เลิกโง่เชิงประจักษ์ มิ.ย. 65

You might also like

You are on page 1of 33

0|Page

สารบัญ
คนทีไ่ ม่มีครู ชัยฏอนจะเป็ นครูของเขา ....................................... 2
บทเรียนจากบะลาอ์ทเี่ ราต้องยา้ เตือน ......................................... 6
ขมวดประเด็นญินเข้าสิงมนุษย์ ................................................. 12
เมื่อพ่อแม่ห้าม “ลูกชาย” ไม่ให้แต่งงาน ..................................... 22

1|Page
ซีรี่ยเ์ ลิกโง่เชิงประจักษ์ตอนที่ 1 :

คนทีไ่ ม่มีครู ชัยฏอนจะเป็ นครูของเขา


ตอนที่เรากลับเนือ้ กลับตัวจากบาปต่าง ๆ ที่เคยทามาและหันมา
ให้ความรู ส้ าคัญกับศาสนา เรามักจะได้ยินพี่น้องมุสลิมบางกลุ่มมักจะ
ชอบยกคาพูดหนึ่งที่ว่า “ใครที่เรียนโดยที่ไม่ผ่านครู ชัยฏอนจะเป็ นของ
เขา” โดยที่คาพูดนีก้ ็มกั จะสร้างความสับสนให้กบั มุสลิมที่ไม่มีความรู แ้ ละ
ความสามารถในการแยกแยะข้อเท็จจริงได้และสกัดกัน้ ความพยายามใน
การแสวงหาความรูท้ ่ถี กู ต้อง ซึ่งบางคนก็หลงเชื่อคาพูดนีจ้ นกระทั่งไปตาม
คนที่ไม่มีความรู จ้ ริง เพราะด้วยกับคาขู่ว่าการไม่มีครู นั้นรุ นแรงถึงขนาด
ที่ ว่ า ชัย ฏอนจะเป็ น ครู ข องเขาและน ามาซึ่งการตกศาสนาในท้ายที่ สุด
อย่างไรก็ตาม คาพูดฉบับเต็มของคาพูดยอดฮิตติดกระแสนีค้ ือ

“ใครก็ตามทีไ่ ม่มค ชัยฏอนจะเป็ นครูของเขา และเมือ่ ใดทีค่ รู


ี รู
ของเขาคือชัยฏอน เขาก็จะตกอยู่ในการปฏิเสธศรัทธา (กุฟร์) จนกว่าเขา
จะกลับมายึดครูทเี่ พียบพร้อมด้วยจรรยามารยาทของพระผูท้ รงเมตตาเป็ น
ครูของเขา”

จากหนังสือ :

1. หนังสืออัลบะฮ์ญะฮ์ อัซซะนียะฮ์ ฟี อาด๊าบ อัฏเฏาะรีก๊ อัล


คอลิดียะฮ์ อันนักชะบันดียะฮ์ โดยมูฮมั หมัด บิน อับดุลลอฮ์ อัลคอนีย ์
หน้าที่ 47

2|Page
2. หนังสือนูร
อัลฮิดายะฮ์ วัลอิรฟาน ฟี ซิร อัรรอบิเฏาะฮ์ วัต
ตะวัตญุฮ์ วะ เคาะตัม อัลเคาะวาญะกาน โดยมูฮมั หมัด อัซอั๊ด

แล้วข้อเท็จจริงสาหรับคาพูดนีค้ ืออะไรกันแน่ ?

ชัยค์อบั ดุลอะซีซ บิน บาซ (ขออัลลอฮ์ทรงเมตตาท่าน) ได้เคย


ชีแ้ จงถึงคาพูดที่สร้างความคลุมเครือนีเ้ อาไว้ ชัยค์ท่านตอบว่า

“คานี่คือคาพูดที่ผิดเพีย้ นและโง่เขลาของคนไม่รูศ้ าสนา (อะวาม)


เพราะแท้จริงมนุษย์นั้น หากเขาเรียนรู แ้ ละถ่องแท้ในศาสนาของตัวเอง
จากวงหะละเกาะฮ์วิ ช าการหรื อ ใคร่ค รวญอัลกุร อานหรื อ ใช้ป ระโยชน์
จากอัลกุรอาน หรืออ่านหะดีษหรือใช้ประโยชน์จากหะดีษ เขาก็ไม่ควรที่
ถูกกล่าวว่า ครู ของเขาคือชัยฏอน เขาควรจะถูกกล่าวว่า แท้ จริงเขาได้
พยายามขวนขวายและทาในสิ่งที่เขาสมควรทาแล้ว แต่ทว่าจาเป็ นสาหรับ
เขาที่จะต้องปฏิสัมพันธ์ติดต่อกับอุละมาอ์และซักถามพวกท่านบ้าง อุ
ละมาอ์ท่ีเป็ นที่รบั รูก้ ันถึงอะกีดะฮ์ท่ีถกู ต้อง (ของเขา) เพราะหากว่าเขาไม่
ถามผูร้ ู เ้ ลย บางทีความผิดพลาดก็จะมากขึน้ อันเนื่องมาจากการยึดเอา
ความเข้าใจของเขาเอง และเมื่อเขามาเพื่อเข้าร่วมวงหะละเกาะฮ์ความรู ้
และมาเพื่อรับฟั งบรรดาคาตักเตือน ก็ถือว่าเขานัน้ มีครู มากมาย เพราะ
แท้จริงแล้ว เจ้าของวงหะลเกาะฮ์วชิ าการหรือคุตบะฮ์วนั ศุกร์ก็ถือว่าเป็ นครู
ของบรรดาผูฟ้ ั ง ฉะนัน้ จึบไม่สมควรพูดว่าพวกเขาไม่มีครู เพราะคนที่มา
หะละเกาะฮ์ความรู ้ ฟั งคุตบะฮ์วนั ศุกร์ ฟั งคุตบะฮ์วนั อีดและบรรยายต่างๆ
ที่จดั ขึน้ ในบรรดามัสยิดและสถานที่อื่นๆ พวกเขาเหล่านีท้ กุ คนคือ ครูของ

3|Page
เขาที่เขาจะได้รบั ประโยชน์จากคนพวกนี ้ และหากจะเจาะจงอุละมาอ์ซุน
นะฮ์คนใดคนหนึ่งเพื่อถามปั ญหากับเขา นี่ก็ถือว่าเป็ นส่วนหนึ่งของความ
สมบูรณ์แบบและครบถ้วน และจะไม่มีใครกล่าวว่า ใครที่ไม่มีครู ครูของ
เขาคือชัยฏอน คนที่ใช้คาพูดนีท้ กุ คนนัน้ ไม่มีท่มี าที่ไป

ฉะนั้น จ าเป็ น ที่ ผู้แ สวงหาความรู จ้ ะต้องมีบ รรดาครู ท่ี ไว้คอย


สอบถามและรับประโยชน์จากพวกเขา ซึ่งมนุษย์นนั้ เรียนรูด้ ว้ ยตัวเองไม่ได้
เด็ดขาด จาเป็ นต้องพึ่งพาการฟั งอุละมาอ์ในวงหะละเกาะฮ์ของพวกเขา
ในคุตบะฮ์ต่างๆ ของพวกเขาและที่อื่นๆ ของพวกเขา ครับ”

แหล่งข้อมูล :
1.
https://www.dorar.net/firq/2562/%D8%A7%D9%84
%D9%85%D8%B7%D9%84%D8%A8-
%D8%A7%D9%84%D8%B3%D8%A7%D8%AF%D8%B3:-
%D9%85%D9%86-%D9%84%D8%A7-
%D8%B4%D9%8A%D8%AE-%D9%84%D9%87-
%D9%81%D9%87%D9%88-
%D9%83%D8%A7%D9%81%D8%B1-
%D9%88%D9%81%D8%A7%D8%B3%D9%82-
%D8%B9%D9%86%D8%AF%D9%87%D9%85 ค้นเมื่อวันที่ 3
มิถนุ ายน ค.ศ. 2022
2.
https://binbaz.org.sa/fatwas/6023/%D8%AD%D9%83
%D9%85-%D9%82%D9%88%D9%84-%D9%85%D9%86-
%D9%84%D9%8A%D8%B3-%D9%84%D9%87-

4|Page
‫‪%D8%B4%D9%8A%D8%AE-‬‬
‫‪%D8%B4%D9%8A%D8%AE%D9%87-‬‬
‫‪%D8%A7%D9%84%D8%B4%D9%8A%D8%B7%D8%A7%D9%8‬‬
‫‪6 ค้นเมื่อวันที่ 3 มิถน‬‬
‫‪ุ ายน ค.ศ. 2022‬‬

‫أقول قويل هذا واس تغفر هللا يل ولوادلي ومجليع املسلمني يف لك‬
‫ماكن‬

‫‪5|Page‬‬
ซีรี่ยเ์ ลิกโง่เชิงประจักษ์ตอนที่ 2 :

บทเรียนจากบะลาอ์ทเี่ ราต้องยา้ เตือน

นะศีฮะฮ์จากชัยค์อาดิล้ อัซซัยยิด (ขออัลลอฮ์ทรงปกปักรักษาท่าน)


