Professional Documents
Culture Documents
วิเคราะห์ เวลาน้อย
ข้อสอบ
เตรียมสอบ
ใบประกอบวิชาชีพครู
ตามเกณฑ์
ใหม่ 2566
พิจารณาบทความวิจัยต่อไปนี้
จากบทความวิจัยข้างต้นตอบคำถามข้อ 1 - 9
1. จากบทความวิจัยนี้ข้อใดไม่ใช่ปัญหาที่พบในโรงเรียนดังกล่าว
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทุกกลุ่มสาระมีคะเเนนเฉลี่ยระดับโรงเรียนต่ำกว่าระดับ
ชาติ ระดับเขตพื้นที่ ระดับจังหวัด
2. ผลการประเมินสมรรถนะผู้เรียนด้านความสามารถในการคิดเเละความสามารถในการเเก้ปัญหาเพียงร้อยละ 5
เท่านั้นอยู่ในเกณฑ์ดี - ดีเยี่ยม
3. นักเรียนไม่ค่อยให้ความสนใจในการเรียน
4. นักเรียนมีสถิติขาดเรียนเป็นประจำสูง
5. เนื่องจากเป็นโรงเรียนขยายโอกาสจึงมีอุปกรณ์เอื้ออำนวยในการจัดการเรียนการสอนไม่เพียงพอ
ตอบ 5. เนื่องจากเป็นโรงเรียนขยายโอกาสจึงมีอุปกรณ์เอื้ออำนวยในการจัดการเรียนการสอนไม่เพียงพอ
2. หากต้องการทำการวิจัยเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในรายวิชาที่ท่านสอนท่านคิดว่าครูคนใดตั้งชื่อการ
วิจัยได้เหมาะสมที่สุด
1. ครูหวานทำการวิจัยเรื่องการศึกษาความพึงพอใจในการนำผลการทดสอบทางการศึกษาไปใช้ในการพัฒนา
คุณภาพผู้เรียน
2. ครูเเก้วทำการวิจัยเรื่องการเตรียมความพร้อมเพื่อการสอน ONET ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
3. ครูน้อยทำการวิจัยเรื่องเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทั่วไปของนักเรียนเจตคติต่อการสอน ONET เเละ
การสนับสนุนจากครู โรงเรียน เเละผู้ปกครองในการสอน ONET ของนักเรียน
4. ครูบอยทำการวิจัยเรื่องปัจจัยที่ส่งผลต่อผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน ONET
5. ครูสงกรานต์ได้ทำการวิจัยเรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ต
เพื่อให้ผู้เรียนมีผลการทดสอบทางการศึกษาเเห่งชาติสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
ตอบ 5. ครูสงกรานต์ได้ทำการวิจัยเรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ตเพื่อ
ให้ผู้เรียนมีผลการทดสอลทางการศึกษาเเห่งชาติสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ห้ามคัดลอก ห้ามเผยเเพร่ ห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาด
วิเคราะห์ข้อสอบใบประกอบวิชาชีพครูตามเกณฑ์ใหม่ 2566 3
3. หากท่านต้องการทำการวิจัยเรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ตจะเขียน
วัตถุประสงค์การวิจัยว่าอย่างไร
1. กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ตทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นเเละผู้เรียนมีผลการทดสอบทางการศึกษา
เเห่งชาติสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
2. ผู้เรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ตมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นเเละผู้เรียนมีผลการทดสอบ
ทางการศึกษาเเห่งชาติสูงกว่าผู้เรียนที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ต
3. กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ตทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นเเละผู้เรียนมีผลการทดสอบทางการศึกษา
เเห่งชาติสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาหรือไม่
4. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ตให้ผู้เรียนมีผลการทดสอบทางการ
ศึกษาเเห่งชาติสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
5. กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ตส่งผลต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเเละผู้เรียนมีผลการทดสอบทาง
การศึกษาเเห่งชาติสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาหรือไม่
ตอบ 4. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ตให้ผู้เรียนมีผลการทดสอบทางการ
ศึกษาเเห่งชาติสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
4. หากท่านต้องการทำการวิจัยเพื่อเเก้ปัญหาดังกล่าวเป็นการวิจัยประเภทใด
1. การวิจัยเชิงคุณภาพ
2. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ
3. การวิจัยเพื่อตัดสินผลการเรียน
4. การวิจัยเชิงพรรณนา
5. การวิจัยรายกรณี
ตอบ 2. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ
การวิจัยในชั้นเรียน เป็นรูปแบบหนึ่งของการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ซึ่งเป็นการวิจัยที่มุ่งแก้ปัญหาที่
เกิดขึ้นเฉพาะหน้าเป็นครั้ง ๆ ไป หรือเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่งในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ผลการวิจัยที่ค้นพบนี้ไม่สามารถนำไปใช้
อ้างอิงกับกลุ่มอื่น ๆ ได้ เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในวงจำกัดหรือเป็นปัญหาเฉพาะที่ เช่น ปัญหาที่เกิดขึ้นในห้องเรียนบาง
อย่างที่ครูต้องการคำตอบมาอธิบายเฉพาะที่เกิดขึ้นในห้องที่ตนรับผิดชอบอยู่เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับปัญหาของห้องเรียนอื่น ๆ
การศึกษาปัญหาลักษณะนี้ เราเรียกว่า การวิจัยในชั้นเรียน (Classroom Action Research) ซึ่งเป็นรูปแบบของการวิจัยที่ครู
กำลังให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถนำไปใช้เพื่อการศึกษา และการวิจัยในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของห้องเรียน
จึงอาจกล่าวได้ว่า การวิจัยในชั้นเรียนเป็นวิธีการวิจัยที่ออกแบบ และพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้ครูสามารถค้นพบว่ามีอะไรเกิด
ขึ้นในห้องเรียนบ้าง และยังช่วยให้ครูทราบข้อมูลที่จะนำไปใช้เพื่อการพัฒนาการเรียนการสอนที่จะมีขึ้นต่อไปในอนาคต โดย
เลือกใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงบรรยาย หรือการวิจัยเชิงทดลอง อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นวิธี
