Professional Documents
Culture Documents
ข. ประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับการอพยพจาก
ประเทศจีน
ใ น ด้ า น ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ช า ว
กะเหรี่ ยงสืบเชื อ้ สายมาจากเผ่ามองโกล
ชนกะเหรี่ ยงเป็ นเผ่าแรกสุด ที่ตงรกรากอยู
ั้ ่
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
ในพื ้นที่ติดกับต้ นแม่น ้าแยงซีเกียงในทะเลทรายโกบีซงึ่ รู้จกั กันว่า Land or the Flowing sand (ดินแดนแห่ง
ทรายไหล)
เขียวขจี มีความชุ่มชื ้น ชนชาติกะเหรี่ ยงจึงได้ เริ่ มต้ น หักร้ างถางพง ไถพรวนพื ้นดิน ลงมือเพาะปลูกโดยไม่มี
อุปสรรคใด ๆ ขัดขวางทังสิ
้ ้น
อพยพเข้ ามาในเส้ นทางที่ 1 ชาวกะเหรี่ ยงกลุม่ นี ้อพยพเข้ าไปในดินแดนที่เป็ นประเทศพม่าในปั จจุบนั ตาม
สายน า้ อิ ร วดี ลงไปตามที่ ร าบลุ่ม ปากแม่น า้ อิ ร วดี หรื อ เดลต้ า ในพื น้ ที่ เมื อ งแปร เฮนซาดะ พะสิ ม
หรื อบะเส่ง เมือง ละเกิง หรื อ ย่างกุ้ง ชาวกะเหรี่ ยงฟื น้ ที่แห่งนี ้เป็ นกลุม่ ที่ได้ รับการศึกษาสูงในสมัยที่องั กฤษ
ปกครองพม่า ซอ บา อู ยี ผู้นาชาวกะเหรี่ ยงเป็ นคนที่พะสิม การอพยพเข้ ามาในเส้ นทางที่ 2 ชาวกะเหรี่ ยง
กลุ่มนีอ้ พยพเข้ ามาตามสายนา้ สาละวิน แม่นา้ สะโตง สายนา้ เมย และแม่นา้ ตะนาวศรี โดยมีชุมชนที่
หนาแน่นอยูท่ ี่เมือง ตองอู ผาปูน ผาอ่าง ท่าตอน
ค. ประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวกับประเทศไทย
และพงสาวดารของเมื อ งเชี ย งใหม่ ในต้ นรั ช สมั ย ของพระบาทสมเด็ จ พระพุ ท ธยอดฟ้ าจุ ฬ าโลก
มหาราช (รัชกาลที่ 1) แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
จากแผนการป้องกันชาติบ้านเมืองดังกล่าวพี่น้องทังสามองค์
้ ได้ นาปั ญหานี ้มาปรึกษาหารื อกัน
และ ได้ ตกลงกันว่า จะต้ องเจริญสัมพันธ์ไมตรี ผูกมิตรต่อกันไว้ ดีกว่า ทังนี
้ ้จะได้ พงึ่ พาชนชาติ
แก้ วคาฝั น้ ได้ จัดพิธีมอบสิ่งของกานัลอันเป็ นที่ระลึกจากเจ้ าเมืองเชียงใหม่เป็ นถ้ วยชาม 30 ชิน้ ผ้ าแพร
หลายพับให้ กบั เจ้ าฟ้าน้ อยระผ่อพ่อเมืองทลาง(ผาปูน)
วันต่อมา เจ้ าฟ้าน้ อยระภาผ่อ พ่อเมืองทลาง ได้ จดั พิธีร่วมน ้าสาบานเป็ นมิตรไมตรี ต่อกัน ตาม
ธรรมเนียมของเขาระหว่างเมืองกะเหรี่ ยงและเมืองเชียงใหม่ขึ ้น โดยได้ ปลูกประราพิธีขึ ้นหลังหนึ่งที่ท่าน ้า
เมืองทลางเรี ยกว่า ท่าสะยา พิธีได้ เริ่ มขึ ้นโดยเจ้ าฟ้าน้ อ ยระภาผ่อได้ สงั่ ให้ ล้มกระบือตัวใหญ่ที่สดุ อ้ วนพี
สมบูรณ์ ที่สุด ที่มีในเมือง 1 ตัวเพื่อเข้ าพิธี ได้ ชาแหละตัดเขากระบือผ่าออกเป็ น 2 ซีกด้ วยกัน แล้ วยื่นซีก
หนึ่งให้ เจ้ าอุปราชธรรมลังกาถือเอาไว้ ซีกหนึ่ง เพื่อแทนชาวเชียงใหม่ทงมวล
ั้ เจ้ าฟ้าระภาผ่อได้ ขอให้ เจ้ า
อุปราชธรรมลังกา และที่ประชุมได้ กล่าวสัจจะปฏิญาณต่อกันไว้ วา่
ทังสองฝ่
้ ายได้ กล่าวเป็ นภาษาของตนและต่างเก็บเขากระบือรักษาไว้ ถือเป็ นวาจาสัตย์ที่มีต่อกันสืบต่อไป