ปราชญ์ซะละฟี ยใ์ นอียิปต์

ผูถ้ าม : อัซซะลามู่อะลัยกุม วะเราะมะตุลลอฮ์ วะบะรอกาตุฮ์

ผมต้องการคาตักเตือนและคาสั่งเสียเพื่อที่วา่ ฉันจะได้อดทนกับ
บททดสอบของผม แท้จริงแล้ว ผมสูญเสียการมองเห็นไปและเนื่องด้วย
เหตุนี ้ ผมเสียใจมาโดยตลอดครับ ขออัลลอฮ์ประทานความจาเริญ (บะ
เราะกะฮ์) ให้แก่ทา่ นครับ

ชัยค์อาดิล้ : ‫بسم هللا والصالة والسالم عىل رسول هللا‬

พึงทราบเถิด มนุษย์ทุกคนล้วนแล้วอยู่ในดุนยาในสภาพของผู้
ถูกทดสอบ และแท้จริงดุนยานัน้ คือสถานแห่งการทดสอบและสถานแห่ง
การลงบะลาอ์ เราอยู่ในดุนยานีล้ ว้ นแล้วแต่เป็ นผูเ้ ผชิญหน้ากับบททดสอบ
บางทีก็ถูกทดสอบด้วยกับเนี๊ยะมะฮ์ท่ีมาคู่กับการขอบคุณ และบางทีก็ก็
ถูกทดสอบด้วยกับภัยพิบัติท่ีมาคู่กับความอดทน พวกเราอยู่ในระหว่าง
สองสิ่งนีค้ รับ อัลเลาะฮ์ ตะอาลา ได้ทรงตรัสว่าในเรื่องราวของนบีอยั ยูบ
อะลัยฮิศเศาะลาตุวสั สลาม ซึ่งพระองค์ได้ทรงตรัสถึงเขาว่า

6|Page
‫) فَا ْس َت َج ْب َنا َ َُل فَ َكشَ ْفنَا َما يب يه‬83( ‫اِح َني‬ ‫الُّض َو َأ َنت َأ ْر َح ُم َّالر ي ي‬ ُّ ُّ ‫وب ا ْذ َنَ د َٰى َرب َّ ُه َأ ي ِّن َم َّس ي َِن‬
َ ُّ ‫َو َأي‬
ِ
‫ض ۖ َوأتَيْنَا ُه َأه َ َُْل َو يمثْلَهُم َّم َعهُ ْم َر ْ َِح ًة يِم ْن يعن يدَنَ َو يذ ْك َر ٰى ليلْ َعا يب يد َين‬ٍّ ِ ُ ‫يمن‬
และจงนึ กถึงเรื่องราวของอัยยูบเถิด เมื่อเขาได้รอ้ งเรียนพระ
เจ้าของเขาว่า “แท้จริงความทุกข์ยากได้ประสบแก่ข้าพระองค์เสียแล้ว
และพระองค์เท่านัน้ เป็ นผูท้ รงเมตตายิ่งในหมู่ผเู้ มตตาทัง้ หลาย ดังนัน้ เรา
ได้ตอบรับการร้องเรียนของเขา แล้วเราได้ปลดเปลือ้ งสิ่งที่เป็ นความทุก ข์
ยากแก่เขา และเราได้ให้ครอบครัวของเขาแก่เขา และเช่นเดียวกับที่เขาได้
เคยมีมาก่อน (เช่น บุตรหลานและพวกพ้อง) เนื่องจากเป็ นความเมตตา
จากเรา และเป็ นอุทาหรณ์แก่บรรดาผูท้ ่ีเคารพภักดี (อัลอัมบิยาอ์ : 83 -
84)

และอัลเลาะฮ์ ตะอาลา ได้ทรงตรัสไว้ในซูเราะฮ์ศอดว่า


‫َو يذ ْك َر ٰى ي ُِل يويل ْ َاِللْ َب ياب‬
และเป็ นอุทาหรณ์แก่ผมู้ ีสติใคร่ครวญทัง้ หลาย (ศอด : 43)

ฉะนั้น แล้ว บรรดาผู้มี สติ ใ คร่ค รวญ ผู้ท่ี ห มั่น อิ บ าดะฮ์แ ละอุ
ละมาอ์นั้นจะไม่คิดว่า แท้จริงเมื่ออัลลอฮ์จะทดสอบบ่าวคนหนึ่งด้วยกับ
ความยากจน หรือการเจ็บป่ วย หรือสูญเสียดวงตาทัง้ สองข้างของตัวเอง
หรือการสูญเสียลูกหลานของตัวเองหรือสูญเสียสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทาน
ให้แก่เขา เขาจะไม่คิดว่าสิ่งเหล่านีน้ นั้ คือสิ่งที่อลั ลอฮ์ผทู้ รงเป็ นพระผูท้ รง
เจ้าแห่งจักรวาลทัง้ ผองได้ทรงห้าม (โดยการไม่ประทานเนี๊ยมะฮ์ให้แก่เขา)
เพียงเพราะพระองค์ดถู กู เขาหรือด้อยค่าเขาแต่อย่างใดไม่

7|Page
อันที่จริงมันคือการลงบะลาอ์และการทดสอบ บางทีมนั อาจจะ
เป็ นสาเหตุหนึ่งในการที่จะนาพาเขาไปสู่ลาดับขั้นที่สูงขึน้ เป้าหมายที่
สูงขึน้ ด้วยเหตุนี ้ นบีอยั ยูบ อะลัยฮิสสลาม ผูเ้ ป็ นบ่าวของพระองค์ นัน้
ทรงเป็ น นบี ท่ี ถูก บททดสอบต่ า งๆ นานา เพราะเขาสูญ เสี ย สุข ภาพที่
แข็งแรงไป กลายเป็ นคนป่ วยที่เป็ นโรคเรือ้ รังที่คนใกล้และคนไกลต่างก็ทงิ ้
เขาไปเพราะเหตุนี ้ เขาสูญเสียลูกๆ ของตัวเองไป เขาสูญเสียทรัพย์สิน
เงินทองและเขาก็สญ ู เสียทุกสิ่งทุกอย่าง จนกระทั่งลูกศิษย์ของเขาบางคน
และคนที่ศึกษาร่าเรียนจากเขาเริ่มพูดด้วยกับคาพูดที่สะเทือนใจเขาอย่าง
มาก “แท้จ ริง อัย ยูบ ได้ท าบาปอัน เป็ น บาปที่ ไม่ มี ใ ครในโลกใบนี ้ได้ท า
กระทามัน และด้วยเหตุนอี ้ ลั เลาะฮ์จึงลงโทษเขา”

ท่านนบี ‫ ﷺ‬กล่าวว่า เขาทนอยู่การถูกทดสอบของตัวเองนีแ้ ละ


อยู่ในภัยพิบตั ิของตัวเองเป็ นเวลา 18 ปี

18 ปี แห่งการถูกทดสอบ

พระผูท้ รงเจ้าแห่งจักรวาลทัง้ ผองได้กล่าวว่า “เพื่อเป็ นอุทาหรณ่


แก่ผเู้ คารพภักดี (‫ ”)ذكرى للعابدين‬เพื่อไม่ให้พวกเขาคิดว่าเมื่ออัลลอฮ์จะทรง
ทดสอบบ่าวคนหนึง่ คนใดจากบรรดาบ่าวของพระองค์ พระองค์จะทรง
ทดสอบเขาเพื่อเป็ นการทรมานพวกเขาหรือดูถกู เขา หรือเพื่อด้อยค่าพวก
เขา ฯลฯ

และด้วยเหตุนีท้ ่านเราะซูล ‫ ﷺ‬จึงได้กล่าวหะดีษการนาคาดารัส


ของอัลเลาะฮ์มาถ่ายทอด ซึ่งเป็ นหะดีษกุดซียว์ ่า “เมื่อข้าได้ทดสอบบ่าว
8|Page
ของข้า ด้ว ยกับ สิ่ ง ที่ เขารัก ทั้งสอง แล้ว เขาก็ อ ดทน ข้า ก็ ท ดแทนสวน
สวรรค์แก่เขา” พระองค์หมายถึง ดวงตาทั้งสองข้างของบ่าว รายงาน
โดยอัลบุคอรีย ์

กล่าวคือ อัลเลาะฮ์จะทรงตอบแทนอันเป็ นการตอบแทนด้วย


สวนสวรรค์ให้แก่เขา

ลองใช้วิจารณาของคุณดูนะครับว่า บรรดาคนดีมีศาสนาชั้น
อาวุโสบางคนนั้น พวกเขาก็สูญเสียการมองเห็นของพวกเขาไป หนึ่งใน
นัน้ คือ อิหม่ามอับดุลลอฮ์ บิน อับบาส

บางทีคนส่วนใหญ่นั้นไม่รูข้ อ้ มูลเรื่องนี ้ อิหม่ามอับดุลลอฮ์ บิน


อับ บาสคื อ ผู้ถ่ า ยทอดอัลกุร อานและเป็ นลูก ของผู้เ ป็ น ลุงของเราะท่าน
ซูลลุ้ ลอฮ์ ‫ ﷺ‬เขานั้นสูญเสียการมองเห็นไปในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่เขาจะ
เสียชีวิต เขาเสียในสภาพที่ตาบอด (ขออัลลอฮ์ทรงพึงพอพระทัยท่าน) ผูร้ ู ้
ศาสนาหลายคนก็ตาบอด (ขออัลลอฮ์ทรงเมตตาท่าน)

