Professional Documents
Culture Documents
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
อาจารย์อลงกต วงศ์ศรียา
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ตรีโกณมิติก่อกาเนิดมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ ได้แก่ยุค Mesopotamia และ ยุค Indus Valley ซึ่งผ่านมาแล้ว
มากกว่า 4,000 ปี โดยมีนักดาราศาสตร์ชื่อ Hipparchus ซึ่งเกิดในปี 190 B.C.ใน Bithymia ในปัจจุบันคือประเทศตุรกี
และเสียชีวิตในปี 120 B.C. ในกรีซ
Hipparchus เป็นผู้บุกเบิกผู้หนึ่งในการนาความรู้เรื่องตรีโกณมิติมาใช้คานวณหาตาแหน่งของดวงดาวต่างๆ
คาว่าตรีโกณมิติ ตรงกับคาในภาษาอังกฤษว่า Trigonometry ที่เป็นภาษากรีกว่า Trigonon ซึ่งแปลว่า มุม 3 มุม
และคาว่า metro แปลว่า การวัด ในสมัยก่อนตรีโกณมิติจึงเป็นวิชาที่ว่าด้วยการวัดมุม ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่าง
ด้านและมุมของรูปสามเหลี่ยม ต่อมาในศตวรรษที่ 17 พร้อมๆกับการเกิดวิชาแคลคูลัส ก็มีการนาความรู้เรื่องฟังก์ชันมา
ใช้ในวิชาตรีโกณมิติ จึงเกิดเป็นฟังก์ชันตรีโกณมิติที่เกี่ยวเนื่องกับวงกลมหนึ่งหน่วยซึ่งสามารถนาไปใช้ประยุต์ใน
ศาสตร์สาขาต่างๆ มากมาย
บทนา
ความรู้เกี่ยวกับอัตราส่วนตรีโกณมิติ
กาหนดรูป ABC เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มี ACB
ˆ เป็นมุมฉาก ดังรูป เรียกอัตราส่วนระหว่างด้าน 2 ด้าน
ของรูปสามเหลี่ยมมุมฉากใดๆ ว่า อัตราส่วนตรีโกณมิติ ซึ่งได้แก่
B a 1
sin A = cosec A =
c sin A
c a b 1
cos A = sec A =
c cos A
A C a 1
b tan A = cot A =
b tan A
1
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
Y Y
P
a>0
O (1,0) X
X
O0
(1,0)
0
a<0
P
จากความรู้เกี่ยวกับการวัดมุมที่มีหน่วยเป็นเรเดียน จะได้ว่า
a a
r 1 ความยาวส่วนโค้ง a คือมุมที่วัด
a เป็นแบบเรเดียนนั่นเอง....
2
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ตัวอย่าง 3 จงหาจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว
y y y
3
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
เพราะฉะนั้น
4
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
Y
P( )
2 2
P( ) P( )
3 3
3
P( ) P( )
4 4
5
P( ) P( )
6 6
P() P(0) X
7 11
P( ) P( )
6 6
5
P( )
4 7
P( )
4
4
P( )
3 5
P( 3 ) P(
3
)
2
5
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
2. ฟังก์ชันตรีโกณมิติ
เราจะอาศัยวงกลมหนึ่งหน่วยเป็นเครื่องมือในการสร้างฟังก์ชันตรีโกณมิติ ดังนี้
