You are on page 1of 37

-ร่าง-

ประกาศกรมแพทย์ท ารบก
เรื่อง คำแนะนำการป้องกัน การเฝ้าระวัง
และการปฐมพยาบาลการเจ็บป่วยจากความร้อน
.................................................
ใ ้ยกเลิก ประกา กรมแพทย์ท ารบก เรื่อง คำแนะนำ ำ รับ ผู้บังคับ น่ ย ผู้ฝึก ครูฝึก
และเจ้า น้าที่ที่เกี่ย ข้องกับการป้องกัน การเฝ้าระ ัง การปฐมพยาบาล และการรัก าพยาบาลการบาดเจ็บ
จากค ามร้อน ลง ันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ และใ ้ใช้ประกา กรมแพทย์ท ารบก ฉบับนี้แทน
เนื่องจากปัจจุบัน ภาพอากา ทุกภูมิภาคของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เ มอเกิดจาก ภา ะ
โลกร้อนทำใ ้อุณ ภูมิและค ามชื้น ัมพัทธ์เพิ่ม ูงขึ้นก ่าปกติและมีแน โน้ม ูงขึ้นทุกปี ่งผลกระทบโดยตรง
ต่อการฝึกและการปฏิบั ติการทางท าร ซึ่งการเจ็บป่ ยจากค ามร้อน ( Heat related illness ) เป็น ิ่งที่
ป้ อ งกั น ได้ ผู้ บั ง คั บ บั ญ ชาทุ ก ระดั บ ผู้ ฝึ ก ครู ฝึ ก และเจ้ า น้ า ที่ ที่ เกี่ ย ข้ อ ง ต้ อ งมี ค ามรู้ ค ามเข้ า ใจ
ใ ้ค าม ำคัญในการป้องกันมิใ ้เกิดการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนและปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมแพทย์ท ารบก
อย่างเคร่งครัด ดังนี้
๑. าเ ตุ ำคัญของการเกิดการเจ็บป่วยจากความร้อน
๑.๑ การ ะ มความร้อนและการระบายความร้อน
๑.๑.๑ การ ะ มความร้อนของร่างกาย
- ร่างกาย ามารถ ร้างค ามร้อนด้ ยการออกกำลัง
- การแผ่รัง ีจากแ งแดด
- ค ามร้อนที่มาจาก ิ่งแ ดล้อม
- ค ามชื้น ัมพัทธ์ที่ ูง ซึ่งขัดข างกลไกการระบายค ามร้อนของร่างกาย
ทางเ งื่อ รือผิ นัง
๑.๑.๒ การระบายความร้อนของร่างกาย
- การระเ ยของเ งื่อ
- การแผ่รัง ีค ามร้อนออกจากร่างกายทางผิ นัง
- การนำค ามร้อนจากผิ นังไปอากา รอบๆ
- การ ายใจ
- การปั า ะ
๑.๒ การปรับตัว คือ ค าม ามารถของร่างกายในการปรับตั ต่อ ิ่งแ ดล้อมและภา ะ
เครียดจากค ามร้อนของกลไกในร่างกาย
๑.๓ การขาดน้ำ คือ ภา ะที่ร่างกาย ูญเ ียน้ำต่ำก ่าระดับปกติ(ปลอดภัย) เช่น เ ียเ งื่อ
อาเจียน ท้องเ ีย เป็นต้น
๒. ปัจจัยเ ี่ยงต่อการเกิดการเจ็บป่วยจากความร้อน
๒.๑ ปัจจัย ่วนบุคคล
๒.๑.๑ ผู้ที่มีค่าดัชนีม ลกาย มากก ่า ๒๘
๒.๑.๒ ผู้ที่มีร่างกายไม่เคยชินกับการออกกำลังกาย การฝึกและค ามร้อน
-๒-

๒.๑.๓ ผู้ ที่ ดื่ ม เครื่อ งดื่ ม ที่ มี แ อลกอฮอล์ อ ย่ าง นั ก ภายใน ๑ ั ป ดา ์ โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งช่ ง ๒๔ ชั่ โมง ก่อนเข้ารับการฝึก
๒.๑.๔ ผู้ที่ตร จพบ ารเ พติดในปั า ะ รือ มีประ ัติใช้ ารเ พติดอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะ ๓ ันก่อนเข้ารับการฝึก
๒.๑.๕ ผู้ที่มีอาการป่ ยก่อนเข้ารับการฝึก เช่น มีไข้ เป็น ัด ท้องเ ีย อบ ืด เป็นต้น
๒.๑.๖ ผู ้ที ่ไ ด้รับ บาดเจ็บ จากอุบ ัต ิเ ตุ ถูก ทำร้า ยร่า งกาย จนกล้า มเนื ้อ ฟกช้ำ
อย่างรุนแรง และยัง ปรากฏอาการอยู่ เมื่อเข้ารับการฝึก
๒.๑.๗ ผู้ที่อดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ ( นอน ลับน้อยก ่า ๘ ชั่ โมงต่อ ัน )
๒.๑.๘ ผู้ที่มีโรคประจำตั ที่ต้องรับประทานยาเป็นประจำ รือต้องรับประทานยา
บางชนิดซึ่งทำใ ก้ ารระบายค ามร้อนออกจากร่างกายทางเ งื่อได้ลดลง เช่น ยาลดน้ำมูก ยาแก้แพ้ ยา อบ ืด ยาแก้
ท้องเ ีย ยาขับปั า ะ ยาจิตเ ช เป็นต้น
๒.๑.๙ ผู้ที่เคยมีอาการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนมาก่อน
๒.๑.๑๐ ผู้ที่ได้บริจาคโล ิตภายใน ๓ ันก่อนเข้ารับการฝึก ( ทั้งนี้ไม่แนะนำใ ้ท าร
ใ ม่ขณะอยู่ในช่ งการฝึกบริจาคโล ิต )
๒.๒ ปัจจัยด้าน ิ่งแวดล้อม
๒.๒.๑ อุณ ภูมิที่ ูง ค ามชื้น ัมพัทธ์ที่ ูง และการ ัมผั แ งแดด จะทำใ ้ร่างกาย
ของผู้รับการฝึกปรับอุณ ภูมิกายใ ้อยู่ใน ภา ะที่ปกติได้ยากลำบากมากยิ่งขึ้น
๒.๒.๒ การ มเ ื้อผ้าที่ นาเกินไป จะทำใ ้ร่างกายไม่ ามารถระบายค ามร้อน
ออกไปได้ เงื่อนไขทางด้าน ิ่งแ ดล้อมและการ มใ ่เ ื้อผ้าจะเพิ่มกระบ นการ ร้างค ามร้อนในร่างกาย
๒.๒.๓ การเจ็บป่ ยจากค ามร้อน ่ นใ ญ่จะเกิดในการฝึกใน ภาพอากา ที่ร้อน
แต่อย่างไรก็ตามการเจ็บป่ ยจากค ามร้อน ามารถเกิดใน ภาพอากา ที่เย็นได้ ากผู้รับการฝึก มเ ื้อผ้าที่
นาเกินไปในขณะฝึก และ ากผู้รับการฝึกไม่ ามารถลดค ามร้อนในร่างกายได้ในระ ่างการฝึกใน ้ ง
กลางคืน
๒.๒.๔ โรงนอนแออัด การระบายอากา และค ามร้อนไม่ดี
๒.๓ ปัจจัยด้านการบริ ารจัดการ
๒.๓.๑ การละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันเฝ้าระ ังการเจ็บป่ ยจาก
ค ามร้อนตามแน ทางของกรมแพทย์ท ารบก
๒.๓.๒ ไม่ ามารถประเมินค ามเ ี่ยง อาการ ค ามรุนแรงของการเจ็บป่ ยจาก
ค ามร้อนได้ รือประเมินล่าช้า
๒.๓.๓ ินิจฉัย รือใ ้การรัก าที่ไม่ถูกต้อง รือล่าช้า
๓. อาการการเจ็บป่วยจากความร้อน
๓.๑ การเจ็ บ ป่ ว ยจากความร้ อ น เป็ น กลุ่ ม อาการที่ เกิ ด ขึ้ น ในขณะที่ ร่ า งกายอยู่ ใน
ภาพแ ดล้อมที่มีอุณ ภูมิ รือค ามชื้น ัมพัทธ์ ูง รือจากการออกกำลัง (ฝึก ออกกำลังกาย ซ่อม ินัย เป็นต้น)
แบ่งได้เป็น ๒ กลุ่ม ตามระดับค ามรุนแรง ดังนี้
๓.๑.๑ การเจ็บป่วยจากความร้อนชนิดไม่รุนแรง
- ผดผื่ น คั น จากความร้ อ น ( Prickly heat ) เป็ น ผื่ น แดงคั น มั ก พบ
ที่ผิ นังบริเ ณในร่มผ้า เนื่องจากมีการอุดตันของต่อมเ งื่อที่ผิ นังบริเ ณดังกล่า ทำใ ้เกิดการอักเ บ
แบบเฉียบพลันของต่อมเ งื่อมีอาการคันเป็นอาการเด่น
-๓-

- บวมแดด ( Heat edema ) เป็นอาการบ มและตึงของมือและเท้า ซึ่งจะ


เกิดขึ้นใน ๒ - ๓ ันแรกที่อยู่ใน ภาพแ ดล้อมที่ร้อน ่ นใ ญ่จะบ มที่เท้าขึ้นมาถึงข้อเท้า มักไม่ลามขึ้นเกิน
น้ า แข้ ง เกิ ด จากการขยายตั ของ ลอดเลื อ ดบริ เ ณผิ นั ง และมี ารน้ ำคั่ ง ในช่ อ ง ่ างระ ่ า งเซลล์
ในบริเ ณแขน ขา
- ลมแดด ( Heat syncope ) มีอาการ น้ามืด ตั เย็น เป็นลม มด ติ
จากภา ะของค ามดัน โล ิ ตต่ำจากลั ก ณะท่าทาง ซึ่ งเป็น ผลจากการขยายตั ของ ลอดเลือด ่ นปลาย
การลดลงของการตึงตั ของ ลอดเลือดและการพร่องของปริมาณ ารน้ำในร่างกายอันเนื่องมาจากค ามร้อน
- ตะคริ ว แดด ( Heat cramps ) เป็ น การ ดเกร็ ง ตั ของกล้ า มเนื้ อ
ที่บังคับไม่ได้ ทำใ ้เกิดอาการป ด มักพบอาการตะคริ ที่น่อง ต้นขาและกล้ามเนื้อ น้าท้อง ในขณะออกกำลัง
กาย รือ ลัง ออกกำลังกาย ลายชั่ โมง ภา ะดังกล่า นี้ มักพบในผู้ที่ มีเ งื่อออกมากและดื่ม น้ำเปล่าไม่มี
เกลือแร่ผ ม ตะคริ ามารถ ายได้เองแต่อาการป ดกล้ามเนื้ออาจจะยังปรากฏอยู่
- เกร็งแดด ( Heat tetany ) เกิดจากการ ายใจเร็ มากเกินไป ่งผลใ ้
เกิดค ามเป็นด่างในเลือดจากการ ายใจ ( Respiratory alkalosis ) มีอาการเ น็บชา เกร็งกล้ามเนื้อ มักเกิด
ใน ภา ะที่ได้รับค ามร้อนอย่างมากในช่ งระยะเ ลา ั้นๆ
๓.๑.๒ การเจ็บป่วยจากความร้อนชนิดรุนแรง
- กล้ามเนื้อ ลายตัวจากความร้อน ( Heat related rhabdomyolysis )
เป็นภา ะที่ร่างกายมีการ ลายตั ของกล้ามเนื้อลายอย่างเฉียบพลันทำใ ้ ารต่างๆ ที่เกิดจากการทำลายของ
กล้ามเนื้อลายออกมา ู่กระแ โล ิต มีอาการป ดกล้ามเนื้อ ปั า ะเป็น ีแดงจางๆ รือเป็น ีน้ำตาล
- ฮี ท เอ็ ก ซอ ชั่ น ( Heat exhaustion ) เป็ น กลุ่ ม อาการที่ มี อ าการ
ไม่จำเพาะเจาะจง เช่น มึนงง อ่อนเพลีย ไม่มีแรง คลื่นไ ้ อาเจียน ป ด ีร ะ ป ดกล้ามเนื้อ อาจมีอาการเป็น
ลม รือค ามดันโล ิตลดต่ำลงอย่างร ดเร็ เมื่อยืน เ งื่อออกมาก ายใจเร็ ั ใจเต้นเร็ อุณ ภูมิกาย ูงขึ้น
ตั้งแต่ ๓๗.๘ แต่ไม่เกิน ๔๐ อง าเซลเซีย เมื่อ ัดทางท าร นัก ( กรณี น่ ยฝึกท ารใ ม่แนะนำใ ้ ัดทาง
รักแร้ ซึ่งจะพบ ่ ามีอุ ณ ภู มิก ายตั้งแต่ ๓๖.๘ แต่ ไ ม่ เกิ น ๓๙ อง าเซลเซี ย ) แต่ยั ง รู้ ติ ระบบประ าท
่ นกลางอาจจะยังทำงานได้ตามปกติ รือไม่ก็ได้ มักเป็นอาการร่ มกับภา ะขาดน้ำและเกลือแร่ การบาดเจ็บ
จากค ามร้อนในระดับนี้ มีค าม ำคัญอย่างยิ่งต่อการ ินิจฉัยที่ทันท่ งที เพื่อใ ้ ยุดการฝึก รือออกกำลังกาย
และใ ก้ ารรัก าพยาบาลก่อนที่จะมีอาการรุนแรงถึงระดับโรคลมร้อน ( Heat stroke )
- โรคลมร้อน (Heat stroke) เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ เกิดจาก
การที่ร่างกายไม่ ามารถลดอุณ ภูมิกายลงได้ ทำใ ้การทำงานของระบบอ ัย ะต่างๆ ในร่างกายล้มเ ล และ
ทำใ ้เ ียชี ิตได้ มีอาการที่ ำคัญ ได้แก่
๑) อุณ ภูมิกาย ูงเกินกว่า ๔๐ องศาเซลเซีย
๒) ระบบประ าท ่วนกลางทำงานผิดปกติ ได้แก่ กระ นกระ าย
พูดจา ับ น พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ก้า ร้า ประ าท ลอน ซึมลง เดินโซเซ มด ติ เป็นต้น ในระยะต้น
อาจพบ ่ามีเ งื่อออกมาก แล้ บางรายจะเข้า ู่ภา ะที่ไม่มีเ งื่อ ( เกิดจากการพร่องของ ารน้ำในร่างกาย และ
ต่อมเ งื่อทำงานผิดปกติ ) ในรายที่เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นเป็นโรคลมร้อน ( Heat stroke ) อาจทำใ ้เกิด
ภา ะทุพพลภาพ รืออาจทำใ ้เ ียชี ิตได้ ดังนั้นผู้ป่ ยที่ ง ัย ่าจะเป็นโรคลมร้อนต้องได้รับการปฐมพยาบาล
เบื้องต้น ระ ่างนำ ่ง และตร จรัก าจากแพทย์โดยเร็ ที่ ุด
-๔-

