Professional Documents
Culture Documents
มรดกพุทธศิลปสถาปัตยกรรม
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช
The Buddhism Architectural Heritage of
Wat Phra Mahathat Woramahawihan, Nakhon Si Thammarat
ที่ปรึกษา
ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์
เรียบเรียง
อิสรชัย บูรณะอรรจน์
ดร. นันทวรรณ ม่วงใหญ่
บรรณาธิการ
ดร. เกรียงไกร เกิดศิริ
มรดกพุทธศิลปสถาปัตยกรรม
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช
The Buddhism Architectural Heritage of
Wat Phra Mahathat Woramahawihan, Nakhon Si Thammarat
การจัดพิมพ์หนังสือชุด “เรียนรู้มรดกสถาปัตยกรรม”
มีความมุ่งหวังเพื่อการบูรณาการการวิจัยสู่การบริการ
วิชาการสู่สาธารณะ ด้วยการเรียบเรียงเนื้อหาที่เกี่ยวเนื่อง
กับศิลปะสถาปัตยกรรมของแหล่งมรดกวัฒนธรรมทรง
คุณค่าที่กล่าวถึงในรายงานวิจัยซึ่งมีความจ�ำกัดในการ
เผยแพร่ โดยน�ำมาเรียบเรียงเป็นคู่มือการเที่ยวชมแหล่ง
มรดกทางสถาปัตยกรรม เพื่อให้ชมุ ชน หรือเจ้าของแหล่ง
มรดกทางวัฒนธรรมน�ำไปจัดพิมพ์เผยแพร่เพื่อเป็นการน�ำ
องค์ความรู้ทางวิชาการจากการวิจัยบริการสู่สาธารณชน
ด้วยมุ่งหวังให้เกิดการเรียนรู้ และความเข้าใจ อันเป็นฐาน
ส�ำหรับการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนต่อไป
ส�ำหรับคู่มือการน�ำชม “มรดกพุทธศิลปสถาปัตยกรรม
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช” เป็นส่วน
หนึ่งของการวิจัย “การศึกษาวิเคราะห์คุณค่า ศักยภาพ
และแนวทางการเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อ
ขอรับการพิจารณาเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม
เพิ่มเติม (The study and analysis of value,
potential, and guidlines for nominating the
cultural heritage sites toinscribed as World
Cultural Heritage)” ในแผนการวิจัยชุด “แผนยุทธ-
ศาสตร์ ขั บ เคลื่ อ นประเทศไทยเป็ น ศู น ย์ ก ลางการ
ท่องเที่ยวของภูมิภาคด้วยการจัดการท่องเที่ยวแหล่ง
มรดกโลกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพืน้ ทวีป (Driven
Strategic Plan for Thailand as a Hub of Tourism
by Managing the World Heritage in the Main
Land of Southeast Asia)” สนับสนุนทุนวิจัยโดย
“สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยศิลปากร” และ
“ส�ำนักงานคณะกรรมการวิจยั แห่งชาติ” และจัดพิมพ์
เผยแพร่โดย “สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช”
ค�ำน�ำ
ประธานสภาวัฒนธรรม
จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปากพนั ง
Pakphanang
เมื อ งพั ท ลุ ง
Phatthalung
ทะเลสาบสงขลา
กระบี่
Songkhla Lagoon
Krabi
เทื อ กเขาบรรทั ด เมื อ งสงขลา
คลองท่ อ ม Bantad mountain range
Songkhla
Klongtom
ทะเลอั น ดามั น
Andaman Sea
ท�ำเลที่ตั้งของเมืองนครศรีธรรมราช
Relative Location of Nakhon Si Thammarat
“เมืองนครศรีธรรมราช” ตั้งอยู่บริเวณคาบสมุทรฝั่งตะวันออกไม่ไกลจากชายฝั่งอ่าวไทยซึ่งเป็น
ชายฝั่งยกตัว ท�ำให้เกิดเป็นแนวสันทรายตลอดแนว ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจนถึงอ�ำเภอสทิงพระ
ในจังหวัดสงขลา
ทางตะวันออกของเมืองเป็นอ่าว มีล�ำน�้ำปากพนังไหลมาบรรจบ ซึ่งมีเครือข่ายล�ำน�้ำยังเชื่อมโยง
ไปยังลุ่มน�้ำทะเลสาบสงขลา จึงท�ำหน้าที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองต่างๆ นอกจากนี้ แถบเมือง
นครศรีธรรมราชยังมีพื้นที่ราบกว้างขวางและอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การท�ำนา จึงมีชุมชนเก่าแก่ตั้งถิ่นฐาน
อยู่มาก อีกทั้งท�ำเลที่ตั้งของเมืองยังมีความสัมพันธ์กับช่องเขา ซึ่งเป็นเส้นทางส�ำคัญที่เชื่อมต่อระหว่าง
พื้นที่ทั้งสองฝั่งคาบสมุทรเข้าหากัน ด้วยสภาพภูมิประเทศดังกล่าวท�ำให้นครศรีธรรมราชมีความเจริญ
รุ่งเรือง จนสามารถพัฒนาขึ้นสู่เมืองระดับรัฐได้ในที่สุด
Nakhon Si Thammarat is on the east peninsular, not too far from the Thai Gulf, where sand
berms with coastal terrace have been formedalong the coast from Surat Thani to Sating Phra, Songkhla.
