Professional Documents
Culture Documents
คู่มือการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังง PDF
คู่มือการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังง PDF
คู่มือกำรปรับปรุงประสิทธิภำพกำรใช้พลังงำนในระบบหม้อไอน้ำ 2559
หม้อไอนำ้
บทที่ 1 1
ความรู้ พืน้ ฐานด้ านการอนุรักษ์ พลังงานในหม้ อไอนา้ และระบบส่ งจ่ าย
หม้ อไอน้ า เป็ นอุ ป กรณ์ ส าหรั บ ผลิ ต ไอน้ า เพื่ อ น าไอน้ าไปใช้
ประโยชน์ในโรงงานอุตสาหกรรมด้านต่างๆโดยสามารถผลิตไอน้ าได้ท้ งั
ปริ มาณและความดันที่ ตอ้ งการ ดังนั้นหม้อน้ า จึ งมี หลายแบบตามความ
เหมาะสมกับการใช้งาน เช่ น ไอน้ าอิ่ มตัว (Saturated Steam) จะใช้ในการ
ถ่ ายเทความร้ อ น (Heat Transfer) ในกระบวนการผลิ ต และไอน้ ายิ่งยวด
(Superheat Steam) ซึ่ งมี อุณ หภู มิแ ละความดัน สู งจะใช้เป็ นต้น กาลัง เช่ น
ขับเครื่ องกังหันไอน้ าเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้ า เป็ นต้น คาจากัดความของ
หม้ อ น้ าตามกฏกระทรวงอุ ต สาหกรรม เรื่ องก าหนดมาตรการความ
ปลอดภัยเกี่ ยวกับหม้อน้ า หม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็ นสื่ อนาความร้อนและ
ภาชนะรับแรงดันในโรงงาน พ.ศ. 2549 ระบุ ว่า หม้อน้ า หมายถึง ภาชนะ
ปิ ดสาหรับบรรจุน้ าที่มีปริ มาณความจุเกิน 2 ลิตรขึ้นไป เมื่อได้รับความร้อน
จากการสันดาปของเชื้อเพลิงหรื อแหล่งพลังงานความร้อนอื่น น้ าจะเปลี่ยน
สถานะกลายเป็ นไอน้ าภายใต้ค วามดัน มากกว่ า 1.5 เท่ า ของความดัน
บรรยากาศที่ ระดับน้ าทะเล หรื อภาชนะปิ ดส าหรั บบรรจุ น้ าซึ่ งใช้ในการ
ผลิตน้ าร้อนที่มีพ้นื ที่ผวิ รับความร้อนตั้งแต่ 8 ตารางเมตรขึ้นไป
ระบบไอน้ าเป็ นระบบที่มีการใช้งานในสถานประกอบการที่มีการใช้
พลังงานความร้อนจากไอน้าที่สูงกว่ า 100OC โดยระบบไอน้ าประกอบด้วย
อุ ป กรณ์ แ ละระบบย่อ ยต่ างๆ ได้แ ก่ (1) หม้อ ไอน้ า (2) ระบบส่ งจ่ ายไอน้ า
(3) ระบบนากลับไอน้ าควบแน่น (คอนเดนเสท) และ (4) อุปกรณ์ใช้ไอน้ า
หน้า 1 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
ระบบส่งจ่ายไอน้ า ไอน้ า
1
อุปกรณ์ที่ใช้ไอน้ า
ก๊าซร้อนทิ้ง
น้ าเลี้ยงเย็น น้ าควบแน่น
ปั มน้ า
หน้า 2 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
ไดอะแกรม 1 ไอน้ า
1.
น้ าเย็น
หม้ อไอนา้ เครื่องแลกเปลีย่ นความร้ อน
คอนเดนเสท
น้ าร้อน
ความดันไอน้ าต่า
หม้อไอน้ าขนาด หม้ อไอนา้ เครื่องทานา้ ร้ อน
เล็ก
การสูญเสี ยน้อย
หน้า 3 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 4 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 5 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 6 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 7 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 8 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 9 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 10 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 11 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 12 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 13 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 14 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 15 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 16 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 17 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 18 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 19 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 20 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 21 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 22 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 23 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
1 (ข) ระบบจุดสตาร์ ท
เป็ นระบบที่ ช่วยจุ ดเชื้ อเพลิ งให้ลุกไหม้ได้ง่ายขึ้ น ใช้ในขณะเริ่ มจุ ดหัวเผาครั้ ง
แรก ประกอบด้วยอุปกรณ์สาคัญคือหม้อแปลงไฟแรงสู ง (Ignition transformer)
แบ่งเป็ น 2 ระบบ คือ
• ระบบจุดสตาร์ ทด้ วยประกายไฟแรงสู ง แบบนี้ เขี้ ยวจุ ดประกายไฟติดตั้งอยู่ที่
ปลายหัวฉี ดพ่น ฝอยน้ ามัน เริ่ ม จุ ดหัวเผาโดยการจุ ดให้น้ ามัน ติ ดเป็ นเปลวไฟ
โดยตรง
• ระบบจุดสตาร์ ทด้ วยการจุดไฟนา (Pilot flame) จากก๊าซ LPG แบบนี้ เขี้ยวจุ ด
ประกายไฟติดตั้งอยูใ่ นกระบอก เพื่อจุดก๊าซหุ งต้มหรื อ LPG ให้ติดเป็ นเปลวไฟ
นาก่อนที่จะพ่นฝอยน้ ามันตามออกมา
1.2.3.3 อุปกรณ์ ในระบบเผาไหม้ ทใี่ ช้ เชื้อเพลิงก๊ าซ ประกอบด้ วย
(ก) หัวเผาเชื้อเพลิงก๊ าซ
มี ห น้ า ที่ เช่ น เดี ย วกับ หั ว เผาเชื้ อ เพลิ ง เหลว เพี ย งแต่ ไ ม่ ต ้อ งมี ร ะบบพ่ น ฝอย
เชื้ อเพลิ งและระบบจุ ดสตาร์ ท สามารถแบ่งหัวเผาเชื้ อเพลิงก๊าซได้เป็ น 2 ชนิ ด
ใหญ่ๆ คือ
• หัวเผาแบบผสมเชื้อเพลิงกับอากาศก่อนป้อนเข้าเผาไหม้ (Pre-mix burner)
• หัวเผาแบบผสมกันภายในหัวเผา (Nozzle-mix burner)
หน้า 24 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 25 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 26 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 27 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 28 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 29 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 30 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 31 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 32 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 33 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 34 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
Burner Burner
100% Premix
Low Pressure
Gas
Air Air
High Pressure Gas Pressurized Air
Injector & Burner Proportional
Mixer & Burner
หน้า 35 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 36 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 37 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 38 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 39 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 40 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 41 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 42 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
ข้ อดีของหัวเผาแบบใช้ แรงเหวีย่ ง
ข้ อเสี ย
ของถ้ วยหมุน
- ใช้งานได้สะดวก - การบารุ งรักษาซับซ้อน
- สามารถใช้ได้กบั อัตราการป้อนน้ ามันซึ่ ง ยุง่ ยากและราคา แพง
ไม่คงที่ได้ โดยสามารถให้ละอองน้ ามันที่ - ต้องใช้ไฟฟ้าเพื่อหมุนถ้วย
ละเอียดสม่าเสมอกันตลอด ช่วงอัตราการ - การสึ กหรอมักเกิดที่ขอบ
ป้อนน้ ามันที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้วย ทาให้น้ ามันแตกเป็ น
ฝอยละเอียดไม่สม่าเสมอ
หน้า 43 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
1 ข้ อดีของหัวเผาแบบใช้ แรงเหวีย่ ง
ข้ อเสี ย
ของถ้ วยหมุน
- สามารถปรับอัตราการป้อนน้ ามันได้สูง - อาจเกิดตะกอนน้ ามัน
หรื อให้ค่าสัดส่ วน Turn- down สู ง คือ สะสมภายในถ้วยจึง
10:1โดยไม่จาเป็ นต้องเพิ่มจานวนของหัว จาเป็ นต้องถอดออกทา
เผา ความสะอาดบ่อยๆ
- ไม่มีปัญหาเรื่ องอุดตันของน้ ามันเพราะ
ท่อทางไหลในตัวหัวเผามีขนาดใหญ่
- ความดันป้อนของน้ ามันเชื้อเพลิงต่า ง่าย
ต่อการทางาน
- สามารถควบคุมขนาดของหยดเชื้อเพลิง
(Oil droplet) ได้ง่ายเพียงแต่ควบคุม
ความเร็ วรอบของถ้วยหมุน เพราะขนาด
เฉลี่ยของหยดเชื้อเพลิงเป็ นสัดส่ วนผกผัน
กับความเร็ วรอบของการหมุนของถ้วย
หน้า 44 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 45 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 46 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 47 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 48 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 49 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 50 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 51 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 52 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 53 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 54 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
4) ระบบไซโคลน (Cyclone) 1
เตาเผาระบบนี้ เชื้ อ เพลิ งถู ก ป้ อ นเข้าเตาเผาโดยอาศัย แรงโน้ ม ถ่ ว ง
เช่นเดียวกับระบบพัลเวอร์ ไรซ์ แต่ไม่จาเป็ นต้องบดเชื้อเพลิงให้มีขนาดเล็ก
ทาให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการบดเชื้ อเพลิงลงได้ การเผาไหม้ในระบบ
ไซโคลนจะใช้หัวเผาแบบ Horizontal water-cooled ขนาดเล็ก ทาให้เตาเผา
ระบบไซโคลนมีขนาดเล็กกว่าเตาเผาระบบพัลเวอร์ ไรซ์ อุณหภูมิของการ
เผาไหม้ภายในเตาระบบไซโคลนสู งถึ ง 1650 C ซึ่ งจะทาให้ข้ ี เถ้าถู กเผา
ไหม้กลายเป็ นขี้ เถ้าเหลว (Liquid Slag) ได้ประมาณ 30 -50 % และเหลื อ
ขี้ เถ้าที่ ป นออกมากับ แก๊ ส ร้ อ นเพี ย ง 70-50% ขี้ เถ้าเหลวที่ เกิ ด ขึ้ น ภายใน
เตาเผาระบบไซโคลนนี้สามารถปล่อยออกทางด้านล่างของเตาเผาได้
หน้า 55 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 56 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 57 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
ก๊าซไอเสีย
อากาศ - คาร์บอนไดออกไซด์(CO2)
เชื้อเพลิง
- คาร์บอน (C) - ไอน้ า(H2O)
- ออกซิเจน(O2)
- ไฮโดรเจน (H) - ซัลเฟอร์ไดออกไซด์(SO2)
- ไนโตรเจน(N2)
- กามะถัน(S)
ความร้ อน
หมายเหตุ สาหรั บการเผาไหม้ จริ งอาจมีก๊าซไอเสี ยอื่นอีก ได้ แก่ CO, HC, NOx,
SOx, O2
หน้า 58 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 59 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
C O2 CO2 H 2 21 O2 H 2 O S O2 SO2
12kg 32kg 44 kg 2kg 16 kg 18 kg 32 kg 32 kg 64 kg
% องค์ ประกอบโดยมวล
ชนิดของเชื้อเพลิง
C H S
น้ ามันดีเซล 86.3 12.8 0.9
น้ ามันเตา 86.1 11.8 2.1
หน้า 60 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
การหาปริมาณอากาศเชิงทฤษฎีในการเผาไหม้ 1
H 2 21 O2 H 2 O C O2 CO 2
2kg 16 kg 18 kg 12 kg 32 kg 44 kg
2 16 18 12 32 44
0.128 kg 0.128 kg 0.128 kg 0.863 kg 0.863 kg 0.863 kg
2 2 2 12 12 12
0.128 kg 1.024 kg 1.152kg 0.863kg 2.301kg 3.164 kg
S O2 SO2
32kg 32kg 64 kg
32 32 64
0.009 kg 0.009 kg 0.009 kg
32 32 32
0.009 kg 0.009 kg 0.018 kg
หน้า 61 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 62 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 63 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 64 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 65 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 66 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 67 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 68 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 69 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 70 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 71 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 72 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
หน้า 73 จาก 74
บทที่ 1 ความรู ้พ้นื ฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ าและระบบส่ งจ่าย
1 วิธีคานวณ
จากการเก็บข้อมูลช่วงเวลา 01.00-13.00 น. มีดงั นี้
สภาพเดิม เดินหม้อไอน้ าขนาด 10 ตัน/ชัว่ โมงเป็ นหลักตลอดเวลา
มีการใช้เชื้อเพลิงในช่วงเวลา 13.00-01.00 น. = 270 L/h
น้ าป้อนหม้อไอน้ า ช่วงเวลา 13.00-01.00 น. = 3,500 L/h
คิดเป็ นดัชนีการผลิตไอน้ าต่อเชื้อเพลิง = 12.96 kg/L
ปรับปรุ ง เดินหม้อไอน้ าขนาด 5 ตัน/ชัว่ โมงในช่วงความต้องการใช้ไอน้ าต่าเวลา
13.00-01.00 น.