ให้จุด P(x, y) เป็นจุดใดๆ บนวงกลมหนึ่งหน่วย
Y cos sin ซึ่งเป็นจุดปลายของส่วนของเส้นรอบวงกลมที่ยาว หน่วย
ลากส่วนของเส้นตรง PA ตั้งฉากกับแกน X ที่จุด A
P(x, y) จะได้รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก OAP และจะพบว่า
PA y
y sin y
0
(1,0) X OP 1
O xA cos
OA x
x
OP 1
6
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
จากสมการวงกลมหนึ่งหน่วย x2 y2 1
7
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ค่าของฟังก์ชันตรีโกณมิติของจานวนจริงที่ควรสนใจ
เมื่อกาหนดจานวนจริง และต้องการหาค่า sin และ cos เราสามารถหาได้โดยการหา
P() = (x, y) ที่ได้แสดงแล้วในหัวข้อ 3 ค่าของ x จะเท่ากับ cos และ y จะเท่ากับ sin
3
0 2 6 4 3
2
P()=(x,y)
sin
cos
tan
cosec
sec
cot
ตัวอย่าง 6 จงหาค่าของ sin , cos tan , cot , sec และ cosec เมื่อ ดังต่อไปนี้
2 5
(1) = (2) =
y 3 4
y
8
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
9
(3) =– (4) =
6 y
4
y
sin = ……… sin = …….…
cos = ……… (1,0)
cos = ………
(1,0)
O0
x tan = ……… O0
x
tan = ………
cosec = …… cosec = ……
sec = ……… sec = ………
cot = ……… cot = ………
21
(7) = (8) = – 23
4 3
y y
sin = ……… sin = …….…
cos = ……… cos = ………
(1,0) (1,0)
O0
x tan = ……… O0
x tan = ………
cosec = …… cosec = ……
sec = ……… sec = ………
cot = ……… cot = ………
9
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
2 3
(3) sin = (4) sin =
2 2
1 3
(5) cos = (6) cos =
2 2
ตัวอย่าง 8 จงหาค่าของ
(1) sin cos tan sec
3 4 4 6
10
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
5 9 5 7
(2) cos sin tan cos cot
2 3 4 6 6
1 2 1 4
(3) 3 tan2 sin cos ec2 cos2
6 3 3 2 4 3 6
3
(4) sin sec cos ec2 sec2 sin cot
2 4 6 6 4
5 13 11 11 13 5
(5) sin cos tan cos e c( ) sec( ) cot( )
4 6 6 6 6 4
11
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
3. ค่าของฟังก์ชันตรีโกณมิติ
3.1 การหาค่าของ sin(–) และ cos(–) เมื่อ เป็นจานวนจริงบวก
ถ้ากาหนดให้ เป็นจานวนจริงบวกแล้ว – จะเป็นจานวนจริงลบ การหาค่าของ sin(–) และ
cos(–) สามารถหาได้จาก sin และ cos ซึ่งมีความสัมพันธ์กันด้วยสูตรที่จะกล่าวต่อไปนี้
y
ดังนั้น จึงสรุปความสัมพันธ์ระหว่าง sin กับ sin(–) และ cos กับ cos(–) ได้ดังต่อไปนี้
sin(–) = –sin
cos(–) = cos
ตัวอย่าง 9 จงหาค่าของ
ตัวอย่าง 10 จงหาค่าของ
(1) sin( 32 ) = …………………………………………………………………..