โรคลมร้อน ามารถจำแนกได้เป็น ๒ กลุ่ม ดังนี้


๑. Classical Heat Stroke คื โรคลมร้ นที่มักเกิดขึ้นในผู้ ูง ายุที่ ยู่ใน
ภาพ ากาศร้ นเป็นเวลา ลายวันต่ เนื่ งกัน ร่างกายไม่ ามารถระบายความร้ นได้ทัน
๒. Exertional Heat Stroke คื โรคลมร้ นจากการ กกำลั ง กาย
ที่เกิดขึ้นในกลุ่มคน ายุน้ ยที่มีการ กกำลังกาย ย่าง นักใน ภาวะ ากาศที่ร้ นจัด ซึ่งมักเกิดในการฝึก
ท ารและการฝึก ย่าง นักข งนักกี า
๔. คำแนะนำในการป้องกันเฝ้าระวังการเจ็บป่วยจากความร้อน
๔.๑ ำ รับการฝึกท ารใ ม่ ผนวก ก
๔.๒ ำ รับการฝึกทางท ารอื่นๆ ผนวก ข
๔.๓ แนวทางการปฐมพยาบาลลดความร้อนวิธีอื่นๆ ผนวก ค
๔.๔ เครื่องมือในการป้องกันเฝ้าระวังการเจ็บป่วยจากความร้อน ผนวก ง
๔.๕ คำแนะนำการเตรียมตัวก่อนเข้าเป็นท ารใ ม่ ผนวก จ
๔.๖ แนวทางปฏิบัติในด้านนิรภัยการฝึก
๕. การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ำ รับกำลังพลที่เจ็บป่วยจากความร้ น
การปฐมพยาบาลการเจ็บป่วยจากความร้ นชนิดต่างๆ ใ ้ปฏิบัติ ดังนี้
๕.๑ ผดผื่ น คั น จากความร้ อ น ( Prickly heat ) ใ ้ ผู้ ป่ ว ย ยู่ ใ นที่ ร่ ม ากาศถ่ า ยเท
ะดวก าบน้ำทำความ ะ าดร่างกาย ลีกเลี่ยงการเกาที่รุนแรงเพราะ าจทำใ ้เกิดเป็นแผลและติดเชื้ ได้
กรณีที่ไม่ดีขึ้นใ ้ไปพบแพทย์ ควรระมัดระวังในการใ ้ยาแก้แพ้ เนื่ งจากจะทำใ ้การระบายความร้ น กจาก
ร่างกายทางเ งื่ ได้ลดลง
๕.๒ บวมแดด ( Heat edema ) ใ ้ผู้ป่วย ยู่ในที่ร่ม ากาศถ่ายเท ะดวกน นยกขา ูง
กว่าระดับ ัวใจเล็กน้ ย าการบวมจะ ายไปในเวลา ๒ – ๓ วัน ไม่ควรใ ้ยาขับปั าวะ เนื่ งจากจะทำใ ้
การระบายความร้ น กจากร่างกายทางเ งื่ ได้ลดลง
๕.๓ ลมแดด ( Heat syncope ) นำผู้ป่วยเข้าในที่ร่ม ากาศถ่ายเท ะดวก คลาย รื
ถ ดเ ื้ ผ้า กางเกง เข็มขัด ร งเท้าที่รัดแน่น ก กรณีที่ มด ติต้ งจับน นตะแคงเพื่ ป้ งกันการ ำลัก
เช็ดตัวด้วยน้ำ ุณ ภูมิปกติทั้งตัว โดยเช็ดย้ นรูขุมขนจากปลายมื ปลายเท้าเข้า ่วนกลางข งร่างกายบริเวณ
ทรวง ก และใ ้การปฐมพยาบาลเช่นเดียวกับ าการเพลียแดด รื โรคลมร้ น แล้วรีบนำ ่งโรงพยาบาล
ทันที
๕.๔ ตะคริวแดด ( Heat cramps ) ใ ้จัดท่าทางเพื่ ยืดกล้ามเนื้ ่วนนั้นใ ้คลายตัวซึ่ง
ต้ งกระทำ ย่างค่ ยเป็นค่ ยไป าจยืดเ ง รื ใ ้ผู้ ื่ นกระทำใ ้และยืดค้างไว้ ักครู่ ลับด้วยการบีบนวด
เบาๆ บริเวณกล้ามเนื้ นั้น และใ ้ดื่มน้ำผ มเกลื แร่ใน ัตรา ่วน ๑ ซ ง ต่ น้ำ ๑ แก้ว ( ๒๕๐ ซีซี ) ทดแทน
ที่ร่างกาย ูญเ ียไป
๕.๕ เกร็ งแดด ( Heat tetany ) นำผู้ ป่ ว ยเข้ า ที่ ร่ ม ากาศถ่ า ยเท ะดวก ลด ั ต รา
การ ายใจ ย่างง่ายๆ โดยการชวนผู้ป่วยพูดคุย ลีกเลี่ยงการใ ้ดื่มน้ำ เพราะ าจทำใ ้ ำลักได้ง่าย กรณีที่มี
าการเกร็งมาก นิ้วมื จีบเกร็ง รื มี าการชัก ไม่ควรใ ่ ิ่งข งใดๆ ในปากผู้ป่วย เพราะ าจแตก ัก รื ฟัน
บิ่นแตกเข้าไป ุดกั้นทางเดิน ายใจ จัดท่าน นแ งนค เล็กน้ ยและตะแคง น้า จะช่วยใ ้ทางเดิน ายใจตรง
ากาศผ่านเข้า กได้ดี และการตะแคง น้าจะช่วยป้ งกันการ ำลักเ ม ะและน้ำลาย
๕.๖ กล้ามเนื้อ ลายตัวจากความร้อน ( Heat related rhabdomyolysis ) ากพบ
ท ารใ ม่มี าการปวดกล้ามเนื้ ร่วมกับมีปั าวะ ีเลื ดจางๆ รื ีน้ำตาล ควรใ ้พักและนำพบแพทย์ทันที
-๕-

๕.๗ ฮี ท เอ็ ก ซอ ชั่ น ( Heat exhaustion ) และโรคลมร้ อ น ( Heat stroke )


ากพบผู้รับการฝึกมีอาการ กระวนกระวาย พูดจา ับ น พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ก้าวร้าว ประ าท ลอน
ซึมลง เดินโซเซ มด ติ อย่างใดอย่าง นึ่งใ ้รีบทำการปฐมพยาบาล ดังนี้
๕.๗.๑ การประเมิ น ความรู้ ึ กตั วของผู้เข้ารั บการฝึ ก การ ั ง เกตความรู้ ึ กตั ว
ของผู้เข้ารับการฝึก นั้น ำคัญ กว่าการวัดอุณ ภูมิกาย ในการตัด ินใจเริ่มใ ้การปฐมพยาบาลผู้ป่วยเจ็บอัน
เนื่องมาจากความร้อนขั้นรุนแรง ในการประเมินความรู้ ึกตัว นั้นอาจใ ้การถามคำถามต่อไปนี้กับท ารที่มี
อาการน่า ง ัยว่าจะเกิดโรคลมร้อน ากตอบไม่ได้ ตอบโต้ได้ช้าผิดปกติ ใ ้ ง ัยว่าเป็นผู้ป่วยลมร้อนและใ ้
เริ่มการปฐมพยาบาล
๑. “ชื่ออะไร”
๒. “เดือนนี้เดือนอะไร” “ปีนี้ปีอะไร”
๓. “ตอนนี้อยู่ที่ไ น”
๕.๗.๒ การลดความร้อนที่กรมแพทย์ท ารบกแนะนำใ ป้ ฏิบัติ คือ วิธีการเช็ด
ตัว การปฏิบัติมีดังนี้
๕.๗.๒.๑ ประเมินความรู้ ึกตัวของผู้ป่วย ตามข้อ ๕.๗.๑
กรณี ค วามรู้ ึ ก ตั ว เปลี่ ย นแปลง รื อ ไม่ รู้ ึ ก ตั ว ไม่ จ ำเป็ น ต้ อ ง
วัดอุณ ภูมิกายใ ้รีบลดความร้อนตามขั้นตอนและนำ ่งโรงพยาบาล
กรณีความรู้ ึกตัวไม่เปลี่ยนแปลง ใ ้วัดอุณ ภูมิกาย ากอุณ ภูมิ
กายมากกว่า ๓๖.๘ องศาเซลเซีย วัดอุณ ภูมิซ้ำอีก ๓๐ นาที ากอยู่ระ ว่าง ๓๖.๘ – ๓๗.๒ องศาเซลเซีย
ลดการออกกำลัง ถ้าอยู่ระ ว่าง ๓๗.๒ – ๓๗.๕ องศาเซลเซีย ใ ้ดื่มน้ำเช็ดตัวและงดฝึก และวัดอุณ ภูมิซ้ำ
ทุก ๓๐ นาที ถ้ามากกว่า ๓๗.๕ องศาเซลเซีย ใ ้รีบลดความร้อนตามขั้นตอนและนำ ่งโรงพยาบาล
๕.๗.๒.๒ พาผู้ป่วยเข้าที่ร่มที่ใกล้ที่ ุด
๕.๗.๒.๓ ถอดเ ื้อผ้าผู้ป่วยออกใ ้ มด
๕.๗.๒.๔ ทำการลดอุณ ภู มิใ ้ แ ก่ผู้ ป่ วย โดยแบ่ ง น้ าที่ ในการเช็ด ตั วลด
อุณ ภูมิ พ่นละอองน้ำลงบนผิว นังผู้ป่วย และพัดระบายความร้อนออกจากร่างกาย
๕.๗.๒.๕ โทรประ านโรงพยาบาลและนายท ารเวชกรรมป้องกัน
มายเ ตุ : เมื่ อ ระ ว่ า งการฝึ ก รื อ ออกกำลั ง มี ผู้ รั บ การฝึ ก ง ั ย เป็ น
ฮีทเอ็กซอ ชั่น ( Heat exhaustion ) รือโรคลมร้อน ( Heat Stroke ) ใ ้ดำเนินการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
๑. ยุดกิจกรรมการฝึก รือออกกำลังทันที ใ ้ผู้รับการฝึกทั้ง มด ยุดพัก
ทุกกิจกรรมที่ต้องออกกำลังในวันนั้น
๒. คัดกรอง ีปั าวะและไข้ใ ม่ทั้ง มด พักใ ้ดื่มน้ำ เช็ดตัว เพื่อประเมิน
ถานการณ์และลดการ ูญเ ียที่จะเกิดกับท ารใ ม่รายอื่นๆ
๓. ประเมิน ภาพอากาศ ิ่งแวดล้อมใ ม่
๖. แนวทางการดูแลท ารใ ม่ที่เจ็บป่วยด้วยการเจ็บป่วยจากความร้อน ลังการจำ น่าย
จากโรงพยาบาล
๖.๑ ใ ้ปฏิบัติตามคำแนะนำคำ ั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
๖.๒ การงดฝึ ก งดออกกำลั งทุ ก ชนิ ด ได้ แ ก่ การออกกำลั งกาย การวิ่ ง การซ่ อ มวินั ย
การทำงานโยธาใน น่วย เป็นต้น
๖.๒.๑ การเจ็บป่วยจากความร้อนชนิดไม่รุนแรงใ ้งดฝึก งดออกกำลัง ทุกชนิดเป็น
เวลาอย่างน้อย ๓ วัน รือตามคำแนะนำของแพทย์
-๖-

๖.๒.๒ การเจ็บป่ ยจากค ามร้อนชนิดรุนแรง (ฮีทเอ็กซอ ชั่น กล้ามเนื้อลาย ลาย)


ใ ้งดฝึก งดออกกำลังทุกชนิด เป็นเ ลาอย่างน้อย ๗ ัน รือตามคำแนะนำของแพทย์
๖.๒.๓ โรคลมร้อน แนะนำใ ้ งดฝึก งดออกกำลัง ทุกชนิด รือตามคำแนะนำของ
แพทย์
๖.๓ ใ ้นำผู้รับการฝึกที่เจ็บป่ ยมารับการตร จรัก าตามการนัดของแพทย์
๗. ากพบการระบาดของโรคจนทำใ ้ท ารใ ม่เกิดเป็นโรคลมร้อน ใ ้ น่ ยฝึกปฏิบัติ
ตามแน ทางในประกา พบ. แนะนำ ตามโรคนั้นๆ
ทั้ งนี้ เพื่ อใ ้ ใช้ เป็ นแน ทาง ำ รั บ การป้ องกั น เฝ้ าระ ั ง และ การปฐมพ ยาบาล
การเจ็บป่ ยจากค ามร้อน ำ รับ น่ ยฝึกท ารใ ม่ น่ ยจัดการฝึก น่ ยรับการฝึก น่ ย ายแพทย์ใน
การฝึกและการปฏิบัติภารกิจทางท ารอื่นๆ ต่อไป

ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓

พลโท ชาญณรงค์ นาค วั ดิ์


( ชาญณรงค์ นาค วั ดิ์ )
พ.ต. ญิง...........................ร่าง/พิมพ์/ทาน ๑ ก.พ.๖๐ เจ้ากรมแพทย์ท ารบก
พ.อ. ..................................ตร จ ๑ ก.พ.๖๐

กอง ่งเ ริม ุขภาพและเ ชกรรมป้องกัน กรมแพทย์ท ารบก


โทร.๐-๒๓๕๔-๔๔๒๑ โทร ทบ. ๙๔๔๒๓
ผนวก ก
คำแนะนำในการป้องกันการเจ็บป่วยจากความร้อน ำ รับการฝึกท ารใ ม่