มีการใช้เชื้อเพลิง = 260 L/h
น้ าป้อนหม้อไอน้ า = 3,500 L/h
คิดเป็ นดัชนีการผลิตไอน้ าต่อเชื้อเพลิง = 13.46 kg/L
ดัชนีการผลิตไอน้ าต่อเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น = 13.46-12.96 = 0.5 kg/L
คิดเป็ นพลังงานที่ประหยัดได้ร้อยละ = ((13.46-12.96) / 13.46) x 100
= 3.71
เชื้อเพลิงที่ประหยัดได้ = 270 x (3.71/100)
= 10 L/h
= 10 x 12 x 365 = 43,800 L/y
คิดเป็ นเงินที่ประหยัดได้ = 43,800 x 13.00 = 569,400 Baht/y
หน้า 74 จาก 74
บทที่ 2 แนวทางการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพการผลิตและใช้ไอน้ า
บทที่ 2
แนวทางการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพการผลิตและใช้ ไอนา้ 2
การเพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพระบบไอน้ านั้ น จะต้อ งด าเนิ น การลดการ 1
สู ญเสี ยพลังงานทั้งในส่ วนผลิตไอน้ า(หม้อไอน้ า) ส่ วนส่ งจ่ายไอน้ า ส่ วน
อุ ป กรณ์ ใช้ไอน้ า และส่ วนนาคอนเดนเสทกลับ โดยหลังจากดาเนิ นการ
ดัชนี การใช้พลังงานความร้อนจะต้องลดต่าลง นัน่ คือต้นทุนการผลิตหรื อ
บริ การทางด้านความร้อนลดลง โดยแนวทางการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพการ
ผลิตและใช้ไอน้ าในแต่ละส่ วนแสดงดังนี้
ก๊าซไอเสีย
ไอนา้ •% ออกซิเจน
นา้ ป้ อน •อัตราการผลิตไอนา้ •% คาร์ บอนไดออกไซด์
•อัตราการไหล และ •ความดันและอุณหภูมิไอนา้ •% คาร์ บอนมอนนอกไซด์
อุณหภูมินา้ ป้อน •อุณหภูมิ
•TDS
นา้ โบลว์ดาวน์
•อัตราการไหล และ
เชื้อเพลิง อุณหภูมิโบลว์ดาวน์
•อัตราการใช้ เชื้อเพลิง •TDS
•อุณหภูมิเชื้อเพลิง
•อุณหภูมิผวิ และพืน้ ที่ผวิ ของหม้ อไอนา้
การแผ่ รังสี
•อุณหภูมิแวดล้อม
B 100 ( L1 L2 L3 L4 ) (2.2)
พลังงาน พลังงานในไอน้ า
ป้อน 100 - (L1 + L2 + L3 + L4)
(100%)
การสู ญเสี ยอื่นๆ (L4%)
สู ญเสี ยในโบล์วดาวน์ (L3%)
สู ญเสี ยจากการแผ่รังสี (L2%)
สู ญเสี ยทางปล่อง (L1%)
ตัวอย่างที่ 2-1
2 สมมุติให้หม้อไอน้ าชนิ ดท่อน้ าลูกหนึ่ งซึ่ งใช้น้ ามันเตาเป็ นเชื้อเพลิง ผลิตไอ
น้ าที่ ความดัน 10 barg อุณ หภูมิ 184C ข้อมู ลข้างล่างได้จากการตรวจวัด
หม้อไอน้ า
ข้ อมูลตรวจวัด
ปริ มาณการใช้น้ ามันเตา 800 L/h (สมมุติ น้ ามันเตามีค่าความร้อน 40 MJ/L)
ปริ มาณน้ าป้อน 10,600 kg/h
ปริ มาณโบลว์ดาวน์ 600 kg/h
อุณหภูมิน้ าป้อน 25 C
หม้อไอน้ าทางาน 6,000 h/y
ไม่มีการนากลับคอนเดนเสท
ราคาน้ ามันเตาสมมติให้เท่ากับ 14.0 ฿/L
จงคานวณหาประสิ ทธิภาพของหม้อไอน้ า (โดยใช้วธิ ีตรง)
วิธีคำนวณ
ค่าความร้อนของน้ า 25C; hf = 105 kJ/kg
ค่าความร้อนของน้ า 184C ; hf = 781 kJ/kg
ค่าความร้อนของไอน้ า 184C ; hg = 2,782 kJ/kg
ปริ มาณการผลิตไอน้ า = 10,600 - 600 = 10,000 kg/h
ความร้อนที่ใช้ในการผลิตไอน้ า = ค่าความร้อนของน้ าจาก 25C เป็ น 184C +
ค่าความร้อนของน้ า 184C เป็ นไอน้ า 184C
= 10,600 x (781 – 105) + 10,000 x (2,782 – 781)
= 27,175,600 kJ/h
พลังงานจากการใช้เชื้อเพลิง = 800 x 40,000 = 32,000,000 kJ/h
ดังนั้น ประสิ ทธิภาพหม้อไอน้ า = 27,175,600 / 32,000,000 = 0.849 (84.9%)
วิธีคำนวณ (ต่ อ)
ปริ มาณน้ ามันที่ใช้ต่อปี = 800 x 6,000 = 4,800,000 L/y
2
ค่าน้ ามันเตาต่อปี = 4,800,000 x 14 = 67,200,000 B/y
ราคาไอน้ าต่อตัน = 67,200,000 / (10 x 6,000) = 1,120 B/t 1
ตัวอย่างที่ 2-2
2 จากตัวอย่างที่ 2-1 และจากการตรวจวัดการสู ญ เสี ย ความร้ อ นจากแหล่ ง
ต่างๆ ของหม้อไอน้ า พบได้ว่าการสู ญ เสี ยความร้ อนจากปล่อง = 12.4 %
(ผลจากการตรวจวัดไอเสี ย) การสู ญเสี ยความร้อนจากการแผ่รังสี = 1.7 %
จงคานวณหาการสู ญเสี ยจากโบลว์ดาวน์และประสิ ทธิ ภาพสุ ทธิ ของหม้อ
ไอน้ า
วิธีคำนวณ
การสู ญเสี ยความร้อนจากโบลว์ดาวน์ = 600 x (781 - 105)
= 405,600 kJ/h
= 405,600 / 32,000,000
= 1.26 %
จากสมการที่ (2.2) ประสิ ทธิภาพสุ ทธิของหม้อไอน้ า
= 100 – 12.14 – 1.7 – 1.26
= 84.9 %
การปรั บ ตั้ง อัต ราส่ ว นอากาศจ าเป็ นต้อ งปรั บ ตั้ง ที่ ทุ ก ๆ ภาระการ
2 ทางาน เช่ น หัวเผาทางานแบบเป็ นขั้นให้ปรับตั้งค่าสาหรับแต่ละขั้น และ
หัวเผาทางานแบบต่อเนื่ องให้ปรับตั้งอย่างน้อยที่ภาระต่า ปานกลางและสู ง
ในการปรั บ ตั้ง เริ่ ม จากการบัง คับ หั ว เผาให้ ท างานที่ ภ าระใดภาระหนึ่ ง
จากนั้น ตรวจวัดองค์ป ระกอบของก๊ าซไอเสี ย แล้วปรั บ แดมเปอร์ อากาศ
เพื่ อ ให้ ร้ อ ยละของ O2 ในก๊ า ซไอเสี ย ใกล้ เคี ย งกั บ เกณฑ์ ม าตรฐานหรื อ
ปริ มาณ CO2 มีค่าสู งสุ ด ทั้งนี้ก๊าซไอเสี ยที่ปล่ อยทิง้ ต้ องไม่ เกิดเขม่ าดาและ
ปริมาณ CO ไม่ เกิน 200 ppm ให้ลอ็ กตาแหน่งนั้นไว้ แล้วปรับตั้งสาหรับที่
ภาระอื่นๆ ต่อไป
c 100 L1 (2.3)
L1 = การสู ญเสี ยทางปล่อง (%)
หมายเหตุ
ก) ตารางที่ 2.1-3, 2.1-4 และ2.1-5 เป็ นตารางที่คิดจากค่าความร้อนสู งของ
น้ ามัน เตา ถ้าคิ ด ด้ว ยค่ าความร้ อ นต่ าของน้ ามัน เตาจะต้อ งลบค่ า %
ความร้อนที่สูญเสี ยออกไปจากปล่องไฟประมาณ 4-5 %
ข) ดังนั้นก่อนการใช้งานตารางหรื อกราฟใดๆ ที่เกี่ยวกับ%ของความร้อน
ต่างๆ จะต้องตรวจสอบก่อนว่าตารางหรื อกราฟนั้น ใช้กบั ค่าความร้อน
สู งหรื อค่าความร้อนต่าของเชื้อเพลิง ไม่เช่นนั้นเมื่อนาค่าที่หาได้ไปใช้
งานต่อ เช่ น ค านวณต้น ทุ น ของการผลิ ตไอน้ าจะผิดพลาดไป ถ้าไม่
สามารถหาข้อมูลได้วา่ ตารางหรื อกราฟนั้น ใช้กบั ค่าความร้อนสู งหรื อ
15 11.4 11.7 12.4 12.6 13.1 13.5 14.3 14.8 14.8 15.3 15.6 15.9 16.4 16.7 17.3 17.7 18.1 18.4 18.9 19.4 19.8 20.3 20.6 21.0 22.0 23.1 24.2 25.2 26.2 27.3
บทที่ 2 แนวทางการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพการผลิตและใช้ไอน้ า
9.5 11.4 12.1 12.7 13.4 14.0 14.7 15.4 16.0 16.7 17.5 18.1 18.7 19.4 20.0 20.7 21.4 22.1 22.8 23.5 24.0 24.7 25.4 26.1 26.8 27.5 28.1 29.8 31.2 33.2 34.9 36.4 38.1
10 11.2 11.7 12.3 13.0 13.7 14.4 14.8 15.5 16.2 16.8 17.5 18.2 18.7 19.4 20.0 20.6 21.3 21.9 22.6 23.2 23.8 24.5 25.1 25.8 26.4 27.0 28.7 30.1 31.8 33.5 35.0 36.7
11 10.6 11.3 11.8 12.4 12.9 13.5 14.2 14.7 15.3 15.8 16.5 17.0 17.6 18.2 18.8 19.4 20.0 20.6 21.2 21.7 22.3 22.9 23.5 24.1 24.8 25.2 26.8 28.1 29.8 31.2 32.5 34.1
12 10.2 10.7 11.3 11.7 12.3 12.8 13.4 13.8 14.5 15.1 15.6 16.2 16.7 17.2 17.8 18.3 18.8 19.4 19.9 20.4 21.0 21.6 22.1 22.7 23.1 23.8 25.0 26.4 27.9 29.1 30.5 31.9
13 10.3 10.8 11.3 11.8 12.3 12.8 13.3 13.8 14.4 14.8 15.4 15.8 16.3 16.8 17.3 17.9 18.4 18.9 19.3 19.8 20.4 20.9 21.4 21.9 22.4 23.8 24.9 26.2 27.5 28.9 30.0
14 9.8 10.4 10.8 11.4 11.8 12.3 12.8 13.3 13.7 14.3 14.7 15.2 15.6 16.2 16.6 17.1 17.5 18.0 18.5 18.8 19.4 19.9 20.4 20.9 21.2 22.5 23.7 24.9 26.1 27.2 28.5
15 10.2 10.6 11.0 11.4 11.8 12.4 12.7 13.3 13.7 14.2 14.6 15.0 15.4 15.8 16.4 16.8 17.3 17.7 18.2 18.6 19.0 19.5 19.9 20.3 21.5 22.6 23.8 24.9 25.9 27.1
ตารางที่ 2.1-4 ร้อยละการสู ญเสี ยความร้อนออกทางปล่องไอเสี ย สาหรับน้ ามันเตาซี
16 10.3 10.7 11.1 11.5 11.8 12.3 12.8 13.3 13.7 14.0 14.4 14.8 15.3 15.7 16.2 16.6 16.9 17.4 17.9 18.2 18.8 19.1 19.5 20.6 21.6 22.7 23.8 24.8 25.9
STACK LOSS -%- NATURAL GAS
% DIFFERENCE BETWEEN FLUE GAS AND ROOM TEMPERATURES IN DEGREES FAHRENHEIT
CO2 200 220 240 260 280 300 320 340 360 380 400 420 440 460 480 500 520 540 560 580 600 620 640 660 680 700 750 800 850 900 950 1000
3.0 23.1 24.4 25.9 27.2 28.6 30.0 31.3 32.8 34.1 35.8 36.9 38.2 39.8 41.0 42.2 43.8 45.0 46.3 47.8 49.0 50.0
3.5 21.2 22.5 23.8 24.9 26.1 27.2 28.4 29.6 30.9 32.0 33.2 34.4 35.8 36.8 38.0 39.2 40.3 41.6 42.8 43.8 45.0 46.2 47.7 48.3 49.8
4.0 19.9 20.9 22.0 23.1 24.1 25.1 26.2 27.2 28.3 29.4 30.4 31.8 32.5 33.8 34.8 35.8 36.8 37.8 38.8 39.9 40.9 42.1 43.0 44.1 45.2 46.2 48.8
4.5 18.9 19.9 20.9 21.8 22.7 23.6 24.5 25.5 26.4 27.3 28.3 29.2 30.2 31.2 32.2 33.0 34.0 34.9 35.9 36.8 37.8 38.6 39.8 40.4 41.5 42.6 44.8 47.2 49.8
5.0 18.0 18.9 19.8 20.6 21.4 22.2 23.1 24.0 24.9 25.8 26.8 27.5 28.3 29.1 30.1 30.9 31.8 32.5 33.6 34.3 35.7 36.2 36.9 37.8 38.8 39.7 41.8 43.8 46.0 48.2
5.5 17.4 18.1 18.9 19.8 20.5 21.2 22.1 22.9 23.8 24.5 25.2 26.2 26.9 27.8 28.5 29.2 30.0 30.8 31.8 32.3 33.2 34.1 34.9 35.8 36.3 37.3 39.2 41.0 43.0 45.3 47.2 49.0
6.0 16.8 17.4 18.2 18.9 19.6 20.4 21.1 21.8 22.7 23.3 24.1 24.9 25.5 26.2 27.0 27.8 28.4 29.2 30.0 30.8 31.5 32.2 32.9 33.8 34.3 35.2 36.8 38.8 40.4 42.5 44.3 46.2
6.5 16.3 16.9 17.6 18.4 19.0 19.8 20.4 21.1 21.8 22.4 23.2 23.8 24.5 25.2 25.9 26.5 27.2 27.9 28.7 29.2 30.0 30.9 31.4 32.1 32.8 33.5 34.6 36.8 38.4 40.3 42.0 43.8
7.0 15.8 16.5 17.1 17.8 18.4 19.1 19.8 20.4 21.0 21.8 22.3 22.9 23.6 24.2 24.9 25.5 26.2 26.8 27.4 28.0 28.8 29.4 30.0 30.8 31.2 32.0 33.8 35.3 36.8 38.3 40.0 41.8