ในภายภาคหน้ า
ต่อมาเจ้ ารัตนเมืองแก้ วคาผัน้ อนุชาของเจ้ าอุปราชธรรมลังกา ซึง่ ได้ เดินทางไปในครัง้ นี ้ได้ เกิดมี
ใจสมัครผูกพันธ์รักใคร่เป็ นน ้าหนึง่ ใจเดียวกับเจ้ านางตาเวยบุตรี ของเจ้ า ฟ้าน้ อยระภาผ่อและต่างตกลงปลง
ใจเป็ นคูช่ ีวติตอ่ กัน หลังจากเสร็จพิธีการแล้ วได้ เดินทางกลีบเมืองเชียงใหม่
เจ้ าอยู่หวั รัชกาลที่ 4 เจ้ าราชวงศ์ทรงเป็ นพระบิดา พระเจ้ าอินทวิไชยยานนท์ (อิทนนท์ ณ เชียงใหม่) เจ้ าผู้
ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7
แม่เจ้ าเนตรนารี ไวยเป็ นทายาทเจ้ าของป่ าไม้ สกั ซึง่ ทาความมัง่ คัง่ ให้ กบั เจ้ าหลวงเศรษฐี
จากนันเจ้
้ าฟ้าเชียงใหม่ก็ทรงสร้ างบ้ านเรื อนที่นนั่ ภายหลังมีผ้ คู นเข้ ามาตังรกรากสมทบมากขึ
้ ้น
จนกลายเป็ นเมืองใหญ่ เจ้ าฟ้าเชียงใหม่ทรงตังชื
้ ่อเมืองว่า “เหว่กี่แม” แปลว่า “เมืองหม่าย” ต่อมามีคนต่าง
แดนซึง่ เป็ นพวกคนจีน (เจ๊ ก) เข้ ามาค้ าขายและสามารถยึดครองที่ดินอย่างกว้ างขวางและกลายเป็ นกลุม่ ที่
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
ถิ่นที่อยู่อาศัยของชนเผ่ ากปาเกอะญอ
1. หมู่บ้าน
ชนปกาเกอะญอส่วนใหญ่ในเมืองไทยตังถิ
้ ่นฐานบ้ านเรื อนอยู่ตามชายเขาที่ต่าลุม่ กว่าเผ่าอื่น ๆ
และมีชื่อเสียงในการทาเกษตรกรรมแบบแผ้ วแล้ วเผาโดยมีแบบแผนที่ทากันมาดังนี ้
2. บ้ านและครัวเรือน
ชนปกาเกอะญอสร้ างบ้ านใต้ ถนุ สูงแบบต่าง ๆ พื ้นและฝาฟากหลังคามุงจากหรื อตองตึง ใต้ ถนุ นัน้
เป็ นที่นงั่ เล่นและทากิจวัตรเช่น ตาข้ าว ผ่าฟื น เลื่อยไม้ ในเวลากลางวัน กลางคืนก็จะต้ อน หมู ไก่ และวัว
ควายเข้ าล้ อมไว้ ที่ใต้ ถนุ นี ้ พ่อบ้ านที่ดีก็มกั จะผูกชิงช้ าไว้ ใต้ ถนุ ให้ ลกู เล่น
พิธีกรรมที่สาคัญของชนปกาเกอะญอ
ธรรมชาติที่มีผลต่อการดารงชีพในกระบวนการผลิตและความสัมพันธ์ กับระบบความเชื่อของสิ่งที่เหนือ
ธรรมชาติ
1. พิธีกรรมหลักในรอบชีวิต
ค. การตาย
การเตรี ย มสัม ภาระให้ ศ พ หลัง จากห่ อ ศพแล้ ว จะหาไม้ ไ ผ่ ท่ อ นหนึ่ ง ยาวประมาณ 5 ศอก ผ่ า
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
ออกเป็ น 4 ซี ก เท่ า ๆ กั น ครึ่ ง ท่ อ นแล้ ว ง่ า มลงบนศพเพื่ อ ยึ ด ศพให้ มั่น เรี ย กไม้ ไ ผ่ ท่ อ นนี ว้ ่ า “ไม้ ง่ า ม
ศพ” จากนันจะน
้ าเสื ้อผ้ าของศพที่ญาติพื่น้องมอบให้ แขวนไว้ ที่ปลายท่อนไม้ ไผ่ เสื ้อผ้ าและข้ าวของศพนี ้
2. พิธีกรรมระดับครอบครัว
หลังจากปลูกบ้ านเสร็ จแล้ วก็จะถึงเวลาทาพิธีขึ ้นบ้ านใหม่เจ้ า ของบ้ านต้ องเตรี ยมเหล้ า 1 คู่ และ
ไก่ 1 คู่ (หรื อหมู 1 ตัว) และเชิญผู้อาวุโสคนใดคนหนึ่งในหมู่บ้านมาทาพิธีเรี ยกขวัญเจ้ าของบ้ าน เสร็ จพิธี
เรี ยกขวัญก็จะฆ่าไก่หรื อหมูทาอาหาร จากนันก็
้ จะเรี ยกญาติพี่น้องทุกคนมาที่บ้านมาผูกข้ อมือเรี ยกขวัญ
เจ้ าของบ้ าน การผูกข้ อมือเรี ย กขวัญนี ้จะมีการอวยพรให้ ครอบครัวเจ้ าของบ้ านมีความสุขในชีวิตที่จะอยู่