การศึกษา
5. หากท่านทำการวิจัยเรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ตเพื่อให้ผู้เรียนมี
ผลการทดสอบทางการศึกษาเเห่งชาติสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาท่านจะกำหนดตัวเเปรต้นในการทำการวิจัยคือข้อใด
1. กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ต
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
3. ผลการทดสอบทางการศึกษาเเห่งชาติ
4. ความพร้อมของครู
5. ขนาดโรงเรียน
ตอบ 1. กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ต
6. หากท่านทำการวิจัยเรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ตเพื่อให้ผู้เรียนมี
ผลการทดสอบทางการศึกษาเเห่งชาติสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาท่านจะกำหนดตัวเเปรตามในการทำการวิจัยคือข้อใด
1. กิจกรรมเตรียมความฟิต พิชิตโอเน็ต
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเเละผลการทดสอบทางการศึกษาเเห่งชาติ
3. เเรงจูงใจในการเรียน
4. ความพร้อมของครู
5. ขนาดโรงเรียน
ตอบ 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเเละผลการทดสอบทางการศึกษาเเห่งชาติ
7. ท่านคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของใคร
1. ปัญหาของนักเรียนส่วนใหญ่
2. ปัญหาของหน่วยงานต้นสังกัด
3. ปัญหาของครูผู้สอน
4. ปัญหาของนักเรียนบางคน
5. ปัญหาของผู้ออกข้อสอบ
ตอบ 1. ปัญหาของนักเรียนส่วนใหญ่
8. ครูท่านใดทำการวิจัยในลักษณะที่ไม่ใช่วิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้
1. ครูสาวทำการวิจัยเพื่อหาวิธีช่วยให้นักเรียนหันมาสนใจการเรียนมากขึ้น
2. ครูนิดาทำการวิจัยเพื่อหานวัตกรรมในการช่วยเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
3. ครูเเววทำการวิจัยเพื่อหาวิธีช่วยให้นักเรียนคิดวิเคราะห์เเละสามารถเเก้ปัญหาโจทย์ได้
4. ครูเเสงดาวทำการวิจัยเพื่อหาสาเหตุการไม่มาเรียนของนักเรียน
5. ครูโฉมฉายทำการวิจัยเพื่อให้นักเรียนสามารถเเก้โจทย์ปัญหาได้
ตอบ 4. ครูเเสงดาวทำการวิจัยเพื่อหาสาเหตุการไม่มาเรียนของนักเรียน
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ห้ามคัดลอก ห้ามเผยเเพร่ ห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาด
วิเคราะห์ข้อสอบใบประกอบวิชาชีพครูตามเกณฑ์ใหม่ 2566 5
9. ข้อใดเป็นการนำผลการวิจัยไปพัฒนาการจัดการเรียนการสอนตามผลการวิจัยที่เกิดขึ้น
1. ครูนำรายงานผลการวิจัยไปขอรับวิทยฐานะที่สูงขึ้น
2. ผู้อำนวยการนำผลการวิจัยไปประกวดเพื่อรับรางวัลระดับชาติ
3. ผู้บริหารนำผลการวิจัยไปพัฒนาผลงานทางวิชาการเพื่อสร้างชื่อเรียนให้เเก่โรงเรียน
4. ครูพัฒนาระดับเจตคติจากระดับปานกลางเป็นระดับดีด้วยการให้รางวัลแก่เด็กเรียนดี
5. ครูนำนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่ได้จากการวิจัยไปใช้พัฒนาทักษาการคิดเเละการเเก้ปัญหาของนักเรียน
ตอบ 5. ครูนำนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่ได้จากการวิจัยไปใช้พัฒนาทักษาการคิดเเละการเเก้ปัญหาของนักเรียน
10. คุณครูต้นข้าวสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนไม่สามารถแก้ไขโจทย์
ปัญหาได้ เนื่องจากนักเรียนอ่านโจทย์ไม่ออกและไม่เข้าใจโจทย์ จนทำให้นักเรียนไม่ตั้งใจเรียน คุยกันเสียงดัง จาก
สถานการณ์ดังกล่าวปัญหาสำคัญคืออะไร
1. นักเรียนไม่ตั้งใจเรียน
2. นักเรียนคุยกันเสียงดัง
3. นักเรียนไม่เข้าใจโจทย์
4. นักเรียนอ่านโจทย์ไม่ออก
5. นักเรียนไม่สามารถแก้ไขโจทย์ปัญหาได้
ตอบ 4. นักเรียนอ่านโจทย์ไม่ออก
11. จากข้อที่ 10 ปัญหาวิจัยเพื่อการพัฒนาการเรียนรู้จากสถานการณ์ดังกล่าวควรเป็นอย่างไร
1. นักเรียนไม่ตั้งใจเรียนเพราะสาเหตุใด
2. พฤติกรรมการคุยของนักเรียนมีลักษณะ อะไรบ้าง
3. ครูจะใช้วิธีการใดได้บ้างเพื่อให้นักเรียนอ่านหนังสือออก
4. ครูจะใช้วิธีการใดได้บ้างเพื่อให้นักเรียนเข้าใจโจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์
5. ครูจะใช้วิธีการใดได้บ้างเพื่อให้นักเรียนสามารถแก้ไขโจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้
ตอบ 3. ครูจะใช้วิธีการใดได้บ้างเพื่อให้นักเรียนอ่านหนังสือออก
18. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
1. การวิจัยในชั้นเรียนมีเป้าหมายสูงสุดที่การพัฒนาตนเองของครูผู้สอน
2. การวิจัยช่วยทำให้เกิดการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพของกระบวนการจัดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
3. การวิจัยเป็นการสร้างชุมชนเเห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
4. การวิจัยช่วยพัฒนาผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะที่พึงประสงค์
5. การวิจัยช่วยพัฒนาครูไปสู่ความเป็นครูมืออาชีพ
ตอบ 1. การวิจัยในชั้นเรียนมีเป้าหมายสูงสุดที่การพัฒนาตนเองของครูผู้สอน ผิดเพราะการวิจัยในชั้นเรียนมีเป้าหมายสูงสุดที่
การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมีผลพลอยได้คือการพัฒนาตนเองของครูผู้สอน
19. ข้อใดเป็นขั้นตอนเเรกของกระบวนการวิจัย
1. ออกเเบบการวิจัย
2. กำหนดวัตถุประสงค์ของการวิจัย
3. กำหนดขอบเขตการวิจัย
4. ตั้งสมมติฐานการวิจัย
5. กำหนดปัญหาการวิจัย
ตอบ 5. กำหนดปัญหาการวิจัย
อธิบาย กระบวนการวิจัยมีดังนี้
1. กำหนดปัญหา / หัวข้อวิจัย
2. กำหนดวัตถุประสงค์ของการวิจัย
3. กำหนดขอบเขตของการวิจัย/ สมมติฐาน
4. ออกเเบบการวิจัย
5. เก็บรวบรวมข้อมูล
6. วิเคราะห์ข้อมูลเเละการเเปลผล
7. เขียนรายงาน
8. ตีพิมพ์เผยเเพร่
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ห้ามคัดลอก ห้ามเผยเเพร่ ห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาด
วิเคราะห์ข้อสอบใบประกอบวิชาชีพครูตามเกณฑ์ใหม่ 2566 9
20. ข้อใดเป็นขั้นตอนทำหลังจากขั้นตอนการตั้งสมมติฐานการวิจัย