7.5 15.5 16.1 16.7 17.2 17.9 18.5 19.1 19.8 20.3 20.9 21.5 22.2 22.8 23.3 24.0 24.6 25.2 25.8 26.4 26.9 27.7 28.2 28.8 29.4 30.1 30.8 32.2 33.8 35.2 36.8 38.3 39.9
8.0 15.2 15.7 16.3 16.9 17.4 18.0 18.6 19.2 19.8 20.3 20.9 21.5 22.1 22.8 23.2 23.8 24.4 25.0 25.5 26.0 26.7 27.2 27.8 28.4 29.0 29.5 31.0 32.4 33.8 35.4 36.8 38.2
8.5 14.9 15.4 15.9 16.5 17.1 17.6 18.2 18.7 19.3 19.8 20.4 20.9 21.4 22.0 22.5 23.1 23.7 24.2 24.8 25.3 25.8 26.4 26.9 27.4 28.1 28.6 29.9 31.3 32.8 34.2 35.4 36.8
9.0 14.6 15.2 15.7 16.2 16.6 17.2 17.8 18.3 18.8 19.3 19.9 20.4 20.9 21.4 21.9 22.5 23.0 23.5 24.1 24.5 25.2 25.8 26.2 26.7 27.2 27.8 29.0 30.3 31.8 33.0 34.3 35.7
9.5 14.4 14.9 15.4 15.9 16.4 16.9 17.4 17.9 18.4 18.9 19.5 19.9 20.6 20.9 21.4 21.9 22.4 22.9 23.4 23.8 24.4 24.9 25.4 25.9 26.4 26.9 28.2 29.4 30.8 32.0 33.3 34.5
10 14.2 14.6 15.2 15.6 16.1 16.6 17.1 17.5 18.1 18.5 19.0 19.5 20.0 20.4 20.8 21.4 21.8 22.4 22.8 23.3 23.8 24.2 24.8 25.2 25.8 26.2 27.4 28.6 29.8 31.2 32.2 33.4
11 14.4 14.7 15.2 15.6 16.1 16.5 16.9 17.4 17.8 18.4 18.8 19.3 19.6 20.2 20.5 20.9 21.4 21.9 22.3 22.8 23.2 23.7 24.2 24.6 25.0 26.2 27.2 28.3 29.5 30.8 31.8
12 14.4 14.8 15.2 15.6 16.1 16.5 16.9 17.3 17.8 18.2 18.6 19.0 19.4 19.8 20.2 20.6 21.1 21.4 21.9 22.3 22.8 23.2 23.6 24.0 25.1 26.1 27.2 28.3 29.2 30.3
ตารางที่ 2.1-5 ร้อยละการสู ญเสี ยความร้อนออกทางปล่องไอเสี ย สาหรับก๊าซธรรมชาติ
บทที่ 2 แนวทางการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพการผลิตและใช้ไอน้ า
ก) ความสั มพันธ์ ของ Excess air, %O2 และ %CO2 ของนา้ มันดีเซล
58%
ข) ความสั มพันธ์ ของ Excess air, %O2 และ %CO2 ของนา้ มันเตา C
2
1
ค) ความสั มพันธ์ ของ Excess air, %O2 และ %CO2 ของก๊ าซธรรมชาติ
รู ปที่ 2.1-2 ความสัมพันธ์ของ Excess air, %O2 และ %CO2 ของเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ
60%
50%
40%
30%
20%
10% แหล่งที่มา : จากประสบการณ์หม้อไอน้ ามากกว่า 500 ลูก
0%
0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100%
QB mB hB hW (2.4)
น้ าป้อน หม้อไอน้ า
mW=mS(1+B) kg/s TDSB
TDSFW kg/s
โบลว์ดาวน์ mB kg/s
MB=mSB kg/s
5) การปรับสภาพนา้ ป้อน
2 ตัวแปรที่สาคัญอย่างยิง่ ต่อการระบายน้ า คือ คุณภาพน้ าป้อนถ้าน้ า
ป้อนมีสารละลายและสารแขวนลอยอยูม่ าก จะส่ งผลให้สารละลายและสาร
แขวนลอยในหม้อไอน้ าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว ส่ งผลให้ผใู ้ ช้หม้อไอน้ าจะต้อง
ระบายน้ าในหม้อไอน้ าทิ้งเพิ่มขึ้น ซึ่ งเป็ นการสิ้ นเปลืองน้ าและความร้อนที่
อยูใ่ นน้ า ดังนั้น น้ าที่ใช้กบั หม้อไอน้ าควรมีการปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน
นอกจากนั้นผูใ้ ช้ตอ้ งควบคุมคุณภาพน้ าในหม้อไอน้ าให้ได้ตามมาตรฐาน
บ่อยครั้งพบว่ามีการระบายถี่เกินไป หรื อนานเกินไปส่ งผลให้คุณภาพน้ าใน
หม้อไอน้ าต่ากว่ามาตรฐานมาก จึงจาเป็ นต้องมีการตรวจวัดคุณภาพน้ าและ
ปรับตั้งการควบคุมอยูเ่ สมออย่างน้อยทุกเดือน
5.1) เหตุผลของการปรุ งแต่ งนา้ โดยอาศัยสารเคมี
1) เพื่อป้ องกันการเกาะตัวของตะกรันในหม้อไอน้ า ซึ่ งจะทาให้การถ่ายเท
ความร้ อ นไม่ ดี และอุ ณ หภู มิ ข องก๊ า ซที่ ป ล่ อ งสู ง มากท าให้ เสี ยค่ า
เชื้อเพลิงเพิม่ ขึ้น
2) เพื่อควบคุมปริ มาณตะกอน (Sludge) และตะกรันในหม้อไอน้ า
3) เพื่อลดการสึ กหรอของหม้อไอน้ า และท่อไอน้ า (Steam Main) ซึ่ งเกิด
จากคาร์ บอนไดออกไซด์ในน้ าละลายตัวเป็ นกรด
4) เพื่อเป็ นการหลีกเลี่ยงฟองลอยตัวไปกับไอน้ า
5) เพื่อลดการสึ กกร่ อนเนื่องจากออกซิ เจนที่ละลายในน้ า
1" 1.5" 2" 1.2 57.43 75.37 93.68 77.67 103.12 128.83 154.72 180.74 203.84 233.02 199.25 219.27 239.3 259.35 279.42
1" 1.5" 2" 1.3 62.22 81.65 101.49 84.14 111.71 139.57 167.61 195.8 224.08 252.43 215.85 237.54 259.24 280.97 302.7
1" 1.5" 2" 1.4 67 87.93 109.29 90.61 120.31 150.3 180.51 210.86 241.31 271.85 232.46 255.81 279.19 302.58 325.99
บทที่ 2 แนวทางการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพการผลิตและใช้ไอน้ า
1" 1.5" 2" 1.5 71.79 94.21 117.1 97.09 128.9 161.04 193.4 225.92 258.55 291.27 249.06 274.08 299.13 324.19 349.27
1" 1.5" 2" 1.6 76.58 100.5 124.91 103.56 137.49 171.78 206.29 240.98 275.79 310.69 265.67 292.36 319.07 345.8 372.56
1" 1.5" 2" 1.7 81.36 106.78 132.71 110.03 146.09 182.51 219.19 256.04 293.03 330.11 282.27 310.63 339.01 367.42 395.84
1" 1.5" 2" 2.1 100.51 131.9 163.94 135.92 180.46 225.46 270.76 316.29 361.97 407.78 348.69 383.72 418.78 453.87 488.98
1" 1.5" 2" 1.00 54.16 71.27 88.78 74.28 98.85 123.71 148.77 173.97 199.29 224.66 192.57 212.00 231.46 250.93 270.42
1" 1.5" 2" 1.10 59.57 78.40 97.66 81.71 108.73 136.08 163.64 191.37 219.20 247.12 211.82 233.20 254.60 276.03 297.46
1" 1.5" 2" 1.20 64.99 85.52 106.54 89.14 118.62 148.45 178.52 208.76 239.13 269.59 231.08 254.40 277.75 301.12 324.51
1" 1.5" 2" 1.30 70.41 92.65 115.42 96.57 128.50 160.82 193.40 226.16 259.06 292.06 250.34 275.60 300.90 326.21 351.55
1" 1.5" 2" 1.40 75.82 99.78 124.30 104.00 138.39 173.19 208.28 243.56 278.98 314.52 269.60 296.80 324.04 351.31 378.59
1" 1.5" 2" 1.50 81.24 106.90 133.17 111.43 148.27 185.56 223.15 260.95 298.91 336.99 288.85 318.00 347.19 376.40 405.63
1" 1.5" 2" 1.60 86.65 114.03 142.05 118.86 158.16 197.93 238.03 278.35 318.84 359.45 308.11 339.20 370.33 401.49 432.67
1" 1.5" 2" 1.70 92.07 121.16 150.93 126.28 168.04 210.30 252.91 295.75 338.77 381.92 327.37 360.40 393.48 426.59 459.72
1" 1.5" 2" 1.80 97.48 128.28 159.81 133.71 177.93 222.68 267.78 313.14 358.69 404.39 346.62 381.60 416.63 451.68 486.76
1" 1.5" 2" 1.90 102.90 135.41 168.69 141.14 187.81 235.05 282.66 330.54 378.62 426.85 365.88 402.80 439.77 476.77 513.80
1" 1.5" 2" 2.00 108.32 142.54 177.56 148.57 197.70 247.42 297.54 347.94 398.55 449.32 385.14 424.01 462.92 501.87 540.84
1" 1.5" 2" 2.10 113.73 149.66 186.44 156.00 207.58 259.79 312.41 365.34 418.48 471.78 404.39 445.21 486.06 526.96 567.89
1" 1.5" 2" 1.00 49.70 65.27 81.18 67.49 89.66 112.07 134.65 157.33 180.11 202.34 173.65 191.12 208.61 226.11 243.62
1" 1.5" 2" 1.10 54.67 71.80 89.30 74.24 98.63 123.28 148.11 173.07 198.12 223.23 191.02 210.23 229.47 248.72 267.38
1" 1.5" 2" 1.20 59.64 78.33 97.42 80.99 107.59 134.49 161.58 188.80 216.13 243.53 208.38 229.35 250.33 271.33 292.34
1" 1.5" 2" 1.30 64.61 84.86 105.54 87.73 116.56 145.69 175.04 204.53 234.14 263.82 225.75 248.46 271.19 293.94 316.70
1" 1.5" 2" 1.40 69.58 91.38 113.66 94.48 125.52 156.90 188.50 225.27 252.15 284.12 243.11 267.57 292.05 316.55 341.07
บทที่ 2 แนวทางการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพการผลิตและใช้ไอน้ า
1" 1.5" 2" 1.50 74.55 97.91 121.78 101.23 134.49 168.11 201.97 236.00 270.16 304.41 260.48 286.68 312.91 339.16 365.43
1" 1.5" 2" 2.10 104.37 137.08 170.49 141.72 188.29 235.35 282.76 330.40 378.22 426.17 364.67 401.35 438.07 474.82 511.60
1" 1.5" 2" 2.20 109.34 143.60 178.61 148.47 197.25 246.56 296.22 346.13 396.23 446.47 382.04 420.47 458.93 497.43 535.96
บทที่ 2 แนวทางการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพการผลิตและใช้ไอน้ า
(2.4)
หน้า 38 จาก 106
บทที่ 2 แนวทางการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพการผลิตและใช้ไอน้ า
4. น าค่ า ความดัน ไอน้ าก่ อ นปรั บ ลด ความดัน ไอน้ าหลัง ปรั บ ลดและ
อุ ณ หภู มิ น้ าป้ อ นหม้อ ไอน้ าไปเปิ ดตารางที่ 2.1-15 จะได้ร้ อ ยละการ 2
ประหยัดพลังงานเมื่อลดความดันการผลิตไอน้ า
1
5. นาค่าร้อยละการประหยัดพลังงานคูณด้วยปริ มาณเชื้อเพลิงที่ใช้ท้ งั ปี จะ
ได้เชื้อเพลิงที่ประหยัดได้
ตารางที่ 2.1-15 ร้อยละการประหยัดพลังงานเมื่อลดความดันการผลิตไอน้ า
ในการหุ ้มฉนวนนั้นควรพิจารณาใช้ความหนาที่เหมาะสมในเชิ ง
เศรษฐศาสตร์ ไม่มีฉนวนใดสามารถป้ องกันการสู ญเสี ยความร้ อนได้โดย
สมบูรณ์ ดังนั้น ความหนาของฉนวนและชนิ ดของฉนวนที่ใช้จะถูกกาหนด
จากต้นทุนการผลิตความร้อน และต้นทุนในการใช้ฉนวนความร้อนในการ
ป้ องกันการสู ญเสี ยความร้อนของฉนวน กล่าวคือ ถ้าใช้ความหนาฉนวนต่า
กว่าค่าๆ หนึ่ง แล้วจะเกิดการสู ญเสี ยความร้อนมาก นัน่ คือหนาไม่พอ แต่ถา้