3
= …………………………………………………
= …………………………………………………
13
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
3.3 การหาค่าของ sin และ cos เมื่อ <<
2
กาหนด โดยที่ < < ดังนั้น P() = P(x, y) เป็นจุดที่อยู่ในควอดรันต์ที่ 2
2
y
ตัวอย่าง 11 จงหาค่าของ
(1) sin( 5 ) และ cos( 5 ) (2) sin(– 20 ) และ cos(– 20 )
6 6 3 3
ตัวอย่าง 12 กาหนดให้ sin( )= 0.309 และ cos( )= 0.951 จงหา
10 10
9 9
(1) sin( ) (2) cos( )
10 10
2
ตัวอย่าง 13 กาหนดให้ sin( ) = 0.407 และ cos( ) = 0.208 จงหาค่าของ
15 15
73 104
sin(– ) + cos( )
15 15
14
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ตัวอย่าง 15 กาหนดให้ sin( )= 0.259 และ cos( )= 0.966 จงหาค่าของ
12 12
sin( 13 ) และ cos(– 13 )
12 12
ตัวอย่าง 16 กาหนดให้ sin( ) = 0.309 และ cos( ) = 0.951 จงหาค่าของ
10 10
sin( 29 ) + 31 51
cos( ) + sin(– )
10 10 10
15
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ตัวอย่าง 19 กาหนดให้ cos( ) 0.98 และ sin( ) 0.17
18 18
35 35
จงหาค่าของ cos( ) และ sin( )
18 18
16
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
จากหัวข้อ 3.3 ถึง 3.5 เราสามารถสรุปการหาค่าของ sin และ cos โดยที่ ได้ดังนี้
(1) หาจานวนจริง โดยที่ 0 ซึ่งทาให้
2
= ความยาวส่วนโค้งระหว่างจุด P() และแกน x
(2) หาค่าของ sin และ cos
(3) ค่าของ sin = sin และ cos = cos โดยเลือกเครื่องหมาย + หรือ –
ตามจานวนจริง ที่ทาให้ P() อยู่ในควอดรันต์ที่เท่าใด
ซึ่งสรุปเครื่องหมายของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ได้ดังนี้
y
sin > 0 sin > 0
cos < 0 cos > 0
00
x
sin < 0 sin < 0
cos < 0 cos > 0
x
00
sin < 0 csc < 0 sin < 0 csc < 0
cos < 0 sec < 0 cos > 0 sec > 0
tan > 0 cot > 0 tan < 0 cot < 0
นั่นคือ
sin (–) = – sin
cos (–) = cos
tan(–) = – tan
cot(–) = – cot
cosec(–) = – cosec
sec(–) = sec
17
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ตัวอย่าง 20 กาหนดให้ 0 และ sin = 0.5075 และ cos = 0.8090 จงหาค่า
2
(1) sin(–) = ………………………………………………………………………
(2) cos(–) = ………...……………………………………………………………
(3) sin( – ) = ………………………………………………………………………
(4) sin( + ) = ……………………………………………………………………...
(5) sin( – ) = ………………………………………………………………………
(6) sin(2 – ) = ………………………………………………………………………
. (7) sin( – 2) = ……………………………………………………………………..
(8) cos( – ) = ………………………………………………………………………
(9) cos( – ) = ………………………………………………………………………
(10) cos(2 – ) = …………………...…………………………………………………
(11) cos( – 3) = ………………………………………………………………………
(12) cos( + ) = ………………………………………………………………………
ตัวอย่าง 21 จงหาค่าแต่ละข้อต่อไปนี้
(1) cos(– 13 ) + sin(– 7 ) – tan 2 ( 5 ) sec 2 ( 11 )
6 6 6 6
18
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
4. การวัดมุม
ในการวัดขนาดของมุมจะมีลักษณะของการวัดมุม 2 แบบ ดังรูป
ด้านเริ่มต้น
ด้านสิ้นสุด
ด้านสิ้นสุด
ด้านเริ่มต้น
(1) การวัดมุมในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา (2) การวัดมุมในทิศทางตามเข็มนาฬิกา
ค่าของมุมที่วัดได้แสดงเป็นจานวนบวก ค่าของมุมที่วัดได้แสดงเป็นจานวนลบ
r r r a
a
O 1 เรเดียน O เรเดียน
r r r
19
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
(1) 10 o = …………………………………………………………..
(2) 612 o = …………………………………………………………..
(3) 30 o = …………………………………………………………..
(4) 45 o = …………………………………………………………..
(5) 60 o = …………………………………………………………..
(6) 180 o = …………………………………………………………..
(8) 270 o = …………………………………………………………..
(9) – 135 o = …………………………………………………………..
(10) – 300 o = …………………………………………………………..