1. วิเคราะห์ข้อมูลเเละการเเปลผล
2. เก็บรวบรวมข้อมูล
3. กำหนดวัตถุประสงค์การวิจัย
4. กำหนดหัวข้อ / ปัญหาการวิจัย
5. ออกเเบบการวิจัย
ตอบ 5. ออกเเบบการวิจัย
21. ครูท่านใดตั้งคำถามการวิจัยเหมาะสมน้อยที่สุด
1. เด็กชายบอยมีพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างไรบ้าง
2. นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรต่อการประเมินตนเอง
3. นักเรียนมาสายกี่คน ใครมาสายบ้าง
4. จะมีวิธีการอย่างไรในการเเก้ปัญหาพฤติกรรมการมาโรงเรียนสาย
5. นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรต่อการเเก้ปัญหาด้วยวิธีการลงโทษ
ตอบ 3. นักเรียนมาสายกี่คน ใครมาสายบ้าง
อธิบาย ในการตั้งคำถามการวิจัยคำตอบที่ได้จะต้องเน้นกระบวนการพัฒนาตัวผู้เรียนเเละครูผู้ทำวิจัย ทั้งในด้านเนื้อหาที่
ทำเเละกระบวนการวิจัย ควรยกเว้นคำถามที่ตอบเพียงว่าใช่ / หรือไม่ เพราะเมื่อทรายคำตอบเเล้วไม่สามารถเเก้ไขหรือทำ
อะไรได้ คำถามต้องเป็นคำถามที่ส่งเสริมความคิดในระดับสูงไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบเพียงเเค่รู้เฉยๆ เเต่ต้องนำไปสู่
การพัฒนา + ใช้ผลการวิจัยได้
22. พิจารณาข้อความต่อไปนี้ข้อใดเป็นการตั้งวัตถุประสงค์การวิจัยที่เหมาะสม
ก. เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน
ข. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่สูงขึ้น
ค. เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์
ง. เพื่อสร้างเเละหาประสิทธิภาพของชุดการสอนเรื่องโรคจากยุงลาย
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ห้ามคัดลอก ห้ามเผยเเพร่ ห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาด
วิเคราะห์ข้อสอบใบประกอบวิชาชีพครูตามเกณฑ์ใหม่ 2566 10
จ. เพื่อเเก้ไขปัญหาพฤติกรรมการมาโรงเรียนสายของนักเรียนชั้นป.6 จำนวน 6 คน
1. ก ง จ
2. ก ข ค
3. ง เท่านั้น
4. ข ค ง
5. ง เเละ จ
ตอบ 5. ง เเละ จ
23. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยวิธีการสอนที่เเตกต่างกัน
3 วิธี
1. ตัวเเปรต้น คือ วิธีการสอนที่เเตกต่างกัน 3 วิธี
2. ตัวเเปรอิสระ คือ ความรู้เดิม
3. ตัวเเปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์
4. ตัวเเปรเเทรกสอด คือ ความเหนื่อยหน่าย
5. ตัวเเปรเเทรกซ้อน คือ ความรู้เดิม
ตอบ 2. ตัวเเปรอิสระ คือ ความรู้เดิม
อธิบาย 1. ตัวเเปรต้น คือ วิธีการสอนที่เเตกต่างกัน 3 วิธี
2. ตัวเเปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์
3. ตัวเเปรเเทรกสอดจะเป็นตัวเเปรที่เข้ามาคั่นกลางระหว่าตัวเเปรต้นกับตัวเเปรตาม จากโจทย์ คือ ความเหนื่อย
หน่าย
4. ตัวเเปรเเทรกซ้อน คือ ตัวเเปรอิสระที่ไม่ต้องการศึกษาเเต่มีผลกระทบต่อผลการศึกษาหากไม่ควบคุมหรือกำจัด
ออก จากโจทย์ คือ ความรู้เดิม
24. ข้อใดเป็นคำถามการวิจัยประเภทการวิจัยเชิงทดลอง
1. ทำไมนักเรียนจึงมีรูปเเบบการเรียนรู้เเตกต่างกัน
2. ทำไมเด็กชายน้อยจึงมีพฤติกรรมมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
3. ผู้เรียนมีระดับความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนอยู่ในระดับใด
4. ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการการเรียนวิชาคณติศาสตร์ของนักเรียน
5. นักเรียนที่เรียนตามรูปเเบบการสอน 5E มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักเรียนที่เรียนตามคู่มือครูหรือไม่
ตอบ 5. นักเรียนที่เรียนตามรูปเเบบการสอน 5E มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักเรียนที่เรียนตามคู่มือครูหรือไม่
25. ข้อใดเป็นคำถามการวิจับประเภทการวิจัยเชิงปฏิบัติการ
1. สื่อหรือรูปเเบบการสอนหรือนวัตกรรมมีประสิทธิภาพเเละประสิทธิผลระดับใด
2. นักเรียนมีพัฒนาการด้านการเขียนอย่างไรเมื่อครูใช้วิธีการพัฒนาความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์
3. พฤติกรรมการสอนของครูส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์นักเรียนมากน้อยเพียงใด
4. การจัดการเรียนรู้เเบบโครงงานที่ให้ชุมชนมีส่วนร่วมควรมีรูปเเบบลักษณะอย่างไร
5. ผู้เรียนมีรุปเเบบการเรียนรู้ Learning style อะไรบ้าง
ตอบ 2. นักเรียนมีพัฒนาการด้านการเขียนอย่างไรเมื่อครูใช้วิธีการพัฒนาความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์
26. ข้อใดเป็นคำถามการวิจัยประเภทการวิจัยเชิงพัฒนา
1. สาเหตุการมาสายของนักเรียนคืออะไร ควรเเก้ไขอย่างไรบ้าง
2. การเเก้ไขปัญหานักเรียนมีพฤติกรรมเเต่งกานไม่เรียบร้อยโดยใช้เทคนิคการเสริมเเรงได้ผลอย่างไร
3. ทำไมนักเรียนจึงมีรูปเเบบการเรียนรู้เเตกต่างกัน
4. รููปเเบบการสอนโดยใช้เทคนิค STEM ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนให้ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด
5. เหตุใดเด็กหญิงสกายจึงชอบเรียนวิชาศิลปะเเละทำผลงานออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
ตอบ 4. รููปเเบบการสอนโดยใช้เทคนิค STEM ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนให้ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด
4. กำหนดปัญหาการวิจัย โดยตั้งปัญหาวิจัยในลักษณะประโยคคำถาม
จากโจทย์ ครูขวัญใจเจอปัญหาการเรียนรู้ในชั้นเรียน คือ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 บางคนไม่สามารถเล่นกับเพื่อนๆ ได้ ซึ่งจัด
อยู่ในขั้นตอนแรก แล้วขั้นตอนถัดไปที่ครูขวัญใจควรทำ คือ วิเคราะห์สาเหตุปัญหาการเรียนรู้ โดยเรียกเด็กๆ มาพูดคุยเพื่อ
ให้รู้สาเหตุและวางแผนทำวิจัยเพื่อแก้ปัญหาต่อไป
29. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้
1. ผลของการทำวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ที่สำคัญคือผู้สอนสามารถนำไปเป็นผลงานทางวิชาการได้
2. การวิจัยเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้จะเกิดขึ้นเมื่อผลการเรียนของนักเรียนไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
3. ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาสามารถทำวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้
4. ผู้เรียนทุกคนต้องผ่านการพัฒนาด้วยกระบวนการวิจัยของครู
5. ครูทุกคนต้องทำวิจัยเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้ของผู้เรียน
ตอบ 2. การวิจัยเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้จะเกิดขึ้นเมื่อผลการเรียนของนักเรียนไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
คำอธิบาย
การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ มุ่งให้ครูผู้สอนสามารถทำวิจันเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้วยการศึกษาวิเคราะห์ปัญหา
การเรียนรู้ วางแผนแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ เก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ ครูผู้สอนสามารถทำวิจัยและ
พัฒนานวัตกรรมการศึกษาที่นำไปสู่คุณภาพการเรียนรู้ด้วยการศึกษาวิเคราะห์ปัญหาการเรียนรู้ ออกแบบและพัฒนา
นวัตกรรมการเรียนรู้ ทดลองใช้นวัตกรรมการเรียนรู้ เก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ผลการใช้นวัตกรรมนั้นๆ และครูผู้สอน
สามารถนำกระบวนการวิจัยมาจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยเทคนิควิธีการที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนจากการ
วิเคราะห์ปัญหา สร้างแนวทางเลือกในการแก้ไขปัญหา ดำเนินตามแนวทางที่เลือก และสรุปผลการแก้ไขปัญหาอันเป็นการ
ฝึกทักษะ ฝึกกระบวนการคิด ฝึกการจัดการจากการเผชิญสถานการณ์จริง และปรับประยุกต์ประสบการณ์มาใช้แก้ไขปัญหา
จากข้อมูลข้างต้นโรงเรียนดังกล่าวว่าควรพัฒนาตามข้อใด
1. จัดให้ผู้เรียนสามารถสร้างผลงานที่เป็นผลงานของตนเอง ผ่านนกระบวนการเรียนรู้กิจกรรมโครงงานอย่างหลาก
หลายเเละมีคุณภาพ
2. ทำเเผนงานเเละโครงการต่างๆอย่างเป็นระบบโดยยึดนโยบายจากต้นสังกัดเเละบริบทของชุมชน อาศัยข้อมูล
จากการประเมินเเผนงานของปีการศึกษาในอดีตอย่างน้อย 2 ปี โดยผนวกเอาความต้องการของชุมชนมาประกอบก่อนที่จะ
วางเเผนงานทุกเเผน
3. จัดการเรียนการสอนเเบบ Active Learning โดยมีการวางเเผนที่เหมาะสมกับบริบทเเละผนวกกับนโยบายต้น
สังกัด
4. จัดทำเเผนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามศักยภาพ ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนตามความถนัดเเละ
ความสนใจ
5. ครูมีการบริหารห้องเรียนเชิงบวก มีการพัฒนาเเผนการสอนอย่างต่อเนื่องทุกปี มีเครื่องมือวัดผลที่หลากหลาย ครู
มีการพัฒนาตนเองไปสุ่การพัฒนาการสอนโดยมีการวิจัยในชั้นเรียนทุกภาคเรียน
ตอบ 1. จัดให้ผู้เรียนสามารถสร้างผลงานที่เป็นผลงานของตนเอง ผ่านกระบวนการเรียนรู้กิจกรรมโครงงานอย่างหลาก
หลายเเละมีคุณภาพ ด้านคุณภาพผู้เรียน ส่วน 2 ด้านกระบวนการบริหารเเละการจัดการ ส่วน 3 4 5 ด้าน
กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
จากข้อมูลข้างต้นโรงเรียนดังกล่าวว่าควรพัฒนาตามข้อใด
1. จัดกิจกรรมเเลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครูเเละบุคลากรภายในสถานศึกษา
2. มีการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลในเเต่ละห้องเรียน จัดกลุ่มเรียนเพื่อปรับพื้นฐานพัฒนาต่อยอดเเละสอนซ่อม
เสริมนักเรียนตามความต้องการเเละจำเป็น
3. มีการเเต่งตั้งบุคลากรรับผิดชอบงานตามโครงสร้างของสถานศึกษา มีโครงการเเละกิจกรรมที่ไม่ซับซ้อน
4. ส่งเสริมให้ครูพัฒนาสื่อ นวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอน เเละส่งเสริมให้ครูทำวิจัยในชั้นเรียน
5. สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูนำผลการประเมินมาวิเคราะห์เเละจัดทำเเผนพัฒนาตนเอง
ตอบ 3. มีการเเต่งตั้งบุคลากรรับผิดชอบงานตามโครงสร้างของสถานศึกษา มีโครงการเเละกิจกรรมที่ไม่ซับซ้อน
1 4 5 ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 2 ด้านคุณภาพผู้เรียน
จากข้อมูลข้างต้นโรงเรียนดังกล่าวว่าควรพัฒนาตามข้อใด
1. ส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้ทักษะความสามารถเเละศักยภาพของสถานศึกษาในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนานวัตกรรม
2. วิเคราะห์สภาพปัญหาจากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อวางเเผนเเก้ปัญหาด้วยนวัตกรรมการสอนที่เหมาะสม
3. จัดสภาพเเวดล้อมที่ร่มรื่น สะอาด ปลอดภัย มีเเหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ
4. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาเเละความเเตกต่างระหว่างผู้เรียนรายบุคคล
5. พัฒนาเเนวคิดการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี
ตอบ 2. วิเคราะห์สภาพปัญหาจากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อวางเเผนเเก้ปัญหาด้วยนวัตกรรมการสอนที่เหมาะสม
1 ด้านคุณภาพผู้เรียน 3 4 5 ด้านการบริหารเเละการจัดการ
ตอบ 5. การจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้ซึ่งจัดขึ้นโดยครูผู้สอนเพื่อให้สนองต่อเจตนารมณ์ของหลักสูตร จึงเป็นกระบวนการสำคัญที่สุดใน
กระบวนการใช้หลักสูตร
68. ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของการพัฒนาหลักสูตร
1. การนำหลักสูตรไปใช้
2. กำหนดเนื้อหา/ประสบการณ์การเรียนรู้
3. การประเมินผลหลักสูตร
4. การกำหนดจุดมุ่งหมาย
5. การศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการ
ตอบ 5. การศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการ
สรุปว่า การพัฒนาหลักสูตร มี 6 ขั้นตอน ดังนี้
1. วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน
2. กำหนดจุดมุ่งหมาย
3. กำหนดเนื้อหา/ประสบการณ์การเรียนรู้
4. การนำหลักสูตรไปใช้
5. การประเมินผลหลักสูตร
6. การปรับปรุง เปลี่ยนแปลงหลักสูตร
