Professional Documents
Culture Documents
บทที่ 4
ผลการวิจัย
1. ผลการวิ จั ย ระยะที่ 1 ผลการศึ ก ษาข้อ มู ล พื้ นฐานเกี่ ย วกับ หลัก สู ต รกิ จ กรรมการคิ ด
สร้างสรรค์เพือ่ ส่งเสริมความสามารถในการสร้างนวัตกรรมที่บูรณาการภูมิปัญญาท้องถิน่ ของ
นักเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดหนองบัวลาภู
1.1 ผลการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับหลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์
เพื่ อ ส่ ง เสริ มความสามารถในการสร้ า งนวั ต กรรมที่บู รณาการภูมิ ปัญญาท้ อ งถิ่ น ของนั ก เรี ยน
มัธยมศึกษา จังหวัดหนองบัวลาภู เป็ นขั้นตอนที่ผ้ ูวิจัยศึกษารวบรวมข้ อมูล แนวคิด ทฤษฎี และ
งานวิจัยที่เกี่ยวข้ อง เพื่อนาข้ อมูลมาวิเคราะห์เอกสาร (Document Analysis) เมื่อได้ ข้อมูลจากการ
วิ เ คราะห์ ต ามประเด็น หลัก ๆ ที่เ กี่ ย วข้ อ งกั บ การพัฒ นาหลัก สูต ร แล้ ว จึ ง น ามาก าหนดกรอบ
ประเด็นเพื่อยกร่างหลักสูตร ซึ่ งในขั้นตอนนี้ผ้ ูวิจัยได้ นาเสนอภาพรวมให้ เห็นถึงข้ อมูลที่เกี่ยวข้ อง
จากการสังเคราะห์เอกสาร ดังรายละเอียดต่อไปนี้
จากการศึกษาและวิเคราะห์ข้ อมูล พื้นฐานเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลางการศึก ษาขั้ น
พื้นฐานพุทธศักราช 2551 พบว่า การจัดทาหลักสูตรในสถานศึกษาสามารถกาหนดในส่ว นของ
รายวิชาเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้ องกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้ องถิ่น ความต้ องการ
ของผู้เรียน ให้ สอดคล้ องกับจุ ดเน้ นและวิสัยทัศน์ของสถานศึกษา (สานักวิชาการและมาตรฐาน
การศึกษา, 2553) หรือกิจกรรมเสริมที่ผ้ ูเรียนสนใจในรูปแบบของกิจกรรมชุมนุม ซึ่งเปิ ดโอกาส
ให้ ผ้ ูเรียนที่สนใจเลือกลงทะเบียนเรียนโดยไม่ บังคับ และจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่ างอิส ระใน
เนื้อหาสาระ ไม่จาเป็ นต้ องเป็ นเนื้อหาตามสาระวิชาทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ แต่เป็ นส่วนหนึ่งของ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามกรอบของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ในอั ต ราส่ ว น 70:30 (วิ ช าพื้ นฐาน : วิ ช าเพิ่ ม เติ ม ) ทั้ ง นี้ ขึ้ นอยู่ กั บ บริ บ ทและวิ สั ย ทั ศ น์ ข อง
สถานศึ ก ษาแต่ ล ะแห่ ง (ส านั ก วิ ช าการและมาตรฐานการศึ ก ษา, 2553) ซึ่ ง ถื อ ได้ ว่ า เป็ นการ
ตอบสนองกั บ นโยบายการขั บ เคลื่ อ นประเทศเข้ า สู่ ยุ ค ไทยแลนด์ 4.0 ที่มุ่ ง พั ฒ นาคนให้ เ กิ ด
สมรรถนะทางด้ านความคิดสร้ างสรรค์และจะเป็ นพลังขับเคลื่อนด้ านการศึกษาให้ ประเทศไทยก้ าว
ทันโลกอย่างเท่าเทียม นอกจากนั้นยังเป็ นการส่งเสริมให้ ผ้ ูเรียนได้ พัฒนาตนเองให้ สามารถเกิดการ
เรียนรู้ข้ันสูงสุดตามแนวคิดของ Bloom คือ การคิดสร้ างสรรค์อีกด้ วย ซึ่งการพัฒนาหรือส่งเสริม
ให้ นักเรียนมีคุณสมบัติหรือสมรรถนะตรงตามเป้ าหมายของแผนการศึกษาชาติน้นั จาเป็ นอย่างยิ่งที่
จะต้ อ งใช้ ห ลั ก สู ต รเป็ นเครื่ อ งมื อ ส าคั ญ ในการขั บ เคลื่ อ นกระบวนการ เรี ย นรู้ ใ ห้ บ รรลุ ต าม
วัตถุประสงค์ ดังนั้นการปรับปรุงหลักสูตรจากที่มีอยู่เดิมให้ ดีข้ ึนหรือการสร้ างและจัดทาหลักสูตร
ขึ้นมาใหม่ จากที่ไม่ เคยมีหลักสูตรนั้นๆ มาก่อน เป็ นการแก้ ปัญหาหรือการส่งเสริมให้ ผ้ ูเรียนมี
คุณลักษณะหรือให้ เป็ นไปตามจุ ดมุ่งหมายที่กาหนด ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยมุ่งพัฒนาหลักสูตร
กิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์ ซึ่งเป็ นหลักสูตรที่ไม่ มีมาก่ อน เป็ นการพัฒนาหลักสูตรขึ้นมาใหม่
(Curriculum Making) และนาไปบรรจุ ในโครงสร้ างหลั กสู ตรสถานศึ กษาในส่ วนของกิจ กรรม
พั ฒ นาผู้ เ รี ย น โดยเฉพาะชั่ ว โมงกิ จ กรรมชุ ม นุ ม และกิ จ กรรมลดเวลาเรี ย น เพิ่ ม เวลารู้ ตาม
แนวนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้อาศัยกระบวนการและขั้นตอนการพัฒนาหลักสูตร
119
ปรั บ เปลี่ ย น โดยครู จ ะต้ อ งศึ ก ษาชุม ชน พร้ อ มทั้ง เก็บ ข้ อ มู ล จากชุ ม ชนทั้ง จากการสัง เกตและ
สอบถามชาวบ้ านผู้ร้ ูในท้ องถิ่น ตลอดจนควรนาสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวผู้เรียนหรือสิ่งที่เป็ นปัญหาของ
ชุมชน มากาหนดไว้ ในหลักสูตรเพื่อนาไปสู่การจัดการเรียนการสอน นอกจากนั้นยังต้ องศึกษา
ชาวบ้ าน ปราชญ์ชาวบ้ านพร้ อมทั้งศึกษาวิธีการดึงเอา สิ่งที่เป็ นศาสตร์สากลเข้ าไปผสมผสานกับ
ความรู้ภูมิปัญญาท้ องถิ่น ควรหาโอกาสเพิ่มเติมความรู้ และศึกษาวิธีการต่างๆ จากการไปเยี่ยม
โรงเรียนอื่น เพื่อนามาเป็ นแนวทางในการพัฒนาตน และพัฒนาโรงเรียนให้ ดีข้ ึน ในการจัดการ
เรียนการสอนเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็ นการเฉพาะ ครูควรดึงศักยภาพ ภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ ามาร่วมเป็ น
วิทยากร หรือเป็ นที่ปรึกษา ควรระดมบุคลากรคณะบุคคลที่เข้ าใจในการศึ ก ษา เช่ น พระสงฆ์
องค์กรท้ องถิ่น วิทยากรท้ องถิ่น ให้ เข้ ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนเท่าที่จะทาได้ และ
ควรจัดให้ มีกระบวนการเรียนการสอนที่หลากหลาย ไม่ยึดแต่หนังสือเรียนเท่านั้น
จากผลการสั ง เคราะห์ เ อกสารข้ า งต้ น ผู้ วิ จั ย ด าเนิ น การรวบรวมประเด็น ต่ า ง ๆ ที่
เกี่ยวข้ องกับการพัฒนาหลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้ าง
นวั ต กรรมที่บู ร ณาการภูมิ ปั ญ ญาท้ อ งถิ่ น ของนั ก เรี ย นมั ธ ยมศึ ก ษา จั ง หวั ด หนองบั ว ล าภู มา
วิเคราะห์เพื่อกาหนดกรอบประเด็นสาคัญในการยกร่ างหลักสู ตร ประกอบไปด้ วย หลักการและ
เหตุผล ปรัชญาและแนวคิดทฤษฎี จุดมุ่งหมาย โครงสร้ างหลักสูตร แนวทางการจัดการเรียนรู้ สื่อ
และแหล่งเรียนรู้ ตลอดจนแนวทางการวัดผลและประเมินผล ซึ่งจะเป็ นองค์ประกอบสาคัญของ
หลักสูตร
1.2 ผลการสัมภาษณ์ผ้ มู ีส่วนเกี่ยวข้ องในการพัฒนาหลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์เพื่อ
ส่ ง เสริ ม ความสามารถในการสร้ า งนวั ต กรรมที่ บู ร ณาการภู มิ ปั ญ ญาท้ อ งถิ่ น ของนั ก เรี ย น
มั ธ ยมศึ ก ษา จั ง หวั ด หนองบั ว ล าภู โดยการสั ม ภาษณ์ กั บ ผู้ มี ส่ ว นเกี่ ย วข้ อ ง จ านวน 15 คน
ประกอบด้ วย ตัวแทนนักเรียนซึ่งเป็ นเจ้ าของนวัตกรรม จานวน 6 คน จากโรงเรียนที่มี นวัตกรรม
เป็ นเลิ ศ ครู ท่ี ป รึ ก ษานวั ต กรรม จ านวน 3 คน ผู้ บ ริ ห ารสถานศึ ก ษา จ านวน 3 คน และ
คณะกรรมการสถานศึกษาหรือปราชญ์ชาวบ้ าน จานวน 3 คน ผู้วิจัยดาเนินการสัมภาษณ์ด้ว ย
ตนเอง โดยมีประเด็นคาถามการสัมภาษณ์ท่ผี ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ ผลการวิเคราะห์
เนื้ อ หาการสั ม ภาษณ์ แยกประเด็น ดั ง ต่ อ ไปนี้ 1) แนวทางการส่ ง เสริ ม การคิ ด สร้ า งสรรค์ ใ น
สถานศึกษา 2) โครงสร้ างหลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์ 3) การจัดการเรียนการสอนที่
ส่งเสริมการคิดสร้ างสรรค์ในสถานศึกษา 4) เนื้อหาวิชาที่ส่งเสริมการคิดสร้ างสรรค์ 5) การวัดผล
และประเมินผลความคิดสร้ างสรรค์ในสถานศึกษา 6) ปัญหาอุปสรรคในการสร้ างนวัตกรรมของ
นักเรียนระดับมัธยมศึก ษา 7) แนวทางการพัฒนาหลักสูตรกิ จกรรมการคิ ดสร้ างสรรค์ ผู้วิจั ย
นาเสนอผลการวิเคราะห์บทสัมภาษณ์โดยแยกประเด็นได้ ดังต่อไปนี้
1.2.1) การส่งเสริมการคิดสร้ างสรรค์ในสถานศึกษา พบว่า สภาพทั่วไปของหลักสูตร
กิจกรรมส่งเสริมความคิดสร้ างสรรค์ท่บี ูรณาการภูมิปัญญาท้ องถิ่นในสถานศึกษาหรือนโยบายที่
นาสู่การปฏิบัติยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้โรงเรียนดาเนินการตามนโยบายเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการ
123
สร้ างสรรค์ การสร้ างหรือผลิตนวัตกรรมให้ สอดคล้ องกันระหว่างสิ่งที่เป็ นภูมิ ปัญญาท้ องถิ่ นและ
ค่านิยมในยุคปัจจุบัน
1.2.3) การจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริม การคิดสร้ างสรรค์ในสถานศึกษา จากการ
สัมภาษณ์กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้ อง พบมุมมองและแนวทางที่ควรจะพัฒนาการจัดการเรียนการสอน
เพื่อส่งเสริมการคิดสร้ างสรรค์ในสถานศึกษา คือ การให้ นักเรียนเป็ นผู้กระทา เป็ นผู้มีส่วนร่ ว ม
มี ก ารใช้ ส่ื อ การเรี ยนการสอนต่ า ง ๆ เพื่ อ ให้ ผ้ ู เ รี ย นเกิ ด การเรี ย นรู้แ ละฝึ กทัก ษะการคิ ด อย่ าง
ต่อเนื่องและสม่าเสมอ เปิ ดโอกาสให้ ผ้ เู รียนได้ มีการซักถาม โต้ ตอบ ลงมือปฏิบัติ ให้ สอดคล้ องกับ
วั ต ถุ ป ระสงค์ ท่ีต้ั ง เอาไว้ โดยครู ผ้ ู ส อนต้ อ งค านึ ง ถึ ง ประสบการณ์ ข องผู้ เ รี ย น ดั ง ค ากล่ า วของ
ครูผ้ สู อนที่ให้ สัมภาษณ์ ดังนี้
“... นักเรียนแต่ละคนจะมีประสบการณ์เดิมที่ต่างกัน การให้ ความรู้หรือทากิจกรรมแต่ละ
ครั้ง จะมีนักเรียนบางส่วนเรียนไม่ทนั เพื่อนหรือไม่เข้ าใจในกิจกรรมที่ครูกาหนด จาเป็ นต้ องมาช่วย
อธิบายซา้ หรือทาความเข้ าใจอีกรอบ...”
(ครูผ้ สู อน คนที่ 2, 14 มิถุนายน 2562)
นอกจากนี้การที่จะส่งเสริมให้ นัก เรียนได้ ปฏิบัติ จริงและเกิด ทักษะการใช้ เครื่ อ งมื อ
โรงเรียนจาเป็ นต้ องให้ การสนับสนุน จัดหาสื่อ วัสดุอุปกรณ์และบุคลากร สถานที่ในชุมชน แหล่ง
เรียนรู้ เข้ ามากาหนดเป็ นกิจกรรมที่เป็ นรูปธรรม เพื่อให้ การเรียนรู้ เชื่อมโยงกับชุมชน ส่งผลต่อ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งสอดล้ องกับคาพูดของผู้ให้ ข้อมูล ดังนี้
“... ในบางครั้งต้ องพานักเรียนไปดูส ถานที่จริงและเรียนรู้ กับปราชญ์ชาวบ้ าน เพื่อให้
นักเรียนได้ สัมผัสกับภูมิปัญญาท้ องถิ่น หรือตัวบุคคล ซึ่งจะทาให้ นักเรียนเกิด แนวคิด ที่จ ะต่ อ
ยอดจากสิ่งที่พบเห็น ... ”
(ผู้บริหารสถานศึกษา คนที่ 3, 18 มิถุนายน 2562)
นอกจากการจั ด กิจ กรรมการเรีย นการสอนแล้ ว การฝึ กฝนให้ นั ก เรีย นได้ ฝึ กคิ ด ซึ่ ง
อาจจะทาได้ โดยการตั้งคาถาม เพื่อนาไปสู่การคิด สร้ างสรรค์และนาไปสู่การผลิตนวัตกรรม ครูยัง
ต้ องให้ เวลากับนักเรียน ค่อยคิดค่อยฝึ ก รอคอยคาตอบ ไม่ด่วนสรุปหรือตัดสินใจแทนนัก เรีย น
เปิ ดโอกาสให้ นักเรียนได้ คิดสอดคล้ องกับเหตุผลที่ว่าการคิดจาเป็ นต้ องใช้ เวลาและการฝึ กฝน ดัง
จะเห็นได้ จากข้ อความที่ผ้ วู ิจัยบันทึกจากการสัมภาษณ์ ดังนี้
“... การสอนโครงงานบางครั้งสั่งงานนักเรียนในช่ วงต้ นเทอม ใช้ เวลาค่ อนข้ างนานกว่า
นักเรียนจะเกิดแนวคิดที่จะสามารถผลิตนวัตกรรมได้ ต้ องมีกลวิธีในการกระตุ้น กากับ ติดตาม พอ
ถึงท้ายเทอม จึงได้ นวัตกรรมที่จะนาเสนอ ครูจึงจาเป็ นต้ องรอและให้ โอกาส ซึ่งแต่ละกลุ่มจะทางาน
ได้ คุณภาพแตกต่างกัน ... ”
(ครูผ้ สู อน คนที่ 1, 18 มิถุนายน 2562)
125
2. ผลการวิ จั ย ระยะที่ 2 ผลการสร้า งหลัก สู ต รกิ จ กรรมการคิ ด สร้า งสรรค์เ พื่ อ ส่ ง เสริ ม
ความสามารถในการสร้างนวัตกรรมที่บูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น ของนักเรียนมัธยมศึกษา
จังหวัดหนองบัวลาภู มี 3 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 ยกร่างหลักสูตร ขั้นที่ 2 ทดลองใช้ หลักสูตร และขั้นที่ 3
ปรับปรุงและแก้ ไขหลักสูตร ดังรายละเอียดต่อไปนี้
2.1 ขั้นที่ 1 ยกร่างหลักสูตร
ประกอบด้ วยผลการยกร่าง ผลการตรวจสอบร่างและผลการประเมินความเหมาะสม
ของหลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้ างนวัตกรรมที่บูรณา
การภูมิปัญญาท้องถิ่น ของนักเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดหนองบัวลาภู ดังรายละเอียดต่อไปนี้
2.1.1) ผลการยกร่างหลักสูตร
ผู้วิจัยนาข้ อมูลพื้นฐานจากการวิเคราะห์เอกสารที่เกี่ยวข้ องและการสัมภาษณ์
กับผู้ท่มี ีส่วนเกี่ยวข้ องจาก ระยะที่ 1 ของการวิจัย และสังเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานสาหรับการพัฒนา
หลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์ ได้ องค์ประกอบของหลักสูตร 7 องค์ประกอบ ดังต่อไปนี้
1. หลักการและเหตุผล
2. ปรัชญาและแนวคิดทฤษฎี
3. จุดมุ่งหมาย
4. โครงสร้ างหลักสูตร
5. แนวทางการจัดการเรียนรู้
6. สื่อและแหล่งเรียนรู้
7. แนวทางการวัดและประเมินผล
จะเห็นได้ ว่าองค์ประกอบของหลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์เพื่อส่งเสริม
ความสามารถในการสร้ างนวัต กรรมที่บูร ณาการภูมิ ปัญญาท้ อ งถิ่ น ของนั ก เรี ย นมั ธ ยมศึกษา
จังหวัดหนองบัวลาภู เป็ นการสังเคราะห์จากแนวคิด ทฤษฎีท่มี ีความเกี่ยวข้ องทั้งด้ านการพัฒนา
หลักสูตร การพัฒนาและส่งเสริมความคิดสร้ างสรรค์ รวมทั้งการบูรณาการภูมิปัญญาท้ อ งถิ่ น
เพื่อให้ เกิดการสร้ างนวัตกรรมใหม่ในชุมชุน รวมไปถึงข้ อมูลที่ได้ จากการสังเคราะห์บทสัมภาษณ์
จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้ อง ไม่ว่าจะเป็ นนักเรียนที่เป็ นผู้สร้ างนวัตกรรม ครูท่ปี รึกษาที่มีความใกล้ ชิดกับ
ผู้เรียน ผู้บริหารสถานศึกษาที่เป็ นกาลังสาคัญในการส่งเสริม ตลอดจนปราชญ์ชาวบ้ าน ที่เป็ นผู้ร้ ู
และมีความชานาญในพื้นที่ตามบริบทของสถานศึกษา โดยนาข้ อมูลจากการสังเคราะห์มาเชื่อมโยง
เพื่อการยกร่างหลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้ างนวัตกรรม
ที่บูรณาการภูมิปัญญาท้ องถิ่น ของนักเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดหนองบัวลาภู ให้ มีความสัมพันธ์
สอดคล้ อ งและไปในทิ ศ ทางเดี ย วกั น ดั ง นั้ น ผู้ วิ จั ย จึ ง ได้ น าเสนอผลการสั ง เคราะห์ ใ ห้ เ ห็ น
ความสัม พันธ์ในการได้ มาซึ่งรายละเอียดแต่ ล ะองค์ประกอบของหลักสูตรอีกครั้งดังตารางที่ 4
ต่อไปนี้
ตารางที่ 4 ผลการเรียบเรียงและสังเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานสาหรับการยกร่างหลักสูตร องค์ประกอบที่ 1 หลักการและเหตุผล 128
เวลา
หน่วยการเรียนรู ้ หัวข้อ / สาระการเรียนรู ้ ผลการเรียนรู ้
(ชม.)