180
ตัวอย่าง 23 จงเปลียนหน่วยขนาดมุมต่อไปนี้ (1 เรเดียน = องศา 57 18 57.2958)
20
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
5. ฟังก์ชันตรีโกณมิติของมุม
เนื่องจากมุมในตาแหน่งมาตรฐาน(จุดกาเนิด)สามารถกาหนดได้ด้วยความยาวส่วนโค้งบนเส้นรอบวงของ
วงกลมหนึ่งหน่วยเช่นกัน ดังนั้น เราจึงสามารถหาค่าของฟังก์ชันตรีโกณมิติ ของมุม ได้เช่นเดียวกับการหาค่า
ของฟังก์ชันตรีโกณมิติของจานวนจริงที่กล่าวไปแล้ว
ตัวอย่าง 24 จงหาค่าของ
21
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ระบบเรเดียน ระบบองศา
ถ้า n แล้ว ถ้า n แล้ว
sin(2n + ) = sin sin(n360 + ) = sin
cos(2n + ) = cos cos(n360 + ) = cos
tan(2n +) = tan tan(n360 + ) = tan
cot(2n + ) = cot cot(n360 + ) = cot
sec(2n + ) = sec sec(n360 + ) = sec
csc(2n + ) = csc csc(n360 + ) = csc
22
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
7. เอกลักษณ์บางประการของตรีโกณมิติ
จากสมการวงกลมหนึ่งหน่วย x2 y2 1 และ x = cos และ y = sin
เมื่อ เป็นจานวนจริง จะได้
cos2 sin2 1 ….. (1)
ถ้า cos ≠ 0 นา cos หารตลอด จะได้ สมการ (1) จะได้
2
ตัวอย่าง 25 จงแสดงว่าสมการต่อไปนี้เป็นจริงสาหรับทุกจานวนจริง
sin 1 cos sin
(1) (2) 1 cos
1 cos sin csc cot
(3) sec2 csc2 sec2 csc2 (4) sec2 csc2 (tan cot )2
23
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ตัวอย่าง 26 จงพิจารณาว่าสมการต่อไปนี้เป็นจริงหรือเป็นเท็จ
1 sin2 A 1 cos2 A
(1) =2
cos2 A sin2 A
1 1 1 1
(4) =1
2
cos 18o 2
sin 18o 2
cot 18o tan2 18o
24
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ตัวอย่าง 27 จงตอบคาถามต่อไปนี้
cos
(1) จงหาค่าของ เมื่อกาหนดให้ sec – tan = 5
1 sin
1
(3) จงหาค่าของ (csc cot )(csc cot )
(sec tan )(sec tan )
ตัวอย่าง 28 จงหาเซตคาตอบของสมการ
(1) 2 sin2 x 1 cos x เมื่อ 0 x 2
25
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ข้อสังเกต ถ้า ABC เป็นสามเหลี่ยมมุมฉาก ที่มีมุม C เป็นมุมฉาก
B
AB = 90
sin A = a = cos B
c c
a a
tan A = = cot B
b
c
sec A = = cosec B
b A C
b
A = 90 – B
จะได้ sin A = sin(90 – B) = cos B
tan A = tan(90 – B) = cot B
sec A = sec(90 – B) = cosec B
ฟังก์ชันตรีโกณมิติทั้ง 6 ฟังก์ชันจะมีการจับคู่กันเป็นคู่ ๆ ได้แก่ sin คู่กับ cos, tan คู่กับ cot, sec คู่กับ
cosec ฟังก์ชันในแต่ละคู่เรียกว่า โคฟังก์ชัน (Co – Functions) ซึ่งกันและกัน
เช่น sin 30 = sin(90 – 60) = cos 60
tan 75 = tan(90 – 15) = cot 15
sec 55 = sec(90 – 35) = csc 35
ตัวอย่าง 29
(1) กาหนดให้ sin 20 = a, –1 a 1 จงหา cos 70
26
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
8. กราฟของฟังก์ชันตรีโกณมิติ
ฟังก์ชันตรีโกณมิติเป็นฟังก์ชันที่เป็นคาบ (period function) หมายถึง ฟังก์ชันที่สามารถแบ่งแกน x
ออกเป็นช่วงย่อยๆ โดยที่ความยาวของแต่ละช่วงเท่ากัน และกราฟของฟังก์ชันในช่วงย่อยแต่ละช่วงมีลักษณะ
เหมือนกัน
