Professional Documents
Culture Documents
คํานํา
- 1 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สารบัญ
หน้า
1. จุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3
2. ผลการเรี ยนรู ้ที่คาดหวัง 3
3. ความรู ้พ้นื ฐานที่ควรรู ้ก่อนเรี ยน 4
4. แบบทดสอบก่อนเรี ยนและเฉลย 5
5. คําอธิบายและคําแนะนําเพิ่มเติมของเนื้อหาในสื่ อ 9
6. แบบทดสอบหลังเรี ยนและเฉลย 14
7. แบบฝึ กหัดและกิจกรรม 17
8. แหล่งข้อมูลสําหรับค้นคว้าเพิ่มเติม 19
9. เอกสารอ้างอิง 19
10. ภาคผนวก 20
ก คําบรรยายสื่ อ 20
ข สู ตรและชื่อสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเรื่ องแร่ รัตนชาติ 2 (เรี ยงตามสู ตรเคมี) 33
ค รายชื่อสื่ อการสอนวิชาเคมีท้ งั หมดจํานวน 77 ตอน (ประจําปี งบประมาณ 2555) 34
- 2 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
1. จุดประสงค์การเรียนรู้
รัตนชาติสงั เคราะห์
- 3 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.3 ความรู้ พน
ื้ ฐานเรื่องแร่ รัตนชาติ
นักเรี ยนควรทบทวนความจําเรื่ องแร่ รัตนชาติ 1 และธาตุที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น คอรันดัมเป็ นรัตน
ชาติที่มีองค์ประกอบทางเคมีหลักเป็ น Al2O3 ที่มีสีแตกต่างกันแล้วแต่ชนิดของธาตุมลทิน เช่น ทับทิมมีสี
แดง มีโครเมียมเป็ นมลทิน เป็ นต้น
- 4 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
4. แบบทดสอบก่ อนเรียนและเฉลย
- 5 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
5. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการเผาพลอย
ก. เพื่อไล่ตาํ หนิเส้นไหม ข. เพื่อให้พลอยใสสะอาดขึ้น
ค. เพื่อเปลี่ยนสี พลอย ง. เพื่อให้มีประกายแวววาว
- 6 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 7 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คําอธิบาย แร่ รัตนชาติ (gemstone) มีนิยามว่า “แร่ หรื ออินทรี ยวัตถุธรรมชาติที่นาํ มาใช้เป็ นเครื่ องประดับ”
โดยทัว่ ไปมักเป็ นหิ นที่เมื่อนํามาขัดและตัดแล้ว มีความแวววาว มีสีสันสวยงาม เช่น เพชร
ทับทิม ไพลิน มรกต โกเมน ไข่มุก อําพัน โอปอล เพฑาย เป็ นต้น
คอรันดัม (corundum) มีองค์ประกอบหลักเป็ นอะลูมิเนียมออกไซด์ เมื่อนําไปขัดแล้วมีความ
งดงาม จึงถือว่าเป็ นแร่ รัตนชาติ แบ่งออกเป็ นชนิดย่อยตามธาตุที่เป็ นมลทินซึ่งทําให้คอรันดัมมีสี
คือ ทับทิมมีสีแดง ไพลินมีสีฟ้า และบุษราคัมมีสีเหลือง
- แร่ ทอง (gold) จัดเป็ นโลหะมีค่า แต่ไม่นบั ว่าเป็ นแร่ รัตนชาติ