69. ครูท่านใดจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเหมาะสมน้อยที่สุด
1. ครูวิชใช้สื่อการสอนเป็นเทคโนโลยีทั้งหมดเพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยี
2. ครูกรที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก ผู้สนับสนุน ให้แก่ผู้เรียน
3. ครูนภาสนับสนุนให้มีการฝึกและปฏิบัติในสภาพจริงในการทํางาน
4. ครูที่มีการเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนกับชีวิตประจำวัน สังคมและนักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้
5. ครูปิ่นพานักเรียนไปเรียนในเเหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายนอกห้องเรียน
ตอบ 1. ครูวิชใช้สื่อการสอนเป็นเทคโนโลยีทั้งหมดเพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยี
ในการจัดการเรียนรู้ควรใช้สื่อการสอนที่หลากหลายรูปเเบบเเละคำนึงถึงความเเตกต่างของผู้เรียนเป็นสำคัญ
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยการเรียนรู้เป็นขั้นตอนที่สำคัญของการนำหลักสูตรสถานศึกษาเข้าสู่ชั้นเรียน
การออกเเบบหน่วยการเรียนรู้ควรครอบคลุมขั้นตอนการออกเเบบ 3 ขั้นตอนดังนี้
1. การกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้
2. การกำหนดหลักฐานการเรียนรู้
3. การกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้
องค์ประกอบของหน่วยการเรียนรู้ต้องเริ่มจากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชื่อมโยงมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัดที่
สามารถนำมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันได้
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้ต้องสามารถนำพาผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนเเละ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ได้ด้วย
การออกเเบบหน่วยการเรียนรู้ควรมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้
1. ชื่อหน่วยการเรียนรู้
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด
4. สาระการเรียนรู้
- สาระการเรียนรู้เเกนกลาง
- สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น
5. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน
6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
7. ชิ้นงาน / ภาระงาน
8. การวัดเเละประเมินผล
9. กิจกรรมการเรียนรู้
10. เวลาเรียน / จำนวนชั่วโมง
3. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้สูงสุด
4. เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูล ข่าวสาร สารสนเทศ สู่ทักษะการคิดวิเคราะห์ และ ประเมินค่า
5. ผู้เรียนได้เรียนรู้ความมีวินัยในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
วิเคราะห์ข้อสอบใบประกอบวิชาชีพครูตามเกณฑ์ใหม่ 2566 89
6. ความรู้เกิดจากประสบการณ์ และการสรุปของผู้เรียน
7. ผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง
ลักษณะของการจัดกระบวนการเรียนรู้
1. จัดการเรียนรู้ที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหาและการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
2. จัดการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้สูงสุด
3. จัดให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้และจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง
4. จัดให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน สร้างร่วมมือ
กันมากกว่าการแข่งขัน
5. จัดให้ผู้เรียนเรียนรู้เรื่องความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทำงาน และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
ในภารกิจต่าง ๆ
6. จัดกระบวนการเรียนที่สร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการ
เรียนรู้ด้วยตนเอง
7. จัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการคิดขั้นสูง
8. จัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูล ข่าวสาร หรือสารสนเทศ และหลักการความคิดรวบยอด
9. ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง
10. จัดกระบวนการสร้างความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้และการสรุปทบทวนของผู้เรียน
บทบาทของครูในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
1. จัดให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอน กิจกรรมต้องสะท้อนความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนและ
เน้นการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงของผู้เรียน
2. สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้สอน และ
เพื่อนในชั้นเรียน
3. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมทั้ง กระตุ้นให้ผู้เรียน
ประสบความสำเร็จในการเรียนรู้
4. จัดสภาพการเรียนรู้แบบร่วมมือ ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุ่มผู้เรียน
82. ข้อใดเป็นบทบาทของครูผู้สอนในกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผุ้เรียนเป็นสำคัญ
1. ประเมินผลการเรียนรู้ด้านความรู้ของผู้เรียนอย่างต่เนื่องตรงตามสภาพจริง
2. ครูผู้สอนเป็นผู้ประเมินเเละสะท้อนผลการเรียนของผู้เรียน
3. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้ผู้เรียนเชื่อมโยงหรือประยุกต์ใช้สิ่งที่เรียนในชีวิตจริงหรือสถานการณ์
ที่เป็นจริงให้มากที่สุด
4. เป็นผู้กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้เเละเป็นผู้วางเเผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในบรรยากาศที่
ยืดหยุ่น
5. เป็นผู้กำหนดการสร้างผลงานเเละชิ้งานให้กับผู้เรียน
ตอบ 3. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้ผู้เรียนเชื่อมโนงหรือประยุกต์ใช้สิ่งที่เรียนในชีวิตจริงหรือสถานการณ์ที่เป็น
จริงให้มากที่สุด
