Professional Documents
Culture Documents
โดย
สถาบันการเรียนรู้
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลูา
ธนบุรี
2
บทบาทของผูส
้ อนและผูเ้ รียนในการเรียนรูท
้ ใ่ี ชูปัญหาเป็ นฐาน(Problem-
based Learning:PBL)
บทบาทของผูส ้ อน ในการจัดการเรียนรูท ้ ใ่ี ชูปัญหาเป็นฐานนัน ้ ผูส ้ อนจะ
ตูองออกแบบการเรียนรู้ ดูวยการเลือกเนื้ อหาสาระความรู้ ทักษะทีต ่ อ ู งการ
ใหูผเู้ รียนไดูรบ ั รวมถึงการคัดเลือกกิจกรรมทีส ่ ามารถส่งเสริมการเรียนรู้
โดยการชีน ้ ำ าตนเอง และคอยอำานวยความสะดวกและกระตูน ้ ใหูผเู้ รียนเกิด
การเรียนรู้ โดยทีค ่ ร้จะไม่ถา่ ยทอดโดยตรง แต่จะใชูคำาถามใหูผเู้ รียนคิดและ
เปิ ดโอกาสใหูผเู้ รียนไดูคด ิ ใหูมากทีส ่ ด
้ เพื่อส่งเสริมใหูผู้เรียนสรูางองค์
ความรู้ไดูดูวยตนเอง รวมถึงการด้แลความกูาวหนู าทางการเรียนรู้ของผู้
เรียนท้กคน ส่วนบทบาททีส ่ ำาคัญอีกดูานก็คอ ื ผูป ้ ระเมินผลซึ่งตูองรวมถึง
การประเมินผลปั ญหาทีใ่ ชูในการเรียนรู้ ประเมินผลทัง้ ในดูานทักษะและ
ดูานความรู้ และการประเมินตนเอง ซึ่งการประเมินผลจะดำาเนิ นขึน ้ ตัง้ แต่
การสรูางปั ญหาจนเสร็จสิน ้ การเรียนรูใ้ นแต่ละเรื่อง
บทบาทของผูเ้ รียน จะเปลีย ่ นไปจากการศึกษาระบบเดิมทีค ่ อยเป็ น
ผูร้ บ
ั ความรูจ้ ากผูส้ อนมาเป็ นผูม ้ ส
ี ว่ นร่วมในการออกแบบการเรียนรู้ บอกถึง
ความสนใจ ความถนัด และแลกเปลีย ่ นประสบการณ์ตา่ งๆ ทีม ่ รี ว่ มกับ
เพื่อนและผูส ้ อน เพื่อแสดงความคิดเห็นในการคัดเลือกกิจกรรมการเรียนรู้
และการสรูางปั ญหา อีกทัง้ ผู้เรียนตูองเป็ นผู้สรูางองค์ความรู้ดูวยตนเอง
จากปั ญหาที่ไดูรับ โดยผู้เรียนจะเป็ นผู้ กำาหนดทิศทางการเรียนรู้ ของ
ตนเองตามขั ้นตอนการเรียนรู้ โดยใชูปัญหาเป็ นฐาน นอกจากนี้ ผู้ เรียนยัง
มีบทบาทสำาคัญในการเป็ นผูป ้ ระเมินตนเองและปั ญหาทีพ ่ บร่วมกับผูส ้ อน
การประเมินตนเองเพื่อใหูทราบถึงความกูาวหนู าในการเรียนรูแ ้ ละหา
แนวทางในการปรับปร้งการทำางาน
1. การเตรียมการ
4
ก่อนที่จะจัดการเรียนรู้ผู้สอนตูองวิเคราะห์หลักส้ตรเพื่อนำ ามาเขียน
วัตถ้ประสงค์การเรียนรู้ท่ตูี องการใหูผเู้ รียนบรรล้ผล แลูวจผูส ้ อนจึงเลือก
หรือออกแบบปั ญหา (problem) ใหูสอดคลูองกับผูเ้ รียนและวัตถ้ประสงค์
การเรียนรู้ ซึ่งลักษณะโจทย์ปัญหาทีด ่ น
ี ัน้ ตูองมีลกั ษณะดังนี้
