Professional Documents
Culture Documents
from: http://mechanisms.energychange.info/case-studies/27
from: http://www.louisaavery.com/active-learning/
I do and I understand.”
Confucius
ที่มา: http://www.headahead.biz/concept
จากการศึกษาพบว่า Active Learning ทาให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและจดจาผลการเรียนรู้ได้คงทนและนานกว่า
Passive Learning และ Active Learning มีกิจกรรมการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับการทางานของสมอง โดยการเรียนรู้
อย่างมีส่ วนร่ วม การมีป ฏิสัมพัน ธ์กับ เพื่อน ผู้ สอน และสิ่ งแวดล้ อม ผ่านการปฏิบัติ สามารถก่อให้เกิด Long Term
Memory แก่ผู้เรียน
มีอะไรผิดปกติในการบรรยาย 3 ชั่วโมงของฉันหรือ?
ปริมาณของข้อมูลที่เก็บไว้โดยผู้เรียนจะลดลงอย่างมากหลังจาก 10 นาที (Thomas, 1972)
ด้วยเหตุผลทางจิตวิทยา การบรรยายเพียงอย่างเดียวมีประสิทธิภาพสาหรับห้าสิบนาทีถึงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ถ้าไม่
ต้องการใช้วิธีสอนอื่นแทนการบรรยาย ผู้สอนจาเป็นต้องผนวกวิธีสอนแบบอื่นหรือเทคนิคการสอนอื่นเข้าร่วมด้วย ( Bligh,
2000)
การเรียนการสอนแบบบรรยาย (Lecture)1
การเรียนการสอนแบบบรรยาย คือกระบวนการสอนที่ผู้สอนเตรียมเนื้อหาสาระแล้วบรรยายด้วยการพูด บอกเล่า
อธิบาย ยกตัวอย่าง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ (Moore, 2009: 147; ทิศนา แขมมณี, 2547: 327) การเรียนการสอน
แบบบรรยายเป็นวิธีสอนที่มีประสิทธิภาพในการนาเสนอสารสนเทศเกี่ยวกับความเป็นมา (background information)
การสอนที่ผู้สอนต้องการสร้างกรอบการอ้างอิง (frame of reference) ของบทเรียน (Moore, 2009: 147) หรือเมื่อ
แนะนาบทเรียน การสอนเนื้อหาหรือมโนทัศน์ที่ซับซ้อนยากต่อการที่ผู้เรียนทาความเข้าใจได้ด้วยตนเอง การสอนการคิด
ตามตัวแบบ (role model) (Killen, 2007: 110) การสอนที่มีผู้เรียนเป็นจานวนมาก การสอนเนื้อหาจานวนมากในเวลา
จากัด การทบทวนหรือสรุปบทเรียน การสอนผู้เรียนที่มีข้อบกพร่องทางการเรียน
ขั้นตอนการสอน
การเรียนการสอนแบบบรรยายเป็นการสอนที่ผู้เรียนได้รับสารสนเทศจากการถ่ายทอดและการจัดการโดยผู้สอน
การเรียนการสอนแบบบรรยายได้รับความนิยมในการนามาใช้ด้วยปัจจัยสามประการ ได้แก่ ความง่ายในการวางแผน
เตรียมการ ความยืดหยุ่นของการสอนที่นาไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกสาขาวิชา และความไม่ซับซ้อนของการนาไปใช้ (Eggen &
Kauchak, 2006: 315) อย่างไรก็ตาม การเรียนการสอนแบบบรรยายนั้นจาเป็นต้องมีการเตรียมการที่ดี และใช้เทคนิคการ
สอนต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ตามผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1
คัดลอกจาก วิชัย เสวกงาม. (2555). การเรียนการสอนทางตรง: สอนอย่างไรให้มีประสิทธิภาพในบริบทการจัดการศึกษาที่เน้นผลลัพธ์.
วารสารครุศาสตร์. 40(2), 255-272.