อาศัยบ้ านใหม่หลังนี ้ จากนันก็
้ จะร่วมรับประทานอาหารอย่างพร้ อมเพรี ยงกัน
พิธีจะเริ่ มต้ นด้ วยสามีภรรยาจะฆ่าไก่ค่แู รกที่เลี ้ยงไว้ เรี ยกพ่อแม่ของตน (ฝ่ ายหญิง) มาขอพรให้
เนื ้อไก่นนสามี
ั ้ ภรรยาจะรับประทานเล็กน้ อยพอเป็ นพิธีก่อน จากนันพ่
้ อแม่จะนาสารับเนื ้อไก่และข้ าววางลง
บนพื ้นบ้ านและเริ่ มอธิษฐานขอพร โดยเรี ยกขานชื่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ วให้ มาร่วมรับประทานอาหาร
ที่ลกู หลานได้ เตรี ยมให้ นี ้ เสร็ จการอธิษฐานก็จะร่ วมรั บประทานอาหารร่ วมกัน วันรุ่ งขึ ้นอีกหนึ่งวันก็จะเป็ น
การทาพิธีกรรมของฝ่ ายชายซึง่ มีขนตอนเหมื
ั้ อนกับฝ่ ายหญิงทุกประการ
3. พิธีกรรมระดับหมู่บ้าน
Facebook:ขายเสื ้อกะเหรี่ ยงแห่งประเทศไทย
ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline
17
พิธีเลี ้ยงหมูบ่ ้ านเป็ นหน้ าที่ของผู้นาหมูบ่ ้ านที่เรี ยกว่า “อี่ โข่” แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากลูกบ้ าน
ด้ วยกล่าวคือ หากจาเป็ นต้ องทาพิธีเลี ้ยงหมู่บ้านผู้นาหมู่บ้า นต้ องแจ้ งให้ ลกู บ้ านทราบ ลูกบ้ านครอบครัว
หนึ่งต้ องนาข้ าวสารหน่ อยหนึ่ง และไก่ 1 ตัว นาไปให้ ผ้ ูนาหมู่บ้านเพื่อเป็ นเครื่ องเซ่น ไหว้ ในพิธีผ้ ูที่ร่วม
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
การที่ จ ะต้ อ งท าพิ ธี นี เ้ ป็ นประจ าทุ ก ปี (หรื อ ทุก 2 ปี หรื อ ทุ ก 3 ปี แล้ ว แต่ แ ต่ ล ะหมู่บ้ า นจะ
กาหนด) ก็เพราะชนปกาเกอะญอมีประสบการณ์ว่าไม่สามารถมองเห็นล่วงหน้ าว่าจะเกิดอะไรขึ ้นกับชีวิต
และสังคมหมู่บ้าน แต่เชื่อว่าเทพเจ้ าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะรู้ และสามารถปกป้องคุ้มครองได้ จึงต้ องทาพิธีเลี ้ยง
หมู่บ้านเพื่อขอเทพยดามาปกป้องคุ้มครองและฝากชีวิตความเป็ นอยู่ทงั ้ หมดไว้ กับเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
สูงสุด
ระบบคุณค่ าทางคุณธรรมและจริยธรรม
สุภ าษิ ต ค าพัง เพย และค าสอน เป็ นข้ อ คิ ด และสิ่ง เตื อ นใจเป็ นสิ่ง ที่ ห ล่อ หลอมจิ ต ใจให้ คน
ประพฤติปฎิบตั ิตามแบบแผนวิถีชีวิตอันดีงามของชนปกาเกอะญอตลอดจนการปฎิบตั ิตนในการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้ อมได้ อย่างสมดุลยัง่ ยืน
1. สุภาษิต
ก. สุภาษิตสอนความมีใจอดทน
ข. สุภาษิตสอนความมีใจกว้ าง
ง. สุภาษิตสอนการมีใจสารวม
อย่าปล้นบ้านเขา อย่าลงหลังยุง้ ผูอ้ ื น่ , อย่าล่าดืม่ หัวเหล้าเขา, อย่าล่ากิ นหัวข้าวผูอ้ ื น่ , เปิ ดฝายุง้ เขา อย่าตักก้น
ยุง้ ผูอ้ ื น่
จ. สุภาษิตสอนความมีใจถ่อมตน
ช. สุภาษิตสอนความมีใจไกล่เกลี่ย
2. บทสอน
3. คาพังเพย
ได้ ง่าย
แม่น ้าลาธาร บริ เวณต้ นน ้าลาธาร โดยเฉพาะตาน ้าผุดจะห้ ามการตัดไม้ ทาลายป่ า ปลา ที่อยู่
ในตาน ้าผุดหรื อถ ้าลอดจะห้ ามจับ เพราะเชื่อกันว่าปลาเหล่านี ้มีเจ้ าของเลี ้ยงไว้ หากผู้ใดฝ่ าฝื นข้ อห้ ามผู้นนั ้