• ทูาทายและกระตูน ้ ความสนใจของผูเ้ รียน
• ควรเป็ นเรื่องทีเ่ กิดขึน
้ จริงและเกีย ่ วขูองกับชีวต
ิ ประจำาวัน
• ควรเชื่อมโยงกับพื้นฐานความรูแ ้ ละประสบการณ์เดิมของผูเ้ รียน
• ความยากและจำานวนขูอของปั ญหาทีจ่ ะใหูผเู้ รียนศึกษาตูองมีความ
เหมาะสมกับ
ระยะเวลาทีใ่ หูผเู้ รียน
• ความซับซูอนของปั ญหาตูองมีความเหมาะสม เพราะถูาง่ายเกินไป
ผูเ้ รียนจะไม่เกิด
แรงจ้งใจในการแสวงหาความรูใ้ หม่ แต่ถาู ซับซอนมากไปผูเ้ รียนจะรูส ้ ก
ึ
ทูอแทูและเบื่อหน่ าย
• เป็ นขูอคำาถามทีม่ หี ลายทางเลือกและหลายคำาตอบ
• มีประเด็นการเรียนรูค ้ รอบคล้มเนื้ อหาและวัตถ้ประสงค์ทเ่ี รียน
• มีขอ
ู ความ เช่น คำาสำาคัญ (keyword) หรือตัวแนะ (cue) เพื่อใหูผู้
เรียนสามารถไป
คูนควูาเพิม ่ เติมไดู
หลังจากทีผ ่ ส
ู้ อนไดูโจทย์ปัญหาทีเ่ หมาะสมกับผูเ้ รียนแลูวจะตูองตรวจ
สอบด้วา่ ผูเ้ รียนสามารถแสวงหาความรูไ้ ดูจากแหล่งขูอม้ลใดบูางและแต่ละ
วิธก
ี ารมีขอู ม้ลเพียงพอกับการศึกษาของผูเ้ รียนหรือไม่
สำาหรับการจัดการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนเป็ นผู้เลือกปั ญหาที่จะศึกษานั ้นผู้
สอนจะเป็ นผู้กำาหนดกรอบหรือหัวขูอใหญ่เพื่อใหูผเู้ รียนไดูบรรล้ตาม
วัตถ้ประสงค์การเรียนรูต ้ ามทีต่ งั ้ ไวู แลูวจึงใหูผเู้ รียนไปศึกษาแลูวเลือก
หัวขูอย่อยทีต ่ อ
ู งการจะศึกษาตามความสนใจของกล่ม ้ เพื่อทำาใหูผเู้ รียนไดู
เกิดแรงจ้งใจและม่ง้ มัน ่ ทีจ่ ะแสวงหาความรูด ้ วู ยตนเอง แลูวจึงเริม ่ ตูนดูวย
การทำาความเขูาใจเกีย ้ บบ PBL และกระบวนการ
่ วกับการจัดการเรียนรูแ
ทำา FILA ก่อนทีจ่ ะเขูาส่ก
้ ารเรียนรูด
้ วู ยการนำ าตนเอง
2. ขัน
้ ตอนการดำาเนิ นการจัดการเรียนรูท
้ ใ่ี ชูปัญหาเป็ นฐาน ดังต่อ
ไปนี้
้ ตอนที่ 1 การเขูาส่้ FILA PROCESS ดูวยวิธข
ขัน ี องลินดา วี (ผู้
เชีย
่ วชาญการจัดการเรียนรูท
้ ใ่ี ชูปัญหาเป็ นฐาน)
5
ขัน
้ ตอนแรกนี้ กล่ม
้ นั กศึกษาจะสำารวจปั ญหาทีผ
่ ส
ู้ อนหรือผูเ้ รียนเป็ น
ผูต
้ งั ้ ขึน
้ แลูวจึงช่วยกันระดมสมองเพื่อวิเคราะห์และรวบรวมขูอม้ลทีม ่ อ
ี ย่้
จากปั ญหาหรือสถานการณ์นำามาเขียนลงในตาราง FILA ทีป ่ ระกอบดูวย
F = Facts คือ ข้อเท็จจริง /ความจริง ที่มีอยู่ทัง้ หมดในโจทย์
ขัน
้ ตอนแรกนี้เป็ นส่วนที่สำาคัญในการระบ้ปัญหา(Identify