ใช้ความหนาฉนวนสู งกว่าค่าๆ หนึ่ งแล้วต้นทุนฉนวนที่สูงขึ้นจะไม่คุม้ กับ
พลังงานที่ ป ระหยัดเพิ่ ม ขึ้ น ได้ ดังนั้น จะมี ค วามหนาฉนวนอยู่ค่ าหนึ่ งที่
เหมาะสมในเชิงเศรษฐศาสตร์ ที่ผลรวมของราคาฉนวนกับราคาพลังงานที่
สู ญเสี ยต่าที่สุด
ตารางที่ รายละเอียดของตาราง
ตารางที่ 2.2-4 แสดงการสู ญเสี ยความร้อนของพื้นผิวท่อที่ไม่ได้หุม้ ฉนวน
ตารางที่ 2.2-5 ถึง แสดงการสู ญ เสี ย ความร้ อ นของพื้ น ผิ ว ท่ อ หลัง จากหุ ้ ม
2.2-7 ฉนวนใยแก้ว ฉนวนแคลเซี ยมซิ ลิเกต และฉนวนใยหิ น
ที่ความหนาที่เหมาะสมตามลาดับ
12" 323.85 304.8 0.55 0.55 0.87 1.23 1.64 2.1 2.61 3.18 3.81 4.51 5.27 6.11 7.03 8.04
บทที่ 2 แนวทางการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพการผลิตและใช้ไอน้ า
3" 12.06 15.86 19.74 20.25 26.95 33.76 40.59 47.45 54.34 61.24 58.95 64.89 70.83 76.78 82.73
3 1/2" 13.26 17.45 21.73 22.17 29.52 37.04 44.54 52.08 59.65 67.25 64.43 70.93 77.43 83.93 90.44
4" 14.46 19.04 23.72 24.06 32.05 40.29 48.46 56.68 64.93 73.2 69.86 76.9 83.96 91.02 98.09
5" 16.98 22.38 27.9 24.18 32.09 47.14 48.57 56.71 64.88 73.07 72.2 79.45 86.7 93.96 101.22
6" 19.49 25.7 32.06 27.41 36.39 53.92 55.27 64.55 73.86 83.19 81.84 90.07 98.3 106.54 114.79
8" 24.18 31.91 39.84 33.37 44.35 56.42 59.79 69.76 79.76 89.78 88.87 97.77 106.68 115.59 124.51
10" 29.15 38.49 48.07 39.57 52.63 67.38 71.06 82.94 94.84 106.77 105.2 115.74 126.3 136.86 147.42
3 1/2" 13.76 18.12 22.59 22.96 30.59 38.64 46.49 54.38 62.31 70.26 67.37 74.17 80.98 87.80 94.61
4" 15.00 19.76 24.64 24.91 33.21 42.03 50.58 59.18 67.82 76.48 73.04 80.42 87.81 95.21 102.61
5" 17.61 23.23 28.98 25.08 33.30 49.17 50.73 59.25 67.81 76.38 75.51 83.10 90.70 98.30 105.91
12" 35.01 46.31 57.92 46.92 62.47 81.03 85.27 99.56 113.89 128.26 125.99 138.65 151.32 163.99 176.67
บทที่ 2 แนวทางการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพการผลิตและใช้ไอน้ า
ขั้นตอนการหาอัตราการรั่วไหลของไอนา้
1. ตรวจวัดความดันไอน้ าในท่อ โดยใช้เครื่ องมือวัดความดันในตาแหน่งที่
ไอน้ ารั่วไหล
2. ประเมินหรื อตรวจวัดขนาดของรู รั่ว
3. นาความดันของไอน้ า และขนาดของรู รั่วไปเปิ ดตารางที่ 2.2-8 หรื อ รู ปที่
2.2-1 จะได้อตั รารั่วไหลไอน้ า
2
1
mS = 900 x π x ρ x d2 x V 2.2.3
d = (mS / (900x π x ρ x V))0.5 2.2.4
เมื่อ
mS : อัตราการไหลของไอน้ าในท่อ (kg/h) ρ: ความหนาแน่นของไอน้ า (kg/m3)
d : เส้นผ่านศูนย์กลางภายในท่อ (m) V: ความเร็ วของไอน้ าในท่อ (m/s)
แนวทางในการออกแบบระบบท่ อไอนา้
1. ควรเดินท่อให้ส้ นั ที่สุด หรื อเท่าที่จาเป็ นเท่านั้น
2.ในการต่อท่อควรใช้การเชื่ อม โดยพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ขอ้ ต่อแบบเกลียว เพื่อลด
ปัญหาการรั่วไหลของไอน้ าในอนาคต
3. ควรใช้วาล์วแบบหน้าแปลน และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้วาล์วแบบเกลียว
4. ควรใช้ท่อโค้งที่มีความโค้งกว้างๆ แทนการใช้ขอ้ งอ เพื่อลดการสู ญเสี ยความดันใน
ระบบท่อ
2.3.1 กับดักไอนา้
กับดักไอน้ า (Steam Trap) คือ วาล์วอัตโนมัติที่ทาหน้าที่แยกน้ าที่ 2
เกิดขึ้นในระบบไอน้ าหรื อเกิดจากการควบแน่นของไอน้ าออกไปจากระบบ
1
เพื่ อป้ องกัน การอั้นตัวของน้า (Water Locked) ส่ งผลให้อุป กรณ์ ไม่ ร้อ น
(ร้อนช้า) หรื อทาอุณหภูมิไม่ได้และอาจนาไปสู่ การเกิดแรงกระแทกอย่าง
รุ น แรง หรื อ ปรากฏการณ์ “ค้ อ นน้ า ” (Water Hammer) ซึ่ งมี ผ ลให้ ท่ อ
ข้อต่อ และอุปกรณ์ที่ใช้ไอน้ าต่างๆ ในกระบวนการผลิตเกิดความเสี ยหาย
กับดักไอน้ ายังมีหน้าที่ในการระบายก๊าซและอากาศออกจากระบบโดยไม่
เกิดการสู ญเสี ยไอน้ า ก๊าซและอากาศเหล่านั้นสามารถแทนที่ไอน้ า ซึ่ งทาให้
ความสามารถในการพาความร้อนลดลงและยังกั้นไม่ให้ไอน้ าไปถึงพื้นผิว
ถ่ายเทความร้อนของอุปกรณ์ต่างๆ ในกระบวนการผลิตด้วย และในกรณี ที่
เลวร้ า ยที่ สุ ดก็ คื อ ท่ อ หรื อชิ้ น ส่ วนของอุ ป กรณ์ เกิ ด อากาศอั ด (Air
Locked) ทาให้อากาศเคลื่อนที่ไม่ได้ ซึ่ งแม้แต่ไอน้ าควบแน่นก็ไม่สามารถ
ออกไปได้
2.3.1.1 ประเภทของกับดักไอนา้
2 กับดักไอน้ าสามารถแบ่งตามหลักการทางานหรื อตามโครงสร้าง
ทางกลไกของอุปกรณ์ภายในออกเป็ น 4 กลุ่ม ได้ดงั นี้
กับดักไอน้ าแบบสมดุลความดัน
2
1
กับดักไอน้ าแบบใช้การขยายตัวของเหลว
รู ปที่ 2.3-2 กับดักไอน้ าทางานโดยความร้อน
2) กับดักไอนา้ ทางานโดยกลไก (Mechanical Group)
กับ ดัก ไอน้ ากลุ่ ม นี้ ท างานโดยอาศัย ความแตกต่ า งของความหนาแน่ น
ระหว่ างไอน้าและคอนเดนเสททาให้ลูกลอย (Float) หรื อถ้วย (Bucket) ส่ ง
อาการไปเปิ ด-ปิ ดวาล์ว ซึ่ งกับดักไอน้ าในกลุ่มนี้ แบ่งออกเป็ น
•แบบลูกลอย (Loose Float Type)
•แบบลูกลอยมีกา้ น (Float and Lever Type)
•แบบถ้วยหงาย (Open Top Bucket Type)
•แบบถ้วยควา่ (Inverted Bucket Type)
แบบลูกลอย แบบลูกลอยมีกา้ น
แบบถ้วยหงาย แบบถ้วยควา่
•ประสิทธิภาพการระบายน้ าคอนเดนเสท
ไม่ดี
ลู ลอ ติดคำน •เหมาะสมกับความดันต่าและภาระต่า •ไม่ทนต่อ Water Hammer
•โครงสร้างง่าย •จาเป็ นต้องติดตั้งในแนวระนาบจึงมี
•ปล่อยทิ้งอย่างต่อเนื่องและการทางาน ข้อจากัดด้านสถานที่ติดตั้ง
เงียบ
•เปลี่ยนลูกลอยและบ่าลิน้ ได้ง่าย
ลล •สามารถปรับตั้งและควบคุมอุณหภูมิน้ า •ไม่ทนต่อ Water Hammer
กับดักไอนา้ แบบเทอร์ โมสแตติกส์
ระบายได้ •ไม่เหมาะสมกับความดันสูง
•การระบายอากาศทิ้งดี
การเลือกกับดัก
ไอน้ าในระบบ
ไอดง
(Superheated
Steam)
2.3.1.3 ข้ อแนะนาในการติดตั้งกับดักไอนา้
การเลื อกกับดักไอน้ าในชนิ ดและขนาดที่ เหมาะสมแล้ว แต่การ
ติ ดตั้งไม่ ถูกต้อ งก็จะท าให้เกิ ดปั ญ หาในระบบไอน้ าหรื อเกิ ดการสู ญ เสี ย
พลังงานเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นควรตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้องดังตารางที่
2.3-4
2 กับดักไอน้ าแบบลูกลอยอิสระต้อง
ติดตั้งในแนวนอน
กั บ ดั ก ไ อ น้ า แ บ บ เท อ ร์ โ ม
ไดนามิ ก ส์ ไ ม่ มี ข ้ อ จ ากั ด ในการ
ติดตั้ง
ไม่ควรใช้ท่อเล็กกว่าขนาดของกับ
ดักไอน้ า
45
ท่อประธาน
จ่ายไอน้ า 45 หม้อไอน้ า
บริ เวณทางเข้า บริ เวณทางเข้า
ลิ้นอัตโนมัติ
ของลิ้นลดความ ของข้อต่อยืด
ดันและลิ้น หดตัว
อัตโนมัติ
บริ เวณโค้งงอ บริ เวณต่าสุ ด
ของท่อ ของท่อยืน
บริ เวณทางเข้า
ของอุปกรณ์ใช้
ไอน้ า จ่ายให้อปุ กรณ์
ท่ อทางเข้ า
- ติ ด ตั้ ง บริ เ วณต่ า สุ ดของอุ ป กรณ์ ใ ช้ ไ อน้ าแต่ ต้ อ งไม่ ใ ห้ เกิ ด การสะสมของ
2
คอนเดนเสท
- ต้องพยายามให้ท่อด้านทางเข้าสั้นที่สุดและลาดเอียงลง
- หลีกเลี่ยงการใช้ท่อยืนเป็ นท่อทางเข้า ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ใช้ Lift fitting
ท่ อทางออก
- ต้องให้เกิดความดันย้อนกลับน้อยที่สุดโดยให้มีขนาดใหญ่ สั้น โค้งงอน้อย และ
เอียงขึ้นเล็กน้อย
- กรณี ที่เป็ นท่อเงยขึ้นให้แก้ไขโดยการติ ดตั้งวาล์วกันกลับที่ ด้านหลังของกับดัก
ไอน้ า
- ไม่ ค วรต่ อ ท่ อ ทางออกเข้ากับ บริ เวณที่ ต่ ากว่าระดับ น้ าในถัง และจุ่ ม ลงในท่ อ
ระบายน้ าที่ไม่สะอาด เพราะเมื่อกับดักไอน้ าหยุดทางานจะเกิ ดสู ญญากาศทาให้
เกิดการดูดน้ าเข้าในระบบ
ท่ อบา พา
- ต้องต่อท่อบายพาส เพื่อระบายน้ าและอากาศขณะเริ่ มส่ งไอน้ า และสะดวกต่อการ
บารุ งรักษาหรื อเปลี่ยนกับดักไอน้ า
2.3.1.6 การตรวจสอบกับดักไอนา้
เราควรดาเนิ นการตรวจสอบกับดักไอน้ าเป็ นประจาและอย่างเป็ น
ระบบ วิ ธี ก ารตรวจสอบกั บ ดั ก ไอน้ ามี อ ยู่ ด้ ว ยกั น หลายวิ ธี เช่ น การ
ตรวจสอบอุ ณ หภู มิ สู งที่ ท่ อ ทางเข้ า การติ ด ตั้ ง กระจกมองเห็ น ที่ ท่ อ
ทางออก หรื อการใช้ เครื่ องมื อ ตรวจสอบอุ ล ตร้ า โซนิ ค (Ultrasonic
Detector) ปั จจุบนั กับดักไอน้ าสามารถใช้ร่วมกับเครื่ องมือตรวจสอบทาให้
สามารถท าการตรวจสอบได้ง่าย ตามคู่มือที่ แนบมาหรื อระบบการตรวจ
ติดตามโดยฐานข้อมูลจากคอมพิวเตอร์
การตรวจสอบกับดักไอนา้
1) รายการตรวจสอบกับดักไอนา้
2
1. มีช่วงที่กบั ดักไอน้ าเย็นตัวหรื อไม่
2. กับดักไอน้ าพ่นไอน้ าทิ้งอยูต่ ลอดเวลาหรื อไม่ 1
3. กับดักไอน้ าอุดตันหรื อไม่
4. วาล์ว by-pass ของกับดักไอน้ าเปิ ดทิ้งอยูห่ รื อไม่
5. การติดตั้งกับดักไอน้ าถูกต้องหรื อไม่ (ตาแหน่ง ทิศทาง มุม)
6. เลือกใช้ชนิดของกับดักไอน้ าเหมาะสมกับอุปกรณ์หรื อไม่
7. อุปกรณ์ให้ความร้อนด้วยไอน้ ามีปัญหาอุณหภูมิผดิ ปกติหรื ออุณหภูมิไม่สม่าเสมอ
หรื อไม่
8. กับดักไอน้ ามีน้ าท่วมอยูห่ รื อไม่
9. กับดักไอน้ าที่ติดตั้งอยูเ่ หมาะสมกับความดันหรื อไม่
10. ติด Sight Glasses Check เพื่อดูวา่ มีการรั่วหรื อไม่
11. ใช้ Ultrasonic ต้องอาศัยความชานาญและประสบการณ์สูง
กับดักไอน้ ามี รูเล็กๆและมี ส่วนเคลื่ อ นไหวหลายชิ้ น ถ้าไม่ มีการดู แลบ ารุ งรักษาเป็ น
ประจาจะเกิ ดการอุดตันบางส่ วนหรื ออุดตันทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ วด้วยตะกรัน สนิ ม
