You are on page 1of 13

จงเลือกคำตอบที่ถกู ต้ องเพียงข้ อเดียว

1. ระบบรองรับน้ำหนักแบบคำนแข็งนิยมใช้กับรถยนต์ประเภทใด
1. รถสปอร์ต 2. รถบรรทุก
3. รถยนต์นั่ง 4. รถสำมล้อ

2. ระบบรองรับน้ำหนักแบบล้ออิสระชนิดใดที่ท้ำให้หน้ำยังหน้ำยำงขัดสีกับผิวถนนตลอดเวลำ
1. ปีกนกบนและล่ำงยำวเท่ำกันและขนำนกัน
2. ปีกนกบนและล่ำงยำวไม่เท่ำกัน
3. ปีกนกบนและล่ำงยำวไม่เท่ำกันและไม่ขนำนกัน
4. ปีกนกบนและล่ำงยำวเท่ำกันและไม่ขนำนกัน

3. ระบบรองรับน้ำหนักแบบแม็กเฟอร์สันสตรัทนิยมใช้รองรับน้ำหนักในล้อใดมำกที่สุด
1. ล้อหน้ำและล้อหลัง 2. ล้อหลัง
3. ล้อหน้ำ 4. แล้วแต่กำรออกแบบ

4. ถ้ำรถมีสลิปแองเกิลของล้อหน้ำมำกกว่ำล้อหลัง รถคันนันจะมีคุณสมบัติใด
1. นิวทรอลสเตียร์ (Neutral Steer)
2. โอเวอร์สเตียร์ (Over Steer)
3. อันเดอร์สเตียร์ (Under Steer)
4. แนวรถบิดเปลี่ยนทิศทำง (Gyroscopic Effects)

5. ถ้ำรถเกิดกำรอันเดอร์สเตียร์ ผู้ขับขี่ควรแก้อำกำรรถอย่ำงไร
1. เหยียบเบรกทันที 2. เร่งเครื่องยนต์
3. หมุนพวงมำลัยสลับซ้ำย-ขวำ 4. หมุนพวงมำลัยมำกกว่ำปกติ

6. ถ้ำรถมีสลิปแองเกิลของล้อหลังมำกกว่ำล้อหน้ำ รถคันนันจะมีคุณสมบัติใด
1. นิวทรอลสเตียร์ (Neutral Steer)
2. โอเวอร์สเตียร์ (Over Steer)
3. อันเดอร์สเตียร์ (Under Steer)
4. แนวรถบิดเปลี่ยนทิศทำง (Gyroscopic Effects)

7. จุดศูนย์ถ่วงของรถถ้ำอยู่สูงจะท้ำให้รถเป็นอย่ำงไร
1. ทรงตัวได้ดีขณะเข้ำโค้ง 2. พลิกคว่้ำได้ง่ำย
3. รถเกิดกำรลื่นไถลได้ง่ำย 4. ต้องหมุนพวงมำลัยมำกกว่ำปกติ

8. กำรถ่ำยเทน้ำหนักในขณะใดที่ท้ำให้เกิดกำรถ่ำยเทน้ำหนักไปด้ำนหลังรถมำกที่สุด
1. เบรกแบบย้ำๆ 2. ขณะเข้ำโค้ง
3. ดึงเบรกมือ 4. ขณะเร่งเครื่องเพื่อออกตัว
9. ข้อใดมีผลต่อกำรเลียวเข้ำโค้งด้วยควำมเร็วสูงน้อยที่สุด
1. กำรวำงเครื่องยนต์ 2. สภำพผิวถนน
3. ขนำดของยำง 4. มุมล้อ

10. เพรำะเหตุใดระบบรองรับแบบแมกเฟอร์สันสตรัทจึงไม่นิยมใช้กับรถแข่ง
1. ท้ำให้หน้ำรถสูง 2. ไม่มีควำมแข็งแรง
3. จุดศูนย์ถ่วงอยู่สูง 4. มีน้ำหนักมำก
11. คันชักในระบบบังคับเลียวมีหน้ำที่ใด
1. ส่งถ่ำยแรงจำกแขนพิตแมนไปยังคันส่ง
2. ส่งถ่ำยแรงเคลื่อนที่จำกกระปุกเกียร์พวงมำลัยไปยังคันชัก
3. ส่งถ่ำยแรงเคลื่อนที่จำกคันชักไปยังแกนบังคับเลียว
4. รองรับโหลดที่มำกระท้ำกับล้อหน้ำ

