You are on page 1of 18

1

Equation Chapter 1 Section 1คาเฉลยและแนวการตรวจให้ คะแนน (Marking Scheme)


ข้ อสอบทฤษฎี

ข้ อที่ 1

ข้ อที่ 1.1
L1 L2
คลื่นเสี ยง
1 2

L3
รู ปที่ 1.1 แสดงการเคลื่อนที่ของคลื่นเสี ยงผ่านแท่งโลหะ

ข้ อที่ 1.1.1
L
เนื่องจาก t
v
Y
และ v และ t1  t2  t3 จะได้
1 2 3
L1  L2  L3 [0.4 คะแนน] 1.1.1
Y1 Y2 Y3

3
อาศัยความสัมพันธ์ 1  33 ,  2  และ Y1 Y3 3 , Y2 2Y3 จึงเขียนได้วา่
2
33  /2 
L1  L2 3  L3 3 [0.1 คะแนน] 1.1.2
Y3 / 3 2Y3 Y3
ซึ่ งจัดรู ปใหม่ได้เป็ น
3 L2 3 3
3L1   L3 [0.2 คะแนน] 1.1.3
Y3 2 Y3 Y3
3
เอา หารตลอดจะได้
Y3
L2
3L1   L3 [0.2 คะแนน] 1.1.4
2
เนื่องจาก L1  L2  L3
2

L1 1
ดังนั้นจะได้วา่  [0.3 คะแนน] ตอบ
L2 4

ข้ อที่ 1.1.2
ความต่างเฟสของคลื่นเสี ยงที่ผา่ นแท่งโลหะชนิ ดที่ 1 และ 2 เทียบกับคลื่นเสี ยงที่ผา่ นแท่ง
โลหะชนิดที่ 3 มีค่าเป็ นเท่าใด

ความถี่เชิงมุมหาได้   2 f 1.1.5
t
ในโลหะชนิดที่ 1 จะได้ 1  2 ft1 [0.4 คะแนน] 1.1.6
ในโลหะชนิดที่ 2 จะได้ 2  2 ft2 1.1.7
12  1  2  2 f (t1  t2 )  2 ft3 1.1.8
3  2 ft3 1.1.9
ดังนั้น   12  3  0 [0.4 คะแนน] ตอบ
หมายเหตุ ถ้านักเรี ยนตอบโดยให้เหตุผลว่า เวลาที่ใช้เท่ากันและความถี่เท่ากัน จึงไม่มีความต่างเฟส ก็
จะได้คะแนน {0.8 คะแนน}
* ถ้ านักเรียนตอบศูนย์ โดยไม่ ให้ เหตุผลใดๆ จะไม่ ได้ คะแนน
ข้ อที่ 1.2
ค่า R [1.6 คะแนน]
ค่า L [1.0 คะแนน]
ค่า x [0.9 คะแนน]

เฉลย วิธีที่ 1 ใช้ วธิ ี Geometrical Optics


หารัศมีความโค้ง ดังรู ปที่ 1.2.1 โดยอาศัยกฏของสเนลล์

2
1
h
1 3

R 10 cm

รู ปที่ 1.2.1 [0.3 คะแนน]


3

รู ้วา่ ผ่านผิวแรกโดยไม่หกั เห [0.2 คะแนน]


จาก
n1 sin 1 n2 sin 2 [0.2 คะแนน] 1.2.1
เมื่ อ n1 n เป็ นค่ า ดัช นี หัก เหของแก้ว และ n2 1 เป็ นค่ า ดัช นี หัก เหของอากาศ เนื่ อ งจากเรา
พิจารณา มุมตกกระทบและมุมหักเหเป็ นมุมน้อย ดังนั้น sin จะได้วา่ [0.1 คะแนน]
n1 2 1.2.2
โดยที่
1 3 2 [0.2 คะแนน] 1.2.3
แทนค่า 2 ลงในสมการที่ 1.2.3 จะได้วา่
3 n 1 1

n 1 1 [0.1 คะแนน] 1.2.4


จากรู ปที่ 1.2.1 เราจะได้วา่
h
sin 1 tan 1 [0.1 คะแนน] 1.2.5
R
และ
h
sin 3 tan 3 [0.2 คะแนน] 1.2.6
10 cm
ใช้ค่าในสมการที่ 1.2.5 และ 1.2.6 แทนในสมการที่ 1.2.4 จะได้วา่
h h
(n 1)
10 cm R
1 1
(n 1) 1.2.7
10 cm R