- แร่ เฮไลต์ (halite) คือแร่ ที่มีองค์ประกอบหลักเป็ นโซเดียมคลอไรด์
- หิ นอ่อน (marble) เป็ นหิ นแปรชนิดหนึ่งที่มีลกั ษณะสวยงาม องค์ประกอบหลักเป็ น
คาร์บอเนต เช่น แคลไซต์หรื อแคลเซี ยมคาร์บอเนต โดโลไมต์หรื อแคลเซียมแมกนีเซียม
คาร์บอเนต
5. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการเผาพลอย
ก. เพื่อไล่ตาํ หนิเส้นไหม ข. เพื่อให้พลอยใสสะอาดขึ้น
ค. เพื่อเปลี่ยนสี พลอย ง. เพือ่ ให้ มีประกายแวววาว
(คําถามข้อนี้เป็ นความรู ้เกี่ยวกับการปรับปรุ งคุณภาพของแร่ รัตนชาติ)
คําอธิบาย วัตถุประสงค์ของการเผาหรื อการหุงพลอย คือ เพื่อกําจัดมลทินที่อยูใ่ นเนื้อพลอย หรื อไล่ตาํ หนิ
เส้นไหมซึ่งเกิดจากผลึกของไทเทเนียมออกไซด์ในพลอย ผลของการเผาที่อุณหภูมิประมาณ
1,600-1,900 C นั้น ทําให้พลอยมีสีเปลี่ยนไปและดูใสสะอาดขึ้น แต่เมื่อเผาแล้วต้องทําให้
พลอยเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ ว เพื่อป้ องกันไม่ให้ไทเทเนียมออกไซด์ตกผลึกกลับมาเป็ นเส้นไหม
อีก นอกจากนั้น การเผาหรื อหุงพลอยบางชนิดอาจใส่ ธาตุบางชนิดลงไปเพือ่ เพิ่มสี ของพลอยให้
เข้มขึ้นด้วยก็ได้ อย่างไรก็ตาม การเผาพลอยนั้น ไม่สามารถทําให้พลอยดูแวววาวขึ้นได้ ความ
แวววาวของพลอยขึ้นกับการสะท้อนแสงภายในตัวพลอย จึงขึ้นกับรู ปร่ างหน้าตัดของพลอย
- 8 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
การเจียระไนพลอย (cutting)
การเจียระไนพลอย เป็ นการตกแต่งพลอยโดยการตัดเหลี่ยมและขัดเงา เพื่อให้แสงสะท้อนภายในตัว
พลอยออกมาทางด้านหน้า การเจียระไนพลอยทําได้หลายรู ปแบบขึ้นกับพลอยดิบ โดยมีหลักการสําคัญคือ
รักษาเนื้อพลอยไว้ให้มากที่สุด และทําให้มีสีสนั สวยงามหรื อที่เรี ยกกันว่า “นํ้าขึ้น” หรื อ “ไฟ” ทางด้านหน้า
ของพลอยให้ได้มากที่สุด
- 9 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทางด้านหน้าพลอย หากความสู งของพลอยส่ วนบนและส่ วนล่างไม่ดี เช่น ตื้นไป หรื อลึกไป จะทําให้แสง
สะท้อนออกมาไม่สวยงาม ดังตัวอย่างด้านล่าง
- 10 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เกิดสี น้ าํ เงินได้ดีข้ ึน
- ทําให้สีจางลง เช่น เผาควอตซ์สีชมพูเข้มในภาวะที่มีออกซิ เจนให้เป็ นสี ชมพูอ่อนลง สี ที่จางลงนี้
เป็ นเพราะเลขออกซิเดชันของแมงกานีสซึ่งเป็ นมลทินอยูเ่ ปลี่ยนไป
- ทําให้สีบางสี หายไป เช่น เผาเพื่อกําจัดโทนสี ท่วงในทับทิม หรื อกําจัดโทนสี เขียวในอความารี น