๑. ำ รับผู้บังคับบัญชา ( ตั้งแต่ผู้อำนวยการฝึกขึ้นไป )
๑.๑ ึก าข้อมูลและทำค ามเข้าใจเกี่ย กับการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนอย่างละเอียด
๑.๒ กำกับดูแล ก ดขันใ ้ น่ ยฝึกท ารใ ม่ปฏิบัติตามแน ทางนี้อย่างเคร่งครัด
๑.๓ กำ นดใ ้มีการตร จร่างกายและคัดกรองท ารใ ม่ใน ้ ง ัปดา ์แรก และการคัด
กรองประจำ ัน
๑.๔ กำกับดูแลใ ้ มีอุปกรณ์ขั้นพื้นฐาน ำ รับการดูแลท ารใ ม่ ที่ทัน มัย เพียงพอและ
พร้อมใช้งานดังต่อไปนี้ ( อนุผน ก ๑ ประกอบผน ก ง )
๑.๔.๑ เครื่องมือในการคัดกรอง
๑.๔.๑.๑ เครื่อง ัดอุณ ภูมกิ าย
๑.๔.๑.๒ ภาชนะเก็บปั า ะ(ภาชนะ ีใ )
๑.๔.๑.๓ เครื่องชั่งน้ำ นัก
๑.๔.๒ ภาชนะบรรจุน้ำประจำกาย
๑.๔.๓ ผ้าเช็ด น้า เช็ดตั ระ ่างพัก
๑.๔.๔ เครื่องมือติดตาม ภาพอากา ในที่ฝึก และโรงนอน
๑.๔.๕ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลโรคลมร้อน
๑.๔.๕.๑ ผ้าขน นู ำ รับเช็ดตั
๑.๔.๕.๒ กระบอกฉีดน้ำ
๑.๔.๕.๓ พัด รืออุปกรณ์ทำใ ้เกิดลม
๑.๔.๕.๔ ถังน้ำขนาด ๒๐๐ ลิตร
๑.๔.๕.๕ ถังน้ำขนาดเล็ก
๑.๔.๕.๖ เปล นาม
๑.๔.๕.๗ ชุดปฐมพยาบาลโรคลมร้อนแบบพกพา
๑.๔.๖ รถ ำ รับ ่งต่อผู้ป่ ย รือรถพยาบาล
๑.๕ กำกับดูแลใ ้มีการอบรมค ามรู้เกี่ย กับการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนการปฐมพยาบาล
แก่ ผู้ฝึก ผู้ช่ ยผู้ฝึก ครูฝึก ครูท ารใ ม่ และท ารใ ม่
๑.๖ กำกับดูแล ใ ้มีน้ำดื่มประจำ น่ ยฝึกอย่างเพียงพอ อย่างน้อย ๑ จุดบริการ/๑ ม ด
ตามคำแนะนำของกรมแพทย์ท ารบก
๑.๗ กำกับดูแลใ ้ท ารใ ม่ได้รับ ารอา ารตาม ลักโภชนาการ
๑.๘ กำกับดูแลใ ้โรงนอน โรงประกอบเลี้ยง ้องน้ำ ถูกตาม ลัก ุขอนามัย
๑.๙ กำกับดูแลใ ้มีการจัดทำแผนเผชิญเ ตุและแผนการ ่งกลับ ำ รับกรณีท ารใ ม่
เจ็บป่ ยจากค ามร้อน และใ ้มีการฝึกทบท นและซักซ้อมแผนการปฏิบัติอยู่เ มอ
๑.๑๐ พิจารณาลงทัณฑ์ตาม มค รแก่เจ้า น้าที่ที่เกี่ย ข้องต่อการป้องกันและเฝ้าระ ัง
การเจ็บป่ ยจากค ามร้อนที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำจนเป็นเ ตุใ ้ท ารใ ม่และกำลังพลได้รับการเจ็บป่ ยจาก
ค ามร้อนชนิดรุนแรง ได้แก่ โรคลมร้อน รือฮีทเอ็กซอ ชั่น
๒. ำ รับ น่วยฝึกท ารใ ม่ ( ตั้งแต่ผู้บังคับ น่วยฝึกลงมา )
๒.๑ จัดใ ้มีการอบรมค ามรู้เกี่ย กับการป้องกัน การเฝ้าระ ัง และการปฐมพยาบาล
การเจ็บป่ ยจากค ามร้อนโดยเจ้า น้าที่ ายแพทย์ แก่ ผู้ฝึก ผู้ช่ ยผู้ฝึก ครูฝึก ครูท ารใ ม่ ก่อนเริ่มการฝึก
ทุกครั้ง และการใ ้ค ามรู้แก่ท ารใ ม่ภายใน ้ ง ัปดา ์แรก ลังรับตั ท ารเข้า น่ ยฝึกท ารใ ม่
๒.๒ ประ าน รพ.ทบ. รือ น่ ย ายแพทย์ในพื้นที่ เพื่อขอรับการ นับ นุนเจ้า น้าที่
ายแพทย์ทำการตร จร่างกายใ ้แก่ท ารใ ม่ภายใน ัปดา ์แรก เพื่อตร จร่างกาย คัดกรอง คัดแยกกลุ่มเ ี่ยง
ต่อการเจ็บป่ ยจากค ามร้อน
๒.๓ ปรับตารางการฝึกท ารใ ม่ใ ้เ มาะ มและ อดคล้องกับ ภาพอากา โดยเฉพาะใน
้ ง ๓ ัปดา ์แรกของการฝึก เพื่อใ ้ท ารใ ม่เกิดค ามเคยชินกับการฝึกใน ภาพอากา ร้อนโดยพิจารณา
แน ทางการ ร้ า งค ามเคยชิ น กั บ ค ามร้ อ นและการฝึ ก ( อนุ ผ น ก ๒ ประกอบผน ก ง ) ได้ ต าม
ค ามเ มาะ มและใ ้ ลีกเลี่ยงการ ิ่งออกกำลังกายใน ้ งเ ลาที่มีอากา ร้อนอบอ้า
กรณีกลุ่มที่มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ ๒๘ ขึ้นไปใ ้ใน ้ ง ๔ ัปดา ์แรกของการฝึก
ท ารใ ม่ใ ้เ นารัก ์ค บคุมออกกำลังกายตามแบบปฏิบัติที่ พบ. แนะนำ ( ตามอนุผน ก ๓ ประกอบผน ก ง )
๒.๔ จัดใ ้มีการ ัดค่าอุณ ภูมิ ค ามชื้น ัมพัทธ์ และดัชนีค ามร้อน ณ ถานที่ฝึกด้ ย
เครื่องมือที่ได้มาตรฐานตามที่ กรมแพทย์ท ารบกกำ นด
๒.๔.๑ ติดตั้งเครื่อง ัดค่าอุณ ภูมิค ามชื้น ัมพัทธ์ทุกครั้งใ ้ ูงจากพื้นดินประมาณ
๑๒๐ ซม. ขึ้นไป
๒.๔.๒ ก่อนทำการฝึก ๑๕ นาที เมื่อครบกำ นด ๑๕ นาที ใ ้อ่านค่าและบันทึกไ ้
เป็น ลักฐานก่อนเก็บไ ้ในที่ร่ม เพื่อนำไปใช้ ัดก่อนการฝึกครั้งต่อไป ตาม ้ งเ ลา ๐๘๐๐, ๑๐๐๐, ๑๓๐๐,
๑๕๐๐ และ ๑๗๐๐ รือก่อนทำการ ิ่ง ออกกำลังกายตอนเย็น กรณีที่ ฝึกในร่ม รือไม่มีการฝึก ก็ใ ้ปฏิบัติ
เช่นเดีย กัน
๒.๕ การอ่ านค่ าอุ ณ ภู มิ และค ามชื้ น ั ม พั ท ธ์ กรณี ั ดด้ ยเครื่ อ ง ลิ งไซโครมิ เตอร์
( Sling psychrometer ) ใ ้ทำตามตั อย่าง ดังนี้
๒.๕.๑ อ่ า นค่ า อุ ณ ภู มิ จ ากเทอร์ โ มมิ เตอร์ ก ระเปาะเปี ย กและกระเปาะแ ้ ง
แล้ คำน ณผลต่างของอุณ ภูมิทั้ง องค่านั้น แล้ นำค่าผลต่างไปเทียบกับตารางแ ดงค่าค ามชื้น ัมพัทธ์
( อนุผน ก ๔ ประกอบ ผน ก ง ) และนำค่าค ามชื้น ัมพัทธ์ที่ได้ไปเทียบกับอุณ ภูมิแ ้งในตารางการอ่าน
ค่าดัชนีค ามร้อน ( อนุผน ก ๔ ประกอบ ผน ก ง ) จะได้เป็นดัชนีค ามร้อน
๒.๕.๒ มาเทียบเป็น ัญญาณธง ี ตามตารางค าม ัมพันธ์ระ ่าง ัญญาณธง ี ดัชนี
ค ามร้อน ้ งเ ลาการฝึกและการดื่มน้ำ ( ตารางที่ ๑ อนุผน ก ๕ ประกอบผน ก ง )
๒.๕.๓ ถ้ามีเครื่องมือที่ ามารถตร จ อบค ามชื้น ัมพัทธ์เฉลี่ยในแต่ละพื้นที่ใ ้นำมา
พิจารณาร่ มด้ ย เช่น จากเ ็บไซต์ รือโปรแกรมประยุกต์ในโทร ัพท์มือถือ
ตารางที่ ๑ แ ดงความ ัมพันธ์ระ ว่าง ัญญาณธง ี ดัชนีความร้อน การดื่มน้ำ และเวลาการฝึก
ัญญาณธง ดัชนีความร้อน ปริมาณน้ำดื่ม เวลาใน ๑ ชั่วโมง
(องศาเซลเซีย ) (ลิตร/ชั่วโมง)
ธงขาว น้อยก ่า ๒๗ อย่างน้อย ๑/๒ ลิตร ( ๕๐๐ซีซี ) ฝึก ๕๐ นาที พัก ๑๐ นาที
ธงเขียว ๒๗ – ๓๒ อย่างน้อย ๑/๒ ลิตร ( ๕๐๐ซีซี ) ฝึก ๕๐ นาที พัก ๑๐ นาที
ธงเ ลือง ๓๓ – ๓๙ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี ) ฝึก ๔๕ นาที พัก ๑๕ นาที
ธงแดง ๔๐ – ๕๑ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี ) ฝึก ๓๐ นาที พัก ๓๐ นาที
ธงดำ มากก ่า ๕๑ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี ) ฝึก ๒๐ นาที พัก ๔๐ นาที
มายเ ตุ การดื่มน้ำตามตารางนี้ใ ้ค่อยๆดื่มเป็นช่ งเ ลาทุกๆ ๑๕ นาที จะเ มาะ มและดีก ่าการดื่มครั้ง
เดีย มากๆ เช่น ใ ้ดื่มจากกระติกในทุกช่ ง ๑๕ นาทีขณะฝึก ้ งอากา ร้อนอบอ้า
๒.๖ การเลือก ถานที่ฝึก ควรฝึกในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดีมีลมพัดผ่าน เช่น นาม ญ้า
ที่มีแดดไม่ร้อนจัด ฝึกในที่ร่มที่มีลมพัดผ่าน รือพื้นที่ร่มมีลมร้อนจะเ มาะ มกว่าพื้นที่ร่มแต่อับลม ลีกเลี่ยง
การฝึกและการออกกำลังกายบนพื้นซีเมนต์ รือราดยาง
๒.๗ ำ รับอาคารโรงนอน จะต้องมีอากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อระบายความร้อน ถ้า ามารถ
จัดได้ ระยะ ่างระ ว่างเตียงควรจัดใ ้ ่างอย่างน้อย ๓ ฟุต เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคระบาด อีกทั้ง
ควรมีการวัด ดัชนีความร้อนโรงนอนทุกวัน ควรปรับ ภาพโรงนอนระบายความร้อนโรงนอนก่อนที่ท ารจะ
เข้านอนและตลอด ้วงการนอนใ ้มีค่าดัชนีความร้อนน้อยกว่า ๓๓ องศาเซลเซีย ใ ้มีการวัดดัชนีความร้อนภายใน
โรงนอนเป็นประจำทุกวัน ๓ เวลา ได้แก่ เวลา ๑๙๐๐ ๒๑๐๐ ๒๒๐๐ และใ ้ท ารนอนพักผ่อนใ ้เพียงพอ
ไม่น้อยกว่า ๘ ชั่วโมงต่อวัน
๒.๘ จัด าน้ำดื่มที่ ะอาดและเพียงพอต่อความต้องการของท ารใ ม่ ดังนี้
๒.๘.๑ ใ ้ ท ารใ ม่ ไ ด้ ดื่ ม น้ ำในช่ว ง ลั งตื่ น นอนจนถึง ก่ อ นเริ่ม การฝึ ก อย่ างน้ อ ย
๔ แก้ว ( ประมาณ ๑,๐๐๐ ซีซี )
๒.๘.๒ ในระ ว่างการฝึก ต้อ งใ ้ ท ารใ ม่ ได้ ดื่ม น้ำ ตามที่ต้ องการ โดยในช่ว งพั ก
ประจำชั่วโมงต้องจัดน้ ำดื่มใ ้ท ารใ ม่ ามารถดื่มน้ ำ ได้อย่างน้อ ยคนละ ๒ แก้ ว ( ๕๐๐ซีซี ) รือตามที่
กำ นดไว้ในตารางที่ ๑ รือจนปั าวะ ีใ ขึ้น
๒.๘.๓ ในช่วงเวลารับประทานอา ารกลางวัน ใ ้ท ารดื่มน้ำ ๒ – ๔ แก้ว ( ๕๐๐ –
๑,๐๐๐ ซีซี )
๒.๘.๔ ก่อนนอนท ารใ ม่ควรได้ดื่มน้ำอีกอย่างน้อย ๒ แก้ว ( ๕๐๐ ซีซี )
๒.๘.๕ ใ ้ท ารเข้าถึงน้ำดื่มได้ตลอดเวลา โดยใช้ภาชนะบรรจุน้ำประจำกาย จน ี
ปั าวะ อยู่ที่ระดับ ๑ รือ ๒
ในแต่ละวัน แนะนำใ ้ดื่มน้ำไม่เกิน ๙ ลิตร ( ๙,๐๐๐ ซีซี ) เพราะการดื่มน้ำที่
มากเกินอาจเป็นพิ ต่อร่างกายและอันตรายถึงชีวิตได้
ทั้ ง นี้ ใ ้ ค ำนึ งถึ ง ลั ก ุ ข ศา ตร์ ่ ว นบุ ค คล เพื่ อ ป้ อ งกั น โรคติ ด ต่ อ เช่ น มี แ ก้ ว น้ ำ
ประจำตัวและใช้เ ยือกกลางในการตักแบ่งน้ำใ ้พลท ารดื่ม และควรอนุญาตใ ้ท ารพกกระติกน้ำประจำตัว
ขณะฝึกและ ามารถดื่มน้ำบ่อยๆใ ้เพียงพอกับความต้องการ กรณีที่ออกกำลังกาย นัก รือฝึก นักมากกว่า
๑ ชม. แนะนำใ ้ดื่มน้ำเกลือแร่ ำ รับผู้ที่เ ียเ งื่อจากการออกกำลังกาย ( Oral Rehydration Therapy )
๒.๙ การคัดกรองจำแนกกลุ่มเ ี่ยงประจำวันใ ้ปฏิบัติดังนี้
๒.๙.๑ คัดกรองอุณ ภูมิกายและ ีปั าวะ
ผลัดที่ ๑ ใ ้ดำเนินการคัดกรอง ๓ เวลา ช่วงเช้าก่อนฝึก บ่ายก่อนออกกำลัง
กายช่วงเย็น และก่อนนอน
ผลัดที่ ๒ ใ ้ดำเนินการคัดกรอง ๒ เวลา ช่วงเช้าก่อนฝึก และก่อนนอน
การวัดไข้และแนวทางปฏิบัติใ ้ดูตามแนวทางอนุผนวก ๖ ประกอบผนวก ค
กรณีมี ีเ ลืองเข้มเป็น ิ่งบอกเ ตุว่าดื่มน้ำไม่ เพียงพอต่อความต้องการของ
ร่างกายต้องดื่มน้ำใ ้มากขึ้นจนปั าวะใ ( การ ังเกต ีปั าวะและปริมาณการดื่มน้ำใ ้ดูตาม อนุผนวก ๗
ผนวก ค ) และมี ค รูฝึ กคอยกำกั บ ดู แ ล ก่ อ นนอน ากพบท ารใ ม่ มี ปั าวะ ี เข้ ม ต้ องใ ้ ดื่ ม น้ ำเพิ่ มเติ ม
วันรุ่งขึ้นก่อนฝึกตอนเช้าใ ้ตรวจปั าวะอีกครั้ง ท ารใ ม่ปั าวะมี ีน้ำตาลเข้มใ ้ ยุดฝึกและต้องไป
พบแพทย์ทันที และกรณีปั าวะไม่ออกใ ้ดื่มน้ำ ๒ แก้ว ( ๕๐๐ ซีซี ) ภายใน ๑ ชั่วโมง ปั าวะไม่ออก
ใ ้ ่งพบแพทย์ทัน ที อีกทั้ งกรณี ที่ท ารใ ม่มี ีปั าวะระดับ ๓ ติด ต่อกัน ๓ เวลา แม้ จะใ ้ ดื่มน้ ำใน
ปริมาณที่มากแล้ว ใ ้ ่งพบแพทย์ เพื่อ า าเ ตุความผิดปกติต่อไป
๒.๙.๒ ทำการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงประจำวัน ตามปัจจัยเ ี่ยง ( ตาม อนุผน ก ๘
ประกอบผน ก ง ) และ คัดแยกท ารใ ม่ออกเป็นกลุ่มๆ และติด ัญลัก ณ์ รือทำ ัญ ลัก ณ์ ใ ้เ ็นอย่าง
ชัดเจน เพื่อใ ้ผู้ฝึก ผู้ช่ ยผู้ฝึก ครูฝึก ครูท ารใ ม่และเพื่อนท ารใ ม่ ามารถ ังเกตอาการที่เปลี่ยนแปลง
และติดตามดูแลกำลังพลกลุ่มดังกล่า ได้อย่างใกล้ชิด โดยแบ่งเป็น ๔ กลุ่ม ( ตามอนุผน ก ๗ ประกอบผน ก ง )
โดยแบ่งกลุ่มดังนี้
๒.๙.๒.๑ กลุ่มที่ ๑ กลุ่มที่ไม่มีค ามเ ี่ยงตามตารางใน อนุผน ก ๗ ประกอบ
ผน ก ง ไม่ติด ัญลัก ณ์ ใ ้ฝึกได้ตามปกติ
๒.๙.๒.๒ กลุ่มที่ ๒ กลุ่มที่มีค ามเ ี่ยงน้อย ใ ้ติด ัญลัก ณ์ ีขา ามารถฝึก
ได้ตามปกติ แต่ใ เ้ ฝ้าระ ังเป็นพิเ
๒.๙.๒.๓ กลุ่มที่ ๓ กลุ่มที่มี ค ามเ ี่ยงปานกลาง ใ ้ติ ด ัญลัก ณ์ ี เ ลือง
การปฏิบัติใ ล้ ดปริมาณการฝึก และการออกกำลังทุกชนิด
๒.๙๒.๔ กลุ่มที่ ๔ กลุ่มที่มีค ามเ ี่ยงมาก ใ ต้ ิด ัญลัก ณ์ ีแดง การปฏิบัติ
ใ ง้ ดการฝึกการออกกำลังทุกชนิด
๒.๑๐ ฝึกท ารใ ม่ใ ้ ามารถ ังเกต ีปั า ะได้ด้ ยตนเอง ทั้งก่อน ระ ่าง ลังการฝึก
และก่อนนอน
๒.๑๑ ชั่ ง น้ ำ นั ก ท ารใ ม่ ทุ ก ั น อาทิ ต ย์ ใ นช่ งก่ อ นนอนและทำการจดบั น ทึ ก
เพื่อคัดกรองภา ะขาดน้ำในร่างกาย กรณีที่ พบท ารใ ม่มีน้ำ นักลดมากก ่า ๒ กิโลกรั ม ใน ๑ ัป ดา ์
แ ดง ่าท ารใ ม่อาจมีภา ะขาดน้ำใ ้ตร จดู ีปั า ะ กรณีที่มีปั า ะ ีเข้มใ ้ท ารใ ม่ดื่มน้ำเพิ่มเติม
จนปั า ะใ ขึ้นและใ ้เฝ้าระ ังการเกิดการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนในท ารใ ม่รายนั้น
๒.๑๒ การแต่งกายของท ารใ ม่ระ ่างการฝึก ค ร มใ ่ใ ้เ มาะ มกับ ภาพอากา
เช่น ถ้าต้องปฏิบัติงาน รือฝึกใน ภาพอากา ร้อน รืออบอ้า ค รเลือกเ ื้อผ้าที่บางเบาระบายอากา ได้ดี
ในการ มใ ่ ทั้งนี้ใ ้อยู่ในดุลยพินิจของผู้ฝึกท ารใ ม่และคำแนะนำของเจ้า น้าที่ ายแพทย์
๒.๑๓ ใน ันที่อากา ร้อน รือร้อนอบอ้า ในระ ่างการฝึกและระ ่างพักประจำชั่ โมง
ค รจัด าผ้าเช็ดตั ประจำตั ท ารใ ม่และถังน้ำเพื่อใ ้ ามารถใช้ชุบน้ำเช็ดตั เพื่อลดอุณ ภูมิร่างกาย
๒.๑๔ ใน ั น ที่ อ ากา ร้ อ นจั ด รื อ ร้ อ นอบอ้ า มาก รื อ ก่ อ นฝนตก นั ก(ธงแดงขึ้ น ไป)
ค รงดฝึก งดออกกำลัง งด ิ่ง งดซ่อม ินัย และใ ้ท ารพักอาบน้ำนานพอที่จะลดค ามร้อน ะ ม
๒.๑๕ จัดอบรมใ ้ค ามรู้ท ารใ ม่ใ ้ ามารถ ังเกตอาการการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนของ
เพื่อนท ารที่อยู่ร่ มกัน เช่น มีไข้ ตั ร้อน ซึม ับ น อ่อนเพลียมาก รือมีอาการรับประทานอา ารไม่ได้
คลื่นไ ้ อาเจียน ต้องรีบแจ้งผู้ฝึก ผู้ช่ ยผู้ฝึก ครูฝึก ครูท ารใ ม่ทันที
๒.๑๖ กรณีที่ท ารใ ม่มีอาการเจ็บป่ ย รือมี การเจ็บป่ ยจากค ามร้อนและได้รับการ
ตร จรัก าโดยแพทย์ ซึ่งได้ออกเอก ารรับรองใ ้งด รือพักการฝึก ใ ้ น่ ยฝึกท ารใ ม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ
ของแพทย์โดยเคร่งครัด เนื่องจากมีโอกา ูงที่จะเกิดการบาดเจ็บขั้นรุนแรงจากค ามร้อน
๒.๑๗ จัดทำแผนเผชิญเ ตุและแผนการ ่งกลับผู้ป่ ยเจ็บ กรณีมีค ามจำเป็นเพื่อ ่งกลับ
ผู้ได้รับบาดเจ็บจากค ามร้อนไปทำการรัก ายังโรงพยาบาลต่อไป และต้องใ ้มีการรับการฝึกซักซ้อมแผนก่อน
เริ่มช่ งการฝึกอย่างน้อย ๑ ครั้ง และฝึกทบท น ัปดา ์ละ ๑ ครั้ง
๒.๑๘ ใ ้ น่ ยฝึกท ารใ ม่ทำการบันทึกข้อมูลผ่านโปรแกรม heat stroke amed ได้แก่
ข้อมูลพื้นฐานของ น่ ย ข้อมูลการคัดกรองปัจจัยเ ี่ยงในการเกิด การเจ็บป่ ยจากค ามร้อนของท ารใ ม่
ข้อมูลการ ัดอุณ ภูมิและดัชนีค ามร้อน ข้อมูลการคัดกรองประจำ ัน เพื่อเป็นการเฝ้าระ ัง การเจ็บป่ ยจาก
ค ามร้อนในการฝึกท ารใ ม่
๒.๑๙ กรณีในพื้นที่การฝึกท ารใ ม่มีอุณ ภูมิ ูงเกิน ๓๗ อง าเซลเซีย รือดัชนีค าม
ร้อนมากก ่า ๓๙ อง าเซลเซีย ใน ้ ง ๔ ัปดา ์แรก ใ ้ น่ ยฝึกท ารใ ม่ปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้
๒.๑๙.๑ ผู้ ที่ มี ค่ าดั ช นี ม ลกายมากก ่ า ๓๐ รือ น้ ำ นั ก มากก ่ า ๑๐๐ งดฝึ ก
ภายนอกอาคาร งดซ่อม ินัย โดยใ ้ออกกำลังแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามคำแนะนำของ พบ.
๒.๑๙.๒ ใ ้ท ารใ ม่ทุกนาย อาบน้ำ เพิ่มเติม ลังอา ารกลาง ัน และ ก่อนออก
กำลังช่ งเย็น
๒.๑๙.๓ ใ ้ท ารใ ม่ใช้ผ้าประจำตั ชุบน้ำเช็ดตั ระบายค ามร้อนได้ตลอดเ ลา
โดยไม่ใ ้ใช้ผ้าชุบน้ำในถังเดีย กัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อทางผิ นัง
๒.๒๐ ้ งการฝึกท ารใ ม่ งดใ ้ท ารใ ม่บริจาคโล ิต
๓. ำ รับตัวท ารใ ม่
๓.๑ ค รรัก าร่างกายใ ้แข็งแรงเพื่อใ ้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค โดยการออกกำลังกาย
อย่าง ม่ำเ มอ เพื่อเ ริม ร้างค ามเคยชินกับค ามร้อน แต่ไม่ค รออกกำลังกายอย่าง ักโ ม
๓.๒ งดการดื่ม ุรา กาแฟและเครื่องดื่มที่ผ มคาเฟอีน ซึ่ง เป็น ารที่ มีฤทธิ์ขับปั า ะ
จะทำใ ้ร่างกาย ูญเ ียน้ำ การใช้ยาใ ้ใช้ได้ตามแพทย์ ั่ง รือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
๓.๓ กรณีที่มีอาการไม่ บาย รือพบเ ็นเพื่อนที่มีอาการไม่ บาย เช่น เป็นไข้ ป ด ีร ะ
ับ น เดินเซ รือรับประทานยาชนิดใดอยู่ในระ ่าง ้ งการฝึก ต้องรีบแจ้งใ ้ครูฝึกทราบทันที
๓.๔ ดื่มน้ำใ ้เพียงพอตามที่กำ นดอย่างเคร่งครัด กรณีที่รู้ ึกอ่อนเพลีย รือมีอาการป ด
บริเ ณกล้ามเนื้อ ค รรีบแจ้งครูฝึก รือผู้รับผิดชอบการฝึกทราบทันที
๓.๕ ังเกต ีปั า ะตนเองทั้ง ก่อน ระ ่าง และ ลังการฝึก
๓.๖ นอนพักผ่อนใ ้เพียงพอ ไม่น้อยก ่า ๘ ชั่ โมงต่อ ัน
๔. โรงพยาบาลใน ังกัดของกองทัพบก
๔.๑ ก่อนการฝึก
๔.๑.๑ จัด ประชุม ผู้ ที่ เกี่ ย ข้ อ งในการเตรี ยมค ามพร้ อ มการดำเนิ น การป้ อ งกั น
เฝ้าระ ังการรัก าพยาบาลการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนในการฝึกท ารใ ม่ โดย รพ.ทบ. และ น่ ยฝึกท ารใ ม่
๔.๑.๒ จัดตั้ง ูนย์เฝ้าระ ังติดตาม ถานการณ์ การเจ็บป่ ยจากค ามร้อ น ใ ้ เริ่ม
จัด ตั้ งก่ อน ๑ เดื อ นในช่ งการฝึ ก ท ารใ ม่ ทั้ ง ๒ ผลั ด ในเดื อ น เม.ย. – ก.ค. และ ต.ค. – ม.ค. ของทุ กปี
เพื่ อติดตาม ถานการณ์และประเมินการปฏิบัติงานของเจ้า น้าที่ ายแพทย์ใน น่ ยฝึก โดยกำ นดระบบ
การเฝ้าระ ังการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนอย่างเป็นรูปธรรม แล้ รายงานการเปิด ูนย์เฝ้าระ ังติดตาม ถานการณ์
การเจ็บป่ ยจากค ามร้อน พร้อมคำ ั่งแต่งตั้งผู้ปฏิบัติงาน ใ ้กรมแพทย์ท ารบกทราบภายใน เม.ย. และ ต.ค.
๔.๑.๓ นับ นุนเจ้า น้าที่ ายแพทย์ในการอบรมใ ้ค ามรู้เรื่องการเจ็บป่ ยจาก
ค ามร้ อ นและการปฐมพยาบาลเบื้ องต้ น แก่ ผู้ ฝึ ก ผู้ ช่ ยผู้ ฝึ ก ครู ฝึ ก ครู ท ารใ ม่ และท ารใ ม่ ทุ กนาย
ใ ้ ามารถป้องกันเฝ้าระ ัง และทราบถึงอาการนำของการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนที่ ังเกตได้ และ ามารถ
ประเมินอาการได้อย่างทันต่อเ ตุการณ์ก่อนจะกลายเป็นโรคลมร้อน
๔.๑.๔ จัดใ ้มีการอบรมแพทย์ พยาบาล นายท ารเ ชกรรมป้องกันและนาย ิบ
พยาบาลของ น่ ยในพื้ นที่ที่รับผิดชอบ ใ ้ มีค ามรู้และค ามเข้าใจในการรัก าพยาบาลการเจ็บ ป่ ยจาก
ค ามร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคลมร้อน ( Heat Stroke )
๔.๑.๕ ใ ้ คำแนะนำ น่ ยฝึกท ารใ ม่ ในการจั ดเตรี ยมเครื่อง ัดอุณ ภู มิ ค ามชื้ น
ัมพัทธ์ ดัชนี ค ามร้อน เครื่อง ัดอุณ ภูมิ ร่างกายและ ิ่งอุป กรณ์ การปฐมพยาบาลที่ ทัน มัย เพีย งพอต่ อ
จำน นกำลังพลของ น่ ยฝึกท ารใ ม่ ค ามพร้อมของโรงนอนและ ถานที่ฝึก
๔.๑.๖ ประ านแนวทางการใ ้ ก ารรัก าและ ่ ง ต่ อ ผู้ ป่ ว ยที่ ไ ด้ รั บ บาดเจ็ บ จาก
ความร้อนกับโรงพยาบาลนอก ังกัดกองทัพบกที่อยู่ใกล้ น่วยฝึกท ารใ ม่ในความรับผิดชอบเพื่อประ ิทธิภาพ
ในการดูแล ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
๔.๑.๗ เมื่อดำเนินการเรียบร้อยใ ้รายงานใ ้ พบ. ทราบ ตามแบบรายงานของ พบ.
๔.๒ ระหว่างการฝึก
๔.๒.๑ จัดแพทย์ รือเจ้า น้าที่ ายแพทย์เข้าตรวจร่างกายท ารใ ม่ใน ัปดา ์แรก
ของการฝึก และทำการคัดกรอง คัดแยกท ารใ ม่กลุ่มเ ี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากความร้อน
๔.๒.๒ นับ นุนเจ้า น้าที่ ายแพทย์ในการอบรมใ ้ความรู้เรื่องการเจ็บป่วยจาก
ความร้อนและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ ท ารใ ม่ทุกนาย
๔.๒.๓ กำกับดูแลใ ้ น่วยฝึกปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันเฝ้าระวัง การเจ็บป่วย
จากความร้อนในการฝึกท ารใ ม่ ตามแนวทางของ พบ. พร้อมทั้งใ ้คำแนะนำและข้อเ นอแนะ
๔.๒.๔ จัดทำแผนการรองรับผู้ป่วยและการรัก าพยาบาลใน ถานการณ์ฉุกเฉินและ
จะต้องมีการซักซ้อมอยู่เ มอ ( โดยเฉพาะช่วงก่อนฤดูการฝึกและระ ว่างการฝึกในช่วง ๕ ัปดา ์แรก )
๔.๒.๕ แนวทางการดูแลรัก าผู้ป่วยโรคลมร้อนใ ้ปฏิบัติตามแนวทางของกรมแพทย์
ท ารบก
๔.๒.๖ เมื่อมีผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากความร้อนที่ต้องเข้าพักรัก าตัวในโรงพยาบาล
ใ ้รายงานกรมแพทย์ท ารบกทราบดังนี้
- โรคลมร้อน ใ ้รายงาน พบ. ทราบทันที ลังรับผู้ป่วยไว้รัก า พร้อมทั้ง ่ง
รายงานการ อบ วนโรคภายใน ๒๔ ชม.
- ฮี ท เอ็ ก ซอ ชั่ น กล้ า มเนื้ อ ลาย ลายจากความร้ อ น( กรณี เ ข้ า รั ก าใน
ออภิ บาลผู้ป่ วยอาการ นัก(ICU) ) ใ ้ รายงาน พบ. ทราบภายใน ๒๔ ชม. ลั งรับผู้ป่ วยไว้รัก า พร้อมทั้ ง
่งรายงานการ อบ วนโรคภายใน ๗๒ ชม.
- ลมแดด การเกร็งแดดและตะคริวแดด ใ ้รายงาน พบ. ทราบภายใน ๗ วัน
ลังรับผู้ป่วยไว้รัก า
๔.๓ หลังการฝึก
ประชุมทบทวนบทเรียนที่ได้จากการฝึกร่วมกับทั้งใน ่วนการรัก า เวชกรรมป้องกัน
และ น่วยฝึก พร้อมทั้ ง รุป ผลการดำเนิ นงานและการทบทวนบทเรียนใ ้ พบ. ทราบ ลังเ ร็จ ิ้น การฝึ ก
ตามแบบรายงานของ พบ.
ผนวก ข
คำแนะนำในการป้องกันการเจ็บป่วยจากความร้อน ำ รับการฝึกทางท ารอื่นๆ