Problem) ใหูชัดเจนขึ้น
โดยการหาขูอม้ลที่เป็ นขูอเท็จจริง/ความจริงทัง้ หมดที่มีในโจทย์ ซึ่งผู้เรียน
จะไดูฝึกฝนทักษะในการแยกแยะขูอม้ลระหว่างขูอเท็จจริงกับขูอคิดเห็น
รวมไปถึงการไม่บิดเบือนขูอเท็จจริงโดยการสร้ปขูอม้ลที่คล้มเครือตาม
ความคิดเห็นหรือความเขูาใจของตัวเอง
ในส่วนของรายวิชาทีผ ่ ส
ู้ อนใหูผเู้ รียนทำาโจทย์ปัญหาเดียวกันนั น
้ ผู้
เรียนจะตูองมีการแลกเปลี่ยน
ขูอม้ลระหว่างกล่้มตัง้ แต่การเขียนขูอเท็จจริง/ความจริง (F = Facts)
ขูอคิดเห็น/สมม้ติฐานที่ผู้เรียนมีต่อโจทย์ (I = Ideas/Assumptions)
ประเด็นที่กล่้มตูองการเรียนรู้ (L = Learning Issues) และแผนดำาเนิ น
งานในการแกูโจทย์ (Action Plans) โดยแต่ละกล่้มจะผลัดกันนำ าเสนอ สิ่ง
ที่นำาเสนออาจประกอบไปดูวยคำาตอบต่อโจทย์ปัญหา วิธีการคูนควูาหาคำา
ตอบ แนวคิด/ความคิดเห็นของกล่้มที่มีต่อโจทย์ และประเด็นอื่ นๆ ที่ น่า
สนใจ หลังจากนำ าเสนอแลูว ผู้ สอนและผู้ เรียนกล่้ มอื่ นจะแสดงความคิด
เห็น/ใหูขูอเสนอแนะต่อกล่้มที่นำาเสนอ
้ ตอนที่ 2 รวบรวมขูอม้ลดูวยวิธก
ขัน ี ารต่างๆ
หลังจากการทำา FILA Process แลูวสมาชิกในกล่ม
้ จะแยกยูายไป
หาขูอม้ลตามประเด็นทีต ู ง การเรียนรู้ (Learning Issues) ดูวยวิธก
่ อ ี าร
ดำาเนิ นงานในการแกูโจทย์ (Action Plans) ทีว่ างไวู
ขัน้ ตอนที่ 3 สังเคราะห์ขอ ู ม้ลหรือความรูท้ ไ่ี ดูมาใหม่
ขัน
้ ตอนนี้ สมาชิกในกล่ม ้ นำ าขูอม้ลหรือความรูท ้ ร่ี วบรวมมาไดูมา
ทำาการอภิปรายร่วมกัน โดยสมาชิกแต่ละคนจะนำ าขูอม้ลที่ตนรวบรวมมาไดู
นำ าเสนอกับเพื่อนๆ เพื่อช่วยกันพิจารณาและเชื่อมโยงขูอม้ลที่ไดูว่าเพียง
พอที่จะแกูปัญหาหรือไม่ ถูาไม่เพียงพอก็ตูองไปคูนควูาหาขูอม้ลเพิ่มเติม
จนกระทัง่ สามารถแกูปัญหาไดูแลูวจึงนำ ามาสร้ปเป็ นหลักการต่างๆ ที่ไดู
จากการศึกษาปั ญหานี้ ดูวยการเขียนรายงาน
ขัน ้ ตอนที่ 4 นำ าเสนอผลงาน
ผูเ้ รียนตูองรูจ้ ก
ั สะทูอนความคิด โดยการนำ าเสนอผลงานทีไ่ ดูใหูกบ ั
กล่ม้ อื่นๆ เพื่อไดูแลกเปลีย ่ นความรู้กับบ้คคลอื่นๆ และเมื่อผู้เรียนนำ า
9
เสนอผลงานแลูวผู้สอนจะตูองสร้ปภาพรวมของการเรียนรู้ในร้ปแบบแผน
่ วามคิด (Mind Map)
ทีค
3. กำาหนดวิธก
ี ารประเมิน ดูวยวิธก
ี ารเลือกเครื่องมือในการประเมิน
ทีห
่ ลากหลายและมี
ความเหมาะสม โดยตูองสอดคลูองกับวัตถ้ประสงค์การเรียนรู้