และอื่ น ๆ เป็ นผลให้การปล่อ ยคอนเดนเสทออกได้ช้า ออกน้อยหรื อไม่ ออกเลย เกิ ด
อาการที่เรี ยกว่า “น้ าขัง” ในเครื่ องอุปกรณ์การผลิตทาให้ผลิตช้าลง ผลผลิตไม่ได้คุณภาพ
ตามต้องการ แต่ถา้ ตะกรันสนิมไปขัดส่ วนเคลื่อนไหวทาให้เปิ ดค้างตลอดเวลา จะเกิดไอ
น้ ารั่ว สิ้ นเปลืองไอน้ ามาก กระบวนการผลิตไม่เป็ นไปตามที่ตอ้ งการ ดังนั้น กับดักไอน้ า
ทุกตัวในโรงงานจึ งควรได้รับการตรวจสอบและบารุ งรักษาแก้ไขให้ทางานเป็ นปกติ
อย่างน้อย 3 เดือนครั้ง
การตรวจสอบกับดักไอนา้ (ต่ อ)
2) สาเหตุทที่ าให้ อุปกรณ์ ทใี่ ช้ ไอนา้ ทางานไม่ ดี
2
1. คุณภาพไอน้ าไม่ดี (ไอเปี ยก, ความดันไอน้ าต่ากว่าพิกดั , ใช้สารเคมีปรุ งแต่งน้ าเลี้ยง
เข้าหม้อไอน้ าไม่ถูกต้อง)
2. ระบบไอน้ าทางานไม่ดี (น้ าขังในเครื่ องอุปกรณ์ที่ใช้ไอน้ า, มีการกัดกร่ อน, รั่ว,
สัน่ สะเทือน)
3. ใช้กบั ดักไอน้ าไม่ถูกต้องกับงาน
4. ติดตั้งกับดักไอน้ าไม่ถูกต้อง (คอนเดนเสทไม่สามารถหาทางไหลออกไปยังกับดัก
ไอน้ าได้, ไม่อยูท่ ี่จุดต่าสุ ดในระบบ, มีขนาดไม่ถูกต้องกับอัตราการไหลของไอน้ า/คอน
เดนเสท)
ก) ขนาดเล็กไป (Under Size) ปล่อยคอนเดนเสทได้นอ้ ยกว่าคอนเดนเสทที่
เกิดขึ้น เกิดอาการ “น้ าขัง”
ข) ขนาดใหญ่ไป (Oversize) ปล่อยคอนเดนเสทได้มากกว่าที่เกิดทาให้มีการเปิ ด-
ปิ ดถี่มาก วาล์วและบ่าวาล์วสึ กหรอเร็ว และเกิดการรั่วของไอน้ าขึ้นได้
5. สิ่ งสกปรก และหรื อค้อนน้ า จะทาให้กบั ดักไอน้ าไม่ทางาน/ชารุ ด
6. มีอากาศในไอน้ า
ช่องระบายอากาศ
คอนเดนเสท
2 นา้ เติม
ถังนา้ ป้อน
หม้อไอนา้
ปั ๊มนา้ ป้อนหม้อไอนา้
o ,t
m CD 1
คอนเดนเสท 2
1
o
m , t2 o ,t
m
W F 3
2
1
2
1
บทที่ 3
การตรวจวินิจฉัยและ การบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์ พลังงาน
หน้า 1 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 2 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 3 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 4 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 5 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 6 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 7 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 8 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 9 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 10 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 11 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 12 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
แผนบารุ งรักษา
การดาเนินการ ระยะเวลาทีเ่ หมาะสม
ในปัจจุบนั
9. ทาความสะอาดปล่องไอเสี ย ทุก 3 ปี
10. ทาความสะอาดถังเก็บน้ าป้อน ถังสารเคมี ทุกปี 3
และถังเก็บน้ ามัน
11. ตรวจสภาพฉนวนของระบบส่ งจ่ายไอน้ า ทุกเดือน
และฉนวนของ อุปกรณ์ใช้ไอน้ า
12. ตรวจสอบและซ่อมแซมรู รั่วของไอน้ า ทุกวัน
(ถ้ามี)
13. ตรวจสอบการทา งานของอุปกรณ์ต่อไปนี้
- เครื่ องมือวัดต่างๆ เช่น เครื่ องวัดอัตรา
การไหลเกจวัด ความดันอุปกรณ์วดั ทุก 3 เดือน
อุณหภูมิ เครื่ องวัดและวิเคราะห์ไอเสี ย
- เครื่ องสู บน้ า และปั๊มเชื้อเพลิง
- วาล์วและวาล์วอัตโนมัติต่างๆ ทุกปี
- มอเตอร์พดั ลม ทุกปี
- ชุดหัวเผาและชุดอุ่นน้ ามันเชื้อเพลิง ทุกปี
ทุกเดือน
(เชื้อเพลิงเหลว)
ทุก 6 เดือน
- กับดักไอน้ า (เชื้อเพลิงก๊าซ)
ทุกสัปดาห์
หน้า 13 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
แผนบารุ งรักษา
การดาเนินการ ระยะเวลาทีเ่ หมาะสม
ในปัจจุบนั
14. ตรวจวัดและบันทึกค่าต่างๆ ต่อไปนี้
3 - อัตราการใช้น้ า และเชื้อเพลิง ทุกวัน
- ความดันและอุณหภูมิของน้ ามัน ทุกวัน
เชื้อเพลิงก่อนเข้าหัวเผา
- ความดัน และ/หรื อ อุณหภูมิไอน้ า ทุกวัน
- คุณภาพน้ าป้อนและน้ าในหม้อไอน้ า ทุกครั้งที่มีการ
ตรวจสอบ
คุณภาพน้ า
- ปริ มาณก๊าซออกซิ เจนหรื อ ทุกครั้งที่มีการ
คาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสี ย ปรับแต่ง
หน้า 14 จาก 15
บทที่ 3 การตรวจวินิจฉัยและการบารุ งรักษาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
แผนบารุ งรักษา
การดาเนินการ ระยะเวลาทีเ่ หมาะสม
ในปัจจุบนั
14. ตรวจวัดและบันทึกค่าต่างๆ ต่อไปนี้
- อัตราการใช้น้ า และเชื้อเพลิง ทุกวัน 3
- ความดันและอุณหภูมิของน้ ามัน ทุกวัน
เชื้อเพลิงก่อนเข้าหัวเผา
- ความดัน และ/หรื อ อุณหภูมิไอน้ า ทุกวัน
- คุณภาพน้ าป้อนและน้ าในหม้อไอน้ า ทุกครั้งที่มีการ
ตรวจสอบ
คุณภาพน้ า
- ปริ มาณก๊าซออกซิเจนหรื อ ทุกครั้งที่มีการ
คาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสี ย ปรับแต่ง
- อุณภูมิไอเสี ยหลังออกจากห้องเผา ทุกวัน
ไหม้
- ลักษณะและสี ของไอน้ า ทุกวัน
- อุณหภูมิผวิ หม้อไอน้ า อุณหภูมิผวิ ทุกเดือน
ฉนวนของระบบส่ งจ่ายไอน้ า และ
อุณหภูมิผวิ อุปกรณ์ใช้ไอน้ า
หน้า 15 จาก 15
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
บทที่ 4
แนวทางการอนุรักษ์ พลังงาน
และการตรวจวิเคราะห์ มาตรการอนุรักษ์ พลังงาน
หน้า 1 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
ผลการตรวจสอบศักยภาพ
รายการศักยภาพการอนุรักษ์ พลังงาน ดาเนิน พร้ อม ไม่ พร้ อม
การแล้ ว ดาเนินการ ดาเนินการ
5. การอุ่นอากาศก่อนเข้าเผาไหม้ เพราะ…
4
6. การอุ่นเชื้อเพลิงก่อนเข้าเผาไหม้ เพราะ…
7. การอุ่นน้ าก่อนเข้าหม้อไอน้ า เพราะ…
8. การปรับปรุ งฉนวนหุม้ หม้อไอน้ า เพราะ…
9. การลดความชื้นของเชื้อเพลิงแข็ง เพราะ…
10. การเปลี่ยนหม้อไอน้ าใหม่ เพราะ…
11.การใช้หม้อไอน้ าที่ภาระใกล้เคียงพิกดั เพราะ…
12. การจัดโหลดการใช้งานเพื่อลดการเดิน เพราะ…
หม้อไอน้ า
13. การเลือกเดินหม้อไอน้ าชุดที่มี เพราะ…
ประสิ ทธิภาพสู งเป็ นหลัก
14. การลดความถี่ในการดับเตาที่บ่อยเกินไป เพราะ…
15. การติดตั้งถังเก็บไอในจุดที่ใช้ไอน้ าบาง เพราะ…
ช่วงเวลามาก
16. การนา Flash Steam กลับมาใช้ เพราะ…
17. การนาคอนเดนเสทกลับมาใช้ เพราะ…
18. การนาความร้อนจากน้ าโบลว์ดาวน์ เพราะ…
กลับมาใช้
20. การเลือกซื้อเชื้อเพลิงจากผูผ้ ลิตหลายราย เพราะ…
21. การหุม้ ฉนวนท่อ วาล์วและอุปกรณ์ใช้ เพราะ…
ไอน้ า
หน้า 2 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
ผลการตรวจสอบศักยภาพ
รายการศักยภาพการอนุรักษ์ พลังงาน ดาเนิน พร้ อม ไม่ พร้ อม
การแล้ ว ดาเนินการ ดาเนินการ
22. การเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิง เพราะ…
23. การใช้ไอน้ าอุ่นน้ ามันร่ วมกับการใช้ไฟฟ้า เพราะ…
4
24. การลดความดันใช้งานของอุปกรณ์ใช้ เพราะ…
ไอน้ าให้เหมาะสม
25. การตรวจซ่อมหรื อเปลี่ยนกับดักไอน้ า เพราะ…
26. การลดความดันตกในระบบท่อ เพราะ…
27. การแยกระบบการใช้ไอน้ าเป็ นหลายระดับ เพราะ…
ความดัน
28. การลดไอน้ าแฟรชจากอุปกรณ์ใช้ไอน้ า เพราะ…
29. การติดตั้งอุปกรณ์ไล่อากาศที่อุปกรณ์ใช้ เพราะ…
ไอน้ า
30. การเปลี่ยนการใช้ไอน้ าจากผสมโดยตรง เพราะ…
(Direct) เป็ นแบบการแลกเปลี่ยนความร้อน
(Indirect)
31. การปรับปรุ งคุณภาพไอน้ าก่อนเข้า เพราะ…
อุปกรณ์ใช้ไอน้ า
32. การเลือกชนิดและขนาดของกับดักไอน้ า เพราะ…
ให้เหมาะสม
33. การใช้ระบบควบคุมการเผาไหม้อตั โนมัติ เพราะ…
34. การผลิตน้ าร้อนด้วย Heat Pump แทนการ เพราะ…
ใช้ไอน้ า
35. อุ่นน้ าป้อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพราะ…
หน้า 3 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 4 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
- เชื้อเพลิงก๊าซ
QEG = อัตราการใช้เชื้อเพลิงก๊าซเฉลี่ย (m3/h) x ปริ มาณก๊าซไอเสี ยจริ ง (Nm3/m3)
x ค่าความจุความร้อนของก๊าซไอเสี ย (kcal/Nm3 OC) x (อุณหภูมิไอเสี ยออกจากห้องเผา
ไหม้ (OC) - อุณหภูมิอากาศเข้าห้องเผาไหม้ (OC)) x ชัว่ โมงการใช้งานตลอดทั้งปี (h/y) x
ตัวประกอบการใช้งาน x ประสิ ทธิภาพหม้อไอน้ า 4
1.1.2 ปริมาณความร้ อนสู ญเสี ยลดลง (kcal/y)
QS = พลังงานความร้ อ นที่ สู ญ เสี ย ก่ อ นปรั บ (kcal/y) - พลังงานความร้ อ นที่
สู ญเสี ยหลังปรับ (kcal/y)
1.1.3 ปริมาณเชื้อเพลิงทีป่ ระหยัดได้
- เชื้อเพลิงแข็ง (kg/y)
FSS = ปริ ม าณความร้ อ นสู ญ เสี ย ลดลง (kcal/y) / (ค่ า ความร้ อ นทางต่ า ของ
เชื้อเพลิงแข็ง (kcal/kg) x ประสิ ทธิภาพหม้อไอน้ า (%) / 100)
- เชื้อเพลิงเหลว (L/y)
FLS = ปริ ม าณความร้ อ นสู ญ เสี ย ลดลง (kcal/y) / (ค่ า ความร้ อ นทางต่ า ของ
เชื้อเพลิงเหลว (kcal/L) x ประสิ ทธิภาพหม้อไอน้ า (%) / 100)
- เชื้อเพลิงก๊าซ (m3/y)
FGS = ปริ ม าณความร้ อ นสู ญ เสี ย ลดลง (kcal/y) / (ค่ า ความร้ อ นทางต่ า ของ
เชื้อเพลิงก๊าซ (kcal/m3) x ประสิ ทธิภาพหม้อไอน้ า (%) / 100)
1.1.4 ค่ าเชื้อเพลิงลดลง
CS = ปริ มาณเชื้อเพลิงที่ประหยัดได้ x ราคาเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อหน่วย
1.2 สมการทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การลงทุน
1.2.1 ระยะเวลาคืนทุน (y)
PB = เงินลงทุน (บาท) / ค่าเชื้อเพลิงลดลง (บาท)
หน้า 5 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
2. การวิเคราะห์ ข้อมูล