12. กลไกของแขนต่อบังคับเลียว ปลำยข้ำงหนึ่งของคันส่งกลำงจะต่อกับแขนพำเพื่อจุดประสงค์ใด


1. รองรับโหลดที่มำกระท้ำกับล้อหน้ำ
2. ส่งถ่ำยแรงจำกคันชักไปยังแกนบังคับเลียว
3. เป็นจุดหมุนเพื่อบังคับให้กำรเคลื่อนที่ของคันส่งกลำงอยู่ในแนวขนำน
4. ลดอำกำรกระตุกและอำกำรสั่นจำกล้อ

13. อัตรำทดในกำรหมุนพวงมำลัยต่อมุมบิดของล้อ จะมีอัตรำทดเท่ำใด


1. 5 ถึง 15 ต่อ 1 2. 10 ถึง 20 ต่อ 1
3. 20 ถึง 30 ต่อ 1 4. 30 ถึง 40 ต่อ 1

14. ระบบบังคับเลียวแบบลูกปืนหมุนเวียน โครงสร้ำงภำยในจะมีลักษณะอย่ำงไร


1. เฟืองขับจะขบบังคับให้เฟืองสะพำนเลื่อนไปมำ
2. เฟืองตัวหนอนจะขบอยู่กับลูกกลิง
3. เฟืองตัวหนอนจะท้ำให้เป็นร่องเกลียว โดยมีกระเดื่องขบอยู่ภำยใน
4. เฟืองตัวหนอนจะหมุนอยู่ภำยในตัวเรือนลูกปืน

15. ปั๊มก้ำลังที่ใช้เป็นตัวสร้ำงแรงดันให้กับน้ำมันไฮดรอลิก แบบใดที่นิยมใช้มำกที่สุด


1. แบบเฟือง 2. แบบสกรู
3. แบบโรตำรี 4. แบบลูกสูบ

16. ถ้ำน้ำมันไฮดรอลิกพวงมำลัยเพำเวอร์มีอุณหภูมิต่้ำ ระดับน้ำมันควรอยู่ระดับใด


1. ระดับ HOT ของก้ำนวัด 2. ระดับ COLD ของก้ำนวัด
3. ระดับ MAX ของก้ำนวัด 4 ระดับ MIN ของก้ำนวัด

17. ขณะรถยนต์วิ่งด้วยควำมเร็วสูง เพื่อควำมปลอดภัยพวงมำลัยเพำเวอร์ควรมีลักษณะอย่ำงไร


1. มีควำมหนืดมำกขึน 2. มีควำมหนืดน้อยลง
3. มีควำมหนืดเท่ำเดิม 4. ไม่มีข้อใดถูก

18. ข้อใดไม่ใช่สำเหตุที่ท้ำพวงมำลัยหนักขณะเลียว
1. แรงดันลมยำงต่้ำ 2. สำยพำนระบบพวงมำลัยเพำเวอร์ขำด
3. โช้กอัพเกิดกำรรั่ว 4. ศูนย์ล้อเสีย

19. น้ำมันชนิดใดที่ใช้เติมลงในระบบไฮดรอลิกของพวงมำลัยเพำเวอร์
1. น้ำมันเครื่อง 2. น้ำมันเบรก
3. น้ำมันเกียร์ 4. น้ำมันเฟืองท้ำย

20. ข้อใดไม่ใช่สำเหตุที่ท้ำให้เกิดเสียงดังมำจำกชุดพวงมำลัยเพำเวอร์
1. มีอำกำศในระบบไฮดรอลิก 2. รอบเครื่องยนต์ต่้ำเกินไป
3. สำยพำนของระบบพวงมำลัยหย่อน 4. ฐำนรองรับปั๊มหลวม
21. อุปกรณ์ที่ท้ำหน้ำที่ลดหรือหน่วงควำมเร็วของรถยนต์ในขณะเคลื่อนที่คือข้อใด
1. ระบบพวงมำลัยก้ำลัง 2. ระบบรองรับน้ำหนัก
3. ระบบเบรก 4. ระบบส่งก้ำลัง