เจ้ าของธรรมชาติเหล่านี ้จะลงโทษ โดยการทาให้ เจ็บป่ วยต่าง ๆ นานาได้ ง่าย
พื ช ผัก ต้ น ไม้ ผลไม้ จ ะต้ อ งรอให้ มัน สุก ถึ ง จะเก็ บ มากิ น ได้ เวลาเก็ บ ผลไม้ ไ ม่ ใ ช้ วิ ธี โ ค่ น ต้ น ลง
ทัง้ หมด ห้ ามเก็บกินขณะขณะยังลูก อ่อน พืชผักและต้ นไม้ ทุกชนิดห้ ามตัดทิง้ โดยเปล่าประโยชน์
ห้ ามกาต้ นไม้ เพราะเชื่อว่า ต้ นไม้ ก็มีชีวิต รู้ จักเจ็บ รู้ จักร้ องไห้ เช่นเดียวกับมนุษย์ ต้ นไม้ ที่ให้ ผลเป็ น
อาหารแก่มนุษย์ห้ามนามาสร้ างบ้ าน
- ข้ อห้ ามเกี่ยวกับกาลเวลา
กระบวนการผลิตและการพิธีกรรมที่เกี่ยวข้ อง
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
1. การทาไร่ หมุนเวียน
ก.แนวคิดระบบความเชื่อที่เกี่ยวกับการทาไร่หมุนเวียน
ข. ขันตอนและวั
้ ฏจักรการทาไร่หมุนเวียน
กระบวนการเลือกที่ ทาไร่ มีดังนี ้ ต้ องไม่เป็ นพืน้ ที่ ป่าต้ องห้ ามตามประเพณี ต้ องไม่เป็ นข้ อห้ าม
ประเพณีในการเลือกพื ้นที่ทาไร่ และต้ องไม่มีลางร้ ายบอกเหตุ ในระหว่างรอการฟั นไร่
ค.พิธีกรรมที่เกี่ยวข้ อง
พิธีกินเชื ้อพันธุ์ข้าว พิธีเลี ้ยงผีไร่ พิธีเลี ้ยงผีไร่ขอพร พิธีเลี ้ยงไร่ปัดรังคราญ พิธีเลี ้ยงเทพอัคคี
พิธีเลี ้ยงนกขวัญข้ าว(โถ่ บือ ฆ่า) พิธีกินข้ าวก้ นเพิงนวด พิธีกินข้ าวก้ นยุ้ง พิธีกรรมช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิต
2. การทาสวน
ก.สวนครัว
ข.สวนในไร่ ปลายนา
เป็ นสวนที่อยูห่ ่างไกลจากหมูบ่ ้ าน แต่จะอยู่ใกล้ กบั พื ้นที่ทากิน เช่น นา ไร่เหล่า สวนประเภทนี ้ชนป
กาเกอะญอ ไม่สามารถมีได้ ทกุ ครอบครัว พืชที่ปลูกในสวนเช่น กล้ วย มะละกอ มะม่วง ขนุน เป็ นต้ น
ค.สวนในหมูบ่ ้ านร้ าง
เป็ นสวนที่เกิดจากการตังถิ
้ ่นฐานในพื ้นที่นนมาก่
ั้ อนโดยคนยุคนันได้
้ ปลูกพืชผัก ผลไม้ ยืนต้ นเอาไว้
ดังนัน้ หลังจากการละทิง้ หมู่บ้านหรื อการอพยพไปตังหมู
้ ่บ้านที่อื่นไม่ว่าด้ วยสาเหตุอะไรก็ตาม พันธุ์พืช
เหล่านี ้จะยังคงอยูแ่ ละมนุษย์จะใช้ เป็ นอาหารได้ ตลอดไป โดยทัว่ ไปแล้ วสวนบ้ านร้ างนี ้ถือเป็ นสวนส่วนรวม
หรื อสวนสาธารณะ ซึง่ ทุกคนมีสทิ ธิในการเก็บผลผลิตได้ โดยไม่มีใครแสดงความเป็ นเจ้ าของ
3. การทานา
ก. พิธีกรรมที่เกี่ยวข้ องกับการทานา
การอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ
ความเชื่อแนวคิดของชุมชนทาให้ เกิดการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติโดยปฏิบตั ิตาม
ป่ าหวงห้ ามประเภทนี ้เชื่ อว่ามีจิตชัว่ สิงสถิตหรื อเป็ นทางเดินผ่านของภูตผี ลักษณะป่ าจะมีต้นไม้ ที่
ขนาดเท่า ๆ กันจานวนมากและเป็ นต้ นไม้ ที่โตเต็มที่แล้ วไม่ใหญ่ขึ ้นและเล็กลง คงขนาดไว้ เท่านัน้ มักเป็ นป่ า
ต้ นน ้าลาธาร สัตว์เลี ้ยงเช่นวัวและควายมักไม่เดินเข้ าไป บริ เวณป่ านี ้จะไม่มีใครกล้ าเข้ าไปทาไร่หรื อแม้ แต่
ตัดต้ นไม้ สร้ างบ้ านประโยชน์อื่น หากหมู่บ้านใดเคารพยาเกรงป่ าประเภทนี ้อย่างเคร่ งครัดเชื่อกันว่าจะทา