ใช้โปรแกรม excel ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล โดยป้อนข้อมูลเบื้องต้นและข้อมูลตรวจวัดใส่
ในช่องสี ฟ้า
หน้า 6 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 7 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
= ……… barg
ความดันหลัง = ……… barg
TDS นาใน
้ = ……… PPM
TDS = ……… PPM
หน้า 8 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 9 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 10 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 11 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 12 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 13 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
มาตรการที่ 5 การเปลีย่ นหม้ อไอนา้ ใหม่ ทมี่ ปี ระสิ ทธิภาพสู งกว่ าเดิม
1. สมการทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์
1.1 สมการทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ ทางเทคนิค
1.1.1 ร้ อยละอัตราส่ วนการผลิตไอนา้ ต่ อเชื้อเพลิงทีเ่ พิม่ ขึน้
4 %R = [(อั ต ราส่ วนการผลิ ต ไอน้ าต่ อ เชื้ อเพลิ ง ของหม้ อ ไอน้ าชุ ด ใหม่ -
อัตราส่ วนการผลิตไอน้ าต่อเชื้ อเพลิงของหม้อไอน้ าชุ ดเดิ ม) / อัตราส่ วนการผลิตไอน้ า
ต่อเชื้อเพลิงของหม้อไอน้ าชุดเดิม] x 100
1.1.2 ปริ มาณการใช้เชื้อเพลิงลดลง
Fs = ปริ มาณการใช้เชื้ อเพลิงเดิ มตลอดทั้งปี x (อัตราส่ วนการผลิตไอน้ าต่ อ
เชื้อเพลิงของหม้อไอน้ าชุดเดิม / อัตราส่ วนการผลิตไอน้ าต่อเชื้อเพลิงของหม้อไอน้ าชุด
ใหม่ )
1.2 สมการทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การลงทุน
1.2.1 ระยะเวลาคืนทุน (y)
PB = เงินลงทุนในการเปลี่ยนหม้อไอน้ า (฿) / ค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงที่ลดลง (฿/y)
2. การวิเคราะห์ ข้อมูล
ใช้โปรแกรม excel ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล โดยป้อนข้อมูลเบื้องต้นและข้อมูลตรวจวัดใส่
ในช่องสี ฟ้า
หน้า 14 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
แหล่ งทีม่ า
รายการ สั ญลั กษณ์ หน่ วย ข้ อมูล
ของข้ อมูล
1. ข้ อมูล เบือ้ งต้ น
1.1 ขนาดพิกดั หม้อไอน้ าเดิม TONQ T/h 5
1.2 ขนาดพิกดั หม้อไอน้ าใหม่ TONN T/h 5 4
1.3 ปริ มาณการใช้เชื้ อเพลิงตลอดปี
- เชื้ อเพลิงแข็ง mFS kg/y 0
- เชื้ อเพลิงเหลว mFL L/y 500,000.00 น้ ามันเตา C
3
- เชื้ อเพลิงก๊าซ mFG m /y 0
1.4 อัตราส่วนการผลิตไอน้ าต่อเชื้ อเพลิงของ
หม้อไอน้ าชุ ดใหม่
- เชื้ อเพลิงแข็ง RNS kg / kg fuel 0
- เชื้ อเพลิงเหลว RNL kg / L fuel 15.00 น้ ามันเตา C
3
- เชื้ อเพลิงก๊าซ RNG kg / Nm fuel 0
1.5 ราคาเชื้ อเพลิงเฉลี่ย
เชื้ อเพลิงแข็ง CS ฿ / kg 0
เชื้ อเพลิงเหลว CL ฿/L 14.00 น้ ามันเตา C
3
เชื้ อเพลิงก๊าซ CG ฿/m 0
1.6 ค่าใช้จา่ ยทั้งหมดในการเปลี่ยนหม้อไอน้ า CC ฿ 6,000,000
2. ข้ อมูล ตรวจวัด
2.1 อัตราส่วนการผลิตไอน้ าต่อเชื้ อเพลิงของ
หม้อไอน้ าชุ ดเดิม
- เชื้ อเพลิงแข็ง ROS kg/kg fuel 0
- เชื้ อเพลิงเหลว ROL kg/L fuel 10.00 น้ ามันเตา C
3
- เชื้ อเพลิงก๊าซ ROG kg/Nm fuel 0
หน้า 15 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 16 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 17 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
2. การวิเคราะห์ ข้อมูล
ใช้โปรแกรม excel ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล โดยป้อนข้อมูลเบื้องต้นและข้อมูลตรวจวัดใส่
ในช่องสี ฟ้า
พื้นที่ผนังแนวนอนด้านบน =……..m2
4 อุณหภูมิพื้นผิว =………..oC
อุณหภูมิอากาศแวดล้อม =…….oC
หน้า 18 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 19 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
เส้นผ่านศูนย์กลางวาล์ว =………m
ความดันทางออกของน้ า =………barg
หน้า 20 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 21 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 22 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 23 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้าแปลนขนาด…….mm จานวน………ชุด
อุณหภูมิผวิ ท่อ
4
L L
ท่อตรงขนาด………mm ความยาวท่อ วาล์วขนาด………..mm จานวน……..
=………..m
รายการ สั ญลั กษณ์ หน่ วย ข้ อมูล แหล่ งทีม่ า
ของข้ อมูล
1. ข้ อมูล เบือ้ งต้ น
1.1 เวลาใช้งานระบบไอน้ าตลอดทั้งปี wh h/y
1.2 ราคาเชื้ อเพลิงเฉลี่ยต่อหน่ วย
- เชื้ อเพลิงแข็ง CS ฿/kg
- เชื้ อเพลิงเหลว CL ฿/L
- เชื้ อเพลิงก๊าซ CG ฿/m3
1.3 เลือกใช้ความหนาฉนวน t_insl mm
1.4 ค่าการนาความร้อนของฉนวน ki W/m K
1.5 ค่าการแผ่รังสีของผิวท่อไม่ได้หุ้มฉนวน eS
1.6 ค่าการแผ่รังสีของผิวฉนวน ei
1.7 ประสิทธิภาพหม้อไอน้ า hB %
1.8 ค่าความร้อนของเชื้ อเพลิง
- เชื้ อเพลิงแข็ง LHVS kJ/kg
- เชื้ อเพลิงเหลว LHVL kJ/L
- เชื้ อเพลิงก๊าซ LHVG kJ/m3
1.9 เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกท่อ d mm
1.10 เส้นผ่านศูนย์กลางภายในท่อ di mm
1.13 ค่าใช้จา่ ยวัสดุและค่าแรง CI ฿
หน้า 24 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
2. ข้ อมูล ตรวจวัด
2.1 ขนาดท่อ nominal diameter dn mm
- ความยาวท่อตรง L m
2.2 จานวนหน้าแปลนชนิ ด n G10
- Flank 10 kg/cm2 ความยาวเทียบเท่า = 1.2 × n le1 m 0.00 4
2.3 จานวนวาล์ว ชนิ ด n G10
- Globe Valve 10 kg/cm2 ความยาวเทียบเท่า = 1.2 × n le2 m 0.00
2.4 จานวนวาล์ว ชนิ ด n G10
- Gate Valve 10 kg/cm2 ความยาวเทียบเท่า = 1.2 × n le3 m 0.00
2.5 จานวนวาล์ว ชนิ ด n C10
- Control Valve 10 kg/cm2 ความยาวเทียบเท่า = 1.2 × n le4 m 0.00
2.6 ความยาวท่อเทียบเท่าทั้งหมด m Le 0.00
Le = L + le1 + le2 + le3 + le4
2.7 ความดันไอน้ าทีท่ อ่ หรื อวาล์ว PU kg/cm2
O
2.8 อุณหภูมไิ อน้ าในท่อ tb C
O
2.9 อุณหภูมผิ วิ ท่อ Ts C
2.10 ความดันไอน้ าทีห่ ม้อน้ า Pg kg/cm2
O
2.11 อุณหภูมอิ ากาศแวดล้อม Ta C
O
2.12 อุณหภูมภิ ายนอกฉนวน (สมมุตคิ า่ ) T2 C
หน้า 25 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 26 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 27 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 28 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 29 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
-เชื้อเพลิงเหลว (L/y)
FLS = ปริ มาณความร้อนสู ญเสี ยลดลง (kcal/y) / (ค่าความร้อนทางต่าของเชื้อเพลิง
เหลว (kcal/kg) x ความหนาแน่นของเชื้อเพลิงเหลว (kg/L) x ประสิ ทธิภาพหม้อไอน้ า (%) /
100)
4 - เชื้อเพลิงก๊ าซ (m3/y)
FGS = ปริ มาณความร้อนสู ญเสี ยลดลง (kcal/y) / (ค่าความร้อนทางต่าของเชื้อเพลิง
ก๊าซ (kcal/kg) x ความหนาแน่ นของเชื้ อ เพลิ ง (kg/m3) x ประสิ ท ธิ ภาพหม้อไอน้ า (%) /
100)
1.1.4 ค่ าเชื้อเพลิงลดลง
CS = ปริ มาณเชื้อเพลิงที่ประหยัดได้ x ราคาเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อหน่วย
1.2 สมการทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การลงทุน
PB = เงินลงทุน (บาท) / ค่าเชื้อเพลิงลดลง (บาท/ปี )
2. การวิเคราะห์ ข้อมูล
ใช้โปรแกรม excel ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล โดยป้ อนข้อมูลเบื้องต้นและข้อมูลตรวจวัดใส่ ใน
ช่องสี ฟ้า
หน้า 30 จาก 31
บทที่ 4 แนวทางการอนุรักษ์พลังงานและการตรวจวิเคราะห์มาตรการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 31 จาก 31
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
บทที่ 5
กรณีศึกษาทีป่ ระสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์ พลังงาน
5.1 กรณีศึกษาที่ประสบผลสาเร็จ
การด าเนิ น มาตรการอนุ รัก ษ์พ ลังงานที่ ป ระสบผลส าเร็ จได้อ ย่างมี
ประสิ ทธิ ภาพควรดาเนิ นมาตรการตามที่ มี ผูด้ าเนิ น การประสบผลสาเร็ จ 5
มาแล้ว จะส่ งผลให้ง่ายต่อการตัดสิ นใจของผูบ้ ริ หารที่ จะให้ผูป้ ฏิ บัติงาน
ดาเนินการหรื อให้ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุ งหรื อเปลี่ยนระบบ/อุปกรณ์
หน้า 1 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 2 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 3 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 4 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 5 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 6 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 7 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 8 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 9 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
5.2.1 การใช้ ปั๊มความร้ อนสาหรับการทาความร้ อน (Heat Pump for Process Heating) ต่อ
หน้า 10 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 11 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 12 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 13 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 14 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 15 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 16 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 17 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