1. การสร้ างแรง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 1) วิเคราะห์สถานการณ์ตัวอย่างให้ เห็ นคุณค่าและเกิ ด แรง 1
บันดาลใจ ปฐมนิเทศ บันดาลใจในการสร้ างนวัตกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 1) วิเคราะห์สถานการณ์ตัวอย่างให้ เห็ นคุณค่าและเกิ ด แรง 1
แรงบันดาลใจ บันดาลใจในการสร้ างนวัตกรรม
2. การรวบรวม แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 1) สืบค้ นข้ อมูลจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ตระหนักถึง 1
ข้ อมูล การสืบค้ นข้ อมูล จริยธรรมในการใช้ ข้อมูลอย่างสร้ างสรรค์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 1) อธิบายเกี่ยวกับกระบวนการคิดสร้ างสรรค์ 1
ภูมิปัญญาท้ องถิ่นกับความคิด 2) อธิ บ ายถึ ง ความส าคั ญของภูมิปั ญ ญาท้ องถิ่ นในจั ง หวัด
สร้ างสรรค์ หนองบัวลาภู
142
เวลา
หน่วยการเรียนรู ้ หัวข้อ / สาระการเรียนรู ้ ผลการเรียนรู ้
(ชม.)
3. การศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 1) อธิบายและสร้ างองค์ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้ องถิ่นใน 2
แหล่งภูมิปัญญา ภูมิปัญญาท้ องถิ่นเกี่ยวกับ จังหวัดหนองบัวลาภู
1) ความเชื่อ/ศาสนา 2) ระบุปัญหาและสร้ างแนวคิดการออกแบบนวัตกรรมจาก
2) ประเพณี/พิธีกรรม การวิเคราะห์ภูมิปัญญาท้ องถิ่น
3) ศิลปะการแสดง
4) การละเล่น-กีฬา
รวม 18
143
2.1.1.3) ร่างขั้นตอนการจัดการเรียนรู ้
เพื่ อ ให้ ก ารใช้ ห ลั ก สู ต รกิ จ กรรมการคิ ด สร้ า งสรรค์ เ พื่ อ ส่ ง เสริ ม
ความสามารถในการสร้ างนวัต กรรมที่บูร ณาการภูมิ ปัญญาท้ อ งถิ่ น ของนั ก เรี ย นมั ธ ยมศึกษา
จังหวัดหนองบัวล าภู บรรลุตามจุ ดมุ่งหมาย จึงได้ กาหนดขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4
ขั้นตอนหลัก คือ 1) เร้ าความสนใจ 2) สารวจค้ นหา 3) ลงข้ อสรุป 4) สะท้ อนผล มีรายละเอียด
ดังนี้
1) เร้าความสนใจ ผู้วิจัยได้ ออกแบบกิจกรรมในขั้นนา ที่เน้ น การ
ฝึ กทักษะการคิดสร้ างสรรค์ โดยนาแนวคิดของ Frank E. Williams ที่เสนอกิจกรรมส่งเสริมและ
พัฒนาความคิดสร้ างสรรค์ (อารี พันธ์มณี, 2537) มาแทรกในกิจกรรมส่งเสริมการคิดสร้ างสรรค์
โดยใช้ ใ นขั้ น เร้ า ความสนใจของทุ ก ๆ ชั่ ว โมง จ านวน 16 กิ จ กรรม ซึ่ ง เป็ นขั้ น ตอนการสร้ า ง
ความคุ้นเคยให้ ผ้ ูเรียนไว้ วางใจ เข้ าใจบทบาทของครูผ้ ูสอน สร้ างบรรยากาศการเรียน ใช้ คาถาม
เพื่อชี้นาถึงปัญหาต่าง ๆ ตลอดจนเตรียมความพร้ อมของผู้เรียนทั้งด้ านร่างกาย สติปัญญาเน้ นที่
สมองปลอดโปร่ง หรือเปิ ดสมองพร้ อมรับข้ อมูล ด้ วยการนั่งสมาธิ หรือทากิจกรรมอื่น ๆ ตาม
ความเหมาะสม
2) สารวจค้นหา เป็ นขั้นที่ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้
การนาเสนอเนื้อหาสาระที่จาเป็ นต่อการส่งเสริมการคิดสร้ างสรรค์ การศึกษาจากตัวแบบ เรียนรู้
จากบุคคลที่ประสบความสาเร็จ การปฏิบัติสร้ างนวัตกรรมด้ วยการลงมือทาจริง นอกจากนั้นยังใช้
เทคนิคการศึกษานอกสถานที่ เป็ นกิจกรรมหลักและจุดเด่นที่นานักเรียนลงพื้นที่ศึกษาแหล่งเรียนรู้
ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีข้นั ตอนดังนี้
- การเตรียมข้ อมูล ก่อนออกเดิน ทาง ซึ่งนักเรียนจะได้ สื บ ค้ น
ข้ อมูล โดยใช้ เทคโนโลยี (Smart Phone) เป็ นอุปกรณ์ช่วยในการสืบค้ น พร้ อมทั้งเตรียมเนื้ อ หา
ประกอบการเรียนรู้ในสถานที่จริง
- การเข้ าศึกษาแหล่งเรียนรู้ภมู ิปัญญาท้ องถิ่น นักเรียนจะได้ ใช้
ความสามารถทางด้ านเทคโนโลยีในการเก็บรวบรวมข้ อมูล เช่น การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพ
เคลื่อนไหว การจัดทาคลิปแนะนาสถานที่ ข้ อมูล ความรู้ ตลอดจนเทคนิคการตัดต่อ VDO เพื่อ
นาเสนอเนื้อหาที่ได้ ลงพื้นที่
3) ลงข้อ สรุ ป เป็ นขั้ น ที่ค รู ผ้ ู ส อนและนั ก เรี ย นร่ ว มกั น สรุ ป องค์
ความรู้และประเด็นเนื้อหาที่เกิดจากกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละชั่วโมง เพื่อให้ เกิดการรู้แจ้ ง
เห็นชัด ตลอดจนเกิดความเข้ าใจจากสถานการณ์ท่กี าหนดให้ ผู้เรียนประมวลผลความรู้จากข้ อมูล
ที่ผ่านการรวบรวม และการวิเคราะห์ และสามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ ในการคิดสร้ างสรรค์
นวั ต กรรม หรื อ นวั ต กรรมต่ อ ไป นอกจากนั้ น ยั ง ร่ ว มกั น สรุป ผลและประเมิ น ผล ที่มุ่ ง เน้ น การ
ประเมินพฤติกรรมที่ติดตัวไปกับผู้เรียนและประเมินนวัตกรรม โดยผู้สอนต้ องยึดวัตถุประสงค์
เป้ าหมาย พฤติกรรมบ่งชี้ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ท่ตี ้งั เอาไว้
144
6) ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับงานช่างฝี มือ
สถานที่ : หมู่บ้านหัตกรรมปั้นหม้ อ บ้ านโค้ งสวรรค์
ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลาภู
7) ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับสมุนไพรตารายา/การแพทย์ท้องถิ่น
สถานที่ : เมืองหมอยา กลุ่มสมุนไพร ต.โนนเมือง
อ.นากลาง จ.หนองบัวลาภู
8) ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับการดารงชีวิตตามสภาพแวดล้ อม
ทางธรรมชาติ
สถานที่ : โสภาฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ต.หนองบัว อ.เมือง
จ.หนองบัวลาภู
นอกจากนั้นในกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ยังมีส่ือประเภท
เอกสารประกอบให้ นั ก เรี ย นได้ ฝึ กทั ก ษะกระบวนการคิ ด สร้ า งสรรค์ ทั้ง แบบกลุ่ ม และแบบ
รายบุคคล ดังตารางที่ 12
ตารางที่ 12 สื่อประเภทใบกิจกรรม
กลวิธีการฝึ กคิดสร้างสรรค์
ใบกิจกรรม แนวคิดของ Guilford
Frank E. Williams (อ้างถึงในอารี พันธ์มณี, 2537)
1. ชาวนายุคใหม่ การอ่านอย่างสร้ างสรรค์ คิดละเอียดละออ
(Creative Reading Skill) (Elaboration)
2. คิดหาเหตุผล การฝึ กหาเหตุผล (Paradoxes) คิดยืดหยุ่น (Flexibility)
3. พินิจ พิจารณา การพิจารณาลักษณะ (Attributes) คิดละเอียดละออ
(Elaboration)
4. เหมือนหรือต่าง การเปรียบเทียบอุปมา อุปมัย (Analogies) คิดละเอียดละออ
(Elaboration)
5. เรื่องเล่าจากภาพ การบอกสิ่ ง ที่ค ลาดเคลื่ อ นจากความจริ ง คิดละเอียดละออ
(Discrepancies) (Elaboration)
6. สัตว์ใน การเปลี่ยนแปลง (Examples of Change) คิดยืดหยุ่น (Flexibility)
จินตนาการ
7. ถามให้ สุดโลก การถามยั่วยุและกระตุ้นให้ ตอบ คิดคล่อง (Fluency)
(Provocative Questions)
8. สืบหาข้ อมูล การค้ นคว้ าหาข้ อมูล (The Skill of Search) คิดคล่อง (Fluency)
ความสัมพันธ์
146
กลวิธีการฝึ กคิดสร้างสรรค์
ใบกิจกรรม แนวคิดของ Guilford
Frank E. Williams (อ้างถึงในอารี พันธ์มณี, 2537)
9. โลกในอนาคต พัฒนาตน(Adjustment of Development) คิดคล่อง (Fluency)
10. ยานพาหนะ การประเมินสถานการณ์ คิดละเอียดละออ
วิเศษ (Evaluate Situations) (Elaboration)
11. คิดกลับด้ าน การเปลี่ยนแปลงความเชื่อ คิดริเริ่ม (Originality)
(Examples of Habit)
12. สัตว์พันธ์ใหม่ การสร้ างสิ่งใหม่จากโครงสร้ างเดิม คิดริเริ่ม (Originality)
(Organized Random Search)
13. ภาพมหัศจรรย์ การมองภาพในมิติต่าง ๆ (Visual Skill) คิดริเริ่ม (Originality)
14. สร้ างสรรค์คา การพัฒนาการเขียนอย่างสร้ างสรรค์ คิดริเริ่ม
(Creative Writing Skill) (Originality)
15. เราต้ องรอด การค้ นหาคาตอบจากคาถามที่กากวม คิดคล่อง
(Tolerance for Ambiguity) (Fluency)
16. เล่าข่าวใส่ไข่ การฟังอย่างสร้ างสรรค์ คิดริเริ่ม (Originality)
(Creative Listening Skill)
ข้อ รายการประเมินความเหมาะสมของหลักสูตร ̅
𝒙 S.D. แปลผล
หลักการและเหตุผล 4.15 0.81 มาก
1 หลักการมีความสอดคล้ องกับสภาพสังคมในปัจจุบัน 4.40 0.55 มาก
2 หลักการของหลักสูตรมีความเป็ นไปได้ ในการปฏิบัติจริง 4.40 0.89 มาก
3 หลักการของหลักสูตรมีแนวคิดและทฤษฎีพ้ นื ฐานรองรับ 4.00 1.00 มาก
4 สภาพปัญหาและความจาเป็ นมีเหตุผลควรพัฒนาหลักสูตร 3.80 0.84 มาก
ปรัชญาและแนวคิดทฤษฎี 3.90 0.88 มาก
5 ปรัชญา/แนวคิดทฤษฎีสอดคล้ องกับหลักการของหลักสูตร 4.20 0.84 มาก
6 ปรัชญา/แนวคิดทฤษฎีเหมาะสมและครอบคลุม 3.60 0.89 มาก
จุดมุ่งหมาย 4.15 0.75 มาก
7 จุดมุ่งหมายของหลักสูตรมีประโยชน์สาหรับผู้เรียน 4.40 0.55 มาก
8 จุดมุ่งหมายของหลักสูตรมีความชัดเจนและเป็ นไปได้ 3.80 0.84 มาก
9 จุดมุ่งหมายของหลักสูตรเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 4.20 0.84 มาก
10 จุดมุ่งหมายเหมาะสมกับการส่งเสริมความสามารถในการ 4.20 0.84 มาก
สร้ างนวัตกรรมที่บูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น
152
ข้อ รายการประเมินความเหมาะสมของหลักสูตร ̅
𝒙 S.D. แปลผล
โครงสร้างของหลักสูตร 3.82 1.00 มาก
11 เนื้อหาของหลักสูตรเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 3.80 1.10 มาก
12 เนื้อหาของหลักสูตรครอบคลุมความรู้ท่ผี ้ เู รียนควรได้ รับ 3.80 0.84 มาก
13 เนื้อหาของหลักสูตรมีการบูรณาการกับภูมิปัญญาท้องถิ่น 4.00 1.00 มาก
14 เนื้อหาของหลักสูตรเหมาะสมนาไปใช้ ปฏิบัตจิ ริงได้ 4.00 1.00 มาก
15 โครงสร้ างหลักสูตรมีความเหมาะสม 3.60 0.55 มาก
16 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง การสร้ างแรงบันดาลใจ 4.60 0.55 มากที่สุด
17 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง การสืบค้ นข้ อมูล 4.60 0.55 มาก
18 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง การศึกษาแหล่งภูมิปัญญา 3.60 1.34 มาก
19 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง การสร้ างนวัตกรรม 3.00 1.22 ปานกลาง
20 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง การเผยแพร่นวัตกรรมสู่ชุมชน 4.20 0.84 มาก
21 ระยะเวลาที่ใช้ ในการเรียนรู้ตามหลักสูตรมีความเหมาะสม 2.80 0.84 ปานกลาง
แนวทางการจัดการเรียนรู ้ 3.85 0.88 มาก
22 แนวทางการจัดการเรียนรู้มีความเหมาะสมกับวัย 3.80 1.30 มาก
23 แนวทางการจัดการเรียนรู้มีลาดับขั้นตอนเหมาะสม 3.80 0.84 มาก
24 แนวทางการจัดการเรียนรู้สามารถนาไปสู่การบรรลุ 4.00 0.71 มาก
จุดมุ่งหมายของหลักสูตร
25 กิจกรรมการเรียนรู้มีความเป็ นไปได้ ในสภาพปัจจุบัน 3.80 0.84 มาก
สื่อและแหล่งเรียนรู ้ 3.73 0.96 มาก
26 สื่อและแหล่งเรียนรู้เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 4.00 1.00 มาก
27 สื่อและแหล่งเรียนรู้เหมาะสมกับเนื้อหาของหลักสูตร 3.60 0.89 มาก
28 สื่อและแหล่งเรียนรู้เหมาะสมที่จะนามาใช้ ในการส่งเสริม 3.60 1.14 มาก