ให้ มู่บ้านนัน้ มีความร่ มเย็ นเป็ นสุข แต่ห ากหมู่บ้านใดที่ ฝ่าฝื นข้ อห้ าม เข้ าไปท าไร่ ห รื อตัดต้ น ไม้ เพื่อใช้
ประโยชน์อย่างอื่นก็จะทาให้ หมู่บ้านนันได้
้ รับความทุกข์ร้อน หรื อครอบครัวใดที่มีสมาชิกฝ่ าฝื นก็จะทาให้
สมาชิกคนใดคนหนึง่ ของครอบครัวนันเจ็
้ บป่ วยหรื อเสียชีวิตลง
2. การอนุรักษ์ ทรัพยากรนา้
ก. แม่น ้าลาธาร
แม่น า้ ล าธารทุก สายจะมี เ จ้ า ของ ชนปกาเกอะญอเรี ย กว่า “นา ที ” หมายความว่า “วิ ญ ญาณ
น ้า” หรื อ “ผีน ้า” มนุษย์ต้องเคารพยาเกรงหากผู้ใดไม่เคารพยาเกรงแม่น ้า อุจจาระปั สวะลงไปหรื อตัดต้ นไม้
บริเวณต้ นน ้าลาธาร “นาที” จะลงโทษผู้นนโดยให้
ั้ ล้มป่ วยลง และผู้นนต้
ั ้ องทาพิธีขอขมาลาโทษต่อนาทีด้วย
การฆ่าหมูหรื อไก่มาเลี ้ยง แต่ตรงกันข้ ามหากเราเคารพยาเกรงท่าน ท่านก็จะคอยปกปั กษ์ ค้ มุ ครองชีวิตเรา
ให้ มีความร่มเย็นเป็ นสุขเช่นเดียวกัน
ลักษณะน ้าลอดคือลาห้ วยหรื อแม่น ้าที่ลอดเข้ าถา้ หรื อภูเขาเข้ าไป เชื่อกันว่าน ้าลอดนี ้มีเจ้ าของที่
เป็ นงูหรื อภูตผีก็ได้ เจ้ าของที่เป็ นงูได้ แก่งเู หลือมและพญานาคเป็ นต้ น หากเข้ าไปในน ้าลอดแม้ จะกล่าวคา
หยาบหรื อสาปแช่งอะไรเล็ก ๆ น้ อย ๆ ก็ไม่สามรารถทาได้ เพราะถือเป็ นข้ อห้ ามโดยเด็ดขาด
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
ง.โป่ ง (มอ)
การดูแลรักษาสุขภาพ
การใช้ สมุนไพร การเสี่ยงทาย การทานายและการใช้ คาถา เป็ นภูมิปัญญาพื ้นบ้ านที่ใช้ ในการตรวจ
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
1. ระบบความเชื่อที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ
2. ระบบความเชื่อที่เกี่ยวกับการเจ็บป่ วย
ก. การเจ็บป่ วยแบบฉับพลัน
การรักษานันเริ
้ ่ มจากการไปหาเซอะ หระ ก่า ต่า (คนทรง) ในหมู่บ้านเพื่อค้ นหาสาเหตุและมีวิธีการรักษา
ดังนี ้
แบล ถ่อ ที (การโรยข้ าวสารทิง้ ไข่ลงในนา้ ) เป็ นวิธีการรักษาตามความเชื่ อว่าที่ เชื่อว่าเป็ นการ
กระทาของผีน ้าที่เรี ยกว่า นา ที ซึง่ สาเหตุนนมาจากผู
ั้ ้ ป่วยไปรบกวนนาทีทาให้ นาทีไม่สบายดังนันนาที
้ ก็ทา
ให้ ผ้ ปู ่ วยไม่สบายด้ วย
(โลกแห่งวิญญาณ) ดังนันจะต้
้ องเตรี ยมเหล้ า ข้ าวต้ ม เหล็กงอ ลูกปั ด ไก่ 1 คู่ (ตัวผู้ – ตัวเมีย) ไปทาพิธีที่เส่
ฆะ ทิ (ต้ นไม้ ที่ตายแล้ ว) หลังจากนันกลั
้ บไปมัดมือผู้ป่วยที่บ้านวิธีการรักษาแบบนี ้จะทาให้ สาหรับคนอายุ
ตังแต่
้ 50 ปี ขึ ้นไป
(แจวะ) เชื่ อ ว่า เกิ ดจากการรั บประทานอาหารที่ มี พิ ษร้ ายแรง เช่ น เห็ ด อาการของคนป่ วย
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
อาเจียนและท้ องร่วงอย่างรุนแรง
ก. เกิดจากการทาผิดกฎของหมูบ่ ้ าน สังคม
ค. เกิดจากการกระทาผิดกฎบรรพบุรุษ
เชื่ อว่า ซิ โข่ หมื่อ ฆา หรื อผี บรรพบุรุษถูกกระตุ้นจากผีร้ายญาติ (นาจิ๊ นา จิ๊ เทาะ)ให้ ไปรบกวนทาให้
ลูกหลานเจ็บป่ วยลง จึงต้ องทาพิธีเอาะ บก๊ ะ