สอดคลูองกับเกณฑ์และพฤติกรรมที่จะประเมิน เช่น
4. วิเคราะห์และสร้ปผล
หลังจากทีป่ ระเมินผลแลูว ผูส
้ อนจะตูองนำ ามาขูอม้ลมาวิเคราะห์และ
สร้ปเพือ
่ ปรับปร้งขูอบกพร่อง ของการจัดการเรียนรูแ ้ ละพัฒนาผูเ้ รียนใน
โอกาสต่อไป
1. คณะคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
คณะคร้ศาสตร์อ้ตสาหกรรมและเทคโนโลยีไดูมก
ี ารจัดการเรียนรู้ท่ีใชู
ปั ญหาเป็ นฐาน (Problem-based Learning) ในหลายวิชาแต่ในการ
สำารวจครัง้ นี้ นำ าเสนอตัวอย่างในวิชา Design Fundamental ซึ่งเป็ นวิชา
้ ปี ท่ี 1
ที่เกี่ยวกับการออกแบบ สำาหรับนั กศึกษาชัน
วิธีการจัดการเรียนการสอน
วิชานี้ไดูนำาร้ปแบบการจัดการเรียนที่ใชูปัญหาเป็ นฐาน มาใชู
ประมาณ 70% โดยอาจารย์ผู้สอนเริ่มตูนดูวยการใหูผู้เรียนไดูประสบ
ปั ญหาที่สำาคัญ ซึ่งคลูายคลึงกับปั ญหาที่ผู้เรียนตูองประสบจริงทางวิชาชีพ
ของตนในอนาคต โดยนำ าปั ญหามาเขียนเป็ นสถานการณ์ (scenario) เมื่อ
ผู้เรียนแต่ละกล่้มไดูรับปั ญหาไปแลูวจะระดมสมองไปศึกษา คูนควูา
หาความรูด ้ ูวยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็ นการคูนควูาจากหนั งสือ
อินเตอร์เน็ต หาขูอม้ลจากผู้เชี่ยวชาญ ฯลฯ แลูวจึงนำ าขูอม้ลที่ไดูมาปรึกษา
ผู้สอนก่อนที่จะเริ่มลงมือปฏิบัติ ในระหว่างการสรูางสรรค์ผลงานผู้เรียน
จะตูองมาปรึกษาผู้สอนเป็ นระยะเพื่อที่จะรายงานความคืบหนู าหรือมี
ปั ญหาอย่างไรและหาแนวทางแกูไขไดูอย่างไร จนกว่าจะประสบความ
สำาเร็จ
วิธีการประเมินผล
ในการประเมินผลการเรียนในรายวิชานี้จะเป็ นหนู าที่ของผู้สอนซึ่ง
จะประเมินจากผลงานหรือชิน
้ งานไม่ใช่จากการสอบวัดความรู้
นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบผู้เรียนที่ไดูรับการจัดการเรียนรู้ ที่ใชู
ปั ญหาเป็ นฐาน (Problem-based Learning)กับการจัดการเรียนรู้โดยใชู
คร้เป็ นฐาน (Teacher-based Learning) พบว่า มีความแตกต่างกัน
เนื่ องจากผู้เรียนที่ไดูรับการจัดการเรียนรู้โดยใชูคร้เป็ นฐานนั ้น ผู้เรียนจะ
นั่ งฟั งเฉยๆ แต่ถูาเป็ นการจัดการเรียนรู้ ที่ใชูปัญหาเป็ นฐานนั ้นผู้เรียน
ตูองมีการอภิปราย แสดงความคิดเห็น และตูองมีการทำางานเป็ นทีม
ปั ญหาและอุปสรรค
เนื่ องจากผู้เรียนส่วนใหญ่ยังติดกับค่านิ ยมการศึกษาในระบบเดิม ที่
เป็ นเพียงผู้รับและจดจำาความรู้ท่ีคร้เป็ นผู้ปูอนขูอม้ลใหูโดยตรงดูวยวิธีการ