22. เบรกเฟดจะมีอำกำรเช่นใด
1. แป้นเบรกเหยียบแล้วจมลึกกว่ำปกติ 2. เบรกล็อคทุกล้อ
3. เบรกล็อคบำงล้อ 4. แป้นเบรกเหยียบไม่ลง

23. อำกำรเบรกเฟดเกิดขึนได้จำกสำเหตุใด
1. มีสำรหล่อลื่นเปื้อนที่ผ้ำเบรก 2. มีอำกำศในระบบไฮดรอลิก
3. เกิดควำมร้อนที่ระบบเบรก 4. มีน้ำขังอยู่ในระบบเบรก

24. หม้อลมเบรกจะอำศัยสุญญำกำศจำกที่ใด เพื่อช่วยเสริมก้ำลังในกำรเบรก


1. แม่ปั๊มเบรกไฮดรอลิก 2. ท่อร่วมไอดี
3. ท่อร่วมไอเสีย 4. พัดลม

25. ท่อทำงเดินน้ำมันเบรกนิยมผลิตมำจำกวัสดุใด
1. โลหะ วัสดุสังเครำะห์ 2. ยำงธรรมชำติ วัสดุสังเครำะห์
3. พลำสติกอ่อน ยำงธรรมชำติ 4. โลหะ พลำสติกอ่อน

26. เพรำะเหตุใดรถยนต์ในปัจจุบันจึงไม่นิยมใช้เบรกแบบกลไก
1. รำคำแพง 2. มีน้ำหนักมำก
3. บ้ำรุงรักษำยำก 4. สมรรถนะในกำรเบรกต่้ำ
27. ก้ำนกระทุ้ง (Pushrod) จะอยู่บริเวณใดของระบบเบรก
1. ระหว่ำงแป้นเหยียบกับแม่ปั๊มเบรก 2. ภำยในกระบอกสูบ
3. ภำยในลูกปั๊มเบรก 4. ระหว่ำงผ้ำเบรกกับ ลูกปั๊มเบรก

28. เพรำะเหตุใดภำยในแม่ปั๊มเบรกจึงมีลูกสูบ 2 ลูก


1. ถ้ำชุดลูกสูบชุดใดชุดหนึ่งเกิดกำรเสียหำย ยังมีอีกชุดหนึ่งที่ท้ำงำนได้
2. เพื่อเพิ่มแรงดันให้กับน้ำมันเบรก
3. เพื่อลดแรงในกำรเหยียบแป้นเบรกให้น้อยลง
4. เพื่อลดระยะในกำรเหยียบแป้นเบรกให้น้อยลง

29. เกรดของน้ำมันเบรกที่ก้ำหนดเป็น DOT ถ้ำค่ำยิ่งมำกจะมีคุณสมบัติใด


1. ดูดควำมชืนได้มำก 2. เกิดกำรยุบตัวได้น้อย
3. ขยำยตัวได้ดีเมื่ออุณหภูมิสูง 4. ทนอุณหภูมิได้มำกขึน

30. ในขณะเบรกถ้ำล้อเกิดกำรล๊อก จะเกิดกำรล๊อกที่ล้อใดได้ง่ำยมำกที่สุด


1. ล้อคู่หน้ำ 2. ล้อคู่หลัง
3. ล้อคู่ซ้ำย 4. ล้อคู่ขวำ
31. อุปกรณ์ใดที่ไม่ใช่ส่วนประกอบของระบบเบรกแบบจำน
1. แผ่นเบรก 2. คำลิเปอร์
3. ฝักเบรก 4. จำนเบรก

32. ถ้ำจำนเบรกเกิดกำรสึกหรอเป็นรอยที่หน้ำจำนควรท้ำอย่ำงไร
1. เปลี่ยนใหม่ 2. น้ำไปเจียร
3. ใช้ต่อไปเรื่อยๆจนบำงลง 4. น้ำไปพอกให้หนำขึน