ฉะนัน้ พวกเขาทัง้ หมดนีล้ ว้ นแล้วแต่เป็ นไปตามคาพูดของท่าน


เราะซู ลุ้ลอฮ์ ‫ ﷺ‬ในหะดี ษ กุดซี ยจ์ ากพระเจ้าผู้ท รงสูง เกี ย รติ ซึ่ง มันคือ
แบบอย่ า งและอุท าหรณ์ใ ห้พ วกเขาลื มความสิ น้ หวังของพวกเขาอย่าง
แท้จริง ทาไมน่ะเหรอ เพราะพวกเขานัน้ ได้รบั สวนสวรรค์แทนดวงตาของ
พวกเขา

9|Page
ฉะนั้น จงท าให้สวนสวรรค์อัน สถาพรนั้น เป็ น สิ่ ง ที่ จ ะมาแทน
ดวงตาของคุณ (ผูถ้ าม) นะครับ และลองใช้วิจารณาของคุณสิว่า คุ ณเอง
ก็ตอ้ งเห็นพระเจ้าของคุณในทุกช่วงวาระโอกาสจากความพึงพอใจของคุณ
และคุณก็จะพยายาม เพราะคุณจะเป็ นคนที่พอใจ อดทน คุณจะกล่าว
ว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์คือผูท้ ่อี ดทนกับเรื่องนี”้ แล้ว
คุณก็จะอดทนกับบทดสอบต่างๆ ของคุณครับ

อัลเลาะฮ์ ตะอาลา กล่าวว่า


‫يَش ٍّء يِم َن الْخ َْو يف َوالْ ُجوعي َون َ ْق ٍّص يِم َن ْ َاِل ْم َوالي َو ْ َاِلن ُف يس َوالثَّ َم َر يات ۗ َوب ي ِ ي‬
‫َّش ال َّصا يب ير َين‬ ْ َ ‫َولَ َن ْبلُ َونَّ ُُك ب‬
ٌ‫) ُأولَ ئي َك عَلَْيْ ي ْم َصلَ َوات‬156( ‫ون‬ َ ‫) َّ ياَّل َين ا َذا َأ َصابَْتْ ُم ُّم يصي َب ٌة قَالُوا اَنَّ ي َّ يّلِل َواَنَّ الَ ْي يه َراجي ُع‬155(
ِ ِ ِ ِ
َ ُ‫يِمن َّر ي ِ يّب ْم َو َر ْ َِح ٌة ۖ َو ُأولَ ئي َك ُ ُُه الْ ُمهْ َتد‬
‫ون‬
และแน่นอน เราจะทดลอบพวกเจ้าด้วยสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากความ
กลัวและความหิวโหย และทดสอบด้วยความสูญเสีย (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
จากทรัพย์สมบัติ ชีวิต และพืชผล และเจ้าจงแจ้งข่า วดีแก่บรรดาผูอ้ ดทน
เถิด บรรดาผูท้ ่ีเมื่อมีเคราะห์รา้ ยมาประสบแก่พวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่า
“แท้จริงพวกเราเป็ นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และแท้จริงพวกเราจะกลับไปยัง
พระองค์” กลุ่มชนเหล่านีแ้ หละ พวกเขาจะได้รบั คาชมเชย และการเอ็นดู
เมตตาจากพระเจ้าของพวกเขาและชนเหล่านีแ้ หละคือผูท้ ่ีได้รบั ข้อแนะนา
อันถูกต้อง (อัลบะเกาะเราะฮ์ : 155 - 157)

เราขอวิงวอนต่ออัลเลาะฮ์ ตะบารอกะ วะตะอาลา ให้หวั ใจของ


คุณเป็ นหัวใจที่อดทน ให้หัวใจของคุณเป็ นหัวใจที่พึงพอใจจากการลิขิต

10 | P a g e
ของอัลเลาะฮ์ และให้อลั เลาะฮ์ อัซซะวะญัล ปั ดเป่ าบททดสอบต่างๆ ให้
พ้นไป ซึ่งพระองค์คือผูส้ ามารถทาสิ่งนีไ้ ด้ จงให้ความหวังของคุณอยู่ท่ีอลั
เลาะฮ์ อัซซะวะญัล เพราะมันเป็ นไปได้ท่ีพระองค์จะปั ดเป่ าบททดสอบนี ้
ให้หายไปในช่วงหนึ่งช่วงใดจากชีวิตก็ได้

เช่นเดียวกับอิหม่ามอัลบุคอรียท์ ่เี คยตาบอดและเขาก็ขอดุอาอ์ตอ่


พระเจ้าของเขา แล้วพระองค์ก็ตอบรับดุอาอ์ของเขา พระองค์ก็ขจัดสิ่งที่
เป็ นบททดสอบต่างๆ นานาของเขาและคลี่คลายความโศกเศร้าและความ
ชา้ ใจนีใ้ ห้หายไปจากเขา ฉะนัน้ แล้ว พวกคุณจงขอดุอาอ์ให้แก่พ่ีนอ้ งของ
พวกคุณคนนีโ้ ดยลับๆ เถิด และขอดุอาอ์ให้แก่เขาในซุญูดของพวกเขาใน
กลางดึก เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงปั ดเป่ าบททดสอบต่างๆ ของเขาให้พน้ ไป
และคลี่คลายความโศกเศร้านีแ้ ละความชา้ ใจนีใ้ ห้หายไปจากเขา และให้
หัวใจของเขาเป็ นหัวใจที่พึงพอใจและหัวใจที่อดทนด้วยนะครับ

ผมขอวิงวอนต่ออัลลอฮ์ ตะบารอกะ วะตะอาลา ให้พระองค์


ทรงปั ดเป่ าสิ่งที่เขาเป็ นอยู่ให้พ้นไป ขอพระองค์ทรงประทานริสกีให้แก่เขา
เป็ นความอดทนและความพึงพอใจ และขอพระองค์ทรงต้อนคุณ (ผูถ้ าม)
ให้อยู่ในกลุ่มชนของผูศ้ รัทธาอย่างสัตย์จริง อดทน พอใจในการลิขิตของ
พระองค์ดว้ ยเถิด อามีน

ที่มา : ช่องเทเรแกรมทางการของชัยค์อาดิล้ อัซซัยยิด


‫أقول قويل هذا واس تغفر هللا يل ولوادلي ومجليع املسلمني يف لك ماكن‬
11 | P a g e
ซีรี่ยเ์ ลิกโง่เชิงประจักษ์ตอนที่ 3 :

ขมวดประเด็นญินเข้าสิงมนุษย์

ก้าวเข้าสู่ตอนที่ 3 ของซีรี่ยน์ ี ้ ทันใดนั้นก็ได้เกิดประเด็นที่สร้าง


ความสับสนปละความเข้าใจผิดให้กบั พี่นอ้ งอะฮ์ลซุ ซุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์
ในทานองที่ว่าญินนัน้ เข้าสิงมนุษย์ไม่ได้ไม่มีหะดีษเศาะเฮี๊ยะฮ์สกั บทที่พดู
ถึงการที่ญินเข้าสิงมนุษย์เลย อย่างไรก็ตาม ซีรี่ยเ์ ลิกโง่เชิงประประจักษ์
สัป ดาห์นี ้จ ะขอชี ้แจงในประเด็ นที่ ค ลุมเครื อ นี ้ เพื่ อ สร้า งความเข้าใจที่
ถูก ต้อ งตามหลัก การศาสนาว่ า จริง ๆ แล้ว อะกี ด ะฮ์ห รื อ หลัก ความเชื่ อ
ของอะฮ์ลุซซุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์นั้น มีความเชื่ออย่างไรกับประเด็นนี ้
เอาล่ะครับ เราเกริ่นมาพอสมควรแล้ว นับจากนีไ้ ปจะเข้าสู่การนาเสนอ
วิชาการ ขอให้ผูอ้ ่านทุกท่านตัง้ เจตนาในการอ่านให้เป็ นไปเพื่อแสวงหา
ความจริง และยกความไม่ รู จ้ ากตัว ของท่ า นผู้อ่ า นเอง ขออัลลอฮ์ท รง
ประทานเตาฟี กให้แก่พ่นี อ้ งทุกท่านครับ
คาถามจากเว็บไซต์ Islamqa หมายเลขคาถามที่ 1819 :
ช่วงไม่กี่วันก่อนได้เกิดประเด็นถกเถี ยงเรื่องการเข้า สิงร่างกาย
มนุษย์ของญิ น และนี่มันกินกับสติปัญญาเลยด้วยซา้ !! เพราะความ
แตกต่างในพืน้ เพของการถูกสร้าง (ที่ไม่เหมือนกัน) มนุษย์ถกู สร้างมาจาก
ดิน ญิ นก็ถูกสร้างมาจากไฟ และเหล่าชัยฏอนนั้นก็ไม่สามารถควบคุม

12 | P a g e
อะไรได้น อกจากการกระซิ บ กระซาบและอัลลอฮ์เ องก็ ไ ม่ ไ ด้พ วกมัน มี
อานาจเหนือมนุษย์แต่อย่างใด ! และเทปบันทึก (ที่มนุษย์ถกู ญินเข้าสิง) ที่
เปิ ดวนๆ กันอยู่เนี่ยก็ไม่ใช่หลักฐานของเรื่องนีเ้ ลย ฉะนั้น ข้อโต้แย้งของ
พวกคุณสาหรับเรื่องนีค้ ืออะไรครับ ?
คาตอบ :
อัลฮัมดุลลิ ้ ละฮ์