๑. ำ รับผู้บังคับบัญชา
๑.๑ ึก าข้อมูลและทำค ามเข้าใจเกี่ย กับการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนโดยละเอียด
๑.๒ กำกับดูแลก ดขันใ ้ น่ ยจัดการฝึกและ น่ ยรับการฝึกในค ามรับผิดชอบของตน
ปฏิบัติตามแน ทางนี้อย่างเคร่งครัด
๑.๓ ค รกำ นดใ ้มีการทด อบร่างกายตามเกณฑ์มาตรฐานของแต่ละ ลัก ูตร กรณีที่มิได้
กำ นดไ ้ใ ้ถือตามเกณฑ์การทด อบร่างกายประจำปีของกองทัพบก
๑.๔ กำกับดูแลใ ้มีอุปกรณ์ขั้นพื้นฐาน ำ รับการดูแลผู้รับการฝึกที่ทัน มัย เพียงพอและ
พร้อมใช้งานดังต่อไปนี้ ( อนุผน ก ๑ ประกอบผน ก ง )
๑.๔.๑ เครื่องมือในการคัดกรอง
๑.๔.๑.๑ เครื่อง ัดอุณ ภูมกิ าย
๑.๔.๑.๒ ภาชนะเก็บปั า ะ
๑.๔.๑.๓ เครื่องชั่งน้ำ นัก
๑.๔.๒ ภาชนะบรรจุน้ำประจำกาย
๑.๔.๓ ผ้าเช็ด น้า เช็ดตั ระ ่างพัก
๑.๔.๔ เครื่องมือติดตาม ภาพอากา ในที่ฝึก และโรงนอน
๑.๔.๕ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลโรคลมร้อน
๑.๔.๕.๑ ผ้าขน นู ำ รับเช็ดตั
๑.๔.๕.๒ กระบอกฉีดน้ำ
๑.๔.๕.๓ พัด รืออุปกรณ์ทำใ ้เกิดลม
๑.๔.๕.๔ ถังน้ำ ขนาด ๒๐๐ ลิตร
๑.๔.๕.๕ ถังน้ำขนาดเล็ก
๑.๔.๕.๖ เปล นาม
๑.๔.๕.๗ ชุดปฐมพยาบาลโรคลมร้อนแบบพกพา
๑.๔.๖ รถ ำ รับ ่งต่อผู้ป่ ย รือรถพยาบาล
๑.๕ กำกับดูแลใ ้มีการฝึกอบรมค ามรู้เกี่ย กับการป้องกันและเฝ้าระ ังการปฐมพยาบาล
การเจ็บป่ ยจากค ามร้อนแก่กำลังพลทั้งใน ่ นจัดการฝึกและ ่ นรับการฝึก
๑.๖ กำกั บ ดู แ ล ใ ้ มี น้ ำ ดื่ ม ประจำ น่ ยฝึ ก อย่ า งเพี ย งพ อ ตามคำแนะนำของ
กรมแพทย์ท ารบก
๑.๗ กำกับดูแลใ ้ท ารใ ม่ได้รับ ารอา ารตาม ลักโภชนาการ
๑.๘ กำกับดูแลใ ้ ถานที่ฝึกถูก ุขลัก ณะ
๑.๙ กำกับดูแลใ ้มีการจัดทำแผนเผชิญเ ตุและแผนการ ่งกลับ ำ รับกรณีท ารใ ม่
ได้รับบาดเจ็บจากค ามร้อน และใ ้มีการฝึกทบท นและซักซ้อมแผนการปฏิบัติอยู่เ มอ
๑.๑๐ พิจารณาลงทัณฑ์ตาม มค รแก่เจ้า น้าที่ที่เกี่ย ข้องต่อการป้องกันและเฝ้าระ ัง
การเจ็บป่ ยจากค ามร้อนที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำจนเป็นเ ตุใ ้ท ารใ ม่และกำลังพลได้รับการบาดเจ็บ
ชนิดรุนแรงจากค ามร้อน ได้แก่ โรคลมร้อน รือฮีทเอ็กซอ ชั่น
๒. ำ รับ น่วยจัดการฝึก
๒.๑ ประ าน โรงพยาบาลใน ังกัดกองทั พบก รือ น่ วย ายแพทย์ในพื้นที่ในการใ ้
ความรู้เกี่ยวกับการเจ็บป่วยจากความร้อนแก่กำลังพลที่เกี่ยวข้องกับการฝึก ก่อนเข้ารับการฝึกทุกครั้ง
๒.๒ ปรับแผนการฝึก ใ ้เ มาะ มและ อดคล้องกับ ภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน
วันที่อากาศร้อนอบอ้าวและอาจพิจารณา ั่ งใ ้ยุติการฝึกเป็นการชั่วคราว กรณีที่ ภาพแวดล้อมในการฝึกอาจ
ก่อใ ้เกิดการเจ็บป่วยจากความร้อนได้
๒.๓ จัดใ ้มีการวัดค่าอุณ ภูมิ ความชื้น ัมพัทธ์ และดัชนีความร้อนโดยใช้เครื่องมือที่ได้
มาตรฐานที่กรมแพทย์ท ารบกกำ นด และติดตั้งเครื่องวัดค่าอุณ ภูมิความชื้น ัมพัทธ์ ณ พื้นที่การฝึกตาม
ความเ มาะ ม เพื่อใ ้ ามารถปรับ เปลี่ยน ถานการณ์ การฝึกใ ้ อดคล้องกับ ภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว
อันจะเป็นการลดความเ ี่ยงต่อการเกิดการเจ็บป่วยจากความร้อนได้
๒.๔ การอ่านค่าอุณ ภู มิและความชื้น ัมพั ทธ์ กรณี วัดด้วยเครื่อง ลิงไซโครมิเตอร์ (Sling
psychrometer) โดยปรับใช้ตามความเ มาะ มกับการฝึกนั้นๆ ดังนี้
๒.๔.๑ อ่านค่าอุณ ภู มิจากเทอร์โมมิเตอร์กระเปาะเปียกและกระเปาะแ ้ง แล้ว
คำนวณผลต่างของอุณ ภูมิทั้ง องค่านั้น แล้วนำค่าผลต่างไปเทียบกับตารางแ ดงค่าความชื้น ัมพัทธ์ และนำ
ค่าความชื้น ัมพัทธ์ที่ได้ไปคำนวณในเครื่องคำนวณร่วมกับอุณ ภูมิแ ้ง จะได้เป็นดัชนีความร้อน
๒.๔.๒ มาเที ยบเป็ น ัญ ญาณธง ี ตามตารางความ ั มพั นธ์ระ ว่าง ัญ ญาณธง ี
ดัชนีความร้อน ้วงเวลาการฝึกและการดื่มน้ำ ( ตารางที่ ๒ อนุผนวก ๕ ประกอบผนวก ง )
๒.๔.๓ ถ้ามีเครื่องมือที่ ามารถตรวจ อบความชื้น ัมพั ทธ์เฉลี่ยในแต่ละพื้ นที่ ใ ้
นำมาพิจารณาร่วมด้วย เช่น จากเว็บไซต์ รือโปรแกรมประยุกต์ในโทรศัพท์มือถือ
ตารางที่ ๒ แ ดงความ ัมพันธ์ระ ว่าง ัญญาณธง ี ดัชนีความร้อน และการดื่มน้ำ
ัญญาณธง ดัชนีความร้อน (องศาเซลเซีย ) ปริมาณน้ำดื่ม(ลิตร/ชั่วโมง)
ธงขาว น้อยกว่า ๒๗ อย่างน้อย ๑/๒ ลิตร ( ๕๐๐ซีซี )
ธงเขียว ๒๗ – ๓๒ อย่างน้อย ๑/๒ ลิตร ( ๕๐๐ซีซี )
ธงเ ลือง ๓๓ – ๓๙ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี )
ธงแดง ๔๐ – ๕๑ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี )
ธงดำ มากกว่า ๕๑ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี )
มายเ ตุ การดื่มน้ำตามตารางนี้ใ ้ค่อยๆดื่มเป็นช่วงเวลาทุกๆ ๑๕ นาที จะเ มาะ มและดีกว่าการดื่มครั้ง
เดียวมากๆ เช่น ใ ้ดื่มจากกระติกในทุกช่วง ๑๕ นาทีขณะฝึก ้วงอากาศร้อนอบอ้าว
๒.๕ ฝึ ก ใ ้ ก ำลั งพลที่ เข้ า ร่ว มการฝึ ก ามารถ ั งเกต ี ปั าวะได้ ด้ ว ยตนเองทั้ งก่ อ น
ระ ว่าง และ ลังการฝึก ถ้ามี ีเ ลืองเข้มเป็น ิ่งบอกเ ตุว่าดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ควรดื่มน้ำใ ้มากขึ้นจนปั าวะใ ( การ ังเกต ีปั าวะและปริมาณการดื่มน้ำใ ้ดูตาม อนุผนวก ๖ ประกอบ
ผนวก ง )
๒.๖ จัด าน้ำดื่มที่ ะอาดและเพียงพอต่อความต้องการของผู้เข้าร่วมการฝึกและกำกับดูแล
ใ ้ผู้รับการฝึกพกกระติกน้ำประจำตัวและ ามารถดื่มน้ำบ่อยๆใ ้เพียงพอกับความต้องการ โดยในน้ำดื่มอาจ
ผ มผงเกลือแร่ในอัตรา ่วน ๑ ซองต่อน้ำ ๑ แก้ว ( ๒๕๐ ซีซี ) รือเกลือแกง ๑/๒ ช้อนชาต่อน้ำ ๑ ลิตร
๒.๗ เมื่ อกำลั งพลที่ มี อาการเจ็ บป่ วย รือมี การเจ็ บป่ วยจากความร้ อน และแพทย์ ได้ อ อก
เอก ารรับรองใ ้งด รือพักการฝึก ใ ้ น่วยจัดการฝึกและ น่วยรับการฝึกปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์โดย
เคร่งครัด
๒.๘ ประ านโรงพยาบาลใน ั ง กั ด กองทั พ บก และ/ รื อ โรงพยาบาลนอก ั ง กั ด
กองทัพบก ในพื้นที่ฝึกเพื่อเตรียมการรับผู้ป่วยเจ็บจากการเจ็บป่วยจากความร้อน
๒.๙ จัดทำแผนเผชิญเ ตุ และแผนการ ่งกลับผู้ป่ ยเจ็บกรณี มี ค ามจำเป็นต้อง ่ง กลั บ
ผู้ได้รับบาดเจ็บจากค ามร้อนเพื่อไปทำการรัก ายัง โรงพยาบาลต่อไป และต้องจัดใ ้มีการฝึกทบท นและ
ซักซ้อมอยู่เ มอ
๓. ำ รับ น่วยรับการฝึกและผู้เข้ารับการฝึก
๓.๑ กำลังพล ค รรัก าร่างกายใ ้แข็งแรงเพื่อใ ้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค โดยการออก
กำลังกาย ม่ำเ มอ และเตรียมค ามพร้อมของร่างกาย ำ รับการรับการฝึกตาม ลัก ูตรต่างๆ และ ร้าง
ค ามเคยชินกับค ามร้อนก่อนเข้ารับการฝึก
๓.๒ กำลังพลต้องงดการดื่ม ุรา งดการใช้ ารเ พติด ลีกเลี่ยงกาแฟและเครื่องดื่มที่ผ ม
คาเฟอีนซึ่งเป็น ารที่มีฤทธิ์ขับปั า ะจะทำใ ้ร่างกาย ูญเ ียน้ำ การใช้ยาใ ้ใช้ได้ตามแพทย์ ั่ง รือเท่าที่
จำเป็นเท่านั้น
๓.๓ กรณี ที่ มี อ าการไม่ บาย เช่ น เป็ น ไข้ ป ด ี ร ะ รื อ มี ภ า ะเ ี่ ย งต่ อ การเกิ ด
การเจ็บป่ ยจากค ามร้อนในระ ่าง ้ งการฝึกต้องรีบแจ้งใ ้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที
๓.๔ จั ด ทำแผนเผชิ ญ เ ตุ แ ละเตรี ย มที ม ำ รั บ การปฐมพยาบาลการบาดเจ็ บ จาก
ค ามร้อน ณ จุดเกิดเ ตุและเตรียมรถพยาบาล ำ รับ ่งกลับผู้ป่ ยตามแผนการ ่งกลับที่ได้ างแผนร่ มไ ้กับ
น่ ยจัดการฝึก
๔. โรงพยาบาลใน ังกัดกองทัพบก และ/ รือ น่วย ายแพทย์ที่ นับ นุนการฝึก
๔.๑ จั ด เจ้ า น้ า ที่ ายแพทย์ นั บ นุ น ใ ้ ค ามรู้ เ กี่ ย กั บ การป้ อ งกั น เฝ้ า ระ ั ง
และการปฐมพยาบาลการเจ็บป่ ยจากค ามร้อน แก่ น่ ยจัดการฝึกและ น่ ยรับการฝึกค ามรับผิดชอบตาม
แน ทางการบริการทางการแพทย์แบบเป็นพื้นที่ ( Area Medical Service ) ก่อนเข้ารับการฝึกทุกครั้ง
๔.๒ ใ ้ค ำแนะนำ น่ ยจัดการฝึก ในการจัดเตรียมเครื่อง ัด อุณ ภู มิค ามชื้น ัม พัท ธ์
เครื่อง ัดอุณ ภูมิร่างกายและ ิ่งอุปกรณ์การปฐมพยาบาลที่ทัน มัยใ ้เพียงพอต่อการใช้งาน
๔.๓ จัดใ ้มีการอบรมแพทย์ พยาบาล นายท ารเ ชกรรมป้องกัน และนาย ิบพยาบาลของ
น่ ยในพื้นที่ที่รับผิดชอบใ ้มีค ามรู้และค ามเข้าใจในการรัก าพยาบาลการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งโรคลมร้อน ( Heat Stroke )
๔.๔ จัดทำแผนและซักซ้อมการรับผู้ป่ ยและการรัก าพยาบาลใน ถานการณ์ฉุกเฉินและ
จะต้องมีการซักซ้อมอยู่เ มอ
๔.๕ ากพบผู้ป่ ย ง ัยเป็นโรคลมร้อนใ ้ดำเนินการรัก าพยาบาลตามแน ทางการดูแล
รัก าผู้ป่ ยโรคลมร้อนของ พบ.
๔.๖ เมื่อมีผู้ป่ ยที่ได้รับบาดเจ็บจากค ามร้อนที่ต้องเข้าพักรัก าตั ในโรงพยาบาลใ ้รายงาน
กรมแพทย์ท ารบกทราบดังนี้
๔.๖.๑ โรคลมร้อน ใ ้ รายงาน พบ. ทราบทันที ลัง รับ ผู้ป่ ยไ ้รัก า พร้อมทั้ ง ่ ง
รายงานการ อบ นโรคภายใน ๒๔ ชม.
๔.๖.๒ ฮี ทเอ็ กซอ ชั่ น กล้ า มเนื้ อ ลาย ลายจากค ามร้อ น ( กรณี เข้ า รั ก าใน อ
อภิบ าลผู้ ป่ ยอาการ นัก (ICU) ) ใ ้ รายงาน พบ. ทราบภายใน ๒๔ ชม. ลังรับผู้ป่ ยไ ้รัก า พร้อมทั้ง ่ ง
รายงานการ อบ นโรคภายใน ๗๒ ชม.
๔.๖.๓ ลมแดด การเกร็งแดด และตะคริ แดด ใ ้รายงาน พบ.ทราบภายใน ๗ ัน ลัง
รับผู้ป่ ยไ ้รัก า
๕. ำ รับการฝึ กนั กเรียนท ารและการปฏิ บั ติ การทางท ารอื่ นๆ ใ ้ พิ จารณาปรับใช้ ตาม
แน ทางการป้องกันการเจ็บป่ ยจากค ามร้อนของประกา ฉบับนี้ตามค ามเ มาะ ม
ผนวก ค
วิธีการปฐมพยาบาลลดความร้อนวิธีอื่นๆ