เมื่อ n 1.5 จะได้วา่


R 5 cm [0.2 คะแนน] 1.2.8
4

คิดการสะท้อนกรณี เป็ นเนื้ อแก้วเต็ม

1
4 h
1 5

5 cm

รู ปที่ 1.2.2 [0.3 คะแนน]


หาระยะ L จากรู ปที่ 1.2.2 จะได้วา่
1 4 [0.1 คะแนน] 1.2.9
และ
5 1 4 2 1 [0.2 คะแนน] 1.2.10
จากรู ปที่ 1.2.3 เราจะได้วา่
h
sin 1 tan 1 [0.1 คะแนน] 1.2.11
5 cm
และ
h
sin 5 tan 5 [0.1 คะแนน] 1.2.12
L
ใช้ค่าในสมการที่ 1.2.11 และ 1.2.12 แทนในสมการที่ 1.2.10 จะได้วา่
h h
2
L 5 cm
L 2.5 cm จากด้านหลังผิวโค้ง [0.1 คะแนน] 1.2.13
{หน่ วย} [0.1 คะแนน]
การหักเหที่ผิวระนาบ

1 h
1.5
2.5 5 6
x
1.5

รู ปที่ 1.2.3 [0.3 คะแนน]


5

จาก รู ปที่ 1.2.3 และกฎของสเนลล์ (Snell ’s law)


n1 sin 5 n2 sin 6 [0.1 คะแนน] 1.2.14
เมื่อ n2 1 และ ส่ วนย่อยของรังสี sin ดังนั้นจะได้วา่
n 5 6 [0.1 คะแนน] 1.2.15
และ
h h
n
1.5 cm x
1.5 cm
x 1.0 cm [0.3 คะแนน]1.2.16
1.5
{หน่ วย} [0.1 คะแนน]
เราจะได้วา่ ระยะที่ลาแสงที่ถูกโฟกัสห่างจากผิวราบมีค่าเท่ากับ 1 cm ตอบ

เฉลย วิธีที่ 2 (ถ้าใช้วธิ ีช่างทาเลนส์ให้เต็ม 1.0 คะแนน)


1 1
* หากใช้ การหักเหทีผ่ วิ เดียวจากสมการ (n 1) ได้ 1.6 คะแนนเต็ม
f R

F1

x
11 cm

รู ปที่ 1.2.4 (ก)

คานวณหารัศมีความโค้งของเลนส์ โดยการเกิดการหักเหที่ผวิ เดียว


1 1
(n 1) [0.3 คะแนน] 1.2.17
f R
ในกรณี น้ ีเลนส์ที่ใช้เป็ นเลนส์ แกมระนาบ ดังนั้น ดัชนีหกั เห n 1.5 , หาค่า R [0.2 คะแนน]
และมีความยาวโฟกัส f 10 cm [0.5 คะแนน]
6

1 1
R2 f (n 1)
R2 f (n 1)
(10 cm)(1.5 1)
5.0 cm [0.3 คะแนน] 1.2.18
พิจารณากระจก

y
1 2
Si

รู ปที่ 1.2.4 (ข) [0.3 คะแนน]