ความสามารถในการสร้ างนวัตกรรมให้ แก่ผ้ ูเรียน
แนวทางการวัดและประเมินผล 3.70 1.16 มาก
29 การประเมินผลหลักสูตรครอบคลุมสิ่งที่ต้องการประเมิน 3.40 1.14 ปานกลาง
30 มีความเป็ นไปได้ ในการนาไปสู่การปฏิบัติจริง 4.00 1.22 มาก
ค่าเฉลี่ยรวม 3.90 0.93 มาก
153
หลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้างสรรค์เพือ่ ส่งเสริมความสามารถในการสร้างนวัตกรรม
ที่บูรณาการภูมิปัญญาท้องถิน่ ของนักเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดหนองบัวลาภู
ACTIVITIES CURRICULUM TO ENHANCE CREATIVE INNOVATION ABILITIES
INTEGRATED LOCAL WISDOM OF SECONDARY STUDENTS’ NONGBUALUMPHU PROVINCE
1. หลักการ
ความคิดสร้ างสรรค์ เป็ นกระบวนการหรือปรากฏการณ์ท่ปี ระกอบให้ เป็ นรูปหรือเป็ นเรื่อง
ขึ้นในใจด้ วยการใคร่ครวญ ไต่ตรอง คาดคะเน หรือคานวณอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อให้ เกิดสิ่งใหม่
นวัตกรรมใหม่เพื่อมวลมนุษยชาติ ความสามารถทางด้ านการคิดสร้ างสรรค์จึงเป็ นทักษะการคิดใน
ลักษณะต่าง ๆ ที่มีองค์ป ระกอบของกระบวนการคิดที่ซับซ้ อน และเป็ นทักษะที่มีความจาเป็ นใน
การเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้
กาหนดความสามารถในการคิดเป็ นสมรรถนะที่สาคัญอย่างหนึ่งของผู้เรียนตลอดหลักสูตร โดย
เน้ นที่ทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดอย่างสร้ างสรรค์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิด
อย่างเป็ นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้ างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเอง
และสังคมได้ อย่ างเหมาะสม โดยให้ สอดแทรกการฝึ กทัก ษะการคิ ดในทุก กิจ กรรม ดังนั้นจาก
สภาพการณ์ข้างต้ นจึงจาเป็ นอย่างยิ่งที่ครูผ้ สู อนซึ่งเป็ นหน่วยปฏิบัติในระดับต้ นที่มีส่วนช่วยในการ
พัฒนาและยกระดับทักษะการคิดให้ กับผู้เรียน ด้ วยกิจกรรมหรือสื่อนวัตกรรมทางการศึกษาต่าง ๆ
รวมทั้งการวัดผลประเมินผลทักษะการคิดในชั้นเรียนให้ เข้ มแข็งมีประสิทธิภาพ
หลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้ างนวัตกรรมที่บูรณา
การภูมิปัญญาท้ องถิ่น ของนักเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดหนองบัวลาภู เป็ นการจัดประสบการณ์ท่ี
เน้ นผู้เรียนเป็ นสาคัญ โดยจุดเน้ นก็คือผู้เรียนได้ เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง (Learning
by Doing) เพื่อให้ ได้ นวัตกรรมออกมาเป็ นนวัตกรรมตามความสนใจของผู้เรียนโดยอาศัยสื่อ ใบ
กิจกรรมฝึ กทักษะการคิดสร้ างสรรค์และประสบการณ์จากการเรียนรู้ในแหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นใกล้
บ้ านเป็ นฐานในการสร้ างองค์ความรู้และความคิดสร้ างสรรค์ ในการสร้ างนวัตกรรม โดยแนวทาง
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้ ได้ นวัตกรรมจึงเน้ น กระบวนการโครงการ (Project Approach)
โดยแนวคิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experiential Learning) และเรียนรู้แบบนาตนเอง (Self
– Directed Learning) โดยการจัดบรรยากาศที่เอื้อต่ อการเรียนรู้ และสอดคล้ องกับ แนวการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ ซ่ึงประกอบด้ วย 1) จัดกิจกรรมการเรียนรู้โ ดยการริเริ่มสร้ างโครงการจาก
ความคิดของผู้เรียนเองตามความสนใจ ความชอบ หรือความถนัดของแต่ละคน และเชื่อมโยงกับ
ภูมิปัญญาท้องถิ่น 2) จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยผู้เรียนได้ แสดงความคิดออกมาเป็ นรูปธรรมหรือ
ใช้ ส าหรับแลกเปลี่ยนกันได้ โดยใช้ ใบกิจ กรรมและอุ ป กรณ์ใ นการดาเนิ นกิ จ กรรมการเรี ย นรู้ ท่ี
เหมาะสม 3) จั ด กิ จ กรรมการเรีย นรู้โดยผู้ เ รี ยนได้ วิเ คราะห์ ค วามคิด ของตนเองและน าเสนอ
นวัตกรรมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน 4) การแบ่งกลุ่มของผู้เรียนเพื่อจัดทานวัตกรรม
155
2. ปรัชญาและแนวคิดทฤษฎี
2.1 ทฤษฎี ก ระบวนการทางสมองในการประมวลข้อ มู ล (Information Processing
Theory) ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลผลข้ อมูล เป็ นทฤษฎีท่สี นใจศึกษาเกี่ยวกับ
กระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ เกี่ยวกับการทางานของสมอง เชื่อว่าการทางานของสมอง
มีความคล้ ายคลึ งกั บ การทางานของเครื่ องคอมพิ ว เตอร์ ซึ่งมีการทางานเป็ นขั้ น ตอนดัง นี้ คื อ
1) การรับข้ อมูล (Input) โดยผ่านทางอุปกรณ์หรือเครื่องรับข้ อมูล 2) การเข้ ารหัส (Encoding)
โดยอาศั ย ชุ ด คาสั่ ง หรื อ ซอฟต์ แ วร์ (Software) 3) การส่ ง ข้ อ มู ล ออก (Output) โดยผ่ า นทาง
อุปกรณ์
กระบวนการทางสมองในการประมวลข้ อมูล หากเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์แล้ ว ก็คือ
โปรแกรมสั่งงาน หรือ “Software” การบริหารควบคุมการประมวลข้ อมูล ของสมอง คือ การที่
บุคคลรู้ถึงการคิดของตนและสามารถควบคุมการคิดของตนให้ เป็ นไปในทางที่ตนต้ องการ การรู้
เรียกว่า “Metacognition” หรือ “การรู้คิด” หมายถึง การตระหนักรู้ (Awareness) เกี่ยวกับความรู้
และความสามารถของตน และใช้ ความเข้ าใจในการรู้การจัดการควบคุมกระบวนการคิด ด้ วยวิธี
ต่าง ๆ ช่วยให้ การเรียนรู้และงานที่ทาประสบผลสาเร็จตามที่ต้องการ องค์ประกอบสาคัญของการรู้
คิดที่ใช้ ในการบริหารควบคุมกระบวนการประมวลข้ อมูล ประกอบด้ วยแรงจูงใจ ความตั้งใจ และ
ความมุ่งหวังต่าง ๆ รวมทั้งเทคนิคและกลวิธีต่าง ๆ กระบวนการรู้คิด ประกอบด้ วย ความใส่ใจ
(Attention) การรับรู้ (Perception) กลวิธีต่าง ๆ (Strategies) เช่น รู้ว่าตนไม่สามารถจดจาสิ่งที่ครู
สอนได้ ก็คิดหากลวิธีต่าง ๆ ที่จะมาช่วยให้ จดจาสิ่งที่เรียนได้ มากขึ้น อาจใช้ วิธีการท่อง การจด
บันทึก การท่องจาเป็ นกลอน การท่องตัวย่อ การทารหัส การเชื่อมโยงในสิ่งที่สัมพันธ์กัน เป็ นต้ น
2.2 ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ (Constructivist Theory) เป็ นทฤษฎีท่วี ่าด้ วยการสร้ างความรู้
ได้ มีการเปลี่ยนจากเดิมที่เน้ นการศึกษาปัจจัยภายนอกมาเป็ นสิ่งเร้ าภายใน ซึ่งได้ แก่ ความรู้ความ
เข้ าใจ หรือกระบวนการรู้คิด กระบวนการคิด (Cognitive Processes) ที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้
จากผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยภายในมีส่วนช่วยทาให้ เกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย และความรู้
เดิมมีส่วนเกี่ยวข้ องและเสริมสร้ างความเข้ าใจของผู้เรียน
แนวคิดของทฤษฎีคอนสตรัคติวิสซึม (Constructivism) หรือ เรียกชื่อแตกต่างกันไป ได้ แก่
สร้ างสรรค์ความรู้นิยม หรือสรรสร้ างความรู้นิยม หรือ การสร้ างความรู้ โดยมีแนวคิดเกี่ยวกับ
ทฤษฎี ดังนี้
1. ความรู้ของบุคคลใด คือ โครงสร้ างทางปัญญาของบุคคลนั้นที่สร้ างขึ้นจากประสบการณ์
ในการคลี่คลายสถานการณ์ท่เี ป็ นปัญหาและสามารถนาไปใช้ เป็ นฐานในการแก้ ปัญหาหรืออธิบาย
สถานการณ์อ่นื ๆ ได้
2. นักเรียนเป็ นผู้สร้ างความรู้ด้วยวิธีการที่ต่างกันโดยอาศัยประสบการณ์และโครงสร้ าง
ทางปัญญาที่มีอยู่เดิม ความสนใจและแรงจูงใจภายในตนเองเป็ นจุดเริ่มต้ น
156
3. จุดมุ่งหมาย
หลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้ างนวัตกรรมที่บูรณา
การภูมิปัญญาท้องถิ่น ของนักเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดหนองบัวลาภู มีจุดมุ่งหมายดังต่อไปนี้
1. เพื่อพัฒนาทักษะการคิดสร้ างสรรค์สู่การสร้ างนวัตกรรมของนักเรียนมัธยมศึกษา
2. นักเรียนสามารถสร้ างนวัตกรรมจากความคิดสร้ างสรรค์ของตนเองได้
3. นักเรียนสามารถนาเสนอนวัตกรรมต่อเวทีสาธารณะได้
4. โครงสร้างหลักสูตร
1) ด้านเนื้ อหา ของหลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการ
สร้ างนวัตกรรมที่บูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น ของนักเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดหนองบัวลาภู เป็ น
เนื้อหาเกี่ยวกับองค์ความรู้ในการพัฒนานวัตกรรม ประกอบด้ วยเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 การสร้ างแรงบันดาลใจ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การสืบค้ นข้ อมูล
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การศึกษาแหล่งภูมิปัญญา
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การสร้ างนวัตกรรม
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเผยแพร่นวัตกรรมสู่ชุมชน
โดยเนื้ อหาเหล่ า นี้ จะใช้ ใ นการจั ด กิ จ กรรมการเรี ย นการสอนที่ ส่ ง เสริ ม ทั ก ษะการคิ ด
สร้ างสรรค์สู่การสร้ างนวัตกรรม โดยไม่ยึดติดกับเนื้อหาสาระในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พุทธศักราช 2551
159
คาอธิบายหลักสูตร
ศึกษาวิเคราะห์ความหมายและความสาคัญของการสร้ างนวัตกรรม เทคนิคในการค้ นข้ อมูล
การสืบค้ นสิทธิบัตร วิเคราะห์และออกแบบนวัตกรรมบนพื้นฐานของความคิดสร้ างสรรค์ การสร้ าง
นวัตกรรมจากสภาพปั ญหาและความต้ องการจาเป็ นในท้ องถิ่ น โดยใช้ แหล่ งเรียนรู้ภูมิปัญญา
ท้ องถิ่นบูรณาการร่วมกับความคิดสร้ างสรรค์และสร้ างนวัตกรรมตามความถนัดและความสนใจ
โดยการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีมาช่วยในการออกแบบและสร้ างนวัตกรรม ใช้ วัสดุและเครื่องมือที่
เหมาะสมและปลอดภัยในการผลิตนวัตกรรม เผยแพร่และจัดนิทรรศการแสดงนวัตกรรมเน้ นการ
ลงมือปฏิบัติจริง โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ผลการเรียนรู ้
1) วิเคราะห์สถานการณ์ตัวอย่างให้ เห็นคุณค่าและเกิดแรงบันดาลใจในการสร้ างนวัตกรรม
2) สืบค้ นข้ อมูลจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ตระหนักถึงจริยธรรมการใช้ ข้อมูลอย่าง
สร้ างสรรค์
3) อธิบายเกี่ยวกับกระบวนการคิดสร้ างสรรค์
4) อธิบายและสร้ างองค์ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นในจังหวัดหนองบัวลาภู
5) ระบุปัญหาและสร้ างแนวคิดการออกแบบนวัตกรรมจากการวิเคราะห์ภมู ิปัญญาท้องถิ่น
6) สร้ างนวัตกรรมงานจากการวิเคราะห์ภมู ิปัญญาท้องถิ่นและนาเสนอนวัตกรรม
7) เขียนรายงานผลการสร้ างนวัตกรรมที่บูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น จังหวัดหนองบัวลาภู
8) นาความรู้ความเข้ าใจเกี่ยวกับเทคนิคการนาเสนอนวัตกรรมไปวางแผนจัดนิทรรศการได้
160
โครงสร้างหลักสูตร
เวลา
หน่วยการเรียนรู ้ หัวข้อ / สาระการเรียนรู ้ ผลการเรียนรู ้
(ชม.)