แท้จริงการเข้าสิงร่างกายมนุษย์ของบรรดาญิ นนั้นมีหลั กฐาน


ชัดเจนจากกิตาบุลลอฮ์ ซุนนะฮ์และความเห็นพ้องต้องกันของอะฮ์ลซุ ซุน
นะฮ์ วัลญะมาอะฮ์ จากเหตุการณ์ท่เี กิดขึน้ จริงและประจักษ์ชดั ไม่มีผใู้ ด
ขัดแย้งในเรื่องนีน้ อกจากกลุ่มมุอต์ ะซิละฮ์ท่ใี ช้สติปัญญาของตัวเองนาหน้า
หลักฐานของกิตาบุลลอฮ์และซุนนะฮ์ และเราจะกล่าวถึงเรื่องนีต้ ราบเท่าที่
มันง่ายดายที่สดุ :

อัลลอฮ์ อัซซะ วะญัล กล่าวว่า


‫اَّلين يألكون الراب ال يقومون اال كام يقوم اَّلي يتخبطه الش يطان من املس ذكل بأهنم قالوا امنا‬
‫البيع مثل الراب‬

บรรดาผูก้ ินดอกเบีย้ นั้น พวกเขาจะไม่ทรงตัว นอกจากจะเป็ น


เช่นเดียวกับผูท้ ่ชี ยั ฏอนควบคุมเขาจากการครอบงาดังกล่าว พวกเขากล่าว
ว่าที่จริงการค้าขายนัน้ ก็เหมือนการเอาดอกเบีย้ นัน้ เอง (อัลบะเกาะเราะฮ์ :
275)

13 | P a g e
อัลกุรฏบีุ ยไ์ ด้กล่าวไว้ในตัฟซีรของท่าน (ญุซที่ 3 หน้าที่ 355) ว่า

“โองการนีน้ ั้นเป็ นหลักฐานบทหนึ่งของความเสียหายจากการ


ปฏิเสธของคนที่ปฏิเสธการเข้าสิงจากญิน และเขาก็อา้ งว่ามันเป็ นกระทา
โดยธรรมชาติอยู่แล้วและชัยฏอนนัน้ ก็ไม่สามารถเข้าสิงในตัวมนุษย์และ
การครอบงามนุษย์นนั้ จะไม่เกิดขึน้ ”

อิบนุกะษี รก็ได้กล่าวไว้ในตัฟซีรของท่าน (ญุซที่ 1 หน้าที่ 355)


หลังจากการกล่าวถึงโองการข้างต้นว่า

“กล่าวคือ พวกเขาจะไม่ฟื้นคืนชีพจากหลุมศพของพวกเขาในวัน
กิยามะฮ์ นอกเสียจากพวกเขาจะฟื ้ นคืนชีพเหมือนกับผูท้ ่ีเป็ นโรคลมชักที่
อยู่สภาพโซซัดโซเซ (ทรงตัวไม่อยู่) เมื่อชัยฏอนได้เข้าสิงเขา และนั่นเป็ น
การยืนที่ในสภาพผิดเพีย้ น อิบนุอบั บาสกล่าวว่า ผูท้ ่กี ินดอกเบีย้ นัน้ จะถูก
ทาให้ฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮ์ในสภาพที่เสียสติและสารอกสิ่งที่อยู่ภายใน
ออกมา”

และมีรายงานในหะดีษเศาะเฮี๊ยะฮ์ท่ีอันนะซาอียไ์ ด้รายงานมัน
มาจากอบุลยุซร์ว่า แท้จริงท่านนบี ‫ ﷺ‬นัน้ ได้ขอดุอาอ์ว่า
‫اللهم اّن أعوذ بك من الرتدي والهرم والغرق واحلرق وأعوذ بك أن يتخبطِن الش يطان عند‬
‫املوت‬
“โอ้ อัลลอฮ์ ข้าฯ ขอความคุม้ ครองจากพระองค์ให้รอดพ้นจาก
การตกจากที่สงู ความแก่ชรา การจมนา้ ตาย การถูกไฟครอก และข้าฯ

14 | P a g e
ขอความคุม้ ครองจากพระองค์ให้รอดพ้นจากการที่ชยั ฏอนเข้าสิงข้าฯ ช่วง
ใกล้ตาย”

อัลมุนาวียไ์ ด้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลฟั ยฎ์ อัลเกาะดีร (ญุซที่ 2


หน้าที่ 148) ของท่านในการอธิบายสานวน “และข้าฯ ขอความคุม้ ครอง
จากพระองค์ให้รอดพ้นจากการที่ชัยฏอนเข้าครอบงาข้าฯ ช่วงใกล้ตาย
( ‫ ) وأعوذ بك أن يتخبطِن الش يطان عند املوت‬หมายถึง มันจะเข้าครอบงาข้าฯ
เล่นกับข้าฯ และทาให้ศาสนาของข้าและสติปัญญาของข้าฯ นัน้ เสียหาย
“ช่วงใกล้ตาย ( ‫ ”)عند املوت‬นัน้ หมายถึงมันจะทาโดยการกระซิบกระซาบคน
ที่หมดเรี่ยวแรงและสติปัญญากับความฝันนัน้ จะถูกแทรกแซง บางทีมนั จะ
มีอานาจเหนือคนๆ หนึ่งขณะที่เขากาลังจะจากดุนยาไป โดยการทาให้เขา
หลงผิดหรือห้ามปรามไม่ให้เขากลับตัว จบการอ้างอิง

ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือมัจญ์ม๊วั ะ


อัลฟะตาวา 24/276 ว่า การเข้าสิงของญินในร่างกายมนุษย์นนั้ มีหลักฐาน
ชัดเจนจากมติของอะฮ์ลซุ ซุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์ อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรง
ตรัสว่า
‫اَّلين يألكون الراب ال يقومون اال كام يقوم اَّلي يتخبطه الش يطان من املس‬
บรรดาผูก้ ินดอกเบีย้ นั้น พวกเขาจะไม่ทรงตัว นอกจากจะเป็ น
เช่นเดียวกับผูท้ ่ีชยั ฏอนควบคุมเขาจากการครอบงาดังกล่าว (อัลบะเกาะ
เราะฮ์ : 275)

15 | P a g e
ในหะดีษเศาะเฮี๊ยะฮ์จากท่านนบี ‫ ﷺ‬ระบุว่า “แท้จริงชัยฏอนนัน้
กาลังวิ่งอยู่ในกระแสเลือกของลูกหลานอะดัมอยู่” จบการอ้างอิง

อับดุลลอฮ์ ลูกชายของอิหม่ามอะหมัด บิน ฮัมบัล กล่าวว่า

“ข้าฯ ได้กล่าวกับพ่อของข้าฯ ว่าแท้จริงมีชนกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า


ญินนัน้ จะไม่เข้าสิงร่างกายของคนที่เป็ นโรคลมชักน่ะครับ” แล้วพ่อก็กล่าว
ว่า “โอ้ ลูกเอ๋ย พวกเขากาลังโกหกต่อคนที่พูดด้วยลิน้ ของตัวเองอยู่นะ”
อิ บ นุตัย มีย ะฮ์ก็ได้พูดอธิ บ ายเสริมว่า “นี่ คื อ ค าพูดที่ คนทั่วไปรับรู ก้ ันว่า
คนๆ หนึ่งที่เป็ นโรคลมชักนัน้ เขาจะพูดด้วยกับคาพูดที่ไม่รูค้ วามหมายของ
มันและเขาก็จะถูกทุบตีไปที่รา่ งของเขาอย่างแรง หากว่าอูฐตัวหนึ่งโดนทุบ
ตีแล้วไซร้ มันก็จะปรากฎร่องรอยจากการทุบตีอย่างชัดเจน และคนที่เกิด
อาการชักนัน้ จะไม่รูส้ ึกตัวถึงการถูกตีและจะไม่รูส้ กึ ตัวถึงคาพูดที่เขาได้พดู
มันออกมา และบางที คนที่เป็ นโรคลมชักก็เดินเนียนไปกับคนที่ไม่ ได้มี
อาการชัก บางทีก็พาพรมที่เขานั่งไปด้วย บางท็พกเครื่องไม้เครื่องมือไป
ด้วยและย้ายของจากสถานที่หนึ่งไปอีกสถานที่หนึ่งและบางเขาก็จดั การ
เรื่องอื่นๆ นอกจากนี ้ และผูท้ ่ีเห็นคนที่เป็ นโรคลมชักนั้นจะรู โ้ ดยอัตโนมัติ
เลนว่าเขานัน้ พูดภาษาคนได้และเคลื่อนไหวร่างกายราวกับว่าไม่ใช่มนุษย์”

และอิบนุตยั มียะฮ์ (ขออัลลอฮ์ทรงเมตตาท่าน) ก็กล่าวอีกว่า “ไม่


มีบรรดาอิหม่ามท่านไหนเลยที่จะเป็ นผูป้ ฏิเสธการเข้าสิงร่างของผูท้ ่ีเป็ น
โรคลมชัก และสรรพสิ่ ง อื่ น ๆ ของญิ น และใครก็ ต ามที่ ป ฏิ เ สธสิ่ ง นี ้ว่ า

16 | P a g e
หลักการศาสนานัน้ ได้ปฏิเสธ แน่นอนว่าเขานัน้ ได้กเุ ท็จต่อหลักการศาสนา
และไม่มีหลักฐานทางบทบัญญัติศาสนาข้อไหนที่จะมาปฏิเสธเรื่องนี”้