1 1 2
[0.2 คะแนน] 1.2.19
Si So R
ในกรณี น้ ี ล าแสงเลเซอร์ เ ป็ นล าแสงขนาน ดั ง นั้ น ระยะวัต ถุ So , รั ศ มี ค วามโค้ง
R 5.0 cm , หาค่าระยะภาพ Si ? [0.2 คะแนน]
จะได้วา่
1 2 1
Si R So
R
Si
2
5.0 cm
2.5 cm [0.3 คะแนน] 1.2.20
2
{ถ้ าไม่ มีหน่ วยหัก} [0.1 คะแนน]
* หากใช้ สมการนี้แต่ ใช้ R ทีผ่ ิด ให้ คะแนนสมการที่ 1.2.19 คะแนนหน่ วย
อย่างไรก็ตามภาพที่เกิดขึ้นนี้ เป็ นภาพเสมือนจริ ง เสมือนว่ารังสี จะถูกสะท้อนออกจากเลนส์ ดังรู ปที่
1.2.4 (ข) เราต้องหาระยะที่รังสี จริ งและรังสี เสมือนจริ ง ไปตกยังหน้าเลนส์
จาก กฎของสเนลล์ (Snell’s law)
n1 sin 1 n2 sin 2 [0.1 คะแนน] 1.2.21
เมื่อ n2 1 และ ส่ วนย่อยของรังสี sin ดังนั้นจะได้วา่ [0.1 คะแนน]
n1 1 2 [0.1 คะแนน] 1.2.22
7

และ
y y
1 , 2 1.2.23
( Si 1) x
จะได้วา่
n1 y y
[0.3 คะแนน] 1.2.24
( Si 1) x
ดังนั้น
( Si 1)
x
n
(2.5 1.0) cm
1.0 cm [0.3 คะแนน] 1.2.25
1.5
{ถ้ าไม่ มีหน่ วยหัก} [0.1 คะแนน]
เราจะได้วา่ ระยะที่ลาแสงที่ถูกโฟกัสจากผิวราบมีค่าเท่ากับ 1.0 cm ตอบ
* หัก 0.2 คะแนน ถ้ าเลขนัยสาคัญไม่ ถูกต้ องทีค่ าตอบสุ ดท้ าย

ข้ อที่ 1.3

สุ ญญากาศ สุ ญญากาศ
M

อากาศ M'
g
g M
x P0 , V0 , T0
V0
P, ,T x
2
2
อากาศ

(ก) (ข)
รู ปที่ 1.3
จากรู ปที่ 1.3(ก) โมลของแก๊สในกระบอกสู บ
PV
n 0 0
[0.3 คะแนน] 1.3.1
RT0
ถ้าลูกสู บมีพ้นื ที่หน้าตัด A ในสภาวะสมดุลตอนแรก
Mg
P0 [0.6 คะแนน] 1.3.2
A
8

ในรู ปที่ 1.3(ก) และ 1.3 (ข) จากกฎของแก๊ส


PV PV0
0 0
[0.3 คะแนน] 1.3.3
T0 2T
ในตอนหลัง ถ้ามวลทั้งสองเคลื่อนที่ลงเป็ นระยะ h ลงสู่ จุดต่าสุ ด จากกฎการอนุรักษ์พลังงาน
[0.2 คะแนน]
5
( M ' M ) gh nR(T T0 ) [1.0 คะแนน] 1.3.4
2
* หากพยายามใช้ สมการ Q U W แต่ ผิดบางตัว หัก 0.3 คะแนน ถ้ าไม่ ร้ ู ว่า Q 0,
หัก 0.3 คะแนน ถ้ าไม่ ร้ ู ว่า W M M ' gh
โดยใช้สมการที่ 1.3.1 และ 1.3.2 จะได้
MgV0 5R
( M ' M ) gh (T T0 ) [0.1 คะแนน] 1.3.5
ART0 2
หรื อ
M' 5 V0 T
1 1 [0.1 คะแนน] 1.3.6
M 2 Ah T0
และตามโจทย์ Ah เป็ นปริ มาตรแก๊สที่ลดลงซึ่ งเท่ากับ V0 2 นัน่ คือ
M' T
1 5 1 [0.3 คะแนน] 1.3.7
M T0
เนื่องจากตามโจทย์แก๊สภายในกระบอกสู บหดตัวแบบอะเดียบาติก
V0
PV
0 0 P [0.4 คะแนน] 1.3.8
2
จาก สมการที่ 1.3.3 และ 1.3.8
1
V0
T0V0 1
T [0.4 คะแนน] 1.3.9
2
หรื อ
T
2 1
[0.2 คะแนน] 1.3.10
T0
จะได้วา่
T
20.4 1.3.11
T0
แทนใน สมการที่ 1.3.7
M'
5 20.4 1 1
M
0.6 [0.6 คะแนน] 1.3.12
9