33. ถ้ำในขณะเบรกเกิดกำรสั่นที่พวงมำลัยอำจจะเกิดมำจำกสำเหตุใด
1. ผ้ำเบรกหมด 2. จำนเบรกเกิดกำรคด
3. มีอำกำศในระบบไฮดรอลิก 4. ลูกปั๊มเบรกเกิดกำรติด
34. อุปกรณ์ใดที่ไม่มีอยู่ในระบบเบรกแบบดรัม
1. ตัวปรับระยะ 2. สปริงดึงกลับ
3. ฝักเบรก 4. คำลิเปอร์

35. สลักเบรกท้ำหน้ำที่ใด
1. ช่วยลดควำมร้อนในขณะเบรก
2. ป้องกันฝักเบรกถ่ำงออกมำกจนเกินไป
3. ยึดผ้ำเบรกให้ติดกับฝักเบรก
4. ล๊อกฝักเบรกไม่ให้เคลื่อนที่ไปพร้อมกับดรัม
36. เมื่อฝักเบรกพยำยำมที่จะหมุนตำมดรัมเบรกและไปดันสลักยึดฝักเบรกเกิดปฏิกิริยำแรงต้ำน ดรัมเบรกเพิ่ม
มำกขึน ปฏิกิริยำที่เกิดขึนเรียกว่ำอะไร
1. แรงช่วยเบรก 2. กำรเคลื่อนตัวตำม
3. กำรปรับระยะเบรก 4. กำรล๊อกตัวของเบรก

37. ระบบเบรกมือจะนิยมใช้กลไกใดเป็นตัวควบคุมกำรท้ำงำน
1. ไฮดรอลิก 2. แกนเหล็ก
3. สำยสลิง 4. เชือก

38. ดรัมเบรกที่ใช้ในรถยนต์มีหลักกำรท้ำงำนอย่ำงไร
1. ขยำยตัวและหุบเข้ำของฝักเบรก 2. ขยำยตัวเองในขณะจำนเบรกหมุน
3. หมุนเคลื่อนที่ตำมฝักเบรก 4. หุบตัวเองเข้ำในขณะจำนเบรกหมุน
39. รถยนต์ใช้สปริงอ่อนเกินไป หมำยควำมว่ำอย่ำงไร
1. สปริงมีกำรยุบตัวที่มำก 2. สปริงมีกำรยุบตัวที่น้อย
3. สปริงมีกำรกระเด้งมำก 4. สปริงมีกำรกระเด้งน้อย

40. รถยนต์ใช้สปริงแข็งเกินไป หมำยควำมว่ำอย่ำงไร


1. สปริงมีกำรยุบตัวที่มำก 2. สปริงมีกำรยุบตัวที่น้อย
3. สปริงมีกำรกระเด้งมำก 4. สปริงมีกำรกระเด้งน้อย

41. ระบบกันสะเทือนแบบใดที่สำมำรถรองรับน้ำหนักได้มำกและป้องกันอำกำรแกว่งหรือแถออกทำงด้ำนข้ำง
ได้ดี
1. แบบแผ่นหรือแหนบ 2. แบบทอร์ชั่นบำร์
3. แบบแขนสัน-แขนยำว 4. แบบแม็กเฟอร์สันสตรัท

42 จำกรูป หมำยเลข 4 คือชินส่วนใด

1. โตงเตง 2. สะดือแหนบ
3. หูแหนบ 4. สำแหรก
43. จำกรูปในข้อ 4) หมำยเลข 6 คือชินส่วนที่มีชื่อว่ำอะไร
1. โตงเตง 2. สะดือแหนบ
3. หูแหนบ 4. สำแหรก

44. บริเวณตอนกลำงของสปริงแผ่นจะใช้สลักเกลียวยูจ้ำนวนกี่อันต่อข้ำง เพื่อคล้องไว้กับเพลำท้ำยในแต่ละ


