You are on page 1of 101

การบัญชีช้ นั กลาง 2

เรื่ อง
หนี้สินหมุนเวียน
และ
หนี้สินระยะยาว
บทที่ 1
หนี้สินหมุนเวียน
การวัดมูลค่าของหนี้สิน(Measurement)
แม่บทการบัญชีได้กำหนดเกณฑ์ในการวัดมูลค่าของรายการต่างๆ
ในงบการเงินไว้ในย่อหน้าที่ 100 ดังนี้
1.ราคาทุนเดิม
ตามหลักราคาทุนเดิมนั้นให้กิจการบันทึกหนี้สินด้วยจำนวนเงินหรื อมูลค่า
ของสิ นทรัพย์หรื อบริ การที่ได้รับจากการก่อภาระผูกพันที่เกิดจากการ
ดำเนินงานตามปกติของกิจการ เช่นกิจการบันทึกค่าสาธารณูปโภคค้างจ่าย
เป็ นหนี้สินด้วยจำนวนเงินที่กิจการต้องจ่ายชำระค่าใช้จ่ายนั้นในอนาคต
2.ราคาทุนปัจจุบนั
การวัดมูลค่าด้วยราคาทุนปัจจุบนั นั้นกิจการวัดหรื อแสดงมูลค่าสิ นทรัพย์
และหนี้สินจำนวนเงินสดหรื อรายการเทียบเท่าเงินสดที่ตอ้ งใช้ชำระภาระ
ผูกพันในขณะนั้น
3.มูลค่าที่จะได้รับ
หมายถึงการแสดงรายการในงบการเงินด้วยมูลค่าที่กิจการจะได้รับคืนหรื อด้วย
จำนวนเงินสดหรื อรายการเทียบเท่าเงินสดที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้ประโยชน์
จากสิ นทรัพย์น้ นั
4.มูลค่าปัจจุบนั
การแสดงรายการด้วยมูลค่าปัจจุบนั ของกระแสเงินสดรับหรื อจ่ายสุ ทธิซ่ ึงคาดว่าจะ
ต้องจ่ายในการชำระหนี้ภายใต้การดำเนินงานตามปกติของกิจการ เช่นในการออก
จำหน่ายหุน้ กู้ กิจการจะบันทึกมูลค่าของหนี้สินด้วยมูลค่าปัจจุบนั ของกระแส
เงินสดจ่ายสุ ทธิที่กิจการต้องจ่ายในอนาคตเพื่อชำระภาระผูกพันนั้น เช่นหนี้สินตาม
สัญญาเช่าการเงินเป็ นต้น สำหรับการวัดมูลค่ารายการหนี้สินนั้นมักใช้มูลค่าราคา
ทุนเดิมสำหรับหนี้สินหมุนเวียนและใช้มูลค่าปัจจุบนั ในการวัดหนี้สินระยะยาว
ตัว๋ เงินจ่ ายระยะสั้ น (Short-Term Notes Payable)
ตัว๋ เงินจ่าย คือ ตัว๋ สัญญาใช้เงินที่ระบุจำนวนเงินที่แน่นอน และวันที่
ครบกำหนดชำระเงินนั้น โดยอาจระบุอตั ราดอกเบี้ย (Interest-Bearing Notes)
หรื อไม่ระบุอตั ราดอกเบี้ย (Non Interest Bearing Notes) ระยะเวลาในการ
ชำระเงินที่ระบุในตัว๋ เงินจ่าย อาจเป็ น 1 เดือน 3 เดือน หรื อ 5 ปี ก็ได้แล้วแต่จะ
ตกลงกัน หากระยะเวลาในการชำระเงินน้อยกว่า 1 ปี หรื อสั้นกว่ารอบระยะ
เวลาการดำเนินงานปกติ ตัง๋ เงินจ่ายนั้นถือเป็ นตัว๋ เงินจ่ายระยะสั้นซึ่งจัดเป็ นหนี้
สิ นหมุนเวียนหากระยะเวลาในการชำระเงิน ยาวนานกว่า 1 ปี หรื อรอบระยะ
เวลาการดำเนินการปกติ ตัว๋ เงินจ่ายนั้นถือเป็ นตัว๋ เงินจ่ายระยะยาวซึ่งจะกล่าว
ถึงในส่ วนของหนี้สินระยะยาวต่อไป
ตัว๋ เงินจ่ ายชนิดระบุอตั ราดอกเบีย้ (Interest Bearing Notes )
ตัวอย่าง
วันที่ 1 พฤศจิการยน 25x1 บริ ษทั เจริ ญสุ ข จำกัด กูย้ มื เงินจากธนาคาร
แห่งหนึ่งเป็ นจำนวน 300,000 บาทโดยออกตัว๋ สัญญาใช้เงินมีกำหนดอายุ 1 ปี
อัตราดอกเบี้ย 8 % ต่อปี บริ ษทั ปิ ดบัญชี วันที่31ธันวาคมของทุกปี

การบันทึกรายการบัญชี
1 พ.ย. 25x1
เดบิต เงินสด 300,000
เครดิต ตัว๋ เงินจ่าย
300,000
บันทึกการกูย้ มื โดยออกตัว๋ สัญญาใช้เงิน
31 ธ.ค. 25x1
เดบิต ดอกเบี้ยจ่าย 4,000
เครดิต 4,000
ปรับปรุ งดอกเบี้ยค้างจ่ายของปี 25x1 (300,000×8/12×2/12)
31 ต.ค. 25x2
เดบิต ตัว๋ เงินจ่าย 300,000
ดอกเบี้ยจ่าย 20,000
ดอกเบี้ยค้างจ่าย 4,000
เครดิตเงินสด 324,000
บันทึการจ่ายคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด
การนำเสนอรายการในงบการเงิน
บริ ษทั เจริ ญสุ ข จำกัด
งบดุล (บางส่ วน)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25x1
หนี้สินหมุนเวียน
ตัว๋ เงินจ่าย 300,000
ดอกเบี้ยค้างจ่าย 4,000
บริ ษทั เจริ ญสุ ข จำกัด
งบกำไรขาดทุน(บางส่ วน)
สำหรับปี สิ้ นสุ ด วันที่ 31 ธันวาคม 25x1
ค่าใช้จ่าย
ดอกเบี้ยจ่าย 4,000
ตัว๋ เงินจ่ ายชนิดไม่ ระบุอตั ราดอกเบีย้ (Non-Interest-Bearing Notes)
ตัว๋ เงินจ่ายชนิน้ ีบางครั้งเรี ยกว่า Zero-interest-bearing Notes จะไม่ระบุอตั รา
ดอกเบี้ยไว้บนหน้าตัว๋ แต่ผอู ้ อกตัว๋ สัญญาใช้เงินยังคงต้องจ่ายดอกเบี้ยจ่ายเมื่อถึงวันที่ตวั๋
ครบกำหนด โดยปกติผกู ้ ยู้ มื (หรื อผูอ้ อกตัว๋ สัญญาใช้เงิน) จะได้รับเงินในจำนวนที่นอ้ ย
กว่าจำนวนที่ระบุไว้ในตัว๋ สัญญาใช้เงินจำนวนเงินที่ผกู ้ ยู้ มื ได้รับจะเท่ากับมูลค่าปัจจุบนั
ที่ได้จากการคิดลดมูลค่าตามหน้าตัว๋ (Face Amount) ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริ ง
(Effective Interest Rate) ผลต่างระหว่างจำนวนเงินสดที่ได้รับกับมูลค่าตามหน้าตัว๋
เรี ยกว่า ส่ วนลดตัว๋ เงินจ่าย (Discount Notes Payable) ซึ่งก็คือดอกเบี้ยจ่ายจากการกูย้ มื
นัน่ เอง
ตัวอย่าง
วันที่ 1 พฤศจิการยน 25x1 บริ ษทั รักชนก จำกัด กูเ้ งินโดยออกตัว๋ สัญญาใช้
เงินจำนวนเงินตามหน้าตัว๋ 112,000 บาท ตัว๋ สัญญาใช้เงินอายุ 1 ปี ชนิดไม่ระบุอตั รา
ดอกเบี้ย บริ ษทั รักชนก จำกัด ได้รับเงินจากการกูย้ มื เพียง 100,000บาท (ซึ่งเท่ากับ
มูลค่าปัจจุบนั ของจำนวนเงินตามหน้าตัว๋ ที่คิดลดด้วยรอบระยะเวลา 1 ปี ดังนั้น อัตรา
ดอกเบี้ยที่แท้จริ ง เท่ากับ 12% )
การบันทึกรายการบัญชี
1 พ.ย. 25x1
เดบิต เงินสด 100,000
ส่ วนลดตัว๋ เงินจ่าย 12,000
เครดิต ตัว๋ เงินจ่าย 112,000
กูย้ มื โดยออกตัว๋ สัญญาใช้เงินชนิดไม่มีดอกเบี้ย
31 ธ.ค. 25x1
เดบิต ดอกเบี้ยจ่าย 2,000
เครดิต ส่ วนลดตัว๋ เงินจ่าย 2,000
ปรับปรุ งดอกเบี้ยค้างจ่ายของ 12,000×2/12
1 ต.ค. 25x2
เดบิต ตัว๋ เงินจ่าย 112,000
ดอกเบี้ยจ่าย 10,000
เครดิต เงินสด 112,000
ส่ วนลดตัว๋ เงินจ่าย 10,000
บันทึกจ่ายชำระหนี้ตามหน้าตัว๋ และดอกเบี้จ่าย
การเสนอรายการในงบการเงิน
บริ ษทั รักชนก จำกัด
งบดุล (บางส่ วน)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25x1
หนี้สินหมุนเวียน
ตัว๋ เงินจ่าย 112,000
หัก : ส่ วนลดตัว๋ เงินจ่าย (10,000)
102,000
บริ ษทั รักชนก จำกัด
งบกำไรขาดทุน (บางส่ วน)
สำหรับปี สิ้ นสุ ด วันที่ 31 ธันวาคม 25x1
ค่าใช้จ่าย
ดอกเบี้ยจ่าย 2,000
เจ้ าหนีก้ ารค้ า (Accounts Payable หรือ Trade Accounts Payble)
เจ้าหนี้การค้าเกิดจากการซื้ อสิ นค้า (บริ การ) เป็ นเงินเชื่อโดยกิจการสัง่ ซื้อ
สิ นค้า รับสิ นค้านั้นและตกลงการจ่ายเงินแต่ยงั มิได้จ่ายชำระค่าสิ นค้านั้น ปกติแล้ว
กิจการจะบันทึกรายการเจ้าหนี้ เมื่อได้รับสิ นค้าหรื อเมื่อได้รับใบกำกับสิ นค้า (Invoice)
โดยกิจการต้องชำระเงินภายในเวลาต่อมาอาจเป็ น 30 วัน 45 วัน หรื อ 60 วัน แล้วแต่จะ
ตกลงกันตามปกติแล้วเจ้าหนี้ การค้าจะถูกบันทึกด้วยมูลค่าตามที่ระบุในใบกำกับสิ นค้
า (Face Amounts) และไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยจากการได้สินเชื่อในช่วงเวลานั้น
สามารถบันทึกรายการหนี้ สินได้ 2 วิธี คือ

-วิธีมูลค่าก่อนหักส่ วนลด (Gross Purchase)


-วิธีมูลค่าสุ ทธิจากส่ วนลด (Net Purchase)
1. วิธีมูลค่าก่อนหักส่ วนลด (Gross Purchase)
ตามวิธีน้ ีให้กิจการบันทึกยอดเจ้าหนี้ ดว้ ยมูลค่าซื้อก่อนหักส่ วนลดเงินสด
ในวันที่กิจการได้รับสิ นค้าหรื อใบกำกับสิ นค้า ในการจ่ายชำระเงินถ้ากิจการจ่าย
ชำระภายในกำหนดเวลาที่จะได้รับส่ วนลดตามเงื่อนไข เงินสดให้บนั ทึกส่ วนลดที่
ให้โดยเครดิตบัญชีส่วนลดรับ บัญชีส่วนลดรับให้แสดงหักจากบัญชีซ้ื อเพื่อหายอด
ซื้อสุ ทธิในงบกำไรขาดทุน