ทําให้อะตอมของธาตุที่เป็ นมลทินซึ่งเป็ นต้นกําเนิดสี กระจายตัวออกไปสมํ่าเสมอมากขึ้น
- ทําให้สาแหรกหายไป เช่น การเผาทับทิม ทําให้เส้นสาแหรกซึ่ งเกิดจากรู ไทล์หรื อไทเทียม
ออกไซด์กระจายตัวออกไป
- ทําให้เกิดสาแหรกขึ้น โดยทําการเผาพร้อมกับ TiO2
การเผาพลอยอาจเติมธาตุบางชนิดลงไประหว่างเผา เช่น เบอริ ลเลียม (Be) เพื่อทําให้พลอยมีสีเข้ม
ขึ้น นิยมใช้กบั พลอยตระกูลคอรันดัม เช่น การเผาแซปไฟร์เพือ่ เปลี่ยนจากสี น้ าํ เงินเป็ นสี เหลือง การเผาแซป
ไฟร์สีชมพูให้เป็ นสี ชมพูอมส้มที่เรี ยกว่าสี padparadscha
- 11 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
การฉายหรือการอาบรังสี
การฉายรังสี ทาํ ให้สีของพลอยเปลี่ยนไปได้ เนื่องจากรังสี ทาํ ให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากตําแหน่ง
เดิมในโครงสร้างผลึกของพลอย รังสี ที่ใช้อาจเป็ นลําอิเล็กตรอน อนุภาคนิวตรอน หรื อรังสี แกมมา ตัวอย่าง
ของแร่ รัตนชาติที่ได้รับรังสี ตามธรรมชาติคือเพชร ซึ่ งได้รับรังสี เบตาหรื อแอลฟาจนทําให้มีสีน้ าํ เงินหรื อสี
เขียว เนื่องจากความความแรงของรังสี ตามธรรมชาติไม่สูงมาก จึงเกิดสี ที่บริ เวณผิวหน้าบางส่ วนของเพชร
เท่านั้น หากต้องการให้เปลี่ยนสี สมํ่าเสมอทั้งหมด ต้องใช้รังสี ที่มีพลังงานสู งซึ่งต้องทําในห้องทดลอง
โดยทัว่ ไปการปรับปรุ งคุณภาพของแร่ รัตนชาติดว้ ยรังสี ในห้องทดลอง นิยมใช้รังสี แกมมาจากโคบอลต์-60
โดยพลอยที่นิยมนํามาฉายรังสี คือโทแพซ เพื่อเปลี่ยนโทแพซที่ไม่มีสีหรื อมีสีอ่อนให้เป็ นสี ฟ้า
- 12 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ค่าการกระจายแสง (dispersion) ความแข็ง (hardness) ความถ่วงจําเพาะ (specific gravity, SG) เป็ นต้น
ตัวอย่างของเพชรเทียม คือ รู ไทล์สงั เคราะห์ (TiO2) ซึ่งมีดชั นีหกั เหแสงและการกระจายแสงสู งกว่าเพชร
มาก รู ไทล์สงั เคราะห์มกั มีโทนสี เหลืองปนอยูจ่ ึงเสื่ อมความนิยมไป วัสดุที่ใช้ทาํ เพชรเทียมต่อจากรู ไทล์
สังเคราะห์ คือ สทรอนเชียมไทเทเนตหรื อทอโซไนต์ (SrTiO3, tausonite) ซึ่งมีค่าดัชนีหกั เหแสงใกล้เคียง
กับเพชรมากขึ้น แต่เปราะ หลังจากนั้นมีการใช้การเน็ตสังเคราะห์มาใช้เป็ นเพชรเทียม เช่น อิตเทรี ยม
อะลูมิเนียมการ์เน็ต (YAG, Y3Al5O12) และแกโดลิเนียมแกลเลียมการ์เน็ต (GGG, Gd3Ga5O12) แต่การ์
เน็ตสังเคราะห์มีราคาสู ง จึงถูกแทนที่ดว้ ยคิวบิกเซอร์โคเนียหรื อเพชรรัสเซีย (ZrO2) ซึ่งมีสมบัติคล้ายเพชร
มากแต่มีความถ่วงจําเพาะสู งกว่าเพชร ในปั จจุบนั นี้ วัสดุที่นิยมนํามาใช้ทาํ เพชรเทียมนอกเหนือจากคิวบิก