ข้ำง
1. 1 อัน 2. 2 อัน
3. 3 อัน 4. 4 อัน

45. จำกรูป หมำยเลข 1 จะน้ำไปต่อกับชินส่วนใดของรถยนต์

1. โครงรถ 2. หูแหนบ
3. โช้กอัพ 4. แขนสวิงหลัง

46. จำกรูปในข้อ 7) หมำยเลข 6 คือชินส่วนใด


1. หูแหนบ 2. แขนควบคุม
3. ทอร์ชั่นบำร์ 4. แขนสวิงหลัง

47. ข้อต่อแบบลูกปืนสำมำรถเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ ว่ำอะไร


1. ลูกหมำก 2. โตงเตง
3. เบ้ำลูกปืน 4. แขนควบคุม

48. ระบบรองรับน้ำหนักแบบแผ่น แผ่นที่จะยำวที่สุดจะวำงอยู่ชันใด


1. ชันบนสุด 2. ชันกลำงของ
3. ชันล่ำงสุด 4. แล้วแต่กำรออกแบบ
49. โช้กอัพจะอำศัยหลักกำรท้ำงำนอย่ำงไร
1. อัดและขยำยแรงดันน้ำมัน
2. เกิดแรงต้ำนกับแรงกระแทกของตัวถังรถยนต์
3. แรงต้ำนของน้ำมันที่บรรจุอยู่ในกระบอก
4. ใช้สปริงที่มีควำมแข็ง

50. ลินลูกสูบที่ติดตังอยู่ที่แกนลูกสูบมีหน้ำที่ใด
1. ป้อนแรงต้ำนขณะที่โช้กอัพยุบตัว 2. ป้อนแรงต้ำนขณะที่โช้กอัพยืดตัว
3. ควบคุมแรงดันให้เท่ำกับบรรยำกำศ 4. แบ่งแยกห้องระหว่ำงน้ำมันกับอำกำศ
51. ห้องเก็บน้ำมันส้ำรองที่อยู่ในโช้กอัพแบบกระบอกคู่ท้ำหน้ำที่ใด
1. เพิ่มแรงดันน้ำมันให้กับกระบอกโช้กอัพ
2. ลดแรงดันน้ำมันให้กับกระบอกโช้กอัพ
3. เก็บน้ำมันเอำไว้เพื่อถ่ำยเทเข้ำกระบอกโช้กในขณะยุบตัวและยืดตัว
4. เก็บน้ำมันส้ำรองเอำไว้ใช้เวลำที่โช้กอัพเกิดกำรรั่ว

52. โดยทั่วไปรถยนต์คันหนึ่งจะติดตังโช้กอัพไว้กี่ตัว
1. 2 ตัว 2. 4 ตัว
3. 6 ตัว 4. 8 ตัว

53. ถ้ำโช้กอัพเกิดกำรรั่วควรจะท้ำอย่ำงไร
1. น้ำมำอัดน้ำมันใหม่ 2. เปลี่ยนใหม่เฉพำะต้นที่เสีย
3. เปลี่ยนใหม่เป็นคู่ 4. สำมำรถถอดออกได้เลย
54 โช้กอัพชนิดบรรจุก๊ำซมีข้อดีกว่ำโช้กอัพชนิดน้ำมันอย่ำงไร
1. รำคำถูกกว่ำ 2. น้ำหนักเบำ
3. ปริมำณกำรเกิดฟองในน้ำมันมีน้อย 4. มีควำมสวยงำมกว่ำ