บรรยายเป็ นส่วนใหญ่ ฉะนั ้นการที่มีปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนการ
สอนมาเป็ นแบบ PBL นั กศึกษาตูองมีส่วนร่วมในการเรียนมากขึ้นนั ้น
ผู้เรียนบางคนยังไม่เขูาใจและมีความคิดว่าคร้ทำาไมถึงไม่ปูอนขูอม้ลใหู จน
บางครัง้ ผู้สอนก็ตูองคอยชีน ้ ำ าใหูผู้เรียนคิดวิเคราะห์วา่ การเรียนในลักษณะ
นี้ ผู้เรียนไดูทำากิจกรรมอะไรบูางและมีบทบาทอย่างไร หลังจากนั ้ นก็ใหูผู้
เรียนไตร่ตรองว่าเมื่อทำาแลูวไดูฝึกทักษะหรือกระบวนการใดจากการเรียน
แบบ PBL ซึ่งผู้เรียนก็ไดูเขูาใจถึงประโยชน์ท่ีเกิดขึ้น
13
2. คณะวิทยาศาสตร์
2.1 ภาควิชาจุลชีววิทยา
ภาควิชาจ้ลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ไดูมีการจัดการเรียน ที่ใชู
ปั ญหาเป็ นฐาน (Problem-based Learning) ในหลายวิชาจึงขอนำ าเสนอ
ตัวอย่าง คือ วิชา GENETIC เป็ นวิชาบังคับของภาควิชาที่นักศึกษาปี 3
ตูองเรียน
วิธีดำาเนิ นการ
เป็ นวิชาที่มีการนำ าเอาการจัดการเรียน ที่ใชูปัญหาเป็ นฐาน
(Problem-based Learning) ไปใชูประมาณ 60% เป็ นการสอนแบบใหู
ผูเ้ รียนวางแผน คิดวิเคราะห์ และอีก 40 % จะเป็ นการเรียนแบบ
Lecture โดยเริ่มแรกผู้สอนหรืออาจารย์เกื้อหน้น (facilitator) จะแจก
เอกสารที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับ PBL ที่ประกอบดูวยความหมาย วิธีการ
ประโยชน์ของการทำา PBL และความแตกต่างระหว่างการจัดการเรียนโดย
ใชูคร้เป็ นฐานกับการจัดการเรียนรู้ ที่ใชูปัญหาเป็ นฐานก่อน แลูวจึงชีแ ้ จง
กำาหนดการและระยะเวลาตลอดทัง้ ภาคเรียน
ในการเรียนผู้สอนจะใหูหวั ขูอการเรียนรู้สัน ้ ๆ หรืออาจเป็ นหัวขูอ
ใหญ่ในบทเรียน แลูวใหูผู้เรียนไปทำาการอ่านหนั งสือทัง้ หัวขูอใหญ่ก่อนที่
14
วิธีการประเมินผล
การวัดผลและประเมินผลในรายวิชานี้ เป็ นหนู าที่ของผู้สอนทัง้ ใน
ส่วนของกระบวนการและผลงาน ความรู้ และทักษะการทำางานดูานต่างๆ
ซึ่งผู้สอนมีการประเมิน 4 วิธี
1. การประเมินโดยใชูแฟู มสะสมงาน (Portfolio) ที่มีการ
รวบรวมและสรูางเอกสาร หลักฐานเกี่ยวกับผลงานซึ่งแสดงใหูเห็นความ
สามารถ จ้ดเด่น จ้ดดูอย ความสำาเร็จและพัฒนาการของผู้เรียน เป็ นสิ่งที่
บ่งบอกใหูทราบว่าผู้เรียนอย่้ตรงไหน ขัน
้ ไหนและกำาลังพัฒนาไปใน
ทิศทางใด
2. การประเมินจากการตอบขูอคำาถาม ในขณะที่แต่ละกล่้มไป