เซอร์โคเนีย คือ มอยซาไนต์หรื อเพชรโมอิส (SiC) ซึ่งมีความแข็งมากและมีความถ่วงจําเพาะน้อยกว่าคิวบิก
เซอร์โคเนีย
RI dispersion hardness SG
เพชร (C) 2.44 0.044 10 3.52
TiO2 2.6-2.9 0.33 6 4.25
SrTiO3 2.41 0.19 5.5 5.13
4.55-
YAG 1.83 0.03 8.25
4.65
GGG 1.97 0.04 7 7.02
ZrO2 2.2 0.06 8.3 5.7
SiC 2.65-2.70 0.10 8.2-9.25 3.2
เพชรสั งเคราะห์
นอกเหนือจากการใช้วสั ดุอื่นที่มีรูปลักษณ์ภายนอกมาใช้แทนเพชรแล้ว ยังสามารถสังเคราะห์เพชร
ขึ้นในห้องทดลองได้ การทําเพชรสังเคราะห์อาจทําโดยการใช้อุณหภูมิและความดันสู ง เช่นการเปลี่ยน
แกรไฟต์ให้เป็ นเพชร ในปั จจุบนั นี้ มีบริ การเปลี่ยนเถ้ากระดูกหรื อเศษผมซึ่งมีคาร์บอนเป็ นส่ วนประกอบให้
เป็ นเพชรด้วย อีกวิธีในการทําเพชรสังเคราะห์คือการใช้เทคนิกการสะสมไอของสารเคมี (chemical vapor
deposition) เพื่อสลายพันธะของสารไฮโดรคาร์ บอนขนาดเล็กให้กลายเป็ นอะตอมคาร์ บอนไปเกาะกันจนมี
โครงสร้างเป็ นเพชร เพชรสังเคราะห์น้ ีมีสมบัติเหมือนเพชรตามธรรมชาติ แต่มีราคาถูกกว่า เนื่องจากในการ
สังเคราะห์เพชร มักมีสิ่งเจือปนอยู่ ทําให้เพชรสังเคราะห์ที่ได้มีสี เช่น ถ้ามีไนโตรเจน เพชรที่สังเคราะห์ได้
จะสี เหลือง หรื อถ้ามีโบรอนจะได้เพชรสี ฟ้า จึงนิยมนําเพชรสังเคราะห์ไปใช้งานอุตสาหกรรมซึ่งไม่ตอ้ งการ
ความสวยงาม เช่น เป็ นหัวตัดในโรงงาน เป็ นต้น
- 13 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
6. แบบทดสอบหลังเรียนและเฉลย
1. ทําไมการเผาพลอยต้องทําให้พลอยเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ ว
ก. ป้ องกันการตผลึกใหม่ของเส้นไหม ข. ให้สีของพลอยสมํ่าเสมอ
ค. ป้ องกันการร้าวของพลอย ง. ป้ องกันนํ้าเข้าไปในเนื้อพลอย
2. ทับทิมที่ผา่ นการเผาแล้วจะมีสีอะไร
ก. สี น้ าํ เงิน ข. สี แดงสด
ค. สี เหลือง ง. สี ม่วง
3. แก๊สชนิดใดที่ใช้ในการทําเพชรสังเคราะห์
ก. มีเทน ข. อีเทน
ค. โพรเพน ง. คลอรี น
5. ข้อใดถูกต้อง
ก. มอยซาไนต์มีการกระจายแสงตํ่ากว่าเพชรธรรมชาติ
ข. มอยซาไนต์นาํ ไฟฟ้ าได้นอ้ ยกว่าเพชรธรรมชาติมาก
ค. เพชรรัสเซียมีความถ่วงจําเพาะสู งกว่าเพชรธรรมชาติ
ง. เพชรรัสเซี ยนําความร้อนได้ดีเหมือนเพชรธรรมชาติ
- 14 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ก่อนเผา หลังเผา
2. ทับทิมที่ผา่ นการเผาแล้วจะมีสีอะไร
ก. สี น้ าํ เงิน ข. สี แดงสด
ค. สี เหลือง ง. สี ม่วง
(คําถามข้อนี้สอดคล้องกับการปรับปรุ งคุณภาพของแร่ รัตนชาติตามผลการเรี ยนรู ้ที่คาดหวังข้อ 1)