55 จำกรูป หมำยเลข 1 คือข้อต่อชนิดใด

1. ข้อต่ออ่อน 2. ข้อต่อรับน้ำหนัก
3. ข้อต่อยึด 4. ข้อต่อหมุน

56. จำกรูปในข้อ 7 หมำยเลข 2 คือข้อต่อชนิดใด


1. ข้อต่ออ่อน 2. ข้อต่อรับน้ำหนัก
3. ข้อต่อยึด 4. ข้อต่อหมุน

57. โพรงอำกำศในกระบอกโช้กอัพเกิดขึนได้อย่ำงไร
1. เกิดช่องว่ำงเมื่อน้ำมันภำยในโช้กอัพไหลด้วยควำมเร็วสูง
2. เกิดช่องว่ำงเมื่อโช้กอัพยุบตัวอย่ำงรวดเร็ว
3. เกิดช่องว่ำงเมื่อโช้กอัพยืดตัวอย่ำงรวดเร็ว
4. เกิดช่องว่ำงเมื่อน้ำมันในโช้กอัพไหลตัวอย่ำงช้ำๆ ขณะโช้กอัพยืด
58. กำรตรวจสอบสปริงขดที่ติดตังในรถยนต์สำมำรถตรวจสอบได้โดยวิธีใด
1. วัดเปรียบเทียบควำมสูงของรถด้ำนซ้ำยและด้ำนขวำ
2. ยกรถยนต์ขึนแล้วเขย่ำล้อดู
3. วัดเปรียบเทียบควำมสูงของรถด้ำนหน้ำและด้ำนหลัง
4. วัดเปรียบเทียบควำมสูงระหว่ำงรถยนต์อีกคันหนึ่ง
59. จำกรูป หมำยเลข 3 คือส่วนประกอบใดของยำง

1. แก้มยำง 2. ดอกยำง
3. ร่องยำง 4. แผ่นหน้ำยำง

60. จำกรูปในข้อ 1) หมำยเลข 4 คือส่วนประกอบใดของยำง


1. แก้มยำง 2. ดอกยำง
3. ร่องยำง 4. แผ่นหน้ำยำง

61. จำกรูปในข้อ 1) หมำยเลข 5 คือส่วนประกอบใดของยำง


1. แก้มยำง 2. ดอกยำง
3. ร่องยำง 4. แผ่นหน้ำยำง

62. ยำงรถยนต์ที่ใช้ในปัจจุปัน จะเป็นยำงรถยนต์แบบใด


1. แบบไม่ใช้ยำงใน 2. แบบใช้ยำงใน
3. แบบตัน 4. แบบกลวง

63. 225/45R17 ตัวอักษร R หมำยถึงอะไร


1. ควำมกว้ำงของหน้ำยำง 2. รัศมีของกระทะล้อ
3. ควำมสูงของแก้มแยง 4. ยำงชนิดเรเดียล
64. ควำมร้อนที่เกิดขึนกับยำงในขณะที่รถยนต์เคลื่อนที่มีสำเหตุมำจำกข้อใด
1. โครงสร้ำงของยำง 2. แรงดันลมยำง
3. น้ำหนักบรรทุก 4. ถูกทุกข้อ

65 ถ้ำยำงรถยนต์เกิดระเบิดขึน ไม่ได้เกิดขึนจำกสำเหตุใด
1. ดอกยำงมีลักษณะแหลม 2. ควำมร้อนที่เกิดขึนกับยำง
3. น้ำหนักบรรทุกมำกเกินไป 4. แรงดันลมยำง
66. ขณะขับรถด้วยควำมเร็วสูงในที่ๆ ฝนตกควรปฏิบัติอย่ำงไร
1. เติมลมยำงให้แข็งกว่ำปกติเล็กน้อย 2. ปล่อยลมยำงให้อ่อนกว่ำปกติเล็กน้อย
3. ปล่อยลมยำงให้ลมยำงอ่อน 4.เลือกใช้ยำงหน้ำเรียบเพื่อเพิ่มกำรยึดเกำะ

67. จำกรูป เป็นกำรจัดของโครงผ้ำใบของยำงแบบใด

1. ยำงธรรมดำ 2. ยำงธรรมดำเสริมแผ่นรองรับ
3. ยำงสลิก 4. ยำงเรเดียล

68. เพรำะเหตุใดรถยนต์ที่วิ่งทำงไกลๆ และใช้ควำมเร็วสูงจึงต้องเติมลมยำงมำกกว่ำที่ก้ำหนดไว้ประมำณ