ข้ อที่ 2
ข้ อที่ 2.1
วิธีที่ 1
สมมติให้อิเล็กตรอนอยูจ่ ุดใดๆ บนแท่งตัวนา ดังนั้นอิเล็กตรอนได้รับแรงกระทา ( F ) เขียนสมการ
ได้วา่
F |e| v B [0.2 คะแนน] 2.1.1
โดยที่ | e | คือประจุอิเล็กตรอน, v คือความเร็ วเชิงเส้น
เราจะได้วา่ แรงในแนวขนานกับแท่งตัวนา F ที่กระทากับอิเล็กตรอนมีค่าเท่ากับ
F | e | vB [0.2 คะแนน] 2.1.2
ดังนั้นสนามไฟฟ้ าจะถูกเหนี่ ยวนาตลอดทั้งแท่งตัวนา ( E F | e | ) จะได้วา่ [0.2 คะแนน]
E vB [0.4 คะแนน] 2.1.3
จะได้วา่ ความต่างศักย์ระหว่าง a กับ b มีค่าเท่ากับ
Va Vb
0
Ed [0.4 คะแนน]
vB
0
d vB [0.6 คะแนน] ตอบ
* หากคาตอบแสดงว่า Va น้ อยกว่า Vb หรือไม่ แสดงการคิดทิศ หัก 0.3 คะแนน

วิธีที่ 2
จากกฎของฟาราเดย์
d B
Eemf [0.4 คะแนน] 2.1.1
dt
และจากฟลักซ์แม่เหล็ก B B A [0.2 คะแนน]
เมื่อพื้นที่แท่งตัวนาเคลื่อนที่ไปได้ระยะเวลา dt มีค่าเป็ น
dA vdt (กรณี อิเล็กตรอน) [0.4 คะแนน] 2.1.2
จะได้วา่
d B B v dt [0.4 คะแนน] 2.1.3
ดังนั้น จะได้วา่
Bv dt
Eemf Va Vb Bv [0.6 คะแนน] 2.1.4
dt
* หากคาตอบแสดงว่า Va น้ อยกว่า Vb หรือไม่ แสดงการคิดทิศ หัก 0.3 คะแนน
10

ข้ อที่ 2.2 พิจารณาส่ วนเล็กๆ dr ของแท่งตัวนาเคลื่อนที่ดว้ ยความเร็ ว v ในทิศทางตามเข็มนาฬิกาตัด


ผ่านสนามแม่เหล็กสม่าเสมอ ดังรู ปที่ 2.2

dr
a

r v
b

รู ปที่ 2.2 [0.3 คะแนน]


วิธีที่ 1
ดังนั้น emf ของส่ วนเล็กๆ dEemf
dEemf Bv dr [0.4 คะแนน] 2.2.1
จากความสัมพันธ์ระหว่างความเร็ วเชิงเส้นกับความเร็ วเชิงมุม คือ v r ดังนั้น [0.3 คะแนน]
dEemf B r dr 2.2.2
ดังนั้น เมื่อเราพิจารณา emf ทั้งแท่งตัวนาจะได้วา่
Eemf Va Vb B
0
r dr [0.5 คะแนน]
1
B 2
[0.5 คะแนน] ตอบ
2
วิธีที่ 2 จากกฎของฟาราเดย์ - เลนซ์
d B
Eemf [0.4 คะแนน] 2.2.3
dt
และจากฟลักซ์แม่เหล็ก B B A [0.2 คะแนน]
1
dA 2
dt [0.4 คะแนน] 2.2.4
2
จะได้วา่
1
d B B 2
dt [0.4 คะแนน] 2.2.5
2
ดังนั้น จะได้วา่
2
B / 2 dt 1
Eemf Va Vb B 2
[0.6 คะแนน] 2.2.6
dt 2
* หากคาตอบแสดงว่า Va Vb หรือไม่ แสดงการคิดทิศ หัก 0.3 คะแนน
11