ปรึกษาผู้สอนก็จะมีการอภิปรายร่วมกันภายในกล่้ม ซึ่งแต่ละคนตูองมี
การนำ าเสนอแนวคิดของตนเองเพื่อผู้สอนจะไดูทราบความคิดของผู้เรียน
แต่ละคน
3. การนำ าเสนอผลงาน ทัง้ ภาคเรียนจะมีการนำ าเสนอผลงาน 2
ครัง้ คือ ก่อนสอบกลางภาคเรียนจะมีกิจกรรมที่เรียกว่า Show & Share
ซึ่งท้กกล่้มจะไดูนำาเสนอหัวขูอหรือประเด็นปั ญหาที่สนใจส่วนการนำ าเสนอ
15
ผลที่เกิดขึน
้ กับตัวผู้เรียนเมื่อไดูรับการจัดการเรียนรู้ ที่ใชูปัญหาเป็ นฐาน
เนื่ องวิชา Genetic เป็ นวิชาบังคับที่มีการจัดการเรียนรู้ ที่ใชูปัญหา
เป็ นฐานนั ้น ผู้เรียนจะตูองมีความรับผิดชอบในการเรียนส้ง ตูองพึ่ง
ตนเองในการเรียนรู้ และทำาความเขูาใจเนื้ อหาที่เรียน ฉะนั ้นผลที่ตามมา
จึงมี 2 ดูาน คือ ผลดูานบวกเชิงสรูางสรรค์นั้น ผู้เรียนรู้สก ึ สน้กสนาน
จากการเรียนร้ปแบบใหม่ เพราะถูาเราจะเรียนรู้ส่ิงใดก็ตูองใชูปัญหาเป็ น
ตัวกำาหนด ทางดูานพฤติกรรมของผู้เรียนก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น มี
ความเป็ นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความมัน ่ ใจในตนเอง กลูาคิด กลูาแสดงออก
มีทักษะการทำางานเป็ นทีม ส่วนผลดูานลบที่ไม่สรูางสรรค์นั้นจะเกิดใน
ลักษณะที่ผู้เรียนไม่มีความมัน ่ ใจในตนเองว่าสามารถแกูปัญหาไดูหรือคิด
ว่าเนื้ อหาความรู้ท่ีไดูมาไม่ครบถูวน ทัง้ นี้ขึ้นอย่้กับว่าผู้เรียนที่เขูามามีพ้ืน
ฐานอย่างไร มีความสนใจกระบวนการเรียนรู้ท่ีตูองพยายามขวนขวาย
หาความรู้ วิธีการแกูปัญหาหรือยังติดกับค่านิ ยมที่คร้เป็ นผู้ถ่ายทอดความ
รู้ใหูโดยตรง
ปั ญหาและอุปสรรค
การจัดการเรียนรู้แบบ PBL จะตูองมีทรัพยากรหรือแหล่งความรู้ท่ี
มากมายและหลายร้ปแบบแต่ทรัพยากรบางอย่างยังไม่เหมาะสมกับการ
จัดการเรียนรู้แบบนี้ เช่น หนั งสือหรือตำาราในหูองสม้ดค่อนขูางลูาสมัย
หรือสื่อ E-learning Center ก็ยังไม่เพียงพอที่จะสอนในรายวิชานี้
วิธีการประเมินผล
ในส่วนของการประเมินผลนั ้นในรายวิชานี้เป็ นหนู าที่ของผู้เรียน
แต่ละคนที่จะตูองประเมินเพื่อนหรือสมาชิกภายในกล่้มในดูานการมีสว่ น
ร่วมในการแกูปัญหาโจทย์ ตัง้ แต่การเริ่มการทำา FILA Process การ
ประช้ม ควมรับผิดชอบต่องานท้กงานที่ไดูรับมอบหมาย
ผลที่เกิดขึน
้ กับตัวผู้เรียนเมื่อไดูรับการจัดการเรียนรู้ ที่ใชูปัญหาเป็ นฐาน