คําอธิบาย การเผาทับทิมที่อุณหภูมิสูง ทําให้อะลูมิเนียมออกไซด์เกิดการจัดเรี ยงตัวใหม่ และไอออนของ
โครเมียมกระจายตัวออกไปมากขึ้น มีผลให้สีของทับทิมสดขึ้น
3. แก๊สชนิดใดที่ใช้ในการทําเพชรสังเคราะห์
ก. มีเทน ข. อีเทน
ค. โพรเพน ง. คลอรี น
(คําถามข้อนี้เป็ นความรู ้เกี่ยวกับการการสังเคราะห์รัตนชาติตามผลการเรี ยนรู ้ที่คาดหวังข้อ 2)
คําอธิบาย การทําเพชรสังเคราะห์ อาจทําได้โดยใช้ความร้อนและความดันสู ง หรื อใช้เทคนิกที่เรี ยกว่าการ
สะสมตัวของไอสารเคมี (chemical vapor deposition) เพื่อสังเคราะห์แผ่นฟิ ล์มเพชร โดยการ
เผาแก๊สมีเทนที่อุณหภูมิสูง เพือ่ สลายพันธะระหว่างคาร์บอนกับไฮโดรเจน และคาร์บอน
กลายเป็ นอะตอมไปเกาะอยูบ่ นแผ่นซิ ลิกอน เกิดเป็ นแผ่นฟิ ล์มเพชรบางๆ ในที่สุด
- 15 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
5. ข้อใดถูกต้อง
ก. มอยซาไนต์มีการกระจายแสงตํ่ากว่าเพชรธรรมชาติ
ข. มอยซาไนต์นาํ ไฟฟ้ าได้นอ้ ยกว่าเพชรธรรมชาติมาก
ค. เพชรรัสเซียมีความถ่ วงจําเพาะสู งกว่ าเพชรธรรมชาติ
ง. เพชรรัสเซี ยนําความร้อนได้ดีเหมือนเพชรธรรมชาติ
(คําถามข้อนี้เป็ นความรู ้เกี่ยวกับรัตนชาติสงั เคราะห์ตามผลการเรี ยนรู ้ที่คาดหวังข้อ 3)
คําอธิบาย รัตนชาติน้ นั มีราคาสู ง จึงมีการใช้วสั ดุอื่นมาใช้แทนแร่ รัตนชาติ เช่น การใช้วสั ดุอื่นที่มีลกั ษณะ
ภายนอกคล้ายเพชรมาทําเป็ นเพชรเทียม อาทิ เพชรรัสเซียหรื อคิวบิกเซอร์โคเนีย (ZrO2) เพชร
โมอิสหรื อมอยซาไนต์ (SiC) เพชรเทียมอาจมีลกั ษณะภายนอกคล้ายเพชรแท้ แต่สมบัติ
บางอย่างแตกต่างไป เช่น เพชรรัสเซียมีการกระจายแสงสู งกว่าเพชร จึงดูแวววาวมาก
ขณะเดียวกันก็มีความถ่วงจําเพาะมากกว่าเพชรด้วยเช่นกัน จึงใช้สมบัติน้ ีในการตรวจสอบว่า
เป็ นเพชรเทียมหรื อไม่ได้ เพรชโมอิสมีค่าดัชนีหกั เหแสงสู งกว่าเพชรมาก แต่นาํ ไฟฟ้ าได้
ในขณะที่เพชรแท้ไม่นาํ ไฟฟ้ า จึงใช้สมบัติน้ ีเพื่อตรวจสอบได้
- 16 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
7. แบบฝึ กหัดและกิจกรรม
- 17 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2. อธิบายถึงการสังเคราะห์เพชร และประโยชน์ที่ได้จากเพชรสังเคราะห์
ให้นกั เรี ยนแบ่งกลุ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการสังเคราะห์เพชร และการใช้ประโชยน์จากเพชร
สังเคราะห์ รวมถึงหาเหตุผลว่าทําไมต้องใช้เพชรสังเคราะห์
- 18 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
9. เอกสารอ้ างอิง