การลดค ามร้อน ิธีอื่นๆ ที่ ามารถปฏิบัติได้ าก น่ ยมีค ามพร้อม และปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง


๑. การห่ อตัวด้ วยผ้าเย็น ( Ice sheet ) ข้อ บ่งชี้ในการใช้และ ิธีการใช้ ผ้าชุบ น้ำเย็นจั ด
(Iced Sheet) มีดังต่อไปนี้
๑.๑ ใ ้จัดเตรียม ผ้าปูที่นอนท ารที่เป็นผ้าฝ้ายจำน นอย่างน้อย ๘ ผืน ต่อ นึ่ง น่ ยฝึก
ท ารใ ม่ รือการฝึกประมาณ ๑๐๐ นาย โดยใ ้จัดเตรียมเก็บไ ้ใน ภาพที่ยังแ ้ง ะอาดแยกใ ่ถุงพลา ติก
ป้องกันการปนเปื้อนในขณะที่เก็บรัก า
๑.๒ จัดเตรียมกระติกน้ำแข็ง รือภาชนะเก็บค ามเย็น ขนาดใ ญ่พอที่จะเอาผ้าปูที่นอน
นึ่งผืนลงไปชุบน้ำผ มน้ำแข็งที่เย็นจัด ได้อย่าง ะด ก โดยเมื่อมีการฝึกใ ้บรรจุน้ำแข็งลงในกระตึก ๒/๓
ของค ามจุ และใ ่น้ำ ะอาด ๑/๓ ของค ามจุกระติกน้ำแข็ง พร้อมใช้งานได้ตลอดเ ลา เมื่อต้องการใช้ใน
การปฐมพยาบาล ใ ้ น ำผ้า ปู ที่ น อนแ ้ งที่ เตรี ยมไ ้ ๑ ผื น ลงชุบ น้ ำ เย็ น จัด ที่ ป นอยู่กั บ น้ ำแข็ งในกระติ ดที่
จัดเตรียมไ ้ จนผ้าชุ่มน้ำ ใ ้ดำเนินการชุบ ตั้งแต่เริ่มกระบ นการถอดเ ื้อผ้าผู้ป่ ยและนำเข้าที่ร่ม เมื่อผู้ป่ ย
ถอดเ ื้อผ้าพร้อมแล้ ผ้าที่ชุบน้ำไ ้จะชุ่มน้ำเย็นจัดพอดี
๑.๓ ค รนำผ้าปู่ที่นอนแ ้งและกระติกน้ำแข็งที่ใ ่น้ำและนำแข็งไ ้พร้อมนี้ อยู่ใกล้ชิดกับ
กลุ่มของท ารในทุกเ ลา ไม่ ่าจะเป็น นามฝึก การเดินทางไกล การ ิ่งออกกำลัง โรงเลี้ยง โรงนอน และ
รถพยาบาล รือรถนำ ่งผู้ป่ ย
๑.๔ ผ้าชุบน้ำเย็นจัด ( Iced Sheet ) ามารถนำมาใช้ได้ทุกเ ลาเมื่อพบ ่า ท ารที่เข้ารับ
การฝึก มีการเปลี่ยนแปลงค ามรู้ ึกตั และการออกกำลังภายใต้ ภา ะร้อนอบอ้า อาจจะเป็น ่ นประกอบ
ำคัญในการเกิดอาการดังกล่า อาการ ามารถร มถึงได้ ตั้งแต่ การตอบ นองที่ช้าก ่าปกติไม่ ามารถทำตาม
คำ ั่งได้ตามปกติ รือถึงขั้น มด ติ
๑.๕ การใช้ ผ้าชุบน้ำเย็นจัด ( Iced Sheet ) เพื่อลด ค ามร้อนใ ้ดำเนินการนำผู้ป่ ยเข้า
ที่ร่มและถอดเ ื้อผ้าออก มดจนเ ลือแต่กางเกงชั้นในแล้ โดยในขณะที่เริ่มทำการปฐมพยาบาลใ ้เรียกรถเพื่อ
นำ ่งโรงพยาบาลโดยทันที ในระ ่างการรอการนำ ่งใ ้เริ่มปฐมพยาบาล ดังนี้
๑.๕.๑ างผ้าปูที่นอนที่ชุบน้ำเย็นจัดจนชุ่มแล้ างบนพื้น รือเปล นาม ที่ใช้ในการ
ปฐมพยาบาล
๑.๕.๒ างผู้ป่ ย ง ัยโรคลมร้อนลงบนผ้าเย็นจัดดังกล่า
๑.๕.๓ ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นจัดผืนต่อๆ ไป รือ ถุงประคบเย็น (cold pack) างบริเ ณขา
นีบ รักแร้ รอบคอผู้ป่ ย
๑.๕.๔ นำชายผ้าผืนแรกที่รอง ผู้ป่ ย ุ้ม ่อใ ้ทั่ ตั ร มถึงบริเ ณ ีร ะ โดยเ ลือ
บริเ ณใบ น้าใ ้ ายใจได้ ะด ก เมื่อผ้าเย็นจัดคลายค ามเย็นลง จากการแลกเปลี่ ยนค ามร้อนจากตั ผู้ป่ ย
ซึ่งมักจะใช้เ ลาไม่นานนักประมาณ ๒ – ๓ นาที ใ ้ นำผ้าไปชุบน้ำเย็นจัดอีกครั้งแล้ นำมา ่อตั ใ ม่
๑.๕.๕ ในระ ่างเปลี่ยนผ้า ค รมีการพัดระบายลมแรงๆ บนตั ผู้ป่ ยตลอดเ ลา
๑.๕.๖ ใ ้ ยุดทำการผลัดเปลี่ยนผ้าเย็นจัดตาม งรอบลัก ณะนี้ เมื่อ ่งตั ผู้ป่ ยไป
ถึงโรงพยาบาล รือ เมื่อผู้ป่ ยมีอาการ นา ั่น ในการลดค ามร้อนผู้ป่ ยนั้น จะไม่มีการ ัดอุณ ภูมิกาย
ผู้ป่ ย เพื่อประเมิน ่าจะ ยุดการลดค ามร้อนแต่อย่างใด เพราะอุณ ภูมิเป้า มายนั้นจะต้องประเมินด้ ย
อุณ ภูมิแกนกายที่ได้จากการ ัดทางท าร นักที่โรงพยาบาลเท่านั้น การ ัดอุณ ภูมิผิ นังขณะลดค ามร้อน
ผู้ป่ ยมักจะเป็นอุณ ภูมิที่ต่ำก ่าอุณ ภูมิแกนกาย
๒. การแช่ร่างกายผู้ป่วยลงในถังที่บรรจุน้ำแข็ง ( Ice Immersion ) มีดังต่อไปนี้
๒.๑ ผู้ เ ข้ า รั บ การฝึ ก เกิ ด อาการที่ อ าจเข้ า ได้ กั บ การเป็ น โรคลมร้ อ น ได้ แ ก่ เกิ ด การ
เปลี่ ยนแปลงค ามรู้ ึ กตั ขณะออกกำลัง รือภาย ลัง การออกกำลั ง อาการ ามารถร มถึงได้ ตั้ ง แต่ก าร
ตอ บ น องที่ ช้ า ก ่ า ปกติ ไม่ ามารถท ำตามคำ ั่ ง ได้ ต ามปกติ รื อ ถึ ง ขั้ น มด ติ การ ั ง เก ต
ค ามรู้ ึกตั ของท ารที่เข้ารับการฝึกนั้น ำคัญก ่าการ ัดอุณ ภูมิกาย ในการตัด ินใจเริ่มใ ้การปฐมพยาบาล
ผู้ป่ ยโรคลมร้อ น เมื่ อ พบผู้ ป่ ยเริ่ม มี อ าการดัง กล่ า ใ ้ น ำเข้ าที่ ร่ มและถอดเ ื้ อ ผ้ าออก มดจนเ ลื อ แต่
กางเกงชั้นใน แล้ พาไปยังจุดที่เตรียมอุ ปกรณ์การลดค ามร้อนด้ ย ิธีการแช่ลงในถังน้ำแข็งไ ้ โดย ากจุดที่
เตรียมอุป กรณ์ ดังกล่า อยู่ไกล ใ ้ดำเนินการลดค ามร้อนโดยการเช็ดตั ด้ ยน้ำและพัดเป่าระบายอากา
รือใช้ ิธีใช้ผ้าชุบน้ำเย็นจัด ่อ ุ้ม ( Iced Sheet ) ในขณะที่นำตั ผู้ป่ ยไปยังจุดที่เตรียมอุปกรณ์ไ ้
๒.๒ การเตรียมอุปกรณ์ ใ ้ใช้ถังตื้นๆ ขนาดค ามก ้างพอรองรับผู้ป่ ยที่ตั ใ ญ่ได้ โดยถัง
นี้จะต้องมีรูระบายน้ำออกทางด้านล่างที่ ามารถปิดไ ้ได้และเปิดเพื่อระบายน้ำออกได้ กระบะพลา ติก รือไฟ
เบอร์ ที่ จะใช้ ำ รับการแช่ตั ผู้ป่ ยนี้ จะต้องมีค ามยา อยู่ระ ่าง ๑๐๐ ถึง ๑๕๐ เซนติเมตร โดยยา
พอที่จะแช่ตั ผู้ป่ ยลงไปในท่านอนและ ่ น ีร ะจะอยู่พ้นจากระดับค าม ูงของถัง เช่น กระบะ ก ้าง x ยา X
ูง = ๘๙ x ๑๑๖ x ๓๒ เซนติเมตร ค ามจุ ๑๗๕ ลิตร มีก๊อกระบายน้ำออกทางด้านล่าง รือ ก ้าง x ยา X ูง
= ๗๙ x ๑๓๔ x ๓๐ เซนติเมตร ค ามจุ ๑๙๐ ลิตร มีก๊อกระบายน้ำออกทางด้านล่าง ใ ้ทำการเตรียมน้ำแข็ง
ก้อน ยูนิค ไ ้ใ ้เพียงพอที่จะเทลงลงในถังตื้นๆ ที่เตรียมไ ้พร้อมกับน้ำเย็นจัด โดยบรรจุไ ้ในภาชนะบรรจุ
น้ำแข็งรัก าอุณ ภูมิแยกไ ้ ด้านข้างถังตื้น พร้อมใช้งานตลอดเ ลา เมื่อผู้ป่ ยลงแช่ ใ ้เทน้ำแข็งและน้ำเย็นจัด
ลงในถังตื้นที่เตรียมไ ้นั้นโดยใ ่ลงไปประมาณครึ่ง นึ่งของค าม ูงของถัง ใ ้ ังเกต ่ามีน้ำแข็งปริมาณมากพอ
จนกระจายอยู่บนพื้นผิ ด้านบนทั้ง มด
๒.๓ ใช้ผู้ช่ ยเ ลือผู้ป่ ยอย่างน้อย ๒ นาย ช่ ยกันนำผู้ป่ ยที่ถอดเ ื้อผ้าเ ลือแต่กางเกง
ชั้นในแล้ างลงในถังที่มีน้ำเย็นจัดและน้ำแข็งอยู่ในถังแล้ ประมาณครึ่ง นึ่ง โดยจัดผู้ป่ ยอยู่ในท่านอน งาย
กึ่งนั่ง ลังพิงขอบด้านแคบของตั ถังข้อเข่าเ ยียดออก ในขณะที่นำผู้ป่ ยลงถังแช่ลดค ามร้อนเพื่อป้องกัน
ไม่ใ ้ ีร ะผู้ป่ ยจมลงในน้ำ ต้องใ ้ร่างกายผู้ป่ ยระดับคอและ ีร ะอยู่พ้นน้ำเ มอ โดยใ ้ใช้ผ้าผืนใ ญ่เช่น
ผ้าเช็ดตั รือ เ ื้อยืด พาดทับ น้าอกผู้ป่ ยด้าน น้าและซอกรักแร้ทั้ง องข้างมาทางด้าน ลังแล้ ใ ้ผู้ช่ ย
เ ลือผู้ป่ ยยึดปลายผ้าไ ้ที่ขอบบนของถัง เพื่อยึดแผ่น ลังผู้ป่ ยไ ้กับขอบของถังระบายค ามร้อน
๒.๔ พยายามรัก าระดับปริมาณน้ำแข็งใ ้มีปริมาณมากพอ ที่จะแผ่เต็มพื้นผิ น้าของ
ระดับน้ำทั้ง มดในถังแช่ เมื่อต้องเติมน้ำแข็งลงไปเพิ่ม ใ ้ระบายน้ำออกจากรูระบายน้ำที่ก้นถังเพื่อไม่ใ ้ระดับ
น้ำในถัง ูงจนเกินไป ระดับน้ำที่เ มาะ มคือ ูงจนท่ มตั้งแต่ระดับ น้าอกของผู้ป่ ยลงมาทั้ง มดยกเ ้นบริเ ณ
คอและ ีร ะ การระบายค ามร้อนจะมีป ระ ิ ทธิภาพมากขึ้น เมื่อมีการก นน้ ำแข็ งในถังใ ้มีก าร นรอบๆ
ร่างกายของผู้ป่ ยอย่างต่อเนื่อง
๒.๕ ต้อง ังเกตอาการผู้ป่ ยตลอดเ ลา ในกรณีที่ผู้ป่ ยอาการ นักมาก จนถึงระดับ ที่ไม่
ายใจ รือ ั ใจ ยุดเต้น ต้องดำเนินการช่ ยฟื้นคืนชีพ ( CPR ) ใ ้กับผู้ป่ ย โดยนำผู้ป่ ยออกจากถังและ
ดำเนินการตามขั้นตอน
๒.๖ ในกรณีที่อาการไม่ นักมากจนถึงขั้นต้องช่ ยฟื้นคืนชีพ ( CPR ) ใ ้แช่ในถังน้ำเย็นจัด
ผ มน้ำแข็งนี้ จนก ่ารถนำ ่งผู้ป่ ยจะพร้อมที่จะนำตั ผู้ป่ ย ่งโรงพยาบาล โดยใ ้เลือกใช้ ิธีการลดค ามร้อน
ด้ ย ิธีอื่นในขณะนำ ่งบนรถ ่งป่ ย รือรถพยาบาลเช่นการใช้การเช็ดตั และพักระบายลม รือการใช้ ิธี
่อ ุ้มตั ด้ ยผ้าเย็นจัดเป็นต้น
ผนวก ง
เครื่องมือในการป้องกันเฝ้าระวังการเจ็บป่วยจากความร้อน
อนุผนวก ๑ ประกอบผนวก ง
อุปกรณ์ขั้นพื้นฐาน ำ รับการดูแลท ารใ ม่
๑. เครื่องมือในการคัดกรอง
๑.๑ เครื่องวัดอุณ ภูมิกาย อย่างน้อย ๑ อัน/นาย