ตัวอย่าง
บริ ษทั เจริ ญสุ ข จำกัด ซื้อสิ นค้าเป็ นเงินเชื่อจากบริ ษทั กิจเจริ ญ จำกัด
มูลค่า 120,000 บาท โดยมีเงื่อนไขการจ่ายชำระเงิน 2/10,n/30 ณ วันที่ 1 มกราคม
25x0 หากบริ ษทั เจริ ญสุ ข จำกัด ใช้วธิ ีมูลค่ารวมก่อนหักส่ วนลด (Gross Method)
รายการบันทึกบัญชีจะเป็ นดังนี้
1 ม.ค. 25x0
เดบิต ซื้ อ 120,000
เครดิต เจ้าหนี้ บริ ษทั กิจเจริ ญ จำกัด 120,000
บันทึกการซื้ อสิ นค้าเป็ นเงินเชื่อจากบริ ษทั กิจเจริ ญ จำกัด
หากจ่ายชำระหนี้ภายใน 10 วันเมื่อจ่ายชำหนี้
8 ม.ค. 25x0
เดบิต เจ้าหนี้-บริ ษทั เจริ ญสุ ข จำกัด 120,000
เครดิต ส่ วนลดรับ 2,400
เงินสด 117,600
บันทึการชำระเงินค่าสิ นค้า
หากจ่ายชำระหนี้ภายหลัง 10 วัน
เดบิต เจ้าหนี้ บริ ษทั เจริ ญสุ ข จำกัด 120,000
เครดิต เงินสด 120,000
บันทึการชำระเงินสิ นค้า
2. วิธีซ้ือสุ ทธิ (วิธีมูลค่าสุ ทธิจากส่ วนลด)
ในการบันทึกบัญชีการซื้ อสิ นค้าเป็ นเงินเชื่อกิจการอาจบันทึกเจ้าหนี้ และยอดซื้ อ
ด้วยมูลค่าสุ ทธิหลังจากหักส่ วนลดเงินสดก็ได้หากการชำระเงินเกิดขึ้นภายในระยะเวลาที่จะ
ได้รับส่ วนลด กิจการก็เพียงเดบิตยอดเจ้าหนี้ เครดิตเงินสดด้วยจำนวนสุ ทธิที่ตอ้ งจ่ายหาก
กิจการไม่สามารถชำระเงินได้ทนั ระยะเวลาที่จะได้รับส่ วนลดทำให้กิจการต้องจ่ายเงินใน
จำนวนที่สูงกว่ายอดเจ้าหนี้ที่เคยบันทึกไว้ผลต่างระหว่างเงินสดจ่ายและยอดเจ้าหนี้ให้
บันทึกโดยเดบิตบัญชีส่วนลดรับสูญเสี ย ซึ่งถือเป็ นบัญชีค่าใช้จ่ายประเภทหนึ่ง

ตัวอย่าง
กรณี บริ ษทั เจริ ญสุ ข จำกัด ซื้อสิ นค้าเป็ นเงินเชื่อจากบริ ษทั กิจเจริ ญ จำกัด
ณ วันที่ 1 มกราคม 25x0 มูลค่า 120,000 บาท โดยมีเงื่อนไขการจ่ายชำระเงิน
2/10,n/30 หากกิจการใช้วธิ ีซ้ื อสุ ทธิ (Net Purchase) การบันทึกบัญชีจะเป็ นดังนี้
1 ม.ค. 25x0
เดบิต ซื้ อ 117,500
เครดิต เจ้าหนี้ – บริ ษทั กิจเจริ ญ จำกัด 117,500
บันทึกการซื้ อสิ นค้าเป็ นเงินเชื่อจากบริ ษทั กิจเจริ ญ จำกัด
หากจ่ายชำระหนี้ภายใน 10 วัน เมื่อจ่ายชำระหนี้
เดบิต เจ้าหนี้ บริ ษทั เจริ ญสุ ข จำกัด 117,600
เครดิต เงินสด 117,600
บันทึการจ่ายชำระหนี้ค่าสิ นค้า
หากจ่ายชำระหนี้ภายหลัง 10 วัน
เดบิต เจ้าหนี้ บริ ษทั เจริ ญสุ ข จำกัด 117,600
ส่ วนลดรับสูญเสี ย 2,400
เครดิต เงินสด 120,000
บันทึการจ่ายชำระหนี้ค่าสิ นค้า
หนีส้ ิ นระยะยาวทีค่ รบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี (Current Maturities of Long-Term
Debt)
ส่ วนของหนี้สินระยะยาวที่จะครบกำหนดชำระภายในรอบระยะเวลาบัญชีถดั
ไปหรื อหนึ่งปี ควรแสดงในงบดุลในส่ วนของหนี้สินหมุนเวียน เช่น ส่ วนของหุน้ กูท้ ี่ไถ่
คืนเป็ นงวด (Serial Bonds) ครบกำหนดไถ่คืนภายใน 12 เดือน ต้องแสดงเป็ นหนี้ สิน
หมุนเวียน รายการบันทึกบัญชีเพื่อจัดประเภทของหนี้ สินใหม่ทำโดยเดบิต หนี้ สินระยะ
ยาว และเครดิต หนี้สินระยะยาวที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี
ตัวอย่าง
วันที่ 1 มกราคม 25x1 บริ ษทั รักชนก จำกัด กูเ้ งินเป็ นจำนวนเงิน 100,000 บาท
โดยตกลงจะจ่ายชำระคืนเงินต้นเป็ นรายงวดๆละ 20,000 บาท ทุกวันที่ 31 ธันวาคม เป็ น
ระยะเวลา 5ปี รายการบันทึกบัญชี ณ วันสิ้ นสุ ดงวดบัญชีของปี 25x1 เป็ นดังนี้
31 ธ.ค. 25x1
เดบิต เงินกูย้ มื ระยะยาว 20,000
เครดิต เงินสด 20,000
บันทึกจ่ายชำระหนี้เงินกูร้ ะยะยาว
31 ธ.ค. 25x1
เดบิต เงินกูย้ มื ระยะยาว 20,000
เครดิต หนี้สินระยะยาวที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 20,000
กิจการต้องบันทึกรายการดังกล่าวจนกิจการไถ่ถอนหนี้ท้ งั หมด 100,000 บาท
การนำเสนอรายการในงบการเงิน
ตัวอย่างต่อไปนี้ งบดุลเปรี ยบเทียบ (บางส่ วน) เพื่อแสดงให้เห็นถึงการจัดประเภท
ของหนี้สินระยะยาวที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี เป็ นหนี้ สินหมุนเวียน
บริ ษทั รักชนก จำกัด
งบดุลเปรี ยบเทียบ (บางส่ วน)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25x1
25x2 25x1
หนี้สินหมุนเวียน
หนี้สินระยะยาวที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 20,000 20,000
หนี้สินระยะยาว
เงินกูย้ มื ระยะยาว 40,000 40,000
เงินปันผลค้างจ่าย (Dibidends Payable)
ในวันที่กิจการประกาศจ่ายเงินปันผลแล้วแต่ยงั มิได้จ่ายเงินจริ งถือว่ากิจการมี
ภาระผูกพันี่จะต้องจ่ายเงินปันผลนั้น ดังนั้นกิจการต้องบันทึกภาระผูกพันดังกล่าวเป็ น
หนี้สินหมุนเวียน
ในการจ่ายเงินปันผลกิจการจะประกาศจ่ายเงินปันผลว่าเป็ นจำนวนเท่าใด ณ
วันที่ประกาศจ่าย ถือเป็ นวันที่กิจการมีภาระผูกพันเกิดขึ้นและต้องบันทึกเงินปันผลค้าง
จ่ายเป็ นหนี้สิน จากนั้นกิจการต้องกำหนดวันปิ ดทะเบียนรายชื่อผูถ้ ือหุน้ เพื่อทำการ
ตรวจสอบว่าผูถ้ ือหุน้ รายใดมีสิทธิที่จะรับเงินปันผลซึ่งจะจ่ายในวันที่กำหนดขึ้น ณ วัน
จ่ายเงินปันผลนี้กิจการลดยอดหนี้สินเงินปันผลค้างจ่ายเมื่อกิจการจ่ายเงินปันให้แก่ผถู ้ ือ
หุน้
ตัวอย่าง
บริ ษทั รักชนก จำกัด ประกาศจ่ายเงินปันผลจำนวน 200,000 บาท ในวันที่ 15
ธันวาคม 2541 โดยกำหนดให้วนั ที่ 5 มกราคม 25x2 เป็ นวันปิ ดทะเบียนรายชื่อผูถ้ ือหุน้ และ
บริ ษทั จะทำการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 มกราคม 25x2
วันประกาศจ่ายเงินปันผล
15 ธ.ค. 25x1
เดบิต เงินปันผล หรื อกำไรสะสม 200,000
เครดิต เงินปันผลค้างจ่าย 200,000
บันทึกบัญชีประกาศจ่ายเงินปันผล
วันปิ ดทะเบียนรายชื่อผูถ้ ือหุน้
วันจ่ายเงินปันผล
25 ม.ค. 25x2
เดบิต เงินปันผลค้างจ่าย 200,000
เครดิต เงินสด 200,000
บันทึกบัญชีประกาศจ่ายเงินปันผล
เงินมัดจำหรือเงินประกัน
เงินมัดจำ คือ เงินที่กิจการเรี ยกเก็บจากลูกค้าหรื อพนักงานของกิจการเพื่อ
เป็ นการรับประกันการปฏิบตั ิตามสัญญาการให้บริ การหรื อเพื่อไว้ชดเชยสำหรับ
ภาระผูกพันที่เกิดขึ้นในอนาคตเช่น ในการให้เช่าอาคารสำนักงาน กิจการอาจเรี ยก
เก็บเผือ่ ในกรณี ที่ผเู ้ ช่าก่อความเสี ยหายแก่ทรัพย์สินของผูใ้ ห้เช่าก็ได้ กิจการต้อง
บันทึกเงินมัดจำที่ได้รับมาเป็ นหนี้ สินเนื่องจากเป็ นภาระผูกพันที่ตอ้ งจ่ายคืนใน
อนาคต เงินมัดจำอาจเป็ นหนี้สินหมุนเวียนหรื อไม่หมุนเวียนขึ้นอยูก่ บั ระยะเวลาที่
ต้องชำระคืนเงินมัดจำนั้นหากกิจการต้องชำระคืนภายในหนึ่งปี หรื อภายในรอบ
ระยะเวลาการดำเนินงานปกติ เงินมัดจำนั้นถือเป็ นหนี้สินหมุนเวียน
ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย
ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแล้วแต่กิจการยังมิได้ชำระเงินและยังไม่
ได้บนั ทึกบัญชี ตัวอย่างเช่น ค่าสาธารณูปโภคค้างจ่าย ดอกเบี้ยค้างจ่ายเป็ นต้น เนื่องจาก
ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายเป็ นภาระผูกพันที่เกิดขึ้นแล้วกิจการต้องรับรู้รายการดังกล่าวเป็ นหนี้สิน
หมุนเวียนในรอบระยะเวลาบัญชีที่ค่าใช้จ่ายดังกล่าวเกิดขึ้นโดยเดบิต ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
เครดิต ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย
ภาษีเงินได้คา้ งจ่าย (Income Taxes Payable)
กิจการต้องคำนวณภาษีเงินได้และนำส่ งกรมสรพาการในการคำนวณภาษีเงิน
ได้ ให้คำนวณจากกำไรทางภาษีซ่ ึงอาจมีความแตกต่างจากกำไรทางบัญชี เนื่องจากหลัก
เกณฑ์การคำนวณกำรไรทางภาษีท ่ำหนดในประมวลรัษฎากรมีความแตกต่างจากหลัก
เกณฑ์ที่ใช้คำนวณกำไรทางบัญชีอย่างไรก็ตามเมื่อกิจการคำนวณยอดภาษีเงินได้แล้ว
กิจการอาจยังไม่นำส่ งกรมสรรพากรเลยทันทีให้กิจการบันทึกภาษีเงินได้เป็ นค่าใช้จ่าย
โดย เดบิต ภาษีเงินได้ และเครดิต ภาษีเงินได้คา้ งจ่ายเป็ นหนี้สินหมุนเวียนในรอบระยะ
เวลาบัญชีน้ นั
โบนัสค้ างจ่ าย (Bonuses)
โบนัส เป็ นผลตอบแทนที่จ 뉈 ຀เพิ่มจากเงินเดือนหรื อค่าจ้างปกติ ดังนั้น
โบนัสจึงรวมเป็ นค่าใช้จ่ายในการคำนวณกำไรขาดทุนของกิจการ โดยทัว่ ไปแล้วกิจการ
มักจ่ายโบนัสในจำนวนที่สมั พันธ์กบั ผลประกอบการ หรื อผลกำไรของบริ ษทั เมื่อบริ ษทั
ประกาศจ่ายโบนัส และรับรู้หนี้ สินซึ่งเป็ นภาระผูกพันที่กิจกายต้องจ่ายค่าโบนัสใน
อนาคต
การคำนวณโบนัสค่อนข้างซับซ้อนเนื่องจากโบนัสเป็ นค่าใช้จ่ายประเภทหนึ่ง
ในขณะเดียวกันโบนัสมักถูกกำหนดเป็ นสัดส่ วนหรื อเปอร์เซ็นต์ของกำไรสุ ทธิ ซึ่งจะ
ต้องหักค่าใช้จ่ายต่างๆให้ครบถ้วนก่อนจึงจะได้ยอดกำไรสุ ทธิ ในขณะเดียวกันยอด
โบนัสซึ่งเป็ นค่าใช้จ่ายก้ยงั ระบุไม่ได้ ถ้าไม่ทราบยอดกำไรสุ ทธิ ดังนั้นวิธีการคำนวณหา
ค่าโบนัสมักใช้สมการพีชคณิ ตมาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่าง
บริ ษทั รักชนก จำกัด มีกำไรก่อนหักโบนัส จำนวน 250,000 บาท บริ ษทั
ประกาศจ่ายโบนัสสำหรับปี 25x4 20% ของกำไรสุ ทธิ (ไม่คำนึงถึงภาษี) การคำนวณ
ยอดโบนัสสำหรับปี 25x4 มีดงั นี้
ให้ B = โบนัส
B = 0.20(250,000-B)
B = 50,000 – 0.20 B
1.2B = 50,000
B = 41,666.67 บาท
ดังนั้น ค่าโบนัสสำหรับปี 25x4 เป็ นจำนวน 41,666.67 บาท
หากพิจารณาถึงผลกระทบของภาษีเงินได้การคำนวณจากกำไร
หลังหักภาษีเงินได้ก่อนหักโบนัส สามารถทำได้ดงั นี้
ตัวอย่าง
บริ ษทั รักชนก จำกัด มีกำไรก่อนหักภาษีและโบนัสของปี 25x4 จำนวน
300,000 บาท บริ ษทั ประกาศจ่ายโบนัสคิดเป็ น 20% ของกำไรสุ ทธิหลังภาษีก่อน
หักโบนัส อัตราภาษีเงินได้เท่ากับ 30% การคำนวณยอดโบนัสของกิจการทำได้
ดังนี้
กำหนดให้ B = โบนัส
T = ภาษีเงินได้
B = 0.20(300,000 – T) 1
T = 0.30(300,000 – B) 2
แก้สมการโดยแทนค่า T ในสมการที่ 1
B = 0.20 [300,000 -0.30 (300,000-B)]
= 0.20 [300,000 – 90,000 + 0.30 B
= 0.20 (210,000 + 0.30B)
B = 42,000 + 0.06B
แทนค่า B ในสมการ 2 เพื่อหาค่า T
T = 0.30(300,000 – 44,680.85)
T = 76,595.745 บาท
ภาษีเงินได้สำหรับปี 25x4 เท่ากับ 76,595.745 บาท
ตัวอย่าง
ในปี 25x1 บริ ษทั ชาลิสา จำกัด มีผลกำไรจำนวน 595,000 บาทและมีกำหนดการ
จ่ายโบนัสในเดือนมกราคม 25x2 จำนวน 90,000 บาท
การบันทึกบัญชีรายการที่เกี่ยวข้อง มีดงั นี้
31 ธ.ค. 25x1
เดบิต ค่าโบนัสพนักงาน 90,000
เครดิต โบนัสค้างจ่าย 90,000
บันทึการปรับปรุ งค่าโบนัสสำหรับปี 25x1
31 ม.ค. 25x2
เดบิต โบนัสค้างจ่าย 90,000
เครดิต เงินสด 90,000
บันทึกการจ่ายค่าโบนัสของปี 25x1
รายได้ รับล่ วงหน้ า (Unearned Revenues)
รายได้รับล่วงหน้า คือ เงินสดหรื อประโยชน์เชิงเศรษฐกิจที่กิจการได้รับ
ก่อนที่จะส่ งมอบสิ นค้าหรื อให้บริ การแก่ลูกค้า รายได้รับล่วงหน้าถือเป็ นหนี้ สินของ
กิจการเนื่องจาก กิจการมีภารผูกพันที่จะส่ งมอบสิ นค้าหรื อให้บริ การแก่ลูกค้าใน
อนาคตตัวอย่างของรายได้รับล่วงหน้า ได้แก่ รายได้ค่าสมาชิกนิตยสาร รายได้จาก
การขายบัตรกำนัลหรื อบัตรของขวัญ รายได้ค่าเช่า รายได้ค่าตัว๋ เครื่ องบิน เป็ นต้น
ตัวอย่ าง
บริ ษทั รักชนก จำกัด เปิ ดให้เช่าอาคารสำนักงาน โดยคิดค่าเช่าเดือนละ 8,000 บาท
กิจการผูเ้ ช่าต้องจ่ายชำระเงินล่วงหน้า 3 เดือนแรก ก่อนที่ยา้ ยเข้าใช้ประโยชน์จากอาคารได้วนั ที่ 1
พฤศจิกายน 25x1 ผูเ้ ช่าจ่ายชำระค่าเช่าล่วงหน้าเป็ นเวลา 3 เดือน
การบันทึกบัญชีของรายการที่เกี่ยวของกันมีดงั ต่อไปนี้
1 พ.ย. 25x1
เดบิต เงินสด 24,000
เครดิต รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า 24,000
บันทึกรายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า
30 พ.ย. 25x1
เดบิต รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า 8,000
เครดิต รายได้ค่าเช่า 8,000
บันทึกรายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้ารับรู้รายได้ค่าเช่าสำหรับเดือนพฤศจิกายน
ประมาณการหนีส้ ิ น
จากร่ างมาตรฐานการบัญชี เรื่ อง ประมาณการหนี้ สิน หนี้สินที่อาจเกิดขึ้นและ
สิ นทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น ได้กำหนดความหมายของประมาณการหนี้ สินไว้วา่ หมายถึงหนี้
สิ นที่มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจังหวะเวลา หรื อจำนวนเงินที่ตอ้ งจ่ายชำระ
การรับรู้ ประมาณการหนีส้ ิ น
กิจการจะรับรู้ประมาณการหนี้ สินเป็ นหนี้สินในงบดุลได้กต็ ่อเมื่อเป็ นไปตาม
เงื่อนไขทุกข้อต่อไปนี้
1.กิจการมีภาระผูกพันในปัจจุบนั ซึ่งเกิดจากเหตุการณ์ในอดีตไม่วา่ ภาระผูกพันนั้นจะเป็ น
ภาระผูกพันตามกฎหมาย หรื อภาระผูกพันจากการอนุมาร
2.มีความเป็ นไปได้ค่อนข้างแน่ที่กิจการจะสูญเสี ยทรัพยากรที่มีประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจ
ต่อกิจการเพื่อจ่ายชำระภาระผูกพันดังกล่าว
3.สามารถประมาณมูลค่าภาระผูกพันได้อย่างน่าเชื่อถือ
ตัวอย่ าง
บริ ษทั รักชาติ จำกัด เป็ นผูจ้ ดั จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่ องอุปโภคบริ โภคทัว่ ไป
เช่น สบู่ ผงซักฟอก เป็ นต้น วันที่ 1 พฤศจิกายน 25x1 บริ ษทั มีการส่ งเสริ มการขายน้ำยา
ผลซักฟอก ชนิดใหม่โดยกำหนดให้ลูกค้าสามารถนำฝาขวดของน้ำยาซักผ้า 3 ฝา มาแลก
กับตัวอย่างของน้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดใหม่ได้ฟรี จนถึงวันที่ 30 เมษายน 25x2 ในช่วงปี
25x1 ที่ผา่ นมาบริ ษทั มียอดขายน้ำยาซักผ้าจำนวน 30,000 ขวด ในราคาขวดละ 70 บาท
จากประสบการณ์การค้าในอตดี บริ ษทั ประมาณว่า จะมีลูกค้านำฝาขวดมาแลก จำนวน
60% ของสิ นค้าที่ขาย ในช่วงเดือนพฤศจิการยน ถึงธันวาคม 25x1 มีผนำ ู ้ ฝาขวดมาแลก
ของสมนาคุณไปแล้ว 2,500 ขวด โดยบริ ษทั จัดเตรี ยมของสมนาคุณไว้ 6,500 ขวดและ
ราคาทุนในการจัดเตรี ยมตัวอย่างน้ำยาปรับผ้านุ่ม ราคาขวดละ 4 บาท
รายการบัญชีที่เกี่ยวข้อง มีดงั นี้
เดบิต ของสมนาคุณ 26,000
เครดิต เงินสด 26,000
บันทึกรายการจ่ายค่าจัดเตรี ยมของสมนาคุณจำนวน 6,500 ขวด ขวดละ 4 บาท เป็ นเงิน
26,000 บาท
เดบิต เงินสด 2,100,000
เครดิต ขาย 2,100,000
เมื่อลูกค้ามาแลกของสมนาคุณระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 25x1
เดบิต ค่าใช้จ่ายสมนาคุณ 10,000
เครดิต ของสมนาคุณ 10,000
ลูกค้านำฝาขวดมาแลกของสมนาคุณ 2,500 ขวด ขวดละ 4 บาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม
บันทึก ประมาณการหนี้ สินสมนาคุณ
ณ วันที่ 31 ธันวาคม – บันทึก ประมาณการ หนี้ สินสมนาคุณ
เดบิต ค่าใช้จ่ายสมนาคุณ 14,000
เครดิต ประมาณการหนี้ สินสมนาคุณ 14,000
บันทึกปรับปรุ งหนี้ สินสมนาคุณ
การคำนวณประมาณการหนี้สินสมนาคุณ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25x1
จำนวนน้ำยาซักผ้าที่จำหน่ายในปี 25x1 30,000 ขวด
ประมาณว่าจะมีลูกค้านำมาแลก 60% 18,000 ฝา
ในปี 25x1 จำนวนฝาที่นำมาแลก 7,500 ฝา
จำนวนที่คาดว่าจะนำมาแลกในปี 25x2 10,500 ฝา
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25x1 ประมาณการหนี้สินสมนาคุณเท่ากับ
( 10,500/3)×4 = 14,000 บาท
จากการบันทึกบัญชีขา้ งต้น ทำให้กิจการแสดงค่าใช้จ่ายของสมนาคุณสำหรับปี
25x1 รวม 24,000 บาท (10,000 ÷ 14,000 บาท) และแสดงประมาณการหนี้ สินสมนาคุณ
จำนวน 14,000 บาท เป็ นหนี้สินหมุนเวียน
ประมาณการหนีส้ ิ นการรับประกันสิ นค้ า
การรับประกันสิ นค้าเป็ นสัญญาที่ผขู ้ ายให้ไว้แก่ผซู ้ ้ื อสิ นค้าโดยอาจรับรอง
จำนวนของสิ นค้าคุณภาพ เพื่อเป็ นการส่ งเสริ มการจำหน่ายสิ นค้านั้น ตัวอย่างเช่นบริ ษทั
ผูผ้ ลิตรถยนต์ อาจรับประกันว่าจะเป็ นผูร้ ับผิดชอบ ค่าแรงในการตรวจเช็คเครื่ องยนต์แก่
รถยนต์ที่ผลิตโดยบริ ษทั เป็ นระยะเวลา 3 ปี หรื อ50,000 กิโลเมตร ค่าบำรุ งรักษาหรื อค่า
อะไหล่วสั ดุที่จำเป็ นต้องเปลี่ยนด้วยก็ได้ หลักเกณฑ์การบัญชี เกี่ยวกับการรับประกัน
สิ นค้ามีสองหลักเกณฑ์ คือ เกณฑ์เงินสด (Cash Basis) และ เกณฑ์คงค้าง (Accrual Basis
) รายละเอียดทั้งสองวิธีมีดงั นี้
เกณฑ์เงินสด (Cash Basis)
กิจการผูข้ ายจะบันทึกค่าใช้จ่ายในการรับประกันสิ นค้า (Warranty Expense)
ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ผขู ้ ายต้องปฏิบตั ิตามสัญญารับประกันสิ นค้า ซึ่งอาจแตกต่าง
จากรอบระยะเวลาบัญชีที่ทำการขายสิ นค้านั้นออกไป วิธีน้ ีใช้ในการคำนวณกำไรทาง
ภาษีอากร หรื อเมื่อกิจการไม่สามารถประมาณการค่าใช้จ่ายในการรับประกันสิ นค้าที่
อาจเกิดขึ้นได้อย่างน่าเชื่อถือ
เกณฑ์คงค้าง (Accrual Basis)
กิจการผูข้ ายควรใช้วธิ ีเกณฑ์คงค้างในการบันทึกประมาณการหนี้ สินการรับประกัน
สิ นค้าที่ขาย หากสามารถคำนวณต้นทุน/ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้อย่างน่าเชื่อถือและสมเหตุสม
ผล ตามวิธีน้ ีค่าใช้จ่ายในการรับประกันสิ นค้าจะแสดงเป็ นส่ วนหนึ่งของ ค่าใช้จ่ายในการ
ดำเนินงานในรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกันที่ขายสิ นค้านั้น
วิธีการบันทึกบัญชีประการหนี้ สินการรับประกันสิ นค้าตามหลักเกณฑ์คงค้างมี 2 วิธีดงั นี้
- วิธีค่าใช้จ่ายการรับประกันสิ นค้า (Expense Warranty Approach)
- วิธีรายได้จากการรับประกันสิ นค้า (Sale Warranty Approach)
1. วิธีค่าใช้จ่ายการรับประกันสิ นค้า (Expense Warranty Approach)
ตามวิธีน้ ีกิจการต้องทำการประมาณการค่าใช้จ่ายในการรับประกันสิ นค้าที่อาจเกิดขึ้น
โดยอาจใช้ประสบการณ์ในอดีตในการขายสิ นค้านั้น หรื อประสบการณ์จากการขายสิ นค้าที่
ใกล้เคียงกัน วิธีน้ ีกิจการจะบันทึกค่าใช้จ่ายในการรับประกันสิ นค้าในปี เดียวกันที่กิจการขาย
สิ นค้านั้นและบันทึกประมาณการหนี้ สินรับประกันสิ นค้าเป็ นหนี้สินในงบดุล
ตัวอย่ าง
บริ ษทั ธนกิจ จำกัด เริ่ มผลิตเครื่ องจักรประเภท ก. (ชนิดประหยัดพลังงาน)วันที่ 13
มีนาคม 25x1 บริ ษทั จำหน่ายเครื่ องจักรได้ 100 เครื่ อง ในราคาเครื่ องละ 30,000 บาท บริ ษทั ทำกา
ประมาณการจากประสบการณ์ในการขายเครื่ องจักรชนิดใกล้เคียงกันพบว่าค่าใช้จ่ายในการรับ
ประกันสิ นค้าจะประมาณ 600 บาท ต่อเครื่ อง ในระหว่างปี 25x1 บริ ษทั ธนกิจ จำกัด มีค่าใช้จ่าย
ในการรับประกันสิ นค้าที่เกิดขึ้นแล้ว จำนวน 50,000 บาท และประมาณการหนี้ สินในการรับ
ประกันสิ นค้าที่จะเกิดขึ้นในปี 25x2 จำนวน 55.000 บาท
การบันทึกบัญชีรายการที่เกี่ยวข้องมีดงั นี้
13 มีนาคม 25x1
เดบิต เงินสดหรื อลูกหนี้ การค้า 3,000,000
เครดิต ขาย 3,000,000
บันทึกการขายเครื่ องจักรในระหว่างปี 25x1
เดบิต ค่าใช้จ่ายการรับประกันสิ นค้า 5,000
เครดิต เงินสด อะไหล่ ค่าแรงค้างจ่าย 5,000
บันทึกค่าใช้จ่ายการรับประกันสิ นค้าที่เกิดขึ้นแล้วในระหว่างปี 25x1
31 ธ.ค. 25x1
เดบิต ค่าใช้จ่ายในการรับประกันสิ นค้า 55,000
เครดิต ประมาณการหนี้ การรับประกันสิ นค้า 55,000
บันทึก(ปรับปรุ ง)ประมาณการหนี้สินการรับประกันสิ นค้า ณ วันที่ 31 ธ.ค. 25x1
จากการบันทึกบัญชีขา้ งต้นจะเห็นว่าค่าใช้จ่ายในการรับประกันสิ นค้าที่แสดงในปี
25x1 รวมเป็ นจำนวน 60,000 บาท (5,000 + 55,000 ) โดยเป็ นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริ ง 5,000
บาท และเป็ นค่าใช้จ่ายจากการประมาณการหนี้ สินการรับประกันสิ นค้าจำนวน 55,000 บาท
ซึ่งแสดงเป็ นหนี้ สินหมุนเวียนในปี 25x1 ในปี 25x2 เมื่อรายการรับประกันสิ นค้าเกิดขึ้นจริ ง
กิจการจะบันทึกลดประมาณการหนี้ สินจากการรับประกันสิ นค้าดังกล่าว ดังนี้
1 ม.ค. 25x2
เดบิต ประมาณการหนี้ สินการรับประกันสิ นค้า 55,000
เครดิต เงินสด อะไหล่ ค่าแรงค้างจ่าย 55,000
บันทึกค่าใช้จ่ายการรับประกันสิ นค้าที่เกิดขึ้นแล้วในระหว่างปี 25x1
2. วิธีรายได้จากการรับประกันสิ นค้า (Sale Warranty Approach)
กิจการผุข้ ายสิ นค้าอาจเสนอขายประกันสิ นค้าซึ่งเป็ นสัญญาที่ขยายการรับ
ประกันออกไปจากที่มีอยูเ่ ดิมแล้ว ในกรณี น้ ีกิจการควรใช้วธิ ีรายได้การรับประกัน
สิ นค้า (Sales Warranty Approach) ซึ่งจะแยกรายได้จากการรับประกันสิ นค้าเพิ่มเติม
ออกจากรายได้จากการขายสิ นค้านั้น โดยกิจการต้องบันทึกเงินที่ได้จากการขายประกัน
เพิ่มเติมเป็ นรายได้รับล่วงหน้าจากการรับประกันสิ นค้า (Uneamed Warranty Revenue)
ซึ่งเป็ นหนี้สินหมุนเวียนและบันทึกรับรู้รายการดังกล่าวเป็ นรายได้ตลอดอายุของสัญญา
ประกันโดยวิธีเส้นตรงเป็ นตรงเป็ นต้น
ตัวอย่ าง
บริ ษทั รักชนก จำกัด จำหน่ายอุปกรณ์เครื่ องใช้ไฟฟ้ าประเภทต่างๆ เมื่อต้นปี
25x1 ที่ผา่ นมา บริ ษทั เริ่ มจำหน่าย สเตอริ โอ เครื่ องเสี ยง ประเภทใหม่ ในเดือนมกราคม
บริ ษทั มียอดขาย 900,000 บาท ในการจำหน่ายเครื่ องเสี ยงประเภทนี้ บริ ษทั ได้จะเสนอขาย
สัญญารับประกันแยกต่างหากให้แก่ลูกซึ่งในระหว่างปี 25x1 มีผซู ้ ้ื อประกันเพิ่มเติม เป็ น
มูลค่า 4,000 บาท โดยประกันนี้จะขยายการรับประกันออกไป 2 ปี
รายการบันทึกบัญชีเกี่ยวข้องมีดงั นี้
1 ม.ค. 25x1
เดบิต เงินสดหรื อลูกหนี้ การค้า 904,000
เครดิต ขาย 900,000
รายได้ล่วงหน้าการรับประกันสิ นค้า 4,000
บันทึกบัญชีจำหน่ายอุปกรณ์
31 ธ.ค. 25x1
เดบิต รายได้รับล่วงหน้าการรับประกันสิ นค้า 2,000
เครดิต รายได้การรับประกันสิ นค้า 2,000
บันทึกรายการกิจการปรับปรุ งยอดหนี้ สินรายได้รับล่วงหน้าการรับประกันสิ นค้าเป็ น
2,000 บาท รับรู้รายได้การรับประกันสิ นค้า จำนวน 2,000 บาท
บทที2่
หนีส้ ิ นระยะยาว
้ น
หนีส ิ ระยะยาว (Long-Term Liabilities)
หนีส้ น ิ ระยะยาว หมายถึง หนีส ิ ทีม
้ น ่ ี
กำหนดการชำระคืนนานกว่าหนึง่ ปี นับจากวันทีใ่ น
งบดุลหรือยาวนานกว่ารอบระยะเวลาดำเนินงาน
ปกติ แล ้วแต่ระยะเวลาใดจะนานกว่ากัน
หนีส ้ น ิ ระยะยาวคลอบคลุมถึง ภาระผูกพัน
(หนีส
้ นิ ) อืน่ ๆทีไ่ ม่ใชห่ นีส ิ หมุนเวียนตาม
้ น
มาตรฐานการบัญชฉ ี บับที่ 35 เรือ
่ งการนำเสนองบ
การเงินหนีส ้ น ิ ระยะยาวถูกจัดไว ้ในกลุม ่ ของหนี้
ิ ไม่หมุนเวียน
สน
ประเภทของหนีส ิ ระยะยาว
้ น
หนีส้ นิ ระยะยาวมีหลายประเภท ตัวอย่างเชน ่
•เงินกู ้ยืมระยะยาว (Long – term Loans) จากธนาคาร บริษัทในเครือ
เป็ นต ้น
•หนีส ิ สญ
้ น ั ญาเชา่ การเงิน (Finance Lease)
•หุ ้นกู ้ประเภทต่างๆเชน ่
• หุ ้นกู ้ชนิดระบุอต ั ราดอกเบีย้ (Coupon Bonds)
• หุ ้นกู ้ชนิดไม่ระบุดอกเย (Zero-Coupon Bonds)
• หุ ้นกู ้ชนิดไถ่คน ื เป็ นงวด (Serial Bonds)
• หุ ้นกู ้แปลงสภาพ (Convertible Bonds)
• หุ ้นกู ้ควบใบสำคัญแสดงสท ิ ธิซอ ื้ หุ ้น (Bonds with Detachable Warrants)
หุน้ กู ้ (Bonds Payable)
หุ ้นกู ้ คอ
ื ตราสารการเงินชนิดหนึง่ ประเภทตราสารหนีห ้ รือ
สญั ญากู ้เงินทีก ้
่ จิ การผู ้ออกจำหน่าย (ผู ้กู ้) ใชระดมเงิ นทุนให ้
กิจการ หุ ้นกู ้จะแบ่งเป็ นหน่วยย่อยๆ ทีม ่ มี ล ู ค่าหน่วยละเท่าๆกัน
เรียกว่า ราคาตามมูลค่า (Par Value) หุ ้นกู ้ต ้องมีระบุเวลาทีผ ่ ู ้กู ้จะใช ้
เงินคืน (Maturity Date) และหุ ้นกู ้อาจระบุอต ั ราดอกเบีย ้ (Stated Coupon Rate
) หรือไม่ก็ได ้
การออกจำหน่ายหุน ้ กู ้ (ในงวดดอกเบีย ้ )
ในวันทีก ่ จิ การออกจำหน่ายหุ ้นกู ้นัน ้ อัตราดอกเบีย
้ ทีก ่ จิ การ
ระบุในหุ ้นกู ้ (Stated Interest Rate) อาจเท่ากันหรือแตกต่างจากอัตรา
ดอกเบีย ้ ในท ้องตลาด (Market Interest Rate) หรือทีเ่ รียกว่าอัตรา
ดอกเบีย ้ ทีแ ่ ท ้จริง (Effective Interest Rate) ก็ได ้
•กรณีทอ ี่ ต ั ราดอกเบีย ้ ทีร่ ะบุในหุ ้นกู ้เท่ากับอัตราดอกเบีย ้ ทีแ ่ ท ้จริง
กิจการสามารถออกจำหน่ายหุ ้นกู ้ในราคาสูงกว่ามูลค่า (Bonds Issued
at Par)
•กรณีทอ ี่ ต ั ราดอกเบีย ้ ทีร่ ะบุในหุ ้นกู ้สูงกว่าอัตราดอกเบีย ้ ทีแ ่ ท ้จริง
กิจการสามารถออกจำหน่ายหุ ้นกู ้ในราคาสูงกว่ามูลค่า (Bonds Issued
at Premium)
•กรณีทอ ี่ ต ั ราดอกเบีย ้ ทีร่ ะบุในหุ ้นกู ้ต่ำกว่าอัตราดอกเบีย ้ ทีแ ่ ท ้จริง
กิจการสามารถออกจำหน่ายหุ ้นกู ้ในราคาต่ำกว่ามูลค่า (Bonds Issued
at Discount)
การออกจำหน่ ายหุ้นกู้ในราคาตามมูลค่ า (Bonds Issued at Par)
ตัวอย่าง
วันที่ 1 มกราคม 25x1 บริ ษทั สามารถ จำกัด จดทะเบียนและออกจำหน่ายหุน้ กู้ 500 หุน้
ราคาตามมูลค่าหุน้ ละ 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 8% จ่ายดอกเบี้ยทุกวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี
หุน้ กูม้ ีอายุ 5 ปี บริ ษทั สามารถ ปิ ดบัญชีตามปี ปฏิทิน
อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด ณ วันที่ 1 มกราคม 25x1 เท่ากัน 8%
การคำนวณมูลค่าหุน้ กู้ ณ วันที่ 1 มกราคม 25x1
ดอกเบี้ยจ่ายที่เป็ นเงินสด 5 งวด ๆละ 500,000 × 8% = 40,000 บาท
มูลค่าปัจจุบนั ของดอกเบี้ยที่ตอ้ งจ่ายเป็ นเงินสด
40,000 × (PVIFA,5,8%) = 40,000 × 3.99271 159,708.40 บาท
บวกมูลค่าปัจจุบนั ของมูลค่าหุน้ กู้ เมื่อครบกำหนด
500,000 × (PVIF,5,8%) = 500,000 × 0.68058 = 340,290 บาท
รวมมูลค่าปัจจุบนั = 499,998.40 บาท
จะเห็นว่ามูลค่าปั จจุบน ั ของหุ ้นกู ้มีมลู ค่าโดยประมาณ
เท่ากับราคาตามมูลค่าของหุ ้นกู ้ 500,000 บาท (ปั ดเศษ) เมือ ่ อัตรา
ดอกเบีย ้ ทีร่ ะบุในหุ ้นกู ้เท่ากับอัตราดอกเบีย ้ ทีแ
่ ท ้จริง ณ วันทีอ่ อก
หุ ้นกู ้นัน

การบันทึกบัญช ี
1 ม.ค. 25x1
เดบิต เงินสด 500,000
เครดิต หุ ้นกู ้ 500,000
บันทึกบัญชก ี ารออกจำหน่ายหุ ้นกู ้ในราคามูลค่า
ตัวอย่ าง
บริ ษทั สามารถ จำกัด จดทะเบียนและออกจำหน่ายหุน้ กู้ มูลค่า 500,000 บาท อัตรา
ดอกเบี้ย 8% หุน้ กูม้ ีอายุ 5 ปี จ่ายดอกเบี้ยทุกวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี
อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด ณ วันที่ 1 มกราคม 25x1 เท่ากับ 6%
การคำนวณมูลค่าหุน้ กู้ ณ วันที่ 1 มกราคม 25x1
ดอกเบี้ยจ่ายที่เป็ นเงินสด 5 งวดๆละ 500,000×8% = 40,000 บาท
มูลค่าปัจจุบนั ของดอกเบี้ยที่ตอ้ งจ่ายเป็ นเงินสด
40,000 × (PVIFA,5,6%) = 40,000 × 4.21236 = 168,494.40 บาท
บวกมูลค่าปัจจุบนั ของมูลค่าหุน้ กู้ เมื่อครบกำหนด
500,000 × ( PVIF,5,6%) = 500,000×0.74726 = 373,630 บาท
รวมมูลค่าปัจจุบนั = 542,124.40 บาท
ในกรณีทอ ี่ ตั ราดอกเยทีร่ ะบุในหุ ้นกู ้ (8%) สูงกว่าอัตราดอกเบีย ้ ใน
ท ้องตลาด (หรืออัตราดอกเบีย ้ ทีแ
่ ท ้จริง) (6%) ณ วันทีอ่ อกหุ ้นกู ้
มูลค่าปั จจุบน ั ทีไ่ ด ้ (542,124.4) สูงกว่าราคาตามมูลค่า (Par Value -500,000)
สว่ นดังกล่าว เรียกว่า สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้ (เท่ากับ 42,124.4 บาท)
การบันทึกบัญช ี ณ วันออกจำหน่ายหุ ้นกู ้
1 ม.ค. 25x1
เดบิต เงินสด 542,124.40
เครดิต หุ ้นกู ้ 500,000
สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้
42,124.40
บันทึกบัญชก ี ารออกจำหน่ายหุ ้นกู ้ในราคาสูงกว่ามูลค่าหุ ้น
กิจการต ้องตัดจำหน่ายสว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้ดังกล่าวทุกงวด
ดอกเบีย ้ ซงึ่ จะกล่าวในรายละเอียดต่อไป
ตัวอย่ าง
สมมติวา่ ข้อมูลทุกอย่างคงเดิมเหมือนในตัวอย่างที่แล้ว ยกเว้นว่า วันที่1 มกราคม 25x1
วันที่กิจการออกจำหน่ายหุนกู้ อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดหรื ออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริ งเท่ากับ 10%
การคำนวณมูลค่าหุน้ กู้ ณ วันที่ 1 มกราคม 25x1
ดอกเบี้ยจ่ายที่เป็ นเงินสด 5 งวดๆ ละ 500,000 × 8% = 40,000 บาท
มูลค่าปัจจุบนั ของดอกเบี้ยที่ตอ้ งจ่ายเป็ นเงินสด
40,000 × (PVIFA,5,10%) = 40,000 × 3.79079 = 151,634.60 บาท
บวกมูลค่าปัจจุบนั ของมูลค่าหุน้ กู้ เมื่อครบกำหนด
500,000 ×(PVIF,5,10%) = 500,000 × 0.62092 = 310,460 บาท
รวมมูลค่าปัจจุบนั 462,091.60 บาท
ในกรณีทอ ี่ ต
ั ราดอกเบีย ้ ทีร่ ะบุในหุ ้นกู ้ (8%) ต่ำกว่า อัตราดอกเบีย ้
ในท ้องตลาด (หรืออัตราดอกเบีย ้ ทีแ่ ท ้จริง) (6%) ณ วันทีอ ่ อกหุ ้นกู ้
มูลค่าปั จจุบน ั ทีไ่ ด ้ (462,091.6 บาท ) ต่ำกว่าราคาตามมูลค่า (Par Value
500,000) สว่ นต่างดังกล่าวเรียกว่า สว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้ (เท่ากับ 50
0,000 – 462,091.6 = 37,908.4 บาท)
การบันทึกบัญช ี ณ วันออกจำหน่ายหุ ้นกู ้
1 ม.ค. 25x1
เดบิต เงินสด 462,097.60
สว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้
37,908.40
เครดิต หุ ้นกู ้ 500,000
บันทึกบัญชก ี ารออกจำหน่ายหุ ้นกู ้ในราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ ้น
วิธก ี ารต ัดบ ัญชส ี ว่ นเกินหรือสว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุน ้ กู ้ (Bonds
Amortization)
กรณีทเี่ กิดสว่ นเกิน หรือสว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้ กจิ การต ้อง
ตัดบัญชส ี ว่ นเกินหรือสว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้นัน ้ ๆ ทุกๆ งวด
ดอกเบีย ้ ตลอดอายุของหุ ้นกู ้ วธิ ก ี ารตัดบัญชด ี งั กล่าว มี 2 วิธ ี คือ
•วิธอ ี ตั ราดอกเบีย ้ ทีแ ่ ท ้จริง (Effective Interest Method)
•วิธเี สนตรง้ (Straight-Line Method)
ปกติแล ้วกิจการควรใชวิ้ ธอ ี ต
ั ราดอกเบีย ้ ทีแ่ ท ้จริงในการตัด
บัญชส ี ว่ นเกินหรือสว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้ กจิ การสามารถใชวิ้ ธ ี

เสนตรงได ้ก็ตอ
่ เมือ่ จำนวนการตัดบัญชไี ด ้จากสองวิธน ี ัน
้ มีคา่ ไม่
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
วิธอี ต ั ราดอกเบีย ้ ทีแ่ ท ้จริง (Effective Interest method)
จำนวนส่ วนเกินหรื อส่ วนต่ำกว่ามูลค่าหุน้ กูต้ ดั จำหน่าย
= ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่แท้จริ ง (ตามอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริ ง) – ดอกเบี้ยที่จ่ายเป็ นเงินสด
= (ราคาตามบัญชีของหุน้ กู้ ณ วันต้นงวด × อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริ ง)
(ราคาตามมูลค่าหุน้ กู้ × อัตราดอกเบี้ยที่ระบุในใบหุน้ )
= (Carrying Value of Bonds at Beginning of Periods × Effective Interest Rate) (Face
Amount of Bonds × Stated Interest Rate)
อนึ่งค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย (Interest Expense) หมายถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่คำนวณจากราคา
ตามมูลค่า คูณด้วย อัตราดอกเบี้ยที่ระบุในใบหุน้
ตัวอย่างของการตัดสว่ นเกินหรือสว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้มีดงั นี้
ในวันที่ 1 มกราคม 25x1 บริษัท สามารถ จำกัด ออกจำหน่าย
หุ ้นกู ้มูลค่า 500,000 บาท อัตราดอกเบีย ้ 8% ต่อปี หุ ้นกู ้มีอายุ 5 ปี จ่าย
ดอกเบีย ้ ทุกวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ซงึ่ ตรงกับวันปิ ดบัญชข ี อง
กิจการ ณ วันทีอ ่ อกจำหน่ายหุ ้นกู ้ อต ั ราดอกเบีย ้ ในท ้องตลาด
เท่ากับ 6% จากข ้องมูลทีคำ ่ นวณได ้ในตัวอย่าง 2.2 มูลค่าปั จจุบน ั
ของหุ ้นกู ้ (ซงึ่ เท่ากับมูลค่าปั จจุบน ั ของกระแสเงินสดทีก ่ จิ การ
ต ้องจ่ายอกเบีย ้ และไถ่คน ื หุ ้นกู ้เมือ
่ ครบกำหนด) เท่ากับ 542,124.40
บาท เกิดสว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้จำนวน 42,124.40 บาท ซงึ่ ต ้องตัดบัญช ี
ให ้หมดไปทุกงวดของการจ่ายดอกเบีย ้ ตลอดอายุหุ ้นกู ้ 5 ปี
วันที่ เงินส ดอกเบี้ ส่ วนเกินมูลค่ าหุ้น ส่ วนเกินมูลค่ าหุ้นกู้คง ราคาตามบัญชีของหุ้นกู้
ด ยจ่าย กู้ตัดจำหน่ าย เหลือ
จ่าย

1 ม.ค. x1 42,124.40 542124.40

31 ธ.ค. x1 40,000 32,527.46 7472.54 34,651.86 534651.86

31 ธ.ค. x2 40,000 32,079.12 7920.88 26,730.98 526730.98

31 ธ.ค. x3 40,000 31,603.86 8396.14 18,334.84 518334.84

31 ธ.ค. x4 40,000 31,100.09 8899.91 9434.93 509,434.93

31 ธ.ค. x5 40,000 30,566.10 9434.93 500,000.00

รวม 200,000 157,876.63 42124.40


หมายเหตุ (1) เงินสดจ่าย = ราคามูลค่า × อัตราดอกเบี้ยที่ระบุในหุน้ กู้
= 500,000 × 8%
= 40,000
(2) ดอกเบี้ยจ่าย = ราคาตามบัญชีของหุน้ กู้ × อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริ ง
= 542,124.40 × 6 %
= 32,527.46
(3) สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้ตัดจำหน่าย
= เงินสดจ่ายค่าดอกเบีย ้ –
ดอกเบีย ้ จ่าย
= 40,000 – 32,527.46 บาท
= 7,472.54 บาท
(4) สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้คงเหลือ
= สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้คงเหลือต ้น
งวด – สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้ตัด
จำหน่าย
= 42,124.40 – 7.472.54 บาท
= 34,651.86 บาท
(5) ราคาตามบัญชข ี องหุ ้นกู ้คงเหลือ
= (ราคาตามบัญชข ี องหุ ้นกู ้ต ้นงวด –
สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้ตัดจำหน่าย)
= 542,124.40 – 7472.54 บาท
= 534,651.86 บาท
หรือ = ราคาตามมูลค่าหุ ้นกู ้ + สว่ นเกินมูลค่า
หุ ้นกู ้คงเหลือ
= 500,000 + 34,651.86 บาท
= 534,651.86 บาท
การบันทึกบัญช ี
วันทีอ
่ อกจำหน่ายหุ ้นกู ้
เดบิต เงินสด 542,124.40
เครดิต หุ ้นกู ้ 500,000
สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้
42,124.40
บันทึกการออกจำหน่ายหุ ้นกู ้
เดบิต ดอกเบีย ้ จ่าย
32,527.46
สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้
7,472.54
เครดิต เงินสด
บันทึกการจ่ายค่าดอกเบีย ้ ออกและตัดสว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้
หมายเหตุ : รายการดังกล่าวข ้างต ้นอาจแยกแสดงได ้ดังนี้
เดบิต ดอกเบีย ้ 40,000
เครดิต เงินสด
40,000
บันทึกการจ่ายดอกเบีย ้
เดบิต สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้
7,472.54
เครดิต ดอกเบีย ้ จ่าย
7,472.54
บันทึกตัดบัญชส ี ว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้
จากผลการบันทึกบัญชด ี งั กล่าวข ้างต ้นทำให ้ยอดคงเหลือ
ของบัญชด ี อกเบีย ้ จ่ายในปี 25x1 เท่ากับ 32,527.46 บาท (40,000 – 7,472.54
) แสดงในงบกำไรขาดทุนของกิจการ สำหรับปี 25x1 และยอดคง
เหลือของบัญชส ี ว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้ ณ วันสน
ิ้ งวด 41 ธันวาคม 25x1
เท่ากับ 34,651.86 บาท
การนำเสนอรายการในงบการเงิน
งบดุล(บางสว่ น)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25x1
หนีส ิ ระยะยาว (หนีส
้ น ิ ไม่หมุนเวียน)
้ น
หุ ้นกู ้ราคาตามมูลค่า
500,000.00
บวก สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้
34651.86
ราคาตามบัญชส ี ท
ุ ธิของหุ ้นกู ้
534651.86
บริษัท สามารถ จำกัด
งบกำไรขาดทุน (บางสว่ น)
สำหรับปี สน ิ้ สุดวันที่ 31 ธันวาคม 25x1
ค่าใชจ่้ าย
ดอกเบีย ้ จ่าย 32,527.46
ต ัวอย่าง
บริษัท สามารถ จำกัด ออกจำหน่ายหุ ้นกู ้มูลค่า 500,000 บาท
อัตราดอกเบีย ้ 8% ต่อปี หุ ้นกู ้มีอายุ 5 ปี จ่ายดอกเบีย ้ ทุกวันที่ 31
ธันวาคมของทุกปี ณ วันทีอ ่ อกจำหน่ายหุ ้นกู ้ 1 มกราคม 25x1 อัตรา
ดอกเบีย้ ในท ้องตลาดเท่ากับ 10%
จากข ้อมูลในตัวอย่าง มูลค่าปั จจุบน ั ของหุ ้นกู ้ (ซงึ่ เท่ากับ
มูลค่าปั จจุบน ั ของกระแส เงินสดทีก ่ จิ การต ้องจ่ายดอกเบีย ้ และ
ไถ่คน ่ ครอบกำหนด) เท่ากับ 462,091.60 บาท ทำให ้เกิดสว่ น
ื หุ ้นกู ้เมือ
ต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นจำนวน 37,908.40 บาท ซงึ่ กิจการต ้องตัดบัญชใี ห ้
หมดไปทุกงวดการจ่ายดอกเบีย ้ ตลอดอายุหุ ้นกู ้
การคำนวณการตัดสว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้ตามวิธอ ี ต ั รา
ดอกเบีย ้ ทีแ
่ ท ้จริง แสดงในตารางต่อไปนี้
วันที่ เงินสดจ่ าย ดอกเบีย้ จ่ าย ส่ วนต่ำกว่ ามูลค่ า ส่ วนต่ำกว่ ามูลค่ า ราคาตามบัญชีของ
หุ้นกู้ตัดจำหน่ าย หุ้นกู้คงเหลือ หุ้นกู้

1 ม.ค. x1 37,908.40 462,091.60

31 ธ.ค. x1 40,000 46,209.16 6,209.16 31,699.24 468,300.76

31 ธ.ค. x2 40,000 46,830.08 6,830.18 24,869.16 475,130.84

31 ธ.ค. x3 40,000 47,513.08 7,513.08 17,356.08 482,643.92

31 ธ.ค. x4 40,000 48,264.39 8,564.39 9,091.69 490,908.31

31 ธ.ค. x5 40,000 49,090.83 9,691.69 500,000.00

รวม 200,000 237,907.54 37,908.40


การบันทึกบัญช ี
วันออกจำหน่ายหุ ้นกู ้
เดบิต เงินสด 462,091.60
สว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้
37,908.40
เครดิต หุ ้นกู ้
500,000
บันทึกการออกจำหน่ายหุ ้นกู ้
วันจ่ายชำระดอกเบีย ี ว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้
้ และตัดบัญชส
เดบิต ดอกเบีย ้ จ่าย 46209.16
เครดิต เงินสด
40,000
สว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้
6209.16
หมายเหตุ รายการดังกล่าวข ้างต ้นอาจแยกแสดงได ้ดังนี้
เดบิต ดอกเบีย ้ จ่าย 40,000
เครดิต เงินสด 40,000
บันทึกการจ่ายดอกเบีย ้
เดบิต ดอกเบีย ้ จ่าย 6290.16
เครดิต สว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้
6209.16
บันทึกตัดบัญชต ี ่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25x1 บริษัท สามารถ จำกัด มียอดรวม
ของบัญชด ี อกเบีย ้ จ่ายจากหุ ้นกู ้เท่ากับ 46,209.16 บาท ประกอบด ้วย
ดอกเบีย ้ ทีจ
่ า่ ยเป็ นเงินสด 40,000 บาท และการตัดบัญชส ี ว่ นต่ำกว่า
มูลค่าหุ ้นกู ้ 6,209.16 บาท ยอดรวมดังกล่าวแสดงเป็ นค่าใชจ่้ ายใน
งบกำไรขาดทุนสำหรับงวดสว่ นราคาตามบัญชข ี องหุ ้นกู ้ ณ วัน
สนิ้ งวดเท่ากับ 468,300.76 บาท แสดงในสว่ นของหนีส ิ ระยะยาวใน
้ น
งบดุล
การนำเสนอรายงานในงบการเงิน
บริษัท สามารถ จำกัด
งบดุล (บางสว่ น)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25x1
หนีส้ นิ ระยะยาว (หนีส ิ ไม่หมุนเวียน)
้ น
หุ ้นกู ้ราคาตามมูลค่า
500,000.00
หัก สว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้
31,699.34
ราคาตามบัญชส ี ท
ุ ธิของหุ ้นกู ้
468,300.76
บริษัท สามารถ จำกัด
งบกำไรขาดทุน (บางสว่ น)
สำหรับวันสน ิ้ สุด วันที่ 31 ธันวาคม 25x1
ค่าใชจ่้ าย
ดอกเบีย ้ จ่าย (40,000 + 6,209.16)

วิธเี สนตรง (Straight-Line Method ) หากใชวิ้ ธเี สนตรงในการตั
้ ด
จำหน่ายสว่ นเกินหรือสว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้จำนวนสว่ นเกินหรือ
สว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้ตัดจำหน่าย (บัญช)ี
= จำนวนสว่ นเกินหรือสว่ นตำกว่า
มูลค่าหุ ้น
จำนวนงวดดอกเบีย ้
ต ัวอย่าง
บริษัท สามารถ จำกัด ออกหุ ้นกู ้มูลค่า 500,000 บาท ขายใน
ราคา 462,091.60 บาท มีสว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้ จำนวน 37,908.40 บาท
หากบริษัทต ้องการตัดบัญชส ี ว่ นต่ำกว่ามูลค่าเสนตรง
้ เนือ ่ งจาก
หุ ้นกู ้นีจ
้ า่ ยดอกเบีย้ ปี ละครัง้ ทุกวันสน ิ้ ปี ตลอดอายุหุ ้นกู ้ 5 ปี
(เท่ากับ 5 งวดดอกเบีย ้ )
จำนวนสว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้ตัดจำหน่าย (บัญช)ี =
37,908.40/5
= 7,581.68 บาท
ต่องวด
วันที่ เงินสดจ่ าย ดอกเบีย้ จ่ าย ส่ วนต่ำกว่ ามูลค่ า ส่ วนต่ำกว่ ามูลค่ า ราคาตามบัญชีของ
หุ้นกู้ตัดจำหน่ าย หุ้นกู้คงเหลือ หุ้นกู้

1 ม.ค. x1 37,908.40 462,091.60

31 ธ.ค. x1 47,581.68 7,581.68 30,326.72 469,673.28


40,000
31 ธ.ค. x2 47,581.68 7,581.68 22,745.04 477,254.96
40,000
31 ธ.ค. x3 47,581.68 7,581.68 15,163.36 484,836.64
40,000
31 ธ.ค. x4 47,581.68 7,581.68 7,581.68 492,418.32
40,000
31 ธ.ค. x5 47,581.68 7,581.68 500,000.00
40,000
รวม 237,908.40 37,908.40
200,000

ข ้อดีของวิธเี สนตรงคื อง่ายในการปฏิบต ั ิ อย่างไรก็ตามมีข ้อ

แนะนำว่า วิธเี สนตรงควรใช ต่้ อเมือ
่ ให ้ผลไม่แตกต่างจากวิธ ี
ดอกเบีย ้ ทีแ
่ ท ้จริงอย่างมีนัยสำคัญเท่านัน ้
สำหรับวิธก ี ารบันทึกบัญชแ ี ละการนำเสนอรายการในงบการ
เงินนัน
้ ไม่แตกต่างจากวิธด ี อกเบีย ้ ทีแ
่ ท ้จริง
ค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้ (Bond Issuing Cost)
ค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้ หมายความถึงค่าใชจ่้ ายต่างๆ ที่
กิจการผู ้ออกหุ ้นกู ้จ่ายเพือ ่ ให ้การออกจำหน่ายหุ ้นกู ้สำเร็จลุลว่ ง
ไป เชน ่ ค่าพิมพ์ใบหุ ้น ค่าทีป ่ รึกษาทางการเงิน ค่าทีป ่ รึกษา
ทางการกฎหมาย เป็ นต ้น หลักการในการบันทึกค่าใชจ่้ ายในการ
ออกหุ ้นกู ้มี 2 หลักการ คือ
•บันทึกเป็ นสน ิ ทรัพย์อน ื่ ในงบดุลโดยแสดงเป็ นค่าใชจ่้ ายรอตัด
บัญช ี และตัดจำหน่ายเป็ นค่าใชจ่้ ายตลอดอายุของหุ ้นกู ้โดยมาก
จะใชวิ้ ธเี สนตรง
้ หรือ
•บันทึกเป็ นค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้ทัง้ จำนวน และลดจำนวน
เงินสดทีไ่ ด ้รับจากการจำหน่ายหุ ้นกู ้นัน ้ วิธนี ส
ี้ อดคล ้องกับ
ตัวอย่าง
บริษัท สามารถ จำกัด ออกจำหน่ายหุ ้นกู ้มูลค่า 500,000 บาท
ณ วันที่ 1 มกราคม 25x1 หุ ้นกู ้มีอายุ 5 ปี อัตราดอกเบีย
้ ตามทีร่ ะบุใน
ใบหุ ้น 8% บริษัทมีคา่ ใชจ่้ ายในการออกหุ ้นจำนวน 5,500 บาท
บริษัทสามารถบันทึกบัญชไี ด ้ ดงั นี้
บันทึกสน ิ ทรัพย์อน ื่ ในงบดุล
1 ม.ค. 25x1
เดบิต ค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้รอตัดบัญช ี
5,500
เครดิต เงินสด
5,500
บันทึกค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้เป็ นสน ิ ทรัพย์
31 ธ.ค. 25x1
เดบิต ค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้ 1,100
เครดิต ค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้รอตัดบัญช ี
1,100
้ ในปี 25x1 บริษัท สามารถจะแสดงค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้
ดังนัน
จำนวน 1,100 บาท ในงบกำไรขาดทุนและแสดงค่าใชจ่้ ายในการ
ออกหุ ้นกู ้รอตัดบัญชด ี ้วยยอดคงเหลือเท่ากับ 4,400 บาท เป็ น
สนิ ทรัพย์อน ื่ หรือสน ิ ทรัพย์ไม่มต ี วั ตนในงบดุล
บันทึกเป็ นค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้ทัง้ จำนวนและลดจำนวน
เงินสดทีไ่ ด ้รับจากการจำหน่ายหุ ้นกู ้นัน ้
ตัวอย่างเดิมข ้างต ้นหากอัตราดอกเบีย ้ ในท ้องตลาด
(อัตราดอกเบีย ้ ทีแ
่ ท ้จริง) ณ วันทีก ่ จิ การออกจำหน่ายหุ ้นกู ้
เท่ากับ 6% ดังนัน ้ มูลค่าปั จจุบน ั ของกระแสเงินสดทีก ่ จิ การต ้อง
จ่ายในอนาคตเท่ากับ 542,124.40 บาท (ตัวเลขจากการคำนวณ
ในตัวอย่าง) การบันทึกบัญชค ี า่ ใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้สามารถ
ทำได ้ดังนี้
เดบิต เงินสด 536,624.40
ค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้ 5,500
เครดิต หุ ้นกู ้ 500.000
สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้
42,124.40
บันทึกการออกหุ ้นกู ้และค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นกู ้
หากกิจการเลือกบันทึกด ้วยวิธดี งั กล่าวกิจการจะรายงาน
ค่าใชจ่้ ายในการออกหุ ้นจำนวน 5,500 บาท ทัง้ จำนวนในงบกำไร
ขาดทุน สำหรับปี 25x1
การออกหุ ้นกู ้ในระหว่างงวดดอกเบีย ้ (Bonds Issued Between Interest Dates)
ตัวอย่าง
บริ ษทั นิยมแอร์ จำกัด จดทะเบียนหุน้ กูม้ ูลค่า 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 1 เมษายน 25x1
อัตราดอกเบี้ยที่ระบุในหุน้ กูเ้ ท่ากับ 8% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกวันที่ 1 เมษายน และตุลาคมของทุก
ปี ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 25x1 บริ ษทั ออกจำหน่ายหุน้ กูใ้ นราคา 105 บาท (บวกดอกเบี้ยค้างจ่าย 3
เดือน นับจาก 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 25x1) หุน้ กูม้ ีอายุ 3 ปี
จำนวนเงินสดรับจากการจำหน่ายหุน้ กู้
ราคาจำหน่ายหุน้ กู้ (1,000,000 × 105/100) 1,050,000 บาท
ดอกเบี้ยค้างจ่าย ( 1,000,000 × 8/100 × 3/12) 20,000 บาท
รวมจำนวนเงินสดรับ 1,070,000 บาท
การบันทึกบัญช ี
วันออกจำหน่ายหุ ้นกู ้
เดบิต เงินสด 1,070,000
เครดิต หุ ้นกู ้ 1,000,000
สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้
50,000
ดอกเบีย
้ จ่าย
20,000
บันทึกการออกจำหน่ายหุ ้นกู ้บวกดอกเบีย
้ คงค ้าง
ณ วันออกจำหน่ายหุ ้นกู ้ บริษัท นิยมแอร์ บันทึกเงินสดรับรวม
1,070,000 บาท ประกอบด ้วย จำนวนเงินทีจ ่ า่ ยซอื้ หุ ้น 1,050,000 บาท
และดอกเบีย ้ ค ้างจ่าย จำนวน 20,000 บาท ซงึ่ กิจการสามารถเลือก
บันทึกบัญชใี นดอกเบีย ้ จ่ายหรือบัญชด ี อกเบีย ้ ค ้างจ่าย นอกจาก
้ ริษัทต ้องบันทึกสว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้ จำนวน 50,000 บาท ซงึ่
นีบ
กิจการต ้องตัดจำหน่ายตลอดอายุหุ ้นกู ้ (33 เดือน)
กรณีท ี่ 1 หากบันทึกเป็ นดอกเบีย ้ จ่าย ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 25x1
วันจ่ายดอกเบี้ย
เดบิต ดอกเบี้ยจ่าย 40,000
เครดิต เงินสด 40,000
บันทึกบัญชีการจ่ายดอกเบี้ยคำนวณได้ดว้ ย (1,000,000 × 0.08 × 6/12 )
กรณี ที่2 หากบันทึกเป็ นดอกเบี้ยค้างจ่าย ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 25x1
วันจ่ายดอกเบี้ย
เดบิต ดอกเบี้ยจ่าย 20,000
ดอกเบี้ยค้างจ่าย 20,000
เครดิต เงินสด 40,000
บันทึกบัญชีการจ่ายดอกเบี้ยจ่าย
นอกจากนี้ บริ ษทั ต้องบันทึกการตัดบัญชีส่วนเกินมูลค่าหุน้ กูโ้ ดย
30 ก.ย. 25x1
เดบิต ส่ วนเกินมูลค่าหุน้ กู้ 4,545
เครดิต ดอกเบี้ยจ่าย 4,545
บันทึกการตัดส่ วนเกินมูลค่าหุน้ กูโ้ ดยวิธีเส้นตรง 50,000 × 3/33 = 4,545
31 ธ.ค. 25x1
เดบิต ดอกเบี้ยจ่าย 20,000
เครดิต ดอกเบี้ยค้างจ่าย 20,000
ปรับปรุ งดอกเบี้ยจ่ายระหว่าง 1 ต.ค.-31 ก.ย. 1,000,000 × 8/100 × 3/12 = 20,000 บาท
เดบิต ส่ วนเกินมูลค่าหุน้ กู้ 4,545
เครดิต ดอกเบี้ยจ่าย 4,545
ปรับปรุ งส่ วนเกินมูลค่าหุน้ กู้ 50,000 × 3/33 = 4,545
การไถ่ถอนหุน ้ กูเ้ มือ
่ ครบกำหนด
เมือ
่ ครบกำหนดชำระราคาบัญชข ี องหุ ้นกู ้ (Carrying Amount) จะ
เท่ากับราคาตามมูลค่าของหุ ้น (Par Value) เนือ่ งจากมีการตัดบัญช ี
สว่ นเกินหรือสว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้จนหมดสน ิ้ แล ้ว เมือ ่ กิจการ
ทำการไถ่ถอนหุ ้นกู ้ กจิ การต ้องบันทึกลดยอดหนีส ิ (หุ ้นกู ้ทีค
้ น ่ รบ
กำหนดชำระ) และบันทึกการจ่ายชำระเงินเพือ ่ ไถ่ถอนหุ ้น
ต ัวอย่าง
บริษัท สามารถ จำกัด ออกจำหน่ายหุ ้นกู ้ มล ู ค่า 200,000 บาท
ณ วันที่ 1 มกราคม 25x1 หุ ้นกู ้มีอายุ 3 ปี อัตราดอกเบีย ้ ทีร่ ะบุ 6% จ่าย
ดอกเบีย ้ ทุกวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี บริษัทจ่ายดอกเบีย ้ ตาม
กำหนดตลอดระยะเวลา 3 ปี การบันทึกการไถ่ถอนหุ ้นกู ้เป็ นดังนี้
เดบิต หุ ้นกู ้ 200,000
เครดิต เงินสด
200,000
บันทึกการจ่ายเงินเพือ ่ ไถ่ถอนหุ ้นกู ้
หุน ้ กูแ
้ ปลงสภาพ
หมายถึงหุ ้นกู ้ทีใ่ ห ้สท ิ ธิผู ้ถือในการแปลงสภาพ (หรอแลก
เปลีย ่ น) เป็ นหุ ้นทุนของผู ้ออกตราสารได ้ในราคาทีร่ ะบุไว ้ (ราคา
แปลงสภาพ Conversion Price) ภายในระยะเวลาทีกำ ่ หนดก่อนหุ ้นกู ้นัน ้
หมดอายุ หรือ ณ วันทีกำ ่ หนดก็ได ้แล ้วแต่จะกำหนด เหตุผลที่
กิจการออกหุ ้นกู ้แปลงสภาพก็เพือ ่ สร ้างแรงจูงใจให ้แก่ผู ้ซอ ื้ ว่าจะ
สามารถเปลีย ่ นจากการถือตราสารหนีเ้ ป็ นตราสารทุนได ้เพือ ่ ให ้
สามารถขายหุ ้นกู ้ในราคาสูงขึน ้ ซงึ่ หมายถึงการระดมทุนได ้ใน
อัตราดอกเบีย ้ ทีต
่ ่ำลง
การวัดมูลค่าหุ ้นกู ้แปลงสภาพ
หุ ้นกู ้แปลงสภาพจัดเป็ นเครือ ่ งมือทางการเงินแบบผสม
ซงึ่ ประกอบด ้วยตราสารหนีพ ้ ร ้อมกับสท ิ ธิเลือกแปลงสภาพตาม
มาตรฐานการบัญชฉ ี บับที่ 48 เรือ
่ ง การแสดงรายการและการเปิ ด
เผยข ้อมูลสำหรับเครือ ่ งมือทางการเงินระบุให ้ผู ้ทีอ ่ อกเครือ ่ งมือ
ทางการเงินดังกล่าวแสดงองค์ประกอบเป็ นหนีส ิ และองค์
้ น
ประกอบทีเ่ ป็ นทุนแยกจากกันในงบดุลนับตัง้ แต่มก ี ารรับรู ้เริม ่ แรก
ต ัวอย่าง
วันที่ 1 มกราคม 25x1 บริษัท สามารถ จำกัด ออกจำหน่าย
หุ ้นกู ้แปลงสภาพ 400 หุ ้น มูลค่าหุ ้นละ 1,000 บาท มูลค่ารวมเท่ากับ
400,000 บาท ได ้เงินเท่ากับราคาตามมูลค่า หุ ้นกู ้แปลสภาพมีอายุ 4
ปี อัตราดอกเบีย ้ ทีร่ ะบุในหุ ้นกู ้ เท่ากับ 8% หุ ้นกู ้จ่ายดอกเบีย
้ ปี ละ 1
ครัง้ ทุวน ั ที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ผู ้ถือหุ ้นสามารถแปลงสภาพหุ ้น
กู ้ได ้ทุกเมือ
่ จนกว่าหุ ้นกู ้จะครบกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 25x4 หุ ้น
กู ้แปลงสภาพ 1 หุ ้น สามารถแปลงสภาพมาเป็ นหุ ้นสามัญได ้ 10
หุ ้น (ราคาหุ ้นละ 100 บาท) หุ ้นสามัญมีราคาตามมูลค่า หุ ้นละ 5
บาท อัตราดอกเบีย ้ ในท ้องตลาด ณ วันออกหุ ้นเท่ากับ 10%
ณ วันที่ 3 มกราคม 25x3 ราคาตลาดของหุน้ สามัญหุน้ ละ 120 บาท ผูถ้ ือหุน้ กูจ้ ึงนำหุน้ กูม้ าใช้
สิ ทธิแปลงสภาพทั้งจำนวน
ราคาตามบัญชีของหุน้ กูแ้ ละสิ ทธิการแปลงสภาพคำนวณได้ดงั นี้
ราคารวมของหุน้ กูแ้ ปลงสภาพ 400,000 บาท
มูลค่าปัจจุบนั ของหุน้ กูเ้ มื่อครบกำหนด 273,204
(400,000 × PVIF,4,10%) = (400,000 × 0.68301)
มูลค่าปัจจุบนั ของดอกเบี้ยจ่ายตลอดอายุของหุน้ กู้101,436
(32,000 × PVIF,4,10%) = (32,000 × 3.16986)
ราคารวมมูลค่าปัจจุบนั ของหุน้ กู้ 374,640 บาท
ราคาตามบัญชีของสิ ทธิการแปลงสภาพ 25,360 บาท
การบันทึกบัญช ี
วันออกหุ ้นกู ้แปลงสภาพ
เดบิต เงินสด 400,000
สว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้
25,630
เครดิต หุ ้นกู ้ 400,000
สว่ นเกินทุน-สท
ิ ธิแปลงสภาพ
25,630
บันทึกการออกหุ ้นกู ้แปลงสภาพ
วันที่ เงินสดจ่ าย ดอกเบีย้ จ่ าย ส่ วนต่ำกว่ ามูลค่ า ส่ วนต่ำกว่ ามูลค่ า ราคาตามบัญชีของ
หุ้นกู้ตัดจำหน่ าย หุ้นกู้คงเหลือ หุ้นกู้

1 ม.ค. x1 25,360 462,091.60

31 ธ.ค. x1 32,000 37,464 5,464 19,896 469,673.28

31 ธ.ค. x2 32,000 38,010 6,010 13,886 477,254.96

31 ธ.ค. x3 32,000 38,611 6,611 7,274 484,836.64

31 ธ.ค. x4 32,000 39,273 7,273 492,418.32

500,000.00
เดบิต ดอกเบีย ้ จ่าย 38,010
เครดิต เงินสด 32,000
สว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้
6,010
บันทึกการจ่ายดอกเบีย ้ และตัดบัญชส ี ว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้
การบัญชสำ ี หรับหุ ้นกู ้แปลงสภาพ (Accounting for Convertible Bonds)
การบัญชสำ ี หรับหุ ้นกู ้แปลงสภาพ ณ วันทีม ่ ก
ี ารแปลงสภาพ
มี 2 วิธ ี คือ
•วิธรี าคาตามบัญช ี (Book Value Method)
•วิธรี าคาตลาด (Market Value Method)
เมือ ่ มีการเปลีย ่ นแปลงสภาพหุ ้นกู ้ ให ้กิจการบันทึกการ
เปลีย ่ นแปลงสภาพหุ ้นกู ้เป็ นหุ ้นสามัญด ้วยราคาตามบัญชข ี อง
หุ ้นกู ้สท ิ ธิแปลงสภาพ เปรียบเสมือนกับการออกหุ ้นกู ้เพือ ่ ไถ่ถอน
หนีส ้ น ิ ตามบัญช ี ดังนัน ้ กิจการจึงไม่ควรบันทึกกำไรหรือขาดทุน
จากการแปลงสภาพของหุ ้นกู ้ วธิ รี าคาตลาด (Market Value Method)
2.ตามวิธน ี ใี้ ห ้กิจการบันทึกการออกหุ ้นสามัญ (จากการแปลง
สภาพ) ด ้วยราคาตลาดของหุ ้นสามัญ ณ วันแปลงสภาพหาก
สามารถกำหนดราคาตลาดของหุ ้นสามัญได ้ ในกรณีทไี่ ม่
สามารถระบุราคาตลาดของหุ ้นสามัญแต่ทราบราคาตลาดของ

หุ ้นกู ้ กจิ การสามารถใชราคาตลาดของหุ ้นกู ้ในการบันทึกมูลค่า
ของการออกหุ ้นสามัญได ้ให ้กิจการบันทึกผลต่างระหว่างราคา
ตลาดของหุ ้นสามัญ (หรือ หุ ้นกู ้) กับราคาตามบัญชข ี องหุ ้นกู ้ และ
สทิ ธิการแปลงสภาพเป็ นกำไรหรือขาดทุนจากการแปลงสภาพ
ของหุ ้นกู ้ และแสดงรายการดังกล่าวในงบกำไรขาดทุน(ไม่ใช ่
เป็ นรายการพิเศษ)
การบันทึกบัญช ี
วันทีม่ ก ี ารแปลงสภาพ
เดบิต หุ ้นกู ้ 400,000
สว่ นเกินทุน – สท ิ ธิการแปลงสภาพ
25,360
ขาดทุนจากการแปลงสภาพหุ ้นกู ้
68,526
เครดิต ทุนเรือนหุ ้น – หุ ้นสามัญ
20,000
สว่ นเกินมูลค่าหุ ้น - หุ ้นสามัญ
460,000
สว่ นต่ำกว่ามูลค่าหุ ้นกู ้
13,886
หุ ้นกู ้ควบใบสำคัญแสดงสท ิ ธิซอ
ื้ หุ ้นทุน (Bonds with Detachable Stock
Warrants)
ลักษณะของหุ ้นกู ้ควบใบสำคัญแสดงสทธิซอหุ ้นทุน
ในบางกรณีกจิ การออกจำหน่ายหุ ้นกู ้ควบคูใ่ บสำคัญแสดง
สท ิ ธิซอ ื้ หุ ้นทุนเพือ ่ จูงใจแก่นักลงทุนให ้ซอ ื้ หลักทรัพย์หุ ้นกู ้นัน ้
โดยได ้ใบสำคัญแสดงสท ิ ธิซ ื้ หุ ้นทุน(Warrant) ทีส
์ อ ่ ามารถใชซ ้ อื้
หลักทรัพย์หุ ้นทุนของบริษัทผู ้ออกได ้ในราคาทีร่ ะบุไว ้ (Exercise
Price) ภายในระยะเวลาทีกำ ่ หนดให ้ใชส้ ท ิ ธิ์ (Maturity Date) ผู ้ใชใบ ้
สำคัญแสดงสท ิ ธิสามารถซอ ื้ หุ ้นในอัตราทีร่ ะบุไว ้ (เชน ่ 2 หุ ้นต่อ 1
สท ิ ธิ) ในกรณีทเี่ ป็ นใบสำคัญแสดงสท ิ ธิแบบยุโรป (European Type) ผู ้
ถือใบสำคัญแสดงสท ิ ธิต ้องใชวั้ นทีท ่ กำ ี่ หนดเท่านัน ้ แต่ถ ้าเป็ น
แบบอเมริกน ั (American Type) ผู ้ถืออาจใชส้ ท ิ ธิในวันใดก็ได ้ ภายใน
ระยะเวลาทีกำ ่ หนดตามอายุของใบสำคัญแสดงสท ิ ธินัน ้
การบัญชสำ ี หรับหุ ้นกู ้ควบใบสำคัญแสดงซอ ื้ หุ ้นทน (Accountings
for Bonds with Stock Warrant)
ผู ้กู ้ควบใบสำคัญแสดงสท ิ ธิซอ ื้ หุ ้นทุน จัดเป็ นตราสารผสม
(Hybrid Instrument) ประกอบด ้วย หุ ้นกู ้ ซงึ่ เป็ นตราสารหนีแ ้ ละใบสำคัญ
แสดงสท ิ ธิซอ ื้ หุ ้นทุน ในการบันทึกบัญชต ี ราสารดังกล่าวต ้อง
แยกมูลค่าของตราสารทัง้ สองออกจากกัน โดยอาจใชวิ้ ธใี ดวิธ ี
•วิธแ
ี ยกตามสด ั สว่ น (Proportional Method)
หากกิจการทราบราคาตลาดของหุ ้นกู ้ชนิดเดียวกันทีไ่ ม่มใี บ
สำคัญแสดงสท ิ ธิซอื้ หุ ้นทุนควบอยูด ่ ้วย และในขณะเดียวกันก็
ทราบราคาตลาดของใบสำคัญแสดงสท ิ ธิซอ
ื้ หุ ้นทุนนัน
้ ให ้ใช ้
ราคาตลาดของหลักทรัพย์ทงั ้ สองเป็ นเกณฑ์ในการปั นสว่ นเพือ ่
หามูลค่าทีจ่ ะใชบั้ นทึกบัญชห ี ุ ้นกู ้และใบสำคัญแสดงสท ิ ธิซอ
ื้ หุ ้น
ทุนนัน

ตัวอย่าง
วันที่ 30 มีนาคม 25x1 บริษัท ฟ้ าใส จำกัดออกจำหน่ายหุ ้นกู ้
ควบใบสำคัญแสดงสท ิ ธิซอื้ หุ ้นทุนของบริษัทในราคาหุ ้นละ 104
จำนวน 400 หุ ้น ราคาตามมูลค่าหุ ้นละ 1,000 บาท อัตราดอกเบีย ้ 6%
ต่อปี หุ ้นกู ้ทีอ
่ อก 1 หุ ้น จะแนบควบใบสำคัญแสดงสท ิ ธิซอ
ื้ หุ ้นละ 5
ใบ โดยใบสำคัญแสดงสท ิ ธิแต่ละใบมีอายุ 1 ปี สามารถซอ ื้ หุ ้น
สามัญ 1 หุ ้น ราคาตามมูลค่าหุ ้นละ 1 บาท ได ้ในราคาหุ ้นละ 17
บาท ราคาตลาดของหุ ้นกู ้ทีม ่ ล
ี กั ษณะคล ้ายกันแต่ไม่มใี บสำคัญ
แสดงสท ิ ธิซอ ื้ หุ ้น มีราคา 102 บาท และราคาตลาดของใบสำคัญ
แสดงสท ิ ธิซอ ื้ หุ ้น ราคาใบละ 5 บาท
มีผู ้นำใบแสดงสท ิ ธิในการซอ ื้ หุ ้นทุนมาใชส้ ท
ิ ธิจำนวน 1,500
ใบ
การคำนวณราคาหุ ้นกู ้และใบสำคัญแสดงสท ิ ธิในการซอ ื้ หุ ้นทุน
ราคาตลาดของหุ ้นกู ้ทีไ่ ม่มใี บสำคัญแสดงสท ิ ธิ
408,000 บาท
ราคาตลาดของใบสำคัญแสดงสท ิ ธิในการซอ ื้ หุ ้นทุน
10,000 บาท
รวม 418,000 บาท
การปั นสว่ นโดยใชราคาตลาดของหลั
้ กทรัพย์ทงั ้ สองเป็ นเกณฑ์
ราคาขายรวม 416,000 บาท
ปั นสว่ นให ้หุ ้นกู ้ 406,048 บาท
ปั นสว่ นให ้ใบสำคัญแสดงสท ิ ธิในการซอื้ หุ ้นทุน
9,952 บาท
การบันทึกบัญช ี
วันออกจำหน่ายหุ ้นกู ้ควบใบสำคัญแสดงสท ิ ธิ
เดบิต เงินสด 416,000
เครดิต หุ ้นกู ้ 400,000
สว่ นเกินมูลค่าหุ ้นกู ้
6,048
สว่ นเกินทุน – ใบสำคัญ
9,952
แสดงสิ ทธิในการซื้ อหุน้ ทุน
บัญชสี ว่ นเกินทุน – ใบสำคัญแสดงสท ิ ธิในการซอ ื้ หุ ้นทุนให ้
แสดงในงบดุลในสว่ นของผู ้ถือหุ ้น
การบันทึกบัญชเี มือ ่ มีผู ้ใชส้ ท
ิ ธิซอ
ื้ หุ ้นทุน 1,500 ใบ
เดบิต เงินสด 25,500
สว่ นเกินทุน – ใบสำคัญแสดงสท ิ ธิในการซอ ื้ หุ ้นทุน
7,464
เครดิต ทุนเรือนหุ ้น
1,500
สว่ นเกินมูลค่าหุ ้น – หุ ้นสามัญ
31,464
บันทึกการออกหุ ้นทุนจากการใชส้ ท ิ ธิซอ ื้ หุ ้น
เดบิต สว่ นเกินทุน – ใบสำคัญแสดงสท ิ ธิ
2,488
เครดิต สว่ นเกินทุน – ใบสำคัญแสดงสท ิ ธิทห ี่ มด
อายุ 2,488
บันทึกสว่ นเกินทุนทีห ่ มดอายุ
ี ว่ นเพิม
2. วิธส ่ (Incremental Method)
ในกรณีทก ี่ จิ การสามารถหาราคาตลาดของหลักทรัพย์ได ้
เพียงชนิดเดียวเท่านัน ้ เชน่ อาจทราบราคาตลาดของหุ ้นกู ้ แต่ไม่
ทราบราคาตลาดของใบสำคัญแสดงสท ิ ธิในการซอ ื้ หุ ้น หรืออาจ
เกิดกิจการทราบราคาตลาดของใบสำคัญแสดงสท ิ ธิในการซอ ื้
หุ ้นแต่ไม่สามารถหาราคาตลาดของหุ ้นกู ้ในกรณีดงั กล่าว ให ้นำ
ราคาตลาดของหลักทรัพย์ทก ี่ จิ การทราบ ไปหักออกจากราคา
จำหน่ายรวมของหุ ้นกู ้ควบใบสำคัญแสดงสท ิ ธิสว่ นทีเ่ หลือให ้
บันทึกเป็ นราคาตามบัญชข ี องหลักทรัพย์ทก ี่ จิ การไม่ทราบราคา
ตลาด สำหรับการบันทึกบัญช ี ณ วันออกจำหน่ายหลักทรัพย์การ
ใชส้ ท ิ ธิใบสำคัญแสดงสท ิ ธิซอ ื้ หุ ้น และการบันทึกใบสำคัญแสดง
สท ิ ธิซอ ื้ หุ ้นหมดอายุจะเหมือนกับตัวอย่างทีแ ่ สดงแล ้วข ้างต ้น

You might also like