ความยาวของช่วงย่อยที่สั้นที่สุด ซึ่งมีลักษณะดังกล่าว เรียกว่า คาบ (period) ของฟังก์ชัน
ฟังก์ชันที่เป็นคาบซึ่งมีค่าต่าสุด และค่าสูงสุด จะเป็นฟังก์ชันที่มีแอมพลิจูด ซึ่งมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของ
ผลต่างระหว่างค่าสูงสุด และค่าต่าสุดของฟังก์ชัน นั่นคือ
1
แอมพลิจูด = (ค่าสูงสุดของฟังก์ชัน – ค่าต่าสุดของฟังก์ชัน)
2
1 1
X X
0 0
–2
–
3 –
– 3 2 –2
–
3 –
– 3 2
2 2 2 2 2 2 2 2
–1 –1
1 1
X X
0 0
–2
–
3 –
– 3 2 –2
–
3 –
– 3 2
2 2 2 2 2 2 2 2
–1 –1
27
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
1 – 1
3
2 2
– 0
X X
–2
–
3 – –1 3 2 –2
–
3 – –1
0 2
2 2
2 2 2 2
28
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
9. ฟังก์ชันตรีโกณมิติของผลบวกและผลต่างของจานวนจริงหรือมุม
กาหนดให้ A และ B เป็นจานวนจริงหรือมุมใดๆ
ตัวอย่าง 32 จงหาค่าต่อไปนี้
1. cos 15o 2. cos
12
7
3. cos 75o 4. cos
12
5
5. sin 15o 6. sin
12
7
7. tan 15o 8. tan
12
29
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
30
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
3 1
ตัวอย่าง 35 ถ้า cos(A + B) = และ sin B = เมื่อ 0 < B < และ 0 < A <
4 4 2 2
จงหาค่าของ sin A
ตัวอย่าง 36 จงหาค่าของ tan 15o + tan 30o + tan 15o tan 30o
31
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
tan A tan B
ตัวอย่าง 39 ถ้า A + B = 495o, tan A 0 และ tan B 0 จงหาค่า
1 tan A 1 tan B
ตัวอย่าง 40 จงหาค่าของ cos 65o cos 20o + sin 65o sin 20o
ตัวอย่าง 41 จงหาค่าของ sin 110o cos 40o + cos 110o sin 40o
32
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
10. เอกลักษณ์ของโคฟังก์ชัน
ฟังก์ชันตรีโกณมิติทั้ง 6 ฟังก์ชัน จะมีการจับคู่เป็นคู่ๆ ได้แก่ ฟังก์ชันไซน์คู่กับฟังก์ชันโคไซน์ ฟังก์
แทนเจนต์คู่กับฟังก์โคแทนเจนต์ และ ฟังก์เซแคนต์คู่กับฟังก์โคเซแคนต์
ฟังก์ชันในแต่ละคู่ เรียกว่า โคฟังก์ชันของกันและกัน ซึง่ เอกลักษณ์ของโคฟังก์ชัน เป็นเอกลักษณ์ที่หา
ค่าฟังก์ชันตรีโกณมิติจากฟังก์ชันที่เป็นโคฟังก์ชัน ซึ่งมีหลายรูปแบบดังต่อไปนี้
ถ้า เป็นจานวนจริง หรือ มุมใดๆ
3
ค่าของฟังก์ชันตรีโกณมิติของจานวนหรือมุมในรูป หรือ
2 2
ขนาดมุม ค่าของฟังก์ชันตรีโกณมิติ
sin( – ) = cos cosec( – ) = sec
2 2 2
2
+ sin( + ) = cos cosec( + ) = sec
2 2
มุมในควอดรั
Y นต์ที่ 2 cos( + ) = – sin sec( + ) = – cosec
2 2
3
–
2 sin( 3 – ) = – cos cosec( 3 – ) = – sec
มุมในควอดรันต์ที่ 3 2 2
cos( 3 sec( 3
Y
– ) = – sin – ) = – cosec
2 2
X tan( 3 – ) = cot cot( 3 – ) = tan
2 2
3
+
2 sin( 3 + ) = – cos cosec( 3 + ) = – sec
มุมในควอดรันต์ที่ 4 2 2
Y
3 3
cos( + ) = sin sec( + ) = cosec
2 2
X
tan( 3 + ) = – cot cot( 3 + ) = – tan
2 2
33
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ตัวอย่าง 43 จงหาค่าของ
(1) sin 75o = .............................................................................................
