You are on page 1of 11

ติง้ ตุ๊งงงง....

เสียงโปรแกรม Facebook Messenger ในสมาร์ทโฟนดังขึน้ มา

ผมเหลือบสายตาเห็นข้อความทักทายสัน้ ๆ ว่า “สวัสดีหนอม”


ระหว่างทีเ่ ปิ ด App ไปเพือ่ จะกดส่งข้อความตอบกลับ ฉับพลันข้อความคาถามเหมือนว่าทีต่ ระเตรียมไว้เรือ่ ง
ภาษีกส็ ง่ มาให้โดยทีย่ งั ไม่ทนั ตัง้ ตัว ราวกับว่าคาทักทายข้างต้นนัน้ ไม่มคี วามหมายอะไรเลย

แม่ม!! อะไรอีกวะ... คนกาลังจะนอน


ผมนึกในใจ แต่กต็ อ้ งอ่าน เพราะว่าตรูดนั เผลออ่านข้อความแรกไปแล้วนี่หว่า

“หนอม พีอ่ ยากจะจดบริษทั ปี น้ีพก่ี ะจะเพิม่ ยอดขาย อยากหาคนทาบัญชีทางานพวกนี้ให้ดว้ ย พีจ่ ะได้ตงั ้ ใจขาย
ของเต็มที”่

พีเ่ จน พีส่ าวคนหนึ่งทีท่ าอาชีพขายของออนไลน์คนนี้แหละ ทีท่ กั ข้อความมาในยามวิกาล พร้อมกับแจ้งความ


ประสงค์ทอ่ี ยากจะจดบริษทั ฯขึน้ มาแบบไม่มปี ่ี มขี ลุ่ย

“หืม.. ทาไมพีอ่ ยากจะจดบริษทั อะครับ”

ผมถามกลับไปด้วยความงุนงง เพราะจาได้ว่าคุยกันล่าสุด รายได้ของพีเ่ จนไม่น่าจะมากถึงขัน้ ต้องมาคิดจด


บริษทั อะไรขนาดนัน้ ตอนนัน้ ผมยังแซวเธอไปเลยว่า

“รายได้แค่น้ียน่ื ๆ ภาษีไปเหอะพี่ รายได้พน่ี ้อยจะตาย” (ปากหมาเหลือเกินตรู อิอ)ิ

“คืองีห้ นอม พีไ่ ปอ่านเจอมา เขาบอกว่าถ้ามีกาไรประมาณล้านกว่าๆ แบบพี่ ควรจะจดบริษทั เพือ่ ประหยัดภาษี


แถมตอนนี้รฐั มีสทิ ธิประโยชน์ให้ตงั ้ มากมาย มันแปลว่าพีจ่ ะคุม้ ไงหนอม”

พีส่ าวคนดีคนเดิมพิมพ์ตอบกลับมาแบบอายๆ เหมือนไม่แน่ใจว่าสิง่ ทีค่ ดิ ถูกหรือไม่

“แต่พไ่ี ม่แน่ใจว่าพีค่ ดิ ถูกหรือเปล่า เลยมาถามหนอมก่อน”

หลังจากนัน้ เธอก็อธิบายเหตุผลเรือ่ งภาษีทม่ี ปี ั ญหา ความวุน่ วายทีเ่ ธอไม่เข้าใจเรือ่ งภาษีทโ่ี รงเรียนไม่เคยสอน


กับการมีคา่ ใช้จ่ายต่างๆ เพิม่ ขึน้ มาอีกยกใหญ่ หวังจะเคลมให้ผมพร้อมใจบอกว่า

“จดบริษทั เถอะพีด่ กี ว่าแน่นอน หนอมรับประกัน ฟั นธง!!”

งานเข้าตรูแล้วสินะ...
สงสัยคืนนี้ยงั ไม่ได้นอนนนนนนนนนน

“เอางีพ้ ่ี ผมขอดึงสติพน่ี ิดนึงนะ พีบ่ อกผมหน่อยว่าทุกวันนี้พม่ี ยี อดขายเท่าไร และมีคา่ ใช้จ่ายอะไรบ้างที่


เกีย่ วข้องในการขายของของพี”่
ผมลองเชิงด้วยการถามเธอก่อนทีจ่ ะฟั นธงให้เธอว่าควรจดบริษทั ไหม เพราะสิง่ สาคัญแรกทีต่ อ้ งการรูก้ ค็ อื เธอมี
ข้อมูลธุรกิจตัวเองมากพอทีจ่ ะรูห้ รือไม่ว่ามีกาไรจริงๆ เท่าไหร่