เอกสารประกอบการบรรยาย การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ณ ห้องประชุมลีลาวดี ชั้น 1 อาคารเรียน คณะศิลปศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ โดย ดร.วิชัย เสวกงาม คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 19 กุมภาพันธ์ 2559
8
1) ผู้สอนต้องแน่ใจว่าตนเองเข้าใจอย่างลึกซึ้งในสิ่งที่ต้องการให้ผู้เรียนเข้าใจ
2) ผู้เรียนต้องเข้าใจในผลการเรียนรู้ที่ผู้สอนต้องการให้เกิดแก่ผู้เรียน
3) ผู้สอนควรเขียนคาถามสาคัญที่จะถามผู้เรียนเพื่อให้เป็นการแนะแนวทางแก่ผู้เรียน รวมทั้ง
คาถามสาคัญอื่นๆ ด้วย
4) ผู้ ส อนต้ อ งแน่ ใ จว่ า ตนเองมี ค วามชั ด เจนในค านิ ย าม การอธิ บ าย และการยกตั ว อย่ า งที่
เหมาะสมสาหรับทุกๆ มโนทัศน์ที่จะสอน
5) ผู้สอนต้องอธิบายคาเฉพาะใหม่ในบทเรียนอย่างชัดเจน หลีกเลี่ยงคาอธิบายที่ยากหรือเป็น
นามธรรมมากเกินไป
6) ผู้สอนต้องเชื่อมโยงระหว่างบทเรียนหรือมโนทัศน์ในบทเรียนอย่างรอบคอบ
7) ผู้สอนต้องสะท้อนความคิดของผู้เรียนเพื่อการตรวจสอบและแก้ไขความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ในทุกบทเรียน
ส่วนการเรียนการสอนแบบบรรยายตามตาราหรือเอกสารคาสอน (textbook lecture) เป็นวิธีที่
ง่ายในการเตรียมการสอน แต่ผู้สอนควรระวังในสองประเด็น คือ การใช้เนื้อหาตามตาราทาให้ขาดเนื้อหาใหม่และทันสมัยใน
การบรรยาย และการสอนตามตาราทาให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อในการเรียน (Moore, 2009: 148) การใช้ตาราในการเรียน
การสอนแบบบรรยาย ผู้สอนจึงควรใช้ในเนื้อที่ยาก หาเนื้อหาหรือตัวอย่างเพิ่มเติม และเน้นการเชื่อมโยงของเนื้อหาที่ไม่ได้
แสดงไว้ในตารา
1.4 การเลือกสื่อการเรียนการสอนและเทคนิคการสอน การใช้การมองเห็นของผู้เรียน เช่น การใช้
กระดาน เครื่องฉายภาพจริง แบบจาลอง รูปภาพ ของจริง ภาพเคลื่อนไหว แผนภูมิ ภาพยนตร์ ซีดี ดีวีดี คลิปวีดิทัศน์ หรือ
เพาเวอร์ พอยต์ เพื่อช่ว ยในการเรี ย นรู้จ ะคู่กับการเรียนการสอนแบบบรรยายเสมอ การเลื อกใช้และการผสมผสานที่
9) ผู้สอนควรตรวจสอบการให้ความสนใจของผู้เรียน โดยการสังเกตสีหน้าท่าทางของผู้เรียนว่า
ติดตามเรื่องที่ฟังอยู่หรือไม่ เข้าใจเรื่องที่ฟังอยู่หรือไม่ เพื่อให้การสอนน่าสนใจมากขึ้น ผู้สอนควรหลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืน
บรรยายอยู่กับที่ อาจใช้การเดิน การเปลี่ยนตาแหน่งตามสภาพของห้องเรียนจะเอื้ออานวย การสบตาผู้เรียนเป็นสิ่งที่จาเป็น
แสดงให้เห็นถึงการให้ความสนใจและรอรับความสนใจจากผู้เรียน ในกรณีที่ห้องที่ใช้บรรยายมีขนาดใหญ่ การเคลื่อนไหว
และความมีชีวิตชีวาของผู้สอนจะทาให้ผู้เรียนที่อยู่ในระยะไกลให้ความสนใจผู้สอนแทนการสบตาผู้เรียน
10) การสร้ างบรรยากาศที่ดีในชั้นเรียนเป็นการส่ งเสริมการเรียนรู้ของผู้ เรียน ผู้ ส อนอาจ
สอดแทรกอารมณ์ขันที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่สอน การใช้กิจกรรมที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมสลับการบรรยายเป็นการช่วยให้ผู้เรียน
เกิดการเรียนรู้และเสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
3. ขั้นสรุป ในขั้นนี้ผู้สอนสรุปสาระสาคัญที่ผู้สอนนาเสนอไปแล้วและย้าในประเด็นที่เป็นการเชื่อมโยงความรู้ใหม่
เข้ากับความรู้เดิมของผู้เรียน หรือใช้ขั้นสรุปนี้ในการสะท้อนความคิดของผู้เรียนเพื่อการตรวจสอบและแก้ไขความเข้าใจที่
คลาดเคลื่อน จากนั้นผู้สอนแก้ไขความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของผู้เรียน แล้วสรุปสาระสาคัญทั้งหมดที่ผู้สอนนาเสนอไป
ผู้สอนอาจใช้คาถามหรือตั้งประเด็นเพื่อตรวจสอบการนาสิ่งที่เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้และเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ในระดับที่
สูงขึ้นหรือการเรียนในครั้งต่อไป
ข้อจากัดของการเรียนการสอนแบบบรรยาย