2 – 4 ปอนด์ต่อตำรำงนิว
1. เพื่อให้อัตรำเร่งดีขึน 2. ป้องกันยำงระเบิด
3. บังคับเลียวได้ง่ำยขึน 4. ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน
69. กระทะล้อเหล็กแบบแผ่นอัดขึนรูปมีลักษณะโครงสร้ำงอย่ำงไร
1. เป็นเหล็กแผ่นอัดขึนรูปทังส่วนขอบและส่วนกลำงแล้วเชื่อมเข้ำด้วยกัน
2. เป็นเหล็กหล่อโลหะผสมน้ำหนักเบำทังหมด
3. เป็นเหล็กแผ่นอัดขึนรูปเฉพำะส่วนกลำงเท่ำนัน
4. เป็นเหล็กแผ่นอัดขึนรูปเฉพำะส่วนขอบเท่ำนัน

70. ล้อแมกที่ใช้กับรถยนต์นั่งท้ำจำกโลหะประเภทใด
1. เหล็กหล่อ 2. เหล็กแผ่นอัดขึนรูป
3. เหล็กหล่อผสมเหล็กแผ่น 4. อะลูมิเนียมหรือแมกนีเซียม

71. วิธีกำรสมดุลยำงให้ได้ผลดีที่สุดควรสมดุลยำงแบบใด
1. กำรสลับยำง 2. แบบสถิต
3. แบบไดนำมิกส์ 4. เปลี่ยนยำงใหม่

72. ศูนย์ล้อรถยนต์มีควำมส้ำคัญอย่ำงไร
1. ท้ำให้กำรบังคับเลียวดีขึน 2. ป้องกันกำรสึกหรอของยำง
3. กำรบังคับขณะเลียวเข้ำโค้งดี 4. ถูกทุกข้อ
73. มุมที่ล้อหน้ำส่วนบนเอียงออกหรือเอียงเข้ำท้ำมุมในแนวดิ่งเรียกว่ำมุมใด
1. มุมแคมเบอร์ 2. มุมแคสเตอร์
3. มุมโท 4. มุมคิงพิน

74. มุมที่ล้อหน้ำส่วนบนเอียงเข้ำท้ำมุมในแนวดิ่งเรียกว่ำมุมใด
1. มุมแคมเบอร์บวก 2. มุมแคมเบอร์ลบ
3. มุมแคสเตอร์บวก 4. มุมโทอิน
75 ตลับลูกปืนตัวในจะมีลักษณะอย่ำงไร
1. ขนำดเล็กกว่ำตัวนอก 2. ขนำดใหญ่กว่ำตัวนอก
3. ขนำดเท่ำกับตัวนอก 4. มีลักษณะเป็นเม็ดกลม

76. ถ้ำตลับลูกปืนมีรอยไม้ควรท้ำอย่ำงไร
1. ถอดออกมำล้ำง 2. อัดจำระบีเพิ่มเข้ำไป
3. เป็นปกติของลูกปืน 4. เปลีย่ นใหม่

77. ถ้ำยำงรถยนต์เกิดกำรสึกตำมรูป แสดงว่ำเกิดจำกมุมใด

1. มุมแคมเบอร์มำกเกินไป 2. มุมแคมเบอร์น้อยเกินไป
3. มุมแคสเตอร์มำกเกินไป 4. มุมแคสเตอร์น้อยเกินไป

78. จำกรูปบริเวณหมำยเลข 1 คือมุมใด

1. มุมโท 2. มุมคิงพิน
3. มุมแคสเตอร์ 4. ระยะแคสเตอร์ตำม
79. โครงสร้ำงของระบบรองรับน้ำหนักแหนบช่วยประกอบด้วยชินส่วนใด
1. แหนบหลัก แหนบช่วย โตงเตง สลักยึดแหนบ โช้กอัพ
2. แหนบหลัก แหนบช่วย โตงเตง สลักยึดแหนบ ก้ำนลูกหมำก
3. แหนบหลัก แหนบช่วย โตงเตง สลักยึดแหนบ แป้นยึดเพลำโบกี
4. แหนบหลัก แหนบช่วย โตงเตง สลักยึดแหนบ โช้กอัพ ก้ำนลูกหมำก