(2) cos(–40o) = .............................................................................................
(3) tan ( ) = .............................................................................................
3
(4) cot ( ) = .............................................................................................
12
(5) sec (5 ) = .............................................................................................
4
(6) cosec(–105o) = .............................................................................................
ตัวอย่าง 44 จงเขียนค่าตรีโกณมิติต่อไปนี้ในรูปของโคฟังก์ชันของมุม เมื่อ 0 < < 90o
(1) sin 115o = .............................................................................................
(2) cos(–160) = .............................................................................................
(3) tan(–500) = .............................................................................................
ตัวอย่าง 45 กาหนดให้ sin 35o = 0.5736 และ cos 35o = 0.8192 จงหาค่าของ
(1) sin 235o = ............................................................................................
(2) cos(–235o) = ............................................................................................
(3) tan 595o = ............................................................................................
(4) cot(–595o) = ............................................................................................
ตัวอย่าง 46 จงเขียนค่าตรีโกณมิติต่อไปนี้ในรูปโคฟังก์ชันของ เมื่อ 0 < < หรือ 0o < < 90o
2
7
(1) sin = ............................................................................................
4
(2) cos 320o = ............................................................................................
8
(3) tan = ............................................................................................
5
(4) cot( 350o ) = ............................................................................................
17
(5) sec( ) = ............................................................................................
10
(6) cos ec 665o = ............................................................................................
34
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ตัวอย่าง 47 จงหาค่าของแต่ละข้อต่อไปนี้
(1) sin 15o (2) cos 22.5o
35
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
4
ตัวอย่าง 48 กาหนด 0 < < และ sin = จงหาค่า sin 2, cos 2 และ tan 2
2 5
3
ตัวอย่าง 49 กาหนดให้ tan = และ 0 จงหาค่า sin 2, cos 2 และ tan 2
4 2
ตัวอย่าง 50 จงหาค่าของ
2 tan15o 1 tan2 75o
(1) (2)
1 tan2 15 1 tan2 75
1
ตัวอย่าง 51 กาหนดให้ tan แล้ว จงหาค่าของ sin + cos + tan
2 2
36
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
1 tan2 ( )
ตัวอย่าง 52 จงหาค่าของ 4 ;
2 8
1 tan ( )
4
sin 3 cos 3
ตัวอย่าง 53 จงหาค่าของ
sin cos
o tan178o tan108o
ตัวอย่าง 54 ถ้ากาหนดให้ tan 10 = a จงหาค่าของ
1 tan178 tan108o
ตัวอย่าง 55 กาหนดให้ 0o < A < 90o และ 0o < B < 90o และ
3sin2 A + 2sin2 B = 1
3 sin 2A – 2 sin 2B = 0
จงหาค่าของ A + 2B
37
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ
ตัวอย่าง 56 ถ้า A และ B เป็นจานวนจริง โดยที่ A B และ
2
cos(A – B) = a , sin 2A = b และ sin 2B = c
จงหา cos(A + B)
38