3. วิธีการรักษาอาการเจ็บป่ วย
ประเภทของหมอพื ้นบ้ าน
คาว่าหมอในภาษาชนปกาเกอะญอ นันจะไม่
้ มีคาแปลโดยตรง แต่จะมี ความหมายที่ตรงกับผู้ร้ ู ผู้
ชานาญหรื อผู้มีญาณพิเศษ ในแต่ละด้ านเรี ยกว่า “เซอะ หระ” ซึง่ แปลว่า ครูหรื ออาจารย์ ในที่นี ้หมายถึงผู้มี
ความรู้ความสามารถที่จะรักษาผู้ป่วยได้ ดังนันจาการศึ
้ กษาสามารถจาแนกออกได้ ดงั นี ้
กลุ่ม หมอยาสมุน ไพร กลุ่ม นี จ้ ะมี ค วามรู้ ความสามารถในการใช้ ย าสมุน ไพร บางคนก็ มี ค วามรู้ ด้ า น
คาถาอาคมด้ วย เพราะในการรักษาคนไข้ นนจะให้
ั้ ยาสมุนไพร และคาถาอาคมควบคู่ไปด้ วยกัน กลุ่มหมอ
ประเภทบีบ นวด จับชีพจร (จือ เซ) กลุม่ นี ้แบ่งออกเป็ น 3 กลุม่ ย่อย คือ หมอตาแย
4. การวินิจฉัยโรค
การวินิจฉัยอาการโรคของกลุ่มหมอต่าง ๆ นันขึ
้ ้นอยู่กบั ประสบการณ์ความรู้ ความสามารถที่ได้ ร่ า
เรี ยนมา จะเห็นได้ ว่ากลุม่ หมอพื ้นบ้ านที่มีความรู้ด้านการจับเส้ นเอ็น บีบนวด จะวินิจฉัยโรคโดยอาศัยการ
สังเกตอาการของโรค หมอผีจะวินิจฉัยโรค โดยอาศัยคาถาอาคม การจับชีพจรผู้ป่วยและเครื่ องมือ อุปกรณ์
พืน้ บ้ า นช่ ว ย หมอสมุน ไพรจะวิ นิ จ ฉัย โรคโดยการสั ง เกตอาการของผู้ป่ วยว่า เป็ นอะไรที่ ผ่า นมาได้ ท า
อะไรบ้ าง และอาศัยประสบการณ์ของหมอพื ้นบ้ าน
5. วิธีดแู ลรักษาสุขภาพ
ซึ่งว่าคนเราแต่ละคนจะมีโชคชะตาราศีที่ไม่ตรงกันไม่เหมือนกัน ดังนันหมอพื
้ ้นบ้ านแต่ละคนไม่สามารถ
รักษาคนไข้ ให้ หายได้ ทกุ คน คือหมอพื ้นบ้ านคนหนึ่งอาจรักษาคนป่ วยคนหนึ่งให้ หายได้ ก็ได้ แต่กบั คนป่ วย
อีกคนหนึง่ อาจรักษาไม่หาย ดังนันวิ
้ ธีการรักษาอาจจะมีหลายรูปแบบหลายวิธีการดังนี ้
ก. การรักษาด้ านร่างกาย
ก. คาถาใช้ รักษาอาการปวดหัว
ข. คาถาใช้ รักษาอาการโรคงูสะหวัด
ข. การรักษาด้ านจิตใจ
ก. ต่า กี่ จือ (การมัดมือ) เป็ นการรักษาคนไข้ ที่มีอาการอ่อนเพลีย การฟื น้ ไข้ หรื อสภาพจิตใจที่ไม่ปกติ
ข. ต่า เก๊ าะ เก่อ ลา (การเรี ยกขวัญ) เป็ นการักษาคนไข้ ตามความเชื่อว่าขวัญไม่อยู่ กับ เนื ้อกับตัว หนีไป
เนื่องจากสาเหตุ การตกใจ การสะดุ้งอย่างรุนแรง
ง. ต่า เดาะ หลื่อ เป็ นการรักษาคนไข้ ที่มีอาการหนักมาก โดยเชื่อว่าวิญญาณของคนไข้ ไปอยูท่ ี่ ปลือ ก่อ
แล้ ว
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
ค. ภูมิหลังของการดูแลรักษาสุขภาพ
ง. การดูแลรักษาสุขภาพของผู้หญิงตังครรภ์
้
ก. ข้ อห้ ามของมารดาช่วงขณะตังครรถ์
้
ห้ ามกินตัวอ่อนของตัวต่อ
ห้ ามนอนหลับมากเกินไปและทางานหนักเกินไป
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
ข. ข้ อห้ ามสาหรับบิดา
ห้ ามทะเลาะกับผู้อื่น
ห้ ามมีคดีความฟ้องร้ อง
ห้ ามดุดา่ ลูกเมีย
ห้ ามล่าสัตว์บางชนิดและกินเนื ้อสัตว์ป่าที่คนล่าได้
ค. ข้ อสาหรับบิดามารดา
มารดาให้ กินผักบารุ งร่ างกาย รักษาความสะอาด ทางานให้ มีความพอเหมาะ และรักษาอารมณ์ ให้ ดีอยู่
เสมอ สาหรับบิดาให้ รักษาอารมณ์ จิตใจให้ แจ่มใสอยูเ่ สมอ และจัดอาหารให้ เหมาะสมแก่ภรรยา