ข้ อที่ 2.3

R M

รู ปที่ 2.3
ข้ อที่ 2.3.1
สมมติใ ห้อิเล็ก ตรอนอยู่ที่ ระยะรั ศมี r จากจุดหมุนของแต่ ละเส้ นลวดตัวนา ดังรู ปที่ 2.3
ดังนั้นอิเล็กตรอนได้รับแรงกระทา ( F ) เขียนสมการได้วา่
F |e| v B 2.3.1
โดยที่ | e | คือประจุอิเล็กตรอน, v คือความเร็ วเชิงเส้น และ คือความเร็ วเชิงมุม
ซึ่ งความสัมพันธ์ระหว่างความเร็ วเชิงเส้น v กับ ความเร็ วเชิงมุม คือ v r
เราจะได้วา่ แรงในแนวรัศมี Fr ที่กระทากับอิเล็กตรอนมีค่าเท่ากับ
Fr |e| r B
|e| B r 2.3.2
ดังนั้นสนามไฟฟ้ าจะถูกเหนี่ ยวนาตลอดทั้งเส้นลวดตัวนา จะได้วา่
E ( B )r 2.3.3
* (หรือใช้ ผลจากข้ อที่ 2.2) โดยไม่ ต้องแสดงวิธีทา
จะได้วา่ ความศักย์ระหว่าง C2 กับ C1 มีค่าเท่ากับ
r0
V E dr
0
r0 1
B r dr Br02 [1 คะแนน] 2.3.4
0 2
12

ดังนั้นจะได้วา่ กระแสไฟฟ้ า i ที่ไหลผ่านตัวต้านทาน R มีค่าเท่ากับ


V Br02
i [1 คะแนน] 2.3.5
R 2R

ข้ อที่ 2.3.2 วิธีที่ 1


พิจารณากาลังไฟฟ้ า P ที่สูญเสี ยในตัวต้านทาน
2
B 2 r04 2
B 2 r04
P 2
i R [0.5 คะแนน] 2.3.6
4R 4R
และ กาลังที่มวล M
PM Mgv [0.5 คะแนน]
Mgr0 [0.5 คะแนน] 2.3.7
พลังงานจลน์ของเส้นลวดตัวนา
1 1
Ek I 2
I 2
2.3.8
2 2
และ พลังจลน์ที่มวล M
1
2.3.9
2
Ek M
M r0
2
โดยที่ I เป็ นโมเมนต์ความเฉื่อยของเส้นลวดตัวนา
จากกฎอนุรักษ์พลังงาน เราสามารถเขียนสมการการเคลื่อนที่ได้วา่
d I 2 1 B 2 r04
2.3.10
2
2
M r0 Mgr0
dt 2 2 4R
dEk
มีความเข้าใจว่า 0 [0.5 คะแนน]
dt
สาหรับความเร็ วเชิงมุมคงที่ f เราจะได้วา่
B 2 r04 2
f Mgr0 f [1 คะแนน] 2.3.11
4R
* หากสามารถหาสมการที่ 2.3.11 ได้ ถือว่าได้ คะแนนด้ านบนเต็มแม้ ไม่ แสดงบางขั้นตอน
ดังนั้น
4MgR
f [1 คะแนน] 2.3.12
B 2 r03
13

วิธีที่ 2
คิดจากทอร์กในเส้นลวด พิจารณาลวดเส้นเดียว

dr
I

รู ปที่ 2.4 [0.5 คะแนน]