5.2.3 ระบบควบคุมแรงดันไอนา้
1. หลักการทางานของเทคโนโลยี
สาหรับหม้อน้ าที่มีขนาดเล็กระหว่าง 100-300 แรงม้านั้น ปริ มาณการผลิตไอน้ าจะมีผล
ต่อการทางานของหม้อน้ าเป็ นอย่างมาก ซึ่ งในช่วงที่มีความต้องการใช้ไอน้ ามาก แรงดัน
ไอน้ าจะลดต่าลง และเมื่อหยุดการใช้งานไอน้ า แรงดันไอน้ าจะเพิ่มขึ้นได้ในเวลาอันสั้น
ซึ่งเมื่อไม่มีการควบคุมการผลิตไอน้ าที่เหมาะสม ไอน้ าส่ วนเกินจะต้องถูกถ่ายทิ้งไปทาง
5 วาล์วระบาย จึงเกิดการสู ญเสี ยโดยไม่จาเป็ น จะเห็นได้วา่ โดยปกติแล้ว ความต้องการไอ
น้ าสาหรับการใช้ในการผลิตที่เกิดอย่างไม่ต่อเนื่ องจะทาให้แรงดันไอน้ าเปลี่ยนแปลงได้
เร็ วมาก การใช้วาล์วระบายเป็ นตัวควบคุมไม่ให้แรงดันเกิ นเพียงอย่างเดี ยวจึงส่ งผลให้
บางจังหวะเกิดการผลิตไอน้ าเกิ นความจาเป็ น ดังนั้น หากสามารถลดไอน้ าที่เกิ นความ
จาเป็ นและปรับปริ มาณการผลิตให้เหมาะสมได้ ไอน้ าที่สูญเสี ยไปเนื่องจากวาล์วระบาย
นั้นก็ยอ่ มลดลงและช่วยประหยัดพลังงานได้ในทางอ้อมเช่นกัน
หน้า 18 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 19 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 20 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 21 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 22 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 23 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 24 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 25 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 26 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 27 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 28 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 29 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 30 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 31 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 32 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 33 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 34 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
รู ป 5.2-12 การแตกตัวและลดการรวมกลุ่มของโมเลกุล
2. การใช้ ทดแทนเทคโนโลยีเดิม
เทคโนโลยีน้ ี ไม่ตอ้ งทาการปรับปรุ งอุปกรณ์ ใดเพิ่มเติ ม สามารถที่ จะดาเนิ นการได้โดยเติ ม
สารเคมีลงในเชื้อเพลิง
3. ศักยภาพการประหยัดพลังงาน
ประโยชน์และข้อดี
- เพิม่ ประสิ ทธิภาพการเผาไหม้ ช่วยให้เกิดการสันดาปที่สมบูรณ์
- ลดมลพิษและลดค่าใช้จ่ายทางด้านการกาจัดมลภาวะ
- ลดค่าใช้จ่ายต้นทุนน้ ามันได้ประมาณ 10-30%
หน้า 35 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
5.2.11 หัวเผาเม็ดพลาสติก
1. หลักการทางานของเทคโนโลยี
หัวเผาชนิดเชื้อเพลิงพลาสติก คือ หัวเผาที่ออกแบบมาให้สามารถใช้เชื้อเพลิงของแข็งประเภท
เม็ดพลาสติกได้ ซึ่ งเม็ดพลาสติ กเป็ นแหล่งเชื้ อเพลิ งพลังงานทดแทนที่ ได้จากขยะพลาสติ ก
เป็ นทางเลือกที่น่าสนใจในสภาวะที่น้ ามันและก๊าซเชื้ อเพลิงมีราคาสู งขึ้นอย่างมาก อีกทั้งยัง
ช่วยลดปริ มาณขยะพลาสติกที่มากขึ้นทุกวัน
5 หัวเผาทางานโดยใช้น้ ามันเชื้ อเพลิงก่อนประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงป้ อนเม็ดพลาสติกเข้าสู่
ห้องเผาไหม้ซ่ ึ งใช้ความร้อนเปลี่ยนเม็ดพลาสติกให้เป็ นก๊าซเชื้อเพลิง (Gasification) เมื่อผสม
กับอากาศที่ป้อนเข้ามาจึงเกิดการเผาไหม้ข้ ึน เม็ดพลาสติกโดยทัว่ ไปมีค่าความร้อนใกล้เคียง
กับก๊าซหุ งต้ม (LPG) แต่ราคาเม็ดพลาสติ กที่ปริ มาณเท่ากันจะมี ราคาถูกกว่าครึ่ งหนึ่ ง ทาให้
ประหยัดค่าเชื้อเพลิงลงได้อย่างชัดเจน
ส่ วนผลกระทบจากการเผาไหม้เม็ดพลาสติก พบว่า ประสิ ทธิ ภาพของการเผาไหม้โดยใช้หัว
เผาชนิ ด นี้ สู ง ถึ ง 90% เพราะองค์ ป ระกอบของพลาสติ ก เป็ นไฮโดรคาร์ บ อนเกื อ บร้ อ ย
เปอร์เซ็นต์ ก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้มีปริ มาณของมลพิษเป็ นไปตามเกณฑ์ของกฎหมาย ใน
การเผาไหม้จะมีปริ มาณเถ้าประมาณ 100 กรัมต่อเม็ดพลาสติก 40 กิโลกรัม
หน้า 36 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 37 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 38 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 39 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 40 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 41 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 42 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 43 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 44 จาก 45
บทที่ 5 กรณี ศึกษาที่ประสบผลสาเร็จและเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน
หน้า 45 จาก 45
ภาคผนวก
ภาคผนวก
ก–จ
หน้า 1 จาก 16
ภาคผนวก-ก
ตารางแปลงหน่ วย
ภาคผนวก
หน้า 2 จาก 16
ภาคผนวก
หน้า 3 จาก 16
ภาคผนวก
หน้า 4 จาก 16
ภาคผนวก-ข
ตารางสมการวิเคราะห์ พลังงานและประสิ ทธิภาพ
1. ประสิ ทธิภาพ ,
ประสิ ทธิภาพ (%) = (พลังงานที่ได้ออกมา / พลังงานที่ป้อนเข้าไป) x 100
= (กําลังที่ได้ออกมา / กําลังที่ป้อนเข้าไป) x 100
ประสิ ทธิภาพหม้อไอนํ้า (%) = มวลของไอนํ้า x (เอนธาลปี ของไอนํ้า-เอนธาลปี ของ
นํ้าป้อน)/(ค่าความร้อนทางตํ่าของเชื้อเพลิง) x 100
ภาคผนวก
2. กําลังทางกล , PM
PW : วัตต์ (W) = T = 2TN/60
เมื่อ T = แรงบิด, นิวตัน (N)
= ความเร็ วเชิงมุม, เรเดียน/วินาที (rad/s)
N = ความเร็ วรอบ, รอบ/นาที (rpm)
3. กําลังของไหล , P F
PF : วัตต์ (W) = P.m/
เมื่อ P = ความดัน, ปาสคาล (Pa)
.m = อัตราการไหลเชิงมวล, กิโลกรัม/วินาที(kg/s)
= ความหนาแน่น, กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(kg/m3)
4. กําลังไฟฟ้า , P E
PE : วัตต์ = VI cos สําหรับระบบไฟฟ้า 1 เฟส
(W) = √3 VI cos สําหรับระบบไฟฟ้า 3 เฟส
เมื่อ V = แรงดันไฟฟ้า, โวลท์ (V)
I = กระแสไฟฟ้า, แอมแปร์ (A)
cos = ค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์
หน้า 5 จาก 16
5.ความร้ อนสั มผัส , Q s
QS : วัตต์ (W) = m CP (T2-T1)
เมื่อ m = อัตราการไหลเชิงมวล, กิโลกรัม/วินาที(kg/s)
CP = ความร้อนจําเพาะของสาร,
จูล/กิโลกรัม-องศาเซลเซี ยส(J/kgC)
T2-T1 = ผลต่างของอุณหภูมิ, องศาเซลเซียส(C)
6.ความร้ อนแฝง , Q l
QL: วัตต์ (W) = m.hfg
ภาคผนวก
หน้า 6 จาก 16
9.พลังงานไฟฟ้าทีใ่ ช้ , E
E: = P x UF x OF x h
kWh/ปี เมื่อ P = กําลังไฟฟ้าที่ใช้ (kW)
UF = ตัวประกอบการใช้งาน (Used Factor)
OF = ตัวประกอบการทํางาน (Operating Factor)
h = ชัว่ โมงการใช้งานต่อปี (h/y)
10.ความสามารถในการผลิตไอนํา้ สมมูลจริง , Ton/hr
SER : = ( ms(hgr-hfr)/ ms (hg-hf))*1,000
ภาคผนวก
Ton/hr เมื่อ ms = มวลของไอนํ้าจริ ง ( kg/hr)
hgr = เอนธาลปี ของไอนํ้าอิ่มตัวที่ความดันใช้งาน
hfr = เอนธาลปี ของนํ้าอิ่มตัวที่อุณหภูมิ นํ้าป้อน
hg = เอนธาลปี ของไอนํ้าอิ่มตัวที่อุณหภูมิ 100 OC
hf = เอนธาลปี ของนํ้าอิ่มตัวที่อุณหภูมิ 100 OC
11.อัตราการระเหย
อัตราการ = ms/A
ระเหย เมื่อ ms = ปริ มาณไอนํ้าที่ผลิตได้ (kg/hr) อ่านจากมิเตอร์น้ าํ
ป้อนโดยหักปริ มาณการโบลว์ดาวน์หรื อจากการ
วัดไอนํ้าโดยตรง
A = พื้นที่ผวิ แลกเปลี่ยนความร้อนของหม้อไอนํ้า
(m2) ได้จากผูผ้ ลิต
12.จํานวนเท่ าของการระเหย
จํานวน = ms/mf
เท่ าของ เมื่อ ms = ปริ มาณไอนํ้าที่ผลิตได้ (kg/hr) อ่านจากมิเตอร์น้ าํ
การ ป้อนโดยหักปริ มาณการโบลว์ดาวน์หรื อจากการ
ระเหย วัดไอนํ้าโดยตรง
mf = ปริ มาณเชื้อเพลิงที่ใช้ (L/hr , kg/hr) จากมิเตอร์
เชื้อเพลิงหรื อการชัง่
หน้า 7 จาก 16
13.ดัชนีการใช้ พลังงานของอุปกรณ์ ใช้ ไอนํา้
ดัชนี = ms(hg-hfo)/mp
การใช้ เมื่อ ms = ปริ มาณไอนํ้าที่ไหลเข้าอุปกรณ์ (kg/hr) หาได้จาก
พลังงาน มิเตอร์ไอนํ้าโดยตรงหรื อวัดจากนํ้าคอนเดนเสท
ของ หรื อจากวาล์วควบคุม
อุปกรณ์ hg = เอนธาลปี ของไอนํ้าอิ่มตัวที่ความดันไอนํ้า
ใช้ ไอนํา้ เข้าอุปกรณ์ (kJ/kg)
hfo = เอนธาลปี ของนํ้าที่ความดันคอนเดนเสทหรื อ
ภาคผนวก
ที่อุณหภูมิผลผลิต(kJ/kg)
mP = ปริ มาณของผลผลิต (kg/hr) หาจากการชัง่
นํ้าหนัก
หน้า 8 จาก 16
ภาคผนวก ค
ตารางค่ าความร้ อนทางตํ่าของเชื้อเพลิง
กิโลแคลอรี/ ตันเทียบเท่ า
เมกะจูล พันบีทยี ู
หน่ วย นํา้ มันดิบ/
ประเภท (หน่ วย) ต่ อหน่ วย ต่ อหน่ วย TYPE (UNIT)
ล้ านหน่ วย
MJ/UNIT 103Btu/UNIT
kcal/UNIT toe/106UNIT
พลังงานเชิงพาณิชย์ COMMERCIAL ENERGY
1. นํ้ ามันดิบ (ลิตร) 8680 860.00 36.33 34.44 1. CRUDE OIL (litre)
2. คอนเดนเสท (ลิตร) 7900 782.72 33.07 31.35 2. CONDENSATE (litre)
3. ก๊าซธรรมชาติ 3. NATURAL GAS
ภาคผนวก
3.1 ชื้น (ลูกบาศก์ฟตุ ) 248 24.57 1.04 0.98 3.1 WET (scf.)
3.2 แห้ง (ลูกบาศก์ฟตุ ) 244 24.18 1.02 0.97 3.2 DRY (scf.)