“เอาประมาณๆ นะหนอม พีก่ จ็ ดบันทึกบ้าง ไม่บนั ทึกบ้าง แต่พร่ี วบรวมมาไว้คร่าวๆตามนี้”

เธอออกตัวไว้นิดหน่อย อาจจะรูส้ กึ ว่าอีน่ีทาไมมันชอบเบรกคนอยากได้ดจี งั วะในใจ ส่วนผมก็นงยิ


ั ่ ม้ รอคาตอบ
ของเธอ

หลังจากทีน่ ิ่งหายไปสักพัก เธอกลับมาพร้อมกับภาพประกอบและคาตอบทีผ่ มอยากได้

“ยอดขายเฉลีย่ เดือนละประมาณสามแสน ส่วนต้นทุนค่าของประมาณแสนสาม”

เธอเริม่ จากสิง่ ทีส่ าคัญทีส่ ดุ คือยอดขายพร้อมกับบอกต้นทุนจริงทีไ่ ด้มา เพราะเธอทาธุรกิจขายของแบบซือ้ มา


ขายไปตามปกติ มีการซือ้ ของจากแหล่งต่างๆ มาหลายแห่ง ทัง้ จากต่างประเทศและในประเทศ แล้วมาเลือก
สินค้าทาการตลาดอีกทีหนึ่ง

“ตกลงยอดขายปี ละ 3.6 ล้านเนอะ ส่วนต้นทุนก็จะประมาณ 1.56 ล้าน แล้วมีคา่ ใช้จา่ ยอืน่ ไหมพี่ ผมขอเป็ นแบบ
ค่าใช้จ่ายรายปี เลยได้ไหมวะพี่ ภาษีมนั คิดเป็ นปี อะ่ ผมขีเ้ กียจคูณเลข ฮ่าๆ”

ผมสร้างเงือ่ นไขให้เธอบอกข้อมูลมาให้หมดแบบรวบยอด เพราะขีเ้ กียจนังบวกลบคู


่ ณหาร อยากจะทาตัวเลข
กาไรขาดทุนให้เธอเห็นเป็ นอันดับแรกก่อน

ถ้าหากจังหวะแรกนี้ยงั ขาดทุน เธอไม่ควรจะจดบริษทั หรอก เธอควรไปเลิกกิจการมากกว่า มีแต่คนบ้าเท่านัน้ ที่


ทาธุรกิจขาดทุนแล้วดันอยากจะจดบริษทั ฮ่าๆ

“เอางีห้ นอม พีส่ รุปเป็ นตารางมาให้เลย หนอมจะได้พอใจนะ รีบคิดมาให้พท่ี สี ิ พีข่ เ้ี กียจจะแย่แล้ว ”

เธอส่งไฟล์ตารางสรุปรายได้คา่ ใช้จ่ายทีป่ ระมาณการขึน้ มาให้ผมดูสาหรับปี น้ี เพือ่ ทีผ่ มจะได้บอกเธอว่าควรจะ


จดหรือไม่เสียที อีหนอมนีม่ นั ชักช้าน่าราคาญอย่างทีเ่ ขาว่าจริงๆด้วย (ผมเดาว่าเธอคงคิดในใจ) เพราะผมชอบ
บ่นเรือ่ งของคนสมัยนี้กบั การพยายามทาทุกอย่างให้งา่ ยเกินไป โดยไม่สนใจว่าความเข้าใจของคนจะถูกต้อง
หรือเปล่าให้เธอฟั งอยูบ่ ่อยๆ
นี่ผมก็บ่นอีกแล้วสินะ...แย่จงั เปลีย่ นเรือ่ งเหอะ ทีน้ีเรามาดูตารางกันรายได้คา่ ใช้จ่ายทีเ่ ธอส่งมากันดีกว่า

รายได้ 3,600,000
ต้นทุน 1,560,000
กาไรขัน้ ต้น 2,040,000
ค่าใช้จ่ายอืน่ ๆ
- ค่าส่งของ 300,000
- ค่า Facebook 144,000
- ค่าเครือ่ งใช้ 36,000
- ค่าน้ามันรถ 36,000
- ค่าโปรแกรมสต็อกสินค้า 10,680
- ค่าไลน์ @ 12,000
- ค่าใช้จ่ายไฟ น้า เน็ต 24,000 562,680
กาไรก่อนคานวณภาษี 1,477,320

“เฮ้ย พี่ ปี น้ีทาไมยอดขายเยอะจังวะ ปี ทแี ล้วผมยังเห็นพีบ่ อกว่าขายได้ลา้ นห้า ทาไมปี น้ีจะปั น้ ยอดให้เยอะ
ขนาดนี้เหรอ พีร่ ไู้ หมมันต้องจด VAT ด้วยนะ ถ้าพีม่ รี ายได้เกินล้านแปดน่ะ”

ผมอธิบายเธอไป เพราะปี น้ียอดขายของเธอมันใหญ่เกินกว่าทีผ่ มคาดไว้

เนื่องจากธุรกิจขายของออนไลน์ทเ่ี ธอทามันต้องเสียภาษีมลู ค่าเพิม่ ด้วย ถ้ามียอดรายได้เกินกว่า 1.8 ล้านบาท


ต่อปี (ข้อกฎหมายกาหนดไว้) โดยถ้าเป็ นแบบนัน้ จริงๆ เธอต้องไปจดทะเบียนเป็ นผูป้ ระกอบการทะเบียน
ภาษีมลู ค่าเพิม่ ภายใน 30 วันหลังจากทีร่ วู้ ่ายอดขายเกินล้านแปด

“พีร่ ไู้ งหนอม พีเ่ ลยจะจดบริษทั ไง จะได้ทา VAT ให้ถูกต้องไปด้วยเลย เพราะอีกไม่เกินสองเดือนนี้น่าจะเกิด


ล้านแปดแล้วไง”

เธอตอบกลับมาอย่างรวดเร็วและมันใจ

ผมสัมผัสได้จากตัวอักษรที่ ส่งมา
ว่าเธอต้องกาลังมันใจอะไรผิ
่ ดๆอยู่แน่ นอน

“เฮ้ยพี่ พีร่ ไู้ หมว่า มันไม่เกีย่ วกันนะโว้ย จด VAT กับจดบริษทั มันคนละเรือ่ งกัน พีเ่ สียภาษีบุคคลธรรมดาก็จด
VAT ได้นะพี”่

ผมอธิบายไปให้เคลียร์อกี ที เพราะว่าดูเหมือนเธอจะเข้าใจผิดว่าการจด VAT กับบริษทั คือเรือ่ งเดียวกันอยูแ่ น่ๆ


“อ้าวเหรอ พีไ่ ม่ร”ู้

นันไง
่ ตรูว่าแล้ว

และคาถามต่อมาของเธอคือ “เอ้า...แล้วหนอมว่าแบบนี้พจ่ี ะจดบริษทั ดีไหมวะ”

“อ้าว...ไหนพีม่ นใจมากไงล่
ั่ ะว่าต้องจด ทาไมตอนนี้ไม่มนใจแล้
ั่ ววะ”

ผมแซวเธอไป

“เอาน่าหนอม คนเราผิดพลาดกันได้ พีแ่ ค่อยากทาให้ดไี ง” นันไง


่ ยกความดีมาอ้างอีกแล้ว

“เดีย๋ วผมคิดให้นะพีแ่ ป๊ บนึง ขอไปลองตีตารางคานวณภาษีคร่าวๆก่อน”

เธอและอ่านยกนิ้วโป้ งสีน้าเงินใหญ่ (LIKE ICON) กลับมา จริงๆ ตอนแรกผมว่าจะนอนแล้วนะ แต่ไหนๆ ก็


มาถึงตรงนี้แล้ว เอาก็เอาวะ จะได้รคู้ าตอบกันไปซักที อย่างน้อยก็จะได้มตี วั อย่างไปสอนคนอืน่ ด้วย

หลังจากเวลาผ่านไป 15 นาทีทผ่ี มลงไปหาอะไรกิน เอ้ย ไปสร้างตารางการคานวณภาษีเปรียบเทียบให้เธอ


ดูกอ่ นว่า จากข้อมูลทีม่ ที งั ้ หมดในตอนนี้ เธอจะเสียภาษีแตกต่างกันแบบไหนยังไงบ้าง ระหว่างการจดบริษทั กับ
เป็ นบุคคลธรรมดาอยูเ่ หมือนเดิม

บุคคลธรรมดา
นิ ติบคุ คล
หักเหมา หักจริ ง
รายได้ต่อปี 3,600,000 3,600,000 3,600,000
ค่าใช้จ่าย / ต้นทุนขาย 2,160,000 1,560,000 1,560,000
ลดหย่อน 60,000 60,000 ไม่ม ี
ค่าใช้จ่ายอืน่ ๆ
- ค่าส่งของ 300,000 300,000
- ค่า Facebook 144,000 144,000
- ค่าเครือ่ งใช้ 36,000 36,000
- โปรแกรมสินค้า 10,680 10,680
- ค่าไลน์ @ 12,000 12,000
รวม 502,680 622,680
เงิ นได้สทุ ธิ /กาไรสุทธิ 1,380,000 1,477,320 1,417,320
ภาษี ที่ต้องเสีย 210,000 234,330 167,598
หมายเหตุ

1. กรณีน้ี ถ้าเป็ นบุคคลธรรมดาสามารถเลือกคานวณภาษีได้ คือเลือกหักค่าใช้จ่ายเหมา 60% หรือหัก


ค่าใช้จ่ายตามจริง
2. อัตราภาษีของบุคคลธรรมดาคานวณแบบก้าวหน้า 5-35% ส่วนนิตบิ ุคคลคานวณด้วยอัตรา SMEs คือ
ยกเว้นภาษีจากกาไร 300,000 บาทแรก และส่วนทีย่ งั ไม่เกิน 3 ล้านบาท คิดในอัตรา 15%

“เดีย๋ วนะหนอม ทาไมเอาค่าใช้จ่ายพีม่ าคิดไม่ครบล่ะ” เธอทักมาหลังจากเห็นตารางทีผ่ มโชว์ให้ดู


“เอามาเป็ นค่าใช้จา่ ยทุกตัวไม่ได้พ่ี บางอันมันค่าใช้จา่ ยส่วนตัว กฎหมายภาษีเขาไม่ให้ถอื เป็ นรายจ่าย” ผมตอบ
ตามหลักการของกฎหมายทีไ่ ม่ให้นารายจ่ายทีไ่ ม่เกีย่ วข้องกับกิจการมาเป็ นรายจ่ายในการคานวณภาษี เพราะ
มันจะไม่ถอื ว่าเป็ นค่าใช้จ่ายของธุรกิจ (มาตรา 65 ทวิและ 65 ตรี)

“ค่าน้ามัน กับ ค่าน้าไฟเน็ต มันส่วนตัวตรงไหน”


“พีข่ ายของออนไลน์ มีคนส่งของให้ พีข่ บั รถไปหาใครเล่า”
“ขับไปหาผัวพีไ่ ง”
“แล้วค่าไฟ น้า เน็ต พีแ่ ยกออกหรออันไหนส่วนตัว อันไหนธุรกิจ”
“แยกไม่ออกว่ะ”
“โอเคนะพี่ งัน้ ก็ตามนี้ ผมคิดตัดค่าใช้จ่ายพวกนี้ออกไง พีจ่ ะได้มปี ั ญหาน้อยทีส่ ดุ และจะได้เห็นชัดๆว่าภาษีตอ้ ง
เสียเท่าไรด้วย”

เธอยกนิ้วโป้ งสีน้าเงินตัวใหญ่ (LIKE ICON) กลับมาอีกครัง้ ...


ไม่รวู้ ่าเธอจะโกรธทีผ่ มขอตัดค่าน้ามันรถทีเ่ ธอขับไปหาผัวออกหรือเปล่า

“ถ้าจะบริษทั พีจ่ ะประหยัดภาษีประมาณสีห่ มืน่ สามนะ”

ผมสรุปให้ฟัง แต่ยงั ไม่ทนั จะพิมพ์ต่อ เธอก็พมิ พ์ตอบกลับมาอย่างไวว่า...

“นี่ไงหนอม เห็นป่ ะ พีจ่ ดบริษทั ฯก็คมุ้ กว่าแล้วไง เพราะเสียภาษีน้อยลงไปตัง้ 4 หมืน่ กว่า ” พีเ่ จนส่งสติกเกอร์ห
น้ายิม้ กลับมาราวกลับผูช้ นะ พร้อมด้วยประโยคต่อว่า

“พรุง่ นี้พจ่ี ะนัดบัญชีจดบริษทั เลย”

“พีถ่ ามเค้ายังว่าค่าทาบัญชีเท่าไร”

ผมถามคาถามเตือนสติเธออีกที

“เห็นว่าปี นึงรวมๆแล้วก็ไม่น่าจะเกิน 5 หมืน่ นะ”


เธอพิมพ์ตอบกลับมา

“แต่พอ่ี าจจะต้องจ้างเด็กอีกคนมาช่วยดูเรือ่ งนี้ เดือนละประมาณหมืน่ นึง ปี นึงก็ประมาณแสนสองได้ รวมๆแล้ว


ก็จ่ายเพิม่ อีกไม่เกินแสนแปดต่อปี ”

สมกับเป็ นแม่คา้ ออนไลน์ พีเ่ จนคิดอะไรเร็วเหลือเกินในเรือ่ งตัวเลข ผิดกับตัวผม ทัง้ ๆ ทีเ่ รียนบัญชีมาแต่ถา้ ไม่ม ี
เครือ่ งคิดเลขก็เหมือนจะคิดในใจไม่ได้ไปเสียแล้ว

“แต่พป่ี ระหยัดภาษีได้ 4 หมืน่ กว่าเองนะ”

ผมยา้ คาพูดทีเ่ ธอพูดไป

“ใช้ไงหนอม พีเ่ ลยจดบริษทั ”

เธอตอบกลับมาห้วนๆ เหมือนหงุดหงิดนิดนึงทีด่ เู หมือนผมจะถามอะไรซ้าๆ ซากๆ

“แต่พป่ี ระหยัดภาษีได้ 4 หมืน่ กว่าเองนะ”

ผมยา้ คาพูดทีเ่ ธอพูดไป (อีกที)

“เอ๊ะหนอมนี่กวนพีห่ รอวะคะ”

เธอส่งข้อความหงุดหงิดกลับมา

“พีก่ ต็ ามเพจหนอมมานาน หวังว่าจะปรึกษาเรือ่ งภาษี แต่ดเู หมือนว่าจะเก่งแค่เขียนบทความเท่านัน้ นี่นา เคส


จริงคงไม่เข้าใจใช่ไหมล่ะ”

เธอดุปนดูถกู ผมกลับมาเบาๆ แต่ความหงุดหงิดดูเหมือนจะเพิม่ ขึน้ สองเท่าตัว

“ใช่ไงพี่ พีป่ ระหยัดภาษีไปสีห่ มืน่ กว่าแต่พจ่ี ่ายเงินเพิม่ อีกแสนแปด พีบ่ า้ หรือเปล่าวะพี่ ฮ่าๆ”

ตอนแรกว่าจะไม่ด่าเธอ ให้ลองคิดเอง แต่สถานการณ์แบบนี้คดิ ว่าด่าตรงๆไปเลยดีกว่า เพราะดูเหมือนว่าจะ


กลายเป็ นเข้าตัวซะงัน้ พร้อมกับส่งสติกเกอร์รปู ไก่มว่ งน้าตาไหลไปให้ดู หวังจะให้เธอรูต้ วั และมีสติมากขึน้

“....”

เธออ่านข้อความแต่ไม่ได้ตอบไปสักพัก ดูเหมือนเธอจะหัวไวใช้ได้กบั สิง่ ทีผ่ มถาม หลังจากนัน้ จึงค่อยตอบ


กลับมาว่า

“เออว่ะพีล่ มื คิด แบบนี้พก่ี เ็ สียภาษีเหมือนเดิมได้น่ี เพราะหนอมก็บอกว่าถ้าเป็ นบุคคลธรรมดาก็จด VAT ได้


ไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ไงพี่ แต่มนั อยูท่ พ่ี น่ี ะ ว่าพีม่ องความสะดวกแบบไหนยังไง?” ผมตอบไป

“เพราะจริงๆ คาตอบพวกนี้มนั ไม่มตี ายตัวหรอก มันมีแต่คนหลอกให้พล่ี มื คิดเรือ่ งกาไรจริงๆ ของธุรกิจ โดยเอา


เรือ่ งภาษีมาอ้าง เพือ่ ให้เหมือนว่าพีฉ่ ลาดทีป่ ระหยัดภาษีได้ แต่คนทาธุรกิจน่ะ เขามองภาพรวมทีก่ าไรน่ะพี่ ถ้า
พีม่ ตี วั เลขจริง พีร่ วู้ ่าพีต่ อ้ งทาอะไร พีก่ จ็ ดั การไปได้เลย”

เห็นเธออ่านแล้วไม่ตอบ
ผมเลยพิมพ์ขอ้ ความอีกชุดใหญ่ไปเพือ่ อธิบายเธอต่อ

“ส่วนเรือ่ งจดบริษทั อ่ะพี่ มันไม่ใช่ดแู ค่เรือ่ งภาษี แต่พต่ี อ้ งดูเรือ่ งความพร้อม ความต้องการของพีด่ ว้ ย ทัง้ เรือ่ ง
ประหยัดค่าใช้จ่ายทีว่ ่า ไปจนถึงเรือ่ งการขยายกิจการ สร้างโอกาส ความน่าเชือ่ ถือ อยากจะกูเ้ งินไหม ไปจนถึง
เรือ่ งอืน่ ๆ ทีม่ นั เกีย่ ว ซึง่ ถ้าพีเ่ อาอะไรพวกนี้ไปติดกับเรือ่ งภาษี มันจะทาให้พค่ี ดิ ภาพรวมไม่ออก เพราะไปมอง
แต่เรือ่ งการประหยัดภาษี”

เธอยังนิ่งเหมือนเดิม ไม่ตอบ...
ผมเลยถือโอกาสพิมพ์คาสอนชุดสุดท้ายไป

“ผมว่าพีต่ อ้ งทบทวนก่อนว่า ถ้าจะจดจริงๆ พีจ่ ดแล้วพีจ่ ะทาอะไรบ้าง พีจ่ ะให้บญั ชีทาอะไรบ้าง หรือจริงๆ พี่
อาจจะไม่จาเป็ นต้องจ้างบัญชีกไ็ ด้ แต่จา้ งเด็กคนหนึ่งมาดูแลเรือ่ งเอกสาร ทาสต็อก ทานู่นนี่ต่างๆ ให้พก่ี พ็ อ
หรือเปล่า แล้วก็ปล่อยเสียภาษีบุคคลธรรมดาไป เพราะถ้ามองต่ออ่ะ พีย่ งั วางแผนภาษีบคุ คลธรรมดาได้อกี นะ
ไปซือ้ พวกลดหย่อนภาษีกไ็ ด้ ถ้าพีก่ าไรขนาดนี้ มันก็ลดภาษีพไ่ี ด้อกี ต่อหนึ่ง แถมเงินพีย่ งั ไม่หายด้วยนะ”

ดูเหมือนเธอจะเข้าใจทีผ่ มสือ่ แล้วกระมัง


เพราะเธอพิมพ์กลับมาสัน้ ๆว่า “อืม”
ความมันใจและอารมณ์
่ วนี ใส่กอ่ นหน้านี้
กลายเป็ นเรือ่ งทีล่ มื กันได้งา่ ยๆ เลยสินะ แหม่...

“แต่แบบนี้ พีก่ ต็ อ้ งมาทาเรือ่ งจด VAT ใช่ไหม แล้วพีจ่ ะเก็บลูกค้าได้ไหมอ่ะ อีกตัง้ 7% คนเขาไม่ซอ้ื ของพีแ่ ย่
เหรอ กลายเป็ นพีต่ อ้ งขายแพงขึน้ 7%” เธอเอ่ยถามเรือ่ งทีน่ ่ าสนใจอีกเรือ่ ง

ใช่ครับ!! เรือ่ งของ VAT ทีใ่ ครหลายคนมองข้าม จริงๆแล้วมันสาคัญมากเพราะว่าทางเลือกของเธอจะมี 2 ทาง


คือ ผลักภาระให้ลกู ค้าโดยการขายราคาเพิม่ ขึน้ หรือยอมขายเท่าเดิมแต่รบั VAT ไว้เอง

“มันมีสองทางเลือกพี่ ระหว่างเก็บเงินลูกค้าเพิม่ หรือ พีจ่ ะลดกาไรของตัวเอง” ผมรูว้ ่าเธออยากได้อะไร เลยส่ง


ตารางนี้ให้เธอดู แล้วให้ทางเลือกเธอพิจารณาอีกทีหนึ่ง
เก็บเงิ นลูกค้าเพิ่ ม ลดกาไรของตัวเอง
ยอดขาย 3,600,000 3,364,486
VAT 7% 252,000 235,514
เงินทีไ่ ด้รบั จากลูกค้า 3,852,000 3,600,000

“ถ้าพีอ่ ยากได้กาไรเท่าเดิม พีก่ ต็ อ้ งเก็บเงินลูกค้าเพิม่ 7% ถ้าหากลูกค้ายอมจ่ายก็จบ แต่ถา้ พีก่ ลัวพีก่ ต็ อ้ ง


ยอมรับ VAT เอง แล้วลดกาไรลงไปประมาณสองแสนสี่ พีจ่ ะเลือกทางไหนก็ได้ แล้วแต่พ”่ี

“หนอมจ๋า อ่า พีก่ วนขอแบบสรุปๆได้ไหม พีอ่ ยากได้ขอ้ มูลทัง้ หมดไปเทียบกันดู ทัง้ VAT ทัง้ ภาษีเงินได้ จะได้
ดูงา่ ยๆ อ่ะหนอม พีข่ อละกัน”

เธอขอร้องแกมบังคับมา โดยถืออภิสทิ ธิความสนิทกันเป็ นทุนเดิมให้ผมทาสรุปทุกอย่างให้

เอาก็เอาวะ... จบกันสักที
ผมบรรจงใส่ทกุ ทางเลือกลงในตารางสุดท้ายนี้...

บุคคลธรรมดา (หักเหมา) นิ ติบคุ คล


คิ ดราคาเพิ่ ม ลดกาไรลง คิ ดราคาเพิ่ ม ลดกาไรลง
กาไรก่อนภาษี 1,477,320 1,477,320 1,477,320 1,477,320
ภาษีมลู ค่าเพิม่ (VAT) - 235,514 - 235,514
ภาษีเงินได้ 210,000 186,449 167,598 132,271
กาไรหลังภาษี 1,267,320 1,055,357 1,309,722 1,109,535

“ถ้าเป็ นบุคคลธรรมดา ผมเลือกวิธหี กั เหมานะพี่ เพราะถ้าพีห่ กั จริง พีจ่ ะเสียมากกว่าทัง้ เวลาและภาษี และมันก็
ต้องทางานเหนื่อยพอๆ กับจดบริษทั แล้ว ดังนัน้ ผมไม่เลือกวิธนี ้ีครับ”

ผมพิมพ์อธิบายไประหว่างทีส่ ง่ ตารางนี้ให้เธอดู

“อันนี้คอื คิดกาไรทีเ่ ป็ นตัวเงินจริงๆ ให้พใ่ี ช่ไหมจ๊ะ”

ในทีส่ ดุ ก็มคี าอ่อนคาหวานออกมา นันแน่


่ พอใช้งานแล้วก็เหมือนจะดีขน้ึ มาทันทีนะเนี่ย พีค่ นนี้ ฮ่าๆ

“ใช่ครับ ผมคิดกาไรจริง เอาค่าใช้จ่ายทัง้ หมดทีเ่ กิดจริงมาคิดหมด พีจ่ ะได้รกู้ าไรจริงๆ ไง และส่วนภาษีผมก็


คานวณไวๆเอานะครับ เพราะถ้าหากกรณีทพ่ี ย่ี อมรับ VAT เป็ นต้นทุนของพี่ มันก็จะทาให้ยอดขายพีล่ ดลงไป
ผมก็เลยเอาส่วนนี้มาคิดด้วย ซึง่ มันจะมีผลให้กาไรหรือเงินได้สทุ ธิพล่ี ดลง เสียภาษีเงินได้น้อยลงด้วย แต่ถา้ พี่
เก็บ VAT จากลูกค้าคือพีไ่ ม่ได้ไม่เสียอะไร VAT เลยไม่กระทบ”
ผมอธิบายเธอไปอีกทีให้เข้าใจ แต่ไม่ได้บอกหรอกว่าตัวเลขทีค่ านวณมันเป๊ ะๆ เนื่องจากผมเองก็รบี คานวณ
แบบคร่าวๆ ให้ดู แต่คดิ แล้วก็ไม่น่าจะผิดอะไร

“ดีจงั เลยหนอม แต่ถา้ พีม่ ภี าษีซอ้ื จากพวกคนทีพ่ ไ่ี ปซือ้ ของเขา ก็เอามาหักภาษีขายได้ใช่ไหม แปลว่า VAT ก็
อาจจะน้อยลงกว่านี้อกี ”

เธอถามเพราะเข้าใจเรือ่ งการคานวณภาษีมลู ค่าเพิม่ บ้างแล้ว ว่ามันต้องเอาภาษีขายทีเ่ ราเก็บจากลูกค้า มาหัก


กับภาษีซอ้ื ทีเ่ ราถูกเรียกเก็บในแต่ละเดือนแล้วเอาส่วนต่างของภาษีมายืน่ รายการทุกเดือนให้กบั กรมสรรพากร

“ใช่พ่ี ทัง้ หมดก็ประมาณนี้แหละครับ จะเห็นว่าถ้ายอดขายประมาณทีพพ่ี ดู มา มันไม่ต่างกันมากเท่าไหร่เรือ่ ง


ภาษี อยูใ่ นหลักแสนทีพ่ อ่ี าจจะมองว่าคุม้ หรือไม่คมุ้ ก็ได้ และจริงๆ นี่ยงั ไม่ได้มองเรือ่ งลดหย่อนภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดาอีกนะพี่ ถ้าพีม่ ลี ดหย่อนดีๆ บางทีพก่ี จ็ ะประหยัดภาษีเงินได้มากขึน้ ซึง่ อาจจะคุม้ กว่า”

ผมอธิบายเธอยา้ เป็ นครัง้ สุดท้าย หวังว่าเธอจะเข้าใจในสิง่ ทีผ่ มสือ่ และมันก็ดกึ แล้ว ผมควรจะไปนอนเสียที
ตามทีต่ งั ้ ใจไว้

“ขอบคุณมากเลยหนอม พีข่ อเอาความรูด้ ๆี แบบนี้ไปสอนเพือ่ นๆ คนอืน่ ต่อนะ”

เธอบอกผม

“ยินดีเลยครับพี”่

ผมตอบกลับไปด้วยใจอิม่ บุญ “ยิง่ ให้คอื ยิง่ ได้” ใครหลายคนเคยบอกผมแบบนัน้

“งัน้ บายจ๊ะ”

“บายครับพี”่

ผมปิ ดคอมแล้วปี นขึน้ เตียงนอนด้วยความอ่อนล้า... พรุง่ นี้คอ่ ยว่ากันใหม่

เช้าวันรุง่ ขึน้ ... ผมตื่นขึน้ มาด้วยเสียงของนาฬิกาปลุกในสมาร์ทโฟนเครือ่ งเก่า เปิ ดขึน้ มาดูเห็นข้อความเข้ามา


ใหม่หลายข้อความ หนึ่งในนัน้ มีพเ่ี จนคนเดิม เธอส่งลิงค์มาอวดว่าเปิ ดเพจใหม่ “แม่คา้ ออนไลน์ สบายใจเรือ่ ง
ภาษี” และแนะนาให้ผมกดไลค์เพจเธอไว้ เพือ่ จะได้ไม่พลาดข่าวสารสาคัญ

“พีเ่ อาทีห่ นอมทาเมือ่ วานมาก็อปแล้วก็แจกคนอืน่ หมดแล้วจ้า เห็นว่ามีประโยชน์ ” เธอโชว์โพสคาอธิบายของผม


ทีเ่ ธอก็อปปี้ ไปทัง้ ดุน้ แต่มเี ปลีย่ นแปลงคาพูดให้เป็ นผูห้ ญิงเสียหน่อย พร้อมตารางทีผ่ มทาให้คนอืน่ ไปแจกฟรี
เพือ่ เรียกยอดไลค์จากกลุ่มแม่คา้ ออนไลน์ทต่ี ดิ ตามเธอ

“ขอบคุณสาหรับข้อมูลดีๆนะจ๊ะ เดีย๋ วอีกไม่นานพีก่ จ็ ะเปิ ดคอร์สสอนแล้วจ๊ะหนอม แม่คา้ ออนไลน์คนดี จะเสีย


ภาษีให้ถกู ต้องอย่างไร ไว้ถา้ เปิ ดก็มาเรียนกับพีไ่ ด้นะจ๊ะ”
พีเ่ จนหยอดทิง้ ท้ายด้วยคาหวาน ทิง้ ให้ผมตะลึงลานว่า เดีย๋ วนะ ตกลงนี่มนั เรือ่ งอะไรกันแน่วะ

“ยังไงนะครับพี่ ผมงงไปหมดแล้ว”

ผมพิมพ์ตอบเธอไปทัง้ ๆ ทีม่ อื ยังสันอยู


่ ่ ตกลงมันคืออะไรกันแน่

“แหม น้องหนอมก็ ตอนนี้พเ่ี ป็ นกูรแู ล้ว พีข่ อเอาความรูไ้ ปสอนต่อนะคะ”

เธอพิมพ์ตอบกลับมาแบบมันใจ

เรื่องทัง้ หมดนี้ ทาให้ผมอุทานคาสัน้ ๆคาเดียวออกมาว่า....

You might also like