กระแส I ไหลจากแกนกลางไปตามเส้นลวด แรงเนื่องจากกระแสในเส้นลวดยาว dr คือ IBdr
[0.5 คะแนน]
ทอร์กในเส้นลวดยาว dr คือ IBr dr [0.5 คะแนน]
ดังนั้น ทอร์ กทั้งหมด คือ
r0 1 2
IBr dr Ir0 B
0 2
2 4
f B r0
[1 คะแนน] 2.3.6
4R
ซึ่ งเท่ากับทอร์ กจากมวล M แต่ทิศตรงข้าม
B 2 r04
f
Mgr0 [0.5 คะแนน] 2.3.7
4R
4MgR
f [1 คะแนน] 2.3.8
B 2 r03
หมายเหตุ การคิดลวดเส้นเดียวโดยมีกระแสไหลเท่ากับกระแสทั้งหมดจะให้ค่าทอร์ กเท่ากับการแยก
คิดแต่ละเส้นแล้วรวมกัน
14

ข้ อที่ 3.

3.1 ถ้าดึ งระบบด้วยแรง F น้อยที่สุดแล้วทาให้ระบบยังคงหยุดนิ่ ง ทรงกระบอกตันไม่เคลื่ อนที่


(กลิ้ง) ดังนั้น ทอร์ ก รอบจุดหมุนมีค่าเท่ากับ 0 (ไม่หมุน) และ f1 0 และ ที่มวล m2 กาลังไถล
ลง กาหนดให้สัมประสิ ทธิ์ แรงเสี ยดทานสถิตระหว่างมวล m2 กับพื้นเอียง มีค่าเท่ากับ s

F
m2
f2
m2 g sin
m1 T
m1 g sin
f1

รู ปที่ 3.1 (เฉลย) [0.3 คะแนน]


เข้าใจว่า f1 0 [0.3 คะแนน]
จากรู ปที่ 3.1 และกฏของนิวตันข้อที่ 1 เราจะได้วา่
m1 : 0 T m1 g sin [0.3 คะแนน] 3.1.1
m2 : 0 F f2 m2 g sin T [0.3 คะแนน] 3.1.2
สมการที่ (3.1.1) (3.1.2) จะได้วา่
f2 m1 m2 g sin F 3.1.3
แต่
f2 s m2 g cos 3.1.4
ดังนั้น
F m1 m2 g sin s m2 g cos [0.4 คะแนน] 3.1.5
แรง F น้ อยทีส่ ุ ดที่ดึงแล้วทาให้ระบบยังคงหยุดนิ่ง คือ
F m1 m2 g sin s m2 g cos [0.4 คะแนน] ตอบ
15

3.2 ถ้าดึงระบบด้วยแรง F มากที่สุดแล้วทาให้ระบบยังคงหยุดนิ่ง ทรงกระบอกตันไม่เคลื่อนที่ (กลิ้ง)


ดังนั้น ทอร์ ก รอบจุดหมุนมีค่าเท่ากับ 0 (ไม่หมุน) และ f1 0 และ ที่มวล m2 กาลังเคลื่อนที่ข้ ึน
กาหนดให้สัมประสิ ทธิ์ แรงเสี ยดทานสถิตระหว่างมวล m2 กับพื้นเอียง มีค่าเท่ากับ s

F
m2
f2
m2 g sin
m1 T
m1 g sin
f1

รู ปที่ 3.2 (เฉลย) [0.3 คะแนน]


เข้าใจว่า f1 0 [0.3 คะแนน]
จากรู ปที่ 3.2 และกฏของนิวตันข้อที่ 1 เราจะได้วา่
m1 : 0 T m1 g sin [0.3 คะแนน] 3.2.1
m2 : 0 F f2 m2 g sin T [0.3 คะแนน] 3.2.2
สมการที่ (3.2.1) (3.2.2) จะได้วา่
f2 F m1 m2 g sin 3.2.3
แต่
f2 s m2 g cos 3.2.4
ดังนั้น

F m1 m2 g sin s m2 g cos [0.4 คะแนน] 3.2.5


แรง F มากทีส่ ุ ดที่ดึงแล้วทาให้ระบบยังคงหยุดนิ่ง คือ
F m1 m2 g sin s m2 g cos [0.4 คะแนน] ตอบ
16