1. การสร้ างแรง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 1) วิเคราะห์สถานการณ์ตัวอย่างให้ เห็นคุณค่าและเกิ ด 1
บันดาลใจ ปฐมนิเทศ แรงบันดาลใจในการสร้ างนวัตกรรม
รวม 18
161
5. แนวทางการจัดการเรียนรู ้
เพื่อให้ การใช้ หลักสูตรกิจกรรมการคิดสร้ างสรรค์เพื่อ ส่งเสริมความสามารถในการสร้ าง
นวัตกรรมที่บูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น ของนักเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดหนองบัวลาภู บรรลุตาม
จุดมุ่งหมาย จึงได้ กาหนดแนวทางการใช้ หลักสูตรไว้ ดังนี้
5.1 การดาเนินกิจกรรมตลอดหลักสูตร
1) ดาเนินการปฐมนิเทศนักเรียนที่เข้าร่วมและผูช้ ่วยผูว้ ิจัยก่อนการใช้หลักสูตร
โดยการสนทนากลุ่ม สร้ างความเข้ าใจและแนวปฏิบัติร่วมกันระหว่างผู้วิจัย ผู้ช่วย
ผู้วิจัย และนักเรียน ตลอดจนผู้ท่มี ีส่วนเกี่ยวข้ อง
2) ดาเนินการจัดกิจกรรม แบ่งเป็ น 5 ระยะ เพื่อพัฒนาสู่การสร้ างนวัตกรรม ดังนี้
ระยะที่ 1 การสร้างแรงบันดาลใจ (แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 – 2) เป็ นระยะ
เริ่ ม ต้ น ตั้ ง แต่ ก ารสร้ า งความรู้สึก ที่ดี ต่ อ การพั ฒ นาทัก ษะกระบวนการคิ ด สร้ า งสรรค์ ชี้ ใ ห้ เ ห็น
ประโยชน์และโอกาสของการนานวัตกรรมมาตอบสนองความต้ องการจาเป็ นในชุมชนท้องถิ่น
ระยะที่ 2 การสืบค้นข้อมูล (แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 – 4) เป็ นระยะเตรียมการ
ในการศึกษาข้ อมูลพื้นฐาน และเตรียมข้ อมูลต่าง ๆ ที่เป็ นข้ อเท็จจริงของเรื่องที่ค้นพบปัญหาเพื่อ
ใช้ ในการคิดแก้ ปัญหา
ระยะที่ 3 การศึกษาแหล่งภู มิปัญญา (แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 – 6) เมื่อได้
ข้ อมูลจากระยะที่ 2 จะเป็ นขั้นคิดพิจารณา ข้ อมูลอย่างละเอียด หาความสัมพันธ์เชิงเหตุผล เป็ นขั้น
ของการทบทวนข้ อมูล ครุ่นคิด ตกผลึกความคิด โดยผ่านการเรียบเรียงเชื่อมโยงความสัมพันธ์เข้ า
ด้ วยกันจากการลงพื้นที่จริงตามแหล่งเรียนรู้ภมู ิปัญญาท้ องถิ่น ในพื้นที่ จังหวัดหนองบัวลาภู ให้ มี
ความกระจ่ างชัดและมองเห็นภาพที่เกิดขึ้นในใจ จนสามารถออกแบบต้ นร่างของนวัตกรรมที่มี
ความเป็ นไปได้
ระยะที่ 4 การสร้างนวัตกรรม (แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 – 8) เป็ นระยะที่นา
ความคิดที่ได้ จากระยะที่ 3 ที่ยังไม่ม่ันใจไปพิสูจน์ให้ เห็นจริ งและถูกต้ อง โดยการปฏิบัติและลอง
ผิ ด ลองถู ก ตลอดจนการประเมิ น ผลกระบวนการพั ฒ นาทัก ษะการคิ ด สร้ า งสรรค์ โดยอาศั ย
นวัตกรรมสร้ างสรรค์ท่นี ักเรียนพัฒนาขึ้นจากความรู้ความเข้ าใจ และกระบวนการคิดสร้ างสรรค์
ระยะที่ 5 การเผยแพร่นวัตกรรมสู่ชุมชน (แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 – 10) เป็ น
ระยะการนาเสนอผลจากการคิดสร้ างสรรค์ ให้ สาธารณชนได้ รับรู้และนาไปสู่ความภาคภูมิใจ ซึ่ง
เป็ นผลพลอยได้ จากการพัฒนาการคิดสร้ างสรรค์ ที่บูรณาการกับภูมิปัญญาท้องถิ่น
3) ทดสอบวัดระดับความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนหลังใช้หลักสูตร
การวั ด ระดั บความคิด สร้ างสรรค์ ข องนั ก เรีย น โดยใช้ แ บบทดสอบ “ทีซี ที – ดี พี”
(TCT - DP : The Test for Creative Thinking - Drawing Production) ซึ่ ง เป็ น แบ บ ทดส อ บ
ความคิดสร้ างสรรค์ ของ Jellen and Urban (2005)
162
5.2 ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4 ขั้นตอนหลัก คือ 1) เร้ าความสนใจ 2) สารวจ
ค้ นหา 3) ลงข้ อสรุป 4) สะท้อนผล มีรายละเอียดดังนี้
1) เร้าความสนใจ ผู้วิจัยได้ ออกแบบกิจกรรมในขั้นนา ที่เน้ น การฝึ กทักษะการคิด
สร้ างสรรค์ โดยนาแนวคิดของ Frank E. Williams ที่เสนอกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความคิ ด
สร้ างสรรค์ (อารี พันธ์มณี, 2537) มาแทรกในกิจกรรมส่งเสริมการคิดสร้ างสรรค์ โดยใช้ ในขั้นเร้ า
ความสนใจของทุก ๆ ชั่วโมง จานวน 16 กิจกรรม ซึ่งเป็ นขั้นตอนการสร้ างความคุ้นเคยให้ ผ้ เู รียน
ไว้ วางใจ เข้ าใจบทบาทของครูผ้ สู อน สร้ างบรรยากาศการเรียน ใช้ คาถามเพื่อชี้นาถึงปัญหาต่าง ๆ
ตลอดจนเตรียมความพร้ อมของผู้เรียนทั้งด้ านร่างกาย สติปัญญาเน้ นที่สมองปลอดโปร่ง หรือเปิ ด
สมองพร้ อมรับข้ อมูล ด้ วยการนั่งสมาธิ หรือทากิจกรรมอื่น ๆ ตามความเหมาะสม
2) สารวจค้นหา เป็ นขั้นที่ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ การนาเสนอเนื้อหา
สาระที่จาเป็ นต่อการส่งเสริมการคิดสร้ างสรรค์ การศึกษาจากตัวแบบ เรียนรู้จากบุคคลที่ประสบ
ความสาเร็จ การปฏิบัติสร้ างนวัตกรรมด้ วยการลงมือทาจริง นอกจากนั้นยังใช้ เทคนิคการศึก ษา
นอกสถานที่ เป็ นกิ จ กรรมหลัก และจุ ด เด่ น ที่น านัก เรี ยนลงพื้น ที่ศึก ษาแหล่ ง เรีย นรู้ภูมิปัญญา
ท้องถิ่น โดยมีข้นั ตอนดังนี้
- การเตรี ย มข้ อ มู ล ก่ อ นออกเดิ น ทาง ซึ่ ง นั ก เรี ย นจะได้ สื บ ค้ น ข้ อ มู ล โดยใช้
เทคโนโลยี (Smart Phone) เป็ นอุปกรณ์ช่วยในการสืบค้ น พร้ อมทั้งเตรียมเนื้อหา ประกอบการ
เรียนรู้ในสถานที่จริง
- การเข้ า ศึ ก ษาแหล่ ง เรี ยนรู้ ภูมิ ปั ญ ญาท้ อ งถิ่ น นั ก เรี ย นจะได้ ใ ช้ ค วามสามารถ
ทางด้ านเทคโนโลยีในการเก็บรวบรวมข้ อมูล เช่น การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหว
การจัดทาคลิปแนะนาสถานที่ ข้ อมูลความรู้ ตลอดจนเทคนิคการตัดต่อ VDO เพื่อนาเสนอเนื้อหา
ที่ได้ ลงพื้นที่
3) ลงข้อสรุป เป็ นขั้นที่ครูผ้ ูสอนและนักเรียนร่ วมกันสรุปองค์ความรู้และประเด็น
เนื้อหาที่เกิดจากกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละชั่วโมง เพื่อให้ เกิดการรู้แจ้ งเห็นชัด ตลอดจน
เกิดความเข้ าใจจากสถานการณ์ท่กี าหนดให้ ผู้เรียนประมวลผลความรู้จากข้ อมูลที่ผ่านการรวบรวม
และการวิ เ คราะห์ และสามารถนาความรู้ไ ปประยุ ก ต์ ใช้ ในการคิ ด สร้ างสรรค์ น วั ต กรรม หรื อ
นวัตกรรมต่อไป นอกจากนั้นยังร่วมกันสรุปผลและประเมินผล
ที่มุ่งเน้ นการประเมินพฤติกรรมที่ติดตัวไปกับผู้เรียนและประเมินนวัตกรรม โดยผู้ส อนต้ องยึด
วัตถุประสงค์ เป้ าหมาย พฤติกรรมบ่งชี้ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ท่ตี ้งั เอาไว้
4) สะท้อนผล ขั้นนี้เป็ นขั้นตอนที่นักเรียนนาข้ อมูลจากการรวบรวมด้ วยเครื่องมือและ
เทคโนโลยี มานาเสนอหน้ าชั้นเรียน เพื่อให้ สมาชิกได้ วิพากษ์และสะท้อนองค์ความรู้ ให้ เกิด
163
แนวคิ ด และประเด็น ที่จ ะพั ฒ นาให้ เ กิ ด นวั ต กรรม ตลอดจนเผยแพร่ ค ลิ ป VDO ในเครื อ ข่ า ย
อินเตอร์เน็ต อย่ างสร้ างสรรค์ โดยใช้ เทคนิค แบบสืบเสาะ เป็ นการอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ร่วมกันกับผู้เรียน หรือกิจกรรมที่ฝึกฝนการสร้ างนวัตกรรม รวมทั้งการระดมสมอง ซึ่งเป็ นขั้นที่
นักเรียนในแต่ ละกลุ่ม หรื อ แต่ ล ะคนช่ วยกั น แสดงความคิ ด เห็นในสถานการณ์หรื อ ปั ญหาที่ ค รู
กาหนดให้ อีกทั้งยังเป็ นการแลกเปลี่ยนแนวคิดในกลุ่ม ก่อให้ เกิดการทางานร่วมกัน เกิดภาวะผู้นา
และผู้ตามในกิจกรรมนั้น ๆ ซึ่งแต่ละกิจกรรมจะใช้ เวลาประมาณ 5 – 10 นาที โดยนักเรียนมีส่วน
ร่วมในการอภิปรายคัดสรรค์ ที่เกิดหลังจากการระดมสมอง เพื่อให้ ได้ ข้อมูลที่มีความหลากหลาย
ข้ อมูลต่ าง ๆ เหล่ านั้นจะถู ก นามาคั ด กรองหรื อผ่ านกระบวนการวิ เ คราะห์ และสังเคราะห์ จ น
กลายเป็ นองค์ความรู้ หรือความคิดของกลุ่ม อย่างลงตัว และดาเนินการอย่างสร้ างสรรค์ พร้ อมทั้ง
ได้ แสดงออกอย่างมีส่วนร่วม
6. สื่อและแหล่งเรียนรู ้
6.1 แผนการจัดการเรียนรู ้ จานวน 10 แผน โดยแบ่งออกเป็ น 5 หน่วย ดังนี้
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 การสร้ างแรงบันดาลใจ (แผนฯ ที่ 1 – 2)
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การสืบค้ นข้ อมูล (แผนฯ ที่ 3 – 4)
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การศึกษาแหล่งภูมิปัญญา (แผนฯ ที่ 5 – 6)
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การสร้ างนวัตกรรม (แผนฯ ที่ 7 – 8)
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเผยแพร่นวัตกรรมสู่ชุมชน (แผนฯ ที่ 9 – 10)
6.2 สื่อประเภทใบกิจกรรม
3) ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับศิลปะการแสดง
สถานที่ : หมู่บ้านราวงคองก้ า บ้ านขาม ต.บ้ านขาม อ.เมือง จ.หนองบัวลาภู
4) ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับอาหารและผักผลไม้
สถานที่ : วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปปลา บ้ านห้ วยบง 2
ต.โนนเมือง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลาภู
5) ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับการละเล่นและกีฬา
สถานที่ : การละเล่นบักกั๊บแก๊บ บ้ านส้ มป่ อย
ต.นาด่าน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลาภู
6) ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับงานช่างฝี มือ
สถานที่ : หมู่บ้านหัตกรรมปั้นหม้ อ บ้ านโค้ งสวรรค์
ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลาภู
7) ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับสมุนไพรตารายาและการแพทย์ท้องถิ่น
สถานที่ : เมืองหมอยา กลุ่มสมุนไพร ต.โนนเมือง อ.นากลาง จ.หนองบัวลาภู
8) ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับการดารงชีวิตตามสภาพแวดล้ อมทางธรรมชาติ
สถานที่ : โสภาฟาร์ม เกษตรอินทรีย์ ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลาภู
7. แนวทางการวัดและประเมินผล
การเรียนรู้ตามหลักสูตรพัฒนาความคิดสร้ างสรรค์สู่การสร้ างนวัตกรรมนี้เป็ นการเรียนรู้ท่ี
นั ก เรี ย นได้ ล งมื อ ปฏิ บั ติ จ ริ ง ดั ง นั้ น วิ ธี ก ารประเมิ น ผลจึ ง เป็ นการวั ด และประเมิ น ผล โดยการ
ประเมินความสามารถและระดับความก้ าวหน้ าในการเรียนรู้ท่แี ท้ จริงของผู้เรียน เน้ นการประเมิน
เพื่ อ พั ฒ นาความก้ า วหน้ า ในแต่ ล ะขั้น เพื่ อ พัฒ นานั ก เรี ย น ซึ่ ง ครู ผ้ ู จั ด กิ จ กรรมการเรี ย นรู้ ต้ อ ง
ประเมินความสามารถในการปฏิบัติ งานรวมถึงประเมินนวัตกรรมและพฤติกรรมการเรียนรู้ข อง
นักเรียนที่จาเป็ นตลอดเวลาในขณะปฏิบัติกิจกรรมของแต่ละขั้นตอน แล้ วนาผลมาพัฒนาปรับปรุง
ให้ ดีย่ิงขึ้ นต่ อไป ดังนั้น การประเมินในหลักสูตรครั้งนี้จึงกาหนดวิธีการวัดความสามารถในการ
สร้ างนวัตกรรมของนักเรียนจากนวัตกรรม หรือนวัตกรรมของนักเรียนและกระบวนการสร้ าง
นวัตกรรม ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
7.1) การวัดองค์ความรู ้ เป็ นการวัดความรู้ของนักเรียนโดยใช้ แบบบันทึกการสะท้อนผล
ของนักเรียน เกี่ยวกับองค์ความรู้ท่ไี ด้ จากกิจกรรมในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้
7.2) การประเมินความสามารถในการสร้างนวัตกรรม เป็ นกระบวนการทางานที่
ก่อให้ เกิดนวัตกรรม ประกอบด้ วย 2 ด้ าน คือ ด้ านนวัตกรรมและด้ านกระบวนการสร้ างนวัตกรรม
7.3) การวัดทัศนคติของผูเ้ รียน เป็ นกระบวนการวัดแนวคิด ทัศนคติของนักเรียนต่อภูมิ
ปัญญาท้องถิ่น โดยใช้ แบบบันทึกการสะท้อนคิดหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
แนวทางการใช้หลักสูตร 166
การสร้าง
16 กิจกรรม....นา...สร้างสรรค์
ฝึ กทักษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์
นวัตกรรม
เขียนรายงาน
นาเสนอนวัตกรรม
เตรียมความพร้อมของนักเรียนด้วยการทาสมาธิก่อนเรียน
การเผยแพร่ จัดนิทรรศการเผยแพร่
วัดระดับความคิดสร้างสรรค์ ด้วยแบบทดสอบ TCT – DP (หลัง)
นวัตกรรมสู่ นวัตกรรม
ชุมชน
ประเมิน
หลักสูตร
167
เกณฑ์การประเมินข้ อที่/สัญลักษณ์/คะแนนเต็ม
รวม แปลผลระดับ
คน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 คะแนน
ความคิด
ที่ Cn Cm Ne Cl Cth Bid Bfi Pe Hu Uc Sp
สร้ างสรรค์
6 6 6 6 6 6 6 6 6 12 6 72
1 4 5 4 4 3 4 4 4 5 9 4 50 ระดับสูง
2 3 3 4 4 3 3 2 4 3 8 4 41 ปานกลาง
3 3 4 4 4 4 5 4 4 4 9 5 50 ระดับสูง
4 2 3 3 3 3 4 4 3 5 10 4 44 ปานกลาง
5 5 5 4 6 5 5 4 4 4 10 5 57 ระดับสูง
6 4 3 4 3 3 3 3 4 5 9 5 46 ปานกลาง
7 2 3 2 2 2 3 4 3 4 7 3 35 ปานกลาง
168
บูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น
ประโยชน์ของนวัตกรรม
แปลผลระดับคุณภาพ
เอกสารการนาเสนอ
ความถูกต้ องชัดเจน
รวมคะแนน (100)
คน
ทักษะการสื่อสาร
ระบบการทางาน
ความเป็ นต้ นคิด
ความเหมาะสม
ความประหยัด
ความโดดเด่น
การออกแบบ
ที่
1 15 8 12 11 3 4 6 4 5 4 4 76 ดี
2 17 8 11 9 3 3 6 4 3 3 4 71 ดี
3 14 9 14 12 4 5 7 4 4 5 5 83 ดีเยี่ยม
4 11 7 10 10 3 4 6 3 5 4 4 67 พอใช้
5 19 9 14 13 5 5 8 4 4 5 5 91 ดีเยี่ยม
6 12 7 11 13 3 3 8 4 5 3 5 74 ดี
7 12 5 11 12 2 3 6 3 4 3 3 64 พอใช้
8 15 9 13 13 3 4 9 5 5 4 2 82 ดีเยี่ยม
9 12 5 11 12 2 3 6 3 4 3 3 64 พอใช้
10 15 8 12 11 3 4 6 4 5 4 4 76 ดี
11 15 9 13 13 3 4 9 5 5 4 2 82 ดีเยี่ยม
12 19 9 14 13 5 5 8 4 4 5 5 91 ดีเยี่ยม
13 11 7 13 9 3 2 8 2 3 2 4 64 พอใช้
14 14 8 12 10 3 4 9 4 5 4 4 77 ดี
15 12 7 11 13 3 3 8 4 5 3 5 74 ดี
16 14 9 14 12 4 5 7 4 4 5 5 83 ดีเยี่ยม
17 11 7 10 10 3 4 6 3 5 4 4 67 พอใช้
18 17 8 11 9 3 3 6 4 3 3 4 71 ดี
19 14 8 12 10 3 4 9 4 5 4 4 77 ดี
20 11 7 13 9 3 2 8 2 3 2 4 64 พอใช้
̅ 14.0
X 7.7 12.1 11.2 3.2 3.7 7.3 3.7 4.3 3.7 4.0 75 ดี
S.D. 2.6 1.2 1.3 1.6 0.8 0.9 1.2 0.8 0.8 0.9 0.9 8.6
170
ภาพที่ 11 ตัวอย่างแบบจาลองนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์
171
กระบวนการสร้างนวัตกรรมของนักเรียน ̅
𝑿 S.D. แปลผล
1. การวางแผน
1.1 มีการปรึกษาหารือวางแผนในการทางาน 3.5 0.6 ปานกลาง
1.2 มีการแจกแจงงานที่ทาและมองภาพรวมของงานที่ทาได้ 3.9 0.9 มาก
1.3 มีการร่วมกันกาหนดวัตถุประสงค์และแนวทางในการ 3.5 0.5 ปานกลาง
ทางาน
1.4 มีการร่วมมือกันกาหนดเวลาในการทางาน 3.9 0.9 มาก
1.5 มีการตรวจสอบการวางแผน 3.2 0.8 ปานกลาง
2. การปฏิบตั ิงาน
2.1 มีการชักจูงให้ สมาชิกร่วมแรงร่วมใจในการทางาน 3.7 0.9 มาก
2.2 ทุกคนร่วมมือกันทางานเป็ นกลุ่มและปฏิบัติหน้ าที่ตามที่ 3.9 0.9 มาก
ได้ รับมอบหมาย
2.3 ทุกคนร่วมกันปฏิบัติหน้ าที่ตามแผนที่ได้ กาหนดไว้ ให้ บรรลุ 3.7 0.8 มาก
วัตถุประสงค์
2.4 มีการปรึกษาหารือกันเป็ นระยะ ๆ 4.3 0.8 มาก
2.5 ทุกคนช่วยเหลือกันในการควบคุมการทางานให้ สาเร็จ 3.7 0.9 มาก
172
กระบวนการสร้างนวัตกรรมของนักเรียน ̅
𝑿 S.D. แปลผล
3. การประเมินตนเอง
3.1 ทุกคนมีส่วนร่วมในการประเมินขั้นตอนการทางาน 3.0 0.6 ปานกลาง
3.2 นวัตกรรมมีความคิดริเริ่มสร้ างสรรค์ 3.7 0.8 มาก
3.3 ทุกคนมีส่วนร่วมในการประเมินนวัตกรรมในกลุ่มของตน 3.3 0.9 ปานกลาง
และกลุ่มอื่น ๆ
3.4 ทุกคนมีส่วนร่วมในการวิจารณ์นวัตกรรมในกลุ่มของตน 3.7 0.9 มาก
และกลุ่มอื่น ๆ
3.5 ทุกคนมีส่วนร่วมในการสรุปผลการดาเนินงานของกลุ่ม 3.4 0.8 ปานกลาง
4. การปรับปรุงงาน
4.1 ทุกคนได้ ช่วยเหลือเพื่อนในการปรับปรุงงานร่วมกันตรวจ 3.7 0.7 มาก
นวัตกรรมอยู่เสมอ
4.2 ร่วมกันกาหนด แก้ ไขปัญหาในการทางาน และปรับปรุง 3.7 0.8 มาก
นวัตกรรมให้ ดีข้ นึ
4.3 มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นถึงกระบวนการสร้ าง 3.6 0.7 มาก
นวัตกรรม
4.4 มีส่วนร่วมในการสรุปความรู้และกระบวนการสร้ าง 3.8 0.8 มาก
นวัตกรรม
4.5 มีการเขียนแบบสรุปผลการปฏิบัติงาน และจัดทาแฟ้ ม 4.0 0.9 มาก
งาน/เป็ นรูปเล่ม
เฉลี่ยโดยรวม 3.6 0.2 มาก
แนวทางการปรับปรุง
ผลจากการทดลอง ข้อเสนอแนะจากผูท้ ี่เกี่ยวข้อง
หลักสูตร
1. หลักการและเหตุผล 1. หลักการและเหตุผล 1. หลักการและเหตุผล
ไม่ มี ก ารเปลี่ ย นแปลงจาก ผู้มีส่วนเกี่ยวข้ องไม่มีข้อเสนอแนะ ไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
การทดลองใช้ หลักสูตร เกี่ยวกับหลักการและเหตุผล เกี่ยวกับหลักการและเหตุผล
2. ป รั ช ญ า แ ล ะ แ น ว คิ ด 2. ปรัชญาและแนวคิดทฤษฎี 2. ปรัชญาและแนวคิดทฤษฎี
ทฤษฎี ผู้มีส่วนเกี่ยวข้ องไม่มีข้อเสนอแนะ ไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เกี่ยวกับแนวคิดทฤษฎี เกี่ยวกับแนวคิดทฤษฎี
3. จุดมุ่งหมาย 3. จุดมุ่งหมาย 3. จุดมุ่งหมาย
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจาก เดิมที่ผ้ วู ิจัยได้ เขียนจุดมุ่งหมายไว้ ผู้วิจัยดาเนินการปรับ
การทดลองใช้ หลักสูตร 3 ด้ าน คือ ด้ านความรู้ (K) ด้ าน จุดมุ่งหมายให้ มีจุดเน้ นที่
ทักษะกระบวนการ (P) และด้ าน กระบวนการ การลงพื้นที่ใน
ทัศนคติหรือเจตคติ (A) ผู้ท่ี การเก็บรวบรวมข้ อมูล
เกี่ยวข้ องเสนอให้ ปรับและให้ เน้ น ตลอดจนการสังเคราะห์ข้อมูล
ด้ านทักษะกระบวนการ (P) เพื่อนาสู่การปฏิบัติให้ เกิด
เนื่องจากหลักสูตรดังกล่าวมุ่ง นวัตกรรม โดยนาเทคโนโลยี
ส่งเสริมให้ ผ้ เู รียนได้ ลงมือกระทา เข้ ามามีส่วนร่วมในการเก็บ
จริงและสร้ างนวัตกรรม ตลอดจน รวบรวมข้ อมูลและการ
นาเสนอนวัตกรรมสู่ชุมชน นาเสนอในแบบต่าง ๆ
175
แนวทางการปรับปรุง
ผลจากการทดลอง ข้อเสนอแนะจากผูท้ ี่เกี่ยวข้อง
หลักสูตร
4. โครงสร้ างหลักสูตร 4. โครงสร้ างหลักสูตร 4. โครงสร้ างหลักสูตร
จากผลการทดลองใช้ ผู้เกี่ยวข้ องได้ เสนอเกี่ยวกับ 1) ผู้วิจัยดาเนินการปรับ
หลักสูตรเป็ นระยะเวลา 18 โครงสร้ างหลักสูตร โดยให้ แผนการจัดการเรียนรู้ให้
สัปดาห์ พบว่าโครงสร้ าง คาแนะนาถึงประเด็นของ เหมาะสมโดยกาหนดการ
รายวิชามีความเหมาะสม การศึกษานอกสถานที่เพื่อสร้ าง เดินทางไปแหล่งเรียนรู้ 1 วัน
โดยเฉพาะ หน่วยการเรียนรู้ แรงบันดาลใจ และเก็บรวบรวม ให้ ไปได้ หลาย ๆ จุด หลังจาก
ที่ 4 เรื่อง การสร้ าง ข้ อมูล โดยบางพื้นที่มีข้อจากัด นั้นนาผลการศึกษามาสะท้อน
นวัตกรรม มีการกาหนดเวลา ในเรื่องของการเดินทางไปยัง ในวันถัดไป โดยกาหนดการ
จานวน 8 ชั่วโมง ซึ่งอยู่ใน แหล่งเรียนรู้ ซึ่งจาเป็ นต้ องใช้ เดินทาง 2 ครั้ง ๆ ละ 4 จุด
ห้ วงเวลา 2 เดือน โดย ช่วงเวลาหลายชั่วโมง การ และกาหนดวันสะท้ อนผลเป็ น
ครูผ้ สู อนจะต้ องดาเนินการ ดาเนินการไม่ครบขั้นตอนที่ เวลา 2 วัน เพื่อให้ นักเรียนได้
ติดตามผลการทางานอย่าง สมบูรณ์ ทาให้ ต้องใช้ เวลา ตกผลึกความรู้และสามารถ
สม่าเสมอเพื่อไม่ให้ นักเรียน เพิ่มเติมจากการจัดกิจกรรม เตรียมการนาเสนอนวัตกรรม
สะสมภาระงานมาในช่วง ควรจะมีการวางแผนการ ของตนเองได้ อย่างครอบคลุม
สุดท้ายของการทางาน ทั้งนี้ เดินทางที่ไป 1 วัน สามารถเข้ า 2) ในการกาหนดโครงสร้ าง
ในระหว่างการสร้ าง ชมแหล่งเรียนรู้ได้ หลายจุด หลักสูตร โดยเฉพาะแหล่ง
นวัตกรรม จาเป็ นต้ องกากับ หลังจากนั้นนาผลการศึกษา เรียนรู้ให้ แต่ละพื้นที่ได้ เลือก
ติดตามในเรื่องของการเขียน แหล่งเรียนมาสะท้อนผลในวัน และกาหนดแหล่งเรียนใน
รายงานและเตรียมการ ถัดไป และมีการเก็บรวบรวม พื้นที่ใกล้ เคียง โดยโครงสร้ าง
นาเสนอนวัตกรรมไปพร้ อม ข้ อมูลด้ วยสื่อหรือเทคโนโลยี หลักสูตรกาหนดให้ ออกพื้นที่
กันด้ วย สามารถที่จะนาเสนอได้ ใน แหล่งเรียนรู้ จานวน 2 ครั้ง
หลายๆ รูปแบบ แต่ละครั้งสามารถเข้ าชมแหล่ง
เรียนรู้ได้ ตามความเหมาะสม
กับพื้นที่
176
แนวทางการปรับปรุง
ผลจากการทดลอง ข้อเสนอแนะจากผูท้ ี่เกี่ยวข้อง
หลักสูตร
5. แนวทางการจัดการเรียนรู้ 5. แนวทางการจัดการเรียนรู้ 5. แนวทางการจัดการเรียนรู้
จากผลการทดลองใช้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้ องได้ ให้ 1) ผู้ วิ จั ย ด าเนิ น การปรั บ ปรุ ง
หลักสูตรพบว่า กิจกรรม คาแนะนาเกี่ยวกับแนวการ แนวทางการจัดการเรียนรู้ โดย
การศึกษาเรียนรู้ในแหล่งภูมิ จัดการเรียนรู้ ดังรายละเอียด ให้ นักเรียนได้ ทากิจกรรมตาม
ปัญญาท้องถิ่นยังไม่ ต่อไปนี้ ใบกิจกรรมที่กาหนด พร้ อมทั้ง
สอดคล้ องกับสภาพจริง การจัดกิจกรรมการเรียน ร ว บ ร ว ม น วั ต ก ร ร ม ข อ ง
โดยเฉพาะเรื่องของระยะทาง การสอนควรให้ ผ้ ูเรียนได้ นักเรียนเข้ าแฟ้ มของแต่ละคน
และเวลาในการเดินทาง ซึ่ง ออกแบบโครงร่างของนวัตกรรม 2) ปรั บ กิ จ กรรมในช่ ว งของ
ควรกาหนดเวลาให้ มากขึ้น หรือสิ่งประดิษฐ์ในเบื้องต้ นก่อน การศึกษานอกสถานที่ โดยใช้
เพียง 2 ชั่วโมงที่กาหนดไว้ พร้ อมทั้งร่วมกันพิจารณาถึง ชั่ ว โมงว่ า งหรื อ หลั ง เลิ ก เรี ย น
จะไม่สามารถนานักเรียน ความเป็ นไปได้ ในการสร้ าง เ พื่ อ เ ป็ น ก า ร ส ะ ท้ อ น ผ ล
ออกไปแหล่งเรียนรู้และ นวัตกรรมนั้น ๆ เพื่อป้ องกัน เนื่ อ งจากว่ า การเดิ น ทางไป
เดินทางกลับมาทากิจกรรม ความเสี่ยงในการสร้ าง ศึ ก ษาแหล่ ง เรี ย นรู้ ใช้ เวลา
เพื่อสรุปผลในชั้นเรียน ควร นวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็ นเรื่องของ ค่อนข้ างนาน จึงไม่สามารถจะ
จะดาเนินการเสนอโครงการ งบประมาณ ความเหมาะสมของ สรุปผลการศึกษาหรือสะท้ อ น
ศึกษานอกสถานที่โดยใช้ วัสดุอุปกรณ์ และความสามารถ ผลในช่วงเวลาดังกล่าวได้
เวลาช่วงวันหยุดเสาร์ ในการผลิตของนักเรียน หาก
อาทิตย์ โดยที่ดาเนินการ นวัตกรรมนั้นมีความเป็ นไปได้ ก็
อย่างถูกต้ องตามระเบียบ สามารถดาเนินการตามแผนงาน
ของการพานักเรียนออกไป ได้ แต่หากนวัตกรรมนั้นไม่
ทัศนศึกษานอกสถานที่ แล้ ว สามารถดาเนินการได้ กใ็ ห้
ในชั่วโมงเรียนปกติจะเป็ น นักเรียนสร้ างนวัตกรรมที่เป็ น
การนาเสนอองค์ความรู้และ โมเดลหรือแบบจาลอง และ
สรุปผลการศึกษานอก ประเมินผลนวัตกรรมได้ ตาม
สถานที่ เกณฑ์ท่กี าหนด
177
แนวทางการปรับปรุง
ผลจากการทดลอง ข้อเสนอแนะจากผูท้ ี่เกี่ยวข้อง
หลักสูตร
6. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 6. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 6. สื่อและแหล่งเรียนรู้
1) สื่อประเภทใบงาน ผู้ท่เี กี่ยวข้ องได้ ให้ คาแนะนา 1) ผู้วิจัยได้ ปรับปรุงหลักสูตร
เกี่ยวกับกิจกรรมที่ส่งเสริม เกี่ยวกับสื่อและแหล่งเรียนรู้ เกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้ โดยเปิ ด
ความคิดสร้ างสรรค์ นักเรียน โดยระบุว่า ควรส่งเสริมให้ ช่องว่างให้ กับโรงเรียนแต่ละ
ให้ ความสนใจโดยเฉพาะ นักเรียนได้ ใช้ เครื่องมือสื่อสาร แห่งได้ เลือกแหล่งเรียนรู้ใน
นักเรียนระดับชั้น ม.ต้ น แต่ หรือเทคโนโลยีเข้ ามาช่วยในการ เขตพื้นที่ใกล้ เคียง อย่างน้ อย
ม.ปลาย จะมีความเข้ าใจและ เก็บรวบรวมข้ อมูลในขณะที่ 2 แหล่งเรียนรู้ เพื่อให้ นักเรียน
สามารถร่วมกิจกรรมได้ ศึกษาแหล่งเรียนรู้ภมู ิปัญญา ได้ ออกนอกพื้นที่ในการศึกษา
2) การกาหนดแหล่งเรียนรู้ ท้องถิ่น เช่น ใช้ สมาร์ทโฟนของ จานวน 2 ครั้ง เพื่อให้ เกิดแรง
ในท้องถิ่นอาจจะจาเป็ นต้ อง นักเรียนเป็ นเครื่องมือช่วยใน บันดาลใจและเก็บรวบรวม
เปิ ดโอกาสให้ โรงเรียนใน การบันทึกภาพหรือวีดีโอ และ ข้ อมูลมาประกอบการคิด
ท้องถิ่นนั้น ๆ ได้ สารวจ ใช้ กระบวนการทางสื่อมัลติมีเดีย นวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่
แหล่งเรียนรู้ภมู ิปัญญาของ ให้ นักเรียนนาเสนอข้ อมูลตาม 2) ปรับโครงสร้ างเวลาใน
ตนเอง ซึ่งจะมีความ ศักยภาพของตนเองอย่าง การศึกษานอกสถานที่ให้
เหมาะสมในเรื่องของ หลากหลาย ซึ่งจะสอดคล้ องกับ ยืดหยุ่นตามความเหมาะสม
ระยะทางใกล้ โรงเรียน ความสนใจของนักเรียนและทัน กับพื้นที่
เหมาะกับการเดินทางไป ยุคสมัยที่นักเรียนต้ องใช้ สมาร์ท
เรียนรู้ อีกทั้งยังเป็ นการสืบ โฟนเป็ นเครื่องมือในการทางาน
ทอดความเป็ นภูมิปัญญาของ
ท้องถิ่นนั้น ๆ อย่างใกล้ ชิด
โดยเสนอว่าให้ กาหนด
ขั้นตอนที่แต่ละโรงเรียนได้
สารวจแหล่งเรียนรู้ของ
ตนเองให้ นักเรียนได้ มีโอกาส
นาเสนอแหล่งเรียนรู้ใน
หมู่บ้านหรือชุมชนของ
ตนเอง
178
แนวทางการปรับปรุง
ผลจากการทดลอง ข้อเสนอแนะจากผูท้ ี่เกี่ยวข้อง
หลักสูตร
7. แนวทางการวัดผลและ 7. แนวทางการวัดผลและ 7. แนวทางการวัดผลและ
ประเมินผล ประเมินผล ประเมินผล
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจาก ผู้มีส่วนเกี่ยวข้ องไม่มี ไม่มีการปรับปรุงหลักสูตรด้ าน
การทดลอง ข้ อเสนอแนะเกี่ยวกับแนว แนวทางการวัดผลประเมินผล
ทางการวัดผลและประเมินผล
3.1.1 การวางแผนการใช้หลักสูตร
ก่อนดาเนินการใช้ หลักสูตร ผู้วิจัยได้ ร่วมกับอาจารย์ท่ปี รึกษาและผู้ช่วยผู้วิ จัย
วางแผนการใช้ หลักสูตรและกาหนดบทบาทหน้ าที่ข องผู้เกี่ยวข้ องกับการใช้ หลักสูตร ผลการวาง
แผนการใช้ หลักสูตร เป็ นไปตามตารางที่ 19
2. จัดกิจกรรมตาม
5. ปรับปรุงกิจกรรม
โครงสร้ างและแผนที่
เพื่อความเหมาะสม
วางไว้
แผนการจั ด การเรี ย นรู้ ท่ี 2 เรื่ อ ง สร้ า งแรงบั น ดาลใจ เมื่ อ เรี ย นจบตาม
แผนการจัดการเรียนรู้นักเรียนสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ตัวอย่ างให้ เห็นคุณค่ าและเกิดแรง
บันดาลใจในการสร้ างนวัตกรรม กิจกรรมเริ่มด้ วยผู้ช่วยผู้วิจัยเชิญนักเรียนรุ่นพี่ในโรงเรียน ณ เวลา
ปั จจุ บันมาเล่ าถึ งประสบการณ์ การทากิจ กรรม และการทาโครงงานหรื อสิ่ง ประดิ ษฐ์ ท่ีป ระสบ
ความสาเร็จ พร้ อมทั้งจัดเวทีหรือโอกาสให้ นักเรียนรุ่นพี่และนักเรียนปัจจุบันได้ พูดคุย ซักถาม ให้
เกิดแนวความคิดและแรงบันดาลใจในการทากิจกรรมหรือการสร้ างสรรค์นวัตกรรม หลังจากนั้นครู
ชวนนักเรียนทากิจกรรมฝึ กความคิดสร้ างสรรค์ตามขั้นตอนของใบกิจกรรมที่ 2 เรื่อง คิดหาเหตุผล
เพื่อฝึ กทักษะกระบวนการให้ เหตุผล โดยมีสถานการณ์ท่กี าหนดให้ อย่างน้ อย 5 สถานการณ์ พร้ อม
ทั้งแบ่งนักเรียนเป็ นกลุ่ม ๆ ละ 3 – 5 คน ศึกษาสถานการณ์ ระดมความคิดเห็น และเตรียมการ
ในการนาเสนอหน้ าชั้นเรียน
2) การสังเกตกระบวนการสร้างนวัตกรรมของนักเรียนระหว่างเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง ปฐมนิเทศ กิจกรรมในครั้งนี้นับได้ ว่าเป็ น
ครั้งแรกที่ผ้ ูช่วยผู้วิจัยกับนักเรียนที่เลือกลงทะเบียนกิจกรรมชุมนุมได้ พบกัน ครูและนักเรียนต่าง
แนะนาตัวเพื่อทาความรู้จักกันและสร้ างความคุ้นเคย นักเรียนแต่ละคนมีความตื่นเต้ นและให้ ความ
ร่ วมมือเป็ นอย่ างดี โดยมีนักเรียนบางกลุ่มที่เกิ ดความสงสัยและสอบถามผู้ช่วยผู้วิ จัยเกี่ ย วกั บ
แบบทดสอบ ว่ าให้ ทาเพื่ออะไร มีผลต่ อคะแนนไหม ต้ องเขียนอย่ างไร วาดรูปอะไรได้ บ้าง ใช้
ปากกาได้ ไหม แอบดูเพื่อนได้ ไหม ซึ่งนักเรียนจะมีความกังวล แต่ผ้ ูช่วยผู้วิจัยได้ กาชับและอธิบาย
ขั้นตอนพร้ อมทั้งแนวปฏิบัติจนสามารถดาเนินการได้ ตามเวลาที่กาหนด การร่วมกิจกรรมตามใบ
กิจกรรมที่ 1 นักเรียนอ่านบทความที่แจกให้ อย่างตั้งใจ และร่วมแสดงความคิดเห็นในกลุ่ม โดย
สังเกตได้ ว่านักเรียนจะยังไม่กล้ าแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่เนื่องจากบางกลุ่มเป็ นเพื่อนสมาชิก
คนใหม่จากต่างโรงเรียน ยังไม่ค้ ุนชินและอยู่ในช่วงของการปรับตัว สามารถนาเสนอนวัตกรรมได้
ดังตัวอย่างของนวัตกรรม ดังภาพที่ 15
3) การประเมินผลการจัดกิจกรรม
หน่ วยการเรีย นรู้ท่ี 1 การสร้ างแรงบันดาลใจ ประกอบด้ วย 2 แผนการ
จัดการเรียนรู้ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็ นช่วงเริ่มต้ นของการใช้ หลักสูตร โดยทั้ง 6 กลุ่มเป้ าหมาย
ดาเนินการตามช่วงของวันและเวลาที่เหมาะสม นอกจากนั้นในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้นักเรียน
จะมี น วั ต กรรมจากการท ากิ จ กรรมตามใบกิ จ กรรมและได้ รั บ การประเมิ น ในทุ ก ชั่ ว โมงเรี ย น
ประกอบด้ วยการประเมินนวัตกรรมจากใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง ชาวนายุคใหม่ ซึ่งกลวิธีการฝึ กคิด
สร้ างสรรค์ คือ การอ่านอย่ างสร้ างสรรค์ (Creative Reading Skill) และใบกิจกรรมที่ 2 เรื่อ ง
คิดหาเหตุผล มีกลวิธีการฝึ กคิดสร้ างสรรค์ คือ การฝึ กหาเหตุผล (Paradoxes) ดังตารางที่ 20
186
จานวน ค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินนวัตกรรม
นักเรียน กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมที่ 2
โรงเรียนกลุ่มเป้ าหมาย
ที่เข้า แปล แปล
̅
𝑿 S.D. ̅
𝑿 S.D.
ร่วม ผล ผล
นาวังศึกษาวิช 20 9.35 1.31 ผ 10.05 1.61 ผ
กุดดินจี่วิทยาคม 20 9.85 1.46 ผ 10.15 1.53 ผ
ดงมะไฟวิทยาคม 20 9.15 1.57 ผ 10.20 1.58 ผ
ฝั่งแดงวิทยาสรรค์ 20 9.35 1.31 ผ 9.75 1.80 ผ
ภูซางใหญ่วิทยาคม 20 9.96 1.70 ผ 10.05 1.23 ผ
หนองสวรรค์วิทยาคาร 20 9.35 1.53 ผ 10.10 1.37 ผ
120 9.50 1.48 ผ 10.05 1.52 ผ
จากตารางที่ 20 พบว่านักเรียนร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอน
ของกิจกรรมที่ 1 และ 2 และดาเนินการระดมความคิดเห็น สรุปข้ อมูล ตลอดจนการนาเสนอ
นวัตกรรมในท้ ายชั่วโมงของการจัดกิจกรรม โรงเรียนกลุ่มเป้ าหมายทั้ง 6 โรงเรียน มีค่าเฉลี่ยของ
คะแนนการประเมิน นวัตกรรม กิจกรรมที่ 1 เรื่อง ชาวนายุคใหม่ อยู่ในเกณฑ์ ผ่าน มีค่าเฉลี่ย
เท่ากับ 9.50 และกิจกรรมที่ 2 เรื่อง คิดหาเหตุผล อยู่ในเกณฑ์ ผ่าน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 10.05
จากการประเมิ น นวั ต กรรมของนั ก เรี ย นที่เ กิ ด จากกระบวนการส่ ง เสริ ม
ความคิดสร้ างสรรค์ท้งั 2 กิจกรรม คือ ชาวนายุคใหม่ และ คิดหาเหตุผล ซึ่งทั้งสองกิจกรรมมุ่ง
ส่งเสริมให้ นักเรียนเกิดทักษะการอ่านอย่างสร้ างสรรค์ (Creative Reading Skill) และการฝึ กหา
เหตุ ผ ล (Paradoxes) โดยทั้ง สองกลวิ ธี ฝึ กนั้ น เป็ นส่ ว นหนึ่ ง ของกระบวนการฝึ กฝนความคิ ด
สร้ างสรรค์ ผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ผ่าน ในด้ านความรู้พบว่านักเรียนมีความรู้ความเข้ าใจใน
กิ จ กรรม เข้ า ใจและตระหนั ก ถึ ง ความส าคั ญ ของภู มิ ปั ญ ญาท้ อ งถิ่ น ที่ มี ค วามเชื่ อ มโยงกั บ
กระบวนการสร้ างนวัตกรรม ในด้ านทักษะกระบวนการ นักเรียนเกิดกระบวนการกลุ่ม มีความ
เข้ าใจในบทบาทหน้ าที่ของแต่ละคน นอกจากนั้นในด้ านเจตคติ นักเรียนรู้จักการยอมรับฟั งความ
คิดเห็นของผู้อ่ืน มีความเสียสละในการทางาน เกิดความสามามัคคีในกลุ่ม และการทางานตาม
เวลาที่กาหนดโดยไม่มีพฤติกรรมการแข่งขันเกิดขึ้นในชั้นเรียน ทุกกลุ่มให้ เกียรติซ่ึงกันและกันใน
การนาเสนอนวัตกรรมหน้ าชั้นเรียน โดยคานึงถึงบทบาทของการเป็ นผู้พูดและผู้ฟังได้ เป็ นอย่างดี
187
2) การสังเกตกระบวนการสร้างนวัตกรรมของนักเรียนระหว่างเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 การสืบค้ นข้ อมูล ในขั้นเร้ าความสนใจ โดยนา
นักเรียนให้ ความร่ วมมือในการเตรียมตัว โดยการนั่งสมาธิโดยผู้ช่วยผู้วิจัยเปิ ดเพลงบรรเลงให้
นักเรียนฟั ง นักเรียนนั่งนิ่งด้ วยความสงบและเป็ นระเบียบเรียบร้ อย หลังจากนั้นเริ่มกิจกรรมที่ 3
แบ่งนักเรียนเป็ นกลุ่ม พร้ อมทั้งนาใยบวบ และผ้ าทอมือ ซึ่งเป็ นสินค้ าจากชุมชน ให้ นักเรียนได้
สังเกตหลังจากนั้นช่วยกันระดมความคิดเห็นข้ อเสนอแนะ นักเรียนให้ ความร่วมมือเป็ นอย่างดี โดย
รู้บทบาทและหน้ าที่ของตนเอง ซึ่งนักเรียนบางคนคุ้นเคยกับกิจกรรม นักเรียนแสดงความคิดเห็น
อย่างสนุกสนาน ในขณะที่มีตัวแทนหนึ่งคนเขียนข้ อมูลจากแนวคิดของสมาชิกลงในใบกิจกรรมที่
แจกให้ หลังจากนั้นให้ ตัวแทนนาเสนอ นักเรียนดาเนินการได้ อย่างมั่นใจมากขึ้น โดยตัวแทนที่
ออกมานาเสนอจะเป็ นคนใหม่และเรียงสลับกันไปโดยให้ มีโอกาสได้ แสดงออกอย่างทั่วถึง เมื่อจบ
การนาเสนอนักเรียนในชั้นเรียนให้ กาลังใจโดยการปรบมือ แสดงความยินดีกับเพื่อนที่ถูกเลือกให้
ไปนาเสนอ กิจกรรมถัดไปเป็ นการนาเสนอเนื้อหาแหล่งเรียนรู้ในชุมชนโดยบูรณาการกับภูมิปัญญา
ท้องถิ่น ด้ วยภาพจากอินเตอร์เน็ต นักเรียนให้ ความสนใจและตื่นเต้ นกับแหล่งเรียนรู้ ซึ่งหลายคนรู้
มาว่าจะต้ องได้ ออกเดินทางไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ในพื้นที่ใกล้ โรงเรียน โดยภาพรวมนักเรียน
มีความสนใจในกิจกรรมและสามารถสร้ างนวัตกรรมตามเงื่อนไขที่กาหนด
จานวน ค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินนวัตกรรม
นักเรียน กิจกรรมที่ 3 กิจกรรมที่ 4
โรงเรียนกลุ่มเป้ าหมาย
ที่เข้า แปล แปล
𝑿̅ S.D. 𝑿̅ S.D.