- 19 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
10. ภาคผนวก
ภาคผนวก ก คําบรรยายสื่ อ
คําบรรยายของสื่ อแสดงในคอลัมน์ “คําบรรยาย” โดยใช้สญ
ั ลักษณ์แทนเสี ยงต่างๆ ดังนี้
รู ปอาจารย์หญิง แทนเสี ยงอาจารย์หญิง และรู ปนักเรี ยนชาย แทนเสี ยงนักเรี ยนชาย ภาพ
ที่ข้ ึนประกอบคําบรรยายจะแสดงในคอลัมน์ “ภาพ” และระบุเวลาไว้ในคอลัมน์ “นาที” โดยระบุเนื้อหาที่
สื่ อกําลังจะบรรยายถึงด้วยตัวอักษรเอนสี น้ าํ เงินในช่องที่รวมคอลัมน์ภาพและคําบรรยายเข้าด้วยกัน ซึ่ง
ผูส้ อนสามารถหยุดพักบทเรี ยนหากต้องการสอนเนื้อหาส่ วนนั้นได้
- 20 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 21 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 22 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 23 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
07:26
แล้วที่คุณครู บอกว่ามีการเจียระไนแบบที่ไม่มี
เหลี่ยมล่ะครับ เป็ นอย่างไร ช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยสิ ครับ
07:39
- 24 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เอาพลอยไปเผาหรื อครับคุณครู
08:35
แล้วการเผาพลอยทําให้สีของพลอยเปลี่ยนไปได้
อย่างไรหรื อครับ
09:38
การให้ความร้อนแก่พลอยในช่วงอุณหภูมิและภาวะที่
เหมาะสม จะทําให้ธาตุในพลอยเกิดการจัดเรี ยงตัวใหม่หรื อมีเลข
ออกซิเดชันเปลี่ยนไป พลอยจึงใสขึ้น และมีสีเปลี่ยนไป
ตัวอย่างเช่น การเผาทับทิมที่อุณหภูมิสูงจนใกล้จุดหลอมเหลว
จนทําให้อะลูมิเนียมออกไซด์เกิดการจัดเรี ยงตัวใหม่ ทําให้
ไอออนโครเมียมให้สีได้ชดั ขึ้น เป็ นการเผาตัดโทนสี ม่วงและทํา
ให้สีแดงในทับทิมสดขึ้น ซึ่งเป็ นนิยมทําในเมืองไทยเนื่องจาก
ทับทิมดิบของไทยมักมีสีแดงอมม่วง
- 25 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 26 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โอ้โห เราสามารถหุงพลอยได้หลายชนิดเลยนะ
ครับเนี่ย
12:30 การปรั บปรุ งคุณภาพแร่ รัตนชาติ-การเคลือบสี พลอย
12:32
- 27 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ต่อไปเป็ นการเพิ่มคุณค่าของพลอยด้วยการฉายหรื อ
การอาบรังสี นะคะ เมื่อสักครู่ เราพูดถึงกันไปบ้างแล้วนิดหน่อย
ตอนเราเรี ยนเรื่ องการเผาพลอยกัน นักเรี ยนพอจําได้ไหมคะ
14:26
- 28 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 29 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
18:53
โห เพชรที่มาจากเถ้าถ่านของบรรพบุรุษหรื อบุคคล