1. ผิด เพราะควรประเมินผลการเรียนเรียนรู้ของผู้เรียนในทุกด้านทั้งด้านความรู้ กระบวนการ เเละ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (พุทธิพิสัย ทักษะพิสัย เเละจิตพิสัย)
2. ผิด เพราะครูผู้สอนควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนประเมินเเละสะท้อนผลการเรียนของตนเองเเละ
เพื่อน
4. ผิดเพราะครูผู้สอนควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีโอกาสได้กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้เเละร่วมวางเเผ
นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในบรรยากาศที่ยืดหยุ่น
5. ผิดเพราะครูผู้สอนควรจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกเเละสร้างผลงาน
จากการเรียนรู้ตามความถนัดเเละความสนใจของตนเองเเละของกลุ่ม
อ่านเสริม บทบาทของผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
1. ให้ผู้เรียนมีโอกาสกำหนดเป้าหมายของการเรียนรู้และร่วมวางแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้
ในบรรยากาศที่ยืดหยุ่น
2. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ช่วยให้ผู้เรียนสร้างความรู้ ความเข้าใจในการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่
หลากหลาย
3. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่กระตุ้นและส่งเสริมการคิด การค้นคว้าหาความรู้ และการแสดงออก
ของผู้เรียน ฝึกให้ผู้เรียนค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้หรือแหล่งข้อมูลที่หลากหลายด้วยตนเอง
วิเคราะห์ข้อสอบใบประกอบวิชาชีพครูตามเกณฑ์ใหม่ 2566
95
4. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกและสร้างผลงานจากการเรียนรู้ตามถนัดและ
ความสนใจของตนเองและของกลุ่ม
5. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงแหล่งข้อมูลและการจัดการ
กระทำข้อมูล
6. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้ผู้เรียนเชื่อมโยงหรือประยุกต์ใช้สิ่งที่เรียนในชีวิตจริงหรือ
สถานการณ์ที่เป็นจริงให้มากที่สุด
7. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนฝึกคิด ฝึกปฏิบัติ และฝึกปรับปรุงตนเอง
8. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมกันจากเพื่อนใน
กลุ่ม
9. ส่งเสริมให้มีโอกาสฝึกการทำงานเป็นทีมความมีวินัยและความรับผิดชอบ
10. จัดสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศการเรียนการสอนที่เป็นกัลยาณมิตร มีชีวิตชีวา และมีความสุข
11. ใช้สื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่หลายหลายเพื่อส่งเสริมการคิด การแก้ปัญหาและการค้นพบความรู้
12. ประเมินผลการเรียนรู้และพัฒนาการทุกด้านของผู้เรียนอย่างต่อเนื่องและตรงสภาพจริง
13. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนประเมินและสะท้อนผลการเรียนของตนเองและเพื่อน
83. การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติข้อใด
เป็นสิ่งที่ครูควรทำเป็นอันดับเเรก
1. การออกแบบการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง
2. การวิเคราะห์ผู้เรียน การรู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม
3. การออกแบบการเรียนรู้ตามสภาพจริงให้สอดคล้องกับมาตรฐานหลักสูตรและเชื่อมโยงบูรณาการ
ระหว่างกลุ่มวิชา
4. การออกเเบบกำหนดชิ้นงานเเละสื่อการสอน
5. การกำหนดรูปเเบบการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความถนัดเเละความต้องการของผู้เรียน
ตอบ 2. การวิเคราะห์ผู้เรียน การรู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม
ผลการประเมินเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการสอน
แนวทางในการดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอนประกอบกระบวนการดำเนินการตามลำดับ
ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลจากการประเมินเพื่อการพัฒนากระบวนการเรียนการสอน
ขั้นที่ 2 การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนากระบวนการเรียนการสอน
ขั้นที่ 3 การดำเนินการพัฒนากระบวนการเรียนการสอน
ขั้นที่ 4 การติดตามและการประเมินผลการพัฒนากระบวนการเรียนการสอน
1. การใช้ผลการประเมินเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอน การใช้ผลจากการประเมินผู้เรียนเปรียบ
เทียบกับเกณฑ์ขั้นต่ำ ตามมาตรฐานและตัวชี้วัด เพื่อให้รับทราบเกี่ยวกับความก้าวหน้าของนักเรียนและผู้สอนมีข้อมูล
เกี่ยวคุณภาพการสอน โดยผู้สอนต้องดำเนินการตามลำดับขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 สร้างเกณฑ์ขั้นต่ำตามตัวชี้วัดและมาตรฐานการเรียนรู้
ขั้นที่ 2 ระบุจำนวนผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ
ขั้นที่ 3 เปรียบเทียบความสามารถของกลุ่มนักเรียนกับเกณฑ์
ขั้นที่ 4 ประเมินคุณภาพการสอนว่าควรปรับปรุงหรือแก้ไขอย่างไร
2. การใช้ผลการประเมินเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการเรียน
3. การใช้ผลการประเมินเพื่อพัฒนาและปรับปรุงสถานศึกษา สามารถใช้ได้ใน 4 ลักษณะ ได้แก่
3.1 การใช้ผลการประเมินเป็นรายห้อง ในกรณีที่สถานศึกษามีห้องเรียนมากกว่า 1 ห้อง สามารถนำ
ผลจากการประเมินมาเปรียบเทียบกันได้ เพื่อวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อยของแต่ละห้อง กระบวนการจัดการเรียนการสอน
การใช้สื่อเพื่อจะได้แก้ไขได้ตรงจุด และมีประโยชน์ในการพัฒนาครู การจัดกิจกรรมสนับสนุนในกรณีที่ต้องแก้ไขเกี่ยว
พันกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
3.2 การใช้ผลการประเมินเป็นรายชั้น ในกรณีที่สถานมีห้องเรียนหลายห้อง โดยอาจจะหาค่าเฉลี่ยจาก
ผลการประเมินทุกห้อง สถานศึกษาจะทราบว่านักเรียนในชั้นใดมีจุดเด่น จุดด้อย ในด้านใด จะก่อให้เกิดประโยชน์ใน
การพัฒนาครูแต่ละชั้นและการจัดกิจกรรมสนับสนุนในกรณีที่การ วิเคราะห์สาเหตุของการเรียนอ่อนเกี่ยวพันไปสู่เรื่อง