๑.๒ ภาชนะเก็บปั าวะ(ที่เป็นลัก ณะ ีใ ) อย่างน้อย ๑ อัน/นาย

๑.๓ เครื่องชั่งน้ำ นัก

๒. ภาชนะบรรจุน้ำประจำกาย

ภาพจาก น่วยฝึก ป.๕ พัน.๑๐๕

๓. ผ้าเช็ด น้า/เช็ดตัวระ ว่างพัก ขนาดกว้าง x ยาว ประมาณ ๑๔ x ๒๘ นิ้ว เป็น ี่เ ลี่ยมผืนผ้า อย่างน้อย
๒ ผืน/นาย ำ รับใช้ชุบน้ำ ะอาดแล้วบิดใ ้ มาด เช็ด น้า เช็ดตัว ขณะพัก และใช้คล้องคอบริเวณท้ายทอย
ใต้ปกเ ื้อเพื่อช่วยลดความร้อนขณะทำการฝึกกลางแดด ควรมีผ้าขน นูประจำตัวท ารทุกคน เพราะ ามารถ
นำมาใช้ในการปฐมพยาบาลผู้เจ็บป่วยจากความร้อนได้
๔. เครื่องมือติดตาม ภาพอากา ในที่ฝึก และโรงนอน

๕ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลโรคลมร้อน
๕.๑ ผ้าขนหนู ขนาดก ้าง x ยา ประมาณ ๑๔ x ๒๘ นิ้ เป็น ี่เ ลี่ยมผืนผ้า อย่างน้อย ๔ ผืน

๕.๒. กระบอกฉีดน้ำ ชนิดพ่นละอองฝอย ำ รับพ่นไปบริเ ณรอบๆ ตั ผู้ป่ ย และเ นือ ีร ะของผู้รับ


การฝึก เพื่อใ ้อุณ ภูมิของอากา บริเ ณนั้นต่ำก ่าอุณ ภูมิร่างกาย ซึ่ง จะช่ ยใ ้ร่างกายระบายค ามร้อน
ออกมาได้ดีขึ้น โดยทุก ถานีฝึก และที่ปฐมพยาบาลของ น่ ยฝึกต้องมีอย่างน้อย แ ่งละ ๕ อัน เติมน้ำ ะอาด
ใ ้เต็มเมื่อกด ั ฉีดแล้ น้ำพ่นออกมาเป็นละอองฝอยได้ไกล ไม่ตกลงมาเป็น ยดน้ำใกล้ตั ซึ่งไม่เกิดประโยชน์
ใดๆ

๕.๓ พัดหรืออุปกรณ์ทำให้เกิดลม ใช้พัดเพื่อใ ้มีการถ่ายเทเคลื่อนไ ของอากา บริเ ณรอบตั ผู้ป่ ยเป็น


การช่ ยใ ้เ งื่อ และน้ำระเ ยได้เร็ ขึ้นขณะที่ทำการเช็ดตั เพื่อลดไข้ รือระบายค ามร้อนออกจากร่างกาย

๕.๔ ถังน้ำ ขนาด ๒๐๐ ลิตร รือขนาดตามค ามเ มาะ ม และเติมน้ำ ะอาดใ ้เต็ม ำ รับใช้เช็ดตั ใช้
ล้าง น้า ต้องมีฝาปิดเพื่อป้องกันแมลง ฝุ่นละออง รือใบไม้ไม่ใ ้ร่ งตกลง ู่ถังซึ่งจะทำใ ้น้ำมีกลิ่นเน่าเ ม็น
ไม่ ะอาด และอาจทำใ ้เกิดผื่นคันได้
๕.๕ ถังน้ำขนาดเล็ก ำ รับใ ่น้ำเช็ดตัวใ ้ท ารใ ม่ระ ว่างพัก รือเมื่อมีการเจ็บป่วยจากความร้อน
ควรมีประจำทุก มวดฝึก

๕.๖ เปลสนาม ต้องกางออก และวางไว้ใน ถานที่ที่ ยิบ ใช้ได้ ะดวก พร้อมรับผู้ป่วยเมื่อมีเ ตุฉุกเฉิน
ได้ทันที ควรมีที่ล็อคเปล เพื่อป้องกันการตกเปล

๕.๗ ชุดปฐมพยาบาลโรคลมร้อนแบบพกพา ามารถนำไปด้วยทุกที่ที่ท ารใ ม่อยู่ ประกอบด้วย ถังน้ำ


๑ ใบ กระบอกใ ่น้ำ ๒ กระบอก ผ้าเช็ดตัว ๓ ผืน ปรอทวัดไข้ ๒ อัน กระบอกฉีดน้ำ ๒ อัน พัด รืออุปกรณ์ทำ
ใ ้เกิดลม ๒ อัน

๖. รถส่ง ผู้ ป่ วย อาจเป็ น รถพยาบาล รถจี๊ ป รือ รถกระบะที่ มี อุ ป กรณ์ ช่ว ยชีวิ ตพื้ น ฐาน มีอุ ป กรณ์ ป ฐม
พยาบาล และมีการระบายอากาศที่ดี นำมาจอดที่ถนนด้าน น้า น่วยฝึกใ ้ อยู่ใน ภาพพร้อม ่ง ผู้ป่วยไป
โรงพยาบาลได้ทันที โดยมอบ มายผู้ทำ น้าที่พลขับไว้ด้วย
อนุผนวก ๒ ประกอบผนวก ง
ตารางการฝึก ร้างความเคยชินกับความร้อน ในระยะ ๓ ัปดา ์แรกของการฝึก
เวลาที่ใช้ใน เวลาที่ใช้ใน เวลาที่ใช้ใน เวลาที่ใช้ในการฝึก
วันที่ การฝึก การฝึก การฝึก ช่วงบ่าย (ชั่วโมง )
ของการฝึก ช่วงเช้า (ชั่วโมง ) ช่วงบ่าย (ชั่วโมง ) ช่วงเช้า (ชั่วโมง )
(ความชื้น ัมพัทธ์ น้อยกว่า ๖๐% ) (ความชื้ น ั ม พั ท ธ์ มากกว่ า รื อ เท่ า กั บ
๖๐% )
๑ ๑ ๑ ๑ ๑
๒ ๑ ๑ ๑ ๑
๓ ๑.๕ ๑.๕ ๑ ๑
๔ ๒ ๒ ๑.๕ ๑.๕
๕ ๒.๕ ๒.๕ ๒ ๒
๖ ๓ ๓ ๒.๕ ๒.๕
๗ ๔ ๔ ๓.๕ ๓.๕


๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔ ใน ั ป ดา ์ ที่ ๒ – ๓ ของการฝึ ก ใ ้ ป รับ เวลาการฝึ ก ใ ้ อดคล้ อ งกั บ ภาวะ
๑๕ อากาศและ ภาพร่างกายของท ารใ ม่
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐
๒๑

มายเ ตุ
• ใ ้ผู้ฝึก ใช้ดุลพินิจ/ประ บการณ์ จากการฝึกพิจารณาช่วงเวลาของการฝึก ใ ้เ มาะ มตาม
อุณ ภูมิและความชื้น ัมพัทธ์ของอากาศในวันเวลาที่ฝึกพร้อมกับ ภาวะ ุขภาพของผู้รับการฝึก ในวันนั้นว่า
มีไข้ รือมีการเจ็บป่วยอื่นๆ รือไม่
• เวลาที่เ ลือ อาจดำเนินกิจกรรม ดังนี้
๑. ตรวจร่างกายเพื่อคัดกรองกลุ่มเ ี่ยง
๒. บันทึกข้อมูล ่วนบุคคล เพื่อคัดแยกกลุ่มผู้ที่เป็นโรค และกลุ่มปกติ
๓. จัดอบรมใ ้ความรู้ในเรื่อง ุขศา ตร์ ่วนบุคคลเพื่อการป้องกันโรค และ ่งเ ริม ุขภาพ
การป้องกันเฝ้าระวัง การเจ็บป่วยจากความร้อน เพื่อการดูแลตนเองและผู้รับการฝึกด้วยกัน ( คู่บัดดี้ )
อนุผนวก ๓ ประกอบผนวก ง
ตารางการออกกำลังกาย ำ รับผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ ๒๘ ขึ้นไป ในระยะ ๔ ัปดา แ์ รกของการฝึก

ัปดา ์ วันที่ การออกกำลังกาย มายเ ตุ


ที่ ช่วงเช้า ช่วงเย็น
๑ ๑ ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ใ ้มีนาย ิบ
๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที พยาบาล
๒. เดินเร็ว(fast walking) ๓๐ นาที ๒. เดิน(walking) ๓๐ นาที ควบคุม
๓. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ(cool ๓. ดันพื้นท่าคุกเข่า ๕ ชุด(set) กำกับใน
down) ๕ นาที ชุดละ ๕ – ๑๐ ครั้ง (จำนวนครั้ง การออก
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) เท่าที่ไ ว ไม่ฝืน) กำลังกาย
๕ นาที ๔. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุด ากไม่ไ ว
ละ ๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้ง ใ ้ ยุดพัก
เท่าที่ไ ว ไม่ฝืน)
๕. ท่าแพลงก์ (plank) ๔ ชุด
(set) ชุดละ ๓๐ วินาที
๖. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(cool down) ๕ นาที
๗. ยืดเ ยียดร่างกาย
(stretching) ๕ นาที

๒ ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up)


๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที
๒. เดินเร็ว(fast walking) ๓๐ นาที ๒. ท่า ควอช (Squats) ๕ ชุด
๓. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ(cool (set) ชุดละ ๑๕ ครั้ง
down) ๕ นาที ๓. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุด
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) ละ ๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้ง
๕ นาที เท่าที่ไ ว ไม่ฝืน)
๔. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(cool down) ๕ นาที
๕. ยืดเ ยียดร่างกาย
(stretching) ๕ นาที
ตารางการออกกำลังกาย ำ รับผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ ๒๘ ขึ้นไป ในระยะ ๔ ัปดา ์แรกของการฝึก

ัปดา ์ วันที่ การออกกำลังกาย มายเ ตุ


ที่ ช่วงเช้า ช่วงเย็น
๑ ๓ ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ใ ้มีนาย ิบ
๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที พยาบาล
๒. เดินเร็ว(fast walking) ๓๐ นาที ๒. เดิน(walking) ๓๐ นาที ควบคุม
๓. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ(cool ๓. ดันพื้นท่าคุกเข่า ๕ ชุด(set) กำกับใน
down) ๕ นาที ชุดละ ๕ – ๑๐ ครั้ง (จำนวนครั้ง การออก
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) เท่าที่ไ ว ไม่ฝืน) กำลังกาย
๕ นาที ๔. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุดละ ากไม่ไ ว
๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้งเท่าที่ ใ ้ ยุดพัก
ไ ว ไม่ฝืน)
๕. ท่าแพลงก์ (plank) ๔ ชุด(set)
ชุดละ ๓๐ วินาที
๖. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(cool down) ๕ นาที
๗. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching)
๕ นาที

๔ ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up)


๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที
๒. เดินเร็ว(fast walking) ๔๕ นาที ๒. ท่า ควอช (Squats) ๕ ชุด(set)
๓. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ(cool ชุดละ ๑๕ ครั้ง
down) ๕ นาที ๓. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุดละ
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) ๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้งเท่าที่
๕ นาที ไ ว ไม่ฝืน)
๔. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(cool down) ๕ นาที
๕. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching)
๕ นาที
ตารางการออกกำลังกาย ำ รับผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ ๒๘ ขึ้นไป ในระยะ ๔ ัปดา ์แรกของการฝึก