ในการเรียนการสอนร้ปแบบใหม่ท่ีผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้ ไดูก็ต่อ
เมื่อมีการฝึ กเรียนรู้ดูวยตนเองจากการไปคูนควูาหาขูอม้ล อีกทั ้งยังไดูฝึก
ทักษะการวิเคราะห์ การคิดอย่างมีระบบ การทำางานเป็ นทีม การกลูา
แสดงออก การตรงต่อเวลา และการมีความรับผิดชอบ
ปั ญหาและอุปสรรค
18
ความคิดเห็นของผู้เรียนที่ไดูรับการจัดการเรียนรู้ท่ีใชูปัญหาเป็ นฐาน
(Problem-based Learning)
19
PBL ทำาใหู
บรรยากาศในหูองเรียนมีความสน้กสนานค่อนขูางมาก
นั กศึกษารูอยละ 65 มีความคิดว่าการจัดการเรียนการสอนแบบ PBL
ทำาใหูรส
ู้ ก
ึ
น่ าสนใจมากกว่าการเรียนแบบปกติ
นั กศึกษารูอยละ 51 แสดงความคิดเห็นว่าโจทย์ปัญหาทีไ่ ดูรบ
ั
โดยส่วนใหญ่มคี วาม
น่ าสนใจและทูาทายใหูอยากหาคำาตอบมาก
นั กศึกษารูอยละ 91 แสดงความคิดเห็นว่าการจัดการเรียนการ
สอนแบบ PBL
กระตูน
้ ใหูผเู้ รียนสามารถนำ าเอาความรูท
้ ม
่ี อ
ี ย่ม
้ าแกูปัญหาใหม่ไดูมาก
นั กศึกษารูอยละ 69 แสดงความคิดเห็นว่าการจัดการเรียน
การสอนแบบ PBL ทำา
ใหูไดูฝึกทักษะการทำางานเป็ นทีมค่อนขูางมาก
นั กศึกษารูอยละ 75 แสดงความคิดเห็นว่าการประเมินผลทีใ่ ชู
มีความเหมาะสมกับ
การจัดการเรียนการสอนแบบ PBL
นั กศึกษารูอยละ 71 มีความคิดว่าโจทย์ปัญหาเพียงหนึ่ งขูอ สามารถ
ทำาใหูเรียนรู้
ไดูหลากหลาย
ความคิดเห็นของนักศึกษาในเรือ
่ งความพึงพอใจทีไ่ ด้รบ
ั การจัดการเรียนร้ท
่ ใ่ี ช้
ปั ญหาเป็นฐาน พบว่า
นั กศึกษารูอยละ 83 รูส้ ก
ึ พึงพอใจกับร้ปแบบการจัดการเรียน
การสอน PBL เนื่ องจากโจทย์ปัญหานั น
้ เป็ นคำาถามทีท
่ าู ทายเพราะบ้รณา
20
ปั ญหาและอุปสรรคที่พบในระหว่างการจัดการเรียนรู้ท่ีใชูปัญหาเป็ นฐาน
เนื่ องจากผู้เรียนไม่คู้นเคยกับการจัดการเรียนรู้ท่ีใชูปัญหาเป็ นฐาน
บางครัง้ ไม่ค่อยเขูาใจถึงกระบวนการและขัน ้ ตอนในการเรียนทำาใหูเกิด
ความกดดันจึงตูองใชูเวลาในการปรับตัวมาก นอกจากนี้ขอ ู ม้ลทีห
่ าไดูไม่ตรง
กับทีต ่ อ
ู งการหรือเป็ นภาษาอังกฤษก็ตอ ู งนำ าไปปรึกษาอาจารย์เกื้อหน้นแต่
เนื่ องจากผู้สอนมีเพียงคนเดียวจึงค่อนขูางลำาบากกับการจัดการเรียนการ
สอน
แนวทางในการแกูปัญหาที่ท่านพบในระหว่างการจัดการเรียนรู้ท่ีใชูปัญหา
เป็ นฐาน
หลังจากที่ผู้เรียนประสบปั ญหาในระยะแรกจึงไดูหาแนวแกูไขโดยไดู
มีการวางแผนการทำางานอย่างรอบคอบและรู้จักจัดสรรเวลามากขึ้น
21
22
บรรณานุกรม