ร่วม ผล ผล
นาวังศึกษาวิช 20 9.90 1.62 ผ 10.60 1.43 ผ
กุดดินจี่วิทยาคม 20 10.25 1.41 ผ 9.65 1.69 ผ
ดงมะไฟวิทยาคม 20 9.70 1.89 ผ 9.50 1.67 ผ
ฝั่งแดงวิทยาสรรค์ 20 9.80 1.61 ผ 10.40 1.54 ผ
ภูซางใหญ่วิทยาคม 20 9.55 1.64 ผ 10.20 1.40 ผ
หนองสวรรค์วิทยาคาร 20 9.40 1.98 ผ 10.00 1.45 ผ
120 9.77 1.69 ผ 10.06 1.53 ผ
190
จากตารางที่ 21 พบว่านักเรียนร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอน
ของกิจกรรมที่ 3 และ 4 และดาเนินการระดมความคิดเห็น สรุปข้ อมูล ตลอดจนการนาเสนอ
นวัตกรรมในท้ ายชั่วโมงของการจัดกิจกรรม โรงเรียนกลุ่มเป้ าหมายทั้ง 6 โรงเรียน มีค่าเฉลี่ยของ
คะแนนการประเมิน นวัตกรรม กิจกรรมที่ 3 เรื่อ ง พินิจ พิจารณา อยู่ในเกณฑ์ ผ่าน มีค่าเฉลี่ย
เท่ากับ 9.77 และกิจกรรมที่ 4 เรื่อง เหมือนหรือต่าง อยู่ในเกณฑ์ ผ่าน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 10.06
จากการประเมิ น นวั ต กรรมของนั ก เรี ย นที่เ กิ ด จากกระบวนการส่ ง เสริ ม
ความคิดสร้ างสรรค์ท้งั 2 กิจกรรม ซึ่งทั้งสองกิจกรรมมุ่งส่งเสริมให้ นักเรียนเกิดทักษะการพิจารณา
ลักษณะ (Attributes) และการฝึ กเปรียบเทียบอุปมา อุปมัย (Analogies) ผลการประเมินอยู่ใ น
เกณฑ์ผ่าน ในด้ านความรู้พบว่ านักเรียนมีความรู้ความเข้ าใจเกี่ยวกับการสืบค้ นข้ อมูลในระบบ
เครือข่ายอินเตอร์เน็ต การคัดเลือกข้ อมูลที่มีความน่าเชื่อถือมาใช้ ประกอบการคิดสินใจ มีความ
เข้ าใจในภูมิปัญญาท้ องถิ่น สามารถวิเคราะห์ภมู ิปัญญาท้องถิ่นในเขตอาเภอที่ตนเองอาศัยอยู่ จัด
หมวดหมู่ ข องแหล่ ง เรี ย นรู้ ท่ีเ ป็ นภูมิ ปั ญ ญาท้ อ งถิ่ น ได้ อ ย่ า งชั ด เจน ในด้ า นกระบวนการสร้ า ง
นวัตกรรม นักเรียนร่วมกิจกรรมกลุ่ม รู้บทบาทหน้ าที่ข องแต่ล ะคนในกลุ่ม ดาเนินการอย่า งเป็ น
ระบบ แบ่งภาระหน้ าที่ มีการนาเสนอนวัตกรรมโดยการหมุนเวียนคนนาเสนอเพื่อเป็ นการฝึ กฝน
และให้ โอกาสอย่างเสมอภาคในกลุ่ม นอกจากนั้นในด้ านเจตคติ นักเรียนเกิดความตระหนักและให้
ความส าคัญกับแหล่ ง เรี ยนรู้ท่ีเป็ นภูมิปัญ ญาท้ องถิ่ น ของนักเรียน ผ่านกระบวนการวิ เ คราะห์
สังเคราะห์ข้อมูลที่ได้ จากการสืบค้ นด้ วยเทคโลยี เกิดความรู้สึกรักและหวงแหนภูมิปัญญาท้ องถิ่น
ของตนเอง สังเกตได้ จากการแสดงออกทางความคิดเกี่ยวกับภูมิปัญญาในท้ องถิ่นของนักเรียนเอง
นอกจากนั้นนักเรียนยังรู้จักการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่นื มีความเสียสละในการทางาน เกิด
ความสามัคคีในกลุ่ม ทุกกลุ่มให้ เกียรติซ่งึ กันและกันในการนาเสนอนวัตกรรมหน้ าชั้นเรียน
4) การสะท้อนผลการจัดกิจกรรมร่วมกับผูช้ ่วยผูว้ ิจัย
การจัดกิจกรรมตามโครงสร้ างหน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การสืบค้ นข้ อมูล ผู้วิจัย
ดาเนินการประชุมสะท้ อนผลหลังการจัดกิจกรรมร่วมกับผู้ช่วยผู้วิจัยทั้ง 6 โรงเรียน โดยการรับฟั ง
เสียงสะท้อนและผลที่เกิดขึ้น ตลอดจนข้ อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับการนาหลักสูตรไปใช้ ในหน่ วย
การเรียนรู้ท่ี 2 พบว่า
จุดเด่นในหน่วยการเรียนรู้ดังกล่าวเป็ นหน่วยการเรียนรู้ท่นี ักเรียนจะต้ องใช้
เครื่องมือในการสืบค้ นข้ อมูล ซึ่งเป็ นเครื่องมือที่นักเรียนมีความถนัดและชื่นชอบรวมทั้งมี ความ
พร้ อมในการใช้ งานได้ เป็ นอย่างดี สังเกตได้ จากการเตรียมโทรศัพท์และเติมเงินในโทรศัพท์เพื่อ
เปิ ดสัญญาณอินเตอร์เน็ตในการสืบค้ นข้ อมูล นักเรียนสามารถเข้ าถึงข้ อมูลทางอินเตอร์เน็ตได้ อย่าง
รวดเร็ว และผู้ช่วยผู้วิจัยได้ ให้ ข้อคิดเกี่ยวกับการเลือกใช้ ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ และการคัดลอก
ข้ อมูลโดยคานึงถึงจริยธรรมในการนาข้ อมูล ไปใช้ ในการอ้ างอิง นักเรียนสามารถแชร์ข้ อมูล และ
สื่อสารกันในช่องทางที่กาหนด จากพฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้ เห็นว่านักเรียนเป็ นผู้มีทกั ษะในการ
191
ภาพที่ 19 การนาเสนอแนวคิดหรือนวัตกรรมของนักเรียนในรูปแบบแผนผัง
1) การจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู ้
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 – 6 เรื่อง กรณีศึกษาภูมิปัญญาท้ องถิ่น 1 – 2
กิจกรรมที่ท้าทายของนักเรียนคือการศึกษานอกสถานที่ โดยการเดินทางไปยังแหล่ งเรียนรู้ภูมิ
ปัญญาท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ บริเวณโรงเรียน เป็ นกิจกรรมที่นักเรียนให้ ความสนใจและเฝ้ ารอด้ วยความ
ตั้งใจ ดาเนินการโดยผู้ช่วยผู้วิจัยร่วมกันวางแผนกับผู้ท่มี ีส่วนเกี่ยวข้ อง และดาเนินการตามแผน
เมื่อนักเรียนเข้ าศึ กษาเรี ยนรู้ จะมี การสะท้ อ นผลการศึ กษา เพื่อให้ นักเรียนเกิด แนวคิ ดในการ
สร้ างสรรค์ นวัตกรรม ทั้งนี้ในกิจกรรมดังกล่ าวได้ นาเทคโนโลยีมาช่ วยในการบันทึกข้ อมูล และ
นาเสนอข้ อมูลต่าง ๆ ตามความเหมาะสม นอกจากนั้นผู้ช่วยผู้วิจัยชวนนักเรียนทากิจกรรมตาม
ขั้นตอนของใบกิจกรรมที่ 5 เรื่อง เรื่องเล่าจากภาพ เพื่อฝึ กการระบุความคลาดเคลื่อนไปจากความ
เป็ นจริง (Discrepancies) เป็ นการแสดงความคิดเห็น ระบุ บ่งชี้สิ่งที่คลาดเคลื่อนจากความจริง
หรือขาดตกบกพร่อง ผิดปกติ หรือสิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์ และใบกิจกรรมที่ 6 เรื่อง สัตว์ในจินตนาการ
เพื่อฝึ กทักษะการคิดล่วงหน้ าหรือการคาดการณ์อนาคตตามจินตนาการและข้ อมูลที่มีอยู่ในพื้นที่
2) การสังเกตกระบวนการสร้างนวัตกรรมของนักเรียนระหว่างเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 – 6 เรื่อง กรณีศึกษาภูมิปัญญาท้ องถิ่น 1 – 2
กิจกรรมการศึกษานอกสถานที่ นักเรียนมีความตื่นเต้ นและมีการเตรียมตัวเป็ นอย่างดี นักเรียนมา
ตามเวลที่ นั ด หมาย เตรี ย มวั ส ดุ อุ ป กรณ์ พ ร้ อ ม ทั้ ง เครื่ อ งบั น ทึ ก วี ดี โ อ กล้ อ งถ่ า ยภาพ หรื อ
โทรศัพท์มือถือ อีกทั้งนักเรียนมีการเตรียมตัวเรื่องเนื้อหาและรายละเอียดของสถานที่ท่จี ะไปศึกษา
เรียนรู้มาก่อนล่วงหน้ า ในระหว่างเดินทางนักเรียนมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับสถานที่และความสาคัญ
ของแหล่ งเรียนรู้ มีการทากิจกรรมนันทนาการเพื่อสร้ างความสัมพันธ์ท่ีดีระหว่ างนักเรีย นต่ า ง
ระดับชั้น สังเกตเห็นความเสียสละ และการบริการเพื่อนร่วมเดินทาง ซึ่งเป็ นมิติสัมพันธ์ทางสังคม
ที่เกิดขึ้นในระหว่ างการเดินทาง ตลอดจนเสียงหั วเราะและความผ่อนคลายในหลาย ๆ มุมมอง
แสดงให้ เห็นถึงความพร้ อมที่จะเรียนรู้ในแหล่งเรียนรู้ท่กี าหนด ระหว่างการศึกษาดูงานนักเรียนให้
ความเคารพกับวิทยากรและสถานที่อย่างเหมาะสม ปฎิบัติตามระเบียบและข้ อแนะนาของสถานที่
นั้น ๆ รวมทั้งร่วมกิจกรรมกับวิทยากรตามความเหมาะสม นอกจากนั้นยังสังเกตเห็นนักเรียนใช้
เครื่ อ งมื อ ในการเก็บ รวบรวมข้ อ มู ล เช่ น โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ ส าหรั บ ถ่ า ยภาพทั้ ง ภาพนิ่ ง และ
ภาพเคลื่อนไหว จัดเก็บข้ อมูลเพื่อนาไปสะท้ อนผลหลังจากศึกษาในแหล่งเรียนรู้เรียบร้ อยแล้ ว
กิจกรรมสุดท้ายเป็ นการสะท้อนผลพบว่านักเรียนให้ ความร่วมมือ และกล้ าแสดงความคิดเห็นอย่ าง
หลากหลาย เนื่องจากเป็ นสถานการณ์ท่นี ักเรียนได้ พบเห็น สัมผัส และเรียนรู้จากสภาพจริง เกิด
เป็ นความรู้และประสบการณ์ท่สี ามารถนาไปต่อยอดในการสร้ างแนวคิดและต้ นแบบของนวัตกรรม
ที่จะมาช่วยส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมของภูมิปัญญาท้องถิ่นให้ คงอยู่
193
3) การประเมินผลการจัดกิจกรรม
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง การศึกษาภูมิปัญญา
ท้ องถิ่น มีกิจกรรมที่ดาเนินการตามใบกิจกรรม จานวน 2 กิจกรรม และมีการประเมินผลการจัด
กิจกรรมประกอบด้ วยใบกิจกรรมที่ 5 เรื่อง เล่าจากภาพ ซึ่งกลวิธีการฝึ กคิดสร้ างสรรค์ คือ บอกสิ่ง
ที่คลาดเคลื่ อนจากความจริง (Discrepancies) และใบกิจกรรมที่ 6 เรื่อง สัตว์ในจินตนาการ มี
กลวิธีการฝึ กคิดสร้ างสรรค์ คือ การเปลี่ยนแปลง (Examples of Change) ดังแสดงในตารางที่ 22
จานวน ค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินนวัตกรรม
นักเรียน กิจกรรมที่ 5 กิจกรรมที่ 6
โรงเรียนกลุ่มเป้ าหมาย
ที่เข้า แปล แปล
𝑿̅ S.D. ̅
𝑿 S.D.
ร่วม ผล ผล
นาวังศึกษาวิช 20 9.95 1.57 ผ 10.75 1.57 ผ
กุดดินจี่วิทยาคม 20 9.70 1.45 ผ 10.30 1.45 ผ
ดงมะไฟวิทยาคม 20 10.15 1.35 ผ 10.10 1.35 ผ
ฝั่งแดงวิทยาสรรค์ 20 9.65 1.66 ผ 9.95 1.66 ผ
ภูซางใหญ่วิทยาคม 20 9.70 1.56 ผ 10.65 1.56 ผ
หนองสวรรค์วิทยาคาร 20 9.65 1.60 ผ 10.50 1.60 ผ
120 9.80 1.53 ผ 10.38 1.53 ผ
196
จากตารางที่ 22 พบว่านักเรียนร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอน
ของกิจกรรมที่ 5 และ 6 และดาเนินการระดมความคิดเห็น สรุปข้ อมูล ตลอดจนการนาเสนอ
นวัตกรรมในท้ ายชั่วโมงของการจัดกิจกรรม โรงเรียนกลุ่มเป้ าหมายทั้ง 6 โรงเรียน มีค่าเฉลี่ยของ
คะแนนการประเมินนวัตกรรม กิจกรรมที่ 5 เรื่อง เล่าจากภาพ อยู่ในเกณฑ์ ผ่าน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ
9.80 และกิจกรรมที่ 6 เรื่อง สัตว์ในจินตนาการ อยู่ในเกณฑ์ ผ่าน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 10.38
จากการประเมิ น นวั ต กรรมของนั ก เรี ย นที่เ กิ ด จากกระบวนการส่ ง เสริ ม
ความคิดสร้ างสรรค์ท้ัง 2 กิจกรรม คือ เรื่องเล่ าจากภาพ และ สัตว์ในจินตนาการ ซึ่งทั้งสอง
กิจกรรมมุ่งส่งเสริมให้ นักเรียนเกิดทักษะการบอกสิ่งที่คลาดเคลื่อนจากความจริง (Discrepancies)
และฝึ กการยอมรับการเปลี่ยนแปลง (Examples of Change) โดยทั้งสองกลวิธีฝึกนั้นเป็ นส่วนหนึ่ง
ของกระบวนการฝึ กฝนความคิดสร้ างสรรค์ ผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ผ่าน ในด้ านความรู้พบว่า
นักเรียนมีความรู้ความเข้ าใจเกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนการไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ภมู ิปัญญา
ท้ องถิ่น มีข้อมูลสาคัญเกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้ในท้ องถิ่น ในด้ านทักษะกระบวนการสร้ างนวัตกรรม
นักเรียนสามารถวางแผนการดาเนินการ เกี่ยวกับการไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ รู้จักวิธีการสืบค้ นข้ อมูล
และเลือกใช้ ข้ อมูลได้ อย่ างถูกต้ อง การประสานงานกับผู้ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้ อง การวางแผนร่ วมกัน
ภายในกลุ่ม ตลอดจนการนาเทคโนโลยีมาใช้ ในการเก็บรวบรวมข้ อมูล เช่น การบันทึกภาพนิ่ง การ
บันทึกภาพเคลื่อนไหว เพื่อนาข้ อมูลกลับมาสะท้ อนผลหลังจากกลับจากแหล่ งเรียนรู้ในแต่ ล ะ
ชั่วโมง และยังพบเห็นพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมกลุ่ม ได้ อย่างมีความเข้ าใจในบทบาทหน้ าที่ของ
แต่ละคนในกลุ่ม ดาเนินการอย่างเป็ นระบบ แบ่งภาระหน้ าที่ความรับผิดชอบ นอกจากนั้นในด้ าน
เจตคติ นักเรียนเกิดความตระหนักและให้ ความสาคัญกับแหล่งเรียนรู้ท่เี ป็ นภูมิปัญญาท้ องถิ่นของ
นักเรียน ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลที่ได้ จากการสืบค้ นด้ วยเทคโลยี เกิดความรู้สึก
รักและหวงแหนภูมิปัญญาท้ องถิ่นของตนเอง สังเกตได้ จากการให้ ความร่วมมือ ตั้งใจรับฟั งการ
บรรยาย การสอบถาม การแสดงความคิดเห็น การสนทนาสะท้ อนผลหลังจากกิจกรรมการศึกษา
แหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนการนาเสนอนวัตกรรมของนักเรียน การเขียนแบบร่างนวัตกรรม
ที่เป็ นแนวความคิดในการวางแผนการสร้ างนวัตกรรมในอนาคต
4) การสะท้อนผลการจัดกิจกรรมร่วมกับผูช้ ่วยผูว้ ิจัย
จากการจัดกิจกรรมในหน่ วยการเรียนรู้ท่ี 3 การศึกษาภูมิปัญญาท้ องถิ่น
ผู้ช่วยผู้วิจัยได้ ร่วมสะท้อนผลการดาเนินการ โดยพบว่าด้ านการจัดกิจกรรม เป็ นกิจกรรมที่นักเรียน
ทุกคนในกลุ่มตั้งตารอคอย การเดินทางไปร่วมศึกษาแหล่งเรียนรู้ในท้ องถิ่น นักเรียนตื่นตัวและ
เตรียมการเป็ นอย่างดี จากพฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้ เห็นว่ากิจกรรมที่อยู่ในโครงสร้ างหลักสูตร
เป็ นกิจกรรมที่นักเรียนพึงพอใจ นอกจากนั้นยังสังเกตเห็นความร่ วมมือของผู้ปกครองที่มาส่งบุตร
หลานในการร่วมกิจกรรม การจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และความห่วงใยในการเดินทาง ซึ่งแสดงให้
เห็นการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและกระบวนการเรียนรู้จะเป็ นกระบวนการที่คงทน ดังจะเห็นได้
จากคาพูดของผู้ปกครองที่สะท้อนว่า
197
นอกจากนั้นด้ านความรู้และภาระงานที่เกิดขึ้นเมื่อกลับมาจากศึกษาเรียนรู้
แหล่งเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น นักเรียนมีความตั้งใจมาก ทุกคนกลับมาแล้ วจะเปิ ดคลิปวีดีโอที่
แต่ละคนได้ บันทึกเอาไว้ ตามคาแนะนาของผู้ช่วยผู้วิจัย นักเรียนมีความสุข สนุกสนานกับข้ อมูลที่