ในขณะที่ผู้เรียนเป็นผู้รับความรู้จากการถ่ายทอดของผู้สอน ทาให้ผู้เรียนมีบทบาทน้อยในการเรียนการสอน โดย
ผู้เรียนเป็นผู้ฟังและจดบันทึก ทาให้การเรียนการสอนแบบบรรยายส่งเสริมการพัฒนาทักษะการคิด การแก้ปัญหา และ
ความคิดสร้างสรรค์ได้ไม่มากนัก นอกจากนี้ผู้เรียนอาจมีข้อจากัดในการฟังและการรับข้อมูลจานวนมาก ความเบื่อหน่าย
จากการฟังและไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน การเรียนการสอนแบบบรรยายเพียงอย่างเดียวมักมีข้อจากัดบางประการ
และด้วยเหตุผลทางจิตวิทยา การเรียนการสอนแบบบรรยายเพียงอย่างเดียวมีประสิทธิภาพสาหรับห้าสิบนาทีถึงหนึ่งชั่วโมง
เท่านั้น ถ้าไม่ต้องการใช้วิธีสอนอื่นแทนการเรียนการเรียนการสอนแบบบรรยาย ผู้สอนจาเป็นต้องผนวกวิธีสอนแบบอื่นหรือ
เทคนิคการสอนอื่นเข้าร่วมด้วย (Bligh, 2000: 252) เช่น Buzz groups, Horseshoe groups, Controlled Discussion,
Lecture-discussion method การใช้กรณีศึกษา การให้ผู้เรียนพูดสั้นๆ [short talks by students] การอ่าน การฟังซีดี
การดูวิดีโอ หรือการใช้คอมพิวเตอร์ เป็นต้น (Bligh, 2000: 260-281)
เทคโนโลยีสารสนเทศการเรียนการสอน
o สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือ CAI (Computer Aided Instruction)
o ระบบการสื่อสารทางไกลหรือโทรศึกษา (tele-education)
o การเรียนการสอนผ่านเว็บเพจ WBI (Web Based Instruction) หรือ WBL (Web Based Learning)
o การเรียนการสอนแบบ e-Learning (Electronics Learning)
o ห้องสมุดเสมือน (Virtual Library)
เทคโนโลยีการสื่อสาร ทุกที่ ทุกเวลา
ยูบิควิตัสเทคโนโลยี (Ubiquitous technology)
สังคมยูบิควิตัส (Ubiquitous society)
Ubiquitous เป็นภาษาลาติน มีความหมายว่า อยู่ในทุกแห่ง หรือ มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
การเรียนการสอนในโลกดิจิตอล การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา
o ระบบ เช่น Blackboard, Moodle
o เครื่องอ่านหนังสือ Kindle สารานุกรม Wikipedia
o เครือข่ายสังคม เช่น MySpace, Facebook, Linkedin, Skype
o เครื่องมือค้นหา เช่น Google, Yahoo, Bing
o คลังวิดีโอ เช่น Youtube, TeacherTube, Hulu
ความรู้ที่จาเป็นของอาจารย์
Source: http://tpack.org
จุดมุ่งหมายของการจัดการเรียนรู้
ผู้เรียนรู้อะไร
ผูเ้ รียนรู้สึกอย่างไร
ผูเ้ รียนทาอะไรได้
Cognitive Domain
1. ความรู้ความจา เป็นความสามารถในการเก็บรักษาประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้รับรู้ และสามารถระลึกสิ่งนั้นได้เมื่อ
ต้องการ
ตัวอย่างคากริยาที่ใช้: ให้คาจากัดความ (define) จาลอง (duplicate) จัดทารายการ (list) ท่องจา
(memorize) ระลึก (recall) พูดซ้า (repeat) ทาซ้า (reproduce) บอก (state)
2. ความเข้าใจ เป็นความสามารถในการจับใจความสาคัญของสาระได้ โดยแสดงออกมาในรูปการแปลความ
ตีความ หรือขยายความ
ADDIE Model
ขั้นตอนการออกแบบการเรียนการสอน
1. การกาหนดเนื้อหาสาระและมโนทัศน์และการกาหนดวัตถุประสงค์
การวิเคราะห์สาระ ผลการเรียนรู้
การวิเคราะห์มโนทัศน์
มโนทัศน์หลัก
มโนทัศน์ย่อย
การเชื่อมโยงมโนทัศน์
การวิเคราะห์ทักษะและกระบวนการตามผลการเรียนรู้
การวิเคราะห์คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามผลการเรียนรู้
การกาหนดวัตถุประสงค์ให้ครอบคลุมผลการเรียนรู้
ด้านความรู้
ด้านทักษะและกระบวนการ
ด้านคุณลักษณะ
3. การกาหนดแนวทาง / ยุทธศาสตร์การเรียนการสอน
4. การกาหนดกิจกรรมการเรียนการสอน
5. การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้
6. การนากระบวนการเรียนการสอนที่ออกแบบไปใช้
7. การประเมินผลกระบวนการเรียนการสอน
รายการอ้างอิง
วิชัย เสวกงาม. (2555). การเรียนการสอนทางตรง: สอนอย่างไรให้มีประสิทธิภาพในบริบทการจัดการศึกษาที่เน้นผลลัพธ์. วารสารครุ
ศาสตร์. 40(2), 255-272.