ที่เรารัก ยิง่ เป็ นของที่มีคุณค่าทางจิตใจมากยิง่ ขึ้นไปอีกเลยนะ
ครับ
- 30 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ใช่แล้วค่ะนักเรี ยน นอกจากการเปลี่ยนคาร์บอนใน
แกรไฟต์ให้เป็ นเพชร ยังมีวิธีการสังเคราะห์เพชรสังเคราะห์ให้
เป็ นแผ่นฟิ ล์มบางๆ ด้วยเทคนิกที่เรี ยกว่า การสะสมตัวของไอ
สารเคมี หรื อ chemical vapor deposition โดยการเผาแก๊ส
มีเทนหรื ออะเซทิลีนที่อุณหภูมิสูง 2200 องศาเซลเซียสภายใต้
แก๊สไฮโดรเจน เพื่อสลายพันธะระหว่างคาร์บอน ทําให้คาร์บอน
กลายเป็ นอะตอมไปเกาะติดบนแผ่นซิ ลิกอน จนเกิดเป็ น
แผ่นฟิ ล์มเพชรบางๆ เพชรสังเคราะห์น้ ี นําความร้อนได้ดีกว่า
เพชรธรรมชาติ จึงนําไปใช้กบั วงจรอิเล็กทรอนิกส์เพื่อถ่ายเท
ความร้อนออกจากวงจรอิเล็กทรอนิกส์ค่ะ
19:51 นอกจากเพชรสังเคราะห์แล้ว ก็ยงั มีการทําเพชรเทียมจากธาตุ
ชนิดอื่นๆ เพือ่ ทดแทนเพชรธรรมชาติซ่ ึงหายากและมีราคาแพง
เพชรเทียมที่ได้รับความนิยมสู งสุ ดคือ เพชรรัสเซีย หรื อคิวบิก
เซอร์โคเนีย ซึ่งก็คือเซอร์โคเนียมออกไซด์ที่มีรูปร่ างผลึกแบบ
ลูกบาศก์ ซึ่งต้องเติมธาตุอื่นลงไปเพื่อให้มีโครงสร้างแบบเพชร
เช่น อิตเทรี ยมออกไซด์ หรื อแคลเซียมออกไซด์ โดยปกติเพชร
รัสเซียไม่มีสี แต่ถา้ เติมธาตุบางชนิดลงไประหว่างการสังเคราะห์
ก็ทาํ ให้เกิดเพชรเทียมที่มีสีได้ เช่น หากมีโคบอลต์หรื อ
แมงกานีส จะได้เพชรเทียมที่มีโทนสี ม่วง เพชรรัสเซี ยนี้มีความ
แข็งตามสเกลของโมห์เท่ากับ 8 มีดชั นีหกั เหแสงในช่วง 2.15-
2.18 ซึ่งน้อยกว่าเพชรเล็กน้อย แต่มีความถ่วงจําเพาะสู งกว่าเพชร
ธรรมชาติมากถึง 1.7 เท่า และไม่นาํ ความร้อนซึ่งแตกต่างจาก
เพชร จึงตรวจสอบได้ไม่ยากค่ะ
21:04 แร่ อีกชนิดหนึ่งที่นาํ มาใช้แทนเพชรในปั จจุบนั นี้ คือมอยซาไนต์
หรื อเพชรโมอิส ซึ่งก็คือซิลิกอนคาร์ไบด์นนั่ เอง มอยซาไนต์น้ นั
พบได้ยากในธรรมชาติและมีขนาดเล็ก แต่โชคดีที่เราสามารถ
ผลิตมอยซาไนต์ได้ เช่น การเผาทรายกับคาร์บอนในเตาเผา
ไฟฟ้ าอุณหภูมิสูง การทําให้ผงซิลิกอนคาร์ ไบด์ระเหิ ดภายใต้
บรรยากาศของแก๊สอาร์กอนที่อุณหภูมิสูง การใช้ความร้อน
- 31 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 32 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 33 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 34 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 35 -
คู่มือสื่ อการสอนวิชาเคมี โดยความร่ วมมือระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 36 -