The east of the town is the gulf which the Pak Panang River runs to. The branch of the river
also relates to Songkhla Lake Basin, hence itseems like the route to connect other towns. The large
plateaus are also found in Nakhon Si Thammarat, so they are ideal for rice fields and communities.
The locations of Nakhon Si Thammarat still relates to the pass in the mountain which connects
both sides of the penin-sular. These are also the reasons why Nakhon Si Thammarat has been
prosperous and became one state.
ผังเมืองนครศรีธรรมราชโบราณ
Ancient City Plan of Nakhon Si Thammarat
เมืองนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน มี ะ
การตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๕ ดัง รดอนพร ra
เมื อ ง นaคk h o n D o n P h
N
หลักฐานที่ “แหล่งโบราณคดีท่าเรือ” ซึ่งเป็น Muang
ชุมชนท่าการค้าขนาดเล็ก ต่อมาขยายตัวมา ะ เวี ย ง
เมื อ ง พhรr a W h ia n g
n g P
ตั้งเมืองอยู่บนสันทรายที่อยู่ด้านเหนือเป็น M u a
ผังบริเวณระยะที่ ๑ ผังบริเวณระยะที่ ๒
Step 1 Step 2
พ.ศ. ๑๗๑๙ : สถาปนาพระบรมธาตุเจดีย์ และ หลัง พ.ศ. ๑๗๑๙ ถึงก่อน พ.ศ. ๑๙๑๙ : มีการ
สันนิษฐานว่ามีก่อสร้างเจดีย์ราย และวิหาร สร้างโพธิมณเฑียร, วิหารธรรมศาลาในลักษณะ
หน้าเจดีย์ทางทิศเหนือเพื่อเป็นพื้นที่ส�ำหรับ วิหารโถง และทับเกษตร
การประกอบพิธีกรรมด้วย
During 1719-1376, Bodhi Shrine, preaching
In 1176, the Principle Chetiya, surrounded hall as an open-air pavilion and roof of sur-
Chetiya and north Vihara as an open-air pa- rounded principle Chetiya were constructed.
vilion were constructed.
ผังบริเวณระยะที่ ๓ ผังบริเวณระยะที่ ๔
Step 3 Step 4
พ.ศ. ๑๙๑๙ สันนิษฐานว่ามีการก่อสร้างวิหาร พ.ศ. ๒๐๓๖ สันนิษฐานว่ามีการบูรณปฏิสงั ขรณ์
มี ผ นั ง แทนวิ ห ารเดิ ม ที่ อ ยู ่ ท างทิ ศ เหนื อ ของ วิหารธรรมศาลาให้เป็นวิหารมีผนัง และสร้าง
พระบรมธาตุเจดีย์ ให้ชื่อว่า “วิหารเขียน” ระเบียงคดล้อมรอบผังบริเวณ ท�ำให้ขอบเขต
In 1376, the Northern Vihara with surrounded ของพื้นที่พุทธาวาสชัดเจนมากขึ้น
walls were constructed and named “Painted In 1493, the renovation of the preaching hall
Vihara”. with the surrounded walls and the surround-
ed gallery were initiated.
ผังบริเวณระยะที่ ๕ ผังบริเวณระยะที่ ๖
Step 5 Step 6
หลัง พ.ศ. ๒๐๓๖ ถึงก่อน พ.ศ. ๒๑๗๑ : มี พ.ศ. ๒๑๗๑ : มีการก่อสร้างวิหารหลวงทรงมณฑป
การก่อสร้างวิหารมหาภิเนษกรมณ์ หรือวิหาร In 1628, the principle Vihara was constructed as a
พระทรงม้า เชื่อมที่ท้ายจรณัมวิหารเขียน square with a pyramid roof.
During 2036-2171, there was the construc-
tion of Vihara at the end of Painted Vihara,
named “Mahapinetsakrom Vihara” or “Phra
Song Ma Vihara”, which means Bodhisattava
and his journey to find the truth.
ผังบริเวณระยะที่ ๗ ผังบริเวณระยะที่ ๘
Step 7 Step 8
พ.ศ. ๒๓๕๔ ถึง พ.ศ. ๒๓๘๒ มีการสร้างวิหาร พ.ศ. ๒๔๕๒ ถึง ปัจจุบัน : มีการก่อสร้างซุม้ ประตู
หลังใหม่แทนที่วิหารทรงมณฑปเดิม เป็นพระ เยาวราช, ระเบียงคดทางด้านทิศเหนือ, วิหารพระ
วิหารหลวงดังที่ปรากฏในปัจจุบัน ศรีธรรมโศกราช, วิหารพระกัจจายนะและเจดีย์
During 1818-1839, the new main Vihara was รายอื่นๆ
constructed to replace the old one with the
present form. During 1909-present, Yaowarat Gate, Northern
gallery, Sridhamasokaraja Vihara, Kajjaiyana Vihara
and small Chetiyas were constructed.
ผังบริเวณวัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช
Layout Plan of Wat Phra Mahathat Woramahawihan, Nakhon Si Thammarat
8 1 4 5 6
2
9
3
0 5 10 20
10
11
7
1 พระบรมธาตุเจดีย์ 5 โพธิมณเฑียร หรือ วิหารโพธิ์ลังกา 8 วิหารเขียน
Phra Borommathat (Principle Chetiya) Bodhi Monthein or Vihara Bodhi Langka (Bodhi Vihara Khian (Painted Vihara)
Vihara)
2 พระระเบียงทับเกษตร 9 วิหารศรีธรรมโศกราช
Phra Ra Biang Tub Kaset 6 วิหารธรรมศาลา Sri Dhamasokka Raja Vihara
Vihara Dhamasala (Preaching Hall)
3 เจดีย์ราย 10 วิหารพระกัจจายนะ
Surrounded Chetiyas Vihara Phra Kajjaiyana
7 วิหารหลวง
4 วิหารมหาภิเนษกรมณ์ หรือ วิหารพระม้า Vihara Luang (Principle Vihara)
Vihara Mahapinetsakrom or Vihara Phra Ma 11 ระเบียงคต
(the Bodhisattava and his jouney Vihara) Ra Biang Kot (Surrounded Gallery)
1
2 4
5
3
7
6
9
10
11
เจดี ย ์ มุ ม ( Corner Chetiya)
ทิ ศ เ
th
Phathaksina Basement
N o r ห นื อ
พระบรมธาตุเจดีย์
Phra Borommathat Chedi (Principle Chetiya)
“พระบรมธาตุเจดีย์” เป็นสถูปขนาดใหญ่ที่แสดงความใกล้ชิดกับพุทธศิลปกรรมลังกา
หากแต่ประดิษฐานบนฐานทักษิณที่ยกสูง และมีบันไดทางขึ้นจากทางด้านทิศเหนือของพระบรม
ธาตุเจดีย์เป็นสถูป ๕ องค์ โดยมีสถูปประธานอยู่ตรงกลาง และมีสถูปมุม ๔ องค์ ส�ำหรับชุดฐาน
มีลักษณะเป็นเสายกเก็จ ซึี่งเป็นรูปแบบส�ำคัญของสถูปแบบศรีวิชัย และมีการเจาะเป็นซุ้มที่มี
ประติมากรรมรูปช้างบนเสาอิงตกแต่งเป็นซุ้มเรือนแก้ว และประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืน
พื้นที่ส่วนนี้มีหลังคาคลุม เรีียกว่า “พระระเบียงทับเกษตร”
“Phra Borommathat” or the principle Chetiya reflects the close relationship
with Lanka in terms of Buddhism art. The Chetiya was located on the base with stairs on
the north side. There are five stupas in the plan comprising the main Chetiya at the centre
with the other four Chetiyas at the four corners. The base with decoration at the columns
is the main aspect of Srivijaya stupa, with compartment decorated with pieces of elephant
sculpture. The end of the columnsis decorated with compartment for standing Buddha
image. The roof covers this area and it is called “Phra Ra Biang Tub Kaset”.
เสาหาน
Supporting Columns
ปล้ อ งไฉน
ประติ ม ากรรมรู ป ช้ า ง
Elephant Sculpture
วิหารเขียน
Khian Vihara (Painted Vihara)
“วิหารเขียน” เป็นวิหารขนาด ๕ ห้องเสา มีรูปทรงหลังคาแบบทอดเดียว ไม่มีมุขลด
ท�ำหน้าที่เป็นวิหารหน้าองค์พระบรมธาตุเจดีย์ทางด้านทิศเหนือ ซึ่งแต่เดิมน่าจะถูกสร้างขึ้นพร้อมกับ
องค์พระบรมธาตุเพื่อใช้เป็นพื้นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และอาจเคยเป็นอาคารโถงไม่มีผนัง
มาก่อน ต่อมาภายหลังมีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ และคงได้สร้างเป็นวิหารที่มีฝาผนังล้อมรอบ และ
สามารถเขียนภาพจิตรกรรมได้ จึงได้ชื่อว่า “วิหารเขียน” แต่ภาพจิตรกรรมดังกล่าวได้เสื่อมสภาพลง
เมื่อมีการบูรณปฏิสังขรณ์อาคารต่อมาในชั้นหลังจึงทาสีขาวแทน
“Viraha Khian” is a construction with five bays and roof. This is the Vihara infront of
the Chetiya on the north side, and was originally constructed at the same time as the principle
Chetiya. The purpose of this was for ritual and was believedto be the hall without walls. The
walls were built later then came the mural painting. That is why it was called “Vihara Khian”
(which means draw or paint). However, the mural painting has become deteriorated then the
walls were painted in white during the renovation.
พระประธานในวิหารเขียน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
มีการตกแต่งแบบโบราณ คือ มีการลงรักปิดทองเฉพาะพระวรกาย
และทาชาดสีแดงในส่วนของจีวร นอกจากนี้พระเกศมาลาที่อยู่บน
อุษณีษะเหนือเศียรขึ้นไปยังสะท้อนถึงอิทธิพลของพระพุทธศิลป์
ของพระพุทธรูปแบบลังกา
The Subduing Mara Buddha image was the principle
Buddha image in ancient style, covered with gold leaves and
red robe caused by cinnabar. The top of the head reflects the
influence of Buddhism art from Lanka.
วิ ห ารพระทรงม้ า
(Phra song ma Vuhara)
วิ ห ารเขี ย น (Khian Vihara)
ทิ ศ
N o r เ ห นื อ
th
วิหารพระทรงม้า
Vihara Phra Song Ma or Vihara Maha Pinetsakrama (the Bodhisattava and his jouney Vihara)
พระมหาภิเนษกรมณ์
Maha Pinetsakrama (the Bodhisattava and his jouney)
พระพรหม-พระนารายณ์ ท้าวขัตตุคาม ท้าวรามเทพ ปูนปั้นรูปสัตว์หิมพานต์ในฐานะทวารบาล
Bhama and Wissanu God Khattukam and Rammathep Mystical animals as the guards of the Chetiya
พระพุทธรูปยืน และพระสาวก
Standing Buddha image and
a couple of disciples
ลานโพธิ์
Bodhi Vihara Courtyard
ระเบี ย ง
Gallery
พระพุทธรูปปางไสยาสน์
Reclining Buddha image
ภาพตั ด ขวางที่ 11
Section No. 1
ภาพตั ด ขวางที่ 22
Section No. 2
พระศรีศากยมุนีศรีธรรมราช
(Phra Sri Sakaya Munee Sri Thammarat)
พระเจดี ย ์ สู ง ๗ วา
14-metre Chetiya
มุ ข ประเจิ ด
Protruding gable
พระวิหารหลวงปัจจุบัน
Phra Vihara Luang at present
หน้ า บั น ด้ า นหน้ า รู ป พระอิ น ทร์ ท รงช้ า งเอราวั ณ
Indra God and Erawan elephant at the front pediment
รู ป ตั ด ยาว
Side Section
มรดกพุทธศิลปะสถาปัตยกรรม
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช
The Buddhism Architectural Heritage of Wat Phra Mahathat Woramahawihan,
Nakhon Si Thammarat