ัปดา ์ วันที่ การออกกำลังกาย มายเ ตุ


ที่ ช่วงเช้า ช่วงเย็น
๑ ๕ ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ใ ้มีนาย ิบ
๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที พยาบาล
๒. เดินเร็ว(fast walking) ๔๕ นาที ๒. เดิน(walking) ๓๐ นาที ควบคุม
๓. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ(cool ๓. ดันพื้นท่าคุกเข่า ๕ ชุด(set) กำกับใน
down) ๕ นาที ชุดละ ๕ – ๑๐ ครั้ง (จำนวนครั้ง การออก
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) เท่าที่ไ ว ไม่ฝืน) กำลังกาย
๕ นาที ๔. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุดละ ากไม่ไ ว
๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้งเท่าที่ ใ ้ ยุดพัก
ไ ว ไม่ฝืน)
๕. ท่าแพลงก์ (plank) ๔ ชุด(set)
ชุดละ ๓๐ วินาที
๖. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(cool down) ๕ นาที
๗. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching)
๕ นาที

๖ ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up)


๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที
๒. เดินเร็ว(fast walking) ๔๕ นาที ๒. ท่า ควอช (Squats) ๕ ชุด(set)
๓. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ(cool ชุดละ ๑๕ ครั้ง
down) ๕ นาที ๓. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุดละ
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) ๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้งเท่าที่
๕ นาที ไ ว ไม่ฝืน)
๔. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(cool down) ๕ นาที
๕. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching)
๕ นาที

๗ พัก
ตารางการออกกำลังกาย ำ รับผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ ๒๘ ขึ้นไป ในระยะ ๔ ัปดา ์แรกของการฝึก

ัปดา ์ วันที่ การออกกำลังกาย มายเ ตุ


ที่ ช่วงเช้า ช่วงเย็น
๒ ๑ ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ใ ้มีนาย ิบ
๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที พยาบาล
๒. วิ่ง ๕ นาที ลับ เดิน ๕ นาที ๒. เดิน(walking) ๓๐ นาที ควบคุม
รวม ๔๕ นาที ๓. ดันพื้นท่าคุกเข่า ๕ ชุด(set) กำกับใน
๓. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ(cool ชุดละ ๕ – ๑๐ ครั้ง (จำนวนครั้ง การออก
down) ๕ นาที เท่าที่ไ ว ไม่ฝืน) กำลังกาย
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) ๔. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุดละ ากไม่ไ ว
๕ นาที ๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้งเท่าที่ ใ ้ ยุดพัก
ไ ว ไม่ฝืน)
๕. ท่าแพลงก์ (plank) ๔ ชุด(set)
ชุดละ ๓๐ วินาที
๖. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(cool down) ๕ นาที
๗. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching)
๕ นาที
๒ ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up)
๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที
๒. วิ่ง ๕ นาที ลับ เดิน ๕ นาที ๒. ท่า ควอช (Squats) ๕ ชุด(set)
รวม ๔๕ นาที ชุดละ ๑๕ ครั้ง
๓. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ(cool ๓. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุดละ
down) ๕ นาที ๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้งเท่าที่
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) ไ ว ไม่ฝืน)
๕ นาที ๔. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(cool down) ๕ นาที
๕. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching)
๕ นาที
ตารางการออกกำลังกาย ำ รับผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ ๒๘ ขึ้นไป ในระยะ ๔ ัปดา ์แรกของการฝึก

ัปดา ์ วันที่ การออกกำลังกาย มายเ ตุ


ที่ ช่วงเช้า ช่วงเย็น
๒ ๓ ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ใ ้มีนาย ิบ
๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที พยาบาล
๒. วิ่ง ๕ นาที ลับ เดิน ๕ นาที ๒. เดิน(walking) ๓๐ นาที ควบคุม
รวม ๔๕ นาที ๓. ดันพื้นท่าคุกเข่า ๕ ชุด(set) กำกับใน
๓. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ(cool ชุดละ ๕ – ๑๐ ครั้ง (จำนวนครั้ง การออก
down) ๕ นาที เท่าที่ไ ว ไม่ฝืน) กำลังกาย
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) ๔. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุดละ ากไม่ไ ว
๕ นาที ๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้งเท่าที่ ใ ้ ยุดพัก
ไ ว ไม่ฝืน)
๕. ท่าแพลงก์ (plank) ๔ ชุด(set)
ชุดละ ๓๐ วินาที
๖. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(cool down) ๕ นาที
๗. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching)
๕ นาที
๔ ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up) ๑. อบอุ่นร่างกาย(warm up)
๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที
๒. วิ่ง ๕ นาที ลับ เดิน ๕ นาที ๒. ท่า ควอช (Squats) ๕ ชุด(set)
รวม ๕๐ นาที ชุดละ ๑๕ ครั้ง
๓. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ(cool ๓. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุดละ
down) ๕ นาที ๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้งเท่าที่
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) ไ ว ไม่ฝืน)
๕ นาที ๔. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
(cool down) ๕ นาที
๕. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching)
๕ นาที
ตารางการออกกำลังกาย ำ รับผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ ๒๘ ขึ้นไป ในระยะ ๔ ัปดา ์แรกของการฝึก

ัปดา ์ วันที่ การออกกำลังกาย มายเ ตุ


ที่ ช่วงเช้า ช่วงเย็น
๒ ๕ ๑. บ ุ่นร่างกาย(warm up) ๑. บ ุ่นร่างกาย(warm up) ใ ้มีนาย ิบ
๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที พยาบาล
๒. วิ่ง ๕ นาที ลับ เดิน ๕ นาที ๒. เดิน(walking) ๓๐ นาที ควบคุม
รวม ๕๐ นาที ๓. ดันพื้นท่าคุกเข่า ๕ ชุด(set) กำกับใน
๓. ผ่ นคลายกล้ามเนื้ (cool ชุดละ ๕ – ๑๐ ครั้ง (จำนวนครั้ง การ ก
down) ๕ นาที เท่าที่ไ ว ไม่ฝืน) กำลังกาย
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) ๔. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุดละ ากไม่ไ ว
๕ นาที ๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้งเท่าที่ ใ ้ ยุดพัก
ไ ว ไม่ฝืน)
๕. ท่าแพลงก์ (plank) ๔ ชุด(set)
ชุดละ ๓๐ วินาที
๖. ผ่ นคลายกล้ามเนื้
(cool down) ๕ นาที
๗. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching)
๕ นาที
๖ ๑. บ ุ่นร่างกาย(warm up) ๑. บ ุ่นร่างกาย(warm up)
๕ – ๑๐ นาที ๕ – ๑๐ นาที
๒. วิ่ง ๕ นาที ลับ เดิน ๕ นาที ๒. ท่า คว ช (Squats) ๕ ชุด(set)
รวม ๕๐ นาที ชุดละ ๑๕ ครั้ง
๓. ผ่ นคลายกล้ามเนื้ (cool ๓. ลุกนั่ง(sit-up) ๕ ชุด(set) ชุดละ
down) ๕ นาที ๑๐ – ๑๕ ครั้ง (จำนวนครั้งเท่าที่
๔. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching) ไ ว ไม่ฝืน)
๕ นาที ๔. ผ่ นคลายกล้ามเนื้
(cool down) ๕ นาที
๕. ยืดเ ยียดร่างกาย(stretching)
๕ นาที
๗ พัก
๓ ใ ้ กกำลังกายเ มื น ัปดา ์ที่ ๒ แต่ใ ้เพิ่ม นักข งกิจกรรมตามความเ มาะ ม
๔ กับท ารใ ม่

กแบบโปรแกรมโดย นายธีรวัฒน์ แพงโพธิ์ นักวิทยาศา ตร์การกี า


อนุผนวก ๔ ประกอบ ผนวก ง
ตารางอ่านค่าความชื้น ัมพัทธ์
T
เปีย
ค่าความต่างของอุณ ภูมิแ ้งและเปียก ( อุณ ภูมิแ ้ง - อุณ ภูมิเปียก ) ก
0 0.5 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 4.5 5 5.5 6 6.5 7 7.5 8 8.5 9 9.5 10 C
100 97 94 91 88 85 83 80 78 75 73 71 68 66 64 62 60 59 57 55 53 40
100 97 94 91 88 85 82 80 77 75 72 70 68 66 64 62 60 58 56 55 53 39
100 97 94 91 88 85 82 79 77 74 72 70 68 65 63 61 59 58 56 54 52 38
100 97 94 90 87 85 82 79 77 74 72 69 67 65 63 61 59 57 55 53 52 37
100 97 93 90 87 84 82 79 76 74 71 69 67 64 62 60 58 56 55 53 51 36
100 97 93 90 87 84 81 79 76 73 71 68 66 64 62 60 58 56 54 52 50 35
100 97 93 90 87 84 81 78 76 73 70 68 66 63 61 59 57 55 53 52 50 34
100 96 93 90 87 84 81 78 75 72 70 68 65 63 61 59 57 55 53 51 49 33
100 96 93 90 86 83 80 77 75 72 69 67 65 62 60 58 56 54 52 50 49 32
100 96 93 89 86 83 80 77 74 72 69 66 64 62 59 57 55 53 51 49 48 31
ความชื้น ัมพัทธ์ (%)

100 96 93 89 86 83 80 77 74 71 68 66 63 61 59 57 54 52 51 49 47 30
100 96 93 89 86 82 79 76 73 71 68 65 63 60 58 56 54 52 50 48 46 29
100 96 92 89 85 82 79 76 73 70 67 65 62 60 57 55 53 51 49 47 45 28
100 96 92 89 85 82 78 75 72 69 67 64 61 59 57 54 52 50 48 46 44 27
100 96 92 88 85 81 78 75 72 69 66 63 61 58 56 54 51 49 47 45 43 26
100 96 92 88 84 81 78 74 71 68 65 63 60 57 55 53 50 48 46 44 42 25
100 96 92 88 84 80 77 74 71 68 65 62 59 57 54 52 49 47 45 43 41 24
100 96 92 88 84 80 77 73 70 67 64 61 58 56 53 51 48 46 44 42 40 23
100 96 91 87 83 80 76 73 69 66 63 60 57 55 52 50 47 45 43 41 39 22
100 95 91 87 83 79 75 72 69 65 62 59 56 54 51 49 46 44 42 40 38 21
100 95 91 87 82 79 75 71 68 64 61 58 55 53 50 48 45 43 41 38 36 20
100 95 91 86 82 78 74 70 67 64 60 57 60 57 54 51 49 46 39 37 35 19
100 95 90 86 82 77 73 70 66 63 59 56 53 50 48 45 43 40 38 36 34 18
100 95 90 85 81 77 73 69 65 62 58 55 52 49 46 44 41 39 36 34 32 17
100 95 90 85 80 76 72 68 64 61 57 54 51 48 45 42 40 37 35 33 31 16
100 95 90 85 80 75 71 67 63 60 56 53 49 46 44 41 37 34 32 29 29 15

มายเ ตุ : Tเปียก มายถึง อุณ ภูมิเปียก, C มายถึง องศาเซลเซีย ข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา

ตารางอ่านค่าดัชนีความร้อน
ปรอทแ ้ง 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44
40-44 27 28 29 30 31 32 34 35 37 39 41 43 46 48 51 54 57 60
45-49 27 28 29 30 32 33 35 37 39 41 43 46 49 51 54 57 61 64
50-54 27 28 30 31 33 34 36 38 41 43 46 49 52 55 58 62 65 69
55-59 28 29 30 32 34 36 38 40 43 46 48 52 55 59 62 66 70 75
ความชื่น ัมพัทธ์

60-64 28 29 31 33 35 37 40 42 45 48 51 55 59 63 67 71 76 81
65-69 28 30 32 34 36 39 41 44 48 51 55 59 63 67 72 77 82 87
70-74 29 31 33 35 38 40 43 47 50 54 58 63 67 72 77 82 88 94
75-79 29 31 34 36 39 42 46 49 53 58 62 67 72 77 83 88 94 101
80-84 30 32 35 38 41 44 48 52 57 61 66 71 77 83 89 95 101 108
85-89 30 33 36 39 43 47 51 55 60 65 70 76 82 88 95 102 109 116
90-91 31 34 37 41 45 49 54 58 64 69 75 81 88 95 102 109 117 125
95-99 31 35 38 42 47 51 57 62 68 74 80 87 94 101 109 117 125 134
100 32 36 40 44 49 54 60 66 72 78 85 92 100 108 116 125 134 143

ข้อมูลอ้างอิงจาก กรมอุตุนิยมวิทยา (ดร.ชลัมภ์ อุ่นอารีย์)


อนุผนวก ๕ ประกอบ ผนวก ง

ตารางแ ดงความ มั พันธ์ระ ว่าง ัญญาณธง ี ดัชนีความร้อน การดื่มน้ำ และเวลาการฝึกท ารใ ม่


ัญญาณธง ดัชนีความร้อน ปริมาณน้ำดื่ม เวลาใน ๑ ชั่วโมง
(องศาเซลเซีย ) (ลิตร/ชั่วโมง)
ธงขาว น้อยกว่า ๒๗ อย่างน้อย ๑/๒ ลิตร ( ๕๐๐ซีซี ) ฝึก ๕๐ นาที พัก ๑๐ นาที
ธงเขียว ๒๗ – ๓๒ อย่างน้อย ๑/๒ ลิตร ( ๕๐๐ซีซี ) ฝึก ๕๐ นาที พัก ๑๐ นาที
ธงเ ลือง ๓๓ – ๓๙ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี ) ฝึก ๔๕ นาที พัก ๑๕ นาที
ธงแดง ๔๐ – ๕๑ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี ) ฝึก ๓๐ นาที พัก ๓๐ นาที
ธงดำ มากกว่า ๕๑ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี ) ฝึก ๒๐ นาที พัก ๔๐ นาที

มายเ ตุ : การดื่มน้ำตามตารางนี้ใ ้ค่อยๆดื่มเป็นช่วงเวลาทุกๆ ๑๕ นาที จะเ มาะ มและดีกว่าการดื่มครั้ง


เดียวมากๆ เช่น ใ ้ดื่มจากกระติกในทุกช่วง ๑๕ นาทีขณะฝึก ้วงอากาศร้อนอบอ้าว

ตารางแ ดงความ ัมพันธ์ระ ว่าง ัญญาณธง ี ดัชนีความร้อน การดื่มน้ำ และเวลาการฝึกทางท ารอื่นๆ


ัญญาณธง ดัชนีความร้อน ปริมาณน้ำดื่ม
(องศาเซลเซีย ) (ลิตร/ชั่วโมง)
ธงขาว น้อยกว่า ๒๗ อย่างน้อย ๑/๒ ลิตร ( ๕๐๐ซีซี )
ธงเขียว ๒๗ – ๓๒ อย่างน้อย ๑/๒ ลิตร ( ๕๐๐ซีซี )
ธงเ ลือง ๓๓ – ๓๙ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี )
ธงแดง ๔๐ – ๕๑ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี )
ธงดำ มากกว่า ๕๑ อย่างน้อย ๑ ลิตร ( ๑,๐๐๐ซีซี )

มายเ ตุ : การดื่มน้ำตามตารางนี้ใ ้ค่อยๆดื่มเป็นช่วงเวลาทุกๆ ๑๕ นาที จะเ มาะ มและดีกว่าการดื่มครั้ง


เดียวมากๆ เช่น ใ ้ดื่มจากกระติกในทุกช่วง ๑๕ นาทีขณะฝึก ้วงอากาศร้อนอบอ้าว
อนุผนวก ๖ ประกอบผนวก ง
แนวทางการคัดกรองอุณ ภูมิกาย ำ รับผู้รับการฝึก

การคัดกรองอุณ ภูมิกาย

อุณ ภูมิกาย <36.8°C อุณ ภูมิกาย 36.8-37.2 °C อุณ ภูมิกาย > 37.2°C

ดื่มน้ำ, เช็ดตัว ดื่มน้ำ, เช็ดตัว


ฝึกได้ตามปกติ 30 นาที 30 นาที
วัดไข้ซ้ำ วัดไข้ซ้ำ

36.8 – 37.2 °C
37.3 - 37.5 °C > 37.5 °C

ติด ัญลัก ณ์ ี
ติด ัญลัก ณ์ ีเ ลือง แดง

งดฝึก, ดื่มน้ำ, เช็ดตัว ปฐมพยาบาล


วัดไข้ทุก 1 ชม. ลดความร้อน นำ ่ง รพ.