80.กำรบ้ำรุงรักษำระบบรองรับน้ำหนักรถบรรทุก ควรปฏิบัติอย่ำงไร
1.อัดจำระบีเข้ำจุดหล่อลื่นต่ำงๆ
2. ทำจำระบีหล่อลื่นแหนบแต่ละแผ่น
3. ทำจำระบีหล่อลื่นส่วนปลำยของแผ่นแหนบ
4.ทำจำระบีหล่อลื่นสลักยึดหูแหนบและสำแหรกแหนบ
ตอนที่2 จงเติมเครื่องหมายถูกหน้าข้อที่กล่าวถูกต้อง และเติมเครื่องหมายผิดหน้าข้อที่กล่าวไม่ถูกต้อง
(......) 1. ระบบรองรับน้ำหนักแบบคำนแข็งสำมำรถควบคุมรถในที่ขรุขระได้ดี
(......) 2. ระบบรองรับน้ำหนักไม่จ้ำเป็นต้องใช้โช้ก
(......) 3. รถยนต์ที่มีจุดส่วนถ่วงต่้ำจะท้ำให้สำมำรถควบคุมรถได้ง่ำยขึน
(......) 4. สลิปแองเกิลคือกำรฟรีของล้อในขณะที่ออกตัวแรง
(......) 5. โอเวอร์สเตียร์คือกำรพลิกคว่้ำของรถ
(......) 6. กำรเฉลี่ยน้ำหนักของรถที่ดีควรให้น้ำหนักอยู่ล้อหน้ำและล้อหลังเป็น 50:50
(......) 7. กำรถ่ำยเทน้ำหนักก็สำมำรถเกิดขึนได้ในขณะที่เลียวโค้งด้วยควำมเร็วสูง
(......) 8. กำรเพิ่มควำมดันลมยำงจะช่วยลดกำรเกิดคลื่นเพรำะลมยำงมำกขึน ท้ำให้กำรบิดตัวของ
หน้ำยำงกลับสู่สภำพปกติเร็วขึน
(......) 9. กำรเกิดคลื่นในโครงสร้ำงยำงจะไม่ท้ำให้รถสั่นสะเทือน
(......) 10. กำรลื่นไถลบนน้ำเกิดจำกลิ่มของน้ำดันหน้ำยำงให้ลอยตัวพ้นพืน
(......) 11. ชุดเฟืองขับและเฟืองสะพำนจะท้ำหน้ำที่ เปลี่ยนกำรเคลื่อนที่เชิงมุมให้เป็นกำรเคลื่อนที่เชิงเส้น
และท้ำกำรทดรอบของกำรหมุน
(......) 12. ระบบบังคับเลียวแบบลูกปืนหมุนเวียนใช้ส้ำหรับรถยนต์ที่ขนำดใหญ่และหนัก เพรำะระบบนีจะมี
ควำมฝืดค่อนข้ำงน้อยและมีข้อได้เปรียบเชิงกลค่อนข้ำงดี
(......) 13. ระบบพวงมำลัยก้ำลังช่วยให้หมุนพวงมำลัยน้อย แต่ได้กำรบิดตัวของล้อที่มำก
(......) 14. ปั๊มก้ำลังที่ใช้ในระบบพวงมำลัยก้ำลังส่วนใหญ่จะเป็นแบบโรเตอร์ใบพัด
(......) 15. กำรไหลของน้ำมันในระบบไฮดรอลิกจะสูงขึนเมื่อรอบเครื่องยนต์สูง ซึ่งไม่สำมำรถ
ควบคุมได้
(......) 16. ในขณะที่รถวิ่งในแนวตรงจ้ำเป็นที่จะต้องมีแรงช่วยหมุนพวงมำลัยก้ำลัง
(......) 17. ถ้ำมีอำกำศในระบบไฮดรอลิกจะท้ำให้เกิดเสียงดัง
(......) 18. ถ้ำลมยำงอ่อน ไม่มีส่วนเกี่ยวกับพวงมำลัยหนักขณะเลียว
(......) 19. ปั๊มพวงมำลัยเพำเวอร์จะได้รับก้ำลังมำจำกมอเตอร์
(......) 20. ลินควบคุมในกระปุกเฟืองบังคับเลียวของพวงมำลัยก้ำลังจะอยู่ในต้ำแหน่งบนเมื่อหมุนพวงมำลัย
ไปต้ำแหน่งกึ่งกลำง

You might also like