป็นไอน้ำที่อุณหภูมิ 120


องศำเซลเซียส ควำมจุควำมร้อนจำเพำะของน้ำแข็งเท่ำกับ 2,090 J/kg’C ควำมร้อนแฝงของกำรหลอมเหลวของน้ำเท่ำกับ
3.33x10^5 J/kg ควำมร้อนแฝงของกำรกลำยเป็นไอน้ำเท่ำกับ 2.26x10^6 J/kg ควำมจุควำมร้อนจำเพำะของน้ำเท่ำกับ
4,186 J/kg’C และคววำมจุควำมร้อนจำเพำะของไอน้ำเท่ำกับ 2,010 J/kg’C

1. 104 J 2. 1.16x104 J 3. 2x104 J 4. 2.16x104 J 5. 3.06x104 J


7. รถไฟขบวนหนึ่งเริ่มเคลื่อนที่บนรำงตรงเข้ำสู่ชำนชำลำ พร้อมกับเปิดหวูดรถไฟ ขณะเดียวกันเสียง เสียดสีระหว่ำงล้อเหล็ก
กั บ รำงเหล็ ก ก็ ถู ก ส่ ง ผ่ ำ นรำงเหล็ ก มำด้ ว ยอั ต รำเร็ ว ที่ สู ง กว่ ำ เสี ย งหวู ด รถไฟ ที่ อุ ณ หภู มิ ป กติ อั ต รำเร็ ว เสี ย งในเหล็ ก มี
ค่ำประมำณ 5,000 เมตร/วินำที และอัตรำเร็วเสียงในอำกำศมี ค่ำประมำณ 350 เมตร/วินำที ถ้ำเรำยืนอยู่ที่ชำนชำลำและ
ได้ยินเสียงหวูดรถไฟหลังจำกที่ได้ยินเสียง จำกรำงเหล็กแล้ว 2 วินำที ขณะเปิดหวูด รถไฟขบวนดังกล่ำวอยู่ห่ำงจำกชำน
ชำลำเป็นระยะทำง กี่เมตร

1. 750 m 2. 753 m 3. 1022 m 4. 1124 m 5. 2325 m


8. จำกรูปเป็นท่อซึ่งตรงกลำงมีทำงแยกเป็นส่วนโค้งรูปครึ่งวงกลมรัศมีr เท่ำกับ 14 เซนติเมตร ถ้ำอัตรำเร็วของเสียงในท่อ
เท่ำกับ 344 เมตรต่อวินำทีให้คลื่นเสียงเข้ำไป ในท่อทำงด้ำน S ควำมถี่ของเสียงที่ทำให้ผู้ฟังที่ปลำยด้ำน D ได้ยินเสียงค่อย
ที่สุดมีค่ำเท่ำใด

1. 287 Hz 2. 574 Hz 3. 718 Hz 4. 1075 Hz 5. 1325 Hz


9. แท่งปริซึมแช่อยู่ในน้ำที่มีดัชนีหักเหเท่ำกับ 1.33 แสงส่องผ่ำนแท่งปริซึมในแนวตั้งฉำกกับปริซึมแล้วหักเกออกจำกแท่งปริซึม
ด้วยมุมตกกระทบ 2=30’ และมุมหักเห 3=60’ จงหำว่ำที่ตำแหน่ง A มุม 1 ควรจะมีค่ำเท่ำไหร่จึงจะทำให้แสงเริ่มสะท้อน
กลับหมด

1. 𝑠𝑖𝑛−1 (0.324) 2. 𝑠𝑖𝑛−1 (0.578) 3. 𝑠𝑖𝑛−1 (0.414) 4. 𝑠𝑖𝑛−1 (0.669) 5. 𝑠𝑖𝑛−1 (0.769)
10

10. ชิ้นส่วนในข้อใดต่อไปนี้สำมำรถนำมำประกบกับชิ้นส่วนที่กำหนดให้ได้พอดี
10

11. ชิ้นส่วนในข้อใดต่อไปนี้สำมำรถนำมำประกบกับชิ้นส่วนที่กำหนดให้ได้พอดี
10

12. ชิ้นส่วนในข้อใดต่อไปนี้สำมำรถนำมำประกบกับชิ้นส่วนที่กำหนดให้ได้พอดี
6

13. จงพิ จ ำรณำวงจรต่ อ ไปนี้ โดยที่ ต ำแหน่ ง x คื อ กั ล ป์ ว ำนอมิ เ ตอร์ ถ้ ำ เข็ ม ของกั ล ป์ ว ำนอมิ เ ตอร์ ไ ม่ มี ก ำร
เปลี่ยนแปลง ค่ำควำมต้ำนทำนของไฟฟ้ำในวงจรเปนเท่ำไหร่ (ตอบรูปอัตรำส่วน)
𝑅3 𝑅2 𝑅1 𝑅3 𝑅2 𝑅4
1. = 2. = 3. = 4. ข้อ 1 และ 2 ถูก 5. ข้อ 2 และ 3 ถูก
𝑅4 𝑅5 𝑅4 𝑅5 𝑅3 𝑅5
6
10

13. วัตถุ 3 มิติในข้อใด มีภำพฉำยดังต่อไปนี้


10

14. วัตถุ 3 มิติในข้อใด มีภำพฉำยดังต่อไปนี้

You might also like