6. ความหมายและประโยชน์ ของการเสี่ยงทาย
การเสี่ยงทายได้ ด้วย
7.ประเภทของการเสี่ยงทาย
การเสี่ย งทายด้ ว ยกระดูก ไก่ การเสี่ ย งทายด้ ว ยกระดูก ไก่ ส ามารถเสี่ ย งทายได้ ทัง้ ส าหรั บ การ
เจ็บป่ วย ทรัพย์สมบัติหรื อสิ่งของใด ๆ หาย การทามาหากินและอื่น ๆ อีกหลายอย่างหรื ออาจจะเรี ยกได้ ว่า
ใช้ ในพิธีเสี่ยงทายได้ เกือบทุกประเภทชนปกาเกอะญอเชื่อว่าไก่เป็ นสัตว์ที่มีญาณมองเห็นการณ์ไกลกว่า
สัตว์อื่น ๆ การเสี่ยงทายด้ วยกระดูกไก่นนจะน
ั้ ากระดูกโคนขาไก่สองข้ างมาขูดพอเป็ นรู จากนันก็
้ จะนาซี่ไม้
ไผ่เล็ก ๆ สองอันเสียบลงไปที่รูกระดูกไก่นนั ้ วางลงบนพื ้นให้ อยู่ในระดับเดียวกันและสังเกตความลาดเอียง
ของซี่ไม้ ไผ่จะมีความแตกต่างกันไป ผู้ทาพิธี ก็จะใช้ ความลาดเอียงนี ้เป็ นเกณฑ์ในการทานายการเสี่ยงทาย
ด้ วยไข่ไก่ การเสี่ยงทายด้ วยไข่ไก่สว่ นใหญ่จะใช้ กบั คนเจ็บป่ วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนป่ วยที่มีอาการหนัก ๆ
การทาพิธีเพื่อดูวา่ สาเหตุของอาการป่ วยนี ้มาจากไหน ขันตอน
้
สังเกตว่าใบไม้ มีลกั ษณะอาการเช่นไรและได้ บ่งชี ้อะไร หากบ่งชี ้ว่าไปแล้ วดีก็จะไปที่นนั่ แต่หากบ่งชี ้ว่าไป
แล้ วไม่ดีก็จะเด็ดใบไม้ ใหม่และยื่นไปในทิศใหม่ จะกระทาเช่นนี ้จนกว่าจะได้ สถานที่ที่น่าพอใจ
การแต่งกายและดนตรี
1. ภาษา
2. การแต่ งกาย
3. ดนตรี
ข.กลองมโหระทึก (โกละ)
โกละ เป็ นเครื่ องดนตรี ชนิดหนึง่ ที่มีราคาค่อนข้ างแพง จะใช้ ในงานประเพณีตา่ ง ๆ เช่น ประเพณีขึ ้น
ปี ใหม่ ประเพณีงานศพ เป็ นต้ น เมื่อตีเสียงจะก้ องดังทัว่ หมู่บ้าน ไม่นิยมตีอย่างพร่ าเพรื่ อ แต่จะตีในโอกาส
สาคัญและจาเป็ นเท่านัน้ สามารถตีได้ ทงเด็
ั ้ กและผู้ใหญ่ หากหมู่บ้านใดมีกลองมโหระทึกประจาอยู่ เชื่อกัน
ว่าหมูบ่ ้ านนันจะมี
้ ความร่มเย็นเป็ นสุข
ค.พิณเตหน่า (เตหน่า)
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
ฉิ่ ง ฉาบ (จว๊ ะ ) เป็ นเครื่ องดนตรี ป ระเภทตีก ระทบกัน ฉาบหนึ่ง ชุดจะมี อ ยู่สองข้ าง ท ามาจาก
ทองแดงผสมเหล็กเป็ นเครื่ องดนตรี ที่มาจากพวกมอญเช่นกัน
กลอง (เดอ) เป็ นเครื่ องดนตรี ที่ทามาจากไม้ แกะเป็ นรู ปกลวง และขึงหนังกลองด้ วยหนังวัว หรื อ
แพะ เป็ นต้ น เป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทตี ชนปกาเกอะญอสามารถผลิตขึ ้นมาด้ วยตนเอง มีลกั ษณะกลม
กลวง เรี ยงลงไปในส่วนหางและบานออกที่สดุ ปลายหาง ส่วนหัวจะขึงด้ วยหนังสัตว์ ซึง่ เป็ นส่วนที่ใช้ ตีให้ มี
เสียงดัง
โม จว๊ ะ เดอ ปกติจะใช้ เล่นในวงเดียวกัน เรี ยกได้ ว่าเป็ นเครื่ องดนตรี ที่ต้องผสมโรงเล่นด้ วยกัน
ตลอดไป จะขาดประเภทใดประเภทหนึ่งไม่ได้ ใช้ เล่นบางโอกาสในงานประเพณีสาคัญ ๆ เช่น ประเพณีขึ ้น
ปี ใหม่ พิธีเลี ้ยงเจดีย์ เป็ นต้ น แต่ที่นิยมเล่นกันมากที่สดุ คือประเพณีมงคลสมรส