3.3
T2
m2

m2 g sin f2
m1 T1 m3
m1 g sin f1
W=m3 g

รู ปที่ 3.3 [0.4 คะแนน]


จากรู ปที่ 3.3 และกฏของนิวตันข้อที่ 2 เราจะได้วา่
m1 : m1a T1 f1 m1 g sin [0.2 คะแนน] 3.3.1
m2 : m2 a T2 f2 m2 g sin T1 [0.2 คะแนน] 3.3.2
m3 : m3a W T2 [0.2 คะแนน] 3.3.3
พิจารณาการเคลื่อนที่ของทั้งระบบ (สมการที่ (3.3.1) (3.3.2) (3.3.3)) จะได้วา่
m1 m2 m3 a W m1 g sin m2 g sin f2 f1
m1 m2 m3 a m3 g m1 m2 g sin [0.2 คะแนน] 3.3.4k m2 g cos f1
คานวณหาแรงเสี ยดทาน f1 ระหว่างผิวของทรงกระบอกตันกับพื้นเอียง โดยพิจารณาทอร์ ก รอบ
แกนหมุนของทรงกระบอกตัน จาก
r F [0.2 คะแนน] 3.3.5
และ I [0.2 คะแนน] 3.3.6
เมื่อ I คือโมเมนต์ความเฉื่ อยรอบแกนหมุนของทรงกระบอกตัน
คือความเร่ งเชิงมุม ( a r ) [0.2 คะแนน]
ดังนั้น เราจะได้วา่
a
rf1 I 3.3.7
r
Ia
นั้นคือ f1 [0.4 คะแนน] 3.3.8
r2
แทนค่าแรงเสี ยดทาน f1 ในสมการที่ (3.3.8) ลงในสมการที่ (3.3.4) จะได้วา่

Ia
m1 m2 m3 a m3 g m1 m2 g sin k m2 g cos
r2
I
m1 m2 m3 a m3 g m1 m2 g sin k m2 g cos
r2
17

ดังนั้น ความเร่ ง a ของระบบ เขียนใหม่ได้เป็ น


g m3 m1 m2 sin m2 cos
a
k
[0.8 คะแนน]
I
m1 m2 m3
r2
หรื อ
g m3 m1 m2 sin m2 cos
a
k
ตอบ
3
m1 m2 m3
2

3.4
เงื่อนไขที่ทรงกระบอกตันกลิ้งโดยไม่ไถล คือ
f1 s m1 g cos [2 คะแนน] 3.4.1

และเมื่อแทนความเร่ ง a ของระบบ ลงในสมการที่ (3.3.8) จะได้วา่


I g m3 m1 m2 sin m2 cos
f1
k
[0.5 คะแนน] 3.4.2
r2 3
m1 m2 m3
2

เราจะได้วา่
I g m3 m1 m2 sin k m2 cos
s m1 g cos
r2 3
m1 m2 m3
2
m3 m1 m2 sin k m2 cos
s cos
3
2 m1 m2 m3
2
จะได้วา่
m3 m1 m2 sin m2 cos
s
k
[0.5 คะแนน] ตอบ
3
2 cos m1 m2 m3
2

ข้ อสั งเกต (ไม่มีคะแนน)


เมื่อโจทย์กาหนดให้มีการเคลื่อนที่ข้ ึนแสดงว่า s จะมีค่าสู งสุ ดได้ค่าหนึ่ งเท่านั้น จากคาตอบข้อที่ 3.2
แรงสู งสุ ดที่วา่ จะต้องน้อยกว่า m3 g
F m1 m2 g sin s m2 g cos m3 g
18

จะได้วา่
m3 m1 m2 sin
s
m2 cos
ดังนั้นค่า s ที่ทาให้การเคลื่อนที่ข้ ึนไปได้ และทรงกระบอกไม่ไถล
m3 m1 m2 sin k m2 cos m3 m1 m2 sin
s
3 m2 cos
2cos m1 m2 m3
2

You might also like