ฉะนั้น การเข้าสิงร่างมนุษย์ของญิ นนั้นมีหลักฐานยืนยันจาก


คัมภีรอ์ ันทรงเกียรติ ซุนนะฮ์อนั บริสุทธิ์และมติเห็นตรงกันของอะฮ์ลซุ ซุน
นะฮ์ วัลญะมาอะฮ์ท่ีเราได้เกริ่นคาพูดของอุละมาอ์บางท่านไปก่อนนั้น
แล้ว

ส่วนคาดารัสของอัลลอฮ์ท่วี ่า
‫وما ُه بضارين به من أحد اال ابذن هللا‬
และพวกเขานั้นทาร้ายคนหนึ่งคนใดไม่ได้เว้นแต่ดว้ ยกับอนุมตั ิ
ของอัลลอฮ์ (อัลบะเกาะเราะฮ์ : 102)

ฉะนัน้ แล้ว มันไม่เป็ นที่น่าสงสัยเลยนี่คือหลักฐานที่ชดั เจนว่าญิน


นั้น ไม่ สามารถท าอัน ตรายคน ๆ หนึ่ ง ด้ว ยกับ ไสยศาสตร์ห รื อ ท าให้ชัก
กระตุกหรือสารพัดวิธีของการทาร้ายร่างกายหรือทาให้หลงผิดได้ นอกจาก
ด้ว ยความอนุมัติข องอัลลอฮ์ เหมื อ นที่ อัลหะซัน อัลบัศ รี ย ์ได้ก ล่าวว่า
“ผูใ้ ดที่อลั ลอฮ์ทรงประสงค์ พระองค์ก็จะให้เขา (ญิน) เข้าครอบงาพวกเขา
(มนุษย์) และผูใ้ ดที่อลั ลอฮ์ไม่ประสงค์ เขาก็จะไม่ครอบงาและไม่สามารถ
ทาอะไรกับคนๆ หนึ่งได้นอกจากความอนุมตั ิของอัลลอฮ์ เหมือนที่อลั ลอฮ์
ตะอาลา ได้เคยตรัสเอาไว้” ฉะนัน้ แล้ว ชัยฏอน (ก็คือญินกาฟิ รนัน้ แหละ)
บางครัง้ มันก็จะครอบงาบรรดาผูศ้ รัทธาเพราะบาปของพวกเขาเองและ

17 | P a g e
เพราะการห่างไกลจากการซิกรุลลอฮ์ของพวกเขา ห่างไกลการมีเตาฮีดต่อ
พระองงค์แ ละความอิ ค ลาศในการอิ บ าดะฮ์ ต่ อ พระองค์ ส่ ว นบ่ า ว
ของอัลลอฮ์ท่อี ยู่ในสภานะบ่าวที่ดีนนั้ ชัยฏอนก็จะก็ไม่มีอานาจใดๆ เหนือ
พวกเขาได้ เหมือนที่อลั ลอฮ์ตรัสว่า
‫ان عبادي ليس كل علْيم سلطان وكفى بربك وكي ًال‬
“แท้จริงปวงบ่าวของข้านัน้ เจ้าจะไม่มีอานาจใด ๆ เหนือพวกเขา
และพอเพียงแล้วที่พระเจ้าของเจ้าเป็ นผูค้ มุ้ ครอง” (อัลอิสรออ์ : 65)

ชาวอาหรับในยุคญาฮิลียะฮ์นนั้ รู จ้ กั เรื่องนีด้ ีและได้ถ่ายทอดมัน


เอาไว้ในบทกวีต่างๆ ของพวกเขา ซึ่งอัลอะอ์ชาได้เปรียบเปรยอูฐตัวเมีย
ของเขาในเรื่องความดีดเพราะความบ้าคลั่งของมันในบทกวีท่วี ่า “มันนัน้ ได้
หายหน้าหายตาไปในยามราตรี ประหนึ่งเหล่าฝูงญินกลุ่มหนึ่งได้สร้าง
ความปวดร้าวแก่มนั ด้วยการทาให้คลุม้ คลั่ง”

ส่วนสาเหตุของการชักกระตุกนัน้ อิบนุตยั มียะฮ์ได้อธิบายเรื่องนี ้


เอาไว้ในหนังสือมัจมั๊วะ อัลฟะตาวา 19/39 ด้วยกับคาพูดของท่านที่ว่า

“การเข้าสิงของญินในตัวมนุษย์นนั้ บางทีก็เกิดจากกิเลส อารมณ์


ชั่ววูบและการหลงรักเหมือนที่การหลงรักของมนุษย์ท่เี กิดกับมนุษย์ดว้ ยกัน
เอง.. และบางทีส่วนใหญ่ก็เกิดจากความเกลียดชังและการตอบแทนให้สา
สมเหมือนกับการที่มนุษย์บางคนได้ทาร้ายพวกญิน หรือพวกญินนัน้ ก็คิด
ว่ามนุษยนัน้ จงใจจะทาร้ายพวกเขา บางทีก็ถ่ายปั สสาวะรดพวกเขาหรือ

18 | P a g e
เทนา้ ร้อนโดนพวกเขาหรือฆ่าพวกเขา แม้ว่ามนุษย์ (ผูก้ ระทา) นั้นจะไม่
รูต้ วั เลยก็ตาม และในหมู่ญินเองก็มีความไม่รูศ้ าสนาและความอธรรมอยู่
แล้ว ฉะนัน้ พวกมันเลยจัดบทลงโทษให้แก่มนุษย์มากกว่าที่มนุษย์สมควร
จะได้รับ และบางที ก็ เ กิ ด จากการไร้ส าระและความชั่ว ในหมู่ญิ น เอง
เหมือนกับคนชั่วในมนุษย์” จบการอ้างอิง

ฉันขอกล่าวว่า ทางออกสาหรับเรื่องนีค้ ือการราลึกถึงอัลลอฮ์


และกล่าวบิสมิล้ ลาอ์ในช่วงเริ่มต้นของการกระทาทุกเรื่อง เหมือนที่มีตวั
บทเศาะเฮี๊ ย ะฮ์จ ากท่ า นนบี ‫ ﷺ‬ที่ ท่ า นจะกล่ า วบิ ส มิ ้ล ลาฮ์แ ละร าลึ ก
ถึงอัลลอฮ์ในหลายๆ เรื่องเช่น การกิน การดื่ม ขณะที่ข่ีสตั ว์ ขณะที่ถอด
เสือ้ ผ้าขณะปลดทุกข์ ขณะมีเพศสัมพันธ์และเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากนี ้

ส่วนการรักษาการเข้าสิงนัน้ อิบนุตยั มียะฮ์ได้กล่าวไว้ในหนังสือ


มัจญ์ม๊วั ะ อัลฟะตาวา 19/42 ว่า

“เป้าหมายคือ เมื่อญินนัน้ ได้ทาร้ายมนุษย์แล้ว พวกท่านจงบอก


กฏของอัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์ ยืนยันหลักฐานเชิงประจักษ์ให้แก่
พวกมัน กาชับสั่งใช้ในเรื่องความดีและห้ามปรามความชั่วเหมือนกับที่
ปฏิบตั ิกบั มนุษย์ เพราะอัลลอฮ์ทรงตรัสว่า
‫وما كنا معذبني حىت نبعث رسو ًال‬
และเราจะไม่ลงโทษจนกว่าเราจะส่งศาสนทูตคนหนึ่งมาเสียก่อน
(อัลอิสรออ์ : 15)”

19 | P a g e
ต่อมาอิบนุตยั มียะฮ์ก็กล่าวอีกว่า

“ตราบใดที่พวกญินนัน้ ยังไม่มรุ ตัด (สิน้ สภาพจากการเป็ นมุสลิม)


หลังจากกาชับเรื่องความดี ห้ามปรามความชั่วและชีแ้ จงแล้ว ฉะนั้น ก็
อนุญาตให้เขาตาหนิมนั ด่าทอมัน ขู่ให้มนั กลัวบทลงโทษและสาปแช่งมัน
เหมือนกับที่ท่านเราะซูลลุ้ ลอฮ์ ‫ ﷺ‬ได้เคยปฏิบัติกับชัยฏอน ขณะที่เกิด
ดาวตกลง เพราะชัยฏอนปามันใส่ใบหน้าของท่านเราะซูลลุ้ ลอฮ์ ‫ ﷺ‬แล้ว
ท่านก็กล่าวว่า

“ข้า ฯ ความคุ้ม ครองจากอั ล ลอฮ์ใ ห้ร อดพ้น จากเจ้า และขอ


สาปแช่ ง เจ้าด้วยกับ การสาปแช่ง ของอัลลอฮ์ (พูด สามครั้ง)” รายงาน
โดยอัลบุคอรีย”์ และผูท้ ่ีถูกญินสิงนัน้ จะต้องขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮ์
ด้วยเหมือนกันโดยการซิกรุลลอฮ์และการอ่านอัลกุรอานโดยเฉพาะอายะอ์
อัลกุรซีย ์ เพราะท่านนบี ‫ ﷺ‬ได้กล่าวว่า “ใครก็ตามที่อ่านมัน อัลลออ์จะ
ทรงรักษาคุม้ ครองเขาอยู่ตลอดและชัยฏอนจะเข้าใกล้เขาไม่ได้จนกว่าจะ
ถึงตอนเช้า” รายงานโดยอัลบุคอรีย ์ และการอ่านมุเอาวิซะตัยน์ (ซูเราะฮ์
อัลฟะลัก - ซูเราะฮ์อนั นาซ) ก็เช่นกัน

ส่วนหมอจิตเวชที่ไม่ได้มีการยอมรับในเรื่องการรักษาผูท้ ่มี ีอาการ


ชักกระตุก ผูท้ ่มี ีอาการชักกระตุกก็จะไม่มีทางที่จะได้รบั ประโยชน์อะไรเลย

ประเด็นปั ญหานีเ้ ป็ นไปได้ว่าอาจจะต้องอาศัยรายละเอียดที่มาก


ขึน้ และตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้นนั้นก็ถือว่าเพียงพอแล้วสาหรับผูท้ ่ีจะ
ปฏิบตั ิตาม
20 | P a g e
มวลการสรรเสริญทัง้ มวลเป็ นสิทธของอัลลอฮ์ ผูเ้ ป็ นพระเจ้าแห่ง
สากลโลก

ที่ ม า : https://islamqa.info/en/answers/1 8 1 9 / jinn-


entering-human-bodies

สุดท้าย บทความซีรี่ยเ์ ลิกโง่เชิงประจักษ์สปั ดาห์นีไ้ ม่ได้มีเจตนา


มุ่งร้ายต่อผูท้ ่ีมีอะกีดะฮ์ท่ีไม่ถูกต้องในเรื่องนีแ้ ต่อย่างใด เนื่องจากผมคิด
ในแง่ดีว่าคนเหล่านีไ้ ม่มีความรูศ้ าสนาและอัลลอฮ์อาจจะปิ ดกัน้ หัวใจของ
เขาให้รบั สัจธรรมก็เป็ นได้ วัตถุประสงค์ของการเขียนชีแ้ จงนี ้ ผมจะเขียน
บนฐานที่ตอ้ งการสร้างความเข้าใจที่ถกู ต้องให้แก่ผทู้ ่เี ข้าไม่ถึงความถูกต้อง
ของวิชาการเท่านั้น ขออัลลอฮ์ทรงชีน้ าผู้อ่านรวมถึงตัวผมเองด้วยเถิด
หากมีจุดไหนผิดพลาดประการใดก็ขอให้รบั รู ไ้ ว้ว่ามาจากความเผลอไผล
ของผมเองหรืออาจจะมาจากการล่อลวงของชัยฏอน นะอูซุบลิ ้ ลามินซาลิก

‫أقول قويل هذا واس تغفر هللا يل ولوادلي ومجليع املسلمني يف لك‬
‫ماكن‬

21 | P a g e
ซีรี่ยเ์ ลิกโง่เชิงประจักษ์ตอนที่ 4 :

เมื่อพ่อแม่ห้าม “ลูกชาย” ไม่ให้แต่งงาน


ก่ อ นจะเข้า ไปสู่ บ ทความ ผมอยากจะขอชี ้แ จงเบื ้อ งต้น ถึ ง
จุดประสงค์ของบทความตอนนีน้ ะครับว่า บทความนีไ้ ม่ได้มีเป้าหมายลูก
ชายเกิดความกระด้างกระเดื่องต่อพ่อแม่ในคราวที่ท่านทัง้ สองสั่งห้ามไม่ให้
แต่งงาน แต่เป้าหมายจริงๆ คือ ผมต้องการจะสื่อสารและนาเสนอให้รู ้
เข้าใจถึงสิทธิของความเป็ นลูกชายในเรื่องของการแต่งงานกับผูห้ ญิงที่เขา
หมายปองให้แก่ครอบครัวที่มีลกู ชายและต้องการจะลบความเชื่อที่ฝังราก
ลึกในสังคมสยามที่ให้สิทธิกบั พ่อแม่จนเกินขอบเขตที่วา่ “ลูกต้องเชื่อฟั งพ่อ
แม่ทุกเรื่อง แม้ว่าเรื่องนัน้ จะเป็ นเรื่องที่ผิดหลักการศาสนา มิฉะนัน้ จะถือ
ว่าเป็ นลูกที่เนรคุณและอกตัญญู” ซึ่งผมก็รบั รูม้ าไม่นอ้ ยที่ครอบครัวมุสลิม
หลายครอบครัวนั้นตั้งใจจะใช้คติอันเลือนลอยอันถูกผลิตซา้ มานานนับ
ศตวรรษในการกดทับผู้เป็ นลูกชายให้คล้อยตามตัวเองทุกเรื่อง นะอูซุ
บิล้ ลาฮ์มินซาลิก อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่างผูห้ ญิงกับผูช้ ายคือ
เรื่องของการมีวะลียใ์ นการแต่งงาน หากการแต่งงานใดที่ขาดวะลียข์ อง
ฝ่ ายหญิง ตามหลักการศาสนานั้นถือว่าการแต่งงานเป็ นโมฆะ ใช้ไม่ได้
แล้วถ้าเป็ นผูช้ ายล่ะ จะสามารถแต่งงานได้ไหมถ้าหากว่าพ่อแม่ไม่เห็น
ด้ว ย โดยบทความซี รี่ ย ์ต อนนี ้จ ะน าเสนอสามฟั ต วาที่ แ ตกต่ า งกั น ใน
รายละเอียดปั จจัยยิบย่อยของแต่ละคาถาม ไม่ว่าจะเป็ นห้ามแต่งงาน
เพราะไม่ชอบครอบครัวฝ่ ายหญิง , ห้ามแต่งงานเพราะอยากให้แต่งกับ

22 | P a g e
ญาติตวั เองและโดนครอบครัวห้ามแต่งงานทัง้ ๆ ที่ตวั เองรับผิดชอบเรื่องใน
บ้านดีพอแล้ว แต่ปลายทางของทุกคาตอบนัน้ ตรงกัน เชิญเสพความรูไ้ ด้
เลยครับ

หุก่มของคนทีส่ ู่ขอผู้หญิงทีเ่ คร่งครัดศาสนา


คนหนึ่งทัง้ ๆ ทีแ่ ม่ของเขาไม่ยอม
คาถาม :
ผมได้ไปสู่ขอ (คิตบะฮ์) ผูห้ ญิงคนหนึ่งที่ละหมาด ถือศีลอดและรักษาอะมัล้
ฟั รฎูครบ แต่แม่ของผมนี่สิ ไม่ตอ้ งการให้นางเป็ นภรรยาของผม เพราะขัดแย้งกับ
ครอบครัวของนางและจมปลักอยู่กับเรื่องในอดีต ผมต้องเชื่อฟั งแม่ของผมหรือไม่ ?
หรือผมต้องทาอะไรบ้างครับ ?

คาตอบ :
คุณไม่ตอ้ งรีบเชื่อฟั งแม่หรอกครับ ส่วนหนึ่งของการเชื่อฟั งนั้น
ต้องอยู่บนคาสั่งใช้ให้ทาความดี การเชื่อฟั งนั้นต้องอยู่บนคาสั่งใช้ให้ทา
ความดี ไม่ใช่อยู่บนการทาบาป ฉะนั้น ภรรยาจึงเป็ นเรื่องสาคัญ เมื่อ
นางนั้น เป็ น คนดี ใ นเรื่ อ งศาสนาของนางและเป็ น คนยื น หยัด มั่ นคงใน
หลักการแล้วไซร้ ก็จาเป็ นที่คุณจะต้องพูดคุยกับผูเ้ ป็ นแม่ดว้ ยรูปแบบที่ดี
และสานวนการพูดที่ดี เพื่อที่นางจะได้พึงพอใจ อินชาอัลลอฮ์ และจาเป็ น
ที่ คุณ จะต้องนะศีฮะฮ์ภรรยาด้วยเช่น กัน เพื่ อ ที่น างจะได้แสดงมารยาท
(อัคล๊าก) ที่ดีงามและประวัติท่ีดีให้แก่แม่ของคุณ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความ
ชิงชังระหว่างนางกับครอบครัวของคุณ

23 | P a g e
ดังนั้นเป้าหมายคือ การที่คุณนั้นต้องปฏิบัติตามหลักการหนึ่ง
จากหหลักการอิสลามนัน้ คุณเองก็จาเป็ นต้องให้ความสาคัญ ทาให้แม่
ของคุณพอใจและทาให้คนรอบข้างคุณพอใจด้วยกับคาพูดที่ดีและรูปแบบ
ที่ดี และตัก เตือนภรรยาให้ใช้ความอ่อนโยนนุ่มนวลกับพวกเขาและใช้
คาพูดที่ดี เพื่อที่หลังจากนัน้ อินชาอัลลอฮ์ จะได้มีการรวมตัวกัน จัดงาน
เลีย้ งกันได้ และเพื่อที่จะได้ไม่ตอ้ งนาไปสู่การหย่าร้าง [1]

พ่อห้ามลูกชายตัวเองจากการแต่งงาน
คาถาม :
พ่อของผมนัน้ ปฏิเสธการแต่งงานของผมและบังคับให้ผมอยู่โดย
ที่ไม่ตอ้ งแต่งงาน แต่ผมเองก็ช่วยเขาในธุระต่างๆ ของเขาและธุรกิจต่างๆ
ของเขา และผมเองก็จาเป็ นต้องแต่งงาน มันคือสิ่งที่ทาให้ผมปลอดภัย
(จากการซิ น า) แล้ว มี อ ะไรบ้า งที่ ผ มต้อ งเผชิ ญ หน้า กับ พ่ อ ของตัว เอง
เพราะผมไม่อยากตกอยู่ในการเนรคุณพ่อแม่ ?

คาตอบ :
จาเป็ นที่พ่อคนนีจ้ ะต้องยาเกรงอัลลอฮ์ ญัลละ วะอะลา และ
ต้องทาให้ลกู ชาบของเขาปฏิบตั ิตามคาสั่งใช้ของท่านนบี ‫ ﷺ‬ในคาพูดของ
ท่านที่ว่า “โอ้ เหล่าคนหนุ่มสาวทั้งหลายเอ๋ย ใครก็ตามในหมู่พวกท่าน
สามารถแต่ง งานได้ เขาก็ จ ะจงแต่งงานเสี ยเถิด เพราะมัน คือ การลด
สายตาและป้องกันอวัยวะเพศ” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย ์ 5066) ฉะนัน้ แล้ว

24 | P a g e
ไม่ถือเป็ นสิทธิของผูเ้ ป็ นพ่อที่จะห้ามเขาจากการแต่งงานและป้องกันตัวเอง
ให้บริสทุ ธิ์ (จากบาปและซินา) และจาเป็ นสาหรับพ่อที่จะต้องช่วยให้เขา
ได้แต่งงานและสนับสนุนเขา แต่ถา้ พ่อปฏิเสธการแต่งงานของผูเ้ ป็ นลูกใน
กรณีนี ้ ก็ไม่จาเป็ นสาหรับลูกที่จะต้องตอบรับคาขอของผูเ้ ป็ นพ่อ เพราะ
คาขอนีน้ ีไ้ ม่ใช่ส่วนหนึ่งของคาสั่งใช้ตามหลักการศาสนา และการเชื่อฟั ง
นัน้ อันที่จริงต้องอยู่ในฐานคาสั่งใช้ตามหลักการศาสนา ท่านนบี ‫ ﷺ‬กล่าว
ว่า “การเชื่อฟั งนั้นต้องอยู่ในฐานคาสั่งใช้ตามหลักการศาสนา” (บันทึก
โดยอัลบุคอรีย ์ 4340) ถึงกระนัน้ ก็ไม่ถือว่าเขาตกอยู่ในการเนรคุณพ่อแม่
แต่ ท ว่ า จ าเป็ น ส าหรับ ลูก เช่ น กั น ที่ เ ขาจะต้อ งหาหนทางหารู ป ต่ า งๆ ที่
เหมาะสมเพื่อทาให้พ่อของเขานัน้ พึงพอใจ และจาเป็ นที่จะต้องหาจุดตรง
กาลที่ ส ามารถเล่ น กั บ ความรู ้สึ ก ของผู้เ ป็ น พ่ อ ให้เ ขานั้น ช่ ว ยให้เ ขาได้
แต่งงานและสนับสนุนเขาในการแต่งงาน [2]

แม่ของผมไม่ยอมรับการแต่งงานของผมกับ
คนทีผ่ มรัก เพียงเพราะนางไม่ใช่เครือญาติของผม
คาถาม :
ผมรักผูห้ ญิงที่เคร่งครัดศาสนาคนหนึ่งและนางก็รกั ผมด้วย ผม
เองก็ตอ้ งการที่จะเกี่ยวดองกับนางและพูดคุยกับพ่อของนางเพื่อให้เรื่องนี ้
เป็ นงานเป็ นการเสียที แต่แม่ของผมกลับปฏิเสธอย่างแรง ซึ่งมันก็ไม่มี
ข้อบกพร่องในตัวนาง (ผู้หญิ งที่ผมรัก) เลยด้วยซา้ !!! เพราะแม่เ องไม่
แม้แต่จะต้องการทาความรูจ้ กั กับนางเลย !! เพียงเพราะนางนัน้ ไม่ใช่หนึ่ง

25 | P a g e
ในเครือญาติของเรา ใช่แล้วครับ เหตุผลแค่นแี ้ หละครับ นางไม่ใช่หนึ่งใน
เครือญาติของเรา !! ซึ่งมันจาเป็ นสาหรับที่ผมต้องแต่งงานกับใครที่เป็ น
หนึ่งในเครือญาติของผม แม้ว่าผมจะไม่ชอบเครือ ญาติของเราทุกคนก็
ตาม แล้วผมเองก็ไม่ได้อยากจะรู จ้ กั ญาติสักคนเลย ผมไม่รูว้ ่าถ้าผมจะ
เกี่ยวดองกับคนที่ผมรัก ผมจะเป็ นคนที่เนรคุณแม่ตวั เองหรือไม่ ? แล้วผม
ต้องทาอะไรบ้าง ? ผมจะทิง้ แม่ของผมได้ไหม โปรดให้สาระประโยชน์ดว้ ย
ครับ ขออัลลอฮ์ทรงตอบแทนความดีทกุ ท่านครับ
คาตอบ :
‫ أما بعد‬،‫ والصالة والسالم عىل رسول هللا وعىل أَل وحصبه‬،‫امحلد هلل‬
การเชื่อฟั งพ่อแม่นนั้ เป็ นฟั รฎตามที
ู ่อลั กุรอานและซุนนะฮืนบีอนั
ทรงเกียรติได้บ่งชีถ้ ึงเอาไว้ อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า
‫َو َو َّص ْينَا ْاالن ْ َس َان ب َيو ي َادليْ يه ُح ْس ن ًا‬
ِ
และเราได้ส่งั เสียมนุษย์ให้ทาดีตอ่ บิดามารดาของเขา (อัลอัง
กะบูต : 8)

และอัลลอฮ์ ตะอาลา ก็ทรงตรัสอีกว่า


‫َوقَ ََض َرب ُّ َك َأ َّال تَ ْع ُبدُ وا ا َّال ا ََّّي ُه َو يابلْ َو ي َادليْ ين ا ْح َسا ًَن‬
ِ ِ ِ
และพระเจ้า ของเจ้า บัญ ชาว่ า พวกเจ้า อย่ า เคารพภัก ดี ผู้ใ ด
นอกจากพระองค์เท่านัน้ และจงทาดีต่อบิดามารดา (อัลอิสรออ์ : 23)

26 | P a g e
มีรายงานในหะดีษจากอบูฮุรอยเราะฮ์ ท่านกล่าวว่า มีชายคน
หนึ่ ง มาหาท่ านเราะซู ล ‫ ﷺ‬แล้ว เขาก็ก ล่ าวว่า “โอ้ เราะซู ลุ้ลลอฮ์ครับ
บุคคลใดที่มีสิทธิ์ต่อมนุษย์ท่จี ะต้องทาดีดว้ ยมากที่สดุ ? ท่านก็ตอบว่า “แม่
ของท่าน” ชายคนนั้นก็กล่าวว่า “ถัดจากนัน้ คือใครครับ ?” ท่านเราะซูลก็
กล่าวว่า “แม่ของท่าน” แล้วชายคนนั้นก็กล่าวอีกว่า “ถัดจากนั้นคือใคร
ครับ ?” ท่านเราะซูลก็กล่าวว่า “แม่ของท่าน” ชายคนนั้นก็กล่าวว่า “ถัด
จากนัน้ คือใครครับ ?” ท่านเราะซูลก็กล่าวว่า “พ่อของท่านครับ” (รายงาน
โดยอัลบุคอรีย ์ 5971 และมุสลิม 2548)

หนึ่งในเรื่องที่ไร้ขอ้ กังขาคือสิทธิของผูเ้ ป็ นแม่นนั้ เหนือกว่าลูกมาก


แต่ ก ารเชื่อฟั งนั้นจะไม่เกิด ขึน้ ยกเว้น ว่าจะต้องอยู่บ นฐานคาสั่งใช้ตาม
หลักการศาสนา เพราะมีคาพูดของท่านนบี ‫ ﷺ‬ที่ว่า “อันที่จริงการเชื่อฟั ง
นัน้ ต้องอยู่บนฐานของคาสั่งใช้ตามหลักการศาสนา” (รายงานโดยอัลบุคอ
รีย ์ 7257 และมุสลิม 1840)

อย่างไรก็ตาม ไม่วาญิบสาหรับผูเ้ ป็ นลูกที่จะต้องเชื่อฟั งแม่ใน


เรื่องการห้ามแต่งงานกับผูท้ ่ีเขาหมายปอง ตราบใดที่ผหู้ ญิงคนนัน้ เป็ นคน
ที่มีจรรยามารยาทที่ดี และความเห็นของแม่เองก็เป็ นความเห็ นที่ไม่ได้
ตัง้ อยู่บนรากฐานของศาสนา ยิ่งไปกว่านัน้ กลับตัง้ อยู่ฐานของผลประโยชน์
ส่ ว นตัว หรื อ วัต ถุ ป ระสงค์อื่ น ๆ และการแต่ ง งานในครั้ง นี ้ต ้อ งมี ค วาม
เหมาะสมและมีความดี ฉะนั้นมันจึงไม่ถือว่าหะรอมในการฝ่ าฝื นพ่อแม่
เหมือนที่การสร้างความความเข้าใจนั้นเป็ นสิ่งที่ตอ้ งกระทาระหว่างสอง

27 | P a g e
ฝ่ าย เพื่อหวังความเสถียรภาพจะได้เกิดขึน้ ในครอบครัวใหม่อย่างแท้จริง
จนกระทั่งบรรลุถึงเป้ าประสงค์ของหลัก การศาสนาและสังคมจากการ
แต่งงาน

มีชายคนหนึ่งมาหาอิหม่ามอะหมัด บิน ฮัมบัล แล้วเขาก็กล่าว


ว่า “แท้จริงพ่อของผมได้ส่งั ให้หย่ากับภรรยาของผมครับ” อิหม่ามอะหมัด
จึงกล่าวกับเขาว่า “คุณอย่าได้หย่านางเลยครับ” แล้วเขาก็กล่าวว่า “ท่าน
เราะซูล ‫ ﷺ‬ไม่ได้ส่งั ให้อบั ดุลลอฮ์ บิน อุมรั หย่ากับภรรยาตัวเองหรือครับ
ในขณะที่อุมัรก็ได้ส่ ังเขา (อับดุลลอฮ์) ในเรื่องนีด้ ว้ ย ?” แล้วอิหม่ามอะ
หมัดก็กล่าวว่า “ให้พ่อของคุณเป็ นเหมือนอุมรั ก่อนเถอะ !”

สรุ ป : ไม่วาญิบสาหรับลูกชายที่จะต้องเชื่อฟั งแม่ของตัวเองใน


เรื่องที่นางได้ขอให้ทิง้ การแต่งงานกับผู้หญิ งที่เขาปรารถนาจะเกี่ยวดอง
ด้วย เพราะเรื่องนีจ้ ะย้อนกลับไปทาอันตรายกับผูเ้ ป็ นลูกและจะต้องไม่ปิด
ปั ง ว่ า การแต่ ง งานกับ ผู้ห ญิ ง ที่ ดี นั้น คื อ ความสุข ของลูก และมัน จะไม่
ย้อนกลับไปทาอันตรายใดๆ กับแม่ของเขาด้วย (ถ้าแม่ปฏิเสธการแต่งงาน
อาจจะเกิดผลเสียกับแม่มากกว่า เช่น ความสัมพันธ์ของแม่ลกู ย่าแย่ลง)

และเราขอยา้ เตือนผูถ้ ามที่มีเกียรติท่านนีน้ ะครับว่า ความรักที่


จุดจบของมันคือการแต่งงานนนัน้ เป็ นสิ่งที่อนุญาตบนเงื่อนไขที่จะต้องไม่มี
สิ่งที่ทาให้อลั ลอฮ์ ตะอาลา ทรงโกรธกริว้ ทัง้ การมองสิ่งที่หะรอม, การอยู่
ลาพังสองต่อสอง, การนั่งร่วมวงและการพูดคุยที่หะรอม และเจ้าของเรื่อง
นี ้ จ ะต้ อ งไม่ ล ะเลยสิ่ ง ที่ เ ป็ นวาญิ บ ต่ า งๆ และจะต้ อ งไม่ ต กอยู่ ใ น

28 | P a g e
ความสัมพันธ์ท่ีหะรอม เพราะมีรายงานจากอิบนุอบั บาซ (ขออัลลอฮ์ทรง
พึงพอพระทัยท่านทัง้ สอง) กล่าวว่า ท่านเราะซูลลุ้ ลอฮ์ ‫ ﷺ‬กล่าวว่า “จะไม่
เห็นคนสองคนมีความรักต่อกันได้นอกจากการแต่งงาน” (รายงานโดยอิบนุ
มาญะฮ์ 1509 ชัยค์อลั บานียใ์ ห้สถานะเศาะเฮี๊ยะฮ์) [3]

สุ ด ท้า ยนี ้ ผมอยากจะขอตั ก เตื อ นส าหรับ ผู้ช ายที่ ก าลั ง จะ


แต่งงานหรือมีแพลนว่าจะแต่งงานในอนาคต ผมอยากให้พวกคุณเชื่อฟั ง
พ่อแม่ให้มากๆ ตราบใดที่คาสั่งของพ่อแม่นนั้ ไม่ได้ขดั กับหลักการศาสนา
ผมเชื่อว่าการเชื่อฟั งพ่อแม่นนั้ จะนามาซึ่งที่ดกี ว่าเสมอ เพราะบางทีคนเป็ น
พ่อเป็ นแม่อาจจะเห็นอะไรบางอย่างที่มองแล้วคงจะเกิดปั ญหากับลูกของ
ตัวเองหลังจากแต่งงานไปแล้วก็ได้ และถ้าหากว่าพวกคุณขัดแย้งหรือ
ทะเลาะกับท่านทัง้ สองอย่างรุนแรง ผมอยากให้พวกคุณพยายามเปิ ดอก
พูดคุยกับท่านทัง้ สองเพื่อที่ว่าพวกคุณจะได้เห็นมุมมองและเหตุผลของการ
ที่ พ่ อ แม่ ได้ห้า มคุณ ถ้า หากว่ า มัน เป็ น เหตุผลที่ ตั้ง อยู่บ นฐานหลัก การ
ศาสนา เช่น ผูห้ ญิงคนนีไ้ ม่ดี ไม่ละหมาด ไม่ถือศีลอด ทาตัวไม่ให้เกียรติ
ต่อพวกคุณและพ่อแม่ของพวกคุณ คุณก็จงรับฟั งพวกท่านทั้งสองเถอะ
ครับและสนองคาขอของพวกท่านทัง้ สองด้วย แต่หากว่าเหตุผลของพวก
ท่านทัง้ สองอยู่บนฐานอื่นๆ ก็ขอให้รบั ฟั งและแย้งด้วยเหตุผล ด้วยวิธีการที่
เหมาะสม อย่าแย้งด้วยกับวิธีการที่นาไปสู่ความบาดหมางระหว่างพวก
คุณกับพ่อแม่เลย อย่าลืมละหมาดอิสติคอเราะฮ์และดุอาอ์ให้มากๆ ก่อน
จะตัดสินใจร่วมหัวจมท้ายชีวิตคู่กบั ใครสักคน เพราะชีวิตหลังจากนีม้ นั จะ
ไม่สวยงามและง่ายดายอีกต่อไป ก่อนจะผมจะปิ ดบทความซีรี่ยน์ อี ้ ยากจะ

29 | P a g e
ฝากนะศีฮะฮ์จากพี่นอ้ งท่านหนึ่ง เอาไว้เป็ นข้อคิดก่อนจะเลือกใครสักคน
มาเป็ นคู่ชีวิตของเรานะครับ ขออัลลอฮ์ประทานความดีงามในชีวิตคู่ของ
พวกท่านครับและขอพระองค์ทรงอภัยโทษความผิดบาปของพวกเราด้วย
เถิด อามีน

“ผูช้ ายและผูห้ ญิงล้วนแล้วแต่มีลกั ษณะที่คอยเติมเต็มซึ่งกันและ


กัน ชีวิตจาเป็ นต้องคัดกรองหาคนที่พอดีและถูกใจกับเรา ไม่ใช่แค่เรื่อง
ศาสนาอย่างเดียว แต่องค์ประกอบเรื่องอุปนิสัย ต่างๆนานาก็สาคัญใน
การใช้ชีวิตคู่ กี่ชีวิตคู่ท่ีเต็มไปด้วยอุดมการณ์ทางศาสนาและเคร่ง ครัดใน
หลักการกลับต้องจบลงและบาดหมางกันเพียงเพราะความไม่เข้าใจและ
ความไม่เข้ากันของทั้งสอง หาคนที่เหมาะสมกับเราเถอะ ไม่ใช่ทุกคนที่
โพสต์เ รื่ อ งราวของศาสนาในโลกโชเชีย ลจะเป็ น ผู้ช ายหรื อ ผู้ห ญิ งที่ดีมี
ศาสนา ฉะนัน้ ก่อนจะแต่งงานก็สืบข้อมูลและประวัติให้ดีเสียก่อน”

แหล่งอ้างอิง :
1.
https://binbaz.org.sa/fatwas/2189/%D8%AD%D9%
83%D9%85-%D9%85%D9%86-
%D8%AE%D8%B7%D8%A8-
%D8%A8%D9%86%D8%AA%D8%A7-
%D8%B0%D8%A7%D8%AA-

30 | P a g e
%D8%AF%D9%8A%D9%86-%D9%85%D8%B9-
%D9%83%D9%88%D9%86-
%D8%A7%D9%84%D8%A7%D9%85-
%D8%AA%D8%B1%D9%81%D8%B6%D9%87%D8%A7
?fbclid=IwAR3BBrE8WnTlPHgx1ey5i_DhcuSfcCFJJ2T3M4
ZS4rl_DYQz9evuf4mYKTc (วันที่ 24 มิ.ย. 2022)
2.
https://shkhudheir.com/fatawa/418759476?fbclid=I
wAR3-joYQcR9UO4hDuaYhFLcFsKf-
UnIN9py_vMt2i6LCUzDXGqOxN_LKOlI (วันที่ 26 มิ.ย.
2022)
3.
https://ar.islamway.net/fatwa/15302/%D8%A3%D9
%85%D9%8A-%D8%AA%D8%B1%D9%81%D8%B6-
%D8%B2%D9%88%D8%A7%D8%AC%D9%8A-
%D8%A8%D9%85%D9%86-
%D8%A3%D8%AD%D8%A8%D9%87%D8%A7-
%D9%84%D8%A3%D9%86%D9%87%D8%A7-

31 | P a g e
%D9%84%D9%8A%D8%B3%D8%AA-
%D9%85%D9%86-
%D8%A3%D9%82%D8%A7%D8%B1%D8%A8%D9%8A
?fbclid=IwAR07ax-
6V3XlWMMAhb0V69y2RtNOZ4akyTXXrpXQDOQNAV
EJ5ZJPtdznza8 (วันที่ 26 มิ.ย. 2022)

‫أقول قويل هذا واس تغفر هللا يل ولوادلي ومجليع املسلمني يف لك‬
‫ماكن‬

32 | P a g e

You might also like