4. ผลิตภัณฑ์ปิโ ตรเลียม 4. PETROLEUM PRODUCTS
4.1 ก๊าซปิ โ ตรเลียมเหลว (ลิตร) 6360 630.14 26.62 25.24 4.1 LPG (litre)
4.2 นํ้ ามันเบนซิ น (ลิตร) 7520 745.07 31.48 29.84 4.2 GASOLINE (litre)
4.3 นํ้ ามันเครื่ องบิน (ลิตร) 8250 817.40 34.53 32.74 4.3 JET FUEL (litre)
4.4 นํ้ ามันก๊าด (ลิตร) 8250 817.40 34.53 32.74 4.4 KEROSENE (litre)
4.5 นํ้ ามันดีเซล (ลิตร) 8700 861.98 36.42 34.52 4.5 DIESEL (litre)
4.6 นํ้ ามันเตา (ลิตร) 9500 941.24 39.77 37.70 4.6 FUEL OIL (litre)
4.7 ยางมะตอย (ลิตร) 9840 974.93 41.19 39.05 4.7 BITUMEN (litre)
4.8 ปิ โ ตรเลียมโ ค้ก (กก.) 8400 832.26 35.16 33.33 4.8 PETROLEUM COKE (litre)
5. ไฟฟ้ า (กิโ ลวัตต์ชวั่ โ มง) 860 85.21 3.60 3.41 5. ELECTRICITY (kWh)
6. ไฟฟ้ าพลังนํ้ า (กิโ ลวัตต์ชวั่ โ มง) 2236 221.54 9.36 8.87 6. HYDROELECTRIC (kWh)
7. พลังงานความร้อนใต้พิภพ 9500 941.24 39.77 37.70 7. GEOTHERMAL (kWh)
(กิโ ลวัตต์ชวั่ โ มง)
8. ถ่านหิ นนําเข้า (กก.) 6300 624.19 26.37 25.00 8. COAL IMPORT (kg.)
9. ถ่านโ ค้ก (กก.) 6600 653.92 27.63 26.19 9. COKE (kg.)
10. แอนทราไซต์ (กก.) 7500 743.09 31.40 29.76 10. ANTHRACITE (kg.)
หน้า 9 จาก 16
ตารางค่ าความร้ อนทางตํ่าของเชื้อเพลิง (ต่ อ)
กิโลแคลอรี/ตันเทียบเท่ า เมกะจูล พันบีทยี ู
หน่ วย นํา้ มันดิบ/ ต่ อหน่ วย ต่อหน่ วย
ประเภท (หน่ วย) TYPE (UNIT)
ล้ านหน่ วย
kcal/UNIT toe/106UNIT MJ/UNIT 3
10 Btu/UNIT
11. อีเทน (กก.) 11203 1110.05 46.89 44.45 11.ETHANE (kg.)
12. โ ปรเพน (กก.) 11256 1115.34 47.11 44.67 12.PROPANE (kg.)
13. ลิกไนต์ 13.LIGNITE
13.1 ลี้ (กก.) 4400 435.94 18.42 17.46 13.1 LI (kg.)
13.2 กระบี่ (กก.) 2600 257.60 10.88 10.32 13.2 KRABI (kg.)
ภาคผนวก
13.3 แม่เมาะ (กก.) 2500 247.70 10.47 9.92 13.3 MAE MOH (kg.)
13.4 แจ้คอน (กก.) 3610 357.67 15.11 14.32 13.4 CHAE KHON (kg.)
พลังงานใหม่ และ NEW & RENEWABLE ENERGY
หมุนเวียน
1. ฟื น (กก.) 3820 378.48 15.99 15.16 1. FUEL WOOD (kg.)
2. ถ่าน (กก.) 6900 683.64 28.88 27.38 2. CHARCOAL (kg.)
3. แกลบ (กก.) 3440 340.83 14.40 13.65 3. PADDY HUSK (kg.)
4. กากอ้อย (กก.) 1800 178.34 7.53 7.14 4. BAGASSE (kg.)
5. ขยะ (กก.) 1160 114.93 4.86 4.60 5. GARBAGE (kg.)
6. ขี้เลื่อย (กก.) 2600 257.60 10.88 10.32 6. SAW DUST (kg.)
7. วัสดุเหลือใช้ 3030 300.21 12.68 12.02 7. AGRICULTURAL WASTE (kg.)
ทางการเกษตร (กก.)
8.ก๊าซชีวภาพ 5000 495.39 20.93 19.84 8. BIOGAS (m3)
(ลูกบาศก์เมตร)
หน้า 10 จาก 16
ภาคผนวก ง
ตารางค่ าการแปลงหน่ วยทัว่ ไป
ภาคผนวก
1 บาร์เรล (barrel) = 158.99 ลิตร (litres)
1 ลูกบาศก์เมตรของไม้ = 600 กิโลกรัม (kg.)
(cu.m. of solid wood)
1 ลูกบาศก์เมตรของถ่าน = 250 กิโลกรัม (kg.)
(kg. of charcoal)
5 กิโลกรัมของฟื น = 1 กิโลกรัมของถ่าน
(kg. of fuel wood) (kg. of charcoal product)
1 ลิตรของก๊าซปิ โตรเลียมเหลว = 0.54 กิโลกรัม (kg.)
(litre of LPG)
หน้า 11 จาก 16
ตารางไอนํา้ อิม่ ตัว (ตามอุณหภูมิ)
ภาคผนวก
หน้า 12 จาก 16
ตารางไอนํา้ อิม่ ตัว (ตามอุณหภูมิ) ต่อ
ภาคผนวก
หน้า 13 จาก 16
ตารางไอนํา้ อิม่ ตัว (ตามความดัน)
ภาคผนวก
หน้า 14 จาก 16
ตารางไอนํา้ อิม่ ตัว (ตามความดัน) ต่อ
ภาคผนวก
หน้า 15 จาก 16
ภาคผนวก จ
ปริมาณ O 2 และ CO 2 ทีเ่ หมาะสมของไอเสี ย
หน้า 16 จาก 16
บรรณานุกรม
[1] กรมพัฒ นาพลัง งานทดแทนและอนุ รั ก ษ์พ ลัง งาน, (2547), ตํา ราฝึ กอบรมหลัก สู ต ร
ผูร้ ับผิดชอบด้านพลังงาน (ผชพ.) สามัญ
[2] กรมพัฒ นาพลัง งานทดแทนและอนุ รั ก ษ์พ ลัง งาน, (2547), ตํา ราฝึ กอบรมหลัก สู ต ร
ผูร้ ับผิดชอบด้านพลังงาน (ผชพ.) อาวุโส ด้านความร้อน
[3] กรมพัฒ นาพลังงานทดแทนและอนุ รักษ์พ ลังงาน, (2550), คู่ มื อประกอบการฝึ กอบรม
หลัก สู ต ร “พัฒ นา บุ ค ลากรภาคปฏิ บ ัติ ด้า นเทคโนโลยีก ารอนุ รั ก ษ์ พ ลัง งานในอุ ป กรณ์
เครื่ องจักรกลางที่ใช้ในโรงงานและอาคารธุรกิจ (ด้านหม้อไอนํ้า)”
[4] กรมพัฒ นาพลังงานทดแทนและอนุ รั ก ษ์พ ลังงาน, (2550), คู่ มื อ การอนุ รัก ษ์พ ลังงาน
อุปกรณ์เครื่ องจักรกลางในโรงงานและอาคารธุรกิจ (กับดักไอนํ้า)
[5] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุ รักษ์พลังงาน, (2551), มาตรการการอนุ รักษ์ พลังงาน
จากเทคโนโลยีที่ ประสบความสําเร็ จสําหรับอาคารธุรกิจ
[6] สมาคมส่ งเสริ มเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น), (2543), เทคนิ คการประหยัดพลังงานความร้อน
ในอุตสาหกรรม
[7] กรมส่ งเสริ มอุตสาหกรรม, (2549), Thermal Energy Efficientcy Improvement Handbook
[8] ศุ ภ ชัย ปั ญ ญาวีร์และจตุ พ ร สถากุล เจริ ญ ,การลดต้น ทุ น การผลิ ต ด้านพลังงาน,สมาคม
ส่ งเสริ มเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น),กรุ งเทพฯ,2549
[9] กรมพัฒ นาพลังงานทดแทนและอนุ รักษ์พ ลังงาน, (2554), ตําราฝึ กอบรมหลักสู ตรการ
ตรวจวิเคราะห์การอนุรักษ์พลังงานในโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารธุรกิจ
[10] กรมโรงงานอุตสาหกรรม,(2553), คู่มือฝึ กอบรมทบทวนความรู ้ให้แก่ผูค้ วบคุ มประจํา
หม้อนํ้าและหม้อต้มนํ้ามันร้อน
[11] http://www.energo-spaw.pl/en/kotlownie.php
[12] http://proficienttechnologies.com/serv_utilizationsurvey.html
[13]http://www.power-technology.com/contractors/boilers/loosinternational/
loosinternational3.html
[14] http://www.cesare-bonetti.it/Products/Valves/blowdown.htm
หน้า 1 จาก 2
[15] กรมพัฒ นาพลัง งานทดแทนและอนุ รั ก ษ์ พ ลัง งาน “คู่ มื อ หลัก สู ต รการบริ ห ารจัด
การพลังงานความร้อน”
[16] กลุ่มวิจยั เพื่อการอนุ รักษ์พลังงาน มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี “คู่มือการทําความ
ร้อนทิ้งกลับมาใช้”
[17] กรมโรงงานอุตสาหกรรม (2547) “คู่มือการปรับแต่งหัวเผา”
[18] ศูนย์วิศวกรรมอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี และกรมพัฒนาพลังงาน
ทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน “คู่มือปรับแต่งหัวเผา”
[19] กรมโรงงานอุตสาหกรรม (2553) “คู่มือฝึ กอบรมทบทวนความรู ้ให้แก่ผูค้ วบคุมประจํา
หม้อไอนํ้า และหม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็ นสื่ อนําความร้อน”
[20] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุ รักษ์พลังงาน “คู่มือผูร้ ับผิดชอบด้านพลังงานอาวุโส
ด้านปฏิบตั ิ (ด้านความร้อน)”
[21] กรมโรงงานอุตสาหกรรม (2553) “คู่มือการใช้งานและการดูแลรักษาหม้อไอนํ้า”
[22] สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (2540) “มาตรฐานระบบ
ไอนํ้า”
หน้า 2 จาก 2
คณะทำงำนพัฒนำหลักสู ตร
ทีป่ รึกษำโครงกำรด้ ำนพลังงำน
นายพงค์พฒั น์ มัง่ คัง่ ผูอ้ านวยการสานักพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านพลังงาน (สพบ.)
คณะกรรมกำร
สานักพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้นพลังงาน (สพบ.)
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน
1.นายอมรศักดิ์ รังสาคร วิศวกรเครื่ องกลชานาญการพิเศษ
2.นายชวลิต บุญแสง นักทรัพยากรบุคคลชานาญการพิเศษ
3.นายณรงค์ ภู่อยู่ วิศวกรชานาญการพิเศษ
4.นายเอกวัฒน์ หวังสันติธรรม นักทรัพยากรบุคคลชานาญการ
5.นางสาวพรพิมล สุ วรรณนิมิต นักวิชาการพลังงานชานาญการ
6.นางสาวอภิญญา คงสิ นรัตนชัย นักวิชาการพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
ผู้ทรงคุณวุฒิพฒ
ั นำหลักสู ตร
1.นายปัญจะ ทัง่ หิรัญ ผูท้ รงคุณวุฒิดา้ นระบบหม้อไอน้ า
2.นายมานิตย์ กูธ้ นพัฒน์ ผูท้ รงคุณวุฒิดา้ นระบบหม้อไอน้ า
ทีมงำนพัฒนำหลักสู ตร
1. ดร.ศุภชัย ปัญญาวีร์ ผูจ้ ดั การโครงการ
2. นายธิปพล ช้างแย้ม ผูเ้ ชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์พลังงาน
3. นางวรี รัตน์ ลายทอง เจ้าหน้าที่ดา้ นพัฒนาหลักสู ตร
4. รองศาสตราจารย์ ทวีวฒั น์ สุ ภารส เจ้าหน้าที่ดา้ นสื่ อการสอน
5. นาวาอากาศเอก ชอบ ลายทอง เจ้าหน้าที่ดา้ นการประเมินผล
6.นายกิตติพงษ์ กุลมาตย์ เจ้าหน้าที่ดา้ นการอนุรักษ์พลังงาน
คณะทำงำนพัฒนำหลักสู ตร
ทีมงำนพัฒนำหลักสู ตร (ต่ อ)
7.นายปฏิญญา จีระพรมงคล เจ้าหน้าที่เฉพาะสาขาวิชาชีพ
8.นายมนูญ รุ่ งเรื อง วิศวกรเครื่ องกล
9.นายภิญโญ ตัณฑุมาศ วิทยากร
10.นายกฤษณะ อาสน์สุวรรณ์ วิทยากร
11.นายชนธกานต์ ใสยิง่ เจ้าหน้าที่ฝึกอบรม
12.นางสาวผ่องอาไพ ตระการรุ จิรัตน์ เจ้าหน้าที่ประสานงานและฝึ กอบรม