Bligh, D. A. (2000). What’s the Use of Lectures?. San Francisco: Jossey-Bass.
Bonwell, C.C., and Eison, J.A. (1991). Active Learning: Creating Excitement in the Classroom. ASHE-ERIC Higher
Education Report No. 1. Washington, D.C.: The George Washington University, School of Education and
Human Development.
Bonwell, C.C. (n.d.). Active Learning: Creating Excitement in the Classroom. [Online]. Available from:
https://www.ydae.purdue.edu/lct/HBCU/documents/Active_Learning_Creating_Excitement_in_the_Classroom.
pdf [2014, July 12]
Eison, J. (2000). Using Active Learning Instructional Strategies to Create Excitement and Enhance Learning.
[Online]. Available from: http://www.cte.cornell.edu/documents/presentations/ Active%20Learning%20-
%20Creating%20Excitement%20in%20the%20Classroom%20-%20Handout.pdf [2014, July 12]
Michael, J.A., and Modell, H.I. (2003). Active Learning in Secondary and College Science Classrooms: A Working
Model for Helping the Learner to Learn. Mahwah, NJ: Lawrence Erlbaum Associates.
Sutherland, T.E., and Bonwell, C.C. eds. (1996). Using Active Learning in College Classes: A Range of Options for
Faculty. San Francisco: Jossey-Bass.
Thomas, J. (1972). The variation of memory with time for information appearing during a lecture. Studies in Adult
Education, 4, 57-62.
2
คัดลอกจาก วัชรี เกษพิชัยณรงค์ และ น้าค้าง ศรีวัฒนาโรทัย. (ม.ป.ป.). การเรียนเชิงรุกและเทคนิควิธีการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการ
เรียนเชิงรุก. สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้, มหาวิทยาลัยมหิดล.
เอกสารประกอบการบรรยาย การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ณ ห้องประชุมลีลาวดี ชั้น 1 อาคารเรียน คณะศิลปศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ โดย ดร.วิชัย เสวกงาม คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 19 กุมภาพันธ์ 2559
20
3
เพิ่มเติมโดยผู้เขียน
4
เพิ่มเติมโดยผู้เขียน
เอกสารประกอบการบรรยาย การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ณ ห้องประชุมลีลาวดี ชั้น 1 อาคารเรียน คณะศิลปศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ โดย ดร.วิชัย เสวกงาม คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 19 กุมภาพันธ์ 2559
22
ตัวอย่างวิธีสอน/พัฒนา และวิธีการประเมิน
วิธีการสอน / พัฒนา (Teaching Methods) (http://www.academic.chula.ac.th/CU_CAS/TeachMetpdf.pdf)
01 การบรรยาย (Lecture) 19 การสอนโดยใช้วิจัยเป็นฐาน (Research-based
instruction)
02 การอภิปราย (Discussion)
03 การสอนแบบสัมมนา (Seminar) 20 การสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based
instruction)
04 การสอนโดยใช้การนิรนัย (Deductive)
21 การสะท้อนความคิด (Reflective thinking)
05 การสอนโดยใช้การอุปนัย (Inductive)
22 การสอนแบบสืบสอบ (Inquiry-based instruction)
06 การใช้กรณีศีกษา (Case)
23 การศึกษาค้นคว้าโดยอิสระ (Independent study)
07 การแสดงบทบาทสมมติ (Role playing)
24 การเรียนรู้ด้วยการนาตนเอง (Self-directed
08 ภาคสนาม (Field work) learning)
09 การไปทัศนศึกษา (Field trip) 25 การสอนโดยใช้โครงงาน (Project-based
10 การใช้สถานการณ์จาลอง (Simulation) instruction)