แกว ปี๊ เป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทเป่ า แกว อาจทามาจากเขาหรื องาหรื อสัตว์ ไม้ เช่น งาช้ าง เขา
ควาย เขาวัว เขาเลียงผาก็ได้ เชื่อกันว่าแกวที่ทาด้ วยเขาควายแม่ที่ตายขณะตังครรภ์
้ อยู่นนั ้ เมื่อเดินเป่ า
วนรอบไร่ สามรอบควายจะไม่ลอดรัว้ เข้ าไปกินข้ าวในไร่ เลย โดยปกติแล้ วจะใช้ เป่ าขณะเดินทางไปทางาน
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
ปี๊ เป็ นเครื่ องดนตรี ที่ทามาจากไม้ ไผ่ ใช้ เป่ าในโอกาสทัว่ ๆ ไปและทุกเพศทุกวัยสามารถเป่ าได้ ผู้เชี่ยวชาญ
จะสามารถเป่ าได้ หลายหลากเสียง เมื่อเป่ าปี่ จะไม่นิยมขับลานาตามไปด้ วย สาหรับ
Facebook:ขายเสื ้อกะเหรี่ ยงแห่งประเทศไทย
ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline
40
ส่อ เฆ ทามาจากไม้ ไผ่เช่นกัน เป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทเป่ า และดีด ในเวลาเดียวกัน เล่นได้ ใน
โอกาสทัว่ ๆ ไป และทุกเพศทุกวัยสามารถเล่นได้
ฉ. การราดาบและหอก (ศิลปกการป้องกันตัว)
ศิลปะการร่ ายราดาบและหอกจะมีลายหลายแบบทังง่
้ ายและยาก บางคนร่ ายราได้ สองสามลาย
แต่บางคนที่เก่งสามารถร่ ายราได้ หลายลายและใช้ ดาบถึงสามสี่เล่ม ลายการร่ ายราดาบและหอกเรี ยกชื่อ
หลายอย่าง เช่น ลายหมี ลายป้องกันตน และลายฟั นคู่ต่อสู้ เป็ นต้ น การฝึ กร่ ายราดาบและหอกต้ องไปฝึ ก
กับอาจารย์ใหญ่ที่มากด้ วยวิชาความรู้ในด้ านนี ้ ผู้ฝึกจะต้ องอยูใ่ นระเบียบกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด และต้ อง
เสียค่าฝึ กตามขันที
้ ่ผ้ ฝู ึ กตังไว้
้ ซึง่ ปกติจะตังไว้
้ ไม่แพงมากนัก เพราะจะไม่ถือว่าเป็ นเรื่ องธุรกิจการค้ า แต่เป็ น
วิชาความรู้ที่จะต้ องถ่ายทอดให้ คนรุ่นหลังต่อ ๆ ไป
ระบบความเชื่อและศาสนา
ระบบความเชื่อและศาสนาของชนเผ่าปกาเกอะญอ มีความสัมพันธ์ กบั วิถีชีวิตและความเป็ นอยู่
ของชนเผ่า ชนปกาเกอญอมีความเชื่ อว่าพระเจ้ าเป็ นผู้สร้ างโลกและสรรพสิ่งต่าง ๆ ที่ อยู่บนโลก จะมี
เจ้ าของปกปั ก ดูแลรักษา เช่น ภูเขาแต่ละลูก สายน ้าแต่ละสาย ผืนป่ าแต่ละผืน จะมีเจ้ าของอยู่ ชนปกา
เกอะญอจะเรี ยกว่า “ที เก่อ จ่า” (เจ้ าของน ้า) “ก่อ เกอ จ่า” (เจ้ าของแผ่นดิน/ประกาศอาณาเขต)[36]
1. ความเชื่อเกี่ยวกับการเกิดมาของมนุษย์
ชนปกาเกอะญอเชื่อว่าคนแต่ละคนจะมีวิญญาณ ก่อนจะเกิดมาบนโลกวิญญาณจะมีอยู่ก่อนแล้ ว
ประวัตขิ องปกาเกอะญอ
ช่วงเวลาที่แม่ตงครรภ์
ั้ จะต้ องงดอาหารหลายประเภทที่จะเป็ นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เช่น สัตว์
ถูกยิงด้ วยปื นหรื อลูกดอกเคลือบยาพิษ พืชผักมียาง สัตว์ป่าบางชนิดได้ แก่ ลิง หมี ด้ วยเกรงว่าหากกินแล้ ว
ทารกที่เกิดจะมีบคุ คลิกและรู ปร่างหน้ าตาคล้ ายกับสัตว์เหล่านี ้ สาหรับพ่อก็มีข้อห้ ามด้ วยเช่นกัน เช่น ห้ าม
หามศพ ห้ ามไกล่เกลี่ยคดีความ ห้ ามขึ ้นต้ นไม้ ห้ ามทะเลาะวิวาทกับคนอื่น ห้ ามดุด่าภรรยา เมื่อถึงเวลา
คลอดก็จะไปเรี ยกหมอตาแยมาช่วยทาคลอด