นักเรียนเก็บมาระหว่างฟั งวิทยากรหรือศึกษาสภาพจริง นักเรียนส่วนใหญ่นาข้ อมูลเข้ าไปเก็บไว้ ใน
เฟสบุ๊คส่วนตัวในปริมาณที่ค่อนข้ างมาก และกิจกรรมการระดมความคิดเห็นก็เกิดภาระนวัตกรรม
ตามเป้ าหมายที่กาหนด ทั้งนี้ด้วยเทคโนโลยีท่นี ักเรียนใช้ ในการบันทึกข้ อมูล จะสามารถเก็บชุ ด
ความรู้ ท่ีผ่ า นกระบวนการเรี ย นรู้ เ อาไว้ ไ ด้ อ ย่ างคงทน และสามารถย้า เตื อ นความทรงจ าด้ วย
เทคโนโลยีการเตือนความจาของแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ
3.2.4 ผลการดาเนินการ หน่วยที่ 4 การสร้างนวัตกรรม
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การสร้ างนวัตกรรม ประกอบด้ วยแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
7 – 8 มีเป้ าหมาย คือ การสร้ างนวัตกรรมหรือนวัตกรรมจากการสังเคราะห์ภมู ิปัญญาท้องถิ่นและ
นาเสนอนวัตกรรม ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยผู้ช่วยผู้วิจัย จากโรงเรียนกลุ่มเป้ าหมาย
ทั้งหมด 6 โรงเรียน ใช้ เวลา 8 ชั่วโมง เก็บรวบรวมข้ อมูล ประเมินผลการจัดกิจกรรม โดยผู้วิจัย
รวบรวมข้ อมูลจากการสังเคราะห์บั นทึก หลังแผนการจั ดการเรี ยนรู้ และการสะท้ อนผลการจั ด
กิจกรรมในรูปแบบออนไลน์เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในช่วงของสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ปรากฏผลดังนี้
1) การจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู ้
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 – 8 เรื่อง กระบวนการสร้ างนวัตกรรม ใช้ เวลา
ในการจัดการเรียนการสอน จานวน 8 ชั่วโมง โดยมีเป้ าหมายเพื่อให้ นักเรียนสร้ างนวัตกรรมหรือ
นวัตกรรมจากการสังเคราะห์ภูมิปัญญาท้ องถิ่นและนาเสนอนวัตกรรม กิจกรรมดาเนินการโดยทุก
ๆ ชั่วโมง ผู้ช่วยผู้วิจัย นัดหมายนักเรียนรวมตัวกัน เพื่อเตรียมความพร้ อม โดยการใช้ ใบกิจกรรม
นาเข้ าสู่บทเรียนซึ่งแต่ละกิจกรรมจะมีข้นั ตอนที่ให้ นักเรียนแบ่งกลุ่ม ผู้ช่วยผู้วิจัยชี้แจงรายละเอียด
ระดมความคิด เห็น สะท้ อนผลและนาเสนอแนวคิด ต่ าง ๆ ก่อนที่จะเริ่มการทบทวน หรือการ
ติ ด ตามภาระงานที่ไ ด้ ม อบหมาย หรื อ ในบางครั้ ง ผู้ ช่ ว ยผู้ วิ จั ย อาจจะให้ ค วามช่ ว ยเหลื อ หรื อ
คาแนะนาในการดาเนินการ สร้ างนวัตกรรม โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบนวัตกรรม การเตรียมวัสดุ
อุปกรณ์ การทดลองสร้ าง การทดสอบประสิทธิภ าพของนวัตกรรม ตลอดจนการทาต้ นแบบที่
สามารถนาไปสร้ างในจานวนที่มากขึ้นตามความต้ องการจาเป็ นของแต่ละนวัตกรรม โดยดาเนินการ
จนครบ 8 ชั่วโมงตามแผนการทางาน
2) การสังเกตกระบวนการสร้างนวัตกรรมของนักเรียนระหว่างเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 – 8 เรื่อง กระบวนการสร้ างนวัตกรรม ในทุก
ชั่ ว โมงของการจั ด การเรี ย นรู้ ผ้ ู ช่ ว ยผู้ วิ จั ย จะน าเข้ า สู่ บ ทเรี ย นด้ ว ยกิ จ กรรมส่ ง เสริ ม ความคิ ด
สร้ างสรรค์ จากใบกิจกรรมที่ 7 – 14 จานวน 8 กิจกรรม โดยภาพรวมนักเรียนมีความเข้ าใจใน
ขั้นตอนการทากิจกรรม ซึ่งจะมีข้นั ตอนอย่างคร่าว ๆ คือ การรับฟังเงื่อนไขที่กาหนดหลังจากนั้นจะ
199
3) การประเมินผลการจัดกิจกรรม
การจัดกิจกรรมในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การสร้ างนวัตกรรม กาหนดเวลาไว้ ท่ี
8 ชั่วโมง ให้ นักเรียนได้ ออกแบบ เตรียมอุปกรณ์ และดาเนินการตามกิจกรรมส่งเสริมความคิ ด
สร้ า งสรรค์ ในใบกิ จ กรรมที่ 7 -14 พร้ อ มทั้ ง มี ก ารประเมิ น ผลใบกิ จ กรรม และติ ด ตาม
ความก้ าวหน้ าในการสร้ างนวัตกรรม ในทุก ๆ ชั่วโมงของการเรียนรู้ ซึ่งมีผลการประเมินดังต่อไปนี้
203
จานวน ค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินนวัตกรรม
โรงเรียน
นักเรียน กิจกรรมที่ 7 กิจกรรมที่ 8
กลุ่มเป้ าหมาย
เข้าร่วม 𝑿̅ S.D. แปลผล 𝑿 ̅ S.D. แปลผล
นาวังศึกษาวิช 20 10.75 1.48 ผ 10.20 1.48 ผ
กุดดินจี่วิทยาคม 20 10.40 1.50 ผ 9.90 1.50 ผ
ดงมะไฟวิทยาคม 20 10.20 1.51 ผ 9.95 1.51 ผ
ฝั่งแดงวิทยาสรรค์ 20 10.05 1.54 ผ 9.85 1.54 ผ
ภูซางใหญ่วิทยาคม 20 10.40 1.73 ผ 9.60 1.73 ผ
หนองสวรรค์วิทยาคาร 20 10.70 1.22 ผ 9.60 1.22 ผ
120 10.42 1.50 ผ 9.85 1.50 ผ
จานวน ค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินนวัตกรรม
โรงเรียน
นักเรียน กิจกรรมที่ 9 กิจกรรมที่ 10
กลุ่มเป้ าหมาย
เข้าร่วม 𝑿̅ S.D. แปลผล 𝑿 ̅ S.D. แปลผล
นาวังศึกษาวิช 20 9.95 1.28 ผ 10.60 1.28 ผ
กุดดินจี่วิทยาคม 20 9.90 1.45 ผ 10.25 1.45 ผ
ดงมะไฟวิทยาคม 20 9.75 1.52 ผ 10.20 1.52 ผ
ฝั่งแดงวิทยาสรรค์ 20 10.20 0.77 ผ 10.05 0.77 ผ
ภูซางใหญ่วิทยาคม 20 9.85 1.31 ผ 9.85 1.31 ผ
หนองสวรรค์วิทยาคาร 20 9.55 1.64 ผ 10.25 1.64 ผ
120 9.87 1.33 ผ 10.20 1.33 ผ
204
จานวน ค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินนวัตกรรม
โรงเรียน
นักเรียน กิจกรรมที่ 11 กิจกรรมที่ 12
กลุ่มเป้าหมาย
เข้าร่วม 𝑿̅ S.D. แปลผล 𝑿 ̅ S.D. แปลผล
นาวังศึกษาวิช 20 11.10 1.17 ผ 10.75 1.17 ผ
กุดดินจี่วิทยาคม 20 10.30 1.81 ผ 10.10 1.81 ผ
ดงมะไฟวิทยาคม 20 10.20 1.58 ผ 9.90 1.58 ผ
ฝั่งแดงวิทยาสรรค์ 20 10.35 1.63 ผ 10.20 1.63 ผ
ภูซางใหญ่วิทยาคม 20 9.85 1.90 ผ 10.20 1.90 ผ
หนองสวรรค์วิทยาคาร 20 9.85 1.84 ผ 9.95 1.84 ผ
120 10.28 1.65 ผ 10.18 1.65 ผ
จานวน ค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินนวัตกรรม
โรงเรียน
นักเรียน กิจกรรมที่ 13 กิจกรรมที่ 14
กลุ่มเป้ าหมาย
เข้าร่วม 𝑿̅ S.D. แปลผล 𝑿 ̅ S.D. แปลผล
นาวังศึกษาวิช 20 9.95 1.57 ผ 10.10 1.57 ผ
กุดดินจี่วิทยาคม 20 9.95 1.64 ผ 9.65 1.64 ผ
ดงมะไฟวิทยาคม 20 10.10 1.33 ผ 10.30 1.33 ผ
ฝั่งแดงวิทยาสรรค์ 20 9.75 1.59 ผ 10.35 1.59 ผ
ภูซางใหญ่วิทยาคม 20 9.50 1.61 ผ 9.85 1.61 ผ
หนองสวรรค์วิทยาคาร 20 10.15 1.39 ผ 10.10 1.39 ผ
120 9.90 1.52 ผ 10.06 1.52 ผ
ภาพที่ 34 แบบจาลองนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรม
ภาพกิจกรรมการนาเสนอนวัตกรรมของนักเรียนโรงเรียนกลุ่มเป้ าหมายทั้ง
6 โรงเรียน ซึ่งดาเนินการตามบริบทและสภาพความพร้ อมของนักเรียน ทั้งเวลา สถานที่ และปัจจัย
ต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน ทั้งนี้มีเป้ าหมายเดียวกัน คือต้ องการให้ นักเรียนได้ นาเสนอผลการสังเคราะห์
ความรู้ท่บี ูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น ออกมาเป็ นผลิตภัณฑ์นักเรียน ดังภาพประกอบต่อไปนี้
ภาพที่ 37 การนาเสนอนวัตกรรมนักเรียนและการจัดแสดงนวัตกรรม
210
3) การประเมินผลการจัดกิจกรรม
ประกอบด้ วยการประเมินนวัตกรรมจากใบกิจกรรมที่ 15 เรื่อง เราต้ องรอด
ซึ่งกลวิธีการฝึ กคิดสร้ างสรรค์ คือ ค้ นหาคาตอบจากคาถามที่กากวม (Tolerance for Ambiguity)
และใบกิจกรรมที่ 16 เรื่อง เล่าข่าวใส่ไข่ มีกลวิธีการฝึ กคิดสร้ างสรรค์ คือ การฟั งอย่างสร้ างสรรค์
(Creative Listening Skill)
จานวน ค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินนวัตกรรม
โรงเรียน
นักเรียน กิจกรรมที่ 15 กิจกรรมที่ 16
กลุ่มเป้าหมาย
เข้าร่วม 𝑿̅ S.D. แปลผล 𝑿 ̅ S.D. แปลผล
นาวังศึกษาวิช 20 9.95 1.61 ผ 10.65 1.61 ผ
กุดดินจี่วิทยาคม 20 10.40 1.19 ผ 10.40 1.19 ผ
ดงมะไฟวิทยาคม 20 10.20 1.54 ผ 10.60 1.54 ผ
ฝั่งแดงวิทยาสรรค์ 20 10.15 1.53 ผ 10.60 1.53 ผ
ภูซางใหญ่วิทยาคม 20 10.05 1.28 ผ 10.65 1.28 ผ
หนองสวรรค์วิทยาคาร 20 10.15 1.27 ผ 10.65 1.27 ผ
120 10.15 1.40 ผ 10.59 1.40 ผ
จากตารางที่ 27 พบว่านักเรียนร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอน
ของกิจกรรมที่ 15 และ 16 และดาเนินการระดมความคิดเห็น สรุปข้ อมูล ตลอดจนการนาเสนอ
นวัตกรรมในท้ ายชั่วโมงของการจัดกิจกรรม โรงเรียนกลุ่มเป้ าหมายทั้ง 6 โรงเรียน มีค่าเฉลี่ยของ
คะแนนการประเมิน นวัตกรรม กิจกรรมที่ 15 เรื่ อง เราต้ องรอด อยู่ในเกณฑ์ ผ่าน มีค่าเฉลี่ย
เท่ากับ 10.15 และกิจกรรมที่ 16 เรื่อง เล่าข่าวใส่ไข่ อยู่ในเกณฑ์ ผ่าน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 10.59
4) การสะท้อนผลการจัดกิจกรรมร่วมกับผูช้ ่วยผูว้ ิจัย
กิจกรรมการเรียนรู้ในหน่วยที่ 5 เรื่อง การเผยแพร่ นวัตกรรมสู่ชุมชน ผู้วิจัย
ออกแบบหน่ วยการเรียนรู้ใช้ เวลา 2 ชั่วโมง โดยเป้ าหมายของหน่ วยการเรียนรู้ คือ การเขียน
รายงานผลการดาเนินงานสร้ างนวัตกรรม และการนาเสนอต่อสาธารณะชน ในรูปแบบของการจัด
นิทรรศการ ตามบริบทและความพร้ อมของโรงเรียน ที่นาหลักสูตรไปใช้ จากการสะท้ อ นผลของ
ผู้ช่วยผู้วิจัยทั้ง 6 คน สามารถสรุปได้ ดังนี้ ด้ านความรู้ความเข้ าใจของนักเรียน พบว่ านักเรียน
สามารถจัดทารูปเล่มรายงานตามแบบฟอร์มที่กาหนดหรือประยุกต์ตามแบบฟอร์มที่เหมาะสม
นักเรียนดาเนินการได้ ตามช่วงเวลาที่กาหนด บางกลุ่มใช้ วิธีการเขียนด้ วยลายมือ บางกลุ่มใช้ วิธีการ
211
พิ ม พ์ ด้ ว ยโปรแกรมคอมพิ ว เตอร์ ซึ่ ง แสดงให้ เ ห็น ว่ า นั ก เรี ย นมี ค วามรู้ ค วามเข้ า ใจและใช้ ส่ื อ
เทคโนโลยีได้ อย่างดี นอกจากนั้นนักเรียนยังต้ องเตรียมการ การนาเสนอด้ วยเทคนิคต่าง ๆ ไม่ว่า
จะเป็ นการพูดนาเสนอ การสร้ างคลิปวีดีโอนาเสนอและอัพโหลดขึ้นในช่อง YouTube ที่นักเรียน
เป็ นสมาชิก การจัดป้ ายนิเทศ แผ่นพับการนาเสนอ นอกจากนั้นบางโรงเรียนยังสามารถจัดงานให้
เป็ นมหกรรมวิชาการ หรือมหกรรมเปิ ดบ้ านของโรงเรียน อีกทั้งนากิจกรรมดังกล่าวเข้ าไปเป็ นส่วน
หนึ่งของงานในชุมชน เพื่อเผยแพร่นวัตกรรมของนักเรียนอย่างกว้ างขวาง
ข้ อเสนอแนะที่ควรปรับปรุง และประเด็นเรื่องปัญหาอุปสรรค พบว่า ควรนา
หลักสูตรดังกล่าวจัดไว้ ในรายวิชาเพิ่มเติมที่นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ เป็ นระดับชั้น จัดเป็ น
รายวิชาที่มีการวัดผลประเมินผล เป็ นผลการเรียนของนักเรียน พร้ อมกันนั้นก็ส ามารถจัดงาน
นิทรรศการโดยขอใช้ งบประมาณตามแผนงานของโรงเรียน และโรงเรียนคัดเลือกนวัตกรรมที่ดี
และสามารถต่อยอดนวัตกรรมได้ มาเป็ นนวัตกรรมของโรงเรียนและจัดสรรงบประมาณสนับสนุน
ในการส่ง นวัต กรรมเข้ า ร่ ว มน าเสนอในเวทีภ ายนอก ซึ่งจะเป็ น การส่ ง เสริม ความเป็ นเลิ ศ ของ
นักเรียนและเป็ นนวัตกรรมที่เกิดจากผู้เรียนโดยแท้ จริง นวัตกรรมดังกล่าวจะกลายเป็ นแรงบันดาล
ใจให้ กับนักเรียนรุ่นต่อไป ซึ่งจะย้ อนกลับคืนสู่หน่วยการเรียนที่ 1 เรื่อง การสร้ างแรงบันดาลใจ
จากนักเรียนตัวอย่างหรือกระบวนการเรียนรู้จากตัวแบบ ที่เป็ นนักเรียนรุ่นพี่ และจะเป็ นวัฒนธรรม
การทางานการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ต่อเนื่อง และยั่งยืน โดยนักเรียนสามารถลงทะเบียน
เรียนรู้ได้ ทุกคน และมีโอกาสที่จะดาเนินโครงการให้ เป็ นแนวปฏิบัติท่ีเป็ นเลิศของสถานศึกษา
ต่อไป
หลั ง จากที่ ผ้ ู ช่ ว ยผู้ วิ จั ย น าหลัก สู ต รไปใช้ เ ป็ นระยะเวลา 1 ภาคการเรียน
ในช่ วงสุดท้ ายมีกิจกรรมการเผยแพร่ นวัตกรรมนักเรียนโดยนักเรียนจัดนิทรรศการนาเสนอ มี
คณะกรรมการประเมินนวัตกรรมและนักเรียนคนอื่นๆ ร่วมกิจกรรมตลอดจนผู้ปกครองและชุมชน
เพื่อประเมินความสามารถในการสร้ างนวัตกรรม ซึ่งประเมินจากการประเมิน นวัตกรรมและการ
ประเมินกระบวนการสร้ างนวัตกรรมของนักเรียน นอกจากนั้นผู้ช่วยผู้วิจัยยังดาเนินการวัดระดับ
ความคิดสร้ างสรรค์หลังการใช้ หลักสูตรการคิดสร้ างสรรค์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้ าง
นวัตกรรมที่บูรณาการภูมิปัญญาท้ องถิ่น ของนักเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดหนองบัวลาภู โดยใช้
แบบทดสอบความคิดสร้ างสรรค์ (TCT – DP) ของ Jellen and Urban (2005) โดยมีรายละเอียด
และผลการวัดระดับความคิดสร้ างสรรค์ ดังตารางที่ 28
212
จานวน
โรงเรียนกลุ่มเป้ าหมาย ̅
𝑿 S.D. แปลผล
นักเรียน
นาวังศึกษาวิช 20 48.8 1.49 ระดับสูง
กุดดินจี่วิทยาคม 20 47.3 1.49 ปานกลาง
ดงมะไฟวิทยาคม 20 47.9 1.40 ปานกลาง
ฝั่งแดงวิทยาสรรค์ 20 49.7 1.42 ระดับสูง
ภูซางใหญ่วิทยาคม 20 50.4 1.53 ระดับสูง
หนองสวรรค์วิทยาคาร 20 49.7 1.54 ระดับสูง
120 48.9 1.48 ระดับสูง
จานวน
โรงเรียนกลุ่มเป้ าหมาย ̅
𝑿 S.D. แปลผล
นักเรียน
นาวังศึกษาวิช 20 79.8 3.72 ดีเยี่ยม
กุดดินจี่วิทยาคม 20 78.6 3.64 ดี
ดงมะไฟวิทยาคม 20 79.3 3.46 ดีเยี่ยม
ฝั่งแดงวิทยาสรรค์ 20 79.1 3.57 ดีเยี่ยม
ภูซางใหญ่วิทยาคม 20 78.6 3.57 ดี
หนองสวรรค์วิทยาคาร 20 79.5 3.54 ดีเยี่ยม
120 79.1 3.58 ดีเยี่ยม
213
จานวน
โรงเรียนกลุ่มเป้ าหมาย ̅
𝑿 S.D. แปลผล
นักเรียน
นาวังศึกษาวิช 20 4.3 0.26 มาก
กุดดินจี่วิทยาคม 20 4.2 0.23 มาก
ดงมะไฟวิทยาคม 20 4.5 0.25 มากที่สุด
ฝั่งแดงวิทยาสรรค์ 20 4.5 0.24 มากที่สุด
ภูซางใหญ่วิทยาคม 20 4.3 0.37 มาก
หนองสวรรค์วิทยาคาร 20 4.1 0.23 มาก
120 4.3 0.26 มาก