ลดปริมาณการฝึก/การออกกำลัง
ังเกตอาการ
วัดไข้ 4 เวลา เช้า/กลางวัน/เย็น/ก่อนนอน

มายเ ตุ : วัดไข้ทางรักแร้โดยอ่านค่าโดยตรงไม่มีการบวกลดอุณ ภูมิเพิ่ม


อนุผนวก ๗ ประกอบผนวก ง
ตารางการ ังเกต ีปั าวะ และการดื่มน้ำ

ระดับ ี ีปั าวะ ี าเ ตุ คำแนะนำ


0 ใ เ มือนน้ำ ดื่มน้ำมากเกินไป ใ ้ลดปริมาณการดื่มน้ำ
จนปั าวะเป็น
ีเ ลืองใ จาง ๆ
1 ีเ ลืองใ จางๆ ดื่มน้ำเพียงพอ ท ารควรรัก าการดื่มน้ำ
ในปริมาณเดิมใ ้ได้ตลอด
ทั้งวัน
2 ีเ ลือง ดื่มน้ำน้อยเกินไป ท ารต้องดื่มน้ำใ ้มากขึ้น
ในทุกๆ ครั้งที่พักการฝึก
อย่างน้อยชั่วโมงละ ๒ แก้ว
(๕๐๐ ซีซี)
3 ีเ ลืองเข้ม ดื่มน้ำไม่พอ -ท ารต้องดื่มน้ำใ ้มากขึ้น
กว่าปกติ
(อย่างน้อยชั่วโมงละ
๔ แก้ว (๑,๐๐๐ ซีซี)
- ังเกต ีของปั าวะในครั้ง
ถัดไป
ถ้ายังเข้มอยู่ใ ้ดื่มน้ำเพิ่มอีก
4 ีน้ำตาล มีการ ลายของ -ท ารใ ม่ รี บ แจ้ ง ครู ฝึ ก
กล้ามเนื้อ ทันที
อาจทำใ ้ไตวายได้ -ครูฝึกต้องรีบนำท าร ไป
พบแพทย์ทันที

มายเ ตุ : ท ารใ ม่ปั าวะมี ีน้ำตาลเข้มใ ้ ยุดฝึกและต้องไปพบแพทย์ทันที และกรณีปั าวะไม่ออกใ ้


ดื่มน้ำ ๒ แก้ว ( ๕๐๐ ซีซี ) ภายใน ๑ ชั่วโมง ปั าวะไม่ออกใ ้ ่งพบแพทย์ทันที
อนุผนวก ๘ ประกอบ ผนวก ง
ตารางการแบ่งกลุ่มเ ี่ยง

ี ัญลัก ณ์ กลุ่มเ ี่ยง การปฏิบัติ


ไม่มี ไม่มีปัจจัยเ ี่ยง ทำการฝึกและออก
กำลังได้ตามปกติ
ีขา ๑. อดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ (นอน ลับน้อยก า่ ๘ ชม.) ฝึกและออกกำลังได้
๒. มีประ ัติใช้ยาเ พติดมาก่อน แต่ไม่ได้เ พยาก่อนมารับการฝึก ตามปกติแต่มีการเฝ้า
ภายใน ๓ ัน ระ ังเป็นพิเ
๓. ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่ มีแอลกอฮอล์อย่าง นัก ภายใน ๑ ัปดา ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ๒๔ ชม. ก่อนเข้ารับการฝึก

ีเ ลือง ๑. ผู้ที่มีค่าดัชนีม ลกายมากก ่า ๒๘ ต้องปรับลดปริมาณ


๒. มีไข้ ๓๖.๘ – ๓๗.๒ อง าเซลเซีย เมื่อ ัดโดยเทอร์โมมิเตอร์ การฝึก รือออกกำลัง
ทางรักแร้ ลงใ ้เ มาะ ม รือ
๓. มีอาการท้องเ ีย รือเป็น ัดแต่ไม่มีไข้ ในขณะเข้ารับการฝึก ต้องแยกกลุ่มฝึก
๔. มี โ รคประจำตั ำคั ญ ที่ เป็ น อุ ป รรคต่ อ การฝึ ก รื อ ต้ อ ง แยกออกกำลัง
รับประทานยาเป็นประจำ และ ังเกตอาการ
๕. ต้องรับประทานยาบางชนิด ซึ่งทำใ ้การระบายค ามร้อนออก อย่างใกล้ชิด
จากร่างกายทางเ งื่อได้ลดลง เช่น ยาลดน้ำมูก ยาแก้แพ้ ยาแก้
ท้องเ ีย ยาขับปั า ะ ยาจิตเ ช เป็นต้น
๖. ได้รั บ บาดเจ็ บ จากอุ บั ติ เ ตุ ถู ก ทำร้ ายร่า งกายจนกล้า มเนื้ อ
ฟกช้ำอย่างรุนแรง และปรากฏอาการอยู่เมื่อเข้ารับการฝึก
๗. ผู้ที่ได้บริจาคโล ิตภายใน ๓ ัน ก่อนเข้ารับการฝึก
๘. มีประ ัติใช้ยาเ พติดในช่ งเข้ารับการฝึก
๙. น้ำ นักลด ๒ – ๕ กก. ภายใน ๑ ัปดา ์

ีแดง ๑. มีไข้ ูงเกิน ๓๗.๒ อง าเซลเซีย เมื่อ ัดโดยเทอร์โมมิเตอร์ทาง ต้องงดฝึกและงดออก


รักแร้ กำลังทุกชนิด
๒. เคยมีอาการเจ็บป่ ยจากค ามร้อน ที่ต้องนอนพักรัก าตั ใน
รพ. มาก่อน
๓. มีใบรับรองแพทย์ใ ้งดการฝึกในช่ งเข้ารับการฝึก
๔. น้ำ นักลดมากก ่า ๕ กก. ภายใน ๑ ัปดา ์
๕. ผู้ที่ได้บริจาคโล ิต

มายเ ตุ : การคัดกรองติด ัญลัก ณ์ใ ้มีการประเมินทุก ัน


รายการที่ไม่จำเป็นต้องคัดกรองทุก ันได้แก่ การติดยาเ พติดและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใ ้คัดกรองแรกเข้า
ใ ้ติด ัญลัก ณ์ ๗ ัน ถ้าไม่มีอาการใ ้นำ ัญลัก ณ์ออกได้
การประเมินน้ำ นักใ ้ชั่ง ัปดา ์ละ ๑ ครั้ง ากพบลดตาม ีเ ลือง รือ ีแดงใ ้ติด ัญลัก ณ์ไ ้ ๓ ัน แล้
ประเมินน้ำ นักซ้ำ ถ้าไม่ลดเพิ่มใ ้นำ ัญลัก ณ์ออกได้
การบริจาคโล ิตใ ้ติด ัญลัก ณ์ ังเกตอาการ ๑ ัน ถ้าไม่พบค ามผิดปกติ ใ ้นำ ัญลัก ณ์ออกได้
ผนวก จ
คำแนะนำการเตรียมตัวก่อนเข้าเป็นท ารใ ม่
การเตรียมร่างกายก่อนเข้ารับราชการ
ท ารใ ม่ค รรัก า ภาพร่างกายและจิตใจใ ้แข็งแรงอยู่เ มอ เพื่อใ ้ร่างกายและจิตใจมีค ามพร้อม ำ รับ
ลัก ูตรการฝึกท ารใ ม่ โดยใ ้ปฏิบัติ ดังนี้
๑. มั่ น ออกกำลั ง กาย รื อ ทำกิ จ กรรมกลางแจ้ ง อย่ า ง ม่ ำ เ มอ อย่ า งน้ อ ย ั ป ดา ์ ล ะ ๓ ครั้ ง ครั้ ง ละ
อย่างน้อย ๓๐ นาที เพื่อใ ้ร่างกายคุ้นชินกับการฝึกและ ภาพอากา ร้อน
๒. รับประทานอา ารที่มีประโยชน์และพักผ่อนอย่างเพียงพอ อย่างน้อย ๘ ชั่ โมง ก่อนการรายงานตั เข้ารับ
ราชการ
๓. งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่าง นักภายใน ๑ ัปดา ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่ ง ๒๔ ชั่ โมง ก่อน
การรายงานตั เข้ารับราชการ
๔. งด ละ เลิก ารเ พติดอย่างน้อย ๒ ัปดา ์ก่อนการรายงานตั
๕. ผู้ที่ มีโรคประจำตัว ที่ ต้อ งรับ ประทานยาเป็ น ประจำ รือผู้ ต้องรับ ประทานยาบางชนิด เช่น ยาลดน้ำมู ก
ยาแก้แพ้ ยาแก้ท้องเ ีย ยาขับปั า ะ ยาจิตเ ช ร มถึงผู้ที่เคยมีอาการเจ็บป่วยจากความร้อนมาก่อนใ ้แจ้งใ ้ครู
ฝึกทราบทันที ณ ันรายงานตั
๖. ผู ้ที ่ม ีอ าการเจ็บ ป่ว ย รือ ผู ้ที ่ไ ด้ร ับ บาดเจ็บ จากอุบ ัต ิเ ตุ ถูก ทำร้า ยร่า งกายจนกล้า มเนื ้อ ฟกช้ำ
อย่างรุนแรง และยัง ปรากฏอาการอยู่ใ ้แจ้งใ ้ครูฝึกทราบทันที ณ ันรายงานตั
๗. ควรงดบริจาคโล ิตใน ้วง ๓ วันก่อนรายงานเข้ารับการฝึก
๘. ทำจิตใจใ ้ บาย ไม่วิตกกังวลจนเกินไปเพราะการเป็นท ารไม่ได้น่ากลั อย่างที่คิด
ผนวก ฉ
แนวทางปฏิบัติในด้านนิรภัยการฝึก
นิ รภั ย การฝึ ก มายถึ ง การป้ อ งกั น การบาดเจ็ บ รื อเจ็ บ ป่ ว ยจากการฝึ ก ที่ เกี่ ยวเนื่ อ งกั บ การฝึ ก
และที่ไม่ใช่จากการฝึก
การบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการฝึก มายถึง การบาดเจ็บ รือการเจ็บป่วยที่มี าเ ตุโดยตรงจาก
วิธีการฝึก รูปแบบการฝึก รือจาก ภาพแวดล้อมในการฝึก
การบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยที่ไม่ใช่จากการฝึก มายถึง การบาดเจ็บ รือการเจ็บป่วยที่การฝึก วิธีการ
ฝึก และรูปแบบการฝึก รือ ภาพแวดล้อมจากการฝึก ไม่ได้เป็น าเ ตุโดยตรง แต่เป็นการเจ็บป่วยทางธุรการ
ทั่วไป ที่ไม่ได้มี าเ ตุ รือเกี่ยวเนื่องกับการฝึก
เจ้าหน้ าที่นิ รภัย การฝึ ก มายถึง บุ คคลที่ได้รับ การแต่ง ตั้ งจากผู้อ ำนวยการฝึก รือผู้ รับผิ ดชอบ
การฝึก(กรณี ผอ.ฝึก มอบอำนาจ) แต่งตั้งใ ้ทำ น้าที่
แนวทางปฏิบัติในด้านนิรภัยการฝึก
๑. ขั้นก่อนการฝึก
๑.๑ วางแผนและประเมินความเ ี่ยงอันตรายจากการฝึก และผลกระทบต่อ ุขภาพด้านการฝึก
ร่วมกับ ผอ.ฝึก, ผู้รับผิดชอบการฝึก, น.ยุทธการ
๑.๒ ำรวจ/ตรวจภู มิ ป ระเทศจากการฝึ ก เพื่ อเป็ น ข้ อมู ล ในการวางแผนเผชิ ญ เ ตุ และใช้ ใน
การปรับปรุงแนวทางปฏิบัติในการฝึกในแต่ละครั้งรวมถึงประ านงานแจ้งใ ้ น่วย นับ นุนการฝึกรับทราบ
และดำเนินการ ่วนที่เกี่ยวข้อง
๑.๓ จัดทำนโยบายด้านความปลอดภัยและแผนเผชิญเ ตุ เพื่อรองรับการบาดเจ็บ รือการเจ็บป่วย
รวมถึงวางแผนในการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยในการฝึก เพื่อใ ้ ผบช. อนุมัติแนวทางดังกล่าว
๑.๔ จัดทำบัญชียาเวชภัณฑ์ฉุกเฉินที่ต้องเตรียมไปในการฝึก โดยอาศัยฐานข้อมูลจากการประเมิน
ของกรรมการนิรภัยการฝึก พร้อมทั้งประ าน ควบคุม กำกับดูแล และควบคุมการเบิกจ่าย
๒. ขั้นระหว่างการฝึก
๒.๑ ควบคุม กำกับ ดูแล เน้นย้ำกรรมการแต่ละ ถานีใ ้ระมัดระวัง และแนวทางป้องกันการเกิด
การเจ็บป่วย รือการประ บอันตรายระ ว่างการฝึก
๒.๒ เมื่อเกิดเ ตุใ ้ปฏิบัติตามแนวทางมาตรฐานความปลอดภัย และการตอบโต้เ ตุฉุกเฉินจาก
การฝึก ตามอนุผนวก ๑ ประกอบผนวก จ
๒.๓ ทำการเฝ้าระวัง ปรับปรุง จัดทำแผนที่ ถานการณ์การเจ็บป่วย รือบาดเจ็บจากการฝึกรวมถึง
ทำการ อบ วนโรค/การบาดเจ็บเบื้องต้น และเ นอแนะมาตรการแก้ไขปัญ าเฉพาะ น้า
๒.๔ รายงาน ผบช.
๓. หลังการฝึก
๓.๑ จัดประชุมถอดบทเรียนจากการฝึก เพื่อปรับปรุงแนวทางใ ้เ มาะ มต่อไป
๓.๒ ทำรายงาน รุปเ ตุการณ์
๓.๓ รุปรายงานและนำเรียน ผบช.
หน้าที่ของนายทหารนิรภัย
ช่วงก่อนการฝึก
นายท ารนิรภัยการฝึกจะต้องดำเนินการเตรียมค ามพร้อมร่ มกับเจ้า น้าที่เ นารัก ์ของ น่ ยใน
เรื่องของการกำกับดูแลและเน้นย้ำ ผู้เข้ารับการฝึก ใ ้ปฏิบัติตนดังต่อไปนี้
๑. ดูแล ุขภาพร่างกาย พักผ่อนใ ้เพียงพอ ออกกำลังกาย ม่ำเ มอ
๒. ร้างค าม ัมพันธ์ในครอบครั ใ ้อบอุ่น เพี่อป้องกันการประมาทจากการฝึก
๓. ทานอา ารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอเ มาะ
๔. งด ูบบุ รี่ ุรา ารเ พติดและการพนัน
๕. น่ ยจะต้องมีการอบรมชี้แจงใ ้ผู้เข้ารับการฝึกทราบในเรื่อง อันตรายจากการฝึกที่อาจจะเกิดขึ้นได้
และแน ปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายจากการฝึก
๖. น่ ยค รจะต้ อ งจั ด ใ ้ มี อุ ป กรณ์ ป้ อ งกั น อั น ตราย ่ นบุ ค คลใ ้ กั บ ผู้ เข้ า รั บ การฝึ ก ตาม
ค ามเ มาะ มของลัก ณะของการฝึก และอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นระ ่างการฝึก(ถ้ามี)
๗. น่ ยจะต้องจัดใ ้มีการประเมินค ามเ ี่ยงและอันตรายจากการฝึก เพื่ อจัดทำแผนเผชิญเ ตุใ ้
เ มาะ ม
๘. นายท ารนิ รภั ย การฝึ กจะต้ อ งจั ด เตรี ยมแผนเผชิญ เ ตุ ตามแน ทางในประกา นี้ รือ ตาม
แน ทางที่ น่ ยได้พัฒนาขึ้นมา
ช่วงระหว่างการฝึก
นายท ารนิรภัยการฝึกจะต้องกำกับดูแลร่ มกับเจ้า น้าที่เ นารัก ์ ในการเน้นย้ำใ ้ผู้เข้ารับการฝึก
ปฏิบัติตนเพื่อค ามปลอดภัยในการฝึก ดังต่อไปนี้
๑. ปฏิบัติตามกฎค ามปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
๒. ปฏิบัติตามคู่มือการใช้อุปกรณ์ในการฝึกใ ้ถูกต้อง และปลอดภัย
๓. ากพบบริเ ณพื้นที่ฝึกที่อาจะก่อใ ้เกิดอันตราย ใ ้ น่ ย า ิธีการดำเนินการทำใ ้ปลอดภัย
๔. ากมี ิ่งที่ไม่ปลอดภัย รือเกิดอุบัติเ ตุ ใ ้รีบแจ้งใ ้ผู้รับผิดชอบ/นายท ารนิรภัยการฝึกทันที
และดำเนินการตามแผนเผชิญเ ตุตามประกา นี้ และตามที่ น่ ยได้มีการดำเนินการพัฒนาขึ้นมา
ช่วงหลังการฝึก
๑. ทบท นการปฏิบัติงาน ประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผน
๒. ทำรายงานการปฏิบัติงาน นำเรียน ผู้บังคับบัญชา เพื่อปรับปรุงแก้ไขใ ้เ มาะ มต่อไป
อนุผนวก ๑ ประกอบผนวก ฉ
แนวทางปฏิบัตินิรภัยการฝึก
เมื่อเกิดเ ตุ

คณะกรรมการที่รับผิดชอบประจำ ถานีการฝึก
๑. แจ้ง น.นิรภัย/น.ยุทธการ/ผอ.ฝึก/กรรมการ
ตามลำดับ
๒. ขออนุมัติใ ้ผู้บาดเจ็บ/เจ็บป่วยยุติการฝึกต่อ
ผอ.ฝึก (ผ่าน น.นิรภัยการฝึก)

ผอ.ฝึก อนุมัติ ผอ.ฝึก อนุมัติ

ผู้เข้ารับการฝึกดำเนินการฝึกต่อ จัดธุรการนำผู้ป่วยเจ็บ
่ง กอ.ฝึก เพื่อใ ้ จทน. นิรภัยการฝึก
คัดแยก/ประเมิน/รัก าเบื้องต้นที่ กอ.ฝึก
ประเมินอาการ

ไม่ ามารถรัก าเองได้ ามารถรัก าเองได้

ใ ้พักที่ กอ.ฝึก ใ ้กลับไปฝึกต่อ


นำ ่ง รพ.

ผู้เข้ารับการฝึกพัก ผู้เข้ารับการฝึกกลับไปฝึกต่อ

ฝึกต่อได้ ผู้เข้ารับการฝึก
กลับไปฝึกต่อ
รพ.ใ ก้ ารรัก า
และใ ค้ วามเ ็น
ใ ้ ผอ.ฝึกเป็นผู้พิจารณาโดย
ฝึกต่อไม่ได้ ความเ ็นของคณะกรรมการ
นิรภัยการฝึก

You might also like