อื่น
ขั้นตอนที่ 2 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน
เป็นขั้นตอนที่จะได้มาซึ่งกรอบเนื้อหาสาระการเรียนรู้หลักสูตรท้องถิ่น ซึ่งเนื้อหาสาระอาจเกี่ยวกับ
ประวัติความเป็นมาของท้องถิ่น สภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศ เศรษฐกิจ สังคม วิถีชีวิต ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี
ภูมิปัญญาท้องถิ่น สภาพปัญหา เหตุการณ์สำคัญในท้องถิ่น และการพัฒนาท้องถิ่น โดยคณะทำงานเพื่อพัฒนาหลักสูตร
ท้องถิ่นควรจัดประชุมผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาหลักสูตรท้องถิ่น ควรประกอบด้วย ผู้บริหาร ครูผู้สอน ผู้ปกครอง
ตัวแทนนักเรียน ตัวแทนชุมชน ปราชญ์ ชาวบ้าน/วิทยากรท้องถิ่น เพื่อศึกษาสภาพปัญหาความต้องการของชุมชน/ท้อง
ถิ่น และความต้องการของผู้เรียน อีกทั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นควรศึกษาหลักสูตรแม่บทหรือหลักสูตร
แกนกลาง และวิเคราะห์ศักยภาพของโรงเรียน เพื่อประเมินแนวโน้มการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นของโรงเรียน ซึ่งมี 2
ลักษณะ คือ การสร้างรายวิชาเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่หรือการบูรณาการหลักสูตรท้องถิ่นกับ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ตาม
หลักสูตรแกนกลาง
ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดจุดประสงค์ของหลักสูตรท้องถิ่น รายละเอียดแบ่งตามลักษณะของการพัฒนาหลักสูตร
ท้องถิ่น ดังนี้
3.1) การสร้างรายวิชาเพิ่มเติม ขึ้นมาใหม่ คณะทำงานเพื่อพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นเป็นผู้กำหนดจุดประสงค์ของ
หลักสูตรท้องถิ่นครอบคลุมพฤติกรรมการเรียนรู้ทั้ง 3 ด้าน คือ พุทธิพิสัย ทักษะพิสัย และจิตพิสัย
3.2) การบูรณาการหลักสูตรท้องถิ่น กับ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลาง ยึดจุดประสงค์การเรียนรู้
ของรายวิชาหลักตามหลักสูตรแกนกลางและบูรณาการเนื้อหาสาระหลักสูตรท้องถิ่นลงในจุดประสงค์การเรียนรู้ด้านใด
ด้านหนึ่ง หรือครบทั้ง 3 ด้านก็ได้
ขั้นตอนที่ 4 การกำหนดเนื้อหาของหลักสูตรท้องถิ่น
คณะทำงานเพื่อพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นกำหนดเนื้อหาของหลักสูตรท้องถิ่น โดยศึกษาจากกรอบเนื้อหาสาระ
การเรียนรู้หลักสูตรท้องถิ่น ที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน
ขั้นตอนที่ 5 การกำหนดเวลาเรียน รายละเอียดแบ่งตามลักษณะของการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น ดังนี้
5.1) การสร้างรายวิชาเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ คณะทำงานเพื่อพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นกำหนดเวลาเรียนโดยยึด
ว่ารายวิชาเพิ่มเติมที่สร้างขึ้นมาใหม่นั้นอยู่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ใดหรือจัดเป็นกิจกรรมชุมชน
5.2) การบูรณาการหลักสูตรท้องถิ่นกับ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลาง ใช้เวลาเรียนของ
รายวิชาหลัก ตามหลักสูตรแกนกลาง
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ห้ามคัดลอก ห้ามเผยเเพร่ ห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาด
วิเคราะห์ข้อสอบใบประกอบวิชาชีพครูตามเกณฑ์ใหม่ 2566 101
87. ข้อใดไม่ใชขั้นตอนการศึกษาสภาพหรือข้อมูลพื้นฐานของการจัดทำหลักสูตรท้องถิ่น
1. ศึกษาหลักสูตรเเกนกลาง
2. ศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น
3. ศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการของผู้เรียน
4. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียน
5. ศึกษาวิธีการจัดการเรียนรู้ตามเเผนการจัดการเรียนรู้
ตอบ 5. ศึกษาวิธีการจัดการเรียนรู้ตามเเผนการจัดการเรียนรู้
อ่านเสริม
การศึกษาสภาพหรือข้อมูลพื้นฐาน
ศึกษาหลักสูตรแม่บทหรือหลักสูตรแกนกลาง
ศึกษาสภาพ ปัญหา ความต้องการของชุมชน/ ท้องถิ่น
ศึกษาสภาพ ปัญหา ความต้องการของผู้เรียน
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียน / วิเคราะห์ศักยภาพโรงเรียน
การสร้างหลักสูตรท้องถิ่น
ศึกษาผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น (ในขั้นตอนการศึกษาสภาพหรือ
ข้อมูลพื้นฐาน)
ศึกษาหลักสูตรสถานศึกษา
การกำหนดจุดประสงค์ของหลักสูตรท้องถิ่น
การกำหนดเนื้อหาของหลักสูตรท้องถิ่น
การกำหนดเวลาเรียน
การกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้
การกำหนดวิธีและเกณฑ์การวัดและประเมินผล
การจัดทำเอกสารหลักสูตร แผนการจัดการเรียนรู้
การนำหลักสูตรท้องถิ่นไปใช้
การจัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้
การใช้สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้
การใช้แหล่งการเรียนรู้ในท้องถิ่น
การวัดและประเมินผล
การประเมินหลักสูตร
การประเมินก่อนการใช้หลักสูตร
การประเมินระหว่างใช้หลักสูตร
การประเมินหลังการใช้หลักสูตร
88. ข้อใดกล่าวถึงความจำเป็นของการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นไม่ถูกต้อง
1. การพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น
2. เป็นการปรับเนื้อหาสาระเเละประสบการณ์จากหลักสูตรเเกนกลางให้มีความสอดคล้องกับสภาพปัญหา
เเละความต้องการของท้องถิ่นมากที่สุด
3. เป็นการจัดเนื้อหาสาระเเละประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสภาพจริงที่ใกล้ตัว เรียนรู้จาก
ทรัพยากรที่อยู่ในท้องถิ่น
4. เป็นการปรับหลักสูตรเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ชีวิตจริงในท้องถิ่นของตน รู้เท่าทันการเปลี่ยนเเปลง
ทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง เเละด้านวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี
5. การใช้หลักสูตรเเกนกลางเป็นรายวิชาพื้นฐานเเละการเรียนให้เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา
ตอบ 5. การใช้หลักสูตรเเกนกลางเป็นรายวิชาพื้นฐานเเละการเรียนให้เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา
91. ข้อใดไม่ใช่กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
1. ประเมินผู้เรียนด้านทักษะความรู้อย่างรอบด้าน
2. มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวกและเอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน
3. ใช้สื่อเทคโนโลยี และมีแหล่งเรียนรู้หลากหลายทั้งในและนอกห้องเรียน
4. จัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการคิดและให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงเชื่อมโยงกับสถานการณ์ในชีวิตจริง
5. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการประเมินและสะท้อนผลการเรียนของตนเองและเพื่อนๆ
ตอบ 1. ประเมินผู้เรียนด้านทักษะความรู้อย่างรอบด้าน เพราะในการจัดการเรียนการสอนควรประเมินทุกด้านทั้งดัน
ความรู้ ด้านทักษะ เเละด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (พุทธิพิสัย จิตพิสัย เเละทักษะพิสัย)
92. ข้อใดกล่าวถึงลักษณะของการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญไม่ถูกต้อง
1. ครูแต้วส่งเสริมให้ผู้เรียนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันผ่านการสอนโดยใช้เทคนิค Problem
Base Learning
2. ครูต้อยทำการประเมินผู้เรียนด้านความคิด เน้นความคิดเชิงวิเคราะห์ สังเคราะห์
3. ครูน้อยจัดการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนเชื่อมโยงใช้สิ่งที่เรียนในชีวิตจริงหรือสถานการณ์ที่เป็นจริงมากที่สุด
4. ครูแก้วจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติในแหล่งเรียนรู้นอก
ห้องเรียน
5. ครูทรายเน้นการประเมินโดยใช้แบบทดสอบเพื่อให้นักเรียนตื่นตัวในการประเมินผลการเรียนมากขึ้น
ตอบ 5. ครูทรายเน้นการประเมินโดยใช้แบบทดสอบเพื่อให้นักเรียนตื่นตัวในการประเมินผลการเรียนมากขึ้น
เพราะในการประเมินควรใช้วิธีการประเมินที่หลากหลายเเละให้ผู้เรียน ผู้ปครอง เเละครูมีส่วนร่วมในการประเมิน
ประเมินอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการจัดการเรียนการสอน
93. ครูท่านใดจัดการเรียนรู้เหมาะสมน้อยที่สุด
1. ครูแก้วเปิดโอกาสให้นักเรียนมีอิสระในการแสดงความคิดเห็น
2. ครูแคร์เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทราบคะแนนผลงานของตนเองทันที
3. ครูหวานทำการประเมินผลทั้งก่อนเรียนและหลังเรียนในทุกหน่วยการเรียนรู้
4. ครูสมรใช้สื่อการสอนที่มีสีสันสวยงามและมีความหลากหลาย
5. ครูแต้วจัดกิจกรรมการเรียนการอสนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ เนื้อหา และผู้เรียนในรูปแบบกิจกรรมที่
แปลกใหม่
ตอบ 3. ครูหวานทำการประเมินผลทั้งก่อนเรียนและหลังเรียนในทุกหน่วยการเรียนรู้ เพราะควรประเมินทั้งก่อนเรียน
ระหว่างเรียน เเละหลังเรียนเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงการสอนเเละพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน
94. ครูท่านใดจัดการเรียนการสอนสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 24 เหมาะสมน้อย
ที่สุด
1. ครูสิตาพานักเรียนไปเรียนรู้การทำนานอกห้องเรียน
2. ครูสมหมายให้นักเรียนลงมือออกแบบสิ่งประดิษฐ์จากพลังงานสะอาดด้วยตนเอง
3. ครูสมิตรมอบหมายให้นักเรียนเลือกหัวข้อในการนำเสนอหน้าชั้นเรียนตามเรื่องที่ตนเองสนใจ
4. ครูสำลีจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองการเกิดเหตุการณ์อัคคีภัย
5. ครูสมหมายกำหนดหัวข้อการทำอาหารเมนูต่างๆในการสืบค้นข้อมูลให้นักเรียนเลือกเพื่อทำรายงานมาส่ง
ตอบ 5. ครูสมหมายกำหนดหัวข้อการทำอาหารเมนูต่างๆในการสืบค้นข้อมูลให้นักเรียนเลือกเพื่อทำรายงานมาส่ง
มาตรา 24 การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สถานศึกษาและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังต่อไปนี้
1. จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจ และความถนัดของผู้เรียนโดยคำนึงถึงความแตก
ต่างระหว่างบุคคล
2. ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญ สถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและ
แก้ไขปัญหา
3. จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้คิดเป็น ทำเป็นรักการอ่านและ
เกิดการใฝ่รู้ อย่างต่อเนื่อง
99. คำตอบของนักเรียนคนใดที่ใช้ความคิดระดับสูงกว่าการใช้ความรู้ความจำเพื่อตอบคำถามเมื่อครูถาม
ว่า‘นักเรียนมีเหตุผลอย่างไรจึงให้คำตอบเช่นนั้น’
1. เด็กหญิงจอยพูดว่าหนูคิดว่าเป็นคำตอบเหมือนกับที่ครูเฉลยค่ะ
2. เด็กหญิงต้อยพูดว่าหนูมั่นใจแน่นอนค่ะว่าคำตอบที่หนูตอบถูกต้องแน่นอนค่ะ
3. เด็กหญิงอริศพูดว่าหนูได้ปรึกษากับเพื่อนหลายๆคนแล้วว่าคำตอบที่หนูตอบถูกต้องแล้วค่ะ
4. เด็กหญิงกุ้งพูดว่าหนูได้แยกคำตอบออกมาเป็นหัวข้อย่อย ๆ ตามที่เขียนในหนังสือเรียนแล้วค่ะจึงมั่นใจว่าคำ
ตอบที่หนูตอบถูกต้อง
5. เด็กหญิงปลาได้สอบถามข้อมูลต่างๆจากข้อมูลที่นำมาอ้างอิงไว้อย่างชัดเจนแล้วค่ะจึงได้ตอบออกมาแบบนี้
ตอบ 5. เด็กหญิงปลาได้สอบถามข้อมูลต่างๆจากข้อมูลที่นำมาอ้างอิงไว้อย่างชัดเจนแล้วค่ะจึงได้ตอบออกมาแบบนี้
100 . ข้อใดคือบทบาทที่สำคัญที่สุดของผู้เรียนในกระบวนการเรียนการสอนแบบ Project-Based Learning
1. นักเรียนมีการเป็นผู้นำสูง
2. นักเรียนมีทักษะการตั้งคำถาม
3. นักเรียนมีความถนัดในการใช้เทคโนโลยี
4. นักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้และสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง
5. นักเรียนมีทักษะที่ดีในการสร้างสรรค์และการออกแบบการเรียนรู้
ตอบ 4. นักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้และสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง