You are on page 1of 4

1.

 
“นันเอ็งรึ มาตะฮาจิ” ข้าถามเขาท่ามกลางสายฝน 
“เออ..เอ็งยังมีชีวิอยู่หรอวะ ทาเกโซ” 
“แน่นอนสิ ข้ายังอยู่ ข้าไม่ยอมตายอย่างหมาตัวหนึงเช่นนีหรอก”  
 

 
 
ข้าก็ไม่ยอมตายหรอก พวกเรารีบหนีไปจากทีนีเถอะ 
เจ้าโง่! เอ็งอยากตายรึ…  
ในขณะเดียวกันมีกองทัพจํานวนนับไม่ถ้วน เคลือนผ่านตัวข้า 
มาตะฮาจินอนหลับตาด้วยความหวาดกลัว แต่ข้าเบิกตาจ้องมองท้องของสั ตว์คึกคะนองหลายสิ ตัวทีลอยผ่านสายตา 
 
 

2. 
รอบตัวข้าและมาตะฮาจิ 

 
ในขณะนีมีเเต่เสี ยงร้องของจักจัน มันช่างเปนคําคืนแห่งฤดูใบไม้ร่วงทีวังเวงเหลือเกิน ไม่เพียงเเต่แมลงเท่านันทีรําร้อง 
มาตะฮาจิทีอยู่กับข้าก็กําลังร้องไห้เช่นกัน 
 
 

 
 
 
 
 
 
3. 
เมือข้าตืนในตอนสายของวันรุ่งขึน  

 
ข้าวของสั มภาระทีสองแม่ลูกเก็บรวบรวมเตรียมออกเดินทางนันหายไป 
ยิงไปกว่านัน มาตะฮาจิก็หายตัวไป 
“ไอ้งังมาตะฮาจิ จะให้โอซือทําอย่างไร เธอกําลังรอการกลับไปของเอ็ง” 
ข้าสบถพร้อมกับขว้างหวีลงพืน เเล้วเหยียบขยีด้วยอารมณ์ทีสุ ดจะระงับ

 
 
 
 
 

4. 
เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้พ่ายเเพ้อาตมาในฝมือการต่อสู้ แต่ความพ่ายแพ้ก็คือความพ่ายเเพ้ ไม่ว่าจะพ่ายแพ้เพราะอะไรก็ตาม  

 
ความกล้าทีเเท้จริงของมนุษย์คือความกล้าอย่างมีสติ รู้จักเลือกทีตายเมือถึงคราวจําเปน  
เช่นนีแหละจึงเปนวิถีทีเเท้จริงของซามูไร 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

5. 
การออกไปพเนจรดูโลกกว้างก็เปนการดีเหมือนกัน แต่ไม่ว่าเจ้าจะไปทีใด  
เจ้าก็ไม่ควรลืมบ้านเกิดของตนเอง ตังเเต่บัดนีเปนต้นไป 

 
จงใช้นามสกุลของเจ้าว่า “มิยาโมโต้” ซึงเปนชือหมู่บ้านของเธอ.. 
นอกจากเปลียนนามสกุลเเล้ว เจ้าก็ควรเปลียนชือไปด้วย  
ทําไมเจ้าไม่อ่านชือเจ้าว่า “มูซาชิ” หละซึงเขียนตัวอักษรตัวเดียกวันกับชือเก่าของเจ้า  
เพราะว่าวันนีเปนวันทีเจ้าเกิดใหม่ยัง ไงหละ 
 
 
 
 

You might also like